พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ การตกหลุม ❥❥ (7/1/2559)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: sunnyside1909 ที่ 20-05-2015 17:30:23

หัวข้อ: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ การตกหลุม ❥❥ (7/1/2559)
เริ่มหัวข้อโดย: sunnyside1909 ที่ 20-05-2015 17:30:23
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

สวัสดีค่าาา นายนะคะ เรื่องนี้จะเป็นรวมเรื่องสั้นของนายเองค่ะ เนื้อเรื่องอาจจะเกี่ยวกันหรือไม่เกี่ยวกันบ้าง และก็ไม่มีธีมอะไรค่ะ อ่านง่ายๆจบในตอนค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ  :mew1:

⚡⚡ ผลงานอื่นๆ ⚡⚡
บ่ายสามหลังอาคารเจ็ด (http://goo.gl/WpEH7a) : Romantic Mystery
หวั่นไหว (http://goo.gl/IjFfLV) : Romantic Drama
ความรักที่ยังอยู่ (http://goo.gl/859myW) : Short Stories

⚡⚡ สารบัญ ⚡⚡
ความรักที่ยังอยู่ (http://goo.gl/859myW) (Nostalgia , School Life , Romance)
Metamorphosis (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46944.msg3073773#msg3073773) (Nostalgia, School life, Romance)
ถ้าไม่แอบชอบใครเลยจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46944.msg3134761#msg3134761) (Nostalgia, School life , Romance)
เกิดมาเพื่อรักเพียงแค่ครั้งเดียวและตายจากไป (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46944.msg3205635#msg3205635) (Drama, Romance, Angst)
การตกหลุม (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46944.msg3276377#msg3276377) (Drama, Romance)

หัวข้อ: Re: ❥❥ ความรักที่ยังอยู่ ❥❥ (ตอนเดียวจบ 20/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: sunnyside1909 ที่ 20-05-2015 17:39:48
ความรักที่ยังอยู่



“รักที่รัก”



นั่นเป็นสิ่งที่เขาคิดไปเอง...คิดว่านะ


มันเป็นเสียงพึมพำงึมงำแบบที่อีกฝ่ายไม่เคยพูด เขามองเพื่อนร่วมทีมอย่างกังขา


“หืม?” อินถามเลิกคิ้วเป็นทำนองว่า มีอะไรรึเปล่า ทำไมถึงมอง


นั่นไม่ใช่คำที่เขาควรพูดหรอกหรือ


ประโยคว่า เมื่อกี้มึงพูดอะไรนะ ติดอยู่ที่ปลายลิ้นและเขาไม่ได้คายมันออกมา


...เขาฟุ้งซ่านหรือเปล่า เขาอาจจะเอาความฝันมารวมกับความเป็นจริงแล้วก็เกิดอาการหูแว่วไปเสียเอง
หรือนั่นอาจจะเป็นเพียงเสียงคอรัสจากเครื่องคาราโอเกะ


ที่รักหันไปหัวเราะกับการเต้นบ้าๆบอๆของบอสอย่างสุดเสียง ราวกับจะกลบอะไรบางอย่างเมื่อครู่ที่เขาได้ยินไปเอง


คาราโอเกะหลังเลิกเรียน... ก็เหมือนทุกๆวันที่เคยผ่านมา


แต่วันนี้พิเศษกว่าวันอื่นๆ เป็นคาราโอเกะหลังเลิกเรียนครั้งสุดท้าย


เสื้อนักเรียนสีขาวที่ผ่านพิธีปัจฉิมเต็มไปด้วยข้อความจากปากกาเมจิก ไม่มีใครร้องไห้ มีแต่เสียงหัวเราะและความวูบโหวงในอกที่ที่รักนึกสงสัยว่าคนอื่นรู้สึกบ้างไหม


ที่รักเอนตัวลงกับโซฟาสีแดงกำมะหยี่ราคาถูกของห้องคาราโอเกะ เขารู้สึกร้อนและเหงื่อออก เครื่องปรับอากาศของห้องคาราโอเกะที่ราคาถูกที่สุดในละแวกนี้ไม่ได้ทำหน้าที่ของมันได้ดีนัก


กลิ่นของอินเหมือนจะลอยมาแตะจมูกของที่รัก


มันทำให้เขานึกถึงยามที่ไหล่และแขนของทั้งคู่ชนกันในเกมบาสเกตบอล ที่รักมักจะพลาดอยู่บ่อยๆหากมีอินอยู่ในสนาม



...เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไรนะ


ที่รักอยากพูดมันออกไปเหลือเกิน


แต่เขากลัวคำตอบที่เขาค่อนข้างมั่นใจว่ามันจะเป็นอย่างนั้น


ที่รักรับไมค์ที่บอสส่งให้และตะโกนออกไปสุดเสียง เสียงเพี้ยนๆของที่รักทำให้ทุกคนหัวเราะ อินก็หัวเราะ เสียงทุ้มๆของอินก้องอยู่ในโสตประสาทของที่รัก ที่รักหัวเราะบ้างและเอนตัวซบไหล่อินอย่างเป็นธรรมชาติ


กลิ่นของอินยังอบอวล ที่รักสงสัยว่าเขารู้สึกอย่างนั้นอยู่คนเดียวหรือเปล่า


เรือนผมของที่รักแตะกับลำคอของอิน


และไหล่ของเราก็สัมผัสกันผ่านเสื้อนักเรียน


เราอาจจะนั่งกันอยู่ใกล้เกินไป



...หรือมีที่รักเอง ที่รู้สึกถึงอินมากไป






ที่รักยิ้มพราย เขาอยู่ในชุดเสื้อสูทราคาแพง เขาไม่ได้มางานเลี้ยงรุ่นหลายปีติดกัน ตั้งแต่จบมัธยมมา ที่รักมางานเลี้ยงรุ่นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และนั่นคือครั้งเดียวที่อินไม่ได้มาเช่นกัน


หลังจากครั้งนั้นสองสามเดือน ที่รักได้รับการ์ดเชิญงานแต่งงานของอิน


นั่นทำให้เขานึกย้อนกลับไปห้องคาราโอเกะในวันนั้น


แม้ว่าจะผ่านมาเกือบๆสิบปี ที่รักยังกังขาในประโยคที่เขาได้ยิน


...ที่รักไม่เคยไปงานเลี้ยงรุ่นอีกเลยนับจากนั้น


จะว่าเขาพาลก็ได้ เขาขี้ขลาด ที่รักยอมรับ


ที่รักไม่กล้าแม้กระทั่งจะไปงานแต่งงานด้วยซ้ำ เขาไม่กล้า ...ไม่กล้าที่จะเห็นอินนั่งข้างๆผู้หญิงคนอื่นและเริ่มต้นชีวิตใหม่ไปด้วยกัน


ที่รักไม่ชอบงานเลี้ยงรุ่น เขาไม่อยากตอบคำถามว่า มีแฟนหรือยัง ที่พวกผู้หญิงชอบถาม และมันมักจะมากับคำถามต่อมาก็คือ จะแต่งงานเมื่อไหร่


ที่รักไม่อยากตอบ


ที่รักไม่อยากตอบว่า เขามีแฟนแล้ว...แต่ไม่ใช่ผู้หญิง นั่นแปลว่าเขาจะไม่แต่งงาน


ที่รักไม่แน่ใจว่า อินจะมองเขายังไง พวกเขาเป็นเพื่อนเล่นหัวกันมาตลอดชีวิตมัธยม ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนจะรับได้กับอะไรแบบนี้ ที่รักคิดว่าสังคมประเทศเราค่อนข้างเปิดเผย แต่ก็ยังไม่เปิดเผย ...ที่รักคิดว่ามันน่าสับสน


ถ้าเกิดว่าทุกคนรับได้จริงๆล่ะก็ ที่รักคงไม่ต้องมานั่งกังวลแล้วล่ะ ว่าจะบอกกับครอบครัวอย่างไร บอกกับเพื่อนสนิทอย่างไร แน่นอนที่รักไม่ได้ปิดเป็นความลับเสียทีเดียว แต่เขาก็ไม่ได้เปิดเผย ที่รักบอกกับครอบครัวไปเมื่อหลายปีก่อน ก็ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจและปรับตัวกันนานอยู่ตามประสาครอบครัวคนจีน ที่รักรู้สึกขอบคุณมากๆแล้วเพียงแค่พ่อไม่รังเกียจเขา แค่นั้นที่รักก็พอใจ


อินเป็นคนแรกที่ทำให้ที่รักถามตัวเองว่า เขาชอบอะไรกันแน่


พูดให้เข้าใจง่ายๆนะ อินเป็นรักแรกของที่รัก และเค้าว่ากันว่ารักแรกมักไม่สมหวัง



ที่รักพิสูจน์มาแล้วด้วยตัวเอง



วันนี้เขาตอบรับการมางานเลี้ยงรุ่น เนื่องจากเขาได้ยินมาว่าอินไปต่างประเทศ และร้านที่จัดก็อยู่ใกล้กับคอนโดเขาจนปฏิเสธลำบาก อีกทั้งที่รักก็คิดว่า นานๆมาเจอเพื่อนเก่าบ้างก็ไม่เสียหาย


ความจริงที่รักรักชีวิตวัยมัธยมของตนเองมาก เขาคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิต ไม่มีอะไรต้องกังวล ไม่มีเรื่องเงิน ไม่มีเรื่องงาน ไม่มีเรื่องการคดโกงของสังคมของคนที่โตแล้ว


ไม่ต้องปั้นหน้ายิ้มอย่างสดใสพรีเซนต์ของให้ลูกค้า


เป็นชีวิตการเรียนที่ป่วยก็หยุด ไม่อยากก็โดด ขี้เกียจก็นอน แต่การทำงานทำแบบนั้นไม่ได้ และที่รักคิดว่าตนเองเคยชินกับความสบายมากเกินไป เขารับแรงกดดันได้ไม่ดีนัก นั่นทำให้ที่รักไม่ค่อยชอบงานที่ตนเองทำอยู่นัก แม้ว่ามันจะทำเงินให้เขามากมายก็ตาม



...นี่ยังไม่นับว่า ชีวิตมัธยมของเขามีอินด้วยนะ




ที่รักหัวเราะไปกับมุกตลกของคนข้างๆ การอยู่ท่ามกลางเพื่อนมัธยมที่ทุกคนไม่ได้ใส่ชุดนักเรียน ใส่เสื้อเชิ้ตและชุดเดรสสวยงาม คุยกันเรื่องงาน เรื่องเงิน ชีวิตคู่ และการแต่งงาน ทั้งหมดนั่นทำให้ที่รักรู้สึกโหวงๆอยู่ในอก มันทำให้เขาเหงา


ทุกอย่างเหมือนตอกย้ำกับที่รักว่า ทุกอย่างที่ผ่านมากลายเป็นความทรงจำจริงๆ


ไม่มีวันที่เราจะย้อนกลับไปได้แม้ว่าเราจะอยากย้อนกลับไปแค่ไหน


ที่รักคิดถึงห้องเรียน โรงเรียน และบรรยากาศในตอนนั้นมาก


ที่รักคิดกับตนเองเป็นครั้งที่ล้านแล้วว่า เขาควรจะถามจริงๆ


คำถามนั้นน่ะนะ




“รัก...ที่ทำงานมึงเป็นไง” อิฐที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องถาม ใบหน้าสดใสคร้ามแดดของเพื่อนทำให้ที่รักยิ้มกว้าง อิฐเป็นคนที่ที่รักติดต่อด้วยบ่อยที่สุดหลังจากจบมา แต่ที่รักอาจจะไม่ใช่คนที่อิฐติดต่อด้วยบ่อยที่สุด


อาจจะฟังดูเข้าใจยาก แต่ที่รักไม่ค่อยสนิทกับใครมากนัก อิฐก็เป็นคนในกลุ่มที่มีอัธยาศัยดีและมนุษย์สัมพันธ์เป็นเลิศ อิฐก็สนิทกับทุกคนนั่นแหละ คุยกับทุกคน


อิฐรู้เรื่องรสนิยมทางเพศของเขาด้วย...ที่รักไม่ได้ปิดบังใครแต่เขาไม่ได้บอก อิฐแค่มาเจอตอนที่พวกเขาไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันเท่านั้น อิฐไม่ได้บอกใคร และไม่ได้ถามอะไร เขาเพียงแต่ถามสารทุกสุขดิบ ถามว่า นั่นแฟนที่รักเหรอ อะไรทำนองนี้เฉยๆ เพราะอิฐเป็นแบบนี้ เขารู้ว่าควรพูดอะไรและไม่ควรพูดอะไร นั่นทำให้อิฐมีเพื่อนมาก


อิฐลากเก้าอี้มานั่งข้างๆที่รัก


“ก็งั้นๆ เหนื่อยต้องปิดยอดทุกเดือน เหมือนหนูถีบจักร” ที่รักบ่นพึมพำ เขายกเบียร์ขึ้นมาดื่ม ฟองเบียร์ให้ความรู้สึกดี


“เบื่อมากก็ลองหาที่ใหม่ๆก็ดีนะรัก หรือไม่ก็ไปเที่ยวแบคแพคไรงี้ ไหนๆมึงก็ทำงานเก็บตังค์งกๆมาตลอด ให้รางวัลตัวเองมั้งไรงี้” อิฐพูด ก่อนหันไปพยักหน้าทักทายใครอีกคน


อีกอย่าง...อิฐเป็นลูกพี่ลูกน้องกับอิน ทั้งคู่มีความคล้ายกันเล็กน้อยเท่านั้น ก็คือหน้าตาที่ดูผ่านๆก็พอคล้ายกันอยู่


แต่นิสัยแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว อิฐมนุษย์สัมพันธ์ดี คุยง่ายเข้าถึงง่าย


อินพูดน้อย ...น่ารัก อ่อนโยน ใจดี


สามอันหลัง ที่รักน่าจะพูดเอาเอง


ที่รักยกมือขึ้นลูบคิ้วขณะที่อิฐคว้าซองเอกสารมาจากในกระเป๋า


“ขออวดหน่อย นี่ให้คนแรกเลยนะ” อิฐตอบ ยักคิ้วไปมา เหมือนขอคำชม ที่รักยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าอิฐยื่นการ์ดแต่งงานมาให้ อิฐกำลังจะแต่งงานกับแฟนที่คบกันมานานหลายปี อิฐลุกขึ้นยืน โบกการ์ดในมือไปมา เรียกเสียงเชียร์ เสียงโห่ร้อง เสียงแซว และเสียงก่นด่าจากชายโสด


อิฐเดินออกไป แจกการ์ดให้คนนั้นคนนี้ หัวเราะอย่างมีความสุข


ที่รักยิ้มกว้าง พยักหน้าหงึกหงักเหมือนมีคนตะโกนแซวอิฐ อิฐยิ้มรับและเล่นมุกกลับไป


เวลาผ่านไปเร็ว...จากวันนั้นที่เขายังใส่ชุดนักเรียน รู้ตัวอีกที ที่รักก็อยู่ในเสื้อเชิ้ต ทำงานเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง เอาตัวรอดในสังคมคนเมืองแล้ว เวลาผ่านไปเร็วจนที่รักรู้สึกว่า เขาห่างไกลจากคนอื่นๆมากขึ้นทุกๆที





“ที่รัก”



ที่รักหายใจสะดุด


หัวใจเขาเต้นแรง


ความรู้สึกหลากหลายปะทุขึ้นมาเหมือนน้ำป่าที่ไหลหลากพังทลาย


ที่รักกระพริบตาสองสามครั้ง สูดลมหายใจเข้าทางปาก


เขาหันไปมองต้นเสียง




ใครกันนะ...ที่บอกเขาว่าอินกำลังไปต่างประเทศ
ที่รักอยากจะตีมันแรงๆตอนนี้เลย



อินยิ้มน้อยๆอย่างเคย ร่างกายสูงใหญ่ทั้งคุ้นตาและไม่คุ้นตา ที่รักกระพริบตาอีกครั้ง อินดูคล้ายเดิมแต่มีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป อินอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาว พับแขนเสื้อขึ้นถึงข้อศอกและกางเกงแสลคสีเทาเข้ม


ครั้งสุดท้ายที่ที่รักเห็นอินคือ อินอยู่ในชุดนักเรียนของวันปัจฉิม นั่งข้างที่รักในห้องคาราโอเกะ และโบกมือลา แยกย้ายกันไป
ที่รักกระพริบตาอีกครั้ง



...ถ้าเขาร้องไห้ เขาจะเกลียดตัวเองมากๆ


การได้พบอินอีกครั้ง และได้ยินเสียงของอินเรียกชื่อเขาเพียงครั้งเดียว


ทำให้ที่รักรู้ว่าตัวเองโง่แค่ไหน


ที่รักได้ย้อนเวลากลับไปในวันนั้น วันคืนที่พวกเขายังหัวเราะด้วยกันในชั่วเสี้ยววินาทีเดียว อินทำให้ทุกอย่างที่ที่รักทำมาพังทลาย


