สารบัญ
In progress...
(ที่จริงเเล้ว...ทำไม่เป็น ๕ ๕ ๕)
﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏﹏
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥ ♡ ♥
" Just ' U แค่คุณ ❥ "
✿Warning✿
-เรื่องนี้เป็นนิยายชายรักชาย
-คนเขียนไม่ได้เก่งอังกฤษมาก มีผิดพลาดประการใดโปรดบอกข้าพเจ้าด้วย
-เรื่องราวทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจาการมโนของผู้เเต่ง ไม่ได้อ้างอิงพาดพิงถึงบุคคลใด
✿Talk✿
สวัสดีนักอ่านทุกคนที่หลงเข้ามาด้วยค่ะ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเเรกเเต่เราก็ยังไม่ช่ำมาก เพราะฉะนั้นติได้ไม่ว่าไม่กัดไม่เหวี่ยงจ้า
ปล.เรื่องนี้ปกติลงในเด็กดีค่ะ เพิ่งลองมาใช้เล้าครั้งเเรกเลย จะทยอยลงให้ทันในเว็บนะคะ รักส์ ♥
CHAPTER 0
| Dicktionary?
"เอ่อ..นี่ครับ"ชายผิวเข้มในเสื้อเชิ้ตสีขาวเเขนยาวที่ถูกพับขึ้นมาเกือบถึงศอกเดินเข้าไปหาผู้ชายร่างสูงใหญ่ด้วยความกล้าๆกลัว เหงื่อเม็ดเป้งผุดขึ้นมาตามขมับ พร้อมยื่นกระดาษเเผ่นเล็กๆที่มีคนฝากฝังมาให้
โอย..คุณโคลด์ก็รู้ว่าผมไม่ถูกโรคกับฝรั่ง อย่างนี้มันเเกล้งกันชัดๆ
"Thanks.(ขอบใจ)"ไอฝรั่งหัวน้ำตาลทองมันรับกระดาษนั่นไปก่อนจะคลี่อ่าน พอเห็นว่าเสร็จธุระผมก็หมุนตัวเตรียมเดินกลับไปทำงาน
"Wait! (เดี๋ยว!)"เสียงทุ้มพร้อมกับมือใหญ่ๆที่เอื้อมมาจับไหล่ผมไว้ ผมสะดุ้งเฮือกหันไปคนที่สูงกว่า
"ครับ?"
"Colt said you're my host.I'm Austin Jones you can call me Austin,And you are thee right?(โคลด์บอกว่านายจะเป็นโฮสต์ให้ฉัน ฉันออสติน โจนส์นะ เรียกออสตินก็ได้ นายคือธีร์ใช่ไหม?)"ผมมองเขาหน้าเหลอหลากระพริบตาปริบๆ ไอสิ่งที่ผมได้ยินเมื่อกี้มันคือภาษาเอเลี่ยนดีๆนั่นเองในความคิดของผม
ภาษาอังกฤษนี่อย่าให้คุย ตกมาตลอดตั้งเเต่จำความได้
"เอ่อ..อืม..อ่อ..ไอ..ไอ..ไม่เข้าใจยูเลยอ่ะ"สาบานว่านี่เป็นประโยคที่ถูกกรั่นกรองออกมาจากสมองน้อยๆของผมเเล้ว ไอฝรั่งมันก็ทำหน้างง ไอผมก็งง
"อ่อ!" จู่ๆมันก็อ๋อขึ้นมาทำเอาผมสะดุ้งตามก่อนจะพูดต่อ
"It's okay.I just looking for.."
