ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
.::.กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่ .::. (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)
เรื่องนี้ได้รับการอนุญาติให้เอามาลงจากคนเขียนแล้ว นะค่ะ ดดยที่งานเขียนชิ้นนนี้ ตอนต้นๆๆคนเขียนใช้ชื่อว่า ทิวารา แต่ตอนหลังได้เอา ชื่อเดิมมาใช้ คือ ชื่อLuvless คะ เด่วยังไงเจ้าของผลงานคงเข้ามาดุการโพสลงที่บอร์ดนี้ ถ้าสนใจจะคุยกะคนเขียนโพสบอกได้ นะค่ะ :m13: :m17: :m22:
ราตรีประดับดาว 1
โดย:ทิวารา
เงาไม้ใกล้เรือนแผ่ปกจนเมื่อเด็กหนุ่มมองฟ้ายามค่ำผ่านบานหน้าต่างก็ชวนให้คิดถึงความอ่อนหวานละมุนของใครบางคน แสงจันทร์คืนนี้นวลตาดูงามนัก แสงที่ฉายบางนั้นดูอ่อนบางตามธรรมชาติของแสงเดือนเหมือนนิสัยของใครบางคนที่คุ้นเคย
“ วา...เจ้าอยู่ไหน ? ”
เสียงทุ้มละมุนเอ่ยจากด้านนอก พร้อม ๆ กับเสียงย่างเท้าย่ำเบาให้ได้ยินวะแว่วมา
“ คุณพี่... ”
เสียงน้อย ๆ ยินดีก่อนที่จะขยับลุกขึ้นช้า ๆ พร้อม ๆ กับที่คนตัวสูงกว่าจะเปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ พร้อมกับอ้าแขนออกกว้างขวางเตรียมกอดน้องชายของตน
“ วันนี้ทำไมวาไม่ไปเรียนหือ ? พี่แวะรับก็ไม่เจอ...ตกใจเสียแทบแย่ ”
“ ก็...คุณพี่ไม่บอก ไม่งั้นจะได้... ”
ฟังเพียงนั้น...คนพี่ก็เอ็ดเอาเบา ๆ
“ บอกกี่หน...ไม่ให้เรียกคุณพี่ ให้เรียกพี่สนไง...วา ”
ทิวาน้อยทำหน้าเศร้า...เมื่อคิดถึงความไม่ถูกไม่ควรหากเรียกคุณสนธยาของคนในบ้านเป็นคำอื่น ถึงอยากเรียกเพียงไหนก็ไม่อาจทำได้ดังที่ใจต้องการ ได้แต่เพียงเรียกขณะอยู่เพียงลำพังพี่น้องเท่านั้น
“ วันนี้พี่เด็ดดอกมะลิมา...วาชอบไหม? ”
เป็นที่รู้ว่า...คุณสนธยาตามใจก็แต่ทิวา รักใคร่ก็แต่ทิวา สนใจ...ก็แต่ทิวา
เพียงแค่นึกถึงมาลิ เขาก็ช่างสรรหามาให้ อยากทานอะไร...เขาก็ช่างไปหามาให้ทาน โดยที่ดวงตาที่นิ่งสงบแลฉ่ำเย็นไม่มีแม้แต่ร่องรอยบอกว่าเดือดร้อนรำคาญใจ
“ พี่สน...วาไม่อยากไปโรงเรียนเลยจ้ะ วาไม่ไปได้ไหม? ”
ทิวาก้มหน้าลงน้อย ๆ เมื่อนึกถึงยามที่เพื่อนร่วมเรียนพูดแปลก ๆ พาให้ไม่สบายใจอยู่เสมอ
“ วา...ไม่ได้นะ เด็กดี...อดทนนะวานะ หากใครทำให้เจ้าต้องรู้สึกเสียใจขอให้บอกพี่มาเท่านั้น แต่วาต้องไปเรียน...ไม่อย่างนั้นแล้วคนเขาจะหาได้ว่าน้องของพี่เป็นคนไม่มีความรู้ ”
ทิวาหยิบดอกมะลิจดปลายจมูกค่อยยิ้มให้คนตัวสูง กลิ่นหอมอ่อนหวาน ไม่ฉูดฉาด...เพราะเหตุนี้จึงได้นึกชอบดอกมะลินักหนา จะว่าไป...นิสัยใจคอของสนธยาก็เย็นระเรื่อย อ่อนหวานเหมือนน้ำลอยมะลิ ใบหน้าคมมักมีรอยยิ้มบาง ๆ พร้อมกับดวงตาสีเข้มประกายคมแต่แลดูอ่อนหวาน
“ พี่สน...คืนนี้นอนกับวาได้ไหม? ”
“ เอาสิ...พี่ก็ตั้งใจอย่างนั้นอยู่ นี่ก็บอกคนที่บ้านโน้นไว้ว่าคืนนี้จะมานอนเป็นเพื่อนวา ”
ความหอมอ่อนหวาน กลิ่นตัวและกลิ่นแป้งผสมกลิ่นเหงื่อลอยจางบางเบาในบรรยากาศ ในขณะที่พี่ชายค่อย ๆ จูงมือนุ่มนิ่มของน้องเดินพาขึ้นไปนอนบนเตียงไม้ก่อนที่จะเอนกายลงไปบ้าง
“ พี่สน...ตอนเช้าปลุกวาได้ไหม ? ”
คนเป็นพี่ได้แต่มองดวงหน้าของน้องนิ่งนานพร้อมกับรอยยิ้มบางเบาโดยไม่เอ่ยตอบ ก่อนที่เจ้าตัวจะใช้มือลูบหลังของน้องไปพร้อม ๆ กับที่น้ำเสียงทุ้มเย็นร้องเพลงกล่อมไปเบา ๆ
ลมเย็น ๆ ...พร้อมกลิ่นมะลิลอยอวลเบาบางจางเจือในห้วงคำนึง เป็นความสงบสุขที่หาไหนไม่ได้
แต่ถ้าหากว่า...มันจะยืนยงอยู่เนิ่นนาน นาน...กว่าแค่กาลหนึ่งก็คงจะดี
TBC...