การไม่มางานเลี้ยงรุ่นติดต่อกันนานหลายปี การที่บอกปัดบ่ายเบี่ยงว่าไม่ว่าง งานยุ่งบ้าง


ทั้งหมดไม่มีความหมาย


อินเปิดประตูเข้ามาในโลกของที่รักเหมือนมันไม่ได้ล๊อค และเข้ามานั่งอย่างสบายๆ ส่งยิ้มให้เขาอย่างเคย

ที่รักนึกสงสัยตัวเอง...เขาอาจจะล๊อคโลกของเขาเอาไว้ แต่ได้ให้กุญแจไปกับอินหรือเปล่า



“ไม่เจอกันนานเลยนะ” อินพูด นั่งลงแทนที่เก้าอี้ที่อิฐลากมา


ที่รักพยักหน้า เขารู้สึกว่ากล้ามเนื้อบนใบหน้าทำงาน เขากำลังยิ้มอยู่...งานของที่รักที่เขาบ่นนักหนา กำลังทำให้ที่รักสามารถยิ้มได้และผ่านสถานการณ์ตรงหน้านี่ไปได้

เขามั่นใจว่า เขากำลังยิ้มอย่างสดใสให้อิน ในแบบเดียวกันที่เขายิ้มให้กับลูกค้าเมื่อต้องการปิดยอดปลายเดือนเลยทีเดียว


“เป็นไงบ้าง” ปลายเสียงของที่รักสั่นเล็กน้อย เขาหวังว่าคนฟังคงไม่ทันสังเกต


“ก็ดี” อินตอบสั้นๆ สายตาของอินที่มองมาคุ้นเคยและเหมือนเดิมจนที่รักไม่กล้ามอง


“สูบบุหรี่มั้ย” อินถาม


“ห้ะ” ที่รักเงยหน้ามอง เขางงนิดๆกับบทสนทนาที่เปลี่ยนทิศทางกะทันหัน

“สูบได้” ที่รักตอบ เขาไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าเขาควรจะตอบอย่างไร

 
อินลุกขึ้นยืน ที่รักเงยหน้ามองพอๆกับที่อินก้มหน้ามามองที่รัก




ที่รักกลั้นหายใจ และหัวใจของเขากำลังจะวายเมื่ออินคว้าข้อมือของที่รักและฉุดให้ลุกขึ้น


“ไปสูบบุหรี่เป็นเพื่อนหน่อย”


อินไม่ได้รอคำตอบ แต่ลากที่รักออกไปด้านนอก คนถูกลากหันรีหันขวาง สมองเขาตะโกนบอกให้หาทางออก ก่อนที่เขาจะทำให้อินรู้อะไรบางอย่างที่ไม่ควรรู้ แต่ร่างกายที่รักไม่ฟัง


เขามองแผ่นหลังของอินอย่างมึนงง มันกว้างกว่าที่คุ้นเคย กลิ่นน้ำหอมผสมกับกลิ่นเดิมๆของอินทำให้ที่รักสูดลมหายใจลึกขึ้น


อินผลักประตูหนีไฟออกและนั่งลง ทางออกหลังร้านไร้ผู้คน ลมเย็นๆของกลางคืนพัดเข้ามา ที่รักมองอินขณะทรุดตัวลงนั่ง


เสี้ยวหน้าด้านข้างของอินยังเหมือนเดิม จมูกโด่งเป็นสันกับผิวสีน้ำผึ้งเนียนละเอียด ริมฝีปากหยักที่ยิ้มพรายยามอ้าปากพูดกับเขา


“ครั้งที่สุดท้ายที่เจอที่รักคือเมื่อไหร่นะ” อินถาม



...

“วันปัจฉิม” เสียงของที่รักแทบไม่พ้นลำคอ



อันที่จริงการหลบหน้าอินนั้นไม่ยากเลย เพราะอินไม่เคยโทรหาหรือติดต่อที่รักอีกเลย หลังจากวันนั้น อินไปเรียนเมืองนอก กลับมาทำงานประเทศไทย ไปๆกลับๆ และแต่งงาน


ที่รักรู้แค่นั้น และรู้ทุกอย่างมาจากเพื่อนๆคนอื่นๆ


อินไม่ได้ตอบ แต่สูดลมหายใจเข้าลึก ปลายบุหรี่ขึ้นเป็นสีแดงและมอดไหม้ ที่รักรู้สึกว่าตนเองกำลังเป็นเหมือนปลายบุหรี่นั่น อินผ่อนลมหายใจออก ควันบุหรี่พุ่งพวยออกมาเป็นสาย


อินหันมามอง


“ไม่สูบเหรอ” อินถาม เสียงทุ้มต่ำชวนให้เอนตัวเข้าใกล้เพื่อฟังชัดๆ


...ความจริงก็คือ ที่รักไม่ค่อยสูบบุหรี่นักหรอก เขาไม่พกมันด้วยซ้ำ


อินยื่นมือมาตรงหน้า


ที่รักเบิกตากว้างเล็กน้อย




ริมฝีปากของเขาสั่น ยามแตะลงไปบนบุหรี่และสูดลมหายใจเข้าอย่างเก้ๆกังๆ ริมฝีปากที่รักสัมผัสกับด้านข้างนิ้วชี้ของอิน มันเย็นกว่าที่เขาคิดเอาไว้


ที่รักพ่นลมหายใจออกทางปาก กลิ่นบุหรี่ที่ไม่ได้สัมผัสมานาน ไม่ได้ช่วยให้สมองของที่รักทำงานได้ดีขึ้น เขารู้สึกว่าสมองของตนเองหยุดทำงานไปแล้วเมื่อที่รักเผลอมองไปยังมือของซ้ายของอิน



มันว่างเปล่า



“อินไม่ใส่แหวนเหรอ” ที่รักถามก่อนที่จะห้ามตนเองได้ทัน เขาเกือบๆหลับตาไว้อาลัยให้กับตนเอง สมองที่รักได้ตายไปแล้ว
อินยิ้มบางๆ ไม่ได้หันมามอง สูดบุหรี่ในมือเข้าปอดอึกใหญ่


“หย่าแล้ว” อินตอบแค่นั้น


“เอ้อ...ขอโทษ” ที่รักรีบขอโทษ เขาไม่รู้ว่าได้ไปกระทบกระเทือนแผลอะไรของอินเข้าหรือเปล่า




เสียงจ้อกแจ้กดังมาจากด้านหลัง ประตูหนีไฟเปิดออก


“มานั่งอะไรข้างนอกกันสองคน” เพื่อนต่างห้องของที่รักและอินพูดขึ้น ที่รักสะดุ้งสุดตัว อินหันไปทักทายและถามสารทุกสุขดิบ


   ที่รักไม่แน่ใจว่าเขารู้สึกอย่างไร ใจหนึ่งเขาก็อยากนั่งอยู่แบบนี้ อีกใจหนึ่งเขาอยากออกจากสถานการณ์ไม่ปลอดภัยต่อจิตใจเขาแบบนี้ใจจะขาด


   อินลุกขึ้น ขณะหันไปหัวเราะอะไรบางอย่างกับเพื่อนคนนั้นที่ที่รักไม่ได้ฟัง




   “ตอนนั้น...อินพูดว่าอะไร”




   
   ที่รักถาม


   เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงถาม


   เขาไม่รู้ว่าทำไมปากของเขาถึงขยับ


   ...อินทำให้สมองของที่รักตายลง

   หัวใจของที่รักเต้นแรง และเขารู้สึกว่าร้อนวูบวาบที่บริเวณดวงตา


   การที่นิ้วนางข้างซ้ายของอินว่างเปล่าหรือเปล่า


   การที่อินยื่นมือมาใกล้ใช่หรือไม่


   หรือเป็นกลิ่นเดิมๆของอินที่เขายังจำได้


   หรือเป็นแผ่นหลังกว้างๆของอินที่คุ้นเคย


   เป็นน้ำเสียง


   เป็นใบหน้า


   เป็นริมฝีปาก



   
   ที่รักนั่งนิ่งค้าง


   เมื่ออินไม่ได้ตอบ แต่คำตอบของอินปรากฎอยู่บนใบหน้า อินชะงักไปและสีหน้าของอินในชั่วขณะนั้นเป็นสีหน้าที่อธิบายไม่ถูก


   ที่รักไม่ได้เข้าข้างตนเอง


   เขาตะโกนบอกตนเองในใจ


   มันคือเรื่องจริง


   ที่รักคิดว่า สีหน้าของเขาก็คงบอกอะไรอินบางอย่างเช่นกัน   



   “กูกับที่รัก ขอกลับก่อน...ฝากบอกอิฐด้วย” อินพึมพำตบเบาๆบนบ่าของเพื่อนต่างห้องที่ที่รักไม่ได้มองหน้า อินคว้าข้อมือที่รักอีกครั้ง ที่รักเกือบจะทรงตัวไม่อยู่


   นอกจากสมองแล้ว ขาของที่รักก็ดูปฏิเสธที่จะทำหน้าที่ของมัน อินสอดมือเข้ามาโอบเอว


   มันเป็นความใกล้ชิดระหว่างอินและที่รักที่มากที่สุดที่ที่รักเคยได้รับมา


   ที่รักรู้สึกว่าเขาได้กลับไปเป็น ที่รักในชุดนักเรียนอีกครั้ง เมื่ออินดึงมือเขาให้เดินไปข้างหน้า


   ที่รักขอบคุณตนเองที่ถามออกไป


   ที่รักขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ตอนนี้เขาโสด ทำให้เขาไม่ต้องทำผิดกับใคร


   และที่รักขอโทษที่รู้สึกขอบคุณ ที่อินไม่ใช่ผู้ชายที่มีพันธะอีกต่อไป





   “ที่รัก” อินพึมพำข้างใบหูของเขา


   “ที่รัก”


   “ที่รัก”


   และเรียกมันซ้ำๆ




   ที่รักร้องไห้เบาๆเมื่อเขาได้รู้ว่า ริมฝีปากหยักได้รูปที่เขาเคยมองของอินนั่นให้สัมผัสเป็นแบบไหน


******
สวัสดีค่ะ นายเองค่ะ พักจากบ่ายสามหลังอาคารเจ็ดและหวั่นไหว นายมาแต่งเรื่องสั้นที่แต่งวันนี้ลงวันนี้เลย 5555+
ถ้าใครที่คุ้นเคยกับเรื่องของนายมาก่อน ก็จะรู้ว่านายชอบความรักม้ัธยมมาก มากจริงๆ
ตอนแต่งเรื่องนี้นี่อินมาก ใส่ความรู้ของตัวเองเข้าไปเต็มที่ค่ะ
แต่จะว่าไป เรื่องนี้อาจจะพร่องไปบ้าง เพราะ นายแต่งแล้วก็ลงเลยไม่ได้มารีไรท์อะไรทั้งนั้น ถ้าพิมพ์ผิดตรงไหนก็แจ้งได้เลยนะคะ แต่นายก็ตรวจทานแล้วรอบนึง 555

เป็นครั้งแรกที่ลงเรื่องสั้นที่นี้ ถ้านายมีเรื่องสั้นมาเพิ่มอีก ก็จะลงที่หัวข้อนี้แหละค่ะ คงไม่เปิดเรื่องใหม่
แต่เรื่องนี้ก็ถือว่าจบในตัวอยู่แล้วล่ะค่ะ คงไม่มาเพิ่มแล้ว ตอนแรกนายคิดอยู่ว่าจะให้เรื่องนี้เป็นแนวเซกซี่ดีมั้ย แต่ไปๆมาๆก็ออกมาเป็นแบบน้ี้ล่ะค่ะ ไม่ค่อยชอบแต่งเอนซีเยอะๆเท่าไหร่  o13

ขอบคุณคนอ่านทุกคนนะคะ รักมากจริงๆ

คุยกันได้เสมอที่ @sunnyside1909 ค่ะ   :hao3:
หัวข้อ: Re: ❥❥ ความรักที่ยังอยู่ ❥❥ (ตอนเดียวจบ 20/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 20-05-2015 19:10:51
ช่างเป็นความรักที่ยาวนาน... ดีจังที่สุดท้ายก็เข้าใจตรงกัน
เข้าใจอารมณ์ที่รักตอนไปงานเลี้ยงรุ่นเลยอ่ะ พอโตขึ้นแต่ละคนก็มีชีวิตของตัวเอง ไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นเหมือนตอนเด็กได้อีก
บางทีไปงานแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกโหวงๆอยู่นะ

หัวข้อ: Re: ❥❥ ความรักที่ยังอยู่ ❥❥ (ตอนเดียวจบ 20/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 20-05-2015 21:00:55
น้ำตามาเลยค่ะ ฮึก~ T^T ..ถึงความเจ็บปวดที่เคยพบเจอมาจะเนิ่นนานสักแค่ไหน แต่ก็คงไม่นานไปกว่าความสุขที่ทั้งสองคนจะได้มีนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไปจริงๆ ด้วยนะคะ ดีใจจังค่ะที่อินกับรักเข้าใจตรงกันเสียที :heaven
หัวข้อ: Re: ❥❥ ความรักที่ยังอยู่ ❥❥ (ตอนเดียวจบ 20/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 20-05-2015 23:45:06
ซึ้งงงงง

ฝันดีก่อนนอน

ขอบคุณนะค้าา
หัวข้อ: Re: ❥❥ ความรักที่ยังอยู่ ❥❥ (ตอนเดียวจบ 20/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 21-05-2015 01:05:27
คู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกัน
หัวข้อ: Re: ❥❥ ความรักที่ยังอยู่ ❥❥ (ตอนเดียวจบ 20/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: must ที่ 22-05-2015 13:51:08
ชอบเรื่องนี้ โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังละมุนมาก

ไม่มีมาเพิ่มแล้วจริงๆ เหรอ อยากให้มีเรื่องราวต่อจากนี้อีกนิด

ขอละมุนๆ แบบพิเศษอีกสักตอนจะขอบพระคุณ
หัวข้อ: Re: ❥❥ Metamorphosis ❥❥ (27/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: sunnyside1909 ที่ 27-05-2015 18:00:25
Metamorphosis



เรารู้จักกันครั้งแรกตอนประถมต้น สมัยที่ยังเป็นเด็กชายมาร์คและตี๋น้อย นั่งเรียนเครื่องเป่าทองเหลืองด้วยกันในคาบดนตรี เราก็แค่เด็กที่บังเอิญเลือกเครื่องดนตรีเดียวกันแล้วก็เลขที่ใกล้กันเท่านั้น


มาร์คนั่งน้ำมูกย้อยด้วยภูมิแพ้ จนตี๋น้อยต้องควักเอาผ้าเช็ดหน้าที่ค่อนข้างมอมแมมเพราะว่าเช็ดปากตัวเองมาทั้งวันแล้วยื่นให้ อีกฝ่ายก็รับไปโดยที่ไม่ได้ใส่ใจความสกปรก เด็กชายมาร์คพยักหน้าให้ทีหนึ่ง ในแบบที่ตี๋น้อยคิดว่าเท่ชะมัดแต่ก็น่าหมั่นไส้เป็นบ้า


สำหรับเด็กประถม การให้ยืมสิ่งของเล็กๆน้อยๆเช่น ผ้าเช็ดหน้า ทำให้ตี๋น้อยรู้สึกเหมือนทำความดียิ่งใหญ่ราวได้กู้โลกเหมือนในการ์ตูนตอนเช้า เขายิ้มให้ตัวเองอย่างภาคภูมิใจและหันไปยิ้มให้เด็กชายมาร์คด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง


หลังจากนั้น เราก็ได้เข้าวงโยรุ่นเด็กของโรงเรียนในตอนประถมปลาย ตี๋น้อยรู้สึกเซ็งมากที่เขาและมาร์คดันอยู่คนละห้อง แต่ก็ยังดีที่อยู่วงดนตรีเดียวกันนะ มาร์คไม่ค่อยพูดมากนัก แต่เขาเป็นที่โปรดปรานของอาจารย์เพราะหน้าตาน่ารัก แต่ความอิจฉาแบบเด็กๆของเด็กประถมก็ทำให้เด็กชายมาร์คมีเพื่อนไม่มากนัก


หนึ่งในนั้นก็คือ ตี๋น้อย ...นั่นคือสิ่งที่ตี๋น้อยมั่นใจว่ามันเป็นอย่างนั้น


พวกเขาเป่าเครื่องเป่าทองเหลืองในวงวู้ดวินด้วยกันอย่างมีความสุข ตี๋น้อยนอนข้างมาร์คยามเมื่อมาเข้าค่ายดนตรี มาร์คจะมีถุงนอนสีน้ำเงินลายกระต่ายเป็นของตัวเอง ส่วนเขาก็มีลายอุลตร้าแมนสีแดงสุดแมน ตี๋น้อยตื่นเต้นสุดๆเพราะเขาอุตส่าห์หอบหิ้วเอาเกมบอยหน้าจอสีจากบ้านมาด้วย เขาเฝ้ารอเวลาเล่นด้วยกันแทบไม่ไหว