"หยุด! หยุดเลยนะ"ผมรีบยกมือห้าม ก่อนที่เขาจะพูดประโยคยาวๆที่ผมไม่เข้าใจ ออสตินหยุดพูดอย่างงงๆ ก้มมองคนเตี้ยกว่าที่มีใบหน้ายุ่งเหยิงอย่างสงสัย
"เอ่อ..ดูยูเเฮฟอะดิ้ก"
"Dick?"เขาทวนคำผมอย่างสงสัย ใบหน้าคมอย่างชาวจะวันตกดูตกใจเล็กน้อยกับคำถามของผม
จะตกใจอะไรก็เเค่พจนานุกรม
"เยสๆ ดิ้กอ่ะ ที่มันหนาๆ"ผมเริ่มโชว์สกิลไทยคำอังกฤษคำพลางทำมือประกบกันเเล้วเเยกออกให้เขามองเป็นหนังสือเล่มหนาๆ คือจริงๆผมก็มีแอพแปลภาษาในโทรศัพท์นั่นเเหละเเต่เเบตมันหมดไปเเล้ว
"Sure"เขาตอบสั้นแต่คิ้วยังคงขมวดติดเป็นปม
ชัวร์ = เเน่นอน = มี
"ไอขอซียัวร์ดิ้กหน่อยได้ไหม?"คราวนี้ไอฝรั่งมันทำหน้าตกใจกว่าเดิมทั้งยังถอยหลังไปหนึ่งก้าว คิ้วเฉียงๆขมวดมุ่นเหมือนคิดหนัก
ผมพูดอะไรผิดไปหรอ?
"I think it would not be appropriate(ผมเกรงว่ามันจะไม่เหมาะสม)"ออสตินยิ้มเเห้งพลางมองหน้าคู่สนทนา(ที่ไม่น่าไปรอด)คนนี้อย่างพินิจ ผมเองก็มองตอบเขากลับด้วยความซื่อๆตรงๆของตัวเอง
"จัสอะดิ้กอ่ะยูอิททูบิ๊กมากเลยหรอ"หรือมันใหญ่เเละหนักเกินไปเขาเลยขี้เกียจยกมันออกมารึเปล่า นี่ผมเริ่มหงุดหงิดเเล้วนะเเค่พจนานุกรมเเค่นี้ก็เอาออกมาไม่ได้รึไง
ไอฝรั่งมีสีหน้าลำบากใจชัดเจน คาดว่าชาตินี้คงคุยกันไม่รู้เรื่องเเน่ๆ
"พี่เต้ๆ! ช่วยผมหน่อยดิ"เเละในจังหวะที่หันซ้ายหันขวาก็เหลือบไปเห็นพี่ที่ทำงานที่น่าจะช่วยผมได้พอดี คนถูกเรียกหันมามองอย่างสงสัยเเล้วก็เผยยิ้มขำออกมาเมื่อเห็นว่าผมเรียกทำไม
"มีอะไร เเล้วทำไมถึงมายืนคุยกับเพื่อนคุณโคลด์ได้ล่ะ มึงไม่ถูกโรคกับฝรั่ง..ไม่สิ..ไม่ถูกโรคกับภาษาอังกฤษนี่"ผมเบ้ปากน้อยๆ เหลือบมองไอฝรั่งที่ยืนจ้องพวกผมสองคน คิ้วเฉียงๆของมันก็ยังไม่คลายปม
"ก็เฮียอ่ะ ใช้ให้ผมเอากระดาษมาให้เขา พอเขาอ่านปุ๊ปก็รัวภาษาอังกฤษใส่ผมเลย เเถมพอลองถามว่ามีดิ้กรึเปล่าก็มัวเเต่อ้ำๆอึ้งๆอยู่เนี่ย"ผมเล่าราวกับว่ามันเป็นปัญหาระดับชาติ เเต่เหมือนหน้าซีเรียสของผมจะไม่ได้ทำให้คนฟังอย่างพี่เต้เครียดตามไปด้วย มีเพียงเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมา
"โอ๊ยยย มึงเเม่ง..ฮ่าๆๆ..ไอเหี้ยกูปวดท้องไปหมดเเล้ว"พี่เต้หัวเราะน้ำหูน้ำตาไหล ผมมองพี่เขาตาขวางเล็กน้อย
"หัวเราะอะไรพี่ ถ้าเข้าใจเเล้วก็ไปเคลียร์กับมันทีดิ ยืนทำหน้างงเเดกอยู่นั่นเเหละ"ผมพยักเพยิดหน้าไปหาร่างสูงใหญ่ พี่เต้พยักหน้ารับทั้งๆที่ยังไม่หยุดหัวเราะ ผมยืนกอดอกมองทั้งคู่ที่สนทนากันอยู่ประมาณสองสามประโยคก่อนที่พี่เต้จะเดินกลับมาหาผม
"กูว่ามึงโดนคุณโคลด์เล่นเเล้วว่ะไอธีร์เอ้ย"
"อะไรวะพี่ สรุปมันเกิดอะไรขึ้น"
"เขาบอกว่ามึงอ่ะยินดีเป็นโฮสต์ให้เขาจนกว่าเขาจะกลับ เห็นบอกว่าชื่อออสตินอันนี้คงฟังรู้เรื่องอยู่ใช่ไหม"ผมพยักหน้า เเต่เดี๋ยวนะพี่..