แต่สุดท้ายก็แทบจะไม่ได้เล่น เพราะซ้อมเสร็จ ตี๋น้อยก็เหนื่อยจนผล๊อยหลับไปทันที แผนการที่คิดเอาไว้ว่าจะถ่างตาเล่นด้วยกันทั้งคืนก็หายไป มาร์คที่รับคำชวนไว้ตั้งแต่สองสามวันก่อน กระพริบตาปริบๆ







ขึ้นมัธยมหนึ่ง เกิดเรื่องดีๆขึ้นอย่างหนึ่งก็คือ มีการย้ายห้องเกิดขึ้น และทั้งคู่ก็ได้อยู่ห้องเดียวกัน นั่งข้างๆกันอีกต่างหาก เพราะมันเรียงที่นั่งตามชื่อจริง ตี๋น้อยและมาร์ค ชื่อจริง ชื่อ วริศ เหมือนกัน


มาร์คเริ่มไม่ใช่เด็กชายมาร์คอีกต่อไป เขามีแฟนคนแรกตอนมัธยมสอง สวยน่ารัก อยู่ห้องข้างๆ และด้วยความที่แทบจะเป็นคู่แรกๆที่คบกัน ทำให้ได้รับเสียงโห่หิ้วล้อเลียนจากเพื่อนฝูงไปพักใหญ่ เล่นเอาสาวเจ้าอายม้วนจนน่าหมั่นไส้


ตี๋น้อยรู้สึกว่า เวลาของเขาถูกแบ่งออกไปให้สาวน้อยคนนั้น แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาเก็บมาคิด...ยอมรับก็ได้ ก็คิดนิดหน่อย มันก็ต้องมีน้อยใจกันบ้าง ขนาดตี๋น้อยก็ยังไม่มีแฟนเลยนี่นา แต่ตี๋น้อยก็ยังมีเพื่อนอีกกลุ่มใหญ่ นั่นทำให้ไม่ค่อยเกิดปัญหาเท่าไหร่นัก
ตี๋น้อยมีแฟนครั้งแรกตอนอายุสิบสี่ย่างสิบห้า กำลังจะเปลี่ยนจากเด็กชายเป็นนายพอดี เป็นผู้หญิงในกลุ่มเดียวกันนี่แหละ เล่นกันไปเล่นกันมา แซวกันไปมา ก็นั่นแหละ


เอินเป็นผู้หญิงน่ารักแบบที่ยิ่งคุยก็ยิ่งน่ารัก ตี๋น้อยไม่ได้คิดว่าเอินแตกต่างจากเพื่อนคนอื่นขนาดไหน แต่เขาก็ชอบที่จะได้อยู่กับเธอ ตอนที่ตี๋น้อยคบกับเอิน มาร์คเลิกกับแฟนไปแล้วสองคน ช่างเป็นเด็กมัธยมต้นที่ไฟแรงจริงๆ...หมายถึงมาร์คน่ะนะ


ตี๋น้อยมักจะเรียกเอินด้วยเสียงเรียกยานคางในตอนเช้าเป็นชื่อแรกเมื่อมาถึงโรงเรียน และพูดเรื่องในโทรทัศน์เมื่อคืน เรื่องเพลงใหม่ที่ฟังเมื่อเช้า หรือเรื่องการแข่งขันของวงดนตรีของเขา เอินรักดนตรีเหมือนกันทั้งที่เอินไม่ได้เล่นดนตรีเลย แต่เอินชอบฟัง เอินชอบมานั่งฟังในห้องที่ตี๋น้อยซ้อมบ่อยๆ เขาเคยเล่นคู่กับเอินอยู่หนึ่งครั้ง เพราะเอินเองก็เรียนฟลุตอยู่เหมือนกัน แต่มันพังไม่เป็นท่า


เอินเล่นดนตรีไม่ได้จริงๆ นั่นคือสิ่งที่เอินบอก ตี๋น้อยไม่คิดว่าอย่างนั้นเท่าไหร่ มีด้วยเหรอ คนที่เล่นดนตรีไม่ได้ในโลกนี้ ตอนเขาเกิดเขาก็เล่นไม่ได้จริงๆเหมือนกันนั่นแหละ แต่เอินเรียนเก่ง นั่นทำให้ตี๋น้อยเรียนเก่งไปด้วยเมื่อได้ใช้เวลาอยู่กับเธอมากๆ


เมื่อทั้งคู่เปลี่ยนคำนำหน้าจาก เด็กหญิงเป็นนางสาว และเด็กชายเป็นนาย ตอนนั้นมาร์คก็เลิกกับแฟนไปแล้วเป็นคนที่สี่


ซึ่งเมื่อมาคิดกันจริงจังแล้ว ความทรงจำในตอนนั้นของตี๋น้อยไม่มีมาร์คเท่าไหร่ เขาจำไม่ค่อยได้เลยว่าได้ทำอะไรร่วมกันไปบ้าง ก็มีเล่นดนตรีที่โรงเรียน เล่นดนตรีที่โรงเรียน และเล่นดนตรีที่โรงเรียน พวกเขานั่งข้างกันก็จริง แต่เอินนั่งอยู่ข้างหน้า และมักจะหันมาคุยด้วยบ่อยๆ นั่นทำให้มาร์คที่เป็นคนพูดน้อยแต่เดิมแทบไม่ได้พูดคุยกับตี๋น้อยเลย


พักกลางวันมาร์คก็กินข้าวกับแฟนในตอนนั้นซึ่งตี๋น้อยจำไม่ได้แล้วว่า ตอนนั้นมาร์คคบกับใครอยู่ พอกลับบ้านก็กลับกับแฟน เหมือนกันกับเขาและเอินนั่นแหละ






   ทุกอย่างมันเกิดขึ้นในช่วงมัธยมศึกษาปีที่ห้า มาร์คไม่ใช่เด็กชายมาร์คอีกต่อไป ทั้งทางกฎหมายและทางกายภาพ เขาสูงราวๆร้อยแปดสิบกว่าๆ ซึ่งนั่นทำให้มาร์คไปอยู่ด้านหลังสุดของแถว ตี๋น้อยที่อยู่กลางๆของแถวมาตลอดตั้งแต่ประถมหนึ่งจนมาถึงมัธยมห้า เขาก็ยังอยู่ที่เดิม


ตอนนั้นมาร์คอาจจะเลิกกับแฟนเป็นครั้งที่ยี่สิบ ตี๋น้อยไม่ได้นับอีกต่อไป เขาไม่ได้นับมาตั้งแต่คนที่ห้าแล้วละมั้ง การนั่งเรียนเป็นการนั่งแบบสุ่มเพื่อลดการคุยกันระหว่างเรียน และเพื่อการพบเจอเพื่อนใหม่ๆ นั่นทำให้ตี๋น้อยไม่เคยได้นั่งข้างมาร์คอีกเลย แต่ถึงอย่างไรพวกเขาสองคนก็ยังคงนั่งข้างกันเสมอในวงโย และนอนข้างกันเสมอเมื่อเข้าค่ายเก็บตัวของวงโย


ไม่มีใครเรียกเขาว่าตี๋น้อยอีกต่อไป มีแต่เพื่อนๆเรียกว่า ตี๋


มาร์คเรียกเขาว่าตี๋น้อยเป็นบางครั้ง...รึเปล่า ไม่แน่ใจเท่าไหร่หรอก


เพราะมาร์คไม่ค่อยเรียกชื่อเขานี่นา


โรงเรียนพาไปเข้าค่ายต่างจังหวัดในช่วงปลายของมัธยมห้า จริงๆมันไม่ก็ใช่ต่างจังหวัดเท่าไหร่ ก็แค่ไกลจากกรุงเทพไปนิดหน่อย แถมยังเป็นโรงเรียนสาขาของโรงเรียนเขาอีกต่างหาก ตี๋น้อยนอนไม่หลับเลยตั้งแต่สี่ทุ่มจนตีสองแล้วเขาก็ยังไม่หลับแม้ว่าจะหลับตาปี๋แต่พลิกไปพลิกมาอย่างเป็นกังวล


โรงเรียนสาขาแห่งนี้ปรับปรุงมาจากการเป็นโรงพยาบาล ยังเห็นเค้าโครงของการออกแบบแบบโรงพยาบาลอยู่ มีเค้าเตอร์ที่ดูเหมือนเอาไว้ติดต่อหรือเอาไว้จ่ายยา และห้องโถงยาวๆแบบในโรงพยาบาล


ตี๋น้อยกลัวผีขึ้นสมอง เขานอนไม่หลับหรอกในที่แบบนี้ถ้าไม่เหนื่อยจริงๆ มันเป็นอย่างนั้นทุกครั้ง


“ตี๋น้อย” มาร์คพูดขึ้น แน่ใจว่าเขายังไม่หลับแน่ๆ


“พรุ่งนี้มีวิ่งแต่เช้านะ” มาร์คพูด ตี๋น้อยพ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างแรง


“พยายามอยู่” เขาพึมพำทั้งๆที่หลับตา ตี๋น้อยหยีตาขึ้นมามองนิดหนึ่ง ใบหน้าของมาร์คห่างออกไปไม่กี่นิ้ว เขาเห็นริมฝีปากแดงๆชัดเจนในความมืด มาร์คลืมตาอยู่ ตี๋น้อยได้รับรอยยิ้มบางๆเป็นกำลังใจให้ เขายิ้มแห้งๆตอบกลับไป ไม่อยากจะบอกว่าตอนนี้เขาก็ตาจะปิด แต่สมองมันฟุ้งซ่านไปเอง


มาร์คเอื้อมมือมาแตะบนไหล่


ตี๋น้อยนอนนิ่งสักพัก ก่อนจะคว้ามือบนไหล่มาจับไว้เอง มันค่อนข้างจะแปลกประหลาด เพราะ...เขาไม่เคยนอนจับมือใครมาก่อนนอกจากแม่


แต่นั่นไม่ได้ช่วยให้ตี๋น้อยหลับลง


เหมือนนั่นจะทำให้ทั้งคู่ตาตื่นจนเช้าเสียมากกว่า แต่นั่นก็ทำให้วันถัดไปทั้งเหนื่อยทั้งง่วงจนการนอนในคืนถัดไปไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป





หลังจากกลับมาจากค่าย เหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป แต่ตี๋น้อยรู้สึกได้ ว่ามันมีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป ตี๋น้อยเลิกกับเอินแล้ว หลังจากคบมาหลายปี เพื่อนๆเสียดายกันยกใหญ่ เอินร้องไห้นิดหน่อย ตี๋น้อยร้องไห้เยอะมาก แต่ก็นั่นแหละพวกเขาทะเลาะกันและคบๆเลิกๆอย่างนี้หลายครั้ง จนตี๋น้อยไม่ได้นับแล้วว่าเลิกกันมากี่ครั้ง ปกติก็ไม่ร้องไห้กันหรอก แต่การเสียน้ำตาในครั้งนี้เหมือนจะบอกกับทั้งสองคนว่า คงไม่มีการทะเลาะครั้งต่อไปอีกแล้ว


คงไม่ได้คบๆเลิกๆแบบนี้อีกแล้วล่ะ


ตอนนั้นคำว่ามหาวิทยาลัยเริ่มผ่านเข้ามาในสมองแล้ว มันก็ต้องเริ่มคิดกันได้แล้วล่ะ เอินจริงจังกับเรื่องนี้มาก เอินเป็นคนจริงจังกับเรื่องเรียนมาแต่ไหนแต่ไร และเธอก็ส่งอิทธิพลให้ตี๋น้อยรู้สึกว่ามันสำคัญไปด้วย


ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ตี๋น้อยเรียนพิเศษอย่างหนัก ส่วนมากจะเรียนคนเดียว มีบ้างที่ไปกับเพื่อน แต่เขาก็คิดว่าไปเรียนคนเดียวมีสมาธิมากกว่า เขาเจอมาร์คในวันหนึ่งที่ตึกเรียนพิเศษ เขาประหลาดใจนิดหน่อย มาร์คไม่ใช่คนประเภทเรียนกวดวิชา เขาเป็นประเภทเรียนในห้องเรียนแบบเรียนๆเล่นๆแต่สอบได้ เป็นประเภทที่ชวนน่าหมั่นไส้นั่นแหละ


แต่อันที่จริง...ตี๋น้อยรู้ดีว่า มาร์คขยันจะตาย กลับบ้านไปก็อ่านหนังสือเอง เผลอๆคนที่ทำแบบนี้มีความอดทนมากกว่าคนที่เรียนพิเศษแบบเขาเป็นไหนๆ


ทั้งคู่โบกมือทักทายกันแบบเก้อๆ ตี๋น้อยชวนไปกินข้าวด้วยกัน แบบที่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นความคิดที่ดีหรือเปล่า เพราะระหว่างพวกเขาในตอนนี้ก็ใช่ว่าจะมีเรื่องราวให้แลกเปลี่ยนกันมากนัก


ระหว่างที่ตี๋น้อยสูดบะหมี่เข้าปากและพิจารณาเมนูอื่นๆไปด้วย เขามากินที่นี่จนครบทุกเมนูแล้ว ตี๋น้อยก็ถามมาร์คเรื่องมหาวิทยาลัย ซึ่งดูเป็นหัวข้อที่มีให้พูดกันไม่รู้จักจบจักสิ้นสำหรับนักเรียนมัธยมปลาย ตอนนั้นตี๋น้อยคิดว่าชีวิตเด็กมอปลายนี่ลำบากจัง เรียนเช้าจรดเย็น เรียนแม่งทุกวัน ไม่เคยพัก แต่เมื่อตี๋น้อยมองกลับไปถึงรู้สึกว่า ตอนนั้นชีวิตสบายสุดๆ


มาร์คพูดเรื่องมหาวิทยาลัยแบบสบายๆ ทั้งคู่วางแผนจะเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ มาร์คไม่ได้มาเรียนพิเศษจริงๆอย่างที่ตี๋น้อยคาดเอาไว้ มารับแฟนต่างหาก ตี๋น้อยเบ้ปากอย่างที่มาร์คหัวเราะเบาๆ


“หมั่นไส้มากๆ” ตี๋น้อยพึมพำกับกองบะหมี่ในชาม มาร์คไม่ได้ตอบแต่หัวเราะและยิ้มตายิบหยี ตี๋น้อยเคยเห็นเวลามาร์คอยู่กับแฟนเป็นบางครั้ง มาร์คดูแลดี เทคแคร์ทุกอย่าง แต่ดูไม่ค่อยยิ้มหรือหัวเราะมากนัก...หรือบางทีผู้หญิงอาจจะชอบแบบนั้นมากกว่าแบบตี๋น้อยที่ดูหัวเราะมากไป แต่เอินก็ไม่เคยว่าอะไรเวลาตี๋น้อยทำตัวบ้าๆบอๆนะ


มาตรฐานผู้หญิงสำหรับตี๋น้อย ก็มีแค่เอินคนเดียว ก็ตี๋น้อยเคยคบกับเอินคนเดียวนี่นา


หลังจากสูดบะหมี่จนหมดชาม ฝนก็ตกหนักจนออกไปไม่ได้ ตี๋น้อยนั่งกระดิกเท้าอยู่ที่บันไดหน้าเซนจูรี่ เขาถอนหายใจเมื่อคิดถึงคอร์สภาษาอังกฤษตอนบ่ายที่เขาคงไปไม่ทันแน่ๆ จะให้วิ่งฝ่าฝนไปก็ยังไงอยู่


“ดูไออ้อนแมนกันมั้ย” มาร์คพูดขณะกวาดสายตาไปยังรอบหนัง


“ไม่เคยดูภาคแรกอ่ะ” ตี๋น้อยพูด จำได้ว่าตอนภาคแรกเขาก็จะไปดูนะ แต่ทำไมไม่ได้ดูตี๋น้อยก็ลืมไปแล้ว


“ก็น่าจะรู้เรื่องแหละ อีกนานกว่าฝนจะหยุดตก ดูเหอะ” นับเป็นประโยคยาวๆของมาร์คแล้ว ตี๋น้อยนั่งกระดิกเท้าอีกสักพักจนฝนสาดเข้ามาตรงบันไดนั่นแหละและน้ำเริ่มท่วมที่ถนนนั่นแหละเขาจึงยอมแพ้


“ดูก็ได้”


โรงหนังเซนจูรี่คนน้อยจนไม่น่าเชื่อ ในโรงมีไม่ถึงสิบคนทั้งๆที่ก็เป็นรอบบ่ายในวันธรรมดาของช่วงปิดเทอม แถมยังเป็นหนังดังระดับบลอกบัสเตอร์ พวกเขานั่งแถวหลังสุดอย่างที่ตี๋น้อยไม่ค่อยได้นั่ง ปกติเขาไม่เลือกแถวเอนักหรอก มันแพง ลงไปอีกสามสี่แถวก็เปลี่ยนราคาแล้ว ดูตรงไหนก็เหมือนกัน


ข้างหลังเก้าอี้เป็นม่านหนักๆสีแดงที่ชวนให้คิดถึงเรื่องสยองๆอย่างถ้าหากเขาดูๆไปตอนที่กำลังตั้งใจดูมีมือมาบีบคอเขาจากด้านหลังอะไรทำนองนี้ หรือมีเลือดหยดลงมา ตี๋น้อยหันไปมองผ้าม่านอย่างฟุ้งซ่าน เขาก็เป็นอย่างนี้ล่ะ ขี้กลัวและชอบคิดไปเอง


ไม่มีใครนั่งแถวเดียวกันเลย ตี๋น้อยและมาร์คเลือกที่นั่งตรงกลางหลังสุด อันเป็นทำเลที่ดีที่สุดในการดูหนังแล้ว


“คนโคตรน้อย” ตี๋น้อยออกความเห็นขณะถือป้อบคอร์นเข้าไปตรงที่นั่ง ป็อบคอร์นรสชีสกลิ่นค่อนข้างแรง จนน่ากลัวว่ามันจะรบกวนคนรอบๆ แต่โชคดีที่ไม่มีคนรอบๆ แถมมันยังชวนให้คอแห้งจนต้องกินน้ำบ่อยๆอีกต่างหาก


อาจจะเป็นเพราะละอองฝนที่ทำให้ผมเปียก หรือ เป็นเพราะเมื่อคืนเขานั่งทำข้อสอบเก่าจนดึกดื่นทำให้เมื่อหนังผ่านไปสักพัก ตี๋น้อยก็หลับไปกับเก้าอี้นุ่มๆและอากาศเย็นๆของโรงหนังทั้งๆที่หนังก็ยิงกันตู้มต้ามอยู่อย่างนั้นแหละ


แต่เขาก็ไม่ได้หลับสนิทขนาดนั้น ...เขาอยากจะบอกมาร์คอย่างนั้น


ตี๋น้อยรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างนุ่มๆอุ่นๆที่ริมฝีปากของเขา และรสชีสที่ไม่แน่ใจว่ามาจากปากใครกันแน่ เขาไม่ได้ถอยออกแต่ลืมตาขึ้นมาทันที ในชั่วเสี้ยววินาทีแรกตี๋น้อยยังไม่เข้าใจนักว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้เข้าใจยากอะไรเลย มันก็เห็นๆกันอยู่



มาร์คหลับตาและจูบเขา...อย่างตั้งใจ



มันเป็นแค่จูบที่ริมฝีปากสัมผัสกันเท่านั้น แต่ก็ทำให้หัวใจคนสองคนเต้นเร็วขึ้น เร็วขึ้น และเร็วขึ้น


ตี๋น้อยลืมตาอยู่อึดใจหนึ่ง สมองเขาไม่ได้ให้คำตอบว่าเขาควรจะทำอย่างไร ตี๋น้อยไม่รู้จริงๆ เขาไม่เคยจูบมาก่อนด้วย...ตี๋น้อยย้อนกลับไปคิดว่า ทำไมเขาถึงไม่เคยจูบกับเอินเลย นั่นเขาก็ไม่รู้เช่นกัน


ความจริงมาร์คจูบแค่ครู่เดียวเท่านั้น แต่ทั้งคู่รู้สึกว่ามันนานจนหายใจติดขัด




ตี๋น้อยหลับตาและแสร้งทำเป็นหลับอยู่อย่างนั้นจนหนังจบ...เขาหงุดหงิดเหลือเกินที่ทำไมหนังมันถึงนานนัก





วันนั้น...มาร์คและตี๋น้อย ไม่มีใครได้ดูหนังเลย




“ตี๋น้อย...หลับเหรอ หนังจบแล้วนะ” ปลายเสียงสั่นๆแบบที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ปลุกเขาหลังจากที่หนังจบและมาร์คปล่อยให้เครดิตวิ่งจนจบกว่าจะเอ่ยปากพูด


“ง่วงนิดหน่อย” ตี๋น้อยคิดออกแค่นั้น เขากลืนน้ำลาย ลุกขึ้นพรวดพราดและสะดุดเศษป้อปคอร์นที่พื้น มาร์คคว้าข้อศอกเขาเอาไว้ ตี๋น้อยเกือบๆจะสะบัดออกตามสัญชาตญาณแล้วแต่ก็ขอบคุณตัวเองที่ยั้งเอาไว้ทัน


“ฝนหยุดตกแล้วมั้ง” ตี๋น้อยพูดทั้งๆที่ยังไม่ก้าวออกไปจากโรงหนังเลย


“อือ” มาร์คตอบสั้นๆ


มาร์คบอกลาตี๋น้อยหน้าเซนจูรี่ ทันทีที่เขาแยกจากกัน ตี๋น้อยรู้สึกทันทีว่ามือเขาสั่นอย่างหนัก



มาร์คเลิกกับแฟนคนที่เท่าไหร่ไม่รู้ในวันนั้นเอง






หลังจากนั้นมาร์คและตี๋น้อยกลับไปสู่สภาพเดิม ทั้งคู่โบกมือให้กันเก้อๆยามเจอกัน และไม่ได้พูดคุยกันเท่าไหร่นัก จนกระทั่งจบการศึกษาออกไป ตี๋น้อยก็ยังคิดว่าน่าเสียดาย เขาน่าจะคุยกันให้มากกว่านี้


แต่หลังจากวันนั้น ตี๋น้อยก็ไม่เคยสั่งป็อปคอร์นรสชีสกินอีกเลย และไม่ดูไออ้อนแมนอีกด้วย






พวกเขามาเจอกันอีกครั้งในมหาวิทยาลัย ในการรับน้องใหญ่ของมหาวิทยาลัยนั่นแหละ และเจอกันทุกวันหลังจากนั้น จนมาถึงวันนี้...


“ตี๋น้อย” เสียงพูดพึมพำข้างหู ตี๋น้อยคว้าเอาหมอนข้างขึ้นมาปิด มาร์คไม่ยอมแพ้โถมตัวลงมาทับ


“วันนี้ไม่มีเรียนโว้ย อย่าปลุก” ตี๋น้อยโวยวายเสียงงัวเงีย เขาเกลียดการถูกปลุกมากที่สุดในโลก แม้ว่าคนปลุกจะเป็นใครก็ตาม


“เที่ยงแล้วเนี่ย” มาร์คพูดขณะพยายามยื้อแย่งเอาหมอนข้างออกจากอ้อมกอดตี๋น้อย


“โอ้ย ไอเหี้ย” ตี๋น้อยด่าทั้งที่หลับตาอยู่อย่างนั้นเมื่อมาร์คเอาหมอนข้างออกไปได้ในที่สุดพร้อมดึงเอาผ้านวมออกไปพร้อมกัน ตี๋น้อยขดตัวเข้าหากัน อากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศกระทบผิวเปลือยเปล่าจนขนลุกไปทั่ว


“หยาบคาย” มาร์คพูดขณะนอนทับลงมา เอาตัวเองมาแทนหมอนข้างเมื่อครู่


ตี๋น้อยอ้าแขนรับทั้งๆที่หลับตา รู้ดีว่าอีกครู่หนึ่งเขาจะทนไม่ไหวและต้องตื่นในที่สุด แล้วก็จริงๆตี๋น้อยลุกขึ้นเมื่อถูกจูบหนักๆที่ซี่โครงเป็นครั้งที่เจ็ด


“อย่าทับ..เจ็บ” ตี๋น้อยบ่นพึมพำขณะนวดเอวของตัวเองไปมา มาร์ลุกขึ้นแต่โดยดี


“โทษที” คำขอโทษง่ายๆถูกส่งมาพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ตี๋น้อยถอนหายใจพรืด มาร์ควางคางลงบนไหล่ของเขาก่อนจะพึมพำ


“ไปดูหนังกันเถอะ” ตี๋น้อยขยับไหล่ออกคางแหลมๆที่จิ้มอยู่ทำให้เขาไม่ได้อารมณ์ดีขึ้นนัก อารมณ์ในตอนเช้าของตี๋น้อยก็ขุ่นมัวมากพออยู่แล้ว


“ไออ้อนแมนภาคสาม” มาร์คพูด มีเสียงหัวเราะอยู่ในคำพูดนั้นชัดจนเขาได้ยิน


ตี๋น้อยพ่นลมหายใจออกทางปากเล็กน้อย


“จะทำอะไรอีกล่ะ” ตี๋น้อยพูดขณะที่ขยับตัวออกและลุกขึ้น คว้าผ้าเช็ดตัวจากราวตากขึ้นมาพันเอว


“หมายความว่าไง” มาร์คเลิกคิ้วถาม พลางพับผ้านวมที่ยับยู่ยี่บนเตียง


“ก็...เปล่า” ตี๋น้อยยกมือขึ้นเกาท้ายทอย เขารู้สึกกระดากปากขึ้นมาเฉยๆ ตอนแรกที่ว่าจะมุกสองแง่สามง่ามแล้วก็กลืนลงไป มันจะเข้าตัวเองเสียเปล่าๆ


เขาเดินเข้าไปในห้องน้ำ เห็นรอยสีแดงเป็นจ้ำๆตามลำตัวแล้วก็ถอยหายใจพลางหัวเราะ


“ก็ภาคแรกไม่เคยดู ภาคสองก็ไม่ได้ดูมัวแต่จูบ ภาคสามจะดูทำไม” ตี๋น้อยตะโกนจากห้องน้ำทั้งๆที่ประตูห้องน้ำปิดอยู่อย่างนั้น เขาหัวเราะขณะได้ยินเสียงโครมครามจากข้างนอก มาร์คก็คงทำอะไรหล่นตามเคย


“พูดจริงป่ะเนี่ย” มาร์คถาม เสียงอยู่หน้าประตูนี่เอง เขาเปิดประตูเข้ามา


“อย่าแอบดูคนอื่นเค้าอาบน้ำ นิสัยไม่ดี” ตี๋น้อยพูดขณะที่แปรงฟันไปมา


“ไม่ได้แอบ” มาร์คตอบแทบจะทันที


ตี๋น้อยหัวเราะกับคำพูดนั้น


“นึกว่าตอนนั้นหลับอยู่” มาร์คพูดพลางยิ้มยิงฟัน พูดถึงสมัยหลายปีก่อน


“ถูกกลิ่นชีสปลุก” ตี๋น้อยตอบ เรียกเสียงหัวเราะได้ดี เขาเองก็หัวเราะหึๆในลำคออย่างระมัดระวังด้วยกลัวยาสีฟันจะลงคอไป


“คราวนี้ดูจริงๆไง” มาร์คว่าก่อนจะเดินเข้ามา มือขาวโอบจากด้านหลัง


“อาบน้ำให้มั้ยตี๋น้อย”


ตี๋น้อยหยุดแปรงฟัน ถ้าอาบน้ำให้คงไม่ต้องออกไปดูหนังแล้วล่ะ


“เดี๋ยวนี้โตแล้ว ตี๋ใหญ่แล้ว”


มาร์คหัวเราะอีกครั้ง เสียงหัวเราะดังกังวานในห้องน้ำที่ปูกระเบื้อง


“เป็นแฟนกันนะ” มาร์คพูดขณะฝังริมฝีปากกับลาดไหล่


“ห้ะ” ตี๋น้อยเลิกคิ้ว หยุดแปรงฟัน


“ก็ไม่เคยพูดประโยคนี้เลย อยากพูดบ้าง” มาร์คยิ้มให้เขาในกระจก ตี๋น้อยเบ้ปากก่อนจะถุยแปรงสีฟันในปากออก และบ้วนปากสองสามครั้ง เขาวางแปรงลงในถ้วยที่มีแปรงอีกอันวางอยู่


“ควรจะพูดก่อนจะขอเอาป่ะ” ตี๋น้อยพูดเสียงเรียบ


“...พูดจาหยาบคายอีกละ” มาร์คพูด


“ตรงไหน” ตี๋น้อยยักไหล่


“อย่างน้อยก็ขอนะ” มาร์คหัวเราะในลำคอหมุนตี๋น้อยในอ้อมกอดไปมา


“...หลังจากที่ขโมยจูบกู แล้วหายหัวไปเลยอ่ะนะ เสร็จแล้วก็มาขอเอาตอนที่กูเมาน่ะนะ” ตี๋น้อยพูดยาวๆ แกะแขนที่เอวออก


“แต่ตี๋น้อยก็ให้ป่ะ” มาร์คพูดหมุนตี๋น้อยในอ้อมกอดไปมาคล้ายเต้นรำในห้องน้ำ เขาไม่รู้ว่ามาร์คที่พูดน้อย ยิ้มน้อย คนไหนหายไปไหนแล้ว


“ตี๋ใหญ่โว้ยย” เขาตะโกนใส่หูอีกฝ่ายขณะถองไม่แรงนักไปที่ท้อง


“วันนี้จะดูหนังหรือจะอะไร” ตี๋น้อยถามเสียงเอาเรื่อง


“ดูหนังๆ” มาร์คตอบ ปล่อยมือจากเอวอีกฝ่าย บิดขี้เกียจยาวๆหนึ่งทีและเดินออกจากห้องน้ำไป


“รักนะ ตี๋ใหญ่” มาร์คยื่นหัวกลับมาในห้องน้ำพร้อมรอยยิ้มอวดฟันเรียงตัวสวย


“เออออ” ตี๋น้อยตะโกน


“ตอนแรกกะจะพูดในโรงหนัง ให้มันเป็นกิมมิคกับจูบแรกซะหน่อย แต่พูดเลยก็ได้” มาร์คพูดพร้อมหัวเราะร่วน


“รู้แล้วๆ อาบน้ำแปปนึง” ตี๋น้อยเดินมาปิดประตูห้องน้ำพร้อมลงกลอน


ตี๋น้อยหายใจแรง พร้อมรอยยิ้มที่ไม่หายไปจากบนใบหน้าสักที


--------------

สวัสดีค่ะทุกคน พบกับนายอีกแล้วนะคะ
ช่วงนี้รู้สึกไม่ค่อยดีเลยล่ะค่ะ งานเยอะ กดดันสุดๆเลย แต่ก็กำลังบ้า GOT7 เลย(เอ้ะ เกี่ยวกันตรงไหน) คือเป็นที่มาของชื่อ มาร์ค น่ะค่ะ ความจริงเรื่องนี้มีแรงบันดาลใจมาจาก การ์ตูนเรื่องหนึ่งของ hideyoshico ค่ะ Long Vacation แต่พอเอามาแต่งจริงๆแล้วรู้สึกไม่เหมือนเลยนะ

แล้วพอแต่งๆไปก็เริ่มรู้สึกอยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องยาวขึ้นมาซะงั้น ตอนแรกก็จะเอายังไงดี จะเก็บเป็นเรื่องยาว หรือจะลงเลย หรือจะสั้นๆแบบหลายตอนจบหน่อย แต่ไปๆมาๆก็ตอนเดียวจบนี่ล่ะค่ะ ส่วนเรื่องไหนที่คนอ่านอยากได้ตอนต่อไปกันเยอะๆก็อาจจะมีได้ค่ะ 555 อย่างที่เคยบอกว่าอันนี้เป็นรวมเรื่องสั้น ไม่มีธีมอะไรทั้งนั้น แต่ก็ดูๆแล้วก็ยังวนเวียนกับความรักยาวนานสมัยมัธยมนะคะ แล้วก็เรื่องนี้แต่งมาจากประสบการณ์จริงเลยค่ะ หมายถึงการไปดูหนังที่เซนจูรี่เรื่องไออนแมนภาคสองในวันฝนตก แต่ไม่ได้จบแฮปปี้แบบนี้นะ 555555

 :เฮ้อ:

 :กอด1: ยังไงก็รักคนอ่านทุกคนค่ะ ถ้าถูกใจก็ฝากคอมเม้นกันด้วยนะคะ นายจะดีใจแบบสุดๆไปเลยค่า  :impress2:

หัวข้อ: Re: ❥❥ Metamorphosis ❥❥ (27/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 28-05-2015 08:18:15
น่ารักมากกกก~ :-[ ละมุนละไมที่สุดเลยล่ะค่ะ ตอนเด็กๆ ตี๋น้อยออกจะมาดแมนแฮนซั่มขนาดนั้น (หราา) แต่พอวัยรุ่นเข้าหน่อยมาร์คดันตัวโตกว่า แล้วเปลี่ยนจากน่ารักน่าเอ็นดูไปเป็นหล่อเท่เสียนี่ เฮ้อ~ ณ จุดๆ นี้ตี๋น้อยคงต้องทำใจอย่างเดียวเลยล่ะค่าา ว่าตัวเรานั้นสูงได้แค่นี้จริงๆ~ :laugh:

เราชอบตอนที่ตี๋น้อย (ตอนเด็ก) ยื่นผ้าเช็ดหน้ามอมแมมให้กับมาร์คที่นั่งน้ำมูกไหลยืด เพราะเป็นภูมิแพ้จังเลยค่ะ พอนึกภาพตอนที่ทั้งสองคนยังตัวเล็กๆ กันอยู่นั้น รู้สึกมันเขี้ยวขึ้นมาเลยทีเดียวเชียวล่ะค่า~ >\\<
หัวข้อ: Re: ❥❥ Metamorphosis ❥❥ (จบ 27/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: sunnyside1909 ที่ 30-05-2015 19:43:37
sirin_chadada - เรื่องงานเลี้ยงรุ่นนี่เอามาจากประสบการณ์จริงเลยค่ะ ไม่ค่อยชอบไปเท่าไหร่ แต่ก็ชอบไปเจอเพื่อนเก่า 555 ฟังดูขัดแย้งเนอะ

Mouse2U - ขอบคุณนะคะ ที่อ่านทั้งสองเรื่องเลย ดีใจมากๆค่ะ  :mew1: ตอนแต่งเรื่องตี๋น้อยนี่เขินมากค่ะ ไม่ค่อยได้แต่งแนวนี้เท่าไหร่ ส่วนมากของนายจะออกแนวเรื่อยๆดราม่าซะมาก อยากแต่งแบบชวนให้เขินแบบนี้เหมือนกันค่ะ

BlueCherries - ขอบคุณเหมือนกันค่ะ

mukmaoY - นั่นสินะคะ ที่รักโชคดี ถ้าคู่กันแล้วไม่แคล้วกันทุกคู่ก็คงจะดี

must - เดี๋ยวถ้าปิ๊งพลอตระหว่างสองคนนนี้จะมาลงให้อีกแน่นอนค่ะ

หัวข้อ: Re: ❥❥ Metamorphosis ❥❥ (จบ 27/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 30-05-2015 22:43:06
เป็นรวมเรื่องสั้นสินะคะ

เรื่องของมาร์คกับตี๋น้อยก็น่ารักอีกแล้ว จริงๆเราชอบแนวนี้มากเหมือนกันนะ ความรักมันยาวนานแต่สมหวังในที่สุด(พวกสาวโสดเพ้อเจ้อก็แบบนี้ล่ะค่ะ ;p)

ขอบคุณงามๆอีกครั้งนะค้า :pig4:
หัวข้อ: Re: ❥❥ Metamorphosis ❥❥ (จบ 27/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: whitelavenders ที่ 12-06-2015 21:03:10
เรื่องแรกเราอ่านตอนยังไม่มียูสเซอร์ค่ะ แล้วก็เกือบลืมไปแล้ว
5555555
แต่ยังจำได้อยู่ว่าตอนที่อ่านรู้สึกว่าละมุนดีค่ะ มันก๊าวใจมาก
ชอบชื่อ 'ที่ัรัก' มากเลย ถ้าชื่อนี้เวลาถูกใครเรียกเราคงเขินไปหมดแน่ๆ

เรื่องที่สอง เห็นชื่อมาร์คแล้วเราก็นึกถึง GOT7 เลย อ่านตรงทอล์คแล้วก็เออถูกด้วยแฮะ
นึกว่าตอนแรกจะไม่ได้คู่กันซะอีก เพราะดูความสัมพันธ์ไม่ได้ไปแนวนั้น
แล้วพี่มาร์คแกก็มีแฟนไปแล้วซะ 20 คน (เด็กสมัยนี้ไวไฟจริงๆ) เจ้าตี๋น้อยก็คบกับเอินเหนียวแน่น
ชอบนะคะที่สุดท้ายแล้วต่างฝ่ายต่างมารักกันโดยไม่มีใครมีพันธะอะไร
แอบขำเวลาตี๋น้อยพูด เป็นคนตรงจริงๆ 55555

 :o8: อยากให้มีตอนต่อจังค่ะ อยากรู้ว่าเวลาคบกันแล้วเป็นไงน๊า แล้วตี๋น้อยเนี่ยเป็นตี๋ใหญ่จริงๆรึเปล่า
555555 พิสูจน์ให้ดูหน่อย
หัวข้อ: Re: ❥❥ Metamorphosis ❥❥ (จบ 27/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 15-06-2015 13:06:26
ชอบมากทุกเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: ❥❥ Metamorphosis ❥❥ (จบ 27/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 15-06-2015 21:36:06
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❥❥ Metamorphosis ❥❥ (จบ 27/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 16-06-2015 13:16:30
เรื่องน่ารักมากค่ะ ชอบจังเลย แต่ตอนที่รักกับอิน อยากให้มีตอนต่อจัง
หัวข้อ: Re: ❥❥ Metamorphosis ❥❥ (จบ 27/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: sunnyside1909 ที่ 21-06-2015 12:42:52
BlueCherries - ใช่ค่า เป็นรวมเรื่องสั้น ความเป็นจริงนายชอบแต่งเรื่องสั้นมากกว่าเรื่องยาวค่ะ รู้สึกมันสบายกว่า ไม่กดดันเท่า 5555 แล้วก็คิดพลอตใหม่ได้เรื่อยๆด้วยค่ะ รู้สึกแทงใจตรงสาวโสดเพ้อเจ้อมากค่ะะ รู้สึกใช่สุดๆ  :hao5:

whitelavenders - ขอบคุณที่กลับมาคอมเมนต์ให้ค่ะะ ปลื้มใจจจ ชอบชื่อที่รักเหมือนกันค่ะ รู้สึกหวานแหววมาก รู้สึกว่าที่รักต้องเป็นที่รักของพ่อแม่มากๆเลยตั้งชื่อนี้ เราชอบตี๋น้อยกับมาร์คมากค่ะ คู่นี้แต่งไปเขินไป คือฟินมากๆ แต่งเองฟินเองน่ะค่ะ

ดำดีสีไม่ตก  - ขอบคุณนะคะ  :mew1: :mew1:

Aumy8059yaoi - ขอบคุณค่าา  :pig4: :pig4:

•ผั๑`|nกุ้va’ด• - ตอนแรกเรื่องที่รักกับอินจะให้เป็นเรื่องยาวด้วยนะคะ ก็มีพลอตคร่าวๆในหัวนิดหน่อย ถ้าเกิดอารมณ์มันใช่เมื่อไหร่ อาจจะมาลงต่อค่าาา ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ค่ะะ  :กอด1: :กอด1:

นายมาตอบคอมเมนต์ค่ะ รักทุกๆคนนะคะ 5555 นางงามมั้ยคะ
จริงๆนายรักเรื่องสั้นสองเรื่องนี้มาก และดีใจมากถ้าทุกๆคนจะรักมันเหมือนกัน ขอบคุณนะคะที่อ่านและคอมเมนต์ให้ ดีใจมากค่ะ  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ❥❥ Metamorphosis ❥❥ (จบ 27/5/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: fabaceae ที่ 21-07-2015 21:36:35
ตามมาจากบ่ายสามแล้วก็หวั่นไหว อิอิ
ชอบภาษามากเลย ชอบเรื่องแรก
หัวข้อ: Re: ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥ (จบ 25/7/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: sunnyside1909 ที่ 25-07-2015 15:15:38
   ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน


...บอกเลยว่าจริงสุดๆ


ย้อนกลับไปสมัยปี 2554 เขาอยู่ปีหนึ่ง กำลังเฟรชชี่สดใส ทุกอย่างกำลังจะเริ่มต้นขึ้น และมือถือที่ใหม่ที่สุดในตอนนั้นก็คงเป็นไอโฟนสักรุ่นที่ยังไม่ได้เปลี่ยนขนาด และด้านหลังยังเป็นแบบโค้ง หรืออาจจะเป็นแบลคเบอรี่สักเครื่อง


ซิน : [sticker]

ซิน : ส่งผิดคน

ฟ้า : กูตื่นนอนเลยเนี่ย

ซิน : โทษทีๆ ทำไมมึงตื่นง่ายจัง

ฟ้า : ก็โทรศัพท์มันอยู่ข้างหมอน มึงส่งมามันก็สั่น แล้วกูก็ตื่น เข้าใจยากหรอวะ

ซิน : หรอ ห้องกูมีนาฬิกาปลุกเต็มเลย ยังไม่ตื่น

ฟ้า : มึงขี้เซาไง

ซิน : 555 กูยังง่วงอยู่เลย

ฟ้า : แล้วตื่นมาทำไมเช้าๆ

ซิน : ไม่รู้ กูปวดท้อง นอนไม่หลับตั้งแต่เมื่อคืน

ฟ้า : เมนมาหรอ

ซิน : เหี้ย ปวดขี้

ซิน : แต่กูกำลังจะนอนละ ไก่กำลังขัน เป็นเวลานอนกูพอดี เมื่อคืนกูย้อนดูวอกกิ้งเดธจนตาแฉะ มันสาดๆ

ฟ้า : อ่าว มึงไม่ไปคณะหรอวันนี้

ซิน : ไม่ กูขี้เกียจ

ฟ้า : วันนี้รับน้องนะ

ซิน : กูก็มีมึงเป็นเพื่อนแล้วไง ไม่ไปวันนี้กูคงไม่ได้ขาดแคลนเพื่อนมากมั้ง

ฟ้า : เออๆ เอาเหอะ

ซิน : เหี้ย เมื่อกี้ไอโฟนกูตกใส่หน้า

ฟ้า : โง่

ซิน : ไม่สงสารกูหน่อยเหรอ เพื่อนซิน

ฟ้า : กูจะไปอาบน้ำไปคณะแล้ว

ซิน : ครับ ขอให้วันนี้มึงได้หลีหญิงน่ารักๆ

ฟ้า : ดีมากครับ ขอบคุณ



ซิน : วันนี้พลอยโคดน่ารักอ่ะ

ฟ้า : อือ น่ารักจริง น่ารักสุดแล้วมั้งในทั้งหลีดเอนหลีดพิ

ซิน : หัวใจกูละลาย

ฟ้า : เค้าดูน่ารักๆแบบธรรมชาติดี กูชอบ

ซิน : จีบเลยดีมั้ย

ฟ้า : ใครจีบ มึงหรือกู

ซิน : กูสิ โอ้ย

ฟ้า : มึงกลับบ้านป่ะเนี่ย

ซิน : เปลี่ยนเรื่องทำไมวะ

ซิน : กลับๆ บ้านกูใกล้ๆ กูกลับบ่อยอยู่แล้ว

ฟ้า : ออ กลับมาวันไหนอ่ะ

ซิน : วันที่สิบเอ็ดมั้ง

ฟ้า : ออ

ซิน : หนาวมะ กทม. ขนาดอยู่บนรถทัวร์ กูยังรู้สึกได้ถึงความเย็นเลย 555

ฟ้า : โทษที แม่เรียกไปตากผ้าว่ะ

ฟ้า : ก็ไม่รู้ ก็เย็นๆมั้ง กำลังจะหนาวงี้

ซิน : กูชอบหน้านี้สุดแล้ว ขอให้มันยาวๆนะปีนี้

ฟ้า : เหรอ กูชอบหน้าฝนนะ

ซิน : มึงไม่เกรงใจรองเท้าหนังมึงเลยเหรอ

ฟ้า : เกรงใจ แต่ก็ชอบ



ซิน : คาบแนทรีมึงไปไหนมา ย้ายไปเซคสองเหรอ

ฟ้า : เออ แม่งไม่น่าย้ายเลยว่ะ น่าจะอยู่อันเดิม

ซิน : กูอุตส่าห์เตรียมที่ไว้ให้ โดนพวกผู้หญิงมองเลย หาว่ากูกั้กที่

ฟ้า : สาด คือพอกูย้าย กลายเป็นว่ากูเด้งเลยจ่ะ แล้วพอกูจะกลับมาเซคหนึ่ง แม่งก็เต็มแล้วอีเหี้ย กูแม่งไม่สู้จริงๆ กับเรคจุฬาวอร์

ซิน : โอ๋ๆนะมึง งี้มึงจะได้เซคสองมั้ย

ฟ้า : เออกูต้องลงชื่อเพิ่มเอา

ซิน : มึงก็อยู่กับพวกหมิงเหรอ

ฟ้า : เออ โทษทีนะ ไม่ได้บอกก่อน

ฟ้า : อีกตัวนึงมึงลงอะไรอ่ะ

ซิน : กูลงแพลนท์ว่ะ ได้แล้วแต่อยากเปลี่ยน กูไม่ถูกกับพืช มึงอ่ะ

ฟ้า : กูกะจะลงเจนเรดนิวเคลียร์ แต่ก็นะ ไม่รู้แม่งจะได้เปล่า

ซิน : วิชาไรวะ

ฟ้า : ไม่รู้ เห็นมีพี่แนนเรียน

ซิน : ติดหญิงก็บอก

ฟ้า : สาด



ซิน : มึงทำแลบคู่ใคร

ฟ้า : ไม่รู้ คงเจไม่ก็ปิ้กมั้ง

ซิน : เออดีนี่หว่า กูแบบคนข้างหน้ากูซิ่วจ่ะ ไอเหี้ยกูจะต้องเอาชีวิตรอดคนเดียวมั้ยวะเนี่ย

ฟ้า : อ่าว จิงเหรอวะ ซวยสัด อาจารย์เค้าน่าจะรันเลขนะมึง

ซิน : เชี่ยฟ้า บ้านกูเครื่องทำน้ำอุ่นเสียว่ะ กูเซ็งมาก นี่คือแบบอาบทีสั่นไปถึงK

ฟ้า : เห็นภาพเลย ซวยว่ะ ปีนี้เสือกหนาวด้วยนะ เออมึงกูอาจจะไปเรียนแพลนท์ละนะ

ซิน : มึงลงได้ละหรอ ยินดีด้วย มึงชนะสงครามนะ

ฟ้า : เออ แทบกริ้ด

ซิน : ละมึงมีคนนั่งด้วยมะ มานั่งกะกูได้นะ

ฟ้า : มีว่ะ นั่งกะพลอยยยยย

ซิน : เชี่ยยยยย แอบดอดไปคุยกะพลอยตอนไหนวะ ทำไมกูไม่รู้ เหยดโด้โคอาล่ามาช เชี่ยฟ้าแม่งทรยศ

ฟ้า : เออตอนแรกกูอยากเรียนฟิล์มไง แต่คือแบบคนแม่งแห่กันเรียนเหมือนลงเรียนแล้วแจกทองอ่ะ เค้าให้จับฉลาก กูเลยไม่จับ
ละแม่ง ละพลอยก็ไปลงฟิล์มด้วยกันพอดี เลยชวนมาลงแพลนท์ว่ะ

ซิน : มาเหนือมากครับ คุณฟ้า

ซิน : อยากมีบ้างว่ะ

ฟ้า : อ่าว มึงก็มีหนิ

ซิน : เอามาจากไหน

ฟ้า : ไม่รู้ได้ยินมา เรื่องฝ้าย

ซิน : กูไม่ได้ชอบเค้าอ่ะ

ฟ้า : ออ

ซิน : เนี่ยกูอยากมีโมเมนต์หวานแหววบ้าง

ฟ้า : มึงก็ชอบคนที่เค้าชอบมึงไง

ซิน : พูดง่ายทำง่ายเหรอมึง



ฟ้า : ทะเลาะกะแม่อีกละ ครั้งที่ล้าน

ซิน : มึงดื้อไง

ฟ้า : ตรงไหนวะ

ซิน : ไม่รู้ 555

ฟ้า : บ้านมึงลูกกี่คน

ซิน : สาม กูคนเล็ก ลูกคนเล็กมักน่ารัก

ฟ้า : ไอเหี้ย

ฟ้า : กูลูกคนเดียว

ซิน : งี้มึงก็สนิทกับแม่อ่ะดิ

ฟ้า : ก็ทำนองนั้น ก็ทั้งบ้านมีอยู่สามคน โทษที ไปตากผ้ามาอีกแล้ว



ฟ้า : มึงได้อิ้งเยอะหนิ

ซิน : ยังไม่ได้ดูเลยเท่าไหร่วะ

ฟ้า : สี่สิบแน่ะ ไอเหี้ย ติวให้กูบ้างเลย กูนี่ไม่ถึงสามสิบ

ซิน : มีนมันเท่าไหร่ 555

ฟ้า : 34 มั้ง ขำตรงไหน

ซิน : ไม่ได้ขำ แต่มันชินกับการเติม 555 ไม่มีแล้วประโยคมันดูจริงจังมะ

ฟ้า : นี่มึงกลับบ้านละหรอ

ซิน : ยัง อยู่คณะ

ฟ้า : เตรียมอ่านแลบอ่ะดิ สาดดด

ซิน : อ่านไร อ่านแล้วจะมาคุยกับมึงได้เหรอ

ฟ้า : แมงเม่าเต็มเลยอ่ะ

ซิน : ที่บ้านมึงอ่ะหรอ

ฟ้า : อือ

ฟ้า : กูเลิกกับพลอยละนะ

ซิน : เฮ้ย จริงดิ ทำไมวะ เร็วสัด

ฟ้า : ไม่รู้

ซิน : มึงโอเคมะ

ฟ้า : โอเค

ซิน : แน่ใจนะ

ฟ้า : แน่ใจ แต่โทรมาหน่อย 555

ซิน : ได้ๆแปปนึง



ฟ้า : กูเซ็งมาก มาเลิกกันตอนวาเลนไทน์พอดี

ซิน : ไม่เป็นไรนะมึง เดี๋ยวพรุ่งนี้กูซื้อชอกโกแลตคนโสดไปฝากมึง

ฟ้า : ไม่อยากกินโว้ย

ซิน : 555555

ซิน : มึงจะเอารสไร

ฟ้า : เอาดาร์ดชอกโกแลต



ซิน : ทำไรอยู่

ฟ้า : ดูรอบหนัง

ซิน : ที่ไหนวะ

ฟ้า : มาบุน

ฟ้า : แต่กูไม่มีคนดูด้วย มึงอยู่ไหน

ซิน : อยู่คณะกับปิ้ก ทำผลแลบอยู่

ฟ้า : มึงจะเสร็จกี่โมง

ซิน : ไม่รู้ดิ

ฟ้า : มันมีรอบตอนทุ่มนึงอ่ะ มึงมาตอนหกโมงสี่สิบห้าแล้วกัน

ซิน : ตอนนี้หกโมงละนะ กูบอกตอนไหนว่ากูจะดู

ฟ้า : ไม่รู้ แต่มึงจะดูกูรู้



ฟ้า : ซิน

ซิน : โทษที กูพึ่งตื่น

ฟ้า : กูทักไปเก้า มึงตื่นบ่ายสองเหรอวะ

ซิน : เมื่อคืนกูหนัก

ฟ้า : อะไรหนัก

ซิน : วอร์กกิ้งเดธหนัก 5555555555



ฟ้า : ซินมึงเล่นเทมเปิ้ลรัน ถึงไหนละ

ซิน : สิบล้านแล้วสัด สู้กูมั้ยล่ะๆ

ฟ้า : กูสิบสองแล้วนะครับบบ

ซิน : เหี้ยยยย จริงป่ะเนี่ย

ฟ้า : จริง กูเล่นทั้งวัน ทั้งตอนขี้ตอนนั่งตอนนอน นิ้วกูจะล็อคแล้วเนี่ย คือตกทีหัวใจกูจะวาย