"ผมไปเป็นโฮสต์ตั้งเเต่เมื่อไหร่วะ ผมจะไปคุยกับเฮีย"ผมตั้งท่าจะหมุนตัวขึ้นไปห้องทำงานของเจ้านายที่เพิ่งลงมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เเต่ก็ถูกพี่เต้รั้งไว้ซะก่อน
"อย่าเลย มึงก็รู้ว่าวันนี้คุณโคลด์เขาอารมณ์ไม่ดี"
"เอ้าหรอ?"ผมถามหน้าเหลอหลา จนคนคุยด้วยต้องถอนหายใจพร้อมกับส่งสายตาเอือมระอามาให้ ทำหน้าทำตาเเบบนั้นหมายความว่าไงวะ ผมก็เเค่มองคนไม่ค่อยออกก็เท่านั้น
"มึงนี่โง่ได้อย่างเสมอต้นเสมอปลายจริงว่ะไอธีร์เอ้ย"ผมเบ้ปากเเรงกับคำด่าไม่จริงจังที่ผมมักได้ยินอยู่บ่อยครั้ง
"เเล้วตอนนี้พี่จะให้ผมทำไง ให้รับไอหมีควายนั่นไปอยู่ด้วยเหรอ มีหวังไม่ผมก็มันได้มีประสาทเเดกตายเพราะคุยกันไม่รู้เรื่องเเน่ๆ"ผมบอกตามความจริง มองหน้าที่ถูกทับด้วยกรอบเเว่นอันโตของพี่คนสนิทอย่างมีความหมาย
"ไม่ต้องมองกูงี้เลย บ้านกูมีที่ที่ไหน ไหนจะเมียกูอีก"
"โหยย ก็พี่พูดได้ฟังได้นี่หน่า"
"มึงก็ใช้ดิ้กมึงไปสิ ฮ่าๆๆ"พี่เต้หัวเราะอีกครั้ง ผมหรี่ตามองเขาอย่างจับผิด
"เอาจริงๆนะพี่ พี่ขำอะไรวะ"ผมถามเสียงเครียด มันไม่ตลกเลยนะเว้ยที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดแปลกไป
"เอาหูมานี่ๆ"
ผมเลื่อนหน้าไปใกล้อย่างว่าง่ายก่อนที่พี่เขาจะกระซิบให้ได้กันอยู่สองคน อีกฝ่ายตบไหล่ผมปุๆเมื่อพูดจบเเล้วก็เดินกุมท้องกลั้นขำไปอีกทาง ทิ้งผมให้อ้าปากค้างกับคำตอบที่ได้รับ
'ดิ้กอ่ะมันแปลว่าไอนั่น พจนานุกรมอ่ะมันอ่านว่าดิกเว้ยมึง'
.