ซิน : มึงส่งออเคมให้กูลอกหน่อย เสร็จยัง

ฟ้า : แปปนึง กูกำลังทำ

ซิน : ยากชิบหาย กูเกลียดวิชานี้ เกลียดอาจารย์ แงๆ

ฟ้า : [photo]

ฟ้า : [photo]

ฟ้า : [photo]



ซิน : เล่นน้ำไหนมึงงงง

ฟ้า : กูไม่เล่นอ่ะ ไม่สบาย

ซิน : อ่าวจิงดิ นี่มึงอยู่บ้านเหรอ

ฟ้า : ช่าย เสือกไม่สบายตอนอยู่คนเดียวด้วยนะ พ่อกับแม่ไปเยี่ยมยายว่ะ

ซิน : อ่าว

ฟ้า : อ่าวเหี้ยไร

ฟ้า : หายเลยเหี้ยซิน

ซิน : อยู่ข้างล่าง ลงมาเปิดหน่อย

ฟ้า : ห้ะ

ฟ้า : มุกป่ะเนี่ยสัด

ซิน : จริงๆ กูกำลังจ้องป้ายหน้าร้านมึงอยู่เนี่ย ให้ถ่ายรูปให้ดูเป็นหลักฐานมั้ย

ซิน : [Photo]

ฟ้า : เหี้ยยยยยย มึงรักกูมากสินะ รอแปป

ซิน : เปล่า กูอยู่แถวนี้พอดี

ฟ้า : สัด



ซิน : กูว่ากูชอบใครสักคนอ่ะ

ฟ้า : จริงเหรอวะ ใคร

ซิน : ไม่รู้

ฟ้า : ไม่รู้เหี้ยไร คณะเรามั้ย

ซิน : เออ คณะเรา

ฟ้า : จริงดิ

ซิน : เออออออ

ฟ้า : มึงจะจีบเค้าเหรอ

ซิน : ไม่รู้กลัวเค้าเกลียด

ฟ้า : นี่จะขึ้นปีสองแล้ว จะปิดเทอมแล้วนะ มึงจีบเลยตอนนี้ ไม่ติดก็ยังมีปิดเทอมให้มึงเลียแผลใจ 555555

ซิน : แช่งกูเหรอ

ฟ้า : เปล่า



ซิน : ที่กูพูดวันนั้น กูพูดจริงนะ แต่ก็แล้วแต่มึงอ่ะ กูตัดสินใจแล้ว ถ้ามึงไม่คุยแล้วกูก็เข้าใจ

ซิน : กูโอเค กูอยากให้มึงก็ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดกับกูไง

ฟ้า : กูกำลังคิดอยู่ ขอเวลาหน่อย



ฟ้า : กูคิดเสร็จแล้ว โทษที แม่งนานไปหน่อย 555 เดี๋ยวกูโทรไป



ปี 2558 ไอโฟนเปลี่ยนจากด้านหลังโค้งเป็นสี่เหลี่ยมและบางขึ้นทุกทีๆ อากาศก็ร้อนขึ้นทุกๆปี และอากาศหนาวก็น้อยลงทุกๆปี จากปีหนึ่งตอนนี้ก็จะขึ้นปีห้าแล้ว ไปไหนก็มีแต่คนเรียกพี่ บัตรบีทีเอสแบบนักศึกษาก็กำลังจะหมดเขตการใช้

ซิน : กูเหนื่อยมากตอนนี้ กูรู้สึกว่ากูเชียร์ใครแม่งก็ตายห่าหมด

ฟ้า : เออจริงงง คนเขียนแม่งใจร้ายไปไหนวะ กูใจสลายมาก ช็อคสุดๆ

ซิน : จริง เลิกดูมะ

ฟ้า : มึงอ่ะนะ มึงเชียร์ให้คนอื่นเค้าดูไปทั่วแล้ว บังคับให้กูดูด้วย แล้วมึงจะเลิกดูเหรอ

ซิน : 555 พูดไปงั้น ไม่เลิกหรอก ดูมาถึงซีซั่นห้าแล้วเนี่ยยยย จนกูเริ่มหมั่นไส้แม่มังกรของมึงแล้ว

ฟ้า : เออก็น่าหมั่นไส้จริงๆ 55555

ซิน : เชี่ย กูทำไอโฟนตกใส่หน้าอีกแล้ว ดีนะไม่ใช่ไอแพด

ฟ้า : ตลอดอ่ะ มืออ่อนแอ

ซิน : มืออาจจะอ่อนแอ แต่อย่างอื่นไม่อ่อนแอนะ

ฟ้า : ไอสัด

ฟ้า : กูเห็นมึงรีในทวิต มึงหมายถึงกูใช่มะ

ซิน : อันไหน มึงหลงตัวเองว่ะ

ฟ้า : อ่าว อันไหนมึงยังไม่รู้ ด่ากูทำไม

ซิน : ด่าไว้ก่อน 55555

ฟ้า : อันที่บอกว่า ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน

ซิน : อออออออ

ฟ้า : ตกลงว่าไง

ซิน : ไม่รู้

ฟ้า : มึงนอกใจกูเหรอ


ซิน : 55555555 เปล่า ใช่ก็ได้ อย่าถามมาก กูก็เขินได้นะครับ

ฟ้า  : มึงชอบกูตอนไหน

ซิน : อะไรผ่านมาสี่ปีมึงเพิ่งอยากรู้เหรอ

ฟ้า : กูอยากรู้ตอนไหนก็เรื่องของกูมะ

ซิน : 555555

ฟ้า : หัวเราะนี่คือไม่ตอบ

ซิน : เปล่า

ฟ้า : ตกลงว่าไง

ซิน : มึงก็รู้ว่ากูไม่ถนัดพูดเรื่องแบบนี้ไง

ซิน : มึงเงียบทำไม

ซิน : ไอเหี้ย ก็นานแล้ววววโอเคป่ะ นานแล้วววว

ซิน : พอใจยัง

ฟ้า : พอใจแล้ว 55555

ฟ้า : ออกไปดูหนังกันพรุ่งนี้

ซิน : นี่ตีสองแล้วนะ กูไม่มีพลังงานตื่นไป

ฟ้า : กูอยากดูวววววววววว

---------------------------
สวัสดีค่ะ มาพบกับนายอีกแล้วนะคะ ยังคงเป็นธีม School Life เหมือนเดิม เรื่องนี้นำเค้าโครงมาจากเรื่องจริงค่ะ แทบจะเปิดประวัติแชทแต่งกันเลยทีเดียว แต่ก็ยังถือเป็นเรื่องแต่งอยู่ดีนะ 555
ช่วงนี้เหงามาก มาอยู่ไกลบ้านเลยเหงาสุดๆเลยล่ะค่ะ ฝากรวมเรื่องสั้นชุดนี้ด้วย แล้วก็ฝากบ่ายสามหลังอาคารเจ็ดและหวั่นไหวด้วยนะคะ
คุยกันได้เสมอที่ @sunnyside1909 ค่ะ
หัวข้อ: Re: ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥ (จบ 25/7/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: whitelavenders ที่ 28-07-2015 01:06:17
ชื่อตอนนี้ยาวมากกกก 5555555 เห็นหัวกระทู้แล้วตกใจนึกว่ากระทู้ปรึกษาพูดคุย สงสัยตัวเองเข้าผิดห้อง  :m20: ยังแต่งได้ดีตามเคยค่ะ ได้อารมณ์แอบส่องแชทเพื่อน สนุกดี นี่เดาว่าฟ้าเป็นรับ 555555 ดูจากลักษณะการพูดคุยช่วงหลังๆ
หัวข้อ: Re: ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥ (จบ 25/7/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 28-07-2015 02:25:21
รวมเรื่องสั้นในธีมแอบรักเพื่อนสินะเรื่องนี้

อิน-ที่รัก อ่านแล้วให้ความรูสึกทึ่ว่า
ถ้ามีอะไรให้รีบบอก ยิ่งถ้ามันอาจเป็นโอกาสสุดท้ายยิ่งต้องบอก
เพราะในชีวิตจริง โอกาสที่สองหาไม่ง่ายเลย

มาร์ค-ตี๋น้อย รักใสๆ อ่านไปก้น่ารัก แบบเนียนๆมึนๆ แล้วก้รักกัน

ซิน-ฟ้า จะว่าแฮปปี้นี่ก้ว่าไม่สุด แต่ก้ไม่หน่วง
เป็นช่วงที่ความรู้สึกกำลังพัฒนา แบบมีโอกาสแนวโน้มดี

น่ารักทั้ง3เรื่องเลยค่ะ (:
หัวข้อ: Re: ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥ (จบ 25/7/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 28-07-2015 11:50:27
 :katai4:

เรื่องสุดท้ายนี่มาไวไปไวมาก ปุ๊บปั๊บเป็นแฟนกันละ

ง่อววววววว  :mew2:

แล้วเค้าไปจีบกันตอนไหนนนน
หัวข้อ: Re: ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥ (จบ 25/7/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 29-07-2015 01:57:14
อ่านไปก็นั่งอมยิ้มไปด้วย น่ารักจัง :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥ (จบ 25/7/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 30-07-2015 00:05:18
เขินหนัก
หัวข้อ: Re: ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥ (จบ 25/7/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: Starry[Blue] ที่ 31-07-2015 11:53:26
•ตอนที่รักหวานมากๆค่ะ ออกขมนิดๆซึ่งดี55555 ชอบบรรยากาศที่บรรยายออกมาค่ะ ดูหอมอ่อนๆอ่ะ (อะไรเนี่ย55)
•ตอนแรกเราข้ามตอนนี้ไปก่อนแล้วมาอ่านตอนที่สามเลย เพิ่งกลับมาอ่านเนี่ย อ่านเสร็จก็เม้นท์เลย ชอบมากๆค่ะ ตอนเราอ่านเราคิดถึงการ์ตูนเรื่องนึง เรื่องไหนจำไม่ได้แล้ว55 เราชอบงานของhideyoshikoมากๆค่ะ long vacationนี่ดีโคตรๆๆๆๆเลยค่ะ ชอบความเข้มแข็งแต่อ่อนไหวของเมะในเรื่องมาก แล้วก็ชอบเรื่องการที่ต้องห่างกันแล้วสุดท้ายก็กลับมารักกันจนได้ในเรื่องด้วย เป็นโรแมนติกชนิดนึงเลย
•การบรรยายง่ายดีแล้วก็น่ารักค่ะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าการบรรยายถ้อยคำผ่านโปรแกรมแช็ทมันจะมีฟีลลิ่งฟุ้งขนาดนี้ แล้วก็เข้าใจเลยค่ะ คาลิซี่หลังจากตอนss4-ss5นี่พังสุดๆ จากตอนแรกเชียร์ๆนี่เริ่มหมั่นแล้ว55555 เอาเซอร์โจรากลับมาา

เราชอบอ่านเรื่องสั้นค่ะ ทุกอย่างมันง่าย กระชับและโรแมนติกในตัวมันเอง อยากอ่านต่อค่ะพูดง่ายๆ ติดตามอยู่นะคะ ขอบคุณที่แต่งค่ะ
หัวข้อ: Re: ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥ (จบ 25/7/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 31-07-2015 14:10:55
สนทำนินา แล้วสนก็โดนกรรมตามสนองอีกที เวรกรรมไม่สิ้นสุดจริงๆ
หัวข้อ: Re: ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥ (จบ 25/7/2558)
เริ่มหัวข้อโดย: sunnyside1909 ที่ 04-08-2015 11:17:30
ดำดีสีไม่ตก - ตอบผิดเรื่องรึเปล่าคะ  :mew1: 555 ยังไงก็ขอบคุณที่คลิกเข้ามาค่ะ ;)

Starry - ขอบคุณนะคะ ตอนจะแต่งเป็นแนวแบบแชทก็คิดอยู่เหมือนกัน ไม่มีบทบรรยายกลัวคนอ่านจะไม่อิน แต่ก็พยายามให้ฟรุ้งฟริ้งค่ะ เพราะว่าเดี๋ยวนี้คนแชทจีบกันเยอะ นายก็ชอบแชทเหมือนกันเลยอยากแต่งตรงนี้ด้วยแหละค่ะ รู้สึกว่าแชทกันมันก็มีเสน่ห์อะไรบางอย่าง พูดอะไรที่ไม่กล้าพูดต่อหน้าได้เยอะแยะค่ะ ส่วนคาลิซี่จริงๆเราเชียร์นางแค่ตอนที่อยู่กับคาล โดรโกค่ะ หลังจากนั้นก็เริ่มเฉยๆตลอดเลย คาลิซี่สบายมากถ้าเทียบกับคนอื่น ไปไหนมีหนุ่มๆช่วยตลอด 555

ขนมโก๋ - ขอบคุณค่ะ แวะมาเขินกันบ่อยๆนะคะ ฝากซีรีย์เรื่องสั้นนี่ไว้ด้วยค่ะ

twinmonkey0311 - ขอบคุณค่า นายก็แต่งไปอมยิ้มไปเหมือนกัน ยิ่งเรื่องมาร์คกับตี๋น้อยนี่เขินหนักเลยค่ะ

BlueCherries - ขอบคุณที่ติดตามอย่างสม่ำเสมอค่ะ รักที่สุดเลย 555 เรื่องสุดท้ายนี่อยากให้มันเรียลๆนิดนึงค่ะ เลยอาจจะไม่ได้เห็นตอนจีบกันฟรุ้งฟริ้งเท่าไหร่ มีไทม์สกิปด้วย เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็นนี่ล่ะค่ะ

MSeraph - สารภาพเลยว่าจริงๆไม่ได้ตั้งใจให้เป็นธีมนี้เลยค่ะ แต่ชอบเรื่องแนวนี้มากจนเวลามีพลอตเรื่องสั้นทีไรก็เป็นแนวนี้ตลอดค่ะ ขอบคุณที่อ่านทั้งสามเรื่องนะคะ ปลื้มมากๆที่ชอบทั้งสามเรื่องเลยค่ะ

whitelavenders - ชื่อตอนยาวมากจริงๆ เอาชื่อตอนมาจากในทวิตเตอร์น่ะค่ะ เห็นแล้วน่ารักดี เลยปิ๊งตอนนี้ขึ้นมา แต่พูดกันจริงๆตอนแรกวางให้ซินเป็นรับค่ะ แต่ก็ไม่ได้ลงชัดเจนอะไรลงไป นายลองไปอ่านซ้ำดูอีกทีเลยค่ะ ตอนเห็นความเห็นนี้ หรือว่า...จริงๆฟ้าเป็นรับ แต่นายไม่รู้ตัว 555

fabaceae -  ขอบคุณนะคะที่ติดตามทั้งสามเรื่องเลย ปลื้มใจมากๆ

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 05-08-2015 22:38:44
เค้าขอโต้ดดดดด
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥
เริ่มหัวข้อโดย: spsygk ที่ 09-08-2015 18:27:43
 :ling1: :o12:
เรื่องอินกับที่รักเหมือนเกิดมาเพื่อให้กุอ่านเลยย #อินจัดๆ
ตอนจบมอปลายก็นั่งร้องเกะ. สาดดด
ตอนนี้ก็เรียนมอละ คิดไว้ว่าพอจบจะปลีกตัว. ไม่อยากเจอใครจะห่างออกมา
แต่พอมาอ่านเรื่องอินกับที่รักนี่เริ่มลังเลมีเขวครับ.   เห้อออ.   สู้ๆครับ ตามอ่านๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 15-08-2015 19:39:29
สนุกมากครับ ชอบมาร์คกับตี๋น้อย