..
...
....
ไอเหี้ยยยยยยย!! ชิบหายเเล้วไง!!
Chapter 2
| Me too
ผมเดินออกมาจากหลังร้าน ออกมาหาคนที่นั่งชะเง้อชะเเง้เหม่อนมองหาบางอย่างอยู่ที่เดิม เเต่เเตกต่างจากเดิมตรงที่ว่าจานที่เคยพูนไปด้วยข้าวกลับว่างเปล่า
พอผมเดินเข้ามาใกล้ไอฝรั่งมันหันมาเจอก็เผยยิ้มออกมา
ผมก็ยิ้มตอบ ใจก็คิดถึงเเผนการที่ได้ฟังมาเมื่อครู่ซึ่งก็ไม่ได้เเย่อะไร พี่เต้นี่ฉลาดจริงอะไรจริงวุ้ย
ผมเดินไปหามันด้วยความมั่นใจฉีกยิ้มกว้างให้ พร้อมเอ่ยประโยคที่ท่องไว้ในใจหลายสิบรอบด้วยความมั่นใจอย่างสุดซึ้ง
.
.
.
"เมื่อกี้มึงบอกอะไรมันวะเต้"ฟาง หนุ่มไม่น้อยวัยครึ่งห้าสิบ เจ้าของใบหน้าดุดิบเถื่อนต่างจากชื่อเล่นราวฟ้ากับเหวเอ่ยถาม
"ไม่มีไรหรอกพี่ ฮ่าๆ"ไอคนเด็กกว่าหน่อยก็ตอบปัด หัวเราะร่าอย่างที่คนฟังต้องหรี่ตามอง
"โคตรไม่น่าเชื่อถือ มึงนี่ก็หาเรื่องไปแกล้งน้องมันได้ทุกวี่ทุกวัน"ฟางส่ายหัวกับนิสัยขี้เเกล้งที่รักษาไม่หาย
"โอ้ยพี่! ดูมันดิน่าเเกล้งจะตาย พูดอะไรก็เชื่อไปหมด ฮ่าๆๆ"
"เออๆอันนั้นไม่เถียง สรุปว่าเมื่อกี้ให้มันทำอะไรวะ"
"เเค่บอกให้มันไปบอกฝรั่งนั้นว่าตัวเองเป็นเกย์เอง ฮ่าๆๆๆ"
-------------------------------------
"เป็นไรวะธีร์มานั่งทำหน้าเหมือนอยากตายขนาดนี้"
"พี่ฟาง.."ผมเรียกเอ้ยชื่ออีกฝ่ายมาอย่างเเผ่วเบา หันมองหน้าพี่เขาด้วยสีหน้าที่ตัวเองก็ยังบอกไม่ถูก นี่หน้ากูดูอมทุกข์ขนาดนั้นเลยหรอวะ
"เกิดไรขึ้น เเล้วเพื่อนคุณโคลด์ล่ะ"
"ไล่ไปแล้ว"
"อ้าว! ทำไมล่ะ วันนี้ต้องไปเป็นไกด์ให้เขาไม่ใช่หรอ"ผมได้เเต่ถอนหายใจหนักๆเเทนคำตอบ เเล้วฟุบลงไปกับโต๊ะใช้คางท้าวโต๊ะไว้เเล้วตอบเสียงอ่อย
"เพราะแผนของพี่เต้นั่นเเหละ"
"หืม..เเล้วเป็นไงเขาว่าไง"พี่เขาคงจะรู้เเล้วสินะว่าเเผนที่ว่าคืออะไร ผมมองหน้าที่รกรุงรังไปด้วยหนวด ถึงจะเป็นคนหน้าตาเถื่อนๆก็เถอะ เเต่จริงๆพี่เขาโคตรคนดีเลยตั้งเเต่ผมมาทำงานพี่เขาก็คอยช่วยตลอด
"มีทู"
"ห้ะ?"