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥
เริ่มหัวข้อโดย: fabaceae ที่ 27-08-2015 21:04:22
ชอบบรรยากาศตอนแชทคุยม้ากก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 05-09-2015 00:55:36
ชอบทั้ง 3 เรื่องเลยค่ะ อ่านแล้วให้อารมณ์คนละแบบ
ถึงแม้จะเป็นชีวิตวันเรียนเหมือนกัน
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥
เริ่มหัวข้อโดย: B.Lumi ที่ 05-09-2015 16:25:17
ขอบคุณมากๆคะ ที่มีมาให้อ่าน สามเรื่องเลย
เรื่องละแบบคนละแนว ชอบมากคะ
เป็นกำลังใจให้นะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥
เริ่มหัวข้อโดย: pannuna ที่ 05-09-2015 17:14:10
ชอบเรื่องแรกก ลุ้นดีอ่ะแบบเลื่อนลงไปก็ลุ้นตามเลย ชอบโมเม้นแบบกลับมาเจอกันไม่ได้เจอกันนาน
ชอบฟีลแบบแอบรักกันมานานแล้ว
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥
เริ่มหัวข้อโดย: sunnyside1909 ที่ 07-09-2015 19:35:30
spsygk - ขอบคุณค่า ดีใจนะคะ ที่อ่านแล้วอิน ขอให้โชคดีในความรักนะคะ

KKKwanGGG - ขอบคุณค่าาา ชอบมาร์คกับตี๋น้อยเหมือนกัน ตอนแต่งนี้เขินมากค่ะ

fabaceae - ขอบคุณนะคะ

RiyaKwon - ขอบคุณค่ะ จริงๆแอบอยากแต่งแนวอื่นที่ไม่ใช่แนวโรงเรียนเหมือนกันค่ะ แต่แต่งแนวนี้เหมือนเข้ามือสุดแล้วล่ะค่ะ

B.Lumi - ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่าา ฝากเรื่องนี้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ

pannuna - ชอบเหมือนกันค่ะ ฟีลแอบรักนี่ เจอทีไรก็อ่านตลอดค่ะ เป็นแนวโปรดเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥
เริ่มหัวข้อโดย: Starry[Blue] ที่ 13-09-2015 23:06:56
เราคิดออกละ เรื่องของมาร์คกับตี๋น้อยมีกลิ่นคล้ายๆกับnon non nonกับnon non nochiของnakamura asumikoมากกว่าค่ะ /จู่ๆก็คิดได้เลยขอกลับมาตอบอีกรอบ55555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ ถ้าไม่แอบชอบใครเลยแล้วจะเอากำลังใจที่ไหนตื่นไปเรียน ❥❥
เริ่มหัวข้อโดย: sunnyside1909 ที่ 13-09-2015 23:28:39
Starry - นายไปอ่านมาทันทีเลย ชอบ nakamura asumiko มากกค่ะแต่เรื่องนี้ใสๆผิดกับเรื่องส่วนใหญ่เลย น่ารักกกกกกดีค่ะชอบบบบบบ ชอบเวลาคนเขียนคนนี้วาดตามากเลยค่ะ มีเอกลักษณ์มาก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ เกิดมาเพื่อรักเพียงแค่ครั้งเดียวและตายจากไป ❥❥ (17/10)
เริ่มหัวข้อโดย: sunnyside1909 ที่ 17-10-2015 01:57:02
เกิดมาเพื่อรักเพียงแค่ครั้งเดียวและตายจากไป


   กฤชกระพริบตาสองสามครั้ง เขาเพิ่งรู้ว่าตัวเองมองผู้ชายฝั่งตรงข้ามมาได้นานหลายนาที นานพอที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวและหันมายิ้มทักทาย นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่หันมาสบยังคงเห็นชัดแม้จะอยู่ในสถานที่มืดๆทำให้เขายิ้มออกมา ริมฝีปากบางๆสีซีดที่แย้มเป็นรอยยิ้มอันนั้นก็เหมือนกัน มันทำให้เขายิ้มออกมา


   เขาชอบริมฝีปากบางๆแบบนี้ ทุกๆครั้งที่เขาเห็นมัน มันมักจะนำสายตาเขาทุกครั้ง และหลายๆครั้ง ริมฝีปากแบบนี้กับนัยน์ตาสีอ่อนผิดแปลกจากคนไทยทั่วๆไปแบบนี้ก็นำพาให้เขาไปรู้จักใครต่อใครอีกมากมายหลายคนที่มีลักษณะแบบเดียวกัน


   “มาคนเดียวเหรอครับ” อีกฝ่ายไม่รั้งรอให้เขาเริ่มต้นเดินหน้าก่อน


   กลิ่นน้ำหอมไม่ฉุนนัก รวมกับกลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจ ลอยเข้ามาแตะจมูก กฤชอมยิ้มนิดๆ


   ทุกๆครั้ง ทุกๆคนหลังจากนั้น มักจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาระลึกถึงคนคนนั้นของเขาเสมอ


   อย่างคนตรงหน้าก็มีรอยยิ้มบนริมฝีปากบางสีซีดที่ดูคุ้นเคยในความทรงจำ กับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนกลมโตที่มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย


   เขาจ้องมองริมฝีปากนั้นเนิ่นนาน ขณะที่มันขยับเข้ามาใกล้ หัวใจเขาไม่ได้เต้นเร็วขึ้นแต่มันเสียดจนรู้สึกเจ็บขึ้นมา กฤชยกมือขึ้นแนบกับแก้มของคนตรงหน้า ใช้นิ้วโป้งไล้ริมฝีปากอีกฝ่ายเบาๆ


   สัมผัสของมัน ไม่ว่าจะสัมผัสด้วยนิ้วหรือด้วยริมฝีปาก ก็เหมือนๆกัน ก็เหมือนๆกับริมฝีปากทั่วๆไป ที่เขาเคยจูบมาแล้วนับไม่ถ้วน กฤชถอนริมฝีปากออก จูบเบาๆที่หางตา ดูเหมือนการปฏิบัติอย่างเชื่องช้าอ่อนโยนอ้อยอิ่งราวกับคนรักท่ามกลางเสียงดังวุ่นวายของสถานที่แห่งนี้ จะทำให้คนถูกจูบมองเขาอย่างประหลาดใจและไม่ได้เอ่ยปากว่าอะไรขณะที่กฤชลุกขึ้นมา ก้มหัวให้อีกฝ่ายครั้งหนึ่งก่อนจะเดินออกมาเงียบๆ


   
   หลังจากเลิกรากันไปเมื่อเกือบๆห้าปีก่อน กฤชเที่ยวอย่างหนัก ดื่มอย่างหนัก และสูบบุหรี่อย่างหนัก พอๆกับที่ทำงานหนักแบบลืมตาย เขาไม่ได้ลงหลักปักฐานกับใคร ไม่เคยคบใครอย่างจริงจัง ส่วนมากมีแค่คืนเดียวแล้วก็ผ่านไป แต่ช่วงหลังๆนี้เขาทำแบบนั้นไม่ได้ด้วยซ้ำ การนอนกับใครสักคนโดยที่มีบางส่วนของเขาทำให้กฤชคิดถึงคนคนนั้นตลอดเวลา


   มันทำให้เขาอยากร้องไห้

   มันทำให้เขาอยากตาย

   เมื่อนอนกับใครสักคนแล้ว ก็รู้สึกเหมือนบาดแผลของเขามันถูกกรีดขึ้นมาใหม่ เลือดสดๆก็ไหลออกมาอีกครั้ง บาดแผลเก่าที่ไม่เคยตกสะเก็ดได้เลยสักครั้ง

   เวลาที่มันเริ่มๆจะตกสะเก็ดเราก็มักจะเอาเล็บไปแกะมันทุกครั้ง ทำให้แผลมันเปิดและสดใหม่ขึ้นอีกครั้ง

   เขาอยากส่งข้อความไปหา

   วันนี้เป็นยังไงบ้าง

   ยังสบายดีอยู่รึเปล่า

   ยังนอนดึกตื่นสายอยู่เหมือนเดิมมั้ย

   อย่านอนตอนเย็นนะ เดี๋ยวตื่นมาก็ปวดหัวอีก

   ยังชอบนอนทั้งที่ผมยังไม่แห้งเหมือนเดิมรึเปล่า

   อย่าทะเลาะกับลูกค้าแล้วพังโมเดลอีกนะ

   ช่วงนี้ฝนตก ยังไงก็พกร่มไว้ในรถบ้างนะ

   ยังชอบถ่ายรูปอยู่มั้ย

   ยังชอบขับรถเที่ยวไกลๆอยู่มั้ย อย่าไปคนเดียวนะ ถ้าไปคนเดียวก็อย่าเผลอหลับกลางทางอีกนะ

   ยังชอบกินกุ้งอยู่แล้ว ถ้าชอบก็เพลาๆลงบ้างนะ เดี๋ยวต้องไปโรงพยาบาลมันไม่คุ้มนะ

   หรือว่าตอนนี้มีใครมาขับรถให้แล้ว มาคอยดูแลถ้าแพ้กุ้งแล้ว หรือ มีคนมาช่วยทำโมเดลแล้ว มีคนมาช่วยเช็ดผมก่อนนอนรึ
ยัง


   ...มีคนมาแทนที่เขารึยัง
   


   ยังคิดถึงกันอยู่รึเปล่า ยังรักกันอยู่มั้ย


   กฤชอยากถาม อยากตะโกนถาม อยากเขย่าตัวอีกฝ่ายแรงๆ อยากร้องไห้ฟูมฟาย อ้อนวอนขอร้อง กอดแทบเท้า


   แต่เขาขี้ขลาด เขาไม่กล้าที่จะหันหลังกลับไป
   


   เขาเคาะก้นบุหรี่แรงๆกับขอบหน้าต่างรถสองสามครั้ง รถของเขายังคงเป็นคันเดิม คันที่เคยขับไปเที่ยวกันหลายพันกิโลเมตร กฤชไม่เคยลบอะไรออกไปจากชีวิตเขาเลย ทุกๆอย่างในชีวิตเขาที่เคยมีอีกฝ่าย มันก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมอยู่อย่างนั้น แม้กระทั่งบนเตียงก็มีหมอนหนุนสองใบ ทุกๆอย่างมันฟุ้งไปด้วยความทรงจำเดิมๆที่เขาไม่ได้มีใครใหม่


   เพื่อนๆหลายคนยื่นมือมาช่วย แม้ว่าจะสมน้ำหน้าทั้งสมเพช แต่หลายๆคนก็ยังใจดีเข้ามาช่วย


   ทั้งๆที่เขาเป็นฝ่ายทิ้ง แต่กลับทำตัวฟูมฟาย เสียอกเสียใจนักหนา


   เขาเพิ่งรู้ว่า รักมากแค่ไหน


   และอยู่กับความรักนั้นมาตลอดห้าปีเพียงคนเดียว



   กฤชคิดว่าเขารักได้เพียงครั้งเดียว และก็คงตายไปทั้งแบบนี้
   


   เขาเคาะบุหรี่กับขอบหน้าต่างอีกครั้ง กลิ่นบุหรี่ไม่ได้ช่วยทำให้อารมณ์เย็นขึ้น


   ถ้าเขาย้อนเวลากลับไป จะทำแบบเดิมหรือเปล่า เพื่อนๆหลายคนถามเขาแบบนั้น
   


   ไม่รู้ กฤชให้คำตอบตนเองไม่ได้เหมือนกัน


   เขาเป็นแฟนที่แย่ เอาแต่ใจ และมีนิสัยแย่ๆมากมาย เพื่อนของพวกเขาหลายคนไม่เห็นด้วยกับการคบกันของพวกเขานัก


   มันเริ่มต้นขึ้นในคืนพายุเข้า ตีสามกว่าๆ ปีสี่คณะสถาปัตยกรรมยังคงนั่งๆนอนๆอยู่เต็มห้อง หลายคนแบกของขึ้นมาจากโถงด้านล่างที่ถูกฝนสาด แต่ละคนคร่ำเคร่งกับโมเดลตรงหน้า กานต์เป็นผู้ชายผอมๆสูงมาตรฐาน มีนัยน์ตาสีน้ำตาล กับริมฝีปากบางซีดๆแห้งๆที่ยิ้มบ้างเป็นบางครั้ง ผมสีน้ำตาลยุ่งๆไม่ได้สระมาหลายวัน


   นั่นเป็นคืนแรกที่กฤชจูบกานต์


   เขาโดนต่อยจังๆที่แก้ม มีเพื่อนไม่ถึงสามคนที่ลุกขึ้นมาเพื่อที่จะห้าม ที่เหลือมองไม่เห็นด้วยซ้ำ เห็นแต่สิ่งที่อยู่ในโมเดลของตนเองไม่ก็นอนตายอยู่บนพื้น แต่ก็ต้องนั่งลงไปแบบงงๆเมื่อกานต์ต่อยเสร็จแล้วก็กลับไปนั่งต่อโมเดลหน้าตาคร่ำเครียดเหมือนเดิม


   กฤชขอคบ


   กานต์ถามเขาว่า เขาชอบกานต์เหรอ กฤชตอบรับ กานต์ถามต่อว่าชอบอะไร


   “ชอบหน้าตา” นั่นทำให้มือของกานต์ที่กำปืนกาวอยู่ชะงักก่อนที่ริมฝีปากบางๆซีดๆนั้นจะยิ้มออกมา กานต์หัวเราะเบาๆ


   “ชอบเสียงด้วย ชอบเวลาหัวเราะด้วย” กฤชเสริมนิ่งๆ กานต์หัวเราะในลำคอเบาๆอีกครั้งก่อนจะยักไหล่


   “ไม่เคยคบผู้ชาย” กานต์ตอบ


   กฤชเลิกคิ้วกับประโยคบอกเล่าของกานต์ กานต์เลือกใช้คำว่า ไม่เคยคบ มากกว่า ไม่ได้ชอบ


   “ลองดู” กฤชพูด


   แล้วกานต์ก็ลองดู



   เขาไม่รู้ว่าเขารักกานต์ที่ตรงไหน รักเมื่อไหร่ รักแค่ไหน


   ตอนที่เลิกกัน เขาเป็นคนบอกเลิก เขาเลือกอย่างอื่นมากกว่ากานต์


   แล้วกฤชก็ได้รู้ว่า เขาไม่เคยรักใครเท่ากานต์ และคงจะไม่มีวันรักใครเท่า เขารักกานต์ในทุกๆสิ่งทุกๆส่วน


   เขารักรูปร่างของกานต์ รักใบหน้าผอมๆ รักกระดูกไหปลาร้าที่โผล่พ้นเสื้อเชิ้ต รักต้นขาผอมๆขาวซีด รักเท้าเล็กๆได้รูป รักมือที่มีรอยแผลเป็น


   รักนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนนิ่งๆของกานต์ รักเสียงหัวเราะ เสียงร้องเพลงในรถเวลาขับรถไกลๆ รักความง่ายๆสบายๆของกานต์ ...สิ่งที่เขาเกลียดเพียงอย่างเดียวคือ ตัวเขาเมื่ออยู่กับกานต์


   มันบ้าคลั่ง รุนแรง เอาแต่ใจ แปรปรวน กฤชควบคุมตัวเองไม่ได้ดีเหมือนเคย


   เขาเป็นคนอย่างนั้นเหรอ กฤชถามตนเองในวันหนึ่ง วันที่กานต์สลบไปเพราะเขาห้ามตัวเองไม่ได้ เขาโมโหและรุนแรงกับกานต์ เขาไม่เคยเป็นคนอย่างนั้นมาก่อน


   มีเพื่อนๆหลายคนรู้เรื่องเมื่อกานต์ไม่มาส่งงาน และกฤชเป็นคนทำงานนั้นทั้งหมดด้วยตนเอง มีเพื่อนไปเยี่ยมกานต์ที่ห้อง เขาโดนเพื่อนๆของกานต์และของตนเองทั้งซ้อมทั้งด่า


   หลายๆคนเห็นด้วยกับการเลิกราของพวกเขา


   เหตุการณ์ครั้งนั้นก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลของการบอกเลิกของเขา


   กฤชกลัวตนเองจับใจ


   เขาไม่กล้าขอโทษด้วยซ้ำ เพราะแค่คำว่าขอโทษมันคงไม่พอ



   วันนี้วันที่ 17 ตุลาคม เที่ยงคืนที่ผ่านมากานต์อายุ 26 ปี และวันนี้กฤชก็จะอายุ 26 ปีเช่นกัน