"เขาตอบว่า 'มีทู' "
สิ้นคำตอบผมเท่านั้นเเหละ พี่เขาก็เงียบไปพักนึงด้วยสีหน้าเงิบๆ เเน่นอนว่าศัพท์นี้ วลีนี้เด็กอนุบาลยังเข้าใจ ตอนเเรกที่ได้ยินผมก็เงิบไม่ต่างกันจากยิ้มๆด้วยความมั่นใจว่ามันต้องรับไม่ได้เเล้ววิ่งเเจ้นไปบอกเฮียว่าอยู่กับผมไม่ได้เเต่มันกลับตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มเหมือนโล่งใจ
มีทู...
นอกจากแผนที่วางไว้จะล้มไม่เป็นท่า ยังกลับกลายเป็นว่ามันดันเป็นแทนนี่สิ
พลาดแล้ว ไม่พรากธรรมดา โคตรพลาดอ่ะบอกเลย
"เเล้วเราเอาไงต่อ"
"ไม่รู้อ่ะพี่ ตอนนี้เเบบหัวมันโล่งมาก"ผมขยี้หัวตัวเองเเรงๆ นี่มันหาเรื่องให้ตัวเองชัดๆเลย ก็ไม่ได้รังเกียจหรอกถ้าไอหมีควายนั่นจะเป็น เเต่พอคิดว่าต้องอยู่ด้วยกันมันก็อดขนลุกซู่ซ่าไม่ได้อยู่ดี
ผมยังห่วงตูดผมอยู่นะเห้ย!
"เอ้าๆ เหาขึ้นไงมึงอ่ะ อย่าเอามาเเพร่เเถวนี้นะเห้ย"เสียงเหาหอนนี่ก็ยังไม่พ้นพี่เต้เจ้าเก่าเจ้าเดิมเพิ่มเติมคือหมาในปาก ผมมองเขาด้วยหน้านิ่งๆเเต่ก็อดจะมุ่ยหน้าออกมาหน่อยๆไม่ได้
"เพราะพี่นั่นเเหละ แผนบ้าแผนบออะไรไม่รู้"
"อะไรๆ เกิดไรขึ้นวะ"พี่เต้เเทบจะเปลี่ยนทิศทางไม่ทัน จากตอนเเรกที่จะไปเปิดร้านเเต่พอเห็นหน้าไม่สบอารมณ์ของรุ่นน้องก็อดที่จะอยากรู้(เสือก)ไม่ได้
"เฮ้ออออ ผมไปละ"
ผมซึ่งขี้เกียจตอบคำถามจึงลุกขึ้นไม่สนใจเสียงรอบข้างที่ยิงคำถามใส่รัวๆเเล้วเดินออกจากร้าน มือก็เกี่ยวป้ายหน้าร้านให้กลับด้านบ่งบอกว่าถึงเวลาเปิดร้านเเล้วอย่างรู้หน้าที่
ตอนนี้ที่คิดได้อย่างเเรกเลยคือผมต้องไปแก้ข่าวเรื่องเมื่อกี้ซะก่อน ตอนเเรกที่พูดไปเพราะไม่ทันคิดว่าถ้ามันเกิดรับได้จะเป็นยังไงต่อ
ผมเดินออกมานอกร้านมองซ้ายขวา นี่ผมไม่ได้โดดงานนะ ก็ตอนเเรกเฮียก็กะให้ผมไปดูเเลไอหมีควายนั่นอยู่เเล้วนี่..
เอี๊ยดดด!!!
"อยากตายรึไงวะ!!"
ผมหันไปตามเสียงเเละก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อไอคนที่ผมตามหากำลังยืนยิ้มให้กับคู่กรณีคนไทยที่พูดออกมาเสียงดังลั่น
เขาด่ามึงอยู่นะ ยังจะไปยิ้มให้อีกให้ตายเถอะ
เเละเหมือนคนต่างถิ่นต่างเเดนจะไม่เข้าใจอะไรซักอย่างยืนยิ้มค้างอยู่เเบบเดิม จนคนที่ยืนด่าเเทบจะกระชากเข้าไปต่อยเพราะคิดว่ามันกวนตีน
"เห้ยๆพี่ใจเย็นๆ"ผมเข้าไปห้ามทัพได้ทันยกมือปรามทั้งสองฝ่าย พี่เขายอมละหมัดที่เตรียมเหวี่ยงใส่หน้าหล่อๆเเต่ใบหน้ายังคงบูดเบี้ยวไปด้วยอารมณ์โกรธ
"น้องรู้จักมันใช่ไหม บอกมันด้วยว่าถ้าอยากตายให้กลับไปตายประเทศตัวเอง เดี๋ยวแผ่นดินเรามันจะเปื้อน!"คนพูดกระเเทกเสียงเน้นๆ ก่อนจะหมุนตัวขึ้นรถที่จอดค้างไว้ ปิดประตูเสียงดังเเล้วคงจะเหยียบคันเร่งสุดเเรงเกิด
"มึงนี่นะ.."ผมหันมามองไอตัวปัญหา
อ่าว หายไปไหนเเล้ววะ
"There..there.. It's gonna be okay boy.( โอ๋ๆ ไม่เป็นไรเเล้วนะ)"เสียงทุ้มคุ้นหูดังออกมาจากอีกฟาก ผมขมวดคิ้วน้อยๆเมื่อมองไปยังสิ่งที่อยู่ในอ้อมเเขนเเกร่งของอีกฝ่าย
หมา?
ไปเอาหมาใครมาวะ เเถมยังอุ้มขึ้นมาเเนบอกเหมือนต้องการปลอบ เเต่เดี๋ยวนะ..
"เห้ย! เลือดมันออกไม่ใช่รึไง!"
ผมปรี่ไปหาอีกฝ่ายทันทีด้วยความตื่นตระหนก เลือดสีข้นไหลไม่หยุดออกมาจากขาหลังของมันจนเลอะเสื้อเชิร์ตสีสว่างของไอฝรั่งไปหมด
เเต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ตกใจอะไรเลย กลับลูบหัวหมาไทยหลังอานตัวนั้นเบาๆเเล้วคอยพูดกับมันตลอดเหมือนปลอบ
"หงิง.."เเถมมันยังครางหงิงๆซุกหน้ากับอกเเกร่ง
ทำไมกูเห็นออร่าเเบบส้มๆชมพูๆมาจากสองตัวนั้นวะ ผมสะบัดหัวน้อยๆไล่ความคิดไร้สาระออกจากหัว ตอนนี้ต้องทำไงดีล่ะ คิดสิไอธีร์
"Clinic?(คลินิก?)"
"เออใช่! เเถวนี้..เอ่อ..อ้อ! ตามมาๆ"พอนึกออกผมก็กวักมือให้มันตามมา เเถวนี้ถ้าจำไม่ผิดซอยข้างๆจะมีอยู่ ผมเดินตรงเข้าไปในซอยข้างร้านเฮียเเล้วเดินผ่านตรอกเล็กๆเพื่อทะลุไปอีกซอยเเละก็ต้องโล่งใจที่มันมีอยู่จริงๆ
.
.
.
.
"ห้ะ! หมอไม่อยู่!!!"
"ค่ะ..คือว่าวันนี้คุณหมอมีนัดไปตรวจข้างนอกน่ะค่ะ อีกประมาณหนึ่งชั่วโมงถึงจะกลับ"พนักงานสาวผู้รับหน้าอยู่ด้านหน้าตอบด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
"เเล้วถ้าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเเบบนี้ขึ้นมาคุณจะทำยังไง จะปล่อยให้มันตายรึไง"ผมกระชากเสียงเล็กน้อยอย่างไม่พอใจ
หมอไม่อยู่? หมอไม่อยู่เนี่ยนะ! ทั้งคลีนิกหมอมันมีคนเดียวรึไงวะ ถึงจะมีคนเดียวก็เถอะเเต่คนอื่นๆมันก็ควรจะทำอะไรได้บ้าง ไม่ใช่มายืนบอกหมอไม่อยู่ๆเเบบนี้
ผมหันไปมองอีกคนที่มีสีหน้าไม่ต่างจากผม คิ้วพาดเฉียงถูกกดลงหนักกว่าเก่ายามที่หันมามองหน้าผมเหมือนไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจที่กูพูดล่ะสิ
"มีใครพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง" ผมพ่นลมหายใจออกมาทางจมูกเเรงๆเหมือนที่ชอบทำเวลาจะสงบสติอารมณ์
"กะ..ก็พอได้ค่ะ"
"งั้นไปอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ไอนั่นที"ผมชี้ไปทางไอฝรั่งที่ในอ้อมอกยังมีหมาน้อยหายใจรวยรินอยู่ ถึงผมจะไม่ค่อยชอบหมาเเต่ก็ไม่ได้เกลียดจะปล่อยให้มันตายๆก็ใช่เรื่อง
พนักงานสาวก็พยักหน้ารับรีบปลีกตัวไปคุยเเละชี้เเจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เเต่ไอฝรั่งหมีควายเพียงเเค่พยักหน้ารับหน้าเครียดไม่มีการโวยวายหรือเเสดงความไม่พอใจ เพียงเเค่ไม่มีรอยยิ้มอ่อนประดับเหมือนอย่างเคย
"ขอยืมอุปกรณ์หน่อยได้ไหมครับ?"
"คะ?"
"เดี๋ยวผมจะจัดการเอง"
"เเต่คุณ.."
"นี่ครับ เท่านี้ก็โอเคเเล้วใช่ไหม"ผมพยายามเงี่ยหูฟัง เเต่เเน่นอนว่าถึงได้ยินก็ฟังไม่ออกเลยเลือกมองท่าทางของทั้งสองคนเเทน จนกระทั่งไอหมีมันควักบัตรบางอย่างขึ้นมาจากนั้นพนักงานก็เบิกตากว้างเล็กน้อย เเล้วรีบนำทางเขาไปข้างใน
"อะไรของมันวะ"ผมบ่นพึมพำเดินตามเข้าไป เเต่ก็ถูกพนักงานที่เหลือเข้ามาขวางซะก่อน
"ทำไมผมจะเข้าไม่ได้ ทีไอฝรั่งนั่นยังเข้าไปได้เลย"ผมขมวดคิ้วไม่พอใจเข้าไปใหญ่ เหลือบมองหลังกว้างๆที่เพิ่งเลี้ยวเข้าห้องๆนึงที่เขียนว่าห้องผ่าตัด
เห้ยๆ หมอไม่อยู่ไม่ใช่รึไง
"เหมือนว่าเขาจะเป็นสัตวเเพทย์นะคะ"พนักงานสาวอีกคนตอบ
"อ่อหรอ.."ผมตอบกลับด้วยความเร็วเเสงก่อนที่สมองน้อยๆจะได้ประมวลผล.. เดี๋ยวนะเดี๋ยว
"เห้ย!!"
เยดโด้! หมอ! มันเป็นหมอ! ถึงเเม้จะเป็นหมอหมาก็เถอะ เเต่ดูจากบุคลิกท่าทางก็ให้อยู่นะ เเล้วพอมาคิดๆย้อนดูเเล้วที่มันไปยืนยิ้มจนเกือบโดนต่อยหน้าเพราะช่วยไอหมานี่มันก็คงจะรักสัตว์โคตรๆ
"แปลว่าน้องก็เพิ่งรู้หรอคะ อยู่ด้วยกันมานานรึยัง"พี่พนักงานคนเดิมถาม ผมเลยได้เเต่ถอยมานั่งอยู่ที่เก้าอี้ที่้ขาจัดไว้สำหรับให้คนนั่งรอ
"ไม่นานมานี้เองครับ"
"เเล้วปกติเขาเป็นคนยังไงหรือ"พี่คนเดิมค่อยๆทรุดตัวลงนั่งข้างตัวผม พร้อมส่งรอยยิ้มหวานให้ ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดอะไรก็ตอบๆไป
"ไม่รู้สิครับ เเต่คนดีพอตัวเลยเเหละ"
"เเล้วเขามีเเฟนรึยัง"
"อันนี้ผมก็ไม่รู้เเหะ..คงต้องไปถามเขาเอง"ผมเกาหัวเเกรกๆเพราะไม่รู้จะตอบอะไรดี
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ พี่พนักงานสาวที่ใบหน้าเเต้มไปด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะก็ชวนคุยไปเรื่อย ซึ่งส่วนมากจะถามเรื่องของไอฝรั่งหมีควายนั่น ผมก็ได้เเต่ยิ้มเเห้งเพราะไม่รู้จะตอบอะไรดี
ตึก
เสียงฝีเท้าหยุดกึกทำให้ผมต้องหันไปมอง
ไอฝรั่งหมีควายมันเดินออกมา ตาก็มองมาทางผมกับพี่พนักงานเเล้วจากนั้นก็เสหน้าไปอีกด้าน ใบหน้าคมเข้มเเบบชาวตะวันตกไม่ได้มีรอยยิ้มบางประดับเเบบเดิมมันทำให้ใจผมกระตุกวูบ
เเล้วไอหมาตัวนั้นล่ะเห้ย
"ตอนนี้น้องปลอดภัยเเล้วนะคะ เเต่คงต้องให้อยู่ที่นี่รักษาอาการก่อนประมาณสองถึงสามวัน"จากนั้นเสียงผู้หญิงก็ดังออกมาจากร่างของไอฝรั่ง ไม่สิ..คนที่อยู่ข้างหลังมากกว่า
"เเล้วค่ารักษา.."
"ทางเราจะไม่คิดค่ารักษาใดๆค่ะ อย่างที่น้องบอกพวกเราทำงานผิดพลาดกันเอง"ผมยิ้มเเห้งๆให้พี่พนักงาน ตอนนั้นเผลอไปว่าเขาด้วยอารมณ์ล้วนๆ
ผมที่ยังมีมารยาทอยู่เลยค้อมหัวกล่าวขอบคุณพี่เขาก่อนจะพาร่างสูงเดินออกมาข้างนอก เราไม่พูดไม่จากันเหมือนปกติ เพราะถึงพูดกูก็ไม่เข้าใจ
"เอ่อ.."มันเป็นฝ่ายส่งเสียงออกมาก่อน ผมหันไปมองคนที่เดินตามหลัง เห็นมันจับเสื้อสีเข้มที่เปื้อนเลือดเเล้วสะบัดๆเล็กน้อย
ก็ว่าทำไมตอนเดินมาคนมองกันจัง สงสัยคิดว่าพวกเราไปฆ่าใครตายล่ะมั้ง
"ถอดๆ เดี๋ยวไปซื้อให้ใหม่"ผมก็พูดไปงั้นๆ เพราะสุดท้ายก็เป็นผมเองที่เอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิร์ตให้มัน มันผงะเล็กน้อยเเต่ก็ไม่ได้ปัดมือผมออกปล่อยให้ผมปลดลงมาเรื่อยจนถึงเม็ดสุดท้าย ผมก็กระชากเสื้อมันออกเเล้วโยนไปในกองขยะเเถวๆนั้นโดยลืมคิดไปว่าเสื้อที่มันใส่อยู่คือเสื้อผม..
อ่าวเห้ย!! เสื้อกูนี่หว่า!!
[/size]