   
   กฤชดับบุหรี่และสตาร์ทรถเพื่อกลับคอนโด เวลาเกือบๆเช้ามืดแบบนี้ ถนนให้ความรู้สึกว่างเปล่าอย่างประหลาด เขาเล่นโทรศัพท์มือถือขณะเดินขึ้นลิฟต์ บนฟีดเฟสบุ้คเต็มไปด้วยข้อความอวยพรให้กับเขา ทั้งเพื่อนๆสมัยมัธยมและมหาวิทยาลัย


   เขายิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเมื่อเห็นความเคลื่อนไหวไวๆอยู่ด้านหน้า


   กุญแจตกลงจากมือเขาลงพื้นดังแกร๊ง


   กานต์ยืนอยู่ตรงนั้น


   รูปร่างผอมๆของกานต์ ใบหน้าเดิมที่ยังชัดเจนในความทรงจำ กานต์อยู่ในเสื้อเชิ้ตคอจีนแบบเดิมที่เจ้าตัวชอบใส่ กับกางเกงสีดำเข้ารูปนิดๆ ผมยังคงยุ่งเหยิงเหมือนเคยๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่เขาไม่ได้มองมันมานานแสนนาน


   กานต์หัวเราะนิดๆ เป็นเสียงหัวเราะที่ทำให้กฤชส่ายหน้าเบาๆ เป็นเสียงที่เขาโหยหาเหลือเกิน


   “ร้องไห้ทำไม” กานต์ถาม เดินเข้ามาใกล้


   มือขาวๆผอมๆของกานต์ยกขึ้นแตะแก้มของเขา กฤชยกมือของตนเองขึ้นคว้ามือนั้นไว้


   “นึกว่าเป็นบ้าเป็นแล้ว นึกว่าเห็นภาพหลอน” กฤชละล่ำละลัก


   กานต์หัวเราะอีกครั้ง


   กฤชมองกานต์ผ่านม่านน้ำตาของตนเอง เขาสะอื้นเหมือนเด็กชาย


   “สุขสันต์วันเกิดนะกฤช”


   “กลับมาคบกันนะกานต์”


   

"สุขสันต์วันเกิดนะกฤช กานต์คงมีความสุขอยู่แน่ๆตอนนี้ แกก็ก้าวต่อไปนะ"

"กฤช ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะ เพื่อนทุกคนเป็นกำลังใจให้แกนะ แฮปปี้เบิดเดย์นะ"

"เชี่ยกฤช กูรักมึงนะ จะทำอะไรก็คิดถึงกูด้วย มีอะไรก็โทรหา แฮปปี้เบิร์ดเดย์เว่ย"

"กฤช สุขสันต์วันเกิด ขอให้มึงมีความสุขมากๆกับวันเกิดนะ"


"คนไข้ไม่ค่อยยอมทานยาเลยนะคะคุณแม่ช่วงนี้ อยากให้คุณแม่ช่วยโน้มน้าวคนไข้หน่อยได้มั้ยคะ"

"วันนี้เป็นวันเกิดแฟนเก่าเค้าน่ะค่ะ คงคิดถึงมั้งคะ"

"อ้อ เข้าใจค่ะ" พยายามมองหน้าคนไข้นิดๆพลางส่งยิ้มให้กำลังใจ


... วันที่ 17 ตุลาคม 2553 อุบัติเหตุรถซีอาวีพุ่งตกขอบถนนในวันฝนตก ผู้เสียชีวิตหนึ่งราย ...

... กฤชเข้ารับการรักษาหลังจากนั้นสองปี


วันนี้เป็นวันเกิดของกฤช วันที่เขารู้สึกมีความสุขที่สุดเพราะกานต์กลับมาหาเขา


.....................................
สวัสดีค่ะ เรื่องนี้แต่งไปร้องไป 555 ความจริงคือฟังเพลง เพียงหนึ่งครั้งของ The Yers แล้วก็เขียนออกมาเลยค่ะ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะให้จบแบบนี้ จะให้จบแบบแฮปปี้ๆเหมือนเรื่องอื่นๆนั่นแหละค่ะ แต่ไปๆมาๆก็เป็นอย่างนี้ไปแล้วล่ะค่ะ
ตอนที่เขียนช่วงทำนองว่า ตอนนี้ยังตอนดึกตื่นสายอยู่มั้ย ตรงนั้นร้องไห้เลยค่ะ 555

ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ ตอนนี้อาจจะไม่แฮปปี้แบบทุกๆตอน แต่ตั้งใจเขียนมากๆเหมือนเดิมค่ะ :)

ยังคุยกันได้เสมอที่ทวิตเตอร์ @sunnyside1909 ค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ เกิดมาเพื่อรักเพียงแค่ครั้งเดียวและตายจากไป ❥❥ (17/10)
เริ่มหัวข้อโดย: Starry[Blue] ที่ 04-11-2015 21:29:00
เจอพล็อตแบบนี้ทีไรตายทุกที (ตัวละครเหรอ อ๋อเปล่า เรานี่แหละค่ะ) :z3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ เกิดมาเพื่อรักเพียงแค่ครั้งเดียวและตายจากไป ❥❥ (17/10)
เริ่มหัวข้อโดย: sunnyside1909 ที่ 08-11-2015 22:09:50
Starry - ขอบคุณนะคะ อ่านทุกตอนเลย ปลื้มใจมากค่ะ ;)  :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ เกิดมาเพื่อรักเพียงแค่ครั้งเดียวและตายจากไป ❥❥ (17/10)
เริ่มหัวข้อโดย: fabaceae ที่ 10-12-2015 17:45:12
ตอนใหม่ฉีกแนวจากตอนเดิมๆเยอะเลยยย งื้ออออ ช้อคเบาๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ การตกหลุม ❥❥ (7/1/2559)
เริ่มหัวข้อโดย: sunnyside1909 ที่ 07-01-2016 11:58:46
การตกหลุม

เสียงกีตาร์โปร่งกำลังโลดแล่นอยู่ในลำโพง เสียงค่อนข้างสูงที่แหบนิดๆอย่างมีเอกลักษณ์ทำให้คนฟังอมยิ้ม ใบหน้าของคนร้องที่ผุดขึ้นมาในความทรงจำทำให้เขายิ้มนิดๆ


ใบหน้าธรรมดาๆของผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง เป็นพนักงานบริษัททั่วๆไป ร่างสูงโปร่งค่อนข้างผอมที่เขามักจะมองบ่อยๆ
อิฐเป็นผู้ชายธรรมดาๆ ที่ร่วมฝึกงานพร้อมๆกับเขาเป็นเวลาสามเดือน ด้วยความที่เราเป็นรุ่นเดียวกัน อิฐและเขาจึงเข้ากันได้ดี รสนิยมในการฟังเพลงของอีกฝ่ายก็เข้ากันได้ดีกับเขา


ไม่ใช่แค่เรื่องเพลงหรอก ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เราพูดกัน ก็ดูเหมือนจะให้ความรู้สึกว่าจะเข้ากันได้ไปเสียหมด

อิฐเรียนคณะเดียวกันกับเขาแต่คนละมหาวิทยาลัย พวกเขาเคยเจอกันมาก่อนครั้งหรือสองครั้งในงานร่วมของมหาวิทยาลัย อิฐเป็นผู้นำเชียร์ผอมๆคนหนึ่งที่ดูไม่โดดเด่นเท่าคนอื่นๆ มักจะมีคนค่อนขอดอิฐเสมอว่า เป็นเพราะในคณะของอิฐน่ะ มันมีผู้ชายน้อยต่างหากล่ะ หน้าตาแบบอิฐถึงได้เป็นผู้นำเชียร์


ในตอนนั้นเขาเป็นประธานสแตนของฝั่งตัวเอง มันเป็นงานเล็กๆระหว่างสองคณะจากสองมหาวิทยาลัย ด้วยความที่คนในงานนั้นค่อนข้างน้อยเขาจึงจำหน้าคนได้ค่อนข้างเยอะ มันอาจจะเป็นหนึ่งในพรสวรรค์ของเขาก็ได้ หลายๆคนมักจะบอกว่าเขาเหมาะกับการทำกิจกรรม


มนุษย์สัมพันธ์ดี ยิ้มง่าย พุดคุยง่าย


เขาขอบคุณตัวเองที่เป็นอย่างนั้น ไม่งั้นวันนี้เขาคงยิ้มให้อิฐไม่ได้อีกแล้ว


อิฐคบกับผู้นำเชียร์ด้วยกัน ดาวคณะคนสวยที่ใครๆก็ประหลาดใจว่าทำไมถึงมาคบผู้ชายหน้าตาธรรมดาแบบอิฐ


เขามารู้จักอิฐอย่างจริงจังตอนฝึกงานครั้งสุดท้ายของชีวิตนิสิตนักศึกษา ตอนนั้นอิฐก็คบกับลูกปลามาแล้วสามปี เขายังจำได้ว่าอิฐแนะนำลูกปลาให้เขารู้จักตอนที่กินข้าวเย็นกันหลังเลิกงาน


ในตอนนั้นเขาไม่รู้ว่ารู้สึกอย่างไร


ไม่ชอบใจ... แต่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร


 
ลูกปลาสวยแบบที่ดูปราดเดียวก็รู้ว่า สวยและมีเงิน รอยยิ้มของเธอกว้างขวางและสดใส เธอดูไม่เข้ากับอิฐเท่าไหร่นัก แต่ดูก็รู้ว่าทั้งคู่รักกันดี



และนั่นทำให้เขาไม่ชอบใจ


แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังยิ้มและทักทายลูกปลาอย่างกระตือรือร้น



คนทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนเขาในเวลาต่อมา



อิฐเป็นผู้ชายดีๆแบบที่โลกนี้ไม่ค่อยมีเท่าไหร่นัก บ้านของอิฐเป็นร้านซ่อมจักรยานเล็กๆแถวชานเมืองในขณะที่ลูกปลาเป็นลูกสาวบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่


“กำลังเก็บเงินแต่งงาน” นั่นเป็นสิ่งที่อิฐพูดกับเขาในครั้งแรกที่พวกเราได้เงินเดือน


เขามองเงินเดือนสองหมื่นปลายๆด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด นึกสงสัยอยู่ในใจว่า มันต้องใช้เงินสักเท่าไหร่กันถึงจะสามารถขอผู้หญิงอย่างลูกปลาจากครอบครัวของเธอ


ไหนจะงานแต่งงาน บ้าน รถ


ทุกอย่างดูเหมือนจะทำไม่ได้ด้วยเงินเพียงเดือนละสองหมื่น


“ไม่รู้อีกกี่ปีแหละ แต่ก็ไม่มีทางอื่นนอกจากเก็บไปเรื่อยๆ” อิฐดูเหมือนจะรู้ว่าเขาคิดอย่างไรอยู่ เจ้าตัวจึงพูดขึ้นมาขำๆ


เขายิ้มนิดๆ ขยี้ผมยุ่งๆนั่นเบาๆ


พูดกันตามจริง เพียงแค่กินข้าวกับลูกปลาสักมื้อ อิฐก็เหมือนใช้เงินค่าแรงของวันนี้หมดไปแล้ว


อิฐชอบร้องเพลง ชอบแต่งเพลง เล่นกีตาร์


และอิฐก็มีพรสวรรค์


แต่ถ้าอิฐจะมีครอบครัวและแต่งงาน อิฐก็ต้องทิ้งการไล่ตามความฝันนั้นไป



มันลำบากหรือเปล่า...

นั่นคือสิ่งที่เขาอยากจะถาม และอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าหากเป็นเขาล่ะก็...

ถ้าหากเป็นเขาล่ะก็...

ถ้าเป็นเขาจะทำไมล่ะ

ก็ในเมื่อมันไม่ใช่เขาสักหน่อย


เปล่าหรอก

เขาก็แค่อยากให้อิฐได้ยืนในที่ที่อิฐอยากยืน ได้ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ

เขารู้ดี มันไม่ใช่ความผิดของลูกปลา ลูกปลาเองก็คงจะไม่ว่าอะไรเลยถ้าหากอิฐจะลาออกไปร้องเพลงกลางคืนตามร้าน และทำเพลงไปเรื่อยๆ

เขารู้ว่าเธอเองก็รักอิฐมากพอ


และความรักของเธอ เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาอยากเลิกคิดคำว่า ถ้าหากว่าเป็นเขา...



หลังจากที่เราฝึกงานเสร็จ อิฐและเขาก็แยกกันทำงานของตัวเอง มาเจอกันนานๆครั้งตามประสาคนรู้จักที่ทำงานสายเดียวกันเท่านั้น

อิฐโทรมาชวนออกไปกินข้าวบ่อยพอสมควร ตอนที่ฝึกงานเสร็จใหม่ๆ


แต่เขาเป็นคนปฏิเสธไปเอง สารพัดข้ออ้างจะหามา

เขาไม่อยากเห็นมันอีก เขาไม่อยากเห็นรอยยิ้มนั้น และฟังเสียงค่อนข้างสูงและแหบนิดๆอย่างมีเอกลักษณ์

เขาเกลียดตัวเองที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องอิฐ ฟังเสียงกีตาร์และเสียงร้องเพลงของอิฐ


เขาเกลียดอิฐคนที่เก็บเงินแต่งงาน


ถึงไม่ต้องเห็นมันอีกครั้ง ใบหน้าของอิฐ รอยยิ้มนั้น และทุกๆอย่างมันก็ยังคงชัดเจนในสมองจนเขาอยากจะสำลักมันออกมา


หลังจากนั้นเขาคบกับใครอีกหลายคน ตกหลุมรัก ปีนขึ้นมาจากหลุมนั้น ตกลงอีกครั้งกับใครอีกคน และปีนขึ้นมาอีกครั้ง แต่ไม่มีการตกหลุมครั้งไหนที่รุนแรง ลึกซึ้ง เท่ากับอิฐอีกแล้ว

อิฐที่เขาไม่เคยแม้กระทั่งแตะตัว อิฐที่ใกล้สุดเพียงแค่ยืนข้างๆ

นั่นแหละ แต่มันเป็นความรักที่เขารักมากที่สุดในชีวิต

เนื่องจากมันคือการตก มันจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเจ็บปวด



เขาได้ยินเสียงอิฐอีกครั้งในวันนี้

มันอยู่ในวิทยุ เสียงสูงที่แหบนิดๆอย่างมีเอกลักษณ์แบบที่ทำให้เขาหัวใจเขาเต้นระรัวทุกครั้ง และเสียงกีตาร์แบบเดิมที่เคยได้ยินเมื่อนั่งอยู่บนโซฟาในห้องของอิฐก็ทำให้ขอบตารู้สึกร้อนผะผ่าวขึ้นมา


เนื้อเพลงที่...ดูเป็นอิฐที่สุด


มันไม่ใช่เพลงรัก มันบอกเล่าเรื่องราวที่อิฐผ่านมา การเดินทางในชีวิตของอิฐ และความฝันของอิฐ


ทั้งหมดนั้นทำให้เขาร้องไห้



ตอนนี้ฉันสบายดี อยู่ท่ามกลางความรักมากมาย
ตอนนี้ฉันสบายดี อยู่ท่ามกลางความฝันของตัวเอง



สบายดีก็ดีแล้ว เขาไม่ใช่หนึ่งในความรักมากมายที่อิฐพูดถึง

แต่ถึงอย่างนั้น เพลงนั้นของอิฐก็ดึงเขาตกลงไปในหลุมลึกนั้นอีกครั้ง


มันก็ยังคงรวดเร็วและเจ็บปวดเหมือนครั้งแรก

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ การตกหลุม ❥❥ (7/1/2559)
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 07-01-2016 13:01:16
เจ็บปวด :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ การตกหลุม ❥❥ (7/1/2559)
เริ่มหัวข้อโดย: Starry[Blue] ที่ 11-02-2016 09:55:49
เหมือนโดนกรีดใจแล้วก็หายไปโดยไม่ทำแผลให้  :katai1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ การตกหลุม ❥❥ (7/1/2559)
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 23-03-2016 20:25:40
การตกหลุมมันเจ็ยจริงๆนั่นแหละ โดยเฉพาะหลุมที่เจ้าของเขาไม่เคยมองเห็นเราเลย   :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ การตกหลุม ❥❥ (7/1/2559)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 24-03-2016 14:27:36
สนุกทุกเรื่องเลยยยย เหมือนคุมโทนไปด้วยทีฟ้าหม่นๆ ชอบมาก  :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ❥❥ การตกหลุม ❥❥ (7/1/2559)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 22-11-2020 17:51:29
เรื่องสุดท้ายพร้อมกับฟังเพลงเศร้าพอดีนี่แบบ  :hao5: :hao5:

ชอบสุดเรื่องที่รัก+อิน มันมีความหน่วงแต่สุดท้ายมันจบดีมาก จนอยากขอตอนพิเศษ  :call: :call:

อีกคู่ตี๋น้อยมาร์ค ปลิ่มมากยิ้มแก้มปริ ชอบบบบบบบบ

ชอบสไตล์การแต่งนิยายของคุณแล้วอ่ะ  :pig4: :pig4: