พิมพ์หน้านี้ - 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ILLREI ที่ 24-12-2016 22:08:17

หัวข้อ: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 24-12-2016 22:08:17
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1. ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2. ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3. การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4. ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกัน

5. ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8. Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9. คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11. บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

12. ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13. ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14. ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16. นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17. ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


---------------------------------------------------------------------------------

【 ♕ Elven Almanac ♕ 】 ภาค ♰ ราชันพันธนาการ 【♰ BL High Fantasy ♰】

นิยายเรื่องนี้มีทั้งหมด 3 ภาคด้วยกัน
ภาค 1 ราชันพันธนาการ (ลงจบแล้ว)
ภาค 2 ราชินีอัปลักษณ์ Coming Soon!
ภาคนี้เป็นแนวชาย-หญิง จึงไม่นำมาลงในเล้า เนื้อหาเป็นเรื่องราวในอดีตก่อนเริ่มภาค 1
ท่านสามารถละไว้ไม่อ่านได้ (แต่คนเขียนอยากให้ลองอ่านนะคะ)
และสำหรับท่านที่สนใจ จะมี Link ให้อ่านต่อจนจบในอนาคตค่ะ

ภาค 3 สงครามสามแผ่นดิน Coming Soon!
ภาคนี้เป็นแนวชาย-ชาย เนื้อหาต่อจากภาค 1 จะนำมาลงในเล้าจนจบในอนาคตเช่นกันค่ะ

TBL-548-828
สั่งซื้อหนังสือภาค 1

สำหรับท่านที่ต้องการสะสมหนังสือภาค 1 เป็นรูปเล่ม พร้อมอ่านตอนพิเศษกว่า 150 หน้า
กรุณาอ่านรายละเอียด
>>ที่นี่ คลิก << (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57063.msg3661856#msg3661856)

ปกนิยายโดย Enfer De Hell © ILLREI 2017
เล่ม 1 ปกโคลด์
(https://k.lnwfile.com/oa694d.jpg)
เล่ม 2 ปกซิกฟรีด (จบ)
(https://k.lnwfile.com/jnej2h.jpg)

---------------------------------------------------------------

“สิ่งที่ข้าต้องการ คือตัวเจ้า”

ราชาแห่งเอลฟ์กล่าวกับนักฆ่าดาร์กเอลฟ์เมื่อกลับมาพบกันอีกครั้ง
สองเผ่าพันธุ์เกลียดชังกันตั้งแต่บรรพบุรุษ
เอลฟ์เป็นนาย ดาร์กเอลฟ์เป็นทาส
ทว่าชะตากรรมเล่นตลก ราชากับนักฆ่าผูกพันกันลึกซึ้งเกินกว่าใครจะคาด
ความรักในวัยเยาว์และความสัมพันธ์ของนายกับทาสดำเนินมาถึงสิบปี
กระทั่งวันหนึ่ง ดาร์กเอลฟ์เอ่ยปากว่า
‘ข้าจะไปตามหาคนรัก’
เจ้าชายเอลฟ์จึงยอมปล่อยตัวทาสดาร์กเอลฟ์ไป
แต่ไม่เคยลืมความรักและการถูกทรยศหัวใจ!

--------------------------------------------

ความเร้าใจ (?) ของเรื่องนี้คือเป็น Boy Love ผสม Normal Love
(ไม่มีรักสามเส้าแบบ 1 หญิง 2 ชาย หรือ 1 ชาย 2 หญิง
มีแค่คู่ชาย-ชาย กับหญิง-ชาย และจิ้นยูริได้ *0*)
สัดส่วน BL จะมากกว่า แต่ NL ก็แซ่บและเด็ดไม่แพ้กันค่า!

--------------------------------------------
I L L R E I © 2016-2018
--------------------------------------------
หัวข้อ: Re: 【♕ Elven Almanac ♕】 ภาค ♰ ราชันพันธนาการ 【♰ BL High Fantasy ♰】
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 24-12-2016 22:20:50
บทนำ : แรกพบหน้า

เสียงหมาป่าเห่าขรมทำลายความเงียบสงัดยามราตรี เรียกความสนใจจากเด็กหนุ่มดาร์กเอลฟ์ ร่างผอมบางผิวสีม่วงอมเทาชะงัก เป็นเรื่องปกติที่ฝูงหมาป่ามักมาแย่งกันกินซากศพนอกค่ายพักแรมผู้อพยพ

คืนนี้โคลด์นอนไม่หลับ จึงลอบออกมาด้านนอกกำแพงป้อม นั่งมองเทพีจันทร์แขวนอยู่กลางท้องฟ้า เขาไม่เกรงความผิดหากถูกจับได้ว่าลอบออกมา อย่างไรทหารเอลฟ์ก็ไม่สนใจอยู่แล้วว่าดาร์กเอลฟ์จะอยู่หรือตาย หายไปหรือโดนหมาป่ากิน

คราแรกโคลด์ไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับพวกหมาป่า ทว่าประสาทหูฉับไวกลับได้ยินเสียงเด็กแทรกมากับเสียงเห่า เขาลุกขึ้น เดาว่ามีเด็กชาวดาร์กเอลฟ์แอบออกมาข้างนอกแบบตน

ช่วยหรือไม่ช่วยดี...

โคลด์คิด ก่อนตัดสินใจคว้าคบไฟจากกำแพงติดมือมาอันหนึ่ง เขาวิ่งไปทางต้นเสียง สรุปในใจว่าชั่วดีอย่างไรก็ช่วยๆ เด็กมันไปเถอะ ถือว่าเป็นดาร์กเอลฟ์เหมือนกัน

ทว่าสิ่งที่โคลด์ได้พบกลับเกินความคาดหมายไปไกลลิบ

เด็กคนนั้นเป็นชาวเอลฟ์ อายุประมาณแปดเก้าขวบ กำลังถูกฝูงหมาป่าต้อนเข้ากำแพง เด็กน้อยตัวสั่น แต่แววตาสู้ เขากำลังพูดภาษาอื่น ซึ่งไม่ใช่ทั้งภาษาเอลฟ์และดาร์กเอลฟ์

หมาป่าแยกเขี้ยว น้ำลายย้อย เด็กชาวเอลฟ์พยายามถอยให้ชิดกำแพงที่สุด เหมือนอยากฝังตัวลงในกำแพงเพื่อหนีฝูงหมาป่า

“ไป! ข้าสั่ง!” คราวนี้เป็นภาษาเอลฟ์ เสียงเล็กๆ ผยอง แม้ว่าตัวจะสั่นหนักขึ้นเรื่อยๆ “ไปซะ!”

“ไป!” โคลด์ตะโกนแทรก เขากระโดดฝ่าเข้ามาจากด้านหลังฝูงหมาป่า เผาหางและขนเหม็นสาบของพวกมันด้วยไฟจากคบไฟ พอฝ่าเข้าไปได้ก็กดหัวเล็กๆ ของเด็กชาวเอลฟ์ให้หมอบหลังตัวเอง “ไล่เฉยๆ มันไม่ไปหรอก ต้องนี่!” โคลด์วาดคบไฟใส่หน้าบรรดาหมาป่าที่แยกเขี้ยวขู่แฮ่ๆ “เอาสิ กล้าเข้ามาจะเผาให้ตาบอด!” โคลด์ตะคอกหมาป่า “ไป๊!”

“เผาเลยสิ! เจ้าดาร์กเอลฟ์!” เด็กน้อยตะโกนสั่ง “ฆ่ามัน!” เขากำชายเสื้อของผู้มาช่วยเหลือแน่น

“หุบปาก หมอบไปเฉยๆ ไอ้เด็กเอลฟ์!” โคลด์ยิ่งกดหัวเด็กชาวเอลฟ์แรงขึ้น อีกมือก็แหย่คบไฟเผาหน้าหมาป่าตัวหนึ่งที่กระโจนเข้ามา เด็กหนุ่มดาร์กเอลฟ์ใช้ทั้งไฟและเสียงขู่ตะคอกไล่พวกมันโดยไร้ความกลัวเกรง เสียงนั้นข่มขวัญ ไฟร้อนฉ่า พวกหมาป่ากลัวไฟ เหยื่อตัวใหม่ก็ไม่ยอมถูกล่า พวกมันถอยหนีไปเมื่อถูกไฟเผาจนร้องเอ๋งกันถ้วนหน้า

เด็กน้อยมุดหลังโคลด์ น้ำตาไหลอาบหน้าด้วยความโล่งใจที่บิดาแห่งความตายพลาดโอกาสเก็บวิญญาณของตน เขาพูดงุบงิบฟังไม่ได้ศัพท์อยู่ด้านหลัง คล้ายๆ จะบอกว่า “ขอบใจ…”

พอโคลด์หันมาได้เห็นเต็มตา ก็พบว่าเด็กชาวเอลฟ์แต่งกายแบบขุนนางชั้นสูง ผมสีทองสว่างยิ่งกว่าแสงของเทพีจันทร์ ดวงตาฉ่ำเป็นสีแปลกคล้ายแร่เงินในเบ้าหลอมสีส้มแดงร้อนจัด

“ลูกคุณหนูขุนนางที่ไหนมาทำอะไรแถวนี้” โคลด์อุ้มร่างเบาหวิวแบกพาดบ่า อีกมือถือคบไฟ เดินเลียบกำแพงกลับประตูป้อมที่ใกล้ที่สุด

“เสียมารยาท อุ้มข้าดีๆ เดี๋ยวนี้!” เด็กน้อยร้องโวยวาย “ข้าคือซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์!”

“ไม่รู้จัก ไม่ตายก็บุญแล้ว ยังจะบ่น ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเด็กนะ ไม่ช่วยหรอก” โคลด์โยนเอลฟ์คุณหนูลงหน้าประตูป้อม ทุบประตูไม้ปึงๆ เพื่อเรียกทหารยามมา

“ข้าเป็นเจ้าของแผ่นดินนี้ เจ้าดาร์กเอลฟ์!” เด็กน้อยนามซิกฟรีดกระทืบเท้า “เจ้าเป็นแบบที่พี่ริวอร์นอร์พูดไม่มีผิด”

“ไปบอกหมาป่าไป๊! มันคงฟังเจ้าหรอก” พอได้ยินเสียงทหารยามใกล้เข้ามา โคลด์ก็ยัดคบไฟใส่มือเล็กๆ “เอ้า ถือไว้ เดี๋ยวก็มีคนมารับแล้ว อย่าบอกว่าเจอข้าล่ะ”

ชั่วขณะที่มือแตะกัน เด็กน้อยสะดุ้ง ตาดำเหลือกกลับขึ้นไปซ่อนในเปลือกตา ปากเล็กๆ พูดภาษาเก่าแก่คล้ายร่ายเวท ใบหน้าแหงนเงยขึ้นมองท้องฟ้า

เจ้าชายพระองค์เล็กแห่งราชวงศ์รูเมเรียร์ล้มลงกับพื้น สรรพเสียงดังอย่างไร้ที่มา ทั้งเสียงหมาป่าหอน เสียงนกสับสน เสียงสัตว์กลางคืนระเบ็งแข่งกัน ลมโหมแรงเหมือนพายุ แม้แต่ภูตผียังลุกขึ้นมากรีดร้องก้องไปทั่ว

แต่เพียงครู่เดียว ทุกอย่างก็สงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

โคลด์มองเด็กที่จู่ๆ ก็ล้มสลบไปแบบงงๆ ไหนจะเหตุประหลาดที่เพิ่งเกิดขึ้น คบไฟร่วงจากมือเล็กๆ มากลิ้งอยู่บนพื้น เสียงทหารยามอยู่อีกฝั่ง กำลังเลื่อนเปิดกลอนประตู

เด็กหนุ่มชั่งใจ เขาจะโดนหาว่าทำร้ายไอ้เด็กเอลฟ์นี่หรือเปล่า...ถ้ามันเป็นลูกขุนนางจริงก็ยิ่งยุ่งยากไปกันใหญ่

โคลด์ตัดสินใจหนีไปหลบหลังต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล แอบดูจนประตูป้อมเปิดออก ทหารเอลฟ์พบไอ้เด็กผิวเผือกแล้ว ท่าทางตกใจสุดขีด ร้องตะโกนวุ่นวาย รีบอุ้มมันเข้าไปข้างใน

เห็นดังนั้นโคลด์ก็โล่งใจ เขารอจนคบไฟบนพื้นดับไปเอง ให้บรรยากาศนอกป้อมมืดและเงียบลงอีกครั้ง จึงค่อยออกจากที่ซ่อน กลับที่พักของตน

นั่นคือการพบกันครั้งแรกระหว่างโคลด์กับซิกฟรีด

--------------------------------------------------

ปูมบันทึกตำนานแห่งเอลฟ์

นานมาแล้ว ยังมีบิดาและมารดาแห่งนภา ครองคู่กันอย่างมีความสุข ทว่าชีวิตคู่อันยาวนานช่างเงียบเหงา พวกท่านจึงให้กำเนิดบุตรเพื่อทำให้ชีวิตคู่สดชื่นขึ้น

บุตรคนแรกคือพระอาทิตย์

เมื่อบิดาแห่งนภาอุ้มชูพระอาทิตย์ แสงสว่างก็สาดไปทั่วผืนฟ้า ทำให้เห็นว่ามีดาวดวงหนึ่งแอบอยู่ในห้วงจักรวาลไพศาลที่เคยมืดมิด ดาวดวงนั้นมีสีสันสวยงาม เรืองรองเป็นสีเขียวและฟ้า

บิดาแห่งนภาได้พบสหายคนใหม่—บิดาแห่งธรณี ณ ที่นั่น

“นี่คือ ‘โลก’ ” บิดาแห่งธรณีกล่าว แนะนำว่าโลกคือบุตรของท่านที่เกิดกับมารดาแห่งนที (แม่น้ำ)

บิดาแห่งนภานำข่าวกลับมาเล่าให้ภริยาฟัง ขณะนั้นมารดาแห่งสมุทร (มหาสมุทร) ผู้เป็นน้องสาวของมารดาแห่งนภาก็อยู่ด้วยเช่นกัน ทั้งสามจึงชวนกันมาเยี่ยมชมโลก

โลกจึงมีท้องฟ้า พระอาทิตย์ และมหาสมุทรห้อมล้อมอยู่เบื้องบน

ต่อมาบิดาและมารดาแห่งนภาให้กำเนิดจันทร์—ธิดาผู้ให้แสงสว่างนวลตาแก่โลก ยามกลางวัน บิดานภาจะอุ้มบุตรพระอาทิตย์ ตกกลางคืน มารดานภาจะอุ้มธิดาจันทร์

โลกอาบแสงอาทิตย์และแสงจันทร์ คอยเลี้ยงดูต้นไม้และสัตว์ป่า เหล่าพี่น้องที่กำเนิดจากบิดาธรณีและมารดานทีอย่างมีความสุข

กระทั่งโลกสังเกตว่ามีดวงจันทร์แขวนอยู่บนฟ้าสองดวงพร้อมกัน

โลกกระซิบถามมารดานที มารดานทีกระซิบถามมารดานภา มารดานภาเค้นความจริงเอากับสามีจนได้คำตอบ

‘จันทร์ดวงที่สองเป็นธิดานอกสมรสซึ่งเกิดแก่บิดานภากับมารดาสมุทร’

มารดานภาเสียพระทัย แต่ไม่อาจตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร เพราะมารดาสมุทรก็เป็นน้องสาวสุดที่รักของท่าน ช่วงนั้นโลกได้รับผลกระทบวิปริต เดี๋ยวมีดวงจันทร์ บ้างไม่มี บางครั้งขึ้นสองดวงพร้อมกัน ทำให้ท้องฟ้าและผืนน้ำระส่ำระสาย แผ่นดินเอียงวูบ เดือดร้อนถึงมารดานทีต้องขึ้นมาเจรจา สุดท้าย ทั้งหมดจึงตกลงกันว่าให้มารดาสมุทรลงมาอยู่บนโลก ส่วนธิดาจันทร์ดวงแรกที่เกิดกับมารดานภานั้น ให้พำนักอยู่กับมารดานที—หรือในแม่น้ำ

มารดานทีพามารดาสมุทรลงมายังโลกในรูปแบบของฝน โลกผจญพายุฝนตกหนักรุนแรงติดต่อกันหลายสัปดาห์ ผืนป่าราบเป็นหน้ากลอง รากต้นไม้หลุดจากปฐพี ฝูงสัตว์ป่าถูกมหานทีพัด

เมื่อสายฝนอันมืดฟ้ามัวดินหยุด โลกก็อุ้มรับทะเลไว้ถึงสามในสี่ส่วน

จากนั้นบิดาและมารดาแห่งนภาก็ให้กำเนิดเอลฟ์—เผ่าพันธุ์อันสืบทอดความภาคภูมิใจและเกียรติยศ

ตำนานแห่งความผาสุขเหมือนจะดำเนินไปอย่างเจิดจรัส

ทว่าไม่กี่ปีต่อมา กลับมีอีกเผ่าพันธุ์หนึ่งถือกำเนิดขึ้นในสถานที่อันอุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก นั่นคือดาร์กเอลฟ์—บุตรและธิดาของบิดานภากับมารดาสมุทร

เป็นหลักฐานว่าพี่เขยและน้องภริยายังลักลอบสมรักกัน

ถึงอย่างนั้นดาร์กเอลฟ์ก็ได้รับความรักจากบิดาและมารดาทุกพระองค์ เพราะพวกท่านถือว่าบุตรไม่จำเป็นต้องแบกรับความผิดของผู้ให้กำเนิด...กระทั่งวันหนึ่ง ดาร์กเอลฟ์ทำผิดกฎของสรรพสิ่งอย่างร้ายแรงที่สุด

นั่นคือการคิดค้นเวททมิฬ เล่นแร่แปรธาตุกับผู้วายชนม์ซึ่งพำนักอยู่ในอ้อมกอดของบิดาแห่งธรณี

ความผิดครั้งนี้ทำให้บิดานภาไม่อาจช่วยเหลือ มารดานทีลงโทษด้วยการริบแม่น้ำ บิดาธรณีลงโทษด้วยการริบดินดำอันสมบูรณ์ เมตตาเหลือไว้เพียงสินแร่ใต้พิภพ โลกลงโทษด้วยการให้แผ่นดินไหวและภูเขาไฟ แดนทมิฬจึงแห้งแล้ง ฝนตกนานครั้ง พันธุ์ไม้ที่อยู่รอดส่วนมากเป็นพันธุ์ไม้มีพิษ

ด้วยเหตุนี้ ดาร์กเอลฟ์จึงมักทำสงครามแย่งชิงทรัพยากรจากเอลฟ์ ไม่นับว่าเอลฟ์ต้องเผชิญกับความโกรธาของมารดาสมุทร ทะเลฝั่งดาร์กเอลฟ์อุดมไปด้วยปลาและสัตว์ทะเล ขณะที่ทะเลฝั่งเอลฟ์อุดมไปด้วยคลื่นคลั่งและปะการังมีพิษ

หากถามว่ารากของความผิดอยู่ที่ใด เอลฟ์ไม่อาจกล่าวโทษดาร์กเอลฟ์ได้ทั้งหมด เช่นเดียวกับมารดานภาไม่อาจกล่าวโทษธิดาจันทร์ดวงที่สอง

แต่เราคิดว่าดาร์กเอลฟ์สมควรยืดอกรับผลแห่งการกระทำของตนอย่างลูกผู้ชาย

เพราะถ้าเป็นเรา เราก็จะทำแบบนั้นโดยไม่บ่นสักคำเดียว

พระราชหัตถเลขาอันงดงามของ
องค์ชายซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์
ในพระชันษาเก้าขวบปี

--------------------------------------------------

ปูมบันทึกตำนานแห่งดาร์กเอลฟ์

เราคือบุตรแห่งรัตติกาล ผู้มีผิวสีม่วงอมเทาดุจสีน้ำทะเลใต้เงาของแสงจันทร์ เรากำเนิดจากบิดานภากับมารดาสมุทร

มารดาผู้ถูกขับไล่เพราะความผิดที่นางมอบความรักให้แก่พี่เขยของตน นอกจากถูกขับไล่จากนภาให้ลงมายังแผ่นดินโลก มารดานภายังสาปให้สีผิวของมารดาสมุทรและลูกหลานของนางเป็นสีราตรีกาล เพื่อประจานความผิดจากการลักลอบสมรัก

หากพวกเจ้าเรียกว่าการเป็น ‘เมียน้อย’ คือความผิดนะ ทั้งที่ข้าว่ามันธรรมดาออกจะตายที่ดาร์กเอลฟ์คนหนึ่งจะมีภริยาได้หลายคน ยิ่งพวกหัวหน้าเผ่าใหญ่ๆ ล้วนมีภริยาทั้งหญิงและชายมากมายเป็นฮาเร็ม

อีกอย่าง คำว่าเมียน้อยอะไรเนี่ยก็เขียนไม่ถูกต้อง เพราะพวกเอลฟ์มักใช้คำเข้าข้างตน

มารดาสมุทรคือ ‘คนรักอีกคนหนึ่ง’ ของบิดานภาต่างหาก มารดานภานั่นแหละที่ขี้หึงผิดปกติ เป็นพี่สาวแท้ๆ ยังจะหวงผู้ชายกับน้องสาวอีก ผู้ชายดีๆ สมควรแบ่งกันใช้สิ ไม่อย่างนั้นจะมีลูกหลานเยอะๆ ได้อย่างไรกัน

เผ่าไหนในดินแดนทมิฬที่ไม่มีลูกหลานเยอะๆ คือพวกไร้น้ำยาไม่ก็พวกปลงตก รอวันโดนเชือดทิ้งเพราะไม่มีกำลังไว้สู้รบ

พูดถึงลูกหลานของบิดานภากับมารดาสมุทร ข้าชอบบุตรีองค์แรกสุด...

นางคือ ‘เทพีจันทร์เซฮาไนน์’

กวีบรรยายว่าผิวของนางงามเหมือนสีดอกไลแลค[1] ริมฝีปากเรืองรองเหมือนกลีบดอกไวลด์บลูฟลอกซ์[2]

นางเป็นเทพีแห่งปัญญา ดวงจันทราผู้ส่องแสงนำทางบุตรและธิดาดาร์กเอลฟ์เหนือราตรีกาลอันมืดมิด

แต่พวกเอลฟ์อีกนั่นแหละที่กล่าวหาว่านางเป็นแค่ธิดานอกสมรส อย่าริอ่านมาเป็นเทพีจันทร์ ให้ละอายแก่ธิดาจันทร์องค์แรกผู้ยอมเสียสละเป็นเพียงเงาสะท้อนบนผืนน้ำ

หึ! อะไรๆ พวกเอลฟ์ก็ว่าพวกเราผิด ว่าพวกเราถูกสาป มีสีผิวดั่งบาป ไม่สมควรเกิดมา ช่างยโสโอหัง ข้าละเกลียดพวกมันจริงๆ

การบ้าน เขียนด้วยลายมือหวัดๆ
วาดรูปดาว ★ แทนชื่อผู้เขียน

--------------------------------------------------

[1] ไลแลค (Lilac) ดอกไม้สีม่วง ขึ้นเป็นช่อ มีหลายเฉดสี
[2] ไวลด์บลูฟลอกซ์ (Wild Blue Fox) ดอกไม้ป่าสีม่วง


A/N สวัสดีค่ะ ฟ้าค่ะ ไม่ได้ลงนิยายใหม่แบบจริงจังมานานแล้ว ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
เรื่องนี้หลักใหญ่ใจความเขียนเพราะอยากอ่านเอลฟ์กดดาร์กเอลฟ์ค่ะ! /ฮา พบกันพรุ่งนี้ค่ะ ;) จะเข้าบทที่ 1 กันละ
ป.ล. ภาพที่แนบมาคือแผนภูมิเทพเจ้าของเรื่องนี้ค่ะ เผื่อใครอ่านแล้วงงเนอะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】 ภาค ♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ 【♰ BL High Fantasy ♰】
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 25-12-2016 08:24:31
เดี๋ยวนะ อ่านตอนแรกนึกว่าดาร์กเอล์ฟจะกดเอล์ฟ พออ่านทอล์กแล้ว ฮ๊ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】 ภาค ♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ 【♰ BL High Fantasy ♰】
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-12-2016 12:07:36
คุณ sirin_chadada @ เราอยากอ่านเอลฟ์นักรบหล่อล่ำกดนักฆ่าดาร์กเอลฟ์ค่ะ เลยเขียนเองเลย แหะๆๆ โดนรีเควสให้ดาร์กเอลฟ์แก่กว่าด้วย U_U /ขอบคุณที่มาเปิดซิงคอมเมนต์แรกของเราในบอร์ดเล้านะคะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】 ภาค ♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ 【♰ BL High Fantasy ♰】
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 25-12-2016 12:55:40
นานๆ จะหาเรื่องวายแนวไฮแฟนตาซีอ่านได้อย่างจริงจังสักครั้งหนึ่ง ชอบปกรณัมของการกำเนิดสรรพสิ่งนะคะ น่าสนใจมากๆ มีความเป็นเหตุเป็นผลต่ออุปนิสัยของชาวกาฬภูตเป็นอย่างดี เพราะถูกมองว่าเป็นลูกเมียน้อย ชาวกาฬภูตก็ไม่แปลกเลยที่อาจมองเผ่าอื่นๆ ในมุมที่ต่างออกไป

ซิกฟรีดนี่มีอะไรพิเศษกว่าเอลฟ์โดยทั่วไปหรือเปล่าคะ? ไฉนจึงพูด 'ภาษาอื่น' อันไม่ใช่ภาษาเอลฟ์หรือดาร์กเอลฟ์ได้ ซ้ำยังเหตุการณ์ที่เขาร่ายพระเวทตรงหน้าประตูค่ายนั้นอีก อย่างนี้น่าคิดนะคะว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว

ขออนุญาตเกาะขอบกระทู้ ตามลุ้นตามรักนะคะ อิอิ

ขอบคุณมากๆ ค่า ^____^

ป.ล. กดคะแนนตีไข่แตกให้หนึ่งคะแนนนะคะ สำหรับเรื่องสนุกๆ ค่า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】 ภาค ♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ 【♰ BL High Fantasy ♰】
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 25-12-2016 14:00:44
 :o8: :o8: :o8: :o8: น่าสนุก
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】 ภาค ♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ 【♰ BL High Fantasy ♰】
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-12-2016 15:27:33
นานๆ จะหาเรื่องวายแนวไฮแฟนตาซีอ่านได้อย่างจริงจังสักครั้งหนึ่ง ชอบปกรณัมของการกำเนิดสรรพสิ่งนะคะ น่าสนใจมากๆ มีความเป็นเหตุเป็นผลต่ออุปนิสัยของชาวกาฬภูตเป็นอย่างดี เพราะถูกมองว่าเป็นลูกเมียน้อย ชาวกาฬภูตก็ไม่แปลกเลยที่อาจมองเผ่าอื่นๆ ในมุมที่ต่างออกไป

ซิกฟรีดนี่มีอะไรพิเศษกว่าเอลฟ์โดยทั่วไปหรือเปล่าคะ? ไฉนจึงพูด 'ภาษาอื่น' อันไม่ใช่ภาษาเอลฟ์หรือดาร์กเอลฟ์ได้ ซ้ำยังเหตุการณ์ที่เขาร่ายพระเวทตรงหน้าประตูค่ายนั้นอีก อย่างนี้น่าคิดนะคะว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว


คุณ Wordslinger @ ขอบคุณค่ะ ตีไข่แตกให้ด้วย  :mew1: คะแนนแรกเปิดซิงเช่นกัน ช่างสังเกตมากเลยค่ะ เรื่องภาษาอื่นที่ซิกฟรีดพูด มีความหมายในเรื่องค่ะ ความหมายของมันจะค่อยๆ คลี่ออกมาและเฉลยไปตามเนื้อเรื่อง ;) รออ่านนะคะ

คุณ darinsaya @ ขอบคุณที่ให้ความสนใจ แวะเข้ามาคอมเมนต์นะคะ :)

คืนนี้จะลงตอนต่อ อาจค่ำหน่อย แต่ลงแน่นอนค่ะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】 ภาค ♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ 【♰ BL High Fantasy ♰】
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 25-12-2016 15:43:39
ไม่ค่อยได้อ่านแนวนี้เท่าไหร่
แต่พอลองแล้วน่าสนใจมากๆ ครับ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】 ♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1-1 [25/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-12-2016 21:10:10
บทที่ 1 : ถ้ำมังกรศิลา (1-2)

โคลด์ย่องแอบหลังโขดหิน ตอนแรกที่อิลมาเรบอกว่าอย่าไปไกลนัก เขาทำหน้ามึนแล้วเดินออกมา ถ้ำใต้ดินแห่งนี้มีจุดพักแรมดีๆ อยู่ไม่กี่จุด ซึ่งเป็นสถานที่ที่อิลมาเรปักหลัก แต่เขาต้องการทำเงินมากกว่าช่วยแม่ค้าชาวดวอร์ฟเก็บผลึกแร่หายากไปขาย จึงเดินลึกเข้ามาภายในถ้ำ

หากฆ่ามังกรดินสักยี่สิบสามสิบตัว เก็บเขี้ยวของพวกมันไปขาย ถึงจะใช้เวลาเทียวไปเทียวมานานหน่อย เขาก็จะมีเงินจ่ายค่าซ่อมแซมมีดสั้นน้ำแข็ง—อาวุธคู่กายของตน

โคลด์ถนัดใช้อาวุธมีดสั้น เชี่ยวชาญการเร้นกายอย่างเงียบกริบ การลอบฆ่าในระยะประชิด อย่างแทงข้างหลังหรือปาดคอโดยที่เป้าหมายไม่รู้สึกตัวกระทั่งถูกคมมีดของเขาปลิดชีวิต

ใช่แล้ว โคลด์เป็นแอสซาสซิน นักฆ่าดาร์กเอลฟ์เลื่องชื่อผู้มีค่าจ้างสูงลิบลิ่วพอๆ กับที่มีคนต้องการตัว ทั้งต้องการจ้างวาน และต้องการล่าค่าหัว

แล้วเหตุใดนักฆ่าเลื่องชื่อต้องมาฆ่ากิ้งก่าเพื่อหาเงินล่ะ?

จะกล่าวว่าช่วงเวลานี้คือยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองของอาชีพแอสซาสซินในอาณาจักรรูเมเรียร์ก็ไม่ผิดนัก กษัตริย์เอลฟ์องค์ใหม่เพิ่งขึ้นครองบัลลังก์ พระองค์ให้องคมนตรีบัญญัติกฎหมายใหม่ขึ้นมาสองข้อ

หนึ่ง แอสซาสซินไม่ใช่อาชีพที่ได้รับการยอมรับในแผ่นดินรูเมเรียร์อีกต่อไป

สอง ทาสทุกเผ่าพันธุ์ในรูเมเรียร์จำต้องขึ้นทะเบียน โดยเฉพาะเผ่าดาร์กเอลฟ์ หากพ้นจากการเป็นทาสแล้วยังต้องมารายงานตัวเพื่อขึ้นทะเบียนอีกฉบับ ซึ่งว่าด้วยสิทธิและขอบเขตอาชีพที่ทำได้ในรูเมเรียร์ หากไม่ปฏิบัติตามจะถือว่าผิดกฎหมายแรงงาน และมีผลบังคับให้เนรเทศกลับแผ่นดินของตัวเองทันที

สรุปง่ายๆ ถ้าไม่ใช่เอลฟ์ ก็อยู่ยากในรูเมเรียร์

โคลด์เป็นทั้งแอสซาสซินและดาร์กเอลฟ์ ส่วนผสมอันลงตัว เหมาะเจาะพอดี

จะให้แอสซาสซินอย่างเขาไปลงทะเบียนหรือ จะให้พินอบพิเทาพวกเอลฟ์หรือ ไม่ว่าทางไหน โคลด์ไม่เห็นประโยชน์ว่าดี

ข้อดีของการมากับอิลมาเรคือ ดวอร์ฟทำการค้าในรูเมเรียร์มานาน เป็นคู่ค้ามากกว่าเป็นทาสอย่างดาร์กเอลฟ์หรือมนุษย์

ซ้ำแม่ค้ายังให้ความสำคัญกับคู่ค้ามากกว่าเรื่องหยุมหยิมเล็กน้อยอื่นๆ ซึ่งเรื่อง 'หยุมหยิมเล็กน้อยอื่นๆ' ในที่นี้ รวมถึงการเมินเฉยต่อคำบัญชาของกษัตริย์องค์ใหม่ทั้งสองข้อ

โคลด์ไม่แน่ใจว่าซิกฟรีดยังจำเขาได้หรือเปล่า

ตอนนี้เขาอายุยี่สิบห้าปี สิบสองปีแรกของชีวิตเขาอยู่ในบ้านเกิด สิบสามปีต่อมาอยู่ในแผ่นดินเอลฟ์ ในช่วงเวลาสิบสามปีนั้นเขาเป็นทาสอยู่สิบปี และได้เป็นไทเมื่อสามปีก่อน อดีตนายทาสของโคลด์ก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นเจ้าชายซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ ผู้ซึ่ง ณ ปัจจุบันคือกษัตริย์ซิกฟรีด—ราชาผู้ครอบครองรูเมเรียร์

เห็นได้ชัดว่าคงจำไม่ได้ เพราะอย่างน้อยในสมัยที่ซิกฟรีดเกือบโดนหมาป่ากินในสนามรบ ก็ได้โคลด์นี่แหละช่วยจากปากหมาป่า หรือตอนที่ซิกฟรีดยังเป็นเจ้าชายตัวเล็กๆ ก็ได้เขาซึ่งเป็นดาร์กเอลฟ์คอยดูแลรับใช้ โคลด์มั่นใจว่าเขาปฏิบัติต่อซิกฟรีดดีกว่าที่พวกเอลฟ์ปฏิบัติต่อดาร์กเอลฟ์หลายเท่านัก

โคลด์พบเป้าหมายแล้ว...มังกรดินสามตัว กำลังรุมกินหนูตัวโตด้วยท่าทางดุร้ายน่ากลัว

เขาถอนหายใจ ทดท้อใจขึ้นมาอีกครั้ง มีดสั้นของเขาต้องปลิดชีวิตตัวกินหนูงั้นหรือ...ความตกต่ำในอาชีพจริงแท้ เขาคงไม่สามารถบอกใครได้ว่า โคลด์ สตาร์—ดวงดาวเย็นชา—รับจ้างฆ่าด้วยมีดสั้นที่ใช้แงะฟันกิ้งก่าติดเนื้อหนู

โคลด์ยังไม่พร้อมจะใช้มีดสั้นน้ำแข็งแทนไม้จิ้มฟันให้พวกกิ้งก่า เขาลังเลระหว่างศักดิ์ศรีกับการซ่อมมีดสั้นแสนสำคัญเล่มนี้

ตอนนั้นเอง ใบหูแหลมยาวของโคลด์ได้ยินเสียงขบวนม้าย่างใกล้เข้ามา

เขาย่อตัวลง หลบอยู่หลังโขดหินที่เดิม ถึงจะบอกว่าเป็นถ้ำใต้ดิน แต่ก็เป็นถ้ำขนาดมโหฬาร จึงมีที่ให้ขบวนม้าเหลือเฟือ แต่กลุ่มคนที่ขี่ม้าเข้ามาในสถานที่แบบนี้ บอกได้เลยว่ามีให้เดาไม่มากนัก

พวกพ่อค้าหรือนักเก็บแร่จะไม่นำม้าเข้ามาเหยียบแท่งแร่เปราะบางซึ่งขึ้นเป็นกระจุกตามพื้นถ้ำ หรือนักล่าสัตว์ ย่อมไม่เคลื่อนขบวนใหญ่โตให้สัตว์แตกตื่น ทั้งยังไม่น่าจะใช่กองโจรหรือนักเดินทาง เพราะที่นี่ไม่อะไรให้ปล้น และไม่เหมาะแก่การพักแรม

ฟังจากเสียงการเคลื่อนขบวนอันเป็นระเบียบ กลุ่มคนอุกอาจเหล่านี้จึงน่าจะเป็นกลุ่มคนที่มีพื้นฐานอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวอยู่สองอย่าง หนึ่งคือร่ำรวย และสองคือหยิ่งยโส

พวก 'เอลฟ์' นั่นเอง

ไม่นาน ขบวนทหารเอลฟ์ก็เคลื่อนมาถึงจุดที่โคลด์แอบซ่อนอยู่จริงๆ ทหารนำขบวนสองนายยิงธนูเข้ากลางหน้าผากมังกรดิน—อดีตเหยื่อของโคลด์—อย่างแม่นยำ

กีบเท้าม้าเตะร่างมังกรดินเหล่านั้นให้พ้นทางอย่างไม่แยแส ไม่ได้ฆ่าเพื่อเงินทองหรือความสนุกสนาน แต่ฆ่าเพราะพวกมันขวางทาง

โคลด์คาดว่าน่าจะมีบุคคลสำคัญมากับขบวนทหารนี้ เพราะหน่วยก้านของทหารนำขบวนถือว่าไม่เลว

อย่างไรก็ดี เขาคือ 'โคลด์ผู้ไร้ร่องรอย' ระดับการแอบซ่อนตัวของเขาจึงสามารถรอดพ้นสายตาของทหารชั้นดีเหล่านั้นไปได้

โคลด์คิดว่าโชคในวันนี้ของเขาหมดเพียงเท่านี้ เขาจะรอให้ขบวนทหารเอลฟ์เคลื่อนผ่านไปก่อน จากนั้นก็กลับไปหาอิลมาเร บอกให้เลิกเก็บแร่แล้วขนของกลับบ้านเถอะ ถึงเธอจะคัดค้านและฉุนเฉียวไปบ้าง เขาก็มีแผนจะหิ้วเธอกลับโดยไม่ให้โต้แย้งอยู่ดี

ทหารเอลฟ์เข้ามาทำอะไรในที่แบบนี้...โคลด์อยากทราบเหมือนกัน...แต่ใจหนึ่งก็คิดว่าพอทราบ เพราะเขามีเป้าหมายอื่นนอกจากเก็บแร่กับล่ามังกรดินเช่นกัน แต่ไม่ว่าเป้าหมายของเขากับทหารเอลฟ์จะเหมือนกันหรือไม่ อิลมาเรก็ไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ และไม่ควรให้เด็กสาวตัวเตี้ยมู่ทู่อย่างเธอต้องเสี่ยงอันตราย

ทว่า โชคของโคลด์ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้

อิลมาเรเดินตามทหารนำขบวนมาด้วยท่าทางไม่เต็มใจนัก บนหลังแบกเป้ใบมหึมาขนาดเท่าตัวเธอ

สรุปว่าโคลด์ไม่อาจออกไปให้ทหารเห็น แต่ก็ไม่อาจทิ้งอิลมาเร

และโชคของเขายังขยายออกไปอีก

เขาเห็นธงประจำตัวของบุคคลสำคัญที่มีทหารชั้นดีแล้ว

ธงประจำตัวนั้นเป็นรูปวิหคเพลิง สัตว์ในตำนานที่ว่ากันว่าสามารถทำให้ธารน้ำกลายเป็นธารลาวา

ธงของซิกฟรีด

ซิกฟรีดเจ้านายเก่าของเขามาที่นี่

บุคคลสำคัญที่อยู่บนสุดของ 'ลิสต์บุคคลที่เขาไม่อยากเจอ'

วันนี้เป็นวันมหาโชคของโคลด์ ซึ่งเขาหมายถึง...โชคไม่ดี

—————————————————————————

ราชาก็เคยมีช่วงเวลาอันตกต่ำ

ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ เป็นรัชทายาทลำดับที่สี่ของราชวงศ์รูเมเรียร์

เจ้าชายเอลฟ์พระองค์เล็กมีพระเชษฐาสองพระองค์ และพระเชษฐภคินีหนึ่งพระองค์ ตามกฏ เจ้าชายซิกฟรีดไม่มีสิทธิ์ในบัลลังก์ของรูเมเรียร์เลย

เว้นเสียแต่พระเชษฐาและพระเชษฐภคินี ‘ทุกพระองค์ตามลำดับขั้น’ จะสิ้นพระชนม์โดยไร้ทายาท

เป็นที่น่าสลดใจ เพราะการขึ้นครองราชย์ของเจ้าชายซิกฟรีดก็เกิดขึ้นตามเงื่อนไขนั้น—ความตายของพี่ชายและพี่สาว

แต่เดิม เจ้าชายซิกฟรีดสนใจศิลปะด้านการทูตและการปกครองเช่นเดียวกับพระเชษฐาองค์โต หรือคิงเฟรธูริน อาร์ธีออน รูเมเรียร์ในเวลานั้น และด้วยพรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้พระองค์มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะฝึกเป็น ‘ควาร์’ หรือที่เอลฟ์เรียกกันอย่างชื่นชมว่า ‘ผู้ที่มีเสียงงาม’ หรือผู้ที่มีวาทศิลป์ดี

นอกจากนี้ ควาร์ยังสามารถเรียนเวทที่จำกัดให้เรียนได้เฉพาะ ‘เอลฟ์’ เท่านั้น

เจ้าชายซิกฟรีดจึงทูลพระเชษฐา ขอศึกษาในอาศรมของควาร์เอเรนดิลตั้งแต่อายุเพียงเก้าขวบปี

ในเวลานั้นโคลด์อายุสิบสองปี เป็นข้ารับใช้ปลายแถว พูดให้ถูกคือเป็นทาสเผ่าดาร์กเอลฟ์

ซิกฟรีดพบโคลด์ที่ป้อมปราการเมืองชายแดน ซึ่งใช้เป็นค่ายพักแรมผู้อพยพชาวดาร์กเอลฟ์ด้วย

คิงเฟรธูรินทรงอนุญาตให้พระอนุชาองค์เล็กตามมายังชายแดนได้ ทรงเลือกพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุดให้ แต่ตามคติความเชื่อของเอลฟ์ระบุว่า ‘ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด หากบิดาแห่งวายุกระพือปีกของท่านแล้ว โชคชะตาก็จะตามหาเจ้าจนพบ’

คืนหนึ่ง เจ้าชายซิกฟรีดออกมาเดินนอกป้อมคนเดียวได้อย่างไรก็ไม่ทราบ เจ้าชายน้อยถูกฝูงหมาป่าที่มากินซากศพล่า เป็นโคลด์ที่เข้ามาช่วย และพากลับไปส่งหน้าประตูป้อม

วันถัดมา มีประกาศตามหาตัวโคลด์จากคิงเฟรธูริน

ราชาเอลฟ์พระองค์นี้ประหลาด โคลด์ไม่เห็นแววตายโสหรือรังเกียจดาร์กเอลฟ์จากเขา

หลังจากนั้นโคลด์ก็ได้รับรางวัลเป็นการรับใช้เจ้าชายพระองค์เล็ก...ซึ่งหมายถึงเขาต้องติดตามซิกฟรีดกลับไปยังเมืองหลวงและไปอาศรมควาร์

ควาร์มีธรรมเนียมว่าผู้เข้ารับการฝึกจะต้อง ‘แสดงความมุ่งมั่น’ โดยการเดินทางไกลด้วยสองเท้า จากบ้านเกิดจนถึงอาศรม  ระหว่างเดินทางให้เงี่ยหูฟังเสียงกระซิบของสรรพสิ่ง ทั้งกรวด หิน ดิน ทราย แม่น้ำ กระทั่งเสียงลมจากทิศตะวันออก หรือเสียงไฟจากทิศใต้ เมื่อเส้นทางสิ้นสุดลงตรงหน้าอาศรมซึ่งอยู่ลึกในภูเขาและป่าศักดิ์สิทธิ์เดียดีอาร์ ผู้เข้ารับการฝึกจะได้รับคำถามว่า

‘ผู้ประสงค์เส้นทางยากลำบากนี้ ท่านได้ยินเสียงอันใด’

เพื่อทดสอบว่าผู้เข้ารับการฝึกมี ‘พรสวรรค์’ ที่จะได้ยินคำปริศนาซึ่งเหล่าควาร์ผู้ทดสอบฝากไว้กับธาตุในธรรมชาติ

ถูกต้อง ควาร์ต้องมีพรสวรรค์ในการได้ยินสิ่งที่ผู้อื่นไม่ได้ยิน

ทว่าคำถามแรกที่ซิกฟรีดต้องตอบไม่ใช่คำถามนั้น

เจ้าชายน้อยก้มหน้าอย่างสุภาพเมื่อได้ยินคำถามว่า

“ท่านทราบหรือไม่ว่าที่นี่ไม่อนุญาตให้มีผู้ติดตาม”

ซิกฟรีดกัดริมฝีปาก พยายามคิดหาคำตอบที่ดีที่สุด

“ข้าทราบ แต่โคลด์เป็น…”

ถึงตรงนี้โคลด์หูอื้อ เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ซิกฟรีดตอบ เจ้าชายเอลฟ์โต้ตอบกับควาร์อีกหลายประโยค มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ซิกฟรีดหันมายังเขา ก่อนจะหันกลับไปพูดอะไรบางอย่าง

ควาร์พยักหน้า

แล้วเขาก็รู้สึกแสบร้อนบริเวณลำคอ

โคลด์สังเกตว่าซิกฟรีดก็คลำรอบคอของตัวเองเหมือนกัน

“ไม่ต้องกังวลดาร์กเอลฟ์ แค่เวทผูกพันธะธรรมดา ไม่มีสิ่งใดต้องกังวล”

โคลด์เข้าใจว่านั่นคือตราทาส

จากนั้น ซิกฟรีดก็ต้องตอบคำถามตามธรรมเนียม โคลด์กลับมาหูอื้อ ไม่ได้ยินเสียงอะไรเช่นเคย แต่...ยิ่งปากของเจ้าชายน้อยขยับนานเท่าไร สีหน้าของควาร์ก็เคร่งเครียดเท่านั้น

เป็นความเคร่งเครียดที่แต้มเจือความหวาดกลัวเอาไว้อย่างแนบเนียน

“เส้นทางนี้ ท่านเลือกด้วยตัวของท่านเอง ขอควาร์อาเลธีโปรดอำนวยชัย”

ประตูเปิดออก กิ่งไม้สีเงินโน้มเข้าหากันเป็นซุ้มประตู โคลด์ยังไม่รู้ว่าเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ต่อไปอีกสิบปี


นอกจากไม่พอใจที่ถูกประทับตราทาสแล้ว โคลด์ยังไม่ยินดีอยู่ที่นี่ คราแรก เขาติดตามมารับใช้ตามพระบัญชาของคิงเฟรธูรินเพื่อหนีห่างจากชายแดน หากสบโอกาสก็จะขอแยกตัวไปตามทางของตน แต่ไม่คิดเลยว่าจะถูกล่ามไว้กับซิกฟรีด หรือกับที่นี่

โคลด์เป็นดาร์กเอลฟ์ที่อ่านออกเขียนได้ รูปร่างหน้าตาไม่เลว ผมสีเงิน ดวงตาสีม่วงเข้มจัด เบ้าตาลึก รูปตาเหมือนตาเหยี่ยว ดั้งจมูกสูง ใบหน้าแคบ ใบหูแหลมยาวสวมตุ้มหูห่วงเงิน ผิวสีม่วงฟ้าอมเทาราตรี ลักษณะทั้งหมดบ่งบอกว่าเป็นเชื้อสายของดาร์กเอลฟ์อันมีอารยะเผ่าหนึ่ง

ในอาศรม เขาตอบคำถามของเหล่าควาร์ว่าตนเป็นบุตรคหบดีผู้สิ้นเนื้อประดาตัวจากสงครามระหว่างเผ่า บิดามารดาตายในสงคราม ญาติจึงพาเขาทิ้งแผ่นดินบ้านเกิด อพยพออกจากแดนทมิฬ

เคยเป็นไทในบ้านเกิด แต่เป็นทาสในบ้านคนอื่น โคลด์ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมนั้นมาสิบปีเต็มๆ ทว่าทบทวนดูแล้วกลับไม่เป็นสิบปีที่เสียเปล่า เนื่องจากเขามีหน้าที่รับใช้เจ้าชาย จึงได้ศึกษาวิชาความรู้ของเอลฟ์เพิ่มเติม

เจ้านายไม่อยากได้ทาสโง่เขลา แต่ฉลาดเกินไปก็ไม่ดี โชคดีที่โคลด์ไม่โง่และไม่ฉลาด ไม่โดดเด่นไปทางใดทางหนึ่ง จะมีก็แต่ความถนัดในการหลบเร้นหลีกหนี ที่มักโดนพวกควาร์ล้อเลียนว่าหนีเก่งสมกับเป็นหนูชาวดาร์กเอลฟ์


ในตอนที่ต้องการอิสระคืนมา โคลด์ให้เหตุผลกับซิกฟรีดว่าเขาจะไปตามหาหญิงคนรัก ซึ่งอาจถูกมังกรลักพาตัวไปเมื่อครั้งที่ค่ายผู้อพยพถูกมังกรบุกทำลาย เขาอยากเชื่อว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ หรือถ้าตายไปแล้ว เขาก็จะฆ่ามังกรที่ฆ่าเธอ

นั่นเป็นการเปิดเผยความในใจครั้งแรกของโคลด์แก่ซิกฟรีด

สิบปีไม่อาจลืมเลือน เป็นความรักที่ทั้งน่าซาบซึ้งและหนักหน่วงราวกับโซ่ตรวน ไม่นับว่าโคลด์ในตอนนั้นยังเป็นเด็กหนุ่มอายุเพียงสิบสองปี

ซิกฟรีดในวัยสิบเก้าขวบปีรับฟังโดยไม่ขัดสักประโยคหนึ่ง เจ้าชายเอลฟ์ไม่เคยขัดคำพูดของผู้ใด แม้ว่าผู้นั้นจะเป็นเพียงทาส สิ่งที่ซิกฟรีดทำคือนิ่งและฟัง ดวงตาสีเงินเจือส้ม คล้ายแร่เงินอันมีเบ้าหลอมร้อนแรงวางอยู่ตรงใจกลาง มักจ้องมองเข้าไปในใจของโคลด์ ทุกครั้งโคลด์จะรู้สึกอึดอัดเหมือนถูกอ่านจนทะลุ ความลับหมิ่นเหม่อยู่ตรงปากปล่องภูเขาไฟ

หลังผ่านด่านความเงียบอันทารุณ โคลด์ในวัยยี่สิบสองปีได้รับอิสระ แต่เป็นอิสระซึ่งมีเงื่อนไขผูกมัด


“ข้ามอบอิสระให้เจ้า โดยคิดค่าตัดโซ่ตรวนเป็นสัญญาครั้งสุดท้ายที่เจ้าไม่อาจปฏิเสธได้ นั่นคือหากข้าเรียกหาเจ้า...จงมา”

“ได้...ถ้านั่นหมายถึงอิสรภาพ”

โคลด์จำต้องตอบรับสัญญาใหม่เพื่อแลกกับการเป็นไท ‘ชั่วคราว’ สิ้นคำตอบรับ เขารู้สึกว่าบนลำคอเกิดสัมผัสที่เย็นเหมือนน้ำและเบาเหมือนลม เวทผูกพันธะของควาร์หายไปแล้ว

โคลด์คิดว่าตนควรพอใจกับอิสระครึ่งหนึ่งที่ต่อรองจนได้มา

แต่ไม่หรอก…

เขาไม่เคยพอใจเลย


นั่นเป็นคืนสุดท้ายที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน โคลด์พาเจ้าชายซิกฟรีดออกจากอาศรม เลาะลงมาตามลำธารจนไปถึงจุดหมายที่ซิกฟรีดได้สมทบกับกองกำลังซึ่งดูน่าสงสัย เนื่องจากมีเอลฟ์รูเมเรียร์เพียงหยิบมือ แต่มีเอลฟ์อิซิลดาร์และเอลฟ์ตะวันออกผมสีทองแดงมากจนผิดสังเกต

—————————————————————————

A/N ตัวเอกในบทนำโตขึ้นแล้วค่ะ เจ้าชายซิกฟรีดเคะน้อยในวันนั้น เติบโตมาเป็นเมะราชาที่ดี ('/////')
ป.ล. 1 บทมีความยาวพอสมควร เราจึงแบ่งลงนะคะ เดี๋ยวจะทำสารบัญให้อ่านดีจ้าๆ กำลังศึกษาวิธีใช้เล้าอยู่
ตอนต่อไปจะมาอัพวันที่ 27 ธ.ค. 59 ค่ะ  :mew2:

คุณ insomniac @ ขอบคุณที่สนใจนะคะ กลัวๆ เหมือนกันว่านักอ่านจะไม่ชอบแนวแฟนตาซี อยู่เป็นกำลังให้นักเขียนก่อนน้า  :hao5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1-1 [25/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 25-12-2016 22:58:20
ติดตามค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1-1 [25/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 26-12-2016 13:09:53
ติดตามค่ะ  :katai2-1:

คุณ supizpiz @ ยินดีค่า ฝากตัวด้วยจ้า
หัวข้อ: Re:【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1: (3-4) [27/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 27-12-2016 13:28:47
บทที่ 1 : ถ้ำมังกรศิลา (3-4)

โคลด์คิดไม่ตกว่าทำไมเขาจึงขาดทุนเช่นนี้ เริ่มแรกหากเขาไม่ช่วยชีวิตซิกฟรีด ก็คงไม่ต้องมาเป็นทาส ต่อมา เขาได้เป็นไทแต่มีสัญญาหนี้

เอลฟ์ช่างเป็นเผ่าพันธุ์ที่ตระหนี่ซ้ำยังยกตนข่มท่าน คิดว่าใครๆ ต่างอยากเป็นทาสของเอลฟ์ผู้สูงศักดิ์งั้นหรือ

แต่ก็อีก...สิบสามปีก่อนโคลด์จำเป็นต้องหนีจากชายแดนอย่างเร่งด่วน และสามปีก่อน หลังช่วยพาซิกฟรีดหนีออกจากอาศรมควาร์ เขาบอกไปตรงๆ ว่าจะไม่ช่วยซิกฟรีดเรื่องใดๆ อีก

บวกลบน้ำหนักของบุญคุณที่ถ่วงรั้งกันอยู่ โคลด์คิดว่าเขาไม่ติดค้างอะไรซิกฟรีด แต่สัญญาทาสอันใหม่ยังคงติดตัว โดยไม่รู้ว่าเมื่อซิกฟรีดเรียกหาจะเกิดอะไรขึ้น

ตลอดสามปีมานี้โคลด์หลบเร้นในเงามืดของแผ่นดินรูเมเรียร์ ตามหาเบาะแสของมังกรที่อาจลักพาตัว ‘เกวนโดลิน’ ไป

และเวลานี้ เส้นทางของพวกเขาไขว้ทับกันอีกครั้งในถ้ำใต้ดินที่ได้ชื่อว่าเป็นคลังสินแร่อันดับหนึ่งของรูเมเรียร์

หรือว่า...ซิกฟรีดเองก็ตามร่องรอยของมังกรศิลาอยู่

—————————————————————

เมื่อขบวนทหารเคลื่อนผ่านไปได้ครึ่งขบวน โคลด์จึงเห็นร่างสูงใหญ่นั่งอยู่บนหลังม้าซึ่งพ่วงพีกว่าตัวอื่น ร่างนั้นสวมชุดเกราะเหล็กเงินซึ่งตีขึ้นโดยช่างฝีมือชาวเอลฟ์ มันบางแต่เหนียว แข็งแกร่งจนลือกันว่าไม่มีอาวุธใดผ่าทะลุมันได้ ซ้ำยังได้รับการขัดเสียจนเงาวับบาดตาแม้จะอยู่ในที่มีแสงสลัว

ใต้หมวกเกราะปิดบังใบหน้า โคลด์มั่นใจว่าร่างสูงใหญ่นั้นคือซิกฟรีด

อิลมาเรเดินนำไปกับทหารหัวขบวนแล้ว แต่เส้นทางมีสายเดียว โคลด์จึงแอบตามไปทันทีไม่ได้

ตามหลังม้าของซิกฟรีดมาคือเอลฟ์สตรีขี่ม้าสีขาว สวมเสื้อคลุมขนสัตว์สีขาวกับรัดเกล้าจี้ไพลิน โคลด์จำได้ว่านางคือท่านหญิงเอริแอดเน่ ผู้ที่เวลานี้เป็นคู่หมั้นของคิงซิกฟรีด

เอริแอดเน่ชักม้าให้หยุดอย่างแช่มช้า ใต้โขดหินที่โคลด์หลบซ่อนตัวอยู่

กิริยานั้นทำให้องครักษ์หญิงของนางหยุดม้าตาม รวมถึงทหารที่ตามหลังมาด้วย

"ท่านหญิง...กลิ่นอันใดรบกวนท่านหรือ" ซิกฟรีดยึดบังเหียน ม้าร้องเบาๆ ก่อนย่ำอยู่กับที่ ราชาเอลฟ์แห่งรูเมเรียร์หันใบหน้ามาทางด้านหลังเล็กน้อย เห็นว่าคู่หมั้นกำลังมองโขดหิน แล้วก็มองซากมังกรดินอีกด้าน รวมไปถึงซากหนูและรอยเลือดทั้งหมด

"กลิ่นคาวเลือด" เสียงใสราวระฆังแก้วเอ่ย ที่จริงท่านหญิงสูงศักดิ์ไม่ควรเข้ามาในถ้ำอับทึบซึ่งอวลด้วยกลิ่นดินและกลิ่นสาบสัตว์เช่นนี้

องครักษ์หญิงร่ายเวทท่อนหนึ่ง ซากมังกรดินเกิดไฟสีฟ้าลุกติดพรึ่บ เปลวไฟเผาซากเหล่านั้นจนไหม้เกรียม

กลิ่นเนื้อไหม้ทำให้กลิ่นภายในถ้ำทารุณขึ้นไปอีก แต่ท่านหญิงคล้ายพอใจแล้ว จึงชักม้าให้เดินต่อ

โคลด์กลั้นหายใจโดยสัญชาตญาณ ควันจากไฟสีฟ้าของเอลฟ์เจือไอเวทมนตร์ เอริแอดเน่เป็นจอมเวทระดับสูงถึงขั้นจอมเวทสงคราม ผู้ติดตามของนางต้องมีฝีมือ ระวังตัวไว้จะรอบคอบกว่า

ซิกฟรีดยังรั้งม้าอยู่ ใบหน้าใต้หมวกเกราะคล้ายมองสูงขึ้นก่อนเบือนกลับ ขณะนั้น เป็นชั่วอึดใจที่นานทีเดียวสำหรับโคลด์ มันทำให้เขานึกถึงดวงตาที่ทั้งเยือกเย็นและร้อนแรงในเวลาเดียวกัน

ขบวนราชาเอลฟ์ผ่านไปแล้ว ถ้ำโล่งว่าง เหลือเพียงกลิ่นไหม้ของซากสัตว์และเสียงลมซึ่งลอดผ่านแง่งหินตรงเพดานถ้ำ

โคลด์เห็นซากค้างคาวร่วงลงมา กิ้งก่าตัวเล็ก หรือหนูก็นอนตาย ควันเมื่อสักครู่อาจเป็นการหยอกล้อของเอริแอดเน่ ทว่ากับใครกันล่ะ โคลด์มั่นใจในทักษะการหลบซ่อนตัว แต่นางอาจจับสัมผัสบางอย่างได้ จึงหยอกล้อซิกฟรีดงั้นหรือ

ดาร์กเอลฟ์หรี่ตา ท่านหญิงมีหน้าตาบริสุทธิ์สวยงาม รูปร่างแบบบางกอปรภาพลักษณ์เยือกเย็นราวกับธิดาแห่งมารดานที แต่อย่างไรอิสตรีย่อมมีมุมน่าสะพรึงกลัวซ่อนอยู่

ประมาทไม่ได้

ด้านหัวขบวน อิลมาเรเป็นห่วงโคลด์ หลังจากแสดงสัญลักษณ์ของสมาคมพ่อค้าเพื่อยืนยันตัว เธอก็ไม่ได้ปริปากบอกทหารว่าตนเองมากับดาร์กเอลฟ์

ที่จริงอิลมาเรควรล่าถอยตั้งแต่ขบวนเสด็จของราชาผ่านจุดพักแรม แต่เธอยังทำใจกล้าถามทหารเอลฟ์ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในถ้ำ

ดวอร์ฟสาวไม่ได้รับคำตอบ แต่ถูกไล่กลับไป

เธอกลัวว่าทหารจะเจอโคลด์ แม้ลังเลแต่ในที่สุดก็สารภาพว่ามีเพื่อนมาขุดแร่ด้วยอีกคนหนึ่ง ขอติดตามไปหาเพื่อน จากนั้นจะพากันออกไป

ในตอนแรกทหารไม่ยินยอม ถกเถียงกันเสียงดัง จนท่านหญิงเอริแอดเน่เอ่ยอนุญาตให้อิลมาเรมาอยู่หัวขบวนพร้อมกับทหารนำทาง

คงไม่ใช่ว่าเดินเลยมาแล้วหรอกนะ...ดวอร์ฟสาวคิด แต่ถ้าเดินไปจนสุดทางแล้วไม่เจอ ก็ต้องตัดสินใจอีกรอบว่าอีตาโคลด์จะโง่เข้าไปลึกโดยไม่ฟังคำเตือนของเธอ หรือไหวตัวทันแล้วหลบซ่อนตัวอยู่

อิลมาเรไม่คิดอะไรจริงๆ นอกจากมาตามหาโคลด์ เธอไม่เอะใจเลยว่าขบวนของราชาเอลฟ์พร้อมท่านหญิงผู้สูงศักดิ์มาทำอะไรที่นี่ และทำไมเธอถึงได้อยู่หน้าขบวนทั้งๆ ที่เอลฟ์เป็นพวกเจ้ายศเจ้าอย่าง

โคลด์เสียอีกที่รู้สึกว่าออกจะพิกลอยู่ เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเอลฟ์ไม่ได้เมตตาหรือให้เกียรติพวกดวอร์ฟมากไปกว่าช่างตีเหล็กในตลาดหรอก

ครั้งหนึ่งที่โคลด์พยายามหลบหนี เขาถูกจับได้และโดนลงโทษอย่างแรง คนลงโทษก็ไม่ใช่ใคร เป็นเจ้าชายซิกฟรีด

ถึงตอนนี้ รอยแผลเป็นก็ยังคงอยู่

โคลด์เผลอลูบหลังใบหู ตรงที่ถูกซิกฟรีดฝากรอยแผลไว้

เอาเถอะ อย่างไรช่างตีเหล็กก็ดีกว่าทาส

—————————————————————————————

โคลด์แอบตามขบวนทหารได้ราวสองชั่วโมง สิ่งที่เขาสังหรณ์ใจก็เป็นจริง

ลึกภายในถ้ำมีเสียงคำรามแหบทุ้มของสัตว์ร้ายดังก้องจากหัวขบวน คลื่นเสียงม้วนตีผนังถ้ำจนสะเทือน ฝุ่นกรวดร่วงกราวกระทบโล่และเกราะ ฟังคล้ายเสียงของฝนมรณะ ชั่วอึดใจ เสียงการต่อสู้ที่เหมือนเสียงโลหะบดหินดังขึ้นเหมือนเป็นสัญญาณให้ส่วนกลางและท้ายขบวนเตรียมรับการปะทะ

อิลมาเร!

โคลด์ดึงผ้าปิดปากขึ้นมาปิดใบหน้าช่วงล่าง สวมฮู้ดคลุมศีรษะ ขยับมีดสั้นตรงเอวให้อยู่ในตำแหน่งดีที่สุดสำหรับชักออกมาใช้งาน เขาไม่แน่ใจว่าตัวเองจะวิ่งฝ่าท้ายขบวนไปหัวขบวนได้หรือไม่ และไม่อยากเสี่ยงโดยไม่จำเป็น แต่ไม่มีเวลาลังเลแล้วเช่นกัน เพราะเขาไม่คิดว่าทหารเอลฟ์จะเมตตาแบ่งกำลังมาคุ้มครองดวอร์ฟคนเดียว

โคลด์นับจำนวนทหารที่รั้งอยู่ท้ายขบวน มีสามคนด้วยกัน ตำแหน่งการยืนเป็นรูปสามเหลี่ยม การจัดกองกำลังเน้นรับการปะทะจากด้านหน้า คุ้มกันราชาเอลฟ์และท่านหญิง ระยะห่างจากท้ายขบวนไปยังส่วนกลางคะเนได้ประมาณสิบก้าว ด้านหน้าก็เว้นระยะเท่าๆ กัน ดังนั้นถ้าเขาไวพอก็อาจทัน

โคลด์ควานหาระเบิดควันในเสื้อคลุม แม้เสียงกุกกักจะเบาเท่าเสียงกระซิบ แถมยังโดนเสียงอื่นๆ กลบ แต่องครักษ์คนหนึ่งกลับจับทิศทางได้ แล้วร้องตะโกนก่อนม่านควันหนาทึบจะบดบังทัศนวิสัย

“คุ้มกันคิงซิกฟรีด!”

"ควันพรางตัว!"

"คุ้มกันคิงซิกฟรีด! คุ้มกันท่านหญิง!"

ทหารเอลฟ์ส่วนกลางขบวนเคลื่อนไหวรวดเร็ว ละตำแหน่งจากกระบวนรบ แล้วจัดเป็นกระบวนคุ้มกันล้อมรอบบุคคลสำคัญทั้งสองภายในม่านควัน นักเวทประจำตำแหน่งหัวขบวนสองคนจากสามคนต้องแยกมากลางขบวน ทำให้เกราะเวทที่ป้องกันแนวหน้าอ่อนกำลังลง

ความโกลาหลเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน

โคลด์หลุบตา วิ่งผ่านควันพรางตัวซึ่งได้ผลดีกว่าที่คิด เพราะภายในถ้ำลึกมีแสงน้อยซ้ำยังเป็นพื้นที่ปิด เขาอาศัยประสาทรับเสียงอันดีเลิศและปฏิกิริยาเฉียบคมหลบหลีกทหารที่ยังไม่ทันตั้งตัวเหล่านั้น

ทหารเอลฟ์เห็นโคลด์แล้ว แต่ไม่สามารถสกัดได้เนื่องจากควันยังหนาตาอยู่ จึงเน้นที่การคุ้มกันพระราชาและคู่หมั้นผู้สูงศักดิ์

โคลด์ปะทะกับทหารบางนาย แต่เขาไวกว่า แม้โดนต้อนโดนคว้าจะเข้าตาจนก็เล็ดลอดไปได้ในชั่วพริบตา เขาคิดว่าพอไปถึงอิลมาเรที่หัวขบวนแล้วคงไม่มีทางย้อนกลับ แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้เกรงว่าคงไม่ได้ไปหาอิลมาเรด้วยซ้ำ

จู่ๆ ดาร์กเอลฟ์ตนหนึ่งจะขอให้ขบวนทหารเปิดทางให้ไปช่วยดวอร์ฟคงเป็นเรื่องตลกให้พวกเอลฟ์เอาไปพูดกันหลังพวกเขาตายอยู่ในถ้ำ

อีกอย่าง เขาเคยมาสำรวจถ้ำนี้หลายครั้ง ถ้าไปข้างหน้าลึกกว่านี้จะมีทางแยกให้พอหลบหนีได้บ้าง

เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังขึ้นอีก คราวนี้เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พอโคลด์เลาะมาถึงหัวขบวนจึงเห็นชัดว่าทหารเอลฟ์กำลังรับมือกับอะไร

มังกรดินขนาดยักษ์ฝูงหนึ่ง กับมังกรศิลา—จ่าฝูง

นับว่าพวกเอลฟ์โชคดีจริงๆ เข้ามาปุ๊บก็ได้เจอบอสปั๊บ มังกรดินฝูงนี้แต่ละตัวสูงราวสองเมตร ขนาดมหึมาแบบที่มังกรดินธรรมดาเทียบไม่ติด ส่วนมังกรศิลาตัวโตกว่าลูกน้องสามเท่า ผิวหนังของพวกมันคล้ายเกราะหิน เกล็ดขนาดเท่าฝ่ามือซ้อนกันเป็นชั้นเหมือนกระเบื้องหลังคาวิหาร จะปราบมันคงต้องเล็งจุดอ่อนตรงรอยแยกของเกล็ด ไม่ก็ตรงดวงตาสีแดงโลหิต

ไม่นับว่ามีมังกรดินอีกฝูงโผล่มาจากทางแยกอีกด้านของถ้ำ คล้ายมาตามเสียงคำรามของมังกรศิลา

พลดาบและพลหอกเป็นทหารแนวหน้า ส่วนหนึ่งรับมือมังกรดิน อีกส่วนหนึ่งหันเหความสนใจของมังกรศิลา แต่หน่วยล่าจริงๆ เป็นทหารฝีมือดีที่ใช้อาวุธโซ่เหล็กดำไว้ตรึงคอมังกร ส่วนนักเวทเป็นฝ่ายสนับสนุนทั้งการป้องกันและโจมตี ทว่าขณะยันสัตว์ร้าย เสียงคำรามของหัวหน้าองครักษ์ก็ดังแหวกอากาศเหมือนฟ้าผ่า

“คุ้มกันคิงซิกฟรีด! แอสซาสซินโจมตี!”

คำสั่งสำคัญต้องมีผลทันที ทหารบางนายเสียหลักเมื่อได้รับคำสั่งกะทันหัน ถูกมังกรฉีกแขนแล้วขย้ำตรงนั้น จำนวนพลทหารจากที่มีอยู่ไม่กี่นายกลับลดน้อยลงไปอีก ซ้ำแต่ละนายยังเป็นพลทหารฝีมือฉมังด้านการล่าสัตว์ ซึ่งคัดเลือกมาเพื่อล่ามังกรโดยเฉพาะ ไม่ได้เตรียมมาเพื่อรับศึกสองด้านอย่างมังกรกับแอสซาสซิน แม้จะมีกำลังเสริมเป็นกองคุ้มกันขบวนเสด็จ แต่ก็รออยู่ตรงปากถ้ำซึ่งไกลโข

สถานการณ์เลวร้ายถึงขีดสุด

"โล่! ตั้งกำแพงเวท!" โคลด์ได้ยินเสียงร้องสั่ง ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงโหยหวนของทหารเอลฟ์ยามกระดูกถูกบดแตก หากจะมีอะไรหยุดความตายไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ เห็นทีจะมีแค่เสียงจากผู้นำสูงสุด

ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ หรือคิงซิกฟรีดแห่งอาณาจักรรูเมเรียร์ มองหายนะตรงหน้าอย่างเฉยชา ดวงตาสีเงินล้อมด้วยสีส้มแดงราวกับเตาหลอมเหล็กหรี่ลงเล็กน้อย ปากบางเรียบตึงค่อยๆ ขยับช้าๆ สำเนียงไพเราะต่ำทุ้มที่ลอดออกมาส่งให้ม่านควันแยกออก และจากที่เคยฟุ้งกระจายทั่วถ้ำ ก็กลับรวมกันแล้วพุ่งไปหา 'นาย' ผู้สร้างมัน ผู้ใช้มันพรางตาทหารเอลฟ์—โคลด์

โคลด์ดูเหมือนโดนควันของตัวเองเล่นงาน ทว่าความจริงมันแค่กลับมาหานาย คลอเคลียเหมือนสุนัขไร้รูปร่าง ดาร์กเอลฟ์จมอยู่ในทะเลควันสีเทา ซ้ำในควันนั้น เขายังได้ยินเสียงกระซิบไพเราะและน่าสะพรึงในเวลาเดียวกัน ได้เห็นอักขระโบราณเลื้อยพันอยู่ในหมอก

โคลด์เคยเห็นฤทธิ์ของมันมาก่อนแล้ว

‘เวทของควาร์’

ทราบกันโดยทั่วไปว่าควาร์มีเสียงอันไพเราะ จึงได้รับการขนานนามว่า ‘ผู้ที่มีเสียงงาม’ แต่ความจริงแล้ว ควาร์เป็นชื่อเรียกของ ‘นักเวทผู้สดับฟัง’ ว่ากันว่าสรรพสิ่งมีชื่อเรียกที่แท้จริง ทั้งกรวดทราย ต้นไม้ใบหญ้า ไปจนถึงวิญญาณธรรมชาติ และผู้ใดที่ทราบชื่อจริงนั้นจะสามารถเรียกสรรพสิ่งให้เป็นข้าช่วงใช้ได้ ทว่า แค่ทราบแล้วเรียกใช้นั้นไม่เพียงพอ การเป็นควาร์ต้องรู้จักฟังเสียงกระซิบที่แผ่วเบา เสียงกระซิบซึ่งน้อยคนสามารถรับรู้ได้ แล้วค่อยเอ่ยเวทของควาร์ออกมา

เสียงที่ควาร์ได้ยิน ภาษาที่ควาร์พูด

เป็นความลับ

ลือกันว่าหากพบควาร์ผู้เก่งกาจ ให้สยบต่อเขา หรือทำลายคอของเขาเสีย มีทางเลือกไม่มากนัก ทางแรกดาร์กเอลฟ์ไม่ยอมทำแน่ ส่วนทางที่สองก็เหมือนฆ่าตัวตาย ไม่ใช่แค่ลุยกับราชาที่เป็นควาร์ แต่ต้องลุยกับทหารเอลฟ์อีกเป็นสิบกว่าจะถึงตัวคิงซิกฟรีด

โคลด์กำลังจะถูกจับ แล้วตายไม่ต่างกับพวกมังกร เขาจะไม่ได้เห็นหน้าอิลมาเรหรือแม้แต่คนที่ตนกำลังตามหาอย่างสุดกำลัง

แต่

พูดก็พูดเถอะ โคลด์ไม่ได้มีธุระกับพวกเอลฟ์สักนิด เอลฟ์ต่างหากที่เข้ามาขวางธุระของเขา อีกอย่าง โคลด์รู้ว่าเอลฟ์เป็นพวกหลงตัวเอง แต่ไม่คิดว่าจะหลงตัวเองปานนี้ เขาใช้ควันพรางตัวก็จริง แต่ใช่ว่าจะลอบสังหารใครเสียหน่อย (โดยเฉพาะยามที่ไม่มีใครจ้าง ฆ่าไปก็ไม่ได้เงินสักเหรียญควินน์) เขาแค่อยากเปิดทางไปช่วยอิลมาเรเท่านั้น

โคลด์คิดอย่างห่อเหี่ยวเมื่อต้องรับมือกับเวทของควาร์—ของคิงซิกฟรีด ดีที่นักฆ่าอย่างเขาสวมตุ้มหูป้องกันเวทเสียงเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน ถ้าอีกฝ่ายร่ายเวทสะกดมันก็จะถูกสกัดก่อนได้บงการสมองของเขา

โคลด์ชักมีดสั้นน้ำแข็ง ร่ายเวทอย่างสั้นแล้วตวัดใบมีดสีฟ้าใสฟันควันพรางตา อาจดูเหมือนเขาฟันสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แต่แท้จริงแล้วโคลด์กำลังฟันเวทเสียงด้วยแรงสั่นสะเทือนที่แผ่ออกมาจากใบมีด

อักขระโบราณภายในหมอกถูกฟันแตกเป็นเสี่ยงๆ

"แอสซาสซินอยู่นั่น อย่าให้มันหลุดไปถึงคิงซิกฟรีด!"

ทหารเอลฟ์ที่อยู่ใกล้โคลด์ตะโกน พร้อมกับคว้าคันธนูและลูกธนูที่สะพายติดหลังยิงใส่ร่างในชุดคลุมสีดำ แต่โคลด์ไหวตัวทัน เขาหลบลูกธนูสามดอกที่ปักเข้ามาพร้อมกันอย่างฉิวเฉียด

พวกทหารถอยกลับไปยังจุดกึ่งกลางขบวนเพื่อคุ้มกัน เพราะหากวางแผนลอบสังหารโดยต้องรับมือกับทหารจำนวนเท่านี้ นักฆ่าต้องมีมากกว่าหนึ่ง

ทว่าท่ามกลางความแปลกใจของทหาร ร่างในชุดคลุมสีดำกลับวิ่งออกไปไกลจากจุดที่พวกตนอารักขา ไปยังส่วนหน้าขบวนที่กำลังฟาดฟันกับมังกรศิลาและมังกรดิน

“คุ้มกันท่านหญิงออกจากถ้ำ”

คิงซิกฟรีดเอ่ย เสียงเบาแต่กลับได้ยินกันทั่ว ทหารเอลฟ์เหลือบมองกันและกันเมื่อราชาชักม้าไปยังแนวหน้า ม้าเหยาะย่างช้าๆ มั่นคงและเยือกเย็น มันได้รับการปลอบโยนจากเวทอันละเอียดอ่อนของท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอาณาจักรอิซิลดาร์ ทำให้ไม่ตื่นสนาม ทั้งยังพร้อมรบเพื่อนาย

“มาลแกธ อิลราลาน ตามเรามา”

ใครจะกล้าขัดราชาเล่า

 

โคลด์ใช้มีดน้ำแข็งกรีดกำแพงเวทส่วนบางที่สุดของเอลฟ์ออกมา แล้วเลาะลอดไปจนถึงหินก้อนใหญ่ซึ่งอยู่ใกล้มังกรศิลาในระดับน่าหวาดเสียว

อิลมาเร ดวอร์ฟสาวผู้ประกอบอาชีพค้าขายอย่างสุจริตและไม่ควรอยู่ในสนามรบ กลับติดอยู่ระหว่างซอกหินนั้น ตอนแรกอิลมาเรตั้งใจว่าจะหลบเฉยๆ แต่กลับซวยต้องมาติดกับ เพราะทหารเอลฟ์รับมือฝูงมังกรไม่ไหวจนถอยร่นไปเรื่อยๆ ทำให้ตำแหน่งที่เธอหลบอยู่เคลื่อนจากอยู่ด้านหน้าฝูงมังกรเป็นอยู่ระนาบเดียวกับฝูงมังกร

ทว่าโชคดียังมีในโชคร้าย ขณะอิลมาเรทำตัวให้ลีบเล็กที่สุดเพื่อหลบเขี้ยวมังกรดินขนาดเล็ก ซึ่งพยายามทลายหินเข้ามากินเธอเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย โคลด์ สตาร์ ดาร์กเอลฟ์ที่ทำงานกับเธอมานานก็เข้ามาโรมรันกับมังกรดินเหล่านั้นแทน มีดน้ำแข็งสามารถทำร้ายมันได้ มังกรดินถอยไปตั้งหลัก พิจารณาผู้มาใหม่

“มา! ออกมา! ก่อนไอ้ตัวใหญ่มันหันมา” โคลด์ฉวยจังหวะที่มังกรดินขยาดคมมีดดึงร่างเล็กของอิลมาเรออกมา เขากระซิบว่ามังกรดินน่าจะตามจ่าฝูงออกมาหมดแล้ว ให้เธอหนีเข้าไปด้านในส่วนที่ลึกขึ้นแล้วปีนขึ้นที่สูง เขาจะกันตัวที่คิดไล่ตามให้เอง

เวลาเดียวกัน คิงซิกฟรีดก้าวมาอยู่แนวหน้าโดยไม่มีใครกล้าท้วง ทหารบางนายกระซิบกับท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์เป็นเชิงถามว่า ‘ให้ทำอย่างไรขอรับ’

ท่านหญิงเอริแอดเน่ตอบกลับด้วยความเงียบ นางยืนยันปักหลักอยู่ในถ้ำโดยไม่ขยับม้าสักก้าว ทหารทุกนายลำบากใจ หากต้องรับใช้เจ้านายเช่นนี้ มีกี่ชีวิตก็ไม่พอ

แม้ทหารจะได้รับคำสั่งให้ถอย ทว่านักเวทยังเป็นฝ่ายสนับสนุนอยู่ อักขระเอลฟ์บนเกราะและอาวุธของคิงซิกฟรีด มาลแกธ และอิลราลานเปล่งแสงเรืองรอง เกราะแข็งแกร่งขึ้น อาวุธก็แหลมคมขึ้น

คิงซิกฟรีดใช้ดาบใหญ่ ปลายดาบยาวขนาดระพื้นถ้ำแม้จะนั่งบนหลังม้า บรรยากาศหนักอึ้งทำให้เพดานถ้ำดูคล้ายจะถล่มลงมา ซึ่งแม้แต่มังกรยังทราบว่าเอลฟ์เนื้อหอมน่ากินตรงหน้านั้น...

‘อันตราย’

คิงซิกฟรีดสั่งให้ทหารคนสนิททั้งสองรับมือกับมังกรดิน บรรดามังกรตัวเล็กถอยหลังช้าๆ ทีละก้าวเมื่อเผชิญหน้ากับมาลแกธและอิลราลาน มันส่งเสียงร้องขู่แฟ่สั้นๆ ต่ำ แล้วสูงแหลม บางตัวเอี้ยวไปมองมังกรศิลา เหมือนมันรู้จักสื่อสารกัน

ฟู่…

เกิดเสียงเบาเท่าเบา ไฟไร้ที่มาลอยเหมือนพรายไปตรงหน้ามังกรดินตัวหนึ่ง มันสวย ราวกับกลีบดอกไม้สีแดงเริงระบำในความมืด มังกรดินตัวนั้นจดๆ จ้องๆ ส่วนตัวอื่นก็ครางเสียงต่ำพลางเขยิบเข้ามาใกล้

ทว่า ทันทีที่ปลายเล็บของมันแตะพรายไฟ ร่างทั้งร่างก็ถูกไฟคลอก กลายเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ทันที มังกรดินตัวอื่นแตกตื่น บางตัวหนี บางตัวกระโจนเข้าหาเอลฟ์

อิลราลานหันไปทางคิงซิกฟรีด ราชาเอลฟ์พยักหน้าอนุญาต อิลราลานจึงลงจากหลังม้าพร้อมอาวุธ โซ่เหล็กดำซึ่งมีปลายเป็นใบดาบด้านหนึ่ง เป็นตุ้มหนามอีกด้านหนึ่ง ถูกเหวี่ยงเข้าสังหารมังกรดินสองตัวในครั้งเดียว

ระหว่างที่มาลแกธและอิลราลานรับมือกับมังกรดิน คิงซิกฟรีดบ่ายม้าไปทางมังกรศิลา ซึ่งทำท่าว่าจะหนี แม้เป็นสัตว์สติปัญญาต่ำก็รู้จักอันตราย ราชาเอลฟ์ร่ายเวท หินถล่มจากเพดานถ้ำเพื่อกักมังกรศิลา ทว่ามันกลับไวพอที่จะวิ่งหลบเข้าไปในถ้ำส่วนที่ลึกขึ้น คิงซิกฟรีดไล่ตามมังกรศิลา หินเพดานถ้ำยังคงถล่มอยู่ด้วยเวทของควาร์ จนน่าหวาดเสียวว่าเพดานอาจถล่มลงมาฝังพวกเขาทั้งหมด

มาลแกธตะโกนแจ้งข้อเท็จจริงนั้นแข่งกับเสียงหินอัดกระแทกพื้น ราชามุทะลุเสียจริง หรืออาจมั่นใจว่าจะควบคุมการถล่มได้

ชั่ววินาทีต่อมา...หินขนาดยักษ์ก้อนหนึ่งก็ถล่มลงมากระทบกับส่วนเปราะบางของพื้นถ้ำจนถล่มยุบลงไป ตอนนั้นเองที่ถ้ำเปิดเผยความยิ่งใหญ่ซับซ้อนให้เห็นกับตา ใต้ถ้ำยังมีโพรงถ้ำอีก หากชะโงกลงไปดู จะพบว่าลึกลงไปลิบๆ มีธารน้ำใต้ดินทอดเป็นสายยาวเหมือนเส้นเลือดในความมืดอันขมุกขมัว เสียงธารน้ำไหลดังมาถึงข้างบน เชี่ยวกราก ดุดัน ราวกับกำลังขู่ผู้บุกรุก

มังกรศิลาไม่หยุดฝีเท้า มันวิ่งตรงไปยังเหว กรงเล็บแบบพิเศษอย่างมังกรศิลายึดจับแง่งหิน มันเกาะผนังเหวราวกับแพะภูเขารู้จักไต่ตามที่ลาดชัน ก่อนจะหนีไปด้วยความรวดเร็ว

มังกรที่หมายตาหายลับไปเสียแล้ว

ทว่าสิ่งที่ยังอยู่ หรือ ‘คนที่ติดอยู่’ กลับกลายเป็นโคลด์ สตาร์


—————————————————————————
A/N สวัสดีค่ะ กะว่าจะมาอัพในเล้าทุกๆ 2 วันนะคะ ขอบคุณท่านที่แวะเข้ามาอ่านมากๆ
หากมีข้อเสนอแนะอะไร คอมเมนต์ทิ้งไว้เพื่อเป็นกำลังใจและช่วยพัฒนางานเขียน นักเขียนจะดีใจมากๆ เลยค่ะ ;)
อนึ่ง การที่ตัวละครที่จากกันไม่ดีกลับมาพบหน้ากันอีกครั้งเป็นอะไรที่น่าสนใจมากสำหรับเรา
เพราะมีความเป็นไปได้หลายๆ ทางในหัว ว่าพวกเขาจะพูดคุยกันยังไง
แต่สุดท้ายเราก็หยิบสิ่งที่ตัวละครเลือก ให้ตัวละครกำหนดเรื่องของพวกเขาด้วยตัวเองค่ะ XD

อัพเดทครั้งต่อไปคือวันที่ 29 ม.ค. 59 ค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1: (3-4) [27/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: nutiez ที่ 27-12-2016 13:50:24
ตามมาให้กำลังใจค่ะ

นายกับทาสเค้าจะได้เจอกันแล้วสินะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1: (3-4) [27/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 27-12-2016 15:52:55
ตามมาให้กำลังใจค่ะ

นายกับทาสเค้าจะได้เจอกันแล้วสินะ  :katai2-1:

ใช่ค่ะ จะได้เจอกันแล้วววววววววววว รับรองว่าดุเดือดเร้าใจ '/////'
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1: (3-4) [27/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 27-12-2016 16:36:17
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1: (3-4) [27/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: empty102153 ที่ 27-12-2016 16:51:37
ชอบมากเลยค่ะะะ ติดตาม
(Key of solomon ดีงามมากค่ะ )
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1: (3-4) [27/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 28-12-2016 00:55:18
รอติดตามค่าา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1: (3-4) [27/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 28-12-2016 11:47:10
:o8: :o8: :o8: :o8:
รักๆๆๆ ติดตามอ่านน้า -3-

ชอบมากเลยค่ะะะ ติดตาม
(Key of solomon ดีงามมากค่ะ )
ว้าว มีนักอ่าน KoS ในเล้าด้วย รักนะคะ -3-

รอติดตามค่าา
ยินดีมากค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ

กระซิบบอกนักอ่านทุกคนเบาๆ ว่า พรุ่งนี้มีตอนใหม่จ้า! :mew1:
หัวข้อ: Re:【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1: (5-6) [29/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 29-12-2016 13:54:26
บทที่ 1 : ถ้ำมังกรศิลา (5-6)

ทีแรก โคลด์เห็นอิลมาเรหนีไปได้แล้ว เขาคิดฉวยโอกาสหนีตามโดยอาศัยการกำบังจากหินที่ถล่มลงมา แต่เพราะพื้นถ้ำดันถล่มตัดหน้าแยกเขาออกจากอิลมาเร โคลด์จึงติดอยู่ฝั่งเดียวกับราชาเอลฟ์

“แอสซาสซิน” เสียงของคิงซิกฟรีดราบเรียบแต่อัดแน่นไปด้วยความโกรธ เขาเอ่ยขึ้นตั้งแต่ยังไม่หันหน้ามาทางโคลด์ด้วยซ้ำ

ปลายดาบใหญ่กรีดพื้นจนเกิดเสียงบาดหู ราชาแห่งรูเมเรียร์กระชับอาวุธในมือแน่น

โคลด์เพิ่งลุกขึ้นได้เพราะกลิ้งตัวหลบพื้นที่ถล่ม แต่ลุกได้ไม่นาน ดาบของคิงซิกฟรีดก็เหวี่ยงลงมา

อิลมาเรปาดเหงื่อเมื่อโคลด์หลบดาบยักษ์เล่มนั้นได้อย่างหวุดหวิด เธอเผลอตะโกนว่า "รีบมาทางนี้!"

เป็นอันว่าดวอร์ฟที่เจอหน้าถ้ำกับนักฆ่านั้นรู้จักกัน อิลมาเรปากพาจนจริงๆ แต่จะโทษเธอก็ไม่ได้ เธอหลบอยู่ในซอกหิน ไม่รู้ว่าโคลด์ถูกเข้าใจผิดว่าจะมาลอบสังหารราชา

“ซิกฟรีด!”

หินหยุดถล่มแล้ว เสียงควบม้าดังเข้ามาใกล้ โคลด์เห็นว่าผู้มาใหม่เป็นองครักษ์ที่ตะโกนบอกทหารทุกนายให้คุ้มกันคิงซิกฟรีดก่อนที่เขาจะโยนระเบิดควัน แถมยังเป็นเสียงเดียวกับที่กล้าตะโกนว่า ‘ท่านเสียสติไปแล้วหรือ!’ ตอนที่ราชาเอลฟ์ใช้เวทของควาร์ถล่มถ้ำโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย

องครักษ์สวมเกราะแบบรูเมเรียร์ ทว่าสวมหน้ากากบดบังใบหน้าช่วงล่างเหมือนชาวตะวันออก หน้ากากเป็นรูปสัตว์เขี้ยวโง้งน่าสะพรึงกลัว แววตาที่ฉายผ่านเกราะและหน้ากากปิดบังความหงุดหงิดที่มีต่อราชาเอลฟ์ไม่มิด

ท่านหญิงเอริแอดเน่ขี่ม้าเหยาะย่างมาถึงด้านหน้าเช่นกัน ท่าทางของนางงามสง่า นิ่งสงบ ไว้ตัว ทว่าสายตาเยือกเย็นดุจน้ำแข็งสีฟ้าจับจ้องร่างนักฆ่าไม่วางตา

“ท่านหญิง ข้าสั่งให้ทหารคุ้มกันท่านออกไปแล้วไม่ใช่หรือ”

“ข้าย่อมเป็นห่วงราชาของข้า” นางตอบนุ่มนวล แฝงความมั่นใจอันบ่งบอกว่าไม่เกรงอันตรายแค่หินถล่ม

"ส่วนเจ้า" ซิกฟรีดสังเกตเห็นตุ้มหูป้องกันเวทเสียง เครื่องป้องกันเวทชนิดนี้ไม่ได้หาง่ายและใช้กันอย่างแพร่หลายนัก

โคลด์ตั้งท่าเตรียมต่อสู้ รักษาระยะห่างจากคนบนหลังม้า

"เรารู้จักกันหรือไม่"

จู่ๆ คนที่ฟาดดาบใส่เขาโดยไม่พูดสักคำ กลับถามคำถามแปลกประหลาดในสถานการณ์แปลกประหลาด

"คิดว่าไม่" นักฆ่าผู้ปิดใบหน้าครึ่งล่างไว้ตอบ

"คิดว่าใช่" คิงซิกฟรีดเหยียดริมฝีปาก “ข้ามั่นใจว่าได้ยินเสียง ‘เวทพันธะ’ ที่เคยร่ายไว้เมื่อสามปีก่อน”

"หูท่านอาจเพี้ยนไป" โคลด์มองหาทางหนีทีไล่ เขายังไม่อยากถูกธนูปักศีรษะตอนหันหลังวิ่งหนี

"มีดไม่ชอบเจ้า มันว่า...เจ้าดูถูกมัน" คิงซิกฟรีดกดสายตามองไปยังมีดสั้นในมือของแอสซาสซิน “มันว่าเจ้าคิดจะเอามันไปถอนฟันมังกรดิน”

ริมฝีปากขยับร่ายเวทเบาๆ ใกล้ขนาดนี้โคลด์จึงได้ยินว่าเสียงของอีกฝ่ายแตกพร่า ไม่ไพเราะเหมือนดังที่เคยได้ฟังเมื่อนานมาแล้ว

อักขระของควาร์เลื้อยไปตามใบมีด มันแตกผุ ราวกับประชดเจ้านายอย่างไรอย่างนั้น

โคลด์ซัดมีดสั้นอีกเล่มที่เหน็บไว้ข้างเอวไปยังม้าเกราะเหล็กของราชา มันปักเข้าช่องว่างระหว่างเกราะอย่างแม่นยำ นิสัยเขาไม่ชอบความยุ่งยากและมักเป็นฝ่ายประนีประนอม แต่ก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับอาวุธของตน

ม้าดีดตัวด้วยความเจ็บปวด ส่งให้ราชาเอลฟ์เสียหลัก ต้องลงจากม้า ราคาของการทำให้พระบาทของพระองค์ต้องพื้น คือต้องรับความโกรธขึ้งผ่านดาบ

แรงปะทะทำเอาโคลด์แขนสั่น ดาบของคิงซิกฟรีดดุดัน เชี่ยวชาญ ขณะเดียวกันก็ดูถูกดาร์กเอลฟ์ด้วยการหยอกเย้า ไม่ลงแรงทั้งหมด

โคลด์เดาไม่ออกว่าซิกฟรีดต้องการอะไรจากตน จับเป็นหรือจับตาย ตอนนี้เขาเสียเปรียบมหาศาล ซิกฟรีดเอ่ยคำเดียวเขาจะต้องเผชิญกับทหารทั้งกลุ่ม

ราชาปะทะกับแอสซาสซิน ยังความแปลกใจให้แก่เหล่าองครักษ์ ควรหรือที่พระองค์ต้องลงไปสู้ศึกเอง อีกทั้งยังไม่เห็นกำลังเสริมใดๆ ของแอสซาซิน นอกจากดวอร์ฟไร้เขี้ยวเล็บตนหนึ่ง

ท่านหญิงเอริแอดเน่มองชายทั้งสองด้วยสายตาเรียบนิ่ง ครุ่นคิด ล้ำลึก การต่อสู้ของซิกฟรีดเหมือนการทักทายสหายเก่าที่มีความทรงจำร่วมกันไม่ดีนัก

และได้มาพบกันในสถานการณ์ที่ไม่ดีนัก

โคลด์ใช้อาวุธแทบทั้งหมดที่มี แต่มีดสั้นน้ำแข็งของเขาใกล้รับดาบใหญ่ไม่ไหวแล้ว กระดูกแขนของโคลด์ลั่นประท้วงทุกครั้งที่อีกฝ่ายฟาดดาบลงมา อาวุธลับก็ยากจะมีผลเมื่อต้องเผชิญกับนักรบเกราะหนัก

เกราะหนัก ใช่แล้ว โคลด์คิด เกราะหนักของราชานี่แหละที่สร้างความได้เปรียบ และทำให้เสียเปรียบได้เช่นกัน เพราะทำให้ผู้สวมใส่เคลื่อนไหวเชื่องช้าลง ทว่าซิกฟรีดยังเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว บ่งบอกถึงพละกำลังมหาศาล เขาต้องเพิ่มความเสียเปรียบให้แก่เกราะหนักมากขึ้น!

โคลด์สู้ไปพลางถอยไปพลาง ลวงราชามาถึงจุดที่ตั้งใจไว้ จุดที่เขาไม่คาดว่ามันจะใช้ประโยชน์ได้ เป็นจุดที่ซิกฟรีดสร้างขึ้นมาเองด้วยซ้ำ

โคลด์หลบดาบใหญ่ที่เหวี่ยงมา เขาดึงมือซิกฟรีดให้เซเข้ามา โดยอาศัยแรงพุ่งไม่มียับยั้งของอีกฝ่ายช่วยเสริมแรงดึง

นักฆ่าดึงราชาให้ตกลงไปยังธารน้ำใต้ดินด้วยกัน

“ท่านหญิง” อิลราลานเอ่ยอย่างสุภาพ รอคำสั่งว่าควรทำอย่างไร

“ตามลงไป” เอริแอดเน่สั่งด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

 

แม้จะสูงแบบที่ตกลงไปแล้วไม่ตายถือว่าปาฏิหาริย์ แต่ธารน้ำใต้ดินลึกสมกับความกระหึ่มของเสียงน้ำไหลอันดังมาถึงข้างบน

เป็นไปตามที่โคลด์คาดไว้ คิงซิกฟรีดจมเพราะน้ำหนักของเกราะ ทว่า ในบรรดาสรรพสิ่งที่ถือกำเนิดบนโลกใบนี้ การเรียกหา ‘พรายน้ำ’ ให้เป็นข้าช่วงใช้ถือเป็นความถนัดอย่างยิ่งของราชาเอลฟ์ แม้ไม่สามารถถอดเกราะออกได้ แต่มวลน้ำก็รับฟังเสียงของควาร์ ตรงเข้าอุ้มคิงซิกฟรีดให้อยู่บนผิวน้ำ

ไม่เพียงเท่านั้น คิงซิกฟรีดยังขอให้น้ำกดตัวโคลด์ลง ก่อนจะปล่อยให้ขึ้นมาหายใจ แล้วกดลงไปอีกครั้ง

รูปการณ์ดูเหมือนคิงซิกฟรีดจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ นอกจากทรมานโคลด์แล้ว ราชาเอลฟ์ยังสามารถใช้มวลน้ำดึงให้แอสซาสซินเข้ามาใกล้ตนได้ ทว่า แม้แต่เวทของควาร์ก็ยังมีข้อจำกัด

ดังที่ทราบกันว่าเวทของควาร์เป็นความลับ ยิ่งข้อจำกัดในการใช้เวทยิ่งเป็นความลับ หนึ่งในนั้นคือควาร์จะหลีกเลี่ยงการเรียกใช้ ‘วิญญาณธาตุ’ ที่มีลักษณะ ‘ไม่นิ่ง’ อย่างพายุหรือกระแสน้ำคลั่ง เพราะยากที่จะควบคุม เหนือไปกว่านั้น—ยากที่จะทำให้มันยอมถูกควบคุม

ทางน้ำใต้ดินเข้าลักษณะแบบที่ว่า

ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์จะหยุดร่ายเวทไม่ได้เลย

อิลมาเรตะโกนบางอย่างจากด้านบน โคลด์อาศัยโอกาสช่วงแรงกดคลายออกถีบตัวพรวดพ้นน้ำ เป่าปากส่งสัญญาณ จากนั้นก็มีเสียงกระโดดน้ำตามลงมา

เวลาชั่วอึดใจยาวนานราวกับชั่วนิรันดร์ โคลด์คิดจนหัวแทบระเบิดว่าจะรอดพ้นสถานการณ์นี้อย่างไร พอถูกกดให้จมลงไปทีก็ล้วงหาอาวุธที อยู่ในน้ำจะดึงมีดมาซัดช่างลำบาก แต่จะปล่อยไปตามยถากรรมก็ไม่ได้

น้ำพัดจนฮู้ดหลุดไปแล้ว เหลือแค่ผ้าปิดปากที่ยังอยู่ โคลด์ไม่แน่ใจว่าซิกฟรีดจำเขาได้หรือเปล่า แต่ไม่เสี่ยงจะดีที่สุด สิ่งเดียวที่ควรเสี่ยงในตอนนี้คือรอจังหวะซัดอาวุธลับ

แต่เขาไม่ได้ซัดอาวุธลับใส่ซิกฟรีด

ธารน้ำใต้ดินซับซ้อน มีทางแยกออกไปหลายสาย โคลด์อาศัยจังหวะที่น้ำพัดพวกเขาไปถึงทางแยกหนึ่งซัดตะขอติดเชือกเกี่ยวแง่งโขดหินไว้ แล้วทุ่มแรงสาวเชือกจนไหล่แทบหลุด ดึงตัวเองเข้าหาฝั่ง โดยหวังว่าซิกฟรีดจะถูกน้ำพัดแยกไปอีกทาง

เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เปลี่ยน ราชาเลยดึงตัวเองเข้าไปหานักฆ่าแทน การร่ายเวทต่อเนื่องทำให้เขาเสียพลังงานไปมาก พรายน้ำอ่อนกำลังลง ปล่อยให้นักฆ่าตะเกียกตะกายไปถึงฝั่งจนได้

โคลด์ขึ้นฝั่งได้แล้ว แต่ถูกราชาเอลฟ์คว้าข้อเท้าไว้ หมวกเกราะที่หลุดไประหว่างตกจากหน้าผาเผยให้เห็นเส้นผมสีทองสว่าง ซึ่งแม้อยู่ในที่มืดก็ยังดูเรื่อเรือง ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวเพราะความโกรธจนดูเหมือนปีศาจ บนใบหน้าซีกซ้ายมีหน้ากากหนังคาดปิดไว้

โคลด์หันมายันเท้าใส่หน้าอีกฝ่าย เอาจริงๆ เขาอาจอยากทำแบบนี้มานานแล้วก็ได้!

“ดาร์กเอลฟ์!” ซิกฟรีดคำราม เบี่ยงหลบลูกถีบแต่ก็ยังโดนแบบเฉียดๆ เสียงคำรามของราชาแตกพร่าจนน่ากลัว ความเยือกเย็นถูกปลดไปจนหมด

“เอลฟ์! ข้าไปทำอะไรให้!” โคลด์ถลึงตาแบบ ‘เจ้าตามจองล้างจองผลาญข้าจริง’

“โง่ขนาดไม่รู้ตัวหรือ” ซิกฟรีดคว้าขาของอีกฝ่ายแล้วกอดปล้ำอย่างไม่ไว้ท่าราชาเอลฟ์

“อา!” โคลด์ยันร่างสูงหนาไว้ ถ้าถูกกดลงไปได้เขาจะเสียเปรียบเต็มๆ ข้างบนปะทะกันด้วยอาวุธ ข้างล่างปะทะกันด้วยกำลัง

ซิกฟรีดใช้แขนดันคอโคลด์ ก่อนนี้ทำให้จมน้ำไม่ได้ผล ตอนนี้จะเอาถึงสลบอย่างเบาที่สุด

"ข้า...!" โคลด์ดันแขนต้าน "ไม่-ได้-ตั้ง-ใจ...ขวาง-ท่าน!" เขาบอกระหว่างดิ้น ร่างกายพลิกสลับ กดทับกัน

ซิกฟรีดดุดัน ไม่ฟังคำอธิบาย ดาร์กเอลฟ์อาจไม่ตั้งใจจริงๆ อย่างที่มันว่า แล้วอย่างไร การกระทำโดยไม่ตั้งใจของมันทำให้เสียทหารฝีมือดีไปหลายนาย ร้ายที่สุดคือเสียโอกาสในการล่ามังกร

"เพราะท่านให้เพื่อนข้าเดินนำหน้าไปเป็นเหยื่อมังกร จะให้ข้าเดินตามท้ายขบวนเฉยๆ หรือไง" โคลด์พูดกับซิกฟรีดเช่นนี้ที่ข้างบนไม่ได้ เพราะกลัวเรื่องจะบานปลายว่าราชารู้จักกับดาร์กเอลฟ์ชั้นต่ำ อีกอย่างท่านหญิงเอริแอดเน่เคยเห็นหน้าเขาด้วย

“แสดงความบริสุทธิ์ใจเสียสิ” ซิกฟรีดปล่อยให้นักฆ่าหายใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืนค้ำร่างที่ไออย่างเอาเป็นเอาตาย

ดาร์กเอลฟ์ดึงผ้าปิดปากลง

"ข้าเอง...ท่านจำข้าไม่ได้หรือ เจ้าชาย" เมื่อมีเวลามองหน้ากันชัดๆ ใบหน้าคุ้นเคยของคนที่เคยอยู่ร่วมกันมาเป็นสิบปีก็ปรากฏ โคลด์มีเส้นผมสีเงิน ดวงตาสีม่วงสวยสดแบบที่ดาร์กเอลฟ์ทั่วไปไม่มี มันรับกับผิวสีเทาอมม่วงของเขาอย่างเหมาะเจาะ "ข้าเคยรับใช้ท่านจนถึงเมื่อสามปีที่แล้ว สมัยท่านยังเป็นเจ้าชายที่สี่ไง"

ซิกฟรีดเงียบ ทั้งที่พอเดาได้ว่าเป็นโคลด์ตั้งแต่ได้ยินเสียงกระซิบของ ‘เวทพันธะ’ แต่พอเห็นด้วยตาจริงๆ ก็ชะงักไป ไม่พูดอะไรเป็นนาน

"ดาร์กเอลฟ์ผู้ต้องการอิสระเพื่อกลับไปหาคนรัก"

เขาย่อมจำได้

และจำได้ดีทีเดียว

ทาสดาร์กเอลฟ์ไม่ได้ ‘ขอ’ อิสระ แต่ทำให้เจ้าชายเอลฟ์ตระหนักว่าตนได้ริบมันมาโดยมิชอบ และเอ่ยเป็นเชิง ‘สั่ง’ ให้คืนสิ่งที่ควรคืนมาตั้งนานแล้ว

โคลด์ไม่ได้ขายตัวเองเป็นทาส ไม่เคยยินยอม ทว่าคิงเฟรธูริน อาร์ธีออน รูเมเรียร์ ผู้เป็นราชาแห่งอาณาจักรรูเมเรียร์ในเวลานั้น ได้ใช้วาทศิลป์ทำให้เขา ‘ยินยอม’ เป็น ‘ผู้ดูแล’ เจ้าชายซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ ซึ่งมีพระชันษาเพียง 9 ขวบปี แต่ข้อตกลงกลายเป็นข้อผูกพันที่ผูกมัดเรื่อยมาเป็นสิบปี จากชนอิสระกลายเป็นทาส รู้ตัวอีกที เขาก็สูญเสียอำนาจตัดสินใจชีวิตตนเอง

ซิกฟรีดมองโคลด์นิ่ง สายตาเย็นชาแต่กลับไม่เด็ดขาด มีระลอกอารมณ์เคลื่อนไหวอยู่ภายในเต็มเปี่ยม แบบที่คนรับใช้ใกล้ชิดเขาไม่เคยได้เห็นมาก่อน

“ข้าแค่อยากถามอะไรมังกรศิลาสักหน่อย ถึงมาที่นี่! เจ้าเอาคนมาขนาดนี้ คงไม่ได้มาล่ามันใช่ไหม”

“ความต้องการของเราสวนทางกัน” การตอบคำถามแบบกำกวม ปล่อยให้คนฟังคิดเอง คงเป็นลักษณะเด่นของเอลฟ์ ซิกฟรีดยังไม่สนใจคำอธิบายของโคลด์เช่นเดิม แต่ความโกรธดูจะทุเลาลงเมื่อโคลด์เปิดเผยตัว

“ข้าขอเวลา ไม่นาน อย่าเพิ่งฆ่ามันก่อนข้าเสร็จธุระกับมันได้ไหม” มังกรศิลาตัวนี้เป็นทางเลือกดีที่สุดที่เขามีในตอนนี้

“ข้าเสียทหารไปหลายนาย สำหรับข้อเท็จจริงนี้ ข้าควรทำอย่างไรกับเจ้า” แม้แต่คำขู่ยังกำกวม แต่สายตาชัดเจนเพียงพอ

“ก็ข้าไม่ได้ตั้งใจ” โคลด์ยืนกราน

“ไม่ตั้งใจก็ไม่ผิดอย่างนั้นหรือ”

โคลด์กลอกตา พยายามครุ่นคิดอย่างเยือกเย็น “ตอนนี้มังกรก็หนีไปแล้ว เราต่างคนต่างตามหาไม่รู้ว่าใครจะเจอมันก่อน เจ้ามีคนมากก็จริง แต่ข้าชำนาญพื้นที่กว่า ให้ข้าหามันเจอ พอเสร็จธุระ ข้าก็ส่งข่าวบอกเจ้าเป็นไง”

ซิกฟรีดหัวเราะ แปลว่าข้อตกลงยังไม่น่าพึงพอใจ

“เข้าไปลึกยิ่งอันตราย เจ้าส่งหนูไปตายตัวเดียวไม่เห็นเป็นไร แค่รอหน่อย เจ้าไม่เสียอะไร อย่างไรข้าคนเดียวก็ฆ่ามันไม่ได้”

แววตาคมปลาบของราชาเอลฟ์ราวกับจะเชือดอีกฝ่าย “ยังไม่สมกับความ ‘ไม่ตั้งใจ’ ของเจ้า ดาร์กเอลฟ์”

พวกเอลฟ์ โคลด์เหมือนเจอทางตัน ถ้าไม่ฝ่าซิกฟรีดไปก็ไปต่อไม่ได้ ถึงฝ่าไปได้เขาก็อาจพลาดโอกาสถามมังกรศิลา เพราะซิกฟรีดคงสั่งให้ล่ามันต่อ

“ก็ได้ ข้าจะชดใช้ให้ เจ้าจะได้ศพมังกรโดยที่เจ้าไม่เสียทหารอีกสักนาย เพราะข้าจะฆ่ามันให้ ที่เหลือเชิญเจ้าจัดการตามสบาย”

โคลด์ยอมเสียเปรียบ ถามมังกรกับฆ่ามังกรเป็นคนละเรื่องกัน โคลด์ไปคนเดียว ถามมังกรไม่ได้คำตอบก็ยังหนีทัน

แต่จะฆ่าน่ะหรือ…

หากมังกรศิลาฆ่าได้ง่ายๆ คงไม่ต้องให้ราชาเอลฟ์เข้ามาถึงที่นี่หรอก แค่ทหารฝีมือฉกาจไม่กี่นายก็พอ

“หัวใจ” เมื่อได้ข้อตกลงที่ต้องการ เอลฟ์กลับชัดเจนอย่างไม่น่าเชื่อ “เจ้าต้องนำหัวใจของมังกรศิลามาให้ข้า”

สายตาของโคลด์แสดงความรู้สึกตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา แบบที่ปกติเขาไม่แสดงกับใคร

เจ้ามันทุเรศ ใช้ข้าอย่างทาส เอาเปรียบทุกทาง

“ว่าอย่างไร ดาร์กเอลฟ์” แม้จะทราบชื่อ แต่ซิกฟรีดไม่เคยเรียกชื่อโคลด์ สตาร์เลยสักครั้ง

“ได้” โคลด์ตอบสั้นๆ

"ข้าจะทราบได้อย่างไรว่าเจ้ารักษาคำพูด" ซิกฟรีดสวนทันที

"ข้ารักษาคำพูดเสมอ"

"สิบปี ใช่...ข้ารู้ว่าเจ้านิสัยอย่างไร เจ้ารักษาคำพูด" น้ำเสียงของซิกฟรีดเจตนากระทบกระเทียบ "เจ้ารักษาคำพูดจริงๆ บอกว่าจะเป็นอิสระจากข้าให้จงได้ ก็ทำได้"

"ข้าได้ข่าวว่าเจ้าหมั้นหมายแล้ว ขอแสดงความยินดีด้วย"

“ไม่ใช่ธุระของเจ้า” ซิกฟรีดเหยียดยิ้ม “ส่วนข้าได้ยินว่าเจ้าเป็นแอสซาสซินท้ากฎหมาย ไม่นึกเลยว่าข่าวลือใต้ดินจะเชื่อถือได้”

"ข้าเป็นหนูดาร์กเอลฟ์ ต้องอยู่ในซอกหลืบสกปรกของรูเมเรียร์อยู่แล้ว" ลักษณะภายนอกของโคลด์ไม่เปลี่ยนไปมากนัก แต่สีหน้าท่าทางเย็นชาขึ้น

ดาร์กเอลฟ์ลุกยืนตรง แกะอกเสื้อ

"ตราทาสนี้ เจ้าเอาไว้บังคับข้าได้นี่"

ตรารูปกริชเด่นหราบนอกด้านซ้าย เหนือตำแหน่งหัวใจ หากปลายกริชกดลงไปจะแทงทะลุหัวใจพอดี

สัญลักษณ์ของ ‘เวทพันธะ’ ที่ผูกมัดผู้ทำสัญญาไว้ด้วยชีวิต

"มีวิธีอื่นมากมายที่จะบังคับเจ้าโดยไม่ต้องใช้เวทพันธะให้เสียเปล่า" ซิกฟรีดยกนิ้วขึ้นแล้วตวัดเบาๆ กริชเคลื่อนตามนิ้วเล็กน้อย โคลด์เสียวแปลบ นิ่วหน้า ราชาเอลฟ์หยุดเพียงเท่านั้น

"ยกตัวอย่างเช่น...ข้าจะให้องครักษ์มือดีติดตามเจ้าไปคนหนึ่ง"

 

คิงซิกฟรีดกลับขึ้นไปด้านบนพร้อมกับอิลราลาน—องครักษ์มือซ้ายผู้ได้รับคำสั่งจากท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ให้ตามหาองค์ราชาแห่งรูเมเรียร์

ท่านหญิงพระคู่หมั้นรั้งรออยู่ที่เดิมพร้อมทหารคุ้มกัน มังกรดินทุกตัวถูกกำจัดหมดแล้ว ถ้ำสว่างไสวด้วยมนตราของนักเวทรูเมเรียร์ แสงไฟขับแววตาของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ให้ชัดขึ้น แววตานั้นคล้ายถามถึงชะตาของแอสซาสซิน ว่าเป็นไปอย่างที่ควรเป็นไปหรือไม่

‘ราชาของข้า ท่านได้ประหารมันแล้วใช่หรือไม่’

“ฝ่าบาท…” เอริแอดเน่ทวงถามซิกฟรีดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่พูดอะไร

“เราให้มันชดใช้ด้วยหัวใจมังกร” ราชาเอลฟ์สั่งให้ทหารเคลื่อนขบวนออกจากถ้ำ

กษัตริย์ใช้งานนักฆ่าหรือ เอริแอดเน่จะคัดค้าน นางบังคับม้าให้ตีคู่องค์ราชาอย่างสุภาพ ก่อนจะเอ่ยแค่พอได้ยินกันสองคน "เมื่อเสร็จงานแล้วท่านจะประหารมันใช่หรือไม่"

แม้ซิกฟรีดจะตรากฎหมายให้ดาร์กเอลฟ์ที่ขึ้นทะเบียนออกมาอยู่ในที่สว่างได้ สามารถประกอบอาชีพได้ แต่เรื่องนี้ยังใหม่สำหรับประชาชนมาก หากแพร่งพรายออกไปคงไม่ดี

โดยเฉพาะ...เมื่อกบฏจากเผ่ามืดคือผู้ลอบปลงพระชนม์คิงเฟรธูริน อาร์ธีออน รูเมเรียร์ และคิงริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์ พระเชษฐาทั้งสองของราชาองค์ปัจจุบัน ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์

"ไว้เราค่อยตัดสินใจ ท่านหญิง"

ในความเงียบ เสียงหัวใจขององค์ราชาไม่สงบเลย

“อิลราลาน” คิงซิกฟรีดเรียกหาองครักษ์ อิลราลานตอบรับด้วยการดึงบังเหียนม้าเข้ามาใกล้

"มาลแกธอยู่ที่ไหน"

 

โคลด์เร้นกายอยู่ตรงถ้ำด้านล่าง เขาเรียกอิลมาเรด้วยการเป่าปากให้สัญญาณว่าปลอดภัยแล้ว

ดวอร์ฟสาวที่กระโดดน้ำตามลงมามุดออกจากโพรงที่ซ่อนตัว ตัวเธอเปียกมะลอกมะแลก “เอายังไงต่ออ่า เรื่องพระราชาด้วย เขาจะตามล่าเราไหม”

“ไม่ตามล่า ข้าตกลงกับเขาได้แล้ว แต่วันนี้เราทำอะไรไม่ได้อีก ต้องกลับเมืองก่อน”

รังของมังกรศิลาคงอยู่ลึกเข้าไปอีก วันนี้ลูกฝูงของมันตายไปหลายตัว แต่ไม่รู้ว่าภายในรังจะมีเหลืออีกกี่ตัว การกำจัดมังกรศิลาไม่ใช่สิ่งที่โคลด์เตรียมตัวมา เขาต้องกลับไปวางแผนก่อน

แผนที่ไม่ต้องพึ่งซิกฟรีดหรือกำลังทหารของเขา

“ไง”

จู่ๆ สัมผัสหนักๆ ก็ตบลงมาบนบ่าจากด้านหลัง โคลด์ดึงมีดจากเอวตวัดไปยังผู้มาเยือน ทว่าอีกฝ่ายกลับหลบได้อย่างฉิวเฉียด ปลายมีดกรีดหน้ากากคาดปากดังเชียะ!

“ใจเย็น” เสียงทุ้มนุ่มนวลปลอบดาร์กเอลฟ์ซึ่งระวังภัยเต็มที่ เขาค่อยๆ ยกมือปลดหน้ากากรูปสัตว์ร้าย ใบหน้าหล่อเหลาอันแสนคุ้นเคยปรากฎแก่สายตา

“มาลแกธ?”

เอลฟ์เผยยิ้มกว้าง

“ขอบคุณที่ยังจำอาจารย์ของเจ้าได้ โคลด์ สตาร์”

—————————————————————————

A/N ตัวละครใหม่! 'มาลแกธ' คนนี้เราปลื้มมากเลยค่ะ เขาเป็นผู้ใหญ่กว่า โปรไฟล์ไม่ธรรมดา แล้วก็ถึงเนื้อถึงตัวด้วย  :-[

ป.ล. ความสัมพันธ์ระหว่างโคลด์กับอิลมาเรคือเป็นเพื่อนกันนะคะ ในนิยายวาย ผู้หญิงไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่ แต่ในชีวิตจริง โลกเราก็มีทั้งหญิงและชาย คนที่ห่วงใยกัน เข้าใจกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นคนรักกันเสมอไป อีกอย่าง ความเป็นเพื่อนนี่บางทีมันก็คงทนกว่าความเป็นแฟนนะ

อัพเดทครั้งต่อไปวันที่ 31 ธ.ค. 59 ค่ะ เป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยน้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1: (5-6) [29/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: nutiez ที่ 30-12-2016 00:41:54
คิงเย็นชาจังนะคะ  :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1: (5-6) [29/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 30-12-2016 02:59:33
เป็นนิยายแฟนตาซีที่สนุกมากกกกกกก เข้ามาตามทุกวันเลย   ไรต์เขียนสนุกและน่าติดตามอ่ะ เคยเขียนนิยายมาก่อนรึเปล่าอ่ะ แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะ ขอให้ไรต์มาต่อทุกวันเลยยยยยยย :mew1: :call:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1: (5-6) [29/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 30-12-2016 15:28:56
คิงเย็นชาจังนะคะ  :hao3: :hao3: :hao3:
แต่มีรักที่เร่าร้อนอยู่นะคะ!!!! ภายในค่ะภายใน ไฟรักสุมทรวง (-3-)

เป็นนิยายแฟนตาซีที่สนุกมากกกกกกก เข้ามาตามทุกวันเลย   ไรต์เขียนสนุกและน่าติดตามอ่ะ เคยเขียนนิยายมาก่อนรึเปล่าอ่ะ แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะ ขอให้ไรต์มาต่อทุกวันเลยยยยยยย :mew1: :call:
แง ยินดีมากเลยค่ะ ;w; ดีใจที่ได้ยินว่าตามทุกวัน อยากเชียร์ให้อ่านแฟนตาซี BL กัน /ถูไถ  :mew2:
เราเพิ่งเคยลงนิยายในเล้าเป็นครั้งแรก แต่มีผลงานอื่นๆ ที่เคยเขียนและลงในอ่านฟรีในอินเทอร์เน็ตก่อนหน้านี้หลายเรื่อง
ดูรายละเอียดได้ที่เพจ https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
หรือจะ PM มาถามเรื่องแนวที่อยากอ่านก็ได้ค่ะ จะได้แนะนำได้ถูก เราชอบเขียนแฟนตาซี กับแนว Crime / Thriller ค่ะ

สำหรับท่านอื่นๆ อย่าลืมว่าเรามีนัดตอนต่อไปกันพรุ่งนี้ 31 ธ.ค. 59 นะคะ!
เนื้อเรื่องจะขึ้นบทที่ 2 แล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1: (5-6) [29/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 30-12-2016 18:35:40
ไรต์จ้า มารึยังงงงงงงง รออยู่นะะะะะะะ
 :mew1: :call:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1: (5-6) [29/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 30-12-2016 19:55:38
ชอบบ แนวนี้หาอ่านย้ากยาก
รอบทต่อไปอยุ่นะคะ :impress2:
หัวข้อ: Re:【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 2: (1-2) [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 31-12-2016 15:10:49
บทที่ 2 : เอลฟ์ตะวันออก (1-2)


"ผะ ผี! ผีเอลฟ์ออกมาจากอากาศ!"

"โอ้ สะดุ้งเหมือนแมวเลย"

เอลฟ์ที่โผล่มาทักแบบสุ่มสี่สุ่มห้า เสี่ยงจะโดนดาร์กเอลฟ์เชือดคอ เอ่ยทักดอร์ฟสาวที่สะดุ้งโหยงไปหลบอยู่หลังโคลด์

“ใครอะ” อิลมาเรถาม เหมือนได้ยินอีกฝ่ายพูดว่า ‘อาจารย์’

โคลด์ยืนตัวตรง เก็บมีดเหน็บข้างเอว เขานึกหาคำพูดอยู่ครู่ใหญ่ จ้องเอลฟ์ผู้มีผมสีแปลกตาอยู่นาน จนอิลมาเรกระตุกเสื้อเขาอีกรอบจึงเอ่ยตอบอย่างเสียไม่ได้ “คนรู้จักสมัยก่อน”

"มาลแกธ ล็องธู นามของข้า" เขาโค้งให้อิลมาเร เป็นภาพที่แปลก เมื่อเอลฟ์ย่อตัวแล้วโค้งให้ดวอร์ฟ ราวกับยอมรับว่าอยู่ในฐานะเดียวกัน ผมสีทองเจือแดงตกลงมาจากบ่าเหมือนม่านน้ำตก เปียสงครามที่ถักอยู่บริเวณขมับ ร้อยเครื่องประดับสูงค่า

เอลฟ์ผู้นี้เป็นชาวตะวันออก ชำนาญการรบ และยิ่งชำนาญในสนามรัก

อิลมาเรเขินจนแก้มแดง รอยยิ้มของมาลแกธมีเสน่ห์แบบสตรีคนใดก็ปฏิเสธไม่ได้ “นี่ๆ เขาบอกว่าเป็นอาจารย์ของเจ้า” เธอตื้อถาม

“ก็เคยสอนวิชาให้ข้าในสมัยก่อน” โคลด์ตอบ

อิลมาเรตกใจอีก “เจ้ามีอาจารย์เป็นเอลฟ์?” ดาร์กเอลฟ์มีอาจารย์เป็นเอลฟ์ ประชาชนชาวรูเมเรียร์ร้อยทั้งร้อยย่อมแปลกใจเหมือนเห็นปลาขึ้นมาเดินบนบก

"เรื่องมันยาวน่ะ"

"ควันของเจ้าทำให้ซิกฟรีดหงุดหงิดมาก" มาลแกธจุปาก คล้ายดุเด็กซุกซนหน่อยๆ

“ข้าทำสิ่งที่ต้องทำต่างหาก”

"ข้าสอนเจ้าดีเกินไป เรื่องที่ทำให้คนอื่นปวดหัวน่ะ"

"เขาโมโหง่ายขึ้นหรือไม่" โคลด์ถามเรียบๆ ซิกฟรีดในความทรงจำของเขาเงียบขรึมและใจเย็นกว่าในตอนนี้

“ถ้าจะคุยกันเรื่องของเขา เราคงต้องใช้เวลาทั้งคืน”

มาลแกธมองโคลด์และอิลมาเรที่เปียกไปทั้งตัว รวมถึงสภาพถ้ำที่ทั้งชื้นและเหม็นมูลมังกร

“และไม่ใช่ในถ้ำนี้แน่นอน”

 

ออกจากถ้ำมาได้ฟ้าก็เปลี่ยนสีแล้ว บิดาและมารดาแห่งนภาอุ้มบุตรพระจันทร์ขึ้นทอแสงนวลตา ส่องลงมายังพื้นโลก เมตตาให้ทางที่มาลแกธ โคลด์ และอิลมาเรใช้เดินทางกลับไม่มืดเกินไปนัก

ทั้งสามแวะพักเมืองใกล้ๆ เพราะเมืองหลวง—เอวา เธมาร์อยู่ไกลเกินไป เมื่อเลือกโรงเตี๊ยมได้ก็มานั่งกินอาหารในร้านแบบบ้านๆ

มาลแกธถอดเกราะออก ผูกไว้กับม้าที่อิลราลานคงเอ่ยปากขอคิงซิกฟรีดให้ทิ้งเอาไว้หน้าปากถ้ำตัวหนึ่ง เขาจ่ายเงินให้อิลมาเรแลกกับผ้าไว้คลุมสัมภาระ อันที่จริงเขาไม่ได้กลัวมือดีมาขโมย เพียงแต่เกราะประทับตราทหารส่วนพระองค์จะทำให้เขาสะดุดตาเกินไป

“ข้าเป็นเอลฟ์ง่ายๆ” มาลแกธบอกอิลมาเร “และถ้าเจ้าของร้านมาสอพลอคงทำให้พวกเราหมดสนุกแน่” เขาขยิบตาพลางดึงฮู้ดขึ้นมาปกปิดผมสีแปลกและใบหน้าหล่อเหลือร้าย

ในร้าน อิลมาเรสั่งซุปมากินเป็นชามที่สี่ ขณะที่มาลแกธดื่มเบียร์เหมือนน้ำ ชามและเหยือกเบียร์ของทั้งคู่มากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนโคลด์กินเหมือนแมวดม เขากัดเนื้อแห้งชิ้นเล็กเงียบๆ เคี้ยวแล้วเคี้ยวอีกก่อนกลืนลงไป

"เจ้าพูดน้อยจริงๆ เหมือนสลับกับซิกฟรีด" มาลแกธตั้งข้อสังเกต มือใหญ่ดันเหยือกเบียร์ไปตรงหน้าโคลด์ “สักหน่อยสิ”

โคลด์ปฏิเสธด้วยการกินเนื้อแห้งชิ้นเล็กของตัวเองต่อ

เขาสวมฮู้ดปิดหน้าปิดตา พวกแอสซาสซินถ้าใส่ชุดปิดหมดก็ยากจะแยกว่าเป็นเอลฟ์หรือดาร์กเอลฟ์ เนื่องจากทั้งสองเผ่ามีรูปร่างใกล้เคียงกัน สำหรับมาลแกธ มันยากที่จะรู้ว่าโคลด์กำลังแสดงสีหน้าอย่างไร

"เขาพูดมากหรือ" โคลด์ถามเมื่อกินเสร็จ

"เหมือนเอาความอัดอั้นที่ไม่ได้พูดตลอดสิบปี มาระบายภายในสามปี"

"ไม่นึกมาก่อนว่าเขาจะพูดเก่ง" ดาร์กเอลฟ์แปลกใจเล็กน้อย

"อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปโคลด์สตาร์" มาลแกธหัวเราะเบาๆ เขายินดีที่อีกฝ่ายแสดงอารมณ์บ้าง โคลด์คงไม่สังเกตตัวเอง แต่มาลแกธทราบ น้ำเสียงที่เปลี่ยนไป ใบหน้าใต้ผ้าคลุมที่เงยขึ้นมาคล้ายตั้งใจฟัง อาการเกร็งของร่างกายโดยเฉพาะไหล่คลายลง

“และ...เขาคงอยากพูดก่อนที่จะไม่ได้พูดกระมัง”

“ข้าก็เห็นเขาพูดจาดีอยู่”

“ถ้าเจ้าสังเกต เสียงของเขาเปลี่ยนไปหน่อยๆ”

ไม่หน่อยละ เปลี่ยนไปอย่างมากเลย

เสียงของซิกฟรีดแตกพร่า หากพูดเป็นประโยคยาวๆ ก็แทบจับความไม่ได้

มาลแกธชี้ที่คอ “โดนกระแทกซ้ำๆ” แล้วชี้ที่หู “โดนตบหลายครั้ง” ก่อนจะเอามือวางบนหน้าข้างซ้าย

“ส่วนตรงนี้โดนคำสาปมืด”

เส้นเสียงถูกทำลาย หูเกือบดับ ส่วนใบหน้าเสียโฉม

ฟังมาลแกธบอกเล่าไม่กี่คำ สามารถนึกถึงความทรมานทางกายและใจของซิกฟรีดได้ดีทีเดียว

เอลฟ์ตะวันออกสังเกตปฏิกิริยาของอีกฝ่าย

“ท่านเล่าให้ฟังเพื่อให้ข้าแสดงความเห็นใจหรือ ถ้าเขาต้องการความเห็นใจ เขาก็ไม่ใช่นายทาสที่คุมตัวข้าไว้นานเป็นสิบปี”

อิลมาเรมองเหลอหลา เธอไม่ทราบอดีตของโคลด์เพราะอีกฝ่ายไม่เคยเล่า นับจากคบหากันมาราวสามปี นี่เป็นอดีตแรกที่ดาร์กเอลฟ์ยอมเปิดเผย

มาลแกธยักไหล่ “นั่นสินะ”

อิลมาเรปะติดปะต่อความสัมพันธ์ของโคลด์กับราชาเอลฟ์ โดยมีมาลแกธหันมาอธิบายบางครั้งเวลาเห็นเธอขมวดคิ้ว หรือไม่ก็ทำตาโตแบบอยากรู้อยากเห็น จนพอสั่งซุปชามที่ห้า อิลมาเรก็เข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง (ซึ่งไม่รู้ว่าควรเชื่อเอลฟ์ตะวันออกสักแค่ไหน)

"แล้วท่านไม่ต้องรีบกลับไปรับใช้เขาหรือ" โคลด์ถาม

"เขาไม่ใช่เด็กห้าขวบที่ดูแลตัวเองไม่ได้สักหน่อย...เจ้าดื่มเหล้าไหม ที่นี่มีเหล้าแบบเย็นด้วยนา"

มาลแกธยกมือสั่งเหล้าแช่เย็นแบบพิเศษให้โคลด์ เขาตั้งใจจะหยุดบทสนทนาเกี่ยวกับซิกฟรีดด้วยการสังสรรค์

“คุณผู้หญิงต้องการอะไรเพิ่มหรือไม่”

“ไม่ค่า!” อิลมาเรปลื้มกับคำเรียกแสนสุภาพ เธอดันศอกยิกๆ ให้โคลด์ร่วมดื่ม อย่าเสียมารยาท

โคลด์จึงยกแก้ว ดื่มเหล้าเย็นจัด

"ข้าชอบเจ้าตอนพยายามหนี ข้าถึงสอนวิชาให้เจ้า" ความหลังระหว่างศิษย์และอาจารย์คู่นี้ซับซ้อนพอๆ กับเรื่องทาสและเจ้านาย

"ข้าไม่ต้องพยายามแล้ว ข้าเป็นไท" โคลด์กระดกแก้วเหล้า รอให้หยดสุดท้ายไหลลงลำคอ แต่มันค้างอยู่อย่างนั้น เหมือนเวลาร้องไห้แล้วน้ำตาไม่ไหล เพราะซิกฟรีดยังประทับตราทาสไว้บนอกเขา ใช่ว่าเขามีอิสระอย่างแท้จริง

ก่อนมาลแกธจะพบโคลด์ โคลด์รับใช้ซิกฟรีดอยู่ในสำนักควาร์ ช่วงหนีใหม่ๆ ดาร์กเอลฟ์เกือบตาย หนีจนโดนลงโทษครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งวันหนึ่ง ซิกฟรีดบอกอนุญาตให้ไปได้ แต่พอโคลด์ก้าวออกจากอาศรมเขากลับต้องหนีการตามล่าจากควาร์คนอื่นเหมือนหมา ซิกฟรีดผิดคำพูด ไม่ปล่อยเขาไป

จากหมากลายเป็นหมาจนตรอก ดาร์กเอลฟ์ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อิสระ ทว่าหลังจากได้แผลที่หูเป็นการลงโทษ เขาก็หยุดหนีคล้ายปลงได้ ยอมรับใช้ซิกฟรีดจนถึงวันแยกทางเมื่อสามปีก่อน

หลังแยกทาง โคลด์เลี้ยงชีพด้วยสิ่งที่เรียนมาจากมาลแกธ ศพแรกตามด้วยศพที่สอง...และศพต่อๆ มา ในที่สุดเขาก็ใช้ชีวิตอยู่บนซากศพ—เป็นแอสซาสซิน

“ข้าดีใจที่เจ้าไม่ลืมสิ่งที่ข้าสอนไว้ เหมือนที่ข้าเคยบอก เป็นแอสซาสซินดีที่สุด”

“อ้อ ท่านมาลแกธเป็นแรงบันดาลใจของเจ้านี่เอง” อิลมาเรช่วยผสมโรง

โคลด์นิ่งคิด “ถ้าไม่เป็นแอสซาสซิน ข้าก็ต้องเรียนวิชา อ๊ะๆ อาๆ ที่เขาสอนควาร์หน้าตาน่ารักอีกวิชา ข้าไม่เห็นว่ามันมีประโยชน์นัก เลยเลือกเรียนวิชาแอสซาสซินที่ดูมีประโยชน์กว่า”

อิลมาเรเลิกคิ้วถาม “อะไรคือวิชาอ๊ะๆ อาๆ”

“เพราะไม่ได้เลือกเรียนวิชานั้น ข้าจึงไม่ทราบเนื้อหา ทราบแต่ว่าควาร์ที่จะเรียนได้ต้องหน้าตาน่ารักๆ หน่อย พอเข้าห้องเรียนไปก็มีแต่เสียงอ๊ะๆ อาๆ ลอดออกมา ดีตรงที่ควาร์ทุกคนที่เข้าเรียนกับเขาไม่มีใครรังแกข้า เพราะถ้ามาระรานข้าที่เป็นลูกศิษย์เหมือนกัน มาลแกธจะเลิกสอนวิชาให้”

อิลมาเรหันไปมองมาลแกธด้วยความนับถือ “ท่านทั้งรอบรู้ รอบคอบ และมีน้ำใจ!”

มาลแกธยิ้มให้อิลมาเร ก่อนจะหันมายิ้มให้โคลด์ มันเป็นรอยยิ้มที่อ่านได้ว่า ‘ข้าจะทดไว้เอาคืนเจ้าทีหลัง’

“เขามีลูกศิษย์เยอะ วิชาอ๊ะๆ อาๆ ของเขาจึงช่วยข้าได้มากทีเดียว" โคลด์เสริม ยังไม่รู้สึกตัว

ตอนซิกฟรีดอายุสิบห้า เขาเคยห้ามโคลด์คุยกับมาลแกธโดยไม่บอกเหตุผล แต่โคลด์ปฏิเสธ

 

“ข้าต้องเรียนวิชากับเขา ข้าเลิกพูดกับเขาไม่ได้”

ซิกฟรีดขมวดคิ้ว เป็นการแสดงอารมณ์ที่มากที่สุดในตอนนั้น ในใจเขาคิดว่า ‘กลัวไม่ได้เรียนวิชาอ๊ะๆ อาๆ อะไรนั่นขนาดนั้นเลยหรือ’

“ถ้าอยากเรียน ข้าสอนได้” ซิกฟรีดตอบ

“แต่ข้าไม่อยากเรียนกับเจ้า” ในใจโคลด์คิดว่า ‘ข้าจะเรียนเป็นแอสซาสซิน ไม่ใช่นักดาบ’ เพราะซิกฟรีดเรียนวิชาดาบใหญ่ซึ่งโคลด์ไม่ชอบใช้

หลังจากนั้นซิกฟรีดก็ดวลกับมาลแกธ เป็นการดวลที่ดุเดือดน่าจดจำทีเดียว


 

การรำลึกอดีตจบลงแค่นั้น โคลด์วางแก้วเหล้ากระทบโต๊ะเบาๆ “ตอนนี้ข้าเป็นอิสรชน และสบายดี”

มาลแกธวางสายตาบนมือของโคลด์ "งั้นหรือ" เขาเอ่ยลอยๆ ขณะที่มองทะลุเข้าไปภายในใจของดาร์กเอลฟ์

มาลแกธเห็นคนที่ถูกขังอยู่ในกรง ใบหน้าแบบนี้จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากผู้ที่โดนริบอิสระ ทว่า มาลแกธไม่ได้นึกถึงซิกฟรีด เขาคิดว่าโคลด์ สตาร์ขังตัวเองไว้ ด้วยเหตุใด เขาไม่ทราบ สัญชาตญาณและประสบการณ์บอกเขาเพียงเท่านั้น

“เรากลับที่พักกันดีกว่าเนอะ” อิลมาเรเสนอ แล้วหันไปบอกโคลด์ “ค่าอาหารของเจ้า ข้าไม่ให้ยืมเงินหรอกนะ”

"ข้าจ่ายเอง" มาลแกธเสนอตัวเลี้ยง

โคลด์รับน้ำใจ เพราะช่วงนี้รายได้ฝืดเคือง

แน่นอน อิลมาเรผู้เป็นดวอร์ฟหัวการค้าก็ไม่ปฏิเสธเช่นกัน

 

สมาชิกกลุ่มประหลาดที่ประกอบด้วยเอลฟ์ ดาร์กเอลฟ์ และดวอร์ฟนั่งประชุมกันตรงโต๊ะเล็กในห้องพักโรงเตี๊ยม

"สรุปแล้ว เจ้าต้องฆ่ามังกรศิลาให้พระราชา…” อิลมาเรเอ่ยเมื่อได้ทราบเรื่องทั้งหมด เธอปล่อยผมสีน้ำตาลอ่อนประบ่า เช็ดผมไปด้วยเพราะเพิ่งอาบน้ำสระผมเสร็จ “แล้วท่านมาลแกธมาเกี่ยวอะไรด้วย”

“ข้าเป็นเอลฟ์ตะวันออก เห็นลูกศิษย์เดือดร้อนก็อยากช่วยเหลือ”

อันที่จริงมาลแกธได้รับข้อความลับจากคิงซิกฟรีดผ่าน ‘เงาสังหาร’ ข้อความนั้นกล่าวชัดว่า ‘จงช่วยเหลือโคลด์ สตาร์จนสำเร็จภารกิจ’ แต่เขาไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ทั้งคู่ฟัง

หากเอลฟ์ตะวันออกที่ขึ้นชื่อเรื่องทำอะไรตามใจตน จะรู้จักยึดคติประจำใจอย่างเอลฟ์รูเมเรียร์บ้าง มาลแกธ ล็องธูคงยึดคติ ‘ข้อเท็จจริงมันน่าเบื่อ’ เป็นอันดับแรก

“โอ้โห เจ้ามีอาจารย์ใจดีจังเลย” อิลมาเรไม่ค่อยได้ค้าขายนอกอาณาจักรรูเมเรียร์ เลยเชื่อว่าเอลฟ์ตะวันออกไม่แบ่งชนชั้นเท่าเอลฟ์ในแดนกลาง

เป็นโคลด์ที่สีหน้าเรียบเฉยไม่เปลี่ยน “เขาไม่ได้ใจดีตรงไหนเลย คิงซิกฟรีดพาทหารมือดีมาเป็นกองเพื่อฆ่ามังกรศิลา แต่ข้ามีคนเดียว เพิ่มมาลแกธมาอีกคนก็เทียบกับทหารทั้งกองนั้นไม่ได้หรอก แต่มาลแกธชอบเรื่องสนุก เขามาดูว่าข้าจะแก้ปัญหายังไงมากกว่า”

“เจ็บปวดจริงๆ” มาลแกธยกมือวางบนหน้าอก “เจ้ามองข้าอย่างนั้นหรือนี่”

“เรารู้จักกันมานานพอสมควร ‘อาจารย์’ ” โคลด์ยอมเรียกมาลแกธแบบนี้ แต่อิลมาเรฟังแล้วไม่เห็นมันดูสนิทสนมตรงไหนเลย

“เรารู้จักกัน ‘ดี’ ทีเดียวเชียว”

“ข้ามีแผนการ ไม่ต้องห่วง ท่านรายงานซิกฟรีดได้เลยว่าข้าไม่ได้รับปากพล่อยๆ” โคลด์ไม่เชื่อว่ามาลแกธอยากมาช่วยเขาเอง เรื่องบางเรื่องดาร์กเอลฟ์ดูใสซื่อ แต่บางเรื่องกลับฉลาด

ดวงตาของมาลแกธยิ้ม ปากยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้เขาดูเหมือนผู้ที่กุมความลับซึ่งอีกฝ่ายไม่รู้ และจงใจแสดงออกราวกับเด็กที่ต้องการเปิดเผยมันเต็มที

เขาชอบความสัมพันธ์ระหว่างราชาเอลฟ์กับทาส ทั้งคู่มองเห็นกันละกันไม่ชัดเจน แต่สำหรับผู้ชมอย่างเขา มันโจ่งแจ้งเสียจนน่าขัน เขาชอบเรื่องสนุกอย่างนั้นหรือ

ถูกต้องแล้ว โคลด์ สตาร์

“แล้วแผนการที่ว่าคือ…” อิลมาเรเร่งให้เข้าประเด็น

"ขั้นแรกข้าต้องมีอาวุธไว้ฆ่ามังกร ข้าต้องซ่อมบีฟอร์ซก่อน" บีฟอร์ซคือชื่อมีดสั้นน้ำแข็งของโคลด์ อาวุธเวทระดับสูงมักมีชื่อเรียก โคลด์ถนัดเวทสายเพิ่มพลังโจมตีให้แก่อาวุธ น้ำแข็งก็เป็นหนึ่งในธาตุที่เข้ากับดาร์กเอลฟ์

"ไม่ ข้าไม่ให้เจ้ายืมเงินหรอก" อิลมาเรกอดอกขึงขัง “ค่าซ่อมอาวุธเวทมันแพงมาก เจ้าก็ทราบ”

โคลด์ทราบว่าอิลมาเรกำลังต่อรอง แต่ก่อนที่เขาจะอ้าปาก มาลแกธกลับเอ่ยแทรก

"แต่ข้าไม่มีปัญหาเรื่องเงินที่รัก" มาลแกธตบกระเป๋าคาดสะโพก

ดวอร์ฟสาวเลิกคิ้ว มองโคลด์ด้วยดวงตากลมโตสีน้ำตาลอมแดง

เขาเรียกเจ้าว่าที่รัก!?!

เขาไม่มีปัญหาเรื่องเงินทองด้วย!

ถุงเงินถุงทองของเจ้าอยู่นี่แล้ว!


โคลด์ทำหน้ายู่แบบไม่เคยทำมาก่อน “หยุดคิดสิ่งที่เจ้ากำลังคิดเลย อิลมาเร มาลแกธ...เป็นเอลฟ์ประหลาด เขาก็เรียกทุกคนแบบนั้นแหละ ข้าได้ยินจนชินแล้ว” เขาหันไปหามาลแกธ “ส่วนเงินของเจ้า ไม่เป็นไร ข้าไม่ต้องการ"

โคลด์ไม่ยอมติดหนี้เอลฟ์เด็ดขาด เลี้ยงอาหารหนึ่งมื้อกับค่าซ่อมมีดสั้นราคาต่างกันคนละโยชน์

"ข้าอยากกินช็อกโกแลต" มาลแกธทำหน้าตาจริงจัง ก่อนจะหันไปคุยกับอิลมาเร “เมืองหลวงหาช็อกโกแลตดีๆ กินยากเหลือเกิน ช่วงนี้ท่านหญิงท่านชายเชื่อว่าช็อกโกแลตเลวร้ายพอๆ กับฝิ่น ติดแล้วเลิกยาก พอเจ้านายไม่กิน ข้ารับใช้ไม่กิน เรื่องหลุดออกมานอกราชวัง ประชาชนตาดำๆ ก็ไม่กินอีก หายากจริง ใช้แทนเงินได้เลยละ”

“ข้ามีช็อกโกแลตเยอะแยะเลย” อิลมาเรไม่เข้าใจธรรมเนียมของเอลฟ์หรอก เธอกระโดดไปเปิดเป้ใบใหญ่แล้วกลับมาพร้อมห่อกระดาษลูกกลมสีเงินๆ ทองๆ เต็มอ้อมแขน

“ไหน” มาลแกธยื่นหน้าไปดู “โอ้ ช็อกโกแลตพวกนี้น่าจะแลกได้...อืม” เอลฟ์ตะวันออกชูนิ้วให้ดวอร์ฟสาวดู

“สามควินน์?”

มาลแกธส่ายหน้า “สามพันต่างหาก”

แม่ค้าดวอร์ฟยิ้มหน้าบาน นี่มันถุงเงินถุงทอง! ช่วงนี้ช็อกโกแลตกินเล่นขายไม่ค่อยออกจริง แล้วราคาสามพันควินน์ก็พันเท่าของราคาจริงด้วยซ้ำ เลือดแม่ค้าในตัวทำให้อิลมาเรอยากจะขายช็อกโกแลตทุกลูกให้ท่านถุงทองจริงๆ

แต่ว่า

“โคลด์ของข้า ข้าช่วยเอง” อิลมาเรหัวเราะ แกะช็อกโกแลตกินแล้วแบ่งมาลแกธ “ถ้าต้องให้เขาพึ่งคนอื่น อีกหน่อยเขาก็ไม่มาพึ่งพาข้าสิเจ้าคะ เงินดีแค่ไหนก็เทียบกับแอสซาสซินดีๆ หนึ่งคนไม่ได้หรอก”

“อืม” มาลแกธหนักใจ “งั้น...เจ้าชอบส่วนไหนของมังกร”

"ข้าจะเลาะฟันมังกรศิลามาให้เจ้าซี่หนึ่ง" โคลด์ชิงพูดตัดหน้า

ดวอร์ฟสาวตาโต ฟันมังกรศิลา ฟันมังกรศิลาเลยนะ! กำไรกว่าที่คิดเสียอีก!

"เอาฟันซี่ที่สวยที่สุด!" อิลมาเรตอบว่องไว เธอบวกลบคูณหารแล้วอยากได้มังกรทั้งตัวมากกว่า แต่พระราชาก็ต้องการ จะแย่งของกับขาใหญ่ที่สุดในรูเมเรียร์ก็ดูไม่ฉลาด (โคลด์ไม่ได้บอกอิลมาเรว่าซิกฟรีดต้องการแค่หัวใจมังกร)

"ข้าให้ฟันมังกรไฟ" มาลแกธเกทับโคลด์ “แถมหนังมังกรศิลาให้ด้วยเอ้า”

($_$)

เหมือนได้ยินเสียงกริ๊งๆ ของเหรียญทองจากสีหน้าของอิลมาเร เธอหันไปทางมาลแกธ "ท่านจะให้ฟันมังกรไฟแก่ข้า เพื่อให้ข้าไม่ช่วยเขา แล้วเขาต้องไปพึ่งท่านหรือ"

"ถูกต้อง เจ้าช่างหลักแหลมนัก"

"ฟันคู่ได้ไหม” อิลมาเรต่อรอง

แน่นอน มาลแกธเป็นเอลฟ์ใจกว้าง "ไม่มีปัญหา"

"ขายเลยค่า นายท่าน!" อิลมาเรยกแขนสองข้างในท่าฮูเร!

โคลด์มองแบบไม่เชื่อสายตา อิลมาเรเพิ่งขายเขา?

"มีดสั้นน้ำแข็ง ถึงมีเงินก็หาช่างซ่อมยากนะ" แอสซาสซินรุ่นใหญ่กระซิบ “เจ้าลดเกราะลงบ้างเถอะ ใช่ว่าข้าจะฉวยโอกาสแทงเจ้าให้ตายตรงนี้เสียเมื่อไหร่”

“ใช่ เจ้าไม่ชอบแทงให้ตายทีเดียว แต่จะค่อยๆ แทงหลายๆ ทีต่างหาก”

“อืม” มาลแกธลูบปาก “ฟังเจ้าพูด ข้าเริ่มคิดไปไกลกว่าการลอบสังหารธรรมดาๆ แล้ว”

โคลด์เงียบ ไตร่ตรอง...สุดท้ายเลือกไม่ต่อปากต่อคำกับมาลแกธ “ตกลง ช่วยซ่อมให้ข้าด้วย ข้าจะถือว่าเจ้าทำเพื่อซิกฟรีด จึงไม่นับเป็นหนี้ที่ข้าต้องใช้คืน”

“สมมติว่าข้าซ่อมมีดให้เจ้าได้แล้วจะอย่างไรต่อ”

โคลด์เอ่ยแผนการขั้นต่อไป

“ข้าต้องการส่าเหล้า ส่าเหล้าชั้นดี เอาแบบดีที่สุด ข้าเห็นตัวจริงของมันแล้ว มังกรศิลาพันธุ์นี้ชอบกินเหล้า เราจะทำให้มันเมา พอเสร็จธุระกับมันเมื่อไหร่ ข้าจะสังหารมันให้เอง”

เรื่องมังกรศิลาชอบกินเหล้าเป็นเรื่องใหม่สำหรับชาวรูเมเรียร์ เนื่องเพราะมังกรศิลาเองก็มีหลายพันธุ์ ไม่ใช่ทุกพันธุ์ที่ชอบกินเหล้า เอลฟ์ไม่มีความรู้เรื่องมังกรมากนัก ดาร์กเอลฟ์สิรู้ดี เพราะมังกรส่วนมากอาศัยอยู่ในแดนทมิฬ

"ซิกฟรีดมีเหล้ามากมาย แต่เจ้าไม่อยากเป็นหนี้ไม่ใช่หรือ” มาลแกธพูดข้อเท็จจริง ซึ่งในกรณีที่ต้องการยั่วโคลด์ เขาถือว่าข้อเท็จจริงเป็นเรื่องสนุก

“ข้าเชื่อว่าในวังหลวงหรูหราของเขาน่าจะมี ง่ายและไวกว่าไปหาซื้อเองด้วย” โคลด์มองกระเป๋าสตางค์ฟีบๆ ของตัวเอง “ท่านไปขอเขาสิ อย่างไรนี่ก็เป็นงานของเขาด้วย”

“โคลด์เอ๋ย ข้ามีหน้าที่ช่วยให้เจ้าไม่ตาย การเข้าไปขอส่าเหล้าจากราชาเอลฟ์ ข้าพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ถึงตายอย่างแน่นอน”

“เขาไม่ให้ข้าหรอก เขาเกลียดข้าจะตาย” โคลด์นึกภาพซิกฟรีดเอาแต่ไล่ฟันเขาในถ้ำมังกร

“ไม่ลองไม่รู้ หรือเราจะหาเหล้าเถื่อนใกล้ๆ แทนล่ะ”

มาลแกธกำลังสนุกกับกระเป๋าสตางค์ฟีบๆ ของเขา โคลด์รู้เลย “ท่านบอกจุดที่มีเหล้าในวังมา ข้าจะเข้าไปขโมยเอง”

โคลด์ไม่เสี่ยงกับเหล้าเถื่อนไร้คุณภาพ เขาบอกแล้วว่าต้องการของชั้นดีมากๆ

เอลฟ์ตะวันออกยิ้ม

เป็นยิ้มด้วยตาที่ไม่น่าอภิรมย์

“เจ้ารู้จักเงาสังหารหรือเปล่า”

 —————————————————————————

A/N อิ่มมั้ยคะ อิ่มเนอะ มีความแย่งกัน มีความเลือกเชียร์ไม่ถูก (-3-)

ป.ล. สวัสดีปีใหม่ 2017 ล่วงหน้า อ่านนิยายรอเคานต์ดาวน์กันค่ะ!

อัพเดทครั้งต่อไป วันที่ 2 ม.ค. 60 นะคะ  :mc4:

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 2: (1-2) [31/12/59]
เริ่มหัวข้อโดย: shannara ที่ 31-12-2016 23:35:06
ซีดฟรีด อยากได้โคลเป็นภรรเมียก็บอกไปดิ ตรงๆ
 :ruready
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 1: (5-6) [29/12/59] P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 01-01-2017 11:34:19
ไรต์จ้า มารึยังงงงงงงง รออยู่นะะะะะะะ
 :mew1: :call:
มาต่อแล้วจ้า อ่านรึยังเอ่ย จุ๊บๆ สวัสดีปีใหม่นะคะ ;)

ชอบบ แนวนี้หาอ่านย้ากยาก
รอบทต่อไปอยุ่นะคะ :impress2:
คนนี้จำชื่อได้ อยู่กันมาตั้งกะลงวันแรกๆ สวัสดีปีใหม่นะคะ เดือนนี้อัพให้อ่านทั้งเดือนเลยจ้า -3-

ซีดฟรีด อยากได้โคลเป็นภรรเมียก็บอกไปดิ ตรงๆ
 :ruready
สวัสดีปีใหม่ค่ะ /จริงๆ ก็อยากได้ใจจะขาดเนอะ /ซุบซิบๆ


สำหรับนักอ่านทุกท่านที่ตามอ่านอยู่ สวัสดีปีใหม่ 1 มกราคม 2017! ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ ใครไปเที่ยวขอให้เดินทางปลอดภัย ใครอยู่บ้านก็ฉลองให้สนุก ขอให้เป็นปีใหม่ที่ดี มีความสุข และขอฝากเนื้อฝากตัวในปี 2017 นี้ด้วยค่ะ!

ป.ล. มาลแกธก็ดันโคลด์ไปหาซิกฟรีดจนได้ ประมาณอยากได้เองแต่ก็อยากให้เขาได้กันเรอะ...ตอนหน้าซิกฟรีด & โคลด์ เต็มๆ เลยค่ะ ;)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

อย่าลืมนะคะ อัพเดทตอนต่อไป วันที่ 2 ม.ค. 60 วันพรุ่งนี้ค่ะ!
หัวข้อ: Re:【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 2: (3) [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 02-01-2017 12:41:36
บทที่ 2 : เอลฟ์ตะวันออก (3)

มาลแกธ โคลด์ และอิลมาเรนอนพักในโรงเตี๊ยมชนบทหนึ่งคืน รุ่งเช้า อิลมาเรอยู่เฝ้าสัมภาระ ส่วนโคลด์เดินทางเข้าเมืองหลวงกับมาลแกธ

เอวา เธมาร์เป็นเมืองที่ไม่ครึกครื้นนักเมื่อเทียบกับเมืองชนบท ออกจะเงียบ จนได้ยินเสียงพิณจากวิหารบูชาเหล่าบิดาและมารดาอาบบรรยากาศไปทั่ว ในเมืองมีคลองขนาดเล็กหลายสายแทรกอยู่ราวกับลวดลายของกลีบดอกไม้อันวิจิตร กิ่งก้านของต้นไม้แผ่สาขาออกไปคล้องเกี่ยวกันให้ร่มเงาตามเส้นทางสายหลัก พื้นหินอ่อนขัดเงาวับจนโคลด์เห็นใบหน้าของตัวเองสะท้อนกลับมา

มาลแกธบังคับม้าออกไปยังเส้นทางสายเล็ก พอถึงจตุรัสที่มีบ่อน้ำร้างตั้งอยู่ตรงกลาง เขาก็ให้โคลด์ลงจากหลังม้าก่อน

“เงาสังหารจะมารับเจ้าที่นี่”

จตุรัสแห่งนี้อยู่ทางทิศตะวันตกของพระราชวัง บ้านเรือนบางตา ทว่าต้นไม้ขึ้นครึ้มอย่างอิสระ โคลด์เหมือนได้ยินเสียงกระซิบลึกลับอย่างอื่นที่ไม่ใช่เสียงพิณ

“เจ้าลอบเข้าไป คุยหยอกล้อกันนิดหน่อย เอาส่าเหล้าแล้วก็กลับ ทำได้ไหม”

“ข้าไม่คุยหยอกล้อกับเขา ดาร์กเอลฟ์เดินเข้าวังของเขาก็ทำเขาเสียเกียรติแล้ว” โคลด์ไม่เคยได้ยินเรื่องเงาสังหารมาก่อน แต่ไม่แปลกใจที่พระราชาจะเลี้ยงนักฆ่าไว้เอง ออกกฎห้ามคนอื่นมี แต่ตัวเองมีได้ เป็นเรื่องธรรมดาของผู้มีอำนาจ

เขาจะไม่ไปพบซิกฟรีด แต่ให้เงาสังหารอะไรที่ว่าพาไปเอาส่าเหล้าเลย

ดาร์กเอลฟ์รู้สึกเสียววาบบริเวณหลังคอ ราวกับถูกจ่อด้วยคมมีด เขาหันกลับไปด้วยสัญชาตญาณ พร้อมกับวางมือบนด้ามมีดของตนเพื่อเตรียมพร้อม

มีเงาหนึ่งจ้องโคลด์จากร่มไม้ ที่เอ่ยว่า ‘เงา’ นั้นไม่ผิดไปจากความเป็นจริง อีกฝ่ายเป็นเอลฟ์ ดาร์กเอลฟ์ หรือมนุษย์ไม่อาจทราบได้ จากทั้งระยะห่าง และจากรูปลักษณ์ที่ดูเลือนรางคล้ายฝุ่นที่ไหวตามลม

“เขาชื่อกอห์นดีเอน” มาลแกธแนะนำ “เป็นควาร์...เป็นทั้งสหายและศัตรู”

“ของใคร”

“การเมืองน่าเบื่อ เจ้าไม่อยากรู้หรอก”

โคลด์ไม่อยากรู้จริงๆ แค่เรื่องของตัวเองเขาก็มีสิ่งต้องทำมากพออยู่แล้ว

มาลแกธชักม้าจากไป เงาจ้องมองอยู่ โคลด์อาจคิดไปเอง แต่เขารู้สึกว่าเงากำลังกวักมือเรียก

พอเข้าไปใกล้ โคลด์จึงเห็นว่ากอห์นดีเอนถูกคลุมด้วยฝุ่นดินสีดำ ฝุ่นนั้นละเอียดเป็นละออง ลอยพลิ้วในอากาศ ดูแล้วคล้ายม่านบางเบาสีดำ

กอห์นดีเอนไม่พูดมาก อันที่จริงเขาไม่พูดเลย เงาสังหารพาโคลด์ลัดเลาะไปถึงกำแพงหินอ่อนทิศตะวันตกของราชวังรูเมเรียร์ ราชวังมีคูน้ำโดยรอบ กอห์นดีเอนเดินลงไปถึงเอวแล้วจึงหันมาเหมือนนึกอะไรขึ้นได้

“กลั้นหายใจได้นานเท่าไหร่” คำถามแรกจากเอลฟ์ประหยัดคำพูด

“มากเท่าที่แอสซาสซินที่ดีจะทำได้”

เงาพาตัวเองลงน้ำทันที

ทั้งคู่ดำน้ำโดยอาศัยแสงเพียงเล็กน้อยจากจี้ไพลินของกอห์นดีเอน โคลด์เพิ่งเห็นว่าอีกฝ่ายใช้อุปกรณ์เวทสร้างฟองอากาศคลุมศีรษะ เงาสังหารดำน้ำด้วยท่าทางประหลาด เลี้ยวไปทางซ้ายทีขวาที โคลด์ว่ายตาม ไม่ลดการระวังตัว

‘ระวังหลง’ กอห์นดีเอนเตือน คูน้ำมีลูกเล่นแฝงของมัน เอาไว้ป้องกันพวกแอสซาสซิน ความจริงแล้ว คนประดิษฐ์ก็คือกอห์นดีเอนนี่ละ

ดำไปสักพักกอห์นดีเอนก็พาโคลด์มาโผล่ที่วิหารแห่งหนึ่ง เป็นวิหารที่อยู่ในเขตราชวัง โอ่โถง แต่เรียบง่ายผิดวิสัยเอลฟ์รูเมเรียร์ ที่นี่ปกคลุมด้วยบรรยากาศชวนให้ผ่อนคลาย

“คิงซิกฟรีดประทับในห้องส่วนพระองค์”

มาเหมือนเงา ไปเหมือนเงา กอห์นดีเอนไม่เอ่ยคำลา

โดนมาลแกธหักหลังเข้าเต็มๆ โคลด์คิดโดยสีหน้าไม่เปลี่ยน ทั้งที่เขาย้ำแล้วว่าจะไม่เจอซิกฟรีด มาลแกธยังทำกับเขาได้

เสียงพิณแปลกแปร่งดังมาจากชั้นบน เสียงที่โคลด์คุ้นเคย ใครจะเล่นพิณได้เกรี้ยวกราดขนาดนี้ไม่มีแล้ว

โคลด์ข่มความไม่อยากเจอลงไป เขาปาดน้ำออกจากตัวพอให้หมาด ค่อยๆ เคลื่อนไหวหลบเร้นหลังเสาต้นใหญ่ เดินไปก็คอยเช็ดรอยน้ำไป แม้ไม่เห็นใครอื่นอยู่ในวิหาร แอสซาสซินที่ดีก็ไม่ควรทิ้งรอยเท้าเปียกน้ำไว้

“ใคร” ซิกฟรีดถามตั้งแต่โคลด์ยังก้าวค้างอยู่บนบันได เสียงพิณหยุดแล้ว เหลือเพียงเสียงของราชาเอลฟ์ที่สะท้อนก้องไปมา

เจ้าของบ้านถามแล้วโคลด์ก็ตอบ เขาออกจากเงามืดของซุ้มประตูโค้ง เดินเข้ามายืนต่อหน้าพระราชา

ภาพดาร์กเอลฟ์ผมสีเงิน ผิวสีม่วงอมเทาเป็นเหมือนรอยด่างของวิหารใต้แสงขาวนวล

"เข้ามาคุยกันดีๆ เถิด" ซิกฟรีดไม่มีแววขุ่นเคืองในวันนี้ หรือเขาอาจลงกับพิณไปหมดแล้ว สายพิณถึงขาดจนเสียงเพี้ยนอย่างนั้น

“สายพิณท่านขาดอีกแล้ว” โคลด์เอ่ย

“เจ้าคงไม่ได้มาเพื่อทักว่าเสียงเพลงของข้าระคายหูใช่ไหม”

ซิกฟรีดสวมเสื้อคลุมยาวสีเขียวปักด้วยดิ้นเงินแบบเอลฟ์รูเมเรียร์ นิ้วชี้ด้านขวาที่สวมแหวนมรกตเกี่ยวสายพิณ พอปล่อยมันส่งเสียงทุ้มประหลาด คล้ายเสียงหัวเราะของราชา ใบหน้าด้านขวาเผยยิ้มงดงาม แต่ใบหน้าด้านซ้ายซ่อนอยู่ใต้หน้ากากเงินหรูหราทว่าไร้อารมณ์

โคลด์คุกเข่าลงด้วยท่าทางถูกต้องตามระเบียบการของเอลฟ์ ท่าที่เขาถูกฝึกมาเป็นสิบปี “ข้ามาขอความช่วยเหลือในการปราบมังกรศิลา”

“ทำให้เราสนใจฟังมากขึ้นอีกหน่อย”

“ข้าต้องการส่าเหล้า” โคลด์อธิบายแผนการล่ามังกร “มาลแกธคิดว่าข้าควรมาขอจากท่าน” เขาละเรื่องที่ว่าตนอยากมาหยิบไปเฉยๆ มากกว่าไว้

“ได้ยินว่าเจ้าไม่ขอโดยไม่ให้สิ่งตอบแทน”

“ข้าทำงานให้ท่าน โปรดถือว่านี่คือสิ่งที่ท่านมอบให้โดยเต็มใจเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงด้วยดี” แปลว่า ‘ข้าจะไม่จ่ายอะไร’

ซิกฟรีดผละจากพิณ ก้าวเข้ามาใกล้จนโคลด์เห็นรอยแผลเป็นสีขาวพาดบนลำคอ

ดูท่าซิกฟรีดจะไม่โดนแค่ ‘กระแทกซ้ำๆ’ อย่างที่มาลแกธเล่า ภายในถ้ำโคลด์ไม่เห็นรอยแผลนี้เพราะเกราะบังไว้ ตอนนี้เห็นชัดเจนทีเดียว

“เจ้าจะมอมเหล้ามังกรอย่างไร”

"ก็ให้มันกินเหล้า"

“มันมีสติปัญญามากกว่าเจ้า”

คำถามคือจะเอาให้กินยังไง หลายคนทราบว่ามังกรชั้นสูงพูดได้ แต่ไม่เคยมีใครได้พูดกับมังกรแล้วรอดมาเล่าเท่าไร

"ข้ามีวิธีก็แล้วกัน ข้าแค่ต้องนำหัวใจมังกรกลับมา ถ้าพลาดท่านก็ลงโทษ โปรดอย่าสนใจเรื่องยิบย่อย" โอหัง ดาร์กเอลฟ์ที่ทำตัวนอบน้อมตลอดเวลา แต่มีความโอหังอันปิดไม่มิด...ไม่เคยเปลี่ยน

“ไปหากอห์นดีเอน เขาจะให้สิ่งที่เจ้าต้องการ” ซิกฟรีดโบกมือไล่ “แต่จำไว้ว่าเจ้าติดหนี้ส่าเหล้าของข้า”

หนี้อีกแล้ว แค่นี้ข้าจนไม่พอหรือไง โคลด์ลุกยืน เดินเข้าไปใกล้แบบไม่เกรงใจ “ข้าเบื่อพูดอ้อมค้อมแล้ว เจ้าเอาเปรียบข้าเกินไป ข้าจะไม่ติดหนี้เจ้า เจ้าเอลฟ์กอห์นดีเอนอะไรนั่นเจ้าจะให้ข้าเดินออกไปแล้วตะโกนเรียกมันไหม คนทั้งวังจะได้รู้ว่ามีดาร์กเอลฟ์เข้ามาเหยียบวังเจ้า”

ซิกฟรีดหัวเราะเสียงดัง หากข้ารับใช้มาเห็นคงตกใจ ราชาไม่เคยหัวเราะแบบนี้มาก่อน

“ข้าพอจะมีของตอบแทนให้ได้ แต่เจ้าห้ามเรื่องมาก” โคลด์เปลี่ยนสรรพนามเรียกซิกฟรีดจาก ‘ท่าน’ เป็น ‘เจ้า’ บอกความสนิทสนมที่ไม่เปิดเผยระหว่างนายกับทาส “แผลนั่น…”

“หืม” ซิกฟรีดแตะหน้ากาก “แผลตรงนี้” แล้วแตะคอ “หรือตรงนี้ล่ะ หรือว่าแผลส่วนไหน”

“ขออนุญาต” โคลด์เอ่ยแล้วแตะข้างหน้ากาก

“โอ เจ้าเล่นรอยรักรอยใหญ่ทีเดียว” ซิกฟรีดขืนตัวเล็กน้อย มันเป็นอาการตอบสนองทันทีโดยที่เขายังควบคุมไม่ได้

“ก็เจ้าเล่นกับไฟ กบฏดาร์กเอลฟ์ทำไว้แสบมากเลยใช่ไหม แต่รอยรักนี้คุ้มค่าแล้วละมั้ง เพราะมันทำให้เจ้าได้คู่หมั้นของพี่ชายมาครอง” โคลด์ล้อเล่นแบบไม่กลัวตาย

สมัยก่อนตอนโคลด์ยังเป็นทาสรับใช้ มีช่วงที่เจ้าชายเอลฟ์ออกจากอาศรมมาร่วมงานเลี้ยงในราชวัง โคลด์เฝ้ายามจากบนต้นไม้แล้วโดนองครักษ์ของท่านหญิงเอริแอดเน่ยิงตกลงมาเพราะนึกว่าเป็นคนร้าย

ซิกฟรีดไม่แม้แต่จะช่วยเขา แค่บอกว่าเป็นข้ารับใช้แล้วให้ไป โคลด์ไปหาที่ทำแผลโดยดึงลูกธนูออกเอง เขาสังเกตว่าซิกฟรีดเอาใจคู่หมั้นของพี่ชายเกินปกติ

ราชาผู้แข็งกร้าวหลุบตาลงเล็กน้อย “พวกเขาลงแรงไปมากกว่าจะทำรอยรักให้ข้าได้”

เขาถอดหน้ากากออก

รอยแผลน่ากลัวปรากฏแก่สายตา ใบหน้าด้านซ้ายของซิกฟรีดคล้ายถูกไฟเผา ผิวหนังละลายราวกับเทียนไขหลั่งน้ำตาสีน้ำนม เส้นเลือดสีเขียวดันออกมาชัดเจน บางส่วนเป็นสีดำ โดยเฉพาะบริเวณใกล้ดวงตา ซึ่งบัดนี้กลายเป็นสีดำไม่เว้นแม้แต่ตาขาว

โคลด์ถอนใจเฮือก เขาไม่ได้กลัว อาชีพของเขาเจอมาเยอะกว่านี้ “เจ็บมากไหม”

“เทียบกับอะไรเล่า หากเทียบกับการตั้งใจล่ามังกรแล้วสูญเปล่า นี่ก็แค่เจ็บยอก”

"ใครบอกเจ้าว่าหัวใจมังกรชั้นสูงช่วยรักษาบาดแผลได้" โคลด์เปรย "หัวใจเป็นยาก็จริง แต่มันอันตราย"

น้อยครั้งที่โคลด์จะไม่ปิดบังอะไร ทั้งเรื่องที่เขาอยากคุยกับมังกร การวางแผนมอมเหล้า หัวใจมังกรเป็นยา ทาสดาร์กเอลฟ์ต่ำต้อยไม่น่ามีความรู้เหล่านี้

ซิกฟรีดกระตุกยิ้มมุมปาก แผลบนใบหน้าด้านซ้ายดูตึงและเจ็บทีเดียว “ถึงอย่างไรก็ควรค่าแก่การลอง"

"ข้าจะขอ..." โคลด์ยกสองมือขึ้นให้เห็นว่าไม่ได้มีลูกเล่นอะไร

ซิกฟรีดหรี่ตา เขาไม่เชื่อใจดาร์กเอลฟ์พอกันกับที่ดาร์กเอลฟ์ไม่เชื่อใจเขา

"ข้าจะหยิบขวดยาออกมา" โคลด์แตะมือที่เข็มขัดคาดเอว วางค้างไว้ ไม่อยากให้อีกฝ่ายคิดว่าเขาจะชักอาวุธ

“อนุญาต”

โคลด์พยักหน้า บนเข็มขัดคาดเอวของเขามีขวดแก้วขนาดเล็กเสียบไว้หลายอัน อาชีพอย่างเขาต้องหลีกเลี่ยงการเข้าโรงหมอให้มากที่สุด ถ้าเป็นไปได้ ก็ไม่ต้องเข้าเลย

ส่วนยาพิษที่ซ่อนอยู่ในเข็มขัดคาดอกนั้นไม่นับ

โคลด์เลือกหยิบขวดแก้วบรรจุของเหลวข้นสีแดงขึ้นมา

"ลองใช้ดู นี่คือค่าตอบแทนของข้า" เขาหยดน้ำมันสีแดงลงบนนิ้วแล้วแตะที่ลิ้น พิสูจน์ว่าไม่ใช่ยาพิษ “ปลอดภัย ตกลงไหม"

ซิกฟรีดยกมุมปากสูงขึ้น ใบหน้าด้านซ้ายถูกรั้งจนผิวตึงเห็นเป็นริ้ว

"อนุญาต"

"ข้าจะทาที่แผลของเจ้า" โคลด์หยดยาลงอีกนิ้ว ค่อยๆ ทา

ความเจ็บบนใบหน้าของซิกฟรีดทุเลาลง

กระทั่งไม่รู้สึกอะไรเลย

"ยาชา" นักฆ่าพกยาชาย่อมไม่แปลก โคลด์ยิ้ม "สูตรลับเฉพาะของดาร์กเอลฟ์ ถ้าเจ้าชอบข้ายกให้ ข้าทำขวดใหม่ได้"

แถมวัตถุดิบที่ใช้ทำไม่ต้องเสียเงินซื้อด้วย โคลด์คิดต่อในใจ

ซิกฟรีดมองโคลด์ คล้ายมีความรวดร้าวตีขึ้นมาในแววตาแล้วจางหายไป

ความรวดร้าวที่คล้ายความอาวรณ์

“เอริแอดเน่ ผู้ที่แนะนำให้ล่ามังกรคือพี่หญิงเอริแอดเน่”

“นางไม่ใช่เอลฟ์ไร้เดียงสา” โคลด์ยักไหล่ “เอลฟ์ไร้เดียงสาที่ไหนจะเอาหัวใจสัตว์มาทำเป็นยา แต่ก็อย่างว่าละนะ เอลฟ์ไร้เดียงสาที่ไหนก็คงไม่เป็นหญิงสามกษัตริย์ เจ้าอย่าตายก่อนนางได้คนที่สี่ก็แล้วกัน”

เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์เคยเป็นคู่หมั้นของคิงเฟรธูริน พี่ชายคนโตของซิกฟรีด ต่อมานางเป็นคู่หมั้นของคิงริวอร์นอร์ พี่ชายคนรอง ตอนนี้นางเป็นคู่หมั้นของน้องชายคนสุดท้อง บุรุษคนสุดท้ายของราชวงศ์รูเมเรียร์

“หุบปากก่อนที่ข้าจะอยากตัดลิ้นเจ้า”

“ขออภัย พระราชา” เสียงของโคลด์กลับไปเย็นชา "ข้าจะเอาหัวใจมังกรมาให้ท่าน ขอบคุณสำหรับส่าเหล้า"

—————————————————————————
A/N ทำไมไม่คุยกันดีๆ นะ สองคนนี้ แง
ป.ล. จะว่าเรื่องนี้ผู้หญิงเยอะ แต่ผู้ชายก็เยอะกว่านะคะ /ฮา ถึงจะยังไม่ถึงบทของกอห์นดีเอน แต่คนนี้เมะ และชอบกินเด็กนะคะ แค็กๆๆ /จริงๆ ก็ไม่เด็กหรอกค่ะ แฟนเขา 25 แล้วแหละ แต่เอลฟ์อายุเป็นร้อยๆ ใครอายุ 20-30 ก็เห็นว่าเป็นเด็กหมด OTL

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
อัพเดทครั้งต่อไปคือวันพรุ่งนี้ค่ะ 3 ม.ค. 60  :bye2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 2: (3) [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: shannara ที่ 03-01-2017 00:47:40
ตั้งแต่รุ่นดึกดำบรรพ เคยคุยกันจริงจังมั้ย ไม่มี้ บิดาแห่งนภาน่าจับไปทำหมัน ตัดไข่เลย ทำพันธุ์ไม่ได้อีก
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 2: (4) [03/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 03-01-2017 11:49:57
บทที่ 2 : เอลฟ์ตะวันออก (4)

โคลด์กลับถึงโรงเตี๊ยมตอนรุ่งเช้าของวันต่อมา เขาได้ของที่ต้องการจากเอลฟ์นามกอห์นดีเอนตามที่ซิกฟรีดบอก ในห้องพักไม่มีใคร อิลมาเรคงออกไปค้าขายตามปกติ ส่วนมาลแกธเขาไม่ทราบและไม่ใช่เรื่องที่ต้องสน เพราะอีกฝ่ายกลั่นแกล้งเขา

คงอยู่ที่ที่มีเอลฟ์หน้าตาน่ารักและเหล้า

โคลด์ทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างเหนื่อยล้า เขานอนนิ่ง ครุ่นคิด คิดถึงซิกฟรีดเป็นส่วนมาก อย่างไรก็เคยอยู่ด้วยกันมาเป็นสิบปี

ถ้ายังอยู่ข้างกัน เขาจะปล่อยให้ซิกฟรีดมีแผลแบบนั้นหรือเปล่า ถ้าไม่นับเรื่องโดนบังคับให้เป็นทาส การที่เขาได้ติดตามซิกฟรีดกลับมาเมืองหลวงในครั้งนั้นก็ช่วยชีวิตเขาไว้เหมือนกัน

โคลด์ส่ายหน้า คิดเรื่องซิกฟรีดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา คิดเรื่องมังกรศิลาดีกว่า เขามีเรื่องต้องถามมันให้ได้

ถ้ายังไม่ได้คำตอบมันก็ห้ามตาย!

 

ในเวลาเดียวกัน ซิกฟรีดเพิ่งออกจากวิหาร เขาไม่ได้นอนทั้งคืน ในมือถือสายพิณที่ขาดจากตัวพิณ ตรงไปยังส่วนที่พักของตน

แต่แล้วบางอย่างทำให้ซิกฟรีดเปลี่ยนใจ บรรดาข้ารับใช้ของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ต้องรับเสด็จอย่างฉุกละหุก ทว่าราชาไม่รอตามพิธี เข้าไปหาคู่หมั้นที่ยังอยู่บนเตียงนอน

ซิกฟรีดเข้าไปกอดเอริแอดเน่ ตระโบมจูบโดยไม่ทันให้ตั้งตัว สัมผัสค่อนข้างรุนแรง คล้ายหงุดหงิดอะไรมา

บทรักเริ่มขึ้นอย่างเร่งร้อน เอริแอดเน่ไม่เคยโดนกอดแบบแนบแน่นขนาดนี้มาก่อน

"ชี่ ราชาที่รักของข้า ท่านโมโหอะไรมา"

ซิกฟรีดระบายลมหายใจเมื่อความแข็งกร้าวได้รับการโอบรัดด้วยความอ่อนนุ่มฉ่ำชื้น “สายพิณของข้าขาด”

"ส่งไปซ่อมแล้วใช่หรือไม่" เอริแอดเน่เสียงพร่า นางจูบปลอบอย่างอ่อนโยน

ซิกฟรีดตอบด้วยการชูสายพิณในมือซ้าย เขากำแน่นราวกับว่ามันเป็นตัวแทนของใครสักคน

 

“สายพิณขาด” องค์ชายที่สี่เปรย

“ข้าเพิ่งซ่อมให้เจ้าไปเมื่อวาน” ทาสดาร์กเอลฟ์ตอบ ยกมือให้ดูนิ้วที่โดนบาด นิ้วทั้งสิบมีแต่ผ้าพันแผล

ซิกฟรีดจ้องด้วยสายตาที่แปลได้ว่า ‘ซ่อมซะ’

“ก็ได้ๆ ยังไงมันก็หน้าที่ข้า”

มุมปากขององค์ชายผู้เอาแต่ใจมีรอยยิ้มระบายออกมา


 

ราชาหนุ่มขยับช้าลง ทว่าอ่อนหวานและลึกซึ้ง ภาพของใครบางคนซ้อนขึ้นมา แจ่มชัดกว่าใบหน้าของคู่หมั้น ซิกฟรีดให้เอริแอดเน่นอนคว่ำ เขาจูบตรงกกหูอันเป็นส่วนอ่อนไหวของเอลฟ์ เสียงหอบเครือดังกระชั้นตามแรงกระทำ

บุรุษในราชวงศ์รูเมเรียร์ให้เกียรติสตรี แต่ขณะนี้ซิกฟรีดให้นางอยู่ในท่าที่ไม่สมเกียรติ แม้จะเปี่ยมความรู้สึกซาบซ่านไปทั่วร่างกาย แต่นางฉลาดเฉลียวพอจะทราบว่าซิกฟรีดกำลังฝืนตัว

เอริแอดเน่ขืนร่างกาย เอ่ยบอกให้ช้า นางทราบว่าซิกฟรีดจะยอมถ้านางเอ่ยคำขอ “ข้าทำให้ท่านเปี่ยมสุขได้มากกว่า”

เอริแอดเน่พลิกขึ้นนั่งด้านบน ให้ราชาผู้อ่อนวัยกว่านอนแผ่หงาย นางขยับสะโพกอย่างที่ท่านหญิงผู้เรียบร้อยไม่สมควรทำได้

"อา!" สองเสียงครางประสาน ความนุ่มละมุนยิ่งโอบรัดความเป็นชายอย่างลื่นไหลทว่าแน่นกระชับ สอดใส่เป็นจังหวะ ถี่และเร็ว

มือใหญ่จับเอวของเอริแอดเน่ สุภาพ ทว่าไม่มีความรักเจืออยู่ในสัมผัส ซิกฟรีดมองใบหน้าของนางแต่เห็นคนอื่น

เขาเห็นโคลด์

หลายปีแล้ว อาจเลือนรางไปบ้าง

แต่เขายังจำความรู้สึกที่มีร่วมกับโคลด์ได้

“อา!”

ซิกฟรีดไม่ละสายตา เขากลัวว่าภาพนั้นจะเลือนหายไป โคลด์หวีดร้อง ใบหูแหลมลู่ลง ผิวสีเข้มเรื่อสีแดงจากเลือดที่สูบฉีด ท่าทางของดาร์กเอลฟ์เหมือนทรมาน แต่กลับบดเบียดสะโพกเร่งเร้า เอาใจเขาและตามใจตัวเอง

"ซิก..."

โคลด์หลุดเสียงครางสั้นๆ เป็นชื่อเรียกห้วนสั้นเวลาอยู่กันสองคน ซิกฟรีดดันตัวเองเข้าหา เต็มไปด้วยความต้องการครอบครอง ร่างด้านบนถูกดึงลงมาจูบ สะโพกเบียดหนักแน่น สองแขนแข็งแรงกอดรัดจนไม่มีที่ให้อากาศแทรกเข้าไป

ซิกฟรีดเกร็งก่อนจะกระตุก หลั่งความรักในตัวของอีกฝ่าย ดวงตาสีดำข้างซ้ายอ่อนโยนขึ้น ราวกับสัตว์ร้ายได้รับการปลอบให้สงบ

เอริแอดเน่ซบหน้าลงข้างแก้มชายที่อยู่ด้านล่าง "วันนี้ท่านแปลกไปเล็กน้อย ราชาของข้า" นางเอ่ยแล้วร่ายมนตร์ ใบหน้าซีกซ้ายไร้ความเจ็บเมื่ออยู่ข้างเอริแอดเน่ ซ้ำนางไม่เคยแสดงท่าทีรังเกียจหรือหวาดกลัวใบหน้าของเขา

ซิกฟรีดไม่ได้ตอบอะไร เขานวดเคล้นสะโพกและต้นขาให้นาง ใจเหม่อลอย

ได้พบเจ้าแค่สองครั้ง ทำให้ข้าปั่นป่วนขนาดนี้เชียวหรือ...ดาร์กเอลฟ์

ราชาเอลฟ์ระบายลมหายใจยาว

หลังได้หัวใจมังกร เขากับดาร์กเอลฟ์จะสิ้นสุดกัน ไม่มีนาย ไม่มีทาส

จะทำได้หรือ จะปล่อยไปได้จริงหรือ

เสียงกระซิบไร้ที่มาดังแผ่ว ซิกฟรีดขบกราม เขาพลิกเอริแอดเน่ลงแล้วร่วมรักอีกครั้ง

ดวงตาสีดำมีประกายชั่วช้ากลับคืนมาดังเดิม

เอริแอดเน่ไม่เคยสัมผัสความรักจากซิกฟรีด มีแค่ความเมตตาและความผูกพันที่เกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

แต่ที่นางต้องการไม่ใช่ความรัก นางต้องการบุตรชาย

จริงหรือ…

เอริแอดเน่ถามตัวเองเช่นกัน

———————————————————————————————

ยามสาย ห้องของโคลด์มีผู้บุกรุกหน้าตาคุ้นเคย มาลแกธถือวิสาสะนำมีดสั้นน้ำแข็งที่ซ่อมเสร็จแล้ว (ด้วยระยะเวลาที่สั้นเหลือเชื่อ) มาให้โคลด์ มันปิ๊งปั๊งเหมือนใหม่ มาลแกธแถมปลอกมีดอันใหม่ให้ด้วย คุ้มเกินคุ้ม

ดาร์กเอลฟ์นอนเหงื่อชุ่มร่าง หลังอาบน้ำเสร็จก็หมดแรง เขานอนสวมเสื้อกับกางเกงหลวมๆ ใต้หมอนมีมีดสั้นซ่อนอยู่

"อิล?"

ที่นอนยุบลง น้ำหนักตัวขนาดนี้ไม่ใช่อิลมาเรอย่างแน่นอน

ไม่ใช่ คนอื่น โคลด์คิด แต่ไม่ได้ชักมีดออกมาเพราะได้กลิ่นหอมแบบบุรุษที่คุ้นเคย

"เป็นไข้หรือ" เสียงทุ้มไพเราะถาม มาลแกธวางหลังมือบนหน้าผากของอดีตลูกศิษย์ นิ้วที่ใช้คีบมวนยาสูบส่งกลิ่นหอมจัด

"ข้าแช่น้ำสองรอบในเวลาสองวัน ที่จริงรอบสองข้าไม่ควรต้องแช่น้ำเลยด้วย ถ้าไม่เพราะใครบางคนคิดว่ามันสนุกดีที่ได้ส่งข้าไปหาซิกฟรีด" หลังออกจากวังหลวง โคลด์ขี่ม้าฝ่าลมหนาวกลับมา แถมเขายังกินน้อย อาบน้ำเย็น ไม่ค่อยดูแลตัวเอง ไม่ไข้ขึ้นสิแปลก

"เสียดาย ควาร์ไม่มีวิชารักษาอาการเจ็บป่วย" มาลแกธล้วงหาบางอย่างในกระเป๋าคาดสะโพก “แต่แอสซาสซินที่รอบคอบจะพกยาไว้เสมอ” เขาชูขวดแก้วบรรจุของเหลวสีดำน่ากลัว

มาลแกธบีบปากโคลด์ บังคับให้ดื่มยาสมุนไพร

“ไม่เอา ไม่ต้อง ข้ากินยาของข้าแล้ว” โคลด์ขืนปาก

“อย่าสงสัยอาจารย์เจ้าสิ” มาลแกธกรอกยาลงปากตัวเอง ยักคิ้วเหมือนจะบอกว่า ‘เห็นไหมเล่า ปลอดภัย’ จากนั้นก็ประกบปากกับโคลด์ ส่งยาให้ดื่ม ไม่ดื่มก็บีบปากให้อ้า ไม่อ้าก็กดหน้าอกให้หายใจไม่ออก จนในที่สุดก็ต้องยอมดื่ม

ตอนแรกโคลด์ยังขืนปากได้ จนโดนกดหน้าอกนั่นแหละ เขาจำไม่ได้ว่ามาลแกธช่างบังคับเช่นนี้ด้วย

ยาสมุนไพรเป็นของดี หลังดื่มได้ไม่นานอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาวก็บรรเทาลง มาลแกธแตะหน้าผากและแก้มของโคลด์อีกครั้ง ก่อนเดินหายออกไปนอกห้อง สักพักก็เดินกลับมาพร้อมอ่างน้ำใบใหญ่และผ้าสะอาด

โคลด์ลุกนั่ง ถอดเสื้อชุ่มเหงื่อออก “ข้าทำเองได้” เขาบอก ทิ้งเสื้อลงข้างเตียง

"ขออนุญาต"

เดี๋ยวบังคับ เดี๋ยวตามใจ สมกับเป็นมาลแกธจริงๆ

และการที่ไม่รอคำตอบแต่ลูบผ้าบนตัวของโคลด์เลยก็สมกับเป็นมาลแกธเหมือนกัน

“ข้ากลัวลูกศิษย์คนโปรดตาย” เขาให้เหตุผล

“ข้าไม่ตายด้วยไข้พรรค์นี้หรอก” โคลด์ยอมแพ้ ผิวกายของเขามีร่องรอยแผลเป็นน้อยมากสำหรับคนทำอาชีพนี้ ยกเว้นรอยแผลเก่าตรงกกหูที่ซิกฟรีดเคยทำไว้เพื่อลงโทษ “ตรงหูไม่ต้อง” โคลด์เอียงคอ

“หวงจริง” มาลแกธจุปาก

หากโคลด์ได้เรียนรู้ หรือมีความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของเอลฟ์ตะวันออกสักหน่อย จะทราบว่าการที่มาลแกธมาพยาบาลเขาช่างผิดวิสัยเอามากๆ ชาวตะวันออกไม่พยาบาลใคร ด้วยเชื่อว่าจะสร้างความอ่อนแอให้ทั้งตัวเองและคนผู้นั้น

ดินแดนโพ้นทะเลไม่มีที่สำหรับผู้อ่อนแอ

โคลด์มองตามมือของมาลแกธ แม้จะสีผิวจะเข้มกว่าเอลฟ์รูเมเรียร์หนึ่งเฉด แต่ก็ยังขาวสว่างตัดกับสีผิวของเขาเหมือนสำลีกับถ่าน

“ท่านเคยดูแลดาร์กเอลฟ์มากี่คนแล้ว อาจารย์”

“มากมาย” มาลแกธตอบแบบไม่รู้จริงหรือหลอก เขายกแขนโคลด์ขึ้น เช็ดตั้งแต่หัวไหล่ไปถึงปลายนิ้วอย่างเบามือ

“อืม…” โคลด์จึงหลับตานิ่ง ให้อีกฝ่ายเช็ดตัว เขานอนนิ่งเหมือนสัตว์ป่วยที่เคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุด "ท่านวางมีดไว้ข้างมือข้าก็พอ...อาจารย์" ริมฝีปากสีม่วงอ่อนขยับเป็นคำว่า ‘ขอบคุณ’ แบบไม่ออกเสียง เขายอมหลับเมื่อได้จับด้ามมีด ดำดิ่งสู่นิทราเพื่อพักฟื้นร่างกาย

โดยไม่รับรู้ถึงความอบอุ่นบนริมฝีปากเลย

มาลแกธถอนริมฝีปากออก ความรู้สึกในแววตาหลากหลาย เขาจูบหน้าผากโคลด์แล้วห่มผ้าให้


—————————————————————————

A/N ตอนนี้เป็นตอนที่เราลุ้นมากค่ะ เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ค่อนข้างเฉพาะกลุ่มมาตั้งแต่มีคู่หญิง-ชาย และคู่ชาย-ชายพร้อมกัน (ในภาคนี้ชาย-ชายเด่นค่ะ) เป็นนิยายแบบที่สนพ. ไหนก็คงไม่อยากลงทุน เพราะมันไฮบริด นักอ่านที่อ่านชาย-หญิง บางคนก็ไม่ชอบ Y ขณะที่นักอ่าน Y บางคนก็ไม่ชอบ ชาย-หญิง เราคิดมากกระทั่งว่าอาจมีคนเลิกอ่านเพราะบทนี้ ฉากเอรี่/ซิกฟรีดเลยหรือเปล่านะ /แป่ว OTL

แต่เราเขียนเพราะเราเชื่อว่ามีนักอ่านที่เปิดกว้างและอ่านได้ ตราบเท่าที่นิยายสนุก (อันนี้สำคัญสำหรับเรามากค่ะ คืออยากให้อ่านแล้วสนุก)

ทุกตัวละครมีเหตุผลของการกระทำนะคะ รับรองว่าไม่ได้เขียนลอยๆ เราวางโครงเรื่องไว้สไตล์ผู้ใหญ่ด้วย หากท่านคิดว่าลำบากในการอ่านบทนี้ พักสูดหายใจสักครู่นะคะ ถ้าให้โอกาสเรื่องนี้ต่อ พรุ่งนี้เจอกันบทต่อไปค่ะ ;)

ป.ล. มาลแกธขโมยซีนมากอะ รัก <3

ป.ล. 2 เรื่องนี้มีนักเขียน 2 คนนะคะ คือ ILLREI & FOULSOUL

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

อัพเดทครั้งต่อไปคือวันที่ 4 ม.ค. 60 ค่ะ ;)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 2: (3) [02/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 03-01-2017 11:55:18
ตั้งแต่รุ่นดึกดำบรรพ เคยคุยกันจริงจังมั้ย ไม่มี้ บิดาแห่งนภาน่าจับไปทำหมัน ตัดไข่เลย ทำพันธุ์ไม่ได้อีก
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ เราสังเกตเหมือนกันค่ะว่าจะสมัยนี้หรือสมัยก่อน ผู้ชายมีเมียหลายคนเป็นเรื่องที่สังคมยอมรับได้มากกว่า ไม่ต้องพูดถึงตำนานเทพเจ้ากรีก อย่างซุสกับเฮร่า ที่ซุสเจ้าชู้ มีเมียน้อยไปทั่ว  :m16:

Deep Story ของเหล่าบิดามารดาในเรื่องนี้จริงๆ น่าสนใจนะคะ ถ้ามีโอกาสเราอาจลองเขียนดูค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 2: (4) [03/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 04-01-2017 00:42:02
ท่านหญิงแอบดูน่าสงสารจุง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 2: (4) [03/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 04-01-2017 02:04:28
ท่านหญิงแอบดูน่าสงสารจุง
ในมุมมองเรา เอรี่น่าสงสารนิดๆค่ะ แต่ด้วยลักษณะนิสัย เธอก็ร้ายกาจด้วย ;) ตามดูกันต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re:【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 2: (5) [04/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 04-01-2017 05:52:38
บทที่ 2 : เอลฟ์ตะวันออก (5)

เป็นอิลมาเรที่มาเจอฉากเด็ดพอดี เธอเห็นประตูเปิดแง้มจึงนึกสนุกแอบดู จากนั้นก็รีบหลบ เอาหลังพิงผนัง เอามือปิดปาก เกือบจะร้องว่า ‘ว้าย!’ แบบตื่นเต้นออกไปแล้ว

ท่านมาลแกธขโมยจูบเจ้าด้วย ว้ายๆๆๆ ศิษย์อาจารย์คู่นี้มีซัมติงจริงๆ ด้วย!

มาลแกธรู้ว่าอิลมาเรอยู่ด้านนอก เขายืนพิจารณาโคลด์ครู่หนึ่งก่อนจะถอดเสื้อนอกออกแล้วขึ้นไปนอนข้างๆ

“อยากมานอนด้วยกันหรือไม่ อิลมาเร”

มาลแกธพรายยิ้ม พวกเอลฟ์ตะวันออกช่างร้ายกาจ

ช่างร้ายกาจจริงๆ

ดวอร์ฟสาวปฏิเสธด้วยการวิ่งหนีไปเลย

 

โคลด์ฝันอีกแล้ว เขาอยู่ในความฝันซึ่งเป็นเรื่องเดิมๆ...ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

โคลด์มองเห็นเกวน เกวนก็มองเห็นเขา พวกเขามองเห็นกันและกัน ยิ้มให้แก่กันอย่างอ่อนแรง จากนั้นก็พยายามยื่นมือเข้าหากัน แต่มือของทั้งสองไม่เคยแตะกันได้

‘เกวนโดลิน’ คือชื่อคนรักที่โคลด์เคยบอกกับซิกฟรีด สตรีดาร์กเอลฟ์ที่เขาต้องตามหาให้เจอให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรก็ตาม

โคลด์สะดุ้งตื่น ทว่าฤทธิ์ยาทำให้เขาสะลึมสะลืออย่างรวดเร็ว จมลงในนิทราอีกรอบ

 

“นิ่งซะ” นิ้วของใครบางคนนวดใบหูของโคลด์ให้ผ่อนคลาย หน้าผากเย็นเพราะใครคนนั้นคอยใช้ผ้าชุบน้ำซับพิษไข้

ซิกฟรีด...


 

โคลด์กลับไปฝันต่อ ความฝันคราวนี้ชัดเจนที่สุดตั้งแต่เคยฝันมา

ตาสีทองเป็นขีดเสี้ยวของสัตว์ขนาดมหึมาจ้องเขาจากความมืด รอบตัวโคลด์มืดสนิท ไร้ซึ่งแสงใดๆ ความมืดล้ำลึกกลืนกินเขาเข้าไปทั้งตัว เขาหายใจไม่ออก ความมืดดูดซับลมหายใจของเขาไปแล้วไม่สะท้อนมันกลับมา

จากนั้นจึงเกิดแสงสว่างเป็นจุดเล็กๆ

แสงสว่างนั้นคือเกวนโดลิน

เกวนดูไม่ดีเลย เธอสวมเสื้อผ้าเก่าขาด ใบหน้าผอมซูบ เนื้อตัวเปรอะดินเหมือนคนงานชั้นล่างที่โดนใช้ทำงานหนักและงานสกปรก เกวนเป็นทาส สวมปลอกคอเหล็กที่เอาไว้ล่ามทาส

"เกวน..." โคลด์สะอื้นอยู่ในความฝัน เกรี้ยวกราดกับความมืด เขาเคยร้องขอความเมตตาจากเหล่าบิดามารดานับครั้งไม่ถ้วน...ให้เกวนกับเขาได้เป็นอิสระ ทว่าไม่เคยได้รับความเมตตานั้นเลย

"เราไม่ใช่ทาส เราเสียบ้านเกิดยังไม่พออีกหรือ พวกเจ้าไม่เข้าใจ เราไม่ใช่ทาส เราเสียแผ่นดิน เราเป็นหนูสกปรก เราเป็นกาฝาก เป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้นแต่ไม่ใช่ทาส!"

โคลด์สะดุ้งตื่น เขาถึงรู้ว่าตัวเองนอนร้องไห้และอาจเผลอคำราม

"มาลแกธ..." ดาร์กเอลฟ์พึมพำเมื่อรู้สึกถึงความร้อนจากร่างกายอีกฝ่าย อิลมาเรไม่มานอนกอดเขาแน่ และไม่มีใครอื่นอีกแล้วด้วย

"หืม" เสียงตอบรับฮึมฮัมอยู่ข้างลำคอ ลมหายใจร้อนๆ ก็เป่าอยู่ข้างใบหู เอลฟ์ตะวันออกแย่งพื้นที่เตียงคนอื่นไม่พอ ยังรุกล้ำด้วยการวางแขนซ้ายพาดตัวเจ้าของห้อง ไม่นับว่าตอนที่ได้ยินโคลด์กระซิบเรียกชื่อ เขายังกระชับแขนดึงตัวคนข้างๆ มากอดอีก

ฉวยโอกาสได้อย่างน่าไม่อาย

โคลด์ขมวดคิ้วสีเงิน เขาเอียงหน้าออก ใบหูเป็นส่วนไวสัมผัส ไม่ควรให้คนอื่นแตะต้องโดยง่าย และเป็นที่รู้กันว่าเอลฟ์กับดาร์กเอลฟ์จะแสดงความรักด้วยการแตะหรือจูบใบหู ดังนั้นโคลด์จึงกระเถิบออกจากมาลแกธอีกนิดเพื่อความปลอดภัย

มาลแกธลืมตา พวกเขานอนหันหน้าเข้าหากัน โคลด์กำลังจ้องเขาอยู่

“ท่านมานอนกอดข้าได้ยังไง”

มาลแกธตอบกลับด้วยสายตาเจ้าชู้

โคลด์เงียบไปนานมาก

"ข้า...จะนอนต่ออีกสักครู่" เขาเชิญให้อีกฝ่ายออกไปอย่างสุภาพ ซึ่งมาลแกธก็ยอมลุก เอลฟ์มุ่นผมสีทองแดงขึ้น โคลด์เพิ่งเคยเห็นมาลแกธเปลือยท่อนบนใกล้ๆ จึงเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นรอยแผลขนาดใหญ่ มันนูนขึ้นเหมือนตะขาบสีชมพู พาดไปพาดมาบนแผ่นหลังองอาจ

"แผลนั่น?"

"หืม" มาลแกธหันมา โคลด์รู้สึกร้อนที่หลังใบหูและในลำคอเมื่อเห็นว่าตัวเองไม่ได้ใส่กางเกง เขาดึงผ้าขึ้นมาปิดสะโพก ยึดไว้ไม่ให้เคลื่อนไปตามลมพัด

“อดีตของข้าเอง” เอลฟ์ตะวันออกคว้าเสื้อนอกมาสวมโดยไม่ติดกระดุม “นอนพักอีกหน่อย ร่างกายไม่สมบูรณ์จะโดนมังกรล่าแทนได้” มาลแกธวางมือบนหน้าผากโคลด์ คราวนี้ดาร์กเอลฟ์เบี่ยงหลบได้ว่องไวขึ้น

“ดี” มาลแกธเดินออกไป

โคลด์ไข้ลดแล้วแต่ยังรู้สึกร้อนไปทั่วร่างกาย คงเป็นผลมาจากเวทลับของดาร์กเอลฟ์ที่เขาฝืนใช้อยู่ เวทนี้คือเวทสำหรับตามหาสิ่งที่ถูกประทับตราสัญลักษณ์เวทไว้

ซึ่งในที่นี้คือเกวนโดลิน

แต่ความสามารถของโคลด์ทำได้แค่เห็นภาพเธอเลือนราง ไม่ปะติดปะต่อ เวทติดตามไม่ใช่สิ่งที่เขาถนัดเลย โดยเฉพาะเมื่อไม่รู้ว่าคนที่กำลังตามหาอยู่ส่วนไหนของแผ่นดินโลก

ลมจากหน้าต่างพัดเข้ามาลูบไล้ร่างกาย ทว่าความร้อนผ่าวไม่คลายลงเลย โคลด์ควานหาบีฟอร์ซ เขาทาบมันลงกลางหน้าอกแล้วยกตั้งฉาก ลากปลายมีดเย็นจัดบนลำตัวท่อนบน

อีกเหตุผลที่โคลด์ใช้มีดสั้นน้ำแข็งเพราะไอเย็นของมันช่วยบรรเทาพิษเวททมิฬได้

ดาร์กเอลฟ์หลับตาเพื่อทำสมาธิ เขากดปลายมีดกรีดผิวตนอย่างไร้ความลังเล เลือดผุดซึมขึ้นมาตามผิวหนังที่ถูกกรีด การกรีดนี้เป็นระเบียบและมีจุดหมาย เหมือนว่าเขาทำแบบนี้มามากครั้งจนชำนาญและจดจำทุกเส้นสายเหลี่ยมมุมที่ต้องกรีดได้

โคลด์ลืมตา ตัวสั่นและกลืนเสียงร้องจากการกรีดตัวเองเข้าไป รอให้ไอเย็นจากมีดแช่แข็งเลือดและเนื้อของตน ครู่หนึ่งเลือดก็หยุดไหล บนแผ่นอกสีม่วงอมเทาปรากฏรอยสักโลหิตลวดลายประหลาด มันสมดุล สวยงาม ดูคล้ายตัวอักษรแต่ไม่ใช่ภาษาใดๆ ในโลกของเอลฟ์

โคลด์วางบีฟอร์ซลงข้างตัว พิษจากเวททมิฬค่อยๆ คลาย ที่เขาเพิ่งทำลงไปคือการรักษาพิษเวททมิฬแบบชาแมน

‘ชาแมน’ คือชื่อเรียกจอมเวทดาร์กเอลฟ์ผู้ใช้เวททมิฬอันมีศักดิ์เทียบเท่ากับควาร์

 ————————————————————————————————-

"โคลด์ ท่านมาลแกธเป็นควาร์แหละควาร์! เขาคุมไฟได้!"

เมื่อโคลด์เดินออกมาจากห้องโดยสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว อิลมาเรกำลังสนุกสนานกับการแสดงเล็กๆ ของมาลแกธ

เอลฟ์จุดไฟด้วยไม้ขีด จากนั้นไฟดวงเล็กก็เปลี่ยนรูปร่างเป็นผีเสื้อตัวน้อย ปีกบอบบางกระพือขึ้นไปในอากาศ ส่องแสงวูบๆ วาบๆ น่าตื่นใจ

“สวย แต่อย่าแตะ” มาลแกธเตือนอิลมาเร ถึงน่ารักอย่างไรธาตุแท้ก็เป็นไฟ “ข้าใช้ได้ดีแค่ไฟนี่ละ”

มาลแกธพึมพำภาษาควาร์อีกครั้งไฟก็ดับ เขาโค้งให้ดวอร์ฟสาวอย่างรู้จักเอาใจผู้หญิง

อิลมาเรอวดงานฝีมือของตนบ้าง ดวอร์ฟเป็นเผ่าพันธุ์ที่เก่งด้านการเสาะหาและขุดสินแร่ แล้วนำมาประดิษฐ์เป็นอาวุธหรือเครื่องประดับ การต่อรองค้าขายก็ไม่เป็นรองใคร เครื่องประดับผมของอิลมาเรชิ้นนี้แม้ไม่ประณีตเท่าเอลฟ์ แต่ก็เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์

“เจ้าควรไปแดนตะวันออกสักครั้ง ที่นั่นเป็นสวรรค์ของช่างฝีมือ”

โดยเฉพาะช่างตีดาบและพวกกระหายสงคราม...มาลแกธคิด ไม่ได้พูดออกไป

“ไว้เก็บเงินได้มากๆ ข้าจะไปกับโคลด์” อิลมาเรตอบร่าเริง

ทว่าโคลด์ไม่ได้ตอบรับเธอ

“เจ้าก็ควรไป แอสซาสซิน บ้านของข้าจะต้อนรับเจ้าอย่างดี”

มาลแกธกับอิลมาเรหันมาทางโคลด์พร้อมกัน บรรยากาศร่าเริงรอบตัวคนทั้งสองขัดกับบรรยากาศอึมครึมรอบตัวโคลด์

“ข้าจะเข้าไปนอนต่อ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน” โคลด์พูด

พอดาร์กเอลฟ์กลับเข้าไปในห้องนอนอีกรอบ อิลมาเรที่มองตามอยู่ก็พึมพำ

"สงสัยวันนี้อาการกำเริบ"

"หืม" มาลแกธส่งเสียงอยากรู้ แต่ยังคงท่าทีสุภาพ

ดวอร์ฟสาวจึงเล่าว่าสหายของเธอจะมีวันที่เงียบๆ ไม่ยอมออกจากห้องส่วนตัว บางทีก็หมกตัวอยู่ในห้องนั้นถึงสองสามวัน

"แต่ไม่เป็นไรหรอก ถามไปเขาก็ไม่ตอบ ปล่อยทิ้งไว้สักพักเขาก็มึนๆ ออกมาเหมือนเดิม" อิลมาเรยิ้มแป้น

"เขาเคยร่าเริง" มาลแกธพูดลอยๆ ทว่าเอ่ยย้ำ "ใครๆ ก็เคยร่าเริง"


—————————————————————————

A/N ช่วงนี้มาลแกธจะมาแรงหน่อยนะคะ ;) ทำคะแนนๆๆ ความลับของโคลด์ก็แพลมๆ มานิดๆ ละเนอะ
ป.ล. ขอบคุณสำหรับ Feed Back ของตอนที่แล้วนะคะ ;)  เวลาเปิดนิยายสักเรื่อง เราจะมีธีมของเล่มที่แน่นอนตั้งไว้เป็นแก่น อย่างเรื่องนี้กำหนดไว้แต่แรกว่าเป็น BL และ NL รวมกับความรักหลายๆ รูปแบบที่ไม่ใช่แค่คนรัก แต่ยังมีเพื่อน พี่น้อง ครอบครัว โดยไม่เกี่ยงเพศค่ะ

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

อัพเดทตอนต่อไปวันที่ 5 ม.ค. 60 เวลาไวเนอะ แล้วพบกันจ้ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 2: (5) [04/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: empty102153 ที่ 04-01-2017 09:16:33
ซิกฟรีด จะอดใจไหวไหมน้า
แต่มีแววว่าคู่หมั้นจะร้ายกาจ :ling3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 2: (5) [04/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 04-01-2017 15:53:31
ซิกฟรีด จะอดใจไหวไหมน้า
แต่มีแววว่าคู่หมั้นจะร้ายกาจ :ling3:
ที่จริง... ซิกฟรีดขี้หึงสุดๆ เลยค่ะ  :mew1:
ส่วนเอริแอดเน่เป็นนางร้ายที่ไม่กรี้ดกร๊าด แต่ใจเด็ดและแรงค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 2: (5) [04/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 04-01-2017 20:07:54
 o13 o13
หัวข้อ: Re:【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 3: (1) [05/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 05-01-2017 05:20:32
บทที่ 3 : งานฉลองไฟ (1)

"พร้อมล่ามังกรหรือยัง" มาลแกธถาม

ดาร์กเอลฟ์หลับเต็มที่หนึ่งตื่นแล้ว บาดแผลจากคืนก่อนที่เขากรีดตัวเองไม่ปรากฏ เหมือนไม่เคยเกิดขึ้น

มาลแกธยืนพิงกรอบประตู มองโคลด์เตรียมพร้อม แอสซาสซินหนุ่มสวมชุดสีเข้มตลอดร่างซึ่งกลืนไปกับสีผิวเหมือนเป็นผิวหนังชั้นที่สอง ผมสีเงินเสยเปิดหน้าผาก แต่งทรงเรียบกริบ บนโต๊ะมีกองอาวุธวางเรียงเป็นระเบียบ มากจนไม่น่าเชื่อว่าโคลด์พกพวกมันไปได้หมด มีดสั้นที่หน้าอกหกอัน ตรงสีข้างสองอัน เข็มขัดคาดเอวเต็มไปด้วยขวดยาขนาดเล็กหลากสีและระเบิดควัน

“นี่เสบียง” อิลมาเรยกกระเป๋าเป้ขนาดยักษ์บรรจุผลไม้และอาหารแห้งล้นปรี่มาให้ โคลด์มองเด็กสาวแล้วมองไปทางมาลแกธ

“แอปเปิ้ลของโปรดข้าเลย”

มาลแกธโน้มลงไปจูบแก้มอิลมาเรเพื่อขอบคุณ เอลฟ์ตะวันออกหล่อเหลาเจ้าชู้ ยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่งไม่ดีต่อหัวใจ โดยเฉพาะหัวใจเล็กๆ ของดวอร์ฟสาว

“ข้าไม่แบกเป้” โคลด์เอ่ยเรียบๆ

“แล้วเจ้าจะกินอะไร เจ้าไม่ได้ไปแค่วันสองวัน” อิลมาเรบุ้ยปาก “คราวก่อนข้าก็แบกเป้ให้เจ้า คราวนี้ตาเจ้าแบกเองแล้ว”

“ข้ามีอาหารอัดเม็ดของแอสซาสซิน” อาหารอัดเม็ดที่ว่านี้เป็นเม็ดยาที่สกัดจากวัตถุดิบซึ่งให้สารอาหารครบถ้วนแก่ร่างกาย นักฆ่านิยมพกไว้กินยามต้องทำภารกิจ

“ไม่ได้! มันไม่ดีต่อสุขภาพ”

โคลด์ตอบกลับด้วยสายตาว่างเปล่า เอ่ยช้าๆ ชัดเจนทุกถ้อยคำ “ข้าไม่แบกเป้ แอสซาสซินไม่แบกเป้ แอสซาสซินที่สง่างามไม่มีใครแบกเป้สักคน ข้าจะไม่เป็นผู้ทำลายธรรมเนียมนั้น”

“แต่แอสซาสซินที่ไม่กินอาหารดีๆ จริงๆ ก็ไม่สง่างาม” มาลแกธเข้าข้างอิลมาเร “แล้วแอสซาสซินที่กินอาหารอัดเม็ดก็…” เอลฟ์ตะวันออกทำหน้าแปลกๆ แบบเวทนาเหลือใจ

“แอสซาสซินที่กินอาหารอัดเม็ดก็เป็นแอสซาสซินที่กินอาหารอัดเม็ด แอสซาสซินกินกันทุกคน”

อิลมาเรเบ้ปาก เห็นชัดว่าไม่เห็นด้วยกับโคลด์

“ไม่เป็นไร ข้าขอแอปเปิ้ลสักผลสองผลแล้วกัน” มาลแกธเปิดกระเป๋าคาดเอวที่แนบกับสะโพกออก หย่อนแอปเปิ้ลลงไปหนึ่งผล สองผล สามผล

ยี่สิบผล…

แอปเปิ้ลหายไปในกระเป๋าเล็กๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ กระเป๋าเวทมนตร์ของพวกคนรวยนี่นะ

“ข้าจะพาเขากลับมาส่งอย่างปลอดภัยครบทุกชิ้นส่วน” มาลแกธขยิบตา เขาดึงฮู้ดจากเสื้อคลุมขึ้นสวมศีรษะ แต่ไม่ได้เป็นไปเพื่อปิดบังตัวตนเหมือนอย่างโคลด์ หรือดาร์กเอลฟ์อื่นๆ ที่ไม่อยากปะทะกับสายตาเวทนา (หรือหนักๆ ก็รังเกียจ) ของพวกเอลฟ์รูเมเรียร์ เขาสวมฮู้ดตัวนี้เพื่อเรียกกำลังใจก่อนออกรบ

“โอ้โห ฮู้ดของท่านสวยจัง ไหมหลากสีทอประกายอมทองอมเงินแบบนี้เป็นไหมชนิดไหนเหรอ”

มาลแกธหยุดไปนิดหนึ่งแล้วชักยิ้มที่มุมปาก เขานั่งยองๆ คุยกับอิลมาเร ใบหน้าช่วงบนอยู่ในเงามืดของฮู้ด “เอลฟ์ที่ดินแดนบ้านเกิดของข้ามีผมหลายสี ทองแดง ฟ้า ม่วง บางคนเขียวเหมือนใบไม้ คนจากตระกูลเดียวกันจะมีสีผมเหมือนกันหรือใกล้เคียงกันเจ้ารู้ไหม”

เสียงของมาลแกธเย็น เข้ากับบรรยากาศยามเช้ามืดอย่างประหลาด

“และเจ้าคงเคยได้ยินว่าเอลฟ์ตะวันออกชอบสงคราม” เมื่ออิลมาเรพยักหน้าหงึกหงัก เขาก็ว่าต่อ “เวลาเรารบชนะตระกูลไหนได้ เราจะกล้อนผมของมันแล้วนำมาถักคู่กับเปีย หากเปียของใครมีสีอื่นผสมอยู่มากที่สุด ถือว่าเป็นยอดนักรบ”

แต่ผมของมาลแกธมีสีเดียว เปียก็เป็นเปียเก็บผมด้านหน้าแบบชาวรูเมเรียร์

แล้วฮู้ดล่ะ มีเส้นไหมหลายสีทอรวมกัน ฟ้า ม่วง เขียว แดงสด ขาว

ลมหนาวเยือกพัดมา อิลมาเรยิ้มค้าง ขยับตัวขยุกขยิก

“เชื่อหรือ” มาลแกธยืดตัวขึ้นแล้วหัวเราะ “นี่เป็นไหมพิเศษทอเข้ากับหนังของซาลาแมนเดอร์ กันไฟได้ อากาศเย็นจะอุ่น อากาศร้อนจะ…”

มาลแกธพูดค้างตรงนั้นเพราะโคลด์ส่งสายตาบอกว่าสายมากแล้ว

“เจ้าคิดว่าจะเลือกเส้นทางไหน”

“เส้นทางไหนอะไรหรือ” โคลด์ถาม ดึงฮู้ดขึ้นมาคลุมศีรษะ

“ทางไปถ้ำมังกรอย่างไรเล่า”

โคลด์ย่นคิ้ว แม้จะมองไม่เห็นจากใต้ฮู้ด “ก็ไปทางที่เราเพิ่งกลับมาเมื่อวันก่อน”

“ซิกฟรีดเลือกเส้นที่อยู่ใกล้รูเมเรียร์มากที่สุด แน่นอนว่ามีทหารยามยุ่บยั่บ” มาลแกธกัดแอปเปิ้ลที่หยิบติดมือมาเป็นอาหารเช้า “หรือจะลงไปแถบอิซิลดาร์ นั่นต้องมีเวลาสัก...อืม นี่เรารีบใช่ไหม น่าเสียดาย ข้ารู้จักที่ดีๆ ในอิซิลดาร์”

โคลด์ไม่เข้าใจมาลแกธ นี่เป็นเรื่องเร่งด่วนของซิกฟรีดเหมือนกันไม่ใช่หรือ แล้วอีกฝ่ายจะชวนเขาไปทางอื่นทำไม

“มังกรศิลาอยู่ในถ้ำคริสตัล ทางเข้าที่พวกนักขุดแร่ใช้ดีที่สุด ราชาของเจ้าถึงได้เลือก เราไปทางเดิมก็ได้ไม่ใช่เหรอ”

จากในเมือง หากขี่ม้าไปโดยไม่หยุดพักก็เพียงหนึ่งวัน แถมเขามากับหัวหน้าองครักษ์อย่างมาลแกธ ล็องธู ใบหน้านี้น่าจะใช้ผ่านทางได้สบายๆ ไม่ใช่หรืออย่างไร

“มังกรศิลาอยู่ในถ้ำคริสตัล ทางที่ซิกฟรีดเลือกก็เป็นทางที่สั้นและสะดวกที่สุด” มาลแกธยืนยันว่าความคิดของโคลด์ถูกต้อง “แต่ธุระของเจ้าล่ะ โคลด์ สตาร์” อดีตอาจารย์มองเขาด้วยสายตาที่ทำให้อึดอัด “เราไม่ควรไปทางที่ไม่ควรไปหรือ”

มาลแกธรู้

หรืออาจแค่เดา

ธุระแอบแฝงของดาร์กเอลฟ์น่าสนใจเกินกว่าจะปล่อยไป อีกอย่างหนึ่งคือ สำหรับมาลแกธแล้ว เขาผูกพันกับคิงซิกฟรีดแค่ในเรื่องผลประโยชน์ แต่กับโคลด์ เขาผูกพันมากกว่านั้น เรียกว่าเอ็นดูรักใคร่มาตั้งแต่สมัยสิบปีก่อนก็ได้

“อาจารย์ของเจ้าอ้างกับดวอร์ฟว่าจะนำเขี้ยวมังกรไฟมาให้ เจ้าคิดว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องอำกันเล่น”

มังกรไฟทะนงตนที่สุดในบรรดามังกรด้วยกัน ตำราการศึกษามังกรบันทึกไว้ ‘มังกรไฟจะเผาตัวเองจนไม่เหลือเถ้าหากเห็นว่าตนไม่อาจชนะศัตรู ความหยิ่งทะนงเช่นนี้ ทำให้ชิ้นส่วนใดๆ ของมังกรไฟมิอาจประเมินค่าได้ ทั้งในเรื่องเงินตรา และเรื่องอำนาจของผู้ครอบครอง’

“นั่นเป็นสัญญาที่เจ้าเอ่ยปากเอาเอง เจ้าต้องรับผิดชอบเอง” โคลด์ยืนยันว่าเขาไม่ช่วยเหลือใดๆ ไม่เถลไถล จะรีบไปถ้ำคริสตัลเพื่อหามังกรศิลา

มาลแกธหัวเราะกับความใสซื่อไม่รู้เรื่องของโคลด์ เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยน เขาน่ะหรือจะทำตามสัญญาลอยลมที่ให้กับดวอร์ฟที่เพิ่งรู้จักกันเพียงข้ามคืน

มังกรศิลาเป็นมังกรที่ลำดับขั้นสูงกว่ามังกรดินเพียงหนึ่งขั้น ไม่ว่าโคลด์อยากพูดคุยอะไรกับมัน มันก็ตอบได้เท่าที่สติปัญญาจะอำนวย

หากมันมีสติปัญญาน่ะนะ

เอลฟ์ตะวันออกไม่พูดแย้งอะไร เดาว่าธุระของโคลด์คงไม่สำคัญขนาดที่เขาประเมินไว้ ปล่อยให้อีกฝ่ายอธิบายแผนการไปโดยไม่แย้งอีก

แผนการของโคลด์คือต้องใช้เหล้าจำนวนมากมอมเหล้ามังกร พอมันครึ้มๆ ก็กล่อมให้มันพูดคุยกับเขา ตอบสิ่งที่เขาอยากทราบ จากนั้นจึงฆ่ามังกร นำหัวใจของมันไปมอบให้แก่ซิกฟรีด

ขั้นแรก ‘เหล้า’ เขาได้ส่าเหล้าชั้นดีมาจากซิกฟรีดแล้ว แต่จะขนเหล้าปริมาณมหาศาลขนาดมังกรดื่มแล้วเมาเข้าไปในถ้ำคริสตัลได้อย่างไร และยังต้องทำให้มังกรกินเหล้าของเขา

โคลด์อธิบายว่าที่พบซิกฟรีดในถ้ำเป็นเรื่องบังเอิญ เขากำลังสำรวจเส้นทางและยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะพูดคุยกับมังกรอย่างไร สุดท้ายเลือกวิธีมอมเหล้าเพราะเขาต้องฆ่ามังกรหลังจากนั้น การทำให้มันอยู่ในสภาพไม่พร้อมอาละวาดย่อมดีที่สุด

“เห็นกระเป๋าข้าแล้วนี่” มาลแกธตบกระเป๋าคาดสะโพก “ราคาสมน้ำสมเนื้อกับความสามารถในการเก็บของ ข้าให้เจ้ายืมใส่เหล้าได้ แน่นอนว่าคิดค่าตอบแทนที่สมกัน”

“ไม่เป็นไร ข้ามีวิธีของข้าเอง” โคลด์ไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใคร ขนาดเขาช่วยชีวิตเจ้าชายแห่งเอลฟ์ ยังกลายเป็นทาสอยู่หลายปี

“ยอมแล้ว” มาลแกธหัวเราะเอ็นดู พลางยกมือสองข้างเป็นเชิงให้อีกฝ่ายใจเย็นๆ

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินทางโดยไม่หยุดพัก จนกระทั่งม้าเริ่มเหนื่อย ทำท่าว่าไม่อยากไปต่อ โคลด์จึงแวะพักม้าที่หมู่บ้านเล็กๆ ก่อนถึงอาณาเขตถ้ำคริสตัล ข้างหมู่บ้านมีลำธารสายเล็ก พวกเขาให้ม้ากินน้ำ ส่วนมาลแกธนั่งข้างลำธาร กรอกน้ำลงถุงหนังจนเต็ม

โคลด์กางแผนที่ออก แผนที่นี้เป็นของหายากที่เขาฝากอิลมาเรซื้อมาจากนักขุดแร่โดยใช้เส้นสายของแม่ค้า มันบอกตำแหน่งภายในถ้ำอย่างคร่าวๆ

“ข้าสำรวจตามแผนที่มาสักพักแล้ว จุดนี้คือทางน้ำใต้ดิน ซึ่งมีจริงๆ มังกรก็ต้องกินน้ำ เราตามทางน้ำใต้ดินไป หาแหล่งน้ำของมัน ทำให้แหล่งน้ำกลายเป็นบ่อเหล้า” โคลด์อธิบาย

มาลแกธผิวปาก “เจ้าคือโคลด์ สตาร์แน่นะ” เขาใช้นิ้วแตะปลายจมูกของอีกฝ่าย

“ข้าอยู่ข้างนอกมากี่ปีแล้ว ถ้าข้าไม่รอดมายืนตรงนี้ เจ้าค่อยแปลกใจที่ข้าคิดได้” โคลด์ตอบเย็นชา ปัดปลายนิ้วออก

“ยอมแล้ว ยอมแล้ว” หัวหน้าองครักษ์ยกมือสองข้างอีกครั้ง “ข้ายอมท่านแอสซาสซินผู้สง่างามแล้วขอรับ”

โคลด์ไม่พูดอะไรอีก


—————————————————————————

A/N เราชอบโคลด์มึนๆ มากเลยค่ะ อยากจับมาขยี้ขยำยังไงก็ไม่รู้อะ ดูมึนๆ เบลอๆ =.= /บี้ๆ
ป.ล. รับอาหารอัดเม็ดมั้ยคะ? XD

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

อัพเดทตอนต่อไป วันที่ 6/01/60 ค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 3: (1) [05/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 05-01-2017 11:58:55
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 3: (1) [05/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 05-01-2017 13:21:00
อยากให้โคลด์คู่กับมาล ชอบผู้ชายบรรกาศแบบนาง 55555 เบื่อผู้ชายสายซึนนนนแบบคุณซิก  :laugh:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 3: (2) [06/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 06-01-2017 16:00:18
บทที่ 3 : งานฉลองไฟ (2)

การเข้ามาในถ้ำรอบนี้ราบรื่น เพราะเมื่อมีตัวอะไรท่าทางอันตรายโผล่มา มาลแกธก็แค่ตวัดมือออกอาวุธนิดหน่อย เจ้าสัตว์โชคร้ายก็ตายโดยที่โคลด์ไม่ต้องทำอะไร (ยกเว้นเก็บอะไรที่พอขายได้และไม่เกะกะไปฝากอิลมาเร)

ระหว่างเดินเลาะตามทางน้ำใต้ดินเพื่อหาต้นน้ำหรือแหล่งพักน้ำ โคลด์ชวนมาลแกธคุย ซึ่งแปลก แต่อาจเพราะดีกว่าเดินกันเงียบๆ เฉยๆ

“นี่…”

“ขอบคุณเทพทุกองค์ของเอลฟ์ตะวันออก” มาลแกธถอนหายใจ “ข้าอยากคุยกับเจ้าจะแย่ นึกว่าเจ้าลืมวิธีพูดไปเสียแล้ว”

โคลด์เงียบไปครู่ เขาพูดคำเดียว มาลแกธพูดสิบคำ

“แผลบนหน้าซิกฟรีดที่เจ้าบอกว่าเป็นคำสาปมืด เขาได้มายังไงกันแน่”

“และคำถามแรกของเจ้าก็เกี่ยวกับเรื่องของเขา...” มาลแกธตวัดมือฆ่าตัวอะไรก็ตามที่หลบอยู่ในเงามืดไปอีกตัว “เสมอ”

เอลฟ์ตะวันออกตัดพ้อ หางตาทิ้งลง ส่ายหน้าเศร้าๆ แบบที่ดูออกว่าแกล้งทำ

“เจ้าจะบอกข้าใช่ไหม” โคลด์ถาม อาจเป็นความเคยชินสมัยก่อน มาลแกธมักตอบคำถามของเขาเสมอ

“คำสาปของริวอร์นอร์แห่งรูเมเรียร์”

โคลด์แปลกใจ แต่ก็เข้าใจอย่างรวดเร็ว “แผลจากอดีตราชา...ไม่ใช่จากกบฏดาร์กเอลฟ์ ข้าว่าแล้วว่าตอนออกจากอาศรมมันมีอะไรแปลกๆ”

ตอนนั้นโคลด์ช่วยพาซิกฟรีดหนีออกจากอาศรม ไปสมทบกับกองกำลังของเอลฟ์อิซิลดาร์และเอลฟ์ตะวันออก เขาแปลกใจที่คิงริวอร์นอร์ไม่ส่งกองกำลังมารับน้องชาย แต่เมื่อคิดว่าเมืองหลวงกำลังถูกคุกคามด้วยกบฏดาร์กเอลฟ์ จึงเดาว่านี่เป็นกองกำลังนอกสายตาที่คิงริวอร์นอร์จัดหามาช่วยซิกฟรีดเพื่อไม่ให้พวกกบฏไหวตัว

แต่ดูเหมือนโคลด์จะเดาผิด

“ข้านึกว่าเขาหนีจากอาศรมเพราะมีกบฏอยู่ จะไปสบทบกับพี่ชาย ที่ไหนได้ เขาเองก็เป็นกบฏ ตั้งใจจะชิงบัลลังก์จากริวอร์นอร์ตั้งแต่แรก”

ซิกฟรีดย่อมมีราคาที่ต้องจ่ายเพื่อการนั้น โคลด์ไม่ติดใจเรื่องการแก่งแย่งชิงบัลลังก์ของพวกเอลฟ์ เขาไม่รู้ว่าซิกฟรีดจะก่อกบฏ เขาแค่ไม่ติดตามซิกฟรีดต่อเพราะจะไปตามหาเกวนโดลิน

“มันทำให้เขาแย่มากไหม”

“ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ทราบอาการ”

“นอกจากคู่หมั้นของเขา?”

“หลักแหลม” มาลแกธชม แววตาจริงจังแวบหนึ่ง “อิซิลดาร์เรืองอำนาจขึ้นเรื่อยๆ แต่การเมืองไม่เกี่ยวอะไรกับอาการป่วยของซิกฟรีด เจ้าคงไม่สนใจ”

“ข้าสนใจ มันเกี่ยวกับปากท้องของข้า อาชีพข้าโดนสั่งห้ามแล้ว จำได้ไหม ไม่ยุติธรรมเลย”

“ข้าเคยเป็นแอสซาสซิน โคลด์ สตาร์ ข้ารู้ว่าเศรษฐกิจไม่ดีเป็นยังไง แต่สถานการณ์แบบนี้ละที่อำนวยให้ค่าตัวของพวกเราสูงขึ้น เชื่อข้า ข้าผ่านสมรภูมิระหว่างตระกูลมาก่อน”

โคลด์ยิ้มออกมานิดหน่อย แทบสังเกตไม่ได้

“ข้าชอบอาชีพนี้นะ ต้องขอบคุณเจ้า”

“โอ” มาลแกธหยุดเดิน เงี่ยหูฟังเสียง “เราถึงแล้ว เห็น ประโยชน์ของการพูดคุยแล้วหรือยัง การตามรอยมังกรในถ้ำชื้นๆ เหม็นๆ รื่นรมย์เพราะบทสนทนาดีๆ”

พวกเขาเจอแหล่งพักน้ำ เป็นแอ่งน้ำเล็กๆ สีขุ่นเพราะปนตะกอนดิน โคลด์แยกกับมาลแกธสำรวจต่ออีกหน่อย แล้วกลับมาสรุปกันว่านอกจากแอ่งน้ำเล็กสามแอ่งโดยรอบ ด้านในสุดยังมีแอ่งน้ำใหญ่ซึ่งใสสะอาดกว่า เหมาะที่มังกรศิลาจะมากินน้ำ

“เราต้องแน่ใจว่ามังกรศิลาจะกินน้ำจากแอ่งน้ำใหญ่ คงต้องรอดูสักพัก เราต้องหาที่ซ่อน ข้าอยากได้ที่ที่ไม่ไกลจากแอ่งน้ำเล็กสักแอ่งด้วย มังกรก็เหมือนมนุษย์ ใหญ่กว่าก็ได้ของดีไป เล็กกว่าได้ไม่เท่า ข้าอยากได้มังกรดินตัวเล็กๆ สักตัว ไม่ฆ่า แค่ทำให้มันสลบนานๆ ก็พอ”

โคลด์แตะมือกับเข็มขัดคาดเอวอันมีขวดยาหลากสี หนึ่งในนั้นคงเป็นยาสลบ ซึ่งอยู่ในชุดสินค้าขายดีของอิลมาเรที่ชื่อว่า ‘อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับแอสซาสซิน’

“เจ้าบอกข้า หมายความว่าจะให้ข้าช่วยหรือเปล่า มีราคานะ” มาลแกธดึงเอาถุงมือแปลกๆ ออกมาจากกระเป๋าคาดสะโพก เขาสวมมันไว้ที่มือซ้าย

“ไม่ ข้าหมายความว่า ถ้าเจอมังกรดินตัวต่อไป ช่วยอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร”

มาลแกธโอด และแทนที่จะอยู่เฉยๆ เขากลับพาโคลด์ย่องไปทางหนึ่ง จากนั้นก็ปีน ไต่ตามแง่งหิน เมื่อมาลแกธกำมือให้สัญญาณว่าหยุด และชี้ไปที่หูเป็นทำนองว่าให้ตั้งใจฟัง โคลด์ก็ได้ยินเสียงฮึมๆ ของสัตว์ร้ายดังอยู่ไม่ไกล

เอลฟ์ตะวันออกเรียกให้โคลด์เข้ามาดูใกล้ๆ พ้นจากแง่งหินที่สามารถซ่อนตัวได้จะเห็นลานโล่งว่างอยู่ด้านล่าง ตรงกลางลานนั้นปรากฏมังกรดินหลงฝูงตัวหนึ่งกำลังก้มๆ เงยๆ เดินเอียงไปเอียงมาคล้ายกำลังเต้นรำ

มาลแกธถามด้วยสายตาว่า ‘นี่ใช้ได้ไหม’ ถ้าใช้ได้เขาก็จะไต่ลงไปเฝ้าแอ่งน้ำใหญ่ ส่วนมังกรดินตัวนี้แล้วแต่โคลด์จะเมตตามัน ดูๆ ไปแล้วมันยังเด็กอยู่ เกล็ดอ่อนนุ่ม และไม่เหม็นเท่าพวกที่โตเต็มวัย

โคลด์พิจารณาแล้วพยักหน้า “เจ้าไปเฝ้าแอ่งน้ำใหญ่ แล้วข้าจะตามไป” เขายอมรับว่าแผนการของมาลแกธดีกว่าของเขา

หลังจากนั้นราวหนึ่งชั่วโมง โคลด์แบกมังกรดินตัวเล็กมาด้วย มันหลับตา เปลือกตาปิดสนิท แต่จมูกยื่นยาวยังพ่นลมหายใจสม่ำเสมอแผ่วเบา

“ลมบอกว่ามังกรศิลาหลับอุตุอยู่” มาลแกธเอามือป้องหู “มังกรนี่กรนน่าเกลียดจริงๆ ถ้ามันนอนใกล้แถวนี้ รอสักพักเดี๋ยวพอมันตื่นก็มาดื่มน้ำตรงนี้ละ”

โคลด์เกือบลืมไปเลยว่ามาลแกธก็เป็นควาร์คนหนึ่ง ซิกฟรีดส่งมาลแกธมาช่วยเขาก็ช่วยได้มากจริงๆ เพราะเขาคงถามลมไม่ได้หรอกว่าอะไรอยู่ตรงไหน

“ข้าอยากถามเจ้าข้อหนึ่ง” มาลแกธรอให้อีกฝ่ายอนุญาต

“ว่ามา”

“เจ้าจะทำให้มังกรที่จมูกดียอมดื่มน้ำเหม็นเหล้าได้อย่างไร”

“ข้ามีวิธีของข้าก็แล้วกัน” แต่ไหนๆ ก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว โคลด์จึงตอบมากอีกหน่อย “คำตอบอยู่ที่นี่ ก็ต้องเล่นละครกันหน่อย” เขาชี้ไปที่มังกรดินตัวเล็กซึ่งยังหมดสติอยู่

ผ่านไปหลายชั่วโมง กะได้ว่าเป็นช่วงมื้อเย็นของมังกร เสียงคำรามก็ลอยมาตามลมแบบที่ไม่ต้องเป็นควาร์ก็ได้ยิน มังกรศิลาตื่นแล้ว พื้นถ้ำสะเทือนเบาๆ เวลามันลุก

“ปกติมังกรศิลาที่อยู่มานานหน่อยจะมีพวกมังกรดินเป็นบริวาร” มาลแกธกระซิบ “เวลามังกรศิลาล่าเหยื่อได้ พออิ่มก็จะแบ่งซากให้มังกรดิน น่าสนใจใช่ไหมล่ะ มังกรชั้นต่ำก็มีลำดับขั้นในสังคม”

คำพูดนี้เขาหมายให้มันยอกใจโคลด์ ความจริงแล้วเขาทดสอบโคลด์มาตั้งแต่เมื่อคืนวาน ลองแหย่ ลองเล่นด้วย ดูว่าโคลด์ที่เขารู้จักยังอยู่ในตัวดาร์กเอลฟ์คนนี้หรือไม่

โคลด์แบกมังกรดินขึ้น “สิ่งมีชีวิตทุกอย่างมีลำดับชั้น หวังว่าวันนี้พวกมันจะอยากเลี้ยงฉลองกันหนักหน่อย” เขากระโดดลงไป “ถ้าข้าให้สัญญาณว่าฆ่าได้ เจ้าค่อยมาช่วยแล้วกัน”

โคลด์บอกมาลแกธแต่แรกแล้วว่ามังกรศิลาชอบดื่มเหล้า แต่เขาไม่เฉลยว่าตนทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร อันที่จริงตัวโคลด์เองก็ไม่มั่นใจนักว่าแผนการนี้จะได้ผล แต่เขาคิดว่าฝีเท้าหลบหนีของตนไม่เป็นรองใคร

จากที่มาลแกธเห็น โคลด์เร่งเคลื่อนไหวในมุมมืด ไปถึงแอ่งน้ำขนาดใหญ่ก่อนที่มังกรศิลาและบริวารจะมาถึง เขาวางมังกรตัวจิ๋วในท่าหมอบคู้ เอาหน้าซุกขาหน้า คล้ายท่าหมอบกรานของผู้น้อยต่อผู้เป็นใหญ่ จากนั้นก็วางถุงหนังบรรจุส่าเหล้าไว้ข้างตัวมัน

มาลแกธมองแผนการของโคลด์อยู่ในเงามืดระหว่างแง่งหิน เริ่มเข้าใจว่าอีกฝ่ายนึกจะทำอะไร ขณะมองอดีตลูกศิษย์ด้วยความชื่นชม เขาก็เอาดินมาลูบตามตัวเพิ่ม แม้ว่าตนกับโคลด์จะกลบกลิ่นตั้งแต่ปากถ้ำแล้ว แต่เขาไม่ควรเสี่ยงกับมังกรที่กำลังหิว

โคลด์รออยู่อย่างอึดอัดใจ มังกรศิลาที่เจอเมื่อวันก่อนเดินมา มันยังมีบาดแผลเป็นรอยเพิ่งสมาน มันคงหิว อารมณ์ไม่ดี เจ็บแผล และยังไม่ออกไปล่าไกลๆ

มังกรศิลาก้มเลียน้ำ ค่อยสังเกตเห็นมังกรดินป้อแป้หมอบนิ่งอยู่ไกลๆ มันคำรามในลำคอ จากนั้นมังกรดินด้านหลังก็เดินเข้าไป คล้ายไปดูว่ามังกรตัวนี้กล้ามาใช้ที่ดื่มน้ำของมังกรศิลาได้อย่างไร

โคลด์ส่งเสียงห้าม เป็นเสียงที่มาลแกธไม่เข้าใจ มันเหมือนเสียงคำรามของมังกร แต่ก็มีการออกเสียงเป็นจังหวะสูงต่ำ ยาวบ้างสั้นบ้างและมีการเว้นวรรคเหมือนกำลังพูดคุย

มังกรที่เดินเข้าไปเดินช้าลง มันส่งเสียงตอบมังกรที่หมอบอยู่ จากนั้นก็คาบถุงบรรจุส่าเหล้ากลับไปให้มังกรศิลา

มาลแกธเห็นมังกรศิลาดมๆ ถุงหนังนั้น จากนั้นก็คำรามพอใจ มังกรบริวารกัดถุงหนังแตก ให้ส่าเหล้าร่วงลงในแอ่งน้ำ

วันนี้มังกรมีบ่อเหล้า

การเฝ้ารอเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของนักฆ่า รอเวลาที่เหมาะสม เพื่อได้ผลลัพธ์ดีที่สุด มาลแกธรอ โคลด์ก็รอ รอนานเกือบสองชั่วโมงให้มังกรสำเริงสำราญกับสุราจนเต็มอิ่ม

มังกรศิลาดื่มมากที่สุด มันเมา นอนปรือตา

ตอนนั้นเองโคลด์ย่องเข้าไป ทีละนิด ทีละนิด เขาหายไปหลังมังกรบริวารตัวหนึ่ง มาลแกธเห็นมังกรศิลาขยับปาก คล้ายกำลังพูดคุยกับมังกรบริวารตัวนั้น

ผ่านไปครู่ใหญ่ โคลด์กระโดดจากที่ซ่อน เหยียบขึ้นบนหลังมังกรศิลาอย่างแม่นยำ ใช้มีดสั้นน้ำแข็งแทงดวงตาของมันได้ข้างหนึ่งก่อนกระโดดหลบไปอีกทาง เขาให้สัญญาณมาลแกธว่าฆ่าได้แล้วนั่นเอง

เป็นการให้สัญญาณที่ห่ามเสียนี่กระไร


—————————————————————————

A/N อดีตเริ่มแง้มตัวเองออกมาแล้วค่ะ ทีละนิดๆ ให้รอการค้นหา ;)
ป.ล. จริงๆ โคลด์ในอิมเมจเราเป็นผู้ชายที่ดีใช้ได้คนนึงเลยนะ น่าส่งเสริมให้ (ถูกจับ) กิน 555

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz


อัพเดทตอนต่อไปวันที่ 07/01/60 ค่ะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 3: (2) [06/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 06-01-2017 19:02:49
เมื่อไหร่คิงซิกฟรีดจะจับหนูน้อยโคลด์กินหนอ
ปล.มารอทุกวันจ้า :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 2: (5) [04/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 06-01-2017 19:33:27
o13 o13
ฝากติดตามให้กำลังใจนักเขียนด้วยจ้า -3-

:katai5: :katai5: :katai5:
จับหางกระต่ายไว้!

อยากให้โคลด์คู่กับมาล ชอบผู้ชายบรรกาศแบบนาง 55555 เบื่อผู้ชายสายซึนนนนแบบคุณซิก  :laugh:
ขอแรงเชียร์ให้มาลแกธกันค่ะ!
แต่ซิกฟรีดก็เร่าร้อน SM น้า

เมื่อไหร่คิงซิกฟรีดจะจับหนูน้อยโคลด์กินหนอ
ปล.มารอทุกวันจ้า :mew1:
รอดูกันต่อไปค่ะ อิอิ
ขอบคุณที่แวะมาอ่านทุกวันจ้า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 3: (2) [06/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: hikikomori ที่ 07-01-2017 00:10:59
ว้าว ไม่เคยเห็นคุนอิลเรย์ในเล้ามาก่อนเลย ยินดีต้อนรับค่าาา

แวะมาเจิมรอตอนถัดไปนะคะ อยากให้คิงเกรี้ยวกราดกว่านี้จัง อิอิอิ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 3: (3) [07/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 07-01-2017 06:03:29
บทที่ 3 : งานฉลองไฟ (3)

เร็วกว่าตาเห็น เอลฟ์ตะวันออกดีดตัวจากที่ซ่อน กระโดดเหยียบหัวเหยียบหลังมังกรดินที่รายล้อมอยู่ พุ่งไปจนถึงมังกรศิลา ปลายดาบคมแทงทะลุชั้นเกล็ดตรงลำคออย่างแม่นยำ มาลแกธดันดาบจนมิดก่อนดึงพรวดออกมา เลือดมังกรล้ำค่าพุ่งกระฉูดจากบาดแผล

ความเจ็บทำให้มังกรศิลาคล้ายสร่างเมา มันคำรามดุร้าย แต่ก้าวได้เพียงก้าวเดียวก็ล้มตึง มังกรดินโผนกระโจนเท่าที่กำลังจะมีเข้ากลุ้มรุมศัตรู โคลด์พุ่งเข้ามา ช่วยป้องกันด้านหลังของมาลแกธ พวกเขาหันหลังชนกัน มังกรดินมีจำนวนมากแต่รับมือได้ง่ายกว่าครั้งก่อน ฤทธิ์เหล้าทำให้การโจมตีของพวกมันไม่แม่นยำ

ชั่วขณะนั้นมาลแกธดีดนิ้วข้างซ้ายที่สวมถุงมือประหลาดๆ เมื่อปลายนิ้วเสียดสีกันไฟก็ลุกพรึ่บ ลามเลียทั่วถุงมือจนดูคล้ายลูกไฟขนาดย่อม

 ความจริงแล้ว ถุงมือก็คืออุปกรณ์สำหรับควาร์ที่ถนัดการใช้ไฟนั่นเอง

มาลแกธพูดภาษาควาร์

ลูกไฟพุ่งจากถุงมือราวกับมีชีวิต เข้าคลอกมังกรดินแทบทุกตัวในที่นั้น ย่างสดในพริบตาเดียว

โคลด์ถอยห่างจากไอร้อน มองดูมังกรศิลาที่ตาบอดไปข้าง ตรงคอมีเลือดไหล มันโมโหจัดอยู่กลางกองเพลิง มังกรดินบางตัวโชคดีรอดจากไฟ พวกมันเผ่นหนีกระจัดกระจายไป

ถ้าสู้กันแบบปกติคงต้องใช้ทหารจำนวนเท่าที่ซิกฟรีดพามา เพราะต้องสู้กับบริวารของมันด้วย แต่นี่คือการลอบกัด ลอบฆ่า มังกรดินบางตัวตายทั้งที่ยังไม่ตื่นจากการเมาหลับด้วยซ้ำ

“อันตรายเนอะ” มาลแกธพูดกับโคลด์ “ไฟคุมยาก อ้าว เสื้อเจ้าไหม้ไปนิดหนึ่งนี่”

“แค่เล็กน้อย ไม่เป็นไร เหลือแค่เราสองคนกับมันหนึ่งตัว ข้ายกความดีความชอบให้เจ้า เจ้าคิดว่างานที่เหลือจะใช้เวลาเท่าไหร่”

“ฆ่ามันไม่ยากหรอกที่รัก แต่ลากมันออกจากถ้ำสิ…” มาลแกธระบายลมหายใจ

“เขาเอาแค่หัวใจ” คำพูดของมาลแกธทำให้โคลด์ทราบว่า แม้แต่มาลแกธ ซิกฟรีดก็ยังไม่บอกทั้งหมด

“งั้นหรือ”

“ใช่ เขาบอกข้าเมื่อวันก่อน” โคลด์เมินคำว่า ‘ที่รัก’ เหมือนมันไม่เคยออกจากปากอีกฝ่าย

มาลแกธสบถ แม้จะเป็นภาษาของชาวตะวันออกแต่ก็พอเดาได้ว่าไม่น่าฟังนัก

เขาขึ้นไปบนตัวมังกรแล้วแทงดาบยาวด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ตรงนั้นทีตรงนี้ที สักพักก็เก็บดาบแล้วเปลี่ยนเป็นมีดสั้นรูปร่างคล้ายตะขอ

มังกรล้มลงหลังจากการระบายอารมณ์อันยาวนาน มาลแกธนั่งเลาะเกล็ดบริเวณหัวใจมังกรเงียบๆ การชำแหละมังกรใช้เวลาไม่น้อย

“เจ้าโกรธราชาของเจ้า” โคลด์มีความสนุกในน้ำเสียง เขาใช้มีดช่วยเลาะเกล็ดตรงหน้าอกด้วย

“โกรธหรือ” มาลแกธหัวเราะ “เคืองแค้นน่าจะตรงกว่า”

“เคืองอะไร เคืองที่เขาไม่ไว้ใจเจ้า?”

“เคืองที่มันโง่ต่างหาก”

โคลด์ประหลาดใจ แล้วก็เข้าใจ “อ้อ เจ้าเคืองที่เขาโง่บอกข้า คนที่ไม่น่าไว้ใจที่สุด”

“ข้าบอกเจ้าแล้วเรื่องอิซิลดาร์” มาลแกธโยนเกล็ดทิ้งเกล็ดแล้วเกล็ดเล่า ชั้นเนื้อนุ่มค่อยๆ กว้างขึ้น “ท่านหญิงเอริแอดเน่เอ่ยคำเดียว ซิกฟรีดทำตามหมด”

“ก็เขารักของเขา” โคลด์สรุปให้ “เขาเล่นหูเล่นตากันตั้งแต่นางยังเป็นคู่หมั้นของคิงริวอร์นอร์”

“เจ้าไม่เข้าใจ ซิกฟรีดปิดบังแผนการของนางจากข้า ปิดบังแผนการของอิซิลดาร์จากแดนตะวันออก เหมือนรูเมเรียร์มอบอำนาจให้อิซิลดาร์มาชี้ให้ข้าทำนั่นทำนี่ โดยไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง”

มาลแกธหยิบมีดอีกชนิดออกมากรีดเนื้อมังกรศิลา

“เจ้าอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่อิซิลดาร์ถนัดนักละที่เริ่มแผนการจากอะไรที่เล็กๆ น้อยๆ ไปสู่อะไรที่ใหญ่กว่า”

“ข้าปวดหัวแทนเจ้าเลย ทำไมเจ้าไม่คิดบ้างว่าพวกเขาจะแต่งงานกันแล้วอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป” โคลด์เอ่ยทื่อๆ พวกเขาช่วยกันแหวกหน้าอกมังกร เลาะซี่โครงออกมาทีละอัน เอลฟ์กับดาร์กเอลฟ์มือเปื้อนเลือดไม่ต่างกัน

“เรื่องของพวกเราซับซ้อนโคลด์ สตาร์ และเป็นการเมืองน่าเบื่อที่ไม่น่าฟัง”

“ข้ารู้ว่าอะไรน่าฟัง อยากรู้ไหมว่าเมื่อกี้ข้าทำอะไรลงไปบ้าง อย่าทำท่าคิด ข้ารู้ว่าเจ้ารอข้าเล่า” โคลด์ล้วงมือเข้าไปในทรวงอกมังกรศิลา ควานหาหัวใจ

“เจ้าทำอะไรลงไปบ้างล่ะ”

“เจ้าจะเอาเขี้ยวมังกรไฟไปให้อิลมาเร” โคลด์ตัดขั้วหัวใจอย่างระมัดระวัง ค่อยๆ เอาหัวใจมังกรออกมา มันมีขนาดเท่าลูกบอล สีแดงสด อาบเลือด ยังสั่นน้อยๆ และคงหยุดสั่นในไม่ช้า

“เจ้าคงไม่คิดว่าข้าจะทำจริงใช่ไหม”

“เจ้าสัญญาแล้ว เจ้าเป็นอาจารย์ของข้า เป็นผู้ชายที่นางคิดว่าเป็นสุภาพบุรุษแสนดี เพราะฉะนั้นเจ้าต้องทำ แล้วข้าจะเล่า”

“ไม่มีใครเห็นมังกรไฟมานานแล้ว”

“งั้นก็ไปบอกนางว่าเจ้าปากพล่อย เจ้าทำไม่ได้ เจ้าจะให้อย่างอื่น” อิลมาเรมีความสำคัญให้โคลด์ใส่ใจ

“ได้ ข้าปากพล่อยจ้ะดวอร์ฟตัวน้อย” มาลแกธซ้อมพูด “ว่าแต่ว่า ข้าเป็นสุภาพบุรุษแสนดีตอนไหนหรือ” เขาหัวเราะในลำคอ มือเปื้อนเลือดจนลื่น

ระหว่างนั้นโคลด์ห่อหัวใจมังกรในผ้าที่เตรียมมา วางห่อผ้าลง เริ่มเลาะฟันมังกรศิลาไปให้อิลมาเร

“ตอนที่ข้าคิดว่าเจ้าเป็นกระมัง” โคลด์รำพึง นึกถึงอดีต “ข้าพูดภาษามังกรได้ เจ้าเห็นแล้ว เป็นสิ่งที่ข้าเรียนรู้มาจากบ้านเกิด วันนี้ข้าเตรียมยามาเป็นพิเศษสามชนิด ยาสลบ ยาทำให้ฟื้นสติ ยาทำให้เป็นอัมพาต…”

“ข้ามีเรื่องที่อยากถามเจ้ามากมายโคลด์ สตาร์” มาลแกธตัดบทด้วยการเดินไปล้างมือในแอ่งน้ำใกล้ๆ “แต่เจ้ากันข้าไม่ให้เริ่มบทสนทนาเสมอ หากเจ้าคิดว่าข้าควรทำตัวให้เป็นสุภาพบุรุษสำหรับเพื่อนคนสำคัญของเจ้า ก็ทำตัวให้ข้าอยากทำตามสิ”

“ข้าทำให้มังกรตัวเล็กสลบ จะได้เอามันไปจัดฉาก จากนั้นทำให้มันฟื้นก่อนมังกรศิลามา แล้วทำให้มันเป็นอัมพาต ถ้าข้าจะเล่นละครเป็นมังกร มันก็ไม่ควรนอนนิ่งใช่ไหม ตื่นอยู่แต่พูดไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้จึงดีที่สุด”

“โคลด์ ข้าไม่สนใจวิธีการ ผลลัพธ์ออกมาดีก็ดีแล้ว”

แต่โคลด์ยังเล่าต่อ “ถ้ามีคนมาบุกรุกบ้านเจ้า เจ้าเจ็บตัว ลูกน้องเจ้าตาย เท่ากับเจ้ามีวันห่วยๆ เจ้าต้องอยากระบาย มังกรตัวเล็กรู้ว่าจ่าฝูงอารมณ์ไม่ดี เลยขโมยส่าเหล้ามาจากบ้านมนุษย์...เอามาทำเหล้า มังกรศิลาพอใจ แล้วพวกมันก็สนุกกับบ่อเหล้า จากนั้นก็เป็นอย่างที่เห็น” โคลด์ออกแรงงัดฟันมังกรออกมา วางบนผ้าอีกผืน

มาลแกธยิ้มอ่อนใจ “ใครสอนให้เจ้าพูดมาก อ้อมไปอ้อมมา”

“เจ้าชวนข้าไปหามังกรไฟหรือมังกรอะไรก็ตามที่ไม่ใช่ตัวนี้ เจ้าคงคิดว่าข้าจะพูดคุยกับมันไม่รู้เรื่อง หรือมันไม่มีสติปัญญา แล้วทำไมเจ้าไม่คิดบ้างว่าถ้าข้าคิดว่าจะคว้าน้ำเหลว ข้าจะมาสำรวจถ้ำแห่งนี้ไปเพื่ออะไร”

เอลฟ์ตะวันออกพอใจที่โคลด์เปิดปาก

“ข้าเลือกมังกรศิลาเพราะมันด้อยสติปัญญา ถามง่ายตอบง่าย เหมือนคนเมาปากพล่อย ข้าได้คำตอบที่ต้องการแล้ว”

“นั่นสิ ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ”

“ใช่ และเจ้าก็ยังไม่รู้ว่าข้าได้คำตอบอะไรมา หรือถามอะไรไป” โคลด์มองมาลแกธตรงๆ

“นั่นสิ ข้าควรฟังสักหน่อย”

“ข้าจบเรื่องแล้ว เจ้าเอาหัวใจไปให้ซิกฟรีด เขาอยากได้หัวใจ ข้าไม่ไปก็คงไม่เป็นไร ข้าไม่อยากเสียเวลา”

“เอ…” มาลแกธทำท่าคิด “เอ...ทำไมเจ้าไม่คิดบ้างว่าข้าอาสามากับเจ้าเพื่ออะไร”

“มาดูว่าข้าทำตามสัญญา ซึ่งข้าทำตามแล้ว” เขาเบือนหน้าไปทางห่อหัวใจมังกร “หนูสกปรกดาร์กเอลฟ์ทำตามสัญญากับพระราชาแล้ว”

“เจ้าตลกนะ หงุดหงิดที่ข้าไม่ยอมฟัง แต่พอข้าพูดบ้าง เจ้าก็ตัดบทด้วยการคิดเองเออเอง เอ้า ข้าจะเฉลยให้ ข้าอยากมาใช้เวลาร่วมกับเจ้าหลังไม่เจอกันมาสามปี”

โคลด์เงียบไป เหมือนคิดหาคำพูดมาตอบโต้ไม่ทัน ใบหน้าอ่อนลงเล็กน้อย หรือถ้ามาลแกธคิดเข้าข้างตัวเองสักหน่อย เขาเห็นว่าดาร์กเอลฟ์ประหม่า

“อ้อ” โคลด์ตอบ

“ข้าบอกแล้ว จะบอกอีกก็ได้ การล่ามังกรเป็นความคิดของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ ข้าดูเหมือนทหารผู้ภักดีหรือ เอลฟ์ตะวันออกไม่ภักดีกับใคร ยกเว้นกับตัวเอง”

“ขอบใจที่มาช่วย” คราวนี้โคลด์ไม่ตั้งป้อมใส่ “ตกลงเจ้าจะเอาหัวใจไปให้ซิกฟรีดหรือไม่”

“ไม่”

โคลด์เงียบ ล้างมือบ้าง แล้วกลับมาเก็บทั้งห่อฟันมังกรและห่อหัวใจมังกรเข้าในเสื้อคลุม “เข้าใจแล้ว”

“แต่ข้าจะช่วยเจ้า แม้ไม่รู้ว่าธุระของเจ้าคืออะไรก็ตาม”

“ไม่เป็นไร ทางใครทางมันเถิด”

มาลแกธไม่ต่อความแม้จะนึกแย้งในใจว่า

‘แล้วเจ้าจะรู้เองว่า ทางของเจ้าและข้าต้องมาบรรจบกัน เพราะข้าไม่เลิกตามง่ายๆ’

โคลด์คิดว่าตนควรเอ่ยขอบคุณ แต่เขาไม่พูด เขาไม่ต้องการให้ตนและมาลแกธมีเรื่องพูดคุยกันต่อ

โคลด์ไม่อยากสนิทสนมเกินไป เขาพ้นจากการเป็นทาสของเอลฟ์แล้ว มาลแกธก็เคยมีสถานะเหนือเขา สถานะนี้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเพราะมันคือความหยิ่งยโสของพวกเอลฟ์

มาลแกธยิ้มบางๆ แววตาเจ้าเล่ห์วูบวาวแหลมคมในความมืด เขามองดาร์กเอลฟ์ที่เติบโตอย่างโดดเดี่ยว เจ็บปวด และงดงาม

เขาผิดเองที่หวังให้โคลด์เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเหมือนเดิมในอุ้งพระหัตถ์ของเทพแห่งกาลเวลา


—————————————————————————

A/N จริงๆ มาลแกธก็ร้ายนะคะ และโคลด์ก็รู้ เทียบกับซิกฟรีดแล้ว มาลแกธ Bad Guy กว่าค่ะ
ป.ล. แต่ซิกฟรีดมีด้านมืดแบบ SM มาก /กระซิบ

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

พบกับตอนต่อไป พรุ่งนี้ วันที่ 08/01/60 ค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 3: (3) [07/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 07-01-2017 11:05:08
ลุ้นมากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 3: (3) [07/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 07-01-2017 19:33:38
ทำไมดูเหมือนซิกฟรีดไม่ทันเกมของชะนี อะไรๆก็ทำตามทุกอย่าง รู้สึกคิงซิกฟรีดดูโง่ๆยังไงไม่รู่อ่ะ
ขัดใจมากกกกก :m16:
 เดี๋ยวเชียร์หนูน้อยโคลด์ให้มาลแกธซะหรอก
ปล.สู้ๆนะไรต์ ชอบอ่ะ อินตาม  o13
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 3: (3) [07/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 07-01-2017 21:32:18
 o13
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (1) [08/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 08-01-2017 13:21:49
บทที่ 4 : รางวัลของนักฆ่า (1)

มาลแกธและโคลด์กลับถึงที่พักในอีกหลายวันต่อมา เพื่อไม่ให้สะดุดตา มาลแกธเสนอว่าควรเข้าที่พักตอนดึกสงัด ให้คบไฟของเทพส่องทางยามค่ำคืน หรือเทพีจันทร์เซฮาไนน์ในความเชื่อของดาร์กเอลฟ์ เคลื่อนไปทิศตะวันตกสักหน่อย แต่โคลด์คิดว่าอีกฝ่ายจงใจเอ้อระเหยเสียมากกว่า ทว่าหากพิจารณาจากภาพเอลฟ์ตะวันออกรูปร่างสูงใหญ่ แบกหนังมังกรศิลาที่แบ่งเป็นหลายผืน ก็นับว่าเหตุผลพอฟังขึ้น

“ข้าทำตามสัญญาไม่ได้ ในถ้ำนั้นไม่มีมังกรไฟสักตัว ไม่นับว่าโคลด์เร่งทำธุระให้คิงซิกฟรีด” มาลแกธทิ้งหางตาลง เขาวางหนังมังกรศิลาบนโต๊ะตรงหน้าอิลมาเร เกล็ดแข็งหนายังซ้อนกันเป็นชั้นอย่างสวยงาม ไม่หลุดเลยสักเกล็ดเดียว

“ข้าหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยไถ่โทษได้”

อิลมาเรอ้าปากมองแบบทึ่งๆ แล้วกระโดดไปมารอบห้อง สายตาอย่างแม่ค้าจับจ้องหนังมังกรศิลา ประกายตาสดใสเหมือนเหรียญทอง ขณะโคลด์แค่วางห่อใส่ฟันมังกรศิลาไว้ข้างกันอย่างเงียบๆ

ดวอร์ฟสาวมองมาลแกธที มองโคลด์ที เธอยกมือคู่เล็กขึ้นมากุมไว้ระดับอก เงยหน้าพูดเสียงสดใส “ท่านมาลแกธรับข้าเป็นคนรักไหมเจ้าคะ” แล้วเธอก็นึกภาพมาลแกธแอบจูบโคลด์ได้ “หรือท่านไม่ชอบผู้หญิงเจ้าคะ”

"ข้าดูแลใครไม่ดีนัก" มาลแกธถอนหายใจรวดร้าว

"ข้าดูแลตัวเองได้เจ้าค่ะ เงินหาเองได้ เป้แบกเองได้"

"แต่ถ้าเจ้าอยากมาทำงานให้ตระกูลข้าละก็...ได้"

"ข้าไม่ได้อยากทำงานให้ท่านเจ้าค่ะ ข้าอยากแต่งงานกับท่าน!" อิลมาเรบอกชัดเจน ทำสายตาปิ๊งๆ ประทับใจในความเท่ หล่อ ป๋า เป็นสุภาพบุรุษของมาลแกธ

"..." มาลแกธเงียบไปครู่หนึ่ง ความจริงแล้วเขาจะพูดปฏิเสธตรงๆ ก็ย่อมได้ แต่ดวอร์ฟตนนี้น่ารัก แถมยังสนิทกับโคลด์ สตาร์...อีกอย่าง เขามีลางสังหรณ์ว่าเธอจะมีบทบาทสำคัญในอนาคต

คบไว้ฉลาดกว่า

โคลด์ถลึงตา ‘เป็นไงล่ะ เจ้าหลอกนางไว้เยอะ’

"เอลฟ์ตะวันออกไม่เชื่อถือการแต่งงานรู้ไหม" มาลแกธไม่สบตาโคลด์ เขาเปลี่ยนท่าทีเป็นจริงจังบ้าง

"แล้วพ่อท่านกับแม่ท่านไม่แต่งงานกันหรือเจ้าคะ"

"เปล่า" มาลแกธยิ้ม "ข้าเป็นลูกนอกสมรส" ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างขึ้นอีก

"ข้าไม่ถือสาเจ้าค่ะ"

มาลแกธหัวเราะ "ข้าชอบผู้ชาย"

"จริงหรือเจ้าคะ" อิลมาเรทำท่าเสียดาย

มาลแกธพยักหน้า แม้จริงๆ แล้วจะชอบทุกเพศก็ตาม

“และถึงจะเป็นดวอร์ฟหนุ่ม ข้าก็ไม่กล้าคบหาแบบคนรัก เผ่าพันธุ์ของพวกเจ้าดูอ่อนเยาว์ เหมือนเด็ก ข้าจะเหมือนไปพรากผู้เยาว์ออกจากอกบิดามารดา”

‘พรากผู้เยาว์’ โคลด์ถลึงตาอีก

ดวอร์ฟสาวน้อยน้ำตาซึม

"ไม่ร้องสิ" เอลฟ์ตะวันออกปาดน้ำตาหยดเล็กๆ ให้

‘เจ้าทำอิลมาเรเสียใจ’ โคลด์ถลึงตาอีก

"ผู้ชายชอบกันเองหมดเลย ฮือๆ" อิลมาเรร้องไห้

"ข้าชอบโคลด์ เขาไม่เคยรับรัก ข้าก็เสียใจแบบนี้" มาลแกธปลอบ

โคลด์ตาโต "อย่าเอาข้าไปอ้างสิ"

"ไม่ได้อ้างสักนิด ข้าชอบเจ้าจริงๆ"

โคลด์ส่งสายตาเย็นชาให้มาลแกธแล้วขยี้หัวอิลมาเร "นี่แน่ะ อิล ข้าจะบอกให้ ในโลกนี้มีผู้ชายที่หล่อเท่ากับมาลแกธ ดีเท่ากับมาลแกธ เก่งกาจเท่ากับมาลแกธ เท่เท่ากับมาลแกธ สุภาพเท่ากับมาลแกธเป็นกระบุง นี่เป็นแค่หนึ่งคนในกระบุงนั้นเท่านั้น เจ้าไม่ต้องเสียใจ"

วิธีการปลอบใจสไตล์โคลด์ทำเอามาลแกธเลิกคิ้ว คำพูดเมื่อครู่โคลด์หมายความว่าเขาหล่อ ดี เก่งกาจ เท่ และสุภาพใช่หรือไม่

อิลมาเรร้องไห้ซิกๆ พยักหน้าแรงๆ "อื้อ..." เธอหันไปหาท่านเอลฟ์ "ข้าจะพยายามหากระบุงใบนั้นให้เจอไวๆ นะเจ้าคะ ท่านมาลแกธ ท่านจะได้ไม่ต้องลำบากใจ!" แล้วแม่ค้าผู้ขยันขันแข็งก็หอบชิ้นส่วนของมังกรที่ได้มา ‘ฟรี’ ทั้งหมดไปจัดเป็นของสำหรับขายในวันต่อไป

"..." มาลแกธไม่ทราบว่าควรตอบว่าอะไร… เขากลั้นยิ้ม

ดวอร์ฟตนนี้น่ารักจริงๆ นั่นละ

“เจ้าจะเดินทางเข้าเมืองหลวงเลยหรือไม่” มาลแกธถามโคลด์ ทั้งๆ ที่เดาคำตอบได้อยู่แล้ว

“คืนนี้ดึกแล้ว นอนพักสักคืน พรุ่งนี้ค่อยไป”

“ตามใจ” มาลแกธนวดคอ นวดบ่า ปวดตัวไปหมด แต่ที่พักห่างไกลอย่างนี้มีน้ำร้อนให้เป็นเวลา ดึกแบบนี้คงอดแช่

โคลด์จ้องมาลแกธครู่หนึ่ง คิดสะระตะ

“ดื่มไหม” ไม่มีน้ำร้อนให้ผ่อนคลาย แต่เหล้ายังพอทดแทนได้ มาลแกธคิดว่าอิลมาเรต้องมีซุกไว้ในกระเป๋าสินค้าสารพัดอย่างของเธอแน่ๆ “มาน่า...ผ่อนคลายบ้าง อย่างน้อยผ่อนหนังตาเจ้าก็ยังดี จ้องข้าเป๋ง ไม่เมื่อยหรือ”

“ตกลง” โคลด์ตอบรับง่ายกว่าที่คาด “อิลมาเรมีเหล้าดีๆ แต่เจ้าต้องจ่ายเงิน”

“แน่นอน ข้าเป็นเอลฟ์สุดยอดปรารถนาในกระบุงของดวอร์ฟเชียวนะ จะปล่อยให้เจ้าจ่ายได้อย่างไร”

โคลด์เกือบยิ้มออกมา

มาลแกธเดินไปหาอิลมาเรอีกห้องหนึ่งแล้วกลับมาพร้อมเหล้า เขาวางแก้วสองใบบนโต๊ะ ใบหนึ่งสีแดง อีกใบหนึ่งสีม่วง

“อิลมาเรให้เช่าแก้วด้วย งานเครื่องแก้วของดวอร์ฟใช้ได้ แต่ยังแพ้พวกอิซิลดาร์อยู่หน่อย”

โคลด์นั่งลงบนเก้าอี้สตูล รินเหล้า “แค่แก้วยังต้องเช่า นางงกเกินไปจริงๆ” รอยยิ้มเหมือนจะได้รับอนุญาตให้ตามออกมา...แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น “ขอบคุณ…” โคลด์หยุดอีกครู่ “ที่ทำให้อิลมาเรดีใจ”

มาลแกธยิ้มให้แก้วเหล้า เขากระดกดื่มรวดเดียวก่อนจะถอนหายใจด้วยความพอใจ “เหล้าก็ใช้ได้” นิ้วแข็งแรงดึงคอเสื้อให้ผ่อนลง เขาแกะกระดุมออกสองสามเม็ด เห็นกล้ามเนื้ออกสะท้อนขึ้นลงตามจังหวะการสูดลมหายใจ

โคลด์ยังแต่งตัวรัดกุมเรียบร้อย แม้อากาศในห้องจะอุ่น และเหล้าก็ทำให้ภายในท้องร้อนขึ้น “ข้ามีเรื่องจะถาม เจ้าชวนดื่มก็ดี จะได้คุยกันพอดี”

“คุย? เรื่องซิกฟรีดอีกน่ะหรือ”

“เรื่องเจ้า”

มาลแกธหัวเราะ “น่าประหลาดใจเสียจริง”

“ข้าคิดมาตลอดทางกลับมาที่นี่ จริงอยู่ว่าทหารของซิกฟรีดฆ่ามังกรดินไปเยอะมาก เลยทำให้เราทำงานง่ายขึ้น แต่เวทมนตร์ของเจ้า ไฟที่ใช้เผามังกรดิน ถ้ามีเพียงแค่นั้นไม่จำเป็นต้องใช้กำลังทหารเลย”

“คำถามคือ...ข้าไว้ใจได้แค่ไหน” มาลแกธยิ้มด้วยตา “อาจเป็นคำถามที่ผุดขึ้นในใจของท่านหญิงอิซิลดาร์ก่อนที่นางจะ ‘เสนอ’ ให้ซิกฟรีดแต่งกองทหาร”

“พระราชา คู่หมั้น องครักษ์ผู้เก่งกาจ มาล่ามังกรพร้อมกัน หัวใจมังกรคงสำคัญมาก บาดแผลบนหน้าเขาคงแย่กว่าที่เห็นภายนอกใช่ไหม”

“ถ้าเจ้าได้ยินเสียงกระซิบของมัน เจ้าจะไม่ถามคำถามนั้นกับข้าเลย”

“ข้าไม่ได้ยิน ควาร์” โคลด์ตอบ จิบเหล้าในแก้วให้พร่องไปครึ่ง

“ ‘เจ้าไม่ต่างอะไรจากเรา’ ” มาลแกธเคาะปากแก้ว “คำสาปของราชาองค์ก่อนกระซิบซ้ำไปซ้ำมาอย่างนั้น”

“ถ้าสีเลือดเวลาถูกบั่นคอก็คงใช่” นอกจากนั้นไม่มีอะไรเหมือนกันเลย…แต่ใช่ว่าโคลด์จะรู้จักคิงริวอร์นอร์ดีเท่าไหร่ ที่เขาจำได้คือคิงเฟรธูรินมีเมตตา ตอนนั้นคิงริวอร์นอร์ยังเป็นพระอนุชา ราชวังเขตของพระอนุชาห้ามดาร์กเอลฟ์เข้าใกล้ เขาเคยเฉียดเข้าไปแล้วโดนทหารยามตบออกมา ส่วนซิกฟรีด...บังคับให้เขาตามไปรับใช้ทุกแห่ง

เอลฟ์ตะวันออกหัวเราะเสียงดัง โคลด์เพิ่งเล่นตลกร้ายหน้าตายแม้จะไม่ตั้งใจ

“เจ้าบอกว่าจะคุยเรื่องข้า แต่…” มาลแกธเติมเหล้า “เจ้าก็วกเข้าเรื่องซิกฟรีดอยู่ดี”

“ก็เจ้าตัวติดกับเขา” โคลด์มองก้นแก้วเหล้า

“ไม่ใช่ว่าใจของเจ้าติดกับเขาหรือ” มาลแกธมองใบหน้าด้านข้างของโคลด์ สีหน้าเรียบนิ่งแบบนี้...ไม่ชินเลย

“ไม่ใช่” โคลด์ตอบเรียบๆ

“เล่าเรื่องของเจ้าบ้างสิ ข้าเริ่มปวดบ่าอีกแล้ว เอาเรื่องที่ไม่หนักหัวหนักบ่านะ”

“เจ้าไปนอนฟังบนเตียงสิ” โคลด์รินเหล้าเพิ่ม เขาขยับแก้วเหล้าไปมา นึกอยู่ว่าจะเล่าอะไร

“ถ้าข้าแปลความไม่ผิด เจ้ากำลังชวนข้าขึ้นเตียงหรือ”

“ข้านั่งดื่ม เจ้าไปนอนบนเตียง ข้าชวนเจ้าขึ้นเตียงตรงไหน” บางเรื่องโคลด์ก็ตรงจนทื่อ

“ขอรับ ขอรับ” มาลแกธยกแก้วเหล้าของตัวเองไปด้วย เขาถอดอาวุธคาดเอวออก โยนพาดปลายเตียง ก่อนจะปลดกระดุมเสื้อถึงหน้าท้อง เอลฟ์ตะวันออกนอนเอกเขนก มือเท้าศีรษะ จิบเหล้าแล้วรอฟัง


—————————————————————————

A/N อิลมาเรจีบมาลแกธเพราะฮีรวยค่ะ จริงๆ ไม่ได้หลงรักอะไรหรอก ^^; ใครว่าสาวน้อยต้องหลงรักหนุ่มหล่อเสมอไปล่ะ สมัยนี้ต้องรักคนมีเงินสิ! (และอิลมาเรชอบให้เขาได้กันเองมากกว่า /ฮา)
ป.ล. แต่มาลแกธจีบโคลด์จริง เป็นป๋าสายเปย์ค่ะ

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

อัพเดทครั้งต่อไป วันที่ 09/01/60 จ้า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (1) [08/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 08-01-2017 15:27:35
ว้าว ไม่เคยเห็นคุนอิลเรย์ในเล้ามาก่อนเลย ยินดีต้อนรับค่าาา

แวะมาเจิมรอตอนถัดไปนะคะ อยากให้คิงเกรี้ยวกราดกว่านี้จัง อิอิอิ

ขอบคุณมากนะคะ เพิ่งเคยมาลงเล้านี่ละค่ะ ฝากตัวด้วยค่า -3-
ส่วนซิกฟรีด...รอดูกันต่อไปค่ะ  :mew3:

ลุ้นมากกกกกกกก
บทต่อไปจะยิ่งลุ้นขึ้นๆ ค่ะ /ว่าเขาจะได้กันมะไหร่ (ฮา)

ทำไมดูเหมือนซิกฟรีดไม่ทันเกมของชะนี อะไรๆก็ทำตามทุกอย่าง รู้สึกคิงซิกฟรีดดูโง่ๆยังไงไม่รู่อ่ะ
ขัดใจมากกกกก :m16:
 เดี๋ยวเชียร์หนูน้อยโคลด์ให้มาลแกธซะหรอก
ปล.สู้ๆนะไรต์ ชอบอ่ะ อินตาม  o13
รอกันต่อไปค่ะ ทุกการกระทำมีเหตุผลเสมอจ้ะ (และเหตุผลนั้นอาจทำให้คนเชียร์มาลแกธมากกว่าซิกฟรีด...)
ขอบคุณที่ชอบค่ะ  :mew1:

o13
ขอบคุณที่ติดตาม อัพทุกวันนะคะ ฝากด้วยจ้า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (1) [08/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 08-01-2017 19:26:39
ติดตามค่าา เพิ่งเข้ามาอ่าน ดีใจที่มีสายแฟนตาซีแบบนี้มาให้อ่าน แถมสนุกด้วยยย อิอิ :ling1:
ดูเหมือนเรื่องจะซ่อนปมเต็มไปหมดเลยนะคะ ต้องมีดราม่าแน่ๆ... สัญชาตญาณมันบอก5555
เข้ามาอ่านโดยคาดหวังฉากหวานๆ แต่ดูท่าน่าจะยากในตอนนี้ เอาเป็นว่ารอฉากซิกฟรีตกะโคล์ดได้กันแทนแลัวกันค่ะ เอิ้กๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (1) [08/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: owlseason ที่ 08-01-2017 20:53:26
ทีมป๋า ทีมสายเปย์ ทีมผู้ชายอายุมากกว่า
 :ling1: :ling1: :ling1:
อยากให้มาธแกธคู่น้องโคลด์
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (2) [09/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 09-01-2017 12:40:36
บทที่ 4 : รางวัลของนักฆ่า (2)

"ตอนยังเด็ก ที่บ้านเกิด ข้างเมืองที่ข้าอยู่มีป่า ในป่ามีวิหารบูชาเทพีจันทร์หลังเก่า มันเป็นสถานที่ที่ดีมาก หากเจ้าวิ่งเข้าไปในป่า ตามรอยแสงจันทร์บนถนนรกร้างสายเล็ก สักพักก็จะเจอปราสาทหินสีเทาหลังเล็กๆ ตั้งอยู่กลางป่าเงียบสงัด เจ้าจะได้กลิ่นหอมของดอกราตรีเมื่อลมพัดมา เจ้านอนลงหน้าวิหาร สูดกลิ่นหญ้า มองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว วิหารหลังใหม่ในเมืองใหญ่โตโอ่อ่า แต่ก็พลุกพล่านเกินไป ไม่มีที่สำหรับเด็ก"

คราวนี้โคลด์กระดกเหล้า หมดไปอีกครึ่งแก้ว

“แต่ตอนนี้เมืองไม่มีแล้ว วิหารหลังเก่าหรือวิหารหลังใหม่ก็ไม่มี มันถูกเผาไปหมดเมื่อเผ่าอื่นรุกรานเข้ามา”

“ข้าคิดไม่ออกเลย แดนทมิฬมีป่า มีดอกไม้ แต่ข้าพอนึกภาพวิหารออก เป็นซากปรักหักพัง” มาลแกธพูดจากใจจริง

“เจ้าไม่เคยไปแดนทมิฬ จะรู้ได้อย่างไรว่าที่นั่นมีหรือไม่มีอะไร”

“ข้าเคยไปเมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่เคยเจอป่า อาจเป็นเพราะแดนทมิฬกว้าง ข้าเดินไม่ถึงป่าเอง หรืออาจเป็นเพราะเวทมนตร์ของพวกดาร์กเอลฟ์ พวกเอลฟ์ตะวันออกก็มีอะไรแบบนั้นรู้ไหม หมายถึงพวกเรามีเวทมนตร์ที่ใช้กันอาณาเขตจากสายตาของผู้บุกรุก ซึ่งส่วนใหญ่หมายถึงเอลฟ์จากตระกูลอื่น”

“อืม” โคลด์วางแก้วเหล้า เขารู้สึกมึนหน่อยๆ แม้จะดื่มไปแค่เล็กน้อย เขาไม่อยากสนิทสนมกับเอลฟ์ แต่ก็ยอมเล่าเรื่องตัวเองให้มาลแกธฟัง แม้เป็นเรื่องที่ฟังก็ได้ ไม่ฟังก็ได้ โคลด์ก็ยังทึ่งที่ตัวเองยอมเล่า เขาไม่เคยไว้ใจเอลฟ์ แต่อาจละมาลแกธไว้...

โคลด์สรุปให้ตัวเองว่า เขาคงอยากพูดกับเพื่อนเก่า แต่ต้องเลือกพูดเรื่องที่จะไม่ย้อนกลับมาทิ่มแทงเขา เรื่องที่ถึงอีกฝ่ายทราบก็เอามาใช้เล่นงานต่อรองเขาไม่ได้

ดาร์กเอลฟ์ไม่เคยไว้ใจ

“หากวันไหนที่ความเกลียดชังของเจ้าเบาบางลง ข้าจะพาเจ้าไปเที่ยวบ้านเกิด พวกเราไม่ได้เป็นอย่างข่าวลือไปเสียหมด” มาลแกธชอบพูดถึงแดนตะวันออกบ่อยๆ

บ่อยเกินไป...เขาคิด ก่อนดึงสายตาของตัวเองที่ลอยเคว้งไปถึงบ้านกลับมา

“ข่าวลือเรื่องไหนล่ะ” โคลด์หันไป

“เป็นนักรัก” มาลแกธยิ้มเจ้าชู้ ทีเล่นทีจริง

“ไม่ต่างกับดาร์กเอลฟ์เท่าไหร่ เพียงแต่เราไม่ใช้คำว่านักรัก เราใช้คำว่าผลิตลูกหลาน”

“ถ้ากับเพศเดียวกัน ผลิตลูกหลานไม่ได้จะใช้คำว่าอะไรล่ะ”

โคลด์เงียบไป “ไม่ทราบ ข้าอายุแค่ยี่สิบห้า ข้าจากบ้านเกิดมาตอนอายุสิบสอง ข้าผลิตลูกหลานไม่ได้ด้วยอายุแค่นั้น เลยไม่ทราบว่าถ้าเป็นเพศเดียวกันควรเรียกว่าอะไร”

ยี่สิบห้าปีเป็นอายุที่น้อยมากสำหรับเอลฟ์และดาร์กเอลฟ์ เทียบกับอายุขัยเป็นพันปี

“ตอนเด็กๆ เจ้าชอบเล่นอะไร” มาลแกธชวนให้โคลด์นึกถึงความทรงจำที่ดี การรำลึกความหลัง บางครั้งทำร้ายปัจจุบัน บางครั้งเยียวยา...แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ควรลืม

“ถ้าเจ้าบอกข้าว่าจริงๆ แล้วเจ้าอายุเท่าไหร่”

“มากกว่าเจ้าพอควร”

“ตอบไม่ตรง ข้าไม่เล่า”

“เจ้าเมาแล้วงอแง” มาลแกธยิ้ม

โคลด์ลุกมายืนค้ำตัวมาลแกธ “ก็ตอบมาสิ” เขาผลักให้อีกฝ่ายเขยิบไป

“สองร้อยเจ็ดสิบเก้าปี”

โคลด์นอนลงตรงที่ว่างเล็กน้อยบนเตียงเหมือนอยากพักร่างกายบ้าง เขาหันหลังให้มาลแกธ

“ห้าสิบปีแรกใช้ไปกับสงครามในตระกูล ร้อยปีถัดมาใช้ไปกับสงครามระหว่างตระกูล ตอนนี้ใช้ไปกับการดื่มเหล้า”

“อืม” โคลด์หลับตา ใบหูสีเข้มลู่ลง "ตอนไปวิหารหลังเก่ากับเพื่อนๆ ข้าชอบเล่นซ่อนแอบ แต่ข้าไม่แอบเฉยๆ เวลาคนหาที่เล่นเป็นมังกรเข้ามาใกล้ข้าจะหลบ ย้ายไปซ่อนที่อื่น วิหารหลังเก่ามีหน้าต่างเป็นร้อยบาน ข้าปีนหน้าต่างนั้นหน้าต่างนี้ ถ้าวันไหนฝนตก ในวิหารจะหอมกลิ่นหินชุ่มน้ำ พอหยุดตกก็เจือกลิ่นดินสะอาด ข้าไม่ได้กลิ่นดินแบบนั้นมานานแล้ว แผ่นดินเอลฟ์ก็มีแต่กลิ่นของเอลฟ์"

โคลด์พึมพำ เขาไม่เคยเล่าเรื่องพวกนี้ให้ซิกฟรีดฟัง แต่เวลานี้เล่าให้มาลแกธฟัง เขาอาจต้องการเล่าสิ่งที่เก็บอยู่ข้างใน

แต่ไม่มีทางเล่าในฐานะทาสของใคร...

“ตอนนี้...เจ้าก็ยังเล่นซ่อนแอบอยู่ไม่ใช่หรือ” มาลแกธวางมือบนศีรษะของอีกฝ่าย “สำหรับข้า เจ้าไม่ใช่หนูสกปรก”

โคลด์หลับไปแล้ว ไม่ทราบว่าได้ยินหรือไม่ แต่เมื่อตื่นมาเขาจะคลับคล้ายคลับคลา...ว่าได้นอนหลับสนิทอย่างอุ่นใจ

——————————-

เย็นวันต่อมา ประตูเมืองหลวงของรูเมเรียร์ได้เปิดรับคณะเดินทางอันประกอบด้วยดวอร์ฟ เอลฟ์ตะวันออก และผู้ที่ปิดบังหน้าตาจนไม่ทราบเผ่าพันธุ์ ในเวลาที่ฝนหยุดตกพอดี

ฝนทำให้ดินชื้น และดึงเอากลิ่นที่ทำให้สดชื่นผ่อนคลายออกมา แต่อย่างที่โคลด์ว่า ในแผ่นดินเอลฟ์ก็มีแต่กลิ่นของเอลฟ์ ดาร์กเอลฟ์ไม่รู้สึกสดชื่นผ่อนคลายนัก

หลังจากมาลแกธหาที่ทางให้อิลมาเรพักได้แล้ว (รวมถึงจ่ายค่าที่พักและค่าอาหารให้ด้วย) โคลด์จึงขอเข้าเฝ้าคิงซิกฟรีดโดยมีมาลแกธ ล็องธู องครักษ์คนสนิทของราชาเอลฟ์รับรอง

โคลด์สวมชุดคลุมดำสนิทกับฮู้ดคลุมศีรษะ แต่ไม่ได้ใช้ผ้าปิดใบหน้าครึ่งล่าง ที่จริงเขาควรถอดเสื้อคลุม แต่เพราะมากับมาลแกธ และถูกตรวจสอบว่าไม่พกอาวุธใดๆ แล้ว จึงได้รับอนุญาตให้แต่งกายเฉกเดิม

อีกเหตุผลหนึ่ง สีผิวของดาร์กเอลฟ์มักแสลงตาเอลฟ์ การเลือกไม่มองนั้นสะดวกกว่า

เวลานี้ออกจะเย็นไปสักหน่อยที่จะขอเข้าเฝ้า ภายในราชวังของคิงซิกฟรีดก็กำลังจัดงานเลี้ยง อย่างไรก็ไม่เหมาะสม แต่เพราะมีมาลแกธอีกนั่นแหละ ทุกอย่างเลยเป็นไปได้

เสียงดนตรีคลอเบาๆ ลอดจากช่องประตูห้องจัดงานเลี้ยง แม้จะเป็นงานเลี้ยงอาหารค่ำธรรมดา แต่ก็มีขุนนางสำคัญมาร่วมงานราวยี่สิบคน เสริมด้วยลักษณะหรูหราเป็นทางการตามแบบฉบับเอลฟ์รูเมเรียร์

โคลด์ยืนอยู่ด้านนอก ได้ยินเสียงซิกฟรีดหัวเราะและพูดคุย น้ำเสียงทรงอำนาจแต่มีอัธยาศัยดีทำให้โคลด์รู้สึกเหมือนไม่รู้จักเอลฟ์ตนนี้ ในอาศรมควาร์ ซิกฟรีดพูดน้อย ยิ่งทราบข่าวการเสียชีวิตของพี่ชายคนโตยิ่งเงียบเหมือนเป็นใบ้ แต่ด้านหลังประตูลวดลายวิจิตรซึ่งปิดสนิทบานนี้ ซิกฟรีดกำลังพูดคุยราวกับ...

“...เอาความอัดอั้นที่ไม่ได้พูดตลอดสิบปี มาระบายภายในสามปี”

“รอตรงนี้” มาลแกธโน้มลงมากระซิบพลางตบบ่าโคลด์เบาๆ ทหารเอลฟ์เปิดประตูให้มาลแกธ ชั่วเวลาก่อนประตูทั้งสองบานจะหับเข้าหากัน โคลด์เห็นซิกฟรีดยิ้มตาพราว เอียงใบหน้ากระซิบข้างหูเอริแอดเน่ ซึ่งนั่งในตำแหน่งของพระคู่หมั้น เมื่อนางกระซิบตอบพร้อมรอยยิ้ม ราชาก็ยิ้มกว้างขึ้นอีก

สักพัก เสียงพูดคุยเงียบลง แม้แต่เสียงเพลงจากพิณก็เหมือนจะเบาลง ประตูเปิดจากด้านใน ขุนนางเอลฟ์ทั้งหลายนั่งล้อมโต๊ะรับประทานอาหารตัวยาว โดยราชาและพระคู่หมั้นนั่งเคียงข้างกันตรงหัวโต๊ะ สายตาทุกคู่ของเอลฟ์สูงศักดิ์จับจ้องมายังดาร์กเอลฟ์ชนชั้นธรรมดา

ทุกคนในที่นั้นทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในถ้ำมังกร สายตาบางคู่แสดงความเกลียดชังโดยไม่ปิดบัง ควันพรางตัวของดาร์กเอลฟ์ตนนี้เป็นเหตุให้สถานการณ์ซับซ้อนวุ่นวาย บุตรชายหรือหลานชายของขุนนางบางคนจึงต้องสังเวยชีวิตให้กับมังกรโดยไม่สมควร

มาลแกธยืนอยู่ด้านหลังซิกฟรีด สายตาของเอลฟ์ตะวันออกเป็นเพียงคู่เดียวที่ไม่เย็นเยียบเหมือนดวงตาของรูปสลักหินอ่อนตรงน้ำพุหน้าราชวัง

ดาร์กเอลฟ์เดินเข้ามา พร้อมยกหีบเงินแทรกลายน้ำแข็งสีฟ้าใสมาด้วย หีบเวทน้ำแข็งใบนี้ใช้บรรจุ ‘หัวใจมังกรศิลา’ ให้ยังสดใหม่แม้เวลาผ่านมาหลายวัน โคลด์หาซื้อมาด้วยราคาไม่เบาทีเดียว ตอนออกจากถ้ำมังกร พ่อค้าดวอร์ฟที่นัดไว้มารอหน้าปากถ้ำอยู่แล้ว ทำให้โคลด์ใส่หัวใจลงในหีบได้ทันที

“ข้านำหัวใจมังกรศิลามาให้ตามสัญญา องค์ราชา” ดาร์กเอลฟ์ทำความเคารพเฉกประเพณีเอลฟ์ มันคุกเข่าห่างจากราชาราวสองเมตร เปิดหีบ ฝาหีบส่งเสียงกริ๊กเบาๆ ไอเย็นลอยออกมา

ซิกฟรีดวางสายตาที่โคลด์ก่อนจะไล่ลงไปที่หีบ หัวใจมังกรศิลายังสด สีสันราวกับลาวาร้อนระอุ ราชายกมือ ทหารองครักษ์ผู้หนึ่งเข้ามารับหีบบรรจุหัวใจเพื่อนำไปส่งให้หมอปรุงยา

“เก้าอี้” ซิกฟรีดสั่ง “นำมาให้เขานั่ง”

เอริแอดเน่กุมมือซิกฟรีดทันที ดวงตาสวยคมจ้องมองว่า ‘ไม่สมควร’ ราชาจะทำอย่างไรต่อไปกับเผ่าทมิฬเป็นสิ่งที่ทุกคนสงสัย แต่การเชื้อเชิญให้มันนั่งไม่ใช่สิ่งที่นางหรือใครในที่นี้คิดเอาไว้

ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์จะเอ่ยคัดค้าน แต่แล้วก็เงียบ เมื่อเห็นท่าทีไม่ยินดียินร้ายของซิกฟรีด

ข้าราชบริพารในที่นั้นก็เงียบ

แม้แววตากำลังคัดค้านอย่างหนักก็ตาม

—————————————————————————

A/N จริงๆ ซิกฟรีดรักโคลด์มากนะคะ ถ้าอ่านไปเรื่อยๆ จะทราบค่ะ แต่สิ่งที่เขาแบกไว้บนบ่ามันเยอะมาก เขาไม่มีอิสระเหมือนมาลแกธ ที่สามารถบอกรักดาร์กเอลฟ์ได้โดยไม่แคร์สายตาใคร
ป.ล. ที่น่าสนใจคือใจของโคลด์ค่ะ ว่าคิดยังไงกับทั้งสองคน

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (2) [09/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 09-01-2017 13:00:48
เข้ามายืนงงกับความคิดของราชา จะเอาไงคะยู
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (2) [09/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 09-01-2017 16:10:59
ซิกฟรีดรักโคลด์ตรงไหนอ่ะ
แล้วทำไมต้องใกล้ชิดกับชะนี อยากตบชะนีผิดไหม
ขอหนูน้อยโคลด์ให้มาลแกธเถอะ งอนซิกฟรีด
ปล.เรื่องนี้จะดราม่าไหม แล้วมีฉากมุ้งมิ้งรึเปล่า :katai1:
ทำไมไรต์มาสั้นจังเค้าอยากอ่านยาวววววววววววววววววววววววว :ling1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (2) [09/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 09-01-2017 18:50:58
ติดตามค่าา เพิ่งเข้ามาอ่าน ดีใจที่มีสายแฟนตาซีแบบนี้มาให้อ่าน แถมสนุกด้วยยย อิอิ :ling1:
ดูเหมือนเรื่องจะซ่อนปมเต็มไปหมดเลยนะคะ ต้องมีดราม่าแน่ๆ... สัญชาตญาณมันบอก5555
เข้ามาอ่านโดยคาดหวังฉากหวานๆ แต่ดูท่าน่าจะยากในตอนนี้ เอาเป็นว่ารอฉากซิกฟรีตกะโคล์ดได้กันแทนแลัวกันค่ะ เอิ้กๆๆๆ
ขอบคุณมากๆ ค่า นานๆ ก็เจอคนชอบแฟนตาซี แง ;w; /เกาะขา
ตัวละครแต่ละตัวมีเบื้องหลังของตัวเองค่ะ เบื้องหลังนั้นเองที่ผลักดันการกระทำของแต่ละคร
ถามว่าฉากหวานๆ มีไหม มีนะคะ แต่ต้องให้เรื่องดำเนินไปถึงจุดนั้นก่อน
รับรองว่าคุ้มค่าที่อ่านและรอค่ะ  :mew2:

ทีมป๋า ทีมสายเปย์ ทีมผู้ชายอายุมากกว่า
 :ling1: :ling1: :ling1:
อยากให้มาธแกธคู่น้องโคลด์
มาลแกธมาแรงสุดๆ นาทีนี้ฉุดแทบไม่อยู่แล้วค่ะ จีบแรงจริง หวังฟัน /ผิด
"ไม่ผิดหรอก" มาลแกธบอก

เข้ามายืนงงกับความคิดของราชา จะเอาไงคะยู
นั่นสิ ในถ้ำก็ใช้งานเขาเต็มที่ พอมาถึงงานเลี้ยงก็จะให้นั่งท่ามกลางเอลฟ์
"เขาจะเอาอะไรกับข้านักหนา" โคลด์บ่น

ซิกฟรีดรักโคลด์ตรงไหนอ่ะ
แล้วทำไมต้องใกล้ชิดกับชะนี อยากตบชะนีผิดไหม
ขอหนูน้อยโคลด์ให้มาลแกธเถอะ งอนซิกฟรีด
ปล.เรื่องนี้จะดราม่าไหม แล้วมีฉากมุ้งมิ้งรึเปล่า :katai1:
ทำไมไรต์มาสั้นจังเค้าอยากอ่านยาวววววววววววววววววววววววว :ling1:
รักนะคะ รักมากด้วยค่ะ ถ้าอ่านไปถึงจุดนั้นแล้วจะเข้าใจซิกฟรีดมากๆ เลยค่ะ ;)
ส่วนอื่นๆ ไม่สปอยเนอะ วันนี้เดี๋ยวลงให้อีกตอนดีไหมคะ พรุ่งนี้เรามีธุระพอดีจ้า  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (2-3) [09/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 09-01-2017 19:21:42
บทที่ 4 : รางวัลของนักฆ่า (3)

การที่กษัตริย์แห่งรูเมเรียร์ทรงกระทำสิ่งใดไม่เหมาะไม่ควร ข้าราชบริพารคนสนิทสามารถออกความเห็นคัดค้านได้หากมีเหตุผลอันสมควรกว่า แต่กับคิงซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์...ในบางเรื่อง ไม่ว่าท่านจะมีเหตุผลอันใด ท้ายที่สุด ราชาจะสามารถยกเหตุผลที่โน้มน้าวใจกว่า ฟังขึ้นกว่า มาปัดเหตุผลของท่านให้ตกไป โดยที่ตัวท่านเองก็อาจเผลอเห็นว่าเหมาะควรตามไปด้วย

หากคิดได้ภายหลัง...มันก็สายเกินกว่าจะยกกระทู้เดิมมาถกเถียง

และเรื่องบางเรื่องที่ว่ามักเกี่ยวกับการปฏิบัติของเอลฟ์ที่มีต่อดาร์กเอลฟ์

ข้ารับใช้ยกเก้าอี้มาให้โคลด์ เป็นเก้าอี้แบบเดียวกับที่เอลฟ์ขุนนางนั่งไม่มีผิด มันยกค้างไว้ พลางคาดเดาจากสายตาของราชาอย่างรวดเร็วว่าจะให้ดาร์กเอลฟ์ตนนี้นั่งตรงไหน ตำแหน่งที่นั่งที่สรุปออกมาช่างน่ากระอักกระอ่วน เพราะแทบจะแทนที่ขุนนางทางด้านซ้ายของราชา

ซิกฟรีดผายมือ “เชิญ”

โคลด์ลุกยืน เลิกฮู้ดลงเพื่อแสดงมารยาท “ข้ามาแล้วก็กลับ หากองค์ราชาทรงอยากตบรางวัลให้แก่ข้า โปรดให้เป็นสิ่งอื่นที่ไม่ทำให้งานเลี้ยงหมดความครึกครื้นเถิด”

ใบหน้าของดาร์กเอลฟ์ดูหล่อเหลามีชาติตระกูลกว่าที่คาด ไม่อัปลักษณ์แสลงตานัก แม้สีผิวจะถูกตีค่าว่าเป็นสีสกปรก

“ขุนนางของเราเชื่อในเรื่องสิทธิและเสรีภาพ เชื่อในความเมตตาและสันติ การที่เผ่าทมิฬเสี่ยงชีวิตนำหัวใจมังกรมาให้เรา หากเราไม่เชิญให้ดื่มกินร่วมกัน คงพูดว่าเอลฟ์มีอารยะไม่ได้”

คำพูดของราชาทำให้ขุนนางทุกคนเงียบสนิท

“แต่เผ่าทมิฬตนนี้ได้สร้างความสูญเสียอันไม่อาจเรียกคืนให้แก่ทหารผู้ภักดีขององค์ราชา ไม่สมควรได้ร่วมสังสรรค์เพื่อทำให้หลายๆ ท่านลำบากใจ”

สามปีผ่านมา โคลด์เองก็รู้จักใช้คำพูดยากๆ แล้ว

ซิกฟรีดหลุบตาลง เขามักทำแบบนี้เวลาครุ่นคิด แต่เพียงครู่เดียวก็เงยมาสบกับอีกฝ่าย “ความผิดนั้นไม่ควรตกแก่เราหรือ เราเป็นผู้เรียกหาพวกเขา ส่งพวกเขาไปเสี่ยงชีวิต”

“หากทรงเมตตา โปรดให้ข้ากลับเถิด”

กำแหง ดาร์กเอลฟ์กำแหง กล้าปฏิเสธคำเชิญของสัญลักษณ์แห่งอำนาจสูงสุดของแผ่นดินเอลฟ์

“ถ้าอย่างนั้นเราจะไม่รั้ง” ซิกฟรีดยกนิ้วเป็นสัญญาณให้นำรางวัลมากำนัลแก่โคลด์ เขาต้องเตรียมการไว้อยู่แล้ว

ราชาทรงตั้งใจตบรางวัลให้แอสซาสซิน ขุนนางบางคนลอบมองท่านหญิงพระคู่หมั้นว่าจะเอ่ยคัดค้านหรือไม่ แต่ท่าทีของนางยังสงบ เพียงแค่มองดาร์กเอลฟ์เต็มตา

รางวัลคือมีดสั้นเล่มงามเล่มหนึ่ง ใบมีดผสมแร่เงินของเอลฟ์ ตีขึ้นรูปและสลักส่วนบนของใบมีดเป็นลายเครือไม้อย่างประณีต ส่วนด้ามทำจากไม้เนื้อแข็ง กลึงจนเนียนมือ ไม่ว่าจะมองโดยรวมหรือมองโดยละเอียดก็สวยงามไปหมด

ไม่น่าจะใช้ฆ่าใครได้ โคลด์คิด

“เราซาบซึ้งน้ำใจของเจ้าในวันนี้ แต่ภายหน้า หากเราพบเจ้าในฐานะแอสซาสซินซึ่งผิดกฎหมายรูเมเรียร์ เราคงปล่อยปละละเลยไม่ได้”

 “ข้าไม่ได้เป็นแอสซาสซิน ทรงเข้าใจผิดแล้ว ข้าเป็นแค่ทหารรับจ้างธรรมดา” โคลด์ยอกย้อนซ้ำยังโกหกหน้าตาย เขารับมีดมาด้วยท่าทางไม่ยินดียินร้าย

ราชาแย้มยิ้ม “ขออภัย”

ซิกฟรีดอนุญาตให้โคลด์ไป เขามองตามครู่หนึ่งแล้วดึงสายตากลับมาที่ขุนนางทั้งหลาย

“เอาละ เราคุยกันถึงไหนแล้ว” เขากุมมือเอริแอดเน่ แต่นางนั่งนิ่งหลังตรง แววตาตำหนิ เฉยชา

——————————————————————-

ราชากำชับว่าให้ส่งดาร์กเอลฟ์อย่างดีที่สุด แต่ในทางปฏิบัติ ทหารเอลฟ์กลับโยนโคลด์ออกจากทางออกเล็กด้านข้างพระราชวัง แล้วปิดประตูใส่ดาร์กเอลฟ์ที่ลงไปกองคลุกฝุ่นโดยไม่เอ่ยอะไรสักคำ พวกมันแปลความหมาย ‘อย่างดีที่สุด’ เช่นนี้ โดยมีหัวหน้ากองรับรองว่าที่ทำนั่นถูกต้องแล้ว

โคลด์ถอนใจ นั่งนิ่งบนพื้นอย่างไม่คิดปัดดิน เขาทราบว่าแค่ทหารสองนายคุมตัวมาส่งออกไปง่ายๆ เช่นนี้คงเพราะบารมีของมาลแกธ หรือไม่ก็เกรงจะขัดใจ ‘แขก’ ของพระราชา หาใช่ให้เกียรติหรือวางใจในตัวเขา

โคลด์นั่งเฉยต่ออีกสักพัก แหงนมองราชวังใหญ่โตโอ่อ่า นึกภาพงานเลี้ยงเมื่อสักครู่ ไม่มีส่วนใดไม่สมกับความเป็นเอลฟ์ผู้เย่อหยิ่ง เหล่าขุนนางแต่งกายงดงามมีความสุขรอบล้อมพระราชาและคู่หมั้น

เขานึกภาพรอยยิ้มของซิกฟรีดยามพูดคุยกับท่านหญิง

ก็เหมาะสมกัน...

โคลด์ลุกขึ้นเมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครจับตาดูอยู่ เขาสวมฮู้ด ดึงผ้าปิดปากขึ้น ท่าทางเอื่อยเฉื่อยเป็นประจำหายไปจนหมด

 เอลฟ์กับดาร์กเอลฟ์ เส้นทางบรรจบกันครั้งหนึ่งก็แยกออก ทั้งซิกฟรีดและมาลแกธนั่นแหละ

 แอสซาสซินก้าวเท้า แวบเดียวก็เร้นหายไปจากจุดที่ยืนอยู่ ไร้ร่องรอยให้สัมผัส

 แต่ข้ายังไม่หมดธุระกับเจ้า ซิกฟรีด

 

ทหารยามที่มาส่งดาร์กเอลฟ์เมื่อสักครู่กำลังบ่นกับเพื่อนทหารว่าอยากไปล้างมือชะมัด ดันต้องจับตัวดาร์กเอลฟ์สกปรก แต่จู่ๆ เพื่อนทหารที่คุยด้วยก็ล้มลง และผู้ที่ยืนอยู่ด้านหลังคือร่างเปียกชุ่มในชุดรัดกุมสีดำสนิท

โดยไม่ทันได้ตั้งตัว ทหารปากดีโดนผู้บุกรุกพุ่งเข้าใส่จนหลังติดกำแพงหิน คมมีดเงินสีขาววาววับกดบนคอหอยของมันเป็นการเตือนว่า ‘จงอย่าอ้าปากล่ะ’

“เจ้าว่ามีดที่ราชาของเจ้าเมตตายกให้ข้าเป็นรางวัลจะคมสักแค่ไหนกัน” แอสซาสซินแสยะยิ้ม ทหารเอลฟ์จำได้แล้วว่านี่คือดาร์กเอลฟ์ที่ตนเพิ่งโยนออกไป ก่อนหน้านี้มันไม่ได้มีบรรยากาศชั่วร้ายน่ากลัว แต่ตอนนี้ไอสังหารและน้ำเสียงเยียบเย็นทว่าสนุกสนานอยู่ในทีของมันทำเขาขาสั่น กระทั่งมือก็ไม่กล้าขยับ

โคลด์วาดภาพตนเชือดคอทหารเอลฟ์ด้วยการตวัดมือแค่หนึ่งครั้ง คร่าชีวิตอย่างเรียบร้อยหมดจดด้วยหัวใจที่เย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็ง

แล้วเขาก็แสยะยิ้มกว้างขึ้น

ร่างของทหารเอลฟ์ร่วงลงไปกองข้างเพื่อนทหารที่ล้มลงก่อนหน้า ร่างทั้งสองถูกลากไปซ่อนในมุมอับสายตา ให้โคลด์มีเวลาทำธุระจริงๆ ที่ตั้งใจมาทำ

เขาดึงเข็มทิศที่ตัวเข็มทำจากน้ำแข็ง มองทิศทางที่มันชี้แล้วเร้นกายเพื่อไปต่อ

 

เช้าวันต่อมา ในพระราชวังเกิดความโกลาหล มีรายงานจากตำหนักปรุงยาว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาเมื่อคืนและขโมยหัวใจมังกรศิลาไป

ในรายงานกล่าวว่าเมื่อหมอยาหญิงจากอิซิลดาร์เข้าเวรในตอนเช้า นางพบว่าองครักษ์หญิงและหมอยาผู้มีหน้าที่จัดเตรียมเครื่องปรุงยาให้ท่านหญิงเอริแอดเน่ต่างนอนกองอยู่กับพื้น นางรีบมองไปรอบห้อง พบว่าหีบบรรจุหัวใจมังศิลาถูกเปิดฝาค้างไว้ ภายในมีมีดสั้นเงินปักทะลุม้วนจดหมายฉบับหนึ่ง

อยู่แทนที่หัวใจมังกรศิลา!

ข้อความในจดหมายเป็นภาษากลางของดาร์กเอลฟ์ เขียนถึงราชาซิกฟรีดโดยตรง

‘เทพีจันทร์เซฮาไนน์อวยพร หาใช่ธิดาจันทร์

เทพีจันทร์ของพวกเราอยู่บนนภา ธิดาจันทร์ของพวกเจ้าเป็นได้แค่เงาสะท้อนในสายชล มันตลกดีใช่ไหมที่ของสองสิ่งซึ่งคล้ายกันเสียเหลือเกินจะไม่มีวันอยู่ร่วมกัน ด้วยระยะห่างระหว่างท้องฟ้ากับผืนดินและความเกลียดชัง

ข้านำของมาให้ตามสัญญา และขโมยมันกลับไปด้วยความตั้งใจอย่างยิ่ง โปรดอย่าเข้าใจผิดว่าข้าสิ้นคิด ข้าคิดมาดีแล้วจึงกระทำ ได้เวลาข้าเอาคืนเจ้าบ้างแล้ว ‘เอลฟ์’ จงมอบอิสระให้แก่ข้า ลบตราทาสแลกกับหัวใจมังกรศิลาจึงจะคุ้มค่ากัน ข้าให้เวลาเจ้าเจ็ดวันก่อนที่ข้าจะทำลายมัน โดยรับรองว่านี่จะเป็นเจ็ดวันที่ต่อให้เจ้าพลิกแผ่นดินหาก็ไม่มีทางเจอข้า ข้าเตรียมการไว้ดีขนาดนั้น

โลกนี้ไม่มีอะไรแบ่งยากเท่าผลประโยชน์อีกแล้ว

ข้าต้องเป็นทาสต่อไปหรือ?

คำตอบคือ ‘ไม่’

คืนอิสระของข้ามา แล้วข้าจะคืนสิ่งเยียวยาของเจ้า’


มีข้อความเขียนเพิ่มเติมต่อท้ายคล้ายนึกสนุกว่า

‘มีดสั้น ค่าตอบแทนน้อยนิด ข้าคืนให้ จงเอาของขวัญของเจ้าคืนไปพระราชา อ้อ ข้าไม่ได้ฆ่าเอลฟ์ในราชวังของเจ้าสักคน เพราะข้าทำธุรกิจ ‘รับจ้างฆ่า’ ถ้าเจ้าทำสิ่งใดได้ดี เจ้าจะไม่ทำมันฟรีๆ ใช่ไหม อีกอย่าง ข้าเองก็ไม่ใช่คนสมองทึบ แค่ขโมยของก็โทษหนักพออยู่แล้ว หากยังฆ่าเอลฟ์อีกหลายศพ โทษของข้าจะเพิ่มขึ้น ซ้ำยัง ‘ไม่ได้เงิน’ ’

ข้อความนี้เขียนเพิ่มเติมทีหลังเพราะใช้เครื่องเขียนในห้องปรุงยา แต่จดหมายส่วนแรกเป็นหมึกคนละชนิด คงถูกเตรียมไว้ตั้งแต่แรก

ลงท้ายต่อมาอีกหน่อยในจดหมายคือคำกล่าวขอบคุณ

‘ฝากขอบคุณใครคนนั้นที่โชว์ทางลับเข้าพระราชวังของเจ้า แทนข้าด้วยก็แล้วกัน'


—————————————————————————

A/N บทนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยน ในที่สุดโคลด์ก็เฉลยแล้วว่าเขาเองมีอดีตและโฉมหน้าที่ซ่อนไว้จากโลกใบนี้
ป.ล. มารอดูกันค่ะว่าตอนต่อไปซิกฟรีดจะทำยังไง

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

วันนี้ลง 2 ตอน ฉะนั้น อัพเดทครั้งต่อไปคือวันที่ 11/01/60 จ้ะ จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (2-3) [09/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: princeofdark ที่ 09-01-2017 19:40:44
เจ๋งเลยโคลด์ ตอนแรกก็งงอยู่ว่าทำไมให้ไปง่ายๆ ซิกฟรีดคงแทบคลั่ง55
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (2-3) [09/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 09-01-2017 21:19:48
สมน้ำหน้าค่ะคิง เกลียดคิงค่ะ ยังทีมมาลเหมือนเดิม 55555 เบื่อผู้ชายสายซึน  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (2-3) [09/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: shannara ที่ 09-01-2017 22:18:30
ซิกฟริดใช้มุกทำเป็นเอ่ยปากว่าให้อิสระอีกแน่นวล  แต่คราวนี้อาจจะตลบหลังแนบเนียนกว่าเดิม ก้อเป็นล่าย

ติดใจแล้ว จะปล่อยไปไม่ใช่นิสัยซิกแน่ๆ
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (2-3) [09/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 10-01-2017 02:21:24
เชื่อว่าคุ้มค่าจิดตามอ่านและรอค่ะ จะติดตามและรออ่านไปเรื่อยๆนะคะ
คนอต่อัพถี่มาก 555555 o13

งง ความรักของสองคนนี้ มันดูซับซ้อนเหลือเกิน
ไม่เข้าใจว่าชอบกันได้ไง ถึงทุกวันนี้จะดูแค้นกันมากกว่าก็เถอะ แต่ดูออกว่าเคยมีความรู้สึกดีๆ (ได้ไง นั่นสิเนอะ555)
//คู่หมั้นราชาเอลฟ์ดูร้ายเงียบๆ น่ากลัวจัง 555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (2-3) [09/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 10-01-2017 12:16:05
เจ๋งเลยโคลด์ ตอนแรกก็งงอยู่ว่าทำไมให้ไปง่ายๆ ซิกฟรีดคงแทบคลั่ง55
จริงๆ เขาก็ร้ายละเนอะ ที่เงียบๆ มาแต่ต้นคือเงียบๆ ให้ตายใจไงคะ *0*

สมน้ำหน้าค่ะคิง เกลียดคิงค่ะ ยังทีมมาลเหมือนเดิม 55555 เบื่อผู้ชายสายซึน  :laugh: :laugh: :laugh:
มาค่ะ พาล่องเรือ

ซิกฟริดใช้มุกทำเป็นเอ่ยปากว่าให้อิสระอีกแน่นวล  แต่คราวนี้อาจจะตลบหลังแนบเนียนกว่าเดิม ก้อเป็นล่าย

ติดใจแล้ว จะปล่อยไปไม่ใช่นิสัยซิกแน่ๆ
 :katai2-1:
เดี๋ยวตอนหน้ารู้กันค่ะว่าซิกฟรีดจะตอบว่ายังไง *0*
แต่ปล่อยไปไม่ใช่นิสัยซิกฟรีดแน่นอนค่ะ ไม่งั้นปล่อยไปนานละเนอะ  :mc4:

เชื่อว่าคุ้มค่าจิดตามอ่านและรอค่ะ จะติดตามและรออ่านไปเรื่อยๆนะคะ
คนอต่อัพถี่มาก 555555 o13

งง ความรักของสองคนนี้ มันดูซับซ้อนเหลือเกิน
ไม่เข้าใจว่าชอบกันได้ไง ถึงทุกวันนี้จะดูแค้นกันมากกว่าก็เถอะ แต่ดูออกว่าเคยมีความรู้สึกดีๆ (ได้ไง นั่นสิเนอะ555)
//คู่หมั้นราชาเอลฟ์ดูร้ายเงียบๆ น่ากลัวจัง 555
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ยังอยู่กันยาวๆ เนอะ ;) เราจะอัพทุก 1-2 วัน จนกว่าจะจบเรื่องนะคะ
เรื่องในอดีตของซิกฟรีดกับโคลด์มีแน่ค่ะ รออ่านกันต่อไปจ๊ะ
ป.ล. นางร้ายเรื่องนี้ฉลาดค่ะ เหี้ยมด้วย
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (4) [11/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 11-01-2017 12:10:51
บทที่ 4 : รางวัลของนักฆ่า (4)


ราชาเงียบ

ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์เยือกเย็นจนน่ากลัว มีเพียงคนสนิทอย่างมาลแกธ หรือพระคู่หมั้นจากอาณาจักรอิซิลดาร์เท่านั้นที่ทราบว่าใจของพระองค์ร้อนเหมือนไฟกัลป์ ดวงตาสีลาวาหลอมเหล็กกำลังหลอมหัวหน้ากองกำลังรักษาพระราชวังที่กำลังรายงานเหตุอย่างช้าๆ

“ให้มันรอ”

ราชาเอ่ยง่ายๆ

วันที่หนึ่งถึงวันที่เจ็ด ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากในราชวังรูเมเรียร์

จนล่วงเข้าวันที่แปด ซิกฟรีดเรียกหามาลแกธเป็นการส่วนตัว และสั่งให้นำตัวโคลด์กลับมารับโทษ

“เข้าใจสิ่งที่เราต้องการใช่หรือไม่” ราชาจ้องทหารองครักษ์คนสนิท

มาลแกธจุดยิ้มบางๆ “ข้าพระองค์ทราบ องค์ราชาเล่า เข้าใจสิ่งที่ข้าพระองค์ต้องการใช่หรือไม่”

คราวนี้ซิกฟรีดเป็นฝ่ายเหยียดรอยยิ้ม

ทั้งคู่ทราบว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร

ฝ่ายหนึ่งอยากดึงปลอกคอดาร์กเอลฟ์ให้มั่นในกำมือ

อีกฝ่ายหนึ่งอยากปล่อยให้ทะยานสู่อิสระหากสบโอกาส

“เราไม่ได้ส่งไปแค่เจ้า เอลฟ์ตะวันออก”

มาลแกธผิวปาก “ทรงรอบคอบ ว่าแต่...ทำไมถึงรอให้ครบเจ็ดวันก่อน”

“เจ้าว่าทำไมล่ะ”

“ถ้าเป็นข้า คงรอให้เขาหนี แต่คิดดูอีกที เนื้อความในจดหมายบ่งชัดว่าเขาคิดว่าตนถือไพ่เหนือกว่า ดังนั้นไม่มีทางที่เขาจะหนีเหมือนหนูดาร์กเอลฟ์” มาลแกธกอดอก “และตามนิสัยของเจ้า ซิกฟรีดแห่งรูเมเรียร์ ถึงเจ้าจะใจร้อน แต่หากเป็นเรื่องแก้แค้นหรือทรมานผู้อื่นละก็ เจ้าสามารถใจเย็นและอดทนรอได้อย่างน่ากลัว”

“อาจจริงที่เราต้องการให้เขากระวนกระวาย”

“มัน ‘จริง’ ต่างหากเล่า” เอลฟ์ตะวันออกยกมือสองข้างอย่างหน่ายๆ “เวทพันธะใช้บังคับผู้รับพันธะได้เพียงครั้งเดียว หากเจ้าเรียกใช้เขา เขาจะมา แล้วตรานั้นจะหายไปด้วย เจ้าติดมันบนอกของโคลด์มาสามปีโดยไม่เคยเรียกใช้ ซิกฟรีด เจ้ากำลังทรมานเขาไปเรื่อยๆ เมื่อไหร่จะสิ้นสุด”

“คำถามของเจ้าต้องการคำตอบหรือเพียงแค่ต้องการตำหนิ”

“เจ้าไม่รู้จักเลี้ยง สุนัขกัดเจ้าแล้ว”

“อย่าเปรียบเทียบตัวเองอย่างนั้นสิ มาลแกธ ล็องธู”

ไอ้เด็กเอลฟ์...มาลแกธขบฟันขณะแย้มยิ้ม

“ข้าพระองค์ทูลลา” เอลฟ์ตะวันออกเลิกต่อความ ทว่าก่อนที่จะก้าวออกจากธรณีประตู เขาหันกลับมา “เจ้าไม่ควรทำให้ข้าหมดความอดทน ซิกฟรีด ข้าอาจเบื่อเจ้าแล้วไปซบอกอิซิลดาร์ก็ได้”

“กับเรื่องนี้ เจ้าจะซบอกข้า”

ซิกฟรีดเอ่ยอย่างมั่นใจ

กับเรื่องโคลด์ มาลแกธไม่มีวันร้องหาเอริแอดเน่

ไม่มีวัน

เพราะจุดร่วมเดียวกันของพวกเขาคือ ‘อย่าให้โคลด์ตกถึงมือผู้อื่นโดยเฉพาะท่านหญิงเอริแอดเน่’

——————————————————————-

“ผ่านไปเจ็ดวันแล้ว” อิลมาเรที่หลบอยู่ในถ้ำลับกับโคลด์เอ่ยเสียงเบา “ตราทาสของเจ้าหายไปหรือยัง”

โคลด์เอามือวางบนหน้าอก ส่ายหน้า

“แล้วเจ้าจะทำยังไงต่อไป”

เมื่อเจ็ดวันก่อน อยู่ๆ โคลด์ก็รีบร้อนกลับมากลางดึก ตรงเข้ามาอุ้มอิลมาเรที่ยังงัวเงียกับสัมภาระขึ้นหลังหมาป่ายักษ์—พาหนะยอดฮิตสำหรับดวอร์ฟในการขนสินค้า แล้วบอกว่า ‘เราจะหนี’

เมื่อมาถึงถ้ำลับที่เตรียมไว้หลบซ่อนตัวนอกเมืองเอวา เธมาร์ โคลด์จึงเล่าความจริงให้อิลมาเรฟังว่าเขาเคยเป็นทาสของพระราชา และตอนนี้ยังถูกประทับตราทาสอยู่

โคลด์ต้องการเอาตราทาสออกจึงขโมยหัวใจมังกรศิลากลับมาเพื่อใช้ต่อรอง ตอนแรกในถ้ำมังกร เขาลองใจมาลแกธว่าจะนำหัวใจมังกรศิลากลับไปให้ซิกฟรีดเองหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาจะสลัดมาลแกธหลุดได้ไวขึ้น แล้วอิลมาเรก็ไม่ต้องมาเมืองหลวง แต่เพราะมาลแกธปฏิเสธ เขาจึงต้องนำของมาเองโดยเสี่ยงให้อิลมาเรตามมาด้วย แต่นั่นก็ช่วยให้เขาสบโอกาสหลอกถามมาลแกธจนแน่ใจว่าหัวใจมังกรศิลามีค่าพอให้เขาดำเนินแผนการต่อ

โคลด์ใช้หีบสั่งทำพิเศษบรรจุหัวใจมังกร หีบใบนี้สร้างคู่กับเข็มทิศน้ำแข็ง ซึ่งเข็มจะชี้ไปยังทิศที่ตั้งของหีบเสมอ โคลด์ตามทิศทางโดยแข่งกับเวลา เพราะไม่แน่ใจว่าหัวใจมังกรจะถูกนำออกจากหีบไวแค่ไหน

ด้วยความที่เขาเคยอาศัยอยู่ในพระราชวังในฐานะทาสของซิกฟรีด ซ้ำยังเคยกลับมาอีกรอบเมื่อหลายปีก่อน ทำให้เขาทราบเส้นทางหลบหลีกทหารยาม และเข้าไปขโมยของในตำหนักปรุงยาได้สำเร็จ

 

“ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าเดือดร้อนไปด้วย ต่อไปเจ้าคงค้าขายในรูเมเรียร์ไม่ได้แล้ว”

โคลด์พูดจาเหมือนไร้ความรับผิดชอบ แต่เขารู้สึกผิดต่ออิลมาเรจากใจจริง “เจ้าเป็นสหายหนึ่งเดียวของข้าในแผ่นดินนี้ ข้าเป็นห่วงเจ้า อิลมาเร ข้ายอมรับว่าเห็นแก่ตัวที่ทำไปแล้วค่อยมาบอก”

อิลมาเรตัวสั่น ก้มหน้า แล้วก็ทุบอกโคลด์ปั้กๆๆ “เจ้าบ้า!”

“ขอโทษที่ทำให้เจ้าโดนตามล่าไปด้วย” โคลด์ย้ำอย่างเสียใจอีกรอบ ปล่อยให้ดวอร์ฟสาวทุบเอาๆ

“ไม่ต้องขอโทษเรื่องนั้น!” อิลมาเรเงยหน้า ตาแดงก่ำ “เจ้าขอโทษที่ไม่เคยบอกความจริงกับข้าดีกว่า สามปีที่เราคบกันมา ข้าเชื่อใจเจ้า ไว้ใจเจ้า บอกเจ้าทุกเรื่อง แต่เจ้ากลับปิดบังข้า เจ้าทุกข์ใจขนาดนี้ทำไมไม่เคยบอกข้า ข้าโกรธที่เจ้าไม่ไว้ใจข้ามากกว่า!”

“เจ้าไว้ใจคนง่ายเกินไป” โคลด์เจ็บแปลบกับคำต่อว่า เขาไม่เคยไว้ใจใครจริงๆ กระทั่งคนที่เขาเรียกว่าสหายหนึ่งเดียวอย่างอิลมาเร

“ข้าไม่ได้ไว้ใจคนง่าย! ข้ามีสายตาแม่ค้า ข้าไม่เคยประเมินค่าอะไรพลาด”

“เจ้าก็พูดแบบนั้นวันแรกที่เจ้าเก็บข้ามา” โคลด์ยิ้ม

“เจ้ามาของานทำแล้วไม่มีใครให้ทำต่างหาก” อิลมาเรโต้ ตอนนั้นไม่มีใครอยากให้งานแก่ดาร์กเอลฟ์ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า ยกเว้นเธอ

โคลด์ย่อตัวลง ให้สายตาของเขาอยู่ระดับเดียวกับสายตาของอิลมาเร “ข้าสัญญาว่าเจ้าจะปลอดภัย ข้าจะไปส่งเจ้าถึงใกล้เมืองของกิลด์พ่อค้าใต้ดิน แล้วเราค่อยแยกกัน”

“ข้าเป็นห่วงเจ้า โคลด์” อิลมาเรกลั้นน้ำตา หัวคิ้วขมวดเข้าหากันจนหน้าตายู่ยี่

โคลด์ยิ้มเหนื่อยอ่อน เขาดึงอิลมาเรเข้ามากอด

“ขอบคุณมาก ไม่มีใครเป็นห่วงข้าอย่างจริงใจมานานแล้ว...เจ้าทำให้ข้านึกถึงเกวนโดลิน”


 

เมื่อเห็นว่าการเจรจาไม่เป็นผล อิลมาเรจึงลองโน้มน้าวให้โคลด์ส่งหัวใจมังกรศิลาคืนไป แต่เขากลับแทงบีฟอร์ซลงกลางหัวใจดวงนั้นพร้อมร่ายเวทเยือกแข็งโดยไม่ลังเล ดาร์กเอลฟ์บิดใบมีดทีหนึ่ง หัวใจที่กลายเป็นก้อนน้ำแข็งก็แตกเป็นเสี่ยงๆ เหลือเพียงเกล็ดน้ำแข็งไร้ค่า

ความพยายามของเจ้าสูญเปล่า ซิกฟรีด แต่ไม่ใช่สำหรับข้า...

โคลด์ทราบจุดหมายที่ตนตามหาแล้วจากการหลอกถามมังกรศิลา การรั้งอยู่เมืองนี้จึงไม่จำเป็นอีกต่อไป และเขาไม่คิดกลับมาอีก

การต่อรองกับซิกฟรีดคือการเอาเปรียบ เขาจงใจผิดสัญญา เอาคืนให้สาสมกับที่ถูกบังคับให้เป็นทาส

ข้าเกลียดเอลฟ์ทุกตน ไม่เว้นแม้แต่ซิกฟรีดหรือมาลแกธ

โคลด์หัวเราะเสียงต่ำเมื่อคิดถึงความจริงข้อนี้ ความจริงที่เขาซ่อนไว้ใต้หน้ากากดาร์กเอลฟ์เอื่อยเฉื่อยโง่เง่ามาเป็นสิบปี

เสียงหัวเราะของโคลด์ทำให้อิลมาเรกลืนน้ำลายเอื้อก

เธอไม่ชอบโคลด์ที่เป็นแบบนี้ เขาเหมือนกำลังฝืนตัวเองอยู่ แต่ก็คิดว่าไม่ใช่เวลาทัก จึงขึ้นไปนั่งบนหลังหมาป่าด้านหลังโคลด์ กอดเอวเขาไว้อย่างเงียบๆ

โคลด์ออกเดินทางกับอิลมาเร เขาตั้งใจเอาตราทาสออกให้ได้โดยไม่พึ่งพาพวกเอลฟ์อีก บางที...ชาแมนที่เชี่ยวชาญเวททมิฬสายคำสาปที่บ้านเกิดอาจช่วยทำลายตราทาสนี้ได้

เป็นครั้งแรกในรอบสิบสามปีที่โคลด์คิดกลับบ้านเกิด กลับสู่ดินแดนของชนเผ่าที่ล่มสลายไปแล้วและตกอยู่ในกำมือของผู้ชนะ—ทรราชย์ผู้ปกครองอย่างกดขี่

แต่ก่อนอื่น...

เขาต้องตามหากวินีเวียร์

หรือที่ใครๆ รู้จักกันในนาม ‘เกวนโดลิน’

——————————————————————-

เจ็ดวันก่อนหน้านี้

 

“ทรงประสงค์ให้ข้าพระองค์ตามไปหรือไม่”

ซิกฟรีดลูบข้อนิ้วกับปาก “ท่านเห็นว่าอย่างไร”

“ข้าพระองค์เห็นตามกษัตริย์แห่งรูเมเรียร์”

“ก่อนอื่น ท่านปล่อยให้เขาลอบเข้ามาเขตราชวังด้านในหรือ”

เกิดความเงียบขึ้นชั่วครู่

“ไม่เคยมีใครลอดกับดักของข้าพระองค์ได้ แต่ในเมื่อข้าพระองค์พลาดไปแล้ว ทรงโปรดลงโทษข้าพระองค์เถิด”

ข้อนิ้วกดริมฝีปากจนช้ำ “ท่านตามรอยเขาได้หรือไม่”

“ถึงจะลอดกับดักมาได้ แต่ผู้บุกรุกทิ้งร่องรอยไว้เสมอ”

“อา…” ซิกฟรีดหลุบตาลง “ตาม แต่ห้ามจับกุม เรามีสิ่งที่ต้องการมากกว่าตัวของเขา”

ราชาเอลฟ์กระซิบเป็นภาษาควาร์

“เราต้องการ ‘หัวใจ’ ของเขา”


——————————————————————-

 ในขณะที่พระราชาและนักฆ่าต่างทำตามใจตน สตรีสูงศักดิ์ผู้หนึ่งที่เฝ้ามองเรื่องทั้งหมดอย่างเงียบเชียบก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน

 นางกำลังเล่นกับนกสีฟ้าตัวเล็กในเรือนกระจกอันสดชื่นสบายตาด้วยพรรณไม้สีเขียวนานาชนิด ฟังข้ารับใช้ถวายรายงาน

 เรือนร่างแบบบางยืนหันหลังย้อนแสง เส้นผมสีทองสุกปลั่งกับชุดขาววิจิตรขับให้นางงามเป็นเอกแม้เห็นเพียงด้านหลัง มือขาวผ่องยกขึ้น ให้นกน้อยตัวเบาหวิวบินมาเกาะ

 “หาตัวให้เจอก่อนคนขององค์ราชาแล้วฆ่าเสีย ก่อนที่มันจะนำความยุ่งยากมาสู่พระองค์ในอนาคต”

ท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์กล่าวด้วยน้ำเสียงเมตตา นกน้อยยังคงเกาะอยู่บนนิ้วอย่างรักใคร่ในตัวนาง


—————————————————————————

A/N เอริแอดเน่ออกโรงบ้างแล้วค่ะ จริงๆ เอริแอดเน่เป็นตัวละครที่เราชอบมากนะคะ (และตัวละครที่เราชอบมากมักมีชะตาชีวิตโหดร้ายเสมอ /ซับน้ำตา)
ป.ล. เราเข้าใจว่านี่เป็นนิยาย BL นักอ่านบางท่านอาจไม่ค่อยชอบให้ผู้หญิงมีบทเยอะ แต่เราอยากนำเสนอว่าจริงๆ แล้วตัวละครแต่ละตัวมีบทบาทของตัวเองที่ทำให้เรื่องดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนานได้ และบทบาทของเอริแอดเน่กับอิลมาเรจะช่วยเพิ่มสีสันให้กับเรื่องนี้ค่ะ :)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

อ่านละถูกใจให้เป็ดได้นะคะ อยากมีเป็ดหลายๆ ตัวกะเค้าบ้าง *0*
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (4) [11/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: shannara ที่ 11-01-2017 14:54:47
อยากเอาซิกไปโบกปูน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (4) [11/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 11-01-2017 18:45:56
+1 อยากเอาซิกไปโบกปูน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (4) [11/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 11-01-2017 21:32:55
กระทู้นิยายเลอค่า

สำนวนชวนให้ติดตามและมีชีวิตชีวามาก

ไม่ได้อ่านอะไรแบบนี้มานาน ดีต่อใจเหลือเกิน

มาถึงเนื้อเรื่อง....
ชิชะ! นังหญิงสามผัว! หน้าสวยแต่ใจคอโหดเหี้ยมที่สุด! อ่านแล้วอยาก  :z6:

หลงรักโคลด์กับอิลมาเร สองตนนี้อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักมาก

ว่าแต่...เคมีของซิกกับมาลดูเข้ากั๊น..เข้ากันเน๊าะ!

 
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (4) [11/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 12-01-2017 00:03:46
สนุกดีค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 4: (4) [11/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 12-01-2017 14:59:03
บทที่ 5 : หากมีรัก (1)



หลังวันที่แปดไม่นานนัก อิลราลานก็พากวีชรามาเข้าเฝ้าคิงซิกฟรีด

กวีชราผู้นี้นามว่าบาค เป็นเซ็นทอร์ เผ่าพันธุ์ที่ตระกูลแยกออกเป็นสองสาย หนึ่งเกิดมาเพื่อเป็นนักรบ อีกหนึ่งรักสงบจึงเลือกเป็นกวี

มันมาจากตระกูลแรก เคยอยู่ชายแดนเมื่อครั้งจอมทัพทมิฬยกทัพมาทำสงครามกับรูเมเรียร์ทั้งสองครั้ง เกราะเหล็กของมันชโลมเลือดทุกวันจนจับตัวแข็งหนา กลายเป็นสีแดงซึ่งแสดงถึงความทารุณ กระทั่งวันหนึ่งเซ็นทอร์ผู้มาจากตระกูลนักรบก็นึกถึงความสงบสันติจับใจ

หากสงครามจบมันจะถอดเกราะและทิ้งดาบ หันมาจับปากกาเขียนกวี บอกเล่าตำนานความกล้าหาญ การเสียสละ ความขลาดเขลา ความผิดพลาด และความสูญเสียอันเกิดจากสงคราม

เวลาผ่านไป เซ็นทอร์ได้ลาออกจากราชการสมที่ตั้งใจ แต่มันยินดีได้ไม่นานนัก ข่าวคิงเฟรธูริน อาร์ธีออน รูเมเรียร์ สิ้นพระชนม์เพราะกบฏดาร์กเอลฟ์ก็ลอยมาถึงหมู่บ้านชายแดนที่มันอยู่ มันนั่งลงเขียนกวีไว้อาลัย เขียนจดหมายหาเพื่อนร่วมรบที่ยังรับราชการ ข่าวลือสะพัดมหาศาลในช่วงเวลานั้น จนมันตัดสินใจเลิกเปิดรับข่าวการเมือง—มันเป็นกวีมิใช่หรือ

ไม่กี่ปีถัดจากนั้น สำนักพระราชวังประกาศว่าคิงริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์สิ้นพระชนม์ด้วยเหตุกบฏดาร์กเอลฟ์เช่นกัน พระอนุชาซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์จึงได้ขึ้นเป็นคิงโดยชอบธรรม ทว่าข่าวลือลอยลมที่มาพร้อมกันคือ ‘น้องชายฆ่าพี่ชายเพื่อบัลลังก์และท่านหญิงโฉมงาม’

ทว่าหูของเซ็นทอร์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวหาได้เบาหวิว มันไม่ปักใจเชื่อทั้งประกาศทางการและข่าวลือแสลงหู มันเพียงเฝ้ามองจากชายแดนห่างไกล รับฟังข่าวคราวด้วยใจเป็นกลาง

กระทั่งมันพบเอลฟ์ผมสีทองเกือบขาวตนหนึ่งในบ้านของตัวเองทั้งที่ไม่ได้รับเชิญ

 

“ข้าเป็นข้ารับใช้ของกษัตริย์แห่งรูเมเรียร์ พระองค์ทรงโปรดให้เจ้าเข้าเฝ้า ทรงประสงค์ที่จะถามไถ่เรื่องราวของดาร์กเอลฟ์นาม ‘โคลด์ สตาร์’ ”

กวีชราหัวเราะสุภาพ ตอบไปว่า “ข้าชรามากแล้ว ดาร์กเอลฟ์นามโคลด์ สตาร์ช่างไม่คุ้นหู”

ดวงตาของเอลฟ์ตนนี้ชาด้าน บอกชัดว่าแม้ต้องหักกระดูกเซ็นทอร์เพื่อบังคับให้ไปก็พร้อมทำ

แต่คำขู่ฟังนุ่มหูถูกยกมาใช้ก่อน

“หากเจ้าปฏิเสธ พระองค์ทรงฝากสารสั้นๆ มาให้ว่า

‘ทั้งแผ่นดินมีผู้ตามหาดาร์กเอลฟ์นาม ‘โคลด์ สตาร์’’ อยู่สองฝ่าย

ฝ่ายแรกคือข้า ผู้ไม่ประสงค์ให้อันตรายใดๆ เกิดขึ้นแก่เขา

ส่วนฝ่ายที่สองอยู่ตรงข้ามกับข้า

ใครจะพบเขาก่อนขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว’ ”

เซ็นทอร์สุขุมขึ้น “ข้าควรเชื่อราชาแค่ไหนหรือ” คำพูดและแววตาเป็นการยอมรับกลายๆ ว่ารู้จักโคลด์

เอลฟ์ตนนั้นตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

“ท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อ จะเข้าฝั่งไหนหรือไม่เข้าก็เป็นสิทธิ์ของท่าน ท่านจะรอให้ไฟลุกไหม้ก่อนสนใจต้นไฟก็ย่อมได้

แต่เรื่องใดที่เกิดขึ้นแล้วไม่เคยหวนกลับ

ข้าหวังว่าท่านจะไม่เสียใจในภายหลัง”

“เช่นนั้นข้าคงไม่มีทางเลือก”


 

บาคจึงตัดสินใจเดินทางมายังเอวา เธมาร์ โดยมีเอลฟ์ตนนั้นมาส่งเพียงครึ่งทาง ก่อนแยกกัน เอลฟ์กล่าวว่าจะมีผู้มารับที่ปลายทางอีกทอดหนึ่ง กวีชรากำลังจะถามข้อมูลเพิ่ม ทว่าเอลฟ์ตนนั้นได้จากไปเสียแล้ว

ยังไม่ถึงประตูเมืองหลวง เอลฟ์สาวรูปโฉมงดงามในชุดนางกำนัลหลวงก็เข้ามาต้อนรับ นางไถ่ถามความเหนื่อยยากในการเดินทางด้วยไมตรีระหว่างพาเข้าส่วนพระราชวัง ทุกสิ่งเป็นไปอย่างนุ่มนวล แต่สัญชาตญาณของเซ็นทอร์สะกิดให้ระมัดระวังตัว มีบางสิ่งแปลกประหลาด แต่ยังไม่ทราบว่าคืออะไร

กวีชราได้พำนักในส่วนรับรองโอ่อ่าถึงหนึ่งวันครึ่ง แม้จะอยู่ในฐานะแขก แต่กลับรู้สึกไม่สบายตัว คล้ายเป็นนักโทษรอถูกรีดความลับ

ที่กล่าวเช่นนี้เป็นเพราะมันไม่ได้รับอนุญาตให้พักอย่างแท้จริง นางกำนัลคนเดิมคอยเข้ามา ‘ตะล่อม’ ถามธุระที่ทำให้มันต้องเดินทางมาเอวา เธมาร์อยู่เนืองๆ ซ้ำบางครายังมีดวงตาทรงอำนาจคู่หนึ่งจ้องมองมันจากสถานที่ซ่อนเร้น กดดันให้มันเหนื่อยล้าถึงที่สุด

และธุระที่ว่า...ย่อมเป็นธุระที่ชื่อ ‘โคลด์ สตาร์’

บาคไม่ปริปากแม้ถูกกดดัน ใจพิจารณาว่า ดวงตาคู่นั้นเป็นของใคร หากเป็นของราชา ท่านทำเพื่ออะไร ราชาจะส่งข้ารับใช้มาถามธุระที่พระองค์ทรงทราบดีอยู่แล้วหรือ

จนเมื่อได้รับเชิญให้ไปยังโถงว่าราชการ สายตาฝ้าฟางเหลือบเห็นพระคู่หมั้นแห่งอิซิลดาร์ประทับอยู่เคียงข้างราชาแห่งรูเมเรียร์ มันระลึกได้ทันทีว่า บรรยากาศกดดันในส่วนรับรองเกิดขึ้นด้วยดวงตาทรงอำนาจของใคร

ไม่ใช่ขององค์ราชา

เซ็นทอร์ทราบตอนนั้นเองว่าตนถูกลากให้เข้ามาชมการเมืองภายในเสียแล้ว

 

“เงยหน้าขึ้นเถอะ การเดินทางเป็นอย่างไรบ้าง”

แม้เป็นราชา แต่ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์กลับเอ่ยทักเซ็นทอร์ชราอย่างเป็นกันเอง

บาคทำความเคารพก่อนเงยหน้าขึ้นอย่างองอาจ ไม่เสียลายทหารเก่า แม้จะซูบผอมไปมากก็ตาม

มันจำเจ้าชายน้อยได้ พระองค์เคยมาชายแดนสมัยยังเยาว์ แต่บัดนี้เจ้าชายเติบใหญ่เป็นบุรุษองอาจแล้ว ใบหน้าคล้ายพระเชษฐาเฟรธูริน แต่แววตาไปทางพระเชษฐาริวอร์นอร์

กวีชราอดเหลือบมองบัลลังก์ไม่ได้ สมัยคิงเฟรธูริน บัลลังก์ทำจากแร่เงิน จนถึงสมัยคิงริวอร์นอร์ได้ยินว่าบัลลังก์หลอมจากเหล็กดำ พระนามของคิงริวอร์นอร์แปลว่าราชาเหล็กดำ แร่ธาตุที่แข็งแกร่งที่สุดในรูเมเรียร์ แต่บัดนี้คิงซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ได้ประทับแทน…

แม้แข็งแกร่งก็ยังจำนนให้ความตาย

“ท่านคงรู้จักคู่หมั้นของเราแล้ว ท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ นางส่งคนไปรับท่านในเมืองแทนเราเมื่อวันก่อน”

ซิกฟรีดแย้มยิ้ม “อันที่จริง ผู้ที่ต้องไปรับท่านคืออิลราลาน แต่เขาหาท่านไม่พบ กว่าจะทราบว่าท่านมาถึงแล้วก็ผ่านมาเป็นวัน ให้อภัยเราด้วย”

คำพูดของราชาเชือดเฉือน แฝงนัยต่อว่าคู่หมั้น และส่งความนัยถึงกวีชราว่า ‘นี่ไงละ ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับข้า’

ซิกฟรีดทราบว่าไม่มีอะไรเล็ดลอดหูตาของเอริแอดเน่ไปได้ และถึงมี สิ่งนั้นก็ต้องวางแผนอย่างเงียบเชียบที่สุด อย่างที่เรียกว่าไฟไร้ควัน เพราะฉะนั้น หากปิดบังควันจากนางไม่ได้ ก็ต้องปล่อยให้ควันโขมงจนหาไฟไม่เจอ

ยกตัวอย่างเช่น ก่อนส่งมาลแกธไปตามหาโคลด์ เขาสั่งให้กอห์นดีเอน—หรือเงาสังหารไปตามสืบเรื่องเกี่ยวกับโคลด์ จนในที่สุดได้พบเซ็นทอร์ตนหนึ่ง ซึ่งรู้จักโคลด์ในแง่มุมที่น่าสนใจ จากนั้นเขาก็สั่งให้กอห์นดีเอนพาตัวมา โดยแฝงมากับกลุ่มเซ็นทอร์ที่เป็นตัวหลอกด้วย

นี่เป็นเซ็นทอร์ตนที่ ‘เก้า’ ซึ่งเขาสั่งให้เข้ามาพบในโถงว่าราชการ

นี่เป็นเซ็นทอร์ตนที่ ‘เก้า’ ใน ‘สิบสอง’ ซึ่งเอริแอดเน่ต้องจับไปรีดหาความจริงภายในระยะเวลาหนึ่งวันครึ่ง

ท่านหญิงได้ฟังคำราชาก็เพียงยกยิ้มมุมปาก เอียงคอน้อยๆ อย่างอ่อนหวาน

 

ก่อนหน้านั้นไม่นานนัก ซิกฟรีดเข้ามาหาเอริแอดเน่ที่ตำหนักปรุงยา นางกำลังปรุงตัวยาซึ่งสามารถทุเลาอาการเจ็บบริเวณใบหน้าซีกซ้ายของเขาได้

"ท่านหญิง" ซิกฟรีดเรียก

เอริแอดเน่ไม่อาจละมือได้นาน แต่นางก็วางมือจากทัพพีคนยาแล้วถอนสายบัว

"เราได้ยินเรื่องไร้สาระเรื่องหนึ่ง"

"เพคะ" เอริแอดเน่ยิ้มรับ

ซิกฟรีดยิ้มตอบ "เราได้ยินว่าท่านมีความลับกับเรา"

แม้จะยิ้มและเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลให้เกียรติ ทว่าดวงตาของซิกฟรีดจริงจัง

"ข้าไม่มีความลับกับท่าน" เอริแอดเน่ไม่หลบตา "ท่านอยากทราบอะไรย่อมได้ทราบ ราชาของข้า"

"เขาว่ากันว่าราชาเป็นเพียงแมลงโง่ในหมู่แมลง ราชินีสิฉลาดล้ำ" ซิกฟรีดแตะผิวข้างแก้มของอีกฝ่าย มันอุ่นด้วยไฟใต้หม้อปรุงยา

"ราชินีเป็นเพียงผึ้งราชินีของท่านเท่านั้น" เอริแอดเน่ตอบอย่างสงบ

ผึ้งราชินี แม้จะได้รับเกียรติยศ แต่มีหน้าที่อะไรเล่านอกจากสร้างทายาท รับใช้ราชวงศ์รูเมเรียร์อย่างซื่อสัตย์ สร้างความรุ่งโรจน์แก่อนาคต

"ท่านเป็นมากกว่านั้น พี่หญิง" ซิกฟรีดละนิ้วที่แตะแก้มนางออก

"กวีชราที่อิลราลานสมควรเป็นคนพามา...อยู่ที่ใดหรือ"

เอริแอดเน่วางมือบนอกซิกฟรีดคล้ายปลอบโยน "ข้าแค่อยากพบมันก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดใดๆ อีก"

ความผิดพลาดใดๆ ที่ว่าย่อมหมายถึงดาร์กเอลฟ์หัวขโมย แม้ไม่พูดออกมา ก็เป็นที่ทราบดี

"แต่ข้าก็จำต้องทราบว่าพี่หญิงทราบอะไรมา" ซิกฟรีดจุมพิตหน้าผากมนของนาง แบบที่น้องชายพึงกระทำแก่พี่สาว

“เราไม่ใช่ศัตรูกัน”

ดวงตาด้านขวาของซิกฟรีดอ้อนวอน

ขณะที่ดวงตาด้านซ้ายใต้หน้ากากกำลังกลอกกลิ้งอย่างบ้าคลั่ง

“เราย่อมไม่ใช่ศัตรูกัน” นางเอ่ย มอบจุมพิตคืนที่แก้มขวา “เพราะข้ารักท่าน ซิกฟรีด ท่านเป็นของรักสิ่งสุดท้ายของข้า”



—————————————————————————

A/N ปมของเรื่องเผยออกมาเรื่อยๆ แล้วค่ะ เอริแอดเน่ก็มีบทมากขึ้น เธอเป็นตัวละครที่เรารักเพราะความซับซ้อนในจิตใจของเธอ ตอนที่เอริแอดเน่พูดกับซิกฟรีดว่า "ท่านเป็นของรักสิ่งสุดท้ายของข้า" เธอหมายความตามนั้นจริงๆ นะคะ อนึ่ง เราเขียนเรื่องนี้โดยไม่เกี่ยงเพศ เพราะความรักไม่มีเพศ มีแค่คนที่รัก คนที่ผิดหวัง และคนที่สมหวัง
ป.ล. มีใครไม่รู้จักเซ็นทอร์ไหมคะ? บอกได้นะคะ เราจะได้รู้ว่าต้องมีเชิงอรรถหรือเขียนขยายความมากแค่ไหน

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

อัพเดททุกวัน ถูกใจให้เป็ดได้จ้า (ขอกันตรงๆ อิอิ)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (1) [12/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 12-01-2017 15:37:01
อยากเอาซิกไปโบกปูน
ราชาใจร้ายเนอะ...

+1 อยากเอาซิกไปโบกปูน
= ได้ซิกฟรีดโบกปูน x 2 ค่ะ  :laugh:

กระทู้นิยายเลอค่า

สำนวนชวนให้ติดตามและมีชีวิตชีวามาก

ไม่ได้อ่านอะไรแบบนี้มานาน ดีต่อใจเหลือเกิน

มาถึงเนื้อเรื่อง....
ชิชะ! นังหญิงสามผัว! หน้าสวยแต่ใจคอโหดเหี้ยมที่สุด! อ่านแล้วอยาก  :z6:

หลงรักโคลด์กับอิลมาเร สองตนนี้อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักมาก

ว่าแต่...เคมีของซิกกับมาลดูเข้ากั๊น..เข้ากันเน๊าะ!
ชมเสียเขินเลยค่ะ รับขนม น้ำชา บีบนวดเนื้อตัวไหมคะ
เอรี่โหดจริงค่ะ รอดูนางไปค่ะ ความโหดยังไม่หมดแค่นี้ แต่ก็เป็นตัวละครที่โดนเราทำร้ายเยอะค่ะ
โคลด์กับอิลมาเรนี่น่ารักเหมือนเพื่อนสาว /โดนโคลด์เอามีดแทง อั่ก ข้าตายแล้ว!
ส่วนมาลแกธกับซิกฟรีดทำหน้าเซย์โนว์ใส่กันทั้งคู่ค่ะ  :mc4:

สนุกดีค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
ยินดีค่ะ ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ อัพเดททุกวันจนจบเลยจ้ะ -3-
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (1) [12/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 12-01-2017 16:15:03
เห็นภาพซิกกับเอรี่หันหน้าเข้าหากัน
ต่างมือซ้ายลูบแก้ม มือขวาถือมีดแทง

ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่ขมเสียนี่กระไร
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (1) [12/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 12-01-2017 17:23:35
บางครั้งจิตใจคนเราก็เข้าใจย๊ากยากกก  :mew5: :mew5:

ปล.ถ้านี่ไม่ใช่ BL สงสัยท่านหญิงก็คงเป็นนาง(ร้าย)เอกอะค่ะ 55555  :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (1) [12/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 12-01-2017 19:23:16
เห็นภาพซิกกับเอรี่หันหน้าเข้าหากัน
ต่างมือซ้ายลูบแก้ม มือขวาถือมีดแทง

ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่ขมเสียนี่กระไร
ขมจริงค่ะ ถ้าเป็นคู่ชาย-ชายจะรวดร้าวกว่านี้อีกค่ะ และเอรี่เมะ (555555)

บางครั้งจิตใจคนเราก็เข้าใจย๊ากยากกก  :mew5: :mew5:

ปล.ถ้านี่ไม่ใช่ BL สงสัยท่านหญิงก็คงเป็นนาง(ร้าย)เอกอะค่ะ 55555  :pig4:
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน (หรือเอลฟ์)
เสียดายเรื่องนี้เป็น BL เอรี่จึงเป็นนางร้าย (แต่ถึงไม่ใช่ BL เธอก็ร้ายอยู่แล้วค่ะ เป็นไทป์ราชินีแม่มด ไม่ใช่เจ้าหญิง)
อนึ่ง คนที่พระเอกรักถึงจะได้เป็นนาย (นาง) เอกค่ะ ;)
คนที่เขาไม่รัก ยังไงก็ไม่รัก ;w; (เศร้านิดๆ)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (1) [12/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: princeofdark ที่ 12-01-2017 19:38:33
ซิกฟริดกำลังทำอะไรอยู่ ซับซ้อนเกินไปแล้ว อ้ากกก ซึนอย่างนี้ไม่ดีนะ เดี๋ยวมาลแกธทำแต้มนำนะ55 #ชูธงมาแกล
ท่านหญิงก็อีกคน ร้ายมากอ่ะ ปล่อยโคลด์เค้าน้า โคลด์เลือดขึ้นหน้าเลยน่ากลัวจัง แต่ก็ชอบที่โคลด์แทงหัวใจมังกรทิ้งอ่ะ แบบคลูๆดี ในเมื่อไม่ให้ตามคำยองก็ทำลายทิ้ง ชอบๆมากเลย เรื่องนี้เขียนความสัมพันธ์ตีวละครดีมากเลยค่ะ  เป็นกำลังใจให้นะคะ คนเขียนขยันอัะพมากเลยชอบๆ จะได้อ่านติดๆกัน ไม่คาดีค่ะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (2) [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 13-01-2017 11:57:57
บทที่ 5 : หากมีรัก (2)

“ท่านทราบหรือไม่ว่าเหตุใดเราจึงเรียกพบ” ซิกฟรีดเอ่ยถามเซ็นทอร์

บาคน้อมศีรษะ “ข้าพระองค์ได้ยินว่าองค์ราชาทรงตามหาดาร์กเอลฟ์ตนหนึ่ง ข้าพระองค์เป็นครูชายแดน คลุกคลีกับเผ่าทมิฬ จึงน่าจะทราบข่าวคราวของดาร์กเอลฟ์ตนนั้นกระมัง”

“ ‘โคลด์ สตาร์’ ” ซิกฟรีดเอ่ยชื่อ “เคยได้ยินชื่อนี้หรือไม่”

เซ็นทอร์ครุ่นคิดแล้วส่ายหน้าปฏิเสธ “ชื่อแปลกสำหรับดาร์กเอลฟ์ หากข้าพระองค์เคยพบคนผู้นี้จริง ต้องไม่มีทางลืม”

ซิกฟรีดมองเซ็นทอร์นิ่งๆ ชั่วอึดใจ ก่อนจะโน้มไปกระซิบกับเอริแอดเน่

“ให้เวลาข้าคุยกับเซ็นทอร์โดยลำพังได้หรือไม่ พี่หญิง” เขาเอ่ยขออย่างสุภาพ

“เพคะ” เอริแอดเน่ตอบรับง่ายเกินคาด คล้ายนางได้ฟังสิ่งที่ต้องการฟังแล้ว จึงลุกขึ้นโดยมีนางกำนัลช่วยจัดชายกระโปรง ก่อนเยื้องกรายออกไป

อิลราลานซึ่งรู้หน้าที่ดีก็เดินออกไปเช่นกัน

เมื่ออยู่ตามลำพัง ซิกฟรีดก็เอ่ยทักทายเซ็นทอร์อีกครั้ง

“ไม่พบกันนานเลย บาค จำข้าได้หรือไม่”

เซ็นทอร์รีบย่อขาหน้า คุกเข่าทำความเคารพ รู้สึกปลื้มปีติในใจ “ข้าพระองค์ย่อมจำได้ขอรับ”

“ผ่านมากี่ปีแล้วนะ...โอ สิบสามปีแล้ว ข้าจำได้ พี่เฟรธูรินแนะนำว่าท่านเป็นผู้มีใจกว้างดุจทะเลตะวันออก”

อันที่จริงซิกฟรีดจำเซ็นทอร์ตรงหน้าแทบไม่ได้ ตอนนั้นเขาอายุเพียงเก้าขวบปี ไม่มีสิ่งใดที่ทำให้เขาสนใจนอกจากเสียงกระซิบของมังกรและคำทำนายของบิดานภา แต่การแสดงออกว่าเขาใส่ใจย่อมทำให้บทสนทนาลื่นไหลขึ้น

เมื่อคิดเช่นนี้ คำสาปที่ใบหน้าซีกซ้ายก็กรีดเสียงหัวเราะ

“แกมันจอมสับปลับ ลิ้นแกพ่นแต่คำโกหก สองหน้า...เจ้าคนสองหน้า!”

“ไม่ว่าท่านจะรู้จักโคลด์หรือไม่ ซึ่งข้ารู้ว่าท่านรู้ ข้าก็จะไม่ปิดบังท่าน” ซิกฟรีดขยับยิ้มที่มุมปากขวา ขณะที่ยกนิ้วกดใบหน้าซีกซ้ายอย่างแนบเนียน “โคลด์ สตาร์กระทำความผิดแบบที่...แม้แต่ข้าก็คงปกป้องเขาได้ยาก”

ซิกฟรีดเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองกับโคลด์ ก่อนจะเล่าเรื่องโคลด์และหัวใจมังกร ทว่าส่วนที่เกี่ยวกับเวทพันธะ เนื้อหาในจดหมายของโคลด์ รวมไปถึงรายละเอียดที่จะทำให้เซ็นทอร์ ‘ไขว้เขว’ ไม่อยากยื่นมือช่วยเหลือ เขาตัดออกทั้งหมด ให้เหลือเพียงใจความว่า

“ข้าเป็นราชา บาค ข้ามีอำนาจที่จะให้อภัยใครก็ได้ หรือสั่งลงโทษใครก็ได้ แต่มันไม่ใช่อำนาจเบ็ดเสร็จ ประชาชนต่างหากที่มีอำนาจมากกว่าข้า พวกเขารู้เห็นว่าโคลด์ทำอะไรลงไป ในสายตาของพวกเขา โคลด์หักหลังข้า หากข้าให้อภัยเขาโดยง่าย อำนาจในการลงโทษของข้า อำนาจในกฎหมาย จะไม่ศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป”

ซิกฟรีดกดใบหน้าซีกซ้ายแรงขึ้น

“ข้าต้องการความช่วยเหลือจากท่าน การที่จะหาเขาให้พบไม่ยาก และไม่ว่าใครจะหาเขาพบ เขาต้องสู้จนตัวตายแน่ เชื่อข้าเถิด...ไม่มีเอลฟ์ตนใดสนความเป็นความตายของเขามากไปกว่าข้าแล้ว ดังนั้นข้าจึงต้องการสิ่งที่สามารถต่อรองให้เขาหยุด แล้วยอมเจรจาได้ ข้าจำต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับเขาให้มากขึ้น บาค”

เซ็นทอร์คิด เขาจะปิดปากเงียบก็ย่อมได้ แต่หากเหตุการณ์เป็นไปอย่างที่ว่า เด็กหนุ่มดาร์กเอลฟ์ที่เขาเคยดูแลในอดีตคนนั้น...มีโอกาสสูงมากที่จะไม่รอด ยิ่งปล่อยให้เรื้อรังยิ่งแย่ ไม่เพียงแค่ทางการหรอกที่จะตามล่า แต่ยังมีเอลฟ์หัวรุนแรงที่พร้อมฆ่าเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของราชวงศ์รูเมเรียร์ด้วย

ทางไหนที่เสี่ยงน้อยที่สุดเล่า

“ข้าพระองค์...ไม่มั่นใจเลย...ว่าเรื่องที่จะกราบทูลจะช่วยเขาได้หรือไม่ แต่ข้าพระองค์ติดหนี้ชีวิตอยู่...คงได้เวลาใช้หนี้แล้ว”

ซิกฟรีดยิ้ม “ท่านได้สัจจะจากข้า เขาจะปลอดภัยเมื่ออยู่กับข้า”

"โคลด์กับเกวนโดลิน ข้าพระองค์ตั้งชื่อให้พวกเขา"

“เกวนโดลิน?”

"เป็นพี่น้องกันพ่ะย่ะค่ะ พี่สาวกับน้องชาย เป็นดาร์กเอลฟ์ที่ดี"

กวีเอ่ย น้ำเสียงไพเราะดึงให้ผู้ที่ได้ฟังหวนสู่เหตุการณ์ในอดีต

 

วันนั้นเป็นอีกวันหนึ่งที่มังกรออกอาละวาด

งวงไฟสูงเทียมฟ้าพุ่งขึ้นมาจากฝั่งดินแดนทมิฬ บาคเห็นมันได้แต่ไกลจากบนป้อมชายแดนที่ตนประจำการอยู่ เสียงสัตว์ร้ายคำรามดุจฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ กัมปนาทประสานเสียงกรีดร้องชุลมุน

เวลาแบบนี้มักมีผู้อพยพจากแดนทมิฬหนีตายเข้ามายังแดนเอลฟ์ เซ็นทอร์นักรบยืนอยู่บนระเบียงกำแพงหิน ชะตาทำให้เขาได้พบกับเด็กสาวดาร์กเอลฟ์นางหนึ่ง

เด็กสาวอายุราวสิบเจ็ดสิบแปด เส้นผมสีเงิน ผิวสีม่วงอ่อนอมเทาเหมือนดอกไลแลคยามราตรี นางแบกเด็กหนุ่มร่างเล็กไว้บนหลัง วิ่งอย่างทุลักทุเลตรงมายังจุดที่เขาประจำการอยู่

สภาพมอมแมมเต็มไปด้วยบาดแผลของนางทำให้บาคเวทนากระทั่งไม่ยกธนูง้างศร

นางพยายามเข้ามาใกล้กำแพง แต่ถูกทหารเอลฟ์ร้องเตือน

“จงถอยกลับไป ดาร์กเอลฟ์!” ทหารเฝ้ากำแพงตะคอกแล้วยิงธนูสกัด “ค่ายนี้มีพวกเจ้าแทบล้นแล้ว”

ลูกธนูเฉียดขานางไปพอดี นางเซเล็กน้อยแล้วหยุดยืนกลางทุ่งร้างแห้งแล้งอันเต็มไปด้วยซากจากสงคราม ทั้งรอยลากซากศพ เกวียนร้างเปื้อนโลหิต โล่และอาวุธหักพังจมโคลนสกปรก

เด็กสาวดาร์กเอลฟ์ตะโกนจากตรงนั้น—ด้านหน้ากำแพงปันเขต “พวกเราไม่มีที่ไปแล้ว ได้โปรดเถิด!” นางวิงวอนอย่างใจเด็ด

ทหารเอลฟ์ใต้บังคับบัญชาของบาคปฏิเสธอีกรอบ

“งั้นแค่น้องชายข้า! เขาเป็นแค่เด็กคนเดียว ไม่ขอปันเสบียงมาก ขอแค่ที่พักให้เขา ข้าอยู่ข้างนอกได้ แต่เขาบาดเจ็บ ได้โปรดรับเขาเข้าไปด้วยเถิด”

บาคมองเห็นหายนะไล่หลังนางมา ทว่าทหารเอลฟ์ไม่อาจปรานี ค่ายนี้ล้นแล้วจริงดังว่า จึงต้องทำตามกฎอย่างเคร่งครัด

เอลฟ์ไม่ถูกกับดาร์กเอลฟ์ ดาร์กเอลฟ์ก็ไม่ถูกกับเอลฟ์ นางบากหน้ามาขอร้องศัตรูซ้ำยังดื้อด้านอยู่ต่อ คงสิ้นหนทางแล้วจริงๆ ชนเผ่าอื่นอย่างบาคเห็นแล้วให้รู้สึกสงสาร จึงใช้อำนาจที่พอมีช่วยเจรจา

“บิดาแห่งนภาย่อมเมตตาบุตรผู้เกิดใต้ฟากฟ้าเดียวกัน ให้พวกเขาทำแผลก่อนเถิด เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”

สองพี่น้องได้รับอนุญาตให้อยู่ตรงประตูเล็กข้างกำแพง มีหมอยามาช่วยทำแผล ระหว่างห้ามเลือดให้พี่สาว น้องชายที่ดูเหมือนอดอาหารมานานและอิดโรยอย่างมากก็ดื่มน้ำจากถุงหนังอั๊กๆ ขาของเด็กหนุ่มดาร์กเอลฟ์มีบาดแผลโดนฟัน เนื้อเริ่มเน่ากลัดหนองแล้ว

บาคดูแววตาของทั้งคู่ก็รู้ว่าอายุยังน้อย—น้อยเกินไปที่จะเผชิญความโหดร้ายของโลก เขาตัดสินใจเอ่ยปากอยากรับคนน้องไว้ โดยยินดีปันเสบียงส่วนของตนให้ แต่ในใจก็กลัดกลุ้มว่าหากรับมาแค่คนน้อง คนพี่จะอยู่อีกฟากของกำแพงอย่างไร

เด็กหนุ่มพอได้ยินเช่นนั้นก็ปฏิเสธเสียงแข็ง “ข้าจะอยู่กับพี่”

พี่สาวจับมือเขา ลูบหน้าลูบตา นางพูดช้าๆ เหมือนกำลังคุมโทนเสียงไม่ให้สั่นเครือ

“ข้างนอกนั่น พี่ดูแลเจ้าให้ปลอดภัยตลอดไปไม่ได้ แต่เจ้าอยู่ในค่ายจะได้มีที่นอน มีอาหาร หนีไปให้ไกลจากชายแดน...”

“ข้าไม่ไปไหน ข้าไม่อยากปลอดภัยอยู่คนเดียว ข้าอยากอยู่กับท่าน!”

บาคไม่ทราบว่าสองพี่น้องผ่านอะไรมาบ้าง แต่คงทรหดเกินเด็กทีเดียว

“เข้าไปในนั้นข้าก็ต้องกลายเป็นทาส ข้าไม่เป็นทาสของใครอีกแล้ว ได้โปรดเถอะ กวิเนเวียร์”


 

บาคนึกออกจนได้...

ชื่อของพี่สาวที่เด็กหนุ่มหลุดปากเรียก

"ใช่แล้ว...นางชื่อกวิเนเวียร์ แปลว่าสีขาว แต่นางปฏิเสธไม่อยากให้เรียกนามนั้น มันทำให้นางคิดถึงบ้านเกิดมากเกินไป ข้าจึงตั้งชื่อให้นางใหม่ว่าเกวนโดลิน ส่วนโคลด์ เขาไม่ยอมเอ่ยชื่อตัวเอง แต่ดวงตาของเขาทำให้ข้านึกถึงดวงดาวนิ่งสงบเหนือฟากฟ้าแห่งสงคราม ข้าจึงตั้งนามให้เขาว่าโคลด์ สตาร์"

บาคเล่าต่อว่าหลังจากรักษาบาดแผลให้สองพี่น้องเสร็จแล้ว น้องชายยังยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ทิ้งพี่สาว เขาจึงมอบเสบียงอาหารให้ทั้งคู่พอประทังชีวิตอยู่นอกกำแพงไปได้ ยามนั้นมีผู้อพยพมากจริงๆ จะเลือกปฏิบัติมากกว่านั้นก็ลำบาก

ดาร์กเอลฟ์สองพี่น้องเร่ร่อนอยู่ด้านนอกกำแพง แต่บางครั้งก็กลับมา โดยที่กลับมาคือคนพี่ ทุกครั้งก็พาน้องชายซึ่งดูไม่เต็มใจนักมาด้วย

นางขอร้องจนทหารเอลฟ์ยังใจอ่อน พวกเขาไม่เคยพบดาร์กเอลฟ์นิสัยอ่อนโยนเช่นนี้มาก่อน ในที่สุดเมื่อพอมีที่ว่างหลังจากการอพยพคนระลอกแรกเข้าสู่รูเมเรียร์ สองพี่น้องก็ถูกรับเข้ามาในค่าย

หลังจากนั้นเองที่บาคได้รู้จักสองพี่น้องมากขึ้น

และเป็นหนี้ชีวิตในเวลาต่อมา


—————————————————————————

A/N เปิดเผยเรื่องของเกวนโดลินผู้ลึกลับและถูกเอ่ยถึงมาตั้งแต่บทแรกๆ แล้วค่ะ มีใครคาดไว้แนวนี้บ้างไหมคะ?
ป.ล. บทต่อไปจับตาดูมังกรให้ดี มังกรหล่อค่ะ บอกเลย -3-

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

อัพเดททุกวัน พบกันพรุ่งนี้ค่ะ!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (2) [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: shannara ที่ 13-01-2017 14:05:51
หล่อจนได้เข้าชิงนุ้งโคลมั้ยคะ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (1) [12/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 13-01-2017 17:09:40
ซิกฟริดกำลังทำอะไรอยู่ ซับซ้อนเกินไปแล้ว อ้ากกก ซึนอย่างนี้ไม่ดีนะ เดี๋ยวมาลแกธทำแต้มนำนะ55 #ชูธงมาแกล
ท่านหญิงก็อีกคน ร้ายมากอ่ะ ปล่อยโคลด์เค้าน้า โคลด์เลือดขึ้นหน้าเลยน่ากลัวจัง แต่ก็ชอบที่โคลด์แทงหัวใจมังกรทิ้งอ่ะ แบบคลูๆดี ในเมื่อไม่ให้ตามคำยองก็ทำลายทิ้ง ชอบๆมากเลย เรื่องนี้เขียนความสัมพันธ์ตีวละครดีมากเลยค่ะ  เป็นกำลังใจให้นะคะ คนเขียนขยันอัะพมากเลยชอบๆ จะได้อ่านติดๆกัน ไม่คาดีค่ะ  :mc4:
ตอนนี้เรือมาลแกธฉิวมากค่ะ บอกเลย แต่ซิกฟรีดต้องไม่น้อยหน้าสิ ไม่งั้นเสียทีได้ออกตัวกะบทแรก
เอรี่ก็เป็นเอรี่อะค่ะ ถ้าชอบผู้หญิงฉลาด ไม่วี้ดๆ กรี้ดๆ จะชอบเธอค่ะ
ส่วน Dark Side ของโคลด์...เร้าใจเนอะ *0*
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ อัพทุกวันนะ จุ๊บ -3-


หล่อจนได้เข้าชิงนุ้งโคลมั้ยคะ
 :hao7:
ไม่สปอยๆๆๆ ไม่สปอยเนอะ รออ่านเองได้อรรถรสกว่าเนอะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (2) [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 13-01-2017 22:22:11
สนุกมากค่ะ หาแนวนี้อ่านยากพอสมควรเลย
ไม่รู้จะเม้นอะไรเพิ่มดีเลย 55555555

// แอบกระซิบว่า จริงๆเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยชอบฉาก(เฉพาะ*แบบนั้น*) ของ ช-ญ เท่าไหร่ ปกติก็มักจะเลื่อนไปไม่อ่าน แต่นี่อาจจะเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ยอมอ่าน(ถึงจะต้องเลื่อนไปเร็วๆหน่อยก็ตาม) แล้วก็คิดไม่ผิด ถ้าเราไม่อ่านคงพลาดอะไรไปแล้วแน่ๆ

*แม้จะอยากตบนังเอรี่ก็ตาม*


พระ-นายเรื่องนี้ใจเด็ดกันทั้งคู่เลย // ปาดเหงื่อ

แต่ชอบตรงความสัมพันธ์ระหว่างโคลด์กับอิล เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก

รอติดตามโคลด์ ตอนต่อไปนะคะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (2) [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 13-01-2017 23:48:30
พอบอกมังกรหล่อนี่นึกถึงมังกรเรื่องฮอบบิทที่ป๋าเบนพากษ์เสียง 5555 จำได้ตอนนั้นไปดูเพราะมังกรเลย
อยากรู้ว่าราชาคิดจะทำอะไรต่อไปกะโคล์ด เป็นคนเดียวรึเปล่าที่ยังเชียร์ ซิกกะโคล์ดอยู่
เกลียดและหมั่นไส้ซิกมาก แต่ก็ยังเชียร์ งงๆตัวเอง55555
 :z3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (3) [14/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 14-01-2017 11:31:26
บทที่ 5 : หากมีรัก (3)

ซิกฟรีดฟังจนจบ

“บาค…” ราชาเอลฟ์ระบายลมหายใจ “ท่านช่วยข้าได้มาก...มากจริงๆ”

โคลด์ไม่เคยพูดถึงพี่สาวเลยตลอดระยะเวลาสิบปีที่อยู่ด้วยกันในอาศรม แต่ก็ไม่แปลก...โคลด์ไม่เคยพูดเรื่องของตัวเอง และอันที่จริง...แม้เคยนอนร่วมเตียง เขาทั้งคู่ก็ไม่เคยพูดคุยหรือถามไถ่เรื่องของกันและกันแม้สักครั้ง

“แล้วเกวนโดลินตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนเสียละ”

“เรื่องนั้น...เกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งสองเข้ามาอยู่ในค่ายผู้อพยพได้ไม่นาน” บาคมีท่าทางลังเล คล้ายไม่แน่ใจว่าควรเล่าต่อหรือไม่

"ข้าพบโคลด์ตอนที่ข้าอายุได้เก้าขวบปี” ซิกฟรีดเปิดเผยก่อน “เขาช่วยข้าจากปากสุนัขป่า ตอนนี้ข้าต้องการช่วยเขาจากตัวเอง หรือบางที...พี่สาวของเขาอาจช่วยเจรจาให้สถานการณ์ดีขึ้นได้”

บาคสลดลง มันยังคุกเข่า “ข้าไม่แน่ใจนักว่าหากเล่าไปแล้วจะเกิดผลเช่นไรต่อพวกเขาพี่น้อง แต่ข้าชรามากแล้ว กวีชราอยู่เพื่อบอกเล่าความงดงามของโลก” แววตาของเซ็นทอร์ใสเหมือนเด็กแรกเกิด “ทว่าสิ่งที่ข้าจะเล่า...นั้นทั้งอัปลักษณ์และงดงาม”

ซิกฟรีดผายมือให้เล่าต่อ

“โคลด์เป็นเด็กเงียบขรึม ตอนเข้ามาอยู่ในค่ายเขาอายุราวสิบสอง ส่วนเกวนโดลินอายุสิบแปด ยังเด็กตามที่ข้าคาด ช่วงแรกโคลด์แทบไม่แตะอาหาร โดยเฉพาะอาหารปันส่วนจากเอลฟ์ เขาจึงผอมแทบเหลือแต่กระดูก ถ้าพี่สาวไม่บังคับก็ไม่กิน” มีความชื่นชมเกวนโดลินแฝงในน้ำเสียงของเซ็นทอร์

ซิกฟรีดหัวเราะในลำคอ “ขออภัย โคลด์ที่ข้ารู้จักต่างจากที่ท่านเล่า เขาช่างพูด ข้าใช้สายตาปรามให้เขาหยุดพูดบ่อยๆ แต่เขาไม่หยุด เขาก็ชอบกวนประสาทข้า”

“เวลาอาจทำให้เขาเปลี่ยนไป” เซ็นทอร์รำพึง

“ไม่” ซิกฟรีดทิ้งมุมปากลงเล็กน้อย ก่อนพูดเสียงเบาเหมือนพูดกับตัวเอง “เขาแค่โกหกเก่ง”

บาคมีสีหน้าหนักใจ “นอกจากเข้าถึงยากแล้วเขาก็เป็นเด็กดี แต่คงเพราะเสียพี่สาวไป...ซึ่งนั่นถือเป็นความรับผิดชอบของข้าที่ไม่อาจปกป้องนาง”

"โคลด์เสียเกวนโดลินไปได้อย่างไร"

บาคห่อไหล่ อดีตนักรบห่อไหล่ บอกถึงน้ำหนักความรู้สึกผิดในใจมัน “เพราะมีมังกรมาบุกค่าย...ไม่ใช่มังกรธรรมดาที่เคยปรากฏตัวมาก่อน ขนาดของมังกรตัวนั้นใหญ่มหึมามหาศาล เกล็ดทั่วร่างเหมือนเกราะเหล็กดำของนักรบ ดั่งเกราะชั้นสูงอันประณีตเป็นเอกสำหรับผู้ยิ่งใหญ่ในสงคราม แรงลมจากปีกแผ่กว้างกวาดหินก้อนใหญ่ปลิวได้เหมือนเป็นแค่เศษดิน เขาคู่ยาวของมันใหญ่โต ใบหน้าน่าเกรงขาม มันพ่นไฟสีฟ้าอมม่วงสวยราวอัญมณีผ่านฟันซี่คมเต็มปาก ไฟของมันทรงพลังอย่างไม่มีผู้ใดเคยพบเห็น ขนาดทำให้ร่างทหารที่ถูกเผากลายเป็นเถ้าในพริบตาเดียว จนถึงตอนนี้ข้าพระองค์ยังจำภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นได้ มันมาแค่ตัวเดียวแต่ถล่มป้อมพังราบคาบ จุดทุกอย่างลุกโชนในกองเพลิง”

บาคกำหมัด

“ทว่ามันไม่ได้มาทำลายป้อมหรือฆ่าอย่างเกรี้ยวกราดเพียงอย่างเดียว มันเหมือนกำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่ด้วย ตอนนั้นข้ากำลังพาเกวนโดลินกับโคลด์หนี จู่ๆ มันก็หันมาทางพวกเราโดยไม่สนใจผู้คนหนีตายกลุ่มอื่น ข้าสบตามัน ดวงตาสีทองเยือกเย็นอย่างนักปราชญ์ แต่ก็ขาดความเมตตาอย่างยิ่งยวด

มันตรงเข้ามาหาพวกเรา ข้าตัวแข็ง ก้าวขาไม่ออก คิดว่าคงกลายเป็นเถ้าเมื่อมันอ้าปาก...เป็นเกวนโดลินที่เตือนสติข้า นางให้ข้าอุ้มโคลด์แยกกันหนีไปคนละทาง ข้าที่เป็นนักรบได้แต่กลัวหัวหด วิ่งหนีมาโดยไม่กล้าหันกลับไปมอง แต่เสียงลมหายใจสัตว์ร้ายที่ค่อยๆ ห่างออกไปทำให้ข้าทราบว่ามันไล่ตามเกวนโดลิน นางวิ่งล่อมันให้ห่างจากโคลด์และข้า...และนางก็ไม่ได้กลับมาอีก”

เซ็นทอร์น้ำตาไหล ยกสองแขนอย่างขออภัยโทษ

“นี่คือความอัปยศของข้าและความเสียสละของนาง เด็กสาวคนหนึ่งสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยชีวิตข้าและน้องชายของนาง ข้ายังจำแรงดิ้นของโคลด์ที่ร้องหาพี่สาวอย่างบ้าคลั่งได้ไม่มีวันลืม เมื่อมังกรจากไป เขาก็เอาแต่พลิกซากค่ายตามหานาง จนหมดแรงก็นั่งเหม่อลอย ไม่พูดจา”

ซิกฟรีดเงียบไปนานทีเดียว เขาเอาข้อนิ้วกดริมฝีปาก ครุ่นคิด “เขาตามหานางงั้นหรือ”

ตอนนั้นโคลด์อายุสิบสองปี…

ดาร์กเอลฟ์อายุสิบสองปีหนีตายกับพี่สาว

หลังจากนั้นพี่สาวก็หายไปไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย

ท่ามกลางไฟสงครามและความโศกเศร้า

โคลด์ สตาร์...ไม่น่าจะมี ‘คนรัก’ อย่างที่เคยอ้างกับเขาได้เลย แต่ก็ยังไม่อาจตัดความเป็นไปได้ว่าทั้งสองอาจไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ...

อย่างไรก็เถอะ กอห์นดีเอนทำงานได้ดี ไม่นึกเลยว่าเขาจะพบ ‘หัวใจ’ ของโคลด์ได้เร็วถึงเพียงนี้

“หลังจากนั้นโคลด์ก็ได้พบท่าน ติดตามท่านไปเมืองหลวง ข้าคิดว่านั่นเป็นโชคดีของเขาแล้ว มาได้ข่าวอีกทีเขากลับกลายเป็นนักโทษความผิดอุกฉกรรจ์...” บาคหมอบกราน “ข้าพระองค์หวังว่าท่านจักทรงเมตตาเขาอย่างที่บอก ข้าไม่อาจข่มตานอนหลับโดยรู้สึกผิดต่อเกวนโดลินมากไปกว่านี้”

“ถ้าตัดเรื่องหนีความผิด โคลด์ก็สบายดี แข็งแรงขนาดที่ล้มมังกรศิลาและทหารของเราได้สบายๆ” ราชาเอลฟ์เอ่ย “มีอะไรที่ข้าพอจะตอบแทนท่านได้บ้าง”

"ข้าเพียงอยากกลับไปชายแดน ยังมีลูกศิษย์อีกมากรอข้ากลับไปสั่งสอนวิชาให้พวกเขา” บาคไม่เพียงสอนลูกมนุษย์หรือเซ็นทอร์ เขายังสอนเด็กๆ เผ่าดาร์กเอลฟ์...ซึ่งล้วนเป็นลูกหลานทาส อุทิศตนเพื่อผู้อพยพอย่างอุตสาหะ

เซ็นทอร์เองก็เป็นเผ่าพันธุ์ที่หยิ่งในศักดิ์ศรี เขาอาจทำทั้งหมดเพื่อให้ความผิดในใจเบาบางลง

ซิกฟรีดไม่ประหลาดใจนัก "ไม่มากไปกว่านี้หรือ"

บาคส่ายศีรษะ

“อืม” ราชาเคาะนิ้วกับพนักวางแขนเบาๆ “ข้าจะให้คนเตรียมเสบียง เสื้อผ้า ยารักษาโรคและน้ำสะอาดสักหลายคันรถให้แก่ท่านก็แล้วกัน ให้เอากลับไปฝากที่ชายแดน ถือเสียว่าเป็นสินน้ำใจที่ท่านอุตส่าห์เดินทางไกลมายังเอวา เธมาร์”

"เป็นพระกรุณาอย่างหาที่เปรียบมิได้"

ซิกฟรีดยังเอ่ยถึงเรื่องอื่นเหนือจากความคาดหมายของบาค “ค่ายเป็นอย่างไรบ้าง บาค รองรับผู้อพยพได้อยู่ไหม”

“เมืองที่ข้าอาศัยอยู่ห่างจากค่ายผู้อพยพไปไม่เท่าไหร่ มีพื้นที่กว้างขวางปลอดภัยให้ขยายเมืองออกไปได้อีก หากสามารถขยายเมือง ทุกคนรวมถึงผู้อพยพก็จะอยู่สบายขึ้น แต่พื้นที่นั้นขาดระบบชลประทานที่ดี เราพยายามสร้าง ทว่ายังเกินกำลังไปมากโข”

ซิกฟรีดพยักหน้า “ข้าจะจัดการให้”

“ขอบพระทัย ท่านช่างเมตตาเหมือนอดีตราชาเฟรธูริน—พระเชษฐาของท่านมากทีเดียว”

ใบหน้าของราชาเอลฟ์ดูโศกเมื่อได้ยินชื่อของพระเชษฐาองค์โต

“ถ้าพี่ของข้ายังอยู่ เขาจะช่วยเหลือพวกเจ้าได้มากกว่านี้”

ซิกฟรีดยืนขึ้น “ขอบใจสำหรับความช่วยเหลือ บาค” เขาเดินลงจากบัลลังก์ หวังจะออกไปสูดอากาศสักครู่ หลังจากนี้เขาต้องชิงเวลา เรื่องที่เขาทราบ เอริแอดเน่ย่อมทราบ

พี่หญิงยอมถอยออกไปโดยง่าย อาจเพราะหาข่าวจากทางอื่นได้แล้วกระมัง...ซิกฟรีดคิด อย่างไรนางก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นสตรีชาญฉลาดผู้เหมาะสมกับตำแหน่งราชินีมากที่สุด...ไม่ใช่แค่เหมาะสมกับราชาองค์เดียว แต่กับราชาถึงสามองค์ด้วยกัน

นางอาจลงมือล่วงหน้าไปก่อนแล้วเสียด้วยซ้ำ

"ข้าต้องบอกความจริงกับท่านข้อหนึ่ง” คิงซิกฟรีดที่อยู่ต่อหน้าบาคผู้นี้ดูราวกับเป็นคนละคน ดวงตาเย็นชาในขณะเดียวกันก็แข็งกร้าว มุมปากทั้งสองข้างเหยียดออก “ข้าไม่เหมือนคิงเฟรธูริน หัวใจดีงามเสี้ยวสุดท้ายของข้า...ถูกดาร์กเอลฟ์ที่ท่านเอ็นดูคนหนึ่งขโมยไปเสียแล้ว"

บาคยิ่งหมอบอย่างหวาดเกรง

——————————————————

โคลด์พาอิลมาเรเดินทางไปทางตะวันตก มุ่งสู่ทิศที่ตั้งดินแดนทมิฬ

สำหรับอิลมาเร ทุกวันผ่านไปด้วยความกังวล เธอเป็นห่วงโคลด์ เพราะเขามีแต่เงียบลงๆ จนบางวันไม่เปิดปาก

เช้ามืดวันที่ห้า ดวอร์ฟสาวตื่นไวกว่าปกติ เธอมุดตัวออกจากถุงนอนหนังสัตว์พลางหาวหวอด เห็นกองไฟซึ่งมอดดับไปแล้ว เมื่อคืนนี้โคลด์เป็นเวรเฝ้ายามช่วงเช้า เขาคงเป็นคนดับไฟ

อิลมาเรตั้งใจจะไปล้างหน้าล้างตา เธอเดินงัวเงียนำซิการ์—หมาป่ายักษ์ไปด้วยเพื่อให้มันได้กินน้ำ แคมป์อยู่ไม่ไกลจากลำธาร เดินครู่หนึ่งก็ถึงริมฝั่งน้ำ

ที่นั่น อิลมาเรพบโคลด์ทำเรื่องน่าตกใจอยู่

"อย่า!"

เธอเข้าไปดึงแขน ห้ามไม่ให้เขาใช้มีดกรีดหน้าอกตัวเอง โคลด์เปลือยอกอยู่ เขากรีดผิวเนื้อบริเวณรอบตราทาสเสร็จแล้ว บนผิวสีเข้มมีเลือดผุดตามรอยกรีดเป็นเส้นคมกริบ

"ไม่เป็นไร" โคลด์เทยาชาใส่แผลแล้วกระชากผิวหนังส่วนนั้นออกโดยไม่ฟังเสียงห้าม ตรากริชประทับอยู่บนแผ่นหนังสีม่วงอมเทาชุ่มเลือด

โคลด์ถลกหนังตัวเอง


—————————————————————————

A/N จะว่าไงดี ความเกลียดเอลฟ์ของโคลด์มีมานานแล้วนะคะ เขาแค่กดมันไว้นานมาก แล้วก็ไม่เปิดเผยความรู้สึกของตัวเองเป็นสิบปี พอได้เปิดเผยมันเลยระเบิดไม่หยุด รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ป.ล. ถามว่าเกลียดถึงขั้นไหน...ก็...ขั้นถลกตราทาสออกเองแบบข้างบนน่ะค่ะ

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

อัพเดททุกวัน! ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์นะคะ <3  :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (2) [13/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 14-01-2017 16:21:50
สนุกมากค่ะ หาแนวนี้อ่านยากพอสมควรเลย
ไม่รู้จะเม้นอะไรเพิ่มดีเลย 55555555

// แอบกระซิบว่า จริงๆเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยชอบฉาก(เฉพาะ*แบบนั้น*) ของ ช-ญ เท่าไหร่ ปกติก็มักจะเลื่อนไปไม่อ่าน แต่นี่อาจจะเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ยอมอ่าน(ถึงจะต้องเลื่อนไปเร็วๆหน่อยก็ตาม) แล้วก็คิดไม่ผิด ถ้าเราไม่อ่านคงพลาดอะไรไปแล้วแน่ๆ

*แม้จะอยากตบนังเอรี่ก็ตาม*


พระ-นายเรื่องนี้ใจเด็ดกันทั้งคู่เลย // ปาดเหงื่อ

แต่ชอบตรงความสัมพันธ์ระหว่างโคลด์กับอิล เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก

รอติดตามโคลด์ ตอนต่อไปนะคะ  :bye2:
โคลด์เอ่ยขอบคุณที่เข้าใจเขา "ข้าก็คิดว่าแนวนี้ไม่ค่อยมีคนอ่านเหมือนกัน
แต่คนเขียนของข้านางอยากเขียน ก็หวังว่านางจะไม่จนเหมือนข้า" แอสซาสซินพูดหน้านิ่ง
ป.ล. ข้ารักอิลมาเร นางเป็นเพื่อนที่ดี

พอบอกมังกรหล่อนี่นึกถึงมังกรเรื่องฮอบบิทที่ป๋าเบนพากษ์เสียง 5555 จำได้ตอนนั้นไปดูเพราะมังกรเลย
อยากรู้ว่าราชาคิดจะทำอะไรต่อไปกะโคล์ด เป็นคนเดียวรึเปล่าที่ยังเชียร์ ซิกกะโคล์ดอยู่
เกลียดและหมั่นไส้ซิกมาก แต่ก็ยังเชียร์ งงๆตัวเอง55555
 :z3:
อื้อหือ มังกรพี่เบนเราก็รักค่ะ มังกรอะไรเสียงหล่อ ละลาย ยิ่งดูคลิปที่แกแสดงแคปเจอร์โมชั่นแล้ว สุดยอดมากกกก
กลับๆ ไปไกลละ...ติ่งแตกค่ะ
ซิกฟรีดมีคนเชียร์อยู่น้า แต่นิสัยเขากับโคลด์ทำให้แล่นเรือยากจริงค่ะ ได้ยากๆ บางทีก็ลุ้นดีนะคะ ;)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (3-4) [14/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 14-01-2017 18:13:29
บทที่ 5 : หากมีรัก (4)

อิลมาเรพูดต่อไม่ออก หน้าชาไปหมด เธอมองภาพนั้นด้วยความเศร้า หวาดกลัว แต่ความรู้สึกรุนแรงที่สุดคือความเสียใจ

โคลด์โยนแผ่นหนังที่เพิ่งดึงออกมาลงพื้นเหมือนมันเป็นขยะชิ้นหนึ่ง เขาใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดรอบบาดแผลอย่างไม่เร่งรีบ ทว่าเมื่อพันแผลเสร็จ รอยเลือดที่ผุดซึมขึ้นมาจากผ้าพันแผลสีขาว...กลับเป็นรอยตราทาสรูปกริชดังเดิม

อิลมาเรน้ำตาร่วงผล็อยๆ ซึ่งก็สมควรร้อง เธอเห็นเพื่อนถลกหนังตัวเองต่อหน้าโดยที่เข้าใจว่าทำไปเพราะอะไร แต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้

อิลมาเรก็คงเต็มกลืน

โคลด์นิ่งอีกสักพักจึงเรียก "มานี่มา...อย่าร้อง" เขาวางมือบนหัวดวอร์ฟสาว แขนอีกข้างวางพักไว้เพราะยกไม่ขึ้น

"เราเป็นคู่หูกัน” เขาบอก

อิลมาเรพยักหน้า

“ข้าไม่อยากมีมันติดตัวแล้ว”

อิลมาเรพยักหน้าอีก

“แต่ดูเหมือนมันไม่หายไปง่ายๆ แค่ลอกเนื้อออก”

อิลมาเรระเบิดเสียงร้องไห้โฮ

“ข้าขอโทษ…” โคลด์เสียใจ ทว่าในใจยังเต็มไปด้วยความเกลียดชังตราทาส ยิ่งท่าทางภายนอกของเขานิ่งสงบมากเท่าไหร่ พายุแห่งความชังภายในใจยิ่งพัดโหม

ตั้งแต่ทำลายหัวใจมังกรศิลาแล้วหนีมา เขามั่นใจว่าจะถูกตามล่า แต่เขาจะไม่ยอมตายหรือยอมโดนจับกลับไปลงโทษ

เขาพบคนที่เขาตามหาแล้ว

เกวนโดลิน...เขากำลังจะไปหาเธอ

หากเอลฟ์กล้าขัดขวาง เขาจะล่าพวกมัน

————————————————————————-

มาลแกธขยับนิ้วเล่นกับผีเสื้อไฟตัวน้อย มันบินล้อขึ้นลงไปตามการเคลื่อนไหว ปีกปัดผ่านผิวเนื้อ อ่อนโยนเท่าที่ไฟจะอ่อนโยนได้ วูบเดียว...ผีเสื้อก็พลิ้วปีกไป ก่อนที่จะเกิดอันตรายใดๆ แก่เจ้านายผู้สร้างมันขึ้นมา

“ท่านมาลแกธ เช้านี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ขอรับ” เอลฟ์ตะวันออกฟังรายงานจากลูกน้องคนสนิท เขาตามโคลด์เจอในที่สุด ความจริงแล้วเขาควรออกคำสั่งให้จับโคลด์กลับเอวา เธมาร์เดี๋ยวนั้น แต่สิ่งที่เขาทำคือให้ตามห่างๆ

และไม่มีการส่งสารบอกความคืบหน้าถึงซิกฟรีดแต่อย่างใด

เดเนธอร์—ลูกน้องคนสนิทพูดรายงานไป ลอบสังเกตหัวหน้าไป

ท่านมาลแกธไม่ฟังข้าเลย...

เดเนธอร์เป็นหนึ่งในหน่วย ‘กาลาฮาน’ หรือหน่วยชำนาญการพิเศษที่มาลแกธตั้งขึ้น นอกจากนี้ เขายังเป็นรุ่นแรกที่เข้ารับการฝึก และเป็นคนแรกที่ผ่านด่านฝึกโหดหินมาได้ มาลแกธจึงคล้ายเอ็นดูเป็นพิเศษ เวลามีอะไรก็จะมาถามความเห็นบ้าง ซึ่งเดเนธอร์ไม่เคยแน่ใจเลยว่ามาลแกธถามจริงๆ หรือถามทดสอบ...หรืออาจถามไปอย่างนั้นเอง

ตอนที่ได้รับคำสั่งจากคิงซิกฟรีดให้จับดาร์กเอลฟ์ หัวหน้าถามเขาว่า ควรทำอย่างไรกับหน่วยอสรพิษจากอิซิลดาร์ของท่านหญิงเอริแอดเน่ดี

 

“ควรทำอย่างไรน่ะหรือขอรับ” เดเนธอร์อยู่ในลานฝึกอาวุธ เขาได้เป็นครูฝึกอาวุธลับให้หน่วยชำนาญการพิเศษ

“หน่วยอสรพิษตามเราไปแน่ๆ” มาลแกธลูบปาก พูดเสียงต่ำเหมือนคุยกับตัวเองมากกว่า “เจ้าคิดว่าอย่างไร”

“อา…” เขาคิดว่าคงดีไม่น้อย อย่างไรจุดมุ่งหมายก็คือจัดการดาร์กเอลฟ์ เรื่องแบบนี้ไม่ควรคิดมากว่าจะถูกขโมยผลงาน

แต่ระดับท่านมาลแกธกลัวถูกขโมยผลงานหรือ...ไร้สาระน่า เดเนธอร์

เขากำลังจะอ้าปาก แต่มาลแกธขัดเสียก่อน “แยกเป็นสองกลุ่ม หน่วยจริงกับหน่วยหลอก ไว้ล่ออสรพิษไปทางอื่น เจ้าคัดมาสักคนที่รูปร่างพอๆ กับข้าให้เป็นหัวหน้าหน่วยหลอก เจ้าตามข้าทันใช่ไหม”

“ขอรับ” เดเนอร์พยักหน้า

...แต่ท่านมาลแกธทำไปเพื่ออะไรขอรับ

ยังไม่ทันเอ่ยถาม หัวหน้าก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนอีกครั้ง “ดี ข้าขอหน่วยละห้าคน หน่วยจริงมีข้า มีเจ้า ที่เหลืออีกสามคนเจ้าคิดจะเสนอใคร”

เดเนธอร์เอ่ยชื่อมือดีไปสี่ห้าชื่อ

“เอาที่ว่าไปอยู่หน่วยหลอก” มาลแกธตัดสินใจรวดเร็ว “ส่วนหน่วยของข้า...อืม”

แล้วท่านมาลแกธก็เลือกทหารในหน่วยเองโดยที่เขาแอบคิดในใจว่า

ท่านมาลแกธไม่ฟังข้าเลย...


 

“ขอบใจสำหรับรายงาน เดเนธอร์”

ลูกน้องคนสนิทน้อมศีรษะรับ “หน่วยล่ออสรพิษยังไม่ตอบกลับมาขอรับ”

“เงียบไว้ก่อน อย่าทำให้อสรพิษตื่น” มาลแกธขังผีเสื้อไฟไว้ในกรงนิ้วทั้งห้า ปีกของมันขยับช้าๆ เขากำมือเพื่อดับไฟ

“ขอรับ” เดเนธอร์เอ่ยก่อนถอยออกมา เขารู้สึกว่าตั้งแต่เกิดเหตุชิงหัวใจมังกรศิลา หัวหน้าดูเงียบขรึมผิดปกติ อาจเป็นเพราะโดนเจ้าดาร์กเอลฟ์นั่นหักหลัง หัวหน้าไม่เพียงช่วยมันล่ามังกรศิลา แต่ยังเป็นผู้รับรองให้มันเข้ามาในราชวัง เป็นใครก็เจ็บใจทั้งนั้น

ยิ่งคิดยิ่งทำให้เดเนธอร์ไม่พอใจเจ้าดาร์กเอลฟ์ตนนี้ โดยส่วนตัวแล้วเขาไม่ได้เหยียดชาติพันธุ์ แต่เพราะเรื่องชิงหัวใจมังกรนี่ละ ที่ทำให้เดเนธอร์เริ่มคิดว่าสันดานดาร์กเอลฟ์คงเป็นอย่างใครเขาว่าจริงๆ

ขนาดสัตว์ยังรู้คุณเลย...ดาร์กเอลฟ์

เดเนธอร์ส่ายหน้าเหนื่อยหน่าย เขากลับไปซุ่มดูดาร์กเอลฟ์ ดวอร์ฟ และสุนัขป่าจากที่ไกลๆ ตามเดิม

———————————————————————————-

เมื่อใกล้ถึงจุดหมาย โคลด์บอกแยกทางกับอิลมาเร

“เจ้าไปตามถนนนี้อีกหน่อยก็ถึงเมือง คนในกิลด์พ่อค้าใต้ดินมารออยู่แล้วใช่ไหม”

“อืม...” อิลมาเรอยู่บนหลังซิการ์ กำขนหมาป่าสีเทาเงิน ดีที่ไม่ดึงขนมันหลุดเป็นกระจุกเหมือนช่วงวันแรกๆ “ต้องแยกกันจริงสิ”

“เจ้าไปกับข้าไม่ได้ ข้าเป็นนักโทษของทางการ เส้นทางหลังจากนี้ก็อันตราย เจ้าคงต้องค้าขายอยู่ใต้ดินไปสักพัก” โคลด์มอบทรัพย์สินในธนาคารใต้ดินทั้งหมดของเขาให้อิลมาเร และนั่นไม่มีปัญหาในการเบิกถอนเลย เพราะธนาคารใต้ดินของเขาก็คือตัวอิลมาเรเองนั่นแหละ

"ข้าขอโทษอีกรอบ เจ้าทำการค้าลำบากแล้ว"

"พูดมากน่า" ดวอร์ฟสาวชูไม้ชูมือ “ข้า ท่านอิลมาเร! ไม่สิ้นไร้ไม้ตอกขนาดมีตลาดขายของได้แค่แห่งเดียว ที่จริงข้าก็เบื่อค้าขายในเมืองเอลฟ์แล้ว ข้าจะไปรีดเงินจากเมืองอื่นบ้าง"

ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่อิลมาเรก็รั้งรอ ไม่ยอมแยกไปเสียที ซ้ำยังพยายามชวนโคลด์ให้ไปด้วยกันแม้รู้ว่าเขาจะไม่ไป

"เจ้าเข้าเมืองไปเถิด เราต้องแยกกันตรงนี้แล้วจริงๆ" โคลด์กอดเพื่อนรักของเขา

“ข้าจะได้เจอเจ้าอีกมั้ย…” อิลมาเรกอดตอบ โคลด์บอกแค่ว่าเขาจะไปตามหาคนที่ชื่อเกวนโดลิน แต่ไม่บอกรายละเอียดอื่นๆ อีกตามเคย

“ถ้าข้ายังรอด ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ข้าจะหาทางติดต่อเจ้าเอง”

“ข้ารู้ว่าเจ้าจะหาข้าเจออยู่แล้ว ก็เราเป็นคู่หูกันมาตั้งนาน” อิลมาเรน้ำตาซึม เธอให้ซิการ์ออกเดิน แต่ก็หันกลับมามองโคลด์เป็นระยะ

“ถ้าข้ายังรอด...เราจะได้เจอกันอีก”

โคลด์รำพึงเหมือนย้ำกับตัวเอง เมื่ออิลมาเรขี่หมาป่ายักษ์ลับสายตาไป เขาเองก็หายตัวไปจากจุดที่ยืนอยู่เช่นกัน

——————————————————————

"ท่านมาลแกธขอรับ..."

มาลแกธกำหมัดยกขึ้น หมายความว่า ‘ไม่ต้องพูดอะไร ข้าเห็นแล้ว’

หน่วยของเขาซุ่มดูโคลด์มาหลายวันแล้ว วันนี้เป็นวันแรกที่เป้าหมายมีการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ โคลด์แยกกับอิลมาเร การที่โคลด์ตัดสินใจเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร

อาจเป็นต้องการพาดวอร์ฟหนี จนมั่นใจว่าพ้นหูพ้นตาเอลฟ์แล้วค่อยแยกกัน

หรือโคลด์รู้ตัวว่าถูกตาม จึงแยกทางกันเพื่อให้อิลมาเรมีโอกาสหนีมากขึ้น

อย่างไรเป้าหมายก็คือโคลด์ ไม่ใช่อิลมาเร

มาลแกธพยายามเข้าใจความคิดของโคลด์ สตาร์

"เจ้าตามดวอร์ฟ” เขาสั่งเดเนธอร์ “ที่เหลือจงมากับข้าสองคน...เจ้ากับเจ้าก็แล้วกัน" มาลแกธเลือกลูกน้องที่เชี่ยวชาญการยิงธนูคนหนึ่ง กับเชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดอีกคนหนึ่ง

เดเนธอร์สังหรณ์ไม่ดี แต่จะใช้มันเป็นเหตุผลรั้งหัวหน้าคงแปลก สุดท้ายจึงทำตามคำสั่ง

จะว่าไป กลุ่มที่รับหน้าที่ล่อหน่วยอสรพิษของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ก็เงียบหาย...

บิดาแห่งนภาโปรดอวยชัย อย่าให้เกิดเหตุเลวร้ายขึ้นเลย เดเนธอร์เหลือบมองเบื้องบน

แสงอาทิตย์คล้ายจะย้อมท้องฟ้าให้เป็นสีเลือด

 

โคลด์วิ่งขึ้นเขา เขามั่นใจแล้วว่ามีคนตามมาจริงๆ ในการหลบหนีตลอดหลายวันมานี้เขาจับสัมผัสได้บางเบา และระวังตัวอยู่ตลอดเวลา กระทั่งเมื่อสักครู่ยิ่งจับสัมผัสได้ชัดเจน

มาจับกลับไปลงโทษงั้นเหรอ โคลด์คิด...ยิ้มแย้มอยู่ใต้ฮู้ด ริมฝีปากสีม่วงอ่อนบิดเบี้ยวเพราะกลั้นเสียงหัวเราะ ก็ดี...ข้าเองก็เบื่อพวกเอลฟ์เต็มที

ใจจริง โคลด์นึกเป็นห่วงอิลมาเร แต่คิดอีกทีเขาย้อนกลับไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ทางนั้นน่าจะตามล่าตัวเขาเป็นหลักมากกว่า

ดังนั้น…แค่ทำให้พวกมันตามต่ออีกไม่ได้เสียก็สิ้นเรื่อง

โคลด์ใช้ยาชาอีกสองขวดราดแผลเพื่อให้เคลื่อนไหวคล่องตัว แผลที่เพิ่งถลกหนังตัวเองมีแต่เลือดซึมออกมา เขาเทยาชาไปก็พึมพำว่า "แผลแค่นี้จะอะไรนักหนา"

เมื่อไม่มีอิลมาเร โคลด์ก็ยิ่งเย็นชา


—————————————————————————

A/N ตอนนี้แนะนำหน่วยของมาลแกธกับพวกลูกน้อง ซึ่งเอลฟ์แต่ละคนฝีมือดีนะคะ และเคารพรักมาลแกธมาก ถ้าเรื่องไม่เครียดคงมีบทแซวละว่า มาลแกธเปลี่ยนฮาเร็มจากอาศรมควาร์มาเป็นหน่วยกาลาฮาน XD
ป.ล. ตอนหน้ามาลแกธปะทะโคลด์แล้วค่ะ

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

วันนี้อัพ 2 ตอนเพราะกิจกรรมโบนัสวันหยุดในเพจ FB ค่ะ ;) กิจกรรมยังไม่จบนะคะ ทุกๆ 100 Likes ลงเพิ่ม 1 ตอนจ้า

>> หน้ากิจกรรม-คลิก <<
 (https://www.facebook.com/ILLREI/photos/a.330032970382369.94378.149095125142822/1350208248364831/?type=3&theater)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (3-4-5) [14/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 14-01-2017 20:17:20
บทที่ 5 : หากมีรัก (5)

อยู่ๆ ร่องรอยของดาร์กเอลฟ์ก็หายไป ผู้ติดตามทราบเช่นกันว่าแอสซาสซินหยุดเคลื่อนไหวเพื่อหลบซ่อนตัว

มาลแกธหรี่ตา ส่งรหัสมือเพื่อออกคำสั่งให้แยกกันอย่างเงียบเชียบแล้วดึงผ้าคลุมหน้าลง

มาลแกธหรือ...

โคลด์ซ่อนอยู่บนที่สูง เขาเห็นมาลแกธสั่งให้ทหารเอลฟ์สองคนแยกกันตามหา ดวงตาสีม่วงเข้มหรี่ลงอย่างปรีดา ในใจคิดแค่ว่า

‘ซ้าย’ หรือ ‘ขวา’ ดี

 

สัมผัสของอีกฝ่ายที่เขาจับได้ขณะนี้ เป็นสัมผัสเยียบเย็นของ ‘นักฆ่า’

ไม่ใช่โคลด์

ไม่มีโคลด์ที่เขาคิดว่าตัวเองรู้จัก

มาลแกธดึงผ้าคลุมหน้าขึ้นตามเดิม โคลด์เห็นเขาแล้ว เขาค่อนข้างแน่ใจ แต่ดูเหมือนใบหน้านี้จะใช้เจรจาไม่ได้

อย่างนั้นก็ไม่เป็นไร ข้าจะถือว่าเราไม่รู้จักกันชั่วคราว

 

จะทำให้นักล่าเลิกตามได้อย่างไร วิธีง่ายที่สุดอยู่ตรงหน้า โคลด์เลือกนักธนูเป็นเป้าหมายแรก เพราะถ้าเลือกนักดาบก่อน อาจถูกนักธนูยิงใส่ระหว่างประมือ

เมื่อเห็นว่าทั้งสามคนแยกกันมาคนละทางได้พอสมควร อาวุธลับไร้ที่มาก็ถูกซัดใส่นักธนูอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทำให้เกิดเสียงดังไปกว่าเสียงใบไม้แห้งหลุดจากขั้ว ร่วงสัมผัสผืนป่า

ที่ดังคือเสียงร่างนักธนูยามร่วงลงไปกองกับพื้น

ความอำมหิตของดาร์กเอลฟ์ปักเข้ากลางหน้าผากเอลฟ์ เล็งจุดตายอย่างไร้ความลังเล

ในที่สุด โคลด์ สตาร์ แอสซาสซินผู้ถือคติว่า ‘จะไม่ทำงานที่ไม่ได้เงิน’ ก็ฆ่าคนโดยไม่ได้เงินเป็นครั้งแรกนับแต่ประกอบอาชีพมา เพราะเขามีสิ่งที่สำคัญกว่า

และจะไม่ให้เอลฟ์หน้าไหนมาขัดขวาง!

เสียงร่วงของนักธนูทำให้นักดาบที่อยู่ใกล้กว่าตรงเข้ามา โคลด์ยืนเหนือร่างไร้ชีวิตของเพื่อนมันเพื่อให้เห็นว่าเขาเป็นคนฆ่า เขายิ้มให้นักดาบแล้วก้าวถอยหลัง ใช้ต้นไม้กำบังก่อนนักดาบที่โกรธจัดจะพุ่งเข้ามาถึงตัว

นักดาบคล้ายสู้กับเงาที่เคลื่อนไหวรวดเร็วจนมองตามไม่ทัน มันรู้สึกถึงอันตรายจากด้านหลัง จึงหันไปใช้ดาบรับมีดของแอสซาสซินได้ทัน

ทว่านั่นเป็นแค่ตัวล่อ จังหวะเดียวกับที่มันรับมีด ก็ถูกมีดอีกเล่มปักเข้าที่คอ

ระดับมันต่างกัน แอสซาสซินตนนี้ถนัดกระทั่งการใช้มีดสองมือ

โคลด์เก็บมีดสั้นในมือขวา แล้วดึงบีฟอร์ซในมือซ้ายออกโดยไม่ใช้เวทเยือกแข็ง เลือดจากคอของทหารเอลฟ์จึงพุ่งเป็นสายใส่หน้าเขา

ระหว่างที่ร่างของมันล้มลงไปชักกระตุก โคลด์เอาฮู้ดลง ใช้แขนเสื้อเช็ดเลือดออกจากหน้า ไม่ให้เลือดเข้าตา เขาเล็งจุดตายอีกครั้งด้วยความเกลียดชังอันเหมือนลูกธนูพุ่งจากคันธนู

ยิงออกไปแล้วไม่มีเอาคืน

โคลด์เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรอยู่ การฆ่าของเขาไม่มีความรีบร้อนเจือปน ทว่าเยือกเย็นถึงขีดสุด

เหลืออีกคนเดียว...

โคลด์เก็บมาลแกธไว้เป็นคนสุดท้ายเพราะสู้ด้วยยากที่สุด เขาหลบเร้น ไม่ออกมาปะทะซึ่งๆ หน้า

 

ขณะที่แอสซาสซินกำบังตนในเงาไม้ หัวหน้าหน่วยกาลาฮานกลับออกมาที่แจ้ง

มาลแกธกระชับดาบวงพระจันทร์เตรียมพร้อม มันเป็นดาบคู่ ใบดาบโค้งเหมือนจันทร์เสี้ยว มีตัวอักษรที่คล้ายอักขระสลักอยู่เต็มไปหมด หากเพ่งดูใกล้ๆ จะพบว่าเป็นรายชื่อ

 

“นี่ๆ ทำไมดาบของท่านมาลแกลถึงมีตัวอักษรยึกยือเขียนเต็มไปหมดเลยเจ้าคะ” อิลมาเรถามระหว่างมาลแกธทำความสะอาดดาบวงพระจันทร์ เธอพอรู้จักตัวอักษรของเอลฟ์รูเมเรียร์ แต่ตัวอักษรบนดาบแค่คล้ายกัน ไม่ใช่แบบภาคกลางเสียทีเดียว

“รายชื่อที่มันได้ดื่มเลือดกินวิญญาณอย่างไรละ นี่...เอ็ดราฮิล ล็องธู ญาติข้าที่ได้รับเกียรติให้เป็นรายชื่อแรก ส่วนนี่ฟินดิส ยาห์ดีร์ ตระกูลที่เก่งแต่ปาก...”

มาลแกธร่ายไปเรื่อยๆ ส่วนอิลมาเรก็หน้าซีดลงๆ แม้จะพยายามยิ้มแจ่มใส

“เชื่อหรือ ข้าล้อเล่นน่า”


 

มาลแกธเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหว ตั้งแต่เขาสั่งให้ลูกน้องแยกกัน เขารับความเสี่ยงว่าจะต้องเสียทั้งคู่ไป แต่ไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้

อันที่จริง เขายังหวังลึกๆ ว่าโคลด์จะไม่ลงมือฆ่า...

“อิลมาเรอยู่กับข้า”

เอลฟ์ตะวันออกเอ่ยเสียงดังพอที่อีกฝ่ายจะได้ยิน เขาสั่งให้เดเนธอร์ตามล่าอิลมาเรแล้วคุมตัวไว้ โดยให้เหตุผลกับลูกน้องคนสนิทว่า ‘เผื่อใช้งานได้’

ซึ่งน่าจะได้ใช้งานจริงๆ

“เจ้าสังหารลูกน้องสองคนของข้า ข้าขอเรียกคืนเพียงขาสองข้างของดวอร์ฟ”

“อ้อ…” โคลด์ที่เงียบมาตลอดเอ่ยปาก “พวกเอลฟ์มันเลวเหมือนกันหมดจริงๆ” เสียงของดาร์กเอลฟ์ดังก้องไปก้องมา ยังจับทิศทางที่มาของเสียงไม่ได้

มาลแกธกระตุกยิ้มเมื่อทำให้โคลด์เปิดปากได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การเจรจา...ไม่หรอก เขาพูดในสิ่งที่ทำให้โคลด์เดือด ใครจะอยากเจรจากับคนที่ขู่ว่าจะตัดขาเพื่อนของตนกัน

“พวกเจ้าตามล่า ข้าสู้กลับ พอสู้ข้าไม่ได้เลยรังแกผู้หญิง” โคลด์เอ่ยเยือกเย็น

“เจ้าจะว่าอย่างไรก็ได้ ข้าหน้าทน”

“เจ้าไม่ได้หน้าทน เจ้ามันกลับกลอก ไม่มีหัวใจ สุนัขรับใช้พระราชา” โคลด์ไม่ปิดบังความในใจอีก เขาขาดกับซิกฟรีดและมาลแกธตั้งแต่ขโมยหัวใจมังกรศิลา

“เจ้าคิดอย่างนี้มาโดยตลอดหรือนี่ แต่ก็อีก สุดท้ายเจ้าก็วกไปหาเขา แม้กระทั่งเวลาที่ด่าข้า”

“ในอาศรมมีควาร์กี่คนมายืนร้องไห้หน้าห้องเจ้า มาตามดูเจ้าตอนสอนวิชาข้า เจ้าเคยเช็ดน้ำตาให้พวกเขาไหม ไม่ เจ้าแค่ยิ้มให้ แล้วควาร์หน้าโง่พวกนั้นก็ยิ้มร่า”

มาลแกธคิดว่าสถานการณ์เช่นนี้ตนไม่ควรยิ้ม แม้คำพูดของโคลด์จะชวนให้คิดว่ากำลังตัดพ้อเพราะหึงหวงก็ตาม

“เราจะไม่ขุดสันดานข้ามาขายเวลานี้ เจ้าออกมาเถอะ มาคุยกัน หรือหากต้องการเชือดคอข้าก็ให้ออกมา”

“คิดว่าข้าไม่ทราบหรือว่าเจ้าเก่งกว่า” โคลด์ตอบ แปลว่าเขาไม่คิดออกไปให้เสียเปรียบ “ซิกฟรีดส่งเจ้ามาตามจับข้า เขาให้เอาหัวกลับไป หรือเอาตัวกลับไปแยกหัวออกทีหลังล่ะ”

“ข้าตั้งใจว่าจะให้เจ้าหนีหากมีโอกาสเหมาะ” มาลแกธย่อตัวลง แล้ววางดาบวงพระจันทร์ช้าๆ

“งั้นก็ออกจากป่าไปสิ โอ ไม่สิ ข้าปล่อยเจ้าไปไม่ได้หรอก เจ้าจับอิลมาเรไว้และตั้งใจจะตัดขาของนาง ข้ายังไม่ลืมที่เจ้าพูดเมื่อสักครู่” วิธีการพูดจาของโคลด์ก็เปลี่ยนไป มันเสียดสี ประชดประชันทุกถ้อยคำ

“ข้าไม่อาจปล่อยเจ้าไปโดยที่ไม่ได้คุยกัน” มาลแกธยืนขึ้นอ้าแขนออก ในมือปราศจากอาวุธ “ข้ายอมตัดขาดวอร์ฟเพื่อให้ได้คุยเลยเอ้า”

แม้นิสัยจะชอบพูดล้อเล่น ทว่าตั้งแต่รู้จักกันมา (หรือ ‘คิด’ ว่ารู้จักกันมา) นี่เป็นครั้งแรกที่มาลแกธล้อเล่นรุนแรง

เขาลองขยี้จุดอ่อนของโคลด์ซ้ำอีก โคลด์เจ็บ และอาจโกรธ ซึ่งมันจะนำไปสู่ความมุทะลุ ไม่รอบคอบเวลาต่อสู้

มีเสียงหัวเราะก้องไปทั่วป่า มาลแกธไม่เคยได้ยินโคลด์ สตาร์ หัวเราะแบบนี้มาก่อน มันเต็มไปด้วยความชิงชัง

ดาร์กเอลฟ์เดินออกมาจากหลังต้นไม้ในระยะคุมเชิง เขายืนตรง สองมือกระชับมีดสั้นไขว้กันในท่าพร้อมโจมตี เล่มหนึ่งในนั้นคืออันที่มาลแกธเอาไปซ่อมให้ด้วยซ้ำ

“งั้นข้าจะจับเจ้า ตัดขาเจ้า ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” สันดานดาร์กเอลฟ์เป็นเช่นนี้

“ไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือ”

“ไม่มี” ท่าทางของโคลด์แสดงให้เห็นว่าเขาไม่เชื่อคำพูดของมาลแกธ “เจ้าใช้เสน่ห์ของเจ้ากับดาร์กเอลฟ์ไม่ได้หรอก เอลฟ์ สิ่งที่ข้าทำไปร้ายแรงแค่ไหน ข้าทราบ หากคิดว่าทั้งที่ทราบแล้วข้ายังเพ้อฝันเชื่อคำหวานหูของเจ้า เจ้าก็ดูถูกข้า”

ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาหลายวันที่อยู่กับมาลแกธ แต่เป็นช่วงเวลาหลายปีที่อยู่กับซิกฟรีด เขาปิดบังตัวตนและนิสัยที่แท้จริงมาตลอด ยอมเป็นลาโง่ให้พวกเอลฟ์ตายใจ แต่เวลานี้เขาใกล้หาเกวนโดลินเจอแล้ว เบื่อจะเสแสร้งเต็มที

“ข้าตามเจ้ามาหลายวันที่รัก” มาลแกธเอ่ย “แต่ข้าไม่ลงมือ ทั้งๆ ที่หากอิลมาเรอยู่กับเจ้า ข้าจะลงมือได้ง่ายกว่า เจ้าจะอ่อนกำลังเพราะเสียเวลาปกป้องดวอร์ฟ พะวงหน้าพะวงหลังว่านางจะรอดหรือไม่ แต่ข้ารอให้เจ้าแยกกัน...ทำไมล่ะ โคลด์ สตาร์”

“เจ้าจะโกหกเรื่องนี้ด้วยก็ได้” โคลด์ตอบเฉยชา “ชายที่เลี้ยงดูข้าก่อนจะมาที่นี่สอนให้ข้ารู้จักความร้ายกาจทุกรูปแบบมาแล้ว รวมถึงความร้ายกาจที่แสร้งเป็น ‘ความใจดี’ ”

“เพราะข้าจัดการทำให้เจ้า ‘หนี’ อย่างแนบเนียนได้” มาลแกธพูดด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่ได้โน้มน้าวเป็นพิเศษ “ข้าสั่งลูกน้องที่ภักดีกับซิกฟรีดให้แยกไปตามอิลมาเรสามคน อีกสองคนข้าจะทำให้มันไขว้เขวจนเปิดช่องให้เจ้า แต่ไม่นึกเลยว่า...เจ้าจะเหี้ยมขนาดนี้ ข้าชมนะ”

มาลแกธดูมือทั้งสองข้างของโคลด์กระชับมีดแบบไม่ผ่อนแรง “แต่สงสัยว่าข้าต้องทุบเจ้าให้สลบแล้วมัดไว้ จะได้คุยหาทางออกกันดีๆ กระมัง”

“สุดท้ายเจ้าก็วกกลับมาเรื่องจับข้าไว้อยู่ดี”


—————————————————————————

A/N ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างทำร้ายหัวใจอีกฝ่าย มาลแกธหวังให้โคลด์เป็นเหมือนเดิมมาตลอด แต่โคลด์คนเดิมที่เขาเคยหลงรักนั้น...เหมือนจะไม่มี
ป.ล. มาลแกธใช้กำลังพาโคลด์กลับไปก็ได้ค่ะ อย่างที่บอก ในเรื่องการต่อสู้ จริงๆ มาลแกธเก่งกว่าโคลด์มาก

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

กิจกรรม 'โบนัสวันหยุด' ในเพจ FB ครบ 200 Likes จึงอัพ 3 ตอนใน 1 วันค่ะ!
กิจกรรมยังไม่จบนะคะ สถานีต่อไป 300 Likes! ถ้าทำได้อัพเพิ่มอีกตอน กระซิบว่าเป็นตอนจบของบทนี้ค่ะ
เราจะนอนเที่ยงคืน เพราะงั้นถ้าเลยเที่ยงคืนของวันนี้ไปแล้วไม่นับ Likes แล้วน้า <3

>> หน้ากิจกรรม-คลิก <<

 (https://www.facebook.com/ILLREI/photos/a.330032970382369.94378.149095125142822/1350208248364831/?type=3&theater)
อิมเมจมาลแกธคงราวๆ นี้มังคะ

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/2106872905-member.jpg)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (3-4-5) [14/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 14-01-2017 20:55:16
มาปักหมุดติดตามนิยายด้วยอีกคน

รายชื่อตัวละครทำเอาคิดถึงลอร์ดออฟเดอะริงส์ขึ้นมายิกๆ

คำว่า "ของรัก" ทำเอาคิดว่านางเป็นกอลลัมเลย  :laugh: แต่กอลลัมน่าจะนิสัยดีกว่านางนะ อ่านมาหลายตอนแล้ว ไม่หลงกลว่านางดีแน่ๆ ชะนี 3 ผัว

สนับสนุนให้เอาซิกไปโบกปูนซะอีก 1 เสียง ตัวละครทุกตัวเหมือนจะมีมุมมืดเป็นของตัวเอง ดูมีมิติดี

ยังไงนี่ก็ชุมชนของนิยาย BL การมีตัวละครเพศชายเพศหญิงเป็นตัวละครเด่นมันเป็นเรื่องปกติค่ะ แต่เนื้อหาก็ควรจะเด่นที่ BL ค่ะ คู่ปกติอย่าให้เด่นมากนักค่ะ

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (3-4-5) [14/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 14-01-2017 22:17:05
เป็นรักที่ดูซาดิสเหลือเกิน :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (3-4-5) [14/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 14-01-2017 23:15:26
โคลด์ดูน่ากลัวมาก
และน่าสงสารมากด้วยเช่นกัน

ทุกความสัมพันธ์ในเรื่องนี้ทำให้รู้สึกถึงรสชาติขมปร่าอยู่ในปาก

หวังว่าเอรี่จะไม่ทำร้ายบาคนะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (3-4-5-6) [14/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 15-01-2017 00:09:27
บทที่ 5 : หากมีรัก (6)

มาลแกธยิ้มบางๆ เมื่อได้ยินโคลด์โต้กลับ เขาไม่ได้ตั้งการ์ดหรือตั้งท่าสู้ แต่บรรยากาศรอบตัวกลับไว้ใจไม่ได้

แม้จะเสียลูกน้องฝีมือดี ทว่าเลือดในกายของมาลแกธกลับระอุขึ้นด้วยความตื่นเต้น เขาสัมผัสได้ว่าเทพีแห่งสงครามทรงยินดีที่บุตรชายไม่ลืมพระองค์

เอลฟ์ตะวันออกมักจะอายุสั้น เนื่องจากมีสงครามในตระกูลและระหว่างตระกูลเสมอ สำหรับพวกเขา สันติมีไว้สำหรับผู้ที่หมดอาลัยตายอยากในชีวิตเท่านั้น

ทว่ามาลแกธอยู่รอดมาได้ถึง 279 ปี ลือกันในตระกูลล็องธูว่าเขาสมควรตายตั้งแต่อยู่ในท้องมารดา เนื่องจากบิดาบังคับให้เธอกลืนพิษเพื่อขับทารกนอกสมรสออก แต่เขาไม่ยอมให้เทพแห่งความตายพาตัวไป ลือกันอีกว่าเสียงร้องแรกของเขาคือเสียงสาปแช่งบิดาให้สิ้นลมอย่างไร้เกียรติ

หลายปีต่อมา มาลแกธ ล็องธูสังหารบิดา เหนือซากศพเขาประกาศว่า “ข้าคือบุตรของเทพแห่งความตายและเทพีแห่งสงคราม”

“ข้าตั้งใจจะช่วยเจ้าจริงๆ” มาลแกธย้ำ

“อุตส่าห์วางแผนช่วยข้าขนาดนี้ ฟังเหมือนเจ้าหลงรักข้าอยู่จริงๆ เลยนะ” โคลด์เยาะ

“กฎข้อแรกของแอสซาสซินที่อยากมีชีวิตอยู่นานๆ คือ ‘อย่าไว้ใจใคร’ ” มาลแกธยิ้ม “ส่วนกฎข้อแรกของเอลฟ์ตะวันออกที่อยากตายเร็วก็...เอาเป็นว่า ข้าจะเฉลยให้เจ้าฟังทีหลัง”

โคลด์หัวเราะ แต่ที่ต้องจับตาดูให้ดีคือภาษาร่างกายของเขา หัวไหล่เกร็ง หลังเท้ายกขึ้น พริบตาเดียวก็พุ่งเข้ามา เขาเตะอาวุธของมาลแกธออกไปก่อน ไม่ให้อีกฝ่ายมีโอกาสหยิบขึ้นมา

มาลแกธคิดว่าโคลด์ต้องรอบคอบ

โคลด์รอบคอบเสมอ เขาไม่อยากนึกในเวลานี้ แต่ภาพโคลด์บ่นอุบอิบข้างสนามประลองในอาศรมกลับผุดขึ้นมา เขาโน้มลงไปฟัง ได้ยินว่า

 

“ทำไมบุกเข้าไปเล่า เขาเปิดช่องว่างชัดขนาดนี้ต้องเป็นกับดักแน่ๆ ควาร์วางแผนไม่เป็นหรือ”

“อย่างนั้นหรือ แต่ข้ากลับชอบที่เขากล้าเสี่ยงนะ”

มาลแกธออกความเห็น

“เจ้าจงระวังพลาดพลั้งเพราะรอบคอบเกินไปละ”


 

ทันทีที่โคลด์เข้าประชิดตัว มาลแกธใช้ ‘จังหวะรอบคอบ’ ของโคลด์บุกกลับ เขาหลอกโคลด์ด้วยการขยับร่างกายด้านซ้าย คล้ายจะเอื้อมหยิบอาวุธ แต่กลับตอบโต้ด้วยอาวุธในมือขวา

มีดสนับมือเล่มเล็กเล็งเข้าที่ชายโครง

โคลด์หลบทันฉิวเฉียด แต่เขาได้เลือด เสื้อเนื้อหนาขาดพร้อมเนื้อบางส่วน ประมาทมาลแกธไม่ได้จริงๆ

"พวกเอลฟ์มันมดทหาร ถ้าข้าฆ่าเจ้าก่อนส่งสาร ก็ไม่มีใครสั่งการพวกมันตัดขาอิลมาเร" ดวงตาสีม่วงของโคลด์ซีดลงและใสเหมือนน้ำแข็งเย็นเฉียบ

มาลแกธยิ้ม "ถ้าเจ้าพูดจริงทำจริง ข้าคงสองใจระหว่างดีใจที่เจ้าเป็นแอสซาสซินที่ดี กับเสียใจที่มองเจ้าพลาดไป"

"ดาร์กเอลฟ์กลับกลอก เป็นหนูสกปรก เจ้าควรฟังที่เอลฟ์ตนอื่นพูด"

ในอดีต ควาร์หลายคนเตือนมาลแกธว่าดาร์กเอลฟ์เชื่อใจไม่ได้ อย่าสอนวิชาให้ แต่มาลแกธไม่สนใจ ซ้ำยังงัดเอาอาวุธแปลกๆ มาสอนโคลด์เป็นประจำ

"ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าเป็นแบบที่คนอื่นว่า"

"ไม่" โคลด์แทงมีดไม่ยั้ง เขายิ้มกว้างขึ้นและกว้างขึ้นอีก ทั่วร่างอาบรังสีสังหารดุเดือด "ข้าเป็นยิ่งกว่าที่พวกมันว่า!"

มาลแกธตั้งรับ เขาทราบว่าตัวเองใจไม่แข็งพอที่จะแทงโคลด์ ทุกครั้งที่สบโอกาส เขากลับชะงักไปหนึ่งจังหวะ

ทว่าโคลด์ไม่ทันสังเกตจุดนั้น เขาแบ่งสมาธิระวังไฟของมาลแกธพร้อมๆ กับอาวุธชิ้นอื่นที่อาจซ่อนอยู่

ความเกลียดชังเอลฟ์มากมายขนาดนี้ของโคลด์มีที่มาจากไหนกัน จากการเป็นทาส หรือมีมาก่อนหน้านั้นอีก

โคลด์หลุดปากพูดถึงชายที่เคยเลี้ยงดูเขามา คำพูดสั้นๆ ประโยคนั้นอาจเกี่ยวข้องกับความเกลียดชังนี้

มาลแกธรู้สึกเหมือนตนเป็นที่ระบายความเกลียดชัง เขาเลิกบุก และกลายเป็นฝ่ายตั้งรับโดยสมบูรณ์เมื่อเห็นว่าโคลด์กลายเป็นหมาบ้า

“เอาละ ข้าจะเฉลยให้ว่ากฎข้อแรกของเอลฟ์ตะวันออกที่อยากตายเร็วคืออะไร”

มาลแกธยกสนับแขนขึ้นกันมีดที่หวังแทงลงมา เขาโยกตัวหลบมีดอีกเล่มที่ตวัดจะแทงลำตัว ก่อนจะฉวยโอกาสเตะ ทว่าโคลด์ไม่รอบคอบอีกต่อไปแล้ว ดาร์กเอลฟ์ยอมรับลูกเตะนั้น พร้อมกระโจนเข้าใส่

โคลด์ขึ้นคร่อมมาลแกธ กดแขนเข้าที่คอ อีกมือยกมีดค้างไว้ เขาหอบหายใจแรง ซี่โครงที่โดนเตะอย่างจังเมื่อสักครู่น่าจะหักสักท่อนสองท่อน

มาลแกธประมาทโคลด์ เขานึกทบทวนว่าทำไม เพราะเขาดูถูกฝีมือของโคลด์หรือ—ไม่

แต่เพราะเขาคิดว่าโคลด์จะ ‘เชื่อใจ’ ตนต่างหาก

เขาประมาทอย่างให้อภัยไม่ได้ เพราะหลงนึกไปว่าโคลด์ สตาร์ ผู้เกลียดชังเอลฟ์จะยกให้เขาเป็นข้อยกเว้น

เห็นได้ชัดว่าไม่

“ก่อนมารดาข้าหมดลม นางเพียรขอบิดาข้า ให้ข้าได้พบนางเป็นครั้งสุดท้าย แต่บิดาข้าไม่อนุญาต ความจริงข้าอยู่ในคฤหาสน์นั่นละ แต่ถูกขัง ออกไปไม่ได้”

มาลแกธต้านแรงโคลด์ที่อยากฆ่าเขาใจแทบขาด

“นางจึงฝากคำสอนผ่านข้ารับใช้ เป็นกฎข้อแรกและข้อเดียวของเอลฟ์ตะวันออกที่ข้าจำมาปฏิบัติตามจนทุกวันนี้”

ลูกเอย

“ลูกเอย”

กฎข้อแรกของเอลฟ์ตะวันออกที่อยากทิ้งชีวิต

“กฎข้อแรกของเอลฟ์ตะวันออกที่อยากทิ้งชีวิต”

คือ…

“จงมีความรัก”

แล้วมาลแกธก็ได้เห็นโคลด์คนเดิมยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ

“ถ้าเจ้ารักข้าจริง...” โคลด์ก้มลง ใช้ปากเคลียปากมาลแกธโดยไม่ผ่อนแรงกดที่แขน นี่เป็นจูบแรกที่เขาตั้งใจมอบให้กับมาลแกธ...เป็นการทำความรู้จักกันผ่านริมฝีปาก โคลด์จูบด้วยความอาลัยอาวรณ์กว่าที่ตัวเองคาด และเมื่อจูบเสร็จ เขาเงยหน้า จ้องตา

มือของมาลแกธอ่อนแรงเมื่อได้รับสัมผัสที่หวามในอก หูอื้อไปชั่วขณะ เขาไม่ได้ยินคำพูดของโคลด์ด้วยซ้ำ...เป็นเช่นนี้เองหรือมารดา

“ถ้าเจ้ารักข้าจริง จงตายเสียเถิด”

สีหน้าของโคลด์กลับมาเย็นชา เขาแทงมีดเข้าที่คอของมาลแกธ ทว่าอีกฝ่ายยังไม่ตายทันที

โคลด์ตัดสินใจฆ่ามาลแกธ...เพื่อเกวนโดลิน เขาต้องไปหาเธอ จะให้ใครมาขัดขวางหรือรู้ว่าเขากับเกวนโดลินอยู่ที่ไหนไม่ได้...ที่เขาทิ้งซิกฟรีดตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน ก็เพื่อเกวนโดลินเช่นกัน

น้ำตาหยดหนึ่งไหลจากหางตาของมาลแกธ เขาสำลักเลือด คำพูดต่อไปจึงออกมาอย่างยากลำบาก

“ซิกฟรีด...เชื่อ...ในสันติ”

"ด้วยการกดขี่สร้างทาสหรือ กฎหมายใหม่อะไรกัน ก็แค่เรื่องเดิมๆ ที่เปลี่ยนวิธีการเรียก" โคลด์ลุกยืน ให้เวลาอดีตอาจารย์พูด

“เขา...ถูก...สาป นี่ไม่ใช่...ซิกฟรีด ถ้าข้าตาย มันจะหวนกลับมาไม่ได้แล้วโคลด์ สตาร์"

"ข้าจะไม่ฝังศพให้เจ้า" โคลด์บอก ดวงตาไร้แววจ้องนิ่งไปที่มาลแกธ

มาลแกธท่องเวทของควาร์ พยายามเร่งให้เลือดแข็งตัว เขาจะตายไม่ได้ ไม่ใช่เพื่อซิกฟรีดแต่เพื่อโคลด์ และเพื่อบ้านเกิดของตน

ทว่าภาพตรงหน้ากลับพร่าเลือน เสียงทุกเสียงค่อยๆ เบาลงจนในที่สุดก็เงียบสนิท ริมฝีปากของมาลแกธหยุดขยับ เวทของควาร์สิ้นฤทธิ์

ความมืดกดให้เขาจมดิ่ง ลึกลงไป...ลึกลงไป จากนั้นก็หยุด เขายืนอยู่กลางความมืดเวิ้งว้าง ตาบอดสนิท ทว่าเขาไม่หวาดกลัว

ใครเล่าจะหวาดกลัวบิดาตน

เทพแห่งความตาย

‘ลูกยังไม่อยากตาย’
มาลแกธกระซิบ รู้สึกถึงมือที่ลูบศีรษะอยู่ เขาทราบว่าตัวเองถูกห่มคลุมด้วยปีกสองข้างของเทพแห่งความตาย

โดยไร้คำตอบ ริมฝีปากเย็นเยียบจุมพิตหน้าผากเอลฟ์ตะวันออกอย่างแผ่วเบา

เขาหลับตาอย่างสงบ

 

โคลด์มองมาลแกธที่แน่นิ่งไปแล้ว เขามองมีดที่ยังปักคาอยู่บนคอมาลแกธ จุดที่เขาแทงคือบริเวณช่องว่างระหว่างคอกับไหปลาร้า ที่จริงเขาควรแทงทะลุเส้นเลือดใหญ่กลางลำคอ อาจเพราะซี่โครงที่หักทำให้เขาแทงพลาด ไม่ก็แทงได้ไม่เต็มแรง…

ข้าอยากซื้อเวลาตายให้มาลแกธหรือ? อยากสนทนาเป็นครั้งสุดท้ายหรือ? มีเหตุผลอะไรที่ข้าไม่อยากลงมือสังหารในดาบเดียว…

โคลด์นึกถึงตอนที่เขายอมเปิดปากบอกเรื่องตัวเองกับมาลแกธ

“ข้าไม่อยากคิดอีกแล้ว!” โคลด์ตะโกนลั่นป่า เขาระบายความอึดอัดออกมาเป็นเสียง

โคลด์จะดึงมีดออก ถ้าดึงออกมาลแกธจะเสียเลือดปริมาณมหาศาล ไปพบบิดาแห่งความตายไวขึ้นอีก

แกว๊ก!

จู่ๆ ป่าที่เคยเงียบก็เต็มไปด้วยเสียงร้องอันสับสน เสียงนกแตกฮือจากทุกทิศดังประสานกับเสียงสุนัขป่าหอน ฝูงกาขานรับเสียงฟ้าร้อง ขณะที่แร้งพร้อมใจกันสะบัดปีกพั่บเพราะได้กลิ่นของความตาย

เสียงเหล่านั้นทำให้โคลด์ตัวแข็งไปชั่วขณะ กว่าจะรู้ตัวว่ามีเสียงแซ่กๆๆ เข้ามาใกล้ เขาก็หันไปเห็นประกายสีเงินพุ่งเข้าสู่สายตา

ลูกธนูเอลฟ์หมายจุดตายของโคลด์ มันรุนแรง เกรี้ยวกราด ไร้หัวใจ...เช่นเดียวกับที่โคลด์ลงมือกับมาลแกธ

โคลด์ได้ยินเสียงนกร้องอีกรอบ...


—————————————————————————

A/N บทนี้เป็นบทที่เราเขียนโคลด์ไปก็พูดไม่ออก คุณ FOULSOUL เขียนมาลแกธไปก็พูดไม่ออก มันบีบคั้นหัวใจ แงงงงงงงงงงงงงงงงง แงๆๆๆๆๆๆ
ป.ล. 1 อย่าลืมว่าในโลกนี้ เอลฟ์และดาร์กเอลฟ์เกลียดกันแบบไม่เผาผี โคลด์ฆ่ามาลแกธและเอลฟ์อีก 2 คน หน่วยกาลาฮานที่เหลือไม่ปรานีโคลด์เท่าซิกฟรีดกับมาลแกธแน่นอนค่ะ
ป.ล. 2 อย่าเพิ่งตีคนเขียนที่เขียนออกมาแบบนี้น้า รออ่านบทต่อไปก่อนจ้า

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

กิจกรรม 'โบนัสวันหยุด' จบลงแล้ว คุณทำได้ค่ะ! ครบ 300 Likes แล้ว!!! เย้ๆๆๆ
(อัพ 4 ตอนรวดเลย แงๆๆ สต๊อกนิยายของเค้า)
นิยายจะมาอัพต่อวันจันทร์ที่ 16 ม.ค. นะคะ
ส่วนคอมเมนต์ต่างๆ อ่านหมด แต่ขอมาทยอยตอบนะคะ งานเยอะจริงๆ ค่ะช่วงนี้ ฮือๆ
ป.ล. อีกรอบ อย่าเพิ่งตีเราน้าาาาาา


แล้วเจอกันตอนต่อไปค่ะ :)

(https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/55/2d/dc/552ddc83b9be8311c54fbe22a25e39a6.jpg)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (3-4-5-6) [15/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 15-01-2017 00:46:58
อื้อหือออ บทนี้นี่สะเทือนหัวใจจริงงจริงงงง มาลลลแกธธ เธอจะไม่ตายใช่ไหมม เพราะเธอเป็นตัวเอกก เธอจะตายก่อนไม่ได้นะ (ต้องอยู่ลวนลามโคลด์ต่อนะ T_T)

ปล.ไหนๆก็เขียนให้นุ้งโคลด์โหดขนาดนี้แล้วเขียนให้บุกไปฆ่าอิคิงกับท่านหญิงด้วยได้เปล่าคะ (ความแค้นส่วนตัว 5555555)

ปล.2 ขอบคุณมากค่ะที่จัดกิจกรรมให้เราได้อ่านเรื่องนี้เพิ่มขึ้น ^^
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (3-4-5-6) [15/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 15-01-2017 03:58:01
ไรต์ ถ้ามาลแกธตาย เลิกอ่านนนนนจริงด้วย
เตรียมย้ายของกลับบ้านนนนนนนนนน  :ling1:
ไม่เอายังงี้นะ เค้าไม่เอาอ่ะ ไม่ชอบเลย :hao5: :ling3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (3-4-5-6) [15/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 15-01-2017 10:29:32
อ่านบทนี้แล้วรักมาลแกธเลย จากตอนแรกที่เฉยๆมาตลอด กลายเป็นตัวละครที่โคตรมีมิติ
ตอนแรกรู้สึกว่าโคล์ดฆ่ามาลแกธไปก็ไม่เป็นไร ดูโคล์ดนางก็กล้าทำอยูแล้ว แล้วตามสไตล์ก็เป็นคนใจเด็ด ทำจริงๆก็ไม่ผิดคาด

แต่พอมาลแกธจะตายก็เสียดายเลย สมมติถ้าตายจริงๆ อุตส่าห์เล่าเกริ่นปูเรื่องตัวละครมาขนาดนี้ ไม่น่าจะมาสังเวยชีวิตกับอะไรเล็กๆแบบนี้เลย
แถมลุ้นอีก เพราะตอนตายมาแกธมันยังไม่อยากตายอะ พูดเหมือนตัวเองไปต่อได้อีก มีบทบาท แล้วความสำคัญยังไม่จบ
กลายเป็นว่าฉากสั้นๆแค่นั้นทำให้เราชอบแล้วก็เชียร์มาลแกธไปซะแล้ว อยากรู้ว่าตัวละครนี้จะทำอะไรอีกต่อไป
แต่เสียดายอย่างเดียว มาลไม่น่ารักโคล์ดมากขนาดนี้เลย เหมือนทั้งชีวิตนี้นางจะบูชาถวายให้โคล์ดเลย เหตุผลที่ไม่อยากตายก็เพราะ "โคล์ด" ดันมาชอบคนที่เอามีดมาปักคอตัวเองซะงั้น โธ่..... มาลแกธ ฉันอยากเห็นเส้นทางที่สดใสของเธอมากกว่านี้ :o12:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (3-4-5-6) [15/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 15-01-2017 10:44:08
โคลด์เป็นคนใจเด็ดจริงๆด้วย พร้อมแอบเหี้ยมเล็กๆ
ชอบตอนที่มาลแกธค้นพบว่าความรักเป็นยังไงมาก
เขาพบความรัก แต่นั่นก็คือจุดจบของเขาเช่นกัน

แต่แอบคิดว่าน่าจะมีเซอร์ไพรส์ รึเปล่า?

#ทีมมาลแกธ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (3-4-5-6) [15/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 15-01-2017 12:27:10
เป็นเรื่องที่ Epic มากจริงๆ
ทำไมถึงเขียนได้สนุกอย่างนี้ ได้อารมณ์แบบนิยายผู้ใหญ่ (ที่ไม่ได้หมายถึงติดเรท) มากๆ เลยครับ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (3-4-5-6) [15/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 15-01-2017 20:49:48
มาลจะตายจริงเหรอ ไม่อยากให้ตายอ่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 5: (3-4-5-6) [15/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 15-01-2017 21:21:23
สงสารมาลแกธ และเชื่อว่าเขาจะไม่ตาย

สงสารโคลด์มาก ๆ ประสบการณ์หล่อหลอมให้จิตใจเหี้ยมเกรียม
ต้องฆ่าเพื่อรอด เพื่อเป้าหมาย

โดดเดี่ยวเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ [16/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-01-2017 11:46:02
บทที่ 6 : ใจแลกใจ (1)

เดเนธอร์จับตัวอิลมาเรได้นานแล้ว เขารอที่จุดนัดพบ แม้ภายนอกจะสงบนิ่ง แต่ภายในกระวนกระวาย เดเนธอร์สวดภาวนาถึงบิดาและมารดานภา จากนั้นจึงสวดขอความกรุณาจากบิดาแห่งวายุ ผู้ที่เขานับถือศรัทธาเป็นพิเศษ ขอให้พระองค์พัดพาคำภาวนาของเขาไปถึงเบื้องบน

ระหว่างรอ บิดาแห่งวายุคล้ายกระซิบบางอย่างกับเขาเป็นพิเศษ แต่เขาไม่ใช่ควาร์ เขาแปลคำพูดของพระองค์ไม่ออก รู้เพียงว่ามันคือ ‘สังหรณ์’

และเป็นลางสังหรณ์ที่ร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ

ในที่สุด เดเนธอร์ตัดสินใจเชื่อในสังหรณ์นั้น เขาออกตามกลุ่มของหัวหน้า พลางส่งสารไปยังหน่วยลวงให้มาสมทบ

ท่านหญิงเอริแอดเน่จะทราบก็ช่างเถิด ชีวิตดาร์กเอลฟ์จะสำคัญแค่ไหนกัน

เขาทราบดีว่าตัวเองฝ่าฝืนคำสั่งของหัวหน้าทั้งหมด เขาไม่รอ ทั้งยังแหย่อสรพิษให้ตื่น โทษคงหนักแน่ แต่เขายินดีรับ

“เนอร์ดาเนล เจ้าอยู่กับดวอร์ฟรอหน่วยลวง ข้าจะล่วงหน้าไปก่อน” เดเนธอร์เป็นรองหัวหน้าหน่วยกาลาฮาน ยามที่มาลแกธไม่อยู่ เขามีอำนาจสั่งการแทน

“เอานางไปด้วยจะได้เปรียบกว่า” เนอร์ดาเนลเสนอ “เสียงของนางทำให้แอสซาสซินเขวได้”

พวกเขาเฝ้าสังเกตทั้งคู่จนทราบว่ามีความสำคัญต่อกัน

เดเนธอร์มองดวอร์ฟตัวเล็กเท่าเอว เธอถลึงตาเมื่อได้ยินแผนร้ายกาจของเอลฟ์ แต่เพราะถูกมัดตัวมัดปากอยู่จึงออกฤทธิ์ไม่ได้มาก

อิลมาเรถูกพามาด้วยตามที่เนอร์ดาเนลเสนอ

 

เดเนธอร์ให้เนอร์ดาเนลคุมดวอร์ฟตามเดิม ส่วนตนเดินนำหน้า แกะรอยมาเรื่อยๆ

กระทั่งเขาได้พบสิ่งที่ภาวนาอย่างถึงที่สุดว่า ขออย่าให้เกิดขึ้นเลย

เดเนธอร์พบศพของเพื่อนร่วมหน่วย

เขาคุกเข่าลง ตรวจดูสภาพศพ กรามขบกันแน่นจนได้ยินเสียงกรอด

เอลฟ์เดือดดาล

เดเนธอร์วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เขาเงียบเชียบเหมือนลม ไวเหมือนพายุ มือแกร่งคว้าลูกธนูจากกระบอกสะพายหลัง เตรียมพร้อมที่จะล่าดาร์กเอลฟ์

เสียงนกร้องทั่วป่า เดเนธอร์ง้างธนูเล็งไปยังเดรัจฉานที่คร่อมร่างหัวหน้าของเขาอยู่

ลูกธนูพุ่งออกจากแล่ง เฉียบคม เด็ดขาด

มุ่งมาดเอาชีวิตปีศาจดาร์กเอลฟ์

—————————————————————————————————

“โคลด์...โคลด์ ฟื้นสิ อย่าตายนะ ฮือ...อา...เจ้าฟื้นแล้ว”

โคลด์ปรือตา เขารู้สึกตัวด้วยเสียงเรียกแผ่วเบาของอิลมาเร ดาร์กเอลฟ์ขยับตัว แต่เจ็บไปหมดทั้งร่างและพบว่าตนเองถูกมัดอย่างแน่นหนา นอนคว่ำหน้าอยู่

"โคลด์" อิลมาเรเรียกอีก “ดีที่เจ้ายังไม่ตาย ฮือๆ”

นึกออกแล้ว โคลด์คิด...เขานึกออกแล้วว่าทำไมทั้งเขาและอิลมาเรมาจบลงที่นี่

ตอนที่ลูกธนูของเอลฟ์พุ่งเข้ามา โคลด์เบี่ยงตัวหลบจุดตายไปได้ แต่ถูกยิงปักไหล่ ตอนแรกเขาจะหนี แต่เพราะเสียงร้องห้ามเอลฟ์ไม่ให้ยิงเขาอีกของอิลมาเรทำให้เขาชะงัก

เอลฟ์จับอิลมาเรได้แล้ว สิ่งที่โคลด์กลัวลึกๆ ในใจกลายเป็นความจริง…

เขาไม่อาจหนีไปโดยทิ้งอิลมาเร

เอลฟ์ที่ยิงธนูใส่เขาตรงเข้ามา มันฟาดคันธนูใส่หน้าจนเขาหัวแตก หมดสติไป

โคลด์ไม่ทราบว่าตนสลบไปนานเท่าไหร่ เขาพลิกตัวโดยไม่สนใจบาดแผล กดความเจ็บลงไป อิลมาเรถูกมัดเช่นกัน แต่นอกจากสีหน้าอิดโรยแล้วยังดูปลอดภัย ไม่มีบาดแผลภายนอก

...ไม่ถูกตัดขาทั้งสองข้างอย่างที่มาลแกธขู่

อิลมาเรเล่าว่าพวกเราถูกขังอยู่ในกระโจมของเอลฟ์ โคลด์ได้ยินเสียงม้าและเสียงคนพูดคุยกันจากด้านนอก เงาคนร่างหนึ่งอยู่หน้ากระโจม คงเป็นผู้คุม จากนั้นจึงเห็นอีกเงาหนึ่งเดินใกล้เข้ามา ทั้งสองพูดคุยกัน ชั่วอึดใจ หน้ากระโจมก็เปิดออก

เอลฟ์รูปร่างสันทัดตนหนึ่งเดินเข้ามานั่งตรงหน้าโคลด์ ใบหน้าอาจไม่ได้สวยงามเป็นพิเศษ แต่ดวงตาชวนให้นึกถึงลูกแก้วสีฟ้าเกลี้ยงๆ ลูกตาดำตรงกลางซีดจนเป็นสีเทา...พวกเอลฟ์ลูกครึ่งแม่มด

“เดเนธอร์” เอลฟ์แนะนำตัวพอเป็นพิธี “มีดของเจ้าอาบพิษ ข้าต้องการยาแก้พิษ”

“เขาไม่ตายหรือ” คำแรกของแอสซาสซินช่างน่าโดนตบปาก

“ยาแก้พิษ” เดเนธอร์ย้ำคำเดิม

“เขามีลูกน้องไม่โง่ ยังคิดเผื่อว่าถ้าฆ่าข้าแล้วหัวหน้าโดนพิษตายคงตลกพิลึก”

เดเนธอร์สะบัดมือตบปากดาร์กเอลฟ์ “ยาแก้พิษ เจ้าได้ยินชัดแล้ว”

โคลด์เลือดกบปาก อิลมาเรตัวชา

แม้ภายนอกโคลด์ดูสงบนิ่ง แต่ภายในเขาโกรธสุดขีด ไม่ได้โกรธอิลมาเรแต่เป็นพวกเอลฟ์ เขาใกล้จะถึงจุดหมายแล้วแท้ๆ แค่ข้ามเขาไปเท่านั้น!

เดเนธอร์รออย่างอดทน การทำงานครั้งนี้ทำให้มุมมองของเขาที่มีต่อดาร์กเอลฟ์ค่อยๆ บิดเบี้ยวไปทีละน้อย มารดาเฝ้าสอนว่าอย่าตัดสินใครจากรูปลักษณ์ภายนอก จากเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ จากสีผิวหรือเผ่าพันธุ์ แต่กับมัน...แต่กับมัน มารดา

มันท้าทายส่วนที่ดีของลูกจริงๆ


ดาร์กเอลฟ์เป็นเหมือนสัตว์เดรัจฉาน ถ้าไม่ล่ามให้ดีก็จะหลุดออกมาทำร้ายคน

อิลมาเรเห็นแล้วว่าโคลด์โดนริบอาวุธไปหมด รวมถึงขวดยาสารพัดบนเข็มขัดคาดเอว แต่เพราะเอลฟ์ไม่ทราบว่ายาขวดไหนใช้ทำอะไรได้บ้าง จึงต้องมาถามเอากับโคลด์ สัมภาระของเธอก็ถูกริบ ส่วนเจ้าหมาป่าซิการ์ยังปลอดภัยดี

“อย่าตีเขาได้ไหมเจ้าคะ ข้าจะพูดกับเขาเอง” เธอขอ

เดเนธอร์จ้องโคลด์แทบทะลุ ก่อนพยักหน้าให้ดวอร์ฟตัวเล็ก

อิลมาเรเกลี้ยกล่อมอยู่สองสามคำ แต่โคลด์ไม่ยอมตอบ เธอจึงหันมาหาเอลฟ์ “ท่านออกไปก่อนได้ไหมเจ้าคะ ถ้าท่านยังอยู่เขาคงไม่ยอมพูด” ดวอร์ฟสาวสูดจมูก กลัวก็กลัว กล้าก็กล้า ทหารเอลฟ์ผู้นี้ไม่ใจดีเหมือนท่านมาลแกธ

เดเนธอร์จ้องอิลมาเร ยามที่เขาจ้อง เธอรู้สึกเหมือนโดนสาปให้เป็นหิน แต่สุดท้ายเอลฟ์ก็ยอมออกไป ให้เธอได้มีเวลากับสหายชาวดาร์กเอลฟ์ตามลำพัง

“ข้าได้ยินว่าเจ้าสู้กับท่านมาลแกธ…” อิลมาเรเกริ่น แม้จะเห็นสภาพปางตายของมาลแกธมาแล้ว

“ข้าตั้งใจฆ่าเขา” โคลด์ยอมรับ ทว่าหลบตา เขาไม่หลบตาซิกฟรีดหรือมาลแกธ แต่หลบตาอิลมาเร

“แต่เขายังไม่ตาย เจ้ายังช่วยเขาได้”

“ข้าไม่อยากช่วย”

“โกหก”

“ข้าไม่อยากช่วยจริงๆ!” โคลด์เผลอขึ้นเสียง

“ทำไม” อิลมาเรถามต่อ เธอไม่กลัวการขึ้นเสียงของโคลด์ เพราะรู้ว่าอารมณ์ของเขาไม่มั่นคงอยู่

“เขาตายไปดีแล้ว” โคลด์กัดปาก “ข้าอยากให้เขาตาย”

“เจ้ากลัวเขาฟื้นมามองเจ้าด้วยสายตาเกลียดชังเหมือนเอลฟ์ตนอื่นเหรอ” อิลมาเรคู้ตัว แนบหน้าผากกับโคลด์ น้ำตาร้อนๆ จากใบหน้าเล็กๆ เปื้อนแก้มดาร์กเอลฟ์ “ข้าชอบเขา เขาก็ชอบเจ้า เขาใจดีกับเรา เรามีโอกาสช่วยเขาแล้ว อย่าให้เขาตายเลยนะ”

คำพูดของอิลมาเรเรียบง่าย แต่กระตุกหัวใจโคลด์ได้แรงมหาศาล บางครั้งอิลมาเรทำให้เขานึกถึงเกวนโดลิน และครั้งนี้บีบคั้นจนหัวใจเจ็บปวด

เกวนก็จะตำหนิข้าแบบนี้เช่นกัน

“ข้า…”

โคลด์ยังพูดไม่ทันจบก็มีคนเข้ามาในกระโจมอีกรอบ พูดให้ถูกคือพุ่งเข้ามา มันปิดหน้าปิดตามิดชิด ใส่ชุดสีดำรัดกุมตลอดตัว

โคลด์ตอบสนองไวกว่า เขาชนอิลมาเรให้ล้มไปอีกทาง ใช้ไหล่ข้างที่เจ็บรับมีดของคนชุดดำ

“นักฆ่า!” โคลด์เตือนอิลมาเร

อสรพิษพบเป้าหมายแล้ว มันบิดมีดอย่างอำมหิต เรียกเสียงคำรามจากโคลด์ จากนั้นก็ดึงมีดออก หมายจะแทงแสกหน้า

“อย่า!” อิลมาเรพุ่งชนนักฆ่าจากด้านข้าง ทำให้มันเซไป มันจึงหันมาถีบเข้ากลางท้องเธอ

“สารเลว!” โคลด์พุ่งเข้าหานักฆ่าขณะอิลมาเรกระเด็นไปชนกระโจม เขาหลบมีดของมัน กัดมันเข้าที่คอ

แลกกับความหุนหัน โคลด์โดนแทงที่หลัง แต่ยังอยู่ในจุดที่ไม่ถึงชีวิต อาจเพราะนักฆ่าเองก็ตกใจที่โดนกัดคอ

คราวนี้มันไม่ทันได้ดึงมีดออกก็โดนโคลด์กระชากเนื้อที่คอออกมาพร้อมเศษผ้า โคลด์พุ่งเข้าไปกัดต่อโดยมีดยังปักคาหลังอยู่ เขาเล็งเส้นเลือดใหญ่ตรงลำคอ ไม่ให้โอกาสมันรอดชีวิต!

อิลมาเรไม่เคยเห็นโคลด์ยามทำงานแอสซาสซิน แต่มั่นใจว่าเขาไม่บ้าคลั่งขนาดนี้เวลาทำงานแน่

โคลด์สู้ยิบตา เธอเองก็ต้องช่วยเขา แต่เธอขาสั่นจนลุกแล้วล้มไปรอบ

นักฆ่าป่ายมือเปะปะ พยายามดึงมีดออกจากโคลด์ แต่มันตัดสินใจช้าไปแล้ว นักฆ่าปะทะนักฆ่า ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าจึงอยู่รอด!

อิลมาเรเห็นร่างในชุดดำตาเหลือก มันกระตุกแล้วแน่นิ่งไปโดยที่โคลด์ยังกัดคอของมันอยู่

เดเนธอร์ยืนอยู่หน้ากระโจมพร้อมเพื่อนในหน่วย พวกเขาเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในนั้น อสรพิษกำลังทำงานที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งคงเป็นการสังหารดาร์กเอลฟ์

เนอร์ดาเนลซึ่งรับหน้าที่เฝ้ากระโจมและเป็นคนปล่อยให้อสรพิษเข้าไปมองทางเข้ากระโจมอย่างเฉยชา เช่นเดียวกับเอลฟ์ในหน่วยกาลาฮานทุกคน หน่วยลวงอสรพิษรวมตัวกันอยู่ที่นี่ รับรู้ข่าวน่าสลดแล้ว เพื่อนร่วมหน่วยเสียชีวิตสองราย หัวหน้าบาดเจ็บสาหัส จะมีอะไรน่ายินดีไปกว่าปล่อยให้ดาร์กเอลฟ์ซึ่งเป็นตัวการโดนอสรพิษรัดจนตาย

คำสั่งจากราชาระบุชัดว่าให้จับเป็น

ถ้าอย่างนั้น… ‘เกือบตาย’ ก็คงไม่เป็นไร

เดเนธอร์ทราบว่าคนอื่นๆ คิดอะไรอยู่ แต่จะปล่อยให้มันเกือบตายไม่ได้ หัวหน้ายังต้องการยาแก้พิษ ดาร์กเอลฟ์ที่เกือบตายมีประโยชน์มากกว่าดาร์กเอลฟ์ที่ตายแล้วเพียงนิดเดียว

แต่...

ปล่อยให้มันสะบักสะบอมกว่านี้อีกหน่อยก็แล้วกัน


—————————————————————————

A/N บอกแล้วว่าเอลฟ์ไม่ปรานีโคลด์...คือถ้ามองในมุมเอลฟ์ โคลด์ทำแสบจริงๆ ค่ะ ตั้งแต่เรื่องในถ้ำมังกรศิลา เรื่องขโมยหัวใจมังกรศิลา ฆ่าหน่วยกาลาฮาน 2 คน และทำมาลแกธเป็นตายเท่ากัน
ป.ล. ใครดีใจที่เรือยังไม่ล่มบ้าง ฮูเร! ขอเสียง #ทีมมาลแกธ จ้า /ถ้าตายไปจริงๆ เราก็เสียใจค่ะ ;w; /แต่ก็...อยากเป็นลุงมาร์ติน ณ เกมออฟโธรนบ้างเหมือนกันนะ...


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

อัพเดททุกวัน จะมาทยอยตอบทุกคอมเมนต์นะคะ ขอบคุณมากๆ ที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (1) [16/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 16-01-2017 12:01:19
เดเนธอร์บอกว่าแม่สอนไม่ให้มองคนอื่นจากภายนอก แต่เขาเองก็เชื่อคำเล่าลือจนเกิดอคติกับดาร์กเอลฟ์เหมือนกัน เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าโคลด์อาจจะมีเหตุผลในสิ่งที่ตัวเองทำ

เมื่อต้องสู้กัน มีอยู่แค่คนที่รอดกับคนที่ไม่รอด (จะไม่รอดในรูปแบบไหนก็ตาม) มาลแกธคือคนที่ไม่รอดเพราะตัวของเขาเอง

ถ้าลองเปลี่ยนเป็นเดเนธอร์มาแทนที่โคลด์ รู้ว่าตัวเองต้องถูกจับ เชื่อว่าต่อให้คนนั้นเป็นเพื่อนก็คงสู้เต็มที่เหมือนกัน เดเนธอร์กำลังเอาอารมณ์+อคติส่วนตัว มาปนกับเรื่องงาน

คนที่ปล่อยนักฆ่าให้เข้ามาก็เอาอารมณ์ส่วนตัวที่มีต่อมาลแกธมาปนกับงาน ทำนอกเหนือคำสั่ง


ใจนี่ลุ้นให้โคลด์หนีไปสำเร็จจริงๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (1) [16/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 16-01-2017 18:00:25
โคล์ดโหดได้ใจ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (1) [16/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-01-2017 21:57:31
มาปักหมุดติดตามนิยายด้วยอีกคน

รายชื่อตัวละครทำเอาคิดถึงลอร์ดออฟเดอะริงส์ขึ้นมายิกๆ

คำว่า "ของรัก" ทำเอาคิดว่านางเป็นกอลลัมเลย  :laugh: แต่กอลลัมน่าจะนิสัยดีกว่านางนะ อ่านมาหลายตอนแล้ว ไม่หลงกลว่านางดีแน่ๆ ชะนี 3 ผัว

สนับสนุนให้เอาซิกไปโบกปูนซะอีก 1 เสียง ตัวละครทุกตัวเหมือนจะมีมุมมืดเป็นของตัวเอง ดูมีมิติดี

ยังไงนี่ก็ชุมชนของนิยาย BL การมีตัวละครเพศชายเพศหญิงเป็นตัวละครเด่นมันเป็นเรื่องปกติค่ะ แต่เนื้อหาก็ควรจะเด่นที่ BL ค่ะ คู่ปกติอย่าให้เด่นมากนักค่ะ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ อ่านคอมเมนต์แล้วเรานึกถึงเพลงนี้ 'มาลัยสามชาย' เราชอบฟังมาก ฟังๆ ไปก็คล้ายๆ ชีวิตเอรี่ดีค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=oRawOO3lL-M (https://www.youtube.com/watch?v=oRawOO3lL-M)
ส่วนโคลด์ต้องเพลง 'นางทาส' เพราะได้ชื่อเล่นว่าอีเย็นของคุณหลวงซิกฟรีดค่ะ XD

เป็นรักที่ดูซาดิสเหลือเกิน :hao7:
ทั้งขม ทั้งแซ่บ ทั้งหวานค่ะ ดุเดือด (ฆ่า) กันทีเดียว

โคลด์ดูน่ากลัวมาก
และน่าสงสารมากด้วยเช่นกัน

ทุกความสัมพันธ์ในเรื่องนี้ทำให้รู้สึกถึงรสชาติขมปร่าอยู่ในปาก

หวังว่าเอรี่จะไม่ทำร้ายบาคนะ
จริงๆ ก็คือการเผยด้านมืดของโคลด์ออกมานะคะ แต่ใจเราก็ชอบให้โคลด์อึนๆ มึนๆ มากกว่า
แบบนั้นน่ารักกว่า /ซับน้ำตา ถึงจะขมไปนิด แต่อนาคตจะมีอะไรให้ชื่นใจเหมือนฟ้าหลังฝนค่ะ
อ่านกันต่อไปก่อนน้า ;)

อื้อหือออ บทนี้นี่สะเทือนหัวใจจริงงจริงงงง มาลลลแกธธ เธอจะไม่ตายใช่ไหมม เพราะเธอเป็นตัวเอกก เธอจะตายก่อนไม่ได้นะ (ต้องอยู่ลวนลามโคลด์ต่อนะ T_T)

ปล.ไหนๆก็เขียนให้นุ้งโคลด์โหดขนาดนี้แล้วเขียนให้บุกไปฆ่าอิคิงกับท่านหญิงด้วยได้เปล่าคะ (ความแค้นส่วนตัว 5555555)

ปล.2 ขอบคุณมากค่ะที่จัดกิจกรรมให้เราได้อ่านเรื่องนี้เพิ่มขึ้น ^^
นั่นสิ อยู่ (ลวนลาม) กับโคลด์ต่อก่อนๆๆๆ ตอนต่อไปลงแล้วนะคะ ;)
ขอบคุณที่มาร่วมกิจกรรมนะคะ ป๋ามาลแกธได้รับคะแนนไปท่วมท้นจริงๆ บทนี้

ไรต์ ถ้ามาลแกธตาย เลิกอ่านนนนนจริงด้วย
เตรียมย้ายของกลับบ้านนนนนนนนนน  :ling1:
ไม่เอายังงี้นะ เค้าไม่เอาอ่ะ ไม่ชอบเลย :hao5: :ling3:
ว้ายๆ มาๆ อย่าเพิ่งร้อง เค้ามาลงตอนต่อ รับผิดชอบหัวใจแล้ว ;w;
โอ๋ๆๆๆ อ่านก่อนๆ

อ่านบทนี้แล้วรักมาลแกธเลย จากตอนแรกที่เฉยๆมาตลอด กลายเป็นตัวละครที่โคตรมีมิติ
ตอนแรกรู้สึกว่าโคล์ดฆ่ามาลแกธไปก็ไม่เป็นไร ดูโคล์ดนางก็กล้าทำอยูแล้ว แล้วตามสไตล์ก็เป็นคนใจเด็ด ทำจริงๆก็ไม่ผิดคาด

แต่พอมาลแกธจะตายก็เสียดายเลย สมมติถ้าตายจริงๆ อุตส่าห์เล่าเกริ่นปูเรื่องตัวละครมาขนาดนี้ ไม่น่าจะมาสังเวยชีวิตกับอะไรเล็กๆแบบนี้เลย
แถมลุ้นอีก เพราะตอนตายมาแกธมันยังไม่อยากตายอะ พูดเหมือนตัวเองไปต่อได้อีก มีบทบาท แล้วความสำคัญยังไม่จบ
กลายเป็นว่าฉากสั้นๆแค่นั้นทำให้เราชอบแล้วก็เชียร์มาลแกธไปซะแล้ว อยากรู้ว่าตัวละครนี้จะทำอะไรอีกต่อไป
แต่เสียดายอย่างเดียว มาลไม่น่ารักโคล์ดมากขนาดนี้เลย เหมือนทั้งชีวิตนี้นางจะบูชาถวายให้โคล์ดเลย เหตุผลที่ไม่อยากตายก็เพราะ "โคล์ด" ดันมาชอบคนที่เอามีดมาปักคอตัวเองซะงั้น โธ่..... มาลแกธ ฉันอยากเห็นเส้นทางที่สดใสของเธอมากกว่านี้ :o12:
อื้อหือ คิดคล้ายๆ เราเลยค่ะ ตอนแรกเราก็คิดว่าโคลด์จะชอบมาลแกธได้ยังไง
ในเมื่อเขาเกลียดเอลฟ์ขนาดนั้น (มาลแกธภาษีน้อยกว่าซิกฟรีดด้วย)
มาเจอบทนี้เราตายไปเลยค่ะ ให้โคลด์จูบมาลแกธเลย อารมณ์มันพาไปจริงๆ
(เรื่องนี้มีนักเขียน 2 คน แล้วแบ่งกันคุมตัวละครค่ะ เพราะงั้นคุณ FOULSOUL ที่เขียนมาลแกธ เขาก็ไม่รู้ว่าเราจะจูบ มันออกมาจากอินเนอร์ตัวละครตอนนั้นจริงๆ ค่ะ เรียกว่ามาลแกธแง้มใจโคลด์ได้)
ป.ล. มาลแกธร้ายแล้วก็ตำแหน่งสูงมากในแดนตะวันออกค่ะ (สปอยเล็กน้อย) ถ้าไม่ใช่โคลด์ร้ายขนาดนี้ (และน่ารักขนาดนี้ /มาลแกธบอก) เอามาลแกธไม่ลงค่ะ (มาลแกธหลงรักโคลด์ได้ยังไง จะมีเนื้อเรื่องเฉลยในอนาคตค่ะ  :mew2:)

โคลด์เป็นคนใจเด็ดจริงๆด้วย พร้อมแอบเหี้ยมเล็กๆ
ชอบตอนที่มาลแกธค้นพบว่าความรักเป็นยังไงมาก
เขาพบความรัก แต่นั่นก็คือจุดจบของเขาเช่นกัน

แต่แอบคิดว่าน่าจะมีเซอร์ไพรส์ รึเปล่า?

#ทีมมาลแกธ
มาค่ะ #ทีมมาลแกธ มาล่องเรือกัน /โอบเอว พาลงเรือ
โคลด์ใจเด็ดจริง เหี้ยมด้วย แต่ตอนฆ่ามาลแกธยังมีลังเลนะคะ เอลฟ์ 2 คนแรกนี่ฆ่าเฉยๆ เลย
แสดงว่ามีใจให้บ้างแล้วแหละ...เนอะ ถ้าโคลด์ไม่โดนกดดันแรงๆ ขนาดนี้ เขาอาจไม่ยอมรับใจตัวเองค่ะ
เราเลยต้องกดดันตัวละครหน่อย ;w; เห็นความจริงใจของมาลแกธขนาดนี้ จะไม่รักเลยหรือโคลด์...
ส่วนมาลแกธเป็นยังไงต่อ ตอนต่อไป 'ใจแลกใจ' ลงละจ้า -3-

เป็นเรื่องที่ Epic มากจริงๆ
ทำไมถึงเขียนได้สนุกอย่างนี้ ได้อารมณ์แบบนิยายผู้ใหญ่ (ที่ไม่ได้หมายถึงติดเรท) มากๆ เลยครับ
ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ คอมเมนต์นี้ทำให้เราดีใจมาก คือนิยายแนวนี้พูดเลยว่า ไม่ค่อยมีคนอ่านค่ะ ;w;
แต่เราอยากอ่าน ก็เลยออกแนวเขียนเองอ่านเอง ถ้ามีคนชอบแบบที่เราชอบ แม้เล็กน้อย เราก็ดีใจมากแล้วค่ะ

มาลจะตายจริงเหรอ ไม่อยากให้ตายอ่ะ
คำตอบมาละน้า บทที่ 6 ใจแลกใจ จ้า -3-

สงสารมาลแกธ และเชื่อว่าเขาจะไม่ตาย

สงสารโคลด์มาก ๆ ประสบการณ์หล่อหลอมให้จิตใจเหี้ยมเกรียม
ต้องฆ่าเพื่อรอด เพื่อเป้าหมาย

โดดเดี่ยวเหลือเกิน
อา มาลแกธเข้าใจกฎข้อแรกที่อยากทิ้งชีวิตของเอลฟ์ตะวันออก และเข้าใจแล้วว่า 'ความรัก' จริงๆ เป็นยังไง
น่าเสียดาย เขามาหลงรักคนที่มีปมเกลียดเอลฟ์เหลือเกิน และในอดีต มีเรื่องราวระหว่างพวกเขาที่ทำให้โคลด์แข็งกร้าวขนาดนี้ด้วยค่ะ ยังไงก็ฝากให้ติดตามเพื่อได้ทราบเบื้องลึกเบื้องหลังทั้งหมดของเรื่องนี้ไปด้วยกันนะคะ ;)

เดเนธอร์บอกว่าแม่สอนไม่ให้มองคนอื่นจากภายนอก แต่เขาเองก็เชื่อคำเล่าลือจนเกิดอคติกับดาร์กเอลฟ์เหมือนกัน เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าโคลด์อาจจะมีเหตุผลในสิ่งที่ตัวเองทำ

เมื่อต้องสู้กัน มีอยู่แค่คนที่รอดกับคนที่ไม่รอด (จะไม่รอดในรูปแบบไหนก็ตาม) มาลแกธคือคนที่ไม่รอดเพราะตัวของเขาเอง

ถ้าลองเปลี่ยนเป็นเดเนธอร์มาแทนที่โคลด์ รู้ว่าตัวเองต้องถูกจับ เชื่อว่าต่อให้คนนั้นเป็นเพื่อนก็คงสู้เต็มที่เหมือนกัน เดเนธอร์กำลังเอาอารมณ์+อคติส่วนตัว มาปนกับเรื่องงาน

คนที่ปล่อยนักฆ่าให้เข้ามาก็เอาอารมณ์ส่วนตัวที่มีต่อมาลแกธมาปนกับงาน ทำนอกเหนือคำสั่ง


ใจนี่ลุ้นให้โคลด์หนีไปสำเร็จจริงๆ
ขอบคุณสำหรับความเห็นนะคะ ชอบมากเลยที่นักอ่านอ่านแล้วมีความเห็นกับเรื่องขนาดนี้
แม้เรื่องนี้จะเป็นนิยายแฟนตาซี แต่เราและคุณ FOULSOUL (ที่เป็นนักเขียนร่วม) ก็อยากใส่ประเด็นที่เป็นความจริง
สิ่งที่เกิดขึ้นจริงในโลกไปด้วย หนทางการคลี่คลายปมความขัดแย้งของตัวละครก็พยายามให้ตั้งอยู่ในเหตุและผล
บางทีเขียนๆ ไปก็คิดอะไรบางอย่างได้จากการเขียน และปรับมาใช้กับชีวิตประจำวันได้ค่ะ

ที่เดเนธอร์ไม่คิดว่าโคลด์อาจจะมีเหตุผลในสิ่งที่ทำ เพราะเขามองไม่เห็นเหตุผลใดๆ เลยค่ะ
ถ้ามองอย่างเป็นกลาง อย่าง 'คนนอก' ที่เดเนธอร์เป็น สิ่งที่โคลด์ทำนั้นไม่มีดีเลย
แต่เราเป็นคนเขียน/คนอ่าน เราได้รู้มากกว่าเดเนธอร์
เดเนธอร์ไม่ได้ชอบโคลด์เหมือนมาลแกธหรือซิกฟรีดด้วย (หรืออิลมาเรหรือบาค ที่รู้จักโคลด์)
เอลฟ์คนอื่นเอาอารมณ์+อคติส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานจึงไม่มีใครแคร์โคลด์ค่ะ
แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่มนุษย์จริงๆ จะทำกับมนุษย์คนอื่นได้ค่ะ มนุษย์มีศักยภาพในการทำเช่นนั้น ;w;

โคล์ดโหดได้ใจ
เป็นโคลด์ต้องอดทนเข้มแข็งค่ะ ไม่งั้นไม่ทนมือทนเท้าคุณหลวงซิกฟรีด XD
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (1) [16/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 17-01-2017 00:04:27
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (2) [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 17-01-2017 13:13:52
บทที่ 6 : ใจแลกใจ (2)

ไม่มีเอลฟ์ตนไหนคาดว่าดาร์กเอลฟ์จะเป็นฝ่ายฆ่าทั้งที่โดนมัดอยู่และไม่มีอาวุธติดตัวสักชิ้น กระทั่งเสียงเล็กๆ ตะโกนออกมา “โคลด์! พอแล้วแล้วโคลด์ เขาตายแล้วโคลด์!”

เดเนธอร์เลิกผ้ากระโจม เขาตะโกนสั่งให้คนข้างนอกมาเอาศพออกไป ก่อนจะย่างสามขุมไปที่ดาร์กเอลฟ์

โคลด์ปล่อยปาก เงยหน้าขึ้นมาทั้งที่ตัวยังคร่อมร่างไร้ชีวิต ดวงตาสีม่วงแดงก่ำมองเอลฟ์แต่ละตนที่ทยอยเข้ามาด้วยความโกรธาแดงฉาน ไม่...นี่ไม่ใช่ดาร์กเอลฟ์จอมเอื่อยเฉื่อยซึ่งเคยรับใช้เจ้าชายซิกฟรีดที่อาศรมควาร์

มันคือหมาบ้า

“ข้าเกลียดพวกเจ้า เอลฟ์!” โคลด์สบถเป็นภาษาดาร์กเอลฟ์ ปากชุ่มเลือด สายตาทุกคู่ของเอลฟ์ในที่นั้นได้เห็นดาร์กเอลฟ์ถ่มเลือดผสมน้ำลายใส่ศพนักฆ่า แล้วแสยะยิ้มอย่างปรีดา

“เชื่อเถอะว่าพวกเขาเกลียดเจ้าไม่แพ้กัน” เดเนธอร์ตอบอย่างเฉยชา

อิลมาเรเข้ามาขวางก่อนที่เดเนธอร์จะถึงตัวโคลด์ คราวนี้เธอไม่กลัวแล้ว

“ดู ดาร์กเอลฟ์ ดวอร์ฟปกป้องเจ้า” เดเนธอร์มองอิลมาเร มีแววชื่นชมในดวงตาวาบขึ้นมาวูบหนึ่ง

“เขาบอกมาแล้วว่าขวดไหนเป็นยาแก้พิษ!” อิลมาเรตะคอกอย่างโกรธจัด เพราะก่อนนักฆ่าเข้ามาโคลด์กำลังบอกเธอ “แต่พวกท่านยังปล่อยให้นักฆ่าเข้ามาฆ่าเขา พวกท่านไม่สูงส่งไปกว่าเขาหรือข้า!”

“ปัญหาของพวกเจ้าคือ...ชอบดูถูกตัวเอง” เดเนธอร์ให้เพื่อนร่วมหน่วยเข้าไปห้ามเลือดให้โคลด์ “ทำให้มันสลบก่อน ส่วนเจ้า ดวอร์ฟ ข้ามีความอดทนจำกัด ยาแก้พิษ ได้โปรด” เขาผายมือให้อิลมาเร

“ข้าก็มีความอดทนจำกัดเจ้าค่ะ!” อิลมาเรจ้องเดเนธอร์ ขณะโคลด์ไม่ยอมให้เอลฟ์แตะตัว “ในสัมภาระของข้ามีล่วมยา อย่ายุ่งกับเขา แก้มัดข้า ให้ข้าทำแผลให้เขา แล้วท่านจะได้ยาถอนพิษ”

“หัวหน้าของข้ารอมาเกินครึ่งวันแล้ว ดวอร์ฟ...”

“ให้ข้าทำแผลให้เขา!” มีดยังปักคาหลังโคลด์ อิลมาเรเห็นแล้วว่าโคลด์เลือดไหลจะตายเอา “ถ้าท่านมาลแกธฟื้นขึ้นมาเห็นเขาตายพวกท่านคอยดู!”

เดเนธอร์พยักหน้าให้เอลฟ์ตนอื่นถอยออกมา เขายืนรออย่างอดทน บิดาแห่งวายุเป็นพยานได้ว่าเขาอดทนถึงเพียงไหน

“ถ้าหัวหน้าข้าตาย...เจ้าก็คอยดู”

สิ่งแลกเปลี่ยนต่อสิ่งแลกเปลี่ยน การตกลงซื้อขายชีวิตระหว่างแม่ค้าดวอร์ฟและรองหัวหน้าหน่วยกาลาฮานจึงเป็นอันสำเร็จ

————————————————————————————

อีกด้านหนึ่งในเวลาเดียวกัน

ซิกฟรีดขังตัวเองในหอสมุดหลวงมาสักพักแล้ว แทบจะกินนอนอยู่ในนั้น เขาหาบันทึกเกี่ยวกับมังกรเหล็กดำซึ่งมีลักษณะตรงตามคำบอกเล่าของเซ็นทอร์ แต่สืบย้อนไปได้เพียงการปรากฏกายของมันในสงครามทมิฬครั้งที่ 2

บันทึกว่าไว้ว่ามังกรเหล็กดำเข้ากับฝั่งจอมทัพทมิฬ คร่าชีวิตผู้คนไปมาก แต่จู่ๆ ก็หายไปจากสนามรบก่อนที่สงครามจบ—ก่อนที่กองทัพรูเมเรียร์ซึ่งนำโดยริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์ ผู้เป็นเจ้าชายที่ 2 ในขณะนั้น จะกำชัยเหนือกองทัพของจอมทัพทมิฬ

นอกจากลักษณะภายนอก เช่น เกล็ดแข็งแกร่ง หรือไฟที่ร้อนแรงขนาดเผาให้คนกลายเป็นเถ้าได้ภายในพริบตาเดียว ก็ไม่มีบันทึกอย่างอื่น ไม่มีใครศึกษาต่อ หรืออาจมี แต่ไม่มีชีวิตรอดกลับมาเล่า

เกวนโดลินก็คงเหมือนกัน

ซิกฟรีดปิดบันทึกในมือก่อนยกนิ้วนวดหัวตา ราชาเอลฟ์สั่งให้กอห์นดีเอนผู้เป็นเงาสังหารสืบว่าโคลด์ สตาร์มี ‘หัวใจ’ หรือมีสิ่งสำคัญอะไร ที่ตนจะสามารถนำมาใช้ล่ามดาร์กเอลฟ์ให้หมดพยศได้

ล่าม—คำนี้เหมาะสมและถูกต้อง เขาอยากล่ามโคลด์ อยากกำไว้ในอุ้งมือ อยากให้อยู่ในสายตาตลอดเวลา

คำตอบคือ ‘เกวนโดลิน’ ผู้เป็นพี่สาว...หรืออาจเป็นคนรักตามที่โคลด์กล่าวอ้าง

และคำตอบนั้นก็นำไปสู่ ‘มังกรเหล็กดำ’

เป็นที่ทราบกันว่า ธรรมชาติของคำทำนายเหมือนสายหมอก พร่ามัว จับต้องไม่ได้ เชื่อถือได้ยาก เนื่องเพราะอนาคตสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทว่า...เรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ที่เชื่อมร้อยกันอย่างเบาบางเหล่านี้ ทั้งการที่เขาจับโคลด์ไว้เป็นทาส ทั้งการที่เขาตามหาโคลด์และได้พบเบาะแสของเกวนโดลิน ไปจนถึงการที่เกวนโดลินผูกพันกับมังกรซึ่งมีลมหายใจเป็นเพลิงบรรลัยกัลป์ กำลังจะผูกปมแน่นหนาขึ้น รูปรอยค่อยๆ เปิดเผยตัวตน ว่าทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปตาม

‘คำทำนายจากบิดาแห่งนภา’

คำทำนายน่าสะพรึงถึง ‘สงครามสามแผ่นดิน’ ซึ่งซิกฟรีดได้ยินในขณะที่อายุเพียงเก้าขวบปี

และคำทำนายนั้นเองที่ทำให้ซิกฟรีดเก็บโคลด์ไว้ข้างกาย

ดาร์กเอลฟ์ผู้มีดวงตาสีม่วง...คือตัวละครสำคัญในสงคราม

 

“ข้ารู้ตัวจริงของเจ้า”

คือสิ่งที่ซิกฟรีดวัยเยาว์พูดกับโคลด์บ่อยๆ

“ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นใคร มาจากไหน ดาร์กเอลฟ์!”

เจ้าชายซิกฟรีดขู่ แต่ไม่เคยเผยว่าตนรู้อะไรกันแน่


 

พอนึกถึงโคลด์ สมาธิของซิกฟรีดก็หลุดโดยสิ้นเชิง เขาทิ้งบันทึกไว้แล้วเดินออกไปสูดอากาศตรงระเบียงด้านนอกหอสมุด น้ำตกเทียมที่เขาสั่งให้สร้างส่งเสียงซ่า...ซ่า...รื่นหู

น้ำตกเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ซิกฟรีดนึกถึงโคลด์ สตาร์และช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน สุดเขตอาศรมควาร์จะมีน้ำตกอยู่สายหนึ่ง เขาชอบไปที่นั่น โดยมีดาร์กเอลฟ์หน้าบึ้งบ่นไม่ได้ศัพท์อยู่ข้างๆ

ก่อนหน้าจะเข้าศึกษาในอาศรมควาร์ ซิกฟรีดในวัยเยาว์มีพรสวรรค์แรงกล้า เขาได้ยินสิ่งที่คนทั่วไปไม่ได้ยิน อย่างเสียงของลม ของน้ำ หรือของต้นไม้ เหนือไปกว่านั้น เขาได้ยินเสียงของบิดามารดรคอยกระซิบบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ

ซิกฟรีดได้รับความรักจากมารดาแห่งนทีเป็นพิเศษ อาจเพราะเกิดในฤดูฝนอันชุ่มฉ่ำ อุดมสมบูรณ์

จากเพียงเงี่ยหูฟัง ซิกฟรีดเริ่มเรียนรู้ภาษาของแต่ละสิ่ง หัดออกเสียง หัดสื่อสารโดยไม่มีใครสอน เขาเริ่มมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ พูดอะไรจะเกิดขึ้นตามนั้น ครั้งหนึ่งในงานเลี้ยง เครือญาติอายุไล่เลี่ยกันมาร่วมโต๊ะอาหารค่ำ มีญาติคนหนึ่งดูแคลนโคลด์ ซึ่งเวลานั้นกลายเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของซิกฟรีดแล้ว

 

“พวกดาร์กเอลฟ์กินแต่โคลนสกปรก เหม็น เจ้าก็จะเหม็นไปด้วย อาเลธ! เพราะเจ้าให้มันแตะตัว!”

ซิกฟรีดตบโต๊ะปัง!

“จานของเจ้า…” เขาเอ่ยภาษาอื่น เสียงพร่าเกินเด็ก น่าสะพรึงคล้ายจอมเวทร่ายมนตรา

“ก็มีแต่โคลน!”

จากนั้น โคลนมากมายมหาศาลก็ผุดขึ้นมาจากจานของญาติผู้ปากดี

ทว่าวันต่อมาซิกฟรีดไข้ขึ้นสูง

เขาใช้พรสวรรค์บังคับให้เกิดสิ่งที่เหนือธรรมชาติ จึงโดนผลสะท้อนเล่นงาน ทำให้เลือดเหนียวข้นเหมือนโคลน ร้อนระอุราวถูกสาป

 


ซิกฟรีดจึงต้องเข้ารับการศึกษา เพื่อควบคุมพรสวรรค์ในอาศรมของผู้ที่สามารถได้ยินและเอ่ยภาษาเก่าแก่ของสรรพสิ่งได้—ควาร์

ควาร์เหมือนจะมีวาจาศักดิ์สิทธิ์อันสะดวกสบาย แต่ไม่ น้ำไม่อาจเปลี่ยนเป็นทรายได้ เมฆก็ไม่อาจเปลี่ยนเป็นทองได้ หรือหากเป็นเรื่องที่ร้ายแรงกว่านั้น เช่น เปลี่ยนคนตายให้เป็น เปลี่ยนคนเป็นให้ตาย ก็ต้องมีการเอาชีวิตเข้าแลกโดยเท่าเทียม

แล้วถ้าใช้วาจาบังคับใจใครล่ะ

ต้องเอาหัวใจของตนเข้าแลกใช่หรือไม่


ซิกฟรีดนึกถึงใบหน้าของโคลด์ในวันที่เขาประทับตราเวทพันธะ ความเกลียดชังส่งผ่านแววตา ราวกับอยากกรีดแทงเขาให้ดับดิ้น เขาคิดว่าต่อให้กริชแทงกลางหัวใจก็ไม่แน่ว่าโคลด์จะตอบรับตามสัญญา

ระหว่างครุ่นคิด นกส่งสารจากหน่วยกาลาฮานก็บินเข้ามาเกาะพักยังกิ่งไม้ใกล้ๆ มันส่งเสียงใสร้องเรียก ราชาเอลฟ์ยกมือขึ้นให้มันร่อนลงมาเกาะแทน สารที่ผูกอยู่ตรงขาของมันมีเศษผ้าสีแดงผูกติดอยู่ด้วย

สีแดงหมายถึง ‘คอขาดบาดตาย’

ซิกฟรีดแกะสารอ่าน ผู้ส่งคือเดเนธอร์ รองหัวหน้าหน่วยกาลาฮาน เนื้อความสั้น ตรงประเด็น กล่าวถึงเรื่องสำคัญอยู่สองเรื่องคือ หนึ่ง จับกุมนักโทษดาร์กเอลฟ์ได้แล้ว สอง หัวหน้าหน่วยกาลาฮานบาดเจ็บสาหัส

ถูกมีดแทงที่คอ...

ซิกฟรีดขมวดคิ้ว โคลด์ทำร้ายมาลแกธอย่างนั้นหรือ เป็นเรื่องเหลือเชื่อ ทั้งโคลด์กล้าลงมือกับเอลฟ์ที่ ‘ยอม’ สนิทมากที่สุด และมาลแกธผู้เป็นนักรบตะวันออกถูกโคลด์ทำร้าย

ราชาหนุ่มอ่านสารอีกครั้ง ไม่มีอะไรพลาดไป

เขาเดินกลับเข้าห้องอ่านหนังสือ ลงมือตอบสารทันที ว่าจะส่งหน่วยสนับสนุนไปรับคนเจ็บและนักโทษกลับเอวา เธมาร์โดยเร็วที่สุด ขอให้รอ อย่าเพิ่งเคลื่อนย้ายโดยพลการ

ซิกฟรีดอุ้มนกออกไปตรงระเบียงเช่นเดิม เมื่อเขาปล่อยมือมันก็เร่งกระพือปีก นกของหน่วยกาลาฮานรู้ทิศทางที่ตนต้องไปเสมอ

อันที่จริง ซิกฟรีดกับมาลแกธสามารถติดต่อกันด้วยทางอื่นที่เร็วกว่านี้ได้ ทางอื่นที่ว่าคืออุปกรณ์เวทของควาร์

ซิกฟรีดแตะตุ้มหูด้านขวา ลูกไฟสีแดงขนาดจิ๋วด้านในตุ้มหูแก้วไหวเบาๆ เขาติดต่อกับมาลแกธผ่านอุปกรณ์เวทนี้ ผ่านไฟของเอลฟ์ตะวันออก

แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะถอดอุปกรณ์เวทที่สร้างคู่กันออกไป


—————————————————————————

A/N กลับมาฝั่งพระเอก (?) กันบ้าง ยังไม่ลืมซิกฟรีด พระเอกของเราใช่ไหมคะ หลายคนว่า 'บทน้อย บทมาแต่ไม่เด่น ตกลงใครเป็นพระเอกกันแน่ ชักสงสัย' หรือ 'ชื่อเรื่องพันธนาการรักราชันเอลฟ์ ทำไมราชาบทน้อยจังห๊ะ! คนไปลงเรือมาลแกธกันหมดละ' แฮ่มๆ เราใบ้ๆ หน่อยดีไหมนะว่า...จริงๆ แล้วมาลแกธน่ะเป็น xxx ของแดนตะวันออกนะ ;)
ป.ล. 1 ซิกฟรีดสมัยเด็กน่ารักเนอะคะ มีความหวง มีความห่วงโคลด์ มีความเจ้าชายน้อยแสนซึน ปกป้องข้ารับใช้
ป.ล. 2 "สมัยเด็กซิกฟรีดน่ารักดี" โคลด์บอก "เอ๊าะแอ๊ะ ติดข้า ปากไม่ตรงกับใจ แล้วก็ขี้แยน่ะ"

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (1) [16/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 17-01-2017 16:46:06
o13 o13 o13
ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ :)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (2) [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 17-01-2017 23:19:26
อ้าว คดีพลิก

สรุปโคลด์ได้มาลแกธเป็นเมีย  :laugh:


เมื่อมองด้วยสายตาเป็นกลาง แต่ละฝ่ายก็ทำร้ายกันไว้ถึงกึ๋นจริง ๆ อย่างนี้จะสมรักกันได้หรือ? (ไม่ว่าจะใครกับใครก็เถอะ)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (2) [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 18-01-2017 00:09:14
อ้าว คดีพลิก

สรุปโคลด์ได้มาลแกธเป็นเมีย  :laugh:


เมื่อมองด้วยสายตาเป็นกลาง แต่ละฝ่ายก็ทำร้ายกันไว้ถึงกึ๋นจริง ๆ อย่างนี้จะสมรักกันได้หรือ? (ไม่ว่าจะใครกับใครก็เถอะ)
ทำไมพลิก 360 องศาแบบนั้นล่ะคะ 555
ส่วนจะสมรักกันยังไง ก็เป็นความท้าทายของคนเขียนไงคะ /อา ยากจัง! /คิดๆๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (3) [18/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 18-01-2017 14:04:02
บทที่ 6 : ใจแลกใจ (3)

“ท่านซิกฟรีด” ท่านหญิงเอริแอดเน่เดินเข้ามาในห้อง เรียกคนที่ยืนอยู่ตรงระเบียง นางยกสำรับอาหารมาให้ราชาด้วยตนเอง เพราะเป็นห่วงที่เขาเอาแต่เก็บตัวอยู่ในหอสมุดหลวง

อาหารน่ารับประทานส่งกลิ่นหอม ควันโชยร้อน บอกความเอาใจใส่ของนาง

นางมองม้วนอักษรกองพะเนินบนโต๊ะทรงงาน ก่อนยกสำรับไปวางบนโต๊ะแก้วเจียระไน เอ่ยขอให้เขามานั่งพักตรงโซฟา กินอะไรเสียก่อน

“ขอบพระคุณขอรับ พี่หญิง” เมื่ออยู่กันแค่สองคน ซิกฟรีดจะเรียกเอริแอดเน่ว่าพี่หญิง คำพูดให้เกียรติแบบญาติสนิท ไม่ใช่คู่หมั้น

เขารักเอริแอดเน่แบบชายหญิงไม่ได้

เป็นเรื่องที่ซิกฟรีดเก็บงำไว้กับตัวเอง เขาพยายามอย่างมากที่จะรักเอริแอดเน่ในเชิงชู้สาว แต่ยังไม่สำเร็จ

‘แกมันน่าสมเพช อาเลธ’

ซิกฟรีดกดหน้ากากเงินให้แนบใบหน้าซีกซ้าย ขณะนั่งลงเพื่อชมอาหารฝีมือพี่หญิง “กลิ่นหอมดีขอรับ” เขาชิมคำหนึ่ง “อาหารเผ็ดร้อนแบบอิซิลดาร์”

“ดีใจที่เจ้าชอบ” เวลาอยู่ตามลำพังกับซิกฟรีด ท่านหญิงจากแคว้นทางใต้จะยิ้มแย้มและอ่อนโยนเป็นพิเศษ ไม่ดูเยือกเย็นน่าหวาดเกรงเช่นปกติ

เคยมีผู้กระซิบเตือนราชาองค์ใหม่ว่าอย่าประมาท หากเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ไม่พูด ใช่ว่านางจะไม่คิด นางเป็นดุจงูพิษที่เลื้อยอย่างสงบเสงี่ยม และจงระวังเมื่องูตื่น

ทว่าเอริแอดเน่ไม่เคยทำไม่ดีกับซิกฟรีดเลย นางไม่เคยห้ามปรามการสานต่อปณิธานของคิงเฟรธูริน หรือแสดงความหึงหวงเมื่อท่านหญิงนางอื่นมาเสนอตัวให้ซิกฟรีด

เอริแอดเน่สนับสนุนและคอยเอาใจซิกฟรีดทุกอย่าง

ซิกฟรีดกินเงียบๆ สมัยเด็ก น่าจะประมาณห้าถึงหกขวบ พี่หญิงเอริแอดเน่ชอบพาเขาเล่นเกมแบบอิซิลดาร์ พาเต้นรำไปรอบๆ เหมือนชาวอิซิลดาร์ และพาชิมอาหารแบบอิซิลดาร์ ซิกฟรีดจึงผูกพันกับคู่หมั้นของคิงเฟรธูริน ผู้เป็นพี่ชายคนโต เหมือนพี่สาวแท้ๆ เทียบเท่าพี่หญิงคาลิเธียลทีเดียว

“พี่หญิงรับประทานด้วยกันไหมขอรับ”

“ข้ารับประทานมาแล้ว” นางมองราชาหนุ่มกินอย่างมีความสุข “ข้าไม่อยากให้เจ้าเหนื่อยเกินไป เจ้าอายุยังน้อย และยังโดนคำสาป...”

ซ่า...

เสียงเบาเท่าเบาดังอยู่ข้างหูของซิกฟรีด ขัดการสนทนากับเอริแอดเน่ มันดังมาจากตุ้มหูข้างซ้าย กลุ่มทรายสีดำในตุ้มหูแก้วพัดอย่างบ้าคลั่ง

ควาร์ผู้ใช้ทราย—กอห์นดีเอนร้องขอความช่วยเหลือ

ซิกฟรีดตั้งใจฟัง

‘วิหารร้าง…ซ่า

บูชามารดานภา

ซ่า…ซ่า

หลง—’

เปรี๊ยะ

ตุ้มหูเกิดรอยร้าว เสียงกอห์นดีเอนเงียบไป

ก่อนจะแทนที่ด้วยเสียงคำสาปแช่งของเหล่าคนตายในแดนทมิฬ

ซิกฟรีดถอดตุ้มหูออก

เรื่องชักจะยุ่งเหยิงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

“ข้าขอเวลาส่วนตัวสักครู่ได้หรือไม่ พี่หญิง”

“เพคะ” เอริแอดเน่ตอบรับ ดวงตาสีสวยเหมือนหินแก้วประกายรุ้งของนางสงบเยือกเย็นดุจสายน้ำ นางลุกขึ้น ถอนสายบัว และเดินออกไป

ดังเช่นทุกครั้ง...นางได้ทราบเท่าที่อยากทราบแล้ว

เมื่ออยู่ตามลำพัง ซิกฟรีดคิดหาวิธีช่วยเหลือกอห์นดีเอนอย่างเร็วที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

อย่างแรก…

ต้องใช้ทรายแก้วบริสุทธิ์

ซิกฟรีดค้างในหอสมุดอีกหนึ่งคืน

เสียงร่ายเวทด้วยภาษาเก่าแก่ของควาร์ดังลอดออกมาจากห้องอ่านหนังสือส่วนพระองค์ตลอดคืน

——————————————————————————

ย่างเข้าวันที่สองหลังจากการต่อรอง อิลมาเรพยาบาลโคลด์ ยาถอนพิษที่โคลด์บอกเป็นของจริง ระหว่างที่คนเจ็บปางตายทั้งสองยังไม่ฟื้นสติ อิลมาเรถกเถียงกับเดเนธอร์แทบตลอดเวลา ทั้งเรื่องยารักษาแผลของโคลด์ที่ได้มาแบบจำกัดจำเขี่ย ไม่ได้ยาแก้ปวดหรือยาชา หรือเรื่องมาลแกธที่อาการไม่แย่ลง แต่ก็ยังไม่ฟื้นเสียที

ดวอร์ฟเถียงเอลฟ์ฉอดๆ ใครจะคาดว่ามีภาพแบบนี้ แต่อิลมาเรคิดว่าเพราะเขาเป็นเอลฟ์ตนเดียวที่ยอมคุยกับเธอ เธอยังแอบได้ยินมาว่าคำสั่งของพระราชาคือให้ส่งตัวนักโทษกลับเมืองหลวงทันทีที่จับกุมได้ แต่คำสั่งของมาลแกธคือให้รอการยืนยันจากเขาก่อน ตอนนี้มาลแกธไม่ได้สติ ไม่มีคนยืนยัน ทหารในหน่วยจึงได้แต่กระอักกระอ่วน

ตอนนี้อิลมาเรก็กำลังเถียงกับเดเนธอร์ภายในกระโจมของเอลฟ์ที่ตั้งขึ้นอย่างง่ายๆ สำหรับพักแรมชั่วคราว

เธอขอยาชาขวดสีแดง (ยาของโคลด์ อันที่โคลด์ใช้เป็นประจำ ทำใช้เอง ใช้จนติดแบบที่ยาแก้ปวดชนิดอื่นๆ แทบใช้ไม่ได้ผลแล้ว)

"ข้าต้องการยาขวดสีแดงของเขาที่ท่านริบไว้ด้วยเจ้าค่ะ"

"ทำไม"

“ทำไมหรือเจ้าคะ ก็ท่านให้มาแค่น้ำ ยาห้ามเลือด ผ้าพันแผล! กรรไกรก็ไม่ให้ ข้าต้องใช้ฟันกัดผ้าให้ขาดเอง แต่ฟันของข้าหรือผ้าพันแผลแก้อาการเจ็บไม่ได้!”

“หัวหน้าของข้าก็ยังไม่ฟื้น รอท่านหัวหน้าฟื้น ข้าจะให้"

"เขาเจ็บจะตายอยู่แล้ว ข้าต้องการยามากกว่านี้!” อิลมาเรเหวี่ยงกำปั้นไปมาแบบไม่ยอม แม้กำปั้นของเธอจะยืดไม่ถึงคางของเอลฟ์ร่างสูงก็ตาม

เมื่อไม่ได้ของตามต้องการ ดวอร์ฟสาวก็เดินออกจากกระโจมไปอย่างหัวเสีย

เดเนธอร์ถอนหายใจหนักหน่วง คิ้วขมวดด้วยความเครียด เสียงแหลมสูงของดวอร์ฟทำให้เขาปวดหัว แต่จะมัดปากนางไว้ก็ไม่ได้ ผู้หญิงมีเสียงน่าปวดหัวกันหมดเลยหรือ

รองหัวหน้าหน่วยกาลาฮานนั่งลงเพื่อเขียนสารที่เขียนค้างอยู่ก่อนดวอร์ฟเข้ามา เขาสอบถามหัวหน้ากองสนับสนุนจากเอวา เธมาร์ ว่าเดินทางถึงที่ใดแล้ว นกส่งสารไซ้ขนรอบนบ่า มันเป็นนกฝึกของหน่วยที่ไม่เคยพลาดเป้าหมาย และไม่ทราบว่ามันรู้ได้อย่างไร แต่นกน้อยตัวนี้สามารถตามหาเขาพบเสมอ

วันก่อน เดเนธอร์ส่งมันไปรายงานสถานการณ์แก่คิงซิกฟรีด ได้รับการตอบกลับอย่างรวดเร็วว่าจะมีกองหนุนพร้อมแพทย์เดินทางมารับผู้บาดเจ็บกลับเอวา เธมาร์ ทว่านั่นไม่ทำให้เดเนธอร์เบาใจเลย เพราะอย่างไรหัวหน้าก็ยังไม่ฟื้น

ทันทีที่เขาเขียนจบบรรทัด นกอีกตัวหนึ่งได้ลอบเข้ามาในกระโจม มันเป็นนกสีน้ำเงินที่ตัวเล็กยิ่งกว่าเล็ก ขนบริเวณท้องสีส้ม ปากแหลมและคม นกตัวนั้นกระพือปีกตรงหน้าเขา มีม้วนสารและถุงใบจิ๋วเท่าครึ่งนิ้วก้อยผูกอยู่ตรงขา

เดเนธอร์แกะอ่าน ด้วยตราประทับ เขาทราบว่ามันเป็นสารลับจากคิงซิกฟรีด

‘จงนำทรายแก้วในถุงผูกขาของนกตัวนี้ ไปโปรยที่ทางเข้าสุสานวิหารร้างให้ทั่ว เพียงทางเข้า อย่าไปไกลกว่านั้น’

ค่ายพักแรมอยู่ไม่ไกลจากวิหารร้างแห่งหนึ่งซึ่งเคยเป็นวิหารบูชามารดานภา มันเคยใหญ่โตรุ่งเรืองในอดีตไกลแสนไกล ก่อนที่จะมีการแบ่งแยกเขตแดนระหว่างเอลฟ์กับดาร์กเอลฟ์อย่างชัดเจน ตอนนี้มันเป็นแค่สุสานวิหารร้างที่ไม่มีใครอยากเฉียดกรายเข้าใกล้ เพราะเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายและพวกอันเดด

ดูจากทิศทางที่ดาร์กเอลฟ์มุ่งหน้าไป มันก็น่าจะมีจุดหมายที่สุสานวิหารร้างนั้นเฉกกัน

เดเนธอร์อ่านสารซ้ำแล้วซ้ำเล่า หัวกระดาษจ่าถึงเขาไม่ผิดแน่ แต่เนื้อความสั้นห้วน ไม่อธิบายสิ่งใดเพิ่ม นอกจากกำชับว่าเมื่อได้รับสารฉบับนี้แล้วให้ออกเดินทางทันที และ...

‘เมื่อโปรยทรายแก้วจนหมดถุงแล้วให้กลับทันที อย่าสนใจเสียงใดๆ’

ตอนยังเด็ก เดเนธอร์เคยได้ยินว่าบางครั้งกษัตริย์ก็มีเหตุผลส่วนพระองค์ที่ล้ำลึกเกินกว่าสามัญชนจะเข้าใจ และเมื่อเข้ารับราชการ เขาก็พบว่าคำกล่าวนั้นไม่ผิดจากความเป็นจริงเลย

นกสีน้ำเงินบินจากไปโดยไร้เสียง รองหัวหน้ากาลาฮานรีบสวมเกราะอ่อน เป็นห่วงท่านหัวหน้าอย่างไร อยากอยู่เฝ้าแค่ไหน แต่คำสั่งของราชาต้องได้รับการปฏิบัติตามโดยทันที

เดเนธอร์เผาสารลับ หลังจากส่งจดหมายถึงหัวหน้ากองสนับสนุน เขาก็ออกเดินทางไปยังสุสานวิหารร้าง

แค่ข้ามเขาลูกนี้ไป...

 

มาลแกธลืมตาช้าๆ

ความรู้สึกแรกคือมึน ต่อมาจึงกระหายน้ำอย่างร้ายกาจ เขาคราง รอยแผลบริเวณคอเจ็บจนนิ่วหน้า

เขายังมีชีวิตอยู่

เนอร์ดาเนลรุดเข้ามาอย่างยินดี เขาเผลอตะโกนบอกเพื่อนร่วมหน่วย ก่อนจะช่วยพยุงหัวหน้าให้ลุกขึ้นนั่ง

“กองสนับสนุนกำลังจะมาถึงขอรับ”

มาลแกธอยากถามว่ากองสนับสนุนอะไร แต่ครู่หนึ่งก็นึกได้ว่าคงเป็นฝีมือของเดเนธอร์ มันคงรายงานเรื่องเละเทะนี้กับซิกฟรีดไปแล้ว ตำหนิมันไม่ได้หรอก เพราะหากอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เขาก็ทำแบบนี้ หัวหน้าสุดแกร่งถูกแทงคอ ถ้าอยู่เฉยๆ คงโง่เกินไป

“อา…” แค่ส่งเสียงยังลำบาก มาลแกธระบายลมหายใจอย่างหงุดหงิด เขาให้เนอร์ดาเนลไปหาถาดใส่ทรายกับไม้สักกิ่งหนึ่งมา อะไรก็ได้ที่ทำให้เขาสามารถสื่อสารทางอื่น

‘เดเนธอร์อยู่ที่ไหน’ มาลแกธใช้กิ่งไม้เขียนบนทราย

“เมื่อวานก่อนท่านฟื้น รองหัวหน้าเร่งออกไปทางทิศตะวันตก ไม่ได้แจ้งอะไรไว้ขอรับ นอกจากกำชับว่าหากกองสนับสนุนมาถึงก่อนให้พวกเรากลับเอวา เธมาร์เลยขอรับ”

มาลแกธหรี่ตา จากตรงนี้มุ่งหน้าไปยังทิศตะวันตกจะพบสุสานวิหารร้าง ตรงไปเรื่อยๆ จะชนกับพรมแดนทมิฬ เดเนธอร์คิดจะทำอะไร ไม่นับว่ามันเคลื่อนไหวโดยไร้คำสั่งจากเขา

หรือมันได้รับคำสั่งจากคนที่ปฏิเสธไม่ได้

‘แอสซาสซินล่ะ’ มาลแกธถาม ‘จับได้ไหม’

“ได้ขอรับ”

‘อยู่ไหน’

“ท่านมาลแกธ…” เนอร์ดาเนลจะเสนอให้หัวหน้าพัก แต่แพ้สายตาที่เอ่ยความตั้งใจชัดเจน

ท่านมาลแกธไม่ยอมพักแน่

‘พาข้าไป’

นอกจากคอ มาลแกธก็ไม่ได้รับบาดเจ็บในส่วนอื่นๆ เขาให้เนอร์ดาเนลนำไปยังกระโจมที่ให้โคลด์พัก...ไม่สิ ไม่ควรใช้คำว่าพัก มาลแกธรู้ว่าลูกน้องจะปฏิบัติกับโคลด์ต่างออกไป ดังนั้นโคลด์คงไม่สุขสบายนัก

...คงไม่สุขสบายนักอย่างนั้นหรือ

มาลแกธถึงขั้นเดือดดาลเมื่อเห็นสภาพโคลด์


—————————————————————————

A/N เดือดสิคะป๋า ดูลูกน้องป๋าทำกับว่าที่เมี-- สิ /โดนโคลด์กระซวก
ป.ล. เอรี่ก็ยังร้ายเงียบๆ เหมือนเดิม ตอนนี้ยังเป็นงูพิษที่เลื้อยอย่างสงบเสงี่ยมค่ะ XD
ตอนวางเรื่องช่วงแรกๆ มีแวบหนึ่งเราคิดเปลี่ยนเอรี่เป็นผู้ชาย เพราะด้วยนิสัยแล้วเธอเป็นได้อยู่ แต่เราเสียดายความเป็นผู้หญิงของเธอ คือมันมีบางเรื่องที่ตัวละครหญิงสามารถสร้างอารมณ์ได้ดีกว่า เช่นถ่ายทอดจุดยืนของอิซิลดาร์ แคว้นที่สตรีเป็นใหญ่ และความต้องการเป็นราชินีของตัวเอรี่เอง
คงเหมือนประโยคที่ว่า Men Are from Mars, Women Are from Venus ละมั้งคะ
ป.ล. 2 แต่เรื่องเปลี่ยนเพศเอรี่นี่ เราเก็บไปคิดเป็นวันเลยนะคะ คือเป็นผู้หญิงแล้วเอรี่โดนเรารังแกหลายอย่าง บางทีก็ช้ำใจแทน ถ้าเป็นผู้ชายเรารังแกง่ายกว่า (แบบโคลด์ *0* เย้!)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (3) [18/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 18-01-2017 16:11:59
ไรต์เปลี่ยนพระเอกเป็นป๋ามาลแกธเถอะ
ข้าน้อยขอถวายหนูน้อยโคลด์ให้ป๋าถึงเตียงเลย
ปล.เขี่ยซิกกับชะนีไปไกลๆค่ะ
ชอบอ่ะมาอัพทุกวันเลย  :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (3) [18/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 18-01-2017 17:01:54
ว่าที่เมี--แค่ก ๆ ! เจ็บ ผั--แค่ก ๆ ๆ !!! ทั้งสอ----แค่ก ๆๆๆๆ ! ถึงกับร้อนรนเลยทีเดียว

ถึงฉันจะอิจฉาในความสามผัวของเอรี่ แต่ก็รักจิตใจที่มุ่งมั่นทะเยอทะยานของนาง

ผูหญิงจงเจริญ! และให้กำเนิดเด็กน้อยน่ารักที่โตมาเป็นชายรักชายต่อไป!  :laugh:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (3) [18/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 18-01-2017 17:23:42
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (3) [18/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 18-01-2017 20:19:55
อ่าน 3 ตอนรวดสุขสันต์จริงจัง  :pig4:   :heaven
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (3) [18/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 18-01-2017 20:59:30
แม้จะโดนแทงคอจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด มาลแกธตื่นขึ้นมาก็ยังเป็นห่วงโคล์ดอยู่ดี  :z3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (3) [18/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-01-2017 22:07:40
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (3) [18/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 19-01-2017 00:22:57
อ่านจนเปลี่ยนใจมาชอบมาลละ :katai1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (4) [19/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 19-01-2017 12:59:43
บทที่ 6 : ใจแลกใจ (4)

(https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/09/53/5e/09535e80f440cf94af58411e4f97afde.jpg)

โคลด์มีผ้าพันแผลบนศีรษะ ต้องนอนคว่ำเพราะแผลที่หลังและไหล่ สองมือถูกมัดด้วยเงื่อนตาย เขามีสติครึ่งๆ กำลังคุยกับอิลมาเร เธอดูแลให้เขานอนหลับและคอยปลุกตามเวลาเปลี่ยนผ้าพันแผล เพื่อไม่ให้เขาหลับแล้วตายไปเลย

สีหน้าดีใจของดวอร์ฟสาวปิดไม่มิด ท่านมาลแกธฟื้นแล้ว! เธอแทบอยากโผเข้าไปกอด แค่เขาปรากฏตัว หินแห่งความกังวลใจก้อนมหึมาก็ถูกยกออกไป

“เกิด…” มาลแกธสูดลมหายใจ เขาฝืนพูดต่อแม้แผลจะกระเทือน “เกิดอะไรขึ้น เนอร์ดาเนล”

เนอร์ดาเนลสัมผัสได้สักพักแล้วว่าหัวหน้ากับดาร์กเอลฟ์ตนนี้อาจมีความสัมพันธ์กันบางอย่าง วิธีที่หัวหน้าปฏิบัติกับมันทำให้เขามั่นใจว่าตนคิดถูก

อิลมาเรจ้องเนอร์ดาเนลเขม็งว่าจะพูดความจริงหรือไม่ เธอแทบไม่รู้จักชื่อของเอลฟ์ในหน่วยนี้นอกจากเดเนธอร์ แต่จำหน้าทุกคนได้แม่นยำ

“อสรพิษขอรับ” เนอร์ดาเนลรายงานตามจริงว่าเดเนธอร์สั่งให้หน่วยลวงอสรพิษวางมือ เพื่อมาสนับสนุนหน่วยหลักที่เสียทหารไปสองนายและหัวหน้าถูกทำร้ายบาดเจ็บ

“มันเลยตามมา” เลือดสีเข้มซึมออกจากผ้าพันแผลที่คอของมาลแกธ

อิลมาเรจะเสริมว่า ‘พวกเขาจงใจปล่อยนักฆ่าเข้ามา!’ แต่โคลด์พึมพำเรียก เธอเอาหูไปฟังใกล้ๆ แล้วเม้มปาก...สุดท้ายก็ไม่พูดอะไร

“ออกไปก่อน” มาลแกธเอ่ยเสียงเฉียบ แม้ลูกน้องทำท่าจะไม่ฟังคำสั่ง เขาพูดอะไรมากไม่ได้ สิ่งที่โคลด์ทำลงไป เขาไม่อาจพูดหรือแสดงออกว่าจะปกป้องโคลด์ได้ตรงๆ

เนอร์ดาเนลมองตาหัวหน้า แววตาหนักแน่นยังเชื่อมั่น เขาเชื่อว่าหัวหน้าของตนจะยุติธรรมเพียงพอ

อิลมาเรเดินออกไปก่อน เธอจงใจชนไหล่เนอร์ดาเนล แต่ศีรษะของเธอสูงได้แค่ชนตัวเขา

ในที่สุดมาลแกธก็ได้อยู่กับโคลด์ตามลำพัง

โคลด์นอนนิ่ง ไม่พูดจา ไม่มองมาลแกธ แต่เห็นจากปลายหางตาเมื่อสักครู่แล้วว่ามาลแกธยังมีชีวิตอยู่

ยังมีชีวิตอยู่… เขาทวนในใจ

มาลแกธนั่งลงข้างๆ มือใหญ่วางบนศีรษะของอีกฝ่าย

“ไม่ว่าใช่ไหมถ้าข้าจะพูดน้อย มันค่อนข้างเจ็บ” เอลฟ์ยิ้ม ชี้ไปที่คอของตัวเองแม้อีกฝ่ายจะไม่มอง เขาตัดเชือกมัดมือออกให้โคลด์

โคลด์ตัวแข็งกับสัมผัสอ่อนโยนบนศีรษะ

“ตระกูลข้ามีเวทบทหนึ่ง เป็นเวทมหัศจรรย์ ข้าอยากใช้มันรักษาแผลให้เจ้า แต่มันจะขโมยเอาร่างกายที่แข็งแรงในอนาคตของเจ้ามาใช้ เจ้าจะอนุญาตไหม”

“ไม่ ข้าต้องการแค่ยาชา ขวดสีแดง”

“ข้าก็ไม่ชอบเวทบทนั้น” มาลแกธตอบรับไปคนละทาง “ข้าขอใช้ยาชาด้วยได้หรือเปล่า มันเจ็บจริงๆ นะ” เขาเรียกให้เนอร์ดาเนลนำสมบัติของโคลด์เข้ามา

มาลแกธดูบรรดายาสมุนไพรหลากสีในขวดแก้ว “ขวดสีแดง...ขวดสีแดง”

โคลด์ข่มใจอย่างมากที่จะไม่พูดกับมาลแกธ เขาไม่ทราบว่าความหวั่นไหวนี้คืออะไร เขาไม่คาดว่าอีกฝ่ายจะให้ตามที่ขอด้วยซ้ำ...หลังจากเกือบถูกเขาฆ่า

“กินหรือทา”

“เทลงมา” โคลด์ตอบ เสียงสั่นน้อยๆ

มาลแกธส่งเสียงอืม…

เขาค่อยๆ ดึงผ้าห่มออกอย่างเบามือ จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมกันหนาวที่อิลมาเรน่าจะเป็นคนจัดการทั้งหมด

อิลมาเรดูแลโคลด์ดีมาก ดีกว่าปล่อยให้คนในหน่วยกาลาฮานทำแน่ๆ

“ไม่เบาเลยนะ” มาลแกธถอนหายใจ เขาตัดผ้าพันแผลออกช้าๆ มือเบาอย่างไม่น่าเชื่อ พอเห็นแผลซ้ำซ้อนที่ไหล่กับแผลบนหลังก็เอ่ยชมฝีมือการเย็บแผลของอิลมาเร ไม่ทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องหนักหนา ยังเย้าด้วยซ้ำว่าสงสัยเพราะโคลด์ทำร้ายตัวเองบ่อย อิลมาเรเลยได้ฝึกฝีมือจนเชี่ยวชาญ

มาลแกธเรียกหาผ้าพันแผลและน้ำสะอาด พอเช็ดทำความสะอาดเสร็จ เขาก็ใช้ผ้าชุบยาชากดซับบนแผล อาการเจ็บทุเลาลง จนในที่สุดก็ชา

“ความใจดีก็เป็นความร้ายกาจอย่างหนึ่งที่เอลฟ์ใช้ลวงให้เจ้าตายใจ”

เสียงจากอดีตผุดขึ้นมาในความคิดโคลด์ เมื่อนึกถึงเสียงนี้...คำสอนนี้ โคลด์กลั้นน้ำตาไม่ไหว เขาชังมันจับใจ!

มาลแกธปล่อยให้โคลด์ร้องไห้ เขาทำแผลให้อีกฝ่ายเสร็จก็แกะผ้าพันคอชุ่มเลือดของตัวเอง มาลแกธชำนาญทั้งการฆ่าและการรักษาพยาบาลเบื้องต้น อยู่ในสนามรบก็ต้องรู้จักเอาตัวรอดในทุกรูปแบบ เขาลองใช้ยาชาของโคลด์ และพบว่ามันเป็นยาชาชั้นเยี่ยม

“เจ้าปรุงยาชาขายได้เลยนะนี่ รวยกว่าเป็นแอสซาสซินเสียอีก”

“ขวดสีเขียว แก้ไข้” โคลด์พูดเมื่อปรับเสียงให้ไม่สั่นมากได้แล้ว เขาตัวร้อนเหมือนไฟ จึงต้องใช้อันนั้นด้วย

“หืม” มาลแกธหยิบขึ้นมาส่องดู “อย่างนั้นหรือ”

เขากรอกมันลงปาก...

“เจ้าจะป้อนยาด้วยปากอีกหรือไง” รอยยิ้มผุดบนใบหน้าดาร์กเอลฟ์ทั้งที่น้ำตายังไม่แห้งจากหางตา มันเป็นรอยยิ้ม ‘ร้ายกาจยั่วเย้า’ อย่างที่มาลแกธไม่เคยเห็นมาก่อน

มาลแกธยิ้มด้วยตา ขณะมองโคลด์ที่เขาจัดให้นอนคว่ำอิงศีรษะอยู่บนตักของตน

ใช่ เขาป้อนยาให้โคลด์ด้วยปาก

ยาขมร้อน...แต่รสจูบกลับหวานฉ่ำ

โคลด์เปิดปากอย่างว่าง่าย ยอมให้ลิ้นของพวกเขาแตะกัน หยอกล้อดูดดื่ม ยอมให้มันเป็น ‘จูบ’ มากกว่าการป้อนยา

มาลแกธก้มลงไปชิมรสจากโคลด์จนทั้งสองฝ่ายแทบหมดลมหายใจ ในอกหวามจนสั่น ตลอดชีวิตอันยาวนาน แม้จะมีคู่นอนมากมายแต่ไม่มีใครทำให้เขารู้สึกเช่นนี้

“ดูเหมือนเจ้าจะชอบข้าคนใหม่” โคลด์กระซิบ

“ข้ารักเจ้าอย่างสิ้นหวังมานานแล้ว” มาลแกธเอ่ยทีเล่นทีจริง “เจ้าชอบข้าบ้างหรือไม่เล่า”

“ข้าจะฆ่าเจ้า เจ้ารอดเพราะลูกน้องของเจ้า ไม่ใช่เพราะข้าลังเล” คำพูดเย็นชา ดวงตาสีม่วงไม่มีความสำนึกเสียใจ

“ข้ามั่นใจว่าต้องเป็นอย่างนั้น” มาลแกธไซ้จมูกกับข้างแก้มโคลด์ และโคลด์ก็ไซ้ตอบ...นั่นแปลกอย่างมาก

‘โคลด์ สตาร์’ แท้จริงแล้วเป็นคนเช่นไร น่าแปลกใจและอันตรายที่จะค้นหาความจริง

“แต่อย่างไรข้าก็ต้องส่งเจ้ากลับเอวา เธมาร์” มาลแกธหลับตาขณะสูดกลิ่นผิวเนื้อ

“ถ้าเจ้าอยากนอนกับข้า ข้าให้ เจ้าไปจัดการอธิบายกับลูกน้องเอาเองแล้วกัน” โคลด์ยิ้มแบบที่ดาร์กเอลฟ์พึงยิ้ม หยอกแบบที่ดาร์กเอลฟ์พึงหยอก

มาลแกธหัวเราะหึๆ “ไม่ละ ข้าอยากนอนกับเจ้าในสถานที่ที่ดีกว่านี้” เขากดนิ้วคลึงริมฝีปากสีม่วงอ่อนเบาๆ

“เอียงหน้ามา”

“ขอรับ” เอลฟ์ตะวันออกทำตาม แม้จะสงสัยหน่อยๆ

โคลด์จูบที่กกหูของเอลฟ์ ดูดเบาๆ ไม่รีบร้อน ไม่ลังเลใจ นอกจากซิกฟรีดแล้ว นี่เป็นคนที่สองที่เขาแสดงความรักเช่นนี้ให้

ใจของมาลแกธกระตุก เขาเบิกตากว้าง บริเวณหูเป็นที่ที่ให้คนรักแตะต้องเท่านั้น แม้แต่คนเจ้าชู้อย่างเขายังไม่ใช้ริมฝีปากสัมผัสใบหูของคู่นอนเลย มันมีความหมายมาก—มากเกินไป

“ข้าจะฆ่าเจ้าจริงๆ แล้วข้าก็อยากชิมรสใบหูเจ้าจริงๆ” โคลด์กระซิบ

“เจ้าเป็นใคร” มาลแกธมองโคลด์ชัดๆ

“โคลด์ สตาร์” แววตาแพรวพราวมากพิษสงมองตอบ “คนที่เจ้าไม่รู้จัก ข้าแสดงได้ดีใช่ไหม ตั้งสิบปี”

เอลฟ์ตะวันออกวางมือบนแก้มของอีกฝ่าย นิ้วโป้งเกลี่ยเบาๆ ดวงตาของเขามีแววเศร้าลึก “อา...เจ้ามีอดีตอย่างไรกันแน่” เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ มาลแกธจูบหน้าผากโคลด์ สตาร์ที่เขาเพิ่งรู้จัก

“ข้าไม่กลับเอวา เธมาร์” โคลด์เปลี่ยนสีหน้ามากล่าวเรียบเฉย รอยยิ้มหายไป “ทรยศซิกฟรีด ไปกับข้า” แน่ว่าข้อตกลงนี้ต้องรวมการพาอิลมาเรไปด้วย

หากโคลด์ตั้งใจมองเข้ามายังนัยน์ตาของมาลแกธจริงๆ เขาจะทราบว่าไม่ได้มีเพียงตัวเขาเองที่ไร้อิสระ

“ข้าไปไม่ได้”

“อ้อ ไม่เป็นไร” โคลด์ตอบเหมือนคาดไว้อยู่แล้ว “เจ้ามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ข้าเข้าใจ เหมือนตอนซิกฟรีดข้าก็เข้าใจว่าเขาต้องไปทำเรื่องของเขา ข้าเองก็ต้องไปทำเรื่องของข้า ข้าจึงทิ้งเขา”

“อา...” มาลแกธยิ้มอ่อนใจ “เจ้าพูดถึงเขาอีกแล้ว เราจะไม่พูดถึงเขาไม่ได้เลยหรือ”

“ถ้าจะทำให้เจ้ารู้สึกดีขึ้น ข้าไม่เคยชวนเขาให้ทรยศตัวเองเพื่อข้า แต่ข้าชวนเจ้า”

ป่านนี้แล้ว ไม่ทราบว่ามาลแกธรู้ไหมว่าโคลด์บอกลาซิกฟรีดได้สำเร็จด้วยเหตุผลใด เขาเอ่ยถึงเกวนโดลินกับซิกฟรีด แต่ไม่เอ่ยกับมาลแกธ บางทีดาร์กเอลฟ์อาจใช้วาจาโน้มน้าวไปเรื่อยเพื่อให้ได้สิ่งที่อยากได้

มาลแกธจูบโคลด์ที่เปลือกตา “ข้าไปไม่ได้ที่รัก ข้าให้สัตย์สาบานไว้กับตระกูลล็องธูแล้ว การมีรูเมเรียร์ทำให้ฐานอำนาจของเราแข็งแกร่ง”

“งั้นก็จบการเจรจา” โคลด์สรุปง่ายๆ แต่ในใจเด็ดขาดว่าอย่างไรก็ไม่กลับไป อิลมาเรบอกเขาเรื่องที่เธอแอบได้ยินมา ว่าพระราชาส่งคนมาเพิ่มอีก ด้วยสภาพร่างกายแบบนี้ก็หนียากอยู่แล้ว เขาต้องคิดอย่างหนักว่าจะพาตัวเองกับอิลมาเรให้พ้นจากเอลฟ์สวะพวกนี้ได้อย่างไรก่อนกำลังเสริมมา

กริ๊ก…

เกิดเสียงเบาๆ คล้ายเสียงแก้วร้าวดังขึ้นใกล้ๆ มาลแกธมองหาที่มา เห็นลูกแก้วขนาดจิ๋วที่ตนร้อยเข้ากับสร้อยข้อมือเกิดรอยร้าวทั่วทั้งใบ

“เดเนธอร์...” เอลฟ์ตะวันออกรำพึง

ภายในลูกแก้วบรรจุลมหายใจของลูกน้องคนสนิทอยู่ เดเนธอร์ทำให้เขานึกถึงน้องชายต่างมารดา มันเคร่งเครียดจริงจังกับทุกเรื่อง แถมยังซื่อตรงจนไม่นึกว่าจะมีเอลฟ์แบบนี้อยู่บนโลก ซื่อเกินไป...เขากลัวว่ามันจะซื่อจนตายเหมือนน้องชายของตน

มาลแกธจึงให้เดเนธอร์ใส่ลมหายใจไว้ในลูกแก้ว มันเป็นที่รักของเทพแห่งลม (หรือบิดาแห่งวายุตามความเชื่อของรูเมเรียร์) เขาเคยได้ยินพระองค์กระซิบเล่าสิ่งต่างๆ อยู่รอบตัวมัน เพียงแต่มันไม่รู้ความหมาย เขาจึงสนทนากับพระองค์แทนว่าจะช่วยดูแลเด็กโง่คนนี้อีกแรง...เขานึกเอ็นดูมันจริงๆ

และขณะนี้เทพแห่งลมส่งสารผ่านลมหายใจ

เดเนธอร์ตกอยู่ในอันตราย

“เอาไว้เรามาคุยกันใหม่ที่รัก” สีหน้าของมาลแกธเคร่งเครียด


—————————————————————————

A/N ตอนนี้ทอลก์สั้นๆ ง่ายๆ "เจ้าจะสนใจคนอื่นมากกว่าข้าทำไม มาลแกธ" by โคลด์
ป.ล. เหมือนเราเคยตอบในคอมเมนต์ของบางท่านไปแล้ว แต่อยากเอามาบอกไว้ตรงนี้ ตอนวางเรื่อง คุณ FOULSOUL (คนเขียนมาลแกธ) กรุณาเฉลยให้เราว่าสเป็กของมาลแกธคือ 'คนที่ทำให้หัวใจเขาเจ็บเจียนตายได้' 'อยากเป็นทาสรักราชินี'
เราก็...โอเค จัดให้ จัดไปค่ะ โคลด์แบบนี้เจ็บพอมั้ย? อยากเป็นทาส (รัก) ของโคลด์รึยัง? XD

I would destroy myself to fix you.
Show me the most damaged part of your soul.

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (3) [18/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 19-01-2017 14:30:37
ไรต์เปลี่ยนพระเอกเป็นป๋ามาลแกธเถอะ
ข้าน้อยขอถวายหนูน้อยโคลด์ให้ป๋าถึงเตียงเลย
ปล.เขี่ยซิกกับชะนีไปไกลๆค่ะ
ชอบอ่ะมาอัพทุกวันเลย  :mew1:
ดูกันต่อไปก่อนน้า ยังไงคนเลือกก็คือโคลด์เนอะ
ตอนใหม่อัพละน้า

ว่าที่เมี--แค่ก ๆ ! เจ็บ ผั--แค่ก ๆ ๆ !!! ทั้งสอ----แค่ก ๆๆๆๆ ! ถึงกับร้อนรนเลยทีเดียว

ถึงฉันจะอิจฉาในความสามผัวของเอรี่ แต่ก็รักจิตใจที่มุ่งมั่นทะเยอทะยานของนาง

ผูหญิงจงเจริญ! และให้กำเนิดเด็กน้อยน่ารักที่โตมาเป็นชายรักชายต่อไป!  :laugh:
ตอนนี้เขาคุยกันละค่าาาาาาาา ว้ายๆๆๆ อยากให้มาอ่านไวๆ

:katai1: :katai1:
ข่วนหน้าตัวเองทำไมอะเตง เจ็บมั้ย ^^;

อ่าน 3 ตอนรวดสุขสันต์จริงจัง  :pig4:   :heaven
ยินดีค่ะ  :laugh:

แม้จะโดนแทงคอจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด มาลแกธตื่นขึ้นมาก็ยังเป็นห่วงโคล์ดอยู่ดี  :z3:
เขารักของเขาอะเนอะ ไม่งั้นไม่ยอมโดนแทงคอแต่แรกหรอก
รักขนาดนี้ ฮือออออ ไม่โกรธเลย ถ้าโกรธโคลด์จะทำเย็นชาใส่ง่ายกว่าแท้ๆ

:pig4: :pig4:
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านจ้า แล้วแวะมาอีกน้า  :mc4:

อ่านจนเปลี่ยนใจมาชอบมาลละ :katai1:
อื้อหือ ไม่แปลกใจค่า แง ช่วงนี้มาลแกธมาแรงจริงอะไรจริงๆ
แต่อย่าเพิ่งทิ้งเรือคิงค่า ยังมี ยังมา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (4) [19/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 19-01-2017 15:39:52
สรุปน้องดาวเย็นเป็นคนมึนๆหรือดาร์กๆเนี่ยๆ
แต่ชอบตอนมึนๆมากกว่าน้า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (4) [19/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 19-01-2017 16:11:11
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (4) [19/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 19-01-2017 21:51:41
จะตื้อให้ไรต์เปลี่ยนพระเอกเป็นป๋ามาลแกธ จนกว่าไรต์จะยอม  :ling3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (4) [19/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 19-01-2017 21:57:09
สรุปน้องดาวเย็นเป็นคนมึนๆหรือดาร์กๆเนี่ยๆ
แต่ชอบตอนมึนๆมากกว่าน้า
เราก็ชอบตอนโคลด์มึนๆ ค่ะ น่ารักดี ไม่ต้องแคร์โลกมากด้วย ;w;

:katai5: :katai5:
แล้วแวะมาอ่านอีกน้า  :katai3:

จะตื้อให้ไรต์เปลี่ยนพระเอกเป็นป๋ามาลแกธ จนกว่าไรต์จะยอม  :ling3:
หงะ แค่นี้คนก็ว่าเราเปลี่ยนพระเอกแล้วนะคะ (เอ๊ะ หรือจริงๆ ก็คนนี้ตั้งแต่แรก)
ไม่อะ ไม่สปอย ให้โคลด์เลือกเนอะ -3-
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (4) [19/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 19-01-2017 22:03:57
เข้ามาอ่านครั้งแรกจ้า
อ่านไปอ่านมาขำเป็นบ้าอยู่คนเดียว  :laugh:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (4) [19/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 19-01-2017 22:09:24
เข้ามาอ่านครั้งแรกจ้า
อ่านไปอ่านมาขำเป็นบ้าอยู่คนเดียว  :laugh:
ขำช่วงไหนอ่า สงสัยช่วงแรกๆ XD
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (4) [19/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 19-01-2017 22:25:48
เด็ดขาดเย็นยา มาดราชินีมากหนู
ที่แทงมาลเพราะไม่อยากให้โดนทำโทษหรือเปล่า แบบถ้าจะให้มาลตายขอเป็นคนฆ่าเองอะไรแบบนี้
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (4) [19/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 19-01-2017 22:38:23
เด็ดขาดเย็นยา มาดราชินีมากหนู
ที่แทงมาลเพราะไม่อยากให้โดนทำโทษหรือเปล่า แบบถ้าจะให้มาลตายขอเป็นคนฆ่าเองอะไรแบบนี้
เป็นราชินีของมาลแกธ แต่เป็นอีเย็นของคุณหลวงซิกฟรีดค่ะ ;w;
ที่วิเคราะห์เรื่องแทงมาลแกธมีประเด็นดีค่ะ รอเฉลยนะ มุมิ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (4) [19/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 19-01-2017 23:24:07
"ข้ารักเจ้าอย่างสิ้นหวังมานานแล้ว"

โอยยยย.....เป็นคำบอกรักที่เทหมดหน้าตัก

โคลด์ตอบกลับด้วยกิริยาของคนรัก....จริงใจหรือไม่ก็สุดจะรู้...

โคลด์จะกินหูมาลแกธ??? เห็นภาพโคลด์แทะหูหมูต้มเลย ฮ่าฮ่าฮ่า

ป๋ามาลรักอิลมาเรเถอะ นางจริงใจกับเงินท่านนะ

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (4) [19/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 19-01-2017 23:44:03
"ข้ารักเจ้าอย่างสิ้นหวังมานานแล้ว"

โอยยยย.....เป็นคำบอกรักที่เทหมดหน้าตัก

โคลด์ตอบกลับด้วยกิริยาของคนรัก....จริงใจหรือไม่ก็สุดจะรู้...

โคลด์จะกินหูมาลแกธ??? เห็นภาพโคลด์แทะหูหมูต้มเลย ฮ่าฮ่าฮ่า

ป๋ามาลรักอิลมาเรเถอะ นางจริงใจกับเงินท่านนะ
"ใช่เจ้าค่ะ ข้าจริงใจกับเงินของท่านมาลแกธมากเลยเจ้าค่ะ! คนอะไรรวยเบอร์นี้ ข้าชอบๆๆๆ เจ้าค่ะ"
อิลมาเรวี้ดว้ายกับเงินและฉากจูบของคนในกระโจม  :-[

ป.ล. ท่าแทะหูนี้ ร้อยทั้งร้อยใจอ่อนยวบค่ะ มาลแกธก็มาลแกธเถอะ ฟุๆๆๆ
คือแบบว่าถ้าไม่ใช่คนรักไม่มีใครเขาจูบกันตรงนั้น ทั้งเอลฟ์และดาร์กเอลฟ์
เหมือนไปจับ xxx กันน่ะค่ะ  :o8:

ป.ล. 2 เราว่ามาลแกธก็น่ากลัวค่ะ เพราะเขามีสิ่งสำคัญเป็นตระกูลล็องธูด้วย
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 6 : ใจแลกใจ (4) [19/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 20-01-2017 06:36:56
ปมเยอะและท่าทางซับซ้อนจัง
สงสัยจะได้อ่านกันไปยาวๆ
ติดตามครับ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (1) [20/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 20-01-2017 13:33:12
ไม่อยากให้เป็นรักสามเศร้าเลยอ่ะ
โดยเฉพาะมาลแกธ น่าสงสารจัง
ไรต์แต่งให้มาลแกธมีคู่ไม่ได้เหรอ :mew2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (1) [20/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 20-01-2017 13:38:39
บทที่ 7 : สุสานวิหารร้าง (1)

ความตึงเครียดกระจายไปทั่วค่ายพักแรมเล็กๆ ของเอลฟ์เมื่อมาลแกธกล่าวว่าต้องการม้า “และเจ้า” หัวหน้าหน่วยกาลาฮานชี้เนอร์ดาเนล “เตรียมอาวุธแล้วมากับข้า ที่เหลือเฝ้าดาร์กเอลฟ์กับดวอร์ฟรอกองสนับสนุนจนกว่าจะส่งตัวเสร็จ ยังไม่ต้องตามข้ามา ข้าไม่คล่องตัว”

“เกิดอะไรขึ้นขอรับ” ลูกน้องคนหนึ่งถาม ขณะที่เนอร์ดาเนลรีบเตรียมอาวุธและม้าให้พร้อม

“ยังไม่รู้ชัด เอาเฟียตมา”

ลูกน้องน้อมศีรษะรับ ก่อนนำเอาเฟียต หรือเจ้านกส่งสารประจำหน่วยมาให้หัวหน้า มาลแกธประคองมันไว้ในอุ้งมือ กระซิบภาษาควาร์กับมัน มันขานรับคล้ายรู้เรื่อง พร้อมจะทำตามคำสั่ง

‘ตามหาเดเนธอร์’

“พร้อมแล้วขอรับ” เนอร์ดาเนลจูงม้ามาให้หัวหน้าหน่วย

มาลแกธดึงตัวเองขึ้นม้า “พวกเจ้าจงรอจนกว่ากองสนับสนุนจะมา หลังจากเสร็จธุระให้ไปรอข้าที่ปากทางเข้าสุสานวิหารร้าง” เขากำชับ

ลูกแก้วร้าวลึกขึ้นเรื่อยๆ เทพแห่งลมกระซิบแผ่วเบา

เดเนธอร์...สุสานวิหารร้าง

“ท่านมาลแกธ!” อิลมาเรวิ่งมาขวางหน้าม้า ลอดผ่านพวกเอลฟ์อย่างว่องไว “จะ...จะไปไหนเหรอเจ้าคะ” เธอกดท้อง หอบ

“ข้ามีธุระด่วน อิลมาเร” มาลแกธกำลังจะปล่อยให้เฟียตบิน

“คะ...โคลด์ให้ข้ามาบอกว่า ถ้าจะไปสุสานวิหารร้าง...เขารู้ทางข้างใน รู้ว่าจะผ่านพวกอันเดดได้ยังไง” อิลมาเรไม่เข้าใจที่โคลด์พูดนัก แต่ก็รีบมาบอกตามที่โคลด์เร่งมา

“อย่าว่าข้าใจร้ายเลย ถึงเขาจะทราบเส้นทางทะลุปรุโปร่ง แต่สภาพของเขามีแต่ถ่วงให้ข้าช้าลง”

“เขาบอกอีกว่าถ้าท่านหยิ่งนักไม่ฟังเขา ลูกน้องของท่านจะไม่รอด...ท่านช่วยฟังเขาหน่อยได้ไหม อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าท่านกำลังจะไปไหนใช่ไหมเจ้าคะ”

อิลมาเรเดาจากสีหน้าของทุกคนที่งงงวยพอๆ กับเธอ โคลด์ไม่ควรทราบว่าเดเนธอร์อยู่ที่ไหน เพราะเขานอนเจ็บอยู่แต่ในกระโจม แต่อยู่ๆ เขาก็บอกให้เธอรีบมาบอกมาลแกธ

หน่วยกาลาฮานมองกันและกันเงียบๆ คล้ายพูดคุยกันทางสายตา ที่ดาร์กเอลฟ์รู้เรื่องจุดหมายของหัวหน้าก็น่าสงสัย และถ้าให้พึ่งดาร์กเอลฟ์ที่เพิ่งฆ่าเพื่อนพ้องมาก็อย่างไรอยู่ แต่ว่าไม่มีชนเผ่าใดรู้จักพวกอันเดดได้ดีไปกว่าพวกทมิฬอีกแล้ว

มาลแกธใช้เวลาตัดสินใจเพียงครู่เดียว “พาเขามา”

เนอร์ดาเนลรับคำสั่งนั้นเอง เขาดึงโคลด์ออกมาจากกระโจม มาลแกธลงจากม้ามาดูดาร์กเอลฟ์ที่แทบยืนไม่ไหว

“ข้าขอทำอะไรเอาแต่ใจสักหน่อย” หัวหน้าหน่วยกาลาฮานจับโคลด์หันหลังแล้วดึงเสื้อออก เขาทาบมือกับบาดแผล ร่ายเวทเป็นภาษาตะวันออก สำเนียงดุดันก้องไปทั่วป่า

ทันใด บาดแผลกลับสมานตัวอย่างรวดเร็ว ผิวเนื้อบริเวณนั้นนูนขึ้นเหมือนแผลเป็น ดูแล้วเป็นแผลเป็นเก่าด้วยซ้ำ

“ข้ายืมร่างกายในอนาคตของเจ้ามา สลับที่กัน ต่อจากนี้อีกสิบปียี่สิบปี มันจะปริเหมือนตอนถูกแทงใหม่ๆ” มาลแกธอธิบาย โคลด์สังเกตเห็นว่าแผลที่คอของมาลแกธก็หายดีแล้ว

“ช่างปะไร” โคลด์สะบัดตัวจากมือ นี่คือเวทที่มาลแกธพูดก่อนหน้า นับว่าอีกฝ่ายรอบคอบที่รักษาตัวเองด้วย เพราะถ้าให้เขาหายเจ็บอยู่คนเดียวก็อันตรายเกินไป

โคลด์ใส่เสื้อ เอ่ยธุระของเขา

“ลูกน้องเจ้ามันโง่ เข้าไปในสุสานแห่งวิหารอัปลักษณ์มารดา เส้นทางข้างในเป็นเขาวงกตขนาดย่อม มีแต่อันเดด ถ้าพาข้าไปด้วย ข้าบอกได้แน่ว่ามันอยู่ที่ไหน และมีประโยชน์กว่าพวกเจ้าไปกันสองคน”

“เตรียมม้าให้เขา”

เนอร์ดาเนลขบกรามแต่ทำตามคำสั่ง เขาเชื่อความรีบร้อนของหัวหน้าว่าเวลาของเดเนธอร์เหลือน้อยแล้ว

“ข้ามีข้อแม้อีกข้อ ปล่อยอิลมาเรไป”

“...ปล่อยดวอร์ฟ” มาลแกธเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนปล่อยให้เฟียตโผบิน

โคลด์ยิ้มสมใจ เจ้าใช้อิลมาเรเป็นจุดอ่อนข้า ข้าก็ใช้ลูกน้องที่เจ้าห่วงนักหนาเป็นจุดอ่อนเจ้า

ดาร์กเอลฟ์เอ่ยขออาวุธ เขาได้รับอนุญาตให้พกไปได้ชิ้นหนึ่ง จึงเจาะจงมีดสั้นน้ำแข็ง เมื่อตกลงกันได้แล้วพวกเขาก็ขึ้นม้า กระตุกบังเหียนควบออกไป

ในเวลาเดียวกับที่คนทั้งสามเร่งเดินทาง

...อิลมาเรมองเห็นนกสีขาวโผบินตามพวกเขาไป

 

โคลด์ไม่ได้ห่วงชีวิตเดเนธอร์ แต่จู่ๆ โอกาสหนีที่หาแทบตายก็ร่วงลงมาใส่หน้า แม้ต้องเผยความลับนิดหน่อย เขาก็ยอมแลก

“เจ้ารู้ได้อย่างไร” มาลแกธเอ่ยถาม แม้ใจจะคิดไว้แล้วว่าโคลด์ไม่มีทางบอก หรือถึงบอกก็คงโกหก

“ข้ามีวิชาของข้า เจ้าตามนกเจ้าไปเถอะ มันจะไปทางเดียวกับที่ข้าบอก” โคลด์ตอบกลายๆ ให้มาลแกธไม่อาจฟันธงว่าเขาโกหก และเผยว่าเขารู้เรื่องนกสื่อสารของมาลแกธ

โคลด์รู้มากขนาดนี้ได้อย่างไร

หลังควบม้าเร็วข้ามภูเขาโดยไม่หยุดพัก พวกเขาก็มาถึงสุสานวิหารร้างในเวลาอันตราย...นั่นคือเวลาโพล้เพล้ บุตรพระอาทิตย์กำลังจะอำลาโลก เทพีจันทร์เตรียมตัวขึ้นฉายแสงบนฟ้า เวลาแห่งคนตายกำลังจะมาถึง

“เจ้าฟังนกรู้เรื่อง?” มาลแกธถามอีก ข้อจำกัดของควาร์อีกอย่างหนึ่งคือภาษาของสัตว์ ธาตุในโลกส่วนใหญ่มีภาษาเป็นสากล แต่สัตว์ไม่ใช่ พวกมันมีการสื่อสารเฉพาะกลุ่ม เรียบง่าย...แต่ก็มีความซับซ้อนละเอียดอ่อนในตัว ควาร์ที่ฝึกจนพูดคุยกับสัตว์รู้เรื่องต้องคลุกคลีกับพวกมันนานพอ

เหมือนที่มาลแกธคลุกคลีกับเฟียตนานพอ

“ข้าคุยกับมังกรศิลาได้ไม่ใช่หรือไง” โคลด์อาจคุยกับมังกรศิลาได้จริง แต่เขาจะเอาเวลาที่ไหนไปคุยกับนกของมาลแกธ

มาลแกธไม่ได้ถามต่อ พวกเขาอยู่หน้าประตูทางเข้าวิหารร้าง โดยมีเนอร์ดาเนลเข้าไปสำรวจก่อน

ในบันทึกกล่าวว่าวิหารแห่งนี้สร้างจากหินอ่อนสีขาว มีรูปสลักมารดานภาและเหล่าบุตรธิดาอันวิจิตรโอฬารตั้งอยู่โดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นประตู เสาต้นใหญ่ หรือกรอบหน้าต่าง ล้วนแต่ได้รับการสลักเสลาอย่างประณีต ภายในมีโถงทางเดินทอดยาว จุคนได้นับร้อย บนผนังสองข้างทางบอกเล่าเรื่องราวของมารดานภาและการกำเนิดเผ่าพันธุ์เอลฟ์ ทว่าปัจจุบันวิหารศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นซากปรักหักพัง ถูกเถาไม้เลื้อยคลุมจนมองไม่เห็นเนื้อหินอ่อน ให้บรรยากาศหม่นหมองวังเวงไม่น่าเข้าใกล้ สุดท้ายก็เป็นที่อยู่อาศัยของวิญญาณร้าย หรือพวกศพเดินได้อย่างอันเดด

มาลแกธเงี่ยหูฟัง เขาได้ยินแต่เสียงชั่วร้ายอัปมงคลในที่แห่งนี้ เสียงที่ควาร์จะหลีกเลี่ยง เนื่องเพราะเชื่อว่าจะถูกสะกดและถูกล่อลวงไปในทางไม่ดี เว้นเสียแต่…

เสียงทราย

เขาได้ยินเสียงทราย แถมยังเป็นทรายที่ได้รับการร่ายเวทคุ้มกันระดับสูงเสียด้วย มาลแกธตั้งใจเงี่ยหูฟังอีกนิด เขาได้ยินมันเอ่ยชื่อ

กอห์นดีเอน

ชื่อเงาสังหารของคิงซิกฟรีด

มาลแกธสบถ “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน”

“ไม่รีบเข้าไปหรือไง” โคลด์ชักมีดสั้นออกมาเตรียมพร้อม เดินตรงเข้าไปในวิหารร้างอย่างไม่ลังเล ที่เขาเคยบอกว่าตนไม่ได้ยินเสียงอย่างควาร์นั้นเป็นความจริง แต่ถึงได้ยินเสียงเตือนอันตรายใดๆ เขาก็หาสนใจ

เพราะที่นี่คือจุดหมายที่เขาตั้งใจมาตั้งแต่แรก!

ครู่เดียวโคลด์ก็ตามเนอร์ดาเนลทัน ภายในวิหารร้างเงียบสงัด ไร้เสียงหรือความเคลื่อนไหว จนเนอร์ดาเนลคิดว่าไม่จำเป็นต้องพาดาร์กเอลฟ์มาด้วยก็ได้

กระทั่งลูกธนูจากทุกทิศทางพุ่งเข้าหาพวกเขา!

โคลด์ว่องไวมากพอจะหลบหลังเสา เขาฟังเสียงลูกธนูกระทบพื้นหินอย่างเฉยๆ ไม่สนใจว่าเอลฟ์อีกตนจะเป็นอย่างไร เขาพอเดาได้ว่าจะเป็นแบบนี้ ทว่าไม่คิดเตือน

ประสาทของเนอร์ดาเนลไม่ไวเท่าโคลด์ แต่เฉียบคมพอที่จะตัดสินใจฉับพลัน เขาใช้ดาบฟันลูกธนูก่อนหาที่กำบัง อักขระเวทบนใบดาบเรืองขึ้นในความมืดสลัว

มาลแกธจุดไฟด้วยถุงมือซึ่งเป็นอุปกรณ์เวทคู่กาย ลูกไฟลอยขึ้นสูง ส่องให้เห็นฝ่ายที่ซุ่มโจมตีพวกเขา มันเป็นออร์คผิวสีเขียวสกปรก—เผ่าที่ถือกำเนิดจากโคลนและความชั่วร้าย

โคลด์โยนมีดสั้นเล่นอยู่หลังเสา “เอลฟ์เก่งนี่นา แค่นี้ก็ฆ่ากันไปสิ ข้าแค่มานำทาง” เขาโผล่หน้ามายิ้มให้ด้วยซ้ำ

เนอร์ดาเนลอยากตะคอกว่า ‘หุบปาก’ แต่ที่เขาทำคือขบกรามแน่นไม่ให้คำสบถหลุดออกไป

“ข้ามาตามหาเพื่อน!” มาลแกธซึ่งหลบอยู่หลังเสาตรงข้ามโคลด์ตะโกนออกไป “พวกเจ้าก็มีเพื่อนใช่ไหม คงไม่อยากให้เขาเป็นอะไรเหมือนกัน!”

“มาลแกธ เจ้าอายุ 279 ปีจริงสิ” โคลด์ถามจากหลังเสา

“ข้าอยากมีอารยะ” มาลแกธพยักพเยิดไปทางเนอร์ดาเนลที่หลบลูกธนูและโจมตีอออร์คไปด้วยอย่างงานล้นมือ “เขารู้จักข้าในฐานะหัวหน้าหน่วยผู้ใจดีและใจกว้าง” เขาพูดพอให้โคลด์ได้ยินคนเดียว

“ดูตาพวกออร์คสิ ดูให้ดีๆ” ตาของออร์คเหล่านั้นเป็นฝ้าขาวขุ่นมัวเหมือนตาปลาตาย...ตาของสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้ว

มาลแกธหันไปดูตามที่โคลด์บอก “เยี่ยม ไม่จำเป็นต้องมีอารยะ...เนอร์ดาเนล ระวังไฟ!”

ลูกไฟระเบิดออกเป็นผีเสื้อนับร้อย ตรงเข้าคลอกออร์คจนเหี้ยน แต่อย่างที่มาลแกธพูดเสมอว่าไฟคุมยาก อาจมีพลาดไปโดนอย่างอื่นที่ไม่ใช่เป้าหมายบ้าง

เนอร์ดาเนลเบิกตากว้าง ออร์คเป็นร้อยๆ ตัวถูกย่างต่อหน้า เขาทราบว่าหัวหน้าเป็นควาร์ที่ถนัดการใช้ไฟ แต่ไม่เคยเห็นกับตามาก่อน

น่ากลัว…

“เจ้าลูกหมา! มองอะไร มาทางนี้ได้แล้ว!” มาลแกธตะโกนเรียกลูกน้องที่กำลังตะลึงงัน

“มาซ่อนมาเอลฟ์” โคลด์ให้คำแนะนำอย่างเหยียดๆ แล้วหันไปบอกมาลแกธ “ถ้าไฟของเจ้าเผามันตายง่ายๆ ข้าจะเสนอตัวมาทำไม”

ครู่เดียวก็มีโครงกระดูกร่างใหญ่เดินออกมาจากสุดโถงด้านใน มันแต่งชุดรุ่มร่ามเก่าขาดอย่างนักเวท สร้อยคอลูกปัดหินสีกับเครื่องประดับอย่างชาแมนทำให้พอเดาได้ว่าในอดีตมันคงเป็นจอมเวทดาร์กเอลฟ์

ชาแมนอันเดดเดินออกมาสู่แสงไฟที่มาลแกธจุดไว้ แต่ยังอยู่ไกลจากวิถีการโจมตี แสงสีเขียวเรืองรองในเบ้าตากลวงโบ๋ลุกพรึ่บ! มันโกรธที่ถูกบุกรุกอาณาเขต จึงยกแขนทั้งสองข้างขึ้น ไอสีดำจากฝ่ามือที่เหลือแต่กระดูกกระจายไปทั่ว ปลุกศพไหม้เกรียมของออร์คให้ลุกขึ้นมาใหม่ ทีละตน...ทีละตน


—————————————————————————

A/N มีเรื่องอยากทอลก์มากมาย แต่นักเขียนป่วยค่ะ เป็นหวัด เอาเป็นว่า บทนี้โคลด์ได้เอาคืนบ้างแล้ว เนอะ (^_^)
ป.ล. ชาแมนอันเดดเท่เนอะ เผาเท่าไหร่ก็ลุกขึ้นมาได้ ทีนี้มาลแกธทำไงล่ะ

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (1) [20/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 20-01-2017 13:50:11
บู๋ระห่ำอ่ะ โคลด์ดูเหมือนปิศาลเลย น่ารักมากกกกก  :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (1) [20/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 20-01-2017 17:56:41
ปมเยอะและท่าทางซับซ้อนจัง
สงสัยจะได้อ่านกันไปยาวๆ
ติดตามครับ
ไม่ยาวมากจ๊ะ อีกสักเดือนกว่าๆ ถ้าลงทุกวันก้อจบละจ้า -3-
อยู่ด้วยกันก่อนนะคะ  :mc4:

ไม่อยากให้เป็นรักสามเศร้าเลยอ่ะ
โดยเฉพาะมาลแกธ น่าสงสารจัง
ไรต์แต่งให้มาลแกธมีคู่ไม่ได้เหรอ :mew2:
อันนี้ยากจังเลยค่ะ ความรักมันบังคับยาก มาลแกธเขาหลงรักโคลด์ไปแล้ว
เอาคนอื่นไปเสนอเขาไม่แลเลยค่ะ แอ U_U

บู๋ระห่ำอ่ะ โคลด์ดูเหมือนปิศาลเลย น่ารักมากกกกก  :mew1:
"ข้าเหมือนปีศาจคือน่ารักหรือ" โคลด์ถามเอื่อยๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (1) [20/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 20-01-2017 18:11:00
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (1) [20/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 20-01-2017 20:40:11
:hao7: :hao7: :hao7:
อันนี้แปลว่าเอาตอนต่อไปมารึเปล่าคะ /ฮา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (1) [20/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 20-01-2017 21:06:01
โคลด์ซับซ้อนอย่างกับกองกระดาษถูกขยำ

นี่ชมนะ....

เอาใจช่วยให้ช่วยได้นะ ฉันเสียดายเวลาของสวย ๆ งาม ๆ ต้องจากไป


หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (1) [20/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 20-01-2017 21:38:19
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (1) [20/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 20-01-2017 21:41:07
โคลด์ซับซ้อนอย่างกับกองกระดาษถูกขยำ

นี่ชมนะ....

เอาใจช่วยให้ช่วยได้นะ ฉันเสียดายเวลาของสวย ๆ งาม ๆ ต้องจากไป
ปะ เป็นคำชมที่แปลกใหม่มากเลยค่ะ /เพิ่งเคยมีตัวละครโดนชมแบบนี้
รอตอนหน้านะคะๆ ความซับซ้อนของโคลด์จะค่อยๆ คลี่ออกมา เป็นกระดาษที่กางออกให้คนอ่านมองได้ทุกมุม
เมื่อถึงตอนนั้น แม้รอยยับยังฝังแน่นอยู่กับกระดาษ เราก็จะมองเห็นและเข้าใจเขามากขึ้น/ง่ายขึ้นค่ะ

:pig4: :pig4:
ยินดีค่ะ ;)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (1) [20/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 20-01-2017 22:03:06
ชมมาลซักหน่อยสิหนู กว่าป๋าเขาจะเล่นไฟได้ขนาดนี้ คิดซะว่าป๋าเขาโชว์ไฟให้ดูไง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (1) [20/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 20-01-2017 22:40:13
เอาละซิ จะกำจัดชาแมนยังไงละนี่ 
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (2) [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 21-01-2017 11:12:58
บทที่ 7 : สุสานวิหารร้าง (2)

ออร์คทั้งหมดที่มาลแกธเพิ่งเผาไปจับอาวุธขึ้นสู้อีกครั้งด้วยสภาพร่างกายทุเรศทุรังแต่ไม่รู้จักเจ็บปวด คราวนี้อาวุธไม่ได้มีแค่ธนู แต่มีดาบเหล็กยักษ์ด้วย

“เนอร์ดาเนล!” มาลแกธเรียกให้ลูกน้องได้สติ เนอร์ดาเนลสะดุ้ง เขาจะก้าวขา แต่รู้สึกหนักเหลือเกิน สถานการณ์แบบนี้แม้แต่เอลฟ์ที่ใจแกร่งก็ยังทดท้อได้

“พวกเจ้าชอบชาแมนอันเดดไหม” โคลด์หัวเราะอีก “นี่แจ็กพ็อตแตกเหมือนในถ้ำมังกรเลยนะ เจอแต่ตัวร้ายๆ ใหญ่ๆ”

“ขอสารภาพ” มาลแกธแสยะยิ้มขณะมองชาแมนโครงกระดูก “ข้าไม่เคยรบกับพวกไม่ตาย นี่จะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ” เขาตื่นเต้น ลิ้นแลบเลียริมฝีปากแห้งผาก

เนอร์ดาเนลเข้าที่กำบังแล้ว เขาเอ่ยถามหัวหน้า พยายามบังคับไม่ให้เสียงสั่น “อย่างไรต่อ...ขอรับ”

มาลแกธหันมาทางลูกน้องที่หลบเสาถัดไป “หากเจ้าเห็นท่าไม่ดีข้าอนุญาตให้หนีได้ แต่อย่าตาย” ก่อนจะหัวเราะแล้วเอ่ยว่า “ข้าหวังว่าเจ้าหนีไปแล้วจะไม่อายตัวเองนะ...ถามมาได้ สู้สิ เจ้าลูกหมา สู้! ชีวิตหนึ่งจะได้สู้กับชาแมนอันเดดสักกี่ครั้งกันหือ รีบๆ ล้มมันแล้วไปตามเดเนธอร์กลับมา”

คำพูดของมาลแกธฟังแล้วรู้สึกมีกำลังอย่างประหลาด ราวกับว่าเรื่องตรงหน้าไม่หนักหนาอันใดเลย

หนักสิ...มาลแกธคิด เขายังหาแผนดีๆ ไม่ได้ อย่างที่บอกโคลด์ไป เขาไม่เคยรบกับกองทัพอันเดดมาก่อน ยิ่งชาแมนอันเดดยิ่งไม่ต้องพูดถึง

“เจ้าต้องใช้ชาแมนสู้กับชาแมน” โคลด์บอก มองมีดสั้นน้ำแข็งในมือ “ขอบอกตามตรงว่าข้าแอบหนีไปตอนนี้เลยก็ได้ ยังไงพวกเจ้าก็ไม่ว่างมาจับข้า แต่ข้าจะไม่หนีและจะพาเจ้าไปหาลูกน้องตามที่บอก เพราะฉะนั้น อย่าผิดสัญญาเรื่องอิลมาเร”

“ข้าให้สัญญา” มาลแกธเอ่ยหนักแน่น

“สัญญาด้วยเวทควาร์” วาจาของควาร์คือคำสัตย์ มาลแกธจะไม่อาจบิดพลิ้ว

“เจ้าเริ่มเหมือนเอลฟ์ที่เจ้าเกลียดแล้ว” มาลแกธยกยิ้มบางๆ “ได้ ข้าจะเอ่ยเป็นภาษาควาร์ ผูกมันเข้ากับวิญญาณของข้าดีไหม”

มาลแกธใช้นิ้วแตะใบหูจากนั้นก็แตะที่ลำคอ เป็นท่าทางในการให้สัตย์สาบาน เขาเอ่ยคำสัญญาในภาษาศักดิ์สิทธิ์ของควาร์ อักขระโบราณปรากฏบริเวณหลังใบหูและลำคอ มันจะผูกมัดเขาไว้จนกว่าเขาจะทำตามที่ลั่นวาจา

“ดี ข้าจะช่วยเจ้า คุ้มกันข้า สู้กับพวกออร์คไป” โคลด์เดินออกไปยืนกลางทางเดินอย่างไม่เกรงกลัว เขากรีดฝ่ามือตัวเองเป็นอักษรเวทของดาร์กเอลฟ์ ขณะที่ออร์คตัวใหญ่พุ่งเข้ามาฟันเขา

มาลแกธชักดาบวงพระจันทร์รับดาบของออร์คแล้วโจมตีกลับ เพลงดาบของเขาเป็นแบบตะวันออกผสมกับเทคนิกที่คิดค้นขึ้นส่วนตัว มันดูอ่อนช้อย ลื่นไหล ทว่าเกรี้ยวกราดราวกับคลื่นทะเลกลางพายุ

ขณะที่หัวหน้าจัดการออร์คที่พุ่งเข้ามาโจมตีดาร์กเอลฟ์ เนอร์ดาเนลก็กระชับดาบเวทในมือช่วยคุ้มกันอีกแรง อักขระเปล่งแสงเมื่อกระทบกับร่างอัปมงคล วิญญาณที่ถูกขังอยู่ภายในร้องโหยหวนน่าสังเวช

“บิดาแห่งความตาย ข้าถวายเลือดเป็นพลี” โคลด์ร่ายเวทเป็นภาษาดาร์กเอลฟ์เมื่อกรีดอักษรบนฝ่ามือเสร็จ เขาคว่ำมือ ปล่อยให้เลือดหยดลงพื้น “คนตายผู้เก่าแก่ตั้งแต่กาลวิปโยคจงฟังข้า”

‘คนตายผู้เก่าแก่ตั้งแต่กาลวิปโยคจงฟังข้า’ เสียงสะท้อนภาษาดาร์กเอลฟ์ก้องไปมา ได้ยินชัดแม้อยู่ท่ามกลางการต่อสู้ชุลมุน

“จงฟังข้า” นัยน์ตาสีม่วงของโคลด์หรี่ลง แววตามืดดำ

‘จงฟังข้า’ เสียงสะท้อนก้องกลับมาอีก

แผลบนฝ่ามือเรืองแสงสีม่วงเข้ม เลือดของโคลด์กลายเป็นสีดำจากการใช้เวททมิฬ เลือดเปื้อนอวิชชาหยดถี่และแรงขึ้น เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นบีบเค้นมันออกมาจากมือของโคลด์

โลหิตสีดำซึมลงไปในรอยแตกของพื้นหิน

“จงกลับคืนมา ข้าบัญชา”

‘น้อมรับคำบัญชา!’ เสียงสะท้อนท่อนสุดท้ายเปลี่ยนไป พื้นหินแตกออก โครงกระดูกนักรบซึ่งถูกฝังมานานทำลายพื้นหินขึ้นมาพร้อมดาบและโล่ในมือ ไม่ใช่แค่ตัวเดียวแต่เป็นกองทัพ ตรงเข้าสู้กับออร์คผีดิบ

สถานที่นี้คือสนามรบโบราณกาลตั้งแต่ครั้งมารดานภาแตกหักกับมารดาสมุทร เอลฟ์และดาร์กเอลฟ์ฝังร่างซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ แทบจะถมแทนดิน มีโครงกระดูกที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นให้ใช้อย่างเหลือเฟือ

ดวงตาของโคลด์ดำมืดด้วยเวททมิฬ การใช้บลัดแมจิกปลุกชีพนักรบคนตายมีผลต่อเนื่องใหญ่หลวงที่เขาทราบดี

‘ชายคนนั้น’ จะรู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ และออกตามล่าเขา

ตลอดเวลาสิบสามปี โคลด์อดทนซ่อนเร้น ปกปิดตัวตนอย่างสุดกำลัง แต่อย่างไรเขาก็มีเหตุผลสามข้อในการใช้พลัง

หนึ่ง เขาจะกลับแดนทมิฬเพื่อเอาตราทาสออก หูตาในแดนทมิฬของชายคนนั้นมีเต็มไปหมด ไม่ช้าก็เร็ว...คงต้องเผชิญหน้ากันอยู่ดี

สอง เขาต้องผ่านวิหารนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้เพื่อไปหาเกวนโดลิน ไม่มีอะไรรับรองว่าแค่วิ่งหนีไปเรื่อยๆ เขาจะไปถึง

และสาม เพื่อให้อิลมาเรปลอดภัยจากเอลฟ์

โคลด์มองมาลแกธที่ยังสู้รบติดพัน...นึกถึงครั้งสุดท้ายที่พบกับซิกฟรีด จากนั้นก็นึกถึง...

‘กวิเนเวียร์’

กวิเนเวียร์พอใจจะอยู่ในฐานะ ‘เกวนโดลิน’ ส่วนเขาก็ทิ้งนามเก่าแล้วยอมรับนามใหม่จากบาคว่า ‘โคลด์ สตาร์’

พวกเขาชื่นชอบชีวิตใหม่หรือ

ไม่ควรเลย...สำหรับคนที่ต้องหลบหนีและใช้ชีวิตอยู่ในเงาอย่างพวกเขา...ไม่ควรพอใจกับตัวตนใหม่ เพราะหากวันใดชายคนนั้นตามมาถึง พวกเขาก็ต้องหลบหนีอีก ละทิ้งความสัมพันธ์กับทุกอย่างและทุกคน

ความสัมพันธ์ใหม่ ตัวตนใหม่...ทุกสิ่งเป็นแค่ของชั่วคราวเท่านั้น

ระหว่างที่โคลด์จมอยู่ในความคิดของตน มาลแกธเผยรอยยิ้มยินดีแกมบ้าคลั่งเมื่อได้เห็นกองทัพที่ไม่มีวันตาย เขาคำรามพลางวาดดาบฟันออร์คจนขาดสะพายแล่ง จากนั้นฟันขามันให้เดินไม่ได้ มาลแกธดูสนุกสนานขณะที่เนอร์ดาเนลหน้าซีด เขาเคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับชาแมนมาบ้าง และได้ยินอีกว่ามันเป็นศาสตร์นอกรีต ทรงพลังทว่าน่ารังเกียจ เห็นกับตาตัวเองคราวนี้...ยิ่งตอกย้ำว่าไม่ผิดไปจากคำเล่าลือ หรือบันทึกในตำราเลย

เนอร์ดาเนลสู้กับศพ ไม่ใช่แค่สภาพไม่น่ามอง แต่กลิ่นยังเหม็นรุนแรงแทบทนไม่ได้ เขารู้สึกอ่อนแรงลงทุกที...ทุกที คล้ายพวกมันกำลังสูบพลังชีวิตของเขาไป

นักรบโครงกระดูกของโคลด์ช่วยกรุยทางให้มาลแกธเข้าถึงตัวชาแมนอันเดด

“ทำลายสร้อยคอของมันซะ นั่นคือจุดรวมพลังเวททมิฬ เผาอย่าให้เหลือซาก ถ้ามันตายก็เชิดออร์คพวกนี้ไม่ได้!” โคลด์ตะโกน เขารู้ว่ามันจะจบอย่างรวดเร็ว มาลแกธมีฝีมือขนาดนั้น

มาลแกธกระโจนเข้าหาชาแมนอันเดดอย่างไม่เกรงกลัว เขาเงื้อดาบวงพระจันทร์ขึ้นขณะร่ายเวทในภาษาควาร์ ใบดาบลุกเป็นไฟ เปลวเพลิงส่องแสงสีแดงจัดจ้า ตัดผ่ากระดูกบริเวณบ่าของศัตรูอย่างง่ายดายไม่ต่างจากผ่าเนื้อนิ่มๆ

หัวหน้าหน่วยกาลาฮานจะบุกต่อ ทว่ากลับมีออร์คเข้ามาขวาง เขายกดาบรับอาวุธของมัน แล้วอาศัยจังหวะเฉือนต้นขาด้วยดาบอีกมือ พอมันทรุดมาลแกธก็พุ่งเข้าหาชาแมนอันเดดต่อ คราวนี้พวกออร์คที่โรมรันกับกองทัพกระดูกและเนอร์ดาเนลกลับมุ่งมาที่เขาคนเดียว

ต้องชิงเวลา มาลแกธกัดฟัน ก่อนที่เสียงกระซิบจากเวททมิฬจะทำอะไรกับหูอันอ่อนไหวของควาร์อย่างเขา

สร้อยคอชาแมนอยู่ตรงหน้านี่เอง...อีกนิดเดียว

มาลแกธทิ้งดาบวงพระจันทร์มือซ้ายแล้วดีดนิ้วเรียกไฟ มันลุกท่วมมือซ้ายทันที

เขาดีดตัว หลบหลีกออร์คผีดิบ พอเห็นช่องก็ซัดลูกไฟใส่สร้อยคออัปมงคล

จบแล้ว เนอร์ดาเนลคิด ไฟของหัวหน้าเผาสร้อยคอของมันจนกลายเป็นเถ้าในพริบตาเดียว มันกรีดร้อง สาปแช่งเป็นภาษาทมิฬ ไฟลามจากสร้อยคอไปทั่วชุดเก่าขาดและร่างกระดูกขาวโพลนของมัน พอไม่มีคนเชิด ออร์คผีดิบก็หมดพิษสง ล้มลงทับถมกันเป็นศพเกลื่อนวิหาร

เนอร์ดาเนลเผยยิ้มโล่งใจ แต่ดาร์กเอลฟ์เอ่ยคำพูดไม่เข้าหูทำลายบรรยากาศเสียสิ้น

“ข้างในยังมีแบบนี้อีกเป็นกองทัพ อย่าเพิ่งขาดใจตายไปก่อนก็แล้วกัน เอลฟ์” โคลด์กำมือ เลือดสีดำหยุดไหล เกาะแน่นเป็นอักษรบลัดรูนบนบาดแผล

นักรบโครงกระดูกที่ถูกทำลายระหว่างต่อสู้กลับมาอยู่ในสภาพสมประกอบ ดาบและโล่ของมันผุพังขึ้นสนิม จึงหยิบดาบและธนูคันใหม่จากศพออร์คขึ้นมาใช้

โคลด์ควบคุมพวกมันได้ง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ

‘ราชาคนตาย เจ้าชายกระดูก’

โคลด์ สตาร์ถูกเรียกเฉกนี้เมื่อนานมาแล้ว

“มา...ให้มันมาอีก” มาลแกธหัวเราะในลำคอ เขารู้สึกดีเยี่ยม แม้เลือดกำเดาจะไหลเพราะเสียงสาปแช่งที่ตรงเข้ากระแทกหูในระยะประชิด ควาร์ก็เป็นเสียอย่างนี้ หูเป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน

โคลด์แตะใต้จมูกของอีกฝ่าย เช็ดเลือดกำเดาให้ก่อนทันคิดอะไร

เนอร์ดาเนลเผลอจ้อง หัวหน้าของเขากับดาร์กเอลฟ์มีอะไรแปลกๆ ต่อกันจริงๆ


—————————————————————————

A/N สวัสดีค่ะ วันนี้ก็ยังทอล์กแบบป่วยๆ เช่นเดิม "ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ" (ทอล์กแค่นี้เรอะ! /แบบว่าเบลอๆ ยา นึกไม่ออกค่ะ)
ป.ล. โคลด์เท่มั้ยคะ (*0*)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

ชาแมนอันเดด
(https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/564x/43/94/a1/4394a11c4ff6fff489eff9751f21ab23.jpg)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (1) [20/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 21-01-2017 12:40:36
ชมมาลซักหน่อยสิหนู กว่าป๋าเขาจะเล่นไฟได้ขนาดนี้ คิดซะว่าป๋าเขาโชว์ไฟให้ดูไง
ว้าย ทำไมเขินคอมเมนต์นี้ กว่าป๋าเขาจะเล่นเก่งขนาดนี้เขาฝึกมาเยอะเนอะ  :-[
ป.ล. ตอนใหม่ลงแล้ว มีฟินค่ะๆ

เอาละซิ จะกำจัดชาแมนยังไงละนี่
ลงตอนต่อไปแล้วค่ะ มาดูกันว่าเป็นวิธีที่คิดไว้ไหมนะคะ ;)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (2) [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: IRDirada ที่ 21-01-2017 16:37:05
ลุงแกจะเคล็ดขัดยอกบ้างมั้ยน้าาาา
สนุกมากเลยค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (2) [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 21-01-2017 16:44:26
ลุงแกจะเคล็ดขัดยอกบ้างมั้ยน้าาาา
สนุกมากเลยค่ะ :katai2-1:
เพื่อรักแกออกได้หลายท่าทางและอึดมากค่ะ /วิ่งหนีไปปปปปปปปปป ชั้นตอบอัลลัย
ขอบคุณนะคะ ;) ฝากติดตามด้วยจ้ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (2) [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 21-01-2017 18:17:13
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (2) [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 21-01-2017 18:53:46
:hao7: :hao7:
แวะมาอ่านแล้ว จำชื่อได้ค่ะๆ XD
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (2) [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 21-01-2017 19:42:37
ทั้งโคลด์ ทั้งมาลแกธ ดูสนุกสนานกับการลงมือ เลือดเข้าตา

โคลด์เป็นชาแมนด้วยสินะ

หนูน้อยเดอนาเทล มาซบอกพี่มาเร้วว เดี๋ยวพี่ปลอบขวัญเอง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (2) [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 21-01-2017 20:24:07
ทั้งโคลด์ ทั้งมาลแกธ ดูสนุกสนานกับการลงมือ เลือดเข้าตา

โคลด์เป็นชาแมนด้วยสินะ

หนูน้อยเดอนาเทล มาซบอกพี่มาเร้วว เดี๋ยวพี่ปลอบขวัญเอง
ใช่ค่ะ อดีตของโคลด์จะถูกเผยออกมาเรื่อยๆ
ธาตุแท้ของมาลแกธเองก็เช่นกัน เอลฟ์ตะวันออกชอบการต่อสู้มากเลยค่ะ
ดูเปียหลากสีที่ทำจากผมของเผ่าอื่นสิ--  :hao5:
ป.ล. ดีใจ มีคนเอ็นดูเนอร์ดาเนล อายุของโคลด์อาจมากกว่าเนอร์ดาเนลไม่กี่ปีค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (3) [22/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 21-01-2017 23:58:15
บทที่ 7 : สุสานวิหารร้าง (3)

พวกเขาไปต่อโดยไม่เสียเวลา โคลด์ให้นักรบโครงกระดูกนำทาง และเป็นทางเดียวกับที่เฟียตบินไป

เมื่อเนอร์ดาเนลเดินหน้าไปไกลหน่อยและวุ่นวายกับโครงกระดูกเจ้าถิ่น โคลด์ก็เปรยกับมาลแกธ

“ข้าถูกสอนมาว่า...เมื่อพบใคร ให้คิดว่าควรใช้ประโยชน์จากอีกฝ่ายอย่างไร จุดอ่อนของมันคืออะไร จะกำไว้อย่างไร คลายออกอย่างไร บดขยี้มันอย่างไร”

ในช่วงเวลาสิบกว่าวัน มาลแกธได้รู้เรื่องของโคลด์มากกว่าซิกฟรีดซึ่งอยู่กับโคลด์มาสิบปี

“ ‘ต้องรอด’ ” มาลแกธยกหลังมือลูบแก้มโคลด์ “ถ้าเจ้าเกิดในตระกูลล็องธู เจ้าจะได้ยินวลีนี้บ่อยๆ เจ้าว่าข้าเอามันมาข่มคำสอนที่เขาคนนั้นบอกเจ้าได้ไหม ข้าอยากมีอะไรอวดบ้าง”

“อย่าเข้าใจผิด ข้าชอบคำสอนนั้น” โคลด์ยิ้ม “ต้องรอดก็ไม่เลวนัก แต่นั่นต้องสอนกันด้วยหรือไง”

“ ‘ต้องรอด’ สอนทุกอย่าง...สอนให้เจ้ากินเนื้อเพื่อน สอนให้เจ้าฆ่าบิดา หรือบางทีก็สอนให้เจ้ายอมก้มหัวให้รูเมเรียร์ครึ่งหนึ่ง”

“ทุกคนมีปีศาจของตัวเองทั้งนั้น”

“ไม่...โอ ไม่ๆ” มาลแกธลูบศีรษะโคลด์ “ข้าเป็นปีศาจ และข้าก็ชอบเสียด้วย”

โคลด์ปัดมือออก “เจ้ายังห่มหนังลูกแกะอยู่ ข้าเบื่อใช้ชีวิตแบบนั้นแล้ว”

คำว่า ‘เบื่อ’ ไม่ตรงกับความรู้สึกที่แท้จริงของโคลด์นัก เขาแค่เลี่ยงมาใช้มัน...เพราะรู้ว่าปลายทางสายนี้มีอะไรรออยู่

ชีวิตสิบสามปีในแดนเอลฟ์ ความทรงจำกับซิกฟรีด อิลมาเร และมาลแกธที่อยู่ข้างกันนี้ เป็นแค่ฉากที่สร้างขึ้น

มีแต่กวิเนเวียร์ที่เป็นของจริง

ยิ่งคิดโคลด์ก็ยิ่งเหนื่อย เขาอยู่กับความสบายใจปลอมๆ มานานเกินไป การตระหนักรู้ความจริงสมควรเป็นรากฐานของเขา ทว่าเขากลับหย่อนยานละเลยมัน

“จำวิหารบูชาเทพีจันทร์ในป่าที่ข้าเคยเล่าให้ฟังได้ไหม”

“สถานที่วิ่งเล่นสมัยเด็กของเจ้า ข้าจำได้”

“มันใช้เป็นที่ฝังศพด้วย เนโครแมนเซอร์รอให้ดินลอกเนื้อจากกระดูก แล้วเสกให้กระดูกกลับมามีชีวิตอีกครั้ง”

“นอกจากวิ่งเล่นที่นั่น เจ้ายังเรียนวิชาเนโครแมนเซอร์ที่นั่นด้วยหรือ”

“เปล่า...” โคลด์ก้มหน้า ริมฝีปากเรียบตึง “ข้าเรียนบลัดแมจิกเพื่อควมคุมโลหิต ไม่เคยศึกษาวิชาปลุกชีพศพ”

ชาแมนคือดาร์กเอลฟ์ผู้ศึกษาวิชาเวททมิฬ เวททมิฬแบ่งออกเป็นหลายสาย พวกที่ปลุกศพขึ้นมารับใช้เรียกว่าเนโครแมนเซอร์ พวกที่ใช้คำสาปแช่งหรือใช้เวทพิษก็มีชื่อเรียกเฉพาะ

ส่วนบลัดแมจิกคือการใช้โลหิต—ต้นกำเนิดแห่งชีวิต—สังเวยต่อเหล่าบิดามารดาเพื่อแลกเปลี่ยนกับพลังเหนือธรรมชาติ

“โอ” มาลแกธยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาเลยที่รัก เจ้าคืนชีพให้คนตายได้ โดยไม่ต้องเรียนรู้วิชาต้องห้ามเลยหรือ”

โคลด์ยิ้ม แต่ไม่ใช่การยิ้มรับคำชม “ราวๆ นั้น” เขาวาดมือสั่งให้นักรบโครงกระดูกที่เพิ่งพังก่อร่างขึ้นมาใหม่ สู้ต่อไป “เจ้าทราบไหมว่าอันเดดต่างจากศพที่ถูกเนโครแมนเซอร์ปลุกชีพยังไง”

มาลแกธครางอืมในลำคอ “ข้าพอรู้ แต่ก็เพียงผิวเผิน อันเดดคือพวกที่ตายไปแล้ว แต่วิญญาณกลับไม่เป็นอิสระ ถูกคำสาปให้ติดอยู่กับร่างเน่าเฟะตลอดกาล ชาวรูเมเรียร์กล่าวกันว่าเป็นคำสาปของบิดาธรณี ในกาลห่างไกล พระองค์ทรงปรามพวกกระหายสงครามด้วยวิธีนี้ คือถ้าชอบรบมากนัก ก็ให้รบไปจนกว่าโลกจะอวสาน ให้ร่างถูกทำลายจนรบไม่ได้นั่นละ...ส่วนศพที่เนโครแมนเซอร์ปลุกขึ้นมาอาศัยพลังเวท หากพลังเวทนั้นหมดมันก็จะคืนสู่ดิน”

เอลฟ์ตะวันออกเหลือบมองโคลด์ “ข้าเข้าใจถูกหรือไม่...เจ้าชาย” ดวงตาของมาลแกธวาววาม “ข้าได้ยินเสียงคนตายเรียกเจ้าราวๆ นี้”

โคลด์หยุดนิดหนึ่ง คิดว่าไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องที่เห็นกันอยู่ชัดๆ “ถูกต้องตามนั้น...ด้วยการพลีโลหิต ข้าได้ยินเสียงของคนตายที่ข้าปลุก รวมถึงเสียงของศพอีกมายมายใต้ผืนดิน...มันบอกข้าว่าลูกน้องเจ้าอยู่ที่ไหน”

“เดี๋ยว” มาลแกธขัด “ข้าขอพูดอะไรอย่างหนึ่ง ข้ากลัวว่าจะเสียใจถ้าไม่ได้พูดตอนนี้ เดี๋ยวนี้”

“อะไร” โคลด์หันไป

“เจ้าทำให้เลือดข้าร้อน ข้าอยากจูบเจ้าตอนนี้...และเดี๋ยวนี้”

“เอาสิ” โคลด์ตอบง่ายๆ แต่ก็พยักพเยิดไปทางเนอร์ดาเนล หัวเราะในลำคอคล้ายสื่อความว่า ‘เอาสิ ลูกน้องเจ้าอยู่ตรงนั้น ถ้าไม่เกรงใจมัน’

มาลแกธเก็บดาบวงพระจันทร์มือหนึ่ง ก่อนจะรั้งท้ายทอยโคลด์เข้ามารับจูบ มันร้อนแรง ผิดที่ผิดทาง และอันตราย…

กองทัพโครงกระดูกชะงักไปนิดตามการชะงักของเจ้านาย แต่โคลด์รับจูบ มือก็วาดสั่งให้พวกมันสู้ต่อ เขาแบ่งสมาธิควบคุมนักรบโครงกระดูกไปพร้อมกับรับสัมผัสซึ่งวาบหวามจากโคนลิ้นลงไปถึงข้างในท้องน้อย

เป็นเนอร์ดาเนลที่ชะงักค้าง เขาเบิกตากว้าง เป็นพยานรับรู้ความสัมพันธ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น อีกอย่าง...เรามาช่วยเดเนธอร์ไม่ใช่หรือ เรากำลังอยู่ในสุสานน่าขนลุกไม่ใช่หรือ

มุมมองของเนอร์ดาเนลที่มีต่อมาลแกธค่อยๆ เพี้ยนไปทีละน้อย

“ลูกน้องคงคิดว่าเจ้าทรยศ ข้าฆ่าเพื่อนมันไปสองคน แต่เจ้ามาจูบข้าต่อหน้ามัน หรืออยากให้ข้าบอกมันว่าเจ้าโดนเล่นของ” โคลด์เลียริมฝีปาก ใบหน้าแดงเรื่อเมื่อจูบเสร็จ เขายอมรับว่ามาลแกธปลุกอารมณ์ด้านมืดของเขาให้ลุกชัน

“อย่าแกล้งเนอร์ดาเนล มันยังเด็ก”

โคลด์เลยหันไปยกยิ้มร้ายกาจให้เนอร์ดาเนล ถ้ามันอยากเชื่อในตัวมาลแกธ มันจะโทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของดาร์กเอลฟ์

ง่ายๆ แค่นั้น

เนอร์ดาเนลไม่มองอีก เขาระบายอารมณ์กับตัวอะไรก็ตามที่มาขวางทาง เฟียตกระพือปีกอย่างแข็งขัน เนอร์ดาเนลพยายามรีบตามมันไป

“คิดอีกที เจ้าแค่เปลี่ยนฮาเร็มจากอาศรมควาร์มาเป็นหน่วยทหารใช่ไหม” โคลด์เร่งความเร็วตามเช่นกัน แม้จะพูดเล่น แต่เขากำลังใช้สมาธิมหาศาลในการควบคุมกองทัพนักรบ จิตของเขาต้องนิ่งและคิดสั่งการอย่างเป็นระบบ ซึ่งเปลืองทั้งพลังกาย พลังใจ และพลังเวท

ทว่านี่คือสิ่งที่โคลด์ฝึกฝนมาอย่างหนัก ก่อนจะหนีมายังแดนเอลฟ์ เขาฝึกการควบคุมคนตายจนเหนื่อยแทบขาดใจตายทุกวัน...ไม่มีเวลาหยุดพัก ไม่มีการยกโทษให้กับความผิดพลาด โคลด์จึงไม่แปลกใจนักที่เขายังทำได้ดีอยู่

มาลแกธหัวเราะเสียงดัง “เดเนธอร์ทำให้ข้านึกถึงน้องชายต่างมารดา เนอร์ดาเนลทำให้ข้าคิดว่า หากข้ามีบุตรชาย ก็คงเป็นเหมือนมัน อ่อนเยาว์ มุ่งมั่น และน่าจะมีปมเกลียดพ่อ” เขาเหลือบมองเฟียต มันบินหายไปอีกห้องหนึ่งแล้ว

“ข้าเพิ่งเพิ่มปมเกลียดพ่อให้มันไปเมื่อครู่”

“สมน้ำหน้าเจ้าแล้ว” โคลด์นึกถึงเรื่องที่มาลแกธฆ่าพ่อตัวเองขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่เขาย้ำให้ตัวเองไม่ใส่ใจมากกว่านั้น

 

สองชั่วโมง พวกเขามาถึงจุดหมาย เหนื่อยแบบไม่ได้หยุดพัก

“รองหัวหน้า” เนอร์ดาเนลเห็นเดเนธอร์ก่อนใคร รองหัวหน้าหน่วยกาลาฮานเดินเหมือนลอยอยู่กลางโถงยาวเหยียด พอเนอร์ดาเนลเข้าไปใกล้อีกหน่อย จึงเห็นว่าเดเนธอร์กำลังเดินตามวิญญาณซึ่งพรายแสงสีเขียวมรกตลวงตา

“อย่ามอง...เนอร์ดาเนล” มาลแกธยึดบ่าลูกน้องเอาไว้ สั่งให้หลุบตามองพื้น อย่าจ้องที่แสงสีเขียวตรงๆ

วิญญาณผีตายโหงทราบแล้วว่ามีผู้มาเยือน มันกอดเดเนธอร์ไว้แน่น

“ของข้า…” เสียงของมันเยียบเย็นน่าขนลุก “ของข้า!”

โถงนี้เป็นโถงใต้ดิน อากาศอับ ไม่ค่อยมีลมผ่าน จะขอให้เทพแห่งลมช่วยคงยาก จะใช้ไฟเผาผีก็ไม่เคยทดลองทำมาก่อน ไม่นับว่าอาจคลอกเดเนธอร์ตายไปด้วย

“เจ้าชาย” มาลแกธเรียกโคลด์ “ท่านเก่งกาจที่สุดในที่นี้แล้ว”

โคลด์เมินชื่อเรียกนั้น เขายกฝ่ามือที่ยังมีรอยกรีด แสดงรูนโลหิต กองทัพของเขายืนตรง เรียงแถวอยู่ด้านหลัง รอรับคำสั่ง

“เจ้าเอาเอลฟ์ไปทำอะไร”

วิญญาณร้องไห้ “ของข้าขอรับ...ของข้า”

“เพราะเป็นของวิญญาณตนนี้ มันถึงเดินเข้ามาได้ลึกขนาดนี้โดยไม่ถูกอันเดดกิน พวกเจ้าควรขอบคุณวิญญาณนะ ยกให้ไปเลยดีไหม”

มาลแกธมองโคลด์ ‘ที่รัก...อย่า’

บลัดรูนบนมือโคลด์เรืองแสงสีม่วงจางๆ เลือดสีดำที่แข็งตัวไปแล้วละลายดังถูกหลอม จากนั้นก็ระเหิดเป็นหมอกสีม่วงเข้ม

หมอกนั้นตรงเข้ารั้งวิญญาณไว้ แยกมันออกจากเดเนธอร์และล่ามมัน

“ข้าอยู่คนเดียวมานานแล้ว ได้โปรด เขาเป็นของข้า ให้ข้า...อย่า!”

โคลด์กำมือ ขยี้ร่างวิญญาณอย่างอำมหิต

เสียงร้องทำให้มาลแกธหลับตา ยิ่งอยู่ที่นี่นานยิ่งได้ยินเสียงที่ไม่ควรได้ยิน เขารู้สึกว่าความมืดกำลังเชื้อเชิญให้เข้าไปยังโลกอีกฝั่งหนึ่ง

วิญญาณโหยหาคนเป็น สูบกินชีวิตเพื่อต่อพลังวิญญาณตน โคลด์แค่แปลกใจว่าเอลฟ์ตนนี้มีอะไรดีนักหนา วิญญาณถึงอยากได้ขนาดขัดขืนเวทของเขาอย่างบ้าคลั่ง

เดเนธอร์ทรุดลงราวกับหุ่นเชิดที่ถูกตัดเชือก เนอร์ดาเนลรีบเข้าไปช่วยประคอง ก่อนจะพยุงมายังผนังโถงทางเดิน ให้นั่งพัก เขาให้น้ำและยาฟื้นกำลัง เดเนธอร์สำลักแต่ได้สติแล้ว

“เนอร์ดาเนล...หัวหน้า”

มาลแกธนั่งตรงหน้าเดเนธอร์ ใช้ฝ่ามือดันศีรษะอีกฝ่ายให้เงยขึ้น แล้วเลิกเปลือกตาดูว่ายังโดนมนตร์ดำเล่นงานอยู่หรือไม่

“เกิดอะไรขึ้น เล่าไหวหรือไม่”

เดเนธอร์ยังดูสับสน เขาไม่รู้ว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แต่ก็เล่าเท่าที่จำได้


—————————————————————————

A/N มาลแกธมีแต่จะหลงโคลด์ขึ้นทุกตอนๆ แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆ ค่ะ เพราะธรรมชาติของผู้ชายตะวันออกชอบของเผ็ดร้อน /ใช่เรอะ แต่ดู มาขอจ่งขอจูบต่อหน้าลูกน้อง คนอะไร ว้ายยย /วิ่งหนีไปแบบอิลมาเร
ป.ล. 1 เจ้าหญิงเดเนธอร์ได้รับการช่วยเหลือแล้วค่ะ /วิ่งหนีคุณ FOULSOUL ต่อ /ฮา
ป.ล. 2 อาการป่วยของเราดีขึ้นแล้วจ้ะ ;)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (3) [22/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 22-01-2017 08:59:19
เราชอบนะถึงจะมีช-ญ ก็ยังอ่านอยู่ดี ถ้าเรื่องน่าสนใจสนุก  มันคือความคิดสร้างสรรค์ที่นักเขียนกลั่นออกมา  เราว่าประเภทไม่สำคัญเลยถ้าพอร์ตดี บรรยายดีน่าติดตาม  แต่อย่างที่อ่านเรื่องนี้แน่นอนว่าชอบวาย ลงในเล้าไงคู่ก็ต้องวายแน่ๆอยู่แล้ว ถึงจะมีฉากช-ญมันก็คือส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องที่ทำให้นิยายสมบูรณ์ขึ้น ก็ไม่ได้รู้สึกขัดใจอะไร  อีกอย่างรู้สึกดูเรื่องราวสมจริงในเเบบของตัวมันเองด้วย   
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (3) [22/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 22-01-2017 10:02:20
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (3) [22/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 22-01-2017 12:08:29
เราชอบนะถึงจะมีช-ญ ก็ยังอ่านอยู่ดี ถ้าเรื่องน่าสนใจสนุก  มันคือความคิดสร้างสรรค์ที่นักเขียนกลั่นออกมา  เราว่าประเภทไม่สำคัญเลยถ้าพอร์ตดี บรรยายดีน่าติดตาม  แต่อย่างที่อ่านเรื่องนี้แน่นอนว่าชอบวาย ลงในเล้าไงคู่ก็ต้องวายแน่ๆอยู่แล้ว ถึงจะมีฉากช-ญมันก็คือส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องที่ทำให้นิยายสมบูรณ์ขึ้น ก็ไม่ได้รู้สึกขัดใจอะไร  อีกอย่างรู้สึกดูเรื่องราวสมจริงในเเบบของตัวมันเองด้วย   
ขอบคุณนะคะ :) ตื้นตัน (จริงๆ นะ)  :hao5:
ยังไงภาคนี้ก็ช-ช เป็นหลักค่ะ ช-ญ มีเพื่อให้เรื่องสมบูรณ์ขึ้น
ขอยืนยัน ไม่งั้นไม่กล้าเอามาลงเล้าจริงๆ ค่ะ

:hao7: :hao7:
:mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (3) [22/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 22-01-2017 20:12:35
ความลับเผยมาอีกนิด หนูโคลด์เป็นเจ้าชาย
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (3) [22/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 22-01-2017 20:49:57
วันนี้ทั้งวันอ่านทันแล้วค่ะ  อ่านมาตั้งนานเห็นคนเชียร์มาลเยอะมาก  แต่นี่ก็ยังเฉยๆจนมาตอนหลังเนี่ยแหละชอบมาลชะมัด  แซ่บเวอร์!!!!!!!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (3) [22/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 22-01-2017 21:07:57
แอบเห็นใจเนอร์ดาเนล /ตบบ่าแปะๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (3) [22/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 22-01-2017 22:03:36
แกล้งเดอร์นาเดลทำไม? หนูน้อยของข้าออกจะใสซื่อน่ารังแก (อ้าว!)

มาลกับโคลด์ร้อนแรงเหมือนลาวาใต้พื้นพิภพ

ฉากจูบมันอีโรติกมว๊าก!

ปล. อาการป่วยดีขึ้นแล้วก็ขอให้แข็งแรงไว ๆ น๊าาา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (3) [22/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 22-01-2017 22:53:34
ความลับเผยมาอีกนิด หนูโคลด์เป็นเจ้าชาย
ยังมีให้ค้นหาอีกน้า จะค่อยๆ เฉลยค่ะ

วันนี้ทั้งวันอ่านทันแล้วค่ะ  อ่านมาตั้งนานเห็นคนเชียร์มาลเยอะมาก  แต่นี่ก็ยังเฉยๆจนมาตอนหลังเนี่ยแหละชอบมาลชะมัด  แซ่บเวอร์!!!!!!!
โอ อ่านทั้งวันเลย ขอบคุณมากค่ะ /บีบนวด
ยินดีต้อนรับขึ้นเรือมาลแกธ รับขนม ผ้าเย็น หมวก ร่ม ค็อกเทล เก้าอี้อาบแดดไหมคะ
#เรือสำราญ

แอบเห็นใจเนอร์ดาเนล /ตบบ่าแปะๆ
"นั่นสิเจ้าคะ น่าจะโดนแกล้งมากกว่านี้" #อ้าว  :laugh: อิลมาเรบอก

แกล้งเดอร์นาเดลทำไม? หนูน้อยของข้าออกจะใสซื่อน่ารังแก (อ้าว!)

มาลกับโคลด์ร้อนแรงเหมือนลาวาใต้พื้นพิภพ

ฉากจูบมันอีโรติกมว๊าก!

ปล. อาการป่วยดีขึ้นแล้วก็ขอให้แข็งแรงไว ๆ น๊าาา
ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ /ซึ้ง  :monkeysad:
เนอร์ดาเนลโดนแกล้งที่ปล่อยนักฆ่าเข้ามาไง คะ 555
"มันทำอิลมาเรเกือบตาย" โคลด์บอก
(ถ้าไม่มีมาลแกธ ไม่น่าจะแกล้งแค่นี้ค่ะ...)
ส่วนฉากจูบนั้น... /โคลด์เบือนหน้าหนี หูลู่ๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (3) [22/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: towtao ที่ 22-01-2017 23:02:33
ตามอ่านมาตั้งแต่ต้น เพิ่งจะได้คอมเม้น ...
เนื้อเรื่องแบบว่าหยุดอ่านไม่ได้ มันดูมีเงื่อนงำให้ติดตามตลอดเวลา
ตัวละครแต่ละตัวดูความคิดซับซ้อน ซ้อนจนตามไม่ทันเลยบางที 55555
แต่เราจะปักหลักทีมโคลด์ต่อไป โคลด์จะรักใครเราก็รักด้วย /โคลด์ตบ  :beat: #ชูป้ายไฟทีมโคลด์
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (3) [22/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 22-01-2017 23:16:06
ตามอ่านมาตั้งแต่ต้น เพิ่งจะได้คอมเม้น ...
เนื้อเรื่องแบบว่าหยุดอ่านไม่ได้ มันดูมีเงื่อนงำให้ติดตามตลอดเวลา
ตัวละครแต่ละตัวดูความคิดซับซ้อน ซ้อนจนตามไม่ทันเลยบางที 55555
แต่เราจะปักหลักทีมโคลด์ต่อไป โคลด์จะรักใครเราก็รักด้วย /โคลด์ตบ  :beat: #ชูป้ายไฟทีมโคลด์
โอ้ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ แบบว่าเห็นว่าเป็นกระทู้แรกในเล้าเลย เพื่อเรา /กุมมือ
เราก็เอานิยายมาลงเล้าครั้งแรกเหมือนกันค่ะ ;w;
ดีใจที่ชอบนะคะ ลงทุกวันเพื่อให้คนที่ชอบอ่านทุกวันได้อ่านต่อเนื่องนี่ละค่ะ
จะพยายามเขียน/เกลาให้อ่านเข้าใจง่ายๆ นะคะ
"ขอบคุณสำหรับทีมข้า" โคลด์ตอบ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (4) [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 23-01-2017 00:29:25
บทที่ 7 : สุสานวิหารร้าง (4)

หลังได้รับสารลับจากคิงซิกฟรีด เดเนธอร์ก็รุดมายังสุสานวิหารร้างทันที เขาใช้เวลาประมาณครึ่งวันในการเดินทาง โดยระหว่างนั้นความสงสัยก็กัดกินหัวใจเขาจนกร่อน...ต้องมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนแค่ไหนกัน พระราชาจึงทรงเรียกใช้เขาซึ่งไม่ได้มีตำแหน่งสำคัญอะไรเลย

พอถึงที่หมาย เดเนธอร์ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด เขายืนอยู่แค่ปากทางเข้า เพียงหน้าประตูสุสานวิหารร้างเท่านั้น เอลฟ์หนุ่มล้วงเอาถุงใส่ทรายแก้วออกมา พร้อมจะโปรย แต่แล้วจู่ๆ ลมหอบหนึ่งก็พัดมา แรงขนาดที่สามารถพัดเอาถุงซึ่งอยู่ในอุ้งมือของเขาลอยเข้าไปตกในวิหารได้ เดเนธอร์สูดหายใจเฮือกใหญ่ ลมเมื่อครู่ให้ความรู้สึกต่างออกไป...ไม่ใช่บิดาแห่งวายุ

สถานที่ที่เต็มไปด้วยคำสาปจะบันดาลให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันเสมอ มันจะล่อลวงคนเป็น กักขังคนตาย เดเนธอร์สวดภาวนาถึงมารดาแห่งนภา แม้ใจจะทราบดีว่าพระนางไม่สถิตย์ ณ ที่แห่งนี้แล้ว ถุงนอนนิ่งอยู่ตรงหน้า แค่ไม่กี่สิบก้าวก็ถึง เขารีบก้มลงเก็บ ก่อนเขย่าทรายแก้วออกจากถุง เมื่อแน่ใจว่าหมดแล้วก็ตั้งใจออกจากวิหาร

ลมที่ให้ความรู้สึกด้านลบหอบทรายขึ้นจากพื้น หมุนวนช้าๆ คล้ายลมกำลังพิจารณาทราย เดเนธอร์สังหรณ์ใจไม่ดี ความเงียบอันเย็นเยียบตรึงให้เขาอยู่กับที่ ไม่กล้าขยับเพราะกลัวว่าจะปลุกให้ปีศาจตื่น เขาพยายามถอยก้าวช้าๆ ทรายก็ยังถูกลมกักไว้อย่างนั้น

พลัน เสียงภูตผีหวีดร้องกลับดังโดยไร้ที่มา!

เดเนธอร์ยกมือปิดหู เสียงเหมือนกรีดผ่าเขาออกจากด้านใน ลมวิปริตพยายามพัดทรายออกนอกวิหาร ทว่าทรายคล้ายมีชีวิต มันยื้อ ในที่สุดก็หลุดเข้าไปในความมืดที่ลึกขึ้น มันพุ่งราวลูกธนูหลุดจากแล่ง เหมือนรู้ว่าควรไปทิศทางไหน เดเนธอร์ปวดศีรษะจนคำราม เขาเห็นเงานับร้อยมุ่งเข้ามาใกล้จึงชักอาวุธเตรียมรับมือ เอลฟ์หนุ่มพยายามทรงตัว เท้าชักถอยหลังช้าๆ กะว่ายี่สิบก้าวจะถึงประตูวิหาร

“ของข้า”

เสียงพร่าดังจากด้านหลัง เจ้าของเสียงไร้ร่างกาย เป็นเพียงพรายแสงสีเขียวเท่านั้น มันสวมเกราะโบราณ หมวกเกราะปิดบังใบหน้าทำให้ไม่ทราบเผ่าพันธุ์ เดเนธอร์คิดว่าต้องรับศึกสองด้าน แต่เขาคิดผิด ผีนักรบคำรามใส่เงากลุ่มนั้นที่ปรากฏชัดแล้วว่าเป็นออร์คผีดิบ

“ของข้า!!!”

ออร์คถอย ไม่ต่อกร เดเนธอร์ไม่ทราบว่าควรทำอย่างไร

 

“แล้วเจ้าทำอย่างไร” มาลแกธถาม

เดเนธอร์ขอน้ำจากเนอร์ดาเนลอีก “ข้า...เอ่ยขอบคุณขอรับ”

มาลแกธหัวเราะ “เจ้านี่มัน…”

เดเนธอร์เล่าต่อว่าหลังจากนั้นก็มึนๆ เบลอๆ เหมือนเขาได้คุยกับผีนักรบในสถานที่ที่ต่างออกไป มันสวยงาม มีกลิ่นหอม เสียงพิณดังคลอเบาๆ ผีนักรบเล่าให้เขาฟังว่าตนอยู่ที่นี่มานานแล้ว เป็นหน้าที่ ต้องเฝ้าวิหารศักดิ์สิทธิ์ตามที่สาบานไว้

“ข้าถูกใจเจ้า วิญญาณของเจ้าบริสุทธิ์ ที่นี่ขาดมันมานานแล้ว”

คำพูดของผีนักรบส่วนนี้ เดเนธอร์เลือกจะปิดบังไว้

“สรุปแล้วผีเอลฟ์อยากได้เอลฟ์ เจ้าฆ่าตัวตายสิ จะได้แฮปปี้เอนดิ้ง” โคลด์ที่กุมวิญญาณไว้เอ่ยอย่างหน่ายๆ แต่มือของเขากำแน่น บ่งบอกว่าต้องใช้พลังเวทมากพอควรในการบังคับวิญญาณให้อยู่นิ่ง

“หุบปาก” เนอร์ดาเนลแยกเขี้ยว

“ข้าบอกจะพาเจ้ามาหาลูกน้อง เจ้าเจอลูกน้องแล้ว ข้าต้องทำอะไรเพิ่มอีกไหม” โคลด์หันไปถามมาลแกธ เมินเอลฟ์อีกสองตนโดยสิ้นเชิง

“ข้ามีเรื่องอยากถามวิญญาณตนนี้นิดหน่อย” มาลแกธชี้ไปที่มือโคลด์ “ถ้าเขายอมตอบ เดเนธอร์จะให้รางวัล”

ลูกน้องคนสนิทเงยหน้ามองหัวหน้าทันที

“เขาช่วยเจ้าไม่ให้ถูกออร์คทึ้ง”

เดเนธอร์ระบายลมหายใจ

“ตอบที่เขาถาม” โคลด์สั่ง

“ก่อนหน้าเดเนธอร์ มีเอลฟ์ตนหนึ่งเข้ามาเดินเล่นในนี้ใช่หรือไม่ ผมสีทองเกือบขาว ใช้ทรายได้...สมัยท่านมีควาร์หรือยัง เขาเป็นควาร์ที่ใช้ทราย”

ผีนักรบรับว่าใช่ มองเดเนธอร์ “ก่อนหน้าเขา...ไม่นาน...หรือนานก็ไม่ทราบ ที่นี่เวลาไม่สำคัญอีกต่อไป ทรายที่เขานำมา...ตามหาเอลฟ์ผมสีขาว”

“มันมาทำอะไร” มาลแกธพึมพำกับตัวเอง

“แต่ออกไปแล้ว...เอลฟ์ผมสีขาวตนนั้นออกไปแล้ว ทรายพบเขารวดเร็ว เขาใช้มันนำทาง”

โคลด์สะดุดใจเรื่องควาร์ผู้ใช้ทราย มันทำให้เขานึกถึงเงาสังหารที่มารับเข้าราชวัง รอบตัวมันมีฝุ่นดินสีดำ ดูก็รู้ว่าควบคุมดินและทรายได้ รู้สึกมันจะชื่อว่า…

“กอห์นดีเอน ซิกฟรีดส่งกอห์นดีเอนมาที่นี่โดยไม่บอกเจ้า ดูเหมือนราชาจะมีความลับกับคนสนิทบ่อยจังเลยนะ”

โคลด์กระตุ้นให้มาลแกธนึกถึงเรื่องหัวใจมังกรศิลา

มาลแกธระลึกได้ว่าก่อนออกจากราชวังมาตามหาโคลด์ ซิกฟรีดขู่เขาว่า

“เราไม่ได้ส่งไปแค่เจ้า เอลฟ์ตะวันออก”

มาลแกธไม่ติดใจเรื่องที่ซิกฟรีดจะส่งใครมาตามหาโคลด์นอกเหนือจากเขา จะส่งมาทั้งกองทัพเลยก็ได้ แต่เห็นแล้วว่าซิกฟรีดไม่ได้ส่งกอห์นดีเอนมาเพื่อการนั้น

แถมยังให้ลูกน้องเขาเสี่ยงตาย มาโปรยทรายห่าให้ลูกน้องของตัวเองอีก

ซิกฟรีด...

“ให้รางวัลมันไปเถอะ” โคลด์ตัดบท เหงื่อซึมข้างขมับ เขาใช้บลัดแมจิกต่อเนื่องกว่าสองชั่วโมงแล้ว

“มีอะไรที่เราสามารถตอบแทนท่านได้หรือไม่ แต่เราคงมอบลูกน้องให้ท่านถาวรไม่ได้หรอกหนา”

“ให้ไปคืนนึง” โคลด์หัวเราะหยาบโลนอย่างจงใจ

เดเนธอร์สบถ เนอร์ดาเนลอยากชกดาร์กเอลฟ์เต็มแก่

“แค่...สนทนา” ผีนักรบเอ่ย “คืนเดียว...แล้วข้าจะพาไปส่ง ข้าให้คำสัตย์ รุ่งสาง...เพียงรุ่งสาง”

มาลแกธเลิกคิ้ว

“สรุปเรามาขัดขวางความรักโรแมนติกระหว่างผีกับคนทำไมกัน” ไม่...ถ้าพวกเขาไม่มา เดเนธอร์ต้องอยู่ที่นี่จนสิ้นชีวิต

เดเนธอร์พยักหน้าให้หัวหน้าของตน

“ข้าไม่สนว่าวิญญาณจะทำตามสัญญาไหม ไม่สนใจพวกเจ้าด้วย หมดธุระของข้าแล้ว” โคลด์คลายมือ ปล่อยวิญญาณจากหมอกโลหิต

เนอร์ดาเนลกำหมัดแน่น เดเนธอร์บีบไหล่เพื่อนร่วมหน่วยเบาๆ เขาคิดว่าผูกมิตรกับผีตนนี้ไว้ก็ไม่เลวนัก ในภายหน้าอาจได้ช่วยเหลือกันอีก

“เอาล่ะ ทุกคนมีความสุขแล้ว ถึงเวลาของข้าบ้าง” โดยไม่ให้ใครตั้งตัว นักรบโครงกระดูกที่ยืนนิ่งเป็นรูปปั้นมาตลอดก็พุ่งเข้ามา พวกมันใช้ด้ามดาบทุบท้ายทอยลูกน้องของมาลแกธทั้งสองคนจนสลบ

“เจ้าเอาหมอนี่ไป” โคลด์ชี้เดเนธอร์ เอ่ยสั่งวิญญาณ “ส่วนเจ้า มาลแกธ เอาลูกชายเจ้ากลับไป”

นักรบโครงกระดูกที่เหลืออยู่ในท่าพร้อมรบ มาดว่าถ้ามาลแกธขัดขวาง เขาจะต้องรับศึกหนัก

“เราจะได้พบกันอีกที่รัก” มาลแกธทราบตั้งแต่โคลด์เผยตัวว่าเป็นชาแมนแล้ว ว่าเรื่องราวต้องลงเอยเช่นนี้

นี่เป็นถิ่นของเจ้าชายกระดูก

ที่น่าแปลกใจคือ...โคลด์ยินดีช่วยเขาตามหาเดเนธอร์จนพบ

“เจ้าทำตามที่บอกว่าจะปล่อยข้าไปจริงๆ” โคลด์ยิ้มสลด “แต่เราจะไม่พบกันอีก”

โคลด์รอให้วิญญาณนำร่างไร้สติของเดเนธอร์ไป ให้นักรบโครงกระดูกลากเนอร์ดาเนลไปนอกโถง เหลือเขากับมาลแกธแค่สองคน

โคลด์ลดมือลง เงยหน้ามองเอลฟ์ตะวันออก

“ข้าเชื่อว่าเจ้าจะดูแลอิลมาเร เพราะเจ้าสาบานด้วยคำสัตย์ของควาร์ ข้าวางใจแล้ว ข้ากำลังบอกลาเจ้าดีๆ”

มาลแกธกอดโคลด์ เขากดศีรษะของอีกฝ่ายแนบอก “ข้าไม่เชื่อคำบอกลา เว้นเสียว่าจะมีฝ่ายหนึ่งตายจากไป”

“จูบหูข้า”

มาลแกธคลึงใบหูของอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนก้มลงไปจุมพิต...เบา อ่อนโยน ทว่าประทับแน่นในความรู้สึก

โคลด์หลุบตา จะว่าเขาลองใจมาลแกธอีกนิดก็ได้ ถ้าอีกฝ่ายปฏิเสธ การบอกลาก็จะง่ายขึ้น

“สงสัยจังว่า...ถ้าเจ้าตายไปจริงๆ เจ้าจะยังรักข้าแบบนี้ไหม”

“เจ้าจะเรียกข้ากลับมาจากอุ้งพระหัตถ์ของบิดาแห่งความตายหรือ”

“เจ้าอยากเป็นแบบโครงกระดูกพวกนั้นหรือไง”

“ถ้าเป็นโครงกระดูกแล้ว...จะสัมผัสความอุ่นจากริมฝีปากเจ้าได้อย่างไร” มาลแกธคลึงนิ้วบนริมฝีปากของดาร์กเอลฟ์ เขามองมันอย่างหลงใหล

โคลด์ละล้าละลัง เขาควรกอดตอบหรือไม่...

ไม่ เขาไม่ควรกอด จากคือจาก แบบที่เขาตัดใจจากอิลมาเร...จากซิกฟรีด

ไม่สิ...ซิกฟรีดไม่สำคัญแล้ว ซิกฟรีดได้บัลลังก์ ได้ราชินีที่เหมาะสมแก่การเสริมอำนาจตน โคลด์ตัดสินใจขโมยหัวใจมังกรศิลาเพื่อต่อรองเอาตราทาสออกเพราะเห็นว่าสมควรแล้ว

เขาถูกขังอยู่ในอาศรมควาร์สิบปีอย่างไร้เหตุผล โดนตีตราทาสต่ออย่างไร้เหตุผล ซิกฟรีดคิดว่าเขาเป็นอะไร

เป็นทาสที่สั่งอะไรก็ต้องทำ พอไม่ทำก็ไม่ให้รางวัลหรือ

โคลด์สุดทนกับพฤติกรรมของซิกฟรีด เขาจึงตัดสินใจเลิกเป็นโคลด์ สตาร์ผู้แสนดี...

เลิกเป็นคนดีอย่างที่กวิเนเวียร์อยากให้เป็น

แค่ทาสคนเดียวทำไมซิกฟรีดไม่ปล่อยให้เป็นอิสระแล้วเอาหัวใจมังกรศิลาคืนไป

 

“ข้ารู้ตัวจริงของเจ้า”

คือสิ่งที่ซิกฟรีดวัยเยาว์พูดกับโคลด์บ่อยๆ

“ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นใคร มาจากไหน ดาร์กเอลฟ์!”


 

โคลด์อดคิดไม่ได้ว่าซิกฟรีดอาจระแคะระคายความลับเรื่องพลังควบคุมคนตายของเขา จึงเก็บเขาไว้ใช้ประโยชน์เหมือน ‘ชายคนนั้น’

เขาไม่เป็นเครื่องมือของใคร ไม่เสี่ยงให้ซิกฟรีดทำให้กวิเนเวียร์มีอันตราย

แค่ทาสโง่เง่าคนเดียวไว้บำบัดความใคร่...ขังไว้เป็นสิบปี

ซิกฟรีดต้องมีแผนใช้ประโยชน์จากเขาแน่นอน

“ใจลอยไปไหน”

“จะไปแล้ว เลยอยากลบความรู้สึกที่ไม่จำเป็นออก” โคลด์ตัวแข็ง ไม่แสดงความอ่อนแอ “เจ้าไปเถอะ...ขอเทพีจันทร์อวยพร”

“ข้าจะไม่เป็นคนเดินจากไปก่อน”

มาลแกธทำตามที่ตัวเองพูด เขาคลายวงแขนลง ปล่อยให้โคลด์เป็นอิสระ แล้วมองอีกฝ่ายเดินจากไป

ลึกเข้าไปยังแดนคนตาย

สถานที่ที่ความหวังจะถูกกลืนหายไปในความมืดมิด


—————————————————————————

A/N ฮึกๆ เขาบอกลากันแล้ว ฮือๆๆๆ ต้องลานะคะ ไม่งั้นโคลด์เอากองทัพกระดูกถล่มแน่ เพราะตอนนี้โคลด์ได้เปรียบ (และเหี้ยมได้...คอมาลแกธยังเคยแทงมาแล้ว #ผิด)
ป.ล. 1 แต่กระทั่งจะไป ป๋ายังจูบหูคลึงปากเอากำไร แถมยืนส่งอีกต่างหาก โอยยยยย...
ป.ล. 2 มีใครเห็นเรือ คุณผี x เดเนธอร์ บ้างคะ /เรายกมือเห็นคนนึง หรือ เดเนธอร์ x คุณผี ดี (555 /หัวเราะสะใจแบบอิลมาเร /สมน้ำหน้าเจ้าค่ะ มาแกล้งโคลด์!)
ป.ล. 3 #เรือราชา #เรือคิง #เรือซิกฟรีด คุณได้ยินเสียงหวูดเรือไหม เห็นกราบเรือลอยมาแต่ไกลหรือเปล่า ขนาดเวลาอย่างนี้โคลด์ยังนึกถึงซิกฟรีดอยู่นะคะ XD

#นางทาสของซิกฟรีด #ราชินีของมาลแกธ = โคลด์

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

แถมเพลงให้ด้วยค่ะ Lay Me Down by Sam Smith
เพลงนี้เพราะมากเลย กดฟังดูนะคะ
https://www.youtube.com/watch?v=mpqqkDzYxtI (https://www.youtube.com/watch?v=mpqqkDzYxtI)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (4) [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 23-01-2017 00:45:22
 o13 o13
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (4) [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 23-01-2017 01:15:10
หวายย เราชอบให้โคลด์เป็นราชินีมากกว่าค่ะ ชอบคนโรแมนติกก อิอิ ><
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (4) [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 23-01-2017 07:52:51
ฉันเห็นแต่เรือราชินีโคลด์ มีซิกกับมาลเป็นทาสรัก มีเอรี่เป็นคนรับใช้คอยล้างเรือ  :laugh:

อู๊ยยยยยย มีโอบกอด มีเคี้ยวหูกันด้วย สงสารป๋ามาล โคลด์ไม่เคยรักเลย อย่างมากก็ผูกพันสินะ

ส่วนเอลฟ์เด็กน้อยทั้งสอง... "พวกผมเป็นตัวประกอบฮัฟ! เลยโดนย่ำยีอย่างนี้ ฮืออออออ"
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (4) [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 23-01-2017 14:36:45
o13 o13
วันนี้ก็แวะมาอ่านอีกแล้ว ขอบคุณนะคะ ;)

หวายย เราชอบให้โคลด์เป็นราชินีมากกว่าค่ะ ชอบคนโรแมนติกก อิอิ ><
หุหุ มาลแกธมีวิธีจีบได้ใจจริงๆ ค่ะ เผลอไม่ได้ ป๋าจีบติดแน่ๆ

ฉันเห็นแต่เรือราชินีโคลด์ มีซิกกับมาลเป็นทาสรัก มีเอรี่เป็นคนรับใช้คอยล้างเรือ  :laugh:

อู๊ยยยยยย มีโอบกอด มีเคี้ยวหูกันด้วย สงสารป๋ามาล โคลด์ไม่เคยรักเลย อย่างมากก็ผูกพันสินะ

ส่วนเอลฟ์เด็กน้อยทั้งสอง... "พวกผมเป็นตัวประกอบฮัฟ! เลยโดนย่ำยีอย่างนี้ ฮืออออออ"
เดี๋ยวเปลี่ยนชื่อภาคเป็น 'ทาสรักราชินีจอมราชัน' ดีไหมคะ #อีรุงตุงนังไปหมด /ฮา
มาลแกธนั้น...เขาเข้าใจว่าความสัมพันธ์ล้ำลึกเป็นสิ่งที่ต้องสร้างค่ะ
รักแรกพบเกิดได้ แต่ความสัมพันธ์อันยั่งยืนก็เหมือนเราก่อกำแพงด้วยอิฐทีละก้อนๆ
เพื่อสร้างกำแพงที่แข็งแรงค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (4) [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 23-01-2017 14:47:31
ฮือ เข้ามารายงานตัวว่า ยังตามอ่านอยู่นะคะ แต่ว่าช่วงนี้งานเยอะมาก ไม่มีเวลานั่งอ่านจริงๆ จังๆ เลย พยายามไม่ดูคอมเม้นท์ด้วย กลัวโดนสปอยล์ วันเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้หยุด (ฮือๆๆๆ) แฟนตาซีคือชีวิตจิตใจของดิฉัน อยากอ่านแต่งานการบังคับให้ไม่ได้อ่าน อยากเม้นท์เกี่ยวกับเนื้อเรื่องมากๆ

เพื่อเป็นการทดแทนที่ยังไม่มีเวลาอ่าน ขอกดคะแนนเพิ่มให้แล้วกันนะค้าาาา ^_____^
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (4) [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 23-01-2017 15:26:06
ฮือ เข้ามารายงานตัวว่า ยังตามอ่านอยู่นะคะ แต่ว่าช่วงนี้งานเยอะมาก ไม่มีเวลานั่งอ่านจริงๆ จังๆ เลย พยายามไม่ดูคอมเม้นท์ด้วย กลัวโดนสปอยล์ วันเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้หยุด (ฮือๆๆๆ) แฟนตาซีคือชีวิตจิตใจของดิฉัน อยากอ่านแต่งานการบังคับให้ไม่ได้อ่าน อยากเม้นท์เกี่ยวกับเนื้อเรื่องมากๆ

เพื่อเป็นการทดแทนที่ยังไม่มีเวลาอ่าน ขอกดคะแนนเพิ่มให้แล้วกันนะค้าาาา ^_____^
โอ ขอบคุณค่ะ /ดีใจ คนแรกที่ตีไข่แตกให้เรา เราจำได้ค่ะ /อ้อนๆ
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (4) [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 23-01-2017 16:41:10
แสดงจะมีสงครามในอนาคตแน่เลยอ่ะ แล้วเสี่ยซิกจะปกป้องโคลด์ได้ไหมหนอ :mew2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (4) [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 23-01-2017 17:15:42
แสดงจะมีสงครามในอนาคตแน่เลยอ่ะ แล้วเสี่ยซิกจะปกป้องโคลด์ได้ไหมหนอ :mew2:
:katai2-1: ว้าว เรื่องนี้ก็มีสงครามมาตลอดเนอะ ตั้งแต่รุ่นพี่ชายซิกฟรีดเป็นราชาแล้ว
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (4) [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-01-2017 17:36:40
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (4) [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 23-01-2017 18:16:22
:pig4: :pig4:
ยินดีค่า -3-  :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (4) [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 23-01-2017 19:35:14
ยังไม่จากตาย ยังไงก็มีโอกาสเจอกันอีก // โบกมือลาป๋ามาลชั่วคราว
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 7 : (4) [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 23-01-2017 20:27:30
ยังไม่จากตาย ยังไงก็มีโอกาสเจอกันอีก // โบกมือลาป๋ามาลชั่วคราว
ใช่แล้วค่ะ ;) มีพบมีจาก แต่มาลแกธไม่ปล่อยไปตามชะตาค่ะ ถ้าเขาอยากเจอ เขาต้องได้เจออีก
(แต่คนเขียนก็ใช่ว่าจะตามใจมาลแกธทุกเรื่องนะคะ)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (1) [24/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 24-01-2017 00:12:42
บทที่ 8 : ทางแยก (1)

โคลด์ยืนอยู่หน้าประตูหินที่ปิดสนิท ในชั้นใต้ดินส่วนลึกของสุสานวิหารร้าง เขาทราบว่าตนมาถึงจุดหมายแล้ว

บริเวณนี้อยู่ลึกจนไร้แสง ทว่าโคลด์ไม่ได้จุดคบเพลิง ความมืดไม่เป็นอุปสรรคต่อการมองเห็นของเขา เผ่าดาร์กเอลฟ์ได้รับพรจากเทพีจันทร์ให้สามารถมองเห็นได้ดีแม้ในเวลากลางคืน

อุปสรรค์แท้จริงคือกำแพงเวทบางเบาทว่าอันตรายถึงตายซึ่งผนึกประตูบานนี้อยู่ แต่โคลด์ต้องผ่านมันไปให้ได้

เพราะหลังประตูบานนี้คือเส้นทางใต้ดินเชื่อมสู่อาณาจักรมังกร อ้างอิงตามที่มังกรศิลาบอก

ในตอนมอมเหล้า เขาหลอกถามมันว่า

“นายท่าน ท่านรู้จักมังกรที่มีเกล็ดเหมือนเกราะเหล็กดำ ดวงตาสีทอง พ่นเปลวไฟสีฟ้าอมม่วงหรือไม่”

มังกรศิลาตอบอย่างเทิดทูนในตัวมังกรที่ถูกกล่าวถึงว่า

“อ้อ ท่านผู้นั้นคือ…”

พอทราบตัวจริงของมังกรเกราะเหล็กดำ ในใจของโคลด์เดือดพล่าน ทว่าเขาถามต่ออย่างเยือกเย็นว่า

“โอ นายท่าน แล้วมังกรดินต่ำต้อยเช่นข้าจะมีวาสนาไปหาท่านผู้นั้นได้อย่างไรหรือ...”

คำตอบของมังกรศิลาพาเขามาที่นี่ ยังประตูปิดตายที่นำไปสู่อาณาจักรมังกร...และเกวนโดลิน

โคลด์ใช้บีฟอร์ซกรีดอักขระเลือดชุดใหม่บนฝ่ามืออีกข้าง พลีโลหิตแก่บิดาแห่งความตายมากขึ้น หมอกสีม่วงเข้มลอยแทรกอากาศอับทึบเข้าล้อมรอบกองทัพนักรบโครงกระดูกที่ติดตามเขามา

ร่างโครงกระดูกหลุดเป็นท่อนๆ ร่วงลงพื้นพรึ่บแล้วพุ่งเข้าหากัน! ก่อร่างใหม่เป็นหมาป่าโครงกระดูกขนาดยักษ์สูงสามเมตร

ในเบ้าตากลวงโบ๋ของมันเรืองแสงสีม่วงเข้ม กระดูกแต่ละท่อนถูกเชื่อมด้วยไอหมอก ไอหมอกบางส่วนสลักลงในเนื้อกระดูกเป็นอักขระทมิฬเพื่อให้หมาป่าโครงกระดูกตัวนี้กลายเป็นอาวุธเวทมนตร์

อีกหนึ่งวิชาที่โคลด์เรียนรู้มาจากการฝึกฝนควบคุมคนตาย หากรวมพวกมันเข้าด้วยกันพร้อมเสริมพลังจากบลัดแมจิก อำนาจการทำลายล้างย่อมสูงขึ้น จาก ‘อันเดดวอร์ริเออร์’ ธรรมดาจึงกลายเป็น ‘แมจิกอันเดดบลัดวูล์ฟ’ ทว่าการสร้างสิ่งผิดธรรมชาติระดับสูงเช่นนี้จำต้องใช้เทคนิคและการควบคุมชั้นสูง รวมถึงใช้เลือดและพลังเวททมิฬในปริมาณที่ทำให้เหนื่อยสุดขีด

ไม่ได้ใช้พลังนี้มาเป็นสิบปี...ได้มากสุดเท่านี้สินะ

พลังเวทปะทะพลังเวท กำลังปะทะประตูหิน โคลด์บัญชาหมาป่าโครงกระดูกพุ่งชนกำแพงเวทพร้อมทำลายประตูหิน ความแข็งแกร่งของแมจิกอันเดดบลัดวูล์ฟเทียบได้กับมังกรขนาดกลางทีเดียว แต่แรงต้านจากกำแพงเวทก็รุนแรงไม่แพ้กัน การปะทะโครมแรกทำวิหารสะเทือนดุจมีแผ่นดินไหว ตามด้วยโครมที่สอง สาม! สี่! ห้า! หก!

ฝุ่นดินร่วงกราวจากเพดานชั้นใต้ดินตามจังหวะการพุ่งชน เพดานหินสั่นอย่างน่ากลัวว่าจะถล่มลงมาในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง

ทว่าโคลด์ยังยืนนิ่งท่ามกลางแรงสะเทือนวิปโยคนั้น

กำแพงเวทร้าวพร้อมเกิดรอยแตกบนประตูหินเมื่อหมาป่าโครงกระดูกพุ่งชนจนร่างพัง แต่ยังไม่พอ! โคลด์สร้างมันขึ้นมาใหม่ ให้พุ่งชนและรับพลังเวทสะท้อนกลับจากกำแพงเวทอีกนับสิบครั้ง

นี่เป็นทางเลือกในการทำลายกำแพงเวทที่ดีที่สุดสำหรับโคลด์ เพราะโครงกระดูกไม่รู้จักความเจ็บปวด มันจะฟื้นกลับมาทำตามคำสั่งเขาตราบเท่าที่มีโลหิตหล่อเลี้ยง

หมาป่าโครงกระดูกที่พังนับครั้งไม่ถ้วนก่อร่างเปลี่ยนแปลงไปตามภาพคำสั่งในหัวโคลด์ ผสมปนเปจนมีรูปร่างอัปลักษณ์ดุร้าย น่าสะพรึงกลัวและวิปริตขึ้นเรื่อยๆ

แรงกระแทกครั้งสุดท้ายทำให้ประตูหินแตกเป็นช่องโหว่พร้อมทำลายกำแพงเวท โคลด์หอบแฮก คลื่นแผ่นดินไหวที่ส่งออกมาอย่างต่อเนื่องจากชั้นใต้ดินของสุสานวิหารร้างสะเทือนข้ามภูเขาไปถึงเมืองใกล้เคียงโดยรอบ

...ไกลถึงวิหารของมารดาสมุทรในฝั่งดินแดนทมิฬ

 —————————————————————-

ณ ดินแดนทมิฬ เมืองนิมโรเชียน—ก้นบึ้งรัตติกาล

“ท่านจอมทัพ เข็มทิศคนตายที่มีปฏิกิริยามาตั้งแต่เมื่อสามชั่วโมงก่อนหยุดลงแล้วขอรับ!” ทหารดาร์กเอลฟ์คุกเข่า รายงานดาร์กเอลฟ์ผู้มียศสูงสุดในกองทัพ “และมีรายงานว่าเกิดแผ่นดินไหวขนาดย่อมบริเวณอดีตวิหารมารดาสมุทรที่กาลาเซรีนด้วยขอรับ!”

ชายผู้นั้นพลิกหน้าหนังสือที่อ่านอยู่ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อน เขาหัวเราะเยือกเย็นด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ ทำให้ผู้ฟังหนาวสั่นไปถึงข้างในร่างกาย

“ปรากฏตัวอย่างเอิกเกริก แต่ดีจริง ไม่นึกว่าบุตรชายบุญธรรมที่เลี้ยงไม่เชื่องของเรา...ยังมีชีวิตอยู่”

 —————————————————————-

ก่อนโคลด์จะผ่านประตูที่พังไม่เหลือชิ้นดีเพื่อเข้าสู่ทางเดินใต้ดิน เขาเหลียวมองทางที่ตนเดินมา นึกถึงนกสีขาวที่บอกเรื่องทหารหลงของมาลแกธกับนกสื่อสารชื่อเฟียตแก่เขา หากไม่ทราบเรื่องนั้น เขาคงไม่มีโอกาสต่อรองจนพาตัวเองมาถึงที่นี่ได้

นกตัวนั้นคอยคุ้มครองเขาอยู่ห่างๆ มานานแล้ว

น่าเสียดายที่มันตามเข้ามาในสุสานวิหารร้างไม่ได้ มาลแกธจะสังเกตเห็น หรือไม่มันก็จะโดนอันเดดฆ่า...ทว่าเขาอยากเจอมันอีกสักครั้งก่อนเข้าไปในทางเดินใต้ดินจริงๆ

โคลด์ก้มหน้า ถอนใจ

...ไม่เป็นไร อีกนิดเดียวก็จะได้เจอเกวนแล้ว

โคลด์ไม่ได้เข้าใจภาษาสัตว์ทุกชนิด เขาพูดภาษามังกรได้เพราะเกวนโดลินเคยสอน และมังกรก็มีภาษาที่ใช้อย่างอารยชน นักประวัติศาสตร์ในแดนทมิฬมีตำราลับสำหรับศึกษาภาษาของมังกรโดยเฉพาะ

โคลด์สูดลมหายใจ ตัดสินใจปล่อยวางทุกอย่างแล้วเดินหายเข้าไปในความมืดเบื้องหน้า คนตายใต้ผืนดินจะกระซิบบอกเส้นทางที่ถูกต้องแก่เขา

อีกนิดเดียวก็จะได้เจอเกวน อีกนิดเดียวเท่านั้น

แล้วเราจะเป็นอิสระด้วยกัน...


——————————————————————————————————           

หลังจากโคลด์เข้าไปในเส้นทางใต้ดิน มีหลายเรื่องเกิดขึ้น

เรื่องแรกคือ ในเวลาสายของวันที่สองหลังจากออกเดินทางไปสุสานวิหารร้าง มาลแกธกับเนอร์ดาเนลกลับมาถึงค่ายพักแรมของหน่วยกาลาฮานโดยปลอดภัย และในคืนวันเดียวกัน เดเนธอร์ก็ปรากฏตัวกลับมาอยู่นอกค่ายเอง

ก่อนที่มาลแกธจะกลับมาถึง เกิดแผ่นดินไหวระดับอ่อนช่วงกลางดึกคืนวันแรก แผ่นดินไหวนี้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ต่อเนื่องราวหนึ่งชั่วโมง จากนั้นก็จบลงด้วยแรงสั่นสะเทือนเหมือนภูเขาถล่มเป็นครั้งสุดท้าย

หลังจากนั้นก็มีนกส่งสารบินเข้าออกหน่วยกาลาฮานเป็นว่าเล่น เมื่อมาลแกธกลับมาถึงค่ายพักแรม เขาต้องวุ่นวายจัดการกับสารเหล่านั้น รวมถึงจัดการกับหน่วยสนับสนุนจากเอวา เธมาร์ที่ยังรั้งอยู่ ไม่กลับเข้าเมืองหลวงหากภารกิจไม่ลุล่วง (ซึ่งลูกน้องในหน่วยกาลาฮาน ที่รับคำสั่งจากมาลแกธให้รอหน่วยสนับสนุน ได้รับหน้าและโต้เถียงแทนหัวหน้าไปแล้วรอบหนึ่ง)

สองวันที่ผ่านมา ดวอร์ฟสาวไม่ถูกมัดหรือขังไว้อีกแล้ว แต่ก็ยังไปไหนไม่ได้ (ซึ่งเธอก็ไม่คิดไปไหนจนกว่ามาลแกธจะกลับมา) เธอได้แต่นั่งกอดซิการ์—หมาป่ายักษ์ของตนอยู่ตรงมุมหนึ่งของค่ายอย่างเงียบๆ

กระทั่งเดเนธอร์กลับมา เขาเข้าไปคุยกับหัวหน้าของตนแล้วกลับออกมา อิลมาเรจึงทำใจกล้า เดินเข้ากระโจมของมาลแกธไปถามสิ่งที่อยากถามบ้าง

“ท่านมาลแกธ...โคลด์ล่ะเจ้าคะ”

มาลแกธตอบอิลมาเรด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ไม่ได้พูดอะไร เขามวนยาสูบ จุดไฟ แล้วเล่นกับผีเสื้อไฟเพื่อผ่อนคลายประสาทที่ตึงเครียด

“ข้าทราบว่าท่านมีเรื่องวุ่นวายหลายเรื่อง แต่อย่างน้อย...โคลด์ปลอดภัยใช่ไหมเจ้าคะ เขาได้ไปถึงที่ที่เขาอยากไปอย่างปลอดภัยแล้วใช่ไหมเจ้าคะ”

อิลมาเรกระซิบ เพราะคำสั่งของราชาคือให้พาตัวโคลด์กลับ ไม่ใช่ให้ปล่อยตัวไป

“ต่อจากนี้เจ้าเป็นอิสระจากข้า อิลมาเร” มาลแกธสูดควันลึก ก่อนจะพูดเป็นภาษาควาร์อีกครั้ง อักขระบริเวณลำคอและใบหูเรืองขึ้นมาวูบหนึ่งแล้วหายไป “คำถามคือเจ้าหิวหรือไม่ ข้ารู้จักร้านอาหารดีๆ ในเอวา เธมาร์”

“เอวา เธมาร์?” อิลมาเรกะพริบตา ท่านมาลแกธกำลังชวนเธอกลับเมืองหลวงหรือ เธอเป็นนักโทษหลบหนีพร้อมกับโคลด์ไม่ใช่หรือ

“หรือ...หรือท่านไม่เคยแจ้งเรื่องข้าแก่ทางการตั้งแต่แรก”

แม่ค้าดวอร์ฟหัวไว เธออาจเคยอยู่กับโคลด์ในถ้ำมังกรศิลา แต่ตอนนั้นคนที่ได้เห็นเธอชัดๆ ก็มีแต่พวกทหาร (ซึ่งส่วนมากตายไปแล้ว) ราชาและพระคู่หมั้นอยู่ไกลออกไป รับฟังแต่รายงานเรื่องดวอร์ฟ

หลังจากนั้นคนที่เข้ามาใกล้ชิดพวกเธอคือมาลแกธ ถ้าเขาไม่รายงานเรื่องเธอ ก็มีสิทธิเป็นไปได้ว่าเธอไม่ถูกนับโทษเรื่องการขโมยหัวใจมังกรศิลา

ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ขอบคุณบิดาแห่งเงินตรามากเลยเจ้าค่ะ! ท่านให้โอกาสข้าฟันกำไรในแดนเอลฟ์ต่อแล้ว!

อิลมาเรกุมมือ น้ำตารื้นขอบตาด้วยความตื้นตันที่คิดเอาเอง

เอลฟ์ตะวันออกให้ผีเสื้อตัวน้อยแผลงฤทธิ์ เผาสารทิ้งทีละใบ สารเหล่านั้นส่งมาจากเมืองหลวง สอบถามเกี่ยวกับเหตุแผ่นดินไหว เนื่องจากจุดตั้งค่ายของพวกเขาอยู่ใกล้สถานที่เกิดเหตุพอดี มาลแกธได้รับแจ้งว่าหน่วยลาดตระเวนกำลังวุ่นวาย มีข่าวไม่สู้ดีนักเกี่ยวกับอดีตวิหารบูชามารดรแห่งนภา มันทรุด มหาเวทที่ใช้กักอันเดดเกิดรอยร้าว ขุนนางควาร์ที่อยู่ในเอวา เธมาร์ได้รับคำสั่งให้มาตรวจสอบและซ่อมแซม

อันที่จริง...ข่าวยังไปไม่ถึงหูของซิกฟรีดว่ามาลแกธหายจากอาการบาดเจ็บสาหัสแล้ว ไม่อย่างนั้นควาร์ที่จะได้ลงสนามตรวจสอบความสมบูรณ์ของวิหารเป็นคนแรก คงไม่พ้นหัวหน้าหน่วยกาลาฮานนี่ละ

“แจ้งว่าอะไรเล่า อิลมาเร แจ้งว่าเจ้าแอบขายของเถื่อนหรือ” มาลแกธหยอกดวอร์ฟสาว

อิลมาเรส่ายหน้าพรืดแล้วยิ้มแหะๆ ใจเธออยากถามเรื่องโคลด์มากกว่านี้ แต่คิดว่าควรรอเวลา ท่านมาลแกธไม่ตอบและดูไม่กระวนกระวาย เธอก็ควรคิดว่าแผนการหนีของโคลด์สำเร็จด้วยดี

...หรือเปล่านะ

ดวอร์ฟสาวขมวดคิ้วมุ่น

“สีหน้าเจ้าพูดทุกอย่างเลย” มาลแกธเอื้อมมือไปวางบนหัวของเธอ ขยี้เบาๆ

“โคลด์เป็นแอสซาสซินฝีมือฉกาจ ข้าไม่ห่วงเรื่องนักฆ่าหากเขาไม่บาดเจ็บ” อย่างไร อิลมาเรผู้นี้ ก็คือนายหน้าหางานให้โคลด์ สตาร์ (และเป็นธนาคารใต้ดินส่วนตัว) “แต่ข้าจะสงบปากสงบคำไว้เจ้าค่ะ คนที่เขาเพิ่งฆ่าไปคือลูกน้องในหน่วยของท่าน”

“โคลด์มีพรสวรรค์ในการเอาตัวรอดที่ดีเยี่ยม” มาลแกธขยี้มวนยาสูบด้วยส้นรองเท้าบูต ผีเสื้อไฟหายไปเมื่อเผาสารจนเหี้ยน เหลือเพียงควันสีเทาฉุนจมูก “ข้าไม่แปลกใจเลยที่เขายึดอาชีพแอสซาสซินได้ รู้ไหม เขาเคยรวบรวมความกล้ามาเคาะประตูห้องข้าในอาศรมตอนดึกสงัด ขอให้ข้า…”

“ขออะไรเจ้าคะ!” อิลมาเรอยากรู้ทันที

มาลแกธยิ้มเจ้าเล่ห์ “ขอให้ข้าสอน…”

“ไม่ใช่วิชาอ๊ะๆ อาๆ!” อิลมาเรตบมุก

คราวนี้มาลแกธหัวเราะเสียงดัง “แค่มีดสั้น เขาขอให้ข้าสอนมีดสั้นยามที่ควาร์ทุกคนหลับสนิท ข้าเคยสอนเขาเล่นๆ ไปครั้งสองครั้ง เขาติดใจและอยากฝึกจริงจัง ข้าปฏิเสธดวงตาสีม่วงอันแสนมุ่งมั่นนั้นไม่ได้เลย”

อิลมาเรฟังด้วยประกายตากระตือรือร้น เธอคิดว่ามาลแกธนี่แหละ ช่างเหมาะสมกับโคลด์ (และลืมสนิทว่าตัวเองเคยขอมาลแกธแต่งงาน)

“เมื่อก่อนเขาใช้มือซ้ายไม่คล่องเลย แต่เดี๋ยวนี้คล่องอย่างกับอะไรดี” เอลฟ์ตะวันออกแตะคอตัวเอง “เพราะฉะนั้นเจ้ายังกลัวว่าเขาเอาตัวรอดไม่ได้อีกหรือ”

“ข้าเชื่อฝีมือเขา แต่เป็นห่วงเรื่อง...ท่าทางของเขา”

อิลมาเรเล่าว่าโคลด์จัดการนักฆ่าที่บุกมาตอนมาลแกธสลบไม่ได้สติอย่างไร “เขาใช้ฟันกัดคอมันขาด...ข้ารู้ว่าลูกน้องท่านจงใจปล่อยนักฆ่าเข้ามา โคลด์ก็รู้ เขาแสดงความโกรธเกลียดอย่างที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน ปกติเขาไม่เคยโกรธหรือเกลียดใครขนาดนั้น นั่นเหมือนไม่ใช่โคลด์...เหมือนเขาฝืนตัวเองอยู่”

มาลแกธยิ้มด้วยตาอย่างที่ชอบยิ้ม “เจ้าเก็บความลับได้ไหม”

“สาบานด้วยกำไรจากบิดาแห่งเงินตราเลยเจ้าค่ะ!”

ดวอร์ฟก็นับถือแต่บิดาองค์นี้...

“ข้าเอื้อมไม่ถึงเขา...ข้าไม่ใช่คนที่สามารถช่วยเหลือเขาได้ สิ่งที่ข้าจะทำ อิลมาเร คืออยู่กับเขา...ในเวลาที่เขาเรียกหา สิ่งอื่นนอกเหนือจากนั้น ไม่ว่าเขาจะถูกครอบงำโดยความเกลียดหรือความโกรธใดๆ จนกลายเป็นปีศาจ ไม่สำคัญเลยสำหรับข้า”

“แต่ข้าคิดว่าเขาเปิดใจให้ท่านนะเจ้าคะ!” อิลมาเรเชียร์

มาลแกธขยิบตา “อย่าบอกเขาละ มันจะทำให้เขาไหวตัวทัน แล้วหันมาพึ่งพาข้าน้อยลง”

“เจ้าค่ะ! ข้าจะบอกของที่เขาชอบกินกับเรื่องที่เขาชอบทำให้นะเจ้าคะ”

จากนั้นอิลมาเรเล่าเรื่องตอนที่โคลด์มาหางานทำที่กิลด์พ่อค้า (ใต้ดิน) “มีคนแกล้งเขาเยอะ ทดสอบโน่นนี่ ให้ทำแต่งานยากๆ น่าเบื่อๆ ค่าตอบแทนถูกๆ แต่เขาไม่เคยบ่นเลยสักครั้งเดียว เขาดึงใบประกาศงานไป แล้วก็กลับมาพร้อมผลงานระดับ A+ ข้ามองออกเลยว่าเขานี่แหละ หมูในอวย เอ้ย...เพชรในตม!”

(และคนที่ให้งานยากๆ น่าเบื่อๆ ค่าตอบแทนถูกๆ เพื่อทดสอบโคลด์ก็คือตัวอิลมาเรเอง)

“พูดถึงเรื่องกิน เขาเป็นคนที่กินง่ายที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบ และกินจุที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็น กินเหมือนกับจะไม่มีวันพรุ่งนี้อีกแล้ว”

มาลแกธหัวเราะกับอิลมาเร ทั้งคู่ดูสนุกมากกับการเล่าเรื่องในอดีตของดาร์กเอลฟ์ซื่อๆ คนหนึ่ง

...ซึ่งอาจไม่เคยมีตัวตนอยู่จริง


—————————————————————————

A/N สวัสดีค่ะ บทนี้ยาวกว่าปกติหน่อย ไม่ต้องแปลกใจนะคะ คือมันยาวกว่าปกติ แต่ยาวไม่พอจะแบ่งเป็นสองบท จะแบ่งสั้นๆ เราก็เกรงใจ กลัวอ่านไม่อิ่ม (สต๊อกนิยายของเค้าาาา) แล้วเนื้อหาจบตรงนี้กำลังดี ก็เลยลงยาวๆ จ้ะ
ป.ล. 1 บทนี้เหมือนช่วงพักค่ะ ได้คลายอารมณ์กันบ้าง ในบทต่อไปปริศนาที่รอการเฉลยจะเริ่มจุดตัวเอง เผาไหม้ๆ แล้วค่ะ (*0*)
ป.ล. 2 เห็นมีบางคนเชียร์เรือมาลแกธxอิลมาเร น่าจะยากค่ะ พรากกกก ป๋าเขารักดาร์กเอลฟ์เผ็ดร้อนไปแล้ว
"และข้าไม่แย่งผู้ชายกับเพื่อนเจ้าค่ะ เพื่อนย่อมดีกว่าผู้ชายเจ้าค่ะ!" by อิลมาเร
"ข้าก็เป็นผู้ชาย..." โคลด์อยากเถียงอิลมาเร
ป.ล. 3 มีใครจับเรดาห์ไปที่ท่านจอมทัพทมิฬบ้างหรือยังจ้าาาาา ฝั่งดาร์กเอลฟ์ผู้ชายดีๆ เพียบเลยน้าาาา

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

อิมเมจอิลมาเร แต่เด็กลงกว่านี้สัก 10 ปีนะคะ
ถ้าเนื้อนมไข่แบบนี้จริงไม่รอดปากมาลแกธแน่นอนค่ะ ;)

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/291965855-member.jpg)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (1) [24/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 24-01-2017 12:01:48
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (1) [24/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 24-01-2017 13:15:13
เกาะเรือราชินีโคลด์ต่อไป ได้เข้าทั้งอาณาจักรเอลฟ์ (หล่อวัวตายควายล้ม) อาณาจักรดาร์กเอลฟ์ (หล่อดึงดูดใจจนต้องถลาไปซบอก) แถมยังได้ดูอะไรสนุก ๆ อีกต่างหาก

แม้จะก้าวเข้าไป ใจโคลด์ก็ยังมีซิกฟรีดสินะ

เราได้รู้แต่ความในใจของโคลด์ที่มองด้วยมุมผู้ถูกกระทำ อยากรู้ใจซิกฟรีดบ้าง

ฝั่งดาร์กเอลฟ์คือพ่อเลี้ยงชั่วใช่ป่ะ? เขาน่าจะแซ่บน่าดู อุอิ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (1) [24/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 24-01-2017 13:53:58
:katai5: :katai5:
:katai2-1: :katai2-1:

เกาะเรือราชินีโคลด์ต่อไป ได้เข้าทั้งอาณาจักรเอลฟ์ (หล่อวัวตายควายล้ม) อาณาจักรดาร์กเอลฟ์ (หล่อดึงดูดใจจนต้องถลาไปซบอก) แถมยังได้ดูอะไรสนุก ๆ อีกต่างหาก

แม้จะก้าวเข้าไป ใจโคลด์ก็ยังมีซิกฟรีดสินะ

เราได้รู้แต่ความในใจของโคลด์ที่มองด้วยมุมผู้ถูกกระทำ อยากรู้ใจซิกฟรีดบ้าง

ฝั่งดาร์กเอลฟ์คือพ่อเลี้ยงชั่วใช่ป่ะ? เขาน่าจะแซ่บน่าดู อุอิ
พูดถึงดาร์กเอลฟ์ ยังมีหล่อจัดๆ รักจริงๆ อีก 2 คน (ไม่รวมจอมทัพฯ รอบทออกค่ะ)
เมะทั้งคู่ (มีคนในใจแล้ว) /พอๆ ไม่สปอยๆ
เรื่องนี้มีคู่รอง ช-ช เยอะนะคะ แค่ยังไม่ถึงเวลาออก OTL  :mc4:

ป.ล. บิดาบุญธรรมท่านนี้ของโคลด์นี่ ต้องบอกว่าอำมหิตค่ะ อำมหิตบริสุทธิ์เลย

แล่นเรือโคลด์น่าจะได้ไปทั่วทุกดินแดน /ก็ตัวเอกนี่นา^^;
/แต่ซิกฟรีดก็ตัวเอกน้า ราชาค่าตัวแพง รอบทนิดค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (1) [24/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 24-01-2017 16:38:59
จอมทัพดาร์กเอลฟ์นี่จะตัวร้ายหรือคนดีนะ จะมาฆ่าโคลด์รึเปล่า
น่ากลัวยังไงไม่รู้
ปล.เสี่ยซิกหายสาบสูญไปแล้วสินะ
รักคนเขียนนะ 555  :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (1) [24/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 24-01-2017 17:27:10
จอมทัพดาร์กเอลฟ์นี่จะตัวร้ายหรือคนดีนะ จะมาฆ่าโคลด์รึเปล่า
น่ากลัวยังไงไม่รู้
ปล.เสี่ยซิกหายสาบสูญไปแล้วสินะ
รักคนเขียนนะ 555  :mew1:
แหะๆ ไม่สปอยน้า แต่บอกได้ว่าบทซิกฟรีดมาก่อนบทจอมทัพค่ะ 555
/ถ้าไม่มาก็แย่ละ OTL
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (1) [24/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 24-01-2017 20:32:17
รูปประกอบเซ็กซี่เชียว แต่พอบอกว่าอิลมาเรเด็กกว่านี้ 10 ปี  :mew5: แล้วมันจะเหลืออะไรนอกจากเด็กกะโปโล  :hao5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (1) [24/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 24-01-2017 22:00:40
รูปประกอบเซ็กซี่เชียว แต่พอบอกว่าอิลมาเรเด็กกว่านี้ 10 ปี  :mew5: แล้วมันจะเหลืออะไรนอกจากเด็กกะโปโล  :hao5:
เป็นเด็กกะโปโลดีแล้วค่ะ รอดมือมาลแกธ
มาลแกธก็รอดคุก-- :laugh:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (1) [24/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: arakanji ที่ 24-01-2017 22:34:52
สนุกมากเลย อ่านแค่ตอนแรกก็ติดแล้ว
เราชอบอ่านแนวนี้
ภาษาดีมากๆเลยค่ะ
ทำให้นึกถึงนิยายแปลดีๆของนักเขียนดังๆหลายดังที่เราติดตามอ่าน
ขอบคุณนะค่ะ ที่เขียนเรื่องสนุกๆมาให้อ่าน อย่าหายไปไหนนะ  เขียนให้อ่านจนจบเลยนะค่ะ 55
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (1) [24/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 24-01-2017 22:47:59
สนุกมากเลย อ่านแค่ตอนแรกก็ติดแล้ว
เราชอบอ่านแนวนี้
ภาษาดีมากๆเลยค่ะ
ทำให้นึกถึงนิยายแปลดีๆของนักเขียนดังๆหลายดังที่เราติดตามอ่าน
ขอบคุณนะค่ะ ที่เขียนเรื่องสนุกๆมาให้อ่าน อย่าหายไปไหนนะ  เขียนให้อ่านจนจบเลยนะค่ะ 55
คอมเมนต์นี้กำลังใจมา MAX เลย ขอบคุณมากนะคะ  :mew2:
('///') เขินจนไม่รู้จะตอบยังไง คือช่วงนี้มีแต่คนบอกให้เราเขียนแนวอื่นที่ไม่ใช่แฟนตาซีน่ะค่ะ
เพราะคนอ่านน้อยกว่า ขายยาก ไม่บูมเท่านิยายรักปกติ อะไรแบบนี้
เลยดีใจเวลามีคนบอกว่าชอบแฟนตาซี ;w;
เราสายเขียนตามอารมณ์ด้วยค่ะ คือนิยายปกติก็เขียนได้ แต่ตอนนี้อารมณ์เรื่องนี้มาเต็ม
ไม่ต้องกลัวว่าจะลงไม่จบนะคะ ลงทุกวันจนจบภาคนี้เลยค่ะ ;)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (1) [24/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 25-01-2017 00:15:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (2) [25/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-01-2017 00:48:41
บทที่ 8 : ทางแยก (2)

ส่วนเรื่องที่สอง…

ซิกฟรีดเรียกประชุมครั้งใหญ่

ขุนนางในตำแหน่งสำคัญต่างๆ ถูกเรียกมาด้วยเหตุแผ่นดินไหว หน่วยตระเวนชายแดนยืนยันว่า อันเดดหลุดออกจากสุสานวิหารร้าง เข้าทำร้ายนักเดินทางและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง ซ้ำยังคร่าชีวิตทหารซึ่งได้รับคำสั่งให้เข้าควบคุมสถานการณ์เบื้องต้นไปอีกหลายนาย

“ควาร์ของท่านซ่อมแซมผนึกถึงไหนแล้ว” ซิกฟรีดถามหัวหน้าขุนนางควาร์

“จวนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ที่เจ้าว่าจวนน่ะ จวนแค่ไหน” ซิกฟรีดเคาะนิ้วกับบัลลังก์ ไม่พอใจคำตอบ

“ขณะนี้...มีแนวโน้มว่าจะล่าช้ากว่ากำหนดพ่ะย่ะค่ะ กำลังทหารที่อยู่ในพื้นที่เวลานี้ต้องแบ่งเป็นหลายส่วน ทั้งตามล่าอันเดด ทั้งรับมือกับโจรชายแดนและผู้อพยพผิดกฎหมายที่ฉวยโอกาสระหว่างเกิดเหตุ แล้วยังต้องแบ่งไปดูแลส่วนกักขังอันเดดชั่วคราว—”

“หน่วยบุกตะลุยและคุ้มกันควาร์ที่เข้าไปซ่อมผนึกไม่เพียงพอ เจ้าจะว่าอย่างนี้ใช่หรือไม่” ซิกฟรีดสรุป

หัวหน้าขุนนางควาร์น้อมศีรษะ

“ข้าจะส่งกองกำลังสนับสนุนไปเพิ่ม แต่คราวนี้ขอกลยุทธ์ใหม่ เพื่อลดการสูญเสีย จงสร้างกำแพงกั้นรอบวิหารชั่วคราว กันไม่ให้อันเดดหลุดออกมามากกว่านี้ แล้วจัดกองกำลังใหม่ ให้จอมเวทที่เชี่ยวชาญด้านเกราะยันพวกมันเข้าไป และจงใช้อันเดดที่คุมขังอยู่ในมือให้เป็นประโยชน์ มีทางชักใยพวกมันให้ทะลวงอันเดดที่อยู่ด้านในวิหารได้หรือไม่...ดี ไปคิดมา ข้าเชื่อว่าขุนนางทุกผู้ในที่นี้สามารถ ภายในหกชั่วโมงนับจากนี้ เราอยากได้ยินรายงานว่าพวกท่านควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว”

ราชาหนุ่มใช้ข้อนิ้วลูบริมฝีปาก มองขุนนางใต้ปกครองทีละคน

“เอาละ ใครมีความเห็นอะไรจะเสนอ จะได้ดำเนินการโดยไว เวลาไม่รอท่าแล้ว...”

การประชุมดำเนินไปอย่างเคร่งเครียด

ระหว่างนั้นซิกฟรีดคิดถึงพี่ชายคนโต

เป็นราชาไม่ง่ายเลย...พี่เฟรธูริน

——————————————————————————————————

อีกนิดเดียวก็จะได้เจอเกวน อีกนิดเดียวเท่านั้น

แล้วเราจะเป็นอิสระด้วยกัน...


โคลด์เข้ามาในเส้นทางใต้ดินเพื่อไปหาเกวนโดลิน คนตายใต้ผืนดินจะกระซิบบอกเส้นทางที่ถูกต้องแก่เขา

...มันควรเป็นเช่นนั้น

ทว่านี่เป็นวันที่ห้าแล้วที่โคลด์วนเวียนอยู่ในเส้นทางนี้

คนตายที่ตอบรับเวทโลหิตมิอาจพูดปดแก่เจ้าชายกระดูก พวกมันบอกเส้นทางสู่จุดหมายว่าต้องตรงไปทางไหน เลี้ยวแยกซ้ายหรือขวา ตรงไหนเป็นทางตัน ตรงไหนมีแหล่งน้ำ ตรงไหนอันตรายควรเลี่ยง

ทุกสิ่งถูกต้อง ทว่าทำอย่างไรโคลด์ก็ไปไม่ถึงจุดหมายเสียที

ดาร์กเอลฟ์นั่งพิงผนังทางเดินใต้ดินแบบเหม่อๆ เขาอยากลุกขึ้นเดินต่อ...ไปหาเกวนโดลิน แต่เขาหลงทางมาห้าวันเต็ม อย่าว่าแต่ไปให้ถึงอาณาจักรมังกรเลย จะกลับไปตั้งต้นที่ทางเข้าจากวิหารร้างของมารดานภาก็ยังไปไม่ถูก

บนท่อนแขนสีม่วงอมเทามีแต่รอยกรีด แม้บาดแผลปิดสนิทด้วยเลือดแห้งสีดำ แต่โคลด์ก็ใช้บลัดแมจิกจนหน้ามืด ต้องหยุดพักเพราะเกรงเลือดจะหมดตัวตายไปเสียก่อน

เขามาอย่างกะทันหัน ผิดแผน ไม่มีเสบียง (อาหารอัดเม็ดของแอสซาสซินโดนริบไปตอนโดนจับ) ของกินที่พอหาได้มีแค่เห็ด ตะไคร่น้ำ และน้ำที่ไม่ค่อยสะอาด

โคลด์คิดถึงเสียงนก...นกสีขาว เสียงแกว๊ก! ที่มันร้องลั่นป่าตอนเขาจะดึงมีดออกจากคอมาลแกธ

เสียงร้องห้ามของกวิเนเวียร์—เกวนโดลิน

โคลด์ไม่ชอบตัวเองตอนนี้ คนสิ้นหวังที่กำลังร้องไห้อย่างเงียบๆ ตระหนักในความใกล้ตายของตน

เขาหลงทางอย่างโง่เง่า ไม่มีคำตอบ ความคิดที่จะไม่ได้เจอเกวนโดลินยิ่งกดเส้นประสาทของเขาให้เครียดเขม็งจนแทบขาด

“พี่..” โคลด์กระซิบเสียงเบา...เบามากๆ ทว่าแฝงด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้า “ข้าอยากเจอพี่ แล้วพี่ล่ะ อยากเจอข้าไหม ข้าเอง...ฮีมเดียร์”

แล้วดาร์กเอลฟ์หนุ่มก็หลับตาลง ได้แต่หวังให้เสียงกระซิบของเขาลอดผ่านโครงกระดูกคนตายไปเหนือผืนดิน...ไปถึงนกสีขาว

ไปถึงเกวน

แม้เขารู้ว่ามันไม่มีทางไปถึง

——————————————————————————

นกสีขาวขนาดกลางตัวหนึ่งกางปีกแผ่ถลาจากปากปล่องภูเขาไฟลงมาในถ้ำใต้ดิน มันตรงเข้าเกาะแขนหญิงสาวผิวสีม่วงอมเทาที่นั่งหลบมุมอยู่ตรงซอกผา

เธอผู้นี้เป็นทาสชาวดาร์กเอลฟ์ สวมเสื้อผ้าค่อนข้างเก่า มีแต่รอยปะชุน ใบหน้างามของเธอซีดเซียว ผมสีเงินมุ่นเป็นมวยหลวมๆ เปิดต้นคอระหง เห็นปลอกคอเหล็กแสดงความเป็นทาสที่เธอสวมอยู่ชัดเจน

ภาพทาสซึ่งชวนให้รู้สึกหดหู่เป็นที่คุ้นตา แต่ภาพทาสซึ่งมีมังกรตัวเล็กขดอยู่บนตักช่างน่าประหลาดอย่างถึงที่สุด

มังกรตัวนั้นมีเกล็ดอ่อนนุ่มสีเทา ดวงตาสีเขียวอ่อนปรือปรอยคล้ายเด็กกำลังง่วงเหงา มันครางครือ ครือ อย่างพอใจกับสัมผัสใต้คอ ทาสสาวชาวดาร์กเอลฟ์บรรจงเกาจนมันเคลิ้ม ใกล้หลับไปทุกที

แต่แล้วมันก็ดีดขาปับ เมื่อสัมผัสหยุดลงกะทันหัน

“หยุดทำไมน่ะ เกวน” มันรู้จักพูดคุยสื่อสารเช่นอารยชน

“ขอโทษจ้ะ รากาล ข้ามีเรื่องให้กังวล” ทาสสาวหรือ ‘เกวนโดลิน’ ตอบเสียงเบา สีหน้าอิดโรยไม่สู้ดีนัก เธอเป็นเช่นนี้มาหลายวันแล้ว บางทีก็เหม่อมองท้องฟ้า หรือเอาแต่พูดคุยกับนกสีขาวที่บินร่อนลงมาวันละหลายๆ ครั้ง

“มีอะไรเหรอ บอกข้าได้ไหม” มังกรน้อยยืดศีรษะขึ้น

เกวนโดลินมองหน้ามังกรน้อยอยู่นาน ‘ได้ แต่คุยกันทางนี้แล้วห้ามบอกใครนะจ้ะ’ เธอบอกรากาลผ่านจิต

‘สัญญา’ รากาลไต่บนตัก ยืดตัวแนบหน้าผากกับหน้าผาก เกล็ดนุ่มถูไปมาบนหน้าผากเกลี้ยงมนของหญิงสาว

‘ข้าเคยเล่าใช่ไหมว่า ข้ามีน้องชายที่ไม่เจอหน้ากันนานแล้วอยู่คนหนึ่ง’

‘อื้อ’ มังกรน้อยเกาะบ่า

‘เขาพยายามมาหาข้า...หลายวันแล้ว ไม่สิ ข้านับเวลาทุกวัน นี่วันที่ห้า...’ น้ำตาของเกวนโดลินไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

ลิ้นของมังกรเลียน้ำตา ปลอบเป็นพัลวัน ‘เกวน...ไม่ร้องไห้นะ’

‘เขาจะมาที่นี่โดยใช้เส้นทางใต้ดินจากวิหารร้างของมารดานภา แต่ข้าให้นกตามเขาเข้าไปในสุสานไม่ได้ รากาล เส้นทางนั้นไกลจากที่นี่มากเลยหรือ อันตรายมากหรือเปล่า’

เกวนโดลินถามสิ่งที่ทาสไม่ควรถามเจ้านาย ซึ่งเจ้านายที่ว่านี้ก็คือมังกรน้อย แต่เธอไว้ใจรากาลจนกล้าถามออกมาตรงๆ

‘ไม่นะ’ รากาลนึก ‘ไม่ไกลและไม่อันตรายสำหรับมังกร’

ความจริงแล้วมันไกล และอันตรายมากทีเดียวสำหรับเผ่าพันธุ์อื่น หากถามว่าไกลแค่ไหน ให้ลองนึกความเร็วในการบินของมังกร เพียงกระพือปีกไม่กี่ครั้งก็ไปได้ไกลเป็นโยชน์* แต่รากาลเล่าว่าเคยไปบินเล่น ครึ่งชั่วโมงยังไม่ถึงอีกฝั่งหนึ่งเลย

และหากถามว่าอันตรายแค่ไหน...รากาลนึกสักพัก ก่อนเกล็ดจะลุกซู่ มังกรน้อยกระซิบกระซาบแม้จะเป็นการพูดคุยผ่านความคิด เหมือนกลัวว่าถ้าคิดดังจะทำให้ภาพความโหดร้ายทารุณของกับดักเวทมนตร์ในจินตนาการชัดเกินไป

เกวนโดลินได้ฟังความจริงที่รากาลบอกทางจิตแล้วหน้าซีดเผือด นกสีขาวที่เกาะอยู่ด้านข้างสะดุ้งตามความหวั่นไหวในจิตใจของเธอ

‘เส้นทางมังกรเป็นอย่างนั้นเองเหรอ ข้าไม่เคยคิดมาก่อน ทำไมข้าถึงโง่แบบนี้ ข้าควรจะรู้สิ ข้าจะได้บอกเขา เตือนเขาล่วงหน้าไม่ให้มา แต่มันอาจสายไปแล้ว...ข้าจะทำอย่างไรดี!’

เกวนโดลินผุดลุกกะทันหันจนรากาลหล่นจากตัก จิตใจของเธอสับสน เดินกระวนกระวายริมขอบผาอย่างน่ากลัวว่าจะตกลงไป แต่เธอดูไม่สนใจอันตรายนั้น

รากาลไม่เคยเห็นเกวนโดลินร้อนรนเฉกนี้

พรืด!

ดาร์กเอลฟ์สาวก้าวพลาด ร่างไถลลงไปตามผาหิน กระแทกชะง่อนผาแล้วหยุด

“เกวน!” รากาลตะโกนด้วยความตกใจ มังกรพุ่งตามไปทันที มันตั้งใจจะคว้าเกวน แต่ไม่ไวพอ

เกวนโดลินนอนนิ่งไม่ขยับ โชคดีที่แขนขาบอบบางไม่หัก แต่มีแผลถลอกเนื้อเปิดเลือดไหลซิบ เธอคู้ตัวเป็นลูกบอล น้ำตาไหลพราก

รากาลไม่เคยเห็นเกวนโดลินร้องไห้อย่างหนักแบบนี้เช่นกัน

‘เกวน…’ มังกรเอาศีรษะดันหน้าผากดาร์กเอลฟ์ ‘ไม่ร้องไห้สิ ข้าจะปลอบเจ้ายังไงดี ร้องเพลงกล่อมดีไหม เหมือนที่เจ้าทำให้ข้าไง’

เกวนโดลินส่ายหน้า ‘ถ้าโคลด์ตาย ข้าก็ไม่อยากอยู่แล้ว’ เธอตอบ แม้แต่เสียงในใจยังสะอื้นไม่หยุด

‘อย่างนั้นข้าจะไปตามหาเขาให้เอาไหม...นะ หยุดร้องไห้เถอะ’ รากาลกระพือปีกเบาๆ ‘ข้าบินไปแป๊บเดียวเอง เจ้าออกจากที่นี่ไม่ได้ นกก็ส่งสารไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นข้าอาสาเอง’

‘เขาคงเข้าไปในทางใต้ดินนานแล้ว นกของข้าถึงหาเขาไม่พบ’

‘งั้นข้าต้องรีบแล้วสิ’ รากาลกังวลแทนเกวน

เกวนโดลินชนหน้าผากกับรากาล

‘ข้ารู้ว่าข้าขอให้เจ้าทำสิ่งที่บิดาของเจ้าต้องโกรธ...แต่ได้โปรด ช่วยข้าด้วยเถอะ’


—————————————————————————

* 1 โยชน์ = 16,000 เมตร หรือ 16 กิโลเมตร

A/N บทนี้ต้องบอกว่า ชื่อจริง! ชื่อจริงของโคลด์แหละๆๆๆ โคลด์ชื่อเดิมคือ 'ฮีมเดียร์' นะคะ ส่วนเกวนโดลินคือ 'กวินีเวียร์' ชื่อเพราะ ลักษณะดีขนาดนี้ ใครฟังก็ไม่น่าคิดว่าเป็นดาร์กเอลฟ์ลูกชาวบ้าน เขาถึงต้องเปลี่ยนชื่อกันค่ะ ;w; คือดาร์กเอลฟ์ปกติจะมีผิวสีเทาธรรมดา ผมสีดำบ้าง เงินบ้าง < นี่คือชาวบ้านๆ ถ้าผิวสีเทาอมสีเฉดอื่นๆ จะเป็นเผ่าต่างๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นผิวสีเทาเฉดม่วง ตาสีม่วง กับผมสีเงินก็มีเฉพาะสายเลือดเผ่าของโคลด์ค่ะ

เกวนๆ มีบทแล้วจ้า เฉลยไปเยอะเลยเนอะ (*0*) ใครรอมังกร มังกรก็มา ราชามังกรเลยค่ะ! และจะมาอีกค่ะ!
ป.ล. 1 รากาลน่าขยำจังเลยๆๆ /ขยำๆๆๆ
/เกวนๆ บอกอย่าแกล้งรากาลเจ้าค่ะ
ป.ล. 2 โคลด์จะรอดหรือไม่ เป็นอย่างไรต่อไป เอาใจช่วยกันนะจ๊ะ ;w;

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (2) [25/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 25-01-2017 07:25:16
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (2) [25/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 25-01-2017 12:58:39
ซิกค่าตัวแพงจริงอะไรจริง แต่โผล่มาหล่อมาก ภาวะผู้นำของราชาเด่นชัด
#อยากดูภาวะคนรักบ้าง > ผิดจังหวะย่ะ!

พี่น้องดาร์กเอลฟ์ที่น่าสงสาร

ช่วยส่งรากาลมาให้ฉันที มังกรขี้อ้อน เกล็ดอ่อนน่าฟัด อิอิ

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (2) [25/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-01-2017 15:37:27
:pig4: :pig4:
ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่า

:hao7: :hao7:
:really2: :really2:

ซิกค่าตัวแพงจริงอะไรจริง แต่โผล่มาหล่อมาก ภาวะผู้นำของราชาเด่นชัด
#อยากดูภาวะคนรักบ้าง > ผิดจังหวะย่ะ!

พี่น้องดาร์กเอลฟ์ที่น่าสงสาร

ช่วยส่งรากาลมาให้ฉันที มังกรขี้อ้อน เกล็ดอ่อนน่าฟัด อิอิ
ราชามาแพงค่ะ ภาวะคนรัก แหมมมมม ไม่มีได้ไง ตอนมารับรองมาจนอิ่มจัดๆ เลยค่ะ ;)
"รากาลน่ารัก เลี้ยงดูง่ายเจ้าค่ะ" เกวนๆ ภูมิใจ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (2) [25/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 25-01-2017 18:26:26
ขอสารภาพว่าพึ่งมาอ่าน อ่านรวดเดียวถึงตอนล่าสุดเลย เห็นผ่านหน้านิยายแว๊บๆมาสักพักแล้ว ขอสารภาพอีกว่าปกติเราไม่ค่อยอ่านแนวแฟนตาซีจ๋าขนาดนี้แต่เรื่องนี้ต้องยอมใจคนเขียน ทำการบ้านมาดีมากแทยจะไม่เจอจุดไหนที่อ่านแล้วรู้สึกขัดเลย  โดยส่วนตัวแล้วชอบนานเอกคาแรคเตอร์แบบน้องโคลด์มากๆ มีความราชินีและราชินีก็ต้องคู่ราชาจริงไหม? แล้วก็บังเอิญว่าคาแรคเตอร์ราชาของน้องโคลด์ดันตรงสเปคเร่เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ขอขึ้นเรือซิกโคลด์จ้าาาา


คนเขียนสู้ๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 8 : ทางแยก (2) [25/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-01-2017 19:12:27
ขอสารภาพว่าพึ่งมาอ่าน อ่านรวดเดียวถึงตอนล่าสุดเลย เห็นผ่านหน้านิยายแว๊บๆมาสักพักแล้ว ขอสารภาพอีกว่าปกติเราไม่ค่อยอ่านแนวแฟนตาซีจ๋าขนาดนี้แต่เรื่องนี้ต้องยอมใจคนเขียน ทำการบ้านมาดีมากแทยจะไม่เจอจุดไหนที่อ่านแล้วรู้สึกขัดเลย  โดยส่วนตัวแล้วชอบนานเอกคาแรคเตอร์แบบน้องโคลด์มากๆ มีความราชินีและราชินีก็ต้องคู่ราชาจริงไหม? แล้วก็บังเอิญว่าคาแรคเตอร์ราชาของน้องโคลด์ดันตรงสเปคเร่เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ขอขึ้นเรือซิกโคลด์จ้าาาา


คนเขียนสู้ๆ
โอ้ ขอบคุณมากค่ะ ;) จริงๆ ก็เข้าใจว่าแนวแฟนตาซีจ๋าๆ แบบนี้คนไม่ค่อยนิยมนะคะ
แค่ทำให้คนหันมาลองอ่านแล้วรู้สึกชอบได้ก็ดีใจแล้วค่ะ ;)
ที่จริงเราเขียนแนวปัจจุบันด้วยนะคะ แต่ก็จะดาร์กๆบ้าง (ตลกบ้างก็มี) และส่วนมาก Setting ฝรั่งค่ะ
ป.ล. ยินดีต้อนรับขึ้นเรือราชานะคะ เรือนี้คนบ่นหน่อย แล่นไม่ทันเรืออีกลำ แต่ซิกฟรีดบทมี บทมาค่ะ รอนิดเท่านั้นเอง  :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (1) [26/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-01-2017 23:54:36
บทที่ 9 : เส้นทางมังกร (1)

โคลด์ได้ยินเสียงกระพือปีก...ถ้าเขาไม่ได้คิดไปเอง หรือหิว หรือเหนื่อยจนหลอน เสียงกระพือปีกนี้หนักแน่นกว่าเสียงจากปีกนก แต่เบาเกินกว่าจะเป็นสัตว์ปีกขนาดใหญ่

โคลด์เงยหน้า เห็นรูปร่างของมันรางๆ มังกร…ไม่สิ ลูกมังกร บินได้ เป็นพวกชั้นสูง แต่ตัวเล็กชะมัดเลย

เขาอดขำไม่ได้

มังกรขนาดเล็กบินเข้ามาใกล้โคลด์อย่างไม่กลัวเกรง พอเจียนจะถึงตัวมันก็ร่อนลงพื้น การหยุดกะทันหันทำให้มันถลามาข้างหน้าสองสามก้าว มันรีบยึดกรงเล็บไม่ให้เสียหลัก พอมั่นคงดีแล้วก็แยกเขี้ยว

‘ยิ้มทักทาย’ มังกรคิด แต่โคลด์ไม่เข้าใจหรอก จากมุมมองของเขา มังกรดูจะขู่หวงอาณาเขตมากกว่า

โคลด์เลิกคิ้วสีเงิน จ้องลูกมังกรตัวอ้วนกลมด้วยแววตาหิวโหย

อาหาร...

‘ทำไมเจ้าทำหน้าอย่างนั้นล่ะ’ มังกรคิดต่อ แน่นอน...มันอ่านใจโคลด์ไม่ได้ และโคลด์ก็อ่านใจมันไม่ได้

นอกจากนิสัยประหลาด—แยกเขี้ยวยกมุมปากโดยไม่ออกเสียงขู่และยืนยืดคอ (ก้มลงมาดมบ้าง) ไม่ย่อตัวเตรียมกระโจนใส่เหยื่อแล้ว ลักษณะของมังกรตัวนี้ยังแปลกตา บ่งบอกสายพันธุ์ชัดเจนไม่ได้ หน้าตาไม่ใช่มังกรดิน ไม่เหมือนมังกรศิลา มังกรเหล็กก็ไม่ใช่ เกล็ดของมันเป็นสีเทาเกือบดำ ส่วนปลายเรียวแหลมทว่าดูอ่อนนุ่ม น่าจะยังโตไม่เต็มที่ ดวงตาสีเขียวอ่อนมีแววร่าเริง

“กินได้ไหม” โคลด์ถามเสียงแหบ เขาคลำสะโพกตัวเองเพื่อหาบีฟอร์ซ “กินได้สินะ อุตส่าห์บินมาให้กินด้วย” โคลด์พึมพำแบบไม่สนใจคำตอบ เขาชักมีดสั้นออกมาเตรียมแล่เนื้อมังกรแล้ว

“ไม่ได้! ข้าชื่อรากาล เจ้าล่ะ ชื่ออะไร” รากาลตวาด มันพูดภาษาดาร์กเอลฟ์ได้ แถมยังคล่องเสียด้วย

“โคลด์” เขาชะงักมือ แปลกใจที่มังกรพูดภาษาคนได้

มังกรน้อยกางปีกออกแล้วกระพือพั่บๆ มาลอยอยู่ตรงหน้าโคลด์ ห่อผ้าเล็กๆ ที่ผูกอยู่ตรงขาแกว่งไปแกว่งมา

“ข้ารีบบินไปหน่อย ไม่รู้เบอร์รีของเกวนยังอยู่ดีหรือเปล่า” รากาลว่า ห่อผ้าโชยกลิ่นหอมของผลไม้ “อ่า มีน้ำกับจดหมายด้วยนะ แกะจดหมายสิ เกวนอยากให้เจ้าอ่านทันที”

โคลด์ได้ยินชื่อพี่สาวก็ตาโต เขารีบคลี่ม้วนกระดาษ เห็นว่าข้อความภายในเขียนอย่างรีบร้อน หมึกยังไม่แห้งดีและมีรอยหยดน้ำเปื้อนเป็นดวงๆ แต่เขาจำลายมือและวิธีการเขียนเช่นนี้ได้

 

ฮีมเดียร์,

เส้นทางมังกรอันตรายกว่าที่พวกเราทราบ มังกรที่นำจดหมายฉบับนี้มาให้เจ้าคือเพื่อนรักของพี่เอง นามของเขาคือรากาล จงไว้ใจรากาล ตามเขาออกจากเส้นทางใต้ดินก่อน เมื่อเจ้าออกไปได้แล้ว นกของพี่จะตามหาเจ้าเอง

อย่าลืมกินน้ำกับเบอร์รีก่อน ค่อยๆ กิน พี่ไม่ได้เก็บเบอร์รีให้เจ้ากินมานานแล้ว ไม่รู้ยังเลือกได้ถูกปากไหม หลงทางอยู่ในนั้นตั้งหลายวันหิวมากหรือเปล่า พี่ขอโทษ พี่อยากเจอเจ้าเหลือเกิน แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะได้พบกัน

ย้ำอีกครั้ง เจ้าต้องตามรากาลออกไปก่อน…

 

ในจดหมายยังมีข้อความต่อจากนั้นอีก เมื่อจบก็ลงท้ายว่า

 

‘ด้วยรัก ขอเทพีจันทร์อวยพร,

กวินีเวียร์’

 

โคลด์พูดไม่ออก เขาแทบไม่เชื่อเรื่องนี้ หากไม่ใช่เพราะข้อความที่เหลือในจดหมายเอ่ยถึงเรื่องที่มีแต่เขากับเกวนโดลินเท่านั้นที่ทราบ

โคลด์ดื่มน้ำ กินผลไม้ลูกเล็กรสเปรี้ยวอมหวาน มันผสมรสเค็มปร่าของน้ำตาที่ไหลเข้าปากมาพร้อมกัน เขาดื่มน้ำอีก กินผลไม้ต่อ ซึมซับความรักและความห่วงใยจากพี่สาวร่วมสายเลือด

จะมีใครยกโทษให้กับความเลินเล่อของเราได้เท่ากับคนในครอบครัวอีก

“อิ่มยัง อิ่มนะ เจ้าต้องรีบอิ่มได้แล้วล่ะ เกวนขอให้ข้าพาเจ้าออกไปข้างนอก ต้องรีบแล้ว” รากาลกระพือปีกพัดไปพัดมา เหนือหัวโคลด์บ้าง เหนือไหล่โคลด์บ้าง

“เส้นทางนี้ให้แต่มังกรผ่าน เจ้าโดนผีทาสมังกรเกาะเต็มเลย! พวกมันจงรักภักดีมากนะ ยอมพลีชีพรักษาเส้นทางสำคัญ ไป๊! ไม่เอาไม่เกาะ ดาร์กเอลฟ์ตนนี้มากับข้า”

รากาลเป่าลมหายใจฟู่ๆ ทำผมโคลด์กระจุยไม่เป็นทรง แต่มังกรน้อยรีบเอาเล็บเขี่ยๆ จัดผมให้เข้าทรงใหม่

“เจ้าสวยจังนะ เหมือนเกวนเลย”

โคลด์ไม่ตอบรับคำชม “ตกลงๆ ข้าพอมีแรงแล้ว ไปกันเถอะ”

ดาร์กเอลฟ์ยอมตามลูกมังกร เพราะมันยืนยันว่าไม่สามารถพาเขาไปหาเกวนโดลิน นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ และหากโคลด์ยังดื้อดึง เขานั่นแหละที่จะสร้างอันตรายให้แก่พี่สาวของตนเอง

และโคลด์ก็ได้ทราบความลับของเส้นทางใต้ดินสายนี้ ว่าทำไมแม้แต่เสียงกระซิบของคนตายก็บอกเส้นทางที่ถูกต้องแก่เขาไม่ได้

—————————————————————————

ว่ากันว่า….ในวิหารบูชามารดานภามีบันไดลับอยู่

บันไดนั้นจะนำไปสู่โถงใต้ดินอันมีประตูลึกลับอยู่บานหนึ่ง เหนือประตูบานนั้นมีภาษาโบราณสลักอยู่ อ่านได้ว่า ‘ท้องฟ้าแลมหานที’ หากไล่สายตาไปบนประตูจะพบรูปสลักนูนต่ำของหญิงสาวฝาแฝด ทั้งคู่งดงามไม่แพ้กัน คนหนึ่งมีดวงหน้าสงบ รอยยิ้มน้อยๆ ระบายอย่างสำรวมที่มุมปาก ส่วนอีกคนหนึ่งเต็มไปด้วยพลังชีวิต เส้นผมงามละเอียดสะบัดล้อลม มีแววตาและรอยยิ้มเปิดเผยเชิญชวน

ย่อมเป็นรูปสลักของมารดรนภาและมารดาสมุทร เนิ่นนานมาแล้ว...เมื่อครั้งที่ความสัมพันธ์ของพี่น้องยังไม่ร้าวลึก และแตกหักลงอย่างไม่มีวันประสานคืน

หลังประตูที่ปิดสนิทคือทางเดินใต้ดิน มันทอดยาวเชื่อมวิหารมารดรนภาในฝั่งรูเมเรียร์เข้ากับวิหารมารดาสมุทรในแดนทมิฬ วิหารทั้งสองแห่งไม่ปรากฏชื่อสถาปนิก แต่แสดงให้เห็นว่าผู้สร้างเชื่อในความสัมพันธ์ระหว่างเอลฟ์และดาร์กเอลฟ์ และอาจหวังลึกๆ ถึงคืนวันเก่าๆ ที่สองเผ่าพันธุ์จะจับมือคืนดีกันดังพี่น้อง

แม้ในประวัติศาสตร์จะเต็มไปด้วยการนองเลือดก็ตาม

พูดถึงเลือด...มีสิ่งมีชีวิตที่ชื่นชอบเลือดและเนื้ออาศัยอยู่ใต้ดินเช่นกัน

มันไม่ได้อยู่ใต้ดินแต่แรก ทว่าถูกขับออกมาจากปราสาทราชวังซึ่งตั้งอยู่บนชะง่อนผาสูงเทียมฟ้า

เผ่าพันธุ์ของมันถือกำเนิดก่อนเอลฟ์และดาร์กเอลฟ์ สูงส่ง แข็งแกร่ง ทรงพลัง มีอารยธรรมเก่าแก่เป็นของตัวเอง

จนกระทั่งเอลฟ์และดาร์กเอลฟ์ตัวเล็กๆ อยากเป็นใหญ่เหนือแผ่นดิน พวกมันรวบรวมกำลัง แต่งตั้งหัวหน้าที่กล้าเรียกตัวเองว่ากษัตริย์เข้ามารุกรานบ้านเกิดของผู้ที่มาก่อน—เหล่ามังกรผู้สูงส่ง

หลังจากนั้นเป็นต้นมา ไม่มีบันทึกฉบับใดพูดถึงมังกรในฐานะเผ่าพันธุ์อันทรงเกียรติ พวกมันถูกอัปเปหิจากหน้ากระดาษ ถูกขับไสให้มาอยู่ใต้ดินไม่ต่างจากสัตว์เลื้อยคลาน

ผู้คนจดจำมังกรในฐานะสัตว์เดรัจฉาน

ส่วนมังกร...ก็จดจำความเคืองแค้นนี้ไว้ ไม่มีวันลืม

เหล่ามังกรสร้างอาณาจักรขึ้นมาใหม่ แผ่ขยายออกไปในพระวรกายของพระบิดาแห่งธรณี เส้นทางสู่อาณาจักรมังกรซับซ้อน ในร้อยทางอาจมีสักทางหนึ่งที่พาไปถึงหนึ่งในอาณาจักรหลายๆ อาณาจักรของเหล่ามังกร แต่หากปราศจากมังกรนำทาง จะเอลฟ์ ดาร์กเอลฟ์ หรือเผ่าพันธุ์อื่นๆ ก็มีสิทธิ์เป็นอาหารมังกรโดยเท่าเทียมกัน

อย่างทางเชื่อมใต้ดินระหว่างวิหารของมารดรนภาและมารดาสมุทรก็เคยถูกมังกรลักลอบใช้เป็นหนึ่งใน ‘เส้นทางมังกร’ สำหรับออกล่าและขนเหยื่อกลับไปยังอาณาจักรของตน

มังกรทำเช่นนั้นได้เพราะเกิดสงครามระหว่างสองวิหาร ทว่าก่อนที่ทุกอย่างจะพังพินาศ เส้นทางมังกรฝั่งแดนเอลฟ์ก็ถูกปิดตายด้วยมหาเวทสุดท้ายของควาร์ผู้รักษาวิหาร

ณ ปัจจุบัน ไม่มีเอลฟ์หรือดาร์กเอลฟ์ตนใดทราบว่ามีเส้นทางมังกรถูกปิดตายอยู่ใต้สุสานวิหารร้าง เนื่องเพราะมีอันเดดจำนวนมากจนไม่สามารถเข้าไปสำรวจ หรือหากโชคดี เก่งกล้าสามารถพอจนเข้ามาถึงประตูบานนี้ได้ เอลฟ์ผู้ฉลาดจะไม่แตะต้องมัน เพราะพวกเขาจะรู้สึกถึงกลิ่นอายของกำแพงเวทแบบเดียวกับที่ใช้สะกดอันเดดให้อยู่แต่ภายในวิหาร

การเปิดประตูบานนี้จักทำลายกำแพงเวทนั้น เมื่อกำแพงเวทจุดหนึ่งแตก มันจะส่งรอยร้าวไปสู่จุดอื่นๆ แล้วหายนะจักตามมาเมื่อศพเดินได้ออกไปเพ่นพ่านด้านนอกวิหาร

เส้นทางมังกรเส้นนี้จึงเป็นเส้นทางโบราณ ไม่มีใครแตะต้องมาหลายพันปี

ความลับของมันปลอดภัยด้วยกองทัพอันเดดและผนึกของควาร์

ความลับที่ว่าคือเส้นทางนี้เชื่อมตรงไปถึงราชวังมังกร


—————————————————————————

A/N สวัสดีค่ะ ตอนนี้สั้นกว่าปกติหน่อย เพราะแบ่งไม่ลงจริงๆ แต่มีข้อดีคือตอนอื่นๆ ในบท 'เส้นทางมังกร' จะยาวค่ะ! (ถัวๆ กันไปเนอะ ^^;)
ป.ล. 1 ในที่สุดโคลด์ก็ได้คุยกับเกวนแล้ว ฮือๆ คุยแบบส่งข้อความถึงกันน่ะค่ะ หลังจากผ่านมาหลายปี ;w;
ป.ล. 2 รากาลอ้วนน่ากิน ถ้าไม่เบรกไว้โคลด์จับกินจริงๆ นะนั่น
ป.ล. 3 รากาลชอบคนสวยค่ะ (เลยชอบโคลด์)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (1) [26/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 26-01-2017 00:11:28
ยังเดาทางของเนื้อเรื่องไม่ออกแต่แบบนี้ก็ดีนะเร้าใจดี น้องโคลด์เด็กดื้อมังกรน้อยชมว่าสวยก็ไม่ตอบรับทำไมดื้อดึงแบบนี้ ต้องให้ราชาจับขึงแล่วหวดก้นซะ!!!!

คนเขียนสู้ๆ #ทีมคนเขียน #ทีมราชา #ทีมSM
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (1) [26/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 26-01-2017 02:58:51
รากาลเจ้าจะน่ารักน่ากอดเกินไปแล้วนะ เดี๋ยวเชียร์ให้โคลด์รักเลย กลายเป็นรักข้ามสายพันธุ์ เอ๊ะ หรือมันข้ามอยู่แล้ว 5555 อยากได้รากาลเป็นพะเอกแทน เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่ได้ไหม ไรต์จ๋า :mew4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (1) [26/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 26-01-2017 07:26:14
ชอบเรื่องนี้มากๆค่ะ อยากเห็นอิมเมจโคลด์จังเลย

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (1) [26/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 26-01-2017 07:29:01
จะเจอราชามังการรึยังนะ  นี่รอราชามังกรเลยนะคนเขียนโปรโมทมาหลายตอนละ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (1) [26/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-01-2017 08:56:12
มังกรย่าง...อ้าว กินไม่ได้เหรอ ว้า

มังกรนี่ชอบของสวย ๆ งาม ๆ จริง ๆ เนอะ
ที่เกวนอยู่รอดเพราะเกวนสวยด้วยสินะ

อดทนรออีกนิดนะ โคลด์
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (1) [26/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 26-01-2017 09:50:43
สนุกตื่นเต้นเหมือนเดิม และมังกรน่าฟัด

ปลุกจินตนาการในตัวคุณ!!!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (1) [26/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 26-01-2017 11:47:46
 o13 o13
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (1) [26/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 26-01-2017 12:22:22
ยังเดาทางของเนื้อเรื่องไม่ออกแต่แบบนี้ก็ดีนะเร้าใจดี น้องโคลด์เด็กดื้อมังกรน้อยชมว่าสวยก็ไม่ตอบรับทำไมดื้อดึงแบบนี้ ต้องให้ราชาจับขึงแล่วหวดก้นซะ!!!!

คนเขียนสู้ๆ #ทีมคนเขียน #ทีมราชา #ทีมSM
มีทีมคนเขียนด้วย ดีใจจัง 555 ค่ะ  :mew2:
"ข้าไม่ให้เขาหวดก้นข้า" โคลด์เบ้ปาก...
/แสดงว่าทำอย่างอื่นได้สินะคะ /โดนโคลด์แทง อั่ก!

รากาลเจ้าจะน่ารักน่ากอดเกินไปแล้วนะ เดี๋ยวเชียร์ให้โคลด์รักเลย กลายเป็นรักข้ามสายพันธุ์ เอ๊ะ หรือมันข้ามอยู่แล้ว 5555 อยากได้รากาลเป็นพะเอกแทน เปลี่ยนชื่อเรื่องใหม่ได้ไหม ไรต์จ๋า :mew4:
"คนที่ข้ารักคือเกวนๆ ต่างหาก! เอ๊ะ แต่น้องชายเกวนก็สวยดีน้า ช่วยไม่ได้ ข้าจะเอ็นดูเจ้าก็ได้" รากาลพร่ำเพ้อ
/ส่วนโคลด์ลับมีด
"ถ้าเปลี่ยนชื่อเรื่องคงเป็น พันธนาการรักลูก(ชิ้น)มังกร" โคลด์ตอบเอื่อยๆ /อยากกิน
/รากาลโผกอดเกวนๆ ตัวสั่น

ชอบเรื่องนี้มากๆค่ะ อยากเห็นอิมเมจโคลด์จังเลย
ขอบคุณค่า -3- ส่วน อิมเมจโคลด์...รอแว้บนะคะ หาภาพโดนๆ เจอบ้างเหมือนกัน ไว้เลือกมาให้ดูค่ะ

จะเจอราชามังการรึยังนะ  นี่รอราชามังกรเลยนะคนเขียนโปรโมทมาหลายตอนละ
555 ตอนหน้าเจอแน่นอนค่ะ จะได้สมค่าโฆษณา!!!!!

มังกรย่าง...อ้าว กินไม่ได้เหรอ ว้า

มังกรนี่ชอบของสวย ๆ งาม ๆ จริง ๆ เนอะ
ที่เกวนอยู่รอดเพราะเกวนสวยด้วยสินะ

อดทนรออีกนิดนะ โคลด์
"นั่นสิ กินไม่ได้เหรอ" โคลด์สลดเมื่อถูกปราม "แต่มันอ้วนน่ากินนะ"
"ข้าไม่ใช่อาหาร!" รากาลแหวว
อนึ่ง ใช่ค่ะ มังกรชอบทองคำ เพชรพลอย และของสวยๆ งามๆ เน้น เขาชอบของสวยๆ นะโคลด์นะ *0*

สนุกตื่นเต้นเหมือนเดิม และมังกรน่าฟัด

ปลุกจินตนาการในตัวคุณ!!!
"เจ้าจินตนาการถึงขามังกรย่างใช่ไหม" โคลด์ยิ้มๆ "คงจะหอม ชุ่มน้ำมันเนื้อ--"
"พอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!" รากาลบินทะลุจินตนาการ ไป๊ๆ จินตนาการพวกนี้หนิ

o13 o13
:mew1: :mew2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (1) [26/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 26-01-2017 13:01:27
เข้ามาให้กำลังใจ :3123:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (1) [26/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 26-01-2017 18:39:03
เข้ามาให้กำลังใจ :3123:
ขอบคุณมากจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (2) [27/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 27-01-2017 00:04:27
บทที่ 9 : เส้นทางมังกร (2)

เกวนโดลินถูกทาสีชาวมนุษย์จับขัดสีฉวีวรรณ สวมเสื้อผ้าใหม่สีขาวนวลซึ่งตัดกับสีผิวเหมือนดอกไลแลคของนาง ต้นคอและทรวงอกประพรมน้ำหอมจนฟุ้ง ผมสีเงินถูกถักแล้วมุ่นขึ้นเป็นมวยอ่อนหวาน รับกับใบหน้าสวยคมคายทว่าอ่อนโยน

“เรียกว่าเจ้าโชคดีหรือโชคร้ายกันนะ แล้วทำไมมีแผลถลอกมากมายขนาดนี้” ทาสีชาวมนุษย์ตรวจผ้าพันแผลว่าจะไม่แลบออกมานอกชุดสวย จากนั้นแต้มสีแดงบนริมฝีปากของดาร์กเอลฟ์สาว

“เราเป็นผู้ไร้โชค” เกวนโดลินตอบโดยเลี่ยงเรื่องบาดแผล นางเป็นทาสที่แปลก เพราะปฏิเสธของกำนัลทุกชิ้นจากราชามังกร เสื้อผ้าที่สวมใส่ต้องมาจากข้างนอกอาณาจักรมังกร อาหารก็กินเช่นเดียวกับทาสคนอื่นๆ ไม่แตะต้องอาหารชั้นเลิศที่ราชามังกรจัดเตรียมให้

พฤติกรรมประหลาดของนางไม่เคยมีคำอธิบาย นางแค่ปฏิเสธอย่างสงบนิ่ง และได้รับอนุญาตให้ปฏิเสธได้

“แต่อย่างน้อยคืนนี้เจ้าก็จะได้กินอาหารดีๆ” ทาสีชาวมนุษย์เพิ่มสีให้แก้มของอีกฝ่ายดูมีน้ำมีนวล “ไม่น่าใช่เนื้อมนุษย์...ไม่ ไม่หรอกน่า” ประโยคหลังเหมือนนางพูดปลอบใจตัวเอง

เมื่อครู่ จู่ๆ ทาสหนุ่มของทหารมังกรก็สั่งให้ทาสคนอื่นๆ จับทาสดาร์กเอลฟ์แต่งตัวให้ดีที่สุด “ให้สมพระเกียรติ” มันว่า

ทาสที่กล้าหน่อยถามเหตุผลกลับ

“ค่ำนี้ราชาทรงจัดงานเลี้ยงก่อนวันบรรลุนิติภาวะให้เจ้าชายรากาล”

เกวนโดลินจับชายกระโปรงสีขาวแสนสวย เมื่อวานเธอขอร้องรากาลให้ออกไปนอกรังเพื่อพาโคลด์ออกจากเส้นทางมังกร รากาลชอบแอบออกไปเที่ยวเล่นนอกรังอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่จะหายตัวไปสักวันสองวันโดยไม่มีมังกรรับใช้คอยติดตาม แต่เกวนไม่นึกว่าจะมีคำสั่งให้เข้าร่วมงานเลี้ยงมาอย่างกะทันหัน

ถ้ารากาลกลับมาไม่ทัน ราชามังกรต้องส่งมังกรองครักษ์ออกตามหา...นั่นจะยิ่งทำให้โคลด์เป็นอันตราย

ดาร์กเอลฟ์สาวหลับตา เธอติดต่อมังกรน้อยรากาลทางจิตให้รีบกลับมาโดยด่วน...เวลานี้ผ่านมาสามชั่วโมงแล้ว...

เทพีจันทร์ โปรดให้รากาลกลับมาทันด้วยเถิด

“เสร็จหรือยัง” ทาสหนุ่มเร่ง “ทำไมช้าเหลือเกิน ข้าไม่อยากโดนลงโทษ”

“แต่งตัวให้สุภาพสตรี ไม่ไช่แต่งตัวให้สุนัขที่ไหน ถ้านางไม่งามต้องพระทัยราชามังกร เจ้าก็โดนลงโทษอยู่ดีน่ะแหละ”

ระหว่างทาสและทาสีถกเถียงกัน ก็มีเสียงกระพือปีกหนักแน่นดังมาแต่ไกล

เกวนโดลินเงยหน้า เห็นรากาลบินอย่างร่าเริงลอดผ่านช่องสูงลิบบนเพดานถ้ำ เธอรู้สึกโล่งอก แต่มังกรน้อยไม่ได้ร่อนลงมาหาเธอ มันบินลึกเข้าไปในทางต้องห้าม สถานที่ที่มีแต่มังกรและทาสผู้ติดตามมังกรเท่านั้นถึงมีสิทธิ์ผ่านได้

‘เกวน! ข้าเอาจดหมายของเจ้าให้เขาแล้วนะ’ รากาลคุยกับเกวนโดลินผ่านทางความคิดระหว่างบินผ่านไป

เกวนโดลินกลั้นหายใจ ตอบกลับไปทางจิต ‘ขอบคุณมากนะจ๊ะ ขอบคุณมากจริงๆ’

น้ำตาของเธอไหลเปื้อนแก้ม ทำให้แป้งที่ผัดไว้เป็นรอยทางน้ำตา ให้ทาสีตกใจว่าจู่ๆ นางคนนี้ก็ร้องไห้

‘เจอกันในงานเลี้ยง!’

‘จ้ะ เจอกันในงานเลี้ยง’

เมื่อทาสีผัดแป้งที่หน้าให้ดาร์กเอลฟ์สาวเสร็จอีกรอบ เกวนโดลินก็กล่าวขออภัยที่ทำให้วุ่นวาย

เธอเดินไปหาทาสหนุ่ม ชายกระโปรงสีขาวพลิ้วราวฟองคลื่นเหนือมหาสมุทรยามกลางคืน

ที่บ้านเกิด เกวนโดลินเคยได้รับการยกย่องว่างามเป็นเลิศดั่งร่างจำแลงของเทพีจันทร์เซฮาไนน์—บุตรีสุดที่รักของบิดานภาและมารดาสมุทร—ไม่มีสตรีใดงามไปกว่านาง

ทว่าต่อให้เกวนโดลินงามสะกดสายตาหรือสวมเสื้อผ้าอาภรณ์วิจิตรเพียงใด บนคอเพรียวระหงของเธอก็ยังสวมปลอกคอเหล็ก—สัญลักษณ์แห่งทาสของมังกร

ปลอกคอนี้ทำให้เกวนโดลินจดจำวันแห่งหายนะของตนได้อย่างไม่มีวันลืม

วันที่เธอยังใช้นามว่า ‘กวินีเวียร์’ และได้พบกับเขา…

‘ราชามังกร’

————————————————————-

สิบสามปีก่อน ป่าแบล็กวู้ด ใกล้ป้อมปราการเมืองไซลูมแห่งอาณาจักรรูเมเรียร์—เมืองชายแดนติดฝั่งดินแดนทมิฬ

กวินีเวียร์หอบผลไม้ที่พอหามาได้ กำลังนำกลับไปให้น้องชายที่รออยู่ ป่าแห่งนี้แห้งแล้งมากแล้วจากสงคราม ยังดีที่พวกนกช่วยเมตตาบอกแหล่งผลไม้แก่เธอ

ระหว่างทางกลับ เธอได้กลิ่นหอม ได้ยินเสียงชี่ๆ จากการย่างเนื้อ และเสียงฮัมเพลงอารมณ์ดีของชายผู้หนึ่ง ทุกอย่างขัดกับสภาวะสงคราม ชายผู้นี้กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งความตาย เปลี่ยนความหดหู่น่าสังเวชใจให้กลายเป็นความรื่นรมย์

“อืม” เขาสูดกลิ่นเนื้อย่างของตัวเอง วิธีการย่างก็ไม่ใช่เสียบเนื้อเผาในไฟ แต่แล่เป็นชิ้นบางๆ วางบนโล่ที่อังไฟจนร้อนจัด

กวินีเวียร์ยืนตัวแข็งแม้ยังมองไม่เห็นอีกฝ่าย เธอกอดผลไม้สองสามลูกแนบอก ระบายลมหายใจแผ่วเบาอย่างหวาดเกรง เธอคิดหาทางเลี่ยง...ต้องเปลี่ยนเส้นทางเดิน...รีบพาน้องชายไปซ่อนที่อื่น

“เรามีแขกหรือนี่…” ชายหนุ่มรำพึง ทว่าด้วยระยะห่างที่ไม่มากนักทำให้เกวนโดลินได้ยินชัดเจน เธอหันไปด้านข้าง ระหว่างเขากับเธอมีพุ่มไม้ไร้ใบแต่กิ่งรกหนากางกั้น ช่วยพรางกันและกันออกจากสายตาของอีกฝ่าย

ชายแปลกหน้าหลับตา สูดกลิ่นอื่นที่นอกเหนือจากกลิ่นเนื้อสุก

“กลิ่นไฟ” เขาครางอืม “กลิ่นดินแห้ง...กลิ่นซากต้นไม้”

เกวนโดลินกลั้นหายใจ

“กลิ่น...ดาร์กเอลฟ์”

สิ้นคำ เกวนโดลินหมุนตัวหนีไปอีกทาง ได้ยินเสียงหัวเราะและเสียงสวบสาบเข้ามาใกล้

“อย่าเขินอายไปเลย ออกมาเถอะ”

ดาร์กเอลฟ์สาววิ่งออกไป ไม่แม้แต่จะหยุดฟังคำทักทาย

“เอเลียต!” ชายหนุ่มร้องบอกชื่อไล่หลัง

แล้ววูบหนึ่ง…

“ข้าชื่อเอเลียต”

พริบตาเดียวเจ้าของชื่อย้ายมาอยู่ตรงหน้าเกวนโดลิน เขาเป็นชายผู้มีร่างกายอย่างนักรบ ใบหน้าเช่นนักปราชญ์ และแววตาอย่างนักรัก สีทองในดวงตาของเขาเคลื่อนไหวคล้ายทองคำเหลวร้อน งดงาม...หลอมหัวใจของผู้มองให้ละลาย

ดวงตาที่สามารถสะกดคนให้ลืมหายใจได้เป็นเช่นนี้เอง

เขาพิจารณาดาร์กเอลฟ์สาวตรงหน้า เธออายุยังน้อย เส้นผมสีเงินสว่างมุ่นเป็นมวยแน่นเพื่อไม่ให้เกะกะการใช้ชีวิตในป่า ใบหน้าเล็กมอมแมมแต่สวยงามทุกรายละเอียด ดูมีชาติตระกูลดุจเชื้อพระวงศ์หรือบุตรีขุนนางชั้นสูง เสื้อผ้าของเธอสะอาด ทว่าเก่าและขาดวิ่น

“ข้าทำให้เจ้าตกใจหรือ” เสียงของเขาแผ่วเบาและนุ่มนวล กิริยาสุภาพ แม้เมื่อครู่จะเป็นการทักทายที่คุกคามไปสักนิด

ดวงตาสีม่วงเข้มของดาร์กเอลฟ์สาวจ้องตอบดวงตาสีทอง

‘ปล่อยข้าไปเถิด’ เสียงของเธอไม่ได้ออกจากริมฝีปากเม้มแน่น แต่ตรงเข้าสู่ห้วงคิดของอีกฝ่าย

“ข้าไม่ได้จับเจ้าไว้” เอเลียตหัวเราะ เขาพิจารณาหญิงสาวตรงหน้าลึกซึ้งอีกหน่อย ดวงตาสีทองค่อยๆ เผยเสี้ยว

‘เจ้ารู้ว่าข้าเป็นใคร’

หากเธอเข้ามาในจิตใจของเขาได้ เธอย่อมรู้ว่าเขาเป็นใคร

...หรือเป็นอะไร

‘ข้าจะไม่บอกใคร เราไม่เคยเจอกัน ได้โปรด’ แขนที่รัดผลไม้ยิ่งรัดแน่นขึ้น กวินีเวียร์แน่ใจแล้วว่ากลิ่นเนื้อย่างเมื่อสักครู่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ป่า

เธอมีพรสวรรค์ในการสื่อสารควบคุมสัตว์ทุกชนิดมาตั้งแต่เกิด เหมือนที่น้องชายมีพรสวรรค์ในการควบคุมคนตาย

‘ใจร้ายจริง...เจ้ารู้จักข้าแล้ว แต่ไม่เปิดโอกาสให้ข้ารู้จักเจ้าเลย’ เขาจ้องมองเธอคล้ายสะกด กวินีเวียร์ต้านทานชายผู้นี้ได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้สึกราวกับถูกปลดเกราะกำบังในจิตใจออก โดยที่เธอก็ยอมให้เป็นเช่นนั้น

กวินีเวียร์สูดหายใจเฮือก “โปรดออกไป!” เธอเปล่งเสียง

‘โปรดออกไปจากจิตใจของข้า!’

เสียงของเธอทำให้เอเลียตชะงัก เขารู้สึกเหมือนกำลังโดนสั่ง ใช่ว่าการพูดจาของเธอก้าวร้าว แต่เนื้อเสียงรื่นหูนั้นดุจแพรไหม มีมนตร์สะกดให้เขายอมทำตามที่เธอพูด

“ชวนน้องชายเจ้ามากินอาหารด้วยกันสิ” มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย “กวินีเวียร์”

ไม่ใช่แค่กวินีเวียร์ที่เข้าไปในจิตใจของคนอื่นได้ เอเลียตก็ทำได้เช่นกัน เขาเห็นภาพเธอคอยดูแลเด็กหนุ่มชาวดาร์กเอลฟ์—น้องชายที่เธอรัก

“หันหลังกลับไป ลืมเรื่องของข้า แล้วหรรษากับมื้ออาหาร” เธอพูดเสียงนุ่ม แต่มันคือ ‘คำสั่ง’ อีกรอบ

กวินีเวียร์เหงื่อท่วมใบหน้า เธอกลัวถึงที่สุดแต่พยายามเก็บงำอาการ เธอไม่เคยพบสัตว์ชนิดใดที่จำแลงร่างเป็นมนุษย์ได้ หรือต้านทานพรสวรรค์ของเธอได้เฉกนี้มาก่อน

เธอรู้ว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ตั้งแต่แรก แต่เป็น ‘สัตว์’ ที่มีกลิ่นอายของจิตแหลมคมยิ่งกว่าใบมีด

“เจ้ามีพรสวรรค์ ข้ามีประสบการณ์ พรสวรรค์ของเจ้าคงใช้กับข้าได้ยากหน่อย...”

จู่ๆ เอเลียตก็ทิ้งมุมปากลง

“สัตว์?” เขาแตะปลายหางตาของเธอ “เจ้าคิดว่าข้าเป็นสัตว์?”

กวินีเวียร์ถอยหลัง แต่ไม่เบือนหน้าออก

‘มีแต่สัตว์ที่สื่อสารทางจิตกับข้าได้เจ้าค่ะ’

เธอรับรู้ว่าอีกฝ่ายโกรธ...โกรธจัดทีเดียว เอเลียตเหยียดยิ้ม เผยสีหน้าเหยียดหยัน

‘ข้าไม่ได้ตั้งใจทำให้ท่านโกรธ’

“เจ้ารู้จักกับจอมทัพทมิฬ” ผิวเนื้อบริเวณแขนของเอเลียตค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเกล็ด มือกลายเป็นกรงเล็บของสัตว์ร้าย

ดาร์กเอลฟ์สาวเบิกตากว้าง “เลิกอ่านใจข้า!” เสียงของเธอแข็งขึ้น ทรงพลังขึ้น เธอไม่ก้าวถอยหลังแล้ว

กวินีเวียร์คิดสู้ การต่อสู้ระหว่างจิตกับจิตทำให้เธอเลิกสบตากับเขาไม่ได้

“ข้าก็รู้จักมัน” เกล็ดสีดำมันวาวที่เปลี่ยนสภาพจากเสื้อผ้าไล่ขึ้นมาถึงบ่า

“เราไม่มีความแค้นต่อกัน เหตุใดไม่ไปคนละทาง”

“เจ้าช่างบริสุทธิ์เหลือเกินสาวน้อย” เอเลียตกลับคืนร่างมังกรช้าๆ

“ข้าให้ท่านไปบอกเขาว่าเจอพวกเราไม่ได้” ครั้งนี้กวินีเวียร์บุกรุกเข้าไปในจิตใจของอีกฝ่ายเพื่อหาทางสู้

เธอต้องปกป้องน้องชาย!


—————————————————————————

A/N ตอนนี้ยาวๆ กับเกวนๆ ค่ะ อย่างที่เราจ่าหน้าเรื่องว่าเรื่องนี้มี NL ด้วย ขออภัยคนที่ไม่ชอบ NL ล่วงหน้า แต่บทนี้จะโฟกัสไปที่เกวนโดลินกับราชามังกรเอเลียตเป็นหลักค่ะ /โค้ง

เราเคย Talk ว่าสามารถปรับบทเอริแอดเน่เป็นผู้ชายได้ และคิดหนักมากว่าจะทำหรือไม่ทำดี (แม้สุดท้ายจะเลือกไม่ทำ) แต่สำหรับเกวนโดลิน ต้องเป็นพี่สาวเท่านั้นค่ะ! ไม่สามารถปรับบทให้เกวนโดลินเป็นพี่ชายได้ เพราะๆๆๆ เราวางพล็อตเรื่องนี้มาในธีม 'พี่สาวกับน้องชาย' มันจะได้อารมณ์เรื่องที่เราอยากเขียนจริงๆ น่ะค่ะ XD

ขอบคุณที่เข้าใจด้วยค่ะ
ป.ล. 1 และถ้าไม่คิดมากก็... กรี้ดดดดดดด ราชามังกรมาแล้วจย้าาาา แซ่บมั้ยยยยยอ่า งานดีไหมมมเอ่ย เปิดเรดาห์รึยังคะ /ชูป้ายไฟเกวนๆ
ป.ล. 2 "มาๆ ข้าแปะบทบรรยายท่านพ่อของข้าอีกรอบนะ" /รากาลแปะ
เขาเป็นชายผู้มีร่างกายอย่างนักรบ ใบหน้าเช่นนักปราชญ์ และแววตาอย่างนักรัก สีทองในดวงตาของเขาเคลื่อนไหวคล้ายทองคำเหลวร้อน งดงาม...หลอมหัวใจของผู้มองให้ละลาย
"ท่านพ่อข้าหล่อมั้ย ข้าโตขึ้นต้องหล่ออย่างท่านพ่อแน่ๆ" ลูกมังกรอ้วนกลมยืดอก

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (2) [27/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovetogether ที่ 27-01-2017 04:16:21
เอิ่ม รากาลลดความอ้วนก่อนนะลูก แล้วค่อยบอกว่าจะหล่อเหมือนท่านพ่อ ตกลงนี่ราชามังกรชอบเกวนเหรอ ขอเชียร์ให้โคลด์คู่กับราชามังกรได้ไหม ไม่เอารากาลแล้ว หลบไปเจ้าลูกชิ้นมังกร 55555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (2) [27/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 27-01-2017 07:26:57
อื้อหืออออออออออออ

พี่มังกรเอเลียตเปิดตัวได้อลังการชุดใหญ่ไฟกระพริบมาก

ชอบเกวน? สะสมเกวน (สวยไง)? เอาเกวนไว้ใช้ประโยชน์ (สื่อสารทางจิตได้)? ให้เกวนเลี้ยงลูก (อันนี้ผลพลอยได้)?

รากาลจ๊ะ หมูพ่นไฟบินได้ต้องฟิตหุ่นก่อนนะจ๊ะ

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (2) [27/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 27-01-2017 08:09:37
ครอบครัวนี้แปลกจัง มีพ่อเป็นราชามังกรสุดหล่อแต่ทำไมมีลูกเป็นหมูบิน 5555555

คุณมังกรนี่แค่ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่าเป็นนักรบ...

NLเราอ่านได้ถ้าอ่านแล้วจะทำให้คู่BLสนุกมากขึ้น  :katai2-1:

อันนี้ขอชมคนเขียนหน่อย ตั้งแต่อ่านมาเราพบว่ามีคำผิดน้อยมากคือแทบจะไม่มีเลย ขอให้รักษาความดีนี้เอาไว้นะจ๊ะ

คนเขียนสู้ๆ
#ทีมคนเขียน
#ทีมราชาเอลฟ์
#ทีมราชามังกร
#ทีมSM
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (2) [27/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 27-01-2017 08:40:21
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (2) [27/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กเลี้ยงแมว ที่ 27-01-2017 09:23:37
คือถ้าไม่ดูชื่อเรื่องนี่ไม่รู้เลยนะว่าซิกฟรีดเป็นพระเอก55555555 เฮียแกค่าตัวแพงมาก อ่านแล้วปลื้มปริ่มมากค่ะ ดีต่อใจนานๆทีจะเจอนิยายแฟนตาซีภาษาดีงามแบบนี้ รอติดตามอยู่นะฮ้าฟฟฟ
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (2) [27/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 27-01-2017 12:11:48
ออร่าราชามังกรสว่างจ้าแสบตามาก.. 555555

(โคลด์ผมยาวรึป่าวคะ ปล่อยผมหรือมัดผมคะ?)
จะแอบไปวาดแฟนอาร์ตสนองนี้ดดดด

ป.ล. นี่หลงรักโคลด์ไปแล้วเจ้าค่ะ /เฟดไปเลี้ยงนกกับมาลแกธ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (2) [27/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 27-01-2017 18:05:43
เอิ่ม รากาลลดความอ้วนก่อนนะลูก แล้วค่อยบอกว่าจะหล่อเหมือนท่านพ่อ ตกลงนี่ราชามังกรชอบเกวนเหรอ ขอเชียร์ให้โคลด์คู่กับราชามังกรได้ไหม ไม่เอารากาลแล้ว หลบไปเจ้าลูกชิ้นมังกร 55555
"ข้าอยู่ในวัยกำลังโตต่างหาก! ข้าไม่ใช่ลูกชิ้นนะ!" รากาลโผกอดเกวนๆ ;w; "ข้าต้องสง่างามเหมือนท่านพ่อใช่มั้ยเกวน ฮือ"

:mew2: :mew2:
:mew1: :mew1:
ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ

คือถ้าไม่ดูชื่อเรื่องนี่ไม่รู้เลยนะว่าซิกฟรีดเป็นพระเอก55555555 เฮียแกค่าตัวแพงมาก อ่านแล้วปลื้มปริ่มมากค่ะ ดีต่อใจนานๆทีจะเจอนิยายแฟนตาซีภาษาดีงามแบบนี้ รอติดตามอยู่นะฮ้าฟฟฟ
 :mew1: :mew1:
ราชาค่าตัวแพงค่ะ รอนิดๆ กำลังเข้าฉากถ่ายทำอยู่ค่าาาาาา
ขอบคุณที่ชอบนะคะ ;)  :-[

อื้อหืออออออออออออ

พี่มังกรเอเลียตเปิดตัวได้อลังการชุดใหญ่ไฟกระพริบมาก

ชอบเกวน? สะสมเกวน (สวยไง)? เอาเกวนไว้ใช้ประโยชน์ (สื่อสารทางจิตได้)? ให้เกวนเลี้ยงลูก (อันนี้ผลพลอยได้)?

รากาลจ๊ะ หมูพ่นไฟบินได้ต้องฟิตหุ่นก่อนนะจ๊ะ
วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเกวนกับเอเลียตดีมากค่ะ ผู้หญิงในเรื่องของเราไม่มีใครโชคดีเลยค่ะ OTL
บางทีโดนโหดกว่าตัวเอกชายอีก /ฮา /น้ำตาไหล
ไม่ใช่เรื่องรักโดกิๆ แน่ค่ะ และจะได้คู่กันไหม... /ไม่สปอย /อุ๊บ!
"ข้าไม่ใช่หมูบินได้ใช่มั้ยเกวน" รากาลร้องไห้โยเยกับอกเกวนๆ /เกวนๆ โอ๋ๆ

ครอบครัวนี้แปลกจัง มีพ่อเป็นราชามังกรสุดหล่อแต่ทำไมมีลูกเป็นหมูบิน 5555555

คุณมังกรนี่แค่ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่าเป็นนักรบ...

NLเราอ่านได้ถ้าอ่านแล้วจะทำให้คู่BLสนุกมากขึ้น  :katai2-1:

อันนี้ขอชมคนเขียนหน่อย ตั้งแต่อ่านมาเราพบว่ามีคำผิดน้อยมากคือแทบจะไม่มีเลย ขอให้รักษาความดีนี้เอาไว้นะจ๊ะ

คนเขียนสู้ๆ
#ทีมคนเขียน
#ทีมราชาเอลฟ์
#ทีมราชามังกร
#ทีมSM
"ข้าไม่ใช่หมูบินได้ แง!" รากาลยิ่งโยเยกับอกเกวนๆ (จากเม้นต์บน โดน 2 ดอก)
ป.ล. ขอบคุณเรื่องคำผิดนะคะ เราพยายามไม่ให้ผิด แต่คงมีรอดหูรอดตาไปบ้าง
ถ้าเจอคำไหนผิด เม้นต์บอกไว้ได้นะคะ เราจะได้แก้ ขอบคุณมากๆ ค่า
#ทีมSM ด้วยค่ะ  :katai2-1:



ออร่าราชามังกรสว่างจ้าแสบตามาก.. 555555

(โคลด์ผมยาวรึป่าวคะ ปล่อยผมหรือมัดผมคะ?)
จะแอบไปวาดแฟนอาร์ตสนองนี้ดดดด

ป.ล. นี่หลงรักโคลด์ไปแล้วเจ้าค่ะ /เฟดไปเลี้ยงนกกับมาลแกธ
พอได้ยินว่าแฟนอาร์ตนี่ ตาโตสู้แสงสว่างจ้าของราชามังกรเลยค่ะ!
หวายยยย ขอบคุณล่วงหน้านะคะ รัก แงงงง
ตอบเรื่องผม โคลด์ผมสั้นค่ะ เพราะผมสั้นเหมาะกับงานแอสซาสซินมากกว่า
แล้วดาร์กเอลฟ์มีธรรมเนียมคือ บุรุษที่จะไว้ผมยาวคือชนชั้นสูงค่ะ (ยกเว้นผู้หญิงไว้)
โคลด์เลยตัดผมออกเพราะต้องปลอมตัว แล้วมันสะดวกกว่าด้วย
*ธรรมเนียมนี้จะปรากฏในเรื่องในอนาคตค่ะ เป็นโครงที่วางไว้แว้ว*
/อย่าเพิ่งเลี้ยงนก ใครจะนกยังไม่รู้เลยน้า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (2) [27/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 27-01-2017 18:51:57
ราชามังกรท่าจะแซ่บนะ  :hao6:

แล้วแม่ของรากาลมังกรน้อยไปไหนซะล่ะ ปล่อยให้ท่านราชาจ้องจะงาบเกวน  :m7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (2) [27/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: towtao ที่ 27-01-2017 19:18:51
ฮอลลล ได้เม้นซักที /อ่านตลอดแต่ไม่ได้เม้นเลย เพราะไม่สะดวก ตอนนี้ได้ฤกษ์สักที หุหุ
ราชามังกรนี่เค้าสายซึนแข่งกับราชาอ่อคะ งงเว่ออออ 55555
ใจคอจะให้ 2 พี่น้องเจอกับผช. สายโหดกันทั้งคู่เลยสินะะะะ  o18
ปล.ทำไมมังกรน้อยมีความตั้ลล้าคคคคคคคคคค
ปล.2 ตัวตน 2 พี่น้องนี่เริ่มเปิดเผยมากขึ้นแล้ว มีความสัมผัสได้ว่าทั้งคู่ยิ่งใหญ่แน่นอน ไม่ใช่ดาร์คเอลฟ์ธรรมดา
#ทีมโคลด์เสมอมา /ชูป้ายไฟอีกรอบ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (2) [27/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 27-01-2017 21:19:54
ราชามังกรท่าจะแซ่บนะ  :hao6:

แล้วแม่ของรากาลมังกรน้อยไปไหนซะล่ะ ปล่อยให้ท่านราชาจ้องจะงาบเกวน  :m7:
คำถามดีมากเลยค่ะ แม่ของรากาลไปไหน ;) ไม่สปอยๆ *0*

ฮอลลล ได้เม้นซักที /อ่านตลอดแต่ไม่ได้เม้นเลย เพราะไม่สะดวก ตอนนี้ได้ฤกษ์สักที หุหุ
ราชามังกรนี่เค้าสายซึนแข่งกับราชาอ่อคะ งงเว่ออออ 55555
ใจคอจะให้ 2 พี่น้องเจอกับผช. สายโหดกันทั้งคู่เลยสินะะะะ  o18
ปล.ทำไมมังกรน้อยมีความตั้ลล้าคคคคคคคคคค
ปล.2 ตัวตน 2 พี่น้องนี่เริ่มเปิดเผยมากขึ้นแล้ว มีความสัมผัสได้ว่าทั้งคู่ยิ่งใหญ่แน่นอน ไม่ใช่ดาร์คเอลฟ์ธรรมดา
#ทีมโคลด์เสมอมา /ชูป้ายไฟอีกรอบ
ขอบคุณมากที่เข้ามาคอมเมนต์ให้นะคะ -3-
ราชาเอลฟ์ ราชามังกร สายโหดทั้งคู่จริงค่ะ  :hao5:
"ขอบคุณที่เชียร์ข้า" โคลด์บอก
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (3) [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 28-01-2017 00:05:30
บทที่ 9 : เส้นทางมังกร (3)

ทางเข้าสู่โลกแห่งจิตของเอเลียตเปรียบได้กับหน้าผาศิลาอันกว้างใหญ่ไพศาลทว่าแห้งแล้งผุกร่อน มันตั้งตระหง่านโอบล้อมความมืดมิดใต้พิภพไร้ก้นบึ้ง ดาร์กเอลฟ์สาวกระโดดลงจากหน้าผานั้น ร่างกายร่วงลงไปในแนวดิ่งและถูกแรงต้านทานมหาศาลปั่นหัว มันผลักเธอออก รัดรึง แล้วผลักออกอีกครั้ง ทั้งรัดและผลักจนสับสน รู้ตัวอีกที ความมืดได้ก่อตัวเป็นกำแพง บีบเข้ามาจากทุกด้าน บี้เธอเหมือนบดขยี้แมลงตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง ทว่าพรสวรรค์ช่วยปกป้องเธอ จิตสีขาวของเธอแทรกไปในกำแพงที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้านั้น กลายเป็นสายใยอ่อนนุ่มซึ่งถักทอเข้ากับจิตของเอเลียต

เมื่อจิตเชื่อมหากัน เธอได้ทราบว่าเอเลียตกับจอมทัพทมิฬมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกันนัก เขาคิดจับเธอและน้องชายไว้เป็นไพ่ต่อรอง...เอาไว้ใช้ประโยชน์ในภายภาคหน้า

มังกร...มังกร กวินีเวียร์เคยเห็นมังกรมาบ้าง เคยควบคุมมันด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนทว่าเด็ดขาด แต่ไม่เคยทราบว่ามีมังกรที่แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้

เด็กสาวดาร์กเอลฟ์ใช้พลังเวททั้งหมดเพื่อสะกดมังกรขนาดมหึมาตรงหน้า ปีกและหางของมันชนต้นไม้โดยรอบล้มครืน เกล็ดเหมือนเกราะเหล็กดำวาววับสะท้อนแสงอาทิตย์ ปากใหญ่โตเต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมโง้งสามารถกินเธอได้ในคำเดียว

มังกรคำรามด้วยความโกรธ ไม่มีใครกล้าต่อกรกับมันขนาดเด็กสาวผู้นี้ ทุกคนยอมศิโรราบตั้งแต่มันเผยร่าง ไม่มีใครสักคนที่จะกล้าท้าเพลิงกัลป์ของมัน—ผู้ได้รับโทสะของบิดาแห่งธรณีเป็นพรสวรรค์

สายตาของทั้งสองยังไม่ละจากกัน ใช้ดวงตาสะกดจิตอีกฝ่ายไปพร้อมกัน

ผลไม้ร่วงลงพื้นเมื่อกวินีเวียร์ยกแขน เธอเอื้อมแตะปลายจมูกของมังกรแล้วเปล่งเสียงร้องเพลง

เพลงนั้นเก่าโบราณ มีเนื้อหาที่สาบสูญ เป็นเพลงปลอบโยนที่มารดามังกรใช้ร้องกล่อมบุตร เพลงที่กระทั่งเอเลียตก็เกือบลืมไปแล้ว เด็กสาวค้นเข้าไปในจิตใจของเขาได้ถึงขั้นนั้น ใช้เนื้อเพลงและเสียงสงบหวานสะกดอารมณ์ขุ่นเคือง

มังกรอ่อนลง แม้ทราบว่าตนจะเพลี่ยงพล้ำหากให้เธอเข้ามาในจิตใจส่วนลึกกว่านี้ แต่เพลงที่เธอร้องเป็นสิ่งที่มันเฝ้าหามาตลอดแม้ในความฝัน วันที่เผ่าพันธุ์มังกรเคยรุ่งโรจน์ อดีตอันแสนห่างไกล

“เมื่อเจ้ารัก จงอย่าได้น้อยใจ

เหล่าบิดามารดรสถิตอยู่ในดวงใจของเจ้าแล้ว

และเจ้า...เผ่าพันธุ์สูงศักดิ์

จักอาศัยอยู่ในดวงใจของเหล่าบิดามารดร

จงรักในอ้อมกอดของพสุธา

ดังที่พสุธารักและไม่ปรารถนาสิ่งอื่น

นอกจากความสุขสมบูรณ์ของเหล่ามังกร

เมื่อเจ้ารัก และจำต้องมีความปรารถนา

ก็ขอให้ความปรารถนาของเจ้าจงสำเร็จสมบูรณ์...”

มังกรเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ มือของเธอแตะอยู่บนแก้มของเขา น้ำตากลอกกลิ้งอยู่ในดวงตาเศร้าโศกสีทอง เขามองเธอ กล่าวโทษเธอ ความอ่อนไหวที่เขากลบฝังตีขึ้นมาเป็นริ้ว

เอเลียตรู้สึกถึง ‘ชีวิต’ อีกครั้ง

“ข้าขอโทษที่เรียกท่านว่าสัตว์” กวินีเวียร์หลั่งน้ำตาให้กับเนื้อเพลง รับทราบความโศกเศร้าของเผ่าพันธุ์มังกร “ให้ข้าแก้ตัว ให้เราเป็นเพื่อนกันได้ไหมเจ้าคะ”

เอเลียตค่อยๆ คลี่ยิ้ม “เพื่อนต้องช่วยเพื่อนใช่ไหม”

กวินีเวียร์ยิ้มตอบจากหัวใจ...เธอไม่เคยนึกสงสัยมังกร

————————————————————————————

แต่ในเวลานี้ ขณะที่ทาสรับใช้ทหารมังกรพาเธอไปยังราชวังส่วนใน

กวินีเวียร์ ซึ่งเปลี่ยนนามเป็น ‘เกวนโดลิน’ ตระหนักว่าราชามังกรไม่รู้จักคำว่า ‘เพื่อน’

เขาจับเธอมาเพื่อเก็บไว้ใช้ประโยชน์...เป็นทาส

หลายปีมานี้...เกวนโดลินติดต่อกับโคลด์ยังโลกภายนอกผ่านนกสีขาวตัวแล้วตัวเล่าโดยไม่เคยเล่าว่าตัวเองเป็นทาส เธอใช้เวลาหกปีเต็มในการตามหาน้องชาย เมื่อพบว่าเขาอาศัยอยู่ในอาศรมควาร์ภายใต้การดูแลของเจ้าชายเอลฟ์ ก็ตัดสินใจบอกเขาว่าเราจำต้องห่างกันไปก่อน ขอให้เขาอยู่ที่นั่น...แม้ต้องถูกเรียกว่าทาส แต่ที่นั่นก็ปลอดภัยจากจอมทัพทมิฬที่สุดแล้ว

...ปลอดภัยมากกว่าเธอที่อยู่กับราชามังกร

ใช่ว่าตัวเกวนโดลินเองจะไม่เคยคิดหลบหนีไปหาโคลด์ แต่ที่นี่มีหูตาของราชามังกรเต็มไปหมด กระทั่งทาสด้วยกันก็จับตาดูเธอ จำนวนครั้งการหลบหนีของเกวนโดลินจึงมากเท่ากับความพยายามที่ไม่สำเร็จ

อย่างไรก็ดี เกวนดีใจที่น้องชายได้หยุดพักจากการหลบหนี แต่ไม่กี่ปีต่อมาเขาก็เริ่มสงสัยคำกล่าวของเธอ แอบใช้เวททมิฬตามหาเธอผ่านความฝัน และพบว่าเธอเป็นทาสของมังกร

เธอเป็นห่วงแทบตายที่เขาตามหาเธออย่างบ้าคลั่งทั้งๆ ที่เธอเพียรห้าม เธอให้สัตว์ป่าร้องห้ามก่อนที่เขาจะฆ่าเพื่อน—เอลฟ์ตะวันออกผมสีทองเจือแดง

เธอจำใจบอกเรื่องทหารเอลฟ์ที่ถูกลวงเข้าไปในสุสานวิหารร้าง เพราะเวลานั้นโคลด์ต้องหาทางหนีสุดชีวิตและอาจทำให้ตัวเองถึงตาย หรือไม่ก็ถูกนักฆ่าบุกมาเอาชีวิตอีกรอบระหว่างที่เพื่อนคนนั้นไม่อยู่คุ้มครอง

ตอนโคลด์เข้าไปในวิหาร เกวนอดดีใจไม่ได้ บางทีเธออาจได้เจอน้องชาย อาจได้พบกันแล้ว! ทว่าดีใจได้ไม่นาน รากาลก็บอกความลับที่ทำให้ไม่อาจดูเบาเส้นทางมังกร

โคลด์จะหลงวนเวียนอยู่ในเขาวงกตไร้ทางออก ด้วยคำสาปของมังกรที่อนุญาตให้เฉพาะมังกรใช้เส้นทางสายนี้ได้

เธอจึงขอร้องรากาลให้พาโคลด์ออกไปข้างนอก

เกวนกลั้นใจให้ชะตากรรมของตัวเองและน้องชาย อิสระคล้ายเป็นสิ่งที่เกินเอื้อมราวกับถูกสาป

ดาร์กเอลฟ์สาวเม้มปาก มองชุดสวยงามที่ตนสวมอยู่ แม้แต่ชุดเธอยังไม่มีสิทธิ์เลือก ราชามังกรทำเหมือนว่าเขามีสิทธิ์ขาดในตัวเธอ

แค่คิด...เธอก็เผลอกลั้นใจอีกครั้ง

 

เกวนโดลินเจอราชามังกรบ่อยที่สุดในบรรดาทาส หน้าที่ของเธอคือการเลี้ยงดูรากาล บุตรชายตัวเดียวของเอเลียต เธอรักและเอ็นดูมังกรน้อย แต่ไม่ยินดีที่กำลังจะได้เจอบิดาของเขา

เธอไม่เคยเลี่ยง และความจริงก็เลี่ยงไม่ได้

หญิงสาวหวังว่างานเลี้ยงค่ำคืนนี้จะจบลงโดยเร็วที่สุด

ทาสหนุ่มพาเธอนั่งรถรางคล้ายรถที่ใช้ในเหมือง มันเป็นยานพาหนะสำหรับทาส วิ่งบนรางทอดยาวซึ่งแอบอยู่ด้านหลังกำแพงวังที่โอ่อ่า ทางมืดและแคบ อับชื้นเหม็นเชื้อรา ทาสหนุ่มสับราง รถเลี้ยวตรงทางแยก ชั่วอึดใจก็มาถึงประตูเหล็กเก่าๆ ที่มีป้ายทองเหลืองตีตัวอักษรนูนว่า ‘ครัว’

“เบดีเลียจะเป็นคนนำทางต่อ” ทาสหนุ่มอวยพรให้เธอโชคดี อันที่จริงเธอมีโชคอยู่แล้ว ใครๆ ก็ทราบว่าราชามังกรพอใจเธอไม่น้อย แม้จะอยู่วังส่วนนอก แต่ก็ได้รับหน้าที่สำคัญอย่างการเลี้ยงดูเจ้าชายรากาล

“ขอบคุณ” เกวนโดลินยิ้มน้อยๆ ให้ทาสหนุ่มที่ช่วยดันประตูให้ เส้นทางด้านหลังกำแพงค่อนข้างมืด ทำให้เธอตาพร่าเมื่อแสงจากด้านหลังประตูส่องวูบเข้ามา ดาร์กเอลฟ์สาวก้าวไปสู่ครัวของมังกร เธอตัวเล็กนิดเดียวในครัวขนาดใหญ่เท่าคฤหาสน์ มังกรแม่ครัวอ้วนตุ๊ต๊ะสวมผ้ากันเปื้อน (หมายถึงมังกรจริงๆ) กำลังพยายามปรุงอาหารแบบมนุษย์ โดยมีทาสทาสีวุ่นทำนั่นนี่อยู่ใต้เท้า เป็นภาพที่หากใครได้เห็นจะไม่มีวันลืมเลย

“อ้า!” หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งตรงเข้ามาหาเธอ หล่อนใส่ผ้ากันเปื้อนเช่นกันและมีรัศมีอย่างแม่ครัว “เธอคงเป็นเกวนโดลินผู้โด่งดัง ฉันชื่อเบดีเลีย เป็นแม่ครัว”

“เพิ่งทราบว่ามังกรมีแม่ครัวเป็นชาวมนุษย์ด้วย”

“เวลาที่ราชามังกรอยากกินอะไรๆ แบบมนุษย์ขึ้นมา ก็ต้องมีแม่ครัวชาวมนุษย์เอาไว้จริงไหม” เบดีเลียขยิบตาขณะเดินนำเกวนโดลินตัดผ่านห้องครัวมโหฬาร

“งานวันนี้ฉันทำ! ฉันปรุง! แต่พวกมังกรไม่ยอม บอกว่าฉันไม่รู้จักกระเพาะของราชา เหอะ เรื่องอาหารแบบมนุษย์ฉันรู้ดีที่สุด! ฉันนี่แหละ”

เกวนโดลินถามด้วยความสงสัยว่าหล่อนไม่ต้องเตรียมอาหารหรือ

เบดีเลียทำเสียงครืดในลำคอ “ค่ำนี้ราชาทรงรับสั่งให้ทำอาหารดาร์กเอลฟ์แบบดั้งเดิม…เป็นพิเศษ” หล่อนเน้นคำว่า ‘เป็นพิเศษ’ โดยมองที่เกวนโดลินอย่างมีความหมาย “แม่ครัวชาวดาร์กเอลฟ์เลยได้สำรับหลักไปเสียฉิบ”

มืออวบอ้วนของเบดีเลียจับลูกบิดประตู เปิดประตูส่งดาร์กเอลฟ์สาวต่อให้ทาสซึ่งแต่งชุดคนรับใช้ มันนำแขกของราชาเดินไปถึงห้องซึ่งบานประตูทำจากทอง ด้านบนมีป้ายทองตีนูนเป็นตัวอักษรวิจิตรว่า ‘ห้องเสวย’

“เจ้าโชคดีจริงๆ แม่สาวน้อย” ข้ารับใช้ชายยิ้มพลางรุนหลังดาร์กเอลฟ์สาวให้เข้าไปด้านในแล้วปิดประตู

เกวนโดลินยืนอยู่ในความเงียบอันน่าอึดอัดหลังสิ้นเสียงประตูปิด สีหน้าของเธอไม่ดีเลย

ในห้องรโหฐานขนาดจุคฤหาสน์ได้สี่หลัง มีโต๊ะยาวสำหรับทานอาหารตั้งอยู่ไกลลิบๆ มีแขกเหรื่อนั่งหลังตรงคล้ายรูปปั้นอยู่ข้างละห้าตน เป็นชายหนึ่ง หญิงเก้า ไม่รวมชายผู้นั่งเป็นสง่าอยู่หัวโต๊ะ

ทั้งหมดล้วนเป็นมังกรในร่างอย่างมนุษย์

เกวนโดลินคิดว่า…

พื้นหินอ่อนสีขาวใต้เท้า ยังไม่แข็งกระด้างและเย็นชาเท่าสายตาของผู้ที่เธอต้องไปร่วมมื้ออาหาร

เหล่ามารดามังกร

“มาสิ…” เสียงชายที่เธอไม่อยากพบหน้าร้องเรียก “กวินีเวียร์”

ดาร์กเอลฟ์สาวเดินเข้าไป ก้มหน้า ไม่สบตามังกรสตรีตนใด เธอนั่งลงบนเก้าอี้ตัวไกลจากราชามังกรที่สุดโดยไร้เสียง


—————————————————————————

A/N ตอนนี้เฉลยปมต่างๆ หลายจุดทีเดียวค่ะ ทั้งนกสีขาวที่อิลมาเรเห็น กับเสียงนกร้องห้ามโคลด์ตอนโคลด์จะดึงมีดออกจากคอมาลแกธ มีใครสังเกตปมที่ถูกโปรยไว้เหล่านี้บ้างไหมคะ?

อนึ่ง เราชอบฉากเกวนโดลินร้องเพลงมาก (เราชอบแต่งเนื้อเพลงในนิยาย *0*) เพราะเอเลียตเป็นราชามังกรที่อยู่มานานแล้ว มันยากที่จู่ๆ เขาจะมาสนใจเกวนแค่เพราะหน้าตาสวยงาม หรือปล่อยเกวนไปโดยไม่ใช้ประโยชน์ ทว่าฉากร้องเพลงนั้นคือจุดที่เกวนเข้าถึงเอเลียตได้ แต่ราชามังกรก็ยังเป็นราชาของเผ่ามังกรค่ะ สำหรับราชา ถ้าต้องเลือกระหว่างความรักกับแผ่นดิน จะมีราชากี่คนเลือกความรักแล้วทิ้งแผ่นดิน

ที่จริงเรามองไม่เห็นอนาคตของคู่นี้ยิ่งกว่าคู่ของโคลด์กับคนอื่นๆ อีกค่ะ...
ป.ล. 1 เอเลียตมีภรรยาหลายตนค่ะ เกวนเป็นแค่ทาส และตัวเกวนเองก็พยายามหนีไปหาโคลด์อยู่หลายครั้งเหมือนกัน ไม่ได้ยอมโดนขังไว้เฉยๆ ^^; แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ...
ป.ล. 2 มีใครจับเรดาห์ไปที่ทาสหนุ่มของมังกร (หนุ่ม) บ้าง XD

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (3) [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 28-01-2017 10:54:50
 :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (3) [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 28-01-2017 14:01:05
ค่าตัวราชามังกรแพงพอๆกับซิกเลยแหะะะะ
โถ่ โผล่ออกมาเข้าฉากอีกหน่อยสิ พวกตัวปลากรอบ(เมียมังกร) แย่งซีนหมดด
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (3) [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 28-01-2017 14:53:40
หน้าที่กับหัวใจถ้ามันอยู่คนล่ะเส้นทาง สุดท้ายแล้วคนที่ต้องเลือกนั่นล่ะ เจ็บที่สุด
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (3) [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 28-01-2017 16:35:59
คิดว่าราชามังกรจะมีเมียแค่คนเดียว ถถถ เราคงดูถูกตำแหน่งราชาเกินไป

เมียเป็นฝูงแบบนี้ ต่างคนต่างอยู่กับเกวนถูกแล้วท่านราชา  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (3) [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-01-2017 22:02:52
จะเผ่าพันธุ์ไหน เดินดิน เหินฟ้า ว่ายน้ำ อาศัยอยู่ในโพรง ผู้หญิงก็คือผู้หญิง
หนึ่งผัว หลายเมีย
เหล่ามารดามังกรชิงชัง อิจฉา ริษยาเกวนแน่นอน ฉันฟันธง!

ปล. ขอให้เกวนไม่โชคร้ายกว่านี้ได้ไหม?

ฉันแปรพักตร์ ลดป้ายไฟเอเลียตแล้ว เกลียดคนสับปลับ!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (3) [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 28-01-2017 22:58:15
โถ่วววเกวนๆ คุณเอเลียตเมียเพียบเลยอ่ะหนู  :serius2:
ในอนาคตจะโดนมหาเมะที่ไหนจับกดมั้ยน้อออ หึๆ

โคลด์ผมสั้นสิน้าาา รออิมเมจเพื่อความชัวร์นะเจ้าคะ  :katai5:
(จะวาดโคลด์ของบ่าวเป็นคนแรกเลย  :man1:)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (3) [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 28-01-2017 23:33:12
:3123: :3123:
:o8: :o8:

ค่าตัวราชามังกรแพงพอๆกับซิกเลยแหะะะะ
โถ่ โผล่ออกมาเข้าฉากอีกหน่อยสิ พวกตัวปลากรอบ(เมียมังกร) แย่งซีนหมดด
กระซิบว่าเพิ่งจ่ายค่าตัวซิกฟรีดไปค่ะ จะได้เห็นกันเร็วๆ นี้ละค่ะ -3-

หน้าที่กับหัวใจถ้ามันอยู่คนล่ะเส้นทาง สุดท้ายแล้วคนที่ต้องเลือกนั่นล่ะ เจ็บที่สุด
โอ ประโยคนี้โดนมาก เจ็บมากค่ะ และจริงมากๆๆๆ ค่ะ  :o12:

คิดว่าราชามังกรจะมีเมียแค่คนเดียว ถถถ เราคงดูถูกตำแหน่งราชาเกินไป

เมียเป็นฝูงแบบนี้ ต่างคนต่างอยู่กับเกวนถูกแล้วท่านราชา  :เฮ้อ:
ฮา ก็แบบราชามีสนมชายามากมายน่ะค่ะ นึกถึงพวกสุลต่าน ฮ่องเต้ไว้ๆ *0*
แต่ถ้าเอาตามเหตุผลเรื่อง มังกรมีลูกยากค่ะ เลยต้องมีภรรยาเยอะ
ดูสิมีภรรยาเต็มโต๊ะ 9 คน มีลูกตัวเดียว =.=

จะเผ่าพันธุ์ไหน เดินดิน เหินฟ้า ว่ายน้ำ อาศัยอยู่ในโพรง ผู้หญิงก็คือผู้หญิง
หนึ่งผัว หลายเมีย
เหล่ามารดามังกรชิงชัง อิจฉา ริษยาเกวนแน่นอน ฉันฟันธง!

ปล. ขอให้เกวนไม่โชคร้ายกว่านี้ได้ไหม?

ฉันแปรพักตร์ ลดป้ายไฟเอเลียตแล้ว เกลียดคนสับปลับ!
จะ ใจเย็นๆ ค่ะ /ลูบๆ
แต่ก็นะ ธรรมชาติของผู้หญิง (และผู้ชาย) และสัตว์มีคู่ทั้งหลาย
ถูกแบ่งความรักไป ไม่มีใครชอบค่ะ
และยิ่งเกวนไม่ใช่มังกร ให้ทายาทมังกรแก่เอเลียตไม่ได้
ในสายตาของมังกรสตรี เกวนยิ่งไม่มีประโยชน์เลย ;w;

ป.ล. เกวนเอ่ยขอบคุณที่ท่านเป็นห่วง ส่วนเรื่องราชามังกร "ข้าเข้าใจว่าทำไมเขาถึงมีภรรยามากเจ้าค่ะ ข้าไม่ติดใจ..." /หลุบตา

โถ่วววเกวนๆ คุณเอเลียตเมียเพียบเลยอ่ะหนู  :serius2:
ในอนาคตจะโดนมหาเมะที่ไหนจับกดมั้ยน้อออ หึๆ

โคลด์ผมสั้นสิน้าาา รออิมเมจเพื่อความชัวร์นะเจ้าคะ  :katai5:
(จะวาดโคลด์ของบ่าวเป็นคนแรกเลย  :man1:)
เพียบค่ะ มาเต็มโต๊ะ ตกใจเลย
/เราตกใจเหมือนกันตอนเขียน เอเลียตเป็นตัวละครฝั่งคุณ FOULSOUL ค่ะ
แต่เหตุผลรับได้นะคะ เพราะมังกรมีลูกยาก เลยต้องจับคู่แบบนี้อะ
มีเรื่องการเมืองด้วย เพราะมังกรมีหลายอาณาจักรค่ะ

โคลด์ผมสั้นจ้า จะหาที่แปะอิมเมจให้นะคะ ;)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4) [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 29-01-2017 00:07:19
ติดสอบเลยหายไปนาน กลับมาอ่านก็เลยรัวๆๆ 555555
ชอบตัวละครเกวนมากเลยค่ะ ดูมีเสน่ห์มากๆ
ส่วนเจ้ามัวกรน้อยรากาลก็น่าร้ากกกกก  :o8:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4) [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 29-01-2017 00:18:30
บทที่ 9 : เส้นทางมังกร (4)

สิบสามปีก่อน

“กินแต่ผลไม้จะพอกระเพาะหรือ”

เอเลียตถาม ระหว่างมองเด็กสาวก้มๆ เงยๆ หาลูกเบอร์รีในพุ่มไม้ที่แห้งใกล้ตาย

ครั้งแรกที่พบกัน เขาปล่อยเธอไป จากนั้นก็แวะมาหาเป็นประจำ บ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ

เธอน่าสนใจ น่าค้นหา เขาเกือบหัวเราะเมื่อเธอพูดคำว่า ‘เพื่อน’ เขาจำไม่ได้ว่าเพื่อนคืออะไร เป็นอย่างไร ครั้งสุดท้ายที่ได้ยินคำว่าเพื่อนผ่านไปหลายศตวรรษแล้ว

เขาตัดสินใจ ‘ทำความรู้จัก’ กับเด็กสาวชาวดาร์กเอลฟ์ผู้นี้ อย่างที่เพื่อนน่าจะทำกัน ถามคำถาม วนเวียนข้างกาย อาจมีแกล้งกันบ้าง เขารู้สึกกระชุ่มกระชวย ว่ากันว่าแท้จริงแล้วภายในของผู้ชายคือเด็กตลอดกาล อาจเป็นความจริง

“พอเจ้าค่ะ” กวินีเวียร์หันมายิ้ม หยิบลูกเบอร์รีวางบนผ้าในอ้อมแขน “แต่…” คิ้วสีเงินขมวดเข้าหากัน “น้องชายของข้าอยู่ในวัยกำลังโต เขาต้องกินอย่างอื่นบ้าง”

ตอนเงยตัวขึ้นมา พุ่มไม้เกี่ยวมวยผมของเธอหลุดรุ่ย ปอยผมสีเงินแนบอย่างน่าเสน่หาอยู่บนหลังต้นคอ

“ขออนุญาต” เอเลียตใช้นิ้วช้อนปลายผมให้ “ข้ามุ่นผมไม่เป็น แต่พอถักเปียได้ น่าจะสะดวกเวลาเก็บผลไม้มากกว่า”

กวินีเวียร์หน้าแดง จับมือเขาไว้ “อย่าเจ้าค่ะ เราไม่ถักเปีย”

“กลัวเหมือนเอลฟ์หรือ”

“เราไม่ถักเปีย” ดาร์กเอลฟ์ไม่ถักเปีย กวินีเวียร์ย้ำคำ

“เหตุผลล่ะ”

เธอรูดนิ้วเก็บผมจากมือเขา “อย่างที่ท่านพูด เราไม่เหมือนเอลฟ์”

“เจ้าไม่รู้จักเปียมังกร” เอเลียตอมยิ้มแบบเด็กที่อยากแสดงอะไรบางอย่างแทบทนไม่ไหว เขาตัดผมสั้น เกวนโดลินจึงไม่เห็นเปียสักเส้น

กวินีเวียร์เม้มปาก “เปียก็คือเปีย จะต่างกันอย่างไรเจ้าคะ”

“นั่นสิ” เอเลียตเห็นด้วย “แต่เผื่อเจ้าติดใจอยากทราบ เปียมังกรไม่ต่างอะไรจากเปียของเอลฟ์หรอก ไม่นึกว่ากับทรงผมพวกเจ้าก็เหยียดรังเกียจกัน น่าสังเวชจริงแท้”

“ข้าจัดการเองได้เจ้าค่ะ” เด็กสาววางห่อลูกเบอร์รี ปล่อยผมจากมวยให้สยาย ผมของเธอหอมอ่อนๆ จากกลิ่นดอกไม้ป่าที่ใช้สระผม “ทรงผมสำคัญจริงๆ ข้ายอมรับว่าข้าไม่ชอบถักเปียเจ้าค่ะ”

“ข้าไม่มีเจตนาว่าเจ้า กวินีเวียร์ ข้าลองหัดหยอกเจ้าดู...เห็นได้ชัดว่าไม่ฉลาดเลย”

เด็กสาวอึกอัก “ข้าแค่...ไม่เคยมี...เอ่อ...ชายใดเสนอตัวช่วยจัดผมให้มาก่อน” เธอรีบมุ่นผมใหม่ แก้มเป็นสีแดง

“ข้าไม่ได้พบใครมานาน” เอเลียตดึงลูกเบอร์รีมาชิม “ไม่ค่อยได้สมาคมกับใคร ทักษะการพูดคุยถูกทิ้งบนหิ้ง ข้าไม่นึกเลยว่าจะมีวันที่ตัวเองปฏิบัติกับหญิงสาวได้...อืม มารดาข้าเรียกว่า ‘ไม่น่ารัก’ ”

กวินีเวียร์ยิ่งฟังก็ยิ่งมุ่นผมไม่เป็นมวย เธอรู้สึกขัดเขินอย่างประหลาดยามเขาสุภาพ ไม่คุกคามน่ากลัว

“รอที่นี่ ข้าจะไปหาของขวัญไถ่โทษ”

เด็กสาวดาร์กเอลฟ์ถอนใจ ทรุดตัวนั่งรออย่างที่มังกรบอก

ครู่หนึ่ง เอเลียตก็กลับมาพร้อมกวาง

เขาแบกกวางบนบ่า เดินมาหาเธอสบายๆ ไม่ทราบว่ากวินีเวียร์มองออกไหม แต่มันไม่ใช่กวางท้องถิ่น ขนของมันสีขาว จุดแต้มเป็นสีเงิน บ่งชัดว่ากวางตัวนี้มาจากทางเหนือของรูเมเรียร์ บนเขาสูง ห่างจากที่นี่แบบใช้เวลาเดินเท้าเป็นเดือน

กวินีเวียร์ตาโต เธอเลี่ยงไม่กินเนื้อสัตว์ เพราะมักได้ยินเสียงพวกมันวอนขอชีวิต

“ข้า...เอ่อ…”

“สำหรับน้องชายเจ้า” เอเลียตขัดเสียก่อน “เขายังเด็กใช่ไหม เด็กกำลังโตต้องกินอาหารดีๆ”

เด็กสาวเงียบ เธอเข้าใจความจริงของโลก จึงเดินไปที่กวางตัวนั้น เอ่ยปลอบโยนมันให้หายตระหนก ให้มันหลับตาลงอย่างสบาย...โดยลืมนึกถึงการตื่นขึ้นมาอีก

“ขอบคุณเจ้าค่ะ”

“ไม่ต้องพูด ‘เจ้าค่ะ’ ได้ไหม ฟังเหมือนไม่ใช่เพื่อนกัน”

“เจ้าค่ะ...ข้าหมายถึง...ค่ะ”

เอเลียตยิ้ม เขาแปลงมือของตัวเองให้เป็นกรงเล็บมังกร แล้วจบชีวิตของกวางชะตาขาดอย่างรวดเร็ว

“เจ้าหันหลังดีกว่า หรือไม่ก็หลับตา ข้าคิดว่าต่อจากนี้คงไม่น่าชมนัก” ชายหนุ่มถกแขนเสื้อเตรียมชำแหละเนื้อกวาง

‘ข้าชำแหละเนื้อสัตว์เป็นค่ะ’ นางตอบพลางหันหลัง

“เจ้ารู้ใช่ไหมว่าถ้าเราคุยกันทางจิตบ่อยๆ เราจะปิดกั้นกันได้ยากขึ้น”

“ข้า...” กวินีเวียร์พรั่นใจ “ค่ะ ข้าเข้าใจ”

‘เจ้าไม่ชอบให้ข้าอยู่ในหัวของเจ้าหรอก’

กวินีเวียร์ไม่ตอบ แต่ใบหูลู่ลง ร้อนทั่วใบหน้า เธออาจคิดไปเอง แต่ประโยคเมื่อสักครู่ไม่ใช่การข่มขู่...เธอสัมผัสได้ถึงการเกี้ยวพา

ข้าคงคิดไปเอง เธอเตือนตัวเอง

“เสร็จแล้ว” เอเลียตยกแขนปาดเหงื่อ เขาไม่ได้ล่าเหยื่อเองมานาน กล้ามเนื้อที่ฝืดฝืนเริ่มเข้าที่ “อ้อ…”

“คะ?” ดาร์กเอลฟ์สาวหันมา เอ่ยขอบคุณและหยิบผ้าออกมาช่วยเช็ดมือ

“เจ้าไม่ได้คิดไปเอง” เอเลียตยิ้ม ตาโค้งขึ้นเล็กน้อย

คราวนี้มังกรได้เห็นใบหน้าสวยคมแดงระเรื่อ

“เจ้าเช็ดมือให้ข้าแรงไปแล้วหนา” เอเลียตจับมือกวินีเวียร์อย่างสุภาพ เขาหัวเราะเบาๆ “อยู่กับเจ้า ข้ายิ้มและหัวเราะมากกว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมาเสียอีก อา...ครั้งนี้ข้าพูดจากใจจริง ไม่ได้เกี้ยวพา”

หัวใจของเด็กสาวเต้นตึกตัก เมื่อตกลงกันไว้ว่าจะไม่เข้าไปในใจของอีกฝ่าย เธอก็เห็นเขาเป็นบุรุษมากกว่าเป็นมังกร

เธอเงยหน้ายิ้มน้อยๆ ทำตัวไม่ถูก มือยังวางค้างไว้

“ให้เรารู้จักกันมากกว่านี้อีกหน่อย กวินีเวียร์…” เอเลียตกระซิบ เขาเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้เธอ “อย่าเพิ่งตัดสินว่าข้าเป็นอย่างไร”

ชายหนุ่มเข้าใจแล้ว...ว่าเขาถูกดึงดูดด้วยความดีงาม ความบริสุทธิ์ในตัวของดาร์กเอลฟ์ผู้นี้

ช่างอันตรายจริงๆ

หูของมังกรได้ยินเสียงหัวใจเด็กสาวเต้นแรง “ข้า...ข้าควรกลับแล้ว กวาง...ข้าจะค่อยๆ ขนไปเอง ท่านไม่ต้องลำบาก”

“เจ้ากลัวข้าลักน้องชาย” เอเลียตเอียงใบหน้าคล้ายต้องการสูดกลิ่นแก้มของอีกฝ่าย “ไม่ต้องห่วง ข้าจะไปส่งเจ้า ไกลเท่าที่เจ้าอนุญาต”

กวินีเวียร์ไม่ได้เบือนหน้าออก เธอพาน้องชายหนีจากจอมทัพทมิฬมาหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า มีแต่สัตว์ป่าเป็นเพื่อน แต่ละวันคิดแต่เรื่องคุ้มครองน้องชายให้อยู่รอด ความคิดที่จะมีใครมาคุ้มครองเธอคือเรื่องฝันเพ้อ

และมังกร...เอเลียต เขาทำให้เธออบอุ่นใจอย่างไม่สมควรเลย

——————————————————————————————-

ปัจจุบัน

เด็กหนุ่มอายุราวสิบห้าปีผุดลุกขึ้นเมื่อเห็นเกวนโดลิน เขานั่งอยู่ทางขวาของราชามังกร—ของเอเลียต

“รากาลหรือ” เกวนโดลินประหลาดใจ เธอรับรู้ตัวจริงของเขาจากเสียงของจิตอันร่าเริง

เด็กหนุ่มยิ้มแป้น เขาคือมังกรที่เกวนโดลินเลี้ยงดูแทนมารดา เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเอเลียต เป็นเจ้าชายหนึ่งเดียวในราชวงศ์มังกรอันเก่าแก่

ตั้งแต่อดีตกาล มังกรเพศชายถือกำเนิดยากกว่ามังกรเพศหญิง ในอาณาจักรหนึ่ง ซึ่งหมายถึงฝูงมังกรอย่างต่ำหนึ่งร้อยตัว อาจมีอยู่เพียงสิบถึงยี่สิบตัวเท่านั้นที่เป็นเพศชาย และอาจมีเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่แข็งแรงพอจะคุ้มครองอาณาจักรและสืบพันธุ์ได้ มังกรเพศชาย โดยเฉพาะองค์ชายมังกรที่สืบทอดสายเลือดแข็งแกร่งเข้มข้นของราชามังกร จะสำคัญเป็นพิเศษ

เกวนโดลินคิดว่ารากาลคือเด็กน้อยตัวเล็กๆ มาตลอด เพราะร่างมังกรของมังกรน้อยนั่งตักเธอได้พอดี เธอมักจะกอดเขา กล่อมเขานอนหลับ หอมแก้ม เล่าเรื่องภายนอกให้ฟัง ถึงเวลาก็พาไปอาบน้ำ ขัดถูเกล็ดอ่อนนุ่มจนสะอาดไปทั้งตัว

อยู่ๆ มาเห็นในสภาพเด็กหนุ่มเฉกนี้ ขนาดใบหน้าที่ปั้นให้เรียบเฉยยังเกิดอาการประหม่า

“ว่าอย่างไร กวินีเวียร์ เจ้าเพิ่งเคยพบรากาลในร่างมนุษย์ใช่หรือไม่”

เอเลียตยังคงเหมือนครั้งแรกที่เจอกันไม่มีผิด หนุ่มแน่น สุภาพ และเจ้าชู้ เขาเป็นผู้ใช้เวทเปลี่ยนโฉมให้มังกรทุกตนในที่นี้ เป็นพลังและสิทธิ์ที่ราชาเท่านั้นพึงมี

“เจ้าค่ะ” ดาร์กเอลฟ์ตอบ นับแต่ถูกจับตัวมาเป็นทาส เธอสำรวมตัวเอง

อาหารเริ่มทยอยมาทีละอย่าง เริ่มจากจานเรียกน้ำย่อย ไม่มีใครพูดคุยกัน มังกรสตรีไม่เหลือบมองดาร์กเอลฟ์เลยแม้แต่ครั้งเดียว ยกเว้นมังกรที่นั่งใกล้ราชาที่สุด—มารดาของรากาล ‘เดลฟีน’

เกวนโดลินนั่งนิ่ง ไม่แตะต้องอาหาร เหมือนเป็นรูปปั้นสวยงามที่ถูกนำมาวางประดับไว้เฉยๆ เธอทรมานทุกเมื่อยามต้องพบหน้าราชามังกร น้ำหนักของปลอกคอเหล็กหนักถ่วงคอ เหงื่อท่วมมือ

เอเลียตสังเกตเกวนโดลิน เขาชิมซุป ร้องอืมด้วยความพอใจ “รสชาติเป็นอย่างไร รากาล”

“อร่อย...พ่ะย่ะค่ะ” รากาลยิ้ม เจ้าชายเพิ่งเคยลิ้มรสอาหารแบบดาร์กเอลฟ์เป็นครั้งแรก “เกวนเล่าให้ลูกฟังบ่อยๆ เรื่องแดนทมิฬ ไม่นึกว่าจะได้ลองชิมอาหารจากฝั่งนั้น”

“พ่อเดาว่าลูกคงชอบเรื่องเกี่ยวกับอาหารเป็นพิเศษ...ลูกกำลังโต จะมีอะไรดีไปกว่าการกินของอร่อยจริงไหม”

เกวนโดลินฟังบทสนทนาไหลผ่านหู เธอรู้ดีว่าราชามังกรจงใจเรียกนามเก่าของเธอ เขากำลังข่มขู่ว่า ‘เจ้าไม่มีทางหนีจากชีวิตที่ละทิ้งมาพ้นหรอก’

“นกต่างหากพ่ะย่ะค่ะ ลูกชอบนก เกวนเป็นเพื่อนกับนกหลายตัว พวกมันมีเรื่องจากข้างนอกมาเล่าให้ฟังเสมอ” รากาลหันมาส่งยิ้มให้เกวนโดลิน

“ใช่...จ้ะ” เกวนโดลินตอบ มันยากเหลือเกินที่ต้องปั้นหน้านิ่งเฉย ไม่แสดงออกว่าเธอ ‘กลัว’ บิดาของเขาเหลือเกิน

เธอกลัวราชามังกรเล่าความจริง ว่าเธอเคยทำอะไรไว้บ้าง แล้ววันหนึ่งรากาลจะไม่ชอบเธอ เกวนรักรากาล มังกรน้อยเป็นแรงใจเพียงหนึ่งเดียวของเธอในสถานที่นี้

มังกรสตรีมักมีอารมณ์ฉุนเฉียวร้ายกาจและหวงตัวผู้ พวกนางอาจพลั้งมือทำอันตรายลูกมังกรแรกเกิด ลูกมังกรส่วนมากจึงถูกเลี้ยงดูโดยบรรดาทาสีแม่นมพี่เลี้ยงที่ถูกคัดเลือกมาโดยมารดามังกร

ทว่าเอเลียตไม่ขอความเห็นจากเดลฟีน อยู่ๆ ก็พาดาร์กเอลฟ์ตัวเมียกลับมา ให้เลี้ยงดูบุตรชายแสนสำคัญของนาง

“พวกเจ้าล่ะ ไม่มีความเห็นกับอาหารมื้อนี้หรือ” เอเลียตถามบรรดาภรรยาทั้งเก้า พวกนางเงียบเฉย คล้ายกำลังต่อต้านสามี ซึ่งเดาได้ไม่ยากเลยว่าคือเรื่องอะไร

“เฮเลน ฟีโอนา...ไม่มีหรือ”

ไม่มีหรอก...แต่เพราะอยากเอาใจสามี จึงมีมังกรบางนางเริ่มพูด เมื่อสตรีเริ่มพูดจะเหมือนไฟลามทุ่ง บทสนทนาบนโต๊ะอาหารครึกครื้นขึ้นโดยมีราชาเอเลียต เดลฟีน และรากาลเป็นจุดศูนย์กลาง

เดลฟีนเอ่ยแสดงความดีใจ กอดและจูบบุตรชายที่ในที่สุดก็จะย้ายเข้ามาอยู่ในราชวังแล้ว นางทำเช่นดาร์กเอลฟ์ไร้ตัวตน

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครใส่ใจเธอ เกวนโดลินจึงลุกขึ้น เดินเลี่ยงออกไปนอกระเบียง ปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้

รากาลจะไม่ได้อยู่กับเธอแล้ว เธอถูกเรียกมางานเลี้ยงเพื่อให้ทราบเรื่องนี้ ต่อไปเธอต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว...ยิ่งคิดเกวนก็ยิ่งเศร้าด้วยความคิดถึงน้องชาย

ดาร์กเอลฟ์สาวทรุดตัวลง ร้องไห้เงียบๆ

เทพีจันทร์ ถึงข้าจะเขียนจดหมายบอกน้องไปว่าข้าไม่เป็นไร แต่ที่จริงแล้วข้าอยากพบเขาใจจะขาด...ข้าอยากพบฮีมเดียร์

—————————————————————————

A/N มันร้าว มันรันทดใจ แงๆๆ เมื่อก่อนก็เหมือนจะดีค่ะ แต่ไม่รู้มีอะไรเกิดขึ้น เกวนถึงพาโคลด์หนีไปที่ป้อมของเอลฟ์
ป.ล. 1 ได้เห็นรากาลในร่างมนุษย์แล้วจ้า ตอนแรกเราตกใจ ไม่นึกว่าคุณ FOULSOUL จะให้รากาลโตขนาดนี้ คือเราจิ้นว่าราลกาลเป็นเด็กน้อย 7-8 ขวบมาตลอด ;w;
ป.ล. 2 เกวนไม่กล้าอาบน้ำกับรากาลแล้ว /ปกติเวลาเกวนอาบน้ำจะพาลูกมังกรเข้าไปอาบด้วย เปลือยๆ เลยค่ะ...เพราะเกวนไม่คิดว่ารากาลจะมีร่างมนุษย์โตขนาดนี้...เราว่าป๊ะป๋าของรากาลจงใจแหงๆ ค่ะ (-*-) ชิชะ หวงกระทั่งกับลูกของตัวเอง

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4) [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: towtao ที่ 29-01-2017 00:49:12
อ่านถึงตอนนี้แล้วอยากเห็นอีตาราชามังกรนี่ จุดจบต้องมาคุกเข่าอ้อนวอนเกวนจริงๆเลย --*
สองพี่น้องจะรันทดกับผช. สายเอสกันไปไหนค๊าาาาาา
เราจะรอคอยวันที่ผู้ชายสายเอสต้องสยบอยู่ใต้บัญชาภรรเมียจริงๆเลยค่าา 55555555
#ทีมหมั่นไส้พระเอกทุกคนทั้งราชาเอลฟ์และราชามังกร /me เผาพริกแช่ง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4) [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 29-01-2017 07:24:45
คือบับ สองพี่น้องเรื่องนี้ทำไมรันทดงี้เนี่ย 555 ไร้ดวงเรื่องความรักสินะ โถ่   :ling1: ว่าโคลด์น่าสงสารแล้วที่ซิกฟรีดมีคู่หมั้นพ่วงด้วยแล้วก็ดูเหมือนเส้นทางรักจะย๊ากยากกว่าจะได้กัน แต่เกวนนี่เข้าขั้นวิกฤตเลยแหะ สงสารนางงง อิเลียตมีเมียตั้ง9คน (แต่บางทีอาจจะไม่เท่าท่านหญิงคนเดียว 55555)ฮอลลล
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4) [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 29-01-2017 10:10:18
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4) [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 29-01-2017 11:03:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4) [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 29-01-2017 11:21:15
อื้อหืออออออ

ไอ้เฒ่ามังกรหัวไฮดรา!

และไอ้เจ้าหมูบินได้กลายพันธุ์! อายุ 15 คือเด็กน้อยสำหรับมังกรใช่ไหม? รากาลไม่ได้หลีเกวนสินะ
แต่จากนี้คงไม่ได้เป็นเพื่อนใกล้ชิดกันอีก

ใครจะเจ็บปวด ชะตาบัดซบอย่างไรก็ได้ ฉันขอให้กวินีเวียร์และฮีมเดียร์ได้มีชีวิตที่ดีและมีสุขก็พอ 
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4) [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 29-01-2017 12:16:27
ติดสอบเลยหายไปนาน กลับมาอ่านก็เลยรัวๆๆ 555555
ชอบตัวละครเกวนมากเลยค่ะ ดูมีเสน่ห์มากๆ
ส่วนเจ้ามัวกรน้อยรากาลก็น่าร้ากกกกก  :o8:
กลับมาแล้ว เย้ๆๆ กอดๆๆ ดีใจ มีคนชอบสาวๆ ในเรื่อง -3-
ราบาลบินโฉบๆ อย่างภูมิใจในตัวเกวนๆ

อ่านถึงตอนนี้แล้วอยากเห็นอีตาราชามังกรนี่ จุดจบต้องมาคุกเข่าอ้อนวอนเกวนจริงๆเลย --*
สองพี่น้องจะรันทดกับผช. สายเอสกันไปไหนค๊าาาาาา
เราจะรอคอยวันที่ผู้ชายสายเอสต้องสยบอยู่ใต้บัญชาภรรเมียจริงๆเลยค่าา 55555555
#ทีมหมั่นไส้พระเอกทุกคนทั้งราชาเอลฟ์และราชามังกร /me เผาพริกแช่ง
พระเอกเรื่องนี้มันน่าไปเป็นตัวร้ายเนอะคะ
มาลแกธบอกว่า "ข้าเป็นคนดีนะสาวน้อย อ้าวเจ้าว่าข้าไม่ใช่พระเอกหรือ ทำไมคิดแบบนั้นละ?"
มารอคอยผู้ชายสาย S เจ็บปวดดดดดด รวดร้าวววววววววว แทนโคลด์กับเกวนกันดีกว่าค่ะ ;w;

คือบับ สองพี่น้องเรื่องนี้ทำไมรันทดงี้เนี่ย 555 ไร้ดวงเรื่องความรักสินะ โถ่   :ling1: ว่าโคลด์น่าสงสารแล้วที่ซิกฟรีดมีคู่หมั้นพ่วงด้วยแล้วก็ดูเหมือนเส้นทางรักจะย๊ากยากกว่าจะได้กัน แต่เกวนนี่เข้าขั้นวิกฤตเลยแหะ สงสารนางงง อิเลียตมีเมียตั้ง9คน (แต่บางทีอาจจะไม่เท่าท่านหญิงคนเดียว 55555)ฮอลลล
โหดกว่าซิกฟรีดกับเอเลียตก็คนเขียนนี่ละค่ะ ;w; < เค้าโดนหลังไมค์มางี้ /อ้อน
เล่านิด เมีย 9 ของเอเลียต มีตัวแม่อยู่คน (แม่รากาล) แต่คนดีๆ ก็มีค่ะ
ผู้หญิงมังกรเหมือนตัวเมียในฝูงน่ะค่ะ เป็นของตัวผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดตัวเดียว
ไม่มีปัญหากับตัวเมียตัวอื่น ที่เกลียดเกวนกันเพราะเกวนไม่ใช่มังกร
(คือให้ทายาทไม่ได้ ท่านเอเลียตเก็บไว้เพราะรักมันหรือ /แสลงตามาก ไรงี้น่ะค่ะ)
ป.ล. ระหว่างเดลฟีน กับ เอริแอดเน่ น่าคิดค่ะว่าใครร้ายได้มากกว่า

:mew2: :mew2:
รักนะ  :mew1:

:pig4: :pig4:
วันนี้ลง 2 ตอนนะ จุ๊บ



อื้อหืออออออ

ไอ้เฒ่ามังกรหัวไฮดรา!

และไอ้เจ้าหมูบินได้กลายพันธุ์! อายุ 15 คือเด็กน้อยสำหรับมังกรใช่ไหม? รากาลไม่ได้หลีเกวนสินะ
แต่จากนี้คงไม่ได้เป็นเพื่อนใกล้ชิดกันอีก

ใครจะเจ็บปวด ชะตาบัดซบอย่างไรก็ได้ ฉันขอให้กวินีเวียร์และฮีมเดียร์ได้มีชีวิตที่ดีและมีสุขก็พอ
5555 ด่าเจ็บจริงๆ ค่ะ 5555555555
"ข้าไม่ใช่หมู ห้ามเสียมารยาทกับท่านพ่อของข้าด้วย!" รากาลอ้วนกลมหยีตา ตีปีกพั่บๆ! "ข้าชอบเกวน!" /แต่รู้ว่าถ้าคิดไม่ดีกับเกวนท่านพ่อเอาตายแหง...
เกวนโดนลินเอ่ยว่า "ขอบคุณที่ท่านเป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ"
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4-5) 2 ตอน [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 29-01-2017 12:23:02
บทที่ 9 : เส้นทางมังกร (5)

ที่จริงแล้วยังมีอันตรายอีกข้อซึ่งทำให้เกวนโดลินถูกจัดให้อยู่แต่ภายนอกราชวังมังกร อันตรายที่ว่านี้...หากเธอสุดทนแล้ว เธอจะใช้มันเป็นอาวุธ ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของตนเอง

องครักษ์ในร่างมังกรที่เฝ้านอกระเบียงพบโฉมงามร่ำไห้อยู่ ผิวสีดอกไลแลคของนางสว่างขึ้นด้วยแสงจันทร์นวล จับสายตาอย่างบอกไม่ถูก แต่ที่ดึงดูดให้มันยืดคอเข้าหาคือดวงตาสีม่วงเข้มจัด

...มันมึนเบลอ รู้สึกอยากโผบินลงไปหานาง ทำตามที่นางขอร้อง...โดยไม่ตระหนักถึงกฎข้อห้ามทั้งปวง

ทว่าจู่ๆ มันก็ร้องโหยหวน ด้วยปวดศีรษะจนแทบระเบิด มันรู้สึกเหมือนภายในกำลังถูกไฟเผา ความเจ็บปวดนั้นทำให้มันหลุดจากภวังค์ ได้สติกลับคืนมา

“ไม่น่ารักเลย กวินีเวียร์” ราชามังกรออกมาด้านนอก แขนข้างหนึ่งมีเกล็ดคมสีดำมันวาว ไล่ตั้งแต่ไหล่จรดปลายนิ้วที่กลายเป็นกรงเล็บ ราชากางฝ่ามือไปทางมังกรองครักษ์ เกวนทราบโดยทันทีว่าเป็นฝีมือใคร

เอเลียตลงโทษองครักษ์ของตัวเองผ่านจิต

หรือไม่ก็ช่วยให้มันพ้นโทษตาย หากมันเผลอทำตามที่เกวนสั่งผ่านจิตเช่นกัน

“พลังของเจ้าแข็งแกร่งขึ้นหรือ...ฝึกสื่อสารกับนกบ่อยใช่หรือไม่”

‘ท่านขู่ข้าไม่ได้’ เกวนจ้องตาราชามังกรอย่างไม่กลัวเกรง แต่ทราบดีว่าการบังคับจิตมังกรองครักษ์ล้มเหลว

“จ้องหน้าข้าเขม็งเชียว เจ้ากำลังพูดอะไรอยู่หรือเปล่า ข้าไม่ได้ยิน” เอเลียตปิดใจจากเกวนไปนานแล้ว ตั้งแต่ตอนที่เธอทำลายมันเสียแหว่งวิ่น

เมื่อสิบสามปีก่อน

เกวนอาจมีอะไรพูดต่อในใจอีก แต่เธอไม่เอ่ยมันออกมา เหตุผลที่เธอไม่รับของจากมังกร ไม่กินอาหารที่มังกรมอบให้ ไม่สนทนาเกินความจำเป็น ใช่เพราะหยิ่งในเกียรติของตัวเอง แต่เพราะทราบดีว่าสมบัติของมังกรมีเวทมนตร์แฝงอยู่ หากเผลอรับมาแล้วจะกลายเป็นหนี้มังกรอย่างเลี่ยงไม่ได้

“กลับเข้างานเลี้ยงเสีย กวินีเวียร์ บุตรชายของข้าชะเง้อหาเจ้าจนเสียมารยาทกับมารดาของตัวเองแล้ว”

ดาร์กเอลฟ์สาวนั่งนิ่ง ไม่ยอมขยับตัว “ส่งข้ากลับไปที่อยู่ของทาสเถิด”

ราชามังกรจุปากเบาๆ “ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากจะประกาศ ยังไม่มีใครทราบเรื่องนี้ ข้าเก็บมันไว้เป็นความลับ เจ้าควรกลับเข้าไปเพราะเจ้าอยากได้ยินมันแน่...ออร์”

‘ออร์’ แปลว่า ‘ทองคำ’ มังกรหลงใหลทองคำ แร่ที่ส่องประกายในความมืด ทำให้หัวใจเต้นแรงเมื่อได้สัมผัส มังกรจึงใช้คำว่า ‘ออร์’ แทนคำเรียก ‘ที่รัก’ หรือ ‘ยอดปรารถนา’ ด้วย

“ข้าไม่อยากได้ยินเจ้าค่ะ” เกวนยืนยันด้วยน้ำเสียงนอบน้อมอย่างข้าทาสเอ่ยกับเจ้านาย

“กวินีเวียร์” น้ำเสียงของเอเลียตทุ้มขึ้น เกวนโดลินทราบว่าเขากำลังรำคาญใจ “ข้าทราบมาว่ารากาลออกไปเที่ยวเล่น ในที่ที่เขาเคยบอกข้าว่าน่าหดหู่ ไม่อยากไปอีกเป็นครั้งที่สอง ถึงข้าไม่ได้เค้นถามหรืออ่านใจเขาว่าครั้งนี้ไปทำไม แต่หากเจ้ายังดื้อแพ่ง ข้าคงต้องจับบุตรชายรีดความลับเล็กๆ บนโต๊ะอาหาร ฆ่าเวลารอเจ้ากระมัง”

ราชามังกรสูดลมหายใจเข้าลึก “และข้าได้กลิ่นเลือดจากตัวเจ้า ไม่ใช่ว่าเจ้าคิดจะหนีจากข้าอีกแล้วหรือ...ออร์”

ได้ยินคำขู่แล้ว เกวนโดลินลุกขึ้นอย่างเสียไม่ได้ นางใช้หลังมือเช็ดหน้าเช็ดตาให้เรียบร้อย เดินกลับเข้างานอย่างสำรวม พยายามบังคับร่างกายไม่ให้สั่นด้วยความโกรธและความหวาดเกรง

ด้านใน รากาลเนื้อหอมในหมู่มารดามังกร แต่เขาชะเง้อชะแง้มองหาเกวนโดลินจริงๆ และนั่นทำให้มารดาเดลฟีนไม่พอใจนัก

ทาสสาวดาร์กเอลฟ์เดินกลับมานั่งที่ของตัวเอง ตามด้วยราชามังกรที่เดินไปตามนางกลับมาด้วยตนเอง นั่นยิ่งทวีความชิงชังขึ้นในหมู่มารดามังกรที่จับตามองอยู่

ราชามังกรกลับไปยังหัวโต๊ะ โดยก้มลงจูบแก้มภรรยาที่มอบบุตรชายให้ตนเพื่อปลอบอารมณ์นาง เขาช่างเอาใจ ทราบว่าใครต้องการอะไร

ภาพนั้นทำให้ใจของเกวนโดลินยิ่งจมในความเศร้าโศก

“โปรดฟัง...ภรรยาโฉมงามและบุตรชายคนสำคัญของข้า” เอเลียตแย้มยิ้ม น้ำเสียงทุ้มนุ่มเป็นกังวาน “อย่างที่ทุกคนทราบ รากาลใกล้อายุครบสิบห้าปีแล้ว ตามกฎ บุตรชายของข้าต้องย้ายเข้าวังส่วนใน เรียนรู้ธรรมเนียมปฏิบัติ ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตของเผ่าพันธุ์มังกรเพื่อสืบบัลลังก์ต่อไป...เดลฟีนเฝ้ารอวันนี้มานาน” เขาหันไปยิ้มให้ภรรยาซึ่งนั่งอย่างสง่าข้างๆ

“ข้าได้สร้างวังอาราดันให้บุตรชายคนสำคัญโดยเฉพาะ เจ้าจะได้พักในส่วนนั้น รากาล มีองครักษ์ ข้ารับใช้ และเหล่าทาสใต้อาณัติ พวกมันจะฟังคำสั่งเจ้า บุตรชายของข้า ข้าปิดมันไว้ รอเฉลยให้เจ้าแปลกใจค่ำนี้ เจ้าจะอยู่ใกล้มารดา ไปมาหาสู่กันได้ง่ายขึ้น”

รากาลลุกขึ้น ทำความเคารพตามแบบแผนอย่างงดงาม “ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”

ทว่าแววตาของมังกรน้อยเศร้าสร้อย เขาไม่อยากย้ายมาอยู่วังส่วนใน เขาอยากอยู่กับเกวน อยากฟังเรื่องราวของเธอ ให้เธอกล่อมนอนและช่วยขัดเกล็ด เขาแอบเหลือบไปทางดาร์กเอลฟ์ที่เขารักเหมือนมารดา หรืออาจผูกพันยิ่งกว่า

ดาร์กเอลฟ์สาวนั่งเงียบ ใจของเธอเฉยชา หรืออย่างน้อย...เธอพยายามบังคับให้มันเฉยชา

เดลฟีนแย้มยิ้ม ดวงตาแฝงแววแห่งผู้ชนะ นางไม่ปิดบังความรู้สึก แต่แสดงออกถึงความเกลียดชังพองาม อย่างไรเดลฟีนผู้นี้ก็สืบเชื้อสายมาจากขุนนางทางเหนือ เป็นมังกรหิมะสูงศักดิ์

“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง…” เอเลียตมองไปยังดาร์กเอลฟ์สาวที่ไม่ยอมสบตากับตน “กวินีเวียร์...เจ้ารู้ใจบุตรชายของข้าดีที่สุด”

เกวนโดลินหลับตา คล้ายทราบว่าคำพูดใดจะตามมา เธอรู้ใจเอเลียตหรือ...แค่บางเรื่องเท่านั้น เธอคิดอย่างขมขื่น

“ช่วงแรกที่รากาลย้ายเข้ามาอาจไม่คุ้นชิน เจ้าจะช่วยอยู่ข้างเขา เป็นพี่เลี้ยงให้เขานานอีกหน่อยได้หรือไม่”

“เจ้าค่ะ” ทาสสาวตอบ

รากาลตาโต ปิดความดีใจไว้ไม่มิด เขายิ้มตาหยีให้เกวนโดลิน ‘ดีจังเนอะ เกวน!’ เด็กหนุ่มสื่อสารกับเธอผ่านทางความคิด

‘จ้ะ’ เกวนโดลินตอบ เธอดีใจที่ยังได้อยู่กับรากาล แต่นั่นก็แค่ยืดเวลาแห่งความโดดเดี่ยวออกไปอีกไม่กี่ปี สุดท้ายแล้วเธอกับมังกรน้อยก็ต้องจากกันอยู่ดี

ตอนนี้เธออยากหนี อยากไปให้พ้นจากที่นี่ อยากเจอน้องชาย แต่เธอจะกดมันไว้ก่อน โคลด์สมควรได้พักบ้าง เลิกกังวลเรื่องของเธอ

เธอจะอดทนกับราชามังกรต่อไปก่อน

จนกว่าจะถึงเวลาหลบหนีที่แน่นอน...

“ยินดีต้อนรับสู่บ้านของข้าอย่างเป็นทางการ...กวินีเวียร์”

เอเลียตยกแก้วไวน์ขึ้น ดื่มให้เธอ ดวงตาสีทองวาววาม

————————————————————————-

โคลด์นั่งขัดสมาธิอยู่บนเนินเขาทางทิศเหนือของอดีตวิหารมารดานภา จากตรงนี้มองลงไปไกลๆ จะเห็นนักเวทและทหารเอลฟ์ตัวเล็กๆ กำลังวุ่นวายกับพวกอันเดดและการซ่อมแซมกำแพงเวทเพื่อกันไม่ให้พวกมันออกมานอกสุสาน

เอาเถอะ ช่วยไม่ได้ ถือว่าพวกเจ้าได้รับโอกาสให้ทำงานคุ้มค่ากับภาษีของประชาชนก็แล้วกัน

โคลด์รู้สึกเหนื่อยทั้งกายและใจสุดขีดจนไม่อยากขยับตัว การได้นั่งเหม่อทำให้เขารู้สึกสบายใจอย่างที่ไม่ได้เป็นมานาน

ที่เขาใจเย็นลงได้ขนาดนี้เพราะจดหมายที่มังกรตัวอ้วนกลมนามรากาลนำมาส่ง

...จดหมายจากเกวนโดลิน

เกวนโดลินหรือ ‘กวินีเวียร์’ คือพี่สาวแท้ๆ ของโคลด์ สตาร์ หรือนามเก่าว่า ‘ฮีมเดียร์’

ฮีมเดียร์กับกวินีเวียร์เป็นผู้รอดชีวิตสองคนสุดท้ายของเผ่าทมิฬสูงศักดิ์อันเก่าแก่โบราณเผ่าหนึ่ง ทั้งสองสืบสายเลือดจากหัวหน้าเผ่า บิดามารดาของพวกเขาเป็นพี่น้องกัน สมรสกันเพื่อรักษาความบริสุทธิ์เข้มข้นของสายเลือด

ถึงการแต่งงานระหว่างพี่น้องจะวิปริตผิดจากธรรมเนียมเอลฟ์ แต่เผ่าของโคลด์เป็นดาร์กเอลฟ์รักสันติ ได้รับความรักล้นเหลือจากเทพีจันทร์เซฮาไนน์และมารดาสมุทร มีเรื่องเล่าปรัมปราว่าเผ่าของพวกเขาเป็นบุตรของเทพีจันทร์กับวีรบุรุษดาร์กเอลฟ์ด้วยซ้ำ

ทว่าเผ่ารักสันติเผ่านี้ได้ถูกลบหายไปจากดินแดนทมิฬด้วยน้ำมือของจอมทัพทมิฬ—บิดาบุญธรรมผู้ไว้ชีวิตสองพี่น้องและรับไปเลี้ยงดูเพื่อใช้ประโยชน์จากพรสวรรค์แต่กำเนิดของพวกเขา

 

โคลด์ละความสนใจจากความวุ่นวาย เขานอนหงายมองท้องฟ้า สีฟ้าสดใสและปุยเมฆขาวช่างต่างจากเปลวไฟและเสียงอึกทึกด้านล่าง

โคลด์วางมือบนจดหมายที่อ่านแล้วอ่านอีก เขาเอามันแนบอก สัมผัสกระดาษมอซอแผ่นนั้นดั่งสมบัติล้ำค่าหาใดเปรียบ

ในจดหมายของเกวนโดลินบอกว่าให้ ‘รอ’

แม้เป็นทาส เธอก็ได้อยู่สุขสบายกว่าที่โคลด์คาด เธอขอให้เขาเลิกใช้เวททมิฬตามหาเธอ เมื่อมีโอกาสเธอจะส่งนกสีขาวมาหาเขาเพื่อส่งข่าวเป็นระยะเหมือนเดิม

โคลด์ไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียวว่าเกวนจะได้อยู่อย่างสุขสบายในฐานะ ‘ทาส’ เขายังไม่ล้มเลิกความตั้งใจพาเกวนออกมา แต่ครั้งนี้เขาล้มเหลวเพราะไม่รอบคอบ เตรียมพร้อมไม่พอ สุดท้ายต้องให้เกวนช่วยเขาแทนที่เขาจะไปช่วยเธอ

เราอาจก่อปัญหาให้เกวนด้วยซ้ำ

ต้องตั้งหลักใหม่...เริ่มจากอะไรก่อนดี


สิ่งแรกที่โคลด์นึกได้คือ...อิลมาเร เขาควรตามข่าวคู่หูคนสำคัญก่อน ให้แน่ใจว่ามาลแกธทำตามสัญญา

ในจดหมายของเกวนโดลินยังเอ่ยถึงมาลแกธ เขาต้องทำตาม ‘คำขอร้องเรื่องมาลแกธ’ ของพี่สาวด้วย

ตัดสินใจได้โคลด์ก็หลับตา อยากนอนพักสักหน่อย ทว่าความเจ็บปวดเฉียบพลันภายในช่องอกทำให้เขาคำราม หัวใจของเขากำลังถูกบีบ ไม่ใช่การเปรียบเทียบ แต่ ‘หัวใจ’ จริงๆ ที่เต้นอยู่ในอกของเขากำลังถูกบีบ!

มันมาพร้อมกับเสียงเรียกดังกระหึ่มในหัว เสียงนี้ก้องไปมาระหว่างสองหูซ้ำๆ ไม่หยุด

‘ข้าเรียกหา จงมา’

โคลด์หูอื้อ เขาเอามือปิดหูแม้ทราบว่าเสียงไม่ได้มาจากภายนอก แรงบีบหัวใจกับเสียงเรียกที่ไม่ยอมออกไปจากหัวทำให้เขากลิ้งไปมาบนพื้นหญ้าเหมือนคนบ้า

โคลด์กลัวเหมือนกันว่าจะต้องมีวันนี้

ตราทาสกำลังแผลงฤทธิ์ กริชอาจถูกสั่งให้แทงกลางหัวใจ ถ้าเขาดื้อด้านไม่ตอบรับเสียงเรียกจนอีกฝ่ายหมดความอดทน

ไอ้เด็กเอลฟ์ไม่รู้จักบุญคุณยังตามจองล้างจองผลาญเขาไม่เลิก

ซิกฟรีด!


—————————————————————————

A/N ราชามาแล้วค่าาาาาา หลังจากแฟนๆ เกาะขอนไม้มานาน ได้เวลาขึ้นเรือสำราญ (SM) กันแล้วจ๊ะ ;)
ป.ล. 1 บทของฝั่งเกวนจะพักไว้แค่นี้ค่ะ (ค่าตัวแพงทั้งเกวนและเอเลียต) กล้องจะแพนเรื่องกลับไปที่โคลด์แล้วค่ะ ;)
ป.ล. 2 วันนี้ลง 2 ตอนจากกิจกรรมมอบหัวใจให้รักแก่นักเขียนในเพจ FB ค่ะ -3- จุ๊บ

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

อิมเมจโคลด์ แทรกไว้ให้หายคิดถึงโนะ *0*
(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/1219588943-member.jpg)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4-5) 2 ตอน [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 29-01-2017 12:53:16
TALK : Elven Almanac ตอนพิเศษ

สวัสดีค่ะ นักเขียนเองนะคะ (ILLREI)

เราอยากบอกว่าเรื่อง #ElvenAlmanac มีตอนพิเศษที่เขียนไว้ แต่คงไม่ได้ใช้ในเรื่องจริง หรือไม่ได้เป็นตอนพิเศษใดๆ เลย

คือมันเป็นดราฟแรกที่ปกติเราจะไม่นำมาเผยแพร่ แต่ใน 'ดราฟแรก' บางส่วนนั้น เราก็อยากให้มีคนได้อ่านเหมือนกันนะ เลยเปิดกลุ่มสำหรับอ่านดราฟพิเศษเหล่านั้นขึ้นมาให้คนที่สนใจจริงๆ อ่าน

วิธีการเข้ากลุ่มมีทางเดียวคือส่ง Message มาหาเราทางเพจ FB ILLREI (https://www.facebook.com/ILLREI/) ค่ะ

แล้วเราจะส่ง Link ให้

แต่มีข้อตกลงว่าก่อนรับเข้ากลุ่ม เราจะขอถามอะไรนิดหน่อย เพราะดราฟแรก+เรื่องที่ไม่ได้ใช้อาจมีเนื้อเรื่องที่ไม่โดนใจนักอ่าน แบบว่าทำไมตัวละครทำแบบนั้นแบบนี้ละ อะไรทำนองนั้นค่ะ จึงต้องถามก่อน เผื่อรับไม่ได้จิได้ไม่ต้องอ่านเนอะ กลัวเสียใจกันอะค่ะ (^^);
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4-5) 2 ตอน [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: towtao ที่ 29-01-2017 13:13:34
โอ่ยยยย เกวนนน หนูต้องสู้นะลูกกก รากาลหนูต้องช่วยปกป้องเกวนด้วยนะะ /บีบมือ
ราชามาละ ค่าตังแพงละเกิน มาถึงก็เรียกหาหนูโคลด์เลอะ
ตามหาตัวยากสินะ ถึงกับต้องเรียกผ่านพันธะ 5555555
/มาสองตอนเลย เต็มอิ่มมากกก  :hao6:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4-5) 2 ตอน [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 29-01-2017 13:27:23
ในที่สุดราชาของบ่าวก็จะได้มีบทเสียที ชักไม่แน่ใจว่านี่พระเอกหรือตัวประกอบนะเจ้าคะ


กวินีเวียร์คงจะมีหัวใจที่ร้าวรานและเจ็บปวดมาก ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ เข้าใจความรู้สึกของกวีนีเวียร์นะได้มาแค่ความรักแต่ไม่ได้หัวใจเพราะถ้าเป็นเราถ้าไม่ได้ทั้งหมดก็็ไม่เอาหรอก จะทั้งความรักหรือหัวใจก็ตาม


น้องฮีมเดียร์คนดื้อกลับไปให้ราชาตีก้นซะดีดี กลับไปคราวนี้ก็จับขังไว้เลยนะเจ้าคุเดี๋ยวบ่าวจะอาสาติดกล้อง เอ้ยยยยเฝ้าหน้าห้องให้เอง


ปล.ที่ทำได้ตอนนี้คือฟินไปเป็นตอนๆเท่านั้นเองยังมองไม่เห็นทางที่เขาเหล่านี้จะมีเส้นทางความรักที่จะบรรจบกันได้เลย หวังว่านี่จะเป็นนิยายรักไม่ใช่นาฏกรรมอำลาฉบับบหนึ่งเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเราเองคงจะเศร้ามาก

คนเขียนสู้ๆ

 
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4-5) 2 ตอน [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: snoopyme ที่ 29-01-2017 14:46:32
 :laugh: :hao5:
ในที่สุดดดดด นังซิกกำลังจะมาแล้ววววว ตื่นเต้นกับการคัมแบ็คมาก ค่าตัวนางแพงจริงอะไรจริง
ชอบรากาลจัง ทำไมปู้จายเรื่องนี้งานดีกันจัง มีคาแร็คเตอร์ โอยยยยยย

วันนี้เป็นวันดีจริงๆ เพราะ คนเขียนอัพ 2 ตอน แล้วก็ซิกฟรีดจะได้ตัวโคลด์แล้ว

กรีดร้องงงงงงง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4-5) 2 ตอน [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 29-01-2017 14:48:55
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4-5) 2 ตอน [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 29-01-2017 15:06:33
นอกจากค่าตัวแพง ยังตายยากอีกนะซิก :laugh:

โถ่เกวนเกวน ใจแข็งและเหี้ยมไว้นะลูก อย่ายอมแพ้อิตามังกรนั่นนะ

ทำไมตัวละครฝ่ายรุกเรื่องนี้ชอบทำใหฝ่ายรับเสียใจ เป็นสายซึนกันหมดเหรอคะคุณตัวละครชาย เดี๋ยวคนเขียนลดค่าตัวไม่รู้ด้วยนะ  :z2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4-5) 2 ตอน [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 29-01-2017 16:20:39
นึกว่าวันนี้จะลงตอนเดียว มีกิจกรรมได้อ่านเพิ่มอีกตอน! ขอบคุณมากค่ะ >< เอ้อ เรื่องดราฟที่ว่านี่คือเนื้อเรื่องก่อนที่จะมาเป็นอันนี้ใช่ไหมคะ แบบอันที่แต่งไว้อันแรกไรงี้มั้ยคะ ?
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4-5) 2 ตอน [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 29-01-2017 16:42:55
ฉันยังคงยืนยันว่า ไอ้เฒ่ามังกรหัวไฮดรา!

เกวนไปทำอะไรให้ใจแกแตกสลายไม่ทราบ? จองจำกันขนาดนี้ เกลียด!

เกวน อย่าไปเสียใจให้ไอ้มังกืออีก อย่าไว้ใจไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์นะ เจ็บแล้วต้องจำค่ะน้อง

ฮีมเดียร์ที่รัก รีบกลับไปซบอกซิกฟรีด แล้วออดอ้อนเอากองทัพเอลฟ์มาถล่มวังมังกรเลย (แหม่...ทำเอานึกถึงละครจีนชื่อ ชอลิ้วเฮียงถล่มถ้ำค้างคาว 555555)

เว้นรากาลเกล็ดอ่อนไว้ตัวก็ได้ ส่งมาทางนี้พี่จะลงทัณฑ์รักเอง #ผิด
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4-5) 2 ตอน [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 29-01-2017 17:03:09
โอ่ยยยย เกวนนน หนูต้องสู้นะลูกกก รากาลหนูต้องช่วยปกป้องเกวนด้วยนะะ /บีบมือ
ราชามาละ ค่าตังแพงละเกิน มาถึงก็เรียกหาหนูโคลด์เลอะ
ตามหาตัวยากสินะ ถึงกับต้องเรียกผ่านพันธะ 5555555
/มาสองตอนเลย เต็มอิ่มมากกก  :hao6:
สองตอนเพราะ กิจกรรมในเพจ FB ค่า เย้ๆ *0*
รากาลน่าจะเข้าข้างเกวนเต็มที่นะคะ รักและเลี้ยงดูมาขนาดนั้น
/เกวนๆ กอดรากาล ;w;
ส่วนโคลด์ ใช่ค่ะ ไม่เอาเวทเรียก ให้ตายก็ไม่ไปหรอก

ในที่สุดราชาของบ่าวก็จะได้มีบทเสียที ชักไม่แน่ใจว่านี่พระเอกหรือตัวประกอบนะเจ้าคะ


กวินีเวียร์คงจะมีหัวใจที่ร้าวรานและเจ็บปวดมาก ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ เข้าใจความรู้สึกของกวีนีเวียร์นะได้มาแค่ความรักแต่ไม่ได้หัวใจเพราะถ้าเป็นเราถ้าไม่ได้ทั้งหมดก็็ไม่เอาหรอก จะทั้งความรักหรือหัวใจก็ตาม


น้องฮีมเดียร์คนดื้อกลับไปให้ราชาตีก้นซะดีดี กลับไปคราวนี้ก็จับขังไว้เลยนะเจ้าคุเดี๋ยวบ่าวจะอาสาติดกล้อง เอ้ยยยยเฝ้าหน้าห้องให้เอง


ปล.ที่ทำได้ตอนนี้คือฟินไปเป็นตอนๆเท่านั้นเองยังมองไม่เห็นทางที่เขาเหล่านี้จะมีเส้นทางความรักที่จะบรรจบกันได้เลย หวังว่านี่จะเป็นนิยายรักไม่ใช่นาฏกรรมอำลาฉบับบหนึ่งเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเราเองคงจะเศร้ามาก

คนเขียนสู้ๆ
ซิกฟรีดมายาว มาเต็มค่ะ ;) เชิญล่องเรือค่ะ /ช่วยติดกล้อง
ไม่อยากเม้นต์เรื่องเกวนๆ เลยค่ะ มันเศร้าอะ ;w; ฮือๆๆๆ ยิ่งด้วยนิสัยแล้ว เธอไม่ได้ลุกขึ้นไปสู้คนได้เหมือนโคลด์ ;w;
คือก็ไม่ใช่จะยอมโดนรังแก แต่เกวนอ่อนโยนกว่าโคลด์น่ะค่ะ และเพราะเกวนอ่อนโยน โคลด์ถึงอ่อนตาม
ถ้าเกวนไม่อ่อน โคลด์จะแข็งกว่านี้อีกน่ะค่ะ /คงฆ่ากันตายกับซิกฟรีดไปนานแล้ว =.= ไม่งั้นก็ปล่อยตายไปตั้งแต่บทแรก
ถ้าถามเราว่าเรื่องนี้จะเป็นยังไงต่อไป เราขอตอบว่า เราก็ไม่ชอบนิยายจบเศร้าค่ะ
แต่อุปสรรคมันเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ

:laugh: :hao5:
ในที่สุดดดดด นังซิกกำลังจะมาแล้ววววว ตื่นเต้นกับการคัมแบ็คมาก ค่าตัวนางแพงจริงอะไรจริง
ชอบรากาลจัง ทำไมปู้จายเรื่องนี้งานดีกันจัง มีคาแร็คเตอร์ โอยยยยยย

วันนี้เป็นวันดีจริงๆ เพราะ คนเขียนอัพ 2 ตอน แล้วก็ซิกฟรีดจะได้ตัวโคลด์แล้ว

กรีดร้องงงงงงง
บอกเลยว่า ราชาจะคัมแบ็คมาอย่างสมศักดิ์ศรีค่ะ -3-
จริงๆ ยังมีผู้ชายดีๆ อีกหลายคน บทยังไม่ออกมาค่ะ
ถึงจะมี NL ด้วย แต่ชาย-ชายมากกว่านะคะ ภาคนี้

:katai1: :katai1:
โอ๋ อย่าเพิ่งโกรธโนะ

นอกจากค่าตัวแพง ยังตายยากอีกนะซิก :laugh:

โถ่เกวนเกวน ใจแข็งและเหี้ยมไว้นะลูก อย่ายอมแพ้อิตามังกรนั่นนะ

ทำไมตัวละครฝ่ายรุกเรื่องนี้ชอบทำใหฝ่ายรับเสียใจ เป็นสายซึนกันหมดเหรอคะคุณตัวละครชาย เดี๋ยวคนเขียนลดค่าตัวไม่รู้ด้วยนะ  :z2:
ผู้ชาย SM มันเยอะค่ะ /ซับน้ำตา
ตอนนี้เกวนๆ ต้องอดทนไปก่อน เราคิดว่าเอเลียตคงบังคับเกวนเหมือนที่ซิกฟรีดบังคับโคลด์
แต่มีวิธีบังคับต่างกันน่ะค่ะ และต่อให้เกวนควบคุมสัตว์เก่งยังไง ก็สู้ราชามังกรไม่ได้หรอก
ป.ล. 1เรากลัวใจเอเลียตมากกว่าซิกฟรีดนะคะ เพราะซิกฟรีดเด็กกว่าโคลด์ อ่านง่ายกว่าเอเลียต
ป.ล. 2 ที่กลัวเพราะ เวลาเขียน นักเขียนชอบเซอร์ไพรส์กันเองค่ะ ไม่ได้มีการตกลงว่าตัวละครจะต้องทำแบบนั้นแบบนี้ในทุกฉาก
เราตกลงกันแค่ฉากหลักๆ แต่รัก ไม่รัก อะไรยังไงนี่ เขียนเองยังลุ้นเองค่ะ =_=

นึกว่าวันนี้จะลงตอนเดียว มีกิจกรรมได้อ่านเพิ่มอีกตอน! ขอบคุณมากค่ะ >< เอ้อ เรื่องดราฟที่ว่านี่คือเนื้อเรื่องก่อนที่จะมาเป็นอันนี้ใช่ไหมคะ แบบอันที่แต่งไว้อันแรกไรงี้มั้ยคะ ?
ยินดีค่ะ ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ
เรื่องดราฟ อธิบายเพิ่มเติม มันจะเหมือน Delete Scenes น่ะค่ะ อาจเขียนก่อน เขียนหลัง เขียนระหว่างนั้น
แต่นักเขียนตกลงใจว่า 'ตัดออกดีกว่า' แต่บางดราฟมันก็สนุกดีนะ จะทิ้งให้ไม่มีคนอ่านก็เสียดาย
เหมือนได้อ่านโลกคู่ขนานน่ะค่ะ ว่าถ้าตัวละครไม่เลือกทางนี้แต่เลือกอีกทางเรื่องจะเป็นยังไง
ถ้าสนใจซิบมาทางเพจได้จ้ะ

ฉันยังคงยืนยันว่า ไอ้เฒ่ามังกรหัวไฮดรา!

เกวนไปทำอะไรให้ใจแกแตกสลายไม่ทราบ? จองจำกันขนาดนี้ เกลียด!

เกวน อย่าไปเสียใจให้ไอ้มังกืออีก อย่าไว้ใจไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์นะ เจ็บแล้วต้องจำค่ะน้อง

ฮีมเดียร์ที่รัก รีบกลับไปซบอกซิกฟรีด แล้วออดอ้อนเอากองทัพเอลฟ์มาถล่มวังมังกรเลย (แหม่...ทำเอานึกถึงละครจีนชื่อ ชอลิ้ว
เฮียงถล่มถ้ำค้างคาว 555555)

เว้นรากาลเกล็ดอ่อนไว้ตัวก็ได้ ส่งมาทางนี้พี่จะลงทัณฑ์รักเอง #ผิด
55555 ใหญ่กว่ามังกรหัวงูก็มังกรหัวไฮดร้าสินะคะ
เรื่องในอดีตคงต้องรอจังหวะเรื่องวนกลับมาอีกครั้งค่ะ ความจริงจึงจะกระจ่าง
แต่ตอนนี้วนไปส่องโคลด์ก่อนดีกว่า -3- #จำเลยรัก
รากาลขดตัวกลมๆ กลิ้งไปมา "ข้ามีวังแล้วๆ วังข้ามีเกวนๆ เย้ๆ"
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4-5) 2 ตอน [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 29-01-2017 18:17:47
มารอซิกฟรีดค่าาาาา เย้ๆๆๆๆ :katai5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4-5) 2 ตอน [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 29-01-2017 22:23:46
ซิกค่าตัวแพงจริงๆ  :try2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 9 : (4-5) 2 ตอน [29/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 30-01-2017 02:46:55
เยสสสสดีใจ คิดถึงคู่นี้จะแย่  :katai4:
ราชาโดนอิตามาลแกธแย่งซีนไปหลายตอน กลับมาทีนี้'ฟัด'ให้คุ้มไปเลยน้าาา /สุมไฟรัวๆ
(อยากเห็นราชินีคนเก่งโดนสามีเด็กรังแก!)
ขอบคุณสำหรับอิมเมจโคลด์เจ้าค่ะ โคลด์ของบ่าวเซ็กซี่ไปไหนนนน ดูแววตานั่นสิ..!  :impress2:

เกวนๆคงจะเป็นรักแท้ของอิเลียตเนอะ
รากาลร่างมนุษย์จะอ้วนเหมือนร่างมังกรมั้ยนะ ฮา
ป.ล. แล้วจะเข้าไปอ่านดราฟนะเจ้าคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (1) [30/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 30-01-2017 13:20:53
บทที่ 10 : ราชันพันธนาการ (1)

ซิกฟรีดฟังสรุปรายงานความวุ่นวายที่ผ่านมาอยู่ในเอวา เธมาร์

มาลแกธไม่สามารถจับนักโทษอุกฉกรรจ์ได้

ทหารสังกัดหน่วยกาลาฮานเสียชีวิตสองนายระหว่างปฏิบัติหน้าที่

เวทผนึกอันเดดที่อดีตวิหารบูชามารดานภาเกิดรอยแตก

อันเดดบางส่วนหลุดออกมาอาละวาด ทำร้ายพ่อค้าและนักเดินทาง

เกิดความโกลาหลย่อมๆ บริเวณเขตแดนระหว่างแดนทมิฬกับรูเมเรียร์

ซึ่งทั้งหมดควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แม้จะยังไม่เข้าที่เข้าทาง

ปัญหาเดิมยังไม่ทันซา ปัญหาใหม่ก็ส่อเค้าว่าจะลุกลาม เนื่องเพราะเกิดข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่า เหตุวิปริตเช่นนี้เป็นลางร้าย บ่งบอกว่าศัตรูคู่อาฆาตของเผ่าเอลฟ์ ชายผู้ร้ายกาจที่สุดในช่วงสงครามสองร้อยปี—จอมทัพทมิฬจะกลับมา เสริมให้เกิดความตระหนกตกตื่นในหมู่ประชาชน

ราชาเอลฟ์ลุกขึ้นจากบัลลังก์ ตอนที่ขุนนางถวายรายงานเกี่ยวกับข้อสงสัยว่า ‘หัวหน้าหน่วยกาลาฮานไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่เต็มกำลัง มีเจตนาปล่อยให้นักโทษอุกฉกรรจ์หลบหนี’

“พัก” ซิกฟรีดเอ่ยเพียงคำเดียว น้ำเสียงเรียบ เฉียบขาด ขุนนางอ้าปากคล้ายจะค้าน แต่แล้วก็ทำความเคารพก่อนถอยออกไปจากโถงว่าราชการ

ราชาหนุ่มหลับตา เอียงศีรษะน้อยๆ ระหว่างฟังขุนนางสรุปรายงานทั้งหมด เขาได้ยินเสียงสถบด่าสาปแช่งของโคลด์ สตาร์ ผ่านเวทพันธะที่ตนเป็นคนร่าย มันเชื่อมโยงเขากับอีกฝ่ายเข้าด้วยกัน ผูกกันไว้จนกว่าจะทำตามสัญญาที่เคยรับปาก

มุมปากด้านซ้ายของซิกฟรีดกระตุกเมื่อโคลด์ด่าไปถึงบรรพบุรุษเอลฟ์

‘รีบมา...ดาร์กเอลฟ์’ ซิกฟรีดกระซิบ แต่มันจะดังลั่นในหัวของโคลด์

‘ตามเสียงเรียกของข้ามา’

ซิกฟรีดสัมผัสได้จากตราเวทพันธะว่าโคลด์กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้

ดาร์กเอลฟ์...ดาร์กเอลฟ์ ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นใคร

ราชาหนุ่มนึกถึงเบาะแสที่ได้จากกอห์นดีเอน เบาะแสสำคัญจากในสุสานวิหารร้าง

หลายสิ่งหลายอย่างบีบให้เขาตัดสินใจเรียกใช้เวทพันธะ

—————————————————————————————————

หลังจากเงาสังหารสืบหา ‘หัวใจ’ หรือ ‘สิ่งสำคัญ’ ของดาร์กเอลฟ์นามโคลด์ สตาร์ จนพบเซ็นทอร์ซึ่งอุทิศตนทำงานเพื่อเผ่าพันธุ์ทาส เขาก็เดินหน้าสืบต่อ คิงซิกฟรีดส่งเบาะแสที่เค้นได้จากเซ็นทอร์ตนนั้นผ่านอุปกรณ์เวท

“เกวนโดลิน...หรือกวินีเวียร์ จงสืบหาดาร์กเอลฟ์สตรีที่ใช้นามนี้ นางหายตัวไปช่วงสงครามทมิฬครั้งที่ 2 น่าจะเกี่ยวข้องกับมังกรซึ่งมีเกล็ดเหมือนเกราะเหล็กดำและมีลมหายใจเป็นไฟบรรลัยกัลป์”

เผ่าพันธุ์มังกรคือบุตรและธิดาอันเกิดแก่บิดาธรณีกับมารดานที เป็นน้องชายของโลก กอห์นดีเอนศึกษาประวัติศาสตร์ลึกซึ้ง ทราบว่าควรสืบจากที่ไหน

ไม่พ้นเสียงใต้แผ่นดิน

กอห์นดีเอนเป็นควาร์ที่เชี่ยวชาญการฟังเสียงกระซิบของหิน ดิน และทรายเป็นพิเศษ เขาสามารถพูดคุยสื่อสาร ทั้งยังเรียกให้เป็นข้าช่วงใช้ได้ จากชายแดนที่เขาพบเซ็นทอร์ เขาสืบต่อตามตะเข็บชายแดน สอบถามวิญญาณซึ่งหลับใหลอยู่ใต้ดินไปเรื่อยๆ

ไม่มีผู้ใดรู้จักเกวนโดลินหรือกวินีเวียร์

ทว่ากอห์นดีเอนได้เบาะแสเรื่องเส้นทางมังกรเส้นสำคัญ ซึ่งถูกทิ้งร้างอยู่ใต้อดีตวิหารบูชามารดานภา

เงาสังหารทราบดีว่าที่นั่นมีอันเดด พวกกองทัพไม่มีวันตาย ศพเดินได้ที่ถูกบิดาแห่งธรณีสาป แต่เขาไม่กลัวพวกมัน กอห์นดีเอนปฏิญาณตนว่าจะภักดีแก่ ‘เจ้านาย’ ไม่ว่าจะถูกใช้ให้ทำอะไร หรือแม้แต่ได้รับคำสั่งให้ปลิดชีพตัวเอง—เขาก็ยินดี

ที่สุสานวิหารร้าง กอห์นดีเอนสอบถาม (รวมไปถึงข่มขู่) วิญญาณที่ยังสถิต ณ ที่แห่งนั้นถึงนาม ‘กวินีเวียร์’ และมังกรปริศนา

ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนทราบ

“วิญญาณบาปเล่าว่าเส้นทางมังกรตรงไปถึงราชวังมังกรได้” กอห์นดีเอนสื่อสารกับซิกฟรีดผ่านลำธาร ซึ่งถูกเปลี่ยนให้เป็นกระจกเวท เขายังเดินทางไม่ถึงเอวา เธมาร์ “และมันยังว่าอีกว่า...มันเคยได้ยินชื่อดาร์กเอลฟ์ ‘กวินีเวียร์’ มาก่อน”

วิญญาณตนนั้นเป็นลูกครึ่งยักษ์กับดาร์กเอลฟ์ เคยร่วมรบในสงครามทมิฬครั้งที่ 2 แต่หนีทัพ จึงถูกลงโทษ ร่างใกล้สิ้นลมหายใจถูกนำมาปล่อยให้ตายอย่างช้าๆ ในสุสานวิหารร้างซึ่งอวลไปด้วยคำสาป

มันโกรธแค้นมากทีเดียว

“ว่าต่อไป” ซิกฟรีดอยู่ที่วิหารของคาลิเธียล—พี่หญิงสาม ในเขตราชวัง ที่เดียวกับที่กอห์นดีเอนเคยนำทางโคลด์มาหาซิกฟรีดเพื่อขอส่าเหล้า

ราชาหนุ่มยืนอยู่ข้างสระวงกลมกลางวิหาร ผิวน้ำเรียบนิ่งฉายภาพเอลฟ์ผมสีขาวเหมือนแสงจันทร์ซีด—กอห์นดีเอน

เงาสังหารเล่าถึงเรื่องที่ตนเค้นมาจากวิญญาณบาป ได้ความว่า ‘กวินีเวียร์’ มีน้องชายชื่อ ‘ฮีมเดียร์’ ทั้งคู่เป็นบุตรบุญธรรมของบุรุษผู้กระหายสงครามที่สุด ผู้ซึ่งก่อสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ถึงสองครั้งสองครา

จอมทัพทมิฬ

“มันอ้างว่าตนมีชีวิตอยู่ในช่วงที่จอมทัพทมิฬชุบเลี้ยงพี่น้องคู่นี้ และดูเหมือนว่าน้องชายจะได้รับการเอ็นดูเป็นพิเศษ อาจเพราะมีความสามารถด้านการสร้างกองทัพกระดูกไร้พ่าย” กอห์นดีเอนรายงาน “ข้าได้ยินเสียงเหล่ากระดูกใต้ดินแซ่ซ้อง ‘ราชาคนตาย เจ้าชายกระดูก’ ”

คำทำนายจากบิดานภาเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น

“เจ้าให้รางวัลวิญญาณตนนั้นด้วยอะไรหรือ”

“อิสระจากผนึกควาร์ที่คุมขังวิญญาณของมันพ่ะย่ะค่ะ”

“อืม”

ซิกฟรีดครุ่นคิด เขาไม่ถึงขั้นปักใจเชื่อคำบอกเล่าลอยลมของวิญญาณ ซึ่งสามารถโกหกอะไรก็ได้เพื่อให้ตนได้รับการปลดปล่อย

“สืบต่อไป กอห์นดีเอน จนกว่าจะหาพยานหรือหลักฐานอื่นที่เพิ่มน้ำหนักให้เบาะแสนี้”

เงาสังหารน้อมศีรษะรับ

“ยังไม่ต้องสืบทันที เจ้าเพิ่งรอดจากวงกตคำสาป พักสักหน่อยเถิด” ซิกฟรีดเอ่ย ก่อนโบกมือตัดเวทสื่อสาร

กอห์นดีเอนทำงานได้ดี...

เงาสังหารผู้นี้ยอมเสี่ยงอันตราย เกือบหลงทางตลอดกาลใต้อดีตวิหารบูชามารดานภา ซิกฟรีดเชื่อใจกอห์นดีเอนมากที่สุด ถึงขั้นส่งทรายซึ่งลงเวทป้องกันด้วยตนเองไปช่วยเหลือ ทรายตามหาข้ารับใช้ผู้จงรักจนพบ ชะล้างคำสาป แล้วนำทางออกมาจากเขาวงกตน่าสะพรึง

ผิวน้ำในสระใสราวกับกระจกแก้ว สะท้อนใบหน้าของราชาหนุ่ม ซีกขวาหล่อเหลาเย็นชา ซีกซ้ายถูกปิดบังโฉมด้วยหน้ากากเงินไร้อารมณ์

ใครจะทราบว่าภายในของซิกฟรีดปั่นป่วน

‘ฆ่ามันสิ...อาเลธ’

คำสาปของคิงริวอร์นอร์กระซิบ

‘ฆ่ามัน ก่อนที่มันจะฆ่าเจ้า’

ในคำทำนาย...บิดาแห่งนภาตรัสว่าดาร์กเอลฟ์จะนำหายนะมาสู่เขา

หายนะที่ว่านี้อาจหมายความถึง ‘ชีวิต’

ซิกฟรีดไม่แน่ใจ เพราะไม่แน่ใจเลยเก็บโคลด์ไว้ข้างๆ ไม่ยอมให้คลาดสายตา

เขาไม่เคยคิดจะฆ่าดาร์กเอลฟ์

‘เคยสิ’

“ไม่ ข้าไม่เคยคิด เงียบเถอะพี่ ข้าไม่เหมือนท่าน” ซิกฟรีดพูดกับเงาในน้ำ รอยยิ้มเหยียดกว้าง ริมฝีปากซ้ายบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียดภายใต้หน้ากากเงิน

เกิดเสียงหัวเราะดังก้องยาวนาน มีเพียงซิกฟรีดเท่านั้นที่ได้ยิน เขาหัวเราะตาม และพบว่าเสียงหัวเราะที่ประสานกันนั้น คล้ายเสียงหัวเราะของตัวเขาเองแต่เพียงผู้เดียว

‘เหมือนสิ เจ้าเหมือนข้ามากกว่าที่คิด อาเลธ...เจ้าเป็นอย่างเฟรธูรินไม่ได้หรอก เจ้าเกลียดดาร์กเอลฟ์ ดูมันทำกับแผ่นดินรูเมเรียร์สิ มันแย่งที่อยู่อาศัย แย่งงาน ก่ออาชญากรรม มีเพียงผู้ที่ตาบอดเท่านั้นที่มองไม่เห็นความจริงเหล่านี้ เจ้าอยากเป็นเอลฟ์ตาบอดหรือ อาเลธ เหมือนเฟรธูรินหรืออย่างไร’

ซิกฟรีดไม่ได้โต้เถียง เพียงแต่กดหน้ากากแล้วร่ายเวทสะกดชั่วคราว ผิวเนื้อแสบร้อนอย่างร้ายกาจ ราชาหนุ่มหรี่ตาลง กัดฟันแน่นให้กับความเจ็บปวด คำสาปต่อต้าน และเขาอ่อนแรงลงทุกที

เสียงกระซิบสามานย์เงียบไป

แต่ก็เพียงชั่วคราวเท่านั้น...

“ข้าไม่ใช่พี่ ไม่เหมือน ไม่มีวันเป็น” ซิกฟรีดพูดหนักแน่น คล้ายย้ำให้ตัวเองฟัง

“ข้าไม่ใช่ปีศาจเหมือนพี่ ริวอร์นอร์”


———————————————————————————————

ข้าไม่ใช่ปีศาจ…

ซิกฟรีดออกจากราชวังอย่างเงียบเชียบ ราชาเอลฟ์หายไปในยามราตรีกาล มีเพียงเทพีจันทร์เท่านั้นที่ทราบว่าซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์มุ่งไปทางใด

 

โคลด์เดินทางมาถึงเอวา เธมาร์ในเวลาดึกสงัด เขาทรมานกับเสียงเรียกอยู่หลายวันจนแทบเป็นบ้าไปจริงๆ มันพาเขามารอบนอกกำแพง ไปทางบ้านเรือนที่ปิดประตูเงียบ เจ้าบ้านคงหลับสนิทและเป็นสุขอยู่บนเตียงอันอบอุ่น ส่วนเขาเดินโซซัดโซเซเหมือนสุนัขข้างถนน

เสียงดึงเขาออกไปไกลจากชุมชนขึ้นเรื่อยๆ บ้านเรือนค่อยๆ บางตา เขารู้สึกคุ้นตาอย่างประหลาด คลับคล้ายว่าเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง จนกระทั่งเจอบ่อน้ำร้างกลางจัตุรัส ซึ่งตรงกว้านไม้ได้รับการสลักเสลาอย่างบรรจง เป็นรูปเถาวัลย์งามตา เขาก็นึกได้ว่าที่แห่งนี้เป็นที่ที่มาลแกธเคยพามาพบเงาสังหาร

ไม่...ไม่ใช่ บ่อน้ำแห่งแรกอยู่ทิศตะวันตก ส่วนบ่อน้ำนี้อยู่ทิศตะวันออก

“บ่อน้ำสี่ทิศ” ชายคนหนึ่งยืนอยู่ใต้เงาไม้ ตรงแนวป่าที่มีแต่ต้นบลีด* แสงจันทร์ขับให้เปลือกสีเงินและใบสีแดงของมันงามจับตา บรรยากาศราวกับภาพฝันอันไม่มีอยู่จริงในโลก

แต่โคลด์ปวดหัวฉิบหายจนไม่ซาบซึ้งกับบรรยากาศ

“ควาร์อาเลธีสร้างไว้ปกปักรักษาเอวา เธมาร์ เชื่อกันว่าน้ำจากบ่อศักดิ์สิทธิ์ จะตักขึ้นมาใช้เฉพาะในพิธีสำคัญต่างๆ”


“ช่างหัวควาร์!” โคลด์ไม่แน่ใจว่าเขาตะคอกดังแค่ไหน เพราะเสียงเรียกทำหูเขาแทบดับ “ข้ามาแล้ว ซิกฟรีด!”


—————————————————————————

*ต้นบลีด (Bleed) ต้นไม้เฉพาะในเรื่อง Elven Almanac

A/N ช่วงนี้ประสาทเครียดเขม็งกับงานจนอาการปวดหัวกลับมาอีกรอบค่ะ /รับกับเนื้อเรื่องตอนนี้พอดี #ปวดหัวไปกับโคลด์
ป.ล. คอมเมนต์ต่างๆ จะตอบช้าหน่อย แต่อ่านทุกอันจ๊ะ ขอบคุณนะคะ ;w;

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

อิมเมจซิกฟรีดค่ะ
(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/1316078620-member.jpg)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (1) [30/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 30-01-2017 13:43:27
แต่ละคนต่างก็มีทุกข์กัดกินใจ

เห็นใจทุกคนเลย

ซิกฟรีดมุ่งหวังสิ่งใดอยู่กันแน่

ปล. เห็นภาพซิกแล้วอยากจิถลาไปซบกล้ามแน่น ๆ โอย.....น้ำลายหก

ปล. 2 ขอให้หายปวดหัวไว ๆ นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (1) [30/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 30-01-2017 14:43:15
อ้าว ไอ้เราก็ไปติดกล้องไว้ในวัง แต่เขาดันนัดกันออกมาแซ่บข้างนอก บ้าจริง!!!! //แบกกล้องตาม


เห็นอิมเมจราชาแล้วนึกถึงธรันดูอิลแห่งเดอะ ฮอบบิทเลยอ่ะ กร๊าวใจชาวเรือมากค่ะ


ปล.คนเขียนสู้ๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (1) [30/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 30-01-2017 15:53:58
 o13 o13
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (1) [30/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: someone0243 ที่ 30-01-2017 17:36:55
ตามอ่านถึงตอนล่าสุดแล้ว เย่  :katai2-1: ตอนแรกเห็นในเพจว่ามีคู่นม.ด้วยว่าจะไม่อ่านละค่ะ ไปๆมาๆอ่านรวดเดียวยาวๆ 555555 สนุกมากค่ะ วายแฟนตาซีที่แบบกำลังดี ไม่เวิ่นเว้อ หาแบบที่มีแนวโน้มจะเขียนต่อจนจบยากมากเลยค่ะ แง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (1) [30/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 30-01-2017 17:47:10
รู้สึกกร๊่าวใจที่สุดก็ชื่อจริงโคลด์นี่แหละ ฮีมเดียร์ แอร๊ย
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (1) [30/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 30-01-2017 20:24:16
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (1) [30/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 30-01-2017 23:04:20
มารอซิกฟรีดค่าาาาา เย้ๆๆๆๆ :katai5:
มาละน้า อ่านยาวๆ เลยค่ะ ;)

ซิกค่าตัวแพงจริงๆ  :try2:
ฮีมารับค่าตัวไปแล้วค่ะ รับปุ๊บจัดเต็ม SM ปั๊บ

เยสสสสดีใจ คิดถึงคู่นี้จะแย่  :katai4:
ราชาโดนอิตามาลแกธแย่งซีนไปหลายตอน กลับมาทีนี้'ฟัด'ให้คุ้มไปเลยน้าาา /สุมไฟรัวๆ
(อยากเห็นราชินีคนเก่งโดนสามีเด็กรังแก!)
ขอบคุณสำหรับอิมเมจโคลด์เจ้าค่ะ โคลด์ของบ่าวเซ็กซี่ไปไหนนนน ดูแววตานั่นสิ..!  :impress2:

เกวนๆคงจะเป็นรักแท้ของอิเลียตเนอะ
รากาลร่างมนุษย์จะอ้วนเหมือนร่างมังกรมั้ยนะ ฮา
ป.ล. แล้วจะเข้าไปอ่านดราฟนะเจ้าคะ  :กอด1:
โอ้ สมาชิกเรือราชา ให้ฟัดเลยเหรอคะ /ฟัดๆๆๆๆๆ  :hao6:
ตอนที่จะลงต่อนี่ก็อ่วมอยู่นะคะ อิมเมจโคลด์เราก็ชอบมากค่ะ น่ารักน่ารังแกโนะ *0*
เกวนกับเอเลียตยังมีบท แต่เป็นในอนาคตค่ะ ตอนนี้แพนกล้องกลับมาก่อนเนอะ
ป.ล. อ่านดราฟแล้วพูดคุยกับนักเขียนได้นะคะ ;)

แต่ละคนต่างก็มีทุกข์กัดกินใจ

เห็นใจทุกคนเลย

ซิกฟรีดมุ่งหวังสิ่งใดอยู่กันแน่

ปล. เห็นภาพซิกแล้วอยากจิถลาไปซบกล้ามแน่น ๆ โอย.....น้ำลายหก

ปล. 2 ขอให้หายปวดหัวไว ๆ นะจ๊ะ
ความทุกข์กับชีวิตมนุษย์เป็นของคู่กันค่ะ /เหมือนเราในตอนนี้ อา ปวดหัวจังเลย ปวดหัวจัง
/สูบกินคอมเมนต์เป็นอาหารใจ /ตัวจริงกินไทลินอล /ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ ;w;
ป.ล. เห็นกล้ามราชา ทางนี้ก็อยากผลักโคลด์เข้าไปละเกิน แงๆๆๆๆ ไป้ โคลด์ ไปให้เขากดซะ /อ้าว...

อ้าว ไอ้เราก็ไปติดกล้องไว้ในวัง แต่เขาดันนัดกันออกมาแซ่บข้างนอก บ้าจริง!!!! //แบกกล้องตาม


เห็นอิมเมจราชาแล้วนึกถึงธรันดูอิลแห่งเดอะ ฮอบบิทเลยอ่ะ กร๊าวใจชาวเรือมากค่ะ


ปล.คนเขียนสู้ๆ
ย้ายทำเลค่ะๆ เขาไป outdoor เราต้องตามไป--
/ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ

o13 o13
:mew1: :mew1:

ตามอ่านถึงตอนล่าสุดแล้ว เย่  :katai2-1: ตอนแรกเห็นในเพจว่ามีคู่นม.ด้วยว่าจะไม่อ่านละค่ะ ไปๆมาๆอ่านรวดเดียวยาวๆ 555555 สนุกมากค่ะ วายแฟนตาซีที่แบบกำลังดี ไม่เวิ่นเว้อ หาแบบที่มีแนวโน้มจะเขียนต่อจนจบยากมากเลยค่ะ แง
ดีใจที่คุณตัดสินใจอ่านต่อนะคะ ;) ขอบคุณมากๆ ค่ะ
ภาคนี้เขียนจบนะคะ ลงจนจบจ้ะ

รู้สึกกร๊่าวใจที่สุดก็ชื่อจริงโคลด์นี่แหละ ฮีมเดียร์ แอร๊ย
ชื่อเพราะเนอะๆ ไม่ใช่อีเย็นๆ =.= ณ ปัจจุบัน /ฮือๆ

:pig4:
:katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (2) [31/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 30-01-2017 23:57:25
บทที่ 10 : ราชันพันธนาการ (2)

โคลด์หายใจถี่ แรงบีบหัวใจคลายลงจนเจ็บน้อยกว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมา เพราะเขาได้พบผู้เรียกหาตามสัญญาแล้ว

สภาพดาร์กเอลฟ์โทรมสุดขีด เขาอดอาหารอยู่ในทางใต้ดินหลายวัน พอออกมาได้ก็เจอเวทบังคับให้เดินทางมาหาซิกฟรีด คงเหลือเพียงดวงตาสีม่วงวาววามอย่างสัตว์จนตรอก...ที่บอกว่าไม่ยอมแพ้

“มันช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้”

ซิกฟรีดเอ่ยภาษาเก่าแก่ พรายน้ำรูปลักษณ์เหมือนแมลงปอบินขึ้นมาจากบ่อลึก มันจุมพิตริมฝีปากของดาร์กเอลฟ์ก่อนกลับเป็นหยดน้ำ โคลด์รู้สึกถึงรสฉ่ำหวาน ความเจ็บปวดลดลง ความเหนื่อยล้าคลายออก

โคลด์ทรุดตัวลงกะทันหัน “ทำให้เสียงนี่หยุดที!”

ราชาหนุ่มยกมือขึ้น ก่อนจะกำแล้วทำท่าคล้ายกระตุกสายจูงสุนัข โคลด์ผวาเข้ามาใกล้ทันที

ใกล้ แต่ยังอยู่ในระยะที่ไม่สามารถกระโจนเข้าไปชกหน้ายโสของเอลฟ์ได้ โดยเฉพาะยามที่โคลด์อ่อนแรงเช่นนี้

ซิกฟรีดย่อตัวลง โคลด์ได้เห็นใบหน้าด้านซ้ายที่น่าเกลียดน่ากลัวใต้แสงจันทร์ ซิกฟรีดไม่ใส่หน้ากาก เขาตั้งใจเปิดเผยความอัปลักษณ์ให้อีกฝ่ายชม ระหว่างที่โคลด์ไม่อยู่ ดูเหมือนมันจะลามไปมากทีเดียว รอยแผลเป็นกินบริเวณจากใบหูซ้ายจนถึงปีกจมูกซ้าย แทบจะครึ่งหน้า เส้นเลือดสีดำเต้นตุบๆ อยู่ใต้ผิวหนังซีดบาง ซิกฟรีดคล้ายซากศพมากกว่าราชาเอลฟ์

“เจ้าทำข้าไว้มากทีเดียว” มือใหญ่วางบนศีรษะโคลด์ ลูบราวกับปลอบสัตว์ ก่อนค่อยๆ ขยุ้มผมให้เงยหน้าขึ้นสบตากัน

เสียงในหัวของโคลด์ดังขึ้นจนน้ำตาไหล จากนั้นก็หยุดฉับ

ซิกฟรีดคลายเวทพันธะออก ตรารูปกริชหายไป หัวใจของโคลด์เสียววูบเหมือนตกจากที่สูง แม้จะไม่มีเสียงปวดกะโหลกแล้ว แต่โคลด์ยังได้ยินเสียงหลอนอยู่ ทำให้อยากอาเจียนเพราะเมาคลื่นเสียงที่ดังติดต่อกันหลายวันหลายคืน

“เจ้าก็ทำข้าแสบ ข้ามาแล้ว จะเอาอะไรก็ว่ามา...” ดาร์กเอลฟ์แข็งใส่ แบบที่เขาทำกับมาลแกธ “เรียกข้ามาเพราะมีของที่อยากได้ใช่ไหม สั่งมา!”

“ตัวเจ้า”

ซิกฟรีดตอบกลับในทันที คำพูดหนักแน่น เหมือนว่าไตร่ตรองมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนเห็นสมควรดีแล้ว ดวงตาสีส้มเงินด้านขวาแทบหลอมดาร์กเอลฟ์เข้าไป แทบจะขังเอาไว้ข้างในนั้นตลอดกาลหากทำได้

“สิ่งที่ข้าต้องการ คือตัวเจ้า”

โคลด์หัวเราะอย่างไม่อยากเชื่อ “หาคู่นอนไม่ได้หรือ แค่นี้ต้องใช้เวทเรียกมา”

“คู่นอน?” ซิกฟรีดเหยียดยิ้ม เสียงหัวเราะแตกพร่าลอดจากลำคอซึ่งมีบาดแผลฉกรรจ์พาดอยู่ “ไม่ ข้าต้องการเจ้ามากกว่านั้น” ริมฝีปากด้านซ้ายบิดเบี้ยว

“เจ้าได้แค่นั้น” สิ่งที่โคลด์สงสัยอาจได้รับการเฉลยในวันนี้ ซิกฟรีดรู้ว่าเขาทำอะไรได้ และคิดใช้ประโยชน์จากพลังควบคุมคนตายของเขา

“เกวนโดลิน” ซิกฟรีดไล่มือมาที่ปลายคางของโคลด์ ไม่กลัวว่าจะโดนกัดมือ

“ทำไม” ดาร์กเอลฟ์ยกยิ้มอย่างชั่วร้ายไม่แพ้อีกฝ่าย

“ข้าจะช่วยให้เจ้าสมรัก แต่เจ้าต้องอยู่กับข้า” ราชาไล่สายตามองใบหน้าโคลด์ ตั้งแต่หน้าผากจนริมฝีปาก รูปลักษณ์ภายนอกของดาร์กเอลฟ์เปลี่ยนไปเล็กน้อย แค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ภายในเปลี่ยนไปมหาศาล

สายตาพินิจพิเคราะห์หยุดอยู่ที่ดวงตาสีม่วง

ซิกฟรีดเห็นเงาสะท้อนของตัวเอง

เขาก็เปลี่ยนไปมากทีเดียว

“เพ้อเจ้ออะไรอยู่ เจ้าเรียกใช้ตราทาส เจ้าบังคับข้าไม่ได้แล้ว”

โคลด์รู้สึกโง่นิดๆ ที่ลืมคิดให้รอบคอบกว่านี้ ซิกฟรีดเรียกใช้ตราทาสได้ ถ้ามันถูกเรียกใช้ก่อนหน้าเขาจะไปสุสานวิหารร้าง เขาย่อมยอมมา

โคลด์ให้เวลาซิกฟรีดตัดสินใจเรื่องหัวใจมังกรศิลาตั้งเจ็ดวันเพราะต้องการกดดันอีกฝ่ายให้กังวล สับสน เพิ่มโอกาสการเรียกใช้ตราทาส

แต่ซิกฟรีดไม่ยอมใช้จนเขาตัดสินใจกลับแดนทมิฬ แล้วมาเรียกใช้เอาตอนนี้...ถือว่าเลวร้ายสุดขีด

เข็มทิศคนตายซึ่งมีปฏิกิริยาต่อพรสวรรค์ของเขาคงบอกจอมทัพทมิฬแล้วว่าเขายังมีชีวิตอยู่

ตลกร้ายอะไรอย่างนี้!

“เวทพันธะไม่ใช่ตราทาส เจ้ายินดีรับสัญญาไว้เอง เวทของควาร์ไม่ผูกใครไว้อย่างเวทฝั่งทมิฬหรอก...ดาร์กเอลฟ์”

ซิกฟรีดพูดความจริง ทว่าเป็นความจริงบางส่วน เวทของควาร์ไม่สามารถผูกใครไว้ได้ ‘โดยสมบูรณ์’ หากเจ้าตัวไม่ยินยอม อย่างแรก ตราประทับปริศนาบนคอที่โคลด์เรียกมันว่า ‘ตราทาสของควาร์’ ความจริงแล้วไม่ใช่ตราทาส ซ้ำยังร่ายไม่สมบูรณ์เนื่องจากโคลด์ไม่ได้เอ่ยรับ อย่างที่สองคือเวทพันธะบนอกซ้าย...

ซิกฟรีดไม่เคยให้ทางเลือกกับโคลด์...ไม่เคยเลย ในตอนนั้น ถ้าโคลด์ต้องการอิสระ ไปจากเขาเพื่อตามหา ‘คนรัก’ ก็ต้องรับปาก ตกลงยินยอมอย่างเสียไม่ได้

ใครกันเล่าที่ร้ายกว่า เอลฟ์...หรือดาร์กเอลฟ์

“ข้ารู้ว่าเจ้ามีแผนอะไร เจ้าคงคิดมาอย่างดีแล้วว่า ทั้งเกวนโดลินคนสำคัญและเจ้า ไม่มีทางหลีกเลี่ยงการเป็นศัตรูกับมังกรได้ แต่คิดจะเป็นศัตรูกับข้าด้วยอย่างนั้นหรือ...ฮีมเดียร์”

ซิกฟรีดเรียกชื่อจริงของโคลด์ ชัดถ้อยชัดคำ

“ไอ้เด็กเอลฟ์” โคลด์คำรามลอดไรฟัน

ความจริงแล้ว ซิกฟรีดรู้จักชื่อจริงของโคลด์ก่อนที่กอห์นดีเอนจะรายงานเสียอีก เมื่อนานมาแล้ว ตอนที่ได้ยินคำทำนายจากบิดาแห่งนภา พระองค์กระซิบชื่อผู้ที่มีส่วนในสงครามสามแผ่นดินหลายชื่อด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ ‘ฮีมเดียร์’

ทว่าความทรงจำถูกกาลเวลาชะจนเลือน ซิกฟรีดเพิ่งระลึกได้เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากกอห์นดีเอนพูดถึง ‘ราชาคนตาย เจ้าชายกระดูก’ มันวาบขึ้นมาเหมือนสายฟ้าฟาดนภาให้แยกออก

“เจ้าจะหนีไปที่ไหนพ้น” ราชาหนุ่มใช้ข้อนิ้วไล้แก้มโคลด์ช้าๆ เกือบจะนุ่มนวลเหมือนสัมผัสของคนรัก สายตาก็ไล้ไปตามกรอบหน้าคมของดาร์กเอลฟ์

“ข้าไม่อยู่กับเจ้า อยู่กับเจ้าข้าไม่ได้อะไรเลย”

ซิกฟรีดโน้มใบหน้ามาใกล้ แววตามีแรงดึงดูดมหาศาล “เจ้าอยากได้อะไรล่ะ ไม่ใช่เกวนโดลินหรอกหรือ”

“ข้าไม่อยู่กับเจ้า” โคลด์ย้ำ “เจ้าจะเอาข้าไว้ในฐานะอะไร ข้าจะอยู่ที่ไหน ที่พูดปาวๆ ว่าให้อยู่ด้วยนี่คิดเรื่องพวกนี้มาหรือยัง”

“ข้าต้องการให้เจ้าอยู่ข้างๆ” ข้อนิ้วเลื่อนไปที่ปลายใบหู ซิกฟรีดค่อยๆ แตะมันอย่างแผ่วเบา

โคลด์เบี่ยงหน้าออก ไม่ให้แตะส่วนที่สงวนไว้สำหรับคนรัก “อยู่ทำอะไร คอยซ่อมสายพิณเวลาขาดหรือไง หรือช่วยเลี้ยงลูกๆ ในอนาคตของเจ้า” ตรงนี้โคลด์หัวเราะ “เอริแอดเน่ เจ้าไม่สมรสแล้วตั้งนางเป็นราชินีซะที ต้องรอไว้ทุกข์ให้ริวอร์นอร์ครบกี่ปีหรือ!”

“เจ้ารู้ไหมว่าคืนพระจันทร์เต็มดวงจะเกิดอะไรขึ้น” ซิกฟรีดเอียงใบหน้าด้านซ้ายไปทางแสงจันทร์ เส้นเลือดสีดำเต้นริก คล้ายได้รับพรหล่อเลี้ยงจากเทพีจันทร์ “คำสาปจะแข็งแกร่งขึ้น เผ่าทมิฬน่าจะทราบดี”

“ข้าไม่สนใจ” โคลด์ตอบห้วนๆ “ข้าสนแต่ว่าเราแยกทางกันเมื่อสามปีก่อน ต่างฝ่ายต่างมีเรื่องต้องทำ เจ้าทำเรื่องของเจ้าสำเร็จแล้ว ข้ากำลังทำเรื่องของข้า ใช่ ข้าเอาคืนเจ้าเรื่องหัวใจมังกรศิลา แต่เจ้าคงไม่ต้องการคำขอโทษ เพราะข้าก็ไม่ขอโทษหรอ—”

ริมฝีปากช่างต่อว่าถูกครอบครองทั้งที่คำพูดยังพรั่งพรูออกมาไม่หมด

ซิกฟรีดโดนกัดปาก

ทว่าสัมผัสกลับร้อนแรงขึ้น โคลด์ถูกกัดกลับ ท้ายทอยก็ถูกดันจนแนบชิด

“ข้ารักคนอื่น” โคลด์พูดขณะพยายามเบือนหน้าหนี

“เจ้าคิดว่าข้าสนหรือ” ซิกฟรีดแสยะยิ้ม

“งั้นสนตำแหน่งที่แย่งพี่ชายคนรองมาหน่อยไหม ผู้หญิงที่แย่งเขามาด้วย”

“อา…” อาจได้ผล ซิกฟรีดชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนระเบิดเสียงหัวเราะที่ฟังดูวิกลจริต

“เราควรไปคนละทาง” โคลด์เอ่ยอย่างใจเย็นที่สุด แวบแรกเขาจะอ้างว่าตนรักมาลแกธเพื่อให้เรื่องมันวุ่นวายขึ้นไปอีก เผื่อราชาจะแตกกับแดนตะวันออก แต่แวบต่อมาเขาผลักทางเลือกนี้ออกไปก่อน

ใช่ว่าเขากลัวการยุแยงจะไร้ประโยชน์เพราะซิกฟรีดกับมาลแกธย่อมเห็นแผ่นดินเกิดสำคัญเป็นที่หนึ่ง

การยุแยง หากทำได้ถูกจุด มักได้ผลดีกว่าที่คิด

แต่โคลด์อยากต่อต้านคำสอนของบิดาบุญธรรม ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยรักดุจบิดาแท้ๆ

‘เมื่อพบใคร ให้คิดว่าควรใช้ประโยชน์จากอีกฝ่ายอย่างไร จุดอ่อนของมันคืออะไร จะกำไว้อย่างไร คลายออกอย่างไร บดขยี้มันอย่างไร’

หรือไม่...ข้าก็แค่ไม่อยากเพิ่มปัญหาให้มาลแกธ

“พระจันทร์เต็มดวง...โคลด์ สตาร์ มันทำให้คำสาปของริวอร์นอร์แข็งแกร่งขึ้น” ซิกฟรีดจับมือโคลด์มาแนบใบหน้าซีกซ้ายของตัวเอง “เสียงกระซิบของมันต้านทานได้ยากขึ้นเรื่อยๆ”

ปกติซิกฟรีดจะสวมหน้ากากเงินไว้เกือบตลอดเวลา ไม่ใช่เพื่อปิดบังโฉม แต่เพื่อบรรเทาคำสาปน่าสะพรึงของกษัตริย์แห่งรูเมเรียร์พระองค์ก่อน คำสาปนั้นทำให้เขาไม่สามารถคิดอะไรเป็นเหตุเป็นผล ศีลธรรมจรรยาลดต่ำลง เป็นคำสาปเปลี่ยนเอลฟ์ให้ต่ำกว่าเดรัจฉานอย่างช้าๆ และทรมานเป็นที่สุด

คิงริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์เป็นยอดนักรบ

และเป็นจอมเวทผู้เก่งกาจทั้งเวทขาวและเวทดำ

“เจ้ารักเอริแอดเน่หรือเปล่า” โคลด์ถามวัดใจ

นามของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ทำให้ซิกฟรีดอ่อนลง แต่ก็เพียงเล็กน้อย แทบไม่สังเกตเห็น “ข้ารักนางอย่างพี่หญิง ข้าย่อมต้องดูแลนางเมื่อสิ้นพี่เฟรธูริน”

“แล้วข้าเป็นอะไร”


—————————————————————————

A/N เป็นอะไรไม่รู้ รอดูตอนต่อไปเนอะ <3
ป.ล. 1 “สิ่งที่ข้าต้องการ คือตัวเจ้า” ซิกฟรีดกระตุกสายจูงได้ S มากค่ะ...ใครลงเรือลำนี้ก็...
ป.ล. 2 เรือมาลแกธก็แอบมีโมเม้นต์น้า
"ทำไมข้าต้องโดนลูบหัวเหมือนสุนัข..." โคลด์โอดกับผู้กำกับ

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (2) [31/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 31-01-2017 00:14:27
เป็นฉากที่ดูดิบ เถื่อน เหี้ยมกับตนเองและผู้เป็นที่รัก (ไหม?)
ในขณะเดียวกันก็เว้าวอน ร้องขอ ราวคนสิ้นหวัง

เจ็บปวดกับชะตากรรมความรักของตัวละครเหลือเกิน
จะมีใครสมหวังได้เท่าอิลมาเรที่แต่งงานกับเงินอีก? (เกี่ยวตรงไหนฟะ!)

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (2) [31/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 31-01-2017 00:22:16
กรี๊ดดดดดดด ค้างคาเหลือเกิน

แอบคิดว่าคำพูดของโคล์ดเหมือนคนรักที่ตัดพ้อ แกมโกรธ แกมประชด
แต่ซึ่งแมร่งก็จริง เป็นเรา เราก็สงสัย แบบต้องการตัวกูแล้วจะเอามาทำอะไร มาเป็นอะไร?
คือยอกตามตรงว่าคิงพูดไม่เคลียร์ 555 แต่เหมือนสองคนนี้คุยๆกันไม่กี่คำก็ตามกันทันยังไงก็ไม่รู้
แต่ชอบคำพูดโคล์ดที่พูดสวนจังถามถึง ตำแหน่งที่แย่งพี่ชายมา คนรักที่แย่งพี่ชายมา คือมันจะต้องจิกกัดกันทุกคำขนาดนี้เลยเหรอ (ชอบบ สะใจ55555)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (2) [31/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 31-01-2017 00:34:39
ซิกคะ พี่สาวกะน้องชายไม่มีอะไรกันหรอกนะ!! ชิชะ เฮ้ออ แต่ถ้าพูดกันตามตรง... สิ่งที่ซิกฟรีดเป็นและแบกรับเอาไว้มันก็หนักอยู่... ไหนจะเรื่องเผ่าพันธุที่ขัดแย้งกันอีก เฮ้อมม ทำไมเส้นทางรักของสองคนนี้มันดูยากลำบากงี้ละเนี่ยะ (เออไม่รวมเรื่องที่เป็รเพศเดียวกันอี๊กก เซ็ง =_=) เพราะงั้นหนูโคลด์..... หนูรับรักมาลแกธเถอะ!! ง่ายกว่าอีตาซิกฟรีดเย้อะะ (แถมมาลยังไม่มีห่วงผูกคอเหมือนซิกด้วย สบ๊าย 55555)

ปล. ยังยืนยันคำเดิมว่าสองพี่น้องคู่นี้นี่มันอับโชคเรื่องความรักจริงๆค่ะ สงสัยต้องพาไปทำบุญสะเดาะเคราะห์บ่อยๆ 55555
ปลล. นี่ถ้าแต่งเรื่องนี้เป็นยุคปัจจุบันจะเป็นยังไงนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (2) [31/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 31-01-2017 00:52:05
 ทั้งราชาทั้งฮีมเดียร์ทั้งคู่โหดร้ายมาก ไม่แปลกใจที่เวลาสู้ทั้งสองถึงได้เก่งกาจ เพราะคนที่โหดร้ายได้แม้กระทั่งกับหัวใจของตัวเองย่อมโหดร้ายแก่ผู้อื่นเป็นเท่าทวีคูณ

บ่าวชอบที่ทั้งคู่ร้อนแรงแต่บ่าวไม่ชอบที่ทั้งคู่โหดร้ายต่อกันเลยเจ้าค่ะ ในทุกคำพูดทุกการกระทำมันแฝงด้วยอาการตัดพ้อน้อยใจ ถึงอีกคนนึงจะแฝงไปด้วยความชิงชังแต่โดยเนื้อแท้แล้วก็คงรักสุดใจ ทรมานใจอะไรเช่นนี้

ถึงฮีมเดียร์...ถ้าจะเลือกใช้ใครต้องแน่ใจก่อนว่าหัวใจของเขาอยู่ในกำมือเจ้าและชีวิิตของเขาวางไว้แทบเท้าเจ้า วิถีราชินีนะคะหนู

ปล.รักคนเขียนมากเลยมาอัพทุกวันวินัยดีมาก คนเขียนทำดีเราก็จะเป็นคนอ่านที่ดีจะเม้นให้ทุกตอนเลย สัญญา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (2) [31/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 31-01-2017 10:59:45
 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (2) [31/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 31-01-2017 11:26:20
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (3) [01/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 01-02-2017 00:05:54
บทที่ 10 : ราชันพันธนาการ (3)

ยังไม่มีคำตอบหลุดออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบ ซิกฟรีดจ้องลึกลงไปในดวงตาสีม่วงสวยทว่าแข็งกร้าว ครู่หนึ่ง ความเงียบดูเหมือนจะเอ่ยหลายสิ่งหลายอย่างได้ดีกว่าคำพูด

“คนที่ข้าจะไม่มีวันปล่อยไป ถึงต้องล่ามไว้ก็ตาม”

ในสถานการณ์เช่นนี้ ใครคือทาสที่แท้จริง ใครคือผู้ที่ไม่อาจเป็นอิสระได้กันแน่

สิบสามปี…

ความผูกพันเปลี่ยนรูปแบบเป็นความรู้สึกอื่นนานแล้ว แต่ระหว่างพวกเขาสองคน ไม่มีใครยอมพูดถึง

พูดแล้วจะทำให้อะไรดีขึ้นหรือ...ไม่ ไม่มีหวังเลย

“แล้วถ้านางพบว่าราชาเอลฟ์ ล่ามดาร์กเอลฟ์ไว้กระทำย่ำยีล่ะ”

“ข้าก็จะ—”

“เจ้าไม่ได้รักข้า ขนาดคนที่รักข้า ข้ายังไม่อยู่กับเขา นับประสาอะไรกับเจ้า” คนที่รักเขา...คือมาลแกธ ผู้พิสูจน์ตัวเองด้วยความตายมาแล้ว

“ ‘คนที่รักเจ้า’ ไม่ใช่คนที่เจ้ารัก”

โคลด์หัวเราะหึ “เจ้าไม่รู้ใจข้าหรอก”

เมฆเคลื่อนมาบังพระจันทร์ ทั้งคู่ตกอยู่ในเงาสลัว ภายใต้ความสัมพันธ์คลุมเครือ บรรยากาศหนักและอึดอัด คล้ายจะเค้นให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปิดเปลือยความรู้สึกแท้จริงออกมา

แววตาของซิกฟรีดอ่อนลงเมื่อพระจันทร์อ่อนแสง หากโคลด์มองไม่พลาดไป เขาเห็นร่องรอยความอ่อนไหวค่อยๆ ตีขึ้นมา

ราชาเอลฟ์ใช้ประโยชน์จากเงามืด ซ่อนสีหน้าของเด็กหนุ่มที่ถูกขังไว้ในห้วงรักได้เกือบมิดชิด

“ถ้าข้าจะรักใครสักคน หรืออยู่กับใคร ข้าจะอยู่กับคนที่เขารักข้า” โคลด์ย้ำ คำเรียกคนรัก เปลี่ยนจาก ‘เธอ’ ที่หมายถึงเกวนโดลิน เป็น ‘เขา’ ที่หมายถึงชายคนอื่นมาสักครู่แล้ว

“ข้าต้องการเจ้า”

ซิกฟรีดฉลาด เขายังไม่แน่ใจเรื่องเกวนโดลิน แต่เริ่มแน่ใจเรื่องมาลแกธแล้ว ระยะเวลาที่มาลแกธหายไปกับโคลด์...ได้เปลี่ยนหัวใจของโคลด์ สตาร์

“ข้าไม่สนว่าเจ้าจะรัก...หรือเกลียดข้า หรือถ้าให้เดา เจ้าน่าจะชิงชังข้ามากกว่า” ซิกฟรีดกระตุกยิ้มกับคำประชดของตัวเอง

“ถ้าเจ้าต้องการความชัดเจน ข้าคือฮีมเดียร์ ส่วนโคลด์ สตาร์—ทาสรับใช้ของเจ้า คือบทบาทที่ข้าแสดง คือคนที่ข้าสร้างขึ้นมาให้พวกเอลฟ์ตายใจ”

ซิกฟรีดหัวเราะในลำคอ “แม้แต่ตอนที่เจ้ากอดข้า ก็เป็นการแสดงหรือ”

“ใช่ ข้าแสดงทั้งหมดนั่นแหละ” โคลด์เสียงแข็ง

“ตอนที่เจ้าจูบข้าล่ะ”

“ข้าแสดง” ดาร์กเอลฟ์ย้ำ

“ตอนที่เจ้าเรียกชื่อข้า…”

โคลด์กัดฟันกรอด “ตอนข้าบำเรอเจ้าบนเตียง ทั้งหมดคือการแสดง พอใจหรือยัง เอลฟ์!”

“อย่างนั้นหรือ” ซิกฟรีดมองโคลด์นิ่งๆ แม้ภายในจะสั่นไหวรุนแรง

“จะขังก็ขัง จะฆ่าก็ฆ่า แต่ข้าจะหนี ข้าจะไม่ตาย”

“ข้า…”

“เจ้าเลือกเอริแอดเน่ไปแล้ว จะมาโลเลอะไรอีก”

“ข้าไม่เคยโลเล ข้ารู้ว่าข้าต้องการอะไร”

“เจ้ากำลังทำให้ข้าสงสารนาง เชื่อเถอะว่าท่านหญิงเอลฟ์สูงศักดิ์อย่างนาง ไม่อยากให้ดาร์กเอลฟ์อย่างข้านึกสงสารหรอก”

ซิกฟรีดหลุบตาลง “ไม่มีใครอยากให้เจ้าสงสารหรอก โคลด์ สตาร์” เขาเหมือนพูดกับตัวเอง...ย้ำให้ตัวเองฟัง “ไม่มีเอลฟ์คนไหนอยากดูน่าสมเพชต่อหน้าเจ้า”

แต่ข้าไม่มีทางเลือก

ข้าต้องการเจ้า มากกว่าที่เจ้าคิด มากมายมหาศาล

และข้าจะไม่เก็บมันไว้อีกต่อไป


ซิกฟรีดไม่ใช่เอลฟ์ช่างพูด โคลด์ทราบดี หลังใบหน้ายโส ภายใต้กิริยาเย็นชา และการแสดงออกอย่างสมเกียรติกษัตริย์ ซิกฟรีดเก็บงำความคิดความรู้สึกแท้จริงไว้อย่างแนบเนียน โคลด์รับรู้ได้ แต่ไม่เคยสัมผัสถึงข้างใน

อาจเหมือนซิกฟรีดที่รับรู้ได้ถึง ‘ฮีมเดียร์’ จากภายนอกกำแพงที่โคลด์สร้าง

ซิกฟรีดยกแขนขึ้นมา กรีดจนเป็นแผลลึก ก่อนร่ายเวทที่ไม่สมควรใช้

โคลด์กลั้นใจ อาวุธของเขาอยู่ที่ไหน...เขานึกไม่ออก เขาพกบีฟอร์ซมาด้วย แต่ซิกฟรีดทำให้เขานึกไม่ออกว่าจะชักอาวุธออกมาสู้อย่างไร

ช่างต่างกับตอนมาลแกธ

ซิกฟรีดจะผูกตัวเองเข้ากับโคลด์อีกครั้ง แต่คราวนี้เลวร้ายกว่าเดิม เขาถึงขั้นบรรณาการวิญญาณของตัวเองส่วนหนึ่งเพื่อบังคับโคลด์—ไม่ใช่เวทของควาร์!

ซิกฟรีดลงมืออย่างคนไม่ยั้งคิด สิ้นหวังและสิ้นท่า ราชาเอลฟ์ไม่สมควรมุทะลุเช่นนี้ แต่ความจริงคือซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์อายุเพียงยี่สิบสองปี เขารับน้ำหนักของหลายสิ่งหลายอย่างไว้บนบ่า

โคลด์ดูแคลนเขา ว่าเขาไม่ทราบความต้องการของตัวเอง โลเล เป็นผู้ชายที่ไม่มั่นคง แต่เขาโต้กลับ

ซิกฟรีดรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร...รู้มาโดยตลอด

เขาต้องการพี่ชาย เฟรธูรินและริวอร์นอร์

ต้องการพี่หญิงทั้งสอง คาลิเธียลผู้แสนอ่อนหวานและเอริแอดเน่ผู้เก่งกาจเกินสตรี

ต้องการโคลด์ สตาร์…ผู้ที่เขารู้สึกผูกพันเกินกว่าเพื่อนและครอบครัว

เขาต้องการความสัมพันธ์รูปแบบอื่นที่ไม่ใช่นายกับทาส

นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่โคลด์ไม่ทราบ

แต่ทุกอย่างไม่มีวันเป็นจริง ซิกฟรีดจำเป็นต้องตัดความรู้สึกของตัวเองออกเพื่อสิ่งที่สำคัญกว่า

ทว่าความเห็นแก่ตัวยังมีอยู่อย่างเห็นได้ชัด

ยังมีอยู่…

“ข้าจะรู้ว่าเจ้าอยู่ที่ไหน ทำอะไร อยู่กับใคร หัวเราะหรือร้องไห้ ข้าจะเห็น จะได้ยิน เจ้าหนีหรือ...ข้าไม่ให้เจ้าหนี โคลด์ สตาร์”

มีแต่เจ้า ที่ข้ารู้สึกไว้ใจ เชื่อใจ

แต่เจ้าทำลายมัน

‘ใช่ ดาร์กเอลฟ์ทำลายมัน เอาสิ...เอาเลย ทำอย่างที่อยากทำเสีย...อาเลธ เจ้าเป็นเฟรธูรินไม่ได้หรอก เจ้ารู้ตัวดี อยากได้อะไรต้องกำให้แน่น จำได้ไหม เจ้าจำได้หรือไม่’


เมฆเคลื่อนออก เทพีจันทร์ส่องแสงมายังโลก ลูกนัยน์ตาด้านซ้ายของซิกฟรีดกลายเป็นสีดำสนิททั้งหมด เหมือนอันเดดในวิหารบูชามารดรนภา

“อย่า…!” โคลด์จับแขนซิกฟรีด “พอแล้ว...” แววตาเขาอ่อนลง ใบหูก็ลู่ลง เหมือนเวลาที่เขาอ่อนใจหรือแสดงความรักใคร่กับเจ้าชายซิกฟรีดในอาศรมควาร์ “พอเถอะ”

โคลด์—ฮีมเดียร์ ควรใจแข็งกว่านี้ แต่เขารู้สึกในใจลึกๆ ว่าไม่ควรปล่อยให้ซิกฟรีดทำสิ่งที่ทำอยู่

‘เลิกทำตัวน่าสมเพช อาเลธ! ดาร์กเอลฟ์รอให้เจ้าแสดงความอ่อนแอ มันจะได้เหยียบเจ้าซ้ำ เห็นไหม มันเล่นละครทั้งนั้น’

“เงียบ!”

‘อ่อนแอเหลือเกิน…’

“ข้าถามอีกรอบ เจ้าจะให้ข้าอยู่กับเจ้าในฐานะอะไร ซิกฟรีด” คราวนี้ไม่มีการประชด โคลด์แค่ถามเรียบง่ายอย่างที่โคลด์ สตาร์จะถาม “ข้าอยู่กับเจ้าไม่ได้ เจ้ารู้อยู่แล้ว ไม่ว่าเราจะรักกันหรือไม่ นั่นไม่มีความหมายกับทุกสิ่งที่เจ้าครอบครองอยู่ในขณะนี้”

เลือดหยดย้อมใบหญ้าให้เป็นสีแดงฉาน ซิกฟรีดหยุดร่ายเวท ฟันขบกันแน่น

“ข้าอยากให้เจ้าเป็นคนรัก...ของข้า”

คำว่า ‘คนรัก’ ลอดจากริมฝีปากของราชาอย่างแผ่วเบาและสับสน แต่ไม่ใช่สับสนว่ารักหรือไม่ แต่เป็นควรเอ่ยออกมาดีหรือไม่ ความสัมพันธ์ของพวกเขาย่ำแย่ ตั้งแต่เริ่มจนปัจจุบัน

โคลด์ส่ายหน้า “ราชาเอลฟ์มีคนรักเป็นดาร์กเอลฟ์ไม่ได้ จงขออย่างอื่น”

“ถ้าอย่างนั้น...” ดวงตาด้านขวาของซิกฟรีดยังมีความเป็นเด็กหนุ่ม มันยังไม่โดนความมืดกลืนกินแต่ก็จวนเจียน สิ่งที่เขาปรารถนาที่สุดคืออะไร

ง่ายดายเหลือเกิน...

“อย่าฆ่าโคลด์ สตาร์…ให้เขายังอยู่ ถึงจะเป็นแค่การแสดงก็ตาม”

คำขอนั้นแทงทะลุใจของฮีมเดียร์ เขามึนเบลอไปวูบหนึ่ง เหมือนถูกคำพูดทุบศีรษะเข้าอย่างจัง พอได้สติก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา “ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า”

ดาร์กเอลฟ์หัวเราะช้าๆ แต่เสียงเหมือนกำลังร้องไห้มากกว่า เขาปล่อยให้ตัวเองหัวเราะไปเรื่อยๆ รู้สึกตัวอีกทีก็มีมือมาเช็ดน้ำตาให้ ดึงเขาเข้าไปกอดแน่น

ซิกฟรีดได้ล่ามโคลด์ด้วยอ้อมกอด เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงความรู้สึกนี้ออกไป มันเป็นกอดที่คล้ายจะบอกว่าคิดถึง ต้องการ และ…

รัก

“โคลด์ สตาร์...โคลด์ สตาร์” ฮีมเดียร์พึมพำ เขาซบหน้ากับแผ่นอกกว้างด้านหน้า สูดกลิ่นหอมหนักๆ แบบขุนนางชั้นสูง

ซิกฟรีดได้กลิ่นของโคลด์ มันประกอบไปด้วยกลิ่นเลือด โคลน คนตาย บอกว่าเจ้าตัวผ่านอะไรมาในช่วงเวลาที่หายตัวไป แต่เขาไม่รังเกียจ ริมฝีปากเคล้าเคลียกับปลายจมูก ก่อนเลื่อนลงไปประทับริมฝีปากแห้งแตกของอีกฝ่าย ทำให้มันชุ่มชื้นขึ้น อุ่นขึ้น

“ซิกฟรีด” โคลด์กระซิบ ในใจเขาหมดหวังกับความสัมพันธ์นี้มานานแล้ว ไม่สิ เรียกว่าไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น จึงไม่เคยหวังอะไรแต่แรกมากกว่า แต่เขาก็อยากบอกอีกฝ่าย...

ว่าความผูกพันของพวกเขาในอาศรมควาร์…

เป็นความจริง

“เป็นไปได้ไหม ที่เราจะจากกันไปเฉยๆ”

ซิกฟรีดส่ายหน้า

“ขนาดตัวข้าเองยังไม่รู้ตัวเลยว่าข้าคือฮีมเดียร์ที่แสดงเป็นโคลด์ สตาร์ หรือข้าคือโคลด์ สตาร์ ที่แสดงเป็นฮีมเดียร์”

“เชื่อข้าเถอะ” ซิกฟรีดจูบแล้วปล่อย “ไม่มีใครเข้าใจเรื่องนี้ได้มากกว่าข้าอีกแล้ว”

“ไม่ เจ้าไม่เข้าใจ” โคลด์ตอบอย่างสิ้นหวัง


—————————————————————————

A/N พีคค่ะพีค จุดนี้ บอกเลยว่าพีคจริงๆ ;w; สุดท้ายโคลด์ก็ใจอ่อนกับซิกฟรีด (จนได้)
ป.ล. ตอนต่อไปห้ามพลาดจ้า จะ xxx ละ /ไม่สปอยๆ

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (3) [01/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 01-02-2017 08:05:08
ตอบนี้ทักโคล์ดทั้งซิกหลุดโหมดซึนไปแล้ว
รู้สึกว่าสุดยอดจริงๆ อะไรกันที่ทำให้คนที่ใจแข็งสุดๆใจเด็ดสั ๆ กับคนที่อีโก้สูงหยิ่งในศักดิ์ศรี
ลดทิฐิมาคุยกัน เปิดเผยความรู้สึกในใจ
ถ้ามันเป็นความรัก (???)
โคล์ดก็คงแคร์ซิกมากจริงๆ ถึงได้ใจอ่อนยอมลงให้ได้ขนาดนี้ทั้งๆที่เป็นคนใจแข็ง
ทำให้สงสับเลย
.
.
อยากรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่อาศรมควาร์ มันเป้นการบ่มเพาะความผูกพันธ์แบบไหนกันนะ

ปล.ไม่อยากเชื่อว่าคู่นี่จะสามารถคุยกันดีๆแบบนี้ได้ ทั้งๆที่ตอนที่แล้วแทบกินหัวกัน 55555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (3) [01/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 01-02-2017 08:46:06
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (3) [01/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-02-2017 08:51:17
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (3) [01/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 01-02-2017 09:00:50
ช่างเป็นความรักที่ทั้งหอมหวานและเจ็บปวดเหลือเกินเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (3) [01/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 01-02-2017 13:04:10
 :mew2: :mew2:ความรักอันสิ้นหวัง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (3) [01/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 01-02-2017 13:28:38
ฟินเศร้าๆเจ้าค๊าาาา  :m15:
ซิกฟรีดบทนี้เอาใจไปเลย แม่ยกปลื้ม โคลด์ใจอ่อนแล้วแต่ยังไม่ยอมอยู่ด้วยง่าาา
ซิกอย่ายอมให้ไปน้า กอดไว้แน่นๆ เดี๋ยวเราช่วยกอดอีกแรง /โดนเหวี่ยง
กลับมาอ่านต่อสามตอนรวดเลย หน่วงมากกก
ตอนแรกออกจะตื่นเต้นกับความ S แต่ตอนนี้สงสารทั้งคู่เจ้าค่ะ

ป.ล. อิมเมจซิกฟรีดแบบ  :m25:

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (3) [01/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 01-02-2017 23:25:39
อยากรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับเหล่าพี่ชายพี่สาวของซิกฟรีด เขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

เมื่อมองดูแต่ละตัวละคร เรามองเห็นซากปรักหักพังของตัวตน จิตวิญญาณ ครอบครัว ความรัก ความฝัน

ความหวังอยู่ที่ไหน?
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (1) [02/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 02-02-2017 00:25:12
บทที่ 11 : ทาสและเจ้าชาย (1)

เจ็ดปีก่อน อาศรมควาร์

เด็กหนุ่มดาร์กเอลฟ์ลงไปกองกับพื้น เขารู้สึกชาที่หลังใบหู จากนั้นก็แสบ เนื้ออ่อนนุ่มฉีก เลือดร้อนๆ ไหลย้อมต้นคอ

“ไอ้เด็กเอลฟ์!” โคลด์คำรามใส่ผู้มอบบาดแผลแก่เขา เมื่อสองชั่วโมงที่แล้วเขาพยายามหนีจากอาศรมควาร์ แต่ถูกพวกควาร์จับกลับมาได้ ส่วน ‘ไอ้เด็กเอลฟ์’ ที่กำลังโดนเขาด่า ก็คือเจ้าชายซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ ผู้เพิ่งมอบรอยแผลที่หูให้เขา

“ระวังปากหน่อย” ซิกฟรีดเอามือลูบหลังใบหูของตัวเอง หลังจากให้ลมเปลี่ยนรูปจนคมเหมือนใบมีด แล้วซัดเข้าที่หลังใบหูของโคลด์ เป็นการลงโทษที่แปลกประหลาด แต่สมกับเป็นการลงโทษของควาร์ หูและเส้นเสียงคือสิ่งสำคัญ

เจ้าชายเอลฟ์ตวัดสายตาไปทางบรรดาควาร์ที่ได้รับคำสั่งจากท่านเอเรนดิล ผู้เป็นควาร์อาวุโส ให้ลากตัวโคลด์กลับมาก่อนเตลิดไปไกล สายตานั้นกล่าวว่า

‘พอใจหรือยัง’

ควาร์คนอื่นจ้องซิกฟรีดเขม็ง เจ้าชายเอลฟ์ได้รับสิทธิพิเศษให้มีผู้ติดตาม ทั้งผู้ติดตามยังเป็นเผ่าทมิฬ แม้อาศรมควาร์จะมีอุดมการณ์ว่าไม่แบ่งแยกเผ่าพันธุ์ (ซึ่งขัดแย้งตรงที่ควาร์มีแต่เอลฟ์เท่านั้น แต่เข้าใจได้ว่าเป็นพรสวรรค์พิเศษของเผ่าพันธุ์ที่สืบเชื้อสายจากบิดาและมารดรนภา)

แต่ในความเป็นจริง ยังมีควาร์ซึ่งมาจากตระกูลขุนนางที่ถือเรื่องนี้อยู่ โดยเฉพาะกับเผ่าทมิฬที่เป็นศัตรูกันมานาน พวกมันอพยพเข้ามาในรูเมเรียร์ช่วง ‘สงครามสองร้อยปี’ จากนิสัยนอกรีต ไม่รู้จักปรับตัว สร้างปัญหาไปทั่ว สุดท้ายพวกมันก็เป็นได้แค่ทาส

“ดูแลคนของเจ้าให้ดี ซิกฟรีด อย่าให้มันเพ่นพ่านวุ่นวายมาถึงพวกเรา”

ซิกฟรีดพ่นลมหายใจดังหึ! “ดูแลคนของเจ้าดีกว่า ธอรอนทูร์” เขาปรายตาไปทางควาร์อีกคนที่อยู่ข้างกัน “อย่าปล่อยให้ไมเธียนเซ็งจนไปลอบสมรักกับ ‘ใครก็ได้’ ในอาศรมนี้”

“เจ้า!”

“หูของควาร์มีไว้ฟังความจริง” เจ้าชายเอลฟ์ไม่หลบ ซ้ำยังตั้งท่าพร้อมต่อยตี  “เจ้าทนฟังไม่ได้หรืออย่างไร”

ธอรอนทูร์จะเหวี่ยงหมัดใส่ซิกฟรีด ทว่าไมเธียนยึดแขนไว้ “อย่า” ควาร์หนุ่มปรามอย่างนุ่มนวล “ไม่คุ้มค่าหรอก ธอรอนทูร์” ไมเธียนมองซิกฟรีด ก่อนจะไปหยุดที่โคลด์

“ข้าได้ยินเสียงหายนะ เอลฟ์...ดาร์กเอลฟ์” ไมเธียนเอ่ย “หรือมันอาจเริ่มขึ้นแล้วก็ได้…ตั้งแต่เจ้าใช้ ‘บอนด์’ ”

ซิกฟรีดกดสายมองไมเธียน

อีกฝ่ายพูดถึง ‘บอนด์’ หรือเวทที่เชื่อมคนสองคนไว้ด้วยกัน ทั้งความนึกคิดและร่างกาย ตราของเวทนี้เป็นปลอกคอโซ่ล่องหนเส้นเล็กๆ ซึ่งไม่ปรากฏอยู่บนคอของทั้งคู่ แต่รู้สึกได้

ไมเธียนจับจ้องบริเวณลำคอของซิกฟรีดคล้ายอยากมองทะลุเสื้อปกตั้งที่ปกปิดผิวเนื้อไว้ “อะไรทำให้เจ้าเลือกใช้เวทบทนั้นหรือ ซิกฟรีด เขาสำคัญถึงเพียงนั้น?”

แววตาของเจ้าชายเอลฟ์บอกอย่างชัดแจ้งว่า ‘ไม่ใช่ธุระของเจ้า’

“ข้าแน่ใจว่าอย่างนั้น” ไมเธียนยิ้ม

โคลด์เจ็บหูจนฟังบทสนทนาไม่รู้เรื่อง เขาจับคำพูดได้แค่คำว่า ‘บอนด์’ ซึ่งน่าจะหมายถึง ‘เวทตีตราทาส’ ที่ควาร์ผู้ทดสอบร่ายใส่เขาตอนเพิ่งมาถึงอาศรมควาร์เมื่อหลายปีก่อน

หกปี โคลด์ย้ำกับตัวเอง เขาถูกขังอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุสิบสองจนถึงสิบแปด!

ซิกฟรีดดึงคอเสื้อโคลด์ขึ้น พาถูลู่ถูกังไปทางห้องพัก พอถึงก็จัดการโยนเข้าไปแล้วสั่งด้วยสายตา

‘ทำแผลซะ’

ซิกฟรีดเอ่ยน้อยคำ ใช้สายตาสื่อสารเป็นส่วนใหญ่ โคลด์ก็ไม่ทราบว่าทำไมตัวเองถึงเข้าใจสิ่งที่ซิกฟรีดต้องการ ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย

ดาร์กเอลฟ์ไม่ได้หนีเป็นครั้งแรก เขาหนีมากว่าร้อยครั้งแล้วในรอบหลายปี เป็นที่ตลกขบขันแกมสงสารในหมู่ควาร์ แต่ครั้งนี้ซิกฟรีดลงโทษรุนแรง

อาจเพราะความสูง! โคลด์หาผ้าเก่าๆ แต่สะอาดมากดห้ามเลือด กดไปก็ร้องโอดโอยไปแบบกลั้นเสียง เขานั่งซุกตัวตรงมุมห้องของซิกฟรีด

แม้เพิ่งอายุสิบห้าปี แต่ซิกฟรีดสูงเท่ากับโคลด์แล้ว จากไอ้เด็กเอลฟ์ตัวเล็กกลายเป็นไอ้เด็กเอลฟ์ตัวโต พอตัวโตหน่อย ขยันฝึกดาบนิดก็วางก้าม!

เจ้าชายยืนกดดันให้ดาร์กเอลฟ์ทำแผล ครั้งนี้โคลด์ไปได้ไกลทีเดียว จนควาร์อาวุโสเปรยกันว่าจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไม่ได้

 

“อาจต้องจำกัดบริเวณดาร์กเอลฟ์มากกว่านี้กระมัง”

ซิกฟรีดที่ถูกเรียกไปอบรมฟังอย่างสงบเสงี่ยม

“ท่านเคยรับรองดาร์กเอลฟ์ว่าอะไร จำได้หรือไม่”

ซิกฟรีดพยักหน้า “ข้ารับรองว่าโคลด์จะไม่สร้างความรำคาญใจให้ใคร”

“ท่านเชื่อใจดาร์กเอลฟ์ ถึงขนาดใช้เวทพันผูกตัวท่านกับตัวดาร์กเอลฟ์เอาไว้ เจ้าชาย...แม้จะไม่สมบูรณ์เพราะอีกฝ่ายไม่ได้กล่าวรับ แต่ก็ยังมีพลังมากพอจะส่งผลให้ท่านเจ็บตามยามที่เขาวิ่งชนกำแพงเวท อาจถึงร้อยครั้งแล้วกระมัง ควาร์ทุกคนในที่นี้นับถือน้ำใจท่าน แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ช่วยอะไรนัก”

ซิกฟรีดเงียบ จนคำพูด เพราะจริงดังที่ควาร์อาวุโสว่า เวทบอนด์คือ ‘ตรารับผิดชอบร่วมกัน’ แม้มันจะกลายเป็นเวททางเดียวเพราะเขาเอ่ยคำสัญญาอยู่ฝ่ายเดียว ทำให้โคลด์ไม่รู้สึกเจ็บหากเขาเจ็บ แต่เขาจะเจ็บเวลาที่โคลด์เจ็บ ทั้งยังสื่อใจได้หากสบตากันตรงๆ ไม่ถึงขั้นอ่านออกทั้งหมด แต่เข้าใจกันและกันได้

เขาเลือกใช้ ‘บอนด์’ เพราะความคิดแบบเด็กเก้าขวบโดยแท้ แค่อยากแสดงว่าเขาเชื่อมั่นในโคลด์จริงๆ ขนาดยอมเอาตัวแลก

โคลด์ช่วยเขาจากหมาป่า หลังจากนั้นก็ช่วยนั่นช่วยนี่อีกสารพัด ไม่...เขาจะไม่พูดว่าโคลด์อ่านนิทานก่อนนอนให้ฟัง หรือกอดเวลาเขาสะดุ้งตื่นยามฝันถึงหมาป่า เพราะมันช่างเด็กเหลือเกิน

อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อใจดาร์กเอลฟ์ผู้นี้ เพราะขนาดเขายืนยันหนักแน่นว่าจะเดินทางมาอาศรมคนเดียว แต่โคลด์ก็ยังตามมาด้วย แล้วจะให้เขาทิ้งโคลด์หลังการเดินทางอันยาวนานหรือ…

(ซึ่งเขามารู้ทีหลังว่า ที่โคลด์ตามมาเพราะคำขอร้องของพี่เฟรธูริน หาใช่เสนอตัวมาเอง)

ซิกฟรีดยังจำได้ ว่าตัวเองตอบคำถามควาร์ผู้ทดสอบอย่างไรเกี่ยวกับข้อห้ามเรื่องผู้ติดตาม

‘ข้าทราบ แต่โคลด์เป็นผู้ช่วยชีวิตของข้า แผ่นดินของเขาไม่ปลอดภัยจึงต้องมาอาศัยแผ่นดินเรา ข้าไม่อาจปล่อยเขาอยู่เพียงลำพังในรูเมเรียร์ ’

ช่างเป็นเด็กเก้าขวบจริงๆ อาเลธ!

“นกเลี้ยงในกรงของอิซิลดาร์ยังได้รับอิสระให้บินบ้าง ไม่อย่างนั้นมันจะเบื่อและเฉาตาย ดังนั้น...หากท่านอนุญาตให้ข้ากับเขาออกเดินทางไกลสักครั้ง--”

ควาร์อาวุโสยกมือขึ้นขัด “ท่านทราบดีว่าแผ่นดินรูเมเรียร์ไม่สงบอีกต่อไปแล้ว กบฏดาร์กเอลฟ์มีอยู่ทุกหัวระแหง คิงริวอร์นอร์ทรงเป็นห่วงสวัสดิภาพของท่านมาก หลังจากเกิดเหตุน่าสลดกับคิงเฟรธูริน”

ซิกฟรีดสูดหายใจลึกเมื่อได้ยินชื่อพี่ชายคนโต ข่าวว่าหัวหน้ากบฏลอบเข้าราชวัง สังหารคิงเฟรธูริน อาร์ธีออน รูเมเรียร์บนแท่นบรรทม

คิงเฟรธูรินเป็นราชาเอลฟ์พระองค์แรกที่มีดำริเรื่องความเท่าเทียมของเผ่าพันธุ์ ทั้งเอลฟ์ ดาร์กเอลฟ์ ดวอร์ฟ เซ็นทอร์ และเผ่าพันธุ์อื่นๆ ในรูเมเรียร์ แล้วดูสิ ดาร์กเอลฟ์คร่าความหวังที่ดีที่สุดของทุกๆ เผ่าพันธุ์ไป

ซิกฟรีดรู้สึกถึงความโกรธที่ปะทุขึ้นในอก

“ข้าจะลงโทษเขาเอง” เจ้าชายว่า “ให้เขาจำเสียที”

ควาร์อาวุโสเผยยิ้มอ่อนโยน

“ไม้อ่อนใช้ไม่ได้ ก็ต้องเลือกไม้แข็ง...ถูกต้องแล้วเจ้าชาย”


 

โคลด์เห็นซิกฟรีดเงียบไปนาน จึงระบายความโกรธออกมาเป็นคำพูด

“ไม่ต้องมาจ้องบังคับให้ข้าทำอะไร เจ้ากรีดหูข้า ข้าจะไม่ลืม ต่อไปข้าจะไม่ซักเสื้อผ้าให้เจ้า ไม่ซ่อมสายพิณ หรือคอยเอาอาหารไปให้เจ้าเวลาฝึกอีก”

ซิกฟรีดกอดอก ไม่ยอมรับในข้อนี้ “เจ้าทำให้ข้าเองไม่ใช่หรือ” เขาไม่เคยขอให้โคลด์ซักผ้าให้ หรือนำอาหารไปให้เวลาฝึก ยกเว้นซ่อมสายพิณไว้เรื่องหนึ่ง

“ถ้าข้าไม่ทำ พวกควาร์คุณหนูก็ด่าว่าข้ามานั่งกินๆ นอนๆ ทั้งที่เป็นคนรับใช้ของเจ้า” โคลด์กัดปาก เจ็บก็เจ็บ โมโหก็โมโห เขาคิดว่าแผลที่หูน่าจะฉีกยาวมาก แต่จะเย็บเองก็ไม่มียาชา ซ้ำยังมองไม่เห็นว่าต้องเย็บตรงไหนอีก

ดีไม่ดีเขาจะทำเข็มทิ่มหูตัวเอง!

“ข้าจะไปให้มาลแกธทำแผลให้” โคลด์ตัดสินใจลุกจากมุมห้อง ถึงต้องไปยืนรอหน้าห้องมาลแกธที่อาจกำลังสอนวิชาอ๊ะๆ อาๆ อยู่ ก็ดีกว่าอยู่กับซิกฟรีด

“มานั่งนี่” ซิกฟรีดนั่งบนเก้าอี้ ชี้ไปที่พื้น เขาหงุดหงิดตัวเอง โกรธและเกลียดดาร์กเอลฟ์เพราะพวกมันฆ่าพี่เฟรธูริน แต่พอมองหน้าโคลด์ อารมณ์ความรู้สึกกลับทุเลาลง

โคลด์เป็นข้อยกเว้น

ไม่ ไม่ควรยกเว้นสิ อาเลธ!

“เข็มกับด้าย”

“ไม่ เจ้าจะทรมานข้าด้วยการเย็บแผลสด ไม่มียาชา” โคลด์ผูกผ้าห้ามเลือดตรงหลังหูเป็นที่คาดผมขยุกขยุย

“ใจเสาะ” ซิกฟรีดพึมพำ มองโคลด์อย่างดูแคลน

ดาร์กเอลฟ์จึงเดินออกไปจากห้อง

ทว่าเขาโดนคว้าแขนหมับ! ตาดุๆ สีสวยแปลกของซิกฟรีดจ้องเขม็ง

“ปล่อย” ดวงตาสีม่วงจ้องตอบ ปกติซิกฟรีดไม่แตะตัวเขาด้วยซ้ำ

‘อย่าทำให้ข้าหงุดหงิดมากขึ้น’

โคลด์ขืนตัว “ข้าเจ็บแผล อย่ามายุ่งกับข้า ‘เจ้าชาย’ ”


—————————————————————————

A/N เข้าสู่พาร์ทย้อนอดีตที่ทุกท่านรอคอยแล้วค่ะ! #ถามคนอ่านหรือยังว่าเขารอจริงไหม
แค็กๆ พาร์ทนี้สนุกมากๆๆ เลยนะคะ มีความฟินกว่าปัจจุบัน เพราะยังโดกิๆ เด็กน้อยกันอยู่ ;) #จริงเหรอ
ป.ล. 1 มาลแกธก็มีบทนะคะ (-3-)
ป.ล. 2 อาศรมควาร์เทียบนั้นได้กับ! โรงเรียนประจำชายล้วนค่ะ!!!

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

ป.ล. คอมเมนต์อ่านครบนะคะ กำลังทยอยตอบจ๊ะ แบบว่าเมนต์มาดีมากหลายคน เลยตั้งใจพิมพ์ตอบนานกว่าปกติค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (3) [01/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 02-02-2017 01:22:46
เป็นฉากที่ดูดิบ เถื่อน เหี้ยมกับตนเองและผู้เป็นที่รัก (ไหม?)
ในขณะเดียวกันก็เว้าวอน ร้องขอ ราวคนสิ้นหวัง

เจ็บปวดกับชะตากรรมความรักของตัวละครเหลือเกิน
จะมีใครสมหวังได้เท่าอิลมาเรที่แต่งงานกับเงินอีก? (เกี่ยวตรงไหนฟะ!)
โอ เขียนบรรยายจนคนเขียนน้ำตาซึมเลยค่ะ ;w; แบบอินกับตัวละคร
เว้าวอน ขอร้อง ความรักใช้กำลังบังคับเอาได้ แต่สิ่งที่ได้มันไม่เหมือนอีกฝ่ายเต็มใจให้หรอก ใช่ไหมๆ
ป.ล. อิลมาเรยิ้มแล้วเข้าพิธีวิวาห์กับเงินเจ้าค่ะ!

กรี๊ดดดดดดด ค้างคาเหลือเกิน

แอบคิดว่าคำพูดของโคล์ดเหมือนคนรักที่ตัดพ้อ แกมโกรธ แกมประชด
แต่ซึ่งแมร่งก็จริง เป็นเรา เราก็สงสัย แบบต้องการตัวกูแล้วจะเอามาทำอะไร มาเป็นอะไร?
คือยอกตามตรงว่าคิงพูดไม่เคลียร์ 555 แต่เหมือนสองคนนี้คุยๆกันไม่กี่คำก็ตามกันทันยังไงก็ไม่รู้
แต่ชอบคำพูดโคล์ดที่พูดสวนจังถามถึง ตำแหน่งที่แย่งพี่ชายมา คนรักที่แย่งพี่ชายมา คือมันจะต้องจิกกัดกันทุกคำขนาดนี้เลยเหรอ (ชอบบ สะใจ55555)
อ่านถึงจริงๆ ค่ะ เพราะเรื่องเล่าความสัมพันธ์หลังเกิดเหตุการณ์หลายๆ อย่างในอดีต
พอตัวละครกลับมาพบกันอีกครั้ง ต่างฝ่ายก็ต่างมีความในใจเนอะ ^^;
แต่สองคนนี้เขารู้ใจกันระดับหนึ่งนะคะ บทสนทนาเลยไปไว (แอบกลัวว่าไวไปเหมือนกัน)
โคลด์เวลาเอาจริงก็เถียงไฟแลบได้ค่ะ /แต่ปกติเจ้าตัวจะชอบทำตัวเอื่อยๆ ทำหน้ามึนๆ

ซิกคะ พี่สาวกะน้องชายไม่มีอะไรกันหรอกนะ!! ชิชะ เฮ้ออ แต่ถ้าพูดกันตามตรง... สิ่งที่ซิกฟรีดเป็นและแบกรับเอาไว้มันก็หนักอยู่... ไหนจะเรื่องเผ่าพันธุที่ขัดแย้งกันอีก เฮ้อมม ทำไมเส้นทางรักของสองคนนี้มันดูยากลำบากงี้ละเนี่ยะ (เออไม่รวมเรื่องที่เป็รเพศเดียวกันอี๊กก เซ็ง =_=) เพราะงั้นหนูโคลด์..... หนูรับรักมาลแกธเถอะ!! ง่ายกว่าอีตาซิกฟรีดเย้อะะ (แถมมาลยังไม่มีห่วงผูกคอเหมือนซิกด้วย สบ๊าย 55555)

ปล. ยังยืนยันคำเดิมว่าสองพี่น้องคู่นี้นี่มันอับโชคเรื่องความรักจริงๆค่ะ สงสัยต้องพาไปทำบุญสะเดาะเคราะห์บ่อยๆ 55555
ปลล. นี่ถ้าแต่งเรื่องนี้เป็นยุคปัจจุบันจะเป็นยังไงนะ อิอิ
ชอบที่วิเคราะห์มาทั้งหมดเลยค่ะ และตบเข่าฉาดตรงสรุปให้ไปรักมาลแกธ
ป๊าด! นักอ่านเราเหนือชั้นจริงๆ 55555
ป.ล. 1 ซิกฟรีดก็ผ่านอะไรมาหลายๆ อย่างเนอะ
ป.ล. 2 เรื่องนี้ภาคปัจจุบันเคยแต่งเล่นๆ กับคุณ FOULSOUL นะคะ ซิกจะเป็นลูกคนรวยที่มาตามจีบโคลด์ในผับ
เปล่าค่ะ โคลด์ไม่มีเงินไปเที่ยวผับ นางเป็นบาร์เทนเดอร์ =.= แล้วซิกพนันกับเพื่อนว่าถ้าโคลด์ยอมให้นอนห้องคืนนึงซิกจะได้รถเพื่อน โคลด์ฟังก็ยอมๆ เด็กมันไป แต่บอกว่าให้นอนครั้งเดียวนะ (คือระอาลูกคนรวย) แล้วซิกหยิบมือถือ โทรสั่งให้เพื่อนเอารถมาส่ง พ่อจะฟาดให้ยับ สรุปคือ จะเอารถเพื่อนมาฟาดให้พังเพราะมันดูถูกโคลด์จ้า!
/ถ้ามีเวลาก็อยากเรียงให้อ่าน...แต่น่าจะไม่มีเวลาค่ะ

ทั้งราชาทั้งฮีมเดียร์ทั้งคู่โหดร้ายมาก ไม่แปลกใจที่เวลาสู้ทั้งสองถึงได้เก่งกาจ เพราะคนที่โหดร้ายได้แม้กระทั่งกับหัวใจของตัวเองย่อมโหดร้ายแก่ผู้อื่นเป็นเท่าทวีคูณ

บ่าวชอบที่ทั้งคู่ร้อนแรงแต่บ่าวไม่ชอบที่ทั้งคู่โหดร้ายต่อกันเลยเจ้าค่ะ ในทุกคำพูดทุกการกระทำมันแฝงด้วยอาการตัดพ้อน้อยใจ ถึงอีกคนนึงจะแฝงไปด้วยความชิงชังแต่โดยเนื้อแท้แล้วก็คงรักสุดใจ ทรมานใจอะไรเช่นนี้

ถึงฮีมเดียร์...ถ้าจะเลือกใช้ใครต้องแน่ใจก่อนว่าหัวใจของเขาอยู่ในกำมือเจ้าและชีวิิตของเขาวางไว้แทบเท้าเจ้า วิถีราชินีนะคะหนู

ปล.รักคนเขียนมากเลยมาอัพทุกวันวินัยดีมาก คนเขียนทำดีเราก็จะเป็นคนอ่านที่ดีจะเม้นให้ทุกตอนเลย สัญญา
โอย ร้ายใส่กันมากๆ คนเขียนก็ปวดหัวใจนะคะ ทั้งๆ ที่อยากให้เขาโดกิๆ รักกันๆ
ทำไมแต่ละโมเม้นต์ถึงกลายเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้คือจุดพีควัดใจจริงๆ ค่ะ
โคลด์จะโดนซิกฟรีดจับไปขังไหม โคลด์ทำให้ซิกฟรีดเป็นบ้าไหม
ซิกฟรีดจะบังคับโคลด์ได้หรือไม่ ฯลฯ แฮ่กๆๆ
...จริงๆ คำสอนของบิดาบุญธรรมก็เหมือนสอนฮีมเดียร์เป็นราชินีอยู่นะคะ
ป.ล. ขอบคุณที่รักคนเขียนนะคะ จุ๊บบบบบบบบบ  :mew1:

:sad4: :sad4:
อย่าร้องๆ โอ๋ๆ

:pig4: :pig4:
:mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (1) [02/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 02-02-2017 07:14:08
โหววววววว ถึงขั้นผูกวิญญานเข้าด้วยกันแล้วยัยหนูโคลด์ก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยๆๆๆๆๆเข้าใจเจ้าชายผิดซะงั้น เฮ้อออความรักหนอความรัก
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (1) [02/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 02-02-2017 09:13:21
อาเลธผูกพันและปกป้องโคลด์โดยไม่รู้ตัว

ตอนอ้อนโคลด์น่ารักมากอ้ะ ดูเด็กน้อยไร้พิษสง โคลด์เองก็อ่อนโยนเนอะ

ราวกับภาพฝันอันเลือนราง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (1) [02/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 02-02-2017 12:47:30
 :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (1) [02/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-02-2017 14:16:20
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 10 : (3) [01/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 02-02-2017 18:26:23
ตอบนี้ทักโคล์ดทั้งซิกหลุดโหมดซึนไปแล้ว
รู้สึกว่าสุดยอดจริงๆ อะไรกันที่ทำให้คนที่ใจแข็งสุดๆใจเด็ดสั ๆ กับคนที่อีโก้สูงหยิ่งในศักดิ์ศรี
ลดทิฐิมาคุยกัน เปิดเผยความรู้สึกในใจ
ถ้ามันเป็นความรัก (???)
โคล์ดก็คงแคร์ซิกมากจริงๆ ถึงได้ใจอ่อนยอมลงให้ได้ขนาดนี้ทั้งๆที่เป็นคนใจแข็ง
ทำให้สงสับเลย
.
.
อยากรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่อาศรมควาร์ มันเป้นการบ่มเพาะความผูกพันธ์แบบไหนกันนะ

ปล.ไม่อยากเชื่อว่าคู่นี่จะสามารถคุยกันดีๆแบบนี้ได้ ทั้งๆที่ตอนที่แล้วแทบกินหัวกัน 55555
ภาคอาศรมควาร์มาแล้วค่ะ!!! ย้อนอดีตกันยาวๆ เลย เฉลยความสัมพันธ์ในอดีตและความสงสัย
ทำไมโคลด์แคร์ซิกฟรีด ทำไมซิกฟรีดยึดติดกับโคลด์
ทำไมโคลด์ถึงใจอ่อนได้ปานนั้น ;w;

:pig4: :pig4:
o13 o13

:pig4: :pig4:
:mew2: :mew2:

ช่างเป็นความรักที่ทั้งหอมหวานและเจ็บปวดเหลือเกินเจ้าค่ะ
ฮือๆ มันคือผลึกของความรักที่กลั่นมาเป็นสิบปีน่ะค่ะ ;w;

:mew2: :mew2:ความรักอันสิ้นหวัง
อยากให้มีความหวังนะคะ ไม่อยากให้เศร้าเลย  :o12:

ฟินเศร้าๆเจ้าค๊าาาา  :m15:
ซิกฟรีดบทนี้เอาใจไปเลย แม่ยกปลื้ม โคลด์ใจอ่อนแล้วแต่ยังไม่ยอมอยู่ด้วยง่าาา
ซิกอย่ายอมให้ไปน้า กอดไว้แน่นๆ เดี๋ยวเราช่วยกอดอีกแรง /โดนเหวี่ยง
กลับมาอ่านต่อสามตอนรวดเลย หน่วงมากกก
ตอนแรกออกจะตื่นเต้นกับความ S แต่ตอนนี้สงสารทั้งคู่เจ้าค่ะ

ป.ล. อิมเมจซิกฟรีดแบบ  :m25:
ทั้ง S และ M เลยใช่ไหมคะ อิ่มมมม /ยินดีต้อนรับกลับค่า
ช่วงต่อไปจะย้อนอดีตให้เข้าใจตัวละครมากขึ้น -3-
ป.ล. อิมเมจซิกฟรีดแบบนี้ เราก็อยากเป็นทาสเธอว่ะ ซิก มาเอาเราเป็นทาสที!

อยากรู้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับเหล่าพี่ชายพี่สาวของซิกฟรีด เขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

เมื่อมองดูแต่ละตัวละคร เรามองเห็นซากปรักหักพังของตัวตน จิตวิญญาณ ครอบครัว ความรัก ความฝัน

ความหวังอยู่ที่ไหน?
เรื่องราวในอดีตนั้น ถ้าให้ตอบจริงๆ จะมีเฉลยในภาคนี้ และ ภาค 2 (จบ) ค่ะ เฉลยแบบเก็บหมด ไม่มีกั๊ก
แล้วทีนี้ ถ้าอยากลงลึกรายละเอียดของตัวละครบางตัว เรามีภาคพิเศษที่จะเขียนก่อนภาค 2
แต่จะเป็น NL เด่น (BL รอง) ซึ่งตั้งใจว่าคงไม่นำมาลงที่เล้าค่ะ (ก็จะเอา NL มาลงในเล้าได้ยังไง ;w;)
/แต่ภาค 2 BL เด่นเหมือนเดิมนะคะ ตัวเอกยังเป็นโคลด์ มีภาคพิเศษที่ตัวเอกเป็นผู้หญิง (ในเรื่องนี้ละค่ะ) เลยเป็น NL
เราชอบประโยคที่ว่า 'ซากปรักหักพังของตัวตน จิตวิญญาณ ครอบครัว ความรัก ความฝัน'
อ่านแล้วซึ้งมากเลยค่ะ ;w; ดีใจที่นักอ่านเขียนนิยามที่สวยงามขนาดนี้ให้
สำหรับความหวัง มีค่ะ มีแน่นอน :)  :mew6:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (1) [02/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 02-02-2017 19:40:28
NL เป็นเรื่องของเกวนกับเจ้าราชามังกรหลายเมียนั่นหรือเปล่า คิดว่าน่าจะใช่แหล่ะ (มั้ง)  :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰{♰ บทที่ 11 : (1) [02/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-02-2017 20:03:16
เพิ่งได้อ่านเมื่อวันก่อน สนุกจนวางไม่ลง
ติดตามไรท์ มาตั้งแต่ ลิมโบ วิวิด แมวท่าน คีย์ออฟโซโลมอน
ทุกเรื่อง ภาษาสวยงาม ลื่นไหล
เรื่องเอลฟ์ ภาษาทำให้นึกถึงลอร์ดออฟเดอะริงส์
ไรท์ ผูกเรื่องเก่งมากตั้งแต่บทนำ ปูมบันทึกตำนานแห่งเอลฟ์
ความเกลียดชัง ระหว่างเอลฟ์ ดาร์กเอลฟ์
มาจากความรักของรุ่นใหญ่
ชอบ โคลด์ ซิกฟรีด ผูกพันกันไม่ใช่แค่เวทย์ผูกพันหรอก
มาลแกธ ก็น่าเชียร์ รักจนยอมตายให้ได้
ในใจกวินีเวียร์จริงๆ มีเอเลียตมั้ยนะ
แต่ราชามังกร ก็ไม่ยอมปล่อยมือกวินีเวียร์
รากาล น่ารัก น่าฟัด ซะจริง
แล้วเอรี จะยอมให้ซิกฟรีด มีโคลด์ เป็นหอกข้างเตียงรึ
ไรท์ สุดยอดดดด สนุกจนอยากอ่านอีกละ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰{♰ บทที่ 11 : (1) [02/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 02-02-2017 20:49:42
โหววววววว ถึงขั้นผูกวิญญานเข้าด้วยกันแล้วยัยหนูโคลด์ก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยๆๆๆๆๆเข้าใจเจ้าชายผิดซะงั้น เฮ้อออความรักหนอความรัก
ไม่รู้จริงจังค่ะ ซิกฟรีดก็ปากหนักไม่เคยบอก เป็นไงละ ดูผลลัพธ์สิ...

อาเลธผูกพันและปกป้องโคลด์โดยไม่รู้ตัว

ตอนอ้อนโคลด์น่ารักมากอ้ะ ดูเด็กน้อยไร้พิษสง โคลด์เองก็อ่อนโยนเนอะ

ราวกับภาพฝันอันเลือนราง
ชอบที่เรียกว่าอาเลธจังเลยค่ะ ;) ชอบอะ ชอบๆ
อยากเขียนอดีตมุ้งมิ้งของ 2 เด็กอีกเยอะๆ ;w;
เสียดาย ไม่ค่อยมีโอกาสให้แทรกอะ

:hao7:
:hao7:

:pig4: :pig4:
:katai2-1: :katai2-1:

NL เป็นเรื่องของเกวนกับเจ้าราชามังกรหลายเมียนั่นหรือเปล่า คิดว่าน่าจะใช่แหล่ะ (มั้ง)  :hao7:
เกวนกับเอเลียตเป็นคู่หนึ่ง แต่ยังมีอีกคู่ค่ะ ;)

เพิ่งได้อ่านเมื่อวันก่อน สนุกจนวางไม่ลง
ติดตามไรท์ มาตั้งแต่ ลิมโบ วิวิด แมวท่าน คีย์ออฟโซโลมอน
ทุกเรื่อง ภาษาสวยงาม ลื่นไหล
เรื่องเอลฟ์ ภาษาทำให้นึกถึงลอร์ดออฟเดอะริงส์
ไรท์ ผูกเรื่องเก่งมากตั้งแต่บทนำ ปูมบันทึกตำนานแห่งเอลฟ์
ความเกลียดชัง ระหว่างเอลฟ์ ดาร์กเอลฟ์
มาจากความรักของรุ่นใหญ่
ชอบ โคลด์ ซิกฟรีด ผูกพันกันไม่ใช่แค่เวทย์ผูกพันหรอก
มาลแกธ ก็น่าเชียร์ รักจนยอมตายให้ได้
ในใจกวินีเวียร์จริงๆ มีเอเลียตมั้ยนะ
แต่ราชามังกร ก็ไม่ยอมปล่อยมือกวินีเวียร์
รากาล น่ารัก น่าฟัด ซะจริง
แล้วเอรี จะยอมให้ซิกฟรีด มีโคลด์ เป็นหอกข้างเตียงรึ
ไรท์ สุดยอดดดด สนุกจนอยากอ่านอีกละ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
โอ แฟนพันธุ์แท้ ขอบคุณมากนะคะ เรื่องที่พูดมาเป็นเรื่องที่เรารักและตั้งใจเขียนทุกเรื่อง ;w; (เรื่องนี้ด้วย)
พูดถึงเอลฟ์ก็ต้องนึกถึงลอร์ดเนอะ ตอนเลือกใช้คำสำหรับ Elven Almanac
เราก็มีเปิดๆ นิยายแฟนตาซีแนวยุโรปยุคกลางเพื่อสร้างกลิ่นอายให้ตัวเอง+เพื่อเป็นคลังคำด้วยค่ะ /สูด ซู้ดๆๆๆ
ดีใจจังที่ยังมีคนชอบแนวแฟนตาซี ช่วงนี้เป็นช่วงอยู่ยากของแนวนี้ค่ะ พูดตามตรงเลย OTL (ไม่ว่าจะ BL หรือไม่)
แต่ใจรักแนวนี้ เลยดีใจทุกครั้งที่ เออ ยังมีคนชอบอ่านนะ
โคลด์ ซิกฟรีด มาลแกธ ต้องดูกันยาวๆ เลยค่ะ ว่าสุดท้ายจะเป็นยังไง
กวินีเวียร์กับเอเลียตไม่มีมือที่ 3 จริง...แต่มีเมียหลวงอีก 9 คน OTL
รากาลกับอิลมาเรนั้นดีต่อใจ (คนเขียน)
ส่วนเอรี่ ภาคอดีตนี้มีบทน่าจับตามองค่ะ (รอสักพัก)
สุดท้าย ขอบคุณที่ชอบนะคะ ;) ฝาก Elven Almanac ด้วยจ๊ะ!
ป.ล. อัพทุกวัน วันนี้ก็อัพหลังเที่ยงคืนนะคะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (2) [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 02-02-2017 23:59:38
บทที่ 11 : ทาสและเจ้าชาย (2)

ซิกฟรีดดึงโคลด์เข้ามาในห้องอย่างเดิม มือแกร่งกำรอบแขนเหมือนคีม แรงของเอลฟ์อายุสิบห้าปีเยอะไม่ใช่เล่น ซิกฟรีดลากโคลด์ไปรอบห้องเพื่อหาเข็มกับด้าย คุ้ยสมบัติส่วนตัวของดาร์กเอลฟ์เสียกระจุยกระจาย

โคลด์จึงเจ็บตัวเพิ่มขึ้นอีก เขาโดนเย็บแผลสดๆ ส่งเสียงร้องดังลั่นบริเวณที่พัก คืนนั้นโคลด์นอนขดปลายเตียงของซิกฟรีด กลั้นเสียงสบถด่า

เขาไม่มีห้องส่วนตัวด้วยซ้ำ ต้องนอนเหมือนหมานอนปลายเตียงเจ้าของ

คิงเฟรธูริน ‘ขอร้อง’ ให้เขาตามมาส่งไอ้เด็กเอลฟ์ จากนั้นก็ขอให้ช่วยดูแลต่ออีกหน่อย จากหนึ่งปีเป็นสองปี สามปี...ต่อเวลาจนมาชิงตายไปก่อน เขาจึงมีสภาพเหมือนสัตว์เลี้ยงกึ่งทาสอย่างในขณะนี้

“จะด่าก็ด่าให้ดัง เหมือนที่ร้องลั่นตอนโดนเข็มเย็บแผล” เสียงกวนประสาทดังมาจากเอลฟ์ที่นอนบนเตียง ซิกฟรีดนวดหลังใบหูของตัวเอง เขายังรู้สึกถึงฝีเข็มที่ตัวเองแทงอยู่เลย มันไม่น่าเจ็บขนาดนี้ถ้าโคลด์ไม่ดิ้น

และไม่มีเวทผูกพันธะอะไรนั่น

โคลด์ไม่ตอบ เขาขดตัวใต้ผ้าห่มผืนบาง ยิ่งดูตัวเล็กลงไปอีก

นอนเงียบกันไปสักพัก ซิกฟรีดก็พูดลอยๆ ว่า “ถ้าเจ็บมาก มียาในลิ้นชัก”

ทำไมโคลด์จะไม่รู้ เขาเป็นคนปัดกวาดเช็ดถูห้องนี้ แต่ดาร์กเอลฟ์ไม่ตอบอะไรสักคำ ไม่ขยับตัวแม้แต่นิดเดียว แปลว่า

‘อย่ามายุ่งกับข้า’

นอนอึมครึมกันไปอีกสักพัก ซิกฟรีดก็ลุกขึ้นจากเตียงไปเปิดลิ้นชัก หยิบขี้ผึ้งกับยาบรรเทาอาการปวดออกมา ก่อนจะไปยืนค้ำร่างดาร์กเอลฟ์ที่นอนไม่รู้เรื่องรู้ราว

โคลด์ผล็อยหลับไปแล้ว คงเพราะเหนื่อยจัดจากการหลบหนีและการเสียเลือด ซิกฟรีดจึงได้ทายาให้โดยดาร์กเอลฟ์ไม่ต่อต้านอีก

----------------------------------------

หนึ่งเดือนหลังถูกซิกฟรีดลงโทษ โคลด์สงบเสงี่ยมผิดหูผิดตา กลับกลายเป็นซิกฟรีดที่ดูโกรธและหงุดหงิดตลอดเวลาแทน

เขาถูกขัง

ซิกฟรีดมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ ว่าเขาถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ในอาศรม พี่ริวอร์นอร์ไม่เคยอธิบายเหตุผลด้วยตนเอง มีแต่ควาร์เอเรนดิลที่คอยพูดกรอกหูเขาว่า “คิงริวอร์นอร์คำนึงถึงความปลอดภัยของท่าน” แต่เขาเบื่อที่จะปลอดภัยแล้ว

ขนาดงานพระบรมศพของพี่เฟรธูริน เขายังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากอาศรมไปร่วมแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย

ทำไม

เหตุผลที่แท้จริงคืออะไร


เจ้าชายเอลฟ์คิดขณะวาดดาบยักษ์ในสนามประลอง ควาร์ที่เป็นคู่ซ้อมถึงกับแขนร้าว ดาบของซิกฟรีดเกรี้ยวกราด เขาระบายอารมณ์ไม่ยั้ง

ซิกฟรีดตัดสินใจว่าจะต้องหาทางออกจากอาศรมให้ได้

หรือหากไม่

เขาก็ต้องรู้ความจริงให้ได้

 

โคลด์ใช้เวลาอยู่กับมาลแกธมากกว่าเดิม มาลแกธเป็นเอลฟ์ตะวันออกที่เดินทางมาศึกษาในสำนักของควาร์เมื่อสามปีก่อน เขาไม่รังเกียจดาร์กเอลฟ์แถมยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ คอยสอนวิชาการใช้มีดสั้นให้โคลด์ด้วย

“แผลเป็นอย่างไรบ้าง” มาลแกธเอียงหน้ามองหลังใบหูของโคลด์

“หายดีแล้ว ยาทาที่เจ้าให้มาใช้ดีมาก” โคลด์นั่งกินขนมที่ควาร์หน้าตาน่ารักสักคนทำมาให้มาลแกธ ซึ่งมาลแกธเอามาแบ่งให้เขากินด้วย

“ข้าผสมยาไว้เยอะ คิดว่าเจ้าน่าจะต้องการใช้อีก แต่นี่ดูเหมือนว่าเจ้าเลิกล้มความตั้งใจที่จะหนีแล้วใช่หรือไม่”

“ข้าไม่อยากถูกกรีดหูอีกข้าง” โคลด์หยิบขนมแบบเอลฟ์เข้าปากอีกชิ้น “วันหลังข้าอยากกินอันที่มันสีน้ำตาลๆ หวานๆ น่ะ เรียกว่าช็อกโกแลตใช่ไหม เจ้าบอกลูกศิษย์เจ้าทำอันนั้นมาอีกสิ”

“ได้สิ” มาลแกธหัวเราะ เขามองโคลด์กินหมุบหมับอย่างนึกเอ็นดู “เดี๋ยวนี้ข้าเห็นเจ้าคุยกับนกสีขาวบ่อยๆ ข้าไม่เคยเห็นนกตัวนั้นมาก่อน เพิ่งเป็นเพื่อนกันหรือ ให้ข้าหาขนมเผื่อเพื่อนของเจ้าไหม”

โคลด์สำลักขนม มือควานหาน้ำดื่ม ใบหูชี้ตั้ง “เจ้าแอบตามข้าหรือ!”

“ไม่ได้แอบ ข้าตามโจ่งแจ้ง แต่เจ้าไม่สังเกตเห็นข้าเอง ว่าอย่างไร เดี๋ยวนี้มีเพื่อนเป็นนกสินะ”

“ใช่ ข้ามีเพื่อนเป็นนก เป็นหนู เป็นหมูป่า กบ เขียด ตัวอะไรก็ตามที่ดีกับข้า ข้าไม่อยากเสวนากับควาร์ลูกขุนนาง โดยเฉพาะซิกฟรีด” ซึ่งปกติซิกฟรีดก็ไม่พูดมากอยู่แล้ว “นกตัวนั้นน่ารักดี เชื่องด้วย เจ้าอย่าทำอะไรมันนะ ห้ามบอกใครด้วย”

ดาร์กเอลฟ์ห่วงใยนกออกหน้าออกตา น่าสงสารว่าคงไม่มีเพื่อนสักคนเลยจริงๆ

“ข้าเป็นเอลฟ์ตะวันออกที่รักสัตว์และรักษาความลับเก่ง” มาลแกธปาดนิ้วเช็ดขนมที่ติดอยู่ตรงมุมปากให้โคลด์

“โอเค” โคลด์กินขนมต่อ เขาทำตามที่ลั่นวาจาไว้เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เขาเลิกซักผ้า ไม่เอาอาหารไปให้หลังเวลาฝึกซ้อม และไม่ซ่อมสายพิณให้ซิกฟรีด

ควาร์ที่ชอบมาลแกธ (ในเชิงชู้สาว) หลายคนไม่พอใจนักที่เอลฟ์ตะวันออกนั่งหัวเราะกับทาสดาร์กเอลฟ์

มีเสียงโหวกเหวกจากฝั่งลานประลอง มาลแกธฟังสักพักก็เอ่ยว่า “ซิกฟรีดของเจ้าทำควาร์บ่าหลุดไปสองคนแล้ว”

“หูเจ้าดีจังเลยนะ ข้าไม่ได้ยินไกลขนาดนั้นหรอก” โคลด์หยิบขนมชิ้นสุดท้ายในตระกร้าสานก้นแบน เอาเข้าปาก “สรุปข้ากินหมดเลย” เขายิ้มแป้นให้มาลแกธ

“อยากกินอีกก็มาใหม่พรุ่งนี้ ข้าว่างช่วงวิชาฝึกอาวุธ” มาลแกธทำข้อตกลงกับควาร์เอเรนดิล ขอเว้นการประลองทุกรูปแบบ ซึ่งเข้าใจได้เมื่อคิดว่าเอลฟ์ตะวันออกหวงวิชาศาสตราวุธของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นมาลแกธก็ยังได้รับการขอร้องให้เป็นอาจารย์พิเศษอยู่เนืองๆ

...และเขายอมสอนวิชามีดสั้นให้โคลด์อยู่คนเดียว

“ข้าไม่อยากกลับไปที่พักฝั่งโน้นแล้ว เจ้าว่าข้าไปขอโรงเก็บของเก่าเป็นที่นอนได้หรือเปล่า” โคลด์เปรย เขาอยากแยกห้องนอนกับซิกฟรีดมานานแล้ว หนึ่งเดือนมานี้ นอกจากดาร์กเอลฟ์จะเลิกหนี ยังกล้าขึ้นมาก

“อืม” มาลแกธนึก “ถ้าขอไม่ได้อย่างไร มาพักที่ห้องข้าชั่วคราวก่อนได้” ดวงตาของเอลฟ์ตะวันออกมีประกายเจ้าชู้ หากเป็นควาร์น่ารักคงล้มพับไปแล้ว

“ดี!” โคลด์ทุบอกอย่างมุ่งมาด ไร้การสังเกตความหมายลึกซึ้งในดวงตาสีแดงคมปลาบ “ข้าจะไปขอควาร์เอเรนดิลก่อน ถ้าไม่ได้โรงเก็บของ ห้องของเจ้าก็ไม่เลว”

 

ขณะที่โคลด์มุ่งมั่นกับการหาที่นอนใหม่ ซิกฟรีดก็ถูกลากไปสงบสติอารมณ์ สีหน้าเรียบเฉยแต่การกระทำรุนแรง เจ้าชายเอลฟ์ทำควาร์บ่าหลุดไปสองคน กระดูกร้าวอีกหนึ่งคนในสนามประลอง

ปกติแล้วซิกฟรีดไม่เสวนากับใคร ยิ่งช่วงหลังคิงเฟรธูรินสิ้นพระชนม์ยิ่งเงียบ

และในตอนนี้เขาเงียบสนิท มีเพียงความคิดที่ปั่นป่วนอยู่ข้างใน ซิกฟรีดอยากระบายมันออก การประลองดาบช่วยได้

แต่ยังไม่พอ

 

โคลด์กลับออกมาจากสำนักของควาร์เอเรนดิล ควาร์อาวุโสตอบคำขอของเขาว่า ‘ถ้าเจ้าชายอนุญาต’

โคลด์จึงถือว่าเขาสามารถอนุญาตตัวเอง เพราะอย่างไรหนึ่งเดือนมานี้ซิกฟรีดก็ไม่สนใจเขาอยู่แล้ว

ระหว่างทางกลับไปขนของจากห้องซิกฟรีด เขาเจอควาร์กลุ่มลูกขุนนางสามสี่คน นำโดยธอรอนทูร์และไมเธียน

ไมเธียนผู้นี้เป็นลูกศิษย์วิชาอ๊ะๆ อาๆ ของมาลแกธ แต่ไม่เคยทำขนมมาให้อาจารย์ แต่โคลด์ก็ไม่อยากกินขนมฝีมือมันหรอก

ดาร์กเอลฟ์เดินเลี่ยง ก้มหน้าก้มตาอย่างสงบเสงี่ยม เขากำลังอารมณ์ดี ไม่อยากมีเรื่อง กระทั่งธอรอนทูร์เข้ามายืนบังทาง ตามด้วยควาร์คนอื่นๆ ล้อมเขาไว้เป็นวงกลม

“ข้าแค่จะเดินผ่านทางนี้” โคลด์เอ่ย

“ได้ยินว่าเจ้ากำเริบเสิบสาน ไม่รับใช้เจ้าชายซิกฟรีด ท่านอารมณ์เสียจนมาลงกับคู่ฝึกซ้อม ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดี ดาร์กเอลฟ์!” ควาร์คนหนึ่งดึงหูโคลด์ ข้างที่แผลเพิ่งหายดี

“โอ๊ย!” การดึงหูเป็นวิธีแสดงความเหยียดหยามทางหนึ่ง โคลด์ไม่มีที่ให้หลบเพราะถูกล้อม และไม่นึกว่าอยู่ๆ เอลฟ์จะมาแตะตัวเขาด้วย

“สกปรกชะมัด” มันบอก แต่ไม่ปล่อยมือ “เป็นทาสก็รับใช้เจ้านายให้ดี อย่าลืมบุญคุณที่เจ้าได้มาอาศัยแผ่นดินนี้!”

ซิกฟรีดกลับมายังห้องพัก เขาหวังว่าจะได้พักผ่อนเพื่อให้ตนเองสงบลง แต่กลับมาเจอภาพที่ทำให้เลือดร้อนขึ้น

ดี...ดีจริงๆ

“ข้ากำลังคิดอยู่เลยว่ายังไม่พอ” ซิกฟรีดแหวกวงล้อม ตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อของควาร์ที่ดึงหูโคลด์อยู่

เร็วกว่าที่ใครจะคาด หมัดถูกเหวี่ยงเข้าโหนกแก้มของควาร์หนุ่มคนนั้นเข้าอย่างจัง ซิกฟรีดเหยียดยิ้ม ดึงมันขึ้นมาอีก แล้วชกจนร่วงลงไปอีกครั้ง

โคลด์กุมหูตัวเอง มองการเข้ามาช่วยเหลือของซิกฟรีดอย่างตกตะลึง

ไม่ใช่แค่โคลด์ที่ตกตะลึง แต่ควาร์ทุกคนในที่นั้น โดยเฉพาะธอรอนทูร์และไมเธียนต่างก็ยืนเบิกตากว้าง ไม่นึกว่าเจ้าชายเอลฟ์จะลงมือเช่นนี้ แค่ดาร์กเอลฟ์ตนเดียว ดูอย่างไรก็ทำเกินกว่าเหตุ

ซิกฟรีดหัวเราะในลำคอ ตวัดสายตาไปทางกลุ่มควาร์ที่ทำอะไรไม่ถูก “ถึงตาเจ้าแล้ว ธอรอนทูร์...”

ความวุ่นวายตามมา เกิดการชกต่อย แต่กลับไม่มีใครถูกเรียกไปลงโทษหลังจบเรื่อง อาจเพราะพวกธอรอนทูร์ทำผิดอุดมการณ์ ‘ไม่แบ่งแยกเผ่าพันธุ์’ อย่างโจ่งแจ้ง ควาร์บางคนที่มีมโนธรรมจึงช่วยไกล่เกลี่ย ให้เรื่องนี้กลายเป็น ‘ความเข้าใจผิดเล็กๆ น้อยๆ’ ที่จบลงโดยที่ไม่มีใครได้รับโทษ


—————————————————————————

A/N เป็นไงล่ะ ซิกฟรีดปกป้อง! ซิกฟรีดปกป้องนะเออ!!! ถึงโคลด์จะมึนๆ แต่ก็ควรเห็นใช่ไหมว่าเขาปกป้องน่ะ ;w;
ป.ล. มาลแกธเต๊าะโคลด์แต่เด็กเลยค่ะ คือมาถึงอาศรมก็เอาขนมหลอกล่อให้เด็กมาหา ตัวเองอายุ 200 กว่า หลอกเด็ก 15 อะ... (หลอกมา 3 ปี ปัจจุบันช่วงนี้คือโคลด์อายุ 18)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (2) [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 03-02-2017 00:02:21
*ยกมือสูงๆ แขนติดใบหู*
เราคนนึงแหละค่ะที่รอตอนอาศรมควาร์ ยอมรับเลยว่าตอนที่แล้วทำให้สงสัยมาก
ว่าอะไรที่ทำให้คนที่ไม่น่ารักกันได้(ก็ดูน่าจะทิฐิแล้วก็อีโก้สูงพอตัวกันทั้งคู่ เหมือนเด็กดื้อปากแข็ง 2 คน) มารักกันได้
แต่รู้สึกได้เลยว่าเพราะความผูกพันธ์จริงๆ เลยอยากรู้ว่าเกิดไรขึ้นที่อาศรมควาร์ อิอิ

พออ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าซิกน่ารักมากเลยค่ะ คนละเรื่องกับปัจจุบันเลย (ซิกอย่าโกรธเลาาาา)
แบบซึนแต่เด็กไม่ยอมรับว่ารู้สึกดีกับโคล์ดเพราะเค้าอ่านนิทานก่อนนอน กับปลอบตอนฝันร้าย 55555 (แต่ถ้าใครรู้มันก็น่าแซวจริงๆ 5555)
ปกติเวลาอ่านเราจะมองจากมุมมองโคล์ดเป็นส่วนใหญ่ พอมาตอนนี้ได้รู้จากมุมของซิกบ้าง
เลยได้รู้อะไรมากขึ้น ว่า... โคล์ดช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ไอ้ตราทาสของตัวเองเนี้ย ซิกเสียเปรียบสุดๆ อยากให้โคล์ดได้รู้จัง

ต่อจากนี้(ของตอนปัจจุบัน)จะต้องวุ่นวายแน่ๆ

//ขอบคุณคนแต่งที่แต่งยิยายสนุกๆมาให้อ่านนะคะ รักส์  :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (2) [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 03-02-2017 00:15:40
เมื่อกี้เม้นพร้อมกับที่ลงตอนต่อพอดี เลยเม้นของตอนใหม่ต่อเลย55555
สิ่งที่สังเกตได้อีกอย่างก็คือ ซิกไม่พูดเลย .... นี่มันคนเดียวกะนกับซิกที่เรารู้จักรึเปล่า 55
ใจเด็ดมากที่ดย็บแผลโคลด์สดๆแล้วตัวเองก็เจ็บไปด้วย //และโคล์ดก็ไม่รู้อีกตามเคย (โถ่.. เจ้าโคล์ด)

ปล.มาลแกธ แกมันโคแก่!!!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (2) [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 03-02-2017 00:36:10
ซิกน่าหมั่นไส้แต่เด็กเลยนะแก!! แต่ยังไงก็ยืนยันอะค่ะ เรื่องนี้ถ้าสองคนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันตอนเด็กโตมานี่ฆ่ากันตายแน่นอน 5555 เพราะความผูกพันธ์ทำให้เกิดความรักสินะ อืมมมมม ... /ทำหน้าครุ่นคิดดดด แล้วก็เราได้กลิ่นตุๆเรื่องคิงเฟรธูริน เราสงสัยว่าอาจจะถูกริเวอร์นอร์ฆ่า (เขียนชื่อถูกไหมนะ ขอโทษทีค่ะ ชื่อจำยาก 555) แล้วป้ายความผิดให้กับพวกดาร์กเอลฟ์ เพราะไงๆเอลฟ์ก็เกลียดดาร์กเอลฟ์อยู่แล้ว ถ้าจะป้ายความผิดให้คงไม่เป็นไร แล้วตอนนั้น ซิกฟรีดก็อารมณ์ประมาณรักพี่เฟรมาก พอรู้ความจริงก็โกรธละมั้ง เลยยึดอำนาจแทนทำให้โดนคำสาปนั่นไง!! 555 มโนเป็นตุเป็นตะเลยย แต่เรื่องคิงเฟรธูรินเราว่ามันแปลกๆอะค่ะ พี่ตายทั้งทีแต่ไม่ให้น้องไปเยี่ยม อ้างความปลอดภัยจนซิกหงุดหงิดเกือบฆ่าควาร์ในอาศรมไปหลายคนละค่ะ 5555 ยังไงก็ขอบคุณมากค่ะ ที่ขยันมาอัพทุกวัน เรื่องนี้สนุกดี ถึงจะเป็นแนวดราม่าโรแมนซ์(? รึเปล่านะ หรือแนวดราม่า SM ดี555) ที่เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ก็เถอะ (ชอบอ่านแนวสดๆใสๆค่ะ อิอิ) แล้วเรื่อง NL ก็พอเข้าใจได้ค่ะ เราเป็นสาววายก็จริง แต่ถ้ามีนิยาย NL สนุกๆมาเราก็ชอบอ่านค่ะ ไม่ได้เน้นว่าต้องวายถึงจะอ่านไรงี้ *--*

ปล.ถ้าทำเป็นหนังสือ อาจจะได้ช่วยอุดหนุนนะคะ ^^

ปลล. ยังไงเราก็ทีมมาลแกธค่ะ!! ถึงใครจะคิดว่ามาลเป็นโคแก่ก็เถอะ ถถถถถถถ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (2) [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 03-02-2017 00:52:58
มาลแกธล่อลวงเด็กน้อย! โอย....นี่ซูเปอร์โชตะค่อนระดับตัวอ่อนกับไม้ใกล้ฝั่งเลยนะ

อาเลธเอย...อาเลธ....เมื่อรู้แล้วว่าเวทพันผูกทำให้ตัวเองเสียเปรียบแต่กลับไม่ยอมปลดเวท
สิ่งใดผูกใจเจ้าไว้?

คิงน้องฆ่าคิงพี่หรืออย่างไร?
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (2) [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 03-02-2017 08:03:02
ดูดีๆแล้วซิกก็โดดเดี่ยวมากเลยนะ พี่ชายที่รักที่สุดก็ตาย พี่คนรองก็เป็นโรคจิต พี่สะใภ้ก็หวังฮุบบัลลังก์ แล้วยังโดนคนที่ตัวเองรักเข้าใจผิดอยู่เรื่อย นอกากนี้ยังมีเอลฟ์แก่มาเต๊าะหวานใจอีก  โคลด์ต้องเข้าใจนะซิกต้องการความรักเลยชอบรักแบบแรงๆ คึคึ เรารอฉาก"รัก" ของสองคนนี้อยู่นะคะ คนเขียนอย่าปล่อยให้ชาวเรืออดน้ำตายนะ


ปล.อยากขย้ำโคลด์น้อยจังเลยน่ารักน่าเอ็นดูอะไรขนาดนี้ อยากเอามาเลี้ยงที่บ้าน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (2) [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 03-02-2017 08:34:06
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (2) [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 03-02-2017 12:28:52
ล่องเรือย้อนเข้าอาศรมแล้ววว จะได้เห็นลุคนางทาสของโคลด์มากขึ้น  :katai2-1:
มีหลายฉากที่นึกภาพแล้วก็อมยิ้มกรุ้มกริ่ม คนละเรื่องกับปัจจุบันเลยโถ่วว

อิตามันแกววว เอ๊ย มาลแกธเนี่ยนะ โคลด์น่ะของซิก(กับเรา)นะยะ ห้ามแตะ! (อาศรมนี่มันฮาเร็มของมาลแกธจริงๆด้วย)

ป.ล.1 โคลด์นอนปลายเตียงนี่หมายถึงเตียงเดียวกันกับซิกฟรีดใช้มั้ยเจ้าคะ
ป.ล.2 ไปเจ้าค่ะ ไปเป็นทาสซิกกัน!  :katai5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (2) [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 03-02-2017 16:16:26
นี่ว่าซิกฟรีดซาดิสต์  คือเย็บแผลสดถึงตัวเองจะเจ็บรับความเจ็บมาด้วยครึ่งนึง  ก็แล้วยังไงอะ ใช่เรื่องจะมานั่งเจ็บป่ะ?? รึถือว่ารวบยอดที่ไปรับปากว่าจะลงโทษโคลด์  ก็เลยเลือกทำแบบนี้เลยตัวเองเจ็บด้วยครึ่งนึงงี้??   แต่อย่างเรื่องที่ช่วยปกป้องไปต่อยหน้าควาร์คนอื่นนี่ก็โอเคช่วงส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนที่จูงใจก็เพราะอยากระบายอารมณ์ตัวเอง  มองในมุมคนถูกช่วยก็อาจประทับใจก็ได้ซิกฟรีดดูพระเอกมากต่อยแทนเลยนะ  แต่ถ้าไม่ได้อารมณ์ไม่ดีอยู่ก็อาจไม่มำให้ถึงขนาดนี้ก็ได้ละ  ตรงนี้รู้สึกซิกฟรีคได้ทำคะเเนนแบบบวกพิเศษด้วยความบังเอิญไปเลยอะ     โถวววบ่นมาทั้งหมดไม่ใช่ไรทีมมาลไง แหะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (2) [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 03-02-2017 20:00:18
เหตุผลกลใดที่ทำให้ซิกจับโคลด์ทำเมีย???  เท่าที่ดูหนูโคลด์ไม่ปลื้มซิกเท่าไหร่นะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (2) [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-02-2017 23:00:21
ซิก ทำโคลด์เจ็บ แต่ตัวเองก็เจ็บด้วย
อยากให้สองคนเข้าใจกัน รักกันดีๆซักที
มาลแกธ อ่อยโคลด์ตลอด
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (2) [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 03-02-2017 23:28:54
*ยกมือสูงๆ แขนติดใบหู*
เราคนนึงแหละค่ะที่รอตอนอาศรมควาร์ ยอมรับเลยว่าตอนที่แล้วทำให้สงสัยมาก
ว่าอะไรที่ทำให้คนที่ไม่น่ารักกันได้(ก็ดูน่าจะทิฐิแล้วก็อีโก้สูงพอตัวกันทั้งคู่ เหมือนเด็กดื้อปากแข็ง 2 คน) มารักกันได้
แต่รู้สึกได้เลยว่าเพราะความผูกพันธ์จริงๆ เลยอยากรู้ว่าเกิดไรขึ้นที่อาศรมควาร์ อิอิ

พออ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าซิกน่ารักมากเลยค่ะ คนละเรื่องกับปัจจุบันเลย (ซิกอย่าโกรธเลาาาา)
แบบซึนแต่เด็กไม่ยอมรับว่ารู้สึกดีกับโคล์ดเพราะเค้าอ่านนิทานก่อนนอน กับปลอบตอนฝันร้าย 55555 (แต่ถ้าใครรู้มันก็น่าแซวจริงๆ 5555)
ปกติเวลาอ่านเราจะมองจากมุมมองโคล์ดเป็นส่วนใหญ่ พอมาตอนนี้ได้รู้จากมุมของซิกบ้าง
เลยได้รู้อะไรมากขึ้น ว่า... โคล์ดช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ไอ้ตราทาสของตัวเองเนี้ย ซิกเสียเปรียบสุดๆ อยากให้โคล์ดได้รู้จัง

ต่อจากนี้(ของตอนปัจจุบัน)จะต้องวุ่นวายแน่ๆ

//ขอบคุณคนแต่งที่แต่งยิยายสนุกๆมาให้อ่านนะคะ รักส์  :mew1:
ฮา ว้าย มีคนรอดีใจ ช่วงนี้สนุกค่ะ ได้เฉลยอะไรคาใจหลายๆ อย่างด้วย
ความผูกพันที่รออยู่จะได้เห็นชัดขึ้นค่ะ ทั้งกับซิกฟรีดและมาลแกธ (หลอกเด็ก)
แต่เจ้าชายน้อยซิกฟรีดน่ารักจริงค่ะ /ซับน้ำตา /กลับไปดูคนในบทนำสิ ฮือๆๆ
หวังว่าโคลด์จะเข้าใจอะไรมากขึ้น และรักคนอ่านเหมือนกันค่ะ  :กอด1:

เมื่อกี้เม้นพร้อมกับที่ลงตอนต่อพอดี เลยเม้นของตอนใหม่ต่อเลย55555
สิ่งที่สังเกตได้อีกอย่างก็คือ ซิกไม่พูดเลย .... นี่มันคนเดียวกะนกับซิกที่เรารู้จักรึเปล่า 55
ใจเด็ดมากที่ดย็บแผลโคลด์สดๆแล้วตัวเองก็เจ็บไปด้วย //และโคล์ดก็ไม่รู้อีกตามเคย (โถ่.. เจ้าโคล์ด)

ปล.มาลแกธ แกมันโคแก่!!!
ขอบคุณค่า เมนต์ให้ 2 รอบเลย จุ๊บ -3-
สังเกตเก่งมากค่ะ ซิกฟรีดพูดน้อยอะ ช่วงนี้ เหมือนที่มาลแกธเคยเล่าช่วงต้นๆ เรื่องนะคะ
"ข้าเจ็บหู" โคลด์บ่นเรื่องเย็บแผลสด ;w;

ซิกน่าหมั่นไส้แต่เด็กเลยนะแก!! แต่ยังไงก็ยืนยันอะค่ะ เรื่องนี้ถ้าสองคนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันตอนเด็กโตมานี่ฆ่ากันตายแน่นอน 5555 เพราะความผูกพันธ์ทำให้เกิดความรักสินะ อืมมมมม ... /ทำหน้าครุ่นคิดดดด แล้วก็เราได้กลิ่นตุๆเรื่องคิงเฟรธูริน เราสงสัยว่าอาจจะถูกริเวอร์นอร์ฆ่า (เขียนชื่อถูกไหมนะ ขอโทษทีค่ะ ชื่อจำยาก 555) แล้วป้ายความผิดให้กับพวกดาร์กเอลฟ์ เพราะไงๆเอลฟ์ก็เกลียดดาร์กเอลฟ์อยู่แล้ว ถ้าจะป้ายความผิดให้คงไม่เป็นไร แล้วตอนนั้น ซิกฟรีดก็อารมณ์ประมาณรักพี่เฟรมาก พอรู้ความจริงก็โกรธละมั้ง เลยยึดอำนาจแทนทำให้โดนคำสาปนั่นไง!! 555 มโนเป็นตุเป็นตะเลยย แต่เรื่องคิงเฟรธูรินเราว่ามันแปลกๆอะค่ะ พี่ตายทั้งทีแต่ไม่ให้น้องไปเยี่ยม อ้างความปลอดภัยจนซิกหงุดหงิดเกือบฆ่าควาร์ในอาศรมไปหลายคนละค่ะ 5555 ยังไงก็ขอบคุณมากค่ะ ที่ขยันมาอัพทุกวัน เรื่องนี้สนุกดี ถึงจะเป็นแนวดราม่าโรแมนซ์(? รึเปล่านะ หรือแนวดราม่า SM ดี555) ที่เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ก็เถอะ (ชอบอ่านแนวสดๆใสๆค่ะ อิอิ) แล้วเรื่อง NL ก็พอเข้าใจได้ค่ะ เราเป็นสาววายก็จริง แต่ถ้ามีนิยาย NL สนุกๆมาเราก็ชอบอ่านค่ะ ไม่ได้เน้นว่าต้องวายถึงจะอ่านไรงี้ *--*

ปล.ถ้าทำเป็นหนังสือ อาจจะได้ช่วยอุดหนุนนะคะ ^^

ปลล. ยังไงเราก็ทีมมาลแกธค่ะ!! ถึงใครจะคิดว่ามาลเป็นโคแก่ก็เถอะ ถถถถถถถ
จะว่ามันเป็นวัยฝัน วันรักก็ได้ค่ะ (เปรียบซะแก่เลยเธอ =.=)
คือ มันจะเป็นความผูกพันที่มีมาแต่สมัยเด็ก หลายปี มันถึงกลั่นไปเป็นวันที่เขาแตกกันได้ขนาดนั้นน่ะค่ะ
ชอบที่วิเคราะห์เรื่องเฟรธูรินกับริวอร์นอร์ด้วยค่ะ ตัวละคร 2 คนนี้สำคัญกับเรื่อง แต่บทบาทถูกเก็บเงียบมาตลอด
จุ๊ๆๆๆ
ป.ล. 1 ดีใจที่ถึงไม่ใช่แนวที่ชอบก็ยังอ่านได้และชอบนะคะ
ป.ล. 2 หนังสือยังไม่มีกำหนดการเลยค่ะ ตอนนี้กะว่าลงให้อ่านกันเพลินๆ ไปก่อนนะคะ ;)
ป.ล. 3 โคแก่แต่หล่อ ล่ำ เก่งกาจ โหด (?) รบบนเตียงก็เก่งนะคะ /ฮา
ป.ล. 4 ดราม่า SM ค่ะ 555

มาลแกธล่อลวงเด็กน้อย! โอย....นี่ซูเปอร์โชตะค่อนระดับตัวอ่อนกับไม้ใกล้ฝั่งเลยนะ

อาเลธเอย...อาเลธ....เมื่อรู้แล้วว่าเวทพันผูกทำให้ตัวเองเสียเปรียบแต่กลับไม่ยอมปลดเวท
สิ่งใดผูกใจเจ้าไว้?

คิงน้องฆ่าคิงพี่หรืออย่างไร?
5555 เอลฟ์อายุ 279 ปี ไม่ถือว่าแก่นะคะ ยังหนุ่มๆ อยู่เลย สัก 100 ปีถึงจะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวค่ะ สำหรับเอลฟ์
(แต่มาเต๊าะเด็ก 15-18 ก็นะ...) /มาลแกธแจกจ่ายความรัก
ส่วนปมของซิกฟรีด มีค่ะ มี! มันคือ!!! /รูดซิบปากค่า -3-

ดูดีๆแล้วซิกก็โดดเดี่ยวมากเลยนะ พี่ชายที่รักที่สุดก็ตาย พี่คนรองก็เป็นโรคจิต พี่สะใภ้ก็หวังฮุบบัลลังก์ แล้วยังโดนคนที่ตัวเองรักเข้าใจผิดอยู่เรื่อย นอกากนี้ยังมีเอลฟ์แก่มาเต๊าะหวานใจอีก  โคลด์ต้องเข้าใจนะซิกต้องการความรักเลยชอบรักแบบแรงๆ คึคึ เรารอฉาก"รัก" ของสองคนนี้อยู่นะคะ คนเขียนอย่าปล่อยให้ชาวเรืออดน้ำตายนะ


ปล.อยากขย้ำโคลด์น้อยจังเลยน่ารักน่าเอ็นดูอะไรขนาดนี้ อยากเอามาเลี้ยงที่บ้าน
ใจดีกับราชาจังเลยค่ะ ;w; ดีใจ
เราเองขนาดไม่ใช่เจ้าของตัวละคร ยังสงสารซิกฟรีดเลยค่ะ ฮีโดนมาหนักจริงๆ
/แล้วตัวละครของหล่อนละ ไม่เจอหนักเหมือนกันเรอะ! (ฮา)
ส่วนฉากที่ 'รอ' เราบอกเลยค่ะว่า 'มี!' /อันนี้สปอยได้ ฮาาาาาา
รับรองไม่อดแน่นอนค่ะ
ป.ล. "อย่าขยำข้าสิ" โคลด์จิ๋วบอก

:hao7: :hao7: :hao7:
:pig4: :pig4:

ล่องเรือย้อนเข้าอาศรมแล้ววว จะได้เห็นลุคนางทาสของโคลด์มากขึ้น  :katai2-1:
มีหลายฉากที่นึกภาพแล้วก็อมยิ้มกรุ้มกริ่ม คนละเรื่องกับปัจจุบันเลยโถ่วว

อิตามันแกววว เอ๊ย มาลแกธเนี่ยนะ โคลด์น่ะของซิก(กับเรา)นะยะ ห้ามแตะ! (อาศรมนี่มันฮาเร็มของมาลแกธจริงๆด้วย)

ป.ล.1 โคลด์นอนปลายเตียงนี่หมายถึงเตียงเดียวกันกับซิกฟรีดใช้มั้ยเจ้าคะ
ป.ล.2 ไปเจ้าค่ะ ไปเป็นทาสซิกกัน!  :katai5:
มาค่ะ เรือกำลังแล่นนิ่มๆ นอนกินลมชมวิวได้ตามสบายเลยค่ะ
#อีเย็นของคุณหลวงซิกฟรีด
หลายฉากดีต่อใจจริงๆ น้า ;w; อยากเขียนให้มุ้งมิ้งอีก แงๆๆๆ
ป.ล. มีการผลักเรือกันเกิดขึ้นนะครับท่านผู้ชม
ป.ล. 2 โคลด์นอนบนพื้นจ้า แงๆๆๆ พื้นปลายเตียง เหมือนน้องหมาเลยฮือๆๆๆ

นี่ว่าซิกฟรีดซาดิสต์  คือเย็บแผลสดถึงตัวเองจะเจ็บรับความเจ็บมาด้วยครึ่งนึง  ก็แล้วยังไงอะ ใช่เรื่องจะมานั่งเจ็บป่ะ?? รึถือว่ารวบยอดที่ไปรับปากว่าจะลงโทษโคลด์  ก็เลยเลือกทำแบบนี้เลยตัวเองเจ็บด้วยครึ่งนึงงี้??   แต่อย่างเรื่องที่ช่วยปกป้องไปต่อยหน้าควาร์คนอื่นนี่ก็โอเคช่วงส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนที่จูงใจก็เพราะอยากระบายอารมณ์ตัวเอง  มองในมุมคนถูกช่วยก็อาจประทับใจก็ได้ซิกฟรีดดูพระเอกมากต่อยแทนเลยนะ  แต่ถ้าไม่ได้อารมณ์ไม่ดีอยู่ก็อาจไม่มำให้ถึงขนาดนี้ก็ได้ละ  ตรงนี้รู้สึกซิกฟรีคได้ทำคะเเนนแบบบวกพิเศษด้วยความบังเอิญไปเลยอะ     โถวววบ่นมาทั้งหมดไม่ใช่ไรทีมมาลไง แหะๆๆๆ
5555555 ทั้งหมดที่ว่ามาคือ #เรือมาลแกธ สินะคะ 555555555
แต่น่าคิดจริงๆ ทำไมต้องเย็บสดฟร๊ะ หายาชงยาชาทำดีกับเขาหน่อยก็ไม่ได้ มาทำอะไรตอนหลับไปแล้ว /ซับน้ำตา
แสดงว่าจริงๆ แล้วนาย S สุกๆ สินะ ซฺกฟรีด ฮึ่มๆๆๆๆ
ส่วนที่ช่วยปกป้อง...มันมองได้หลายแบบจริงๆ ค่ะ แต่ถ้ามองที่ผลลัพธ์ก็...ถือว่าช่วยอะเนอะ

เหตุผลกลใดที่ทำให้ซิกจับโคลด์ทำเมีย???  เท่าที่ดูหนูโคลด์ไม่ปลื้มซิกเท่าไหร่นะ
เพราะความรั-- #ผิด
เอ ไม่สปอยดีกว่า ;) เอาเป็นว่าเหตุผลอยู่ในช่วงย้อนอดีตนี่แหละค่ะ

ซิก ทำโคลด์เจ็บ แต่ตัวเองก็เจ็บด้วย
อยากให้สองคนเข้าใจกัน รักกันดีๆซักที
มาลแกธ อ่อยโคลด์ตลอด
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
มาลแกธนี่...ถ้านอนเปลือยรอบนเตียงได้...ป๋าคงทำไปแล้วมังคะ!
อย่าคิดว่าป๋าไม่กล้าทำนะคะ 5555
ซิกฟรีดกับโคลด์ยังมีฉากพิสูจน์ใจกันอีกค่ะ มีอีกๆ รออ่านน้า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (3) [04/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 04-02-2017 00:12:42
บทที่ 11 : ทาสและเจ้าชาย (3)

บ่ายนั้น โคลด์เอาเสื้อผ้าของซิกฟรีดออกมานั่งซักให้เงียบๆ โดยฟังเจ้าชายเล่นพิณระบายอารมณ์ไปด้วย

พิณคันนี้เสียงแปร่ง เพราะโคลด์ไม่ยอมซ่อมสายพิณให้ ซิกฟรีดจึงต้องให้ควาร์คนอื่นช่วยซ่อมแทน

ที่จริง ควาร์ผู้ซ่อมมีความชำนาญเรื่องเครื่องดนตรี เขาซ่อมสายพิณได้วิเศษ เพียงแค่...ทำอย่างไรก็ปรับเสียงให้ตรงใจซิกฟรีดไม่ได้ ไม่เหมือนเวลาที่โคลด์เป็นคนปรับเสียงให้

ซิกฟรีดดีดแล้วก็หยุดเพื่อปรับเสียง แต่ยิ่งปรับยิ่งเพี้ยนไปกันใหญ่ จนสุดท้ายเขาก็เล่นไปทั้งอย่างนั้น เสียงเพลงช่วงแรกไพเราะดี แต่พอฟังไปสักพักกลับแข็งกระด้าง จนในที่สุดก็เกรี้ยวกราด

พิณเป็นเครื่องดนตรีที่ไม่น่าจะให้เสียงดนตรีเกรี้ยวกราดขนาดนั้นได้เลย

โคลด์ได้ยินเสียงพิณลอยมา มือก็ขยี้ผ้าที่กำลังซักต่อไปเรื่อยๆ อย่างเหนื่อยใจ

เชิญเจ้าดราม่า เป็นเจ้าชายกับเสียงเพลง ส่วนขี้ข้าอย่างข้าก็ซักผ้าไป เดี๋ยวสิ...เสื้อตัวนี้หมองได้ยังไง ทำไมคนที่เอาไปซักให้ถึงซักแบบไม่ถนอมเนื้อผ้าเลย

เสียงสายพิณขาดผึง! ดนตรีขาดช่วงกะทันหัน โคลด์ได้ยินเสียงคำรามไม่พอใจดังจากในห้องพักเบาๆ

ดาร์กเอลฟ์มองไปทางห้องพัก แล้วหันกลับมามองผ้ากองพะเนิน...

เขาตัดสินใจซักผ้าต่อ

คราวนี้ซิกฟรีดลงมือซ่อมพิณด้วยตัวเอง เขาถอดสายพิณเส้นเดิมออก แล้วค้นสายพิณเส้นใหม่ไปทั่วห้อง แน่นอน...บรรดาข้าวของส่วนตัวของโคลด์ก็ถูกค้นเสียเละเทะ

อันที่จริงซิกฟรีดไม่เคยเข้าไปยุ่งกับพื้นที่ส่วนตัว (ปลายเตียงและมุมห้อง) ของโคลด์ เพิ่งมาค้นเอาก็ตอนหาเข็มกับด้ายและสายพิณนี่ละ ทั้งยังแทบไม่แตะต้องตัวโคลด์ด้วย

ซึ่งเขาลืมตระหนักไปว่าการล่วงล้ำพื้นที่ส่วนตัวของโคลด์นั้นแปลก หลังๆ มาเขาแตะต้องตัวโคลด์บ่อยครั้งก็แปลก ไม่ได้คิดว่าตัวเองกำลังเปลี่ยนทีท่าที่มีต่ออีกฝ่าย

ไม่ได้สังเกตถึงความผูกพันที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องใช้เวทใดๆ

ซิกฟรีดหาสายพิณไม่เจอ เขาสบถด้วยความหงุดหงิด จะอ้าปากเรียกโคลด์ สตาร์ ...แต่ก็เปลี่ยนใจ

เจ้าชายเอลฟ์นั่งมองพิณที่ใช้การไม่ได้อยู่บนเตียง เขามองมันเหมือนอยากหักมันออกเป็นท่อนๆ ด้วยสายตา

เอลฟ์วัยรุ่น...โคลด์ถอนหายใจเมื่อเห็นภาพนั้น เขาเพิ่งซักและตากผ้าเสร็จ แดดตอนบ่ายกำลังดี อีกไม่นานผ้าคงแห้งสนิท ให้เก็บในตอนเย็น

“เจ้าเข้าสู่วัยไร้เหตุผลแล้ว” ดาร์กเอลฟ์มองข้าวของของตนเองที่เละเทะไม่เป็นระเบียบ “แต่เจ้าโชคดีที่ข้าอารมณ์ดี” เขาเก็บโน่นเก็บนี่ในพื้นที่เล็กๆ ของตนอย่างคล่องแคล่ว หาสายพิณเส้นใหม่ซึ่งม้วนใส่กล่องเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบ

โคลด์นั่งบนพื้น ซ่อมสายพิณให้ซิกฟรีดอย่างเงียบๆ พอซ่อมเสร็จก็ปรับเสียงอยู่พักหนึ่ง เมื่อเห็นว่าดีแล้วจึงนำพิณไปวางไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือ ให้ไกลจากมือของจอมทำลายพิณ

             ซิกฟรีดมองตามโคลด์ สายตาคล้ายจะถามว่า ‘ไหนบอกว่าจะไม่ซ่อมพิณให้ข้าแล้ว’

“ข้าอารมณ์ดี” โคลด์ฮัมเพลงด้วยซ้ำ เขายังไม่บอกเรื่องจะย้ายห้องนอน (เพราะเขาอนุญาตตัวเองไปแล้ว) “ข้าจะเล่นลูตให้ฟังแล้วร้องเพลงให้ฟังด้วยเอามั้ย”

ดาร์กเอลฟ์ต้องอารมณ์ดีมากๆ ถึงเสนออะไรแบบนี้

ตอนมาถึงอาศรมใหม่ๆ ควาร์ผู้รักเสียงดนตรี (คนเดียวกับที่ซ่อมสายพิณให้ซิกฟรีด) ยินดีให้ทุกคนยืมเครื่องดนตรีที่เขาประดิษฐ์เอง ไม่เว้นกระทั่งดาร์กเอลฟ์

โคลด์สามารถเล่นลูตได้ และเล่นได้ดีจนควาร์ผู้นั้นยกเครื่องดนตรีให้ แต่นานๆ เขาจะเล่นมันสักที

ต้องวันที่โคลด์อารมณ์ดีจริงๆ (ซึ่งมีน้อยมาก เพราะเวลาแทบทั้งหมดของเขาหมดไปกับการรับใช้ซิกฟรีดและหนีลงจากเขา)

ซิกฟรีดเข้าใจว่า โคลด์อารมณ์ดีเพราะเขาอารมณ์เสีย ซึ่งเข้าใจผิดไปไกล เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ระหว่างทั้งคู่ แม้จะมีเวทผูกพันธะก็ตาม

โคลด์ปรับสายลูต ดีดทดลองเสียง จากนั้นก็เล่นเป็นเพลง ทำนองเพลงต่างถิ่น แปลกหูและมีกลิ่นอายแห่งอิสระเสรี

แม้โคลด์จะอยู่รูเมเรียร์มานานจนพูดและเขียนภาษาเอลฟ์ได้ดี แต่เขาร้องเพลงภาษาดาร์กเอลฟ์เท่านั้น คล้ายมีศักดิ์ศรีของเผ่าพันธุ์แทรกอยู่ในน้ำเสียงวัยหนุ่มของเขา

เพลงกล่าวถึงบ้านเกิดของดาร์กเอลฟ์ เล่าว่ามีแมงมุมตัวใหญ่ทำรังชักใยอยู่ในป่ากระดูก สีขาวของใยแมงมุมกับสีขาวของกระดูกตัดกับสีดำสนิทของท้องฟ้ายามราตรี

“...แล้วเด็กน้อยก็วิ่งซุกซนเข้าไปในป่า

ถูกกลืนหายไปในรังแมงมุมยามราตรี

เด็กน้อยไม่เคยกลับมา

ไม่เคยกลับมา...ไม่ได้กลับบ้านเกิด”

เพลงจบลงแล้ว โคลด์วางลูต เนื้อเพลงแฝงความคิดถึงบ้านเกิดอยู่เต็มเปี่ยม มันเป็นเพลงที่จะร้องให้ตลกขบขันหรือร้องให้รู้สึกเศร้าก็ได้

ซิกฟรีดมองหลังมือที่ช้ำอย่างน่ากลัวของตัวเอง

เขาก็ไม่ได้กลับบ้าน

“เจ้านั่งบื้อเหมือนศพใบ้ที่อยู่ในโลง” โคลด์พูดเอื่อยเฉื่อย “ดูหน้าตาเจ้าสิ ถ้ายิ้มสักหน่อยคงหาเอลฟ์สวยๆ ได้ไม่ยาก เจ้าก็ถึงวัย...อะไรน้า...เลือดลมพลุ่งพล่านแล้ว” ดาร์กเอลฟ์หัวเราะเบา (เพราะจริงๆ เขาก็จำคำของควาร์อาวุโสมาพูดต่อ) “เป็นถึงเจ้าชาย ไม่ลองขอควาร์เอเรนดิลลงไปเที่ยวในเมืองบ้าง”

ข้าขอไปรอบที่ร้อยแล้ว ดาร์กเอลฟ์...ซิกฟรีดคิด

สิ่งที่โคลด์พูดสะกิดให้เขากลับไปวนเวียนเรื่องที่ตัวเองถูกขังโดยไม่ทราบเหตุผล

“เอาละ เพื่อเป็นการขอบคุณเจ้าที่ช่วยชกหน้าควาร์ทุเรศคนนั้นให้ ข้าจะบอกข่าวดีให้ฟัง” โคลด์ยิ้มแฉ่ง “ข้าได้ห้องนอนของตัวเองแล้ว”

“ไม่” ซิกฟรีดปัดความฝันเล็กๆ ของโคลด์ร่วงลงพื้น เย็นชา คำเดียว

“ควาร์เอเรนดิลอนุญาตแล้ว” โคลด์เถียงขึงขัง “ข้ากำลังจะมาเก็บของ เลยเล่นลูตให้เจ้าฟังดีๆ เป็นการขอบคุณ” หางตาของดาร์กเอลฟ์เริ่มชี้ขวาง หูก็ตั้งชัน

ซิกฟรีดจ้องโคลด์นิ่ง สีส้มในดวงตาเรืองขึ้นคล้ายลาวาร้อนแรง

‘ไม่’

“ข้าไม่ใช่หมานะ เจ้าให้ข้านอนบนพื้นปลายเตียงมากี่ปีแล้ว ข้าต้องการที่นอนดีๆ ข้ารับใช้เจ้ามาขนาดนี้ก็ควรได้อะไรบ้าง ถึงจะเป็นแค่ที่นอนในโรงเก็บของข้าก็เอา”

“ครึ่งห้อง” ซิกฟรีดเอ่ย “พอใจไหม” ถึงควาร์จะยึดหลักสมถะ แต่ที่พักของเจ้าชายต้องสมพระเกียรติ ซิกฟรีดจึงได้ห้องเดี่ยวที่มีบริเวณโดยรอบกว้างขวางและเป็นส่วนตัว (ซึ่งโคลด์ใช้บริเวณกว้างขวางนั้นเป็นแปลงปลูกผักสวนครัว)

“ข้าไม่อยากนอนห้องเดียวกับเจ้า ข้าต้องการห้องส่วนตัว เวลาส่วนตัว”

สายตายังสื่อชัดว่า ‘ไม่’

โคลด์จึงเริ่มเก็บของโดยไม่สนใจซิกฟรีด ดาร์กเอลฟ์เอาจริง ถ้าสังเกต ก่อนหน้านี้โคลด์ไม่เคยบ่นเรื่องที่นอน เพราะเขาคิดแต่จะหนี มาตอนนี้ต้องการที่นอนดีๆ แปลว่าล้มเลิกการหนีแล้วหรือ

ซิกฟรีดให้โคลด์เก็บของไปเรื่อยๆ จนเสร็จ ดาร์กเอลฟ์มีของไม่มากนัก เขาผูกห่อผ้าอย่างมีความสุข นึกถึงพื้นที่ส่วนตัวของตนเอง

แต่ตอนที่โคลด์จะออกจากห้อง เขากลับเปิดประตูไม่ได้

กลอนซึ่งทำจากเหล็กถูกหลอมติดกันเป็นเนื้อเดียว เนื้อเหล็กร้อนฉ่า เพิ่งถูกหลอมด้วยเวทของควาร์หมาดๆ

“โอ๊ย!” โคลด์ที่จับกลอนประตูไปแล้วปล่อยมือแทบไม่ทัน

ซิกฟรีดขังโคลด์และตัวเองไว้ถึงวันครึ่ง และดูท่าเวลาจะยืดออกไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นเจ้าชายไม่ทำอะไร นอกจากดูโคลด์หาทางออก ทั้งทุบประตู พยายามพังหน้าต่าง

แต่แล้วเย็นวันที่สอง เขาก็ปล่อยโคลด์ไปง่ายๆ

ซิกฟรีดมองโคลด์แล้วนึกถึงตัวเอง ในอาศรมนี้ พวกเขาเท่าเทียมกันในแง่ที่ว่าเป็นหนูในกรง หนูในกรงตัวที่หนึ่งพยายามขังหนูในกรงตัวที่สอง...ฟังดูน่าสมเพชอย่างไรก็ไม่ทราบ

เจ้าชายเอลฟ์หลุบตาลง ครุ่นคิด

 

โคลด์ไปทุบประตูห้องมาลแกธในสภาพทั้งหิวและโทรม

“ข้าขอนอนด้วย”

รอสักพักประตูก็แง้มออก เอลฟ์ตะวันออกไม่สวมเสื้อ กล้ามอกแน่นตึงมีรอยข่วน ผมสีทองเจือแดงค่อนข้างยุ่งเหยิง

“เจ้ารู้ใช่ไหมว่าข้าถูกขังอยู่ในห้องเขา อยู่ในห้องเขาเกือบสองวัน! เขาขังข้าไว้บนภูเขายังไม่เท่าไหร่ แต่นี่เกินไป ข้าไม่ทนแล้ว!”

โคลด์พูดต่อ ทว่ามาลแกธไม่ได้อยู่คนเดียว เด็กหนุ่มเอลฟ์ที่อยู่ด้านหลังมาลแกธทำเสียงไม่พอใจ เขายื่นมือผลักโคลด์ให้พ้นประตู ก่นด่าเร็วจนฟังไม่ทัน แล้วปิดประตูปัง! ใส่หน้าดาร์กเอลฟ์อย่างไม่ไยดี

นั่นทำให้โคลด์งงไปเลย

มีคนมานอนก่อนข้าแล้ว...ใบหูสีเข้มลู่ลง ดาร์กเอลฟ์แบกห่อผ้าด้วยท่าทางหงอยๆ ไปโรงเก็บของที่ยังไม่ได้เก็บกวาด (แต่มันเป็นของเขาแล้ว)

คืนนี้นอนที่นี่ก็ได้ โคลด์คิดขณะขดตัวกอดหมอนใบเล็ก (ที่ขนมาด้วย) อยู่บนกองฟาง...

เมื่อก่อนเจ้าชายเอลฟ์น่ารักกว่านี้

ช่วงที่โคลด์เพิ่งตามกลับมาเมืองหลวงและเข้าไปอยู่ในวังในฐานะข้ารับใช้ เจ้าชายน้อยบังคับให้เขาคอยตามติดและนอนห้องเดียวกัน...ตรงพื้นปลายเตียง ตอนนั้นโคลด์ขี้เกียจคิดมาก ถือว่าเจ้าเด็กเอลฟ์คงโดนตามใจจนเคยตัว (และเพราะคิดว่าจะอยู่แป๊บเดียวด้วย)

โลกไม่ยุติธรรมเลย โคลด์คิด แต่เขาล้มเลิกการหนีชั่วคราว หลังจากได้เจอนกสีขาวของเกวนโดลิน เกวนบอกผ่านนกตัวนั้นว่าเธอสบายดี ให้เขาหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่ไปก่อน เพื่อให้จอมทัพทมิฬเชื่อว่าพวกเราตายไปแล้ว

แค่เกวนยังไม่ตายก็ดีแล้ว

จากกันตั้งหกปี ในที่สุดก็มีข่าวคราวเสียที

—————————————————————————

A/N เจ้าชายกับเสียงเพลง เอลฟ์วัยรุ่น นิยามของซิกฟรีดตอนนี้ค่ะ จริงๆ เราเคยนั่งวิเคราะห์ว่าทำไมซิกฟรีดเจ้าชายน้อยเอ๊าะแอ๊ะถึงโตมาเป็นเมะ SM ได้ =.= อืม...พี่ชายคนโตก็ออกจะอ่อนโยนน้า หรือได้คนรองที่เหี้ยมๆ หน่อย...เอาวะ แต่ที่น่าจะฟันธงได้คือ ความเป็นเมะสืบทอดทางสายเลือดค่ะ! เมะทั้งตระกูล ไม่มีใครเคะเลยบุรุษราชวงศ์รูเมเรียร์ \*0*/ (และตายไปแล้ว 2 คน...)

นี่คือสาเหตุที่เด็กอ้อแอ้ โตมาอายุแค่ 15 ปี ก็จะจับหนุ่ม 18 กดได้สินะ /อืมๆ
ป.ล. 1 ชีวิตนางทาสของโคลด์ก็ยังดำเนินต่อไปค่ะ #นางซิน #อีเย็น
ป.ล. 2 มาลแกธสอนวิชาอยู่ โคลด์เลยนอนด้วยไม่ได้ค่ะ ;w;
ป.ล. 3 บทนี้ได้แต่งเพลงอีกแล้วค่ะ เย้! เราชอบแต่งเพลงพื้นบ้านในนิยายนะคะ มันบอกอะไรได้หลายอย่าง ทั้งคติ ความเชื่อ วิถีชีวิต ศรัทธา etc.

“...แล้วเด็กน้อยก็วิ่งซุกซนเข้าไปในป่า

ถูกกลืนหายไปในรังแมงมุมยามราตรี

เด็กน้อยไม่เคยกลับมา

ไม่เคยกลับมา...ไม่ได้กลับบ้านเกิด”


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz


Fan Art จากนักอ่าน ซิกฟรีด & โคลด์
ขอบคุณมากนะคะ ;w; ดีใจมากๆ เลยค่ะ /ซบ
วาดโดยคุณ hello01

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/96032797-member.jpg)(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/309383664-member.jpg)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (3) [04/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 04-02-2017 00:52:46
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (3) [04/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 04-02-2017 07:06:16
ตอนล่าสุดนี่ทำให้เห็นพฤติกรรมความSของเจ้าชายชัดเจนเลย คนสายSมักจะก่อเรื่องแล้วนั่งมองคนอื่นกระวนกระวายด้วยความสุข เหมือนจะขำนะแต่โคลด์คงไม่ขำด้วยแน่ๆ แต่โคลด์ต้องเข้าใจนะ[ตบบ่าโคลด์ ปุๆ]เรา #ทีมราชา 55555


ก็โคลด์ทำตัวน่ารักน่าขยี้ขนาดนี้ร
เจ้าชายก็อดใจยังไงไหว มีมาร้องเพลงให้ฟังทำตัวว่าง่ายก่อนแบบนี้อ่ะ ใครเขาก็คิดทั้งนั้นว่าเธอน่ะมันขี้อ่อย

ปล. อยากจะจับโคลด์มาขยำๆเป็นก้อนๆแล้วกลืนลงท้องไปจริงๆ

ปล2.คนเขียนสู้ๆ

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (3) [04/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-02-2017 07:32:27
ตอนที่โคลด์ไปหามาลแกธ
รู้สึกเหมือนโคลด์ ไม่รู้เรื่องการนัยของการนอนของทั้งคู่
ว่าเมื่อกี้เขากำลังสอนวิชา อ๊ะๆ อาๆ กันอยู่
เหมือนโธ่.....มีคนเข้ามานอนก่อนเขาซะนี่
ว่าแต่มาลแกธ ไม่อารมณ์เสียเลยนะ
คนที่อารมณ์เสีย กลับเป็นเอลฟ์หนุ่ม แปลกจัง  :katai1: :katai1: :katai1:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (3) [04/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 04-02-2017 07:54:58
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (3) [04/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 04-02-2017 09:36:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (3) [04/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 04-02-2017 14:45:06
โอย น่ารักมุ้งมิ้ง มีการงอน มีอ่อนข้อ

อาเลธ! เจ้าจะสาย S เกินไปแล้ว! ขังเขาไว้ได้อย่างไร
มันต้องมีโซ่ แส้ กุญแจมือด้วยสิ! #ผิด!

ปัญหาหลาย ๆ เรื่องเกิดจากอาเลธไม่เปิดปากบอก มันน่าตบให้ปากแตกนัก

ชอบความดาร์กของเพลง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (3) [04/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 04-02-2017 16:55:55
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (3) [04/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 04-02-2017 22:45:14
โง้ยยยยซิกปล่อยให้ย้ายออกมาจนได้ ชิชะ  :ling1:

ช่วงนี้จะทะเลาะกันยังไงก็น่ารักมุ้งมิ้งเนอะเจ้าคะ
โคลด์เล่นดนตรีเป็นด้วย ปลื้มเข้าไปอีก  :-[
ชอบตรงที่ทำเป็นไม่สะทกสะท้านกับความเลือดร้อนของซิกนี่แหละ (ถึงจะเป็นเพราะกำลังอารมณ์ดีก็เถอะ)

โนคอมเม้นสำหรับอิตามันแกว /เบะปากใส่

ป.ล. ขอบคุณสำหรับเครดิตรูปเจ้าค่าาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (3) [04/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 04-02-2017 23:14:29
:pig4: :pig4:
:pig4: :pig4:

ตอนล่าสุดนี่ทำให้เห็นพฤติกรรมความSของเจ้าชายชัดเจนเลย คนสายSมักจะก่อเรื่องแล้วนั่งมองคนอื่นกระวนกระวายด้วยความสุข เหมือนจะขำนะแต่โคลด์คงไม่ขำด้วยแน่ๆ แต่โคลด์ต้องเข้าใจนะ[ตบบ่าโคลด์ ปุๆ]เรา #ทีมราชา 55555


ก็โคลด์ทำตัวน่ารักน่าขยี้ขนาดนี้ร
เจ้าชายก็อดใจยังไงไหว มีมาร้องเพลงให้ฟังทำตัวว่าง่ายก่อนแบบนี้อ่ะ ใครเขาก็คิดทั้งนั้นว่าเธอน่ะมันขี้อ่อย

ปล. อยากจะจับโคลด์มาขยำๆเป็นก้อนๆแล้วกลืนลงท้องไปจริงๆ

ปล2.คนเขียนสู้ๆ
"อย่ากินข้า ;w;" โคลด์จิ๋วบอก
ซิกฟรีด S จริงค่ะ มีที่ไหน ขังห้อง เผากลอนประตู ถถถถถถ
แต่เขาไม่ได้ทำเพราะสะใจนะคะ...นั่นทำให้ยิ่งน่ากลัวกว่าหรือเปล่า
คิดว่าโคลด์เป็นอะไรฮะ!!!  :ling1:
"ข้าไม่ได้อ่อยด้วย ;w;" โคลด์ขอความยุติธรรม

ตอนที่โคลด์ไปหามาลแกธ
รู้สึกเหมือนโคลด์ ไม่รู้เรื่องการนัยของการนอนของทั้งคู่
ว่าเมื่อกี้เขากำลังสอนวิชา อ๊ะๆ อาๆ กันอยู่
เหมือนโธ่.....มีคนเข้ามานอนก่อนเขาซะนี่
ว่าแต่มาลแกธ ไม่อารมณ์เสียเลยนะ
คนที่อารมณ์เสีย กลับเป็นควาร์ แปลกจัง  :katai1: :katai1: :katai1:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
โคลด์มึนๆ ค่ะ (ยังไม่ใช่ช่วงรับรู้ประสบการณ์ a b c d ต้องผ่านประสบการณ์จริงก่อนค่ะ /ผิด)
ถ้าให้อธิบาย โคลด์เป็นดาร์กเอลฟ์ ไม่มีใครในอาศรมจีบดาร์กเอลฟ์กันค่ะ =.= /เศร้า
เรื่อง xxx ก็เลยช้ากว่าคนอื่นเขา อืมมมมมม เอาเป็นว่าเพราะมึนๆ + ไม่มีใครเอาค่ะ 5555
"มาลแกธให้คนอื่นนอนไปแล้ว" /โคลด์กอดหมอนรันทด...
มาลแกธแหละตัวดี ;w; รักประสาอะไรยะ ปล่อยน้องไปนอนห้องเก็บของ!

:hao7: :hao7:
o13 o13

:pig4: :pig4:
แล้วแวะมาอีกนะคะ ;)

โอย น่ารักมุ้งมิ้ง มีการงอน มีอ่อนข้อ

อาเลธ! เจ้าจะสาย S เกินไปแล้ว! ขังเขาไว้ได้อย่างไร
มันต้องมีโซ่ แส้ กุญแจมือด้วยสิ! #ผิด!

ปัญหาหลาย ๆ เรื่องเกิดจากอาเลธไม่เปิดปากบอก มันน่าตบให้ปากแตกนัก

ชอบความดาร์กของเพลง
แหะๆ จงใจให้เพลงดาร์กนะคะ ดีจัง มีคนสังเกตด้วย
คือพวกเพลงสำหรับเด็กหรือนิทานพื้นบ้านไม่ว่าจะของชาติไหน มันดาร์กสุดๆ เลยค่ะ
อย่างปลาบู่ทอง นางสิบสอง ศรีธนญชัย dark ทุกเรื่อง
หรือทางฝรั่งก็มี Juniper Tree เป็นตัวอย่าง
เราได้ไอเดียจากตรงนั้น ว่าเพลงพื้นเมืองมันก็ต้องมีดาร์กๆ แฝงบ้างละ!

ส่วนซิกฟรีด...ก็เอสตลอดอะ ;w; ทำไมเมิง S ใส่น้องจังฮะ
(สมัยปัจจุบันพอยอมได้ ถือว่าโคลด์ร้ายขึ้นแล้ว แต่สมัยก่อนนี่มัน...อยู่ๆ มาเผามือ โอย เขียนเองทนไม่ได้ แง)

:hao7: :hao7: :hao7:
o13 o13 o13

โง้ยยยยซิกปล่อยให้ย้ายออกมาจนได้ ชิชะ  :ling1:

ช่วงนี้จะทะเลาะกันยังไงก็น่ารักมุ้งมิ้งเนอะเจ้าคะ
โคลด์เล่นดนตรีเป็นด้วย ปลื้มเข้าไปอีก  :-[
ชอบตรงที่ทำเป็นไม่สะทกสะท้านกับความเลือดร้อนของซิกนี่แหละ (ถึงจะเป็นเพราะกำลังอารมณ์ดีก็เถอะ)

โนคอมเม้นสำหรับอิตามันแกว /เบะปากใส่

ป.ล. ขอบคุณสำหรับเครดิตรูปเจ้าค่าาา  :กอด1:
ขอบคุณสำหรับรูปเช่นกันค่ะ สวยมากเลย ขอบคุณอีกรอบนะคะ ;)
ขำ มาลแกธ กลายเป็นมันแกว แต่มันก็น่าจริงๆ นะ!
ทำไมไม่รับน้องเข้าห้อง ทำไมปล่อยน้องไปนอนห้องเก็บของ
แย่ๆๆๆๆ หักคะแนนๆๆๆๆ ปี้ดดดดดดดดด (อินเนอร์มาเต็ม)

ส่วนซิกฟรีดกับโคลด์ ช่วงนี้ดีต่อใจจริงค่ะ
(แม้ซิกฟรีดจะโหดมากก็ตาม ตั้งแต่ย้อนอดีตมาโคลด์โดนไปหลายดอกละ... กรีดหู เย็บแผลสด ล่าสุดมือโดนลวก ;w;)
ส่วนที่โคลด์เฉยๆ เพราะ กำลังซักผ้าค่ะ
"ถ้าเข้าไปดูเจ้าชาย ข้าก็ต้องออกมาซักผ้าต่ออยู่ดี
คิดให้ดีแล้ว ข้าควรซักผ้าและตากให้เสร็จก่อนค่อยไปดูเขา มีประโยชน์กว่า ไม่เสียงาน"
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (4) [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 04-02-2017 23:58:06
บทที่ 11 : ทาสและเจ้าชาย (4)

คืนอิสระคืนแรกของโคลด์เริ่มด้วยความหนาวเย็น กองฟางอุ่นไม่พอคลายหนาว หนำซ้ำยังคันคะเยอเพราะตัวเหลือบไร กำลังจะเคลิ้มๆ หนูสกปรกก็ออกหากิน มันวิ่งไปทั่วโรงเก็บของ เสียงเล็บขูดไม้ดังแก๊กๆ ผสมกับเสียงร้องจี๊ดๆ น่ารำคาญหู นกกลางคืนโผมาเกาะบนหลังคา มันส่งเสียงประหลาดชวนขนลุก แข่งกับเสียงสัตว์อะไรสักอย่างที่ฟังคล้ายเสียงเด็กร้อง

นอนไม่หลับ...

ทำไมโรงเก็บของที่ควรสงบสุขของเขาถึงมีแต่เสียงน่ารำคาญและนอนลำบากขนาดนี้

จะลุกขึ้นมาปัดกวาดก่อนดีไหม โคลด์คิดพลางพลิกตัว เอาหมอนปิดหู ลังเลว่ากว่าจะทำความสะอาดเสร็จก็คงเช้าพอดี เขายังมีงานในอาศรมที่ต้องทำอีก

เช้ามืดอาบน้ำแล้วไปดูแปลงผักกับโรงเลี้ยงไก่ เก็บผักสดกับไข่ไก่ไปโรงครัว ช่วยโรงครัวเตรียมอาหารเช้าสำหรับควาร์ เพราะพวกควาร์โดยเฉพาะควาร์คุณหนูไม่ได้เสกอาหารกินกันเอง

ควาร์ห้ามมีผู้ติดตาม ช่วงเปิดอาศรมยุคแรกๆ เมื่อหลายพันปีก่อน พวกเขาอาศัยอยู่บนเขาแบบนักพรต ทำงานทุกอย่างเอง แต่ต่อมามีผู้ศรัทธามาถวายตัวเป็นข้ารับใช้ คอยทำงานให้ ทั้งจัดหาอาหาร ซักรีดเสื้อผ้า ปัดกวาดดูแลอาศรม

ทำงานช่วงเช้าเสร็จโคลด์ถึงจะได้กินอาหาร แล้วเตรียมอาหารกลางวันต่อ จากนั้นก็ทำงานจิปาถะ วิ่งรับใช้ควาร์อาวุโสคนนั้นคนนี้ (อาจได้เรียนภาษาเอลฟ์หรือได้อ่านหนังสือเป็นการตอบแทน) ตอนเย็นเตรียมอาหารเย็น และหาเวลาฝึกมีดสั้นกับมาลแกธ

จบกิจกรรมประจำวันทั้งหมด โคลด์คิดว่าจะหาแผ่นไม้มาตอกปิดซ่อมแซมโรงเก็บของ เพราะช่องว่างกับรอยแตกทำให้ลมโกรก

สรุปคือ ถ้าเขาลุกขึ้นมาตอนนี้ โอกาสที่จะได้ล้มตัวนอนอีกทีคงเป็นเวลานี้ของอีกวัน!

คิดสะระตะได้สักพัก โคลด์ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอก

มีคนมา…

เสียงฝีเท้าหยุดลงหน้าประตูโรงเก็บของ ผู้มาเยือนเงียบไปนานก่อนตัดสินใจเคาะประตูหนักๆ สามครั้ง

แดนสวรรค์น้อยๆ (หากตัดปัญหาข้างต้นออกไป) ของโคลด์สั่นสะเทือนไปทั้งหลัง แขกยามวิกาลเคาะประตูอีกครั้งเมื่อโคลด์เงียบ

ปึง! ปึง! ปึง!

“ไม่มีคนอยู่” โคลด์กดหมอนปิดหูแน่นขึ้นอีก นึกกลัวเพดานไม้โย้เอียงจะถล่มลงมาทับ

“แล้วหนูที่ไหนตอบ”

เสียงจากด้านนอกเป็นเสียงของเจ้าชายโรคจิตชอบขังคนอื่นร้อยเปอร์เซ็นต์

ฟ้าร้องครืนๆ แว่วมา ฝนทำท่าจะตก ซิกฟรีดหน้าบึ้งยืนรอโคลด์หน้าประตูโรงเก็บของ แขนข้างซ้ายมีผ้าห่มผืนหนาพาดอยู่ เป็นผ้าห่มที่เต็มไปด้วยรอยปะ เดาได้ไม่ยากว่าเจ้าของคือใคร

“เจ้าลืมผ้าห่ม” ซิกฟรีดเคาะประตู ปึง! ปึง!

“พรุ่งนี้ข้าจะกลับไปเอาเอง” โคลด์ได้ใจนิดๆ ที่เจ้าชายก็รู้จักมีมารยาท

ใช่ นี่คือห้อง (เก็บของ) ของข้า! เจ้าเคาะประตูก็ถูกต้องแล้ว

ปึง!


คราวนี้ไม่ใช่เคาะแล้ว

แต่ทุบ!

นอกจากลมหนาวก่อนฝนตกจะพัดมาให้เย็นผิว บรรยากาศก่อนซิกฟรีดหงุดหงิดยังจะซัดมาให้หนาวใจ เจ้าชายเอลฟ์ที่อยู่ในวัยไร้เหตุผลอาจพังโรงเก็บของเมื่อไหร่ก็ได้ แล้วโคลด์ก็ต้องระเห็จไปหาที่นอนใหม่อีก

“วางทิ้งไว้หน้าประตูก็ได้ ขอบคุณ ราตรีสวัส--”

“ข้ามาขอโทษ”

โคลด์หยุดพูดเมื่อซิกฟรีดพูดแทรก เขาลุกนั่ง คิดว่าได้ยินเสียงหลอน

“เอาผ้าห่มมาให้กับของอื่นๆ รีบมาเอา ระวังเปียกฝน” ซิกฟรีดวางผ้าห่มกองบนพื้นท่ามกลางข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของโคลด์ เขาใส่หีบใบย่อมของตัวเองมาให้

โคลด์เปิดประตูพรวดมาดูเพื่อยืนยันว่าตนไม่ได้หลอนไปเอง

ซิกฟรีดมาขอโทษ ซิกฟรีดทำดีกับเขา?

“ใครเอาเห็ดรื่นเริงให้เจ้ากินหรือเปล่า”

ทว่าหน้าตาของซิกฟรีดดูไม่รื่นเริงเท่าไรนัก

เจ้าชายพ่นลมหายใจ ดังเกือบจะเท่าเสียงฟ้าร้อง ฝนเริ่มลงเม็ดแล้ว ถ้าไล่ให้กลับไปตอนนี้เจ้าชายคงกลายเป็นลูกหมาตกน้ำ

“กลับห้องแล้วเช็ดตัวให้แห้งละ” โคลด์ยกหีบพร้อมผ้าห่มสุดเก่าเข้าห้องตัวเอง แปลว่า เขาไม่เชิญซิกฟรีดเข้าห้อง (เก็บของ) ของตน

ก็มือเขายังแสบและพอง ต้องพันผ้าพันแผลจากการจับกลอนประตูอยู่เลย

รอยยิ้มเฉื่อยๆ ของโคลด์บอกชัดเจนว่า ‘ข้าไม่กลับไปแน่นอน’

ซิกฟรีดไม่พูดทักท้วงหรือเชือดเฉือนอะไร เจ้าชายเอลฟ์เดินตากฝนออกไป แต่ไปยังทิศทางอื่นที่ไม่ใช่ห้องพัก

โคลด์ปิดประตู หลังเปิดหีบค้นดูของ ก็พบว่ามีของอื่นๆ ที่ไม่ใช่ของเขาด้วย ขี้ผึ้งอย่างดี ยาบรรเทาอาการปวด ยาแก้ไข้และสารพัดยารักษาโรคถูกบรรจุมาในห่อผ้าทอมือสำหรับขุนนางชั้นสูง

ดาร์กเอลฟ์ทึ่ง ลมอะไรหอบเจ้าชายให้กลายเป็นคนใจดีมีเมตตา เขามองห่อผ้าพักหนึ่ง แล้วแกะขี้ผึ้งออกมาใช้ ทาฝ่ามือบรรเทาอาการปวด

ฝนตกแล้ว โคลด์นอนอุ่นขึ้นเล็กน้อยเพราะได้ผ้าห่ม

เขาหลับตาลง...คิดว่าพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นแต่เช้ามืด

 

ซิกฟรีดหายตัวไปหนึ่งคืนกับอีกหนึ่งวันเต็มๆ โดยไม่มีใครหาตัวพบ

อาศรมควาร์ชะงักกิจกรรมทุกอย่างเพื่อตามหาเจ้าชายแห่งรูเมเรียร์ ซึ่งเป็นไปอย่างเชื่องช้าเพราะฝนตกหนักติดต่อกันตั้งแต่เมื่อคืน จะตามหาด้วยการไถ่ถามเอาจากต้นไม้หรือวิญญาณธรรมชาติอื่นๆ ก็ฟังได้ยากเพราะเสียงฝนกลบ หรือจะสืบเอาจากร่องรอยอื่นๆ ฝนก็ทำลายไปเสียหมด

โคลด์เองก็หาแผ่นไม้ไม่ได้ในสภาพอากาศแบบนี้ เลยต้องมานั่งแกร่วในห้องมาลแกธ “เจ้าไม่ไปตามหาซิกฟรีดหรือ” เขาถามเอลฟ์ตะวันออก

มาลแกธนอนเล่น สูบยาสูบกลิ่นฉุนสบายอารมณ์ เขาปรือตามองโคลด์ที่กำลังกินขนม (จากควาร์น่ารัก) แล้วถามกลับว่า “ซิกฟรีดอายุเท่าไหร่นะ”

“สิบห้ามั้ง” คิ้วสีเงินเลิกขึ้นแบบ ‘จะถามทำไมเหรอ’

“สิบห้า…” มาลแกธหัวเราะหึๆ “โดนขังไว้จะงุ่นง่านก็ไม่แปลก คงไปหาพื้นที่ส่วนตัวละมั้ง”

“เหอะ คนโดนขังมันข้าต่างหาก”

“หนีสิ” มาลแกธพ่นควันเป็นรูปวงแหวนซ้อนกันสองวง และกำลังทำวงที่สาม

“ไม่ละ ข้ายังเจ็บหูอยู่” โคลด์ตั้งหน้าตั้งตากิน “เขาแย่มากที่กรีดหูข้า ข้าจะไม่ลืมเลย”

หูถือเป็นอวัยวะส่วนตัว พอๆ กับหน้าอกของหญิงสาวนั่นแหละ

“แดนตะวันออกถือคติตาต่อตา ฟันต่อฟัน กรีดมากรีดกลับ” มาลแกธเสยผมด้านขวาให้โคลด์ดูรอยแผลเป็นที่เหมือนรอยดาบฟัน ตั้งแต่ตีนผมลึกเข้าไป “ตอนอายุสิบห้าข้ายึดคตินั้นอย่างกับอะไรดี แต่มือหนักไปหน่อย อีกฝ่ายตกทะเล ไม่รู้เป็นหรือตาย แต่ข้าว่าตายแหงๆ ทะเลฝั่งตะวันออกฉลามชุม เลือดแค่หยดเดียวเรียกได้ทั้งฝูง”

“อื้อหือ น่ากลัวจัง แต่ไม่ละ ข้าถือคติว่าอยู่เฉยๆ มีความสุขกว่า” นอกจากเวลาพยายามหนีแล้ว โคลด์ก็ใช้ชีวิตเอื่อยเฉื่อยไปวันๆ จริงๆ

“ข้าชอบรูเมเรียร์เพราะอย่างนี้” มาลแกธพูดถึงรูเมเรียร์แต่ปรายตาเจ้าชู้มองโคลด์ “สบาย...สงบกว่าบ้านข้าหลายเท่า”

ตั้งแต่คิงเฟรธูรินครองราชย์จนถึงปัจจุบัน ยุคสมัยของคิงริวอร์นอร์ ไม่มีช่วงเวลาไหนที่เรียกว่าสงบได้ แต่ก็ยังสงบมากกว่าแดนตะวันออกที่เกิดสงครามแย่งชิงความเป็นใหญ่ ทั้งในตระกูลและระหว่างตระกูลอยู่ตลอดเวลา

“แล้วเจ้าล่ะ ไม่คิดตามหาเจ้าชายเอาแต่ใจหรือ”

มาลแกธเพิ่งถามจบก็มีเสียงเคาะประตูและเสียงควาร์หนุ่มคนหนึ่งจากด้านนอก

“ท่านมาลแกธขอรับ ไม่ทราบว่าดาร์กเอลฟ์อยู่กับท่านหรือไม่ขอรับ”

เป็นเสียงของไมเธียน โคลด์จำได้แม่น

มาลแกธลุกขึ้นนั่ง เขาดับยาสูบกับจานรอง “เจ้าอยากอยู่หรือไม่อยากอยู่ตรงนี้ ข้าจะได้ตอบกลับเขาถูก” มาลแกธกระซิบถามโคลด์

โคลด์ย่อมไม่อยากเจอไมเธียน จึงทำแขนรูปกากบาท ขยับปากแบบไร้เสียงว่า ‘เขามีธุระอะไรให้บอกเจ้าไว้สิ’

“มีธุระอะไรหรือที่รัก” มาลแกธร้องถามไมเธียน

โคลด์กอดหมอนของมาลแกธ ทำหน้าหน่าย

‘ที่รักคนที่ร้อย’

‘เจ้าอยากเป็นคนที่ร้อยเอ็ดไหมเล่า’

‘รีบๆ ให้เขาบอกธุระแล้วไล่ๆ ไป’ โคลด์ถลึงตา ปลายหูตั้ง

“เหล่าควาร์อาวุโสหาตัวดาร์กเอลฟ์มาสอบถามอยู่ขอรับ มันรับใช้เจ้าชายซิกฟรีด น่าจะทราบดีที่สุดว่าเจ้าชายหายไปไหน”

“พวกเจ้าถามเขาแล้วเมื่อเช้าไม่ใช่หรือ”

“ขอรับ แต่ควาร์เอเรนดิลต้องการสอบถามมันอีกครั้ง”

‘เจ้าคงไม่รอดแล้วละ’ มาลแกธหันมาหาโคลด์ พลางยกนิ้วทำท่าปาดคอตัวเอง ‘ควาร์เอเรนดิลเรียกหาแน่ะ’

โคลด์ยึดหมอนของมาลแกล แล้วกลิ้งลงไปแอบในช่องว่างระหว่างผนังกับเตียง ถ้ามาลแกธเปิดประตูก็คงมุดไปอยู่ใต้เตียง

ดาร์กเอลฟ์ต่อต้านเจ้าชายเอลฟ์จริงๆ

“เขาไม่อยู่ที่นี่ แต่เดี๋ยวข้าออกไปช่วยหาเจ้าชายเอง เจ้าไปรายงานควาร์เอเรนดิลเถิด ไม่ต้องรอข้าที่รัก”

พอไมเธียนจากไปแล้ว โคลด์ลุกจากซอกเตียง เอาหมอนตบเตียง “หึ เจ้าชายหาย ใครๆ ก็หา เขาไม่โดนสัตว์ป่ากินหรอก มีแต่เขาจะกินพวกมัน”

มาลแกธหัวเราะ วางมือบนศีรษะดาร์กเอลฟ์อย่างเอ็นดู “เจ้านั่งเล่นนอนเล่นในห้องของข้าได้ตามสบาย ข้าจะรีบกลับมา...ที่--”

“ที่รัก” โคลด์หัวเราะ “คนที่หนึ่งร้อยเอ็ด” เขาพูดแบบรู้ทันมาลแกธ

“ใครว่า” มาลแกธคาดเข็มขัดมีดสั้นกับสะโพก “เจ้าเป็นคนแรกต่างหาก โคลด์ สตาร์”

“ใช่ๆ ข้าเป็นคนแรก” โคลด์ไม่ถือคำพูดนั้นเป็นเรื่องจริงจัง เขาคลานไปนอนบนเตียงของมาลแกธ ตั้งใจว่าจะไม่สนใจซิกฟรีดอีกสักกระผีกเดียว!

มาลแกธออกไปได้สักพักโคลด์ก็เผลอหลับ เขาตื่นมากลางดึก มาลแกธก็ยังไม่กลับมา ในห้องมืดสลัว ได้ยินเสียงฝนตกพรำๆ จากภายนอก

ซิกฟรีดอยู่ที่ไหน? ก็อยู่ที่นั่นไม่ใช่หรือไง หาเจอง่ายจะตายไป ทำไมไม่เจอกันสักที

สุดท้ายดาร์กเอลฟ์ก็ลุกขึ้น หาเสื้อคลุมกันฝน แล้วออกไปจากห้องของมาลแกธ


—————————————————————————

A/N ตอนนี้มีกระท่อมหลังเล็ก มีฝนตก มีการง้อเกิดขึ้น แต่ไม่มีการชวนเข้ากระท่อมกลางสายฝนค่ะ OTL (เพราะจริงๆ ข้างในโคลด์คือฮีมเดียร์ ใจแข็งอยู่บ้างเหมือนกัน)
ป.ล. 1 จริงๆ ถ้าไม่ใช่เรื่องจีบของมาลแกธ โคลด์ก็ไม่ได้มึนน้า ;w; ดูท้ายบทสิๆ เขาว่าเขารู้นะว่าซิกฟรีดอยู่ไหน
ป.ล. 2 "และผ้าห่มของข้ามีแต่รอยปะ..." โคลด์บ่น

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (4) [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 05-02-2017 00:52:17
เราจะทำตามสัญญาขอเวลา...ไปนอนก่อนนะ ไม่่ใช่สิ!!!!โทษๆโอเคตั้งสติ


ยังไงซะก็เป็นห่วงเขารู้ใจเขาอยู่ดีนั่นล่ะโคลด์ สตาร์ มาทำเป็นตีตัวออกห่าง เชอะ!!! อยากให้เจ้าชายสนใจเจ้าล่ะสิ!! ใช่สิเธอมันนายเอกส่วนเราเป็นแค่คนตั้งกล้อง เอ้ยยยยเป็นคนเฝ้าหน้าห้อง5555 


ไม่รู้เป็นไรพักหลังๆมานี่อ่านฉากมาลแกธกับโคลด์ทีไรต้องแอบบึนปากนินิดๆ ด้วยความหมั่นไส้ตาเอลฟ์แก่เต๊าะเด็กล้วนๆเลย ขออภัยชาวเรือนู้นเบาเบาที่เราหมั่นไส้กัปตันเธอ 55555


ปล.โคลด์ตอนคิดว่าจะทำความสะอาดดีรึเปล่านี่น่าเอ็นดูมากเลยเจ้าค่ะ น่าจับมานอนหนุนตักแล้วเกาคางให้เบาเบางื้อออออ อยากฟัด  :hao6:


หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (4) [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 05-02-2017 07:27:47
สงสารเจ้าชาย 5555555 :laugh:

ด้วยกรรมเก่าและความซึนที่สั่งสมมาทำให้โคล์ดใจแข็งใส่พอสมควร (แค่พอสมควรเพราะสุดท้ายก็ออกไปหาเค้าอยู่ดี อิอิ)
สำหรับเรา เรารู้สึกว่าซิกอยู่ในวัยไร้เหตุผลจริงๆอะ ถ้าเป็นนางคงหงุดหงิดงุ่นง่านทุกอย่าง หงุดหงิดแม้กระทั่งตัวเอง
เหมือนไม่ถูกที่ถูกทาง ทำไรก็ดูผิดดูขัดน่าหงุดหิดไปหมด ไม่ได้ดั่งใจ

ไม่รู้ว่าซิกเป็นงี้รึเปล่า แต่สังเกตจากที่มาขอโทษโคล์ด แสดงว่าซิกก็รุ้ว่าทำแบบนั้นมันไม่ถูก(คงมาคิดได้ตอนหลัง)
แต่ก็ทำไปแล้ว(555555)
ซิกในตอนที่ทำแย่ๆใส่โคล์ดก็เป็นเหมือนเด็กน้อยที่ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง จะทำยังไงให้เค้าไม่ไปนะ(?)
เพราะในวัยเด็กคงไม่ได้รับการสอนวิธีการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างถูกต้อง แบบปกติเค้าทำกัน(ก็ฮีเป็นเจ้าชาย)
พออารมณ์มันมาก่อน ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง บวกกับความอึดอัดกดดันที่ตัวเองก็โดนขัง อะไรที่คิดมาได้ก่อนก็ทำไปแบบซื่อๆ
คือขังโคล์ดแมร่งเลยย!!! 55555

เพราะคิดงี้มั้งเราเลยไม่ค่อยโกรธซิก ออกแนวสงสารเด็กน้อยมากกว่า 555555 ตัวละครของทั้งซิกและโคล์ด เหมือนมีเหตุผลที่ทำให้พวกเค้าเป็นคนแบบนี้ เหมือนทุกอย่างมันหล่อหลอมให้ต้องเดินแบบนี้ มันถึงได้วุ่นวายแบบนี้ 555

*แจวเรือต่อไปเงียบ* :o8:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (4) [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 05-02-2017 09:47:41
เบ้ปากมองบน ความซิกความโคลด์  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (4) [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-02-2017 11:10:51
คนที่รู้ใจซิกที่สุดก็คือโคลด์  :mew1: :mew1: :mew1:
รู้ด้วยว่าซิกไปอยู่ที่ไหน
ที่แท้ทั้งสองพอไม่ได้นอนห้องเดียวกัน
ต่างก็นอนไม่หลับทั้งคู่
แน่ะ......มาลแกธ เจ้าชู้มีที่รักถึงร้อยคนเลย
แต่ให้โคลด์เป็นที่รักอันดับหนึ่งซะด้วย
แต่โคลด์หาสนใจไม่
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (4) [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 05-02-2017 12:23:30
เขาน่ารักมุ้งมิ้งกันดีจังเลยค่ะ ตอนเด็กๆเนี่ย จริงๆตอนโตก็น่ารักนะ แบบรู้สึกได้ว่าเขารักกันอ่ะค่ะ แต่กับท่านมาลแกธก็ก๊าวใจนะคะ 5555 แต่สงสารสองพี่น้องจังค่ะ รู้สึกเหมือนมันไม่ค่อยมีทางไปเลย แบบดูไม่มีหนทางที่จะได้เป็นอิสระด้วยกันเลยอ่ะ ฮือออ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (4) [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-02-2017 14:14:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (4) [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 05-02-2017 15:41:14
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 11 : (4) [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 05-02-2017 20:43:21
เราจะทำตามสัญญาขอเวลา...ไปนอนก่อนนะ ไม่่ใช่สิ!!!!โทษๆโอเคตั้งสติ


ยังไงซะก็เป็นห่วงเขารู้ใจเขาอยู่ดีนั่นล่ะโคลด์ สตาร์ มาทำเป็นตีตัวออกห่าง เชอะ!!! อยากให้เจ้าชายสนใจเจ้าล่ะสิ!! ใช่สิเธอมันนายเอกส่วนเราเป็นแค่คนตั้งกล้อง เอ้ยยยยเป็นคนเฝ้าหน้าห้อง5555 


ไม่รู้เป็นไรพักหลังๆมานี่อ่านฉากมาลแกธกับโคลด์ทีไรต้องแอบบึนปากนินิดๆ ด้วยความหมั่นไส้ตาเอลฟ์แก่เต๊าะเด็กล้วนๆเลย ขออภัยชาวเรือนู้นเบาเบาที่เราหมั่นไส้กัปตันเธอ 55555


ปล.โคลด์ตอนคิดว่าจะทำความสะอาดดีรึเปล่านี่น่าเอ็นดูมากเลยเจ้าค่ะ น่าจับมานอนหนุนตักแล้วเกาคางให้เบาเบางื้อออออ อยากฟัด  :hao6:
ขอบคุณค่า เพิ่งเห็นว่าเป็นเป็ดมัธยมเหมือนกัน #เราจะโตไปด้วยกัน
คนนี้ #เรือราชา จินะ ตอนนี้เป็น #เรือเจ้าชาย
จับขาตั้งกล้องให้มั่นๆ ค่ะ เพราะ... /ซุบซิบๆๆ
ช่วงนี้จะได้เห็นมาลแกธในอีกมุมค่ะ เขาคิดอะไร รักโคลด์จริงไม่จริงแค่ไหน พิสูจน์ใจกันช่วงนี้แหละ ;)
โคลด์บอก "อย่าเกาคางข้า" /ทำตาหยี

สงสารเจ้าชาย 5555555 :laugh:

ด้วยกรรมเก่าและความซึนที่สั่งสมมาทำให้โคล์ดใจแข็งใส่พอสมควร (แค่พอสมควรเพราะสุดท้ายก็ออกไปหาเค้าอยู่ดี อิอิ)
สำหรับเรา เรารู้สึกว่าซิกอยู่ในวัยไร้เหตุผลจริงๆอะ ถ้าเป็นนางคงหงุดหงิดงุ่นง่านทุกอย่าง หงุดหงิดแม้กระทั่งตัวเอง
เหมือนไม่ถูกที่ถูกทาง ทำไรก็ดูผิดดูขัดน่าหงุดหิดไปหมด ไม่ได้ดั่งใจ

ไม่รู้ว่าซิกเป็นงี้รึเปล่า แต่สังเกตจากที่มาขอโทษโคล์ด แสดงว่าซิกก็รุ้ว่าทำแบบนั้นมันไม่ถูก(คงมาคิดได้ตอนหลัง)
แต่ก็ทำไปแล้ว(555555)
ซิกในตอนที่ทำแย่ๆใส่โคล์ดก็เป็นเหมือนเด็กน้อยที่ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง จะทำยังไงให้เค้าไม่ไปนะ(?)
เพราะในวัยเด็กคงไม่ได้รับการสอนวิธีการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างถูกต้อง แบบปกติเค้าทำกัน(ก็ฮีเป็นเจ้าชาย)
พออารมณ์มันมาก่อน ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง บวกกับความอึดอัดกดดันที่ตัวเองก็โดนขัง อะไรที่คิดมาได้ก่อนก็ทำไปแบบซื่อๆ
คือขังโคล์ดแมร่งเลยย!!! 55555

เพราะคิดงี้มั้งเราเลยไม่ค่อยโกรธซิก ออกแนวสงสารเด็กน้อยมากกว่า 555555 ตัวละครของทั้งซิกและโคล์ด เหมือนมีเหตุผลที่ทำให้พวกเค้าเป็นคนแบบนี้ เหมือนทุกอย่างมันหล่อหลอมให้ต้องเดินแบบนี้ มันถึงได้วุ่นวายแบบนี้ 555

*แจวเรือต่อไปเงียบ* :o8:
ดีใจที่มีคนเข้าใจอารมณ์วัยรุ่นนะคะ เราคิดว่าการแสดงออกของซิกฟรีดอายุ 15 มาแบบนี้ถือว่าวัยว้าวุ่นมาก
หงุดหงิดงุ่นง่านเพราะโดนขัง #ต้องรีบระบายนะซิกฟรีด /ผิด
มันก็อาจดูเข้าใจยากและไม่เป็นผู้ใหญ่ /ก็ไม่เป็นจริงๆ ละนะ
พอเทียบกับมาลแกธแล้วมาลแกธเลยดูพึ่งพาได้มากกว่า น่าเชื่อถือกว่า อะไรทำนองนั้นน่ะค่ะ
ตอนให้ของมาขอโทษ เราว่าโคลด์เองก็ซึ้งๆ น้ำใจแล้วละ /แต่แผลมันเกิดเพราะซิกฟรีดไง =.=
จริงๆ ก็มีคนบอกว่าเราเขียนตัวละครอีรุงตุงนังด้านความสัมพันธ์มาหลายคนแล้วค่ะ
คือจริงๆ เราชอบนะ เราว่ามันมีมิติดีน่ะค่ะ เหมือนได้ดูชีวิตคนจริงๆ
และพยายามเกลาให้อ่านเข้าใจง่ายๆ อยู่ค่ะ ;)

เบ้ปากมองบน ความซิกความโคลด์  :เฮ้อ:
แอ๊ะ เป็นอะไรคะ ^^;

คนที่รู้ใจซิกที่สุดก็คือโคลด์  :mew1: :mew1: :mew1:
รู้ด้วยว่าซิกไปอยู่ที่ไหน
ที่แท้ทั้งสองพอไม่ได้นอนห้องเดียวกัน
ต่างก็นอนไม่หลับทั้งคู่
แน่ะ......มาลแกธ เจ้าชู้มีที่รักถึงร้อยคนเลย
แต่ให้โคลด์เป็นที่รักอันดับหนึ่งซะด้วย
แต่โคลด์หาสนใจไม่
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
เขินเลยค่ะ แต่คนที่อยู่ด้วยกันทุกวัน มาแยกห้องกันทันทีมันก็มีผิดที่ผิดทางบ้างละเนอะ
ส่วนที่โคลด์ตัดสินใจตามหาซิกฟรีด ถ้าให้เราเดา เดาว่าคงเพราะปล่อยไปไม่ได้ ก็ไม่ได้อยากจะใจดำละมั้ง
แต่โคลด์ก็ปากแข็งอยู่ค่ะ ถึงห่วงก็ไม่มีทางพูดว่าเป็นห่วงแหงเลย ;w;
ส่วนมาลแกธ เรือเฮียจะไปต่อได้หรือไม่อย่างไร...ได้แหละๆๆ แงงงงงง

เขาน่ารักมุ้งมิ้งกันดีจังเลยค่ะ ตอนเด็กๆเนี่ย จริงๆตอนโตก็น่ารักนะ แบบรู้สึกได้ว่าเขารักกันอ่ะค่ะ แต่กับท่านมาลแกธก็ก๊าวใจนะคะ 5555 แต่สงสารสองพี่น้องจังค่ะ รู้สึกเหมือนมันไม่ค่อยมีทางไปเลย แบบดูไม่มีหนทางที่จะได้เป็นอิสระด้วยกันเลยอ่ะ ฮือออ
ช่วงนี้เรือราชามาแรงจริงค่ะ เรือมาลแกธหายแบบเงียบๆ ^^;
ชีวิตต้องมีทางไปค่ะ ;w; เราต้องไม่สิ้นหวังงงงง

:pig4: :pig4:
:mew1: :mew1:

:hao7: :hao7:
:mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (1) [06/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 05-02-2017 23:55:50
บทที่ 12 : บ่วงอารมณ์ (1)

โคลด์เองก็ไม่รู้ว่าทำไมบางทีเขาถึงรู้สึกได้ว่าซิกฟรีดอยู่ที่ไหน แต่นั่นพวกเขาต้องอยู่ใกล้กันระดับหนึ่ง

จุดหมายที่โคลด์มุ่งหน้าไปขณะนี้ค่อนข้างไกล แต่เขารู้ว่าถ้าจะตามหาซิกฟรีด ควรไปหาที่นั่นก่อน เพราะซิกฟรีดชอบไปที่นั่น

เจ้าชายเอลฟ์น่าจะยังไม่ได้ออกจากเขตภูเขา เพราะหากเป็นเช่นนั้น พวกควาร์คงแตกตื่นมากกว่านี้ ไม่ตามหากันแค่ในบริเวณภูเขา

สุดทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเขตอาศรมควาร์มีน้ำตกเล็กๆ ซึ่งสะอาดและสวยงามอยู่ โคลด์ไม่อยากบอกให้คนแห่กันมาที่นี่ เพราะมันเป็นสถานที่ส่วนตัวของเขาเวลาอยากหลบจากพวกควาร์เช่นกัน

เห็นได้ว่าซิกฟรีดคิดตรงกับเขา

ดาร์กเอลฟ์พบเจ้าชายนอนหลับตานิ่งอยู่กลางผืนน้ำ ฝนกระทบใบหน้าซีดเผือด ริมฝีปากแดงจัดและสั่น

โคลด์หย่อนตัวลงน้ำ เดินลุยน้ำเข้าไปหา เมื่อเข้าไปใกล้จึงเห็นว่าใต้ร่างของซิกฟรีดมีพรายน้ำรูปร่างคล้ายแมลงปอนับร้อยตัวอุ้มอยู่ และริมฝีปากที่สั่นก็กำลังเพ้อภาษาที่โคลด์ไม่เข้าใจ

โคลด์เหมือนเห็นเจ้าชายเอลฟ์จอมเย็นชากลับเป็นเจ้าเด็กเอลฟ์เก้าขวบที่เขาช่วยจากฝูงหมาป่า ตอนนั้นซิกฟรีดก็มีอาการประหลาด พูดภาษาอะไรก็ไม่รู้ แถมยังพูดเร็วจนฟังไม่ได้ศัพท์

ตอนที่โคลด์คิดว่าจะลากซิกฟรีดกลับเข้าฝั่งแล้วเอายังไงต่อนั้นเอง พรายน้ำรูปแมลงปอตัวหนึ่งก็กระพือปีกใสเข้ามาหา

“เจ้าคือดาร์กเอลฟ์นามโคลด์ สตาร์” พรายน้ำเอ่ยด้วยเสียงของซิกฟรีด แต่ลึกๆ โคลด์รู้ว่ามันไม่ใช่ซิกฟรีด หรือตัวแทนของซิกฟรีด

“แล้วทำไม” โคลด์ตอบเฉื่อยชา ดึงร่างเจ้าชายไปทางฝั่ง

“ข้าเห็นเจ้า ดูเจ้าอยู่...ขอบใจที่ดูแลบุตรชายของข้า” พรายน้ำบินไปรอบๆ ศีรษะของโคลด์

ดาร์กเอลฟ์เบ้ปาก บุตรชายหรือ...เขาไม่ชอบคำนี้เลย มันทำให้เขานึกถึงบิดาบุญธรรมขึ้นมา

“ข้าไม่ดูแลบุตรเอลฟ์ ข้าทำเพราะโดนบังคับให้เป็นทาสของเขา”

“ถ้าเช่นนั้นก็ปล่อยให้เขากลับสู่ห้วงนทีเถิด”

ฝนตกหนักขึ้น แต่ละเม็ดกระแทกผิวเนื้อจนเจ็บ

โคลด์ปัดแมลงปอน้ำจนมันแตกกระจายเป็นน้ำหยดเล็กๆ “เขาตายข้าก็ตายสิ เอลฟ์ไม่ปล่อยข้าไว้หรอก” ดาร์กเอลฟ์ลากเจ้าชายขึ้นฝั่งได้สำเร็จ

ฝนประกอบเป็นพรายน้ำอีกครั้ง

คราวนี้เป็นรูปร่างของสตรีสูงศักดิ์ ใบหน้าสงบทว่าทรงอำนาจ รอยยิ้มที่ระบายบนมุมปากทั้งสองข้างดูสบายตา

“ถ้ายังไม่เลิกยุ่ง ข้าจะกรีดเลือดตัวเองลงน้ำ” โคลด์ขู่ เขารู้ว่าโลหิตของตนจะสร้างความอัปมงคลแก่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้

โลหิตอันเป็นที่โปรดปรานของบิดาแห่งความตาย

“เจ้าจะเจ็บเสียเปล่า บุตรแห่งบิดานภาแลมารดาสมุทร”

“ข้าไม่สนใจ เลิกยุ่งกับพวกเรา” โคลด์ก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะเถียงกับสิ่งตรงหน้าทำไม แม้สัมผัสได้ถึงพลังที่บริสุทธิ์และสูงส่งของนาง แต่เขาก็เคยเผชิญหน้ากับพลังที่ไม่บริสุทธิ์แต่สูงส่งเฉกกันมาแล้ว

มารดานที...บิดาแห่งความตาย...เหล่าบิดามารดาจะสนใจเรื่องของพวกเขาทำไม

“ต่อจากนี้...พวกเจ้าจะเผชิญชะตากรรมอันหนาหนัก ข้ามาเพื่ออวยพร”

“ข้าไม่สนใจ” โคลด์ย้ำ “ท่านอยู่ข้างเหล่าเอลฟ์ ไม่ใช่พวกข้า ถ้าท่านมีเวลามาห่วงบุตรชายสายเลือดสูงศักดิ์ที่ตัวหนักชะมัดคนนี้ ก็ไปห่วงใยบุตรเอลฟ์ชาวบ้านธรรมดาด้วยดีไหม”

แววตาอ่อนโยน รอยยิ้มหรือก็เปี่ยมด้วยเมตตา สตรีตรงหน้าไม่แสดงอาการโกรธขึ้งแต่อย่างใด นางเพียงวาดมือ ฝนค่อยๆ ซาเม็ด อีกไม่นานกบจะร้องเปรมปรีดิ์ สายรุ้งจะพาดผ่านฟ้า น้ำสะอาดจะเต็มลำธาร ให้รสชาติสดชื่น คอยหล่อเลี้ยงสรรพชีวิต

โคลด์คิดว่า...ที่พวกควาร์หาซิกฟรีดไม่เจอ คงเป็นเพราะการบดบังซ่อนเร้นของมารดานที แต่เขาก็ยังไม่อยากเชื่อว่ามารดานทีจะปรากฏตัวออกมา เพราะขนาดบิดาแห่งความตายยังเคยปรากฏตัวให้เขาเห็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

จิตวิญญาณแห่งบรรพกาลจากไปพร้อมกับสายฝน และในที่สุดซิกฟรีดก็หยุดพร่ำเพ้อ ก่อนหน้า ระหว่างนำเครื่องใช้ไปส่งให้โคลด์ที่โรงเก็บของ ฝนกำลังจะตกพอดี เขาเดินไปคิดไป หากฟังเสียงกระซิบฝนได้ แปลความหมายออก คงทราบข่าวสารจากทั่วสารทิศ ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ตะวันออกจรดตะวันตก เนื่องเพราะฝนก็คือสายน้ำที่เชื่อมนภากับธรณีเข้าด้วยกัน

บางทีอาจทราบแม้กระทั่งข่าวสารที่ถูกปิดบังไว้

ซิกฟรีดเคยได้ยินพระสุรเสียงของบิดานภามาแล้ว (ทว่าหลังจากเติบโตขึ้น เสียงหลายเสียงที่เคยได้ยินแจ่มชัดในตอนเด็กกลับซาไป บางเสียงก็ไม่ได้ยินอีก) เขาคิดว่าแค่ฟังเสียงของฝนคงไม่ยากนัก

แต่ซิกฟรีดคิดผิด

คราแรกเขาไม่ได้ยินอะไรนอกจากเสียง ซ่า…ซ่า ของฝนที่ตกกระทบใบไม้และผิวน้ำ

ต่อมาเสียงกระซิบจับใจความไม่ได้ค่อยๆ ดังขึ้น

ผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก คนแก่ สำเนียงของสัตว์ ภาษาเอลฟ์ ภาษาทมิฬ ภาษาของเอลฟ์ตะวันออก ภาษามนุษย์ ดวอร์ฟ เซ็นทอร์ ออร์ค ยักษ์ ภูตผี...และอื่นๆ ผสมปนเปมั่วไปหมด หัวเริ่มปวดระบม เขาสูดลมหายใจลึก พยายามไม่หลุดเข้าไปในเสียงอันโกลาหลวุ่นวาย เจ้าชายเอลฟ์ดันทุรัง เขาต้องการทราบความเป็นไปในราชวังรูเมเรียร์ ในแผ่นดินบ้านเกิด

‘เจ้าพร้อมรับฟังความจริงหรือไม่...ซิกฟรีด อาเลธ แห่งรูเมเรียร์’

เสียงนุ่มนวลของสตรีดึงเขาจมสู่ภวังค์

ซิกฟรีดหลับ

ก่อนจะตื่นในโลกแห่งมหานที

 

ซิกฟรีดลืมตา พบว่าตนอยู่ในห้องของตัวเอง เขาเปลือยอก ห่มผ้านวมหนา สวมกางเกงตัวใหม่ มีดาร์กเอลฟ์นอนขดบนพื้นข้างเตียง

เมื่อคืนโคลด์แบกซิกฟรีดกลับมายังอาศรม กว่าจะมาถึงก็ใกล้เช้าแล้ว เขาตอบคำถามควาร์ว่าเจอเจ้าชายนอนสลบอยู่ในป่า แต่ที่จริงเขาแบกซิกฟรีดกลับมาจากน้ำตก แบกแล้ววางอยู่เป็นสิบรอบ เพราะระยะทางไกลเกินไป ซิกฟรีดก็ตัวหนักเกินไป

เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ซิกฟรีดและตัวเอง สุมไฟในเตาผิงให้ห้องอุ่น และนอนหลับ

“ตื่นแล้วเหรอ ข้าเหนื่อยมาก ขี้เกียจจับเจ้าใส่เสื้อ แค่ใส่กางเกงก็ลำบากแล้ว” ก้อนโคลด์ที่ขดบนพื้นพึมพำ

ซิกฟรีดครางเบาๆ รู้สึกหนักไปทั้งตัว ศีรษะก็ยังปวดรุนแรง

“น้ำ...” คำแรกที่หลุดจากปากก็ใช้โคลด์เสียแล้ว

“ไปหยิบเองไป๊ ใช้จัง” โคลด์โมโหขึ้นมา นอกจากไม่ขอบคุณที่ช่วย ตื่นมายังใช้งานเขาทันที ต่อให้เขาเฉื่อยแฉะไม่รู้ร้อนรู้หนาวแค่ไหน แต่นี่ก็เกินไป

ซิกฟรีดพยายามลุก แต่ระหว่างพลิกตัวกลับเสียหลัก ล้มตึงลงทับโคลด์ที่นอนบนพื้น ดีที่ใช้มือยันทัน ไม่ทับไปทั้งตัว

“โอ๊ย!” น้ำหนักบางส่วนที่ทิ้งลงมากะทันหันทำให้โคลด์จุกอยู่ดี

ลมหายใจร้อนผ่าวรดต้นคอโคลด์ ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววหงุดหงิดที่อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ เขาพยายามนึกย้อนว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นั่นทำให้ปวดศีรษะหนักกว่าเดิม หูก็อื้อไปหมด คล้ายกับเพิ่งหลุดออกจากที่ที่เสียงดังมากๆ

“หนัก ร้อน ลุกออกไป” ร่างของพวกเขาแนบชิดกันในสภาพล่อแหลม โคลด์เคยนอนกอดเจ้าชายน้อย ปลอบให้เลิกฝันร้ายเรื่องหมาป่า แต่นั่นก็นานมาแล้ว

ตอนนี้ เจ้านี่ไม่ใช่เจ้าชายน้อยเลย

“เกิด...อะไรขึ้น” ซิกฟรีดพึมพำ เขาไม่ได้ถามโคลด์แต่ถามตัวเอง

“หนัก” โคลด์ย้ำ เขาอธิบายว่าซิกฟรีดหายตัวไป แล้วควาร์ตามหา แต่ไม่ได้พูดเรื่องมารดานที

เพราะเรื่องนั้นต้องเป็นความลับ หาไม่แล้วจะเสี่ยงต่อการเปิดเผยตัวจริงของเขา ว่าสามารถสื่อสารกับเหล่าเทพได้

เขาต้องเป็นแค่ทาสดาร์กเอลฟ์ธรรมดาๆ

“ข้าบอกพวกเขาว่าเจอเจ้าในป่า” โคลด์เอ่ยเสียงเบา

“ขอบใจ” ซิกฟรีดเอียงใบหน้ามาจ้องโคลด์แบบไม่อยากเชื่อเท่าไหร่ ว่าโคลด์จะอธิบายอะไรๆ ให้เขาฟัง

ถ้าโคลด์บอกว่าซิกฟรีดไม่เคยสนใจตน ซิกฟรีดก็คิดว่าโคลด์ไม่เคยสนใจเขาเช่นกัน เว้นเสียแต่โคลด์จะได้รับคำสั่งให้ดูแลเขา หรือไม่ก็เป็นเรื่องที่หากโคลด์ไม่สนใจก็จะเดือดร้อน (เช่น ซักผ้ากับปัดกวาดเช็ดถู)

“ข้าเหนื่อยมากกับการแบกเจ้ากลับมา ถ้าอยากขอบใจ ขอข้านอนพักดีๆ” หน้าท้องของซิกฟรีดร้อนแนบกับท้องน้อยของโคลด์ ราวคนมีไข้ที่ร้อนไปทั้งตัว

“ลุกไม่ขึ้น”

โคลด์ขืนตัว จะพลิกอีกฝ่ายออก แต่เขาเองก็เหนื่อยจนหมดแรง “เจ้าพยายามลุกสิ เจ้าคนตัวหนัก”

ซิกฟรีดยันแขนขึ้น ตาดุๆ จ้องโคลด์ระยะประชิด

ก่อนจะร่วงลงมาทับอีกครั้ง

“อา…” โคลด์หมดหวัง เขาไม่อยากเรียกใครมาช่วย ให้เห็นเจ้าชายนอนทับเขาในสภาพนี้

ไม่สิ…ยังมีอีกคนที่พอช่วยได้อยู่

“เจ้าเรียกมาลแกธมาช่วยสิ ควาร์มีเวทสื่อสารใช่มั้ย”

ถ้าเป็นมาลแกธโคลด์โอเค

ซิกฟรีดมองดุ “เวทสื่อสารใช้ผ่านอุปกรณ์เวท ทำไมข้าต้องมีอุปกรณ์เวทคู่กับเอลฟ์ตะวันออก”

อันที่จริงก็มีวิธีสื่อสารอื่นๆ แต่ซิกฟรีดไม่เอ่ยถึง

“แล้วจะเอายังไง จะนอนทับดาร์กเอลฟ์ให้ผิวขาวๆ ของเจ้าหมองหรือไง”

“ตัวเจ้าก็นุ่มดี” ซิกฟรีดประชด

คำตอบนี้ทำให้โคลด์บื้อไปเลย

“ข้าไม่ได้ตัวนุ่มนิ่ม” เขาออกกำลังด้วยการฝึกอาวุธทุกวัน

“นุ่ม” ซิกฟรีดได้ช่องกวนโคลด์แล้ว

“ไม่ ข้าตัวแข็ง กล้ามเป็นมัดๆ” ซึ่งเกินจริงไปหน่อย แต่พอกล้อมแกล้มได้

ซิกฟรีดเอาหน้าหนุนหัวโคลด์ “หัวเจ้าก็นุ่ม สมองนุ่ม...นิ่ม”

ผมสีเงินอ่อนนุ่มระแก้มเจ้าชายเอลฟ์

“ลุกออกไป” โคลด์พูดเรียบๆ ไม่ขึ้นเสียงด้วยซ้ำ แต่เด็ดขาด

ซิกฟรีดโงศีรษะขึ้นมา ดวงตาสีแปลกถึงจะดุแต่ก็มีแววร่าเริงขี้เล่นเจืออยู่เล็กน้อย เขาถึงกับยิ้มด้วยซ้ำแต่ไม่รู้ตัว

“ขำอะไร”

“ขำ?” ซิกฟรีดเอาศอกยันคร่อมหน้าโคลด์ไว้ จะได้มองหน้ากันได้ กำลังค่อยๆ ฟื้นกลับมาทีละนิด

ดาร์กเอลฟ์มองตอบด้วยดวงตาสีม่วงเข้ม ผิวสีม่วงอมเทา ริมฝีปากสีม่วงอ่อน ดูอย่างไรก็ไม่ใช่ความงามในอุดมคติของเอลฟ์

“ข้าไม่ได้ขำ”

แต่ยิ้มอยู่ชัดๆ

“เจ้ายิ้ม” โคลด์ใช้ลูกฮึดดิ้นไปมาใต้ร่างอีกฝ่าย ที่ว่าซิกฟรีดทำควาร์บ่าหลุดไปสองคนน่าจะไม่ได้โม้ เขารู้สึกเหมือนถูกก้อนหินขนาดเท่าคนทับ พอดิ้นมากๆ ร่างกายท่อนล่างบดเบียดกัน โคลด์ก็รู้สึกเสียววาบในท้องน้อย

ดาร์กเอลฟ์หยุดดิ้นกะทันหัน



—————————————————————————

A/N ก็ต้องหยุดดิ้นละนะ แนบชิดกันขนาดนี้ ('////') อ่านถึงช่วงจบ มีใครลืมคอมเมนต์เรื่องมารดานทีไหมคะ /เราลืมค่ะ!!! /ยกมือ XD

ป.ล. ตอนต่อไป...ลุ้นค่ะๆ \(*0*)/

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (1) [06/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 06-02-2017 02:13:06
หลุดเรื่องมารดานทีไปนานแล้วค่ะ

ตอนนี้โฟกัสแต่เอลฟ์กับดาร์กเอล์ฟนอนทับกัน 55555 :z1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (1) [06/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 06-02-2017 06:57:46
หวายยยตายแหล่วววววเขานอนทับกันค่ะคุณขาาาา //กดบันทึกภาพรัวๆ


มารดานทีคือประธานชาวเรือเราสินะเจ้าคะ อืมมมม//มันใช่หรอ 55555


เจ้าชายบอกโคลด์ตัวนุ่มนิ่ม งื้อนุ่ม..นิ่ม กับคู่นี้เวลาเขาอ่อนโยนต่อกันนี่มันดีกับใจบ่าวเหลือเกินเจ้าค่ะ // ยืืนเคลิ้มอยู่ข้างกราบเรือ


ปล.เราจะเดินไปด้วยกันชอบคำนี้จังเลย งื้อออ//กอดคนเขียน

ปล2.ตอนโคลด์เถียงเจ้าชายว่าตัวเองกล้ามเป็นมัดๆนี่มัน ฮึ่ยยยยหมั่นเขี้ยว อยากจะจับมาฟัดทั้งตัวแอบขโมยมาเลี้ยงที่บ้านสักสองสามวันเจ้าชายจะว่าอะไรไหมนะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (1) [06/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-02-2017 09:51:38
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (1) [06/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-02-2017 10:05:57
เบียดเสียดกัน มันต้องร้อนแน่ๆ  :z3:
ต้องมีอะไรๆ ตื่นขึ้น  :hao6:
ว่าแต่อะไร มันอะไรนะ :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (1) [06/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 06-02-2017 10:10:05
มาล้าวววว :katai4:
ทาสและเจ้าชาย 4
รู้อยู่แล้วสินะว่าซิกอยู่ไหน ถึงไม่ออกตามหาตั้งแต่แรก (สุดท้ายก็ทนเป็นห่วงไม่ไหว ว้าย)
ส่วนมาลแกธ ถึงจะหมั้นไส้ความเจ้าชู้ของนาง แต่เวลาพูดอะไรจริงจังขึ้นมาแล้วดูเท่ระเบิดไปเลย
ยิ่งช่วงตอนโดนโคลด์จิ้มคอนะ ตอนนั้นลงเรือมาลแกธเต็มๆ ที่จริงก็ชอบนางนาาาแต่เราหวงโคลด์(แทนซิก)มากไปหน่อย /ฮา
ป.ล.ใช่ๆทำไมแกปล่อยน้องออกไปคนเดียวแบบนั้นยะ! (แต่ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่เป็นกขคเจ้าชาย :P)
บ่วงอารมณ์ 1
อร๊ายยยฟหกดดด ใกล้เกินไปแล้วววว
ซิกมันร้ายยยยย สองนิ้วจิ้มตามันเลยเจ้าค่ะโคลด์!
บรรยากาศล่อแหลมแบบนี้..(รอมาน๊าน) :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (1) [06/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 06-02-2017 20:01:57
มารดานทีคืออะไร นาทีนี้จับจ้องสองหนุ่มตาเป็นมัน ถ่ายคลิปไว้ได้ไหมนี่  :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (1) [06/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 06-02-2017 21:38:47
ซิกฟรีดน่าจะเป็นควาร์ที่พิเศษมาก ๆ มารดานภามาเองเลย

*ฉันพูดถึงนางแล้วนะ*

อืม...จริง ๆ บทนี้ก็ไม่มีอะไรเนอะ
เขาแค่ให้ซิกน้อยกับโคลด์น้อยได้ทำความรู้จักกันเท่านั้นเอง

แอร๊ยยยยยยยย!!!!!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (1) [06/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 06-02-2017 23:22:53
แวบไปสงสัยเรื่องทำไมโคลเคยเจอบิดาแห่งความตายแทนได้ไหม 55555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 07-02-2017 00:04:04
บทที่ 12 : บ่วงอารมณ์ (2)

มันอะไรนักหนา… โคลด์เบือนหน้า แก้มมีสีเลือดฝาด

ซิกฟรีดขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกแปลกๆ ในอก

เขาใจเต้น

เจ้าชายอยู่ในอาศรมตั้งแต่เด็ก ไม่มีเรื่องชู้สาว (อันที่จริง...อาศรมรับแต่ควาร์หนุ่ม) แต่ใช่ว่าเขาจะไม่ประสาอะไรเลย

แต่...

อาเลธ...นี่โคลด์ สตาร์ โคลด์ปากไม่ดีที่ชอบด่าเจ้า เจ้าใจเต้นทำไมเล่า!

ซิกฟรีดมองโคลด์ที่ไม่ยอมหันมาทางเขา

และก่อนที่จะรู้ตัว ปากก็สัมผัสกับแก้มของอีกฝ่ายไปแล้ว

“อือ…” โคลด์ตัวแข็งทื่อ เขาพยายามหาคำพูด ต้องพูดอะไรสักอย่างก่อนที่เรื่องจะเลยเถิด “เจ้า…”

ปากของเจ้าชายละจากแก้มไปยังต้นคอ ไซ้...สูดกลิ่นที่ทำให้เกิดกำหนัด ซิกฟรีดเบียดสะโพกเข้าหาโคลด์ ขณะที่มือข้างหนึ่งกำผมโคลด์แล้วดึงเบาๆ ให้แหงนหน้า เขาขบตามเส้นเลือด ถกเสื้อเนื้อบางขึ้น ลิ้นที่ร้อนกว่าเลียไปถึงแผ่นอกสะท้อนขึ้นลง

การเบียดสะโพกและการลากลิ้นเรียกเสียงครางเบาๆ จากดาร์กเอลฟ์ เขาตอบสนองด้วยการแอ่นตัวเข้าหาความพรั่นใจนั้น

ใบหน้าของโคลด์แดงก่ำถึงหู เขาไม่รู้ว่าที่ทำอยู่นี่ดีหรือไม่ แต่ถ้าถามแค่ความรู้สึกทางร่างกาย มันดีจนใจเต้นแรงทีเดียว

“จะ...เจ้าก็ถึงวัยเลือดลมพลุ่งพล่านแล้ว”

อา...โคลด์ สตาร์ เจ้าหาคำที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วหรือ โคลด์สมเพชตัวเอง

ซิกฟรีดสัมผัสยอดอกสีอ่อนของโคลด์ด้วยการย้ำปลายลิ้น ทำให้ดาร์กเอลฟ์เผยอปากกะทันหัน ปากได้รูปมอบเสียงที่ฟังแล้วหวามใจ

“เจ้ารู้ตัวใช่มั้ยว่าทำอะไรอยู่”

ดวงตาหลอมเหล็กของซิกฟรีดกำลังหลอมละลายโคลด์เป็นครั้งแรก “เจ้าล่ะ” เขาไม่รอฟังคำตอบ ปากประกบจูบไม่ประสาแต่เร่าร้อนเป็นที่สุด

โคลด์รู้สิ เขารู้ว่ามันจะเป็นปัญหา แต่ร่างกายกลับแสวงหาความวาบหวามที่เพิ่งลองลิ้มรส เขาขยับสะโพกตามซิกฟรีด ลิ้นที่สอดเกี่ยวกันอยู่ยิ่งช่วยเพิ่มอารมณ์ใคร่

แค่บดเบียดผ่านเนื้อผ้ายังรู้สึกดีขนาดนี้ โคลด์ขยับขาแยกออก ให้ซิกฟรีดแนบชิดลงมาอีก เขากอดแผ่นหลังกว้าง ดำฤษนามีอำนาจเร่งเร้า

ขออีกแค่นิดเดียว จะ...จะ… โคลด์หลับตา กัดปาก

ซิกฟรีดดึงกางเกงของโคลด์ลงตามด้วยของตัวเอง เขาดันส่วนที่เปี่ยมไปด้วยแรงปรารถนาเข้าหาโคลด์ มือและปากวุ่นวายกับการฟอนเฟ้นเนื้อตัวอีกฝ่าย

ซิกฟรีดสัมผัสแม้กระทั่งใบหูของดาร์กเอลฟ์

โคลด์ตวัดขารอบเอวคนด้านบน เขาต้องการให้ความรู้สึกวาบหวิวในช่องท้องขึ้นไปแตะถึงขีดสุด การแนบส่วนสงวนเข้าด้วยกันทำเขาลืมเรื่องอื่นไปจนหมด...คิดถึงแต่คนตรงหน้า

โคลด์ขบใบหูของซิกฟรีดเมื่อความรัญจวนเร่งเร้า เขาเห็นดวงดาวระยิบระยับอยู่ด้านหลังเปลือกตา สะโพกกระตุกอย่างไร้การควบคุม ทำให้หน้าท้องของซิกฟรีดเปื้อนของเหลวอุ่นๆ

“อืม!” ซิกฟรีดหายใจสะดุด สะโพกดันเข้าหาโคลด์ไวขึ้น เสียดสีกับส่วนสำคัญและท้องน้อยของโคลด์ ขณะนี้ใบหน้าเย็นชากลับแสดงอารมณ์และความต้องการชัดเจน

“เดี๋ยว...เดี๋ยว” โคลด์ห้ามด้วยเสียงอ่อนแรง เพราะซิกฟรีดทำต่อทั้งที่เขาเพิ่งผ่านจุดอ่อนไหวทางอารมณ์ครั้งใหญ่

สีหน้าของดาร์กเอลฟ์เหยเก

ซิกฟรีดจับใบหน้าโคลด์หันข้าง สอดลิ้นเลียในหู ก่อนจะครางยาวเมื่อเสร็จสมอย่างรุนแรง

“อ๊ะ!” โคลด์กลั้นเสียงนี้ไม่ทัน ในหูอื้อ ขาสั่นพั่บ รู้สึกเหนอะหนะเพราะของเหลวจากอีกฝ่ายหลั่งรดตัวเขา

เจ้าชายเอลฟ์ยังยุ่งอยู่กับตัวโคลด์ไม่หยุด และดูท่าว่าจะไม่จบลงเท่านี้ ครู่เดียวก็เปลือยกันทั้งคู่ ย้ายขึ้นไปนอนบนเตียง

ไม่พอ...ยังไม่พอ

หางตาของซิกฟรีดทิ้งลงหน่อยๆ คล้ายจะพูดว่า ‘ขอได้ไหม’

“ก็เสร็จแล้ว จะเอาอะไรอีก” โคลด์ไม่เข้าใจ

ซิกฟรีดกระซิบสิ่งที่ทำให้โคลด์หน้าแดงถึงหู

“ข้างใน”

“ข้างในอะไร ข้างในตรงไหน” โคลด์ไม่ยุ่งเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของพวกควาร์ในอาศรม ไม่สนใจด้วยซ้ำ

ซิกฟรีดก็ไม่รู้อะไรเท่าไหร่ แต่ย่อมรู้มากกว่าโคลด์ เขาเลื่อนมือลงไปด้านล่าง ปลายนิ้วคลึงให้ส่วนสำคัญด้านหลังคลายออก

“ไม่” โคลด์หูตั้ง ตาโต “เข้าไม่ได้หรอก”

แต่ซิกฟรีดกลับดันนิ้วเข้าไปแล้ว...

“เจ้า!” ดาร์กเอลฟ์กัดฟัน คิดว่ามันชักจะไปกันใหญ่

ซิกฟรีดฝังจมูกกับแก้มโคลด์ หายใจหอบตามจังหวะที่นิ้วของตัวเองดันเข้าออก เขาคลึงโดนส่วนที่ทำให้โคลด์ผวาหลายครั้ง และสีหน้าของโคลด์ตอนนั้นทำให้ซิกฟรีดแทบทนไม่ไหว

มีเสียงเคาะประตูตอนที่ทั้งสองยังค้างอยู่ในท่านั้น โคลด์กระตุกร่างรัดนิ้วซิกฟรีด เท้าขยี้ผ้าปูที่นอน สองมือปิดปากตัวเองทันที

“อะไร!” ซิกฟรีดคำราม ใจเต้นแทบทะลุออกมานอกอก เขามองโคลด์ไม่วางตา คล้ายตกในความหลงใหล

ใบหูของโคลด์ลู่ลง เสียงคำรามทำให้เกิดแรงสั่นข้างใน

โคลด์ได้ยินเสียงนอกประตูไม่ชัดนัก แต่น่าจะเป็นการถามไถ่อาการของเจ้าชายเอลฟ์ และดาร์กเอลฟ์รับใช้ท่านอยู่หรือไม่

รับใช้กับผีสิ โคลด์เกร็งนิ้วเท้า

“ข้าสบายดี โคลด์ก็สบายดี ขอบคุณ ข้าจะพักสักหน่อย” ซิกฟรีดตอบคำถามรวดเร็ว ติดจะห้วน น้ำเสียงปิดไม่มิดว่าหงุดหงิด

สบายอะไรเล่า! ดาร์กเอลฟ์หอบหายใจใต้ปากที่ถูกปิดไว้ และเมื่อนิ้วเริ่มขยับต่ออย่างใจร้อนทั้งที่ยังมีคนอยู่หน้าประตู ขาเพรียวก็แยกกว้าง

คนด้านนอกยังเอ่ยต่ออีกสองสามประโยค แต่โคลด์มึนเบลอ นิ้วเล่นกับส่วนอ่อนไหวภายในตัวเขา ทำให้อับอายเพราะอารมณ์ชูชันขึ้นอีกครั้ง

ซิกฟรีดถอนนิ้วออกตอนที่โคลด์น้ำตาซึมเพราะอารมณ์ใคร่พุ่งสูง เขาแทนที่นิ้วด้วยความแข็งขึงของตนอย่างช้าๆ พยายามอดทนไม่ดันเข้าไปรวดเดียว ลอนกล้ามหน้าท้องของเจ้าชายเอลฟ์เกร็ง เสียงลมหายใจหนักดังประสานกัน เช่นเดียวกับสายตาที่ไม่อาจละจากกันได้เลย

“เจ็บ...” โคลด์กระซิบ “ข้าเจ็บ มันแน่นไปหมด...เจ้าเลิกเถอะ”

“ทนหน่อย” ซิกฟรีดกระซิบตอบ

“เจ้าไม่ใช่คนเจ็บนี่” โคลด์ไม่กล้าท้วงดัง เหงื่อมันวาวอาบผิวเรียบลื่นสีเข้มจนดูน่านวดเฟ้นลูบไล้

ซิกฟรีดนิ่วหน้า “เจ้าเกร็งข้าก็เจ็บเหมือนกัน”

“ก็เลิกสิ” ถ้าหูไม่ฝาด มันเป็นการพูดแบบขอร้องด้วยซ้ำ ไม่ใช่การขัดขืนรังเกียจ

“ข้า...หยุดไม่ได้” ซิกฟรีดกัดฟันกรอด แต่เมื่อครู่ที่โคลด์ขอร้อง...ทำเอาใจเขาอ่อนยวบอย่างน่าประหลาด ซิกฟรีดหลับตาแน่น ต่อสู้กับตัวเอง

“อืม...ไม่ทำแล้ว”

โคลด์ถอนใจ ระบายยิ้มออกมา “ก็บอกแล้วว่าใส่ไม่ได้”

ซิกฟรีดกระซิบ “แต่มัน...สุดแล้วนะ” เขาหน้าแดงกับคำพูดของตัวเอง มันค่อนข้างหยาบโลนสำหรับเอลฟ์

สุด? สุดอะไร? โคลด์ยกหน้าขึ้นมาดู แล้วต้องตกใจ ฟันขาวสะอาดเม้มปากล่าง เขาใช้สายตาถามซิกฟรีดว่า

‘มันเข้าไปได้ยังไง!’

เพราะเจ็บจนชา โคลด์แทบไม่เชื่อว่าซิกฟรีดสอดใส่เข้ามาจนสุดได้จริงๆ

“แล้วจะเอายังไง” โคลด์ถาม

เจ้าชายเอลฟ์นิ่วหน้าอีกพอโคลด์เกร็ง “ก็เจ้าไม่เอาแล้ว”

“อย่าเพิ่งเอาออก มันต้องเจ็บมากแน่” โคลด์ลนลาน ตอนนี้เขายังชา แต่ถ้าซิกฟรีดขยับ เขาไม่กล้านึกสภาพต่อ

“เจ้าจะทรมานข้าหรือ” ดวงตาของซิกฟรีดฉายแววดุขึ้นมา

“เชิญเจ้าทรมานไปเลย” ดาร์กเอลฟ์แยกเขี้ยว

“เจ้า…” ซิกฟรีดไม่ทราบจะว่าอะไร เขายกสะโพกออก แต่โคลด์รัดแน่น จึงต้องรอสักครู่

“ค่อยๆ เอาออกไป” พอสบายใจ ร่างกายก็ผ่อนคลาย ทว่าการถอนตัวออกสร้างแรงถูไถ มอบความรู้สึกแปลกใหม่ต่างจากนิ้ว

ดาร์กเอลฟ์ถอนใจเฮือก

ซิกฟรีดขยับอีกครั้ง เขาก็รู้สึกดีเมื่ออยู่ในตัวโคลด์

“อึ๋ย!” โคลด์รู้ว่าเสียงเขาฟังพิลึก แต่ยิ่งซิกฟรีดขยับเข้าขยับออก มันก็ยิ่งแปลกๆ

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ไม่พูดกัน

มีเพียงเสียงหอบและเสียงครางเบาๆ เท่านั้นที่แลกเปลี่ยนกันในห้องนี้

โคลด์เพิ่งทราบว่าตัวเขาอ่อนได้มากแค่ไหน และซิกฟรีดจับมันบิดไปท่าไหนได้บ้าง เขากำหมอน มองหน้าเจ้าชายเอลฟ์ รู้สึกอบอุ่นในใจ รู้ว่าการกระทำนี้ไม่ได้เกิดจากการรังแกหรือรังเกียจ

เปลือกตาสีม่วงปิดแน่นเมื่อมาถึงจุดที่ทนไม่ไหว

ซิกฟรีดกอดและจูบโคลด์ เขารู้สึกอยากกอดโคลด์อย่างนี้ตลอดไป อยากเป็นเจ้าของ...ใช่

อยากเป็นเจ้าของ

ซิกฟรีดเม้มใบหูของโคลด์เมื่อไม่อาจยับยั้งอารมณ์ เขาฝังลึกในตัวของดาร์กเอลฟ์ ความรู้สึกส่งผ่านถึงกันโดยไม่ต้องใช้คำพูดใดๆ

โคลด์ไม่แน่ใจว่าเขาเม้มใบหูอีกฝ่ายตอบตอนไหน อาจเป็นตอนที่ซิกฟรีดรอสักพักแล้วขยับต่อเบาๆ การขยับเอวของอีกฝ่ายง่ายขึ้น เพราะข้างในลื่นกว่าเดิม

การจูบใบหูข้างที่แผลเพิ่งหายอย่างอ่อนโยนและเอาใจทำให้โคลด์รู้สึกวาบหวามใจ เขาจึงให้ซิกฟรีดทำตามใจโดยไม่ผลักไส

ทว่าจากแรงที่ไม่มีตก เจ้าชายเอลฟ์จะอิ่มตอนไหน โคลด์เดาไม่ได้เลย



—————————————————————————

A/N /กลิ้งๆๆๆๆ /กลิ้งๆๆๆๆ หวายๆๆๆๆ เขินๆๆๆๆ ไม่รู้จะคุยอะไรเลย แง้

ป.ล. ('///////') เพิ่งนึกได้ว่าชื่อตอนเหมือนละครหลังข่าว--

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 07-02-2017 00:24:57
 :jul1:
จำเป็นต้องร้อนแรงขนาดนี้มั้ยยยยยย
เขินไปหมดแล้ว กรี๊ดดดดดดดดดดดด *เขินตัวแตก* :-[

ชอบเวลาที่ทั้งสองคนเปิดเผยความรู้สึกออกมา จะเรียกว่าไรดีล่ะ แบบหลุดซึนอะค่ะ
เหมือนตอนที่ซิกใช้ตราทาสเรียกโคล์ดทะเลาะกันแซะกันสักพักก็หลุดซึน คุยกันดีๆซะงั้น (555)
เรารุ้สึกว่าสองตัวละครนี้เป็นตัวละครที่หว่าเว่มากเลย โดดเดี่ยว มีแต่ตัวเองไม่ไว้ใจใคร ยังไงก็ไม่รู้ (ไม่นับครอบครัวที่ห่างไกลกันนะคะ /อย่างเกวน)
เลยเหมือนว่าใส่หน้ากาก เก็ก ซ่อนความรู้สึก แล้วก็สร้างกำแพงตลอดเวลา บุคลิกแข็งๆทั้งคู่
พอเวลาที่เปิดเผยต่อกันแบบ.... อาจจะไม่ได้เข้าใจกันทั้งหมด หรือเปิดอกคุยอะไร
แต่เป็นตัวของตัวเองจริงๆ แสดงความรู้สึกจริงๆกับอีกฝ่าย มันเลยเป็นอะไรที่โรแมนติกมากสำหรับเรา (ถึงคู่นี้จะไม่ค่อยมีฉากหวานก็เถอะ) ชอบความสัมพันธ์ของตัวละครสองตัวนี้ ถ้าให้นิยามอะไร รู้สึกว่าคำนี้มันใช่มาก ... "มันซับซ้อน" 55555

ชอบการสร้างตัวละครที่มีมิติแบบนี้ของคนแต่งค่ะ เลิฟๆ :mew1:
*แจวเรือ*
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 07-02-2017 02:09:16
โอ่ ม่าย ลอร์ดดดดดดดดดฟหกด
กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!!
 :jul1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-02-2017 06:17:13
ชอบ บ่วงอารมณ์ของซิก กับโคลด์  :z1: :pighaun: :haun4: :jul1:
จูบหูกันและกัน
เห็นภาพตามไปด้วย โคลด์ตัวอ่อน
ซิกจับไปทางไหน ได้หมด อะจ๊ากกกก  :ling1: :ling1: :ling1:
ความในใจโคลด์ น่ารักน่าเอ็นดู
บทรักซิก ทำให้โคลด์วาบหวามใจ
ที่ซิกจูบใบหูข้างที่แผลเพิ่งหายอย่างอ่อนโยนและเอาใจ
โคลด์ ตามใจซิกโดยไม่ผลักไส
แถมซิก แรงดีที่ไม่มีตก  :katai2-1:
เจ้าชายเอลฟ์จะอิ่มตอนไหน โคลด์เดาไม่ได้เลย
ทั้งเอาใจ ตามใจกัน ฟินนนนน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-02-2017 06:56:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 07-02-2017 07:26:13
อ่านไปก็นั่งกุมจมูกไป โอ้วววให้ตายเถอะ!!!! ครั้งแรกยังขนาดนี้


ทำไมหนูน่ารักขนาดนี้ล่ะโคลด์ หืม//ลูบหัวโคลด์เบาเบา

ก็ออกจะ "รัก" กันขนาดนี้แท้ๆน้า รักกันเยอะๆนะเราชอบ คึคึ


ปล.ครั้งแรกนี่เจ้าชายมีความSแค่เบาเบาก็ทำบ่าวระทวยมากเลยเจ้าค่ะมายปริ๊นซ์ คราวหน้าขอแบบจัดเต็มบ้างนะเจ้าคะ

ปล2.แต่เวลารักกันนี่เขาก็อ่อนโยนต่อกันดีนะคะ ดีกับใจชาวเรือ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 07-02-2017 11:33:52
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 07-02-2017 14:13:01
รวดเดียวจบ เป็นอะไรที่ต้องติดตาม ><

ตามด้วยคนเด้อ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: หมีมง ที่ 07-02-2017 15:19:43
เป็นตอนที่อ่านแล้วเขินแต่ก็ดูใสๆดี 55555555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 07-02-2017 16:07:05
รู้สึกสองคนนี้มันได้กันแบบงงๆ 5555  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 07-02-2017 17:04:19
ได้เสียกันแบบมึน ๆ งง ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า

เด็กเอ๋ย...เด็กน้อย...

ช่วงเวลางดงามอ่อนหวานอันแสนสั้น
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (1) [06/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 07-02-2017 18:46:16
หลุดเรื่องมารดานทีไปนานแล้วค่ะ

ตอนนี้โฟกัสแต่เอลฟ์กับดาร์กเอล์ฟนอนทับกัน 55555 :z1:
5555 โอเคค่ะ โฟกัสแรงๆ ค่ะ อ่านตอนต่อเลยค่ะ จุ๊บ

หวายยยตายแหล่วววววเขานอนทับกันค่ะคุณขาาาา //กดบันทึกภาพรัวๆ


มารดานทีคือประธานชาวเรือเราสินะเจ้าคะ อืมมมม//มันใช่หรอ 55555


เจ้าชายบอกโคลด์ตัวนุ่มนิ่ม งื้อนุ่ม..นิ่ม กับคู่นี้เวลาเขาอ่อนโยนต่อกันนี่มันดีกับใจบ่าวเหลือเกินเจ้าค่ะ // ยืืนเคลิ้มอยู่ข้างกราบเรือ


ปล.เราจะเดินไปด้วยกันชอบคำนี้จังเลย งื้อออ//กอดคนเขียน

ปล2.ตอนโคลด์เถียงเจ้าชายว่าตัวเองกล้ามเป็นมัดๆนี่มัน ฮึ่ยยยยหมั่นเขี้ยว อยากจะจับมาฟัดทั้งตัวแอบขโมยมาเลี้ยงที่บ้านสักสองสามวันเจ้าชายจะว่าอะไรไหมนะ
:-[ :-[ :-[
แหมะๆๆ ตั้งกล้องเลยค่ะๆ มารดานทีดูจะอวยซิกกับโคลด์ แต่ก็ไม่แน่น้า รอดูต่อไป งุงิ
เจ้าชายชอบก้อนโคลด์ก็บอก ทำซึน ซึนมากๆ ให้คนอื่นะเฟร้ยยย
จะเอาก้อนโคลด์ไปต้องผ่านซิกฟรีดก่อนนะคะ นาทีนี้ 555

:pig4: :pig4:
:mew1: :mew1:

เบียดเสียดกัน มันต้องร้อนแน่ๆ  :z3:
ต้องมีอะไรๆ ตื่นขึ้น  :hao6:
ว่าแต่อะไร มันอะไรนะ :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
:o8: :o8: :o8:
ร้อนค่ะร้อน รุ่มด้วยค่ะรุ่ม รวมกันเป็นร้อนรุ่ม!!!
ว่าแต่อะไรตื่นนะคะ หวายๆๆๆ เขินคนอ่านนน
 :ling1: :ling1: :ling1:

มาล้าวววว :katai4:
ทาสและเจ้าชาย 4
รู้อยู่แล้วสินะว่าซิกอยู่ไหน ถึงไม่ออกตามหาตั้งแต่แรก (สุดท้ายก็ทนเป็นห่วงไม่ไหว ว้าย)
ส่วนมาลแกธ ถึงจะหมั้นไส้ความเจ้าชู้ของนาง แต่เวลาพูดอะไรจริงจังขึ้นมาแล้วดูเท่ระเบิดไปเลย
ยิ่งช่วงตอนโดนโคลด์จิ้มคอนะ ตอนนั้นลงเรือมาลแกธเต็มๆ ที่จริงก็ชอบนางนาาาแต่เราหวงโคลด์(แทนซิก)มากไปหน่อย /ฮา
ป.ล.ใช่ๆทำไมแกปล่อยน้องออกไปคนเดียวแบบนั้นยะ! (แต่ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่เป็นกขคเจ้าชาย :P)
บ่วงอารมณ์ 1
อร๊ายยยฟหกดดด ใกล้เกินไปแล้วววว
ซิกมันร้ายยยยย สองนิ้วจิ้มตามันเลยเจ้าค่ะโคลด์!
บรรยากาศล่อแหลมแบบนี้..(รอมาน๊าน) :katai2-1:
กลับมาแล้วเหรอ จุ๊บ  :mew1:
มาลแกธจริงจังจริงหรือเปล่า โคลด์ไม่เชื่อหรอกค่ะ (ไม่งั้นอนาคตจะแทงจึ๊กรึ...)
และถึงตอนนี้บอกเลยค่ะว่าโคลด์ยังงอนที่ให้คนอื่นมานอนห้องก่อนเขา งอนๆ ;w;
แต่ตอนยอมโดนจิ้มคอก็ได้ใจคนเขียน วุ้ยยย ยากจัง

ตอนล่าสุดไม่จิ้มตาละค่ะ เขาจิ้มอย่างอื่นกัน /ว้ายยยยยยยยย

มารดานทีคืออะไร นาทีนี้จับจ้องสองหนุ่มตาเป็นมัน ถ่ายคลิปไว้ได้ไหมนี่  :hao7:
5555555555555555 ได้ค่ะ ถ่ายเลยๆ

ซิกฟรีดน่าจะเป็นควาร์ที่พิเศษมาก ๆ มารดานภามาเองเลย

*ฉันพูดถึงนางแล้วนะ*

อืม...จริง ๆ บทนี้ก็ไม่มีอะไรเนอะ
เขาแค่ให้ซิกน้อยกับโคลด์น้อยได้ทำความรู้จักกันเท่านั้นเอง

แอร๊ยยยยยยยย!!!!!
555 มารดานทีมาแค่นั้นละเนอะ 555 (จริงๆ อยากเห็นสามีนาง)
บทต่อไปเราก็ให้ซิกฟรีดกับโคลด์ทำความรู้จักกันมากขึ้นค่ะ อรั๊ยยยย

แวบไปสงสัยเรื่องทำไมโคลเคยเจอบิดาแห่งความตายแทนได้ไหม 55555
ได้ค่ะ! สงสัยได้ดีมากเลยค่ะ อิอิอิอิ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 07-02-2017 19:02:00
:jul1:
จำเป็นต้องร้อนแรงขนาดนี้มั้ยยยยยย
เขินไปหมดแล้ว กรี๊ดดดดดดดดดดดด *เขินตัวแตก* :-[

ชอบเวลาที่ทั้งสองคนเปิดเผยความรู้สึกออกมา จะเรียกว่าไรดีล่ะ แบบหลุดซึนอะค่ะ
เหมือนตอนที่ซิกใช้ตราทาสเรียกโคล์ดทะเลาะกันแซะกันสักพักก็หลุดซึน คุยกันดีๆซะงั้น (555)
เรารุ้สึกว่าสองตัวละครนี้เป็นตัวละครที่หว่าเว่มากเลย โดดเดี่ยว มีแต่ตัวเองไม่ไว้ใจใคร ยังไงก็ไม่รู้ (ไม่นับครอบครัวที่ห่างไกลกันนะคะ /อย่างเกวน)
เลยเหมือนว่าใส่หน้ากาก เก็ก ซ่อนความรู้สึก แล้วก็สร้างกำแพงตลอดเวลา บุคลิกแข็งๆทั้งคู่
พอเวลาที่เปิดเผยต่อกันแบบ.... อาจจะไม่ได้เข้าใจกันทั้งหมด หรือเปิดอกคุยอะไร
แต่เป็นตัวของตัวเองจริงๆ แสดงความรู้สึกจริงๆกับอีกฝ่าย มันเลยเป็นอะไรที่โรแมนติกมากสำหรับเรา (ถึงคู่นี้จะไม่ค่อยมีฉากหวานก็เถอะ) ชอบความสัมพันธ์ของตัวละครสองตัวนี้ ถ้าให้นิยามอะไร รู้สึกว่าคำนี้มันใช่มาก ... "มันซับซ้อน" 55555

ชอบการสร้างตัวละครที่มีมิติแบบนี้ของคนแต่งค่ะ เลิฟๆ :mew1:
*แจวเรือ*
เตงเขินเค้าก็เขินนะ คือมันเขินอะ ;w; เขียนได้แต่เขินทุกทีเวลามีคนทักอะ *0*  :mew3:
สองคนนี้ยังเด็กด้วยกันทั้งคู่ โคลด์อาจแก่กว่า แต่เพราะในอาศรมไม่มีใครมาจีบ และโคลด์ไม่คิดจะจีบใคร
(ถึงมาลแกธจีบก็ไม่คิดว่าจีบ OTL) โคลด์เลยเหวอๆ กับครั้งแรกเหมือนกันค่ะ
(แต่ครั้งแรกก็โดนเจ้าเด็กเอลฟ์จับกดแล้ว อีเด็กหื่นนนน แงงงง)
เราก็ชอบโมเมนต์ที่ทั้งสองคนเป็นตัวของตัวเองค่ะ /ซับน้ำตา
/พาล่องเรือ

โอ่ ม่าย ลอร์ดดดดดดดดดฟหกด
กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!!
 :jul1:
ว้ายๆๆๆๆ กดอ่านทวนฉากในบทนี้รัวๆ เหมือนกันค่ะ 5555
เราเขียนดียังนะ ควรเพิ่มความอัศจรรย์ลงไปอีกไหมนะ etc.  :ling1:

ชอบ บ่วงอารมณ์ของซิก กับโคลด์  :z1: :pighaun: :haun4: :jul1:
จูบหูกันและกัน
เห็นภาพตามไปด้วย โคลด์ตัวอ่อน
ซิกจับไปทางไหน ได้หมด อะจ๊ากกกก  :ling1: :ling1: :ling1:
ความในใจโคลด์ น่ารักน่าเอ็นดู
บทรักซิก ทำให้โคลด์วาบหวามใจ
ที่ซิกจูบใบหูข้างที่แผลเพิ่งหายอย่างอ่อนโยนและเอาใจ
โคลด์ ตามใจซิกโดยไม่ผลักไส
แถมซิก แรงดีที่ไม่มีตก  :katai2-1:
เจ้าชายเอลฟ์จะอิ่มตอนไหน โคลด์เดาไม่ได้เลย
ทั้งเอาใจ ตามใจกัน ฟินนนนน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
อ่านได้ละมุนมากเลยค่ะ พอฟังคอมเมนต์ละเขินตัวบิด แงๆๆๆ
เราชอบชื่อตอนมากนะคะ ถึงมันจะละครหลังข่าว /ฮา เพราะมันสื่ออย่างนั้นจริงๆ ค่ะ
รักแรก ครั้งแรก ความรู้สึกดีๆ ครั้งแรก
คือทุกคนก็เคยมีรักแรกกัน และเคยเป็นเด็ก
(หรือยังค้นหา และกำลังเติบโต)
การได้เห็นตัวละครที่เหมือนมีชีวิตจริงๆ (สำหรับเรา)
ได้มีประสบการณ์ครั้งแรกร่วมกัน เขียนเองยังเขินเองเลยค่ะ แงๆๆๆ  :mew2:

:pig4: :pig4:
แล้วแวะมาอีกน้า

อ่านไปก็นั่งกุมจมูกไป โอ้วววให้ตายเถอะ!!!! ครั้งแรกยังขนาดนี้


ทำไมหนูน่ารักขนาดนี้ล่ะโคลด์ หืม//ลูบหัวโคลด์เบาเบา

ก็ออกจะ "รัก" กันขนาดนี้แท้ๆน้า รักกันเยอะๆนะเราชอบ คึคึ


ปล.ครั้งแรกนี่เจ้าชายมีความSแค่เบาเบาก็ทำบ่าวระทวยมากเลยเจ้าค่ะมายปริ๊นซ์ คราวหน้าขอแบบจัดเต็มบ้างนะเจ้าคะ

ปล2.แต่เวลารักกันนี่เขาก็อ่อนโยนต่อกันดีนะคะ ดีกับใจชาวเรือ
แหะๆ เราก็ไม่ได้สายข่มขืนน้า (ถึงจะชอบอ่าน แค็กๆ /แต่งก็เคยค่ะ แล้วแต่ธีมเรื่องค่ะ)
แต่ครั้งแรกของสองคนนี้ถือว่าดีค่ะ มันคือการเรียนรู้กันและกันในอีกมุมหนึ่ง
ซิกฟรีดแอบ S อยู่ค่ะ มีจิกผง จิกผมให้แหงนหน้ารับจูบ
มีลูบมีลิ้มลอง โอ้ยยยยย อีเจ้าชายหื่นนนนนน

:hao6: :hao6:
ชอบมะ ชอบม้าาาา

รวดเดียวจบ เป็นอะไรที่ต้องติดตาม ><

ตามด้วยคนเด้อ
นักอ่านใหม่นี่นา ฝากตัวด้วยจ้า

เป็นตอนที่อ่านแล้วเขินแต่ก็ดูใสๆดี 55555555
ทั้งเขินทั้งใสอะนะคะ หนุ่มกรุบกริบกินกันเอง หวายยยย

รู้สึกสองคนนี้มันได้กันแบบงงๆ 5555  :hao6: :hao6:
งงจริงค่ะ 555 แต่ลูกงงแล้วแบบนี้ พี่ก็โอเค -3-  :impress2:

ได้เสียกันแบบมึน ๆ งง ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า

เด็กเอ๋ย...เด็กน้อย...

ช่วงเวลางดงามอ่อนหวานอันแสนสั้น
มึนๆ ค่ะ เด็กน้อยแรกรัก มันก็อารมณ์นี้ละมั้งน้าาาา
เคลิ้มมมมมมมม ว้ายยยยยยยยย  :ling1:
ฮือๆ อย่าพูดว่าแสนสั้นสิคะ ฮือๆๆๆ ยังไงก็ประทับแน่นตรึงในใจนะคะ ฮือๆๆๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-02-2017 21:10:08
 :m25:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nonyny12 ที่ 07-02-2017 22:40:39
แอบอ่านมานานอย่างเงียบๆ ชอบเรื่องนี้ ชอบอ่านแนวนี้เป็นปกติ จิตดี หุๆ :hao3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 07-02-2017 23:30:04
คิดถูกแล้วสินะชั้น ที่หาอ่านจากเล้าเป็ด เพราะเด็กดีมันลงมะได้  :jul1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (2) [07/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 07-02-2017 23:44:26
:m25:
อิอิอิอิอิ

แอบอ่านมานานอย่างเงียบๆ ชอบเรื่องนี้ ชอบอ่านแนวนี้เป็นปกติ จิตดี หุๆ :hao3:
ขอบคุณค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ;)

คิดถูกแล้วสินะชั้น ที่หาอ่านจากเล้าเป็ด เพราะเด็กดีมันลงมะได้  :jul1:
กะพริบตาให้ ปิ๊งๆ Welcome ค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (3) [08/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 08-02-2017 00:03:53
บทที่ 12 : บ่วงอารมณ์ (3)

สามวันแล้วที่โคลด์ สตาร์ไม่มาเรียนวิชามีดสั้นกับเอลฟ์ตะวันออก โผล่มาอีกทีเจ้าตัวก็วิ่งวุ่นหาแผ่นไม้ จะเอาไปซ่อมโรงเก็บของเก่าและทำให้มันเป็นห้องส่วนตัว--สวรรค์น้อยๆ เสียที

“เจ้าหายไปเลย”

มาลแกธเข้ามาทักโคลด์ซึ่งด้อมๆ มองๆ เลือกแผ่นไม้ที่พอใช้ได้จากกองแผ่นไม้ชื้นน้ำ เมื่อสามวันก่อนฝนตกหนัก ส่งให้พื้นกระดาน ผนัง และประตูไม้ของอาศรมบวม ควาร์เอเรนดิลจึงให้คนรื้อออกแล้วหาแผ่นใหม่มาซ่อมแซม

“เจ้าว่าข้าเอาแผ่นไม้พวกนี้ไปตากแดดแล้วรมควันดีไหม...ควรทาสีใหม่ด้วย” โคลด์มีความสุขกับการเลือกของ (ขยะ) มาซ่อมแซมห้องส่วนตัว

“รมควันน่ะดี แต่อาศรมคงมีแต่ควันคลุ้งไปหลายวัน” มาลแกธนั่งลง ช่วยเลือกไม้ที่พอไหว...ไม่มี

“ข้าไปรมควันไกลๆ อาศรมก็ได้ จะได้ไม่มีใครมาบ่น” ดาร์กเอลฟ์ยังรื้อแล้วรื้ออีก ความจริงคือเขาเพิ่งได้ออกจากห้องของซิกฟรีด เพราะควาร์เอเรนดิลเรียกเจ้าชายไปพบ โคลด์ออกมาได้ก็มึนๆ เบลอๆ รีบไปหาอาหารมื้อดีๆ กินทันทีเพราะหิวโซ อยู่แต่ในห้องเขาได้กินแต่น้ำกับอาหารแห้ง ไม่พอยาไส้

อีกอย่าง...เจ้าชายเอลฟ์ทำเขาระบมไปทั้งตัว

“เจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามข้านะที่รัก” มาลแกธเหวี่ยงไม้แผ่นหนึ่งไปกองกับไม้ที่โคลด์เลือกไว้...เพิ่งได้สามแผ่น

“อะไรนะ เจ้าถามอะไรเหรอ” โคลด์หันมา

“เจ้าหายไปไหนมาหรือ” มาลแกธมองโคลด์ที่ดู...อืม เปล่งปลั่ง? อิ่มเอม? มีความสุข? ข้าควรใช้คำไหนดีนะ เอลฟ์ตะวันออกเลือกแผ่นไม้ไปพิจารณาโคลด์ไป

หรือควรบอกว่าดูอิดโรยและอ่อนแรง แต่ไม่หงุดหงิด ไม่ดื้อรั้นเท่าเดิม

โคลด์ถอนใจ เอานิ้วเขี่ยเห็ดจิ๋วที่ขึ้นบนแผ่นกระดานอันหนึ่งเล่น “โดนขังในห้องอีกแล้ว เพิ่งได้ออกมา”

“ให้ข้าช่วยพูดไหม ‘ซิกฟรีด เจ้าขังข้ารับใช้เหมือนขังสัตว์เลี้ยง เอลฟ์รูเมเรียร์กระทำเช่นนี้หรือ’ ” มาลแกธทำเสียงเคร่งขรึมจริงจัง แต่ทำท่าล้อเลียนเสียดสีขุนนางชั้นสูง

เอลฟ์ตะวันออกหนอ...จริงจังหรือล้อเล่น มองออกยากเสียจริง

“ไม่เป็นไร ครั้งนี้ข้าว่าเขาให้ข้าย้ายออกมาแน่ๆ” โคลด์ดูมั่นใจเต็มร้อย “ในที่สุดก็พูดกันรู้เรื่องแล้ว เขาสำนึกบุญคุณที่ข้าแบกเขากลับมา...คิดว่านะ”

“เจ้าแบกเขามาไกลทีเดียว” มาลแกธยิ้มด้วยตา

“ใช่ๆ เหนื่อยมากเลย” โคลด์นั่งเด็ดดอกเห็ดออกจากแผ่นไม้ที่ตนหมายตา

“น้ำตกนั่น…” มาลแกธทำเสียงอืมในลำคอ “อยู่ไกลจริงๆ”

ดาร์กเอลฟ์ชะงัก หันขวับมองเอลฟ์ตะวันออก “ข้าบอกคนอื่นว่าเก็บเขามาจากในป่า” โคลด์ลดเสียงลง ถ้าเขากับมาลแกธพูดไม่ตรงกัน คนที่โดนสงสัยย่อมเป็นเขา

“หรือ” เอลฟ์ตะวันออกยิ้ม

“ข้าไม่อยากให้ใครไปวุ่นวายที่น้ำตก ถ้าพวกเขาห้ามข้าหรือซิกฟรีดไปที่นั่นอีกขึ้นมา...นั่นสถานที่พักผ่อนของข้า” โคลด์บอกเสียงเบา ลุ้นในใจว่ามาลแกธจะพูดเรื่องมารดานทีหรือไม่

ความจริงแล้วมาลแกธแค่พูดไปอย่างนั้นเอง

ตอนเข้ามายังอาศรมใหม่ๆ มาลแกธสำรวจอาศรมและบริเวณโดยรอบจนทั่วทุกซอกทุกมุม เขาเขียนแผนที่อาศรมในหัว จำทิศทางได้แม่นยำ เมื่อคราวที่ควาร์ออกตามหาซิกฟรีด มาลแกธเริ่มจากเหนือสุดไปใต้สุด กวาดจากตะวันตกไปตะวันออก เขามั่นใจว่าตนค้นหารอบน้ำตกแล้ว--สุดทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอาศรมพอดี

ขณะที่มาลแกธกำลังจะเดินทางกลับไปยังอาศรม เขาบังเอิญเห็นโคลด์แบกซิกฟรีดมาจากทิศที่ตั้งของน้ำตก หน้าตาของโคลด์ดูต่างจากที่เห็นประจำ มันดู...จริงจัง?

หรืออาจโกรธขึ้ง...เขาไม่แน่ใจนัก

มาลแกธจึงตามดูโคลด์เงียบๆ และเมื่อดาร์กเอลฟ์บอกกับควาร์ทุกคนว่าพบซิกฟรีดในป่าแบบส่งๆ เขาเลยอดสงสัยไม่ได้

ไม่นับว่าโคลด์ยังเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องของซิกฟรีดอย่างสงบเสงี่ยมถึงสามวันสามคืน คนช่างสังเกตอย่างมาลแกธเห็นว่า มีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไประหว่างทาสดาร์กเอลฟ์กับเจ้าชายเอลฟ์

ทุกอย่างน่าจะเริ่มต้นที่น้ำตก

“ว่าแต่ เจ้าน่ะ” โคลด์กอดอก เหล่ตามองเอลฟ์ตะวันออก

“หืม” มาลแกธพลิกกระดานไม้สำรวจเห็ดรา

“เจ้าเห็นแล้วทำไมไม่มาช่วยข้าแบกเขา” ปลายหูแหลมๆ ของดาร์กเอลฟ์ชี้ตั้ง เหมือนแมวกำลังขู่

“ข้าบอกเจ้าตอนไหนหรือว่าข้าเห็น” มาลแกธหัวเราะ

“เจ้าบอกว่าข้าแบกเขามาไกล…” ปลายหูแหลมสีเทายังชี้อยู่

“ข้าทวนคำพูดเจ้า เอ้า! แผ่นนี้ใช้ได้”

“อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ” โคลด์รับแผ่นไม้ว่องไวด้วยหน้าตามึนๆ “คราวหลังถ้าเห็นก็ออกมาช่วยกันบ้าง มันเหนื่อยนะ ต้องแบกเขา”

“ขอรับ” มาลแกธยิ้มกว้าง

ไม่มีการพูดถึงมารดานที ถ้ามาลแกธไม่พูด โคลด์ก็จะไม่พูดเช่นกัน...เขายังชอบมาลแกธ อย่างน้อยก็ชอบที่สุดในบรรดาควาร์ในอาศรมนี้

“ที่นี่...มีคนจับตาดูเจ้าตลอดเวลา โคลด์ สตาร์” มาลแกธกระซิบข้างหูโคลด์ “และไม่ใช่ข้าที่เจ้าควรระวัง”

โคลด์กลับหน้าแดงฉ่า ผงะไป เขานึกถึงความลับภายในห้องที่ตนกับเจ้าชายเอลฟ์ร่วมกันทำตลอดสามวันที่ผ่านมา “จริงสิ” ตาสีม่วงเบิกกว้าง “หรือที่ควาร์เอเรลดิลเรียกซิกฟรีดไปพบก็…”

มาลแกธเอานิ้วทาบปาก ก่อนจะเลื่อนไปแตะที่หู

“พวกควาร์นี่แย่ที่สุดเลย”

พวกชอบแอบฟัง

“เจ้าต้องเรียนรู้ว่าใครเป็นมิตรหรือศัตรู” ดวงตาสีแดงของมาลแกธพราวระยับ

“หรือใครที่เป็นศัตรูและกำลังจะเปลี่ยนเป็นมิตร”

 

หลังซิกฟรีดหายดี (ซึ่งหายดีนานแล้วแต่ไม่ยอมออกมาจากห้อง) ควาร์เอเรนดิลซึ่งเป็นควาร์อาวุโส รับผิดชอบดูแลอาศรม ก็เรียกซิกฟรีดเข้าไปพบ

บทสนทนาไม่มีอะไรมากไปกว่าถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ แต่ซิกฟรีดไม่พูดโต้ตอบแม้สักคำ

ข้ารู้…

ข้าได้ยิน


ซิกฟรีดจำถ้อยคำที่มารดาแห่งนทีเป็นผู้กระซิบได้ทั้งหมด

ความลวง...ความจริง

และเรื่องราวที่ไม่น่าเชื่ออื่นๆ

เขาเงียบ เป็นใบ้ ดวงตาแข็งกระด้าง นั่งมองควาร์อาวุโสอยู่อย่างนั้นจนถูกปล่อยให้ไปพักผ่อน

ซิกฟรีดไม่ทำความเคารพควาร์เอเรนดิลอย่างเคย เขาหมุนตัวออกไป ย่ำเท้าหนักแน่นกลับห้องพักโดยไม่เหลียวกลับมา

“เจ้าชายพระองค์เล็กทำตัวน่ากังวลกว่าที่ผ่านมา บางที คงต้องรายงานองค์ราชากระมัง”

ควาร์เอเรนดิลเอ่ยกับควาร์อาวุโสอีกท่านหนึ่ง ซึ่งเพิ่งออกมาจากด้านหลังฉากกั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาควาร์เอเรนดิลไม่ได้อยู่กับซิกฟรีดเพียงลำพัง แต่มีผู้รับฟังและรับชม

“ควรจะรายงานเรื่องเอลฟ์ตะวันออกด้วยหรือไม่”

“มันดูไม่อันตรายเท่าไรนัก ลอยชายไปมา การได้ยินก็ด้อยเหลือเกิน”

“อันตรายสิท่าน มันเกี้ยวพาลูกศิษย์ในอาศรมไปจะครึ่งหนึ่งแล้ว”

ควาร์เอเรนดิลหัวเราะอย่างสุภาพ “เอลฟ์ตะวันออกเป็นพวกใช้แรง ก็ใช้มันให้ดี ให้จับตาดูเจ้าชายกับข้ารับใช้ดาร์กเอลฟ์ต่อไป”

“ข้าได้ยินว่าพวกมันเจ้าเล่ห์”

“พวกเราก็ใช่ว่าไร้สมองจริงไหมเล่า...ท่านควาร์อาวุโส ‘ไมเธียน’ ”

“ขอรับ ท่านเอเรนดิล”

 

ออกมาได้ ซิกฟรีดเห็นโคลด์กำลังเลือกแผ่นไม้อยู่กับเอลฟ์ตะวันออก ทั้งสองคุยกัน ยิ้มและหัวเราะให้แก่กันแบบที่โคลด์ไม่ทำกับเขา ที่จริงโคลด์สนิทกับเอลฟ์ตะวันออกเช่นนี้นานแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร

“หูควาร์ได้ยินดีแค่ไหน” โคลด์ถามมาลแกธแบบอ้อมๆ เขาไม่กล้าบอกใครเรื่องตนกับซิกฟรีด เพราะเดาได้ว่าถ้าเรื่องนี้แดงออกไป ควาร์คงลงโทษเขาโดยการจับเผาไฟไม่ก็จับถ่วงน้ำ...ส่วนซิกฟรีดคงแค่ถูกอบรมนิดหน่อย

ในฐานะดาร์กเอลฟ์ที่ล่อลวงเอลฟ์ กับเอลฟ์ที่ถูกดาร์กเอลฟ์ล่อลวง

“ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์และตั้งใจฟังแค่ไหน”

“แล้วถ้าเป็นเจ้าล่ะ” โคลด์ถามอ้อมแล้วอ้อมอีก ช้อนตามองแบบคนมีชนักติดหลัง (ซึ่งดูน่ารักดีในสายตาของมาลแกธ)

“อืม…” มาลแกธนึก อมยิ้มกับท่าทางของโคลด์ “ครั้งล่าสุดที่เข้ารับการทดสอบ ข้าอยู่ในระดับห่วยสิ้นดี...แต่ข้าได้ยินเสียงฝีเท้าโกรธๆ ของเอลฟ์ตนหนึ่งกำลังย่ำมาทางนี้”

มาลแกธบุ้ยใบ้ไปทางด้านหลัง โคลด์เห็นปีศาจหน้าตาเหมือนซิกฟรีดพุ่งตรงมาหาเขา

ดาร์กเอลฟ์กอด (ขยะ) แผ่นไม้แบบหวงสุดขีด ประหนึ่งมันเป็นสมบัติล้ำค่า

“เราจะไปจากที่นี่” ซิกฟรีดฉุดโคลด์ขึ้น ทำให้มาลแกธลุกตาม เอลฟ์ตะวันออกรูปร่างสูงใหญ่ พอยืดตัวเต็มความสูงแล้วดูข่มเจ้าชายแห่งรูเมเรียร์นิดๆ

“เอ๋ๆ?” ดาร์กเอลฟ์ตั้งตัวไม่ทัน

ซิกฟรีดจ้องมาลแกธด้วยสายตาเอาเรื่อง แล้วหันมาจ้องโคลด์เขม็งว่า ‘เจ้าได้ยินแล้ว อย่าให้พูดซ้ำได้ไหม’

“ไป? ไปไหน?” โคลด์เผลอถามโง่ๆ...เพราะปกติคนที่อยากออกไปใจจะขาดคือเขา ไม่ใช่ซิกฟรีด

“เอวา เธมาร์”

มาลแกธผิวปากให้กับคำตอบของซิกฟรีด

“แต่ข้าเพิ่งอยากอยู่ที่นี่” โคลด์เถียง ย่อมแน่ เพราะนกของเกวนโดลินจะมาหาเขาที่นี่ แล้วนางก็บอกให้เขาซ่อนตัวอยู่ที่นี่

“ข้าเพิ่งได้ข่าวมาว่าเอวา เธมาร์กำลังวุ่นวายกับการจัดการผู้อพยพจากแดนทมิฬ กบฏดาร์กเอลฟ์ส่อเค้าว่าจะก่อจลาจลอีกครั้ง และพวกโจรกำลังป่วนได้ที่ หากเจ้าออกจากอาศรมตอนนี้ สงสัยควาร์เอเรนดิลถูกคิงริวอร์นอร์กุดหัว โทษฐานดูแลน้องชายคนเล็กของพระองค์ไม่ดีแน่ๆ” มาลแกธทิ้งหางตาคล้ายเวทนาชะตาของควาร์เอเรนดิล แต่รอยยิ้มกลับเป็นอะไรที่ให้ความหมายตรงกันข้าม

ซิกฟรีดไม่ต่อคำ เขาแค่จ้องอีกฝ่าย แทบจะเห็นลูกไฟลุกในดวงตาสีส้มร้อนแรง


—————————————————————————

A/N แหม ป๋าแกก็กลับมาทวงบทบ้างอะไรบ้าง ;) ยังไงภาษีแกก็ดีอยู่นะคะ และเนื้อเรื่องก็เดินมาเรื่อยๆ ละน้า ไม่ได้มุ้งมิ้งกันไปเฉยๆ น้า -3- มีใครจับปมบางอย่างในบทนี้ได้บ้างไหมคะ?

ป.ล. โคลด์ในปัจจุบันกอดอก "ข้าไม่ลืมหรอกนะว่าเขาให้คนอื่นมานอนแทนข้า ไหนสัญญาไว้ว่าข้ามานอนได้ไง"

/ในอนาคตจึงแทงคอมาลแกธ โทษฐานผิดสัญญา

#ผิด #ไม่ผิดหรอก #โกรธจนตายค่ะ บอกเลย 555

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (3) [08/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 08-02-2017 02:28:06
อยู่ในห้องกันสามวันไม่ออกไปไหนเลยเหรอ  :m25:

อ่านตอนนี้แล้วเงิบสุดก็ ท่านควาร์อาวุโสไมเธียน (โอ มาย กอชชช)
นึกภาพควาร์อาวุโสหน้าอ่อนที่ เนียนสอดแนมอยู่กะควาร์เด็กๆ เนียนถึงขั้นเคยร่วมรักกะเอล์ฟตะวันออกแล้ว ???
ตอนแรกไม่เคยสนใจไมเธียนเลยนะเนี้ย สำหรับเราตอนแรกคือตัวประกอบที่ไร้มิติมากๆ
เหมือนแพนซี พากินสัน แฟนมัลฟอย สมัยเรียนอยู่ฮอกวอตส์ 555

//เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านแล้วทำให้อยากรู้อยู่ตลอดเลยค่ะ
มารดานทีบอกอะไรกับซิก ???
ทำไมท่าทีของซิกถึงเปลี่ยนไปขนาดนั้น เหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้าเรื่องใหญ่จริง ทำไมใจเย็นอยู่กะโคล์ดตั้ง 3 วัน :z1:
ส่วนมาลแกธที่แท้เป็นสายของควาร์อาวุโสเหรอนี่ (??)
แสดงว่าคำที่มาบแกธบอกโคล์ดว่า ศัตรูที่จะกลายเป็นมิตร นี่หมายถึงตัวเองสินะ

ปล.ไม่รู้ว่าตอนนี้มีปมอะไร สังเกตแต่ว่าโคล์ดดูเปล่งปลั่งขึ้น สงสัยซิกจะดูแลดี หึหึ :haun4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (3) [08/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-02-2017 05:39:19
มาลแกธ สงสัยแล้วว่าไปหาที่น้ำตกทำไมไม่เจอซิก
เห็นอีกว่าโคลด์เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล
ที่บอกโคลด์ ให้หัดเรียนรู้ว่า
ใครที่เป็นศัตรูและใครกำลังจะเปลี่ยนเป็นมิตร
พูดถึงตัวเอง หรือเปล่า
แล้วทำสนิทชิดเชื้อกับโคลด์ ให้ซิกเห็นด้วย  :katai1:
มาลแกธ อยู่ที่อาศรม ทำไมรู้ข่าวที่เอวา เธมาร์  :katai1:
มาลแกธ ลวงพวกควาร์สินะ
โดยทำเป็นลอยชายไปมา และการได้ยินไม่ดี
ขำที่พวกควาร์ ให้ระวังมาลแกธ
แล้วมีคนบอกว่ามาลแกธเกี้ยวควาร์ไปจะครึ่งอาศรมละ  :m20: :m20: :m20:
แต่ไมเธียน ดูมีบทบ่อยขึ้นนะ
แถมโดนกัด หรือเตือนนะ 
“พวกเราก็ใช่ว่าไร้สมองจริงไหมเล่า...ท่านควาร์อาวุโส ‘ไมเธียน’ ”
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (3) [08/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 08-02-2017 07:23:14
นึกภาพโคลด์เขี่ยเห็ดออกจากไม้แล้วมันแบบ....ฮึ่ยยยยน่ารักโว้ยยยยยยยย 555555



โคลด์บอกโดนเจ้าชายขังอยู่สามวน ขังในอ้อมกอดใช่ไหมล่ะ อรั๊ยยยยยย




แต่ไปช้อนตามองอ้อนมาลแกธนี่ไม่ไหวนะหนูโคลด์ เดี๋ยวโดนเจ้าชายตีก้นไม่ได้ออกจากห้องอีกสามวันหรอก


เหมือนคนเขียนจะเคยบอกอยู่ว่าทุกตัวละครล้วนสำคัญ และถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินต่อไปมีปมอะไรมากแค่ไหนแต่ความ"เปล่งปลั่ง อิ่มเอม"ของยัยหนูก็กลบทุกอย่างจริงๆ คึคึ


ที่อยากรู้คือมารดานทีบอกอะไรเจ้าชาย

ปล.แหม ถ้าน้ำตกเป็นสถานที่พิเศษของทั้ั้งคู่ ก็อยากให้เขาไปเล่นน้ำตกด้วยกันบ้างนี่เนอะ เอาท์ดอร์ไปเลยค่ะเจ้าชายบ่าวจะได้ตั้งกล้องสะดวกๆ


คนเขียนสู้ๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (3) [08/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 08-02-2017 11:44:27
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (3) [08/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 08-02-2017 11:57:57
อั่ยยยตรงสามวันสามคืนนี่จิ้นต่อเองยาวเลยเจ้าค่ะ /ปิดหน้า  :hao6:
เมื่อก่อนเห็นเค้าคุยกันสนิทสนมไม่เป็นไร  เดี๋ยวนี้เดินเข้าไปฉุดเลยเนอะซิก ดีมาก! /ตบโต๊ะ
โคลด์น่ารักมีน้ำมีนวลขึ้นแบบนี้ เป็นเราเราก็หวง :man1:
ยั่วไปเลยค่ะป๋า อยากเห็นลูกเหวี่ยงเจ้าเด็กเห่อเมีย
คาแรคเตอร์ที่ซับซ้อนเป็นเสน่ห์ของป๋าเนอะ พูดจริงพูดเล่นไล่จับไม่ทัน
ฉาก nc ละมุนมากเจ้าค่ะ (แอบขำกับความเงอะงะของทั้งคู่)

ไมเธียนนี่เฮ่ยย..!!  :a5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (3) [08/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-02-2017 12:54:19
โอ่ะโอ๋!!  ไม่ได้รู้ความจริงหมดแล้วหรอกเนาะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (3) [08/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 08-02-2017 20:11:43
เอเรนดิน กับ ไมเธียน มีซัมติงกันแน่  :m29:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (3) [08/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 08-02-2017 20:30:50
คือมาสารภาพว่า เราพิมพ์ตอบทุกคอมเมนต์แล้วนะคะ
แต่เรากดผิด...คอมเมนต์ที่จะตอบเลยหายหมดเลย
แล้วงานเราเยอะมากจริงจัง ;w; แงงงงงง
เลยขอตอบรวมๆ นะคะว่าขอบคุณมากๆ สำหรับคอมเมนต์
คือช่วงนี้งานเราเยอะมากจนต้องลงนิยายแล้วอ่านคอมเมนต์ใส่กำลังใจให้ตัวเอง
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
ประเด็นสำคัญของช่วงนี้คือ การที่เขาได้กั-- #ผิด โดนต่อย
การที่เขาหึงโคลด์ #ผิดอีก

แค็กๆ มันคือ เมื่อไมเธียนเป็นควาร์อาวุโส แล้วทำไมต้องปิดบังตัวตนเนอะ!
แล้วมาลแกธนี่ตกลงมิตรหรือศัตรู อยู่ฝ่ายไหน
การเมืองได้ลามมาถึงอาศรมของควาร์ หรือจริงๆ มันมีอยู่ก่อนหน้ามาตั้งแต่แรก
ฝากติดตามกันต่อไปด้วยค่า!

/โคลด์เก็บเห็ดบนแผ่นไม้มามองเหม่อๆ "นี่กินได้มั้ย" ถามมึนๆ "กินได้สินะ" /เหม่อ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (3) [08/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 08-02-2017 21:12:46
ไม่แปลกใจที่ใคร ๆ ก็หลงรักโคลด์
#เขี่ยเห็ด #ส่องไม้ผุ   น่าร้ากกกกกกกกกก

สามวัน! สามวัน! แล้วเอามาให้อ่านแค่ตอนที่เขาจิ้มกันแบบไม่รู้ประสา!
พระเจ้า! คุณคนเขียนใจร้ายไปแล้ว!

อะไรนะ? มันมีประเด็นอื่น ๆ ในตอนนี้ด้วย? เหรอ?
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (3) [08/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-02-2017 22:22:10
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (4) [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 09-02-2017 00:13:51
บทที่ 12 : บ่วงอารมณ์ (4)

“เรื่องบางเรื่องก็ต้องรอให้เวลาเหมาะสม โอกาสอำนวย”

“นานพอแล้ว” ซิกฟรีดเหยียดยิ้ม “นานเกินพอเสียอีก”

“โถ...เอลฟ์เด็กน้อย” มาลแกธระบายลมหายใจ ขณะซิกฟรีดเลือดขึ้นหน้า

โคลด์มองเอลฟ์ทั้งสองตอบโต้กัน หมุนคอตามแต่ละฝ่ายซ้ายทีขวาที เขาค่อยๆ ขยับแขนให้หลุดจากมือซิกฟรีด แล้วก้มลงดึงแผ่นไม้ของตนออกมาทีละแผ่น

นี่ก็ไม่สนใจเรื่องของเอลฟ์เลยจริงๆ...

ซิกฟรีดเห็นก็ฉุดโคลด์อีกรอบ ให้เดินตาม ส่วนมาลแกธกลับยึดแขนอีกข้างให้โคลด์อยู่ แผ่นไม้ถูกทั้งสองคนเหยียบ...

“ข้าปล่อยเจ้าไปตอนนี้ไม่ได้หรอก ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์”

ชั่วพริบตา...แค่ชั่วพริบตาจริงๆ ที่โคลด์ทันเห็นหมัดของมาลแกธสะบัดกระทบกรามของซิกฟรีด

“อย่าโกรธกันเลย เป็นการทักทายแบบชาวตะวันออกน่ะ”

ซิกฟรีดแยกเขี้ยว เจ้าชายเอลฟ์จรดหมัดพร้อมสู้

ทว่า...ตอนนั้นเองที่มาลแกธคว้าแผ่นไม้ของโคลด์มาฟาดหน้าซิกฟรีดโดยไม่สนใจศักดิ์ศรีหรือกติกาใดๆ ทั้งสิ้น!

แผ่นไม้ของข้า!!! โคลด์กรีดร้องโหยหวนในใจ

“ดูไว้ โคลด์ สตาร์ สู้แบบสุนัขแล้วรอด ดีกว่าสู้แบบเอลฟ์แล้วมีสภาพเหมือนผ้าห่มเก่าของเจ้า”

ซิกฟรีดกะพริบตาไล่ความมึนงง เลือดไหลกบปากกบจมูก และเลือดคงเข้าตาด้วย เขาจึงเริ่มสู้แบบสกปรกบ้าง ทั้งมือ เท้า และฟัน อ้อ รวมดินที่ซัดเข้าตาอีกฝ่ายด้วยก็ได้

“เดี๋ยวๆ พอแล้วๆ” โคลด์ห้ามมาลแกธแบบดึงไว้ทั้งตัว เขาตกใจที่มาลแกธหาเรื่องเจ้าชายเอลฟ์

นั่นทำให้มาลแกธโดนซิกฟรีดถีบเต็มๆ เข้ากลางลำตัว

“โลกนี้สกปรก เจ้าชาย...” มาลแกธไอค็อก! “ข้างนอกยิ่งกว่านี้อีก”

“อย่า” โคลด์ผลักซิกฟรีดออก “แค่มาลแกธเจ้ายังไม่เคยสู้ชนะ เจ้าจะเอาอะไรไปสู้กับพวกกบฏ”

ถึงมาลแกธจะไม่ร่วมช่วงวิชาฝึกอาวุธ แต่บางครั้งที่ได้รับเชิญเป็นพิเศษและได้เป็นคู่มือให้เจ้าชายเอลฟ์...ผลลัพธ์ไม่เคยต่างกันเลยสักครั้ง

โคลด์ประกาศความจริงที่เจ็บปวด ซิกฟรีดปาดเลือดออกจากปาก ยืนค้ำเอลฟ์ตะวันออกซึ่งยังยิ้มกว้างแม้จะโดนถีบเต็มรัก

มาลแกธมองซิกฟรีดนิ่ง เขายกนิ้วแตะปาก จากนั้นเลื่อนไปแตะหู ก่อนจะเคาะเบาๆ ที่ข้างขมับ

‘ที่นี่ ทุกคำพูดมีคนได้ยิน และที่สำคัญเจ้าชาย...จงไตร่ตรองให้หนัก’

มาลแกธสื่อความหมายผ่านท่าทาง ซึ่งซิกฟรีดเงียบ ไม่แสดงอาการว่าเข้าใจหรือไม่

เจ้าชายแห่งรูเมเรียร์ลากโคลด์ออกไป

 

สุดท้ายโคลด์ก็ต้องทำแผลให้ซิกฟรีด พวกเขาอยู่ในห้องส่วนตัวของเจ้าชายเอลฟ์ ซิกฟรีดนั่งบนเตียง โคลด์เอาผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าให้อย่างเบามือ ใช้แหนบคีบเศษไม้ที่ติดอยู่ในแผลฉีกตรงขมับออก เขาทำความสะอาดแผลอีกรอบ ทาขี้ผึ้งห้ามเลือดและแก้ปวด

“ทำไมจู่ๆ ถึงทำแบบนั้น” โคลด์หมายถึงเรื่องชกต่อยกับมาลแกธและเรื่องจะไปจากอาศรม

ซิกฟรีดเงียบ แววตาเปี่ยมความโกรธผสมความหงุดหงิด เขาดึงโคลด์เข้ามากอดเอว ก่อนพยักพเยิดไปทางลูต

‘เล่นให้ฟังหน่อย’

“อะไรของเจ้าเนี่ย” โคลด์ทำหน้าแบบ ‘เจ้าจะไม่ตอบข้าเลยเรอะ’ “ไม่ละ เล่นไปเจ้าก็ไม่อารมณ์ดีขึ้นมาหรอก”

ถ้าโคลด์มองไม่ผิด...แววตาของเจ้าชายดูอ่อนลงนิดๆ เกือบจะคล้ายขอร้อง แค่เกือบ เพราะดูรวมๆ แล้วยังไงก็เหมือนสั่งอยู่

“ก็ได้ๆ” โคลด์เดินไปหยิบลูตแล้วนั่งลงบนพื้นข้างเตียง เขาเลือกเพลงบรรเลงที่ฟังแล้วสบายใจ หลับตาเล่นเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร

เสียงเพลงทำให้หัวใจของทั้งคู่สงบลง

สัมผัสอุ่นๆ พรมไปทั่วใบหน้า ซิกฟรีดจูบโคลด์อย่างอ่อนโยน แม้แต่ปลายนิ้วที่ปัดผมไปทัดหูให้ยังนุ่มนวล เขาจูบปลายใบหู เม้มเบาๆ

โคลด์ลืมตา ค่อนข้างตกใจ หยุดเล่นดนตรีกะทันหัน

‘มีอะไร เล่นต่อสิ’

“เจ้าเป็นคนสองบุคลิกเหรอ” ซิกฟรีดไม่เคยทำดีขนาดนี้กับโคลด์มาก่อน หรือมารดานทีจะเล่นตลกอะไรกับข้างในสมองของเจ้าชายเอลฟ์

มีเพียงแววตาดุจากซิกฟรีดตอบกลับโคลด์

แต่สุดท้ายเจ้าชายเอลฟ์ก็ทนคำถาม (และคำบ่น) งุบงิบของดาร์กเอลฟ์ไม่ไหว เขาระบายลมหายใจยาวแล้วเอ่ยว่า

“เงียบ”

คำเดียว...

“แล้วเรื่องห้องส่วนตัวของข้าล่ะ” โคลด์เข้าเรื่องตัวเอง กลืนคำบ่นเรื่องแผ่นไม้ที่พังเพราะถูกใช้ฟาดหน้าซิกฟรีด เพราะมาลแกธก็ทำเกินไปจริงๆ

“ไม่อยากอยู่กับข้าขนาดนั้นเลยหรืออย่างไร”

“ก็ไม่เชิง...แต่เราแยกกันดีกว่าไม่ใช่หรือไง” โคลด์ไม่ค่อยอยากรื้อฟื้นเรื่องสามวันที่ผ่านมา

“ไม่ดี” คิ้วสีทองขมวดเข้าหากันแน่น

“แล้วจะอยู่กันแบบไหน...” ดาร์กเอลฟ์พยายามไม่ตรงเข้าประเด็นว่า ‘จะอยู่กันแบบไหนหลังจากเผลอมีอะไรกัน’

ซิกฟรีดไม่เข้าใจคำถาม สายตาเขาพูดว่า ‘ที่ผ่านมาอยู่กันอย่างไรก็อย่างนั้น’

โคลด์ทึ่ง...ความนิ่งเฉยของซิกฟรีดทำให้เขาคิดว่า

สรุปข้าเป็นทาสกระทั่งบนเตียงของเจ้าด้วยสินะ

“ถ้าพวกเขารู้ ข้าจะโดนหนักถึงตายเลยนะ” โคลด์ขอความเห็นใจ

มุมปากของซิกฟรีดกระตุก ‘พวกเขา’ หมายถึงพวกควาร์ และพวกควาร์ก็หมายถึง...

พวกมัน

“พวกมันจะไม่มีวันรู้อะไรอีกหากข้าไม่อนุญาต” ซิกฟรีดกระซิบเสียงเยียบเย็น

“ข้าไม่เข้าใจเจ้า” โคลด์วางลูต “สรุปคือข้าจะไม่ได้ห้องส่วนตัวใช่ไหม แต่อย่างน้อยเรื่อง--” โคลด์สูดลมหายใจ ไม่พูดออกมาตรงๆ “เรื่องนั้นน่ะ เราก็ลืมๆ มันไป หรือยังไง”

คราวนี้ซิกฟรีดโกรธ ไม่อยากเชื่อว่าโคลด์จะให้เขาลืม

“ดาร์กเอลฟ์ลืมง่ายงั้นหรือ” น้ำเสียงออกไปทางเยาะมากกว่าเย้า

“แล้วจะให้ข้าทำยังไง” โคลด์ก็ไม่ใช่โง่จนฟังไม่ออกว่ากำลังถูกเยาะ



วันถัดมา โคลด์ถึงเห็นว่าซิกฟรีดจัดการอย่างไร

เจ้าชายเอลฟ์แบ่งห้องกว้างใหญ่เป็นสองส่วน สั่งให้คนต่อเตียงให้โคลด์ (รวมถึงโต๊ะและเก้าอี้เล็กๆ ด้วย) วางไว้ชิดผนังฝั่งประตูห้อง ระหว่างเขากับโคลด์กั้นด้วยฉากบังตาคล้ายแบบที่ใช้เปลี่ยนเสื้อผ้า ซิกฟรีดถึงกับให้คนทำสวนหย่อมและน้ำตกเทียมขนาดจิ๋วด้วย

โคลด์ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก

“ไม่ๆ ข้าไม่เอา ข้าเอาโรงเก็บของก็พอ” โคลด์พยายามห้ามคนงานที่กำลังติดตั้งสวนหย่อมกับน้ำตกเทียม เขาอยากถามซิกฟรีดว่า ‘ใครเขาเอาของแบบนี้มาตั้งในห้องกัน!’

“ควาร์เอเรนดิลสั่งให้รื้อโรงเก็บของแล้ว” คนงานตอบ นึกรำคาญที่ดาร์กเอลฟ์ชะลอให้งานช้าลง “ห่าฝนคราวที่แล้วทำลายอาศรมไปหลายส่วน โรงเก็บของนั่นก็ด้วย น้ำท่วม หนูวิ่งออกมาเต็มไปหมด”

โคลด์เลยไปทุบประตูห้องมาลแกธ

“อ้า...มาหาขนมหรือ” มาลแกธออกมารับในสภาพเปลือยท่อนบนเช่นเคย ดูเหมือนว่าเอลฟ์ตะวันออกไม่นิยมห่มคลุมร่างกายเวลาอยู่ห้องส่วนตัว

โคลด์ชะโงกหน้าเข้าไปในห้อง “วันนี้ไม่มีลูกศิษย์ใช่ไหม ข้ามีเรื่องต้องการปรึกษาด่วนมาก”

“เพิ่งกลับไป” มาลแกธเปิดประตูให้

โคลด์โล่งใจ “ดีๆ”

“มีอะไรหรือ”

“ซิกฟรีดทำดีกับข้าแปลกๆ ข้าว่าในสมองเขาคงมีอะไรเพี้ยนไป” โคลด์เข้าประเด็นโดยไม่หยิบขนมกินด้วยซ้ำ บอกความจริงจังของเรื่องที่กำลังพูด “ข้าไม่ชอบให้เขาทำดีกับข้า คนอื่นจะสงสัยว่าเพราะอะไร...ถ้าคิดว่าเพราะข้าช่วยพาเขากลับมา อะไรแบบนั้นก็พอได้ใช่ไหม”

แล้วถ้าไม่คิดว่าเพราะเหตุนั้น จะเป็นเหตุไหนได้อีกเล่า...

สีหน้าของโคลด์อมทุกข์แบบคนที่อยากพูดอะไรสักอย่างแต่ไม่กล้าพูด

“อืม…” มาลแกธหากลักยาสูบที่โต๊ะข้างเตียง “เจ้าชายเอลฟ์ทำดีกับเจ้าแบบผิดปกติอยู่แล้วไม่ใช่หรือ” เขาถอดฝากลักออก กลิ่นยาสูบลอยฟุ้ง “ผิดปกติจนปกติ ยังมีผิดปกติได้มากกว่านี้อีกหรืออย่างไร”

“เขาทำดีผิดปกติยังไง เมื่อก่อนน่ะทาสปกติ นอนปลายเตียง แต่ตอนนี้เขากั้นห้องให้ข้า แทนที่จะให้ห้องเล็กๆ แยกกันอยู่ แบบนี้มันทำร้ายข้าทางอ้อมไม่ใช่หรือไง”

“เท่าที่ข้าจำได้ เขาชกควาร์ที่รุมเจ้า” มาลแกธวางยาสูบบนกระดาษแล้วบรรจงม้วนให้แน่น

“ก็แค่ครั้งเดียว” โคลด์กอดอกแน่น นั่งขัดสมาธิบนเตียงของมาลแกธ

“มันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวหรอก โคลด์ สตาร์” มาลแกธเคาะมวนยา ก่อนจุดสูบ

โคลด์เลิกคิ้ว “ไม่ แค่ครั้งเดียว” เขายืนยัน

“เราทุกคนเชื่อในสิ่งที่ตัวเองอยากเชื่อ” มาลแกธยิ้ม พ่นควันเป็นวงแหวนวงเล็กๆ แบบที่ชอบทำ “เอาเถอะ ถ้าเจ้าไม่อยากได้ก็คุยกับเขาสิ หรือคิดให้ข้าไปชกหน้าเจ้าชายอีก”

“อา...” ข้าคุยแล้วแต่ไม่ได้ผล ถึงมาปรึกษาเจ้าไง โคลด์แย่งยาสูบจากมือของมาลแกธมาสูบเข้าปอดเฮือกใหญ่

“ระวัง...ระวัง มันแรง” มาลแกธหัวเราะ ยกมือลูบศีรษะโคลด์โยกไปโยกมา

สายไปแล้ว...โคลด์สำลักควัน ที่จริง คนสอนเขาสูบยาก็คือมาลแกธ สูบแล้วคลายเหนื่อยหลังฝึกซ้อมได้ดี โคลด์จึงใช้มันเป็นวิธีแก้เครียด

“ว่าแต่…” มาลแกธทำตาเจ้าเล่ห์ “เจ้าปิดบังอะไรอยู่หรือ ซิกฟรีดทำอะไร บอกข้าได้นะที่รัก”

โคลด์ล้มตัวนอนเป็นลูกบอล ค่อยๆ ละเลียดยาสูบกลิ่นหอม “ที่บ้านเจ้า ถ้า...ทาส...เอ่อ ว่าไงดี ถ้าทาสโดนตัดสินว่าทำความผิดร้ายแรงต่อหัวหน้าตระกูล โทษจะเป็นยังไง”

“ขึ้นอยู่กับว่าผิดอะไร ถ้ามันคาบข่าวสำคัญในตระกูลไปเร่ขาย มันก็จะถูกเฉือนริมฝีปากกับลิ้นโยนให้นางนวลกิน” มาลแกธมวนยาสูบตัวใหม่ เอาสมุนไพรสองชนิดผสมกัน และใส่ก้านเห็ดเมาลงไปนิดหน่อย

โคลด์ขมวดคิ้ว “ถ้าทำให้หลงผิดล่ะ”

คำถามทำให้เอลฟ์ตะวันออกหัวเราะประหลาด “หัวหน้าก็คงโดนลงโทษเพราะโง่เง่า” เขาบิดปลายยาสูบกันไม่ให้สมุนไพรหกหล่น “ลองนี่ไหม”

โคลด์รับไปอย่างว่าง่าย จุดไฟ พอสูบมวนใหม่ไปสักพักก็จ้องหน้ามาลแกธ ตาแดงๆ ลอยเหม่อคล้ายคนกึ่งเมา

“ข้าว่า...ข้าทำพลาดไป จะบอกใครก็ไม่ได้ ซิกฟรีดก็ไม่สนความกลุ้มใจของข้าเลย ถ้าข้าบอกเจ้า...ข้าจะโดนเอาไปเผามั้ย”

“เจ้าเชื่อใจข้าแค่ไหนเล่า” มาลแกธถือวิสาสะใช้ข้อนิ้วลูบตามกรอบหน้าของโคลด์

“ไม่รู้สิ” โคลด์ปล่อยมวนยาสูบร่วงจากมือ ปลายสีแดงของมันส่องแสงเรืองและส่งกลิ่นจากการเผาไหม้ต่อ “แต่ถ้าเลือกได้ ข้าอยากนอนห้องเดียวกับเจ้ามากกว่า”

“ข้ายินดี ย้ายเดี๋ยวนี้เลยดีไหม”

โคลด์ไม่รู้สึกตัวเลยว่าใบหน้าของพวกเขาอยู่ใกล้กันแค่ไหนแล้ว


—————————————————————————

A/N เอาละ ป๋าจะได้กินหรือไม่อย่างไร หรือได้แทะโลม หรือผั-- แค็กๆๆ แฟนเขาจะตามมาหึง ตอนต่อไปจ้าาา
ป.ล. "แผ่นไม้ของข้า" (;w;) โคลด์จ๋อย

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (4) [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 09-02-2017 07:14:36
โธ่....เด็กน้อย แม้กระทั่งแผ่นไม้ยังไม่ได้มา

*โคลด์มองตาละห้อย*

ฮ่า ฮ่า ฮ่า

งานนี้ต้องหันไปตบบ้องหูป๋ามาล อย่างอื่นมีอีกร้อยแปด ดันเอาของล้ำค่าของหนูโคลด์ไปใช้ซะงั้น

และ ๆ ๆ ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์! เดี๋ยวผั---แค่กๆๆ แฟนเขาก็มาอาละวาดหรอก
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (4) [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-02-2017 07:16:03
โคลด์ ซิกดีด้วยก็ไม่ชอบอีกนะ
กลัวตัวเองจะหลงรักซิก ละสิ
ถ้าไปนอนห้องมาลแกธ ก็เข้าทางมาลแกธเลย
อ้อยเข้าปากช้าง หรือกระต่ายเข้าปากเสือกันนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (4) [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 09-02-2017 08:22:08
อั่ยย่ะศึกชิงนาง ดึงแขนกันคนละข้างเลย  :laugh:
นึกว่าอิป๋าจะยั่วด้วยคำพูดเฉยๆ นี่เหวี่ยงใส่กันทั้งคู่ ดีงามมม o13
โคลด์เจ้าขาาา ไม้น่ะช่างมันก่อนทูลหัว ห่วงสามีนู่นเจ้าค๊าาา 55555
ฉากทำแผลในห้องแบบโอ่ยข้าวใหม่ปลามัน ซิกแต่งห้องให้ด้วยโง้ยยย
แต่ยังต้องกังวลเรื่องความสัมพันธ์กันต่อเนอะ /ลูบๆ

ช่วงท้ายก็.. กรี๊ดดดดหยุดเดี๋ยวนี้นะอิ-ป๋า-มัน-แกววว  :angry2: :z6:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (4) [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 09-02-2017 08:57:45
ล่อลวง ล่อลวง มีเอลฟ์แก่ๆกำลังล่อลวงเด็ก
มอมยาเอากัญชาให้สูบ แย่แล้วววววววววว


มาลแก็ธเด็กดาร์กเอลฟ์เขามีแฟนแล้วนะ!!!! เดี๋ยวแฟนเด็กของเด็กกผ้มาทึ้งหัวเอา


เอลฟ์แก่ไม่ได้กินแน่นอนเรามั่นใจ


ปล.คนเขียนสู้ๆนะ //หอมๆนะ

ปล2.น้องโคลด์จ๋าที่บ้านพี่มีห้องเยอะแยะเลย แผ่นไม้ก็มีน้าาา มาอยู่กับพี่มาลูกมา จะเลี้ยงดูอย่างดี //นี่ก็ล่อลวงด้วยห้องส่วนตัว[จะโดนเจ้าชายถีบไหม]
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (4) [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 09-02-2017 09:54:04
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (4) [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-02-2017 19:14:17
แต่ละเอลฟ์นี่จ้องจะเอาอย่างเดียวเลยเนาะ 5555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (4) [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 09-02-2017 20:15:21
แม้แต่ไม้ก็ไม่ได้ โถ หนูโคลด์
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (4-5-6) [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 09-02-2017 20:33:13
บทที่ 12 : บ่วงอารมณ์ (5)

“อือ” แพขนตาสีเงินปรือมองเอลฟ์ตะวันออก “มวนนี้รสไม่แสบคอ แต่ทำไมมึนจัง”

“สูตรพิเศษของชาวเรือ” เสียงของมาลแกธพร่าอย่างประหลาด

“ไว้แก้เมาเรือเหรอ” โคลด์หัวเราะเบาๆ

ปลายจมูกปัดผ่านกัน

ก่อนที่เสียงทุบประตูจะดังขึ้นเหมือนฟ้าผ่า

โคลด์ได้ยินเสียงนั้น แต่สำหรับเขา มันเหมือนเสียงซึ่งมาจากที่ไกลๆ

“มาลแกธ!”

เสียงคุ้นๆ แว่วมา...เจ้าชายที่ชอบบังคับใจคนอื่น

“เปิด!”

“มีคนมาตาม...เจ้าอยากออกไปหรือไม่” มาลแกธกระซิบใกล้ริมฝีปากนุ่มสีเข้ม

“ใคร...ไมเธียนเหรอ ไม่เอาหรอก” โคลด์ซุกหน้าหนี

“เปิด!” ซิกฟรีดกำหมัดทุบประตู เขาได้ยินเสียงอือๆ อาๆ จากด้านใน ชวนให้รู้สึกหงุดหงิดอย่างไร้เหตุผล “ดาร์กเอลฟ์! เจ้าลืมห่ออาหารกลางวันของข้า!”

ซิกฟรีดไม่เคยเรียกร้องห่ออาหารกลางวันมาก่อน โคลด์จะทำให้หรือไม่ทำให้ก็มีค่าเท่ากัน แต่ขณะนี้เขาต้องการห่ออาหารกลางวัน...ไม่ เจ้าต้องการให้โคลด์ออกห่างจากเอลฟ์ตะวันออกต่างหาก อาเลธ!

เจ้าชายหงุดหงิดโคลด์ แล้วยังหงุดหงิดตัวเองที่ไปหงุดหงิดโคลด์อีกทอดหนึ่ง กลายเป็นความหงุดหงิดซ้อนความหงุดหงิดที่มีห่ออาหารกลางวันเป็นข้ออ้าง

“นั่นซิกฟรีดเหรอ” โคลด์ยันตัวขึ้นมา ในห้องยังอวลกลิ่นหอมติดจมูกของยาสูบ

“ใช่” ปลายจมูกของมาลแกธเฉียดแก้มโคลด์ตอนที่อีกฝ่ายลุกขึ้น

“เขาไม่มีซ้อมหรือไง” ปกติเวลานี้เป็นช่วงฝึกอาวุธ โคลด์ลุกไปที่ประตู เขาเซนิดๆ จะล้มจนต้องเกาะเอลฟ์ตะวันออก

“พักเที่ยงกระมัง” มาลแกธโอบโคลด์ให้ยืนดีๆ กลายเป็นทั้งสองอยู่ในท่าแนบชิดที่ชวนให้คิดไปไกล

และซิกฟรีดก็ดันฝ่าฝืนกฎ ใช้เวทปลดกลอนด้านใน เข้ามาเห็นภาพนั้นพอดี

กลิ่นหอมของยาสูบพัดปะทะจมูกเจ้าชายเอลฟ์ ส่วนลมสดชื่นพัดเข้ามาหาโคลด์ ดาร์กเอลฟ์มองไปทางประตู เขาเพิ่งเคยเห็นซิกฟรีดโกรธจนหน้าแดงก็วันนี้แหละ

“ห่ออาหารกลางวันใช่ไหม” เขาถาม

“โอ้ วันนี้อากาศดี” มาลแกธฉีกยิ้มให้เจ้าชายเอลฟ์ “ข้าก็อารมณ์ดี น่าลงสนามซ้อมดาบสักหน่อย เจ้าคิดว่าอย่างไร โคลด์ สตาร์”

ซิกฟรีดนิ่ง แต่นิ้วทั้งสิบกำเป็นหมัดแน่น

“ข้าคิดว่าข้าต้องไปโรงครัว ไปหาอาหารกลางวันให้เขา ก่อนเขาจะโกรธข้ามากกว่านี้” โคลด์ผละจากมาลแกธ เดินเซๆ ผ่านซิกฟรีดไป เขาว่ามวนที่สูบนี่มึนชะมัด คงต้องไปล้างหน้าสักหน่อย

“ไป เจ้าชาย เราไปลานฝึกกันดีกว่า” มาลแกธยกแขนจะคล้องคอซิกฟรีด แต่เจ้าชายปัดออก

‘อย่าเสือกโดนตัวข้า’

“นัยน์ตาเจ้าฆ่าข้าแล้ว” มาลแกธหัวเราะ ยกมือขึ้นเป็นเชิงยอมแพ้ ก่อนจะผายมือให้ซิกฟรีดนำไปก่อน

‘ดาบของข้าก็จะฆ่าเจ้าด้วย’

ซิกฟรีดคิด เสียงคำรามดังเกรี้ยวกราดอยู่ในใจ

 

กว่าโคลด์จะล้างหน้าเสร็จ ไปเอาอาหารที่โรงครัว และห่อของกินกลับมา การประลองก็เริ่มไปได้สักพักแล้ว

เขานั่งข้างสนามในมุมที่ไม่สะดุดตา กินขนมปังของตัวเองพลางดูเอลฟ์ทั้งสองแลกเปลี่ยนวิชาอาวุธ

ซิกฟรีดใช้ดาบใหญ่ เป็นสิ่งเดียวที่ซิกฟรีดหมั่นลับ รวมถึงเช็ดทำความสะอาดด้วยตัวเอง ไม่ยอมให้ใครแตะต้อง ใบดาบครึ่งหนึ่งตีด้วยแร่ผสมเงินบริสุทธิ์ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งตีจากแร่เหล็กดำ ด้ามดาบสลักเสลาเป็นรูปวิหคเพลิง ฝีมือประณีตเช่นนี้ต้องเป็นช่างฝีมือหลวงแน่

ซิกฟรีดกำด้ามดาบ รู้สึกถึงน้ำหนักของตัวดาบที่ออกแบบมาอย่างเหมาะมือ มันเป็นของขวัญจากพี่ชายคนรอง ผู้ซึ่งบัดนี้เป็นกษัตริย์เอลฟ์—คิงริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์

หลังซิกฟรีดเข้าอาศรมได้ปีกว่า คิงริวอร์นอร์ที่ยังเป็นเจ้าชายพระองค์รองก็ชนะสงคราม มีชัยเหนือนายพลทมิฬ ซิกฟรีดได้รับข่าวดีจากพี่ชายคนโต คิงเฟรธูริน อาร์ธีออน รูเมเรียร์ ซึ่งติดต่อมาไม่ขาด และคำสัญญาว่าจะไปรับกลับเอวา เธมาร์เมื่อเหตุการณ์ชายแดนสงบ

ทว่าเจ้าชายน้อยคร่ำครวญ งอแง จนพี่ชายต้องหากลอุบายปลอบ

--------------------------------------------------

“หากเจ้าอดทน เราจะหาของขวัญตอบแทนให้ปีละหนึ่งชิ้นดีไหม” คิงเฟรธูรินถามน้องชายคนเล็กผ่านกระจกเวท

“ข้าอยากกลับบ้าน” เจ้าชายน้อยวัยสิบขวบหน้าบึ้ง “ที่นี่น่าเบื่อ โคลด์ยังเบื่อเลย” ซิกฟรีดมาด้วยความตั้งใจว่าจะได้กลับไปเยี่ยมบ้านบ้าง อาศรมควาร์เป็นสถานศึกษาที่ต้องอยู่ประจำ อนุญาตให้กลับเฉพาะช่วงฤดูหนาว เจ้าชายเอลฟ์ตั้งตารอฤดูหนาวเป็นพิเศษ แต่ปีนี้ไม่ได้กลับแน่แล้ว

ไม่ยุติธรรมเลย ควาร์คนอื่นๆ ยังได้กลับบ้าน ถึงจะเป็นช่วงที่สงครามเพิ่งจบก็เถอะ!

ด้านหลังของเฟรธูรินมีคนเยี่ยมหน้าออกมา นางยิ้มเอ็นดูความน่ารักของเจ้าชายพระองค์เล็ก “หากท่านฝึกวิชาจนเก่งกาจ สามารถปกป้องตัวเองได้ ท่านเฟรธูรินย่อมรีบรับท่านกลับมา” สตรีโฉมสะคราญหันไปถามราชาผู้เป็นคู่หมั้น “ใช่ไหมเจ้าคะ ท่านพี่”

“เราให้สัญญา” คิงเฟรธูรินยิ้มกับพระคู่หมั้น ถึงจะเหนื่อยกับงานราชการ แต่สตรีที่อยู่เคียงข้างทำให้ไม่เหนื่อยเกินไปนัก

ภาพพี่หญิงเอริแอดเน่ยืนเคียงข้างพี่ชายใหญ่ช่างเหมาะสมกันราวกับได้รับพรจากบิดาและมารดาแห่งนภา

“ท่านเกี่ยวก้อยกับข้าผ่านกระจกนี่ไม่ได้” เจ้าชายซิกฟรีดอ่อนลงเล็กน้อย แต่ก็ยังบ่นอุบอิบ

คิงเฟรธูรินจึงทาบฝ่ามือกับกระจก แล้วเรียกให้น้องชายคนเล็กทาบกลับมาด้วย

“บุรุษที่เก่งกาจในประวัติศาสตร์ล้วนฝึกตนอย่างหนัก มีความอดทนเป็นที่ตั้งรู้ไหม...อาเลธ”

เจ้าชายน้อยก้มหน้างุบงิบ

“ว่าอย่างไร เราไม่ได้ยินเจ้าเลย” คิงเฟรธูรินหัวเราะเบาๆ น้องชายคนเล็กกับตนอายุห่างกันกว่าสองร้อยปี เลี้ยงมาตั้งแต่ยังแบเบาะ บางครั้งให้ความรู้สึกเหมือนเลี้ยงดูบุตรชายเสียมากกว่า

“ขอรับ” ซิกฟรีดเงยหน้า ตอบรับอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“ถ้าริวอร์นอร์อยู่แถวนี้คงเรียกให้เจ้าทำท่าให้ขึงขังกว่านี้”

“ขอรับ!” เจ้าชายน้อยจึงทำหน้าตาขึงขังจริงจัง เรียกเสียงหัวเราะสดชื่นจากพี่ชายและพี่หญิง

“ปีนี้เจ้าอยากได้ของขวัญอะไรเป็นพิเศษเล่า อาเลธ”

ซิกฟรีดหลุบตาลง ขมวดคิ้ว ครุ่นคิดด้วยท่าทางแบบผู้ใหญ่

“ดาบขอรับ”

“ดาบ?”

“ข้าจะเป็นนักการทูตเหมือนพี่เฟรธูริน และข้าก็จะเป็นนักรบแบบพี่ริวอร์นอร์ด้วย ข้าได้เข้าเรียนในอาศรมควาร์แล้ว เหลือฝึกดาบขอรับ!”

“บุรุษผู้เก่งกาจย่อมเป็นที่สิเน่หา เจ้าชายผู้รอบรู้สรรพวิชาย่อมเป็นคุณแก่แผ่นดิน เจ้าชายน้อยดำริงดงามแล้ว” เอริแอดเน่เอื้อมมือกุมหลังมือของเฟรธูริน “อนุญาตเถิดนะเจ้าคะ ท่านพี่”

ท่านหญิงจากอิซิลดาร์ขอร้องอีกแรง นางเองก็รักและตามใจซิกฟรีด

“อาห์นดีร์น่าจะเข้าใจดาบมากกว่าเรา...” คิงเฟรธูรินนึกถึงน้องชายคนรอง “เจ้าต้องการดาบแบบไหนเล่า ลองอธิบายลักษณะให้เราฟังหน่อยเถิด”

“ดาบที่แข็งแกร่งแบบพี่ริวอร์นอร์และอ่อนโยนเหมือนพี่เฟรธูรินขอรับ” เจ้าชายน้อยตอบด้วยรอยยิ้มกว้าง


--------------------------------------------------

ดาบที่แข็งแกร่งแบบพี่ริวอร์นอร์...อย่างนั้นหรือ

ซิกฟรีดคิดแล้วเหวี่ยงดาบใหญ่อย่างดุดัน ทว่ามุทะลุเกินไป มาลแกธอ่านทางออก ตั้งรับได้โดยง่าย ซ้ำยังใช้ประโยชน์จากแรงเหวี่ยงของดาบทำให้ซิกฟรีดเสียหลัก

และดาบที่อ่อนโยนเหมือนพี่เฟรธูริน...ซิกฟรีดกัดฟัน จะเป็นไปได้อย่างไรกันเล่า!

ดาบมีไว้ฆ่าฟันไม่ใช่หรือ มีไว้เพื่อทำให้ศัตรูยอมศิโรราบ ดาบคืออาวุธ ไม่มีทางอ่อนโยนได้ อาเลธ!

การประลองจบลงด้วยผลเฉกเดิม ชัยชนะของมาลแกธและความพ่ายแพ้ของซิกฟรีดเป็นเรื่องไม่แปลก หลังฝึกวิชาอาวุธ คู่ซ้อมจะสนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ที่ได้จากการฝึกซ้อมแล้วเอ่ยขอบคุณกันและกัน

แต่โคลด์นั่งกอดห่ออาหารกลางวันซึ่งเย็นชืดรอแล้วรออีก ก็ไม่เห็นซิกฟรีดจะเงยหน้าขึ้นมาคุยกับมาลแกธ

เจ้าชายเอลฟ์เอาแต่คุกเข่าก้มหน้า กำด้ามดาบแน่น

“นี่ ยังหิวอยู่รึเปล่า” โคลด์มานั่งยองๆ ถามอยู่ข้างๆ “ข้าเอาของกินมาให้แล้ว” วิธีปลอบใจแบบทื่อๆ ของโคลด์

“อีกครั้ง” ซิกฟรีดเอ่ยเสียงเรียบ

“มาลแกธ เจ้าไม่ต้องไปทำอย่างอื่นเหรอ” โคลด์หันไปหาตัวช่วย

“ข้าว่าง อีกครั้งก็ไหว” มาลแกธใช้ดาบวงพระจันทร์สองมือ เขาควงดาบมือซ้ายสบายๆ

โคลด์อึ้งเล็กน้อย เพราะปกติมาลแกธจะตามน้ำไปกับเขา

“ท่านมาลแกธขอรับ ท่านเอเรนดิลเรียกพบขอรับ” ไมเธียนพูดแทรกกลางวงสนทนา หากจะมีใครเป็นเจ้าของรอยยิ้มไม่ยี่หระต่อโลกได้เท่ามาลแกธ เห็นทีจะเป็นควาร์หนุ่มผู้นี้

“ข้ามั่นใจว่าท่านเอเรนดิลรอได้ การศึกษาต้องมาก่อน” มาลแกธตอบกลับโดยไม่หันไปหาไมเธียน ในใจเขาคิดว่าเจ้าชายเอลฟ์มีฝีมือแต่ขาดความเยือกเย็น หากได้รับการเจียระไนสักหน่อยคงเป็นนักดาบฝีมือดี...ไม่สิ คงมีฝีมือร้ายกาจทีเดียว

ปกติชาวตะวันออกหวงวิชา ไม่เปิดเผยฝีมือแท้จริง แต่ก็มีกรณียกเว้นบ้าง เช่น ถูกใจเป็นพิเศษ หรือไม่ก็ขุนให้เก่งเพื่อจะได้เชือดอย่างสนุกในภายภาคหน้า

มาลแกธจัดให้เจ้าชายเอลฟ์เป็นแบบที่สอง

โคลด์เลยหลบไปนั่งกินอาหารกลางวันของซิกฟรีด อย่างไรมันก็เย็นชืดแล้ว เอาอาหารเย็นชืดให้เจ้าชายกินคงไม่สมพระเกียรติ

ดาร์กเอลฟ์นั่งดูการประลองอีกรอบ...อีกรอบ...และอีกหลายรอบ

ซิกฟรีดแพ้ทุกรอบ

แต่ไม่ยอมแพ้!

“อีกครั้ง” ซิกฟรีดกัดฟัน แขนล้า ปวดตั้งแต่ปลายนิ้วไปจนถึงศีรษะ

เอาละ ข้าเริ่มถูกใจเจ้าขึ้นมาจริงๆ แล้ว เอลฟ์รูเมเรียร์…มาลแกธคิด ชาวตะวันออกดูแคลนชาวรูเมเรียร์ว่าเหลาะแหละ ดีแต่ปาก ชอบแต่งชุดยาวๆ กรุยกราย เดินลอยชายไปมาแล้วชี้นิ้วสั่ง ทว่าคิงริวอร์นอร์ต่างออกไป...เจ้าชายพระองค์เล็กผู้นี้ก็ต่างออกไป

มาลแกธไตร่ตรองแผนการส่วนตัว

เขาต้องรู้มากกว่านี้...

ว่าซิกฟรีด ‘รู้’ ความเป็นไปอะไรบ้างในรูเมเรียร์

ในเอวา เธมาร์

 

“ข้าพร้อมแล้วที่รัก” มาลแกธเก็บดาบ เขาตรงไปหาไมเธียนที่ยืนรอเงียบๆ โดยมีธอรอนทูร์หน้าบูดบึ้งอยู่ข้างๆ

โคลด์มองตามเอลฟ์ทั้งสามที่เดินจากไป แล้วค่อยเข้าไปหาซิกฟรีด “ข้ากินอาหารกลางวันของเจ้าหมดแล้ว เดี๋ยวข้าต้องไปช่วยงานที่โรงครัวตอนเย็น ถ้าเจ้ายังหิวอยู่ข้าจะเอาอาหารไปให้ที่ห้องก่อนดีไหม แล้ววันนี้ข้ามีฝึกมีดสั้นกับมาลแกธ คงกลับดึกๆ เลย”

ซิกฟรีดตวัดสายตามองโคลด์ทันทีที่ชื่อของเอลฟ์ตะวันออกหลุดจากปากของอีกฝ่าย

‘อยู่กับข้า’

โคลด์มองตาเจ้าชายเอลฟ์ ชั่งใจ...

“แต่อย่างน้อยเจ้าต้องกินอาหารเย็น ข้าไปขอผลัดเวรทำงานก็ได้ เจ้ากลับไปรอที่ห้องก่อน”


—————————————————————————

A/N ตอนนี้ ตัวละครลึกลับที่ถูกเอ่ยชื่อมาตั้งแต่ตอนแรก คิงเฟรธูรินมีบทแล้วค่ะ เย้ๆ! คนนี้งานดีเช่นกัน บุรุษสามพี่น้องราชวงศ์รูเมเรียร์งานดีทุกคน ;) ได้เห็นเอริแอดเน่ในอดีตด้วย บรรยากาศต่างจากตอนปัจจุบันเนอะ และมาลแกธเริ่มให้ความสนใจในตัวซิกฟรีดแล้วด้วย #มาลซิกซิกมาล

อนึ่ง ถึงจะอยากอ่านคอมเมนต์ต่อ แต่เราเสียใจจริงๆ ที่ต้องแจ้งงดลงนิยาย #ElvenAlmanac ชั่วคราวค่ะ

คือดูจากปริมาณงาน เราพิจารณาแล้วว่าคงไม่สะดวกลงนิยายเพราะงานรัดตัวและป่วยจากปัญหาหลายอย่าง คือทุกวันนี้ยอมรับว่าเราอ่านคอมเมนต์เอลฟ์เอากำลังใจไปปั่นงานค่ะ เป็นไปได้ก็ไม่อยากหยุดลงเลย แต่สภาพเราตอนนี้คงมาลงต่อไม่ไหวจริงๆ ค่ะ

เราไม่แน่ใจว่าจะกลับมาได้เมื่อไร แต่ก็อยากกลับมาให้เร็วที่สุด เลยบอกตัวเองว่าลองหยุดสัก 1 อาทิตย์ก่อน ดีขึ้นก็ลงต่อ

ขอโทษคนที่ติดตามเรื่องนี้ทุกวัน เราเสียใจจากใจจริงที่ต้องหยุดลงค่ะ ขอบคุณที่ติดตามและหวังว่าคุณจะกลับมาอ่านเมื่อเราลงต่อนะคะ

ป.ล. บ่วงอารมณ์ 5-6 เป็น 2 ตอนที่เราจัดสต๊อกเตรียมไว้เสร็จแล้ว จึงลงให้อ่านก่อนหยุดยาว แล้วพบกันใหม่บทที่ 13 ค่ะ

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (4-5-6) [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 09-02-2017 20:37:48
บทที่ 12 : บ่วงอารมณ์ (6)

ราวยี่สิบนาทีต่อมา โคลด์กลับมาพร้อมสำรับอาหารมื้อเย็นสำหรับเจ้าชาย โชคดีที่คนงานโรงครัวหรือผู้ศรัทธาในควาร์ไม่ใช่เอลฟ์ แต่เป็นมนุษย์ พวกเขาใจดีกับโคลด์ผู้ขยันขันแข็งไม่น้อย จึงให้แลกเวรทำงานได้

ซิกฟรีดแช่น้ำในอ่างไม้ นอกจากห้องพักของเจ้าชายจะเป็นห้องส่วนตัวแล้ว ด้านนอกยังกั้นส่วนอาบน้ำไว้พิเศษ ความจริงแล้ว ตั้งแต่เขาย่างเข้าสิบห้าปี ซิกฟรีดมักชำระร่างกายที่โรงอาบน้ำรวม (หลังควาร์ทุกคนเสร็จธุระแล้ว) เนื่องจากเบื่อฟังเสียงบ่นของโคลด์ที่ต้องหาบน้ำมาต้มให้ตนอาบ และเมื่อเห็นดาร์กเอลฟ์หาบถังน้ำอย่างทุลักทุเลหลายครั้งเข้าก็เกิดนึกเวทนาขึ้นมาอย่างไรไม่รู้

แต่วันนี้เขาเหนื่อยจริงๆ เลยสั่งคนงานให้หาบน้ำมาต้ม นานๆ ครั้งได้แช่น้ำร้อนบ้างก็ดี

“เจ้าชาย กินอาหาร” โคลด์ปิดประตูห้องแล้วเรียกส่งๆ “เจ้าชายๆ อาหารมาส่งแล้วขอรับ” มองหาซิกฟรีดไม่เจอ โคลด์เลยถือสำรับไปทางเชื่อมห้องพักที่ต่อกับห้องอาบน้ำ

ซิกฟรีดหลับตา คิ้วยังขมวดเข้าหากันเพราะปวดไปทั้งตัว

“เดี๋ยวก็เย็นอีกหรอก ข้าเอามาให้ร้อนๆ เลยนะ” ดาร์กเอลฟ์ยื่นสำรับอาหารซึ่งเป็นกล่องไม้ ข้างในมีอาหารทำเสร็จใหม่ๆ ใส่ถ้วยและจานลวดลายสวยงาม บางถ้วยปิดฝาไว้อย่างดีอีกชั้นหนึ่ง

“นวด”

เจ้าชายประหยัดคำพูดขึ้นทุกวัน

“กินก่อน” โคลด์เปิดฝากล่องไม้ ให้ซิกฟรีดเลือกว่าจะกินอะไร ดาร์กเอลฟ์ช่างไร้มารยาท ทั้งที่ควรรอให้อาบน้ำเสร็จก่อน แต่โคลด์ถือคติว่าอาหารควรกินตอนที่ยังร้อน และเขาก็รีบเอากลับมาให้อีกฝ่ายกินถึงที่

อีกอย่าง...ซิกฟรีดยังไม่ได้กินอาหารกลางวันเลยด้วย

ซิกฟรีดจึงหันมา เขาลืมตามองโคลด์แบบคาดโทษอีกฝ่าย

‘เจ้าไปถึงไหนแล้วกับเอลฟ์ตะวันออก ถ้าข้าไม่ตามหาเจ้า เจ้าคงนอนกับมันแล้วใช่ไหม’

สายตาแบบนี้...เหมือนสามีจับได้ว่าภรรยานอกใจ

โคลด์ไม่เข้าใจ เขาจึงเลือกซุปหัวหอมที่มีแป้งพัฟอบชีสครอบอยู่ด้านบนให้ มือหนึ่งถือกล่องไม้ อีกมือเอาช้อนเจาะแป้งบางร่วน ผสมกับน้ำซุปตักป้อนซิกฟรีด

“เอ้า กินสิ”

ซิกฟรีดหรี่ตา หงายมือกวักเรียกโคลด์ให้เข้ามาใกล้ๆ

โคลด์เลยเข้าไปใกล้อีกหน่อย เล็งช้อนใส่ปากเจ้าชายเอลฟ์

เจ้าชายเอลฟ์ผู้เข้าใจยากดึงโคลด์เข้ามาจูบ

มีรสชาติของความหวงแหนแฝงอยู่ที่ปลายลิ้น

โคลด์ถือสำรับอาหารอยู่ อีกมือถือช้อน เขาพยายามตั้งสติ ไม่ปล่อยให้ทั้งสองอย่างร่วงตกพื้น

ซิกฟรีดชิมลิ้นของเขาก่อนอาหาร หน้าอกที่กดอยู่กับขอบถังไม้ทำให้เจ็บ โคลด์ส่ายหน้านิดๆ บอกว่าท่านี้ทรมาน

“ลงมา” ซิกฟรีดยอมปล่อยมือที่ขังใบหน้าของโคลด์ไว้

โคลด์ถอยไปสามก้าว ถลึงตาว่า ‘ไม่!’

‘ลงมา’ สายตาของทั้งสองสู้รบกัน

ดาร์กเอลฟ์วางสำรับกับพื้น ชี้มือชี้ไม้ไปที่ท้องฟ้ายามเย็นเหนือห้องอาบน้ำเปิดโล่ง แม้จะมีไม้กระดานสูงตีปิดโดยรอบ แต่เขาต้องการสื่อว่า ‘ถึงบริเวณนี้เป็นที่ส่วนตัวของเจ้า ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครมาเห็น’

ซิกฟรีดจึงเอียงศีรษะเล็กน้อยเพื่อฟังสำเนียงของไอน้ำที่ลอยฟุ้งจากอ่างไม้ เขาขยับปาก ใช้ภาษาของมัน ขอให้มันบังสายตาสอดรู้ของมนุษย์และเอลฟ์ในอาศรมควาร์

แล้วโคลด์ก็ตกอยู่ในหมอกทึบของไอน้ำร้อนทันที

สำรับอาหารเหมือนถูกลืม ซิกฟรีดลุกจากอ่างอาบน้ำไปกอดโคลด์ ซบใบหน้ากับต้นคอของอีกฝ่าย สูดกลิ่นหอมเฉพาะตัวซึ่งทำให้เขาตื่นตัว ใจเต้นแรง

โคลด์กลืนน้ำลาย เขามองเห็นเจ้าชายไม่ชัดจากในหมอก แต่รับรู้ภาษากายและความหมายของการลูบไล้ผ่านเนื้อผ้า...การสอดมือเข้ามาสำรวจผิวเนื้อ ถอนมือออกไป แล้วถอดเสื้อเขาออก

“ซิก...อือ” ดาร์กเอลฟ์สะดุ้งหน่อยๆ เมื่อแรงกอดรัดเพิ่มขึ้น บังคับให้ความต้องการทางร่างกายของซิกฟรีดแนบกับหน้าท้องของเขา

โคลด์อยากบอกว่าเราควรเลิกทำเรื่องนี้ได้แล้ว แต่ใจของเขากลับเต้นไม่เป็นจังหวะ รู้สึกเคลิ้มเหมือนตอนสูบยาในห้องของมาลแกธ

โคลด์รู้สึกหนาวเมื่อเสื้อผ้าหลุดจากตัว แล้วก็อุ่นขึ้นเมื่อได้ลงแช่น้ำร้อน และยังอุ่นขึ้นอีกเมื่อมีคนตามลงมาแช่ด้วยกัน

ซิกฟรีดจูบหลังใบหูของโคลด์ มือแข็งแรงนวดเฟ้นไปตามร่างกาย

สำรับอาหารถูกลืมโดยสมบูรณ์

 

ซิกฟรีดนอนกอดโคลด์ อีกฝ่ายหลับสนิทแต่ยังครางอืออาขัดใจที่ถูกท่อนแขนหนักๆ ทับ เจ้าชายเอลฟ์ลอบยิ้ม กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกหน่อย เขาลังเลว่าจะหอมแก้มโคลด์ดีไหม...ดี ถ้าเจ้าทำตอนโคลด์ตื่น มันจะแปลกๆ อาเลธ

คิดดีแล้วเจ้าชายก็กดจมูกกับแก้มเนียน สูดกลิ่นจนพอใจแล้วปล่อยออก เขายิ้มออกมาอีก งุนงงว่าตนยิ้มได้กว้างขนาดนี้เชียวหรือ

ซิกฟรีดล้มตัวลงนอนโดยกอดโคลด์อยู่อย่างนั้น แม้เขาจะเพิ่งทราบ ‘ข่าวร้าย’ จากมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ แต่หากมีโคลด์อยู่ ซิกฟรีดเชื่อว่าเขาสามารถจัดการมันได้

สมัยเด็ก เขากับโคลด์เคยเผชิญหน้ากับหมาป่าทั้งฝูงมาแล้ว

ตอนนี้เขาเติบโต แข็งแกร่งขึ้นมาก อะไรที่อยากดาหน้าเข้ามา ก็ให้มาเถิด

 

โคลด์รู้สึกตัวตอนใกล้รุ่งสาง พบว่าตัวเองนอนเปลือยกายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับเจ้าชายเอลฟ์...อีกแล้ว

“อืม” อากาศช่วงเช้าตรู่หนาวเย็น ซิกฟรีดดึงโคลด์เข้ามากอด แบ่งปันความอบอุ่นจากผิวเนื้อ

โคลด์รู้สึกเหนอะหนะตรงช่วงล่าง ความทรงจำค่อยๆ ผุดขึ้นมาว่าเจ้าชายเอลฟ์ซ้อมดาบในสนามฝึกซ้อมอย่างเร่าร้อนรุนแรงปานใด บนเตียงก็เร่าร้อนรุนแรงไม่ต่างกัน

เจ้าเด็กเอลฟ์นี่เอาแรงมากมายมาจากไหน

วันนี้ซิกฟรีดต้องเรียนวิชาศิลปะการทูต บ่ายเรียนวิชาสมุนไพร โคลด์จำตารางได้แม่นอย่างกับเป็นผู้เรียนเอง ส่วนซิกฟรีดก็จำได้ว่าโคลด์มักตื่นก่อนนกร้องไปรดน้ำแปลงผัก ก่อนไปช่วยงานโรงครัว เที่ยงชอบห่ออาหารมาให้ บ่ายหายตัวไปกับมาลแกธ ถ้าหายไปนานแสดงว่าลงไปน้ำตก และอื่นๆ อีกมากที่เจ้าชายเอลฟ์จำได้ราวกับเป็นโคลด์เสียเอง

ทั้งคู่ไม่เคยพูดว่าตนชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ไม่เคยแลกเปลี่ยนเรื่องส่วนตัวกัน ทว่าผูกพันกันมากกว่าที่คิด

“นี่...” โคลด์เอ่ยทำลายความเงียบ

“เงียบ” ซิกฟรีดขมวดคิ้ว ไม่ยอมลืมตา “ยังง่วงอยู่”

“เจ้าคิดบ้างมั้ยว่า ถ้าคนอื่นรู้ ข้าจะโดนอะไร” โคลด์ตัดสินใจพูดตรงๆ ‘อีกรอบ’

“ไม่มีใครทำอะไรทั้งนั้น” ซิกฟรีดลืมตาฉับ ช่วงหลังๆ เวลาพูดถึงกฎ บทลงโทษ หรืออะไรก็ตามเกี่ยวกับวิถีปฏิบัติของควาร์ ซิกฟรีดจะเสียงแข็ง ต่อต้าน ดวงตาเหมือนจะเรื่อสีแสดกลืนสีเงินเกือบหมด

“เจ้าใหญ่นักหรือไง หรือเจ้าแค่ไม่สนใจว่าข้าจะโดนอะไร” โคลด์พลิกมา เอาแขนซิกฟรีดออกจากตัว “เจ้าไม่ได้ใหญ่เลย พี่ชายพระราชาของเจ้าสิใหญ่ ควาร์ในอาศรมก็ใหญ่ จึงเหลือแค่เจ้าไม่สนใจว่าข้าจะโดนอะไร”

พี่ชายพระราชาของเจ้าสิใหญ่

ควาร์ในอาศรมก็ใหญ่

งั้นหรือ...


“ถ้าข้าเป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน เจ้าจะเลิกถามคำถามนั้นหรือไม่” ซิกฟรีดพลิกมือ เรียกให้น้ำตกประดับที่ไหลเอื่อยๆ กลับไหลอย่างบ้าคลั่ง

เขาไม่ต้องการให้ใครได้ยิน เสียงน้ำตกกั้นเสียงพูดคุยได้ในระดับหนึ่ง (รวมถึงเสียงกิจกรรมยามค่ำคืน)

“ข้าถามว่า ‘เจ้าไม่สนใจใช่ไหมว่าข้าจะโดนอะไร’ ” โคลด์เสียงแข็ง “ในอาศรมมีเอลฟ์ตั้งมากมาย ทำไมต้องเป็นข้า”

“เจ้าโง่จริงๆ หรือแกล้งโง่ หรือว่าข้าโง่ที่สุดวะ!” ซิกฟรีดถอนหายใจแรง...ใช่ มีเอลฟ์ตนอื่นอีกตั้งเยอะ ทำไมข้าต้อง...ไม่ อาเลธ เจ้าไม่ได้รักดาร์กเอลฟ์ใช่ไหม

เจ้าชายถูหน้าผากจนแดงเถือก

“ข้าไม่ได้โง่ ข้าพูดอะไรผิดตรงไหนบ้าง เจ้า! อย่างดีก็แค่โดนตำหนิ ข้า! อย่างดีคือตายสบายหน่อย”

โคลด์มั่นใจว่าเขาต้องโดนโทษ ‘ล่อลวงเจ้าชายเอลฟ์ให้หลงผิด’ แน่นอน

“ข้าสน!” ซิกฟรีดคำราม เสียงน้ำตกคงกลบไม่ได้แล้ว

โคลด์สะดุ้งเหมือนแมว ลนลานลงจากเตียง “ก็ดี ถือว่าเข้าใจกันแล้ว ข้า...ข้า...” ดาร์กเอลฟ์หาเสื้อผ้าใส่ “ข้าไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับเจ้าก็เพราะแบบนี้” เขาชี้สภาพกึ่งเปลือยของซิกฟรีด “แต่ถ้าเจ้าสน ข้าจะเชื่อก็ได้”

ซิกฟรีดปรับลมหายใจของตัวเอง

เจ้าต้องเยือกเย็นกว่านี้ อาเลธ...

ทว่าโคลด์กระตุ้นต่อมโมโหของซิกฟรีดด้วยประโยคถัดไป

“แต่ข้าไม่ได้โง่ อะไรที่เกิดขึ้นแล้วก็เกิดขึ้นได้อีก อย่างน้อยเจ้าก็ทำให้มันชัดเจนเวลามีคนจับได้ ว่าเจ้าแค่ใช้ข้าเป็นทาสบำเรอความสุขบนเตียง แล้ววันหนึ่งข้าจะได้รับอิสระเป็นค่าตอบแทน”

โคลด์ต่อรองอยู่นั่นเอง

“ถ้าไม่ทำให้ชัดเจน ข้าก็ไม่อยู่ร่วมห้องกับเจ้า จะตายช้าตายไวก็ตายเหมือนๆ กัน แต่อยู่ห่างเจ้าข้าอาจได้ตายช้าลงหน่อย”

เหงื่อซึมข้างขมับดาร์กเอลฟ์ เขาไม่ได้อยากตาย แต่เขาต้องการความชัดเจน ‘ล่อลวงเจ้าชาย’ กับ ‘ใช้เป็นของเล่นบนเตียง’ นั้นต่างกันมหาศาลในความรู้สึกของเอลฟ์

โคลด์ขอเลือกอย่างหลัง เพื่อให้ชีวิตเขาปลอดภัย เพื่อให้เขาและเกวนโดลินได้พบกันอีก

ซิกฟรีดจ้องโคลด์แบบไม่อยากเชื่อ สีหน้าผสมไปด้วยอารมณ์หลากหลาย ไม่เข้าใจ โกรธ เสียใจ

เขาไม่ได้คิดลึกซึ้งเหมือนโคลด์ คิดแต่เพียงว่าตัวเองปกป้องอีกฝ่ายได้ คำถามเหล่านั้นไม่จำเป็นเลย และคำพูดต่อรองของโคลด์ก็ทำให้เจ้าชายเอลฟ์เข้าใจผิดไปไกล คิดว่าโคลด์กำลังใช้ร่างกายและความสัมพันธ์ครั้งนี้ให้เป็นประโยชน์

เพื่ออิสระ

เจ้าเป็นอิสระอยู่แล้วโคลด์ สตาร์...เจ้าดาร์กเอลฟ์ที่ไม่รู้อะไรเอาเสียเลย ข้าไม่ได้ขังเจ้าไว้

แววตาของซิกฟรีดค่อยๆ นิ่งและเย็นชาเหมือนผิวน้ำในฤดูหนาว

“ตกลง”

ซิกฟรีดเอ่ยเรียบๆ แล้วเลื่อนตัวลงจากเตียง พอสวมเสื้อและกางเกงเสร็จก็ออกไป โดยปิดประตูไล่หลังดังปัง!

เขายอมรับว่าที่พลั้งนอนกับโคลด์เพราะอารมณ์วัยรุ่นด้วยส่วนหนึ่ง แต่เขามั่นใจว่าตัวเองรู้สึกกับโคลด์มากกว่านั้น แม้ไม่ทราบว่ามันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่

แต่ซิกฟรีดลืมนึกไปว่า ถึงเขาจะรู้สึกอะไรๆ กับโคลด์ ก็ไม่ได้แปลว่าโคลด์จะรู้สึกอะไรๆ เช่นเดียวกับเขา

เขาเคยได้ยินว่าดาร์กเอลฟ์ส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ทางร่างกายมากไปกว่าการหาความสุขบนเตียง (เหมือนพวกตะวันออกที่มากรัก) แค่สนุกชั่วครั้งชั่วคราว หรือบางครั้งก็หลับนอนกับใครก็ตามที่มีผลประโยชน์

ไม่นึกว่าโคลด์ก็เป็นแบบนั้น

ข้าโง่ที่สุดจริงๆ สินะ

 

อะไรที่เกิดขึ้นแล้วก็เกิดขึ้นได้อีก

ดุจน้ำมันใกล้ไฟ

อารมณ์พลุ่งพล่านและอ่อนไหวของวัยเยาว์

ซิกฟรีดไม่สามารถควบคุมอารมณ์นี้ เขายังมุทะลุ และโคลด์ก็ยินยอมเมื่อได้ความชัดเจน...

แต่เวลาที่พวกเขาร่วมรักกันโดยไม่พูดถึงเหตุผลใดๆ

มันวิเศษ


—————————————————————————

A/N แจ้งงดลงนิยาย #ElvenAlmanac ชั่วคราวค่ะ
ดูจากปริมาณงาน เราพิจารณาแล้วว่าคงไม่สะดวกลงนิยายเพราะงานรัดตัวและป่วยจากปัญหาหลายอย่าง คือทุกวันนี้ยอมรับว่าเราอ่านคอมเมนต์เอลฟ์เอากำลังใจไปปั่นงานค่ะ เป็นไปได้ก็ไม่อยากหยุดลงเลย แต่สภาพเราตอนนี้คงมาลงต่อไม่ไหวจริงๆ ค่ะ
เราไม่แน่ใจว่าจะกลับมาได้เมื่อไร แต่ก็อยากกลับมาให้เร็วที่สุด เลยบอกตัวเองว่าลองหยุดสัก 1 อาทิตย์ก่อน ดีขึ้นก็ลงต่อ
ขอโทษคนที่ติดตามเรื่องนี้ทุกวัน เราเสียใจจากใจจริงที่ต้องหยุดลงค่ะ ขอบคุณที่ติดตามและหวังว่าคุณจะกลับมาอ่านเมื่อเราลงต่อนะคะ

ป.ล. บ่วงอารมณ์ 5-6 เป็น 2 ตอนที่เราจัดสต๊อกเตรียมไว้เสร็จแล้ว จึงลงให้อ่านก่อนหยุดยาว แล้วพบกันใหม่บทที่ 13 ค่ะ

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (4-5-6) [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 09-02-2017 21:13:39
อาการหวงรุนแรงจริง ๆ อาเลธ ทำดีมาก!

ป๋าอดไปนะจ๊ะ  ฮ่าฮ่าฮ่า

โคลด์ เจ้าน่ารักมาก อยากจับมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วอมเล่น อิอิ

แต่ตอนนี้เป็นตอนที่อาเลธใจสลายสินะ คนที่คิดว่า ไว้วางใจที่สุด รักมาก แม้จะไม่รู้ตัว กลับเห็นเป็นเพียงแค่การแลกเปลี่ยน

โคลด์เองก็คงยังไม่รู้ตัวเช่นกัน ดูได้จากการที่ห่วงใยเรื่องกินข้าว ทั้งที่จริง ๆ แล้วจะไม่ใส่ใจก็ได้

เจ็บจี๊ดดดด

ปล. สู้ ๆ นะ คุณ ILLREI ขอให้หายป่วย กลับมาแข็งแรงดั่งช้างสาร ขอให้งานคลี่คลายดั่งสายน้ำไหล

เราจะรอ


หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (4-5-6) [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 09-02-2017 23:17:15
สู้ๆ จะรอนะ o13 o13
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (4-5-6) [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 10-02-2017 01:28:02
อยู่ตรงนี้เพื่อรอเเต่เธอ~~ มาเป็นเพลง55555 ไม่เป็นไรเน้ออย่าคิดมาก สบายใจ งานลื่นไหลก็ค่อยมาลงต่อ นิยายก็คือ สื่อบรรเทิงรูปแบบหนึ่งเรามองว่าถ้าเรามีความสุขอยู่กับการอ่านเราก็อยากให้คนเขียนมีความสุขกับการเขียนเหมือนกัน ไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืนเนาะยังไงก็รักกกกก //กอดๆนะ



ทำไมคนเขียนตัดฉับฉากนั้นในความหมอกมัวของไอน้ำ เราเคืองกล้องเราไม่กันน้ำถ่ายอะไรไม่ได้เลย5555555 แต่อีกนัยนึงแบบนี้ก็ดีนะดูเป็นศิลปะดี



เพราะโคลด์นี่เองที่ทำให้เจ้าชายขึ้นเป็นราชา เพราะเจ้าชายคงคิดไปแล้วว่าโคลด์นั้นมองว่าเขาอ่อนหัดและไม่แข็งแกร่่งพอที่จะปกป้อง เจ้าชายจึงต้องขึ้นไปอยู่ในจุดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่พอได้สิ่งหนึ่งมาสิ่งที่ต้องการที่สุดกลับหลุดมือไป อาเลธน่าสงสารมาก ทำไมถึงได้น่าสงสารขนาดนี้นะ



ปล.น้องโคลด์ชอบเข้าครัวหรอที่บ้านพี่มีครัวนะ มาอยู่กับพี่มางานก็ไม่ต้องทำแค่มานั่งเฉยให้พี่ฟัดเล่นก็พอ
อยากจะขยำเป็ยนก้อนแล้วกลืนลงท้องไปจริงๆ


คนเขียนสู้ๆ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (5-6) [10/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 10-02-2017 02:56:21
ไม่สบายขอให้หายไวๆนะคะ
จะรอค่ะ ~~ <3
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (5-6) [10/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-02-2017 08:51:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (5-6) [10/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 10-02-2017 11:50:47
จะคอยติดตามค่ะไม่สะดวก ไม่ว่างมาลงไม่เป็นไรรอได้ค่ะ  แค่ชัวร์ว่ายังไงก็ลงจนจบก็พอ  เคยรอนิยายนานกว่านี้ด้วยซ้ำบางเรื่องอ่านกัน 3-4 ปี แค่มั่นใจว่าจะลงจนจบ ยังไงก็ติดตามค่ะ  สู้ๆนะคะทั้งสุขภาพแล้วก็เรื่องงาน  ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (5-6) [10/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 10-02-2017 12:01:08
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (5-6) [10/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 10-02-2017 12:10:52
มึนๆ อึนๆ กันไปหมดเนาะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (5-6) [10/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-02-2017 15:54:45
แล้วซิก ก็ออกอาการหึงหวงและ
ก็เจ้าเอลฟ์ตะวันออกจีบควาร์ไปครึ่งสำนักละ
ซิก ก็ต้องรู้สิ เลยมาตามโคลด์ถึงห้องมาลแกธ
แล้วอาหารที่เป็นประเด็น ก็ไม่ได้กินอยู่ดี
กินโคลด์ อร่อยกว่า เอิ๊กกกกก ฟินนนนนน
 。••★•◕✿◕‿◕✿◕••★••。
สู้ๆ.....ไรท์ สู้ๆ
กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อน ออกกำลังกาย
แอ่ะ....ไรท์ น่ะออกกำลังกายเฉพาะส่วนม้าง
ออกแต่ที่นิ้วมือ หรือเปล่า ก็พิมพ์นิยายไง
คนอ่านก็พยายามออกกำลังเหมือนกัน
ไม่งั้นเส้นยึด อ้าว....บอกอายุตัวเองซะและ
อย่างน้อยแกว่งแขน แกว่งขา บิดตัวไปมา
วันละ15-30นาที ก็ยังดี
ไรท์ เล่นโยคะ กับซิตอัพ ก็ดีนะ
ไม่ต้องไปเล่นที่ไหน เล่นบ้านเราเอง ได้เหงื่อด้วย
มีคนว่า ผู้หญิงเล่นโยคะ น่ะถูกแล้ว
ผู้ชายต้องเล่นโยครับ เอ่อ....มุขแป้กเน้าะ
มุขของคนนั้นน่ะ   :katai1: :katai1: :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 12 : (5-6) [10/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 12-02-2017 12:02:31
รอต่อไปค่ะ เมื่อสะดวกแล้วก็มาลงต่อนะคะ :hao5: พลีสสสสส มันสนุกและดีต่อใจจริงๆ//เว้าวอนมาก

...อีกอย่างโคลด์ยังไม่ได้เป็นราชินีเลย แค่ก!ๆ ไม่ๆหมายถึงยังไม่เจอกับพี่สาวเลยน้า~
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตอนพิเศษวาเลนไทน์ ♥ [14/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 14-02-2017 22:26:42
ตอนพิเศษวาเลนไทน์ : Valentine’s Ice Cream ♥

ซิกฟรีด x โคลด์ / AU / ใสๆ ไร้ดราม่า ;)

---------------------------------------------------------------

โคลด์ออกมาเที่ยวกับซิกฟรีด

อีกฝ่ายชวนเดตวันวาเลนไทน์หรืออะไรนี่แหละ โคลด์ไม่ได้สนใจนัก สนใจแค่ประโยคที่ว่า 'จะพาไปกินไอศกรีมร้านที่พี่ชอบในเมือง'

ถามว่าโคลด์มีเงินซื้อไอคกรีมกินเองไหม ก็มี...แต่ไอคกรีมลูกเดียวของร้านนั้นเขากินข้าวได้สามมื้อ จึงทำได้แค่มอง เวลาไปยืนเกาะกระจกร้านไอศกรีมทีไรก็ได้แต่มโนว่าได้กินแล้วตลอด

"กินได้ทุกรสจริงนะ" โคลด์ถาม

"จริงสิ" เด็กหนุ่มอายุสิบห้าที่ริจีบนักศึกษามหาลัยตอบ

"งั้นเอาช็อกโกแลตมินต์ นมสด คุกกี้แอนด์ครีม..." ใส่โคนวาฟเฟิลและเพิ่มทอปปิ้งอีกหลายอย่าง

แผนจีบผู้ใหญ่ด้วยไอศกรีมในวันวาเลนไทน์สำเร็จรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ตอนที่โคลด์เลียไอศกรีมโคนสามชั้น ทำตาหยีๆ หูลู่ๆ เพราะความเย็น มันช่าง

น่ารัก...น่ารักมาก ซิกฟรีดจ๋องเป๋ง

"คบกับผมเหอะ"

โคลด์ช่างน่ารักและน่ามองไม่แพ้ครั้งแรกที่เขาขับรถผ่านร้านไอศกรีม แล้วเห็นอีกฝ่ายยืนเกาะกระจกหน้าร้านมองไอศกรีมหลากสีในตู้แช่ตาละห้อย

"อืม" โคลด์ก็ยังหลับตาเลียไอศกรีมต่อไป ไม่ได้สนใจสายตาร้อนแรง

"อืมแปลว่าตกลงใช่ปะ" ซิกฟรีดเหวี่ยงแขนกอดคอคนโตกว่า ทว่าหน้าตาน่ารักแถมยังหน้าอ่อนเหมือนอายุเท่ากัน

โคลด์มองไอศกรีมแล้วมองเด็กแก่แดด ชั่งใจว่าถ้าเป็นแฟนกันคงได้กินไอศกรีมบ่อยๆ "ได้" เขายิ้มกว้าง

"งั้นจูบนะ" ซิกฟรีดยิ้มแฉ่ง ไม่ยิ้มเปล่า ยังเขยิบเข้ามาใกล้ โคลด์ได้กลิ่นหมากฝรั่งรสมินต์จากลมหายใจของซิกฟรีดทีเดียว

"ไม่เอายังกินไม่เสร็จเลย" โคลด์เลือกไอศกรีมก่อน

"จูบก่อนแล้วจะให้กินต่อ" ซิกฟรีดจูบแก้มโคลด์ ไม่รุกหนักเดี๋ยวอีกฝ่ายตกใจ เขาค่อยๆ เคลื่อนมาที่มุมปาก กดย้ำคล้ายกับขออนุญาต

จากนั้น...ก็จูบ

"อืม" เจ้าเด็กแก่แดดปล้นจูบเด็กมหาลัยกลางร้านไอศกรีม ในปากของโคลด์มีรสช็อกโกแลตมินต์ด้วย

จูบมึนๆ วันวาเลนไทน์ ♥ ♥ ♥

ซิกฟรีดรู้ว่าตัวเองดัง เขาดังเพราะพี่ชายทั้งสองคน คนหนึ่งเป็นนักธุรกิจ อีกคนเป็นดาราโคตรฮ็อต ถ้าปาปารัสซีอยู่แถวนี้ พรุ่งนี้ซิกฟรีดก็จะเป็นข่าวในนิตยสารแท็บลอยด์

"ละลายแล้ว" โคลด์บอก แก้มแดง หูเรียวสองข้างกางลู่ลง

"หมายถึงพี่หรือไอศกรีม" ซิกฟรีดยิ้มเจ้าชู้ เขาเลียปาก อยากได้อีก

"ไอศกรีม" โคลด์ทำหน้าประท้วงว่า ‘ไอศกรีมละลายแล้ว (;w;)’

"ผมชอบพี่นะ ชอบมานานแล้ว ผมจะดูแลพี่ให้ดีและซื้อไอศกรีมโคนใหม่ให้ด้วย"

โคลด์หน้าแดงถึงหูเพราะคำพูดนั้น ไม่รู้สิ เขินแฮะ บอกไม่ถูก

เด็กหนุ่มล้วงกระเป๋าตังค์ "เอารสอะไร"

"ไม่เป็นไร เสียดาย" เขากินไอศกรีมละลายของตัวเองต่อ

ซิกฟรีดมองคนตรงหน้าแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

---------------------------------------------------------------

Extra

เมื่อโคลด์กินอิ่มแล้วทั้งสองก็ไปขึ้นรถ "ผมทำงานพิเศษแล้วนะ" ซิกฟรีดบอก "ไม่เป็นเด็กสปอยล์แล้ว" แม้จะใช้รถแพงระยับอยู่ เด็กหนุ่มจับใบหูของอีกฝ่ายคลึงเล่นแล้วจัดการจูบอีกรอบ คราวนี้ดูดดื่มลึกซึ้ง เชี่ยวชาญเกินเด็ก

"อืม อย่าคลึงหู" โคลด์พูดแบบเสียงสั่น

ซิกฟรีดเลยใช้ปากคลึงแทน

---------------------------------------------------------------

A/N สวัสดีค่ะ ลงสั้นๆ เพราะคิดถึงคู่นี้และคิดถึงนักอ่าน เคยมีคนถามว่า ถ้าซิกฟรีดกับโคลด์อยู่ในโลกปัจจุบันของเราจะเป็นยังไง ซิกฟรีดก็คงเป็นเด็กรวยแก่แดด จีบนักศึกษา ส่วนโคลด์ก็เป็นนักศึกษาจนๆ มึนๆ (;w;) นิสัยเออเร่อหน่อยๆ ไร้ดราม่าทั้งปวงค่ะ

ขอให้มีความสุขวันวาเลนไทน์นะคะ ♥

ILLREI & FOULSOUL

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

ป.ล. ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์ อ่านทุกเมนต์ค่ะ เมื่อเรากลับมาลงนิยายตามปกติจะค่อยๆ ไล่ตอบนะคะ /โค้งๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตอนพิเศษวาเลนไทน์ ♥ [14/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 14-02-2017 22:48:01
โคลด์น่ารักทะลุพิกัด

มากินไอติมบ้านพี่ไหม มีทุกรสนะ รวมมิตร ชาเย็น ถั่วดำ เผือก (รสโปรดของพี่เลย!) ทุเรียนด้วยเอ้า!

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตอนพิเศษวาเลนไทน์ ♥ [14/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 14-02-2017 23:16:41
น้องโคลด์จ๋าาาาพี่ทำไอศกรีมโอมเมดเป็นนะคะ  มามะ เอารสไหนดี ชาเขียวไหม โอริโอ้ คิทแคทคาราเมล ช็อกมินต์ก็ได้นะ ทำไมน่านักตะมุตะมิแบบนี้ล่ะลูกเอ้ยยยย


ปล.พรุ่งนี้คงต้องทำไอศกรีมทานเองซะหน่อยแล้ววว...ทั้งๆที่ที่บ้านอุณหภูมิ 15°

ปล2.คนเขียนสู้ๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตอนพิเศษวาเลนไทน์ ♥ [14/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 15-02-2017 00:06:54
จ้าาา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตอนพิเศษวาเลนไทน์ ♥ [14/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-02-2017 00:29:54
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตอนพิเศษวาเลนไทน์ ♥ [14/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 15-02-2017 13:34:49
 :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตอนพิเศษวาเลนไทน์ ♥ [14/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 15-02-2017 17:23:12
  :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตอนพิเศษวาเลนไทน์ ♥ [14/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-02-2017 20:20:03
ชอบบบบ
ซิกฟรีด จีบโคลด์
พามากินไอศกรีมด้วย
น่ารักทั้งสองคนเลย
ชอบตอนที่ซิก คลึงหูโคลด์
โคลด์บอกอย่าคลึงหู
ซิก เลยไม่ใช้มือคลึง
แต่ใช้ปากคลึงแทน เอ๊ะ.....ยังไง  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตอนพิเศษวาเลนไทน์ ♥ [14/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 15-02-2017 20:35:45
เจ้าเด็กซิกริจีบหนุ่มมหาลัยนะ แล้วทำไมโคลด์ถึงได้น่าขยำขยี้ขนาดนี้ ~~~
แกเป็นพี่เค้านะโคลด? น่ารักเกิ๊นนนน ชอบซิกกะโคล์ดเวอร์ชั่นนี้เหมือนกันค่ะ 5555

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษน่ารักๆนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตอนพิเศษวาเลนไทน์ ♥ [14/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 16-02-2017 00:20:10
ตัวละครเยอะมากค่ะ ต้องย้อนกลับมาอ่านอีกรอบถึงจะรู้เรื่อง พระเอกราชาซิกฟรีดเหมือนตัวประกอบ กว่าจะออกแต่ละฉาก ค่าตัวแพงจริงๆ  ค่ะ   ช่วยเพิ่มบทให้ด้วยนะคะ อ่านแล้วเหมือนเรื่องนี้ใครเป็นพระเอกน้า ถ้าไม่มีชื่อเรื่องบอกคงคิดว่า มาแกธเป็นพระเอกไปแล้ว เดินเรื่องได้สนุกดีนะคะ  แต่ขอร้องขอฉากคู่ราชาโคลด์บ้างค่ะ ดูแล้วทั้งคู่รักกัน แต่มีเรื่องให้ไม่เข้าใจกัน  อยากให้ปรับความเข้าใจกันเร็วๆ  ก่อนจะต้องมาวุ่นวายกับสงคราม
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตอนพิเศษวาเลนไทน์ ♥ [14/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: กณกกรณ์ ที่ 20-02-2017 20:28:01
 :hao3:
รอค่ะรอ สนุกมักๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (1-2) [25/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-02-2017 00:32:29
บทที่ 13 : ราชามงกุฎดำ (1)

หนึ่งเดือนหลังจากวันที่โคลด์ทำท่าอยากบอกอะไรกับมาลแกธ ดาร์กเอลฟ์ผ่อนคลายลงมาก และลืมเรื่องที่เคยอยากบอกไปเสียสนิท

ยกเว้นเรื่องบ่นว่าซิกฟรีด

“นี่ ข้าเพิ่งสังเกต เขาสร้างโต๊ะเล็กๆ เก้าอี้เล็กๆ น้ำตกเล็กๆ สวนหย่อมเล็กๆ ให้ข้า มันเล็กเกินไปไหม ข้าคิดมาทั้งเดือนแล้ว ต้องคิดไม่ผิดแน่ เขาสร้างบ้านสัตว์เลี้ยงให้ข้า!”

โคลด์เอ่ยขณะนั่งคุยกันที่โต๊ะข้างที่พักของมาลแกธ

“อืม นั่นสิ ว่าแต่ เจ้ามีเสื้อผ้าดีๆ บ้างไหม” มาลแกธมองๆ เสื้อผ้าปุปะที่โคลด์สวมอยู่

“ถ้าเขาตัดเสื้อให้สัตว์เลี้ยงใส่นะ” โคลด์ชมต่อว่าขนมวันนี้อร่อยดีมาก “คำตอบคือไม่ ข้าทำงานแลกเสื้อผ้าเก่ามาจากคนในโรงซักรีด แล้วแก้ขนาดเสื้อให้ตัวเอง”

“แล้วอย่างนี้เจ้าจะใส่อะไรเข้าวังเล่า”

โคลด์กัดขนมปังฟักทองค้างไว้ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เขาใช้สีหน้างงงวยถามมาลแกธว่า

เข้าวังอะไร!?

“คิงริวอร์นอร์มีรับสั่งให้พระอนุชาเข้าเฝ้า เจ้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรือ” สีหน้าของมาลแกธดูสนุกสนาน “ซิกฟรีดไม่ได้พูดอะไรกับเจ้าเลยหรืออย่างไร”

โคลด์หัวเราะแบบไร้ความหมาย

“ไม่ละ เขาไม่ได้บอกอะไร สงสัยไม่เอาข้าไปด้วย ดีจัง ข้าจะได้มีเวลาฝึกซ้อมวิชาอาวุธกับเขาบ้าง”

คิงริวอร์นอร์เรียกหาน้องชาย คงไม่สนใจทาสดาร์กเอลฟ์ เขาคงถูกทิ้งไว้ที่อาศรมจนกว่าเจ้าชายเอลฟ์จะกลับมา

“ข้าใช้มีดมือซ้ายดีขึ้นแล้ว เจ้าอยากลองชมไหม”

“ไหน จะลองสู้กับข้าหรือ” มาลแกธตบมีดเล่มเล็กที่คาดบนอก “เอ หรือเล่มนี้ดี” เขาประเมินมีดของโคลด์แล้วเลื่อนมือไปที่สะโพกขวา มีดเล่มใหญ่กว่าอยู่ในปลอกหนังคาดสะโพก

“ได้หมด!” โคลด์ลุกขึ้นอย่างกระปรี้กระเปร่า แววตามีไฟ

ดาร์กเอลฟ์ไม่ได้รับสิทธิให้ใช้ลานประลองเพราะไม่ใช่ควาร์ มาลแกธจึงใช้ลานโล่งในป่าด้านหลังห้องพักของตนเป็นสถานที่ฝึกซ้อมให้โคลด์

บริเวณนี้สงบ เพราะเขาพักแยกจากควาร์คนอื่นๆ เดินเข้าป่าไปไม่กี่สิบก้าวก็เจอลานกว้างล้อมรอบด้วยต้นไม้น้อยใหญ่

ที่โล่งว่างและป่า เหมาะสำหรับการฝึกเป็นแอสซาสซิน ทั้งการหลบซ่อนตัว ลอบเข้าจู่โจม และการปะทะ

มาลแกธยืนนิ่งๆ ให้โคลด์บุกก่อน ฝ่ายบุกต้องใจกล้า ขณะเดียวกันก็ต้องรอบคอบ อ่านทางคู่ต่อสู้ให้ดี ครั้งหนึ่งในช่วงเริ่มฝึกมีดสั้น เอลฟ์ตะวันออกเคยบอกโคลด์ สตาร์ว่า “หากประจันหน้ากัน ช่วงแรกให้เป็นฝ่ายตั้งรับจะดีที่สุด”

โคลด์หยอกด้วยการเคลื่อนกายไปมา หลบเร้นหลังต้นไม้ให้อีกฝ่ายเดาทางไม่ถูก เหมือนนักล่าเล่นกับเหยื่อ

หัวใจของดาร์กเอลฟ์เต้นแรงทุกครั้งที่ได้ออกล่า

ช่วยไม่ได้จริงๆ ก็มันสนุกขนาดนี้

มาลแกธยิ้ม ค่อยๆ ถอยหลังไปทางป่า เขากำลังแสดงตนว่าเป็นเหยื่อ มาลแกธคิดว่าโคลด์เหมาะกับวิธีฝึกแบบซุ่มโจมตีมากกว่า เป็นนักล่าไม่ใช่นักรบ

อีกอย่าง มันสนุกกว่าเห็นๆ

ทั้งสองคิดตรงกัน

ร่างในชุดสีเข้มโผล่ออกมาจากทิศที่คาดไม่ถึง ไม่สมบูรณ์แบบนัก แต่ถือว่าเรียนรู้ได้ไว แค่สามปีฝึกได้ขนาดนี้ถือว่าไวแล้ว

โคลด์ยิ้ม หัวเราะ ขณะแทงมีดใส่จุดตายด้านหลังมาลแกธ

เขารู้ว่ามาลแกธจะกันได้ มาลแกธกันได้ทุกที เขาจึงไม่เคยต้องออมมือ มีแต่ต้องสู้ให้สุดแรง

มาลแกธโยนมีดสลับจากมือขวาไปซ้ายแล้วปาดใส่โคลด์ วิธีการสอนของเอลฟ์ตะวันออกคือทำให้ดู รวมไปถึงทำให้เจ็บแล้วจำ

มีดอีกมือของโคลด์รับการโต้กลับไว้ทัน คล่องขึ้นกว่าเมื่อครั้งก่อน แสดงว่าไปแอบฝึกซ้อมมา

“ฮะๆ” โคลด์บุกต่อ มีดสั้นปะทะกัน เสียงโลหะกระทบกันอย่างเฉียบคม ดาร์กเอลฟ์รักเวลาได้ต่อสู้เช่นนี้ เขาเหมือนเป็นอิสระ โบยบินอย่างเสรี

มาลแกธยิ้มกว้างขึ้น วิธีเคลื่อนไหวเหมือนคลื่นทะเล มันต่อเนื่อง ลื่นไหล คล้ายจะมีแบบแผนคาดเดาได้ แต่กลับปรับไปตามสถานการณ์

“นี่ๆ เอาจริงกับข้าบ้างสิ แบบที่เอาจริงกับซิกฟรีด” ลูกศิษย์เรียกร้อง

“ถ้าข้าเอาจริง เจ้าชายของเจ้าคงเป็นศพไปแล้ว” คำพูดยโส แต่โคลด์ทราบว่ามาลแกธไม่ได้อวดตน

เขาพูดจริง

ทว่ามาลแกธก็วาดมีดสั้นเร็วขึ้น หมัดและเท้าหนักขึ้น เขาใช้มีดมือเดียว แต่สลับเปลี่ยนมือไปมาเหมือนใช้ทั้งสองข้าง

“ระวังคอ” มาลแกธเตือนก่อนเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่ใบมีดจะเฉี่ยวผิวเนื้อของโคลด์

โคลด์ยกมีดสองมือมาไขว้กันช่วงคอทันเพราะคำเตือนล่วงหน้า หากพลาดเพียงนิดเดียว ดาร์กเอลฟ์อาจต้องไปพบบิดาแห่งความตาย

“ระวังแขน” มาลแกธเตือนอีก

แต่คราวนี้มีดกลับหวังผลที่ลำตัว

“อย่าเชื่อข้าสิ”

โคลด์ที่โดนปาดเสื้อ (เก่าปุปะ) ขาดหน้าบึ้ง “ข้าทำงานแลกเสื้อตัวนี้มานะ”

“ข้าขายวิญญาณแลกฝีมือมาเชียวนะ” มาลแกธทำเสียง ‘งอนๆ’ แบบโคลด์

“มาลแกธ” โคลด์ถอยไปสามก้าวเพื่อรักษาระยะห่าง นัยน์ตาสีม่วงพราวระยับ ดูลึกลับน่าหลงใหล “ข้าจะเอาจริงบ้างละ”

แล้วดาร์กเอลฟ์ก็หายตัวไปด้านหลังต้นไม้ใหญ่ เพียงพริบตาเดียว ไร้เสียงฝีเท้า ไร้จิตสังหาร ไร้ร่องรอยลมหายใจ

ราวกับมาลแกธยืนอยู่เพียงลำพังในลานฝึกซ้อมแห่งนี้

เอลฟ์ตะวันออกเอียงใบหน้าเล็กน้อย คล้ายเงี่ยหูฟัง ประสาทรับเสียงของควาร์ดีอยู่แล้วโดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ ถึงอย่างนั้น มาลแกธตั้งใจว่าจะ ‘ไม่ตั้งใจฟัง’ จนได้ยินเสียงกระซิบเหนือธรรมชาติ

ทว่าเขาไม่ได้ยินเสียงของโคลด์

เทคนิคมีดสั้นของโคลด์ยังต้องขัดเกลา แต่เรื่องการหลบซ่อนตัว...ถ้าไม่เพราะมีพรสวรรค์แต่กำเนิด ก็ต้องฝึกมาอย่างหนักหน่วง

เอลฟ์ตะวันออกยังไม่ทราบว่าเป็นข้อไหน

หรืออาจทั้งสองข้อรวมกัน

เท้าของมาลแกธอยู่ในท่าตั้งรับ มีดในมือกระชับแน่นขึ้น เขาอยู่ในที่แจ้ง อีกฝ่ายซ่อน การถูกจับตามองเช่นนี้กดดัน ต้องประสาทแข็ง ไม่อย่างนั้นก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม

ความเงียบดำเนินไปนานเท่านาน ราวกับพวกเขาใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน มีเพียงกันและกัน--คู่ต่อสู้ตรงหน้า

นักล่าที่อดทนรอ…

ไม่น่าเชื่อว่านี่คือโคลด์ สตาร์

และเมื่อถึงจังหวะอันเหมาะสมที่สุด การโจมตีพุ่งเข้ามาตรงๆ จากด้านหน้า มีดสองมือหวังผลโจ่งแจ้ง ลำคอและหัวใจ ทว่าโคลด์เคลื่อนไหวลื่นไหลดุจอาจารย์ผู้สอน จึงคาดเดาลำดับการโจมตีไม่ได้ แต่จากสายตาหมายมาดของดาร์กเอลฟ์ มันต้องเป็นสองตำแหน่งนี้แน่ๆ

มาลแกธยิ้มด้วยตา เขาเตะใบไม้ที่หล่นเกลื่อนพื้นขึ้นเพื่อชะลอจังหวะของโคลด์ จากนั้นมีดสั้นในมือก็ถูกซัดออกไป ไม่กลัวเลยว่าจะถูกจุดสำคัญ

โคลด์หายไป ไม่ใช่เพราะปฏิกิริยาโต้ตอบว่องไวเพียงอย่างเดียว แต่เพราะจุดที่เขาเล็งจริงๆ ไม่ใช่ลำคอหรือหัวใจ โคลด์ตั้งใจย่อตัวแต่แรก เขาถีบเข้าที่ข้อพับขาของมาลแกธ

ได้หนึ่งคะแนน!

“ถ้าปลายรองเท้าข้าติดใบมีด เอ็นขาเจ้าขาดแล้ว” โคลด์ลุกยืน เขากลับมายิ้มเหมือนเดิม บรรยากาศกดดันหายไป

มาลแกธหัวเราะ

“เจ้าก็ยังไม่เอาจริงอยู่ดี” โคลด์เช็ดเหงื่อ เขารู้ว่าการคลุกวงในเมื่อครู่มาลแกธสามารถโจมตีแผ่นหลังของเขาได้ ถ้าแลกกันจริงๆ ระหว่างขากับกระดูกสันหลัง ส่วนไหนไม่คุ้มค่ากว่า...ไม่ต้องเสียเวลาคิด

“ข้าเชื่อมาโดยตลอดว่าถ้าจะเอาจริงควรทำในสนามรบ การฝึกมีดสั้นหรืออาวุธซ้ำๆ น่าเบื่อก็จริง แต่มันเพิ่มความชำนาญให้เจ้ามั่นใจ พอจะปลอบตัวเองได้ว่าจะไม่ตายเป็นคนแรกๆ ในสนามรบ” มาลแกธลุกขึ้น ปัดใบไม้ออกจากขากางเกง “ที่นั่นเจ้าต้องเอาชีวิตรอด ฟัน ศอก น้ำลาย ลูกเล่นสกปรกทั้งหมดใช้ได้ เจ้าคงไม่อยากให้ข้าถ่มน้ำลายใส่ตาเจ้าใช่ไหม”

“ถ้าเจ้าทำ ข้าจะแก้เผ็ดแน่ๆ” โคลด์ยิ้มให้

มาลแกธขยิบตาตอบขณะเดินไปเก็บมีด บนใบมีดสลักชื่อไว้สองสามชื่อ เป็นชื่อของผู้ที่สังเวยชีวิตให้แก่มัน

“อ้อ แต่ที่บ้านเกิดข้า สนามประลองเหมือนสนามรบดีๆ นี่เอง ข้าอยากฆ่าทุกคนที่ลงสนาม แต่ไม่ใช่เจ้า โคลด์ สตาร์”

“ข้าก็ไม่อยากโดนเจ้าฆ่า แต่ถ้าเจ้าพาข้าไปรบจริงๆ ได้คงดี” โคลด์เก็บมีดสั้นคู่เข้าซองมีดข้างเอว เขาสะบัดเสื้อที่ถูกปาดแหว่งของตัวเอง “แต่ก่อนอื่น เจ้าต้องให้เสื้อใหม่แก่ข้าหนึ่งตัว”

“ได้สิ ถือว่าเป็นหนึ่งในรางวัลที่ใช้มีดมือซ้ายได้คล่อง และเข้าถึงตัวข้าได้” เอลฟ์ตะวันออกขยี้ผมโคลด์ “ส่วนรางวัลอีกชิ้นคือช็อกโกแลต ข้าได้มาอีกแล้วละ”

“จริงเหรอ!” ดวงตาสีม่วงของดาร์กเอลฟ์เป็นประกาย

ที่บ้านเกิดของเขาไม่มีของกินชนิดนี้ และโคลด์กินมันได้ไม่เคยเบื่อ

“ข้าควรเอาห่ออาหารกลางวันมาให้เจ้าบ้างดีไหมนะ”

โคลด์พูดลอยๆ ขณะเดินออกจากลานฝึกพร้อมมาลแกธ


---------------------------------------------------------------

A/N คิดถึงนักอ่านจังเลยค่ะ /อ้อนๆๆ /ถูๆๆ เราพอมีเวลาว่างแล้ว จึงมาลงนิยายต่อค่ะ และก็จะลงต่อเนื่องทุกวันเหมือนเดิมนะคะ ;) กลับมาก็ฉลองด้วยป๋ามาลแกธเลย อิอิ \(*0*)/


ป.ล. วันนี้ลง 2 ตอนนะงิ อย่าลืมอ่านตอนต่อไปนะคะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (1-2) [25/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-02-2017 00:39:31
บทที่ 13 : ราชามงกุฎดำ (2)

อีกชั่วโมงต่อมา เมื่อโคลด์กลับถึงห้องพัก (ครึ่งเดียว) ของตนที่ใช้ร่วมกับซิกฟรีด เขาตัดสินใจอาบน้ำเย็นที่หาบใส่ถังไม้ทิ้งไว้เพื่อชะล้างเนื้อตัว เมื่อร่างกายสะอาดดีแล้วก็มานั่งแก้ขนาดของเสื้อตัวใหม่ที่เพิ่งได้มา

“เตรียมตัวไปเอวา เธมาร์”

โคลด์เงยหน้ามองคนที่เพิ่งเข้ามา มือถือเข็มเย็บผ้าค้างไว้ “ไปทำไม?” ดาร์กเอลฟ์แปลกใจ “พี่ชายเจ้าเรียกแต่เจ้านี่” เขาตอบกลายๆ ว่าทราบเรื่องนี้แล้ว

“ข้าต้องการให้เจ้าไปด้วย” น้ำเสียงของซิกฟรีดเฉียบขาด เจ้าชายเอลฟ์กำลังมองเครื่องประดับ ซึ่งเป็นตุ้มหูทำจากอัญมณีสีแดงสดในกล่องบุผ้าไหม คิงริวอร์นอร์ส่งมาให้น้องชายคนเล็ก โดยกำชับผ่านจดหมายว่าให้ใส่มาร่วมงาน

เอริแอดเน่เลือกให้เจ้ากับมือ...ซิกฟรีดอ่านทวนข้อความของพี่ชายคนรองในจดหมาย หากพี่หญิงเลือกให้จริงเขาก็จะใส่

“ข้าไม่อยากไป ข้าอยากอยู่ฝึกวิชา นานๆ ข้าจะได้มีเวลาห่างจากเจ้าสักที” โคลด์เย็บเสื้อต่อ รอยตะเข็บเรียบร้อยสวยงามดุจงานของช่างตัดเสื้อมืออาชีพ ผมสีเงินที่ยังเปียกอยู่แนบลู่กับแก้มและต้นคอ

“ชุดของเจ้าอยู่ในตู้”

“ข้าทำงานหนัก ขอลาพักร้อน” โคลด์ก้มหน้าก้มตาเย็บเสื้อตัวใหม่

“ข้านอนกับเจ้าเพราะรัก” ซิกฟรีดเอ่ยเรียบๆ “ข้าอาจหลุดปากระหว่างมื้ออาหาร เจ้าควรตามมาดูแลข้า”

“เจ้าขู่ข้าเหรอ” ดาร์กเอลฟ์เงยหน้าขวับ!

ซิกฟรีดปรายตามองอีกฝ่าย เขาไม่ยิ้ม ไม่พูดกวนอารมณ์โคลด์เล่นๆ เหมือนเคย (ซึ่งเป็นการหยอกแบบหน้าตาย) ตั้งแต่วันที่ทำข้อตกลง ‘เรื่องนั้น’ กัน ซิกฟรีดก็ปิดใจกับโคลด์

“เจ้าให้ข้าไปเป็นตัวตลกในวัง พอใจแล้วใช่ไหม ดี!” โคลด์หมดอารมณ์จะแก้ขนาดเสื้อ เขาพับมันไว้บนหีบใส่เสื้อผ้า

จนถึงวันเดินทาง โคลด์ไม่เปิดตู้มาดูชุดด้วยซ้ำ

 

ชุดของโคลด์เป็นชุดเรียบๆ สำหรับข้ารับใช้ใส่ในวังหลวง ไม่เลวร้ายแต่ก็ไม่ดีเด่น เป็นของที่ทางราชวังส่งมาตามคำบัญชาของเจ้าชาย

อย่างไรก็แค่ชุดของทาสปลายแถว ที่ยังพอมีราศีอยู่บ้างก็เพราะต้องสมฐานะคนรับใช้ของเจ้าชาย หาใช่ผู้จัดหามีเมตตา

โคลด์ได้ขี่ม้า ส่วนซิกฟรีดนั่งรถม้า ระหว่างทางไม่มีการพูดคุย เมื่อไปถึงเอวา เธมาร์ก็แยกกันตั้งแต่ประตูทางเข้าพระราชวัง

เจ้าชายเข้าทางประตูหน้าอันวิจิตรโอ่อ่าพร้อมกับราชองครักษ์ประจำรถม้าจากพระราชา ส่วนทาสดาร์กเอลฟ์เข้าทางประตูสำหรับข้ารับใช้

ยังไงก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แล้วจะเอาข้ามาทำไม

โคลด์หน้านิ่ง แต่ในใจกำลังโกรธ

ก่อนแยกกัน ซิกฟรีดเหลือบมองโคลด์แวบหนึ่ง ก่อนหน้าเขาอยากกลับมาเอวา เธมาร์ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด แต่พอได้เหยียบพื้นดินหน้าราชวังเข้าจริงๆ เขานึกอยากหันหลังกลับ

เขากลัว...กลัวว่าสิ่งที่มารดานทีเมตตาเล่าจะเป็นเรื่องจริง

เจ้าชายเอลฟ์เห็นโคลด์หงุดหงิดตน ถึงจะไม่แสดงอาการแต่เขารู้ว่าดาร์กเอลฟ์ไม่พอใจ ทว่าช่วงเวลานี้เขาต้องการใครสักคนเป็นที่ยึดทางใจ ถึงโคลด์จะใจดำมากแต่ดีกว่าไม่มีใครเลย

ผู้ที่มารับซิกฟรีดตั้งแต่ลงจากรถม้าเป็นเอลฟ์สตรีสูงศักดิ์โฉมงามนางหนึ่ง แค่เพียงด้านหลังของนางก็งามจนทำให้คนหยุดหายใจได้

โคลด์เห็นเพียงเสี้ยวหน้าของนางเพราะเขามองจากที่ไกลๆ และนางมีองครักษ์หญิงล้อมรอบอยู่

ท่านหญิงโผกอดเจ้าชายเอลฟ์เต็มรัก กอดแน่นอยู่นาน จากนั้นก็ถอยออกมา ลูบหน้าลูบตา

“พี่หญิง” ซิกฟรีดยิ้มบางๆ “ข้าไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้วขอรับ”

“ซิกฟรีด” เอริแอดเน่ยังลูบใบหน้าของเด็กหนุ่มที่บัดนี้สูงกว่านางมากแล้ว “เจ้าคล้ายท่านพี่เฟรธูรินเหลือเกิน ข้ารู้ตั้งแต่เจ้าลงจากรถม้า...ว่าเป็นเจ้าแน่ๆ” นางน้ำตาคลอ

ซิกฟรีดหลุบตาลง “ข้าอยากไปเยี่ยม...พี่เฟรธูรินขอรับ” เขาลูบตุ้มหูอัญมณีที่ตนใส่อยู่ก่อนเลื่อนสายตามาสบกับเอริแอดเน่ “สำหรับเครื่องประดับจากพี่หญิง…มันช่วยกั้นเสียงให้เบาลง ข้าสงบขึ้นมาก ขอบคุณขอรับ”

เครื่องประดับจากคิงริวอร์นอร์ชิ้นนี้ร่ายเวทชั้นสูงกำกับไว้ ถึงขั้นกั้นเสียงได้ ผู้ร่ายต้องเป็นนักเวทที่เก่งกาจแน่

ทั้งยังมีความเป็นไปได้ว่าผู้ร่ายเป็นควาร์ จึงเข้าใจลึกซึ้งถึงความอ่อนไหวซับซ้อนในการได้ยิน

เอริแอดเน่เงียบไป นางดูเปลี่ยนไปมากจากครั้งสุดท้ายที่ซิกฟรีดเห็น ในภาพจำของซิกฟรีด เอริแอดเน่ยามอยู่ข้างเฟรธูรินมักแต่งกายเปิดเผยมั่นใจอย่างสตรีอิซิลดาร์ ทำให้สตรีรูเมเรียร์หันมาเอาอย่างนาง ราชวังในยามนั้นราวกับมีนกน้อยหลากสีเดินโฉบไปมา เพิ่มความสดใสไปทั่ววัง

ทว่าตอนนี้ท่านหญิงแต่งกายเรียบร้อยรัดกุมตามชุดพิธีการอย่างรูเมเรียร์ ชุดและเครื่องประดับของนางเป็นสีขาว ผ้าคลุมไหล่สีงาช้าง คอเสื้อปิดถึงใต้คาง แขนเสื้อยาวถึงข้อมือ กระโปรงยาวกรอมเท้า ชายกระโปรงปักดิ้นทองประณีตวิจิตร

ทว่าเหมือนนางสวมตรวนอยู่

“สถานที่ฝังศพของท่านเฟรธูริน...เป็นเกาะห่างไกล ถ้ามีเวลา ข้าก็อยากพาเจ้าไป...” แต่คำพูดนั้นเหมือนทราบว่าซิกฟรีดจะไม่มีโอกาสได้ไป

ซิกฟรีดสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนั้น ทั้งการแต่งกาย คำพูด และสีหน้าท่าทาง เขาครุ่นคิด เมื่อตัดสินใจว่าจะ ‘เล่นตามเกม’ ซิกฟรีดก็เผยยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ แววตามีประกายของเด็กหนุ่ม

“ข้ามีเรื่องจะเล่าให้ท่านฟังมากมาย พี่หญิง” ซิกฟรีดยกแขนให้นางเกาะแบบสุภาพบุรุษ “ท่านก็ต้องเล่าเรื่องของท่านให้ข้าฟังบ้างนะขอรับ”

ทั้งคู่เดินมาถึงประตูราชวังชั้นใน ที่นั่น มีบุรุษสูงศักดิ์องอาจกว่าใครผู้หนึ่งยืนรออยู่พร้อมกับองครักษ์ ซึ่งมองแวบเดียวก็ทราบว่าทุกนายเจนศึก

คิงริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์ผายมือออกอย่างสง่างาม พระองค์เป็นกษัตริย์นักรบโดยแท้จริง ทั้งรูปร่างสูงใหญ่ แววตาคมกล้า มงกุฎสีดำส่องประกายล้อแสงแดด เช่นเดียวกับผมสีทอง และนัยน์ตาสีแดงเข้มเหมือนโลหิต ผิดจากเอลฟ์ทั่วไป

ท่านหญิงยังเกาะแขนของเจ้าชาย โดยไม่คิดละมือออกแล้วเดินไปหาคู่หมั้นผู้เป็นพระราชา

“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน น้องชายคนเดียวของเรา” คิงริวอร์นอร์เดินลงมารับด้วยตัวเอง ท่าทางของราชาดูสบายๆ แต่พระคู่หมั้นกลับเกร็งจนเห็นเส้นข้างลำคอ

“หกปี...พี่ชาย” ซิกฟรีดยิ้มกว้าง ขอให้เอริแอดเน่ถอยไปก่อนพลางรับกอดจากคิงริวอร์นอร์ แรงตบที่หลังหนักแน่น เข้มแข็ง

“เราเสียใจที่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาถึงขนาดนี้” คิงริวอร์นอร์มองสำรวจน้องชาย “เจ้าโตขึ้นมากจริงๆ”

ท่านหญิงยืนกุมมือตรงหน้าตักอย่างสำรวม ดวงตาสีเหมือนหินแก้วประกายรุ้งมองบุรุษรูเมเรียร์สองพี่น้อง...โดยไม่แสดงความรู้สึกที่อยู่ในใจ

“มาเถอะ ไปพักผ่อนก่อน งานเลี้ยงต้อนรับค่ำนี้ รอเจ้าอยู่” คิงริวอร์นอร์ดันหลังน้องชาย ก่อนหันกลับมายังคู่หมั้น “เจ้าก็ด้วย เอริแอดเน่…เตรียมตัวเรียบร้อยหรือยัง”

“เพคะ” ท่านหญิงตอบเรียบเฉย

สมัยก่อน นางพูดกับเฟรธูรินอย่างสนิทสนม ไม่เคยใช้คำว่า ‘เพคะ’ กับราชาผู้ล่วงลับแม้อยู่ต่อหน้าองครักษ์หรือบริวาร

ซิกฟรีดมองพี่หญิง เขาก็จมอยู่กับความคิดของตัวเองเช่นกัน

“บุรุษที่เก่งกาจในประวัติศาสตร์ล้วนฝึกตนอย่างหนัก มีความอดทนเป็นที่ตั้งรู้ไหม...อาเลธ”

ข้าจะอดทนรอจังหวะเวลาที่เหมาะสมขอรับ พี่เฟรธูริน


“แล้วพี่จะรอพบเจ้า ซิกฟรีด” ท่านหญิงกุมมือเจ้าชายเอลฟ์พลางยิ้มอ่อนหวาน ทว่าก่อนที่นางจะเดินไปหาพระราชา บนฝ่ามือของเจ้าชายเย็นวาบเหมือนถูกลูบด้วยหยดน้ำ

...มันคือเวทสื่อสารของเอริแอดเน่

บุตรีผู้เป็นที่รักแห่งนทีแลนภา


---------------------------------------------------------------

A/N ในที่สุดราชาเจ้าของตอนก็ออกโรงละค่า! (ค่าตัวแพงกว่าซิกฟรีดอีกนะคนนี้) #งานดีรูเมเรียร์ มีใครจับเรดาห์ ปักธงกันบ้างหรือยังคะ -3- (ถึงปัจจุบันจะตายไปแล้ว แต่ภาคอดีตเฮียแกหล่อร้ายกาจอยู่นะคะ /ซับน้ำตา)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (1-2) [25/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 25-02-2017 01:08:45
ในที่สุดคนเขียนก็กลับมา....จุดพลุ!!!!!


เจอชื่อแอริแอดเน่ที่ไรนึกถึงแต่เจ้าหญิงแห่งเกาะครีตในเรื่องเธซีอุส เจ้าหญิงผู้มีดวงตาเห็นจริง คนนั้นทุกทีเลย


น้องโคลด์ยังน่ารักเหมือนเดิมนะจ๊ะ ตะมุตะมิ




คุณพี่ชายดูเท่ไม่หยอกนะเออ


คิดถึงคนเขียนมากเลย สู้ๆน้าา  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (1-2) [25/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 25-02-2017 01:10:20
คิดถึงมากกกกกก

*กอดแน่น*

โคลด์ตัวน้อยแกร่งกล้า แต่หมดมาดก็ตอนถูกล่อลวงด้วยชอคโกแลตเนี่ยแหละ

มาบ้านพี่ไหม? พี่มีเยอะกว่ามาลอีก

คิงริวอร์นอ ลึกลับ น่ากลัว
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (1-2) [25/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-02-2017 03:54:54
ให้ความรู้สึกระหว่างคิงริวอร์นอร์ กับแอริแอดเน่ แปลกๆ
มันเย็นชา ห่างเหิน ไม่สนิทสนม รักใคร่กัน
ต่างฝ่ายต่างเล่นไปตามบทของตัวเอง
ซิกฟรีด คงได้รู้อะไรๆจากพี่หญิง
นอกจากที่รู้มาจากมารดานที
เอริแอดเน่ ดูรักใคร่ซิกฟรีด จะมากกว่าน้องชายหรือเปล่า
มาลแกธ ใส่ใจโคลด์มากกว่าคนอื่นจริงๆ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (1-2) [25/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 25-02-2017 08:47:31
ยินดีตอนรับกลับเล้าค่าาาาา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (1-2) [25/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 25-02-2017 10:47:48
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (1-2) [25/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: fyfh34 ที่ 25-02-2017 11:59:51
พึ่งมาอ่านค่ะ สนุกมากเลย จะคอยติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (1-2) [25/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-02-2017 15:36:49
ในที่สุดคนเขียนก็กลับมา....จุดพลุ!!!!!


เจอชื่อแอริแอดเน่ที่ไรนึกถึงแต่เจ้าหญิงแห่งเกาะครีตในเรื่องเธซีอุส เจ้าหญิงผู้มีดวงตาเห็นจริง คนนั้นทุกทีเลย


น้องโคลด์ยังน่ารักเหมือนเดิมนะจ๊ะ ตะมุตะมิ




คุณพี่ชายดูเท่ไม่หยอกนะเออ


คิดถึงคนเขียนมากเลย สู้ๆน้าา  :katai2-1:
ขอบคุณมากค่า รักคนนี้ แงๆๆ เอริแอดเน่เราเอาชื่อมาจากเทพนิยายกรีกจริงๆ ค่ะ เราชอบชื่อ *0*
คุณพี่ชายจะมีบทอีกนะคะ!

คิดถึงมากกกกกก

*กอดแน่น*

โคลด์ตัวน้อยแกร่งกล้า แต่หมดมาดก็ตอนถูกล่อลวงด้วยชอคโกแลตเนี่ยแหละ

มาบ้านพี่ไหม? พี่มีเยอะกว่ามาลอีก

คิงริวอร์นอ ลึกลับ น่ากลัว
หวายๆๆ คิดถึงด้วย กอดตอบ ฮือๆๆ /สมัยก่อนโคลด์กินเอาๆ มาลแกธก็ไม่ได้โม้นะคะ 555
/เอาขนมหลอกเด็กตลอดนะเอ็ง

ให้ความรู้สึกระหว่างคิงริวอร์นอร์ กับแอริแอดเน่ แปลกๆ
มันเย็นชา ห่างเหิน ไม่สนิทสนม รักใคร่กัน
ต่างฝ่ายต่างเล่นไปตามบทของตัวเอง
ซิกฟรีด คงได้รู้อะไรๆจากพี่หญิง
นอกจากที่รู้มาจากมารดานที
เอริแอดเน่ ดูรักใคร่ซิกฟรีด จะมากกว่าน้องชายหรือเปล่า
มาลแกธ ใส่ใจโคลด์มากกว่าคนอื่นจริงๆ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณค่า /ทำตาปิ๊งๆ ช่วงนี้เรื่องจะยิ่งเข้มข้นค่ะ /ทำตาปิ๊งๆๆๆ อีก *0*
รอติดตามนะคะ จะลงไม่ให้อารมณ์ขาดเลยค่ะ *0*
ป.ล. ความรักของมาลแกธ เราว่าโคลด์เชื่อยากอยู่ค่ะ มันหลายๆ อย่างอะนะ ;w; (กว่าจะเชื่อก็ต้อง...แทงคอ...)

ยินดีตอนรับกลับเล้าค่าาาาา
ขอบคุณมากจ้า รักคนอ่าน จุ้บๆ คิดถึง  :mew1:

:hao7: :hao7:
:mew1: :mew1:

พึ่งมาอ่านค่ะ สนุกมากเลย จะคอยติดตามนะคะ
สวัสดีค่ะ นี่ก็เพิ่งกลับมาลงต่อ ฝากตัวด้วยจ้า

สำหรับคอมเมนต์อื่นๆ เราอ่านครบ อ่านไปก็ยิ้มไป *0* แต่ทิ้งช่วงมาสักพักรู้สึกไม่ค่อยสดใหม่ถ้าจะตอบ ขอละไว้นะคะ แงๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (1-2) [25/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 25-02-2017 16:02:42
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (1-2) [25/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: หนูน้อยหมวกแดง ที่ 25-02-2017 18:53:35
อ่านทั้งวันรวดเดียวเลย สนุกมากกก ตัวละครมีปมในใจทุกตัวเลย สงสารทุกคน
ชอบทั้งเกวนโดลินและโคลด์ ดวงความรักอาภัพมาก คนเขียนมาต่อเยอะๆนะคะ
รอติดตามต่อไปค่า  :katai2-1: :katai2-1:  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (1-2) [25/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 25-02-2017 20:23:07
อยากรู้จังเลยค่ะ คู่หมั้นนี่จำเป็นต้องตกทอดเหมือนมรดกเลยเหรอคะ เห็นไม่ว่าใครจะเป็นราชาท่านหญิงก็ต้องหมั้นด้วยหมด (อันนี้สงสัยค่ะ และเพราะไม่อยากให้ซิกมีคู่หมั้นด้วยแหละ แต่คงยากเพราะนางเป็นราชา 55555 แล้วอีกอย่างสงสารท่านหญิงด้วย ป่านนี้พรุนหมดแล้วววว ท่านหญิง 3 ราชา -0- )

ปล. ดีใจที่กลับมาค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (1-2) [25/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-02-2017 21:13:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (1-2) [25/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-02-2017 23:20:05
โอ่ะโอ้ เคลียอดีตกันเนาะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (3) [26/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-02-2017 23:49:43
บทที่ 13 : ราชามงกุฎดำ (3)

โคลด์นั่งยองๆ อย่างเบื่อๆ อยู่ริมสระน้ำที่เล็กและเงียบที่สุดในส่วนหนึ่งของพระราชวัง มองไปไม่เห็นกิ่งไม้ที่จะเอามาเขียนพื้นเล่นได้สักกิ่ง ไม่มีเศษใบไม้ถูกลืมกวาดแม้สักใบ มีแต่ความสวยงาม เป็นระเบียบ หินแต่งขอบสระแต่ละก้อนตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเท่ากันไร้ที่ติ กับผิวน้ำสีฟ้าใสราบเรียบ

อย่างไรสถานที่นี้ก็ไม่เหมาะกับเขา

ไม่เคยเหมาะ...


“ว่าอย่างไร มองหานกคุยด้วยอยู่หรือ ข้าเป็นเอลฟ์ ถ้าเจ้าไม่เกลียดเอลฟ์นัก คุยกับข้าแทนไหม” มีเสียงทักทายโคลด์จากด้านหลัง เสียงนุ่มทุ้มแกมหยอกเอินแสนคุ้นเคย

โคลด์หันไปอย่างเฉื่อยๆ กว่าสมองที่อึมครึมจะประมวลผลว่า ‘ใคร’ ก็ตอนได้เห็นอีกฝ่ายเต็มตา

“เจ้ามาได้ยังไง” โคลด์ทักทายเอลฟ์ตะวันออก ชุดที่ดาร์กเอลฟ์ใส่วันนี้ดูดีกว่าชุดเก่าๆ ปอนๆ ตามปกติ ขับให้ใบหน้าคมคายตามแบบดาร์กเอลฟ์ดูมีราศีขึ้นมากโข

มาลแกธนั่งลงข้างๆ โคลด์ นิ้วอยู่ไม่สุขเอื้อมปัดผมที่ลงมาปรกตาโคลด์ไปทัดหู “ข้าไม่เข้าใจคำถาม ข้ามีม้า ก็ขี่ม้า” เอลฟ์ตะวันออกยิ้มหวานกว่าปกติ เมื่อรวมกับชุดพิธีการแบบชาวตะวันออกแล้ว ควาร์น่ารักคงเป็นลมล้มพับกันระนาว “วันนี้เจ้าหล่อเหลาเอาเรื่อง”

“หน้าตาข้าไม่สำคัญหรอก...ข้าอยากกลับอาศรม”

โคลด์พูดสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ เขาเพียรหนีจากอาศรมมาหกปีเต็ม แต่ตอนนี้อยากกลับไปทั้งที่เพิ่งได้ออกมา!

แน่ว่าดาร์กเอลฟ์มีเหตุผลส่วนตัว ข้อแรก นกสีขาวจะมาหาเขาที่นั่น ข้อสอง ในอาศรมทำให้เขารู้สึกดีกว่าอยู่ที่นี่

โคลด์เอื่อยเฉื่อยเกินจะถามว่ามาลแกธเป็นแขกสำคัญหรือ ชุดที่สวมอยู่ก็หรูหราแปลกตาดุจขุนนางชั้นสูง

เขาตอบให้ตัวเองในใจว่า

คงใช่แหละ

“เดี๋ยวก็ได้กลับ” มาลแกธวางมือบนศีรษะโคลด์

“ข้าโดนบังคับมา” โคลด์ฟ้อง เขาจับมือมาลแกธให้ลูบค้างไว้เหมือนกำลังหาคนเข้าข้าง

“หากวันหน้าหรือวันไหนๆ สบโอกาส ข้าจะช่วยให้เจ้าหนี” มาลแกธพูดเสียงเบาแต่หนักแน่น “เพราะข้าถูกใจเจ้า”

โคลด์หัวเราะเบาๆ

ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ

“ในวังนี้ ดาร์กเอลฟ์เป็นทาสที่ทำแต่งานหนักกับงานสกปรก” สถานะของโคลด์ดูสูงส่งขึ้นมา เป็น ‘ทาสที่สบายกว่า’

“ไปอยู่กับข้าสิ ที่นั่นดาร์กเอลฟ์เป็นทหารรับจ้าง ล่องเรือไปไกลหน่อย เสี่ยงชีวิตนิด...”

“สักวันหนึ่งนะ” โคลด์ตอบแบบใจลอยไปไกล เขาขุดหินก้อนเล็กขึ้นมาก้อนหนึ่ง ทำให้พื้นหญ้าเขียวสดมีรอยหลุมแหว่ง มือสีเข้มขว้างก้อนหินลงสระน้ำ ทำลายผิวน้ำนิ่งสงบเหมือนหาที่ระบายความอึดอัด

“ท่านมาลแกธ”

เอลฟ์ตะวันออกขยับยิ้มเมื่อได้ยินเสียงเรียก

ไมเธียน… โคลด์มองตามเหม่อๆ อีกฝ่ายก็แต่งตัวดีไม่แพ้มาลแกธ สวมชุดพิธีการอย่างบุรุษรูเมเรียร์ และ...ดูไม่เหมือนลูกขุนนางตามปกติ

แต่เป็นตัวขุนนางเอง

“ได้เวลาประชุมแล้ว” คำพูดของไมเธียนห้วนกว่าตอนที่อยู่อาศรม

“ขอรับ...ท่านควาร์อาวุโส” มาลแกธตบไหล่โคลด์เบาๆ คล้ายให้กำลังใจ ก่อนจะลุกตามไมเธียนไป

โคลด์ได้ยินชัดทุกคำ แต่สายตาหันไปเหม่อมองสระน้ำต่อ

ควาร์อาวุโสหรือ...บางที ข้าควรบอกซิกฟรีด

---------------------------------

“ต้องตามกันทุกก้าวเลยหรือ” มาลแกธเดินตีคู่ไปกับไมเธียน “...ที่รัก”

ไมเธียนหยุดเดินแล้วหันมาทางมาลแกธ เขายกฝ่ามือดันอกอีกฝ่ายเบาๆ “รู้ที่ทางของตัวเองเถิด เอลฟ์ตะวันออก”

“ข้าย่อมทราบดี ที่ทางของข้าคือเป็นหุ้นส่วนกับรูเมเรียร์”

ไมเธียนเหยียดยิ้ม “หุ้นส่วน? โพ้นทะเลมีอะไรมาเสนอรูเมเรียร์ที่อุดมสมบูรณ์เล่า”

“การค้า นักรบ เกลือ...อะไรอีกน้า” มาลแกธนึก “อ้อ ช่วยคานอำนาจอิซิลดาร์”

แดนตะวันออกอยู่ทางใต้ บริเวณทะเลฝั่งตะวันออกของรูเมเรียร์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเกาะแยกออกไปต่างหาก ส่วนที่เป็นแผ่นดินเชื่อมกับแคว้นอิซิลดาร์ โดยมีชนกลุ่มน้อยอยู่ตรงรอยต่อเขตแดน

ปกติแล้วเอลฟ์ตะวันออกจะไม่ข้องเกี่ยวกับชาวแผ่นดินใหญ่ พวกเขามีความเชื่อ วัฒนธรรม และประเพณีเป็นของตัวเอง (ซึ่งมีจุดร่วมและจุดต่างจากความเชื่อของดาร์กเอลฟ์ด้วย) เอลฟ์ตะวันออกนับถือ ‘เทพและเทพี’ โดยเฉพาะ ‘เทพีแห่งสงคราม’

ที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากแดนตะวันออกไม่ได้ปกครองแบบศูนย์รวมอำนาจ มีกษัตริย์หนึ่งเดียวเหมือนแคว้นรูเมเรียร์ แต่เป็นแบบ ‘ตระกูลใครตระกูลมัน’ มีการสู้รบแย่งชิงอาณาเขตกันบ่อยครั้งเหมือนเผ่าต่างๆ ในแดนทมิฬ จนชาวรูเมเรียร์ให้สมญาว่า ‘พวกป่าเถื่อน’ หรือไม่ก็ ‘พวกไร้อารยะ’

ซึ่งแววตาของไมเธียนก็ประกาศว่ามาลแกธเป็น ‘พวกป่าเถื่อนไร้อารยะ’ อย่างเห็นได้ชัด

“ทุกอย่างที่ท่านว่ามาก็ไม่ผิด เห็นจะมีประการเดียวที่เราต้องค้าน” ควาร์อาวุโสซึ่งมีใบหน้าอ่อนเยาว์เผยยิ้มอ่อนโยน “อิซิลดาร์มีความสัมพันธ์อันดีกับรูเมเรียร์ ชาวแผ่นดินใหญ่พึ่งพากันมายาวนาน ก่อนที่ท่านจะหัดเดินเสียอีก”

มาลแกธไม่ตอบคำ แต่โน้มลงไปกระซิบข้างหูไมเธียน

“ใครจะทราบอนาคตเล่า...ที่รัก”

ไมเธียนระบายลมหายใจหนัก ใบหน้าขึ้นสี ไม่ทราบว่าเพราะโกรธหรือเพราะอารมณ์อย่างอื่นกันแน่ ควาร์อาวุโสดันอกอีกฝ่ายให้ถอยห่าง ก่อนก้าวฉับไปทางที่ประชุม ไม่มีการพูดคุยกันอีก

ทั้งสองเดินมาถึงหน้าทางเข้าโถงว่าราชการ และได้พบกับบุคคลไม่คาดคิดซึ่งมารออยู่

ปกติแล้วบุคคลผู้นี้มักไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจธุระขององค์ราชา

ที่นางมาปรากฏตัวจึงประหลาด

ท่านหญิงเอริแอดเน่จากอิซิลดาร์สวมผ้าคลุมหน้าผืนบางตามธรรมเนียมของเจ้านายฝ่ายหญิงรูเมเรียร์ยามต้อนรับแขกต่างเมืองในคราแรกที่พบหน้า

ผ้าคลุมหน้านี้ไม่อาจปิดบังความงามของนางแม้สักนิด

ด้านหลังของท่านหญิงคือองครักษ์หญิงสองนาง เป็นนักรบสตรีจากอิซิลดาร์ นอกจากความงามเหมือนบุปผาจากป่าลึกแล้ว ท่าทางของพวกนางยังเข้มแข็งเจนศึกไม่ต่างจากองครักษ์ขององค์ราชา

เอริแอดเน่หันมาทางบุรุษทั้งสอง ริมฝีปากยกยิ้มนิ่งสงบ

เห็นได้ชัดว่านางมาต้อนรับมาลแกธ

ทั้งสองเคยได้ยินแต่ชื่อเสียงเรียงนามของกันและกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบหน้า และนางแสดงการให้เกียรติมาลแกธอย่างเปิดเผย

เอลฟ์ตะวันออกน้อมศีรษะทำความเคารพแบบรูเมเรียร์ก่อน แล้วค่อยเอ่ยว่า “ข้ามาจากแดนเถื่อน แต่ยังดีที่เรามีการทักทายหญิงงามเป็นของตัวเอง ไม่ทราบว่าท่านหญิงจะให้เกียรติข้า...ทักทายหญิงงามตามธรรมเนียมปฏิบัติได้หรือไม่”

“อิซิลดาร์ก็เป็นดินแดนนอกรูเมเรียร์ไม่ต่างกัน” เอริแอดเน่ตอบเป็นเชิงอนุญาต

มาลแกธจึงคุกเข้าข้างหนึ่งแล้วจูบหลังมือขาวเนียนของเอริแอดเน่ ไมเธียนซึ่งมองอยู่ถึงกับอ้าปากน้อยๆ

มันกล้าแตะต้องท่านหญิงเชียวหรือ

องครักษ์หญิงจากอิซิลดาร์ชะงักเช่นกัน ปกติแล้วกระทั่งองค์ราชาริวอร์นอร์ ท่านหญิงยังไม่โปรดเข้าใกล้

“เป็นเกียรติแล้ว” เอริแอดเน่เอ่ยสำรวม “แผ่นดินเรายังต้องพึ่งพากำลังของท่านอยู่อีกมาก”

มาลแกธยกยิ้มแล้วถอยออกมา ให้ท่านหญิงเดินนำเข้าโถงว่าราชการไปก่อน

“เจ้าทำอะไร เอลฟ์ตะวันออก” ไมเธียนกระซิบลอดไรฟัน

“ตาฝ้าฟางแล้วหรือ” มาลแกธกระซิบตอบ “ข้าก็จูบมือท่านหญิงอย่างไรเล่า”

“หัวเจ้าคงบอกลาคอเจ้าเร็วๆ นี้” ไมเธียนเอ่ยอย่างเฉยชา

---------------------------------

คิงริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์และขุนนางคนอื่นๆ ที่มาก่อนยืนล้อมโต๊ะแผนที่อยู่ การประชุมยังไม่เริ่มแต่ราชาต้องการทราบความเคลื่อนไหวของดวอร์ฟ พวกมันไม่ขึ้นกับใครเพราะดินแดนอยู่ห่างไกล สถานะพ่อค้าก็มีอำนาจต่อรอง...ทองคำมีอำนาจต่อรองเสมอ

สตรีผู้เพิ่งเข้ามารู้ที่ทางของตน นางถอนสายบัวให้องค์ราชาแล้วเดินเนิบช้าไปยืนด้านหลังของเขา

เหล่าขุนนางแปลกใจ หลังสิ้นคิงเฟรธูริน ท่านหญิงให้ตัวแทนจากอิซิลดาร์มาร่วมประชุมแทนนางเสมอ นางไม่คอยรับใช้ใกล้ชิดคิงริวอร์นอร์ดังเช่นที่เคยรับใช้ใกล้ชิดคิงเฟรธูริน

ข่าวว่านางไม่รับไมตรีของคิงริวอร์นอร์ก็ไม่เกินจริง เพราะเป็นสิ่งที่เห็นกันชินตา

มาวันนี้นางปรากฏตัว สีหน้าและแววตาของนางที่มองประเมินขุนนางแต่ละท่านคล้ายจักกล่าวว่า

‘การเปลี่ยนแปลงย่อมมาถึงเมื่อสมควรแก่เวลา’

“หน่วยข่าวกรองใต้ดินส่งข่าวมาว่าดวอร์ฟขายอาวุธให้พวกกบฏดาร์กเอลฟ์” ริวอร์นอร์ทราบการมาถึงของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ และขุนนางควาร์ทั้งสองแล้ว “เราควรเริ่มจัดการจากตรงไหนก่อนดีเล่า ท่านหญิง”

จู่ๆ ริวอร์นอร์ก็หันไปทางสตรีซึ่งมีศักดิ์เป็นคู่หมั้นของตน

“ความเห็นของสตรีไม่อาจก้าวล้ำบุรุษ ข้าเป็นเพียงผู้ตามที่ดี และจักพยายามอย่างยิ่งในการช่วยเสริมคำตอบแก่ขุนนางท่านอื่น”

ท่านหญิงปฏิเสธองค์ราชาอีกแล้ว เหล่าขุนนางคิด นางเคยเป็นถึงจอมเวทสงครามในมหาสงครามสองร้อยปี ผู้ลบเมืองทมิฬอันยิ่งใหญ่เมืองหนึ่งให้หายไปจากแผนที่ด้วยความฉลาดเฉลียวและมหาเวทมนตร์เพียงบทเดียว

มีหรือที่คำถามเพียงเท่านี้นางจะไม่มีคำตอบ

ริวอร์นอร์ละสายตาจากเอริแอดเน่ครู่หนึ่ง พลางหันไปยิ้มให้ไมเธียนที่สูดลมหายใจได้ไม่เต็มปอด “อา...อย่าเกร็งไปท่านควาร์อาวุโส เราเพียงใจร้อน ท่านไม่ได้มาสาย”

รอยยิ้มของพระราชาพระองค์นี้...มีอำนาจกดดัน

“สืบมาให้ได้ว่ากิลด์พ่อค้ากิลด์ไหนทำตัวเป็นหนูใต้แผ่นดินเรา” ริวอร์นอร์สั่งขุนนาง ขณะจับจ้องยังใบหน้าหมดจดใต้ผ้าคลุมหน้าของเอริแอดเน่ ราชาเอลฟ์ขึ้นประทับบนบัลลังก์ซึ่งหลอมจากเหล็กดำ มีนางยืนอยู่ด้านล่าง เยื้องไปทางขวา

“ต่อไป...เราอยากฟังรายงานพฤติกรรมของอาเลธ”

เอริแอดเน่เหลือบมองริวอร์นอร์ ทั้งสีหน้า แววตา และท่าทางของเขา ล้วนไม่คลาดจากสายตานาง

“เขาเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทหรือไม่ ท่านควาร์ทั้งสอง” ริวอร์นอร์เท้าศีรษะ ดวงตาสีโลหิตจับจ้องที่เอลฟ์ตะวันออกเป็นพิเศษ โดยที่มาลแกธไม่หลบสายตานั้นเลย

            บางสงคราม…
            ไม่ได้ฟาดฟันกันด้วยอาวุธ

---------------------------------------------------------------

A/N การเมืองสามเส้าระหว่างรูเมเรียร์ แดนตะวันออก และอิซิลดาร์เข้มข้นมานานแล้วค่ะ มีคอมเมนต์ถามว่า ทำไมเอริแอดเน่ถึงเป็นคู่หมั้นของราชาถึงสามองค์ จริงๆ จะมีคำเฉลยในเนื้อเรื่อง (ละมั้ง) แต่ตอบคร่าวๆ ก็เป็นเหตุผลทางการเมืองค่ะ คืออิซิลดาร์ต้องแต่งกับรูเมเรียร์เพื่อรักษาอำนาจของทั้งสองฝ่าย การแต่งงานนี้ไม่เน้นที่ตัวบุคคล ใครเป็นราชาก็แต่งกับทายาทสตรีที่เป็นเบอร์ 1 ของอิซิลดาร์ ที่เปลี่ยนราชาแล้วไม่เปลี่ยนคู่หมั้นก็เพราะ...เอริแอดเน่เป็นเบอร์ 1 No. 1 ของอิซิลดาร์ไม่เคยเปลี่ยนจ้า <3


ป.ล. มาลแกธก็เข้าวังมาอย่างหล่อ แล้วดู้ดู จีบไปทั่ว -*-


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (3) [26/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 26-02-2017 00:39:45
เป็นนิยายรักที่มีกลิ่นอายของสงครามเผ่าพันธุ์อยู่ตลอดแต่ไม่น่าเบื่่อเลย คนเขียนเก่งมาก



ชอบวลีสุดท้ายที่ว่าบางสงครามก็ไม่ได้ฟาดฟันกันด้วยอาวุธ แต่สงครามที่ไม่ได้ฟาดฟันด้วยอาวุธนั่นแหละน่ากลัวที่สุด จริงไหม? แต่ดูเหมือนว่าไม่ว่าใครจะชนะในสงครามนี้ทุกคนก็ล้วนได้รับบาดแผลกันทั้งนั้นทั้งภายนอกและภายในจิตใจ ดูรวมๆแล้วเรื่องนี้ตัวฮีมเดียร์และพี่สาวที่ถูกตราหน้าว่าเป็นเผ่าพันธุ์โสมมกลับเป็นคนที่มีจิตใจที่ซื่อตรงมากที่สุด ซื่อตรงทั้งต่อหน้าที่และหัวใจของตัวเอง น่าเศร้าที่ทุกคนไม่อาจทำแบบนั้นได้ ชื่นชมคนเขียนมากที่เขียนให้ทุกตัวละครมีมิติและน่าสนใจทุกตัวแม้กระทั่งตัวประกอบบางตัว ยอดเยี่ยมจริงๆไม่ค่อยเจอนิยายดีดีแบบนี้นานแล้ว


คนเขียนสู้ๆนะ ทำดีแล้วทำดีต่อไป//ผิดๆ



ปล.น้องโคลด์จะหากิ่งไม้ไปเขี่ยดินทำไมล่ะลูก อยากได้กิ่งไม้มาที่บ้านพี่เลยค่ะ ยกให้หนูทั้งต้นเลยลูก มามะ//ล่อลวงเต็มที่
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (3) [26/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 26-02-2017 01:45:13
เป็นนิยายรักที่มีกลิ่นอายของสงครามเผ่าพันธุ์อยู่ตลอดแต่ไม่น่าเบื่่อเลย คนเขียนเก่งมาก



ชอบวลีสุดท้ายที่ว่าบางสงครามก็ไม่ได้ฟาดฟันกันด้วยอาวุธ แต่สงครามที่ไม่ได้ฟาดฟันด้วยอาวุธนั่นแหละน่ากลัวที่สุด จริงไหม? แต่ดูเหมือนว่าไม่ว่าใครจะชนะในสงครามนี้ทุกคนก็ล้วนได้รับบาดแผลกันทั้งนั้นทั้งภายนอกและภายในจิตใจ ดูรวมๆแล้วเรื่องนี้ตัวฮีมเดียร์และพี่สาวที่ถูกตราหน้าว่าเป็นเผ่าพันธุ์โสมมกลับเป็นคนที่มีจิตใจที่ซื่อตรงมากที่สุด ซื่อตรงทั้งต่อหน้าที่และหัวใจของตัวเอง น่าเศร้าที่ทุกคนไม่อาจทำแบบนั้นได้ ชื่นชมคนเขียนมากที่เขียนให้ทุกตัวละครมีมิติและน่าสนใจทุกตัวแม้กระทั่งตัวประกอบบางตัว ยอดเยี่ยมจริงๆไม่ค่อยเจอนิยายดีดีแบบนี้นานแล้ว


คนเขียนสู้ๆนะ ทำดีแล้วทำดีต่อไป//ผิดๆ



ปล.น้องโคลด์จะหากิ่งไม้ไปเขี่ยดินทำไมล่ะลูก อยากได้กิ่งไม้มาที่บ้านพี่เลยค่ะ ยกให้หนูทั้งต้นเลยลูก มามะ//ล่อลวงเต็มที่
ขอบคุณค่ะ เราปวดตาเลยว่าจะไปนอน ดีจังที่แวะมาดูก่อน ;w; ได้อ่านคอมเมนต์เลย
ตอนแรกก็กลัวนักอ่านจะเบื่อกันเหมือนกันนะคะ เพราะเรื่องนี้เป็นแฟนตาซีสงครามด้วย  :mew1: :mew1: :mew1:
แต่อย่างน้อยเวลาเขียน ตัวละครดีๆ ช่างเป็นอาหารใจของคนเขียนเหลือเกิน /ปาดน้ำลาย (?)

ตัวละครในเรื่องนี้ แม้เป็นตัวประกอบก็มีภูมิหลังพอสมควรค่ะ (เรากับคุณ Foulsoul ใช้วิธีการทดลองเขียนหลายๆ ดราฟเพื่อเข้าถึงตัวละคร /และแตกคู่ แค็กๆๆ)

ขอบคุณที่ชอบนะคะ!!

ป.ล. โคลด์จิ๋วเดินไปรับกิ่งไม้  :mew3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (3) [26/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-02-2017 08:04:02
ป๋ายังคงป๋า จีบเรี่ยราดตั้งแต่ต้นไม้ใบหญ้าจนถึงเจ้าหญิง

น่าสงสารแอริแอดเน่ จากบ้านเกิดเมืองนอน แล้วยังเสียผู้เป็นที่รัก (ฉันเชื่อว่านางรักคิงเฟรธูริน) แต่ก็ยังต้องอยู่
ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมนางต้องการลูกชายจากคิงคนไหนก็ได้  การที่อาเลธรักโคลด์ถึงได้เป็นภัยกับนางนี่เอง

อาเลธยังคงค่าตัวแพงเสมอต้นเสมอปลาย โผล่มาแต่ชื่อ

โคลด์จ๋า บ้านพี่เป็นสวน อยากได้กี่กิ่งพี่ให้หมดเลย มีร่องสวนและสนามกว้าง ๆ ให้วิ่งเล่นด้วยน๊าาา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (3) [26/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 26-02-2017 09:17:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (3) [26/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-02-2017 09:25:12
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (3) [26/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 26-02-2017 11:25:21
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (3) [26/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 26-02-2017 12:40:03
เย้มาอัพแล้ววววว
ตกใจที่ซิกพูดว่า ทำเพราะรัก !!
ถึงจะพูดขู่โคล์ดก็เถอะ! นี่เรา เอาผ้าห่มม้วนตัวกลิ้งรอบเตียงแล้ววว ฮือออออ เขินน
มันคือความจริงใช่มั้ยซิก
จะรอคอยฉากหวานๆของซิกโคล์ดเรื่อยไปค่ะ #แจวเรือ
ส่วนพี่หญิงนี่ ให้ทำใจชอบยังไง ทำไมเราก็ชอบนางไม่ลง นางดูเก่งแล้วก็น่ากลัวเกินไป! กลัวว่าต่อไปจะเผยคความร้ายมามากกว่านี้อีก
 ห้ามมาทำไรโคล์ดนะ :angry2:

เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ ขอบคุณมากค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (3) [26/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 26-02-2017 17:27:53
อยากรู้จังเลยค่ะ คู่หมั้นนี่จำเป็นต้องตกทอดเหมือนมรดกเลยเหรอคะ เห็นไม่ว่าใครจะเป็นราชาท่านหญิงก็ต้องหมั้นด้วยหมด (อันนี้สงสัยค่ะ และเพราะไม่อยากให้ซิกมีคู่หมั้นด้วยแหละ แต่คงยากเพราะนางเป็นราชา 55555 แล้วอีกอย่างสงสารท่านหญิงด้วย ป่านนี้พรุนหมดแล้วววว ท่านหญิง 3 ราชา -0- )

ปล. ดีใจที่กลับมาค่ะ
อา มีคำตอบในตอนที่ ราชามงกุฎดำ (3) จ้า
ดีใจที่มีคนถามนะคะ  :mew1: :mew1: :mew1:

ป๋ายังคงป๋า จีบเรี่ยราดตั้งแต่ต้นไม้ใบหญ้าจนถึงเจ้าหญิง

น่าสงสารแอริแอดเน่ จากบ้านเกิดเมืองนอน แล้วยังเสียผู้เป็นที่รัก (ฉันเชื่อว่านางรักคิงเฟรธูริน) แต่ก็ยังต้องอยู่
ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมนางต้องการลูกชายจากคิงคนไหนก็ได้  การที่อาเลธรักโคลด์ถึงได้เป็นภัยกับนางนี่เอง

อาเลธยังคงค่าตัวแพงเสมอต้นเสมอปลาย โผล่มาแต่ชื่อ

โคลด์จ๋า บ้านพี่เป็นสวน อยากได้กี่กิ่งพี่ให้หมดเลย มีร่องสวนและสนามกว้าง ๆ ให้วิ่งเล่นด้วยน๊าาา
ส่งโคลด์จิ๋วไปวิ่งเล่นที่บ้าน อิอิ
เรื่องนี้รักมีหลายรูปแบบน่ะค่ะ ความสัมพันธ์ของซิกฟรีดกับเอริแอดเน่ก็พูดยากมากอะนะ

เย้มาอัพแล้ววววว
ตกใจที่ซิกพูดว่า ทำเพราะรัก !!
ถึงจะพูดขู่โคล์ดก็เถอะ! นี่เรา เอาผ้าห่มม้วนตัวกลิ้งรอบเตียงแล้ววว ฮือออออ เขินน
มันคือความจริงใช่มั้ยซิก
จะรอคอยฉากหวานๆของซิกโคล์ดเรื่อยไปค่ะ #แจวเรือ
ส่วนพี่หญิงนี่ ให้ทำใจชอบยังไง ทำไมเราก็ชอบนางไม่ลง นางดูเก่งแล้วก็น่ากลัวเกินไป! กลัวว่าต่อไปจะเผยคความร้ายมามากกว่านี้อีก
 ห้ามมาทำไรโคล์ดนะ :angry2:

เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ ขอบคุณมากค่ะ :pig4:
ฮา ฉากนั้นคนเขียนก็เขินค่ะ '////' เจ้าคู่นี้นี่ จะรักกันไม่รักกันก็ยังชอบทำให้เราลุ้น เฮ้ออออ
ส่วนเอริแอดเน่ เราพอเข้าใจนะคะ เพราะเป็นตัวละครที่เคี้ยวยากจริงๆ เธอมีน้ำหนักในใจซิกฟรีดอะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (3) [26/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-02-2017 23:05:56
สงครามคงจะมีไปเรื่อยๆอ่าเนาะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (4) [27/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 27-02-2017 00:00:17
บทที่ 13 : ราชามงกุฎดำ (4)

ยามสนธยา ก่อนงานเลี้ยงอาหารค่ำ ท้องฟ้าสีม่วงระบายเฉดสีส้มแดง โคลด์ตามหาซิกฟรีด เขาตัดสินใจบอกเรื่องไมเธียนเป็นควาร์อาวุโสตามที่มาลแกธจงใจเอ่ย

โคลด์เข้าใจว่าไมเธียนเป็นแค่คุณหนูลูกขุนนางมาตลอด

แก่แล้วยังมาช่วยควาร์หนุ่มรังแกข้า เจ้าคนสองหน้า!

“เจ้าชายหรือ อยู่กับท่านหญิงเอริแอดเน่ที่วิหารฝั่งตะวันออกโน่น” ทหารองครักษ์คนหนึ่งเมตตาตอบ เห็นดาร์กเอลฟ์วนเวียนอยู่หลายรอบแต่ไม่มีใครช่วยเหลือ

“ขอบพระคุณ” โคลด์เอ่ยอย่างนอบน้อม ก้มศีรษะให้องครักษ์นายนั้น

ทหารองครักษ์ชั้นผู้น้อยยิ้มให้ แม้ดาร์กเอลฟ์ในรูเมเรียร์จะมีสถานะเป็นทาส แต่ก็มีความรูปงามตามเผ่าพันธุ์

ในเมืองหลวงเอวา เธมาร์ ขุนนางเอลฟ์หลายคนรับทาสดาร์กเอลฟ์ชาติตระกูลดีเป็นข้าบำเรอบนเตียงเพื่ออวดความร่ำรวยและอำนาจ หรือมีไว้ในฐานะของสะสมชิ้นแปลก

“ตรงไป เลี้ยวซ้ายตรงมุมตึก เจ้าจะเจอสวน ตรงไปเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวา...เจ้าจะหลงไหมนี่”

เพราะดาร์กเอลฟ์ทำหน้ามึน ทหารองครักษ์จึงทวนเส้นทางให้ฟังอีกครั้ง ในใจคิดว่าหากตนไม่ช่วย คงไม่มีใครช่วยแล้ว

---------------------------------

ซิกฟรีดมองฝ่ามือของตน

เมื่อครู่ใหญ่ เขาได้รับสารเชิญจากพี่หญิงเอริแอดเน่ให้มายังวิหารของนาง วิหารที่พี่เฟนธูรินสร้างให้ว่าที่ราชินีเพื่อเป็นของขวัญวันอภิเษก แม้วิหารไม่ได้ถูกมอบให้ตามความตั้งใจแรกเพราะอดีตราชาสิ้นไปเสียก่อน เอริแอดเน่ก็ยังได้รับสิทธิขาดในการครอบครอง

เพราะริวอร์นอร์มอบให้เป็นสมบัติของนาง

ที่ซิกฟรีดติดใจคือ เวทสื่อสารที่เอริแอดเน่ทิ้งไว้ตอนจับมือกัน สมัยก่อนที่นางเล่นกับเขา สอนเขาสื่อสารด้วยเวทน้ำ สร้างรหัสให้เข้าใจกันสองคน

หยดน้ำบนฝ่ามือสื่อถึงใจ ให้ตระหนักว่ามีเรื่องสำคัญ

ทว่าซิกฟรีดไม่ทราบว่าเรื่องสำคัญนั้นคืออะไร

เอริแอดเน่รอซิกฟรีดอยู่ที่วิหารเพียงลำพัง ไร้องครักษ์ ไร้คนสอดแนมจากริวอร์นอร์ แต่ละช่องประตูและหน้าต่างของวิหารถูกคลุมด้วยม่านน้ำตกบางๆ เย็นฉ่ำ

“พี่หญิง” ซิกฟรีดเดินผ่านซุ้มประตูเข้ามาทีละชั้น ม่านน้ำตกแหวกออกเอง ให้เจ้าชายแห่งรูเมเรียร์ก้าวเข้ามาด้านใน จากนั้นก็ปิดลง

สีหน้าของซิกฟรีดเคร่งขรึม เขาถอดตุ้มหูออกไม่ได้ อาจเป็นเวทอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่ามันซ่อนกลอะไรเอาไว้หรือไม่

ซิกฟรีดเคาะที่ตุ้มหูเบาๆ เป็นเชิงว่า ‘ระวังมีใครแอบฟัง’

“ข้าส่งสารไปอย่างเป็นทางการ ริวอร์นอร์ย่อมทราบว่าข้าเรียกเจ้ามา หากเขาอยากฟัง ก็จงฟัง ข้าไม่มีอะไรปิดบัง”

เสียงของเอริแอดเน่ก้องอยู่ในวิหาร ทว่ามองไม่เห็นตัวนาง ด้านหน้าของซิกฟรีดเป็นสระน้ำรูปวงรี ล้อมด้วยพื้นโมเสกลายดอกไม้ซับซ้อน เชิงเทียนทองคำทรงสูงจุดไฟสีฟ้าตั้งอยู่รอบสระ ให้แสงสว่างรอยามสนธยาหมดลง

ซิกฟรีดสัมผัสได้ถึงความเฉยชาในน้ำเสียง เขาปิดปากเงียบ รอพี่หญิงเฉลย ‘เรื่องสำคัญ’

“ข้าฝันว่าสักวันหนึ่งจะได้มอบบุตรแก่ราชา” เสียงนั้นยังดังต่ออย่างมองไม่เห็นเจ้าของเสียง “เจ้าเข้าวังมา ได้ยินข่าวข้าหมางเมินริวอร์นอร์บ้างแล้วใช่หรือไม่ เพื่อยืนยัน ข้าไม่เคยร่วมเตียงกับเขาหลังท่านเฟรธูรินสิ้น ข้ายังทำใจไม่ได้เสียที”

ในคำพูดของนาง ไม่มีสิ่งใดไม่สมควร

“ขอรับ”

“ความเศร้าของสตรีช่างน่าเวทนา มีเพียงสายน้ำเป็นมิตรแท้ ช่วยเยียวยา” เอริแอดเน่ส่งความนัยว่า

‘สายน้ำคือมิตรแท้’

“และสายน้ำมิเคยโกหกเรา” นางย้ำ

“ข้า…” ซิกฟรีดกลืนก้อนแข็งๆ ที่ขึ้นมาจุกคอ

ข้าไม่อยากเชื่อ

“ข้า...ไม่ทราบว่าควรทำอย่างไรขอรับ”

“มารดานทีเมตตาเราทั้งคู่ ข้ามิอาจได้ยินเสียงของท่าน แต่ข้าสัมผัสได้ถึงความเมตตาของท่าน”

ร่างของสตรีก้าวขึ้นมาจากสระน้ำ เท้าเปลือยเหยียบบันไดหินขึ้นมาทีละก้าว เผยเรือนร่างแบบบางทีละส่วน ตั้งแต่ศีรษะ ใบหน้า ลำคอ หัวไหล่ ทรวงอก หน้าท้อง...จนเมื่อนางก้าวขึ้นมายืนในระดับเดียวกับซิกฟรีด จึงเห็นว่าผิวเนื้อทั่วร่างไร้อาภรณ์ มีเพียงเส้นผมสีทองยาวถึงพื้นเปียกลู่แนบไปกับเรือนร่างงามสมบูรณ์แบบ

เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์คือตัวแทนแห่งความงามของสตรี

ยกเว้นเพียงแต่ว่า...

“มองข้า ซิกฟรีด ข้ามาหาเจ้าด้วยความจริงใจอย่างยิ่ง ข้ายังหวังที่จะมอบบุตรชายให้แก่ ‘ราชา’ และบุตรชายคนแรกของข้าจะมีนามว่า ‘เฟรธูริน’ ”

นางเรียกให้คนที่รีบก้มหน้าหลบตาเงยหน้ามามองนาง

ไม่มีความเย้ายวนในน้ำเสียง ไม่มีกิริยาหยอกเอิน เอริแอดเน่เปิดเผยตนต่อหน้าเจ้าชายเอลฟ์ดุจรูปปั้นไร้ชีวิต

ซิกฟรีดขบฟัน เขาสับสน ทั้งที่ได้ยิน ‘ความจริง’ จากมารดานทีแล้ว ทั้งที่คิดว่าตัวเองเตรียมใจมาดีแล้ว

แต่ยังไม่ดีพอ


ซิกฟรีดไม่ทราบว่าตนควรทำอย่างไร

ข้าควรทำอย่างไรกับพี่ริวอร์นอร์


ซิกฟรีดรู้สึกถึงหยดน้ำอุ่นๆ ที่ไหลลงมาข้างแก้ม

ตอบสิ อาเลธ เจ้าจะทำอย่างไรกับพี่ชายคนรองที่ฆ่าพี่ชายคนโต!

นั่นคือความลับที่ทำให้ซิกฟรีดเกิดอาการหัวขบถ...ความจริงที่มารดานทีบอกแก่เขา

เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ซิกฟรีดจึงยอมเงยหน้า และเมื่อเขาค่อยๆ วางสายตาที่เอริแอดเน่ จึงได้ทราบว่าเหตุใดนางถึงเปิดเผยตนในสภาพเช่นนี้

...สภาพที่แสดงถึงความทุกข์ทนอันน่าเวทนาของนาง

 

ในเวลาไล่เลี่ยกัน โคลด์มาถึงวิหารที่องครักษ์บอก เขาไม่เห็นใคร จึงย่องผ่านซุ้มประตูเข้าไปใกล้หน้าต่าง--จุดเหมาะสมในการแอบดู--ด้วยความเคยชิน

เมื่อมองผ่านม่านน้ำตกใสบาง โคลด์เห็นด้านหลังของสตรีนางหนึ่ง ผิวขาวกระจ่างของนางเปลือยอาบแสงเทียน แผ่นหลังเรียบเนียน บั้นท้ายกลมกลึง ทุกส่วนที่ประกอบเป็นนางราวกับบิดาแห่งศิลป์บรรจงปั้น

ทว่านั่นคือสตรีที่มารับซิกฟรีดไม่ใช่หรือ?

แล้วโคลด์ก็เห็นซิกฟรีดก้มลงกอดนาง

กอดแน่น

นางยืนนิ่งให้เจ้าชายเอลฟ์กอดครู่หนึ่ง จึงยกแขนคล้องคอเขา...กอดตอบ

โคลด์ผงะ ใจเต้นแรง คิดว่าตนเห็นอะไรที่ไม่สมควรเห็น สตรีนางนี้น่าจะเป็นท่านหญิงเอริแอดเน่ คู่หมั้นของคิงริวอร์นอร์ไม่ใช่หรือ

แล้วน้องชายของคู่หมั้นกับคู่หมั้นของพี่ชายมายืนกอดกันในสภาพฝ่ายหนึ่งเปลือยเปล่าคืออะไรกัน

การทักทายแบบเอลฟ์หรือ ตลกน่า

โคลด์ถอยหลัง นี่ย่อมไม่ใช่การทักทายแบบเอลฟ์...ไม่ใช่แน่

แววตาของโคลด์แข็งกระด้าง เขาคาดอยู่ว่าที่ซิกฟรีดเลือกใช้ตนบนเตียงเพราะเป็นทาสใช้งานง่าย เมื่อซิกฟรีดกลับเมืองหลวงย่อมได้เจอสตรีหรือบุรุษที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องใช้เขาต่อไปอีก

แต่นี่ช่างน่าหัวเราะเยาะ พี่ชายกับน้องชายจะใช้ผู้หญิงคนเดียวกัน แล้วมารดานภาจะขับไล่มารดาสมุทรพร้อมสาปแช่งน้องสาวของตนทำไมกัน

พวกเอลฟ์ช่างลักลั่นย้อนแย้งเสียจริง!

โคลด์ไม่ได้อยู่ดูต่อ เขาไม่รู้จะดูไปทำไม เรื่องของเอลฟ์ก็ให้เป็นเรื่องของเอลฟ์เถิด

ดาร์กเอลฟ์หลบออกมา นึกถึงรอยจูบอ่อนโยนของซิกฟรีดยามจูบพรมใบหูตนแล้วก็รู้สึกเจ็บในหัวใจ

--------------------------------------------------

เมื่อเจ้าชายเอลฟ์กลับไป องครักษ์หญิงที่ซ่อนตัวอยู่รีบออกมาสวมเสื้อคลุมให้ท่านหญิง

“ท่านหญิง เหตุใดจึงอนุญาตให้ดาร์กเอลฟ์แอบดูเจ้าคะ”

นางถาม เพราะรอบวิหารนี้วางกำลังจากอิซิลดาร์เพื่อกันคนขององค์ราชา แต่เพราะได้รับรายงานว่าทาสของเจ้าชายซิกฟรีดกำลังมุ่งหน้ามาทางวิหาร เอริแอดเน่จึงมีคำสั่งยกเว้นให้มันเข้ามาได้เพียงคนเดียว

“ลางสังหรณ์ของข้า จามิลลา” เอริแอดเน่ให้องครักษ์หญิงผูกเสื้อคลุมด้านหน้า “ว่าให้มันเห็นจะดีกว่า”

“แต่ว่า...” จามิลลาจะค้าน

“มันไม่เห็นทั้งหมด” เอริแอดเน่ตัดบท นางเหยียดยิ้ม

...เหี้ยมเกรียมอย่างยิ่ง

“ข้าตั้งตารอคืนนี้มากกว่า เรียกว่ารอมาหกปีเต็ม คืนนี้ข้าจะถวายตัวแก่ริวอร์นอร์”

ท่านหญิงเดินออกจากวิหารอีกทางหนึ่ง โดยไม่รอให้จามิลลาสวมคลุมเสื้อทับให้อีกชั้น จามิลลายิ่งมีสีหน้าเครียดเขม็ง เหงื่อท่วมใบหน้า

สาเหตุที่นางหวาดกลัวสุดขั้วหัวใจนั้น…

คือการตัดสินใจถวายตัวของท่านหญิง

---------------------------------------------------------

ค่ำ งานเลี้ยงต้อนรับเจ้าชายซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์เริ่มด้วยการทักทายและอวยพรอย่างเป็นทางการ โดยมีคิงริวอร์นอร์จับตาน้องชายคนเล็กจากบัลลังก์ ด้านข้างคือพระคู่หมั้นบนบัลลังก์ของ ‘ว่าที่’ ราชินี เคียงกัน

ซิกฟรีดเห็นไมเธียนสวมชุดแบบควาร์อาวุโสเต็มยศ นั่งอยู่ในกลุ่มควาร์ที่ปรึกษาแล้ว ทั้งยังเห็นมาลแกธอยู่กับคณะทูตจากต่างแดน

ตุ้มหูเวทนี่...ไม่แน่อาจเป็นฝีมือไมเธียน

เจ้าพวกปลิ้นปล้อน!


มาลแกธอ่านสายตาเพียงแวบเดียวของซิกฟรีดออก เขาเพียงน้อมศีรษะกลับไปเพียงเล็กน้อย คล้ายจะว่า

‘ที่ท่านคิดอยู่นั่นน่ะ ถูกต้องแล้ว’

คิงริวอร์นอร์เผยให้น้องชายเห็นว่า ‘ไม่มีอะไรหลุดรอดสายตาของพระองค์ได้’ และแฝงความหมายเอาไว้อีกว่า

‘ต่อจากนี้ เจ้าจะทำอย่างไรเล่า...อาเลธ’

ซิกฟรีดทราบว่าพี่ชายกำลังเดินหมากตารุก เขากำลังถูกกดดัน

ถึงอย่างนั้น ทั้งสองแสดงบทบาทของตนได้อย่างแนบเนียน ซิกฟรีดแย้มยิ้มและสนทนากับเหล่าขุนนางอย่างมีชีวิตชีวา ขณะคิงริวอร์นอร์ก็คอยเสริมและชื่นชมน้องชายผู้จากบ้านไปนาน

ท่านหญิงจากอิซิลดาร์นั่งนิ่งเงียบราวรูปปั้น เมื่อมีผู้ทักทายจึงค่อยตอบคำ การพูดน้อยของนางแตกต่างจากสมัยของคิงเฟรธูริน แต่เป็นเรื่องปกติในสมัยของคิงริวอร์นอร์

ขุนนางและท่านหญิงทั้งหลายเห็นใจนาง เดาว่าที่นางปฏิเสธไมตรีจากคิงริวอร์นอร์เพราะต้องการไว้ทุกข์ให้แก่คิงเฟรธูรินผู้ล่วงลับ

แต่อย่างไรการเกี่ยวดองกับอิซิลดาร์คือการตอกย้ำอำนาจของรูเมเรียร์ และเป็นผลประโยชน์ของอิซิลดาร์เองด้วยเช่นกัน เหล่าขุนนางทั้งสองฝั่งจึงอยากให้ท่านหญิงเปิดใจมากขึ้น จะได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสเป็นราชินีแห่งรูเมเรียร์อย่างถูกต้องเสียที

หลังจากงานพิธีการผ่านพ้น งานเลี้ยงอาหารค่ำก็มาถึง คิงริวอร์นอร์ประทับอยู่บริเวณโต๊ะอาหารของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์บนยกพื้นสูง เห็นบรรยากาศทั่วงานโดยถนัด

“ได้ยินว่าเจ้าชายซิกฟรีดเป็นถึงควาร์มากความสามารถตั้งแต่ยังเยาว์ หากสำเร็จการศึกษา คงได้มาเป็นกำลังให้รูเมเรียร์” ขุนนางท่านหนึ่งยืนขึ้น พลางยกจอกไวน์ประจบประแจงแก่เจ้าชายพระองค์เล็ก ซึ่งนั่งอยู่ทางด้านซ้ายของคิงริวอร์นอร์

อาศรมควาร์บังคับให้ฝึกอย่างต่ำห้าปี หลังจากนั้นจะเป็นการฝึกขั้นสูง พัฒนาพรสวรรค์หลักในการได้ยินเสียงที่ตนถนัด และเรียกให้มันเป็นข้าช่วงใช้

ทว่าซิกฟรีดอยู่ในอาศรมควาร์มา ‘หก’ ปีแล้ว

“ขึ้นอยู่กับว่าน้องชายเราสนใจการเมืองแค่ไหน” คิงริวอร์นอร์เหลือบมองน้องชาย เผยยิ้มนุ่มนวล ทรงอำนาจอยู่ในที “งานปกครอง...การนำมาซึ่งสันติ อาจต้องทำ ‘เรื่องต่างๆ’ ซึ่งทำให้ลำบากใจบ้าง”

ซิกฟรีดพ่นหัวเราะดังหึเบาๆ มุมปากขยับขึ้นเล็กน้อย ดวงตาหลอมเหล็กโชนแสงยามจ้องมองพี่ชาย

“เพื่อรูเมเรียร์ ข้าทำได้ทุกอย่าง”

ริวอร์นอร์เลิกคิ้วพลางลูบคาง “ ‘ทุกอย่าง’ เลยหรือ อาเลธ”

ซิกฟรีดน้อมศีรษะแทนคำตอบ

“ยอดเยี่ยม” ริวอร์นอร์ปรบมือหนักแน่นสองสามครั้ง เหล่าขุนนางลุกขึ้นโดยพร้อมเพรียง ยกจอกไวน์ดื่มให้เจ้าชายแห่งรูเมเรียร์

เมื่อเสียงสรรเสริญอวยพรซาลง และเหล่าขุนนางกลับไปตั้งอกตั้งใจจัดการอาหารตรงหน้า คิงริวอร์นอร์ก็พูดกับซิกฟรีดพอให้ได้ยินกันสองคนว่า

“เจ้าทำได้ทุกอย่าง...เราก็เช่นกัน”

ดวงตาสีดุจหินแก้วประกายรุ้งของท่านหญิงซึ่งนั่งอยู่ทางด้านขวาของราชา...ไม่พลาดเฝ้ามองการสนทนานั้น


---------------------------------------------------------------

A/N บทนี้เฉลยปมสำคัญเลยค่ะ คาดว่าบางคนก็อาจเดาไว้แบบนี้เนอะ...


ป.ล. มีฉากพี่ชายน้องชายฟาดฟันคารม เราว่าซิกฟรีดโดนอะไรๆ มาเยอะเหมือนกัน ยิ่งเขาเด็กที่สุด อุทรณ์กับใครก็ไม่ได้ U_U #กอดราชานะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (4) [27/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 27-02-2017 00:12:17
ถึงจะเดา ๆ ไว้แล้ว แต่ก็ใจหายอยู่ดี

ทำไมต้องฆ่าพี่ชาย?

ทำไมต้องให้โคลด์เห็น?
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (4) [27/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 27-02-2017 00:49:25
โถ่วววววน้องโคลด์ของป้า เห็นฉากตะเตือนไตซะได้ ไม่เป็นไรนะลูกนะโอ๋เอ๋ไม่ร้องนะคะคนดี



อาเลธน่าสงสารจริงๆนะคะ เพื่อนก็ไม่มี พี่ชายที่รักก็ตายพี่ชายอีกคนก็เป็นไบโพลาร์ คนรอบข้างก็เหมือนจะหวังจ้วงแทงข้างหลังตลอดเวลา



แอริเอดเน่ก็น่าสงสารนะผู้ชายที่รักตายด้วยน้ำมือผู้ชายอีกคนที่จะเป็นสามี แต่ก็ต้องทำเพื่อบ้านเมือง จะคร่ำครวญร้องไห้สงสารหัวใจตัวเองไม่ได้เลย โหดร้ายจริงๆ



ปล.แอบจับได้ว่าน้องโคลด์ขี้หลงทางด้วย น่าร้ากกกก
ปล2.ขอฉากหวานๆของซิกกับนุ้งโคลด์บ้างสิคะ ใจบ่าวคนนี้แห้งเหี่ยวเปลี่ยวเฉาละเกิลลลล
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (4) [27/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 27-02-2017 01:23:59
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (4) [27/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 27-02-2017 06:07:18
ตอนแรกๆไม่ได้ชอบโคล์ดเลยนะ แต่ทำไมอ่านไปอ่านมากลายเป็น #ทีมโคล์ด ก็ไม่รู้
ช่วงนี้โคล์ดทำไรก็ดูน่ารักไปหมด (บ้าจริง  :o8: )

แอริแอดเน่ เก่งมากจนเรารู้สึกเข้าไม่ถึง ทำให้เป็นตัวละครที่ลึกลับน่าค้นหามาก อยากรู้ว่านางมีแผนอะไร ต้องการอะไร และจะทำอะไรต่อไป นางดูน่าจะเป็นตัวละครสำคัญในการดำเนินเรื่องมาก ไม่ชอบนาง แต่ก็ต้องยอมความสำคัญนางจริงๆ 55555

ปล. รอ ซิกโคล์ด หรือน้องโคล์ดเฉยๆก็ได้ อยากให้นางมีแอร์ทามเยอะๆ555555
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (4) [27/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 27-02-2017 09:07:00
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 13 : (4) [27/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-02-2017 20:51:48
สู้ๆเด้อ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (1) [28/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 28-02-2017 01:01:33
บทที่ 14  : การตัดสินใจ (1)

โคลด์ไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงเพราะเป็นแค่ทาสดาร์กเอลฟ์ ทว่าในวังนี้เขาไม่โดนใช้งานอะไร จึงมีเวลาว่างมานั่งแกร่วบนต้นไม้ มองอาคารจัดงานเลี้ยงจากที่ไกลๆ

แสงตะเกียงสีส้มนวลกับแสงของดอกไม้ดอกเล็กๆ ซึ่งเรืองแสงยามราตรีผสานกันราวหิ่งห้อยล้อมดวงไฟ เสียงบรรเลงดนตรีก็รื่นเริง แม้เย่อหยิ่งตามแบบเอลฟ์

ถึงจะหมั่นไส้ความเป็นเอลฟ์ แต่เสียงหัวเราะที่ดังคลอมาทำให้โคลด์อดคิดไม่ได้ว่างานเลี้ยงดูน่าสนุกจัง

ดาร์กเอลฟ์นึกถึงงานเลี้ยงที่บ้านเกิดสมัยเขายังเด็ก มันเป็นงานเลี้ยงกลางแจ้งรอบกองไฟ ใต้แสงของเทพีจันทร์ ดาร์กเอลฟ์เผ่าเขานิยมสวมเครื่องประดับหินหลากสี บ้างเป็นอัญมณีที่ยังไม่ได้เจียระไน บุรุษเหน็บอาวุธตกแต่งสวยงาม สตรีสวมชุดผ้าทอพื้นเมืองที่ตัดเย็บเองอย่างสุดฝีมือ ดอกราตรีถูกหนุ่มสาวนำมาร้อยเป็นสร้อยดอกไม้ ไว้มอบให้แก่คนที่ตนพึงใจ

โคลด์นึกอยากร้อยสร้อยดอกราตรีบ้าง ดอกไม้นี้ได้รับพรอันเย้ายวนจากแสงจันทร์ ยามกลางวันมันส่งกลิ่นหอมเพียงบางเบา หากไม่เข้าไปดมใกล้ๆ โดยแนบจมูกเข้ากับกลีบดอกไม้ก็แทบไม่ได้กลิ่น ทว่าเมื่อยามราตรีมาถึง ช่อดอกไม้สีแดงกำมะหยี่จะส่งกลิ่นหอมหวานซาบซ่านกระจายไปไกล

ดาร์กเอลฟ์ทราบดีว่ากลิ่นของดอกราตรีมีอำนาจเร้นลับ สะกดใจให้เคลิบเคลิ้มหลงใหล ปลุกเร้าอารมณ์ความใคร่อย่างรุนแรง

การมอบสร้อยดอกราตรีให้แก่ใคร จึงหมายถึงอยากให้เขามาเป็นคู่ของตนในคืนนั้น

โคลด์ลงจากต้นไม้ เขาทราบว่าในราชวังนี้ไม่มีดอกราตรี แต่ก็มีดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมหวานและมีสีสันแดงเหมือนไวน์ซึ่งพอทดแทนกันได้

โคลด์เก็บดอกไม้อย่างเนือยๆ เขาพกเข็มกับด้ายติดตัวตามความเคยชิน (ไว้ซ่อมเสื้อผ้าให้ตนเองและซิกฟรีด) เมื่อได้ดอกไม้มากพอก็เอามานั่งร้อยเงียบๆ ข้างสระน้ำเมื่อตอนกลางวัน

เขาร้อยดอกไม้แต่ละดอกไปพร้อมครุ่นคิดถึงอดีต...ปัจจุบัน...และอนาคตของตน

“คราวนี้คุยกับดอกไม้หรือ”

จู่ๆ มาลแกธก็โผล่มาทักโคลด์จากด้านหลังเหมือนผีเช่นเคย เขาปลีกตัวจากงานเลี้ยง มีคนสังเกตเห็นแน่ และเขาอาจถูกรายงานแก่ราชาเอลฟ์ แต่แล้วอย่างไรละ...เอลฟ์ตะวันออกช่างประจบเกินเหตุต่างหากที่ต้องระวัง

“ไม่ได้เปิดปากพูดสักคำ จะคุยกับดอกไม้ได้ยังไง” โคลด์ตอบเฉยๆ แต่ดูออกง่ายว่าอารมณ์ไม่ดี กดเอาไว้ข้างใน

“เจ้าอาจคุยได้ทางจิต” มาลแกธมองหาก้อนหินเล็กๆ เขาพึมพำกับตัวเองว่า “ไม่มีแบนกว่านี้หรือไงนะ...อ้า เจอแล้ว”

“นี่มาลแกธ...”

“หืม” มาลแกธเหวี่ยงก้อนหินที่ตนเลือกได้ไปยังสระน้ำ มันกระดอนบนผิวน้ำถึงห้าครั้งก่อนจมหายไป

โคลด์กำสร้อยดอกไม้สีแดงที่ร้อยเสร็จแล้ว ก้มมองมัน “ข้ากำลังคิดว่าจะทำอย่างไรกับสร้อยเส้นนี้ดี”

“มา ข้าตัดสินใจให้” มาลแกธขอสร้อยดอกไม้จากโคลด์ เขาไม่ทราบความหมายของสร้อยดอกราตรี แดนตะวันออกห่างจากแดนทมิฬแบบคนละฟากฝั่ง ถึงมาลแกธจะเคยอ่านเรื่องเผ่าทมิฬ และเคยไปเยี่ยมเยือนสมัยยังเยาว์ แต่ไม่ได้สนใจมากนัก

“ไม่ให้” โคลด์หวงไว้

“มาเถอะน่า”

“ไม่ ข้าไม่ได้ร้อยให้ใคร” โคลด์เหมือนตัดสินใจได้เมื่อพูดออกมา ก่อนหน้านี้เขาร้อยสร้อยด้วยความรู้สึกอึมครึม นึกไม่ออกว่ามีคนอยากมอบให้หรือไม่ แต่พอมาลแกธเอ่ยปากขอ ความรู้สึกของเขาก็ชัดเจนขึ้น

“เห็นไหม เจ้ารู้แล้วว่าควรทำอย่างไรกับมัน” มาลแกธยิ้มกว้าง “สร้อยดอกไม้เส้นนี้แฝงนัยสำคัญอะไรเอาไว้หรือ”

“เอาไว้สาปแช่ง” โคลด์บอก “ข้ากำลังคิดว่าจะฉีกมันทิ้ง เหยียบมัน ขยี้มัน เผามัน ฝังมัน จับมันกดน้ำ หรือทิ้งมันไว้ ไม่สนใจอีก!” โคลด์พูดรัวเร็ว แววตามีความโมโหแทรกชัด ทว่าความโมโหนั้นไม่ได้พุ่งเข้าหามาลแกธ

โคลด์ สตาร์ดูต่างจากเวลาปกติมาก...มากจริงๆ

ถ้าสร้อยดอกไม้นี้แทนหัวใจของเขาซึ่งมีที่ว่างเหลือพอให้ใครสักคนหนึ่ง นอกเหนือจากความโหยหาพี่สาวและความกดดันที่ต้องหลบหนีจากพ่อบุญธรรม มันก็คือความรู้สึก ‘รัก’ ที่โคลด์ไม่คาดคิดว่าตนจะมี...

มาตอนนี้ เขาอยากทำลายมัน

มาลแกธดึงโคลด์เข้ามากอด พลางกดศีรษะอีกฝ่ายเข้ากับอกของตน “เอ้าๆ ร้องไห้มา หรืออยากทุบข้าก็ย่อมได้”

แต่โคลด์กลับกอดมาลแกธ กอดแน่นแบบคนต้องการที่พึ่ง

ดาร์กเอลฟ์ไม่คร่ำครวญแม้สักคำ

-------------------------------------------------

จบงานเลี้ยงแล้ว ตามปกติคิงริวอร์นอร์จะมีบาทบริจาริกาคอยรับใช้ข้างแท่นบรรทม ซึ่งเป็นสิทธิของราชา และคืนนี้ก็ไม่ต่างกัน

ไม่สิ...

ต่างออกไปมากโข เพราะบาทบริจาริกาที่รออยู่ในห้องไม่ใช่คนที่ราชาเลือกไว้ แต่เป็นสตรีสูงศักดิ์ที่มาโดยไม่คาดคิด

นางนั่งพับเพียบอยู่บนพื้น ทว่าแววตาอันคุ้นเคยและรู้เท่าทันกันมองเขาอย่างเฉียบคม

เอริแอดเน่ไม่ได้มองริวอร์นอร์--สหายแต่ยังเยาว์ ด้วยแววตาเช่นนี้อีกหลังจากสิ้นคิงเฟรธูริน

ริวอร์นอร์หงายมือให้เอริแอดเน่ ให้นางรับทราบว่าหากยื่นมือกลับมา นางจะไม่สามารถถอยหลังได้อีก

ราชาใช้ความเงียบต่อกรกับความเงียบ ใช้สายตาสยบความดื้อดึง ริวอร์นอร์ทราบว่าไม่อาจครอบครองเอริแอดเน่ได้ทั้งหมด ทว่านอกจากเขา นางทราบแก่ใจว่า...ไม่อาจมีชายใดรับ ‘ความอัปลักษณ์’ ของนางได้

เอริแอดเน่พรายยิ้ม นางลุกขึ้นโดยไม่เอ่ยปากขอคำอนุญาต และไม่จับมือราชา เมื่ออยู่กันตามลำพัง ก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องปิดบังตัวตน

“ข้ากับเจ้าคุ้นเคยกันขนาดนี้ มีหรือว่าเจ้าจะไม่รู้ว่าข้ามาทำไม” นางบอก

รอยยิ้มของริวอร์นอร์ยามอยู่กับเอริแอดเน่เพียงสองคน ดูต่างออกไปจากที่บรรดาขุนนางเคยเห็น มันเปิดเผยด้านมืดของราชาแห่งรูเมเรียร์ แม้จะเหี้ยมเกรียม แต่เจิดจ้าราวกับรอยยิ้มของจอมปีศาจตามความเชื่อโบราณของเผ่าทมิฬ

“เจ้าได้ยินสิ่งที่ข้าบอกแก่ซิกฟรีดแล้ว ข้าจะให้กำเนิดบุตรของราชา และบุตรชายคนแรกของข้าจักมีนามว่า ‘เฟรธูริน’ ”

ตุ้มหูเวทของซิกฟรีดมีลูกเล่นตุกติกอยู่จริงๆ เอริแอดเน่ไม่ได้เป็นคนเลือกให้ด้วยซ้ำ ริวอร์นอร์อ้างชื่อนางเพื่อหลอกน้องชาย

“เจ้าให้กำเนิดบุตรได้หรือ” ริวอร์นอร์เอ่ยคำแทงใจ “...หรือแพทย์หลวงหลอกเราว่าไม่ได้”

“แพทย์หลวงของเจ้าไม่เคยแตะต้องข้า เจ้าไปประหารมันเอาเองพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” ท่านหญิงตอบอย่างอำมหิต

ริวอร์นอร์ไล่สายตามายังบริเวณหน้าท้องของเอริแอดเน่ นางสวมชุดรัดกุมตามปกติ ไม่เหมือนบาทบริจาริกาที่พร้อมถวายการรับใช้

“ข้าจะเป็นราชินี ข้าบอกเจ้าเสมอมา เจ้าริบโอกาสของข้าไปเมื่อหกปีก่อน” เอริแอดเน่ยิ่งฉีกยิ้ม “ข้าจักเป็นราชินีที่งดงามของเขา เพราะเขาทำให้ข้างดงามยิ่งกว่าใคร ทั้งหัวใจและความรู้สึก แต่เจ้าชิงมันไป เจ้าเหลือทางเลือกเดียวให้ข้า”

“เจ้าเป็นราชินีของ ‘ผู้ล่วงลับ’ ไม่ได้...คนดี”

ท่านหญิงกระตุกรอยยิ้มให้น่าชัง ให้สมกับความชังในใจของนางที่มีต่อริวอร์นอร์

“เจ้ากลับอิซิลดาร์ไม่ได้ จะอยู่ที่นี่ก็ชังเราเหลือใจ แล้วจะทำอย่างไรต่อไปล่ะ”

“เวลานี้อิซิลดาร์มีคนอยู่เหนือข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น เจ้าดูเข้ากับนางได้ดี ท่านย่าของข้า เจ้าก็ควรทราบว่านางเองก็ไม่มีทายาทสตรีคนใดมาเสนอให้เจ้าได้ดีไปกว่าข้า”

“มั่นใจเสียจริง” ริวอร์นอร์เอนกายชมความโกรธแค้นชิงชังของนาง

“ข้ามั่นใจเสมอมา และจักมั่นใจตลอดไป”

เอริแอดเน่ทำทุกอย่างเพื่อความมั่นใจนั้น ทั้งสิ่งที่ริวอร์นอร์ทราบและไม่ทราบ นางไม่ได้สิทธินี้มาเพียงเพราะเป็นบุตรีสายตรง นางกำจัดก้อนหินขวางทางและคู่แข่งมานับไม่ถ้วน

“คืนนี้เจ้ามาเพื่อปะทะคารมกับเราเพียงอย่างเดียวหรือ” ริวอร์นอร์แสร้งถอนหายใจเหนื่อยหน่าย ดูว่านางจะดิ้นไปทางไหนอีก

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางแสดงความเกลียดชังที่มีต่อเขาอย่างชัดแจ้ง

“ไม่ ข้ามาให้เจ้าดูว่าเจ้าได้อะไร” เอริแอดเน่หัวเราะ ไร้ความร่าเริงอ่อนเยาว์อย่างเด็กสาวแรกตกหลุมรัก...ดังเช่นที่ครั้งหนึ่งนางเคยมอบให้แก่เขา

นางปลดกระดุมชุดด้านหน้าทีละเม็ด ถอดชุดราตรียาวท่อนบนออก แล้วปล่อยให้เนื้อผ้าไหลผ่านเรือนร่างลงไปกองที่พื้น จากนั้นก็ปลดชุดซับในตัวบาง

ยืนเปลือยกายต่อหน้าราชา

นางยืนอย่างองอาจเหมือนที่ยืนต่อหน้าซิกฟรีด ไม่อับอายต่อแสงโคมภายในห้องที่ทำให้ภาพของนางชัดเจนในสายตาของเขา

“นี่คือสิ่งที่เจ้าจะได้ ริวอร์นอร์” นางลูบรอยแผลเป็นสีชมพูนูนยาวใต้ทรวงอก มันเป็นรอยกรีดใต้ราวนมสองข้างมาบรรจบกันที่กลางลำตัว ลากยาวลงไปตามแนวสะดือ และตีกรอบสี่เหลี่ยมรูปเพชรคมกริบรอบหน้าท้องเหมือนการตีตราสัญลักษณ์

“เจ้าคงไม่ได้คิดว่าข้าเกิดพิสมัยชุดอย่างรูเมเรียร์ขึ้นมากะทันหันใช่ไหม เรื่องนี้ไม่มีใครทราบ ท่านย่าของข้าไม่ทราบ เจ้าก็ไม่ทราบ แต่ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นราชินี ข้าไม่เกรงจะเปิดเผยมันอีกต่อไป เห็นแก่ความชั่วช้าที่เราเคยทำร่วมกันมาทั้งหมด จงคิดให้ดีก่อนปฏิเสธข้า”

“เจ้าแน่ใจหรือว่าเราไม่ทราบ” ริวอร์นอร์ลุกจากเตียงมาหานาง “ราชินีของเรา”

มือแข็งแรงวางบนเอวของเอริแอดเน่ ก่อนจะโอบแล้วดึงเข้ามาแนบชิด ริมฝีปากงามสมบูรณ์แบบของนางถูกครอบครอง...อย่างอ่อนหวาน นุ่มนวล

“ข้าแน่ใจ” เอริแอดเน่เบือนหน้าออก ไม่หลงกลความอ่อนโยนอันเสแสร้ง “เจ้าไม่เคยทราบ ไม่ว่าเจ้าจะพยายามแสดงออกว่าทราบอย่างแนบเนียนแค่ไหน ข้ารู้ทัน และเจ้าจะต้องอยู่กับมันโดยอุทธรณ์ไม่ได้ เพราะข้าจะไม่รักษามัน”

ริวอร์นอร์เหยียดยิ้ม ทว่า...แม้นางจะพยายามมองหาอาการปฏิเสธหรือรังเกียจเดียดฉันท์ นางก็ไม่พบเลย

“ราชินีอัปลักษณ์ย่อมเหมาะกับราชา--”

“เลวทราม” เอริแอดเน่ต่อคำให้

“ถูกต้อง…”

เสียงตบหน้าดังก้องห้องบรรทมของราชาฉาดหนึ่ง จากฝ่ามือของท่านหญิงผู้แสดงออกอย่างสงบนิ่งเสมอมา นางหอบหายใจถี่แรง ด้วยโกรธจนหายใจไม่ทัน

ริวอร์นอร์หันกลับมาช้าๆ ผิวแก้มค่อยๆ ขึ้นสีจัดเป็นรอยฝ่ามือเล็กๆ ของสตรีใจกล้า

“สิ่งที่เจ้าได้ มีแค่ความอัปลักษณ์ของข้าเท่านั้น!”

“เจ้าไม่ได้อัปลักษณ์ไปกว่าเดิมหรอก เอริแอดเน่” ริวอร์นอร์มองนางเต็มตา ท่านหญิงเห็นเงาสะท้อนของตัวเองผ่านนัยน์ตาของริวอร์นอร์

“ข้างดงามในสายตาของเขา” เอริแอดเน่กลืนลมหายใจกลับเข้าไป นางควบคุมอารมณ์ไม่ให้เสียงสั่น

“แล้วเจ้าเห็นอะไรผ่านเรา...คนงาม” ราชาเอลฟ์ไล้ข้อนิ้วบนแก้มและคางของนาง

“เห็นตัวข้า ที่เจ้าต้องอดทนรับไว้ เพราะไม่มีทางเลือกอื่นใด เพราะข้าไม่มอบทางเลือกให้เจ้า”

ริวอร์นอร์หัวเราะเสียงดังกับคำตอบนั้น “เราได้สิ่งที่ต้องการทั้งหมดแล้ว” เขาไม่ได้แสร้งทำแม้สักนิด “อีกเรื่องหนึ่ง...หากเจ้าฉลาดอย่างที่เป็นมาเสมอ จงทำให้อาเลธรู้จักที่ทางของตน”

ท่านหญิงส่งเสียงหึ! ในลำคอ บุรุษคนใดก็ไม่สามารถสั่งนางได้

“นับแต่นี้ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้า ริวอร์นอร์ ไม่ว่าเจ้าจะต้องการหรือไม่ ข้าจะอยู่กับเจ้าจนถึงวันที่เราคนใดคนหนึ่งตายจากกัน และในวันนั้นข้าจะมองตาเจ้า บอกความ ‘รัก’ ของข้าที่มีต่อเจ้าโดยไม่หลบสายตา”

ช่างเป็นคำบอกรักร้อนแรงสมเป็นสตรีอิซิลดาร์

“สมกับตำแหน่งราชินีของเราเหลือเกิน” ริวอร์นอร์จุมพิตนาง สองมือกอบหลังศีรษะของนางเข้ามาไม่ให้หนี

เอริแอดเน่กัดปากริวอร์นอร์เต็มแรง เรียกเลือดของราชามงกุฎดำ

“อา…” ริวอร์นอร์ถอยไปนิดหนึ่ง ก่อนแสยะยิ้ม “ถ้าเจ้าชอบแบบนี้ เราก็จะตอบสนองตามที่เจ้าต้องการ”

ท่านหญิงจากอิซิลดาร์มองตอบด้วยแววตาดุร้ายดุจนางสิงห์

นี่ไม่ใช่คืนถวายตัวที่จบลงด้วยประโยคที่ว่า

‘...และแล้วราชากับราชินีก็ครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดไป’


 —————————————————————————

A/N อา...จากคอมเมนต์ของหลายๆ คนในตอนที่แล้วเรื่องเอริแอดเน่ ไม่ทราบว่าอ่านตอนนี้แล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้างคะ /อย่าปาเค้า แงๆๆๆ

ป.ล. ชอบฉากร้อยดอกไม้ของโคลด์ค่ะ และมาลแกธ...ก็ยังเป็นผู้ชายที่จังหวะดีตลอดดด ป๋าทำบุญมาด้วยอะไร โผล่มาก็ได้เต๊าะเอาๆ ได้คะแนนไปทุกที! =.=


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz


อนึ่ง วันนี้มาช้าเพราะเคลียร์งานอยู่ค่ะ แงๆๆ คอมเมนต์ก็ยังมะได้ตอบเลย ฮือๆ เรายังจะยุ่งไปอีก 3-4 วันค่ะ
แต่จะมาลงต่อเนื่องค่ะ หมดช่วงพีคจัดๆ ไปแล้ว
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (1) [28/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 28-02-2017 02:08:34
เราจะงอนคนเขียนแล้วอ่ะ ไม่มีฉากซิกกับโคลด์ให้ชุ่มฉ่ำใจบ้างเลย//นั่งอยู่บนเรืออย่างเงียบเหงา



สำหรับแอริเอดเน่ก็ไม่เกินที่คาดไว้หรอก ออกจะน้อยไปด้วยซ้ำ ผู้หญิงแบบนี้น่ากลัวแล้วก็น่านับถือใจมาก ใจเด็ดจริงๆ


ปล.น้องโคลด์ชอบดอกราตรีหรอลูก มาเดี๋ยวป้าปลูกให้สักแผงหนึ่งดีไหมคะ? หรือชอบดอกอะไรเดี๋ยวป้าเปย์หนูเองลูก

ปล2.คนเขียนสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (1) [28/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-02-2017 06:55:18
ห๊ะ! ฉันพลาดอะไรไป? รอยกรีดคืออะไร?
เห็นใจแอรี่ และไม่เห็นใจนาง ความรู้สึกตีกันยุ่งเหยิงมาก

#ป๋าจังหวะเทพ ดอดมาตอดเมียชาวบ้านเสมอ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (1) [28/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 28-02-2017 07:23:08
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (1) [28/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-02-2017 07:27:57
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (1) [28/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 28-02-2017 09:03:03
ชอบฉากร้อยดอกไม้ของโคล์ดเหมือนกันค่ะ 5555
นุ่งโคล์ดน่ารักตลอดเลย รู้ใจตัวเองแล้วเหรอลูกกก :ling1:
พอชอบโคล์ดเราก็จะเริ่มหมั่นไส้ซิก แต่ก็ต้องการโมเมนต์ซิกโคล์ด โอ้ยสับสนแรง :serius2:

ส่วนท่านหญิงแอริแอดเน่ อ่านตอนของนางนอกจากจะมีความรู้สึกระแวงตามปกติ ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยและอึดอัดแทนนาง
ทำไมชีวิตนางถึงต้องยากขนาดนี้ มันไม่ยากแบบโคล์ดที่ต้องพลัดถิ่นตามหาพี่สาว มันยังพอมีพลังด้านบวก มีความหวังบ้าง
แต่ของนาง ต้องสู้แย่งชิงกับคนอื่น ต้องตะเกียดตะกายยังไงก็ไม่รู้ แต่นางมีความมั่นใจ ว่านางเก่ง นางควบคุมทุกอย่าได้
จะบอกว่าสู้ๆนะ พี่เน่ ก็นึกได้ว่าเราไม่เชียร์นาง555555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (1) [28/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-02-2017 10:46:59
เอริแอดเน่ ต้องการให้โคลด์เห็นฉากกอดกัน
เพราะนาง คงมีลางบอกให้รู้ ว่าซิก กับโคลด์ มีซัมติงกัน
ฉากบนเตียงราชา ดูท่าคงเหมือนสมรภูมิรบละม้าง
ซิก รู้ความจริงซ้ำอีกครั้งที่ว่า คิงริวอร์นอร์ฆ่าคิงเฟรธูริน
คงยากลำบากใจ ก็เป็นพี่ชายทั้งคู่ แต่รัก สนิทสนมต่างกัน
โคลด์ แม้จะโกรธรวดร้าว แต่ไม่ปริปากบอกมาลแกธเลย เยี่ยมมาก
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (1) [28/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-02-2017 11:35:16
มีแต่พวกน่ากลัว
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (1) [28/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 28-02-2017 15:31:41
ป๋าจะดวงดี(เหรอ?)ไปไหนอ่ะ นั้นเมียคนอื่นนะ!!//อ้ายยๆเรายังไม่เอ่ยชื่อนายนะโคลด์

เราก็สงสารนางนะแต่อีกใจเราก็ไม่สงสารอ่ะ..แลดูสับสน ฮ่าๆ

ปอลิง.เอาซิกออกมาที เดี๋ยวออกค่าตัวช่วย :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (1) [28/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 28-02-2017 16:31:37
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (2) [01/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 28-02-2017 22:10:37
บทที่ 14  : การตัดสินใจ (2)

เช้าวันต่อมา ซิกฟรีดจมอยู่กับความคิดของตัวเอง เขาไม่แตะต้องอาหารในงานเลี้ยง เว้นเพียงไวน์ ซึ่งดื่มตามมารยาทเมื่อขุนนางยกจอกขึ้นเพื่ออวยพร

เขาทราบว่าริวอร์นอร์ผู้เป็นพี่ชายจับตามองตนอยู่

และเขาแสดงออกชัดเจนว่าเป็นปรปักษ์

แต่จะทำอย่างไรได้เล่า

‘เจ้าคิดจะดิ้นจากอุ้งมือเราอย่างนั้นหรือ’ สายตาของพี่ชายเหยียดหยัน

ริวอร์นอร์ฆ่าเฟรธูริน ขังซิกฟรีด...ขังข้า! ในอาศรมควาร์ ให้ควาร์อาวุโสนามไมเธียน และเอลฟ์ตะวันออก มาลแกธ ล็องธู คอยจับตาดูน้องชาย ฟังจากในงานเลี้ยง ตระกูลล็องธู ‘คล้ายว่า’ จะสวามิภักดิ์กับราชาเอลฟ์เพื่อแลกกับ ‘ไมตรีจากรูเมเรียร์’ และใช้ไมตรีนั้นกดดันตระกูลอื่นๆ ในดินแดนตะวันออก

และคืนก่อน ริวอร์นอร์แสดงให้ซิกฟรีดเห็นว่า ‘เจ้าไม่มีทางเลือกอื่น...อาเลธ’

พี่ผิดแล้ว ริวอร์นอร์

มีทางเลือกอื่นเสมอ

ยังมี...


ด้านล่างที่พักของเจ้าชาย ทาสดาร์กเอลฟ์แอบนำห่อของว่างมาให้ทหารองครักษ์ที่บอกทางแก่เขาเมื่อวาน

โคลด์ยื่นห่อผ้าเล็กๆ ให้ทหารองครักษ์นายนั้นรับไว้ แต่เพราะอยู่ในหน้าที่ ทหารองครักษ์จึงรับของขวัญไม่ได้

“งั้นท่านออกเวรเมื่อไหร่ ข้าจะนำมาให้ใหม่” โคลด์บอกก่อนหน้านั้นเขานึกอยากเอาอาหารไปให้มาลแกธ แต่โดนไล่ออกมาจากโรงครัวหลวง เพราะมาลแกธเป็นอาคันตุกะชั้นสูง แถมไม่มีใครบอกโคลด์ด้วยว่ามาลแกธพักอยู่ที่ไหน

ส่วนอาหารของซิกฟรีด...ก็ไม่ใช่หน้าที่เขาอยู่ดี

โคลด์จ้องผ่านทหารองครักษ์กับทหารอีกนายไปทางบันไดขึ้นสู่ตำหนักของเจ้าชาย

จะเอาข้ามาทำไม

คำถามนี้ติดอยู่ในใจโคลด์ตลอด

ดูสิ แค่ทางเข้าข้ายังเดินเข้าไปไม่ได้

แต่คิดอีกที โคลด์ว่าแบบนี้อาจดีก็ได้ ต่อไปเขาจะได้ตอกหน้าซิกฟรีดได้ถนัด เวลามาบังคับให้เขาทำอะไร

“ให้ขึ้นมา” ซิกฟรีดสั่งให้ทหารองครักษ์เปิดทาง หากโคลด์สังเกตสักนิด จะเห็นว่านิ้วทั้งห้าของเจ้าชายที่ ‘บีบ’ ขอบระเบียงอยู่กลายเป็นสีขาวซีด คล้ายกดอารมณ์ไม่ให้แสดงทางสีหน้า แต่ระบายเอากับหินอ่อนแทน

โคลด์ที่กำลังจะเดินกลับได้ยินคำสั่งนั้นพอดี

เขาจึงมานั่งแหมะบนพื้นพรมหรูหรา ในห้องอันสมฐานะตามชาติกำเนิดของเจ้าชายเอลฟ์

“นี่ เมื่อวานข้าเจอมาลแกธ” โคลด์บอกง่ายๆ

“ไปเจอมันอีกทำไม”

“เขามาเจอข้าเอง ใครจะไปรู้ว่าเขาเป็นขุนนางแดนตะวันออก” โคลด์เดาจากชุดที่มาลแกธใส่

สนิทกันนัก…ซิกฟรีดนึกอย่างไม่พอใจ แต่ข้าไม่มีสิทธิ์ห้ามเจ้าใช่ไหม เจ้าไม่เคยมีความรู้สึกใดๆ กับข้า

“ข้าเจอไมเธียนด้วย” โคลด์ทำท่าอยากบอกอะไรสักอย่าง “เจ้ารู้ไหมว่ามาลแกธเรียกเขาว่าอะไร” ท่าทางอยากพูดของดาร์กเอลฟ์ปิดไม่มิดทีเดียว

“ควาร์อาวุโส”

“เอ้อ...ใช่” ใบหูสีเข้มลู่ลง “แสดงว่าข่าวของข้ามาช้าไป”

“เขาแสดงตนชัดเจนในงานเลี้ยง” ซิกฟรีดกดขมับตัวเอง คิ้วขมวดเข้าหากันจนเห็นรอยย่น

“เจ้านั่นทำตัวเป็นควาร์คุณหนูมาหลอกเรา ข้าพนันว่าธอรอนทูร์ไม่รู้หรอก กลับไปอาศรมเมื่อไหร่ข้าจะหัวเราะเยาะมัน”

โคลด์ยิ้มแบบไม่ทุกข์ร้อน เหมื่อนเรื่องที่เขาให้มาลแกธปลอบเมื่อคืน หรือที่เขาอยากขยี้สร้อยดอกไม้ไม่เคยเกิดขึ้น

“ก็สมกับเป็นควาร์อาวุโสแล้ว พวกเราเรียนรู้วิธี ‘ตีสองหน้า’ เพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุด”

ซิกฟรีดยิ้มเยาะที่ตนโง่งมเป็นนาน

เขาจงใจย้ำคำว่า ‘ตีสองหน้า’ เพื่อให้ผู้ใดก็ตามที่แอบฟังผ่านตุ้มหูเวทได้ยิน

“เจ้ากินอาหารเช้าหรือยัง” โคลด์ถาม

ซิกฟรีดส่ายหน้า ใครจะกินลง

“ไม่มีใครเอาอาหารเช้ามาให้เจ้าหรือไง”

ซิกฟรีดเบือนสายตาไปทางเตียงให้โคลด์มองตาม บนเตียงมีถาดอาหารเช้าเบาๆ วางอยู่ แต่เจ้าชายไม่แตะต้องเลย

โคลด์เดินเข้าไปจดๆ จ้องๆ และอาจจิ้มไปแล้วหากไม่เกรงใจว่าอยู่ในราชวัง

เขาหันมามองซิกฟรีดด้วยแววตาเป็นประกาย

“เจ้าจะกินกับข้าไหม” ดาร์กเอลฟ์ยิ้มแป้น เขายกไปกินเองเฉยๆ คงไม่ดี แต่ถ้าเจ้าชายแบ่งให้กินคงพอได้

ซิกฟรีดไม่อยากเชื่อ เขาทราบว่าโคลด์กินเก่ง แต่ไม่นึกว่าจะไม่เลือกสถานการณ์ด้วย

“ข้าอนุญาต” เจ้าชายโบกมือคล้ายปัดรำคาญ

โคลด์เลยยกถาดอาหารมาวางบนโต๊ะในส่วนห้องนั่งเล่น และเรียกซิกฟรีด “เจ้าต้องกินด้วย”

“ข้าไม่อยากกิน” ซิกฟรีดไม่ยอมเดินไป เขาไล่นิ้วบนพิณขนาดเล็ก มันส่งเสียงเบาๆ คล้ายกำลังเศร้าสร้อย

“กินเถอะน่า ทนหิวไปไม่ทำให้เจ้าอารมณ์ดีขึ้นมาหรอก” โคลด์ยืนยันอย่างไม่สนใจท่าทางดราม่าของอีกฝ่าย สมัยก่อนเขาก็หลอกล่อเจ้าชายน้อยให้กินอาหารด้วยวิธีคล้ายๆ กันนี้ ซึ่งได้ผลดี

“เจ้าเกลียดที่ต้องรับใช้ข้า”

“ข้าไม่เกลียดเรื่องกินอาหารเช้ากับเจ้า” โคลด์ยังไม่แตะต้องอาหาร เพราะรอให้อีกฝ่ายเลิกรั้นเสียที

ซิกฟรีดถอนหายใจหนักๆ แล้วยอมเดินไปหาโคลด์ เขานั่งลงแล้วอ้าปาก เหมือนสั่งให้อีกฝ่าย ‘ป้อน’

จงใจกวนอารมณ์แน่ๆ

“เจ้าเป็นลูกนกหรือไง ไหนร้องจิ๊บๆ ซิ” โคลด์หัวเราะ ป้อนซุปเห็ดกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอให้

บางครั้งดาร์กเอลฟ์ก็ทื่อเกินไป

ซิกฟรีดพอกินได้เวลามีโคลด์อยู่ “อ้าปาก” เขาสั่ง

โคลด์ทำหน้ายู่ “ไม่เอา” เขารู้ว่าซิกฟรีดจะทำอะไร

‘อ้าปาก’ สายตาดุอันแสนคุ้นเคยจ้องมา

ดาร์กเอลฟ์เม้มปากแน่น ตักซุปช้อนใหม่ จะป้อนให้อย่างเดียว พร้อมทำสงครามทางสายตาตอบ

สมัยก่อนเขาป้อนอาหารให้ไอ้เด็กเอลฟ์บ่อย แต่ไม่เคยต้องให้มันป้อนให้

ซิกฟรีดบิขนมปังถือไว้ แล้วเอาไปจ่อปากโคลด์ ขณะที่มืออีกข้างบีบจมูกดาร์กเอลฟ์

พอโคลด์อ้าปากหายใจ เขาก็ส่งขนมปังเข้าปาก

ซิกฟรีดยิ้มได้ใจ เสียงหัวเราะเบาๆ ลอดออกมา

น่ารัก…

แล้วเจ้าชายเอลฟ์ก็ชะงักกับความคิดของตัวเอง

“แค็กๆ” โคลด์ไม่คายของกินทิ้งอยู่แล้ว จึงกลืนเข้าไป ใบหน้าสีเข้มแดงก่ำ เขาทุบอก คว้าน้ำมาดื่มให้ขนมปังที่ติดคอไหลลงไป จากนั้นก็มองซิกฟรีดตาเขียว

สงครามซุปและขนมปังเริ่มขึ้น ใช้เวลาสักพัก อาหารเช้ามากมายหลายชนิดก็ลงไปอยู่ในท้องของทั้งสองคนจนหมด

“เจ้ารู้ไหม...เมื่อก่อนตอนข้าอยู่นอกค่าย อาหารหากินยากมาก ข้าจึงถือคติถ้ามีให้กินก็อย่ามัวลีลา กินๆ เข้าไปเถอะ”

โคลด์บอกขณะเก็บจานชามให้เรียบร้อยตามความเคยชิน

แต่เขาไม่ได้บอกว่าที่หากินยากนั้น...ยากขนาดไหน บางครั้งไม่มีของกินที่เรียกว่าอาหารได้เต็มปากตกถึงท้องเป็นสัปดาห์ เขาและพี่สาวอาศัยดื่มน้ำจากลำธารกับขูดเนื้อไม้ข้างใต้เปลือกไม้มากินประทังชีวิต

ซิกฟรีดหัวเราะและหอบหายใจกับการต่อสู้ไร้สาระ แต่ครู่หนึ่งก็หุบยิ้ม “ข้าจะกลับอาศรม” เขาบอก “กลับไปศึกษาเวทควาร์ขั้นสูง พี่ริวอร์นอร์เปรยเรื่องตำแหน่งในราชสำนักเมื่อคืนก่อน ข้ายัง… ‘ทำใจรับไม่ได้’ บางทีอาจต้องใช้เวลา”

ใบหูของดาร์กเอลฟ์ตั้งด้วยความทึ่งที่เจ้าชายเล่าเรื่องของตน เพราะปกติซิกฟรีดไม่คุยเรื่องส่วนตัวกับเขา

“เจ้าดีใจที่ได้พบพี่ชายเหรอ ถึงมาเล่า”

ซิกฟรีดขบกราม

เขาไม่ได้พูดกับโคลด์

แต่พูดกับริวอร์นอร์ผ่านตุ้มหูเวทอันน่าชัง

ข้ายอมกลับไปเป็นนักโทษ

ดีกว่าไร้ทางเลือกใด


“แล้วเจ้าทำใจรับไม่ได้เรื่องอะไร” โคลด์ถามต่อ “ไม่อยากทำงานให้ราชสำนักหรือ หรือเป็นเจ้าชายไม่ต้องทำงานก็ได้”

จะให้ข้าทำใจรับใช้พี่ชายซึ่งสังหารพี่ชายอีกคนได้หรือ

ซิกฟรีดไม่ตอบ บรรยากาศรอบตัวเขากลับมาอึมครึม

โคลด์จึงได้แต่เก็บจานแล้วเก็บจานอีก จัดใหม่เรียงใหม่อย่างคนไม่รู้จะพูดอะไร กระทั่งจานชามถูกจัดเรียงอย่างสวยงามไม่มีที่ติเพื่อรอคนรับใช้มาเก็บ โคลด์จึงลุกขึ้นเพื่อขอตัวลา

“ข้ากลับไปอยู่ที่ของข้าดีกว่า ข้าจำได้ว่าพี่ชายคนรองของเจ้าไม่ชอบดาร์กเอลฟ์”

‘กอด’ ซิกฟรีดมองโคลด์ ‘...ได้โปรด’

เขาไม่ทราบว่าโคลด์จะเข้าใจสายตาของตนไหม ที่ผ่านมาอีกฝ่ายเหมือนจะเข้าใจโดยเขาไม่ต้องพูด

โคลด์ยืนตัวค้าง ถลึงตา นั่นแปลว่าเข้าใจ เขาใช้สายตาตอบกลับว่า ‘จะหาเรื่องให้ข้าหัวขาดหรือไง’

ซิกฟรีดจึงหลุบตาลง

ไม่มีการร้องขอใดอีก

โคลด์ชั่งใจ...เขานึกภาพซิกฟรีดกอดท่านหญิงเอริแอดเน่เมื่อวาน ไม่เข้าใจว่าทำไมซิกฟรีดยังต้องการให้เขากอด

ดาร์กเอลฟ์หลับตา ดึงมือเจ้าชายเอลฟ์หลบเข้ามุมห้อง ในจุดที่จะไม่มีใครเห็นพวกเขาจากทางหน้าต่าง แม้มีผ้าม่านกั้นบางเบา โคลด์ก็ไม่อยากให้เงาของพวกเขาเผลอทาบไปบนนั้น

เขากอดเอวซิกฟรีดก่อน แล้วยกแขนขึ้นกอดหลัง

ซิกฟรีดรวบตัวโคลด์เข้ามากอดแน่น เขาฝังจมูกบนบ่าของอีกฝ่าย มือรั้งแผ่นหลัง ทั้งสองแทบจะหลอมเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีพื้นที่ว่างให้อากาศแทรก

ซิกฟรีดหลับตา เขารู้สึกปลอดภัย...

โคลด์ใจเต้นแรงอย่างไม่เข้าใจ วันนี้ซิกฟรีดเปิดเผยกว่าปกติ และดูเหมือนกำลัง...อ้อนเขา?

“ถ้าข้าเป็นราชา…” ซิกฟรีดกระซิบข้างหูโคลด์โดยไม่กลัวเกรง ทว่าคำต่อมาเขาเอ่ยโดยไม่ออกเสียง

...หากเจ้าต้องการอิสระ ข้าก็จะมอบอิสระของทั้งโลกให้เจ้า

โคลด์รีบยกมือปิดปากอีกฝ่าย เขาก็ไม่ได้โง่เท่าไหร่ โดยเฉพาะตุ้มหูที่ซิกฟรีดได้รับมา ดูยังไงก็ไม่เหมือนตุ้มหูธรรมดา

ทั้งสองค้างอยู่ในท่านั้นจนโคลด์หอบเบาๆ ริมฝีปากและลมหายใจของเจ้าชายเอลฟ์สร้างความรู้สึกจั๊กจี้จากฝ่ามือไล่ขึ้นไปตามแขน ซิกฟรีดแนบชิดเขาเกินไป ขาที่เกี่ยวกันอยู่ยิ่งทำให้วิงเวียน โคลด์ใช้สายตาถามว่า ‘จะอยู่เช่นนี้ต่ออีกนานไหม’

คำตอบของซิกฟรีดคือเอามือโคลด์ออก แล้วใช้ปลายนิ้วเกี่ยวคางเข้ามารับจูบ

คนถูกจูบสะท้านใจ เขาเผลอลูบไล้ร่างกายของอีกฝ่ายก่อนทันได้คิดอะไร ภาพซิกฟรีดกอดท่านหญิงยังติดอยู่ในใจ เขาสัมผัสกล้ามเนื้อตึงแน่นของเจ้าชายผ่านเนื้อผ้าหรูหรา เหมือนอยากบอกว่า ‘ข้าก็มีสิทธิเป็นเจ้าของเจ้า’

สัญชาตญาณอย่างดาร์กเอลฟ์ระอุอยู่ข้างใน

เจ้าชายเลื่อนมือลงไปยังบั้นท้ายของอีกฝ่าย บีบเคล้นด้วยอารมณ์ลึกล้ำ เขาปัดปลายจมูกกับเปลือกตาโคลด์ ไล่จากใบหน้ามายังต้นคอ จากต้นคอย้อนกลับไปที่ใบหู

แววตาของดาร์กเอลฟ์กล้ากว่าเคย เขาเป็นฝ่ายเชิญชวนก่อนด้วยการจับเข็มขัดของเจ้าชาย ปลดหัวเข็มขัดออกให้

หลังจากนี้โคลด์จะคิดได้ว่าเขาทำเรื่องโง่บัดซบลงไป

แต่ไม่ใช่ตอนนี้

ซิกฟรีดดึงสายรัดเอวของโคลด์ออก เมื่อท่อนล่างของโคลด์เปลือยเปล่าก็รุกเข้าหา ซิกฟรีดชำนาญกว่าเดิม โคลด์ก็เช่นกัน

โคลด์หลังติดกำแพง ใช้มุมห้องเป็นหลักพิงตัวไว้ เขากอดเจ้าชายเอลฟ์ มองขาสีเข้มของตนที่ยกเกี่ยวสะโพกอีกฝ่าย กัดปากกลั้นเสียงครางวาบหวามที่เกิดจากการสอดประสานร่างกาย

ตอนนั้นเอง ซิกฟรีดกระชากตุ้มหูออกทีละข้างแล้วโยนออกไปทางหน้าต่าง เลือดไหลโกรก เขาตระโบมจูบโคลด์

เจ้าชายอารมณ์รุนแรง โคลด์ทราบดี...

โคลด์ยังกลั้นเสียงตัวเองไว้ โดยระบายมันไปกับการเกี่ยวลิ้น ซิกฟรีดไม่เพียงแทรกเข้ามาในตัวเขา แต่ยังแทรกเข้ามาในหัวใจ

การสอดประสานเร่งไวตามอารมณ์ของเจ้าชาย โคลด์แทบยืนไม่ไหว หายใจก็ไม่ทัน

เสียงในหูซิกฟรีดอื้ออึง มันประดังประเดเข้ามาเมื่อไร้เวทกั้น เขาไม่ทราบว่าเป็นเสียงหลอนเพราะความเจ็บปวดจากบาดแผลหรือไม่...

เมื่อเขาได้ยินทุกลมหายใจของโคลด์ สตาร์ประกาศว่า

‘ข้ารักเจ้า’

...ข้าก็รักเจ้า

โคลด์ข่วนคอซิกฟรีดเมื่อหายใจไม่ออก ในท้องน้อยเสียววูบวาบ ขาสองข้างไม่ติดพื้นแต่ถูกยกขึ้นให้เกี่ยวเอวแข็งแรง

ข้างหลังเป็นกำแพง ข้างหน้าเป็นซิกฟรีด โคลด์รู้สึกเหมือนถูกกดล่ามไว้ และถูกกระแทกกระทั้นอย่างไม่ปรานี

ซิกฟรีดคำรามสั้นๆ เมื่อถึงที่สุดของอารมณ์ เขาประกบริมฝีปากแลกลมหายใจกับโคลด์อีกครั้ง

เรียวขาสีเข้มของดาร์กเอลฟ์สั่นพั่บ ของเหลวข้นไหลจากร่างกายส่วนที่เชื่อมต่อกันหยดลงบนพื้นพรม

โคลด์ตัวอ่อน เห็นรอยเลือดซิบอยู่บนต้นคอเจ้าชาย กับรอยแผลตรงหูก็เลียเลือดให้

ซิกฟรีดครางในคอเมื่อโคลด์แตะลิ้นบนแผลที่หู เขาให้ดาร์กเอลฟ์เอาใจ จากนั้นก็แนบหน้าผากกับหน้าผาก

“นอนที่นี่”

“แต่…” โคลด์กอดซิกฟรีดเป็นหลักยืน “เจ้าแน่ใจ?”

เจ้าชายพยักหน้า

ดาร์กเอลฟ์จึงจูบก่อนบ้าง เหมือนจะตักตวงช่วงเวลานี้ไว้



 —————————————————————————

A/N ใครคิดถึงซิกฟรีด ซิกฟรีดมาแล้วนะคะ แวๆๆ อย่าเพิ่งตีเค้า น้อยใจเค้า เค้าปิดปากเงียบเพื่อวันนี้!!!

ป.ล. ปั่นงานอยู่ค่ะ เสร็จแล้วจะมาไล่ตอบคอมเมนต์น้า จุ๊บ

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (2) [01/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 28-02-2017 22:11:02
อ่านทันแล้วววว :sad4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (2) [01/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-02-2017 22:11:40
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (2) [01/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-02-2017 22:57:43
ไรท์ ลงก่อนเวลา สุดยอดดดดด  :mew1: :mew1: :mew1:
เรื่องยิ่งมา ยิ่งสนุก ซับซ้อน  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
เชื้อพระวงศ์ก็ซับซ้อน
ซิก โคลด์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
โคลด์มีแรงกระตุ้นจากการที่เห็นเอริ กอดซิก
ซิก ก็มีความกดดันจากริวอร์นอร์
แต่การสัมผัสกันของซิก โคล์ด
ทำให้ซิก กระชากตุ้มหูเครื่องดักฟังทิ้งซะเลย
แต่โคลด์ ซิก รู้ใจกันจริงๆ  :o8: :-[ :impress2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (2) [01/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 01-03-2017 00:04:52
แจ่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (2) [01/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 01-03-2017 02:47:49
 :m25:
^
^
^
ตามนี้ค่ะ แฮ่กๆๆๆ
ซิกโคล์ดนี่ช่างเร่าร้อน ดูเป็น perfect match มาก เข้าใจกันทุกอย่าง โดยไม่ต้องพูด  :ling1: :ling1:

ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ อัพถี่อัพเร็วมาก ซู๊ดยอดดดด :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (2) [01/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 01-03-2017 03:07:33
บอกเลยว่าตอนนี้ของทั้งสองคนดุจน้ำทิพย์ชโลมใจของเรา ฮรือออออ



เชื่อเราเถอะว่าตอนนี้เราอ่านตั้งสองรอบ เก็บทุกเม็ด เพราะสังหรณ์ใจว่าจะไม่มีอีกนาน แต่คิดอีกทีชีวิตของเอลฟ์เนี่ยยาวนานมากเลยใช่ไหม งั้นเรารอได้ อยู่ตรงนี้เพื่อรปต่เธอ~~~


ปล.น้องโคลด์น่ารักเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือหนูเซ็กซี่มากลูก
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (2) [01/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 01-03-2017 07:20:20
อา....อาหารใจของสาวกเรืออาเลธ

 o13
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (2) [01/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 01-03-2017 16:24:40
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (2) [01/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 01-03-2017 20:08:57
มาเก็บเกี่ยวความสวีทเอาไว้ใช้ต่อลมหายใจของตัวเอง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (2) [01/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนอินทร์คนเดิม ที่ 01-03-2017 23:30:33
 :z6: แด่ ซิกฟรีส
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [02/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 01-03-2017 23:58:47
บทที่ 14  : การตัดสินใจ (3)



เอริแอดเน่นัดพบกับซิกฟรีดเช้าวันนี้ แต่นางไม่มาปรากฏตัว ไมเธียนเองก็ต้องรายงานเรื่องอยู่ๆ การสอดแนมจากตุ้มหูเวทขาดหายไป

ทว่าคิงริวอร์นอร์ไม่ออกจากห้องบรรทมตั้งแต่เมื่อคืน และไม่มีทีท่าว่าจะออกมาเร็วๆ นี้แม้จะใกล้เที่ยงใกล้บ่าย

...ดูเหมือนบุรุษแห่งรูเมเรียร์ทั้งสองจะมีอะไรคล้ายคลึงกันมากกว่าที่พวกเขาคิด

 

ซิกฟรีดเท้าศีรษะ นอนตะแคงมองโคลด์ที่หลับอยู่ข้างๆ มองอยู่นานก่อนตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียง เขาต้องทำแผลดีๆ แต่จะให้เรียกข้ารับใช้คนอื่นเข้ามาก็เสี่ยงกับโคลด์

เจ้าชายลูบใบหน้า สบถให้กับความมุทะลุของตัวเอง เขายังปกป้องโคลด์ไม่ได้ ไร้กำลัง...ลึกๆ ในใจซิกฟรีดก็ทราบดี

 

ขณะเดียวกัน ริวอร์นอร์ก็นอนมองเอริแอดเน่ด้วยสายตาอ่านยาก ความรู้สึกผสมปนเประหว่าง ‘รัก’ ‘โกรธ’ และ ‘เสียใจ’

เอริแอดเน่หลับสนิทเพราะไม่ได้นอนตลอดคืน ใบหน้าสวยร้ายกาจที่ไม่ได้ปั้นแต่งให้อ่อนหวานดังเช่นปกติหลับอย่างสงบและผ่อนคลาย ทว่าก็ดูโดดเดี่ยวเปราะบาง

ความสงบระหว่างเขากับนางมีแค่ช่วงเวลานี้เท่านั้น

ยามนางลืมตา สายตาของนางบอกความเด็ดเดี่ยวมากพอจะยอมแหลกคามือเขาโดยไม่ยอมอ่อนข้อให้

ริวอร์นอร์ไล่นิ้วตามกรอบหน้าของนางโดยไม่สัมผัสถูกผิว เขาดึงนิ้วกลับเมื่อเอริแอดเน่ขยับตัวเล็กน้อย

ทว่านางไม่ได้ตื่น ยังคงหลับลึกต่อไป

ราชาเอลฟ์เกลี่ยผมนางออกจากหน้าผากอย่างเบามือ

“เรารู้มาตลอด...” ริวอร์นอร์มองรอยแผลเป็นบนร่างเปลือยของนาง ดวงตาสีแดงข้นและเข้มคล้ายเรืองขึ้นด้วยความเคียดแค้น

“เราไม่มีวันทิ้งเจ้าเช่นกัน...คนดี”

-------------------------------------------

ผ่านมากว่าครึ่งค่อนวัน ตอนนี้โคลด์พยายามลุกจากเตียงอยู่

“ไปไหน” เจ้าชายพาดแขนทับโคลด์ ไม่ยอมให้ลุก

“เย็นแล้ว...” โคลด์ไม่สบายใจ คิดได้แล้วว่าตัวเองโง่บัดซบที่มานอนเปลือยข้างเจ้าชายเอลฟ์

“ข้ามองเห็น” ซิกฟรีดเอาหน้าซบหมอน ท่าทางเกียจคร้านทว่าผ่อนคลายอย่างมาก

“เห็นข้าหัวขาดรึ” ดาร์กเอลฟ์พยายามหนีลงจากเตียง จะคว้าชุดมาใส่

เจ้าชายดึงโคลด์เข้ามากอดแล้วเม้มใบหูอีกฝ่ายเบาๆ “กลับอาศรมกันเถอะ” จมูกโด่งไซ้กลุ่มผมสีเงินนุ่ม “ข้าไม่ชอบที่นี่”

คิดหนีหรือ อาเลธ

ไม่...ข้าไม่มีวันหนี ซิกฟรีดพิจารณาอย่างหนัก เขาโดนความจริงกระแทกจนมึนงง ใจหนึ่งพยายามปฏิเสธ อีกใจหนึ่งยอมรับและโกรธขึ้ง นึกดูแล้ว การตัดสินใจฉับพลันไม่เกิดผลดี

เขาแค่อยากลับไปตั้งหลัก

ถูกต้อง ข้าต้องคิดให้หนัก ไม่...ข้าไม่ได้หนี

โคลด์วูบวาบเมื่อถูกสัมผัสหลังใบหู ถ้าปล่อยให้ซิกฟรีดละเลียดมันต่อไป เขาไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรเลยเถิดขึ้นอีกไหม จึงต้องเรียกสติกลับมาให้ทัน

“เพ้อเจ้ออะไรของเจ้า เจ้ามาเพราะพี่ชายเรียกหาไม่ใช่เรอะ แล้วอยู่ๆ บอกว่าจะกลับ ยังมาไม่ถึงสองวันด้วยซ้ำ” โคลด์หุบปากทันก่อนเอ่ยเรื่องที่เขาเห็นซิกฟรีดกอดคู่หมั้นพี่ชายในวิหาร

“อีกอย่าง ข้าสัญญากับองครักษ์หน้าห้องเจ้า จะเอาของกินไปให้เขา”

“ทำไมต้องเอาของไปให้มันเล่า” คิ้วสีทองขมวดเข้าหากันทันที ซิกฟรีดไม่ทราบว่าตัวเองกำลังหึง

และหึงแรงเสียด้วย

“ก็…” โคลด์หุบปากทันอีกครั้ง ว่าจะให้ของกินเพราะทหารนายนั้นช่วยบอกทางให้แก่เขา

สายตาของซิกฟรีดคาดคั้น ‘พูด’

“เขาไม่ทำตัวหยิ่งแบบเจ้า” โคลด์ไม่ชอบสายตาที่ดุและหยิ่งนั้น มันเหมือนบอกว่าเขาผิด ทั้งๆ ที่ตัวซิกฟรีดเองนั่นแหละที่ผิด ลักลอบพบคู่หมั้นของพี่ชายในสภาพที่นางเปลือยกายเช่นนั้น...แถมยังกอดนางอีก

คำตอบทำให้เจ้าชายเอลฟ์เงียบ หยิ่ง?

ซิกฟรีดใช้เวลาประมวลผลนานทีเดียว ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เข้าใจคำว่ากล่าว

“เขาช่วยดูแลข้าเหมือนมาลแกธ” โคลด์เปรียบ “ในอาศรมควาร์ คนที่ดีกับข้ามีแค่มาลแกธ แต่ในวังนี้ยังมีอีกคน อย่างน้อยเอาของกินไปให้เขา ถือว่าข้ามีน้ำใจตอบแทน”

อ้อ

“คนที่ดีกับเจ้ามีแค่มาลแกธอย่างนั้นหรือ” ซิกฟรีดไม่ชอบลำเลิกบุญคุณใคร แต่ในหัวมีแต่ภาพตัวเองคอยปกป้องโคลด์เต็มไปหมด เขาไม่ให้ใครแตะโคลด์ แม้แต่ควาร์อาวุโสอย่างท่านเอเรนดิล ก็ได้...เขายอมรับว่าเคยกรีดหลังใบหูโคลด์เพื่อลงโทษ ซึ่งนั่นดูห่างไกลจากคำว่า ‘ปกป้อง’ หรือ ‘ดูแล’ ทว่าหากให้คนอื่นทำ โคลด์จะโดนหนักกว่านี้

“อย่ามาทำหน้าดุใส่ข้านะ เจ้าขังข้า กรีดหูข้า บังคับเย็บแผลให้ข้าสดๆ ด้วยซ้ำ ข้ายังไม่ลืมที่เจ้าทิ่มลงมาแต่ละเข็มโดยไม่ฟังเสียงห้ามของข้า” โคลด์ไม่ชอบสีหน้าของซิกฟรีดที่มองมาเหมือนเขาเป็นคนผิด

ขัง...ใช่ ข้าไม่อยากให้เจ้าห่างตัว

ส่วนเย็บแผลนั่น

ข้าก็เจ็บพอๆ กับเจ้านั่นแหละ เจ้าดาร์กเอลฟ์เอื่อยเฉื่อย ปัญญาทึบ


ซิกฟรีดระบายลมหายใจพลางลูบใบหน้าหนักๆ เขาไม่เคยต้องมาพิจารณาการกระทำของตัวเองขนาดนี้เลย

“เจ้าอยากให้ข้าทำอย่างไร”

โคลด์แปลกใจที่ซิกฟรีดถามความเห็นของเขา “ข้าอยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนเจ้า...” เขามองสภาพเจ้าชายเอลฟ์ที่ทำแผลตรงหูให้ตนเองอย่างลวกๆ บนต้นคอแกร่งและแผ่นอกสีน้ำนมมีรอยข่วนแดงเลือดซิบแบบเห็นได้ชัด ส่วนสภาพเตียง…บอกว่าผ่านการมีเซ็กซ์แบบไม่บันยะบันยังก็ไม่เกินจริงนัก

“เจ้าเรียกใครมานอนด้วยสักคน กลบๆ สภาพนี้ไป ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้แหละ” โคลด์ลงจากเตียง สวมเสื้อผ้าอย่างว่องไว “ข้าจะกลับไปอาบน้ำที่ห้องพัก ส่วนเจ้าปิดตาคนที่เรียกมาเสียหน่อย เขาจะได้ไม่เห็นสภาพเตียง”

“อา!” ซิกฟรีดระบายเสียงออกมาด้วยความโกรธ ก่อนจะหัวเราะอย่างสมเพชตัวเอง

เจ้าคิดบ้าอะไร โคลด์ สตาร์!

“หรือเธอก็ได้ ถ้าเจ้าอยากได้ผู้หญิง ข้าลืมนึกไป” ดาร์กเอลฟ์ให้คำแนะนำที่คิดได้เพิ่มเติม เขาถอยๆ จากซิกฟรีด แต่มั่นใจว่าคำแนะนำของตนเอ่ยได้ฉลาดดีแล้ว

ซิกฟรีดจ้องเขม็ง เหมือนว่าหากอีกฝ่ายไม่รีบออกไปโดยเร็ว เขาจะลากกลับมาลงโทษให้หนัก

โคลด์รีบเผ่นออกทางหน้าต่างด้านหลังตึก ไม่รอให้ซิกฟรีดเอ่ยไล่ด้วยซ้ำ

 

“อ้าว เจ้ากลับมาจริงๆ”

ชั่วโมงต่อมา โคลด์ในชุดคนรับใช้ใหม่เอี่ยมปิดเนื้อตัวมิดชิดถือห่ออาหารร้อนๆ มาให้องครักษ์ที่เพิ่งออกเวร

“ของขอบคุณขอรับ” ดาร์กเอลฟ์ยื่นห่ออาหารให้

“เรื่องเล็กน้อย” ทหารองครักษ์ยิ้มแบบไม่ถือตัว

“เจ้าชายเรียกคนมารับใช้ไหมขอรับ” โคลด์ลองถาม แบบให้ดูเป็นปกติ “แบบนั้นน่ะขอรับ” เขาทำไม้ทำมือว่า ‘แบบที่รู้ๆ กันเวลาผู้ชายต้องการหาความสุข’

“ไม่มีหรอก” องครักษ์สั่นศีรษะ “เจ้าชายทรงรับสั่งว่าห้ามใครเข้าไปถวายงาน ทั้งนางกำนัลและข้ารับใช้ทุกคน” เขาแอบเปิดห่ออาหาร กลิ่นหอมฟุ้งแตะจมูก เรียกน้ำลายและทำให้ท้องร้องโครกคราก “พูดตามตรงนะ อย่าถือโทษข้าเลย อันที่จริงเราไม่ควรพูดคุยกับดาร์กเอลฟ์เพราะ...เรื่องวุ่นวายช่วงนี้น่ะนะ”

ทหารองครักษ์หมายถึงกบฏดาร์กเอลฟ์ ปลาเน่าถังเดียวชวนให้คิดว่าปลาทั้งแม่น้ำจะเหม็นเน่าตามไปด้วย ดาร์กเอลฟ์อยู่ยากขึ้นในรูเมเรียร์

“ไม่เป็นไรขอรับ ข้ามารบกวนท่านจริงๆ ท่านไม่พูดคุยกับข้ามากกว่านี้ก็ดีแล้วขอรับ”

โคลด์หูลู่ ห่อไหล่ หน้าตาหมดอาลัยตายอยาก เขาไม่ใส่ใจเรื่องถูกรังเกียจนักเพราะโดนมาจนชิน แต่เซ็งที่ซิกฟรีดไม่เรียกใครมารับใช้ ถ้าซิกฟรีดเรียกใครมารับใช้ก็น่าจะดีกว่ามีเขาเข้าไปในตำหนักคนเดียว แล้วเนื้อตัวของเจ้าชายกับบนเตียงมีสภาพแบบนั้น

“เมียข้าทำขนมอร่อย นางทำมาให้ข้าทุกวัน เจ้ามาปันไปบ้างสิ” องครักษ์คนนี้ผมสีทองหม่น ค่อนไปทางน้ำตาล แสดงว่ามาจากทางใต้ของรูเมเรียร์ จะว่าเป็นพวกเชื้อสายนักรบบ้านนอกของเอลฟ์ก็ได้ เพราะอย่างนี้ละมั้งถึงไม่ถือตัว

“อย่าเลยขอรับ ข้ากลัวท่านจะเดือดร้อนเพราะข้า แค่นี้ข้าก็รบกวนท่านมากพอแล้ว” โคลด์โค้งคำนับไวๆ แล้วขอตัว

เขาไม่รู้จะไปไหน จึงคิดว่าจะไปนั่งเล่นริมสระน้ำที่เดิม แต่ตอนเดินออกมา กลับเห็นขบวนของสตรีสูงศักดิ์กับองครักษ์หญิงเดินมาจากอีกทาง

ดูเหมือนนางจะมาหาซิกฟรีด…

โคลด์ชั่งใจ ถ้าทั้งสองทำอะไรแบบเมื่อวานอีกล่ะ คราวนี้ถ้ามีคนอื่นเห็น เขาหัวขาดแน่นอน ราชาไม่สั่งตัดคอน้องชายตัวเองหรอก แต่จะสั่งตัดคอคนรับใช้ที่ดูแลน้องชายไม่ดี

โคลด์มองซ้ายมองขวา แล้วหาต้นไม้ปีน ตัดสินใจว่าจะลอบดูสถานการณ์และหากจำเป็นก็ต้องห้ามซิกฟรีดทำประเจิดประเจ้อ

โคลด์กดความรู้สึกอื่นๆ อย่างรักหรือหึงหวงลงไป เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไร

มันไม่ใช่ความรู้สึกที่เขาควรมีให้แก่เจ้าชายเอลฟ์ตั้งแต่แรก

ถือว่าข้า ‘เฝ้ายาม’ ให้เจ้าไม่ทำอะไรให้ตัวเองเดือดร้อนก็แล้วกัน เจ้าควรขอบคุณข้าด้วยซ้ำ ซิกฟรีด

ทว่าถึงจะคิดเฉกนั้น...ขณะที่ปีน...ใบหูของดาร์กเอลฟ์ก็ยังลู่ลง


 —————————————————————————

A/N พี่ชายกับน้องชายราชวงศ์รูเมเรียร์นี่หึงแรงพอกันเลยค่ะ ความสัมพันธ์ของ 2 คู่นี้ต่างกันชัดเจน ซิกฟรีดกับโคลด์นี่ออกแนว วัยรุ่นวุ่นรัก ส่วนริวอร์นอร์กับเอริแอดเน่น่าจะแนว...ไฟสุมทรวง (?)

เราอ่านคอมเมนต์ที่นักอ่านบางท่านบอกว่า ชีวิตเอริแอดเน่น่าสงสารและน่าอึดอัดยิ่งกว่าโคลด์ จริงๆ เราก็ว่างั้นค่ะ (^_^); สงสัยเราเป็นโรคชอบทำร้ายตัวละครตัวเอง แงงง


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz (https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz)

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [02/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-03-2017 00:23:03
ผูกพันกับแบบอึนๆ 555555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [02/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 02-03-2017 01:09:21
เหมือนจะเข้สใจกัน แต่ก็ไม่เข้าใจนะเนี้ย #ซิกโคล์ด

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [02/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 02-03-2017 03:41:59
ทั้งสองคนเลย น่าจับมาตีจริงๆ ชีวิตมันก็ยากอยู่แล้วเรื่องหัวใจแทนที่จะให้มันง่ายเข้าไว้ รักๆกันไว้สิ โถ่วว
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [02/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 02-03-2017 07:50:11
เอาล่ะ ไอ้เจ้าอาเลธอมสากเบือกับเจ้าฮีมเดียร์ปิดหูปิดตา

จงจับจูงกันเดินเข้ารกเข้าพงต่อไป

เซ็ง!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [02/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-03-2017 09:45:06
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [02/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: หมีมง ที่ 02-03-2017 11:24:49
อย่างน้อยเขาก็บอกรักกันแล้ว ถึงจะไม่ได้พูดออกมาก็เถอะ เฮ้ออออออ

งงความสัมพันธ์ระหว่างคุณพี่ชายเบอร์สองกับเอริแอดเน่ นางได้แผลเป็นมาจากไหน ทำไมคุณพี่ชายเบอร์สองต้องฆ่าคุณพี่ชายเบอร์หนึ่ง หรือว่าต้องการแย่งเอริแอดเน่

อยากให้นักเขียนอธิบายลักษณะชนเผ่า(?)หน่อยค่ะ อย่างพวกจุดเด่น นิสัยใจคอโดยรวมของชนเผ่านั้นๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [02/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 02-03-2017 14:18:30
อย่างน้อยเขาก็บอกรักกันแล้ว ถึงจะไม่ได้พูดออกมาก็เถอะ เฮ้ออออออ

งงความสัมพันธ์ระหว่างคุณพี่ชายเบอร์สองกับเอริแอดเน่ นางได้แผลเป็นมาจากไหน ทำไมคุณพี่ชายเบอร์สองต้องฆ่าคุณพี่ชายเบอร์หนึ่ง หรือว่าต้องการแย่งเอริแอดเน่

อยากให้นักเขียนอธิบายลักษณะชนเผ่า(?)หน่อยค่ะ อย่างพวกจุดเด่น นิสัยใจคอโดยรวมของชนเผ่านั้นๆ
เรื่องชนเผ่าต่างๆ ในเรื่อง ได้รับคำแนะนำมาเหมือนกันว่าไม่รู้จักบางเผ่า เช่นดวอร์ฟคืออะไร เราจึงคิดว่าจะทำหน้าแนะนำก่อนเปิดเรื่องค่ะ ไว้จะเขียนดีๆ แยกไปเลย ให้คนอ่านที่ไม่ชินแฟนตาซีทำความเข้าใจสั้นๆ ก่อนอ่านเรื่องจ้า

ป.ล. คอมเมนต์ท่านอื่นๆ เดี๋ยวมาทยอยตอบจ้า นี่แว้บมา -3-
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [02/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-03-2017 17:47:16
ความรู้สึกของซิก กับโคลด์ เด่นชัดแต่ไม่พูดออกมา
รับรู้ด้วยตัวเอง กับตอนสัมพันธ์ลึกซึ้งทางกายกัน
ริวอร์นอร์ ก็รู้ความคิดของเอริแอดเน่ แต่ก็ยังไม่ปล่อยมือ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [02/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 02-03-2017 19:54:27
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [03/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 02-03-2017 22:26:00
บทที่ 14  : การตัดสินใจ (4)

“ซิกฟรีด” เอริแอดเน่เอ่ยทักเมื่อเจ้าชายเอลฟ์ลงมารับนางถึงหน้าตำหนัก “ขออภัยที่ไม่ได้มาพบเจ้าตามเวลานัด”

กว่าเอริแอดเน่จะตื่น ริวอร์นอร์ก็ไม่อยู่แล้ว นางคาดการณ์ผิด ไม่คิดว่าจะต้องมีความสัมพันธ์กับเขาหลังจากเปิดเผยรอยแผลเป็นให้เห็น

ซ้ำนางยังหลับสนิท และตื่นมาพร้อมความโมโหอย่างหนักที่ตนเผลอหลับสนิท

นางไม่ควรหลับสนิทยามอยู่ใกล้เจ้าคนชั่วช้านั่น!

“ข้าก็ต้องขออภัยพี่หญิงที่ไม่ได้เตรียมการต้อนรับให้ดีกว่านี้” ซิกฟรีดน้อมศีรษะ ทำความเคารพตามแบบแผนของรูเมเรียร์ทุกกระเบียด แล้วพานางไปยังห้องรับรอง

“พี่หญิงยังชอบดื่มชาทับทิมอยู่หรือไม่ขอรับ”

“ชาจัสมินก็หอมรื่นใจดีนะ” เอริแอดเน่แนะนำ ให้องครักษ์หญิงยกหีบของขวัญมาให้เจ้าชาย

ซิกฟรีดเอ่ยขอบคุณ กล่าวว่า “พี่หญิงไม่น่าลำบากเลยขอรับ”

หลังพี่หญิงเปิดเผยรอยแผลให้ชม เขาก็ทำตัวไม่ถูก ใช่ว่ารังเกียจ เขาโกรธ ยิ่งเห็นพี่หญิงพยายามเข้มแข็ง เขายิ่งโกรธ ไม่ทราบว่าควรทำอย่างไร ควรจับดาบไปแก้แค้น หรือควรสงบ

หากเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คิงริวอร์นอร์ เจ้าชายเอลฟ์ไม่ลังเลที่จะเลือกทางแรก แต่อีกฝ่ายเป็นพี่ชาย เป็นกษัตริย์ ทั้งยังเป็นนักดาบและนักเวท เขาไม่มีวันชนะ

หรือใจจริงคือเขาไม่อยากชนะกันแน่

ริวอร์นอร์เป็นพี่ชายร่วมสายเลือด เอ็นดูเขา สอนเขาในเรื่องต่างๆ มากมาย

ทว่า...พี่ริวอร์นอร์ฆ่าพี่เฟรธูริน


ใจของซิกฟรีดแตกออกเป็นสองอีกครั้ง เขาต้องการความสงบ ต้องการพิจารณาให้รอบคอบ

“แล้วคนรับใช้ของเจ้าล่ะ” เอริแอดเน่เอ่ยเหมือนนึกได้ ดวงตาจับจ้องใบหน้าเจ้าชายหนุ่ม

คำถามของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ฉุดให้ซิกฟรีดตื่นจากภวังค์

“ข้าให้มันไปพักผ่อนตามสบายขอรับ” ซิกฟรีดเสริมว่าตนอยากอยู่คนเดียว ไม่ต้องมีข้ารับใช้มาวุ่นวาย

“อืม...เช่นนั้นก็ดีแล้ว” ท่านหญิงยิ้มอ่อนแรง “ข้ามีเรื่องอยากคุยกับเจ้าเป็นการส่วนตัวพอดี”

องครักษ์หญิงสองคนถอยออกไปเฝ้านอกห้อง ให้เวลาส่วนตัวแก่ท่านหญิงโดยที่นางไม่ต้องสั่ง ส่วนองครักษ์อีกสามคนที่มาพร้อมกันรออยู่ด้านล่างตำหนักพร้อมเวรยามของเจ้าชาย

“ขอรับ”

เอริแอดเน่จับมือซิกฟรีด มือบอบบางกุมมือใหญ่ของเด็กหนุ่ม คล้ายต้องการที่พึ่ง “เจ้ามองข้าแล้วเห็นอะไร ท่านเฟรธูรินเคยกล่าวว่าข้างดงามและเป็นที่รักของท่าน แต่ท่านไม่ได้เห็นข้าในสภาพเดียวกับที่เจ้าเห็นเมื่อวานนี้ ถ้าเป็นเจ้าที่คล้ายท่านเฟรธูรินเหลือเกิน จะช่วยตอบคำถามที่ติดอยู่ในใจข้อนี้ให้ข้าแทนท่านเฟรธูรินได้หรือไม่”

ดวงตาสีเหมือนหินแก้วประกายรุ้งมีน้ำตาเอ่อ

ซิกฟรีดมองพี่หญิงนิ่งและนาน เจ้าชายเผยรอยยิ้มอ่อนโยน แฝงความผูกพันที่มีต่อนางในวัยเยาว์

“พี่หญิงงดงามเสมอขอรับ” เขาตอบจากใจจริง “ไม่มีสตรีคนใดงามไปกว่าพี่หญิง ทั้งในรูเมเรียร์และอิซิลดาร์ งดงามและเข้มแข็ง...”

น้ำตาของเอริแอดเน่ไม่ได้ไหลออกมา มันคลออยู่ในดวงตาแสนเศร้าและแสนสวย แต่นางยิ้ม รอยยิ้มนั้นไม่สามารถเป็นความเสแสร้งไปได้ ดังว่านางรอฟังคำพูดนี้ของเฟรธูรินมาหกปีเต็ม

ทว่าข้าไม่มีวันได้ฟัง ซิกฟรีด...ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่ท่านพี่เฟรธูริน แต่อย่างน้อย...คำพูดของเจ้าก็ช่วยให้หัวใจของข้าร้าวน้อยลง

“เมื่อคืน...ข้าถวายตัวแก่ริวอร์นอร์ เขากล่าวว่าราชินีอัปลักษณ์ย่อมเหมาะกับเขา” เอริแอดเน่จับมือซิกฟรีดแน่นขึ้น ความเด็ดเดี่ยวถ่ายทอดผ่านฝ่ามือนั้น

ซิกฟรีดขบกราม ข่มความโกรธไม่ให้ปะทุขึ้นมา

“คำพูดโกหกเช่นนั้น พี่หญิงไม่ควรนำมาใส่ใจขอรับ”

“ข้าคิดว่าเขาพูดจริง ข้าจะงดงามหรืออัปลักษณ์ก็มีค่าเท่ากัน สิ่งสำคัญสำหรับเขาคือกำลังจากอิซิลดาร์...เจ้าเข้าใจใช่หรือไม่” เล็บสวยงามของท่านหญิงจิกมือเจ้าชาย ยึดแน่น

ซิกฟรีดพยักหน้าช้าๆ

“กำลังของอิซิลดาร์...” เอริแอดเน่พริ้มตา นางสังเกตว่าซิกฟรีดไม่ได้สวมตุ้มหูเวทที่ใช้สอดแนมและปิดกั้นพรสวรรค์การฟังของเขาตั้งแต่เจอหน้า “กำลังของอิซิลดาร์ จักมอบให้แก่ราชาที่แท้จริง ข้าขอสาบานต่อท่านผู้เป็นที่รักผู้ล่วงลับ”

“ไม่มีใครเหมาะสมกว่าพี่เฟรธูรินขอรับ” ซิกฟรีดเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ ไม่กลัวว่าจะมีใครเป็นสายให้คิงริวอร์นอร์หรือไม่

เอริแอดเน่ห่อไหล่ “ทว่าเขาไม่อยู่แล้ว เหลือเพียงเจ้า ข้าให้สัตย์ว่า อิซิลดาร์จะอยู่ข้างเจ้า ต่อให้ข้าต้องถูกเผาทั้งเป็น...อิซิลดาร์จะอยู่ข้างเจ้า จนกว่าความยุติธรรมจะกลับมาสู่แผ่นดิน”

ซิกฟรีดหลุบตาลง…

นิ่ง

เนิ่นนานราวกับชั่วกัลป์ เจ้าชายแห่งรูเมเรียร์หงายฝ่ามือของสตรีผู้เปราะบางทว่าเข็มแข็งกว่าใคร ก่อนจะลูบฝ่ามือนั้นช้าๆ

ข้อความถูกส่งออกไปอย่างเงียบเชียบ

ซิกฟรีดตัดสินใจแล้ว

เขาลูบนิ้วใต้หางตาของเอริแอดเน่ เอ่ยถ้อยคำในภาษาควาร์ หยดน้ำตากลายเป็นพรายแสนเศร้า บินไปกระซิบข้างหูของนาง

‘ข้าหวังเหลือเกินว่ามันจะจบลงด้วยดี’

ท่านหญิงเผยยิ้มแสนหม่น “ข้าเองก็หวังเช่นนั้น”

ขณะที่ทั้งสองสบตากัน เกิดเสียงเอะอะด้านนอก เป็นเสียงหล่นหนักๆ กับเสียงสตรีเอ่ยเฉียบขาดด้วยสำเนียงอิซิลดาร์

เอริแอดเน่หันมองหน้าต่างตามที่มาของเสียง องครักษ์หญิงเข้ามารายงาน

“ท่านหญิง มีดาร์กเอลฟ์ซุ่มดูห้องพักของเจ้าชายอยู่บนต้นไม้ เวเรด้าเพิ่งยิงมันตกลงมาเจ้าค่ะ”

ซิกฟรีดเกร็งตัวทันที โคลด์?

หากอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่หญิง ไม่ใช่กับ...สตรีอิซิลดาร์ผู้สมควรเกลียดชังเผ่าทมิฬ เขาคงรีบออกไปดูแล้ว

“กบฏลอบเข้ามาในราชวังหรือ” เอริแอดเน่ถาม “ความปลอดภัยของเจ้าย่อมสำคัญ หากเป็นพวกกบฏละก็...”

นัยน์ตาของนางลุกวาบขึ้น

องครักษ์หญิงพร้อมรับคำสั่งของท่านหญิง

ซิกฟรีดรีบลุกขึ้น “ให้ข้าออกไปดูเถิดขอรับ”

เอริแอดเน่ลุกตาม นางเกาะแขนซิกฟรีด “องครักษ์ปกป้องเจ้าได้ก็จริง แต่แค่เจ้า...ข้าให้ไปคนเดียวไม่ได้ และได้โปรด อย่าทิ้งข้าไว้ลำพัง”

ความนัยของนางโยงไปถึงคิงเฟรธูรินผู้ล่วงลับ

นั่นทำให้ซิกฟรีดไม่มีทางเลือก ทั้งสองออกมาพร้อมกัน และเป็นไปดังที่ซิกฟรีดคาด ดาร์กเอลฟ์ที่ถูกองครักษ์จากอิซิลดาร์กดหลังคอให้คุกเข่าอยู่คือโคลด์จริงๆ

โคลด์โดนธนูปักที่ขา มองแล้วไม่หนักหนาเท่าไรนัก แต่อกซิกฟรีดเหมือนถูกเผา

เขาจะลงไปดูอาการของโคลด์ ทว่าแขนที่เอริแอดเน่เกาะอยู่กลับยั้งใจของเขาไว้ หากเขาเลือกโคลด์ตอนนี้ เขาจะทำร้ายพี่หญิง นางโดนทำร้ายมากเกินพอแล้ว

อย่างไรดีเล่า อาเลธ


“ใครให้เจ้าซุ่มบนต้นไม้เหมือนแอสซาสซิน” ซิกฟรีดเอ่ยเสียงเฉียบขาด ภายนอกดุ แต่ภายในเป็นห่วง คำพูดจึงแปลได้สองความหมาย อย่างแรกคาดโทษ อย่างที่สองคือตำหนิเพราะทำตัวให้น่าเป็นห่วง

“ข้ามาเฝ้ายามให้ท่าน...ขอรับเจ้าชาย” โคลด์ก้มหน้าตอบแบบทาสที่นอบน้อม เขาค่อนข้างมั่นใจวิชาการพรางตัวของตน แต่ดูเหมือนว่าฝีมือของเขายังไม่ถึง องครักษ์หญิงที่ยิงเขาเป็นนักธนูฝีมือฉกาจ ถ้าเขาหลบช้าไปนิด ธนูอาจปักเข้ากลางอก

เอริแอดเน่พิจารณา ที่จริงนางทราบว่าดาร์กเอลฟ์ผู้นี้เป็นใคร แต่ยังแสร้งถาม “คนรู้จักของเจ้าหรือ ซิกฟรีด”

“เขาเป็นข้ารับใช้ส่วนตัวของข้าขอรับ” ซิกฟรีดไม่แนะนำว่าโคลด์เป็น ‘ทาส’ เขาเลี่ยงคำนั้น

ท่านหญิงเกาะแขนเจ้าชายแน่นขึ้น มือของนางสั่นเบาๆ “เช่นนั้นข้าขออภัย เรียกคนมาทำแผลให้เขาก่อนดีไหม แต่...ซิกฟรีด ข้ารู้สึกไม่ค่อยดีนัก...เมื่อเห็นดาร์กเอลฟ์”

ร่างแบบบางหน้าซีด

“ไปทำแผลที่เรือนพักข้ารับใช้เสีย” ซิกฟรีดวางมือของตนบนมือแบบบางของพี่หญิงแล้วบีบเบาๆ

“ขอรับ” โคลด์ตอบรับเสียงเบา เมื่อองครักษ์หญิงเลิกกดหลังคอ เขาก็ลุกขึ้น ขยับตัวที่ระบมจากการตกต้นไม้มากระแทกพื้นช้าๆ เดินลากขาออกไป

ซิกฟรีดคิดว่าจะไปดูโคลด์หลังรับรองเอริแอดเน่เสร็จ

แต่เขาก็ไม่ได้โอกาสจนค่ำมืด ทั้งหลังจากนั้นยังต้องร่วมโต๊ะอาหารกับคิงริวอร์นอร์แบบ ‘ครอบครัว’

เทพีจันทร์บนฟ้าลอยขึ้นสูง ธิดาจันทร์ในสระน้ำนิทราสงบนิ่ง ซิกฟรีดนึกกังวลถึงโคลด์ตลอด

และเมื่อปลีกตัวมาตามหาได้ เจ้าชายกลับไม่พบดาร์กเอลฟ์ที่เรือนพักข้ารับใช้ ไม่มีใครเห็นโคลด์ด้วยซ้ำ พอถามเรื่องได้รับบาดเจ็บก็ยิ่งงงไปกันใหญ่

โคลด์หลบไปทำแผลให้ตัวเองริมสระน้ำ เขาดึงลูกธนูออกเอง ฉีกชายเสื้อมาพันๆ ไว้ แล้วก็นั่งเหม่อมองสระน้ำมืดสลัวตามลำพังเงียบๆ

จนกระทั่ง...

“โอย” มาลแกธสูดปากขณะพิจารณาแผลของโคลด์ เขาโผล่มาแบบภูตผีเช่นเคย “อย่าบอกข้าว่าเจ้าดึงธนูของอิซิลดาร์ออกมาตรงๆ”

หัวธนูแบบอิซิลดาร์เป็นปลายเหล็กรูปสามเหลี่ยมแบบมีเงี่ยง ไม่ต้องคิดเลยว่าถ้าดึงออกตรงๆ มันย่อมเกี่ยวเนื้อออกมาด้วย

“ไม่เจ็บหรอก” โคลด์ตอบเนือยๆ “เจ้าเคยได้ยินไหมว่าดาร์กเอลฟ์กระดูกแข็ง”

“แต่ไม่ว่าเผ่าพันธุ์ไหนๆ เนื้อก็นิ่ม” มาลแกธเขยิบเข้าไปใกล้คนเจ็บ “ให้ข้าดูหน่อยได้ไหม”

โคลด์เขยิบขาหนี กัดปากล่างเพราะเจ็บแผล “ข้ากระดูกแข็งเพราะมันหักบ่อย หลังกระดูกซ่อมแซมตัวเอง มันจะแกร่งขึ้น”

“ธนูเข้าเนื้อ ไม่ได้เข้ากระดูกที่รัก” มาลแกธจุปาก

“ข้าเปรียบเทียบว่าข้าไม่เป็นไร”

“เขาซุบซิบกันว่ามีแอสซาสซินใจกล้าบุกเข้าวัง ไม่นึกว่าจะเป็นเจ้า”

“เอาไว้ข้าเป็นแอสซาสซินที่เก่งจริงๆ ข้าจะมาบุกใหม่” โคลด์ล้อเล่นแบบไม่ขำ

“ถ้าคิดอย่างนั้นจริงๆ ก็ยื่นขามา ข้าจะทำแผลแบบแอสซาสซินให้”

“อืม…” โคลด์อ่อนลงเมื่อมาลแกธกล่อมถูกทาง

“ก่อนอื่นเจ้าต้องพกยาชา” มาลแกธพลิกมือแบบนักเล่นกล จากที่ไม่มีอะไร ในมือก็ปรากฏขวดแก้วใบเล็กๆ เขากำลังทำให้โคลด์ร่าเริงขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

“ยาชาจากใบของต้นบลีด หรือจะบีบจากผลของต้นเบลลาก็คุณภาพดีทั้งคู่ ใบของต้นบลีดหาง่ายกว่า แต่ขวดนี้…” เอลฟ์ตะวันออกแตะตัวยาเหนียวๆ บนปากแผลของอีกฝ่าย “เป็นสุดยอดยาชา บีบจากผลเบลลา ผสมสมุนไพรลับอื่นๆ ของมาลแกธ ล็องธู”

ใบหูสีเข้มตั้งขึ้นด้วยท่าทางอัศจรรย์ใจ “เจ้าสอนข้าทำยาชาได้ใช่ไหม” โคลด์ไม่บอกมาลแกธว่าที่จริงเขาทำยาชาเป็น และทำของชั้นดีที่สุดของดาร์กเอลฟ์ได้ด้วยซ้ำ

โคลด์ต้องการให้อดีตของตนอยู่ในเงามืดต่อไป

“ได้สิ ข้าจะสอนให้ ไม่เจ็บแล้วใช่ไหม” มาลแกธยิ้ม

“อื้อ” โคลด์มองมาลแกธ...ชั่งใจสักครู่ก็ดึงชายเสื้อรุ่มร่ามแบบตะวันออก “กอดข้าหน่อย แบบเมื่อวาน”

“ยินดี แต่ให้ข้าเย็บแผลเจ้าก่อน” เข็มกับด้ายเย็บแผลมาอยู่ในมือมาลแกธตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ

โคลด์มองเอลฟ์ผมสีทองเจือแดงก้มๆ เงยๆ อยู่ที่ขาของเขา “เจ้ามองเห็นหรือ แสงไม่ค่อยมีนะ จะเย็บผิดที่ไหม…”

ตาของเอลฟ์ไม่ได้รับพรให้มองเห็นในที่มืดได้ดีเท่าดาร์กเอลฟ์

“ข้าคือใคร” มาลแกธหัวเราะในลำคอ

“มาลแกธ” โคลด์ยิ้ม สีหน้าค่อยดีขึ้น “เจ้าจะบอกว่า เจ้าหลับตาเย็บแผลให้ข้าก็ยังได้ใช่ไหม”

“ถูกต้อง” มาลแกธเงยหน้ามาขยิบตาให้

เข็มที่เย็บเข้าเนื้อ แม้ไม่เจ็บแต่ก็สร้างความรู้สึกเสียวแปลบอันไม่น่าพิสมัย โคลด์จึงกำชายเสื้อของมาลแกธเพื่อสงบใจ

เขาให้มาลแกธกอดเมื่อทำแผลเสร็จและปฏิเสธการกลับที่พัก ถ้าอีกฝ่ายต้องการกลับก็กลับไปได้เลย

“กอดไปเถิด เจ้ากอดข้าได้นานเท่าที่ต้องการ”

“อืม” ขณะที่ได้รับกอด โคลด์นึกถึงเรื่องสมัยเก่า ตอนที่ซิกฟรีดยังเป็นเจ้าชายน้อยผู้ไม่รู้เดียงสาและดื้อรั้นเอาแต่ใจ บางคืนโคลด์ก็อ่านนิทานก่อนนอนให้ฟัง หรือถือวิสาสะขึ้นไปนอนบนเตียงของเจ้าเด็กเอลฟ์ กอดมันไว้

แต่ความทรงจำเรื่องนั้นเลือนราง ผ่านมานานแล้ว

...ตอนนี้เขาอยากให้ใครสักคนกอดเขาบ้าง

ใครสักคนที่ว่าอุ้มเขาไปนอนในห้องพักรับรองของทูตต่างแดน หลังจากที่เขาผล็อยหลับด้วยความอ่อนเพลียในอ้อมกอด

“ข้าคิดว่าเจ้าไม่ได้ยินคำข้าแล้ว” มาลแกธกระซิบ “ดังนั้นข้าจะบอกเจ้าว่า…”

สัมผัสอบอุ่นประทับบนหน้าผากของดาร์กเอลฟ์

“ข้าชักจะชอบเจ้าจริงๆ เสียแล้ว”


 —————————————————————————

A/N อะ อีป๋า อีป๋ามาลแกธ ประโยคสุดท้ายนั่นคืออะไร!!! นายจีบมาตั้งนาน เพิ่งจะรู้สึกชอบจริงๆ เรอะ!!! แล้วก่อนหน้านี้คืออะไร! เต๊าะเฉยๆ เรอะ!!! ตอนเราเขียนโคลด์แล้วคุณ FOULSOUL ส่งประโยคนี้มา #เรือป๋า ของเราโคลงหนักมากค่ะ แงงงงงง


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [03/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 02-03-2017 22:26:16
หลงมาอ่านน แล้วก็ติดงอมแงมจ้าาา :ling1:
เป็นแฟนตาซีที่อ่านได้เรื่อยๆ สนุก ลุ้น น่าติดตามมั่กกๆ
ถึงแม้ตอนแรกพระเอกจะคิวทอง ออกน้อยยิ่งกว่าตัวประกอบ
แต่พออ่านตอนย้อนวัย มันฟินนน ให้อภัยกะความบทน้อยก่อนหน้าเลยจ่ะ :hao7:
ส่วนน้องโคลด์คนงาม น่ารักทั้งตอนเด็ก ทั้งตอนโต เลิฟมากกก :mew1:

คู่พี่สาวกะราชามังกรก้อดราม่าได้ใจ จะรอดูศึกน้องเกวนกะพญาเมียทั้งเก้านะคะ
แม้จะหมั่นหน้าพญามังกรก็ตาม

อยากอ่านไปถึงตอนจบล้าวว มันช่างกร้าวใจจริงๆ

ปล.ขอตามติดเรือซิกโคลด์ไปด้วยคนนะเจ้าคะ  :impress2:
ปล2 อ่านตอนล่าสุดละอยากจะตบนังซิกสักหลายสิบที ละเกลียดแอรี่พอๆกะกิ้งกือเลย ฮึ่ย ทำร้ายน้องโคลด์ ถึงจะรุ้ว่านังซิกเลือกนางเพราะเห็นแก่พี่ชายก็เถอะ งานนี้อิป๋าเลยเข้ามาทำคะแนนอย่างจังเลย เต๊าะเด็กตลอดดด

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [03/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 02-03-2017 23:50:52
งอนซิก  :m31: :m31:

เพราะคอนดิชั่นเยอะอย่างนี้ไง
ลุงมาบแกเลยอุ้มนุ้งโคล์ดไปนอนกอดแล้ว มันช่วยไม่ได้นะเจ้าชาย หึหึ

เข้าใจซิกนะแต่ก็หงุดหงิดนางอยู่ดี :3125: 555555

ขอบคุณคนแต่งค่าาา  :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [03/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 03-03-2017 00:10:57
ต้องมีคนเจ็บ หรือจะ 3P ดีละ 55(5
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [03/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 03-03-2017 00:23:49
อิป๋าจังหวะนรก! นี่จ้องอยู่ละสิท่า!

อาเลธเอ๋ย หญิงงามมารยาเนียน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [03/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-03-2017 12:59:04
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [03/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 03-03-2017 17:17:51
ชอบป๋า  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [03/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 03-03-2017 20:49:25
ช่วงตอบคอมเมนต์ค่า!!!

อ่านทั้งวันรวดเดียวเลย สนุกมากกก ตัวละครมีปมในใจทุกตัวเลย สงสารทุกคน
ชอบทั้งเกวนโดลินและโคลด์ ดวงความรักอาภัพมาก คนเขียนมาต่อเยอะๆนะคะ
รอติดตามต่อไปค่า  :katai2-1: :katai2-1:  :katai2-1:
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ;) รักๆ อ่านรวดเดียวเลย

ถึงจะเดา ๆ ไว้แล้ว แต่ก็ใจหายอยู่ดี

ทำไมต้องฆ่าพี่ชาย?

ทำไมต้องให้โคลด์เห็น?
อา ปริศนาเหล่านั้นจะรอการเฉลยต่อไปนะคะ

โถ่วววววน้องโคลด์ของป้า เห็นฉากตะเตือนไตซะได้ ไม่เป็นไรนะลูกนะโอ๋เอ๋ไม่ร้องนะคะคนดี



อาเลธน่าสงสารจริงๆนะคะ เพื่อนก็ไม่มี พี่ชายที่รักก็ตายพี่ชายอีกคนก็เป็นไบโพลาร์ คนรอบข้างก็เหมือนจะหวังจ้วงแทงข้างหลังตลอดเวลา



แอริเอดเน่ก็น่าสงสารนะผู้ชายที่รักตายด้วยน้ำมือผู้ชายอีกคนที่จะเป็นสามี แต่ก็ต้องทำเพื่อบ้านเมือง จะคร่ำครวญร้องไห้สงสารหัวใจตัวเองไม่ได้เลย โหดร้ายจริงๆ



ปล.แอบจับได้ว่าน้องโคลด์ขี้หลงทางด้วย น่าร้ากกกก
ปล2.ขอฉากหวานๆของซิกกับนุ้งโคลด์บ้างสิคะ ใจบ่าวคนนี้แห้งเหี่ยวเปลี่ยวเฉาละเกิลลลล
ฉากหวานมาละน้าาา (ตามด้วยดราม่า) ขำพี่ชายเป็นไบโพลาร์ 5555 โอยยย  :m20:
โคลด์ขี้หลงทางเพราะชอบเหม่อน่ะค่ะ ถ้าเลิกเหม่อได้ก็คงไม่หลงละมั้ง

ตอนแรกๆไม่ได้ชอบโคล์ดเลยนะ แต่ทำไมอ่านไปอ่านมากลายเป็น #ทีมโคล์ด ก็ไม่รู้
ช่วงนี้โคล์ดทำไรก็ดูน่ารักไปหมด (บ้าจริง  :o8: )

แอริแอดเน่ เก่งมากจนเรารู้สึกเข้าไม่ถึง ทำให้เป็นตัวละครที่ลึกลับน่าค้นหามาก อยากรู้ว่านางมีแผนอะไร ต้องการอะไร และจะทำอะไรต่อไป นางดูน่าจะเป็นตัวละครสำคัญในการดำเนินเรื่องมาก ไม่ชอบนาง แต่ก็ต้องยอมความสำคัญนางจริงๆ 55555

ปล. รอ ซิกโคล์ด หรือน้องโคล์ดเฉยๆก็ได้ อยากให้นางมีแอร์ทามเยอะๆ555555
 :pig4: :pig4:
555 มาค่ะ ซื้อแอร์ไทม์ให้ซิกกับโคลด์หน่อย ไหนๆ ก็...ซิกฟรีดไม่ค่อยมีบท
 :mew1: :mew1: :mew1:

เราจะงอนคนเขียนแล้วอ่ะ ไม่มีฉากซิกกับโคลด์ให้ชุ่มฉ่ำใจบ้างเลย//นั่งอยู่บนเรืออย่างเงียบเหงา



สำหรับแอริเอดเน่ก็ไม่เกินที่คาดไว้หรอก ออกจะน้อยไปด้วยซ้ำ ผู้หญิงแบบนี้น่ากลัวแล้วก็น่านับถือใจมาก ใจเด็ดจริงๆ


ปล.น้องโคลด์ชอบดอกราตรีหรอลูก มาเดี๋ยวป้าปลูกให้สักแผงหนึ่งดีไหมคะ? หรือชอบดอกอะไรเดี๋ยวป้าเปย์หนูเองลูก

ปล2.คนเขียนสู้ๆนะ
หวาย อย่าเพิ่งงอน เราลงตอน ของ 2 คนนี้แล้วน้า \(*0*)/
ส่วนน้องโคลด์ ถ้าไม่นับเรื่องชอบเอามีดแทงคอผู้ชายเจ้าชู้ อย่างอื่นก็น่ารักค่า  o18

ห๊ะ! ฉันพลาดอะไรไป? รอยกรีดคืออะไร?
เห็นใจแอรี่ และไม่เห็นใจนาง ความรู้สึกตีกันยุ่งเหยิงมาก

#ป๋าจังหวะเทพ ดอดมาตอดเมียชาวบ้านเสมอ
รอยกรีดนั้นคือ...คือ คือ!!!
/วิ่งหนีไป ฟิ้วววว
เข้าใจอารมณ์เห็นใจและไม่เห็นใจเอรี่นะคะ คือมันก็มีด้านที่เราคิดว่า ชีวิตเธอนี่ช่างโชคร้ายชะมัด แต่บางทีเราก็คิดว่า ก็เพราะเธอทำตัวเองไม่ใช่รึ! กับด้านที่คิดว่า เอ้อ มันเป็นนิสัยของตัวละคร ก็ต้องแบบนี้ละน้า

ชอบฉากร้อยดอกไม้ของโคล์ดเหมือนกันค่ะ 5555
นุ่งโคล์ดน่ารักตลอดเลย รู้ใจตัวเองแล้วเหรอลูกกก :ling1:
พอชอบโคล์ดเราก็จะเริ่มหมั่นไส้ซิก แต่ก็ต้องการโมเมนต์ซิกโคล์ด โอ้ยสับสนแรง :serius2:

ส่วนท่านหญิงแอริแอดเน่ อ่านตอนของนางนอกจากจะมีความรู้สึกระแวงตามปกติ ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยและอึดอัดแทนนาง
ทำไมชีวิตนางถึงต้องยากขนาดนี้ มันไม่ยากแบบโคล์ดที่ต้องพลัดถิ่นตามหาพี่สาว มันยังพอมีพลังด้านบวก มีความหวังบ้าง
แต่ของนาง ต้องสู้แย่งชิงกับคนอื่น ต้องตะเกียดตะกายยังไงก็ไม่รู้ แต่นางมีความมั่นใจ ว่านางเก่ง นางควบคุมทุกอย่าได้
จะบอกว่าสู้ๆนะ พี่เน่ ก็นึกได้ว่าเราไม่เชียร์นาง555555
เป็นอะไรที่สับสนจริงค่ะ ชอบโมเมนต์ซิกโคลด์แต่หมั่นไส้ซิก...เราเป็นบ่อยค่ะ แต่ช่วงนี้จะสงสารเขามากกว่า  :mew6:
ส่วนเอริแอดเน่ ชีวิตลำบากจริงค่ะ /จะลูบไหล่ปลอบใจนางก็กลัวโดนองครักษ์แทง อั่ก!
ชอบตรงที่อยากบอกว่าสู้ๆ แต่ไม่เชียร์นี่แหละค่ะ ฮาาา

เอริแอดเน่ ต้องการให้โคลด์เห็นฉากกอดกัน
เพราะนาง คงมีลางบอกให้รู้ ว่าซิก กับโคลด์ มีซัมติงกัน
ฉากบนเตียงราชา ดูท่าคงเหมือนสมรภูมิรบละม้าง
ซิก รู้ความจริงซ้ำอีกครั้งที่ว่า คิงริวอร์นอร์ฆ่าคิงเฟรธูริน
คงยากลำบากใจ ก็เป็นพี่ชายทั้งคู่ แต่รัก สนิทสนมต่างกัน
โคลด์ แม้จะโกรธรวดร้าว แต่ไม่ปริปากบอกมาลแกธเลย เยี่ยมมาก
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
อา เราก็ว่างั้นค่ะ ท่านหญิงต้องระแคะระคายแล้วแน่เลยค่ะ ถึงให้ดู
ซิกฟรีดยังเด็กแต่เจอหลายอย่าง โคลด์เองก็ทิฐิอยู่ค่ะ ไม่ยอมลง
แต่ทุกการกระทำมีสาเหตุ เมื่ออ่านไปเรื่อยๆ เรื่องจะคลี่คลายเองค่ะ

ป๋าจะดวงดี(เหรอ?)ไปไหนอ่ะ นั้นเมียคนอื่นนะ!!//อ้ายยๆเรายังไม่เอ่ยชื่อนายนะโคลด์

เราก็สงสารนางนะแต่อีกใจเราก็ไม่สงสารอ่ะ..แลดูสับสน ฮ่าๆ

ปอลิง.เอาซิกออกมาที เดี๋ยวออกค่าตัวช่วย :hao7:
ท่านซิกฟรีดออกแล้วเจ้าค่ะ! อิลมาเรวิ่งออกมารับค่าตัวนักแสดง!!!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (3) [03/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 03-03-2017 21:04:35
ไรท์ ลงก่อนเวลา สุดยอดดดดด  :mew1: :mew1: :mew1:
เรื่องยิ่งมา ยิ่งสนุก ซับซ้อน  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
เชื้อพระวงศ์ก็ซับซ้อน
ซิก โคลด์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
โคลด์มีแรงกระตุ้นจากการที่เห็นเอริ กอดซิก
ซิก ก็มีความกดดันจากริวอร์นอร์
แต่การสัมผัสกันของซิก โคล์ด
ทำให้ซิก กระชากตุ้มหูเครื่องดักฟังทิ้งซะเลย
แต่โคลด์ ซิก รู้ใจกันจริงๆ  :o8: :-[ :impress2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ชอบฉากกระชากตุ้มหูเหมือนกันค่ะ โอย อีตาวัยรุ่นใจร้อน แงๆๆ เขินๆๆ  :-[ :-[ :-[

:m25:
^
^
^
ตามนี้ค่ะ แฮ่กๆๆๆ
ซิกโคล์ดนี่ช่างเร่าร้อน ดูเป็น perfect match มาก เข้าใจกันทุกอย่าง โดยไม่ต้องพูด  :ling1: :ling1:

ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ อัพถี่อัพเร็วมาก ซู๊ดยอดดดด :katai2-1:
:pighaun: << ตามนี้ด้วยค่ะ ลงฉาก NC ทีไรเขินทุกทีอะ แงๆๆ
ขอบคุณที่แวะมาอ่านด้วยค่ะ

บอกเลยว่าตอนนี้ของทั้งสองคนดุจน้ำทิพย์ชโลมใจของเรา ฮรือออออ



เชื่อเราเถอะว่าตอนนี้เราอ่านตั้งสองรอบ เก็บทุกเม็ด เพราะสังหรณ์ใจว่าจะไม่มีอีกนาน แต่คิดอีกทีชีวิตของเอลฟ์เนี่ยยาวนานมากเลยใช่ไหม งั้นเรารอได้ อยู่ตรงนี้เพื่อรปต่เธอ~~~


ปล.น้องโคลด์น่ารักเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือหนูเซ็กซี่มากลูก
โอ อ่าน 2 รอบเลย ขอบคุณค่า /โผก(อ)ด
ทำนายอนาคต เรือซิกฟรีดโคลด์อาจมีคลื่นลมไปบ้าง แต่ขอให้ไม่ทิ้งความหวังนะคะ Peace!
(เราก็พยายามไม่ทิ้งค่ะ.../อ้าว)

อย่างน้อยเขาก็บอกรักกันแล้ว ถึงจะไม่ได้พูดออกมาก็เถอะ เฮ้ออออออ

งงความสัมพันธ์ระหว่างคุณพี่ชายเบอร์สองกับเอริแอดเน่ นางได้แผลเป็นมาจากไหน ทำไมคุณพี่ชายเบอร์สองต้องฆ่าคุณพี่ชายเบอร์หนึ่ง หรือว่าต้องการแย่งเอริแอดเน่

อยากให้นักเขียนอธิบายลักษณะชนเผ่า(?)หน่อยค่ะ อย่างพวกจุดเด่น นิสัยใจคอโดยรวมของชนเผ่านั้นๆ
เม้นก่อนลืมตอบเรื่องแผลเป็น แผลนี้ย่อมมีที่มาเนอะ อ่านไปเรื่อยๆ ก็ทราบเองจ้ะ ทั้งเหตุผลการชิงบัลลังก์อื่นๆ ด้วยค่ะ

ความรู้สึกของซิก กับโคลด์ เด่นชัดแต่ไม่พูดออกมา
รับรู้ด้วยตัวเอง กับตอนสัมพันธ์ลึกซึ้งทางกายกัน
ริวอร์นอร์ ก็รู้ความคิดของเอริแอดเน่ แต่ก็ยังไม่ปล่อยมือ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
รู้ว่ารักแต่ไม่พูดออกมา ไม่แน่ใจ ลังเลใจ สงสัย นี่มันรักวัยรุ่นจริงๆ ค่ะ!
ยังไงเจ้าพวกนี้ก็ยัง 15 กับ 18 เองเนอะคะ ;w;  :ling1:
ส่วนริวอร์นอร์ อา...เขาเป็นแบบนั้นแหละค่ะ

หลงมาอ่านน แล้วก็ติดงอมแงมจ้าาา :ling1:
เป็นแฟนตาซีที่อ่านได้เรื่อยๆ สนุก ลุ้น น่าติดตามมั่กกๆ
ถึงแม้ตอนแรกพระเอกจะคิวทอง ออกน้อยยิ่งกว่าตัวประกอบ
แต่พออ่านตอนย้อนวัย มันฟินนน ให้อภัยกะความบทน้อยก่อนหน้าเลยจ่ะ :hao7:
ส่วนน้องโคลด์คนงาม น่ารักทั้งตอนเด็ก ทั้งตอนโต เลิฟมากกก :mew1:

คู่พี่สาวกะราชามังกรก้อดราม่าได้ใจ จะรอดูศึกน้องเกวนกะพญาเมียทั้งเก้านะคะ
แม้จะหมั่นหน้าพญามังกรก็ตาม

อยากอ่านไปถึงตอนจบล้าวว มันช่างกร้าวใจจริงๆ

ปล.ขอตามติดเรือซิกโคลด์ไปด้วยคนนะเจ้าคะ  :impress2:
ปล2 อ่านตอนล่าสุดละอยากจะตบนังซิกสักหลายสิบที ละเกลียดแอรี่พอๆกะกิ้งกือเลย ฮึ่ย ทำร้ายน้องโคลด์ ถึงจะรุ้ว่านังซิกเลือกนางเพราะเห็นแก่พี่ชายก็เถอะ งานนี้อิป๋าเลยเข้ามาทำคะแนนอย่างจังเลย เต๊าะเด็กตลอดดด
ขอบคุณนักอ่านใหม่นะคะ รักน้า -3-
มีคนรอดูเกวนๆ ด้วย ดีใจจจจ

งอนซิก  :m31: :m31:

เพราะคอนดิชั่นเยอะอย่างนี้ไง
ลุงมาบแกเลยอุ้มนุ้งโคล์ดไปนอนกอดแล้ว มันช่วยไม่ได้นะเจ้าชาย หึหึ

เข้าใจซิกนะแต่ก็หงุดหงิดนางอยู่ดี :3125: 555555

ขอบคุณคนแต่งค่าาา  :pig4:
ก็คอนดิชั่นเยอะจริงๆ ค่ะ เป็นตัวอย่างของคนเกิดมาร่ำรวย มีอำนาจล้นฟ้า แต่ไม่อาจทำตามใจตัวเอง
ผิดกับมาลแกธ ชั่วโมงบินสูง...คาบโคลด์ไปแ-ก ซะงั้น แงงง

ต้องมีคนเจ็บ หรือจะ 3P ดีละ 55(5
สอบถามตัวละครล่าสุด คนที่ยอมมีแค่มาลแกธ...

อิป๋าจังหวะนรก! นี่จ้องอยู่ละสิท่า!

อาเลธเอ๋ย หญิงงามมารยาเนียน
มาลแกธจ้องอยู่แหงเลยค่ะ 555 ขำจังหวะนรกอะ

ชอบป๋า  :hao7: :hao7:
มาลแกธขยิบตาให้
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (5-6) [04/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 03-03-2017 23:50:12
บทที่ 14  : การตัดสินใจ (5)

“ได้ยินว่าเจ้าไปหาอาเลธ คุยอะไรกันบ้าง สนุกสนานตามประสาพี่หญิงน้องชายหรือไม่” บุรุษซึ่งอยู่ในจุดสูงสุดของแผ่นดินรูเมเรียร์เอ่ยทักโฉมงามจากแดนไกล

“หากเจ้าฉลาดอย่างที่เป็นมาเสมอ จงทำให้อาเลธรู้จักที่ทางของตน” เอริแอดเน่เอ่ยทวนคำของริวอร์นอร์ หันมายิ้มอ่อนหวาน “ข้าไปทำตามประสงค์ท่าน ราชา”

เพราะไม่คาดว่าริวอร์นอร์จะมาหานางถึงตำหนัก ท่านหญิงจึงสวมเพียงเสื้อคลุมผูกแน่นทับชุดนอนชั้นใน นางนั่งอยู่ริมระเบียงซึ่งมองเห็นสวนพรรณไม้กว้างสีเขียวสบายตา

เอริแอดเน่สั่งให้นางกำนัลยกน้ำชามาตามปกติ ทว่านางกำนัลกลับไม่กล้าเดินผ่านราชาเข้าไปหานาง

“น้ำชาของข้า” เอริแอดเน่สั่งเสียงเรียบ “ข้าชอบดื่มตอนยังร้อนและหอมกรุ่น”

นางกำนัลหน้าซีดเผือด ซึ่งผิดปกติวิสัยของสตรีอิซิลดาร์

เอริแอดเน่จึงหันไปถามริวอร์นอร์ “แค่ราชินีของท่านจะดื่มชา ยังทำให้ข้ารับใช้ของนางหวาดกลัวขนาดนี้ ท่านไปทำอะไรไว้กันแน่”

“ไม่มีสิ่งใดพิเศษ” ริวอร์นอร์อนุญาตให้นางกำนัลเข้ามาถวายน้ำชาแก่เอริแอดเน่ได้ “เมื่อวานเรายุ่งอยู่กับการสอบสวนดาร์กเอลฟ์ อา...เจ้าก็จับดาร์กเอลฟ์ได้ตนหนึ่งหรือมิใช่”

สิ่งที่ทำให้นางกำนัลหวาดกลัวอาจเป็น ‘ข่าวลือ’ ที่สะพัดอยู่ในหมู่นางกำนัล ถึง ‘วิธีการ’ ที่ราชาใช้ ‘สอบสวน’ ดาร์กเอลฟ์ต้องสงสัย

“นั่นข้ารับใช้ของซิกฟรีด คนที่เขาพากลับมาจากสนามรบ” เอริแอดเน่รอให้นางกำนัลรินน้ำชา ควันลอยจากพวยกา ไอน้ำหอมกรุ่นเจือกลิ่นสมุนไพร

“อ้อ” ริวอร์นอร์เอ่ยรับสั้นๆ “ดาร์กเอลฟ์เหมือนกันหมด เกรงว่าเราจะนึกหน้ามันไม่ออก”

“มันเป็นคนที่ท่านเฟรธูรินเลือกให้ซิกฟรีด ฉะนั้นข้าจะไม่เอาอะไรกับมัน” เอริแอดเน่ยกถ้วยชา สูดกลิ่นหอมฝาดและแรงแบบอิซิลดาร์

‘มัน’ ที่นางเอ่ยถึงย่อมหมายถึงโคลด์ สตาร์

กลิ่นนั้นทำให้เอริแอดเน่สงบลง กลิ่นของสมุนไพรชนิดหนึ่งที่นางเคยดื่มเป็นประจำ ‘หญ้าพระจันทร์’

“หอม” ราชาหลับตา มุมปากมีรอยยิ้มระบาย จากนั้นก็สั่งหญิงรับใช้ว่า “นำมาให้เรา”

“มันไม่ค่อยดีต่อร่างกายบุรุษ” เอริแอดเน่เอ่ยปฏิเสธแทนนางกำนัล เป็นที่ทราบกันว่านางกำนัลและองครักษ์ของนางล้วนได้รับความเมตตาในฐานะสตรีอิซิลดาร์

“ไม่ดีอย่างไรเล่า” ริวอร์นอร์ให้องครักษ์ของตนเลื่อนเก้าอี้ให้

“เป็นพิษกระมัง ข้าไม่อยากเป็นคนวางยาพิษในน้ำชาขององค์ราชา” เอริแอดเน่ยิ้มเหมือนนางงูพิษและยกชาขึ้นจิบ

ริวอร์นอร์ขำลึกๆ “ทำอย่างกับว่าเจ้าไม่เคยวางยาพิษเราอย่างนั้นละ”

“ไม่นี่ ข้าไม่เคยสักครั้ง” เอริแอดเน่ตอบโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า

นางกำนัลและองครักษ์ถอยออกไป บางเรื่องก็ไม่ควรสอดรู้

ริวอร์นอร์มองเรือนร่างแบบบาง นัยน์ตาสีแดงโลหิตลึกล้ำทว่าส่องประกายคล้ายโกเมน ดึงให้ผู้มองตกอยู่ในภวังค์

หญ้าพระจันทร์...สมุนไพรของอิซิลดาร์ มีกลิ่นหอมคล้ายเครื่องเทศรสร้อนแรง ทั้งที่ชื่อฟังเยือกเย็น

เอริแอดเน่วางถ้วยชาที่จิบไปครึ่งหนึ่ง

“ถ้าไม่อยากให้ข้าดื่ม ก็อย่าเรียกใช้ข้าบ่อย”

“ไม่อยากมีบุตรกับเราขนาดนั้นเชียวหรือ” ริวอร์นอร์ทราบว่าหญ้าพระจันทร์มีสรรพคุณอะไร

มันส่งผลกับความสมบูรณ์ของสตรี แต่กับบุรุษ หญ้าพระจันทร์จะทำให้ด้านชาทางกามารมณ์

“เราควรดื่มยาพิษด้วยกัน ผลลัพธ์ที่เจ้าหวังจะได้ออกมาดีที่สุด” เขาหยอกเอริแอดเน่ แสดงความประสงค์ว่าอยากทดลองดื่ม ทว่านางห้ามไว้

“ไปหาสมุนไพรของท่านเอาเองเถิด” มือเพรียวยกกา นางเทน้ำชาที่เหลือในกาทิ้งลงด้านล่างระเบียงต่อหน้าริวอร์นอร์ “ข้ายังชั่งใจเรื่องมีบุตร ด้วยเกรงว่าบุตรของท่านจะอัปลักษณ์เหมือนมารดา”

“เช่นนั้นก็ยอดเยี่ยม”

“ทั้งอัปลักษณ์และต่ำช้า ไม่เกิดมาจะดีกว่ากระมัง” นางหัวเราะ คล้ายกำลังล้อเล่น

เอริแอดเน่ที่เงียบขรึมเหมือนหุ่นกระบอกไร้ชีวิตตลอดหกปี มาบัดนี้ร้ายกาจใส่ริวอร์นอร์อย่างกับอสรพิษ

“น่าเสียดายที่ ‘เฟรธูริน’ จะไม่ได้ลืมตาดูโลก” ร้ายมาย่อมร้ายกลับ ริวอร์นอร์ทราบว่าควรขยี้จุดไหน เอริแอดเน่ถึงเจ็บที่สุด แต่โดยมากเพียงหยอกเย้าแรงๆ

ทว่าเอริแอดเน่หัวเราะ นางหัวเราะตัวสั่นจนโต๊ะสั่น

“นานๆ ทีเจ้าก็ทำให้ข้านึกขำได้เหมือนกัน”

การหัวเราะคงแสดงความเจ็บปวดของนางได้ดีที่สุดกระมัง

“ยินดี” ริวอร์นอร์น้อมศีรษะให้นางครั้งหนึ่ง “เราได้รับรายงานว่าอาเลธกระชากตุ้มหูทิ้ง” ราชาแตะใบหูของตัวเอง ขณะแสร้งนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด “ตุ้มหูที่เจ้ากำนัลให้…”

“ข้าบอกให้เขาถอดออกเอง มันไม่ใช่ของที่ข้ากำนัลให้ด้วยซ้ำ อ๊ะ แต่เขาไม่รู้นี่ ในเมื่อมีคนทำเป็นว่าข้ามอบมันให้เขาได้ ข้าก็คิดว่าสามารถบอกให้เขาถอดมันออกได้เช่นกัน”

เอริแอดเน่กำลังปกป้องซิกฟรีด และถ้ามองหาความพรั่นพรึงในคำโกหกของนาง

...ไม่มีเลยสักนิด

“อืม…” ริวอร์นอร์พิจารณาสตรีจากอิซิลดาร์ ดินแดนที่ได้ชื่อว่าสตรีเพศแข็งแกร่ง โหดเหี้ยม ขณะเดียวกันก็อ่อนหวาน เปี่ยมเสน่ห์เย้ายวนให้ลุ่มหลง และสตรีเพศแห่งอิซิลดาร์นี่ละ ที่สามารถทำทุกอย่างเพื่อบรรลุผลสูงสุดได้โดยไม่เกี่ยงวิธีการ

“เรารู้จักกันมานานพอ เอริแอดเน่...เราทราบว่าเมื่อไหร่ที่เจ้าพูดปด พูดจริง หวั่นใจ หรือปกป้องใครสักคน”

“ข้าปกป้องน้องชายที่รักของพวกเราผิดตรงไหนหรือ”

เอริแอดเน่พิจารณาริวอร์นอร์ นอกจากแหวนหลายวงที่เขาสวมอยู่ ก็ไม่เห็นเครื่องประดับชิ้นอื่น นางเคยมอบสร้อยคอให้เขาเส้นหนึ่ง และไม่แปลกใจที่เขาเลิกสวมมัน

เพราะข้าและเจ้าต่างไร้หัวใจให้แก่กันมานานแล้ว

เอริแอดเน่คิด ส่วนแหวนวงโปรดที่ริวอร์นอร์สวมอยู่ มาจากท่านหญิงที่ทำหน้าที่บาทบริจาริกานางหนึ่ง

“จะว่าไป ข้าก็แปลกใจที่บาทบริจาริกาของเจ้าไม่ตั้งท้องสักคน”

“ไม่มีผู้ใดสมควรอุ้มท้องบุตรของเราไปกว่าเจ้าแล้ว”

“ข้าแค่คิดว่า ถ้าพวกนางตั้งท้องขึ้นมาคงน่าสนุก” ไม่มีความถ่อมตัวในน้ำเสียงของเอริแอดเน่ นางแทบจะฮัมเพลงด้วยซ้ำ

“หรือ?” ราชาสนใจ “อย่างไรเล่า”

“อื้ม” ท่านหญิงเงยหน้าสบดวงตาสีโลหิต นางเผยรอยยิ้มสดใสราวแสงอรุณ “ข้าก็อยากเห็นเจ้าใจสลายสักครั้ง”

ริวอร์นอร์เลิกคิ้วแล้วหัวเราะในลำคอ “มีอยู่วิธีหนึ่ง เจ้าอยากทราบหรือไม่ว่าเป็นวิธีใด”

“ต้องจ่ายค่าตอบแทนอะไรถึงจะได้ทราบล่ะ” นางดื่มน้ำชาที่เหลือในถ้วยจนหมด

“วันนี้เราอารมณ์ดี ไม่คิดค่าตอบแทน”

“คาสซานดร้า เอลิซาเบธ เซราฟิน่า ซีเบลลา...” เอริแอดเน่ไล่ชื่อสตรีสูงศักดิ์ที่รับใช้ข้างแท่นบรรทมของริวอร์นอร์ “ยังมีอีกหลายคน เห็นไหมว่าข้าก็ใส่ใจเจ้าเหมือนกัน”

นั่นฟังเหมือนคำขู่ของนางงูพิษ ว่านางรู้ทั้งหมด และคอยจับตาดู สตรีผู้ปรารถนาตำแหน่งราชินี ย่อมไม่ยอมให้สตรีใดให้กำเนิดเชื้อสายของราชาก่อนตน

“วิธีการที่จะทำให้เราใจสลาย...คนดี” ริวอร์นอร์แย้มยิ้ม เกือบเรียกได้ว่าอ่อนโยน เขาวนนิ้วกับปากถ้วยน้ำชาของนางบนโต๊ะ ไม่ใส่ใจชื่อบาทบริจาริกาที่เอริแอดเน่ไล่มา

“คือความตายของเจ้า”

เอริแอดเน่นึกขำขึ้นมาจริงๆ “ถ้าข้าตาย แล้วจะเห็นหน้าใจสลายของเจ้าได้อย่างไรล่ะ บนสวรรค์คงไม่ใช่ มีแต่ต้องมองขึ้นมาจากในนรกละมั้ง”

ราชาเคาะปากถ้วยน้ำชา ก่อนจะตวัดสายตาจับใบหน้าหมดจดของนาง

“หรืออาจเป็นความตายของอาเลธ” ริวอร์นอร์พูดเรียบเรื่อย

นางปัดมือเขา แยกเขี้ยว “อย่ายุ่งกับเขา ถ้าไม่อยากขาดกับข้าตั้งแต่ตอนนี้”

“ไม่อยากเห็นเราใจสลายแล้วหรือ”

“ข้าชอบใบหน้าเขา มันเหมือนท่านเฟรธูริน เก็บเขาไว้ดูเจ้าหงุดหงิดเล่นสร้างความสุขให้แก่ข้า”

“เราดูเหมือนราชาขี้หงุดหงิดหรือ” ริวอร์นอร์ผายมือ “ตรงไหนกัน”

“ก็เรารู้จักกันมานานขนาดนี้” เอริแอดเน่ยอกย้อน

“ถูกต้อง เจ้าย่อมทราบดีว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง” ริวอร์นอร์ยกนิ้วจะไล้ผมสีทองของนาง

เอริแอดเน่ตัวแข็ง ทว่ายอมให้เขาสัมผัส

อาการตัวแข็งของนางมีหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักมาจากเรื่องเมื่อหกปีก่อน อย่างคืนถวายตัว นางก็มองร่างเปลือยของตัวเองในกระจกอยู่นาน

“ชี่…” ริวอร์นอร์ปลอบนาง ปลายนิ้วเลื่อนไปสัมผัสพวงแก้ม “เราเด็ดขาดกับพวกทรยศ แต่กับเจ้าผู้ภักดี เราย่อมตอบแทนสมกัน”

มือเล็กตะปบนิ้วริวอร์นอร์คล้ายนางสิงห์ดุ นางสอดนิ้วกับร่องนิ้วของเขา ประสานมือกัน แสดงให้เห็นว่า นางกับเขาเท่าเทียมกัน

“ข้าก็จะตอบแทนความรักของท่านอย่างเหมาะสม ‘ราชา’ ”

ริวอร์นอร์ลุกขึ้น ก่อนเดินอ้อมมาจุมพิตหน้าผากมน ราชาเอ่ยลา แต่ขณะกำลังก้าวพ้นธรณีประตูนั้นเอง ริวอร์นอร์กล่าวทิ้งท้ายว่า

“ข้าเพิ่งไปเยี่ยมอาเลธมา” ราชาแห่งรูเมเรียร์เหยียดยิ้ม “เขาดูออกง่ายกว่าเจ้ามากทีเดียว”

เสียงหัวเราะ แม้เบา...แต่ดังสะท้อนอยู่ในอกนาง

ประตูปิดใส่หน้าริวอร์นอร์ดังปึง!

เอริแอดเน่ยื่นมือมาทางเขา นางใช้เวทลม หน้าตาถมึงทึง ดูเหมือนนางจะปกป้องซิกฟรีดราวจงอางหวงไข่

“ละเลยราชกิจสักวัน” ท่านหญิงกล่าวเชิญชวนด้วยตนเอง

“เอาตัวเข้าแลกเชียวหรือ คนดี”

“ข้าทำให้เจ้าพอใจได้ เจ้าทราบดี หรือเจ้าอยากนอนกอดท่อนไม้ไปตลอดชีวิต”

ริวอร์นอร์จุปาก “เท่าที่จำได้...เจ้าพยายามเป็นท่อนไม้ช่วงแรกๆ หนา” เขากำลังสนุกสนานอย่างเห็นได้ชัด

ใบหน้าของเอริแอดเน่แดงซ่านด้วยคำหยาบโลนของราชา สีแดงแห่งความละอายลามถึงใบหูขาวผ่องของนาง

“ข้าจะมาหาเจ้า คนดี” ริวอร์นอร์เกี่ยวคางของนางเข้ามารับจูบอ่อนโยน “หลังเสร็จธุระกับพวกขุนนางแล้ว”

นางจูบตอบเขาอย่างสงบนิ่ง “บางครั้งเราก็ตกลงกันง่ายดี”

...ดังเช่นคนที่คุ้นเคยกัน


 —————————————————————————

A/N ตอนนี้ยกให้สองคนนี้เต็มๆ ค่ะ เปิดมุมมองหลายๆ อย่างในเรื่องที่ตัวละครหลักนึกไม่ถึง และ! เนื่องในวันสุขแห่งชาติ เราแถมให้อีกตอนค่า ลงสองตอนไปเลย!

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (5-6) [04/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 03-03-2017 23:53:39
บทที่ 14  : การตัดสินใจ (6)

ซิกฟรีดนั่งเงียบอยู่บนโซฟาในส่วนรับรองของตัวเอง เขานั่งอย่างนั้นอยู่นานแล้ว ตั้งแต่คิงริวอร์นอร์มาเยี่ยมเยือน พูดคุย แล้วจากไป ซิกฟรีดก็นั่งอยู่ที่เดิม—เหมือนเดิม

พี่ริวอร์นอร์ทราบ

ไม่มีสิ่งใดรอดหูรอดตากษัตริย์ผู้ปกครองแคว้นรูเมเรียร์ไปได้

ซิกฟรีดขบกรามจนขึ้นสัน พี่ริวอร์นอร์พูดคุยเรื่องทั่วไป แต่ทุกคำเหมือนขู่ โดยเฉพาะตอนที่เอ่ยถึงดาร์กเอลฟ์ ซึ่งต้องสงสัยว่าเข้าร่วมกับพวกกบฏ พี่ริวอร์นอร์เล่าอย่างละเอียดว่า ‘รีดเค้น’ มันอย่างไรบ้าง

“เราทราบว่าฟังดูโหดร้าย” เสียงของพี่ริวอร์นอร์ยังก้องอยู่ในหู

“แต่บางครั้ง กับบางเรื่อง เราก็ต้องเด็ดขาด”

ซิกฟรีดพยายามผ่อนลมหายใจ

“เข้าใจใช่ไหม อาเลธ… ‘ต้องเด็ดขาด’ ”

ซิกฟรีดเข้าใจดี

เขาจ้องไปทางห้องนอน ที่นั่นมีพิณคันเล็กอยู่

หากโคลด์กลับมา คงต้องขึงสายพิณใหม่ทุกเส้นเป็นแน่...

 

โคลด์พลิกตัวอยู่บนเตียง เขาได้กลิ่นหอมหนักๆ ที่จะว่าคุ้นก็คุ้น ไม่คุ้นก็ไม่คุ้น

กลิ่นยาสูบหรือ...เอาอะไรแปลกๆ มามวนอีกแล้ว

หน้าของดาร์กเอลฟ์ชนเข้ากับแผ่นอกเปลือยสีขาว เขาหลับตาอยู่ ครางกับความอบอุ่นของร่างกายซึ่งแผ่ไอร้อนเหมือนเตาผิง

เป็นเตาผิงซึ่งมีแขนแข็งแรง และสามารถให้กอดที่แนบแน่นได้

“อรุณสวัสดิ์ตอนสาย” เตาผิงพูดแบบคนยังไม่อยากลุกจากเตียง

“อืม…” โคลด์งัวเงีย ยังไม่ตื่นดี “ซิก…”

ก่อนพูดจบ ดาร์กเอลฟ์หุบปากฉับ เขาไม่ได้ตั้งใจจะเอ่ยชื่อนั้น แต่ปากเจ้ากรรมดันพาจน

“มาลแกธ” โคลด์ลืมตา แก้คำ

“นึกว่าข้าเป็นอีกคนหรือ” มาลแกธก้มหน้าลงมายิ้มให้ อยู่ใกล้ขนาดนี้ หากเป็นควาร์น่ารักละก็...ขาดใจตายสถานเดียว

“เปล่า ข้ากับเขาไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้น” โคลด์ปฏิเสธเสียงแข็ง “ข้าเจ็บแผลอีกแล้ว ขอยาชาเพิ่มหน่อยสิ”

ดาร์กเอลฟ์จงใจเปลี่ยนเรื่อง

“ไม่ได้” มาลแกธลุกขึ้นมาดูแผลให้ “ความเจ็บปวดเป็นเรื่องที่ดีในบางกรณี มันทำให้เจ้ารู้ว่ายังไม่ตาย กับทำให้รู้ว่าอาการแบบนี้ควรดูแลรักษาอย่างไร ตรงไหน”

“แต่ว่า” โคลด์หูลู่ “มันเจ็บ…”

“ใช้ลูกอ้อนไม่ได้ผลหรอกที่รัก” มาลแกธขยี้ผมโคลด์ “ข้าจะเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ นั่งดีๆ”

โคลด์หลับตาปี๋ เมื่อคืนเขาดึงลูกธนูออกด้วยความใจร้อนแล้วเอาแต่นั่งเหม่อ พอตั้งใจคิดถึงแผลจริงจัง มันก็เจ็บจริงๆ

“เก่ง…” มาลแกธชมอีกฝ่ายเหมือนเป็นเด็กเล็กๆ

“อื้อ” โคลด์รู้สึกดีกับมาลแกธขึ้นมานิดๆ

เขาตั้งใจจะไม่สนใจซิกฟรีดแล้ว เพราะอีกฝ่ายสั่งให้เขากลับไปทำแผลเอง เขาก็จะอยู่ทำแผลที่นี่แหละ

โคลด์จึงแอบอยู่ในห้องพักของมาลแกธตลอดเวลาที่เหลือทุกวัน

 

เจ้าชายยังพำนักอยู่ในราชวังอีกสามวัน ระหว่างนั้นหมดไปกับการใช้เวลาร่วมกับเอริแอดเน่และเหล่าขุนนางที่แวะเวียนมาต้อนรับไม่ขาด รวมถึงการรับประทานอาหารแบบครอบครัวกับพระราชาและคู่หมั้น

วันเดินทางกลับ คิงริวอร์นอร์เอ่ยฝากฝังน้องชายเพียงคนเดียวกับไมเธียน--ควาร์อาวุโสซึ่งมีหน้าที่ประสานงานระหว่างราชสำนักกับอาศรม โดยตำแหน่งของเขาปิดเป็นความลับ เพราะไมเธียนยังคอยสอดส่องดูแลพฤติกรรมของบุตรชายขุนนาง ว่าประพฤติตนเหมาะสมตามธรรมเนียมควาร์หรือไม่

นั่นเป็นข้ออ้างที่ดีในการไม่บอกความจริงแก่ซิกฟรีดตั้งแต่แรก

“เราส่งคนไปดูแลเจ้า ไมเธียนกับมาลแกธ รู้จักกันแล้วใช่หรือไม่” คิงริวอร์นอร์บีบไหล่น้องชาย

“ขอรับ”

“ไมเธียนจะกลับไปอาศรมด้วย อย่าบอกใครละว่าเขาเป็นควาร์อาวุโส” ราชาหัวเราะพลางหันไปทางไมเธียน ผู้ซึ่งน้อมศีรษะรับคำ

“ขอรับ”

“ส่วนท่านทูตจากแดนตะวันออก...”

มาลแกธน้อมศีรษะบ้าง แต่ก็เพียงเล็กน้อย

คิงริวอร์นอร์กระตุกยิ้ม “ท่านทูตมาลแกธ ล็องธูมีความประสงค์จะศึกษาวิชาจากรูเมเรียร์ และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ท่านจะสอนวิชาศาสตราวุธจากแดนตะวันออกให้เจ้า”

มาลแกธขยิบตาให้ซิกฟรีด เขาไม่ใช่ทูตเพียงคนเดียวจากตระกูลใหญ่อย่างล็องธู ยังมีเอลฟ์ผมสีทองแดงอีกสองคนอยู่ด้านหลัง คนหนึ่งดูคล้ายมาลแกธมาก ต่างกันเพียงเอลฟ์ผู้นั้นมีใบหน้าจริงจัง และรอยแผลเป็นบริเวณมุมปากด้านซ้าย ที่รั้งขึ้นจนเหมือนกำลังยิ้มอยู่ตลอดเวลา

เอริแอดเน่มาส่งซิกฟรีดเช่นกัน นางแต่งกายด้วยชุดสีขาวรัดกุมตามปกติ

“ขอมารดานทีเมตตาเจ้า” นางจูบแก้มเขาทั้งสองข้างเพื่ออวยพร จากนั้นก็ผายมือไปทางองครักษ์หญิงผมสีเขียวอ่อนนางหนึ่ง “องครักษ์ของข้าทำให้ข้ารับใช้ของเจ้าบาดเจ็บ ต้องขออภัยอีกครั้ง”

องครักษ์หญิงที่ยิงโคลด์คุกเข่าขออภัยโทษจากเจ้าชาย

ซิกฟรีดเหลือบมองโคลด์ที่ยืนหลบสายตาของเอลฟ์ทั้งหลายอยู่หลังรถม้า

“ไม่เป็นไร”

คิงริวอร์นอร์เข้ามากอดและจูบแก้มซิกฟรีด

“อย่าทำอะไร ‘เกินตัว’ เล่า” ราชากระซิบ “เราเป็นห่วง”

ซิกฟรีดสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ขณะตอบกลับไปว่า

“พี่ประเมินข้าต่ำเกินไป”

คำตอบทำให้คิงริวอร์นอร์หัวเราะ

“ดี...เราจะรอเจ้าอยู่ที่นี่ อาเลธ”

 

โคลด์อยู่บนรถม้า เดินทางกลับกับซิกฟรีด คราแรกเขาจะขี่ม้ากลับเหมือนขามา โดยขอยาชาจากมาลแกธ แต่กลับถูกสั่งให้มานั่งรถม้า

ด้วยไม่อยากขัดคำสั่งให้เป็นจุดสนใจ โคลด์จึงทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตอนนี้เขาก้มหน้าก้มตาซ่อมสายพิณคันเล็ก เพราะไม่อยากคุยกับเจ้าชาย

รถม้าสะเทือนไปมา การซ่อมทำไม่ได้ แต่โคลด์ก็แสร้งซ่อมไปอย่างนั้น จะได้ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมา

ซิกฟรีดไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ว่ากล่าว เขาเห็นโคลด์ทำแผลเรียบร้อยดี ก็หายเป็นห่วงไปหลายส่วน

เจ้าชายเอลฟ์นวดขมับ หลายวันที่อยู่ในเอวา เธมาร์ทำให้ประสาทเครียดเขม็ง เขากลับบ้านแต่เหมือนไม่ได้อยู่บ้าน ระหว่างที่โคลด์หายไปพักกับมาลแกธ ซิกฟรีดแทบไม่ได้นอน

บรรยากาศในรถม้ามีแต่ความมึนตึง สายพิณที่โคลด์เพิ่งมัดเสร็จดีดหลุดอีกแล้ว เขายอมแพ้ วางพิณลง แกะห่อของกิน กินน้ำกับขนมปัง แล้วซบหน้ากับประตูรถม้า

ดาร์กเอลฟ์เห็นเจ้าชายหลับแบบขมวดคิ้วแน่น ดูมีอายุมากขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูก

เงียบกันไปเช่นนั้นจนถึงที่หมาย ลงจากรถม้าก็ยังเงียบ

โคลด์เดินกะเผลกถือสัมภาระของเจ้าชายเท่าที่ถือได้ ที่เหลือเขาจะกลับมาขนทีหลังจนกว่าจะหมด

ทำตามหน้าที่คนรับใช้ของตน

ทว่าซิกฟรีดให้มนุษย์ซึ่งรับใช้ควาร์ในอาศรมช่วยโคลด์ขนสัมภาระด้วย ส่วนเขาเดินหายไปยังทิศที่ตั้งของน้ำตก

ไม่มีใครห้าม ไมเธียนทราบว่าเจ้าชายต้องการเวลาส่วนตัว เพื่อ ‘คิด’ และ ‘ตระหนัก’ ถึงกำลังของตน

โคลด์กลับไปห้องพักซึ่งแบ่งใช้ร่วมกันกับซิกฟรีด เขารู้สึกเหมือนได้กลับบ้านอย่างไรก็ไม่ทราบ และเหนื่อยจนล้มตัวนอนคว่ำหน้าบนเตียงโดยไม่เปลี่ยนชุด

โคลด์ไม่อยากคิดอะไรมาก เขาพอใจแค่เรื่องเดียว คือเขาไม่เข้าใจซิกฟรีด และซิกฟรีดก็ไม่เข้าใจเขา

ให้เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วละ...



—————————————————————————

A/N หมดตอนนี้ถือว่าเฉลยภาคอดีตไปเกินครึ่งแล้ว นับต้นฉบับแล้วก็อีกไม่นานจะครบค่ะ เริ่มคิดถึงปัจจุบันกันหรือยัง ;) ตอนนี้ท่องอดีตไปจนสุดทางกันก่อนเนอะ ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจค่า!

(ใบ้ว่าเป็นคู่รอง 1 คู่ อิอิ)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (5-6) [04/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-03-2017 01:24:46
เอาอีกกกกก
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (5-6) [04/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 04-03-2017 08:11:46
คู่รองงงงงง หืมมมมมมมมมม ?? :hao3:
เดาไม่ออกเลยค่ะ ให้เดามั่วๆก็ไมเธียนกับมาลแกธ
เอ๊ะ หรือหมายถึงคู่ที่รุ้อยุ่แล้วแบบเกวน กับกิ้งก่ายักษ์(หมั่นไส้!555)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (5-6) [04/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 04-03-2017 08:59:40
ความสัมพันธ์คู่หลักช่างอึมครึม มีอะไรทำไมไม่พูดกันน  :z3:
นอนนอคู่รองต่อไป   :katai5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (5-6) [04/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-03-2017 10:23:58
 :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4:
 
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (5-6) [04/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 04-03-2017 12:44:06
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (5-6) [04/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 04-03-2017 21:10:28
คู่รองงงงงง หืมมมมมมมมมม ?? :hao3:
เดาไม่ออกเลยค่ะ ให้เดามั่วๆก็ไมเธียนกับมาลแกธ
เอ๊ะ หรือหมายถึงคู่ที่รุ้อยุ่แล้วแบบเกวน กับกิ้งก่ายักษ์(หมั่นไส้!555)

ก๊ากกกกกกก กิ้งก่ายักษ์ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

โอย กดบวกเป็ดมือไม้สั่น


อ่านสองตอนนี้แล้วบีบคั้นใจมาก ไม่มีใครมีความสงบในใจเลย
ดิ้นรน เคียดแค้น โกรธ เกลียด และลงมือทำลายกันอย่างเลือดเย็น

และยังเห็นเหมือนเส้นทางที่เริ่มแยกจากกันของอาเลธและโคลด์
#เรือน้อยลอยเท้งเต้ง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 14 : (5-6) [04/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 04-03-2017 22:41:20
คู่รองงงงงง หืมมมมมมมมมม ?? :hao3:
เดาไม่ออกเลยค่ะ ให้เดามั่วๆก็ไมเธียนกับมาลแกธ
เอ๊ะ หรือหมายถึงคู่ที่รุ้อยุ่แล้วแบบเกวน กับกิ้งก่ายักษ์(หมั่นไส้!555)
อิอิ ไม่เฉลยเนาะ อีกไม่กี่ตอนก็ออกละค่ะ -3-

ความสัมพันธ์คู่หลักช่างอึมครึม มีอะไรทำไมไม่พูดกันน  :z3:
นอนนอคู่รองต่อไป   :katai5:

 :hao5: ก็นะ อนาคตมันถึงเป็นแบบนั้นไงคะ แงๆๆ

คู่รองงงงงง หืมมมมมมมมมม ?? :hao3:
เดาไม่ออกเลยค่ะ ให้เดามั่วๆก็ไมเธียนกับมาลแกธ
เอ๊ะ หรือหมายถึงคู่ที่รุ้อยุ่แล้วแบบเกวน กับกิ้งก่ายักษ์(หมั่นไส้!555)

ก๊ากกกกกกก กิ้งก่ายักษ์ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

โอย กดบวกเป็ดมือไม้สั่น


อ่านสองตอนนี้แล้วบีบคั้นใจมาก ไม่มีใครมีความสงบในใจเลย
ดิ้นรน เคียดแค้น โกรธ เกลียด และลงมือทำลายกันอย่างเลือดเย็น

และยังเห็นเหมือนเส้นทางที่เริ่มแยกจากกันของอาเลธและโคลด์
#เรือน้อยลอยเท้งเต้ง

เพราะอดีตเป็นเช่นนี้ จึงมีอนาคตเช่นนั้นค่ะ ;w;
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (1) [05/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 05-03-2017 00:04:14
บทที่ 15  : ทางแยก (1)

หลังกลับจากเอวา เธมาร์ บุคลิกของซิกฟรีดเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เจ้าชายเคร่งขรึม ดูใจเย็นลง และฝึกหนักเสียจนหลับสนิทเมื่อกลับถึงห้องพัก

สำหรับโคลด์ ซิกฟรีดไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก ก็ยังพูดน้อยเหมือนเดิม ช่างชี้นิ้วสั่งเขาให้ซ่อมสายพิณเหมือนเดิม

ที่ไม่เหมือนเดิมคือ...

ดาร์กเอลฟ์มองดาวขณะเย็บผ้า เกือบปีกว่าๆ แล้วที่พวกเขากลับมาจากราชวัง ตอนนี้ซิกฟรีดใกล้อายุครบสิบเจ็ดปี ส่วนโคลด์อายุสิบเก้าย่างยี่สิบปี

อะไรที่ทำให้เจ้าชายเอลฟ์ให้ความรู้สึกไม่เหมือนเดิมนะ

อืม…


โคลด์ทำปากหยุยๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ จะว่าเขาไม่สนใจซิกฟรีดหรือซิกฟรีดไม่สนใจเขาดี โคลด์ไม่เคยได้รับคำอธิบายเรื่องที่ซิกฟรีดปฏิบัติต่อเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือตอนอยู่ในวัง ระบุให้ชัดคือ ‘ตอนที่เขาโดนยิงตกลงมาจากต้นไม้’

แต่เราก็รู้คำตอบอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ


โคลด์เย็บผ้าต่ออย่างใจลอย

ระหว่างที่โคลด์นึกอะไรไปเรื่อยเปื่อย ซิกฟรีดกำลัง ‘คุย’ กับมาลแกธด้วยรหัส ผ่านสื่อกลางคือน้ำและไฟ เจ้าชายถนัดเรียกใช้น้ำ เอลฟ์ตะวันออกถนัดเรียกใช้ไฟ--และใช้ได้ดีเสียด้วย มาลแกธกลบเกลื่อนความสามารถของตัวเองมาโดยตลอด แนบเนียนจนควาร์อาวุโสยังจับไม่ได้

“โอ๊ย!” โคลด์อุทานเบาๆ เมื่อเข็มทิ่มนิ้วชี้ เม็ดเลือดสีทัมทิบผุดจากผิวสีราตรี ดาร์กเอลฟ์อมนิ้วข้างนั้น เลียแผลให้ตัวเอง

เขาคิดว่าซิกฟรีดมีบางอย่างเปลี่ยนไป แต่ไม่ทราบว่าอะไร หรือไม่เขาก็ไม่อยากจะสนใจ

ส่วนอีกคนที่ไม่เปลี่ยนไปเลยคือมาลแกธ

โคลด์ตัดด้ายเมื่อซ่อมเสื้อผ้าเสร็จ ชุดของเขาขาดเป็นปกติจากการฝึกซ้อมกับมาลแกธ

เลิกคิดเรื่องเอลฟ์ดีกว่า


ซิกฟรีดมองเปลวไฟจากเทียนเล่มใหญ่ ปลายที่นิ่งและตั้งตรงค่อยๆ วูบไหวคล้ายเต้นระบำเป็นจังหวะ มันคือ ‘รหัส’ ที่มาลแกธส่งมาผ่านเทียนอีกเล่มหนึ่ง

‘พี่ชายเจ้าก็ไม่ไว้ใจผู้ใดเช่นเคย’

ซิกฟรีดถอดรหัสได้เช่นนั้น เขาเลื่อนมือไปยังอ่างน้ำข้างๆ ก่อนเคาะผิวน้ำเป็นจังหวะ ส่งรหัสกลับไปว่า

‘ไม่แปลก’

‘ช่วงนี้เอวา เธมาร์นิยมดื่มเหล้าน้ำผึ้งกัน’

‘ถ้าจะคุยไร้สาระก็พอเท่านี้’

ซิกฟรีดตัดบท เขากำมือดับเทียนแล้วเทน้ำทิ้ง

เทียนและอ่างน้ำ เป็นวิธีการสื่อสารผ่านสื่อกลางซึ่งเอลฟ์ตะวันออกคิดค้นขึ้น เพราะหากใช้อุปกรณ์เวทสื่อสารตามปกติ จะง่ายต่อการถูกดักฟัง ดังนั้นการส่งรหัสที่มีความหมายเฉพาะจึงเหมาะสมที่สุด

ซิกฟรีดชำนาญด้านการเรียกใช้น้ำ ส่วนมาลแกธชำนาญด้านการเรียกใช้ไฟ--และใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม เอลฟ์ตะวันออกปิดบังความสามารถของตน แนบเนียนเสียจนควาร์อาวุโสยังจับไม่ได้

ทว่าคำถามคือ...ทำไมเอลฟ์ตะวันออกจึงต้องใช้วิธียากลำบากเพื่อติดต่อกับเจ้าชายแห่งรูเมเรียร์

โคลด์กลับเข้ามาในห้องฟากของตน เห็นเงาเจ้าชายเอลฟ์ผ่านฉากกั้นระหว่างห้อง ซิกฟรีดยังไม่หลับ แต่โคลด์ก็ไม่ได้เอ่ยทักอะไร

นี่ไง ที่แปลกไป...เขามีเรื่องไม่บอกข้า


โคลด์นึกได้กะทันหัน เมื่อก่อนแม้เขาไม่อยากสนใจ ก็ยังพอทราบว่าซิกฟรีดคิดอะไรอยู่หรืออยากทำอะไร พฤติกรรมของเจ้าชายเอลฟ์เดาง่าย แต่ตอนนี้โคลด์เดาซิกฟรีดไม่ออก รู้สึกเหมือนร่วมห้องกับคนแปลกหน้ามากขึ้นทุกวัน

“โค--”

เป็นเรื่องน่าทึ่ง ซิกฟรีดเหมือนจะเรียกชื่อของโคลด์แม้จะแค่ครึ่งคำ

ซิกฟรีดไม่เคยเรียกชื่อโคลด์มาก่อน มีแต่เรียก ‘เจ้า’ ‘เจ้า’ และ ‘เจ้า’ ด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจ

“ขออภัย ข้าทำเสียงดังรบกวนท่านหรือ เจ้าชาย” โคลด์คิดว่าเสียงเปิดปิดประตูคงทำให้อีกฝ่ายรำคาญ

“ไม่…” ซิกฟรีดมองเพดาน แต่สายตาเหม่อมองไกลกว่านั้น

“แล้วท่านต้องการสิ่งใดหรือไม่” โคลด์ถามตามหน้าที่

“สุรา”

โคลด์เลิกคิ้ว ทำนองว่า ใช้ข้าจริงสิ เวลานี้เนี่ยนะ...

“ดึกแล้ว อาจหามาช้าหน่อย โปรดรอ” โคลด์หยิบเสื้อคลุมปุปะมาสวม เขาต้องไปโรงครัว แต่เอาจริงๆ ถ้าวิ่งไวๆ หน่อยคงไม่นานนัก เสียเวลาตรงรออุ่นเหล้า

“บางครั้งเจ้าอิดออด บางครั้งเจ้าหนีงาน แต่ทำไมครั้งนี้ไม่ปฏิเสธ”

“แปลว่าข้าไม่ทำก็ได้?” โคลด์เปิดประตูค้างไว้ ลมเย็นตีใส่หน้า

ซิกฟรีดหลับตา “ใช่”

“ไม่เอาละ ถ้าไม่ทำไม่รู้จะโดนอะไร” แล้วดาร์กเอลฟ์ก็หายไป นานราวยี่สิบนาทีค่อยกลับมา

โคลด์หน้าแดงจมูกแดงเพราะความเย็น แต่เหล้าอุ่นๆ อยู่ในขวดห่อด้วยผ้าหนาหลายชั้น โคลด์รินเหล้าให้เจ้าชาย ตัวยังสั่นจากลมหนาว “เชิญ”

“ดื่ม” ซิกฟรีดดันขวดเหล้าให้ดาร์กเอลฟ์

โคลด์เลิกคิ้ว ใบหูตั้ง “เจ้าให้ข้าไปเอาเหล้ามาแต่ให้ข้าดื่มเอง สรุปคือให้ข้าไปวิ่งฝ่าลมหนาวเล่นหรือไง”

“เจ้าปฏิเสธได้” ซิกฟรีดมองโคลด์

สิ่งนี้นี่เองที่เปลี่ยนไป...แววตา

มันไม่ช่างบังคับ แต่ช่างสังเกต เยือกเย็น...ทว่าร้อนรุ่มในที

“ดี ข้าปฏิเสธ!” โคลด์วางห่อขวดเหล้า หยิบเสื้อคลุมมาใส่อีกรอบ แล้วเดินออกจากห้องไปเลย

แม้เพียงเล็กน้อยแต่สะสมต่อกันมายาวนาน โคลด์ดื้อแพ่งกับซิกฟรีดนับจากวันที่กลับจากราชวัง

ซิกฟรีดมองตามโคลด์ ก่อนจะเบือนหน้ามาทางขวดเหล้า นิ้วเรียวแข็งแรงสัมผัสผิวขวด เหล้าด้านในอุ่นกำลังพอดี…

เจ้าชายเอลฟ์ยกดื่ม

รวดเดียว...

วันนี้โคลด์ไปไกลสุดชายป่าที่มีกำแพงเวทกั้น เขาหนีจนจำได้ว่าขอบเขตของกำแพงเวทอยู่ตรงไหน หรือวัตถุเวทมนตร์ที่ใช้เสริมพลังของกำแพงเวทฝังอยู่ตรงไหนบ้าง

เวลาอารมณ์ไม่ดี แล้วไม่อยากอารมณ์ดีขึ้น โคลด์มักมานั่งมอง ‘กรงขัง’

ก็แค่เปลี่ยนที่นั่งเหม่อ ดาร์กเอลฟ์คิด เขาหยิบก้อนหิน ปาใส่กำแพงเวท มันทะลุออกไปง่ายดาย แต่ถ้าเป็นตัวเขา...มีหวังโดนดีดกลับมาทันที

หรือจะฆ่าควาร์ที่ดูแลกำแพงเวทดี โคลด์ สตาร์คิดอย่างอำมหิต ตอนนี้ฝีมือข้าก็พอไหว ฆ่ามัน แล้วหนี แต่ต้องนัดเจอเกวนที่อื่นก่อน

บรรยากาศรอบตัวดาร์กเอลฟ์ทำให้เสียงเสียดสีปีกของแมลงหยุดลง รอบด้านเงียบสงัดเหมือนเวลาหยุดนิ่ง

เวลาผ่านไปสักพัก สัมผัสหนักแต่อบอุ่นบีบลงบนบ่าของโคลด์

“มาลแกธ” โคลด์หลับตา กลบจิตสังหาร เขาไม่ต้องเดาเลยว่าใคร

ทว่าเขาเดาผิด

“กลับ” ซิกฟรีดปล่อยแรงบีบ “ลมแรง”

โคลด์สะดุ้ง หันขวับ ประหลาดใจว่าตนเข้าใจผิดได้ยังไง “ไม่” ความดื้อดึงฉายชัดในสองตาสีม่วงเข้ม “ข้าปฏิเสธ”

ซิกฟรีดจึงวางเสื้อคลุมผ้าหนาไว้ให้ เขายอมรับคำปฏิเสธของโคลด์ด้วยการเดินกลับไป ไม่บังคับ

แต่โคลด์ไม่หยิบมาใช้

ความสัมพันธ์ของพวกเขาเลวร้ายลงทุกที

อีกด้านหนึ่ง มาลแกธนอนเอกเขนก สูบยาสูบพลางไล้นิ้วเล่นกับผีเสื้อที่สร้างจากไฟ บนอกมีควาร์หนุ่มซบหลับอย่างเหนื่อยอ่อน

เขาคว้าผีเสื้อไฟมากักไว้ แม้จะสวยงามทว่าร้อนเผาเนื้ออย่างไฟ มาลแกธกำมันเพื่อดับ ก่อนใช้ข้อนิ้วไล้ผมสีทองนุ่มนิ่มของควาร์หนุ่มหน้าตาน่ารัก

คนบนอกครางเบาๆ แต่ยังไม่ตื่นจากฝัน

แม้จะมีคู่นอนไม่ซ้ำ ทว่ามาลแกธกลับนึกถึงโคลด์...อาจเพราะยังไม่ได้มา

อาจเพราะยังท้าทาย...
เอลฟ์ตะวันออกคิด มุมปากยกขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์

“ไหวหรือไม่” เขาก้มลงกระซิบถามควาร์หนุ่ม

โดยไม่ทันให้ตอบ มาลแกธพลิกอีกฝ่ายแล้วกดลงกับเตียง

ในอารมณ์เร่าร้อน เขานึกถึงโคลด์ สตาร์

 

เช้าวันต่อมา โคลด์ สตาร์เป็นหวัดอย่างสมบูรณ์แบบ

เขาไข้ขึ้นจนตัวร้อนจี๋ น้ำมูกไหล ไอและจาม ขอบตาแดงก่ำเพราะอดนอน สภาพแบบนี้ทำงานช่วงเช้าในโรงครัวไม่ได้ มีแต่เกะกะถ่วงแข้งถ่วงขา และอาจแพร่เชื้อหวัดใส่อาหารของควาร์

แต่โคลด์ สตาร์ดื้อแพ่งอีก เขาหาผ้าปิดปากแล้วไปนั่งล้างภาชนะ บอกว่าถ้าแช่มือในน้ำเย็น ตัวจะได้หายร้อนไง คนงานโรงครัวบางคนอ่อนใจ บางคนที่เอ็นดูดาร์กเอลฟ์หน่อยก็สงสาร

“ข้าเป็นทาส ก็ต้องทำงาน จะเอาอาการป่วยมาอ้างไม่ได้หรอก” โคลด์ตอบเสียงอู้อี้ผ่านผ้าปิดปาก

เขาจึงได้รับอนุญาตให้ทำงาน แต่เรื่องสำรับอาหารของเจ้าชาย ข้ารับใช้ชาวเอลฟ์จะเป็นผู้จัดการแทนทั้งหมด

 

กลางวัน โคลด์หลบไปนอนพักในห้องเก็บของสักที่ โดยตั้งใจว่าตอนเย็นจะตื่นขึ้นมาฝึกวิชามีดสั้นต่อ

ดาร์กเอลฟ์ดื้อรั้นอยู่

 

“แอสซาสซินก็มีวันที่ป่วยแล้วต้องทำงานใช่ไหมล่ะ ข้ากำลังฝึกตนในสถานการณ์นั้น” โคลด์อ้างเช่นนี้กับมาลแกธด้วยความฉลาดพูดอย่างไม่น่าเชื่อ...ไม่สมกับเป็นโคลด์

“แต่แอสซาสซินที่ฉลาดจะไม่ปล่อยให้ตัวเองป่วยแต่แรก” มาลแกธกอดอก ดวงตาโค้งเป็นรอยยิ้มเฉพาะตัว

“เวลาไปรบ เจ้าเต็มร้อยได้ทุกวันหรือไง มันก็ต้องมีวันที่ป่วยที่บาดเจ็บ แล้วจะเอาเป็นข้ออ้างไม่ออกไปสู้หรือ เจ้าเหยาะแหยะเกินไปแล้ว เอลฟ์ตะวันออก”

คำพูดคำจาที่กล้าขนาดนี้ ไม่รู้ไข้กลับหรืออย่างไร

“เจ้ายั่วยุข้าไม่ได้หรอก ไปกินยาแล้วนอนพักซะ”

โคลด์แทงมีดใส่มาลแกธ ไม่พลาดจุดที่เล็งไว้ ไม่เตือนล่วงหน้า


—————————————————————————

A/N กลับมาอยู่อาศรมแล้วค่ะ ช่วงอดีตคือช่วงที่จะได้เห็นเรื่องในมุมที่ตัวละครไม่เคยเล่ามาก่อน เรารู้อยู่แล้วว่าอนาคตของอดีตช่วงนี้เป็นยังไง แต่เราไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ซึ่งบทนี้จะเล่าทั้งหมดค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (1) [05/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 05-03-2017 00:18:54
สงสารซิกฟรีดจัง

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (1) [05/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 05-03-2017 00:27:09
จุดห่างมันอยู่ตรงนี้สินะ ยิ่งโตก้อยิ่งต้องแบกอะไรมากขึ้น

เหนื่อยเนาะชีวิต เกี่ยวมะ?? 5555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (1) [05/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 05-03-2017 01:13:38
ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายวันอ่านรวบยอดเลยแล้วกันนะ




คือเหมือนเราเองจะเป็นพวกสายMไปซะแล้ว คือรู้ว่าอ่านแล้วจะเจ็บแปลบลึกๆก็ยังพอใจที่จะอ่านอยู่ รู้ทั้งรู้ว่าผลของอดีตที่เจ็บปวดนำมาซึ่งปัจจุบันที่ร้าวรานยังไงก็็ยังอ่านอยู่ ยินดี



ขอพูดถึงคุณพี่ชายไบโพลาร์ของอาเลธหน่อยนะ เราว่าเหตุผลที่เขาสังหารพี่ชายของตัวเองยังดูน้อยเหินไปคือมันดูง่ายมากเลยพี่ชายเลยนะ นี่เดาว่าอาจมีใครหรืออะไรบงการอยู่หรือเปล่า พวกเทพเจ้าบิดามารดาพวกนั้นน่ะ




//เจ้ามาลแกธ เอลฟ์แก่หัวงูเจ้าชู้ประตูดินมักมากหลงตัวเอง อึ๊บคนอื้นอยู่ยังจะมานึกถึงโคลด์อีก บ้าเอ้ย เพราะงี้ไงถึงไม่ได่เป็นพระเอก สมน้ำหน้า!!!!(เอามีดจ้วงคอมาลแกธซ้ำแผลเดิม)//




น้องโคลด์อย่าน้อยใจไปนะลูกนะซิกกำลังเตรียมการทุกอย่างเพื่อจะได้ปกป้องหนูไงลูก เพื่อจะได้นักกันไงคะ ไม่งอแงนะคะเด็กดี



เรื่องนี้ซิกน่าสงสารสุดจริงๆ //ตบบ่าปุๆ//


ปล.คนเขียนสู้ๆนะ คนอ่านคนนี้อาจไม่ว่างเข้ามาอ่านทุกวันเหมือนเดิมแต่สัญญาว่าอ่านเมื่ื่อไหร่เม้นให้เมื่อนั้นจ้าาา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (1) [05/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-03-2017 06:07:06
ซับซ้อนจริงๆ
ซิก พยายามเข้มแข็งเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ต่อสู้กับริวอร์นอร์
โคลด์ กับซิก ยิ่งสัมพันธ์ห่างกัน
ส่วนซิก จิตใจวุ่นวายกับริวอร์นอร์ เลยเงียบไปอีก
ส่วนเอลฟ์ที่มีความสุขตลอด ทุกเมื่อเชื่อวัน
มีควาร์หนุ่มน้อย มานอนซบอกเสมอ น่าอิจฉา
คือมาลแกธ ทำบุญมาดีมากกกกกก  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (1) [05/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 05-03-2017 09:44:42
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (1) [05/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 05-03-2017 11:08:26
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (1) [05/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-03-2017 11:24:18
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (1) [05/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 05-03-2017 11:30:17
รักหลายเส้า
เศร้าหลายคน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (1) [05/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 05-03-2017 13:04:54
ไม่รู้จะสงสานใครก่อนดี :katai5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (2) [06/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 05-03-2017 23:55:00
บทที่ 15  : ทางแยก (2)

“เจ้านี่นะ” มาลแกธส่ายหน้า เขาหลบทันอย่างที่เป็นมาเสมอ “ทำไมดื้อขนาดนี้” เอลฟ์ตะวันออกไม่ชักอาวุธ แต่สวมเกราะแขนตีจากเหล็กพิเศษ ซึ่งเหนียว ทว่าน้ำหนักเบา

จังหวะต่อมาไม่น่าเชื่อว่ามาลแกธจะบุก เขาบุกเร็วและแรง เหมือนพายุล่มเรือเดินสมุทร ไม่ทิ้งช่วงให้โคลด์หนี เขาใช้เกราะแขนกระแทกหน้าโคลด์เต็มรัก ก่อนเตะซี่โครง

ไม่โดนเต็มแรง

ด้วยความประหลาดใจของมาลแกธ โคลด์ สตาร์ยกแขนขึ้นมากันไว้ได้ทันทั้งสองจุด

ดาร์กเอลฟ์เว้นระยะห่าง แสยะยิ้ม

“ข้าจะแสดงให้ดูว่าข้าหนีตายจากแดนทมิฬมาอย่างไร”

โคลด์ สตาร์คงไข้กลับจริงๆ เขาบุกมาลแกธอย่างเฉียบคม ไม่มีความอ่อนล้าเชื่องช้า เหมือนเค้นพลังเฮือกสุดท้ายจากร่างกายที่ป่วยไข้ออกมาใช้ให้หมด

โคลด์ทำได้ดีกว่าเวลาฝึกซ้อมปกติเสียอีก

ซึ่งไม่ใช่เหตุบังเอิญ

เวลาฝึกซ้อมปกติ โคลด์มีสติ รู้จักเก็บงำฝีมือ แต่ตอนนี้สติไม่ค่อยมี จึงแสดงความสามารถที่แท้จริงออกมา

ความกระหายเลือด

การถูกฆ่าล้างเผ่าอันเป็นที่รัก

กลิ่นไหม้ของศพผู้ร่วมสายเลือดที่กองรวมกันเป็นภูเขา

ความทรงจำของบ้านเกิดที่พินาศไปแล้วกระตุ้นความรู้สึก...

อยากฆ่า!

“ออมแรงให้ข้าด้วย...ที่รัก” มาลแกธขยิบตา เขาตั้งรับ ดูว่าโคลด์จะมาอย่างไร

หนึ่ง บุก

สอง ซุ่มรอแล้วค่อยบุก

มาลแกธคิดว่าเป็นอย่างหลังมากกว่า โคลด์รูปร่างเพรียว น้ำหนักเบา จะเสียเปรียบหากบุกตรง เพื่อกลบจุดอ่อนจึงต้องใช้ลูกเล่น ไม่ว่าใครก็ตามที่สอนโคลด์มาก่อนหน้าเขา ช่างเป็นผู้ชาย (หรืออาจเป็นผู้หญิง) ที่เก่งกาจน่าดูชม

ทว่าครั้งนี้โคลด์บุกซึ่งหน้า ท่วงท่าที่ใช้เปลี่ยนไปเล็กน้อย มาลแกธไม่เคยเห็นวิธีสู้แบบนี้มาก่อน มันคล้ายการโจมตีของดาบโค้งที่ปรับมาใช้กับมีดสั้น รวมกับวิชาที่เขาสอน

ฟันแล้วตวัดปาด

มีดสั้นของโคลด์เรียกเลือดจากแก้มของมาลแกธ รอยกรีดยาวคมกริบ

“อา...ควาร์ของเจ้าต้องโกรธข้า” โคลด์เปรยเสียงเย็นยะเยือก

มาลแกธยิ้มเมื่อเห็นท่าบุก โคลด์หัวไว ปรับใช้ท่าได้เข้ากับรูปร่าง พลิ้ว...แต่แรงทำลายยังเป็นข้อด้อย ดังนั้น ‘ความแม่นยำ’ จึงเป็นสิ่งสำคัญ

“ซิกฟรีดก็ต้องโกรธข้า” มาลแกธพยักพเยิดไปที่แขนของโคลด์ คราแรกไม่มีอะไร ทว่าชั่วอึดใจเลือดค่อยๆ ไหลซึมเนื้อผ้า

โคลด์เห็นใบมีดจากปลายเกราะแขนของมาลแกธ พอเอลฟ์ตะวันออกสะบัด ใบมีดก็กลับเข้าฝักเช่นเดิม

“ข้ารักเจ้าจริงๆ” โคลด์ไขว้มีดสั้นสองมือ ตั้งท่า คำรักของเขาเหมือนมือของโครงกระดูกอำมหิตตรงเข้าบีบหัวใจผู้ฟังจนแหลก

ไม่มีความเป็นโคลด์ สตาร์หลงเหลืออยู่

“ขาเจ้าบุกไหวหรือ” มาลแกธพยักพเยิดไปยังขาของโคลด์อีก ผ้าบริเวณนั้นขาดวิ่น

รองเท้าของเอลฟ์ตะวันออกก็ซ่อนใบมีดเอาไว้

คำตอบคือ…

มาลแกธยังต้องสู้อีกนานทีเดียว

----------------------------------------------

โคลด์รู้สึกตัวอีกทีบนเตียงของตัวเอง เขาตัวร้อนจี๋และระบมไปทั้งตัว เจ็บที่แขนและขาซึ่งน่าจะเป็นแผลกรีด

เขาจำได้ว่าไปฝึกซ้อมกับมาลแกธ...แล้วทำไมจึงมาตื่นที่นี่

ดาร์กเอลฟ์หรี่ตาสีม่วงเข้ม ทบทวนความทรงจำสักครู่

ข้า ‘หลุด’ หรือนี่...ข้า...ฮีมเดียร์...หลุดตัวจริงออกมา

คงเพราะความเครียดสะสมหลังกลับจากราชวัง และเพราะอายุใกล้ครบยี่สิบปี

อายุขนาดนี้แล้ว

ข้ามัวทำอะไรอยู่ที่นี่…


โคลด์หรือฮีมเดียร์ เริ่มคิดถึงการเป็นไทอย่างจริงจังอีกรอบ

เจอเกวนคราวหน้า ข้าต้องพูดกับนางให้เด็ดขาด ข้าไม่เกรงท่านพ่อแล้ว...พี่ก็ไม่ควรเกรง

พวกเราโตแล้ว

‘ท่านพ่อ’ ในที่นี้ หมายถึงบิดาบุญธรรมของสองพี่น้อง--จอมทัพทมิฬ เพราะบิดาที่แท้จริงถูกบิดาบุญธรรมสังหารไปนานแล้ว

“ลุกดีๆ” ซิกฟรีดช้อนศีรษะโคลด์ขึ้น คิ้วขมวดแน่นขณะจ่อถ้วยกับปากคนป่วยไม่เจียมตัว “ดื่ม” กลิ่นฉุนจากของเหลวสีเขียวเข้มในถ้วยตีจมูก ให้คิดว่าจะป่วยกว่าเดิมมากกว่าหายดี

“พูดกับเขาดีๆ หน่อยซี เจ้าชาย ยกตัวอย่างเช่น ‘ท่านโคลด์ขอรับ ข้านำยามาให้ดื่มขอรับ’ ”

ไม่ได้มีแค่เจ้าชายเอลฟ์ แต่ยังมีมาลแกธยืนกอดอกพิงผนัง พลางโบกมือทักทายโคลด์

“เจ้าพูดเองเถิด เอลฟ์ตะวันออก”

มาลแกธเดินเข้ามาใกล้ แล้วพูดว่า “ ‘ท่านโคลด์ขอรับ ข้านำยามาให้ดื่มขอรับ’ ”

โคลด์เม้มปากใส่ซิกฟรีด แต่พอมาลแกธบอกก็ดื่ม

เหมือนสุนัขไม่รักเจ้าของ แต่ไปรักคนให้อาหารคนอื่น

ดาร์กเอลฟ์ดื่มอย่างว่าง่าย เพราะต้องการกดสันดานเดิมกลับเข้าไป เขาไม่ควรปล่อยความเป็นฮีมเดียร์ออกมา

...ไม่ใช่ในหมู่ศัตรู

แต่ใบหน้าหน้าแดงก่ำและสีหน้าเหนื่อยอ่อนชวนให้คิดไปไกลของโคลด์ก็ไม่แสดงอารมณ์อื่นอยู่แล้ว

แค่เจ้าตัวยังไม่รู้สึกตัว

“เจ้าหนักมือกับเขาเกินไปแล้ว” ซิกฟรีดจ้องหน้ามาลแกธ แต่มาลแกธกลับมองโคลด์ตาหวาน

“แอสซาสซินก็มีวันที่ป่วยแล้วต้องทำงาน...เนอะ” มาลแกธขยี้ผมโคลด์เบาๆ

“แอสซาสซิน?” สีหน้าของซิกฟรีดถมึงทึงขึ้นมาทันที

มาลแกธเลิกคิ้วใส่ซิกฟรีด เอลฟ์ตะวันออกเป็นคนเดียวในอาศรมที่ปฏิบัติกับซิกฟรีดเหมือนมีสถานะเท่าเทียมกัน

“นักฆ่า มือสังหาร แอสซาสซิน...ความหมายเดียวกัน”

“อื้อ” โคลด์ตอบรับ ดึงผ้ามาห่ม รู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาว

“อย่าฝืนตัวเองอีกละที่รัก”

“ที่รัก?”

“ดาร์ลิง มายเลิฟ ที่รัก” มาลแกธยิ้ม ทำหน้าไม่รู้สึกรู้สมกับสายตาที่สามารถเผาคนตายได้ของซิกฟรีด

โคลด์ไม่เข้าใจว่ามาลแกธคุยอะไรกับซิกฟรีด แต่มีคำที่เขาอยากพูดอยู่

“นายบำเรอ” ดาร์กเอลฟ์พึมพำ หัวเราะ มองซิกฟรีด

ท่าทางพิษไข้ยังส่งผลอยู่ ไม่อย่างนั้นโคลด์คงไม่กล้าพูดคำนี้ต่อหน้ามาลแกธให้ตัวเองเสี่ยงโดนตัดหัว

“หรือทาส...คนรับใช้ หรืออะไรก็ช่างเถอะ ข้าเป็นได้ทุกอย่างนั่นแหละ” โคลด์หลับตา

มาลแกธระบายลมหายใจ “นอนพักเสีย ข้าจะมาเยี่ยมใหม่”

“อื้อ” โคลด์ตอบสั้นๆ อีก พลิกตัวหันหลังหนีเอลฟ์ทั้งสอง มือควานหาหมอนมากอด เขาสูดปากเพราะเจ็บแผล แต่ก็ได้หมอนมากอดสมใจ

มาลแกธยิ้มเอ็นดู ก่อนหันไปหาซิกฟรีด “คืนนี้เทพนำทางจะจุดโคมของท่านหรือไม่”

พระจันทร์ในความเชื่อของเอลฟ์ตะวันออกคือโคมของเทพนำทาง

“ข้าคงทำได้เพียงจุดเทียนของตน” ซิกฟรีดตอบกลับ

โคลด์ไม่เข้าใจบทสนทนา จึงปล่อยให้มันไหลผ่านหู

-------------------------------

มาลแกธเดินสบายๆ พลางผิวปากเพลง ‘รบเถิดบูรพา’ ระหว่างทางกลับห้องพักของตน

คืนนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งตะเกียง เพราะเทพนำทางจุดโคมของพระองค์เต็มดวง แสงเย็นตาจากโคมส่องสว่างไปทั่ว ย้อมให้สรรพสิ่งคล้ายเรืองสีทองจับตา กระทั่งต้นหญ้าก็ดูต้องมนตร์ล้ำค่าในยามนี้

มาลแกธนึกถึงคำถาม “คืนนี้เทพนำทางจะจุดโคมของท่านหรือไม่” ซึ่งแปลว่า ‘เจ้าจะรับข่าวสารจากข้าหรือไม่’

“ข้าคงทำได้เพียงจุดเทียนของตน” ซิกฟรีดตอบกลับ ความหมายแฝงคือ ‘ข้าจะจุดเทียนรอรับข่าวสารจากเจ้า’

เทียนเวทต้องจุดพร้อมกันจึงสามารถสื่อสารถึงกันได้ สิ่งนี้เป็นจุดอ่อนที่มาลแกธเดินกลับห้องพักไป นึกแก้ไป จากฮัมเพลงรบเถิดบูรพา ก็เปลี่ยนไปฮัมหลักการของเวทสื่อสารทุกบทที่นึกได้

ถึงห้องพัก เอลฟ์ตะวันออกก้มลงมองกลอนประตูเป็นอันดับแรก

อืม มีแขกมาเยี่ยมหรือ...มาลแกธยิ้มเมื่อเห็นกับดักที่วางไว้ทำงาน

ทุกวันก่อนออกจากห้องพัก เขาจะวางกับดักตามประตู หน้าต่าง หรือที่อื่นๆ แล้วแต่อารมณ์ครึ้มอกครึ้มใจ ทั้งยังสร้างสรรค์กับดักใหม่ๆ แทบทุกวัน หากไม่รู้วิธีปลดออก ลอบเข้าพื้นที่ส่วนตัวของมาลแกธแห่งล็องธู ก็เตรียมใจสวดภาวนาแด่เทพแห่งความตายได้เลย

มาลแกธใช้ผ้าผืนเล็กปิดจมูกก่อนเดินเข้าไป ครั้งนี้เขาวางกับดักเป็นฝุ่นพิษที่ออกฤทธิ์กับทางเดินหายใจไว้ที่ประตู

แต่พอก้าวเข้าไป ไม่คาดว่าห้องหับจะถูกปัดกวาดเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยของฝุ่นพิษ

และไม่คาดว่าผู้บุกรุกจะยังนั่งใจกล้าอยู่ในห้อง

มาลแกธยิ้มด้วยตา “ว่าอย่างไร...ไมเธียนที่รัก คิดถึงข้าหรือ”

“ช่วยเขา” ไมเธียนไม่ตอบคำถาม เขาถือวิสาสะนั่งบนเตียงของเอลฟ์ตะวันออกโดยมีธอรอนทูร์นอนหายใจอย่างยากลำบากอยู่บนตัก

“ช่วยเขา...” ไมเธียนย้ำ

มาลแกธก้าวเข้าไปใกล้ “เสียงเจ้าสั่น” นิ้วแข็งแรงแตะบริเวณลำคอของไมเธียน “ใจเต้นแรง” มุมปากเหยียดออก

“เจ้าเป็นห่วงควาร์หนุ่มจริงๆ”

“หยุดพูดมาก มาลแกธ” ไมเธียนคำรามลอดไรฟัน

“พูดไม่เพราะเลย” มาลแกธจุปาก ขณะปาดเม็ดเหงื่อบนหน้าผากอีกฝ่าย แล้วพยักพเยิดไปทางธอรอนทูร์ “เขาโดนพิษมานานเท่าไหร่แล้ว”

ไมเธียนสูดลมหายใจ “ไม่ทราบ...ข้าไม่ทราบ ข้าไม่…”


—————————————————————————

A/N โหดนะ มาลแกธอะ...เห็นหน้ายิ้มๆ ก็เถอะ (เท่าที่เขียนมาก็เหมือนจะยอมโคลด์อยู่คนเดียว แต่ก็เป็นเรื่องในอนาคตค่ะ)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (2) [06/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-03-2017 00:32:09
ร้ายกันหมด
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (2) [06/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 06-03-2017 00:38:59
กลับมาอ่านต่อทันแล้วเจ้าค๊าาา  :hao7:
ขออนุญาติเม้นต์ย้อนหลังให้เป็นตอนเนอะ (กลัวจะยาวเกินไป)

บทที่ 12 : บ่วงอารมณ์ (6)
โคลด์ก็แค่หาจุดยืนเวลาโดนจับได้แค่นั้นเอง แต่เหตุผลดันเป็นเรื่องอิสรภาพ ยิ่งทำให้เจ้าชายน้อยใจ
เค้าอยู่กันแบบนี้นี่เอง ที่จริงเจ้าชายก็ออกจะรักและหวงโคลด์เนอะ แค่ซึนกับSไปหน่อย

ตอนพิเศษวาเลนไทน์ : Valentine’s Ice Cream
เขินนนนนนนนน อิเด็กซิกนี่มันร้ายยยยย เป็น AU ที่น่ารักมุ้งมิ้งสุดดดด โคลด์มึนได้แบบโอ้ยย /ดึงแก้มรัวๆ
ชอบซิกตอนที่เรียกโคลด์ว่า'พี่'จังเลยค่ะ (อยู่สายเมะเด็กกดเคะแก่อยู่แล้ว กรี๊ดดด)

บทที่ 13 : ราชามงกุฎดำ (1)
ขำโคลด์ ไม่ใช่เพราะว่าตัวเองตัวเล็กหรอกหรอ เค้าเลยหาสร้างของเล็กๆให้น่ะ 5555
​โคลด์เก่งขึ้นเรื่อยๆแล้ววว ทำไมรู้สึกว่าฉากฝึกนี่มันโรแมนติกชอบกล ฮึ่มมมม
จะเอาห่ออาหารกลางวันมาให้ป๋า เดี๋ยวอิเด็กซิกรู้เข้าก็หึงบ้านพังหรอกหนู
รอเข้าวังๆๆ

บทที่ 13 : ราชามงกุฎดำ (2)
ริวอร์นอร์มีความดาร์กกก เกิดอะไรขึ้นระหว่างคิงกับเอริแอดเน่น้อออ
(ดูน่าสงสาร ยังไม่เหมือนนางร้ายเลย) ซิกใช้ไม้นี้ลากโคลด์เข้าวังมาด้วยจนได้สินะ หึๆ

บทที่ 13 : ราชามงกุฎดำ (3)
โอ๊ยยยตามันแกวก็มาด้วย นึกว่ายังอยู่ที่อาศรม (นึกภาพอิป๋าชุดเต็มยศโปรยยิ้มแล้วแบบ.. /เป็นลมล้มพับตามพวกควาน่ารัก)
ไมเธียนก็หลงอิป๋าอยู่ล่ะสิ(จะชิพละนะ) จีบไปทั่วจริงๆตานี่ ท่านหญิงก็ไม่เว้น
ตอนนี้มีแต่ตัวละครที่ให้ความรู้สึกกดดันทั้งนั้นเลย  :katai1:

บทที่ 13 : ราชามงกุฎดำ (4)
เอริแอดเน่ค่าาาา /ปรบมือ
นางวางแผนอะไรไว้ล่ะเนี่ย แอบเดาไว้แต่ไม่ไว้ใจคนเขียน /ฮา
การถวายตัวของท่านหญิงมีอะไร
โคลด์โดนนางเล่นไปดอกนึง เข้าใจซิกฟรีดผิดไปอีก  :serius2:
สตรองเข้าไว้โคลด์ของบ่าววววอย่ายอมๆๆ /กอด


ปล. จะกลับมาต่อเม้นต์ตอนที่ 14-15 เจ้าค่ะ อ่านรัวๆๆ สนุกจุใจมว๊ากกก
คนเขียนสู้ๆเจ้าค๊าาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (2) [06/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 06-03-2017 00:57:31
ป๋าโหดมาก

ไมเธียนไม่น่ารักเลย บังคับผัวให้รักษาผัวอีกคน แต่ก็เหมาะกับป๋ามากเมียดี

โคลด์น้อยที่น่าสงสาร ป่วยได้แต่นอนกอดหมอน
อาเลธคงอยากเป็นหมอน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (2) [06/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-03-2017 05:43:52
โคลด์หลุดตัวตนฮีมเดียร์ ให้มาลแกธเห็นแลัว
มาลแกธ จงใจให้ซิก รู้ว่าตัวเองสนใจโคลด์แบบคนรัก
แล้วธอรอนทูร์ โดนพิษอะไร ที่ไหน ใครทำ
ไม่ใช่โดนฝุ่นพิษของมาลแกธ ล่ะ
แสดงว่าธอรอนทูร์ แอบลอบเข้าห้องมาลแกธ
คนสั่งเป็นไมเธียนแน่เลย
ขนาดไมเธียน ควาร์อาวุโสยังแก้ไม่ได้
อืม....ไมเธียน ชอบธอรอนทูร์ใช่มั้ย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (2) [06/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 06-03-2017 08:53:19
อ่านมารวดเดียว

มีความสองจิตสองใจในการลงเรือมากตอนนี้ ฮ่า ๆ

สนุกมาก ๆ ไม่ค่อยมี BL แนวนี้ดท่าไหร่ รออ่านอยู่นะค๊าา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (2) [06/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 06-03-2017 18:48:23
อืม สงครามเริ่มเข้มข้น

อดีตก็สนุก แต่ก็คิดถึงปัจจุบัน

ขอเทพอวยพร
 :L2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (2) [06/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-03-2017 21:54:48
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (3) [07/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 07-03-2017 00:16:51
บทที่ 15  : ทางแยก (3)



ไม่เพียงแค่เสียงสั่น แต่ไมเธียนยังพูดเสียงเบาซ้ำไปซ้ำมา ฟังแทบไม่รู้เรื่อง มาลแกธหยุดหยอกล้อ แล้วตรวจดูอาการของธอรอนทูร์ เขาเลิกเปลือกตา ฟังเสียงลมหายใจ สังเกตการกระจายของพิษ

“ข้าใช้พิษอย่างอ่อน” มาลแกธผละไปทางโต๊ะเขียนหนังสือ ดึงลิ้นชักออก ขวดแก้วสมุนไพรหลากหลายชนิดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ

“ทรมานสักสองสามวันถึงตาย ห้าวันอย่างเก่ง ข้ามีเมตตาพอที่จะให้เวลาพวกหัวขโมยสำนึกผิด...แต่ดูเหมือนเจ้าหนูนี่จะอดทนสูดเข้าไปเยอะ สนใจอะไรในห้องข้าหรือถึงไม่รีบหนีไป”

ไมเธียนร้องไห้เงียบๆ กับธอรอนทูร์ที่พยายามหายใจอย่างเจ็บปวด

“ข้ามีเมตตา ไมเธียน...” มาลแกธเลือกสมุนไพรสามชนิด สับละเอียดแล้วนำขึ้นชั่งบนตาชั่งทองเหลืองทีละชนิด เมื่อได้ขนาดตามต้องการจึงวางสมุนไพรทั้งหมดบนกระดาษยาสูบ เขามวนจนแน่นด้วยความชำนาญ

“ข้าถามพวกหัวขโมยที่มาร้องขอชีวิตหน้าบ้านข้าเสมอว่า ‘มีอะไรมาแลกกับความผิดของเจ้าละ’ ”

ดวงตารื้นน้ำของไมเธียนสบกับดวงตาสีแดงเพลิง เขาเข้าใจความหมายทันที

“เจ้าต้องการอะไร”

มาลแกธเลื่อนเก้าอี้มาข้างเตียง สายตาคมเหมือนนักสอบสวน “เจ้ารู้อะไรบ้าง”

ไมเธียนกัดริมฝีปาก

“หืม” มาลแกธชี้ปลายยาสูบไปทางธอรอนทูร์ คล้ายบอกว่า ‘ไม่พูด มันก็ตาย’

“ไม่มีผู้ใดล่วงรู้อะไรชัดแจ้ง เพียงแต่ ‘สงสัย’ ว่าเจ้าเข้ากับเจ้าชายซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์”

“พูดต่อไป” มาลแกธเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ไม่เร่งร้อน

ไมเธียนแทบคำรามว่า ‘ชั่วช้า!’

“เราต้องการหลักฐานบ่งชี้ว่าเจ้าเอาใจออกหากราชาจริง”

“แล้วพบไหม”

“ช่วยเขา!” ไมเธียนเหลืออด “ช่วยเขาก่อน! เจ้าต้องการอะไรจงมาเอากับข้า!”

“อา...ข้าต้องการอะไรอย่างนั้นหรือ” มาลแกธคาบมวนยาสูบ เขาจุดไม้ขีดครืด! ไฟดวงเล็กลุกฟู่

ชั่วขณะนั้นเองที่ไมเธียนรู้สึกโง่งมกับคำพูดของตน...

“ข้อแรก” เอลฟ์ตะวันออกสูบยาเข้าปอดลึก ปลายกระดาษเผาไหม้อย่างรวดเร็ว “เจ้าต้องทำงานให้ข้า”

“เจ้า!” ไมเธียนอยากกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย

“ยังมีอีกข้อ” มาลแกธไม่เร่งร้อน เขามีเวลาเหลือเฟือ

ธอรอนทูร์ต่างหากที่ไม่มีเวลา…

“เจ้าจะไม่โกหกหรือปิดบังข้า เมื่อข้าเอ่ยถาม”

            มาลแกธผายมือ รอคอยว่าไมเธียนจะตอบรับอย่างไร หากปฏิเสธ...เขาคงต้องลงมือรุนแรงกับธอรอนทูร์หน่อย เลอะเทอะนิด เดี๋ยวไมเธียนก็ยอม

หัวใจซึ่งเปี่ยมไปด้วยความรัก หากบีบให้ถูกจุด...อย่างไรก็บังคับง่าย

“เขาพยายามช่วยข้าหาหลักฐานมัดตัวเจ้า” ไมเธียนสะอื้น “โง่งม…”

“ซาบซึ้ง” มาลแกธตบตัก “เอ้า จวนหมดเวลาแล้ว” เขาชี้ให้ดูริมฝีปากของธอรอนทูร์ที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง

“ตกลง” ไมเธียนตอบรับ สองมือลูบใบหน้าควาร์หนุ่มบนตัก

“สัญญาด้วยเวทควาร์”

ไมเธียนกัดฟัน เขาเอ่ยสัญญาเป็นภาษาควาร์ขณะเลื่อนมือแตะลำคอและใบหู--สิ่งสำคัญของผู้ที่เป็นควาร์ หากผิดสัญญา ทั้งลำคอและใบหูจะโดนทำลาย

“ข้าสัญญาว่าจะทำงานให้มาลแกธ ล็องธู และจะไม่โกหกหรือปิดบังเมื่อเขาเอ่ยถาม”

เอลฟ์ตะวันออกยิ้มพอใจ “ดี”

ธอรอนทูร์แทบไม่หายใจแล้วตอนที่มาลแกธกอบใบหน้าเขาขึ้นมา เอลฟ์ตะวันออกพ่นควันให้ควาร์หนุ่มสูดเข้าไป มันช่วยล้างพิษ แต่กว่าจะได้สติคงประมาณหนึ่งถึงสองวัน และกว่าจะหายดีก็อีกร่วมอาทิตย์

“ข้าจะเตรียมยาให้ทุกวัน เจ้าหาทางมาพบข้าได้อยู่แล้วนี่...อย่างไรเจ้าก็ได้รับหน้าที่ให้จับตาดูข้าไม่ใช่หรือ ท่านควาร์อาวุโสไมเธียน”

ไมเธียนปัดมือมาลแกธที่จับคางตน

“ให้เขานอนที่นี่หนึ่งคืน” มาลแกธโน้มใบหน้าไปใกล้ไมเธียน “ส่วนเจ้ากับข้า…”

“ชั่วช้า”

มาลแกธจูบปิดปากไมเธียน

ดูท่าว่าเทียนเวทจะไม่ถูกจุดไปอีกสักพัก

--------------------------------------------

“เราได้ควาร์อาวุโสเป็นพวกคนหนึ่ง” ทาราเธียล--หลานชายของมาลแกธ ล็องธู ได้รับรหัสข้อความผ่านเทียนเวทซึ่งมาลแกธเป็นผู้ประดิษฐ์

เปลวไฟวูบไหวเป็นจังหวะอีกครั้ง ทาราเธียลแกะรหัสในใจ

‘เจ้า…

กับมอร์นเพน’

ทาราเธียลขมวดคิ้วเมื่อท่านลุงถามถึง ‘คู่หู’ ของเขา

‘ได้กันหรือยัง’

ทาราเธียลถอนหายใจหนักให้กับความไร้สาระของท่านลุง เขากดฝ่ามือดับเปลวเทียน ไม่สนใจว่าท่านลุงจะส่งรหัสอะไรมาเพิ่มหรือไม่ จากนั้นก็หันมาปรึกษากับเอลฟ์ตะวันออกอีกคนซึ่งเป็นทูตสันถวไมตรีจริงๆ

ถูกต้องที่สุด ทูตจากตระกูลล็องธูคณะนี้ มีผู้เป็นนักรบเจนสนามสองคน และมีผู้แสวงหาสันติเพียงคนเดียว หากออกเสียง ไม่ต้องเดาเลยว่าน้ำหนักจะเทไปทางไหน

ข้างๆ ทาราเธียลมีร่างในชุดคลุมสีดำ ยืนฟังเอลฟ์ตะวันออกทั้งสองคนนั่งสนทนา ด้วยท่าทางและตำแหน่งการยืนแล้ว เห็นได้ชัดว่ามีศักดิ์ต่ำกว่าคนในตระกูลล็องธู แต่ก็ได้รับเลือกให้เป็นคู่หูของทาราเธียลเพราะมีฝีมือในระดับอสูรร้าย

มันผู้นี้ไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ในคณะทูตของตระกูลล็องธูที่เอวา เธมาร์ แต่มาปรากฏตัวที่นี่...แสดงว่ามาลแกธ ล็องธูเองก็มีความลับกับคิงริวอร์นอร์ตั้งแต่แรก

“เมื่อถึงเวลา ข้ารับหน้าที่สังหารควาร์อาวุโสได้”

มันเอ่ย นอกจากสวมฮู้ดแล้วยังใส่หน้ากากปิดทั้งใบหน้า คอเสื้อเป็นผ้าแนบเนื้อ ปิดถึงใต้คาง สวมเข็มขัดหนังป้องกันจุดตายตรงลำคอ ถุงมือหนังยาวถึงศอก รองเท้าบูตครึ่งแข้ง ชุดเกราะอ่อนเข้ารูป ไม่เผยผิวเนื้อสักส่วน เสียงพูดก็แหบเครือ แยกเพศไม่ออก

ทาราเธียลเบือนหน้ามาทางมอร์นเพน--คู่หูของตนเล็กน้อย ปกติมันไม่ช่างพูด แต่คราวนี้กล้าสอดปากขึ้นกลางปล้อง

“ท่านรู้ว่าหมากตัวไหนใช้แล้วทิ้งได้ หมากตัวไหนใช้แล้วทิ้งไม่ได้” การรับหน้าที่นี้มีความเสี่ยงสูง และต้องให้คนที่ไว้ใจได้ทำ

“ไม่ว่าจะเป็นหมากตัวไหนก็ไม่ได้รับอนุญาตให้พลาด” ทาราเธียลย้ำข้อเท็จจริงว่าหากใครคนหนึ่งพลาด หมากจะล้มทั้งกระดาน แม้ขุนก็อยู่ไม่ได้

“ท่านรู้ว่าข้าจะทำงานสำเร็จ” มอร์นเพนตอบอย่างไม่ลังเล เคาะหน้ากาก “หากถูกจับได้ หน้ากากจะระเบิดศีรษะข้า ไฟกรดคลอกร่างข้าไม่เหลือกระทั่งเถ้ากระดูกในชั่วพริบตา ไม่มีอะไรให้สืบต่อ”

นี่คือ ‘นักฆ่า’ แอสซาสซินผู้ผ่านสมรภูมิทมิฬมานับไม่ถ้วน

“ลูกเมียเจ้าจะได้รับการดูแลจากล็องธู” ทาราเธียลน้อมศีรษะ ยอมรับการเสนอตัวของมัน

“ขอบพระคุณ”

“หากเจ้ามีลูกเมีย” ทาราเธียลยิ้มมุมปากคล้ายหยอกล้อ รอยแผลเป็นที่พาดจากมุมปากไปถึงแก้มหยักรั้งขึ้นอย่างน่ากลัว

ด้วยความที่เป็นคู่หูซึ่งต้องสนิทกันในระดับหนึ่ง บางเวลา...ทาราเธียลจะผ่อนเกราะป้องกันตัวเมื่ออยู่กับมอร์นเพน

“ท่านจะทราบเมื่อถึงเวลาต้องจ่ายค่าชดเชย นายน้อย”

ตัวตนของมันผู้นี้เป็นดั่งเงา ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานใดแสดงถึงการมีชีวิตอยู่ ซึ่งรวมถึงภูมิหลัง...คนรัก...ครอบครัว

-------------------------------------------------

โคลด์เหงื่อท่วมตัว เขาฝันร้าย ครางอือ

“นิ่งซะ” นิ้วของใครบางคนนวดใบหูของโคลด์ให้ผ่อนคลาย หน้าผากเย็นเพราะใครคนนั้นคอยใช้ผ้าชุบน้ำซับพิษไข้

ซิกฟรีดพยาบาลโคลด์แบบไม่ประสา เขาไม่ไปเข้าเรียนหรือฝึกซ้อม ซึ่งก็ไม่มีใครมาตาม หลังจากเข้าเฝ้าคิงริวอร์นอร์ ดูเหมือนว่าเหล่าควาร์อาวุโสจะปล่อยให้เจ้าชายอยู่ตามลำพังมากขึ้น

ให้ซึมซับความไร้กำลังของตน

โคลด์ตื่นมาดื่มยาเพิ่มอีก เขาปรือตา พอเห็นหน้าซิกฟรีดเป็นภาพซ้อนกันเบลอๆ ก็อ้าแขนออก “ไม่กอดข้าแล้วเหรอ”

“เหงื่อ...ข้าเพิ่งเปลี่ยนชุดให้เจ้าไม่ใช่หรือ” ซิกฟรีดขมวดคิ้ว เขาพลิกโคลด์เพื่อถอดชุดนอนแล้วเช็ดตัวใหม่ คราวนี้ซิกฟรีดคิดว่าไม่ต้องสวมชุดใหม่แล้ว ให้นอนเปลือยอย่างนี้แล้วใช้ผ้าห่มคลุมให้ความอบอุ่นดีกว่า

“กลัวติดหวัดหรือ เจ้าชาย” ดูเหมือนจะพูดคนละเรื่องกัน

“เจ้าเคยบอกว่าคนโง่ไม่เป็นหวัด ทำไมเป็นหวัดเสียเองเล่า” ซิกฟรีดยกแขนโคลด์ขึ้น พยายามเช็ดตัวอีกฝ่ายแบบคนทำไม่เป็น “เชื้อคงแรง...”

“กอดข้า บางทีข้าก็อยากให้เจ้าบำเรอข้าบ้าง”

ทั้งสองพูดคนละเรื่องโดยสิ้นเชิง

ซิกฟรีดเงียบไปพอโคลด์พูดอย่างนั้น ดวงตาสีม่วงหวานเยิ้มเพราะพิษไข้ทำให้เขาถึงกับสูดลมหายใจลึก

...ทำไมชอบเล่นกับความรู้สึกของข้านัก

ทว่าเจ้าชายก็อุ้มโคลด์ขึ้นมากอด


—————————————————————————

A/N คู่รอง 1 คู่ ที่เคยใบ้ไว้ออกมาแล้วจ้า ถ้าใครจำได้ ทาราเธียลออกมาแล้ว 1 รอบนะคะ ;) ในช่วงอดีตนี่แหละ

ป.ล. ส่วนคู่หลัก... /ซับน้ำตา ซิกๆ /ปาดน้ำตา


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (3) [07/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 07-03-2017 01:01:44
เรื่องนี้มันรวมต่างชนชั้น ต่างเผ่าพันธุ์กันรึยังไง 5555

ความต่างที่ลงตัว และฝังลึกสุดโคน เอ่ยย!! สุดใจ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (3) [07/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-03-2017 01:04:05
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (3) [07/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 07-03-2017 07:14:40
มีความตึงเครียดดดด
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (3) [07/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 07-03-2017 09:55:44
อ่านครึ่งแรกนี่ทีมไมเธียนมากค่ะ //แพ้ทางคนมีความร้ากกก
ทุกคนก็ต่างมีหน้าที่ความรับผิดชอบแล้วก้เป้าหมายของตัวเองทั้งนั้น สงสารไมเธียนโดนลุงแกธรังแก #ตาแก่เอ้ย!!

คู่รองนี่ดูแหวกมากค่ะ เดาไม่ออกเลยใครรุกใครรับ เชียร์หลานลุงแกธเป็นรุก เพราะรอยยิ้มสยองเลยค่ะ เจอนางตอนแรกก็คิดว่า เออ เป็นแผลเป็นอย่างนี้ก็ดีเนอะ ดูอัธยาสัยดี ไปๆมาๆเราว่ามันหลอนค่ะ 55

สุดท้ายนี้... แจวเรือซิกโคล์ดต่อไป รอฉากละมุน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (3) [07/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 07-03-2017 10:49:26
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (3) [07/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 07-03-2017 12:22:04
โคลด์อ้อนน่ารัก
เบื่ออาเลธหน้าตาย สมองทึบ ปากหิน

รักของเด็กน้อยช่างว้าวุ่น


อิป๋าโหด แต่ตอนนี้ปรบมือให้ที่หาประโยชน์เข้าตัวได้
และอิป๋าจอมจุ้น วุ่นเรื่องเจ้าชู้มากเมียของตัวเองไม่พอ ยังเผือกเรื่องชาวบ้านอีก
แต่เรื่องนี้ก็ชื่นชมเช่นกัน เพราะทำให้เราได้ฟินแบบเบี้ยว ๆ กะคู่รอง ฮา!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (3) [07/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 07-03-2017 12:32:37
ป๋าแกธนี่เหมาหมดจิงๆ สมแล้วที่ถูกน้องโคลด์สลัดทิ้ง

รอลุ้นคู่รองว่าใครจะรุกใครจะรับ  :z2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (3) [07/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 07-03-2017 13:06:19
ต่อเม้นย้อนหลังเจ้าค๊าาาา ทันตอนปัจจุบันแล้ว กรี๊ดด  :katai4:

บทที่ 14  : การตัดสินใจ (1)
อิป๋ามันโผล่มาหาโคลด์ได้ตลอดจริงๆ กวาดคะแนนเรียบแล้วพ่อคุณ
เชิญราชากับราชินีดาร์กกันต่อไปเจ้าค่ะ วาจาเชือดเฉือดชวนอึดอัดน่าสงสัยจัง แถมยังรอยแผลนั่นอีก
สงสารเอริแอดเน่นะแต่ก็แอบกลัวนาง ชอบตรงที่ใจเด็ดเหมือนโคลด์

บทที่ 14  : การตัดสินใจ (2)
ภาพซิกฟรีดกอดท่านหญิงเหมือนทำให้โคลด์หายมึน หึงเป็นขึ้นมาแล้วเนอะ /ซับกำเดา
ต้องขอบคุณแอรี่นะเนี่ย โฮะๆ

บทที่ 14  : การตัดสินใจ (3)
ซิกฟรีดเถียงโคลด์ไม่ทันแล้ว รายนั้นใส่ไฟแล่บแล้วเผ่นหายไปเลย
ชื่ออิป๋าก็ยังตามมาหลอกหลอนชายซิกถึงเตียงนอน /ฮา

บทที่ 14  : การตัดสินใจ (4)
พอถึงฉากโคลด์ปลีกตัวมานั่งน้อยใจซิกทีไร เตรียมเจอป๋าโผล่มาโกยคะแนนได้เลย :angry2:
มาเริ่มจริงจังเอาตอนนี้นี่เอง แหม่ะๆ :z6:
ถ้าโคลด์ได้เงยหน้ามามองตาซิกซักนิดจะรู้ว่าเค้าเป็นห่วงมากแค่ไหนเนอะ แต่ดันโดนกดหลังคอซะนี่

บทที่ 14  : การตัดสินใจ (5)
สองคนนี้โต้คารมณ์ดุเด็ดเผ็ดมันส์ตลอดดด เป็นคู่ร้ายที่เหมาะสมกันจังเจ้าค่ะ

บทที่ 14  : การตัดสินใจ (6)
ทำไมนี่ขำตอนอิป๋าขยิบตาให้ซิกฟรีด มันเป็นความขัดแย้งที่น่ารักดี
บรรยากาศในรถม้ามันช่างอึมครึม โคลด์งอน ซิกก็เครียดกับเรื่องในวัง
กลับมามองตา เคลียร์ใจกันเร็วๆน้า
เห็นคำใบ้ ‘คู่รอง’ แล้วตาโต  :impress2:

บทที่ 15  : ทางแยก (1)
โตขึ้นมานิดนึงแล้ว คาแรคเตอร์ซิกฟรีดเปลี่ยนไปจริงด้วย
โคลด์เองก็เริ่มดาร์กแล้วนะ อิป๋าระวังไว้
ชื่อตอนเหมือนกำลังจะเตือนว่าความมุ้งมื้งใกล้จะหมดลงทุกที

บทที่ 15  : ทางแยก (2)
อิป๋ามันยั่วโมโหซิกอีกแล้ว เดี๋ยวเถอะ!
ช่วยธอรอนทูร์ก่อนนน ไมเธียนจะร้องไห้แล้ว (หรือนี่จะเป็นคู่รองหว่าา)
ห้องลูกเล่นเยอะจริง ว่าแต่สองคนนี้มาบุกห้องมาแกธทำไมล่ะเนี่ย

บทที่ 15  : ทางแยก (3)
ชอบบรรยากาศตอนนี้ อิป๋าบีบคั้นไมเธียนได้เลือดเย็นมาก
บ่าวใจจะขาดแทน ยิ่งตอนบ่มพิษเสร็จแล้วแบบ.. /ตบโต๊ะ
ต่อหน้าธอรอนทูร์ ไมเธียนไม่ช้ำใจแย่หรอออ ร้ายที่สุด ทรมานใจเคะดีเจ้าค่า บ่าวชอบ
แล้วดูถามหลานชายเข้าสิ จำทาราเธียลได้เจ้าค่ะ คนที่คล้ายๆป๋าแต่มีแผลเป็นที่มุมปาก(นายน้อยท่าจะเมะ หรือป่าวนะ)
โคลด์เซ็กซี่เนอะตอนนี้ เอิ๊กกก ซิกกอดแล้วๆๆ 

ปล. เม้นต์ทันแล้ววว สนุกมากเจ้าค่า ยิ่งอ่านเหมือนยิ่งเสพย์ติดสำนวนการพูดของตัวละคร ชอบมากๆ
หลายฉากชวนให้อยากวาดอยากแซวมากเลย แต่งานยังสุม /ซับ
คนเขียนสู้ๆน้อออ รักษาสุขภาพด้วยเจ้าค่าา  :กอด1: o13
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (3) [07/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 07-03-2017 13:43:33
ต่อเม้นย้อนหลังเจ้าค๊าาาา ทันตอนปัจจุบันแล้ว กรี๊ดด  :katai4:

บทที่ 14  : การตัดสินใจ (1)
อิป๋ามันโผล่มาหาโคลด์ได้ตลอดจริงๆ กวาดคะแนนเรียบแล้วพ่อคุณ
เชิญราชากับราชินีดาร์กกันต่อไปเจ้าค่ะ วาจาเชือดเฉือดชวนอึดอัดน่าสงสัยจัง แถมยังรอยแผลนั่นอีก
สงสารเอริแอดเน่นะแต่ก็แอบกลัวนาง ชอบตรงที่ใจเด็ดเหมือนโคลด์

บทที่ 14  : การตัดสินใจ (2)
ภาพซิกฟรีดกอดท่านหญิงเหมือนทำให้โคลด์หายมึน หึงเป็นขึ้นมาแล้วเนอะ /ซับกำเดา
ต้องขอบคุณแอรี่นะเนี่ย โฮะๆ

บทที่ 14  : การตัดสินใจ (3)
ซิกฟรีดเถียงโคลด์ไม่ทันแล้ว รายนั้นใส่ไฟแล่บแล้วเผ่นหายไปเลย
ชื่ออิป๋าก็ยังตามมาหลอกหลอนชายซิกถึงเตียงนอน /ฮา

บทที่ 14  : การตัดสินใจ (4)
พอถึงฉากโคลด์ปลีกตัวมานั่งน้อยใจซิกทีไร เตรียมเจอป๋าโผล่มาโกยคะแนนได้เลย :angry2:
มาเริ่มจริงจังเอาตอนนี้นี่เอง แหม่ะๆ :z6:
ถ้าโคลด์ได้เงยหน้ามามองตาซิกซักนิดจะรู้ว่าเค้าเป็นห่วงมากแค่ไหนเนอะ แต่ดันโดนกดหลังคอซะนี่

บทที่ 14  : การตัดสินใจ (5)
สองคนนี้โต้คารมณ์ดุเด็ดเผ็ดมันส์ตลอดดด เป็นคู่ร้ายที่เหมาะสมกันจังเจ้าค่ะ

บทที่ 14  : การตัดสินใจ (6)
ทำไมนี่ขำตอนอิป๋าขยิบตาให้ซิกฟรีด มันเป็นความขัดแย้งที่น่ารักดี
บรรยากาศในรถม้ามันช่างอึมครึม โคลด์งอน ซิกก็เครียดกับเรื่องในวัง
กลับมามองตา เคลียร์ใจกันเร็วๆน้า
เห็นคำใบ้ ‘คู่รอง’ แล้วตาโต  :impress2:

บทที่ 15  : ทางแยก (1)
โตขึ้นมานิดนึงแล้ว คาแรคเตอร์ซิกฟรีดเปลี่ยนไปจริงด้วย
โคลด์เองก็เริ่มดาร์กแล้วนะ อิป๋าระวังไว้
ชื่อตอนเหมือนกำลังจะเตือนว่าความมุ้งมื้งใกล้จะหมดลงทุกที

บทที่ 15  : ทางแยก (2)
อิป๋ามันยั่วโมโหซิกอีกแล้ว เดี๋ยวเถอะ!
ช่วยธอรอนทูร์ก่อนนน ไมเธียนจะร้องไห้แล้ว (หรือนี่จะเป็นคู่รองหว่าา)
ห้องลูกเล่นเยอะจริง ว่าแต่สองคนนี้มาบุกห้องมาแกธทำไมล่ะเนี่ย

บทที่ 15  : ทางแยก (3)
ชอบบรรยากาศตอนนี้ อิป๋าบีบคั้นไมเธียนได้เลือดเย็นมาก
บ่าวใจจะขาดแทน ยิ่งตอนบ่มพิษเสร็จแล้วแบบ.. /ตบโต๊ะ
ต่อหน้าธอรอนทูร์ ไมเธียนไม่ช้ำใจแย่หรอออ ร้ายที่สุด ทรมานใจเคะดีเจ้าค่า บ่าวชอบ
แล้วดูถามหลานชายเข้าสิ จำทาราเธียลได้เจ้าค่ะ คนที่คล้ายๆป๋าแต่มีแผลเป็นที่มุมปาก(นายน้อยท่าจะเมะ หรือป่าวนะ)
โคลด์เซ็กซี่เนอะตอนนี้ เอิ๊กกก ซิกกอดแล้วๆๆ 

ปล. เม้นต์ทันแล้ววว สนุกมากเจ้าค่า ยิ่งอ่านเหมือนยิ่งเสพย์ติดสำนวนการพูดของตัวละคร ชอบมากๆ
หลายฉากชวนให้อยากวาดอยากแซวมากเลย แต่งานยังสุม /ซับ
คนเขียนสู้ๆน้อออ รักษาสุขภาพด้วยเจ้าค่าา  :กอด1: o13
เปิดมาเจอคอมเมนต์ต่างๆ อิ่มเลยค่ะ โดยเฉพาะคอมเมนต์นี้ ปลื้มปริ่ม ;w; อ่านแบบเก็บทุกชอตจริงๆ
แงๆๆๆ รักๆๆๆ อ้อนๆๆๆ  :-[ :-[ :-[

สถานการณ์คนเขียนตอนนี้คือปั่นงาน (อีกแล้ว) ค่ะ แบบของก่อนหน้านี้เสร็จแล้วก็ปั่นงานใหม่ แวๆๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (3) [07/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-03-2017 15:31:29
มาลแกธ การเมืองก็ไม่เบา การหื่น แกหื่นโคตร   :z1: :pighaun: :haun4:
ควาร์หนุ่มน้อย ควาร์อาวุโส ได้หมด ถ้าสดชื่น
เหอะ.....สดชื่นได้ตลอดแหละแก ทั้งเรื่อง
คั้นไมเธียน โดยเอาชีวิตธอรอนธูร์ เป็นเดิมพัน
แล้วก็ได้หมดจริงๆ ทั้งพวก ทั้งได้กินตัวไมเธียน  :hao3:
ซิก น่ารัก ดูแลโคลด์ ทั้งที่ไม่เคยทำ
โคลด์ ทั้งน่าเอ็นดู ทั้งเซ็กซี่ ตอนไม่สบาย
ซิก กอดมากๆเลย โคลด์อ้อนแล้วนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (3) [07/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 07-03-2017 16:24:40
มาลแกธ การเมืองก็ไม่เบา การหื่น แกหื่นโคตร   :z1: :pighaun: :haun4:
ควาร์หนุ่มน้อย ควาร์อาวุโส ได้หมด ถ้าสดชื่น
เหอะ.....สดชื่นได้ตลอดแหละแก ทั้งเรื่อง
คั้นไมเธียน โดยเอาชีวิตธอรอนธูร์ เป็นเดิมพัน
แล้วก็ได้หมดจริงๆ ทั้งพวก ทั้งได้กินตัวไมเธียน  :hao3:
ซิก น่ารัก ดูแลโคลด์ ทั้งที่ไม่เคยทำ
โคลด์ ทั้งน่าเอ็นดู ทั้งเซ็กซี่ ตอนไม่สบาย
ซิก กอดมากๆเลย โคลด์อ้อนแล้วนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ได้หมดถ้าสดชื่น  :laugh: :laugh: :laugh:
เหมาะกับมาลแกธจริงๆ ค่ะ
ตอนหน้าจะอ้อนกันหรือไม่อย่างไร รออ่านนะคะ XD
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (3) [07/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-03-2017 21:28:04
โผล่เข้ามาอีกที ได้อ่านหลายตอนเลย ขอบคุณที่ขยันอัพค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (3) [07/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-03-2017 21:52:35
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (4) [08/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 07-03-2017 23:45:07
บทที่ 15  : ทางแยก (4)



โคลด์ไซ้จมูกข้างใบหูซิกฟรีด มันร้อนและมีกลิ่นหอมหนักแน่นอย่างบุรุษเต็มตัว เขาสูดจมูก ลมหายใจรวยรินจั๊กจี้อยู่ข้างส่วนอ่อนไหวซึ่งสงวนไว้สำหรับคนรัก

“อืม” ซิกฟรีดนิ่วหน้า เพราะความรู้สึกเสียดเสียวม้วนตัวอยู่ในท้อง

“ข้างในข้าร้อนมากเลย เจ้าอยากลองดูไหมว่าร้อนแค่ไหน” ดาร์กเอลฟ์เลียใบหู

“เจ้าเพ้อแล้ว” ซิกฟรีดแนบแก้มเข้ากับโคลด์

“เถอะน่า ลองดู” ดาร์กเอลฟ์เหมือนช่างหัวชีวิตไปแล้ว มีแต่ความต้องการที่อยากทำ และจะทำให้ได้

เจ้าชายเอลฟ์ระบายลมหายใจหนักหน่วงเมื่อถูกกระตุ้นมากขึ้น โคลด์ไม่เย็นชาดังชื่อ ดาร์กเอลฟ์กัดริมฝีปากเขาจนเลือดซึม นิ้วทั้งห้าบังอาจขยุ้มเรือนผมสีทอง

“บำเรอข้า เจ้าชาย ข้าอยากให้เจ้าบำเรอข้าใจจะขาด” มืออีกข้างของโคลด์ลูบเปะปะไปทั่วกล้ามเนื้อแข็งแน่นอย่างนักรบแต่บีบเคล้นเพลินมือ

ซิกฟรีดให้โคลด์นั่งบนตัก ปลายลิ้นร้อนชิมรสหวานซ่านที่ยอดอก เขาวนลิ้นรอบฐานสีอ่อน หยอกจนยอดอกเล็กแข็งตึง ส่วนมือเลื่อนลงต่ำ ปลุกส่วนที่หลับใหลให้ตื่น

โคลด์ตัวอ่อน แอ่นแผ่นอกตามแรงขบดูด ความร้อนพลุ่งพล่านในท้องน้อย ทำให้ส่วนสงวนตั้งชัน

เจ้าชายดึงเข็มขัดของตนออกเมื่ออีกฝ่ายพร้อม เขายกตัวโคลด์ แล้วค่อยๆ บังคับให้กดสะโพกรับความแข็งแกร่ง เสียงหวานของดาร์กเอลฟ์กระตุ้นให้หัวใจเต้นรัว สอดรับกับจังหวะขย่มเขย่าด้วยแรงอารมณ์

“อื้ม อื้อ!” โคลด์คล้องคออีกฝ่าย หลับตารับสัมผัสที่เนิบช้าทว่าล้ำลึกเร่าร้อน สีหน้าเหมือนจะละลาย

“ร้อนดีไหม เจ้าชาย” ดาร์กเอลฟ์ปรือตาถาม

ซิกฟรีดหน้าแดงจัดกับคำหยาบคายของเผ่าทมิฬ เขาไม่ตอบคำถาม เพียงแค่ขบฟันแน่นเมื่อโคลด์แกล้งโอบรัดเป็นจังหวะ ใบหน้าหล่อเหลาซบกับบ่าของดาร์กเอลฟ์

“เจ้าไม่ชอบหรือ ข้าชอบจังเลย” โคลด์เพ้อเพราะพิษไข้แน่ๆ เพราะปกติจะอุดปากตัวเองไว้ตลอด นอกจากเพ้อแล้วยังหยอกด้วยวาจา เร่งขอให้ซิกฟรีดทำไวขึ้นอีก

ซิกฟรีดอ้าปากคล้ายจะเอ่ยรับ แต่เปลี่ยนใจเม้มใบหูสีเข้มแทน มือแกร่งสองข้างตรึงสะโพกสอบแน่น ร่างกายที่สวนขึ้นแสดงออกว่าพอใจมาก

โคลด์ครางเสียงหวานเบาๆ เขาหลับตาสลับกับปรือตา จนเมื่อหัวใจเต้นตามความสุขไม่ทัน ร่างสีเข้มที่มีความเย้ายวนแบบบุรุษเพศก็เกร็งไปทุกส่วน ปากที่พูดจากระตุ้นราคะร้องอ้า! ยาวๆ

เขาตวัดแขนขากอดซิกฟรีด แบ่งความร้อนจากทั้งกายให้อีกฝ่ายขณะตัวสั่นหงึกๆ

“ข้าเสร็จแล้ว...ดีจังเลย” โคลด์หอบ บอกสั้นๆ แต่หยาบโลน ที่จริงไม่ต้องเอ่ยเป็นคำพูด แค่ของเหลวอุ่นจัดบนกล้ามท้องกับแรงบีบรัดถี่ๆ ที่โอบรัดอยู่ ซิกฟรีดก็ทราบแล้ว

ซิกฟรีดพยักหน้ากับลาดไหล่เนียน เขากดโคลด์ให้รับต่อจนกระทั่งมือตะปบเอวแล้วบีบ คล้ายจวนเจียนเต็มที

ระหว่างนั้นโคลด์มองซิกฟรีดไม่คลาดสายตา ดวงตาสีม่วงราวกับจะสูบวิญญาณเจ้าชายเอลฟ์

ซิกฟรีดสบตาโคลด์ ยอมให้อีกฝ่ายกอบใบหน้าเข้าไปจูบ เขาดันให้โคลด์นอนลงขณะมอบความรุ่มร้อนให้จนหมด

ดาร์กเอลฟ์ตอบสนองเจ้าชายอย่างไม่อิดออด

จนกว่าพิษไข้...หรือพิษรักจะหาย

-------------------------------------------

หลังจากนั้น ทุกวันผ่านไปด้วยความคลุมเครือสลับกับความชัดเจน

ความชัดเจนคือ โคลด์ไม่ปฏิเสธหากซิกฟรีดต้องการใช้ตนระบายอารมณ์ใคร่บนเตียง ซ้ำยังให้ความร่วมมืออย่างดี หรือบางทีก็เป็นฝ่ายเชิญชวนเอง

ส่วนความคลุมเครือ...คือพวกเขาไม่ถามไถ่เรื่องของกันและกัน มีเวลาที่อยู่แยกกันมากขึ้น ชีวิตใครชีวิตมัน

สี่ปีแล้วนับจากไปเยือนเอวา เธมาร์

ซิกฟรีดอายุสิบเก้าปี เติบโตขึ้นมากจนไม่เหลือเค้าเด็กหนุ่มอายุสิบห้า ส่วนโคลด์แม้ความสูงเพิ่มช้ากว่า...แต่ก็นิ่งขึ้น

วันนี้ดาร์กเอลฟ์ถือลูตไปนั่งเล่นบนเนินเขาเหนือน้ำตก เขาดีดเครื่องดนตรีอย่างอารมณ์ดี ยิ้มกับท้องฟ้าสีฟ้าสดใส สูดกลิ่นหญ้าเจือละอองน้ำสดชื่นเต็มปอด หัวเราะกับนกสีขาวที่เกาะอยู่บนขอนไม้ข้างๆ

นกสีขาวตัวนี้ช่างอ้อน มันหุบปีก อิงตัวคลอเคลียโคลด์

หลังหายจากเป็นไข้หนัก โคลด์สังเกตว่าซิกฟรีดสนิทกับมาลแกธมากขึ้น จำนวนครั้งที่สู้กับมาลแกธได้อย่างสูสีก็เพิ่มขึ้น บางทีทั้งสองคนก็สนทนาวิชาอาวุธกันต่อจนค่ำมืด

ไม่สิ ต้องมีความลับมากกว่านั้น

แต่...ไม่ใช่เรื่องของข้า

ตราบใดที่ข้ายังไม่เสียผลประโยชน์


โคลด์คิดขณะร้องเพลงเต็มเสียงอย่างร่าเริง ยิ้มให้เกวนโดลินผ่านนกสีขาว เขาคิดว่าตนตีสองหน้าเก่งมานานแล้ว ภายนอกอย่างหนึ่ง ภายในอีกอย่าง

พี่สาว--กวินีเวียร์หรือเกวนโดลินไม่ชอบใจข้อนี้ของเขานัก เธออยากให้เขาละทิ้งอดีต เป็นเพียงโคลด์ สตาร์ ใช้ชีวิตเรียบง่ายและมีความสุข...อยู่ห่างไกลจากแดนทมิฬ

 

“แต่เราจะมีความสุขได้อย่างไรในบ้านของคนอื่น ในฐานะทาสของเขาเล่าพี่”

 

โคลด์เคยเถียงเกวนเช่นนี้ตอนอยู่ในค่ายพักแรมผู้อพยพ...ถึงตอนนี้ ความคิดของเขาก็ยังไม่เปลี่ยน

ความกลุ้มใจอีกอย่างของโคลด์คือ...เขาเริ่มไม่เชื่อเรื่องที่เกวนบอกว่าเธอสบายดี แค่หลบซ่อนตัวอยู่เหมือนกัน

โคลด์ไม่แน่ใจว่าทำไมเขาจึง ‘ไม่เชื่อ’ แต่เขารู้สึกเช่นนั้นผ่านดวงตาดำใสเหมือนลูกแก้วของนกสีขาว

เกวนปิดบังอะไรบางอย่างอยู่

โคลด์สามารถใช้บลัดแมจิกตามร่องรอยของเกวนโดลินผ่านทางความฝัน เพราะสายโลหิตเข้มข้นของเขากับพี่เชื่อมโยงถึงกัน แต่การใช้เวททมิฬในเขตควาร์นั้นเสี่ยงเกินไป เขาอาจถูกเปิดเผยตัวตน

นอกจากเรื่องพี่สาวแล้ว ช่วงนี้โคลด์ยังต้องหูไวตาไวเป็นพิเศษ การอยู่ร่วมห้องกับซิกฟรีดไม่แย่นัก การร่วมเตียงก็เช่นกัน มันทำให้เขาจับตาดูเจ้าชายเอลฟ์ได้ง่ายขึ้น

และทราบความเปลี่ยนแปลงได้ทัน

กำลังจะมีเรื่องใหญ่ที่ดำเนินการโดยซิกฟรีดกับมาลแกธ

โคลด์ทราบแค่นี้ ไม่ทราบวันเวลา แต่ไม่น่าเกินช่วงนี้ที่ข่าวกบฏดาร์กเอลฟ์กำลังหนาหู ข่าวนั้นสร้างความหวาดหวั่นมาถึงเขตอาศรมควาร์ ซึ่งอยู่ลึกบนภูเขาและป่าศักดิ์สิทธิ์เดียดีอาร์

โคลด์ลงจากเนินเขาเมื่อฟ้าเริ่มมืด ช่วงนี้ซิกฟรีดไม่ค่อยเรียกใช้เขา...พูดให้ชัดคือ มักสั่งให้ไปไกลหูไกลตา

ดาร์กเอลฟ์ตรงกลับที่พัก ทว่าชะงักอยู่หน้าประตูเมื่อเห็นผู้รอต้อนรับที่ไม่คาดคิด

ซิกฟรีดกับมาลแกธรอเขาอยู่ในห้องซึ่งคลอด้วยเสียงน้ำตกเบาๆ

ไม่น่าเชื่อไปกว่านั้นคือ...มาลแกธถามเขาตรงๆ ว่า

“เจ้าพร้อมฆ่าใครเพื่ออิสระหรือไม่”

ฮีมเดียร์หรือโคลด์เหงื่อท่วมใบหน้าจากคำถามแฝงแรงกดดันนั้น

เวลามาถึงแล้ว...ข้าต้องแสดงเป็นโคลด์ สตาร์ แต่ก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยเจตจำนงของฮีมเดียร์...โดยไม่เผยพิรุธให้สองคนนี้จับได้

ดาร์กเอลฟ์ปิดประตู วางลูต เมื่อใช้เวลาคิดอย่างถี่ถ้วนและพร้อมให้คำตอบ เขากลับแปลกใจที่ตนสามารถเอ่ยคำตอบนั้นออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ

ราวกับไม่มีการแบ่งแยกโคลด์ สตาร์ หรือฮีมเดียร์ออกจากกัน...ราวกับว่าเขาไม่ต้องเสแสร้งอยู่

“ถ้าไม่ต้องฆ่าพวกเจ้า ข้าคิดว่าข้าทำได้”

โคลด์บอกตัวเองว่าที่เขาฆ่าสองคนนี้ไม่ได้...มิใช่เพราะรักหรือผูกพัน...แต่ฝีมือเขายังไม่ถึงต่างหาก และการบัญชากองทัพโครงกระดูกในถิ่นเอลฟ์ถือเป็นเรื่องโง่เง่าขั้นสุดยอด

โคลด์ย้ำให้ตัวเองเชื่อเช่นนั้น

มาลแกธยิ้มขณะยื่นกระดาษพับครึ่งให้

“บททดสอบสุดท้าย”

ในนั้นมีรายชื่อควาร์อาวุโส…

เขียนด้วยลายมือของซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์

“เลือกมาสักคนสองคน” มาลแกธกอดอก

“ควาร์เอเรนดิลด้วยหรือ” โคลด์คราง เขาตกใจตัวเองเช่นกันที่ไม่อยากฆ่าควาร์ผู้นี้ เพราะอย่างน้อยมันก็ไม่เคยรังแกเขา...

ไล่ไปอีกหลายรายชื่อ...โคลด์ไม่พบชื่อไมเธียน จึงเงยหน้ามองมาลแกธ

“ดูเหมือนไมเธียนจะอยู่ข้างพวกเจ้า แปลว่านี่เป็นกิจของคิงริวอร์นอร์สินะ”

มาลแกธไม่ได้พูดอะไร “ข้าให้เวลาเจ้าคิด--”

“ข้าเลือกคนนี้...กับคนนี้”

เอลฟ์ตะวันออกโน้มตัวมาดู ก่อนเอื้อมมือขยี้ผมนุ่มสีเงินของโคลด์ “เลือกได้ฉลาดแล้ว”

คนหนึ่งคือควาร์ที่โคลด์ไปช่วยงานบ่อยครั้ง ได้อ่านหนังสือของเขาบ่อยมาก อีกคนคือควาร์ที่ถนัดทำเครื่องดนตรี เป็นผู้มอบลูตให้แก่โคลด์

“ข้าชินกับกิจวัตรของพวกเขา...วางแผนสะดวก” โคลด์กล่าวเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ในใจเจ็บปวดรุนแรง


—————————————————————————

A/N ตอนเขียนเราเจ็บค่ะ เจ็บไปกับโคลด์ ;w; แงงง งานแรกในฐานะนักฆ่า


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (4) [08/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-03-2017 00:18:34
เห้อน่าสงสารโคลด์ ต้องฆ่าคนที่ดีด้วย
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (4) [08/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 08-03-2017 00:29:26
ฮืออออ สงสารโคล์ด :hao5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (4) [08/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-03-2017 06:18:50
ดูเหมือนมาลแกธ กับซิก ร่วมมือกันเพื่องาน
แต่ต่างฝ่ายยังไงก็คงระวัง ระแวงกันในใจ ระหว่างร่วมมือกัน
โคลด์ น่ารัก เซ็กซี่สุดๆ นี่ถ้าซิกไม่รับรู้ไม่ได้และ  :ling1: :ling1: :ling1:
การฆ่าคน โคลด์ทำได้ แต่ทำกับคนที่ดีกับตัวเองนี่
ยังไงมันก็เจ็บปวดในใจ ก็โคลด์แค่เย็นชา แต่ไม่ไร้หัวใจนี่นะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (4) [08/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 08-03-2017 11:03:04
น้องโคลด์เหมือนค่อยๆฆ่าหัวใจตัวเองให้ตายทีละน้อย  :sad4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (4) [08/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 08-03-2017 11:30:11
โรคร้ายรอวันปะทุอย่างใจเย็น

เมื่อถึงเวลาก็ปริแตกจากภายใน เจ็บปวด แสบร้อน แทบขาดใจ

หยุดไม่ได้ หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้

นอกจากเฝ้าดูตัวเองตายไปช้า ๆ อย่างด้านชา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (4) [08/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 08-03-2017 13:04:41
เห้อน่าสงสารโคลด์ ต้องฆ่าคนที่ดีด้วย
น่าสงสารจริงค่ะ ตอนแรกเราตั้งใจเขียนเรื่องนี้แนวเกมออฟโธรน ฆ่าได้แม้ตัวละครเอก แต่ใจยังไม่แข็งพอค่ะ ฮือๆ
(ไม่งั้นตัวเอกตายไปหลายคนแล้ว แงๆๆ)

ฮืออออ สงสารโคล์ด :hao5:
โอ๋นะ โอ๋น้า เจ็บหัวใจกับโคลด์ ฮืออออ  :mew6:

ดูเหมือนมาลแกธ กับซิก ร่วมมือกันเพื่องาน
แต่ต่างฝ่ายยังไงก็คงระวัง ระแวงกันในใจ ระหว่างร่วมมือกัน
โคลด์ น่ารัก เซ็กซี่สุดๆ นี่ถ้าซิกไม่รับรู้ไม่ได้และ  :ling1: :ling1: :ling1:
การฆ่าคน โคลด์ทำได้ แต่ทำกับคนที่ดีกับตัวเองนี่
ยังไงมันก็เจ็บปวดในใจ ก็โคลด์แค่เย็นชา แต่ไม่ไร้หัวใจนี่นะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4:
ตอนนี้โคลด์ร้อนแรงจริงค่ะ และจบด้วยเจ็บปวด ;w;
ช่วงเวลาที่อยู่กับซิกฟรีด ถ้าคิดตามความจริงยังไงก็ไปต่อไม่ได้
ความรักของทั้งสองคนมีอยู่แต่มีอุปสรรคเหลือเกินค่ะ  :hao5:

น้องโคลด์เหมือนค่อยๆฆ่าหัวใจตัวเองให้ตายทีละน้อย  :sad4:
โคลด์เองก็มีมุมที่ดื้อ ร้ายกาจ ใจร้าย แต่โดนแบบนี้ คนที่จะยืนหยัดคนสุดท้ายใจต้องแกร่งจริงๆ ค่ะ
ทั้งซิกฟรีดและโคลด์

โรคร้ายรอวันปะทุอย่างใจเย็น

เมื่อถึงเวลาก็ปริแตกจากภายใน เจ็บปวด แสบร้อน แทบขาดใจ

หยุดไม่ได้ หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้

นอกจากเฝ้าดูตัวเองตายไปช้า ๆ อย่างด้านชา
ชอบการเปรียบเทียบนี้จังเลยค่ะ คมมากๆๆ ฮือออออ
เจ็บหัวใจ ;w;
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (4) [08/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-03-2017 13:41:54
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (4) [08/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 08-03-2017 22:21:48
เจ้าชายสตั้นมั้ย เมี--ไข้ขึ้นแล้วฮ็อตได้ขนาดนี้ อรั๊ยยย  :m25:
ช่วงนี้ซิกกับป๋าเค้าทีมเวิร์คแหละ /เบะ
เศร้าและกดดันไปกับโคลด์เจ้าค่ะ..
(ยังแอบติดใจเคมีของอิป๋ากับไมเธียน หึๆๆๆ)
 :katai5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (4) [08/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 08-03-2017 22:53:32
แปะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (5) [09/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 08-03-2017 23:17:59
บทที่ 15  : ทางแยก (5)

ซิกฟรีดหลุบตาลง เขาไม่เอ่ยสักคำตลอดการสนทนา

“ข้ากลับห้องพักละ ส่วนวันเวลา…” มาลแกธเหลือบมองซิกฟรีด “แล้วแต่เทพเทพีอำนวยชัย”

โคลด์ยืนนิ่ง ก้มหน้า ซิกฟรีดกับมาลแกธ เอลฟ์สองตนที่เขารู้จักมาตลอด กลับกลายเป็นเหมือนคนที่ไม่เคยรู้จักกันจริงๆ

ไม่สิ ก็ไม่ได้รู้จักตัวจริงกันทั้งสองฝ่ายตั้งแต่แรก

โคลด์สรุปในใจเงียบๆ

“นี่เกี่ยวข้องกับกบฏดาร์กเอลฟ์ในเมืองหลวงใช่หรือไม่” เขาถามเจ้าชายเพื่อยืนยันสิ่งที่คาดเดา

ซิกฟรีดมองโคลด์นิ่ง คล้ายอยากพูดหลายสิ่งหลายอย่างให้ฟัง แต่ทำไม่ได้

“ยิ่งเจ้ารู้น้อย...ยิ่งดี”

“เข้าใจแล้ว แต่หลังจากนั้นเราจะทำอะไรต่อ เรื่องนั้นข้าควรทราบ ข้าจะได้อิสระใช่ไหม เช่นนั้นจงปลดเวทตีตราทาสให้ข้าหลังเสร็จงาน”

“ตราทาส?”

“ที่คอ” โคลด์ชี้คอว่างเปล่าของตัวเอง ทว่ามีน้ำหนักของเวทมนตร์พันรอบอยู่ “วันแรกที่มาอาศรม อย่าเพิ่งลืม”

ซิกฟรีดคล้ายเหม่อ ขณะลูบนิ้วบนคอของตนผ่านปกเสื้อคอตั้ง “เจ้าจะทำอย่างไรต่อ...จะไปที่ไหนหรือ”

“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า” โคลด์หยิบมีดสั้นคู่ออกมาเช็กสภาพ แม้ลับเป็นประจำจนคมกริบดีอยู่แล้ว แต่อาวุธของเขาต้องพร้อมสำหรับใช้งานจริงๆ จะเกิดความผิดพลาดไม่ได้

เจ้าชายเอลฟ์นิ่ง

ข้าถามเพราะห่วง

ข้าถามเพราะคงทนไม่ได้...หากไม่รู้สึกถึงเจ้า


“เจ้าใช้ข้าคุ้มแล้ว ทั้งเป็นทาส เป็นคนรับใช้บนเตียงและนอกเตียง เจ้าเพิ่งใช้ข้าฆ่าควาร์อีกสองคน” โคลด์ชักมีดสั้นออกมาจากฝัก ใบหน้ากดดันเคร่งเครียดสะท้อนอยู่บนโลหะสีเงิน

“เจ้าปฏิเสธได้”

ซิกฟรีดนึกถึงคำพูดของมาลแกธว่า

 

“คนภายในของเราไม่พอ เชื่อใจลูกศิษย์ข้า เขาพร้อม”

“ข้าไม่ต้องการให้โคลด์ข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้”

“เจ้าชาย...ถ้าท่านเอาความรักน้อยนิดของท่านเป็นอารมณ์ พวกเราคงตายกันหมด”


 

“เพื่อโดนเจ้ากับมาลแกธฆ่าทิ้งพร้อมควาร์ในรายชื่อนั้นหรือ หากปฏิเสธ ข้าก็เป็นศพแรก พวกเจ้าไม่ให้ทางเลือกข้าตั้งแต่ถามคำถามแล้ว”

ซิกฟรีดเงียบ แต่หากสามารถสื่อใจกับโคลด์ได้ แม้จะเพียงน้อยนิด...เขาอยากพูดว่า

‘อย่ามองข้าเป็นปีศาจเลย’

ได้โปรด...

ทว่าโคลด์จมอยู่ในความคิดของตัวเอง เขาไม่สบตาซิกฟรีด...ใจไม่สื่อถึงกันอีก

-------------------------------------------

คืนวิปโยคมาถึง

โคลด์ล้างเลือดออกจากมือริมลำธารในป่าศักดิ์สิทธิ์เดียดีอาร์ เปลวไฟลุกโชนโหมไหม้อาศรมควาร์ดุจลูกไฟนรกดวงโต

เขาเพิ่งนำหัวของควาร์สองคนที่ตนรับหน้าที่สังหารใส่กลับเข้ากระสอบ หลังหยิบออกมาให้มาลแกธและซิกฟรีดดูว่าตนทำงานสำเร็จ

กระสอบบรรจุศีรษะวางอยู่ข้างตัวโคลด์ เขาจุ่มมือสีเข้มในน้ำลำธารเย็นเฉียบ น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

การสังหารเป็นไปอย่างเงียบเชียบ แทงตรงหัวใจขณะทั้งคู่หลับสนิทด้วยฤทธิ์ยาสลบ แต่ตอนที่ลงมือตัดศีรษะศพ โคลด์กลับนึกถึงแต่ช่วงเวลาที่เขาได้อ่านหนังสืออย่างสงบ และความดีใจที่ได้รับลูต...

ให้พวกท่านตายด้วยมือข้า จะได้ไม่เจ็บปวด

“ศีรษะที่แสดงหลักฐานแล้ว หากเจ้านายไม่ใช้ทำอะไรอีก มันก็เป็นของเจ้า” เสียงแหบแห้งเอ่ยแผ่วเบา

โคลด์เงยหน้า เห็นแอสซาสซินชุดดำสวมฮู้ดและหน้ากากปิดทั้งหน้าจากอีกฝั่งของลำธารสายเล็ก มันกำถุงกระสอบ...ของเหลวสีเข้มหยดจากก้นถุงตุงๆ

“ข้ากำลังจะไปแสดงหลักฐานของข้า” มันบอก

“เจ้าบาดเจ็บ” โคลด์ประเมิน เสื้อผ้าสีเข้มตรงช่วงท้องของแอสซาสซินแปลกหน้ามีรอยเลือดเป็นวง...การที่มันพูดเรื่อง ‘หลักฐาน’ ซ้ำไม่แผ่จิตสังหารหรือมีท่าทางคุกคามทำให้คาดว่าไม่ใช่ศัตรู

“เลือดคนอื่น”

“เลือดของเจ้าเอง” เนื่องจากเป็นชาแมนผู้ใช้บลัดแมจิก โคลด์จึงแยกแยะกลิ่นอายโลหิตได้

“ไม่รู้เจ้าทราบได้อย่างไร เอาเป็นว่า เจ้าคงตาดีตอนกลางคืนสมเป็นดาร์กเอลฟ์” มันตอบ จากนั้นกลายเป็นเงาสีดำวูบหายไป

โคลด์หยุดล้างมือ เขาเดินเข้าแนวป่าพร้อมถุงกระสอบของตน...เพื่อหาจุดเหมาะสมสำหรับขุดหลุมฝังศีรษะ

ข้าทำให้พวกท่านได้เพียงเท่านี้ ตอบแทนหนังสือและลูต

-------------------------------------

อาศรมควาร์เงียบเหมือนสุสานหลังเพลิงสงบ

มีบางอย่างเปลี่ยนไป

อาจเป็นบรรยากาศของ ‘ความกลัว’ ที่โอบคลุมพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไว้

ผู้แบกรับหน้าที่ทำให้ควาร์ในอาศรมสงบคือไมเธียน

เขาชังหน้าเอลฟ์ตะวันออก ชังที่มันยิ้มไม่รู้สึกรู้สม เขาสาปแช่งมันในใจ หากมันใช้ประโยชน์จากความรัก เขาก็ขอให้มันเจ็บปวดเจียนตายเพราะความรัก!

 

ขณะเดียวกัน ในป่าส่วนล่างของภูเขาซึ่งห่างไกลจากที่ตั้งอาศรมควาร์ ผู้ที่นิ่งสงบได้อย่างน่ากลัวคือซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ เขากำลังลงใต้ไปสมทบกับกองกำลังสนับสนุน ซึ่งมีทั้งทหารเก่าแก่ของอดีตราชาเฟรธูริน นักรบจากตระกูลล็องธู และทหารอิซิลดาร์ ทุกอย่างควรดำเนินให้สิ้นสุดภายในคืนนี้ และควรเร่งกระทำอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ

คิงริวอร์นอร์อาจไหวตัวทันเมื่อไหร่ก็ได้

ยังดี...ที่กบฏดาร์กเอลฟ์เคลื่อนไหวช่วงนี้ สายตาของราชาแห่งรูเมเรียร์จับไปที่เผ่าทมิฬเป็นสำคัญ...

จึงไม่อาจเห็นว่าน้องชายของตนกำลังจะก่อกบฏเช่นกัน!

“ข้าต้องการรางวัลของข้า” หลังจากหายไปนาน ดาร์กเอลฟ์กลับมาหาเจ้าชายเอลฟ์

ซิกฟรีดนั่งอยู่ข้างกองไฟ กิ่งไม้ที่ถูกเผาส่งเสียงดังเปรี๊ยะๆ พร้อมพ่นสะเก็ดไฟ ไอร้อนจากกองไฟให้ความอบอุ่นท่ามกลางอากาศเย็นจัด แต่โคลด์ไม่รู้สึกอุ่นแม้แต่น้อย

สองมือของเขาด้านชาไร้ความรู้สึก...และถูกล้างจนเป็นแผลถลอก

โคลด์ไม่เห็นมาลแกธหรือนักฆ่าชุดดำที่เจอริมลำธารเมื่อสักครู่ คาดว่ามันเป็นคนของมาลแกธ คงกำลังรายงานผลการลอบสังหารกับเจ้านาย

เจ้าชายเอลฟ์พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต

“จะปลดตรวนที่คอให้ข้าได้หรือยัง” ในเมื่อถามครั้งก่อนไม่ได้คำตอบ โคลด์จึงย้ำอีกรอบ เขาพร้อมสำหรับการเจรจาทุกรูปแบบ

และต้องได้อิสระคืนมา!

“เจ้าคิดจะทำอย่างไรต่อ”

“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า ข้าเคยบอกไปแล้ว”

ซิกฟรีดเงียบ ไม่มีทีท่าว่าจะปลดห่วงล่องหนที่คอของโคลด์ออก

ดาร์กเอลฟ์สูดลมหายใจลึก นิ่งและนาน เขานั่งลงตรงข้ามเจ้าชายเอลฟ์

“ข้ามีคนรัก ที่รักมาก ข้าจะไปตามหานาง”

โคลด์เอ่ยประโยคนั้นโดยไม่หลบสายตา เขาจะไปตามหาพี่สาว--กวินีเวียร์ หรือ เกวนโดลิน เขาไม่ได้โกหกเรื่องที่รักเธอมาก แต่ต่อให้เอาบิดาแห่งความตายมาง้างปาก เขาก็ไม่บอกความจริงเรื่องตนมีพี่น้องกับซิกฟรีด หรือกับใครหน้าไหนก็ตาม

“ตอนค่ายผู้อพยพแตก ก่อนเจ้ามา ข้าพลัดหลงกับนาง เห็นครั้งสุดท้ายคือถูกมังกรที่มาบุกค่ายไล่ตาม ข้าจะไปดูว่านางยังอยู่หรือตาย ข้าอยากเชื่อว่านางยังมีชีวิตอยู่ หรือถ้าตายไปแล้วข้าก็จะฆ่ามังกรที่ฆ่านาง นี่คือเหตุผลที่ข้าต้องการอิสระมาตลอด”

โกหกครึ่งหนึ่ง ความจริงอีกครึ่ง ทำได้แนบเนียน โคลด์ทราบว่าเกวนโดลินยังมีชีวิตอยู่ แต่เขาเริ่มเอะใจเรื่องมังกรที่ไล่ตามเธอ ยิ่งนึกย้อนหาเหตุผลมาเจรจา--โกหกใส่หน้าซิกฟรีด ความน่าสงสัยของมังกรตัวนั้นก็ยิ่งชัดเจน

ไม่อาจตัดออกไปได้

ซิกฟรีดมองโคลด์เงียบๆ สีส้มร้อนแรงในดวงตาคล้ายหมุนวนช้าๆ ขณะที่สีเงินคล้ายเย็นชาจนหยุดนิ่ง

เจ้าชายโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้อีกฝ่ายโดยไม่กะพริบตา ก่อนจะหลุบตามองริมฝีปากที่เคยคลอเคลียอยู่ทุกคืน ริมฝีปากช่างบ่น ช่างต่อว่า…

ข้าจะลืมเจ้าได้หรือ


เพียงลมหายใจแสนเศร้าเท่านั้นที่ได้สัมผัสริมฝีปากเย็นชาของโคลด์ สตาร์ ซิกฟรีดผละจากมา ก่อนตัวเองจะหลุดคำอ้อนวอนไร้ค่าอย่าง ‘ได้โปรด...อยู่ข้างข้าเถิด’ ออกไป

โคลด์ไม่มีวันฟัง…

ดาร์กเอลฟ์ผู้นี้เกลียดเขาเหลือเกิน

“ดาร์กเอลฟ์...” หลังความเงียบ ซิกฟรีดพูดในที่สุด ก่อนจะหลุบตาลงครู่หนึ่งเพื่อไตร่ตรองคำพูดถัดไปของตน

เจ้าเกลียดข้า…

คงไม่สามารถเกลียดได้มากกว่านี้อีกแล้ว


“ว่ามา” โคลด์ตอบ

“ข้ามอบอิสระให้เจ้า โดยคิดค่าตัดโซ่ตรวนเป็นสัญญาครั้งสุดท้ายที่เจ้าไม่อาจปฏิเสธได้ นั่นคือหากข้าเรียกหาเจ้า...จงมา”

โคลด์อึ้งกับคำกล่าวนั้น ความเศร้าและความลังเลใจถูกพัดจนกระเจิง

เหลือแต่ความโกรธ!

เขาจ้องซิกฟรีดด้วยแววตาวาวโรจน์

คิดจะเอาเปรียบข้าไปถึงไหน เอลฟ์!

ทว่าดาร์กเอลฟ์ตอบรับด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก

“ได้...ถ้านั่นหมายถึงอิสรภาพ”


—————————————————————————

A/N ตอนนี้ต้องบอกเลยว่าเจ็บไปกับซิกฟรีด เฉลยอดีตมาถึงจุดนี้แล้ว ใครที่ยังไม่มั่นใจว่าซิกฟรีดรักโคลด์ไหม ;w; คงแน่ใจได้ระดับหนึ่งแล้วใช่ไหมคะ ตอนเขียน คุณ FOULSOUL ได้ส่งเพลงของซิกฟรีดมาให้เราฟัง...โคตรเศร้าเลยค่ะ แต่เพราะมาก ชวนกดฟังกันค่ะ

เพลงซิกฟรีดให้โคลด์ (aka ฮีมเดียร์)

Feel, my skin is rough,

But it can be cleansed,

It can be cleansed.

And my arms are tough,

But they can be bent,

They can be bent.

https://www.youtube.com/watch?v=6XniMNj18cE (https://www.youtube.com/watch?v=6XniMNj18cE)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (5) [09/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-03-2017 23:35:27
ภาพความหลังเป็นอะไรที่ทั้งน่าจดจำ และไม่หน้าจดจำ

อย่าให้ถึงกับฆ่าตัวเอกแบบเกมออฟโทรนเลย ไม่หวายยยย
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (5) [09/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-03-2017 23:43:09
เจ็บปวด โศกเศร้าไปกับซิกฟรีด  :hao5: :mew2: :mew6:
คนที่เคยสัมพันธ์กันแนบแน่น ลึกซึ้ง
จะตีตัวห่างไปเพื่ออิสระภาพ ไปตามหาคนรัก
แม้ไม่เคยพูดจากันระบุสถานะ แต่ใจซิกคิดถึงโคลด์แบบคนรัก
ส่วนโคลด์ เก็บทุกสิ่งอย่างไว้ในใจ แถมยังน้อยใจซิกอีก
ทีทำเป็นเมินเฉย ไม่มีส่วนรับรู้ที่ซิก มาลแกธปรึกษากัน
แล้วบอกว่าให้อิสระภาพแต่เรียกหา ต้องมา
มันช่างทำร้ายจิตใจโคลด์จริงๆ นี่เหรอให้อิสระภาพ ยังไง  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (5) [09/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 09-03-2017 00:00:14
งื้อออซิกรักโคลด์ที่สุด (บ่าวก็รักเจ้าค่ะ ขอนิดนึง) อารมณ์ซิกคงประมาณ I love you enough to let you go~
สงสารเจ้าชายยย เพลงเพราะและเศร้ามากเจ้าค่ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (5) [09/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-03-2017 00:27:39
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (5) [09/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 09-03-2017 02:59:53
บีบใจเหลือเกินทูลหัวทำไมถึงได้เศร้าอะไรแบบนี้นะ เพราะรักมากเลยไม่อาจปฏิเสธคำขอ เพราะรักมากเลยมิอาจรั้งไว้ข้างกายได้ #ทีมราชา เสมอเจ้าค่ะ




รู้สึกสะใจเบาเบากับคำแช่งของไมเธียนนะที่ว่าให้มาลแกธเจ็บบปวดกับความรักสมใจไหมล่ะเอลฟ์แก่!!!!!



ต่อไปจะเข้าพาร์ทปัจจุบันแล้วสินะ รออยู่เลย


ปล.คนเขียนสู้ๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (5) [09/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 09-03-2017 08:08:58
รักสามเส้านี้ดิ่งลงเหวทุก ๆ วินาที

แต่ไม่เป็นไร

เพราะมันไม่เคยเห็นท้องฟ้ามาตั้งแต่แรกแล้ว
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (1) [10/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 10-03-2017 18:53:07
บทที่ 16 : เจรจา (1)

ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ มีวัยเยาว์แสนสั้น

เขาถูกบังคับให้เป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่อายุเพียงสิบห้าขวบปี ถือว่าน้อยเหลือเกินในช่วงชีวิตเกือบเท่านิรันดร์ของเอลฟ์

ความจริงอันโหดร้ายเข้าปะทะเจ้าชายหนุ่ม เมื่อพบว่าพี่ชายคนรองสังหารพี่ชายคนโตเพื่อขึ้นเป็นใหญ่ ซิกฟรีดจำต้องกดสัตว์ร้ายในตัว จับมันขังกรง อารมณ์บ้าคลั่งเยียบเย็นเหมือนผิวน้ำในฤดูหนาว เจ้าชายพระองค์เล็กแห่งรูเมเรียร์จำต้องสำรวมกิริยาให้สงบ ไม่เช่นนั้น...เขาก็จะถูก 'อ่าน' อย่างง่ายดาย โดยพี่ชายคนรองผู้มีจิตใจโหดเหี้ยมผิดเอลฟ์สามัญ

คิงริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์

ซิกฟรีดพูดน้อย หลายคนว่าเขาเงียบขรึม แต่ความจริงคือเขาไม่ต้องการให้เสียงของตนหลุดถึงหูพี่ชายโดยไม่จำเป็น เขาไม่เคยพูดว่าตนคิดอะไรหรือต้องการอะไร ซิกฟรีดว่าง่ายในกรงอาศรม ซึ่งมีผู้คุมเป็นควาร์ละโมบอำนาจกลุ่มหนึ่ง การแสดงออกที่ชัดเจนที่สุดของซิกฟรีดจะทำผ่านสายตา ซึ่งก็เบาบางแทบแปลความหมายไม่ออก ยกเว้น 'เพื่อน' เพียงคนเดียว

โคลด์ สตาร์

ซิกฟรีดเคยคิดว่าโคลด์เป็นศัตรู เขาได้ยินคำทำนายจากบิดาแห่งนภาว่าโคลด์จะฆ่าตนในสงครามสามแผ่นดิน--ในอนาคตห่างไกล เขาได้ยินคำทำนายเมื่ออายุได้เพียงเก้าขวบปี ตั้งแต่นั้นเขาก็ขอพี่ชายคนโตเก็บโคลด์ไว้ข้างกาย ไม่ให้ห่างสายตา จนโคลด์มีสถานะใกล้เคียงเพื่อนแม้จะเป็นข้ารับใช้

แต่โคลด์คงไม่คิดอย่างนั้น

เจ้าชายแห่งรูเมเรียร์อยู่กับโคลด์ตั้งแต่เด็กจนหนุ่ม โคลด์เข้าใจสายตาของเขาแม้จะเล็กน้อยแค่ไหน เวลาที่มีร่วมกับโคลด์อันตรายขึ้นทุกขณะ จนวันหนึ่งเขาใช้โคลด์เพื่อเรียนรู้การปลดปล่อยอารมณ์เข้มข้นของวัยรุ่น--กามารมณ์

ครั้งแรก ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม...และครั้งต่อๆ มา เขากอดโคลด์แน่นขึ้นทุกครั้ง เกิดความรู้สึกที่ชวนงุนงงสับสน ไม่ทราบว่าควรนิยามว่าอย่างไร เขาไม่ให้โคลด์อยู่ห่าง ไม่ชอบให้โคลด์อยู่กับเอลฟ์ตะวันออก เขาต้องการโคลด์ตรงนี้ เมื่อเขาเรียกโคลด์ต้องมา

 

"มานอนตรงนี้" ซิกฟรีดเรียก วางมือบนเตียงข้างตัวเอง เขายอมให้โคลด์มาใกล้เข้า...ใกล้เข้า

 

กว่าจะรู้ตัวว่าหัวใจถูกขโมยไป

ก็วันที่เขายอมปล่อยมือจากดวงดาวที่แสนเย็นชา

------------------------------------------------

เมื่อเอ่ยเล่าความทรงจำและเรื่องที่ได้ยินได้ฟังมาแต่หนหลัง ซิกฟรีดก็เงียบ เขาหลุบตาลง ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อครุ่นคิด เขาเพียงไม่กล้ามองปฏิกิริยาของโคลด์ สตาร์

สำหรับคนที่เก็บงำความรู้สึกของตัวเองมาโดยตลอด ไม่ง่ายเลยที่จะคว้านสิ่งที่อยู่ภายในออกมาให้อีกฝ่ายชม

ยอมรับ...ซิกฟรีดยอมรับแล้วว่าตนกลัว

นานสักพัก โคลด์จึงตอบ

“จะบอกว่า ที่เจ้าฆ่าคิงริวอร์นอร์แล้วขึ้นเป็นราชาเสียเอง เพราะเขาฆ่าคิงเฟรธูรินหรือ”

คำถามของโคลด์แทงกลางใจซิกฟรีด

“ข้าตอบเจ้าไม่ได้”

“สิ่งที่เจ้าเล่ามาบอกเช่นนั้น” ทั้งสองนั่งสนทนาในป่าข้างบ่อน้ำทิศตะวันออก ใช้เวลาเล่าและฟังเรื่องทั้งหมดจนเกือบรุ่งสาง

“ใครฟังก็คิดเช่นนั้น” ซิกฟรีดกดหัวตา “บางครั้ง...ถึงจะคิดแก้แค้นให้พี่เฟรธูริน แต่พอนึกว่าต้องลงดาบ...” ลมหายใจของราชาเอลฟ์สะดุด ความทรงจำเลวร้ายฟุ้งขึ้น “ข้าทำไม่ได้”

แต่เจ้าทำไปแล้ว อาเลธ

เจ้าตัดศีรษะพี่ชายอย่างโหดเหี้ยม


“แต่เจ้าทำไปแล้ว” โคลด์เอ่ยย้ำอย่างบังเอิญจนน่าขำ “วันแรกที่ไปถึงราชวัง ข้าบังเอิญรู้ว่าไมเธียนเป็นควาร์อาวุโส จึงคิดไปบอกเจ้า แต่องครักษ์บอกว่าเจ้าไปที่อื่น ข้าเลยไปตามทางที่เขาบอก”

โคลด์ให้เวลาซิกฟรีดระลึกเหตุการณ์

“จำได้ไหมว่าวันนั้นเจ้าไปที่ไหน ก่อนงานเลี้ยงต้อนรับตอนกลางคืน”

ซิกฟรีดพยักหน้า เขาจำได้ดี...วันที่พี่หญิงยอมเปิดเผยรอยแผลอัปยศ

“ข้าเห็นเจ้ากอดท่านหญิงเอริแอดเน่ ไม่ต้องห่วง ข้าเห็นแค่ข้างหลังของนางเท่านั้น ใครจะคาดว่านางเปลือยกายอยู่” โคลด์ซึ่งนั่งตรงข้ามซิกฟรีดหรี่ตา มองทุกปฏิกิริยาของราชาพระองค์ใหม่ “ข้าคิดว่าเจ้าอยากได้ทั้งตำแหน่งและคู่หมั้นของพี่ชาย ซึ่งตอนนี้เจ้าสมปรารถนาแล้ว”

ซิกฟรีดคิดอย่างรอบคอบว่าจะพูดอย่างไร

“เจ้าเข้าใจผิด” เขาสบตาโคลด์ ยอมให้อีกฝ่ายค้นหาความจริงได้เท่าที่พอใจ

“อย่างไร” ดวงตาสีม่วงจ้องตรง ไม่ลังเลที่จะถาม

“สิ่งที่ข้าจะพูดต่อไปนี้...จะทำให้เจ้าเข้าใจข้า แต่ขณะเดียวกันก็จะรังเกียจข้า”

“ว่ามา”

“ข้อแรก โคลด์ สตาร์...ในตอนนั้นข้ายังเป็นวัยรุ่น คิดอะไรสั้นเหลือเกิน ข้าไม่ได้คิดว่าหลังสำเร็จโทษพี่ชายตัวเองแล้วจะมีอะไรตามมา โดยเฉพาะการอภิเษกกับพี่หญิง”

โคลด์พ่นหัวเราะแบบไม่เกรงใจ “ไม่น่าเชื่อ ต้องมีคนบอกเจ้าด้วยหรือว่า หากเจ้าขึ้นเป็นราชาแล้วต้องทำยังไงต่อ ใครๆ ก็ทราบว่าราชาต้องมี ‘ราชินี’ แล้วสตรีใดจะดีที่สุดถ้าไม่ใช่ท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ ไม่อย่างนั้นนางคงไม่หมั้นกับราชาถึงสามพระองค์หรอก เมื่อไหร่พวกเจ้าจะเข้าพิธีอภิเษกสมรสดีกว่า คงไม่ต้องให้ข้าถามนะว่าพวกเจ้าทำลูกกันไปหรือยัง”

สายตาของซิกฟรีดยังช่างดุช่างปราม เขาว่าต่อ

“ข้อสอง...วันที่ข้ากอดพี่หญิง เพราะท่านแสดงบางอย่างให้ข้าชม บางอย่างที่สามารถทำลายความภูมิใจของสตรีได้ สิ่งที่หากตายคงสบายกว่าแบกรับ”

ราชาเอลฟ์ขบกราม เสียงฟันบดกันดังกรอด

โคลด์ไม่ถามต่อว่า ‘บางอย่างที่สามารถทำลายความภูมิใจของสตรีได้’ คืออะไร เขาแค่ทดไว้ในใจ ไม่ว่ามันคืออะไร สัญชาตญาณบอกว่านั่นยังไม่ใช่ธุระที่เขาควรสอดรู้

“ข้อสาม” ซิกฟรีดมองมือของตัวเอง คล้ายไม่ทราบว่าควรวางสายตาไว้ตรงไหนดี

“ข้าไม่ชอบสตรี”

โคลด์หัวเราะเสียงดัง แหบแห้ง เหนื่อยล้า แต่เขาหัวเราะออกมาก่อนทันได้คิดเสียอีก

ซิกฟรีดเอามือปิดปาก ไม่มองหน้าโคลด์ กิริยาเป็นเด็กหนุ่มมากกว่าราชา

“งั้นข้าถามดีกว่า พวกเจ้าทำลูกกันไปหรือยัง ไม่สิ ทำกันบ่อยไหม” โคลด์ตั้งเข่า วางศอกบนเข่า ยันหน้าบนมืออย่างเจ้าเล่ห์ เป็นท่าทางอย่างที่โคลด์ สตาร์ในอาศรมไม่เคยทำ

“ข้าขอไม่ตอบให้เสียเกียรติพี่หญิง” ซิกฟรีดรู้สึกเหมือนโคลด์ได้ทีจึงรุกไล่

“เจ้าไม่มีปัญหาอะไรกับการร่วมรักกับนาง” โคลด์เอ่ยแบบรู้ทัน “ทำๆ ไปอีกสักหลายปี เดี๋ยวเจ้าก็ชอบเอง”

ใช่แล้ว โคลด์หรือฮีมเดียร์กำลังสนุกกับการรุกไล่ราชาซิกฟรีด หลังจากตกเป็นเบี้ยล่างมานาน

“ทางเลือกของข้าถูกบีบให้เหลือเพียงหนึ่ง” ซิกฟรีดดูโคลด์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “แต่ถูกบีบมากๆ ข้าก็ชักนึกอยากเห็นแก่ตัว”

โคลด์ยังหัวเราะไม่หยุด แต่นั่นคงดีกว่าสบถด่าอย่างเกลียดชัง

“ตกลงเจ้าจะบอกว่า เวทที่ควาร์สวมคอข้าไว้คือ ‘บอนด์’ ที่บังคับให้เรารับผิดชอบการกระทำของแต่ละฝ่ายร่วมกัน แต่เพราะข้าไม่ได้เอ่ยรับ ความรับผิดชอบจึงตกที่เจ้าแต่เพียงผู้เดียว เวลาข้าเจ็บ เจ้าเจ็บ แต่เวลาเจ้าเจ็บ ข้าไม่เจ็บ?”

“ข้าเคยล้มกลางลานฝึกเพราะเจ้าวิ่งชนกำแพงเวท”

“สมน้ำหน้าเจ้าแล้ว เจ้าไม่เคยบอกเองว่ามันคือเวทอะไร” โคลด์ตอบใจดำ “และเจ้าจะพูดอะไรก็ได้ ในเมื่อเวทมันคลายไปแล้ว”

“ถึงเวทยังไม่คลาย เจ้าก็ไม่มีวันเชื่อ” ซิกฟรีดไม่เคยบอกโคลด์ เพราะบอกไปก็ไม่เชื่อ ไม่เคยเชื่อ โดยเฉพาะเรื่องที่ดี

แต่กับเรื่องที่แย่ โคลด์จะจำฝังใจ

“เอาอย่างนี้ วันไหนสักวันข้าจะไปถามไมเธียน มันยังอยู่ดีกับธอรอนทูร์นี่” โคลด์ทำตาอำมหิต “กับควาร์ที่เหลืออีกสักสองสามคน แล้วก็มาลแกธ ถ้าพวกเขาตอบตรงกัน ข้าจะยอมเชื่อ”

ซิกฟรีดหัวเราะ “ทุกคนจะตอบว่าไม่เป็นความจริง” เขายิ้มเหยียด “ไม่มีใครชอบเจ้าชายแห่งรูเมเรียร์ ถ้าเจ้าจำได้”

“ข้าไม่ได้โง่ ซิกฟรีด และมาลแกธจะไม่โกหกข้า ‘อีก’ ” ดูเหมือนดาร์กเอลฟ์จะไว้ใจเอลฟ์ตะวันออกแล้ว เรื่องโกหกในอดีตของมาลแกธโคลด์รับรู้จากเรื่องเล่าของซิกฟรีด แต่นั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องเคลียร์กับมาลแกธเอง

“เจ้าผูกพันกับเอลฟ์ตะวันออกมากทีเดียวโคลด์ สตาร์” ซิกฟรีดหงายมือรับใบไม้ที่ปลิดจากขั้วเพราะแรงลม ไม่นานมันจะเหี่ยวแห้ง เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ที่ขาดจากกันไปนาน

“เขายอมโดนข้าฆ่า” โคลด์ตอบ ไม่หลบสายตา เขาไม่ผิดที่จะเชื่อใจคนที่ยอมตายเพื่อเขา

“คนที่ยอมอยู่เพื่อเจ้า มีค่าน้อยกว่าคนที่ยอมตายเพื่อเจ้าหรือ” ซิกฟรีดกำใบไม้ไว้

“เจ้าทำอะไรเพื่อข้า นอกจากตีตราทาสอันใหม่บนอกข้า”

“ดาร์กเอลฟ์ที่ขึ้นทะเบียนมีสิทธิ์ทำงานในรูเมเรียร์โดยได้รับค่าจ้าง”

“ข้าทำงานเป็นนักฆ่า” ซึ่งมันผิดกฎหมายรูเมเรียร์อยู่ดี และโคลด์ก็ขำอีกรอบ

ซิกฟรีดพูดต่อ “ในอนาคต ลูกหลานของดาร์กเอลฟ์ซึ่งตกลงใจตั้งรกรากในรูเมเรียร์จะมีศักดิ์และสิทธิ์เท่าเทียมกับเอลฟ์”

“ซิกฟรีด นั่นมันปณิธานของท่านเฟรธูริน มันเป็นของเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้าไม่เคยเห็นเจ้าเคยใส่ใจเรื่องนี้ตอนอยู่ในอาศรมควาร์ เจ้าบอกว่าทำเพื่อข้า เพื่อดาร์กเอลฟ์ แต่ไม่ใช่เจ้าทำเพื่อตัวเองอยู่หรอกหรือ เจ้าจะได้รู้สึกผิดน้อยลงที่ฆ่าพี่ชายคนรอง ว่าเจ้าได้สานต่อปณิธานของพี่ชายคนโต”

ราชาหนุ่มยิ้ม เป็นรอยยิ้มแสนเศร้า “วันที่ข้าบอกว่าจะมอบอิสระของทั้งโลกให้เจ้า”


—————————————————————————

A/N กลับมาปัจจุบันแล้วค่ะ ในที่สุดผ่านไป 3 ปี และเรื่องมากมายมหาศาล จะได้คุยกันดีๆ แล้วใช่ไหม ;w;


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (1) [10/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 10-03-2017 19:55:42
 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (1) [10/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-03-2017 20:23:49
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (1) [10/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 10-03-2017 20:29:40
ซิกฟริดดดด ลงเรืออย่างไม่ต้องคิด :hao5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (1) [10/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 10-03-2017 21:27:46
เจ็บในอกจนใจจะขาด

สงสารอาเลธที่สุด รักที่ไม่เคยได้สัมผัส ครอบครัวที่บิดเบี้ยวและพังทลาย และความฝันที่ห่างไกลเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (1) [10/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-03-2017 22:08:28
ซิก สารภาพกับโคลด์ว่าไม่ชอบผู้หญิง
แต่โคลด์ ก็ไม่ได้ดีใจเพราะยังไงซิกก็นอนกับเอรีแอดเน่
และโคลด์ ไม่เชื่อเรื่องเวท"บอนด์" ถ้าไม่มีควาร์หรือมาลแกธบอก
สงสารซิก ยังไงโคลด์ก็ดูเชื่อมาลแกธมากกว่าตัวเอง
ซิกหึงที่โคลด์สนิทกับมาลแกธ แต่ทำอะไรไม่ได้
โคลด์ จะเชื่อซิกมั้ยนะ ที่ซิกบอกจะมอบอิสระของทั้งโลกให้โคลด์
เฮ้อ......รักกัน แต่ไม่บอกกัน ที่แสดงออกมาก็ไม่ดูว่ารักกันอีก
ซิก ก็ยังต้องนอนกับเอรีแอดเน่
เพราะเอรีแอดเน่เป็นราชินี  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
แล้วจะให้โคลด์ เชื่อซิกหรือ  :mew2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (1) [10/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 10-03-2017 23:27:22
เอาอีกกกก
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (1-2) [11/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 11-03-2017 00:04:20
บทที่ 16 : เจรจา (2)



“หึ ตอนไหนกัน”

ซิกฟรีดไม่โต้เถียงในประเด็นที่ทราบแก่ใจว่าโคลด์ไม่ฟัง

และเขาจะไม่พูดว่ามันยากเย็นแค่ไหนที่เลือกเส้นทางนี้

เอริแอดเน่ถูกดาร์กเอลฟ์ทำให้เสียเกียรติ ทั้งยังปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่าเผ่าทมิฬซึ่งทะลักทลายเข้ารูเมเรียร์ช่วงสงครามก่อความวุ่นวายในรูเมเรียร์ เป็นโจรปล้นทรัพย์ เผาที่อยู่ แย่งชิงอาหาร หรือหนักกว่านั้นคือเป็นนักรบและนักฆ่ารับจ้าง

คิงริวอร์นอร์ใช้ไม้แข็งกับดาร์กเอลฟ์ แต่กระทำโดยลับ เพราะชาวรูเมเรียร์ปฏิเสธความรุนแรง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่สงครามเพิ่งสงบ

กบฏดาร์กเอลฟ์ที่พระองค์จับได้จะถูกเฉือนเนื้อทีละชิ้นแล้วโยนให้สุนัขกิน จนกว่ามันจะคายข้อมูลความลับซึ่งเป็นประโยชน์จึงจะได้ความตายอันเมตตา

“ข้าไม่ได้อยากตั้งรกรากในรูเมเรียร์หรือมีศักดิ์มีสิทธิ์เท่าเทียมกับเอลฟ์” โคลด์โต้ตรงๆ “ดาร์กเอลฟ์มีศักดิ์ศรี มีบ้านเกิดอยู่แล้ว ไม่ต้องมาขอปันทานจากเอลฟ์ คนอื่นข้าไม่ทราบ แต่ข้าไม่เคยอยากได้ทานของเจ้า จงอย่าถือโทษ หากข้าไม่ซาบซึ้งในกิจของเจ้า”

“ถ้าอย่างนั้นข้าคงไม่มีประโยชน์อะไรกับเจ้าแล้ว”

“หึ ถึงจะพูดอย่างนั้น ข้าเองก็หนีตายเข้ามาในแผ่นดินเอลฟ์” โคลด์ไม่ลืมความจริงอันขัดแย้งกับสิ่งที่เขาเชื่อ “สิ่งที่เจ้าทำอาจมีประโยชน์แก่ดาร์กเอลฟ์ที่เหนื่อยล้ากับแดนทมิฬ แต่พวกมันต้องรู้อยู่แก่ใจว่าการเหยียดเผ่าพันธุ์จะไม่มีวันหายไป กฎหมายแก้คำว่า ‘ทาส’ ออกจากปากคนได้ แต่แก้ออกจากใจคนไม่ได้” โคลด์หยุดไปครู่ “เอาเถอะ ถึงจะแค่เปลี่ยนคำเรียก แต่ข้ายกความดีข้อนั้นให้เจ้า”

“จำทหารเอลฟ์ที่เจ้าอ้างว่าต้องนำของไปตอบแทนให้มันได้ไหม” ซิกฟรีดลูบผิวใบไม้ กลิ่นหอมของใบบลีดระเหยขึ้นจากรอยช้ำ “คนที่เจ้าใช้อ้างกับข้า ไม่ให้ข้ากอดเจ้าต่อ”

“ทำไม” โคลด์ตาขวาง

“จำวันแรกที่เจ้าพบเอลฟ์ตะวันออกได้หรือไม่”

“เขามาโผล่ในอาศรมเอง” วันนั้นอยู่ๆ เอลฟ์ผมสีทองแดงก็เข้ามาจูบมือเขา เอ่ยทักทาย ขยิบตาให้ โคลด์ที่ตั้งตัวไม่ทันได้แต่ยืนตัวแข็งเป็นหิน

“พวกเขาเหยียดเจ้าหรือไม่” ซิกฟรีดสูดกลิ่นใบไม้

“แล้วจำญาติของเจ้าที่หัวเราะเยาะเราตอนเจ้าพาข้าเข้าวังได้ไหม จำอาจารย์ของเจ้าที่เรียกเจ้าไปดุเพราะจูงดาร์กเอลฟ์เดินไปเดินมาในวังได้ไหม จำควาร์ในอาศรมที่เหยียดข้าได้ไหม”

“ข้าจำได้” ซิกฟรีดหันมาหาโคลด์ “และจำโคลด์ในอาศรมได้” แววตาด้านขวาของราชาอ่อนโยน “เจ้าไม่เหยียดข้า...ไม่เหยียดเอลฟ์”

ซิกฟรีดอยากแตะข้างแก้มโคลด์แต่ยั้งมือไว้ “ข้าทำสิ่งนี้คนเดียวไม่ได้ แต่หากมีคนคิดเหมือนข้า...มันก็อาจเป็นไปได้”

“ข้าทำสิ่งที่เกวนอยากให้ทำเท่านั้น” โคลด์ตอบปกป้องตัวเอง เขาไม่ยอมรับว่าเขาทำดีกับเอลฟ์บางคนเพราะเหนื่อยกับการเหยียด...เหนื่อยกับการเกลียดชัง

ที่สำคัญ เขาหลวมตัวไปช่วยไอ้เด็กเอลฟ์ตรงหน้าจากฝูงหมาป่าเอง

“เกวนโดลิน...ต้องการให้เจ้าเกลียดข้าที่บังเอิญเกิดมาเป็นเอลฟ์หรือ”

“อย่าเอานางมาใช้ประโยชน์ นี่เป็นเรื่องระหว่างข้ากับเจ้า”

ซิกฟรีดจึงมองโคลด์นิ่งๆ มองอารมณ์สั่นไหวในดวงตาสีม่วงคู่สวย

“ปัญหาอยู่ที่ไหน โคลด์ สตาร์…” เขาพูดคล้ายรำพึง “เจ้าเกลียดเอลฟ์จนเกลียดข้าหรือ”

“ข้าไม่ได้เกลียดเจ้าเพราะเจ้าเป็นเอลฟ์ ข้าเกลียดเจ้าเพราะเจ้าเป็นเจ้า” โคลด์ถูกปลูกฝังให้เกลียดชังเอลฟ์ แต่สำหรับซิกฟรีด เขาเกลียดซิกฟรีดก่อนความเป็นเอลฟ์เพราะเรื่องเจ็บแสบเรื่องหนึ่ง

“ช่วงหนีจากอาศรมแรกๆ มีวันหนึ่งเจ้าบอกให้ข้าไปได้ แต่พอข้าไปกลับต้องหนีการตามล่าจากควาร์คนอื่นเหมือนหมา เจ้าผิดคำพูด เจ้าหวังให้ข้าลืมเรื่องนั้นหรือ ข้าเกลียดเจ้านับแต่นั้น!”

เหตุการณ์นี้เองที่ทำให้โคลด์ไม่เคยเชื่อคำพูดของซิกฟรีดที่มักบอกว่า

‘เจ้าปฏิเสธได้’

“อา...เจ้าตั้งใจฟังเรื่องที่ข้าเล่าจริงหรือไม่” ซิกฟรีดถาม

“เจ้าบอกว่าข้าปฏิเสธได้ แล้วหมาตัวไหนมันสั่งให้ควาร์จับข้ากลับมา!”

“ริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์”

โคลด์หัวเราะไม่ออก เขาถามแบบหลุดปาก “จริงสิ”

“ข้าเป็นนักโทษในอาศรม คำพูดของข้าเทียบได้กับลม ข้าติดค้างคำขอโทษที่โพล่งบอกอนุญาตเพื่อปัดรำคาญ”

โคลด์ก้มหน้า เขานึกทบทวน ปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด และสรุปกับตัวเองว่าไม่อาจเถียงเรื่องนี้ได้เต็มปาก

“แล้วคิงริวอร์นอร์มีเหตุผลอะไรต้องขังข้าไว้กับเจ้า”

“แล้วคิงริวอร์นอร์มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ขังข้ารับใช้คนสนิทเอาไว้กับเจ้านายของมัน”

“ข้ารับใช้คนสนิท? ทาสต่างหาก แค่ดาร์กเอลฟ์ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า อายุไม่ถึงเกณฑ์ไปรบด้วยซ้ำ”

“จะมีดาร์กเอลฟ์สักกี่คนที่เสี่ยงชีวิตช่วยเจ้าชายจากฝูงหมาป่า จะมีดาร์กเอลฟ์สักกี่คนที่ยอมลำบากเดินทางมายังอาศรมกับเจ้าชายเอาแต่ใจ...มองจากภายนอก เจ้าภักดี”

ขณะอธิบาย ซิกฟรีดแปลกใจที่ตนนิ่งได้ถึงขนาดนี้ ใบหน้าด้านซ้ายไม่แสบร้อน ไม่เจ็บปวด

“และจะมีเจ้าชายสักกี่คนที่มีเรื่องชกต่อยกับควาร์ในอาศรมเพราะมันแกล้งข้ารับใช้...มองจากภายนอก ถึงเจ้าไม่เชื่อ แต่คนอื่นคิดว่าเราผูกพันกันมากจริงๆ”

โคลด์ฟังและคิดตาม เขานิ่งอยู่นาน มือที่พร้อมชักอาวุธมาตลอดทั้งคืนผ่อนคลายลงเป็นครั้งแรก

“แต่เจ้าไม่เคยอธิบาย เพราะเจ้าพูดมากไม่ได้ พี่ชายของเจ้าจับตาดูอยู่ ข้าก็ไม่เคยอธิบาย เพราะข้าตีสองหน้าอยู่”

ความเงียบคือการยืนยัน

“พูดออกมา เจ้าเป็นราชาแล้ว ยังจะเงียบใส่ข้าอีก ข้าเข้าใจไม่ได้ถ้าเจ้าเงียบ!”

“ใช่ สิ่งที่เจ้าเอ่ยมาถูกต้องแล้ว” นิ้วและฝ่ามือของซิกฟรีดเปื้อนสีแดงจากใบบลีด ไม่นานคงชา เขาคิดไปว่ามันจะใช้กับหัวใจที่เจ็บปวดได้หรือไม่

“ข้าถูกสาป...” จู่ๆ ซิกฟรีดก็เอ่ย

“หน้าเจ้า ริวอร์นอร์เป็นคนสาป มาลแกธบอกข้าแล้ว หัวใจมังกรศิลาเป็นยา ข้าทราบ ข้าทำลายมันกับมือ” โคลด์กลับมาตั้งท่าระวังตัว หากซิกฟรีดจะเอาโทษเขาเรื่องนี้...

“ข้ากำลังกลายเป็นเดรัจฉานช้าๆ” ซิกฟรีดสารภาพอย่างจริงใจ

“เหมือนพี่ชายของเจ้ารึ” คำพูดนั้นประชดประชัน

“ภายในของข้าเต็มไปด้วยความโกรธ ความเกลียดชัง ข้าแทบควบคุมสัญชาตญาณดิบไม่ได้” ราชาเอลฟ์ตวัดสายตามองโคลด์ สตาร์

“จะโกรธข้าก็ได้ ข้าทำลายยารักษาคำสาปของเจ้า” โคลด์โต้แบบไม่ยี่หระ ทว่าซิกฟรีดตอบสิ่งที่โคลด์ไม่คาด

“หากข้าอยากได้ตัวเจ้า ข้าต้องได้...ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ตาม” ซิกฟรีดหลับตา “ทั้งที่...ข้าไม่อยากให้เจ้าเกลียดเลย”

“เจ้าจะบอกว่าเจ้าเป็นบ้าเพราะข้า?” โคลด์หรือฮีมเดียร์ทึ่ง “จะบอกว่าเจ้ายินดีเอาตำแหน่งราชาและแผ่นดินมาแลกกับดาร์กเอลฟ์คนหนึ่ง?”

“ข้าจะเก็บไว้ทั้งหมดไม่ได้หรือ” มือที่เลอะสีแดงจากใบของต้นบลีดค่อยๆ ชา “ข้าเป็นราชาไม่ใช่หรือ”

“เจ้ามันริวอร์นอร์คนที่สองชัดๆ” โคลด์เอ่ยตามตรง “สมมติข้ายอมเป็นชู้รักของเจ้า ตอนเช้าเจ้ากอดเอริแอดเน่ กอดบุตรชายบุตรสาวที่เกิดกับนาง ตอนกลางคืนเจ้ามากอดข้า ในที่ที่เจ้าซ่อนข้าไว้จากสายตานางหรือ”

“ข้าจะไม่ซ่อนเจ้าจากใคร” คำพูดของซิกฟรีดฟังดูเสียสติ

“แล้วเจ้าจะแนะนำข้ากับเอริแอดเน่ว่ายังไง จะบอกว่า ‘พี่หญิง โปรดใช้สามีร่วมกับดาร์กเอลฟ์ผู้นี้’ หรือ”

“นางทราบมาโดยตลอดว่าข้ารักเจ้า”

“ข้าอยากสมเพชนาง”

หากท่านหญิงเอริแอดเน่ได้ยินบทสนทนานี้ ไม่ทราบว่านางจะคิดอย่างไร

“...แต่ข้าสมเพชไม่ลง...นางไม่ใช่คนดีนัก ข้าดมกลิ่นพวกเดียวกันออก แต่ข้ายังสงสารนางอยู่ดี”

น่าแปลกที่ซิกฟรีดไม่เถียง แม้จะไม่พอใจที่โคลด์พาดพิงถึงพี่หญิง แต่ก็ไม่เถียง

“ข้ามอบความรู้สึกให้เจ้าขยี้จนแหลกแล้ว เจ้าสามารถปฏิเสธข้าได้เช่นเดิม โคลด์ สตาร์” ซิกฟรีดอ่อนล้าเต็มทน “แต่ข้าจะไม่ปล่อยมือจากเจ้าเป็นครั้งที่สอง”

โคลด์สังเกตคำสาปบนใบหน้าราชาเอลฟ์ มันคล้ายมีชีวิตลุกลามได้เองเมื่อเจ้าของร่างเกิดอารมณ์ด้านลบ

“เจ้าเป็นราชาเพื่ออะไร” โคลด์ถามเพื่อเรียกสติ

“ข้าเคยบอกเจ้าเมื่อนานมาแล้ว และเพิ่งบอกเจ้าไปเมื่อสักครู่ ข้ายินดีเอ่ยมันอีกกี่ครั้งก็ได้”

 

“ถ้าข้าเป็นราชา…”

 

ครั้งหนึ่ง...ซิกฟรีดเคยกระซิบข้างหูโคลด์ยามกอดอีกฝ่ายไว้อย่างเปี่ยมความรู้สึก

ทว่าคำต่อมาโคลด์ไม่มีโอกาสได้ยิน...จนกระทั่งตอนนี้

“หากเจ้าต้องการอิสระ ข้าก็จะมอบอิสระของทั้งโลกให้เจ้า”

น่าเสียดายที่ในอดีต ราชาแห่งรูเมเรียร์เป็นผู้ครอบครองความทรงจำชิ้นนี้...แต่เพียงผู้เดียว


—————————————————————————

A/N ช่วงนี้ราชาทำคะแนน ให้เค้าหน่อย ฮือๆ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz

ป.ล. ปกติเราจะอัพเที่ยงคืนของทุกวัน ยกเว้นวันไหนไม่สะดวกก็จะอัพก่อนหรืออัพทีหลัง
หากใครรอตามอยู่ให้รอฟังข่าวได้ที่หน้าเพจของเราค่ะ ;) ขอบคุณมากๆ ค่ะ
และ...ขายของ งานหนังสือนี้ เรามีนิยายวายออกใหม่อย่างน้อย 2 เล่ม
ตีพิมพ์กับสนพ. 1 และทำมือ 1 (มะใช่เอลฟ์น้า) คนที่สนใจอยากให้ค่าขนมนักเขียน ติดตามได้ที่เพจเช่นกันจ้า จุ๊บๆ
ป.ล. 2 คอมเมนต์อ่านครบค่ะ อา อยากตอบจัง ช่วงนี้ปิดเล่ม ตอบช้านิดจ้า (ปิดเล่มอีกแล้ว แงๆ ของเก่าจบไปแล้วทำเล่มใหม่ค่ะ)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (1-2) [11/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 11-03-2017 00:17:44
สงสารอาเลธอย่างต่อเนื่อง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (1-2) [11/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 11-03-2017 00:25:11
ฮืออออออ สองตอนเน้นๆ มีความสุขขข~~
ที่เค้าไม่คุยกันนี่ไม่ใช่ซึนนะคะ ทั้งสองคนต่างมีเหตุผล
ไม่คาดคิดเลยว่าซิกจะเปิดอกให้โคล์ดดูอย่างหมดจดขนาดนี้

เพราะสองคนนี้มีเรื่องในใจเยอะมาก เหมือนจะเข้าใจแต่ไม่เข้าใจกัน ไม่พูดกันแต่เข้าใจ แต่ในขณะเดียวกันในเรื่องที่ซับซ้อน ไม่พูดก็ไม่มีวันเข้าใจ พอมาถึงวันนึงที่ซิกสามารถพูดทุกอย่างได้ รุ้สึกหายอึดอัดเลยค่ะ ซิกกล้าหาญมากที่เปิดเผยความรู้สึกตัวเองขนาดนี้

ความต้องการและเหตุผลทุกอย่างของซิกที่ให้มา คือมันเพื่อโคล์ดหมดเลย (แต่ก็เพื่อตัวเองนั่นแหละ)
เมื่อกี้แว่บนึงแอบคิดในใจ ว่าน่าจะเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็นราชันย์คลั่งรัก ก๊ากกกกกก ฮ่าๆๆๆ :hao7:

ล้อเล่นค่ะ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ เหมาะที่สุดแล้ว 5555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (1-2) [11/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-03-2017 01:21:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (1-2) [11/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-03-2017 01:57:10
เมื่อคนมีปมมาเจอกัน มันก้อวุ่นวายงี้อ่าเนาะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (1-2) [11/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 11-03-2017 13:14:40
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (1-2) [11/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-03-2017 21:22:54
ซิก เปิดปากเผยปมที่โคลด์ข้องใจจนหมด
เรื่องเข้าใจผิดของโคลด์ ที่มีต่อซิก
ริวอร์นอร์ นี่ร้ายจริงๆ ฆ่าพี่เพื่อเป็นราชา
ควบคุมน้อง เพื่อป้องกันการกบฏ
ร่ายคำสาปใส่หน้าน้องอีกให้ทนทุกข์ทรมาน
แต่ซิก ก็ฆ่าวิวอร์นอร์ได้
โคลด์ รับรู้ทุกอย่างจากซิก แล้ว
รูว่าซิก รักตัวเอง อยากให้โคลด์อยู่ข้างๆ
เอรีแอดเน่ ก็รู้ว่าซิกรักโคลด์
แต่ก็อย่างที่โคลด์ว่า กลางวันกอดลูกเมีย
กลางคืนกอดโคลด์ มันรับได้หรือ  :katai1:
ซิก ยังไงก็จะไม่ปล่อยมือโคลด์อีก  :z3:
โอย......สงสารซิก  :hao5: :hao5: :hao5:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (1-2) [11/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 11-03-2017 22:39:11
ฮืออออออ สองตอนเน้นๆ มีความสุขขข~~
ที่เค้าไม่คุยกันนี่ไม่ใช่ซึนนะคะ ทั้งสองคนต่างมีเหตุผล
ไม่คาดคิดเลยว่าซิกจะเปิดอกให้โคล์ดดูอย่างหมดจดขนาดนี้

เพราะสองคนนี้มีเรื่องในใจเยอะมาก เหมือนจะเข้าใจแต่ไม่เข้าใจกัน ไม่พูดกันแต่เข้าใจ แต่ในขณะเดียวกันในเรื่องที่ซับซ้อน ไม่พูดก็ไม่มีวันเข้าใจ พอมาถึงวันนึงที่ซิกสามารถพูดทุกอย่างได้ รุ้สึกหายอึดอัดเลยค่ะ ซิกกล้าหาญมากที่เปิดเผยความรู้สึกตัวเองขนาดนี้

ความต้องการและเหตุผลทุกอย่างของซิกที่ให้มา คือมันเพื่อโคล์ดหมดเลย (แต่ก็เพื่อตัวเองนั่นแหละ)
เมื่อกี้แว่บนึงแอบคิดในใจ ว่าน่าจะเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็นราชันย์คลั่งรัก ก๊ากกกกกก ฮ่าๆๆๆ :hao7:

ล้อเล่นค่ะ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ เหมาะที่สุดแล้ว 5555
เขาเรียกหลงรักหัวปักหัวปำค่ะ มีความหลงเมี-- ขั้นสุดอะ  :ling1:

ซิก เปิดปากเผยปมที่โคลด์ข้องใจจนหมด
เรื่องเข้าใจผิดของโคลด์ ที่มีต่อซิก
ริวอร์นอร์ นี่ร้ายจริงๆ ฆ่าพี่เพื่อเป็นราชา
ควบคุมน้อง เพื่อป้องกันการกบฏ
ร่ายคำสาปใส่หน้าน้องอีกให้ทนทุกข์ทรมาน
แต่ซิก ก็ฆ่าวิวอร์นอร์ได้
โคลด์ รับรู้ทุกอย่างจากซิก แล้ว
รูว่าซิก รักตัวเอง อยากให้โคลด์อยู่ข้างๆ
เอรีแอดเน่ ก็รู้ว่าซิกรักโคลด์
แต่ก็อย่างที่โคลด์ว่า กลางวันกอดลูกเมีย
กลางคืนกอดโคลด์ มันรับได้หรือ  :katai1:
ซิก ยังไงก็จะไม่ปล่อยมือโคลด์อีก  :z3:
โอย......สงสารซิก  :hao5: :hao5: :hao5:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ซิกฟรีดรับศึกหนักจริงค่ะ ทางไหนก็ขยับไม่ได้ จะเลวตามริวอร์นอร์ก็ไม่ได้
แต่เป็นคนดีก็ไม่ได้โคลด์ ;w; โอยๆๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 15 : (5) [09/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 11-03-2017 22:40:52
บีบใจเหลือเกินทูลหัวทำไมถึงได้เศร้าอะไรแบบนี้นะ เพราะรักมากเลยไม่อาจปฏิเสธคำขอ เพราะรักมากเลยมิอาจรั้งไว้ข้างกายได้ #ทีมราชา เสมอเจ้าค่ะ




รู้สึกสะใจเบาเบากับคำแช่งของไมเธียนนะที่ว่าให้มาลแกธเจ็บบปวดกับความรักสมใจไหมล่ะเอลฟ์แก่!!!!!



ต่อไปจะเข้าพาร์ทปัจจุบันแล้วสินะ รออยู่เลย


ปล.คนเขียนสู้ๆ
ชอบที่ทักเรื่องคำสาปแช่งของไมเธียนจังคะ เพราะในอนาคตก็โดนแทงคอ จึ๊ก!  :katai3:
ช่วงนี้กลับมาปัจจุบันแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (3) [12/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-03-2017 22:52:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (3) [12/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 11-03-2017 23:00:02
บทที่ 16 : เจรจา (3)

“เอลฟ์วัยสิบห้า...ต้องการอำนาจเพื่อดาร์กเอลฟ์ที่ตนหลงรัก กวีเซ็นทอร์ตนไหนก็นึกไม่ถึง” มุมปากด้านซ้ายของซิกฟรีดเหยียดออก ผิวหนังตึงแทบปริ “แต่ยังดี...เอลฟ์วัยยี่สิบสองรู้จักหน้าที่ สานต่อปณิธานของพี่ชายคนโตพร้อมๆ กับนึกถึงคนรักในอดีต”

“สามปีแล้ว ซิกฟรีด” โคลด์แตะใบหน้าข้างที่ยังไม่โดนครอบคลุมด้วยคำสาป “เราต่างทำพลาดกันทั้งคู่ ข้ายอมรับว่าข้ามีความรู้สึกให้เจ้าทั้งที่ไม่สมควรมี เวลาที่ข้ากอดเจ้า จูบเจ้า เรียกชื่อเจ้าบนเตียง...ข้าทำตามที่ข้ารู้สึก...ไม่ใช่การแสดง”

โคลด์ยอมสารภาพความจริง

...แต่ตามมาด้วยความจริงที่โหดร้ายกว่า

“ข้าผูกพันกับเจ้า ข้าอาจรักเจ้าในช่วงเวลานั้น แต่ความเกลียดชังและความไม่เข้าใจกันของเรามีมากเกินไป ข้าไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรกับเจ้าในตอนนี้ เจ้ายังไม่รู้เรื่องที่ทำให้ข้าต้องหนีจากแดนทมิฬ...หรือเจ้าอาจรู้อยู่แล้วก็ได้”

“ข้าเก็บเจ้าไว้ข้างกายเพราะคำทำนายจากบิดานภา” ซิกฟรีดยกนิ้วเช็ดรอยเปื้อนที่แก้มให้โคลด์ สัมผัสได้ว่าโคลด์ผอมลงไปมาก “เจ้าจะฆ่าข้า...ในสงครามที่กำลังจะมาถึง”

ทว่าไม่มีสิ่งใดส่อเค้าถึงสงคราม คำพูดของซิกฟรีดเหมือนควาร์ที่หลงในเสียงบอกเล่าไร้ที่มา จนสุดท้ายก็กลายเป็นคนวิกลจริต

“ข้ารู้ตัวจริงเจ้า...บุตรชายที่รักยิ่งของจอมทัพทมิฬ”

“ตั้งแต่ตอนไหน” โคลด์เกร็งใบหน้า

“เก้าขวบปี”

“เจ้ารู้ไหมว่าข้าทำอะไรให้เขารัก”

“ไม่ทราบ” ในอดีต ซิกฟรีดเก็บไพ่อันนี้ไว้ พวกเขาพูดคุยกันน้อยเกินไป ขณะนี้ทราบดีแล้วว่ามันส่งผลร้ายอย่างไรบ้าง

จึงพูดกับโคลด์ตามตรง

อาการเกร็งของโคลด์ผ่อนคลายลง “เจ้าบอกใครบ้างเรื่องที่ข้าเป็นบุตรบุญธรรมของเขา”

“ข้าทราบผู้เดียว แต่เราไม่ควรแน่ใจอะไร ในราชวังที่เต็มไปด้วยการเมือง อาจมีใครทราบก่อนข้า พร้อมข้า หรือไม่มีเลยก็ได้”

โคลด์ถอนใจ... “ข้าจะเชื่อเจ้าเรื่องนี้”

ถ้าเจ้ารู้แค่นี้จริง เจ้าก็ไม่ได้เก็บข้าไว้เพื่อใช้ประโยชน์จากพรสวรรค์ของข้า...ใช่ไหม ซิกฟรีด


ดาร์กเอลฟ์คิดต่ออีกครู่ใหญ่ “มากอดข้า”

ซิกฟรีดชะงักไปนิดหนึ่ง

“ข้าให้กอดเฉยๆ ไม่ได้ชวนเจ้าขึ้นเตียง” โคลด์รีบพูดให้ชัดเจน ฟังดูลนลานนิดหน่อย

“ข้าอายุยี่สิบสอง หากเจ้าลืม ไม่ใช่เจ้าชายตัวน้อยกลัวฟ้าร้องให้เจ้าต้องมาปลอบแล้ว”

“แล้วจะกอดไหม”

ซิกฟรีดเผยรอยยิ้มกว้างอันหาได้ยากยิ่ง เขากอดโคลด์แน่นกว่าครั้งไหน อ้อมแขนแข็งแรงสั่นน้อยๆ คล้ายสะอื้นแทนผู้ที่ไม่เคยร้องไห้

ร่างกายตอบหัวใจของฮีมเดียร์--ของโคลด์ได้ดีกว่าคำพูดใดๆ เขาไม่ขืนตัวเมื่อถูกกอด และหายใจแผ่วเบา

“เบาหน่อย ข้าเหนื่อยและหิวมาก ข้าทรมานจากคำสาปของเจ้า เดินทางมาไกล”

ประโยคสุดท้ายแฝงคำตำหนิอย่างจงใจ แสดงนิสัยแท้จริงของโคลด์

...แต่ในอาศรมเขาก็ประชดซิกฟรีดอยู่บ่อยๆ

“ข้าเคยเฉือนหน้าฝั่งซ้ายออก” ซิกฟรีดพูดกับกลุ่มผมนุ่มสีเงิน “แต่มันไม่ได้ผล”

“กอดเบาๆ ข้าไม่หนีไปไหน” โคลด์บอกอย่างหมดแรง เขาหลับตาตอนได้ยินคำว่า ‘เฉือนหน้า’ “เจ้ารัดแน่น ข้าเจ็บ”

ซิกฟรีดคลายอ้อมกอด สองมือกอบใบหน้าโคลด์ ก่อนที่ริมฝีปากจะกดจูบโคลด์เบาๆ

เจ้าไม่มีวันทราบ ที่รัก...ว่าข้ายอมสละได้ทุกอย่างเพื่อกอดเจ้า

ข้าเห็นแก่ตัว ที่รัก

ใครจะสาปส่งข้าก็ให้เขาทำไปเถิด


โคลด์คิดจะปฏิเสธ แต่หัวใจของเขาเหมือนถูกบังคับให้เปิดออก

...เขายอมให้ซิกฟรีดจูบ

จากที่แตะเพียงครู่กลับยาวนาน

สายลมพัดเบาๆ ต้นบลีดไหวเอน ได้ยินเสียงใบไม้เสียดสีกัน ชั่วขณะนั้นความเกลียดชังเบาบาง เหลือเพียงความรู้สึกตกค้างที่ค่อยๆ กลับมาชัดเจน

“แค่จูบนะ” โคลด์เอ่ยเหมือนบอกตัวเองด้วย

“แค่จูบ…” ซิกฟรีดยืนยัน ขณะที่กระหวัดลิ้นเกี่ยวพันไม่อยากผละจาก

แต่จากตอนแรกแค่กอด... โคลด์ขมวดคิ้วตอนที่ลิ้นแตะกัน เลือดลมในกายสั่นไหวรุนแรง

มือข้างหนึ่งของซิกฟรีดวางที่เอวโคลด์ อีกข้างดันแผ่นหลังให้เข้ามาใกล้

ลมหายใจของดาร์กเอลฟ์หอบถี่ สมองและหัวใจเหมือนถูกต้มจนละลายไหลเยิ้ม ซิกฟรีดบดเบียดเขา อีกฝ่ายสูงใหญ่กว่าเดิม ขณะที่โคลด์ตัวเท่าเดิม

ซิกฟรีดขังโคลด์ไว้อีกแล้ว ทว่าเขาก็ขังตัวเองด้วย หากใครถามว่าโคลด์เป็นทาสของเขาหรือไม่ ในใจเขาตอบกลับทันทีว่า

ข้าเป็นทาสของโคลด์ สตาร์ต่างหากเล่า

ไฟที่คิดว่ามอดดับไปแล้วถูกจุดติดง่ายกว่าที่คิด อาจเพราะร่างกายของพวกเขาคุ้นเคยกันมาหลายปี มากกว่าเวลาที่ห่างกัน

“ซิกฟรีด” โคลด์ไม่ลืมจุดประสงค์ที่เสนอให้อีกฝ่ายกอดตน เมื่อผละปาก เขามองคำสาปบนใบหน้าซีกซ้ายของราชา

น่าแปลก...มันหยุดลุกลาม

แต่ภายในศีรษะของซิกฟรีดปวดระบม

“เจ้าเบียดข้าอยู่” โคลด์ถอยจนติดต้นไม้ มองใบหน้าที่แสดงความเจ็บปวดของซิกฟรีด “ดูเหมือนคำสาปของเจ้าจะดีขึ้น แต่ขณะเดียวกัน เจ้าทรมาน”

 “เสียง…” ซิกฟรีดข่มความเจ็บปวด “มันไม่ยอมให้ข้ามีความสุข” เขาหัวเราะขมขื่น

“แล้วเจ้าอยาก...ทำอะไรต่อ” โคลด์หอบ ปรือตากับการยับยั้งชั่งใจ

“ข้ายอมให้มันฆ่า ดีกว่าหยุด” ซิกฟรีดจูบแก้มโคลด์หนักๆ มือสอดเข้าในเสื้อ ลูบผิวกายเนียนลื่น

“มือเจ้า…” โคลด์กระซิบ ไม่ขัดขืน แต่ในใจวุ่นวายหนัก

ข้าควรทำหรือ ข้าจะทำให้เขาเจ็บปวดกว่าเดิมด้วยการให้ความหวังแล้วจากไปไหม...หรือถ้าข้าจากไปเฉยๆ ตอนนี้ เขาจะเป็นบ้าไปจริงๆ


โคลด์ตัดสินใจสอดมือเข้าใต้เสื้อของราชาเอลฟ์ ควานเปะปะ สติกับความต้องการอันล่อใจทำสงครามกัน เขาหลับตา สัมผัสอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว สำรวจร่างกายที่ห่างหายกันไปสามปี

ซิกฟรีดหอบหายใจเบาๆ เขาทราบว่าตัวเองคิดน้อยเหลือเกิน ทว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา การที่เขาคิดมากก็ไม่ช่วยอะไร เขาจึงหยุดคิด แล้วให้สัญชาตญาณนำ

“แค่มือนะ” โคลด์วอน ยอมให้ซิกฟรีดล้วงต่ำลง และยอมให้ตัวเองทำแบบเดียวกัน

“แค่มือ…” ซิกฟรีดทวนด้วยน้ำเสียงคล้ายละเมอ เขากัดฟันเมื่อโคลด์ควานมือลงต่ำ ใจของเขาเต้นแรงจนได้ยินเสียงดังในหู

ดาร์กเอลฟ์หอบ หลับตา เขาแอ่นร่างเข้าหามือใหญ่ที่กำรอบส่วนสงวนของเขา และกอบแก่นกายขนาดเขื่องของอีกฝ่ายบ้าง

เสียงครางของดาร์กเอลฟ์เบายิ่งกว่าเบา ทว่าตัดผ่านความเงียบยามรุ่งสางจนราชาได้ยินชัดเจน

ซิกฟรีดเบียดโคลด์แล้วบดจูบ มือเร่งจังหวะ แผ่นอกสะท้อนหนักหน่วง

“อื้อ!” โคลด์เร่งมือให้ทันกัน พวกเขาต้องปลดปล่อยความอัดอั้นที่ปะทุอยู่ข้างใน

ซิกฟรีดเหมือนยาเสพติดที่โคลด์อยากเลิก แต่พอได้เสพใหม่ก็ติดอีก เลิกไม่ได้เสียที

“โคลด์” ซิกฟรีดกระซิบข้างใบหูที่ลู่ลงอย่างน่ารังแก

“อะไร” เสียงพร่าและการกระตุกเป็นจังหวะของดาร์กเอลฟ์บอกว่าเขากำลังจะ...

“ข้าคิดถึงเจ้า”

“อึ๊ก!” โคลด์สะดุ้ง สะโพกที่พิงต้นไม้กระเด้งแรง ปากสีม่วงได้รูปครางยาว

เสียงของซิกฟรีดครางอยู่ข้างแก้ม ท่อนลำยาวแข็งเกร็งของเขาถูกกระชับและรูดเร้น จนถอนหายใจหนักเมื่อเสร็จสม

“หน้าเจ้า...ดีขึ้นอีกนิดหนึ่ง” โคลด์บอกทั้งที่ใบหูยังลู่ลง ดวงตาสีม่วงหวานฉ่ำโดยไม่รู้ตัว

“หมายถึงรูปงามหรือ” รอยยิ้มของซิกฟรีดเหมือนเด็กหนุ่มที่โคลด์รู้จัก เด็กหนุ่มอายุสิบห้าที่ชอบกวนอารมณ์เขา (แต่เจ้าตัวคิดว่า ‘หยอกเล่น’ เฉยๆ)

“คำสาป…” ดาร์กเอลฟ์ไม่อยากก้มมองสภาพไม่เรียบร้อยด้านล่าง จึงต้องมองหน้าซิกฟรีดต่อไป

ดวงตาข้างหนึ่งเป็นสีดำ อีกข้างยังเป็นสีส้มเงิน ร้อนแรง...หลอมละลายผู้มองดังที่เคยเป็นมา

โคลด์หลุบตา จำต้องบอกสิ่งที่เขารู้สึกในตอนนี้ว่า...

“ข้าหิว…” ดาร์กเอลฟ์ซื่อตรงกับกระเพาะของตัวเอง คงเพราะอารมณ์ตึงเครียดถูกปลดปล่อยจนหมด...มาเลอะมือของพวกเขา ความต้องการทางร่างกายอื่นๆ จึงประท้วงขอความยุติธรรมบ้าง “ข้าต้องหาอะไรกิน”

ช่างทำลายบรรยากาศจริงๆ...

“เจ้าจะได้กินเท่าที่อยาก” ซิกฟรีดหัวเราะ “ข้าจำได้ว่าเจ้าชอบกินช็อกโกแลต”

-------------------------------------------------------

เที่ยงวันนั้น มาลแกธได้รับสารฉบับหนึ่งอย่างไม่คาดคิด ในสารนัดเขาไปพบที่โรงนาแห่งหนึ่ง ไกลจากชานเมืองเอวา เธมาร์

 

ข้าออกมาจากใต้ดินแล้ว เรามีเรื่องต้องคุยกัน

C.S.



—————————————————————————

A/N หวาย เขินอะ เขียนมาหลายฉาก แต่ฉากแบบนี้ยังไงก็เขิน ว้ายๆๆ

ท้ายตอนมีจดหมายถึงมาลแกธ แน่นอนว่าเมื่อรู้ความจริงทั้งหมดแล้วก็ต้องมีการชำระความค่ะ!

ขอเสียง #เรือป๋ามาลแกธ กับ #เรือราชา หน่อยจ้า!


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (3) [12/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 11-03-2017 23:15:21
ซิกดูยอมหมดแล้วววว ยอมโคล์ดหมดใจ หมดทุกอย่างแล้ว 55555555
รุ้สึกตอนนี้โคล์ดเหนือยังไงไม่รุ้

รอตอนชำระความกับมาลแกธค่ะ  อิอิ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (3) [12/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-03-2017 23:19:02
งะ. เค้าจะชำระความกันไงน้อ 5555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (3) [12/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 11-03-2017 23:27:55
จะง่ายกว่านี้ไหมถ้าทำตามใจตนเองบ้าง
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (3) [12/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 12-03-2017 08:17:24
ฉันเหยียบเรือหลายแคมแล้วเนี่ย

#เรือราชา #เรือป๋า #เรือโคลด์
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (3) [12/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 12-03-2017 08:43:18
ตามติดเรือราชาละเรือน้องโคลด์ต่อไป
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (3) [12/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: owlseason ที่ 12-03-2017 09:39:34
เพิ่งกริ๊วกร๊าวกับเรือราขาหยกๆ ตอนหน้าก็ต้องลงเรือป๋าอีกแล้วหรอ
 :mew2:
รู้สึกตัวเองเป็นคนหลายใจ คนนั้นก็ชอบ คนนี้ก็ชอบ ราชามังกรก็ชอบ
 :ling2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (3) [12/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-03-2017 11:58:02
โถ.......ซิก รักโคลด์ล้นหัวใจ ลึกซึ้ง
โคลด์ ความรู้สึกตีกัน ทั้งรักทั้งเกลียด
แล้าอารมณ์รัก คิดถึงก็มา  :ling1: :ling1: :ling1:
ซิก โคลด์ ร่วมด้วยช่วยกัน มันก็ดีกับทั้งสองฝ่าย
คำสาปที่หน้าของซิก พอกอดโคลด์
แล้วทำไมคำสาป ลดความร้ายกาจลง
อย่างนี้ซิก ต้องกอดโคลด์ตลอดเลยถึงจะดีสินะ  :hao6:
โคลด์ นักมาลแกธมาคุยอะไรกันนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (3) [12/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 12-03-2017 13:35:46
โฮร่กกกหวานแต๊ เคลียร์กันแล้วน้อ เรือราชาร่าเริงเจ้าค๊าาา เขินสุด  :-[
รออิป๋าๆๆ หึๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (3) [12/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-03-2017 14:50:40
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (3) [12/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 12-03-2017 14:56:44
เหยียบเรือ 2 แคมได้ไหม  :hao6:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (3) [12/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 12-03-2017 19:18:27
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (3) [12/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 12-03-2017 19:43:10
มันเขิน เขินไปหมดเลยค่ะไม่ได้เขินตอนเขาช่วยกัน"สุขสม"แต่เนินตอนที่โคลด์จัับหน้าซิกแล้วซิกก็เอานิ้วเกลี่ยแก้มโคลด์เพื่อเช็ดรอยเปื้อนให้ มันดีงามมันละมุน  แล้วยังตอนที่ราชากอดโคลด์อีก โคลด์เหมือนวางใจไว้ใจยอมให้กอดเอาไว้



จะชิงชังแค่ไหนหัวใจก็คือหัวใจโคลด์รักซิกนี่คือความจริง แต่ถ้าเป็นตามคำทำนายที่ว่าจะฆ่าซิก คงไม่ได้ฆ่าด้วยอาวุธหรอก อย่าจบเศร้าเราขอ~~~


ซิกอยู่เหนือคนนับล้านแต่อยู่ใต้คนคนเดียว
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (4) [13/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 12-03-2017 22:49:38
บทที่ 16 : เจรจา (4)

“ที่รัก” มาลแกธมาตามนัดหมาย ถือห่อช็อกโกแลตกลิ่นหอมยั่วน้ำลายมาด้วย “อิลมาเรกับข้าหาช็อกโกแลตที่แพงที่สุดมาให้ เจ้าหิวหรือเปล่า ข้ารู้จักร้านอาหารอร่อยๆ”

เสียงแซ่กๆ เลื้อยแทรกอยู่ในพื้นรกฟางแห้งของโรงนาร้าง ที่มาของเสียงเข้าล้อมเอลฟ์ตะวันออกพร้อมกัน พวกมันชูคอแผ่แม่เบี้ยกระดูกสีขาว แยกเขี้ยวขู่แฟ่!

นี่คืออสรพิษที่ประกอบร่างจากโครงกระดูกงู

“สวัสดีงูน้อย” มาลแกธเปิดห่อช็อกโกแลตช้าๆ “ไหน...ทดสอบความไวหน่อย” เอลฟ์ตะวันออกโยนช็อกโกแลตไปทางงูโครงกระดูกทีละตัว...ทีละตัว (ซึ่งตัวไม่น้อยแบบที่มาลแกธเรียก) เหมือนโยนอาหารให้สุนัข

“น่ารัก น่ารัก”

พวกมันฉกช็อกโกแลต ขยี้ด้วยกรามและเขี้ยวแข็งแรง

น่าหวาดเสียวทีเดียว

“แหม นายเจ้าโมโหอะไรมา” มาลแกธไม่ได้ยืนอยู่ที่เดิมแล้ว ชั่วพริบตาที่งูสนใจช็อกโกแลต และเนื้อขนมเหนียวหนึบทำให้กรามของมันอ้าช้าลง (แม้จะเล็กน้อย แต่ถือว่าเพียงพอสำหรับเอลฟ์ตะวันออกแล้ว) เขาก็ถีบตัวขึ้นไปบนขื่อ นั่งยองๆ มองงูโครงกระดูก

“โมโหเจ้า” เสียงเย็นๆ เอ่ย ผู้ควบคุมงูโครงกระดูกนั่งห้อยขาอยู่บนชานชั้นสองของโรงนาร้าง ในระดับสายตาเดียวกับมาลแกธพอดี

โคลด์ไม่ได้ใช้บลัดแมจิกหรือวาดมือสั่งการ เขาแค่เท้ามือกับขอบที่นั่งไม้

“นี่เป็นพรสวรรค์แต่กำเนิดของข้า ถ้าแค่การควบคุมง่ายๆ ตอนนี้ข้าไม่ต้องวาดมือแล้ว แค่คิดก็พอ แต่ถ้าควบคุมสิ่งที่ซับซ้อนกว่า ยังต้องใช้เวทโลหิต”

“ช็อกโกแลตไหม” มาลแกธยังอุตส่าห์ประคองห่อขนมระหว่างหนี เขาเปลี่ยนเรื่องได้หน้าตาเฉย

โคลด์ยกมือ ชี้นิ้วไปที่โครงกระดูกงูที่เลื้อยขึ้นมาอยู่ข้างๆ มาลแกธ มันขู่แฟ่อีก แล้วร่วงลง กลายเป็นซากกระดูก

“ไม่เอาน่า” มาลแกธนั่งห้อยขาคุย “พูดกันดีๆ สิ”

“ดูไปก่อน” โคลด์ตวัดนิ้ว โครงกระดูกกลับมารวมตัวกันใหม่เป็นรูปร่างอสรพิษ มันขู่อีก ทว่าเมื่อโคลด์ตวัดนิ้วอีกรอบ มันกลับร่วงเป็นท่อนๆ แล้วพอเจ้าชายกระดูกดีดนิ้ว มันก็ประกอบร่างใหม่ วนเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมา

“ขำดีเนอะ สมัยก่อนข้าเล่นแบบนี้บ่อยจนทุกคนตกใจ”

ดาร์กเอลฟ์ยิ้มเยียบเย็น

“พวกเขาว่าข้าชอบล้อเล่นกับชีวิตและความตาย”

มาลแกธมองงูโครงกระดูกแล้วผิวปาก “แต่ตอนนี้เจ้าเอาจริงเอาจังกับการโมโหข้ามากทีเดียว”

“แค่เล็กน้อย ‘อาจารย์’ ”

“โกรธเคืองอะไรที่รัก”

“เจ้ารักนกของเจ้าไหม ที่ชื่อเฟียต” โคลด์เอียงคอ ยังยิ้มอยู่ “อาจจะไม่ถึงกับรักมาก แต่ก็เอ็นดู”

มาลแกธถอนหายใจ “เจ้ากำลังทำตัวเข้าใจยาก”

“ถ้าข้าเข้าใจง่ายก็ไม่ท้าทายเจ้าสิ มาลแกธ” โคลด์ชี้นิ้ว “เอานกออกมา”

“อา…” มาลแกธเหนื่อยหน่ายใจ

“ไม่ชอบโดนสั่งหรือ”

“เจ้าสั่งข้าได้...”

“งั้นก็เอาออกมาสิ”

“...บางเรื่อง”

“เรื่องนี้มีประโยชน์มาก สำหรับเจ้า มาลแกธ ข้ารับรองว่า ‘มหาศาล’ ”

“เจ้าจะฆ่านก เลาะหนัง ทำให้มันเป็นกระดูก แล้วมันก็จะไม่มีวันตาย ส่งสารได้ไม่เหน็ดเหนื่อย แถมยังไม่ต้องให้อาหารบ่อยๆ”

“ข้ายืนยันว่ามีประโยชน์แบบที่ ‘มาลแกธ ล็องธู’ แห่งตระกูลล็องธูยินดีแลกเพื่อได้ถือไพ่เหนือกว่า”

“มีใครบอกเจ้าหรือยังว่าข้าไม่ทำสัญญา ถ้าไม่เห็นสัญญา”

“ข้าไม่ได้เสนอสัญญา ข้าเสนอความจริงให้ฟรีๆ” แต่รอยยิ้มของโคลด์บอกเป็นนัยว่าความจริงนั้นมีราคา ‘บางอย่าง’

“โคลด์” เสียงของมาลแกธเข้มขึ้น

“ฮีมเดียร์ คือชื่อจริงของข้า หรือชื่อเก่าของข้าก็ได้ ได้ทั้งสองอย่าง”

“ฮีมเดียร์...หรือจะชื่ออะไรก็ตาม เจ้ากำลังทำให้ข้าไม่อยากคุยกับเจ้า”

“เจ้าเกลียดข้าแล้วหรือ เปลี่ยนใจง่ายจริง” ดาร์กเอลฟ์เชิดหน้า เหยียดสายตา “สมเป็นเอลฟ์ตะวันออก”

คำพูดของโคลด์ทำให้มาลแกธถอนหายใจอีกครั้ง “เจ้ากำลังเอาหลายเรื่องมาปนกัน สางมันให้ดี แล้วพูดทีละเรื่อง”

“ข้ากำลังสางมันอย่างดี เพราะตอนแยกกันที่สุสานวิหารร้าง เจ้าทำให้ข้าหวั่นเกรงหัวใจตัวเอง”

มาลแกธพิจารณาโคลด์อย่างละเอียดมากขึ้น

“เอานกออกมา ใช้เข็มพิษแทงหัวใจมันให้ตายสบายๆ” โคลด์ไม่ยิ้มแล้ว

มาลแกธกินช็อกโกแลตที่ตนเอามา ขณะมองโคลด์นิ่งๆ

ทั้งสองจ้องตากัน โคลด์ให้เวลามาลแกธเท่าที่อีกฝ่ายต้องการ...และเพื่อทดสอบ

ทว่าจนช็อกโกแลตหมดกล่องแล้ว มาลแกธก็ยังไม่พูดอะไร

“เจ้าเสียดายแค่นกตัวเดียว หรือกลัวเสียเชิง”

มาลแกธยิ้ม “วิธียั่วยุ” เขาพูดแค่นั้น

“ข้าถามตามตรง”

“วิธีใช้ความจริงใจ” ดวงตาของมาลแกธโค้งขึ้น

โคลด์หลับตา “เข้าใจแล้ว เจ้าเก่ง เอลฟ์ตะวันออก”

“เจ้าคิดว่าข้าโตมาอย่างไร ฮีมเดียร์”

“โตมาอย่างที่เจ้าเป็น...” โคลด์หันไปด้านล่าง ในมุมมืดของโรงนา “ข้าถามอีกคนดีกว่า เจ้าจะเอานกออกมาฆ่าให้ข้าไหม”

“เจ้าลวงข้าด้วยความโลภใน ‘ข้อมูล’ ที่อ้างว่ามีประโยชน์อย่างยิ่ง” ซิกฟรีดเผยตัว เขาอยู่ในชุดเดิม แสดงว่ายังไม่ได้กลับราชวัง

“ข้าจริงใจอย่างที่สุดกับพวกเจ้าอยู่” โคลด์ทิ้งตัวลงไปยืนด้านล่าง และให้มาลแกธตามลงมา “ทั้งจริงใจและแก้แค้น”

ซิกฟรีดหรี่ตา ชีวิตของเขาตกอยู่ในกำมือของคนอื่นเป็นสิบปี และเมื่อได้อิสระ ก็กลับกลายเป็นอิสระลวงตา เขาเป็นราชาที่เกือบเรียกได้ว่าไร้อำนาจ ขึ้นอยู่กับอิซิลดาร์กึ่งหนึ่ง เอลฟ์ตะวันออกกึ่งหนึ่ง

หลุมพรางที่เขากระโจนเข้าไปด้วยตัวเอง จะคร่ำครวญก็ไม่อาจทำได้

แต่จำฝังใจทีเดียว

“นี่แน่ะ วันหนึ่ง มีเอลฟ์สองคนยื่นกระดาษใบหนึ่งให้ข้า ให้เลือกว่าจะสังหารใครในรายชื่อนั้น วันนี้ข้าไม่มีกระดาษ ไม่มีรายชื่อมาให้เลือก ก็แค่นกหนึ่งตัวหรือสองตัว เมื่อเลือกแล้ว ข้าจะชมว่าพวกเจ้าเลือกได้ฉลาดมาก”

ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะฝังใจโคลด์ สตาร์มานานทีเดียว

“พวกเจ้าพร้อมฆ่านกสักตัว เพื่อได้รู้ความลับล้ำค่าต่อแผ่นดินหรือไม่”

 

“เจ้าพร้อมฆ่าใครเพื่ออิสระหรือไม่”

 

โคลด์กำลังเอาคืนอย่างเมตตา

“เป็นอย่างนี้นี่เอง” มาลแกธระบายลมหายใจหนักหน่วง “ทำไมไม่พูดตั้งแต่แรก ข้าชอบความชัดเจนรู้ไหม เจ้าอยากแก้แค้นก็พูดซี...ที่รัก”

มาลแกธกำเฟียตไว้ในมือ

“บททดสอบสุดท้าย” โคลด์ทวนคำพูดเดิมเมื่อสามปีก่อนของมาลแกธ “ฆ่าให้มีบาดแผลบนร่างกายน้อยที่สุด”

“ชัดเจนดีเหลือเกิน”

ซิกฟรีดยังไม่ทันขยับตัว มาลแกธก็แทงเข็มพิษเข้าหัวใจของเฟียตอย่างแม่นยำ

“บอกไว้ก่อนเข้าใจผิด ข้าให้เจ้าแก้แค้น ไม่ใช่เพราะโลภอยากได้สิ่งที่เจ้าเสนอ”

ซิกฟรีดกลืนน้ำลาย สองคนนี้...

“ข้าแก้แค้นแค่นี้พอหรือ” โคลด์ผายมือ ขอร่างเฟียตจากมาลแกธ “นี่ไม่เรียกว่าแก้แค้นด้วยซ้ำสำหรับคนในแดนทมิฬ ควรเรียกว่าการเอาคืนเล็กๆ น้อยๆ ความเสียใจของเจ้าไม่มีด้วยซ้ำ ไม่เหมือนตอนที่ข้าต้องตัดศีรษะควาร์สองคนที่ข้าเลือก”

เสียงของโคลด์สั่นน้อยๆ เมื่อนึกถึงเรื่องในคืนวิปโยค

“ ‘ทั้งจริงใจและแก้แค้น’ ข้าจำที่เจ้าพูดได้ แต่...ถ้าเจ้าอยากเห็นข้าเสียใจคงยากหน่อย”

“พวกเขาใจดีกับข้า” โคลด์มองร่างปวกเปียกเพิ่งสิ้นลมหายใจของนกตัวเล็ก เขาหงายฝ่ามืออีกข้างเสมอกัน

ในที่นั้น ซิกฟรีดเข้าใจความรู้สึกซึ่งเหมือนหนามยอกอกของโคลด์ ความทรงจำที่เพียงนึกก็เจ็บปวด เขาไม่เคยอยาก… ‘บั่นศีรษะ’ พี่ชาย ไม่ว่ามันจะชั่วช้าเพียงใด

พี่ริวอร์นอร์ก็เคยใจดีกับข้าเช่นกัน


โคลด์เอ่ยเวทในภาษาทมิฬ ร่างของเฟียตลอยขึ้นสูงระหว่างฝ่ามือทั้งสองข้างของเขา โคลด์ใช้บีฟอร์ซกรีดฝ่ามือของตนเป็นอักขระเวทโบราณ ทว่าเลือดที่ไหลออกมากลับไม่ใช่สีแดง

และไม่ใช่สีดำด้วย...ไม่ใช่โลหิตที่ปนเปื้อนด้วยความตายและกลิ่นอายคำสาป

“นี่ไม่ใช่เวทที่ใช้เพื่อปลุกชีพอันเดด” โคลด์บอก หรี่ตาสีม่วงเข้ม ขณะที่ไอสีทองลอยจากฝ่ามือทั้งสองข้าง

เลือดของเขากลายเป็นสีทองอยู่บนผิวสีเทาราตรี

“ตำนานว่าไว้ โลหิตของเหล่าบิดามารดามีสีดุจทองคำล้ำค่า

ข้าขอพลีโลหิตของบิดาแห่งความตาย

ที่ท่านประทานมา...แก่ข้า ฮีมเดียร์ เซฮาไนน์ แห่งเผ่าจันทร์

มอบให้แก่เจ้า ‘เฟียต’ ”

ไอสีทองไหลเข้าปากของนกตัวเล็ก เส้นเลือดทั่วร่างของมันเรืองแสงสีทอง ดุจมีทองคำเหลวไหลเวียนแทนเลือด เพียงอึดใจ ร่างไร้ลมหายใจของนกสื่อสารแห่งหน่วยกาลาฮานก็กระตุกเบาๆ มันลืมตา สยายปีกอยู่ในไอเลือดสีทอง

โคลด์ลดมือลง เลือดสีทองที่มือแห้งกรังจับตัวกับบาดแผล ส่วนเฟียต...มันบินไปเกาะที่ไหล่ของมาลแกธอย่างรักใคร่

...กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

“สิ่งที่ทำให้จอมทัพทมิฬ บิดาบุญธรรมของข้ารักข้า คือพรสวรรค์นี้” โคลด์บอกเอลฟ์ทั้งสองอย่างไม่ยินดียินร้าย

มาลแกธเงียบ

ซิกฟรีดก็เงียบ

พวกเขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

สิ่งที่โคลด์ทำมหัศจรรย์ ทว่าเป็นเรื่องต้องห้าม การท้าทายความตายเท่ากับการท้าทายสมดุลโลก

“เจ้าแลกอะไรไป” ซิกฟรีดถาม สายตาไม่อาจละจากนกที่เพิ่งฟื้นคืนชีวิต


—————————————————————————

A/N ความลับของโคลด์ก็ค่อยๆ เผยออกมาจนหมดค่ะ นี่แหละ สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ต้องหนีหัวซุกหัวซุน เปรียบโคลด์เหมือนแม่ไก่ (ดำ) ที่ออกไข่เป็นทองคำก็ได้ค่ะ ใครๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ 555


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (4) [13/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-03-2017 00:45:03
 :pig4: :pig4:

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (4) [13/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 13-03-2017 00:57:13
เห้อออ!! มีแต่เรื่องให้กังวลกันไปใหญ่
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (4) [13/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-03-2017 06:22:39
สุดยอดดดด พรสวรรค์ของโลด์ เจ้าชายกระดูก
ทำให้สิ่งมีชีวิตที่ตาย ฟื้นขึ้นมาใหม่
ปลุกกระดูกให้เคลื่อนไหว มาใช้งานได้
แต่มันท้าทายสมดุลโลก
โคลด์ต้องแลกกับอะไรนะที่มันต้องเสมอกัน
โคลด์ กลายเป็นวันพีซที่มีชีวิต ซะแล้ว
ใครรู้ก็ต้องแย่งชิงเพื่ออำนาจมหาศาล
นี่ทำให้โคลด์ต้องหนีออกจากแดนทมิฬสินะ
         :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (4) [13/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 13-03-2017 14:55:20
ถ้าโคลด์เป็นแม่ไก่ ทั้งป๋าทั้งซิกคงอยากช่วยผลิตไข่
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (4) [13/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 13-03-2017 18:46:31
 :กอด1: :mew1: :mew2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (4) [13/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 13-03-2017 19:28:35
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (5) [14/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 13-03-2017 22:28:28
บทที่ 16 : เจรจา (5)

มาลแกธไล้นิ้วกับจะงอยปากของเฟียต ไล่ไปตามแผงคอและอกเล็กๆ

อุ่น...


โคลด์ยิ้มเหมือนใส่หน้ากาก “ข้าไม่ต้องแลกอะไรเลย นั่นทำให้เขายิ่งรักข้า”

ทว่ารอบๆ โรงนามีเสียงหล่นตุบร่วงลงพื้นเบาๆ ทีละเสียงสองเสียง เมื่อหันไปมองจึงเห็นนกพิราบที่เคยเกาะอยู่บนคานกับขอบหน้าต่างของโรงนานอนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่บนกองฟางสองสามตัว

“บิดาแห่งความตายเป็นผู้เลือกเอง ว่าท่านจะเอาอะไรไป แลกกับการให้คืนมา”

ซิกฟรีดอ้าปากน้อยๆ แต่ไม่มีคำเอ่ยใดลอดออกมายาวนาน คิ้วสีทองขมวดเข้าหากัน แววตาหลากความรู้สึก

“ฆ่าเฟียตอีกรอบ” โคลด์บอกมาลแกธ “แล้วเจ้าจะเข้าใจจอมทัพทมิฬมากขึ้น”

“ลองไหมเจ้าชาย” มาลแกธยิ้ม นิ้วยังเล่นกับเฟียต ให้มันจิกและไซ้

โคลด์รออย่างใจเย็น

“จะมีนกอีกหลายตัวตาย หรืออาจเป็นอย่างอื่นใช่ไหม” ซิกฟรีดถาม น้ำเสียงจริงจัง เป็นข้อแตกต่างระหว่างเอลฟ์รูเมเรียร์กับเอลฟ์ตะวันออก

“นั่นไม่สำคัญ ถ้าเทียบกับความลับของจอมทัพทมิฬ ราชาเอลฟ์ของข้า”

ซิกฟรีดจึงรับเฟียตมา เขาเอ่ยเป็นภาษาควาร์เพื่อปลอบให้มันสงบก่อน มือใหญ่ลูบนกน้อยด้วยสัมผัสอ่อนโยน เฟียตเคลิ้ม แม้ต่อมามันจะถูกหักคอก็ไม่รู้สึกตัว

โคลด์เอ่ยเวททมิฬอีกครั้ง ร่างของเฟียตลอยขึ้นจากมือของซิกฟรีด เลือดสีทองไหลจากฝ่ามือของโคลด์ในปริมาณที่มากกว่าเดิม

“บาดแผลที่ร่างกายได้รับ มีผลกับปริมาณการใช้โลหิต ยิ่งบาดเจ็บหนัก ยิ่งต้องพลีโลหิตมากขึ้น”

เมื่อไอสีทองไหลเข้าปากนกตัวเล็กอีกรอบ และสีทองละลายหายไปในเส้นเลือดของมัน มันก็กลับมามีชีวิตดังเดิม

คราวนี้เสียงหล่นตุบดังทั่วโรงนา

“ถ้าออกไปดูข้างนอกคงมีนกตายอีก การฟื้นชีวิตสิ่งเดิมเป็นครั้งที่สองจะใช้เครื่องสังเวยมากกว่าเดิม” โคลด์ยกแขนตั้งฉากกับพื้น ประสานฝ่ามือเข้าด้วยกันในท่าร่ายเวท เมื่อฝ่ามือลูบผ่านกัน บาดแผลบนนั้นก็หายสนิท

“กองทัพกระดูกไร้พ่าย กับจอมทัพที่ฟื้นได้ครั้งแล้วครั้งเล่า” มาลแกธรำพึง ริมฝีปากเหยียดออก “ใครได้เจ้าไปถือว่าได้ครองโลกแล้วครึ่งหนึ่ง”

“ใช่ แต่มีเงื่อนไขสามข้อ หนึ่ง สิ่งนั้นต้องมีร่างกายที่เพิ่งตาย สอง ข้ามีโลหิตเพื่อพลี สาม บิดาแห่งความตายได้เครื่องสังเวยที่ท่านเลือก สามข้อนี้ทดสอบมาแล้วนับร้อยครั้ง โดยบิดาบุญธรรมของข้า”

“ถ้าเจ้าตาย เกวนโดลินจะคืนชีวิตให้เจ้าได้หรือไม่” มาลแกธถามต่อ

โคลด์ยิ้ม “ข้ายังไม่เคยลองตาย เกวนมีพลังอีกแบบหนึ่ง ถ้าข้าตาย นางคืนชีวิตให้ข้าไม่ได้”

เมื่อได้ยิน ใจส่วนที่อ่อนไหวของซิกฟรีดแทบพังทลาย ส่วนใจด้านที่เต็มไปด้วยโทสะก็กระตุ้นให้อยากฆ่าจอมทัพทมิฬ

ค่อยๆ รีดเลือดออกจากตัวมัน ให้มันมองบิดาแห่งความตายเคลื่อนพระองค์มาอย่างเชื่องช้า...อาเลธ

“นี่คือเหตุผลที่ข้าตีสองหน้า ปิดบังตัวเองจากทุกอย่างในโลก แต่ข้าไม่ได้บอกเพื่อขอให้พวกเจ้าเข้าใจหรือยกโทษ ข้าบอกเพราะคิดว่า...ถึงเวลาต้องบอกความจริงส่วนของข้าแล้ว”

ช่วงที่โคลด์หยุดพูดไปครู่หนึ่ง ในใจเขาเกิดความรู้สึกอ่อนไหว อาจเป็น ‘รัก’ ‘ชอบ’ ‘ไว้ใจ’ ‘เสียใจ’ ‘น้อยใจ’ ‘โกรธ’ หรือเรียกรวมทั้งหมดว่า ‘ความผูกพันอันซับซ้อน’ ก็ได้ ทว่าเขาไม่สามารถเอ่ยความรู้สึกที่กระทั่งตัวเองยังไม่ทราบชัดเจน จึงเลือกพูดสิ่งที่ชัดเจน

ซิกฟรีดกอดโคลด์ กดศีรษะแนบอกด้วยความหวงแหน เส้นเลือดสีดำบนใบหน้าซีกซ้ายเต้นตุบ

“ซิกฟรีด” โคลด์ดันตัวไว้ “ฟังให้จบก่อน นี่แค่เริ่มเรื่อง”

สายตาฆ่าคนได้ของซิกฟรีดสบกับโคลด์ เขายอมปล่อยแล้วฟัง ขณะมาลแกธเล่นกับเฟียต ให้มันส่งเสียงจิ๊บๆ ว่ากล่าว ที่จู่ๆ เขาส่งมันให้คนอื่น

“สมัยยังเป็นเจ้าชายองค์ที่สอง คิงริวอร์นอร์เคยชนะจอมทัพทมิฬครั้งหนึ่ง ตอนนั้นข่าวแพร่กระจายไปทุกดินแดนว่าจอมทัพทมิฬถูกสังหาร...” เส้นข้างลำคอของโคลด์แข็งเกร็ง “ทว่าต่อมา จอมทัพทมิฬกลับสู่สนามรบอีกครั้ง กลายเป็นว่า...ข่าวลือไม่เป็นความจริง”

“ไม่ต้องเดาเลยว่าความจริงเป็นอย่างไร” มาลแกธดูจะชอบละครซับซ้อนบทนี้

“เขาตายแล้วในตอนนั้น” โคลด์พริ้มตา “แต่เราเสียเขาไปไม่ได้” ดาร์กเอลฟ์หลับตา กำมือแน่น “ข้าเสียเขาไปไม่ได้ แผ่นดินของเราจะสิ้น เอลฟ์จะกินบ้านเกิดของเรา”

“พี่เฟรธูรินไม่มีวันแย่งแผ่นดินใคร” ซิกฟรีดแย้ง

โคลด์หัวเราะหึ “เจ้าไม่ได้เห็นริวอร์นอร์ต้อนเราเหมือนหมา ไล่ฆ่าเรา สั่งให้ทหารเอลฟ์ตัดหัวเราเสียบกับหอกของเราเอง ปักไว้กลางสนามรบทุกที่ที่มันผ่าน เจ้าอยู่แต่ในราชวังของเจ้า เจ้าชายน้อยซิกฟรีด”

ซิกฟรีดไม่อาจแย้งได้ พี่ริวอร์นอร์พิสูจน์ตนแล้วว่าโหดเหี้ยมเพียงใด

“ตอนนั้น บิดาแห่งความตายปรากฏกายต่อหน้าข้า ท่านเรียกเครื่องสังเวยเป็นกองทัพที่ภักดีต่อจอมทัพทมิฬหนึ่งพันคน และเอ่ยถามข้าว่าดาร์กเอลฟ์เหล่านั้นยินดีจะแลกชีวิตหรือไม่ ทั้งที่ปกติท่านไม่เคยถาม ไม่เคยมาปรากฏกาย ข้ายังเด็ก หวาดกลัวต่อการตัดสินใจ จึงหันไปถามเหล่าบุตรชายของจอมทัพทมิฬ คำตอบออกมารวดเร็วกว่าการหายใจเสียอีก”

มาลแกธส่งเสียงอา... “เขามีบุตรชายด้วยหรือ”

“มีมากมาย สายเลือดตรงทั้งสิ้น ไม่ใช่บุตรบุญธรรมอย่างข้า และเขาเป็นที่รักของเหล่าดาร์กเอลฟ์”

“เจ้าบอกความลับแก่ข้าทำไม” ซิกฟรีดถาม ก่อนหน้าโคลด์เกลียดเขาจะเป็นจะตาย เมื่อคืนเพิ่งปรับความเข้าใจกันได้ และวันนี้ก็เผยความลับ

“ข้ากำลังสะสางปัญหาด้วยความจริงใจอันมีค่ามหาศาล อย่างที่ข้าบอกในตอนแรก และ...” โคลด์ล้วงจดหมายฉบับหนึ่งออกมายื่นให้มาลแกธ “เกวนโดลินให้ข้ามาขอโทษเจ้า นางไว้ใจเจ้าขนาดให้ข้าบอกความจริง ว่าหากข้าฆ่าเจ้า ข้าก็คืนชีวิตให้เจ้าได้ ข้าจึงฆ่าเจ้าอย่างไม่ลังเล”

“ข้าอยากจูบเจ้าตอนนี้เลยที่รัก” มาลแกธยิ้มกว้าง

“กล้าก็จูบ” ดาร์กเอลฟ์ตอกหน้าเอลฟ์ตะวันออก เพราะทราบว่ามาลแกธย่อมไม่กล้าทำต่อหน้าซิกฟรีด

“กล้าก็ทำ” ราชาเอลฟ์กดสายตามองมาลแกธ

“ข้ารอทำมากกว่าจูบดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ ราชา”

โคลด์หลับตา ถอนหายใจคล้ายระอา

“จอมทัพทมิฬทราบหรือไม่ว่าเจ้าอยู่ที่รูเมเรียร์” ซิกฟรีดมองเมินความหยาบคายของมาลแกธ เขาเอ่ยถามเรื่องที่สำคัญกว่า

“ข้าไม่ทราบ แต่เขามีเข็มทิศคนตายไว้ตรวจจับพลังของข้า ตอนที่ข้าปลุกชีพอันเดดในสุสานวิหารร้าง เขาคงทราบแล้วว่าข้ายังไม่ตาย” โคลด์เล่าว่า หลังจากแยกทางกับมาลแกธ เขาเองนี่แหละที่ทำลายกำแพงเวทส่วนหนึ่งของสุสานเพื่อเปิดประตูสู่เส้นทางมังกร

“ครึกโครมขนาดนั้น เขาไม่ทราบก็ต้องทราบ” โคลด์สรุป

“ถ้าอย่างนั้นข่าวลือก็เป็นจริงส่วนหนึ่ง” ซิกฟรีดหลุบตา นึกถึงรายงานของขุนนางเกี่ยวกับข่าวใต้ดินที่ลือกันให้ทั่ว

จอมทัพทมิฬจะกลับมา

ในจดหมายของเกวนโดลิน เอ่ยขอบคุณและขอโทษมาลแกธ ถ้อยคำสุภาพจริงใจของนางอธิบายได้ว่าทำไมโคลด์จึงชะงักเมื่อมีเสียงนกและสัตว์อื่นๆ ร้องก้องป่า เพราะนั่นคือนาง ส่งเสียงห้ามน้องชาย

“แต่เจ้าก็แทงคอข้าอยู่ดี”

“ข้าแทงไปแล้ว นางจึงห้าม” โคลด์ไม่ยอมรับว่าเกวนห้ามเขาตั้งแต่แรก “ข้าปลุกชีพเจ้าได้ แค่เจ้าไม่ทราบ”

“ข้าซาบซึ้งที่เจ้าจะแลกชีวิตของสัตว์ในป่าเพื่อปลุกข้า” มาลแกธหัวเราะในลำคอ ไม่จริงจัง

“บิดาแห่งความตายมอบกลโกงความตายอันยุติธรรมเสมอ ชีวิตของสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันหรือใกล้เคียงกันเท่านั้นที่มักถูกนำมาแลก ข้าคิดว่า ในกรณีของเจ้า คงเป็นหน่วยกาลาฮานทั้งหน่วยมากกว่า” โคลด์แสยะยิ้ม

นี่สิที่ทำให้มาลแกธพูดต่อไม่ออก ทั้งยังเผยสีหน้าจริงจังออกมาวูบหนึ่ง

“ข้ายินดีแลก ที่รัก” เสียงหัวเราะของโคลด์ฟังสมเป็นเผ่าทมิฬเวลา ‘แก้แค้น’ ขึ้นมาแล้ว “ตอนนั้นข้านึกภาพเจ้าฟื้นขึ้นมา พบว่าลูกน้องของเจ้าตายหมดทั้งหน่วย แค่คิด เลือดข้าก็ระอุแล้ว”

ซิกฟรีดมองมาลแกธ ซึ่งนานทีจะหมดคำต่อปาก แล้วนึกสะใจอยู่ในที แม้ภายนอกจะนิ่งเช่นเดิม

“ถ้าเจ้าเศร้าใจจนฆ่าตัวตาย ข้าก็มีแผนจะปลุกเจ้าด้วยชีวิตของเอลฟ์แดนตะวันออก ข้าจะทำกี่ครั้งก็ได้ เจ้าเห็นแล้ว” โคลด์ยื่นหน้าท้าทายมาลแกธ นัยน์ตาสีม่วงคมกริบมีความบ้าคลั่งหมุนวนอยู่ภายใน

“เร้าใจดี คนงาม” มาลแกธโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้

“พอเถอะ” ซิกฟรีดแยกทั้งคู่ให้ออกห่างกัน เขาสัมผัสได้ถึง ‘บางอย่าง’ ที่ทำให้มาลแกธดึงดูดโคลด์ และโคลด์ดึงดูดมาลแกธ

ไม่ใช่ ‘ความใจดี’ ของมาลแกธอย่างที่โคลด์เอ่ยถึงบ่อยๆ ในอาศรมเสียด้วย

มันเป็นอะไรที่...อันตราย

โคลด์ถอยกลับมายืนตัวตรง “ในเรื่องเล่าของข้า ข้าไม่มีปัญหากับการปลุกชีพจอมทัพทมิฬ ข้ายินดีและเต็มใจ สิ่งที่ขาดไปคือ ทำไมข้ามาจบลงที่นี่ ต่อหน้าพวกเจ้าสองคน”

“เกวนโดลิน” ซิกฟรีดรำพึง

“ถูกต้อง นางพาข้าหนีมา เพราะไม่สามารถทนบิดาบุญธรรมได้ ต้องถามว่าอะไรที่ทำให้นางทนไม่ได้จนต้องพาข้าหนีมา ทั้งๆ ที่รู้ว่าเราจะโดนตามล่า หรืออาจต้องกลายเป็นทาสของเอลฟ์”


—————————————————————————

A/N ขิงก็รา ข่าก็แรง โคลด์กับมาลแกธ พอปะทะคารมกันก็ไม่มีใครยอมใครค่ะ

ถามว่าใครเป็นพระเอก อืม...พระเอกคือคนที่ตัวเอกรักอะนะ...

แต่ว่า ในโลกเรา บางครั้งรักเฉยๆ ก็ช่วยอะไรไม่ได้


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (5) [14/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 13-03-2017 22:50:05
ตอนนี้เรือป๋ามาแรงจริง
ซิกฟรีดต้องฝึกฝีพายให้แกร่งกว่านี้ซะแล้วว
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (5) [14/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 13-03-2017 23:45:01
"เมื่อได้ยิน ใจส่วนที่อ่อนไหวของซิกฟรีดแทบพังทลาย ส่วนใจด้านที่เต็มไปด้วยโทสะก็กระตุ้นให้อยากฆ่าจอมทัพทมิฬ

ค่อยๆ รีดเลือดออกจากตัวมัน ให้มันมองบิดาแห่งความตายเคลื่อนพระองค์มาอย่างเชื่องช้า...อาเลธ"

รู้เลยว่าซิกรักฮีมเดียร์มาก มากๆเลย แล้วก็เหี้ยมมากด้วยอาจเหี้ยมกว่าตัวฮีมเดียร์เองด้วยซ้ำ เชื่อว่าถ้าต้องสละชีวิตจริงๆอาเลธคนนี้คงจะไม่ลังเลเลยที่จะแลก

มันเจ็บปวดอ่ะยิ่งคิดยิ่งเรื่องราวซับซ้อนเปิดเผยออกมาเท่าไหร่ยิ่งเจ็บปวดกันทุกฝ่าย



แต่มาลแกธไม่ควรจะสมหวังในรักนะคนที่เอาความรักของคนอื่นมาต่อรองอ่ะควรจะต้องเจ็บปวด แค้นแทนไมเธียนมาก 555555


ปล. น้องโคลด์คนงามเป็นที่หมายปองของชายหนุ่ม ถ้าชีวิตลำบากมากก็ทิ้งสองหนุ่มนั่นมาหาป้ามาลูกมา ป้าจะเปย์หนูเอง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】 ภาค ♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ 【♰ BL High Fantasy ♰】
เริ่มหัวข้อโดย: rabiaang ที่ 13-03-2017 23:54:50
คุณ sirin_chadada @ เราอยากอ่านเอลฟ์นักรบหล่อล่ำกดนักฆ่าดาร์กเอลฟ์ค่ะ เลยเขียนเองเลย แหะๆๆ โดนรีเควสให้ดาร์กเอลฟ์แก่กว่าด้วย U_U /ขอบคุณที่มาเปิดซิงคอมเมนต์แรกของเราในบอร์ดเล้านะคะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ!

เป็นแนวที่อยากอ่านเลยค่ะ  :sad4: :sad4:

จะติดตามไปเรื่อยๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ พึ่งตามมาอ่าน

ฮือ รักคเะแก่ :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (5) [14/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 14-03-2017 00:59:48
ตายๆๆ ควาลับเยอะกันจิงๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (5) [14/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-03-2017 08:37:34
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (5) [14/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 14-03-2017 12:33:13
พลังของโคลด์แหล่มดีแต๊  นึกภาพซิกกอดโคลด์ ส่วนอิป๋าเล่นกับ.. นก  :laugh:
ว่าแต่อะไรทำให้เกวนๆทนไม่ไหวจนต้องพากันหนีออกมานะ
ปล.แซวเล่นนะป๋าาาาา 555555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (5) [14/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 14-03-2017 16:56:02
พระเอกคือคนที่ตัวเอกรัก?

โคลด์รักซิก = ซิกเป็นพระเอก
มาลแกธรักโคลด์ = โคลด์เป็นพระเอก
ซิกรักโคลด์ = โคลด์เป็นพระเอก

สรุป คะแนน สอง ต่อ หนึ่ง = โคลด์จะได้กดซิก

เย้!

ผลสรุปจากอาการหน่วงจนสติพัง.... :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (5) [14/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-03-2017 18:02:17
น่ากลัวจริงๆ พลังของโคลด์
ทำไมเกวน ต้องพาโคลด์หนี
จอมทัพทมิฬ จะต้องอยากให้โคลด์ติดอยู่กับพระองค์
ด้วยวิธีไหนล่ะ แต่งตั้งให้เกวนเป็นสนม
หรือแต่งตั้งโคลด์ เป็นปุโรหิต
หรือแต่งตั้งโคลด์เป็นชายาซะเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (5) [14/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 14-03-2017 18:44:17
รอการเฉลยความลับตอนต่อไป แบบว่า  :katai1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (4) [13/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: bluecoco ที่ 14-03-2017 19:48:17
เป็นนิยายแฟนตาซี ที่สนุกมากกกก
ทั้งลุ้นทั้งเจ็บปวดและสวยงาม
โอ๊ยยยยยมันดีมาก อ่านรวดเดียวเลย
วางไม่ลงเลยค่ะ
เป็นกำลังใจใหคุณนักเขียนเน้อ

รักเรื่องนี้
 o13
 
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (6) [15/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-03-2017 22:36:29
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (6) [15/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 14-03-2017 23:35:16
บทที่ 16 : เจรจา (6)

“เขาทรมานเจ้าหรือ” มาลแกธเสริม “แต่คงเป็นการทรมานที่ ‘ใจดี’ ขนาดที่เจ้าไม่รู้ตัว”

โคลด์ส่ายหน้า “เขาเลี้ยงดูพวกเราอย่างดี เพียงแต่ว่า...”

ซิกฟรีดรอให้โคลด์เล่าต่อเอง เนื่องจากดาร์กเอลฟ์ดูทรมานใจ มันอาจเป็นเรื่องที่ไม่น่าพูดถึง เรื่องที่ควรถูกฝังลืม

โคลด์ไม่ทราบจะวางสายตาไว้ตรงไหน

“เขาฆ่าล้างเผ่าจันทร์เพื่อชิงตัวพวกเราสองพี่น้องผู้สืบสายเลือดหัวหน้าเผ่า เขาเลือกเราเพราะพรสวรรค์แรงที่สุด ยังเด็กและควบคุมง่าย เผ่าจันทร์เป็นเผ่าเล็กๆ ที่สมรสกันเฉพาะคนในเผ่าเพื่อรักษาสายเลือดให้บริสุทธิ์ ในเมื่อเหลือแค่สองคน ถ้าเขาอยากได้เครื่องมือที่มีพรสวรรค์อีก เจ้าคิดว่าเขาวางแผนชีวิตเกวนกับข้าไว้อย่างไรล่ะ”

“ฟังดูคล้ายกับล็องธูนิดๆ” ใช่ว่ามาลแกธใจดำต่อชะตากรรมทั้งหมดของโคลด์ สตาร์ ทว่าเขาพบเจอเรื่องหนักหนามาตลอดชีวิต เขามีวิธีรับมือซึ่งต่างไปจากซิกฟรีด

ราชาเอลฟ์ผู้เผชิญโลกมาเพียงยี่สิบสองปี เมื่อได้ฟังเรื่องเล่าทารุณผิดจารีตประเพณีของเอลฟ์แดนกลาง ความโกรธ ความไม่เข้าใจก็ปะทุขึ้นมาเหมือนลาวาเดือด

“ตอนนั้นข้าอายุสิบสองปี ข้ารักเกวน ข้าไม่มีปัญหาหากต้องสมรสกับนาง แต่เกวนบอกว่านั่นไม่ใช่ความรักที่แท้ ชีวิตสมควรเป็นของเรา ทั้งสิ่งที่เราอยากทำ คนที่เราอยากรัก ทางที่เราอยากเลือก ข้าและนางสมควรได้มีสิทธิเลือก”

โคลด์มองซิกฟรีด แล้วเบือนสายตาไปทางมาลแกธ

“ข้าเข้าใจเกวนแล้ว...ในตอนนี้”

และข้าเข้าใจเจ้าแล้วในตอนนี้...ซิกฟรีดสูดลมหายใจ เขาเคยอดทนรอเวลาที่เหมาะสม แต่นั่นเพียงสี่ปี จากอายุสิบห้าถึงสิบเก้าปี แต่โคลด์ สตาร์อดทนรอเวลาถึงสิบสามปี ตั้งแต่อายุสิบสองซึ่งพบเขาครั้งแรก จนอายุยี่สิบห้าซึ่งได้กลับมาพบกันใหม่

และการอดทนรอนั้นก็ยังไม่สิ้นสุด

“อีกข้อ แม้เผ่าจันทร์เป็นเผ่าเล็กๆ ไม่มีกำลังสู้รบกับใคร ซ้ำยังมีพรสวรรค์วิเศษ แต่ก็ไม่เคยมีใครมารุกรานบังคับเอาไปใช้ประโยชน์เช่นจอมทัพทมิฬ ที่ไม่มีใครรุกรานเรานั้นย่อมมีเหตุผลอยู่--”

“ก่อนเจ้าจะเล่าต่อ” มาลแกธยกนิ้วขัด “จอมทัพทมิฬทำให้เจ้า ‘เชื่อง’ ได้อย่างไร เจ้ารู้ว่าเขาฆ่าครอบครัวเจ้าตอนอายุเท่าไหร่ อา...เจ้าคงเด็กมาก ยังเล็ก จนแยกไม่ออกว่าสิ่งไหนคือเมตตา สิ่งไหนคือไร้ศีลธรรม”

เป็นเรื่องน่าขันที่คำว่า ‘ศีลธรรม’ หลุดจากปากเอลฟ์ตะวันออก บางที...เขาอาจเป็นห่วงโคลด์มากกว่าท่าทางที่แสดงออก

“เจ็ดขวบปี ข้าโตพอจะไปวิ่งเล่นในป่าและจำเรื่องมาเล่าให้เจ้าฟัง แต่คงไม่โตพอจะไม่รักเขา หรือรู้ทันเขาเท่าเกวน”

มาลแกธพยักหน้า “ใจชั่วดีจริง” เขาชม

“ถ้าเป็นเจ้า เจ้าจะทำแบบเขาไหมเล่า มาลแกธ” โคลด์ถามอย่างไม่ได้ประชดประชัน “ข้าคิดว่าเจ้าทำได้เฉกกัน เหมือนที่เจ้าแปรพักตร์จากริวอร์นอร์มาหาซิกฟรีดเพราะเจ้าชายเอลฟ์อายุสิบห้าควบคุมง่ายกว่าราชาเอลฟ์ใจอำมหิต”

จากเรื่องที่ซิกฟรีดเล่า โคลด์ได้ทราบเบื้องหลังของมาลแกธดีขึ้น

อื้อฮือ...
มาลแกธหัวเราะกับความตรงของโคลด์ เขาไม่ปฏิเสธ

ซิกฟรีดก็ไม่ปฏิเสธ

ในตอนนั้นเขายังหน้ามืดตามัวกับความโกรธและใจร้อน อ่อนประสบการณ์จนถูกชักจูงได้ง่ายจริงๆ

“ไม่ต้องเสียเวลากับบาดแผลในอดีตหรอก สาเหตุที่เผ่าของข้าไม่เคยถูกรุกราน เพราะพวกเราได้รับเกียรติดั่งบุตรสายตรงของเทพีจันทร์ เราเป็นกลาง ไม่ใช้พรสวรรค์เอื้อประโยชน์แก่เผ่าใดเผ่าหนึ่ง แต่ช่วยเหลือทุกเผ่าอย่างเท่าเทียมกันเท่าที่จะช่วยได้...อย่างน้อยบิดาที่แท้จริงของข้าก็ยึดมั่นธรรมเนียมนั้น”

ฐานะเช่นนี้ เทียบได้กับราชวงศ์รูเมเรียร์หรือตระกูลใหญ่อย่างล็องธูเลยไม่ใช่หรือ

“ข้ามาจากดินแดนที่นึกถึงประโยชน์จากสงครามตลอดเวลา ขออภัยที่ข้านึกภาพไม่ออก” มาลแกธเอ่ยจากใจจริง

“เกวนอยู่ในเผ่าที่อารีเช่นนั้นมานานกว่าข้า นางจึงใจดีกว่า” โคลด์หลุบตา “เป็นที่รู้กันในส่วนลึกของแดนทมิฬ หากใครแตะต้องเผ่าจันทร์ จะโดนเทพีจันทร์สาป เผ่าของมันจะล่มสลาย ไร้บุตรและธิดา เป็นตำนานปรัมปรา ทว่ามีผู้เคยพิสูจน์มาแล้ว”

โคลด์เอ่ยชื่อเผ่าทมิฬเก่าแก่โบราณเผ่าหนึ่ง ซึ่งถูกบันทึกว่ายิ่งใหญ่เกรียงไกรในเวลานั้น ทว่าหลังจากช่วงเวลารุ่งโรจน์ดุจพายุเพลิงผลาญแผ่นดิน เผ่าทมิฬเผ่านั้นก็หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์

“สาป? ที่ว่าเป็นเผ่าอารี ก็ไม่ค่อยอารีเท่าไหร่แล้ว” มาลแกธให้ความเห็น ส่วนซิกฟรีดยังเป็นผู้ฟังที่ดี

“เราอารีเมื่อได้รับความอารี”

“ไม่ต่างจากทูตถือดาบ”

“เราไม่ได้เป็นคนสาป” โคลด์ไม่ได้กำลังแก้ตัว “สาเหตุที่เรามีพรสวรรค์และเป็นที่รักของเทพีจันทร์นั้นมีตำนานมากมาย บางเรื่องก็เกินความตระหนักรู้ของเรา ที่พวกเจ้าควรตระหนักคือ จอมทัพทมิฬทราบความจริงข้อนั้น แต่ยังกล้ารุกรานเผ่าจันทร์ เขาไม่เกรงคำสาป ไม่เกรงความพิโรธของเทพีจันทร์ และเขาจะเป็นคู่มือแก่รูเมเรียร์และแดนตะวันออก”

“ข้าไม่ถือว่าจอมทัพทมิฬเป็นคู่มือที่รัก” มาลแกธให้เมล็ดพืชกับเฟียต

“รูเมเรียร์จะรบเมื่อจำเป็นต้องรบ” ซิกฟรีดเอ่ยเยือกเย็น “เจ้าเกลียดชังเอลฟ์ แต่เป็นบิดาบุญธรรมของเจ้าที่รุกรานเข้ามายังรูเมเรียร์ ปัญหาอยู่ที่ใด โคลด์ สตาร์”

โคลด์ชี้ไปที่มาลแกธก่อน “ถ้าเจ้าไม่ถือว่าจอมทัพทมิฬเป็นคู่มือ เจ้าคงไม่มีปัญหาหากต้องยื่นข้าให้แก่เขาเพื่อผลประโยชน์ของเจ้า ข้าจึงชั่งใจที่จะอยู่ใกล้เจ้า และไม่บังอาจเอาตัวเองขึ้นไปอยู่เหนือผลประโยชน์ของตระกูลล็องธู” เขาหันไปหาซิกฟรีดต่อ “เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องรบ เจ้าปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับข้าได้ ต่อให้เขาอยากได้ข้าคืนไปแค่ไหน ข้าก็แค่หนีไปให้ไกลกว่าเดิม ไม่มีข้า เขาก็ยังต้องคุมเชิงกับรูเมเรียร์อยู่”

โคลด์มีทางเลือกให้ตัวเองแต่แรกแล้ว

มาลแกธถึงกับถอนหายใจ “เจ้าคิดเอาเองอีกแล้ว ข้าบอกว่าจอมทัพทมิฬไม่ใช่คู่มือเพราะข้าไม่เกรงกลัว แต่ถึงอย่างไรข้าก็ไม่อยากให้เจ้ากลับไปอยู่กับจอมทัพใจดำสมชื่อ เว้นเสียแต่เจ้าเลือกเอง” เอลฟ์ตะวันออกปล่อยให้เฟียตบินเล่นอย่างอิสระ “ซึ่งข้าไม่คิดว่าเกวนโดลินจะยอม และหากนางไม่ยอม เจ้าก็จะไม่ไป”

โคลด์จ้องมาลแกธอย่างดุร้าย เพราะมาลแกธจี้ใจดำของเขา “ข้ามาเป็นแอสซาสซินรับจ้างเพราะอะไรรู้ไหม เพราะข้าเลือกได้เองว่าจะฆ่าใคร ไม่ต้อง ‘โดนสั่ง’ โดยคนสั่งทำทีเป็นว่า ‘ให้เลือก’ ว่าอยากฆ่าใคร”

มาลแกธพยักหน้า “เจ้าก็ทำได้ดี”

โคลด์ไม่ตอบมาลแกธ เขาโกรธ ใช่ว่าเขาไม่เข้าใจมาลแกธ แต่เพราะเข้าใจดีแล้วต่างหากว่ามาลแกธเป็นคนอย่างไร จึงโกรธตัวเองที่เผลอมีใจให้เอลฟ์ตะวันออก

ก่อนที่ทั้งสองจะกระโจนเข้าหากัน ซิกฟรีดก็อธิบายส่วนของตัวเองบ้าง

“ข้าไม่ได้หมายถึงสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น ข้าหมายถึงต้นตอของสงคราม เจ้าไม่คิดหรือ...ว่ามันผิดประหลาดที่จะเกลียดชังเผ่าพันธุ์ที่เจ้ารุกรานก่อน”

ซิกฟรีดเอ่ยเสริมว่าสิ่งที่เขาต้องการพูดจริงๆ คือ…

“เจ้าควรเกลียดชังใครกันแน่”

“ข้าไม่สน เราเกลียดกันมานานแล้วตั้งแต่ก่อนข้าหรือเจ้าจะเกิด ข้าแค่อยากหนีไปให้ไกลๆ ข้าไม่สนหรอกว่าใครจะพินาศ ใครจะยิ่งใหญ่ มันเป็นสงครามของพวกเจ้า ความทะเยอทะยานของพวกเจ้า ‘รูเมเรียร์’ ‘ล็องธู’ ‘จอมทัพทมิฬ’ ข้าแค่กำจัดคนที่มาขวางทางข้า!”

โคลด์นี่เอง คือตัวแทนของดาร์กเอลฟ์ที่เหนื่อยล้าจากสงคราม เผ่าของเขาถูกทำลายเพราะจอมทัพทมิฬต้องการพรสวรรค์ของเขามากำชัยในสงคราม เขา--ฮีมเดียร์จึงเกิดมาดั่งนรกสาป ตัวกาลกิณีที่สร้างความพินาศให้แก่เผ่า

การแก้แค้นยากเกินไปสำหรับเด็กอายุเจ็ดขวบ วัยที่ยังแทบไม่เข้าใจโลก และเวลานี้ที่โตเป็นผู้ใหญ่ การปล่อยวางยอมรับชะตากรรมที่บิดาบุญธรรมหยิบยื่นให้ก็ทำไม่ได้ เพราะโคลด์เข้าใจแล้วว่าการได้มีชีวิตที่ตนเลือกเองสำคัญอย่างไร พี่สาวคนเดียวที่รักเขาสุดหัวใจก็พยายามเพื่อเขามากมาย

โคลด์จึงทำได้แค่พากวินีเวียร์หรือเกวนโดลินหนีไปให้ไกล

“ข้าถลำลงมาลึกกว่าจะปีนกลับขึ้นไปแล้ว” น้ำเสียงของซิกฟรีดเรียบเฉย แม้จะมีคำสาปคอยกระตุ้นอารมณ์ด้านลบ โดยเฉพาะอารมณ์โกรธ แต่ในภาพรวมราชาหนุ่มใจเย็นขึ้น เขาจำบทเรียนเมื่อครั้งอายุสิบห้าขวบปีได้แม่นยำ

ผู้ที่โกรธง่ายย่อมถูกชักจูงง่าย

ผู้ที่โกรธง่ายคือคนโง่

ซิกฟรีดจึงมักพิจารณาอารมณ์ของตัวเองโดยละเอียด ว่ามันเป็นอารมณ์ของตัวเอง หรืออารมณ์อันเกิดจากคำสาป หรืออาจเป็นทั้งสองสิ่งผสมรวมกัน ถึงจะยังทำได้ไม่ดีนักก็ตามที

“แต่สำหรับเจ้าที่ยังมีโอกาสกางปีกบิน หากเจ้ายอม ข้าจะช่วยให้เจ้าได้ในสิ่งที่ต้องการ...”

“อย่าเพิ่งใจร้อน” โคลด์ขอจดหมายของเกวนโดลินจากมาลแกธ “อย่าอ่านตรงเรื่องส่วนตัวของข้า” เขาดุ จากนั้นก็พับจดหมาย ให้ซิกฟรีดดูบางส่วน “นางถูกมังกรจับตัวไปจริง”


—————————————————————————

A/N เห็นฟังเฉยๆ แบบนี้ คุณ FOUL SOUL บอกว่ามาลแกธเป็นห่วงโคลด์นะคะ

แต่เขามีวิธีแสดงความเป็นห่วงที่ต่างจากซิกฟรีด


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (6) [15/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 14-03-2017 23:44:33
สู้ๆกันเด้ออ สงคราม 4 เหล่าทัพ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (6) [15/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 15-03-2017 08:46:03
อิสระในชีวิต ในหัวใจ

ไอ้จอมทัพตาตุ่มหมาพรากมันจากคนอื่น ๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (6) [15/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 15-03-2017 15:10:27
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (6) [15/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-03-2017 17:58:09
เข้มข้น เร้าใจ  :katai2-1:
ราชาทมิฬ ไม่กลัวคำสาป
งั้นทั้งเกวนทั้งโคลด์ ร่วมกันสาปซะเลย
เผ่าทมิฬที่วุ่นวาย ทำลายเผ่าจันทร์
จะได้พินาศไปเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (6) [15/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 15-03-2017 19:05:06
 :L2: :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (6) [15/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-03-2017 20:31:30
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (6) [15/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 15-03-2017 21:22:09
 :impress:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 15-03-2017 23:18:19
บทที่ 16 : เจรจา (7)

โคลด์ยอมบอกว่าสงสัยเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยอยู่ที่อาศรม เกวนโดลินมาหาเขาด้วยนกสีขาว แต่ทำอย่างไรนางก็ไม่ยอมบอกว่าเป็นทาส

“ข้าต้องไปตามหานาง เมื่อได้อิสระมาแล้วข้าจึงเริ่มสืบด้วยตัวเอง”

ถึงตรงนี้ ซิกฟรีดเข้าใจแล้วว่าคำบอกลาในคืนแยกทางของโคลด์ปะปนไว้ด้วยความจริงความลวงใดบ้าง

“ข้าคิดว่าตนใกล้ถึงจุดหมาย แต่ความจริงได้แต่หลงทาง…” โคลด์พับจดหมายเก็บเข้าอกเสื้อ “ถ้าไม่ได้เกวน ข้าก็ตายในนั้นไปแล้ว”

“ถ้าข้ายังสามารถพูดอะไรให้เจ้าเชื่อได้บ้าง ข้าจะพูดในฐานะ ‘คนที่ผูกพันกัน’ ไม่ใช่ในฐานะราชา ข้าขออภัยที่เคยนึกใช้เกวนโดลินเป็นเครื่องต่อรองเพื่อให้เจ้ายอมอยู่กับข้า”

“ช่างเถอะ ข้าไม่ถือสาแล้ว” โคลด์กอดอก “เพราะเจ้าโง่”

ถูกดาร์กเอลฟ์ความรู้สึกช้าแถมบางทีก็ปัญญาทึบตอกใส่หน้าเฉกนี้ จากที่กำลังซาบซึ้งในสายสัมพันธ์ของพี่น้องดาร์กเอลฟ์ ซิกฟรีดก็ตวัดสายตาฉับ! ดุโคลด์โดยไร้เสียง

“ก็เจ้าโง่จริงๆ” โคลด์ย้ำ ใบหูตั้ง

มาลแกธกลั้นขำ ซิกฟรีดจึงเผื่อแผ่สายตาเย็นชามาทางเอลฟ์ตะวันออกด้วย

“เพื่อตอบแทนความลับอันมีค่าของเจ้า โคลด์ สตาร์” น้ำเสียงของซิกฟรีดทรงอำนาจอย่างที่ราชาควรเป็น “เราเสนอความช่วยเหลือ เจ้าสามารถเลือกกองทหารของเราได้ เพื่อนำไปช่วยเกวนโดลินจากปากมังกร”

“ไม่จำเป็น เรื่องของข้า ข้าจัดการได้เอง” โคลด์ไม่รับน้ำใจนั้น ทว่าเขามองแผลบนใบหน้าซีกซ้ายของซิกฟรีดอยู่นาน “แต่ข้าจะรับผิดชอบเรื่องยารักษาคำสาปของเจ้า เพราะข้าเองก็ผิดที่แก้แค้นเจ้าโดยรู้เรื่องเพียงส่วนเล็กๆ”

ถึงตรงนี้ โคลด์ปรายตาไปทางมาลแกธ ทราบว่าเอลฟ์ตะวันออกรู้ทุกอย่างดีกว่าเขา แต่เก็บงำบางเรื่องไว้เพื่อประโยชน์ส่วนตน มาลแกธอาจรักเขา แต่ก็รักตัวเองด้วยเช่นกัน

“ถ้าข้าอยู่แล้วอาการของเจ้าทรงตัว ข้าก็จะอยู่ เราไม่ต้องการราชาที่เป็นบ้า เมื่อรักษาคำสาปได้ ค่อยว่ากันอีกที”

“ความใจดีของเจ้า...อาจทำให้ข้าเป็นบ้าได้มากกว่าคำสาปเสียอีก” ซิกฟรีดเอ่ยเสียงเบา

คราวนี้ โคลด์เป็นฝ่ายส่งสายตาดุบ้าง

“อย่าเรื่องมาก เอลฟ์!” การขึ้นเสียงนั้นดูไม่น่ากลัวเลย

“เขาแค่รำพึงตามประสา” มาลแกธเหยียดแขนขา “ราชาเป็นใบ้มานาน ให้รำพึงรำพันบ้างคงหายเก็บกด อ้าว ทำไมจ้องข้าอย่างนั้นกันเล่า”

“ข้ายังเข้าเมืองได้ไหม” โคลด์ทำเมินมาลแกธ “หรือมีป้ายประกาศจับข้าไปทั่วแล้ว” โคลด์ได้กินอะไรตามมีตามเกิดที่ซิกฟรีดพอหาให้ได้ แต่เขาต้องการอาหารมื้อจริงๆ และที่พักดีๆ

“มีประกาศจับทุกหัวมุมถนน” ซิกฟรีดตอบตามตรง “แต่ข้ามีวิธีจัดการอยู่”

“อย่างไรล่ะ”

“เจ้าเพิ่งตัดสินใจมอบความลับให้ข้า มันล้ำค่ายิ่งกว่าขุนนางทั้งราชสำนัก ไม่...ข้าจะไม่เผยให้พวกมันทราบ เพียงแต่ใช้สิ่งนี้ปิดปากพวกมัน และใช้อำนาจของราชา...จัดการในแบบที่ข้าไม่ค่อยได้ใช้”

ซิกฟรีดเป็นราชาที่ปกครองอย่างไม่เผด็จการเท่าริวอร์นอร์

“เรื่องการเมือง” โคลด์สรุป “แล้วนักฆ่าที่มาฆ่าข้าในค่ายของมาลแกธล่ะ” โคลด์แกล้งหยิบบีฟอร์ซขึ้นมาดูความคม “ข้าฆ่าทิ้งได้เลยใช่ไหมถ้ามันมาอีก แต่นั่นไม่ได้ค่าจ้างสักควินน์”

ซิกฟรีดตอบว่า “เจ้าได้รับความคุ้มครองจากข้า หากใครประสงค์ร้าย...มันคงถึงฆาตแล้ว”

แปลอย่างง่ายว่า ได้ เจ้าจัดการได้ตามใจชอบ

“ได้ แล้วข้าจะส่งบิลเก็บเงินค่าจ้างไปให้เจ้า” โคลด์แสยะยิ้มโดยไม่เกรงใจราชา เพราะคนที่ส่งนักฆ่ามา คือคนที่ควรเกลียดเขาและไม่เกรงซิกฟรีด

ซึ่งเดาไม่ยากว่าเป็น ‘นาง’

“แต่ระหว่างนี้ข้าไม่มีเงิน” โคลด์แบมือ “ส่งของมีค่าของเจ้ามา ข้าหมดตัวแล้วตอนหนีเจ้า”

ความเขี้ยวลากดินระดับนี้ เทรนมาโดยอิลมาเร

มาลแกธพูดโดยไม่ออกเสียงว่า ‘ราชาโดนปล้นเจ้าข้า!’

“เจ้าปล้นราชาจะเป็นการเพิ่มค่าหัวสูงลิบเสียเปล่าๆ” ซิกฟรีดเสียงเข้ม “แต่ถ้าเจ้าปล้นหัวหน้าองครักษ์...อาจไม่มีค่าหัวเลย เพราะราชาถือว่าหัวหน้าองครักษ์ที่ไม่สามารถรักษาถุงทองของตัวเองได้ สมควรถูกไล่ออก”

มาลแกธห่อปาก ตาโต “อู…”

ทว่าเอลฟ์ตะวันออกกลับปลดทรัพย์ให้โคลด์ด้วยตัวเอง

“แต่ถ้าให้โดยสิเน่หาแบบที่ ‘คนรักให้คนรัก’ ละก็ คงไม่มีปัญหากระมังองค์ราชา”

“ไม่” ซิกฟรีดหรี่ตา

เล่ห์เหลี่ยมของราชาหนุ่มยังไม่ทันเอลฟ์ตะวันออกอายุ 279 ปีจริงๆ

“ขอบใจ” โคลด์ยิ้มขำ เขารับถุงทองหนักอึ้งมาโดยไม่อิดออด “แต่ข้าจะเอาเสื้อคลุมของเจ้าอยู่แล้ว พอดีเลย ไหนๆ ก็จะให้โดยสิเน่หา ถอดออกมา” โคลด์ต้องการฮู้ดเพื่อซ่อนใบหน้า

“เสื้อคลุมตัวนี้มีค่าควรเมืองเลยนะที่รัก” มาลแกธขยิบตา “ถือว่าหมั้นไว้ก่อนก็แล้วกัน” มันเป็นเสื้อคลุมติดฮู้ดที่ทอจากไหมหลากสีนั่นเอง

โคลด์รับเสื้อคลุมมาสวม เขาได้กลิ่นของมาลแกธ ความอบอุ่นจากร่างกายของอีกฝ่ายยังติดอยู่ในเนื้อผ้า “เสื้อคลุมดี” ดาร์กเอลฟ์เอ่ยชมจากใจ “แต่ข้ายังต้องการเข็มขัด มีดสั้น สร้อยคอ ตุ้มหูของเจ้า แล้วก็…”

โคลด์ยังชี้เอาของอีกหลายอย่างจากตัวมาลแกธ

แล้วหัวหน้าองครักษ์ก็โดนปลดทรัพย์แทนราชาจริงๆ

ซิกฟรีดพยายามกลั้นยิ้ม พอกลั้นไม่ได้ก็กระแอม แล้วพูดกับโคลด์แบบรักษาสีหน้าให้นิ่งที่สุด

“ถ้าเจ้าไปที่โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง แล้วอ้างชื่อ ‘โลราธ’ เขาจะดูแลเจ้าอย่างดี” ซิกฟรีดคุยกับโคลด์แทน “ไม่ใช่โรงเตี๊ยมที่หรูหรานัก แต่อยู่สบาย ห่างจากสายตาผู้คน”

“โรงเตี๊ยมชื่อประหลาดดีนะ”

“สมกับเจ้าของมันนั่นละ” ซิกฟรีดเอ่ย

โคลด์มองเอลฟ์ทั้งสองนิ่งและนาน “ข้าดีใจ” เขายิ้มจนตาหยี เหมือนรอยยิ้มในสมัยยังอยู่ที่อาศรมควาร์ “ที่พวกเจ้าทราบความจริงแล้วยังไม่คิดใช้ประโยชน์จากข้า”

ทว่ารอยยิ้มนั้นหายไปอย่างรวดเร็ว โคลด์ลืมตา สายตาคมราวใบมีดจ้องมา “ไม่...ในตอนนี้ แต่ข้ายังอยากดีใจอยู่ โปรดเมตตา”

เขาคลุมฮู้ดที่ทอด้วยไหมสีสันสดใสของมาลแกธ แล้วเดินออกจากโรงนา

-----------------------------------------------

“ท่านทาราเธียล” มอร์นเพนที่คุมเชิงอยู่ด้านนอกโรงนาเรียกเจ้านาย “เราแอบตามมาดูแค่นี้ก็พอแล้วกระมัง หากท่านลุงของท่านทราบ…”

ทั้งสองอยู่ห่างออกมาราวร้อยเมตร ไม่ทราบความเป็นไปในโรงนา แต่เมื่อเห็นคนสวมเสื้อคลุมของมาลแกธเดินออกมาโดยไม่มีการต่อสู้ ก็ทราบว่าการพูดคุยคงจบลงด้วยดี

“ถ้าทราบแล้วอย่างไร” ทาราเธียลไม่ยี่หระ

“ดาร์กเอลฟ์ได้เสื้อคลุมที่ถักจากเปียสงครามของท่านมาลแกธ คงสำคัญทีเดียว” นักฆ่าชุดดำที่ใส่หน้ากากปิดทั้งใบหน้าแสดงความเห็น มันย่อมจำดาร์กเอลฟ์ผู้นี้ได้--เจ้าเด็กน่าสงสารที่ล้างมือไปร้องไห้ไปอยู่ริมลำธารในป่าศักดิ์สิทธิ์เดียดีอาร์เมื่อสามปีก่อน

“ไม่น่าเชื่อว่ารสนิยมของท่านลุงจะเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้” ทาราเธียลเหมือนพูดคนละเรื่องกับข้ารับใช้ นักรบหนุ่มยังงงไม่หาย

เปียสงครามคือจิตวิญญาณนักรบตะวันออกเชียวนะ!

ครั้งที่ทาราเธียลแฝงตัวมาเป็นหนึ่งในคณะทูต เพื่อส่งข่าวความเป็นไปในราชสำนักของคิงริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์ให้มาลแกธ—ผู้มีศักดิ์เป็นลุง—ซึ่งรับหน้าที่แฝงตัวในอาศรมควาร์ ก่อนเดินทาง เขาได้รับคำสั่งจากท่านลุงให้แกะเปียสงครามออกทั้งหมด

เปียสงครามของชาวรูเมเรียร์แตกต่างจากชาวตะวันออก

สำหรับชาวรูเมเรียร์ ในตอนเช้าก่อนออกรบ ฝ่ายชายจะให้หญิงคนรักถักเปียเก็บผมด้านหน้าให้ ซึ่งหากมีชัยเหนือศัตรู ก็จะได้รับเครื่องประดับยศจากราชา สำหรับนำมาถักกับเปียเพื่อแสดงถึงเกียรติยศและความกล้าหาญ

เปียของชายชาวรูเมเรียร์ที่ติดเครื่องประดับยศจึงจะได้ชื่อว่าเป็น ‘เปียสงคราม’

แต่กับชาวตะวันออก หากมีชัยเหนือตระกูลใด หรือได้สังหารชนชั้นสูงในตระกูลอื่น นักรบจะนำเส้นผมของศัตรูมาถักเข้ากับเปียของตัวเอง ยิ่งหลากสี ยิ่งแสดงถึงความเกรียงไกร

‘เปียสงคราม’ ของมาลแกธ ล็องธูมีเส้นผมของตระกูลจากฝั่งตะวันออกครบทุกสี

และในสมัยก่อนก็เคยถัก ‘ของที่ระลึก’ จากดินแดนอื่นๆ ด้วย

แม้เปียของทาราเธียลจะมีสีสันไม่มาก แต่ถูกสั่งให้ถอด ‘จิตวิญญาณนักรบตะวันออก’ ก็เกิดอาการหงุดหงิดอยู่เหมือนกัน

แล้วนี่ท่านลุงถึงกับมอบเปียสงครามให้ดาร์กเอลฟ์…

ไม่ใช่ ‘คงสำคัญ’ อย่างที่มอร์นเพนว่าแล้ว

แต่ ‘สำคัญมาก’ ทีเดียว

“ไม่เคยนึกเลยว่าท่านลุงจะหลงดาร์กเอลฟ์”

มอร์นเพนมองเจ้านาย เอ่ยเสียงเรียบ “นายน้อย ดังที่ข้าเคยบอกไปแล้วว่า ตระกูลล็องธูอาจมีปัญหาทางสายตา”

ทาราเธียลจึงหันมายังข้ารับใช้ ดวงตาสีแดงใสเหมือนทับทิมจับจ้องที่หน้ากากของมอร์นเพน เขาหัวเราะ รอยแผลเป็นที่พาดจากมุมปากซ้ายไปถึงแก้มดึงรั้งขึ้น แต่แทนที่จะทำลายรูปโฉม รอยแผลเป็นนั้นกลับทำให้เอลฟ์ตะวันออกมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ

“เจ้าสวย ข้ายืนยันคำเดิม”

ข้ารับใช้ผู้เป็นทั้งคู่หูและองครักษ์เงียบไปนาน มันไม่ตอบรับคำชม เพียงฉุดนายน้อยให้ลุกขึ้น รีบไปก่อนที่ท่านมาลแกธจะออกมา


—————————————————————————

A/N โอย ตอนนี้โคลด์เขี้ยวจริงค่ะ กะจะปอกลอกสองหนุ่มจนหมดตัว

/ฝีมือการเทรนของข้าเองเจ้าค่ะ อิลมาเรบอก XD

แล้วทาราเธียล มาชมพี่เลี้ยงอะไรตอนนี้ ว้ายๆๆ (/มอร์นเพนบอก "นายน้อย ท่านตาไม่ดีอีกแล้ว" )


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz

มีคำถามค่ะ อยากทราบว่ามีใครใช้สารบัญในหน้าแรกมากน้อยแค่ไหน
คือตอนนี้กระทู้แรกของเราอัพสารบัญเพิ่มไม่ได้แล้วค่ะ
มันแจ้งว่า เกิน 20,000 คำอะ ถ้าไม่มีใครใช้เราก็จะเลิกทำจ้า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 15-03-2017 23:55:19
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-03-2017 00:02:01
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 16-03-2017 00:43:13
น่าจะเป็นตอนที่ผ่อนคลายอารมณ์ที่สุดแล้วล่ะมั๊งเนี่ย


พูดถึงอิลมาเรป่านนี้เป็นไงบ้างน้อ



ปล.สารบัญสำหรับเราไม่ค่อยจำเป็นนะเพราะคนเขียนอัพทุกวันอยู่แล้วก็กดหน้าสุดท้ายตลอด แต่สำหรับคนมาอ่านใหม่ก็อาจได้ใช้ ถ้าไม่ลำบากก็ทำเลย

#ทีมราชา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-03-2017 00:48:47
น่าจะเป็นตอนที่ผ่อนคลายอารมณ์ที่สุดแล้วล่ะมั๊งเนี่ย


พูดถึงอิลมาเรป่านนี้เป็นไงบ้างน้อ



ปล.สารบัญสำหรับเราไม่ค่อยจำเป็นนะเพราะคนเขียนอัพทุกวันอยู่แล้วก็กดหน้าสุดท้ายตลอด แต่สำหรับคนมาอ่านใหม่ก็อาจได้ใช้ ถ้าไม่ลำบากก็ทำเลย

#ทีมราชา
พูดถึงอิลมาเรแล้วคิดถึงเนอะ เดี๋ยวแว้บๆ ก็ได้เจอละค่ะ  :z2:
เครียดๆ มาหลายตอนละ รอนู๋อิลออกมาสอนโคลด์งกๆ ดีกว่า ;w;
ส่วนสารบัญไม่ลำบากค่ะ แต่มันอัพไม่ได้แล้วหงะ เราไม่รู้จะเอาไปแปะไว้ตรงไหนน่ะค่ะ
หรือต้องแปะกระทู้แรกแล้วให้ Link ไปหน้าสารบัญอีกกระทู้ / ซับซ้อนช่อนเงื่อน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 16-03-2017 01:05:47
ก็รู้ว่าโคล์ดน่ารัก แต่ก็ยังอยากรู้ว่ามาลแกธประทับใจอะไรในตัวโคล์ด
อยากรู้มุมมองมาลแกธ
ถึงขั้นยกเสื้อคลุมเปียสงครามให้เลยนะ!!

อย่างซิกมันชัดเจนว่า มันมีคำว่าความผูกพันธ์ ของคนที่คอยดูแลกัน เติบโตมาด้วยกัน
แต่มาลแกธไม่เหมือนกัน นาง200กว่าปีแล้วนะ
ปล.ยืนยันว่า ถึงไม่ได้เชียร์บุง แต่ต้านทานเสน่ห์ลุงมาลไม่ค่อยจะไหว
 :mew2: :mew2: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-03-2017 01:36:43
ก็รู้ว่าโคล์ดน่ารัก แต่ก็ยังอยากรู้ว่ามาลแกธประทับใจอะไรในตัวโคล์ด
อยากรู้มุมมองมาลแกธ
ถึงขั้นยกเสื้อคลุมเปียสงครามให้เลยนะ!!

อย่างซิกมันชัดเจนว่า มันมีคำว่าความผูกพันธ์ ของคนที่คอยดูแลกัน เติบโตมาด้วยกัน
แต่มาลแกธไม่เหมือนกัน นาง200กว่าปีแล้วนะ
ปล.ยืนยันว่า ถึงไม่ได้เชียร์บุง แต่ต้านทานเสน่ห์ลุงมาลไม่ค่อยจะไหว
 :mew2: :mew2: :pig4: :pig4:
เดี๋ยวถามคุณ FOULSOUL เจ้าของลุง (555) ให้นะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 16-03-2017 02:23:29
อ้าวๆ ไม่ 3P หราเนี่ยยย!!  อีตาลุงมีคู่รึ

แต่อีกคู่ก้อดูแซ่บแหะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 16-03-2017 09:50:40
รักซิก แต่หลงลุงมาลแกธ โอ้ยเอลฟ์อะไรเสน่ห์เหลือร้ายยังงี้  :mew3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 16-03-2017 13:24:01
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-03-2017 13:25:39
โอเค เอลฟ์ตะวันออกสายตาเสื่อมกันหมด

อิลมาเรที่รัก เธอสอนวิชาพ่อค้าได้ดีทีเดียว โลด์ทำได้เจ๋งกว่าวิชานักฆ่าอีก

#ปล้นหัวใจ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 16-03-2017 13:33:25
อ่านตอนนี้แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
สามคนนี้มันน่าร๊ากกกก นึกว่าจะดราม่ารักสามเส้าใส่กัน ขำกันเองซะอีกอ๊าว (บางทีอิบ่าวก็หน้ามืดเห็น3Pอยู่รำไรนะเจ้าคะ /ฮา)
ซิกรู้จักหยอดนะเดี๋ยวนี้แหมๆ ขำสกิลเขี้ยวลากดินของโคลด์ คิดถึงอิลมาเรน้อออ
อิป๋าก็ตลกไป๊ นั่งเป็นตัวประกอบอยู่ดีๆโดนปล้น 5555 (ซิกโยนมา กรี๊ดดด)
เปียสงครามป๋าเท่มากเจ้าค่ะ ถอดให้โคลด์ไปแบบนั้น เหมือนหมั้นไว้ก่อนจริงๆ ซิกก็ไม่ว่าอะไรด้วย โคตรจะทีมเวิร์ค
คู่นายน้อยก็แซ่บเจ้าค๊าาา  :katai2-1: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-03-2017 14:17:26
โอเค เอลฟ์ตะวันออกสายตาเสื่อมกันหมด

อิลมาเรที่รัก เธอสอนวิชาพ่อค้าได้ดีทีเดียว โลด์ทำได้เจ๋งกว่าวิชานักฆ่าอีก

#ปล้นหัวใจ
5555 ปล้นหัวใจ ว้าย เขิน! ตอนนี้ดีขึ้นแล้วเนอะคะ ไม่หน่วงละ ;)

อ่านตอนนี้แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
สามคนนี้มันน่าร๊ากกกก นึกว่าจะดราม่ารักสามเส้าใส่กัน ขำกันเองซะอีกอ๊าว (บางทีอิบ่าวก็หน้ามืดเห็น3Pอยู่รำไรนะเจ้าคะ /ฮา)
ซิกรู้จักหยอดนะเดี๋ยวนี้แหมๆ ขำสกิลเขี้ยวลากดินของโคลด์ คิดถึงอิลมาเรน้อออ
อิป๋าก็ตลกไป๊ นั่งเป็นตัวประกอบอยู่ดีๆโดนปล้น 5555 (ซิกโยนมา กรี๊ดดด)
เปียสงครามป๋าเท่มากเจ้าค่ะ ถอดให้โคลด์ไปแบบนั้น เหมือนหมั้นไว้ก่อนจริงๆ ซิกก็ไม่ว่าอะไรด้วย โคตรจะทีมเวิร์ค
คู่นายน้อยก็แซ่บเจ้าค๊าาา  :katai2-1: :hao7:
ของหมั้นมีค่าควรเมืองไม่ได้โม้เนอะ อยากรู้เหมือนกันว่าสู้ซิกฟรีดได้ไหม
คนนั้นเขาเปลี่ยนโลกทั้งใบเพื่อนายคนเดียว (GOD!)
ผ่านไปสามปี คนก็โตขึ้นเนอะ อะไรๆ ก็เปลี่ยนไป มากบ้างน้อยบ้าง  :mew1:
ป.ล. คู่นายน้อยยังมีอีกค่ะ รอๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-03-2017 15:32:48
อ่านไปขำไป ตอนนี้ผ่อนคลายมากๆเลย
ตอนโคลด์ ขึ้นเสียงที่ไม่น่ากลัว ดุซิก "อย่าเรื่องมาก เอลฟ์!”
แล้วมาลแกธ พูดขึ้นมา “เขาแค่รำพึงตามประสา”
แล้วก็ถูกจ้องจากทั้งโคลด์ ทั้งซิก "อ้าว ทำไมจ้องข้าอย่างนั้นกันเล่า”
โคลด์ ปอกลอกมาลแกธที่ยินดีให้หมดเนื้อหมดตัว
แม้แต่เสื้อคลุมหลากสีค่าควรเมือง ก็ถอดให้โคลด์
แถมบอกให้แบบคนรักให้คนรัก และเป็นของหมั้น
ซิก ก็ซื่อไม่รู้เรื่องหมาหยอกไก่
ขำ ที่มอร์นเพน ว่าตระกูลลองธู มีปัญหาทางสายตา
เพราะไปหลงชอบดาร์กเอลฟ์ ที่คงไม่สวยงามในสายตามอร์นเพน
แต่ทาราเธียล กลับตอบว่า “เจ้าสวย ข้ายืนยันคำเดิม”
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-03-2017 15:37:32
โอเค เอลฟ์ตะวันออกสายตาเสื่อมกันหมด

อิลมาเรที่รัก เธอสอนวิชาพ่อค้าได้ดีทีเดียว โลด์ทำได้เจ๋งกว่าวิชานักฆ่าอีก

#ปล้นหัวใจ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-03-2017 15:55:27
อ่านไปขำไป ตอนนี้ผ่อนคลายมากๆเลย
ตอนโคลด์ ขึ้นเสียงที่ไม่น่ากลัว ดุซิก "อย่าเรื่องมาก เอลฟ์!”
แล้วมาลแกธ พูดขึ้นมา “เขาแค่รำพึงตามประสา”
แล้วก็ถูกจ้องจากทั้งโคลด์ ทั้งซิก "อ้าว ทำไมจ้องข้าอย่างนั้นกันเล่า”
โคลด์ ปอกลอกมาลแกธที่ยินดีให้หมดเนื้อหมดตัว
แม้แต่เสื้อคลุมหลากสีค่าควรเมือง ก็ถอดให้โคลด์
แถมบอกให้แบบคนรักให้คนรัก และเป็นของหมั้น
ซิก ก็ซื่อไม่รู้เรื่องหมาหยอกไก่
ขำ ที่มอร์เพน ว่าตระกูลลองธู มีปัญหาทางสายตา
เพราะไปหลงชอบดาร์กเอลฟ์ ที่คงไม่สวยงามในสายตามอร์นเพน
แต่ทาราเธียล กลับตอบว่า “เจ้าสวย ข้ายืนยันคำเดิม”
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ยินดีกับเป็ดอโฟร์ไดท์ก่อนค่ะ อันดับแรก มันวุ้งวิ้งปรุ๊งปริ้งจริงๆ ค่ะ
จำได้ว่ามาเมนต์ให้เราเปลี่ยนเป็ดไปแล้วสามตัว!!! สุดยอดเลยค่ะ -3-
ตอนนี้สบายๆ ค่ะ ต้องคลายเครียดกันบ้าง เครียดตลอดก็เหนื่อยเนอะคะ ;w;
ยังมีต่ออีกค่ะ!!! เจอกันคืนนี้ค่า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 16-03-2017 19:15:44
หนูโคลปล้นป๋าได้หน้าตาเฉยเลย  :m20:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 16 : (7) [16/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-03-2017 19:37:38
หนูโคลปล้นป๋าได้หน้าตาเฉยเลย  :m20:
โตมาร้ายกาจ อิอิ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (1) [17/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-03-2017 23:19:47
บทที่ : 17  โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (1)

โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทองตั้งอยู่ในชุมชนชาวต่างแดนทางทิศใต้ของเอวา เธมาร์ เขตนี้ไกลจากเมืองหลวงอันงดงามสงบเงียบ เป็นจุดพักแรมสำหรับพ่อค้านักเดินทางก่อนเข้าไปทำธุระในเมืองหลวง

ถนนสายเล็กคึกคักอยู่ตลอดเวลา ร้านค้าส่วนมากไม่มีเวลาปิดทำการ ที่น่าตลกคือ โคลด์มารับงานจากเขตนี้บ่อย แต่ไม่เคยไปที่โรงเตี๊ยมนั้น

หลังออกจากโรงนาไม่ทันไร มาลแกธก็ตามเขามา และบอกว่าต้องมาที่เขตนี้

“ทำไมทำหน้าบูด”

“ข้าสวมฮู้ดอยู่ เจ้าไม่เห็นหรอกว่าหน้าข้าเป็นอย่างไร” โคลด์พอเดาได้ว่ายังมีมือสังหารหมายชีวิตเขาอยู่ ซิกฟรีดจึงส่งมาลแกธมาจับตาดู หรือไม่เอลฟ์ตะวันออกก็นึกสนุก ตามมาเฉยๆ เอง

“ข้ารู้ว่าเจ้าหน้าบูด” มาลแกธวางมือบนหัวโคลด์ ฮู้ดเหลือบสีสวยงามเมื่อต้องแสง

มือของเอลฟ์ตะวันออกโดนปัดออก “ถึงเจ้าไม่มา ข้าก็หาทางมาเองได้”

“ที่รัก” มาลแกธขำลึกๆ “ถึงข้ามา เจ้าก็ต้องหาทางไปเองอยู่ดี” เอลฟ์ตะวันออกโอบโคลด์ให้พ้นกลุ่มคนที่สวนมา “ข้ารู้ทางเสียที่ไหน”

โคลด์ขืนตัวไว้ ทำนองว่า ทำไมข้าต้องโดนเจ้าโอบ “แล้วเจ้ามีประโยชน์อะไรบ้าง”

มาลแกธสูดปากแสร้งทำเป็นเจ็บปวด “ไม่ให้เจ้าเหงากระมัง”

โคลด์เมินมาลแกธ “ฟังจากที่เจ้าเอ่ยชื่ออิลมาเรตอนมาโรงนา แสดงว่านางกลับมาเมืองหลวงกับเจ้า ข้าไม่สนโรงเตี๊ยมอะไรนั่น ข้าจะเจออิลก่อน” เขาหยุดหน้าตรอก ‘เท้าโทรลล์’ (ชื่อตรอกหมายความว่า ถ้าโทรลล์ที่กักขฬะตัวมหึมาเดินเข้ามาได้ ใครๆ ก็เข้ามาได้ ที่นี่ต้อนรับคนทุกประเภท)

ดาร์กเอลฟ์เรียกเด็กส่งสารประจำตรอกเพื่อส่งจดหมายไปที่กิลด์พ่อค้าใต้ดิน ติดต่อกับอิลมาเรเป็นอันดับแรก

ระหว่างยืนรอท่ามกลางผู้คนที่กิริยามารยาทต่างจากเขตเมืองหลวงลิบลับ โคลด์เห็นใครบางคนที่ให้บรรยากาศ ‘คุ้นๆ’ ห่างออกไปไม่ไกล ใครคนนั้นสวมฮู้ดปิดบังหน้าตา รูปร่างสูงใหญ่ และจงใจแผ่จิตสังหารแหลมคมเพื่อให้โคลด์รู้ตัว

กอห์นดีเอน

โคลด์มองทิศที่มันเดินไป จำเอาไว้ในใจ ตอนนี้การรอสารตอบกลับจากอิลมาเรสำคัญกว่า

ทว่าสารที่ตอบกลับมากลับเขียนว่า

‘โย่! ♥ ตอนนี้ข้าคุยธุรกิจอยู่ที่โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง เจ้าไม่เคยมา ตามเด็กส่งสารมาก็แล้วกัน’

อะไรจะบังเอิญปานนั้น โคลด์คิด

ความจริงคือ หลังแยกกับโคลด์เพื่อไปปฏิบัติราชกิจ ซิกฟรีดสั่งให้กอห์นดีเอนไปนำทางโคลด์กับมาลแกธไปยังโรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง ซึ่งกอห์นดีเอนก็ยังเป็นกอห์นดีเอน ไม่ทักทายตามปกติ แต่เรียกด้วยจิตสังหาร

“เอ้า นำไป ถ้านำดีๆ ข้ามีรางวัลให้” มาลแกธมองเด็กส่งสารพยักหน้าหงึกหงัก มันทำตาวิบวับพอได้ยินว่าจะมีรางวัลเพิ่มจากค่าจ้าง

ทางไปโรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทองซับซ้อน ต้องเลี้ยวตรงนู้นตรงนี้ แถมยังลอดผ่านซอกไปโผล่ถนนอีกสาย มีการเคาะประตูค่ายมวยขอผ่านไปทางประตูด้านหลังอีกต่างหาก

“มันไม่ได้หลอกให้ข้างงใช่ไหมน่ะ” มาลแกธแอบกระซิบกับโคลด์ โดยมีเด็กส่งสารหันมายิ้มเผล่เป็นระยะ

“ข้าจับจิตสังหารของกอห์นดีเอนได้ มันอยู่ใกล้ๆ เรามาถูกทางแล้ว” โคลด์ตอบโดยเบือนหน้าไม่ให้มาลแกธเอาปากแตะหูตน

“เจ้ากลายเป็นคนจริงจังตั้งแต่เมื่อไหร่” มาลแกธแกล้งปัดจมูกผ่านแก้มอีกฝ่าย

ดาร์กเอลฟ์นิ่ง ในโรงนา เขาใช้พลังทั้งหมดไปในการเจรจากับราชาเอลฟ์และเอลฟ์ตะวันออก เมื่อออกมาก็คิดว่าจะได้อยู่ตามลำพังเสียที แต่มาลแกธมาตามประกบแบบนี้ โคลด์จึงเหนื่อยจนไม่รับมุกอะไร ไม่นับว่ามาลแกธเปลี่ยนอารมณ์ไปมาเก่งเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า เดี๋ยวเย็นชา เดี๋ยวป้อยอ

เดินกันเงียบๆ อีกครู่ใหญ่ พวกเขาก็มาถึงจุดหมาย

โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทองตั้งอยู่หัวมุมถนน ตรงทำเลดีที่สุดของถนนชั้นใน ป้ายแขวนไม้เหนือประตูทางเข้าวาดรูปตัวตุ่นปากเป็ดสีน้ำตาลปากดำนอนอยู่บนกองเหรียญทอง อุ้งเท้าของมันถือขวดเหล้า หน้าตาแดงก่ำดูขี้เมา

คำว่า ‘Mole & Gold’ เขียนไว้เหนือภาพตัวตุ่น แสดงว่ามาไม่ผิดที่แน่ เสียงหัวเราะเมาหยำเปของพวกผู้ชายดังลอดออกมาจากในร้านตั้งแต่เริ่มบ่าย

โคลด์เงยหน้ามองป้ายร้านและมองเข้าไปในร้านอย่างไม่อยากเชื่อว่าเจ้าชายเอลฟ์เคยมาที่แบบนี้

ไม่สิ ตอนนี้เป็นราชาเอลฟ์ต่างหาก


นี่เป็นร้านของ ‘มนุษย์’ โคลด์สังเกตจากพวกลูกจ้างและการตกแต่งร้าน มนุษย์ในแผ่นดินเอลฟ์เป็นทาสมาก่อนดาร์กเอลฟ์เสียอีก แต่มีฐานะในสังคมดีกว่า เพราะพวกมนุษย์เลี้ยงเชื่อง อายุสั้น มันพอใจในสิ่งที่เอลฟ์มอบให้ นับถือเอลฟ์ว่าเป็นเชื้อสายสูงศักดิ์ของเหล่าบิดามารดา และมีเมตตากว่าดาร์กเอลฟ์

“ถึงแล้วหรือ” มาลแกธตบกระเป๋าคาดสะโพก เด็กน้อยพยักหน้ารัวเร็ว มองตามกระเป๋าที่เขย่าขึ้นลง

“ชื่ออะไร มีชื่อไหมเราน่ะ” เอลฟ์ตะวันออกย่อตัวลง ให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับเด็กส่งสาร

มันชูนิ้วหนึ่งนิ้ว

“ค่าถามหนึ่งควินน์”

มาลแกธหัวเราะเสียงดัง “เอาไปหนึ่งควินน์ สิบเรียล แล้วกลับไปหาแม่ซะไอ้ลูกชาย”

เด็กน้อยตาโต รีบเก็บเหรียญทองเข้ากระเป๋าลับ ก่อนจะวิ่งตื๋อหายไปกับกลุ่มคน

“ข้าชอบมัน” มาลแกธหันมาหาโคลด์

“ไม่ได้เด็กไปสำหรับรสนิยมเจ้าหรือ” โคลด์ผลักประตู มองหาอิลมาเรเป็นอันดับแรก “ข้าน่าจะริบกระเป๋าคาดเอวของเจ้ามาด้วย เจ้าจะได้ลิ้มรสการไม่มีเงินบ้าง”

“ข้าไม่ได้คิดอกุศลสักนิด” มาลแกธเลิกคิ้ว “มันเพิ่งสิบกว่าขวบ ตัวนิดเดียว”

โคลด์ทำเสียงเหอะแบบไม่เชื่อถือ เขาเห็นอิลมาเรแล้ว ดวอร์ฟสาวตัวเล็กนั่งเด่นเป็นสง่าท่ามกลางลูกน้องมนุษย์ตัวใหญ่ยักษ์ หน้าตาโหดหนวดเฟิ้ม สักลายพร้อยบนกล้ามแขนล่ำๆ

แต่มนุษย์เหล่านั้นกำลังกลัวอิลมาเรหัวหด

“อะไรนะยะ! ร้านข้าจะเจ๊งเหรอ ข้าไม่อยู่แป๊บเดียวพวกเจ้าใช้สมองในเท้าเน่าๆ ขายของกันหรือไง!”

เมื่อดวอร์ฟสาวทุบโต๊ะด้วยแก้วเบียร์ใส่น้ำหวาน ชายฉกรรจ์เหล่านั้นก็ยิ่งสะดุ้งขวัญผวา

โคลด์เห็นอิลมาเรกำลังเดือดเรื่องเงินๆ ทองๆ และมองว่าปลอดภัยดีก็เลี่ยงไปนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ สั่งเครื่องดื่มเพื่อรอให้แม่ค้าดวอร์ฟคุยธุระจบ

เครื่องหมายรูปหัวใจดวงเล็กๆ น่ารักในสารขัดกับภาพลักษณ์นางยักษ์ขมูขีของอิลมาเรในตอนนี้โดยสิ้นเชิง

“โลราธ” มาลแกธบอกกับบาร์เทนเดอร์ พยักพเยิดไปทางโคลด์เป็นเชิงว่า ‘ผู้ที่เจ้าควรใส่ใจคือดาร์กเอลฟ์’

“เขาให้ชื่อมา ไม่แน่ใจว่าจะใช้ได้แค่ไหน”

ข้างๆ มาลแกธมีชายร่างใหญ่สวมฮู้ดปิดบังหน้าตานั่งอยู่เงียบๆ เขาหันมายังเอลฟ์ตะวันออกเล็กน้อย ก่อนหันกลับไปพยักหน้าให้บาร์เทนเดอร์

มาลแกธทราบจากบรรยากาศว่าชายคนนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากกอห์นดีเอน เงาสังหารผู้ภักดีของคิงซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ ทว่าเขาไม่ได้เอ่ยทักทายอีกฝ่าย

เอลฟ์ตะวันออกทราบดีว่า ‘เวลาส่วนตัว’ เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งสำหรับองครักษ์ส่วนพระองค์ หากเงาสังหารจะอยากมีเวลาส่วนตัวเหมือนคนทั่วไปบ้าง เขาก็ไม่คิดขัด

“อะไรเนี่ย” บาร์เทนเดอร์หนุ่มผมดำขลับเหมือนไม้มะเกลือกวาดตามองลูกค้าทั้งสาม มันเสยผมเรียบกริบ เปิดโครงหน้าคมสันและหน้าตาหล่อเหลาแบบฉลาดแกมโกง

คิ้วสีดำเลิกใส่กอห์นดีเอน

“โวรอน เจ้าหายไปเป็นเดือน กลับมาก็พาเพื่อนใหม่มาเต็ม แล้วโลราธไม่มาเรอะ”

บาร์เทนเดอร์วางแก้วใส่เหล้าตรงหน้าลูกค้าประจำชาวเอลฟ์ดังปึง! ถึงกิริยาห่าม แต่จัดเหล้ามาได้รู้ใจ เหล้าสูตรพิเศษของบาร์เทนเดอร์มีชื่อว่า ‘แล้วแต่ข้าจะชง’ เป็นของโปรดของกอห์นดีเอน เพราะเขาเคยสั่งเหล้าแล้วบอกให้เอาอะไรมาก็ได้ บาร์เทนเดอร์จึงกวนตีน ผสมอะไรมาในเหล้าบ้างก็ไม่รู้ แต่กลับรสดีจนติดใจ แถมให้ความรู้สึกตื่นเต้นแปลกใหม่เพราะได้เหล้าไม่ซ้ำกันเลย

“โลราธงานยุ่ง” กอห์นดีเอนกระดกเหล้า “ข้าจึงพาลูกค้าใหม่มาให้”

‘โวรอน’ คงเป็นชื่อปลอมของเงาสังหาร เหมือน ‘โลราธ’ เป็นชื่อปลอมของราชาเอลฟ์

“โวรอน” มาลแกธผิวปาก “ยินดีที่ได้รู้จัก ข้า...มาลแกธ ล็องธู”

“ผมแดงเอาอะไร” บาร์เทนเดอร์ถามมาลแกธ

โคลด์พ่นหัวเราะ จะมีกี่คนที่เรียกมาลแกธ ล็องธูผู้เปี่ยมเสน่ห์กับทุกเพศสั้นๆ ว่า ‘ผมแดง’

“เหล้าน้ำผึ้งน่าจะดี ผมดำ”

“ได้ ผมแดง” บาร์เทนเดอร์ยิ้มแล้วหันไปเลือกขวดเครื่องดื่มมึนเมามาเทผสมกัน แม้ในร้านจะรกเลอะเทอะ อวลกลิ่นเหล้า ควันจากยาสูบ ไอร้อนของอาหาร และกลิ่นเหงื่อของผู้ชายผสมกัน แต่ตรงเคาน์เตอร์กลับสะอาด เหล้าแต่ละขวดแวววับ จัดวางอย่างเป็นระเบียบ บอกได้ว่าบาร์เทนเดอร์เป็นคนอย่างไร

“ข้าขอห้องพักดีๆ สักห้องด้วยนะ ผมดำ” มาลแกธมองไปทั่วร้าน เขาเริ่มชอบบรรยากาศสบายๆ ของที่นี่ ไม่ต้องวางท่า เมาเป็นเมา อย่างมนุษย์พุงอวบตรงมุมร้านช่างเมาหลับได้เหมือนตุ่นปากเป็ดจริงๆ

“อีกคนล่ะ เอาห้องพักด้วยไหม แล้วเอาเหล้าอะไร” บาร์เทนเดอร์หันไปถามคนที่สวมฮู้ดหลากสี

“ห้องพักเงียบๆ กับอาหาร น้ำ ไม่เอาเหล้า” โคลด์สั่งอาหารหลายอย่างทีเดียว

“ไม่ใช่ห้องพักของข้า” มาลแกธแก้ “ของเขานั่นละ”

“อ้าวตกลงพวกเจ้าพักห้องเดียวกัน?” บาร์เทนเดอร์แสยะยิ้ม หลังผสมเหล้าน้ำผึ้งเสร็จก็วางแก้วตรงหน้าเอลฟ์ผมแดง

“ถูกต้อง” มาลแกธขยิบตา ยิ้มให้มนุษย์ จะว่าไป...หน้าตากับนิสัยร้ายๆ ของมันก็ถูกใจเขาอยู่


—————————————————————————

A/N ป๋าคะป๋า เจ้าชู้อะไรเบอร์นี้ เก็บสายตาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ Now!!!

มีคำถามจากทางบ้านว่าทำไมมาลแกธถึงชอบโคลด์ เราไปสัมภาษณ์คุณ FOULSOUL มาให้ดังนี้จ้า


Q: ทำไมถึงชอบโคลด์คะ /ยื่นไมค์

มาลแกธ : "ข้าถูกขังในล็องธูเป็นสิบปี ใช้เวลาห้าสิบปีกับศึกภายใน อีกห้าสิบปีกับศึกภายนอก ข้าให้ความสำคัญกับจิตวิญญาณนักรบมากกว่าความรัก

แต่ว่าก็ว่าเถิด การหาเหตุหาผลให้กับความรัก มันทำให้ความลึกลับและเสน่ห์ในความรักลดไป ข้ายังระลึกชั่วขณะที่มือข้าอ่อนได้ นึกถึงตอนที่ยอมให้โคลด์แทงคอได้ มันลึกลับ อันตราย ข้าพอใจเสน่ห์ของมัน

ข้าอายุ 200 กว่าปีก็จริง แต่ความรักคงอยู่กับทุกเผ่าพันธุ์มานานกว่านั้น มันเฉลียวฉลาดกว่าข้า โหดเหี้ยมกว่า มันอาจแฝงตัวมาในรูปใดก็ได้ และมันเลือกโคลด์ สตาร์

สรุปคือ...เขาน่ารัก และข้าก็รัก /ยิ้ม"


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (1) [17/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 17-03-2017 00:36:15
กรี๊ดดดดด คุณ FOULSOUL ตอบมางี้ ชาวเรือ #ซิกโคล์ด ทำยังไง
แทบรั่งตัวเองไม่ให้กระโดดลงเรือป๋าไม่ทัน 55555555

ตามตรงคือไม่ค่อยถูกชะตากะแกธเลย เพราะเราเป็นสายทีมตรงข้ามพระรอง และสำหรับเราแกธคือพระรอง 5555
แต่เวลาที่นางจริงจังไม่ทีเล่นทีจริงนี่หลงเสน่ห์นางตลอดเลย เห้ออออออ #อย่าให้เฮียเอาจริง #ซิกก็ซิกโคล์ดก็โคล์ดเถอะ

ชอบบรรยากาศร้านเหล้านี้จังเลยค่ะ ชื่อร้านน่ารัก ป้ายชื่อร้านก็น่ารัก ลุงที่หลับอยู่ในร้านก็น่ารัก(เดี๋ยวๆๆๆ)  ดูเป็นที่ที่น่าอยู่ที่สุดในเรื่องสำหรับเราแล้วตอนนี้ น่าอยู่กว่าอาศรมควาร์ ถ้ำมังกร ราชวัง เยอะเลย 555555 รู้สึกถูกชะตากับคุณบาร์เทนเดอร์
แอบอยากเห็นซิกเวลาปลอมตัว นางดูเป็นคนที่ไม่เหมาะกับสถานที่อย่างนี้ที่สุดแล้ว

ปล.แกธดูเป็นตัวละครที่ดูสำคัญมาก ที่เข้าใจคือซิกโคล์ดนี่ คุณ ILLREI เป็นคนเขียนใช่มั้ยคะ แต่แกธคือคุณ FOULSOUL
อยู่ๆก็เกิดความคิดว่า หรือว่าเรื่องนี้พระ-นายจะแยกกันเขียน! หรือว่าเรื่องนี้แกธจะเป็นพระเอก!
 ชื่อเรื่องคือตัวหลอก เพราะสุดท้ายแกธจะเป็นราชาเอล์ฟ 555555 (เอาเข้าไป) #ทีมซิกโคล์ด #ที่แอบปันใจให้ลุงแกธ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (1) [17/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 17-03-2017 01:04:51
กรี๊ดดดดด คุณ FOULSOUL ตอบมางี้ ชาวเรือ #ซิกโคล์ด ทำยังไง
แทบรั่งตัวเองไม่ให้กระโดดลงเรือป๋าไม่ทัน 55555555

ตามตรงคือไม่ค่อยถูกชะตากะแกธเลย เพราะเราเป็นสายทีมตรงข้ามพระรอง และสำหรับเราแกธคือพระรอง 5555
แต่เวลาที่นางจริงจังไม่ทีเล่นทีจริงนี่หลงเสน่ห์นางตลอดเลย เห้ออออออ #อย่าให้เฮียเอาจริง #ซิกก็ซิกโคล์ดก็โคล์ดเถอะ

ชอบบรรยากาศร้านเหล้านี้จังเลยค่ะ ชื่อร้านน่ารัก ป้ายชื่อร้านก็น่ารัก ลุงที่หลับอยู่ในร้านก็น่ารัก(เดี๋ยวๆๆๆ)  ดูเป็นที่ที่น่าอยู่ที่สุดในเรื่องสำหรับเราแล้วตอนนี้ น่าอยู่กว่าอาศรมควาร์ ถ้ำมังกร ราชวัง เยอะเลย 555555 รู้สึกถูกชะตากับคุณบาร์เทนเดอร์
แอบอยากเห็นซิกเวลาปลอมตัว นางดูเป็นคนที่ไม่เหมาะกับสถานที่อย่างนี้ที่สุดแล้ว

ปล.แกธดูเป็นตัวละครที่ดูสำคัญมาก ที่เข้าใจคือซิกโคล์ดนี่ คุณ ILLREI เป็นคนเขียนใช่มั้ยคะ แต่แกธคือคุณ FOULSOUL
อยู่ๆก็เกิดความคิดว่า หรือว่าเรื่องนี้พระ-นายจะแยกกันเขียน! หรือว่าเรื่องนี้แกธจะเป็นพระเอก!
 ชื่อเรื่องคือตัวหลอก เพราะสุดท้ายแกธจะเป็นราชาเอล์ฟ 555555 (เอาเข้าไป) #ทีมซิกโคล์ด #ที่แอบปันใจให้ลุงแกธ
โอ ไม่ได้อ่านคอมเมนต์กระชุ่มกระชวยขนาดนี้มานานแล้ว ขอบคุณมากนะคะ ;)
ร้านนี้น่ารักค่ะ เป็นที่ที่อยู่สบายสุดแล้วจริงๆ เรากับคุณ FS ก็ชอบค่ะ  :katai3:
ส่วนใครเขียนตัวไหน เราทำตาราง Battle ให้ดังนี้ค่ะ!

ปรบมือรัวๆๆๆๆ

ILLREI vs FOULSOUL

โคลด์ vs ซิกฟรีด & มาลแกธ
(แปลว่า เราเขียน โคลด์ คุณ FS เขียนซิกฟรีดกับมาลแกธค่ะ!
และเพราะแบบนี้ ทำให้เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครจะเข้าวิน ไม่ใช่ตัวละครเราทั้งคู่ค่ะ 555)

เกวนโดลิน vs เอเลียต

อิลมาเร vs เดเนธอร์ & เนอร์ดาเนล

เอริแอดเน่ vs ริวอร์นอร์

แมดส์ (บาร์เทนเดอร์) vs กอห์นดีเอน

มอร์นเพน vs ทาราเธียล

ครบแล้วละมั้ง!  :mc4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (1) [17/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 17-03-2017 03:43:05
ที่เปงสามคน นี่คือต้องลุ้นหรา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (1) [17/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 17-03-2017 04:06:26
ที่เปงสามคน นี่คือต้องลุ้นหรา
ลุ้นเฉพาะ 3 คนแรกค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (1) [17/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-03-2017 08:42:37
ไม่ว่าจะ ILLREI หรือ FOULSOUL  เขียน
ชอบตัวละครทุกตัวนะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ทุกตัวมีสีสันกันหมด
มีแต่ตัวเอก ก็ไม่สนุก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (1) [17/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-03-2017 09:06:20
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (1) [17/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 17-03-2017 09:25:28
ถึงแม้ว่าตาลุงจะมาแรงและเต๊าะแรงแค่ไหนแต่เราไม่ได่รู้สึกเลยว่าโคลด์รักลุง มันคนล่ะฟิลกันกับเวลาที่โคลด์อยู่กับซิก อยู่กับลุงโคลด์จะถือตัวมีระยะห่างแม้จะมีท่าทีอ่อนให้เป็นบางครั้งแต่มันไม่ใช่รัก แต่อยู่กับซิกโคลด์จะเป็นอีกแบบนึงมันดูอบอุ่นไว้วางใจ ต่อให้คนเขียนจะเขียนให้มาลแกธมาแรงยังไงคนที่โคลด์วางหัวใจให้ก็ไม่่ใช่ตาลุงอยู่ดี


ไม่ชอบผู้ชายแบบตาลุงเลยปากก็บอกนักอยู่หรอกแต่พฤติกรรมมันไม่ผ่านอ่ะลุง




ปล.น้องโคลด์อย่าไปยอมตาลุงนะลูก
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (1) [17/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 17-03-2017 09:42:43
เป็นเรื่องที่ตัวละครทุกตัวมีเสน่ห์จริงๆ  :hao7: ไม่ใช่แค่ตัวเอกที่เดินเรื่อง ตัวละครอื่นๆก็ช่วยกันพาเรื่องนี้ให้สนุกมีสีสัน

ชอบอิลมาเรตอนนี้มากๆเลย แมดส์ด้วย ฮา  :m20:
ชอบที่เรียกมาลแกธว่าผมแดง ถ้าเรียก 'หัวแดง' จะเถื่อนกว่าเดิมอีก  :laugh:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (1) [17/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 17-03-2017 12:41:33
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (2) [18/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 17-03-2017 23:20:22
บทที่ : 17  โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (2)



โคลด์สังเกตสร้อยที่บาร์เทนเดอร์สวม มันเป็นสร้อยหนังห้อยจี้รูปหยดน้ำสีน้ำตาลเหมือนสีตาของผู้ใส่

อัญมณีส่งกลิ่นอายเวทมนตร์ของเอลฟ์

เมื่อได้กุญแจห้องและถามทางไปห้องพักเสร็จ โคลด์ก็หยิบกุญแจ ลุกไปคุยกับอิลมาเรสั้นๆ แล้วเดินไปยังชั้นสองของโรงเตี๊ยม ปล่อยให้แม่ค้าดวอร์ฟเฉ่งลูกน้องต่อไป

“รอข้าด้วยซี” มาลแกธดื่มเหล้าน้ำผึ้งรวดเดียว “ที่รัก” เขาหันมายิ้มให้บาร์เทนเดอร์ ไม่ทราบว่า ‘ที่รัก’ นั้นพูดกับใครกันแน่

เอลฟ์ตะวันออกตามโคลด์ สตาร์ไป เขาคิดในใจว่า

คงต้องง้ออีกนาน

บาร์เทนเดอร์มองตามจนทั้งคู่หายไปทางด้านหลังของชั้นสอง แล้วหันมาหาคนที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม

“ความลับเยอะเหลือเกินนะพวกเจ้า” เขาวางเหล้าแก้วที่สองให้ ‘โวรอน’ เหมือนรู้ใจ

“มีข่าวอะไรบ้างไหม” โวรอนเงยหน้ามองอีกฝ่าย นัยน์ตาสีเขียวเรืองจากเงาใต้ผ้าคลุม

บาร์เทนเดอร์หนุ่มยกยิ้มมุมปาก เขาวางแขนบนเคาน์เตอร์อย่างเกียจคร้าน ย่อตัวให้ริมฝีปากอยู่ระดับเดียวกับสายตาของเอลฟ์

“มี แต่จะฟังที่ไหน”

“ข่าวลับแค่ไหน” โวรอนดื่มเหล้า ขณะที่สายตายังจับใบหน้าหล่อเหลาของบาร์เทนเดอร์

“ขายไปหลายคนแล้ว” มนุษย์ผมดำหัวเราะกว้าง นอกจากความหล่อเหลาแล้ว ความมีชีวิตชีวายังเปี่ยมเสน่ห์เหมือนแสงตะวันแรงกล้า

“ราคาก็ตก ข้าจ่ายแค่หนึ่งในสี่ดีไหม”

“ข้าควรไล่เจ้าออกจากร้านไปซื้อข่าวที่อื่นว่ะ” พออยู่ตามลำพัง บาร์เทนเดอร์ก็ไม่มีมารยาทเหลือให้ลูกค้าคนพิเศษ “ไอ้เอลฟ์ หายหัวไปเป็นเดือนนะมึง”

พวกลูกน้องในโรงเตี๊ยมเหลือบมองเจ้าของร้าน ที่นอกจากเป็นบาร์เทนเดอร์และเจ้าของโรงเตี๊ยมแล้ว ยังเป็นนักค้าข่าวอีกด้วย

“แมดส์…” โวรอนระบายลมหายใจยาว “ข้าพูดกี่ครั้งแล้วเรื่องคำหยาบ”

“จำไม่ได้” แมดส์ยิ้มกวนตีน ซึ่งนี่ถือว่าดีแล้ว สมัยก่อนแมดส์เกลียดโวรอนถึงขั้นเห็นหน้าเป็นไล่ออกจากร้าน ด่าตามหลังว่า

‘อย่ากลับมาอีกนะมึง!’

แต่พอนานไป มีอะไรบางอย่างที่พวกลูกน้องไม่เข้าใจเกิดขึ้น แล้วลูกพี่ก็ยอมให้เอลฟ์ผมสีทองเกือบขาวคนนี้กลับมาเป็นลูกค้าในร้านตามเดิม

“ไปคุยกันหลังร้านดีไหม” โวรอนวางแก้วเหล้าเปล่าบนเคาน์เตอร์เบาๆ ผิดกับท่าทางแข็งกร้าวที่ไม่น่าจะอ่อนโยนกับอะไรได้

“ไม่ ไม่มีอารมณ์ว่ะ จะขายของ สองแก้วห้าควินน์ เอาเงินมา เสร็จแล้วจะไปไหนก็ไป”

อื้อหือ ราคาขูดเลือดขูดเนื้อ ปกติเหล้าชนิดนี้ขายแก้วละยี่สิบห้าเรียล หนึ่งร้อยเรียลเท่ากับหนึ่งควินน์ เท่ากับขึ้นราคามาสิบเท่า

“แมดส์…” โวรอนปราม “ข้าอยากคุยกับเจ้าแบบส่วนตัว” เขาไม่ยอมวางเหรียญทอง

“แต่ข้าไม่” แมดส์เป็นมนุษย์ที่ไม่เกรงใจเอลฟ์

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะออกค่าเสียหายให้ทีหลัง”

ดวงตาคมกริบจ้องอีกฝ่ายนิ่งๆ ชั่วขณะที่เวลาคล้ายหยุดนิ่ง ทุกคนในร้านหันมาเป็นตาเดียวกัน กระทั่งอิลมาเรก็หยุดอบรมลูกน้อง เอลฟ์ร่างยักษ์ดึงคอเสื้อเจ้าของร้าน ลากออกมาจากหลังเคาน์เตอร์โดยไม่ฟังเสียงก่นด่า

“ไอ้เอลฟ์!--” ตามด้วยคำสบถหยาบคายนับไม่ถ้วน

โวรอนแบกหมาบ้าขึ้นบ่า เดินไปทางหลังร้านได้ไม่ถึงห้าก้าวก็ชะงักแล้วหันกลับมา

“ดื่มเหล้าของพวกเจ้าไป”

สิ้นคำของเอลฟ์ ทุกคนในร้านหันมาสนใจแก้วของตัวเอง ส่งเสียงเฮฮาครื้นเครงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“ไอ้ห่านี่ ปล่อยกู!” แมดส์ให้โวรอนปล่อยเขาลง เขาตัวสูงใช่ย่อย แต่เอลฟ์เสือกตัวสูงกว่าและแรงเยอะเกินไป

โวรอนพาแมดส์มาที่ห้องเก็บเหล้าด้านหลังร้าน เขายอมปล่อยมนุษย์ปากกล้าลงหลังจากปิดประตูและยืนกันทางออกเรียบร้อยแล้ว

“ไม่ส่งจดหมายลาตายมาล่วงหน้าวะ” แมดส์ชี้หน้า “นึกว่าตายห่าไปแล้ว”

“ขอโทษ” โวรอนให้แมดส์ระบายได้ตามใจชอบ เขาเลิกฮู้ดลง ผมสีทองเกือบขาวมุ่นเป็นมวยยุ่งเหยิงด้านหลัง หนวดเครายังโกนไม่เรียบร้อยดี ตาขาวมีรอยเส้นเลือดฝอยกระจายทั่วเพราะอดนอน

แน่ละ...หลังเสร็จงาน โวรอนตรงมาหาแมดส์ทันทีโดยไม่ทันได้ฉุกคิดถึงสภาพแย่ๆ ของตัวเอง

และได้ทักทายกันไม่ถึงครึ่งประโยค ก็ได้รับคำสั่งจากราชาให้นำทางดาร์กเอลฟ์มายังโรงเตี๊ยม คำว่า ‘คิดถึง’ จึงถูกเปลี่ยนเป็น ‘รอสักครู่ ข้าต้องไปทำงานเล็กๆ อีกงานหนึ่ง’

แมดส์จะหงุดหงิดก็ไม่แปลก

“โห ไปฟัดกับหมาที่ไหนมาวะ”

ถ้าเรียกอันเดดในสุสานวิหารร้างว่าหมาได้ โวรอนคงบอกแมดส์ไปแล้ว

แมดส์ล้วงหาผ้าสะอาดจากกระเป๋ากางเกงมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้เอลฟ์ “โทรมจนตกใจว่ะ”

“คิดถึง” ในที่สุดก็ได้พูด...โวรอนยิ้มบางๆ ให้คนตรงหน้า ข้างนอกนั่นเขาไม่พูดให้อีกฝ่ายเสียเชิงชาย ยังเกรงใจเพราะโรงเตี๊ยมคือที่ของแมดส์ สมควรได้รับความยำเกรงจากบรรดาลูกน้องและลูกค้า

แม้เมื่อครู่เขาจะเพิ่งลากแมดส์ต่อหน้าลูกน้องและลูกค้าทุกคนก็ตาม...

คิ้วสีดำขมวดเข้าหากัน “อย่ามาเลี่ยนนะมึง”

จะมีมนุษย์ที่ไหนกล้าพูดกับเอลฟ์ซึ่งดูสูงศักดิ์ด้วยถ้อยคำเช่นนี้อีก

“ข้าเก็บคำนี้ไว้เป็นเดือน เจ้าทนฟังแค่สามวินาทีคงไม่หนักหนา”

“โถ เงี่ยน” หยาบคาย หยาบคายสุดยอด! แต่มนุษย์ดูอารมณ์ดีขึ้นมาก

“แมดส์” โวรอนเสียงเข้ม “อย่าพูดว่า ‘เงี่ยน’ มันหยาบคาย”

“แล้วให้พูดว่าอะไร ท่านเอลฟ์ มึงเอากูมาตรงนี้ไม่ได้มาซื้อข่าวอย่างเดียวใช่ไหม” เงาสังหารถูกปลดอาวุธที่คาดอยู่บนแผ่นอกกว้างออกทีละชิ้นๆ

“อืม ข้าไม่ได้มาซื้อข่าวอย่างเดียว” โวรอนมองมือคล่องแคล่วของแมดส์ เมื่อก่อนยังเก้ๆ กังๆ เดี๋ยวนี้ปลดอาวุธเก่งจนน่าทำอาชีพเสริมเป็นนักล้วง

“แม่ง พกอะไรเยอะแยะฉิบหาย”

“อาวุธแต่ละชนิดใช้งานไม่เหมือนกัน”

“ข้าปลดมาเม้มไว้” แมดส์ยักคิ้ว “ดูมันราคาแพงอยู่” เขาโยนอาวุธสวยงามแต่อันตรายเปี่ยมความตายลงพื้นดังเคร้งๆ

เด็กนี่...โยนอาวุธข้าลงพื้นเหมือนของราคาถูก

เมื่อดึงเสื้อของเอลฟ์ออกและดูว่าร่างกำยำไม่มีบาดแผลตรงไหน แมดส์ก็กุมเป้ากางเกงของอีกฝ่ายตรงๆ

“วันนี้เจ้าจะใช้อาวุธชนิดไหน”

รอยยิ้มของมนุษย์ผมดำเปล่งประกายและหยาบโลน

“ข้าเริ่มชินกับความร้ายของเจ้าแล้ว” เงาสังหารอ่อนใจ เขาก้มลงไปมอบจูบเปี่ยมอารมณ์ความรู้สึกให้ ‘คนรัก’ ที่คิดถึงมาตลอดเวลาที่ห่างกันไป

เอลฟ์กับมนุษย์…

ความรักที่ไม่สมควรเกิดขึ้นอีกคู่หนึ่งหรือ

-------------------------------------------------

โคลด์กินอาหารอย่างเอาเป็นเอาตาย หมดก็สั่งมาใหม่ จานเปล่ากองพะเนินสูงแทบล้ม เครื่องดื่มหมดไปหลายเหยือก เมื่อกินเสร็จเขาก็ออกปากไล่แขกไม่ได้รับเชิญ “ข้าจะอาบน้ำนอนแล้ว”

“ตามสบาย” มาลแกธพูดเหมือนเป็นห้องของตัวเอง

โคลด์ยังไม่ถอดเสื้อคลุมของมาลแกธ แต่จ้องตาเขียว ทำนองว่า ‘ออกไป’

“ข้าแปลสายตาเจ้าไม่ออกหรอกที่รัก” มาลแกธเล่นนาฬิกาทรายบนโต๊ะข้างเตียง พลิกมันกลับไปกลับมา ทรายสีดำไหลวนในขวดแก้ว

“อา ข้าจะอาบน้ำ ข้าจะนอน เจ้าจะทำอะไร” โคลด์เอาสองมือนวดหัวตา

“ข้าจะอาบน้ำและนอนทีหลังเจ้า” มาลแกธนั่งยิ้มอยู่บนเตียง...ของโคลด์

โคลด์ปลดเสื้อคลุมของมาลแกธไว้บนเตียง วางของที่ริบมาไว้บนโต๊ะข้างเตียง และหายเข้าไปในห้องอาบน้ำ

โรงเตี๊ยมนี้ไม่เลว มีห้องอาบน้ำส่วนตัว และมีคนต้มน้ำร้อนมาเทใส่ถังไม้ไว้ให้ตามที่เขาต้องการ

ยังไงก็เงินของมาลแกธ

โคลด์ถอดเสื้อผ้า ร่างปราดเปรียวผิวสีม่วงอมเทาเปื้อนคราบดินและคราบเลือดแห้งกรัง เขาใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำสบู่จากอ่างไม้ ยืนเช็ดตัวหน้ากระจกก่อนลงแช่น้ำ ระหว่างนั้นก็เอียงไหล่มองแผลเป็นที่เกิดจากเวทโกงเวลาของมาลแกธ นึกสงสัยว่ามันจะปริออกมาตอนไหน

และเงาของเอลฟ์ตะวันออกก็เข้ามาในสายตา สะท้อนอยู่บนกระจก

โคลด์หรี่ตา หันกลับไปมองดุ

“จะอาบน้ำกับข้าหรือไง” พอกินอิ่มแล้วดาร์กเอลฟ์ก็มีแรงต่อปากต่อคำ

“ถ้าเจ้าอนุญาต” มาลแกธยืนพิงกรอบประตู เขาจ้องตรงไปยังโคลด์ ไม่ได้ใช้สายตาเจ้าชู้โลมเลีย

แต่สะโพกสวยจริงๆ

“ไอ้นี่” โคลด์ชี้แผลที่หลัง ให้สายตาของมาลแกธยกสูงจากบั้นท้ายของเขา “ทำให้มันกลับมาเลยได้ไหม ข้าไม่อยากรอว่ามันจะปริตอนไหน”

“ข้าไม่เก่งขนาดนั้น แผลบนคอข้าก็ไม่ทราบว่าจะกลับมาเมื่อไหร่”

โคลด์เงียบอย่างยอมรับคำตอบ หลังเช็ดตัวเสร็จก็ลงแช่น้ำ เขาไม่ได้ชวนมาลแกธ แต่ไม่ได้ไล่ เพราะหลับตาก็ไม่เห็นอีกฝ่ายแล้ว น้ำอุ่นหอมกลิ่นสมุนไพรให้ความรู้สึกดีกว่าพื้นโคลนแฉะเละในเส้นทางใต้ดิน โคลด์เผลอถอนใจ เขาเอนหลัง ใบหูแหลมลู่ลงอย่างผ่อนคลาย

โคลด์ไม่ทราบว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตื่นมาอีกทีก็มีแขนหนักๆ ทับพาดตัวจากด้านหลังแล้ว

มาลแกธถือวิสาสะนอนบนเตียงเขา กอดเขา

เป็นครั้งที่สอง...

โคลด์มองตัวเอง มาลแกธกอดเขาผ่านเสื้อคลุมที่เขายืมมา…

ใช่ เขาไม่ได้สวมอะไรเลยนอกจากเสื้อคลุมของมาลแกธ

กลิ่นของเสื้อคลุมกับเจ้าของยิ่งทับหนักลงมาบนตัวเขา ชวนให้ง่วงงุนเข้าไปใหญ่

รอบตัวมาลแกธมักมีกลิ่นยาสูบหอมหนักอวลอยู่เกือบตลอดเวลา ยกเว้นเวลาที่ต้องทำงานเร้นกาย หรือตามรอยโดยไม่ให้เป้าหมายรู้สึกตัว

โคลด์แตะแขนแข็งแรงซึ่งรัดเอว จะดึงออก ทว่าความอบอุ่นของมาลแกธรบกวนใจเขา

ทำไมต้องใจดีทั้งๆ ที่ไม่ได้ใจดีจริงๆ เสียหน่อย

โคลด์ปรือตา…

กลิ่นหอมและอ้อมกอดทำให้เขาผล็อยหลับไป


—————————————————————————

A/N อิ่มๆ กันค่ะบทนี้ ดูผู้ชายเขาจีบกัน -3-


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (2) [18/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 18-03-2017 00:16:32
งอนค่ะ เรางอนคนเขียนหนักมาก ทำไมให้นุ้งโคลด์ปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนี้มีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้วนะยังจะมาแก้ผ้าให้ชายอื่นนอนกอด ฮี่ยยยยยยยย งอนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (2) [18/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 18-03-2017 01:16:41
งอนค่ะ เรางอนคนเขียนหนักมาก ทำไมให้นุ้งโคลด์ปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนี้มีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้วนะยังจะมาแก้ผ้าให้ชายอื่นนอนกอด ฮี่ยยยยยยยย งอนนนนนนนนน
ใจเย็นๆ ค่ะ โอ๋เอ้
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (2) [18/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 18-03-2017 01:54:34
แบบนี้ก้อได้หราาา 55555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (2) [18/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-03-2017 08:33:45
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (2) [18/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 18-03-2017 08:34:27
กรี๊ด โคลด์อย่าปล่อยตัวปล่อยใจนะ
เรือราชาของชั้นจะรอดปลอดภัยใช่มั้ยย  :ling1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (2) [18/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 18-03-2017 08:37:03
พายวนไปค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (2) [18/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-03-2017 10:47:20
สองตอนและ อิลมาเร ยังด่าลูกน้องไม่เสร็จ
โวรอน แมดส์  :กอด1: :กอด1: :กอด1: เสร็จไปและ
มาลแกธ รักจริงหวังแต่ง  :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (2) [18/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 18-03-2017 11:23:02
สองตอนและ อิลมาเร ยังด่าลูกน้องไม่เสร็จ
โวรอน แมดส์  :กอด1: :กอด1: :กอด1: เสร็จไปและ
มาลแกธ รักจริงหวังแต่ง  :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
55555 อิลด่ายาวๆ เลยค่ะ  :mc4:
โคลด์บอกรู้ว่ายาว ไปพักก่อนดีกว่า...
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (2) [18/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 18-03-2017 15:09:20
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (2) [18/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 18-03-2017 18:06:00
โอย...อิป๋า #ได้หมดถ้าสดชื่น

มนุษย์กะเอลฟ์ร้อนแรงยิ่งกว่าเหล้าบาดคอ

*สมทบช่วยค่าตัวซิก 1 สลึง มาแต่ชื่อ โธ่....อนาถ!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (2) [18/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 18-03-2017 19:32:04
 :m3: ชอบคู่มนุษย์กับเอลฟ์
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (2) [18/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 18-03-2017 20:41:57
โอย...อิป๋า #ได้หมดถ้าสดชื่น

มนุษย์กะเอลฟ์ร้อนแรงยิ่งกว่าเหล้าบาดคอ

*สมทบช่วยค่าตัวซิก 1 สลึง มาแต่ชื่อ โธ่....อนาถ!
ได้หมด ถ้าสดชื่น (ทำเสียงเข้มๆ ตอนพิมพ์)

:m3: ชอบคู่มนุษย์กับเอลฟ์
คู่นี้ไม่ปวดหัวด้วยค่ะ เพราะปวดหัวเสร็จแล้ว *0*
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (3) [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: owlseason ที่ 18-03-2017 21:05:50
ว้ายเห็นเปลี้ยนหัวข้อ เป็นตอนที่ 3 รีบวิ่งเข้ามารอเลยค่ะ
ปกติไม่เคยมาทันถ่ายทอดสด
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (3) [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 18-03-2017 21:31:20
บทที่ : 17  โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (3)

“จอมทัพทมิฬตามหาคนอยู่ ดาร์กเอลฟ์สอง ชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง อายุไม่เกินร้อยปี จุดเด่นคือผมสีเงิน ตาสีม่วง ผิวสีม่วงอมเทา” บาร์เทนเดอร์ เจ้าของโรงเตี๊ยม และนักค้าข่าว--แมดส์พึมพำบอกคนข้างกายบนเตียง “นี่แหละข่าวข้า จ่ายเงินมาด้วย”

กอห์นดีเอนหรือโวรอนครุ่นคิด ผมสีเงิน ตาสีม่วง...

เขานึกออกอยู่คนหนึ่ง

“ตอนนี้เริ่มมีการลักคณิกาในซ่องแล้ว ดาร์กเอลฟ์บางคนย้อมสีผมให้มีราคา บางคนปิดสีผมจริง สีตาใช้เลนส์ของพวกดวอร์ฟตกแต่งได้ คงแยกกันอีกสักพัก เขาว่าจอมทัพทมิฬเอาหมดถ้าคุณสมบัติตรง ที่หายากคงสีผิว ผิวสีดอกไลแลคสวย ถึงได้ไปหาเอากับพวกคณิกา”

แมดส์เอ่ยชมสีผิวตามจริง มันเป็นมนุษย์หัวขบถ จึงไม่เหยียดสีผิวดาร์กเอลฟ์ตามเหล่าเอลฟ์

“พวกหน่วยคิงเบลดถึงได้อิดโรยกันนัก”

หน่วยคิงเบลดมีหน้าที่รักษาความสงบของบ้านเมือง จับกุมผู้ทำผิดกฎหมายรูเมเรียร์ (แน่นอนว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากับแอสซาสซิน) มีอำนาจสอบสวนความผิดในขั้นต้น ก่อนส่งตัวไปพิพากษาความผิดในชั้นศาล

“อืม...เขาลักคนไปล้างสีดูสินค้ากันอยู่ แล้วก็มีพวกมั่ว จ้องลักเอาคณิกาดาร์กเอลฟ์ชั้นสูงสวยๆ ไปขายต่อ ทั้งชายและหญิงนั่นแหละ” แมดส์หัวเราะ กลุ่มผมสีดำและใบหน้าง่วงงุนจมลงไปในหมอนนุ่มใบโต

“ข้ายินดีจ่ายเพิ่ม ถ้าเจ้าให้ข้อมูลว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว” เงาสังหารลูบศีรษะคนรัก ไล่ไปถึงบั้นเอว เหมือนลูบเอาใจเสือหนุ่มรูปงาม

“ข้านี่แหละ” ชายหนุ่มผมดำหมุนหน้าหนี “ใครจะมาขายข่าวแข่งกับข้าในเขตนี้ เจ้าจะจ่ายให้ข้าตีไข่ใส่สีเพิ่มไหมล่ะ”

แมดส์ไม่ยอมบอกแหล่งข่าว อาชีพขายข่าวสารมีหลายระดับ ข่าวสารบางเรื่องอาจบิดเบือนแต่งเติมได้เพื่อเพิ่มผลกำไร แต่ข้อห้ามคืออย่าหักหลังแหล่งข่าวหรือปากมากเกินไป เส้นสายที่สร้างมาจะหายวับ--อาจรวมถึงศีรษะ

“ที่รัก” โวรอนจูบท้ายทอยเจ้าเสือขี้เกียจ คล้ายขอให้บอกใบ้

“ไปสืบเอาที่อิซิลดาร์” แมดส์ยอมบอกอีกนิด “ข้ามันแค่นักกระจายข่าว อีกอย่างเมื่อวานก็บอกไปแล้วว่า ‘ขายไปหลายคนแล้ว’ ”

“ขอบใจ” มือหยาบกร้านแบบนักรบล้วงลงไปใต้ร่างของแมดส์

“ยังมีอีกเรื่อง อันนี้ยังไม่ได้ขาย...เฮ้ย! จับอะไรน่ะ” มนุษย์สะดุ้งเพราะเอลฟ์หน้าทนขึ้นทุกวัน บอกเลยว่าเห็นหน้านิ่งๆ แบบนี้ มัน ‘โคตรขี้เอา’

“ยังไม่ขาย?” โวรอนประหลาดใจ ปกติแมดส์จะรีบปล่อยสินค้า ขายทุกอย่างที่ขายได้

“ต้องขยับมือไปถามไปมั้ย” แมดส์หันหน้ามา สีแดงพาดบนใบหน้าหล่อเหลา ตาขวางๆ จ้องดุใส่เอลฟ์ที่กำลังทำเรื่องลามกหน้าตาย

แมดส์ได้รับการขยับมือเป็นคำตอบ

นักค้าข่าวสบถกับหมอน หอบเบาๆ แบบ ‘อย่าให้ถึงตากูนะ’

“ข้าไม่ขายเพราะมันน่าปวดหัวว่ะ ขายไปถ้าไม่จริงขึ้นมาจะซวยกว่า หรือถ้าจริงยิ่งซวยกว่าเดิม”

“ข้าจ่ายเพิ่มอีกเท่าตัว”

โวรอนเป็นลูกค้าเก่าแก่ของแมดส์ตั้งแต่เริ่มกิจการ เอลฟ์ลึกลับ ผมสีทองเกือบขาวตนนี้ถือเป็นลูกค้าชั้นดี จ่ายสดทุกครั้งไม่มีอิดออด เป็นพวกทองถุงทองถัง น่าถลุงให้หมดตัว

“ขอบใจ แต่นี่ไม่ขาย ถือว่าบอกให้ฟัง ปกติเวลามีข่าวเกี่ยวกับจอมทัพทมิฬ ก็จริงบ้างไม่จริงบ้างใช่ไหมล่ะ แต่ข่าวนี้แหล่งข่าวใหญ่ของข้าบอกว่าคนจ่ายเงินซื้อดาร์กเอลฟ์ที่หาอยู่คือคนสนิทของจอมทัพทมิฬ นายพลเบเลธ อัซรานแห่งเผ่าเหยี่ยว เขาถึงเชื่อกันว่าจอมทัพทมิฬหาคนอยู่จริงๆ”

“ไม่แปลกใจที่เจ้าไม่ขายข่าวนี้” โวรอนเข้าใจแมดส์ที่ว่า ‘ถ้าจริงยิ่งซวยกว่าเดิม’

เพราะนักค้าข่าวในแคว้นรูเมเรียร์ดันรู้การเคลื่อนไหวจากแดนทมิฬส่วนลึก

บางเรื่องอันตรายถึงชีวิต ไม่รู้ยังดีเสียกว่า

“เออ อย่ามัวแต่หื่นไปวันๆ” ถึงแบบนั้นมนุษย์ก็ยอมพลิกตัวนอนหงาย ให้อีกฝ่ายเห็นร่างกายส่วนที่ถูกมือของเอลฟ์หยอกล้ออยู่ได้ถนัด

มันยิ้มท้าทาย

“เจ้าคิดราคาข่าวทั้งหมดเท่าไหร่” โวรอนเปลี่ยนไปขึ้นทาบทับ แนบร่างกายเข้าหากัน นิ้วเกลี่ยผมสีดำออกจากดวงตาที่เต็มไปด้วยประกายแห่งชีวิต

มนุษย์อายุสั้น ด้วยเหตุนี้จึงใช้ชีวิตเต็มที่ อาจ ‘มีชีวิต’ มากกว่าเอลฟ์ หรือเผ่าพันธุ์ที่อายุยืนยาวเสียอีก

โวรอนหลงใหลประกายตาของแมดส์ เขามักเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว เมื่อสบตาที่คล้ายได้มองแสงตะวัน

“อ่างอาบน้ำใหม่ดีไหม เอาเครื่องหอมอาบน้ำจากแดนตะวันออกด้วย อ้อ เอาอ่างที่มันพอดีที่แคบๆ ของข้าด้วยนะ ไม่เหมือนคราวก่อน แล้วทำเสร็จไวๆ หน่อย เจ้าทำให้ข้าชอบแช่น้ำอุ่นแบบพวกคนรวยแล้ว”

แมดส์ดันสะโพกขึ้นหยอก มือสาละวนกับเส้นผมยาวๆ และแผ่นหลังกว้างกล้ามแน่นตึงของโวรอน

“แล้วก็...” มนุษย์ยกศีรษะ เลียริมฝีปาก ดูดตรงใบหูส่วนบนของเอลฟ์ “...เหมือนเดิม”

โวรอนหรี่ตาอย่างพอใจ

ปกติเงาสังหารไม่ให้ใครแตะใบหู ซึ่งอย่าว่าแต่หูเลย ส่วนอื่นในร่างกายก็ไม่มีใครได้แตะทั้งนั้น เขาใส่ชุดรัดกุม ทุกส่วนพกอาวุธ แต่กับแมดส์...เขาเปลือยเปล่า ให้มนุษย์ได้สัมผัสถึงจิตวิญญาณส่วนลึก--ที่ไม่มีใครเคยไปถึง

“อ่างอาบน้ำคงเสร็จไว แต่เครื่องหอมสำหรับอาบน้ำใช้เวลาหน่อย กว่าจะข้ามน้ำข้ามทะเล กว่าจะข้ามพรมแดน เจ้ารอไหวหรือ”

“ข้ารอไหวแน่นอน ท่านเอลฟ์” มนุษย์พอใจกับคำตอบจนยิ้มกว้าง และมอบจูบเร้าอารมณ์ให้เอลฟ์ด้านบน

----------------------------------------------

เมืองนิมโรเชียน แดนทมิฬ

วันนี้จอมทัพทมิฬออกมากินอาหารเช้ากับเหล่านายพลและทหารยศสูง เขานั่งบนฟูกยกพื้นจุดที่มองเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนภายในห้อง เส้นผมยาวตรงทิ้งตัวสยายเหมือนเส้นไหมสีเงิน รูปร่างของเขาสูงใหญ่อย่างนักรบ แม้ไม่สวมเกราะก็ยังองอาจ ริ้วรอยอายุบนใบหน้าทำให้เขาดูเหมือนมนุษย์ในวัยสี่สิบปี ซึ่งหากนับตามอายุจริง 813 ปี ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่ไวเกินไป

เอลฟ์และดาร์กเอลฟ์ตระกูลสูงมีวัยเยาว์ไม่เกินหนึ่งร้อยปีแรกของชีวิต จากนั้นจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ซึ่งคงรูปลักษณ์งดงามเฉิดฉายไม่แก่ชราตราบนานเท่านาน การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของทั้งสองเผ่าจึงไม่ใช่ด้วยอายุ แต่จะเปลี่ยนไปเมื่อเอลฟ์หรือดาร์กเอลฟ์ตนนั้นรู้สึกแก่ชราจากภายใน หรือได้ยกระดับจิตวิญญาณของตนให้เก่าแก่ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง หรือกระทั่งพบเผชิญบทเรียนชีวิตและความทุกข์ทรมานนานสาหัส

ไม่ทราบเช่นกันว่าจอมทัพทมิฬเข้าข่ายเงื่อนไขใด

ตรงที่นั่งด้านขวาของเขาคือคนสนิทอันดับหนึ่ง--นายพลเบเลธ อัซรานแห่งเผ่าเหยี่ยว

ในแดนทมิฬส่วนลึกอุดมกว่าบริเวณชายแดนซึ่งติดกับรูเมเรียร์และอิซิลดาร์ อาหารหลักมาจากทะเลดำทางอ่าวตะวันตก ทั้งปลาและสัตว์ทะเลมีเปลือก พืชพันธุ์ที่ไม่มีในแผ่นดินอื่นคือ ‘กาแฟและโกโก้’ ให้รสขมแต่หอม ราคาสูง อาจเรียกได้ว่าเป็น ‘ทองคำสีดำจากแดนทมิฬ’

เมล็ดกาแฟและโกโก้ชั้นสูงเป็นสินค้าที่ดวอร์ฟนิยมซื้อมาทำกำไรในแดนกลางและแดนตะวันออก เพราะแม้จะขายเมล็ดพันธุ์ให้แดนอื่นลองปลูกเพื่อเก็บเกี่ยวเอง เมล็ดกาแฟและโกโก้จากแดนทมิฬก็ยังรสชาติดีที่สุด

นายพลเบเลธนิยมดื่มกาแฟโดยเฉพาะช่วงเช้า มันทำให้ประสาทตื่นตัวเต็มที่ไปจนถึงเย็น หลังจากนั้นก็จัดการอาหารที่ให้รสเผ็ดร้อนอย่างสุนทรีย์

...ด้วยใบหน้าดุ ไม่แสดงอารมณ์อื่นใดเหมือนรูปสลัก จนพ่อครัวนึกเอาเองบ่อยว่าจะถูกตัดมือเพราะปรุงอาหารไม่ถูกปาก

ทุกครั้ง มื้ออาหารจะดำเนินไปอย่างเงียบเชียบ นายกองที่นั่งเรียงกันตลอดโต๊ะอาหารไม่มีใครพูดอะไร ทั้งหมดรับประทานอาหารของตนเหมือนกำลังปฏิบัติหน้าที่ เป็นระเบียบเรียบร้อยดุจทหารไขลาน

“เข็มทิศคนตายยังร้องอยู่เลย” จอมทัพทมิฬเคาะนิ้วกับโต๊ะหิน เข็มทิศที่ว่านี้ไม่ใช่เข็มทิศตามปกติ--แบบที่เป็นหน้าปัดมีเข็มแม่เหล็กชี้บอกทิศทาง เข็มทิศคนตายของจอมทัพผู้เหี้ยมโหดทำจากศีรษะสองหัวเย็บติดกัน มันถูกลงอาคมโดยชาแมน เย็บตาและหู เปิดไว้แค่ปาก ให้ส่งเสียงร้องเมื่อสัมผัสพรสวรรค์ในการควบคุมอันเดดของโคลด์หรือฮีมเดียร์ได้

นายพลเบเลธวางส้อมที่กำลังจิ้มเนื้อล็อบสเตอร์ซึ่งพ่อครัวเลาะออกมาปรุงรส และจัดวางเข้าไปใหม่อย่างสวยงามในเปลือก ทราบว่าจอมทัพทมิฬไม่ได้ทักเรื่อยเปื่อย แต่กำลังตำหนิที่การตามหาฮีมเดียร์ช้าเกินไป

เขาคิดจะรายงานหลังเสร็จมื้ออาหาร แต่คงช้าไม่ทันใจเช่นกัน

“นักล่าค่าหัวจับตัวดาร์กเอลฟ์แบบหลับตาสุ่มหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ทหารของข้าคัดกรองจนไม่เป็นอันทำอะไร กลิ่นทองคำคงกระตุ้นพวกมันมากไปหน่อย”

“กดดันพวกเอลฟ์ต่อไป ให้มันยุ่งไม่แพ้เรา” จอมทัพยกยิ้ม ขัดกับความหน้าตายของเบเลธ “แล้วกวินีเวียร์ล่ะ นางก็สำคัญ หลังนางมีบุตรกับฮีมเดียร์ ข้าอุตส่าห์ตั้งใจยกนางให้เจ้าเป็นคนแรก”

แผนการของจอมทัพทมิฬคือ ให้ฮีมเดียร์กับกวินีเวียร์สร้างทายาทสักสองสามคนก่อน จากนั้นแยกทั้งสองไปสมรสกับนายพลและสตรีสูงศักดิ์ในเผ่าต่างๆ เวียนไปเรื่อยๆ แล้วค่อยให้สองพี่น้องกลับมาสมรสกันใหม่อีกครั้ง

ให้สร้างทายาทให้มากที่สุด

กวินีเวียร์พรั่นพรึงถึงความจริงนี้จึงพาฮีมเดียร์หนี เรื่องการแต่งงานกับเธอที่น้องชายทราบเป็นเพียงส่วนเล็กๆ

“ร่องรอยล่าสุดสืบได้ถึงเส้นทางมังกรขอรับ น่าจะอยู่ในกระเพาะของเอเลียตกระมัง” นายพลเบเลธมีอารมณ์ขันที่ทำให้คนฟังตลกไม่ออกสักเท่าไหร่ ซ้ำยังเป็นอารมณ์ขันแบบหน้าตาย คำตอบเมื่อครู่ทำเอาทหารบางคนสำลัก

“หลักฐานยืนยันล่ะ”

“ข้ากำลังเร่งดำเนินการ หากเอเลียตได้ตัวนางจริง คงต้องวางแผนต่อรองกับราชามังกรสักหน่อย”

“มันแตกกับข้าเพราะมันคิดว่าตนเองไม่เป็นเดรัจฉานเท่าข้า จับตาราชามังกร แต่จงตามหากวินีเวียร์แบบที่หาฮีมเดียร์ไปพร้อมกัน” จอมทัพทมิฬหัวเราะ ดวงตาสีเงินอันมีริ้วสีดำคมกริบแทรกอยู่เปล่งประกายขำขัน

“ขอรับ” เห็นจอมทัพทมิฬผ่อนคลาย นายพลเบเลธก็กินอาหารต่อ ส่วนทหารคนอื่นๆ ก็หายใจคล่องขึ้นบ้าง

“ไปจัดการให้เรียบร้อยก็แล้วกัน ใช้กำลังของเจ้ากับอย่างอื่นนอกจากนายบำเรอบ้าง เบเลธ”

“ขอรับ”

ช่างเป็นมื้อที่ไม่สุนทรีย์เอาเสียเลย


นายพลผู้ถูกตำหนิคิด


—————————————————————————

A/N มองมุมอื่นกันบ้างค่ะ ฝั่งดาร์กเอลฟ์ที่ถือว่าเป็นศัตรูสำคัญก็เริ่มออกโรงละ

(ระหว่างจอมทัพทมิฬกับนายพลเบเลธ ความร้ายกาจกินกันไม่ลงเลยค่ะ)


เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย


ในโลกของ #ElvenAlmanac ฝั่งดาร์กเอลฟ์นิยมชายรักชายมากกว่าฝั่งเอลฟ์

คือฝั่งเอลฟ์มีและไม่ได้ต่อต้าน ไม่ถือเป็นบาป แต่เทียบฝั่งดาร์กเอลฟ์ที่แต่งเมียชายเป็นล่ำเป็นสันไม่ได้

ดาร์กเอลฟ์คือแต่งเมียก็ระบุไปเลยว่าจะแต่งเมียหญิงหรือเมียชาย มีเมียเยอะได้เท่าที่เลี้ยงไหว

แต่เอลฟ์ส่วนมากจะแต่งงานกับคนคนเดียวเท่านั้นค่ะ จึงไม่ค่อยมีการแต่งเมียชาย เพราะจะไม่มีทายาท


การที่เราออกแบบโลกไว้แบบนี้ ก็มีผลกับความมากเมียของเอลฟ์ตะวันออกและดาร์กเอลฟ์

เราเข้าใจว่าไม่มีใครชอบคนหลายใจหรอก แต่เราอยากสื่อว่าพื้นฐานโลกเขาเป็นแบบนี้

ตัวละครบางคนในเรื่องถึงไม่เคร่งเรื่องการรักเดียวใจเดียว


เราชอบอ่านประวัติศาสตร์ที่คาดไม่ถึงค่ะ อย่างสมัยก่อนบางศาสนาถือว่าหญิงชายมีสัมพันธ์กันถือว่าบาป

หรือการมีสัมพันธ์กับผู้ร่วมสายเลือดกลับไม่บาป (ตัวอย่างยุคอียิปต์โบราณ)

เพราะงั้นเราเลยนำเสนอโลกที่แสดงถึงความแตกต่างและการยอมรับความแตกต่างนั้น


อ่านกันมาตั้งนานแล้ว คงพอจับทางได้แล้วว่า #ElvenAlmanac ไม่ได้นำเสนอเรื่องรักเพียงอย่างเดียวใช่ไหมคะ

ถ้ามีใครรู้สึกชอบสิ่งอื่นๆ ที่เราใส่ลงมาในนิยายเรื่องนี้ เราถือว่าคุ้มแล้วค่ะ ที่มาเขียน


ส่วนเรื่องรวมเล่ม มีหลายคนถามมาที่เพจ...

เราพูดตรงๆ ว่า ยากจะได้พิมพ์กับสนพ. ค่ะ เพราะมันไม่ใช่นิยายที่จะขายดีในตลาด

(ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่เราก็เห็นตรง เพราะเมื่อมองแบบนายทุน ในเมื่อลงทุนเท่ากัน ก็ลงเงินกับเรื่องที่ขายดีดีกว่าค่ะ)


การเขียนสิ่งที่ชอบ บางทีก็สวนทางกับตลาด (^_^)' เพราะฉะนั้นถ้าชอบเรื่องนี้

ชอบสารที่เรื่องอยากสื่อ ก็อยากให้ชวนเพื่อนมาอ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้นักเขียนค่า (*0*)


ป.ล. ส่วนคู่ กอห์น x แมดส์ เห็นหลายคนบอกว่าชอบ ขอบคุณนะคะ ;)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (3) [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 18-03-2017 21:32:14
ว้ายเห็นเปลี้ยนหัวข้อ เป็นตอนที่ 3 รีบวิ่งเข้ามารอเลยค่ะ
ปกติไม่เคยมาทันถ่ายทอดสด
โอ ตาดีจริงๆ ค่ะ ถ่ายทอดสดแล้วจ้า /แพนกล้อง!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (3) [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 18-03-2017 22:34:48
ตัวละครมีเสน่ห์ทุกตัวเลย แงงงงงง // จอมทัพทมิฬมีความฮอตลึกๆ // จิกหมอน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (3) [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-03-2017 22:40:47
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (3) [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 18-03-2017 22:48:47
ผู้ในเรื่องนี้ดีจริง ๆ

มาแบบแว้บ ๆ ยังสัมผัสถึงความร้อนแรงได้
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (3) [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 18-03-2017 23:34:26
สามเผ่าพันธุ์  จะตีกัน หรือมีข้างกันบ้างมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (3) [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: VampirezBadz ที่ 19-03-2017 07:04:36
 :ling3:9 เพิ่งได้เข้ามาอ่าน อ่านยาวๆสนุกจังเลย ชอบเรื่องราวที่ใส่เข้ามามาก คนเขียนเก็บรายละเอียดได้ดี กิมมิคต่างๆที่ถูกโยงถูกใช้ได้ลงตัวมากเลย สัมผัสได้เห็นเป็นโลกออกมาได้จริงๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (3) [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 19-03-2017 09:21:59
พูดตามตรงว่ารับได้หมด  ชอบแฟนตาซีในแบบที่อยู่บนพื้นฐานความจริง คือมีเหตุมีผล
อาจขัดใจบ้างแต่ก็เข้าใจ มันจะดราม่าก็ตรงนี้(ลุ้นดีชอบ)555

นานๆจะได้เจอเรื่องที่เป็นhigt fantasy แล้วเนื้อเรื่องออกมาดีมาก  backgroundแน่น
ตัวละครมีเสน่ห์ทุกตัว ประมาณว่าละเลยใครไปไม่ได้เลยจริงๆ(ทั้งที่ปกติเป็นพวกอ่านผ่านๆ ตัวไหนไม่สำคัญก็ลืม
แต่เรื่องนี้ต้องอ่านอย่างละเอียดกลัวพลาดอะไรไป)
นี่อ่านนิยายมาเยอะมากตามอายุเลยเริ่มเบื่อแแนวตลาด ชอบนิยายที่มีความแปลกใหม่
แต่ก็อย่างว่าถ้าไม่ใช่แนวตลาด ก็อาจเป็นที่ชื่นชอบเฉพาะบางกลุ้ม ยังไงก็ตาม
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (3) [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 19-03-2017 10:29:37
ผู้ในเรื่องนี้ดีจริง ๆ

มาแบบแว้บ ๆ ยังสัมผัสถึงความร้อนแรงได้
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (3) [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 19-03-2017 12:37:51
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (3) [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-03-2017 15:51:38
จอมทัพทมิฬค่าตัวแพงโผล่และ
เอาแต่ได้จริงๆ เรื่องกวิเนียร์กับโคลด์
ทำร้ายฆ่าล้างเผ่าพันธ์ เขาแล้ว
ยังจะเอาทายาทจากทั้งสองให้ได้มากที่สุด
อย่างกับพวกเขาไม่มีชีวิตจิตใจ ชั่วร้ายจริงๆ
ออกมาก็แขวะนายพลเบเลธมือขวาเลย
เจ๊ยยยย.....แดนทมิฬ นี่เขาเสรีทางเพศมากเลย
คล้ายๆ ประเทศไร น้าาาา
เปิดเผยสุดติ่ง ไม่ต้องมาปิดบังซ่อนเร้น
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (3) [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 19-03-2017 20:56:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (4) [20/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 19-03-2017 23:32:20
บทที่ : 17  โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (4)

โคลด์ฝันถึงอดีต คราวนี้เจ็บปวดและน่ากลัวสมจริงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ที่เคยฝันมา

ท่ามกลางควันไฟ เสียงร้องไห้ของเหล่าทหารหาญถูกทำให้เงียบงันด้วยการกวาดตาเพียงครั้งเดียวของนายพลเบเลธ เหลือเพียงเสียงสะอื้นเล็กๆ ของเด็กชายและเด็กสาวผมสีเงิน บนวิหารที่วางร่างของจอมทัพผู้พ่ายแพ้อย่างสมศักดิ์ศรี

ศพของเขาอยู่บนแท่นบูชา แม้ตาจะหลับปิด ร่างกายเย็นชืด โลหิตย้อมท่วมเกราะอกซึ่งถูกเจ้าชายริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์แทงทะลุ ทว่าเขายังสง่างามน่าเกรงขามเช่นเดียวกับตอนที่ยังมีลมหายใจ

นายพลเบเลธกดหลังคอเด็กชายอายุสิบขวบปีจากเผ่าอันเป็นที่รักของเทพีจันทร์ ตัวมันเล็กนิดเดียว เพิ่มแรงกดอีกนิดกระดูกคอคงหัก ฝ่ามือสองข้างของเด็กชายถูกกรีดเป็นแผลฉกรรจ์ไปถึงท้องแขน เลือดสีทองไหลหยดลงพื้น

“ฮีมเดียร์...”

เสียงของนายพลเบเลธสั่นในอก หากประสาทไม่แข็งคงล้มพับ นัยน์ตาที่เคยเป็นสีดำยามปกติ ขณะนี้แดงก่ำไปถึงตาขาว

“เจ้ารักบิดาหรือไม่”

“รัก” เด็กชายสะอื้น “ข้าพยายามอยู่ ข้าพยายามอยู่...ท่านพี่”

ทั้งสองไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ เพราะฮีมเดียร์เป็นแค่บุตรบุญธรรม แต่ทหารยศสูงทั้งหมดในที่นั้นคือบุตรชายของจอมทัพทมิฬ พวกมันไม่ได้ใช้นามเผ่าของจอมทัพ เพราะจอมทัพผู้นี้ไม่มีเผ่า เขาให้บุตรธิดาใช้นามเผ่าของมารดาตั้งแต่เกิดและเก็บเป็นความลับ ฝ่ายเอลฟ์จึงไม่ทราบว่าเขามีบุตรหลานมากมาย

เมื่อครั้งทำลายเผ่าจันทร์ จอมทัพทมิฬหัวเราะและบอกกับนายพลเบเลธผู้เป็นบุตรชายคนโตว่า

 

“ข้ามีบุตรหลานอยู่ทุกเผ่า ทั่วแผ่นดินทมิฬ ต่อไปก็จะมีเชื้อสายของข้ากับเชื้อสายของเผ่าจันทร์ หากเทพีจันทร์จะสาปข้าก็สาปมาเถิด เท่ากับนางสาปเผ่าที่นางรัก และสาปบุตรทั้งหมดของบิดานภากับมารดาสมุทร”


 

นี่คือจอมทัพผู้กล้าท้าทายกระทั่งเหล่าบิดามารดา

“โปรดปรานีฮีมเดียร์ ท่านพี่!” กวินีเวียร์ร้องลั่นขณะถูกพี่ชายต่างสายเลือดอีกคนรัดตัวไว้ เธอร้องไห้ให้บิดาบุญธรรมและร้องไห้หนักขึ้นตอนฮีมเดียร์โดนรีดเลือด สัตว์ป่าพาหนะและสัตว์ร้ายใช้ทำสงครามแตกตื่นต่ออารมณ์ของเด็กสาวเผ่าจันทร์

ไกลจากวิหารมีเสียงสัตว์ร้ายคำรามอื้ออึง สัตว์ขนาดมหึมาบางส่วนหลุดมาวิ่งพล่านจนพื้นสะเทือนเหมือนแผ่นดินถล่ม

"ไม่ถึงตายดอก กวินีเวียร์"

มือที่กดหลังคอค่อยๆ คลายลง เด็กชายผู้ได้รับพรสวรรค์อันตรายรู้สึกถึงมือเปื้อนเลือดค่อยๆ เคลื่อนจากท้ายทอยไปยังหลังศีรษะ นิ้วแข็งแรงกดนวด คล้ายปลอบโยน คล้ายขู่ในที

“ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังพยายาม” นายพลเบเลธก้มลงกระซิบข้างหู “เจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังใช่ไหม ฮีมเดียร์”

เด็กชายสูดจมูก หันไปมองพี่สาว เขารู้ว่าถ้าทำไม่ได้...พวกเขาพี่น้องก็อาจต้องจบชีวิตลงพร้อมบิดาบุญธรรม

ฮีมเดียร์วิงวอนต่อบิดาแห่งความตายด้วยจิตวิญญาณทั้งหมด

...รอจนนึกภาพท่านพี่เบเลธหักคอเขาได้นับร้อยครั้ง ฮีมเดียร์จึงได้รับการตอบกลับจากบิดาผู้สถิต ณ เบื้องล่างพิภพ ทว่าคำตอบกลับนั้นยิ่งสร้างความสะพรึงให้แก่เด็กชาย

“บิดาแห่งความตายเอ่ยว่า…” ฮีมเดียร์เสียงสั่น “นะ...หนึ่งพันคน ทะ...ทหารกล้าหนึ่งพันคน สังเวยชีวิตตัวเอง...แลกกัน”

นายพลเบเลธสามารถเป็นใหญ่ได้ อำนาจบารมีของเขาเป็นรองแค่บิดา ถ้ายอมถอยทัพตอนนี้ คิงเฟรธูรินย่อมปรามเจ้าชายมงกุฎดำซึ่งกำลังบาดเจ็บสาหัสให้หยุดทำสงครามได้ และยอมทำสัญญาสงบศึก

หากต้องการเรืองอำนาจในแดนทมิฬ เบเลธไม่มีเหตุผลให้บิดาคืนชีพ

“หนึ่งพันคน…”

นายพลเบเลธเอ่ยโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าสักนิดหนึ่ง ขณะทหารยศสูงที่ได้ยินสูดลมหายใจไม่ทั่วท้อง

เขาพยักหน้าให้น้องชายต่างสายเลือดที่อยู่ใกล้เข้ามาคุมฮีมเดียร์แทน ส่วนตัวเองก้าวออกจากวิหาร ยืนตระหง่านเหนือนักรบแดนทมิฬที่รอฟังข่าวจากด้านใน

“ปลิดชีพตนเสีย”

เสียงที่เปล่งออกมาลอยไปตามลมหนาว เยียบเย็นถึงสันหลัง

นายพลเบเลธไม่ได้เอ่ยนามใคร ไม่ได้พูดถึงตัวเลขน่าสะพรึง ดวงตาคมยิ่งกว่าใบขวานอันเป็นอาวุธคู่กาย เด็ดขาดยิ่งกว่าค้อนลงทัณฑ์ซึ่งกำในมือซ้ายยามออกรบ

ทหารหาญซึ่งบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจได้ยินคำสั่งนั้นชัดเจน พวกมันลังเล...ใช่เพราะกลัวความตาย แต่เพราะเสียขวัญกำลังใจจนไม่สามารถเข้าใจคำสั่งที่เข้าใจได้ยากสุดขีดในสถานการณ์วิปโยคเฉกนี้

พวกมันยกอาวุธเตรียมพร้อม ตั้งปลายดาบใต้คางตน ท่วงท่าดั่งกำแพงเหล็ก ทว่าสายตายังรอความเมตตาที่จะได้ยินความจริง คำพูดสักอย่าง หรือคำอธิบายเหตุผลที่สั่งให้พวกมันปลิดชีวิต

นายพลเบเลธยกยิ้ม เมื่อเห็นว่าทหารเตรียมพร้อมทำตามคำสั่งแม้จะไม่ทราบถึงเหตุผลแน่ชัด

พวกมันภักดี

“ทหารข้า…” นายพลเบเลธผายมือ “พวกเจ้ากำลังจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แดนทมิฬ”

เสียงเป็นกังวานดังทุ้ม ชวนให้หัวใจเต้นอย่างหนักแน่น

“บิดาแห่งความตายเมตตาแล้ว จอมทัพทมิฬจะกลับมาจากอุ้งพระหัตถ์ของพระองค์ พร้อมอำนาจ...พร้อมกำลัง! รูเมเรียร์จะกลายเป็นเถ้าในเพลิงกัลป์ อิซิลดาร์จะสยบแทบเท้า กระทั่งเอลฟ์นักรบแดนตะวันออกยังต้องหั่นเปียสงครามของพวกมันด้วยความสิ้นหวัง!”

นายพลเรียกให้นายทหารกล้าคนหนึ่งเดินขึ้นบันไดหน้าวิหารมาหาตน ก่อนจะตบบ่าอย่างหนักแน่น โอบมันเข้ามาเหมือนพี่น้อง

“ทหารข้า! พี่น้องข้า! อนาคตของแดนทมิฬขึ้นอยู่กับพวกเจ้า! บิดาแห่งความตายทรงเมตตาอย่างถึงที่สุด ทรงสัญญาว่าจะโอบกอดและจุมพิตพวกเจ้าด้วยรักยิ่ง พวกเจ้าจักเป็นนิรันดร์ในดินแดนของพระองค์ จักมีอาหาร! ไวน์! สตรีโฉมงามและทุกสิ่งที่พวกเจ้าต้องการ...ฟังเสียงกระซิบของพระองค์ที่ข้างหูพวกเจ้าในตอนนี้ มันเป็นความจริง!”

เสียงตอบรับของกองทัพดาร์กเอลฟ์ฮึกเหิมกึกก้อง บรรยากาศโศกเศร้าหมดอาลัยตายอยากเปลี่ยนเป็นเดือดระอุดุจเวลาจอมทัพทมิฬปลุกขวัญกำลังใจก่อนออกรบ

ฆ่าเอลฟ์! แก้แค้น! ฆ่ามัน!

ปลิดชีวิตตัวเอง! เราจักได้ชัยชนะ!


“มอบชีวิตให้พระองค์…” นายพลเบเลธผ่อนเสียงลง “ข้าสัญญาว่าจะไม่สูญเปล่า”

“เพื่อจอมทัพ!”

“เพื่อจอมทัพ!!”

“เพื่อจอมทัพ!!!”

ฮีมเดียร์ได้ยินเสียงตะโกนเช่นนี้จากภายนอกวิหาร เสียงหนึ่งตะโกนแล้วดับลง ตามด้วยอีกหลายเสียงตะโกนต่อๆ กัน ดับลงไปพร้อมกัน

เขาร้องลั่นเมื่อเลือดสีทองถูกบีบให้ไหลโกรกจากมือและแขนด้วยพลังที่มองไม่เห็น ชีวิตของทหารหาญ เลือด น้ำตา ความมุ่งหวังมีชัย ความเคียดแค้นชิงชังอันแดงยิ่งกว่าแดง ดำยิ่งกว่าดำ ไหลผ่านสติสัมปชัญญะของร่างเล็กๆ

ฮีมเดียร์ถูกกระแสความคลุ้มคลั่งของดาร์กเอลฟ์หนึ่งพันคนที่ปลิดชีพตนเพื่อจอมทัพทมิฬถล่มทับ กระแสนั้นพัดร่างเขาสะเปะสะปะ ชนหินโสโครกแห่งโทสะแหลมคม แล้วกดให้จมสู่ห้วงนรกโลหิตอันลึกสุดหยั่ง!

 

“อ๊าก!” โคลด์สะดุ้งสุดตัว ร้องลั่นทั้งที่ตาปิดแน่น เหงื่อกาฬแตกพลั่ก

“โคลด์!”

มีคนเรียกเขา

“ไม่!”

“โคลด์!”

มือของใครคนนั้นตบใบหน้าเขาเบาๆ ก่อนทั้งตัวจะถูกดึงไปกอด ศีรษะถูกโอบให้ซบอก เสียงปลอบโยนเอ่ยว่า

“ข้าอยู่ตรงนี้ ไม่มีอะไร...ไม่มีอะไร”

“ฮือออ!” ดาร์กเอลฟ์ปล่อยโฮทั้งที่ยังไม่ลืมตา ร่างเปลือยหลุดจากเสื้อคลุม โผซุกคนที่ปลอบ จนเมื่ออีกฝ่ายเรียกเขาว่า ‘ฮีมเดียร์’ ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเนิบช้า

ฝันร้ายสมัยยังใช้นามว่า ‘ฮีมเดียร์’ ก็บรรเทาลง

 

ไอโลหิตสีทองไหลเข้าจมูกของจอมทัพทมิฬผู้สิ้นลม มันแทรกไปตามเส้นเลือดในร่างกายอย่างเชื่องช้า แสงสีทองเรืองวาบใต้ผิวสีเทาอมเงินเพื่อซ่อมแซมชีวิต ปิดบาดแผลทะลุอก คืนหัวใจที่แหลกไปแล้วแก่ร่างกายที่นอนนิ่ง

จอมทัพทมิฬยังไม่ฟื้นในทันที บาดแผลภายนอกต้องได้รับการรักษา จิตวิญญาณภายในยังบาดเจ็บสาหัสจากเวทร้ายของเจ้าชายเอลฟ์นอกรีต--มงกุฎดำ

ทว่าเขาคืนชีพแล้ว

...กลับมาหายใจอีกครั้ง

นายพลเบเลธเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เขาก้มลงไป แนบหูกับอกของจอมทัพทมิฬ เสียงหัวใจเต้นแผ่วเบา ก่อนจะค่อยๆ หนักแน่น

“บิดา…” นัยน์ตาแดงก่ำดั่งโลหิตคืนกลับเป็นสีดำรัตติกาล แววตาอ่อนโยนลงยามเอ่ยเรียกผู้ให้กำเนิด ริมฝีปากแห้งผากประทับจูบบนหน้าผากจอมทัพทมิฬ

ท่อนแขนแข็งแรงโอบอุ้มบิดา แม้ว่าตนจะไม่เคยได้รับความเมตตานี้ยามยังแบเบาะ นายพลเบเลธหันมายังกวินีเวียร์ เอ่ยกับนางว่า

"ข้าให้เจ้ากอดน้องชายได้ ปลอบมันเสีย"

นายพลแห่งแดนทมิฬเปล่งเสียงเรียกชาแมนผู้เยียวยา ขณะอุ้มร่างบิดาผู้เป็นที่รักยิ่งเดินไปทางห้องด้านหลังวิหาร

เขารักบิดา หากอสุรกายเช่นนายพลทมิฬเบเลธจะมีความรักเฉกคนทั่วไปละก็...

ฮีมเดียร์กัดปากกลั้นสะอื้น เลือดไหลออกมาเป็นสายจากสองหู ในหัวดังสนั่นด้วยเสียงสาปแช่งเผ่าเอลฟ์ของวิญญาณทหารพลีชีพนับพัน เสียงนั้นช่วยให้เด็กชายลืมความเจ็บปวดที่มือและแขน

แต่อาจทำให้เขากลายเป็นบ้า

กวินีเวียร์เข้ามากอดน้องชายซึ่งเสียเลือดมากจนใกล้หมดสติ ให้ศีรษะเล็กซุกอก แม้ตัวเองสั่นเทาแต่ความกลัวฮีมเดียร์ตายมีมากกว่า เด็กสาวจึงกล้าขึ้นเสียง ร้องขอความช่วยเหลือจากพี่ชายบุญธรรมคนอื่นๆ

“โปรดช่วยเขาด้วย!” กวินีเวียร์ผู้อ่อนโยนกวาดตามองเหล่าพี่ชาย สายตาของเธอคล้ายกลายเป็นสัตว์ป่าดุร้าย

ฮีมเดียร์เสียเลือดขนาดนี้ เด็กตัวเล็กแค่นี้…


กวินีเวียร์ไม่กล้าคิดต่อว่า ‘หากรอดได้คงปาฏิหาริย์’

“หมอ!” พี่ชายคนที่สิบเจ็ดสั่งให้ทหารชั้นรองจัดการ มันผู้นี้อาจใกล้เคียงคำว่า ‘มีหัวใจ’ มากที่สุด

เมื่อหมอเข้ามาดูแผลของฮีมเดียร์ มือของกวินีเวียร์ก็ยังไม่ละจากการกดศีรษะเล็กแนบอก อย่างแม่นกกางปีกปกป้องลูกนก

แม้ในความจริงเธอจะไร้พลัง ทำอะไรไม่ได้เลยก็ตาม

“พี่...”

“พี่อยู่นี่แล้ว...พี่อยู่นี่แล้ว ฮีมเดียร์” กวินีเวียร์เอ่ยเสียงแหบ

ดวงตาสีม่วงของบุตรน้อยแห่งเผ่าจันทร์เหม่อมองพี่สาว รอยยิ้มระโหยค่อยๆ คลี่ออก

“อื้อ...ข้าทำได้แล้ว ข้าปกป้องพี่ได้แล้ว”


—————————————————————————

A/N ;w; ย้อนอดีตทีไรก็มีแต่เรื่องเจ็บปวดเนอะ ฮือๆ
ป.ล. ตอนที่แล้วมีคอมเมนต์ดีๆ เข้ามาเยอะเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
บางทีเราก็ท้อนิดๆ เวลามีคนบอกว่าควรเขียนอะไรที่มันขายได้มากกว่า
แม้เราจะรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่เขียนอยู่มันเฉพาะกลุ่มมากๆ
คือนอกจากเป็นวายที่คนอ่านมีเฉพาะกลุ่ม ยังเขียนแฟนตาซีที่คนอ่านเฉพาะกลุ่มขึ้นไปอีก OTL
เพราะฉะนั้น เมื่อมีคนบอกว่าชอบและสนับสนุนให้เขียนต่อ เราดีใจมากค่ะ  :hao5:

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (4) [20/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 19-03-2017 23:55:13
ตอนแรกที่เข้ามาอ่านและตัดสินใจตามเรื่องนี้ก็เพราะทึ่งมาก
ที่คนแต่งสามารถสร้างโลกใบใหม่ที่เป็นของตัวเองทั้งใบได้ขนาดนี้
มันคือเสน่ห์ของแฟนตาซี ทั้งตำนานการกำเนิดโลกและชนเผ่าต่างๆ เราอ่านครั้งแรกและคิดว่ามันสุดยอดมาก
เราไม่รู้ว่าสไตล์ที่เป็นที่นิยมคืออะไร แต่นิยายสนุกก็คือนิยายที่สนุก และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่แต่งได้ดีมาก สนุกด้วยอิอิ

เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ เราชอบรายละเอียดของเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนิสัยใจคอ ประเพณีของแต่ละเผ่าพันธุ์ ชอบตัวละครด้วย แทบทุกตัวเลย ทุกตัวละครเลยมากกว่า5555 มันมีมิติมากๆ

รู้สึกว่าเสน่ห์อีกอย่างนึงของเรื่องนี้ก็คือการแบ่งตัวละครแต่งกันสองคนอะค่ะ
รู้สึกว่าตัวละครมันเป็นอิสระ เอกเทศมาก อันคอนโทลเลเบิ้ล 555555
ที่พูดมานี่ไม่ได้อวยนะคะ แต่เป็นความรู้สึกเราต่อเรื่องนี้จริงๆ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (4) [20/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 20-03-2017 00:03:18
เขียนต่อไปเถอะจ้ะ

ฉันรออ่านทุกวันเลย


ไอ้จอมทัพกับลูกชายคนโต มันควรหายไปจากสารบบจริง ๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (4) [20/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-03-2017 01:06:39
น่าสงสารจิงๆเลย เอาคืนให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (4) [20/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 20-03-2017 08:55:50
ทำไมอ่านตอนนี้แล้วจอมทัพเคะ
เคะราชินี555 :hao6:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (4) [20/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 20-03-2017 11:49:16
เป็นจักรวาลที่ความสัมพันธ์ซับซ้อนมากจริงๆ แต่เนื้อเรื่องยังชวนติดตามมากๆอยู่ สู้ๆนะคนเขียน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (4) [20/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 20-03-2017 15:17:55
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (4) [20/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-03-2017 15:44:58
โอย.....อ่านไป สะท้านสะเทือนจริงๆ
ไรท์ ทั้สองสุดยอดดดดด
จินตนาการล้ำเลิศ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
เห็นใจในความเป็นราชากระดูก
ถูกพวกราชาทมิฬ ใช้ความเหนือกว่าบังคับ
ฉลาดมาก มีลูกกับทุกเผ่า ไม่กลัวคำสาป อั๋ยยะะะ
ท้าทายอำนาจ  ไม่กลัวบิดานภา มารดาสมุทร
แต่จอมทัพทมิฬ คงไม่อยู่ค้ำฟ้าหรอกนะ
ต้องมีสักทาง ต้องมีสักวัน.....♫ ♬.....ที่นายถูกฝัง ฮึ้ม ฮึ่ม หื่ม หื่ม (ขบฟันไปด้วย)
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (4) [20/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 20-03-2017 19:57:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (5) [21/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 20-03-2017 21:24:38
บทที่ : 17  โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (5)

“ฮีมเดียร์”

เสียงทุ้มนุ่มนวลของบุรุษปลุกโคลด์อีกครั้ง เรียกชื่อเก่าที่เขาฝังไว้ สัมผัสอบอุ่นประทับบนริมฝีปาก กลิ่นหอมคุ้นเคยทำให้เขารู้สึกปลอดภัย

โคลด์ค่อยรู้สึกตัว...ว่าเมื่อสักครู่เขาหลุดปากเอ่ยประโยคสุดท้ายในความฝันออกมาจริงๆ

“มาลแกธ” ดาร์กเอลฟ์มองอาจารย์ของตนเต็มตา รอยน้ำตาเป็นทางบนผิวแก้มสีเข้ม มาลแกลทับเขาไว้ทั้งตัว จับข้อมือกางออก ดูจากสภาพแล้วคงยึดไว้ไม่ให้ดิ้น ผิวเปลือยของเขาถูกกดด้วยร่างล่ำสันของเอลฟ์ตะวันออก ผู้สวมกางเกงนอนตัวเดียว

ฮีมเดียร์มองอย่างเหม่อลอย ยกศีรษะขึ้นให้ปากใกล้ปาก หัวใจของเขาขาดพร่องความอบอุ่นซึ่งโหยหาอย่างแรงกล้า

“ข้าอยู่ตรงนี้...ที่รัก” มาลแกธปัดปลายจมูกกับปลายจมูก

“จูบข้า” ฮีมเดียร์สูดจมูก เขายอมให้อีกฝ่ายยึดข้อมือไว้ แรงบีบหนักแน่นแต่ไม่ทำร้ายทำให้เขารู้สึกปลอดภัย ไม่ตื่นกลัว

“ขอรับ” มาลแกธยิ้ม มือที่กดข้อมือเปลี่ยนมากอบใบหน้า แล้วช้อนขึ้นให้รับจูบอ่อนหวาน

ทายาทแห่งเผ่าจันทร์แตะปากเหมือนลิ้มรสน้ำหวาน...ผิวเนื้อทุกส่วนของเขาตื่นตัว เสื้อคลุมของมาลแกธลื่นอยู่ใต้ร่าง...ด้านบนคือร่างกำยำแข็งแกร่งสมเป็นยอดนักรบแห่งแดนตะวันออก

จูบร้อนแรงขึ้น เมื่อลิ้นของมาลแกธสอดเข้ามาในปากอย่างกึ่งขออนุญาตกึ่งบังคับ เขาโอบศีรษะและแผ่นหลังของฮีมเดียร์ ยกขึ้นมาแนบชิด

หิวกระหาย...ฮีมเดียร์เข้าใจสัมผัสของเอลฟ์ตะวันออก แม้ภายนอกนุ่มนวล แต่ภายในคล้ายสัตว์ร้ายที่กำลังดึงโซ่ล่ามออกทีละเส้น

เขาหลับตา ค่อยๆ แตะลิ้นตอบ เหมือนสัตว์ที่ทำความรู้จักกันช้าๆ...ค่อยๆ เปิดหัวใจออก

ทว่ามาลแกธประกบปากแน่นขึ้น จนเขาต้องหายใจผ่านปากของอีกฝ่าย

ร่างสีม่วงอมเทาแอ่นขึ้นเหมือนจะประท้วงว่า

‘ข้าหายใจไม่ออก’

มาลแกธจึงเลื่อนใบหน้าลงมาที่ต้นคอของฮีมเดียร์ จูบหนักๆ ตั้งแต่ใต้คางจนถึงแผ่นอก ก่อนจะเลื่อนกลับขึ้นมาที่ข้างลำคอ เม้มหนักเสียจนขึ้นเป็นรอยช้ำ ฮีมเดียร์มีกลิ่นเฉพาะตัวที่ทำให้มาลแกธอดทนไม่ไหว มือเริ่มสัมผัสผิวเนียนบริเวณเอว...และสะโพก

ไม่ห้าม...ฮีมเดียร์หรือโคลด์ไม่ห้ามเลย สัมผัสของมาลแกธช่วยลบความฝันอันโหดเหี้ยมได้...ทว่าเขาจำเป็นต้องถาม

“เจ้าใจดีจริงหรือเปล่า”

“คนตัดสินคือเจ้า” มาลแกธลากริมฝีปากกับหน้าท้องของฮีมเดียร์ ซึ่งเกร็งเพราะอารมณ์ใคร่พุ่งสูง

ฮีมเดียร์หลับตา สองมือขยุ้มผมสีทองแดง “เจ้ากระหาย” แอสซาสซินหนุ่มบิดร่างตามรอยที่ริมฝีปากลากผ่าน

รอยเม้มผิวเนื้อต่ำลงมาถึงต้นขาด้านใน

บนเตียง...มาลแกธพูดน้อย เขาให้สัญชาตญาณนำ มือและปากชำนาญเหลือร้ายสัมผัสทุกส่วนที่ตนกระหาย ส่วนอ่อนไหวของฮีมเดียร์ถูกกระตุ้นให้ชูชันร้อนผ่าว

ดาร์กเอลฟ์ครางเสียงเบา ริมฝีปากสีม่วงอ่อนเผยอออก แสงยามเช้าลอดผ่านกรอบหน้าต่างไม้ ผ้าม่านผืนบางปลิวตามแรงลม ชายที่เขาเคยเรียกว่าอาจารย์กำลังปลอบโยนเขาในแบบที่ต่างออกไป

“มาลแกธ...มาลแกธ” ฮีมเดียร์กลับมาเป็นโคลด์ สตาร์ เขาตั้งเข่า สะโพกยกตามความสุขที่ปากของอีกฝ่ายมอบให้

“มาลแกธ…!”

โคลด์ลืมตา ขยุ้มกลุ่มผมที่อยู่ตรงกลางระหว่างขา “ข้าจะ…” ใบหูสีเข้มลู่ลง “จะ...แล้ว อือ…!”

ภาพมาลแกธเงยหน้าขึ้นมาทำให้หัวใจของโคลด์เต้นแรงกว่าเดิม ดวงตาของเอลฟ์ตะวันออกเป็นสีแดงเร่าร้อน ภายในมีประกายเพลิงลุกโชนอย่างให้สัญญาถึงสิ่งที่ร้อนแรงยิ่งกว่า

ลือกันว่าเอลฟ์ตะวันออกเป็นทั้งนักรบและนักรัก ดูท่าจะเป็นความจริง

มาลแกธช่วยปลดปล่อยราคะให้โคลด์ ก่อนที่จะทำให้มันปะทุยิ่งกว่าเดิมเมื่อเขาถอดผ้าพันเอวออก ปลดกางเกงของตัวเองลงให้โคลด์เห็นอารมณ์ซึ่งขยายออกเต็มที่

เขาจับหัวเข่าของโคลด์แยกออก ดันสะโพกเข้ามา

“ตรงไหนที่รู้สึกดีให้บอกข้า” เอลฟ์ตะวันออกพูดปนหอบ รอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์เหลือร้าย เขาตื่นตัวราวกับเอลฟ์หนุ่มเพิ่งหัดทำรัก อาจเพราะรอเวลานี้มานานจนไม่อยากรอ

“จะ เจ้า!” โคลด์ไม่คิดว่ามาลแกธจะทำต่อ...เห็นแล้วว่าความหิวกระหายของบุรุษตะวันออกไม่สามารถดับลงง่ายๆ

โคลด์ถดสะโพก ไม่คิดว่ามาลแกธจะพร้อมรบบนเตียงขนาดนี้ “ข้าเจ็บ...” เขาไม่ได้ร่วมรักกับใครมานานแล้ว สายตาดุปนน้ำตาบอกว่า ‘ข้ายังไม่รู้สึกดี’

มาลแกธจึงหยุด แล้วโน้มตัวลงมาโลมเลียยอดอกที่อ่อนไหว ขณะเดียวกันก็เลื่อนมือต่ำ ขยับมือเนิบช้า กำรูดส่วนที่เพิ่งอ่อนตัวให้แข็งขึ้นมาใหม่อย่างมีศิลปะ เมื่อโคลด์ถูกกระตุ้นไปทุกส่วน เขาก็ค่อยๆ ดันตัวเข้าไปใหม่จนสุด

เมื่อร่างกายของพวกเขาขยับเข้าหากันในจังหวะที่ลื่นไหลกว่าเดิม โคลด์กำผ้าปูที่นอน ปรือตาถามมาลแกธเสียงพร่า

“ข้าผิดหรือเปล่าที่อยากทำแบบนี้”

“หากเจ้าคิดว่าผิด เทพีแห่งความรักที่สถิตในตัวข้าคงเสียพระทัยแย่” มาลแกธจูบแก้มโคลด์แล้วยิ้มให้ “ข้าไม่เคยสนใจพระองค์จนตอนนี้ ข้าผิดหรือไม่”

“อึก! อือ!” โคลด์ส่ายหน้าเกลือกหมอน ใบหูสองข้างลู่ลง มือของมาลแกธช้อนใต้ข้อพับขา ยกสะโพกเขาจนตัวงอ ต้นขาด้านนอกแบออกแทบติดเตียง “ข้าคิดว่า...ข้ายอมเจ้าตั้งแต่เจ้ายอมให้ข้าฆ่า” ใบหน้าแดงซ่านของดาร์กเอลฟ์ในแสงยามเช้าช่างเร้าอารมณ์

“ข้าเป็นของเจ้าที่รัก…” มาลแกธส่งแรงหนักขึ้น “และเมื่อใดที่เจ้ายอมเป็นของข้า นั่นจึงเป็นความรักอันสมบูรณ์”

โคลด์ร้องอ้า! สติของเขาแตะจุดสูงสุด นิ้วเท้าทั้งสิบจิกเตียง “ให้ข้าอีก!”

โคลด์คิดว่าสิ่งนี้ดีแล้วสำหรับการตัดใจจากซิกฟรีด...ซิกฟรีดเป็นราชาแห่งเอลฟ์ มีราชินีที่คู่ควร ความคิดที่จะเก็บดาร์กเอลฟ์ไว้ข้างกายเหมือนความฝันของคนบ้า

เขาจะไม่ตอบสนองความฝันนั้น

เขาไม่อยากให้ซิกฟรีดเป็นบ้า

แต่ยังทิ้งไปตอนนี้ไม่ได้...ต้องใช้เวลา...

โคลด์น้ำตาคลอ

มาลแกธจูบโคลด์แบบที่เรียกได้ว่ากลืนกิน แลกลมหายใจแก่กันและกัน เช่นเดียวกับคลื่นอารมณ์ที่ซัดอย่างรุนแรง

เตียงเล็กสะเทือนไปทั้งหลัง เตียงไม้ราคาถูกส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ดาร์กเอลฟ์ตอบสนองเผ็ดร้อนแบบที่เอลฟ์ตะวันออกไม่คาด ทั้งตวัดขารัดเอว ข่วนหลังเป็นแนวและกัดบ่า ใบหน้าพึงพอใจยอมรับความรักและราคะซึ่งทะลักเข้ามา

โคลด์คำรามฮื่อ! โดยที่ฟันยังในฝังบ่าแข็งแรง

มาลแกธหอบหนัก “เหนื่อยยิ่งกว่าออกรบ” เขาหัวเราะขณะรอโคลด์ปล่อยปาก แล้วแนบหน้าผากเข้ากับโคลด์ ดวงตาสีแดงมองเจ้าชู้

“จริงหรือ...” เมื่ออารมณ์คลายลงโคลด์จึงเอียงใบหน้า ให้อีกฝ่ายจูบที่หู เขาแตะลิ้นบนใบหูสีขาวเช่นกัน

การดูดเม้มใบหูหลังร่วมรัก ทำให้หัวใจอบอุ่นได้มากกว่าคำพูดนับร้อย

“เราควรข้ามอาหารเช้าไป” มาลแกธยิ้มเจ้าเล่ห์

“ไม่เอา ข้าหิว” โคลด์เลียโคนหูของมาลแกธ ลูบแผ่นหลังที่ตนเพิ่งข่วนจนเลือดซิบคล้ายขอโทษ “แต่สั่งมากินในห้องก็ได้”

ใจส่วนหนึ่งของโคลด์เจ็บปวดต่อรักแรกที่เขาควรตัดใจ แต่นั่นก็สามปีมาแล้ว...ส่วนคนตรงหน้า แม้ก้ำกึ่งระหว่างความรักกับการถูกใช้ประโยชน์ เขาก็ยังต้องการพิสูจน์

ทว่า...หากโคลด์ได้คลุกคลีกับชาวตะวันออกโพ้นทะเล จะทราบว่าแววตาของมาลแกธไม่ได้นึกถึงผลประโยชน์อื่นใด

นอกจากได้รับความรักตอบเท่านั้นเอง

----------------------------------------------

อิลมาเรแนบหูกับประตูห้องพักของโคลด์อยู่

เนื่องจากเมื่อวานได้เห็นหน้ากันแล้ว แต่เพราะเธอ ‘อบรม’ เจ้าพวกทำมาค้าขายไม่ได้เรื่องนานไปหน่อย เลยไม่ได้คุยกันดีๆ วันนี้เมื่อตื่นแต่เช้า (เที่ยง) ดวอร์ฟสาวจึงรีบมาหาแอสซาสซินคนโปรด เดินกระโดดๆ มาพร้อมงานที่จะจ้างให้ทำในราคายุติธรรม (สำหรับเธอ)

ทว่าสาเหตุที่อิลมาเรต้องหยุดแล้วเอาหูแนบประตูไม้บางๆ ราคาถูกก็คือ...เสียงที่ลอดมาจากข้างในห้อง

“มาลแกธ...” นี่เสียงของโคลด์

“อืม” นี่เสียงทุ้มๆ ของท่านมาลแกธที่ฟังดูเร้าใจยังไงไม่รู้

“ดวอร์ฟ” ส่วนนี่เสียงของ…

เอ๊ะ


เอลฟ์ร่างยักษ์สวมฮู้ดบังหน้ายืนกอดอกอยู่ด้านหลังเธอ จำได้ว่าเป็นเอลฟ์ที่ลากคอแมดส์ออกจากด้านหลังบาร์

อิลมาเรหมุนตัวกลับไปหนึ่งร้อยแปดสิบองศา ยิ้มแฉ่ง! “นายท่านมีอะไรให้รับใช้เจ้าคะ” แม่ค้าสาวถูมือ เนื่องจากสนิทกับแมดส์นักค้าข่าว จึงทราบว่าเอลฟ์ท่านนี้เป็นถุงทองเดินได้เช่นกัน

“แมดส์กันอาหารเช้าไว้ให้” เอลฟ์บอกนิ่งๆ

โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทองมีบริการอาหารเช้า เป็นโรงเตี๊ยมแรกที่ริเริ่มบริการนี้ในเขตนี้ นักเดินทางบอกกันปากต่อปาก หากเปิดห้องพักแรมจะไม่ต้องเสียค่าซุป ขนมปัง และชีสในตอนเช้า เจ็ดนาฬิกาถึงสิบนาฬิกา ถือว่าคุ้มค่า (แม้คุณภาพเหล้าจะแค่พอใช้ และมีการทะเลาะวิวาททุกคืนก็ตาม)

“แต่ข้ามาหาเพื่อนนะเจ้าคะ…” อิลมาเรบุ้ยใบ้ไปทางประตูห้องอย่างสงบเสงี่ยม ถึงเอลฟ์ที่มาที่นี่ส่วนมากไม่ใช่พวกหัวสูง แต่อย่างไรเผ่าเอลฟ์ก็ยังเป็นพวกเจ้ายศเจ้าอย่าง (แน่ว่า พวกเอลฟ์หัวสูง ชนชั้นสูง หรือขุนนางรวยๆ ย่อมไม่มาโรงเตี๊ยมรูหนูแบบนี้)

เอลฟ์มองไปทางประตู เขาได้ยินเสียงกิจกรรมด้านในโดยไม่ต้องเอาหูแนบ ผ่านทางอุปกรณ์เวทที่หน้าตาเหมือนเครื่องประดับห้อง--นาฬิกาทรายสีดำ

“ซุปกำลังร้อน เจ้าไปนั่งรอเพื่อนด้านล่างเถิด”

อิลมาเรไม่ชอบให้ใครมาสั่ง แต่เพราะค้าขายมานาน จับบรรยากาศเก่ง แม้ไม่อยากไป (เพราะอยากฟังต่อ) ก็ยอมเดินไปทางบันไดลงชั้นล่างแต่โดยดี

ผมทรงทวินเทลสีน้ำตาลอ่อนพลิ้วตามจังหวะการกระทืบเท้า หน้าตาของดวอร์ฟสาวบูดสนิท (นี่คือยอมแต่โดยดีแล้ว) พวกลูกน้องของอิลมาเรคงต้องเป็นกระสอบทรายให้ลูกพี่ต่อไปก่อน

ข้าอยากเจอโคลด์แท้ๆ! อิลมาเรบ่นในใจ เธอเป็นห่วงคู่หูมากทีเดียว

เอลฟ์เดินตาม พอถึงชั้นล่างก็เดินไปด้านหลังบาร์ หยิบผ้าขึ้นมาเช็ดแก้วแทนแมดส์ที่น่าจะยังไม่ตื่น

มีเอลฟ์ร่างสูงท่าทางไว้ตัวอย่างนักรบเจนสนามมาเช็ดแก้วแทนบาร์เทนเดอร์...เป็นภาพที่ประหลาดจริงๆ


—————————————————————————

A/N บทนี้อิลมาเรน่ารักเนอะ \(*0*)/ เฉไฉก่อนเข้าเรื่อง อะแฮ่ม...คือเราเฉไฉเรื่องเรือ official กับเรื่องพระเอกมานานแล้วเนอะ ขอเฉไฉต่ออีกหน่อยละกันเนอะ ^^; แต่สภาพการณ์ตอนนี้ ใจโคลด์อยู่ที่ใคร โคลด์ตัดสินใจยังไง ก็บอกได้ระดับหนึ่งแล้วอะนะ

อาจมีคนผิดหวังต่อการตัดสินใจนี้ หรือมีคนกรีดร้องสมหวังอยู่ แต่อย่างไรก็อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหน รออ่านเรื่องนี้ไปจนสุดทางกันค่ะ ยังมีอีกหลายเรื่องให้ค้นหาเลยนะ จุ๊บๆ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (5) [21/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 20-03-2017 21:57:25
นึกแล้วว่าต้องมีวันนี้ ดีนะที่ลงเรือทั้งสองลำ5555

ไม่ทิ้งแน่นอนค่ะ  เข้ามาดูความเคลื่อนไหวของเรื่องนี้ทุกวัน

ตอนนี้ขอแค่น้องโคลด์มีความสุขก็พอ ความสุขแบบจริงๆอ่ะนะ

แต่สำหรับตอนนี้ หึหึๆ
 :jul1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (5) [21/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 20-03-2017 22:04:14
รวมเรือเลยได้ไหม?
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (5) [21/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 20-03-2017 22:44:27
แงงงงงงง ซิกซิก
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (5) [21/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-03-2017 23:01:13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (5) [21/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 20-03-2017 23:09:08
รวมเรือเลยได้ไหม?

ขณะที่ซบหมอนนอนร้องไห้ มาเจอเม้นนี้ ...   555555555555555
ชอบค่ะ ถึงจะปวดใจแต่บวก 55555

 :hao5:
รักเฮียแกธนะ แต่หนูลงเรือซิกโคล์ดมาแล้ว #ร้องไห้หนักมาก
อ่านๆไปพอรู้ว่าจะเป็นไงต่อ นี่สไลด์ผ่านไวมาก //ทำใจได้เมื่อไหร่จะกลับมาอ่านแบบทีละบรรทัดดีๆนะคะ
ไม่ว่ายังไงก็ตามอ่านต่อค่ะ เรื่องแค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอก (ฮรึก!)
โอ้ยปวดใจ แทนซิก.....       ....      (เพลงมา! *เมียพี่มีชู้ววววว*)

ไม่ว่าจะแกธหรือซิกก็ไม่เป็นไร ... หรอกเนอะ ฮรืออออออออออออออออ  :o12:

ปล. ตัดปัญหาก็สามพีไปเหอะค่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (5) [21/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-03-2017 23:51:14
ถึงจะเชียร์ซิก
แต่มาลแกธ เอลฟ์นักรักก็น่ากิน ไม่เบา
ลีลาร้อนแรง แถมยังรักโคลด์ ก็รับมาลแกธ เข้าสังกัดด้วยละกัน
โคลด์ ก็มีอดีตขมขื่น ทุกข์ทรมาน เศร้าเสียใจ
เพราะจอมทัพทมิฬ
ได้มาลแกธ ปลอบก็ดีกว่าต้องจ่อมจมกับฝันร้าย
เอ่อ.....ก็ซิกไม่ว่างปลอบโยนโคลด์ /ซิก นายต้องเข้าใจนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (5) [21/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-03-2017 23:56:16
แจ้ะ 3P สลับวันกันเนาะลูก ตาลุงดูแซ่บ

หาผัวแก่บ้างดีกว่า 5555++
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (5) [21/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 21-03-2017 00:18:52
ออกตัวก่อนว่าอยู่เรือซิกฟรีด

แต่ก็เข้าใจโคลด์อะ ซิกฟรีดยังไม่ทำอะไรชัดเจนเลย คือความรู้สึกนางอ่ะอาจจะชัดนะคะ
แต่การกระทำเราว่ายังไม่ใช่

ในขณะที่ด้านป๋านั้น....... ชัดทุกอย่าง
ยอมตายได้ก็ยอมมาแล้ว

เด็กอายุ 19 หรือจะสู้ 270

ปล.สัญญากันก่อนนะคนแต่งว่าถึงฉากสู้จอมทัพทมิฬแล้วจะไม่มีใครต้องเสียสละ ;-;
เค้ากลัวดราม่าาา เค้าไม่อยากให้มีเลย
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (5) [21/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 21-03-2017 10:04:09
มาลแกธ มาลแกธ มาลแกธ  :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (5) [21/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 21-03-2017 10:11:26
เป็นฉากรักที่เศร้ามาก เศร้าจริงๆเจ็บปวดเหลือเกิน เพราะหนึ่งรักต้องตัดใจอีกหนึ่งรักก็ไม่แน่ใจ เจ็บปวด
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (6-7) [22/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 21-03-2017 23:08:56
บทที่ : 17  โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (6)

“ข้าเหมือนได้ยินเสียงอิล…” โคลด์ดันอกมาลแกธ หลังผ่านการรบบนเตียงไปอีกยก ซึ่งมาลแกธไม่เหนื่อยเสียที

“ข้าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย” มาลแกธจูบแก้มชื้นเหงื่อของโคลด์ “ขนาดควาร์ยังไม่ได้ยิน แสดงว่าเจ้าหูเพี้ยน” เขายิ้ม ทำท่าจะเริ่มอีกยก

โคลด์หรี่ตา “หูข้าดี...แล้วเจ้า ไม่กลัวขาดใจตายคาเตียงบ้างหรือไง”

“ตายในสนามรักถือว่าเป็นเกียรติ” มาลแกธขยิบตา พลิกให้โคลด์ขึ้นมานอนบนอก

ดาร์กเอลฟ์ปวดหัวขึ้นมาตงิดๆ ทั้งยังระบมไปทั้งตัว ถึงเขาจะเป็นฝ่ายกัดและข่วนเรียกเลือด แต่มาลแกธก็มอบรอยช้ำเป็นจ้ำๆ ในทุกส่วนที่ทำได้ตอบแทนกัน

โคลด์ปรายตามองนาฬิกาทรายสีดำ ซุกหน้ากับอกมาลแกธ “ทำอะไรกับไอ้นี่ที” เขาชี้ พอทราบว่ามันอาจเกี่ยวข้องกับกอห์นดีเอน ในเมื่อเขาเป็นชาแมนและเผยตัวไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังความสามารถทางเวทมนตร์อีก

“มันอยากฟังก็ให้มันฟัง” มาลแกธเล่นผมสีเงินของโคลด์

“ข้าให้เขาฟัง” โคลด์แก้ จะได้ชัดเจนกับซิกฟรีด “แต่หลังจากนี้ เจ้าแน่ใจว่าอยากให้มีคนฟัง?”

มาลแกธจึงขอเวลาสักครู่ เขาควานหากลักไม้ขีดจากกระเป๋าคาดสะโพกสารพัดประโยชน์ พอได้ก็จุดไฟ เอ่ยภาษาควาร์ ลูกไฟดวงเล็กเปลี่ยนรูป มันยืดออกเป็นเส้นขีดล้อมรอบเตียง

“ไม่มีใครได้ยินแล้ว” มาลแกธชูยาสูบเป็นเชิงว่า ‘เอาด้วยไหม’ “แต่จู่ๆ เสียงดับไป มันก็ทราบนั่นละว่าข้ามีความลับ” เขายื่นมือไปจ่อปลายยาสูบกับเส้นอาณาเขตที่สร้างจากไฟ กลิ่นสมุนไพรหอมหวานอวลขึ้นเมื่อถูกเผา

โคลด์ยกตัวขึ้นนั่งคร่อมตักมาลแกธ “มันก็ไม่ได้ลับอะไรหรอก แต่ข้าอยากให้มันเป็นส่วนตัว” น้ำเสียงของดาร์กเอลฟ์จริงจัง “มาลแกธ ล็องธู” เขาเรียกชื่อเต็มของเอลฟ์ตะวันออก

มาลแกธเลิกคิ้ว รอฟังว่าโคลด์จะพูดอะไร

โคลด์ดึงยาสูบจากมือของชายที่เอนตัวพิงหัวเตียงอย่างสบายใจ เขาสูบยาสูบเข้าปอดช้าๆ พอพ่นควันออกมาก็มอบสายตาจริงจังให้

“ข้าจะรับผิดชอบเจ้าเอง ไม่ต้องห่วง เจ้าไม่โดนเอาเปรียบแน่นอน”

...ประมาณชายหนุ่มบอกกับหญิงสาวว่า ‘ข้าได้เจ้าแล้ว ไม่ทิ้งเจ้าหรอก’

มาลแกธถึงกับหัวเราะเสียงดัง ทะลุออกไปนอกห้อง แววตาขบขันคล้ายถามว่า ‘จริงสิ?’

“ข้าดูเหมือนล้อเล่นหรือ” โคลด์สูบอีกเฮือก

รสแรงเหมือนเดิม...

“อา…” เอลฟ์ตะวันออกขยี้ผมสีเงินนุ่มนิ่มของอีกฝ่าย

“ข้ามีความรับผิดชอบ” ดวงตาสีม่วงปรายตาใส่ “แต่เจ้าก็สนุกสนานตามแบบตะวันออกได้ตามสบาย ข้าไม่ถือ”

พูดเหมือนตำหนิว่าข้าไร้ความรับผิดชอบ...มาลแกธคิด แต่ไม่ได้จริงจังนัก เขายังขำอยู่ลึกๆ

“ที่รัก” มาลแกธลูบศีรษะโคลด์แล้วดันให้พิงอก “ขอบใจ”

โคลด์ฟังเสียงหัวใจเต้นหนักแน่น “เจ้าคงไม่ค่อยมีใครมารับผิดชอบสินะ” น้ำเสียงฟังดูสงสารมาลแกธอย่างไรก็ไม่ทราบ

“ถูกต้อง” มาลแกธทิ้งหางตา “เอ็นดูข้าด้วย”

“ได้ ข้ารับผิดชอบเอง”

บทสนทนาไร้สาระ แต่เรียกเสียงหัวเราะจากทั้งสองฝ่าย โคลด์กล่าวจริงจัง แต่พอมาลแกธหัวเราะ เขาก็อดหัวเราะตามไม่ได้

“ต้องแลกของแทนใจอะไรแบบนี้ไหม” เมื่อคิดจะคบหาดูใจ ดาร์กเอลฟ์ก็ทำตามที่พี่สาวเคยสอน ตอนที่ยังหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า โคลด์จำได้ว่าบางช่วงพวกเขาพี่น้องก็มีอาหารดีๆ กิน แล้ววันหนึ่งกวินีเวียร์ก็ตัดผมยาวสลวยของเธอเสียเฉยๆ ดูเหมือนเธอจะมอบเส้นผมให้ใครสักคน แต่ไม่ยอมบอกว่าคนคนนั้นคือใคร

สำหรับดาร์กเอลฟ์ การมอบเส้นผมให้คือการบอกรัก มอบให้แต่เพียง ‘คนรัก’ เท่านั้น

“ไม่ต้องหรอก” มาลแกธให้โคลด์ป้อนยาสูบ “ข้าเชื่อใจเจ้า ความเชื่อใจของเอลฟ์ตะวันออกหนาหนักรู้ไหม”

“เชื่อใจข้าอย่างในโรงนาน่ะรึ” โคลด์ไม่วายจิกกัด “หึ เอาเถอะ ข้าจะพยายามเชื่อใจเจ้า...แต่ก่อนอื่น ข้าลงไปหาอะไรกินก่อน จะได้ไปคุยกับอิลมาเรด้วย”

ตั้งแต่คุยกันว่าให้สั่งอาหารเช้ามากินในห้อง อย่าว่าแต่ลุกไปสั่นกระดิ่งเลย โคลด์ยังไม่ได้ลงจากเตียงด้วยซ้ำ

“ตามใจเจ้า” มาลแกธไล้ปากหยอกใบหูโคลด์ “ที่รัก…”

------------------------------------------------

“เฮ้ โคลด์!” อิลมาเรโบกมือทักทายเมื่อคู่หูลงมาเสียที โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทองชั้นล่างเป็นบาร์และร้านอาหาร ชั้นบนเป็นที่พักแรม ปกติเที่ยงขนาดนี้จะมีลูกค้าเต็มร้าน ขนาดเมื่อวานตอนบ่ายยังเต็มเอี้ยด แต่วันนี้ว่างสนิท มีแค่โต๊ะยาววางอาหารพูนจานกับอิลมาเร และลูกน้องชาวมนุษย์ยืนเฝ้าทางเข้าออก

ป้ายแขวนหน้าประตูร้านเขียนด้วยลายมือน่ารักแบบเด็กผู้หญิงว่า ‘อีกหนึ่งชั่วโมงเปิดร้านนะจ้ะ ♥’

“คนหายไปไหนหมด” โคลด์ถามขณะดึงเก้าอี้สตูล นั่งลงตรงข้ามอิลมาเร และเริ่มจัดการอาหารเช้าทั้งส่วนที่เจ้าของร้านกันไว้ให้คู่ค้าคนสำคัญ และส่วนที่แม่ค้าสาวสั่งเพิ่มให้แอสซาสซินคนสำคัญของเธอด้วยตัวเอง

“ข้าเหมาร้านเลี้ยงเจ้าเลยนะ โคลด์ สตาร์!” ดวอร์ฟสาวยิ้มแฉ่ง ประกายตาสดใสราวเหรียญทอง

“อืม” โคลด์ตักซุปร้อนกำลังดีเข้าปาก ตามด้วยมันอบ น่องไก่ย่าง หมดชามโน้นก็ต่อจานนี้ คล้ายว่าชินกับสถานการณ์จัดเลี้ยงโอเวอร์แบบนี้ของอิลมาเรแล้ว

ครั้งที่เจอมาลแกธหลังออกจากถ้ำมังกร เขากินน้อยเพราะระวังตัว

“ท่านมาลแกธก็มากินด้วยกันสิเจ้าคะ!” อิลมาเรชวน

“ไง อิลมาเร” มาลแกธยิ้มโปรยเสน่ห์ทักทาย เที่ยงวันนี้เขาอารมณ์ดีเลยขยิบตาทักทายดวอร์ฟไปหนึ่งครั้ง แถมยังเผื่อแผ่ยิ้มเจ้าชู้ให้ทุกคนในร้านเป็นพิเศษด้วย

แม้หลายคนในนั้นจะเป็นลูกน้องชายกล้ามล่ำ หัวโล้น หนวดเฟิ้มของอิลมาเรด้วย

“มีอะไรดีๆ เกิดขึ้นหรือ ถึงควักเหรียญทองเป็นเจ๊ใหญ่ใจป้ำ”

“แหมมม ก็ข้าตื่นมา อยู่ๆ ประกาศจับโคลด์ในเมืองหลวงก็หายไปเฉยเลยเจ้าค่ะ” อิลมาเรเกริ่นพร้อมเริ่มจัดการซุปครีมไก่เป็นถ้วยแรก

“มีงานอะไรหรือ” โคลด์ถามหลังจากกินอาหารหมดไปสามจาน

มาลแกธผลาญพลังงานข้าไปมากจริงๆ

“ว้าย เจ้าเนี่ย รู้ใจสมเป็นคู่หูของข้า” อิลมาเรเอาข้าวโพดปิ้งจุ่มซุปแล้วใช้มีดฝานเนื้อข้าวโพดลงไป ทำให้ซุปขาวๆ หน้าตาจืดชืดดูน่ากินขึ้นอีกโข

โคลด์จะไม่รู้ได้อย่างไร อิลมาเรจัดเลี้ยงเขามื้อใหญ่ทีไร มีงานชิ้นใหญ่กว่าตามมาทุกที ยิ่งเธอเกริ่นว่าป้ายประกาศจับเขาถูกปลดไปแล้ว ย่อมสะดวกใจที่จะใช้งาน

มาลแกธนั่งฟังเงียบๆ เขาหยิบเอาข้าวโพดมาฝานลงซุปบ้าง ดวอร์ฟช่างมีวิธีการทำให้อาหารน่ากินขึ้น

“ร้านข้าจะเจ๊ง” อิลมาเรพูดจริงจังทั้งที่มีเศษข้าวโพดติดมุมปาก

“อืม” โคลด์ยิ้ม เอาผ้าเช็ดปากให้ เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่กับอิลมาเรแล้วสบายใจ “แล้วจะเจ๊งได้ยังไง”

“ลูกน้องข้าเอาเงินหมุนไปจ่ายหนี้ที่ยังไม่ต้องจ่าย ตอนนี้เราขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินจ่ายหนี้ที่ต้องจ่ายพรุ่งนี้แล้ว” อิลมาเรพูดขึงขัง ปกติเธอให้ลูกน้องที่ไว้ใจได้ดูแลบัญชีร้าน แต่ตอนหนีจากเมืองหลวง เธอย้ายคนเหล่านั้นไปด้วย เหลือไว้แต่ลูกน้องสมองกล้าม พอกลับมาดูบัญชีจึงถึงกับจะเป็นลม จากนั้นก็ปรี๊ดแตกแบบเมื่อวาน

ที่เธอกลับมาดูร้านช้าขนาดนี้ ส่วนหนึ่งเพราะถูกกักอยู่ในค่ายของหน่วยกาลาฮานด้วย

“แต่เจ้ามีเงินเก็บตั้งเยอะ” โคลด์หยิบขนมปังมาทาแยม

“นั่นเงินเก็บของข้า” อิลมาเรแยกเขี้ยวเหมือนแม่งูจงอางหวงไข่ “ข้าไม่เอามาโปะให้ความผิดพลาดของเจ้าพวกโง่หรอก”

“ยืมเงินจากร้านสาขาอื่น”

“ไม่!” อิลมาเรกอดอก “ความผิดของสาขานี้ พวกมันต้องแก้ด้วยตัวเอง”

มาลแกธฟังบทสนทนาไปพลาง กินอาหารเที่ยงไปพลาง คิดในใจว่า...พวกมันต้องแก้ด้วยตัวเอง แต่คนที่ฉลาด มีฝีมือพอจะกู้หน้าอิลมาเรได้ คงมีแต่โคลด์กระมัง


—————————————————————————

A/N วันนี้ลง 2 ตอนนะคะ 6-7

เราชอบเขียนช่วงอิลมาเรออกค่ะ เธออยู่กับโคลด์แล้วเฮฮาดี

ป.ล. คอมเมนต์ของตอนที่แล้วเราอ่านครบค่ะ เรื่องที่อยากบอกก็บอกไว้ใน Talk ของตอนที่แล้วแล้วอะนะ (>_<)
รักคนอ่านทุกคนเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ /อ้อน


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (6-7) [22/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 21-03-2017 23:15:35
บทที่ : 17  โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (7)

“งั้นไปกู้เงินมาจ่ายก่อน ค่อยให้ลูกน้องของเจ้าทำงานใช้คืน”

“ไม่ ข้า ท่านอิลมาเร ไม่เคยต้องกู้เงินใคร รู้ถึงไหนอายถึงนั่น คนในกิลด์ได้หัวเราะเยาะข้า บิดาแห่งเงินตราจะดุข้าด้วย”

เห็นอิลมาเรแยกเขี้ยวแว้ดๆ แต่โคลด์กลับยิ้มและหัวเราะ ซ้ำยังมีท่าทีตามใจ

เขาชอบที่อิลมาเรเป็นตัวของตัวเอง ทำทุกอย่างได้เอง ขนาดวิธีแก้ปัญหายังเอาแต่ใจตัวเอง

น่ารักดี


“แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอะไร” โคลด์สรุปเข้าประเด็นที่อิลมาเรต้องการ

“ฮุๆๆ” อิลมาเรยิ้ม เอามือปิดปาก “งานนี้เจ้าเท่านั้นที่มีฝีมือพอทำได้ และถ้าเราปิดงานได้ไว เราจะมีเงินถุงเงินถังมาแบ่งกันเลย”

โคลด์หยุดกิน เขาว่างานนี้ยากระดับ SSS แน่

“เจ้าเคยได้ยินเรื่องนักฆ่าหน้ากากดำไหม” อิลมาเรวางแขนเล็กๆ บนโต๊ะอย่างอาเจ๊ใหญ่

“หน้ากากดำ? คนที่เก่งๆ ใส่ชุดดำทั้งตัวและไม่เคยถอดหน้ากาก?” โคลด์หูผึ่ง แม้การแต่งตัวเช่นนี้ถือว่าปกติสำหรับแอสซาสซินเหมือนเป็นแฟชั่นยอดนิยม แต่หน้ากากดำคนนี้พิเศษเรื่องไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าใต้หน้ากากของเขามาก่อน

“ช่ายยย”

“คนที่ริเริ่มเทรนด์ใส่ตุ้มหูเวทป้องกันเวทเสียง”

“ช่ายยย อีก”

“ไอดอลของข้า!” แววตาของโคลด์ฮึมเหิมขึ้นมาทันที จากที่ตอนแรกดูเฉยๆ ปนเหนื่อยใจ ตอนนี้กลับมีไฟเต็มร้อย

“ไอดอลหรือ” ดวงตาของมาลแกธมีแววสนุกสนาน

อ๊ะ! โคลด์ตวัดสายตาเขียวปั้ดใส่มาลแกธ “ใช่ ข้ามีไอดอล เจ้ามีปัญหาอะไร”

มาลแกธหัวเราะ “ไม่...อา ไม่มีปัญหาอะไรที่รัก” เขาผายมือให้อิลมาเรโหมไฟให้โคลด์ต่อ

“มีคนเห็นเขาในเอวา เธมาร์!” อิลมาเรต่ออารมณ์ไม่ให้ขาด

โคลด์ผิวปาก “แอสซาสซินผิดกฎหมายแล้วไม่ใช่หรือ เขากล้าปรากฏตัวด้วย เท่มาก”

มาลแกธลอบขำอีก

ดวอร์ฟสาวพยักหน้าหงึกหงัก “ดูเหมือนเขารับงานคุ้มกันบุคคลสำคัญ แต่ว่าก็ว่านะ ไม่รู้เจ้านายเขาคิดอะไร ถึงหนีบเขาไปด้วยทั้งๆ ที่รู้ว่าอาชีพแอสซาสซินผิดกฎหมายในรูเมเรียร์”

“พวกคนรวยไร้สมองละมั้ง” โคลด์ร่วมวงนินทากับอิลมาเร “แต่เขาไม่น่าไปทำงานให้คนรวยไร้สมองเลยนะ”

“แล้วเขาควรทำงานแบบไหนรึ” มาลแกธคึกคัก

โคลด์โบกมือแบบเมินมาลแกธ เขาให้อิลมาเรพูดต่อได้เลย

“ยังไงก็แล้วแต่” อิลมาเรยิ้มฮี่ๆ “นี่คือตารางการปรากฎตัวของเขาตามสถานที่ต่างๆ ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ข้าซื้อข่าวมาไม่ถูกเลยนะ แต่มันคุ้มค่า ถ้ายึดตามกิจวัตรนี้ ข้าคำนวณว่า วันนี้เขาจะไปที่นี่ในอีกสามชั่วโมง!” อิลมาเรชี้สถานที่ในแผนที่วาดเองอย่างบิลด์อารมณ์เต็มที่ “มีนักสะสมอยากได้หน้ากากของเขา เจ้าไปชิงมา ไม่ต้องปะทะกันตรงๆ ก็ได้ แค่ชิงแล้วเผ่นเลย!”

“ค่าประกันบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเล่า...อิลมาเร” มาลแกธพูดเหมือนเป็นนายหน้าต่อรองค่าตัวโคลด์ “งานระดับนี้เจ้าได้ประโยชน์มาก แต่ถ้าโคลด์พลาดเล่า ถ้าบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เจ้ามีอะไรเป็นหลักประกัน ถ้าโคลด์เสียแขน เจ๊ใหญ่ปลอบขวัญหนึ่งร้อยควินน์ เสียขา สามร้อยควินน์...อย่างนั้นหรือ”

“เจ้าเงียบไปเลย ข้าสนใจงานชิ้นนี้” โคลด์รับใบสั่งงานมาดูรายละเอียดอย่างไม่สนใจมาลแกธ (อีกรอบ)

อิลมาเรยิ้มน่ารักให้มาลแกธ เธอจับจุดคนเก่ง รู้ว่าต้องเจรจาอย่างไร รู้ว่าจะหาข่าวสารที่ไหน และการคาดเดาสถานที่ที่นักฆ่าหน้ากากดำจะไปถึงขนาดกำหนดวันเวลาได้...ถือว่ามั่นใจในตัวเองสูงมากทีเดียว

“เจ้าอยากทำงานกับล็องธูหรือไม่” มาลแกธกอดอก “หากได้ดวอร์ฟสาวงาม หัวก้าวหน้า ความสามารถสูงอย่างนี้...เราคงเลิกรบด้วยดาบ แต่หันมารบด้วยทองคำ”

“ถ้าท่านมาลแกธแต่งเป็นเขยเข้าบ้านข้านะเจ้าคะ” อิลมาเรเข้าโหมดแม่ค้าเต็มตัว เสือปะทะสิงห์

เอลฟ์ตะวันออกหัวเราะชอบใจ เขาปรบมือให้อีกฝ่าย “ในสนามการค้า เจ้าชนะ”

ที่จริงเมื่อคืนอิลมาเรไม่ได้นอนทั้งคืน ถึงได้ตื่นตอนเที่ยง เธอใช้เวลาตั้งแต่เมื่อเย็นวานสั่งให้ลูกน้องเร่งหาใบสั่งงานที่จ่ายเงินสดก้อนงาม และสามารถทำงานเสร็จได้ไวทันจ่ายหนี้ เมื่อเลือกงานได้แล้วยังใช้พลังการวิเคราะห์ทั้งหมดกับสถานที่ที่เป้าหมายจะปรากฏตัว ถ้าเดาพลาดไป เธอจะชวดทั้งหมด ถือว่าการเป็นแม่ค้า นอกจากความหลักแหลมแล้ว ยังต้องมีดวง

“เจ้าแน่ใจได้ยังไงว่าเขาจะปรากฏตัวที่นี่ ตามวันและเวลานี้จริง” โคลด์ถาม

“มีโอกาส 99.99% ข้าถึงเลือกงานนี้” อิลมาเรดูมั่นใจมาก จากนั้นก็อธิบายสาเหตุ

แม่ค้าอย่างอิลมาเร พึ่งดวงแค่ 0.01% เท่านั้น

พอได้ฟังสาเหตุ โคลด์ถึงกับตั้งศอกบนโต๊ะ จับมือหมับกับอิลมาเรในท่างัดข้อ ซึ่งคือการจับมือทำสัญญา (ทาส) ซื้อขายแลกเปลี่ยนอันร้อนแรงอย่างดวอร์ฟ

“ตกลงข้ารับงาน!”

--------------------------------

“นายน้อย เย็นนี้ข้าขอใช้เวลาส่วนตัวไปซื้อของ” มอร์นเพนหรือนักฆ่าหน้ากากดำ--เป้าหมายของสองคู่หูในโรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทองเอ่ยขออนุญาตกับทาราเธียล

ทั้งสองแอบอยู่ในตรอกไม่ไกลจากโรงเตี๊ยม เพราะทาราเธียลยืนยันจะสะกดรอยตามลุงของตัวเองให้ได้

ตั้งแต่โรงนา ทาราเธียลสนใจว่าดาร์กเอลฟ์ตนนั้นเกี่ยวข้องอย่างไรกับท่านลุง สำหรับเขา ท่านลุงไร้จุดอ่อนเกินไปจนน่าหมั่นไส้ หากได้พบชีวิตรัก ‘ลับๆ’ ส่วนตัวของท่านลุง ก็คงเหมือนได้กุมไพ่เหนือกว่า (ทางความรู้สึก) บ้าง

 “เดี๋ยว” ทาราเธียลเอานิ้วทาบปากให้มอร์นเพนเงียบก่อน เขาเงี่ยหู คล้ายฟังเสียงจากตุ้มหูซึ่งบรรจุไฟดวงเล็กเอาไว้

ทาราเธียลไม่ใช่ควาร์ เขาฟังภาษาของไฟไม่ออก แต่มาลแกธหาวิธีเหมาะสมเพื่อสื่อสารกับหลานชายจนได้

ผู้เป็นลุงบังคับให้ไฟดวงน้อยขยับชนตุ้มหูของหลานชายเป็นจังหวะ ส่งรหัสแบบเทียนเวทที่เคยใช้กันเมื่อก่อนว่า...

‘หน้ากากของมอร์นเพนตกอยู่ในอันตราย’

“หน้ากากของเจ้าตกอยู่ในอันตราย” ทาราเธียลขมวดคิ้วหนาเข้มสีทองแดง “ท่านลุงส่งสารมาบอกเท่านี้”

มอร์นเพนมีท่าทางแปลกใจ แต่ตอบอย่างปกติด้วยเสียงแหบเป็นเอกลักษณ์ว่า “มีคนอยากลองถอดหน้ากากของข้ามากมาย ปกติข้าตัดมือพวกมัน มีแต่ท่านที่ข้าไม่เคยตัดมือ เพราะท่านเป็นเจ้านาย”

นั่นเป็นเรื่องสมัยมอร์นเพนเพิ่งเซ็นสัญญารับใช้ทาราเธียลใหม่ๆ ซึ่งก็หลายปีมาแล้ว

“เรื่องแค่นี้ท่านลุงถึงกับส่งสารมาเลยรึ” ทาราเธียลเอามือลูบคางเหมือนกำลังอ่านหมากล่องหน หรือไม่ก็ขบปัญหาเชาวน์

‘เรื่องแค่นี้ทำเอาคิดไม่ตกเลยรึ’ ไฟเคาะเป็นจังหวะแก๊กๆ ทำเอาทาราเธียลหน้าบึ้ง ใช้ตุ้มหูเวทสื่อสารก็สะดวกดีอยู่ แต่หลายครั้งไม่ต่างอะไรกับอุปกรณ์เวทดักฟัง เขาเคาะตุ้มหูแก๊กๆๆ แบบไร้ความหมายกลับไป แค่จงใจส่งเสียงรบกวน

‘ฝากบอกมอร์นเพน ‘ของเจ้า’ ว่าปรานีนักชิงหน้ากากรายนี้หน่อยเถิด’

เห็นทาราเธียลจ้องมาทางตนด้วยสีหน้าหงุดหงิด มอร์นเพนก็เอ่ยปากถามจากใต้หน้ากาก

“มีอะไรหรือเปล่า นายน้อย”

ทาราเธียลชั่งใจ ว่าจะแก้เผ็ดท่านลุงด้วยการไม่บอกมอร์นเพนดีหรือไม่

“รายนี้ออมมือหน่อย”

สุดท้าย...ทาราเธียลก็บอกอยู่ดี

ถ้าไม่บอก ท่านลุงจะต้องสรรหาวิธีมาป่วนข้าแน่...ทาราเธียลคิดอย่างหงุดหงิด

ใครว่าการเป็นหลานชายคนโปรดของมาลแกธ ล็องธูน่าอิจฉาเล่า!


—————————————————————————

A/N คู่รองคู่นี้ จริงๆ สตอรี่ยาว อาจคนละอารมณ์กับกอห์น/แมดส์ แต่รับรองว่าเด็ดไม่แพ้กันเลยค่ะ ;)

บทหน้า มาดูแผนการชิงหน้ากากของมอร์นเพนกันค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (6-7) [22/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 21-03-2017 23:56:15
โถถถ เจ้าซิก //ยัง ยังไม่จบ สงสารนาง เหมือนโดนทิ้งอยู่กับแอริแอดเน่ และแผลเป็นเลย 555

ชอบความเด็ดขาดของโคล์ด และชอบโคล์ดตอนอยู่กับอิลมาเรมากค่ะ รังสีความสบายใจและร่าเริงแผ่ฟุ้งง :katai3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (6-7) [22/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-03-2017 00:55:39
อีลุงมีเปงห่วง น่ารักนะเนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (6-7) [22/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 22-03-2017 12:42:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (6-7) [22/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 22-03-2017 12:55:56
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (6-7) [22/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-03-2017 15:17:29
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (6-7) [22/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-03-2017 17:35:15
โอย......โคลด์ น่ารัก น่าเอ็นดู
ได้กับมาลแกธ แล้วบอกจะรับผิดชอบ
แถมยอมให้มาลแกธ สนุกสนานได้เหมือนเดิม
เจ้าลุงมาล มีการขำๆโคลด์ แล้วบอกเอ็นดูข้าด้วย  :z6: :z6: :z6:
เข้าทางเจ้าลุงมาล เลยแหละ เฮอะ.....หมั่นไส้
ที่แท้มอร์นเพน เป็นหน้ากากดำ
แสดงว่าในความคิดมาลแกธ
ฝีมือโคลด์ อ่อนกว่ามอร์นเพนหรือ
มาลแกธ เลยบอกให้มอร์นเพนออมมือให้โคลด์
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (6-7) [22/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 22-03-2017 18:54:04
อ่านแล้วกิ้วก้าวใจ นางมีความแซ่บ555

ชั้นจะพายเรือ(หลายๆลำ)จนกว่าจะไปถึงฝั่ง ฮาๆๆๆๆๆ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (6-7) [22/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 22-03-2017 21:35:05
โอย......โคลด์ น่ารัก น่าเอ็นดู
ได้กับมาลแกธ แล้วบอกจะรับผิดชอบ
แถมยอมให้มาลแกธ สนุกสนานได้เหมือนเดิม
เจ้าลุงมาล มีการขำๆโคลด์ แล้วบอกเอ็นดูข้าด้วย  :z6: :z6: :z6:
เข้าทางเจ้าลุงมาล เลยแหละ เฮอะ.....หมั่นไส้
ที่แท้มอร์นเพน เป็นหน้ากากดำ
แสดงว่าในความคิดมาลแกธ
ฝีมือโคลด์ อ่อนกว่ามอร์นเพนหรือ
มาลแกธ เลยบอกให้มอร์นเพนออมมือให้โคลด์
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
มอร์นเพนเก่งนะคะ ฝีมือระดับที่มาลแกธยอมรับเลย ระดับอสูรร้าย ให้มาเป็นพี่เลี้ยงหลานได้คือเก่งอะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (6-7) [22/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 23-03-2017 09:22:30
สารภาพว่าเราเซฟนิยายเรื่องนี้เก็บไว้ซักพักแล้ว
แต่ยังไม่ได้มาอ่านจนถึงเมื่อวาน...อ่านจบรวดเดียวแล้วก็อยากจะตบตัวเองว่าทำไมแกเพิ่งจะเข้ามาอ่านเอาป่านนี้ห๊ะ!
คือมันดีมันใช่สมเหตุสมผลกับรายละเอียดเรื่องราวต่างๆไม่ว่าจะเล็กๆน้อยๆหรือเนื้อหาหลักที่ใส่ใจของคุณ
ความมหากาฬของเรื่องที่เนื้อหาไม่เยิ่นเย้อหรือรวบรัดจนเกินไป
ตรงส่วนที่คนนี้เข้าโหมดดาร์กก็จะมีคนอื่นมาปรับอารมณ์(ขอถวายตัวให้ท่านมาลแกธจอมสร้างสีสันได้ไหมนะ?)
อ่านแล้วก็ไม่ได้อึดอัดแต่ว่าตื่นเต้นลุ้นๆ
ชอบการใช้ตัวละครอย่างประหยัดและคุ้มค่าตัวสุดๆของคนเขียนด้วย
เพราะว่านิยายบางเรื่องก็มีตัวละครเยอะมากเกินไปจนเราจำได้ไม่หมดว่าใครเป็นใคร
(บางเรื่องมีแต่ผช. ผญ.ไปไหนหมด ความสมดุลโลกอยู่หนายยยยยยยย5555555)
แถมยังมีคู่ช-ญที่น่าติดตามมากๆอีกด้วย
ง่ายๆคือดีหมด
ไม่ดีอยู่อย่างเดียว...คือสงสัยว่าจุดสุดท้ายโคลด์จะลงเอยกับใคร?

ส่วนเรื่องตีพิมพ์เราว่าแต่ละสำนักพิมพ์มีอุดมการณ์ไม่เหมือนกันนะคะ
ลองดูๆเจ้าที่ตีพิมพ์แนวๆนี้ก็ได้นะคะอย่างเช่น นาบูฯ ไรงี้
รออุดหนุน
รอติดตาม
รอมาอัพ
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (6-7) [22/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-03-2017 12:12:16
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (1-2-3) [24/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 24-03-2017 00:47:52
บทที่ 18 : สยายปีก (1)

ซิกฟรีดได้ข่าวเรื่องนายพลเบเลธตามหาดาร์กเอลฟ์ผมสีเงิน ตาสีม่วง จากเงาสังหารแล้ว

ด้วยลักษณะพิเศษเช่นนี้ และด้วยความสำคัญระดับที่นายพลแห่งแดนทมิฬลงมือจัดการเอง ดาร์กเอลฟ์ที่ตามหากันอยู่คงเป็น ‘ฮีมเดียร์’ ผู้สามารถบังคับกองทัพกระดูกไร้พ่าย ทั้งยังมีพรสวรรค์อันตรายในการคืนชีพผู้ล่วงลับ

เงาสังหารว่าข่าวนี้ยังไม่ยืนยัน และต้นทางอาจมาจากแคว้นอิซิลดาร์ เขาจึงสั่งให้มันไปสืบต่อ หากมีข่าวอื่นใดที่เป็นประโยชน์ก็ให้รายงานกลับมา

ซิกฟรีดทราบข่าวช่วงเช้า หลังจากนั้นจึงเรียกประชุมขุนนาง กระทู้สำคัญคือ ‘เหตุการณ์ลักพาตัวดาร์กเอลฟ์ในรูเมเรียร์’ ขุนนางเก่าแก่หลายท่านที่ยังเจ้ายศเจ้าอย่าง ไม่เข้าใจว่าทำไมราชาจึงใส่ใจดาร์กเอลฟ์ถึงเพียงนี้ ทว่าบรรดาขุนนางหนุ่มเห็นต่าง พวกเขาเชื่อในโลกที่ทุกชีวิตมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน แม้ปัญหาด้านอาชญากรรม หรือการจัดสรรทรัพยากรยังมีอยู่ แต่ใช่ว่าจัดการไม่ได้ ดังนั้น เมื่อเห็นราชาใส่ใจดาร์กเอลฟ์ เหล่าขุนนางหนุ่มจึงทำงานกันอย่างเต็มที่ จนบ่ายคล้อยก็ยังไม่เลิกประชุม

“เพิ่มความเข้มงวดตรวจการขนสินค้าทั้งทางน้ำและทางบกในหัวเมืองต่างๆ โดยเฉพาะเส้นทางไปถึงเมืองชายแดน ส่งหน่วยคิงเบลดจากส่วนกลางของเอวา เธมาร์ไปช่วยเหลือขุนนางผู้ปกครองแต่ละหัวเมือง ในการนี้เราให้อำนาจหน่วยคิงเบลดตัดสินใจตามสถานการณ์ หากมีความเคลื่อนไหวน่าสงสัยให้จับกุมและสอบสวนได้ทันที หรือหากเกิดการปะทะ จัดการได้ตามความเหมาะสม และติดต่อนักค้าข่าวจากกิลด์พ่อค้าดวอร์ฟ”

ซิกฟรีดสรุป แม้จะไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด แต่คงชะงักการลักพาตัวดาร์กเอลฟ์ได้ในระดับหนึ่ง

บรรดาขุนนางผู้มีรูปร่างหน้าตาอยู่ในวัยสมบูรณ์แข็งแรงสง่างาม แต่อายุจริงทั้งชราและหนุ่มรับคำ กระทู้ประชุมจบลงแล้ว ทว่าพวกเขายังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไป ตามธรรมเนียม ราชาต้องออกจากโถงว่าราชการก่อน ขุนนางจึงมีสิทธิ์ได้ออกไปตามลำดับ

ราชาประทับบนบัลลังก์ ศอกข้างหนึ่งตั้งบนพนักวางแขน ศีรษะเอนพิงฝ่ามือ ดวงตาดั่งลาวาเดือดกวาดมองขุนนางเงียบๆ

เวลาผ่านไปเชื่องช้า ขุนนางทุกท่านรู้สึกอึดอัดในอก บางท่านถึงกับหายใจไม่ออกจนต้องแอบขยับคอเสื้อ ตอนนั้นเองที่ราชาเปล่งสุรเสียง

“รูเมเรียร์อ่อนแอเกินไป พวกเจ้าว่าไหม”

ซิกฟรีดลูบนิ้วกับพนักวางแขน บัลลังก์เหล็กดำเย็นเยียบและอวลกลิ่นโลหิต

“แดนทมิฬ แคว้นอิซิลดาร์ แดนตะวันออก...ทั้งหมดเป็นแผ่นดินของนักรบ” ซิกฟรีดระบายลมหายใจ “รูเมเรียร์เล่า...นอกจากพื้นที่มหาศาลซึ่งบรรพกษัตริย์มอบให้แล้ว เรามีอะไรต่อรองกับนักรบได้บ้าง สักวันเราจะถูกกลืนกินหรือไม่”

ไม่มีคำตอบใดที่เหมาะสม ขุนนางคล้ายเป็นใบ้

ทุกคนทราบประวัติศาสตร์ดี...แคว้นรูเมเรียร์สงบสุขมาหลายพันปี กระทั่งจอมทัพทมิฬปรากฏตัว หากเป็นชาวอิซิลดาร์หรือชาวตะวันออก คงจับดาบเตรียมพร้อมเป็นอันดับแรก ทว่า สิ่งที่ชาวรูเมเรียร์ทำคือสวดภาวนาต่อบิดามารดา ขอให้ความเมตตาบังเกิดขึ้นในจิตใจของจอมทัพทมิฬ ในเวลานั้น หากไม่มีเจ้าชายริวอร์นอร์จัดกระบวนทัพ และนำทัพด้วยความเข้มแข็ง แม้จะมีปัญญาเฉียบแหลมเช่นคิงเฟรธูรินก็คงไม่อาจชนะศึกได้

รูเมเรียร์อาจถูกกลืนกินไปเนิ่นนานแล้ว

“พรุ่งนี้จงให้คำตอบเราคนละข้อ”

ซิกฟรีดลงจากบัลลังก์ ทิ้งคำถามสำคัญให้ขุนนางขบคิด

‘สิ่งใดกันเล่า...แข็งแกร่งยิ่งกว่าคมดาบ

สิ่งใดกันเล่า...ใช้ต่อรองกับปีศาจได้’

 

ย้อนเวลากลับไปเมื่อวาน

ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ไม่ทราบว่าราชาออกจากราชวังยามดึกสงัด นางมาทราบเรื่องตอนเช้าด้วยรายงานจากเวเรด้า--องครักษ์หญิงผู้มีผมสีเขียวอ่อน

ตามปกติ เอริแอดเน่มิได้ให้คนจับตาดูซิกฟรีดตลอดเวลา นางทราบว่าบุรุษย่อมต้องการพื้นที่ส่วนตัวบ้าง โดยเฉพาะบุรุษที่ยังเยาว์ อายุเพียงยี่สิบสองปี บางครั้งที่ราชาออกจากราชวังไปพร้อมคนสนิทอย่างกอห์นดีเอนยังเขตชุมชนชาวต่างแดนทางทิศใต้ของเอวา เธมาร์ นางก็ไม่ได้สั่งให้คนตามต่อ

เรียกว่าให้อยู่ในสายตา แต่เคารพความต้องการส่วนตัว

ทว่าในระดับหนึ่งเท่านั้น

หากการที่ราชาหายออกไปทั้งคืน แล้วกลับมายามบ่ายแก่ๆ ของวันรุ่งขึ้นโดยไร้ผู้ติดตามเป็นเรื่องที่นางสามารถปล่อยปละละเลยได้ เอริแอดเน่ก็สมควรตายตั้งตอนคัดเลือกทายาทสตรีแห่งอิซิลดาร์เพื่อมาสมรสกับบุรุษในราชวงศ์รูเมเรียร์

เมื่อราชากลับมา ท่านหญิงไม่ได้แต่งตัวไปเข้าเฝ้าหรือส่งสารไปถามไถ่ นางกลับนั่งเล่นกับนกสีฟ้าตัวน้อยอยู่ริมระเบียงในสภาพผ่อนคลายหลังเพิ่งตื่นนอน

ทว่าองครักษ์หญิงต่างทราบดี ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก

ผ่านไปอีกหนึ่งวันหนึ่งคืน เอริแอดเน่ไม่ออกจากตำหนักของนาง

 

กระทั่งวันนี้ที่ราชาเรียกประชุมขุนนางในช่วงเช้า ท่านหญิงก็เพิ่งสรงน้ำตอนเที่ยง

ช่วงไว้อาลัยให้แก่คิงริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์ ผู้ถูกกบฏดาร์กเอลฟ์ลอบปลงพระชนม์ ‘เช่นเดียวกับ’ คิงเฟรธูริน อาร์ธีออน รูเมเรียร์ เอริแอดเน่เปลี่ยนมาแต่งกายด้วยชุดอย่างอิซิลดาร์ซึ่งเปิดเผยเนื้อหนังมากกว่าชุดอย่างรูเมเรียร์ แต่ยังเลือกใช้ชุดโทนสีดำ จากนั้นก็เปลี่ยนมาใส่ชุดโทนสีขาวและสีฟ้าอ่อนหวานสมกับที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นธิดาแห่งมารดานทีเมื่อคิงซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์เถลิงราชย์อย่างเป็นทางการ

“วันนี้ข้าจะสวมชุดสีแดง”

คำสั่งเยือกเย็นของท่านหญิงทำให้นางกำนัลประหลาดใจ ชุดสีแดงแสดงเสน่ห์ของสตรีอิซิลดาร์ได้เต็มเปี่ยม เป็นหนึ่งในชุดหลากสีที่ท่านหญิงโปรดสวมยามคิงเฟรธูรินยังมีชีวิตอยู่

และสีแดงยังเป็นสีชุดที่เอริแอดเน่สวมเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับพระคู่หมั้นจากอิซิลดาร์ เมื่อครั้งนางมีอายุเพียงสิบห้าปี และอดีตราชาผู้ล่วงลับทั้งสองยังมีศักดิ์เป็นเจ้าชายองค์ที่หนึ่งและเจ้าชายองค์ที่สอง

เมื่อตบแต่งร่างกายอย่างประณีตแล้ว ท่านหญิงตรงไปยังหอสมุดหลวง รอราชาอยู่ที่นั่นโดยไม่ส่งสารใดไปเชิญ

เพราะนางทราบว่าเขาจะมาหานาง

 

ตะวันคล้อย

องครักษ์หญิงสองนางหน้าประตูห้องทรงงานในหอสมุดหลวงทำความเคารพคิงซิกฟรีด วันนี้ผู้ติดตามเอริแอดเน่คือจามิลลาผู้มีผมสีฟ้า และเอลฟ์สตรีอิซิลดาร์ผมสีดำอีกนาง

เชื้อสายอิซิลดาร์ที่แท้มีผมสีทอง หากเป็นสายตระกูลรองอาจมีผมสีน้ำตาล แดง หรือดำปะปนมา ส่วนเส้นผมสีแปลกตาอย่างสีฟ้าหรือสีเขียวอ่อนคือเอลฟ์สตรีเชื้อสายตะวันออก

“พี่หญิง” ซิกฟรีดเอ่ยทักเอริแอดเน่ เขาเรียกนางว่าพี่หญิงยามอยู่กันเพียงสองคน แปลได้ทั้งสนิทสนมและเหินห่าง เนื่องเพราะนางละศักดิ์ ‘พี่หญิง’ เป็น ‘พระคู่หมั้น’ แล้ว แต่ราชาหนุ่มไม่เคยเรียกนางเช่นคนรัก

ใต้เท้าของราชาเอลฟ์คือกระดาษแผ่นยาวพาดทับกันไปมาเต็มพื้น แค่ผ่านประตูเข้ามาก้าวแรกก็เหยียบลงไปโดยไม่ตั้งใจแล้ว

เอริแอดเน่สวมชุดเกาะอกสีแดงเพลิงเปิดหัวใหล่ขาวเนียน นางยืนเอนหลังพิงกรอบประตูหินอ่อน ข้างระเบียงที่ไว้ชมน้ำตกเทียม ในอ้อมแขนมีม้วนกระดาษ มือจรดปากกาขนนกเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษด้วยท่าทางนุ่มนวลสง่างาม

เมื่อนางเขียนเสร็จจนสุดแผ่นกระดาษก็ทิ้งกระดาษม้วนนั้นลงพื้น เป็นที่มาของกระดาษแผ่นยาวจำนวนมากที่ซิกฟรีดเหยียบอยู่นั่นเอง

ซิกฟรีดหรี่ตา เขาจับสังเกตพี่หญิงได้ นางไม่พอใจ และนางกำลังจะแสดงให้เขารู้โดยชัดเจน

พี่หญิงฉลาด...นางจะไม่ฟูมฟาย ไม่มีวันเสียกิริยา นางมีวิธีของนาง วิธีที่ทำให้เขายอมจำนนต่อความผิดด้วยตัวเอง พี่หญิงเอริแอดเน่สมกับเป็นสตรีชั้นสูงในอิซิลดาร์ ร่างกายแบบบาง รูปลักษณ์งดงาม รอบรู้สรรพวิชา ที่สำคัญ หากนางหมายตาสิ่งใดแล้ว ไม่มีทางที่สิ่งนั้นจะหลุดลอดจากอุ้งมือของนาง

หากมันทำท่าจะหลุดไป นิ้วเล็กๆ และเล็บทั้งสิบของนางไม่ลังเลที่จะบีบมันให้แน่นิ่ง

ให้เชื่องเชื่อ...

“ท่านซิกฟรีด” เอริแอดเน่หันมายิ้มด้วยตาและปาก นางวางปากกาขนนกบนโต๊ะกลมตัวเล็กด้านข้าง แล้วผายฝ่ามือทั้งสองลงข้างตัวอย่างจริงใจและใจกว้าง ทว่าแสงอาทิตย์ด้านหลังจับเส้นขอบเรือนร่างของนางราวกับจะย้อมให้ชุดสีแดงระอุอยู่ในเปลวแดดสีเพลิง

“มีอะไรจะบอกราชินีของท่านหรือไม่”

รอยยิ้มนั้นรัดหัวใจของราชาหนุ่มราวอสรพิษกำลังบิดลำตัวของนางอย่างช้าๆ ทว่าอันตรายขนาดบดขยี้หัวใจให้แหลกในพริบตาได้

“ท่านต้องการทราบเรื่องใดเล่า พี่หญิง” ซิกฟรีดตอบกลับอย่างนอบน้อม

“เรื่องที่ท่านอยากบอก” ท่านหญิงแห่งอิซิดาร์อ้อนวอน คล้ายความเป็นสตรีผู้มีรักและความเป็นราชินีกำลังฉีกใบหน้าเปี่ยมความรักของนางออกเป็นสองส่วน

ซิกฟรีดหลุบตามองกองกระดาษที่ทบกันไปมาคล้ายขนดของอสรพิษ

“วันนี้--”

“วันที่ท่านพ้นจากอาศรมควาร์ที่ถูกกักขังไว้ จำได้หรือไม่ว่าท่านดำริสิ่งใด สัญญาจากหัวใจที่ท่านเคยเอ่ยไว้ ยังคงมอบให้แก่ข้าเช่นเดิมหรือไม่”

“ขอรับ” ซิกฟรีดจับสายตาที่ใบหน้างามของ ‘พี่หญิง’ “ข้าสัญญาว่าจะดูแลพี่หญิงแทนพี่เฟรธูริน”

ทว่าข้าไม่เคยนึกถึงการแต่งงาน ซิกฟรีดคิดในใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็…

‘เจ้าก็นึกได้ว่าการแต่งงานกับนางทำให้แผ่นดินรูเมเรียร์มั่นคง เจ้าได้ลิ้มรสอำนาจแล้ว อาเลธ ต่อจากนี้เจ้าจะไม่มีวันลืมรสของมัน รสชาติแห่งอิสระอันหอมหวานทว่าแลกมาด้วยพันคมหอกหมื่นคมดาบจ้องทิ่มแทง พี่หญิงเอริแอดเน่บังคับใจของเจ้าอย่างนั้นหรือ อย่าเลย...อาเลธแห่งรูเมเรียร์ เจ้าใช้นาง...เจ้าใช้นาง!’


—————————————————————————

A/N โดดมาดูฝั่งซิกฟรีดกันค่ะ ทางนี้เข้มข้นทีเดียว


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (1-2-3) [24/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 24-03-2017 00:57:51
บทที่ 18 : สยายปีก (2)

เสียงในมโนสำนึกไม่เคยหายไป ซิกฟรีดพยายามต่อต้านมันตลอดสามปีที่ผ่านมา ทว่าแม้ไม่อยากยอมรับ แต่เขาคล้อยตามมันหลายครั้งหลายครา เขาถึงกับเห็นด้วย ถึงกับทำตาม

‘ใช่...ใช่ คิดสิ ไม่นานนี้ เจ้าเกือบใช้มนตร์ดำขังดาร์กเอลฟ์ แค่เกือบ อาเลธ...แค่เกือบ! ทำไมเจ้าไม่ลงมือเล่า ทำไมปล่อยให้มันไปกับเอลฟ์ตะวันออก สูงส่งหรือ คิดว่าการกระทำของเจ้าสูงส่งนักหรือ ไม่มีคำว่าสูงส่ง ราชา มีแค่ได้…

...กับไม่ได้!’

มันพูดได้ถูกต้องแล้ว


‘เลิกต่อต้านเถิด อาเลธ...เลิกเสีย ข้าสัญญาว่าจะให้เจ้าได้ลิ้มรส ‘การใช้อำนาจ’ ที่แท้จริง’

“ข้าสัญญาโดยไม่ได้เตรียมใจถึงสิ่งที่จะตามมา...”

ซิกฟรีดสงบนิ่ง แม้กระทั่งยามเปิดปากเอ่ยว่า

“การแต่งงาน”

เอริแอดเน่ได้ยินคำตอบแล้วกลับไม่ต่อว่า นางเอียงคอ ยิ้มจากใจ แล้วเดินเหยียบกระดาษเหล่านั้นมาหา ‘ราชาของนาง’

ท่านหญิงโอบสองแขนรอบลำคอหนาอย่างบุรุษนักรบ ให้ราชาโน้มใบหน้าลงมา นางถอดหน้ากากเงินออกแล้วแนบใบหน้าซีกซ้ายของตนกับใบหน้าซีกที่เหมือนอสุรกายของซิกฟรีด

คำสาปใต้หน้ากากกรีดเสียงหัวเราะ ทว่ามีเพียงซิกฟรีดที่ได้ยินเช่นเคย

“ข้ารักท่าน” นางบอก “ท่านเป็นของรักสิ่งสุดท้ายของข้า...ซิกฟรีด” เอริแอดเน่กล่าวคำนี้ครั้งแรกเมื่อศีรษะของอดีตราชาริวอร์นอร์สะบั้นขาดจากตัว และกล่าวเช่นนี้ตลอดมาไม่เคยขาด

มุมปากด้านซ้ายของซิกฟรีดกระตุกขึ้นคล้ายรอยยิ้ม “หลายปีก่อน ท่านเอ่ยความประสงค์กับข้าว่า ท่านต้องการบุตรอันเกิดจากราชา” เขาพูดเสียงเบาพอให้นางได้ยิน “ข้าเคยมีศักดิ์เป็นน้องชายของท่าน ความรักที่ท่านมีให้เคยเป็นของจริง แต่ขณะนี้...ข้าสงสัยว่าตนเป็นเพียงเครื่องมือของท่าน พี่หญิงเอริแอดเน่”

ท่านหญิงหลุบตาลง ลูบหน้าท้องของนาง ซึ่งบัดนี้ไม่มีรอยแผลเป็นอัปยศแล้ว นางสามารถรักษาบาดแผลนี้ได้ เพียงแต่ยอมรักษาในวันที่ไม่มีริวอร์นอร์

“ข้าเก็บบาดแผลไว้เพื่อย้ำเตือนตนเองว่าความแค้นใดไม่ควรลืม ข้ารักษามันเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ข้าเป็นสตรีที่มีรักไปพร้อมกับเป็นราชินีด้วยไม่ได้หรือ” คำถามนั้นเสียงพร่า ส่งออกมาพร้อมความสะเทือนใจอันเก็บซ่อนลึกอยู่ภายในของวีรสตรีแห่งอิซิลดาร์

ส่วนที่ยังไม่ถูกครอบครองด้วยมนตร์ดำสั่นไหว ซิกฟรีดอยากกระชากใบหน้าด้านซ้ายทิ้งเดี๋ยวนั้น ความคิดอัปลักษณ์ผุดขึ้นมาได้อย่างไร ข้ากล้าว่าพี่หญิงได้อย่างไร

“ย่อมได้” มุมปากด้านซ้ายของราชาหนุ่มยังแสยะยิ้มอยู่ ขณะเดียวกันภายในจิตใจก็ยังคิดโทษตัวเองอยู่ สำหรับซิกฟรีด สิ่งที่อยากพูดกับสิ่งที่ควรพูด และสิ่งที่อยากทำกับสิ่งที่ควรทำสวนทางกันเสมอ

“ข้าจะให้สิ่งที่ท่านต้องการ พี่หญิง…”

“ท่านมีส่วนผสมของพี่ชายทั้งสอง” นางจูบซีกหน้าที่ยังงดงาม “นี่คือท่านเฟรธูริน” จากนั้นจูบซีกหน้าอัปลักษณ์ “นี่คือเดรัจฉานริวอร์นอร์”

นางถอยออกมามองหน้าซิกฟรีด

“แต่สำหรับข้า ท่านไม่ใช่ตัวแทนของทั้งสองคน...ท่านเป็นท่าน ข้ามอบใจให้ท่านไม่ได้หรือ สตรีที่มีรักโง่งมหรือ ท่านไม่ต้องปรานีข้าเช่นท่านเฟรธูริน แต่โปรดอย่าขยี้ข้าจนแหลกเช่นริวอร์นอร์”

ที่อยู่ตรงหน้าซิกฟรีดหาใช่ราชินี แต่เป็นสตรีที่โหยหาความรักอย่างแรงกล้านางหนึ่ง...หลังจากหัวใจของนางโดนขยี้จนบอบช้ำกลัดหนอง...ซ้ำแล้วซ้ำอีก

ความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างเอริแอดเน่และริวอร์นอร์อาจซับซ้อนมากกว่าเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็ก หรือว่าที่พี่สะใภ้กับว่าที่น้องชายของสามี

“ข้าจะให้สิ่งที่ท่านต้องการ” ซิกฟรีดย้ำหนักแน่น ใบหน้าด้านที่เอริแอดเน่เปรียบเทียบกับคิงเฟรธูรินอ่อนโยน “บุตรชาย บุตรสาว อำนาจของราชินี เกียรติยศ อนาคตและความมั่งคั่งรุ่งเรืองของอิซิลดาร์...ทุกสิ่งใต้อ้อมกอดของพระบิดาแห่งนภา พี่หญิง”

“ยกเว้นแต่…” เอริแอดเน่เอ่ยคำถามอย่างสงบนิ่งจากริมฝีปากเล็กงามอวบอิ่ม คนเช่นนางไม่โลภในผลประโยชน์ที่ได้รับ ทว่ารอฟังสิ่งที่ใช้แลกเปลี่ยน

“ความรัก” ดวงตาสีดำกลอกกลิ้งอยู่ในเบ้าด้านซ้าย ภาพทุกภาพที่ดวงตาข้างนั้นสะท้อนกลับมาช่างมืดมิด ไร้ซึ่งประกาย

“ท่านจะมีสตรีอื่นหรือ ราชา” แววตาของนางไม่มีความแปลกใจเจือปน มันมั่นคง คล้ายนักโทษรอฟังคำตัดสินซึ่งตนทราบอยู่แล้วว่าจะออกมาในรูปแบบใด

“บุรุษ” ซิกฟรีดคาดว่าพี่หญิงทราบอยู่แล้วเช่นกัน เพียงแต่นางไม่เคยเอ่ยปาก และเขาก็ไม่เคยพูด

เอริแอดเน่เลื่อนข้อนิ้วเรียวสวยแตะริมฝีปาก เล็บโค้งมนของนางแวววาวดุจไข่มุก “ข้ามีความทรงจำที่ดี” รอยยิ้มของท่านหญิงแย้มออกมา “ท่านรักทาสดาร์กเอลฟ์คนนั้นหรือ ราชาของข้า”

“ ‘สหาย’ หนึ่งเดียวของข้า ผู้ที่ข้าไว้ใจที่สุดในชีวิต พี่หญิง” ซิกฟรีดแก้คำเรียก ก่อนจะเอ่ยดักว่า “ใช่ขอรับ...ข้าไว้ใจเขา ถึงแม้เขาจะหักหลังข้าก็ตาม”

“ข้าทราบตั้งแต่ท่านเอ่ยเป็นห่วง ‘มัน’ ตอนถูกยิงตกจากต้นไม้แล้ว วันต่อมาริวอร์นอร์มาหาข้า ถามเรื่องทาสของท่าน แต่ข้าเมตตา ให้เขาละเว้นมัน”

พี่หญิงความทรงจำดีอย่างที่นางว่า ซิกฟรีดเอ่ยขอบคุณ และพูดข้อเท็จจริงอีกหนึ่งเรื่องที่นางอาจลืมไป

“ท่านสั่งให้หน่วยอสรพิษ ‘จัดการ’ เขา ท่านคิดจะจัดการอย่าง ‘เมตตา’ เช่นกันหรือ”

เอริแอดเน่ไม่ตอบคำถามนั้น

“ข้าไม่เห็นมันตอนที่ท่านลงจากป่าศักดิ์สิทธิ์เดียดีอาร์และไม่คิดถาม ในเมื่อตอนนั้นท่านเองก็ดูจะเลิกสนใจมันแล้วเช่นกัน ทว่าหลังจากเรื่องในถ้ำมังกรศิลา ท่านเปลี่ยนไป ทั้งมอบงานให้เผ่าทมิฬลึกลับ มอบที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารแก่มัน ให้หน่วยกาลาฮานไปตามมันกลับมา หรือกระทั่งยกเลิกประกาศจับมันหลังท่านออกนอกราชวัง หายไปทั้งคืนแล้วกลับมา”

ซิกฟรีดโน้มเข้าไปใกล้เอริแอดเน่ ใบหน้าด้านซ้ายเกือบแนบกับแก้มของนาง

“ความรัก...พี่หญิง” เสียงกระซิบแผ่วฟังคล้ายเสียงของภูตผีวิกลจริต ขณะเดียวกันก็คล้ายเด็กหนุ่มตาบอดในความรัก หาทางออกไม่พบ “ความรักเผยโฉมแท้จริงเบื้องหน้าข้า” ราชาหนุ่มผละกลับมา “ความบ้าคลั่งอันไร้เหตุผล”

“หยุดคร่ำครวญถึงความเห็นแก่ตัวของท่านสักครู่ อ่านท่านนั้นง่ายกว่าอ่านพี่ชายทั้งสองของท่าน ซิกฟรีด”

“พี่หญิง…” ซิกฟรีดหลุบตาลง “โปรดหยุดจับข้าหันซ้ายหันขวาเถิด”

“ท่านไม่คิดบ้างว่า ข้าอ่านท่านออกถึงขั้นนี้มานานแล้ว เหตุใดข้าจึงยังอยู่ตรงนี้ เคียงข้างท่าน ไม่คิดบ้างหรือว่าเอริแอดเน่ แห่งอิซิลดาร์อยากมอบใจรักและภักดีให้แก่ ‘ราชา’ ของนาง ดังที่นางเคยหวังไว้ในอดีต”

“ข้าคิดว่าตัวเองสามารถตายไปพร้อมกับการ ‘ไม่พูด’ ได้” ซิกฟรีดนั่งลงหยิบกระดาษขึ้นมาดู “อายุสิบห้าขวบปี ข้าตัดสินใจไม่พูดเพราะไม่ต้องการให้พี่ริวอร์นอร์ล่วงรู้สิ่งที่ข้าคิด อายุสิบเก้าขวบปี ตอนแยกทางกัน ข้าตัดสินใจไม่พูดเพราะไม่ต้องการให้ ‘เขา’ ดูแคลนว่าข้าอ่อนแอ อายุยี่สิบสองขวบปี ข้าตัดสินใจไม่พูดเพราะเกรงว่าจะทำร้ายพี่หญิงที่ข้ารักเช่นเครือญาติ ข้าเลิกพูดพร่ำคร่ำครวญมานานเหลือเกินแล้ว ข้าผู้เป็นราชา น้องชาย สามีและนักโทษในดินแดนของตัวเอง”

หมึกส่วนที่ยังไม่แห้งดีเปื้อนติดมือ เลอะนิ้วสีขาวสะอาดของราชาหนุ่ม

“คำสาปอยากพูดแทนข้า มันพูดตลอดเวลา แหกปากเสียงดังแม้กระทั่งยามที่ข้าหลับ ข้าสงสัยว่าวันใดที่มันครอบครองริมฝีปากข้าได้ ข้าคงไม่อาจ ‘ไม่พูด’ ”

ซิกฟรีดปาดนิ้วเปื้อนหมึกบนริมฝีปาก มนตร์ดำบนใบหน้าซีกซ้ายหยุดที่มุมปากพอดิบพอดี

“ขอบคุณ” เอริแอดเน่ประสานมือไว้ด้านหน้า เป็นกิริยาที่นางมักทำเวลาอยู่ต่อหน้าคิงริวอร์นอร์ “ท่านเมตตากว่าพี่ชายคนรองของท่าน อย่างน้อย ท่านก็พูดความจริงง่ายกว่า”

“เด็กน้อยซิกฟรีดในตัวข้ารักท่านเสมอ” ซิกฟรีดเผชิญหน้ากับความเย็นชาของพี่หญิงเอริแอดเน่ ให้ความรู้สึกผิดกรีดเนื้อเถือหนัง ยิ่งไปกว่านั้น...คือให้ ‘ความไม่รู้สึกผิดใดๆ’ โบยตีสำนึกที่ดีที่ยังเหลืออยู่ให้แหลกลาญ

ความไม่รู้สึกผิดเกิดจากคำสาปหรือ คำพูดเชือดเฉือนทั้งหลายเกิดจากมนตร์ดำใช่หรือไม่

หรือว่าทั้งหมดมาจากภายในส่วนลึกของตัวข้าเอง


“ราชาที่รัก ข้าขอบคุณที่ท่านช่วยขยี้หัวใจส่วนที่อ่อนแอของข้า” รอยยิ้มของเอริแอดเน่เจิดจรัสดังที่เคยเป็นมา “ขอบคุณที่กล้าบอกต่อหน้าข้าว่าท่านรักบุรุษดาร์กเอลฟ์ ความเยาว์วัยของท่านช่างดีเสียจริง”

“อา…” ซิกฟรีดเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่างเมื่อเห็นท่าทีของพี่หญิง “ท่านถูกล่ามตรวนเช่นกันหรือ”

นางพญาเบื้องหน้าคล้ายสยายปีกอย่างอิสระ เมื่อหัวใจอันดีงามของนางไร้ซึ่งความหมายแล้ว ก็ไม่มีเหตุใดรั้งให้นาง ‘ปรานี’ กับราชาหนุ่มอีก

“ข้าอยากเป็นภรรยาและมารดาที่ดี ดังเช่นที่ท่านพี่เฟรธูรินตั้งความหวังไว้กับข้า” น้ำตาหยดเล็กๆ ไหลออกมาแม้เอริแอดเน่ยังยิ้มอยู่

นางไม่ปาดมันออก แต่ปล่อยให้มันแห้งเหือดไปพร้อมกับความดีงามส่วนเล็กๆ อันอ่อนแอแคระแกร็นในใจนาง

น้ำตานี้ กระทั่งริวอร์นอร์ก็ไม่เคยได้เห็น ในอดีต เอริแอดเน่ยอมร้องไห้ต่อหน้าเฟรธูรินหรือเวลาที่ไม่มีใครมองนางเท่านั้น

“ข้าไม่อาจเป็นพี่เฟรธูริน”

‘แต่เจ้าเป็นเดรัจฉานริวอร์นอร์ได้ อาเลธ…’


—————————————————————————

A/N ซิกฟรีดเป็นคนดีหรือไม่ เอริแอดเน่ร้ายแค่ไหน ใครจะร้ายกว่าใคร...บอกยากค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (1-2-3) [24/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 24-03-2017 01:00:48
บทที่ 18 : สยายปีก (3)

“คุกเข่า แล้วมองข้าให้ดี”

พลังที่มองไม่เห็นกดข้อพับขาของราชา เขาโดนบังคับให้คุกเข่าดังที่นางว่า ต้องเงยหน้ามองนางเหมือนยามที่เขายังเป็นเจ้าชายน้อยตัวเล็ก

 

...ด้านหลังของเฟรธูรินมีคนเยี่ยมหน้าออกมา นางยิ้มเอ็นดูความน่ารักของเจ้าชายพระองค์เล็ก...

 

เอริแอดเน่เหยียดสายตามอง ‘ราชา’

ไอเวทเข้มข้นรอบตัวนางบอกชัดว่านางคือจอมเวทสงครามผู้มีพลังเวทมหาศาลดังคำร่ำลือ หาใช่ยกยอกันไปเอง

ซิกฟรีดไม่ได้ต้านทาน เขายอมรับโทษทัณฑ์จากนางโดยต้องใช้สติและความพยายามกดคำสาปกลับลงไป มันกำลังร่ายมนตร์ดำ และสั่งให้เขาเอ่ยตาม

ราชาเอลฟ์เหลือบมองหน้ากากเงิน เหงื่อผุดพราย ทว่าเอริแอดเน่สะบัดมือ ปัดหน้ากากเงินออกด้วยเวทลม

“ในฐานะราชินีของท่าน ข้าคงต้องเอ่ยเตือนท่านให้มองนางด้วยสองตาของท่านให้ดี เมื่อสักครู่ท่านได้ทำผิดมหันต์ เมื่อกล่าวว่าจะมอบ ‘บุตรชาย บุตรสาว อำนาจของราชินี เกียรติยศ อนาคตและความมั่งคั่งรุ่งเรืองของอิซิลดาร์’ ให้แก่ข้า”

นางเหยียบมือซิกฟรีดด้วยส้นเข็มของรองเท้าส้นสูงสีแดง กดมือเขากับกระดาษเปื้อนหมึกบนพื้น

“ท่านดูถูกข้าอย่างร้ายกาจด้วยถ้อยคำไร้น้ำใจเฉกนั้น ท่านมองข้าเป็นสตรีที่ต้องร้องขอสิ่งเหล่านั้นจากบุรุษหรือ ราชา”

แรงกดของรองเท้าส้นสูงเพิ่มขึ้นอย่างไร้เมตตา ดุจเหล็กแหลมเรียวยาวทิ่มเข้าหลังมือของราชาเอลฟ์

“หรือท่านไม่เคยมองข้าให้ดี หากข้าบอกแก่ท่านว่า ข้าจะมอบ ‘บุตรชาย บุตรสาว อำนาจของราชา เกียรติยศ อนาคตและความมั่งคั่งรุ่งเรืองของรูเมเรียร์’ ให้แก่ท่านบ้างเล่า ท่านจะรู้สึกเช่นไร ซิกฟรีด”

 

“บุรุษผู้เก่งกาจย่อมเป็นที่สิเน่หา เจ้าชายผู้รอบรู้สรรพวิชาย่อมเป็นคุณแก่แผ่นดิน เจ้าชายน้อยดำริงดงามแล้ว”

...ท่านหญิงจากอิซิลดาร์ขอร้องอีกแรง นางเองก็รักและตามใจซิกฟรีด...


 

ควาร์ย่อมเรียนรู้การเจรจา ศิลปะแห่งถ้อยคำ สามารถทั้งพูดยั่วยุหรือชักจูง เพียงแต่ในบางกรณี...ดังเช่นกรณีของซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์

เขาเลือกพูดกับ ‘พี่หญิง’ ด้วยความจริงอันโหดร้าย

ไม่ใช่ ‘พระคู่หมั้นจากอิซิลดาร์’

เขาทราบดีว่าการเอ่ยในรูปแบบนั้นไม่ฉลาดนัก ผู้ที่สวมมงกุฎราชา ไม่ว่าจะพูดสิ่งใดออกมาย่อมมีราคาค่างวด

“ท่านจะบอกเอลฟ์แดนตะวันออกที่กระหายการรบ บอกดวอร์ฟเจ้าเล่ห์ละโมบเงินตรา บอกเซ็นทอร์ที่หยิ่งในศักดิ์ศรีด้วยลมปากเบาหวิวโดยไม่รู้แท้จริงว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรเฉกนี้ด้วยหรือ ข้าไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดรูเมเรียร์ในเวลานี้จึงอ่อนแอ เพราะควาร์เลี้ยงท่านมาเป็นเจ้าชายผู้อ่อนแอ”

“ข้าอ่อนแอ ท่านหญิง” ซิกฟรีดเปลี่ยนสรรพนามเรียกเอริแอดเน่ ให้นางอยู่ในฐานะสูงเช่นพระคู่หมั้นจากต่างแดน

“ข้าทราบว่าท่านสามารถลุกขึ้น เรียกทหารคนสนิทด้วยเวทควาร์ ให้มันจับกุมข้า แต่ท่านก็ทราบดีว่าข้าจักไม่ยอมถูกควบคุมตัวง่ายดายเช่นกัน”

ดวงตาสีเหมือนหินแก้วประกายรุ้งของเอริแอดเน่รวดร้าวเย็นชา ซิกฟรีดอาจฆ่าหัวใจเสี้ยวหนึ่งของนางได้ แต่ไม่อาจทำได้มากกว่านั้น

ชายที่สามารถทำร้ายข้า...แค่คนเดียวก็เกินพอ


“ข้าทราบ ท่านหญิง”

เอริแอดเน่ยกเท้าขึ้น รองเท้าส้นเข็มชุ่มเลือดจากหลังมือของราชาเอลฟ์ “คำเตือนเมื่อครู่ ถือเป็นความเมตตาสุดท้ายจากข้า ในฐานะ ‘พี่หญิง’ ของท่าน”

ชายกระโปรงสีแดงเพลิงพลิ้วตามจังหวะก้าวเดินอย่างผู้ที่อยู่เหนือกว่า เอริแอดเน่หยุดหน้าประตู หันมา นางทราบแต่แรกว่าราชาไม่ได้นำองครักษ์คนสนิทอย่างอิลราลานติดตามมา ด้านหน้าห้องจึงมีเพียงคนของนาง

“ราชองครักษ์และกองพันทหารส่วนพระองค์ของคิงริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์ รายชื่อขุนนางคนสนิทและนายทหารที่ภักดีต่อเขา รายชื่อผู้สังเวยเพื่อสร้างสถานการณ์กบฏดาร์กเอลฟ์ ให้หูตาของริวอร์นอร์มองไม่ทั่วจนท่านสามารถหลบหนีจากอาศรมควาร์ รายชื่อทหารผู้ภักดีจากอิซิลดาร์ รายชื่อทหารและขุนนางผู้สนับสนุนท่านเฟรธูริน รายชื่อกองกำลังเอลฟ์ตะวันออก...ทุกรายชื่อที่ท่านและข้าเหยียบย่ำมาจนถึงจุดนี้ อยู่ใต้เท้าท่านแล้ว”

สิ่งที่เอริแอดเน่เขียนในม้วนกระดาษแผ่นยาวระหว่างรอซิกฟรีด...คือรายชื่อทั้งหมดที่กล่าวมา

ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องนี้...ซิกฟรีดเหยียบอยู่บนรายชื่อของคนที่ตายเพราะเขาคิดชิงบัลลังก์จากริวอร์นอร์

“ท่านมาหาข้าด้วยการเตรียมใจเบาหวิวแค่ไหนหรือ จึงกล้าเอ่ยว่าท่านจะมอบตำแหน่งราชินีให้แก่ข้า แลกกับการได้เชิดชูชู้รักเผ่าทมิฬ”

สี่ปีนับจากซิกฟรีดเข้าร่วมงานเลี้ยง หากไม่ได้เอริแอดเน่ลอบดำเนินการโดยทุ่มเททุกอย่างกระทั่งชีวิตของนางเองอยู่ที่เอวา เธมาร์ แผนการกบฏของซิกฟรีดจะสำเร็จไม่ได้เลย

“ดูรายชื่อเหล่านี้ แล้วจำไว้ให้ดี ก่อนท่านเกิดมามีรายชื่อ ‘ผู้เสียสละ’ มากกว่านี้ หลังจากนี้ก็จะมีรายชื่อผู้เสียสละต่อไปอีก”

“ข้าจำได้...ข้าจำได้ดีเหลือเกินว่าตัวเองไม่ได้เตรียมใจเอาไว้ให้แน่นหนัก จำได้ดีว่าสองมือที่บั่นศีรษะพี่ชายของตนสั่นระริก จำได้ดีว่าวันต่อมาซากศพระเกะระกะไปทั่วราชวัง จำได้ดีว่าพวกเขาถูกลากออกไปเผารวมกัน ทั้งยังจำได้ดีว่ากลิ่นของซากศพที่ไหม้เกรียมยังพัดเข้ามาอวลในโถงว่าราชการ ขณะที่บรรดาขุนนางแห่งรูเมเรียร์ อิซิลดาร์ และแดนตะวันออกเป็นสักขีพยานให้ราชาองค์ใหม่--ให้แก่ข้า

น้ำหนักของมงกุฎมาพร้อมรายชื่อของคนตาย มาพร้อมความคาดหวังถาโถม ข้าตระหนักได้ในวินาทีเดียวกับที่คณะนักบวชขับขานบทเพลงแด่บิดามารดา ว่าข้าไม่ใช่เจ้าชายซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์อีกต่อไป แต่เป็นราชาที่เยาว์ที่สุดในประวัติศาสตร์ แผ่นดินไม่อาจมีสงครามได้อีก รูเมเรียร์บอบช้ำเกินไป ท่าน...และข้าบอบช้ำเกินไป”

ตั้งแต่ได้เห็นสิ่งที่เขียนอยู่บนกระดาษชัดๆ เขาก็ทราบว่าพี่หญิงเตรียมการเพื่อ ‘เฆี่ยน’ เขาให้ลง

นางมีวิธีของนาง


เป็นวิธีที่ได้ผลดี...เขาฝันร้ายทุกคืนถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้แต่คิดจินตนาการว่า หากในอดีตเขาตัดสินใจเลือกอีกเส้นทาง ปัจจุบันจะออกมาในรูปรอยใด เขาอาจไม่มีอิสระไปชั่วชีวิต และพี่หญิงอาจถูกกดขี่ชั่วนิรันดร์ แต่รูเมเรียร์อาจรุ่งเรืองกว่าที่เป็นอยู่…

เวลาไม่อาจย้อนกลับ น้ำตาที่ไหลอยู่ในอกเปล่าประโยชน์ ซิกฟรีดทราบว่าต้องทำหน้าที่ของผู้ปกครองแผ่นดินให้ดี เขาเก็บซ่อนความสุขสงบส่วนตัวในมุมที่ลึกที่สุด

ซิกฟรีดซื้อข่าวใต้ดินที่น่าจะเกี่ยวข้องกับโคลด์อยู่เนืองๆ เพื่อนเพียงคนเดียวของเขา ผู้ไม่ได้เป็น ‘ชู้รักเผ่าทมิฬ’ อย่างที่เอริแอดเน่ปรามาส…เขาเกือบยอมรับโชคชะตาได้แล้ว แค่เกือบ...อาเลธ จนกระทั่งได้พบหน้าโคลด์ ถึงแน่แก่ใจว่าแม้จะถูกสาปส่งเช่นไร...เขายอม

 

เจ้าไม่มีวันทราบ ที่รัก...ว่าข้ายอมสละได้ทุกอย่างเพื่อกอดเจ้า

ข้าเห็นแก่ตัว ที่รัก

ใครจะสาปส่งข้าก็ให้เขาทำไปเถิด


 

“ข้ามีความทรงจำที่ดี...” เอริแอดเน่เอ่ยอีกรอบขณะเปิดประตู ก้าวออกไปโดยไร้ความลังเล องครักษ์หญิงสองนางที่รออยู่มีสีหน้าภักดีต่อท่านหญิง ทว่าเย็นชาต่อราชา

นางอสรพิษแห่งอิซิลดาร์กล่าวทิ้งท้ายไว้เพียงประโยคอันตรายว่า

“ข้าจำได้ทั้งสีผม และสีตา”


—————————————————————————

A/N ใครจะสาปส่งก็ช่างเขาเถอะ ชัดเจนมากค่ะซิกฟรีด ;w; พระเอกจริงๆ สินะ นายน่ะ...

ป.ล. นางพญาสยายปีก <3 เอริแอดเน่เป็นตัวละครที่เขียนสนุกดีค่ะ ชอบตอนไม่มีอะไรรั้งเธอไว้ (เราแกล้งเธอเยอะด้วยค่ะ)

ชุดแดงของเอริแอดเน่ก็ประมาณนี้มั้งคะ
(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/579192008-member.jpg)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (1-2-3) [24/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: VampirezBadz ที่ 24-03-2017 07:09:59
ฟิกฟรีสสู้ๆ  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (1-2-3) [24/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 24-03-2017 07:56:55
ดราม่ามาก อึดอัด สงสารซิก :o12:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (1-2-3) [24/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-03-2017 09:04:05
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (1-2-3) [24/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 24-03-2017 09:58:36
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (1-2-3) [24/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 24-03-2017 19:36:19
อยากเห็นซิกฟรีดเติบโตและเข้มแข็ง อยากให้โคลดเข้าใจซิกฟรีดบ้าง
ขอมากไปไหม เรือชั้นจะจมแล้ว :mew6:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (1-2-3) [24/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-03-2017 19:40:20
น่าสงสารจิงๆเลย รักและทุ่มเทฝุดๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (4) [25/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 24-03-2017 20:39:50
บทที่ 18 : สยายปีก (4)



มอร์นเพนได้รับอนุญาตให้ไปซื้อของ

...โดยมีทาราเธียลสวมหน้ากากและฮู้ดปิดบังใบหน้าไปเป็นเพื่อน

ทาราเธียลมุ่นผมสีทองแดงเก็บเรียบร้อยใต้ฮู้ด ผิวขาวออกแดงแบบเอลฟ์ตะวันออกถูกซ่อนอยู่ใต้ชุดแขนยาว เป็นชุดที่อบอ้าวน่าดูชมในวันแดดแรงกลางหน้าร้อนเช่นนี้

“เจ้าทนใส่ชุดร้อนๆ แบบนี้ทุกวันได้อย่างไร” ทาราเธียลขอแวะดื่มน้ำจากรูปปั้นน้ำพุ ซึ่งตั้งอยู่ทั่วไปตามจตุรัสของเอวา เธมาร์

“ที่จริงข้าร้อนมาก แต่ข้าทำตามหน้าที่ นายน้อย ว่าแต่...ท่านตามข้ามาทำไมหรือ” แอสซาสซินหน้ากากดำผู้โด่งดังตอบ

“น่า…” ทาราเธียลโบกมือปัดอากาศไปมา “ข้าอยากลองเป็นผู้คุ้มกันเจ้าบ้าง”

มอร์นเพนชินกับความขี้เล่นของเจ้านายเวลาอยู่กับมัน จึงไม่โต้แย้ง ทว่าจู่ๆ มันก็ดึงแขนทาราเธียลให้เข้ามาหลบในตรอกทั้งที่อีกฝ่ายยังดื่มน้ำไม่เสร็จ

“คิงเบลดมา”

ระหว่างติดตามคุ้มกันนายน้อยทำภารกิจทูตสันถวไมตรีในเอวา เธมาร์ มอร์นเพนต้องคอยหลบในซอก ในตรอก หรือบนหลังคาเพื่อหลบสายตาผู้คนและคิงเบลด เพื่อนองครักษ์จากแดนตะวันออกเคยถามมันว่าเหตุใดจึงไม่เปลี่ยนชุดถอดหน้ากาก แต่ดูเหมือนมอร์นเพนมีเหตุผลของตัวเองอยู่

ทาราเธียลยิ้ม เขากดริมฝีปากกับหน้ากากของมอร์นเพน ก่อนสวมหน้ากากของตนคืน

“นายน้อย!” มอร์นเพนกระซิบ ถอยเล็กน้อย คิงเบลดลาดตระเวนสองนายเพิ่งเดินผ่านไป ยังดีที่สองนายบ่าวอยู่รอบนอกของเอวา เธมาร์ ซึ่งการตรวจตราเข้มงวดน้อยกว่า

“มอร์นเพน” ทาราเธียลจุปากเบาๆ “ข้าใช้ชีวิตสงบเกินไปแล้ว ปลอดภัยเกินไปมันน่าเบื่อ”

นายน้อยเบื่อง่าย มอร์นเพนทราบดี สมัยก่อนนายน้อยสรรหาวิธีแก้เบื่อได้ทุกวัน มีบางวันจู่ๆ ก็พูดว่า

 

“ข้าอยากล่าการาซีน อืม...หรือดีราน?” ทาราเธียลเคี้ยวสมุนไพรของแดนตะวันออกซึ่งมีฤทธิ์ทำให้เคลิบเคลิ้ม “พวกผมเทาอย่างดีรานหน้าตายไปหน่อย ประดาบไม่สนุก ล่าพวกการาซีนผมฟ้าดีกว่า เห็นมันทำหน้าโกรธบ้าง กลัวบ้าง สนุกกว่าเยอะ”

แดนตะวันออกมีลักษณะเป็นหมู่เกาะน้อยใหญ่ ตัดขาดจากแผ่นดินใหญ่อย่างแคว้นรูเมเรียร์และอิซิลดาร์ เกาะซึ่งมีอาณาเขตกว้างขวางที่สุด พื้นที่เทียบได้กับหนึ่งในสามของแดนกลาง ครอบครองโดยล็องธู การาซีน และดีราน

สามตระกูลใหญ่ห้ำหั่นกันตลอดเวลา โดยเหตุผลเป็นสิ่งที่แดนกลางไม่อาจทำความเข้าใจได้อย่าง...

‘ดาบถูกทิ้งไว้บนหิ้งนานจะเหงาเสียเปล่าๆ’

“เตรียมม้าให้ข้ามอร์นเพน ข้าจะกลับมาในสามอาทิตย์”

“ตามที่ท่านต้องการ นายน้อย” มอร์นเพนตอบเช่นนี้เสมอ

การตามไปคุ้มกันระหว่าง ‘ออกล่า’ หรือเวลาที่เจ้านายไม่ต้องการไม่อยู่ในสัญญาหลักของมัน สามารถให้คนอื่นทำแทนได้ หน้าที่หลักของมันคือระวังภัยและติดตามข้างกายยามเจ้านายอยู่ในปราสาทและเขตแดนของตนเอง

คุ้มกันทาราเธียลจากบรรดาพี่ชายแห่งตระกูลล็องธูยากกว่าป้องกันอันตรายจากเอลฟ์ตระกูลอื่น และด้วยเกียรติของนักรบแดนตะวันออก จะไม่มีการลอบกัดในการประลองซึ่งๆ หน้า

เวลาทาราเธียลออกล่าแล้วไม่พามันไปด้วย มอร์นเพนจึงเหมือนได้มีวันหยุดพักร้อน


 

“ตามที่ท่านต้องการ นายน้อย เช่นนั้นข้าจะเร่งเดินทางแล้ว หากช้ากว่านี้จะไปไม่ทันเวลา” เห็นเยือกเย็นเช่นนี้ มอร์นเพนก็เร่งรีบอยู่

“ข้าชักตื่นเต้นแล้วว่าเจ้าจะซื้ออะไร” ทาราเธียลไม่เคยทำความรู้จักกับเส้นแบ่ง ‘ความเป็นส่วนตัว’ ของผู้คุ้มกัน

“ของที่ข้าต้องการซื้อหายากมากนายน้อย” มอร์นเพนเอ่ยเสียงเครียด แหบแห้ง “ถ้าไปไม่ทันวันนี้ ข้า…” แล้วองครักษ์หน้ากากดำก็เร่งฝีเท้าชนิดไม่รอเจ้านาย ทว่าทำให้ทาราเธียลยิ่งรู้สึกกระตือรือร้น

จุดหมายของมอร์นเพนคือย่านร้านค้าชนชั้นสูงของเอวา เธมาร์ ที่นี่มีสินค้าที่มอร์นเพนโปรดปราน ถึงกับอยากได้จนแอบมามองกระจกหน้าร้านจากที่ไกลๆ บ่อยๆ แต่ด้วยเพราะการแต่งกายของมันที่สวมชุดดำปิดทั้งตัว ไม่ถอดหน้ากาก ดูอย่างไรก็เป็นแอสซาสซินผิดกฎหมาย จึงไม่สามารถเดินเข้าประตูร้านไปซื้อได้ ครั้นจะฝากคนอื่นซื้อให้ มันก็กลัวคนรับฝากจะเลือกไม่ถูกใจ

ของเช่นนี้ต้องเลือกด้วยตัวเอง

“มอร์นเพน...เขาจะขายของให้เจ้าหรือ” ทาราเธียลเอ่ยถาม

“ในร้านไม่ขายนายน้อย ข้าถึงต้องรีบมา” มอร์นเพนนำทาราเธียลเลี้ยวเข้าถนนสายเล็กซึ่งเป็นทางลาดลง จากนั้นก็เลี้ยวอีกหลายหัวมุมถนน จนมาถึงสถานที่ขายสินค้าใต้ดิน

“ลดราคาจ้า! ลดราคา! สบู่ แชมพู น้ำมันหอม ผงขัดตัว ผงแช่น้ำร้อน เครื่องหอมอาบน้ำเชตใหม่ล่าสุดของฤดูร้อนจากแดนทมิฬเลยน้า! ลดราคา!!!” แม่ค้าดวอร์ฟผมทรงทวินเทลยืนประกาศด้วยโทรโข่งกระดาษอยู่บนลังซึ่งต่อซ้อนกันสูงเด่นเป็นสง่า

โกดังใต้ดินแห่งนี้แบ่งพื้นที่เป็นล็อกๆ ตั้งแผงลอยขายสินค้า ลูกค้าจำนวนมากหลากเผ่าพันธุ์คลาคล่ำเต็มทางเดิน

“นายท่านชุดดำตรงนั้นน่ะ! ลูกค้าประจำนี่นา กระบะลดราคาอยู่ทางนี้เจ้าค่า!” เธอชี้มอร์นเพนผู้เพิ่งเข้ามา

สงครามแย่งชิงสินค้าลดราคาขนาดย่อมอยู่ตรงหน้าแล้ว ใครๆ ก็อยากได้ของใช้ดีๆ แปลกใหม่จากต่างแดน แต่หากไม่ใช่เอลฟ์แล้วเดินเข้าร้านค้าหรูหราของเอลฟ์คงไม่มีใครขายให้ พ่อค้าแม่ค้าดวอร์ฟหัวใสจึงแบ่งสินค้าเหล่านั้นมาขายในตลาดนัดใต้ดินประจำสัปดาห์

ส่วนราคาขาย...ถึงบอกว่า ‘ลดราคา’ ก็ยังฟันกำไรอยู่ดี (แม้ฟันได้ไม่เท่าส่งของให้กับร้านค้าของเอลฟ์ก็ตาม)

ทาราเธียลหมดคำพูดไปครู่หนึ่งก่อนขำตัวงอ

“ที่รัก เจ้าบอกข้าคำเดียว จะเอาเครื่องหอมทั้งแดนทมิฬก็ยังได้” เอลฟ์ตะวันออกดันหน้ากากไปข้างๆ เล็กน้อยเพื่อเช็ดน้ำตา เขาพยายามกลั้นขำแล้วแต่อย่างไรก็กลั้นไม่อยู่

“ข้าขอตัวก่อน นายน้อย ข้าอยากดมกลิ่นสบู่กับแชมพูด้วยตัวเอง” มอร์นเพนตอบขึงขัง มันตื่นเต้นกับสินค้าใหม่จนไม่ทันได้ยินคำว่า ‘ที่รัก’ ด้วยซ้ำ

นี่แหละ ถึงให้คนอื่นมาเลือกไม่ได้ ของแบบนี้ต้องเลือกกลิ่นที่ถูกใจ แล้วเอาตัวอย่างทดลองใช้กลับไปเยอะๆ!

“ตามสบาย ข้าจะรออยู่ตรงนี้ละ” ทาราเธียลผายมือ เขายืนกอดอกพิงกำแพง มองมอร์นเพนเดินรี่ไปยังกระบะเครื่องหอมอาบน้ำราวกับต้องมนตร์ (เช่นเดียวกับนักล่าสินค้าลดราคาคนอื่นๆ)

เขายิ้ม ทราบว่ามอร์นเพนก็กำลังยิ้มอยู่ใต้หน้ากากยามสูดกลิ่นสินค้าต่างๆ ที่จริงเขาสั่งเครื่องหอมกลิ่นที่มอร์นเพนชอบจากแดนตะวันออกมาให้เรื่อยๆ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะตื่นเต้นกับสินค้าใหม่ๆ และช่วงเวลายามได้เลือกซื้อของที่ถูกใจเองมากกว่า

ทาราเธียลระบายลมหายใจ ระหว่างเขากับมอร์นเพนเป็นมากกว่าเจ้านายกับผู้คุ้มกันมานานแล้ว เขาไม่มีปัญหา แต่มอร์นเพนรักษาระยะห่าง ซึ่งเขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

โคลด์ซึ่งยืนหลบตรงมุมเก็บสินค้าแอบมองแบบไม่อยากเชื่อ...จะว่าอย่างไรดี เขาก็เชื่อที่อิลมาเรบอกว่า ‘หน้ากากดำจะมาที่ตลาดนัดใต้ดินแน่!’ แต่ไม่คิดว่าจะแอสซาสซินผู้เป็นไอดอลของตน...จะชอบสินค้าแบบผู้หญิงๆ เช่นนี้

“อย่าเกะกะๆ ของข้ากำลังขายดี!” อิลมาเรกระโดดลงจากลังห้าชั้นตั้งแต่เห็นหน้ากากดำตรงมาที่กระบะสินค้าของร้านเธอ ตอนนี้นอกจากงานชิงหน้ากากแล้ว เธอยังขายดีจนลูกน้องขนของไปเติมหน้าร้านไม่ทัน เจ๊ใหญ่จึงต้องมายกลังเอง

เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ อิลมาเรก็แรงเยอะใช่ย่อย เธอยกลังไปพร้อมเดินชนโคลด์ที่ยืนหน้ามึนจนกระเด็น

โคลด์เห็นอิลมาเรเข้าไปหว่านล้อมหน้ากากดำด้วยการชูสินค้าชุดพิเศษ เป็นเซตเครื่องหอมไข่มุกดำ ดวอร์ฟสาวขายของเก่งมาก โคลด์ฟังตามเสียงเจื้อยแจ้วแทบไม่ทัน แค่จับใจความได้ว่า ‘นี่คือไข่มุกดำจากทะเลทมิฬ’ ‘หอมมาก’ ‘หายากสุดๆ’ ‘มีแค่ชุดเดียวเท่านั้น!’

“ข้าเอาชุดนี้” มอร์นเพนบอกหลังดมกลิ่น แม้ราคาจะสูงลิบ แต่ค่าจ้างแอสซาสซินระดับมันก็สูงลิ่ว (มีเงินเก็บมากพอจะซื้อของใช้หรูหราราคาฟุ่มเฟือย แค่หาที่ซื้อไม่ได้)

“แต่มันแพ้ง่ายกับผิวของชาวแดนกลางนะเจ้าคะ เคยมีคนซื้อไปแล้วกลับมาโวยวาย ข้าเลยไม่อยากขายหากลูกค้าไม่ทดลองใช้ก่อนเจ้าค่ะ” อิลมาเรอธิบาย ยกขวดเครื่องหอมไปทางซ้ายทีขวาที ให้หน้ากากดำมองตามไปมา

“ผิวข้าแพ้ยาก” เสียงแหบตอบ

“ไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าเป็นแม่ค้ามีจรรยาบรรณ ยังไงท่านก็ต้องทดสอบสินค้าก่อน โดยเฉพาะน้ำมันหอมทาหน้าขวดนี้ เพราะมันต้องทาบำรุง ไม่ล้างออก”

ปกติมอร์นเพนไม่มีกลิ่นใดติดตัวเวลาทำงาน เพราะงานของมันคือการต่อสู้ ลอบเร้น แฝงกาย กลิ่นอาจเผยตัวให้ศัตรูจับได้ แต่เครื่องหอมอาบน้ำเป็นข้อยกเว้น เพราะมอร์นเพนใช้เฉพาะเวลาพัก (ใช่ ผู้คุ้มกันก็มีเวลาพักผ่อน นอนหลับ ผลัดเวร)

โคลด์เห็นหน้ากากดำยืนกลัดกลุ้ม แม้บริเวณหน้ากระบะลดราคาจะมีคนมุงเต็มจนมองยากสักหน่อย แต่ท่าทางรัดกุม (แม้จะกลุ้มใจ) ของอีกฝ่ายก็บอกระดับฝีมือฉกาจฉกรรจ์

แผนของอิลมาเรคือ ‘ในตลาดนัดใต้ดินห้ามวิวาท หากก่อเรื่องจะถูกโยนออกไป ห้ามเข้าอีกสามครั้ง ระหว่างนั้นไม่ขายสินค้าให้เด็ดขาด’ ดังนั้นหน้ากากดำผู้เป็นลูกค้าประจำย่อมไม่ชักอาวุธออกมาง่ายๆ ระหว่างที่เขาลองใช้น้ำมันหอม ก็ให้โคลด์เล็งจังหวะเผลอช่วงถอดหน้ากาก...

ชิงหน้ากากมาซะ!!!

“ข้าไม่รีบขาย แต่มีคนรอซื้อต่อจากท่านอยู่นะเจ้าคะ” อิลมาเรแสร้งกระซิบแล้วพยักพเยิดไปทางมนุษย์สาวด้านข้างหน้ากากดำ นางสนใจเซตเครื่องหอมไข่มุกดำแบบอยากได้สุดๆ เช่นกัน

“...ตกลง” มอร์นเพนยอมทดสอบสินค้า เพราะกลัวจะไม่ได้ของ

อิลมาเรยิ้มร่า ร่างเล็กๆ ซึ่งเต็มไปพลังแห่งการค้าและเงินตราเชียร์สินค้าต่ออีกสองสามประโยคอย่างเร่าร้อน ก่อนผายมือให้ท่านหน้ากากดำไปทดสอบสินค้าด้านในร้าน ตรงมุมที่โคลด์แอบซ่อนอยู่

อะไรจะราบรื่นขนาดนี้ ฮุๆๆ


ทาราเธียลเกิดสังหรณ์แปลกๆ เขามองตามมอร์นเพนซึ่งเดินหายเข้าไปในร้าน ใจหนึ่งอยากไปดูสักหน่อย อีกใจหนึ่งไม่อยากรบกวนเวลาส่วนตัวของอีกฝ่ายนัก (แม้ว่าจะรบกวนถึงขนาดนี้แล้วก็ตาม) เอลฟ์ตะวันออกลูบแผลตรงแก้ม ชั่งใจว่าจะตาม หรือไม่ตาม

ตามแล้วกัน

ทาราเธียลไม่ชอบเวลาที่ตนเกิดสังหรณ์ แม้จะเกิดเรื่องบ้าง ไม่เกิดเรื่องบ้าง แต่ก็ไม่ชอบอยู่ดี เขารุดไปยังร้านขายสินค้าของดวอร์ฟ แทรกฝูงชนที่เดินวุ่นวายเหมือนควายป่าอพยพ แต่ระหว่างที่เดินไปนั้น มีชายคนหนึ่งสวนทางมากระแทกเขาอย่างจัง

“เจ้าไม่ควรลืมว่ามอร์นเพนเป็นมือสังหารที่ข้าจ้างมา” ชายคนนั้นดันอกเขาไว้ น้ำเสียงทุ้มของอีกฝ่ายทั้งน่าฟังและน่าหมั่นไส้ไปพร้อมกัน

ช่างมีเอกลักษณ์...แม้จะซ่อนใบหน้าและผมเอาไว้ใต้ฮู้ดมอซอ ทาราเธียลก็ไม่จำเป็นต้องเดาเลยว่าเป็นใคร


—————————————————————————

A/N ใครหนอ ใครกันนะ *0* ฮุๆๆ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (4) [25/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-03-2017 21:28:49
อีตาลุงนี้ต้องมีเอี่ยวตล้อดดด
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (4) [25/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-03-2017 22:11:52
จะมีทางใด ที่ทำให้ซิก พ้นจากอำนาจเอรีแอดเน่
นางเป็นนางอสรพิษแท้จริงเมื่อไม่ได้อย่างใจ
พูดทวงบุญคุณ ทำร้ายราชาอย่างเหยียดหยาม
เพราะช่วยเหลือจนซิกฆ่าริวอร์นอร์ และแก่เฒ่ากว่า
นางมีความทรงจำที่ดี จำได้ทั้งสีผม สีตา
ที่พูดนี่สีผมสีตาของโคลด์ ใช่ป่ะ เฮอะ....น่าชังยายเฒ่าจอมริษยาเอ๊ย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (4) [25/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 24-03-2017 22:57:50
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (4) [25/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 25-03-2017 14:13:44
เหมือนแต่ละคนก็มีเหตุผลเพื่อที่ให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการทั้งนั้นเลย
ยิ่งสูงยิ่งหนาวสินะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (4) [25/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: หมีมง ที่ 25-03-2017 14:22:29
สารภาพว่างงบทสนทนาหลายตอนเลย โดยเฉพาะระหว่างซิกฟรีดกับเอริแอดเน่ พวกเขากำลังลับสมองประลองปัญญาหรือเราโง่เอง 5555555555555555555 อ่านแล้วต้องแปลอีกที

ซิกฟรีดนี่น่าสงสารที่สุดละ บนบ่าแบกอะไรไว้บ้าง ทำเพื่อตัวเองยังไม่ได้เลย *กอด*
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (4) [25/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-03-2017 14:39:39
สารภาพว่างงบทสนทนาหลายตอนเลย โดยเฉพาะระหว่างซิกฟรีดกับเอริแอดเน่ พวกเขากำลังลับสมองประลองปัญญาหรือเราโง่เอง 5555555555555555555 อ่านแล้วต้องแปลอีกที

ซิกฟรีดนี่น่าสงสารที่สุดละ บนบ่าแบกอะไรไว้บ้าง ทำเพื่อตัวเองยังไม่ได้เลย *กอด*

ไว้จะเรียบเรียงแก้ไขตอนรีไรท์นะคะ ขอบคุณค่ะ :)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 17 : (6-7) [22/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-03-2017 14:41:23
สารภาพว่าเราเซฟนิยายเรื่องนี้เก็บไว้ซักพักแล้ว
แต่ยังไม่ได้มาอ่านจนถึงเมื่อวาน...อ่านจบรวดเดียวแล้วก็อยากจะตบตัวเองว่าทำไมแกเพิ่งจะเข้ามาอ่านเอาป่านนี้ห๊ะ!
คือมันดีมันใช่สมเหตุสมผลกับรายละเอียดเรื่องราวต่างๆไม่ว่าจะเล็กๆน้อยๆหรือเนื้อหาหลักที่ใส่ใจของคุณ
ความมหากาฬของเรื่องที่เนื้อหาไม่เยิ่นเย้อหรือรวบรัดจนเกินไป
ตรงส่วนที่คนนี้เข้าโหมดดาร์กก็จะมีคนอื่นมาปรับอารมณ์(ขอถวายตัวให้ท่านมาลแกธจอมสร้างสีสันได้ไหมนะ?)
อ่านแล้วก็ไม่ได้อึดอัดแต่ว่าตื่นเต้นลุ้นๆ
ชอบการใช้ตัวละครอย่างประหยัดและคุ้มค่าตัวสุดๆของคนเขียนด้วย
เพราะว่านิยายบางเรื่องก็มีตัวละครเยอะมากเกินไปจนเราจำได้ไม่หมดว่าใครเป็นใคร
(บางเรื่องมีแต่ผช. ผญ.ไปไหนหมด ความสมดุลโลกอยู่หนายยยยยยยย5555555)
แถมยังมีคู่ช-ญที่น่าติดตามมากๆอีกด้วย
ง่ายๆคือดีหมด
ไม่ดีอยู่อย่างเดียว...คือสงสัยว่าจุดสุดท้ายโคลด์จะลงเอยกับใคร?

ส่วนเรื่องตีพิมพ์เราว่าแต่ละสำนักพิมพ์มีอุดมการณ์ไม่เหมือนกันนะคะ
ลองดูๆเจ้าที่ตีพิมพ์แนวๆนี้ก็ได้นะคะอย่างเช่น นาบูฯ ไรงี้
รออุดหนุน
รอติดตาม
รอมาอัพ
รอค่ะ
ขอบคุณนะคะ อ่านละดีใจมาก /บินๆ  :mew1:
ดีใจที่ชอบในหลายๆ ด้าน ขอบคุณที่เข้าใจและยอมรับสิ่งที่เราเขียนค่ะ ;)
ดีใจที่ชอบคู่ชายหญิงด้วย ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะคู่เกวนกับเอเลียตไหมคะ?  :katai3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (4) [25/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-03-2017 20:48:03
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (5) [26/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-03-2017 22:43:53
บทที่ 18 : สยายปีก (5)

“ท่านลุง” ทาราเธียลจ้องตาเขียวจากใต้ฮู้ด ขณะที่ ‘ท่านลุง’ ส่งยิ้มกลับมา

“ถ้ามันปกป้องตัวเองไม่ได้ ข้าก็ไม่ควรจ้างมันมาดูแลทายาทคนสำคัญของล็องธู จริงไหม”

ทาราเธียลยอมจำนนด้วยเหตุผล

...แต่ยังไม่วายเถียงว่า “คนรักกันน่าท่านลุง ข้าแค่ตามไปดู ไม่ได้ดูถูกฝีมือสักหน่อย”

“เจ้าจะตายตั้งแต่อายุยังน้อย ทาราเธียล” ผู้เป็นลุงยึดบ่าหลานชาย แล้วบังคับให้เดินออกห่างจากมหกรรมแย่งชิงสินค้า “เจ้านอนกับมัน ข้าไม่ว่า แต่เจ้ารักมือสังหาร ข้าต้องเตือน มันจะทำงานได้ไม่เต็มที่ และหากเจ้าคอยสอดมือช่วยเหลือโดยไม่จำเป็นและ ‘โง่งม’ เจ้าสองคนก็เตรียมเผาศพกันและกันได้เลย”

ความหมายคือ จะเป็นมือสังหาร องครักษ์ คู่หู พี่เลี้ยง ผู้ร่วมเตียง หรืออะไรก็ตามแต่ มอร์นเพนถูกจ้างมาให้ตายก่อนทาราเธียล และมันเซ็นสัญญาแล้ว หากทาราเธียลตายก่อนมัน หน้ากากก็ระเบิดศีรษะมันเพราะถือว่าทำงานล้มเหลว

มาลแกธกอดคอทาราเธียลที่เลิกขัดขืน “เอาละ! ไปหาอะไรกินกับข้าดีกว่า”

ภายในร้านของแม่ค้าดวอร์ฟ มอร์นเพนมองซ้ายมองขวา มันเห็นชุดโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้สวยหรูหราเหมือนออกมาจากเทพนิยายซึ่งทางร้านเตรียมไว้ให้ลูกค้านั่งทดสอบสินค้า

มอร์นเพนมองชุดดำของตัวเอง แล้วมองเก้าอี้นวมสีชมพูหวาน ก้มมองตัวเองอีกครั้ง…

หน้ากากดำแกะสลักลวดลายแปลกตาแบบอารยธรรมต่างถิ่นสะท้อนอยู่บนกระจกกรอบไม้ลายดอกลิลี่

มอร์นเพนยืนนิ่งเหมือนถูกสาป

อย่านั่งเลย โคลด์แทบร้องไห้ ขอร้องบิดามารดาทั้งหลายว่าโปรดอย่าให้ไอดอลของเขานั่งโต๊ะเครื่องแป้งเลย...

‘ท่านนั่งทดสอบสินค้าตรงที่ที่จัดไว้ได้เลยนะเจ้าคะ’ แม่ค้าดอวร์ฟบอกก่อนมอร์นเพนเดินเข้ามา

‘รอจังหวะเขานั่งแล้ววางหน้ากากไว้บนโต๊ะนะ อย่าพลาดละ!’ อิลมาเรเตี๊ยมแผนการกับโคลด์เมื่อสองชั่วโมงก่อน

หน้ากากดำเลื่อนเก้าอี้ออก นั่งลงหน้ากระจก มองขวดน้ำมันหอมบรรจุของเหลวสีดำใส แล้วเงยหน้ามองเงาสะท้อนของตนบนกระจก...ถอนใจ

มันไม่ค่อยส่องกระจกนัก ใบหน้าใต้หน้ากากของมันเป็นสิ่งห้ามเปิดเผย…

ถ้าพวกเขาเห็นหน้าข้า เกรงว่าแม้แต่ร้านค้าใต้ดินก็ไม่อยากขายของให้แล้ว มอร์นเพนชั่งใจ

แอสซาสซินมือเก๋าขนาดนี้...เขาจะยอมถอดหน้ากากวางบนโต๊ะจริงเร้อ โคลด์คิดตามความเป็นไปได้จริงๆ ไม่ทันไร ไอดอลของเขาก็เปิดขวดน้ำมันหอม เหยาะบนนิ้ว (ซึ่งยังสวมถุงมือ) แล้วสอดนิ้วเข้าใต้หน้ากาก...ทาน้ำมันหอม

ข้าว่าแล้ว โคลด์ทำหน้าละเหี่ยใจขณะพุ่งตัวออกไปชาร์จ เขากะแล้วว่าต่อให้วางแผนมาดีแค่ไหน ผลลัพธ์ก็ตั้งอยู่บนการคาดเดา ใช่ว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่อิลมาเรคาด

ดวงแค่ 0.01% ที่เหลือก็มีความหมายเช่นกัน

เอาเถอะ อย่างน้อยก็ทำให้เขาเปิดช่องว่าง


มอร์นเพนเห็นคนสวมฮู้ดพุ่งเข้ามาแล้ว ระหว่างที่นิ้วยังค้างอยู่ใต้หน้ากากและมันยังนั่งอยู่ คนผู้นี้ซ่อนตัวเก่งทีเดียว เขาจับสัมผัสไม่ได้เลย

แต่ยังช้าไป นักฆ่าหน้ากากดำใช้เวลาพริบตาเดียวที่มือของผู้โจมตีจะแตะถึงหน้ากาก กระโดดไปยืนรักษาระยะห่าง โดยที่เก้าอี้สีชมพูไม่ล้ม ขวดน้ำมันหอมถูกปิดฝาวางบนโต๊ะเรียบร้อย

มีฝีมือ โคลด์ยิ้มอยู่ใต้ฮู้ด คนคนนี้ว่องไวมาก แถมยังเหมือนหายตัวได้ อาจไวกว่ามาลแกธอีก... ปีศาจชัดๆ

นักชิงหน้ากากนี่เอง มอร์นเพนคิด แต่ไม่พูด

อีกฝ่ายก็ไม่พูด

ทั้งสองนึกชมกันและกันว่า คนทำงานที่ดีก็ไม่ควรพูดมากให้เสียเวลานั่นแหละ

แล้วมอร์นเพนก็นึกขึ้นมาได้ว่า ‘รายนี้ออมมือหน่อย’

นายน้อยบอกเช่นนั้น

อีกด้านหนึ่ง ภายในตลาดนัด

“อร่อยไหมละ” มาลแกธกับทาราเธียลซื้อแอปเปิ้ลเชื่อมมากินคนละผล ทั้งคู่เดินเตร่ไม่ไกลจากร้านค้าของดวอร์ฟ (อิลมาเร) งานขายสินค้าลดราคาแบบนี้ ย่อมมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายอาหาร ซึ่งมีทั้งอาหารดั้งเดิมของดวอร์ฟ อาหารพื้นบ้านของดาร์กเอลฟ์ และอาหารประหลาดๆ น่าลิ้มลองของมนุษย์

“หวานเกินไป” ทาราเธียลวิจารณ์ “ขนมของพวกเด็กๆ”

มาลแกธหัวเราะ “อายุขนาดเจ้าถือว่าเป็นเด็กน้อยสำหรับข้า” ผู้เป็นลุงหยอกหลานชาย “น่า...นานๆ กินอะไรหวานๆ ที มันช่วยให้กระชุ่มกระชวย”

“ท่านลุง” ทาราเธียลเรียก

“หืม” มาลแกธทิ้งแอปเปิ้ลเชื่อมหลังกินไปแค่ครึ่งผล มันหวานเกินไปอย่างที่หลานชายว่าจริงๆ ถ้ากินหมด คงแสบคอมากกว่ากระชุ่มกระชวย

โคลด์ต้องว่าแน่ ‘กินทิ้งกินขว้างได้ยังไงน่ะ!’ มาลแกธคิด

“ข้ารู้ว่าท่านพึงใจดาร์กเอลฟ์ตนหนึ่ง” ทาราเธียลสังเกตว่าท่านลุงจะแสดงปฏิกิริยาอย่างไร

ซึ่งมาลแกธแค่เผยยิ้มกว้างขวางเท่านั้น

“ถูกต้อง” ผู้เป็นลุงกอดคอหลานชาย “พวกเราชาวตะวันออกไม่มีจารีตน่าเบื่อแบบรูเมเรียร์ อย่างเอลฟ์แต่งกับดาร์กเอลฟ์ไม่ได้ หรือล็องธูจะแต่งกับการาซีนไม่ได้ ข้าพึงใจดาร์กเอลฟ์ และพอใจที่จะรักดาร์กเอลฟ์ ไม่เห็นว่าเป็นปัญหาอะไร”

“ถ้าดาร์กเอลฟ์ตนนั้นกับท่านอยู่แดนตะวันออก ข้าก็ไม่เห็นปัญหาเช่นกัน แต่ตอนนี้มันกับท่านอยู่บนแผ่นดินรูเมเรียร์ แถมท่านยังเป็นองครักษ์มือขวาอีก มันจะทำให้ท่านดู…”

“ ‘ไม่น่าเชื่อถือ’ ‘น่าขัน’ มีอะไรอีกละ อ้อ… ‘บ้า’ กระมัง” มาลแกธวางมือบนศีรษะของหลานชายแล้วโยกไปมา “เจ้าก็มีหัวคิดนี่นา เป็นห่วงข้าหรือหลานชาย”

ทาราเธียลยกมือท่านลุงออก “จะมองว่ามันล่อลวงท่าน หรือท่านแค่เมตตามันก็ได้ขอรับ แต่มันก็...ไม่เหมาะสมไม่ใช่หรือ”

“ทาราเธียล” มาลแกธกอดอก พลางมองหลานชายนิ่งๆ ถามอย่างแปลกใจว่า “เจ้ารักมอร์นเพนจริงๆ รึนี่”

มาลแกธอ่านผู้มีศักดิ์เป็นหลานชายออก คำถามของมันค่อยๆ ไล่ต้อนให้เขาพูดสิ่งที่จะมัดตัวเขาเอง

ชาวตะวันออกจะรักใครก็ได้หากพึงใจ

แต่ผู้ที่เป็นถึงราชองครักษ์ของราชาเอลฟ์ไม่ควรมีสัมพันธ์กับดาร์กเอลฟ์

คำถามสุดท้าย ‘ไม่เหมาะสมไม่ใช่หรือ’ กำลังบีบให้เขาตอบตามนิสัยส่วนตัวว่า ‘ข้าจัดการได้’

ทั้งหมดเพื่ออะไรกันเล่า

“ขอรับ มันไม่เหมาะสม แต่ข้าจัดการได้”

ก็เพื่อให้มันตอกหน้าข้าแบบนี้ไง

มาลแกธดูหลานชายยิ้มกวนอารมณ์

เหมือนใครกันนะ

อ้อ...เหมือนข้าเปี๊ยบ


“ไปกันเถิดขอรับ ข้าจะไปดูมอร์นเพนสักหน่อย”

คราวนี้เป็นมาลแกธที่ยอมจำนน

เมื่อเดินมาถึงร้านของอิลมาเร

เสียงฮือฮาของผู้คนเรียกความสนใจจากลุงและหลานตระกูลล็องธู ปกติแล้วหากมีคนทะเลาะกัน คนรอบๆ ถ้าไม่เชียร์ว่าข้างไหนจะชนะ ก็รีบถอยห่าง

แต่นี่ลูกค้ายังซื้อของต่อ แถมหลั่งไหลเข้าร้านมืดฟ้ามัวดิน มีแม่ค้าดวอร์ฟหน้าตายิ้มแย้มและลูกน้องหน้าโหดคอยให้บริการ ฉากหลังเป็นนักฆ่าชุดดำสองคนประมือกันด้วยหมัดและศอก

...และไม่มีสินค้าชิ้นไหนถูกทำให้เสียหายเลย

“การแสดงเจ้าค่ะ การแสดง อ๊ะ ซื้อชิ้นนี้ด้วยไหมเจ้าคะ ดูเพลินๆ ได้อีกชิ้นเลย” อิลมาเรยิ้มร่าขณะขายของพร้อมเรียกลูกค้าให้มามุงดู ‘การแสดงเรียกแขก’

เธอกำชับโคลด์ว่า ‘ห้ามทำสินค้าเสียหาย’ และแปะป้ายเขียนลายมือน่ารักตัวโตๆ ว่า ‘หากทำสินค้าเสียหาย ไม่ให้เข้าตลาดนัด!’

ท่านหน้ากากดำและโคลด์ช่างน่ารักจริงๆ เลยเจ้าค่ะ ว้ายยย ♥ ♥ ♥

โคลด์ชิงหน้ากาก มอร์นเพนปัดป้อง ทว่าทั้งสองรู้สึกหนักๆ ที่บ่าโดยไม่เกี่ยวกับการต่อสู้ตรงหน้าอย่างไรก็ไม่ทราบ

ทั้งคู่รู้สึกเหมือนเต้นอยู่บนฝ่ามือของใครสักคน

ซึ่งก็คือมือของแม่ค้าจอมงกและฉลาดเป็นกรดในเรื่องการหาเงินอย่างอิลมาเรนั่นเอง

“กิจการของท่านดวอร์ฟคึกคักเหลือเกิน” มาลแกธทักทายอิลมาเร เขายังสวมฮู้ดปิดบังใบหน้าอยู่ “ดูท่าจะได้กอบทองถุงทองถัง ใช้อย่างไรก็ไม่หมด”

คำพูดรวมกับสายตาของเอลฟ์ตะวันออกแฝงนัยว่า ‘คงพอจะใช้หนี้ได้แล้วกระมัง อิลมาเร หยุดเถอะ’

อิลมาเรแก้มป่อง อมลม การบอกให้ดวอร์ฟหยุดค้าขายไม่ต่างอะไรกับบอกให้เอลฟ์ตะวันออกตัดเปียสงคราม

“เห็นแก่ท่านมาลแกธเลยนะเจ้าคะ” เธอบอกงอนๆ

มาลแกธยิ้ม “ข้ามีของมาแลก”

“เย้!” ดวอร์ฟแบสองมือรับของฝาก ทำให้ทาราเธียลทราบว่านอกจากท่านลุงพึงใจดาร์กเอลฟ์ที่สู้กับมอร์นเพนอยู่แล้ว ยังคบหากับแม่ค้าดวอร์ฟที่ดูไม่มีประโยชน์อะไรเลย

“ราคาสูงมาก เป็นของสะสมของข้า” มาลแกธกระซิบ “ให้ตรงนี้ไม่ได้”

ท่านลุงล่อลวงดวอร์ฟหรือ ทาราเธียลพรั่นพรึง

“ได้เจ้าค่ะ แล้วข้าจะให้โคลด์ไปทวง” ทว่าทางนี้ก็ดูเขี้ยวไม่แพ้กัน “หนึ่งแสนควินน์นะเจ้าคะ หนี้ที่ข้าต้องจ่ายพรุ่งนี้...นี่ก็เพิ่งขายของได้แค่…”

“เปียสงครามของดีราน”

ทาราเธียลถึงกับสำลักอากาศ ท่านลุง!

ดีรานเป็นตระกูลที่เชี่ยวชาญด้านเวทที่สุดในแดนตะวันออก ทั้งยังเป็นตระกูลที่มาลแกธให้คำจำกัดความว่า ‘เคี้ยวยาก’ ดังนั้นเปียสงครามของดีรานจึงมีค่าสูง ในตลาดมืดมีน้อยเท่าน้อย พวกนักเวทก็จ้องชิงกัน เนื่องเพราะเปียสงครามของดีรานมีไอเวทน่าศึกษาแฝงอยู่

แม่ค้าดวอร์ฟหุบปากฉับ ถูฝ่ามือขึ้นเข้าด้วยกัน ยิ้มประจบประแจงอย่างน่ารัก “ท่านมาลแกธสมเป็นป๋าของโคลด์จริงๆ เจ้าค่ะ!”

ไม่แน่ว่าที่อิลมาเรวางแผนมาทั้งหมดนี้ อาจรวมการคาดเดาว่ามาลแกธจะช่วยออกเงินเพื่อช่วยเหลือโคลด์แบบอ้อมๆ

...ทาราเธียลต้องมองแม่ค้าดวอร์ฟใหม่เสียแล้ว

ดวอร์ฟสาวหันไปทางโคลด์

ดาร์กเอลฟ์หอบแฮ่กๆ เพราะแรงกดดันจากสายตาของคนที่มามุงดู มอร์นเพนเองก็มีท่าทีฝืนๆ เพราะมันไม่ชินกับการปะทะกันแบบ ‘ออมมือ’ เหมือนการแสดงปาหี่เช่นนี้

พวกเขาเป็นนักฆ่า ไม่ใช่นักแสดง!

“ยกเลิกงานจ้า ไม่เอาหน้ากากแล้ว!” อิลมาเรตะโกนบอก

พริบตานั้น โคลด์ดีดร่างออกจากไอดอลของตน เขาเกือบจะดึงหน้ากากได้แล้ว และอีกฝ่ายก็เกือบหักแขนของเขาด้วยเหมือนกัน

มอร์นเพนเดาอยู่ว่าแม่ค้าตัวเล็กร่วมมือกับนักชิงหน้ากาก แต่ถ้าเรื่องจบลงได้ด้วยการที่เขาไม่ถูกห้ามเข้าตลาดนัดก็ถือว่าดีมาก

“ขวดนั้นเท่าไหร่” ทาราเธียลชี้ไปยังน้ำมันบำรุงผิวสีดำใส

“อ้อ ขวดนั้น…” อิลมาเรกำลังอ้าปากจะบอกราคาที่คิดเพิ่มขึ้นสักสามเท่าอยู่

ตอนที่ขวดน้ำมันหอมระเบิดเพล้ง!

ตามด้วยเสียงกระจกแตกรัวๆ ทำลายตะเกียงในโกดัง ทำให้แสงสว่างดับพรึ่บ ควันสีเทาหนาทึบไร้ที่มาพวยพุ่งครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดในชั่วพริบตา


—————————————————————————

A/N อื้มหืม ไม่ได้ซื้อไปเอาไปใจมอร์นเพนแล้วล่ะ ทาราเธียล


หน้าตาทาราเธียลก็ประมาณนี้ละมั้งคะ

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/1867544364-member.jpg)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (5) [26/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 25-03-2017 23:03:31
สงสารอาเลธที่สุด

อำนาจที่คนอื่นควบคุม
ชีวิตที่คำสาปชักนำ
เพื่อนที่หลุดลอย
รักที่ไม่ได้มา

ไร้คนไว้ใจได้ ไร้อำนาจ ไร้อิสระ ไร้รัก

เรือปริ่มน้ำเหลือทน
-------------------------
ใครมาขัดขวางการค้าของอิลเนี่ย ช่างไม่กลัวตายเอาซะเลย

ปล. มอร์นเพนน่ารักเกินไปแล้ว! ทาราเธียลหล่อเหลาจนใจละลาย

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (5) [26/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-03-2017 00:30:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (5) [26/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 26-03-2017 17:55:54
อยากเห็นหน้ามอร์นเพนกะโคลดขัดๆย้างอ่าค่ะ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (5) [26/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-03-2017 22:11:22
เอิ่ม ใครมาระเบิดปล่อยคว้นอีกละนะ เห้อ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (6) [27/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 27-03-2017 00:13:44
บทที่ 18 : สยายปีก (6)

มอร์นเพนดีดตัวไปหาทาราเธียล กาตาร์สองมือถูกชักออกมาโดยไม่ลังเล มุ่งคุ้มกันเจ้านาย

ส่วนโคลด์พุ่งหาอิลมาเร กดให้หมอบแล้วชักอาวุธออกมาเช่นกัน

มาลแกธสะบัดมือสองข้าง ใบมีดซึ่งซ่อนอยู่ในแขนเสื้อดีดออก ขณะที่ทาราเธียลดึงดาบสั้นคู่จากเอว เอลฟ์ตะวันออกกระชับอาวุธพร้อมรับมือกับอะไรก็ตามในควันทึบ

มาลแกธฟังเสียงควันหนาสีเทา เอ่ยภาษาควาร์เพื่อสั่งให้มันกลับไปหานาย ทว่ามันไม่ทำตาม มันเป็นอาวุธของ ‘นักเวท’ ซึ่งภักดีกับนาย โดยเฉพาะนายที่เข้มแข็ง

ภายในพื้นที่ปิดอย่างโกดัง ควันไร้ทางออกรมผู้คนซึ่งตื่นตระหนกให้ล้มสลบ ร่างร่วงลงพื้นไปทีละคน

“แหมๆ ควันของข้ามีฤทธิ์ทำให้หมดสติทันที แต่ดูเหมือนจะมีนักรบกระดูกแข็งเคี้ยวยากเหลืออยู่ตั้งสี่คน” เสียงสตรีเอ่ยอย่างหยอกเย้าและผยองมาจากทางประตูโกดัง ซึ่งเป็นทางเข้าออกเพียงจุดเดียว

โคลด์ได้ยินแล้ว แต่เขาแตะเส้นชีพจรข้างลำคอของอิลมาเรและเลิกเปลือกตาดูอยู่ เมื่อเห็นว่าดวอร์ฟสาวสลบไปเฉยๆ ไม่ได้ถูกพิษก็ถอนใจด้วยความโล่งอก

“คนสวย” มาลแกธเอ่ยทัก “นอกจากสวยแล้วยังโหดด้วยหรือ”

“ยังไม่เห็นหน้าค่าตากันเลยนะเจ้าคะ ท่านราชองครักษ์” นางตอบ ค่อยๆ ก้าวออกมาจากกลุ่มควันที่จางลง

“ข้าฟังจากเสียงก็ทราบแล้วว่างามแค่ไหน” มาลแกธหัวเราะ

“และท่านทูตจากตระกูลล็องธู” คราวนี้ ‘คนสวย’ หันร่างมาทางทาราเธียล พวกเขาเห็นแล้วว่านางยืนอยู่ระหว่างนักดาบสตรีอีกสองคน

นักเวทหนึ่ง นักดาบสอง ขวดที่ระเบิดเองกับตะเกียงที่ถูกทำลายเมื่อสักครู่…

โคลด์เดาว่า น่าจะมีผู้ใช้อาวุธระยะไกลอยู่อีกคน

สี่คน...สี่ต่อสี่พอดีรึ

“ไง” ทาราเธียลเลียริมฝีปาก เขาจะหายเบื่อก็คราวนี้กระมัง

สตรีผู้ใช้เวทควันเป็นนางเอลฟ์สวยยั่วยวน แต่งกายอย่างนางระบำ ผมหยักศกสีเทาอ่อนสยายเต็มแผ่นหลัง

มาลแกธและทาราเธียลไม่เคยเห็นนางผู้นี้ แต่นักดาบอีกสองคนคือองครักษ์หญิงผมสีฟ้าและองครักษ์หญิงผมสีดำผู้ติดตามใกล้ชิดท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์

“ดีราน การาซีน อิซิลดาร์?” มาลแกธจุปาก “เหมือนได้รบบนสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น”

“ข้าขอการาซีน” ทาราเธียลจอง “ข้าชอบการาซีนใจกล้า”

สิ้นคำ ลูกธนูพุ่งมาปักตรงด้านหน้าของทาราเธียลอย่างอำมหิต ถ้าเอาให้ชัด คือด้านหน้าตรงกลางระหว่างขา เฉียดความเป็นชายของทาราเธียล ล็องธูไปนิดเดียว

ผู้ใช้อาวุธระยะไกลเผยตัวโดยการลุกยืน นางอยู่บนนั่งร้านสูงอีกฟากของโกดัง นั่งร้านนี้มีไว้ให้หน่วยเฝ้ายามดวอร์ฟมองภาพรวมของสถานที่และคอยดูแลความสงบได้ทั่วถึง และเป็นจุดยิงธนูชั้นดีด้วย

“อย่าล้อเล่นกับจามิลลา ล็องธู” เอลฟ์สาวผมสีเขียวอ่อนผู้เคยยิงโคลด์ตกจากต้นไม้บอก นางยังง้างคันธนูค้างไว้ ใกล้เท้ามีร่างยามดวอร์ฟนอนคว่ำหน้าอยู่สองสามคน

“ไม่เป็นไร เวเรด้า” จามิลลาผมสีฟ้ายกมือให้เพื่อนองครักษ์ลดธนูลง

“ตระกูลดาเอียร์…” มาลแกธโค้งให้มือธนู

ดีรานที่ยิ้มแย้ม ดาเอียร์และการาซีนที่เงียบขรึม ดูเหมือนเชื้อสายสตรีตะวันออกที่ไปอยู่อิซิลดาร์จะต่างจากสตรีตะวันออกบนเกาะมากโข

ที่มีเหมือนกันคือศักดิ์ศรีของนักรบกระมัง

“ควันสลบกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกไป ทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้น หรืออาจทำให้การเจรจาง่ายขึ้น” จามิลลาเอ่ย

“นี่ๆ อย่าเพิ่งเข้าเรื่องซีเรียสสิ ข้าเพิ่งเคยเห็นล็องธูใกล้ๆ ขนาดนี้ ก็ท่านหญิงไม่ยอมให้ข้ามาดูพวกเขาเลย” เอลฟ์สาวผมสีเทายื่นหน้าอย่างกระตือรือร้น

มาลแกธถอดฮู้ดออก เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลา และผมสีทองแดงซึ่งไร้เปียสงคราม

...รวมถึงรอยยิ้มขี้เล่นที่ยังมีแก่ใจเผื่อแผ่ให้นักรบสตรีทุกนาง

ทาราเธียลถึงกับกลอกตาอยู่ใต้ฮู้ด ท่านแม่ขอรับ ท่านมีพี่ชายแบบนี้ไม่หนักใจบ้างหรือ

“หล่อจัง” นางเลียริมฝีปาก “ได้ยินว่าพวกบนเกาะชอบเอาผมเอลฟ์ตระกูลอื่นมาถักเล่น ป่าเถื่อนเสียจริง แต่ข้าชอบสีผม--”

“พอแล้วซิลเวีย” จามิลลาเตือน ถ้าไม่เพราะต้องใช้นักเวทและท่านหญิงสั่งให้ดำเนินการโดย ‘ไม่เอิกเกริก’ นางคงไม่เลือกซิลเวียที่อายุยังน้อยและเกิดที่อิซิลดาร์มาเผชิญหน้ากับบุรุษจากตระกูลล็องธู

ซิลเวียม้วนผมสีเทาของตนแบบงอนๆ “ก็ข้าไม่เคยเห็น...บุรุษตระกูลดีรานอะไรนั่นก็ด้วย ที่ว่าผมสีเทาเหมือนข้า”

“การาซีน” มาลแกธหันไปทางจามิลลา “เจ้าเอ่ยว่า ‘ทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้น หรืออาจทำให้การเจรจาง่ายขึ้น’ ใช่หรือไม่ เจ้าจะเจรจาเรื่องใดเล่า”

“หน่วยอสรพิษได้รับคำสั่งให้ถอนกำลังไปแล้ว พวกเรามารับตัว ‘โคลด์ สตาร์’ ในเมื่อเขาอาจเป็นคนที่จอมทัพทมิฬตามหาอยู่ ท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์จึงมีประสงค์จะได้ตัวเขา” จามิลลาตอบเย็นชาเหมือนมาลแกธกำลังคุยกับรูปปั้นหิน

“ข้าทำงานให้ราชา ข้าไม่เห็นทราบว่าพระองค์รับสั่งให้ข้ามอบตัวโคลด์ สตาร์แก่ท่านหญิง”

“ราชาของท่านเพิ่งถูกอบรม” ซิลเวียหัวเราะคิก เห็นได้ชัดว่านางเป็นสตรีที่ไม่เกรงบุรุษ แต่มองในฐานะเท่าเทียมกัน

“ไม่แปลกใจ” มาลแกธขยิบตาให้นาง แล้วคุยกับจามิลลาต่อ “คงไม่อาจมอบให้ท่านหญิงได้ เว้นเสียแต่ราชามีพระประสงค์”

เขากันโคลด์ไว้ ไม่ให้ตอบโต้อะไรตอนนี้ แต่ดูเหมือนควรกันหลานชายตัวเองมากกว่า แววตาของทาราเธียลเป็นประกาย พร้อมรบทุกวินาที

“ท่านรับใช้ราชาของท่าน ข้ารับใช้ราชินีของข้าเช่นกัน” จามิลลาตั้งปลายดาบจรดพื้นตรงหน้าด้วยท่วงท่าอย่างอัศวิน

ในที่นี้ นักรบที่มาลแกธเคยเห็นฝีมือมาแล้วคือ นักดาบจามิลลาผมสีฟ้า กับนักธนูเวเรด้าผมสีเขียว ทั้งสองรอดมาจากวันสังหารคิงริวอร์นอร์ในขณะที่องครักษ์หญิงของเอริแอดเน่อีกหลายนางสละชีวิตห้ำหั่นกับองครักษ์ของอดีตราชา

ลือกันว่า องครักษ์คนสนิทของคิงริวอร์นอร์ที่จามิลลาสังหารไปนั้น...เป็นชายคนรักของนางด้วยซ้ำ

สตรีเหล่านี้มิใช่นักรบผู้แสวงหาความท้าทายแบบเอลฟ์จากแดนตะวันออก แต่เป็นอัศวินผู้สาบานตนว่าจะอุทิศทั้งชีวิตจงรักภักดีต่อราชินีของตน

“แม้พวกนางจะฆ่าเจ้า แต่เจ้าห้ามฆ่าพวกนาง” มาลแกธเอ่ยกับทาราเธียล “นี่เป็นคำสั่ง”

“ขอรับ” ทาราเธียลกำอาวุธตบอก “แล้วถ้า--”

“ห้ามตัดแขนตัดขา หรือทำให้พวกนางไม่สามารถยึดอาชีพเดิมได้เช่นกัน” มาลแกธโหดเหี้ยมในบางครั้ง เมตตาในบางหน “ถ้าทำแบบนั้น ฆ่าพวกนางเสียจะดีกว่า”

“แต่ท่านไม่ให้ฆ่า…”

“ประโยคหลังข้ารำพึง” มาลแกธระบายลมหายใจ “ตกลงเจ้าหัวดีหรือหัวทึบ หลานชาย”

“รับทราบ ท่านมาลแกธ” มอร์นเพนตอบแทนทาราเธียลขณะตั้งท่าคุ้มกันอยู่ด้านหน้า งานของมันคือคุ้มกันชีวิตนายน้อยเป็นอันดับหนึ่ง รับคำสั่งจากท่านมาลแกธเป็นอันดับสอง และอันดับสาม...ด้วยนิสัยส่วนตัว...มันมักปรานีกับเด็กและผู้หญิง

“ส่วนเจ้า...ที่รัก” มาลแกธเรียกโคลด์ “ข้ารู้ว่าสั่งอะไรเจ้าไม่ได้ พยายามอย่าถูกฆ่าหรือถูกจับตัวไปละ”

โคลด์เอาอิลมาเรหลบใต้โต๊ะอยู่ แล้วเลื่อนลังแข็งแรงมาบัง ที่เขาระวังที่สุดตอนนี้คือการโจมตีจากนักธนู เขาเคยลิ้มรสความร้ายกาจของนางมาแล้ว

“ข้าคนเดียวหนีทัน ฝากดูอิลดีกว่า” โคลด์เข้ามากระซิบอย่างเยือกเย็น

มาลแกธพยักหน้า “เชื่อใจข้าเถิด”

บุรุษตะวันออกไม่ลงมือก่อน ให้สตรีเป็นฝ่ายบุก แต่พวกนางเยือกเย็น รอคอยเหมือนนางสิงห์ล่าเหยื่อ

มาลแกธนึกวิธีรับมือกับเวทของดีราน สมัยก่อนเขาสังหารหัวหน้าตระกูลดีรานได้ และนำเปียสงครามเปี่ยมไอเวทของมันถักเข้ากับด้ามดาบเล่มหนึ่ง เส้นผมจำเวทถนัดของเจ้าของได้ มันเพิ่มกำลังให้แก่ดาบ ยามฟาดฟันจะทำให้เลือดของศัตรูไม่หยุดไหล

แม้ตัวจะตาย ทว่าไอเวทตกค้างยังคงร้ายกาจ ตระกูลดีรานเคี้ยวยากถึงขนาดนั้น

มาลแกธไม่คิดใช้เวทของควาร์ เขาถนัดเรียกใช้ไฟ แต่ไฟเอาศัตรูถึงตาย (และอันตรายมากในที่ปิด หากควบคุมไม่ดี ไฟอาจคลอกชาวบ้านทุกคนในที่นี้) เอลฟ์ตะวันออกจับสายตาที่ใบหน้าอ่อนเยาว์ของสตรีตระกูลดีราน ประกายตาเช่นนั้นบ่งบอกว่านางอายุน้อยเหลือเกิน

ควรเห็นโลกมากกว่านี้


ซิลเวียผู้มีผมสีเทาอ่อนวัยที่สุดในบรรดาเอลฟ์สตรีทั้งสี่นาง ด้วยอายุเพียงสิบเจ็ดปีทำให้นางไม่อยากอยู่นิ่ง แต่นางเชื่อฟังจามิลลา จึงได้แต่ขยับนิ้วลอบร่ายเวทเตรียมพร้อมไว้ก่อน

ส่วนเอลฟ์สตรีผมดำเชื้อสายอิซิลดาร์ ตั้งแต่เข้ามานางยังไม่พูดสักคำ

โคลด์ประเมินสถานการณ์ คนที่ดูมีฝีมือพอสู้กับมาลแกธได้คือจามิลลา ส่วนนักฆ่าหน้ากากดำคงรับงานคุ้มกันหลานชายของมาลแกธ (เขาเพิ่งทราบว่ามาลแกธมีหลานชายก็วันนี้)

เอ๊ะ… เมื่อเห็นท่าร่างเอาจริงของนักฆ่าหน้ากากดำชัดๆ และเห็นว่าเขาตอบรับคำสั่งจากมาลแกธ โคลด์จึงนึกออกว่าตนเคยพบคนผู้นี้มาก่อน...แต่แค่แวบเดียวจนเกือบลืมไปแล้ว

หน้ากากดำคือนักฆ่าที่เขาพบริมลำธารและเป็นคนบอกให้เขาเอาศีรษะควาร์ไปฝังได้นั่นเอง

“อืม” มาลแกธหรี่ตา “ทาราเธียลเลือกการาซีน เพราะฉะนั้นเจ้ารู้ใช่ไหมว่าต้องจัดการใครเพื่อคุ้มกันหลานชายข้า มอร์นเพน”

จามิลลากับเวเรด้ามีความสัมพันธ์กันบางอย่าง นักธนูไม่พอใจที่เพื่อนถูกลดค่าให้กลายเป็นเหยื่อ แม้นางสามารถคุ้มกันคนอื่นๆ ได้จากระยะไกล และแม้ซิลเวียน่าจะอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญที่สุด แต่หากต้องเลือก นางคงพะวักพะวงถึงอัศวินผมสีฟ้า

“ได้ ท่านมาลแกธ--”

ขณะที่มอร์นเพนตอบรับคำสั่งให้ไปจัดการนักธนู ซึ่งถ้าเป็นมันที่รวดเร็วที่สุดก็ถือว่าเหมาะสม จามิลลาก็กระโจนตวัดดาบเข้าหามัน!

ดาบปะทะกาตาร์ มอร์นเพนโดนกระแทกถอยหลังทั้งที่ยังตั้งท่ากัน วิชาดาบเสริมพลังเวทของอิซิลดาร์ทำให้สตรีโจมตีได้หนักหน่วงรุนแรงไม่แพ้กำลังบุรุษ ลูกธนูสามดอกถูกยิงมาพร้อมกัน คุ้มกันจามิลลาจากทาราเธียล ส่วนนักรบสตรีผมดำฟาดดาบเป็นคู่มือกับมาลแกธ

นางผู้นี้แกร่ง!

เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ซ่อนไพ่ตายไว้หลายใบ ไม่ให้เอลฟ์ตะวันออกเห็น

โคลด์วัดระดับฝีมือแล้ว เอลฟ์สตรีผมดำใช้ดาบสองมือเหมือนมาลแกธ แถมเวทเสริมกำลังเป็นเวทธาตุน้ำเรืองแสงสีฟ้าเข้ม คู่ปรับกับเวทธาตุไฟ

ส่วนคู่มือของเขา...คือซิลเวียผมสีเทางั้นหรือ

โคลด์สะบัดบีฟอร์ซ น้ำแข็งเคลือบใบมีดเป็นแง่งๆ เขาไม่เข้าใจ เขาเองก็ใช้อาวุธเสริมพลังเวท แม้อีกฝ่ายไม่ทราบว่าเขาเป็นชาแมน เหตุใดจึงจับคู่นักเวทกับเขา

นักเวทกับแอสซาสซิน แอสซาสซินย่อมได้เปรียบ

นักธนูกับแอสซาสซิน ในระยะไกล นักธนูย่อมได้เปรียบ

แผนการต่อสู้ของเอลฟ์สตรีเหล่านี้ดูไม่รอบคอบ


—————————————————————————

A/N ฉากต่อสู้เขียนยากจังเลยค่ะ ;w;


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (6) [27/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 27-03-2017 08:20:00
แอดรักนางนะแต่นางคิดจาทำอะไร
 :ling1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (6) [27/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 27-03-2017 08:36:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (6) [27/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-03-2017 14:49:03
จะเอาอีกกกก!! กำลังมันเลย ชะนีทั้งหลายดูมีอะไรซ่อนอยู่
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (5) [26/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-03-2017 20:28:54
สงสารอาเลธที่สุด

อำนาจที่คนอื่นควบคุม
ชีวิตที่คำสาปชักนำ
เพื่อนที่หลุดลอย
รักที่ไม่ได้มา

ไร้คนไว้ใจได้ ไร้อำนาจ ไร้อิสระ ไร้รัก

เรือปริ่มน้ำเหลือทน
-------------------------
ใครมาขัดขวางการค้าของอิลเนี่ย ช่างไม่กลัวตายเอาซะเลย

ปล. มอร์นเพนน่ารักเกินไปแล้ว! ทาราเธียลหล่อเหลาจนใจละลาย

มีสมองที่เฉียบแหลมโคตร อิลมาเร
มาลแกธ  ก็สะสมของสุดยอด นี่มาจากฝีมือล้วนๆ
ทาราเธียล จะต้อนลุงมาลแกธ
แต่ถูกต้อนด้วยคำถามของตัวเองซะและ
ตลาดมืดถูกถล่มโดยใครกันนะ
เอริแอดเน่ หรือนายพลเบเลธ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (6) [27/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 27-03-2017 22:17:30
ระวังเป็นกับดักนะโคลด์

รอตอนต่อไปแทบไม่ไหวแล้ววววว
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (7) [28/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 27-03-2017 23:01:59
บทที่ 18 : สยายปีก (7)



ทว่ามาลแกธยิ้มเมื่อเห็นว่าพวกนางพุ่งไปหาใคร พวกนางถูกจัดตำแหน่งมาแล้ว ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์เป็นเสนาธิการที่หลักแหลมน่าชมเชย สมแล้วที่ประวัติศาตร์จารึกนามของนางไว้ร่วมกับบุรุษตระกูลรูเมเรียร์ ในฐานะจอมเวทสงครามซึ่งมีชัยเหนือกองทัพจากแดนทมิฬ

มอร์นเพนอ่อนด้านกำลัง ทาราเธียลร้ายกาจหากประลองดาบซึ่งๆ หน้า ทว่าอ่อนด้านความไว ส่วนเขาต้องถูกรบกวนให้ยุ่งที่สุด ไม่ให้เอื้อมไปถึงโคลด์ สตาร์

นักเวทไม่ได้จะสู้กับโคลด์…อาจมีแผนการอื่น

“อย่าสู้! หนี!”

“หนีทางไหน ทางออกมีทางเดียว ยังไงก็ต้องผ่านนาง” โคลด์วิ่งผ่านมาลแกธไปหาซิลเวียที่ยืนขวางหน้าประตู “แต่ข้าจะไม่ฆ่าแล้วกัน” ถ้าเขาพยายามปีนออกทางหน้าต่าง เกรงว่าจะกลายเป็นเป้านิ่งของลูกธนู...นักธนูฝีมือระดับนี้ แม้โคลด์ยังไม่เห็นนางยิงธนูเสริมพลังเวท แต่คิดว่ามีแน่ๆ

“อา! โคลด์!” มาลแกธเปลี่ยนอาวุธจากใบมีดเป็นดาบ เขารับดาบต่อเนื่องของนางสิงห์ผมดำ นางรู้การเคลื่อนไหวแบบตะวันออก ทำให้เวลาเขาบุก นางสามารถอ่านท่าแล้วรับได้ทัน

ซ้ำนางไม่พูดจา ใบหน้าก็ไร้อารมณ์ ไม่แสดงออกว่าวางแผนอะไรไว้หรือคิดอะไรอยู่

เอริแอดเน่ส่งคนที่มาลแกธจะหยอกเล่นไม่ได้มาเป็นคู่

ขณะมาลแกธสู้กับนักดาบ ทาราเธียลซึ่งหวังจะได้ประดาบบ้างกลับหงุดหงิดที่ต้องคอยปัดลูกธนู

“ลงมาเซ่!” ทาราเธียลถอดหน้ากากทูตสันถวไมตรีผู้เงียบขรึมและมีวาจาไพเราะน่าฟังทิ้ง

จังหวะนั้นเอง ลูกธนูสี่ดอกถูกยิงออกมาพร้อมกัน ทว่าไม่ได้หวังผลที่ทาราเธียลซึ่งเปิดช่องว่างจากความใจร้อน มันพุ่งผ่านหลังโคลด์ไปปักบนพื้นสี่ทิศรอบซิลเวีย

ซิลเวียร่ายเวทในจังหวะเดียวกัน ม่านเวทคุ้มกันครอบทั้งตัวนางและปิดกั้นทางออก

ฝนธนูกลับมายิงใส่ทาราเธียล ไม่มีคำพูดใดจากเวเรด้า

โคลด์ไม่ได้ชะงักเพราะม่านเวท เขาเห็นแล้วว่ามันคือการใส่พลังเวทผ่านอาวุธเวทมนตร์เพื่อขยายพลังเวทคุ้มกัน

ซิลเวียอ่อนแอที่สุดจริงๆ จึงต้องมีม่านเวทคุ้มกัน

แต่นั่นก็ยิ่งแปลก ความสงสัยทำให้โคลด์เร่งลับประสาทให้เฉียบคม เขาคิดว่าต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่ๆ แค่ยังมองไม่ออก แต่ถ้าทำลายลูกธนูบนพื้นที่เป็นสื่อขยายพลังเวทได้แม้สักอัน ม่านเวทคุ้มกันของเอลฟ์สาวผมสีเทาก็น่าจะอ่อนกำลังลง

โคลด์ลองซัดอาวุธลับใส่ลูกธนูซึ่งปักอยู่บนพื้นดอกหนึ่ง

เปรี้ยง!

อาวุธลับของเขาถูกริ้วสายฟ้าฟาดกลับมา สายฟ้าช็อตเหล็กจนไหม้เกรียม นี่ไม่ใช่ม่านเวทคุ้มกันธรรมดาแล้ว

ไม่ทันที่เสียงอาวุธลับปะทะม่านเวทจะจางลง ธนูอีกสี่ดอกถูกยิงมาอีกครั้ง

ทาราเธียลนึกในใจว่า จบเรื่องวุ่นวายนี่ข้าจะตั้งใจเรียนเวทศาสตราวุธ!

เอลฟ์หนุ่มพยายามอ่านว่าลูกธนูของอีกฝ่ายมีกลอะไรซ่อนอยู่ แต่พยายามคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก จนลูกธนูกำลังจะปักหน้าอยู่รอมร่อ ทาราเธียลจึงสรุปว่าตนคิดเยอะเกินไป เพราะฉะนั้นควรเลิกคิดแล้วใช้สัญชาตญาณนำ

ทาราเธียลซัดดาบสั้นมือซ้ายไปยังเวเรด้า พลังและความแรงไม่ธรรมดา เสียแค่ขาดความแม่นยำ นางหลบได้ ทว่าชั่ววินาทีถัดมา ทาราเธียลซัดดาบสั้นมือขวาดักทางที่นางหลบ ใบดาบคมกริบถากแขนนักธนู

ใช้สัญชาตญาณนี่มันดีจริงๆ


“มัวยิ้มอะไรทาราเธียล! จัดการลูกธนู!” ผู้มีศักดิ์เป็นลุงตะคอก มาลแกธไม่อยากออกหมัดออกเท้ากับสตรี แต่อิซิลดาร์นางนี้แกร่งทั้งฝีมือดาบและร่างกาย ทั้งที่ร่างเล็กเพรียวสูงไม่ถึงไหล่เขา ไม่น่าจะมีแรงเยอะ แต่ลมหายใจของนางยังไม่สะดุดเลย

ถ้าออมมือมากไป เขานี่แหละจะเป็นฝ่ายโดนหมัดโดนเท้าจนกระอักเสียเอง

“ล็องธูไร้ปัญญาหรือ ถึงขว้างอาวุธมาหมด” เวเรด้าเอ่ยขณะยิงธนูอีกชุดใส่ทาราเธียลที่วิ่งไต่นั่งร้านข้างโกดัง ตรงขึ้นมาหานาง

ส่วนจามิลลาฟาดมอร์นเพนกระเด็นจังหวะที่มันพะวงกับนายน้อย

“ล็องธูไม่พกอาวุธชนิดเดียว”

ทาราเธียลแสยะยิ้ม แผลเป็นบนแก้มซ้ายรั้งขึ้น เขาชักมีดสั้นในรองเท้าขณะเข้าประชิดเวเรด้า

นางใช้คันธนูรับได้ทัน!

“อืม” นางเอลฟ์ผมสีเขียวอ่อนคลี่ยิ้ม แรงนางน้อยกว่าทาราเธียลอย่างเห็นได้ชัด แต่คล่องแคล่วไม่แพ้มอร์นเพน “แต่ก็ไร้ปัญญาอยู่ดี”

ดาเอียร์ ผมสีเขียวอ่อน ตระกูลชั้นรองบนเกาะเล็กๆ ของแดนตะวันออกกำลังเอ่ยวาจาดูถูกหนึ่งในสามตระกูลใหญ่อย่างล็องธูอยู่

“เจ็บปวดสุดๆ” ทาราเธียลยิ้ม ก่อนคำรามแล้วเข้าโรมรัน ความจริงชาวตะวันออกไม่แบ่งแยกชายหญิงในสนามรบ เพราะสตรีน่ากลัวไม่แพ้บุรุษเลย

โคลด์เห็นซิลเวียหัวเราะ นางยังเด็ก เก็บสีหน้าท่าทางไม่เก่ง จึงอนุมานได้ว่าหัวเราะออกมาเพราะมีอะไรสมใจจริงๆ

ซิลเวียประสานฝ่ามือแล้วลากเป็นวงกลม วงเวทแปลกตาวาบขึ้น ไม่ใช่เวทมนตร์สร้างม่านคุ้มกันอย่างเมื่อสักครู่

โคลด์เร่งซัดอาวุธลับอาบเวทน้ำแข็งเพื่อทำลายลูกธนูกั้นอาณาเขตเวทคุ้มกัน ไม่ว่าซิลเวียร่ายเวทอะไรอยู่ เขาควรรีบหยุดมัน

“ข้ายิงธนูไปหลายดอก” เวเรด้ายังถอยหนีไปเรื่อยๆ ภาพรวมขณะนี้ การต่อสู้ของแต่ละคู่ถูกแยกออกไปคนละทาง

“ข้ารู้น่ะ” ทาราเธียลหงุดหงิด แต่หากหลานชายอ่านใจผู้เป็นลุงได้ จะพบว่ามาลแกธหงุดหงิดยิ่งกว่า

‘จัดการลูกธนู!’ ท่านลุงสั่งว่าอย่างนั้น

แต่เขาไม่ได้ทำตาม

“เจ้าปัดไปกี่ดอก” แพขนตาสีเขียวพริ้มลง คันธนูไม่ละการปัดป้องจุดตาย

“จะทำอะไรก็ทำเถิด ดาเอียร์” ทาราเธียลใช้มีดสั้นคล่องมือ เปลี่ยนมือจากซ้ายไปขวาได้อย่างลื่นไหล ทว่าการสู้ที่ไม่ให้อีกฝ่ายตายหรือบาดเจ็บร้ายแรงยากกว่าที่คิด

“ขอบคุณ” เวเรด้ายิ้มน้อยๆ นางมีรอยยิ้มแบบท่านหญิงของนาง...แบบสตรีอิซิลดาร์ ลึกลับ ไว้ตัว ผิดจากสตรีตะวันออก

แม้ต้นกำเนิดมาจากดินแดนอื่น แต่พวกนางเป็นคนของอิซิลดาร์ แม้นต้องฆ่าฟันเอลฟ์ผมสีเดียวกันจากแดนตะวันออกก็ทำได้โดยไม่รู้สึกผิด

“ที่เจ้าไร้ปัญญาจริงๆ”

แสงสว่างวาบขึ้นในจุดที่ไม่มีใครคาด จากลูกธนูที่ปักอยู่บนพื้นเสมือนไร้ความหมาย ตั้งแต่การยิงธนูครั้งแรกที่ทำลายขวดน้ำมันหอม ตามด้วยการยิงธนูนับครั้งไม่ถ้วนโดยไม่นับลูกธนูที่สร้างม่านคุ้มกันให้ซิลเวีย

เวเรด้ามีเป้าหมายหลักที่แน่นอนอยู่สี่จุด

 

“เวเรด้า เจ้ารับมือทาราเธียล ล็องธู ให้พูดจายั่วยุเข้าไว้ เอลฟ์หนุ่มอายุยังเยาว์มีความถือดีเช่นเขายั่วอารมณ์ได้ง่ายที่สุด”

ท่านหญิงเอริแอดเน่สั่งไว้เช่นนี้


 

จุดที่แสงสว่างจากม่านเวทสี่ทิศวาบขึ้นคือบริเวณรอบโต๊ะตัวหนึ่ง

ตอนที่เห็นแสงนั้น โคลด์ซัดอาวุธลับจนเกือบทำลายลูกธนูกั้นอาณาเขตเวทคุ้มกันได้แล้ว และตระหนักว่าตนอยู่ห่างเกินไป

“มาลแกธ!”

ทว่าสายเกินไป พวกเขาทั้งหมดถูกล่อออกจากจุดจุดหนึ่ง และอยู่ไกลจากจุดนั้นพอกัน ย่อมไม่ทันเวทที่ร่ายเสร็จแล้วของซิลเวีย

ธนูอาณาเขตอีกสี่ดอกปักรอบโต๊ะที่โคลด์ซ่อนอิลมาเรไว้ เมื่อซิลเวียพลิกวงเวทในมือเธอ มันกระจายออกเป็นแสงจ้า บอลเวททรงกลมกินพื้นที่ส่วนนั้นหายไปในพริบตา

องครักษ์หญิงที่เหลือดีดตัวออกจากคู่ต่อสู้ของพวกนาง

“ท่านหญิงสั่งว่า เอาตัวดวอร์ฟไป เดี๋ยวดาร์กเอลฟ์ก็ตามมาเอง!” ซิลเวียบอกร่าเริงแล้วส่งจูบ ร่างของนางและเพื่อนๆ วาบหายไป

เวทเคลื่อนย้ายในพริบตาเช่นนี้ พลังเวทของซิลเวียคนเดียวทำไม่ได้แน่ ธนูเวทที่ใช้ปักปันเขตไม่ใช่สื่อสำหรับพลังเวทของซิลเวียเพียงคนเดียว

ซิลเวียเป็นนกต่อ มาแสดงให้เห็นว่าร่ายเวท ขณะเดียวกันนางก็เป็นสื่อกลางให้กับจอมเวทที่อยู่สูงกว่านางหลายสิบขั้น

‘จอมเวทสงคราม’ ท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์

ทาราเธียลถึงกับสบถลั่น ไม่ระวังกิริยาต่อหน้าหญิงสาว และไม่กล้าหันไปทางท่านลุง

“อย่าวู่วาม” มาลแกธบอกโคลด์ “ข้าอ่านสถานการณ์ไม่ขาด ขออภัย”

โคลด์กำบีฟอร์ซในมือแน่น แขนสั่นระริก เขาเงยหน้ามองมาลแกธ ไม่รู้ตัวว่าน้ำตาไหลอยู่ “เจ้าอ่านแผนของนางไม่ออก ข้าก็เช่นกัน”

ชั่วขณะที่อิลมาเรหายไป โคลด์เห็นภาพแผ่นหลังของเกวนโดลินวิ่งล่อมังกรเกราะเหล็กดำไปอีกทาง

แล้วเธอก็ไม่ได้กลับมา


เขาขยุ้มคอเสื้อมาลแกธ บอกเสียงกร้าว

“ข้าจะไปตามอิลมาเร อย่าห้าม แต่จงช่วยข้า!”

มาลแกธพยักหน้า เขาวางมือบนแก้มของโคลด์เพื่อปลอบโยน

โคลด์ซบหน้ากับฝ่ามือนั้น

มอร์นเพนเข้าไปดูทาราเธียล แขนของมันยังชาจากการรับดาบของจามิลลา มันกับอีกฝ่ายสู้กันได้สูสี แลกแผลกันไปหลายรอบ แต่มันแบ่งสมาธิดูนายน้อยไปด้วย จนไม่ได้คิดว่าท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์จะวางแผนแยบยลเช่นนี้ไว้แต่แรก

ทั้งทำให้เป้าหมายสลบเพื่อกำหนดจุดปักอาณาเขตเวทเคลื่อนย้ายที่แน่นอน การใช้ลูกธนูสร้างม่านเวทสายฟ้าป้องกันทางออก ลวงให้ลืมนึกถึงเวทมนตร์บทอื่น

องครักษ์แต่ละนางทำทีมาต่อสู้จับกุมตัวดาร์กเอลฟ์ แต่แท้จริงแล้วมาลักพาตัวดวอร์ฟ

...อาจรวมถึงการคำนวณนิสัยของท่านมาลแกธ ที่บางครั้งก็มีเมตตาแบบลมเพลมพัดด้วย

“ข้าขอโทษ นายน้อย...ข้าน่าจะมีประโยชน์มากกว่านี้” มอร์นเพนเอาเสื้อคลุมปิดแผลทั่วร่างของตน มันไม่อยากให้ใครเห็นผิวเนื้อสีน่าเกลียดใต้เสื้อผ้าขาดวิ่น

“ไม่ต้องขอโทษมัน” มาลแกธเอ่ยกับมอร์นเพน ก่อนจะมองหลานชายอย่างดุดัน “ถ้าข้ากลับมาแล้วเห็นว่าฝีมือและอารมณ์ของเจ้ายังไม่พัฒนา คนได้รับโทษคือมอร์นเพน”

ทาราเธียลขบกราม ก้มหน้า

“ได้ยินข้าหรือไม่!”

“ได้ยินขอรับ!” ทาราเธียลกำอาวุธแล้วตบอก

“ตั้งใจ ทาราเธียล เจ้าทราบดีว่าข้ามีชื่อเสียงด้านการลงโทษ”

มอร์นเพนไม่คัดค้าน มันเสียใจที่นายน้อยโดนต่อว่าเพราะมันฝึกฝนการควบคุมอารมณ์ของนายน้อยได้ไม่ดีมากกว่า

โคลด์ปาดหน้าเมื่อรู้ตัวว่าน้ำตาไหล เขาโกรธ แต่เป็นความโกรธหนักอึ้งผสมความหวาดกลัว สิ่งที่เขารัก...สิ่งที่ฮีมเดียร์รัก ถ้าไม่พังทลายก็มักหายไป เช่นเผ่าจันทร์ เช่นกวินีเวียร์...

อิลมาเรเป็นเพื่อนคนสำคัญ...เธอทำให้เขายิ้มออกในวันแย่ๆ มานับครั้งไม่ถ้วน ก่อนหน้านี้มาลแกธใช้เธอเป็นจุดอ่อนของเขา ตอนนี้เหมือนโดนแทงซ้ำแผลเดิม...แค่เปลี่ยนคนแทง

เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ไม่มีเหตุผลให้ปรานีโคลด์ สตาร์ ทาสดาร์กเอลฟ์ที่ทำให้ราชาเอลฟ์ตามืดบอด

นางจึงน่ากลัวยิ่งกว่ามาลแกธ

“ต้องไปหาซิกฟรีด” โคลด์พึมพำกับมาลแกธ “ฟังจากที่พวกอิซิลดาร์บอก เอริแอดเน่กับเขาน่าจะทะเลาะกัน...ต้องไปหาเขาก่อน...”

เสียงของดาร์กเอลฟ์ลอดไรฟัน ดวงตาสีม่วงเข้มจัดเหมือนถูกกลืนด้วยก้นบึ้งของนรก

“ก่อนที่ข้าจะฆ่าคู่หมั้นของเขา”


—————————————————————————

A/N เสือปะทะสิงห์ เราคิดว่า...ด้านความร้ายกาจแล้ว โคลด์กับเอริแอดเน่กินกันลงยากค่ะ

ป.ล. เรามีงานและธุระสำคัญเข้ามา จะว่างอีกทีวันที่ 1 เมษายน 60

ขออนุญาตกลับมาลงนิยายต่อวันนั้นนะคะ ขอบคุณมากค่า (-3-)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (7) [28/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 28-03-2017 08:16:32
สนุกมากๆเลยค่ะ ขอบคุณคนแต่งมากๆ :katai4: รอติดตามตอนต่อไปค่ะ o13
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (7) [28/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-03-2017 08:44:29
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (7) [28/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-03-2017 10:02:55
โคลด์ คนอ่านอนุญาตให้ฆ่าคู่หมั้นซิกฟรีด
เอรีแอดเน่ ร้ายนักนะ วางแผนหลอกสำเร็จ
จะจับ แต่แสร้งปล่อย วางแผนใหญ่โต
ทำทีท่าจะจับโคลด์ ต่อสู้วุ่นวาย
แต่จับอิลมาเร เพื่อให้โคลด์ไปช่วย
แล้วจับโคลด์อีกที ชิส์.....นางมารร้าย
ขนาดได้ตัวราชา เพื่อสืบพันธ์ุมีลูก แล้วแท้ๆ
แต่ใจราชาอยู่ที่โคลด์  นางเลยยอมไม่ได้
เพราะเสียหน้าที่สวยซะเปล่า หุ่นดีก็เท่านั้น
ได้แต่ตัวราชา ไม่ได้ใจ ยอมไม่ได้สินะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (7) [28/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-03-2017 13:36:48
ฆ่าทีเดียวแมร่งก้อตายหมดละ. แต่มันก้อไม่ใช่นิยายอีกถ้าฆ่า

ห่วยย!! ลำอีลุง แก่จะตายแระ อ่านเกมชะนีไม่ขาด
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (7) [28/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 28-03-2017 19:15:03
จริงๆเราสงสารนางนะ คนที่รักที่สุดตายไป
พอจะเริ่มต้นใหม่กับคนที่อุตสาห์ทุ่มเทให้เค้าก็ดันไปรักคนอื่นอยู่แล้ว
แต่ก็อย่างว่ารักคนที่เค้ารักเราดีกว่าเอริแอดเน่
เสือปะทะสิงห์ น่าชมมมมมม :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (7) [28/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 28-03-2017 22:21:20
เพราะสำคัญถึงกลายเป็นจุดอ่อนสินะอิลมาเร
สู้ๆนะโคลด์
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (7) [28/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 29-03-2017 09:53:16
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 18 : (7) [28/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 29-03-2017 21:02:19
ความร้ายเริ่มกลับมาสำแดงเดชอีกครั้ง หลังถูกกลืนหายไปกับบทย้อนอดีต

อันที่จริงก็เกลียดนางมาตั้งแต่บทแรกๆ แล้ว  แม่ราชินี 3 ผัว
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (1) [04/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 04-04-2017 01:46:25
บทที่ 19 : คำสาป (1)



ค่ำวันเดียวกัน

ราชาเอลฟ์ไม่ไปร่วมทานอาหารค่ำกับท่านหญิงเอริแอดเน่ ทั้งยังไม่อยู่ในหอสมุดหลวง ทว่าอิลราลานผู้เป็นราชองครักษ์ตามหาพระองค์จนพบ ราชาเอลฟ์ทรงประทับอยู่ในวิหารของท่านหญิงคาลิเธียล พระพักตร์หมองเศร้าสะท้อนในสระรูปวงกลมกลางวิหาร พระองค์ทรงประทับนิ่งเช่นรูปสลัก มองดูแล้วไร้ชีวิตโดยสิ้นเชิง

ปกติแล้วอิลราลานจะไม่เข้าไปรบกวน ไม่เคยเตือนอย่างคนสนิทว่าหากพระองค์หายไปโดยไม่บอกกล่าว หัวของราชองครักษ์คงหนาวๆ ร้อนๆ อยู่บนบ่า แต่ค่ำนี้ต่างออกไป เขาก้าวเข้าไปหาราชาหนุ่ม ทำความเคารพ แล้วเอ่ยว่า

“ข้าพระองค์ขออนุญาต ถวายคำตอบถึงความแข็งแกร่งของรูเมเรียร์ให้พระองค์พ่ะย่ะค่ะ”

ซิกฟรีดเงียบ แววตาเหม่อลอย กระทั่งดวงตาสีส้มเงินข้างขวายังด้านชา

อิลราลานถือเอาว่าได้รับอนุญาตแล้ว “รูเมเรียร์ได้รับพรจากบิดามารดา ได้รับภูมิปัญญาอันเก่าแก่ จึงมีปราชญ์เช่นควาร์และพิลกริมเช่นท่านหญิงคาลิเธียล นักรบรูเมเรียร์แข็งแกร่งไม่แพ้อิซิลดาร์และเผ่าทมิฬ หากนักรบรูเมเรียร์อ่อนแอ พวกเราคงไม่มีแผ่นดินไปเนิ่นนานแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ตอนนี้รูเมเรียร์อ่อนแอ” ซิกฟรีดเอ่ยโดยไม่ได้หันมา

“รูเมเรียร์เพียงบอบช้ำจากการสูญเสียกษัตริย์ติดต่อกันถึงสองพระองค์ และเหนื่อยหน่ายกับสงครามเต็มทนจนไม่อยากจับดาบสู้--”

“เจ้าไม่ปฏิเสธว่ารูเมเรียร์อ่อนแอ”

อิลราลานน้อมศีรษะรับ เขาไม่ปฏิเสธจริงๆ

“พระองค์ทรงทิ้งปริศนาไว้ ‘สิ่งใดกันเล่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าคมดาบ สิ่งใดกันเล่าใช้ต่อรองกับปีศาจได้’ ”

“ใช่…”

“ ‘ความเชื่อใจ’ พ่ะย่ะค่ะ” อิลราลานวางมือบนอกของตน “สำหรับข้าพระองค์ ความเชื่อใจที่มีต่อพวกพ้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าคมดาบ ความเชื่อใจแข็งแกร่งจนล้มปีศาจได้ ในสนามรบ ไม่มีผู้ใดสู้เพียงลำพัง ในการปกครอง ไม่มีผู้ใดพาแผ่นดินให้รุ่งเรืองได้เพียงลำพังเช่นกัน”

คำพูดของอิลราลานทำให้ซิกฟรีดหันมาตั้งใจฟัง

“ข้าพระองค์ขอบังอาจพูดถึงเฮลร็อธ ผู้มีศักดิ์เป็นท่านอาของข้าพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”

ซิกฟรีดอนุญาต ตอนที่ยังเล็กเขาเคยพบเฮลร็อธมาก่อน มันเป็นราชองครักษ์ของพี่เฟรธูริน

“ท่านอาของข้าพระองค์จงรักภักดีต่อแผ่นดิน และจงรักภักดีต่อคิงเฟรธูรินยิ่งกว่าชีพตน ข้าพระองค์ถามท่านอาว่า ‘เหตุใดท่านจึงอุทิศตนทำงานหนักเช่นนี้’ ท่านอาตอบข้าพระองค์ว่า ‘อิลราลาน...หากได้พบเจ้านายที่ไว้ใจเจ้า เชื่อมั่นในตัวเจ้า และให้ใจแก่เจ้าเช่นพี่น้อง เจ้าจะไม่ทำงานถวายหัวหรือ’ ”

แววตาของอิลราลานเฉียบคม เยือกเย็นและแกร่งกล้า

“ข้าพระองค์เชื่อมั่นในรูเมเรียร์ และเชื่อมั่นในตัวกษัตริย์ที่ยังเยาว์ทว่าอุทิศตนเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่ พระองค์จะทรงมอบความวางพระทัยให้แก่ข้าพระองค์ได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

ราชองรักษ์คุกเข่า อิลราลานบังอาจเอ่ยแนะนำ ทั้งยังเอ่ยสั่งสอนราชาแห่งรูเมเรียร์ หากเป็นคิงริวอร์นอร์ หัวบนบ่าควรรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ทว่าตรงหน้าเป็นราชาหนุ่มผู้ยังมีจิตใจอ่อนโยน แม้จะแสดงท่าทีกราดเกรี้ยวเพียงใด แต่อิลราลานมองทะลุไปถึงความสับสน ความไม่มั่นใจ และความโดดเดี่ยวภายใน

ซิกฟรีดรู้สึกจุกในอกและลำคอ ไม่สามารถตอบคำถามได้เดี๋ยวนั้น เขาเพิ่งตระหนักว่าตนเองไม่กล้าที่จะไว้ใจใครอีก หลังจากทราบว่าพี่ริวอร์นอร์สังหารพี่เฟรธูริน หลังจากที่พยายามส่งสารไปถึงพี่หญิงคาลิเธียลแต่ไม่ได้รับการตอบกลับ หลังจากเหตุการณ์ทั้งหลายในอาศรม หลังจากได้พบนักรบตะวันออกที่จ้องแสวงหาผลประโยชน์

หลังจากโคลด์ สตาร์…

“พระองค์ควรทำแผลก่อนพ่ะย่ะค่ะ” อิลราลานลุกขึ้น เขาเห็นตั้งแต่เข้ามาแล้วว่าราชามีบาดแผลฉกรรจ์ ชายแขนเสื้อด้านซ้ายที่ถูกถกขึ้นเผยให้เห็นท่อนแขนซึ่งเต็มไปด้วยรอยกรีด...

อักขระทมิฬ

เลือดสีดำหยดลงพื้นวิหาร ทั้งยังหยดลงในสระน้ำ แปดเปื้อนนทีอันควรบริสุทธิ์สูงส่ง

“แผลนั่น ข้ารักษาให้เอาไหม” ผู้ที่เพิ่งมาถึงเดินเข้ามา ทว่าก่อนที่อิลราลานจะชักอาวุธก็เห็นว่าข้างกายแอสซาสซินดาร์กเอลฟ์คือคนคุ้นหน้า--ราชองครักษ์มือขวา--มาลแกธ ล็องธู

“อิลมาเร…” ซิกฟรีดเอ่ยขึ้นแทนคำทักทาย “ออกไปก่อน อิลราลาน มาลแกธ”

โคลด์เลิกฮู้ดลง มองซิกฟรีดเต็มตา ดวงตาสีม่วงเข้มจัดที่ไหวระริกบ่งบอกว่าดาร์กเอลฟ์กดอารมณ์ของตัวเองอยู่ เขารอจนมาลแกธที่ใช้เส้นสายพาตนเข้ามาและอิลราลานออกไปแล้ว จึงเข้าไปหาซิกฟรีด

“ยื่นแขนมา” โคลด์เอ่ยเรียบๆ

“มันจะหายเอง” ซิกฟรีดมองรอยแผล ก่อนเอาแขนเสื้อลง

“มีอะไรให้ข้าทำสักครู่จะดีกว่าให้ข้าเริ่มพูดโดยไร้สติ” โคลด์ดึงแขนราชาเอลฟ์ เลิกแขนเสื้อขึ้น แล้วหยิบผ้าจากในเสื้อคลุมมาชุบน้ำในสระ

เขาพบว่ามันเป็นอักขระเวทพลีวิญญาณ เขียนโดยสมบูรณ์แล้ว

โคลด์เช็ดแผลให้อย่างค่อนข้างเบามือ “ไปเรียนเวททมิฬมาจากไหน”

“ใบหน้าด้านซ้าย”

“เจ้าพลีอะไรไป แลกอะไรมา”

“วิญญาณ กับการกางปีกปกป้องได้ทั่วแผ่นดิน”

“ก็ดีกว่าเอาวิญญาณเจ้ามากักขังข้า” โคลด์เลือกขวดยาจากเข็ดขัดคาดเอว โรยผงสมานแผลให้ วิชาแพทย์ผสานเวทมนตร์ของเอลฟ์อยู่ในระดับสูงล้ำ ไม่ต้องเป็นชาแมนเวทโลหิตอย่างเขา อาศัยแค่เวทรักษาก็น่าจะทำให้รอยแผลจากอักขระทมิฬเหล่านี้หายไปได้ “แต่เจ้าต้องระวัง ถ้าใช้มากไป มันจะสลักลงวิญญาณของเจ้า แล้วจะลบไม่ออก”

“ข้าจะไปขออิลมาเรคืนให้” ซิกฟรีดกล่าวต่อว่า เขามองเห็นเหตุการณ์ผ่านเวททมิฬที่ตนใช้

“นางลงมือขนาดนี้แล้ว เจ้ายังเชื่อหรือว่านางจะตามใจเจ้า”

ซิกฟรีดไม่ปฏิเสธ “นางอาจมีข้อเสนอให้ข้า”

โคลด์หัวเราะ แบบคนเลวชั่วช้าหัวเราะใส่หน้าคนซื่อโง่เขลา “เจ้าบอกข้ามาก่อนดีกว่าว่าเจ้าทะเลาะอะไรกับนาง”

“ข้าเอ่ยความจริงกับนาง”

“จริงถึงขั้นไหน”

“เป็นความจริงทุกประการ”

ซิกฟรีดเล่าให้โคลด์ฟังเท่าที่เล่าได้ ว่าเขาใจดำขนาดที่เอ่ยกับนางว่านางจะไม่เสียตำแหน่งราชินีไป และจะมอบบุตรชายบุตรสาวให้ตามประสงค์

แต่เขาไม่อาจรักนาง

“ข้าบอกแล้วว่าข้าอยากสมเพชนาง แต่สมเพชไม่ลง อาจอยากสงสารนางด้วย แต่นางก็ร้ายกาจพอจะลบความสงสารของข้า” โคลด์สูดหายใจเข้าลึกๆ “ถ้าข้าเป็นนาง ข้าจะไม่อยู่ในราชวังแล้ว แต่ออกเดินทางส่งอิลมาเรไปชายแดนเพื่อให้เหยื่อของข้าไล่ตามไป เจ้าลองตรวจสอบดูว่าเอริแอดเน่อยู่ที่ไหนอย่างเร็วได้หรือไม่”

ซิกฟรีดเอ่ยเวทควาร์ สั่งมาลแกธผ่านตุ้มหูไฟ ให้ตรวจสอบว่าท่านหญิงเอริแอดเน่ยังอยู่ในราชวังหรือไม่

ก่อนจะได้คำตอบกลับมา โคลด์เอ่ยเรื่องเขาได้พบกับมารดานทีตอนที่ซิกฟรีดหายตัวไปแล้วตนเป็นคนพากลับมา

“ข้าโกหกว่าพบเจ้าในป่า แต่จริงๆ แล้วพบที่น้ำตก นางกล่าวว่า ‘ต่อจากนี้...พวกเจ้าจะเผชิญชะตากรรมอันหนาหนัก ข้ามาเพื่ออวยพร’ แต่ดูเหมือนเราจะไม่ได้รับพรอะไร น่าจะเป็นคำสาปเสียมากกว่า”

ซิกฟรีดยิ้มขำ แต่ดูคล้ายสมเพชตัวเอง “ข้าเคยได้ยินเสียงของบิดามารดา แต่ตอนนี้ไม่ได้ยินอะไรเลย” เขาสารภาพอีกว่า “แม้แต่จะร่ายเวทควาร์ ข้ายังไม่สามารถร่ายได้เหมือนเคย บางครั้งต้องร่ายบทเดิมถึงสามครั้ง” ซิกฟรีดลูบลำคอของตนผ่านคอเสื้อปกตั้ง เขาโดนพี่ชายแท้ๆ ใช้หมัดกระแทกจนเส้นเสียงเสียหาย

“ซิกฟรีด ข้าบอกได้เลยว่า เอริแอดเน่จะไม่เลิกราจนกว่านางจะกำจัดข้าออกไปจากชีวิตเจ้าได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง นางเปลี่ยนใจไม่ฆ่าข้าเพราะเห็นว่าอาจใช้ประโยชน์ได้เท่านั้น นางอาจปรานีเจ้า แต่ไม่มีทางปรานีข้า ฉะนั้นข้าก็จะไม่ปรานีนาง แต่ข้าจะถามเจ้า หากข้าต้องฆ่านาง เจ้าจะเสียใจแค่ไหน”

“ข้าไม่ให้นางฆ่าเจ้า เช่นเดียวกัน...ข้าจะไม่ให้เจ้าฆ่านาง” คำพูดของซิกฟรีดหนักแน่น

“เจ้าคิดจะเปลี่ยนใจไปขอโทษนาง ลองรักนางและตัดข้าทิ้งไปบ้างไหม ทางนั้นจะดีกับเจ้ามากกว่า”

“นางเป็นพี่หญิงของข้า ส่วนเจ้าเป็นคนที่ข้ารัก และข้าจะรับผิดชอบความรู้สึกทั้งหมดของตัวข้าเอง โคลด์ สตาร์”

“ข้าตัดสินใจลองให้โอกาสตัวเองกับมาลแกธแล้ว” โคลด์เอ่ย แต่ก็ใจหายในตอนที่คำพูดหลุดออกมา ทว่าเขาจำเป็นต้องพูดให้ชัดเจน

ใช่ว่าซิกฟรีดจะไม่ระแคะระคาย แต่พอได้ยินจริงๆ เขาก็ชา

“อืม” และทั้งหมดที่เขาสามารถตอบกลับได้มีเท่านี้เอง

“แต่ข้าจะอยู่จนกว่าคำสาปของเจ้าจะหาย” โคลด์คิดว่าความชัดเจนเป็นสิ่งที่เข้าใจง่าย...และโหดร้ายในเวลาเดียวกัน

เหมือนที่ซิกฟรีดโหดร้ายกับเอริแอดเน่

และเขาโหดร้ายกับซิกฟรีด

“เจ้าไม่สมเพชข้าบ้างหรือ” ซิกฟรีดมองโคลด์ที่ยังอุตส่าห์เหลือเยื่อใยไว้ให้


—————————————————————————

A/N กลับมาแล้วค่ะ :) พาราชามาด้วย (*0*) ใครคิดถึงราชายกมือขึ้น \(*0*)/ เย้!

ป.ล. ตอนแรกว่าจะลงสัก 3-4 ตอน แต่ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ เหนื่อยมาก o<-<

เดี๋ยวพรุ่งนี้บ่ายๆ ถ้าว่างแล้วจะมาลงต่อนะคะ ;)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (1) [04/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-04-2017 05:58:09
TT
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (1) [04/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 04-04-2017 06:21:30
ไร้ทุกสิ่งแม้กระทั่งมนตรา

ราชาผู้ยากไร้ยิ่งกว่าใคร ๆ

มันคือขอนไม้ผุ มิใช่เรือราชา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (1) [04/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-04-2017 08:45:22
เจ้านายแบบนี้สิ ที่ลูกน้องทำงานถวายหัว
"...เจ้านายที่ไว้ใจเจ้า เชื่อมั่นในตัวเจ้า
และให้ใจแก่เจ้าเช่นพี่น้อง เจ้าจะไม่ทำงานถวายหัวหรือ”
สุดยอดเจ้านาย และสุดยอดลูกน้อง

ซิก โดดเดี่ยว อ่อนแอ รูเมเนียร์ก็ไม่เข้มแข็ง
คนรักก็ให้โอกาสมาลแกธ มนตราก็ไม่สมบูรณ์
ซิกฟรีดโหดร้ายกับเอริแอดเน่
และโคลด์โหดร้ายกับซิกฟรีด
มาลแกธ เป็นตาอยู่กินเนื้อพุงปลามันๆของโคลด์
ลุงมาล ได้หมด ถ้าสดชื่นจริงๆ / หมั่นไส้อีลุง  :z6: :z6: :z6:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (1-2) [04/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 04-04-2017 12:41:08
บทที่ 19 : คำสาป (2)

โคลด์ดึงซิกฟรีดมาดูเงาสะท้อนของพวกเขาในสระน้ำ หนึ่งเอลฟ์ หนึ่งดาร์กเอลฟ์ บุตรที่รักและบุตรที่ถูกสาป “เจ้าเป็นราชาแล้ว…” เขาจับมือซิกฟรีด บีบมือนั้น “ข้าคิดว่าข้าผูกพันกับเจ้า แต่ข้ามีสติมากกว่า...หรือไม่ก็ขี้ขลาดกว่า ข้าเลือกทางที่ปลอดภัย”

เวลาอยู่ใกล้ซิกฟรีด โคลด์รู้สึกถึงความอ่อนแอของตัวเองได้ชัดเจน แต่เขาไม่สามารถอ่อนแอได้ ไม่...ต่อหน้าราชาแห่งเอลฟ์

“ถ้าข้ายังอยู่ เจ้าอาจไม่ปลอดภัย” ซิกฟรีดมองโคลด์ผ่านเงาสะท้อนในสระน้ำ “เจ้าเห็นแล้วว่าข้าคงสติได้ยากเหลือเกิน”

ซิกฟรีดรู้สึกถึงน้ำตาที่ไหลอยู่ภายใน ท่ามกลางเสียงหัวเราะสมเพชของปีศาจ

“ซิกฟรีด ข้าจะไม่ไปไหน…” โคลด์ไม่อยากย้ำว่า ‘จนกว่าคำสาปของเจ้าจะหาย’

“ถ้าเจ้าจะตัดข้า ได้โปรด...ตัดให้ขาด”

“ข้าไม่อยากให้เจ้าเป็นบ้า” โคลด์ได้ยินเสียงของตนสั่นพร่า

“นั่นเกินความสามารถของเจ้าแล้ว”

“ความรัก ซิกฟรีด เจ้าชิงเอาได้ แต่เจ้าจะได้แค่ส่วนที่เจ้าชิงไป ไม่ได้ส่วนที่อีกฝ่ายมอบให้”

ราชาหนุ่มหันมาทางดาร์กเอลฟ์ เขามองอีกฝ่ายนานราวกับจะจดจำใบหน้านี้ไว้

“ข้ารักเจ้า แต่ข้าให้เจ้าได้เท่านี้” โคลด์หลับตา เขาเศร้าใจ แต่ไม่อยากร้องไห้

สัมผัสอุ่นประทับบนหน้าผากดาร์กเอลฟ์ “ขอบใจ” ซิกฟรีดเอ่ย ตอนนั้นเอง มาลแกธรายงานกลับมาว่า เอริแอดเน่ได้หายตัวไปพร้อมกับองครักษ์คนสนิททั้งหมดของนาง

ซิกฟรีดบอกโคลด์ตามที่ได้ยินจากมาลแกธ “ไปทำหน้าที่ของเจ้าเถิด ดาร์กเอลฟ์ที่ข้ารัก” เขากอดอีกฝ่ายแล้วลูบหลังเบาๆ

“ครั้งนี้ข้าได้บอกลาเจ้าดีๆ สักที”

“เจ้าจะรอฟังผลว่ามีใครตายบ้างงั้นหรือ” โคลด์ไม่เข้าใจ เขาตัวแข็ง ขืนตัวไว้

“ไม่ใช่อย่างนั้น” ซิกฟรีดแก้ “เมื่อใดที่เจ้าได้ตัวอิลมาเรกลับมาแล้ว เจ้าก็ไม่มีเหตุผลให้กลับมาที่นี่อีก”

“อา!” โคลด์สบถ เขาเพิ่งบอกไปว่าจะอยู่ “เจ้าฟังที่ข้าพูดบ้างไหม!”

“ข้าได้ยินชัดว่าเจ้าจะอยู่กับข้าจนกว่าใบหน้าข้างนี้จะหายดี” ซิกฟรีดวางมือบนแก้มโคลด์ “ใจดี...แต่ก็ใจดำเหลือเกิน หากตัดข้า จะตัดให้ขาดในครั้งเดียวไม่ได้หรือ”

“แล้วถ้าข้าไปจริงๆ เจ้าแน่ใจว่าเจ้าจะไม่เป็นบ้า?” โคลด์ยังจำสีหน้าและแววตาตอนซิกฟรีดใช้ตราทาสเรียกเขามาได้ดี “เจ้าไม่ไหวหรอก ข้าถึงต้องใจดำแบบนี้”

“ข้าจัดการได้” ซิกฟรีดยืนยัน “ข้าจะจัดการให้ได้”

“ไม่ เจ้าจัดการไม่ได้” โคลด์อยู่กับซิกฟรีดมาสิบปี เขามั่นใจว่ามองไม่ผิด “เจ้าแค่อยากหนีจากความช้ำใจตรงหน้า ถึงไล่มันไป”

“ความช้ำใจที่อาจทำให้ข้าเป็นบ้าได้เร็วขึ้น” ราชาหนุ่มลูบนิ้วบนริมฝีปากของอีกฝ่าย

“เจ้าต้องเลิกเอาแต่ใจตัวเองแล้ว เจ้าชาย” โคลด์ไม่เรียกซิกฟรีดว่าราชา เพราะรู้สึกเหมือนกำลังสนทนากับเจ้าชายซิกฟรีดในอดีตมากกว่า

“เจ้าเพิ่งตัดสินใจเอาแต่ใจเมื่อครู่ โคลด์ สตาร์...และข้าตระหนักได้เมื่อครู่เช่นกันว่าคงต้องปล่อยให้เจ้ากลับมา ให้เจ้าได้ทำตามประสงค์”

เช่นเดียวกับหลังจากปะทะคารมกับเอริแอดเน่ ซิกฟรีดก็ให้พี่หญิงได้ระบายอารมณ์ของนาง ให้นางว่ากล่าวโดยยอมรับทุกประการ

ซิกฟรีดรับมือกับทั้งคู่ด้วยการถอยยามที่ควรถอย หากเป็นคนอื่นเขาจะไม่ประนีประนอมเช่นนี้

“เจ้าแยกแยะสิ ข้าว่าเจ้าแยกแยะได้ แต่เพราะคำสาปนั้นกัดกินเจ้า...จริงๆ เจ้าแยกแยะได้ใช่หรือไม่”

“แยกแยะอะไร โคลด์ สตาร์...แยกแยะว่าเจ้าจะช่วยข้าได้หรือ”

“แยกแยะว่าเจ้ารักข้าไม่ได้”

“เช่นนั้นข้าจึงให้เจ้าไปอย่างไรเล่า เพราะข้ารักเจ้าไม่ได้ และการที่เจ้าอยู่ มันทำให้ข้าเจ็บเจียน ‘บ้า’ ”

“งั้นกลับเข้าเรื่องก่อนหน้า ข้าจะตามเอริแอดเน่ไป ถ้านางกับข้าเป็นคนประเภทเดียวกันจริง ข้าย่อมหยุดนางด้วยวิธีการที่เด็ดขาดแน่นอนที่สุด คือสังหารเสีย เจ้าจะทำอย่างไร”

“ข้าจะหาทางจัดการไม่ให้เป็นอย่างนั้น เจ้าต้องการคำตอบว่าอะไร ให้ข้าตัดเจ้าหรือ--ไม่ ให้ข้าตัดพี่หญิงหรือ--ไม่ ข้าจะช่วยเหลือให้เจ้าได้ตัวอิลมาเร และจะช่วยพี่หญิงให้พ้นคมมีดของเจ้า โคลด์ สตาร์...ข้าไม่เข้าใจคำถามของเจ้าเลย สำหรับเจ้า ต้องมีใครสักคนตาย แต่สำหรับข้า ไม่จำเป็นต้องมีใครตาย”

โคลด์โกรธจนไม่รู้จะพูดอย่างไร ถึงไม่นับความเข้าใจผิดในอดีต เขากับซิกฟรีดก็เข้ากันไม่ได้อยู่ดี

เขาขยุ้มคอเสื้อซิกฟรีด “ก็บอกวิธีมาสิ! ข้ามาหาเจ้าก่อนเพราะอะไร คิดหน่อย! มาขอความช่วยเหลือหรือ ไม่ใช่ ข้ามาถามว่าเจ้าจะเอายังไง!”

“คิดหรือ ตั้งแต่ข้าเห็นเจ้า ข้าไม่คิดว่าเจ้ามาขอความช่วยเหลือ แต่ข้ากำลังให้ เจ้าถามข้าว่า หากเจ้าฆ่าพี่หญิง ข้าจะรู้สึกอย่างไร โคลด์ สตาร์ เจ้าทำให้ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าต้องการอะไร ให้ข้าห้ามเจ้าหรือ ข้าทำได้หรือ ให้ข้าห้ามพี่หญิงหรือ ข้าทำได้หรือ หากพวกเจ้าอยากฆ่ากัน ข้าห้ามได้หรือ ข้าทำได้เพียงช่วยให้เจ้าได้ตัวอิลมาเรอย่างที่ต้องการ และช่วยให้พี่หญิงไม่ถูกเจ้าสังหาร”

“แล้วจะช่วยยังไง” โคลด์ถามสั้นๆ

“ข้าตอบเจ้าแต่แรกแล้วว่าข้าจะไปขออิลมาเรคืนให้ แต่เจ้าไม่พอใจวิธีการนี้”

“ก็มันเห็นชัดๆ ว่าไม่ได้ผล” โคลด์ผลักอกซิกฟรีด “ถ้านางเห็นแก่หน้าเจ้า นางคงไม่ลงมือถึงขั้นนี้”

“นางอาจฟังข้าหรือไม่ฟังข้า แต่มันคือวิธีสันติวิธีแรกที่ควรลองไม่ใช่หรือ ข้าจะคุยกับนาง และให้มาลแกธเป็นกำลังเสริมเพื่อชิงตัวอิลมาเร ตอนนี้กอห์นดีเอนใกล้ถึงชายแดนอิซิลดาร์แล้ว ข้าให้เขาลงไปสืบราชการพอดี กอห์นดีเอนจะช่วยส่งข่าวที่เป็นประโยชน์มาให้ เขามีเส้นสายกับพวกทหารรับจ้างในป่า”

ซิกฟรีดเอ่ยอย่างใจเย็นที่สุด

“เจ้าคิดว่าข้าวางแผนชั้นเดียวอย่างนั้นหรือ โคลด์ สตาร์ เจ้าเข้ามาพร้อมความไม่เชื่อใจข้า และพูดว่าจะฆ่าพี่หญิงของข้าก่อนสิ่งใด เจ้าต้องการทดสอบอะไร”

“ข้ามาดูว่า ถ้านางตายเจ้าจะเสียใจไหม เพราะถ้าไม่ ข้าก็ไม่มีเหตุผลให้ปรานีนาง” โคลด์ตอบด้วยแววตาดำมืด “ข้ามาแค่นี้แหละ แต่เพราะเจ้าพูดไม่รู้เรื่องเสียที ทำให้เราวกวนไปมา”

“เจ้ามาเท่านี้…” ซิกฟรีดข่มอารมณ์ “และข้าตอบว่าข้าจะไม่ให้ใครฆ่าใคร นั่นตอบได้ทุกอย่างแล้ว”

“แล้วเจ้าจะให้ข้าพูดอะไรได้อีก” เป็นโคลด์ที่เริ่มคุมอารมณ์ไม่อยู่

“เจ้าถามข้า ข้าตอบเจ้า มันเป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ” ราชาหนุ่มเสียงอ่อนลง

“ตอนแรกเจ้าบอกให้ข้าไปเฉยๆ โดยไม่คิดจะอธิบายอะไร!” หางตาเรียวแหลมแบบดาร์กเอลฟ์ชี้ขวาง

“ข้าขอโทษ” ซิกฟรีดถอยจากการถกเถียง

“ข้าขอให้มาลแกธไปกับข้า แต่ถ้าเจ้าสั่ง เขาย่อมทำตามที่เจ้าสั่งก่อน แปลว่าข้าอาจไปถึงช้ากว่า ถ้าข้าไปถึงช้ากว่าแล้วอิลมาเรเป็นอะไรไปแล้วล่ะ”

“เจ้าต้องการให้ข้าทำอย่างไร เสนอมาเถิด”

โคลด์หลับตา ตั้งสติ เขาต้องตั้งสติ ทุกนาทีที่เสียไปกับการถกเถียงหมายถึงการเสียเวลาช่วยอิลมาเร

‘สันติวิธี’ ที่ซิกฟรีดพูดก็ใช่ว่าไม่มีเหตุผล ถึงเขาจะไม่เชื่อในวิธีการ แต่เขาควรเชื่อใจซิกฟรีดใช่หรือไม่...

“เจ้าไปกับข้า” เมื่อตัดสินใจได้ โคลด์ก็สรุปอย่างสั้นที่สุด “ข้าจะให้เจ้าคุยกับนางก่อน แต่ข้าต้องได้เห็นการเจรจา ถ้าผลลัพธ์ออกมาไม่ดี ข้าจะไม่รออะไรอีก”

“ได้ยินไหม มาลแกธ ล็องธู” ซิกฟรีดเอ่ยผ่านตุ้มหูไฟ “ไม่ต้องจัดขบวนเอิกเกริก ขอคนที่มีฝีมือในกรณีต้องชิงตัวดวอร์ฟ”

หลังจากนั้นเขาจึงติดต่อกับกอห์นดีเอน ให้กระจายข่าวไปยังทหารรับจ้างในป่าเพื่อสืบหาเส้นทางของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์

—————————————————————————

A/N เรือราชาแล่นช้านิดนึงค่ะ เขามีหลายอย่างต้องเคลียร์ตัวเองเลย ถ้าหากแค่รักกันแล้วปัญหาทุกอย่างจบได้ก็ดีสิคะ ;w; ซิกฟรีดเองก็ไม่พร้อมสละเอริแอดเน่ (ในฐานะพี่หญิง) ก็คงอารมณ์เหมือนโคลด์ไม่สามารถสละเกวนโดลินค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (1-2) [04/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-04-2017 12:59:44
ไม่เข้าใจอารมณ์ซิก ดูมันผันผวน
เหมือนไม่สามารถเด็ดเดี่ยว โหดเหี้ยมได้กับเอรีแอดเน่
ทั้งที่นางหยามเหยียด ดูถูก ราชา ลงโทษแบบต่ำๆ
ถึงแม้ซิกจะรักนางไม่ได้ แต่ให้ลูกได้ จะดูทรยศต่อนาง
แต่ซิกก็ไม่เคยสัญญา ตกลงว่าจะรักนางเลย
พอโคลด์ บอกจะฆ่านาง ก็ไม่ยอมอีก เฮ้ออ....งง
ทั้งที่รู้ว่านางอยากจะฆ่าโคลด์
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (1-2-3) [04/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 04-04-2017 17:26:19
บทที่ 19 : คำสาป (3)

“ซอนย่า ดวอร์ฟฟื้นได้สักพักแล้ว” ซิลเวียผู้มีผมสีเทาเข้ามาบอกองครักษ์หญิงผมดำ นางหนีบตระกร้าใส่อาหารไว้ที่เอว เนื่องจากท่านหญิงสั่งว่าจะขังดวอร์ฟอย่างไรก็ได้ แค่ไม่ให้หนีได้ก็พอ ซิลเวียจึงมัดมือมัดเท้าดวอร์ฟด้วยเชือกเวท รับหน้าที่เฝ้าดูและนำอาหารมาให้

ซอนย่าพยักหน้าให้ซิลเวีย นางเฝ้ายามกะนี้ อัศวินลุกขึ้นเพื่อจะเข้าไปตรวจสอบดวอร์ฟ

“เดี๋ยว เจ้าล่ะ หิวหรือยัง กินอะไรไหม” ซิลเวียเปิดตระกร้าอาหาร ยิ้มตามแบบของนางซึ่งมีความยั่วยวนตามธรรมชาติ

“ยังอยู่ในหน้าที่” ซอนย่าปฏิเสธ นางไม่สนิทกับใคร มักเว้นระยะห่างจากคนอื่นเสมอ

“ข้าขอโทษที่พูดมาก” ซิลเวียรู้ตัวว่าตอนชิงตัวดวอร์ฟ นางเล่นกับบุรุษเหล่านั้นมากไปหน่อย แต่ท่านหญิงไม่ได้ตำหนิ เลยไม่มีใครตำหนินาง

ซอนย่ามองซิลเวียสลับกับตะกร้า “ออกเวรค่อยกิน” ถือเป็นการผูกสัมพันธ์อย่างยิ่งแล้วสำหรับนาง

เอลฟ์สาวยิ้มตอบ ซิลเวียเป็นนักเวทเปี่ยมพรสวรรค์ ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมหน่วยองครักษ์สตรีตั้งแต่อายุเจ็ดขวบปี แต่นางแทบไม่เคยออกจากอิซิลดาร์ แม้ฝึกการรบจริงมานับครั้งไม่ถ้วนก็ยังขาดประสบการณ์อยู่อีกมาก ที่เอริแอดเน่เลือกใช้นางเพราะพลังเวทในตัวนางมีคุณสมบัติเป็นสื่อกลางที่ดี ใช้เป็นนกต่อเพื่อทำตามแผนการได้

ซอนย่าหันหน้าหนีรอยยิ้มเปี่ยมไมตรีของซิลเวียผู้ร่าเริง นางเข้าไปดูดวอร์ฟตามหน้าที่

อิลมาเรกินขนมปังทั้งๆ ที่มือถูกมัด จากนั้นก็หยิบถุงหนังมาดื่มน้ำ ผมทรงทวินเทลหลุดรุ่ย เธอพอเข้าใจสถานการณ์จากเอลฟ์สาวผมสีเทาว่าตนถูกจับมาทำไม พอนางเอลฟ์ผมสีดำเข้ามาเลยถอยกรูด

ซิลเวียพูดมากเกินไปอีกแล้ว

ซอนย่าเข้ามาใกล้ดวอร์ฟ นางบีบกรามเล็กๆ ของอีกฝ่ายแล้วจับใบหน้าหันไปมา ตรวจสอบบาดแผลและการตอบสนอง ดวอร์ฟควรอยู่ในสภาพสมบูรณ์ อย่างน้อยต้องแข็งแรงจนวันที่ดาร์กเอลฟ์มาถึง

“เจ็บ” อิลมาเรบอก นิ่วหน้า เอลฟ์ที่แนะนำตัวว่าชื่อซิลเวียเป็นมิตรร่าเริง แต่คนนี้น่ากลัว

“ข้ารู้จักวิธีต่อลิ้น” ซอนย่าพูดเรียบๆ “ถ้าเจ้ากัดลิ้นฆ่าตัวตาย ให้รู้ว่าเจ้าจะไม่ตาย แต่ทรมานยิ่งกว่านั้น”

อิลมาเรผงะ แล้วรีบพยักหน้าไวๆ เธอกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรอีก

โคลด์...ฮือ…! มาช่วยข้าที ;w;


สถานที่ที่เอลฟ์จากอิซิลดาร์กักตัวดวอร์ฟไว้เป็นป้อมปราการหินเก่ารกร้าง ไม่ได้ใช้งานมาเกือบสองร้อยปี ตั้งอยู่ระหว่างทางจากเอวา เธมาร์ไปยังอิซิลดาร์

ท่านหญิงเอริแอดเน่ไม่ได้พาดวอร์ฟลงใต้ทันที แต่ตั้งรับอยู่ในป้อมปราการที่นางรู้จักทุกซอกมุมเป็นอย่างดี

...ป้อมปราการที่นางเคยมาพักอยู่ระยะเวลาหนึ่งกับอดีตราชา--คิงริวอร์นอร์

ซอนย่าตรวจดูดวอร์ฟเสร็จค่อยออกไปเฝ้ายามต่อ นางยืนขึงขังด้านนอกประตูที่เปิดค้างไว้ และเข้าไปดูความเรียบร้อยทุกๆ สิบห้านาที ไม่ให้ดวอร์ฟวางแผนหนีได้ (หรือทำร้ายตัวเอง) ซอนย่ารอบคอบ แม้กระทั่งกับดวอร์ฟไร้พิษสง

ครั้งนี้ นางคิดว่ามีการสูญเสียแน่ ดวอร์ฟเป็นเพื่อนกับแอสซาสซิน แอสซาสซินมีความสัมพันธ์กับมาลแกธ--ราชองครักษ์มือขวา และคิงซิกฟรีด--ราชาแห่งรูเมเรียร์ จะประมาทการเคลื่อนไหวของฝั่งตรงข้ามไม่ได้เลย

แต่ท่านหญิงไม่ได้เรียกกำลังเสริมจากอิซิลดาร์ ซอนย่าเดาใจท่านหญิงไม่ออก ที่พวกนางได้ข่าวคือราชาออกเดินทางมาด้วยพระองค์เอง...หากเรียกกำลังเสริมมาจะถือว่าเป็นการกบฏต่อราชาหรือไม่นะ

แค่ดาร์กเอลฟ์เพียงคนเดียว สำคัญกว่าคู่หมั้น สำคัญกว่าราชินีในอนาคต สำคัญกว่าสตรีที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอิซิลดาร์อย่างนั้นหรือ

ซอนย่าเป็นพยานตอนที่ท่านหญิงเดินออกมาหลังการพูดคุยกับราชาในห้องทรงงาน แววตาของท่านหญิงกลับไปเย็นชาคล้ายเมื่อครั้งคิงริวอร์นอร์ยังมีชีวิตอยู่

ไม่ว่าทั้งสองจะสนทนาสิ่งใด ก็คงเป็นการหักหาญน้ำใจอย่างร้ายกาจ

เวเรด้าติดต่อมาหาซอนย่าผ่านตุ้มหูเวทซึ่งเป็นอุปกรณ์สื่อสารระยะใกล้ แม้ไม่ดีเท่าตุ้มหูเวทของควาร์ที่ไกลแค่ไหนก็ติดต่อกันได้ แต่ถือว่าดีสำหรับการตั้งรับอยู่ในป้อมปราการ และไม่ต้องเป็นนักเวทก็ใช้งานได้

“ทางนี้ยังเงียบ” เวเรด้ารายงาน

“ดวอร์ฟฟื้นแล้ว” ซอนย่าตอบกลับ “แต่ไม่มีความเคลื่อนไหวน่าเป็นห่วง”

“ทางนี้ยังเงียบเช่นกัน” จามิลลาเอ่ยแทรก

“ท่านหญิงดื่มไวน์อยู่” ซิลเวียพูดในลำดับต่อมา

พวกนางสวมตุ้มหูเวทนี้ตลอดเวลา มันพิเศษตรงที่เป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ท่านหญิงเอริแอดเน่สร้าง มอบให้แก่องครักษ์ที่นางไว้ใจ

“ข้าดื่มเพียงเล็กน้อย” เอริแอดเน่เอ่ยเสียงนุ่มนวล นางเองก็สวมตุ้มหูเวทเช่นกัน

ซอนย่าเงียบไปกับความคิดของตน ท่านหญิงแปลกไปจริงๆ

หากจะมีใครที่ซอนย่าผูกพันมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ผู้เดียว

“ข้าคิดอยู่ว่าเขาจะมากับดาร์กเอลฟ์ ข้ารอเขาอยู่” เอริแอดเน่บอกเหล่าองครักษ์ นางวนปลายนิ้วในแก้วไวน์อย่างไม่รีบร้อน แล้วเลียของเหลวสีแดงเข้มที่ติดชุ่มปลายนิ้วขึ้นมา

เงียบ ไม่มีใครกล้าตอบ

กระทั่งจามิลลาเริ่มพูด “ท่านหญิง เราไม่เดินทางต่อไปอิซิลดาร์จริงหรือเจ้าคะ”

จามิลลาอยู่กับเอริแอดเน่มานานที่สุด เติบโตมาพร้อมกัน อายุใกล้เคียงกับท่านหญิงของนาง จึงกล้าเอ่ยปากถาม

“ข้ายังให้โอกาสซิกฟรีดอยู่” นั่นคือคำตอบ เงียบไปอีกสักครู่ นางเอ่ยต่อว่า “แต่อนุญาตให้ฆ่าคนอื่นๆ หากจำเป็น รวมถึงดาร์กเอลฟ์”

ไม่มีทางจบด้วยดี ซอนย่าคิด แต่ไม่ว่าท่านหญิงจะเลือกหนทางไหน สั่งอะไร นางจะทำตามโดยไม่ตั้งคำถาม ความภักดีของนางมีเพื่อท่านหญิงจนถึงที่สุด

นางจะน้อมรับใช้ท่านหญิงไปจนชีวิตจะหาไม่

จามิลลา เวเรด้า ซิลเวีย...หรือแม้กระทั่งตัวนางเอง คงจบชีวิตที่นี่ อีกฝ่ายมาเพื่อชิงไปทั้งหมด ขณะท่านหญิงจะริบไว้ทั้งหมด

“อย่ากังวล” เอริแอดเน่ปลอบ “ข้าไม่ให้พวกเจ้าเป็นอะไรหรอก”

จามิลลาและเวเรด้ายิ่งกังวลหนักกว่าเดิม ปกติท่านหญิงไม่เอ่ยอะไรเฉกนี้ พวกนางอยากติดต่อไปที่อิซิลดาร์เหลือเกิน แต่ไม่สามารถขัดคำสั่งท่านหญิงได้

คงมีแค่ซิลเวีย...ที่รู้สึกสนุกสนานกับสงครามแรกของนาง

------------------------------------------------------

ซิกฟรีดสั่งให้ตั้งค่ายพักแรมเมื่อตะวันราแสง กอห์นดีเอนส่งข่าวมาว่าเอริแอดเน่ไม่ได้ลงใต้ และอิซิลดาร์ไม่มีความเคลื่อนไหว ซิกฟรีดค่อนข้างมั่นใจว่าเอริแอดเน่อยากจัดการแบบ ‘เป็นส่วนตัว’ เช่นเดียวกับเขาที่จัดกำลังทหารมาแค่สิบนาย รวมโคลด์และเขาด้วยก็มีเพียงสิบสองคน

กำลังทหารแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มละห้านาย โดยกลุ่มแรกมีเดเนธอร์ รองหัวหน้าหน่วยกาลาฮาน เป็นผู้นำทหารแกะรอยท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ เมื่อพบเบาะแสก็จะส่งข่าวกลับมายังกลุ่มที่สองซึ่งนำโดยมาลแกธ ล็องธู

ความจริงแล้วซิกฟรีดหนักใจ เป็นไปได้มากว่าการเจรจาจะไม่เป็นผล อาจไม่มีการเจรจาเสียด้วยซ้ำ แต่เขาต้องจัดการให้มันเกิดขึ้น

ใช่ว่าซิกฟรีดจะตามืดบอด พิจารณาความเป็นจริงไม่ออก โคลด์กล่าวได้ถูกต้องว่าจะไม่มีใครยอมใคร แต่หากเขายอมจำนนโดยไม่มองหาหนทางอื่นเลย นั่นสิจึงเรียกว่าตามืดบอดโดยแท้จริง

แต่จะทำอย่างไรเล่า


ซิกฟรีดครุ่นคิดอยู่ในกระโจมพัก หากเขาคิดว่าตนรู้ใจพี่หญิงดี เช่นนั้นแล้วอะไรที่จะทำให้นางยอมเจรจา

เขาต้องคิดให้ออกโดยเร็ว ก่อนที่โคลด์และพี่หญิงจะประจันหน้ากัน

 

โคลด์ซ้อมมือกับมาลแกธ แต่ทำไปเพื่อสงบสติอารมณ์มากกว่า เขามีเรื่องให้คิดหลายเรื่อง...แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของอิลมาเร

นี่เป็นปัญหาระหว่างเขา ซิกฟรีด และเอริแอดเน่ จะองครักษ์ของนางหรือคนของซิกฟรีดล้วนเกี่ยวข้องเพราะนายบัญชา แต่อิลมาเรไม่ใช่...เธอไม่เกี่ยวอะไรเลย

...นอกจากเป็นเพื่อนของเขา

 

“โลกไม่มีเหตุผลให้เราเสมอหรอก จำแค่ว่า ‘มีกำลัง เจ้าอยู่รอด’ ”

 

โคลด์หรี่ตาให้กับเสียงจากอดีต คำสอนของจอมทัพทมิฬผู้เป็นบิดาบุญธรรม

เห็นจะจริงอย่างที่ท่านว่า...ท่านพ่อ

“อย่าเหม่อ” มาลแกธปัดอาวุธของโคลด์ออก ก่อนยกดาบพาดคออีกฝ่าย

“อา” โคลด์มองบีฟอร์ซที่หลุดไถลจากมือ มันหมุนติ้วแล้วหยุดดังปึก! เมื่อกระแทกโคนต้นไม้ “ข้าตายหนึ่งครั้งแล้ว” เขาหัวเราะแบบไร้ความหมาย

“ตั้งใจหน่อย เจ้าตาย อิลมาเรอาจตาย” มาลแกธให้โคลด์ไปหยิบบีฟอร์ซมา

“ข้าตาย เจ้าก็พาอิลมาเรให้รอด เจ้าสัญญาแล้ว” โคลด์นั่งลงเนือยๆ ไม่มีแก่ใจทำอะไรอีก

“ข้าเปลี่ยนใจดีไหม ถ้าเจ้าตาย นางตาย”

“เจ้าเปลี่ยนใจไม่ได้” โคลด์เอ่ยเรียบๆ แต่เหมือนออกคำสั่งเด็ดขาด

“ใจข้า ข้าเปลี่ยนได้” มาลแกธถอนหายใจ “โคลด์…”

“อือ”

“อยากกอดไหม” มาลแกธวางอาวุธของตนลง

“ไม่ ซิกฟรีดอยู่ในกระโจม” โคลด์ตอบตามตรง

“เจ้าคอยระวังความรู้สึกของเขาแบบนี้ เขาจะไม่โตสักที”

“ข้ากอดเจ้าให้เขาดูแล้วเขาจะโตยังไงหรือ” โคลด์เงยหน้าถาม “บอกเหตุผลดีๆ มาสักข้อ”

“เขาไม่โตหรอก แต่เจ้าจะรู้สึกดีขึ้น”

โคลด์พยักหน้า “ใช่ ข้าจะรู้สึกดีขึ้นถ้าเจ้ากอด ข้าสังเกตตัวเองมานานแล้ว” แล้วส่ายหน้า “แต่ไม่ ซิกฟรีดอยู่ในกระโจม”


—————————————————————————

A/N ซวยสุดในเรื่องก็อิลมาเรละนะ ;w; (ถ้าเป็นนิยายนอร์มัล ก็เป็น 'เพื่อนนางเอก' ที่มีดวงอยู่กับนางเอกแล้วซวยสุดๆ ละมั้งคะ :P แน่นอนว่า นางเอก = ก้อนโคลด์)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (1-2-3) [04/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 04-04-2017 20:14:40
มีแต่คนรักที่จะรักษาคนสำคัญทั้งนั้น
ทำไมไม่คุยกันดีๆ
ไม่เข้าจายยยยยยยย!

คนเขียนสู้ๆนะ รอค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (1-2-3) [04/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-04-2017 21:41:16
Tt
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (1-2-3) [04/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-04-2017 22:16:48
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (1-2-3) [04/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 04-04-2017 22:46:56
ซิกเป็นราชาเด็กน้อยมาก แถมค่อนข้างจะโลกสวย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (1-2-3) [04/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 05-04-2017 00:07:17
ลอยเท้งเต้งต่อไปกับราชา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (1-2-3) [04/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 05-04-2017 15:33:19
อนุญาติเม้นท์ย้อนหลังเจ้าค่ะ :katai4:
บทที่ : 17  โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (1)
อั่ยย่ะเผ่ามนุษย์ บรรยากาศโรงเหล้าครึ้นเครง อิลมาเรเป็นเจ้โหดไปแล้ว ขำชื่อเหล้าสูตรพิเศษ ผมดำผมแดงนี่กวนพอกันเล้ยยย /เบะใส่อิป๋า
คำตอบมาลแกธมีความติสท์ สมกับที่เป็นนักรัก(แต่ก็แพ้รัก) /จ้องตาราง Battle *Q*
บทที่ : 17  โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (2)
กรี๊ดดดเอลฟ์กับมนุษย์ ชอบตอนแมดส์พูดหยาบคายใส่สามี อิอิ
นายเป็นเคะที่ดุและเฟี้ยวมาก ทำเอาโวรอนเรากลายเป็นหมีเชื่องๆไปเลย ส่วนโคลด์กับอิป๋า..   :angry2:
บทที่ : 17 โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (3)
จอมทัพทมิฬมาแว้วว ลุงแกดูผ่านโลกมาเยอะ เอลฟ์กับมนุษย์ขายข่าวกันร้อนแรงต่อเนื่อง~
อ่านเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยแล้วหยักหน้าหงึกๆ แดนทมิฬดีงาม แต่งเมียชายได้เลย /เก็บข้าวของย้ายไปแดนทมิฬ
บ่าวแอบหวังให้รวมเล่มมาตั้งแต่เริ่มอ่านเลยเจ้าค่ะ ฮรื่อออ
บทที่ : 17 โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (4)
สงสารโคลด์ของบ่าววว /แย่งกันกอดกับอิป๋า
อดีตคืนชีพจอมทัพทมิฬเป็นปมใหญ่ในใจโคลด์เลยเนอะ
เชื่อว่าเรื่องนี้มีคนอ่านเยอะน้าา เป็นกำลังใจให้ได้อีก
หายไปนานยังไงก็จะกลับมาเม้นท์เจ้าค่ะ  o13
บทที่ : 17 โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (5)
โอ้โหตอนนี้ทำอิบ่าวช็อค  :z3: :z3:
อยู่เรือซิกเจอแบบนี้มีสตั้น ยังเชื่อว่าซิกเป็นเบอร์1น้าาา (โคลด์เจ้าขาแก้เผ็ดซิกเรื่องแอรี่ใช่มั้ยนาย /นี่ยังไม่ยอม)
โคลด์กับป๋าล่อแหลมกันมาหลายตอน แต่ก็ผ่านพ้นไปได้ทุกตอน จนถึงตอนนี้แล้วอิป๋าก็วิน คืออิป๋าโคตรจะวินนนน  :angry2:

ปล. ทยอยอ่านต่อมันส์มาก คนเขียนสู้ๆเจ้าค๊าาาา :fire:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (4) [05/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 05-04-2017 23:49:49
บทที่ 19 : คำสาป (4)

“ให้เขาเรียนรู้ ว่าเขาไม่มีวันได้ทุกสิ่งที่ปรารถนา นั่นก็เป็นการเติบโต” มาลแกธดึงโคลด์มากอดแล้วลูบศีรษะ “ดีขึ้นไหม” เขาจูบกลุ่มผมสีเงินนุ่มนิ่ม โคลด์ไม่เคยไว้ผมยาวเลย ถ้ายาวกว่านี้หน่อยคงพันนิ้วเพลิน

โคลด์ใจเต้น เขาตัวแข็งทื่อในตอนแรก แล้วพยักหน้ากับบ่าของมาลแกธ “ดีขึ้น...”

ฮีมเดียร์ผู้ดื้อรั้นยอมซบบ่าของเอลฟ์ตะวันออก

...ผู้ที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยได้

“นอนสักตื่นจะรู้สึกดีขึ้นมากกว่านี้ เจ้าช่วยอิลมาเรไม่ได้ถ้าร่างกายไม่พร้อม” มาลแกธจูบใบหูของโคลด์ไวๆ “กินอะไรสักหน่อยแล้วพักผ่อนเสีย”

“อืม” โคลด์ตอบรับอย่างว่าง่าย

...ภาพทั้งหมดหาได้รอดพ้นสายตาของราชาเอลฟ์

            ซิกฟรีดกลับเข้ากระโจม เขาคิดจะออกไปสูดอากาศ แต่พอเห็นภาพโคลด์กอดเอลฟ์ตะวันออกแล้วรู้สึกว่าอากาศน่าจะเป็นพิษ

หากถอดคำว่าราชา ซิกฟรีดก็เป็นเพียงเอลฟ์หนุ่ม ความรักในวัยเยาว์บ้าคลั่งไร้เหตุผล อันที่จริง...ไม่ว่าจะเติบใหญ่เพียงใด อายุเท่าไหร่ ทุกชีวิตบนโลกก็สามารถพังพาบศิโรราบให้แก่ความรักได้

ซิกฟรีดกำหมัด ขบฟัน เขาบอกโคลด์ว่าจะรับผิดชอบความรู้สึกทั้งหมดของตัวเอง ทั้งรัก หึง โกรธ เสียใจ คิดถึง ต้องการ...ทุกๆ ความรู้สึกที่เกิดขึ้น เป็นตัวเขาเองทั้งนั้นที่ต้องรับผิดชอบ

“หุบปาก” ซิกฟรีดคำรามลอดไรฟัน เสียงยั่วยุหนวกหูไม่เคยหยุดพ่นพูด เขาสูดลมหายใจลึก นั่งลงแล้วเขียนสารถึงอิลราลานผู้เป็นราชองครักษ์มือซ้าย ถามสถานการณ์ในเอวา เธมาร์ที่ฝากให้ดูแลก่อนออกมา หลังจากนั้นค่อยติดต่อกับกอห์นดีเอน ทราบว่าเงาสังหารกำลังควบม้าเร็วขึ้นมาสมทบจากทางใต้

“ข้ายังไม่ได้พูดอะไรสักคำ” ผ้าปิดทางเข้ากระโจมถูกเลิกขึ้น โคลด์ยื่นหน้าเข้ามา ดูเหมือนเขาสังเกตเห็นราชาเอลฟ์ จึงตามมาดูเมื่อบอกขอตัวกับมาลแกธ

            ซิกฟรีดกำลังผูกสารถึงอิลราลานเข้ากับขาของนกสีน้ำเงินตัวเล็ก เขาเหลือบมองโคลด์นิดหนึ่ง ก่อนปล่อยให้นกบินไปทำหน้าที่ของมัน

            “มีอะไรหรือ” ซิกฟรีดถามโคลด์

“มี” โคลด์มองตามนกส่งสารที่บินผ่านหน้าตน มันกระพือปีกคู่เล็กอย่างรวดเร็ว แวบเดียวก็ลับสายตาไปในท้องฟ้าสีม่วงแดง

            ซิกฟรีดผายมือ เชิญโคลด์ที่ยังเลิกผ้ากระโจมค้างอยู่ให้เข้ามาด้านใน

            “ว่ามา” ภาพซิกฟรีดในชุดทะมัดทะแมงคล้ายนายพรานดูแปลกตา ภายในกระโจมก็เรียบง่าย ไม่มีเครื่องเรือนของใช้แบบกษัตริย์ แต่เพราะการเดินทางครั้งนี้เป็นเรื่องลับเร่งด่วน โคลด์จึงไม่เห็นว่าแปลกแต่อย่างใด

ความคล่องตัวสำคัญที่สุด

โคลด์เข้ามายืนมองราชา ผู้ที่เมื่อก่อนเป็นเจ้าชาย และก่อนหน้านั้นก็เป็นเจ้าเด็กเอลฟ์จอมโยเย เขาเอามือเท้าเอว ถอนหายใจ “เราไม่ได้พูดกันดีๆ เลย ข้าเลยคิดว่าเราควรพูดกันดีๆ บ้าง”

การปลอบของมาลแกธทำให้โคลด์ใจเย็นลง และส่งผลต่อเป็นทอดๆ ทำให้ดาร์กเอลฟ์มายืนต่อหน้าราชาเอลฟ์ด้วยเจตนาที่ดีกว่าก่อนหน้านี้

“ข้าคิดว่าจะกินอะไรสักหน่อยแล้วค่อยนอนพักเอาแรง ระหว่างกินเลยมาคุยกับเจ้า” โคลด์หาที่นั่งให้ตัวเอง ในกระโจมไม่มีเก้าอี้ เขาจึงนั่งบนพื้น

ซิกฟรีดพยักหน้า ตอนแรกที่เขาคิดจะออกไปสูดอากาศ เขากะว่าจะออกไปคุยกับโคลด์ด้วย อาจปลอบใจ หรือให้กำลังใจ...แต่เขารู้ว่าพออยู่ต่อหน้าอีกฝ่ายจริงๆ คงพูดไม่ออก

ราชาหนุ่มสามารถเจรจากับทูตต่างแดนได้อย่างลื่นไหล ถกกับขุนนางโดยไม่สะดุด ทั้งยังเล่าเรื่องได้มากมายในงานเลี้ยง ทว่ากับความรู้สึกแท้จริงของตัวเอง เขากลับพูดไม่ออกสักคำ

“ดูเหมือนเวลาที่เจ้ากับข้าเข้ากันได้ดี ส่วนมากจะเป็นเรื่องของกิน” ดาร์กเอลฟ์ล้วงห่ออาหารอัดเม็ดของแอสซาสซินออกมา หยิบเม็ดหนึ่งเข้าปาก เคี้ยว และยื่นห่อผ้าให้ซิกฟรีด “รสชาติไม่เลว มีรสเนื้อด้วยนะ”

ซิกฟรีดปฏิเสธด้วยการขมวดคิ้วใส่อาหารอัดเม็ด

“ไม่กินเดี๋ยวก็หิวหรอก” โคลด์หยิบอาหารยามฉุกเฉินเข้าปากอีกเม็ด รสเนื้อที่ชุ่มฉ่ำอยู่ในปากนั้นไม่เลวเลย

“แอสซาสซิน...กินอาหารลาหรือ”

“ลากินเนื้อหรือ ข้าเพิ่งทราบ ข้านึกว่ามันกินแต่หญ้า”

“ข้าก็เพิ่งทราบว่าแอสซาสซินกินอาหารลา” บางทีการต่อปากต่อคำที่ซิกฟรีดคิดว่า ‘ไร้สาระ’ อาจเป็นวิธีช่วยให้โคลด์ไม่คิดถึงเรื่องหนักๆ

ทว่ามันไม่ได้ผล

“ข้าควรตอบเจ้าว่าเพราะ ‘ข้าโง่’ หรือ ‘ข้าไม่ฉลาด’ ดีล่ะ” โคลด์เก็บห่ออาหารอัดเม็ดของตนอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะเขาอุตส่าห์มาชวนคุยดีๆ

ซิกฟรีดหลับตา เม้มปาก แม้เขาอยากพูดปลอบใจโคลด์ แต่พออ้าปาก คำพูดปลอบใจไม่เคยออกมา มีแต่เรื่องชวนทะเลาะ “อา…ช่างมันเถิด” เขาถอนหายใจหนักๆ

ที่ข้าคิดจะพูดคือ ‘ขอโทษ’ ไม่ใช่ ‘ช่างมันเถิด’ ทำไมยากนักเล่า


โคลด์มองไปที่ผนังกระโจม เขาไม่ได้ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป แสดงว่ายังอยากคุยกับซิกฟรีด แต่ไม่รู้จะต่อบทสนทนาว่าอะไร...ซิกฟรีดทำให้เขาอึดอัดใจ

ถ้าซิกฟรีดมีศิลปะการพูดกับคนที่ตัวเองชอบได้สักครึ่งของมาลแกธ ผลลัพธ์ในอดีตของพวกเขาอาจออกมาดีกว่านี้

“อย่ากังวล” ซิกฟรีดเอ่ย “เจ้าอาจไม่เชื่อใจข้า แต่ทราบเถิดว่าข้าไม่ได้นิ่งนอนใจ”

โคลด์เงียบ ไม่ขยับตัวจากที่เดิม เขากอดอก ภาษาร่างกายยังบอกว่า ‘ไม่พอใจ’

ซิกฟรีดอ้าปากแล้วหุบปาก

ก่อนจะอ้าปากอีก…

“ขอ...” คำพูดหลุดออกมาคำหนึ่ง

และอีกอึดใจค่อยต่อว่า

“...โทษ”

“อึดอัดกว่าเดิมอีก” โคลด์ยอมตอบ “ถ้าการพูดจาดีๆ กับข้ามันยากนักละก็--”

“ข้าอยากคุยกับเจ้าดีๆ” ซิกฟรีดหน้าแดง เขาพูดเร็ว เมื่อรวมกับเสียงแหบพร่าก็เกือบฟังไม่รู้เรื่อง

โคลด์หันขวับมาพอดี จึงได้เห็นใบหน้าแดงฉ่าที่ไม่คาดว่าจะได้เห็น

“อันที่จริง…” ซิกฟรีดแตะกระเป๋าคาดสะโพกของตัวเอง ท่าทางลังเลอยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็ล้วงมือเข้าไปควานหาบางอย่าง

“กินซะ มันน่าจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น”

ช็อกโกแลต...ซิกฟรีดยื่นห่อช็อกโกแลตให้โคลด์

เขาไม่ชอบกินของหวาน ดังนั้นจึงหมายความว่านำติดตัวมาให้โคลด์โดยเฉพาะ

“ทำไมทุกคนคิดว่าข้าชอบกินของหวาน” แม้ปากพูดอย่าง แต่มือพูดอีกอย่าง โคลด์รับห่อขนมมาแกะกิน พอรสหวานละลายในปาก ดวงตาของดาร์กเอลฟ์ก็ปรือ ใบหูลู่ลง

โคลด์กินอย่างอารมณ์ดีขึ้น

            ซิกฟรีดยิ้มมุมปากน้อยๆ “รู้ไหม ในวังข้าปฏิเสธของหวานไม่ได้” เขาลองชวนคุย “หัวหน้าครัวของหวาน...นางอ่อนไหว บางครั้งข้าได้ยินเสียงกระซิบตัดพ้อเบาๆ ‘ไม่อร่อยหรือเพคะ’ ‘ชิมสักคำนะเพคะ’ ‘เมื่อก่อนพระองค์ชอบรสมือหม่อมฉันแท้ๆ’ ”

“ข้ารู้จักนางหรือเปล่า” โคลด์กินช็อกโกแลตหมดไปครึ่งแท่งแล้ว เขาถามเพราะคำว่า ‘เมื่อก่อน’ น่าจะหมายถึงตอนซิกฟรีดยังเป็นเจ้าชายน้อยตัวเล็ก ก่อนเดินทางไปอาศรมควาร์

            “ตอนนั้นข้าอายุเท่าไหร่เอง ข้าจำไม่ได้หรอก”

“ข้าจำตอนเจอเจ้าครั้งแรกได้ เจ้ากระทืบเท้า บอกว่า ‘ข้าเป็นเจ้าของแผ่นดินนี้ เจ้าดาร์กเอลฟ์!’ ” โคลด์หัวเราะ คิดว่าน่าจะเป็นแม่ครัวชาวมนุษย์ มนุษย์มักดีกับเขามากกว่าเอลฟ์ (แต่ก็บางคนเท่านั้นแหละ)

            ซิกฟรีดเหมือนชะงักไปเล็กน้อย “พี่เฟรธูรินคงดุข้าถ้าท่านทราบว่าข้าพูดอย่างนั้น”

“ใช่ เจ้ามันเด็กยโส” โคลด์ได้ทีขี่แพะไล่

            “ไหนจะคุยดีๆ” รอยยิ้มมุมปากของซิกฟรีดยกขึ้นอีก เขากอดอก เกือบหัวเราะออกมา

“นี่ก็เริ่มดีแล้ว” โคลด์ยิ้มเมื่อกินช็อกโกแลตหมด ช็อกโกแลตบางส่วนติดตรงมุมปาก ดูหน้าก็รู้ว่าผ่อนคลายแล้ว

            ซิกฟรีดขำในลำคอ เขาใช้นิ้วโป้งเช็ดมุมปากให้โคลด์ “อร่อยขนาดนั้นเลยหรือ”

“ข้ากินได้ทุกอย่างที่กินได้”

            “ความสามารถพิเศษของเจ้ารู้กันทั่วอาศรม” ราชาหนุ่มยิ้ม

“ทุกคนก็กินทุกอย่างที่กินได้นั่นแหละ คงไม่มีใครอยากอดตายหรอก” โคลด์มองนิ้วที่แตะมุมปากของเขาค้างไว้ “เมื่อกี้เจ้าบอกให้ใครหุบปาก เสียงคำสาปในหัวเจ้าอีกแล้วหรือ”

ซิกฟรีดละนิ้วออก “อีกแล้ว? ไม่...ไม่ใช่ มันพูดกับข้าตลอดเวลา ไม่ใช่หยุดแล้วค่อยพูด ‘อีกแล้ว’ ”

“ตอนนี้มันก็พูด?”

“อืม” ซิกฟรีดสวมหน้ากากหนังปิดใบหน้าซีกซ้ายเหมือนตอนที่ออกล่ามังกร แม้จะร่ายเวทสกัดคำสาปและใช้ยาบรรเทาคำสาปของเอริแอดเน่ แต่ดูเหมือนนานวันจะไม่ช่วยอะไรนัก

“มันเป็นเสียงของคิงริวอร์นอร์? คอยสาปเจ้า?”

“อืม...สาป ยั่วยุ สบถด่า มันพูดทุกอย่างที่จะทำให้เจ้าหงุดหงิด อารมณ์เสีย ไม่มีกระทั่งอารมณ์หลับตานอน”

“พี่ชายเจ้าเป็นคนปากหมาหรือ ถึงลงคำสาปแบบนี้ไว้” โคลด์เงยหน้า เขานั่งขัดสมาธิ ยิ้มแบบทองไม่รู้ร้อน


—————————————————————————

A/N เขาก็คุยกันดีๆ ได้นะ คู่นี้อะ XD


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (1-2-3) [04/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 05-04-2017 23:52:22
อนุญาติเม้นท์ย้อนหลังเจ้าค่ะ :katai4:
บทที่ : 17  โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (1)
อั่ยย่ะเผ่ามนุษย์ บรรยากาศโรงเหล้าครึ้นเครง อิลมาเรเป็นเจ้โหดไปแล้ว ขำชื่อเหล้าสูตรพิเศษ ผมดำผมแดงนี่กวนพอกันเล้ยยย /เบะใส่อิป๋า
คำตอบมาลแกธมีความติสท์ สมกับที่เป็นนักรัก(แต่ก็แพ้รัก) /จ้องตาราง Battle *Q*
บทที่ : 17  โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (2)
กรี๊ดดดเอลฟ์กับมนุษย์ ชอบตอนแมดส์พูดหยาบคายใส่สามี อิอิ
นายเป็นเคะที่ดุและเฟี้ยวมาก ทำเอาโวรอนเรากลายเป็นหมีเชื่องๆไปเลย ส่วนโคลด์กับอิป๋า..   :angry2:
บทที่ : 17 โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (3)
จอมทัพทมิฬมาแว้วว ลุงแกดูผ่านโลกมาเยอะ เอลฟ์กับมนุษย์ขายข่าวกันร้อนแรงต่อเนื่อง~
อ่านเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยแล้วหยักหน้าหงึกๆ แดนทมิฬดีงาม แต่งเมียชายได้เลย /เก็บข้าวของย้ายไปแดนทมิฬ
บ่าวแอบหวังให้รวมเล่มมาตั้งแต่เริ่มอ่านเลยเจ้าค่ะ ฮรื่อออ
บทที่ : 17 โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (4)
สงสารโคลด์ของบ่าววว /แย่งกันกอดกับอิป๋า
อดีตคืนชีพจอมทัพทมิฬเป็นปมใหญ่ในใจโคลด์เลยเนอะ
เชื่อว่าเรื่องนี้มีคนอ่านเยอะน้าา เป็นกำลังใจให้ได้อีก
หายไปนานยังไงก็จะกลับมาเม้นท์เจ้าค่ะ  o13
บทที่ : 17 โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (5)
โอ้โหตอนนี้ทำอิบ่าวช็อค  :z3: :z3:
อยู่เรือซิกเจอแบบนี้มีสตั้น ยังเชื่อว่าซิกเป็นเบอร์1น้าาา (โคลด์เจ้าขาแก้เผ็ดซิกเรื่องแอรี่ใช่มั้ยนาย /นี่ยังไม่ยอม)
โคลด์กับป๋าล่อแหลมกันมาหลายตอน แต่ก็ผ่านพ้นไปได้ทุกตอน จนถึงตอนนี้แล้วอิป๋าก็วิน คืออิป๋าโคตรจะวินนนน  :angry2:

ปล. ทยอยอ่านต่อมันส์มาก คนเขียนสู้ๆเจ้าค๊าาาา :fire:

โอ คอมเมนต์จัดเต็มมากเลย ขอบคุณนะคะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ตอบคอมเมนต์ แบบว่ามาลงแล้วก็ไปทำงานต่อน่ะค่ะ
;w; แต่อ่านครบน้า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (4) [05/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-04-2017 08:07:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (4) [05/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-04-2017 08:39:05
5555 หลอกด่าก้อมา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (4) [05/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 06-04-2017 09:29:50
19 คำสาป(2)

เข้าใจความรู้สึกซิกฟรีด จริงๆซิกเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวมาก
เพราะตัดสินใจที่จะปกป้องและจะทำให้ได้แม้ต้องสละตนเอง
เป็นโคลดซะอีกที่อารมณ์ผันไปผันมาจะตัดก็ไม่ตัด มาถามเหมือนมาให้ความหวัง
สงสารเจ้าชายน้อยที่สุด :hao5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (4) [05/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 06-04-2017 10:04:19
อ่านตอนนี้พร้อม ๆ กับยิ้มทั้งที่อยากจะร้องไห้

รู้สึกว่าเรือทุกลำกำลังวิ่งลงก้นวังน้ำวน 
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (5) [06/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 06-04-2017 14:14:03
บทที่ 19 : คำสาป (5)

“ข้าไม่ทราบ แต่คราวที่กลับเอวา เธมาร์ตอนข้าอายุสิบห้า เขาก็พูดข่มขู่ได้ดี”

“แสดงว่าเขาก็มีมุมน่าเกลียดที่คอยซ่อนไว้จากโลก”

“รูปโฉมของข้าน่าจะตอบคำถามของเจ้าได้” ซิกฟรีดเคาะหน้ากากเบาๆ

“มันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร นิสัยเจ้าขัดใจข้ามากกว่าใบหน้าเจ้า”

“นิสัยข้าเป็นอย่างไรเล่า” ซิกฟรีดกอดอก ขมวดคิ้ว ทำท่าคล้ายไม่พอใจ ทว่าสีหน้าผ่อนคลายกับรอยยิ้มบางๆ ทำให้โคลด์ทราบว่าราชาเอลฟ์แค่ถามไปอย่างนั้นเอง

“เจ้าชอบทำให้ข้าอารมณ์เสีย”

ซิกฟรีดมองอีกฝ่ายชวนคุยเรื่อยเปื่อย ใจเบาลงเมื่อเห็นว่าโคลด์สงบ ไม่ท้อ หรือเครียดเรื่องดวอร์ฟจนน่าเป็นห่วง

การคงสติให้นิ่งสำคัญมากในสถานการณ์เช่นนี้…

ตัวเขาเองก็ต้องทำให้ได้เช่นกัน

“เช่นว่า?” ซิกฟรีดถามโคลด์ “ยกตัวอย่างมาสักข้อ”

“มากมายเป็นภูเขาเลากา และเจ้าควรรู้ด้วยตัวเองมากกว่าให้ข้าบอก แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ ก็เหมือนที่เจ้าปากเสียใส่ข้าเมื่อกี้ แต่เจ้ารู้ตัว ถึงพยายามทำให้บรรยากาศดีขึ้น ข้าคิดว่าเจ้าอยู่ในระหว่างแก้ไขนิสัยชอบยั่วโมโหข้า”

ซิกฟรีดหัวเราะอีกครั้ง คราวนี้ค่อนข้างดัง เขาทราบว่าตัวเองดีขึ้นเมื่อมีโคลด์อยู่ข้างๆ

แต่เพราะดีนี่ละถึงอันตราย

ยิ่งดี...ยิ่งอยากครอบครอง


“คำสาปมันพูดว่าอะไรตอนที่เจ้าหัวเราะจากใจ”

ซิกฟรีดหลุบตาลง ก่อนจะมองไปทางอื่น เขาชั่งใจว่าจะบอกดีหรือไม่

“เจ้ามันน่าสมเพช อาเลธ” ราชาหนุ่มจับสายตาที่ใบหน้าของอีกฝ่ายเพื่อดูปฏิกิริยา

“เหตุผลล่ะ” โคลด์ลุกมาใกล้ ยิ้ม เขาแกะหน้ากากหนังของราชาออกเพื่อดูสีหน้า “จู่ๆ จะมาด่าว่าน่าสมเพชต้องมีเหตุผลด้วยสิ”

ซิกฟรีดไม่ได้ห้าม เขายอมให้โคลด์ปลดหน้ากาก รูปโฉมน่าเกลียดน่ากลัวปรากฏแก่สายตา ซึ่งคราวนี้โคลด์เห็นว่ามันลามไปถึงหูข้างซ้าย

ตอนนี้ซิกฟรีดได้ยินเสียงรอบด้านจากหูขวาแค่ข้างเดียว

ซึ่งแปลว่าความสามารถด้าน ‘การฟังเสียงสรรพสิ่ง’ อย่างควาร์ก็ลดลงไปอีก

ราชาหนุ่มไม่คิดว่าโคลด์อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด ดวงตาสีส้มเงินหรี่แคบลง

“...แค่ดาร์กเอลฟ์ตนเดียว เจ้ายังชิงมาไม่ได้”

โคลด์ยิ้มค้าง “ด่ามันกลับไป ชิงมาก็ไม่ได้ เจ้าอยู่กับมันมาสิบปีโดยไม่ต้องแย่งกับใคร เจ้ายังไม่เคยได้” เขาพริ้มตา “เพราะนิสัยเจ้า...ห่วย”

“คราวนี้มันเห็นด้วยกับเจ้านะ” ซิกฟรีดเอ่ย “มันว่า ‘ใช่...อาเลธ เจ้าห่วย เจ้าอ่อนแอ รอวันเน่าตายเถิดราชาไร้ความสามารถ’ ”

“เจ้าไม่อ่อนแอ เจ้าเหวี่ยงดาบฟันข้ากระเด็นได้” โคลด์ยืดตัวขึ้นไปดมใบหน้าข้างที่เหมือนอสุรกาย จมูกแตะแก้มอีกฝ่าย “แล้วเจ้าก็ไม่เหม็นเน่าด้วย” คิ้วสีเงินเลิกขึ้นอย่างกวนอารมณ์

“มันย้ำ ได้ยินไหม อาเลธ มันย้ำให้เจ้าฟัง หยามหน้าเจ้า” พอได้ระบายเสียงน่ารังเกียจออกมาบ้าง ซิกฟรีดก็รู้สึกเบาขึ้นอย่างน่าประหลาด

เขากำลังเรียนรู้ ‘การแบ่งปัน’ ซึ่งไม่ใช่การแบ่งปันสิ่งของนอกกาย แต่เป็นการแบ่งปันความรู้สึก หากพูดให้ตรง มันคือ ‘การแบ่งเบาความทุกข์’

โคลด์ช่วยเขา ไม่ว่าอีกฝ่ายจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

“เพ้อเจ้อ อย่าไปฟังมัน ฟังข้านี่ ข้าไม่ได้หยาม ข้าพูดความจริง ข้าชมว่าใบหน้าของเจ้าหอมอยู่”

ซิกฟรีดถึงกับแหงนหน้าหัวเราะ

“ไหนดูซิ” โคลด์ไม่ได้คิดว่าเขาอาจเข้าใกล้เกินไปตอนที่กอบใบหน้าของซิกฟรีดให้มองหน้ากันดีๆ ดวงตาสีม่วงไม่มีแววรังเกียจความพิกลพิการของใบหน้าซีกซ้ายแม้แต่น้อย “สีหน้าของเจ้าดูดีขึ้นแล้ว แสดงว่าเจ้าเชื่อข้ามากกว่าเชื่อมัน ดูสิว่าคราวนี้มันจะว่ายังไงอีก”

“อา…” สีหน้าที่เพิ่งดูดีอย่างที่โคลด์บอกเปลี่ยนเป็นหนักใจ “ข้าจะพูดอะไรก็ได้ แต่ถ้าข้าพูดความจริงคงไม่น่าฟังนัก”

“ข้าอยากฟัง นานๆ เราจะพูดกันดีๆ”

ซิกฟรีดรอจนโคลด์ย้ำอีกครั้ง เขาจึงเอ่ยปาก

“เจ้าอยากเอามันก็เอาสิ คิดว่าตัวเองสูงส่งนักรึ คิดว่าให้มันสมรักแล้วทุกอย่างจะดีงั้นรึ เจ้าต้านทานข้าได้หรือ อาเลธ ข้าเห็นความต้องการแท้จริงของเจ้า”

โคลด์ยิ้ม...ค้าง...อีกรอบ

“อื้อหือ ตรงยิ่งกว่าดาร์กเอลฟ์บางคนอีก” เขาใช้สองมือบีบแก้มซิกฟรีด “ในหัวคำสาปของพี่ชายเจ้ามีแต่เรื่องพรรค์นั้นหรือ ถึงคิดแต่เรื่องเอาไม่เอา”

“หัวมันก็หัวข้ากระมัง” ซิกฟรีดไหวไหล่ เป็นกิริยาแบบที่เหล่าขุนนางจะไม่ได้เห็นแน่

“ป่านนี้แล้ว เจ้าต้องยอมรับได้แล้วว่าตัวเองขี้เอา” โคลด์ปรายตา

ซิกฟรีดดุโคลด์ทางสายตา ‘เอลฟ์หน้าบาง’ ดาร์กเอลฟ์ชอบพูดกันอย่างนั้น

“ทำไม ยอมรับความจริงบ้าง หัวหล่อๆ ของเจ้าจะหนักบ่าขึ้นมาหรือไง” โคลด์หัวเราะ ลดมือลง

ซิกฟรีดลองหยิกแก้มโคลด์ เขาดึงคล้ายลงโทษเด็ก

“อือ” ดาร์กเอลฟ์หยีตาข้างที่แก้มโดนหยิก “เจ็บ ทำอะไร”

“เจ้าเคยหยิกแก้มข้าแบบนี้ตอนเด็กๆ ข้าเอาคืน”

“ก็เจ้าน่าหมั่นไส้” โคลด์พยายามเบือนหน้าออก แต่ไม่พ้นมือใหญ่เสียที “สรุปว่า เสียงในหัวเจ้าหาอะไรมาเถียงข้าไม่ได้แล้ว เจ้าถึงหยิกข้า”

“โอ...มันไม่เคยเงียบ ข้าบอกเจ้าแล้ว” ซิกฟรีดละมือ ก่อนจะลูบรอยหยิกเบาๆ

“บางที เจ้าอาจไม่เคยสั่งให้มันหุบปากอย่างจริงจัง แบบคนที่เหนือกว่า คนที่เอาชนะใจตัวเองได้” โคลด์เอ่ยด้วยสีหน้าต่างจากปกติ ไม่ใช่ทาสดาร์กเอลฟ์โคลด์ สตาร์ แต่เป็นฮีมเดียร์ เซฮาไนน์ แห่งเผ่าจันทร์

“ข้าจะลองดู” ราชาหนุ่มรับฟัง “ขอบใจ”

“เล็กน้อยเท่านั้น...ข้าพูดแบบนี้ มันพูดอะไรอีก”

ซิกฟรีดยิ้มน้อยๆ สีหน้าค่อนข้างอ่อนโยน

“มันบอกว่า ‘ไปพักผ่อนเถิด พรุ่งนี้ออกเดินทางแต่เช้ามืด’ ” เขาไล้แก้มโคลด์เบาๆ “และเชื่อใจราชาไร้ความสามารถสักนิดเถิด มันอยากช่วยเจ้า”

ความจริงแล้วปีศาจพูดต่างจากที่ซิกฟรีดเอ่ยลิบลับ ทว่าเขาเลือกที่จะโกหก

เพราะโคลด์ยิ้มอยู่

 

“เราไม่ได้พูดกันดีๆ เลย ข้าเลยคิดว่าเราควรพูดกันดีๆ บ้าง”


 

ซิกฟรีดบีบไหล่โคลด์เบาๆ “เป็นบทสนทนาที่ดี ถ้าเจ้าไม่ว่าอะไร ข้าเริ่มหิวแล้ว ถ้าได้อาหารอัดเม็ดเป็นมื้อค่ำก็ไม่เลว”

“ไม่ละ ในกระเป๋าคาดเอวของเจ้าคงมีของอร่อยกว่าของข้า” โคลด์รัดหน้ากากหนังคืนที่เดิมให้ซิกฟรีด

ราชาเอลฟ์จูบมือดาร์กเอลฟ์ที่กำลังสวมหน้ากากหนังให้

เขาตัดสินใจได้แล้วว่าควรทำอย่างไร

โคลด์ไม่ค้านตอนริมฝีปากหยักงามเหมือนคันศรของบิดาแห่งสงครามแตะถูกมือ เพราะเขารู้สึกได้ว่าเสียงในหัวสร้างความทรมานให้ซิกฟรีดมากพออยู่แล้ว

“ข้ามีเรื่องอยากถาม”

ซิกฟรีดพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต

“ที่เจ้าเคยบอกว่า เอริแอดเน่เคยแสดงบางอย่างให้เจ้าดู ‘บางอย่างที่สามารถทำลายความภูมิใจของสตรีได้ สิ่งที่หากตายคงสบายกว่าแบกรับ’ บางอย่างที่ว่านั้นคืออะไร”

“ถึงเจ้าทราบ มันก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร โคลด์ สตาร์” ซิกฟรีดปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องนี้

“เปลี่ยนสิ” โคลด์ตอบนิ่งๆ “ข้าต้องการรู้ทุกอย่างของศัตรู ไม่ว่ามันจะมากน้อย สำคัญแค่ไหนหรือไม่ อย่างไร เจ้าตัดสินใจเลือกข้างข้าแล้ว อย่าบอกว่าไม่ใช่ ถ้าเจ้าไม่เลือกข้างข้า นางคงไม่ล้ำเส้นขนาดนี้ เพราะฉะนั้นเจ้าติดค้างความจริงกับข้า อะไรที่ทำให้นางทำตัวไม่สมเป็นท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ ทำไมคู่หมั้นของพระราชาลงมือลักพาตัวดวอร์ฟตัวเล็กๆ คนเดียวเพื่อลากตัวทาสดาร์กเอลฟ์ไปหานาง”

“เพราะข้าเลือกเจ้าที่เป็น ‘ดาร์กเอลฟ์’ ” แววตาของซิกฟรีดไหวเล็กน้อย แทบไม่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง “ถ้าเจ้าจำเป็นต้องทราบ ข้าจะเล่าให้ฟังเท่าที่เล่าได้”

และแล้วซิกฟรีดก็เอ่ยปากถึงคืนงานฉลองสีเลือด

คืนเดียวกับที่เจ้าชายริวอร์นอร์สังหารคิงเฟรธูรินผู้เป็นพี่ชาย

ในคืนนั้นเอง...ผิวขาวเนียนละเอียดอันไร้มลทินของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ถูกกรีดเป็นรอยแผลฉกรรจ์ มันกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความอัปยศและความเกลียดชังต่อดาร์กเอลฟ์ที่จะไม่มีวันลบเลือน

โคลด์รับฟังอย่างสงบนิ่งโดยไม่ขัดสักประโยคหนึ่ง เหมือนเมื่อครั้งที่ซิกฟรีดได้ฟังเรื่องความต้องการไปตามหาเกวนโดลินของเขา

เมื่อฟังจบ ดาร์กเอลฟ์ไม่พูดอะไร เขานิ่งอยู่สักพัก และขอตัวออกไป

ยามได้อยู่ตามลำพัง ซิกฟรีดเอ่ยภาษาควาร์ถึงมารดานที

“หากท่านได้ยินเสียงข้า...มารดาแห่งนที

ขอให้แผนการของข้าสำเร็จ

โดยไม่มีโลหิตของผู้ใดตกต้องแผ่นดิน”


—————————————————————————

A/N เรื่องใกล้จะถึงบทสรุปของภาค 1 แล้วค่ะ ตอนต่อไปจะเป็นตอนสุดท้าย หรือเกือบสุดท้ายที่มีความยาวพอสมควร และเรายังเขียนไม่เสร็จ (จริงๆ จนถึงตอนที่ค้างไว้ เรากับคุณ FOULSOUL เขียนทิ้งไว้ราว 3 เดือนแล้วค่ะ แต่เราทั้งคู่ต้องเขียนหนังสือเล่มอื่นด้วย จึงพักไว้) เพราะฉะนั้นในตอนถัดไป เราจะพิจารณาทยอยลง อาจเป็นลงต่อเนื่องจนถึงจุดที่ยังไม่สรุปแล้วเว้นไว้ จนเขียนจบมาลงอีกที หรือลงวันเว้นวัน


นักอ่านสามารถออกความเห็นได้ว่าอยากอ่านแบบไหนนะคะ

1. ลงจนถึงจุดที่มี แล้วค้างไว้ มาลงอีกทีหลังเขียนจบ

2. ลงวันเว้นวัน


ป.ล. เรื่องนี้มีทั้งหมด 3 ภาค กำหนดการเขียนจบภาค 1 คือในวันที่ 15-20 เมษายน 60

เมื่อจบแล้วมีกำหนดการทำงานชิ้นต่อไปดังนี้

เขียน+รีไรท์ Of Demon & Angle (Y) < คู่อิกเนเชียส x ฟรานซิส เป็นเล่มในซีรีส์เดียวกับ Of vivid Creatures

เขียน+รีไรท์ Elven Almanac ภาค Ugly Queen (Normal)

เขียน+รีไรท์ Limbo Love Letter ภาค 2 (Y)

เขียน+รีไรท์ Elven Almanac ภาคจบ (ยังไม่ตั้งชื่อ)

ทั้งหมดเป็นหนังสือทำมือ แต่เรายังมีงานส่งสำนักพิมพ์ที่ต้องเขียนอีก 2 เล่ม คือ Key of Solomon เล่ม 5-6

และงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่แนว Y เรียกว่าตารางแน่นค่ะ หากเรื่องไหนออกช้าไปบ้าง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้


ข่าวดี :) สำหรับคนที่ถามเรื่องรวมเล่ม Elven Almanac เราตัดสินใจไม่ส่งสนพ.

(อย่างที่บอกว่าแนวแฟนตาซีในบ้านเราตอนนี้เงียบเหงาซบเซา

เรื่องนี้ทั้งวายและแฟนตาซี แบบเฉพาะทางมากๆ คงไม่มีสนพ. ไหนรับไปพิมพ์ค่ะ)

เราจะทำเรื่องนี้เป็นหนังสือทำมือ โดยได้มีการเจรจาจ้างวาดปกและติดต่อบรรณาธิการไว้แล้ว

นักวาดปก+ภาพประกอบเป็นที่แน่นอนแล้วว่าคือคุณ Enfer De Hell ซึ่งเป็นนักวาดที่เชี่ยวชาญด้านภาพแฟนตาซี

และเป็นนักวาดที่มีความรับผิดชอบต่องานสูงมากๆ ค่ะ เธอรับปากแล้วว่าจะวาดจนจบครบ 3 ภาค

เราจองคิวไว้ถึงปีหน้าเลยค่ะ (เพจนักวาด: https://www.facebook.com/shadenea/ (https://www.facebook.com/shadenea/))


กำหนดการขาย : ยังไม่มีค่ะ แต่เมื่อลงจนจบภาค จะมีแบบฟอร์มให้ลงชื่อ+อีเมลไว้ว่าต้องการหนังสือ

เมื่อจะเปิดจองก็จะส่งอีเมลไปหาท่านที่ลงชื่อไว้ ท่านจะได้ไม่พลาดค่ะ


อยากให้มาซื้อไหม : ก็อยากนะคะ เพราะตัดสินใจทำขายแล้วย่อมมีต้นทุน และค่าจ้างนักวาดปกราคาไม่เบาเลย (แต่ก็การันตีด้วยฝีมือของน้องเขา) ถ้าไม่มีคนซื้อจะเอาเงินที่ไหนไปจ้างน้องเขาล่ะ แง!


จะมีการรีไรท์และพิสูจน์อักษรไหม : มีแน่นอนค่ะ เราเขียนหนังสือและทำหนังสือทำมืออยู่แล้ว ชอบงานที่ตั้งใจทำสุดความสามารถ และไม่ชอบคำผิดเช่นกันค่ะ U_U


รวมเล่มเหมือนที่ลงในเว็บหรือไม่: จะมีการรีไรท์เพิ่มเติมหรือตัดทอนเพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหา และมีตอนพิเศษแน่นอนค่ะ (ตอนพิเศษที่แพลนไว้คือ ซิกฟรีดxโคลด์ สมัยอยู่อาศรม / มาลแกธและโคลด์ สมัยอยู่อาศรม / เกวนโดลินและเอเลียต / กอห์นดีเอนxแมดส์ / ทาราเธียลxมอร์นเพน / และอื่นๆ เช่นภูมิหลังของตัวละครบางคน อย่าง มาลแกธสมัยอยู่แดนตะวันออก / เกวนโดลินและโคลด์สมัยอยู่กับจอมทัพทมิฬ / อิลมาเรสมัยยังเป็นแม่ค้าฉายเดี่ยวหรือช่วงเจอกับโคลด์ใหม่ๆ คอยติดตามข่าวได้ค่ะ)


จำนวนเล่มของภาค 1 : 2 เล่มค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (5) [06/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-04-2017 15:47:11
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (5) [06/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-04-2017 16:01:30
สุขใจ ได้อ่าน  :mew1: :mew1: :mew1:
เหมือนซิก กับโคลด์ เข้าใกล้กันมากกว่าเดิม
จริงๆ ซิกเป็นราชาที่รักสันติ
ไม่อยากเห็นเลือดฝ่ายใดตกต้องแผ่นดิน
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (5) [06/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-04-2017 18:00:47
จะลงให้อ่านทักภาคช่ายม๊า ^^!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (5) [06/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 06-04-2017 21:03:01
ติดตามและสนับสนุนผลงานดีๆค่ะ

ใจนึงก็อยากให้ต่อให้จบไปทีเดียวเลยแต่อีกใจก็กลัวเหงา
เลือกม่ะถูก

รักซิกฟรีดทูลหัวของเก๊านางเป็นคนที่ปรารถนาดีต่อผู้อื่น รู้จักควบคุมตนเอง และแบกรับสิ่งที่น้อยคนจะทำได้
นี่คือสมบัติของราชา อ่อนแอบาง โดดเดี่ยวบาง แต่ยังคงเชียร์ต่อไป//อวยนางตลอด
หวังว่าหนูโคลดจะเป็นกำลังใจให้นะ :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (5) [06/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 06-04-2017 22:27:56
อาเลธเอ๋ย ขอให้เจ้าแข็งแกร่ง สุขุม เอาชนะใจตนเพื่อเอาชนะคำสาปได้ พร้อมทั้งทำได้ดังหวัง

ฉันคาดว่า อาเลธหวังจะเปลี่ยนให้เป็นดินแดนที่ปรองดอง ทุกเผ่าพันธุ์มีเสรีและสงบสุข เฉกเดียวกับที่เฟรธูรินหวัง
เพื่อให้ได้มอบอิสระของโลกทั้งใบให้กับรักเดียวที่อาจจะไม่มีวันได้กลับมา

หากแต่เจ้ายังเยาว์นักกลับต้องมาต่อกรกับความปั่นป่วนที่สะสมมาเนิ่นนาน
และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรอบตัวก็มากทั้งประสบการณ์และอิทธิพล

ขอให้มารดานทีอำนวยพรดั่งที่เจ้าขอ



ปล. ลงวันเว้นวัน หรือเว้นหลาย ๆ วันก็ได้ค่ะ แต่อย่าทิ้งนานเลย
เดี๋ยวผู้โดยสารเรือราชาที่อดมื้อกินมื้อรอจะขาดใจไปเสียก่อน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 19 : (5) [06/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-04-2017 19:50:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (1) [08/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 08-04-2017 20:30:31
บทที่ 20 : แตกหัก (1)

รุ่งสาง นกส่งสารกลับมาหาซิกฟรีดพร้อมรายงานสถานการณ์ในเอวา เธมาร์จากอิลราลาน ราชองครักษ์เขียนในสารว่ายังไม่มีอะไรน่ากังวล รวมถึงการลักพาตัวดาร์กเอลฟ์เริ่มผ่อนลง มาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราสินค้าเข้าออกชายแดนได้ผลดี

ก่อนออกเดินทางซิกฟรีดจึงเขียนสารอีกฉบับ ส่งถึงเอริแอดเน่--ผู้เป็นพี่หญิงที่เขารัก และจะเป็นตลอดไป

 

ถึงพี่หญิงเอริแอดเน่,

 

ข้าส่งสารฉบับนี้ในนามของอาเลธ ผู้เป็นน้องชายของท่าน ไม่ใช่ในนามของราชาซิกฟรีดแห่งรูเมเรียร์ผู้ไร้หัวใจ

อาเลธผู้นี้ได้ทำร้ายพี่หญิงไปเสียแล้ว ด้วยความเขลา ด้วยความไม่ยั้งคิด เป็นเหตุให้พี่หญิงไม่สบายใจจนออกจากเอวา เธมาร์

ข้าสำนึกในความผิดของตน และบังอาจขอความเมตตาจากพี่หญิง ขอพี่หญิงโปรดประทานอิสระแก่ดวอร์ฟ โดยไม่ว่าพี่หญิงประสงค์สิ่งใด ข้าจะหามาให้ทุกประการ

จดหมายนี้ไม่ได้เขียนเพื่อแสดงความอหังการ แต่ยอมจำนน เนื่องเพราะน้องชายไม่อาจเสียพี่หญิงไป หากพี่หญิงตอบรับเจรจา ข้าจะไปรับนกส่งสารสีน้ำเงินตัวนี้ด้วยตัวเอง

 

รักและเคารพ,

อาเลธ


 

หลังปล่อยนกให้โผบินขึ้นฟ้า ซิกฟรีดเรียกประชุม ทวนแผนการและหน้าที่ของแต่ละคนอีกครั้ง

“เดเนธอร์ส่งเฟียตกลับมาแล้ว” มาลแกธรายงาน “ท่านหญิงอยู่ในป้อมปราการ...ที่นี่” เขาเคาะนิ้วบนแผนที่ “ขอให้ความเห็นในฐานะเพื่อน ข้าคิดว่ามันน่าสนใจที่ท่านหญิงเลือกป้อมปราการนั่น”

“อย่างไร” ซิกฟรีดรับฟังมาลแกธพอๆ กับเอริแอดเน่

“ประวัติศาสตร์จารึกไว้ ราชา…” มาลแกธยิ้มมุมปาก “ป้อมปราการที่นิ้วข้าชี้อยู่เป็นป้อมปราการของ ‘เมืองโรสมินาส’ ”

 

เมืองโรสมินาสหรือ ‘เมืองแห่งฝน’ ตั้งอยู่ระหว่างทางจากเอวา เธมาร์ไปยังอิซิลดาร์ บริเวณทิศตะวันตกของรูเมเรียร์

เมื่อประมาณสองร้อยปีก่อน หลังจบศึกกับเผ่าทมิฬ ท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ได้พาเจ้าชายริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์ซึ่งเจ็บหนักจากการสงคราม มาพักฟื้นยังป้อมปราการในเมืองเล็กๆ ก่อนเข้าเอวา เธมาร์ อันที่จริงแล้วนางประสงค์ให้เจ้าชายถึงมือแพทย์หลวงโดยเร็วที่สุด แต่อาการของริวอร์นอร์กลับทรุดเพราะพิษทมิฬที่ยังคั่งค้างอยู่ในกระแสเลือด

ยิ่งในคืนที่เทพีจันทร์ส่องแสงกล้า อาการของเจ้าชายริวอร์นอร์ยิ่งทรุดลงทุกขณะ จนทหารบางนายเริ่มร่ำไห้ เว้นเพียงท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ซึ่งไม่ยอมพ่ายให้แก่บิดาแห่งความตาย

ในคืนเดียวกันนั้นเอง นางแต่งกายอย่างนักเวทชั้นสูง เป็นอาภรณ์แบบเดียวกับที่สวมใส่ระหว่างขับเคี่ยวกับกองทัพทมิฬ ผ้าคลุมยาวสีฟ้าอ่อนส่องประกายระยับท่ามกลางแสงจันทร์ ราวกับถักทอด้วยเกศาของมารดานที

ใครสักคนถึงกับเพ้อว่านางคือธิดาจันทร์แสนงามผู้ซึ่งพำนักอยู่ในสายน้ำ

ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์เปล่งเสียงร่ายเวท อ่อนหวานทว่าทรงอำนาจ จากนั้นภาพอันน่าอัศจรรย์ก็ปรากฏแก่สายตา เมื่อน้ำจากธรณีทุกหยาดหยดถูกฉุดขึ้นฟ้า แม้หยาดน้ำตาบนผิวแก้มก็ถูกดึงหายลับเข้าไปในกลุ่มเมฆครึ้ม

ไม่นาน...บิดาแห่งนภาก็เปล่งพระสุรเสียงคล้ายตอบรับธิดาของพระองค์ น้ำกลับคืนธรณีอีกครั้งในรูปของฝนสะอาดใส รสฉ่ำสดชื่น เสียงกบร้องระงม เช่นเดียวกับเสียงจิ้งหรีดที่กรีดปีกดีใจตั้งแต่ฝนยังไม่ซา

ท่านหญิงเอริแอดเน่รองน้ำฝนด้วยขวดแก้วเจียระไน ก่อนนำไปชำระเวททมิฬให้เจ้าชายริวอร์นอร์ ไม่มีใครทราบวิธีการ...ท่านหญิงเอริแอดเน่รับสั่งห้ามใครเข้าไประหว่างรักษา นางเก็บตัวอยู่ในห้องกับเจ้าชายแห่งรูเมเรียร์ตลอดระยะเวลาที่ฝนโปรย

นั่นหมายถึงเจ็ดวันเต็ม

ต่อมา แม้ท่านหญิงเอริแอดเน่และเจ้าชายริวอร์นอร์จะออกจากเมืองไปแล้ว แต่ความอุดมสมบูรณ์ยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเพาะปลูกอะไรก็เติบโต ทั้งยังให้ผลผลิตมากกว่าผืนดินอื่นถึงสองเท่า ผู้คนจึงหลั่งไหลเข้ามาตั้งรกรากในเมืองแห่งนี้มากขึ้น และตั้งชื่อให้เมืองเสียใหม่

‘เมืองโรสมินาส’

 

“แต่ถัดจากนั้นอีกไม่นาน ระบุชัดๆ คือหลังจากคิงเฟรธูรินสิ้นพระชนม์ ฝนที่เคยใสก็กลายเป็นฝนเลือด จะปลูกอะไรก็ไม่ขึ้นอีกเลย แม้แต่วัชพืชยังขี้เกียจมีชีวิต”

มาลแกธยิ้มด้วยตา

“ก็จริงอยู่...ท่านหญิงเลือกป้อมปราการแห่งนี้เพราะรู้จักทางหนีทีไล่ดี แต่ใช่ว่าป้อมอื่นจะไม่มี นางเป็นจอมเวทสงคราม ช่วงนั้นคงสำรวจมาทุกป้อมแล้วกระมัง”

“เจ้ากำลังจะบอกว่าพี่หญิงตั้งใจเลือกป้อมปราการแห่งนี้เพราะ…?” ซิกฟรีดตามไม่ทัน เขาเข้าใจเรื่องเล่า แต่ไม่เข้าใจว่าทั้งหมดมีประโยชน์กับแผนการอย่างไร

“ท่านหญิงอาจไม่ได้ ‘ตั้งใจเลือก’ แต่ ‘ใช้อารมณ์เลือก’ ” มาลแกธค่อยๆ อธิบาย “นางเป็นสตรีที่น่าชื่นชม มีปัญญา มีความสามารถ มีเหตุผล แต่อย่างไรนางก็ยังมีหัวใจ”

คำพูดของมาลแกธทำให้ซิกฟรีดเสียวแปลบด้วยความรู้สึกผิด

“ข้าไม่ทราบว่าระหว่างท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์และคิงริวอร์นอร์แห่งรูเมเรียร์มีความสัมพันธ์กัน ‘อย่างไร’ ...อย่ามองข้าอย่างนั้น ข่าวลือรักๆ ใคร่ๆ ก็ไม่ได้ไร้มูลเหตุไปเสียหมด”

ซิกฟรีดพยักพเยิดให้มาลแกธว่าต่อได้ ถึงแม้จะไม่พอใจนักที่อีกฝ่ายกล่าวพาดพิงพี่หญิงในเรื่องที่ไม่งาม

“ข้าจะสรุปง่ายๆ หากเรื่องเล่าในประวัติศาสตร์เป็นจริง และหากข่าวลือใต้ดินเชื่อถือได้ ป้อมปราการที่เรากำลังจะบุกก็เปรียบเสมือนอนุสรณ์แห่งความรักและชัง ท่านหญิงกับคิงริวอร์นอร์มีความสัมพันธ์บางอย่างที่ลึกซึ้ง ยามดีกัน นางร่ายเวทขอให้มารดานทีเมตตา ยามชังกัน นางร่ายเวทขอให้มารดานทีสาปส่ง…”

ความเห็นของมาลแกธใช่ว่าจะฟังไม่ขึ้นเสียทีเดียว เอลฟ์ตะวันออกอ่านสีหน้าและแววตาของราชาหนุ่มแล้วเอ่ยว่า

“หากสิ่งที่ข้าคิดถูกต้องละก็...ซิกฟรีด” มาลแกธบีบไหล่ราชาเอลฟ์ “ท่านหญิงเลือกป้อมปราการนี้เพื่อย้ำเตือน ‘ความชัง’ ย้ำเตือนว่านางพังทลายเพราะรักเป็นครั้งที่สองแล้ว”

โคลด์ที่ร่วมฟังอยู่ด้วยยืนเงียบๆ อย่างครุ่นคิด

“ข้าเข้าใจเจตนาที่ดีของเจ้า ราชาหนุ่ม และข้าชื่นชมมัน แต่ถึงเวลาแล้วที่เจ้าต้องเรียนรู้ว่าโลกนี้มีจุดแตกหักมากมาย ซึ่งเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้เลือกทุกทาง”

-----------------------------------------------

เอริแอดเน่อ่านสารของซิกฟรีด สีหน้าไม่ยินดียินร้าย แต่ในใจกำลังทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตของตนอย่างละเอียด

นางคาดหวังอะไร ต้องการสิ่งใดหรือ

คำตอบไม่ยากเลย นางต้องการเป็น ‘ราชินี’

นางเกิดมาเพื่อตำแหน่งนี้ นางมีอำนาจ ปัญญา ได้รับความรักล้นเหลือจากเหล่าบิดามารดา นางสละได้ทุกอย่างแลกกับการก้าวไปข้างหน้า

‘ทุกสิ่งทุกอย่าง’ จริงๆ ที่พานางมาถึงจุดนี้

และตอนนี้ นางมีราชาที่แสนเชื่อฟังคนหนึ่งอยู่ในกำมือ เขาเชื่อฟังนางทุกอย่างในฐานะราชา เขาจะเป็นราชาที่ดี และพาให้รูเมเรียร์กับอิซิลดาร์มุ่งไปสู่อนาคตอันแกร่งกล้า เตรียมรับศึกที่จะมาจากจอมทัพทมิฬผู้กระหายเลือด ควันไฟ และสงคราม

ไม่มีอะไรไม่ดีในข้อเสนอของซิกฟรีด

นางยังได้เป็นราชินี…

จริงหรือ? ไม่มีอะไรไม่ดี จริงหรือ?

เสียงกระซิบแห่งความหยิ่งยโสในใจนางดังค้าน

จริงหรือ จริงหรือ จริงหรือ?

เขาให้เจ้าเป็นราชินี แต่เขารักดาร์กเอลฟ์

“เขารักดาร์กเอลฟ์ก็ไม่เป็นไร...ข้าสละทุกอย่างเพื่อเป็นราชินี ข้าเคยสละมามากกว่านี้” เอริแอดเน่รำพึง ทว่าไม่มีใครได้ยินเสียงรำพึงนั้น นอกจากมโนสำนึกของนางเอง

แต่มันก็ยังเฝ้าถามคำถามเดิม

จริงหรือ จริงหรือ จริงหรือ?

เช่นนั้นแล้วทำไมไม่เป็นราชินีของริวอร์นอร์เล่า


คำตอบนั้นมี อัดอั้นอยู่ในทรวงอก มันอยู่ตรงนั้นมานาน ตั้งแต่วันที่ริวอร์นอร์ทรยศความไว้ใจของนาง มันแผดเผาใจนางดุจไฟนรกที่ไม่เคยดับ และคงไม่มีวันดับแม้เจ้าคนชั่วช้าคนนั้นจะตายโหงไปแล้วก็ตาม

-----------------------------------------------

เอริแอดเน่ส่งสารนัดหมายว่านางจะรออยู่ในป้อมปราการร้าง โดยราชาหนุ่มต้องมาเพียงคนเดียว

“ข้าจะเข้าไปลำพัง เจ้ารออยู่ที่นี่กับมาลแกธ” ซิกฟรีดเอ่ยกับโคลด์

ณ ลานในป้อมปราการหิน ราชาเอลฟ์ก้าวเข้ามาโดยไม่มีใครขัดขวาง ไม่มีวี่แววขององครักษ์หญิง มุมลานทั้งสี่เคยเป็นบ่อน้ำพุ มีน้ำพุใสเย็นพวยพุ่งให้ทหารใช้ดื่มดับกระหายหลังฝึกซ้อม แต่บัดนี้ไม่มีน้ำเหลืออยู่ในบ่อเลยสักหยด มีแค่คราบแห้งกรังสีแดงเกือบดำติดก้นบ่อ

เอริแอดเน่เดินมาบนกำแพงป้อมเมื่อซิกฟรีดหยุดยืนกลางลาน นางปล่อยนกส่งสารสีน้ำเงินคืนเจ้าของ บังคับให้ซิกฟรีดต้องเงยหน้ามองนาง

ซิกฟรีดยกมือให้มันเกาะ นกน้อยไซ้ขน ส่งเสียงร้องทักทาย

“พี่หญิง” ราชาหนุ่มผายมือแล้วน้อมศีรษะ ก่อนจะเงยหน้ามองนางอีกครั้ง “อาเลธอยู่ที่นี่แล้ว”

“ราชามาตามลำพังอันตรายนะ ดาบของเจ้าไปไหนเสียล่ะ” เอริแอดเน่กล่าวเรียบเรื่อย สองมือประสานบนหน้าท้อง นางสวมชุดสีฟ้าอ่อน ทำให้นึกถึงเรื่องที่มาลแกธเล่าก่อนหน้านี้

“ในการเจรจาไม่ควรพกอาวุธ พี่หญิงเคยให้คำสอนไว้ขอรับ”

“งั้นหรือ แล้วเจ้ามาเจรจาอะไรเล่า”

การเจรจาที่ให้อีกฝ่ายยืนเหนือกว่ามีความหมายว่าซิกฟรีดยอมจำนน เขาหลุบตาลง ซ่อนแววตาเด็ดขาดไว้ใต้แพขนตาสีทอง

เอริแอดเน่ให้เขาเอ่ยเรื่องที่เขียนมาในสาร เหมือนว่าแค่ข้อความนั้นไม่เพียงพอ นางต้องการให้เขาพูดออกมาจากปากด้วยตัวเอง

“ข้าสำนึกในความผิดของตน และบังอาจขอความเมตตาจากพี่หญิง ขอพี่หญิงโปรดประทานอิสระแก่ดวอร์ฟ โดยไม่ว่าพี่หญิงประสงค์สิ่งใด ข้าจะหามาให้ทุกประการ”

ซิกฟรีดจำข้อความในจดหมายได้ทุกตัวอักษร

“โปรดเมตตาเถิด พี่หญิง”

“ข้าคงต้องสอนเจ้าอีกหลายอย่าง” เอริแอดเน่วาดนิ้ว องครักษ์ผมสีดำของนางนำตัวดวอร์ฟออกมา

อิลมาเรยังอยู่ครบสามสิบสอง แต่ถูกมัดมือ มัดเท้า มัดปาก เธอส่งเสียงอู้อี้ มองหาโคลด์ แต่ถูกซอนย่ารั้งผ้าปิดปากให้เงียบ

“ข้าต้องสอน ซิกฟรีด” เอริแอดเน่ย้ำ “ว่าจงอย่าเสนอในสิ่งที่เจ้าให้ไม่ได้ มันน่าสมเพช” การพูดจาของนางเปลี่ยนไป นางมองซิกฟรีดด้วยสายตาชืดชาเหมือนครั้งที่หมางเมินต่อริวอร์นอร์

“ขออภัยขอรับ” ซิกฟรีดน้อมศีรษะลงอีก

“แต่ข้าจะเล่นตามเกมของเจ้าก็ได้” เอริแอดเน่เปลี่ยนสีหน้ามาอ่อนโยน ยกหลังนิ้วแตะปากด้วยกิริยาน่ารักอ่อนหวาน “เจ้าสำนึกผิดแล้ว จะมอบสิ่งที่ข้าประสงค์ให้ เช่นนั้นเอาเป็นหัวของดาร์กเอลฟ์เป็นอย่างไร”

นางเอานิ้วลง เอ่ยต่อโดยไม่ให้ซิกฟรีดแทรก

“แต่แบบนั้นเจ้าคงทำไม่ได้ ในเมื่อเจ้ารักเขาหมดใจ งั้นเอาเป็นตัดแขนขาของเขาออกไหม ส่งชิ้นส่วนไปแดนทมิฬทีละส่วน ข้าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่านายพลทมิฬเบเลธจะสนใจชิ้นส่วนร่างกายที่ส่งไปหรือไม่”

สิ่งที่เอริแอดเน่เอ่ย...น่าหวาดผวาอย่างที่ซิกฟรีดไม่เคยได้ยินจากปากนางมาก่อน

ราชาหนุ่มหลับตา

ณ ใจกลางพายุแห่งความขึ้งเครียด ซิกฟรีดกลับสงบนิ่งเช่นภูผา ยามตัดสินใจเด็ดขาดในเรื่องใดแล้ว ราชาหนุ่มจะไม่โอนอ่อน

หากภูผาโอนอ่อน จะเหลือสิ่งใดนอกจากพังทลายเป็นฝุ่นทรายเล่า…

อาเลธ


เสียงหนึ่งสะท้อนขึ้น นุ่มนวลทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าเสียงของปีศาจ

เสียงนั้นคล้ายพระสุรเสียงของคิงเฟรธูริน ช่างนิ่ง...ช่างสงบ

ช่างกล้าแกร่งยิ่งกว่าคมดาบ

ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์เงยหน้าขึ้นช้าๆ และเมื่อได้สบตากันอีกครั้ง เอริแอดเน่ได้เห็นนัยน์ตาสีส้มโชนแสง วงแหวนสีเงินคล้ายหมุนช้าๆ

“ตามที่พี่หญิงประสงค์ขอรับ”

“โป้ปด ข้าเป็นคนตีสองหน้ามาก่อนเจ้า” เอริแอดเน่กลับมาประสานมือบนหน้าท้อง รอยยิ้มหายไปทันควันราวกับนางแค่ถอดหน้ากาก “เจ้าตีสองหน้าเก่งกว่าข้าหรือริวอร์นอร์หรือ”

ซิกฟรีดตอบรับด้วยการยกมือวางทาบอก คล้ายแสดงความจริงใจ คล้ายย้ำว่ายอมจำนน

“ชิ้นส่วนของดาร์กเอลฟ์...อาเลธจะนำมาให้พี่หญิงเดี๋ยวนี้”

—————————————————————————

A/N ในที่สุด ซิกฟรีดก็ตัดสินใจแล้วค่ะ เชื่อว่าหลายคนจะเข้าใจเขา และหลายคนอาจไม่พอใจเขา ว่าทำไมเขาต้องยึดติดกับเอริแอดเน่ขนาดนี้ ถ้าให้พูดกันง่ายๆ เขารักเธอเหมือนพี่สาวและไม่อยากเสียเธอไป ถึงคนทั้งโลกจะเกลียดเธอ ซิกฟรีดก็ยังรักและเห็นเอริแอดเน่เป็นครอบครัวค่ะ


ในแง่นี้ เราไม่รู้จะโทษใคร โทษซิกฟรีดที่คิดทิ้งเอริแอดเน่แต่ยังอยากให้เธอรักและเข้าใจ โทษเอริแอดเน่ที่รับไม่ได้ที่ซิกฟรีดรักดาร์กเอลฟ์ ไม่รักเธอ หรือโทษทั้งสองคนที่เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่


อย่างไรก็ตาม ขอให้รอดูผลลัพธ์ของการเลือกครั้งนี้กันไปก่อน

นิยายที่เดาได้ว่าเรื่องจะจบยังไง ไม่ค่อยท้าทายสำหรับนักอ่านเท่าไหร่หรือเปล่าคะ?


อนึ่ง ไม่รู้ว่ามีคนสังเกตหรือเปล่า แต่เราว่าเอริแอดเน่ใกล้เสียสติแล้วค่ะ เป็นคนใกล้เสียสติที่ดูมีสติ แต่มีอะไร 'หลุด' ไปแล้วจริงๆ เพราะตามปกติ เธอไม่มีทางแสดงด้านมืดให้ซิกฟรีดเห็นขนาดนี้


กำหนดการลงนิยายหลังจากนี้จะเป็นแบบวันเว้นวันอย่างที่นักอ่านส่วนมากลงความเห็นไว้นะคะ อาจมีลงวันเว้น 2 วันบ้าง แต่จะแจ้งล่วงหน้าค่ะ ครั้งนี้ บทต่อไปจะลงวันที่ 10 เมษายน 60


ภาค 2 Ugly Queen เป็น Normal จะลงที่เว็บเด็กดี ReadaWrite และธัญวลัย เท่านั้น ตัวเอกคือเอริแอดเน่

ภาค 3 (ยังไม่ตั้งชื่อ) เป็น Y ผสม Normal (เน้น Y เหมือนภาค 1) ตัวเอกคือโคลด์ ลงทุกเว็บเหมือนเดิมค่ะ


ทุกภาคลงเนื้อเรื่องจนจบ แต่ไม่ลงตอนพิเศษ ซึ่งจะมีเฉพาะในฉบับรวมเล่ม

ทุกภาคอ่านฟรีได้เรื่อยๆ จนกว่าจะมีการรวมเล่มค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (1) [08/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 08-04-2017 21:37:20
สมกับเป็นพี่น้อง?กัน
อยากรู้แล้วว่าจะเป็ยยังไงต่อไป
อะไรหรือใครที่แอริแอดเน่รักและต้องการจริงๆกันแน่
นางดูโหยหาความรัก
เป็นตัวละครที่ไม่น่าเบื่อดีเพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ(ขนาดเธอเองยังสับสนตัวเองเลย เฮ้อๆ)
คนมันเข้าไป เมฆฝนตั้งเค้ารอแล้ว :katai5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (1) [08/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 08-04-2017 23:41:30
ทุกตัวละครในฝั่งเอลฟ์และโคลด์กับเกวนโดลินช่างน่าสงสาร

ดูเหมือนทุกอย่างที่พยายามคว้าไว้เป็นเพียงเม็ดทราย ถึงจะกำไว้แน่นแค่ไหนก็ร่วงหล่นจนแทบไม่เหลืออะไร
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (1) [08/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 09-04-2017 00:34:43
สมกับเป็นพี่น้อง?กัน
อยากรู้แล้วว่าจะเป็ยยังไงต่อไป
อะไรหรือใครที่แอริแอดเน่รักและต้องการจริงๆกันแน่
นางดูโหยหาความรัก
เป็นตัวละครที่ไม่น่าเบื่อดีเพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ(ขนาดเธอเองยังสับสนตัวเองเลย เฮ้อๆ)
คนมันเข้าไป เมฆฝนตั้งเค้ารอแล้ว :katai5:

อยากรู้ลึกๆ ต้องอ่านภาค 2 ค่ะ ;)
จุ๊บ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (1) [08/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 09-04-2017 00:36:26
ทุกตัวละครในฝั่งเอลฟ์และโคลด์กับเกวนโดลินช่างน่าสงสาร

ดูเหมือนทุกอย่างที่พยายามคว้าไว้เป็นเพียงเม็ดทราย ถึงจะกำไว้แน่นแค่ไหนก็ร่วงหล่นจนแทบไม่เหลืออะไร

ความพยายามย่อมได้รับการตอบแทนค่ะ ไม่มีสิ่งใดที่พยายามไปแล้วเสียเปล่า
เพียงแค่ผลตอบแทนนั้นจะเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง  :call:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (1) [08/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-04-2017 05:59:21
เอามังกรมาเผาให้หมด บ้าบอ ให้อีลุงเปงตัวเอกไปซะ

ไหนๆก้ออยู่มานานละ 5555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (1) [08/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-04-2017 10:16:01
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (2) [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 10-04-2017 13:42:40
บทที่ 20 : แตกหัก (2)

เอริแอดเน่สะบัดมือ ซิกฟรีดจึงได้เห็นว่านางยกดาบเวท ก่อนนี้เขาไม่เห็นนางพกอาวุธเพราะกำแพงบังช่วงล่างของนาง

“เจ้ากับข้า ใครเล่นถ่วงเวลาอยู่”

ดาบเวทอันวิจิตรบอบบางเรืองแสงสีแดง บ่อน้ำแห้งกรังสี่มุมลานเกิดน้ำพุเลือดพวยพุ่งสูง ละอองโลหิตสร้างอาณาเขตเวทมนตร์กักขังซิกฟรีด

นี่คือเวททมิฬ

ซอนย่าหายไปจากที่แห่งนั้นแล้ว แต่อิลมาเรยังขยับตัวไม่ได้ ของเหลวหนืดเหมือนเลือดข้นๆ ซึมขึ้นมาจากรอยต่อของพื้นหินใต้เท้า ยึดลำตัวท่อนล่างของเธอไว้

“ข้าจะบอกอะไรให้ ซิกฟรีด เจ้าให้สิ่งที่ข้าต้องการไม่ได้ และข้าไม่มีสิ่งที่ต้องการจากเจ้า แต่ข้าจะสอน…องครักษ์ของข้าจะฆ่าผู้ติดตามทั้งหมดของเจ้ารวมถึงดาร์กเอลฟ์ และหากข้าเสียองครักษ์หนึ่งคน ข้าจะตัดแขนขาของดวอร์ฟออกทีละข้าง ที่เจ้าทำได้คือยืนดู!”

เอริแอดเน่ยิ้มเหี้ยมเกรียม นางตวัดแขนเบาๆ ดาบเวทก็ฟันขอบกำแพงหินขนาดใหญ่ขาดเป็นรอยตัดเรียบกริบ

ชิ้นส่วนที่ถูกตัดร่วงกระแทกพื้นดังตึงใหญ่!

ราชาหนุ่มค่อยๆ ปลดหน้ากากออก พร้อมเอ่ยภาษาควาร์ถึงมาลแกธ ล็องธู

‘ต่อจากนี้ไม่มีหน่วยกาลาฮาน’

เอลฟ์ตะวันออกซึ่งอยู่ด้านนอกแตะตุ้มหู ก่อนเอ่ยทวนคำสั่งอีกครั้ง

‘ท่านไล่ข้าออกทั้งหน่วยหรือ ราชา’

ซิกฟรีดมองเอริแอดเน่...มองการตัดสินใจอันเด็ดขาดของนาง มองราคาที่เขาต้องจ่าย

‘ใช่...ต่อจากนี้เจ้าจะทำอะไร จะตัดสินใจอย่างไร ทั้งหมดไม่ขึ้นกับข้า’ ราชาหนุ่มย้ำช้าๆ ขณะถกแขนเสื้อข้างซ้ายขึ้น รอยแผลที่ซิกฟรีดเคยกรีดเป็นอักขระทมิฬแห้งแล้ว แต่ยังไม่หายดี

‘ปกป้องโคลด์เถิด ข้ารู้ว่าเจ้าจะทำ หากข้าจะตัดแขนขาเขา จงหยุดข้า แม้เจ้าจะต้องตัดแขนขาข้าก็ตามที’

มาลแกธกดตุ้มหูให้แนบขึ้น พลางเหลือบมองไปทางโคลด์

‘ส่วนตัวข้า...จะปกป้องพี่หญิงจากเจ้าและโคลด์เอง’

จุดแตกหักมาถึงแล้ว…

ถึงกระนั้นซิกฟรีดก็ไม่เลือกทางใดทางหนึ่ง--ซึ่งหมายถึงเลือกให้ฝ่ายหนึ่งรอด อีกฝ่ายหนึ่งตาย

หรือเลือกเก็บฝ่ายหนึ่งไว้ ทิ้งอีกฝ่ายหนึ่งไป

เขาเลือกที่จะช่วยทั้งคู่

...เท่าที่กำลังจะช่วยได้

โดยปฏิเสธที่จะทำร้ายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

เขาฝากโคลด์ไว้กับมาลแกธ และพยายามยึดพี่หญิงไว้ด้วยตัวเอง

ในมุมมองของโคลด์หรือพี่หญิง การตัดสินใจครั้งนี้อาจดูไม่เด็ดขาด เหยาะแหยะ

ให้เขาคิดไปเถิด อาเลธ...เขามีสิทธิ์ตัดสินเจ้า ชื่นชมเจ้า หรือกระทั่งดูแคลนเจ้า เขามีสิทธิ์รักเจ้า ขณะเดียวกันก็สามารถชังเจ้า

เจ้าไม่อาจบังคับความคิดหรือความรู้สึกใครได้ น้องชายข้า

แต่เจ้าต้องรู้ใจตัวเอง…

หากเจ้าคิดว่ามันดีแล้วก็จงทำ

และหากเจ้าทำแล้วก็จงรับผลที่ตามมา

ภูผาต้องรับได้ทั้งแรงประโลมของลม

...และแรงโหมของพายุ


เสียงในมโนสำนึกซ้อนขึ้น แม้จะแผ่วเบา...ทว่ากลบเสียงกราดเกรี้ยวของคำสาปได้ เขาเริ่มได้ยินเสียงนี้หลังบทสนทนาอันแสนสั้นกับโคลด์ สตาร์

 

“บางที เจ้าอาจไม่เคยสั่งให้มันหุบปากอย่างจริงจัง แบบคนที่เหนือกว่า คนที่เอาชนะใจตัวเองได้”

 

เจ้ารู้แล้วว่าควรทำอย่างไร อาเลธ

และมันชัดเจนอย่างถึงที่สุดในตอนนี้

‘ข้ารักเขา...ฝากเจ้าด้วย มาลแกธ ล็องธู’

จบการติดต่อ ซิกฟรีดร่ายเวททมิฬ

ทุกๆ คำที่เขาเปล่งออกมาทำให้ท่อนแขนซ้ายปริแตกเป็นรอยอักขระทมิฬ เลือดสีดำเหนียวข้นผุดจากรอยแผล แล้วแปรสภาพเป็นไอทมิฬคลุมร่างด้านซ้ายของราชาหนุ่ม

ไอหมอกสีดำสนิทแผ่ออก มันสยายจนกลายเป็นปีกขนาดใหญ่ ร่างกายด้านซ้ายของซิกฟรีดพร่าเลือนเหมือนเงา คล้ายเนื้อหนังระเหิดออกเป็นวิญญาณ ปีกทมิฬกระพืออย่างบ้าคลั่ง มันอยากฉีกร่างออกอาละวาด แต่ซีกร่างกายด้านขวาไม่ยอมให้มันเป็นอิสระ

 “ข้าจะไม่ทำแค่ยืนดู พี่หญิง…” ซิกฟรีดเอ่ย ขณะที่ใบหน้าด้านซ้ายคำรามเหมือนสัตว์ป่า “ร่างทมิฬของข้าไม่น่ามองนัก ไม่นานนี้ข้าสิ้นหวังที่ไม่อาจปกป้องใครได้แม้แต่ตัวเอง จนกล้าพลีวิญญาณแลกกับการที่สามารถกางปีกปกป้องได้ทั่วแผ่นดิน”

ราชาหนุ่มสืบเท้าเข้าไปทางอิลมาเรช้าๆ ปีกทมิฬกระพือแรงขึ้นจนพัดละอองโลหิตคลุ้ง

“ข้าตัดสินใจโดยไม่ยั้งคิดในคราแรก ร่างทมิฬจะค่อยๆ กลืนกินข้า แต่ในเมื่อข้าลงมือทำไปแล้ว ข้าก็คิดจะใช้ประโยชน์จากพลังของมันสักหน่อย”

ก่อนหน้าที่โคลด์จะมาพบเขาในวิหารของพี่หญิงคาลิเธียล ซิกฟรีดเพิ่งได้รับร่างทมิฬ ปีกใหญ่แทบฉีกร่างเขาออกเป็นสองส่วน มันอาละวาด ยากจะควบคุม เขาจึงปล่อยให้มันโผบิน ให้มันเสาะหาโคลด์ ในที่สุดมันก็พบ มันส่งต่อภาพที่เห็นมาสู่ดวงตาข้างซ้ายของเขา เป็นเหตุการณ์ในโกดังช่วงที่ดวอร์ฟนามอิลมาเรถูกลักพาตัวพอดี

แต่ซิกฟรีดทำได้แค่เห็น ร่างทมิฬปฏิเสธไม่ทำตามคำสั่งอื่นๆ ของเขา

น่าหวั่นใจว่าแม้แต่ครั้งนี้...มันก็จะไม่ยอมทำตามเจ้าของร่างอย่างซิกฟรีดเช่นเคย

กำแพงเวทของเอริแอดเน่แน่นหนา มันกักขังซิกฟรีด แต่ผู้ร่ายเวทอย่างนางก็ตึงมือเช่นกัน ไอเวททมิฬบนร่างซิกฟรีดเป็นไอเวทที่เอริแอดเน่คุ้นยิ่งกว่าคุ้น

“ริวอร์นอร์” นางรำพึง “ข้าคิดแล้วว่าเจ้าไม่ยอมตายง่ายๆ เจ้าฝังส่วนหนึ่งของเจ้าไว้ในตัวซิกฟรีด”

เอริแอดเน่ยิ้มกว้าง นัยน์ตาเบิกโพลง นางร่ายสายฟ้าสีเลือดฟาดใส่ซิกฟรีดเหมือนลงแส้ให้สัตว์ร้ายในกรงขังเจียมตัว

หากนางรู้ว่าซิกฟรีดเลือกนาง

...แล้วอย่างไร

หรือซิกฟรีดไม่เลือกนาง

...แล้วอย่างไร

เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์มีคำตอบให้ตัวเองมานานแล้ว นางฝากหัวใจไว้กับคนอื่นไม่ได้ หากมอบใจไป มันจะไม่ใช่ของนาง แต่เป็นสิ่งที่ผู้ได้รับบดขยี้ได้ตามแต่ใจ!

นางไม่เชื่อคำพูดของซิกฟรีด และจักไม่เชื่อใจใครอีก

-----------------------------------------------

“มาลแกธ…”

โคลด์ได้ยินคำประกาศของเอริแอดเน่ตั้งแต่ท่อน ‘องครักษ์ของข้าจะฆ่าผู้ติดตามทั้งหมดของเจ้ารวมถึงดาร์กเอลฟ์ และหากข้าเสียองครักษ์หนึ่งคน ข้าจะตัดแขนขาของดวอร์ฟออกทีละข้าง ที่เจ้าทำได้คือยืนดู!’

เสียงของนางก้องไปทั่วอย่างไม่ใช่การพูดธรรมดา แต่เป็นการใช้เวทมนตร์ให้คนที่อยู่ข้างนอกได้ยิน และรู้ว่าอะไรจะตามมาหากคิดต่อสู้ขัดขืนคนของนาง

เอริแอดเน่ส่งสารนี้ถึงโคลด์โดยตรง เพราะโคลด์เป็นคนเดียวที่เห็นความปลอดภัยของอิลมาเรสำคัญที่สุด และเป็นคนเดียวที่มาลแกธจะฟัง

ความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวของโคลด์คือ

‘นางฉลาดและอำมหิต’

เพราะสิ่งที่เอริแอดเน่ทำอยู่ เขาเองก็ทำได้อย่างเลือดเย็นเฉกกัน หากสถานการณ์กลับกัน เขาสามารถจับคนสำคัญของนางมาขู่แบบเดียวกันโดยไม่ลังเล

นางฉลาดและอำมหิตอย่างไม่สมควรเป็นเอลฟ์ผู้สูงศักดิ์และเมตตา

เนื้อแท้ของเอลฟ์ไม่ต่างจากดาร์กเอลฟ์เลยไม่ใช่หรือ...ท่านพ่อบุญธรรม

“ซิกฟรีดยกเลิกหน่วยกาลาฮาน” มาลแกธเล่าทั้งหมดที่ได้ฟังจากซิกฟรีดกับโคลด์ ขณะเดียวกันก็เคาะตุ้มหูไฟเป็นรหัสข้อความ ส่งถึง ‘อดีต’ หน่วยกาลาฮานทุกนาย “หมายความว่าข้าเป็นเอลฟ์ตะวันออกที่ไม่มีเจ้านาย และกำลังคิดอย่างหนักว่าจะบุกอย่างไร”

มาลแกธสังเกตปฏิกิริยาของโคลด์ แปลกใจที่โคลด์นิ่งหลังจากได้ฟังว่าซิกฟรีดเลือกเอริแอดเน่ แต่คิดอีกทีก็ไม่น่าแปลกใจขนาดนั้น เพราะนี่เป็นสิ่งที่โคลด์ต้องการมาตลอด

...จนถึงกับยอมรับไมตรีจากเขา ให้เขามีโอกาสได้ ‘รัก’ บ้าง

“จากคำประกาศของเอริแอดเน่เมื่อครู่กับคำพูดของซิกฟรีดข้าสรุปได้สองทาง หนึ่ง นางหมายชีวิตข้าจริง สอง นางยังหมายจับตัวข้าอยู่ นางยอมรับได้ทั้งสองทาง”

“ซิกฟรีดอาจกำลังหาทางทำให้นางหมดกำลัง พร้อมๆ กับปกป้องอิลมาเร” มาลแกธขมวดคิ้วอย่างหนักใจ “แต่เราไม่ควรหวังกับคนที่เพิ่งบอกว่าจะเข้ากับอีกฝ่าย”

เขาเสริมอีกว่าตอนนี้ตนไม่ได้ยินเสียงอะไรผ่านตุ้มหูเวทนอกจากเสียงคำราม

“เหมือนเสียงสัตว์...แต่ไม่แน่ใจว่าตัวอะไร ข้าไม่เคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน”

“เจ้าทราบว่าซิกฟรีดใช้เวททมิฬได้ใช่ไหม”

“ระแคะระคาย ไม่ถึงกับทราบ” มาลแกธตอบ

โคลด์พยักหน้าเป็นการยืนยัน “เขาคงกำลังใช้อยู่ แต่ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องใช้มัน แค่กำลังของเขาไม่พอหรือ แสดงว่าเอริแอดเน่เก่งกาจ...ไม่สิ เขาไปเข้ากับนางแล้ว เขาใช้เพื่อรับมือเรา”

“โคลด์...ข้าไม่ได้จะอวดตัวเอง แต่ฝีมือของซิกฟรีดทำได้แค่สูสีกับข้า และสูสีในที่นี้คือต้องพยายาม ‘แทบเป็นแทบตาย’ ” มาลแกธพูดตรงๆ “อีกอย่าง ทั้งท่านหญิงและข้ามีประสบการณ์มากกว่าเขา นางเป็นจอมเวทสงคราม ผ่านสมรภูมิมานับไม่ถ้วน ส่วนข้าเคยเป็นหัวหน้าตระกูลล็องธู...ไม่ว่าเขาคิดจะรับมือกับใคร ก็หนักทั้งนั้น”

“เพิ่งรู้ว่าเจ้าเคยเป็นหัวหน้าตระกูลกับเขาด้วย”

ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลของเอลฟ์ตะวันออกเทียบได้กับตำแหน่งหัวหน้าเผ่าของดาร์กเอลฟ์ วัดตามความแกร่งกล้า ตระกูลล็องธูเทียบได้กับเผ่าใหญ่ๆ ในแดนทมิฬอย่างเผ่าเหยี่ยวของนายพลเบเลธ หรือในรูเมเรียร์ก็ใกล้เคียงกับตระกูลอิซิลดาร์

“ข้ามีบลัดแมจิก ซิกฟรีดมีเวททมิฬเสริมกำลังงั้นสินะ” โคลด์เริ่มเข้าใจความลำบากและความกดดันของซิกฟรีดแล้ว การเป็นราชาอายุน้อยท่ามกลางเอลฟ์ที่เก่งกาจระดับตำนานคือนรกแท้ๆ “เจ้าบอกจะช่วยข้า” เขาจ้องมาลแกธ “ในเมื่อซิกฟรีดยกเลิกหน่วยกาลาฮาน แปลว่าเจ้าไม่มีลูกน้องแล้ว”

“ไม่เสมอไป” มาลแกธเคาะตุ้มหูไฟส่งรหัสบอกเดเนธอร์และลูกน้องคนอื่นๆ ว่า

‘พวกเจ้าทราบพระประสงค์ขององค์ราชาให้ยกเลิกหน่วยกาลาฮานแล้ว เพราะฉะนั้นข้าไม่ใช่หัวหน้าของพวกเจ้าอีกต่อไป แต่อย่างไรข้าก็จะทำงานนี้ให้เสร็จ หากใครยังอยู่กับข้า ให้ตอบกลับมา’

รอเพียงชั่วอึดใจ อดีตหน่วยกาลาฮานทุกนายก็เคาะตุ้มหูเวท ส่งรหัสกลับมาโดยพร้อมเพรียงกัน

‘พวกเราจะอยู่ข้างท่านขอรับ ท่านมาลแกธ’

มาลแกธยืนยันคำตอบนั้นกับโคลด์

“พวกนั้นยินดีเป็นศัตรูกับราชาของตนหรือ เราวางแผนกันไว้หลายแบบ แต่ไม่คิดว่าซิกฟรีดจะลอยแพหน่วยกาลาฮาน ถึงขั้นนี้ข้าไม่อยากพูดมาก แต่เขามุทะลุ ทำอะไรไม่ปรึกษา ไม่เชื่อใจใครกระทั่งคนของตัวเอง”

“พวกมันคงลำบากใจกว่าข้า แต่ในเมื่อพวกมันตัดสินใจจะตามข้า ก็ให้เป็นอย่างนั้น” มาลแกธบีบไหล่โคลด์ “จัดการตรงหน้าให้เสร็จก่อน เรื่องอื่นค่อยคิด รวมถึงเรื่องที่เจ้าอยากเขย่าคอซิกฟรีดด้วย”

โคลด์คิดอยู่อีกอึดใจ

“กำลังรบของเราเทียบกับฝ่ายนั้นล่ะ ทางเราเจ้าเก่งที่สุด รองลงมาคือ?”

“เดเนธอร์” มาลแกธแทบไม่ต้องคิด

“เดเนธอร์พอรับได้ เพราะข้ายังไม่เคยเห็นฝีมือมัน แต่เจ้าคงไม่บอกว่าข้าจะแพ้กระทั่งเนอร์ดาเนลนะ” โคลด์ทำหน้าคล้ายถูกดูถูก

มาลแกธส่ายหน้า “เนอร์ดาเนลอายุยังน้อย ฝีมือพอใช้แต่ไหวพริบดี ข้อเสียคือมันมุทะลุแบบเด็กๆ”

“เจ้ารู้ใช่ไหมว่าข้ายินดีสละแขนขาของเดเนธอร์หรือเนอร์ดาเนล แต่ไม่ยินดีสละแขนขาของอิลมาเร”

“ลูกน้องข้าพร้อมจะสละแขนขาเพื่อข้า” มาลแกธจ้องมองโคลด์ สายตาหนักแน่น เด็ดขาด “ข้าเคยใช้คนเหมือนหมากทิ้งได้ ที่รัก...แต่ตอนนี้ ข้าหวังว่าจะไม่ต้องเสียใครไป”

“รูเมเรียร์ทำเจ้าเปลี่ยนไปกระมัง และเจ้าทำข้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย คงได้เวลาที่ข้าต้องเอาจริงบ้าง” โคลด์ยิ้มอย่างเคร่งเครียด เขามีความปลอดภัยของอิลมาเรเป็นเดิมพัน

“ข้าจะประลองปัญญากับเอริแอดเน่” โคลด์เค้นสมองอย่างใจเย็น เขาต้องอ่านสถานการณ์ให้ขาด สู้กับเอริแอดเน่นั้นใช้กำลังอย่างเดียวไม่ได้ เขามีบทเรียนมาแล้ว “จากแผนที่ที่เราดูกันเมื่อวาน ป้อมปราการนี้มีทางเข้าออกอยู่สามทาง ประตูหน้าที่ซิกฟรีดเข้าไป ประตูด้านข้าง ประตูด้านหลัง...”

ทั้งสองอยู่บนต้นไม้เพื่อดูสถานการณ์โดยรวม พวกเขาไม่เห็นลานกลางป้อมที่ซิกฟรีดอยู่ แต่เห็นแสงสีแดงเรืองโรจน์จากจุดนั้น

“เห็นแสงสีแดงนั่นไหม ไอเวทเป็นเวททมิฬไม่ผิดแน่ ถึงจะคล้ายบลัดแมจิก แต่ไม่ใช่” โคลด์อธิบาย “เอริแอดเน่เป็นจอมเวทวารี นางผสานเวทควบคุมนทีกับฝนเลือดที่ซึมลงแผ่นดินนี้มาเนิ่นนาน ตอนนี้ทั้งป้อมปราการอยู่ในกำมือนาง”

“ถ้ากอห์นดีเอนมาอาจง่ายกว่านี้ มันถนัดทำให้หินสลายเป็นฝุ่น เราจะเข้าชิงพื้นที่ได้ง่ายขึ้น”

“อาจจะ...แต่กอห์นดีเอนมาไม่ทันแล้ว เราไม่มีเวลารอมันด้วย”

โคลด์บอกแผนให้มาลแกธสั่งการลูกน้อง

“เจ้าปรับแผนได้ตามสถานการณ์โดยยึดความปลอดภัยของอิลมาเรเป็นอันดับแรก ส่วนความปลอดภัยของลูกน้องเจ้า ถ้าพวกมันทำตามแผนของข้าได้ อย่างน้อยถึงพิการก็ยังมีชีวิตกลับบ้าน”

มาลแกธตกลง เลียริมฝีปาก เขาชอบการต่อสู้ดีๆ ถ้าไม่ติดว่าฝ่ายตนเสียเปรียบเพราะถูกจับตัวประกันอยู่ละก็…

น่าเสียดาย...

น่าเสียดายจริงๆ



—————————————————————————

A/N ลงนิยายมา 3 เดือนกว่าๆ แล้ว ดีใจที่ได้นำมาลงนะคะ ปกติเราไม่ค่อยลงในเว็บที่คนรู้จักกันเท่าไหร่ มักจะลงแค่ในกลุ่มปิดหรือเว็บเมืองนอก (เพราะเขียนนิยายเฉพาะทางเป็นส่วนมาก) มีเรื่องเอลฟ์นี่แหละที่เฉพาะทางน้อยหน่อย

พอมาลงที่ใหม่ๆ ก็ดีใจที่นักอ่านที่รักทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ให้โอกาสและติดตามผลงานนะคะ ;) จึงขอมอบของขวัญในช่วงสงกรานต์ นิยายเรื่องนี้จะลงต่อเนื่องให้ทุกท่านได้ฟินกันเช่นเดิมค่ะ!


ตอนนี้อยู่ในช่วงลงวันเว้นวัน กำหนดการลงครั้งต่อไปคือวันที่ 12 เมษายน 60 ค่ะ XD


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (2) [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-04-2017 13:53:09
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (2) [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 10-04-2017 14:44:35
ขอบคุณที่ลงให้ได้อ่านค่ะ

ชอบแฟนตาซีเข้มข้นแบบนี้มาก

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (2) [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 10-04-2017 15:18:02
น้ำตาไหล เป็เรื่องที่อ่านแล้วไม่รู้จะเข้าข้างใครดี
ชอบทุกคน แต่ทุกคนดันเอาตัวเองเป็นใหญ่

 :katai1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (2) [10/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 10-04-2017 18:49:39
สู้กันเลย เอาให้จำสักที
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (3) [12/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 12-04-2017 14:49:03
บทที่ 20 : แตกหัก (3)

เดเนธอร์นำกลุ่มเข้าทางประตูด้านหลังของป้อมปราการ อดีตหน่วยกาลาฮานห้าคนรวมตัวเขาและเนอร์ดาเนลกระจายกำลังเคลียร์พื้นที่ทีละส่วน การต้องทำอย่างระมัดระวัง เนื่องเพราะศัตรูได้เปรียบด้านชัยภูมิ องครักษ์ของท่านหญิงเอริแอดเน่ทราบเส้นทางภายในป้อมปราการเป็นอย่างดี ขณะที่พวกเขาทราบเท่าที่แผนผังพอจะบอกได้

อดีตหน่วยกาลาฮานอีกกลุ่มเข้าทางประตูข้าง เมื่อไม่มีมาลแกธที่แยกตัวออกไปกับโคลด์ กลุ่มนี้ก็มีกำลังทหารเพียงสี่นาย

พวกมันจงรักภักดีกับรูเมเรียร์ ปฏิญาณตนว่าจะรับใช้ราชาซิกฟรีด ทว่าพวกมันเชื่อใจแก่มาลแกธ ล็องธูเป็นอย่างยิ่ง หากหัวหน้าตัดสินใจเช่นนี้ย่อมเป็นทางที่ดีที่สุด ถามว่าพวกมันเกรงกลัวอาญาแผ่นดินหรือไม่...ย่อมแน่ แต่จะปล่อยหัวหน้าให้เผชิญสถานการณ์เป็นตายโดยลำพังหรือ...ย่อมไม่!

‘ข้ารู้ว่าพวกเจ้ากังวลอะไร’

อดีตหน่วยกาลาฮานได้รหัสจากตุ้มหูเวท

‘ถ้าพวกเจ้ากล้าหันดาบใส่องค์ราชาและท่านหญิงก็หมายความว่าพวกเจ้าเป็นกบฏ’

ใช่ นั่นคือสิ่งที่พวกมันกังวล

‘ข้าเชื่อใจซิกฟรีด’

รหัสข้อความชิ้นนี้ทำให้เดเนธอร์สูดลมหายใจ หัวหน้าชอบเรียกราชาเอลฟ์ด้วยชื่ออย่างสนิทสนม หากไม่ใช่เวลาปฏิบัติราชการ

‘มันอาจเป็นราชาผีเข้าผีออก เดี๋ยวน่าติดตาม เดี๋ยวน่าเหนื่อยใจ แต่ซิกฟรีดก็เป็นราชาที่สมควรแก่การรับใช้’

ด้านเนอร์ดาเนลกดตุ้มหูเวทแน่น

‘ข้าเชื่อว่าซิกฟรีดมีแผนการเตรียมไว้สำหรับข้า เช่นนั้นก็จะมีสำหรับพวกเจ้าด้วย’

มาลแกธอยู่กับซิกฟรีดช่วงที่ขึ้นเป็นกษัตริย์มานานกว่าโคลด์ รับรู้ความเป็นไปและการเติบโตของราชาหนุ่ม รวมถึงมองเห็นความพยายามอันน่าชื่นชม หากมีที่ปรึกษาผู้ฉลาดเฉลียวและจงรักภักดีคอยรับใช้ ภายในเวลาสักยี่สิบหรือสามสิบปี ซิกฟรีดก็จะเป็นราชาที่สามารถยิ่ง

ทว่าข้างกายราชาเอลฟ์มีท่านหญิงเอริแอดเน่จากอิซิลดาร์ และเขา--มาลแกธจากตระกูลล็องธูแห่งแดนตะวันออก ถึงจะว่าเป็นพี่หญิงกับสหาย แต่ก็หวังประโยชน์คอยขนาบข้างซ้ายขวาไม่ให้ราชาหนุ่มขยับตัวได้สะดวก

(ใครบ้างที่ไม่หวังอะไร มาลแกธหัวเราะในใจ)

ยิ่งตอนนี้ซิกฟรีดเป็นปรปักษ์กับท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ไปแล้ว ยิ่งต้องรักษาไมตรีจากแดนตะวันออก หากไม่ รูเมเรียร์จะต้องรับศึกสามด้าน คือจากแดนทมิฬ อิซิลดาร์ และแดนตะวันออก มาลแกธจึงค่อนข้างมั่นใจว่า แม้ซิกฟรีดอาจสิ้นหวังกับสถานการณ์จนแทบหาทางออกไม่ได้ แต่คงไม่โง่เง่าขนาดตัดหางปล่อยวัดเขาแน่

ข้าบอกลูกน้องไปว่าข้าเชื่อใจเจ้า อย่าทำให้ข้าผิดหวังละ ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์

 

อีกด้านหนึ่ง

เวเรด้าจับคู่กับจามิลลา ซอนย่าจับคู่กับซิลเวีย คู่หนึ่งเฝ้าประตูด้านข้าง อีกคู่เฝ้าประตูหลัง พวกนางสอดแนมกำลังของศัตรูมาก่อนแล้ว และเตรียมใจห้ำหั่นกับเอลฟ์ด้วยกัน

อัศวินสตรีแห่งอิซิลดาร์ยึดมั่นในคำสัตย์ปฏิญาณ--อุทิศชีวิตรับใช้นายแห่งตน

ซอนย่าและซิลเวียรับหน้าที่เฝ้าประตูหลัง ทั้งคู่อาศัย ‘เวทอำพราง’ ของซิลเวียซึ่งเป็นสายเลือดของดีราน--หนึ่งในตระกูลใหญ่แห่งแดนตะวันออก เวทบทนี้ใช้ได้สองลักษณะ หนึ่งในนั้นคือการเปลี่ยนพื้นผิวสิ่งของหรือร่างกายให้ ‘กลมกลืน’ กับสภาพแวดล้อม ทว่ารูปแบบที่ว่านี้จะมีข้อจำกัดตรงที่ไม่เหมาะกับพื้นที่โล่ง ด้วยเหตุนั้นพวกนางจึงแนบร่างกายไปกับกำแพงป้อมปราการ ให้เวทแห่งดีรานช่วยอำพรางผิวกายและผิวผ้า จนดูเหมือนเป็นหนึ่งเดียวกับกำแพงหิน

แผนการของซอนย่าคือซุ่มโจมตี นางจะรอจังหวะแล้วค่อยสังหารนักรบรูมเรียร์ทีละนาย ไร้เกียรติหรือ...ใช่ ด้วยเหตุว่านักดาบควรประจันหน้ายามต่อสู้ แต่เวลานี้ซอนย่าวางเกียรติลง นางพร้อมทำทุกอย่างเพื่อท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์

ท่านหญิงเอริแอดเน่ผู้ที่นางรักและเทิดทูนยิ่ง

ซอนย่าบอกแผนการกับซิลเวีย นักเวทดีรานเอ่ยว่านางไม่อาจใช้เวทอำพรางได้หากไม่เห็นตัวผู้ที่ต้องการอำพราง--หรือก็คือซอนย่า ทั้งยังไม่อาจอยู่ไกลเกินไป ซอนย่าจึงให้ซิลเวียอยู่ใกล้ ทว่าห่างพอที่จะไม่โดนลูกหลงหากเกิดการปะทะ นักเวทมักเป็นหน่วยสนับสนุน ไม่ใช่หน่วยบุกทะลวง

“หากเกิดอะไรขึ้นกับข้า ไม่ต้องสนใจ จงยึดคำสั่งของท่านหญิงเป็นที่ตั้ง”

ซอนย่าทิ้งท้าย

 

ก่อนแบ่งกำลังเข้าชิงพื้นที่ อดีตหัวหน้าหน่วยกาลาฮานแจ้งลูกน้องทุกคน โดยเฉพาะเดเนธอร์ที่นำกำลังเข้าบุกประตูด้านหลัง เกี่ยวกับความสามารถ ข้อดี และข้อด้อยของอัศวินแห่งอิซิลดาร์แต่ละนาง ทั้งหมดเป็นข้อสังเกตที่เขาได้จากการประมือกับพวกนางในโกดัง--ครั้งที่อิลมาเรถูกลักพาตัวไป

คนสนิทของท่านหญิงเอริแอดเน่มีทั้งสิ้นสี่นาง คนที่หนึ่งได้แก่จามิลลา เอลฟ์สตรีผมฟ้าแห่งตระกูลการาซีน ล็องธูหมิ่นการาซีนว่าเป็นเพียงเหยื่อให้ล่า ด้วยรูปร่างที่ค่อนข้างแบบบางไม่ว่าชายหรือหญิง รวมถึงนิสัยโกรธง่าย แค่ยุเพียงนิดเดียวก็พยศเหมือนสัตว์เล็ก ทาราเธียลและคนในตระกูลล็องธูส่วนใหญ่จึงชอบล่าหรือ ‘ปราบพยศ’ การาซีนมากที่สุด ทว่าจามิลลาต่างออกไป นางเยือกเย็น จริงจัง รูปร่างปราดเปรียวก็ได้เปรียบด้านความเร็ว ทั้งยังใช้เวทเสริมกำลังให้ดาบแกร่งขึ้นไปอีก

คนที่สอง เวเรด้า นางมีผมสีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์แห่งตระกูลดาเอียร์--ตระกูลพรานไพรจากแดนตะวันออก ดาเอียร์เก่งกาจด้านกับดักและอาวุธระยะไกล เวเรด้าก็มีฝีมือในการยิงธนูอันฉกาจฉกรรจ์ นางมักพูดยั่วยุศัตรู และคาดว่าจุดอ่อนคือจามิลลา เห็นได้จากที่นางเป็นเดือดเป็นร้อนเมื่อเพื่อนถูกทาราเธียลหยามว่าเป็นเพียงเหยื่อ

คนที่สาม ซอนย่า เอลฟ์สตรีจากอิซิลดาร์ อาวุธที่ใช้คือดาบสองมือ มีเวทเสริมกำลังเป็นเวทธาตุน้ำ นางลึกลับ คาดเดายาก ที่เห็นได้ชัดคือใจกล้า ไม่กลัวการต่อสู้ระยะประชิดแม้ศัตรูจะแข็งแกร่งกว่า ซอนย่ากล้าประมือกับอดีตหัวหน้าตระกูลล็องธูเช่นมาลแกธอย่างไม่กลัวตาย หนำซ้ำพลังกายยังแกร่งมาก นางอาจบุกได้ต่อเนื่องโดยไม่ปล่อยช่องให้ศัตรูพักเลย

คนที่สี่ ซิลเวีย ผมสีเทาบ่งชัดว่าเป็นสายเลือดตระกูลดีราน อายุน้อย ไม่ทราบฝีมือแน่ชัดทั้งทางอาวุธและทางเวท เนื่องจากครั้งก่อนที่ปะทะกัน นางเป็นเพียงตุ๊กตาเรียกความสนใจ และเป็นสื่อในการใช้มนตราให้กับท่านหญิงเอริแอดเน่

เดเนธอร์จดจำข้อมูลและเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง เขาภาวนาถึงพระบิดาแห่งสายลม ขอให้พระองค์บันดาลสังหรณ์อันแม่นยำ ชั่วขณะนั้นเกิดลมอ่อนบางสายหนึ่งสัมผัสผิวเดเนธอร์ ไม่ว่าจะเป็นพระบิดาหรือไม่ แต่เขาก็ใจชื้นขึ้นแล้ว

ป้อมปราการส่วนหลังเป็นที่ตั้งของอาคารหลัก หากเข้าทางประตูหลังเช่นเดียวกับเดเนธอร์ จะพบโถงกลางซึ่งขนาบด้วยห้องรับรองซ้ายและขวา ตรงไปอีกผ่านประตูกลางจะพบโถงหน้าโอ่อ่า และที่นี่เป็นที่ตั้งของประตูหน้าอันเปิดไปสู่ลานกลางป้อมปราการ

เดเนธอร์เข้ามายังโถงกลาง จากตรงนี้มองผ่านประตูกลางจะเห็นประตูหน้าซึ่งเป็นทางเข้าลานอยู่ไกลๆ แสงวาบอันเกิดจากอาคมทมิฬปะทะกันส่องลอดแนวหน้าต่างและซุ้มประตูโค้ง กลิ่นไอเวทของแดนมืดอบอวล ไม่น่าเชื่อว่าผู้ที่ห้ำหั่นกันอยู่จะเป็นราชาและท่านหญิงแห่งแผ่นดินใหญ่อย่างรูเมเรียร์และอิซิลดาร์

อดีตรองหัวหน้าหน่วยกาลาฮานลอบถอนใจหนักๆ ขณะจดจ่ออยู่กับโถงโล่งว่างซึ่งจะกลายเป็นสนามประลองฝีมือในไม่ช้า เขาเห็นว่านักดาบอาจร้ายกาจ ทว่ายังไม่เท่านักธนูที่คอยซุ่มยิงจากมุมที่คาดไม่ถึง และที่ตึงมือที่สุดเห็นจะเป็นนักเวท

ไม่นับว่าคำสั่งจากท่านมาลแกธคือ ‘จับเป็น’ หรือขัดขวางไม่ให้เหล่าอัศวินแห่งอิซิลดาร์เข้าช่วยเหลือท่านหญิงเอริแอดเน่

จับเป็น...ยากกว่าเข่นฆ่า

‘จะล่อพวกนางออกมาอย่างไร’ คำถามผุดขึ้นมาในใจก่อนจะเข้ามาในอาคาร--หรือที่เขาเรียกว่า ‘ถ้ำนางสิงห์’ เสียอีก และคำถามที่ว่าก็ทำให้อดีตรองหัวหน้าหน่วยกาลาฮานคิดหนัก

พิจารณาจากรูปการณ์ ตอนนี้มีกำลังพลในมือสี่นาย รวมตัวเขาเองก็เป็นห้า อีกฝ่ายมีกำลังพลทั้งหมดสี่คนซึ่งดูจะสมน้ำสมเนื้อกันดี เพียงแต่พวกนางน่าจะแบ่งกำลังเฝ้าประตูแต่ละแห่ง (การเทกำลังพลมายังส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ควรนัก และไม่คิดว่าสตรีแห่งอิซิลดาร์ผู้เก่งกาจในการสงครามจะทำ)

ด้วยจำนวนคนที่น้อยกว่า รวมกับข้อได้เปรียบด้านพื้นที่ ทำให้เดเนธอร์คะเนว่าพวกนางจะใช้วิธีซุ่มโจมตี

นอกจากนั้น พวกนางยังมีข้อได้เปรียบอื่นๆ เช่น มี ‘ตัวประกัน’ และ ‘เวลา’ อยู่ในมือ

ซึ่งเป็นสิ่งที่เดเนธอร์ต้องระมัดระวัง

อดีตหน่วยกาลาฮานต้องทำงานแข่งกับเวลา ขณะที่อัศวินอิซิลดาร์ไม่มีปัญหาใด แค่ควบคุมพื้นที่ไม่ให้ถูกบุก และเฝ้ารอให้บรรดาเหยื่อผู้เร่งร้อนเดินเข้าถ้ำนางสิงห์ด้วยตัวเอง

หลังพิจารณาอย่างรอบคอบและรอบด้าน ท้ายที่สุด เดเนธอร์ก็พาตัวเองและลูกน้องเข้ามาจับนางสิงห์ถึงในถ้ำ

...ณ โถงกลางที่เต็มไปด้วยมุมอับของเสา ช่องหน้าต่าง และซากขื่อคานต่างๆ

เมื่อตั้งแนวรบกวาดทั่วโถงกลางจนหยุดที่ทางเข้าโถงหน้า เดเนธอร์ก็เคาะตุ้มหูถึงลูกน้อง

‘อยู่รวมกันพวกนางไม่เผยตัว แยกไปทางห้องรับรองซ้ายสอง ขวาสอง ข้าคุมตรงนี้’

ทหารทุกนายรับทราบ เนอร์ดาเนลที่จะแยกไปทางห้องรับรองขวาส่งสายตาเป็นกังวลให้เดเนธอร์ อดีตรองหัวหน้าเก่งกาจก็จริง ทว่าอยู่คนเดียวอย่างไรก็เป็นเป้า

แต่พอเดเนธอร์ลูบจี้สีมรกตซึ่งสวมใส่เป็นประจำ พร้อมส่งสายตาหนักแน่นกลับมา เนอร์ดาเนลก็พยักหน้ารับ

เดเนธอร์เป็นเป้าที่ยวนใจ

แต่พึงระวังไว้...อิซิลดาร์

 

‘ห้าคน’

ซอนย่านับจำนวนหน่วยกาลาฮานที่บุกเข้ามา นางกลมกลืนแนบสนิทไปกับผนังของโถงกลาง เฝ้ารอเงียบเชียบเฉกอสรพิษ ส่วนซิลเวียอยู่ไม่ไกลนัก ห่างจุดปะทะ แต่ใกล้พอร่ายเวทได้ถนัดและเห็นสัญญาณมือของซอนย่า

นักรบผมดำประดุจนางกาแห่งความตายไม่รีบร้อน นางประเมินอย่างละเอียดว่า ในหมู่ทหารแห่งรูเมเรียร์ห้านาย ใครเป็นผู้นำ ใครเป็นผู้ตาม ใครน่าจะตึงมือหรือใครอ่อนที่สุด

จนหัวหน้าพวกมันสั่งให้แยกกันสำรวจพื้นที่ นางจึงเลือกเป้าหมายแรกอย่างใจเย็น ค่อยๆ คืบคลานตามติดไปสู่ห้องรับรองปีกซ้ายพร้อมนักเวทดีราน

พวกมันแยกมาทางนี้สองคนด้วยกัน นางรอ...กระทั่งเป้าหมายที่ต้องการอยู่โดดเดี่ยว นางส่งสัญญาณมือถึงซิลเวีย

‘พร้อม’

นักเวทผู้เยาว์ส่งสัญญาณมือกลับ ‘พร้อม’

ซอนย่าออกสู่ที่โล่ง

เวทอำพรางสูญอำนาจ

จากที่เคยกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับผนังของห้องรับรองปีกซ้าย...จากที่ผิวหนังและเสื้อผ้าเคยเป็นสีเทาและมีรอยแตกอย่างผนังหิน  อัศวินแห่งอิซิลดาร์ก็กลับคืนสู่สภาพแท้จริง หากศัตรูหันมาทางซอนย่าในตอนนี้จะสามารถเห็นนางได้ชัดเจน

และ…

ด้วยสัญชาตญาณเฉียบคม นายทหารหนุ่มหันมาทางซอนย่าจริงๆ

ทว่าในวินาทีเดียวกัน ซิลเวียร่ายเวทอำพรางอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้เป็นรูปแบบที่สอง

“งู?”

เขาเห็นนางเป็นงู

เวทอำพรางรูปแบบที่สอง ‘ลวงการรับรู้’

ป้อมร้างจะมีงูสักตัวก็ไม่แปลก ทหารหนุ่มลดเกราะลงแล้วไล่มันไป งูขู่แฟ่ ก่อนเลื้อยไปทางอื่น

ชั่วขณะที่เขาหันหลังด้วยความโล่งใจนั้นเอง ท้ายทอยก็เสียดแปลบก่อนจะร้อนวูบ นายทหารหนุ่มเหลือบสายตาลง เห็นปลายดาบแหลมแทงทะลุคอ เสียงร้องกลายเป็นเสียงสำลักลิ่มเลือด เขาทรุดลงด้วยความงุนงง และสิ้นใจโดยที่เห็นงูตัวเดิมจ้องมาอย่างชิงชัง

ซอนย่าดึงดาบสั้นกลับขณะรับร่างอีกฝ่ายไม่ให้ล้มเสียงดัง นางจ้องศพของเป้าหมายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนโจนไปทางผนังเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา


—————————————————————————

A/N ฉลองตอนที่ 100 เย้ๆๆๆ ลงมาแวบเดียว 100 ตอนแล้ว เวลาผ่านไปไวจริงๆ ค่ะ

เขาเริ่มสู้กันแล้วค่ะ บทนี้ แฟนๆ เดเนธอร์หายคิดถึงรึยังคะ ;)


ตอนต่อไปจะลงวันที่ 14 เมษายน 2560


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (3) [12/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-04-2017 15:36:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (3) [12/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-04-2017 19:22:38
ทำไมต้องเห้นใจฆ่าได้ก้อฆ่ากลับให้หมด
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (3) [12/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 12-04-2017 21:15:14
สงครามมีแต่ความโหดร้าย

สงสารทุกคน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (3) [12/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 12-04-2017 23:43:37
กำลังเข้มข้นเลย เดาไม่ถูกเลยว่าจะใชิวิธีไหน
อยากเห็นฉากสองนาง(โคลด์-เอริ)ประทะกัน
แต่พูดก็พูดเถอะ ขอฝากข้ความถึงทั้งสอง
ถ้าพวกเธอไม่เอาซิกฟรีด ชั้นขอ :m16:

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (4) [14/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 14-04-2017 16:52:58
บทที่ 20 : แตกหัก (4)

เดเนธอร์เตรียมพร้อมรับการโจมตี เขาอยู่ลำพัง น่าจะเป็นเป้าที่ดีให้อัศวินอิซิลดาร์ ทว่าคิดอีกด้าน หากเป็นตัวเขาเอง เขาก็คงนึกระแวงไว้ก่อนว่าอาจเป็นกับดัก

ในความเป็นจริง เวลาเพิ่งไหลผ่านไปได้ไม่เท่าไหร่ แต่ในความรู้สึก เดเนธอร์คิดว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน มือที่กำดาบเริ่มชื้นเหงื่อ ประสาทเครียดเกร็ง ฟันขบหากันจนปวด

จู่ๆ ขนอ่อนบริเวณต้นคอของเดเนธอร์ก็ลุกชัน สังหรณ์ร้ายทำให้เขากระชับดาบในมือ และจู่ๆ เขาก็ได้รับสารจากมาลแกธผ่านตุ้มหูเวท

สารนั้นทำให้เขาก้าวฉับไปทางห้องรับรองซ้าย พบลูกน้องที่ตนสั่งการคนหนึ่งกำลังจรดดาบในท่าพร้อมสู้ ส่วนอีกคน…

กลายเป็นร่างไร้ลมหายใจ

ลูกน้องที่เหลืออยู่รายงานว่าพวกตนแยกกันเพียงครู่เดียวก็กลายเป็นแบบนี้แล้ว ไม่เห็นแม้เงาของฝ่ายโจมตี

เดเนธอร์คุกเข่าลงสำรวจศพ เขาสังเกตรอยแผลขนาดประมาณดาบสั้น คอเป็นเป้าที่เล็ก พลาดได้ง่าย ทว่ารอยแทงที่รุนแรงและแม่นยำทำให้คาดว่าผู้ซุ่มโจมตีเป็นอัศวินซึ่งชำนาญทางดาบ อาจเป็นจามิลลาหรือซอนย่า

แต่...ทำไมถึงไม่มีเสียงการปะทะ

เดเนธอร์เคาะตุ้มหูรายงานถึงมาลแกธอย่างรวดเร็ว อดีตหน่วยกาลาฮานคนอื่นๆ ก็รับรู้ด้วย ลูกน้องที่เสียชีวิตไปมีฝีมือในทางดาบ หากเผชิญหน้ากับนักดาบก็ควรจะรับมือได้ ทั้งรอยแผลฉกรรจ์อยู่ตรงคอบริเวณท้ายทอยก็บ่งชัดว่าเป็นการซุ่มโจมตี

การซุ่มโจมตีแบบไหนถึงได้เงียบเชียบปานนั้น

และนักดาบแบบใดที่กล้าทิ้งศักดิ์ศรี...ด้วยการแทงคู่ต่อสู้จากด้านหลัง

เคร้ง!

ชั่วพริบตา เดเนธอร์ยกปลอกแขนกันคมดาบซึ่งดูคล้ายไร้ที่มาได้ทันท่วงที จู่ๆ สตรีผมดำแววตาดุดันก็ปรากฏจากอากาศธาตุ เดเนธอร์เสือกใบดาบโจมตีกลับ นางหลบแบบฉิวเฉียด

แล้วหายไป

นางหายไปต่อหน้าต่อตา

‘เรียกใช้ข้า...เดเนธอร์’

เสียงกระซิบน่าขนลุกแว่วจากจี้อัญมณีสีเขียวซึ่งเดเนธอร์ห้อยคออยู่

‘เรียก…ข้า’

--------------------------------------------

ก่อนหน้านี้เพียงเล็กน้อย ก่อนที่เดเนธอร์จะได้รับสารจากมาลแกธผ่านตุ้มหูเวท และทำให้เขารีบตรงไปทางห้องรับรองซ้าย

เบื้องหน้าของโคลด์กับมาลแกธคือแผนผังป้อมปราการที่วาดลงดิน มีตำแหน่งของซิกฟรีด เอริแอดเน่ อิลมาเร แทนด้วยก้อนหินสามก้อนอยู่ตรงลานกลางป้อม

“เราเสียไปคนหนึ่งแล้ว บอกให้ที่เหลือระวังตัว” โคลด์พูด เขาชี้ตำแหน่งของหินก้อนหนึ่งที่อยู่บริเวณประตูหลังแล้วกดมันลงดิน

มาลแกธเคาะตุ้มหูเวทส่งสารถึงเดเนธอร์ทันที ไม่นาน ลูกน้องคนสนิทก็ส่งรหัสกลับมา

ทว่ามาลแกธได้รับรหัสไม่ครบ เพียงเป็นการเคาะครั้งสองครั้งเท่านั้นก็หายไป ไม่อาจแปลความหมายได้

เอลฟ์ตะวันออกคาดว่าฝั่งเดเนธอร์ถูกโจมตีกะทันหันอีกครั้ง

“จับเป็นแบบไม่ให้บุบสลายยากกว่าจับตายหลายเท่า” มาลแกธเอ่ยกับโคลด์

“ข้าบอกตอนไหนว่าพวกนางบุบสลายไม่ได้” โคลด์จัดก้อนหินที่เหลืออีกสี่ก้อน เป็นตำแหน่งของพวกเดเนธอร์ที่เหลือสี่คนว่าอยู่ใกล้ไกลจากจุดที่ทหารคนแรกตายแค่ไหน “กับคนที่จับตัวประกันมาขู่ว่าจะตัดแขนขา ต่อให้ทหารของนางฆ่าทหารของเราตายหมดโดยพวกนางไร้รอยขีดข่วน แต่ถ้านางไม่ได้ตัวข้า นางก็จะทำร้ายตัวประกันอยู่ดี”

ตรงประตูข้าง โคลด์วางก้อนหินลงไปอีกสี่ก้อน แทนทหารอีกกลุ่มรับหน้าที่บุกด้านข้างป้อม ทหารเหล่านั้นได้รับการกำชับให้จัดขบวนแบบกองรบย่อย มีนักดาบนำหน้าและนักธนูระวังหลัง

เมื่อขาดมาลแกธ อดีตหน่วยกาลาฮานก็เหลือกันเก้าคน ห้าคนบุกประตูหลัง ตายไปหนึ่ง สี่คนบุกประตูข้าง ยังไม่เจอศัตรู ส่วนโคลด์กับมาลแกธแยกมาด้วยกัน ทั้งสองจะเป็นกำลังบุกหลัก หาทางเข้าชิงตัวประกัน ขณะที่อีกเก้าคนต้องกักตัวองครักษ์ของท่านหญิงเอริแอดเน่ไว้ให้ได้

แผนที่วาดเองตรงหน้าโคลด์และมาลแกธสามารถบอกตำแหน่งของทหารแต่ละคนได้ก็เพราะ…

“ตรงนี้หรือ เกวน” โคลด์วางก้อนหินแสดงตำแหน่งของนักธนูสตรีของฝ่ายตรงข้ามตามการผินหน้าของนกสีขาวที่เกาะบนมือ

‘เกวนโดลิน’ คือกำลังรบที่เพิ่มขึ้นมาจากการขอความช่วยเหลือของโคลด์ ตั้งแต่ทราบว่าต้องบุกป้อม โคลด์คิดไว้แล้วว่าพวกเขาอาจต้องแบ่งกำลังออกไป และ ‘หูตา’ ที่สามารถมองได้รอบด้านจะทำให้พวกเขาได้เปรียบมหาศาล

สมัยก่อน จอมทัพทมิฬเป็นผู้สอนวิชาการรบให้สองพี่น้องด้วยตนเอง เขานำจุดเด่นในการสื่อสารกับสัตว์ของกวินีเวียร์มาผสานกับพลังควบคุมกองทัพโครงกระดูกไร้พ่ายของฮีมเดียร์ บนฟ้าใช้นก บนดินใช้งูหรือสัตว์ชนิดอื่นที่เข้ากับสภาพแวดล้อมลอบเร้นสืบข่าว

โคลด์ถูกฝึกให้สั่งการกองทัพเดินบนกระดานเหมือนหมาก และในตอนนี้เขาก็แจ้งตำแหน่งการเข้าโอบล้อมนักธนูของฝ่ายตรงข้าม โดยไม่ลืมให้จัดขบวนป้องกันนักดาบ

เขาประลองปัญญากับเอริแอดเน่อยู่จริงๆ

“ถ้านักเวทอยู่ประตูหลัง นักธนูอยู่ประตูข้าง ที่เหลือก็คือนักดาบ การใช้ความสามารถของเกวนในระยะไกลมีข้อจำกัด ตอนนี้นางควบคุมสัตว์ที่ไม่ได้เจอหน้ากันตรงๆ ได้มากสุดห้าตัว และทำได้ไม่นานนัก เรามีเวลาไม่มากกว่าหนึ่งชั่วโมง ในการมีหูตาเหมือนพระเจ้าแบบนี้”

มาลแกธแจ้งข้อมูลที่ได้รับถึงลูกน้องทุกคน เขาเสริมไปด้วยว่า ‘ถ้าจำเป็นต้องใช้ความรุนแรง ก็ระวังอย่าให้ถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส’ ที่สั่งเช่นนั้นเพราะเขาคุยกับโคลด์แล้วว่า เอริแอดเน่สามารถล่วงรู้ได้ หากอัศวินของนางเสียชีวิตหรือแม้กระทั่งได้รับบาดเจ็บ เช่นเดียวกับเขาที่ทราบความเป็นไปของอดีตหน่วยกาลาฮาน

“นักธนูเห็นง่ายเพราะนางต้องมีจุดลอบยิง ข้าให้เกวนบังคับนกวนไปตามจุดเหล่านั้นจนเจอ ส่วนนักเวทน่าจะแอบอยู่ ตอนนี้ฝ่ายนั้นยังไม่รู้ว่าเรารู้ตำแหน่งของนักธนูแล้ว เอาคืนทางประตูข้างก่อน เราจะใช้ความได้เปรียบนี้บีบให้นักดาบร้อนรน” โคลด์สั่ง

 

เวเรด้าอยู่บนจุดซุ่มยิง ซิลเวียส่งข่าวผ่านตุ้มหูเวทแล้วว่าทางนั้นเก็บไปหนึ่ง เหลืออีกสี่คน ส่วนฝั่งนางมีศัตรูสี่คน พวกมันจัดขบวนรัดกุม ยังหาโอกาสอยู่ ที่สำคัญกว่านั้นคือทั้งสองฝั่งไม่เห็นมาลแกธที่ฝีมือฉกาจที่สุด และโคลด์ สตาร์ เป้าหมายหลัก

แม้ท่านหญิงประกาศว่าจะฆ่าฝ่ายนั้นให้หมดรวมถึงดาร์กเอลฟ์ แต่นั่นเป็นเพียงการข่มขวัญและแสดงออกว่าท่านหญิงโกรธขึ้งเพื่อให้ศัตรูประมาท ที่จริงแล้วคำสั่งที่พวกนางได้รับมาคือ ‘ขัดขวางมาลแกธ ล็องธู เป็นสำคัญ’ แม้ประเมินแล้วว่าทหารหน่วยกาลาฮานมีฝีมือใช่ย่อยและมีจำนวนมากกว่า แต่พวกนางก็ยังเชื่อว่าตนจะรับมือได้

เวเรด้าเอาความมั่นใจว่าจะรับมือได้มาจากไหนน่ะหรือ

ถึงตายก็ช่างมัน


เอลฟ์สาวผู้มีผมสีเขียวอ่อนนวลตาคิดเฉกนั้น เพราะนางต้องการให้ท่านหญิงสมประสงค์ ท่านหญิงเจ็บปวดและสูญเสียมามากพอแล้ว พอกันทีกับความผูกพันที่มีต่อบุรุษราชวงศ์รูเมเรียร์และราชาองค์ปัจจุบัน

เอลฟ์สาวผู้ภักดีขึงสายธนูเตรียมพร้อมยิงเมื่อเห็นกลุ่มสี่คนที่ตั้งขบวนอย่างดีแยกออกไปสองคน

สองคนที่แยกตัวไปเข้าสู่มุมอับสายตาที่นางมองไม่เห็น จึงแจ้งให้จามิลลาจัดการ

 

ในสนามรบ พึงระลึกอยู่เสมอว่าการณ์อาจไม่เป็นไปตามที่คาด

ทหารสองนายที่หายไปจากสายตาของเวเรด้า ไม่ได้ฉีกออกจากกลุ่มอย่างไร้ความหมาย แต่กำลังคืบเข้ามาใกล้นางอย่างระมัดระวังตามเส้นทางที่โคลด์ สตาร์ชี้นำ ทหารสองนายนั้น คนหนึ่งเป็นนักดาบ อีกคนเป็นนักธนูที่สามารถใช้อาวุธระยะไกลได้หลากหลาย ซึ่งเวลานี้ สองมือของมันไม่ได้ถือคันธนู แต่เป็นโซ่เส้นบางเท่าสายสร้อย ปลายด้านหนึ่งเป็นจี้อัญมณีเหลือบรุ้งขนาดเท่าข้อนิ้วชี้

หากมองด้วยตาเปล่า ไม่ได้ลองถือด้วยตัวเอง คงนึกไปว่าอาวุธชิ้นนี้เบาหวิว แต่เปล่าเลย...จี้ถ่วงหนักกว่ากริชหรือมีดสั้นทั่วไปเสียอีก แต่พอเหมาะสำหรับการควบคุมวิถีการเหวี่ยง

ทั้งคู่รอจังหวะ…

จนเสียงลูกธนูปะทะดาบ นักธนูสตรีโจมตีใส่ทหารที่ยังอยู่ในที่แจ้ง หมายจะได้เหยื่อจากการซุ่มยิง ชั่วขณะที่นางลดการ์ดลง อดีตทหารหน่วยกาลาฮานที่อ้อมมาจากทิศที่คาดไม่ถึงก็เหวี่ยงโซ่ออกไป

มันไม่ใช่อาวุธสังหาร

แต่คือโซ่เวทซึ่งเหนียวเป็นพิเศษ

เมื่อถูกมันพันรัดก็ยากที่จะดิ้นหลุด

โซ่พุ่งแหวกอากาศเหมือนงู หวังจับนักธนูแห่งอิซิลดาร์ให้มั่น!

 

จามิลลา เอลฟ์สตรีผมสีฟ้าผู้เป็นนักดาบได้รับแจ้งจากเวเรด้าให้จัดการทหารสองนายที่หายไปจากสายตาของจุดซุ่มยิง อัศวินสาวเลือกเส้นทางที่คาดว่าจะเข้าปะทะกับทหารทั้งสองภายในไม่กี่นาที

ทว่าเมื่อมาถึงจุดที่คาดไว้กลับมีเพียงความว่างเปล่า

ไม่มีวี่แววของหน่วยกาลาฮานที่ควรผ่านเส้นทางนี้!

จามิลลาหันขวับ พอดีกับที่ได้ยินเสียงลูกธนูปะทะดาบ ยิงเพียงหนึ่งครั้งแล้วขาดช่วงไป แม้จะเป็นเพียงเสี้ยววินาที แต่นางสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเวเรด้ามานานปี ทราบว่าจังหวะการโจมตีของเวเรด้าไม่เป็นเช่นนี้

ลูกธนูไม่ควรถูกยิงแค่หนึ่งดอกเมื่อนักธนูเผยตัว ประกอบกับไม่พบหน่วยกาลาฮานอย่างที่ตั้งใจไว้ จามิลลาจึงพุ่งตัวไปทางทิศที่เวเรด้าอยู่!

“พลาดท่าหรือ” จามิลลาถามผ่านตุ้มหูเวท แต่ไม่ได้รับคำตอบ หากเป็นสถานการณ์ธรรมดา นางเชื่อว่าเวเรด้ารับมือหน่วยกาลาฮานสองคนได้ แต่เพราะเส้นทางของศัตรูเปลี่ยนไปอย่างคาดไม่ถึง ทั้งที่พวกนางควรชำนาญเส้นทางในป้อมปราการนี้มากกว่าและเป็นฝ่ายได้เปรียบ จามิลลาจึงไม่ประมาท

ทว่าจามิลลาต้องหยุดกะทันหันก่อนวิ่งไปถึงทางขึ้นบันไดสู่จุดซุ่มยิง เพราะทหารเอลฟ์สองนายเข้ามาขวางหน้านางไว้พร้อมอาวุธครบมือ ทั้งสองมาจากทางที่โล่ง เป็นกลุ่มที่เหลืออยู่ในที่แจ้งและถูกลูกธนูของเวเรด้าโจมตี

ศัตรูรู้ความเคลื่อนไหวของพวกนางด้วยสาเหตุอะไรสักอย่าง

พลาดท่าแล้วจริงๆ!

—————————————————————————

A/N บทต่อสู้เขียนยากจริงๆ ค่ะ อะไรที่วางแผนไว้ บางทีตัวละครก็ไม่ได้เล่นตามบทไปทุกเรื่อง พอมีการนอกบทขึ้นมา (แต่บทเข้ากับตัวละครมากกว่าที่คนเขียนวางแผนไว้) บางทีก็เขียน (แก้) ตื่นเต้นดีค่ะ (อ้าๆๆๆ เขียนยาก < ไรงี้น่ะค่ะ)


สวัสดีวันสงกรานต์ XD ตอนต่อไปลงวันที่ 16 เมษายน 60 จ้า!


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (3) [12/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 14-04-2017 16:55:33
กำลังเข้มข้นเลย เดาไม่ถูกเลยว่าจะใชิวิธีไหน
อยากเห็นฉากสองนาง(โคลด์-เอริ)ประทะกัน
แต่พูดก็พูดเถอะ ขอฝากข้ความถึงทั้งสอง
ถ้าพวกเธอไม่เอาซิกฟรีด ชั้นขอ :m16:
เราก็อยากได้ซิกฟรีดค่ะ  :z3: ฟกหสาดกหสฟ้เสหกฟเ้สหกเ้ืกสฟหเ้สกห  :katai3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (4) [14/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 14-04-2017 18:09:49
กำลังเข้มข้นเลย เดาไม่ถูกเลยว่าจะใชิวิธีไหน
อยากเห็นฉากสองนาง(โคลด์-เอริ)ประทะกัน
แต่พูดก็พูดเถอะ ขอฝากข้ความถึงทั้งสอง
ถ้าพวกเธอไม่เอาซิกฟรีด ชั้นขอ :m16:
เราก็อยากได้ซิกฟรีดค่ะ  :z3: ฟกหสาดกหสฟ้เสหกฟเ้สหกเ้ืกสฟหเ้สกห  :katai3:


เค้าสองคนผลักไส งั้นเราสองคนขอรับไว้เองค่ะ
//เปิดสงครามตบตีแย่งชิง อิๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (4) [14/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 14-04-2017 18:23:23
ลุ้นมาก โคลด์นางมาเหนือมีตัวช่วยดี
รอลุ้นว่าเอรินางจะแก้ยังไง
กลัวใจถ้าโคลด์กะอดีตกิ๊กนาง(สามีเรา)จะปะทะกัน
กลัวสามีเจ็บปวด :impress3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (4) [14/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 14-04-2017 18:26:41
หึหึ เอาสิ้ ถึงเวลาเอาจิง จะได้รู้ว่าไผเป็นไผ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (4) [14/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 14-04-2017 21:35:50
ชิงไหวชิงพริบ

ช่วงชิงทุกโอกาส

เอาใจช่วยทุกฝ่ายเลย #หลายใจมาก

เขียนได้น่าติดตามมาก ชื่นชมค่ะ

สวัสดีวันสงกรานต์ค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (5) [16/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-04-2017 14:18:36
บทที่ 20 : แตกหัก (5)

เดเนธอร์ไม่อยากเรียกใช้ ‘คน’ ที่อยู่ในจี้เท่าไหร่

เรียกว่าคนก็ไม่ใช่ เรียกว่า ‘อดีตเอลฟ์’ จะตรงกว่า

หากจำได้ ครั้งที่เดเนธอร์เดินทางไปยังสุสานวิหารร้าง เพื่อโรยทรายเวทตามบัญชาของราชาซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ เขาเกือบไม่รอดกลับมาจากฝูงอันเดด

และไม่ทราบว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย เดเนธอร์ได้รับการช่วยเหลือจาก ‘แคสปาร์’ อดีตนักรบจากยุคสมัยอันไกลโพ้น แคสปาร์ถูกใจเดเนธอร์เพราะจิตวิญญาณของชายหนุ่มบริสุทธิ์ น่าหลงใหลสำหรับผู้อาศัยอยู่ในความมืดมายาวนาน

รอดจากอันเดดมาได้ ทว่าเกือบไม่รอดจากแคสปาร์ หากไม่ได้โคลด์ช่วยไว้ เดเนธอร์อาจกลายเป็นเจ้าสาวของผีพรายไปแล้วก็เป็นได้

กระนั้น เดเนธอร์ก็ผูกมิตรกับวิญญาณนักรบ เขาซื้อจี้บรรจุวิญญาณราคาแพงระยับมาชิ้นหนึ่ง ก่อนจะเดินทางไปถึงสุสานวิหารร้างเพื่อถามแคสปาร์ว่า

 

“อยากมากับข้าหรือไม่”


 

ไม่ต้องเป็นนักพยากรณ์ผู้ล่วงรู้สรรพสิ่ง ก็สามารถเดาคำตอบของแคสปาร์ได้

แรกทีเดียวแคสปาร์คาดว่าตนจะมาเป็นข้ารับใช้ แต่เดเนธอร์ไม่เคยเรียกใช้แม้แต่ครั้งเดียว เขาเคยถามให้หายสงสัย และคำตอบของเดเนธอร์ก็ทำให้แคสปาร์ปฏิญาณตนว่าจะปกป้องชายผู้นี้แม้วิญญาณต้องสลาย

แคสปาร์จำสีหน้าของเดเนธอร์ได้แม่น ยามอีกฝ่ายเอ่ยว่า

 

“ข้าคิดว่า หากข้าถูกขังอยู่ในความมืดอันเป็นอนันต์บ้าง คงทรมานมาก และข้าคิดว่า...ท่านชดใช้เพียงพอแล้ว”

 

ปัจจุบัน แคสปาร์พร้อมช่วยเหลือเดเนธอร์ เพียงเอ่ยนาม...เขาจะสำแดงฤทธิ์ที่คนเป็นไม่อาจมี ให้เดเนธอร์มีชัยเหนือเล่ห์กลของศัตรู

“เรียก...ข้า” แคสปาร์กระซิบ จี้แก้วส่องแสงวาวเรือง เป็นสีมรกตที่เข้มขึ้น

เดเนธอร์ไม่มีเวลาสองใจอีกต่อไป ก่อนหน้า เขาตั้งใจว่าจะเก็บแคสปาร์ไว้เป็นทางเลือกท้ายๆ เนื่องเพราะนักรบผีพรายเคยบอกว่า ‘คนตายไม่ทำงานโดยไร้ข้อแลกเปลี่ยน’ ไม่ทราบว่าจริงเท็จแค่ไหน ตัวเขาเองก็ไม่มีสหายที่เชี่ยวชาญด้านวิญญาณพอจะถาม ทว่าได้ยินจากเนอร์ดาเนลเรื่องที่ดาร์กเอลฟ์นามโคลด์ สตาร์เคยพลีโลหิต ก็มีเค้าว่าจริง

อันที่จริง ข้อแลกเปลี่ยนของแคสปาร์ไม่เลวร้าย...ทางร่างกาย ไม่ต้องแล่เนื้อถือหนัง แต่มันเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่จะทำให้ใจหน่วงหนัก เหมือนยกศักดิ์ศรีให้อีกฝ่ายกำไว้ในมือ

ข้อแลกเปลี่ยนนั้นคือ

 

“ขอให้ข้าสิงสู่กายเจ้าหนึ่งคืนเต็ม”

 

ไม่มีเวลาลังเลแล้ว เดเนธอร์...อดีตรองหัวหน้าหน่วยกาลาฮานคิด ก่อนเอ่ยปากเรียกใช้นักรบจากอดีตกาลด้วยถ้อยคำง่ายๆ “ช่วยข้า แคสปาร์” เพียงเท่านั้น...วิญญาณที่ถูกสะกดอยู่ในจี้ก็คืนรูปร่าง

เอลฟ์หนุ่มผู้มีผิวกายโปร่งแสง ถือดาบเก่าผุเช่นเดียวกับเกราะและผ้าคลุมขาดวิ่น ปรากฏกายขึ้นอย่างสง่าต่อหน้าเดเนธอร์

“ตรงนี้ไม่มีอะไร” แคสปาร์เอ่ยสั้น ก่อนพุ่งทะลุกำแพงไปสำรวจห้องรับรองฝั่งที่เนอร์ดาเนลอยู่ ประจวบกับเสียงดังเคร้ง! อย่างดาบปะทะดาบดังมาจากฟากนั้นพอดี

เดเนธอร์และลูกน้องวิ่งไปทางเสียงปะทะ เห็นเนอร์ดาเนลกับลูกน้องอีกคนกำลังรับการโจมตีจากนักดาบที่เดี๋ยวปรากฏกายเดี๋ยวหายวับไป เดาทิศทางไม่ได้ และดูเหมือนเนอร์ดาเนลจะพลาดท่าบาดเจ็บที่แขนขวา ถึงจับดาบแบบอ่อนแรง

รูปการณ์กำลังจะเลวร้ายลง ทว่าแคสปาร์ทำให้พวกเขาได้แต้มต่อ คนตายมีดวงตาผิดไปจากคนเป็น นักรบผีพรายมองเห็น ‘ความร้อน’ จากวัตถุต่างๆ เช่นเดียวกับงู ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดโปรดของบิดาแห่งความตาย เพราะฉะนั้น...แคสปาร์จึงมองเห็นนักดาบผู้ใช้เวทซ่อนรูปกายได้อย่างชัดเจน

“นักดาบหนึ่ง นักเวทหนึ่ง” นักรบจากอดีตกาลร้องบอกเดเนธอร์ “รับซ้ายบน!” ก่อนตะโกนบอกทิศการโจมตีและรับมือให้แก่เนอร์ดาเนล

“นักเวทอยู่ตรงไหน!” เดเนธอร์กระชับดาบ ขณะแคสปาร์ชี้ไปยังบริเวณที่นักเวทซ่อนตัวอยู่ ซึ่งไม่ห่างจากนักดาบเท่าไรนัก

อดีตหัวหน้าหน่วยกาลาฮานสั่งเนอร์ดาเนลว่า “ทำให้นักดาบซ่อนตัวไม่ได้ซะ!”

“ยังไง!” เนอร์ดาเนลตะโกน ระหว่างรับการปะทะตามทิศที่แคสปาร์บอก

“กลิ่น!”

เร็วยิ่งกว่าความคิด อดีตหน่วยกาลาฮานซึ่งอยู่กับเนอร์ดาเนลรีบคว้าถุงหนังตรงเอวแล้วใช้ฟันดึงจุกออก ก่อนจะสาดสิ่งที่บรรจุด้านในใส่อัศวินแห่งอิซิลดาร์ ในชั่วพริบตาที่นางปรากฏกาย

เหล้า

กลิ่นตลบอบอวลและร่องรอยของหยดน้ำช่วยบอกตำแหน่งคร่าวๆ ทว่าเพียงพอแล้วสำหรับทหารหน่วยกาลาฮาน

อีกด้านหนึ่ง เดเนธอร์ย่างสามขุมเข้าหานักเวท เขาดึงเอาโซ่เวทออกมาถือในมือซ้ายพร้อมเหวี่ยงจับนาง ลูกตุ้มขนาดเท่าปลายนิ้วก้อยแกว่งตามการเคลื่อนไหว เวลาเดียวกัน เมื่อเห็นว่าด้านเนอร์ดาเนลรับมือนักดาบได้แล้ว แคสปาร์ก็พุ่งเข้าหานักเวท ไม่ให้นางทันตอบโต้เดเนธอร์ หรือทันช่วยนักดาบจากเนอร์ดาเนล

นักรบผีพรายตั้งใจสิงสู่นักเวท ดึงให้นางเป็นหุ่นเชิดของตน!

 

ซิลเวียตกตะลึงตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นวิญญาณรูปร่างอย่างนักรบเอลฟ์พุ่งเข้ามา ความอ่อนประสบการณ์ทำให้ปฏิกิริยาตอบโต้ของนางช้า เพราะไม่คาดว่าต้องเจอคู่ต่อสู้เป็นวิญญาณมาก่อน

ทว่าก็เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น

“ซอนย่า!” นักเวทสาวผมสีเทาหลบวิญญาณและโซ่เวทได้อย่างฉิวเฉียดพร้อมวาดมือเสกหมอกโรยตัว หมอกสีเทานี้ประหลาด มันไม่ถูกลมพัด แต่ม้วนวนราวกับมีชีวิต ทหารนายหนึ่งที่สูดหมอกเข้าไปถึงกับตัวชา เท้าไม่มั่นคง มือไม้อ่อน แทบจับดาบไม่อยู่

ซิลเวียไม่มีเวทมนตร์รับมือวิญญาณ หรือเวทมนตร์ที่ใช้โจมตีโดยตรง เวทสายถนัดของนางคือเวทที่มีผลต่อสภาพร่างกาย เช่นเวทอำพรางกาย หรือเวทหมอกนิทราที่ทำให้เป้าหมายสลบหรือชะลอการเคลื่อนไหว ดังนั้นก่อนที่จะถูกวิญญาณของอีกฝ่ายโจมตี นางจึงชิงลงมือ

เวทพรางกายของซิลเวียหายไปจากพวกนางทั้งสองคนแล้ว ซอนย่าคำรามพร้อมวาดดาบหมายเอาชีวิตทหารนายนั้น ทว่าสหายของมันที่ชื่อเนอร์ดาเนลกลับรับได้ทัน ซอนย่ากันท้องเมื่ออีกฝ่ายถีบเข้ามาเต็มรัก นางคะเนว่าเจ้าเนอร์ดาเนลอะไรนี่ฝีมือทางดาบอ่อน ซึ่งก็จริง แต่นางพลาดไปตรงที่ประสาทตอบโต้ของมันดีเลิศ และพอมองเห็นเต็มตา มันก็อ่านการเคลื่อนไหวของนางได้ทัน

ซิลเวียสั่งการให้หมอกพุ่งเข้าใส่เนอร์ดาเนลและคนที่เหลือ แม้นักเวทของดีรานจะขึ้นชื่อว่าฉลาดเป็นกรดและใจเย็นอย่างเหลือเชื่อ ทว่าซิลเวียคนนี้กลับมีจริตร้อนแรงอย่างสตรีอิซิลดาร์ เป็นพวกบุกหนักไม่ห่วงชีวิต ไม่คิดหน้าคิดหลัง

การไม่ทราบว่าวิญญาณทำอะไรได้บ้างทำให้ซิลเวียเลือกไม่หาวิธีป้องกันหรือถอยหนี แต่เร่งทำสิ่งที่ตนทำได้แทน

 

เข้ามาห้า ตายหนึ่ง เหลือสี่…เดเนธอร์คิด

ส่วนตอนนี้ เกือบล้มเพราะหมอกไปหนึ่ง เนอร์ดาเนลบาดเจ็บอีกหนึ่ง เหลือเขา ลูกน้องอีกคน และวิญญาณอีกหนึ่งตน

เดเนธอร์สั่งให้ลูกน้องไปช่วยเนอร์ดาเนล ส่วนเขาอยู่กับแคสปาร์ เตรียมเข้าจับนักเวท

วิญญาณเข้าสิงคนจิตอ่อนได้ง่าย แต่นักเวทดีรานผู้นี้จิตแข็งซ้ำยังมีไอเวทมนตร์กล้าแกร่ง แคสปาร์ถูกผลักออกมา ไม่สามารถเข้าใกล้ร่างนักเวทสตรีแห่งอิซิลดาร์ เขาถอยมาหาเดเนธอร์ แจ้งว่าไม่อาจครอบครองร่างของนางได้

“แต่ถ้าท่านทำให้นางอ่อนแรงจนพลังเวทมนตร์อ่อนลง ข้ารบกวนการเคลื่อนไหวของนางได้” แคสปาร์กระซิบ

เดเนธอร์พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต “ทำให้นางชะงัก แค่วินาทีเดียวก็เพียงพอแล้ว”

เดเนธอร์เริ่มไล่ต้อนซิลเวียพลางหลบกลุ่มหมอกมีชีวิต สิ่งที่เขาต้องการเกิดขึ้นไม่ยากนัก นักเวทย่อมมีพลังกายด้อยกว่านักรบ ยิ่งอีกฝ่ายเป็นสตรีและไม่คุ้นชินกับการต่อสู้จริง

ในการต่อสู้ นอกจากหูตาต้องไวแล้ว สมองยังต้องใช้ความคิดเพื่อเป็นฝ่ายได้เปรียบในการรุกและรับ ทั้งวางแผนการต่อสู้และคาดเดาความคิดของศัตรู ซิลเวียอยู่ในสถานการณ์กดดันที่ฝ่ายนางมีจำนวนน้อยกว่าและเวทพรางตาใช้ไม่ได้ผล ยิ่งเวลายืดออกไป นางก็ยิ่งเหนื่อยล้าทั้งกายและจิต

นักเวทสาวผมสีเทาถูกกดดันจนอ่อนแรงสุดขีด เหงื่อท่วมใบหน้างาม มือบอบบางสั่น ร่างกายเกร็ง ขณะอัศวินสาวผมสีดำไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือเพราะติดพันคู่ต่อสู้หลายคน

ในเสี้ยววินาทีแห่งโอกาสนั้น แคสปาร์พุ่งเข้าหานักเวทดีรานอีกครั้งจากมุมอับ แม้ไม่สามารถตรึงนางได้อย่างสมบูรณ์ ทว่าชั่วขณะที่นางถูกวิญญาณเข้ากระแทก ร่างกายของนางจะหยุดชะงัก...ซึ่งให้เวลากับเดเนธอร์แค่พริบตา

เดเนธอร์ฉวยจังหวะนั้นเหวี่ยงโซ่เวทออกไป

คราวนี้มันเข้ารัดนักเวทสตรีอย่างแม่นยำ

 

จามิลลาไปไม่ถึงเวเรด้า นางถูกสกัดไว้ด้วยทหารอดีตหน่วยกาลาฮานสองนาย ทั้งคู่ถนัดทางดาบ หนึ่งในนั้นถนัดเวทศัสตราวุธ สามารถร่ายเวทสลายพลังเวทในดาบของนางได้

จามิลลาหรี่ตาเมื่อดาบปะทะดาบและพลังเวทในดาบของนางถูกทำให้อ่อนลง ทว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางเผชิญหน้าผู้ใช้เวทศัสตราวุธด้วยกัน จากนี้จึงเป็นการประลองฝีมือเชิงดาบ

‘แข็งแกร่ง’ และ ‘แข็งแกร่ง’ คือคำที่ใช้นิยามจามิลลา เทคนิคฝีมือดาบของนางไม่มีลูกเล่นแพรวพราวแต่เรียบง่ายดุดัน การฟาดฟันของนางเคร่งครัดแม่นยำ อันเป็นผลจากการฝึกซ้อมอย่างอุตสาหะทุกวัน

นักดาบฝีมือฉกาจของอิซิลดาร์อยู่ที่นี่แล้ว ข่าวลือว่านางเคยสังหารราชองครักษ์ของคิงริวอร์นอร์ก็ถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ลือกันเกินจริง

ทว่าอดีตหน่วยกาลาฮานก็มีฝีมือไม่เบา การรุกรับแบบสองรุมหนึ่งในระยะประชิดทำให้ดาบของพวกเขาคนหนึ่งเสยกะบังอกของนางหลุด เสื้อของนางถูกปาดไปถึงสายหนังตรงไหล่ที่ใช้คาดเกราะ รอยผ่ากว้างของเสื้อเผยรอยแผลเป็นรูปกากบาทตรงช่วงอกอันเป็นรอยถูกอาวุธขนาดใหญ่ฟัน

แผลเก่าย่อมเป็นจุดอ่อน นี่คือจุดอ่อนของจามิลลา

อดีตหน่วยกาลาฮานซึ่งเชี่ยวชาญเวทศัตราวุธเห็นโอกาสนั้น เขาร่ายมนตราบทหนึ่งอย่างรวดเร็ว มันเข้าห่อหุ้มใบดาบ ทำให้ปลายคมแปรสภาพเป็นทื่อเหมือนกระบอง ทหารหนุ่มเสือกปลายดาบเข้าจุดอ่อนของจามิลลา กระแทกผิวเนื้ออ่อนของรอยแผลเป็น

นั่นทำให้นางเสียหลัก

ทว่าด้วยประสบการณ์อันโชกโชนในสนามรบ จามิลลาตั้งรับได้ทันท่วงที อดีตทหารหน่วยกาลาฮานชื่นชมในใจ ด้วยว่าเขาไม่ได้ออมแรงกับนางเลย ยามเขาฟันนางดาบหนึ่ง อีกดาบหนึ่งจากสหายร่วมหน่วยก็พุ่งเข้าปะทะนางทันควัน แต่นางโต้ตอบได้ทุกครั้ง

ถึงอย่างไรพลังกายของนางย่อมถดถอย...อีกไม่นาน

ทหารหนุ่มร่ายเวทศัตราวุธอีกบท ครั้งนี้เสริมพลังทำลายล้างให้ดาบ ซึ่งผู้ใช้ต้องมีกำลังแขนแข็งแกร่ง เพราะดาบจะหนัก แรงปะทะและแรงสะท้อนกลับก็จะหนักตามไปด้วย บางคนกำลังแขนไม่พออาจถึงขึ้นไหล่หลุดหรือกระดูกหัก

ดาบนี้ฟาดแรงเหมือนถูกเหวี่ยงค้อนยักษ์ใส่ จามิลลาใช้ดาบใหญ่กันไว้ได้ทัน แต่สองเท้าของนางถอยกรูด ส้นรองเท้าหุ้มเกราะทิ้งรอยครูดลึกบนพื้นหิน

จามิลลารู้สึกเจ็บแปลบเหมือนไหล่จะหลุด เสื้อที่ถูกปาดก็เกะกะรุ่ยร่ายจนต้องดึงออก เหลือเพียงบราที่ทำจากโซ่ถักป้องกันตำแหน่งหัวใจ

นางถูกสองรุมหนึ่ง ไม่สามารถจบการต่อสู้โดยง่ายเพราะอีกฝ่ายมีฝีมือมากกว่าที่คิด อีกใจพะวงถึงเวเรด้า พลันเสียงฝีเท้าของบุคคลที่สามก็ดังใกล้เข้ามา

เวเรด้าหรือ จามิลลาคิด แต่แล้วก็กำดาบแน่นขึ้น เพราะผู้มาใหม่คือเอลฟ์บุรุษแห่งหน่วยกาลาฮาน

ทหารคนนี้คือหนึ่งในสองคนที่ถูกโคลด์สั่งให้แยกตัวไปโจมตีนักธนูอิซิลดาร์ เมื่อมันย้อนกลับมา ก็กลายเป็นสามรุมหนึ่ง!

แล้วเวเรด้าอยู่ที่ไหน จามิลลาหรี่ตา สหายของนางไม่มีวันละทิ้งตำแหน่งและปล่อยศัตรูให้รอดจากลูกธนู

เว้นเพียงแต่ว่า…


—————————————————————————

A/N ฝั่งองครักษ์กับกาลาฮานกำลังดุเดือดเลยค่ะ เดเนธอร์และคุณผีก็กลับมาให้จิ้นอีกแล้วนะคะ \(*0*)/

ส่วนตัวเราชอบจามิลลาตรงคอนเซ็ปอัศวินผู้เข้มแข็ง แต่เห็นเธอแข็งกร้าวแบบนี้ จริงๆ ก็มีด้านอ่อนโยนเหมือนกันนะคะ


ตอนต่อไปลงวันที่ 18 เมษายน 60 จ้า!


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (5) [16/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 16-04-2017 14:32:06
ลุ้นตัวโก่งเลยค่ะ

แทบรอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ใ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (4) [14/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-04-2017 14:37:41
ชิงไหวชิงพริบ

ช่วงชิงทุกโอกาส

เอาใจช่วยทุกฝ่ายเลย #หลายใจมาก

เขียนได้น่าติดตามมาก ชื่นชมค่ะ

สวัสดีวันสงกรานต์ค่ะ

โอ ขอบคุณค่ะ เขินเลย แหะๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (5) [16/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-04-2017 16:03:27
ลุ้นตัวโก่งเลยค่ะ

แทบรอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ใ
 :pig4:
ขอบคุณที่แวะมาอ่านจ้า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (5) [16/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-04-2017 16:29:10
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (5) [16/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-04-2017 23:03:39
ยังคงยืนยันว่า ฉันเอาใจช่วยทุกฝ่ายเลย

 #หลายใจยิ่งกว่าป๋ามาล  ฮ่า ๆ ๆ ๆ


คุณผีกับน้องเดทำให้ฉันรู้สึกฟิน
"สิงสู่" นี่คืออะไรรรรรรร
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (5) [16/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 17-04-2017 11:26:53
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (6) [18/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 18-04-2017 19:52:25
บทที่ 20 : แตกหัก (6)

เบื้องหน้าอดีตหน่วยกาลาฮานทั้งสามคน เอลฟ์สตรีผมสีฟ้าที่ถูกพวกเขาล้อมกลับไม่คิดหนีหรือมีท่าทางร้อนรน กลับกัน นางสืบเท้ามาข้างหน้า ย่อตัวอย่างมั่นคง สองมือตั้งอาวุธดาบอัศวินขนาดใหญ่ในท่าพร้อมต่อสู้

นางกล่าวอย่างเยือกเย็นเป็นประโยคแรกตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ว่า

“ข้าคือจามิลลา ไวลันดรากูล อัศวินแห่งอิซิลดาร์ ไม่ข้ามศพข้า พวกเจ้าทั้งสามก็ไปจากตรงนี้ไม่ได้”

ไอเวททรงพลังห่อหุ้มร่างกายและอาวุธดาบของนาง แสงเรืองรองสีฟ้าอ่อนของพลังเวทมนตร์นั้นดุจแสงตะเกียงที่เผาน้ำมันส่วนสุดท้ายให้ลุกโชติช่วง

...ก่อนที่ตะเกียงดวงนั้นจะดับลง

จิตสังหารแผ่พุ่ง จามิลลาทุ่มเทกำลังทั้งหมด รั้งทหารสามคนนี้ไว้กับนาง!

---------------------------------------

ประตูหลังเดเนธอร์คุมไว้ได้ ส่วนประตูข้าง ทหารหาญสี่นายก็สามารถกักนักดาบและนักธนูแห่งอิซิลดาร์เอาไว้เช่นกัน แผนรับมือและไล่ต้อนของโคลด์ สตาร์สำเร็จ เปิดทางให้เขาและมาลแกธ ล็องธูเข้าประชิดลานด้านในซึ่งคาวคลุ้งไปด้วยไอโลหิต

จากตรงนี้ มาลแกธเห็นหมอกสีดำเต้นระบำวูบไปวาบมาท่ามกลางฝนเม็ดละเอียดสีแดงฉาน มันห่างไกลจากภาพการต่อสู้ที่เขาเคยประสบมา หากถามความเห็นของนักรบตะวันออก เขาจะตอบโดยไม่ลังเลว่าภาพตรงหน้า ‘ช่างอัศจรรย์…’

เหมือนการต่อสู้ของเทพและเทพี...มาลแกธคิด เขานับถือเทพและเทพีเฉกนักรบตะวันออกทุกคน เป็นความเชื่ออันต่างจากผู้อาศัยอยู่บนแผ่นดินใหญ่เช่นรูเมเรียร์หรืออิซิลดาร์

ระหว่างอดีตหัวหน้าหน่วยกาลาฮานกำลังฝันเคลิ้มไปกับสมรภูมิที่ใช้เวทปะทะเวท โคลด์ก็เรียกเขากลับมาจากภวังค์ด้วยการแจ้งสถานการณ์

“นักธนูหายไป เกวนหานางไม่เจอ นางอาจรู้ตัวแล้วว่าถูกจับตาดูอยู่” หมดช่วงเวลาจำกัดที่ความสามารถของเกวนโดลินจะใช้ได้แล้ว ตอนนกสีขาวบินจากไปเพราะหลุดการควบคุม โคลด์เม้มปาก เขาคิดเกวนน่าจะสลบไป

“ประตูข้าง ทหารข้าสามคนยันนักดาบอยู่ อีกคนตามร่องรอยนักธนู…” มาลแกธกดตุ้มหูเวทให้แนบขึ้น “ประตูหลัง นักดาบอิซิลดาร์เริ่มอ่อนแรง นักเวทถูกจับแต่ยังร้ายกาจ...สมเป็นดีราน”

‘สมเป็นดีราน’ ประโยคนี้ มาลแกธคล้ายพูดกับความทรงจำในอดีตมากกว่าเอ่ยชมซิลเวีย

“แผนของเจ้าล่ะ”

“รอสักครู่” โคลด์แอบมองการต่อสู้ตรงลาน สายตาเขาหาอิลมาเรเจออย่างรวดเร็ว ตรงตามตำแหน่งที่เกวนโดลินบอกไว้ ข้างอิลมาเรที่ถูกของเหลวหนืดข้นสีแดงเกาะคือท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์

เมื่อวานนี้ หลังจากฟังสาเหตุที่นางจงชังดาร์กเอลฟ์มาจากซิกฟรีด โคลด์ไม่แปลกใจหากซิกฟรีดจะเลือกเข้าข้างนาง

ท้ายที่สุด ต่างคนต่างก็ต้องพึ่งตัวเอง

หากถามว่าเขาเสียใจที่ซิกฟรีดตัดสินใจเช่นนี้หรือไม่ แวบหนึ่ง ใจเขาวูบโหวง แม้เตรียมใจไว้ดิบดีเท่าไร เรื่องบางเรื่อง กว่าจะทราบว่ามันส่งผลต่อจิตใจมากแค่ไหน ก็เมื่อเผชิญหน้ากับมันจริงๆ

อย่างไรก็ตาม โคลด์ถมทับความว่างเปล่าในรอยแยกของหัวใจด้วย ‘เหตุและผล’ อย่างรวดเร็ว

ในเมื่อเขาตัดสินใจตัดซิกฟรีด ก็ต้องยอมรับว่าซิกฟรีดควรตัดเขาเฉกกัน โคลด์ถึงกับแปลกใจที่เขาเย็นชาต่อเรื่องนี้ได้น้อยกว่าที่ตัวเองคิด

คงเพราะข้ามีหัวใจกับเขาบ้างแล้วกระมัง

“การต่อสู้ในป้อมปราการนี้ ความสามารถปลุกชีพคนตายของข้าไม่ค่อยมีประโยชน์ หน่วยกาลาฮานทำได้ดีแล้ว ต่อไปคือการบุกแบบฉวยโอกาส เจ้าคิดว่าจัดการเอริแอดเน่กับซิกฟรีดพร้อมกันได้ไหม” โคลด์ถามมาลแกธพร้อมประเมินสถานการณ์ แสงสีของไอเวทรุนแรงที่เปล่งออกมาจากใบดาบเวทอันวิจิตรบอบบางของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์มีอันตรายถึงตายที่สัมผัสได้ด้วยตาเปล่า “เวทที่นางใช้ เหมือนกำลังกักซิกฟรีด แต่ถ้าเราโจมตีนาง เขาอาจหลุดออกมา ตอนนั้นให้คิดว่าเขาจะเข้าข้างเอริแอดเน่ไว้ก่อน”

“ข้าต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าข้าไม่ถนัดทางเวทเท่าไรนัก และความสามารถของควาร์ใช้ได้ยากในสถานที่ที่เสียงทมิฬรบกวนเยอะขนาดนี้ อาจมียกเว้นการควบคุมไฟซึ่งข้าถนัด” มาลแกธเอ่ยตรงๆ

ควาร์สามารถใช้เวทได้เต็มประสิทธิภาพที่สุดในแผ่นดินรูเมเรียร์ หูของพวกเขาจะได้รับพรอันประเสริฐจากบิดามารดา ไม่ถูกรบกวนด้วยเสียงมุ่งร้ายใดๆ ทว่าจะด้อยลงเมื่ออยู่ในแดนต่างถิ่นอย่างแคว้นอิซิลดาร์หรือแดนตะวันออก (ซึ่งไม่ส่งผลกับมาลแกธผู้มีสายเลือดตะวันออก) โดยเฉพาะกับแดนทมิฬแล้ว หูของควาร์จะด้อยลงอย่างมากด้วยเสียงก่นด่าสาปแช่งจากเผ่าพันธุ์ที่เป็นปรปักษ์กัน

ป้อมปราการแห่งนี้อยู่ในแผ่นดินรูเมเรียร์ก็จริง ทว่ากลับเต็มไปด้วย ‘เสียงทมิฬ’ ซึ่งสาดมาจากหมอกสีดำหรือ ‘เงาปีก’ ของซิกฟรีดนั่นเอง

“อาจตึงมือนิดหน่อยแต่ข้ายันไว้ได้ คาดว่านานพอให้เจ้าช่วยอิลมาเรแล้วหนีไป” มาลแกธหันไปหาโคลด์

แม้ในเวลานี้ เขายังมองเห็นรอยร้าวอ่อนจางในดวงตาสีม่วงของโคลด์...รอยร้าวอันเกิดจากความผูกพันที่มีให้แก่ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์

สุดทางแล้ว…

พวกเขายื้อกันและกันจนสุดทางแล้ว


ระหว่างโคลด์กับซิกฟรีด เทพเทพี...หรือบิดามารดาทั้งหลายได้ขีดเส้นผ่าทางแยกแห่งโชคชะตาไว้แต่แรก หนึ่งดาร์กเอลฟ์ หนึ่งเอลฟ์...แต่อาจมีใครเล่นตลก จับเส้นโชคชะตาของพวกเขาให้มาบรรจบกัน เพื่อจะได้ฉีกถ่างออกจากกันอย่างทารุณ

“ข้าพร้อมเมื่อเจ้าพร้อม”

มาลแกธชักกริชออกมา ใบคมบางเฉียบสลักภาษาตะวันออกโบราณ ส่วนด้ามพันผมสีเทาอ่อนเกือบเงินเอาไว้อย่างประณีต

ไม่สิ…

มีสีทองเจือแดงผสมปนเปอยู่ด้วย

“โจมตีนางให้ถึงตาย” โคลด์ใช้งานนักรบตะวันออกอย่างคุ้มค่า “เอาไว้ถ้าเขาเสียใจมากจริงๆ ข้าค่อยปลุกนางขึ้นมา แต่ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าตาย มาลแกธ ล็องธู”

นี่เป็นทางเลือกสุดท้าย ‘ฆ่าเอริแอดเน่’ แต่โคลด์ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เพราะถ้าลังเล ที่จะตายก็คือฝ่ายเขา...และเขาไม่อยากให้มาลแกธหรืออิลมาเรตาย

โคลด์คืนชีวิตให้คนตายได้ก็จริง แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีอะไรรับรองว่าพวกเขาจะฟื้นกลับคืนมาโดยสมบูรณ์ได้ตลอดอายุขัย แต่ละคนที่เขาเคยคืนชีวิตให้ ไม่ให้โอกาสเขาอยู่รอดูผลลัพธ์นานขนาดนั้น...รวมถึงจอมทัพทมิฬ

“ดังเจ้าประสงค์ ที่รัก”

มาลแกธก้าวออกไปสู่ลานสมรภูมิ

ริมฝีปากงามดั่งโอษฐ์ของเทพสงครามร่ายเวทแห่งดีราน

ตัดผ่านไอโลหิตและหมอกทมิฬ

 

คราแรกที่ประมือกับพี่หญิง ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์สัมผัสได้ถึงความปวดหนึบในหัวใจ

เขากำลังทำร้ายพี่หญิงผู้เมตตาเขา เอ็นดูเขา เพื่อคนรักเพียงคนเดียวอย่างนั้นหรือ

ทว่าพอประมือกันนานเข้า หัวใจของราชาหนุ่มค่อยๆ ชาด้าน อาจเป็นเพราะเวททมิฬ...แค่อาจจะ หรืออาจเป็นเพราะหัวใจเขาชาด้านมานานแล้วแต่ไม่เคยยอมรับ

เขาเป็นใคร

หลายคนว่าราชาหนุ่มคล้ายคลึงกับพระเชษฐาเฟรธูริน มีความเมตตาต่อประชาชนในทุกเผ่าพันธุ์เป็นที่ตั้ง ทั้งฉลาดหลักแหลม มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่...ดีงาม

บ้างว่าการที่เขาได้ยินเสียงบิดามารดาเป็นเพราะมีหัวใจอันบริสุทธิ์เฉกพระขนิษฐาคาลิเธียล

หรือบ้างก็ว่า...ยามเขาสั่งการอย่างเด็ดขาดจากบัลลังก์เหล็กดำ ช่างองอาจเหมือนพระเชษฐาริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์ เป็นบุรุษผู้มีหัวใจที่ห้าวหาญและแกร่งกล้า สมเกียรติกษัตริย์แห่งรูเมเรียร์

แล้วหัวใจชาด้านยามนี้ล่ะ...

นัยน์ตาสีส้มเงินหรี่แคบลง ในอนาคตอาจมีคนเปรียบว่า ‘หัวใจของเจ้าเหมือนราชาซิกฟรีด ชาและด้านยิ่งกว่าหัวใจคนตาย’

ซิกฟรีดมองตรงไปยังใบหน้างามของพี่หญิง สายตาเขาอ่านยาก ใช่ว่าเพราะหลากอารมณ์ แต่เพราะไม่มีร่องรอยใดๆ ให้อ่านเลย ก่อนหน้า เห็นได้ชัดว่าราชาหนุ่มควบคุมเวททมิฬซึ่งฝังอยู่ในร่างกายข้างซ้ายไม่ดีนัก ปีกตวัดฉวัดเฉวียนไร้ทิศทาง แต่เวลานี้มันนิ่ง...และแม่นยำขึ้นอย่างน่ากลัว

ร่างกายครึ่งซ้ายของซิกฟรีดระเหิดเป็นหมอกไปหมดแล้ว เหลือเพียงครึ่งขวาที่ยังดูมีเลือดเนื้อ เขาแทบไม่ขยับจากจุดเดิม มีเพียงปีกซ้ายข้างใหญ่ที่เริงระบำไปทั่ว ดูไปดูมาเหมือนพรายทมิฬจากอดีตกาลฟื้นคืนชีพ

เอริแอดเน่ผ่อนลมหายใจ แต่ไม่ผ่อนการระวังภัย นางทราบว่าฝ่ายตนกำลังเสียเปรียบ ซิลเวียกับซอนย่ารับศึกตึงมือ ขณะที่การติดต่อจากเวเรด้าขาดไป ไม่ทราบว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร แต่จามิลลากำลังรับศึกสามต่อหนึ่ง คาดว่าศัตรูอีกหนึ่งคนที่เหลืออยู่กำลังตามหาเวเรด้า

‘อัศวินพลีชีพเพื่อนาย’

แม้จะทราบคตินี้และยึดถือใช้งานเป็นอย่างดี ทว่าเอริแอดเน่ก็ทราบเฉกกันว่า อัศวินยินดีพลีชีพเพื่อนายที่ทรงเกียรติ ในสถานการณ์อันทรงคุณค่า และเพื่อแผ่นดิน หาใช่ตายโดยไร้ค่าและไร้เกียรติ

การที่พวกจามิลลายอมรับการตัดสินใจของนางโดยไม่เกี่ยงว่ามีเกียรติหรือไม่ ทำให้เอริแอดเน่ไม่อาจทอดทิ้งพวกนาง

ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์เป็นผู้เหี้ยมโหด แต่กับคนที่เชื่อใจนางและมอบชีวิตให้แก่นาง นางไม่มีวันทรยศต่อความไว้ใจนั้น เพราะต่อให้นางต่ำช้าแค่ไหน แค่เรื่องนี้เท่านั้น ที่นางไม่มีวันเป็นเหมือนริวอร์นอร์

เอริแอดเน่กัดฟันกรอด ใบหน้างามกระตุก

ท่านเฟรธูรินเองก็เชื่อใจริวอร์นอร์...และตัวข้า แต่สุดท้ายท่านก็ตายเพราะน้องชายและสตรีแพศยาที่ท่านไว้ใจ

ด้วยชังในการกระทำของริวอร์นอร์ เอริแอดเน่จึงไม่ทอดทิ้งผู้ที่จงรักภักดีต่อนางอย่างลึกซึ้ง แม้ว่านั่นจะกลายเป็นจุดอ่อนข้อใหญ่

“ข้ารักเจ้าจริงๆ ซิกฟรีด” ริมฝีปากเคลือบสีแดงกระซิบ ดวงตาสีหินแก้วประกายรุ้งมองซิกฟรีด พร้อมนึกถึงบรรดาพี่ชายของเขา

ข้ารักเจ้าจริงๆ...ไม่ว่าจะในฐานะเจ้าชายน้อยผู้น่าเอ็นดู หรือราชาหนุ่มผู้หลงรักดาร์กเอลฟ์

“เจ้าหลงรักดาร์กเอลฟ์ ทางที่เลือกจะทำให้เจ้ากลายเป็นทรราช การที่เจ้าไม่รักข้าเป็นแค่ฝุ่นผงเท่านั้นเมื่อเทียบกับการที่เจ้าจะทำลายแผ่นดินของท่านเฟรธูริน”

เมื่อความโกรธเบาบางลง เอริแอดเน่ใช้สติทบทวนสิ่งที่ควรทำซ้ำแล้วซ้ำอีก นางอาจหมดหวังกับซิกฟรีด แต่ไม่อาจหมดหวังต่อแผ่นดินของท่านเฟรธูริน

เพราะนางเป็นหนี้ท่านเฟรธูรินมากมายเหลือเกิน

“ข้าไม่อาจผิดต่อเขาได้มากกว่านี้อีกแล้ว วันนี้ข้าจะแยกเจ้าออกจากความรักของเจ้า ถ้าข้าทำให้โลกนี้กลายเป็นนรกสำหรับเจ้า ข้าก็จะอยู่เคียงข้างและคอยดูแลเจ้าในนรกนั้นจนกว่าชีวิตของข้าจะหาไม่”

ข้าตัดสินใจแบบนี้ได้ใช่ไหมเจ้าคะ ท่านพี่เฟรธูริน

...เพราะข้าไม่เหลือใครให้รักและดูแลอีกแล้ว…


เอริแอดเน่คิดว่าท่านเฟรธูรินจะตอบนางว่า ‘ได้’ แล้วอุ้มนางขึ้น กอดนางไว้อย่างอ่อนโยน ช่วยเช็ดน้ำตาให้ แม้จริงๆ แล้วสิ่งที่นางขอจะเห็นแก่ตัวอย่างไม่อาจให้อภัย


—————————————————————————

A/N สวัสดีค่ะ ตอนนี้โคลด์ตัดสินใจเด็ดขาดทีเดียว ซึ่งเราบอกได้ไม่เต็มปากว่าถูกหรือผิด สำหรับเรา การเลือกของตัวละครในแต่ละครั้ง ไม่สามารถบอกได้จริงๆ ค่ะว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดหรือแย่ที่สุด เพราะมันเป็นทางเลือกที่ตัวละครเห็นว่าเหมาะสมที่สุด ภายใต้สถานการณ์นั้นๆ


มาถึงตอนนี้ เราคิดว่าคนที่ไม่ชอบเอริแอดเน่คงมีมากขึ้น ทางที่เธอเลือกเองก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าดีหรือเลว เห็นแก่ตัวหรือน่าสงสาร หรือทั้งสองอย่าง เราคิดว่า แม้กระทั่งคนที่ฉลาดที่สุด ก็ไม่สามารถเลือกทางแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ให้ถูกต้องที่สุดได้ค่ะ


ตอนต่อไปลงวันที่ 20 เมษายน 60 จ้า!


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (6) [18/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-04-2017 20:19:13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (6) [18/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 18-04-2017 22:32:16
รู้สึกหน่วงๆ 

สรุปท่านพี่ตายยังไง เอริเกี่ยวข้อวหรือไม่ ยังไงอ่ะ?

ยังรักทุกโค๊นนนนนน ฮือ

:z3:

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (6) [18/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 18-04-2017 23:07:07
รู้สึกหน่วงๆ 

สรุปท่านพี่ตายยังไง เอริเกี่ยวข้อวหรือไม่ ยังไงอ่ะ?

ยังรักทุกโค๊นนนนนน ฮือ

:z3:

เฟรธูรินตายอย่างไร เพราะอะไร จะมีเฉลยอย่างละเอียดในภาค Ugly Queen ค่า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (6) [18/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-04-2017 12:32:27
เห้ออออ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (6) [18/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 19-04-2017 16:21:02
สงสัยแอรี่มากขึ้นเรื่อย ๆ
ดูเหมือนนางจะทรยศเฟรธูรินอย่างนั้นหรือ

มีภาคต่อ Ugly Queen แสดงว่านางได้ไปต่อ
แล้วซิกฟรีดเล่า? หรือเขามาแค่เป็นหมากเบี้ยอัศวินที่รอถูกเขี่ยทิ้งบนกระดานนี้?
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (6) [18/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-04-2017 19:11:01
สงสัยแอรี่มากขึ้นเรื่อย ๆ
ดูเหมือนนางจะทรยศเฟรธูรินอย่างนั้นหรือ

มีภาคต่อ Ugly Queen แสดงว่านางได้ไปต่อ
แล้วซิกฟรีดเล่า? หรือเขามาแค่เป็นหมากเบี้ยอัศวินที่รอถูกเขี่ยทิ้งบนกระดานนี้?

คิดเหมือน
เอรีแอดเน่ อาจถูกหลอกใช้
แล้วเหมือนเป็นการทรยศต่อเฟรธูริน
นาง ถึงจมในบ่วงทุกข์  รวดร้าว และคลั่งแค้นต่อ ริวอร์นอร์
ในมุมมองเอริแอดเน่ ซิกหลงรักดาร์กจนกู่ไม่กลับ
มุมมองโคลด์ ซิกอาจตัดตนเอง เหมือนที่ตัวเองก็ตัดซิก
แต่ดีที่โคลด์ ไม่เจ็บปวดใจจากการที่ซิก จะตัดตัวเอง
มีแต่มาลแกธ สดชื่นอยู่คนเดียวจริงๆ
เฮอะๆ.... เดี๋ยวๆ ก็ที่รักๆ หมั่นไส้ซะจริงๆ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (6) [18/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 19-04-2017 19:23:46
สงสัยแอรี่มากขึ้นเรื่อย ๆ
ดูเหมือนนางจะทรยศเฟรธูรินอย่างนั้นหรือ

มีภาคต่อ Ugly Queen แสดงว่านางได้ไปต่อ
แล้วซิกฟรีดเล่า? หรือเขามาแค่เป็นหมากเบี้ยอัศวินที่รอถูกเขี่ยทิ้งบนกระดานนี้?

พอดีตอบด้วยมือถือ เลยมะได้ตอบทุกคอมเมนต์นะคะ
ภาค 2 Ugly Queen เป็นภาคย้อนอดีตค่ะ เป็นเรื่องก่อนที่โคลด์ / ซิกฟรีดจะเกิดเป็นหลัก
ส่วนภาคต่อของภาค 1 คือ ภาค 3 (ยังไม่มีชื่อ และเป็นภาคจบค่ะ)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (6) [18/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 19-04-2017 22:16:53
สงสัยแอรี่มากขึ้นเรื่อย ๆ
ดูเหมือนนางจะทรยศเฟรธูรินอย่างนั้นหรือ

มีภาคต่อ Ugly Queen แสดงว่านางได้ไปต่อ
แล้วซิกฟรีดเล่า? หรือเขามาแค่เป็นหมากเบี้ยอัศวินที่รอถูกเขี่ยทิ้งบนกระดานนี้?

คิดเหมือน
เอรีแอดเน่ อาจถูกหลอกใช้
แล้วเหมือนเป็นการทรยศต่อเฟรธูริน
นาง ถึงจมในบ่วงทุกข์  รวดร้าว และคลั่งแค้นต่อ ริวอร์นอร์
ในมุมมองเอริแอดเน่ ซิกหลงรักดาร์กจนกู่ไม่กลับ
มุมมองโคลด์ ซิกอาจตัดตนเอง เหมือนที่ตัวเองก็ตัดซิก
แต่ดีที่โคลด์ ไม่เจ็บปวดใจจากการที่ซิก จะตัดตัวเอง
มีแต่มาลแกธ สดชื่นอยู่คนเดียวจริงๆ
เฮอะๆ.... เดี๋ยวๆ ก็ที่รักๆ หมั่นไส้ซะจริงๆ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

แง อย่าเคืองมาลแกธเลยนะค้า เห็นแบบนี้ก็รักจริงจังน้า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (7) [20/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 20-04-2017 21:33:16
บทที่ 20 : แตกหัก (7)

ซิกฟรีดไม่ได้ตอบรับนาง เขานิ่งอย่างน่าหวาดผวาอยู่กลางเงาปีกทมิฬ ไอหมอกแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งปลายขนปีกสามารถแตะผิวของเอริแอดเน่ได้

ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์สัมผัสถึงกระแสไฟฟ้าบนผิว ไม่เข้มข้นรุนแรงแต่เจ็บแปลบเพียงวูบหนึ่ง มันอาจเป็นการเตือนแสนอ่อนโยนครั้งสุดท้ายก็เป็นได้

สายฟ้า...เชื่อกันว่าเป็นความพิโรธของมารดาสมุทรที่มีให้บิดานภา ทำให้ท้องฟ้าแจ่มใสมืดครึ้ม จากนั้นแสงวาบจะวิ่งไปทั่วเมฆทะมึน ก่อนฟาดลงสู่ผืนดินอย่างไม่ปรานี บางครั้งหากฟาดถูกต้นไม้ เพลิงก็จะโหมไหม้กลืนกินป่า หรือหากฟาดถูกผู้คนไปจนถึงสรรพสัตว์ สายฟ้าก็จะพรากชีวิตไปสู่อุ้งพระหัตถ์ของบิดาแห่งความตาย

เวลานี้เงาปีกทมิฬสามารถสร้างกระแสไฟฟ้าได้ แปลว่าซิกฟรีดได้รับความเมตตาอันน่าสะพรึงจากมารดาสมุทรใช่หรือไม่

เอลฟ์กับมารดาแห่งดาร์กเอลฟ์ทั้งมวล

อย่างไรก็ไม่น่าอภิรมย์เลย

ปลายขนปีกแตะถูกผิวแก้มของเอริแอดเน่ได้อีกครั้ง และครานี้มาพร้อมเสียงกระซิบแผ่ว

‘ปล่อยดวอร์ฟเถิด พี่หญิงของข้า ปล่อยมัน...แล้วข้าจะเป็นซิกฟรีดเด็กดี’

“ข้าบอกแล้วว่าจะสอนเจ้า การตามใจเจ้าเพื่อให้เจ้าเป็นเด็กดีคือการสั่งสอนตรงไหนหรือ” เอริแอดเน่สะบัดดาบงามวิจิตรซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยแสงทมิฬแดงฉานเป็นการปฏิเสธ น้ำพุเลือดเดือดปุดๆ เป็นไอโลหิตร้อนระอุ ไอสีแดงร้อนยิ่งยวดอัดแน่นแทนที่มวลอากาศ ทำให้อากาศเบาบางลง และทำให้ผู้ถูกกักขังอยู่ในอาณาเขตหายใจแทบไม่ออก

ซึ่งรวมถึงอิลมาเร

นี่คือเวทควบคุมพื้นที่ชนิดหนึ่ง ไอโลหิตจะไม่กระจายหายไป แต่ถูกกักขังไว้ในพื้นที่ซึ่งผู้ร่ายเวทกำหนดอาณาเขต เวทนี้มีผลทำให้ศัตรูเคลื่อนไหวช้าลงเพราะหายใจลำบาก การมองเห็นก็ถูกจำกัดด้วยไอร้อนหนาทึบ

ลักษณะการใช้เวทมนตร์ของเอริแอดเน่และซิกฟรีดคล้ายกันอย่างไม่น่าเชื่อ แม้เวทของเอริแอดเน่จะมีพื้นฐานมาจากการบูชามารดานภาและมารดานที แต่เมื่อคิดว่ามารดาสมุทรเองก็เป็นน้องสาวของมารดานภา จึงไม่น่าแปลกใจในความเหมือนนี้

การสร้างอาณาเขตของเอริแอดเน่ทำให้ปีกของซิกฟรีดคลั่ง มันกระพือรุนแรง สร้างตาพายุล้อมราชาหนุ่ม ปัดไอโลหิตทิ้งไป

และชั่วขณะนั้นเองที่บุคคลที่สามปรากฏกายพร้อมไฟบรรลัยกัลป์

 

ความคิดแรกของมาลแกธคือ ‘ยอดเยี่ยม!’

เขาไม่เคยลงสมรภูมิเวท อันที่จริงเคย แต่ไม่งดงามบ้าคลั่งเช่นที่เห็นอยู่ตรงหน้า ทว่าก่อนเลือดนักรบในกายจะฉีดพล่านไปมากกว่านี้ เขาต้องเตือนตัวเองว่า “ข้ามาเพื่อช่วยตัวประกัน ไม่ควรสนุก เอาละ…”

มาลแกธเห็นอิลมาเรแล้ว เธอกำลังแย่เพราะที่แห่งนี้ระอุจนหายใจแทบไม่ได้ ส่วนเขาก็เพิ่งร่ายเวทควาร์สาดไฟสร้างอาณาเขตของตนซ้อนอาณาเขตของเอริแอดเน่ไปเมื่อครู่…

ทนหน่อยนะ ดวอร์ฟที่รัก

มาลแกธนึกเบื่อตัวเองที่ไม่เคยตั้งใจฝึกฟังเสียงของลม ไม่อย่างนั้นคงมีประโยชน์มากกว่านี้ ไอโลหิตของเอริแอดเน่หนาทึบ ทั้งระอุ ทั้งฉ่ำชื้นเพราะเป็นไอน้ำ ไฟจะกำจัดไอน้ำได้ก็ต้องทำให้ควบแน่นเสียก่อน ซึ่งเวทที่แปรสภาพอากาศได้เขาก็ไม่รู้ แถมไฟลุกไหม้ได้เพราะมีอากาศ แปลว่าการที่เขาคงอาณาเขตไว้ก็จะเผาอากาศไปเรื่อยๆ ซึ่งนั่นมีแต่จะทำให้อิลมาเรแย่ลง

เช่นนั้นก็ควรจบศึกให้เร็วที่สุด

มาลแกธร่ายเวทรวดเร็ว พรายอัคคีอันเกิดจากพรสวรรค์ของควาร์พุ่งเข้าใส่เอริแอดเน่ ระหว่างทางมันเผาไอโลหิตในชั่วพริบตา

เอริแอดเน่เห็นพรายอัคคีแล้ว นางยกดาบขึ้น ฝ่ามือแบบบางรองหลังใบดาบในลักษณะป้องกัน!

ทว่า

เงาปีกทมิฬของราชาแห่งรูเมเรียร์เข้าปัดไฟนั้นด้วยลมโหมแรงเสียก่อน พร้อมส่งเสียงคำรามขู่อันมีแต่ควาร์ที่จะได้ยิน

เจ้าเป็นพวกเอริแอดเน่จริงๆ หรือแค่อยากปกป้องนาง...มาลแกธคิด

หากเจ้าเป็นพวกท่านหญิง มันจะไม่จบเพียงศึกนี้ เตรียมรอความพิโรธของเทพสงครามแห่งแดนตะวันออกได้เลย ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์

พวกเขามีสัญญาต่อกัน

เอลฟ์ตะวันออกจะมอบกำลังพลโค่นบัลลังก์ราชาริวอร์นอร์ แลกกับตำแหน่งสำคัญในราชสำนัก

พวกเขาจะเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน

ใช่หรือไม่ ซิกฟรีด

เอริแอดเน่เห็นตัวเอลฟ์ตะวันออกแล้ว แต่ไม่เห็นดาร์กเอลฟ์ นางมองปีกทมิฬที่เข้าขัดขวางพรายอัคคีอย่างชั่งใจ

ซิกฟรีดขัดขวางมาลแกธหรือ

ท่านหญิงร่ายเวทพร้อมวาดดาบเป็นอักษรรูนที่แปลว่า ‘น้ำแข็ง’ ไอโลหิตรวมตัวกันเป็นแท่งน้ำแข็งขนาดมหึมาสีเลือด แสงที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำแข็งส่องประกายคมปลาบชวนขวัญผวาเมื่อนางซัดแท่งน้ำแข็งเหมือนหอกยักษ์เข้าใส่เอลฟ์ตะวันออก

ด้วยขนาดและความเย็นจัดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ไฟของมาลแกธย่อมไม่สามารถเผาได้ในพริบตา

เวทโจมตีของเอริแอดเน่มีพื้นฐานจาก ‘น้ำ’ เมื่อนำมาใช้สู้ตัวต่อตัวในลักษณะ ‘ของแข็ง’ จะลดอานุภาพในการควบคุมพื้นที่ลง แต่เพิ่มพลังทำลายมหาศาล

แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ปีกสีดำคมกริบเข้าตัดแท่งน้ำแข็งก่อนจะถึงตัวเอลฟ์ตะวันออก

“อ้อ” เอริแอดเน่รำพึง “ลำบากเจ้าแล้วซิกฟรีด”

นางทราบทันทีว่าราชาเอลฟ์ผู้เยาว์ต้องการควบคุมทุกอย่างไว้ในกำมือ นางร่ายเวทต่อเนื่อง แท่งน้ำแข็งขนาดมหึมาแบบเดิมเพิ่มขึ้นอีกนับสิบแท่ง

นี่มันการต่อสู้อะไรกันนี่! อิลมาเรคิด แค่ศึกช่วยตัวประกันอย่างเธอคนเดียว แค่แม่ค้าดวอร์ฟที่ไม่มีความสำคัญมากไปกว่าเป็นที่หนึ่งด้านการค้าขาย...พวกเขาต้องต่อสู้กัน...

อย่างอลังการมาก!

อิลมาเรทั้งหัวเราะและร้องไห้อยู่ในใจ เธอคิดว่าตัวเองเป็นเพียงข้ออ้างให้เอลฟ์เหล่านี้หาเรื่องทะเลาะกัน เธอมองเห็นความไม่ลงตัวของผลประโยชน์ที่มีโคลด์เป็นจุดศูนย์กลาง ความไม่ลงตัวนี้ไม่สามารถเจรจากันได้บนโต๊ะ และเธอกลายเป็นผู้รับหน้าแทนโคลด์อย่างช่วยไม่ได้

โคลด์ ถ้ารอดไปเมื่อไหร่ เราต้องคุยกันจริงจังเรื่องรสนิยมในการเลือกผู้ชายของเจ้าแล้ว

เห็นอิลมาเรยังทำหน้าตาคิดเล็กคิดน้อยได้ โคลด์ถอนใจเบาๆ เขาแอบซุ่มดูและมองหาโอกาสเข้าประชิดตัวอิลมาเร ทั้งเครียดและกังวลสารพัด แต่ตัวประกันยังไม่ถอดใจ เขาก็ไม่ควรตื่นตูม

ตอนนี้เมื่อเอริแอดเน่ดึงไอโลหิตไปเสกแท่งน้ำแข็งเพิ่มขึ้น หมอกไอที่ทำให้หายใจลำบากและบดบังทัศนวิสัยก็เบาบางลง ช่วยเพิ่มโอกาสให้แก่เขา

ขอแค่มาลแกธดึงความสนใจจากเอริแอดเน่ได้มากกว่านี้

ซิกฟรีดนิ่วหน้า ร่างกายซีกซ้ายที่ระเหิดออกเป็นเงาทมิฬค่อยๆ ลามมายังซีกขวา มันเจ็บเหมือนถูกเข็มนับล้านทิ่มตำ ราชาเอลฟ์คำรามผ่านไรฟันซึ่งขบแน่น ส่งผลให้ปีกกระพือไร้ทิศทางอีกครั้ง

เงาปีกทมิฬพุ่งเข้าใส่กำแพงบ้าง พื้นบ้าง แต่ละครั้งส่งเสียงดังตึง! ปานฟ้าถล่ม ฝากรอยทำลายน่าสะพรึงไว้ทุกที่ที่มันสัมผัส กระแสไฟฟ้าแผ่ออกมาจากบริเวณนั้นชั่วครู่ ก่อนที่ผืนดินจะดูดซับมันอย่างรวดเร็ว

ขณะซิกฟรีดเสียการควบคุม เอริแอดเน่วาดดาบลงฉับ! นางสั่งให้แท่งน้ำแข็งที่พร้อมโจมตีแล้วทั้งหมดพุ่งเข้าใส่ซิกฟรีดและมาลแกธพร้อมกัน!

นักรบตะวันออกจูบกริชในมือขวา กระซิบว่า “ช่วยข้า ดีราน” ก่อนร่ายเวทแห่งดีรานที่เคยเรียนรู้สมัยยังอยู่แดนตะวันออก เขาตวัดกริชกลางอากาศ เกิดเส้นแสงประกอบเป็นสัญลักษณ์แปลกตา

แท่งน้ำแข็งสัมผัสตราเวทที่เฉิดฉายอยู่กลางอากาศ พลัน...มันย้อนกลับเป็นไอโลหิต

แม้แต่มาลแกธยังประหลาดใจ เขาไม่เคยพึ่งกริชเล่มนี้ เพราะศักดิ์ศรีและความผยองส่วนตัวด้วยส่วนหนึ่ง เขาเป็นล็องธู ไม่อยากพึ่งตระกูลอื่น โดยเฉพาะดีรานซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน

ถึงอย่างนั้น เวทของดีรานอยู่ในมือล็องธูก็ใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทั้งมาลแกธไม่เคยฝึกกับกริชเล่มนี้มาก่อน ทำให้แท่งน้ำแข็งโลหิตส่วนหนึ่งยังคงสภาพเดิม เอลฟ์ตะวันออกต้องหลบห่าน้ำแข็งที่เหลือ ใช้พรายอัคคีลดพลังทำลาย (แม้จะได้เพียงเล็กน้อย) พร้อมคำนวณว่าหากต้องถูกแท่งน้ำแข็งโลหิตอัดเข้าจริงๆ จะยอมเสียร่างกายส่วนไหนเพื่อรักษาส่วนไหน

อย่างน้อยขอให้ขายังพาตัวหลบได้ก็พอ

เวลาเดียวกัน ซิกฟรีดตัดแท่งน้ำแข็งที่พุ่งใส่ตน เขากลับมาควบคุมเงาปีกทมิฬได้แล้ว ราชาหนุ่มสั่งให้มันเข้าทำลายแท่งน้ำแข็งที่หมายมาลแกธด้วย

เอริแอดเน่ร่ายเวทบทถัดไป แท่งน้ำแข็งที่พลาดเป้าระเบิดออกเป็นลิ่มแหลมคมกระเด็นใส่เป้าหมาย ลักษณะการโจมตีเหมือนปืนใหญ่ที่เปลี่ยนเป็นปืนลูกปราย

อย่างไรก็หวังผล!

อย่างที่โคลด์บอก จะหยุดเอริแอดเน่ ออมมือไม่ได้

“ถ้าข้ารอดไปได้นะดีราน...ข้าจะจูบเจ้าสักที” มาลแกธพึมพำกับตัวเอง เขาร่ายเวทควาร์ให้พรายอัคคีร้อนแรงล้อมตัวไว้ ให้มันช่วยลบคมห่าน้ำแข็งและบรรเทาแรงปะทะ

เอลฟ์ตะวันออกให้ไฟปกป้องขาทั้งสองของตนมากกว่าส่วนอื่น เขาเตรียมใจถูกลิ่มน้ำแข็งปัก ซึ่งก็มีทะลุผ่านม่านไฟเข้ามาจริงๆ มาลแกธ ล็องธูกัดฟัน เขายิ้มคลั่งขณะเกร็งกำลังขา พุ่งเข้าหาเอริแอดเน่!

ถ้าประชิดตัวได้...ขอแค่ประชิดตัวได้

เอริแอดเน่ไม่ขยับหลบ เสียงของนางก้องไปถึงซิกฟรีด “เจ้าบอกว่าจะกางปีกปกป้องให้ทั่วแผ่นดินใช่หรือไม่”

“ขอรับ” ปีกของซิกฟรีดกระพือพัดลิ่มน้ำแข็งปักพื้นลานจนกลายเป็นทุ่งน้ำแข็ง นัยน์ตาอันมีสีสันดุจความพิโรธของบิดาธรณีสบกับท่านหญิงอิซิลดาร์

เอริแอดเน่สบตาคู่นั้นโดยไม่หลบ นางยิ้ม ลดมือลง ปล่อยให้มาลแกธเข้าโจมตี

แค่พริบตา...ร่างกายของราชาซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ก็ระเหิดออกเป็นหมอกสีดำ

‘วิหคทมิฬ’ มีดวงตาเปลี่ยวเหงาเฉกราชาผู้เยาว์ไม่ผิดกัน

มันโผบินมาตรงหน้าเอริแอดเน่ กางปีกอันสมบูรณ์ปกป้องนาง ปีกใหญ่โตประกอบจากละอองน้ำเม็ดเล็กๆ บางส่วนเนียนละเอียดเป็นไอ และในไอนั้นก็มีสายฟ้าแล่นวูบวาบไปทั่ว

มาลแกธคำราม เขาไม่อาจเข้าถึงตัวเอริแอดเน่ อีกอย่าง...สิ่งนี้คือบ้าอะไรกัน

เจ้ากลายเป็นปีศาจไปแล้วหรือ ซิกฟรีด!


—————————————————————————

A/N ซุลมุนทีเดียวค่ะ ลุ้นกันอีกนิด คนเก่งๆ สู้กันเขียนยากมากค่ะ T_T


ตอนต่อไปลงวันที่ 22 เมษายน 60 จ้า!


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (7) [20/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-04-2017 21:45:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (7) [20/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 20-04-2017 22:30:10
อลังการประหนึ่งดูหนัง 4D ในจอ IMAX

เหมือนไปนั่งดูอยู่บนกำแพงป้อม

ฉันขอยืนขึ้นปรบมือรัว ๆ

---------

กลัวใจเอรี่ นางรู้แล้วว่าซิกฟรีดคิดทำอะไร
หวังว่ามันคงจะไม่กลายเป็นโล่ป้องกันที่กลับมากระแทกอกซิกให้แหลกสลายยิ่งกว่าเดิมนะ


ปล. อ่านที่คุณ ILLREI ตอบแล้วรู้สึกเหมือนใบเรือราชากะนุ้งโคลด์กางรับลมจนโป่งเลย
ยังมีความหวังสินะ
 ฮ่า ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (7) [20/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 20-04-2017 22:44:37
 สงสารสามี:เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (7) [20/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 21-04-2017 15:31:18
อลังการประหนึ่งดูหนัง 4D ในจอ IMAX

เหมือนไปนั่งดูอยู่บนกำแพงป้อม

ฉันขอยืนขึ้นปรบมือรัว ๆ

---------

กลัวใจเอรี่ นางรู้แล้วว่าซิกฟรีดคิดทำอะไร
หวังว่ามันคงจะไม่กลายเป็นโล่ป้องกันที่กลับมากระแทกอกซิกให้แหลกสลายยิ่งกว่าเดิมนะ


ปล. อ่านที่คุณ ILLREI ตอบแล้วรู้สึกเหมือนใบเรือราชากะนุ้งโคลด์กางรับลมจนโป่งเลย
ยังมีความหวังสินะ
 ฮ่า ๆ ๆ ๆ
4D เลยหรือคะ  :mew2:
น้ำ ลม ละอองน้ำแข็งคงปลิวใส่หน้าแน่เลย 555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (7) [20/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 21-04-2017 17:19:36
สงสารสามี:เฮ้อ:
ต้องปลอบโยนกันอย่างอ่อนโยนและอบอุ่นค่ะ แค็กๆๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (7) [20/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-04-2017 16:13:27
ปวดหัวตุ้บๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (8) [22/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 22-04-2017 16:20:59
บทที่ 20 : แตกหัก ( 8 )



ทัศนวิสัยของเอริแอดเน่ถูกบดบังด้วยปีกทมิฬกึ่งทึบกึ่งโปร่งแสงคล้ายหมอกหนา โคลด์เห็นแล้วว่านี่คือโอกาสที่รออยู่!

เขาวิ่งเต็มฝีเท้าออกจากที่ซ่อนตัว ตำแหน่งของอิลมาเรอยู่ห่างจากเอริแอดเน่ราวสามเมตร และอยู่ห่างจากเขาราวสิบเมตร เขาใช้โอกาสอันน้อยนิดนี้สะบัดเลือดจากฝ่ามือของตนที่กรีดเตรียมไว้แล้ว ควบคุมให้มันพุ่งเข้าใส่อิลมาเร

ถ้าเลือดของเขาถึงตัวอิลมาเร มันจะช่วยแทรกแซงเวทวารีโลหิตของเอริแอดเน่

อิลมาเรเบิกตาโตแล้วหุบปากฉับพร้อมกันเมื่อเห็นโคลด์ ทั้งๆ ที่เธออยากตะโกนด้วยความดีใจว่า ‘เจ้ามาช่วยข้าแล้ว!’

ดวอร์ฟสาวยั้งปากเพราะเกรงท่านหญิงเอลฟ์จะสังเกตเห็นโคลด์ ความดีใจและความโล่งใจที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกันถูกสกัดให้อัดแน่นอยู่ในลำคอพร้อมกับเสียง

เลือดของโคลด์สาดใส่หน้าเธอ มันเปรอะแก้มอยู่เพียงครู่เดียวก็เคลื่อนตัวลงล่างอย่างมีชีวิต ระหว่างเคลื่อนที่ยังดึงเอาไอหมอกโลหิตที่อยู่รอบๆ เข้ามาควบรวมเป็นของเหลวสีดำ ของเหลวสีดำที่เพิ่มปริมาณขึ้นหลอมเข้ากับของเหลวหนืดเหมือนเลือดข้นที่ยึดลำตัวท่อนล่างของเธอไว้ และทำให้พันธนาการนั้นละลาย...คลายออก

เพียงอึดใจเดียว อิลมาเรก็เป็นอิสระ! เธอสะบัดตัว โผไปทางโคลด์

อีกนิดเดียว
โคลด์คิด เขายื่นมือไปรับร่างเล็กของดวอร์ฟสาวที่พุ่งมาหาตนอย่างทุลักทุเล และเมื่อเขาได้ตัวอิลมาเร สิ่งที่จะทำอันดับแรกก็คือพาเธอหนีไปก่อน!

ทว่า

ลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งแหวกอากาศอย่างอำมหิตเข้ามาปักกลางหลังของอิลมาเร เยื้องไปทางตำแหน่งหัวใจ!

ปลายลูกธนูแหลมแทงทะลุตัวดวอร์ฟสาว เธอทรุดตัว หน้าอกย้อมด้วยเลือดที่ซึมออกมาตามลูกธนู เลือดของอิลมาเรหยดลงพื้น เธอมองหน้าสหายชาวดาร์กเอลฟ์ สำลักเลือดตัวเองขณะพยายามพูดอะไรสักอย่าง และล้มลง

อิลมาเรไปไม่ถึงโคลด์

“อิลมาเร!” โคลด์คำราม เขาเงยหน้าไปทางทิศที่ลูกธนูถูกยิงมาก็เห็นนักธนูสตรี--เวเรด้า ง้างคันธนูค้างไว้

นักธนูแห่งอิซิลดาร์ที่หายไปและควรถูกฝ่ายเขาไล่ต้อนกลับมาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้!

จากนั้นโคลด์ก็รู้สึกเสียวแปลบที่อก เขาชะงักมือที่กำลังจะชักบีฟอร์ซ ก้มลงมองตัวเอง

ดาบเวทวิจิตรห่อหุ้มด้วยไอเวทสีแดงฉานแทงทะลุอกเขาจากด้านหลังอยู่

และคนที่แทงดาบใส่เขาก็คือเอริแอดเน่ ผู้ที่ควรอยู่กับซิกฟรีด!

วิหคทมิฬคำรามลั่นด้วยความเจ็บปวดใจ

ร่างของเอริแอดเน่ที่อยู่กับซิกฟรีดละลายเป็นของเหลว นั่นคือร่างแยกที่สร้างจากเวทวารี มีไว้เป็นตัวล่อ ดังนั้นนางจึงไม่หลบการโจมตีของมาลแกธ แต่ปล่อยให้ทั้งซิกฟรีดและมาลแกธพุ่งเข้าหาร่างแยกนั้น ส่วนร่างจริงใช้เวทอำพรางกาย เฝ้ารอให้นักฆ่าดาร์กเอลฟ์เผยตัวออกมา

การโจมตีดวอร์ฟของเวเรด้าทำให้อีกฝ่ายชะงักอย่างที่วางแผนไว้

ให้นางสังหารมันในดาบเดียว!

เอริแอดเน่ดึงดาบจากร่างดาร์กเอลฟ์ ทำให้เลือดของมันทะลักออกมา และเมื่อมันล้มคุกเข่าตรงหน้านาง นางยกแขนตวัดดาบขึ้นสูง เตรียมจะบั่นคอ!

มาลแกธเลือดขึ้นตา เขาพลาดเล่ห์กลของจอมเวทสงครามถึงสองครั้งด้วยกัน สมควรเรียกตัวเองว่านักรบเจนสนามหรือ!

ฉับพลันที่มาลแกธผวาเปลี่ยนทิศไปหาโคลด์ วิหคทมิฬก็เข้ากระแทกร่างท่านหญิงทรงศักดิ์ในเสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตาย มันไม่ปรานี ไม่มีการออมมือ กระแสไฟฟ้าแล่นไปทั่วร่างแบบบาง ทั้งสรรพางค์กายของเอริแอดเน่เจ็บปวดแทบขาดใจ

ประกายในดวงตาของเอริแอดเน่ไหวสะท้าน นางทราบอยู่แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ นางประณามซิกฟรีดว่า ‘โป้ปด’ ก็เพราะรู้ว่าหากต้อง ‘เลือก’ ราชาหนุ่มย่อมเลือกดาร์กเอลฟ์ แต่จิตใจของนางกลับยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะไม่รู้สึกเจ็บปวดจากการเลือกในครั้งนี้

ข้าน่ะหรือ เจ็บปวดที่เขาไม่เลือกข้า

เสียงหัวเราะเย้ยหยันและน้ำตาของเอริแอดเน่ตีกันอยู่ในอก นั่นทำให้นางชะงักและกลายเป็นเป้านิ่ง

“ท่านหญิง!” เวเรด้ายิงธนูอีกสามดอกเข้าใส่ราชาแห่งรูเมเรียร์!

ซิกฟรีดผู้อยู่ในร่างวิหคทมิฬปัดธนูได้อย่างง่ายดาย ปีกข้างหนึ่งยึดเอริแอดเน่ไว้ อีกข้างกอดประคองโคลด์ สตาร์ นักธนูทำท่าจะขึ้นสายอีกครั้งแต่กลับถูกริบอิสระด้วยโซ่เวทเสียก่อน

อดีตทหารหน่วยกาลาฮานซึ่งตามล่าเวเรด้าก็อยู่ที่นี่แล้ว

เวลานี้มาลแกธไม่สนใจอะไรอีก เมื่อเห็นโคลด์ล้มลง เหตุผลทั้งมวลก็พลันล้มครืน การกระทำถูกขับเคลื่อนด้วยสัญชาตญาณดิบ พรายไฟสีส้มแดงเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอันร้อนจัดและสว่างจ้าด้วยโทสะ มันคลี่เป็นแส้ ยามเอลฟ์ตะวันออกสะบัดมือซ้าย พรายอัคคีก็เข้าฉกเอริแอดเน่

ทว่าซิกฟรีดไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น

การต่อสู้และความเจ็บปวดถูกยืดออกไป...คล้ายทัณฑ์ทรมาน

“อิล…” โคลด์สะบัดตัวจากปีกทมิฬ มือเขากดห้ามเลือดที่หน้าอกตัวเองด้วยการใช้บลัดเมจิกทำให้เลือดแข็งตัวปิดบาดแผล แต่ก็สำลักเลือดตัวเองจนแสบคอ จมูกมีเลือดกำเดาไหลออกมา

เอริแอดเน่เองก็สะบัดตัวจากซิกฟรีด ซึ่งจำต้องปล่อยเพราะรับการโจมตีจากเอลฟ์ตะวันออก นางถอยไปยืนงอตัวพิจารณาการต่อสู้ของซิกฟรีดและมาลแกธ ซึ่งคั่นกลางระหว่างนางกับดาร์กเอลฟ์

เมื่อเห็นดาร์กเอลฟ์พาร่างเข้าไปใกล้ดวอร์ฟและหันมาร้องคำรามใส่นาง เอริแอดเน่ก็แสยะยิ้มพร้อมยื่นมืออันสั่นระริกชี้ดาบเวทไปทางมันเพื่อร่ายเวทบทสุดท้าย

ไอหมอกโลหิตที่บดบังลานกลางป้อมถูกสูบกลับคืนธรณีจนฟ้าโล่ง ธารน้ำใต้แผ่นดินโรสมินาสแผดเสียง แผ่นดินไหวเพราะสายน้ำโถม กำแพงป้อมถล่ม พื้นหินรอบตัวดาร์กเอลฟ์และดวอร์ฟแตกออก กระแสนทีสีครามผุดขึ้นมาจากใต้ธรณีไหลวนเป็นวง หลุมน้ำวนเชี่ยวกรากขยายขนาดมหึมาในฉับพลัน คลื่นน้ำที่คล้ายมือแห่งพรายมรณะแย่งกันฉุดร่างเหยื่อทั้งสองลงไป!

ซิกฟรีดและมาลแกธหยุดมือแทบจะพร้อมกัน ทั้งกระโจนลงไปยึดโคลด์อย่างไม่คิดหน้าคิดหลังพร้อมกัน

ผู้เคยผ่านสนามรบกับจอมเวทสงครามสายวารีจะทราบว่านี่คือมหาเวทวารี ‘ดาร์กบลูอาบิส’ ในสนามรบ ตาน้ำวนแห่งความพินาศจะขยายกลืนกินสมรภูมิทั้งหมด และดูจากไอเวทมหาศาลที่เริงโรจน์คล้ายพรายตายโหงซึ่งล้อมรอบร่างท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ น้ำวนจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เลวร้ายที่สุดคือมันจะกลืนป้อมลงไปทั้งป้อม กลืนเมืองลงไปทั้งเมือง ทางรอดเดียวคือต้องหนีออกจากบริเวณนี้!

ซิกฟรีดพาตัวเองดิ่งลงไปจนเอื้อมถึงโคลด์ เขายึดไว้สุดกำลัง ทว่าพลาดอิลมาเรเพียงปลายปีก ร่างของเธอถูกกระแสน้ำกราดเกรี้ยวพัด จมลงสู่ห้วงน้ำวนไร้ก้นบึ้งอย่างรวดเร็ว

ราชาหนุ่มหันไปทางมาลแกธ นักรบตะวันออกยังพอใช้เวทควาร์ควบคุมน้ำได้ ทว่ามันถือกำเนิดจากเวทของศัตรู จึงเป็นความพยายามซึ่งแทบไร้ผล

สุดปลายสายตาของซิกฟรีด เอริแอดเน่ถูกกลืนลงมาในกระแสน้ำวนเช่นกัน ซึ่งนั่นทำให้เวเรด้าซึ่งอยู่บนที่สูงพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากโซ่เวท จะกระโจนตามลงมา

“ท่านหญิง ได้โปรด อย่า!” นางตะโกนแข่งกับเสียงน้ำ ดวงตาสีเขียวอ่อนฉาบไปด้วยความหวาดกลัว

ทว่าเอริแอดเน่ปล่อยมือจากดาบเวทซึ่งใช้ควบคุมมหาวารี เพื่อปล่อยให้วังน้ำวนม้วนกลืนนาง

ชั่วขณะนั้นคล้ายน้ำวนหยุดหมุน เสียงน้ำไหลรุนแรงกลับสงบนิ่ง เรือนผมสีทองและชุดสีฟ้าอ่อนแผ่สยาย ดวงตาสีหินแก้วประกายรุ้งมองมาทางราชาหนุ่ม ใบหน้าเจ้าของดวงตาดูซีดเซียวเหมือนคนตาย นางขยับปาก เสียงใสกระจ่างพัดมาพร้อมกับสายน้ำ

“ซิกฟรีด ในเมื่อเจ้าเลือกแล้ว จงไปให้สุดทาง ความตายของข้าจักสอนเจ้าว่า สุดท้าย…เจ้าก็ไม่สามารถกางปีกปกป้องได้ทั่วแผ่นดิน”

เอริแอดเน่ยิ้มเยาะตัวเอง ความเศร้าเสียใจที่เคยฝังไว้ผุดขึ้นมาเหมือนศพเน่าเฟะที่ไม่ยอมตาย นางยื้อชีวิตอันไร้ความหมายมาได้นานขนาดนี้ สุดท้ายก็เป็นคนที่ไม่ถูกเลือก นางอาจไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นราชินีก็ได้ ทุกอย่างเป็นเพียงภาพลวงตาและความพยายามอันไร้ค่า

ใช้พลังเวทไปจนหมด นางรู้สึกเหนื่อยล้า จึงตัดสินใจหลับตา

ท่านเฟรธูรินเจ้าคะ ที่ตายของข้า เป็นห้วงนทีดีแล้วใช่หรือไม่

ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ปล่อยให้น้ำวนกลืนร่างนาง

หายลับไป

 

ทางที่เจ้าเลือก...ไม่ง่ายเลย อาเลธ

ซิกฟรีดคล้ายได้ยินพี่ชายคนโตกระซิบอย่างนุ่มนวล

หากต้องการทุกอย่าง เจ้าก็อาจได้ทุกอย่างหรือเสียทุกอย่าง ร้ายกว่านั้น...เจ้าอาจทั้งได้และทั้งเสีย ได้ในสิ่งที่ไม่อยากได้ เสียในสิ่งที่ไม่อยากเสีย

ราชาผู้เยาว์ช่วยโคลด์ไว้ได้

รวมถึงมาลแกธ เดเนธอร์ อดีตหน่วยกาลาฮานอีกสองนาย เวเรด้า และนักเวทดีราน--ซิลเวีย

ส่วนที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นอิลมาเร เนอร์ดาเนล อดีตหน่วยกาลาฮานคนอื่นๆ ไปจนอัศวินอิซิลดาร์สองนางอย่างจามิลลาและซอนย่า ล้วนถูกห้วงมหานทีกลืนกิน

ที่สำคัญ…

พี่หญิง


ซิกฟรีดพาผู้รอดชีวิตมายังที่สูง จากบริเวณนี้สามารถมองเห็นสระน้ำวนขนาดมโหฬารอยู่เบื้องล่าง

ป้อมทั้งป้อมจมหาย วังน้ำวนยังไม่หยุดแผ่ขยาย ด้วยพลังเวทเข้มข้นล้นปรี่อันบ้าคลั่งไร้นายซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาในวาระสุดท้ายของจอมเวทสงครามผู้อยู่จุดสูงสุดแห่งสายวารี มันจะทำให้เมืองโรสมินาสกลายเป็นอดีต

เหลือเพียงอนุสรณ์สถานที่จะเป็นรอยแผลไม่มีวันจาง

มาลแกธกัดฟันกรอดขณะเร่งปฐมพยาบาลให้โคลด์ เขาพยายามใช้เวทสลับเวลาอีกครั้ง ให้แผลใหญ่ฉกรรจ์ในปัจจุบันย้ายไปอยู่อนาคต แต่ไม่สำเร็จ อาจเพราะมันเป็นบาดแผลที่เกิดจากอาวุธเวทมนตร์ มิใช่อาวุธธรรมดา พิษของเวทจึงต่อต้านการใช้เวทอื่นๆ เพื่อรักษาหรือเปลี่ยนแปลงสภาพบาดแผล ทั้งเนื้อตัวและหน้าตาของเอลฟ์ตะวันออกเปียกชุ่ม มันผสมปนเปไปด้วยน้ำตาและน้ำฝนที่เริ่มโปรยปราย คล้ายบิดาแห่งนภากลั่นความโศกาลงสู่แผ่นดิน

มารดานทีกำลังร้องไห้ ขณะมารดาสมุทรกำลังแสดงความพิโรธของนางด้วยการฟาดสายฟ้า

“อยู่กับข้า โคลด์...อยู่กับข้า” มาลแกธตบหน้าซีดเผือดของดาร์กเอลฟ์ที่ตนรักเบาๆ ส่วนซิกฟรีดนิ่งอย่างน่าใจหาย นิ่ง...จนไม่อาจมีใครเข้าใจถึงความเสียใจสุดซึ้งภายใน

ข้าไม่ควรพบเขาแต่แรกหรือขอรับ ท่านพี่เฟรธูริน

มีเพียงเสียงกรีดร้องของเมฆครึ้มเบื้องบนที่ตอบรับราชา…

ผู้ไม่สมควรเป็นราชา

.

.

.

หายนะทั้งหมดนี้...เพื่อสิ่งใด


—————————————————————————

A/N 105 ตอนกับบทสรุป ทว่าเรื่องราวยังไม่จบภาคแต่เพียงเท่านี้ค่ะ
เมื่อความสูญเสียเกิดขึ้น เราจะมีชีวิตหลังจากนั้นอย่างไร

โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ :)


ตอนต่อไปลงวันที่ 24 เมษายน 60 จ้า!


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (8) [22/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-04-2017 17:30:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (8) [22/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 22-04-2017 18:42:06
สุดท้ายแล้วซิกฟรีดก็เสียทั้งสองอย่าง เฮ้อออออ พอจะเข้าใจเอริแอดเน่นะ นางต้องการสอนให้ซิกเข้าใจว่า ไม่มีใครที่จะปกป้องสิ่งที่ตนรักพร้อมกันได้หรอก ไม่อย่างใดอย่างนึงต้องสูญเสียไป หรือ เสียไปทั้งสองอย่าง หลังจากนี้ ถ้าโคลด์ตื่นขึ้นมาก็น่าหวั่น เพราะโคลด์สูญเสียเพื่อนคนสำคัญไปซะแล้ว ส่วนซิกฟรีด ก็อาจจะไม่เหลืออะไรเลย ....  :ling2: :ling2:

// แก้ ขอถามนิดนึงค่ะ  เราอยากรู้ว่าเอริแอดเน่ รัก ซีกฟรีดในฐานะอะไร น้องชาย ?? ถ้ารักแบบคนรักแล้วระหว่างเฟรธูรินกับซิกรักใครมากกว่ากันหรือรักทั้งคู่ (ของซิกพอจะเดาได้ว่าจากความเป็นพี่น้องกันซิกเอาใจใส่นางมากทำให้นางหลงรักซิกโดยไม่รู้ตัว) ทำไมท่านหญิงถึงผิดหวังมากที่ไม่ถูกเลือก?? แล้วนางตายจริงไหม (อันนี้น่าจะไม่เพราะมีภาคต่อของนางด้วยนี่ใช่มั้ยยยย) โอ้ยยย อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว 55555

ปล. บางทีก็แอบโรคจิตอยากให้มาลแกธได้กับโคลด์แทน(ดูไม่มีภาระผูกพันธ์ไม่วุ่นวาย 555555) ปล่อยให้ซิกฟรีดนางอยู่เป็นราชาต่อไปนั่นละดีละ ซึนดีนัก!! แล้วก็นะ โตได้แล้วนะแก!! เนี่ยเห็นไหมวุ่นวายกันไปหมด โถ่วววว -*-
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (8) [22/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 22-04-2017 20:16:20
สุดท้ายแล้วซิกฟรีดก็เสียทั้งสองอย่าง เฮ้อออออ พอจะเข้าใจเอริแอดเน่นะ นางต้องการสอนให้ซิกเข้าใจว่า ไม่มีใครที่จะปกป้องสิ่งที่ตนรักพร้อมกันได้หรอก ไม่อย่างใดอย่างนึงต้องสูญเสียไป หรือ เสียไปทั้งสองอย่าง หลังจากนี้ ถ้าโคลด์ตื่นขึ้นมาก็น่าหวั่น เพราะโคลด์สูญเสียเพื่อนคนสำคัญไปซะแล้ว ส่วนซิกฟรีด ก็อาจจะไม่เหลืออะไรเลย ....  :ling2: :ling2:

// แก้ ขอถามนิดนึงค่ะ  เราอยากรู้ว่าเอริแอดเน่ รัก ซีกฟรีดในฐานะอะไร น้องชาย ?? ถ้ารักแบบคนรักแล้วระหว่างเฟรธูรินกับซิกรักใครมากกว่ากันหรือรักทั้งคู่ (ของซิกพอจะเดาได้ว่าจากความเป็นพี่น้องกันซิกเอาใจใส่นางมากทำให้นางหลงรักซิกโดยไม่รู้ตัว) ทำไมท่านหญิงถึงผิดหวังมากที่ไม่ถูกเลือก?? แล้วนางตายจริงไหม (อันนี้น่าจะไม่เพราะมีภาคต่อของนางด้วยนี่ใช่มั้ยยยย) โอ้ยยย อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว 55555

ปล. บางทีก็แอบโรคจิตอยากให้มาลแกธได้กับโคลด์แทน(ดูไม่มีภาระผูกพันธ์ไม่วุ่นวาย 555555) ปล่อยให้ซิกฟรีดนางอยู่เป็นราชาต่อไปนั่นละดีละ ซึนดีนัก!! แล้วก็นะ โตได้แล้วนะแก!! เนี่ยเห็นไหมวุ่นวายกันไปหมด โถ่วววว -*-
คำตอบของคำถามนี้ส่วนมากอยู่ในบทถัดๆ ไปทั้งนั้นเลยค่ะ ;) ส่วนไหนที่มีคำตอบแล้ว ขออนุญาตไม่สปอยนะคะ
- ภาคต่อของเอริแอดเน่ เป็นเรื่องย้อนอดีตค่ะ ก่อนที่ซิกฟรีดกับโคลด์จะเกิด จะได้เจอเฟรธูรินตัวเป็นๆ ด้วยค่ะ (หลังจากภาคนี้มาแต่ชื่อและความทรงจำในอดีต /ซับน้ำตา)
- ถ้าถามว่าเอริแอดเน่รักซิกฟรีดในฐานะอะไร ก็คงเปรียบได้กับการที่เราให้ใจคนคนหนึ่งไปแล้วอย่างสิ้นหวังและหน้ามืดตาบอด เหมือนคนจะจมน้ำ ไม่มีอะไรให้เกาะ นางจึงยึดซิกฟรีดไว้เป็นหลักค่ะ พอหลุดจากซิกฟรีด นางก็จม (จะมีในเรื่อง แต่อันนี้ไม่สปอยเท่าไหร่ละมั้ง เลยตอบตรงนี้ให้หายคาใจค่ะ และในเรื่องจะมีเรื่องอื่นๆ ที่มีอิทธิพลต่อการตัวสินใจของตัวละครอีกค่ะ)
ป.ล. ใครคู่ใคร รอดูกันยาวๆ ค่ะ  :katai4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (8) [22/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-04-2017 21:28:10
ซิก ทำตัวปกป้อง แผ่ปีกกางขา คุ้มครองทั้งเอรีแอดเน่ ทั้งโคลด์
โอ๊ย.....แล้วเป็นไง โดนเอรี หลอกอีก
สุดท้าย จบแบบสญเสีย แต่จะคนเดียวหรือสองคน
ที่จริง ซิก น่าจะคิดได้ว่า ตัวเสือกน่ะมันใคร
อิลมาเร ค้าขายอยู่ดีๆ ก็ไปจับเขามาซะงั้น
เรียกว่าจับปลาสองมือรึเปล่า
แม้ปลาที่ลงแม่น้ำ จะไม่ได้ชอบ ไม่ได้รัก
แต่ปลาอีกตัวที่รักที่ชอบ เหมือนจะเจ็บหนัก
ช่วยก็ช่วยไม่ได้ งง กับซิก  :z3: :z3: :z3:
คุณแกธ ก็ปากหวาน คุณชายเจ้าสำราญไม่เลิก
จะใช้กริช ก็จูบกริช ช่วยข้านะดีราน แล้วข้าจะจูบเจ้า
พูดกับอิมาเร ก็ที่รัก
แต่ตอนนี้แกธ คิดถึง ห่วงหา แต่โคลด์ที่รัก คนเดียว 
      :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (8) [22/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-04-2017 21:40:30
รอออออ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (8) [22/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 23-04-2017 06:39:40
น้ำกระเด็นเข้าตาจนไหลออกมาเป็นเลือดเลย

หายนะนี้เพื่อสิ่งใด

เสียพี่หญิงแล้ว อย่าเสียโคลด์อีกเลย

หัวใจสลายกันทุกคน

สิ่งที่รออยู่คือสงครามกับอิซิลดาร์หรือไม่
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 20 : (8) [22/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 24-04-2017 02:31:24
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

โคลด์จะตายไม่ได้

มันต้องมีวิธีสิ
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (1) [24/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 24-04-2017 18:20:38
บทที่ 21 : บาดแผล (1)

หนึ่งเดือนต่อมา

วังอาราดัน ที่ประทับของเจ้าชายรากาล องค์ชายมังกรลำดับที่ 1

รากาลอยู่ในร่างมนุษย์ เฝ้าเกวนโดลินที่หลับสนิทไม่ตื่นมาหนึ่งเดือนแล้ว วันนั้นรากาลพบเกวนโดลินนอนสลบอยู่ที่พื้น ใบหน้าซีดเผือด นกสีขาวนับสิบตัวล้อมรอบเธอเหมือนเฝ้าศพคนตาย

พอทราบข่าว ท่านพ่อเอเลียตก็ทรงรุดมายังวังอาราดันทันที เมื่อทรงเห็นเกวนโดลินนอนนิ่ง เพียงหน้าอกสะท้อนขึ้นลงแผ่วเบาบ่งบอกสัญญาณชีพ ใบหน้าของท่านพ่อก็เปลี่ยนเป็นเครียดขึ้ง รอยยิ้มหายวับไป รากาลสาบานว่าไม่เคยเห็นท่านพ่อเอเลียตน่ากลัวถึงเพียงนี้เลย

หลังจากนั้น ท่านพ่อก็เวียนมาเฝ้าเกวนโดลินทุกวันหลังเสร็จราชกิจ ทรงบรรทมที่นี่ เสวยอาหารเช้าและค่ำที่นี่ หากทำได้ ท่านพ่อคงดำริให้ย้ายโถงว่าราชการมาที่นี่เลย

ความสามารถของเกวนโดลินใช่ว่าจะสะดวกสบาย การควบคุมสัตว์เพื่อใช้งานที่ละเอียดแม่นยำอย่างการส่งข่าวและสอดแนมในสนามรบจริง รวมกับการควบคุมจากระยะทางไกลโพ้นผลาญพลังจิตและพลังกายของเธอจนแห้งเหือด

ซ้ำอุปสรรคสำคัญที่สุดซึ่งโคลด์ไม่ทราบคือ เกวนโดลินได้รับปลอกคอเหล็กอันใหม่ซึ่งลงอาคมกักพลัง ป้องกันไม่ให้เธอใช้พรสวรรค์ควบคุมทหารมังกรได้อีก

การฝืนใช้พลังส่งผลให้อาคมกักพลังในปลอกคอเร่งผลาญพลังกายของเกวนโดลิน ทำให้เธอเหนื่อยจัดและผลักร่างกายสู่สภาพหลับใหล หากไม่ได้ราชามังกรช่วยถอดปลอกคอให้ หรือรากาลมาพบเธอช้าอีกสักหน่อย ก็อาจถึงตายจริงๆ

เจ้าชายมังกรแตะบ่าเกวนโดลิน เรียกเธอเบาๆ เหมือนทุกวัน โดยหวังใจว่าเธอจะตื่น

            ทว่าเกวนโดลินไม่เคยลืมตาขึ้นมาแล้วยิ้มให้สักครั้ง

รากาลมองนาฬิกาเวทซึ่งท่านพ่อประดิษฐ์ให้เกวนโดลิน มันเป็นโดมแก้วเล็กๆ ซึ่งด้านในมีดวงอาทิตย์ขนาดจิ๋วเคลื่อนเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกับดวงอาทิตย์ของจริงบนนภา หากเป็นตอนกลางคืนก็จะเปลี่ยนเป็นพระจันทร์กระจ่างกับดวงดาวเกลื่อนโดมแก้ว วันไหนเกวนโดลินเศร้า แสงอาทิตย์และแสงจันทร์จะส่องแสงสวยสดงดงามคล้ายปลอบประโลมเธอ บางครั้งมีนกโผบินไปรอบๆ ราวกับเต้นระบำให้ชม

ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกหลายต่อหลายครั้งแล้ว พระจันทร์ก็เช่นกัน รากาลเฝ้านับวันเวลาอย่างทรมานใจ เขากุมมือเกวนโดลิน สวดภาวนาแด่พระบิดาแห่งธรณีว่า “โปรดอย่ารับเกวนกลับสู่ผืนดินเลยพ่ะย่ะค่ะ ไม่ใช่ตอนนี้ โปรดเจรจากับพระบิดาแห่งความตายด้วยเถิด”

เวลาผ่านไปจนค่ำ ต้นห้องแจ้งว่าราชามังกรเสด็จมายังวังอาราดันแล้ว รากาลรับทราบ เขาลุกขึ้นเตรียมต้อนรับท่านพ่อ ไม่นานร่างสูงใหญ่ก็เข้ามาในห้องของเกวนโดลิน

เอเลียตยกมือแทนการเอ่ยว่าให้บุตรชายทำตัวตามสบาย ราชามังกรไม่ใคร่สนทนานัก ไม่ว่าจะกับบุตรชายหรือกับภรรยาคนอื่นๆ เขาตรงไปนั่งบนเตียงข้างเกวนโดลิน ก่อนวางมือบนหน้าผากมน

รากาลถอยฉากออกไปเมื่อท่านพ่อปรายตามายังตน มังกรหนุ่มทราบว่าท่านพ่อต้องการเวลาส่วนตัว

เมื่อได้อยู่ตามลำพังแค่สองคน เอเลียตวางมือทั้งสองข้างบนแก้มของเกวนโดลิน ก่อนโน้มหน้าผากชนหน้าผาก หลับตาแล้วร่ายเวทรักษา ราชามังกรขบริมฝีปากตนจนได้เลือด จากนั้นค่อยจุมพิตสตรีดาร์กเอลฟ์อย่างนุ่มนวล

เลือดมังกรมีอำนาจวิเศษในการฟื้นฟูกำลังและรักษาอาการบาดเจ็บ

คืนนี้พระจันทร์เต็มดวง จันทราทรงกลดส่องแสงสว่างอยู่กลางท้องฟ้าสีดำปลอดโปร่ง ห้องของเกวนโดลินในวังอาราดันมองเห็นท้องฟ้าได้ถนัด ซึ่งดีกว่าในถ้ำใต้ดิน

เทพีจันทร์เซฮาไนน์เมตตาเผ่าจันทร์ เมื่อแสงสีเงินยวงอันเปี่ยมด้วยพลังเวทมนตร์อาบไล้ใบหน้าของดาร์กเอลฟ์สาว แพขนตาสีเงินก็ขยับเบาๆ ดวงตาเคลื่อนไหวอยู่หลังเปลือกตาสีม่วงอ่อนเหมือนดอกไลแลค

เกวนโดลินรู้สึกถึงรสขมปร่าบนลิ้น กับของเหลวร้อนจัดที่เธอกลืนลงคอ โลหิตมังกรเป็นสิ่งวิเศษ โลหิตของราชามังกรยิ่งเป็นสิ่งวิเศษในสิ่งวิเศษ ประกอบกับร่างกายได้รับเวลาฟื้นตัวจนแข็งแรงพอจะรับโลหิตอันเปี่ยมพลังชีวิตนี้

เกวนโดลินค่อยๆ ลืมตา โดยมีเหงื่อท่วมตัว

“ยินดีต้อนรับกลับมา...ออร์”

เธอได้ยินเสียงที่เคยคุ้น มันทุ้มในอก ให้ความรู้สึกอบอุ่น

เอเลียตสั่งให้ข้ารับใช้นำอ่างบรรจุน้ำสะอาดและผ้าเนื้อละเอียดเข้ามา เขาบรรจงเช็ดหน้าเช็ดตาเกวนโดลินด้วยตัวเอง

ดาร์กเอลฟ์สาวมึนเบลอ ดวงตาสีม่วงปรือคล้ายคนยังไม่ตื่นดี เธอร้อนไปทั้งตัว แต่รู้สึกเบาที่คอจนเผลอยกมือขึ้นจับลำคอ

เธอพบว่าไม่มีปลอกคอ

รากาลซึ่งลอบแง้มประตูส่องดูเป็นพักๆ ดีใจแทบร้องตะโกนเมื่อเห็นเกวนโดลินขยับแขน ทว่าเขาต้องห้ามตัวเองไม่ให้พุ่งเข้าไปตอนนี้ ท่านพ่อยังไม่อนุญาต และเขาไม่ควรส่งเสียงดัง

เกวนโดลินหรือกวินีเวียร์ยกนิ้วไล้ใบหน้าของเอเลียตเป็นลำดับต่อมา คล้ายไม่แน่ใจว่าตนเองกำลังฝันไปหรือเปล่า

“อย่ารีบร้อน ขยับมากจะปวดเนื้อปวดตัวเปล่าๆ” เอเลียตเอียงใบหน้ารับสัมผัสของเธอ ริมฝีปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มในรอบหนึ่งเดือนเต็ม

ข้าคงฝันไป...เกวนโดลินคิด เธอไล้นิ้วอย่างอ่อนโยนเชื่องช้า เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ห่วงหาอาทร คงเป็นความฝันจริงๆ เพราะเอเลียตไม่มีทางให้เธอแตะใบหน้าของเขาเฉกนี้อีกแล้ว

สัมผัสของผ้าและน้ำทำให้เกวนโดลินสบายตัวขึ้นทีละน้อย เอเลียตวางมือบนหน้าผากของเธอเป็นระยะเพื่อวัดไข้ ราชามังกรสั่งให้ข้ารับใช้ยกเครื่องหอมเข้ามา กลิ่นสดชื่นช่วยฟื้นกำลังให้เกวนโดลิน

สำหรับเกวนโดลิน ความฝันนี้สมจริงขึ้นเรื่อยๆ

“ทำไมจ้องข้าขนาดนั้น หลับเถิด หลับอีกหน่อย อ้อ...เจ้าควรกินอะไรสักนิดกระมัง”

ในที่สุดดาร์กเอลฟ์สาวก็รู้ว่าไม่ใช่ความฝัน เธอละมืออย่างตกใจ ใบหน้าแดงก่ำ ใบหูแหลมลู่ลง รู้สึกเหมือนถูกสาดด้วยน้ำเย็นจนตื่นเต็มตา เธอถอยตัวหนีเอเลียต ทว่าเพราะขยับตัวไวเกินไปจึงหน้ามืด “โลหิต...มังกร” เธอโงนเงน กลืนน้ำลายฝืดคอ เพราะเคยดื่มของเหลวจากร่างกายมังกรมาแล้ว จึงจำรสชาติได้

“ยังฝังใจเรื่องจะตกเป็นสมบัติของมังกรอยู่อีกหรือ” เอเลียตไม่ได้ขยับรุกเข้าหา แต่พอเกวนโดลินทำท่าจะล้มพับเขาก็ประคองไว้ “อย่าเพิ่งกังวล ให้ร่างกายฟื้นก่อนค่อยพยศ เราขอร้องเจ้าได้หรือไม่”

เป็นครั้งแรกนับแต่ถูกจับตัวมาที่เอเลียตพูดจาขอร้องเธอ เกวนโดลินอดยึดชายเสื้อของเขาไม่ได้ เธอประหม่าและวางตัวไม่ถูก แต่ก็หลับตา สูดกลิ่นหอมหนักแน่นแบบบุรุษของเขา และพยักหน้า

เอเลียตดูแลเกวนโดลินจนเธอหลับพักผ่อน เขาเฝ้าไม่ห่าง ด้วยกลัวจะเกิดอะไรขึ้นอีก

น่าเสียดายที่ความสงบเล็กๆ ระหว่างราชามังกรผู้เป็นนายและดาร์กเอลฟ์สาวผู้เป็นทาสจะไม่คงทน เพราะเมื่อทาสสาวหายดีแล้ว ทุกอย่างย่อมเป็นเหมือนเดิม

เอเลียตยังไม่สืบสาวเอาความ ทว่าพอเกวนโดลินฟื้นคงเค้นจนได้ เรื่องนี้เขาไม่คิดปล่อยไว้

เรารอได้...เรามีความสามารถเป็นเลิศในการอดทนรอ

-------------------------------------

โคลด์ลืมตาในคืนพระจันทร์เต็มดวงเฉกกัน เมื่อมีสติกลับมาครบสมบูรณ์ เขาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงที่ไม่คุ้นเคยและรู้สึกเจ็บในอกมากๆ ไม่ใช่เจ็บที่แผลเพียงอย่างเดียว แต่เจ็บที่ใจด้วย

อิลมาเร...


“โคลด์” เสียงหนึ่งเรียก เป็นเสียงพร่าของเอลฟ์ตะวันออกที่ไม่ได้หลับเต็มตานับเดือน มาลแกธนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง ร่องรอยอิดโรยมีอยู่ แต่เจือด้วยความโล่งใจมหาศาล

“ข้า…” ชายฉกรรจ์แห่งตระกูลล็องธูเอ่ยค้าง เนื่องเพราะขอบตาร้อนผ่าว น้ำตาจวนร่วงหล่นอยู่รอมร่อ มือใหญ่และอุ่นจัดวางบนใบหน้าของดาร์กเอลฟ์ที่ตนรัก

“เจ้าร้องไห้ทำไม” โคลด์ถาม รู้สึกแปลกใจ

มาลแกธหัวเราะ เขาไม่ได้ปาดน้ำตาทิ้ง “ข้านึกว่าจะเสียเจ้าไปแล้ว”

“แต่ข้ายังอยู่...ข้าควรร้องไห้มากกว่า...เรื่องอิลมาเร” โคลด์ร้อนที่ตา แต่เขามองมาลแกธโดยไม่ซ่อนดวงตาที่กำลังแสดงความเสียใจที่ขมอยู่ในอกและความรู้สึกอ่อนแอ

“ข้าขอโทษ” มาลแกธสูดหายใจ กรามขบเข้าหากันจนขึ้นสัน “ข้าพลาด...อีกครั้ง ข้าขอโทษที่รัก”

“ข้าไม่แน่ใจนัก…” โคลด์เหม่อ “ข้าควรโกรธเจ้าหรือ”

“ข้าไม่แน่ใจอะไรเลย แต่ถ้าเจ้าโกรธข้าหรือชังข้า ข้าจะยอมรับทุกอย่าง” มาลแกธอยากกอดโคลด์ให้สมกับความห่วงหาที่อัดแน่นหนึ่งเดือนเต็ม ทว่ากลัวบาดแผลของอีกฝ่ายจะเปิด

“เจ้าตั้งใจออมมือหรือเปล่า”

“ข้าไม่ถนัดการทำศึกด้วยเวทมนตร์” มาลแกธอดสู…

เขาแพ้ราบคาบ ไม่มีหน้ากลับไปพบล็องธูคนใด

“เจ้าไม่ต้องทำศึกด้วยเวทมนตร์ก็ได้นี่ ดาบของเจ้าร้ายกาจ”

“ข้าจะไม่แก้ตัว ข้าแพ้ก็คือแพ้” มาลแกธลูบหน้าตัวเองหนักๆ เขาคิดทบทวนการต่อสู้ครั้งที่ผ่านมานับไม่ถ้วน จำลองแบบแผนรุกและรับในหัว ถ้าตัดสินใจอีกแบบจะเป็นอย่างไร หากใช้เพียงอาวุธอย่างที่ถนัดจะมีสิทธิ์เข้าถึงตัวเอริแอดเน่ได้มากกว่าหรือไม่ เขากังวลเรื่องเวทมนตร์มากไปใช่ไหม ตัวแปรอื่นๆ ล่ะ

เอลฟ์ตะวันออกวนอยู่กับเรื่องนี้ตลอดเวลาที่เฝ้าโคลด์

“แปลกดีนะ ปกติเจ้าชนะข้ากับซิกฟรีดตลอด” โคลด์แตะหลังมือมาลแกธ “เจ้าเป็นแบบนี้ข้าไม่ชินเลย มาลแกธ” ดาร์กเอลฟ์พยุงตัวลุกนั่ง เขานิ่วหน้า “ข้าคิดว่า...เพราะเจ้าถนัดในการต่อสู้เข่นฆ่าศัตรู แต่ไม่ถนัดในการต่อสู้ปกป้องคนอื่น”

มาลแกธเงียบ

เขาเพิ่งตระหนักเป็นครั้งแรก

ปกป้องหรือ...

เขาเคยปกป้องใครไหม

ในสนามรบแดนตะวันออก ทุกคนพร้อมเข่นฆ่าบูชาเลือด วิญญาณนักรบเรียกร้องสงครามด้วยเหตุผลต่างกัน บ้างเพื่อแก้แค้น บ้างเพื่อขยายอำนาจ บ้างเพื่อริบทรัพย์ศฤงคารจากตระกูลอื่น หรือบางที อาจเป็นการสนองความต้องการสูงสุด ด้วยการแสดงฝีมือให้เทพแห่งความตายและเทพแห่งสงครามผินพระพักตร์มาหา โดยหวังว่าจะได้อยู่เคียงข้างพระองค์หลังสิ้นลมในสมรภูมิ

แต่ไม่เคยมีจารึกว่าเอลฟ์ตะวันออกกระโจนสู่สงครามเพื่อปกป้องใคร

ในสงคราม นักรบตะวันออกที่เก่งกล้าและมีเกียรติย่อมสามารถปกป้องตัวเอง การขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นหรือได้รับการช่วยเหลือคือการหมิ่นเกียรติ และจักถูกตราหน้าว่าเป็นคนอ่อนแอขี้ขลาด ซึ่งในการดวลตัวต่อตัวระหว่างทำสงคราม กระทั่งผู้คุ้มกันหรือผู้ติดตามก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าช่วยเหลือแม้ว่านายกำลังจะถูกบั่นคอ

“ข้าโทษเจ้าไม่ได้” โคลด์บีบมือมาลแกธ “เพราะข้าเป็นคนสั่งเจ้า และเจ้าทำตามคำสั่งข้า เมื่อผิดพลาด ข้าก็ต้องโทษตัวเองที่ตัดสินใจพลาด”

โคลด์เติบโตมาเช่นนี้ เขาถูกฝึกให้เป็นผู้สั่งการกองทัพ จะเลือกให้ใครอยู่ ส่งใครไปตาย ช่วยเหลือหรือละทิ้งใคร เขานี่แหละที่ควรเข้าใจยิ่งกว่าใครว่า...ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ความรับผิดชอบทั้งหมด ย่อมตกอยู่กับผู้สั่งการ

“ข้าควรตัดสินใจฆ่าเอริแอดเน่ก่อนช่วยอิลมาเร ถ้าข้าไม่รีบร้อนช่วยอิลก่อน ผลลัพธ์อาจออกมาอีกแบบ และข้ารู้ตัวดีว่าทำไมส่งเจ้าเข้าไปแทนที่จะลงมือเอง เพราะข้าคิดว่าอย่างไรเจ้าก็มีภาระของตระกูลล็องธู เจ้าอาจยั้งมือให้อิซิลดาร์เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างดินแดน” โคลด์ยกยิ้มอย่างอดสู “ข้าตัดสินใจพลาดและไม่เด็ดขาดเอง ปากบอกให้สังหารนาง แต่ใจคิดว่าเจ้าจะไม่สังหารนางทันที”

ตอนแรก โคลด์มีความคิดจะฆ่าเอริแอดเน่ และเขาจะลงมือเอง แต่เมื่อได้พูดคุยกับซิกฟรีด เขาก็ลังเล อดีตที่ทำให้เอริแอดเน่จงชังดาร์กเอลฟ์ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขา แต่ยอมรับว่ามีผลต่อการตัดสินใจ และเพราะความผูกพันที่ซิกฟรีดมีให้แก่นาง เขาจึงยอมถอยหนึ่งก้าวเพื่อซิกฟรีด

เช่นนี้แล้ว...คนที่เขาควรโกรธที่สุดก็คือตัวเอง

มาลแกธมองโคลด์เงียบงัน กระทั่งตอนนี้ความคิดแบบตะวันออกยังผุดขึ้นมา

‘ริจะทำสงครามต้องมีคนตาย ขอเพียงคนผู้นั้นไม่ใช่คนที่รักสุดชีวิตก็พอ’

นั่นทำให้มาลแกธไม่ชอบตัวเอง

อิลมาเรก็สำคัญไม่ใช่หรือ นักรบตะวันออกฟังเสียงที่ผุดขึ้นในใจ ใช่...แต่ไม่เท่าโคลด์

ลำคอจุกเพราะรู้สึกผิด เมื่อก่อนเขาไม่มีทางรู้สึกแบบนี้ ไม่สนใจด้วยซ้ำ หรือบางทีความคิด ‘อ่อนแอ’ แบบรูเมเรียร์แทรกเข้ามาเพราะอยู่แผ่นดินนี้นานเกินไปก็เป็นได้

“ตอนนี้ข้าอยู่ที่ไหน อิลมาเร ซิกฟรีด...เอริแอดเน่ล่ะ” โคลด์ถาม

“เจ้าสลบไปหนึ่งเดือนที่รัก” มาลแกธตอบ เขาลุกไปรินน้ำให้โคลด์ “ตอนนี้เราอยู่ในราชวังรูเมเรียร์ ซิกฟรีดว่าราชการ ส่วนอิลมาเรกับท่านหญิงอิซิลดาร์…” เขาเว้นช่วงเล็กน้อย

“พวกนางหายสาบสูญไปกับวังน้ำวน”


—————————————————————————

A/N เปลี่ยนฉากไปดูทางฝั่งเกวนว่าเป็นอย่างไรพอให้หายคิดถึง ส่วนโคลด์ แม้รอดมาได้ก็ต้องเผชิญกับพายุอารมณ์อีกครั้ง เป็นกำลังใจให้โคลด์กันนะคะ ;w;


หลังจากนี้จะลงตอนใหม่แบบวันเว้นวันจนจบ เพราะสต๊อกทำตอนชนตอน

(โดยแต่ละตอนจะพยายามให้มีความยาวมากขึ้น)

หลังจากนี้ยังมีต่อ 2-4 บท จึงจะจบภาคโดยสมบูรณ์

ตอนต่อไปลงวันที่ 26 เมษายน 60 ค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (1) [24/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-04-2017 19:04:36
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (1) [24/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 24-04-2017 21:10:36
ทั้งเกวน ทั้งโคลด์ เฉียดตายเลย

เศษซากหลังซึนามิของเอรี่จะยับบเยินขนาดไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (1) [24/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 24-04-2017 21:47:50
อิลมาเรอ่ะ กลับมาาาา
ส่วนเอรินเอดเน่ตายๆเถอะจร้าาาา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (1) [24/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-04-2017 05:42:40
หลับไปพร้อมกัน ตื่นพร้อมๆกัน สมกะเป็นพี่น้องกันเนาะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (1) [24/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-04-2017 10:22:54
ไม่แน่ว่าทั้งเอ ทั้งอิล รอดทั้งคู่

อีเลียต เย็นชา พูดน้อย กับลูกกับเมีย
แต่อยู่กับเกวน ดูพูดไม่น้อยนะ ยังไง

ความในใจเกวน แสดงออกมาตอนฟื้นนี่แหละ
อีเลียต อดทนรอเก่ง จะรอไปถึงไหน
เกวน ก็เกือบตายและนะ
รากาล น่ารัก


      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (1) [24/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 25-04-2017 19:30:39
เกิดอะไรขึ้นระหว่างอิเลียตกับเกวนกันแน่

เรื่องอะไรที่ทำให้ผิดใจกันได้ขนาดนี้

ส่วนความสัมพันธ์อีกฝั่งนี่ยิ่งกว่าน้ำวน

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (1) [24/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 26-04-2017 02:02:20
ขอมอบเพลง...วังน้ำวน (ไม่บอกอายุนะค้าาาา)
https://www.youtube.com/watch?v=cF_oczVwrz8 (https://www.youtube.com/watch?v=cF_oczVwrz8)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (1) [24/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 27-04-2017 00:49:33
เราชอบนิยายแฟนตาซีมากค่ะ แต่หาอ่านแบบ yaoi ยากมากๆ
เรื่องนี้ดีงามยอดเยี่ยม เกินความคาดหวังของเราไปมากโขค่ะ หยุดอ่านไม่ได้ด้วย 5555
เราลรรยายไม่ค่อยเก่งหรอกค่ะ แต่เราชอบทุกตัวละครมากเลย (ไม่มีเกลียดใครเลย) ทุกคนมีมิติ  มีความรู้สึก  มีอะไรๆที่ทำให้เราเข้าใจว่า ทำไมเขาถึงเป็นแบบนั้น ทำแบบนั้น ซึ่งผลของการกระทำบางอย่าง มันก็ไม่ได้แฮปปี้เอนดิ้งสวยงามเสมอไป มีความเรียลมากจริงๆค่ะ

สุดท้ายนี้ เราก็หวังจะได้เห็นซิกได้มีความสุขบ้าง สงสารนางสุดมากตอนนี้ :ling3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (1) [24/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 27-04-2017 01:44:05
26 เมษยนนนนนนนนนน
ฮือออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ
จาร้องไห้เเล้ว

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (1) [24/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 27-04-2017 02:15:54
ยังเขียนไม่เสร็จเลยค่ะ ลงตอนนี้มันจะสั้นๆ ไปหน่อย รอนิดจ้า
ขออภัยผู้ที่รออยู่ทุกท่าน^^;
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (2) [27/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 27-04-2017 06:28:45
บทที่ 21 : บาดแผล (2)

การไต่สวนองครักษ์ของเอริแอดเน่มีขึ้นเมื่อโคลด์รู้สึกตัว เป็นการไต่สวนแบบส่วนตัว เนื่องเพราะเป็นเรื่องละเอียดซับซ้อนที่ซิกฟรีดประสงค์ให้ทำเป็นการลับ

เรื่องเกี่ยวกับโคลด์ ราชาแห่งรูเมเรียร์ดำเนินการอย่างลับมาโดยตลอด หากเปิดเผยมีแต่จะต้องรับมือกับเสียงต่อต้านจากเหล่าข้าราชบริพาร จินตนาการถึงเสียงนั้นได้ไม่ยากว่า ‘พระองค์นำทรัพยากรบุคคลอันล้ำค่าของรูเมเรียร์ไปช่วยดาร์กเอลฟ์หรือพ่ะย่ะค่ะ’

ไม่นับว่าผู้ที่ราชาทรงต่อกรด้วยคือ ‘พระคู่หมั้นจากอิซิลดาร์’

พระคู่หมั้นจากดินแดนขัตติยนารีอันเป็นพันธมิตรที่ดีต่อรูเมเรียร์เสมอมา

การเมืองระหว่างสองดินแดนจะสั่นคลอนเพราะดาร์กเอลฟ์คนเดียว...สมควรแล้วหรือ

ลองไล่เรียงเหตุการณ์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงจุดแตกหักระหว่างท่านหญิงเอริแอดเน่กับราชาผู้เยาว์ แรกสุดคงเป็นเหตุการณ์ในถ้ำมังกร พระองค์ทรงไม่ถือโทษแม้ว่ามันจะก่อเหตุในถ้ำมังกรจนเสียทหารไปหลายนาย ซ้ำพอมันก่อเรื่องครั้งที่สองด้วยการชิงหัวใจมังกรซึ่งตัวมันเองเพิ่งทูลเกล้าฯ ถวาย ก็เพียงให้หน่วยกาลาฮานจับตัวกลับมาโดยไร้บทลงโทษจริงจัง แถมหน่วยกาลาฮานยังทำงานพลาดอย่างน่าสงสัย ไม่นับว่าหลังจากนั้นทรงออกคำสั่งให้ปลดใบประกาศจับอย่างน่าสนเท่ห์

ทุกครั้ง...ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ไม่เอ่ยคัดค้านโดยตรง เพียงปรามอย่างนุ่มนวลเท่านั้น

กระทั่งวันหนึ่ง มีผู้พบเห็นว่าจู่ๆ ท่านหญิงเอริแอดเน่เปลี่ยนมาสวมอาภรณ์อย่างอิซิลดาร์ ทั้งเปิดเผยเนื้อหนังและเป็นสีแดงร้อนแรงดุจเพลิงพิโรธ อันที่จริง แม้จะน่าประหลาดใจแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ชวนขบคิด จนเวลาต่อมาท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์พร้อมอัศวินสตรีผู้ติดตามหายตัวไปจากราชวังรูเมเรียร์ โดยราชาหนุ่มไม่มีทีท่าเดือดเนื้อร้อนใจเท่าที่ควร ทำให้เกิดการสันนิษฐานไปต่างๆ นานาว่าพระคู่หมั้นกับราชาซิกฟรีดผิดใจกันหรือไม่ และถ้าใช่...ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องดาร์กเอลฟ์

‘...จะมีเหตุอะไรได้อีก เห็นขัดแย้งกันก็เพียงเรื่องนี้’

จริงหรือเท็จไม่มีใครทราบแน่ชัด ทว่ากับเรื่องบางเรื่อง แค่อาศัย ‘มูลความจริง’ น้อยนิด ก็ปะติดปะต่อเป็นความจริงผืนใหม่ได้

เวลานี้...ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้ว ระหว่างนั้นทางอิซิลดาร์ส่งราชสาส์น​มายังรูเมเรียร์ ไถ่ถามว่าเหตุใดจึงไม่มีข่าวคราวจากท่านหญิงเอริแอดเน่เช่นดังก่อน ทางรูเมเรียร์ส่งราชสาส์น​กลับ โดยราชาซิกฟรีดเป็นผู้เขียนราชสาส์น​นั้นด้วยพระองค์เอง ไม่มีขุนนางคนใดทราบเนื้อหาภายใน หลังจากนั้นทางอิซิลดาร์ก็ส่งราชสาส์น​มาอีกฉบับ เนื้อความอันอ่อนน้อมแต่เด็ดขาดบ่งชัดว่าต้องการสารตอบกลับจากท่านหญิงเอริแอดเน่ และถามว่าเหตุใดท่านหญิงจึงไม่ตอบสารด้วยตนเอง

เรียกว่าอิซิลดาร์กดดันรูเมเรียร์ไม่เบาทีเดียว

จากจุดเริ่มต้นสู่จุดแตกหัก...จากจุดเล็กๆ ไม่น่าให้ความสนใจอย่างดาร์กเอลฟ์ไร้หัวนอนปลายเท้า กลับขยายใหญ่จนน่ากลัว ทว่ามันคงไม่เลยเถิดมาถึงขั้นนี้หากราชาแห่งรูเมเรียร์จัดการมันแต่แรก

และจัดการหัวใจของพระองค์แต่แรก…

‘ราชาซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ทรงหน้ามืดตามัว หลงดาร์กเอลฟ์จนก่อความรำคาญใจแก่พระคู่หมั้นคนสำคัญ จนอาจเกิดเหตุขัดแย้งระหว่างสองแผ่นดิน’ คิดโดยรอบแล้ว ไม่ว่าจะหลงด้วยตัวพระองค์เอง หรือหลงเพราะมนตร์ทมิฬ ก็ถือว่าพระองค์ทรงไร้สามารถในการพิจารณาไตร่ตรองถึงผลที่จะตามมาหลังทรงเอาแต่พระทัยตนเป็นที่ตั้ง

และอาจเลยเถิดไปถึงขั้นทรงไร้สามารถในการปกครองรูเมเรียร์

ใช่ว่าสิ่งที่พินิจพิเคราะห์เป็นแค่การละเมอเพ้อพก แต่มีขุนนางบางกลุ่มคิดเช่นนั้นจริง อิลราลานผู้เป็นองครักษ์มือซ้ายได้รับการไถ่ถามจากขุนนางอยู่เนืองๆ แม้จะใช้คำสุภาพ นอบน้อมและอ้อมค้อม ทว่าใจความคือ ‘องครักษ์ใกล้ชิดเช่นท่านมีความเห็นเกี่ยวกับราชาผู้เยาว์อย่างไรบ้าง สติของพระองค์ยังอยู่กับกายและจิตของพระองค์ใช่หรือไม่’

ดังนั้นจึงเป็นการดี...ที่จะดำเนินการใดๆ ต่อจากนี้เป็นอย่างลับ

ในห้องรโหฐาน พื้นหินอ่อนมันวาว ผนังไม้โอ๊กขัดเงาประดับลวดลายปิดทองหรูหรา โคมระย้าเงินและคริสตัล เบื้องหน้ากษัตริย์หนุ่มซึ่งยืนอยู่กลางห้องคืออัศวินอิซิลดาร์สองนาง เวเรด้านักธนู และซิลเวียนักเวท

เวเรด้าสังหารอิลมาเรและกล้ายิงธนูใส่ราชาแห่งรูเมเรียร์ โทษจึงหนักกว่าซิลเวียที่ไม่ได้ปะทะกับราชาโดยตรง

นักธนูสาวถูกกดให้คุกเข่า สองมือถูกมัดไพล่หลังด้วยโซ่เวท และมัดไว้ตลอดเวลา เพราะหากเผลอนางจะแผลงฤทธิ์ เวลานี้ใบหน้าสวยคมคายของนางบวมช้ำไปข้างหนึ่ง โดยที่ผู้คุมก็ไม่แจ้งสาเหตุ ส่วนนักเวทสาวที่คุกเข่าอยู่ข้างกัน ได้ยินว่าแทบไม่หยุดร้องไห้เลยตั้งแต่ถูกจับมา นางเอาแต่เสียน้ำตาให้แก่ท่านหญิงของนาง

ถูกสอบสวนในคุกหลายครั้ง เวเรด้าไม่เคยเปิดปาก แต่เมื่อเห็นโคลด์ นางยอมพูด

“ท่านหญิงสั่งไว้ว่าเจ้ามีสิทธิ์รู้” นางเอ่ยกับโคลด์ “ถ้าไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า หากเจ้า ราชา และองครักษ์มือขวาอย่างมาลแกธ ล็องธูมีแนวโน้มว่าสามารถบุกเข้ามาพร้อมกัน ข้าต้องกลับไปเสริมกำลัง”

นี่คือสาเหตุที่เวเรด้าหนีจากการต่อสู้จนทำให้ทหารคนหนึ่งกลับไปล้อมจับจามิลลา จามิลลาเองก็ทราบข้อนี้ดี ว่านางต้องรั้งทหารของราชา จึงทุ่มเทกำลังทั้งหมดเพื่อรับศึกสามต่อหนึ่ง

ฝ่ายเวเรด้า หลังถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว ตุ้มหูเวทของนางเสียหายจนใช้สื่อสารไม่ได้ แต่นางก็ยึดคำสั่งเดิม

“ถ้าเจ้าอ่อนแอกว่านี้สักหน่อย หรือราชาเข้าข้างเจ้าน้อยกว่านี้สักนิด ตั้งแต่แรก...ท่านหญิงคงไม่ฆ่าเจ้าหรือดวอร์ฟ” เอลฟ์สาวผมสีเขียวอ่อนเอ่ยด้วยความคับแค้นใจ คำสั่งประหารดาร์กเอลฟ์ของท่านหญิงมีขึ้นหลังจากมันขโมยหัวใจมังกรศิลา ซึ่งสมกับความผิดของมัน จากนั้นความขัดแย้งทวีความรุนแรงเพราะราชาหลงรักดาร์กเอลฟ์หน้ามืดตามัว สุดท้ายดาร์กเอลฟ์ตรงหน้ารอด แต่ท่านหญิงของนางกลับ…

เวเรด้ากัดฟันกรอด

หากราชามีสติสัมปชัญญะหรือวิจารณญาณมากกว่านี้ เรื่องจะมาถึงจุดนี้หรือ!

“เป็นพวกเจ้าที่หาเรื่องใส่ตัว” นางไม่อาจระงับอารมณ์

โคลด์ฟังแล้วกำมือ เล็บจิกเข้าไปในเนื้อจนได้แผล เขาแทบอยากฆ่าเอลฟ์สตรีตรงหน้า หากจะมีเรื่องที่ทำให้เขาโกรธจัดได้ ย่อมเป็นความตายของอิลมาเร!

สติ...เจ้าต้องมีสติ ฮีมเดียร์ เขาเตือนตัวเอง ถ้าฆ่านางแล้วทำให้อิลมาเรฟื้น ข้าจะฆ่านางเป็นร้อยครั้งให้ดู

สิ่งที่โคลด์ต้องการจริงๆ ไม่ใช่การฆ่าเวเรด้า หากย้อนเวลากลับไปได้ เขายินดีทำทุกทางรวมถึงคุกเข่าขอร้องไม่ให้นางฆ่าอิลมาเร

แต่เวลาย้อนกลับไปไม่ได้ เช่นเดียวคำขอร้องในเวลานั้นไม่มีประโยชน์

“ข้าไม่มีธุระกับพวกนางแล้ว ที่เหลือเจ้าตัดสินใจเถอะ...ราชา” โคลด์บอกซิกฟรีด ตั้งแต่ฟื้นมา เขาก็ยังไม่ได้พบหรือพูดคุยกับอีกฝ่ายเป็นการส่วนตัว

การตัดสินใจของโคลด์ดูอ่อนแอและไม่เด็ดขาด ไม่สมกับเป็นแอสซาสซินผู้โหดเหี้ยมซึ่งเคยสังหารหน่วยกาลาฮาน แทงคอมาลแกธ ล็องธู และดับชีวิตนักฆ่าที่หมายสังหารตนด้วยการใช้ฟันกัดคอมันจนตาย

ความจริงก็คือ...โคลด์ในตอนนี้ทั้งอ่อนแอและไม่เด็ดขาด แม้ไม่ร้องไห้คร่ำครวญหรือแสดงความเกรี้ยวกราด แต่จิตใจของเขาเปราะบางสุดขีด จิตวิญญาณแห้งเหือดและเหนื่อยล้าจากการสูญเสียอิลมาเร

ซิกฟรีดไม่มีปฏิกิริยาใดๆ กับความเกรี้ยวกราดของเวเรด้าหรือโคลด์ เขาเพียงไล่สายตามองแต่ละคนในที่นั้นเงียบๆ เริ่มจากโคลด์ไปยังมาลแกธ จากนั้นหยุดที่ซิลเวียเล็กน้อย ก่อนจะหยุดนิ่งที่เวเรด้า

“อยากตายหรือ” ราชาหนุ่มถามนาง น้ำเสียงแหบพร่านิ่ง...ทว่าเย็นยะเยียบดุจผิวน้ำในแดนเหนือ

“สิ้นนายแล้ว อัศวินสมควรสิ้นชีพ” เวเรด้าตอบอย่างไม่ลังเล

ซิลเวียได้ยินก็ตัวสั่น กัดปาก นางอายุยังน้อยย่อมหวาดกลัวความตาย แต่อีกใจก็เสียใจเหลือเกินที่ไม่สามารถปกป้องเจ้านายให้ดี...เช่นนี้นางก็สมควรตายแล้วใช่หรือเปล่า

ซิกฟรีดปรายตาไปทางนักเวทสตรี ก่อนจะเบือนกลับมายังนักธนู “แน่ใจใช่หรือไม่ว่าบิดาแห่งความตายรับพี่หญิงของข้าไปแล้ว”

“ท่านหญิงทิ้งดาบเวท นางตั้งใจทิ้งชีวิต ในฐานะองครักษ์ ข้าตัดสินใจผิดพลาด” เวเรด้ากัดปากอย่างเจ็บปวด นางสามารถสังหารผู้เป็นที่รักของคนอื่นตามคำสั่งนาย แต่หาใช่มีจิตใจไร้เลือดและน้ำตา

“แต่ข้ายังมีหวัง” ซิกฟรีดเอ่ยเรียบเรื่อย ไม่เพียงน้ำเสียงจะนิ่งและเย็น แต่รวมถึงแววตาก็ไร้อารมณ์ด้วย นัยน์ตาหลอมเหล็กที่เคยร้อนแรงประหนึ่งลาวา กลับให้ความรู้สึกหนาวเยือกแก่ผู้มอง

คำว่า ‘หวัง’ สั้นๆ ทำให้ซิลเวียเงยหน้าขวับ! “ท่านหญิง...ท่านหญิง” นางสะอื้น ขณะที่เวเรด้าก้มหน้าไม่ตอบอะไร

ซิกฟรีดยิ้มอ่อนจางให้นักเวทดีราน “ข้าไม่ได้บอกว่าพี่หญิงของข้ายังอยู่ ข้าเพียงเอ่ยว่าข้ายังมีหวัง”

ราชาหนุ่มสืบเท้าไปหาซิลเวีย เมื่อใกล้จนชิดก็โน้มใบหน้าลงเหนือนาง

“ความหวังโบยตีข้าได้เจ็บแสบนัก...รู้ไหม” นิ้วแข็งแรงดันคางนางขึ้น ซิลเวียได้เห็นนัยน์ตาเกือบไร้ประกายของชายผู้ถูกความเจ็บปวดกลืนกิน

นางกลั้นหายใจ

“เอาอย่างนี้เป็นไร…” ซิกฟรีดลูบนิ้วโป้งที่ปลายหางตาเปียกชื้นของนักเวทสตรี ดูแล้วคล้ายกำลังปลอบโยน แต่ไม่ สัมผัสนั้นหนักจนเจ็บ เกือบเหมือนกับการข่มขู่อย่างนุ่มนวล “บทลงโทษของเจ้าที่ไม่อาจปกป้องนายได้ คือมีชีวิตและร่วมหวังไปกับข้า”

สำหรับผู้ที่สิ้นหวังจนอยากตาย จะมีบทลงโทษใดดีไปกว่าบังคับให้หวังและยังมีชีวิตเล่า

โคลด์ไม่อยู่ฟังมากกว่านั้น เขาจะทนฟังต่อได้อย่างไร...ในเมื่อพี่หญิงที่ซิกฟรีดรักหนักหนานางนั้นเป็นคนสั่งฆ่าอิลมาเร

ดาร์กเอลฟ์เดินออกไปโดยไม่อยากเกี่ยวข้องใดๆ กับการไต่สวนนี้อีก

----------------------------------

สวนส่วนในของราชวังเงียบเชียบไร้ผู้คน มะลิกลีบบางไม่ส่งกลิ่นหอม ดอกหางจิ้งจอกสีม่วงอ่อนชูช่ออย่างซีดเซียวภายใต้แสงแดดจาง แรงกระเพื่อมเบาๆ ใต้ผิวน้ำทำให้ต้นดอกหญ้าเรียวยาวริมสระน้ำโอนเอนอย่างอ่อนแรง

โคลด์ไม่ได้กลับห้องพัก เขาเดินตัดผ่านสวน ตั้งใจตรงออกจากราชวัง ทว่าเกิดลมหนาวพัดมาวูบใหญ่ พอลมหยุด ตรงหน้าเขาคือวิหคทมิฬที่ค่อยๆ เปลี่ยนรูปลักษณ์จากไอหมอกเป็นราชาแห่งรูเมเรียร์

โคลด์ชะงัก ตัวแข็งทื่อ เขาหรี่ตาก่อนถาม “มีอะไรหรือ...”

“ยังไม่ได้คุยกันดีๆ ข้ายังไม่ได้ยอมรับกับเจ้าว่าข้าอ่อนแอและโง่งมที่ไม่เลือกสักทาง” ซิกฟรีดสานมือไว้ด้านหลัง เขาตรงเข้าประเด็นทันที วิธีการพูดค่อนข้างแข็งต่างจากเดิม

นอกจากนี้ สิ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดคือใบหน้าของซิกฟรีด

รอยแผลเป็นที่เคยประทับอยู่บนใบหน้าซีกซ้ายกลับหายไปอย่างอัศจรรย์ ราชาหนุ่มหล่อเหลางดงามจนแทบลืมหายใจ แม้เป็นเรื่องน่ายินดี แต่ก็น่าประหลาดใจ หนำซ้ำถ้ามองใบหน้านั้นนานๆ จะรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง คล้ายถูกสะกด ขุนนางบางคนตกอยู่ในภวังค์กลางโถงว่าราชการก็มี

เรื่องนี้เป็นที่เล่าลือไม่น้อย ว่ากันว่าขุนนางควาร์ได้ยินเสียงกระซิบจากราชาผู้เยาว์ทั้งที่ท่านไม่ได้ขยับพระโอษฐ์ พอตั้งใจฟังให้ดีเสียงนั้นก็หายไป

โคลด์สังเกตใบหน้าอันปราศจากบาดแผลนี้ตั้งแต่ในห้องไต่สวนแล้ว แต่เขาไม่มีอารมณ์สอบถามสาเหตุที่จู่ๆ แผลก็หายไป

“ช่างเถอะ…” โคลด์ตอบเท่านี้ เขาเดินผ่านซิกฟรีด ทว่าอีกฝ่ายแปลงเป็นวิหคทมิฬแล้วมายืนตรงหน้าอีก

“เจ้าต้องการอะไรจากข้า”

“ถ้าพูดตรงๆ คืออยากได้ทั้งหมดจากเจ้า” ซิกฟรีดไม่อมพะนำดังเก่า เขาเปิดเผย แม้กระทั่งด้านที่น่ารังเกียจอย่างความปรารถนาที่เพิ่งเอ่ยไป “แต่ความดีของข้ายังพอมีเหลืออยู่บ้าง เลยต้องการแสดงความเสียใจเรื่องดวอร์ฟก่อน”

“ดวอร์ฟที่เจ้าว่ามีชื่อ นางชื่ออิลมาเร” โคลด์กำมือซึ่งจิกตัวเองก่อนหน้านี้

“อิลมาเร” ซิกฟรีดทวน “ข้าแสดงความเสียใจด้วยที่เจ้าเสียอิลมาเรไป” เขามองอีกฝ่าย สายตานิ่งเกือบไร้ชีวิตชีวา

คนฟังจ้องตอบสายตากร้าว

“ข้ามีคำถาม” โดยไม่รอให้ตอบ ริมฝีปากสมบูรณ์แบบของราชาเอลฟ์ก็ขยับต่อ “เจ้าไม่คิดจะเลือกข้าใช่หรือไม่”

โคลด์แทบอยากหัวเราะและร้องไห้ไปพร้อมกัน เขายันอกซิกฟรีดให้พ้นทาง “ไม่อยากเชื่อว่าเจ้ากล้าถาม เพื่อนข้าเพิ่งตาย ข้าไม่เอาใครทั้งนั้นแหละ”


—————————————————————————

A/N มาถามตอนนี้...จะให้โคลด์ตอบว่าอะไร ;w;


ตอนต่อไปลงวันที่ 28 เมษายน 60 ค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (2) [27/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 27-04-2017 07:10:03
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (2) [27/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 27-04-2017 12:13:31
ซิกหลอมรวมกับริวอร์นอร์เหรอ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (2) [27/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-04-2017 15:45:41
เห้ออออ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (2) [27/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 27-04-2017 21:14:10
เศร้าาาา ถึงไม่ชอบเอรินเอคเน่แต่ก้อเศร้าาาา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (2) [27/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 27-04-2017 21:52:10
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (2) [27/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-04-2017 21:57:52
ทำไม หน้าซิก กลับมาหล่อ ได้  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (2) [27/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 28-04-2017 01:46:50
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (2) [27/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 28-04-2017 16:59:05
โอ๊ย เศร้าอ่ะ เครียดอ่ะ ต่างคนต่างตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก  :ling3:
แต่ยังไงเราก็สงสารซิกสุดละ เรื่องที่อยากพูดก็พูดไม่ได้ ที่จริงถ้าฮีไม่ใช่กษัตริย์หรือเจ้าชาย ชีวิตฮีน่าจะสดใสได้กว่านี้  :hao5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (3) [28/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 28-04-2017 19:12:09
บทที่ 21 : บาดแผล (3)

“ใช่ อิลมาเรเพิ่งตาย” สีหน้าของซิกฟรีดเรียบเฉย “ข้าก็ไม่อยากเค้นเอาตอนนี้ แต่ถ้าไม่ใช่ตอนนี้เกรงว่าจะไม่มีตอนไหนอีก เจ้าเก่งเรื่องหนีไปจากข้า” เขาเน้นคำว่า ‘หนี’

โคลด์ใช้สองมือปิดหน้าอย่างอ่อนล้า “ถอยไป”

“ข้าถือว่าเป็นคำตอบ” ซิกฟรีดผายมือ “ขอโทษที่ใจดำ ข้าอยากรู้ว่าเวลานี้ข้าเสียไปแล้วทั้งหมดใช่หรือไม่” ราชาหนุ่มเผยรอยยิ้มเหยียดหยัน “จะว่าไปก็น่าขัน ข้าคิดว่าตัวเองทำดี แต่ผลกลับเป็นอะไรที่ชั่วช้า หากทุกอย่างจะออกมาตรงกันข้าม ข้าก็ทราบแล้วว่าต่อไปควรทำตัวสามานย์”

“อา!” โคลด์ร้องอย่างขัดใจ เขาน้ำตาซึมด้วยความอับจนหนทาง “เจ้าจะให้ข้าพูดอะไร พูดว่าข้ารักเจ้า ข้าจะอยู่กับเจ้า ข้าจะทิ้งมาลแกธทั้งที่ข้านอนกับ...!” โคลด์ปิดปากตัวเอง ยั้งคำพูดไว้

ซิกฟรีดกระตุกยิ้ม “พูดเถอะ” เขาเอียงศีรษะเล็กน้อย แววตาที่มองโคลด์อ่อนลง “ข้าอยากฟังสิ่งที่เจ้าคิดหรือรู้สึก”

“เจ้าเป็นบ้าอะไร” โคลด์คุกรุ่นอยู่ข้างใน เขาไม่เข้าใจว่าซิกฟรีดมาเค้นเขาทำไม อยากให้เขาพูดว่าไม่รักแล้วงั้นหรือ จะอยากฟังสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์เพื่ออะไร

ซิกฟรีดฟังแล้วหัวเราะในลำคอ “ข้าเป็นบ้าอย่างไรล่ะ” เขาถอนใจยาวขณะเงยหน้ามองฟ้า “รู้ไหม ข้าไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้ว บิดานภา มารดานที...ไม่มีใครตอบรับ”

เวลานี้แดดเริ่มแรง ฟ้าโปร่งแทบไม่มีก้อนเมฆ แต่จู่ๆ ก็เกิดเสียงร้องครืน...จากเบื้องบน คล้ายฟ้ากำลังคร่ำครวญ

“ยกเว้นเสียงนี้” ราชาเอลฟ์ดึงสายตากลับมามองโคลด์ “ฟังอย่างไรก็คล้ายเสียงหัวเราะเยาะชอบกล”

“ซิกฟรีด…”

“ขอโทษสำหรับทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องที่ข้าทำกับเจ้าเหมือนเป็นทาสตั้งแต่สิบปีที่แล้วจนกระทั่งวันนี้ ข้าได้บทเรียนที่วิเศษทีเดียว”

บทเรียนที่สอนว่า ยิ่งข้าต้องการสิ่งใดมากเท่าไหร่ ข้ายิ่งทำลายสิ่งนั้นมากดุจกัน

ทั้งเจ้า...ทั้งพี่หญิง

และความรัก


“พอแล้ว” โคลด์จับมือราชาหนุ่ม อีกฝ่ายเจ็บปวด มีหรือเขาจะไม่รู้ เขาพยายามหลีกเลี่ยงการให้ความหวัง...เขาไม่ควรให้ แต่เมื่อเห็นซิกฟรีดกำลังพังทลายลงไปต่อหน้า เขาก็หักใจปล่อยไปไม่ได้

“ข้าจะไปบ้านของอิลมาเร ไม่ได้จะหายไปไหน” โคลด์ยอมบอกความตั้งใจ เขาอยากไปเงียบๆ เพียงลำพัง จึงไม่ได้บอกกระทั่งมาลแกธ

พอโคลด์อ่อนลง ซิกฟรีดก็อ่อนโยน เขายกมือลูบแก้มโคลด์อย่างรักแสนรัก แววตาเกิดประกายซีดจาง

โคลด์พยายามไม่ให้ความหวัง แต่สุดท้าย...ซิกฟรีดยังคงหวัง

“รู้ไหม ข้ามีปีกที่ใหญ่กว่าพญาอินทรี” หมอกสีดำสยายขึ้นกลางหลัง มันกลายเป็นปีกคู่ใหญ่มหึมา ซิกฟรีดเอ่ยเป็นนัยว่าเขาสามารถพาโคลด์ไปยังบ้านของอิลมาเรได้ในชั่วพริบตา

สีหน้าของโคลด์คลายความเครียดลง “รู้แล้ว ข้าเห็นมันแล้ว หลังจากโดนแทงตรงนี้ไง” เขาแตะผ้าพันแผลบนหน้าอก แต่ท่าทางไม่จริงจังเท่าไร

ซิกฟรีดยิ้มพร้อมหัวเราะเบาๆ “ข้าค้นพบว่าแผลมีข้อดีอยู่สองข้อ ข้อแรกตอนที่ได้มันมาเจ้าจะรู้สึกถึงชีวิต และข้อที่สองพอมันหายก็จะเป็นเครื่องเตือนใจ”

เขามีแผลสด

แผลนี้มองไม่เห็นทว่ามันกรีดลึกถึงวิญญาณ เขาเจ็บหลอนและฝันร้าย ในฝันนั้นได้ยินเสียงพี่หญิงเอ่ยซ้ำไปซ้ำมาว่า

 

“ความตายของข้าจักสอนเจ้าว่า สุดท้าย…เจ้าก็ไม่สามารถกางปีกปกป้องได้ทั่วแผ่นดิน”

 

ความตายของพี่หญิงคือแผลสดที่ว่า มันจะเป็นเครื่องเตือนใจที่ไม่มีวันจางหายไป

“ข้าเจ็บโคลด์ สตาร์ เพิ่งได้แผลขนาดใหญ่ยังไม่หายอยู่ตรงนี้” ซิกฟรีดวนมือบนอกหนักๆ เขารู้จักล้อเล่นกับความเจ็บปวดของตัวเองแล้ว “ข้าอนุญาตให้เจ้าปลอบได้”

โคลด์หรี่ตา “ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ ข้าเชื่อว่ามีคนอยากปลอบเจ้ามากมาย และข้ายอมเจ้าแค่บางเรื่องเท่านั้น” เขาแตะอกกว้างของอีกฝ่ายเบาๆ แล้วแจ้งจุดหมายที่ต้องการไป

----------------------------------

บ้านของอิลมาเรอยู่ในเมืองเล็กๆ ทางตะวันออกเฉียงของเหนือของเอวา เธมาร์ หากขี่ม้า จะใช้เวลาเดินทางจากเมืองหลวงราวสองวัน

‘แฟรี่อาย’ เป็นชื่อของเมืองแสนสงบล้อมรอบด้วยทุ่งดอกไม้และสวนผลไม้ ชาวเมืองประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำสวนดอกไม้ด้านเหนือ สวนผลไม้ด้านใต้ มีบ้านหลังเล็กๆ แทรกอยู่ในพื้นที่ว่างระหว่างสวนเหล่านั้น สถานที่สำคัญเช่นตลาดค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้า โรงอาบน้ำ โรงเตี๊ยม และที่ว่าการอำเภอตั้งอยู่ใจกลางเมือง หากเดินทางทางอากาศด้วยเรือเหาะหรือกริฟฟิน จะเห็นถนนปูหินสายสีเทาตัดผ่านเมืองกับถนนดินสายสีน้ำตาลตัดผ่านสวน ประกอบกันเป็นรูปคล้ายดวงตาภูตพราย

จุดหมายของโคลด์คือกระท่อมขนาดกลางที่ห่างจากตัวเมือง กระท่อมนี้สร้างจากอิฐและไม้ ปูหลังคากระเบื้องสีชมพูอ่อน มีบริเวณสวนล้อมด้วยรั้วไม้เตี้ยน่ารัก ด้านหน้ากระท่อมข้ามถนนดินไปเป็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์

ทุ่งดอกไม้นี้เป็นของอิลมาเร แต่นางปล่อยให้คนเช่า โดยให้ผู้เช่าคอยดูแลบ้านและสวนบริเวณบ้านด้วย

“อิลมาเรมีห้องพักในเอวา เธมาร์ แต่เอาไว้ทำงาน บ้านจริงๆ คือที่นี่” โคลด์กดรหัสบนแป้นทองเหลืองข้างประตูบ้านซึ่งเป็นกลไกเปิดประตู ประดิษฐ์โดยช่างชาวดวอร์ฟ บ้านหลังนี้สร้างใหญ่โตกว่าบ้านของดวอร์ฟทั่วไป เพราะอิลมาเรมีสหายหลายเผ่าพันธุ์ หากสร้างเล็กๆ ตามแบบดวอร์ฟก็ใช้รับรองสหายเหล่านั้นได้ลำบาก

ภายในบ้านมีกลิ่นผ่อนคลายของลาเวนเดอร์ โถงทางเข้าติดภาพวาดเวทมนตร์ของน้ำตก ทุ่งดอกไม้ และแสงตะวัน ทั้งหมดล้วนเคลื่อนไหวไปตามธรรมชาติอย่างสงบและสวยงาม

แต่เมื่อเดินเข้าไปอีกหน่อย...ก็เป็นภาพเรียงรายของภูเขาเหรียญทอง

โคลด์เดินผ่านโถง แต่ไม่ตรงไปที่ห้องของอิลมาเร เขาเลี้ยวไปทางห้องรับแขกซึ่งทาผนังสีสดใสและมีชั้นหนังสือชั้นใหญ่ เขามองชุดโซฟาผ้าสีน้ำทะเลตัวเก่า ตบพนักเบาๆ รู้ว่ามันนุ่ม อุ่น และนอนหลับสบาย

“นางให้ที่นอนข้าดีกว่าที่นอนปลายเตียงของเจ้า”

“ข้าสั่งให้ช่างประกอบเตียงให้เจ้าไม่ใช่หรือ” ซิกฟรีดเตือนความจำให้โคลด์ โซฟาตัวนี้ดูนอนสบายก็จริง แต่อย่างไรก็ไม่เท่าเตียงที่เขาสั่งให้

ซิกฟรีดลองกดมือบนโซฟา นุ่มเกินไปจนเรียกว่าอ่อนยวบ แบบนี้นอนไปมีแต่จะทำให้หลับไม่สนิทและปวดหลัง เห็นไหมเล่า...เตียงที่เขาสั่งให้ดีกว่า ไส้นุ่นแข็งตึง คำนึงถึงการยศาสตร์

“เจ้าให้เตียงเล็กๆ” โคลด์ตอบทันควัน

“เท่าตัวเจ้า” ซิกฟรีดก็โต้ทันควันเช่นกัน

ดาร์กเอลฟ์หน้ายู่ เขานั่งกอดอกบนโซฟา “เอาล่ะ ราชา ข้าจะบอกแผนการของข้าให้ฟัง ข้าตั้งใจมานอนที่นี่เงียบๆ คนเดียวสักพัก ระหว่างนี้เชิญเจ้ากลับไปที่ราชวังของเจ้า”

“ข้าเป็นราชาที่ไม่ดี” ซิกฟรีดลองนั่งเบียดโคลด์บนโซฟา เขาแทบจม “ซึ่งแปลว่าข้าสามารถนอนค้างคืนที่อื่น แล้วปล่อยให้องครักษ์หัวปั่นในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานได้”

รูเมเรียร์ถูกกดดันจากอิซิลดาร์ พวกนักการทูตกำลังหารือกันอย่างเคร่งเครียด ไม่เพียงเท่านี้ ข่าวลือเกี่ยวกับการกลับมาของจอมทัพทมิฬเริ่มน่าเชื่อถือขึ้นเรื่อยๆ จนไม่อาจมองข้าม เร็วๆ นี้แดนทมิฬอาจประกาศสงครามกับรูเมเรียร์อีกครั้ง

“ข้าไม่ได้ชวนเจ้า” โคลด์อยากอยู่เงียบๆ เพื่อคิดถึงอิลมาเร การมีเพื่อนคุยอาจเป็นเรื่องดี แต่ถ้าอยากได้เพื่อนคุย เขาชวนมาลแกธที่รู้จักอิลมาเรมาไม่ดีกว่าหรือ

“ข้าเชิญตัวเอง” ซิกฟรีดลุกขึ้น ละอองฝุ่นเบาบางลอยผ่านลำแสงที่ส่องผ่านหน้าต่างโค้งครึ่งวงกลมบานโต “ข้าไม่ค่อยรู้จักนาง” เขาว่า “แต่ดูเหมือนนางจะเป็นดวอร์ฟที่ร่าเริง”

ราชาเอลฟ์กวาดสายตาไปรอบๆ เห็นแต่เครื่องเรือนสีสันสดใส

“อืม” โคลด์ตอบรับ ล้มตัวนอนหันหน้าเข้าพนักโซฟา เอาหมอนมากอด

ซิกฟรีดเห็นโคลด์ทำอย่างนั้นก็พอเดาได้ว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามสะกดตัวเองให้สงบ ให้นิ่ง...ให้เป็นปกติ ใครจะอยากแสดงอารมณ์อ่อนไหวต่อหน้าคนอื่นเล่า

คนอื่นหรือ ข้ายังเป็นคนอื่นสำหรับเจ้าอีกหรือ คิดถึงตรงนี้ ราชาหนุ่มก็ลอบระบายลมหายใจ เขาเอื้อมไปจะลูบศีรษะโคลด์ ทว่าก่อนมือใหญ่จะแตะปอยผมสีเงิน ปลายนิ้วก็สัมผัสกับกำแพงล่องหนเสียก่อน

ระหว่างซิกฟรีดกับโคลด์ มีกำแพงล่องหนคั่นกลางอยู่ ไม่ทราบว่าใครเป็นคนสร้าง เขา หรือโคลด์ และไม่ทราบว่าสร้างขึ้นเพื่อเหตุใด แต่มันอยู่ตรงนั้นเสมอ คอยชะงักความต้องการลึกล้ำซึ่งปะทุขึ้นมาทุกครั้งที่ใกล้ชิดกัน

ซิกฟรีดชักมือกลับ เขาเปลี่ยนไปเดินสำรวจบ้านเล็กน้อย ไล่สายตาไปตามภาพแขวนผนัง ของแต่งบ้าน และเครื่องเรือนที่ให้ความรู้สึกว่าเป็นที่พักอาศัยมากเสียกว่าห้องในราชวังของเขา สุดท้ายก็วกกลับมานั่งโซฟาเดี่ยวใกล้โคลด์

“ข้าจะพูดให้ชัดขึ้นอีกหน่อย” เสียงโคลด์อู้อี้ เจ้าตัวซุกหน้ากับหมอน “ข้ามาร้องไห้...เงียบๆ คนเดียว...ขอเวลาข้าร้องไห้เงียบๆ คนเดียวได้ไหม”

แววตาของซิกฟรีดอ่อนลงอย่างมากโดยที่เขาก็ไม่รู้ตัว “ตามสบายเถิด…” ราชาเอลฟ์เอ่ยเสียงเบา และเอ่ยประโยคต่อมาด้วยเสียงอันเบายิ่งกว่า

“เพราะข้าก็ทำอยู่เหมือนกัน”

หากโคลด์ยอมหันมาดูซิกฟรีด จะเห็นใบหน้าหล่อเหลายังคงเรียบเฉย ปราศจากร่องรอยของน้ำตา

คงมีแต่คนสนิทที่ทราบว่า น้ำตาของราชากำลังตกเหมือนห่าฝนอยู่ภายใน

โคลด์ยิ่งเอาหมอนปิดหน้า “เจ้าทำให้ข้ารู้สึกผิดอยู่ ข้าควรรู้สึกผิดไหม”

ซิกฟรีดไม่ได้พูดอะไร ครู่หนึ่งก็ลุกมายืนค้ำร่างดาร์กเอลฟ์ มือที่ก่อนหน้าเอื้อมผ่านกำแพงล่องหนไม่ได้ เวลานี้วางบนเส้นผมอ่อนนุ่มของโคลด์ สตาร์

“โปรดสบายใจ ข้าไม่เห็นความอ่อนไหวของเจ้า” เขาลูบเบาๆ แล้วละมือออก

โคลด์ไม่เคยร้องไห้ให้ซิกฟรีดเห็น เขาจำได้ว่าไม่เคยเลยสักครั้ง คนที่ปลอบเขาตอนร้องไห้มักเป็นมาลแกธ

ซิกฟรีดกลับไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม เขาเอนหลัง ประสานมือไว้บนท้อง จากมุมนี้มองเห็นเพดานได้ชัด เพดานสีครามวาดภาพแผนที่โลกสีเงิน บางตำแหน่งที่สำคัญ (สำหรับอิลมาเร) มาร์กไว้ด้วยดาวสีทอง ยอมรับว่าบ้านของดวอร์ฟช่างเหมาะสำหรับหย่อนใจ กลิ่นลาเวนเดอร์ช่วยให้ประสาทเครียดเกร็งค่อยๆ ผ่อนคลาย ซิกฟรีดปิดเปลือกตา โดยบอกตัวเองว่าจะพักผ่อนเพียงสั้นๆ

สักพัก โคลด์ก็ได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอจากราชาหนุ่ม บ่งบอกว่าตกอยู่ในห้วงลึกของการหลับใหล หากมองใกล้ๆ จะเห็นรอยอ่อนล้าชัดเจน ทั้งใต้ตาที่ช้ำน้อยๆ ไปจนถึงระหว่างคิ้วซึ่งมีรอยขมวดลึก เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเดือน ซิกฟรีดดูมีอายุเพิ่มขึ้นหลายปี แน่ละ เขาไม่ได้พักเต็มตาเลย

จะให้พักได้อย่างไรเล่า…

ใครว่าองค์ราชาทรงเพิกเฉยต่อการหายตัวไปของพระคู่หมั้น เปล่าเลย พระองค์ทรงดำเนินการสืบหาไม่เว้นแต่ละวัน ทรงมอบหมายงานสำคัญนี้ให้กอห์นดีเอน--เงาสังหารผู้มีฝีมือฉกาจในการสืบเสาะหาร่องรอย และมีสายอยู่ทั่วดินแดน ทว่าจนบัดนี้ยังไร้ข่าวคราวของท่านหญิงเอริแอดเน่

โคลด์ลุกมานั่งมองซิกฟรีดอย่างใจลอย ขณะพินิจพิจารณาราชาเอลฟ์ จู่ๆ เขาก็รู้สึกหนาววูบ เป็นเงาทมิฬที่เคลื่อนโอบร่างเขา ปีกของมันประกอบจากไอน้ำเม็ดละเอียด ทำเอาเสื้อผ้าเขาชื้นนิดๆ

ซิกฟรีดหลับ แต่เงาทมิฬยังตื่นอยู่หรือ โคลด์เห็นขอบร่างของเงาสีดำขยับเคลื่อนไหวอย่างอ้อยอิ่งในอากาศ ดูไปก็คล้ายภูตพราย เมื่อเขาลองเอื้อมไปแตะปอยผมของซิกฟรีด เงาทมิฬก็พุ่งใส่มือเขาเฉกสุนัขหวงนาย ทว่ามันไม่ทำรุนแรง เพียงรวมตัวเป็นกำแพงหมอกหนา เพื่อกันและดันมือเขาออกเท่านั้น

“เจ้าใช้มนตร์มารบทไหนกันนี่” โคลด์พึมพำ รู้สึกสะท้านใจ เขาขยี้หน้าขยี้ตาแรงๆ แล้วหันหลังล้มตัวลงนอนบนโซฟาของตัวเองในท่าเดิม

บ้านหลังนี้มีความทรงจำระหว่างเขากับอิลมาเรมากมาย ส่วนมากเป็นเรื่องป่วนๆ ที่ทำให้เขายิ้มได้ โคลด์สูดจมูกระหว่างนึกถึงความทรงจำเหล่านั้น ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มเงียบๆ

แต่ดูเหมือนเงาทมิฬไม่ยอมให้ดาร์กเอลฟ์ร้องไห้โดยลำพัง มันลอยช้าๆ เข้ามาใกล้ ก่อนดึงน้ำตาร้อนออกจากแก้ม

สัมผัสของปลายปีกสีดำช่างนุ่มนวล เอาใจใส่ เหมือนสัมผัสจากมือของใครบางคน

ซิกฟรีด...


เงาทมิฬคือส่วนหนึ่งของซิกฟรีด มันทั้งเชื่อฟังทั้งพยศ ซิกฟรีดเป็นทั้งนายและบ่าวของมัน ทว่ามีเพียงเรื่องโคลด์เท่านั้นที่ซิกฟรีดไม่ยอมลง...หากเป็นเรื่องโคลด์ มันต้องทำตามที่เขาประสงค์ทั้งหมด นั่นคือพร้อมปกป้องให้ปลอดภัย

โคลด์มองหยดน้ำตาที่ลอยขึ้นด้วยความอัศจรรย์ใจ จากนั้นก็หน้าแดงเพราะถูกจับได้ว่าแอบร้องไห้ เขาลุกขึ้นเดินหนีเข้าห้องของอิลมาเรแล้วปิดประตู

ทว่าหลังจากทรุดนั่งพิงประตู เขาก็คิดว่าตัวเองตัดสินใจพลาดไป

ความทรงจำที่เจ้าของบ้านเหลือทิ้งไว้ยิ่งเข้มข้นชัดเจนเมื่ออยู่ในสถานที่ส่วนตัวของเธอ โคลด์จุกในอก เขากระซิบบอกตัวเองในใจว่า

เพราะอย่างนี้ถึงไม่อยากเข้ามาในนี้ไง

โคลด์นึกภาพวาระสุดท้ายของสหายที่ใกล้ชิดเขามาตลอดสามปีและความผิดพลาดของตน

ใบหน้าสวยคมยู่ยี่จากความรู้สึกเศร้าอันท่วมท้น เขาเริ่มสะอื้นจนหยุดตัวเองไม่ได้ กอดเข่าคู้ตัวเป็นลูกบอล

เสียงร้องไห้หลุดออกมา โดยเจ้าของเสียงเลิกสนใจว่าคนที่อยู่นอกห้องจะได้ยินหรือไม่

ซิกฟรีดตื่นในจังหวะเดียวกับที่โคลด์ปิดประตูห้องของอิลมาเร เมื่อเขาลืมตา เงาทมิฬก็หายไป ราชาหนุ่มอยู่อย่างนั้นพักใหญ่จนเสียงสะอื้นของโคลด์เบาลง

เขาเรียกไอหมอกสีดำออกมาอีกครั้ง มันบิดคว้างก่อนลอยช้าๆ ลอดช่องใต้ประตูเข้าไปยังห้องของอิลมาเร

ซิกฟรีดเองก็ลุกขึ้น เขาเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องที่กั้นพวกเขา วางมือบนประตูแล้วลูบเบาๆ ขณะที่เงาทมิฬใช้ปีกของมันลูบหน้าผากโคลด์

เงาทมิฬปลอบโยนและเช็ดน้ำตาให้ดาร์กเอลฟ์...แทนนายผู้หยุดตัวเองตรงอีกฟากหนึ่งของประตู


—————————————————————————

A/N มีความละมุน ฮือๆๆ /ปาดน้ำตาไปกับโคลด์ อยากโผไปซบซิกฟรีด แงๆๆๆ


ช่วงนี้ นักเขียนร่วมของเรา คุณ FOULSOUL ต้องเตรียมตัวสอบทีสิส

สำหรับตอนต่อไปจะคอนเฟิร์มทางเพจนะคะว่าลงได้เมื่อไหร่

เร็วสุดคือ 30 เมษายน 60 หรือช้ากว่านั้นค่ะ :)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (3) [28/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-04-2017 19:59:32
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ
สู้ๆค่ะ
 :3123: :3123:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (3) [28/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-04-2017 20:45:02
ผ่านไปด้วยกันเนาะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (3) [28/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 28-04-2017 21:55:03
ของแค่มาต่อก้อดีใจมากแล้วค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (3) [28/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 28-04-2017 22:49:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (3) [28/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 28-04-2017 23:01:46
มาเป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยคนจ้าาา

ฮือออออ มันช่างหนักหน่วงเหลือเกินนนนน :ling2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (3) [28/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-04-2017 23:30:35
เจ็บปวด
ร้าวลึก
แต่ทำได้เพียงยืนมองอย่างด้านชา


ฝากคำอวยพรไปให้ Foulsoul ด้วย ขอให้สอบผ่าน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (3) [28/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 29-04-2017 00:37:21
เฮ้อออออออออ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (3) [28/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 30-04-2017 15:44:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (4) [30/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 30-04-2017 23:48:57
บทที่ 21 : บาดแผล (4)

เช้าวันต่อมา โคลด์ไม่รู้ว่าตนมาอยู่บนที่นอนได้อย่างไร เขาจำได้ว่าตัวเองร้องไห้หนักมาก จากนั้นก็รู้สึกอุ่นเหมือนถูกกอดเอาไว้

เวลานี้ก็อุ่น…

ไม่ใช่แค่รู้สึก เพราะซิกฟรีดกอดเขาอยู่จริงๆ

หลังให้เงาทมิฬปลอบโยนโคลด์แทนตัวเอง ซิกฟรีดก็รอสักพักจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายร้องไห้จนหลับไป หมดฤทธิ์ที่จะผลักไสเขา จากนั้นค่อยเข้าไปดูว่าเป็นอย่างไร

ภาพโคลด์กอดตัวเองทำให้ใจซิกฟรีดอ่อนยวบ เขาช้อนร่างโคลด์ขึ้นมาก่อนพาไปนอนบนเตียงในห้องรับแขก...และใช่ เขากอดโคลด์ ใช้สองแขนปกป้องผู้เป็นที่รักจากความอาดูร

โคลด์พูดไม่ออก...ความใกล้ชิดถึงขนาดนอนข้างกันเป็นแค่เรื่องในความทรงจำเท่านั้น “ซิก...” เขาขยับตัว

“อย่าเพิ่ง...” ซิกฟรีดห้ามโคลด์โดยที่ยังไม่ลืมตา ทว่าฟังจากน้ำเสียงที่ปราศจากอาการง่วงเหงาแล้ว เขาไม่ได้เพิ่งตื่นแน่นอน

“อย่าเพิ่งอะไร”

“ข้าจะนอนต่ออีกหน่อย” แขนแข็งแรงกระชับร่างโคลด์แน่นขึ้น จมูกโด่งซุกอยู่บริเวณข้างแก้ม ส่งลมหายใจร้อนสัมผัสผิวของดาร์กเอลฟ์

“เจ้า!” โคลด์หวิวที่แก้ม เขาขยับให้หลุดจากวงแขนที่รัดเหมือนงู

“อา...ข้าบอกอย่าเพิ่ง” ซิกฟรีดขมวดคิ้วน้อยๆ “ขยับตัวมากเดี๋ยวเจ็บเปล่าๆ”

“ก็ปล่อยสิ” โคลด์มองหน้าคนที่นอนหลับตาแต่อ้าปากเถียงเขา

ราชาเอลฟ์ระบายลมหายใจยาว บ่งบอกว่าขัดใจ “ถ้าข้าอยากปล่อย ข้าคงปล่อยตั้งแต่เจ้าเรียกข้าครั้งแรกแล้ว”

โคลด์เงียบเพราะไม่แน่ใจว่าควรตอบอะไร ทว่าสักพักก็ลองเรียกอีก “ซิกฟรีด นอนท่านี้ข้าเจ็บแผล”

เขาอ้างเพื่อให้อีกฝ่ายปล่อย

“ถ้าเจ้าเจ็บจริงๆ คงไม่ทนให้ข้ากอดได้นานขนาดนี้กระมัง”

ดูเหมือนข้ออ้างจะใช้ไม่ได้ผล

“ก็ตอนหลับมันเจ็บที่ไหน นี่ตื่นแล้ว” โคลด์ขยุกขยิกไปมา

คราวนี้ซิกฟรีดไม่โต้กลับ เพียงส่งเสียงอืมรับ...และไม่ปล่อยเช่นเดิม

โคลด์ถอนใจ เขาคิดว่าจะยอมนอนเงียบๆ แค่ครั้งนี้เท่านั้น

เมื่อโคลด์หยุดประท้วง ราชาหนุ่มซึ่งทำตัวคล้ายแมวใหญ่ก็คลายปมคิ้ว เสียงลมหายใจค่อยกลับมาสม่ำเสมอคล้ายใกล้เคลิ้มหลับ

ทว่า...ใกล้ชิดกันขนาดนี้ ไออุ่นจากร่างกายซึ่งถ่ายเทเข้าหากันทำให้ใจร้อนรุ่ม แม้ภายนอกดูผ่อนคลาย แต่ความนึกคิดของซิกฟรีดเตลิดไปไกล เขาอยากฝังจมูกกับทุกส่วนในร่างกายโคลด์ ซึมซับกลิ่นหอมเฉพาะตัวของโคลด์ เลียและขบผิวเนื้อที่บางส่วนตึงแน่น บางส่วนนุ่มหยุ่น และส่วนที่จะแข็งชูชันเมื่อได้รับการปลุกเร้า

โคลด์คิดว่าความใกล้ชิดนี้ไม่ค่อยดีนัก มันอันตรายเกินไป แต่จากมุมมองของเขาเห็นซิกฟรีดทำท่าจะหลับจริงๆ ก็ค่อยหายเกร็ง

“ข้าคิดว่าเราควรจูบกัน” จู่ๆ ซิกฟรีดก็กระซิบข้างหูโคลด์ แม้เสียงจะเบา แต่กลับสะท้อนกับเสียงหัวใจที่เต้นอยู่ในอกอย่างรุนแรง

ดาร์กเอลฟ์กลับมาเกร็งอีกครั้ง แต่เขาแกล้งหลับ เพื่อจะได้ไม่ต้องตอบปฏิเสธให้อีกฝ่ายช้ำใจ

ซิกฟรีดค่อยๆ ลืมตาขึ้น นัยน์ตาสีส้มจัดมองคนตัวเล็กกว่า เมื่อเห็นว่าหลับตาอยู่แต่ตัวเกร็งก็กระตุกยิ้ม เขาขยับหน้าเข้าไปใกล้ใบหูเรียวแหลมอีกนิด แล้วกระซิบเสียงพร่า

“หลับก็ดี ข้าจะได้จูบเจ้าง่ายขึ้น”

โคลด์ขมวดคิ้ว คิดในใจว่า แค่ขู่ใช่ไหม...

แต่ซิกฟรีดทำตามที่ว่าจริงๆ

เขาแนบริมฝีปากร้อนกับกระหม่อมของโคลด์ ก่อนจะไล่ลงมาที่หน้าผาก ขณะเดียวกันมือก็ช้อนใบหน้าโคลด์ให้เงยรับสัมผัสบนเปลือกตาและสองข้างแก้ม สัมผัสของรสจูบที่หนักที่สุดจบที่ริมฝีปากสีม่วงอ่อน และเมื่อความปรารถนาส่วนลึกเรียกร้อง ซิกฟรีดก็แทรกเรียวลิ้นเข้าไปอย่างนุ่มนวล แม้จะแฝงความเอาแต่ใจอยู่ในที

โคลด์ยันมือกับอกซิกฟรีด เขาลืมตาโพลง พยายามเบือนหน้าหนีปากและลิ้นของอีกฝ่ายที่รุกเข้ามา “ซิก...!”

ราชาหนุ่มได้ยินเสียงประท้วงแต่ไม่ยอมหยุด กลับบดจูบหนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ ซ้ำยังยึดหลังศีรษะไว้ไม่ให้หนี เขาส่งลมหายใจระอุของตนให้กับโคลด์ ขณะเดียวกันก็ดึงลมหายใจของโคลด์กลับมาเป็นของตัวเอง

สิ่งที่ทำกับสิ่งที่ควรทำสวนทางกัน โคลด์ตัดสินใจเด็ดขาด “ไม่ ซิกฟรีด”

“หนักแน่นกว่านี้” ซิกฟรีดหยุดเพียงครู่เดียวแล้วประกบจูบอีก สายตาของราชามีรอยเว้าวอน

“ข้าบอกว่าไม่” โคลด์ดันแรงขึ้น เขาเจ็บแผลที่อกแปลบๆ

“มากกว่านี้” ซิกฟรีดไม่ยอมปล่อย เขาจ้องโคลด์เหมือนพร้อมจะกลืนกิน

ดวงตาสีม่วงเข้มลึกวาวโรจน์ “ข้ากำลังขอร้องดีๆ”

ซิกฟรีดแตะหางตาของอีกฝ่าย และทำเหมือน ‘พลาด’ ไปสะกิดปลายใบหูที่ชี้ขึ้น

โคลด์หยีตา ครางอือ

“อย่าขอร้องดีๆ เลย โคลด์ สตาร์ โปรดสบถด่าข้าเถิด” ราชาเอลฟ์ร้องขอความใจดีที่แท้จริง หากต้องการสะบั้นความหวังของใครก็ควรหนักแน่นไม่ใช่หรือ ควรใจร้ายเกินร้ายเสียด้วยซ้ำ

เว้นเสียแต่เจ้ายังมีสายสัมพันธ์กับข้าอยู่

“โปรดปฏิบัติกับข้าให้แย่ที่สุดเท่าที่เจ้าทำได้” ซิกฟรีดยืนยันคำของตน เขารอว่าโคลด์จะทำอย่างไรต่อไป

โคลด์สูดหายใจลึก “ถ้าข้าอยากทำแย่ๆ ข้าจะปล่อยให้เจ้าทำสิ่งที่อยากทำ นั่นแย่ที่สุดแล้ว”

“ตกลง”

“ข้าไม่ได้ตกลงกับเจ้า” โคลด์ง้างแขนของซิกฟรีดออกโดยไม่สนใจว่าบาดแผลบนหน้าอกรู้สึกเสียดแปลบแค่ไหน “ข้าไม่ปล่อยให้เจ้า...อุ๊บ!”

ซิกฟรีดยึดคางโคลด์ให้รับจูบอีก คราวนี้ไม่ยอมปล่อยให้ผละออกได้

ข้าบอกเจ้าแล้ว…

‘หนักแน่นกว่านี้’

‘แย่กว่านี้’


มือที่จับคางอยู่เหมือนคีมเหล็ก โคลด์น้ำตาไหล เขาไม่อยากทำร้ายอีกฝ่าย จะให้เขาทำร้ายด้วยการปฏิเสธทำไม “ปล่อยเถอะ ข้ารู้ว่าเจ้าเจ็บอยู่ แต่ข้าไม่...”

ซิกฟรีดถอนใจหนักๆ “เจ้าคิดว่าที่ทำอยู่ไม่ใช่การทำร้ายข้าหรือ” ฟังดูประชดประชัน แต่เขาไม่ได้จริงจังกับมันเลย ออกจะเป็นการเย้าแหย่เสียด้วยซ้ำ

“ปล่อยข้า” โคลด์กระซิบเสียงเย็น

ซิกฟรีดยอมปล่อยโคลด์ในที่สุด แต่ดวงตายังคงขังโคลด์ไว้ สีส้มและสีเงินคล้ายวาวเรือง จ้องทะลุเข้ามาในใจโคลด์

“อย่ามองข้าแบบนั้น เราต่างคนต่างอยู่...ดีที่สุดแล้ว”

“ต่างคนต่างอยู่ดีที่สุดหรือ...ใช่ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ แต่ข้าถลำสุดตัวแล้ว โคลด์ สตาร์”

นอกจากพี่หญิง จะมีอะไรให้ข้าเสียอีกหรือ บัลลังก์? หรือแผ่นดิน? ซิกฟรีดคิดอย่างเหยียดหยัน ไม่มีอะไรที่เขากังวลอีกต่อไปแล้ว หากบิดามารดาทั้งหลายทรงประสงค์ให้เรื่องเลวร้ายบังเกิด มันก็จะบังเกิด ไม่ว่าเขาจะพยายามหยุดยั้งมันเพียงใดก็ตาม

“ข้ารู้นิสัยเจ้า เจ้าไม่ฝืนใจใคร เพราะฉะนั้นข้าปฏิเสธ” โคลด์ลุกขึ้น “อยู่คนเดียวสักพัก หัวเจ้าจะได้เย็นลง ซิกฟรีด”

ซิกฟรีดลุกขึ้นเช่นกัน ร่างสูงใหญ่กันโคลด์ไว้ไม่ให้หนี

“เจ้ารู้ไหม…” ราชาหนุ่มยกข้อนิ้วลูบผิวอ่อนใต้ตาโคลด์ ดวงตาสีม่วงคู่นี้เองที่สามารถสะกดเขา ไม่ว่าเขาจะปั้นท่าทีให้เย็นชาดุจน้ำแข็งแค่ไหน สุดท้ายก็สยบยอมทุกครั้ง

“เมื่อครู่ ข้าคิดว่าข้าไม่ได้ฝืนใจเจ้าเลย” ซิกฟรีดจุมพิตโคลด์เบาๆ อีกครั้งแล้วผละจาก รอยยิ้มร้ายกาจเผยขึ้นหลังจากนั้น

“ข้าคิดว่า...เป็นเจ้าที่ฝืนตัวเอง”

โคลด์จ้องท่าทางอวดดีนั้นโดยไม่หลบสายตา “ก็ได้ เจ้าอยากให้ข้าหนักแน่นใช่ไหม ได้ ข้านอนกับมาลแกธด้วยความเต็มใจ ข้าชอบเขา ข้าจะไม่นอกใจเขา เรื่องระหว่างข้ากับเจ้าจบไปนานแล้ว” เขาพูดรัวเร็ว แม้เกลียดที่ต้องพูดใส่หน้าอีกฝ่ายตรงๆ

“หนักแน่นจริงๆ” ซิกฟรีดเอ่ยพลางวางมือบนอก ก่อนจะน้อมศีรษะน้อยๆ เพื่อแทนคำพูดว่า ‘ข้ายอมรับสิ่งที่เจ้าตัดสินใจ’

“แต่อย่างไร ข้าก็มีหวังเสมอ”

“ข้ารู้ว่าเจ้าเสียใจเรื่องเอริแอดเน่ ให้ตาย ข้าไม่อยากพูดชื่อนางด้วยซ้ำหลังจากนางทำให้อิลมาเร...ช่างเถอะ ข้าจะไม่สาปแช่งนางต่อหน้าเจ้า ข้าพร้อมหาหัวใจมังกรมาชดใช้ เป็นเพื่อนคุย คนรับใช้ พี่เลี้ยง หรืออะไรก็ตามเพื่อให้เจ้ารู้สึกดีขึ้นและไม่คิดว่าตัวเองเหลืออยู่คนเดียว ซิกฟรีด”

“ช่วงนี้ข้าไปได้ดีกับอิลราลาน ไม่โดดเดี่ยวอย่างที่แสดงออกเพื่อให้เจ้าปลอบหรอก โคลด์ สตาร์”

ไม่ทราบว่าราชาหนุ่มพูดจริงหรือเท็จ หรือกึ่งจริงกึ่งเท็จ แต่เขาจบบทสนทนาที่ตรงนี้

โคลด์ไม่เอ่ยอะไรอีก

--------------------------------------

เวลาเดียวกัน บนเนินเขาไม่ไกลจากศูนย์กลางเมืองหลวงนัก เดเนธอร์ยืนหันหน้าไปทางทิศเหนือ ทิศที่เอลฟ์ชาวรูเมเรียร์เชื่อกันว่าเป็นที่ตั้งของดินแดนนิรันดร์ ญาติผู้ล่วงลับจะเตรียมเรือซึ่งสร้างจากไม้หอม แกะสลักงดงาม บรรจุร่างผู้ล่วงลับพร้อมดอกไม้และของสำคัญสามอย่างของผู้ตาย อันได้แก่สิ่งสำคัญในโลกนี้ สิ่งสำคัญจากผู้เป็นที่รัก และสิ่งสำคัญในโลกหลังความตาย ปล่อยเรือล่องตามแม่น้ำขึ้นไปยังทิศเหนือ--ไปสู่ดินแดนนิรันดร์ จากนั้นยิงธนูจุดไฟเผาเรือ

ทว่าไม่มีเรือสำหรับเนอร์ดาเนลและทหารกล้าหน่วยกาลาฮานที่หายสาบสูญไปพร้อมวังน้ำวน ร่างของพวกเขาถูกกลืนลงสู่แผ่นดินแทนที่จะล่องผ่านนทีขึ้นไปบนท้องฟ้า ใช่ว่าบิดาธรณีจะไม่เมตตาเผ่าพันธุ์เอลฟ์ แต่ใครก็ทราบว่าพระองค์รักบุตรเผ่าพันธุ์มังกร บิดาธรณีให้กำเนิดเผ่าพันธุ์มังกรจากดินและหินผาซึ่งเป็นเนื้อหนังของพระองค์ รวมไปถึงให้พรแก่บุตรมังกรตนแรกเป็นลมหายใจเพลิง เมื่อมังกรตนใดถึงแก่วาระสุดท้าย พระบิดาก็จะโอบกอดร่างนั้นลงสู่ธรณี เช่นนี้แล้ว หากวิญญาณของเนอร์ดาเนลตกสู่ใต้ดินคงไม่เป็นสุข เอลฟ์อยู่ในดินแดนนิรันดร์ของมังกร...จะเป็นสุขได้อย่างไร

เดเนธอร์ยืนไม่ขยับไปไหนจนพระอาทิตย์เริ่มแผดแสง อันที่จริงเขาต้องคุมการฝึกทหารช่วงเช้า แต่ขออนุญาตลาเป็นพิเศษ

เมื่อคืนเขาฝันร้าย

อันที่จริงก็ฝันเหมือนกันทุกวัน รอบด้านเต็มไปด้วยน้ำซึ่งหมุนวนอย่างรวดเร็ว ทัศนวิสัยย่ำแย่ ทว่ายังมองเห็น ใช่ เขายังมองเห็นร่างของสหายหมุนคว้างในมหานที ทุกคนสำลัก พยายามตะเกียกตะกายสุดกำลังแต่ไม่เป็นผล ภาพสุดท้ายก่อนทุกอย่างจะดับมืด คือภาพของเนอร์ดาเนลตาเบิกโพลงขณะเหยียดแขนจนสุดมาทางเขา และเขาเกือบยึดมันไว้ได้...แค่เกือบเท่านั้น

จนเวลานี้ เพียงเขาหลับตา ภาพของเนอร์ดาเนลก็ยังอยู่

“เหม่ออะไร”

เสียงคุ้นเคยทำให้เดเนธอร์กลับมาสู่ปัจจุบัน มาลแกธ--หัวหน้าและผู้ก่อตั้งหน่วยกาลาฮานยิ้มให้ลูกน้องคนสนิท อบอุ่นและอ่อนโยนราวกับแสงยามเช้า

“ทำหน้าเหมือนมีใครตาย หรือนอนไม่พอหืม” มาลแกธตบบ่าเดเนธอร์ เขาหันไปมองทางเดียวกับอีกฝ่าย เห็นทิวต้นบลีดขึ้นแซมกับต้นเบิร์ช ใบบลีดสีแดงสลับใบเบิร์ชสีเงินพลิ้วเป็นระลอกยามลมพัด

เดเนธอร์ไม่ทราบจะตอบอะไร เขาแค่น้อมศีรษะเล็กน้อยอย่างสุภาพ มาลแกธจึงถอนใจหนักๆ แล้ววางมือบนศีรษะของลูกน้อง ก่อนจะโยกเบาๆ เหมือนเป็นลูกชาย

“แค่เจ้าคิดว่าพวกมันตาย พวกมันก็เป็นผีไปแล้วครึ่งหนึ่ง”

ไม่มีศพ ก็ไม่มีงานศพ มาลแกธยังเชื่อว่าลูกน้องทุกคนยังอยู่ อาจเป็นสัญชาตญาณ อาจด้วยลางสังหรณ์ลึกลับหรืออะไรก็ตามที่ไม่สามารถอธิบายได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล ทว่านั่นเพียงพอแล้ว

ข้าเชื่อว่าพวกเจ้ายังอยู่ กาลาฮาน

หลังเหตุการณ์วิปโยคครั้งนั้น ราชาซิกฟรีดคืนตำแหน่งให้องค์รักษ์มือขวาและทหารหน่วยกาลาฮานทุกนาย โดยเอ่ยกับมาลแกธว่า

 

“ข้ายุบหน่วยกาลาฮานอย่างไม่เป็นทางการ มีไม่กี่คนที่ทราบคำสั่ง ก็คือพวกเจ้าในที่นี้ ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องคืนตำแหน่งให้อย่างเป็นทางการต่อหน้าที่ประชุม อีกอย่าง...ข้าตั้งใจเก็บทุกเรื่องซึ่งเกิดขึ้นที่โรสมินาสไว้เป็นความลับ พี่หญิง โคลด์ ดวอร์ฟ ทหารผู้สาบสูญทุกนาย จะไม่มีใครล่วงรู้ความจริงที่เกิดขึ้นกับพวกเขา

ข้าจะจัดการด้วยตัวเอง…

ข้าจะไม่ทิ้งพวกเจ้า”

 

“เนอร์ดาเนล…” เดเนธอร์เปิดปาก “ข้าเกือบคว้ามันได้แล้วขอรับ” เขายกมือตัวเองขึ้นดู มันสั่นระริก ต้องกำแน่นๆ ถึงจะหยุด

มาลแกธเงียบไปเล็กน้อย “ข้าไม่มีคำพูดปลอบใจดีๆ น้องชาย…” เอลฟ์ตะวันออกบีบบ่าเดเนธอร์หนักๆ “ข้าอยู่กับความจริงที่ว่าข้าไม่อาจช่วยใครได้ในครั้งนั้น กับอีกหนึ่งความจริงที่ว่าข้าจะตามหาพวกมันสุดความสามารถในเวลานี้ ไม่ว่าพวกมันจะอยู่หรือตาย ถ้าข้าไม่เห็นศพ ข้าจะไม่หยุด”

เดเนธอร์ขบกรามจนขึ้นสัน ขอบตาร้อนผ่าว

“ข้าและเจ้าเปลี่ยนอดีตไม่ได้ ให้อภัยตัวเองเถิด” มาลแกธมองเดเนธอร์ เห็นแววตาของมันโชนแสงค่อยเบาใจ

“อยู่ต่ออีกหน่อยก็ได้ ข้าอนุญาต แต่อย่านานเกินไปนัก กาลาฮานคนอื่นๆ ต้องการเจ้าเช่นกัน”

มาลแกธบีบบ่าเดเนธอร์อีกครั้งก่อนเดินลงเนินเขาไป ขณะที่เดเนธอร์หันกลับไปมองฟากฟ้าด้านทิศเหนือด้วยสายตามาดมั่น

รอข้า เนอร์ดาเนล ข้าไม่เชื่อว่าบิดาแห่งความตายรับเจ้าไปแล้ว

—————————————————————————

A/N มาแล้วค่ะ นักเขียนอีกท่านยังอยู่ในช่วงสอบ ฉะนั้นกำหนดการต่อไปคือวันที่ 2 พ.ค. 60 หรือช้ากว่านั้น (รออัปเดตทางเพจนะคะ)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (4) [30/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 01-05-2017 00:11:06
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (4) [30/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-05-2017 06:42:49
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (4) [30/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 01-05-2017 12:42:36
ปวดใจ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (4) [30/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 01-05-2017 19:48:58
เห้อออออ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (4) [30/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 01-05-2017 23:25:06
จะไม่ตายกันใช่ไหมคะ #ทำหน้ามีความหวัง  :mew2:
ตอนนี้แอบรู้สึกว่าโคลด์ สมควรละทิ้งทางโลก หนีไปบวชได้ละ โอ๊ยยยย ชีวิตหนักหนา หัวใจก็หนักหนา  555555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (4) [30/04/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 02-05-2017 21:03:53
จะไม่ตายกันใช่ไหมคะ #ทำหน้ามีความหวัง  :mew2:
ตอนนี้แอบรู้สึกว่าโคลด์ สมควรละทิ้งทางโลก หนีไปบวชได้ละ โอ๊ยยยย ชีวิตหนักหนา หัวใจก็หนักหนา  555555
"นั่นสินะ อาจจะดีก็ได้" โคลด์ที่อยู่บ้านอิลมาเรทำหน้ามึนๆ คิดว่า ข้าไม่ชอบความยุ่งยากใจแท้ๆ
แล้วก็นั่งเท้าคางมองทุ่งดอกไม้ต่อ...
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-05-2017 21:31:27
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 02-05-2017 22:08:50
บทที่ 21 : บาดแผล (5)

หลังปะทะคารมกับซิกฟรีดช่วงเช้า ตกสาย โคลด์สงบใจด้วยการทำความสะอาดบ้านของอิลมาเร

ดาร์กเอลฟ์ดูแลรับใช้เจ้าชายแห่งรูเมเรียร์มาตั้งแต่เยาว์วัย และมักทะเลาะกันบ่อยๆ เวลาทะเลาะกันทีไรก็ใช้การทำความสะอาดให้ใจเย็นลง

โคลด์สวมผ้ากันเปื้อน ใส่ที่คาดผม ใช้ผ้าปิดปาก ถือไม้ขนไก่ ปีนบันไดเล็กปัดฝุ่นบนหลังตู้หนังสือและตรงชั้นหนังสืออย่างเหม่อลอยทว่าคล่องแคล่ว

นกส่งสารสีแสดขนาดใหญ่ตัวหนึ่งบินมาเกาะขอบหน้าต่างบ้านของอิลมาเร มันร้องเสียงแหลมสั้นๆ สามครั้งแล้วโน้มศีรษะลง ราชาเอลฟ์ซึ่งกำลังนั่งมองโคลด์ สตาร์ปัดกวาดหันไปทางมัน

“อิลราลาน”

นกสีแสดร้องรับก่อนโน้มศีรษะลงอีกครั้ง มันเป็นนกส่งสารที่ถูกฝึกโดยองครักษ์อิลราลาน ฉลาด รู้ภาษา และมารยาทเป็นเลิศ

ซิกฟรีดยกท่อนแขนให้มันเกาะ นกสีแสดร่อนเข้ามาอย่างนุ่มนวล เล็บคมวางแผ่วเบา มันคล้ายรู้วิธีระมัดระวังไม่ให้คมเล็บระคายราชาหนุ่ม

“ทำงานดีมาก” ซิกฟรีดชมเจ้านกตัวใหญ่ มันโน้มศีรษะอย่างนอบน้อม แล้วรับขนมจากราชาเอลฟ์เป็นรางวัล ซิกฟรีดแกะม้วนกระดาษเล็กๆ ตรงขามันออก ปล่อยให้มันโผบินไปที่อื่นค่อยอ่านข้อความจากอิลราลาน

สารที่องครักษ์ส่งมาเป็นการไถ่ถามอย่างสุภาพ ซึ่งภาษาอ้อมค้อมนั้นแปลได้อย่างง่ายว่า ‘พระองค์ทรงประทับอยู่ที่ไหน’ ตามด้วยการเตือนความจำ ‘ช่วงบ่ายทรงมีประชุมกับขุนนาง’ และตำหนิ ‘ทรงหายไปเช่นนี้มิใช่เพียงศีรษะของกระหม่อมจะไร้เงา แต่รวมถึงศีรษะของต้นห้อง ข้ารับใช้ใกล้ชิด และทหารส่วนพระองค์ด้วยพ่ะย่ะค่ะ’

โคลด์หยุดทำความสะอาดและจ้องมาทางซิกฟรีด ดวงตาสีม่วงคู่คมจ้องเป๋ง ใบหน้าครึ่งล่างถูกซ่อนอยู่ใต้ผ้าปิดปากสำหรับทำความสะอาด ซึ่งลดทอนแววตาเฉียบคมอย่างแอสซาสซินให้กลายเป็นจู้จี้เหมือนสายตาของมารดาเวลาดุบุตร

“มีอะไร” ซิกฟรีดถามโดยสายตายังจับอยู่บนแผ่นกระดาษ เขาสะบัดมือโยนมันขึ้น เงาทมิฬเข้ากลุ้มรุม ไอน้ำละเอียดเช่นหมอกทำให้หมึกละลายจนหมด

“สารนั่นแหละ มีอะไร” โคลด์ถามกลับเสียงอู้อี้ จ้องกระดาษแผ่นนั้นเหมือนมันเป็นขยะที่เพิ่มงานให้เขา

“สารไหน” ซิกฟรีดเปลี่ยนขาที่นั่งไขว่ห้าง ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น “เจ้าหมายถึงกระดาษเปียกๆ นั่นหรือ” เขาพยักพเยิดไปทางสารเปื่อยๆ บนพื้น

“มันเขียนว่าอะไร” โคลด์ชี้ไม้ขนไก่ต่างมีดสั้นมาทางซิกฟรีด “ไม่ตอบก็กลับราชวังไปเลย ข้าไม่อยากให้ทหารของเจ้ายกพวกมาบุกบ้านอิลมาเร”

ซิกฟรีดออกจากราชวังมาเฉยๆ โคลด์ก็คิดอยู่ว่าต้องมีคนตามหา

“อิลราลานถามว่าข้าอยู่ที่ไหน”

“แล้วเจ้าจะตอบเขาว่าอะไร”

“ข้าสบายดี จะกลับไปให้ทันประชุม” ซิกฟรีดลุกขึ้น ก่อนตรงไปยังโต๊ะทำงานของดวอร์ฟ มีกระดาษ แท่นหมึกและปากกาขนนกเพียบพร้อม

“ก็ดี ว่าแต่ใครคืออิลราลาน” โคลด์ไม่เคยเจอหรือได้พูดคุยกับอิลราลานโดยตรง ในถ้ำมังกรศิลาหรือในวิหารขององค์หญิงที่สาม--คาลิเธียล พวกเขาแค่เฉียดกันไปมา

“อืม…” ซิกฟรีดเขียนสาร ตัวอักษรตวัดสวยงาม ทั้งยังแข็งแรงหนักแน่น

“เขาคือ...อืม?” โคลด์ถามหลังดึงผ้าปิดปากลง เขาเดินอ้อมมาด้านหลังซิกฟรีด ข้าวของของอิลมาเรยังวางไว้เช่นเดิม แต่เมื่อถูกซิกฟรีดหยิบใช้...เขาก็รู้สึกโหวงๆ อย่างบอกไม่ถูก

“อืม” ซิกฟรีดยิ้มกวนอารมณ์ “ถ้าจะอธิบายลักษณะของอิลราลานคงทำได้แค่ ‘อืม’ ”

โคลด์ขมวดคิ้ว แวบเดียวความเศร้าก็ถูกแทนที่ด้วยความหงุดหงิด เขาแย่งปากกาขนนกมา “ ‘อืม’ นี่ใคร”

“องครักษ์ของข้า”

 

“ช่วงนี้ข้าไปได้ดีกับอิลราลาน ไม่โดดเดี่ยวอย่างที่แสดงออกเพื่อให้เจ้าปลอบหรอก โคลด์ สตาร์”

 

โคลด์จึงนึกออก ว่านี่คือชื่อที่ซิกฟรีดเอ่ยถึงเมื่อตอนเช้า “อ้อ” เขารับคำ “คนที่เจ้าไปกันได้ดีกับเขา” เขาคืนปากกาขนนกให้

ซิกฟรีดเขียนสารต่อ “แค่อาจจะ” พอเสร็จก็วางปากกาขนนกไว้อย่างเดิม ขยับทุกอย่างให้เข้าที่เดิม โคลด์อาจอยากให้เครื่องเรือนเครื่องใช้ของอิลมาเรอยู่ในที่ทางเดิมอย่างที่เคยเป็น

เช่นเดียวกับที่เขาสั่งห้ามไม่ให้ข้ารับใช้ขยับอะไรในห้องของพี่หญิง หากทำความสะอาด ต้องคงที่ทางเดิมไม่ให้อะไรเคลื่อนไป

“เขาดีไหม อิลราลานน่ะ” โคลด์ถาม

“ดี?” ซิกฟรีดม้วนแผ่นกระดาษ น้ำเสียงคล้ายกึ่งขันกึ่งเยาะ

“ใช่ ดีไหม” โคลด์กอดอก

“ข้าไม่รู้คำจำกัดความของคำว่า ‘ดี’ ”

“เขาเป็นคนที่เจ้าอยากอยู่ด้วยและไว้ใจไหม”

ซิกฟรีดเรียกนกสีแสดเข้ามา “ตอนนี้ใช่” เขาผูกสารกับขาของมัน แล้วปล่อยให้มันกลับไปหานาย “ในอนาคตอาจไม่...ไม่มีอะไรแน่นอน”

โคลด์เงียบไปครู่ เขามองเห็นความว้าเหว่ของราชาเอลฟ์เหมือนรอยร้าวเล็กๆ บนกำแพงที่ควรจะตั้งตระหง่านอย่างแข็งแกร่ง “แล้วมีใครอีก ที่ ‘ใช่’ สำหรับเจ้า”

คำถามนั้นทำให้ซิกฟรีดมองโคลด์เนิ่นนาน เขารับรู้ความห่วงใยของดาร์กเอลฟ์

“ตัวข้าเองกระมัง...ที่รัก”

ราชาหนุ่มหมายความตามที่พูด

“ที่รัก? ตัวเจ้า?” โคลด์เลิกคิ้วสีเงิน จากนั้นก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน “ช่างเถอะ” ดาร์กเอลฟ์ถอนใจเหมือนหนักใจ จากนั้นก็เดินไปเก็บผ้าถูพื้นและถังน้ำ “หิวแล้วใช่ไหม”

“ใครจะเรียกตัวเองว่าที่รักเล่า” ซิกฟรีดกอดอก เหยียดสายตามองแบบตั้งใจหยอก

โคลด์กำหมัดแล้วหมุนแบบขู่ไม่ให้อีกฝ่ายหาเรื่อง “ข้าไม่ได้โง่ เด็กเอลฟ์”

“ข้าไม่ได้พูดสักคำว่าเจ้าปัญญาทึบ”

“ข้ารู้ว่าเจ้าเรียกข้าว่าที่รัก!” โคลด์โพล่งแล้วหุบปากฉับ

“ถูกต้อง ที่รัก...” มุมปากของซิกฟรีดยกขึ้น

“อย่าเรียกอีก” โคลด์เดินย่ำเท้าออกไป แต่ยังไม่วายกำชับ “รอนี่ จะหาอาหารมาให้”

ระหว่างรอ ซิกฟรีดเห็นพิณขนาดเล็กวางอยู่บนชั้น ค่อนข้างสูงเกินช่วงแขนของดวอร์ฟ น่าจะเป็นของสะสมซึ่งเจ้าตัวนำมาประดับบ้าน

ขณะกำลังจะหยิบพิณมาดีดทดลองเสียง สายตาก็สบกับสิ่งที่น่าสนใจกว่าบนชั้นเดียวกัน มันเป็นหนังสือเล่มหนึ่ง หน้าปกเขียนว่า ‘ปกิณกคดีของท่านอิลมาเร V’ ปกทำจากหนังชั้นดี ชื่อหนังสือปั๊มสีทอง เมื่อเปิดอ่านก็พบว่ามันคือไดอารี่ของดวอร์ฟ แต่ไม่ใช่บันทึกประจำวันธรรมดา สิ่งที่เขียนไว้คือเหตุการณ์สำคัญในชีวิตเธอ เช่น การค้าขายครั้งแรก การเดินทางออกจากหมู่บ้านดวอร์ฟ หนทางสู่การเป็นแม่ค้าผู้ยิ่งใหญ่และการเข้ากิลด์พ่อค้าใต้ดิน เล่าถึงการผจญภัยอันแปลกประหลาดในแต่ละดินแดนที่เดินทางไปค้าขาย กำกับด้วยความคิดเห็นต่อเหตุการณ์นั้นๆ

และวันที่เมื่อสามปีก่อน ก็มีเรื่องของนักฆ่าดาร์กเอลฟ์ที่วาดรูปดาร์กเอลฟ์ผมสีเงิน หูแหลม สวมชุดดำ ในมือถือมีดสั้นสีฟ้าส่องประกายเจิดจ้า ยืนอยู่ใต้ดาวหางดวงใหญ่

 

‘วันที่ 3 เดือนเขากวางเงิน ปีชาดนภาที่ 148

เก็บของดีมาได้ เย้! เขาชื่อเหมือนดาว จริงๆ ก็ชื่อดาวเลยแหละ เป็นคนเอื่อยๆ ค่อนข้างมึนเบลอ เป็นประเภทที่จะโดนคนอื่นเอาเปรียบได้ง่ายๆ แล้วก็ดีใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นเรื่องที่ข้าให้กินลูกอมรสชาติแปลกๆ และให้เขาทดลองงาน…’

 

ข้อความหลังจากนั้นบันทึกวีรกรรมเจ็บแสบของทั้งคู่ไว้ยาวเหยียด เต็มไปด้วยเรื่องตลกชวนหัวเราะ บางส่วนก็เคร่งเครียด ลงท้ายด้วยความคิดเห็นของอิลมาเรเช่นเดิมว่า

 

‘ข้าคิดว่าเขาไม่เลวนัก

พวกเราคงเป็นเพื่อนที่ดี

คู่หูอันดับหนึ่ง เย้! \(*0*)/’

 

ซิกฟรีดอ่านแล้วยิ้มโดยไม่รู้ตัว ยิ้มกว้างเสียด้วย บางหน้าทำให้เขาหัวเราะ ราชาเอลฟ์ลูบปากขณะทรุดนั่งบนโซฟาแล้วอ่านอย่างตั้งใจ

“อิลมาเรเคยบอกว่า นางไม่อยากตายโดยหายจากโลกนี้ไปเฉยๆ” โคลด์เดินมาพร้อมถาดอาหาร ยืนอยู่หลังซิกฟรีด เขาไม่ได้ห้ามซิกฟรีดอ่านบันทึกส่วนตัวของอิลมาเร “นางบันทึกเรื่องราวของตัวเองไว้ มีแผนจะตีพิมพ์ภายหลัง นางบังคับให้ข้าอ่านเล่มนี้ด้วย...เห็นตัวอักษร ‘V’ ไหม นี่เป็นเล่มที่ห้า ยังมีเล่มก่อนหน้าอีกสี่เล่ม”

“อาจดีก็ได้...” ซิกฟรีดวางมือข้างตัว เป็นเชิงให้โคลด์นั่งด้วยกัน “รำลึกถึงนางด้วยการอ่านบันทึกแสนสำคัญนี้”

โคลด์ลังเล แต่ก็วางถาดลงบนโต๊ะเตี้ย นั่งข้างซิกฟรีด “หน้าสุดท้าย...น่าจะมีอะไรสักอย่าง” เขาพูดอย่างไม่มั่นใจ หัวใจหดเกร็งและรู้สึกเศร้า

ซิกฟรีดวางมือบนหลังศีรษะโคลด์ก่อนจะลูบมาที่หลังคล้ายปลอบโยน

“เจ้าอยากเปิดเองหรือไม่”

“ข้าเตรียมใจอยู่” โคลด์ขอหนังสือ “ตอนนั้น...นางบอกว่า ‘หนังสือ’ คงหมายถึงเล่มนี้ที่เป็นเล่มล่าสุด”

โคลด์นึกภาพที่ทำให้เขาปวดหนึบตรงหลังศีรษะเหมือนถูกใครเอาค้อนทุบอย่างจังจนเลือดไหลไม่หยุด เป็นภาพตอนที่เลือดของอิลมาเรหยดลงพื้น ลูกธนูแทงทะลุอกเธอ เธอมองเขา...สำลักเลือดตัวเองขณะพยายามพูดกับเขา...และล้มลง

จากนั้นเมื่อปราดเข้าไปดูได้ โคลด์พบว่าอิลมาเรหมดสติ การเสียเลือดมากเกินไปทำให้แก้มและมือของเธอเย็นเฉียบ แทบไม่มีสัญญาณชีพ หากปล่อยไว้แบบนี้เธอก็จะตาย...ความเสียใจพุ่งจุกคอเขา ทว่าสิ่งที่ลอดออกมาจากปากคือคำสบถสาปแช่งเอริแอดเน่

และเมื่อฟื้นสติกลับมา มาลแกธก็แจ้งว่าอิลมาเรถูกวังน้ำวนกลืนร่างไปแล้ว เมื่อไม่มีร่างกายอยู่ต่อหน้า และทิ้งเวลามานานขนาดนี้ ต่อให้เขามีพรสวรรค์คืนชีพคนตายอันวิเศษแค่ไหน ก็คงไม่อาจช่วยอิลมาเรได้

โคลด์สะดุ้งเฮือก!

อารมณ์ด้านลบแผ่จากตัวเขาจนบรรยากาศรอบกายหนาวสะท้าน เขาเปิดไปหน้าสุดท้ายของหนังสือ พบซองจดหมายสอดไว้กับปีกปกด้านหลัง

โคลด์กลั้นน้ำตาเมื่อเห็นว่ามันจ่าหน้าชื่อเขา เขียนอย่างร่าเริงตามแบบฉบับอิลมาเรว่า

‘♥ โคลด์ สตาร์ ♥’

เขาสูดหายใจแล้วแกะจดหมายฉบับนั้นอ่านเงียบๆ

ซิกฟรีดไม่แน่ใจว่ามือของตนจะช่วยปลอบโยนใครได้อีกหรือไม่

เขามีปีกคู่มหึมาแทบห่มฟ้าได้ มันแลกด้วยการถูกสาปวิญญาณ หากเขาสิ้นลมวันใด เขาจะไม่สามารถเดินทางไปสู่ดินแดนแห่งนิรันดร์ตามความเชื่อของเอลฟ์ แต่ไม่เป็นไร...ราชาผู้เยาว์คิดว่าหากได้มาซึ่งพลัง จะวิญญาณหรืออะไรก็ตาม เขาพร้อมแลกทั้งหมด

เพื่อที่จะได้กางปีกปกป้องทั่วแผ่นดิน

แต่แล้วอย่างไร สุดท้ายปีกนั้นก็ไม่อาจช่วยใครได้ การมีอุดมการณ์ทว่าไม่อาจทำให้เป็นจริงนั้นช่างน่าขัน และตลกอันร้ายแสนร้ายคือพี่หญิงเอริแอดเน่ทำให้เขาเห็นกับตา

ภาพที่พี่หญิงจมสู่ห้วงมหานทียังติดอยู่ในมโนสำนึกจนถึงบัดนี้ นัยน์ตาของพี่หญิงเกินคำว่าแหลกสลาย นอกจากนั้น...แม้พี่หญิงจะแสดงออกว่าโกรธขึ้งหรือโกรธแค้นเขาเพียงใด แต่แววตากลับเจือความรัก ไปจนถึงความห่วงหาอาทรที่มีให้เขา แววตาซึ่งทำให้เขารู้สึกว่าตัวเล็กเท่าเล็ก คล้ายกลับไปสู่อาเลธน้อยของพี่หญิงคนงาม

ยิ่งเจ็บยิ่งดี

ยิ่งเจ็บยิ่งย้ำเตือน

ยิ่งเจ็บ...หัวใจยิ่งชาและด้าน


ไม่จำเป็นต้องก้าวสู่โลกหลังความตาย ราชาแห่งรูเมเรียร์ก็เหมือนถูกสาปทุกลมหายใจ

ซิกฟรีดหลุดสู่ภวังค์ครู่หนึ่ง ก่อนจะเสียงของโคลด์จะดึงเขากลับมา

“อิลมาเรเขียนไว้ว่าให้จัดการกิจการของเธอกับหนังสือ ‘ปกิณกคดีของท่านอิลมาเร’ ยังไง ถ้าเธอไม่ได้กลับมาที่บ้านหลังนี้” โคลด์พับจดหมายเก็บเข้าซอง ที่เขาไม่ได้เอ่ยถึงคือ จดหมายฉบับนี้อิลมาเรเขียนทิ้งไว้ให้เขา หลังเหตุการณ์ที่ทำให้แยกกันที่สุสานวิหารร้างและเธอกลับมาเอวา เธมาร์กับมาลแกธ

 

‘...อยู่กับเจ้าแล้วข้าตื่นเต้นดี (ฟันกำไรไปมากด้วย) ข้าใช้ชีวิตอย่างมีเรื่องเซอร์ไพรส์เสมอ เพราะงั้นข้าไม่เสียใจที่เป็นเพื่อนกับเจ้า อย่าคิดมากล่ะ โคลด์ สตาร์!

 

ด้วยรักและเหรียญทอง

อิลมาเร’

 

นั่นคือข้อความลงท้ายในจดหมายของอิลมาเร เรียบง่ายและเต็มไปด้วยความปรารถนาดี

คำตอบรับของซิกฟรีดคือการไล้นิ้วใต้ดวงตาของโคลด์

นุ่มนวล...อ่อนโยน

“ซิกฟรีด” ดวงตาสีม่วงอันมีมนตร์ดึงดูดอันลึกลับแบบเผ่าทมิฬสบกับดวงตาของราชาเอลฟ์

“ว่าอย่างไร” ซิกฟรีดเอียงศีรษะเล็กน้อย

“เสียใจหรือเปล่าที่ตอนนั้นไม่ได้ช่วยเอริแอดเน่” เสียงของโคลด์นิ่งและเย็น

ราชาหนุ่มยังเกลี่ยผิวของดาร์กเอลฟ์อยู่ ดวงตาก็ยังสบกันอยู่ ความเงียบเข้าครอบคลุมพื้นที่ชั่วขณะ

“ข้าไม่รู้จะใช้คำว่าอะไร แต่ไม่ใช่เสียใจ...มันเบาเกินความจริงไปมาก”

“ตอนนั้น มาลแกธมาช่วยข้าแล้ว เจ้าสามารถช่วยนางได้...ถ้าเจ้าจะทำ”

“จะกล่าวโทษข้าหรือ” ซิกฟรีดเลื่อนนิ้วไปไล้แก้ม “หรืออยากกะเทาะหน้ากากข้า ว่าข้าไม่ได้ดีเด่อะไร เป็นเอลฟ์ใจทรามหรือเปล่า”

โคลด์หัวเราะครึ่งเสียง “ถ้านางยังอยู่ข้าจะฆ่ากับมือ แต่นางไม่อยู่แล้วนี่”

“ตอนนั้นตัวข้าชา” ซิกฟรีดเล่า “ข้าไม่รู้ว่าควรทำอะไร เลือกทางไหน ข้ากอดเจ้าไว้แล้วในขณะนั้น และไม่ไว้ใจให้เอลฟ์ตะวันออกช่วยเจ้า ใช่ มันเก่ง แต่เวทของพี่หญิงรุนแรง และข้ามั่นใจว่าข้าช่วยเจ้าได้มากกว่ามัน รู้ไหม ภาพของพี่หญิงที่ถูกม้วนลงไปในวังน้ำวนเป็นภาพช้า ช้ามาก คล้ายเวลาถูกฉุดรั้งเอาไว้ และในช่วงเวลานั้นข้าคิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ปล่อยโคลด์สิ อาเลธ ไปช่วยพี่หญิงก่อน...ไม่ อาเลธ พี่หญิงไม่ทิ้งชีวิต อาจเป็นอุบาย นางจะรอด ใช่ นางจะรอด สลับไปสลับมาอย่างนี้เป็นร้อยเป็นพันครั้ง จนนางจมลับไปต่อหน้าต่อตา”

โคลด์เงียบ เขาแหงนหน้ามองเพดาน “เจ้ารู้ว่านางร้ายกาจ ถึงขั้นระแวงนาง แต่ก็ยังรักนางจากส่วนลึกอยู่ดี มันเป็นความสัมพันธ์แบบไหนกันซิกฟรีด เจ้าผิดต่อนางที่ดื้อดึงอยู่กับข้า หรือข้าผิดต่อนางที่โผล่กลับมาในชีวิตเจ้า หรือนางผิดต่อเรา และได้รับผลตอบแทนที่สมควรแล้ว”

“อืม…” ซิกฟรีดถอนใจ “ไม่มีใครผิดกระมัง”

“มีสิ” โคลด์ตอบเสียงห้วน “มันต้องมีคนผิด โลกเป็นแบบนี้เสมอ” เขาหัวเราะหยัน

“ถ้าเป็นอย่างนั้น ข้าจะลงโทษตัวเอง”

“นางโอดครวญไม่ได้หรอก นางก็ใช้เจ้า” โคลด์บอกช้าๆ “ข้าเลือกไม่พูดเพราะนาง…” เขาคิดหาคำที่เหมาะสม “เพราะนางตกอยู่ในนรกอยู่แล้ว ทุกวันทุกคืน ไม่ใช่หรือ”

เขายังจำเรื่องที่ซิกฟรีดเล่าให้ฟังในกระโจมก่อนวันที่พวกเขาจะบุกป้อมได้

“แต่เจ้าต้องแยกแยะ ซิกฟรีด นางดีต่อเจ้า และนางก็ผิดต่อเจ้า เจ้าเลือกที่จะจำความดีของนางไว้ได้ แล้วปล่อยวางความผิดที่นางใช้เจ้า...หรือเจ้าใช้นาง แต่อย่าเฉยชากับมัน ถ้าเจ้าเฉยชา สักวันหนึ่งเจ้าจะไม่มีหัวใจ ไม่มีความรู้สึกใดๆ อีก รวมถึงความสุขด้วย”

ซิกฟรีดพริ้มตา ไม่ได้ตอบอะไร โคลด์เอ่ยเตือนราวกับอ่านใจเขาได้

โคลด์ไม่รู้จะปลอบซิกฟรีดอย่างไร และซิกฟรีดก็ดูไม่ต้องการการปลอบใจจากเขา

“ต่อจากนี้เจ้าคิดจะทำอะไร”

“เอาอาหารยัดปากเจ้า” โคลด์ผินหน้าไปทางสำรับที่ยกมา “ไม่มีของสด แต่เอาของตากแห้งมาต้มซุป รีบซดตอนยังร้อนๆ อยู่”

โคลด์ สตาร์ทำหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กอยู่

“เจ้าชอบขุนข้าตั้งแต่สมัยก่อน” ซิกฟรีดอ้าปาก ภาษากายบอกชัดว่า ‘ป้อน’

โคลด์นิ่วหน้า เขาคร้านจะเถียงจึงหยิบถ้วยซุปกับช้อน จ้องมันเงียบๆ แล้วตักน้ำซุปใสใส่ปากซิกฟรีด “เจ้าต้องหัดกินเองได้แล้ว”

ราชาเอลฟ์กินซุปคำหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “จอมทัพทมิฬ เกวนโดลิน มังกร...เจ้าจะเอาอย่างไรต่อ”

ช่วงที่โคลด์ไม่ได้สติ ข่าวเกี่ยวกับจอมทัพทมิฬผุดวาบขึ้นมาจากพวกนักค้าข่าวใต้ดินเนืองๆ แต่ละข่าวมีหลักฐานน่าเชื่อถือขึ้นเรื่อยๆ จอมทัพทมิฬกลับมาแล้ว แดนทมิฬจะเคลื่อนพลเข้าเผารูเมเรียร์ให้ราบ ยิ่งตอนนี้ราชาแห่งรูเมเรียร์เป็นเพียงราชาผู้เยาว์ ไร้ประสบการณ์ในสมรภูมิ ยิ่งเป็นจังหวะเหมาะ

เวลานี้ฝั่งทมิฬยังไม่ทราบว่าอิซิลดาร์ระหองระแหงกับรูเมเรียร์ เพราะท่านหญิงคนสำคัญซึ่งเป็นทั้งผู้ปกครองและผู้นำตระกูลอิซิลดาร์หายไป หากรู้ละก็...ไม่ดีแน่

“ใบหน้าเจ้า คำสาปของเจ้า ยังต้องใช้หัวใจมังกรรักษาหรือไม่” โคลด์ถาม ใบหน้าซีกซ้ายของซิกฟรีดดูหายดีแล้วก็จริง แต่ไม่มีเหตุผลเลยว่าทำไมจู่ๆ จึงหายดี

“ข้าอยู่กับมันได้” ซิกฟรีดวางมือบนใบหน้าซีกซ้ายของตัวเอง และพอเขาละมือออก ผิวเนื้อบริเวณนั้นก็กลับสู่สภาพเดิม ซึ่งก็คือเป็นรอยแผลไฟลวกขนาดใหญ่ เส้นเลือดสีดำวิ่งไปทั่ว

โคลด์ถอนใจ “งั้นเรื่องต่อไปที่ข้าจะทำย่อมเป็นการนำหัวใจมังกรมาให้เจ้าและสืบหาเกวนไปพร้อมกัน ส่วนจอมทัพทมิฬ...เขาจับข้าไม่ได้ ข้าจะทำให้แน่ใจว่าเป็นเช่นนั้น ยิ่งตอนนี้ข้าไม่มีใครให้ถูกจับไปเป็นตัวประกันแล้ว”

นอกจากอิลมาเรแล้ว คนที่โคลด์ห่วงใยก็คือเกวนโดลิน ซึ่งเขากำลังรอสารจากนกสีขาวของพี่สาว ส่วนซิกฟรีดหรือมาลแกธน่ะหรือ...ทั้งสองคงไม่ถูกใครลักพาตัวไปง่ายๆ หรอก

“กินให้หมด” โคลด์บอก ป้อนต่อ “เสร็จแล้วข้าจะได้กินสำรับของข้าบ้าง” เขากินทีหลังซิกฟรีดจนเคยชินแล้ว

ซิกฟรีดหยิบช้อนมาจากโคลด์ ตักซุป แล้วยกไปจ่อปากอีกฝ่าย “เริ่มอุ่นแล้ว ไม่ต้องเป่า”

“ข้ากินเองได้” โคลด์ปฏิเสธ

ซิกฟรีดจ่อเข้าไปใกล้อีก

“ไม่เอาไง เดี๋ยวหก อ๊ะ!” น้ำซุปหกเปื้อนปากของดาร์กเอลฟ์ รอยของเหลวที่หยดบนโซฟาทำให้เจ้าของใบหูสีม่วงอมเทาขู่จนหูชี้

“หูตั้งแล้ว” ซิกฟรีดเหยียดริมฝีปาก พยายามกลั้นขำ ราชาเอลฟ์หันช้อนมากินซุปเอง

โคลด์วางถ้วยซุปของซิกฟรีด แล้วยกถ้วยซุปของตัวเองขึ้นดื่มอย่างรวดเร็วเพื่อกลบความประหม่า

เรื่องระหว่างเขากับซิกฟรีดได้ทำให้ชัดเจนไปแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมซิกฟรีดต้องแสดงท่าทางสนิทสนมให้เขาลำบากใจ

“เจ้าต้องไปประชุมใช่ไหม ข้าจะอยู่ที่นี่อีกสักพักแล้วค่อยกลับเอวา เธมาร์ เราค่อยคุยเรื่องหัวใจมังกร…”

โคลด์พูดสิ่งที่คิดออกมาเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองพะวงกับความประหม่า

ซิกฟรีดปาดซุปที่ติดมุมปากโคลด์ด้วยนิ้วโป้ง

“ข้าจะรอ”

—————————————————————————

A/N จบบท 'บาดแผล' แล้วค่ะ คิดว่าหลายท่านคงอ่านแล้วรู้สึกหน่วงๆ คนเขียนเองกว่าจะผ่านบทนี้ไปได้ยังหน่วงๆ เลยค่ะ ;w; แงงงงงงงงง

สำหรับบทต่อไป จะเป็นเรื่องราวต่อจากนี้ที่เกี่ยวข้องกับทิศทางของภาค 3 (ส่วนภาค 2 คือภาค Ugly Queen เป็นเรื่องที่เกิดก่อนภาคนี้)

แจ้งข่าวว่าบทต่อไป จะเริ่มลงหลังวันที่ 15 พ.ค. 2560 เป็นต้นไป เนื่องจากเป็นการเขียน+รีไรท์ตอนชนตอน และคุณ FOULSOUL อยู่ในช่วงสอบทีสิสป. โทที่จะเสร็จสิ้นกลางเดือนพ.ค. นี้ค่ะ

คุณ FOULSOUL ฝากขอโทษนักอ่านที่กำลังรออยู่ด้วย และเสียใจมากๆ ที่ต้องหยุดชั่วคราว รอกันหน่อยน้า (>.<)


แล้วก็ เราอยากสำรวจความเห็นนักอ่านทุกท่าน ว่าท่านอยากเห็นอะไรในภาคต่อไป เช่น

1. คุณคิดอย่างไรกับ 3P รับได้ไหม ควรเอาตามจริงคือ รักกัน 2 คน และมี 1 คนต้องไป หรือช่างมันเถอะ 3P ก็ได้...

ซิกฟรีดxโคลด์xมาลแกธ

2. การมีตัวละครตายไปจริงๆ คุณรับได้ไหม อยากให้มีปาฏิหาริย์ นำพวกเขากลับมา หรือให้ตายไปเลยเพื่อความสมจริง

3.ท่านที่รอเนื้อเรื่องฝั่งแดนทมิฬ สำหรับรวมเล่มภาค 1 คุณอยากอ่านตอนพิเศษของจอมทัพทมิฬไหม? หรือไม่อยากรู้อะไรเลย รอลุ้นตอนภาค 3 ดีกว่า


จะรอความคิดเห็นของทุกท่านนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ!

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-05-2017 22:45:06
สู้กันต่อปายย อีกหลายกลุ่ม
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-05-2017 22:47:50
3P พอรับได้ แต่ใจจริงๆไม่อยากให้เป็น 3P เลยอ่ะ
 :mew1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 03-05-2017 00:36:23
มาตอบคำถามมมมมมมม

ข้อหนึ่ง  3P อ่ะรับได้  เเต่ส่วนตัวคิดว่าคงไม่เหมาะกับกษัตริย์ ราชาไม่ควรใช้ของร่วมกับใครพร้อมกัน

ข้อสอง ตายก้อดีไม่ตายก้อดี   ไม่ตายก็ดีคือเอรินเอคเน่ตายเเล้วปัญหาที่ตามมาล่ะ  :ruready
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 03-05-2017 01:20:38
มาตอบคำถามมมมมมมม

ข้อหนึ่ง  3P อ่ะรับได้  เเต่ส่วนตัวคิดว่าคงไม่เหมาะกับกษัตริย์ ราชาไม่ควรใช้ของร่วมกับใครพร้อมกัน

ข้อสอง ตายก้อดีไม่ตายก้อดี   ไม่ตายก็ดีคือเอรินเอคเน่ตายเเล้วปัญหาที่ตามมาล่ะ  :ruready
ประเด็นนี้ดีจังค่ะ ที่ว่าราชาไม่ควรใช้ของร่วมกับใคร
/พยักหน้าหงุกๆ
หรือควรให้ซิกฟรีดเลิกเป็นราชา /วิ่งหนีอย่างไว
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 03-05-2017 04:06:17
3p รับได้ค่าา เราอยากให้ทุกคนสมหวังในรัก ฮือออ สงสารทุกคนเลยยยย (จริงๆคือไม่อยากให้มาลแกธหรือซิกฟรีดผิดหวังค่ะ 55555 เอ๊ หรือให้ไปรักกันเองดีปล่อยนุ้งโคลด์ไปบวช ชอบสร้างเรื่องดีนักกก คึคึ) ส่วนเรื่องตายนี่เราว่าแล้วแต่คนเขียนจะตัดสินใจเลยค่ะ ^_^
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 03-05-2017 07:58:17
รู้สึกเหมือนยืนยิ้มทั้งน้ำตาท่ามกลางซากปรักหักพัง

สุขไม่สุด จะทุกข์ก็ใช่ที่

ภาวนาให้เรื่องราวคลี่คลายไปในทางที่ดี

1. 3p รับได้  แต่เราว่า ด้วยสิ่งที่ซิกปรารถนา เขาจะมีทางเลือกแค่สองทาง คือ 1. ครอบครองทั้งหมด 2. ปล่อยมือจากโคลด์

เอ๊ะ! หรือ 3p คือ แอรี่ อิล กับเดอร์นาเดล ที่หายไปด้วยกัน 55555555


2. ถ้าตัวละครต้องตายก็คือตายเนอะ รับได้
3. รอเฉลยได้ อาจจะมาแว่บ ๆ ให้น่าติดตามว่าที่มาคืออะไร ทางที่จะไปคือประมาณไหน

ขอให้คุณโชคดีในการสอบธีสิส

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: fyfh34 ที่ 03-05-2017 13:43:54
ประเด็นเรื่องคู่ ซิกฟรีดxโคลด์xมาลแกธ อันนี้ขอถามนักเขียนก่อนได้ไหมคะว่าตอนวางพล็อตไว้ทีแรกคนเขียนต้องการให้เป็นแบบไหนคะ สามพีหรือคะ เพราะส่วนตัวคิดว่าเอาตามที่นักเขียนที่คิดไว้ก็ได้ค่ะ ซึ่งตอนแรกคิดเอาไว้นานแล้วตอนที่อ่านคือโคลด์คงจะคู่กับมาลแกธส่วนซิกฟรีดตายไม่ก็อกหัก เพราะด้วยเนื้อเรื่อง คำพูดนักเขียนเลยตีความไปแบบนั้นไม่รู้ถูกไหม 55555

ส่วนเรื่องมีคนตายพอบอกได้ไหมคะว่าหมายถึงใคร คือไม่อยากให้ใครตายโดยเฉพาะ ซิกฟรีดxโคลด์xมาลแกธ แต่ถ้าเป็นตัวหลักตัวอื่นถึงจะน่าเศร้าแต่ก็ควรมีบ้างเพื่อความสมจริง สรุปแล้วแต่คนเขียนเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 03-05-2017 15:37:00
อืลมาเรตาย สิ่งที่ทำให้โคลด์เข้มแข็งและอยากมีชีวิตอยู่ได้คือเกวน เราวาาตอนนี้ไม่ว่ามาลแกธหรือซิกฟรีด ก็เป็นเหตุผลในการมีชีวิตของโคลด์ไม่ได้ (ถ้าฮีคิดจะตายอ่ะนะ)  :z3: แต่ตอนนี้ด็หน่วงน้อยลงละล่ะ ฮือๆๆๆๆ

ตอบคำถาม

1. ที่จริงเราโอเคกับ 3P แต่เรื่องนี้เราไม่ได้คาดหวังให้เป็นอย่างนั้น อาจจะเพราะไม่ได้มีการบอกไว้ว่าเรื่องนี้เป็น 3P ตั้งแต่แรกด้วย แต่ยังไงก็ตาม แล้วแต่คุณคนเขียนเลยค่ะ นักเขียนบางท่านเคยพูดว่า ตอนแรกวางพล็อตไว้แบบนึง เขียนไปเขียน ทุกสิ่งทุกอย่างก็ค่อยๆเปลี่ยนไป จนไม่เหมือนที่เคยวางไว้ อาจจะเพราะตัวละครสุดท้ายไม่ได้เป็นแค่ตัวละครหรือเปล่าคะ เอาเป็นว่ามันจะเป็นยังไง เรารับได้หมดค่ะ จะสลับคู่ จะเอาอิลารานขึ้นมา หรือ จะให้โคลด์หนีไปบวชตลอดชาติเลยก้ยังได้ค่ะ  55555

2. เรารับได้ค่ะ ถึงบางตัวเราต้องยอมรับได้ทั้งน้ำตาก็เถอะ แต่อิลมาเรเนี่ยเราอยากให้กลายเป็นวิญญาณผู้พิทักษ์ไรงี้แฮะ

3. เราอยากอ่านโคลด์มุ้งมิ้งอ่ะค่าาาา :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 03-05-2017 18:55:44
1.3P ถ้าตอนเป็นแบบนี้จริงๆ ก็รับได้นะ คือถ้าพร็อตเรื่องจะต้องเป็นแบบนี้ ก็ดีไม่ต้องมีใครเสียใจ แต่ว่าก็อาจจะหน่วงๆ ไม่รู้ดิ ตอนโคลดอยู่กะมาเกลก็สงสารซิก ตอนอยู่กะซิกก็แบบแล้วเกลล่ะ? คือมันไม่สุดอ่ะ เป็นไปได้ก็อยากให้เลือกมาสักคน ไงๆก็อายุยืนกันอยู่แล้วอีกคนคงไม่โสดไปตลอดหรอกมั้ง555 หาคนมาดามใจ วินๆกันไปก็ดี (สรุปว่าก็แล้วแต่คนเขียนอ่ะว่าจะให้เรื่องมันดำเนินไปยังไง 3ตัวหลักก็เป็นตัวที่ชิบมากอยู่แล้ว จริงๆก็ไม่มีใครในเรื่องที่ไม่ชอบสักคน เพราะงั้นจะออกมาแบบไหนก็รับได้แหละ มั้ง?555)

2.ตายเป็นตายแต่อย่าให้เสียใจมากเกิน อ่อนไหวง่าย กลัวนอนไม่หลับ

3.ตอนนี้จิ้นจอมทัพเป็นราชินีเคะ  อยากอ่านตอนนาง อิๆ

ขอบคุณสำหรับตอนนี้ค่า  จะรอนะ
 :L2: :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-05-2017 21:13:22

- ซิกฟรีดxโคลด์xมาลแกธ 3P รับได้

- ตัวละครถ้าตายไปเลย ก็รับได้  แต่โคลด์สามารถนำกลับมานี่ แต่ถ้าพ้นขอบเขตโคลด์ ตายก็ต้องตาย

- รอลุ้นตอนภาค 3 ดีกว่า
     
ซิก ก็ยังทำตัวเหมือนเดิมกับโคลด์
ให้โคลดป้อน เช็ดมุมปาก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 11-05-2017 21:54:53
โอยยยย ชอบโมเม้นป้อน :z3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 12-05-2017 01:37:13
นี่จะเป็นคนเดียวที่ไม่โอกับ 3P รึเปล่า รู้สึกว่า 3P ไปฉันก็ยังเจ็บอยู่ดี555555 แต่แล้วแต่คนเขียนอะค่ะ ส่วนตัวเคารพความคิดคนเขียนสุด

ส่วนเรื่องตัวละครตายอยากแล้วแต่คนเขียนอะค่ะ อยากลุ้น ไม่อยากเดาเลย 555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 12-05-2017 11:27:04
ฮรื่อออมาแล้วเจ้าค๊าาาาา /ตะกายจอ  :katai4: :hao7:

บทที่ 17: โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (6-7)มุ้งมิ้งกันให้พ๊ออออ รอราชาเค้ากลับมาทวงตำแหน่งก่อนเต๊อะ แง่งๆๆ (นี่ยังเคืองอิตามันแกวกับโคลด์ไม่หาย)
บทที่ 18 : สยายปีก (1-3)ไม่ทงไม่ทนมันละเนอะซิก ตรงไปตรงมาดี /ตบบ่า ตอนนี้มันจุดหัก ทั้งสะใจทั้งสงสารเจ้แอรี่ พอเป็นแบบนี้แล้วคงจะร้ายได้เต็มที่แล้วซินะ ใส่ชุดแดงแสดงคาแรคเตอร์ สยายปีกไปเลย ฉากลงส้นเข็มใส่มือซิก อยากจะบอกอินางให้ใจเย็นๆ เด็กมันพูดไม่เก่ง สรุปว่าอ่าวซิกตั้งใจพูดอีก /กุมขมับ สเตตัสราชาเรารัดทนอดสูมาก โถ่ววพระเอก
บทที่ 18 : สยายปีก (4)มอร์นเพนมันน่าร้ากกก ชอบเครื่องหอมสินะโง้ยยย อิมเมจแมวดำผูกโบว์สีชมพูก็แว่บเข้ามา >w< อารมณ์เหมือนนายน้อยพาแฟนตัวเล็กๆเดินห้างแล้วเจอป้ายเซลเลยยย
บทที่ 18 : สยายปีก (5)อ่าวววท่านลุงนี่เอง /เบะ  ชอบโมเม้นลุงสอนหลานจัง /มองปริบๆ "อย่านั่งเลย โคลด์แทบร้องไห้.." ฮาเกิ้นนน โง้ยยยยขำโคลด์กับมอร์นแพนในห้องรองสีชมพู ถึงจะเป็นฉากสู้ก็เถอะเคะสู้กันมันน่ารักจริงๆนะ!! อิลมาเรนี่เก็บทุกเม็ดจริงๆ ทุกอย่างนางจับทำบิสิเนสหมด 55555 ตอนนี้สนุกครื้นเครงดีแต้เจ้าค่าาา
บทที่ 18 : สยายปีก (6)ชะนีบุก นึกว่าใคร ทีมขุ่นแม่นี่เอง ขำอิลุงหลานคู่นี้  โคลด์จำไอดอลได้แล้วเนอะ 55555555
บทที่ 18 : สยายปีก (7)ฉากต่อสู้สนุกกก บ่าวอิน ฮึ่มมมมเจ้จัดคนมาดี รู้จุดทุกคน ร้ายกาจที่สุด ในที่สุดก็จะไปหาซิกกกก ฮิ้ววววว /ซ่อมเรือ
บทที่ 19 : คำสาป (1)กรี๊ดดดดดดดเดินเข้ามาดุเสร็จก็จับทำแผล ซิกตอบอืมไปแค่นั่นคือรู้อยู่นานแล้วเนอะ ที่ไม่ขัดขวาง ไม่โกรธเพราะเป็นมาลแกธใช่มั้ย พระเอกกระเซอะกระเซิงมากตอนนี้ ปัญหาชีวิตรุมเร้าเหลือเกินพ่อคุณ สงสาร
บทที่ 19 : คำสาป (2)“ความรัก ซิกฟรีด เจ้าชิงเอาได้ แต่เจ้าจะได้แค่ส่วนที่เจ้าชิงไป ไม่ได้ส่วนที่อีกฝ่ายมอบให้" ชอบประโยคนี้ ปวดตับกับพวกนาย รักกันแต่รักกันไม่ได้ แถมยังก็ตัดกันไม่ลง ชอบให้เถียงกันยาวๆ จะได้ซึมซับความซิกโคลด์นานๆ สรุปซิกไปด้วย อิป๋าก็ฟังอยู่สินะ หึๆๆ
บทที่ 19 : คำสาป (3)“แต่ไม่ ซิกฟรีดอยู่ในกระโจม” ว้ายยยยยเป็นไงละป๋าขาาา
บทที่ 19 : คำสาป (4)คิดจะรับทุกอย่างเอาไว้หมดเลยรึง้ายยพระเอกนี่ /หยิก รู้ว่าเค้าเห็นเลยตามมาที่กระโจมซิน้าาา /อวยสุด คุยกันดีๆแล้วว เบลออิป๋าไป
บทที่ 19 : คำสาป (5)ฮึ้ยยยยยน่ารัก ขอหยุดเวลาได้ม้าย 5555 ไม่อยากให้ออกจากกระโจม ปล. รอกำหนดการขายเจ้าค่ะะะะ!!  * ^ * b
บทที่ 20 : แตกหัก (1)ชื่อตอนทำเอาสะพรึง แล้วก็ได้สะพรึงจริงๆ /โดดเรือ เอาจริงดิซิก นั่นแกแสดงใช่มั้ย มันแผนขอแกใช่ม้ายยย /ใกล้จะเสียสติตามเจ้ไปอีกคน
บทที่ 20 : แตกหัก (2-3) โอ่ยยยบ่าวจะร้องจริงๆแล้วนะ ซิกฟรีด! อ่านไปพยายามหลอกตัวเองว่าซิกมันแสดง เจ้นี่ก็โหดจริงไรจริงปัดโธ่ว เรื่องราวกำลังปั่นป่วน พระเจ้า
บทที่ 20 : แตกหัก (4) เหมือนดูหนัง ตัวหนังสือมันเคลื่อนไหวได้  เกวนๆก็มาาาา กรี้ดดด
บทที่ 20 : แตกหัก (5) คิดถึงเดเนธอร์กับคุณผี ตอนนี้ถึงจะสงสารซิกยังไง แต่นาทีนี้บ่าวขอสถิตอยู่กับโคลด์เจ้าค่ะ
บทที่ 20 : แตกหัก (6) "พวกเขายื้อกันและกันจนสุดทางแล้ว" บ่าวใจจะขาด ส่วนซิกกับเจ้ก็อ่าวววเฮ่ย
บทที่ 20 : แตกหัก (7) สถานการณ์ตรึงเครียด ยังยิ้มได้เพราะแม่ค้าที่คิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุสงครามอลังการนี่แหล สังเกตุได้ว่ามีแต่ตัวหลักสู้กันแล้ว บ่าวใจไม่ดี หยุดอ่านก็ไม่ได้ แต่ตอนป๋าvsซิกนี่แบบฟหกด่าสว
บทที่ 20 : แตกหัก ( 8 ) กรี้ดดดดดดดดนังเวเรด้า!! แล้วอิก็อิเจ้!!!  อ่านไปเม้นต์ไป เหมือนดูหนังแล้วนั่งแหกปาก แทงกันเป็นทอดรัวๆ หักมุมสุด ก้อชชชชชอิป๋าตอนเลือดขึ้นหน้าโคตรเท่โอ่ยย นั่งลุ้นตัวงอ โจมตีกันอลังการ ไคลแมกซ์~~

ปล. จะทันแล้ว(รอบนี้หายไปนานจริง orz) เม้นต์ยาวมากเลยต้องย่อตัวอักษรลงเพื่อรักษาพื้นที่ T w T เป็นกำลังใจให้คนเขียนเสมอค่า!!  :fire: o13
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 13-05-2017 15:43:35
สู้กันต่อปายย อีกหลายกลุ่ม

สู้ๆ  :mew1:

3P พอรับได้ แต่ใจจริงๆไม่อยากให้เป็น 3P เลยอ่ะ
 :mew1:  :pig4:
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะคะ เราฟังทั้งสองฝั่งแน่นอนค่ะ ทั้งฝั่งที่โอเคและไม่โอเคกับ 3P จ้า

3p รับได้ค่าา เราอยากให้ทุกคนสมหวังในรัก ฮือออ สงสารทุกคนเลยยยย (จริงๆคือไม่อยากให้มาลแกธหรือซิกฟรีดผิดหวังค่ะ 55555 เอ๊ หรือให้ไปรักกันเองดีปล่อยนุ้งโคลด์ไปบวช ชอบสร้างเรื่องดีนักกก คึคึ) ส่วนเรื่องตายนี่เราว่าแล้วแต่คนเขียนจะตัดสินใจเลยค่ะ ^_^
โคลด์ชอบคอมเมนต์นี้มาก "ใช่ ข้าควรไปบวช" /นั่งกอดเข่าเหม่อมองท้องฟ้า ทะเล สายลม และแสงแดด (เขาชอบอยู่สงบๆ น่ะค่ะ OTL)

รู้สึกเหมือนยืนยิ้มทั้งน้ำตาท่ามกลางซากปรักหักพัง

สุขไม่สุด จะทุกข์ก็ใช่ที่

ภาวนาให้เรื่องราวคลี่คลายไปในทางที่ดี

1. 3p รับได้  แต่เราว่า ด้วยสิ่งที่ซิกปรารถนา เขาจะมีทางเลือกแค่สองทาง คือ 1. ครอบครองทั้งหมด 2. ปล่อยมือจากโคลด์

เอ๊ะ! หรือ 3p คือ แอรี่ อิล กับเดอร์นาเดล ที่หายไปด้วยกัน 55555555


2. ถ้าตัวละครต้องตายก็คือตายเนอะ รับได้
3. รอเฉลยได้ อาจจะมาแว่บ ๆ ให้น่าติดตามว่าที่มาคืออะไร ทางที่จะไปคือประมาณไหน

ขอให้คุณโชคดีในการสอบธีสิส
เราก็ไม่ชอบความหน่วง ความไม่ชัดเจน ความไม่เด็ดขาดเหมือนกันค่ะ และชอบให้เรื่องราวจบลงด้วยดี
แต่บางครั้งชีวิตก็ต้องพบเจออุปสรรคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วสิ่งที่ซิกปรารถนาจริงๆ ก็ยังเป็นปริศนาสำหรับเราอยู่
(เพราะเราไม่ได้คุมซิกฟรีด)
เราเองก็รอลุ้นว่าเรื่องจะจบยังไงค่ะ และระหว่างทาง จะต้องมีอะไรให้อ่านและสนุกแน่นอน ;)
เรื่องจอมทัพ เราชอบไอเดียที่มาจุดประกายว่าเขาคือใคร ต้องการอะไร และจะไปทางไหนนะคะ

ประเด็นเรื่องคู่ ซิกฟรีดxโคลด์xมาลแกธ อันนี้ขอถามนักเขียนก่อนได้ไหมคะว่าตอนวางพล็อตไว้ทีแรกคนเขียนต้องการให้เป็นแบบไหนคะ สามพีหรือคะ เพราะส่วนตัวคิดว่าเอาตามที่นักเขียนที่คิดไว้ก็ได้ค่ะ ซึ่งตอนแรกคิดเอาไว้นานแล้วตอนที่อ่านคือโคลด์คงจะคู่กับมาลแกธส่วนซิกฟรีดตายไม่ก็อกหัก เพราะด้วยเนื้อเรื่อง คำพูดนักเขียนเลยตีความไปแบบนั้นไม่รู้ถูกไหม 55555

ส่วนเรื่องมีคนตายพอบอกได้ไหมคะว่าหมายถึงใคร คือไม่อยากให้ใครตายโดยเฉพาะ ซิกฟรีดxโคลด์xมาลแกธ แต่ถ้าเป็นตัวหลักตัวอื่นถึงจะน่าเศร้าแต่ก็ควรมีบ้างเพื่อความสมจริง สรุปแล้วแต่คนเขียนเลยค่ะ
ถ้าเอาตามที่นักเขียนคิดไว้ งั้นไม่ควรตอบเพื่อสปอยเนอะ มีหลายคนบอกให้เขียนตามที่คิดก็ได้
ซึ่งการที่นักอ่านบอกว่าจะรออ่านสิ่งที่นักเขียนเขียน ทำให้เรารู้สึกดีมากเลยนะคะ TwT
เหมือนได้ยกหินก้อนใหญ่มากๆ ออกจากอก
คือเรารู้ว่าคงไม่สามารถทำให้นักอ่านทุกคนชอบสิ่งที่เราเลือกเขียนได้
แต่ถ้ามีคนอ่านที่เข้าใจและยอมรับ เราก็รู้สึกขอบคุณจากใจจริงค่ะ
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
ส่วนใครตาย ใครรอด รอดูกันต่อไปตามเนื้อเรื่องแล้วกันค่ะ ยิ่งโคลด์สามารถชุบคนตายได้
แล้วแบบไหนจะเรียกว่าการตายที่แท้จริงล่ะ

อืลมาเรตาย สิ่งที่ทำให้โคลด์เข้มแข็งและอยากมีชีวิตอยู่ได้คือเกวน เราวาาตอนนี้ไม่ว่ามาลแกธหรือซิกฟรีด ก็เป็นเหตุผลในการมีชีวิตของโคลด์ไม่ได้ (ถ้าฮีคิดจะตายอ่ะนะ)  :z3: แต่ตอนนี้ด็หน่วงน้อยลงละล่ะ ฮือๆๆๆๆ

ตอบคำถาม

1. ที่จริงเราโอเคกับ 3P แต่เรื่องนี้เราไม่ได้คาดหวังให้เป็นอย่างนั้น อาจจะเพราะไม่ได้มีการบอกไว้ว่าเรื่องนี้เป็น 3P ตั้งแต่แรกด้วย แต่ยังไงก็ตาม แล้วแต่คุณคนเขียนเลยค่ะ นักเขียนบางท่านเคยพูดว่า ตอนแรกวางพล็อตไว้แบบนึง เขียนไปเขียน ทุกสิ่งทุกอย่างก็ค่อยๆเปลี่ยนไป จนไม่เหมือนที่เคยวางไว้ อาจจะเพราะตัวละครสุดท้ายไม่ได้เป็นแค่ตัวละครหรือเปล่าคะ เอาเป็นว่ามันจะเป็นยังไง เรารับได้หมดค่ะ จะสลับคู่ จะเอาอิลารานขึ้นมา หรือ จะให้โคลด์หนีไปบวชตลอดชาติเลยก้ยังได้ค่ะ  55555

2. เรารับได้ค่ะ ถึงบางตัวเราต้องยอมรับได้ทั้งน้ำตาก็เถอะ แต่อิลมาเรเนี่ยเราอยากให้กลายเป็นวิญญาณผู้พิทักษ์ไรงี้แฮะ

3. เราอยากอ่านโคลด์มุ้งมิ้งอ่ะค่าาาา :hao7:
เราว่าความเปลี่ยนแปลงในเรื่อง ย่อมสร้างความเปลี่ยนทางอารมณ์แก่ตัวละคร ทำให้เรื่องเดินไปข้างหน้า
อาจจะหน่วงนิดๆ ปวดหัวหน่อยๆ แต่สัญญาว่าจะมีโมเมนต์ฟินๆ ไม่น้อย อย่าเพิ่งเลิกตามกันไปนะคะ -3-

อยากเอาอิลราลานขึ้นมากดซิกฟรีดเหมือนกันค่ะ (มโนเอง) 555 แต่ซิกฟรีดคงไม่ยอม และโคลด์คงทำหน้าตกใจ OTL

"ให้ข้าไปบวชก็ได้" โคลด์บอก

ส่วนของเนื้อเรื่อง บางครั้งเราตั้งใจให้เรื่องเป็นแบบนี้ๆ แต่เรื่องกลับกลายเป็นอีกแบบ บอกตามตรงว่าเกิดกับเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว เพราะก่อนที่จะเป็นเวอร์ชั่นที่นำมาลงในปัจจุบัน เรามีการเขียนร่างของเรื่องนี้หลายรอบ บางอันนำมาใช้ ได้ไปต่อ บางอันตัดออก
แต่ถึงอย่างไร แก่นเรื่องก็ยังมีความแน่นอนที่ถูกกำหนดไว้อยู่ อยู่ที่ว่าตัวละครจะแสดงออกมาอย่างไร เมื่อเราโยนเหตุการณ์เข้าไปให้พวกเขาด้วยค่ะ

ป.ล. รับรองให้อีกครั้งว่า ตอนพิเศษมีโคลด์มุ้งมิ้งกับหนุ่มๆ ค่า

1.3P ถ้าตอนเป็นแบบนี้จริงๆ ก็รับได้นะ คือถ้าพร็อตเรื่องจะต้องเป็นแบบนี้ ก็ดีไม่ต้องมีใครเสียใจ แต่ว่าก็อาจจะหน่วงๆ ไม่รู้ดิ ตอนโคลดอยู่กะมาเกลก็สงสารซิก ตอนอยู่กะซิกก็แบบแล้วเกลล่ะ? คือมันไม่สุดอ่ะ เป็นไปได้ก็อยากให้เลือกมาสักคน ไงๆก็อายุยืนกันอยู่แล้วอีกคนคงไม่โสดไปตลอดหรอกมั้ง555 หาคนมาดามใจ วินๆกันไปก็ดี (สรุปว่าก็แล้วแต่คนเขียนอ่ะว่าจะให้เรื่องมันดำเนินไปยังไง 3ตัวหลักก็เป็นตัวที่ชิบมากอยู่แล้ว จริงๆก็ไม่มีใครในเรื่องที่ไม่ชอบสักคน เพราะงั้นจะออกมาแบบไหนก็รับได้แหละ มั้ง?555)

2.ตายเป็นตายแต่อย่าให้เสียใจมากเกิน อ่อนไหวง่าย กลัวนอนไม่หลับ

3.ตอนนี้จิ้นจอมทัพเป็นราชินีเคะ  อยากอ่านตอนนาง อิๆ

ขอบคุณสำหรับตอนนี้ค่า  จะรอนะ
 :L2: :กอด1: :L1:
ถ้าอยากให้สุดๆ ไปเลย น่าหาแฟนใหม่ให้มาลแกธเนอะคะ
อยากจะลองโยนเข้าไปสักคนแล้วดูใจป๋าจังว่าจะสั่นคลอนไหม
หรือโยนตัวละครใหม่ให้ซิกฟรีดดี อืมมมมมมมม

ป.ล. ใครเคะราชินีคะ 555 จอมทัพออกจะแมน แงงงงงงงงงงงงง ต้องให้อ่านเรื่องแมนๆ ของฮีบ้างแล้ว แงๆๆๆ อีก



- ซิกฟรีดxโคลด์xมาลแกธ 3P รับได้

- ตัวละครถ้าตายไปเลย ก็รับได้  แต่โคลด์สามารถนำกลับมานี่ แต่ถ้าพ้นขอบเขตโคลด์ ตายก็ต้องตาย

- รอลุ้นตอนภาค 3 ดีกว่า
     
ซิก ก็ยังทำตัวเหมือนเดิมกับโคลด์
ให้โคลดป้อน เช็ดมุมปาก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณค่า นักอ่านสุดที่เลิฟ นี่เอง -3- ชอบที่จับประเด็นได้ว่า ในเรื่องนี้โคลด์คืนชีพคนตายได้ตั้งแต่แรกแล้ว
มันน่าจะมีปมสำคัญต่อเรื่องบ้างใช่ไหมคะ ความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุดเสมอไปหรือเปล่า และหลังจากความตายแล้ว
เรายังสามารถทำอะไรได้อีก หรือทำอะไรไม่ได้เลย เป็นความท้าทายในการวางเรื่องจริงๆ ค่ะ

โอยยยย ชอบโมเม้นป้อน :z3:
จริงๆ เราชั่งใจว่าจะตัดออกดีไหมอยู่นะคะ ฉากนี้ แต่ถ้ามีคนบอกว่าชอบ ก็อยากพิจารณาเก็บไว้ค่ะ -3-

นี่จะเป็นคนเดียวที่ไม่โอกับ 3P รึเปล่า รู้สึกว่า 3P ไปฉันก็ยังเจ็บอยู่ดี555555 แต่แล้วแต่คนเขียนอะค่ะ ส่วนตัวเคารพความคิดคนเขียนสุด

ส่วนเรื่องตัวละครตายอยากแล้วแต่คนเขียนอะค่ะ อยากลุ้น ไม่อยากเดาเลย 555
ไม่ใช่คนเดียวหรอกค่ะ มีอีกหลายคนที่ไม่อยากได้ 3P เหมือนกัน เรารับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ
แล้วก็ขอบคุณมากๆ ที่ให้คนเขียนตัดสินใจค่ะ ;)

ฮรื่อออมาแล้วเจ้าค๊าาาาา /ตะกายจอ  :katai4: :hao7:

บทที่ 17: โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (6-7)มุ้งมิ้งกันให้พ๊ออออ รอราชาเค้ากลับมาทวงตำแหน่งก่อนเต๊อะ แง่งๆๆ (นี่ยังเคืองอิตามันแกวกับโคลด์ไม่หาย)
บทที่ 18 : สยายปีก (1-3)ไม่ทงไม่ทนมันละเนอะซิก ตรงไปตรงมาดี /ตบบ่า ตอนนี้มันจุดหัก ทั้งสะใจทั้งสงสารเจ้แอรี่ พอเป็นแบบนี้แล้วคงจะร้ายได้เต็มที่แล้วซินะ ใส่ชุดแดงแสดงคาแรคเตอร์ สยายปีกไปเลย ฉากลงส้นเข็มใส่มือซิก อยากจะบอกอินางให้ใจเย็นๆ เด็กมันพูดไม่เก่ง สรุปว่าอ่าวซิกตั้งใจพูดอีก /กุมขมับ สเตตัสราชาเรารัดทนอดสูมาก โถ่ววพระเอก
บทที่ 18 : สยายปีก (4)มอร์นเพนมันน่าร้ากกก ชอบเครื่องหอมสินะโง้ยยย อิมเมจแมวดำผูกโบว์สีชมพูก็แว่บเข้ามา >w< อารมณ์เหมือนนายน้อยพาแฟนตัวเล็กๆเดินห้างแล้วเจอป้ายเซลเลยยย
บทที่ 18 : สยายปีก (5)อ่าวววท่านลุงนี่เอง /เบะ  ชอบโมเม้นลุงสอนหลานจัง /มองปริบๆ "อย่านั่งเลย โคลด์แทบร้องไห้.." ฮาเกิ้นนน โง้ยยยยขำโคลด์กับมอร์นแพนในห้องรองสีชมพู ถึงจะเป็นฉากสู้ก็เถอะเคะสู้กันมันน่ารักจริงๆนะ!! อิลมาเรนี่เก็บทุกเม็ดจริงๆ ทุกอย่างนางจับทำบิสิเนสหมด 55555 ตอนนี้สนุกครื้นเครงดีแต้เจ้าค่าาา
บทที่ 18 : สยายปีก (6)ชะนีบุก นึกว่าใคร ทีมขุ่นแม่นี่เอง ขำอิลุงหลานคู่นี้  โคลด์จำไอดอลได้แล้วเนอะ 55555555
บทที่ 18 : สยายปีก (7)ฉากต่อสู้สนุกกก บ่าวอิน ฮึ่มมมมเจ้จัดคนมาดี รู้จุดทุกคน ร้ายกาจที่สุด ในที่สุดก็จะไปหาซิกกกก ฮิ้ววววว /ซ่อมเรือ
บทที่ 19 : คำสาป (1)กรี๊ดดดดดดดเดินเข้ามาดุเสร็จก็จับทำแผล ซิกตอบอืมไปแค่นั่นคือรู้อยู่นานแล้วเนอะ ที่ไม่ขัดขวาง ไม่โกรธเพราะเป็นมาลแกธใช่มั้ย พระเอกกระเซอะกระเซิงมากตอนนี้ ปัญหาชีวิตรุมเร้าเหลือเกินพ่อคุณ สงสาร
บทที่ 19 : คำสาป (2)“ความรัก ซิกฟรีด เจ้าชิงเอาได้ แต่เจ้าจะได้แค่ส่วนที่เจ้าชิงไป ไม่ได้ส่วนที่อีกฝ่ายมอบให้" ชอบประโยคนี้ ปวดตับกับพวกนาย รักกันแต่รักกันไม่ได้ แถมยังก็ตัดกันไม่ลง ชอบให้เถียงกันยาวๆ จะได้ซึมซับความซิกโคลด์นานๆ สรุปซิกไปด้วย อิป๋าก็ฟังอยู่สินะ หึๆๆ
บทที่ 19 : คำสาป (3)“แต่ไม่ ซิกฟรีดอยู่ในกระโจม” ว้ายยยยยเป็นไงละป๋าขาาา
บทที่ 19 : คำสาป (4)คิดจะรับทุกอย่างเอาไว้หมดเลยรึง้ายยพระเอกนี่ /หยิก รู้ว่าเค้าเห็นเลยตามมาที่กระโจมซิน้าาา /อวยสุด คุยกันดีๆแล้วว เบลออิป๋าไป
บทที่ 19 : คำสาป (5)ฮึ้ยยยยยน่ารัก ขอหยุดเวลาได้ม้าย 5555 ไม่อยากให้ออกจากกระโจม ปล. รอกำหนดการขายเจ้าค่ะะะะ!!  * ^ * b
บทที่ 20 : แตกหัก (1)ชื่อตอนทำเอาสะพรึง แล้วก็ได้สะพรึงจริงๆ /โดดเรือ เอาจริงดิซิก นั่นแกแสดงใช่มั้ย มันแผนขอแกใช่ม้ายยย /ใกล้จะเสียสติตามเจ้ไปอีกคน
บทที่ 20 : แตกหัก (2-3) โอ่ยยยบ่าวจะร้องจริงๆแล้วนะ ซิกฟรีด! อ่านไปพยายามหลอกตัวเองว่าซิกมันแสดง เจ้นี่ก็โหดจริงไรจริงปัดโธ่ว เรื่องราวกำลังปั่นป่วน พระเจ้า
บทที่ 20 : แตกหัก (4) เหมือนดูหนัง ตัวหนังสือมันเคลื่อนไหวได้  เกวนๆก็มาาาา กรี้ดดด
บทที่ 20 : แตกหัก (5) คิดถึงเดเนธอร์กับคุณผี ตอนนี้ถึงจะสงสารซิกยังไง แต่นาทีนี้บ่าวขอสถิตอยู่กับโคลด์เจ้าค่ะ
บทที่ 20 : แตกหัก (6) "พวกเขายื้อกันและกันจนสุดทางแล้ว" บ่าวใจจะขาด ส่วนซิกกับเจ้ก็อ่าวววเฮ่ย
บทที่ 20 : แตกหัก (7) สถานการณ์ตรึงเครียด ยังยิ้มได้เพราะแม่ค้าที่คิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุสงครามอลังการนี่แหล สังเกตุได้ว่ามีแต่ตัวหลักสู้กันแล้ว บ่าวใจไม่ดี หยุดอ่านก็ไม่ได้ แต่ตอนป๋าvsซิกนี่แบบฟหกด่าสว
บทที่ 20 : แตกหัก ( 8 ) กรี้ดดดดดดดดนังเวเรด้า!! แล้วอิก็อิเจ้!!!  อ่านไปเม้นต์ไป เหมือนดูหนังแล้วนั่งแหกปาก แทงกันเป็นทอดรัวๆ หักมุมสุด ก้อชชชชชอิป๋าตอนเลือดขึ้นหน้าโคตรเท่โอ่ยย นั่งลุ้นตัวงอ โจมตีกันอลังการ ไคลแมกซ์~~

ปล. จะทันแล้ว(รอบนี้หายไปนานจริง orz) เม้นต์ยาวมากเลยต้องย่อตัวอักษรลงเพื่อรักษาพื้นที่ T w T เป็นกำลังใจให้คนเขียนเสมอค่า!!  :fire: o13

ยาวมากเลยค่ะ ดีใจมากๆ ที่นักอ่านคนนี้กลับมาแล้ว เย้ๆๆ  :mew1:
ยังเหลือบท 'บาดแผล' อีก 5 ตอนสินะคะ จุ๊บๆ เราเขียนจบบทบาดแผลแล้วยังหน่วงๆ ไปกับเรื่องเลย
ตอนนี้ได้พักและรอคุณ FOULSOUL กลับมา จะได้เขียนต่อให้จบภาคค่ะ -3-
/ฝากติดตามด้วยนะคะ ;)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 21 : (5) [02/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Hello01 ที่ 14-05-2017 21:39:22
ทันแล้วววโฮร่กก   :o12:

บทที่ 21 : บาดแผล (1)
เคลียร์สถานการณ์ ดีที่เกวนๆได้เลือดมังกร ไม่งั้นอิป๋าได้เฝ้าโคลด์ต่อ นอนไม่พออีกนาน
เจ้กับอิลมาเรจะตายจริงๆมั้ยนะ
บทที่ 21 : บาดแผล (2)
ฮะฮ่าาาซิกเริ่มเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาแล้วน้ออ แค่ชนะป๋าชนะก็สบายใจละ หึ /โบกธงราชา
บทที่ 21 : บาดแผล (3)
ฮื่อฮือออดราม่าน้ำตานอง ฉากสุดท้ายมันบาดใจ ห่างแค่เพียงเอื้อมมืออออ~
เปิดประตูไปดึงเข้ามากอดเลยยย คิดถึงอิลมาเรจับใจ
บทที่ 21 : บาดแผล (4)
กรี๊ดดดดดดดอยู่กันอย่างนี้นานๆนะเธอ
เดี๋ยวนะ ใครคืออิลราลาน (เราลืมอะไรไปน้อ)
ตื้อเท่านั้นที้ครองโลก ตื้อเข้าไปลูกซิก
บทที่ 21 : บาดแผล (5)
ลุคเมดด์โคลด์ถือไม้ขนไก่น่าร้ากกก ตอนนี้มันทั้งหน่วงทั้งมุ้งมิ้ง
ตอบคำถามเจ้าค่าา
1.  2p ซิกโคลด์เจ้าค่ะ >....< ถ้าต้อง 3p จริงๆสารภาพว่าต้องทำใจนิดๆ 
รักป๋านะ แต่นี่หวงโคลด์แทนซิกตลอดเลยเนี่ยสิฮื่อๆ /ปาด 
ป๋าอยู่มานานแล้วมีรักแรกมั้ย ไปลงเอยกับรักแรกไป (ก็ยังยาก ป๋ารักโคลด์จะตายโถ่ววว)
ต้องมาหาทางออกให้ป๋าอีก = * =
ที่สุดแล้ว ก็ต้องแล้วแต่คนเขียนเห็นว่าเหมาะเจ้าค่ะ ยังไงก็อ่านฮือๆๆ  :m31: :o12:
2.  ตายได้เจ้าค่ะ รับได้.. ถ้าไม่ใช่ โคลด์ ซิก มาลแกธ
3. รอลุ้นตอนภาค 3 ก็ได้.. ยังไงก็ได้  :katai5:

ปล. หายไปนานแค่ไหนก็ต้องกลับมาอ่านเจ้าค่ะ!  :katai3: o13
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (1) [16/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-05-2017 17:47:17
บทที่ 22 : ฟันเฟือง (1)

สิบเจ็ดปีก่อน ราชวังหลวงแห่งรูเมเรียร์, เอวา เธมาร์

“ท่านซิกฟรีด” เอลฟ์สตรีสิริโฉมนางหนึ่งรับดอกไม้จากเจ้าชายเอลฟ์ตัวน้อย วันนี้เป็นวันฉลองชัยจากศึกชิงหัวเมืองกับแดนทมิฬ แต่ท่านหญิงผู้เป็นจอมเวทสงครามซึ่งช่วยกำชัยชนะกลับมานั่งหลบอยู่ตรงมุมห้องโถงจัดงานเลี้ยง “ให้ดอกไม้พี่หญิงหรือ ช่างน่ารักเสียจริง”

นางดูดีใจที่ได้รับดอกไม้ดอกนี้จากใจจริง

“สีแดงเหมาะกับพี่หญิงขอรับ” ซิกฟรีดกลับไปยืนบิดไปบิดมาด้วยความเขิน นัยน์ตาใสเหมือนแก้วจ้องๆ หลุบๆ รอว่าพี่หญิงจะชอบของขวัญหรือไม่

“น่ารักจริงๆ เลย” เอริแอดเน่อุ้มเจ้าชายน้อยขึ้นนั่งบนตัก บรรจงหอมแก้มยุ้ยของเอลฟ์น้อยอายุห้าขวบปีอย่างหมั่นเขี้ยว “เป็นพระกรุณาธิคุณเป็นอย่างสูง พี่หญิงซาบซึ้งในน้ำพระทัยของท่านมาก”

เอริแอดเน่พูดอะไรซิกฟรีดก็ไม่รู้ งงตั้งแต่ ‘พระกุนาคุน’ แล้ว แต่เห็นพี่หญิงยิ้มและหอมแก้มตน ซิกฟรีดก็เข้าใจว่าของขวัญต้องถูกใจแน่

ท่านหญิงกอดเจ้าชายน้อยและฮัมเพลง เหมือนนางกำลังสร้างโลกส่วนตัวที่มีเพียงตนและซิกฟรีดกันสองคน กระทั่งมีร่างบุรุษสูงใหญ่น่าเกรงขามในชุดสีดำเดินตรงมาทางนาง

เมื่อซิกฟรีดเงยหน้ามองเงาที่ทาบลงมา จึงพบว่าเป็นพระเชษฐาองค์รอง เจ้าชายที่สอง ริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์

“รู้จักเอาใจผู้หญิงแล้วหรือ” ริวอร์นอร์มีรอยยิ้มกว้างขวาง ดวงตาสีทับทิมพราวระยับ ผมสีทองถักเปียสงครามแบบรูเมเรียร์ ประดับยศสูงสุดในฐานะผู้นำกองทัพเข้าชิงหัวเมืองกลับมา

ซิกฟรีดรู้สึกว่าอ้อมกอดนุ่มนวลที่กอดเขาไว้อย่างถนอมรัดแน่นขึ้น และร่างกายของพี่หญิงเกร็ง ทว่าแวบเดียวนางก็ลุกขึ้น พร้อมอุ้มเขาไว้

“เจ้าชายริวอร์นอร์” เอริแอดเน่น้อมศีรษะเพื่อแสดงความเคารพ ที่จริงนางควรส่งเจ้าชายน้อยให้พระพี่เลี้ยงและถอนสายบัวให้เจ้าชายที่สอง ทว่านางเพียงทักทายอย่างห่างเหิน

“ท่านหญิงเอริแอดเน่” ริวอร์นอร์น้อมศีรษะรับ ก่อนจะดึงแก้มซิกฟรีดเบาๆ “ร้ายจริงน้องชายเรา ให้ดอกไม้หรือ” เขาเหลือบสายตาไปยังดอกไม้สีแดง

“ขอรับ!” ซิกฟรีดยิ้มแฉ่ง

เอริแอดเน่พริ้มตา แต่ไม่มอบซิกฟรีดให้ริวอร์นอร์อุ้ม นางส่งตัวเจ้าชายน้อยให้พระพี่เลี้ยงที่รออยู่ด้านข้าง “เดี๋ยวพี่หญิงตามไปนะเจ้าคะ ท่านซิกฟรีด”

ท่านหญิงโบกมือให้เจ้าชายน้อยทั้งรอยยิ้ม อีกมือถือดอกไม้สีแดงแนบอก กระทั่งซิกฟรีดถูกอุ้มไปไกลแล้ว นางจึงหันมาทางริวอร์นอร์

“คาลิเธียลบอกให้ข้าเลิกอยู่ใกล้เจ้า” นางเปรยเมื่อได้อยู่กันตามลำพัง “แต่เจ้ามาใกล้ข้าเองแบบนี้ ข้าควรทำอย่างไรดี”

“เดินหนีกระมัง” ริวอร์นอร์กระซิบ “แต่หากทำเช่นนั้นคงไม่งาม”

“ไม่ ข้าไม่หนี” ดวงตาสีหินแก้วประกายรุ้งฉายแววเด็ดขาด “เจ้าไปควบคุมดูแลน้องสาวของเจ้าให้ดีจะดีกว่า”

“ขู่?” ริวอร์นอร์หรี่ตา รอยยิ้มกว้างขึ้น

“ผู้ใดคิดกำจัดข้า ข้าก็คิดกำจัดมันผู้นั้นได้เฉกกัน”

“คาลิเธียลน่ะหรือจะคิดกำจัดเจ้า” ริวอร์นอร์คล้ายหลุดขำ เขาลูบมือบนปากแล้วมองเอริแอดเน่อย่างแฝงนัยว่า ‘แปลก แทนที่จะเป็นเจ้าคิดกำจัดนาง’

“ผิดวิสัยนางมากอยู่” ริวอร์นอร์อดไม่ได้ที่จะหยอกเย้าท่านหญิงจากแดนใต้

“วิสัยนางคือ ‘ปกป้อง’ ไม่ใช่หรือ นางคิดปกป้องพี่ชายแสนดีทั้งสองและน้องชายผู้น่ารักไร้เดียงสาจากนางงูพิษอย่างข้านั้นผิดตรงไหน” เอริแอดเน่กล่าวเรียบเรื่อย สง่างาม นางนับริวอร์นอร์เข้าไปในคำนิยามว่า ‘แสนดี’ ทั้งที่ใจไม่คิดเช่นนั้น

“ปล่อยเรื่องวิสัยของคาลิเธียลไปก่อนดีกว่า” เจ้าชายที่สองตัดบท คาลิเธียลจะขู่เอริแอดเน่อย่างไร หรือเอริแอดเน่จะขู่คาลิเธียลผ่านเขาอย่างไรก็ไม่ใช่สาระในเวลานี้ “ได้โปรดอย่าบอกเราว่าที่เจ้าเหมือนจะ...อืม ไม่อยากพบหน้าเรา เป็นเพราะคาลิเธียล”

สาระอยู่ตรงที่เอริแอดเน่ ‘เลี่ยง’ จะพบหน้าเขาต่างหากเล่า

เอริแอดเน่ยั้งมือไม่ให้เผลอกำดอกไม้ที่ได้รับมา นางอัดอั้นอยากพูดอะไรมากมาย แต่สถานที่ไม่อำนวย จึงได้แต่ตอบว่า “เจ้านั่นแหละ บอกอะไรนาง นางถึงประณามข้าแต่ยกย่องเทิดทูนเจ้า” เสียงของนางลอดไรฟัน

“เราก็แค่ชมเจ้าบ่อยๆ เหมือนบุรุษรูเมเรียร์คนอื่นๆ”

เอริแอดเน่หน้าตึง “นางขู่ว่าจะไปพูดกับท่านเฟรธูริน”

“ว่าเจ้ารู้จักใช้เสน่ห์น่ะหรือ...ก็ถูกต้องแล้ว พูดความจริงมีอะไรไม่ดีเล่า” น้ำเสียงของริวอร์นอร์คล้ายเจือความหึงหวงอันร้อนรุ่ม

ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์โกรธจัด แต่นางตอบได้นิ่งสงบและเยือกเย็นว่า “หม่อมฉันขอตัวก่อน ท่านริวอร์นอร์” นางหมุนตัว เดินออกจากที่จัดงานเลี้ยงพร้อมดอกไม้ที่ได้รับมาจากเจ้าชายน้อยซิกฟรีด

นางยอมกลับคำ เดินหนีเขาจริงๆ เพราะไม่เสี่ยงให้ตนเองระเบิดอารมณ์ขุ่นมัวกลางงานเลี้ยงที่มีท่านเฟรธูรินและขุนนางชั้นสูงของรูเมเรียร์ร่วมสังสรรค์กันอยู่เต็มไปหมด

“น้ำพุกลางสวนวงกต” เสียงริวอร์นอร์แว่วมากระทบโสต “เที่ยงคืน...เราจะไปเดินเล่นที่นั่น”

พอเอริแอดเน่จะชักเท้าอีกครั้ง ริวอร์นอร์ก็เอ่ยว่า

“เจ้าไม่อยากปฏิเสธเราหรอกเอริแอดเน่ เชื่อเถอะ”

ท่านหญิงกัดฟันแล้วเดินต่อ

 

ใกล้เที่ยงคืน เอริแอดเน่เข้ามาในสวนวงกตโดยไร้ผู้ติดตาม เสียงน้ำพุไหลรื่นหูช่วยบดบังหูอันสอดรู้ของควาร์ นางตรงไปยังบริเวณอ่างน้ำพุกลางสวนอย่างรู้ทางว่าต้องเลี้ยวตรงไหนไม่ให้เจอทางตัน เมื่อถึงแล้วก็หยุดยืนรอผู้ที่นัดนางมา

กลิ่นน้ำสดชื่น น้ำพุรูปกลีบดอกไม้แย้มบานสาดละออง ใต้ฐานดอกไม้ในอ่างน้ำพุมีไข่มุกเม็ดเล็กๆ จำนวนมากส่องแสงแพรวพราวเรืองรอง ก่อให้เกิดสายรุ้งขนาดเล็กพาดซ้อนระหว่างสายน้ำพุ มองเห็นได้แม้ในยามกลางคืน

ลมฤดูใบไม้ผลิเย็นฉ่ำไล้ไหล่เปลือยของท่านหญิงจากอิซิลดาร์ นางยืนนิ่งทั้งที่รู้สึกหนาว ใบหน้างามเรียบเฉย แต่ภายในคิดสะระตะ พิธีอภิเษกของนางกับท่านเฟรธูรินใกล้เข้ามาแล้ว เมื่อสงครามจบ ซึ่งดูจากทิศทางของสงครามในสนามรบแล้ว ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่ปีเท่านั้น ซึ่งจะเป็นช่วงไม่กี่ปีที่สำคัญอย่างยิ่ง

การร่วมมือของนางกับริวอร์นอร์ใกล้ถึงจุดเปลี่ยนแปลงเฉกกัน เขาและนางร่วมมือกันดีมาตลอด เพียงแต่ระยะหลัง เขาไม่ช่วยเหลือนางให้ธำรงอยู่ในตำแหน่งพระคู่หมั้นได้ราบรื่นเท่าที่ควร

นกตัวเล็กบินมาเกาะไม่ใกล้ไม่ไกลท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ มันร่อนลงในครรลองสายตาของนาง เอียงศีรษะแก๊กๆ น่าขัน มันอ้าปากแต่ไม่มีเสียงร้อง...จะมีได้อย่างไรเล่า ในเมื่อนกตัวนั้นเป็นเพียงนกที่ประกอบจากกระดูก ไม่ใช่กระดูกนกตลอดตัวเสียด้วย อย่างบริเวณปีกเป็นก้างปลาอ่อนใส มีขนนกแหว่งๆ วิ่นๆ ไม่สมประกอบปะบนก้างปลาให้พอบินได้

มันเป็นสัตว์ประหลาดอันกำเนิดจากมนตร์ทมิฬของริวอร์นอร์

“น่ารักไหม” บุรุษนักรบแห่งรูเมเรียร์เอ่ยถาม ขณะก้าวมาหยุดยืนตรงหน้าสตรีโฉมงาม “ข้าหน่วงเวทได้นานขึ้น” สิ้นคำ นกประดิษฐ์หุบปีก มันร่วงลงพื้นคืนสภาพแท้จริง

เป็นเพียงกองกระดูกไร้ค่า

“งานฝีมือของเจ้าไม่ประณีตเอาเสียเลย” เอริแอดเน่ปลดผ้าคลุมไหล่ นางใช้เวทมนตร์เล็กน้อย สายลมก็หอบเศษกระดูกเหล่านั้นมาวางบนผ้าอย่างนุ่มนวล นางพับผ้าห่อมันไว้ “มีกระดูกสัตว์ในอุทยานหลวง คงไม่ดีเท่าไหร่”

ความหมายของเอริแอดเน่คือ การใช้มนตร์ทมิฬของริวอร์นอร์สมควรเป็นความลับและไม่ทิ้งหลักฐานใดๆ นางกำลังช่วยปกปิดให้เขา หรือไม่ก็แค่ปกป้องตัวเอง

“งานประณีตคงต้องพึ่งเจ้าแล้ว” ริวอร์นอร์เผยยิ้มแปลกตา ไม่แปลกสำหรับนาง แต่แปลกสำหรับผู้อื่น เจ้าชายที่สองแห่งรูเมเรียร์มีรอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ ไม่ใช่ยิ้มเย้ยหรือยิ้มหยันเฉกนี้

ริวอร์นอร์เผยรูปโฉมแท้จริงแค่เพียงเอริแอดเน่

น่าเกรงขาม น่าหวาดกลัว...และ ‘อัปลักษณ์’ ยิ่ง

“เจ้าเรียกข้ามาอวดฝีมือแค่นี้ใช่หรือไม่” ท่านหญิงจากอิซิลดาร์เอ่ยเย็นชา นอกจากอากาศเย็นจนไม่สบายตัวแล้ว อีกฝ่ายยังทำให้นางหงุดหงิดใจ

ริวอร์นอร์ถอดเสื้อคลุมแล้วห่มให้เอริแอดเน่ “เราคิดถึงการพูดคุยกับเจ้า ในสมรภูมิเจ้าไม่เงียบขรึมอย่างนี้ ทำไมจึงมึนตึงกับเรานักเล่า”

เอริแอดเน่สัมผัสถึงไออุ่นจากร่างกายของริวอร์นอร์ที่ส่งผ่านมาทางเสื้อคลุม รวมกับกลิ่นหอมอย่างบุรุษซึ่งอบอวลด้วยพลังอันแข็งแกร่ง นางกระชับเสื้อคลุมเข้ากับผิวเนื้อเย็นของตน ให้ร่างกายซึมซับไออุ่นนั้น “ข้าบอกไปแล้วในงานเลี้ยง คาลิเธียลเตือนให้ข้าอยู่ห่างเจ้า และเจ้าก็ดูเข้าข้างน้องสาวของตน”

“เพราะนางเป็น ‘น้องสาว’ เราก็ควรดูแลนางมิใช่หรือ” ริวอร์นอร์ทำตาซื่อใส “และสำหรับเจ้า นางเป็น ‘น้องสาวของพระสวามี’ เจ้าก็ควร ‘ดูแล’ นางด้วย ไม่ใช่ให้นาง ‘ดูแล’ เจ้า”

คำว่า ‘ดูแล’ ของริวอร์นอร์ฟังคล้าย ‘กำราบ’ เสียมากกว่า

“อา ไม่ใช่สวามี ต้องเป็น ‘ว่าที่’ ถึงจะถูกต้อง”

เอริแอดเน่ขยับเข้ามาใกล้พอจนแน่ใจว่าสิ่งที่กล่าวจะได้ยินเพียงสองคน “ข้าไม่วางยาพิษให้นางไปพ้นหูพ้นตาก็เพราะ ‘ว่าที่’ สวามีของข้าคงไม่พึงใจ มีทั้งเขาและเจ้าหนุนหลังนาง ข้าจะทำอะไรได้ นอกจาก ‘ประพฤติตนให้ถูกให้ควร’ อย่างที่นางเอ่ยปากสั่งสอนทางอ้อม”

เอริแอดเน่จ้องลำคอของริวอร์นอร์ ซึ่งอยู่ในระดับสายตาของนางพอดี ตรงนั้นมีรอยจูบอยู่ “ดูเหมือนเจ้าก็มีคนให้พูดคุยเพิ่มขึ้นแล้ว”

“บทสนทนาค่อนข้างน่าเบื่อ เราเลยพูดคุยกันเพียงคืนเดียวเท่านั้น” ริวอร์นอร์ไล้ข้อนิ้วชี้จากใต้หูไปจบที่คางของโฉมงาม เขาเชยใบหน้าเอริแอดเน่ให้สบตากัน

สายตานางฉายแววกรุ่นโกรธ แต่น้ำเสียงสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย “ไม่ยุติธรรมเลยใช่ไหม พี่ชายรองที่สุภาพอ่อนโยนและซื่อตรงของนาง ทำสิ่งใดก็ไม่ผิด แม้เป็นการเล่นสนุกกับสตรีเพียงหนึ่งคืน ส่วนข้า แค่ยิ้มให้เจ้าก็ผิดแล้ว ซึ่งข้าก็คิดว่าดี เพราะระยะหลังมานี้ข้าไม่รู้สึกอยากยิ้มให้เจ้าสักเท่าไหร่”

เอริแอดเน่ยังรู้สึกชาวูบวาบที่ติ่งหู การแตะต้องใบหูสงวนไว้สำหรับคนรัก ริวอร์นอร์สัมผัสนางอย่างถือดีเกินไปแล้ว

“นอกจากคาลิเธียลและรอยรักบนลำคอเรา มีอะไรทำให้เจ้าไม่สบายใจอีก” ครั้งนี้เสียงของริวอร์นอร์นุ่มและทุ้ม เหมือนเวลาปลอบสัตว์เล็ก

ท่านหญิงหน้าแดงเรื่อเมื่อเจ้าชายที่สองเอ่ยคำว่า ‘รอยรัก’ “ไม่มี ข้าจะเป็นพี่สะใภ้ของเจ้า ปฏิบัติเฉกนี้ก็ถูกต้องแล้ว อีกไม่นานสงครามจะจบ รวมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราด้วย ข้าคิดว่าเจ้าเข้าใจดีที่สุด” นางลากนิ้วบนรอยแดง เล็บคมกดกล้ามเนื้อลำคอตึงแน่น “ไม่อย่างนั้นเจ้าจะให้สตรีเหล่านั้นเข้าหาทำไม”

“เราบอกกี่ครั้งกี่หนแล้ว เอริแอดเน่” ข้อนิ้วซึ่งอยู่ใต้คางมนเชยใบหน้านางให้เชิดขึ้นอีก ก่อนบีบคางให้นางนิ่ง ไม่พยศ “เจ้าเป็นราชินีของเราได้ แค่อดทนรอ”

เอริแอดเน่จ้องตาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ “สองร้อยกว่าปีแล้ว เจ้ายังไม่หยุดเพ้อเจ้ออีก”

“เราเคยเพ้อเจ้อหรือ…” ใกล้ขนาดนี้ ริวอร์นอร์สัมผัสได้ถึงลมหายใจของเอริแอดเน่ มันสั่นแผ่วๆ แทบจับไม่ได้ อาจเป็นเพราะอากาศเย็น หรืออาจเป็นเพราะใจเริ่มรุ่มร้อน 

“เจ้าจะเป็นศัตรูกับข้าหรือ” ความหมายของเอริแอดเน่คือ นางต้องการเป็นราชินีของเฟรธูริน มิใช่ริวอร์นอร์

“เราเป็นสหายกันมิใช่หรือ” ริวอร์นอร์บีบคางนาง แล้วบังคับนางให้เข้ามาใกล้ขึ้น

พอนางโกรธจนหน้าแดงจัด ทำท่าจะอ้าปากต่อว่าต่อขานอีก เขาก็จุมพิตนาง

ริมฝีปากเย็นพบกัน ทำให้กันและกันอุ่นขึ้น ริวอร์นอร์โอบเอวแบบบางของเอริแอดเน่ ขณะเอียงใบหน้าเพิ่มความลึกล้ำให้รสจูบ

ท่านหญิงทุบอกกว้าง แล้วเปลี่ยนไปกำเสื้อของเขาแน่น...นางไม่พอใจ ทว่าไม่มีความรังเกียจ

ริวอร์นอร์กุมมือนางซึ่งยึดเสื้อตนไว้ จุมพิตอ่อนหวานขึ้น เกือบจะเหมือนการเว้าวอนขอคืนดี

“อิซิลดาร์เตือนมาหรือ” เจ้าชายที่สองผละจูบให้นางได้หายใจ การที่เอริแอดเน่หงุดหงิดคาลิเธียลไม่ใช่เพราะโดนสอนสั่งอย่างเดียว แต่เพราะ ‘เรื่องที่โดนสอนสั่ง’ เกี่ยวข้องกับการขึ้นเป็นราชินีของนาง ท่านหญิงพระคู่หมั้นต้องปรีชาสามารถ บริสุทธิ์ผุดผ่อง และเพียบพร้อม จะให้เกิดข่าวซุบซิบนินทาไม่ได้ ยิ่งเป็นข่าวที่สามารถคิดได้หลายแง่เช่นว่า

‘เสน่ห์ของท่านหญิงทำให้ทั้งสตรีและบุรุษแห่งรูเมเรียร์ประทับใจ โดยเฉพาะบุรุษผู้เป็นหน่อเนื้อกษัตริย์เฉกราชาเฟรธูรินและเจ้าชายริวอร์นอร์ โดยเฉพาะเจ้าชายริวอร์นอร์ซึ่งโปรดให้ท่านหญิงเป็นเพื่อนคุยเสมอ’

“ไม่ ข้าเตือนตัวเอง” ใบหูของเอริแอดเน่ลู่ลง นางไม่ยอมรับว่าถูกกดดันจากบ้านเกิด โดยผู้นำตระกูลอิซิลดาร์ในเวลานี้ หรือก็คือท่านย่าของนาง นางวางมือบนใบหน้าคมเข้มของริวอร์นอร์ สัมผัสคล้ายจะปลอบ “ที่นี่ไม่ใช่สนามรบ แต่เป็นราชวังแห่งรูเมเรียร์...” นางทิ้งประโยคต่อไปให้ริวอร์นอร์คิดเองว่า ‘เรื่องเมื่อครู่ระหว่างเจ้ากับข้าไม่สมควร’

อย่างไรก็ดี เรื่องที่ริวอร์นอร์กลับจากสนามรบแล้วให้ไมตรีแก่เหล่าท่านหญิงตระกูลสูงไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เตียงของเจ้าชายที่สองไม่เคยขาดไออุ่นจากสตรี

และนั่นทำให้นางถือว่าเขารับทราบข้อตกลง ‘แยกจากกัน’ โดยไม่ต้องพูดให้ชัดเจน

“เจ้าซื้อใจขุนนางได้กี่ตระกูลแล้ว พวกเขาใช้บุตรีกรุยทาง เจ้าก็ใช้พวกนาง แต่ข้าขอแนะนำ ไม่มีตระกูลใดเหมาะสมกับเจ้าเท่าอิซิลดาร์ เมื่อข้าสมรสกับท่านเฟรธูรินแล้ว ทางนั้นจะเสนอท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ที่คู่ควรกับเจ้า”

นามของเฟรธูรินออกจากปากเอริแอดเน่ได้ครู่เดียว ปากของริวอร์นอร์ก็โน้มลงมาปิดปากนางอีกรอบ คราวนี้ลิ้นเกี่ยวกระหวัด ร่างกายแนบชิด ร่างของนางถูกรั้งเข้าแนบแผ่นอกกว้างของเขา ไออุ่นแผ่ซ่านให้แก่กันและกัน เป็นการกระทำอันอุกอาจและเสี่ยงต่อการถูกลงโทษด้วยกันทั้งคู่

ทว่าเอริแอดเน่ประสานมือกับริวอร์นอร์ซึ่งกุมมือนาง นางหลับตา แตะลิ้นตอบ

มันจะเป็นครั้งสุดท้าย...ทั้งคู่บอกใจตัวเองเช่นนั้นเสมอมา


—————————————————————————

A/N ขึ้นบทใหม่ จะมีการเล่าเรื่องในอดีตเยอะขึ้น โคลด์ ซิกฟรีด มาลแกธไม่ได้หายนะคะ แต่ขอพื้นที่เล่าเรื่องอีกส่วนก่อนเนอะ -3-


ช่วงนี้ขอลงเป็นวันเว้นวันเช่นเดิมค่ะ โดยจะพยายามให้แต่ละบทมีความยาวมากกว่าปกติ

พบกันครั้งต่อไปวันที่ 18 พ.ค. 60


ป.ล. อยากจับซิกฟรีดน้อยมาขยี้ขยำ หอมแก้มแรงๆ อุ้มๆๆ แงๆๆๆ

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (1) [16/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 16-05-2017 17:53:37
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (1) [16/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-05-2017 18:17:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (1) [16/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 16-05-2017 18:55:22
แซ่บ!
ทำไมตัวละครเรื่องนี้ซับซ้อนอย่างนี้
 :ling1: :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (1) [16/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 16-05-2017 19:31:17
อีรุงตุงนังเหลือเกินนนน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (1) [16/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 16-05-2017 22:14:32
เห้อ ดำมืดไปหมดกะอดีตเนี่ย
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (1) [16/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 16-05-2017 22:29:26
55555 ขอสต๊าฟซิกฟรีดตอนเป็นเอลฟ์ตัวน้อยไว้ได้ไหม ทำไมขี้อ้อนขี้ประจบเบอร์นี้
รีวอเนอร์สตอเบอรี่กะน้องชายมาก แสร้างว่าดี ที่แท้ร้ายกาจจจจ :ling3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (1) [16/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 17-05-2017 00:14:18
อาเลธน่าฟัดยิ่งนัก

นี่คือจริง ๆ หญิงร้ายรักชายร้ายมาก่อน?
แต่นางต้องการเป็นราชินี และเพื่อตำแหน่งนางต้องแต่งกับเฟรธูริน
รักลับ ๆ (หรืออาจจะไม่ลับ) ก็ลเยต้องจบ

แต่นะ ของลักลอบกิน ลักลอบทำ มันเย้ายวนเสมอแหละ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (1) [16/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 17-05-2017 19:15:50
 :mew5: อะไรของนางนี่ หว่านไปเรื่อยเหรอ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (2) [18/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 18-05-2017 08:44:05
บทที่ 22 : ฟันเฟือง (2)



สิบสามปีก่อน สุสานกษัตริย์แห่งเอลฟ์ อาร์กรีเจีย

หลังเหตุการณ์ในคืนลอบปลงพระชนม์คิงเฟรธูริน อาร์ธีออน รูเมเรียร์ ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วแผ่นดินรูเมเรียร์ว่า ท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องพักรักษาตัวภายใต้การดูแลของแพทย์หลวงอย่างใกล้ชิด ไม่อนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยม แม้กระทั่งเจ้าชายริวอร์นอร์ที่สนิทสนมกัน

หนึ่งเดือนให้หลัง พิธีศพของอดีตราชาถูกจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติ ทว่าท่านหญิงเอริแอดเน่ซึ่งอาการดีขึ้นแล้วก็ยังไม่ปรากฏตัวจนวันสุดท้ายของพิธีศพ แต่ไม่มีผู้ใดเอ่ยตำหนินางที่ไม่มาร่วมงาน เพราะต่างเห็นใจในชะตาอาภัพ

ความอาภัพของนางมิใช่แค่การบาดเจ็บสาหัสและสูญเสียชายคนรัก แต่เพราะคืนวันที่เกิดเหตุการณ์สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของแผ่นดินนั้น คือวันอภิเษกสมรสของนางเฉกกัน

สิ้นพิธีอันแสนอาดูร เจ้าชายริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์ทรงประสงค์เข้าเยี่ยมอาการของสหายในวัยเยาว์ ข้ารับใช้จากอิซิลดาร์พยายามกันพระองค์ไว้ ด้วยรับคำสั่งจากท่านหญิง ทว่าสิ่งใดซึ่งเจ้าชายที่สองทรงประสงค์แล้ว ก็ย่อมเป็นไปตามนั้น พระองค์ทรงกดดันเหล่าข้าหลวงสตรี และทรงเข้าเยี่ยมท่านหญิงจนได้

ทว่าภายในห้องพักของท่านหญิงเอริแอดเน่กลับว่างเปล่า

ข้าหลวงสตรีที่ห้ามเจ้าชายไว้ก็ตกตะลึงเฉกกัน พวกนางเป็นข้ารับใช้ผู้ภักดีของผู้นำตระกูลอิซิลดาร์คนปัจจุบัน ท่านหญิงเฮสเทียนา--พระอัยกีของท่านหญิงเอริแอดเน่

ข้าหลวงสตรีเหล่านี้ถูกส่งมารับใช้ใกล้ชิดตั้งแต่ท่านหญิงเอริแอดเน่พักรักษาตัว และเฝ้าจับตามองนางราวกับเป็นผู้คุม

 

“พวกเจ้าเป็นใคร เหตุใดจึงปิดบังใบหน้าเข้ามาในเขตหวงห้าม!” ทหารชั้นสูงสองนายซึ่งมีหน้าที่เฝ้าพระศพซึ่งถูกบรรจุลงนาวาพิธีแล้วกั้นหอกต่อหน้าสตรีกลุ่มหนึ่ง พวกนางมากันสามคน สองคนด้านหน้าสวมฮู้ดดำและแต่งกายอย่างทหารสตรีของแคว้นอิซิลดาร์ ซึ่งติดตราบ่งบอกยศตำแหน่งสำคัญ อีกหนึ่งนางนั้นซ่อนใบหน้าและร่างกายอยู่ใต้ฮู้ดเสื้อคลุมสีดำยาวกรอมพื้น

เอลฟ์สตรีผมสีฟ้าที่อยู่หน้าสุดแตะด้ามอาวุธดาบตรงเอว ทว่าถูกเอลฟ์สตรีที่อยู่ข้างกันแตะมือห้ามไว้ ผู้ห้ามมีผมสีเขียวอ่อน นางลดฮู้ดลงและเอ่ยว่า “นี่คือท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ ท่านมาเพื่อวางดอกไม้อำลาในเรือส่งพระศพของอดีตราชาเฟรธูริน”

นางแสดงตราตระกูลอิซิลดาร์เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันตัวตน

ทหารยามจึงถวายความเคารพสูงสุดและเปิดทางให้ท่านหญิงผ่านเข้าไปได้ สายตาของพวกมันหลุบต่ำ สีหน้าหมองเศร้า เห็นชัดว่าเสียใจอย่างไม่อาจเอ่ย

องครักษ์สตรีทั้งสองมิได้เดินตามเข้าไปด้านในด้วย พวกนางปล่อยให้ท่านหญิงเอริแอดเน่ได้ใช้เวลาเพียงลำพัง แม้จะเกิดเหตุการณ์อกสั่นขวัญแขวนก่อนหน้าจนพวกนางไม่สมควรละสายตาจากท่านหญิง แต่เรื่องนี้ถือเป็นข้อยกเว้น

เฟรธูริน...พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ซึ่งนำความหวังแห่งสันติมาให้ปวงชน เอลฟ์ ดาร์กเอลฟ์ ทุกเผ่าพันธุ์จักอยู่ร่วมแผ่นดินกันอย่างสงบสุข

 

“แต่เก่าก่อนดาร์กเอลฟ์เป็นชนอิสระ บรรพบุรุษของเราไปตีแผ่นดินเขา เอาเขามาเป็นทาส เราไม่ได้เมตตาเขาดอก เราเพียงคืนสิ่งเดิมที่เขาเป็นเจ้าของ ‘อิสรภาพ’ ”

 

ทว่าพระองค์สิ้นพระชนม์เพราะดาร์กเอลฟ์

นึกถึงคำพูดของท่านเฟรธูรินไปพลาง ก้าวเท้าไปพลาง เอริแอดเน่รู้สึกเหมือนเดินอยู่ในความฝัน พื้นที่เหยียบคล้ายไม่มีจริง นางจำไม่ได้ว่าตนเดินไปหานาวาบรรจุพระศพด้วยความรู้สึกอย่างไร หรือดอกไม้สีขาวอมทองที่ถืออยู่ถูกกำแน่นจนก้านช้ำแค่ไหน

นางขึ้นเรืออันโอ่อ่าซึ่งสร้างจากไม้หอมสูงค่าสำหรับกษัตริย์และราชวงศ์ ครู่หนึ่งก็หยุดยืนมองไปรอบตัว ดูโดดเดี่ยวและหลงทาง ด้านที่นางเดินเข้ามาคือทางเข้าท่าเรือพิธีการ อีกด้านหนึ่งคือห้วงน้ำสีครามเข้มสะท้อนแสงตะวันลับฟ้าอันหดหู่สีแสดส้ม

พื้นเรือไม้ลำใหญ่นิ่งสงบ ในน้ำไม่มีคลื่นแม้สักนิด แทบเท้านางคือมวลดอกไม้ไว้อาลัยแก่กษัตริย์ จากเหล่าขุนนางและชนชั้นสูงทุกดินแดนที่เป็นมิตรกับรูเมเรียร์

เอริแอดเน่เหม่อมองไปทางกลางเรือ ซึ่งมีเรือไม้แกะสลักอย่างวิจิตรรจนาลำเล็ก บรรจุร่างของท่านเฟรธูริน เมื่อถึงฤกษ์อันสมควร เรือลำน้อยจะได้รับการล่องไปตามนาวา ตรงขึ้นเหนือไปยังแผ่นดินนิรันดร์อันเป็นที่สถิตย์แห่งบิดาและมารดานภา ทว่าก่อนที่มารดานทีจะพาผู้ล่วงลับไปยังดินแดนในคติ คู่ครอง บุตรและบุตรี มารดาและบิดา ไปจนถึงพี่น้องร่วมสายเลือดจะได้รับเกียรติให้ยิงธนูเพลิงสีครามไปยังลำเรือส่งพระศพ เพื่อชำระและแยกวิญญาณบริสุทธิ์ออกจากร่างซึ่งจะผุผังไปตามกาล 

พิธีศพแก่กษัตริย์แห่งรูเมเรียร์จัดเช่นนี้

เอริแอดเน่ทรุดลงต่อหน้าร่างของท่านเฟรธูริน นางมองมือของเขา เอื้อมไปกุมไว้ และระเบิดเสียงร้องไห้คร่ำครวญอันน่าเวทนา

ดอกไม้สีขาวอมทองที่นำมาตกอยู่ข้างเรือเล็ก ขณะเอริแอดเน่กุมมือของอดีตกษัตริย์

“ท่านพี่...ท่านพี่” นางเรียกเหมือนคนจมน้ำร้องขอความช่วยเหลือ แนบแก้มลงกับหลังมือของผู้ไร้ชีวิต “อย่าทิ้งข้า…”

ท่านบอกจะอยู่กับข้า ปกป้องข้าจากความเลวร้ายทั้งมวลในโลกนี้ รวมถึงความเลวทรามต่ำช้าของตัวเองข้าเองใช่หรือไม่

เอริแอดเน่กรีดร้องในใจ หากนางซ่อนตัวอยู่ในเรือลำนี้และลอยไปกับท่านเฟรธูรินได้จะดีสักแค่ไหน

พระพักตร์ของราชาผู้เป็นที่รักช่างสงบ มองผาดเพ่งเหมือนพระองค์เพียงบรรทมในห้วงนิทราลึก ทว่าร่างกายที่เคยอบอุ่น พระกรแข็งแรงที่เคยโอบกอดนางกลับเย็นชืด ตอกย้ำว่าไม่มีอีกแล้ว...ราชาแห่งสันติภาพ

เอริแอดเน่ไม่กล้ามองหน้าคนตาย

นางอยากจดจำเขาในภาพยามมีชีวิต

แต่หากไม่มองตอนนี้ ต่อไปก็ไม่มีโอกาสแล้วนะ เอริแอดเน่กัดฟัน ทว่าอย่างไรก็ทำใจเงยหน้าไม่ได้เสียที

ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ได้ความเป็นส่วนตัวเพียงครู่ บุรุษแห่งราชวงศ์รูเมเรียร์อีกพระองค์ก็ปรากฏกายพร้อมดอกไม้สีขาวดอกเล็กราวกับหยดน้ำนม

นั่นทำให้นางหยุดสะอื้นกะทันหัน ร่างเล็กแบบบางในเสื้อคลุมไว้ทุกข์คู้ลง ดูทรมาน กระนั้น ในความเปราะบางเหมือนเศษแก้วแหลกสลายก็ไม่ละความแหลมคม

นางเหลือบตามองดอกไม้ของอีกฝ่ายด้วยสายตาหยามเหยียด ทั้งเกลียดและชิงชัง

“ท่านเฟรธูรินคงไม่โปรดดอกไม้ของเจ้ากระมัง”

เอริแอดเน่รู้สึกขำ ป่านนี้แล้วนางยังต้องปั้นหน้าพูดจากับ ‘มัน’ อย่างท่านหญิงสูงศักดิ์สนทนากับเจ้าชายเชื้อพระวงศ์

ทั้งที่ต่างเป็นเดรัจฉานด้วยกันทั้งคู่!

ดวงตาอาฆาตแวววาวกับร่างกายสั่นเทิ้มทำให้นางดูคล้ายภูตพรายที่พร้อมเลือนหายไปในแสงหม่นเศร้าสีม่วง แดง คราม และทองของยามเย็น

ริวอร์นอร์ไม่พูดอะไร ใบหน้าของเจ้าชายรูเมเรียร์ขรึมจนน่ากลัว เขาวางดอกไม้บนพระศพ ทำความเคารพแล้วถอยออกมา

เจ้าชายหนุ่มทรงอาภรณ์สีดำสนิท แม้แต่ไหมปักยังเป็นสีดำ พระองค์ดูคล้ายบิดาแห่งความตายที่เหล่าศิลปินวาดขึ้นตามจินตนาการ

เอริแอดเน่กัดปาก กว่านางจะลอบมาที่นี่โดยไม่มีผู้ใดทราบนั้นไม่ง่ายเลย นางอยากใช้เวลาบอกลาพี่ชายที่นางรักที่สุดเป็นครั้งสุดท้ายโดยไม่มีใครรบกวน

พี่ชายหรือ...เอริแอดเน่นึกสาปแช่งตัวเอง ท่านเฟรธูรินควรเป็นคนรักของข้า มิใช่พี่ชาย!

การนั่งเป็นเวลานานทำให้นางรู้สึกเจ็บแผลที่หน้าท้องและทรวงอก ตรงรอยกรีดซึ่งถูกฝากไว้เมื่อหนึ่งเดือนก่อน...ในคืนอภิเษกสมรส แม้บาดแผลจะสมานตัวแล้ว แต่ผิวเนื้ออ่อนที่เพิ่งเชื่อมกันกลับมีความเจ็บหลอนที่ทำให้นางรู้สึกเจ็บแสบเหมือนย้อนกลับไปอยู่ในช่วงเวลานั้น

การปรากฏตัวของริวอร์นอร์ยิ่งทำให้นางขยะแขยงจนอยากอาเจียน นางยินดีกุมมือไร้ไออุ่นและกลายเป็นส่วนหนึ่งของห้วงนทีไปพร้อมกับท่านเฟรธูรินดีกว่าต้องมองหน้ามัน พูดจากับมัน มองมันเสวยราชย์บนบัลลังก์ที่ชิงมาด้วยการสังเวยชีวิตของพี่ชายตน!

“โกรธแค้นหรือ” ริวอร์นอร์เอ่ยโดนสายตายังจับจ้องพระศพของอดีตราชา “ยามเราโกรธแค้น เราจะทำให้มันผู้นั้นตายทั้งเป็น” ประกายตาสีแดงวาวโรจน์อย่างลึกลับ มืดดำ

"เหมือนที่เจ้าทำกับข้าน่ะรึ" เอริแอดเน่ถามเสียงเบาหวิว เหงื่อท่วมใบหน้า นางไม่ใส่ใจคำตอบนัก เพราะรู้ความจริงดีอยู่แล้ว

“เจ้า?” ริวอร์นอร์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เบื้องหน้าเป็นนทีใต้แสงริบหรี่จนดูเป็นสีดำรัตติกาล

“เจ้ามีอะไรให้เราโกรธแค้น”

เอริแอดเน่อยากหัวเราะและปรบมือให้แก่การตีสองหน้านี้

“สัตว์นรก...” แล้วนางก็หัวเราะ...ทั้งร้องไห้และหัวเราะ ด้วยไม่รู้ผีนรกตนใดดลใจนางให้พูดสิ่งที่คิดออกมาตรงๆ

แต่การสาปแช่งริวอร์นอร์เป็นสิ่งดีที่สุด วิเศษที่สุด ทำให้นางเบิกบานใจได้มากที่สุดในนรกบนดินแห่งนี้

“สัตว์นรกอย่างเจ้าไม่สมควรเกิดมา” เอริแอดเน่รับรู้ถึงความชังดำมืดล้นปรี่อยู่ในอก ถึงอย่างนั้น นางไม่ได้ตะคอกหรือขึ้นเสียง แค่เค้นเสียงพูดจากลำคอตีบตัน มันเบาหวิว แต่ชัดเจนและเต็มไปด้วยความมุ่งร้าย

ดุจคำสาปของมารดานภาที่เอ่ยต่อบิดานภาและน้องสาวของตน

ริวอร์นอร์เหลือบสายตามาทางเอริแอดเน่ เขามองใบหน้าของนาง จากนั้นมองท้อง ก่อนจะกลับมาที่ใบหน้าอีก ดวงตาสีโลหิตฉายอารมณ์หนึ่งชัดเจน เป็นโทสะอันคลั่งบ้าดั่งพายุเพลิง

“เจ้าผิดหวังที่ข้ายังรอด” เอริแอดเน่ดึงเสื้อคลุมปิดตัวเอง

ว่าที่กษัตริย์แห่งรูเมเรียร์ประสานมือไพล่หลัง ร่างองอาจหันมายังท่านหญิงผู้สิริโฉม ประโยคที่จะเอ่ยต่อไปนี้ เป็นประโยคที่เอริแอดเน่ไม่มีวันลืม

“เราทำตามที่ลั่นวาจา เอริแอดเน่...เจ้าจักเป็นราชินีแห่งรูเมเรียร์”

ในวัยเยาว์ ครั้งที่ยังเป็นสหายสนิทกัน ริวอร์นอร์ชอบแกล้งเอริแอดเน่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องที่นางอยากเป็นราชินี บ้างหยอกนางว่ากระโดกกระเดก บ้างเย้านางเรื่องความสามารถในการขับร้องที่เป็นรองท่านหญิงอื่น ถ้าเอริแอดเน่ไม่โกรธตาเขียว ก็จะเชิดใส่แล้วบอกว่าอย่างไรก็จะเป็นราชินีของท่านพี่เฟรธูริน

ยามนั้น ริวอร์นอร์ตอบว่า

 

“เจ้าเป็นราชินีให้เราก็ได้”

 

การล้อเล่นที่แสนอันตราย...ริวอร์นอร์เอ่ยเหมือนจะชิงบัลลังก์จากเฟรธูริน แต่อย่างไรก็เป็นเพียงการล้อเล่น เอริแอดเน่จึงเพียงหัวเราะและจุปากเตือนเท่านั้น

ในวันนี้ การล้อเล่นเป็นจริงแล้ว

เอริแอดเน่ไม่สามารถห้ามความโศกเศร้าที่เข้ายึดครองใบหน้า มันยึดหัวคิ้วให้ขมวดเข้าหากัน หางตาตกลง จมูกเชิดขึ้น ริมฝีปากบิดเบี้ยวและสั่น ทำให้สีหน้าของนางทั้งสิ้นหวังและโกรธา หยดน้ำตาพร่างพรูเปื้อนจมูกเปื้อนปาก ไม่เหลือเค้าของท่านหญิงทรงศักดิ์ นางเปล่งเสียงที่อยู่ในใจว่า

“กลับนรกไปซะ ริวอร์นอร์!”

พื้นน้ำโดยรอบตอบรับจิตใจอันพังทลายของนาง พลังเวทที่หลุดออกมาจากร่างเล็กๆ มหาศาลขนาดทำให้ห้วงน้ำไหวสะเทือน เรือพระที่นั่งสู่โลกหลังความตายของอดีตกษัตริย์โคลงเคลงไปมา

สิ่งที่นางจะทำต่อไปนี้เป็นความคิดชั่วแล่นที่ไร้สติเอามากๆ แต่สติของนางก็ใช่ว่าจะมีค่านักในช่วงเวลานี้

เอริแอดเน่กางฝ่ามือ ใช้เวทลมฟาดใส่กลางอกริวอร์นอร์ หวังผลักเขาให้ตกจากเรือ เชือกผูกเรือถูกตัดจากเสาแกะสลักงามวิจิตรด้วยคลื่นน้ำคมกริบ

อิสระที่อยู่แค่เอื้อมทำให้นางหนาวสันหลังด้วยความปรีดา

“ข้าเลือกเองว่าใครจักเป็นราชาของข้า” เอริแอดเน่กล่าว นางลุกขึ้น ยืดตัวยืนตรง ซัดเวทลมถี่หนักให้อีกฝ่ายถอยไปอีกก้าว อีกก้าว และอีกก้าว!

นางไม่มีดาบเวทอยู่ในมือ แต่เพียงเท่านี้พลังเวทของนางก็เฉือนเสื้อเนื้อหนาและผิวเนื้อของเจ้าชายที่สองออกเป็นริ้ว

ท่านหญิงเหมือนลืมคิดไปแล้วว่าตนกำลังทำความผิดฐานรบกวนนาวาพิธีของอดีตกษัตริย์และทำร้ายเชื้อพระวงศ์สูงสุด หรือมากกว่านั้นคือการหมิ่นเกียรติอดีตกษัตริย์และคิดขโมยพระศพ

ถ้าใครมาเห็นนางในเวลานี้คงรู้สึกเศร้าและได้แต่กล่าวว่า ‘ท่านหญิงพระคู่หมั้นเสียใจจนเสียสติ’

ริวอร์นอร์ไม่หลบ เขาถูกซัดถอย แต่ขาและเท้ายังหยัดยืนได้ จนเอริแอดเน่หนักมือ เขาจึงยกมือขึ้นคล้ายห้าม ก่อนจะปัดมือไปทางอื่น ลมถูกพัดเปลี่ยนทิศ ไปถูกน้ำจนเกิดคลื่นไหวสะเทือน

เจ้าชายที่สองทรงสวมแหวนเวทหลายวง หนึ่งในนั้นเป็นเวทปกปักษ์ มันทำหน้าที่เหมือนโล่ ปกป้องว่าที่ราชายามโบกพระหัตถ์ปัดลมอันเกิดจากเวท

“ทหาร” เขาเอ่ยเรียบๆ “ปกป้องพระศพ และปกป้องท่านหญิงเอริแอดเน่จากตัวนางเอง”

เลือดไหลจากบาดแผล ย้อมอาภรณ์สีดำให้เข้มขึ้น ริวอร์นอร์หงายมือแล้วกำ จากนั้นดึงกลับเข้าหาตัว คลื่นน้ำเปลี่ยนกระแส พัดเรือพระศพกลับเข้าฝั่ง

“ท่านหญิง!” องครักษ์สตรีจากอิซิลดาร์รุดเข้ามาตั้งแต่ได้ยินเสียงการใช้เวท ประกอบกับเสียงหัวเราะและร้องไห้อันหดหู่ของเจ้านายแล้ว แต่พวกนางถูกองครักษ์ของเจ้าชายริวอร์นอร์และทหารยามขัดขวางไว้ เพราะไม่รู้จะเข้าไปช่วยผู้เป็นนายทำร้ายเจ้าชายริวอร์นอร์หรือไม่

ทหารเอลฟ์สองนายกระโดดขึ้นเรือ ความชุลมุนบังเกิดเมื่อมือของใครคนหนึ่งจับท่อนแขนของท่านหญิง ทำให้นางชะงักค้าง จากนั้นก็กรีดร้อง

“อ๊า!!!” เอริแอดเน่หวาดกลัวจับจิต สายลมพัดเส้นผมสีทองยาวสลวยปลิวขึ้น ชายเสื้อคลุมกับปลายเท้าของนางยกลอย เวทลมอันคมเหมือนเคียวเฉือนร่างของมันผู้นั้นอย่างไม่ปรานีขณะที่ร่างของผู้ใช้เวทร่วงพับ

“ให้สตรีดูแลนาง” ริวอร์นอร์เว้นระยะห่างจากเอริแอดเน่ สีหน้าเรียบนิ่งยิ่งกว่าผู้ตาย ว่าที่กษัตริย์หนุ่มสั่งทหารด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น

สององครักษ์สตรีพุ่งขึ้นเรือ พวกนางเข้าบังร่างของเอริแอดเน่พลางขอร้องไม่ให้นางละเลงเลือดบนนาวาศักดิ์สิทธิ์มากไปกว่านี้

ไม่สงบ จะสงบได้อย่างไร ท่านหญิงเอริแอดเน่คลั่งไปเสียแล้ว พวกนางคิด

ริวอร์นอร์ไม่ละสายตาแข็งกร้าวไปจากเอริแอดเน่ “ดูแลท่านหญิงของพวกเจ้าเถิด อย่าให้เอิกเกริกจนอิซิลดาร์ทราบเรื่องเลย”

องครักษ์แต่ละนางมองเจ้าชายริวอร์นอร์ด้วยความแค้นเคืองปนหวาดเกรง

“ท่านหญิง ท่านเฟรธูรินอยู่ที่นี่” องค์รักษ์สาวผมสีฟ้ายึดร่างนายไว้พลางกระซิบปลอบโยน

“ท่านพี่...เฟรธูริน” เอริแอดเน่หันไปมองพระศพ นางสะอื้นฮักๆ จนตัวโยนแล้วโงนเงนลงในอ้อมแขนขององครักษ์สตรี นางปิดตาครู่เดียวก็หมดสติไปอย่างอ่อนล้า เพราะฝืนใช้พลังเวทจนทำให้บาดแผลปริฉีก เสียเลือดไปมาก

ริวอร์นอร์มองสตรีสูงศักดิ์ที่แหลกสลาย นัยน์ตาคล้ายมีอารมณ์อ่อนไหวตีขึ้น

“ดูแลราชินีของเราให้ดี เราเชื่อว่าพวกเจ้าไม่อยากเป็นผีในแผ่นดินอื่น”

องครักษ์สตรีทั้งสองคุกเข่ารับคำบัญชา แต่แววตาต่อต้านอย่างหนัก เพราะผู้ที่ทำให้ท่านหญิงสิ้นหวังจนแทบกลายเป็นบ้าก็คือท่านมิใช่หรือ

บุรุษไร้น้ำใจเช่นท่าน ยังกล้าบอกให้ดูแลท่านหญิงให้ดี!

—————————————————————————

A/N ยังคงอยู่ในช่วงอดีตค่ะ เรามีเรื่องอยากคุยเปิดอก หลายคนเคยคอมเมนต์ว่า ไม่เข้าใจว่าเอริแอดเน่คิดอะไรอยู่ และจะทำอะไรต่อไป เรายอมรับว่าเราไม่ได้เขียน PoV ของเอริแอดเน่ตั้งแต่แรก เพราะอยากให้น้ำหนักกับตัวละครหลักของภาคนี้ คือโคลด์ ซิกฟรีด และมาลแกธ ในช่วง 80-90% แรกของเรื่อง โดยวางแผนเก็บเอริแอดเน่ไว้เป็นตัวละครที่จะมาตอนท้ายเรื่อง และในขณะนี้ คุณจะได้รู้จักตัวละครตัวนี้มากขึ้นค่ะ


ถามว่ารู้สึกไม่มั่นใจที่วางแผนการเขียนแบบนี้ไหม ตอบตรงๆ คือ เราไม่มั่นใจค่ะ ตอนนี้ก็ยังไม่มั่นใจอยู่ เพราะคนไม่ชอบเอริแอดเน่มีเยอะ คนที่ชอบมีอยู่ แต่เป็นส่วนน้อยกว่า แต่เราก็ยังเลือกเขียนเรื่องของเอริแอดเน่ เพราะเราถาม-ตอบกับตัวเองหลายครั้ง และสรุปได้ว่า เรื่องราวของ Elven Almanac เป็นภาพรวมขนาดใหญ่ที่เกิดจากเหตุการณ์ในชีวิตของตัวละครหลายคนมารวมกัน หากขาดไปส่วนใดส่วนหนึ่ง เรื่องนี้คงไม่อาจสมบูรณ์ได้ และนั่นจะทำให้เราเสียใจยิ่งกว่าที่ไม่ได้เขียนสิ่งที่อยากเขียนและเลี่ยงไปเอาใจตลาด เราจึงตัดสินใจเขียนโดยยอมรับความเสี่ยงว่าอาจมีคนไม่ชอบใจเนื้อเรื่องจนเลิกอ่านกลางคัน


อย่างไรก็ตาม ในฐานะคนเขียน เรารู้สึกรักและขอบคุณคนอ่านอยู่เสมอ เพราะคุณอ่านและบอกว่าชอบ คอมเมนต์ให้กำลังใจ เราจึงมีแรงเขียน ยิ่งหากคุณอ่านมาถึง Talk นี้ แปลว่าคุณติดตามมานานแล้ว เราจึงอยากขอว่าหากคุณชอบนิยายชุดนี้ และสามารถ (แม้เพียงเล็กน้อย) ก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่างเรื่องคู่รักเพศเดียวกันหรือคู่รักต่างเพศ เราอยากให้คุณอ่านต่อ และขอรับรองว่าจะเขียนให้ดีที่สุด ด้วยความสามารถของเราในขณะนี้และในอนาคตค่ะ :)


พบกันครั้งต่อไปวันที่ 20 พ.ค. 60 นะคะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (2) [18/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 18-05-2017 11:17:44
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (2) [18/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-05-2017 11:19:17
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (2) [18/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 18-05-2017 11:48:00
ทรมานแทนเห้อออ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (2) [18/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-05-2017 18:39:44
อาเลธน่าฟัดยิ่งนัก

นี่คือจริง ๆ หญิงร้ายรักชายร้ายมาก่อน?
แต่นางต้องการเป็นราชินี และเพื่อตำแหน่งนางต้องแต่งกับเฟรธูริน
รักลับ ๆ (หรืออาจจะไม่ลับ) ก็เลยต้องจบ

แต่นะ ของลักลอบกิน ลักลอบทำ มันเย้ายวนเสมอแหละ

มันต้องคู่กันอยู่แล้ว  หญิงร้าย ชายเลว สมกันดี
เอริแอดเน่ร้าย มีคู่หมั้นอยู่แล้ว แต่ลอบเล่นรักกับว่าที่น้องสามี
ริวอร์นอร์ ก็เลว เล่นรักกับท่านหญิงเอริแอดเน่ ว่าที่พี่สะใภ้
ก็คิดอยู่ ริวอร์นอร์ คงไม่ยุ่งกับหญิงเย็นชาแน่ๆ
ทั้งคู่คงดุเด็ดเผ็ดร้อน ถึงใจ เลยต่างก็คิดว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย
โอ้....ครั้งสุดท้ายมาสองร้อยปีแล้ว
คาลิเธียล ฉลาด สายตาไกล
มองออก ถึงความเลวที่ซุกซ่อนภายใต้ท่าทีสง่างามของเอริแอดเน่ สุดยอดดดด ยกย่อง  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

สุดท้ายราชาเฟรธูริน ก็เป็นแค่พี่ชายของเอริแอดเน่ ไม่ได้เป็นคนรัก
ยังไงเอริแอดเน่ ก็ได้เป็นราชินี ทั้งของเฟรธูริน กับริวอร์นอร์
แล้วจะแค้นริวอร์นอร์ทำไม ก็ร่วมมือ(ทำรัก)กันมายาวนานเป้นสองร้อยปี
หรืออยากเป็นเฉพาะราชินีของเฟรธูรินเท่านั้น
       :L1::L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (2) [18/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 19-05-2017 23:33:40
ฉากอลังการแค่นึกภาพตามก็สุดยอดแล้ว555

แต่ก็ไม่อาจลดความอึดอัดที่มาจากอารมณ์ของตัวละครได้เลย

ตอนที่แล้วเหมือนท่านหญิงจะดูมีใจให้ชายสองเลย

สรุปแล้วนางรักใครกันแน่

ฮือ สงสารนาง#กอด :monkeysad:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 22 : (2) [18/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 20-05-2017 07:23:53
ก็นึกอยู่ว่า นางคงจะไม่ร้ายมาแต่แรก

ดูคล้ายนางรักเฟรธูรินอย่างพี่ชาย แต่กับริวอนอร์คือสเน่หาอย่างคู่รัก

แต่กระนั้นก็ชังความเลวอันแสนบิดเบี้ยวในจิตใจของตัวเองและชู้รัก
ดังนั้นพี่ชายผู้โอบอ้อมอารีจึงเป็นทางเดียวที่จะทำให้นางเป็นราชินีอย่างเต็มภาคภูมิได้ (สามารถป้องกันนางจากจิตใจเลวร้ายของตน)

ว่าแต่ คิงตายอย่างไร ใครฆ่าหรือฆ่าแล้วป้ายความผิดให้ใคร อะไรเป็นเหตุจูงใจให้ลงมือ ใครกรีดหน้าท้องนาง? หรือนางมีครรภ์? หรือทำเพื่อให้นางไม่อาจมีครรภ์?

ตะกายข้างฝารอต่อไป

ปล. ถึงคุณนักเขียนทั้งคู่ นี่เป็นหนึ่งในนิยายที่ประทับใจที่สุดเรื่องหนึ่งของฉันเลย ที่เคยบอกว่า เลอค่า คือตามนั้นจริง ๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (1) [20/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 20-05-2017 09:03:57
บทที่ 23 : เกาะไร้นาม (1)

ปัจจุบัน ณ เกาะไร้นาม เกาะในทะเลสาบขนาดใหญ่ทางทิศตะวันออกของแผ่นดินรูเมเรียร์

เทียบกันแล้ว ตัวเกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ไกลจากแผ่นดินรูเมเรียร์แต่ใกล้แผ่นดินมนุษย์ จึงเป็นที่รู้จักในเผ่าพันธุ์มนุษย์มากกว่าเอลฟ์ และถ้าหากไม่ใช่นักเดินเรือพื้นถิ่น มองผาดเผินจากภายนอกคงนึกว่าเป็นเกาะที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน เนื่องเพราะชายหาดมีทรายขาวและใสยิ่งกว่าเกล็ดแก้ว แต่ความจริงแล้วเป็นเกาะอันตราย ลึกเข้าไปจะเป็นที่อาศัยของสัตว์ประหลาดดุร้ายรวมไปถึงพืชพันธุ์มีพิษ

แต่เดิมเกาะไร้นามร้างผู้คน อาจมีนักล่าของป่าราคาแพงบ้างแต่ก็ไม่มากนัก ทว่าไม่นานมานี้เกาะเริ่มคึกคักขึ้นอย่างเงียบๆ ในหมู่นักล่าสมบัติและโจรขโมย

ไม่นานนัก ประมาณต้นปีก่อน มีผู้พบสินแร่ชนิดหนึ่งไหลมาตามกระแสน้ำ สินแร่ชนิดนี้มีสีดำสนิท ผิวมันวาว แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็ก เมื่อนำมาเจียระไนจะกลายเป็นเพชรดำสูงค่า หากนำไปหลอมตีเกราะหรืออาวุธก็จะได้อาวุธคมกริบที่ฟันเกราะเหล็กดาบเหล็กขาดสะบั้นในพริบตา

นักล่าสมบัติและโจรขโมยต่างสืบหาที่มาของสินแร่นี้เป็นอย่างลับ สืบเสาะย้อนทวนการไหลของกระแสน้ำในช่วงเวลาและจุดที่พบสินแร่มาถึงเกาะแห่งนี้

น่าเสียดาย คนเหล่านั้นล้วนเอาชีวิตมาทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ เพราะมีแต่คนเข้าไป ไม่มีใครได้กลับออกมา

กระนั้น ยิ่งเรื่องเล่าชวนขวัญผวาเท่าไหร่ ยิ่งท้าทายบรรดาโจรและนักล่าสมบัติเท่านั้น จนเรื่องไปกระทบหูโจรผู้หนึ่ง มันชื่อ 'เจย์' เขียนและออกเสียงแบบนกที่ชอบขโมยอาหาร พืชพันธุ์ ไปจนถึงของมีค่า ว่ากันว่ามันเป็นมนุษย์ครึ่งเอลฟ์ มารดามันบำเรอกายให้เอลฟ์ และคลอดมันโดยให้ความรักแก่มันในฐานะเงาของชายคนรักที่ไม่เคยกลับมา

เจย์รวบรวมสมัครพรรคพวกได้แปดคน เป็นตัวเลขที่มาก แต่กะตัดทิ้งเสียห้าหรือหกแต่แรกแล้ว เจย์ตั้งใจเอาพวกมันมาเป็นเหยื่อล่อสัตว์ประหลาด หรือไม่ก็ใช้พวกมันเป็นเครื่องมือทดสอบกับดัก

อย่างเวลานี้เหลือกันเพียงห้าคน

พวกโจรที่เหลือเริ่มไม่ไว้ใจเจย์...ก็นะ ทำไมรู้ตัวกันช้าจัง

“ตาแก” หนึ่งในโจรที่เอะใจว่าเจย์ไม่ซื่อ (โจรที่ไหนจะซื่อละวะ ซื่อก็เท่ากับบื้อ สมควรตายแล้ว! เจย์พึมพำในใจ) บุ้ยใบ้ให้เจย์เดินนำเข้าถ้ำซึ่งคาดว่าทะลุเข้าไปส่วนในของเกาะ อันเป็นต้นทางของสินแร่พิเศษ ความที่พวกมันแกะรอยทั้งวันทั้งคืน หนำซ้ำยังต้องเผชิญกับสัตว์ประหลาด ต้นไม้พิษ แมลงและทากดูดเลือด บ่อกรด หมอกประหลาด ไปจนถึงกับดักของพวกโจรที่มาถึงก่อน ทำให้พวกมันเหนื่อยล้า ขีดความอดทนต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ยิ่งมองหน้าเจ้าลูกครึ่งเอลฟ์ที่ไม่แสดงอาการเหนื่อยอ่อนสักกระผีกยิ่งหงุดหงิด

เจย์รับรู้อารมณ์ที่ใกล้ปะทุนั้นได้ โจรหนุ่มยกมือสองข้างเป็นเชิงให้คนอื่นใจเย็นลงก่อน

“ได้ ข้าจะนำพวกเจ้าไปก่อนเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ”

เจ้าลูกครึ่งว่าง่ายถึงเพียงนี้เชียวหรือ โจรที่เหลือสี่คนจ้องชายหนุ่มเขม็งอย่างไม่ไว้ใจ หนึ่งในนั้นชี้ปลายดาบใส่เจย์ เป็นเชิงบังคับให้อยู่เฉยๆ นิ่งๆ ขณะที่พยักพเยิดให้โจรอีกคนผูกเชือกรอบเอวเจย์

“ข้าไม่ดื้อไม่ซนหรอกน่า” เจย์ประท้วงเบาๆ

“อย่าพูดมาก” พวกโจรผูกเชือกกับเอวเจย์เสร็จก็ผลักให้เดินนำไปก่อนระยะหนึ่งค่อยเดินตาม เชือกยาวพอสมควรทีเดียว เนื่องจากเป็นเชือกที่เตรียมไว้เผื่อปีนผา

เจย์ถอนใจหนักหน่วงราวกับว่าเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต แต่ใครก็ทราบว่าโจรหนุ่มกวนประสาทตามประสา เจย์ยกมือขึ้นเมื่อปลายดาบจ่อเข้ามาใกล้อีก ก่อนจะถอยหลังแล้วหมุนตัวเดินเข้าถ้ำไป

ภายในถ้ำน้ำสูงแค่เข่า ธารน้ำสะอาดใสบริสุทธิ์ไหลเข้ามารวมกันอย่างน่าอัศจรรย์ ใต้ผืนน้ำเห็นตัวปลาสีเข้มนอนแอบซอกหินเหมือนกำลังหลับพักผ่อน ดอกบัวสีขาวและชมพูลอยเหนือน้ำ แมลงปอบินมาเกาะเกสรบัวสีเหลืองทอง มันบินหนีไปเมื่อเจย์เดินผ่าน

แสงยามบ่ายสะท้อนผิวน้ำสีฟ้าใสดูคล้ายกำลังเดินอยู่ในสระอัญมณีระยิบระยับ บรรยากาศรอบกายสงบ เปี่ยมด้วยไอสดชื่น

แต่นี่แหละคือสิ่งที่ผิดปกติ

ได้ยินว่าถ้ำนี้เป็นถ้ำโคลน เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดที่อาศัยอยู่ในโคลน แล้วเหตุใดจึงกลายเป็นสระสวรรค์ใสสะอาด ดอกไม้น้ำเบ่งบาน

ถ้าไม่ใช่ภาพลวงตา หรือแผนที่ที่ซื้อมาจากพ่อค้าดวอร์ฟเขียนไว้ผิด...ก็น่าจะมีอะไรที่ทำให้สภาพแวดล้อมของถ้ำเปลี่ยนแปลงไป

เจย์ระมัดระวัง เพราะการตายแบบโง่ๆ ไม่ใช่แผนของเขา เมื่อเดินเข้ามาจนน้ำลึกขึ้น สูงถึงเอว ก็เกิดแรงกระตุกของเชือกที่เอว พวกโจรกระตุกแบบนี้แปลว่าอยากทดสอบว่า ‘เหยื่อล่อ’ ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ โจรหนุ่มกลอกตา หาแง่งหินสักแง่งผูกเชือกแล้วกระตุกกลับเป็นเชิงว่า ‘ข้าปลอดภัย เชิญพวกเจ้าตามเข้ามาได้เลย’ เสร็จแล้วก็ไปซุ่มดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่

อุบายหลอกเด็กแบบนี้ มีแต่พวกโจรที่เขาหลอกมานั่นแหละถึงจะเชื่อและตามเข้ามาทันที

อ้อ ต้องผสมความโลภด้วย ใครๆ ก็บูชาเหรียญทองนี่นะ

ระหว่างรอในความเงียบ ด้วยหูของลูกครึ่งที่ดีกว่ามนุษย์ปกติ เจย์ได้ยินเสียงน้ำหยด เป็นเสียงน้ำหยดลงบนผิวน้ำดัง ติ๋ง ติ๋ง เป็นจังหวะตามธรรมชาติที่ไพเราะราวกับเสียงดนตรี

เขาเดินตามเสียงนั้นไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น พร้อมชักอาวุธมีดสั้นมาถือไว้ในมือเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อเลี้ยวผ่านโค้ง สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาช่างน่าอัศจรรย์

ภายในถ้ำท่วมน้ำซึ่งกว้างราวสิบเมตร มีดาบรูปทรงชดช้อยสวยงามลอยอยู่กลางอากาศเหนือผืนน้ำ ดาบเล่มนี้คล้ายสร้างจากสายน้ำขึ้นรูปให้แหลมคม มันเปล่งรัศมีสีฟ้าอ่อนเรื่อเรือง สร้างโดมน้ำพุซึ่งเป็นต้นกำเนิดเสียงน้ำหยด

สิ่งที่อยู่ในโดมน้ำพุคือร่างของสตรีนางหนึ่ง

จากตรงนี้เจย์บอกไม่ได้ว่านางหน้าตาเป็นอย่างไร ทว่าแค่มองโครงร่างก็ทราบแล้วว่าเป็นโฉมงามคนหนึ่ง

เจย์หาเงินไปแต่งเมียอยู่ ที่มาที่นี่ก็หวังสมบัติก้อนใหญ่ซื้อเมียดีๆ สักคน อาจเป็นทาสเอลฟ์หรือดาร์กเอลฟ์ที่จะมีอายุยืนยาวและแก่ช้าพอๆ กับตน เขานึกขำว่าตนอาจได้เจอเมียที่ตามหาอยู่แล้วก็ได้

แต่ก่อนอื่น แค่ดาบเล่มนี้เล่มเดียว ก็ซื้อเมืองทั้งเมืองได้แล้วกระมัง

เจย์เลียริมฝีปาก เขาอยากได้--แน่ละ แต่ไม่ลงมือหุนหัน

ดาบ น้ำ สตรี...แปลกประหลาดจนไม่น่าแตะต้องใดๆ ทั้งสิ้น

แต่เจย์พกของดีติดตัวมาด้วย

ช่าย...ข้าเป็นโจรที่รอบคอบ

เขาก้าวไปยังโดมช้าๆ ก่อนแหวกม่านน้ำพิศวงเข้าไป

ภายในม่านน้ำคือสตรีรูปโฉมงดงามล่มเมือง เรือนร่างกึ่งจมกึ่งลอยบนผิวน้ำเหมือนงานศิลป์ชิ้นเอกของบิดานภา ผู้ซึ่งปั้นรูปเหมือนของมารดานภาให้ทวยเทพชื่นชม

ผิวกายของนางขาวผ่อง ผมสีทองยาวสยาย ดวงตาปิดสนิทใต้แพขนตาสีทอง ใบหูแหลมยาว สวมเครื่องทรงล้ำค่าอย่างนางกษัตริย์

‘เอลฟ์’ สตรีที่เจย์พบคือนางเอลฟ์

ชายหนุ่มลูกครึ่งเอลฟ์แทบหยุดหายใจ เขาลืมดาบไปชั่วครู่ ลืมว่าตนผ่านม่านน้ำมาอย่างปลอดภัย ของดีหรือ 'เครื่องราง' ที่สวมคอซ่อนในเสื้อก็ยังดีอยู่

ภยันตรายอย่างเดียวในที่นี้ อาจเป็นความงามของนาง

มารดาของเจย์ชอบเล่านิทานชวนฝันแบบที่เด็กหญิงจะชอบให้เขาฟังบ่อยๆ แม้จะไม่อยากฟังเพราะไม่มีสัตว์ประหลาด ไม่มีการต่อสู้น่าตื่นใจ แต่เจย์ก็จำทุกเรื่องได้แม่น โดยเฉพาะ 'สตรีผู้หลับใหล'

นิทานของแม่กล่าวถึงหญิงสาวที่โดนคำสาปทมิฬ นางหลับใหลถึงพันปีโดยไม่มีผู้ใดปลุกนางได้ จนกระทั่งชายหนุ่มผู้กล้าหาญคนหนึ่งยอมเสี่ยงชีวิตด้วยใจบริสุทธิ์ ปลุกนางด้วยการจุมพิต ซับเอาไอทมิฬมาเป็นของตน

ตอนจบของนิทานคือทั้งสองครองรักกันอย่างมีความสุข ไอทมิฬไม่สามารถทำลายความรักอันบริสุทธิ์ได้

...หรืออะไรเทือกนั้น

เจย์ชมโฉมหมดจดของนางจนแตะริมฝีปากลงไปจริงๆ เสียแต่ว่าความคิดที่เขามีให้นางไม่บริสุทธิ์เอาเสียเลย เมื่อปากสัมผัสปาก ดาบด้านบนพลันตกใส่เขาพร้อมกับสายน้ำระลอกใหญ่

เจย์เบี่ยงตัวหลบปลายดาบแบบเฉียดฉิว ‘เครื่องราง’ ตรงอกร้อนขึ้นมาทั้งยังส่องแสงจ้า เขาเงยหน้าขึ้นไปเห็นโดมน้ำสลาย กลายเป็นสายฝนตกในถ้ำ ถ้ำส่งเสียงครืนๆ เหมือนปากปีศาจ เมื่อสิ้นแสงรัศมีจากดาบ สายน้ำบริสุทธิ์สีฟ้าใสกลับมีตะกอนโคลนพุ่งขึ้นมากลายเป็นสีโคลนสกปรก

ทีละเสี้ยวทีละส่วน ผืนน้ำกลับคืนสู่สภาพที่แท้จริง จากภายในถ้ำซึ่งมีเจย์และสตรีปริศนาเป็นจุดศูนย์กลาง กระเพื่อมเป็นวงออกไปจนถึงหน้าปากถ้ำ

วินาทีถัดมา เจย์ได้ยินเสียงคนโวยวายไกลๆ น่าจะเป็นเสียงพวกโจรที่ตามเข้ามา คงตกใจที่จู่ๆ น้ำเปลี่ยนเป็นสีโคลน อย่าว่าแต่พวกมันเลย เพราะตัวเขาเองก็ตกใจไม่แพ้กัน

นัยน์ตาของเอลฟ์สตรีที่เจย์เพิ่งปล้นจูบปรือขึ้น ดวงตาของนางมีสีเหมือนหินแก้วประกายรุ้ง ดวงตาใสบริสุทธิ์คู่นั้นมองผู้ปลุกนางด้วยความฉงน

ความคิดแรกของเจย์คือหนี แต่จะหนีตัวเปล่าก็กระไร เขาตัดสินใจอุ้มนางเอลฟ์กับดาบไปด้วย

“หนีตายกันก่อนแล้วค่อยแนะนำตัวนะขอรับ” เจย์เอ่ยกับสตรีลึกลับขณะก้าวเท้าพร้อมที่จะโกยอ้าว แม้พื้นใต้เท้ากลายเป็นโคลนหนืดเดินลำบากเขาก็ยังคล่องแคล่ว ทว่าลุยไปได้ไม่ไกล จู่ๆ สัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนปลาผสมกิ้งก่าหลังหนามก็โผล่มาจากที่ใดไม่ทราบ พวกมันแหวกโคลนอย่างรวดเร็วจนเห็นเป็นเส้นริ้ว เจย์ร้องเสียงหลงพร้อมสบถคำหยาบแสนหยาบอยู่ในใจเมื่อถูกปลากิ้งก่าหลังหนามรุมงับ ดีที่ฟันคมของพวกมันไม่มีพิษ และไม่แข็งแรงถึงขั้นฉีกเนื้อมนุษย์ได้

เจย์ไม่หยุดวิ่ง ปลาที่ฝังเขี้ยวในเนื้อได้แล้วก็ไม่ยอมปล่อยปาก ลำตัวแบนยาวของพวกมันสะบัดเร่าๆ ในอากาศคล้ายธงปลิวตามลม แต่เป็นธงที่เหม็นกลิ่นโคลนและกลิ่นคาว

สตรีในอ้อมแขนอุทาน นางซุกตัวเข้าหาเจย์ กำเสื้อของเขาแน่น

“ไม่เป็นไรๆ” เจย์กระชับอ้อมแขน ร่างของนางเบามาก ไม่เป็นอุปสรรค์ต่อการวิ่ง "ข้าโยนเคราะห์ร้ายให้คนอื่นได้" เครื่องรางที่เจย์พกติดตัวมาเป็นเครื่องรางที่เขาได้จากแม่มดผู้หนึ่ง นางอ้างว่ามันสามารถโยนเคราะห์ร้ายให้กับผู้ที่สวมเครื่องรางคู่กันได้ เขาตัดสินใจซื้อมาคู่หนึ่ง ทว่าก่อนจ่ายเหรียญทองให้นาง เขาบอกกับนางว่า เขาพร้อมจ่ายเพิ่มถ้านางสามารถประดิษฐ์เครื่องรางที่โยนเคราะห์ร้ายให้กับคนแปดคนได้

แปดคน...เท่ากับจำนวนโจรที่อยู่ในขบวนของเจย์

เขามอบให้พวกมันโดยอ้างว่าเป็นเครื่องรางป้องกันภัย บางคนที่ไม่ยอมสวมเขาก็แอบหย่อนใส่กระเป๋าสัมภาระพวกมันทีหลัง มีโจรที่ตายเพราะรับเคราะห์ร้ายแทนเขาด้วย นับเป็นเครื่องรางที่ยอดเยี่ยมสมราคายิ่ง

เวลานี้เครื่องรางที่เจย์สวมอยู่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ มันส่งรอยกัด รอยงับ รอยฉีกกระชากไปให้พวกโจร ซึ่งเขาก็ไม่รู้หรอกว่าใครจะโดนหนักที่สุด เจย์ไม่เข้าใจกลไกของเครื่องรางนัก แต่ไม่เป็นไร ขอแค่ได้ผลเป็นพอ

เจย์วิ่งหน้าตั้ง เครื่องรางจะไม่เป็นผลถ้าผู้รับเคราะห์ร้ายแทนตายหมด แต่เจย์คิดว่าพวกมันจะรอด การโจมตีของปลากิ้งก่าเป็นแค่การโจมตีของสัตว์ดุร้ายขนาดเล็ก ขอแค่มีฝีมือเสียหน่อยก็เอาตัวรอดได้ไม่ยาก

หลังวิ่งมาไกลจนขึ้นฝั่งที่เกาะด้านในได้ เจย์เหนื่อยแทบหมดสภาพ สตรีที่อุ้มมาด้วยก็หอบไปกับเขา เจย์เหลือบมองนาง แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรดาบเวทที่นางกอดไว้ก็เปล่งแสงสีฟ้าวาบแล้วเลือนหายไป

ตอนที่มันเลือนหาย สัญลักษณ์เวทสีฟ้าอ่อนลวดลายชดช้อยปรากฏบนฝ่ามือของสตรีนางนั้น มันเปล่งแสงวูบหนึ่งและจางหายไปเช่นกัน

ดาบเล่มนี้คืออาวุธเวทมนตร์ของจอมเวท

เอลฟ์สตรีจ้องฝ่ามือขาวสะอาดของตนอย่างครุ่นคิด

เจย์คิดว่าตัวเองเจอเรื่องยุ่งยาก ซึ่งมันก็ดูยุ่งยากตั้งแต่เห็นสตรีเอลฟ์สูงศักดิ์นอนโดดเดี่ยวในถ้ำแล้ว แต่จะให้ทิ้งนางไปก็ใจดำ อุตส่าห์หอบหิ้วกันมาถึงขนาดนี้ แล้วอีกอย่าง นางอาจรู้อะไรเกี่ยวกับเกาะนี้ก็ได้

"ข้าชื่อเจย์ขอรับ" ชายหนุ่มแนะนำตัว "เจย์ พรีออน เป็นลูกครึ่งเอลฟ์"

ม่านตาของเจย์เต็มไปด้วยกระสีขาว หากไม่จ้องใกล้ๆ ก็มองไม่เห็น กระสีขาวเป็นตำหนิของลูกครึ่งเอลฟ์กับมนุษย์ ทำให้ภาพที่เห็นเป็นจุดเต็มไปหมด ซึ่งจุดเหล่านั้นจะขยายใหญ่ขึ้นตามอายุ จนในที่สุดก็จะเห็นแต่สีขาว ไม่เห็นภาพอื่นใดเลย

“เรา...รู้จักกันหรือ” นางถาม เสียงของนางไพเราะมาก เพราะเหมือนเสียงนกจากแดนเอลฟ์ที่บินข้ามฝั่งมาหากินในหมู่บ้านของเจย์

“ไม่ขอรับ แต่เรารู้จักกันได้ ท่านชื่ออะไรล่ะ”

นางคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หลับตาแน่น “ไม่รู้ ข้า...จำไม่ได้” นางเงยหน้ามองเขา ดวงตาเหมือนหินแก้วคู่นั้นเปิดเผยความในใจอันว่างเปล่าทั้งหมด

เรื่องยุ่งยากเรื่องที่หนึ่ง...

“ไม่เป็นไร ท่านเสียงเพราะดี ข้าเรียกท่านว่าไนติงเกลไปก่อนแล้วกัน” เจย์ถอนใจ “ข้ามาหาอะไรบางอย่างในถ้ำนี้แล้วเจอท่าน ข้าอยากถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เกรงว่าท่านคงจำไม่ได้”

นางส่ายหน้า “แล้วท่านมาหาอะไร”

“สินแร่สีดำ” เจย์ตอบซื่อๆ เขาไม่คิดว่านางเจ้าเล่ห์ ดูนัยน์ตานั่นสิ ใบหน้านั้นอีก บรรยากาศด้วย เขาว่าคนเจ้าเล่ห์ย่อมรู้ทันคนเจ้าเล่ห์ด้วยกัน แต่เขาเห็นเพียงสตรีแบบบางน่าปกป้องเท่านั้นเอง

นางยิ้ม กล่าวว่า “ตกลง”

“หืม” คิ้วของเจย์เลิกสูง จากนั้นก็หัวเราะจนเห็นลักยิ้มตรงข้างแก้มขวา “ตกลงอะไรขอรับ”

“ไปหาสินแร่สีดำกันเถอะ” นางเสยผมเปียกแนบร่างให้ไม่ปรกหน้า ท่วงท่าโดยไม่ตั้งใจกลับแสดงเสน่ห์อันเปี่ยมล้นของสตรี “ข้าจำอะไรไม่ได้ และไม่รู้จะไปที่ไหน แต่ท่านช่วยข้าจากฝูงปลาเมื่อครู่ ข้าจึงอยากช่วยท่านหาสินแร่สีดำที่ว่า”

เอลฟ์สตรีผู้งามสูงศักดิ์ตอบอย่างตรงไปตรงมา นางตื่นขึ้นมาโดยไร้ความทรงจำ ในสถานที่อันตรายกับบุรุษแปลกหน้า แต่ท่าทางของนางนิ่งสงบ ไม่ฟูมฟาย ความสงบนี้เกิดจากจิตใจอันแข็งแกร่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายในเรือนกายแบบบาง

ทว่าความแข็งแกร่งเกินไปก็ทำให้นางแตกหักง่ายกว่าใครเช่นกัน

เจย์อ้าปากน้อยๆ ด้วยไม่รู้จะโต้ตอบอะไร เขาพยักหน้าเหมือนต้องมนตร์

เขายังไม่รู้ว่า หากนางมีความทรงจำอยู่ครบถ้วนละก็ นางจะไม่เข้าไปภายในเกาะแห่งนี้ แต่รีบหลีกหนีจากมันด้วยความชิงชัง

เพราะสิ่งมีค่าที่สุดภายในเกาะแห่งนี้หาใช่สินแร่สีดำ

แต่เป็นความลับที่ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ กษัตริย์องค์ปัจจุบันและเอริแอดเน่ ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์มีร่วมกัน


—————————————————————————

A/N เจย์เป็นตัวละครที่น่ารักดีนะคะ ;) บทเกาะไร้นามจะเป็นส่วนเชื่อมสำคัญของเนื้อเรื่องในภาคต่อไปค่ะ ความลับอะไรกันแน่ที่ซิกฟรีดและเอริแอดเน่มีร่วมกัน


พบกันครั้งต่อไปวันที่ 22 พ.ค. 60 ค่ะ

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (1) [20/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 20-05-2017 10:34:57
สายน้ำไม่ทำลายนาง
แต่ชะล้างความทรงจำ

ความลับดำมืดใดกัน

อย่างนี้อิลมาเรก็น่าจะยังอยู่ใช่ไหม
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (1) [20/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-05-2017 10:45:40
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (1) [20/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 20-05-2017 11:28:29
ห๊ะ อะไรอ่ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (1) [20/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-05-2017 19:46:37
ขอให้มีชีวิตใหม่ที่ดีนะท่านหญิง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (1) [20/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 21-05-2017 12:00:54
จะเกี่ยวกับริวอร์นอร์รึป่าว?

งือ :katai1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (2) [22/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 22-05-2017 00:14:07
บางทีถ้าไม่มีเรื่องยศฐาบรรดาศักดิ์เข้ามาข้องเกี่ยว ชีวิตแอรี่คงไม่ต้องคิดอะไรมากไปกว่าการได้ทำตามหัวใจ ตอนนี้ความทรงจำหายไป ขอให้หายไปให้ตลอดเถอะ เริ่มต้นชีวิตใหม่ คนใหม่ หยุดจองเวรจองกรรมกันเถอะ คือถึวนางจะน่าสงสาร แต่ก็ไม่ลืมนะว่านางทำร้ายคนอื่นเหมือนกัน  :z3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (2) [22/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 22-05-2017 00:17:13
บทที่ 23 : เกาะไร้นาม (2)

ปัจจุบัน ซิลเซเลียน เมืองหลวงแคว้นอิซิลดาร์

อิซิลดาร์คือดินแดนแห่งขัตติยนารี ในยุคปฐมกษัตริย์แห่งรูเมเรียร์ เจ้าหญิงอิซิลดาร์ผู้เป็นขนิษฐาของปฐมกษัตริย์ได้รับปันดินแดนส่วนหนึ่งของทวีป ในฐานะจอมเวทสงครามผู้ต่อสู้เคียงข้างองค์กษัตริย์ นำชัยเหนือสงครามกับเผ่าทมิฬ

ดินแดนที่พระนางได้รับคือแผ่นดินทางใต้อันมีอาณาเขตติดทะเล หน้าร้อนอากาศอบอุ่น พรรณไม้ชูช่อเขียวสดชื่น หน้าหนาวหนาวชื้น พืชพรรณหลับพักผ่อนภายใต้ผ้าคลุมหน้าของเทพีหิมะ ผู้เป็นบุตรีของบิดาธรณีกับมารดานที

‘แคว้นอิซิลดาร์’ ตั้งชื่อตามนามของเจ้าหญิงผู้ปรีชาเพื่อเทิดพระเกียรตินางกษัตริย์ และตำแหน่งผู้ครองแคว้นก็สืบทอดแก่ทายาทสตรีซึ่งเป็นผู้นำตระกูลอิซิลดาร์เพียงเท่านั้น

หนึ่งเดือนหลังจากการไร้ข่าวคราวของผู้ครองแคว้นคนปัจจุบัน--ท่านหญิงเอริแอดเน่ ท้องพระโรงแห่งอิซิลดาร์ได้เปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนที่ไม่คาดคิด

นั่นคือนักรบผู้รอดตายสี่คน หนึ่งในนั้นคืออัศวินหญิงแห่งอิซิดาร์ ส่วนอีกสามคนเป็นบุรุษรูเมเรียร์

นักรบอิซิลดาร์ผู้กลับสู่มาตุภูมินามซอนย่า นางมีผมสีดำสนิทดุจขนกา และนัยน์ตาคมกล้าประหนึ่งดาบเหล็ก แม้นางจะสวมชุดขาดวิ่น ดูเก่าเขรอะ แต่ความทระนงองอาจยังฉายชัดในแววตาท่าทาง

ยิ่งนางจูงเชือกลากเชลยจากรูเมเรียร์มาถึงสามคน ยิ่งทำให้น่าเกรงขาม

เชลยทุกคนเป็นทหารกล้าหน่วยกาลาฮาน หนึ่งในนั้นได้รับบาดเจ็บขนาดลูกผีลูกคน มันนอนหายใจแผ่วอยู่บนแพชักลากซึ่งทำขึ้นลวกๆ อีกหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่แขน รอยแผลฉกรรจ์กลัดหนอง ส่วนอีกหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่แขนเช่นกัน ทั้งดวงตาข้างขวายังพันผ้าปิดเอาไว้ คาดว่าคงมองไม่เห็นอะไรแล้ว

ทหารกาลาฮานคนสุดท้ายคือเนอร์ดาเนล มันเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันที่พลาดพลั้งให้แก่อัศวินอิซิลดาร์ ความจริงก่อนหน้ามันได้เปรียบ เกือบจะจับนักรบสตรีผู้นี้ได้ ทว่าจู่ๆ ก็เกิดเสียงครืนปานธรณีสูบ พอรู้ตัวอีกทีก็ถูกกวาดลงมหานที ดาบหลุดจากมือ มวลน้ำมหาศาลกดลงอก ทะลักเข้าปากและจมูก

ห้วงน้ำวนมิได้พัดเพียงคนแต่พัดเอาซากปรักหักพังของป้อมปราการและทุกๆ อย่างในบริเวณนั้นลงมาด้วย มันโดนบางอย่างกระแทกเข้าที่ตา เจ็บจนสติสุดท้ายคิดว่าหากตายอาจสบายกว่า แต่แล้วเมื่อทุกอย่างหยุดนิ่ง...มันก็ถูกพันธนาการด้วยเชือกเสียแล้ว

และได้มาอยู่ที่นี่--ท้องพระโรงแห่งอิซิลดาร์

ภาพท้องพระโรงต่างถิ่นที่ปรากฏต่อสายตาของเนอร์ดาเนลทั้งเคร่งขรึมและอ่อนหวาน เป็นการผสานอันลงตัวของความเข้มแข็งแต่ก็ชดช้อยอย่างสตรี

ห้องท้องพระโรงสร้างจากหินอ่อนสีเทาเข้ม ประดับไม้ดอกหลากสีอันชวนให้จิตใจเบิกบานและไม้เลื้อยเขียวสดชื่นแทนทองคำและเหล็กกล้าของท้องพระโรงแห่งรูเมเรียร์

ด้านบนของช่องหน้าต่างสูงยาวแขวนธงสัญลักษณ์ของห้าตระกูลใหญ่แห่งอิซิลดาร์ ธงสีแดง สีน้ำเงิน สีเขียว สีดำ แขวนอยู่ด้านข้างซ้ายขวา บนผืนผ้าปักสัญลักษณ์ตระกูลรองรูปดอกไม้และสัตว์ปราดเปรียว ด้านหลังเหนือบัลลังก์ของนางกษัตริย์ผู้ปกครองอิซิลดาร์คือธงสีทอง ปักภาพดอกไม้สีขาวอมทองและศีรษะยูนิคอร์น เขาเดี่ยวกลางหน้าผากสัตว์ศักดิ์สิทธิ์มีสายน้ำม้วนเป็นเกลียวแทนพรแห่งนที

ไม่ต้องสงสัยว่าภาพบนธงไหมทองคืองานปักอันประณีตแสดงสัญลักษณ์ของตระกูลอิซิลดาร์

กลุ่มคนที่ยืนอยู่ด้านข้างคือเอลฟ์สตรีสูงศักดิ์และข้ารับใช้บุรุษ เอลฟ์สตรีที่โดดเด่นกว่าใครสี่นางคือ ‘เอลเดอร์’ หรือผู้อาวุโสจากตระกูลสายรอง ถึงจะเรียกผู้อาวุโส ทว่าอายุของเอลฟ์สตรีเหล่านี้ล้วนไม่มากกว่าห้าร้อยปี เพราะผู้อาวุโสรุ่นก่อนทั้งหมด ได้ ‘สละตำแหน่ง’ หลังความตายของท่านหญิงเฮสเทียน่า--ผู้นำตระกูลอิซิลดาร์รุ่นก่อน

เนอร์ดาเนลถูกทหารสตรีกดให้คุกเข่า แสงที่ส่องเข้าตาทำให้ภาพตรงหน้าพร่าเลือน เขาเห็นสตรีนางหนึ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์ผู้ครองแคว้น นางสวมชุดสีขาว แหวกช่วงเข่าเห็นหัวเข่าขาวเนียนและท่อนขางามสมบูรณ์

อัศวินซอนย่าคุกเข่า

“กลับมาแล้วหรือ” สตรีบนบังลังก์ถาม

“เพคะ” เสียงของซอนย่าพร่า นางพาเชลยเดินทางผ่านป่าและภูเขาหลายวันหลายคืน นอกจากต้องระวังสัตว์ร้าย โจร และภยันตรายอื่นๆ นางยังต้องรับมือกับเชลยที่แม้เจ็บหนักก็ยังสู้ ไม่ยอมให้นางลากจูงง่ายๆ

“ซอนย่า” สตรีบนบัลลังก์ยื่นหลังมือขาวเนียนให้อัศวินสาว นางทาเล็บสีน้ำเงินเข้ม ปลายเล็บยาวโค้งมนเคลือบประกายแวววาว

ซอนย่าน้อมศีรษะจรดพื้นแล้วยืนขึ้น นางก้าวไปหาสตรีบนบัลลังก์แล้วคุกเข่าลงอีกครั้งเมื่ออยู่แทบเท้านางกษัตริย์ ก่อนรับมือแบบบางนั้นมาประทับจุมพิตด้วยความภักดี

แสงที่ส่องเข้าตาของเนอร์ดาเนลอ่อนแสงลง เขาจึงเห็นสตรีที่นั่งอย่างเย่อหยิ่งบนบัลลังก์ได้ถนัด

นางคือผู้นำตระกูลอิซิลดาร์คนปัจจุบัน สวมชุดขาวลายลูกไม้สีทองและน้ำเงิน ดวงตาสีหินแก้วประกายรุ้งอันตรึงวิญญาณเหยียดมองทหารบาดเจ็บแห่งรูเมเรียร์ แววตาของนางเย็นชาและอำมหิตอย่างนางกษัตริย์ผู้เดินผ่านซากศพของสตรีอิซิลดาร์คนเล่าคนเล่าเพื่อก้าวขึ้นสู่บัลลังก์

ท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์กลับสู่แผ่นดินเกิดแล้ว ท่ามกลางความกังขาของเหล่าเอลเดอร์และขุนนางสตรี ว่าเหตุใดนางจึงละทิ้งคู่หมั้นอย่างราชาซิกฟรีด หรือข่าวลือเรื่องราชาหลงใหลบุรุษดาร์กเอลฟ์จะเป็นความจริง อิซิลดาร์ในตอนนี้เหมือนมีคลื่นใต้น้ำ แนวพรมแดนซึ่งเชื่อมต่อกับรูเมเรียร์ยังไม่ถูกปิดกั้น แต่มีการตรวจตราผู้เดินทางเข้าออกอย่างเข้มงวด และยกเลิกใบผ่านทางของกองกำลังทหารรูเมเรียร์ที่มากกว่าหนึ่งร้อยคน

นางกษัตริย์แห่งอิซิลดาร์เชยคางซอนย่า นิ้วเรียวจับคางได้รูปแล้วพลิกให้หันหน้าไปทางหนึ่ง ตุ้มหูเวทบนใบหูแหลมยาวส่องประกายสีไพลินเรืองๆ

“ตุ้มหูที่ข้ามอบให้ช่วยคุ้มครองเจ้าสินะ” นางเอ่ยด้วยเสียงไพเราะเจือความเมตตา

“เจ้าค่ะ” น้ำตารื้นในดวงตาแห้งผากของนักรบสตรี พอให้มันส่องประกายแห่งชีวิตอีกครั้ง

ท่านหญิง...

เอริแอดเน่ไล้นิ้วบนแก้มซอนย่า “รออีกสักนิด จะให้พัก”

เนอร์ดาเนลเห็นท่านหญิงเอริแอดเน่แล้วรู้สึกเดือดในอก ไม่ใช่นางหรือที่เป็นต้นเหตุทำให้สหายของเขาตกตาย หรือเขาควรโทษดาร์กเอลฟ์ หรือควรโทษราชาที่หลงดาร์กเอลฟ์ หรือควรโทษหัวหน้าที่มีใจต่อดาร์กเอลฟ์จนพาทุกคนมาสู่หายนะ...

หรือความพินาศทั้งหมดไม่อาจหาคนรับผิดแท้จริงได้

ในฐานะทหาร เขาไม่ควรคิดเช่นนี้ แต่ในฐานะเอลฟ์ธรรมดาที่เสียเพื่อนพ้อง เขาอยากโทษอะไรสักอย่าง...อะไรก็ได้ มันผู้ใดก็ได้

เอริแอดเน่วางมือบนเท้าแขน นั่งตัวตรง เชิดหน้ามองทหารที่กล้าจ้องนางด้วยสายตาเดือดดาล สายตาไร้อารมณ์ของนางมองมันราวกับเป็นเพียงมดเพียงแมลงที่ทำให้ท้องพระโรงของนางสกปรก

“ตาน่ะ เหลืออยู่ข้างเดียวไม่พอหรือ หรือไม่อยากเหลือสักข้าง” นางกล่าวไม่เร็วไม่ช้า ไม่ใส่อารมณ์ แต่ทำให้ผู้ฟังหนาวสันหลัง

เนอร์ดาเนลไม่ละสายตา ก็เอาสิ บอดไปเสียทั้งคู่ก็ดี

ท่านหญิงแห่งอิซิดาร์พิศความแค้นเคืองในดวงตาข้างนั้น จากนั้นก็ยกหลังมือขึ้นปิดปาก หัวเราะนุ่มนวล กิริยาของนางไม่มีส่วนใดไม่งามสง่า ไม่เมตตาอารี “เราก็แค่หยอกเล่น บุรุษรูเมเรียร์ช่างเคร่งครัดเสียจริง”

ทว่าเหล่าเอลเดอร์ ขุนนาง และทหารอิซิลดาร์ที่อยู่ในท้องพระโรงกลับหนาวสันหลัง หายใจไม่ทั่วท้อง

ท่านหญิงเอริแอดเน่หายตัวไปอย่างไร้ข่าวคราวเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือน จู่ๆ นางก็กลับมาก่อนอัศวินซอนย่าจะเข้าเขตซิลเซเลียนแค่ครึ่งวัน ซ้ำร้ายอัศวินของนางยังพาทหารขององค์ราชาในสภาพบาดเจ็บสาหัสมาเป็นเชลย ไหนจะเหตุการณ์วังน้ำวนลึกลับที่เมืองโรสมินาสซึ่งปิดข่าวกันอย่างเข้มงวด

เวทแห่งมหานทีมิใช่ความถนัดของท่านหญิงที่ใครก็ไม่อาจเทียบหรือ

ระหว่างที่เหล่าเอลเดอร์กังวลถึงความสัมพันธ์ระหว่างอิซิลดาร์กับรูเมเรียร์ ที่อาจมีรอยร้าวมากขึ้นถ้าท่านหญิงเอริแอดเน่สังหารทหารขององค์ราชา ท่านหญิงก็เอ่ยให้พวกนางโล่งใจว่า

“ทำแผลให้ทหารเหล่านี้เถิด หากชักช้า องค์ราชาอาจเข้าใจผิดว่าเราไม่ห่วงใยดูแลข้ารับใช้ของพระองค์”

“เจ้าค่ะ” ซอนย่ารับคำ หลังจากนั้นก็มีทหารสตรีเข้ามาช่วยลากเชลยออกไป

เนอร์ดาเนลยังจ้องเขม็งไปทางท่านหญิงเอริแอดเน่ แม้จะถูกกระชากให้เดิน

“หยุดก่อน” ท่านหญิงเหยียดยิ้ม เมื่อนางสั่ง ทหารสตรีที่ลากเนอร์ดาเนลก็หยุด ส่งผลให้ทหารกล้าแห่งหน่วยกาลาฮานอยู่ในสภาพถูกหิ้วปีกอย่างน่าขัน

เสียงหัวเราะสั้นๆ ดังรอบท้องพระโรง

“เจ้าชื่ออะไรนะ” ท่านหญิงใช้เล็บสวยงามชี้สั่ง

ทว่าเนอร์ดาเนลไม่ตอบ

ซอนย่าเข้าไปตบปากครั้งหนึ่ง แต่อดีตทหารแห่งกาลาฮานก็ไม่ยอมปริปาก

เนอร์ดาเนลดุนกระพุ้งแก้ม ฟันโยกและเลือดกบปากเมื่อถูกซอนย่าตบอีกครั้ง

เสียงฉาดของฝ่ามือกระทบเนื้อดังก้องท้องพระโรงอีกสองสามครั้ง กระทั่งท่านหญิงผู้นั่งพริ้มตาบนบัลลังก์ยกมือให้องครักษ์ของนางหยุดมือ

“เจ้าว่า แขกที่ไม่ให้ความเคารพแก่เจ้าบ้านผู้มีน้ำใจเฉกข้า เฉกชาวอิซิลดาร์ทุกคน จะทำให้องค์ราชาขายหน้าหรือไม่” นางหยุด ให้เวลาอีกฝ่ายคิด “เจ้ากับสหายที่บาดเจ็บของเจ้าเป็นพี่น้องในกองรบที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน การตัดสินใจของคนหนึ่ง ก็คือการตัดสินใจของกลุ่ม หากมีความชอบ ก็รับรางวัลร่วมกัน แล้วหากมีทัณฑ์เล่า...ใครจะรับ”

‘ที่นี่คืออิซิลดาร์ ไม่มีบารมีของราชาคุ้มหัวบุรุษโอหัง ซ้ำยังเป็นทหารต้อยต่ำเช่นพวกเจ้า’ สายตาของเหล่าเอลเดอร์บอกเฉกนั้น

‘ทำให้สตรีบนบัลลังก์พอใจ ชีวิตของเจ้ารอด รวมถึงชีวิตของสหายเจ้า หากทำให้นางไม่พอใจเล่า เจ้าไม่รักชีวิตตัวเอง แต่พร้อมลากคนอื่นไปลงหลุมด้วยหรือไม่’

“ข้า…” เนอร์ดาเนลเอ่ยอย่างยากลำบาก เพราะเลือดที่ค้างในปากด้วยส่วนหนึ่ง แต่เหตุผลสำคัญคือเขาไม่อยากพูดกับนางแม้สักคำ “มีนามว่าเนอร์ดาเนล...ขอรับ”

“เอาละ เนอร์ดาเนล” เอริแอดเน่เดินลงจากบัลลังก์อย่างไม่รีบร้อน นางหยุดยืนตรงหน้าทหารหนุ่ม หยิบผ้าเช็ดหน้าช่วยซับเลือดที่มุมปาก

สัมผัสของผ้าเนื้อนุ่มนุ่มนวลแผ่วเบา แทบจะเรียกได้ว่าเอาใจใส่ “เราถามชื่อเจ้า เพราะอยากทราบนามของผู้ที่จะถือสารของเราไปยังรูเมเรียร์อย่างไรล่ะ”

นางยิ้ม...ช่างอ่อนหวานและสวยงามที่สุด

---------------------------------------

เวลาเดียวกัน เกาะไร้นาม เกาะในทะเลสาบขนาดใหญ่ แหล่งสินแร่สีดำอันลึกลับและล้ำค่า

เจย์มองโฉมงามที่เก็บมาได้อย่างพิศวง เวลานี้นางนอนหลับข้างกองไฟที่เขาก่อให้เมื่อคืน มันมอดดับไปแล้วแต่ความร้อนยังอยู่ พอให้นางนอนหลับได้อย่างสบายไปอีกระยะหนึ่ง

เมื่อวานนี้ ทั้งสองออกจากถ้ำได้ก็สำรวจเกาะอยู่ครึ่งวัน ตกเย็นพบหอคอยซึ่งเป็นซากโบราณสถานของเอลฟ์ตั้งอยู่ส่วนลึกของเกาะ หอคอยนี้ปิดตาย ถูกทิ้งให้ผุพัง แม้มีช่องที่ปีนลอดเข้าไปได้ ก็อยู่สูงเกินสตรีจะปีนป่าย และแทบมองไม่เห็นจากด้านล่างในเวลามืดค่ำ เอลฟ์มิได้สายตาดีในเวลากลางคืนเหมือนดาร์กเอลฟ์ ลูกครึ่งเอลฟ์ยิ่งมิต้องพูดถึง แม้เจย์จะสายตาดีกว่ามนุษย์ทั่วไปมากหน่อย แต่ภาพที่เห็นก็เต็มไปด้วยจุดกระสีขาว

ขณะเจย์หาทางเข้า เอลฟ์สตรีก็ช่วยหาเช่นกัน บังเอิญที่มือของนางไปแตะตราสัญลักษณ์บนประตู ทำให้ประตูเปิดออกเองอย่างน่าพิศวง โดยที่นางเองก็ไม่ทราบว่าทำไมตนจึงเปิดประตูได้

เจย์ตั้งใจเข้าไปสำรวจโบราณสถาน ก่อนอื่นต้องระวังอากาศด้านใน ปิดตายมานานขนาดนี้อากาศอาจเป็นพิษได้ เขาบอกกับนางว่าต้องการนกสักตัว ปล่อยให้มันบินเข้าไปสำรวจก่อน ถ้านกไม่ตาย คนก็ไม่ตาย

ความจริงเขาเตรียมนกมาด้วยหนึ่งตัว แต่พวกโจรยึดไป ตอนนี้เลยหมดอุปกรณ์หากินไปหนึ่งอย่าง

นางเอียงคอมองเขาด้วยความสงสัย แล้วบอกว่าถ้าข้างในมีอะไรจริง เราก็ควรรู้สึกก่อน เพราะเรายืนอยู่หน้าประตูไม่ใช่หรือ จากนั้นก็เดินนำเข้าไป

เมื่อเห็นเจย์ยืนค้าง นางก็หันกลับมา ยิ้มและเอ่ยเหมือนตะล่อมเด็กว่า ‘เห็นไหม ไม่มีอะไร’

เจย์นึกกลับไปตอนนั้นแล้วถอนใจปนขำ เมื่อวานฟ้ามืดแล้วจึงหามุมก่อกองไฟให้ความอบอุ่นและแบ่งเสบียงกัน เขาให้นางนอนหลับพักผ่อนโดยรับอาสาเฝ้ายาม (แอบงีบหลับบ้าง) ตอนนี้พระอาทิตย์ขึ้นนานแล้วทว่านางยังหลับอยู่ เขาจึงมองนางไปเรื่อยๆ ยิ่งมองยิ่งเพลินตา เอลฟ์สตรีที่ได้พบเห็นมาไม่มีใครงดงามเท่านางเลย จมูกนิดปากหน่อย น่ารักน่าจูบ...

ถึงเป็นโจรแต่มารดาอบรมให้เป็นสุภาพบุรุษ เขาไม่คิดฉวยโอกาส (จริงๆ ก็คิดนิดๆ) ...ไม่นับที่จูบนางไปก่อนหน้าเพราะเขาแค่อยากลอง ‘ล้างพิษ’ แบบในนิทานที่ได้ฟังตอนเด็ก แต่จะว่าไป บางทีพิษอาจตกค้างอยู่ ดูสิ หลับได้หลับดี

เจย์โน้มลงไปจะล้างพิษให้นางด้วยปากอีกครั้ง

ทว่าการนอนหลับของเอลฟ์สตรีไม่สงบดังเช่นในถ้ำก่อนหน้านี้ เขาเห็นนางกำมือเล็กๆ แน่น หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน ซอกคอมีเหงื่อชุ่มลงไปถึงทรวงอก แน่นอน...สุภาพบุรุษย่อมไม่เสียมารยาทด้วยการมองหน้าอกสตรี แต่อาการนางดูแย่ เขาจึงยังไม่ละสายตา เห็นว่าเสื้อผ้าของนางมีรอยขาดเป็นริ้วในบางจุด เนื้อตัวมีรอยช้ำจางๆ เหมือนถูกใครทำร้ายมา ที่ไม่เห็นก่อนหน้าคงเป็นเพราะมืดและเขาก็ใจจดใจจ่อกับการเฝ้ายาม แถมเขายังเหนื่อยสายตัวแทบขาด เลยไม่ได้สังเกตนางให้ดี

เจย์ใช้สายตาแบบหมอตรวจลักษณะช้ำๆ บนขาอ่อนโดยละเอียด

อืม...

“เกล” เขาเรียกชื่อที่ตัวเองตั้งให้นางแบบย่อๆ พร้อมแตะแขนนางอย่างแผ่วเบา แต่แรงแค่นั้นก็ส่งให้นางสะดุ้ง ตกใจตื่น ดวงตาคู่งามมองเขา ปากอิ่มเผยอค้าง หอบเบาๆ เหมือนกำลังหวาดกลัว

“เจย์...หรือ” นางเอามือกุมอก รับรู้ว่าหัวใจของตนเต้นถี่เร็วจนปวดหนึบ

“ชี่ ไม่มีอะไร…” เจย์ปลอบนาง ยิ้มบางๆ ให้ เขาหาผ้าสะอาดที่สุดที่พกมาชุบน้ำดื่มแล้วเช็ดใบหน้าจิ้มลิ้ม

บิดามารดาช่างปั้นจริงหนอ


เจย์สังเกตว่านางสะดุ้งน้อยๆ ตอนมือเขาใกล้ตัว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เป็น

บางทีอาจเกี่ยวกับความฝัน

“ฝันถึงมังกรหรือ” เจย์ชะงักมือเพราะนางเกร็งอย่างน่ากลัว เขาส่งเสียงชี่...ชี่...ปลอบนางอีก ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมไปเช็ดหน้าเช็ดตาให้อีกครั้ง

“มังกร?” นางงงงวย ส่ายหน้า

“มารดาข้าบอกว่าถ้าฝันถึงมังกรจะเสียทรัพย์ ถือเป็นฝันร้ายของข้า” เขาเสริมว่าสะดุ้งขนาดนี้คงเป็นฝันร้ายแน่แท้ ไม่มีใครสะดุ้งเพราะฝันดีหรอก

นางฟังเงียบๆ...นานครู่หนึ่งจึงเอ่ย “มือ…”

“มือ?” เจย์ละมือของตนมาดู เห็นซอกเล็บเต็มไปด้วยดินแห้งกรังก็หัวเราะแห้งๆ คิดว่านางคงรังเกียจ อันที่จริงก็สมควรอยู่...

“มือหลายคู่ จับข้าไว้...เจ็บ” ดวงตาของนางเหม่อลอย คล้ายจิตหลงหายไปในมโนสำนึกซับซ้อนที่ซ่อนอยู่ภายใน

เจย์พยักหน้าเข้าใจก่อนพูดว่า “แก้เคล็ดดีกว่า”

นางเงยหน้ามองอย่างสงสัย โจรหนุ่มเฉลยด้วยการบิดผ้าแล้วหาที่เหน็บตรงกระเป๋าคาดสะโพก หลังจากนั้นก็เอ่ยขอมือทั้งสองข้างของนาง มือซ้ายของเขารองมือซ้ายของนาง และทำอย่างเดียวกันกับมือขวา ลูกครึ่งเอลฟ์หลับตา ทำปากขมุบขมิบแล้วเป่าพ้วงเข้าที่ฝ่ามือแบบบาง

“มือซ้ายพิฆาตศัตรู มือขวามีชัยเหนือไพรี ข้าเสกมนตร์ให้แล้ว ถ้าเจ้าฝันร้ายอีกให้ฟาดมือใส่พวกมัน ตบให้ลืมทางกลับไปหามารดาเลย”

ผู้ถูกปลอบมีสีหน้าประหลาดใจ มือของนางยังสั่นน้อยๆ ฝ่ามือที่กำแน่นจนเล็บจิกเนื้อเป็นแผลถลอกแดง ทว่ามีมือใหญ่รองใต้มือของนาง ช่วยจับให้มันหยุดสั่น

นางระบายลมหายใจ ตอบรับว่า “อื้ม” อย่างอ่อนแรง

เจย์เหมือนเห็นสตรีตรงหน้าจางหายไปในชั่วขณะนั้น

อันที่จริงชายหนุ่มไม่มีหรอกมนตร์อะไรนั่น แค่เป็นมุกเสริมกำลังใจ แต่ดูนางจะห่อเหี่ยวกว่าเดิม

“ในฝัน ข้าเจ็บเหมือนโดนค้อนทุบไปทั้งตัว แต่มนตร์ของท่าน ทำให้ข้ารู้สึกดีขึ้น” นางเอ่ยเติมกำลังใจให้เจย์ “แล้ว...จะอยู่อย่างนี้หรือ” นางมองมือที่ถูกจับอยู่

"ไหวหรือเปล่าถ้าจะไปต่อ"

เวลานี้สำนึกของเจย์เกี่ยวกับสตรีเอลฟ์ไร้นามตีกันอยู่สามฝ่าย ฝ่ายหนึ่งอยากพานางกลับบ้านแต่งเมีย ฝ่ายสองอยากช่วยเหลือนาง ฝ่ายสามอยากใช้ประโยชน์จากนางในการหาสินแร่ (แล้วค่อยพากลับบ้านแต่งเมีย)

และการที่เขาถามไปอย่างนั้นแปลว่าสำนึกที่สามชนะ...

นางพยักหน้า

“ข้าเห็นไอสีดำมาจากทางนั้น ท่านอยากตามมันไปไหม” นางผินหน้าไปทางบันไดวนขึ้นหอคอยขนาดยักษ์

เมื่อเขามองตาม...ก็ไม่เห็นไอสีดำอะไร

แต่เมื่อคิดว่าแค่นางแตะมือ ประตูโบราณสถานก็เปิดออก บางทีนางอาจมีความเกี่ยวพันกับสถานที่แห่งนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง


—————————————————————————

A/N #มันก็จะมีความลับหน่อยๆ นะคะ ;)


พบกันครั้งต่อไปวันที่ 24 พ.ค. 60 ค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (2) [22/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-05-2017 08:51:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (2) [22/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-05-2017 10:10:00
 แยกจิตรึ หรือยังไงน้อ รออออ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (2) [22/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 22-05-2017 16:46:13
เอ๊ะ! เจอเจย์ก่อน? มาอิซิลดาร์ก่อน?

เอ๊ะ! เอ๊ะ!  งง

55555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (2) [22/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: kungka ที่ 22-05-2017 23:42:34
คือท่านหญิงมีสองคนต้องมีคนหนึ่งเป็นตัวปลอมแน่ แล้วผีนักรบหายไปใหนอ่ะ หรือเราพลาดตรงใหนไป :katai1: :ling1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (2) [22/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-05-2017 15:15:43
มีคนขโมย ความทรงจำไปจากนางหรือเปล่า
คนนั้นแปลงกายเป็นนางแทน
แต่ไม่ฆ่านาง เพราะความทรงจำจะหายตายตามเจ้าของร่าง /มโนเอง

เจย์ ดูเจ้าเล่ห์ มีไหวพริบ ฉลาดแกมโกง น่าสนใจ
จะได้ประโยชน์จากนางแน่เลย

สงสารเนอร์ดาเนล ตกอยู่ในดินแดนศัตรู
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (2) [22/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 23-05-2017 21:03:53
โอ้ยย เจ้มจ้น!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (2) [22/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 23-05-2017 22:59:55
 :oo1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (2) [22/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 24-05-2017 05:02:57
ตัวละครเยอะมากค่ะ เพิ่งได้มาตามอ่าน ตอนนี้เลยยังกงก๊งนิดหน่อย แต่จะตามต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (3) [25/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-05-2017 23:46:31
บทที่ 23 : เกาะไร้นาม (3)

“ข้าไม่โลภมากเท่าไหร่ ถ้าเจอสินแร่จริงก็ขอสักชิ้นสองชิ้น หรือถ้าไม่มีแงะเอาหินสีดำๆ แถวนี้ไปชั่งน้ำหนักขายก็ได้” เจย์ลุกแล้วฉุดนางขึ้นมา “...หรือถ้าอันตรายมากก็เผ่นก่อน” เขาพูดติดตลก แต่เชื่อเถิดว่าเป็นจริงเกินครึ่ง

นางลังเลเมื่อถูกจูง คล้ายเรื่องในความฝันยังไม่ปล่อยให้นางได้พัก ทว่าด้านหลังของเจย์กลับมีภาพด้านหลังของบุรุษร่างสูง ผมยาวสีทองซ้อนทับขึ้นมา ภาพนั้นทำให้ใจของนางสงบ เดินตามเขาแต่โดยดี

ทั้งสองขึ้นไปด้านบน จู่ๆ ก็มีเสียงครางลากยาวดังลงมาจากชั้นที่อยู่สูงขึ้นไป เสียงนั้นประหลาดพิกล เหมือนตัวอะไรร้องครางอู้อี้อยู่ในน้ำ สตรีด้านหลังจับมือเจย์ที่เดินนำไม่ปล่อย

เจย์ตบมือขวากับกระเป๋าคาดสะโพก เขามีสารพัดยาที่ซื้อบ้างทำเองบ้าง ลูกครึ่งเอลฟ์นึกในใจว่าจะใช้ขวดไหนก่อน ยาทำลายประสาทตาหรือจมูก หรือโยนไปพร้อมกันให้อะไรก็ตามที่รออยู่ชั้นบนมองไม่เห็นและไม่ได้กลิ่น

แต่ระหว่างที่เจย์ตั้งท่าพร้อมสู้ จู่ๆ เสียงครางก็เงียบไป เงียบเกินเงียบ...คล้ายสัญญาณเตือนว่าบางอย่างที่เลวร้ายกำลังมา

หมอกประหลาดค่อยๆ โรยตัวจนแสงอาทิตย์ซึ่งส่องเข้ามาในหอคอยดูสลัวราง มันไม่มาเปล่า แต่มาพร้อมกลิ่นหอมยวนใจ เจย์กระชับมือซ้ายที่จูงโฉมงามไว้ มือขวาเลื่อนจากกระเป๋ายาไปแตะดาบสั้น หมอกทำให้เขามองเห็นภาพตรงหน้าเป็นเงาขมุกขมัว การใช้ยาอาจช้าเกินไปหากสัตว์ประหลาด อมนุษย์ หรืออะไรก็ตามที่แอบซ่อนอยู่ในหมอกเข้าจู่โจมระยะประชิด เพราะฉะนั้นเอาดาบฟันไว้ก่อนเป็นดี

“มีไอสีดำจากตรงนั้น” นางมองไปทางด้านหลังม่านหมอก

เจย์พยักหน้าพลางสืบเท้าไปด้านหน้าอย่างระมัดระวัง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งเจย์ผ่อนคลายเล็กน้อย--แค่เพียงเล็กน้อย ตรงหน้าเขาก็ปรากฏเงาตะคุ่มหลายร่าง

ทว่าเงาเหล่านั้นไม่มีทีท่าจะพุ่งเข้าใส่ กลับกัน มันเคลื่อนไหวเชื่องช้าเกินไป อืดอาดเกินไป ถึงอย่างนั้นลูกครึ่งเอลฟ์ก็ดันไนติงเกลให้แอบด้านหลัง เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดบริเวณขมับแม้อากาศจะเย็น มือที่กำดาบเริ่มชื้น

เงาค่อยๆ ออกจากหมอกทีละร่าง เจย์เพ่งจนเห็นว่าเป็นมนุษย์แต่งชุดอย่างนักล่าสมบัติ

เป็นพวกโจรที่เขาหลอกมาหรือ

ไม่หรอกน่า พวกมันจะเร็วขนาดนำหน้าข้าได้อย่างไร

มนุษย์เหล่านั้นมองเจย์เหม่อลอย เอียงคอไปมาอย่างช้าๆ เหมือนชักกระตุกจนน่าขัน พวกมันเดินเข้ามาใกล้ และเจย์ก็เห็นว่าเป็นพวกโจรที่เขาหลอกให้ร่วมขบวนมาจริงๆ

ทว่าก่อนที่พวกมันจะถึงตัวเจย์ โจรหนุ่มก็ถูกดึงจากข้างหลัง

“ระวัง” เสียงเล็กๆ บอก เจย์รู้สึกเหมือนถูกไฟช็อตที่ฝ่ามือ วูบหนึ่ง ภาพเพื่อนโจรหายไป กลายเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดรูปร่างคนแต่ไม่ใช่คน ร่างกายของมันคล้ายปั้นจากก้อนดินผสมกับชิ้นส่วนจากร่างคน มีเถาไม้แทรกและเกาะอยู่บนส่วนก้อนดิน คล้ายครึ่งคนครึ่งพืชที่ประดับร่างกายด้วยต้นพืชหน้าตาอัปลักษณ์

เถาไม้อวบน้ำสีเขียวเข้มขยับ เผยให้เห็นช่อเกสรสีแดงคล้ำช่อเล็กๆ กับละอองเกสรละเอียดปลิวตามหมอก

ผจญภัยมาไม่น้อย เจย์พอมีความรู้ด้านพืชพรรณแถบนี้อยู่บ้าง ดูจากลักษณะเถาวัลย์อวบน้ำมีดอกสีเลือดหมูหน้าตาอัปลักษณ์ต้นนี้ มันคือ ‘ริกอร์ มอร์ทิส’ หรือ ‘ดอกไม้ซากศพ’

พืชชนิดนี้งอกงามบนซากศพ เมื่องอกแล้วจะใช้รากและเถาชอนไชไปทั่ว รวบรวมเอาดินมาก่อกับร่างศพ บังคับให้ศพขยับได้ ต้นพืชไม่มีความคิด แต่มีสัญชาตญาณการแพร่พันธุ์ ดั่งดอกไม้ที่ขับน้ำหวานเพื่อล่อภมรมาผสมเกสร ดอกไม้ซากศพขับละอองเกสรที่ทำให้ประสาทการรับรู้ของสิ่งมีชีวิตผิดเพี้ยน เห็นภาพหลอน เมื่อเหยื่ออ่อนแรงก็ชอนไชเข้าในร่างกายเพื่อวางเมล็ดพันธุ์ ยางที่ขับออกมาจากเถาของมันเป็นพิษ หากเข้าไปในร่างกายสามารถทำให้มนุษย์ธรรมดาเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงและตายในฉับพลัน

ดูจากความเก่าของเสื้อผ้าอาวุธที่โผล่พ้นดินมาบางส่วน เจย์เดาว่ากระถางมนุษย์ที่ดอกไม้ซากศพได้ คงเป็นโจรที่มาล่าสมบัติก่อนหน้าตน

โจรหนุ่มนึกถึงคำโฆษณาตลกๆ ของพ่อค้ายาสารพัดประโยชน์ ‘ยาฆ่าหญ้าจ้า เร่เข้ามา สวนท่านจะเรี่ยมเร้ไม่มีหญ้าให้รำคาญใจ’

ตอนนั้นเขานึกขัน สวนที่ไม่มีหญ้าคงตลก ใครจะซื้อ แต่ตอนนี้เขาอยากได้ยาปราบพืชสักสิบขวด

“อ่า...” เจย์ล้วงกระเป๋าคาดสะโพกวุ่นวาย เขานึกหาอะไรเหมาะๆ ไม่ได้เลย ไฟเผาหรือ ไม่ได้ ชื้นเกินไป ยกเท้าถีบหรือ ก็ไม่ได้ เดี๋ยวโดนเถาดึงไปใกล้ สูดเกสรมันเข้าไปเต็มปอด กลายเป็นกระถางมนุษย์ใหม่เอี่ยม

มันมีไหมไอ้ที่พืชนรกพวกนี้แพ้ทาง...ลูกครึ่งเอลฟ์คิด

“แสง” สตรีข้างหลังเจย์บอก “ตรงที่มีแสง ไม่มีพวกนี้”

เป็นดังที่นางว่า หอคอยนี้เก่าและทรุดโทรม มีช่องเล็กช่องน้อยให้โจรที่เก่งด้านการปีนป่ายลอดเข้ามาได้ บางส่วนมีแสงส่องถึง และตรงที่มีแสงไม่มีต้นไม้กระหายศพสักต้น พวกมันบังคับศพให้เดินวนเวียนอยู่ในส่วนที่มืดและชื้นเท่านั้น

เจย์ถูกใจสตรีเอลฟ์ขึ้นไปอีก นอกจากสวยยังมีไหวพริบ และมีเค้าว่าจะเป็นนักเวท ครบครันขนาดนี้ พร้อมเป็นแม่ของลูกได้เลย

“ข้าคิดก่อนว่าจะหิ้วเจ้าไปอย่างไรดี”

ลำพังตัวเขาเองปีนโน่นลอดนี่ได้สบาย แต่นางเป็นสตรีแบบบาง เขาต้องนึกท่าอุ้มไม่ให้นางระคายหรือเสียเกียรติ ซึ่งหากใช้ท่าอุ้มเจ้าสาวก็คงทุลักทุเลพิกล

“หิ้วหรือ” นางทำหน้าประหลาดใจ ดวงตาใสสีหินแก้วประกายรุ้งกะพริบปริบๆ อย่างงุนงง ดูน่ารักน่าหยอก

“เจ้าสวมชุดแบบนี้ ร่างก็บางขนาดนี้ จะห้อยโหนไหวหรือ” เจย์ชี้ไปตามแง่งและช่องที่พอจะเป็นทางเลี่ยงดอกไม้นรกไปได้

นางส่ายหน้า ถ้าถามนาง นางไม่คิดว่าตนคุ้นเคยกับการห้อยโหนหรือมีคนจะหิ้วนางเท่าไรนัก

พอเห็นอย่างนั้น ลูกครึ่งเอลฟ์ก็ยิ้มๆ แล้วบอกว่า “เจ้าขี่หลังข้าได้มั้ย กอดข้าแน่นๆ ละ ระวังตก”

“ขี่หลัง?” ดูเหมือนนางจะไม่ชินกับคำนี้เช่นกัน แต่ก็มิได้อิดออด “ตกลง”

เจย์นั่งให้นางขึ้นหลัง เมื่อร่างนุ่มนิ่มเข้ามาเกาะ เจย์ได้กลิ่นหอมและรู้สึกอุ่น แขนเล็กเกี่ยวรอบคอเขา ทุกส่วนของนางนุ่มนิ่มไปหมด เขากระแอม แล้วตั้งใจหาทางปีนป่าย เขาแข็งแรงและนางก็ตัวเบา ทำให้การซอกแซก ปีนป่าย หลบหลีกไร้อุปสรรค

สตรีผู้ไร้ความทรงจำเหมือนจะนึกอะไรออกรางๆ

ตั้งแต่ชายคนนี้จูงมือนาง มาตอนนี้ให้นางเกาะหลัง แผ่นหลังของเขาซ้อนทับกับภาพด้านหลังของบุรุษอีกคนหนึ่ง...คนที่เมื่อหันมาก็มอบรอยยิ้มอ่อนโยนและเมตตาให้แก่นาง ทว่านางนึกใบหน้าของเขาไม่ออก คล้ายมองภาพย้อนแสงที่ทำให้ตาพร่าและเห็นเพียงบางส่วน

ทว่านางค่อนข้างแน่ใจ

ว่าสิ่งที่นางนึกออกจะมีเพิ่มขึ้น...เหมือนมือที่เห็นในความฝัน

“ทุกอย่างเกี่ยวข้องกับน้ำหมดเลยเนอะ” เจย์รำพึง “ข้าเจอเจ้าก็ในถ้ำที่มีน้ำ ดอกไม้พวกนี้อาศัยน้ำ แถมที่นี่อากาศยังชื้นผิดปกติ”

“มีน้ำ ข้ารู้สึกได้ ที่นี่ล้อมรอบด้วยน้ำ ข้างบน...มีน้ำอยู่” แปลกจริง เหตุใดนางจึงบอกว่าข้างบนมีน้ำ ปกติน้ำไหลจากที่สูงลงที่ต่ำก็จริง แต่ตาน้ำไม่ได้ผุดจากอากาศ และไม่น่าผุดจากยอดหอคอย

"หรือว่า..." เจย์ทำเสียงลึกลับ "ความจริงแล้ว..."

"ความจริงแล้ว" นางทวน

"เจ้าเป็นมารดานทีแปลงกายมาทดสอบข้า"

นางหัวเราะเสียงใส ซบใบหน้าลงกับบ่ากว้าง "อย่าล้อข้าเล่นสิเจ้าคะ ท่านพี่..."

นางชะงัก ปวดศีรษะ

ท่านพี่...ท่านพี่นี่หมายถึงใคร...ข้าจะเรียกใคร


"ท่านพี่?" เจย์แปลกใจจนไม่รู้ว่าตัวเองจะแปลกใจได้มากกว่านี้ไหม

"คงเป็นใครสักคนที่ข้าจำไม่ได้" นางตอบเสียงเบา

เจย์แค่ทำเสียงอืมในลำคอ นั่นสิ คงเป็นใครสักคน นางจะเรียกเขาว่าท่านพี่ได้อย่างไร เขาเพิ่งพบนางเมื่อครู่ แถมตัวเขาไม่ใช่พวกชนชั้นสูงอีกต่างหาก

แต่นางอาจใช่

การไต่ไปตามซอกเป็นไปอย่างไม่ช้าไม่เร็ว อย่างน้อยโจรผู้นี้ก็แข็งแรงพอจะพาสัมภาระชิ้นงามบนหลังไปถึงบันไดทางขึ้นอีกฝั่งจริงๆ

"ถึงแล้วขอรับ" เจย์ค่อยๆ ย่อตัวให้นางลง "การเดินทางเป็นอย่างไรบ้าง นุ่มดีไหมขอรับท่านหญิง"

เขาลองเรียกนางด้วยศักดิ์ท่านหญิงถ้าจะมีใครใช้ศัพท์ว่า 'ท่านพี่' ละก็ คงเป็นท่านหญิงนั่นละ

"ท่านหญิง?" ดูเหมือนนางจะมีคำถามกับทุกคำที่เจย์กล่าว แต่เป็นไปในทางที่ดี เหมือนถ้อยคำเหล่านั้นช่วยนางเรียกคืนความทรงจำทีละนิด

และนางก็เหมาะกับคำว่าท่านหญิงจริงๆ

เจย์ถอนใจ สำนึกเขาตีกันอีกแล้ว คราวนี้เป็นเรื่องความทรงจำของนาง ฝ่ายหนึ่งบอกให้เลิกกระตุ้นนางเสีย รีบๆ หาสินแร่มาตบแต่งนางเป็นเมียให้เร็วที่สุด ใจสองคืออยากช่วยเหลือนาง ส่วนใจสามไม่อยากเลือกอะไรเลยเพราะเห็นความวุ่นวายอยู่ไหวๆ

ปล่อยนางไปตามยถากรรมเถิด

ตอนที่จะขึ้นไปชั้นต่อไป เจย์ได้ยินเสียงโวยวายจากด้านหลัง

"ว้ากกก ต้นไม้พวกนี้มันอะไรกัน!"

คราวนี้ไม่ใช่ภาพหลอนหรือเสียงแว่วที่คิดไปเอง มันเป็นเสียงคนจริงๆ เสียงคนที่เจย์รู้จักเสียด้วย...พวกโจรเดนตายที่ยังไม่ยอมตาย

พวกมันตามหลังเจย์ ทุลักทุเลขึ้นจากน้ำและหลงทางอยู่คืนหนึ่งก็ตามมาถึงหอคอยแห่งนี้ เมื่อเห็นประตูทางเข้าเปิดกว้าง พวกมันก็ถูมือ รีบตามเข้ามาอย่างไม่รีรอ

ช้าก็อดสมบัติน่ะสิ!

และเพราะความโลภ เมื่อสำรวจชั้นล่างของหอคอยยักษ์แล้วไม่พบอะไร ทั้งกลุ่มก็รีบพุ่งขึ้นมาชั้นบน จ๊ะเอ๋กับคนเก็บค่าผ่านทาง...หรือฝูงดอกไม้ซากศพเข้า

เสียงร้องลั่นด้วยความหวาดกลัวบอกเจย์ว่ามีคนตายไปแล้วหนึ่งคน

คราวนี้สำนึกของเจย์รวมเป็นหนึ่ง

ทิ้งแม่ง

"ใครน่ะ" โฉมงามเอ่ยถาม

"หูแว่วน่า หูแว่ว" เจย์พานางไปต่อโดยเมินเสียงซึ่งดังปานปลุกหมีได้ เขาขึ้นบันไดหินที่ทรุดโทรมแต่ยังแข็งแรง มุ่งหน้าสู่ไอหมอกสีดำที่นางชี้ทาง

"ช่วยด้วย! เฮ้ยๆๆ เถาวัลย์มันรัด!" เสียงโหวกเหวกดังไล่หลังไม่หยุด

“ถ้าพวกเขายังทำเสียงดัง ตัวอะไรที่อยู่ข้างบนจะรู้ตัวไหม” นางดึงเสื้อเจย์ไว้

“ตัวอื่นรึ” โจรหนุ่มนึกไพล่ไปก่อนหน้าที่ดอกไม้ซากศพจะออกมา เวลานั้นมีเสียงครางของสัตว์ร้ายไม่เห็นที่มาจริงๆ

เจย์เหลือบตาขึ้น สินแร่ดำสำคัญเสียจริง มีดอกไม้กินคนไม่พอ ยังมีสัตว์ประหลาดคอยเฝ้าอีก! และเวลานี้เสียงโหวกเหวกของโจรกลุ่มเล็กๆ ก็ทำลายขนบการแอบย่องแฝงตัวอย่างโจรที่ดีไปหมด

“ช่วยด้วยๆ! ไอ้ห่าเจย์มันไปตายที่ไหนวะ แม่งตายไปแล้วใช่ไหม ถ้าไม่ตายแล้วข้ารอดไปได้นะ!” โจรคนหนึ่งพยายามใช้ดาบฟันซากศพ แต่ดาบติดอยู่ในก้อนดินหนืด ดึงไม่ออก

"ขอยืมดาบ" เอลฟ์สาวบอกเจย์ และโดยไม่รอคำตอบ นางดึงดาบสั้นจากเอวโจรหนุ่ม จากนั้นใช้มืออีกข้างรองใบดาบ แล้วทูนเหนือศีรษะ

โลหะสีเงินมันเงาทำมุมตั้งฉากกับแสงอาทิตย์ แสงสะท้อนจากใบดาบวูบวาบเข้าตาพวกโจร นางร่ายมนตร์

"ลูเมียร์..." มนตร์นี้ออกจากปากอย่างน่าอัศจรรย์ทั้งที่นางไร้ความทรงจำ เป็นภาษาเวทมนตร์ของเอลฟ์

เจย์คิดว่า มารดาขอรับ ลูกเก็บโฉมงามได้ผู้หนึ่ง และนางเป็นนักเวทตัวจริงเสียงจริงขอรับ

มนตร์ที่นางร่ายส่งให้แสงบนใบดาบขยายกว้างขึ้น สาดวาบลงไปด้านล่าง ทำให้หอคอยทั้งชั้นสว่างเหมือนมีใครโยนดวงอาทิตย์ลงไป

ดอกไม้ซากศพที่ติดพันกับเหยื่อกลุ่มใหม่ทุรนทุรายทันที

แสงนี้ไม่ได้ร้อนหรือทำอันตรายใดๆ มันเพียงสว่างเทียมแสงอาทิตย์เท่านั้น อย่างไรก็ตามเจย์รีบหลับตา เขาไม่อยากมึนแสง แต่พวกโจรที่ไม่ได้เตรียมตัวตาบอดแสงทั้งหมด หลังจากนี้คงต้องใช้เวลาปรับการมองเห็นสักพัก และเวลานั้นแหละที่เจย์จะเผ่น

ทว่าปัญหาเดิมยังอยู่…

“ว้ากๆๆๆๆ”

จะแหกปากกันทำไมหืม

"เจ้ามีเวทอุดปากคนไหม" เจย์ถามเอลฟ์สาวซื่อๆ

"ไม่รู้สิ..." นางยังทูนแสงเหนือศีรษะ "บอกให้พวกเขารีบมาทางนี้สิ จะได้หยุดร้อง" นางแปลกใจกับเวทแสงบทนี้เหมือนกัน นางรู้แค่ตนใช้เวทได้ คล้ายคนที่ว่ายน้ำเป็นครั้งหนึ่ง ก็จะว่ายน้ำเป็นตลอดไป

"แต่พวกมันอยากฆ่าข้านะ" เจย์พูดข้อเท็จจริง ถ้าเขาโดนหลอกมาตายแบบพวกมัน ก็คงอยากฆ่าไอ้ตัวการเช่นกัน

"เช่นนั้นจะทิ้งหรือ" นางถามเจย์ ดวงตาใสไม่ฉายแววใด ยกให้เขาตัดสินใจ

"ข้าไม่อยากพูดให้ตัวเองเป็นคนเลว แต่...ถูกต้อง ทิ้ง" อย่างที่ทราบ เจย์วางแผนทิ้งพวกโจรแต่แรก ซึ่งอาจมีรอดมาแบ่งสมบัติสักคนสองคน แต่ถ้าทำได้ก็...ไม่ต้องแบ่งใครดีที่สุด

นางจึงลดดาบลง แสงกระจายออกและลดความสว่างจนค่อยๆ หายไป ทว่าการช่วยเหลือของนางครั้งนี้ แม้เล็กน้อยก็มีผล ดอกไม้ซากศพโดนแสงเข้มข้นสว่างจ้าจนหยุดการเคลื่อนไหว ถึงพวกโจรไม่ทราบว่าแสงมาจากไหนหรือใครช่วยมันไว้ ก็ยังมีไหวพริบพอรีบคลำทางหนีกลับไปชั้นล่าง

เอลฟ์สาวคืนดาบสั้นให้เจย์

"ดูเหมือนพวกเขารู้จักท่าน เหตุใดจึงคิดทำร้ายท่าน"

"เจ้าเก่งนะ" เจย์เฉไฉด้วยการชมนาง "สอนเวทข้าบ้างสิ ข้ามีแต่พวกเครื่องราง รู้เวทบ้าง แต่พอร่ายแล้วไม่เห็นเกิดอะไรขึ้น"

"ท่านไม่ตอบคำถามของข้า"

เจย์ไหวไหล่ "ข้าหลอกพวกมันมา" เขาตอบอย่างจริงใจ

"ก็เลยทิ้งหรือ"

"อ่า..." คำถามนี้เจย์ไม่รู้จะตอบอย่างไร เลยรับว่า "อื้อ" เพียงสั้นๆ แล้วชวนขึ้นไปต่อ

นางพยักหน้า ไม่ถามอีก แต่เอ่ยเรียบๆ “ถ้าท่านจะทิ้งข้า อย่างน้อยก็บอกลาสักคำ” นางพูดอย่างที่ตนรู้สึก ดวงตาของนางไม่ตัดสิน ไม่คิดแทนเจย์ แต่นั่นทำให้น่าอึดอัดยิ่งกว่านางออกความเห็นเสียอีก

"เจ้าทำให้สำนึกที่ดีของข้าเต้นผาง" เจย์ทิ้งหางตาลง ทว่าความจริงแล้วเป็นสำนึกชั่วต่างหากที่เต้นเร่า

เปล่า เขาไม่ได้จะทิ้งนาง แต่ระหว่างพูดคุยกันเขานึกได้ว่า ถ้าสัตว์ประหลาดอีกตัวรองาบเขาที่ชั้นบนจริงๆ ก็ควรมีเหยื่อล่อสักหน่อย

ฉะนั้นแล้ว…

พี่น้องโจรจ๋า กลับมาหาข้าเถิด

“ไม่ทำหน้าแบบนั้นสิไนติงเกล ข้าไม่ทิ้งเจ้าหรอก”

นางส่ายหน้า “ข้าแค่คิดว่า ถ้าจากกันโดยไม่ได้ลา คงน่าเสียใจ” มีความทรงจำหนึ่งที่นางนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก แต่รู้สึกว่ามันสำคัญมาก

ข้าได้บอกลา...ท่านผู้นั้นหรือเปล่านะ แล้วท่านผู้นั้น...เป็นใคร นางพริ้มตา นึกถึงบุรุษที่นางเห็นซ้อนทับกับเจย์ คนที่เคยจูงมือนาง ให้นางขี่หลัง...

นางรู้สึกเศร้าที่จำเขาไม่ได้

“เอาละ สำนึกที่ดีที่เจ้ากระตุ้นบอกข้าว่าอย่าทิ้งพวกโจรปลายแถวนั่น”

นางเงยหน้า ดวงตาเหมือนมองทะลุเข้าไปในใจเจย์ และจ้องอยู่เช่นนั้นโดยไม่พูดอะไร

เจย์อ่อนใจและใจอ่อนกับสายตาของนาง โฉมงามทำหน้าเศร้าพร้อมตัดพ้อ...กลัวจะถูกทิ้งจริงๆ สินะ

โธ่ ทูนหัว

เจย์คิดเข้าข้างตัวเองไปไกลสุดกู่


—————————————————————————

A/N มาช้าไปหน่อย ขอโทษด้วยค่ะ ตอนนี้ยาวมากๆ และรีไรท์เสียเยอะ

จริงๆ อยากลงพร้อมกัน 2 ตอน อีกตอนถ้าเสร็จเมื่อไหร่จะรีบลงทันทีนะคะ -3-


ป.ล. เนื้อเรื่องส่วนนี้ดูแฟนตาซี้ แฟนตาซี (*0*) เราชอบนะคะ หวังว่าคนอ่านจะชอบค่ะ


พบกันครั้งต่อไปวันที่ 26 พ.ค. 60 ค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (3) [25/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-05-2017 01:10:20
อ่อยย! มันอะไรยังไงกันนะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (3) [25/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-05-2017 06:28:15
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (3) [25/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-05-2017 06:36:00
ฮ่า ๆ ๆ

ขำเจย์ ทั้งสำนึกดี สำนึกชั่ว ความต้องการเอาตัวรอด ความอยากได้เมีย ตีกันมั่วไปหมด

แอรี่ตอนนี้ดูน่ารัก ใส ๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (3) [25/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-05-2017 07:49:21
ฮ่า ๆ ๆ

ขำเจย์ ทั้งสำนึกดี สำนึกชั่ว ความต้องการเอาตัวรอด ความอยากได้เมีย ตีกันมั่วไปหมด

แอรี่ตอนนี้ดูน่ารัก ใส ๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (4) [26/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 26-05-2017 23:44:27
บทที่ 23 : เกาะไร้นาม (4)


"ข้าไม่ทิ้งเจ้า" ลูกครึ่งเอลฟ์ยืนยันหนักแน่น และขณะที่เขาส่งสายตาเกือบหวานซึ้งให้นาง พวกโจรเหมือนรู้เวลา ดันกลับขึ้นมาเมื่อต้นไม้ประหลาดไม่ไล่ตามพวกมันลงไป

ความโลภเป็นแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่จริงๆ

คราวนี้หมอกหายไปแล้ว พวกมันเห็นเจย์ จึงปีนป่ายอย่างว่องไวมายังจุดที่เขาอยู่

“โอ้โห! แม่เจ้าโว้ย! งามล้นเหลือ เป็นนางเอลฟ์ด้วย!” หนึ่งในพวกมันเห็นไนติงเกลแล้วลืมด่าเจย์ไปเลย กลับยักคิ้ว กระดิกหนวด ยิ้มเจ้าชู้ให้นาง ส่วนอีกสองคนที่อุตส่าห์รอดส่งสายตาให้กัน พวกมันประเมินราคาของสตรีตรงหน้า นางต้องทำกำไรดีแน่

ทว่านางเอลฟ์ผู้นี้มีบรรยากาศผิดกับเอลฟ์สามัญทั่วไป ความงามและลักษณะท่าทางของนางนั้นเหมือนพวกชนชั้นสูง พวกโจรจึงซุบซิบกันอีกว่าอาจนำปัญหามาให้

เจย์อ่านสายตาของพวกมันได้หมด เขาแทบแยกเขี้ยวใส่ หากคำรามได้คงคำรามไปแล้ว ท่าทางอย่างนี้แปลได้สองอย่าง หนึ่ง เขาเป็นสุภาพบุรุษที่ปกป้องสตรีจากพวกหยาบช้า และสอง เขากำลังประกาศว่าตนเจอนางก่อน...ฉะนั้นแล้วนางจึงสมควรเป็นของข้า!

ถ้าคบหาเจย์สักระยะหนึ่งจะทราบว่าเขาไม่ใช่คนเลวหรือคนดี เขาเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของทั้งสองอย่างนั่นละ ว่ากันตรงๆ เขาทั้งอยากปกป้องและอยากได้นางไว้เอง

“ไนติงเกล” เจย์แนะนำนางกับพวกโจร “นางช่วยชีวิตพวกเจ้าเอาไว้” น้ำเสียงของลูกครึ่งเอลฟ์ดุ

โจรสองคนที่ปรึกษากันมองท่าทีหวงก้างของเจย์ออก พวกมันเข่นเขี้ยว ขัดใจ แต่เมื่อทราบว่าเอลฟ์โฉมงามนางนี้เป็นผู้ใช้เวทแสงช่วยพวกมันไว้ ประโยชน์ใช้สอยของนางก็ถูกคำนวณใหม่

กลุ่มโจรล่าสมบัติคณะนี้  ตอนแรกเข้าถ้ำมาห้าคน เมื่อสักครู่ตายไปหนึ่ง ทั้งกลุ่มจึงเหลือสี่คน คือเจย์และโจรที่ถูกช่วยไว้สามคน ส่วนนักเวทเอลฟ์สตรีลึกลับซึ่งเจย์ไม่ยอมบอกตรงๆ ว่าเจอนางที่ไหนอย่างไร คือสมาชิกใหม่

“ข้าคิดว่าสินแร่อยู่ข้างบนหอคอยนี้” เจย์กล่าว

“วิเศษ! ไปหาสินแร่กัน” โจรที่เข้ามาทักคนแรกบอก จากนั้นก็กระซิบ “ไม่เลวเลยนี่หว่า เอานักเวทมาเป็นพวกได้ กะใช้ประโยชน์จากนางทุกทางเลยใช่ไหม”

คำว่า ‘ทุกทาง’ ฟังกักขฬะ หยาบโลน

"ให้เกียรติสตรีหน่อยน่า" เจย์ถอนใจ แต่...เอ้อ ก็คิดอย่างที่มันว่านิดๆ แค่นิดเดียวจริงๆ

มันตบหลังเจย์ "เราเป็นพี่น้อง มีอะไรก็แบ่งกันน่า"

แม้ไม่ได้ยินสิ่งที่โจรกระซิบ สตรีที่เป็นหัวข้อสนทนาก็รู้สึกเคว้งคว้าง เหมือนมีหลุมใหญ่ถูกขุดขึ้นในอก พวกเขาไม่ทราบหรือว่าสิ่งที่คิดแสดงออกมาทางสีหน้า ไม่ต้องได้ยินก็เดาเจตนาออก

บิดาเอ็งสิ้น...เจย์สบถในใจ เขาคิดชั่ว (นิดๆ) แต่ไม่ชั่วขนาดมัน เขาลดฝีเท้ารอนาง และเดินข้างๆ เหมือนเป็นองครักษ์

นางลูบแขนตัวเอง นึกถึงตอนที่เจย์ปลอบนางจากฝันร้าย--ความฝันที่เต็มไปด้วยมือกดร่างนางไว้ นางหลบเดินข้างเขา รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย

“ข้ารู้สึกว่า ปกติข้ามีแต่สตรีล้อมรอบ” นางเปรยเหมือนจำได้รางๆ

เจย์ถอนใจ “ดีแล้ว ดีกว่ามีแต่พวกอะไรก็ไม่รู้ล้อมรอบแบบข้า” เขารองมือบริเวณแผ่นหลังแบบบางของนางโดยไม่แตะต้อง เผื่อนางสะดุดจะได้รับทัน และเป็นการประกาศว่านางมีเขาปกป้อง

อย่าแตะต้องเข้าใจมั้ย


กลุ่มห้าคนอันประกอบด้วยชายสี่ หญิงหนึ่ง เดินขึ้นหอคอยอีกหลายชั้น บางชั้นเป็นบ่อทรายกับแมลงมีพิษซึ่งซ่อนอยู่ใต้ผืนทราย บางชั้นมีพืชประหลาดซึ่งร้ายกาจและหิวโหยไม่แพ้ดอกไม้ซากศพ แมลงและพืชเหล่านี้คอยกำจัดผู้บุกรุก ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเกาะแห่งนี้มีแต่คนเข้ามา ไม่มีคนออกไป

สหายโจรหนวดเฟิ้มที่เป็นผู้นำคนอื่นๆ แอบถามเจย์ว่า ทำไมถึงเชื่อตามที่นางเอลฟ์บอก ไอสีดำที่นางว่าคืออะไร ทำไมไม่มีใครมองเห็นนอกจากนาง แล้วขึ้นไปข้างบนจะมีสินแร่สีดำจริงหรือไม่

"เจ้าเป็นโจรจริงหรือเปล่า" เจย์กระซิบ

"อะไรวะ"

"สัญชาตญาณไง บิดาแห่งโจรไม่กระซิบบอกเจ้าหรือ สวดภาวนาน้อยไปหรือเปล่า"

มันทำหน้าเหยียดหยามเจย์ ซึ่งโจรหนุ่มก็ทำหน้าแบบเดียวกันใส่

ยิ่งขึ้นสูง ลูกครึ่งเอลฟ์ยิ่งขนลุก เขามองไม่เห็นไอสีดำแต่สัมผัสได้ว่าอากาศหนักขึ้น ที่นี่ชื้น หายใจทีได้แต่ละอองน้ำ

และยิ่งเดินขึ้นไปเท่าไร พวกโจรก็ยิ่งรู้สึกว่าสตรีนางนี้แกร่งและน่าเกรงขามกว่ารูปร่างหน้าตาภายนอก นางไม่ได้ถือดาบกวัดแกว่งฟาดฟันอะไร แต่นางขึ้นหอคอยซึ่งเต็มไปด้วยภยันตรายโดยไม่มีอาการลังเลใจหรือหวาดกลัว

ในที่สุดทั้งหมดก็มาถึงชั้นที่ไม่มีบันไดไปต่อ แสดงว่าเป็นชั้นสูงสุด ชั้นนี้เป็นถ้ำหินงอกหินย้อยสีดำสนิท ขนาดจุคนได้นับร้อย ไม่มีพืชหรือสิ่งมีชีวิตอันตราย บนผนังสลักอักขระเวทซับซ้อนและน่าขนลุก

“ข้าหายใจไม่ออกว่ะ” หนึ่งในโจรบ่น มันเอามือยันหิน ขาแทบทรุด หัวหน้าโจรผู้ไว้หนวดก็เหงื่อแตกพลั่ก คงมีแค่เจย์ที่อึดกว่าคนอื่น เขานึกขอบใจบิดาที่ให้เลือดเอลฟ์มากึ่งหนึ่ง แม้ว่ามันจะไม่เคยมาดูดำดูดีเขากับมารดาเลยก็ตาม

บรรยากาศทึบและหนักทำให้ทางข้างหน้าเหมือนมีคำเตือนล่องหนเขียนไว้ ว่า ‘จงอย่าบังอาจเข้ามา’ ที่จริงคำเตือนก็มีมาตั้งแต่ชั้นแรกๆ และในทุกๆ ชั้นแล้ว

ค่อยๆ เดินลึกเข้าไป แท่งหินงอกหินย้อยก็ยิ่งหนาตา พวกมันงอกอยู่รอบประตูหินบานมหึมาที่สูงจากพื้นจรดเพดาน บานประตูใหญ่ดูหนักจนไม่น่ามีใครเปิดได้ ทั้งยังไม่น่าไว้ใจ...

แต่มาถึงขนาดนี้แล้วต้องไปให้สุด เวลานี้เจย์อยากรู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในหอคอยมากกว่าอยากได้สินแร่เสียอีก

เผลอครู่หนึ่ง ยังไม่ทันที่เจย์ตัดสินใจก้าวขาไปสำรวจบานประตู เอลฟ์สาวกลับเดินเข้าไปก่อนเหมือนคนใจลอย

เวลานี้โจรมนุษย์ต้องหยุดพักเพราะเรี่ยวแรงถูกสูบ พวกมันได้แต่มองดูนางแตะมือบนสัญลักษณ์กลางประตู

เหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นอีก สัญลักษณ์บนประตูเรืองแสง บานประตูส่งเสียงครืนเบาๆ คล้ายเสียงครวญของปีศาจก่อนจะเปิดออกกว้าง

ทว่าคราวนี้ไม่ราบรื่นเช่นคราวที่แล้ว เมื่อสิ่งที่รอต้อนรับพวกเขาอยู่หลังบานประตูคือหมอกสีดำทึบม้วนวนเหมือนก้นบึ้งนรก เร็วกว่าที่ใครจะคาด หมอกกลุ่มนั้นพุ่งออกมาม้วนกลืนร่างเอลฟ์สตรีเข้าไป!

“เกล!” เจย์ผวาเข้าไปคว้าข้อมือนาง ไอสีดำจึงม้วนเขาไปด้วย ขณะโจรที่เหลือตะลึงงัน จะหนีก็ไม่ได้ เพราะก้าวขาไม่ออก จะช่วยหรือ ฝันไปเถอะ!

ในหมอกสีดำมีสัตว์ประหลาดรูปร่างยาว เจย์ได้ยินเสียงครางของมันดังสะท้อนไปมา เสียงที่เหมือนเสียงอะไรบางอย่างครางอยู่ในน้ำซึ่งเขาได้ยินในชั้นแรกๆ

เจ้าสัตว์ประหลาดที่เขายังมองไม่เห็นว่ายไปมาอยู่ในหมอก มันเคลื่อนไหวรวดเร็วและลื่นไหล แรงกระแทกของมันหนัก แค่ถูกมันเฉียดเจย์ก็เสียหลักจนกระเด็น

ไม่พอ สัตว์ประหลาดตัวนั้นยังมีผิวที่แฉะ กระด้าง และคมมาก โจรหนุ่มเจ็บบริเวณที่ถูกเฉียดและได้กลิ่นเลือดของตัวเอง

“อยู่ใกล้ข้าไว้” เจย์ใช้แขนข้างหนึ่งโอบไนติงเกลไว้ นางดูทรมานอยู่ในหมอก ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร

เขาเตรียมซัดยาพิษทำลายระบบรับกลิ่น แต่พอถูกเฉียดอีกครั้งก็ขวดก็หลุดมือ ลูกครึ่งเอลฟ์สบถ เขาคว้ายาอีกขวด คลำดูลักษณะขวดน่าจะเป็นระเบิดควัน

โอ เยี่ยม ใครอยากให้มีควันในหมอกบ้าง

จากการสัมผัสเฉียดไปเฉียดมา เจย์รู้สึกเหมือนถูกปลาตัวมหึมาพุ่งชน การโจมตีครั้งแรกถากไหล่เขาเป็นแผลลึกทีเดียว

แต่ปลาที่ไหนจะมาว่ายอยู่กลางอากาศ ภายในหมอก แถมยังส่งเสียงหายใจครืนครั่นน่าสยอง!

เจย์คลำเจออีกขวด คราวนี้คิดว่ามีประโยชน์ แค่คิดว่า...เขารอจังหวะถูกกระแทกอีกครั้งแล้วเขวี้ยงใส่มัน!

ขวดแก้วแตกกระจาย สารเรืองแสงที่ได้จากสาหร่ายเปรอะสัตว์ทมิฬ ทำให้เขารู้ตำแหน่งของมันในหมอกสลัว

จากโครงร่างที่ได้เห็น มันเป็นปลาขนาดยักษ์ที่ว่ายอยู่ในหมอกจริงๆ!

“แสง…” สตรีที่เจย์เรียกว่าไนติงเกลบอก “มันน่าจะแพ้แสงเหมือนอย่างอื่นในหอคอยนี้” ทว่าเวทแสงที่นางใช้เมื่อครู่ต้องมีแหล่งกำเนิดแสง เช่นพระอาทิตย์ ในห้องนี้มืดทึบ อับชื้น อวลไอน้ำเข้มข้นรุนแรง หมอกสีดำทำให้ทัศนียภาพรอบด้านคล้ายทะเลลึก

ได้ยินไนติงเกลว่าอย่างนั้น ลูกครึ่งเอลฟ์ตะโกนบอกพวกโจรที่อยู่ด้านนอก “ไฟ!” พูดก็พูดเถิด เขาไม่คิดว่าพวกมันจะช่วย ดังนั้นจึงต้องกระตุ้นอะไรสักหน่อย

“ข้าเจอสินแร่แล้ว! โคตรเยอะ! แต่ต้องใช้ไฟปราบสัตว์หวงของก่อน!”

เหรียญทองมีอำนาจเสมอ พวกโจรปรึกษากันทางสายตา สรุปได้ว่าอย่างไรเสียเจย์กับนางเอลฟ์ก็เป็นเหยื่อล่อสัตว์ประหลาดแล้ว ช่วยเรื่องฟืนไฟอีกนิดหน่อยจะเป็นอะไรไป

เช่นนั้น…

“ช่วยด้วยโว้ย!” เจย์แหกปาก

และได้รับระเบิดเพลิงแทนคำตอบ

ราวกับพวกโจรเล็งไว้เป็นอย่างดี ระเบิดเพลิงถูกโยนเข้ามาใกล้โจรหนุ่ม ใกล้มากขนาดทำลายพื้นหินซึ่งห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร แสงสว่างตูมใหญ่วาบขึ้นพร้อมเสียงกัมปนาท เขาหลับตาแน่น ใช้หลังรับแรงกระแทกพร้อมกอดบังไนติงเกลไว้

มีแสง...และมีระเบิดแถมด้วย ระหว่างเผชิญหน้าสัตว์ประหลาดกับถูกพวกเดียวกันระเบิดร่างเละ ไม่รู้ทางไหนจะตายสบายกว่า

“บิดาเอ็งสิ้น!” โจรหนุ่มสบถใส่พวกมันแบบไม่สนมารยาทต่อหน้าหญิงสาว เศษหินที่กระเด็นมาร่วงกราวจากแผ่นหลัง

ตูม! ตูม! ตูม!


ระเบิดเพลิงถูกโยนเข้ามาอีกอย่างว่องไว คล้ายพวกโจรตอบรับคำสรรเสริญบิดา เจย์เริ่มชินกับแสงและเสียงของระเบิดขนาดเล็กพวกนี้ ดวงตาของเขาแม้จะพร่าแต่พอเห็นว่าห้องปิดตายแห่งนี้เกลื่อนไปด้วยสินแร่ดำที่ตามหา

มันเป็นแท่งผลึกงอกขึ้นมาจากพื้น ผนัง และเพดาน มากมาย...มหาศาล

นอกจากนี้ เขายังเห็นสัตว์ประหลาดชัดแจ้งเต็มสองตา

แสงเพลิงวูบวาบส่องให้เห็นลักษณะของสัตว์เฝ้าสถานที่ มันมีตาปูดโปน ผลึกสีดำขนาดใหญ่งอกบนศีรษะและตามลำตัว เป็นผลึกแบบเดียวกับสินแร่ที่เจย์มาตามหา เกล็ดสีทึบของมันเป็นเมือก ฟันแหลมยาวไม่เป็นระเบียบ ครีบคมขนาดตัดหินได้

นี่คือลักษณะของปลาทะเลน้ำลึกที่เจย์เคยเห็นพ่อค้าดวอร์ฟนำซากมาเร่ขาย

ปลาปีศาจว่ายหนีแสง มันดิ้นไปรอบๆ แต่ไม่อาจออกจากห้องนี้ คล้ายมันถูกขังให้ปกป้องบางสิ่งชั่วนิรันดร์

ตูม!


พวกโจรผ่าโยนระเบิดเข้ามาอีกระหว่างที่เจย์ตะลึงงัน พวกมันเก็บชุดใหญ่ไว้จัดหนักสัตว์ประหลาดเฝ้าสมบัติในเกาะ และเพราะหน้ามืดเมื่อได้ยินว่าพบสินแร่ดำแล้ว พวกโจรปัญญาทึบจึงลืมคิดไปว่ากำลังเล่นระเบิดอยู่ในหอคอย...

แรงระเบิดทำร้ายปลามรณะที่ว่ายวนในหมอกสีดำได้ก็จริง แต่อาจถล่มหอคอยได้ ทว่าหลังจากทดลองโยนระเบิดไปหลายลูก พบว่าหอคอยแข็งแกร่งไม่สะเทือนสักนิด มหกรรมโยนระเบิดจึงเกิดขึ้น

“โลงศพ...มีโลง” จู่ๆ เอลฟ์สาวเหมือนนึกอะไรได้บางอย่างขณะที่เจย์พาหลบระเบิด (และปลาปีศาจที่ดิ้นไปมา) นางดูสับสน เนื่องเพราะภาพความทรงจำไม่ปะติดปะต่อวูบวาบขึ้นมาราวกับแสงเพลิงจากระเบิด

นางเห็นภาพตัวเองร่ายเวทอยู่หน้าโลงหิน อัญเชิญจ้าวมัจฉาเกล็ดสีเงินเหลือบรุ้งสวยงามตัวหนึ่งปรากฏตัวในห้องนี้

ในภาพความทรงจำ ห้องอันทึบทึมแห่งนี้เคยสวยงามและสว่างไสว สายน้ำสีฟ้าใสบริสุทธิ์พวยพุ่งและกลายเป็นไอหมอกสีฟ้าจาง เป็นที่อยู่ของมัจฉาซึ่งมีเกล็ดเหมือนแสงอาทิตย์

“ทางนั้น! โลงอยู่ทางนั้น” นางร้องขึ้นแล้วชี้ไปด้านหลังปลาปีศาจ เจย์หรี่ตามองผ่านหมอก พบว่ามีแท่นหินตั้งอยู่ในเงามืดตรงด้านหลังปลาบ้าเลือดจริงๆ

นั่นคือโลงศพหรือ...


ระหว่างตัวโลงหินและฝาซึ่งปิดสนิทมีไอหมอกสีดำไหลออกมาเรื่อยๆ มันกระตุ้นให้ไนติงเกลเห็นภาพตัวเองกล่าวว่า

 

“ข้าจะทิ้งสัตว์เทพผู้พิทักษ์เอาไว้และปิดตายหอคอยแห่งนี้ แต่เราไม่อาจหยุดยั้งการไหลของไอคำสาปที่เกิดจากความเคียดแค้นถึงขีดสุดในวาระสุดท้ายของเขา ได้แต่ให้ภูตมัจฉาตัวนี้ช่วยบรรเทาด้วยการดูดซับไอคำสาป”

 

จากนั้นตัวนางในความทรงจำก็หันไปหาผู้ฟัง ซึ่งเป็นบุรุษเอลฟ์ร่างสูงสง่าในชุดเกราะเงินสูงศักดิ์

เอลฟ์ผู้นั้นสวมหน้ากากโลหะปิดครึ่งหน้าซีกซ้าย

และมองนางด้วยดวงตาสีส้มตัดเงินราวกับแร่เหล็กในเบ้าหลอม

เอลฟ์สาวสะท้านเฮือก

ใคร เอลฟ์ผู้นั้นเป็นใคร...

แล้ว ‘เขา’ ที่ตายไปพร้อมกับความเคียดแค้นถึงขีดสุดเป็นใคร!

สารภาพว่า...ตอนที่เจย์ได้ยินคำว่า ‘โลงศพ’ หลุดจากปากของนาง สำนึกของเขาก็แยกเป็นสามส่วนอีกครั้ง ใจแรกบอกให้เผ่น อีกใจหนึ่งบอกว่าเอาให้ถึงที่สุด และใจสุดท้ายบอกให้ ‘แค่แง้มๆ โลงดูแล้วค่อยเผ่นอย่างลูกผู้ชาย’

เจย์เลือกฟังสำนึกที่สาม เขากระชับดาบสั้นก่อนพานางหลบหลีกปลาปีศาจไปยังที่ตั้งโลงศพ การเคลื่อนไหวของโจรหนุ่มช้าลงเพราะบาดแผลที่ปลาชั่วฝากไว้ แต่ดีที่มันอ่อนแรงเช่นกัน

ทว่าพอเข้าไปใกล้ ปลาปีศาจก็ดุร้ายขึ้น มันแหวกหมอกสีดำตรงมาทางเขา ซึ่งเวลานี้เขานึกขอบคุณระเบิดที่พวกโจรเขวี้ยงมาเป็นระยะ พวกมันตะโกนถามว่า

“สัตว์ประหลาดตายโหงหรือยัง!”

“ใกล้แล้ว! โยนมาทางซ้ายหน่อย...ซ้ายโว้ยไม่ใช่ขวา!”

เจย์เริ่มมั่นใจว่าปลามรณะเป็นสัตว์พิทักษ์ มันได้รับหน้าที่ให้ปกป้องสิ่งที่เขาดูอย่างไรก็เป็นแท่นหินธรรมดาไร้ลวดลาย โจรหนุ่มพานางเอลฟ์ลัดเลาะไปจนถึงบริเวณที่มืดที่สุด--บริเวณซึ่งแท่นหินวางตั้งอย่างโดดเดี่ยว ปลาปีศาจพุ่งเข้ามาด้วยความโกรธจัด แต่ก่อนที่มันจะถึงตัวเขาก็โดนระเบิดเข้าอย่างจังเสียก่อน

ไนติงเกลนิ่งขึงต่อหน้าแท่นหินราวกับถูกสาป นางก้าวเข้าไปใกล้และวางมือบนฝาโลงเย็นเฉียบ หมอกสีดำม้วนวนไปรอบมือของนางคล้ายทักทาย ขณะเจย์ง่วนอยู่กับการหาทางรับมือปลามรณะและไม่ทันได้สังเกตความผิดปกติ

สัตว์พิทักษ์ครางอย่างโกรธเกรี้ยว มันสะบัดครีบหาง ฝ่าหมอกและเพลิงมายังผู้บุกรุก ปากอ้ากว้างจนเห็นฟันคมหลายแถบ เจย์นึกจินตนาการถึงความเจ็บปวดยามถูกมันเคี้ยวทั้งเป็นได้ ทว่าตอนที่เขาสวดภาวนาขอความเมตตาจากบิดาแห่งความตายนั้นเอง สตรีเอลฟ์ปริศนาก็ยกแขนขึ้นแล้วเอ่ยภาษาเวท!

ดาบเวททรงอำนาจอันมีค่าควรเมืองปรากฏขึ้นในมือของนางอย่างน่าพิศวง แสงสีฟ้าเปล่งจากใบดาบและระเบิดออกทุกทิศทาง ส่งเสียงกัมปนาท ผ่าร่างปลาปีศาจเป็นสองส่วน ก่อนจะกลายเป็นเศษเนื้อกลางอากาศ ฝนเนื้อและโลหิตตกใส่ร่างนางและเจย์ ขณะที่หมอกสีดำถูกพัดหายไปพร้อมกับชีวิตของมัน!

เจย์พูดไม่ออก ได้แต่ตะลึงงันอยู่ตรงนั้น

มารดาขอรับ นางไม่ใช่นักเวทธรรมดาๆ แต่เป็นจอมเวท!


เจย์กะพริบตาปริบๆ เขามองดาบเวทในมือนาง

“เจ้าเป็นใครกันแน่…”

เอลฟ์สตรีสั่นเทา... ใบหน้าและตัวนางเปรอะเลือดและเนื้อซึ่งส่งกลิ่นคาวคลุ้ง

นางกำด้ามดาบเวทอย่างไม่รู้สึกตัว

“ข้า…” นางเงยหน้ามองเจย์

ทว่า

ก่อนที่นางจะได้เอ่ยอะไร ฝาของโลงหินตรงหน้ากลับขยับออก มันถูกไอหมอกทมิฬดันจนเผยอและเลื่อนออกไปด้านข้างดังครืด...ครืด…ก่อนจะหล่นลงพื้นโครมใหญ่

เจย์รู้สึกคอแห้ง ใจเต้นถี่รัวคล้ายกรีดร้องให้เขาหนี แต่เจย์กลับทำตรงกันข้าม

เขายื่นหน้าไปดู

ไอหมอกค่อยๆ จางหายจนเผยสิ่งที่มันเก็บซ่อนอยู่ภายใน

ในโลงหิน...มีศีรษะของบุรุษผู้หนึ่งวางอยู่อย่างไร้เกียรติ

หากเป็นชาวรูเมเรียร์และอาศัยอยู่ในเมืองหลวง จะทราบทันทีว่าเป็นศีรษะของใคร นี่คือพระศพส่วนศีรษะของอดีตกษัตริย์ที่ถูกซุกซ่อนไว้อย่างเป็นความลับสูงสุด

‘ราชามงกุฎดำ’

ราชาริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์

“อ๊า!!!”

นั่นคือเสียงกรีดร้องด้วยความสะเทือนใจ คลั่งแค้น เจ็บปวด ขณะที่ความรู้สึกทั้งมวลของนางถูกบดบี้ ขยี้ หยามเหยียด!

น้ำตาของเอลฟ์สาวไหลท่วมหน้า ความทรงจำหลั่งไหลเข้ามาจนทุกส่วนในร่างกายเหมือนถูกทุบตีอย่างผู้กระทำไม่มีออมแรง

เริ่มจากความทรงจำที่มีต่อศีรษะตรงหน้า “ริวอร์นอร์…” จากนั้นภาพก็ไล่เรียงไปถึงชายที่นางระลึกถึงยามอยู่กับเจย์ “ท่านพี่...เฟรธูริน” และบุรุษคนสุดท้ายที่สวมหน้ากากปิดบังครึ่งหน้าและมีดวงตาสีเหมือนแร่เหล็กในเบ้าหลอม “ซิกฟรีด...”

นางคือ…

“ข้าคือ…”

เอริแอดเน่…


“เอริแอดเน่...แห่งอิซิลดาร์”

ผู้น่าสมเพชเวทนา


นางทวนสิ่งที่อยู่ในใจและพูดออกมา ความทรงศักดิ์และรวดร้าวผสมอยู่ในน้ำเสียงซึ่งเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว...ชิงชัง

เจย์ไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

มารดาขอรับ...

ลูกเก็บสตรีโฉมงามได้

นางเป็นจอมเวท

และเป็นท่านหญิงผู้ปกครองแผ่นดินอิซิลดาร์


—————————————————————————

A/N มาค่ะ เป็นตอนที่รีไรท์นานจริงๆ กว่าทุกอย่างจะลงตัว มีใครรอคิงริวอร์นอร์บ้างไหมคะ

คนนี้งานดีจริงๆ นะ อ่านเพลินอะ บอกเลย อิอิ


ป.ล. จบบทเกาะไร้นามแล้ว ฉากต่างๆ ในบทนี้ใช้พลังในการเขียนมากจริงๆ ค่ะ จริงๆ ก็อยากเขียนฉากหวานแหวว เลิฟๆ มากกว่านี้นะคะ แต่กลัวเนื้อเรื่องจะไม่เดิน /แง ก็เลยคิดว่าเก็บไปเขียนช่วงตอนพิเศษและกัน

/กอดโคลด์ กอดซิกฟรีด และโผเข้าอ้อมกอดป๋า!


พบกันครั้งต่อไปวันที่ 28 พ.ค. 60 ค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (4) [26/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-05-2017 13:46:29
นางจะมาทวงของนางคืนสินะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (4) [26/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 27-05-2017 16:38:09
อุ๊ย ชอบอ่ะ
อิจนางมากมีแต่ผชแซ่บๆรายล้อม
แล้วก็อยากให้นางปล่อยวาง  อยากเห็นนางมีความสุขอ่ะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (4) [26/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 27-05-2017 20:06:21
อยากรู้ววววววววว

กอดอาเลธ กอดป๋า ฟัดโคลด์

จุ๊บ ๆ ๆ นักเขียน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (4) [26/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-05-2017 22:03:47
นั่นไง นางคือเอรีแอดเน่ตัวจริง

ตัวจริงอยู่กัยเจย์

แล้วที่อยู่ที่อิซิลดาร์ เป็นใคร  :katai1: :katai1: :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 23 : (4) [26/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 27-05-2017 22:20:09
 :-[ ตอนนี้ดูเปลี่ยนอารมณ์เป็นหนังรักใสๆ แต่ก็แอบมีเศร้าเบาๆ หวังว่าแอรี่จะลืมทั้งหมด ไใต้องนึกอะไรออก เริ่มต้นชีวิตใหม่ดีๆ(?) เต๊อะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (1-2) [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 27-05-2017 23:16:41
บทที่ 24 : โลหิตนภา (1)

ซิกฟรีดได้รับสารที่ไม่คาดคิด มันถูกส่งมาจากอิซิลดาร์ ลายมือบนแผ่นกระดาษสีขาวทองอ่อนช้อยงดงามทว่าเด็ดขาด

เขาจำลายมือนั้นได้ทันที

พี่หญิง


ผู้เดินสารคือทหารหน่วยกาลาฮาน ลูกน้องของมาลแกธนามว่า ‘เนอร์ดาเนล’

ในสารแจ้งว่านางได้เดินทางกลับไปพำนักยังอิซิลดาร์อย่างปลอดภัยแล้ว จนใจที่ยังเหลือองครักษ์สองนางรั้งอยู่ที่รูเมเรียร์ จึงอยากขอตัวพวกนางกลับคืน

เอริแอดเน่มิได้เอ่ยถึงการต่อสู้ในเมืองโรสมินาส แต่แสดงความเสียใจกับการ ‘สูญเสีย’ ที่เกิดขึ้นในเมืองซึ่งกลายเป็นอดีต รวมถึงได้รับ ‘ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นั้น’ มาดูแล

‘หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านซิกฟรีดจะส่งองครักษ์ของข้ากลับสู่มาตุภูมิโดยปลอดภัย ข้าเองก็คิดส่งทหารกล้าแห่งรูเมเรียร์กลับสู่มาตุภูมิเช่นกัน’

“ไปพักเถอะ” ราชาหนุ่มเอ่ยกับเนอร์ดาเนล เขาอยู่ในวิหารของพี่หญิงคาลิเธียล กำลังพูดคุยกับอิลราลานถึงสภาพอากาศที่ผิดปกติในช่วงนี้ และบทสนทนาค้างครึ่งที่ ‘อาจเป็นลางบอกเหตุ...’ เมื่อเนอร์ดาเนลโผล่มา

ทหารหน่วยกาลาฮานผู้ภักดีสองนายยังอยู่ในมือเอริแอดเน่ นางส่งสารมาขอองครักษ์ของนาง นี่คือการแลกเปลี่ยนตัวประกันที่ไม่ต้องเอ่ยก็เข้าใจ

อิซิลดาร์มิได้ประกาศตัดขาดกับรูเมเรียร์ เอริแอดเน่ปรากฏตัวอย่างปลอดภัยหนึ่งเดือนให้หลัง...ตอนนี้ไม่มีอะไรชัดเจนเท่าสองเรื่องนี้

พี่หญิงยังมีชีวิตอยู่ นางยังไม่ตาย ทั้งหมดเป็นเพียงละครตบตาหรือ ซิกฟรีดคิด

อิลราลานหรี่ตา เขารู้สึกไม่ชอบมาพากลแต่ยังไม่ออกความเห็นอะไร ส่วนเนอร์ดาเนลยังคุกเข่าอยู่ที่เดิม นัยน์ตาข้างที่ยังดีปรือแทบปิด เขาล้า ทว่าไม่ยอมเคลื่อนไปไหนแม้จะมีคนเข้ามาพยุง

"สหาย...ของกระหม่อม" เนอร์ดาเนลอ้อนวอนราชาซิกฟรีด

"หน่วยกาลาฮานเป็นสหายของเราเช่นกัน" ซิกฟรีดวางมือบนแก้มเปื้อนโคลน เลือด และคราบน้ำตาของเนอร์ดาเนล

"วางใจเถิด"

สิ้นคำ ทหารกล้าก็ปล่อยให้สติสุดท้ายหลุดไป เนอร์ดาเนลสลบ หลับตาอย่างวางใจเป็นครั้งแรกตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น

-------------------------------

หลังพักอยู่ที่บ้านของอิลมาเรและจัดการเรื่องต่างๆ ในเมืองแฟรี่อายได้เจ็ดวัน โคลด์กลับเอวา เธมาร์อย่างที่บอกซิกฟรีด

เขาตรงไปยังกิลด์พ่อค้าใต้ดินเพื่อส่งมอบงานตามพินัยกรรมของอิลมาเร ตอนแจ้งข่าว ลูกน้องของอิลมาเรที่เป็นผู้ชายตัวโตถึงกับร้องไห้ขี้มูกโป่ง ส่วนโคลด์ได้แต่นิ่ง ไม่สามารถหาถ้อยคำมาปลอบใจ

จัดการธุระของอิลมาเรอยู่ครึ่งวัน โคลด์ไม่รู้สึกอยากไปที่ห้องพักของดวอร์ฟสาวในเอวา เธมาร์ และยังไม่มีใจแวะไปที่ราชวัง สุดท้ายก็มายืนเหม่อหน้าโรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทองซึ่งเป็นจุดหมายสุดท้าย

โคลด์สวมเสื้อคลุมยาว คลุมฮู้ดปิดหน้า สองมือล้วงกระเป๋า ลังเลว่าจะเข้าไปดีหรือไม่ หลังจากยืนคิดสักครู่ เขาก็ผลักประตูเข้าไปหาที่นั่งในร้าน และส่งสารถึงมาลแกธด้วยบริการนกรับจ้างส่งสาร

นอกจากอิลมาเร โคลด์ไม่มีสหายสักคน ด้วยเพราะคิดว่าวันหนึ่งจะจากไปอยู่แล้ว และมีความหลังฝังใจอันเจ็บปวดจากอาศรมควาร์ เขาจึงไม่คบหาใครให้มากความ

มาเวลานี้ต้องการใครสักคน...คนที่เรียกหาได้ก็มีแค่มาลแกธ

สารถูกส่งมายังค่ายฝึกของหน่วยกาลาฮาน เขียนข้อความสั้นกระชับว่า ‘กลับมาแล้ว ตุ่นเก็บทอง’

มาลแกธไปยังโรงเตี๊ยมหลังเสร็จการฝึกช่วงบ่าย เขาเปิดประตูร้านดังปึง! กวาดสายตาดุๆ มองไปทั่ว พอเห็นรูปร่างคุ้นตา สวมฮู้ดปิดใบหน้านั่งอยู่ตรงบาร์ ก็ตรงเข้าไปกอด

และกอบหน้าเข้ามาจูบ

เจ้าของร้าน--แมดส์ ที่ยืนอยู่ข้างหลังบาร์ถึงกับตกใจ

โคลด์เองก็ตกใจเหมือนกัน เพราะไม่นึกว่าจะโดนจับจูบ

รสจูบเต็มไปด้วยความคิดถึง ความเจ็บปวด ความโหยหา...แม้จะไม่พบกันแค่หนึ่งสัปดาห์ก็ตาม

“เดี๋ยว...เดี๋ยว” นอกจากจะเป็นภาพชายที่หล่อเหลาจูบชายหนุ่มอีกคนแล้ว ยังเป็นเอลฟ์จูบดาร์กเอลฟ์ กลางร้านเหล้า

โคลด์ถูกยกตัวลอย เขาวูบวาบบนปลายลิ้นอย่างบอกไม่ถูก ถึงกับลืมผลักอีกฝ่ายออก

โคลด์ไปโดยไม่ลา มาลแกธคิดว่าโคลด์ต้องการเวลาส่วนตัวจึงไม่ได้ตามหา แต่อย่างไรก็เป็นห่วงแทบบ้า

แค่สายตาของมาลแกธก็เอ่ยความในใจได้แล้ว โคลด์พลันเข้าใจว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงตน “ขอโทษ...ที่ไปไม่บอก”

“ไม่เป็นไร” มาลแกธกระซิบ คลึงหน้าผากเข้าด้วยกัน “ไม่เป็นไร…” เอลฟ์ตะวันออกทำเหมือนไม่มีคนอื่นอยู่ในร้าน

“พี่ชายสองท่านนี้ อยากเปิดห้องมั้ย” แมดส์เอ่ยแทรก

“โยนกุญแจมาเลย” มาลแกธตอบรับ

“เดี๋ยว” โคลด์ดันหน้ามาลแกธ คิ้วสีเงินแทบจะพันกัน เขาวางจดหมายฉบับหนึ่งให้แมดส์ “จากอิลมาเร”

ที่จริงโคลด์มาที่นี่เพราะถือจดหมายที่อิลมาเรทิ้งไว้มาให้เจ้าของโรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทองด้วย แต่เขารู้สึกไม่อยากพูดออกไปทันที จึงนั่งที่บาร์เงียบๆ

“หืม มีอะไร” แมดส์ยิ้มๆ หยิบจดหมายมาเปิดอ่าน ทว่าหลังกวาดตาครู่หนึ่ง รอยยิ้มหายไป เขาขมวดคิ้ว สีหน้าเปลี่ยนจาก ‘ประหลาดใจ’ เป็น ‘เคร่งเครียด’

เขาอ่านจดหมายอยู่นาน และอ่านซ้ำคล้ายไม่เชื่อข้อความในจดหมาย จากนั้นหมุนตัวไปรินเหล้าใส่แก้ว แต่คราวนี้ไม่ได้บริการใคร

แมดส์รินแล้วดื่มเอง

นั่นสร้างความประหลาดใจแก่ลูกน้องของเขา เพราะปกติแมดส์ไม่ดื่มเหล้าในเวลางาน

“ข้าว่าอยู่แล้วเชียวว่านางเงียบหายไปหลังเกิดเรื่องที่โกดัง” แมดส์เอ่ยเสียงเครียด เหตุการณ์กลุ่มคนสลบไสลในโกดังขายสินค้าของกิลด์พ่อค้าใต้ดินนั้นเป็นเรื่องที่ดังเงียบๆ ด้วยเพราะมีการตรวจสอบของหน่วยคิงเบลด มีร่องรอยการต่อสู้ มีคนสลบที่โดนลูกหลง (แต่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต) และความเสียหายของสินค้า...แต่ผ่านมาสักพักแล้ว หน่วยคิงเบลดยังไม่สามารถจับตัวผู้กระทำผิดหรือสืบสาวเรื่องราวได้เป็นชิ้นเป็นอัน ซ้ำยังไม่มีข่าวลงหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับใด

แมดส์รู้รายละเอียดนี้เพราะเขาเป็นนักค้าข่าว มีเส้นสาย ข่าวใต้ดินลือกันว่าทางการเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่ให้แพร่กระจายไปในหมู่ประชาชน

จดหมายของอิลมาเรกล่าวถึงกิจการของเธอที่ต้องการให้แมดส์ช่วยดูแลและปันผล โดยแจกแจงอย่างละเอียดว่าผู้รับผลประโยชน์มีใครบ้าง

แมดส์กระแทกแก้วเหล้า นี่มันจดหมายสั่งเสียชัดๆ

เขามองดาร์กเอลฟ์ตาขวาง ใจนึกอยากลากมันไปถามให้รู้เรื่องที่หลังร้าน

“ข้าผิดเอง” โคลด์ยอมรับอย่างไม่บ่ายเบี่ยง “ทั้งหมดข้าผิดเอง”

เจ้าของร้านกำแก้วแทบร้าว

เห็นอย่างนี้อิลมาเรก็มีสหายมากมาย รวมถึงเจ้าของโรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทองผู้นี้ด้วย คนจำนวนมากเศร้าเสียใจเมื่อดวอร์ฟสาวจากไปอย่างกะทันหัน โคลด์เห็นแบบนี้มาทั้งวัน

มาลแกธถอนใจหนักๆ เขาเคร่งขรึมจนเหมือนเป็นคนละคน

เรื่องความเป็นความตายของคนสำคัญของโคลด์ จะทำตัวเฮฮาสนุกสนานได้หรือ

“ข้ายังอยู่ในเมืองอีกสักพัก ถ้ามีอะไรส่งจดหมายถึงโคลด์ สตาร์ ไปที่กิลด์พ่อค้าใต้ดิน” โคลด์กล่าวแล้วดึงมาลแกธออกนอกร้าน

เอลฟ์ตะวันออกเดินข้างคนรัก แขนโอบไหล่ไว้ ส่วนมือใหญ่ก็บีบเบาๆ ให้กำลังใจ

“เนอร์ดาเนลกลับมา” เขาเริ่มเล่าเรื่องทางฝั่งนี้ ระหว่างที่โคลด์ไม่อยู่

“กลับมา?” โคลด์ฟังและคิดตาม เขาลืมสังเกตว่ามาลแกธถึงเนื้อถึงตัวมากกว่าปกติ กระทั่งรู้สึกตัวว่ามือใหญ่โอบเขาไม่ปล่อยแม้เดินมาได้สักพักแล้ว

“มาส่งสารของ ‘เอริแอดเน่’ ”

“นางยังอยู่หรือ” นี่คือคำกล่าวแรกที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของโคลด์ จากน้ำเสียงเฉยชาเอื่อยเฉื่อยกลายเป็นไม่พอใจ จิตสังหารอันปิดไม่มิดแสดงความดุร้ายแบบดาร์กเอลฟ์

“เชื่อว่าอย่างนั้น อิซิลดาร์เลิกไถ่ถามถึงท่านหญิงแล้ว ส่วนสารที่นางส่งมาเป็นสารขอแลกตัวประกัน ซิกฟรีดเพิ่งดำเนินการไปเมื่อวันก่อน”

“เขาแลก?!” โคลด์หันมาขยุ้มคอเสื้อมาลแกธอย่างลืมตัว นอกจากไม่พบร่างอิลมาเรแล้ว คนที่ทำร้ายเพื่อนของเขายังได้สิ่งที่นางต้องการ

“โคลด์…” มาลแกธจับมืออีกฝ่ายไว้

โคลด์กลั้นความโกรธ มองมือมาลแกธ เขาพลันนึกได้ว่านั่นคือทหารในหน่วยของมาลแกธ เขาสามารถพ่นคำพูดเห็นแก่ตัวเท่าไรก็ได้ แต่จะมีประโยชน์อะไรให้มาลแกธเสียใจ...และคนก็แลกไปแล้ว

โคลด์ปล่อยมืออย่างหัวเสีย “แล้วมีข่าวอิลมาเรไหม” เขาถาม ใจตีกลับไปกลับมาระหว่างความแค้นและความคาดหวัง ถ้ามีคนรอดกลับมาอย่างเนอร์ดาเนล อย่างเอริแอดเน่ แล้วอิลมาเรล่ะ!

...แค่ร่างของเธอเขาก็อยากหาให้เจอ

มาลแกธส่ายหน้า รอจนโคลด์เย็นลงก็เอ่ยว่า “ข้าไม่เคยจนคำพูดขนาดนี้มาก่อน”

“แล้วเจ้าอยากพูดอะไรล่ะ” โคลด์เงยหน้าถามตรงๆ

“สิ่งที่จะทำให้เจ้ารู้สึกดีขึ้น” เอลฟ์ตะวันออกตอบ สายตาของเขาสื่อว่า ‘แต่ไม่มีคำไหนที่เข้าท่าเลย’

โคลด์หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เขากอดแขนมาลแกธ หลับตา แล้วพิงอีกฝ่าย “ไม่เป็นไร แค่นี้ก็พอ”

ดาร์กเอลฟ์อ่อนลงถึงขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าจิตใจของเขายังไม่ฟื้นตัวดี หรือไม่...เขาก็พึ่งพาอีกฝ่ายมากขึ้น

เกินหนึ่งสัปดาห์แล้วนับจากฟื้นขึ้นมา โคลด์ยังไม่ได้ข่าวจากเกวนโดลิน ไม่มีนกสีขาวมาหาเขา และเขาก็ไร้วิธีส่งข้อความไปก่อน

“ชาวตะวันออกมีความเชื่ออย่างหนึ่ง” มาลแกธพาโคลด์เดินไปเรื่อยๆ “ผู้ที่จากไปจะกลับสู่ทะเล ล่องตามกระแสคลื่นขึ้นไปบนฟ้า และกลายเป็นโคมของเทพนำทาง คอยเฝ้ามองและปกป้องครอบครัว สหาย คนรักจากบนฟ้านั้น จนกว่าจะได้พบกันอีกครั้ง”

เอลฟ์ตะวันออกเชื่อกันว่าการตายในสมรภูมิเป็นเกียรติสูงสุด ร่างของพวกเขาจะถูกบรรจุใส่เรือล่องไปในทะเล ส่วนวิญญาณจะได้รับการต้อนรับสู่ดินแดนของบิดาแห่งสงคราม สถานที่ซึ่งมีงานเลี้ยงสังสรรค์ตลอดเวลา และมีลานประลองขนาดมหึมาเท่าสนามรบให้อวดฝีมือกัน แต่เวลาพักผ่อนจากงานเลี้ยงและสนามรบศักดิ์สิทธิ์...ผู้ที่จากไปจะพำนักอยู่บนท้องฟ้า เป็น ‘ดวงดาว’ หรือ ‘โคมไฟของเทพนำทาง’ คอยปกปักษ์ดูแลคนที่ตนรักจากบนนั้น--ดังที่มาลแกธเอ่ย

“หากอิลมาเรไม่อยู่แล้วจริงๆ และนางมองลงมา คงไม่สบายใจที่เห็นเจ้าเป็นแบบนี้”

โคลด์เงียบ แล้วเอ่ยช้าๆ “ข้าไม่ควรโกรธเจ้า” ดาร์กเอลฟ์ขอโทษเรื่องเมื่อครู่...มาลแกธพยายามปลอบใจเขาอย่างจริงใจ ซึ่งคงเป็นเรื่องที่อีกฝ่ายไม่ถนัดเอามากๆ

“ไม่เป็นไร” มาลแกธยิ้มจาง เขาพาโคลด์เดินไปทางสวนกลางเมืองหลวง เมื่อพบที่สงบเป็นส่วนตัวก็ชวนนั่งหย่อนใจ

ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าคราม แสงแดดอบอุ่น เป็นวันอากาศดีและสงบสุขสำหรับคนทั่วไป ทว่าภายใต้ท้องฟ้ากว้างใหญ่ มีผู้คนมากมาย เรื่องราวอีกนับร้อยนับพัน ไหนเลยจะมีแต่ความสว่างสดใส คนบางคน...ภายนอกสว่างเจิดจ้า ข้างในอาจมีโพรงมืดหม่นอยู่ในหัวใจ


—————————————————————————

A/N โบนัสวันหยุด เต็มอิ่มกับสองตอนรวดและ มาลแกธโคลด์ค่ะ ;)


เลื่อนไปอ่านตอนต่อไปได้เลยจ้า


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (1-2) [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 27-05-2017 23:25:26
บทที่ 24 : โลหิตนภา (2)

“การเดินทางมารูเมเรียร์ทำให้โลกของข้ากว้างขึ้น” เอลฟ์ตะวันออกเริ่มบทสนทนา

“อย่างไร” โคลด์นั่งลงบนพื้นหญ้าเขียวสด ข้างมาลแกธ เบื้องหน้าพวกเขาเป็นสระน้ำกว้างใหญ่ คลื่นน้ำสงบ ผืนน้ำแผ่ไอเย็นสบาย

“หลังตัดเปียสงคราม ข้าได้เรียนรู้การเป็นควาร์ ได้เห็นความเป็นอยู่และความเชื่อที่ต่างออกไป ทั้งจากรูเมเรียร์ อิซิลดาร์ จากชนกลุ่มน้อยต่างๆ อย่างสมาคมค้าขายของดวอร์ฟก็ใช่” มาลแกธมองตามแม่หงส์ขาวและขบวนลูกหงส์ตัวเล็กๆ พุ้ยเท้าว่ายน้ำผ่านไป

“แล้วได้ลองถูกแทงที่คอเล่า ได้เรียนรู้อะไรไหม” โคลด์หยอกหน้าตาย

มาลแกธหัวเราะเบาๆ ก่อนดึงสายตากลับมาจับที่ใบหน้าสวยคมของดาร์กเอลฟ์ เขายักคิ้วอย่างเจ้าชู้ “เป็นประสบการณ์ที่ไม่คาดคิด แต่...น่ายินดี”

“น่ายินดีตรงไหน” โคลด์เท้าแขน เอนตัวไปด้านหลัง แหงนหน้ามองท้องฟ้า “ข้าว่าเจ้าน่าจะเจ็บแทบตาย”

“แทบตายจริงๆ” มาลแกธไม่เถียง “แต่อย่างไรก็คุ้มค่า ตอนนี้เจ้าเชื่อใจข้าแล้ว...กระมัง”

โคลด์หันมา ทำหน้าแปลกใจ ถ้ามองไม่ผิดคือ...ค่อนข้างเขินอาย เพราะใบหน้าของเขามีสีแดงจางๆ ใบหูลู่ลง

“เจ้ารู้ตัวไหมว่าพูดอะไรน่ากระอักกระอ่วน”

ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่โคลด์ไม่มีให้ใครมาก่อน แต่เขาเรียนรู้จากเกวนโดลิน จากอิลมาเร จากซิกฟรีด...และจากมาลแกธ

อย่างที่บอก ดาร์กเอลฟ์ไม่มีสหายสักคนในเมืองนี้นอกจากอิลมาเร ในอาศรมเขาก็ไม่มีสหาย ทักษะการเข้าสังคมของเขาน่าจะน้อยกว่าซิกฟรีดด้วยซ้ำไป

“ข้าพูดความจริง” สายตาของมาลแกธจริงจังจนไม่อาจปฏิเสธ

ใบหูของโคลด์กางออก เขากระแอม “ก็ไม่ได้เชื่อใจเต็มร้อยหรอก” แค่มาลแกธพูดว่าเขาเชื่อใจ โคลด์ก็รู้สึกประหม่า

หากถามว่าเขารู้สึกอย่างไรกับมาลแกธ โคลด์พบว่าตนเองไม่ได้โกรธหรือเกลียดมาลแกธกับซิกฟรีดเท่าเก่า ยิ่งเมื่อพบว่าความโกรธและเกลียดนั้นมาจากความเข้าใจผิดส่วนหนึ่ง ความจำเป็นบีบบังคับอีกส่วนหนึ่ง

แต่ถามว่า ‘รักไหม’ สำหรับโคลด์ สิ่งที่เรียกว่า ‘ความรัก’ ไม่ใช่แค่การมีความสัมพันธ์ทางร่ายกาย และไม่ใช่สิ่งที่สามารถระบุเงื่อนไข ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะเป็นคนรักกันได้

หรืออาจเพราะข้าไม่เคยใส่ใจที่จะรักใคร...หลังจากเรื่องของซิกฟรีด

“มีอะไรหรือ” มาลแกธถามพอเห็นโคลด์จ้องตนไม่วางตา คล้ายอยากพูดอะไรบางอย่างแต่รั้งไว้

“เราจะเอายังไงต่อไป” โคลด์ใช้คำพูดกลางๆ เขาบอกจะรับผิดชอบอีกฝ่ายหลังร่วมเตียงกัน ทว่าไม่คิดผูกมัด เขาตั้งใจให้มาลแกธใช้ชีวิตไปตามปกติ เขาเองก็จะใช้ชีวิตไปตามปกติ แต่ตอนนี้ทุกอย่างไม่ปกติ แค่ช่วงเวลาสั้นๆ มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย

‘ต่อไปควรทำอย่างไร’ ถ้าลองถาม ลองพูดคุย...อาจได้คำตอบที่ดีกว่าคิดคนเดียวก็ได้

“ข้าจะฝึกกาลาฮานให้ดีกว่านี้ เข้าศึกษาเวทสายอื่นๆ และ...อาจกลับไปแดนตะวันออกช่วงสั้นๆ” มาลแกธบอกแผนคร่าวๆ

“อืม...” นี่เรียกว่าแยกทางกันได้หรือเปล่านะ ตัวข้าเองก็มีเรื่องต้องทำ จะให้มาลแกธมาตามข้าหรือข้าไปตามเขาคงเป็นไปไม่ได้...

แต่แล้วมาลแกธก็ถามคำถามสำคัญ

“ไปเยี่ยมแดนตะวันออกกับข้าไหม”

เอลฟ์ตะวันออกไม่ชวนคนต่างถิ่นไปเยี่ยมเยือนบ้านของตนบ่อยนัก อันที่จริง...แทบไม่ต้อนรับใครเลย ลือกันว่าเอลฟ์ตะวันออกหวงเขตแดนขนาดวางกับดักเต็มไปหมด หากไม่ใช่คนในตระกูลหรือได้รับการเชื้อเชิญอย่างมีไมตรี ก็ไม่มีวันไปถึงปราสาทได้

การที่มาลแกธซึ่งเคยเป็นถึงผู้นำตระกูลล็องธูเอ่ยปากชวนโคลด์นั้น...มีความหมายลึกซึ้งแฝงอยู่

“เอ๋” โคลด์ทำหน้าแปลกใจ ซ้ำยังกะพริบตาปริบๆ อย่างประหลาดใจสุดๆ “แต่ว่า…” เขาสัญญาเรื่องหัวใจมังกรกับซิกฟรีด ไหนจะเรื่องของเกวนโดลิน

เกวนอยู่ที่รังมังกรในแดนทมิฬ คนละทิศกับแดนตะวันออก หัวใจมังกรเล่า...ก็ควรไปหาทางรังมังกรไม่ใช่หรือ

“เพียงช่วงสั้นๆ” มาลแกธทอดเสียงลงคล้ายเว้าวอน

โคลด์เม้มปาก “แต่แผลที่หน้าของซิกฟรีด...”

“อืม” มาลแกธกึ่งพ่นลมหายใจกึ่งหัวเราะ

“เจ้าขำอะไร…”

“ตั้งแต่พบกันจนถึงตอนนี้ เจ้าก็วกเข้าเรื่องเขาจนได้”

หลังพูดไปแล้ว มาลแกธถึงเพิ่งนึกได้ว่าตนเพิ่งตัดพ้อด้วยความน้อยใจเมื่อครู่

โคลด์เหมือนถูกตำหนิ ใบหน้าสีเข้มแดงไปทั่ว

“ข้ายังตัดสินใจไม่ได้ จนกว่าจะได้ข่าวจากเกวน” ตรงนี้ไม่ใช่ข้ออ้าง

เงียบกันไปสักพัก เหมือนโคลด์นึกได้ว่า “หรือเจ้า...ไม่อยากจากข้า ถึงชวนข้าไปด้วย”

ให้พูดเองแบบนี้ โคลด์ก็กระดากปากนิดหน่อย

คงไม่หรอกมั้ง

“ใช่” รอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์คลี่ออก “อยากให้เจ้าไปพบพี่น้องข้า หลานๆ และบรรดาสหายข้า ปราสาทหลักของล็องธูสวยแปลกตา ถึงแม้ตอนยังเด็กข้าจะเกลียดมันก็ตาม”

“เจ้า...มีครอบครัวใหญ่ดีนะ” โคลด์ระลึกอายุของมาลแกธ “ตาแก่” เขาพึมพำ ทำไมสมัยเด็กมาลแกธถึงเกลียดปราสาทหลักของตระกูลล็องธู...เรื่องนี้โคลด์ทดไว้ในใจ เขาพบว่าตนเองรู้เรื่องของมาลแกธน้อยมาก

“ข้าได้ยิน…” มาลแกธหยิกแก้มโคลด์ไปทีหนึ่ง

“อือๆ” โคลด์หยีตาเพราะเจ็บแก้ม เขาดึงแก้มมาลแกธคืน

มาลแกธเลยตะปบใบหน้าโคลด์แล้วจับดึงเข้ามาจูบหน้าผากด้วยความหมั่นเขี้ยว

“ไปกับข้า…” เขาไล้ริมฝีปากไปตามหน้าผากมนจนถึงสันจมูก

“ตาแก่” โคลด์พูดเต็มเสียง จั๊กจี้ที่ใบหน้า ตายังหยีอยู่ เหมือนแมวดำที่ถูกจับบีบในอุ้งมือมารตะวันออก พอมาลแกธแตะปากไม่ปล่อยเขาก็กลั้นใจตอบว่า “ก็ยังไม่ได้ปฏิเสธไม่ใช่หรือไง”

แค่ไปแดนตะวันออก ข้าก็สนใจวิชาอาวุธของที่นั่นอยู่ ไม่ต้องชวนขนาดนี้ก็ได้ โคลด์บ่นในใจ

มาลแกธยิ้มไปถึงตา มีความสุขกับคำตอบที่โน้มไปทางการตอบรับ เขาไล่จูบโคลด์ทีละส่วน จากปลายจมูกไปยังแก้มสองข้าง และจากแก้มก็บรรจงประทับที่เปลือกตา เขาไล้ริมฝีปากเล่นกับขนตายาวสีเงิน หัวเราะเมื่อคนรักหยีตาเหมือนแมวขี้หงุดหงิด ก่อนจะกอบใบหน้าคมสวยขึ้น...แล้วจูบเนิ่นนาน

โคลด์เกาะแขนอีกฝ่ายที่ทำรุ่มร่ามกับเขาโดยไม่ดูสถานที่ เขาล้มหงายเมื่อใดไม่ทราบ และถูกมาลแกธทาบไว้ทั้งตัว

สถานที่! สถานที่! โคลด์ร้องในใจ ลิ้นชาและวาบหวิว เขากระตุกเมื่อลิ้นพันกัน ร่างกายท่อนบนบดเบียดอย่างรัญจวนใจ ทำให้วูบวาบไปทั้งตัว

“สถานที่!” โคลด์เบี่ยงหน้าออก ร้องเสียงดัง

“ชี่!” มาลแกธกดศีรษะโคลด์กับอกแล้วหัวเราะ “รู้แล้วขอรับ รู้แล้ว ไม่เสียงดังน่าที่รัก”

“เจ้าบ้านี่” ใบหูของดาร์กเอลฟ์แดงก่ำ ลมหายใจถี่ๆ รดต้นคอมาลแกธ

“เปลี่ยนศักดิ์ให้ข้าจากตาแก่เป็นเจ้าบ้าหรือ”

“ตาแก่บ้า” โคลด์มองใบหน้าด้านบนของอดีตอาจารย์ วูบหนึ่งรู้สึกอยากลองประทับจูบลงไปบนต้นคอแกร่ง

เขาส่ายหน้าไวๆ

“เจ้าล่ะ มีแผนอะไรต่อไป ตามหาเกวนโดลินเลยหรือ”

“ข้าจะรอข่าวจากเกวนอีกหน่อย มันแปลกที่ช่วงนี้นางหายไป แต่ข้าจะเชื่อนาง...คืออดทนรอ” โคลด์ถอนใจ ที่จริงที่ไหนมีนก เกวนก็หาเขาเจออยู่แล้ว หรือถ้าหาไม่เจอ เกวนรู้จักบ้านของอิลมาเร รู้ว่าเขาและเธอสามารถส่งข่าวทิ้งไว้ที่นั่น เขาจะอยู่รูเมเรียร์หรือแดนตะวันออกแค่เสียเวลาหาหน่อย ไม่ใช่อุปสรรคใหญ่

โคลด์มองมาลแกธที่ยิ้มมองเขา รู้สึกว่ามีอะไรแปลกไป

“นี่ เจ้าคงไม่ได้...ยังหมดความมั่นใจหรอกนะ”

“เรื่อง?” มาลแกธเลิกคิ้ว

“เรื่องที่เจ้าโทษตัวเอง…”

มาลแกธเงียบไปครู่หนึ่ง เป็นเครื่องยืนยันที่ดีว่าโคลด์คิดถูก เขาแพ้สตรีจากอิซิลดาร์ถึงสองครั้งสองครา ถึงเวลานี้จะหน้าชื่นแต่ในใจไม่อาจสลัดทิ้งได้หมด

“ข้าเรื้อสนามรบมานานแล้วกระมัง กลับไปคงต้องฟื้นฝีมือ อีกอย่าง...ข้าคิดจริงจังเรื่องที่เจ้าว่า เรื่องปกป้องคนสำคัญ”

“ปกป้องคนสำคัญ” โคลด์ทวนคำ เขานึกถึงเกวนโดลินและไพล่นึกถึงซิกฟรีด “อืม...มันก็เป็นคำที่ไม่เลวใช่ไหม มีใครให้เรานึกถึง...ใส่ใจ”

มาลแกธเม้มปากพลางพยักหน้า “เป็นคำใหม่ที่ข้ากำลังเรียนรู้”

โคลด์เอากำปั้นแตะอกมาลแกธ “ไม่ใช่ข้าไม่ใส่ใจเจ้า ตกลงไหม” หลังจากสิ่งที่มาลแกธทำให้เขา ใช่ว่าโคลด์จะไม่รู้สึกอะไร ที่จริงเขารู้สึก ถึงขั้นอยากตอบแทน

“อีกอย่าง ข้าสงสัย...การรักษาโดยใช้หัวใจมังกรเป็นวิธีของเอริแอดเน่ ตอนนี้นางไม่อยู่แล้ว ได้หัวใจมาจะทำอย่างไร”

“อย่าว่าข้าใจดำเลย” มาลแกธถอนใจ “ซิกฟรีดมีหมอหลวงมากมาย ถ้าเจ้าแย่งงานพวกมันทำหมด ซิกฟรีดจะจ้างพวกมันไว้ทำไม”

เอลฟ์ตะวันออกยอมรับว่าเขาไม่ชอบใจ

“มันก็ไม่ถูกนะ” โคลด์อธิบาย “ถ้าหมอเหล่านั้นรักษาได้ ซิกฟรีดก็คงหายไปนานแล้ว มันเป็นคำสาปทมิฬ ไม่ใช่โรคภัยไข้เจ็บ และข้ายังติดหนี้เขา ข้าทำลายหัวใจมังกรที่เป็นยาของเขา”

มาลแกธไม่ได้ต่อคำเรื่องหนี้กับโคลด์ จะให้เขาพูดอะไรได้เล่า

“ถ้ารักษาหายแล้ว เจ้าจะเอาอย่างไรต่อ” เอลฟ์ตะวันออกรุก เขาไม่เคยบีบคั้นเอาคำตอบกับโคลด์ แต่เวลานี้กำลังทำ “หากถึงทางแยกแล้ว เจ้าจะเลือกไปทางไหน”

โคลด์เงียบไปครู่ใหญ่ “ก็คง...ทางใครทางมัน...ละมั้ง” คำตอบของเขาไม่หนักแน่นเช่นเดิมกระทั่งตัวเองยังรู้สึกตัว ใช่ว่าเขาอยากกลับไปอยู่กับซิกฟรีด...ไม่สิ เขาอาจอยากกลับไป… หรือเขาไม่อยากกลับไป...

โคลด์ระบายลมหายใจและตัดสินใจเอ่ยตามตรง

“ก็มีบ้างที่ข้าคิดถึงช่วงเวลาที่อยู่กับเขาที่อาศรม ข้ายอมรับ ข้าไม่เคยคิดเผื่อว่าเรื่องราวจะกลายเป็นแบบนี้...แบบที่ข้าไม่ได้เกลียดเขา แบบที่เขาสูญเสียครอบครัวคนสุดท้ายไปเพราะเลือกข้า ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เจ้าให้เวลาข้าหน่อยได้ไหม”

ข้าจะตอบอย่างไรได้…

มาลแกธจูบหน้าผากโคลด์ เมื่อผละออกมาก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “ได้สิที่รัก”

“อืม” โคลด์ยิ้มขอบใจ

เอลฟ์ตะวันออกเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเป็นเรื่องสัพเพเหระ พวกเขานั่งคุยกันสักพักจนฟ้าเริ่มครึ้ม บ่งบอกว่าฝนเจียนลงเม็ดก็เดินกลับราชวัง ระหว่างทางมาลแกธซื้อขนมหวานให้โคลด์ เขาชอบเวลาที่ดาร์กเอลฟ์มีความสุข...แค่เล็กน้อยก็ยังดี

ขนมหวานเป็นแป้งห่อครีม ของขึ้นชื่อของตลาดชาวบ้านในเมืองหลวง โคลด์รับมาแบบไม่เกรงใจ แสดงว่าอารมณ์หดหู่ถูกพัดไปแล้ว “มาลแกธ ล็องธู แล้วเจ้าจะเดินทางเมื่อไหร่”

"ยังไม่ได้กำหนด ข้ายังกังวลเรื่องอิซิลดาร์ ฝั่งนั้นมีอะไรไม่ชอบมาพากล ซิกฟรีดก็คิดอยู่เหมือนกัน”

“อืม” โคลด์ชิมครีม เห็นว่ารสหวานถูกใจก็เอาเข้าปาก “แล้วจะไปนานแค่ไหน”

มาลแกธส่ายหน้า “ยังไม่ได้กำหนดอีกเช่นกัน เดินทางไปตะวันออกจากเมืองหลวงของรูเมเรียร์ใช้เวลาค่อนข้างมาก กว่าจะไปถึงเมืองท่าที่ใกล้ที่สุด กว่าจะล่องเรือ แต่หากจำเป็น…” แววตาของมาลแกธกร้าวขึ้นเล็กน้อย “หากจำเป็นข้าก็จะไป”

‘จำเป็น’ ในที่นี้หมายถึงการคานอำนาจของแดนตะวันออกกับอิซิลดาร์ในรูเมเรียร์ ไม่นับว่าแดนทมิฬกำลังเคลื่อนไหว

ไม่รู้ทำไม โคลด์ไม่อยากปล่อยให้มาลแกธกลับแดนตะวันออกโดยลำพัง...จะว่าเป็นห่วงก็ใช่ แต่ไม่มีเหตุผลให้เป็นห่วงแน่ชัด

“แล้วเจ้าไม่ต้องอารักขาซิกฟรีดหรือ”

มาลแกธพ่นลมหายใจคล้ายหัวเราะขำ “ซิกฟรีดอยู่ในฐานะหุ้นส่วนของข้ามากกว่านายเหนือหัว เจ้ายังดูไม่ออกหรือ” เขาลูบมือปาดครีมที่เลอะแก้มโคลด์

“ข้าจะไปรู้ความสัมพันธ์ ‘ลับๆ’ ของพวกเจ้าละเอียดได้อย่างไร” โคลด์หน้ายู่ เร่งกินขนมในมือ คล้ายจะกินให้หมดไม่แบ่งใคร

“ดีแล้ว เจ้าจะได้ไม่หึง” มาลแกธเย้า

“หา” โคลด์ทำหน้าตกใจ “พวกเจ้า...” เขามองมาลแกธขึ้นๆ ลงๆ แก้มยิ่งเปรอะเศษขนม

มาลแกธไม่ได้แก้ความเข้าใจผิด เขาแตะครีมมาชิม ก่อนจะโน้มใบหน้าไปชิมกับปากของเจ้าตัว

อ่อนหวานและวาบหวาม

ฝนเริ่มลงเม็ด...บางเบาดุจผ้าแพรคลุมหน้าของมารดาแห่งนภา

—————————————————————————

A/N เขียนลื่นมากเลยค่ะบทนี้! เหมือนเกิดมาเพื่อเขียนความมุ้งมิ้งหวานๆ โดยเฉพาะ

สงสัยเขียนแต่ฉากเครียดจนน้ำตาลในเลือดต่ำ แงๆๆๆ

อ่านยาวๆ 2 ตอนอิ่มกันไหมคะ ;)


พบกันครั้งต่อไปวันที่ 30 พ.ค. 60 ค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (1-2) [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-05-2017 02:44:58
สามคนนี้จะยังไงเนี่ย ห๊าาาา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (1-2) [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-05-2017 06:58:01
ตาแก่ฟาดเรียบ....หรือยังไง?

มีความจิ้น ฮ่า ๆ ๆ

โคลด์น่ารักอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (1-2) [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 28-05-2017 10:00:54
อืม มีความอิจ555

 :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (1-2) [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 29-05-2017 08:00:07
อ่านแบบกดดันสุดๆ ซับซ้อนมากด้วย ทำเอาคนเกิบแก่มึนเลยย แต่ก็ชอบมากเหมือนกัน รู้สึกว่าตัวละครทุกจะคล้ายๆ สังคมรอบตัวเรานี้และเนาะ เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (1-2) [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 29-05-2017 09:41:23
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (3) [30/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 30-05-2017 15:45:28
บทที่ 24 : โลหิตนภา (3)

เจย์มองสตรีนามเอริแอดเน่ นางยืนหลังตรงสง่าอยู่หน้าเรือ มองตรงไปข้างหน้า--ไปยังทางซึ่งเรือมุ่งไป ดุจแม่ย่านางเรือผู้ปกปักษ์เรือให้เดินทางอย่างราบรื่น

ลมทะเลสาบไล้เส้นผมนุ่มละเอียดจนสยายเป็นคลื่นสีทอง เจย์มองภาพที่งามน่าพิศวงนั้นจากข้างหลัง เขานึกไพล่ไปยังเหตุการณ์บนหอคอย นึกถึงโลงหินและศพน่าสะพรึง รวมทั้งนางซึ่งประกาศตนว่าเป็นท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์

วูบแรก เจย์คิดว่าตัวเองอยู่ในฝันอัศจรรย์ มีท่านหญิง มีศพปริศนา มีดอกไม้กินคนและปลายักษ์ที่เกล็ดเป็นสินแร่ แต่วูบต่อมาที่เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยง! ทั้งที่ไม่มีเค้าฝน เจย์ก็ได้สติและยอมรับความจริง

โจรหนุ่มเหม่อมองแผ่นหลังของสตรีเอลฟ์ ภาพบางภาพยังติดตากระทั่งบัดนี้ เช่น...ภาพศีรษะอาบเลือดแห้งกรังของเอลฟ์ผู้หนึ่ง

เขาจำได้ว่าตัวเองตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นแค่ไหน อันที่จริง คำว่าตกตะลึงอาจน้อยไปเสียด้วยซ้ำ เขาไม่อาจบรรยายความรู้สึกได้เลยเมื่อเห็นศีรษะเอลฟ์วางอยู่ในโลงหินอย่างไร้เกียรติ

พวกเอลฟ์มีพิธีส่งดวงวิญญาณที่สง่างามไม่ใช่รึ นี่อะไรกัน ใครมันโหดได้ถึงขนาดนี้!

เวลานี้เจย์ก็ยังไม่ทราบว่าเอลฟ์ผู้นั้นเป็นใคร

หากเขาทราบ อาจช็อกค้างด้วยความตกใจ

เนื่องเพราะศีรษะเอลฟ์ที่เขาเห็น...คือพระเศียรของราชาริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์

แม้จะอาศัยในดินแดนของมนุษย์ แต่เจย์ก็ได้ยินกิตติศัพท์ของ ‘ราชามงกุฏดำ’ หรือราชาริวอร์นอร์ ทราบว่าพระองค์เป็นที่รักใคร่ของประชาชนทั้งในรูเมเรียร์ อิซิลดาร์ หรือแม้กระทั่งในเมืองเล็กๆ ที่เขากับมารดาอยู่

สามปีก่อน ทางราชวังประกาศว่าราชาริวอร์นอร์สิ้นพระชนม์เพราะกบฏดาร์กเอลฟ์ มารดาเขาและชาวเมืองคนอื่นๆ ถึงกับรวมเงินกันจ้างเรือข้ามทะเลสาบ เดินทางไกลเป็นเดือนเพื่อมาวางดอกไม้ไว้อาลัยหน้าราชวังรูเมเรียร์

ไม่มีใครทราบความจริงว่าพระองค์สังหารเฟรธูริน ผู้เป็นอดีตกษัตริย์ขัตติยาและพระเชษฐาของพระองค์เอง

ถ้าจะทราบ...ก็มีเพียงท่านหญิงเอริแอดเน่ เหล่าอัศวินผู้ติดตามจากอิซิลดาร์ ขุนนางจำนวนหยิบมือ และเจ้าชายที่สี่--ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์

ผู้กล้าบั่นศีรษะพระองค์ให้ตกต้องท้องพระโรง

เจ้าชายซิกฟรีดจัดพิธีศพให้พระเชษฐาที่สองอย่างสมพระเกียรติ ออกประกาศงดเว้นงานเลี้ยงรื่นเริงเป็นระยะเวลาหนึ่งปี และให้ขุนนางแต่งชุดขาวสะอาดไว้อาลัยแด่หนึ่งในมหากษัตริย์ผู้เสียสละเพื่อแผ่นดิน

ทว่าในความเป็นจริง พระศพของราชาริวอร์นอร์มิได้ล่องนาวาศักดิ์สิทธิ์ หลังเจ้าชายซิกฟรีดบั่นศีรษะของพระเชษฐาองค์รองแล้ว พระองค์ทรงดำริว่าจะนำพระศพไปฝังดิน ให้ส่วนศีรษะฝังที่หนึ่ง ส่วนร่างกายฝังอีกที่หนึ่ง นับเป็นการสาปส่งและหยามเกียรติ เนื่องเพราะเอลฟ์แผ่นดินใหญ่เชื่อว่าการฝังหรือเผาทำให้วิญญาณไม่อาจไปสู่ดินแดนนิรันดร์ของบิดาและมารดานภา

เวลานั้น ท่านหญิงเอริแอดเน่ทัดทานว่า การฝังเป็นเพียงการหลู่เกียรติอดีตราชาโดยเปล่าประโยชน์ ร่างกายของริวอร์นอร์ถูกฝังได้ แต่วิญญาณที่ไม่ไปสู่ดินแดนนิรันดร์ยังเป็นอิสระ วนเวียนอยู่ในโลก และอาจบอกเล่าความจริง

ซิกฟรีดรับฟังและให้นางช่วยจัดการตามที่เห็นควร

ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์เลือกที่ฝังพระศพทั้งสองส่วนด้วยตนเอง ศีรษะและร่างกายของราชาริวอร์นอร์กลายเป็นผนึกฉีกแบ่งวิญญาณ ทำให้วิญญาณมิอาจรวมเป็นหนึ่งและกลับมาโลกของคนเป็น และเพื่อให้กายเนื้อซึ่งเป็นผนึกไม่สูญสลาย นางใช้โลงศพเวทรักษาสภาพศพไม่ให้เน่าเปื่อย

หนึ่งในสถานที่ฝังพระศพคือ ‘เกาะไร้นาม’ อันเป็นเกาะที่ถูกทิ้งร้างตั้งแต่สมัยเก่าก่อน สังเกตจากซากโบราณสถานที่ยังหลงเหลืออยู่อาจนับย้อนไปได้ถึงพันปี ซากโบราณสถานบ่งบอกว่าแต่เดิมมีอารยธรรมเอลฟ์รุ่งเรือง ทว่าถูกทิ้งร้างเพราะสัตว์ประหลาดดุร้ายเข้ามาแย่งถิ่นฐาน

ท่านหญิงเอริแอดเน่เลือกผนึกส่วนศีรษะของราชาริวอร์นอร์ไว้ในหอคอยซึ่งเป็นโบราณสถานใจกลางเกาะ นางอัญเชิญจ้าวมัจฉาเกล็ดเงินมาพิทักษ์พระศพอดีตกษัตริย์ นานวันมันก็ดูดซับไอคำสาปของพระศพจนเกิดผลึกเกาะตามเกล็ด ไอคำสาปนั้นยังเปลี่ยนสภาพชั้นบนสุดของหอคอยให้กลายเป็นถ้ำหินงอกหินย้อยดำทมิฬ

เวลาผ่านไป...เจย์ พรีออน โจรและนักล่าสมบัติลูกครึ่งเอลฟ์ก็ถูกชะตาพัดพาให้มายังเกาะไร้นาม พบสตรีโฉมงามและความลับอันเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล

 

“ถึงฝั่งแล้ว ต้องขอบคุณเรือลำที่พวกท่านใช้มา” ไนติงเกล หรือ ‘เอริแอดเน่’ เอ่ย น้ำเสียงของนางเรียบนิ่งและมีจังหวะการพูดอย่างชนชั้นสูง

เรือที่เจย์และพรรคพวกโจรใช้โดยสารมาเป็นเรือหาปลาขนาดเล็ก โดยสารกันมาเก้าคน กลับออกมาไม่ถึงครึ่ง ทว่าได้บรรทุกสิ่งสำคัญมาด้วย...นั่นคือกล่องหินผนึกศีรษะของเอลฟ์บุรุษที่พบในโลงศพบนหอคอย

เมื่อน้ำตาแห้งเหือด สติและความทรงจำกลับมาครบถ้วน เอริแอดเน่คล้ายคนตื่นจากฝันสงบสุขสู่ความจริงอันเจ็บปวด ดวงตาใสราวธารน้ำบริสุทธิ์ถูกฉาบด้วยกำแพงน้ำแข็งเย็นเฉียบ ทำให้นางดูเย็นชา ไร้หัวใจ เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน

คราแรก นางไม่ทราบว่าตนรอดจากมหาเวทนทีมาได้อย่างไร ในเมื่อนางปล่อยมือจากดาบเวทแล้ว และไม่คิดใช้พลังเวทปกป้องตัวเองจากสายน้ำ กระทั่งเห็นดาบเวทประจำตัวในมือก็เข้าใจ มันปกปักรักษานางด้วยเจตจำนงของผู้อื่น--เจตจำนงของมารดานที

มารดานทีไม่ยอมให้นางทิ้งชีวิต ปิดกั้นความทรงจำของนาง และนำนางไปหาริวอร์นอร์…

เวทดาร์กบลูอาบิสเชื่อมต่อกับแหล่งน้ำใต้ดิน มารดานทีแทรกอยู่ในกายาของบิดาธรณี กลายเป็นแม่น้ำ ลำธาร และทะเลสาบ...นางจึงถูกพัดมาที่ทะเลสาบของเกาะไร้นาม

จากการสำรวจ สินแร่สีดำอันเกิดจากไอคำสาปพบมากบนตัวมัจฉาผู้พิทักษ์และภายในห้องเก็บพระศพ แต่มีบางส่วนงอกอยู่นอกประตู แท่งแร่ด้านนอกถูกตัดจนเหลือแต่ตอ คาดว่าเป็นฝีมือของผู้ที่มาก่อน พวกมันเอาแร่ไปได้ แต่อาจกลับออกไปไม่สวยนัก สินแร่ก้อนแรกที่ถูกค้นพบจึงลอยมาตามน้ำ

สุดท้าย นางใช้เวทควบคุมจิตใจอันละโมบของโจรมนุษย์ ให้พวกมันเป็นหุ่นเชิดขนสินแร่ซึ่งเกิดจากพลังด้านมืดลงมาจากหอคอย และใช้เวทเปลี่ยนแปลงโลงศพของริวอร์นอร์ให้กลับสู่รูปร่างกล่องหินผนึกศีรษะ

ตั้งแต่ต้นจนจบ นางไม่ยอมมองใบหน้าในกล่องนั้น และไม่แตะต้องกล่อง

เจย์ไม่มีปฏิกิริยากับคำขอบคุณของเอริแอดเน่ เขาเหม่อนิดๆ ขณะไล่สายตาไปยังสหายโจรที่ถูกควบคุมด้วยเวท เมื่อใกล้ถึงฝั่ง พวกมันกระโดดลงจากเรือตรงน้ำตื้น เหวี่ยงเชือกแล้วชักลากเรือไปเกยฝั่ง พวกมันแข็งแรงขึ้นจนผิดมนุษย์ เจย์คิดว่าอาจเป็นเพราะเวท

พูดถึงคำขอบคุณ อันที่จริงเจย์ไม่มีปฏิกิริยาเพราะเขาไม่รู้ว่าควรตอบอะไร หากมีใครสักคนเอ่ยขอบคุณ สุภาพชนก็ควรตอบกลับว่า 'ยินดี' (ตามที่มารดาพร่ำสอน) ใช่หรือไม่ ทว่าสิ่งซึ่งทำให้ชายหนุ่มกระอักกระอ่วนที่จะตอบคือ…

ย้อนกลับไปเหตุการณ์บนเกาะร้างเล็กน้อย หลังเอริแอดเน่สะกดพวกโจรแล้ว นางหันมาถามเขาว่าเรือที่ใช้มายังเกาะนี้อยู่ที่ไหน ตอนนั้นเขาตอบกลับไปอย่างไรนะ...อ้อ ข้าไม่ได้ตอบอะไรสักคำ แต่ทำตัวน่ารักว่าง่าย นำทางนางมาที่เรือเลยจ้ะ

ใครจะอยากโดนสาปเป็นตุ๊กตาไร้สมองเหมือนโจรพวกนั้นกันเล่า!

สรุป นางปล้นเรือเขาแล้วเอ่ยขอบคุณ เขาควรตอบนางว่าอะไรหรือ

"ข้ามีคำถามพ่ะย่ะค่ะ" พอเจย์รู้ว่านางเป็นท่านหญิง เขาก็ใช้คำราชาศัพท์กับนางอย่างมั่นใจ

ซึ่งถูกๆ ผิดๆ ไปหมด...

“ใช้คำปกติเถอะ” นางตอบ สายตามองห้วงน้ำฝั่งที่มีเกาะ ซึ่งตอนนี้เป็นแค่เส้นขอบฟ้าสีน้ำเงิน

"ยากที่จะกลับไปเป็นปกตินะพ่ะย่ะค่ะ" เจย์ฉีกยิ้มแห้งๆ ขณะแอบเหล่ไปทางพวกโจร คิดว่า ถ้าข้าพูดไม่ถูกใจ พระองค์ก็สาปข้าน่ะสิ

“ข้าไม่ชินให้ท่านเรียกข้าแบบนั้น ส่วนท่าน...ใช้คำไม่ถนัดลิ้นจะขัดเสียเปล่าๆ”

“อ่า” เจย์ลูบท้ายทอย “ถ้าอย่างนั้นทำไมเจ้าถึงละเว้นข้าขอรับ” เขาพูดผิดๆ ถูกๆ อีกเหมือนเคย “ข้าหมายถึง ‘ท่าน’ ...ต้องใช้คำว่าท่านหญิงมั้ย”

เอริแอดเน่หันมามองโจรหนุ่ม “พูดตามปกติ” นางเอ่ยอนุญาตอีกครั้ง “ข้าละเว้นท่านเพราะท่านช่วยข้า ข้าจึงตอบแทนน้ำใจ…” นางหลุบตาลง “ข้าช่วยท่านหาสินแร่สีดำแล้ว ทั้งหมดบนเรือเป็นของท่าน จงนำมันไป ขายอย่างระมัดระวัง สินแร่นี้อาบไอทมิฬเข้มข้น นำไปขายทางแผ่นดินทมิฬน่าจะดีกว่า อย่าเก็บไว้กับตัวนาน ท่านอาจโดนไอคำสาปจนกลายเป็นบ้า และอย่าเปิดเผยสถานที่ที่ได้มา ไม่เช่นนั้นหัวของท่านอาจไม่อยู่กับตัว”

สินแร่นี้มีไอทมิฬเข้มข้นจนทำให้มนุษย์วิกลจริตได้จริง แต่โจรลูกครึ่งมีเชื้อสายเอลฟ์ น่าจะทนไอคำสาปได้มากกว่า

เจย์ปราศจากข้อกังขาว่าทุกสิ่งที่นางพูดไม่ใช่คำขู่ โดยเฉพาะอย่างสุดท้าย...

“ข้าเก็บความลับเก่ง” เจย์เม้มปาก เขาทำท่าไขกุญแจตรงมุมปากทั้งสองข้าง คล้ายล็อกหีบอย่างแน่นหนาแล้วโยนกุญแจทิ้งไป "ข้ามีคำถามอีก...แต่ข้าจะไม่ถาม เจ้าคงเดาออกว่าข้าจะถามอะไร"

จะมีอะไรน่าถามไปกว่าศีรษะในโลงศพเป็นใครอีกรึ!

เอริแอดเน่วาดนิ้วแผ่วเบา ฝุ่นดินบนพื้นพัดขึ้น บนดินเกิดเส้นแนวขวางระหว่างนางและเจย์ ให้ทั้งสองอยู่คนละฟาก “ฝั่งที่ข้าอยู่ คือด้านของคนตาย นรกแห่งความลับ ความชิงชัง การแก้แค้น และไฟสงครามที่ไม่เคยมอดดับ ฝั่งที่ท่านอยู่ คือด้านของคนเป็น ผู้ที่ยังมีชีวิต สามารถก้าวต่อไปข้างหน้า และมีความสุข ท่านพร้อมจะข้ามมาหรือ”

ดวงตาของนางเยียบเย็น...แต่ก็ดูเปราะบางในเวลาเดียวกัน

“ไม่” เจย์ตอบด้วยความมั่นใจสูงสุด “ข้าชอบฝั่งที่ข้าอยู่” ลูกครึ่งเอลฟ์ลงไปนั่งยองก่อนปัดเส้นแบ่งนั้นทิ้ง "แต่ข้ารู้คุณคน แร่พวกนี้ข้าเสวยสุขทั้งชีวิตก็ไม่หมด ให้ข้าตอบแทนบ้าง" พอได้รับอนุญาตให้พูดจาแบบปกติได้ เจย์ก็ปกติเหลือเกิน

"ข้าอาจไปกับเจ้าไม่สุดทาง แต่ระหว่างนี้มันดีที่มีเพื่อนนะ"

เจย์เงยหน้ายิ้มให้นาง เขาคิดว่านางโดดเดี่ยวเกินไป สีหน้าและแววตาของนางทำให้เขาเจ็บยอกในอกเพราะคิดถึงสตรีผู้หนึ่ง

เขาไม่รู้ว่าตนคิดไปเองหรือไม่ แต่เส้นที่นางขีดแบ่งระหว่างเขากับนาง เหมือนจะร้องว่า ‘ข้ามมาสิ ข้ามมาช่วยข้าด้วยเถิด’

นางเอลฟ์หัวเราะแผ่วเบา นุ่มนวล “ข้าอยู่คนเดียวดีแล้ว”

“ข้าก็ชอบอยู่คนเดียว” เจย์ว่า “ถ้าอย่างนั้นเราลองมาอยู่คนเดียวด้วยกันสักพักดีหรือไม่”

“ความใจดีครึ่งๆ กลางๆ ของท่านจะทำให้ผู้รับเจ็บ มันไม่สร้างแผลสด แต่เป็นแผลฟกช้ำ กลัดหนอง” บนหอคอย นางบอกเขาว่า ‘ถ้าท่านจะทิ้งข้า อย่างน้อยก็บอกลาสักคำ’ ...นางเป็นคนที่ชินกับการจากลา

"ว่าไปนั่น" เจย์ลูบท้ายทอยพลางลุกขึ้น "ครึ่งๆ กลางๆ อะไร ข้าว่าข้าเต็มที่กับทุกเรื่องนะ ข้ารู้...ข้ารู้ เรื่องที่เจ้ามันทำอันตราย ไม่ต้องอธิบายหรอก ข้าพูดตามตรงว่าไม่อยากตายเร็ว แต่...ไม่รู้สิ ข้าอยากช่วยเจ้า" เขายิ้มให้นาง...ช่างเป็นรอยยิ้มที่สว่างไสวไปถึงดวงตา "อย่าใจร้ายกับตัวเองนักเลย เจ้าอาจไม่ชินนัก แต่ลองรับความใจดีจากคนอื่นดูมั้ย ข้าไม่คิดแม้แต่เหรียญเดียว"

เอริแอดเน่เหยียดยิ้ม ทว่ารอยยิ้มสมเพชนั้นมีให้แก่ตัวนางเอง

“ข้าควรตายไปแล้ว แต่กลับไม่ตาย มารดานทีคุ้มครองข้า แต่ข้าคิดมาตลอดตั้งแต่ได้รับความทรงจำคืนมา ในเมื่อข้าอยากตายแต่กลับไม่ได้ตาย ซ้ำยังถูกพามายังสุสานของเดรัจฉานในโลงตนนั้น เช่นนี้แล้ว สิ่งที่ข้าควรทำต่อไป ก็คือเปลี่ยนโลกนี้ให้กลายเป็นนรกอันเหมาะสมกับเศษซากแห่งชีวิตอย่างข้ามิใช่หรือ”

คำกล่าวของนางอำมหิต เยือกเย็น พูดออกมาโดยมีสติครบถ้วน ไม่น่าเชื่อว่านางคือคนเดียวกับสตรีไร้ความทรงจำผู้มีดวงตาใสบริสุทธิ์และรอยยิ้มเป็นมิตร

เจย์อ้าปากแต่ไม่มีเสียงใดลอดออกมา เงียบไปสักพักเขาก็เปลี่ยนเรื่อง “ทางใต้ของดินแดนเอลฟ์เป็นยังไง ข้าไม่เคยไปมาก่อน”

“ลองไปดูด้วยตาตัวเองเถอะ” นางตัดบทและหันไปมองทางอื่น เป็นการบอกว่าถึงเวลาจากลา

เจย์พึมพำรับว่า “จ้า…” แล้วกระโดดลงจากเรือ เขาชูแขนก่อนจะร้องบอกนางว่า

“ลงมา ข้ารับเจ้าเอง”

เอริแอดเน่เงียบไปครู่ นางสามารถเกาะมือเขาลงจากเรือได้ ทว่า...

“มาเถอะ เดี๋ยวข้าอุ้มไปส่งตรงที่สะอาดๆ”

นางแปลกใจที่โจรหนุ่มรู้ว่านางไม่พึงใจจะย่ำโคลน “ตกลง”

พอรับนางลงมาเจย์ก็ถามว่า “ข้าสั่งโจรที่เจ้าควบคุมได้มั้ย ขอคนเดียว”

“ได้” เอริแอดเน่เบือนหน้าไปทางโจรคนหนึ่ง มันเดินมาทางเจย์ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

“ช่วยข้าดันเรือลงทะเลสาบ จากนั้นชักใบเรือแล่นออกไปให้ไกล สักใจกลางทะเลสาบน่าจะพอ” โจรหนุ่มสั่งโจรเถื่อนซึ่งกลายเป็นตุ๊กตาชักรอก “เสร็จแล้ว...เจ้าก็โจนลงทะเลสาบแล้วเอาตัวรอดนะ” เจย์ตบหลังโจรแปะๆ

โจรซึ่งถูกควบคุมด้วยเวทออกแรงผลักเรือด้วยแรงไม่ธรรมดา เจย์ไม่ต้องออกแรงแม้ปลายนิ้วด้วยซ้ำ พอเรือพร้อมออกจากฝั่ง เขาก็ร้องสั่ง “กระโดดขึ้นไป! เออ นั่นแหละ กางใบเรือแล้วออกไปเลย”

เจย์ยืนเท้าเอว ยกมือข้างหนึ่งโบกลาโจรผู้โชคร้าย จากนั้นค่อยหันมายิ้มกว้างให้เอริแอดเน่

“ข้าไปด้วย”

เอริแอดเน่เงียบอีกครั้ง นางมองตามเรือซึ่งบรรทุกสินแร่เต็มลำแล่นออกไป

“ท่านทิ้งทรัพย์สมบัติที่ใช้ชีวิตแลกมาหรือ”

เจย์พยักหน้า “จะบอกว่าข้าตัดสินใจครึ่งๆ กลางๆ ไม่ได้แล้วนะ” และเสริมว่า “อันที่จริง ข้าแอบเก็บไว้ห้าหกชิ้น ที่เหลือให้มันไปตามยถากรรมเถอะ"

สินแร่ดำมีค่ามหาศาล แค่ห้าหกชิ้นก็สบายไปชั่วลูกชั่วหลานแล้ว

สีหน้าของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์อ่อนลง นางมองโจรลูกครึ่งให้ชัดเต็มตา พิจารณาเขาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า

“ข้าไม่ใช่คนดีหรอก ออกจะโง่ เพราะข้ายังไม่รู้แน่ชัดเลยว่าทำไมถึงตัดสินใจแบบนี้” เจย์หัวเราะ

“คงเพราะท่านยังเยาว์นัก” เอริแอดเน่หลับตา ในชีวิตนาง...ไม่หวังพึ่งใคร นางเป็นร่มไม้ใหญ่ เป็นเสาหลักแห่งอิซิลดาร์ เรื่องที่ผู้อื่นทำไม่ได้ นางต้องทำได้ เมื่อคนอื่นร้องขอ นางต้องไม่ขอร้อง คนอื่นเหยียบแค่ตีนเขา นางต้องไปให้ถึงยอดผา นั่นคือวิถีชีวิตของนาง...สิ่งที่นางต้องทำให้ได้ ทุ่มเทชีวิตเพื่อให้ได้มา

“เอาเถอะ นอกจากเงินทอง สิ่งที่ข้าชอบอีกอย่างคือความเสี่ยง มันทำให้ข้ารู้สึกถึงชีวิต...อ่า แต่ข้าก็รักตัวกลัวตายนะ เห็นมั้ย ออกจะโง่และสำนึกขัดแย้งกันบ่อยๆ”

“งั้นข้าจะบอกท่าน” เอริแอดเน่ลืมตา “ศีรษะนั้นเป็นของอดีตกษัตริย์ชั่วช้าผู้หนึ่ง ริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์ แต่คนที่รู้ว่าเขาชั่วช้ามีเพียงข้า และข้าเป็นคนทำให้ศีรษะของเขาถูกบั่นจากตัว”

นางเอ่ยเด็ดขาด ทว่าในเรื่องที่เล่า...กลับไม่เอ่ยถึงซิกฟรีด

เพียงเท่านั้นก็ทำให้โจรหนุ่มตะลึงค้าง

ราชาเอลฟ์เลยรึ!

เขากรีดร้องในใจ

ไม่สิ นางกล้าสังหารราชาริวอร์นอร์เชียวรึ! เป็นไปได้ยังไง ไม่ใช่ว่าพระองค์เป็นจอมทัพรูเมเรียร์หรอกรึ!

“อืม…” เจย์ลูบหน้าตัวเองแรงๆ “ข้าไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี ถึงอย่างไรข้าก็ไปกับเจ้าเหมือนเดิม”

“แม้จะรู้ว่าข้าเป็นนางเอลฟ์ชั่วช้า?” เอริแอดเน่บ้าบิ่นมากที่เล่าความจริง ทว่าตัวนางในเวลานี้หาได้สนใจปิดมันกับโจรตรงหน้า

เจย์ส่ายหน้า “ข้าก็ไม่ใช่มนุษย์ที่ดีนักหรอก อีกอย่าง ใครบ้างที่ไม่เคยทำชั่วในชีวิต”

“ท่านเอ่ยเช่นนี้ได้ เพราะท่านยังไม่เคยได้รับความเสียหายจากความชั่วช้าของข้า” นางออกเดิน หุ่นเชิดมนุษย์ของนางที่เหลืออยู่สองคนก็เดินตามอย่างเข้มแข็ง ซื่อสัตย์ แต่ไร้ชีวิต

นางให้พวกมันคนหนึ่งแบกกล่องหินไว้บนหลัง

“ข้าจะตัดสินใจเอง”

น้ำเสียงหนักแน่นดังตามหลังนาง จากนั้นเจย์ก็เข้ามาเดินเคียงข้างนาง รอยยิ้มของเขาประหนึ่งแสงตะวัน มันอาจช่วยละลายน้ำแข็งในใจนาง และทำให้นางรู้สึกถึงชีวิตอีกครั้ง

-----------------------------------------

สิบวันต่อมา

ในระหว่างที่ความขัดแย้งของราชาซิกฟรีดกับพระคู่หมั้นถูกปิดบังไว้เหมือนการซุกซ่อนความลับไว้ใต้พรม...

ระหว่างที่อิซิลดาร์มีท่านหญิงเอริแอดเน่คนหนึ่ง...ท่านหญิงเอริแอดเน่อีกคนก็ออกเดินทางพร้อมโจรลูกครึ่ง

ณ สุสานไร้เกียรติ สตรีเอลฟ์สูงศักดิ์เดินผ่านซากศพกวางผู้พิทักษ์ซึ่งถูกไอทมิฬแทรกซึมจนกลายเป็นสัตว์ปีศาจ ดาบเวทในมือนางยังเปื้อนเลือดอุ่นๆ ของผู้พิทักษ์ที่เพิ่งสิ้นลม แทบเขายาวโง้งที่แตกกิ่งก้านเหมือนต้นไม้ใหญ่ของมันคือซากศพของโจรที่นางพามา

นางชี้ดาบเวทไปยังโลงหิน

ฝาโลงเปิดออก เผยให้เห็นสิ่งที่น่าสะพรึงยิ่งกว่าศีรษะเปื้อนเลือดบนหอคอยในเกาะร้าง

เจย์เอามืออุดปากเมื่อเห็นร่างไร้ศีรษะของราชามงกุฏดำ พระหัตถ์ขวาของพระองค์ยังเกร็งค้างในท่ากำดาบ พระหัตถ์ซ้ายกำแน่นจนเล็บคงจิกเข้าผิวเนื้อ เลือดแห้งเกรอะกรังย้อมฉลองพระองค์สีดำให้ยิ่งดำขึ้นไปอีก กลิ่นความตายฟุ้งขึ้นพร้อมไอคำสาปรุนแรง ความโกรธแค้นอัดแน่นจนก่อผลึกหนามทั่วโลงหิน ปลายคมล้อมพระศพไว้ มันพร้อมทิ่มแทงผู้ใดก็ตามที่กล้ายื่นมือไปแตะต้อง

โจรหนุ่มกลืนน้ำลายหนืดเหนียว

ต้องเกลียดชังแค่ไหน...ต้องโกรธเกรี้ยวเพียงใด จึงลงมือฆ่าแล้วเก็บศพไว้เช่นนี้

“ในโลกอันสิ้นหวังนี้ เดรัจฉานบางตนก็สมควรฟื้นขึ้นมา”

นางกล่าวกับศพอันไร้เกียรติอย่างหยามเหยียด


—————————————————————————

A/N ใครที่ค้างตอนจบของเกาะไร้นาม เรามาต่อเรื่องราวหลังจากนั้นให้อย่างว่องไวแล้วค่ะ! พอจะเดากันได้แล้วไหมคะ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป


พบกันครั้งต่อไปวันที่ 1 มิ.ย. 60


ป.ล. ใครรอบทโคลด์กับซิกฟรีด มีนะคะ ;) ไม่หายค่า
ป.ล. 2 เราไม่ค่อยได้ตอบคอมเมนต์ แต่อ่านครบนะคะ บางอันอ่านแล้วอยากตอบทันที แต่จังหวะไม่อำนวย พอทิ้งไว้นานๆ แล้วมาตอบก็กระไรอยู่ แต่ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์มากๆ ค่ะ จุ๊บๆ  :mew1:


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (3) [30/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 30-05-2017 15:57:54
ปลุกชู้รักขึ้นมารบกับซิกฟีดหรือ?
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (3) [30/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-05-2017 17:07:15
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (3) [30/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 30-05-2017 18:34:34
วุ่นวายอีกล้า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (3) [30/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-05-2017 11:14:26
ท่านหญิงเอรีแอดเน่ คนนี้ กับท่านหญิงเอรีแอดเน่คนนั้น
หรือเป็นการแยกร่างโดยมารดานที
แต่ที่อยู่อิซิลดาร์ ก็ไม่ได้ใจดี ยังดาร์กเหมือนเดิม
แต่คนนี้ดูจะดาร์กสุดๆ แต่ยังใจดีกับเจย์
เฮ่ย.....แล้วยังจะใช้เวทปลุก คืนชีพริวอร์นอร์ อะจ๊ากกกกก มันสิพะย่ะค่ะ
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:     
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (3) [30/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 31-05-2017 15:37:34
ท่านหญิงเอรีแอดเน่ คนนี้ กับท่านหญิงเอรีแอดเน่คนนั้น
หรือเป็นการแยกร่างโดยมารดานที
แต่ที่อยู่อิซิลดาร์ ก็ไม่ได้ใจดี ยังดาร์กเหมือนเดิม
แต่คนนี้ดูจะดาร์กสุดๆ แต่ยังใจดีกับเจย์
เฮ่ย.....แล้วยังจะใช้เวทปลุก คืนชีพริวอร์นอร์ อะจ๊ากกกกก มันสิพะย่ะค่ะ
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:   
ใจดีกับเจย์จริงๆ ค่ะ ใจดีกว่ากับซิกฟรีดอีกอะ^^;
ส่วนริวอร์นอร์จะเป็นยังไงต่อไป รอติดตามนะคะๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (4) [01/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 01-06-2017 17:32:12
บทที่ 24 : โลหิตนภา (4)

พระศพไร้ศีรษะของอดีตราชาเอลฟ์ผู้องอาจทอดร่างอยู่ในโลงหินเบื้องหน้า

มีแค่ร่างจริงๆ ส่วนศีรษะก็...ภาพนั้นทำให้เจย์กลืนน้ำลายอึกแล้วอึกเล่า

“ไม่เคยเห็นศพคนตายหรือ” เอลฟ์สตรีผู้กล้าหมิ่นเกียรติพระศพถามเสียงเย็น นางสะบัดเลือดชุ่มโชกซึ่งเกาะอยู่บนใบดาบสีฟ้าเรือง

“เคยเห็นบ้าง แต่…” เจย์ไล่สายตาไปบนร่างในโลงศพอีกครั้ง หากมองด้วยสายตาของโจร ศพนี้กระตุ้นความโลภได้เป็นอย่างดี ร่างอย่างนักรบยังดูสง่าด้วยอาภรณ์อย่างกษัตริย์ เนื้อผ้าแม้จะเก่าและเกรอะคราบเลือดก็ยังดูออกว่าเป็นทอจากไหมราคาแพง ดิ้นทองคำยังคล้ายเรืองเรื่อ เครื่องประดับและเครื่องราชอิสริยยศอยู่ครบ

งดงาม ทว่าน่าสะพรึง

ท่านหญิงเอลฟ์พริ้มตา เปิดปากนิดๆ “อ้อ ศพกษัตริย์ไม่ได้เห็นกันทุกวันนี่นะ” นางหัวเราะเสียงเบา เย็นชา ทว่าสายตาไม่ยอมมองร่างในโลงนานเกินไป ตาขาวของนางแดงก่ำ แต่ไม่มีน้ำตา กระแสความรวดร้าวเจืออยู่บางเบาในกิริยาของนาง

“เราจะเอายังไงต่อรึ” เจย์เบือนสายตาไปพักทางอื่น อย่างใบหน้าแฉล้มของท่านหญิงข้างๆ นี่ก็ดี

“เราจะเอาศพไป แล้วจัดฉากเล็กน้อย เผื่อมีคนมาพบไวกว่าที่คาด” เนื่องจากเวทปิดผนึกสุสานกษัตริย์นอกรีตทั้งสองแห่ง นางเป็นผู้ร่ายเอง หากผนึกแตกออก นางย่อมทราบเป็นคนแรก แต่ที่รูเมเรียร์ยังมีหินเวทที่เชื่อมต่อกับเวทผนึกสุสาน หากเวทผนึกสุสานแตก หินเวทที่รูเมเรียร์ก็จะแตกตามในเวลาใกล้เคียง

ในสุสานหอคอยบนเกาะกลางทะเลสาบรวมถึงสุสานในภูเขาลึกแห่งนี้ เอริแอดเน่ร่ายเวทผนึกสุสานใหม่เพื่อชะลอการแตกของหินเวทที่รูเมเรียร์ แต่หินเวทที่ร้าวจากภายในแล้วจะค่อยๆ ร้าวลึกจนมีคนสังเกต

ทว่าแค่นั้นก็ช่วยซื้อเวลาให้นางแล้ว

“ข้าไม่ชอบถามจู้จี้ แต่เราจะเอาศพไปทำอะไร” เจย์ไม่คิดว่านางจะขายศพ นางเป็นท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ ให้ขายศพกินแบบพวกโจรอย่างเขาดูจะไม่เข้าที

อันที่จริง เจย์รู้สึกพิกลตั้งแต่นางหอบเอาศีรษะของอดีตกษัตริย์เอลฟ์มาจากเกาะนั้นแล้ว อะไรบางอย่างมันสะกิดเขา เหมือนบอกว่าเขากำลังจะเป็นพยานหนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์มืด

เจย์เคยขายศพของพวกร่อนเร่ไร้บ้าน และรู้ดีว่าพวกรับซื้อศพเอาศพไปทำอะไร

มนตร์ทมิฬ...

“ข้าจะทำอะไรกับศพน่ะหรือ” เอริแอดเน่รำพึงเหมือนเอ่ยกับตัวเองมากกว่าตอบคำถามของเจย์ นางวาดดาบเวทในมืออย่างนุ่มนวล สายตามองผนังวิหารอันว่างเปล่า ก่อนที่ผนังหินจะปรากฏวงเวทสีฟ้าอ่อน อสรพิษสีเขียวครามขนาดมหึมาทะลุวงเวทนั้นออกมาอย่างอัศจรรย์

ท่านหญิงชี้ดาบเวทสั่งการอสรพิษตัวใหญ่ยักษ์ มันเลื้อยอย่างเงียบเชียบผิดกับขนาดตัวไปยังโลงศพหิน ฝาโลงเลื่อนปิดดังเดิมก่อนที่อสรพิษจะแยกเขี้ยวอ้าปากใหญ่โตกลืนโลงศพเข้าไปพร้อมร่างในโลง เมื่อเสร็จแล้วมันก็กลืนหีบบรรจุส่วนศีรษะเข้าไปตามกัน

“ข้าคิดว่าพอจบเรื่องนี้ ข้าสามารถเป็นนักเขียนที่มีเรื่องเล่ามหัศจรรย์กว่าใครแน่นอน” เจย์พยักหน้าให้กับอสรพิษตนนั้นอย่างเหม่อลอย

เอริแอดเน่หันมองเจย์ขณะที่สัตว์อัญเชิญของนางเลื้อยผ่านวงเวท ครู่เดียวปลายหางของมันก็จมหายไปในผนังหิน แสงของวงเวทสลายไป

“แม่ข้าสอนว่าสสารไม่มีวันสูญหายไปจากโลกเฉยๆ” เจย์กะพริบตาปริบๆ “งูนั่นต้องทะลุไปโผล่ที่ไหนสักที่ใช่มั้ย”

“เป็นเช่นนั้น” เอริแอดเน่ตอบอย่างสงบ สีหน้าซีดเผือด “ข้าเหนื่อย...ขอพักสักครู่ได้ไหม” นางสมควรเหนื่อย ทั้งต่อสู้กับสัตว์ผู้พิทักษ์ และใช้เวทอัญเชิญจ้าวอสรพิษจากป่าลึกของอิซิลดาร์ แต่แท้จริงยังมีสาเหตุมาจากจิตใจ...

ใครปฏิเสธเจ้าก็ใจร้ายเกินไปแล้ว เจย์คิด

“ขออนุญาตขอรับ” เขาช้อนร่างแบบบางของนางขึ้นในท่าอุ้มเจ้าสาวเข้าหอ และโดยไม่มีเจตนาแอบแฝง (“จริงๆ” เจย์ยืนยัน) โจรหนุ่มก็เสนอให้นางอิงศีรษะพักบนอกเขาด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

“คิดเสียว่าเป็นหมอนที่แข็งไปหน่อยก็ได้” เจย์ระบายยิ้ม

เอริแอดเน่เก็บดาบเวท พิงตามที่อีกฝ่ายบอก นางได้กลิ่นดินและเลือดระคายจมูก ทว่ายอมหลับตา “ออกจากสุสาน เราจะลงใต้...” ตัวของนางเย็นเฉียบ อาการอ่อนล้านี้เกิดขึ้นหลังจากนางได้เห็นร่างไร้วิญญาณอันครบสมบูรณ์ของริวอร์นอร์ และนึกว่าตนจะทำอะไรต่อไป “เดินทางสามสี่วันจะมีภูเขาอีกลูก เหมาะให้หลบซ่อนตัว นอกจากนี้ข้ายังต้องการเข็มเย็บผ้าอันใหญ่หน่อย”

“เข็มเย็บผ้า” เจย์ทวน “ข้าคิดว่าข้ารู้เหตุผลนะ แต่เพื่อให้มั่นใจ ข้าขอถามว่าเจ้าต้องการเข็มเย็บผ้าไปทำอะไร...รึ”

“เย็บศีรษะให้ติดกับตัว”

“ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะหาด้ายให้เจ้าด้วย”

เอริแอดเน่ยกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเป็นการตอบรับ

--------------------------------------

หลายวันให้หลัง เวลาดึกสงัด แสงจันทร์เต็มดวงส่องผ่านเพดานถ้ำเปิดโล่งมายังลานเบื้องล่าง เอริแอดเน่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างโลงศพหินซึ่งถูกย้ายมายังลานกลางถ้ำหินปูนแห่งนี้ นางวางส่วนศีรษะของริวอร์นอร์ลงกับร่างกาย ใจเหมือนถูกบีบแน่นในทุกสัมผัสที่แตะต้องใบหน้าของศพ ทว่าท่าทางภายนอกกลับสงบ เยือกเย็น

เจย์ตัดต้นกกที่ขึ้นในลำธารอาบแสงจันทร์มาให้เอริแอดเน่ตามที่นางสั่ง จากนั้นนางก็ฉีกมันออกด้วยมือตัวเอง นิ้วขาวเรียวทั้งสิบถลอกไปทั่วขณะร่ายมนตร์ เส้นใยพืชสีขาวเหนียวนุ่มอันมีมนตร์จันทราแฝงอยู่ถูกร้อยเข้ากับเข็มซึ่งถูกตีให้โค้งและตอกอักขระเวท เอริแอดเน่บรรจงเย็บเนื้อส่วนลำคอเข้าด้วยกันทีละเข็ม ท่วงท่าของนางรัดกุมอย่างผู้บริกรรมคาถา แต่คาถาที่ใช้กับซากศพนี้ย่อมมิใช่เวทมนตร์ของเอลฟ์

“เจ้ารอบรู้จริงๆ” เจย์อยู่ไม่ไกลจากนาง เขากำลังครูพักลักจำสิ่งที่นางทำอย่างสนอกสนใจ

นางไม่ได้เอ่ยตอบเจย์ เพราะกำลังร่ายเวท อสรพิษยักษ์สีเขียวครามของนางขดตัวอย่างสงบ ทำหน้าที่พิทักษ์บริเวณถ้ำซึ่งใช้เป็นที่ซ่อนโลงศพ ดวงตาขีดเสี้ยวสีทองของมันบ่งบอกความกระหายเลือด ทว่าความโหดร้ายตามธรรมชาติถูกกดข่มไว้ด้วยกลิ่นอายเวทของสตรีสูงศักดิ์แห่งอิซิลดาร์

เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง เอริแอดเน่จึงเย็บเข็มสุดท้ายเสร็จ นางหงายฝ่ามือ มองใบหน้าศพอยู่นาน หน้าตาที่คุ้นเคยบัดนี้เปลือกตาปิดสนิท กรอบหน้าคมเข้มเปี่ยมอำนาจล้อมด้วยเรือนผมสีทอง จมูกโด่งเป็นสันไร้ลมหายใจ ริมฝีปากไร้สีเลือด หน้าผากและผิวแก้มสีเทาซีดเห็นเส้นเลือดดำแทรกเป็นริ้ว

นี่คือซากศพ...มันทำอะไรข้าไม่ได้ นางย้ำกับตนเอง ใช้ปลายเข็มกดท้องนิ้ว ให้หยดเลือดผุดขึ้นมาเป็นเม็ดกลมสีแดง ก่อนคว่ำนิ้วเหนือปากของศพแล้วบีบนิ้ว เลือดของนางหยดลงบนริมฝีปากของอดีตกษัตริย์ทีละหยด ไหลลงไปในปาก

ไม่นาน ความเปลี่ยนแปลงก็บังเกิด

ไอสีดำลอดออกจากริมฝีปากซึ่งปิดสนิท มองไปก็คล้ายกลุ่มใยแมงมุมเส้นบางเหนียวที่พยายามไขว่คว้าบางสิ่งในอากาศ ขณะที่เจย์สงสัยว่ามันต้องการอะไร กลุ่มใยแมงมุมนั้นก็ยึดจับปลายนิ้วของท่านหญิงเอริแอดเน่ บางส่วนไต่จากปลายนิ้วสูงขึ้นไปกระทั่งคลุมถึงข้อมือ เส้นใยทมิฬไม่มีทีท่าว่าจะหยุด มันแทบคลุมแขนแบบบางของจอมเวทสตรีแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น หากเข้าไปมองใกล้ๆ จะพบว่าใยแต่ละเส้นชำแรกเข้าใต้ผิวไปตามเส้นเลือด ชั่วอึดใจ...เส้นใยทมิฬสีดำที่ยึดโยงระหว่างซากศพและท่านหญิงโฉมงามก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงช้าๆ โดยไล่จากเอริแอดเน่มายังริวอร์นอร์

เป็นภาพที่น่าอัศจรรย์และน่าประหวั่นใจพร้อมกัน

เส้นใยทมิฬถ่าย ‘ชีวิต’ ของเอริแอดเน่มาให้ริวอร์นอร์ ทั้งโลหิตและพลังกาย เจย์เห็นใบหน้าของท่านหญิงซีดลงทว่านางเพียงเม้มปากเรียบตึง กำมือแน่นโดยไม่ชักแขนหนี

มารดาขอรับ ข้าทำตัวไม่ถูก นางกำลังจะปลุกศพ ข้าควรห้ามนางหรือไม่ โอ ไม่ดีกว่า...ข้าไม่พร้อมให้อสรพิษตัวฟ้าๆ เขียวๆ ของนางงาบ

เจย์รู้แน่แก่ใจแล้วว่าเขาเป็นพยานหนึ่งเดียวในหน้าแรกของประวัติศาสตร์มืดจริงๆ

“ฉิบหาย…” โจรหนุ่มอุทานแล้วรีบอุดปาก เมื่อเห็นเปลือกตาของซากศพเปิดขึ้น ดวงตาในเบ้าทั้งสองข้างเป็นฝ้า แม้จะลืมตาแต่ยังดูไร้ชีวิตเช่นเดิม เจย์นึกอยากจะลองดีดนิ้วทดสอบปฏิกิริยาตอบโต้ ทว่าความพิเรนทร์หยุดเพียงเท่านั้น ซากศพนี้เคยเป็นถึงกษัตริย์เอลฟ์ ถ้าเขาทะลึ่งใส่อาจโดนสั่งกุดนิ้ว…

ไม่สิ นางนั่นแหละที่จะกุดนิ้วข้า เจย์ลอบสังเกตท่านหญิงเอริแอดเน่มาสักพัก อดคิดไม่ได้ว่าอดีตราชาเอลฟ์ผู้นี้กับนาง ‘มีบางอย่างที่ลึกซึ้ง’ ต่อกัน ถึงสีหน้าของนางจะเย็นชา บางครั้งถึงขั้นโกรธแค้น แต่เขาคิดว่ามี...มีแน่ๆ ไอ้เจ้าบางอย่างที่ลึกซึ้งนั่นน่ะ

เอริแอดเน่จ้องตาศพ ใบหน้าของนางเป็นสิ่งแรกที่มันเห็น แต่นางทราบว่านี่มิใช่ริวอร์นอร์ เป็นเพียงแค่ซากศพไร้สามัญสำนึก โดยไม่หลบตา นางคลายนิ้ว เอ่ยสั่งเป็นภาษาคนตาย ให้มันปล่อยแขนนาง

แรกทีเดียวมันไม่ตอบรับ จนเอริแอดเน่เอ่ยภาษาเวท ฟาดสายฟ้าอย่างอ่อนช็อตร่างมัน มันจึงทำตามคำสั่งด้วยการปล่อยแขนนาง

“เจย์” เอลฟ์สาวเรียก ท่อนแขนเนียนไม่มีบาดแผลภายนอก แต่ใบหน้าไร้สีเลือดจากการเสียเลือดและพลังชีวิตไปปริมาณหนึ่ง

เจย์ผู้ไม่รู้จะแทรกบทตัวเองอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้กะพริบตาปริบๆ ใส่นาง ก่อนจะส่งเสียง “อื้อ…” อย่างกึ่งตอบรับกึ่งไร้ความหมาย

“ข้ามีเรื่องวานให้ท่านทำ แต่ท่านสามารถปฏิเสธได้”

เจย์พยักหน้าเป็นเชิงให้นางเอ่ยต่อ

“ดี” เอริแอดเน่วาดมือ โลงหินเลื่อนปิด พร้อมขังซากศพที่เพิ่งลืมตาไว้ในความมืด “สำหรับข้า ความไว้วางใจเป็นสิ่งสำคัญ ชายที่นอนอยู่ในโลงนี้มีจุดจบเช่นนี้เพราะทรยศความไว้วางใจของข้า”

ไม่ต้องย้ำก็ชัดเจนอยู่แล้วจ้า...โจรหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก เขาเคยได้ยินคำกล่าว ‘ไม่มีสัจจะในหมู่โจร’ และเห็นด้วยสุดใจ (แถมยึดเป็นคติประจำใจด้วย) แต่กับท่านหญิงผู้นี้ เขาเชื่อว่าแม้กระทั่งอภิมหาโจรนางก็ยังรีดเร้นสัจจะออกมาได้

“แต่ความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุด ไม่ใช่ค่าตอบแทนเดียวของการทรยศ ข้าทำให้เขาตายได้ ข้าก็คืนชีวิตให้เขากลับมาทุกข์ทรมานได้เช่นกัน และจะเป็นเช่นนั้นสำหรับผู้ที่ทรยศต่อความเชื่อใจของข้าทุกคน”

นางกำลังข่มขู่เจย์ ซึ่งๆ หน้าเลยละ นั่นทำให้โจรหนุ่มยิ้มแห้งแล้งกับโลงหินที่บรรจุซากศพอยู่

“แต่ท่านเลือกปฏิเสธได้” อสรพิษชูหัวสามเหลี่ยมใหญ่โตขึ้นมองเจย์ ลำตัวยาวเลื้อยช้าๆ “ถ้าท่านปฏิเสธ ก็อยู่เงียบๆ กับบริวารของข้าจนกว่าข้าจะเสร็จธุระที่นี่ หลังจากนั้น เราแยกทางกัน”

“ข้าขอปรึกษาตัวเองสักครู่” เจย์ยกนิ้วชี้ทาบหว่างคิ้วแล้วเดินหามุมสงบ เอริแอดเน่ได้ยินเสียงพึมพำของเจ้าลูกครึ่งเอลฟ์แว่วมา

“เจ้ามาหาสมบัติไปแต่งเมียไม่ใช่เรอะ ได้เมียแล้วมีลูกสักสิบคน ซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่ๆ อยู่ดีกินสบาย...เอ้อ สั่งแกะสลักป้ายหินอ่อนระลึกถึงมารดาด้วย ไม่สิ สร้างวิหารเลียนแบบพวกเอลฟ์เลยดีกว่า อย่าลืมเหรียญทองจ้างดวอร์ฟทำเครื่องเคลือบใส่อัฐิมารดา เดี๋ยวๆ เลอะเทอะไปใหญ่ กลับมาคำถามแรก เจ้ามาล่าสมบัติใช่มั้ย แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่วะหืม”

เอริแอดเน่ฟังเงียบๆ นางแปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกันที่มอบความใกล้ชิดกับคนที่มีศักดิ์ฐานะต่างกันอย่างพวกลูกครึ่ง ทว่าอีกใจของนางกลับหวนนึกถึงช่วงเวลาที่ตนไร้ความทรงจำและได้รับน้ำใจจากอีกฝ่าย นั่นทำให้นางมอบทางเลือกครั้งนี้แก่เขา

เสียงพึมพำเงียบไปพร้อมกับที่เจย์หันกลับมาหานาง

“ข้าว่าเจ้าคล้ายมารดาข้าหน่อยๆ” โจรหนุ่มบังอาจพูด “สวย ใจดี แต่พังทลาย” แถมยังกล้าวิจารณ์นาง

แววตาอันเจ็บปวดทว่าเก็บซ่อนไว้อย่างแนบเนียนของนางทำให้เขานึกถึงสตรีผู้หนึ่ง--มารดา

ทั้งนางและมารดารักษาระยะห่างจากทุกคน โอบกอดความเหินห่างนั้นไว้อย่างหวงแหน ทุกครั้งที่เขามองนัยน์ตาของนาง เขาเห็นภาพทับซ้อนกับนัยน์ตาของมารดา มันทำให้เขาปวดในอก

ไม่มีควรมีผู้ใดหลงอยู่ในความโดดเดี่ยว

“ท่านคิดว่าข้าเป็นมารดาท่านหรือ” นางพริ้มตา

“ไม่...ไม่ๆ” เจย์ปฏิเสธ “เจ้าสวยกว่า...โหดกว่า” ลูกครึ่งเอ่ยคำว่า ‘โหดกว่า’ เบาๆ

“ข้าอายุสองร้อยยี่สิบแปดปี น่าจะมากพอเป็นบรรพบุรุษของท่านได้” หลังได้ความทรงจำคืนมา นางมองปราดเดียวก็เดาได้ว่าลูกครึ่งมนุษย์ตรงหน้าเป็นเพียงชายหนุ่มวัยรุ่น

เจย์ระบายยิ้ม “คืออย่างนี้” เขาเดินมาหยุดตรงหน้านาง ย่อตัวลง ดวงตาเปี่ยมไปด้วยประกายมองนางราวกับจะถ่ายทอดประกายนั้นให้ “ข้าไม่ได้คิดว่าเจ้าเป็นมารดาข้า แต่คิดว่าเจ้า ‘เหมือน’ มารดาข้า และมันทำให้ข้าปล่อยเจ้าไปไม่ได้”

นางเงยหน้า เอามือปิดปากเจย์ “นั่นแปลว่าท่านจะติดตามข้า มอบความภักดีแก่ข้า อยู่เคียงข้าใช่หรือไม่”

“โห” เจย์กะพริบตาปริบๆ อีกครั้ง “เป็นภาระที่หนักจริงๆ” เขาหัวเราะ

“ก็เป็นทางที่ท่านเลือกเองไม่ใช่หรือ ข้าไม่หวังอะไรน้อยไปกว่านั้น”

“ข้าไม่ใช่อัศวิน ไม่คิดจะเป็นด้วยถ้าให้พูดตรงๆ”

นางมองเจย์เงียบๆ เป็นความเงียบอันน่าอึดอัด เหมือนมีคำตำหนิมากมายลอยอยู่ในบรรยากาศว่ามิใช่เวลาพูดจาล้อเล่น

เจย์ทำหน้าปุเลี่ยน “แต่แหม...ข้าอยู่กับเจ้าตั้งแต่เริ่มเรื่องแล้วก็จะอยู่ไปจนจบนั่นละ อย่าเค้นเอาเหตุผลมากเลย เพราะข้าทำตามสิ่งที่เรียกร้องภายในและตามสัญชาตญาณลูกผู้ชาย”

นางฟังแล้วนึกเอ็นดูชายหนุ่มผู้ไม่รู้อะไร

มีความเป็นลูกผู้ชายให้แก่สตรีที่ผู้คนสาปแช่งหรือ

“เข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะให้ท่านรับงาน รับงานนี้หนึ่งครั้ง ทำให้สำเร็จ จากนั้นท่านเป็นอิสระ” นางให้โอกาสเขาแยกตัวออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างอดทน

“เอาอย่างนี้ดีไหมขอรับ” เจย์กระแอม “ท่านมอบหมายงานให้ข้าชิ้นหนึ่ง พอข้าทำสำเร็จ ท่านค่อยถามข้าอีกรอบว่าอยากอยู่กับท่านต่อหรือไม่ ก่อนจ่ายงานชิ้นต่อไป...และชิ้นต่อไป”

นางดึงคางเขาเข้ามา ประทับจุมพิตบนหน้าผากกว้าง ร่ายเวทเป็นคำตอบ “ตกลง” กลางหน้าผากของเจย์ปรากฏสัญลักษณ์เวทประจำตัวนาง “ข้าจะอธิบายงานอย่างเร็ว ท่านอยู่ที่นี่ไม่ได้ เพราะศพคืนชีพกินเลือดเนื้อเป็นอาหาร ท่านคงไม่อยากเป็นอาหารของมันใช่ไหม ฉะนั้น จงเดินทางลงใต้ไปอิซิลดาร์เพื่อส่งข้อความของข้า”

“ขอรับ” เจย์กระตือรือร้น

นางปลดสร้อยคอที่สวมอยู่วางใส่มือเจย์ “จงเข้าเขตอิซิลดาร์ทางประตูทิศเหนือ แวะไปที่หมู่บ้านกุหลาบหิน สักการะวิหารมารดานที นำสร้อยคอเส้นนี้ให้นักบวชดู บอกว่าโรสเวนส่งท่านมา จากนั้นจะมีคนมาพบท่าน ท่านจะรู้เองว่าถูกคน จงบอกนางว่าท่านเป็นคนของข้า ตราเวทที่หน้าผากจะช่วยยืนยัน บอกให้นางรอข้ากลับไป อีกไม่นาน ส่วนรางวัลของท่านคือ…”

“ขอเป็นรอยยิ้มของท่าน” เจย์แทรกขึ้นทันใด

เอริแอดเน่กำลังจะเอ่ยว่าให้เขาเลือกหยิบอะไรก็ได้ในคลังสมบัติหลวงของนาง สิ่งที่เขาต้องการทำให้นางชะงักและทิ้งหางตาลง “จะยิ้มไปทำไม ถ้าสักวันหนึ่งต้องแยกทางกัน”

“เอ้า ก็ท่านจะให้รางวัลข้า…”

“ท่านไปเถอะ อย่าลืมนามที่ข้าบอก ‘โรสเวน’ ”

เจย์ถอนใจ “โรสเวน” เขาทวนชื่อนั้นแล้วเริ่มเตรียมสัมภาระเพื่อออกเดินทาง

ก่อนที่เจย์จะจากไป เอริแอดเน่เอ่ยสำทับว่า “อ้อ ถ้าท่านทรยศข้าไปหาเอลฟ์รูเมเรียร์ ข้าจะใช้ตราเวทที่หน้าผากระเบิดศีรษะท่าน”

ไม่ทราบว่านางพูดเล่นหรือพูดจริง ทว่าทุกคนที่รู้จักเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ ย่อมเชื่อว่านางพูดจริง



—————————————————————————

A/N มีเผยปมของเรื่องมาแพลมๆ แล้วค่ะ Clue ก็คือชื่อของ 'โรสเวน'


ยังคงเป็นการอัพเดทวันเว้นวัน พบกันครั้งต่อไปวันที่ 3 มิ.ย. 60 นะคะ ;)


ป.ล. เราชอบเจย์ (ตัวละครของคุณ FOULSOUL) ค่ะ อ่านทีไรนึกถึงพระเอกติดดิน เป็นคนธรรมดาหน่อย บางทีดูไม่เอาไหน แบบจะไหวไหม แต่เอาจริงๆ ก็พึ่งพาได้ เคมีเข้ากับเอริแอดเน่ดีจริงๆ ค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (4) [01/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-06-2017 17:37:04
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (4) [01/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 01-06-2017 17:48:41
:pig4: :pig4:

อ่านไวมากเลย ขอบคุณนะคะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (4) [01/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-06-2017 19:17:14
แล้วเอรีแอดเน่ ก็ปลุกซากศพคืนชีพ เป็นผีดิบสินะ
โรสเวน  รหัสติดต่อกับกลุ่มคนที่จงรักภักดีกับเอรีแอดเน่

น่าสะพรึง แต่ก็น่าติดตามจริงๆสำหรับคนอ่าน
แต่ถ้าเป็นเจย์ เฮ้ย.....ทั้งอสรพิษตัวบะเริ่มเทิ่ม  :katai1:
อ้าปากทีกลืนโลงศพได้ หวาดโคตรเลย
ไหนจะซากริวอร์นอร์ กินเลือดเนื้ออีก น่ากลัวสุดๆ :katai1: :katai1:

เจย์ เป็นลูกผู้ชายตัวจริงงงงง
ยอมทำงานให้เอริแอดเน่
แถมรางวัล มักน้อยหรือมักมากเนี่ย
ขอแค่รอยยิ้ม  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (4) [01/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 01-06-2017 19:50:43
แล้วเอรีแอดเน่ ก็ปลุกซากศพคืนชีพ เป็นผีดิบสินะ
โรสเวน  รหัสติดต่อกับกลุ่มคนที่จงรักภักดีกับเอรีแอดเน่

น่าสะพรึง แต่ก็น่าติดตามจริงๆสำหรับคนอ่าน
แต่ถ้าเป็นเจย์ เฮ้ย.....ทั้งอสรพิษตัวบะเริ่มเทิ่ม  :katai1:
อ้าปากทีกลืนโลงศพได้ หวาดโคตรเลย
ไหนจะซากริวอร์นอร์ กินเลือดเนื้ออีก น่ากลัวสุดๆ :katai1: :katai1:

เจย์ เป็นลูกผู้ชายตัวจริงงงงง
ยอมทำงานให้เอริแอดเน่
แถมรางวัล มักน้อยหรือมักมากเนี่ย
ขอแค่รอยยิ้ม  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
นะ นะ นี่ก็ยั้งๆ มือไว้ไมตรีบ้างแล้วนะคะ แง
แบบว่าไม่เขียนโหดมาก... (เหรอ)
แงๆ จริงๆ ค่ะ พวกนิยายฆาตกรรมเขียนโหดกว่านี้ยยยยยย
ป.ล. เจย์พระเอกไปเนอะคะ โห มาขอรอยยิ้ม สาวที่ไหนไม่ใจอ่อนบ้าง เป็นคนละไทป์กับซิกฟรีดเลย
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (4) [01/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: shannara ที่ 01-06-2017 21:45:59
ศักดิศรีอร่อยมั้ยเจ๊เอริแอด กินมากๆไม่เอียนมั่งหรอ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (4) [01/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 01-06-2017 22:32:42
อื้อหืออออออออออออออ

แอรี่ดีกับคนที่ดีต่อนาง ส่วนคนที่ไม่ได้ดั่งใจนางไม่ดีด้วย เช่น ซิก เป็นต้น

เราชอบเจย์ เขามีความตรงไปตรงมา กะเก็บหญิงมาแต่งเมีย ดันกลายมารับใช้นางอย่างเต็มใจซะอย่างนั้น
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (4) [01/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 01-06-2017 22:56:51
ร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆเล่อ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (4) [01/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 02-06-2017 11:26:00
อื้อหืออออออออออออออ

แอรี่ดีกับคนที่ดีต่อนาง ส่วนคนที่ไม่ได้ดั่งใจนางไม่ดีด้วย เช่น ซิก เป็นต้น

เราชอบเจย์ เขามีความตรงไปตรงมา กะเก็บหญิงมาแต่งเมีย ดันกลายมารับใช้นางอย่างเต็มใจซะอย่างนั้น
เอริแอดเน่ค่อนข้างเป็นสีดำค่ะ แต่กับเจย์จะเรียกว่าพิเศษก็ได้
คล้ายเฟรธูริน ไม่ใช่หน้าตาหรือนิสัย แต่เป็นแง่มุมที่เขามองนาง
เหมือนว่านางมีจิตใจน่าเกลียด แต่ชายสองคนนี้ก็เชื่อว่านางมีจิตใจที่สวยงามซุกซ่อนอยู่
ออกแนวพระเอกเปลี่ยนตัวร้ายหญิงให้เป็นคนดีค่ะ
แต่จะสำเร็จหรือเปล่าก็เป็นไปตามเนื้อเรื่อง+ดูกันต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (5) [03/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 03-06-2017 11:27:16
บทที่ 24 : โลหิตนภา (5)

‘มนตร์ทมิฬ’ คือสิ่งที่เอริแอดเน่เรียนรู้มาระหว่างทำสงครามกับเผ่าทมิฬ ในครั้งนั้นนางบุกตีเมืองดาร์กเอลฟ์แห่งหนึ่งพร้อมกับริวอร์นอร์ และยึดหอสมุดใต้ดินไว้ได้ทันก่อนที่ดาร์กเอลฟ์จะทำลายมันเพื่อป้องกันชาวเอลฟ์ศึกษาวิชาทมิฬ

ทว่าสิ่งที่ดาร์กเอลฟ์มีมิใช่วิชาปลุกชีพคนตายโดยสมบูรณ์ เป็นแค่วิชาสร้างอันเดดหรือสิ่งซึ่งฟื้นชีวิตขึ้นมาในร่างกายเน่าเฟะ ทว่าในส่วนลึกของหอสมุดหลวงแห่งอิซิลดาร์ ก็มีวิชาคืนชีวิตให้แก่คนตายเฉกกัน เอริแอดเน่ผสานภูมิความรู้ของทั้งสองฝั่ง--เอลฟ์และดาร์กเอลฟ์--อย่างหมกมุ่นเพื่อหวังคืนชีพให้เฟรธูริน

แน่นอนว่านางทำไม่สำเร็จ จึงมาอยู่ ณ จุดนี้กับซากศพมีชีวิตของริวอร์นอร์

เจย์จากไปแล้ว เมื่ออสรพิษของนางนำอาหารมา นางก็ปล่อยศพมีชีวิตจากโลงหินไปไล่ล่าอาหารภายในถ้ำ

ซากศพอดีตราชาเอลฟ์ไร้ความสง่างามโดยสิ้นเชิง มันเคลื่อนไหวเชื่องช้า ทั้งติดขัดเหมือนหุ่นที่ถูกชักโดยนักเชิดอ่อนประสบการณ์ ทว่าเมื่อจมูกกึ่งเป็นกึ่งตายได้กลิ่นเนื้อสดจากเหยื่อที่ยังมีชีวิต ความหิวโหยอันไร้ก้นบึ้งก็กระตุ้นสัญชาตญาณดิบให้มันออกล่า ซากศพพุ่งเข้าหาเหยื่อซึ่งจนทางหนี มันใช้แขนรัดเหยื่อไว้ทั้งตัว แล้วใช้ฟันกัดกระชากเนื้อมากิน

“น่าสมเพช” เอริแอดเน่กอดแขนตัวเอง มนตร์นอกรีตก็คือมนตร์นอกรีต อันเดดที่ถูกปลุกชีพจำต้องกินเลือดและเนื้อของสิ่งมีชีวิตที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกับตน หากปลุกชีพกวาง กวางอันเดดก็จะกินเนื้อกวางด้วยกัน หรือ เนื้อแพะ เนื้อละองละมั่ง ในที่นี้ริวอร์นอร์เป็นเอลฟ์...จึงต้องกินเนื้อคน ไม่ว่าจะเป็นเอลฟ์ มนุษย์ หรือดาร์กเอลฟ์

เหยื่อที่อสรพิษจับมาเป็นมนุษย์เพศชาย หน้าตาท่าทางอย่างโจรร้ายและพกอาวุธ ในตอนที่ท้องของมันถูกแหวกและริวอร์นอร์กัดกินเนื้อสดๆ ในหูของเอริแอดเน่อื้ออึง นางจิกเล็บกับต้นแขนจนเลือดซิบ

“นรก” นางหลุดขำออกมา ขณะน้ำตาไหลในอก “นี่หรือคือจุดจบของเจ้าและข้า นางแม่มดนอกรีตกับซากศพกินคน” จากนั้นนางก็หัวเราะเสียงดัง เหมือนจะส่งเสียงเยาะเย้ยให้ดังไปถึงวิญญาณของริวอร์นอร์ซึ่งถูกผนึกอยู่ในร่างนั้น

เพื่อการฟื้นคืนชีวิต มนตร์ทมิฬเชิดซากศพให้กินเนื้อและดื่มเลือดเหยื่อ ยึดเอาพลังและเลือดจากเหยื่อมาเป็นของตน ถึงกระบวนการนี้จะน่าสยดสยอง แต่ขณะเดียวกันก็น่าอัศจรรย์ใจ เริ่มจากเส้นเลือดที่เคยเป็นสีดำอย่างคนตายค่อยๆ เรื่อสีแดงเฉกคนเป็น หัวใจเริ่มเต้นแผ่วเบา เส้นผมแข็งกระด้างก็เหมือนจะอ่อนนุ่มและเป็นประกายขึ้นเล็กน้อย

มันเริ่มหายใจและเริ่มเห็นสีสันของสิ่งต่างๆ ดวงตาเป็นฝ้าจางมองไปรอบตัวก่อนจะหยุดที่เอริแอดเน่ มันจ้องนางชั่วครู่หนึ่ง ก่อนเปิดปากที่ชุ่มไปด้วยเลือด

“อา…”

มันส่งเสียงไร้ความหมายโดยไม่ละสายตาจากท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์เลย

“อา…”

มันส่งเสียงอีกครั้ง ดวงตาคนตายจับที่นางเช่นเดิม หากมันทำเพียงครั้งเดียวคงปล่อยผ่านไปได้ แต่มันทำแบบเดิมติดกันถึงสองครั้ง ทำให้น่าคิดว่ามันกำลังสื่อสารอะไรกับนางหรือไม่

เรียกนางหรือ...มันกำลังส่งเสียงเรียกนางหรือ

เอริแอดเน่ชี้ดาบเวทเพื่อออกคำสั่ง “พอแค่นี้ กลับมาที่โลงของเจ้า”

ซากศพเพียงมองนางแต่ไม่ขยับเคลื่อนไหว มันส่งเสียง “อา…” เป็นครั้งที่สาม ราวกับพยายามเรียกนางจริงๆ

หรืออาจเป็นอย่างอื่น มันอาจสาปส่งนาง ก่นด่านาง หรือมันอาจส่งเสียงไปอย่างนั้นเองก็เป็นได้

ผู้ที่ยืนอยู่ตำแหน่งสูงกว่าหรี่ตา สายฟ้าจากปลายดาบฟาดใส่อมนุษย์ด้านล่างเหมือนผู้ฝึกสัตว์ลงแส้เฆี่ยนสุนัข ทั้งรุนแรงและไร้เมตตา “กลับมา ข้าสั่ง”

สายฟ้าทำให้มันกระตุกรุนแรง ไม่ มันไม่ได้รู้สึกเจ็บหรือตกใจ เป็นแค่ปฏิกิริยาตอบสนองเฉียบพลันของร่างกายเท่านั้น

แต่สายฟ้าไม่ได้ไร้ประโยชน์ กลับกัน ฤทธิ์ของมันทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างแก่ซากศพอีกครั้งหนึ่ง

อดีตราชาเอลฟ์ผู้เกรียงไกรยกมือตัวเองขึ้นดู ท่าทางคล้ายเด็กที่ประหลาดใจและสนอกสนใจอะไรบางอย่าง

ซึ่งสิ่งที่มันประหลาดใจและสนอกสนใจนั้นก็คือ ‘ความรู้สึก’

สายฟ้าของเอริแอดเน่กระตุ้นให้ร่างกายที่เคยตายไปแล้วครั้งหนึ่งกลับมาสัมผัสความรู้สึกต่างๆ เวลานี้มันรู้สึกเจ็บและชาแปลกๆ ทั่วร่างกายโดยเฉพาะบริเวณปลายนิ้ว มันจ้องเอา...จ้องเอา สักพักก็เงยหน้ามาหาเอริแอดเน่และร้อง “อา…”

สายฟ้าที่แรงกว่าเดิมช็อตร่างมันอีกครั้งโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า คราวนี้แรงจนทำให้มันดิ้นทุรนทุรายกับพื้น สีหน้าของผู้ลงทัณฑ์ไร้อารมณ์เหมือนรูปสลักน้ำแข็ง นางรอด้วยความอดทน อมนุษย์ตนนี้ต้องทำตามคำสั่งของนาง ในฐานะที่นางเป็นจอมเวทผู้ปลุกชีพมัน

ใช่ มันเป็นแค่อมนุษย์ เอริแอดเน่ย้ำกับตัวเอง

ซากศพเรียนรู้ มันเดินมาหาเอริแอดเน่อย่างเชื่องช้า และหยุดยืนตรงหน้านาง จมูกของมันได้กลิ่นหอมจากนาง มันโน้มศีรษะลงมาคล้ายจะดม

ท่านหญิงเอลฟ์ไม่กะพริบตาด้วยซ้ำ แม้ต้องอยู่ใกล้อมนุษย์ที่พร้อมกินเลือดและเนื้อของนางได้ง่ายๆ นางชี้ดาบเวทไปที่โลงหิน “กลับเข้าไป เจ้าจะออกมาและได้กินเมื่อข้าอนุญาต”

น่าแปลก มันไม่นึกอยากกินนาง แต่เช่นเคย...มันไม่ทำตามคำสั่งจนโดนสายฟ้าฟาดอีกครั้ง

เมื่อเสร็จสิ้นการลงโทษ อสรพิษยักษ์ม้วนร่างของอดีตกษัตริย์และพากลับเข้าโลงหิน

เอริแอดเน่ไม่คิดแตะต้องซากศพนี้เกินความจำเป็น

---------------------------

อยู่ในราชวังแห่งรูเมเรียร์มาหลายวัน ถ้าโคลด์ไม่ได้คิดไปเอง ดูเหมือนซิกฟรีดหลบหน้าเขา ในที่สุดวันนี้โคลด์จึงเป็นฝ่ายบุกมาหา

เขาเดินสวนกับอิลราลาน ซึ่งเพิ่งออกมาจากหอสมุดหลวงหรือห้องทรงงานแห่งที่สองของซิกฟรีด ใบหน้าองครักษ์มือซ้ายที่ดูเคร่งเครียดอยู่แล้ว ขณะนี้ดูเคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม

อิลราลานพยักหน้าให้โคลด์เล็กน้อยเป็นเชิงทักทาย ก่อนสาวเท้าจากไปอย่างเร่งรีบ แต่แล้วก็ชะงัก หันมาหาโคลด์อีกครั้ง “เจ้า…” องครักษ์มือซ้ายลังเล “เจ้ามีความรู้ทางเวทของแดนทมิฬใช่หรือไม่”

“ก็มี” โคลด์ตอบง่ายๆ “ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าอยากให้ข้าทำอะไร” เขาคิดว่าอีกฝ่ายมีเรื่องให้ทำนั่นแหละ ถึงทักขึ้นมา อิลราลานเป็นคนที่ดูออกง่ายว่าไม่ใช่พวกคุยเรื่อยเปื่อยเหมือนมาลแกธ

อิลราลานพยักหน้า “โปรดเป็นที่ปรึกษาให้ราชาซิกฟรีด พระองค์ต้องการเจ้า” เขามองตาโคลด์ตรงๆ ช่างเป็นการขอร้องที่แข็งกร้าวเช่นทหาร

“ถ้าเขาเลิกหลบหน้าข้านะ” โคลด์ถอนใจแล้วเคาะประตูห้อง

“เข้ามา” เสียงทุ้มเข้มดังจากด้านใน พอโคลด์เปิดประตูเข้าไปก็พบสิ่งที่สมควรเรียกว่า ‘ภูเขาเอกสาร’ ซิกฟรีดนั่งบนโซฟากำมะหยี่ไม่ไกลจากโต๊ะทำงาน กำลังสูบไปป์พลางอ่านหนังสือปกดำเล่มหนึ่ง

โคลด์เลือกยืนพิงผนังข้างประตูที่รกน้อยหน่อย กอดอก ไขว้ขา “ไง” เขาเอียงคอทักทาย

“ไง” ซิกฟรีดเหลือบสายตามองโคลด์แล้วสนใจหนังสือต่อ “มานั่งสิ” เขาผายมือให้อีกฝ่ายมานั่งข้างกัน

วันนี้โคลด์ว่าง่าย เดินมานั่งตรงโซฟาทันที...ก็ถือว่าว่าง่ายกระมัง...ถึงเขาจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม ไม่ใช่จุดที่มือของซิกฟรีดผายอยู่ “ทำอะไรอยู่”

“อยากรู้ก็มานั่งข้างๆ” ซิกฟรีดตบเบาะโดยไม่เงยหน้าจากหนังสือ

สีหน้าของโคลด์บอกชัดเลยว่า ‘ได้คืบจะเอาศอก’ ดวงตาจ้องเขม็ง ใบหูสีเข้มตั้งตรง ดาร์กเอลฟ์คิดสักครู่แล้วย้ายไปนั่งด้านข้าง ทิ้งตัวลงอย่างจงใจให้โซฟายวบ “ว่ามา”

“ไปเดินเล่นกับมาลแกธเป็นอย่างไรบ้าง” ซิกฟรีดพลิกหน้ากระดาษ โคลด์จับได้ว่าราชาหนุ่มไม่ได้สนใจเนื้อหาสักเท่าไหร่ สายตาเลื่อนสะเปะสะปะไปทั่ว จะว่ากวาดสายตาอ่านอย่างรวดเร็วก็ไม่ใช่

โคลด์นึกอยู่สักครู่ว่าเขาไปเดินเล่นกับมาลแกธตอนไหน เพราะหลายวันมานี้เขาก็ไม่ค่อยได้เจอมาลแกธ จากนั้นก็นึกออกว่าน่าจะเป็นตอนที่เขากลับมาเอวา เธมาร์ “นั่นหลายวันแล้ว…” ไม่ใช่สิคำถามควรเป็น “เจ้ารู้ได้ยังไง” จากนั้นก็ตามด้วย “เจ้าจับตาดูข้าหรือ!”

โคลด์ถามอย่างทึ่งๆ

“ข้าเป็นราชาก็ควรทราบความเป็นไปของประชาชน” ซิกฟรีดปิดหนังสือฉับ! ก่อนหันมาจ้องโคลด์ ราชาหนุ่มยังใช้เวททมิฬปกปิดรูปโฉมของตนไว้

แบบนี้ยิ่งเหมือนซิกฟรีดในอาศรมที่โตขึ้นจริงๆ โคลด์ยกมือสองข้าง “ข้าไม่ใช่ประชาชนของเจ้า ตกลงไหม”

แปลว่าเลิกจับตาดูเขาได้แล้ว

“อย่างไรข้าก็ปล่อยเจ้าไปไม่ได้” ซิกฟรีดยกนิ้วขึ้น ยังไม่ให้โคลด์เอ่ยขัด “ข้าพูดในฐานะราชาของรูเมเรียร์ ไม่ใช่ฐานะของชายที่ไม่พอใจเวลาเห็นคนที่ตนรักอยู่กับชายอื่น”

โคลด์หน้าบูด แน่นอนว่าใบหูก็บึ้งตามหน้า “แล้วราชาของรูเมเรียร์จับตาดูดาร์กเอลฟ์ทุกคนหรือไง” เขาเถียง “อย่าบอกนะว่าเจ้าหลบหน้าข้าเพราะเหตุนี้”

“ราชาของรูเมเรียร์จับตาดูดาร์กเอลฟ์ที่จอมทัพทมิฬตามหา” ซิกฟรีดเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ “และเปล่า ข้าไม่ได้หลบหน้าเจ้า ข้ายุ่งกับเอกสารพวกนี้” โคลด์เห็นเถ้ายาสูบบนเอกสารบางชิ้น ถ้าขุนนางมาเห็นภาพนี้คงเหนื่อยใจ

“เจ้าหัดสูบตั้งแต่เมื่อไหร่” โคลด์คร้านจะเถียงอีก เขายื่นหน้าไปดูเอกสาร โดยมากเป็นคำร้องเกี่ยวกับอากาศวิปริต ฝนตกมากเกินไปและไม่ตรงฤดู “เจ้าดูสนใจสภาพอากาศมากเลยนะ”

“ข้าสูบมานานแล้ว” ซิกฟรีดตอบง่ายๆ ก่อนเหลือบมองเอกสารที่โคลด์พิจารณาอยู่ “สภาพอากาศคือสารจากบิดามารดา”

“อ้อ” โคลด์ทำหน้าเหยียด บิดานภาที่ทอดทิ้ง มารดานภาที่ขับไล่และสาปส่งดาร์กเอลฟ์ “ตกลงสิ่งที่เจ้าทำคือตรวจเช็กสภาพอากาศ แล้วทำไมอิลราลานถึงถามข้าเรื่องเวทของแดนทมิฬ หืม?”

โคลด์ได้ยินเสียงซิกฟรีดสบถเบาๆ คล้ายกับว่า ‘ยุ่งไม่เข้าเรื่อง’

“มันว่าอะไรอีก”

“ให้ข้าช่วยเจ้า ข้าเลยตอบว่าถ้าเจ้าเลิกหลบหน้าข้านะ” โคลด์ถูมือ “เอาล่ะ ชาแมนอยู่ที่นี่แล้ว ถามมา” เขาดูกระตือรือร้นที่จะช่วยซิกฟรีดในสิ่งที่ตนภูมิใจ

“ข้าควรตัดลิ้นมันหรือไม่” ซิกฟรีดถอนใจ ก่อนยกแขนพาดพนักโซฟาไปทางโคลด์ ดูคล้ายกำลังโอบดาร์กเอลฟ์จากด้านหลัง

“เจ้าล้อเล่นใช่ไหม ข้าชอบลิ้นของเขาออก” โคลด์อุทานอย่างจงใจกวน

“เรื่องที่ข้ากังวลคือ…” ซิกฟรีดชะงักคล้ายอิลราลาน คล้ายสิ่งที่จะเอ่ยต่อไปนี้เป็นเรื่องยากยิ่ง “หากเจ้าอยากช่วยข้าจริงๆ หรือแค่อยากทราบก็ตาม…”

“ข้าอยากช่วย” โคลด์ยืนยัน “ข้าอยากช่วยเจ้าหลายเรื่อง ซิกฟรีด”

ราชาหนุ่มยิ้ม “ก่อนอื่นเจ้าต้องให้คำสัตย์ว่าเรื่องนี้จะไม่ไปถึงหูมาลแกธ ล็องธู”

โคลด์เลิกคิ้ว “เจ้าให้ข้ามีความลับกับมาลแกธ เพราะเจ้าต้องการปิดเรื่องนี้จากเขา?”

“มันสำคัญยิ่งกว่าความหึงหวงไร้สาระ โคลด์ สตาร์...หากเจ้าสงสัยในตัวข้า”

“ข้าไม่ได้คิดว่าเจ้าหึงเลย ข้าคิดว่าข้าผ่ามายุ่งเรื่องการเมือง” โคลด์เหยียดสายตา

“จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ผิด…”

“ก็ได้ จะยากอะไร ข้าไม่ได้เพิ่งมีความลับกับคนอื่นๆ เสียหน่อย” โคลด์ทำเสียงขึ้นจมูก “อ้อ ที่ข้าสัญญาไม่ใช่เพราะข้าอยากประจบเอาใจเจ้า ข้าแค่อยากช่วย ถ้าช่วยได้”

“ริวอร์นอร์” ซิกฟรีดพูดเพียงคำเดียวแล้วรอปฏิกิริยาของโคลด์

โคลด์ขนลุกซู่ เขาไม่ถูกกับราชาริวอร์นอร์ตั้งแต่อีกฝ่ายยังเป็นเจ้าชายที่สอง ก็ใช่ว่าจะเคยพบหน้าหรือพูดคุยกัน แต่สมัยติดตามซิกฟรีดจิ๋วอยู่ในราชวัง ชีวิตเขาลำบากเพราะเจ้าชายที่สองเกลียดดาร์กเอลฟ์นี่แหละ

“เขาทำไม ทิ้งอะไรไว้ให้หนักใจและกระทบกับแดนตะวันออกหรือ” ความคิดหนึ่งวาบขึ้นมา “หรือจะเกี่ยวกับเอริแอดเน่ที่อิซิลดาร์” โคลด์สันนิษฐาน เพราะมาลแกธก็ดูตึงๆ เรื่องอิซิลดาร์

“ประชาชนเข้าใจว่าราชาริวอร์นอร์สิ้นพระชนม์ด้วยการลอบสังหารของกบฏดาร์กเอลฟ์ แต่เจ้ารู้ดีว่าทำไม”

“ใช่ มาลแกธก็รู้นี่”

ซิกฟรีดส่ายหน้า “มีบางเรื่องที่พวกเจ้าไม่รู้” สีหน้าของราชาหนุ่มเครียดเคร่ง “เช่น...ศพของพี่ชายข้าอยู่ที่ไหน”

คราแรก ฝั่งรูเมเรียร์มีเพียงเขาคนเดียวที่ทราบ ไม่นานหลังจากนั้น...ซิกฟรีดก็ไว้ใจบอกเรื่องสำคัญนี้แก่เงาสังหาร--กอห์นดีเอน รวมไปถึงองครักษ์มือซ้ายอย่างอิลราลาน พวกมันจำต้องทราบด้วยสาเหตุเดียวกับโคลด์

นั่นคือซิกฟรีดรู้ดีว่าไม่อาจรับมือกับ ‘เหตุวิปริต’ โดยลำพัง

เหตุที่อาจเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศอันวิปริตไม่แพ้กัน

“แล้วศพพี่ชายเจ้าเกี่ยวอะไรกับสภาพอากาศหรือเปล่า” โคลด์ปะติดปะต่อ เขาเริ่มเห็นความเคร่งเครียดของเรื่องนี้

“อาจเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว ข้าสูญเสียความสามารถของควาร์ไปแล้ว เวลานี้ข้าพึ่งขุนนางควาร์ อ่านรายงานด้านสภาพอากาศและอื่นๆ ซึ่งบ่งถึงเหตุร้ายแรงในอนาคต” ซิกฟรีดระบายลมหายใจยาวและหนัก คิ้วเข้มสีทองขมวดแน่น “ข้า...เหมือนได้ยินเสียงมารดานทีในฝัน พระนางพาข้าไปยังเกาะร้างแห่งหนึ่ง...” ราชาหนุ่มหยุดพูดชั่วขณะ กรามขบหากันด้วยความเครียดจนเส้นเลือดบริเวณขมับเกร็งเขม็ง

“พูดให้ชัดเจนอีกนิด” โคลด์แตะบ่าซิกฟรีดให้คลายอาการเกร็ง เขาลูบปลอบกล้ามเนื้อใต้ฝ่ามือที่แข็งเป็นมัดๆ “ข้ารับรองว่าเจ้าไว้ใจข้าได้ บอกข้ามาตรงๆ อะไรที่เชื่อมโยงสภาพอากาศกับศพพี่ชายเจ้าและเกาะในฝัน”

ที่จริงโคลด์ก็เดาได้รางๆ แต่เขาอยากให้ซิกฟรีดเป็นฝ่ายบอกเอง

สักพักซิกฟรีดก็เรียบเรียงเรื่องราวให้โคลด์ฟัง “ข้าและพี่หญิงเอริแอดเน่แยกศีรษะกับร่างของริวอร์นอร์คนละที่ ส่วนหนึ่งผนึกไว้ที่เกาะร้าง...เกาะที่ข้าฝันถึง” เขาสูดลมหายใจ “ข้าไม่ใช่ผู้เดียวที่มารดานทีให้ความรักใคร่เอ็นดู พระนางรักข้า รักพี่หญิง ข้าได้ยินเสียงกระซิบของพระนางบ่อยครั้งในสมัยเด็ก หรือช่วงที่อยู่ในอาศรมก็ยังได้ยินชัดเจน กระทั่งข้าเล่นเวททมิฬ เสียงของพระนางเงียบไปราวทอดทิ้ง แต่ไม่นานมานี้...พระนางมาหาข้า พาข้าไปที่นั่น เกาะร้างฝนตกหนักเข้าขั้นวิปริต คลื่นสูงแทบกลืนยอดหอคอย สัตว์พิทักษ์พระศพถูกฟันทิ้งเป็นเสี่ยงๆ”

ราชาหนุ่มกำมือ

“ข้าเห็นมารดาแห่งนทีประทับเคียงข้างพี่หญิง ข้าไม่แน่ใจเลยว่าเป็นนิมิตที่ดีหรือร้าย”

“อืม” โคลด์ทำท่าคิด “เอริแอดเน่ไม่ได้อยู่ที่อิซิลดาร์หรือ แล้วเจ้าไม่มีวิธีทราบหรือว่าผนึกที่สุสานตอนนี้เป็นอย่างไร”

“พี่หญิงเป็นผู้ร่ายเวทผนึกสุสานเชื่อมกับศิลาเวท หากผนึกคลายหรือถูกทำลาย ศิลาเวทก็จะร้าว ที่รูเมเรียร์มีศิลาเวทอยู่ก้อนหนึ่ง หลังฝันถึงมารดานทีข้ารีบไปดูศิลาเวทเป็นอย่างแรก แต่ไม่มีรอยใดๆ ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่วางใจ โคลด์ สตาร์ ข้ารู้จักพี่หญิงดี”

“เงาทมิฬของเจ้าเดินทางได้ไกลเท่าไร” โคลด์ถาม

“ยังไม่ไกลขนาดที่นี่ไปถึงเกาะนั้น อีกอย่าง…” ซิกฟรีดยิ้มสมเพชตัวเอง “มันรักที่จะพยศข้า ที่เกาะนั่นไอทมิฬค่อนข้างมาก เป็นขนมหวานเพิ่มอาการพยศให้มันทีเดียว”

“งั้นเจ้าก็ส่งเงาทมิฬไปดูผนึกเองไม่ได้” โคลด์พยักหน้าอย่างเข้าใจ “เอาอย่างนี้ สมมติว่าภาพที่มารดานทีแสดงให้เจ้าดูเป็นเรื่องจริง เอริแอดแอดเน่อยู่ที่นั่นพร้อมศพของสัตว์พิทักษ์ ถ้านางบังเอิญไม่ได้อยู่อิซิลดาร์อย่างที่เราเข้าใจ และได้ศพของริวอร์นอร์ไป เจ้าคิดว่านางจะทำอะไร”

ซิกฟรีดนิ่งไป

“ปลุกมันขึ้นมากระมัง”

“จะปลุกอย่างไร มนตร์ทมิฬ?” โคลด์ไม่แน่ใจความสัมพันธ์ของเอริแอดเน่กับริวอร์นอร์นัก แต่เท่าที่ทราบ นางให้ซิกฟรีดล้มบังลังก์และสังหารเขา “มันก็พอมีมนตร์ทมิฬที่ปลุกชีพศพได้ แต่นั่นไม่ใช่การคืนชีวิต มันจะฟื้นเป็นซากศพกินคน เจ้าคิดว่าอย่างไร”

“ข้าไม่รู้เวททมิฬมากนักเลยมาอยู่ที่นี่” ซิกฟรีดมองไปรอบๆ หอสมุดหลวง “แต่ที่นี่ก็ไม่รู้อะไรมากนักเหมือนข้า”

“อืม” โคลด์นิ่วหน้า “ข้าบอกได้เลยว่า ศพคืนชีพที่ต้องกินเนื้อพวกเดียวกันก็ไม่ได้รับความนิยมนักในแดนทมิฬ ยกเว้นช่วงสงครามน่ะนะ มันเป็นเวทนอกรีตในเวทนอกรีต และนางเกลียดริวอร์นอร์แค่ไหนหรือ ถึงจะปลุกเขาเป็นศพคืนชีพไร้ความคิดที่เอาแต่จะกินเนื้อคน นางจะได้ประโยชน์อะไรจากการลบหลู่ศพอดีตกษัตริย์”

โคลด์ไม่ต้องการคำตอบเท่าไรนัก เขาเชื่อว่าต้องใช้เวลาขบคิด

ซิกฟรีดลูบหน้าตัวเองหนักๆ เขาหมกมุ่นกับเรื่องนี้มาสักพักแล้ว

“นี่ซิก...พักเรื่องนั้นไว้ก่อน เจ้าส่งอิลราลานไปสืบแล้วใช่ไหมล่ะ มาคุยเรื่องของเรา”

“เรื่องอะไร” ซิกฟรีดยังฝังใบหน้ากับมือทั้งสองข้าง ราชาหนุ่มอยากหลับเต็มที่สักตื่น

“รักษาเจ้า เอริแอดเน่ไม่อยู่ปรุงยาให้เจ้าแล้ว ข้าอยากรู้ว่าเรื่องหัวใจมังกรจะเอาอย่างไร” โคลด์มองไปรอบๆ ห้องสมุด ผมสีเงินที่เริ่มยาวแล้วพลิ้วข้างแก้มตามแรงหัน “หรือในห้องสมุดนี้มีวิธีไหนจะช่วย…”

“อยากให้ข้าล่ามโซ่เจ้าแล้วเฆี่ยนให้ไปฆ่ามังกรอีกหรือ” ซิกฟรีดหยอกหน้าตาย

“...เจ้า” โคลด์ต่อประโยคจนจบ เขาทำหน้างงๆ “เจ้าไม่เคยล่ามโซ่ข้าแล้วเฆี่ยนเสียหน่อย จำผิดคนแล้วล่ะ” เงียบไปครู่ จากนั้นก็จุปาก “อ้อ เจ้าเปรียบเทียบ”

“หัวช้าเหลือเกิน ข้าเชื่อว่าที่นี่ต้องมีสูตรปรุงยาบำรุงสติปัญญา...อืม น่าจะชั้นนั้น” ราชาเอลฟ์ชี้ไปทางชั้นที่มีบันไดพาดอยู่ และมีกองหนังสือสุมตรงตีนบันได คงเป็นฝีมือซิกฟรีดนั่นละ

“ว่าอะไรนะ!” โคลด์แยกเขี้ยวใส่

“เปล่า” ราชาหนุ่มตอบหน้าตาเฉย ก่อนจะหัวเราะแล้วขยี้ผมสีเงินนุ่มมือ

“เฮ้ๆ ผมข้า” โคลด์ทุบไหล่แข็งๆ ของเจ้าเด็กเอลฟ์ “หัวใจมังกรเป็นยาชั้นเลิศจริง เราไม่ควรตัดทิ้ง เกวนอาจพอรู้วิธีใช้งานมันเพื่อล้างคำสาปทมิฬ แต่ควรรวมโลหิตมังกรชั้นสูงเข้าไปด้วย อ้อ ริวอร์นอร์สาปเจ้าใช่ไหม เขาคงไม่ได้คิดมนตร์ทมิฬขึ้นมาในวันสองวัน เราตรวจสอบบันทึกของเขาได้หรือไม่”

“ข้าก็คิดอย่างเจ้า แต่บันทึกของมันมีน้อยมาก ข้าคิดว่าถ้ามีจริง มันคงไม่เก็บบันทึกสำคัญไว้ที่นี่ ยิ่งเป็นบันทึกการค้นคว้าเวททมิฬยิ่งสำคัญ”

ริวอร์นอร์ไม่ทิ้งร่องรอยเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวเอาไว้เลย ที่เหลืออยู่มีเพียงภาพจำในฐานะกษัตริย์นักรบ และในฐานะพี่ชายผู้โหดเหี้ยมอำมหิตสำหรับซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์

“งั้นก็ขุดหาที่เล่นเวททมิฬของเขา มันต้องมีสิ ตอนนี้แผ่นดินเป็นของเจ้า ขุดให้สนุก” โคลด์ยกมุมปาก “เลือกที่ที่เอริแอดเน่ไม่เคยแนะนำด้วย ในเมื่อนางก็รู้มนตร์ทมิฬ นางอาจต้องปกปิดร่องรอยของตัวเองเช่นกัน”

“เจ้าช่วยข้าเรื่องนี้ได้ไหมเล่า” ซิกฟรีดถือวิสาสะม้วนผมโคลด์เล่น

“ค่าตอบแทนล่ะ” โคลด์เรียกร้องทันที พร้อมเอียงศีรษะหนีแบบแมวหวงขน

“เจ้าต้องการอะไร” ซิกฟรีดหยั่งเชิง เขาจับอีกปอยม้วนเล่น ยิ้มร้ายเมื่อโคลด์ทำหน้ายู่

“อา…” จริงๆ โคลด์ก็พูดเอาคืนไปอย่างนั้น ใช่ว่าเขามีสิ่งที่อยากได้จริงๆ จึงต้องใช้เวลาคิด “เอาเป็น...เจ้าตั้งใจรักษาตัวเองหน่อยก็แล้วกัน...ตกลงไหม” ดวงตาสีม่วงสบกับดวงตาสีส้มเงิน

ซิกฟรีดถึงกับขมวดคิ้ว “เจ้าปกติดีใช่หรือไม่”

ราชาผู้หล่อเหลาถูกบีบจมูกเป็นคำตอบ “ข้าปกติ!”

“หรือ” ซิกฟรีดหนีพลางหัวเราะหึๆ ก่อนจะบีบแก้มโคลด์

“แอ้ออนอี้อุด” (แน่นอนที่สุด) โคลด์ดัน

“ข้าตกลงรับข้อเสนอ โคลด์ สตาร์” ซิกฟรีดเปลี่ยนจากบีบเป็นลูบแก้มโคลด์เบาๆ

เห็นซิกฟรีดไม่ดื้อด้าน โคลด์ก็เบาใจลง แม้จะเหล่มือที่ลูบแก้มตน “ตกลง เจ้าไปพัก ข้าขอยืมห้องสมุดของเจ้าหน่อย มีหลายเรื่องต้องหา ทั้งวิธีรักษาคำสาปของเจ้า และแผนที่เมืองเพื่อหาสถานที่ลับของริวอร์นอร์”

“ข้าสดชื่นขึ้นแล้ว ช่วยกันหาน่าจะเร็วกว่า” ซิกฟรีดหยัดกายขึ้น หงายมือให้โคลด์จับ

ดาร์กเอลฟ์จับฝ่ามือสีขาวน้ำนม มือนั้นใหญ่พอกุมมือเขาไว้มั่น “สั่งห้องเครื่องให้ยกอะไรมาให้กินด้วยแล้วกัน เยอะๆ หน่อย ข้าหิว”

“ขอกอดเล็กๆ น้อยๆ เป็นค่าตอบแทน” ซิกฟรีดเปลี่ยนไปจริงๆ เมื่อครู่หยอกโคลด์หน้าตาย เวลานี้ยังเจ้าชู้หน้าตายอีก

เสียงบ่นของดาร์กเอลฟ์ดังจากห้องทรงงานอีกครั้ง...ทว่าเป็นเสียงที่ทำให้บรรยากาศมีชีวิตชีวาขึ้นมาก



—————————————————————————

A/N ซิกฟรีดมีความหึง มีความงอนค่ะ จากนี้คงได้เห็นราชาหึงเงียบอีกแน่เลย คนอ่านจะสังเกตไหมนะว่าฮีหึง แงๆๆ หึงเงียบมากๆ


พบกันครั้งต่อไปวันที่ 5 มิ.ย. 60 ค่ะ!!!


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (5) [03/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 03-06-2017 15:26:18
ขอโทษนะป๋า  แต่อ่านฉากนี้แล้ว~
เค้าขอเชียร์ซิก!  ทำไมมันน่ารักน่าเอ็นดูกันขนาดนี้
โคลด์ก็เถอะเป็นห่วงเค้าก็บอกมา
ห่วงก็บอกห่วง  หึงก็บอกหึง  :katai3:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (5) [03/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-06-2017 15:34:48
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (5) [03/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 03-06-2017 20:25:36
ขอโทษนะป๋า  แต่อ่านฉากนี้แล้ว~
เค้าขอเชียร์ซิก!  ทำไมมันน่ารักน่าเอ็นดูกันขนาดนี้
โคลด์ก็เถอะเป็นห่วงเค้าก็บอกมา
ห่วงก็บอกห่วง  หึงก็บอกหึง  :katai3:

ซิกโคลด์นี่เวลาดีกันก็มุ้งมิ้ง  :mew2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (5) [03/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 03-06-2017 23:44:31
เห็นซิกฟรีด แล้วนึกถึง กรีฟิส แห่งกองพันเหยี่ยว (จากเรื่อง Berserk เลย) คงไม่มีชะตากรรมแบบเดียวกันนะ #ทีมซิกโคลด์
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (5) [03/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-06-2017 01:39:02
เรื่องราวมันคงลามไปเรื่อยๆ มังกรก้อยังไม่ออกตายๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (5) [03/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 04-06-2017 18:12:58
เห็นซิกฟรีด แล้วนึกถึง กรีฟิส แห่งกองพันเหยี่ยว (จากเรื่อง Berserk เลย) คงไม่มีชะตากรรมแบบเดียวกันนะ #ทีมซิกโคลด์
เคยอ่านค่ะ แต่ซิกฟรีดเมะ แปลว่ากรีฟิสเมะ ส่วนกัสนั้น... อิอิอิ

เรื่องราวมันคงลามไปเรื่อยๆ มังกรก้อยังไม่ออกตายๆ
จะเห็นภาพรวมเร็วๆ นี้ว่าภาคต่อจะเป็นยังไงค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (5) [03/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 04-06-2017 21:27:35
ไม่สามพีได้ไหม
อยากเห็นนุ้งโคลด์คู่ซิก ฮืออออ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (5) [03/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 04-06-2017 23:03:00
ไม่สามพีได้ไหม
อยากเห็นนุ้งโคลด์คู่ซิก ฮืออออ
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นค่า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (6) [05/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 04-06-2017 23:29:16
บทที่ 24 : โลหิตนภา (6)

เอริแอดเน่รอสายฟ้าอยู่

อาหารของศพคืนชีพถูกนำมาให้ตามเวลาทุกวัน นางปล่อยมันออกมา ให้กิน ช็อตด้วยสายฟ้าเพื่อควบคุมพฤติกรรม ให้กลับเข้าโลงหิน ทำเช่นนี้วนไปเรื่อยๆ อย่างไม่พิรี้พิไร และให้อสรพิษกินซากศพส่วนที่เหลือ ทว่าเมื่อทำซ้ำๆ หนึ่งวัน...สองวัน...สามวันเข้า...ในถ้ำก็คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเน่าเหม็นของความตาย

นับเป็นความตกต่ำที่นางไม่ยี่หระ ทว่าในการเตรียมใจนั้น เอริแอดเน่กลับไม่ชินภาพเอลฟ์ฉีกร่างกินเนื้อมนุษย์ เมื่อส่งริวอร์นอร์เข้าโลงเสร็จ นางมักนั่งเหม่อมองท้องฟ้า บางครั้งก็เผลอยกนิ้วขึ้นมากัด นานวันเข้าข้อนิ้วชี้และนิ้วกลางก็เป็นแผลไม่หาย

วันนี้ฝนตกพรำๆ ตั้งแต่เช้ามืด จนบ่ายค่ำก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ซากศพมีชีวิตกินเสร็จก็มองเอริแอดเน่ มันพยศกับนางเพื่อให้ถูกลงโทษด้วยสายฟ้าอีก เนื่องเพราะทุกครั้งที่ถูกฟาดด้วยสายฟ้า มันจะมองเห็นสีสันของสิ่งรอบข้างได้ชัดเจนขึ้น ทุกอย่างช่างสวยงาม...โดยเฉพาะนาง

ไม่เพียงเท่านั้น สายฟ้ายังทำให้เกิดภาพประหลาดติดตา เป็นภาพวูบวาบไม่ปะติดปะต่อซึ่งเรียกว่า ‘ความทรงจำ’

เม็ดฝนตกแรงขึ้น สาดเข้ามาในถ้ำผ่านช่องเปิดโล่งเหนือลานหิน วันนี้เอริแอดเน่ไม่ได้สั่งให้อมนุษย์กลับเข้าโลงศพ และไม่ได้ฟาดสายฟ้าใส่อย่างที่มันหวัง แม้นางจะไม่ทราบความหวังของมัน

นางยืนประจันหน้ากับมัน ปล่อยให้ตัวเองตากฝน นางคิด คิด แล้วก็คิด จากนั้นก็เปิดปาก ระบายความในใจออกมา แม้ฝ่ายตรงข้ามฟังไม่เข้าใจก็ตาม

“ข้าสามารถปลุกชีพคนตายได้หรือ...ไม่หรอก ข้าไม่มีความมั่นใจสักนิด แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว ให้เจ้าเป็นแค่ศพเดินได้คงไม่เพียงพอต่อนรกบนดินที่ข้าต้องการเห็น”

ชั่วขณะหนึ่ง เอริแอดเน่นึกถึงเจย์ คิดว่าถ้าความทรงจำของตนไม่กลับมา เวลานี้นางอาจยังอยู่กับโจรลูกครึ่ง เขาอาจพานางกลับไปที่หมู่บ้านของมนุษย์ ปันที่อยู่ให้นาง จากนั้น…

นางปัดความคิดที่เหลือทิ้งอย่างรวดเร็ว

ระหว่างที่เอริแอดเน่จมสู่ห้วงคิด จู่ๆ ซากศพก็เริ่มฮัมเพลง…

แม้จะติดขัด และแม้จะเป็นเสียงอืออาไม่น่าฟัง ทว่านางจำเพลงนั้นได้

ชื่อเพลงคือ ‘เจ้าปลา’ ริวอร์นอร์เคยแต่งเพื่อล้อนางเวลาทำหน้าง้ำหน้างอ

สีหน้าของเอริแอดเน่แข็งเหมือนคนตาย แต่เพราะนางเปิดปากน้อยๆ เพื่อหายใจให้ทัน จึงทราบว่านางยังมีชีวิต

ช่างเป็นช่วงเวลาประหลาดในบรรยากาศวิปริต ซากศพฮัมเพลงไปเรื่อยๆ จบแล้วก็วนซ้ำใหม่ อากาศแปรปรวน ฝนตกแรงขึ้น ฝนเม็ดใหญ่กระหน่ำร่างของทั้งสอง หนึ่งสตรีแบบบาง หนึ่งบุรุษองอาจ คล้ายทั้งคู่เป็นวิญญาณร่อนเร่ที่ตามหากันมานาน และได้พบเจอกันในที่สุด

แล้วสายฟ้าก็มา ผ่าอยู่กลางท้องฟ้าสีดำมืดมัว มันแล่นวาบแวบแปลบปลาบ ขีดเป็นเส้นสีขาว คล้ายปรากฏเส้นเลือดของมารดานภา

สายฟ้าถูกเล่าว่าเป็นความพิโรธของมารดาสมุทร ทว่าอีกตำนานจารึก...ว่าสายฝนคือเลือดอันบริสุทธิ์ของมารดานภา และเสียงฟ้าร้องกับสายฟ้าผ่าคือเสียงครวญด้วยความเจ็บปวดเมื่อพระนางกรีดพระหัตถ์ตนด้วยเมตตา ยอมหลั่งโลหิตชุบแผ่นดิน เลี้ยงดูเอลฟ์ผู้เป็นบุตรและบุตรีของพระนาง

“ถ้าเวทมนตร์นี้ใช้การไม่ได้จริงๆ อย่างน้อยเอาเจ้าในสภาพนี้ไปให้ซิกฟรีดดูก็คงไม่เลวกระมัง” เอริแอดเน่ปากสั่นด้วยความเย็นของเม็ดฝนที่บาดลึกถึงกระดูก นางยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ ใช้ดาบเวทอัญเชิญสายฟ้าของมารดานภา

เปรี้ยง! สายฟ้าจากเมฆทะมึนผ่าลงสู่ดาบเวทของนาง

เอริแอดเน่ร่ายมนตราภาษาเอลฟ์ เนื้อความเกี่ยวกับบ่อน้ำเจ็ดแห่งและเศษกระจกเจ็ดชิ้น อันคือเวทมนตร์อัญเชิญมารดานภา พร้อมกันนั้นนางส่งสายฟ้าจากดาบฟาดใส่ริวอร์นอร์เจ็ดครั้งด้วยกัน

สายฟ้าแต่ละครั้งลวกมือนาง จนครั้งที่เจ็ด มือเพรียวบางก็เป็นแผลไฟลวกยับเยิน นางทรุดตัวลง เนื้อตัวเปียกปอน ชุดผ้าเนื้อบางขาดวิ่นเปียกลู่แนบเรือนกาย ความหมดอาลัยต่อโลกพานางมาถึงจุดนี้ ดาบเวทร้าวและร่วงจากมือ

ศพคืนชีพร้องโหยหวนอย่างที่นางไม่เคยได้ยินมันร้อง ร่างของมันไหม้เกรียม เป็นตอตะโกทรุดอยู่ตรงนั้น

เอริแอดเน่ยังต้องร่ายเวทอีกบท--เวทสำคัญในการปลุกชีพคนตาย เวลานี้นางร้าวไปหมดทั้งตัว แต่พลังใจซึ่งถูกผลักดันด้วยความเกลียดชังอันเหลือเชื่อทำให้นางกำดาบเวทที่ร้าวไม่แพ้ตัวลุกขึ้นยืน

นางต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนกับบิดาแห่งความตาย

เงื่อนไขสูงลิบ ไม่รับรองผลลัพธ์ มีแต่ตัวอย่างที่ล้มเหลวนับไม่ถ้วน ยากลำบากเช่นนี้จึงไม่มีใครปลุกชีพคนตายถึงระดับที่นางทำอยู่

“ข้าแลก…” เอริแอดเน่น้ำตารื้น นางอ้าปากแต่แทบไม่มีเสียงลอดออกมา นางตระหนักว่าแลกด้วยสิ่งนี้เหมาะสมที่สุดแล้ว สิ่งที่อย่างไรนางก็ไม่มีวันได้มา แล้วจะเก็บมันไว้ทำไมกัน!

แต่ถึงอย่างนั้นก็เอ่ยปากยากเย็น นางหอบหายใจถี่ น้ำตาไหลอาบหน้าแข่งกับน้ำฝนเย็นจัดจนหูอื้อ

“ข้าขอแลกพลังในการให้กำเนิดชีวิตของข้ากับชีวิตของมันผู้นี้ ต่อแต่นี้ข้าจะไม่มีบุตรอีกต่อไป!”

เมื่อประโยคนี้หลุดจากปาก เอริแอดเน่เหมือนถูกกระชากหัวใจที่อยู่ในอกและจิตวิญญาณออกไปพร้อมกัน ความหวังของนางคือการให้กำเนิดเชื้อสายของท่านเฟรธูริน ทว่านางจำใบหน้าของเขาไม่ค่อยจะได้แล้ว นางพลาดโอกาสมองหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้ายในเรือส่งพระศพด้วยซ้ำ เวลานี้ใบหน้าอันอบอุ่นอ่อนโยนพร่าเลือนทุกครั้งที่นางนึกถึง เหมือนนางกำลังเพ่งมองเขาใต้แสงแดดจ้า

มีเพียงใบหน้าน้องชายสองคนของเขาที่นางจำขึ้นใจ

ใบหน้าที่นางควรชัง!

“ข้าจะไม่มีบุตร! สาปข้า เอาชีวิตที่ข้าสามารถให้กำเนิดไป คืนชีวิตมันผู้นี้มา!”

นางสั่ง ‘โชคชะตา’ พร้อมร่ายเวทถวายเครื่องบวงสรวงแก่บิดาแห่งความตาย

เกิดความเปลี่ยนแปลงกับศพของริวอร์นอร์

มีเส้นสีขาวแล่นริ้วเหมือนเส้นเลือดแผ่ไปตามผิวหนังไหม้เกรียม บิดาและมารดาอาจได้ยินเสียงร่ำร้องอันน่าเวทนาของท่านหญิงเอลฟ์จึงเมตตานาง มอบชีวิตกึ่งเป็นกึ่งตายให้แก่อสูรของนาง

ลำแสงสีทองเคลื่อนจากกายนางเข้าสู่ดาบเวทและพุ่งเข้าหาร่างของริวอร์นอร์

หัวใจของซากศพถูกกระตุ้นจากสายฟ้าซึ่งถูกเรียกมาด้วยมนตรา มันกลับมาเต้นอย่างแข็งแรง สูบฉีดเลือดจากมนุษย์นับไม่ถ้วนที่มันดื่มกินไปทั่วร่าง เปลือกนอกรวมถึงเสื้อผ้าที่ไหม้เกรียมร่วงหลุด เผยผิวสีเทาซีดซึ่งเริ่มกลับเป็นสีขาวงาช้าง ทว่าเส้นผมและดวงตากลับเปลี่ยนไปอย่างมาก กล่าวคือจากเส้นผมสีทองกลับเปลี่ยนเป็นสีดำราวกับเทพแห่งความตาย ดวงตาสีแดงเพลิงก็เปลี่ยนเป็นสีดำทมิฬดุจกัน

สิ่งเดียวที่คงอยู่คือ ‘รอยแผลเป็นรอบลำคอ’ แม้จะเชื่อมกันสนิทดีแล้วก็ยังเห็นเป็นรอยนูนสีชมพูของผิวเนื้ออ่อน มันประทับอยู่ตรงนั้นราวกับประกาศว่า ชายผู้นี้ได้ผ่านความตายมาแล้วหนึ่งครั้ง

ดาบเวทของเอริแอดเน่แตกเป็นเสี่ยงๆ มือของนางขยับไม่ได้แล้ว ใจหรือก็เต้นรัว ที่ยังทรงตัวยืนอยู่ได้ก็ด้วยแรงใจ แม้ขาสั่นเทาอาจลงล้มได้ทุกเวลา

สตรีผู้ทระนงต้องการมองให้ชัดว่านางปลุกอะไรขึ้นมา นางคิดถึงท่านเฟรธูริน คิดถึงวันเวลาในวัยเยาว์ที่นางและริวอร์นอร์มีร่วมกันกับเขา คิดถึงซิกฟรีดที่ไม่เลือกนาง กระนั้นก็ยังพยายามยึดโยงนางไว้

นางเคยอยากให้กำเนิดบุตรแก่ซิกฟรีดและสร้างครอบครัว ทว่าไม่ใช่ในฐานะราชินีฉากหน้าที่ต้องมองราชาของตนปันใจให้ดาร์กเอลฟ์ นางจึงปฏิเสธซิกฟรีด...และนี่คือผลลัพธ์ที่นางได้มา

เมื่อการปลุกชีพสิ้นสุด ริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์ก็หยัดกายขึ้น ร่างเปลือยเปล่าสูงใหญ่เฉกนักรบดูสง่าและทรงอำนาจ นัยน์ตาสีดำทมิฬเปี่ยมประกายกร้าว ริวอร์นอร์ฟื้นขึ้นพร้อมโทสะ ซึ่งโทสะนั้นได้ระเบิดออกเป็นเสียงคำรามว่า

“อาเลธ!!!”


ราชามงกุฎดำจำได้ดี ผู้ใดทรยศต่อเขา ผู้ใดกล้าหันคมดาบใส่เขา และอสรพิษนางใดที่กล้าฝังเขี้ยวพิษในหัวใจเขา

“เอริแอดเน่…”

ริวอร์นอร์ปรายสายตาไปยังท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์--อสรพิษที่เขายกให้เป็นราชินีเคียงบัลลังก์

“เป็นข้า...” นางตอบ ไม่มีความหวาดกลัวใดๆ “ที่คืนชีวิตให้แก่เจ้า”

ริวอร์นอร์พิจารณาท่านหญิงโฉมงามด้วยสายตาเฉียบคม ก่อนจะเอ่ยถามว่า “ใครทำอะไรเจ้าล่ะถึงได้ลดศักดิ์ศรีมาปลุกเรา ท่านหญิงเฮสเทียน่า...หรืออาเลธ”

ราชามงกุฎดำรู้จักราชินีของตนดี นางเกลียดเขาปานนั้น เกลียดถึงขั้นแม้ตายก็ไม่ให้วิญญาณได้ไปดี การที่นางคืนชีพให้เขาไม่ใช่เพราะรักและคิดถึงแน่ แต่เป็นเพราะนางสิ้นไร้หนทางแล้ว และผู้ที่ทำให้นางสิ้นไร้หนทางได้ก็มีอยู่ไม่กี่คน

เอริแอดเน่เหม่อไปชั่วครู่ ท่านย่า--ครอบครัวของนาง ซิกฟรีด--เจ้าชายน้อยที่นางรักและไว้ใจ...สุดท้าย...ก็ไม่เหลือใคร นางชี้นิ้วที่แดงเพราะเห็นเนื้อด้านในไปทางริวอร์นอร์ “หุบปาก”

พันธะของนายกับบ่าวยังคงอยู่ ริวอร์นอร์จึงต้องเงียบ

จากสิ่งที่เผชิญมาทั้งหมด เอริแอดเน่คิดคำตอบให้ริวอร์นอร์ได้ประโยคเดียว นางแสยะยิ้ม

“ข้าปลุกเจ้าขึ้นมา เพราะข้าจะเปลี่ยนโลกนี้ให้อัปลักษณ์เหมือนกับข้า”

“สมกับเป็นราชินีของเรา”

เอริแอดเน่คิดถึงเจย์อีกครั้ง นางหลับตา “ข้าไม่เป็นราชินีของใครทั้งนั้น...จากนี้...และตลอดไป”

ริวอร์นอร์เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่จะหัวเราะเสียงดัง “ผู้ที่ทำให้เจ้าพังทลายคืออาเลธหรือ” ตลอดวัยเยาว์ที่มีร่วมกัน เอริแอดเน่พูดเสมอว่าจะเป็นราชินี เป้าหมายในชีวิตของนางมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น แต่เวลานี้นางกลับทิ้งเป้าหมาย หรืออีกนัยหนึ่งคือนางทิ้งชีวิต ไม่แยแสมันอีกต่อไป ริวอร์นอร์เดาว่านางกับน้องชายของเขา--อาเลธ คงไปกันได้ไม่ดีนัก

“ยินดีต้อนรับ เราก็เคยถูกอาเลธหักหลังเช่นกัน”

“เขาไม่ได้หักหลังเจ้า ‘ข้า’ ทำให้เขาหักหลังเจ้า และข้าจะเป็นอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า” เอริแอดเน่ค่อยๆ คุกเข่า ขาทั้งสองแนบพื้น คนที่ทำให้นางพังทลายอย่างแท้จริงไม่ใช่ซิกฟรีด

ไม่เคยใช่


นางสูดหายใจเข้าลึกก่อนสั่งอีกฝ่ายว่า “กลับเข้าไปในโลงของเจ้า...ไป...”

ริวอร์นอร์ค่อยๆ ย่อตัวลงไปคุกเข่าข้างหนึ่งตรงหน้าเอริแอดเน่ เขากรีดรอยยิ้มที่ดูคล้ายปีศาจให้นาง ดวงตาสีดำสนิทสะท้อนภาพท่านหญิงโฉมงามผู้เหนื่อยล้ากับทุกสิ่ง

เอริแอดเน่ลืมตา นางไม่สั่งเป็นครั้งที่สอง

“ไปพักด้วยกันเถิด เราเป็นห่วงเจ้าเหลือเกิน” ริวอร์นอร์เอื้อมไปจะอุ้มเอริแอดเน่

อสรพิษยักษ์พุ่งเข้าฉกริวอร์นอร์จากความมืด มันดันร่างเหยื่อให้หงายติดพื้น ดวงตาขีดเสี้ยววาวโรจน์เป็นสีเดียวกับดวงตาของนายผู้อัญเชิญ ขณะที่ผู้สั่งการมันเกร็งตัว กลั้นหายใจ

ราชามงกุฎดำไม่ปัดป้อง “เราไม่กลัวความตาย แต่เจ้า...อสรพิษ” ริวอร์นอร์จ้องอสรพิษตัวนั้นเขม็ง “เจ้าจะทำให้ผู้เป็นนายเสียพลังไปอย่างเปล่าดายในการปลุกชีพ”

เขี้ยวคมมหึมาฝังเข้าบ่ากว้าง เอริแอดเน่กระตุกเฮือก ร่างทรุดลง หน้าผากกดกับพื้นหินเปียกฝนอันแข็งกระด้างและเย็นเฉียบ นางรู้ว่านี่คืออาการช็อกจากการใช้พลังเวทมากเกินไป การร่ายเวทคืนชีพใช้พลังหนักหนาสาหัสกว่าเวทใดๆ ที่นางเคยร่ายมา

ริวอร์นอร์ยังถูกตรึงไว้กับที่โดยคมเขี้ยวของอสรพิษ เขาใช้เศษหินคมจากพื้นกรีดฝ่ามือเป็นอักขระทมิฬ ราชามงกุฎดำนาบฝ่ามืออาบเลือดกับอสรพิษ มันทำลายเกล็ดอ่อนไปจนถึงผิวหนังด้านใน สร้างความเจ็บปวดจนมันต้องปล่อยชายที่บังอาจคิดแตะต้องนายของมัน

“เวทของพวกนอกรีต ใช้แปลงเลือดให้เป็นกรดไฟ” ริวอร์นอร์ยิ้มให้เอริแอดเน่พลางร่ายเวทแก้ฤทธิ์ของเวทบทก่อนหน้า เพื่อไม่ให้เลือดกรดถูกผิวกายของนาง ก่อนจะช้อนร่างนางขึ้นจากพื้น

“ปล่อยข้า เจ้าน่ะหรือเป็นห่วงข้า” เอริแอดเน่โกรธจัดเมื่อเห็นว่าดวงตาสีดำของอีกฝ่ายเหมือนเยาะเย้ยนางอยู่

“เจ้าอ่อนแรงจนไม่มีพลังจะสั่งเราแล้ว” ในตอนนี้ ขณะนี้ ริวอร์นอร์ขัดขืนคำสั่งของเอริแอดเน่ได้ เขาสาวเท้าไปยังโลงหิน

“ปล่อย-ข้า” นางย้ำ ความชังทำให้นางรังเกียจ ทั้งหนาวสันหลังและอยากอาเจียน

ยิ่งต่อต้านมาก นางก็ยิ่งเผลอกอดตัวเอง

ริวอร์นอร์หัวเราะในลำคอ เขาฮัมเพลง ‘เจ้าปลา’ ขณะก้าวลงไปในโลงศพพร้อมกับนาง

“ถ้าเจ้าไม่ฆ่าข้า…” เอริแอดเน่กล้าปลุกชีพริวอร์นอร์เพราะจะใช้วรรณะเวทควบคุมอีกฝ่าย ทว่าแค่ปลุกชีพได้ครู่เดียว นางก็ควบคุมเขาไม่ได้...นางอยากกรีดร้อง อยากขยับตัวออกจากตรงนี้ อยากสาปแช่ง อยากโกรธเกลียด ทว่าไม่มีแรงทำอะไรมากไปกว่าเกี่ยวมือกับแขนให้แน่น

ถ้าเขาไม่ฉวยโอกาสนี้ฆ่านางให้ตาย…

“ถ้าเจ้าตีงูไม่ตาย งูหลังหักจะแว้งกัดเจ้า” นางสาบาน

“เจ้ารู้ดีที่สุดว่าเราจะไม่ฆ่าเจ้า...ไม่มีวัน ราชินีของเรา” ริวอร์นอร์จัดท่าทางให้เอริแอดเน่นอนอย่างสบายในโลงศพ เขาวางมือบนแก้มของนางด้วยความอ่อนโยน

“เจ้าไม่มีบัลลังก์ด้วยซ้ำ ซากศพ!”

“ต้องดุดันอย่างนี้สิถึงจะสมเป็นราชินีของเรา” ริวอร์นอร์ลูบนิ้วโป้งใต้ดวงตาเคืองแค้นของเอริแอดเน่ เขานอนลงเคียงข้างนาง “เราจะทำให้โลกใบนี้อัปลักษณ์ไปด้วยกัน”

ผู้ฟังกัดฟันกรอด แต่มุมปากของนางกลับกระตุกขึ้นสูงแล้วแสยะเป็นรอยยิ้มบิดเบี้ยวอย่างที่ผู้มีจิตใจอารีคงทำไม่ได้

ฝาโลงหินค่อยๆ เลื่อนปิด วงแขนแข็งแรงกระชับร่างแบบบางของนางไว้ ปากของเขาและนางคล้ายจะแตะกัน ไฟในดวงตาแผดเผากันและกันให้เป็นจุณ

เอริแอดเน่รู้ดีว่า...ริวอร์นอร์ชอบทรมานนาง

...อย่างต่ำช้าและนุ่มนวล



—————————————————————————

A/N บทนี้เราชอบฉากที่ริวอร์นอร์ (ศพคืนชีพ) และเอริแอดเน่มองกันและกันท่ามกลางสายฝนค่ะ ชอบมากๆ เลยนะ แง กับอีกฉากที่ชอบไม่แพ้กันคือฉากจบค่ะ

ถ้าใครยังไม่แน่ใจคู่ ขอนำเสนอ ริวอร์นอร์ x เอริแอดเน่ค่า (แม้ตอนนี้ใจเราจะเอนไปทางเจย์ x เอริแอดเน่ ด้วยก็ตาม)


พบกันครั้งต่อไปวันที่ 7 มิ.ย. 60 นะคะ!


ป.ล. อวดภาพร่างปก Elven Almanac จากน้อง Enfer De Hell ค่ะ

ใครเอ่ย <3
(https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/18921716_10211840427619788_1707389180046627992_n.jpg?oh=cec6eb3ef8cf579894128966ee0ca115&oe=599D1FC1)



ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (6) [05/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 05-06-2017 00:39:46
มันจะดำมืดขนาดไหนเนี่ย อ่อยยย!! น้องกลัวใจเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (6) [05/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 05-06-2017 11:55:07
ลุ้นจนตัวโก่งหมดและ ชัก งง ไม่รู้ใครคู่ใคร คิดว่าใช่แต่คนเขียนแกล้ง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (6) [05/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-06-2017 12:16:15
เอริแอดเน่ พัวพันสามกษัตริย์
แต่กษัตริย์ที่เคียดแค้น เกลียดชังเป็นริวอร์นอร์
สุดท้ายตอนนี้ก็ถูกริวอร์นอร์ โอบกอด อยูในโลงศพ อึ๋ยย......

โคลด์ น่าจะเจอมนตร์บทปลุกซากศพ
และทำลายซากที่ถูกปลุก ยอดดดดด เยี่ยมมมมม  :ling1: :ling1: :ling1:

ซิก ออดอ้อนโคลด์ได้น่ารัก  :กอด1:
โคลด์ ห่วงซิก แต่ปากแข็ง  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:     
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (6) [05/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 05-06-2017 12:55:22
มันจะดำมืดขนาดไหนเนี่ย อ่อยยย!! น้องกลัวใจเหลือเกิน
ในความมืดก็ยังมีความอิ๊ะอ๊ะ รออยู่น้า

ลุ้นจนตัวโก่งหมดและ ชัก งง ไม่รู้ใครคู่ใคร คิดว่าใช่แต่คนเขียนแกล้ง
แง ไม่ได้แกล้งน้าาาา แงงงง

เอริแอดเน่ พัวพันสามกษัตริย์
แต่กษัตริย์ที่เคียดแค้น เกลียดชังเป็นริวอร์นอร์
สุดท้ายตอนนี้ก็ถูกริวอร์นอร์ โอบกอด อยูในโลงศพ อึ๋ยย......

โคลด์ น่าจะเจอมนตร์บทปลุกซากศพ
และทำลายซากที่ถูกปลุก ยอดดดดด เยี่ยมมมมม  :ling1: :ling1: :ling1:

ซิก ออดอ้อนโคลด์ได้น่ารัก  :กอด1:
โคลด์ ห่วงซิก แต่ปากแข็ง  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:   
เกิดเป็นเอรี่ต้องสตรองอะค่ะ ;w;
คู่ซิกโคลด์นี่ ยังไงก็มีความห่วงใยที่ลึกซึ้งนะคะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (6) [05/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 05-06-2017 14:18:38
นางทำลายตัวเอง

ริวอนอร์ทำลายตัวเอง

สองคนนี้ร่วมมือกันทำลายประหนึ่งตาพายุ กวาดล้างและทำลายทุกสิ่งในเส้นทาง

สมเป็นของกันและกันอย่างน่าเวทนา

"ซิกจิ๋ว" น่าร้ากกกกกก

โอย...ปรับอารมณ์แทบไม่ทันระหว่างครึ่งแรกกับครึ่งหลัง

ดีนะ ที่เราสตรอง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (6) [05/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 05-06-2017 14:46:22
นางทำลายตัวเอง

ริวอนอร์ทำลายตัวเอง

สองคนนี้ร่วมมือกันทำลายประหนึ่งตาพายุ กวาดล้างและทำลายทุกสิ่งในเส้นทาง

สมเป็นของกันและกันอย่างน่าเวทนา

"ซิกจิ๋ว" น่าร้ากกกกกก

โอย...ปรับอารมณ์แทบไม่ทันระหว่างครึ่งแรกกับครึ่งหลัง

ดีนะ ที่เราสตรอง
รักซิกจิ๋ว เช่นกันค่ะ /อุ้มๆ ขโมยกลับบ้าน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (6) [05/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 05-06-2017 22:09:03
แด่ความซับซ้อนภายในจิตใจของสองคนนี้

เราแพ้คนสวยทั้งชายและหญิง เธอว่าไงก็ว่าตาม

เอาเลยจ๊ะเอาให้ถึงที่สุด แต่ระวังไฟจะเผาไหม้ตัวเองนะ
 :ling2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (6) [05/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 05-06-2017 23:01:15
แด่ความซับซ้อนภายในจิตใจของสองคนนี้

เราแพ้คนสวยทั้งชายและหญิง เธอว่าไงก็ว่าตาม

เอาเลยจ๊ะเอาให้ถึงที่สุด แต่ระวังไฟจะเผาไหม้ตัวเองนะ
 :ling2:
คู่นี้คู่กรรมจริงๆ ค่ะ U_U ฝากด้วยนะคะ แงๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (6) [05/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ia091 ที่ 05-06-2017 23:35:02
//ชูป้ายไฟริวอร์นอร์เงียบๆ
เราชอบคาร์เเรกเตอร์แบบนางมากเลย ทุกอย่างดูได้ดั่งใจ นางเก่ง นางฉลาด นางดี(?)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (6) [05/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-06-2017 00:56:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 24 : (6) [05/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 06-06-2017 11:25:21
//ชูป้ายไฟริวอร์นอร์เงียบๆ
เราชอบคาร์เเรกเตอร์แบบนางมากเลย ทุกอย่างดูได้ดั่งใจ นางเก่ง นางฉลาด นางดี(?)
ชอบคนนี้เหมือนกันค่า

:pig4:
:mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (1) [07/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 07-06-2017 13:05:03
บทที่ 25 : รักร้าว (1)

ซิกฟรีดลืมตาฉับ!

เขาฝันร้าย เหงื่อกาฬท่วมร่าง พอตื่นก็ผลุนผลันคว้าเสื้อผ้ามาสวม อาการเร่งรีบทำให้คนที่นอนหลับข้างกันตื่นไปด้วย

ซิกฟรีดกับโคลด์ขลุกอยู่หอสมุดหลวงมาหลายวัน กิน นอน ทำงานที่นั่นโดยไม่มีใครกล้ารบกวน เว้นแต่ขุนนางคนสำคัญและข้ารับใช้ผู้มีหน้าที่จัดสำรับอาหารเท่านั้น

โคลด์งัวเงีย ใช้หลังมือขยี้ตา บ่นว่า “เจ้าแอบมานอนฝั่งข้าอีกแล้ว” พวกเขาแยกเขตที่นอนกัน จับจองโซฟาและฟูกนอนที่ถูกยกเข้ามาใหม่คนละตัว ก่อนนอนก็แยกกันอยู่ดีๆ ทว่าตื่นมามักเจอเอลฟ์ตัวโตมาเบียด

เห็นซิกฟรีดนิ่งค้าง เสื้อยังสวมไม่เรียบร้อย สีหน้าในความมืดสลัวซีดเผือด โคลด์เอะใจ เขาลุกขึ้นตาม “เป็นอะไร ซิกฟรีด”

“เจ้าได้ยินเสียงฟ้าผ่าหรือเปล่า” ซิกฟรีดลูบใบหูของตัวเอง ไม่ใช่แค่เสียงสายฟ้ากัมปนาทเท่านั้นที่เขาได้ยิน แต่มีเสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวซ้อนขึ้นมาด้วย

‘อาเลธ!!!’

เสียงที่เขาคุ้นเคยนั้นผสมความเกลียดชังอันไร้ก้นบึ้ง เข้มข้นจนน่ากลัว

โคลด์มองไปทางหน้าต่างทรงสูงซึ่งมีม่านปิด เขาลุกไปเลิกม่านขึ้นเล็กน้อย ด้านนอกไร้แสง ทว่าดวงตาที่ได้รับพรจากราตรีกาลมองเห็นได้ถนัด “ฟ้าโปร่ง ไม่มีอะไร เมฆตั้งเค้ายังไม่มีเลย” เขาหันกลับมามองซิกฟรีด “เจ้าตัวสั่นอยู่...”

“ข้าต้องไปดูศิลาเวท” ซิกฟรีดสวมเสื้อคลุมลวกๆ เขาออกจากหอสมุดหลวง ตรงไปยังวิหารของพี่หญิงคาลิเธียล ที่นั่นเก็บรักษาศิลาเวทไว้ในห้องลับ ซึ่งมีเพียงซิกฟรีดเท่านั้นที่จะเปิดมันได้

โคลด์ตามมาอย่างรีบร้อน ซิกฟรีดก้าวขาโดยไม่รอเขา แต่นั่นไม่เป็นอุปสรรคต่อความว่องไวอย่างแอสซาสซิน อุปสรรคเกิดขึ้นเมื่อซิกฟรีดหยุดกะทันหันด้านหน้าประตูห้องลับที่เพิ่งเปิดออก ทำให้จมูกของโคลด์ชนแผ่นหลังกว้างเข้าเต็มรัก

โคลด์ยื่นหน้าออกไป มองเข้าไปในห้องขนาดสามคูณสี่เมตร เห็นแท่นหินอ่อนสีขาว ด้านบนมีศิลาคล้ายก้อนแร่ดิบถูกขัดจนมันวาว ก้อนหนึ่งเป็นสีครามนที อีกก้อนเป็นสีเขียวพงไพร ทั้งสองก้อนสลักลวดลายคล้ายเปลวเพลิงร้อนแรงผสานเกลียวคลื่นอ่อนโยน และมีรอยร้าวเป็นเส้นลึกสีขาวแตกแขนงไปทั่วทั้งก้อน

เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ


ศิลาทั้งสองก้อนที่ร้าวมาถึงขีดสุดแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ต่อหน้าซิกฟรีดและโคลด์

----------------------------------

เมืองนิมโรเชียน แดนทมิฬ

ค่ำคืนนี้ ท้องฟ้าเหนือเมืองแห่งก้นบึ้งรัตติกาลปลอดโปร่ง เป็นคืนเดือนมืดอันสวยงาม เมื่อต้นกำเนิดแสงสว่างอันทรงอำนาจยามกลางคืนอย่างเทพีจันทร์เร้นกายพักผ่อน ให้บุตรแห่งดาราดาษดาทั่วผืนนภา ส่องแสงแวววาวระยิบระยับจากสุดขอบฟ้าฟากหนึ่งไปสุดขอบฟ้าอีกฟากหนึ่ง

เจ้าของดวงตาสีเงินริ้วดำมองหมู่ดาราอันเหมือนหมุดเงินตอกตรึงร่างศัตรู ผมยาวสีเงินของเขาพลิ้วตามสายลมอ่อนเจือกลิ่นโลหิตและควันไฟที่ไม่เคยจางหายจากแผ่นดินนี้ ผู้มีใบหน้าวัยฉกรรจ์ยกยิ้มมุมปาก จากนั้นหัวเราะในลำคออย่างพอใจ

ผู้ที่ขี่ม้าเคียงข้างเขามองตามสายตาขึ้นไปบนฟากฟ้า ก่อนจะหันมองใบหน้าด้านข้างของบุรุษผู้เป็นใหญ่เหนือแผ่นดินทมิฬ เห็นสีหน้าซึ่งไม่ได้เห็นมานานก็ถามขึ้น

“นภาบอกอะไรกับท่านหรือขอรับ” นายพลทมิฬนามว่าเบเลธเอ่ยถามจอมทัพทมิฬผู้มีศักดิ์เป็นบิดา

ริมฝีปากของบิดาเหยียดกว้าง ผิวเทาอมเงินราวกับโชนแสงแห่งสงคราม สายตายังจับจ้องกระแสนภา คล้ายว่า ณ จุดนั้นมีสิ่งที่เขามองเห็นแต่เพียงผู้เดียว

นานทีเดียว จอมทัพทมิฬรำพึง “มงกุฎดำ” เขาหันไปหาบุตรชายคนโต เอ่ยเสียงดัง “ไป กลับไปฉลองด้วยสุรา นารี และบุรุษอย่างที่เจ้าชอบทำ! ฉลองให้แก่มงกุฎดำ...ฮ่าๆๆ!”

สีหน้าของจอมทัพทมิฬเหี้ยมเกรียมและพึงพอใจ แววตาของเขาทรงไว้ซึ่งภูมิปัญญาอันได้รับจากบิดานภา--บิดาแห่งดาร์กเอลฟ์ทั้งปวง

เบเลธน้อมศีรษะรับด้วยสีหน้าน่าเกรงขาม นายพลทมิฬทราบว่าบิดามุ่งความสนใจไปที่สิ่งเดียว นั่นคือไฟและเถ้าจากสงคราม และหากจะมีผู้ใดที่บิดาเอ่ยถึงอย่างพอใจ ย่อมเป็นราชาริวอร์นอร์แห่งรูเมเรียร์หรือราชามงกุฏดำ

เขาเงยหน้ามองท้องนภาอีกครั้ง คล้ายเห็นรอยฟ้าลั่นในทิศที่ตั้งของแผ่นดินรูเมเรียร์ ไม่นาน...ผืนนภาทางฝั่งนั้นคงย้อมด้วยสีโลหิต

นายพลทมิฬเบเลธเบือนสายตาไปยังแผ่นหลังองอาจของบิดา เขาติดตามท่านมาหลายร้อยปี และจักภักดีตลอดกาล

คาดว่าหลายวันต่อจากนี้ จอมทัพทมิฬคงอารมณ์ดี และจัดงานฉลองราตรีทมิฬไปจนกว่าจะสิ้นกาฬปักษ์

-------------------------------------------

หมู่บ้านกุหลาบหิน เขตอิซิลดาร์

เจย์ใช้เวลาสามวันสามคืนเดินทางจากสถานที่ประหลาดซึ่งเอริแอดเน่ (โจรหนุ่มอยากเรียกนางว่าไนติงเกลมากกว่า แต่เวลานี้ชื่อไนติงเกลดูจะอ่อนหวานไป…) ใช้ปลุกชีพอดีตกษัตริย์เอลฟ์มาถึงแผ่นดินทางใต้--อิซิลดาร์ เขาพกแร่ทมิฬมาด้วย คิดว่าระหว่างทางกลับจะหยุดแวะที่พรมแดนอิซิลดาร์กับแดนทมิฬเพื่อขายเจ้าแร่ประหลาดนั้น อาจขายด้วยการแลกเป็นไข่มุก หรือสมุนไพร...หรืออะไรก็ตามที่ราคาต่อชิ้นสูงและนำไปแลกเป็นเงินตราในแผ่นดินมนุษย์ได้ง่าย เพราะถ้าแลกเป็นเหรียญทองคงแบกไม่ไหวแน่

เขามาถึงหมู่บ้านกุหลาบหินในเวลากลางคืนซึ่งมีฟ้าร้องฟ้าผ่าจากขอบฟ้าไกลๆ อย่างน่ากลัว เวลานั้นวิหารมารดานทีหับประตูปิดแล้ว จึงตัดสินใจหาที่พักใกล้ๆ (ซึ่งก็คือริมถนนข้างวิหาร…) พอเช้าก็สลัดความง่วงเหงา ลุกขึ้นเสยผมให้เรียบร้อยแล้วก้าวเข้าวิหารของมารดาผู้บริสุทธิ์

แสงเช้าอาบไล้ตึกรามบ้านช่องในอิซิลดาร์ ในความเห็นของเจย์ ที่นี่มีสีสันและมีชีวิตชีวากว่ารูเมเรียร์ (เขาไม่เคยไปเมืองหลวงหรอก แต่แค่แถวๆ เขตที่ใกล้กับแผ่นดินมนุษย์ที่สุดยังเป็นสีขาวไปหมด) ทั้งดูเป็นมิตรมากกว่า...แม้จะไม่คึกคักเท่าไหร่ก็เถอะ

วิหารมารดานทีแห่งหมู่บ้านกุหลาบหินเป็นวิหารเล็กๆ กลางสระน้ำ ตัววิหารสร้างจากหินอ่อนสีชมพู ปกคลุมด้วยเถาไอวีสีเขียวสดใส มีทางเข้าเป็นช่องประตูสูงยอดโค้งแหลมแปดด้าน กลางวิหารเป็นอ่างน้ำอันมีแท่นบูชาวางคนโทเทน้ำจากด้านบน น้ำจากคนโทไหลลงมาเป็นรูปร่างของสตรีอย่างอัศจรรย์

นักเดินทางชาวเอลฟ์ทั่วไปมักแวะสักการะมารดานทีในเมืองที่ใหญ่กว่านี้ วิหารมารดานทีของหมู่บ้านกุหลาบหินจึงมีผู้แสวงบุญบางตา เมื่อเจย์นำสร้อยคอให้นักบวชสตรีดูและเอ่ยว่ามาจาก ‘โรสเวน’ นางผู้ถือศีลก็ทรุดตัวลง หมอบกราน จับมือเขา กล่าวอวยพร และเอ่ยเชิญเขาเข้าไปด้านในอย่างซาบซึ้งใจ

เจย์รออยู่ครึ่งค่อนวัน ในเบาะนั่งที่เรียบง่ายแต่นุ่มสบายเป็นที่สุด ระหว่างนั้นเหล่านักบวชสตรียกอาหารทำเสร็จใหม่ๆ ผลไม้และไวน์ชั้นเลิศมาต้อนรับเขาราวกับเป็นแขกชั้นสูงคนสำคัญ พวกนางถามไถ่ว่าเขาใช้เวลาเดินทางมายังวิหารนานหรือไม่ ต้องการสิ่งคลายเหนื่อยอื่นใดอีกหรือเปล่า นักบวชเหล่านี้ล้วนเป็นนางเอลฟ์หน้าแฉล้ม แววตาท่าทางสงบ อ่อนโยน

ทว่าเจย์ไม่แตะต้องอาหารหรือเครื่องดื่มเลย เขายิ้มซื่อตาใสให้เหล่านักบวช ทำเป็นเหลอหลาไม่รู้จักมารยาท ขอโทษจ้ะ แต่ข้าไม่นิยมกินอะไรที่คนแปลกหน้ายื่นให้...เขาคิดในใจแล้วยิ้มน่ารักให้นักบวชซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด

“ท่านไม่กินไม่ดื่มอาหารที่นำมารับรองเลย นั่นทำให้พวกนางหนักใจว่าต้อนรับแขกของข้าบกพร่อง” รออยู่นาน สตรีที่คาดว่ามีอำนาจที่สุดก็เดินเข้ามา นางดูมีอำนาจที่สุดเพราะนักบวชล้วนยอบกายทำความเคารพ ทหารองครักษ์สองนางที่ติดตามอยู่ด้านหลังก็ดูมียศไม่ธรรมดา

ผู้มาพบเจย์เป็นสตรีสวมเสื้อคลุมสีแดงสด ซ่อนใบหน้าไว้ใต้ฮู้ด นางวาดนิ้วอย่างสง่า นักบวชสตรีก็ถอยออกไป

“ไม่บกพร่องขอรับไม่บกพร่อง” เจย์โบกมือไปมา “ข้าเพียงเชื่อคำของมารดาผู้ล่วงลับว่าอย่าตะกละ ให้เกรงใจเจ้าบ้านน่ะขอรับ” เขาทำตัวปัญญาทึบสมบูรณ์แบบ ไร้พิษภัยอย่างไร้ที่ติ

“งั้นหรือ” สตรีชุดแดงลดฮู้ดลง นางมองเขาด้วยใบหน้าที่เจย์คุ้นเคยและดวงตาคู่คมสีหินแก้วประกายรุ้ง--ใบหน้าของท่านหญิงเอริแอดเน่ ชั่วขณะนั้นองครักษ์หญิงสองนางก็ยืนขวางประตูทางออกที่มีอยู่ทางเดียวโดยพร้อมกัน

ริมฝีปากล่างของเจย์แทบตกลงมาถึงอก เขาอ้าปากค้างอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะตั้งสติได้และกลับไปทำเหมือนไม่มีอะไรเช่นเดิม

“ข้าคือเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ ท่านมีข้อความใดจาก ‘โรสเวน’ จะบอกข้า จงกล่าวมา”

มีท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์สองคนหรือ! หนึ่งคือสตรีที่เจย์จากมา และอีกหนึ่งคือสตรีที่ยืนอยู่ตรงหน้า

-------------------------------------------

ซิกฟรีดเก็บตัวในหอสัมผัสเสียงของควาร์ ราชาหนุ่มสั่งห้ามผู้ใดรบกวน ประตูหินอ่อนหนาหนักปิดสนิทมาสี่วันแล้ว เอกสารทางราชการซึ่งรอพระองค์อยู่ด้านนอกกองสูงขึ้นทุกที เวลานี้ขุนนางพากันวิตกว่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้นอีกหรือไม่ จะถามองครักษ์คนสนิทอย่างอิลราลานก็ไม่อยู่ในราชวัง หันไปถามองครักษ์มือขวาอย่างมาลแกธก็ไม่ทราบเรื่อง (และดูหัวเสียไม่น้อย) จึงได้แต่สวดภาวนาถึงบิดาและมารดานภา ขอให้องค์ราชาผู้เยาว์ออกมาเสียที

ในหอสัมผัสเสียง ซิกฟรีดนั่งขัดสมาธิอยู่กลางลานวงกลม เหนือศีรษะขึ้นไปสามเมตรแขวนอ่างแก้วเจียระไนขนาดครึ่งห้องบรรจุน้ำไว้เต็ม และเหนือขึ้นไปอีกถึงยอดโดมสูงของห้อง ช่องโดมเปิดโล่งรับท้องฟ้า แสงอาทิตย์ รวมไปถึงแสงจันทร์

พื้นปูด้วยพรม ผนังทุกด้านของหอสัมผัสเสียงก็แขวนผ้าทอกันเสียงสะท้อน ที่นี่เงียบเกินเงียบ แต่เหมาะสำหรับควาร์ผู้ต้องการเพ่งเสียงใดเสียงหนึ่งเป็นพิเศษ อ่างแก้วเจียระไนเป็นอุปกรณ์เวทบรรจุธาตุที่ควาร์ผู้นั้นถนัดเรียกใช้ อย่างเช่นเวลานี้...ซิกฟรีดเลือกน้ำสะอาดจากบ่อในจตุรัสทั่วเมืองหลวงของรูเมเรียร์

หูของซิกฟรีดเรียกว่าใช้การไม่ได้แล้ว แต่หอสัมผัสเสียงพอช่วยให้เขาได้ยินเสียงกระซิบอย่างกระท่อนกระแท่น น้ำจากบ่อซึ่งมีแหล่งกำเนิดจากใต้ดินบอกเล่าเรื่องราวแก่เขาหลายเรื่อง ทว่าเขาจับความไม่ได้สักเรื่อง

อย่างไรก็ดี ซิกฟรีดไม่ได้เข้ามาในหอสัมผัสเสียงเพื่อทรมานตัวเองเท่านั้น แต่ใช้ที่นี่เพื่อสื่อสารกับอิลราลานและกอห์นดีเอน

ก่อนศิลาเวทจะเกิดรอยร้าวและแตกออก ซิกฟรีดสั่งให้กอห์นดีเอนเร่งไปตรวจดูสถานที่บรรจุศพส่วนศีรษะของริวอรนอร์ว่ามีผู้บุกรุกหรือไม่ และสั่งให้อิลราลานมุ่งไปยังหุบเขาลึกกลางป่าทางใต้ของรูเมเรียร์แต่อยู่เหนือเขตอิซิลดาร์ ทั้งคู่สวมตุ้มหูเวทที่เขามอบให้ อิลราลานสวมตุ้มหูแก้วบรรจุน้ำซึ่งใช้วิธีเคาะเพื่อส่งรหัสข้อความ ส่วนกอห์นดีเอนสวมตุ้มหูแก้วบรรจุทรายซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งการเคาะรหัสและการเอ่ยภาษาควาร์ถึงผู้ที่มีอุปกรณ์เวทคู่กัน

หลังศิลาเวทแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไม่นานจากนั้น กอห์นดีเอนก็ส่งข่าวถึงซิกฟรีดว่าสถานที่ฝังพระศพถูกบุกรุก ขณะที่อิลราลานยังหาสถานที่ฝังพระศพในหุบเขาลับไม่พบ ราชาหนุ่มออกคำสั่งใหม่ ให้อิลราลานมุ่งไปยังอิซิลดาร์ สืบหาข่าวที่เกี่ยวข้องกับท่านหญิงเอริแอดเน่และอดีตราชาผู้โหดเหี้ยม--ริวอร์นอร์ ส่วนกอห์นดีเอนก็ให้สืบหาสถานที่ลับของริวอร์นอร์ตามจุดที่ตนและโคลด์ตั้งข้อสงสัย ซิกฟรีดเก็บตัวในหอสัมผัสเสียงตั้งแต่คราวนั้น รับข่าวและสื่อสารกับทหารทั้งสองตลอดเวลา

แทบไม่แตะอาหารและไม่นอน

โคลด์กำลังคุยกับนกสีขาวบนหลังคาหอสัมผัสเสียง นับจากการต่อสู้ที่เมืองโรสมินาส นี่เป็นการติดต่อครั้งแรกจากเกวนโดลิน นกตัวเล็กเกาะมือสีเข้ม เจ้าของมือยกร่างนกเบาหวิวขึ้นเสมอหู...ฟังเสียงร้องจิ๊บๆ สั้นๆ ยาวๆ ที่เป็นรหัสของเผ่าจันทร์

ดาร์กเอลฟ์ฟังอยู่นานก็ขมวดคิ้ว “จริงหรือ” เขาถามเบา

คำตอบคือเสียงจิ๊บๆ เป็นการตอบรับว่า ‘จริง’

โคลด์เอานกเกวนโดลินใส่อกเสื้อ จากนั้นชะโงกหน้าผ่านช่องโดม เห็นซิกฟรีดผ่านอ่างแก้วบรรจุน้ำ เขาค่อยๆ ไต่เข้าไปข้างในหอ เกาะผนัง แล้วกระโดดแผ่วเบาลงไปบนพื้นพรม

“ซิกฟรีด…” โคลด์เรียก เสียงเพียงแผ่วเบาทำให้ซิกฟรีดลืมตาขึ้น

“มีอะไร”

ไม่ทันที่โคลด์จะอ้าปากพูดอะไร ประตูหอสัมผัสเสียงก็เปิดออก ผู้ที่กล้าขัดคำสั่งราชาแห่งรูเมเรียร์คือมาลแกธ--หัวหน้าหน่วยกาลาฮาน เขาไม่ฟังเสียงทัดทานจากบรรดาขุนนางซึ่งดังไล่หลัง ถึงกับหันไปยกนิ้วชี้ให้พวกมันสงบ อย่าเอ่ยคำไม่เข้าหู

ระหว่างนั้นโคลด์หาที่หลบแทบไม่ทัน ห้องโล่งเช่นนี้จะมีตรงไหนให้เขาหลบซ่อนตัวได้นอกจากเสาและผ้าทอที่แขวนอยู่ตรงผนัง

“ซิก…” มาลแกธสาวเท้าตัดผ่านลานหอสัมผัสเสียง แต่ชะงักตอนที่หางตาปะทะกับเงาที่หลบวูบเร็วๆ

โคลด์ได้ยินเสียงมาลแกธและเสียงฝีเท้าคนเพียงคนเดียวจึงโผล่หน้ามาจากหลังผ้าทอซึ่งมีเสาบังอีกที นกที่อกโคลด์ก็โผล่หน้าออกมาตาม

“ปิดประตู!” มาลแกธร้องสั่งเหล่าขุนนางด้านนอก และน่าแปลก...ทุกคนยอมทำตาม

ใครจะอยากขัดเอลฟ์ตะวันออกที่กำลังโกรธขึ้ง

ให้มันได้รับโทษจากราชาก็แล้วกัน

เมื่อเห็นว่าประตูปิดสนิท โคลด์ถอนใจแล้วออกมายืนเต็มตัว ซิกฟรีดบอกให้ข้าปิดมาลแกธ แต่แบบนี้คงปิดไม่มิดแล้วละมั้ง

“ริวอร์นอร์กลับมาแล้ว” ซิกฟรีดยังไม่ขยับตัวออกจากจุดเดิม

ได้ผล ไฟร้อนแรงในดวงตาของมาลแกธคล้ายถูกแช่แข็งอย่างรวดเร็ว ความโกรธจากการถูกราชาแห่งรูเมเรียร์ปิดบัง ‘อะไรบางอย่างที่สำคัญ’ เปลี่ยนเป็นอาการนิ่งค้างไปชั่วขณะ



—————————————————————————

A/N มาดูกันว่ามาลแกธจะว่ายังไงค่ะ

มีข่าวดีก็คือ เรากับคุณ FOULSOUL เขียนภาคนี้จะจบแล้ว เหลือแค่ตบๆ เรื่องให้ลงตัว

ตอนนี้มีสต็อกพอสมควร ขอประกาศลงนิยายทุกวันเหมือนเดิมค่ะ ;)

เมื่อลงจบหรือใกล้จบราวๆ ปลายเดือนมิ.ย. 60 จะมาแจ้งเปิดจองพร้อมภาพปก

แจ้งล่วงหน้าว่าหนังสือทำมือมีราคาสูงกว่าหนังสือตีพิมพ์กับสนพ. พอสมควร รบกวนหยอดกระปุกกันนะคะ (>.<)

ใครที่อยากได้เอลฟ์เป็นรูปเล่มสวยงามไว้หยิบมาอ่านเป็นหนังสือจับต้องได้ลูบๆ คลำๆ

พร้อมตอนพิเศษสุดฟินมากกว่า 100 หน้า

ฝากด้วยค่ะ!


ย้ำ กลับมาอัพเดตทุกวันแล้วค่ะ คอยฟังประกาศที่เพจ ILLREI ว่าจะลงตอนใหม่ช่วงไหนนะคะ!


ป.ล. อวดแฟนอาร์ตจากนักอ่านที่น่ารัก คุณ Ann Sophon

ขอบคุณที่ให้ความเอ็นดูเหล่าตัวละครนะคะ (-3-)

เอริแอดเน่กับริวอร์นอร์ค่ะ! สวยงามละมุนละไมมาก แงงง

ป.ล. ตอนแรกนึกว่าเป็นท่านพี่เฟรธูริน ก็จะเป็นคู่พี่ชายสุดหล่อแสนดีกับเด็กดื้อที่พยายามทำตัวดีๆ เขาจะได้รัก \(*0*)/
(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/69846466-member.jpg)

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/580765479-member.jpg)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (1) [07/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 07-06-2017 17:53:00
โชคชะตาทำร้ายซิกเหลือเกิน

อยากเป็นแค่ข้ารับใช้แห่งคิงเฟรูรินผู้ปรารถนาแผ่นดินที่สงบสุข ปรองดอง

แต่กลับสูญเสียทุกอย่าง ทั้งพี่ชาย พี่สาว ความสามารถแห่งควาร์ และรักที่ไม่อาจรักได้ดั่งใจ

แล้วตอนนี้ฝ่ายเวทย์ดำก็ดูเหมืนจะส่งเสริมกันและกัน

สู้ ๆ นะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (1) [07/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-06-2017 19:26:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (1) [07/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-06-2017 21:43:34
เจย์ เห็นเอริแอดเน่มีสองคนชัดๆแล้ว

ราชาทมิฬ คงชอบใจริวอร์นอร์
ที่ช่วยทำให้แผ่นดินเอลฟ์วุ่นวายแตกแยก
ตัวเองจะได้ชุบมือเปิบอย่างสบาย

ซิก โคลด์ มาลแกธ จะรับมือผีดิบริวอร์นอร์ คืนชีพยังไงกัน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (1) [07/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 07-06-2017 22:26:01
หูยยย!! มันจะเริ่มแระสินะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (1) [07/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 08-06-2017 01:20:26
โชคชะตาทำร้ายซิกเหลือเกิน

อยากเป็นแค่ข้ารับใช้แห่งคิงเฟรูรินผู้ปรารถนาแผ่นดินที่สงบสุข ปรองดอง

แต่กลับสูญเสียทุกอย่าง ทั้งพี่ชาย พี่สาว ความสามารถแห่งควาร์ และรักที่ไม่อาจรักได้ดั่งใจ

แล้วตอนนี้ฝ่ายเวทย์ดำก็ดูเหมืนจะส่งเสริมกันและกัน

สู้ ๆ นะ
ดีใจที่มีคนเข้าใจอาเลธนะคะ /ตอนเด็กๆ เขาน่ารักมากเลย ฮือๆ ;w;

:pig4: :pig4:
:mew1: :mew1:

เจย์ เห็นเอริแอดเน่มีสองคนชัดๆแล้ว

ราชาทมิฬ คงชอบใจริวอร์นอร์
ที่ช่วยทำให้แผ่นดินเอลฟ์วุ่นวายแตกแยก
ตัวเองจะได้ชุบมือเปิบอย่างสบาย

ซิก โคลด์ มาลแกธ จะรับมือผีดิบริวอร์นอร์ คืนชีพยังไงกัน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ชัดๆ เต็มตาเลยค่ะ
ส่วนจอมทัพทมิฬ จริงๆ เขาก็มีความคิดเห็นเกี่ยวกับแผ่นดินเอลฟ์ที่พี่น้องฆ่ากันเองไหมนะ
แหะๆ คันมืออยากเขียนเรื่องของเขาจังเลยค่ะ แต่ต้องรอภาคต่อไปนะคะ!
ป.ล. ริวอร์นอร์กลับมาแล้ว นาทีนี้ นักเขียนก็รอดูพี่น้องเจอกันค่ะ

หูยยย!! มันจะเริ่มแระสินะ
:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (2) [08/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 08-06-2017 19:43:09
บทที่ 25 : รักร้าว (2)

“หลักฐานล่ะ” โคลด์จับแขนมาลแกธไม่ให้พุ่งไปเอาเรื่องราชาหนุ่ม “เจ้าดูมั่นใจมากเลยนะซิกฟรีด” เขาถามเพราะศิลาเวทที่แตกออกแปลว่ามีคนบุกรุกสุสานสำเร็จเท่านั้น

“ข้ามั่นใจมากหรือ” ซิกฟรีดหัวเราะเบาๆ “ข้าแน่ใจต่างหากเล่า” ราชาหนุ่มหยัดกายขึ้นจากพื้น “แต่หากถามถึงหลักฐาน ข้ายังรออยู่เหมือนเจ้า...ที่รัก” เขาหันไปคุยกับโคลด์

มาลแกธแค่นหัวเราะเมื่อเห็นเด็กน้อยหึงหวงผิดเวลา “เจ้าคิดว่าไม่ควรบอกเรื่องสำคัญอย่างนี้ให้ ‘แดนตะวันออก’ รับทราบก่อนหน้านี้หรือ… ‘รูเมเรียร์’ ”

“เรื่องสำคัญที่ว่านี้เกี่ยวข้องกับสถานที่ลับอันมีค่าเทียบเท่าอนาคตของ ‘รูเมเรียร์’ ข้าไม่กล้ารบกวน ‘แดนตะวันออก’ ” ซิกฟรีดยกยิ้มเล็กน้อยและหลุบตาลง แสดงกิริยาสุภาพและให้เกียรติคู่สนทนา

แต่มาลแกธรู้สึกว่าหางตากระตุก

โคลด์แทบจะมองเห็นประกายไฟแล่นเปรี๊ยะๆ อยู่กลางอากาศระหว่างเอลฟ์ผู้นำดินแดนทั้งสอง เขาห่อเหี่ยวใจขณะเอ่ยแทรกความตึงเครียดทางการเมือง “ก่อนจะทะเลาะกัน ฟังข่าวของข้าก่อนไหม เกวนมีเรื่องสำคัญมาบอก”

นกสีขาวตัวเล็กบินจากอกเสื้อมาเกาะไหล่โคลด์

มาลแกธยอมละสายตาเป็นคนแรก เขาผายมือให้โคลด์ ส่วนซิกฟรีดพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต

พอถูกทั้งสองจ้อง โคลด์ปวดศีรษะขึ้นมานิดๆ “เกวนบอกว่าที่ไม่ได้ติดต่อมาก่อนหน้านี้เพราะราชามังกร--เอเลียต จับตาดูนาง อ้อ นางยอมบอกแล้วว่าถูกใครจับไป เป็นราชามังกรน่ะ ราชามังกร” โคลด์บดฟันกรอดๆ อย่างไม่พอใจตัวการลักพาตัวพี่สาวของตน

ข่าวนี้ทำให้ทั้งซิกฟรีดและมาลแกธเงียบไป ราชาหนุ่มแห่งรูเมเรียร์ถึงกับยกนิ้วกดหัวตา ไล่อาการปวดศีรษะซึ่งแล่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“เอาละ ที่เกวนยอมบอกก็มีสาเหตุ เพราะนางต้องการแจ้งข่าวความเคลื่อนไหวของราชามังกร หลังเหตุการณ์ที่เมืองโรสมินาส เกวนถูกจับตาดูไม่ให้ใช้นกส่งข่าว เป็นการจับตาดูที่เข้มงวดมาก ทว่าเมื่อสี่วันก่อน ระบุให้ชัดคือวันที่ศิลาเวทแตก ท่าทางของราชามังกรแปลกไป จากที่คอยเฝ้านางก็กลับไปอยู่ราชวังหลวงและเข้าประชุมขุนนางติดต่อกัน มีมังกรจากหลายอาณาจักรเดินทางมาร่วมประชุมด้วย เกวนจึงเป็นห่วงข้า...รวมถึงพวกเจ้า”

มาลแกธตวัดสายตาไปยังซิกฟรีด “แม้แต่มังกรยังเคลื่อนไหว…” เขาเอ่ยเรียบนิ่ง ทว่าน้ำเสียงทุ้มยังพอจับกระแสไม่พอใจได้ “แดนตะวันออกก็ไม่ควรอยู่เฉย เราเป็นพันธมิตรกับรูเมเรียร์ จะปล่อยให้รูเมเรียร์โดดเดี่ยวได้อย่างไร”

คำพูดของมาลแกธแฝงนัยอันตราย เขากำลังบังคับให้ซิกฟรีดเปิดเผยความลับที่เก็บงำไว้ หรือมิฉะนั้น แดนตะวันออกจะทิ้งรูเมเรียร์ให้เผชิญกับวิกฤติเอง

ทั้งอิซิลดาร์

แดนทมิฬ

มังกร

และราชาริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์

“เจ้าไม่ปล่อยให้เขาโดดเดี่ยวอยู่แล้ว ก็เป็น ‘สหาย’ กันไม่ใช่หรือ” โคลด์ขัดมาลแกธ ทว่าไม่ใช่ด้วยสีหน้าเอื่อยเฉื่อยเป็นนิจ แต่เป็นสีหน้าจริงจังแบบฮีมเดียร์ จากนั้นก็หันไปหาซิกฟรีด “เจ้าเองก็จะไม่ปิดบังเขา เพราะเขาเป็นสหายของเจ้าใช่หรือไม่”

หยั่งเชิงกันครู่ใหญ่ ซิกฟรีดก็ยอมเอ่ยปากเรื่องพระศพของราชามงกุฏดำซึ่งถูกผนึกไว้ในแต่ละที่ รวมถึงการสืบหาเบาะแสที่เกี่ยวข้องโดยอิลราลานและกอห์นดีเอน

หลังฟังจบ มาลแกธเข้าใจว่าทำไมซิกฟรีดจึงไม่เอ่ยถึงก่อนหน้านี้ พระศพของกษัตริย์...หากตกอยู่ในมือแผ่นดินอื่นอาจถูกนำไปใช้ประโยชน์ เช่นเปิดโปงว่าพระศพไม่ได้ผ่านนาวาพิธีจนเกิดความแคลงใจในตัวราชาคนปัจจุบัน หรือใช้เป็นเครื่องต่อรองทางการเมือง รวมไปถึงใช้ทำลายขวัญกำลังใจทหารหาญและประชาชนชาวรูเมเรียร์

เวลานี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ซิกฟรีดแน่ใจว่าริวอร์นอร์กลับมาสู่โลกคนเป็นแล้วแม้จะยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด และสงสัยว่าผู้ที่นำราชามงกุฏดำกลับมาจากความตายคือท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์--เอริแอดเน่

“บิดาของข้ามีเมตตาพิลึก” มาลแกธนับถือพระบิดาแห่งความตายเป็นบิดาแท้ๆ ของตน “แบบนี้ไม่ดีแน่…” เขารำพึง “เมื่อใดที่คนตายกลับสู่โลกของคนเป็น...เมื่อใดที่พระบิดาแห่งความตายทรงปิดพระเนตรไม่รู้ไม่เห็นเสียข้างหนึ่ง นั่นแปลว่าหายนะครั้งใหญ่จะมาเยือน”

เหมือนครั้งที่ข้าคืนชีวิตให้แก่จอมทัพทมิฬ โคลด์คิด

“สงคราม...” ซิกฟรีดเงยหน้ามองท้องนภาผ่านน้ำในอ่างแก้วเจียระไน “อาจเป็นสงครามสามแผ่นดิน”

เขานึกถึงคำทำนายที่เคยได้ยินสมัยเด็ก

พวกท่านกำลังเล่นสนุกอะไรอยู่หรือ บิดา...มารดา

โคลด์ลูบตัวนกสีขาวอย่างใช้ความคิด “มาลแกธ เจ้าทราบสาเหตุที่เอริแอดเน่ร่วมมือกับซิกฟรีดไหม” สาเหตุที่ซิกฟรีดเคยเล่าเป็นเรื่องส่วนตัวของนาง ถึงเขามีบัญชีแค้นกับนางก็มิใช่ข้ออ้างให้ทำตัวไร้เกียรติเปิดเผยมัน แต่เขาต้องประเมินสถานการณ์ จึงเอ่ยถามแบบไว้หน้านางโดยไม่ลงรายละเอียด

“ให้พูดตรงๆ ใช่หรือไม่” มาลแกธคล้ายขออนุญาตโคลด์

โคลด์เหลือบมองซิกฟรีด เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ค้านก็พยักหน้าให้มาลแกธ

“เอริแอดเน่เมตตาเจ้ามาก ราชาผู้เยาว์ หากเป็นอสรพิษอิซิลดาร์นางอื่น รูเมเรียร์คงโดนอิซิลดาร์เขมือบไม่เหลือแม้แต่กระดูก เจ้าให้ข้ามาคานอำนาจของอิซิลดาร์ หึ...นางต่างหากที่ปรามข้า และเจ้าโชคดีที่มีโคลด์ สตาร์ ข้าจึงยั้งมือ รูเมเรียร์ยังแข็งแกร่งได้เพราะชื่อบรรพกษัตริย์ นั่นรวมถึงราชามงกุฏดำ...ไม่ใช่เจ้า หากให้ข้าตอบว่าทำไมเอริแอดเน่หรือมารดาแห่งอสรพิษร่วมมือกับเจ้า ข้าพูดได้คำเดียว… ‘รัก’ ”

โคลด์คิดว่ามาลแกธพูดตรงและแรงทีเดียว...แต่ก็ใกล้เคียงสิ่งที่เขาประเมิน ซิกฟรีด มาลแกธ เอริแอดเน่ ต่างฝ่ายต่างใช้งานกันและกันตามเกมการเมือง ทว่าด้วยสาเหตุที่ซิกฟรีดเคยเล่า...สำหรับเอริแอดเน่ การจะร่วมเตียงกับซิกฟรีดได้ย่อมมีความรักร่วมด้วย

“แต่อย่าถามหาความรักที่ไร้ผลประโยชน์หากเจ้ายังเป็นราชา”

มาลแกธขยี้ซิกฟรีดในจุดที่เจ็บที่สุด ทว่านั่นเป็นความจริง เขาเคยเป็นผู้นำตระกูลล็องธู ตำแหน่งเทียบเท่าราชาในรูเมเรียร์...เคยผ่านทุกสิ่งที่ซิกฟรีดกำลังจะผ่าน แม้ในปัจจุบันจะมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับผู้อื่น แต่ประสบการณ์ยังคงอยู่

ซิกฟรีดไม่ได้โต้เถียง เขาทราบสิ่งที่มาลแกธพูดอยู่แล้ว แต่ในทางปฏิบัติ ช่างยากยิ่งที่จะปล่อยวาง

มาลแกธเสริมต่อไปว่า “และหากนางคืนชีพให้ราชาริวอร์นอร์จริง เป็นไปได้ว่านางเปลี่ยนความรักที่มีต่อเจ้าให้เป็นความเกลียดชัง สตรีที่มีความเกลียดชังอัดแน่นอยู่ในใจ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย”

โคลด์เห็นซิกฟรีดนิ่งเงียบจากประเด็นที่เขาเปิดก็รู้สึกเห็นใจ “ใช่แล้ว!” เขาโพล่งอย่างนึกขึ้นได้ จากนั้นก็ลดเสียงลง “เจ้าเคยเห็นรอยกรีดบนร่างเอริแอดเน่ใช่ไหม รอยกรีดแบบนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนกันทุกอัน วาดให้ข้าได้ไหม ข้าอาจสืบได้ว่าริวอร์นอร์ร่วมมือกับทมิฬเผ่าไหน”

ซิกฟรีดไม่อยากนึกถึงสิ่งที่หลู่เกียรติพี่หญิง แต่เขาก็ลงมือวาดรอยกรีดนั้นบนถาดทรายในหอสัมผัสเสียง

มาลแกธประหลาดใจเมื่อเห็นตราในถาดทราย เขาไม่ชำนาญเวททมิฬ มีความรู้เกี่ยวกับแดนทมิฬอยู่บ้างแต่ไม่ถึงขั้นลึกซึ้ง เพียงแต่...ตราที่ซิกฟรีดวาดช่างคุ้นตาอย่างยิ่ง

มันเป็นตราที่ชนเผ่าดาร์กเอลฟ์ประทับลงบนตัวสัตว์เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ เช่นวัวหรือม้าฝูงนี้เป็นของเผ่าไหน และถ้ามาอยู่บนร่างคน...มันก็คือ...!

มาลแกธตัดสินใจไม่พูดอะไร ไม่ถาม ไม่ออกความเห็น ตรานี้ทำให้เข้าใจว่าทำไมท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ถึงเกลียดเผ่าพันธุ์ดาร์กเอลฟ์นัก

โคลด์พิจารณาตราในถาดทรายอยู่ครู่หนึ่ง “จำได้แล้วใช่ไหมเกวน” เขาถามนกสีขาว มันร้องจิ๊บเบาๆ เป็นการตอบรับ โคลด์จึงปาดทรายให้เรียบ ลบภาพออกอย่างว่องไว “ข้ากับเกวนต้องใช้เวลาแยกสัญลักษณ์ ข้าจะสืบจากที่นี่ ส่วนเกวน…”

นกสีขาวร้องจิ๊บๆ สั้นและยาวอีกสองสามที

“นางจะใช้นกไปสืบที่แดนทมิฬ อาจช้าหน่อย แต่ถ้ามีเบาะแสจะรีบมาบอก แบบนี้เราอาจหาสถานที่ทดลองเวททมิฬของริวอร์นอร์ได้ไวขึ้น ขอโทษที่ข้าเพิ่งนึกออก” โคลด์ตั้งใจเอ่ยต่อหน้ามาลแกธ เพื่อลดความลับระหว่างรูเมเรียร์และแดนตะวันออก มาลแกธทราบเรื่องริวอร์นอร์แล้ว ช้าเร็วก็คงทราบเรื่องซิกฟรีดกำลังตามหาสถานที่ลับของริวอร์นอร์ด้วยเช่นกัน

นี่จึงไม่ใช่เวลามากุมความลับให้แตกคอกันเอง

ซิกฟรีดเห็นดี เขาเอ่ยเป็นภาษาควาร์ถึงกอห์นดีเอนว่าจะมีกำลังเสริมช่วยค้นหาสถานที่ลับของริวอร์นอร์

“หรือจะลองใช้วิธีสืบรอยแบบควาร์” มาลแกธกอดอก “ข้าถนัดเรียกใช้ไฟ ถ้านำของส่วนตัวของราชามงกุฏดำมาเผาในอ่างแก้ว ข้าจะได้ยินเสียงชัดขึ้น บางทีความทรงจำของสิ่งของอาจนำไปสู่อะไรก็ตามที่เรากำลังค้นหา”

ซิกฟรีดลูบริมฝีปาก ครุ่นคิด “ก็น่าลองอยู่…”

ราชาหนุ่มสั่งให้ข้ารับใช้นำฉลองพระองค์ซึ่งราชามงกุฏดำทรงบ่อยที่สุดมายังหอสัมผัสเสียง จากนั้นให้ชักอ่างแก้วเจียระไนลงมาแล้วถ่ายน้ำออกทั้งหมดเพื่อวางฉลองพระองค์ ก่อนจะสั่งให้พวกมันออกไป หับประตูปิด และห้ามผู้ใดรบกวนเช่นเดิม (และโคลด์ก็ออกมาจากที่ซ่อนหลังผ้าทอแขวนผนัง)

“ใครจะชักอ่างขึ้นละทีนี้” มาลแกธพึมพำ “ไม่เป็นไร ข้าหูดี ไม่ต้องครบพิธีก็ได้”

เอลฟ์ตะวันออกดีดนิ้วข้างที่สวมถุงมือเวท ไฟดวงเล็กลุกพรึ่บแล้วลอยคว้างในอากาศ มาลแกธเอ่ยภาษาควาร์ มันเปลี่ยนรูปร่างเป็นผีเสื้อปีกเพลิงหลายตัว บินไปยังฉลองพระองค์ของราชามงกุฏดำ

ไฟลามเลียไหมชั้นดีอย่างเชื่องช้า ควันสีเทาเงินม้วนขึ้นเป็นม่านบาง หอสัมผัสเสียงไร้เสียง กระทั่งผู้ที่มีพรสวรรค์ในการสดับรับฟังตั้งสมาธิ มาลแกธยืนไม่ไกลจากอ่างแก้ว ไฟดึงเอาความทรงจำของไหมทุกเส้นออกมาตีแผ่ให้เอลฟ์ตะวันออกฟัง

แต่แล้ว...จู่ๆ ไฟก็โหมขึ้น ฉลองพระองค์ไหม้อย่างรวดเร็วและส่งกลิ่นเหม็น เสียงกระซิบดังขึ้น ดังขึ้น จนแม้แต่โคลด์หรือซิกฟรีดยังได้ยิน มันเป็นเสียงหัวเราะสมเพชกึ่งสาปแช่ง!

‘ข้ารับใช้ราชามงกุฏดำ! ข้าไม่รับใช้มันผู้อื่น!’

ไฟพุ่งสูงถึงยอดโดม แทบทะลุออกไปแตะฟ้า เส้นไหมและดิ้นทองหดตัวฉับพลันจนเหมือนฉลองพระองค์ทั้งชุดกำลังดิ้นเร่า

‘ข้าเป็นของราชามงกุฏดำ!’


เลือดไหลออกจากหูของมาลแกธ เสียงกรีดร้องกลายเป็นเสียงร่ายเวท เอลฟ์ตะวันออกเอ่ยภาษาควาร์ดับไฟ แต่ไฟสีแดงกลับเป็นไฟสีดำทมิฬ

ซิกฟรีดร่ายเวทควาร์เพื่อเรียกน้ำแต่ไม่เป็นผล เขาสูญเสียความสามารถของควาร์ให้กับเงาทมิฬไปแล้ว ซึ่งหากเวลานี้ใช้เงาทมิฬปะทะคำสาปทมิฬอาจส่งผลร้ายมากกว่าดี

มาลแกธป้องหูที่ปวดเจียนตาย เขาคำรามภาษาควาร์อีกครั้ง น้ำศักดิ์สิทธิ์จากแท่นซึ่งตั้งอยู่ตามเสาในหอสัมผัสเสียงกลายเป็นพราย มันเข้าดับไฟทันที

“เงียบซะ!” มาลแกธหันฝ่ามือไปทางไฟปีศาจ พรายน้ำพุ่งสูงขึ้นแล้วสาดลงมาใส่มัน

‘ขอให้เจ้าพินาศ!’


มาลแกธแยกเขี้ยว เขาคำรามลั่น พรายน้ำพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งแล้วตกลงมาในรูปห่าฝน

เมื่อไฟสีดำอ่อนแรงเพราะน้ำ มีดสั้นเล่มหนึ่งถูกปาเข้าไปปักกลางฉลองพระองค์ที่ลุกโชน ทำให้ชุดที่กำลังเต้นเร่าถูกตรึง เสียงร่ายเวทสั้นๆ ภาษาดาร์กเอลฟ์ดังตามอย่างดุดัน ห่าฝนกลายเป็นหนามน้ำแข็ง เย็นจัดปะทะร้อน เปลวไฟมอดแล้วดับ ฉลองพระองค์กลายเป็นเถ้าละเอียด เหลือเพียงมีดสั้นน้ำแข็งใบมีดเรืองสีฟ้าเย็นปักอยู่กลางอ่างแก้วเจียระไน

ทุกอย่าง...ค่อยๆ สงบลง

สีหน้าของซิกฟรีดเคร่งเครียดเมื่อเสียงหัวเราะยังคั่งค้างอยู่ในมวลอากาศ มาลแกธเซเล็กน้อย เขาลูบใบหูที่ปวดจนชาของตน ได้เลือดสดๆ ติดปลายนิ้วมา

“มาลแกธ” โคลด์รีบเข้าไปดู

“ปกติควาร์ไม่ได้รับอนุญาตให้คุยกับของส่วนตัวของคนอื่น” มาลแกธอธิบายกับโคลด์ “ยิ่งเป็นสิ่งของที่เจ้าตัวผูกพันยิ่งต้องห้าม เพราะอาจเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อครู่”

แต่อย่างไรก็มีข้อยกเว้นบางประการ อย่างเช่นครั้งที่ซิกฟรีดเคยกร่อนมีดของโคลด์ในถ้ำมังกร มันเชื่อฟังเนื่องเพราะไม่ชอบใจที่โคลด์จะนำไปแงะฟันมังกรดิน หรือหากควาร์มีอำนาจแข็งแกร่งเพียงพอก็สามารถทำได้

“ไม่เป็นไร ถือว่าได้ลอง” โคลด์ล้วงผ้าเช็ดหน้าให้ “ยังเจ็บอยู่ไหม...”

“ได้ความหรือไม่” ซิกฟรีดถามแทรก

มาลแกธส่ายหน้า “รู้แค่เป็นชุดที่ริวอร์นอร์ชอบใส่ไปหาเอริแอดเน่”

โคลด์นิ่วหน้า “น่ากระอักกระอ่วนหรือเปล่า…” เขาถามไม่ค่อยเต็มปาก

“มากทีเดียว” มาลแกธเอียงศีรษะให้โคลด์ช่วยซับเลือด

ดาร์กเอลฟ์แตะผ้าแผ่วเบา ที่จริงถ้าชุดไม่ได้ผล เขาว่าจะเสนอให้เผาเครื่องประดับหรืออาวุธของริวอร์นอร์ แต่แค่ชุดก็แผลงฤทธิ์ขนาดนี้...ไม่ควรเสี่ยงให้มาลแกธหูดับมากกว่า

“รอหูข้าหายปวดก่อนค่อยเริ่มกันใหม่” มาลแกธว่า “อาจต้องหาวิธีเสริมเวทป้องกัน”

“ระวังถูกครอบงำ” ซิกฟรีดเอ่ยขณะมองเถ้าฉลองพระองค์ “เจ้าอาจเป็นเถ้าแทนชุดของริวอร์นอร์” เขาไม่ได้ขู่

“เรายังมีอีกหลายวิธี ไม่จำเป็นต้อง...อืม…” โคลด์กระแอม “เสี่ยง...” ถึงเขาจะเคยทำมาลแกธเกือบตายมากกว่านี้ก็เถอะ

“ไปพักเถิด” ซิกฟรีดระบายลมหายใจ ตัวเขาเองก็ล้าเต็มทน

“ข้าจะใช้ห้องสมุดต่ออีกหน่อย” โคลด์มองซิกฟรีด ชั่งใจ ก่อนเอ่ยว่า “เราทราบว่าเอริแอดเน่มี ‘สาเหตุ’ ให้เกลียดริวอร์นอร์ขนาดล้มบัลลังก์ ถึงนางจะโกรธเคืองเจ้ามากแค่ไหน ก็ไม่น่าปลุกชีพริวอร์นอร์โดยลืมสาเหตุนั้น”

จากการหยั่งเชิงมาลแกธก่อนหน้า ทำให้โคลด์ทราบว่าเอลฟ์ตะวันออกไม่ทราบสาเหตุที่ว่านั้น แต่เขากับซิกฟรีดทราบ...และต่างเข้าใจกันดีว่ามิใช่เรื่องที่ควรพูด

ซิกฟรีดสบตาโคลด์ ใช่...เขารู้สาเหตุนั้นดีกว่าใคร

“นั่นทำให้ข้าส่งอิลราลานไปสืบท่าทีของอิซิลดาร์และพี่หญิง”

ความต้องการแท้จริงของเอริแอดเน่ยังอยู่ในหมอกมัว



—————————————————————————

A/N สวัสดีค่ะ กลับมาลงนิยายทุกวันแล้วนะคะ หวังว่าจะลงจนจบได้ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ และเริ่มเปิดจองหนังสือต้นเดือน ก.ค. 60 ค่ะ ตอนนี้ลิสต์ตอนพิเศษที่จะเขียน เน้นแต่คู่ฟินๆ ของเรากับคุณ FOULSOUL ทั้งนั้น (คู่หนุ่มๆ ทั้งหมด รายละเอียดจะแจ้งอีกครั้ง)


แล้วก็กำลังคิดอยู่ว่าของแถมรอบจองจะเป็นอะไรดี

อาจจะเป็นมินิโนเวลสั้นๆ แบบที่หนังสือญี่ปุ่นชอบทำนะคะ

จะได้พิเศษเฉพาะรอบจองจริงๆ ;)


ป.ล. ตอนนี้ตัวละครหลักโฉบๆ กลับมามีบทบาทให้หายคิดถึงกันแล้วจ้า!

ป.ล. 2 ซิกฟรีดหึงอีกแล้วค่ะ ^^; จับสังเกตกันได้ไหมนะ... /ตอนถามแทรกไง /ชี้ๆ กระซิบๆ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (2) [08/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 08-06-2017 20:29:36
รักสามเส้า เราสามคนรวมพลังต่อสู้

ก็ดูสมานฉันท์ดีนะ (ประชด!)

ศึกรบ ศึกรักพัวพันเหลือเกิน สู้ ๆ นะอาเลธ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (2) [08/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 08-06-2017 22:03:08
รักสามเส้า เราสามคนรวมพลังต่อสู้

ก็ดูสมานฉันท์ดีนะ (ประชด!)

ศึกรบ ศึกรักพัวพันเหลือเกิน สู้ ๆ นะอาเลธ
ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้อาเลธค่า  :mew1: /ยื่นอาเลธจิ๋วให้อุ้ม
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (2) [08/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-06-2017 23:24:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (2) [08/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-06-2017 01:37:20
สงคราม 3 แผนดิน ตายๆ มังกรต้องมาช่วยฝั่งนี่เนาะ ให้คนดำๆเค้าสู้กันหนักๆ

เราเทาๆก้อรวมๆไป
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (2) [08/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-06-2017 05:34:02
ซิก หึงโคลด์ ต่อหน้ามาลแกธ
ทั้งที่เรื่องใหญ่ขนาดว่าริวอร์นอร์ที่ตายแล้วกลับมา
ยังเรียกโคลด์ว่าที่รักต่อหน้ามาแกธ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

เอริแอดเน่ เกลียดริวอร์นอร์ แต่ทนได้
เพราะแค้นซิก ที่สุด จริงๆนางเสียหน้ายอมไม่ได้
ก็นางให้อะไรๆซิกหมด ทั้งความรัก อำนาจ
แต่ซิกดันไม่รักนาง ผ่าไปรักดาร์กเอลฟ์
ที่เป็นผู้ชาย นี่ละที่เป็นสุดยอดความโกรธเกลียด
กลบความแค้นที่ริวอร์นอร์ฆ่าเฟรธูริน ไปเลย

เวทย์แต่ละเผ่าช่างน่ากลัว
ยิ่งเวทย์ของเอริแอดเน่ กับริวอร์นอร์จอมเหี้ยม  :serius2: :serius2: :serius2:
เป็นการจับคู่ที่เข้าขา เอ่อ....ไม่รู้ยังเข้ากันได้อีกรึเปล่า แหะๆ......อยากรู้  :hao5: :hao5: :hao5:
ของหญิงสุดร้าย แล้วชายก็สุดโหดโคตรๆลงตัวที่สุด
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (3) [09/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 09-06-2017 18:54:20
บทที่ 25 : รักร้าว (3)

เสียงนกร้องแว่วมา เปลือกตาของเอริแอดเน่สัมผัสถึงแสงสว่าง ปลายนิ้วของเทพีแห่งสายลมไล้ใบหน้านาง ทำให้นางค่อยๆ ลืมตา

ไม่มีกลิ่นเลือดกับความตาย หรือกลิ่นหินชื้นแฉะกับตะไคร่สกปรก นางพบว่าตนนอนอยู่บนเตียงหลังใหญ่ซึ่งผ้าปูเตียงมีกลิ่นอับของสิ่งที่ปิดตาย เครื่องเรือนไม้โอ๊กโดยรอบฝุ่นเกาะหนาเตอะ

นางอยู่ในห้องนอนที่ไม่คุ้นเคยห้องหนึ่ง หลังปรับสายตาให้ชินแสง ก็เห็นร่างคนอยู่ตรงระเบียง ประตูกระจกบานเก่าเปิดกว้าง นี่เองคือทางผ่านของสายลมที่ปลุกให้นางตื่น

ราชามงกุฏดำสวมอาภรณ์ชุดใหม่ เป็นชุดอย่างมนุษย์ ระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลางข้างขวามีมวนยาสูบอยู่ ไฟที่ปลายมวนเผาไหม้ยาสูบ กลิ่นหอมประหลาดฟุ้งขึ้นพร้อมควันสีเงินอมฟ้า ริวอร์นอร์เหมือนทราบว่าเอริแอดเน่รู้สึกตัวแล้ว เขาผินสายตาจากทิวทัศน์ของป่ามายังนาง ริมฝีปากเรียบตึงเหยียดรอยยิ้ม พร้อมกับที่นัยน์ตาส่งประกายพราวระยับ

“คฤหาสน์ลับของเรา” ริวอร์นอร์เอ่ยกับเอริแอดเน่พลางก้าวเข้ามาในห้อง “และนี่…” เขาเอามือทาบบริเวณท้อง “ชุดของมนุษย์ผู้โชคร้าย”

เอริแอดเน่สะดุ้งลุกนั่ง นางวาดมือเพื่อใช้เวทลมผลักริวอร์นอร์ ทว่าบาดแผลที่มือปวดแสบปวดร้อนจนทำให้นางสะดุ้ง ไม่สามารถร่ายเวทจนจบ

อดีตราชาเอลฟ์เข้าประชิดตัวเอริแอดเน่โดยนั่งบนเตียงข้างกายนาง กลิ่นของยาสูบหอมแต่ฉุนจนเวียนหัว เขาจ้องนางด้วยดวงตาสีดำซึ่งลึกสุดหยั่ง

เอริแอดเน่จ้องตอบอย่างดุร้าย “จะตัดแขนหรือตัดขาข้าก่อนดีล่ะ เจ้ารอข้าตื่นเพื่อทรมานไม่ใช่หรือ ไม่ต้องพามาถึงที่นี่ก็ได้”

“เราคิดจะทรมานเจ้าไปนานๆ แต่เราจะทรมานอาเลธต่อหน้าเจ้าก่อนเพื่อเป็นตัวอย่าง” ริวอร์นอร์ยกมวนยาขึ้นสูบ ควันบิดม้วนอย่างเชื่องช้าจากริมฝีปาก มันลอยสูงขึ้นไปยังเพดานเขียนลายวิจิตร

“นั่นคงต้องใช้เวลาน่าดู เขามีกองทัพ เจ้าไม่มี”

หากพลังเวทฟื้นฟูกว่านี้ ข้าอาจออกคำสั่งแก่เขาได้ เอริแอดเน่ไม่ได้มองมือยับเยินของตนเอง แค่รับรู้ว่ามันหนักเหมือนก้อนตะกั่ว

“โลกหลังความตายเป็นอย่างไร สุขสบายดีไหม” นางเชิดคางถาม

“เดี๋ยวเจ้าก็ทราบ ราชินีของเรา”

“ข้าแปลกใจที่ข้ายังไม่ทราบเสียทีมากกว่า” เอริแอดเน่เอ่ยเหมือนเยาะตัวเอง

“เรายินดีให้เวลานั้นยืดออกไป เจ้าควรอยู่กับเรานานเท่านาน” ริวอร์นอร์จุมพิตหน้าผากของเอริแอดเน่ “อา...เราพบว่าเราไม่อาจกินอาหารอย่างปกติได้” เขาเลื่อนริมฝีปากไปตามผิวแก้มของนาง เรื่อยไปจนถึงลำคอ สัมผัสชีพจรของนางอย่างถือดี

“ถอยออกไป” เอริแอดเน่เค้นเสียงลอดไรฟัน นางมิได้กลัวถูกกัดกิน แต่ไม่พึงใจถูกแตะต้องสัมผัสเนื้อตัว

ทว่าริวอร์นอร์ขบฟันกับผิวนุ่มของนาง แรงพอที่จะเรียกเลือดทีเดียว

เอริแอดเน่อุทานด้วยความเจ็บ ตัวสั่น “เจ้าสัตว์ป่า!”

“เจ้ายังอ่อนแรง” ริวอร์นอร์ดื่มเลือดจากลำคอระหง “คำสั่งของเจ้าไม่เป็นผล”

ริวอร์นอร์สัมผัสจังหวะการเต้นของหัวใจของร่างเล็กตรงหน้า มันเต้นตุบๆ ถี่รัวอย่างโกรธแค้น ซึ่งนั่นทำให้เขากระหายมากขึ้น

เอริแอดเน่น้ำตาไหล นางหอบเพราะหายใจไม่ทัน เจ็บร้าวเหมือนถูกฉีกคอ ทว่านางค่อยๆ ยกฝ่ามือปวดระบมขึ้น ส่งสายฟ้าช็อตศีรษะที่ดื่มกินเลือดของนางอยู่

จุดประสงค์ของเอริแอดเน่คือขับไล่ ทว่าสายฟ้ากลับช่วยกระตุ้นความทรงจำเมื่อครั้งริวอร์นอร์เป็นซากศพมีชีวิต เขาเห็นภาพนางบริกรรมคาถาและใช้สายฟ้าจากดาบเวทลงทัณฑ์ตน

“สมแล้วที่เป็นราชินีอัปลักษณ์” ริวอร์นอร์เงยหน้าจากลำคอของเอริแอดเน่ แสยะยิ้ม “สายฟ้าของเจ้าเทียบกับที่เจ้าเคยฉีกหัวใจเราไม่ได้เลย”

ภาพความทรงจำที่เกิดขึ้นชัดเจนกว่าคือภาพที่นางร้องสั่งให้ซิกฟรีดบั่นศีรษะเขา มันทำให้เขาหยุดชะงักชั่วครู่ และชั่วขณะนั้นเองที่ทำให้เขาถึงแก่ความตาย

“ไม่ยักรู้ว่าเจ้ามีหัวใจให้ใครฉีกด้วย” เอริแอดเน่ถอยตัวหนีเข้าไปด้านในเตียง นางคิดหาเวทมากำราบเดรัจฉานตรงหน้าบทแล้วบทเล่าซ้ำๆ จนเวียนหัว

ริวอร์วอร์บีบแก้มของนาง ดึงให้นางเข้ามาใกล้เขา ใบหน้าของทั้งสองใกล้ชิดกันจนนางได้กลิ่นความตายซึ่งยังคงอบอวลอยู่ในลมหายใจของเขา “เราก็ไม่รู้...กระทั่งวันนั้น”

เอริแอดเน่เอ่ยคาถาขับไล่อีกฝ่าย ฟังเหมือนเสียงสาปแช่งของนางแม่มดร้าย “พวกเจ้าพี่น้องล้วนมีตำหนิกันหมด คนที่ดีที่สุดจากไปนานแล้ว ช่างน่าสมเพชตัวข้า ทั้งเจ้าและซิกฟรีดล้วนมีตำหนิ!”

คาถานั้นได้ผลแต่ก็เพียงแผ่วเบา พอให้ริวอร์นอร์คลายแรงบีบได้เท่านั้น “ก็เหมาะสมกับเจ้าดีมิใช่หรือ” ราชามงกุฎดำเอ่ยอย่างใจดำยิ่งกว่า “อืม เราคิดว่าจะให้อาหารเจ้าทีละน้อย พอให้เจ้ามีแรงพูดคุยได้ แต่ไม่มีแรงสั่งเรา ดีหรือไม่…”

“และให้ข้าเป็นอาหารของเจ้าอีกทอดหรือ” ท่านหญิงเชิดหน้า เลือดไหลจากลำคอขาวผ่องของนางปนกับเหงื่อไปถึงทรวงอก “เอาสิ” นางพรายยิ้มไปถึงดวงตา “กินข้า เดรัจฉาน ข้าไม่หวังจากเจ้าน้อยไปกว่านั้น เจ้าเคยทำลายข้าได้ก็จริง แต่เจ้าทำได้ครั้งเดียวเท่านั้น”

ริวอร์นอร์เหยียดริมฝีปากกว้างขึ้น เขาปรบมือหนึ่งครั้ง บุรุษผู้หนึ่งก็เข้ามาในห้อง มันเป็นเอลฟ์ รอยแผลเป็นซึ่งพาดอยู่บนคิ้วซ้ายและร่างกายบึกบึนสูงใหญ่ประกาศชัดว่าบุรุษผู้นี้เป็นนักรบเจนศึก เอริแอดเน่เคยเห็นมันวาดดาบเคียงข้างริวอร์นอร์ในสนามรบ ทั้งเคยเห็นมันพยายามบุกมาช่วยริวอร์นอร์ในครั้งที่นางและซิกฟรีดทำการยึดบัลลังก์

“เจ้าอาจจำเอ็ดราฮิมได้กระมัง” ราชามงกุฎดำเอ่ย ขณะเอ็ดราฮิมคุกเข่าทำความเคารพอยู่ปลายเตียงของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์

ยังไม่ตายจริงๆ เอริแอดเน่คิด หลังล้มล้างริวอร์นอร์ นางสั่งประหารผู้ภักดีต่อราชามงกุฎดำทั้งหมด รวมถึงตามล่าผู้หลบหนีรอดไปได้ แต่ยังมีทหารบางคนที่ระบุตัวให้ตรงกับศพไม่ได้

เอ็ดราฮิมบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ครั้งนั้นและหลบหนีมาได้ มันไม่มีวันตัดใจจากการช่วยเหลือผู้เป็นนาย ไม่ว่าในชาติภพนี้หรือชาติภพไหน เอ็ดราฮิมปฏิเสธที่จะเชื่อว่าราชาของตนสิ้นพระชนม์แล้ว มันเชื่อว่าพระองค์จะกลับมา...มันเชื่อว่าราชาริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์จักไม่มีทางพ่ายให้แก่สตรีอสรพิษและน้องชายผู้อ่อนแอ

“ตุ๊กตาทดสอบเวททมิฬของเจ้า” เอริแอดเน่เอ่ยอย่างรู้ดี

ริวอร์นอร์หัวเราะ “ถูกต้อง” เขาว่า “มันรอเราที่นี่เสมอมา สมควรตกรางวัลให้จริงๆ”

เอ็ดราฮิมทนต่อเวททมิฬและพิษ มันเคยเป็นภาชนะรองรับพิษจากเวททมิฬให้กับเอริแอดเน่ ครั้งที่นางอยู่ในสนามรบสองแผ่นดินและถูกพิษเวทของชาแมนฝ่ายศัตรู

“งั้นมันควรตอบแทนข้าที่คืนชีวิตให้แก่เจ้ามากกว่า” เอริแอดเน่ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอต่อหน้าบริวารของริวอร์นอร์ นางซ่อนท่อนแขนที่ใช้ยันร่างกายไว้ด้านหลัง

“ได้ยินแล้วใช่หรือไม่ เอ็ดราฮิม” ริวอร์นอร์ใช้ข้อนิ้วเชยคางเอริแอดเน่ ขณะที่เอ็ดราฮิมน้อมศีรษะลงเป็นเชิงรับทราบ “นำอาหารมาให้ราชินีของเรา แต่อย่ามากเกินไป แค่พอรักษาชีวิตนางได้เท่านั้น”

ระหว่างฟังคำสั่งนั้น...เอริแอดเน่วิงเวียนจนหมดสติไป

---------------------------------------

เมื่อตื่นมาอีกครั้งฟ้ามืดแล้ว เอริแอดเน่อยู่ตามลำพัง นางลงจากเตียง คลำทางในความมืดสลัวไปถึงประตูห้องนอน บาดแผลของนางถูกปล่อยทิ้งไว้เหมือนก่อนหมดสติ ซึ่งนั่นไม่ดีเลยเมื่อมือทั้งสองข้างยังคงปวดแสบปวดร้อนและตึงบวม นางรู้ว่าตัวเองมีไข้ ซึ่งคงมาจากพิษบาดแผลที่กลัดหนอง

ต้องหาแหล่งน้ำบริสุทธิ์ นางคิดขณะโซเซลงบันได ทว่าทางลงที่ไม่คุ้นเคยและอาการวิงเวียนจากการขาดอาหารทำให้นางก้าวพลาดกลิ้งตกลงมา เคราะห์ดีที่บันไดปูพรมและตัวนางเบา ประกอบกับความใจแข็งไม่ยอมออกเสียง ทำให้การร่วงกระแทกพื้นเป็นไปอย่างเงียบเชียบ

เอริแอดเน่รอจนหายจุกและความปวดระบมบรรเทาก็พยุงตัวขึ้น...นางรู้ตัวว่าตนอยู่ในสภาพน่าสมเพช ทว่าสิ่งที่รู้ชัดเจนยิ่งกว่าคือการคร่ำครวญไม่มีประโยชน์

ต้องรักษาบาดแผล ลดไข้ หาอาหาร ฟื้นฟูพลังเวท

นางไม่คิดรอทานจากสมุนของริวอร์นอร์

เอริแอดเน่ออกจากคฤหาสน์รกร้างโดยฟังเสียงกระซิบของสายน้ำ เท้าเปลือยย่ำไปบนผืนหญ้านุ่มตากน้ำค้างกลางคืน ความเย็นที่ฝ่าเท้าช่วยบรรเทาความร้อนของพิษไข้ ไม่ไกลจากคฤหาสน์มีทะเลสาบ--เป็นแหล่งน้ำบริสุทธิ์ที่นางต้องการ

ท่านหญิงเอลฟ์ก้าวจากฝั่งลงห้วงน้ำเย็นเฉียบ ตระกูลของนางได้รับพรจากมารดานที มีสายน้ำเป็นแหล่งกำเนิดพลังเวทและพลังเวทนั้นสามารถทำให้นางหายใจใต้น้ำได้หากต้องการ แม้น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ไม่เปี่ยมไอบริสุทธิ์เท่าตาน้ำในป่าศักดิ์สิทธิ์ของรูเมเรียร์หรือพงไพรแห่งอิซิลดาร์ และร่างกายของนางมีแววจับไข้หนักกว่าเดิมจากอุณหภูมิหนาวโหดร้าย ทว่ายิ่งอยู่ในแหล่งน้ำตามธรรมชาตินานเท่าไร พลังเวทที่ได้จากการบูชามารดานทีก็ยิ่งฟื้นคืน

ทางด้านเอ็ดราฮิเห็นท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ออกจากคฤหาสน์ก็ไม่ได้ห้าม เขาเพียงเดินลงไปยังห้องใต้ดิน ที่ซึ่งราชามงกุฏดำกำลังรับประทานอาหารค่ำอยู่ เอ็ดราฮิมยืนประสานมือเงียบๆ ที่มุมห้อง แสงจากเทียนบนโต๊ะอาหารแม้สว่างแต่ก็ส่องมาไม่ถึงเขา เอ็ดราฮิมซ่อนสีหน้าเจ็บปวดและเคืองแค้นไว้ในเงามืด กึ่งหลุบตากึ่งมองราชาหั่นเนื้อมนุษย์ที่เขาปรุงโดยรักษาความดิบและสดให้

“มีอะไร” ริวอร์นอร์ซับริมฝีปากด้วยผ้าไหมนุ่ม ก่อนจะดื่มเลือดในแก้วที่ควรใช้ดื่มไวน์

เอ็ดราฮิมคุกเข่า เอ่ยว่า “ท่านหญิงออกไปจากคฤหาสน์ขอรับ”

“ทำไมเจ้าถึงไม่ห้ามนางหรือ” ริวอร์นอร์ลุกจากโต๊ะอาหาร ห้องใต้ดินเย็นจัดเหมาะที่จะเก็บรักษาเนื้อสด รวมไปถึงความลับของอดีตกษัตริย์แห่งรูเมเรียร์พระองค์นี้

เอ็ดราฮิมไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้ เขาจึงเงียบและพร้อมรับการลงทัณฑ์

“โกรธที่นางทำให้เราเป็นเช่นนี้หรืออย่างไร ทหารผู้ภักดีของเรา” ริวอร์นอร์อยู่กับเอ็ดราฮิมมานานพอที่จะเดาความคิดของมันได้แม่น เอ็ดราฮิมน้อมศีรษะต่ำลงอีกเพื่อซ่อนสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความชัง มันภักดีต่อราชามงกุฎดำ และจักภักดีต่อราชินีของพระองค์ด้วย เพียงแต่เวลานี้...ไม่อาจสลัดภาพสตรีอสรพิษไปจากท่านหญิงได้จริงๆ

“นางมุ่งไปทางทิศไหน”

เอ็ดราฮิมตอบโดยที่ยังน้อมศีรษะต่ำจนหน้าผากแทบจะแนบติดพื้น “ตะวันออกพ่ะย่ะค่ะ”

“ทะเลสาบ” ริวอร์นอร์เอ่ยเสียงเบาเหมือนกล่าวให้ตัวเองฟังผู้เดียว เขาคาดว่าเอริแอดเน่พยายามหาทางฟื้นพลังเวทโดยอาศัยพรจากมารดานที เมื่อนางได้พลังเวทกลับมาแล้วอาจน่ารำคาญใจสักหน่อยแต่ไม่เป็นปัญหา เขารักนางที่นางเป็นจอมพยศ เย่อหยิ่ง และอัปลักษณ์ได้อย่างงดงามที่สุด หากนางทำตัวซึมเซื่องคงน่ารำคาญใจกว่านี้

ราชามงกุฎดำขึ้นบันไดหินไปพักผ่อนที่ชั้นบน ไม่ได้ตามหาเอริแอดเน่ และไม่ได้ลงโทษเอ็ดราฮิม เพียงตำหนิเรื่องเครื่องทำความร้อนเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นว่า “ไฟไม่ร้อนพอ”

หลังจากริวอร์นอร์ขึ้นไปชั้นบนเรียบร้อยแล้ว เอ็ดราฮิมก็สำรวจเครื่องทำความร้อนขนาดเล็ก ซึ่งเป็นกล่องเหล็กใส่ฟืน มีลายฉลุให้ความร้อนแผ่ออกมา เขาเห็นว่าไฟขนาดนี้กำลังพอดี ออกจะอุ่นจนร้อนเกินไปด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้ฉุกใจคิดว่า...เป็นราชามงกุฎดำต่างหากเล่า ที่ไม่อาจสัมผัสความร้อนความหนาวได้เช่นคนปกติ


—————————————————————————

A/N ริวอร์นอร์ เป็นตัวละครที่เรารออ่านอยู่ค่ะ เขาจะมีบทบาทมากขึ้นในช่วงนี้

ถ้าใครชอบเขา (สายตัวร้ายเหมือนเรา แค่กๆ) เม้นต์ไว้เป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยนะคะ

จุ๊บบบบบบบบ!!! (-3-)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (2) [08/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 09-06-2017 19:02:25
:pig4:
:mew1: :mew1:

สงคราม 3 แผนดิน ตายๆ มังกรต้องมาช่วยฝั่งนี่เนาะ ให้คนดำๆเค้าสู้กันหนักๆ

เราเทาๆก้อรวมๆไป
รอดูกันค่ะว่ามังกรจะอยู่ฝั่งไหน / หรืออย่างไร -3-

ซิก หึงโคลด์ ต่อหน้ามาลแกธ
ทั้งที่เรื่องใหญ่ขนาดว่าริวอร์นอร์ที่ตายแล้วกลับมา
ยังเรียกโคลด์ว่าที่รักต่อหน้ามาแกธ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

เอริแอดเน่ เกลียดริวอร์นอร์ แต่ทนได้
เพราะแค้นซิก ที่สุด จริงๆนางเสียหน้ายอมไม่ได้
ก็นางให้อะไรๆซิกหมด ทั้งความรัก อำนาจ
แต่ซิกดันไม่รักนาง ผ่าไปรักดาร์กเอลฟ์
ที่เป็นผู้ชาย นี่ละที่เป็นสุดยอดความโกรธเกลียด
กลบความแค้นที่ริวอร์นอร์ฆ่าเฟรธูริน ไปเลย

เวทย์แต่ละเผ่าช่างน่ากลัว
ยิ่งเวทย์ของเอริแอดเน่ กับริวอร์นอร์จอมเหี้ยม  :serius2: :serius2: :serius2:
เป็นการจับคู่ที่เข้าขา เอ่อ....ไม่รู้ยังเข้ากันได้อีกรึเปล่า แหะๆ......อยากรู้  :hao5: :hao5: :hao5:
ของหญิงสุดร้าย แล้วชายก็สุดโหดโคตรๆลงตัวที่สุด
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
เอริแอดเน่เป็นตัวละครที่เขียนแสดงอารมณ์/สิ่งที่ต้องการทำ ยากพอๆ กับโคลด์เลยค่ะ (แต่ยากคนละจุด)
บทรักร้าว 3 ที่เพิ่งลงไปก็มีเรื่องเอรี่กับริวอร์นอร์ ฉะกันแล้ว ฝากด้วยนะคะ -3-

ป.ล. โคลด์ทำหน้ามึนๆ อยู่มุมๆ พึมพำว่า "ให้ข้าไปบวชก็ได้...จะได้ไม่ต้องมีเรื่องกัน" /พึมพำๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (3) [09/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-06-2017 19:04:24
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (3) [09/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-06-2017 19:32:07
ยิ่งอ่านยิ่งกลัวใจเหลือเกิน เห้อออ!! จะรับไหวมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (3) [09/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ia091 ที่ 09-06-2017 19:39:57
คือซิกฟรีดจะเอาอะไรไปสู้กับคนอื่นหรอ ดูทุกคนในเรื่องเทพเหลือเกิน ;_;
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (3) [09/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 09-06-2017 20:47:16
คือซิกฟรีดจะเอาอะไรไปสู้กับคนอื่นหรอ ดูทุกคนในเรื่องเทพเหลือเกิน ;_;
นั่นสิคะ
 
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (2) [08/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 09-06-2017 20:54:16
รักสามเส้า เราสามคนรวมพลังต่อสู้

ก็ดูสมานฉันท์ดีนะ (ประชด!)

ศึกรบ ศึกรักพัวพันเหลือเกิน สู้ ๆ นะอาเลธ
ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้อาเลธค่า  :mew1: /ยื่นอาเลธจิ๋วให้อุ้ม

ได้มาแล้วไม่คืนนะ / ปั้นอาเลธจิ๋วเป็นก้อน แล้วอมไว้ในกระพุ้งแก้ม


ริวอร์นอร์มองแอรี่ได้เฉียบขาดมาก "อัปลักษณ์อย่างงดงาม" และเหมาะกับเขาที่สุด
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (2) [08/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 09-06-2017 22:33:46
ยิ่งอ่านยิ่งกลัวใจเหลือเกิน เห้อออ!! จะรับไหวมั้ยเนี่ย
ไหวค่ะ! ช่วยบีบนวด พัดวี สตรองๆ

คือซิกฟรีดจะเอาอะไรไปสู้กับคนอื่นหรอ ดูทุกคนในเรื่องเทพเหลือเกิน ;_;
กำลังอยู่ในระหว่างเติบโตนะคะ ให้เวลาเขาหน่อยๆ

คือซิกฟรีดจะเอาอะไรไปสู้กับคนอื่นหรอ ดูทุกคนในเรื่องเทพเหลือเกิน ;_;
นั่นสิคะ
กำลังเติบโตค่ะๆ /รดน้ำซิกฟรีด

รักสามเส้า เราสามคนรวมพลังต่อสู้

ก็ดูสมานฉันท์ดีนะ (ประชด!)

ศึกรบ ศึกรักพัวพันเหลือเกิน สู้ ๆ นะอาเลธ
ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้อาเลธค่า  :mew1: /ยื่นอาเลธจิ๋วให้อุ้ม

ได้มาแล้วไม่คืนนะ / ปั้นอาเลธจิ๋วเป็นก้อน แล้วอมไว้ในกระพุ้งแก้ม


ริวอร์นอร์มองแอรี่ได้เฉียบขาดมาก "อัปลักษณ์อย่างงดงาม" และเหมาะกับเขาที่สุด
อา อาเลธจิ๋ววววววววววววว /กอดรัดเอลฟ์จิ๋ว /น่ารักจริงๆ นะ (เคะด้วย แค่กๆ)
ริวอร์นอร์เรียกเอรี่ว่าราชินีอัปลักษณ์มาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ /ปาดน้ำตา (แต่ก็มาจากชื่อภาคต่อไปนั่นเอง Ugly Queen)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (4) [10/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 10-06-2017 17:57:53
บทที่ 25 : รักร้าว (4)

เวลาผ่านไปนานนับชั่วโมง บางทีหลายชั่วโมง เอริแอดเน่จึงมองเห็นแสงรุ่งของวันใหม่จากใต้ผืนน้ำ นางโผล่ร่างพ้นน้ำจากส่วนลึกของทะเลสาบ หันมองไปทางคฤหาสน์ ทว่าหมอกขาวทึบลงจัดจนมองไม่เห็นทางที่นางเดินออกมา

ท่านหญิงเอลฟ์หรี่ตา หมอกนี้เกิดจากเวทมนตร์ ใช้ปันอาณาเขต ซ่อนคฤหาสน์ของริวอร์นอร์จากสายตาภายนอก

เหตุนี้เองข้าถึงไม่รู้ว่ามีมันมาก่อน

เอริแอดเน่ขึ้นจากน้ำ ร่างกายเปี่ยมพลังเวท ทว่าบาดแผลที่มือยังไม่ดีขึ้น ใบหน้าและร่างกายร้อนราวมีไฟอัง และหิวจนปวดกระเพาะ

ทว่าแค่มีพลังเวทก็เพียงพอแล้ว

มีเสียงอุทานของบุรุษดังจากฝั่งขณะเอริแอดเน่ขึ้นจากน้ำ นางเอลฟ์หันมองตามเสียง พบว่าเป็นนายพรานชาวมนุษย์ในชุดมอซอ มันสะพายคันธนูและกระบอกลูกธนู ถือพวงนกถูกมัดห้อยขา

นายพรานผู้นี้เป็นนักล่าของป่า วันนี้มันออกล่านกตั้งแต่ยังไม่รุ่งสางดี บังเอิญหลงเข้ามาส่วนลึกของป่าและพบแหล่งน้ำ ทว่าสิ่งที่บังเอิญยิ่งกว่าคือได้พบนางพรายขึ้นจากน้ำ!

มันง้างคันธนู เล็งลูกธนูไปที่นาง ทว่าความงามของนางทำให้มันลังเล ฆ่าเลยจะดีหรือ รูปร่างหน้าตาที่ยิ่งกว่าชวนตะลึงแบบนี้...ถ้าจับไปขายล่ะก็

โดยไม่คาด ขณะที่ลังเล นางพรายน้ำกลับเอ่ยกับมันว่า

“ข้าต้องการอาหารและยา ข้ามีของแลกเปลี่ยน เจ้ายินดีแลกเปลี่ยนหรือไม่”

นายพรานลดธนูลง นางพูดภาษามนุษย์ได้ ไม่ใช่ภูตพรายแถบนี้หรือ เพราะรูปลักษณ์เช่นนี้ย่อมมิใช่มนุษย์เช่นกัน เมื่อนางเดินเข้ามาใกล้มันโดยไม่มีความลังเล มันถึงเห็นถนัดว่าใบหูของนางแหลมยาว ผิวขาวผ่อง เสื้อผ้าแม้ขาดวิ่นก็เป็นแพรพรรณสูงค่า พร้อมเครื่องประดับมีราคาบนร่างกาย

ความโลภทำให้มันกลืนน้ำลาย จับจ้องเรือนร่างน่าฟอนเฟ้นของนางไปจนถึงบาดแผลบนมือทั้งสองข้าง

“ขะ ข้ามียา” นายพรานตอบ ในใจคิดว่าจะเอาเชือกมัดนางแล้วแบกกลับไปอย่างไรดี

เอริแอดเน่ยืนนิ่งมองมนุษย์เดินเข้ามาหานาง หากเป็นยามปกติ นางสามารถใช้เวทสะกดใจบงการมนุษย์ผู้นี้ แต่เวทบทนั้นซับซ้อนเกินไป สภาพร่างกายและสมาธิของนางในตอนนี้ไม่อำนวย นางไม่ชอบสายตาละโมบแทะโลมของมัน จึงไม่ยอมขึ้นจากน้ำ แค่เวทโจมตีบทหรือสองบทโดยใช้สายน้ำ นางยังพอใช้ได้

“ยาและ...อาหารหรือผลไม้” เอริแอดเน่มองถุงเสบียงที่นายพรานห้อยไว้ข้างตัว นางไม่ใคร่กินเนื้อนกตายในเวลานี้

“ดะ ได้ ขึ้นมาจากน้ำก่อนสิ หนาวใช่หรือเปล่า” นายพรานย่ำหญ้าบนฝั่ง ความระมัดระวังทำให้มันไม่อยากลงน้ำไปหานาง

“ข้าจะให้ตุ้มหูคู่นี้” เอริแอดเน่เดินห่างออกไป นางปลดตุ้มหูอัญมณีสีฟ้าในเรือนทองคำ วางบนพื้นหญ้า “เจ้าวางยากับอาหารที่พกติดตัวมาไว้ตรงนั้น ข้าจะรอจนเจ้าหยิบตุ้มหูไป”

เป็นนางเอลฟ์ที่ฉลาดเหลือเกิน! นายพรานคิด ทราบว่านางก็ระวังมันเช่นกัน มันวางถุงเสบียงและถุงยาที่พกติดตัวเวลาเข้าป่า “ทางกลับยังอีกไกล ข้าขอเก็บยาไว้ส่วนหนึ่งได้หรือไม่” มันต่อรอง

เอริแอดเน่เห็นว่านายพรานไม่มีบาดแผล ร่างกายดูแข็งแรงดี ส่วนตุ้มหูของนางนั้นมีค่าควรเมือง แค่เอาไปขายให้ดวอร์ฟก็สามารถทำให้มันมีชีวิตสุขสบายไปจนตาย การต่อรองเช่นนี้ทั้งรอบคอบและตระหนี่จนน่าขำ ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ

แต่ช่างเถิด...นางพยักหน้า

นายพรานวางของที่เอริแอดเน่ต้องการแล้วมองนางที่ถอยกลับไปยืนในน้ำอย่างเสียดาย มันเข้ามาหยิบตุ้มหู ถือไว้ในมือด้วยสายตาตื่นตะลึง ลองใช้ฟันกัด “ขะ ขอบคุณมาก ท่านหญิง” มันแน่ใจแล้วว่าเครื่องประดับนี้สูงค่าจริง และศักดิ์ของนางผู้นี้คงไม่ธรรมดา หลังจากมองนางอย่างละเอียดอีกครั้ง มันก็สะพายคันธนูและถือนกที่ล่ามาได้ถอยออกไป

เอริแอดเน่รออยู่นาน ตอนนี้นางเวียนหัวจนแทบยืนไม่ไหว เมื่อไม่เห็นนายพรานย้อนกลับมานางจึงค่อยๆ เดินไปที่ฝั่ง ขึ้นจากน้ำและแกะถุงผ้าใส่อาหารกับยา ในถุงผ้าใบใหญ่มีเนื้อตากแห้งและผลไม้สองสามลูกเล็กๆ เอริแอดเน่พยายามลืมความเจ็บที่มือและกินผลไม้ลูกเขียวๆ แดงๆ มันไม่อร่อยสักนิด รสเปรี้ยวฝาดบาดลิ้น แต่ช่วยให้อิ่มท้องได้

นางทำผลไม้ร่วงอยู่สองสามครั้งเพราะมือสั่น สุดท้ายก็นั่งกินริมฝั่งน้ำ

“แหะๆ” ในพุ่มไม้ไม่ไกลจากริมฝั่ง นายพรานหลิ่วตาอย่างน่ารังเกียจ มันเล็งธนูไปที่สตรีโฉมงาม กะว่ายิงที่ขาให้นางวิ่งไม่ได้ก่อนแล้วค่อยจับมัด แบกกลับไปที่กระท่อมของตน

ขณะที่นายพรานกำลังฝันหวานนั้นเอง จู่ๆ ภาพที่มันเห็นก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและน่าประหลาดใจ กล่าวคือเมื่อครู่ตรงหน้ามันเป็นภาพสตรีโฉมงามอยู่ดีๆ แต่เวลานี้กลับเป็นภาพยอดไม้ โดยที่มันจำได้ว่าตัวเองไม่ได้ขยับคอแหงนหน้าหรือละสายตาไปจากนางเอลฟ์เลยสักนิด

เอริแอดเน่ที่เหมือนสัตว์ระวังภัยได้ยินเสียงกิ่งไม้ใบไม้สวบสาบก็หันขวับไปทางต้นเสียง ผลไม้ที่กินได้ครึ่งลูกตกลงพื้น กลิ้งกลุกๆ เหมือนศีรษะคนที่กลิ้งอยู่ไม่ไกล

ริวอร์นอร์ออกมาจากพุ่มไม้ ในมือกำดาบเปื้อนเลือด เขายิ้มให้เอริแอดเน่ “ออกมาหาอาหารเหมือนเราหรือ”

ร่างส่วนที่เหลือของนายพรานล้มออกมาจากพุ่มไม้ เอริแอดเน่เห็นมือของมันกำคันธนู ทราบทันทีว่าตนถูกแว้งกัด

มันคิดล่าข้าเหมือนล่ากวางที่กำลังเล็มหญ้าหรือ สายตาของท่านหญิงดุดันอย่างน่าสะพรึง

“เนื้อชั้นต่ำเช่นนั้นคงเหนียวและไม่ถูกปากเจ้านัก ไม่ต้องกินหรอก” นี่คือประโยคแรกที่นางพูดจาดีๆ กับริวอร์นอร์นับแต่เขาฟื้นคืนชีพมา แม้จะเหมือนนางกำลังบอกสัตว์ที่เลี้ยงเอาไว้ก็ตาม

“เอ็ดราฮิมมีฝีมือเรื่องปรุงอาหาร คงทำให้เดนเนื้อรสชาติดีขึ้นบ้าง” ริวอร์นอร์ปาดใบดาบดำกับเสื้อผ้าศพเพื่อเช็ดเลือด ก่อนจะเก็บเข้าฝักแล้วมานั่งมองเอริแอดเน่ตรงริมทะเลสาบ “ในทะเลสาบนี้มีหินแก้ว”

“แล้ว?” เอริแอดเน่หลุบตามองอาหารส่วนที่เหลือและถุงยาบนตัก นางยังต้องการพวกมัน

“แค่เล่าให้ฟัง”

เมื่อครั้งที่เอริแอดเน่และริวอร์นอร์อายุประมาณเจ็ดถึงแปดขวบปี ริวอร์นอร์เคยให้ของขวัญกับท่านหญิงตัวน้อยชิ้นหนึ่ง เป็นหินแก้วเหลือบรุ้งเหมือนนัยน์ตาของนาง ครั้งนั้นเอริแอดเน่หัวเราะแล้วบอกว่าริวอร์นอร์เอาใจสตรีไม่เป็น ไม่มีบุรุษคนใดให้ก้อนหินกับสตรีหรอก ซึ่งริวอร์นอร์ก็ไม่ได้อธิบายว่ามันเป็นหินแก้วที่จะพบได้เฉพาะในทะเลสาบที่บริสุทธิ์มากๆ มีพลังเวทอย่างอ่อนที่สามารถช่วยฟื้นกำลังให้กับผู้ที่พกมันติดตัวได้

“แค่นั้นเองหรือ” เอริแอดเน่จำของขวัญชิ้นแรกที่ริวอร์นอร์เคยให้นางได้ แต่นางไม่เป็นฝ่ายพูดออกมาก่อน

“เจ้าหวังอะไรมากกว่านี้หรือ” ริวอร์นอร์สบตาเอริแอดเน่ ยกมุมปากขึ้นข้างหนึ่ง

“ไม่เลย” นางตอบอย่างเด็ดขาด “ข้าไม่หวังในสิ่งที่ไม่มีจริง”

ริวอร์นอร์ไม่ต่อคำ เขามองอาหารบนตักของนางแล้วบอกว่า “เราให้เจ้ารับประทานสิ่งที่ดีกว่านี้ได้ กลับคฤหาสน์แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถิด ‘นายหญิง’ ” ราชามงกุฎดำเรียกนางด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า “เราจะพาไปเที่ยวชมเมืองของมนุษย์”

เอริแอดเน่ชั่งใจ “ข้าต้องการยาโรว์ เปลือกวิลโลว์ขาว ผลจูนิเปอร์ รากมาร์ชมอลโล วิชฮาเซล บริวารของเจ้าหามาได้หรือไม่” นางกึ่งออกคำสั่งกึ่งต่อรองกับริวอร์นอร์ รายการที่บอกไปคือสมุนไพรที่ใช้ลดไข้และรักษาบาดแผล ก่อนนี้ริวอร์นอร์บอกจะเก็บนางไว้เป็นถุงเลือด ถ้าเจตนายังเหมือนเดิม นางก็ไม่หวังจะได้สมุนไพรเหล่านี้หรืออาหารดีๆ อย่างที่อีกฝ่ายว่า

“ย่อมได้ตามที่ท่านต้องการ นายหญิง...” ริวอร์นอร์สนใจสิ่งที่เอริแอดเน่จะทำต่อไปมากกว่าให้นางเป็นอาหารว่าง อันที่จริง เขามีแผนการส่วนตัวเช่นกัน และให้เอ็ดราฮิมดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว

“เราจะกลับอิซิลดาร์” เอริแอดเน่บอกแผนการต่อไปโดยเมินเรื่องเมืองมนุษย์ สมัยก่อนริวอร์นอร์สัญญาจะพานางไปหลายที่ แต่สุดท้ายก็ไม่เคยได้ไป และใช่ว่านางมีเวลาเที่ยวชมเมืองมนุษย์ซึ่งก็คงไม่ใช่การเที่ยวชมเมืองจริงๆ แต่มีแผนการร้ายแอบแฝงอยู่

ริวอร์นอร์ไม่ขัด เขากระเถิบเข้าไปใกล้นางก่อนจะยื่นมือไปหา เมื่อนางเกร็งเขาก็ปลอบ แล้วแตะปลายนิ้วหยาบเช่นนักรบกับใบหูของนาง

เอริแอดเน่กระตุกทันที

“ชี่…” ริวอร์นอร์ปลอบอีกเมื่อเห็นนางเบือนหน้าหนี ก่อนจะยกตุ้มหูในมืออีกข้างให้นางดู เป็นตุ้มหูของเอริแอดเน่ที่พรานป่าเอาไปนั่นเอง นัยน์ตาลึกสีดำสนิทตรึงนางไว้ขณะที่สวมตุ้มหูคืนให้นางทีละข้างอย่างอ่อนโยน

สัมผัสจากอีกฝ่ายทำให้นางปวดแปลบในอก สิ่งที่หยั่งรากอยู่ในกายนางหาใช่ความเศร้าเสียใจ แต่เป็นความชิงชัง ชังมากเสียจนเหมือนมีอะไรขาดผึง น้ำตาเอ่อคลอหน่วยไหลออกมาทีละหยด...ทีละหยด...จนพรั่งพรู

“เยาะเย้ยข้า สนุกนักหรือ...” นางเอ่ยก่อนทันได้คิด

ริวอร์นอร์กรีดรอยยิ้มแทนคำตอบ เขาถอดเสื้อคลุมที่ห่มติดกายมาห่มให้นาง

เอริแอดเน่กัดปาก แต่จนปัญญาจะเอาน้ำตาที่เสียไปกลับคืนมาหรือห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล

“เดินกลับไหวหรือไม่ นายหญิง”

คนฟังสูดจมูก “ไปให้พ้น ริวอร์นอร์”

“เจ้าปลุกเราเพื่อไล่เราหรือ”

“ข้าอยากเจอ เจ้าต้องมา ข้าไม่อยากเจอ เจ้าต้องไป” นางสั่ง ความใจเย็นของนางมีน้อยในเวลาเช่นนี้ “ไปรอข้าที่คฤหาสน์”

ริวอร์นอร์สัมผัสได้ว่าพลังเวทของนางฟื้นคืนแล้ว เขาต่อต้านนางครั้งสุดท้ายด้วยการจุมพิตนางที่หน้าผากแล้วจากไป


—————————————————————————

A/N มาช่วยเขาทั้งทีก็พูดคำหวานๆ สักคำไม่เป็นสินะคะ U_U อย่างนี้ถึงได้ทะเลาะกันตลอดไง


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (4) [10/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 10-06-2017 19:27:25
รักหวามปนขม
 :mew4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (4) [10/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 10-06-2017 19:46:13
รักหวามปนขม
 :mew4:
ซับน้ำตา ;w;
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (4) [10/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 10-06-2017 22:37:29
ความสัมพันธ์นี้ทั้งฝาดขม ทั้งแสบร้อน

ใจก็คือเนื้ออ่อน ๆ

เวทนาทุกคนในใยแมงมุมแห่งความผูกพันนี้
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (4) [10/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 10-06-2017 23:45:26
ความสัมพันธ์นี้ทั้งฝาดขม ทั้งแสบร้อน

ใจก็คือเนื้ออ่อน ๆ

เวทนาทุกคนในใยแมงมุมแห่งความผูกพันนี้
แต่ขอเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน
สุดปลายทางที่ตัวละครได้ฟันผ่า เข้าใจตัวเอง
รวมถึงเข้าใจกันและกัน ยังมีความสุขรออยู่นะคะ  :mew4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (4) [10/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-06-2017 02:08:49
ดำสนิท ไม่มีแร้วสีเทา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (4) [10/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-06-2017 06:02:03
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (5-6) [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 11-06-2017 15:24:45
บทที่ 25 : รักร้าว (5)

เจย์ถูกเชิญมายังเมืองหลวงซิลเซเลียน ณ ราชวังของนางกษัตริย์ผู้ปกครองแคว้นอิซิลดาร์ แต่ใช้คำว่า ‘เชิญ’ ก็ไม่ถูกนัก ควรเรียกว่าการต้อนรับขับสู้ที่ไม่มีทางเลือกอื่นให้แขกคนสำคัญมากกว่า

เวลานี้ ‘ท่านหญิงเอริแอดเน่’ อีกคนหนึ่งนั่งประจันหน้าเจย์ นิ้วเรียวของนางแตะผงสีฟ้าแล้วลูบหน้าผากเขา สัญลักษณ์เวทสีฟ้าอ่อนที่ประทับซ่อนอยู่วาบขึ้นมาและเลือนหายไป

“สัญลักษณ์เป็นของจริง” นางบอกองครักษ์สตรีทั้งสอง คนหน้าตาสวยจัดผมสีเขียวอ่อนคือเวเรด้า คนหน้าตาเรียบเฉยผมสีดำคือซอนย่า

หลายวันก่อนหน้านี้เจย์ได้เจอพวกนาง เขาใช้เวลาอยู่บนรถม้าครึ่งค่อนวันจึงมาถึงเมืองหลวง และใช้เวลาอีกหลายวันให้พวกนางทดสอบตราประทับเวทมนตร์บนหน้าผาก ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปจากท่านหญิงเอริแอดเน่ตรงหน้า

คำนวณเวลา เขารอสตรีทั้งสามนานเกือบเท่าระยะเวลาที่ใช้นั่งรถม้ามาที่นี่ จึงเป็นไปได้ว่าพวกนางรับสารจากนักบวชที่หมู่บ้านกุหลาบหิน แล้วเร่งรุดเดินทางจากเมืองหลวงทันที

จะมีท่านหญิงเอริแอดเน่สองคนหรืออะไรก็ตาม สตรีที่ฝากให้เจย์ส่งสาร--คนที่เขาพบที่เกาะไร้นาม...เป็นคนสำคัญ

“เหตุใดนางจึงไม่กลับมาทันที” ท่านหญิงชุดแดงตรงหน้าถาม กระทั่งน้ำเสียงก็ยังไพเราะและมีจังหวะการพูดเหมือนกัน ถ้าไนติงเกลเป็นคนตลกกว่านี้สักหน่อย เจย์คงคิดว่านางหลอกอำเขาด้วยการให้เขาออกเดินทาง แล้วตัวนางเองใช้เวทมหัศจรรย์สักบทเคลื่อนย้ายมาดักหน้า

“นางมีธุระสำคัญต้องทำให้เสร็จสิ้นขอรับ” เจย์ใช้ไหวพริบ ตอบท่านหญิงเอริแอดเน่แบบกลางๆ เขาลอบส่งสายตาเป็นเชิงถามนางว่า ‘นี่เรื่องอะไรกัน เกิดอะไรขึ้น ข้างงเหลือเกิน’

สตรีชุดแดงเม้มปาก “ธุระสำคัญหรือ” นางประสานมือบนตัก หลุบตาลง “จะมีอะไรสำคัญกว่ากลับมาบ้านของนาง” แววตาของนางฉลาดเฉลียว นางทราบว่าเจย์ปิดบังบางอย่าง จึงกล่าวว่า “เวเรด้าที่ท่านเห็นอยู่ตรงนั้นเติบโตมาพร้อมนาง รวมถึงข้า และยังมีจามิลลาที่หายสาบสูญอยู่อีกคน ส่วนซอนย่า ความภักดีของนางไม่มีข้อกังขา พวกเราคือครอบครัวของนาง ถ้ายังมีชีวิตอยู่ สิ่งแรกที่นางจะทำย่อมเป็นการกลับมาหาพวกเรา ท่านเข้าใจหรือไม่ว่า การที่นางส่งท่านมาหาข้านั้น...ผิดปกติอย่างยิ่ง”

เจย์เข้าใจสารนั้น และคิดอย่างรวดเร็วว่าจะตอบกลับอย่างไรเพื่อให้นางเข้าใจ รวมถึงให้เขาปลอดภัยจากสถานการณ์อันตราย

“นางมีธุระกับชายผู้หนึ่ง...ที่ติดอยู่บนเกาะห่างไกล”

เขาตอบแบบให้รายละเอียดน้อยเท่าน้อย แต่นางน่าจะเข้าใจ

นาง ‘ควร’ เข้าใจว่าชายผู้นั้นเป็นใคร

ผู้ฟังขมวดคิ้วเรียวสวยเข้าหากัน เจย์เห็นนางเกร็งมือ “ข้าไม่ชอบสิ่งที่ท่านบอกเลย...” ระหว่างนั้นเวเรด้าเข้ามากระซิบว่านางมีราชกิจที่ท้องพระโรง

แววตาและสีหน้าของสตรีชุดแดงเปลี่ยนไป มันห่างเหิน แข็งกร้าว และเย่อหยิ่งอย่างนางกษัตริย์ผู้ปกครองแคว้น เหมือนครั้งแรกที่เขาเจอนางในวิหารมารดานที

“เข้าใจแล้ว” นางตอบเวเรด้า แล้วหันมาทางเจย์ “ข้าจะไม่ปดกับท่าน เพราะท่านเป็นคนที่นางไว้ใจ ท่านจำต้องถูกกักตัวไว้ที่นี่โดยมีเวเรด้าและซอนย่าผลัดกันดูแลจนกว่านางจะมาถึง ระหว่างนี้ ท่านจะพบ พูดคุย หรือบอกเล่าเรื่องที่พบเจอนางกับใครไม่ได้ทั้งนั้น ความตายจะเป็นราคาของผู้ได้ฟัง ส่วนท่าน...อาจไม่มีปากไว้พูดอีก แม้ข้าจะเคารพการตัดสินใจของนางมากแค่ไหนก็ตาม”

เจย์ไม่ประหลาดใจ หากเขาเป็นนาง เขาก็ทำแบบเดียวกับนาง

“ถ้าท่านไม่ปดกับข้าจริง ข้าขอถามคำถามสำคัญได้หรือไม่” เขารั้งนางไว้ “เพียงคำถามเดียวไม่รบกวนเวลาท่านหรอกขอรับ”

นางลุกขึ้น ผายมือให้เขา

“ข้าเคยบังอาจตั้งชื่อให้ท่าน ชื่อนั้นคืออะไร”

----------------------------------

สามวันต่อมา ไข้ของเอริแอดเน่ทุเลาจนสภาพร่างกายดีขึ้น นั่นเป็นผลจากยาที่นางเป็นผู้ปรุงให้ตัวเอง ส่วนบาดแผลที่มือถูกนางกรีดเอาหนองออกทั้งพอกยาที่มีฤทธิ์เย็นจนไม่ปวดแสบปวดร้อนอีกและบวมน้อยลง แต่ถ้าไม่ได้รับการรักษาด้วยเวทมนตร์ มือสวยงามของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์คงทิ้งรอยแผลเป็น

เอริแอดเน่สามารถใช้เวทรักษาเยียวยามือของตนได้ แต่นางไม่ได้ทำ หากบอกว่าไม่เชี่ยวชาญก็ใช่ ทว่าหากใช้ย่อมทำให้มือมีสภาพดีขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน

แค่นางไม่ได้ทำ…

นางไม่เห็นเอ็ดราฮิมตั้งแต่เมื่อสามวันก่อน แต่ก็ไม่ใคร่จะถาม และไม่ยุ่งวุ่นวายกับริวอร์นอร์ นางปล่อยเขาทำตามใจเหมือนปล่อยสัตว์เลี้ยงให้เดินเพ่นพ่านไปไหนก็ได้ในอาณาเขตที่นางกำหนด

ริวอร์นอร์ก็ทำแบบเดียวกัน...หมายถึงเขาก็ปล่อยให้นางทำอะไรตามใจตราบใดที่ยังอยู่ในสายตา หากนางคิดว่าเขาเป็นสัตว์เลี้ยง เขาก็คิดว่านางเป็นปลาสวยงามในอ่างแก้ว ว่ายวนอยู่ในเขตที่คล้ายกับล่องหน

ตามปกตินางจะนั่งอยู่บนเก้าอี้นวมตรงระเบียง มองทิวป่าสน วันนี้ก็เช่นกัน

“เจ้าตั้งใจเดินทางไปอิซิลดาร์วันไหนหรือ” ริวอร์นอร์เข้ามาทางด้านหลัง แล้วอ้อมไปนั่งเก้าอี้นวมใกล้กัน

เอริแอดเน่นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันมองผู้ถาม “วันนี้ก็ได้”

ช่างเป็นคำตอบที่เรียบง่ายและสั้นอย่างยิ่ง สามวันมานี้นางกินแต่ผลไม้ที่เอ็ดราฮิมทิ้งไว้ให้ มันทำตามที่นายของมันสั่ง คือมอบของกินให้นางแค่กันตาย วันนี้ผลไม้หมดแล้ว อาการไข้ของนางก็ดีขึ้น เหมาะจะออกเดินทาง

“จะไปอย่างไรเล่า” ริวอร์นอร์ถามนางเหมือนต้องการยั่วความอดทนเสียมากกว่าต้องการทราบจริงๆ “เจ้าบอกว่าเราไม่มีกองทัพ เวลานี้ตัวเจ้าเองก็ไม่มีรถม้า”

“แล้วเจ้าพาข้ามาที่นี่ได้อย่างไร”

“เวทมนตร์กระมัง” ริวอร์นอร์ตอบทีเล่นทีจริง

“ก็ทำอย่างนั้น” นางตอบเฉยชา ลุกขึ้น “จะไปกันหรือยัง”

“ราชรถรอเจ้านานแล้ว” ริวอร์นอร์ลุกตามแล้วผายมือให้เอริแอดเน่เดินก่อน

เมื่อไปถึงหน้าคฤหาสน์นางพบว่ามีรถม้าจอดรออยู่

ริวอร์นอร์ไม่ได้เดินทางด้วยเวทมนตร์ เขาพาเอริแอดเน่มายังคฤหาสน์หลังนี้ด้วยกริฟฟิน

ช่วงที่เอริแอดเน่สลบไป ริวอร์นอร์สื่อสารกับเอ็ดราฮิมด้วยเวทบทหนึ่ง เป็นเวทสื่อสารที่เขาทดลองได้ผลกับมันและทหารผู้จงรักภักดีไม่กี่คน ขณะร่ายเวท ริวอร์นอร์คิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เอ็ดราฮิมและทหารคนสนิทของเขาจะถูกสั่งประหารทั้งหมด แต่ไม่น่าเชื่อว่าเอ็ดราฮิมยังอยู่ มันตอบกลับทันที ก่อนจะนำกริฟฟินมารับอย่างเร่งร้อน

เจ้าสัตว์ที่มีร่างกายท่อนบนเป็นนกอินทรี ท่อนล่างเป็นสิงโต กระพือปีกหนึ่งครั้งไปได้ไกลกว่าม้าควบสุดฝีเท้า ย่นระยะเวลาเดินทางได้มาก

ขณะนี้เอ็ดราฮิมไม่อยู่ในคฤหาสน์ กริฟฟินก็ไม่อยู่ในคอก ริวอร์นอร์จึงเดินทางโดยรถม้า ผู้ขับรถม้าเป็นทหารเดนตายอีกผู้หนึ่ง ดวงตาของมันแข็งกระด้างยามเห็นท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ แต่อย่างไรมันก็เปิดประตูรถม้าให้นาง อีกทั้งยังยื่นแขนให้นางเกาะ

เอริแอดเน่ยกฮู้ดขึ้น นางสวมเสื้อคลุมมอซอที่พอหาได้จากในคฤหาสน์เพื่อปกปิดรูปร่างหน้าตา นางไม่เสียเวลาถามว่าริวอร์นอร์หาสิ่งเหล่านี้มาจากไหน มือซึ่งพันผ้าพันแผลพันไว้แน่นหนาเกาะแขนที่ยื่นมา พาตัวเองขึ้นรถม้า

ท่านหญิงสูงศักดิ์อย่างไรก็มีกิริยาอย่างเจ้านายคน

ริวอร์นอร์ก้าวตามขึ้นมา เขานั่งตรงข้ามนาง หลังตรงอกผึ่งผาย

“เลือกใช้เส้นทางเข้าพรมแดนอิซิลดาร์ทางประตูตะวันตก ข้ามีสถานที่ต้องไป” นางสั่งด้วยวรรณะเวท ไม่รับคำปฏิเสธ

วรรณะเวทคือความเชื่อมโยงของผู้ใช้เวทและสิ่งที่ถูกควบคุมด้วยอำนาจของเวทมนตร์ ความเชื่อมโยงนี้แบ่งได้หลายระดับ แต่แบ่งโดยรวมอย่างง่ายได้สองฐานะ คือ ‘เจ้านาย’ กับ ‘ทาส’

เอริแอดเน่ปลุกชีพริวอร์นอร์ ตราบใดที่พลังเวทของนางกล้าแข็ง วรรณะเวทย่อมมีผลอย่างไม่อาจเลี่ยงได้

ริวอร์นอร์กล่าวแก่ทหารของตนว่าให้มุ่งไปทางตะวันตก เขาไม่ได้ต่อต้านนางหรือกวนใจนาง ซึ่งนั่นแปลก แต่คิดอีกที...เขาอาจกำลังกวนใจนางด้วยการทำตามคำสั่งอย่างว่าง่ายก็เป็นได้

ทหารกล้ารับคำสั่ง แล้วพาเจ้านายทั้งสองมุ่งไปยังแผ่นดินอิซิลดาร์

 

ใช้เวลาเดินทางและหยุดพักเพียงเล็กน้อย ในวันที่เจ็ด รถม้าที่เร่งเดินทางก็มาถึงสถานที่ที่เอริแอดเน่ต้องการ มันหยุดหน้าทางเข้าหุบผาที่แยกออกมาจากเส้นทางสายหลัก ทั้งไกล ลึก และไร้ผู้คน จากตรงนี้จะต้องเดิน แต่ทางเดินไม่ชัน และไม่มีสัตว์ป่าอันตราย กลับกัน มันงามสะกดใจด้วยทุ่งหญ้าสีทองเป็นคลื่นสุดลูกหูลูกตา

หุบผาแห่งพฤกษาทองคำนี้เป็นสมบัติของตระกูลอิซิลดาร์มาทุกรุ่น

เอริแอดเน่ลงจากรถม้า นางลดฮู้ดลงและจับผมสีทองยาวไม่ให้ปลิวไปตามลม จากนั้นจึงหันมาบอกริวอร์นอร์ “เจ้ามากับข้า ทหารของเจ้ารออยู่ที่นี่”

ริวอร์นอร์ทำตามโดยไม่อิดเอื้อน เขาจำหุบผานี้ได้ มันคือสถานที่ที่ตนและเอริแอดเน่เคยมาเล่นด้วยกันบ่อยครั้งสมัยยังเป็นเด็ก

เอริแอดเน่ก้าวเท้าอย่างมั่นคง นางปล่อยเสื้อคลุมให้ปลิวไปตามลมที่พัดแรงขึ้น เดินไปถึงจุดสูงที่สุดโดยหันหลังให้ริวอร์นอร์และหันหน้ามองตะวันซึ่งบางส่วนหลบอยู่หลังหมู่เมฆ บางส่วนทอแสงสีทองเร้นช่องว่างของปุยเมฆเหล่านั้น

ทิวทัศน์ที่งามอยู่แล้วยิ่งงามขึ้นไปอีกเมื่อมีนาง ทว่านั่นไม่ทำให้หัวใจของริวอร์นอร์สั่นไหวหรือเต้นแรงขึ้น เขาชืดชาเหลือเกิน เย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็งในดินแดนทางเหนือที่ห่างไกล นางทรยศเขา และเขาจะไม่มีวันลืมแม้จะรักนางเพียงใด รักก็คือรัก ชังก็คือชัง ซึ่งเมื่อทั้งสองสิ่งผสมกันก็กลายเป็นอารมณ์อัปลักษณ์น่าชิงชังที่ไม่อาจพรรณนาได้

“ตอนสังหารเจ้า...” เอริแอดเน่เอ่ยโดยไม่หันมา “ข้าบอกตัวเองว่า ‘มัน’ หรือ ‘เรา’ คนใดคนหนึ่ง ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกัน”

ริวอร์นอร์ก้าวมายืนเคียงนาง มองแสงอาทิตย์ที่ไม่อาจทำให้เขาอบอุ่นได้อีกต่อไป

“ข้ารู้แล้วว่าข้าเลือกผิด” เอริแอดเน่คุกเข่าลง นางกุมมือในท่าสวดภาวนาต่อบิดานภา หลับตา “ดังนั้นข้าจึงจะแก้ไขให้มันถูกต้อง”

นางต้องการขอคืนดีหรือ ทั้งที่เป็นผู้ออกคำสั่งสังหารเขาด้วยตนเอง

“อย่างไร”

เอริแอดเน่สวดภาวนาอย่างไม่ขาดตกแม้สักคำ เสร็จแล้วจึงลืมตามองทิวทัศน์เบื้องล่าง “เราไม่อาจอยู่ร่วมโลกกัน ข้ายืนยัน แต่ข้าเลือกผิด คนที่ควรตายไม่ใช่เจ้า...แต่เป็นข้า”

ด้วยพลังของความตั้งใจอันแรงกล้าของนายผู้ควบคุม มือของริวอร์นอร์ชักดาบออกมา วางบนหลังคอนาง

“ข้าตายที่นี่ก็ไม่เลวนัก จากนั้น เจ้าเป็นอิสระ จะชิงแผ่นดินคืนมาหรืออะไร...ก็ตามใจเจ้า”

“ง่ายดายเกินไป ราชินีของเรา...” มือของริวอร์นอร์สั่นเพราะต่อต้านคำสั่ง ทว่าเขาไม่อาจขัดขืนวรรณะเวทได้ คมดาบยังพาดอยู่บนหลังคอของนาง

“ก่อนนี้ข้าตั้งใจตายมาครั้งหนึ่ง แต่มารดานทีมอบภารกิจให้ นั่นคือการส่งข้าไปยังสุสานของเจ้า เวลานี้ข้าบรรลุสิ่งที่ต้องทำแล้ว” เอริแอดเน่กุมมือแน่นขึ้น เอ่ยร่ายเวทเพื่อสั่งการอสูรของนาง “ไม่ต้องมีเรือส่งศพสำหรับข้าเช่นกัน”

นางหลับตา ก้มหน้าลงจนเส้นผมไหลลงไปกองรวมกันข้างหน้า เปิดเผยหลังคอขาวเนียน ขณะที่ดาบในมือของริวอร์นอร์เงื้อขึ้น

...และฟาดลง

 

“...รางวัลของท่านคือ…”

“ขอเป็นรอยยิ้มของท่าน” เจย์แทรกขึ้นทันใด

“จะยิ้มไปทำไม ถ้าสักวันหนึ่งต้องแยกทางกัน”

 

“ข้าไม่เป็นราชินีของใครทั้งนั้น...จากนี้...และตลอดไป”

 

“...พวกเราคือครอบครัวของนาง ถ้ายังมีชีวิตอยู่ สิ่งแรกที่นางจะทำย่อมเป็นการกลับมาหาพวกเรา ท่านเข้าใจหรือไม่ว่า การที่นางส่งท่านมาหาข้านั้น...ผิดปกติอย่างยิ่ง”




—————————————————————————

A/N ในความคิดของเอริแอดเน่ ริวอร์นอร์กับเธออยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ในเมื่อเขากลับมา เธอก็ไปค่ะ

มันมีสัญญาณมาในเรื่องเป็นระยะ นอกจากช่วงแฟลชแบ็กแล้วยังมีระหว่างบรรทัด

เช่น คนอยากตายไม่สนใจรักษามือให้ไม่มีแผลเป็น

ถ้ามีใครเอะใจระหว่างอ่าน ถือว่าคุณจับนักเขียนได้แล้วค่ะ! /ดิ้นๆ



ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (5-6) [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 11-06-2017 15:45:07
บทที่ 25 : รักร้าว (6)

ริวอร์นอร์คำรามลั่น เขาเบี่ยงวิถีดาบได้ มันฟาดลงพื้นไม่ไกลจากตำแหน่งของเอริแอดเน่ ทว่าการขัดขืนคำสั่งของวรรณะเวทส่งผลให้ริวอร์นอร์บาดเจ็บภายใน ตาพร่าไปด้วยแสง หูลั่น ขณะมือที่กำดาบสั่นระริก เขาไม่อาจปล่อยมือได้หากคำสั่งยังอยู่ และไม่อาจหยุดจนกว่านางจะสิ้นลมหายใจ

ราชามงกุฏดำร่ายเวทศัตราวุทธอย่างรวดเร็ว ทำให้สนิมกัดกินใบดาบจนผุกร่อน

เอริแอดเน่หันมา นัยน์ตาของนางเรืองด้วยแสงเวท “ฆ่าข้า” นางสั่ง คำสั่งนั้นทำให้ร่างกายของริวอร์นอร์ขยับไปเอง เขารู้ว่าแม้ไม่มีอาวุธดาบ แค่ใช้มือเปล่าก็สามารถแหวกอกนางและควักหัวใจออกมาได้

“กล้าดีนัก…” ริวอร์นอร์แยกเขี้ยวแสยะยิ้ม เขาใช้มือซ้ายจับไหล่ขวาแล้วร่ายมนตราที่ตนคิดค้นขึ้นเพื่อใช้ในการสงคราม พริบตานั้นข้อต่อบริเวณหัวไหล่ก็หลุด แขนตกห้อยร่องแร่ง อดีตราชาเอลฟ์ทำแบบเดียวกันกับไหล่ซ้าย เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดพรายเต็มหน้าผาก

“แก้แค้นสิ!” เสียงของเอริแอดเน่เหมือนเชือกที่ชักหุ่นกระบอกนามริวอร์นอร์ “แขนใช้ไม่ได้เจ้าก็ยังมีฟัน จะรออะไรล่ะ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ใครทำเจ้า เจ้าก็ทำมัน!”

นางลุกขึ้น เดินเข้าไปหาอีกฝ่ายด้วยตัวเอง เสนอชีวิตของนางให้เขาปลิดปลง

“ง่ายเกินไป เอริแอดเน่!” ดวงตาของริวอร์นอร์วาวโรจน์

“เจ้าชังข้า ยอมรับมาสิว่าเจ้าชัง! จงสังหารข้า เพราะเจ้าติดค้างที่ทำให้ข้าตายทั้งเป็น!”

ริวอร์นอร์กัดลิ้นเรียกเลือดก่อนจะร่ายเวทในการสงครามอีกบท มันทำให้เลือดไม่หยุดไหล เขาสำลัก ไม่นานจะหมดสติ

ท่านหญิงผู้ไร้อาลัยต่อโลกนี้วางมือสั่นระริกบนใบหน้าของชายที่นางเคยรักอย่างลึกซึ้ง “เพราะเจ้า...ทำให้ข้าอ่อนแอ...ทำให้ข้าเป็นเดนคน”

ริวอร์นอร์จำได้ว่าเอริแอดเน่เกลียดความอ่อนแอจนไม่อยากแม้แต่เปล่งเสียงพูดคำๆ นี้ ทว่าเวลานี้นางกลับเอ่ยมันออกมาด้วยน้ำเสียงร้าวลึก

“จงมองข้า” นางแยกเขี้ยว น้ำตาคลอเบ้า “จงมองข้าให้ดี เจ้าจะไม่ได้เห็นข้าแบบนี้อีก!” นางกำลังจะแสดงสิ่งที่ตนหวาดกลัวสุดชีวิต ตัวตนของนางที่อยู่กับคำถามเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าและไม่เคยถูกถามออกมาเพราะหวาดกลัวคำตอบ

ในดวงตาของเอริแอดเน่มีภาพซ้อนขึ้นมา เป็นภาพของเปลวไฟสีแดงฉาน...ที่เปลี่ยนเป็นสีขาวดำด้วยความอาดูร เขามองเห็นเฟรธูรินห่างไกลออกไปจนลับสายตา ได้ยินเสียงเอริแอดเน่กรีดร้อง มือหลายคู่ฉุดกระชากนาง อุดปาก ตบหน้า รัดคอ

“เชือกกักพลังเวทที่เจ้ามอบให้พวกมัน” นางกระซิบ เสียงนั้นซ้อนกับเสียงกรีดร้องของนางเองเพราะทรวงอกถูกกรีดใต้ราวนม เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังจนถึงที่สุดแล้วเงียบลงเมื่อคมมีดบรรลุหน้าที่ของมัน

ริวอร์นอร์อ่อนกำลังเพราะเสียเลือด ภาพตรงหน้าเริ่มสว่างสลับมืด ลิ้นเขาชาจนพูดลำบาก ซึ่งใช่ว่าเขาต้องการพูดอะไร เขาไม่ตอบรับนาง ไม่แสดงความเห็นใจ สงสาร หรือสมเพช

สีสันในมโนภาพพลันมืดลง มีเพียงสีดำ สีดำ แล้วก็สีดำ จากนั้นสีดำก็ค่อยๆ ดึงแขน แยกขา ฉีกทึ้งชุดวิวาห์ของนาง

“อย่า!”

“หยุดนะ!”

“ปล่อยข้า”


เสียงของเอริแอดเน่สะท้อนไปมา ร่างของนางเป็นเหมือนชิ้นเนื้อสีขาวที่ถูกกัดกินด้วยคมเขี้ยวอันตะกละตะกลาม เขี้ยวเหล่านั้นฝังลงในส่วนบอบบางที่สุดของนางซ้ำแล้วซ้ำอีก ฉีกร่างนางจากกึ่งกลางร่างกายขึ้นไปถึงหัวใจ เลือดของนางไหลย้อมซอกขา ร่างกายเกร็ง หัวใจเต้นอย่างเจ็บปวด สิ่งที่ถูกกระทำนั้นน่าขยะแขยง ทำลายความภาคภูมิใจ และทำให้สติของนางด้านชา

จนกระทั่งสติจะหายไปนางจึงถูกตบหน้า ถูกก่นด่าด้วยภาษาทมิฬ สำหรับดาร์กเอลฟ์ที่กระทำย่ำยีอยู่ นางคือถุงหนังบรรจุบาป บาปที่แย่งชิงความสุขของพวกมัน ปล้นแผ่นดิน ชีวิต ความปลอดภัย ทรัพย์ศฤงคาร พร ภูมิปัญญา และความรักจากเหล่าบิดามารดา พวกมันต้องการกรีดถุงนั้นให้เปิดออก ให้สิ่งที่เอลฟ์ชิงไป ให้ความมั่งคั่งอันน่าชังและความตระหนี่ขี้โกงของเอลฟ์ไหลออกมา

ปลายมีดถูกจรดลงมาอีกครั้ง คราวนี้มันกรีดผ่ากลางลำตัวของเอริแอดเน่ จากอกมาถึงท้องราวกับสัตว์ที่ถูกชำแหละทั้งเป็น

“หลังทำสิ่งที่พวกมันทำกับข้า พวกมันกรีดเนื้อข้า ตีตรานางบำเรอชั้นต่ำ ให้เลือดและชีวิตของข้าไหลออกมา ส่งข้าไปหาบิดาแห่งความตายด้วยการปล่อยให้หมดลมหายใจ” เสียงของเอริแอดเน่สะท้อนไปมา ขณะตัวนางในมโนภาพแห่งอดีตเอ่ยว่า

“ถ้าข้าไม่ตาย…” นางบอก “...ถ้าข้าไม่ตาย” นางสาบาน “ข้าจะฆ่าพวกเจ้า”

นางถูกดาร์กเอลฟ์เหล่านั้นหัวเราะใส่หน้า พวกมันกล่าวว่า “ในที่สุดจอมเวทสงครามผู้สูงศักดิ์ก็ร้องไห้แล้ว”

ริมฝีปากของเอริแอดเน่ในอดีตขยับเป็นคำเรียกคนที่นางโหยหา หวังให้เขามาช่วยนาง

“ริวอร์นอร์…”


ชื่อนั้นทำให้ดาร์กเอลฟ์ชะงัก

“ริวอร์นอร์จะแก้แค้นให้ศัตรูของข้าและท่านเฟรธูริน” นางเค้นเสียงลอดไรฟัน

ทว่าคำตอบคือการถูกหัวเราะใส่หน้าอีกครั้ง และประโยคต่อมาของพวกมันกล่าวว่า “เจ้าชายเอลฟ์ริวอร์นอร์--มงกุฎดำน่ะหรือ เขาคือคนที่สั่งการพวกข้าและวางแผนการลัมบัลลังก์ในวันนี้ทั้งหมด ท่านหญิง”

เอริแอดเน่นิ่งค้าง ริวอร์นอร์แทบได้ยินเสียงหัวใจสลายของนางดังผ่านความเงียบในสุญตา…และเสียงหัวใจสลายของตัวเขาเอง

ราชามงกุฎดำก็มีความลับที่ไม่เคยเอื้อนเอ่ยแก่ใคร

และอาจไม่มีผู้ใดทราบตลอดกาล

 

สติของริวอร์นอร์กลับมาอยู่กับปัจจุบัน กับเอริแอดเน่ตรงหน้า นางกัดปาก คุกเข่าลง “ข้าไม่เคยถามเลยว่าทำไมเจ้าทำเช่นนั้น”

“มนุษย์...ดาร์กเอลฟ์ เซ็นทอร์ หรือแม้แต่เอลฟ์…” ริวอร์นอร์คงสติสุดท้ายไว้ เอ่ยกระท่อนกระแท่น “ทุกเผ่าพันธุ์...เชื่อในสิ่งที่ตนเลือกจะเชื่อ” หน้าผากของราชามงกุฏดำซบลงที่ตักนาง “และเมื่อเชื่อแล้วใครพูดสิ่งที่ต่างออกไปก็คงไม่เข้าหู”

เอริแอดเน่หัวเราะเสียงสั่น “หรือเจ้าจะบอกว่าไม่ได้ทำ”

ทั้งที่หลักฐานตำตาอยู่อย่างนั้น

“หรือเจ้าจะบอกว่า…” เอริแอดเน่นึกคำพูดต่อไปไม่ออก นางรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน ริวอร์นอร์จะพูดอย่างไรก็ได้ นางไม่เคยเข้าใจเขา ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ แม้กระทั่งตอนนี้ที่เขายืนยันบางสิ่ง สิ่งนั้นก็ยังกำกวม ไม่อาจทำให้จิตวิญญาณแหว่งวิ่นของนางได้รับการเติมเต็ม

ในเวลานี้ เอริแอดเน่นึกถึงเฟรธูรินและซิกฟรีดในยามเยาว์

...จากนั้นก็นึกถึงเจย์

“มีคนบอกว่าข้าพังทลาย ข้าคิดว่าคงเป็นแบบนั้นจริงๆ”

เอริแอดเน่รู้มานานแล้วว่าสิ่งที่ทำลายนางไม่ใช่การถูกรุมข่มขืน หรือการถูกกรีดตรานางบำเรอชั้นต่ำ หรือการถูกพรากงานวิวาห์

แต่เป็นชายตรงหน้า--ริวอร์นอร์ เมื่อเขาทรยศความไว้ใจของนาง ทำร้ายนาง คิดกำจัดนาง

นางเลื่อนมือไปที่เข็มขัดของริวอร์นอร์ ดึงดาบสั้นของเขาออกมา

“ซิกฟรีดให้ข้าเป็นราชินี แต่เขารักดาร์กเอลฟ์ ท่านเฟรธูรินจากไปแล้ว ส่วนเจ้า...เจ้า…” เสียงของนางขาดหาย นางไม่สามารถเอ่ยอะไรอีก เพราะได้พูดไปหมดแล้ว

ดวงตาของเอริแอดเน่กร้าวขึ้น อย่างคนที่ตัดสินใจยุติวันคืนแห่งความเสียใจอันไม่สิ้นสุดของตัวเองได้ในที่สุด

“ข้าคิดว่า อะไรที่คนอื่นทำให้เราไม่ได้ เราก็ต้องเป็นคนทำ”

นางหันคมมีดเข้าหาตัวเอง และกดคอลง

“อย่า…” ริวอร์นอร์กระซิบกับตักของนาง

...แล้วเขาก็ได้ลิ้มรสเลือดจากลำคอของนางอีกครั้ง



—————————————————————————

A/N เศร้าค่ะ ;w; ถ้าให้เปรียบเทียบ เอริแอดเน่เวลาอยู่กับซิกฟรีด เธอจะเย็นชา มีความเป็นผู้ใหญ่กว่า รัก แต่ก็มีความรู้สึกเหนือกว่าด้วย แต่สำหรับริวอร์นอร์ คือคนที่เท่าเทียมกัน ผลกระทบจึงรุนแรงกว่า

เธอไม่ได้เป็นสีขาวหรือสีดำไปเลย เห็นแก่ตัว ทว่ายังมีด้านที่ได้รับความรักและมอบความรักให้ผู้อื่นได้อยู่

ดังประโยคที่ว่า Evil is a matter of persepctive. (และตัวริวอร์นอร์ที่บอกว่าเกลียดคนทรยศ

แต่ก็ยอมทำร้ายตัวเองเพื่อเธอ...ผู้ชายรูเมเรียร์นี่เหมือนกันกว่าที่คิดค่ะ)


แถมเพลงค่ะ 'สายลมที่หลับใหล' ตอนแต่งบทรักร้าวฟังเพลงนี้ทั้งวันทั้งคืนเลย โฮๆๆ
https://www.youtube.com/watch?v=cep6mN_Y5v0 (https://www.youtube.com/watch?v=cep6mN_Y5v0)

ส่วนเพลงฝรั่งก็ต้องเพลงนี้ค่ะ ใช่เลย ริวอร์นอร์ x เอริแอดเน่ ในเพลง Dynasty
https://www.youtube.com/watch?v=8JSdy3nLLYA (https://www.youtube.com/watch?v=8JSdy3nLLYA)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (5-6) [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-06-2017 16:35:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (5-6) [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 11-06-2017 17:22:37
สภาพตอนแรก - เย้! มาตั้งสองตอน  อ่านกันไปยาวๆ

อ่านๆไป - จุก อึดอัด พูดไม่ออก

อ่านจบ - เอรี่~  น้ำตาคลอ

ขออีกซักตอนได้ไหม  แบบนี้มันค้างเกินไป  ทำร้ายกันเกินไปแล้ววววววววว
 :a5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (5-6) [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 11-06-2017 17:50:08
สภาพตอนแรก - เย้! มาตั้งสองตอน  อ่านกันไปยาวๆ

อ่านๆไป - จุก อึดอัด พูดไม่ออก

อ่านจบ - เอรี่~  น้ำตาคลอ

ขออีกซักตอนได้ไหม  แบบนี้มันค้างเกินไป  ทำร้ายกันเกินไปแล้ววววววววว
 :a5:
ซับน้ำตาด้วยค่ะ ฮือๆ ตอนเขียนจบบทนี้นอนไม่หลับเลย ตาค้าง แบบ แล้วมันจะเป็นยังไงต่อไป ;w;
เพลงก็ฟังวนไป โอยยยยยยยย
ตอนต่อขอเวลาหน่อย พรุ่งนี้นะคะ แหะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (5-6) [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 11-06-2017 21:03:53
ถ้าริวอร์นอร์ไม่ได้ทำ แต่คนอื่นทำ

หรือเขาทำ แล้วทำเพราะอะไร?

เพราะรักจนไม่อาจให้คนอื่นครอบครอง?
เพราะหวังบัลลังก์ และนางค้ำจุนได้ เป็นตัวเสริมที่ดี?
เพราะแค้นที่นางจะแต่งกับเฟรธูริน? หักหลังเขา?

สงสารทุกคนต่อไป

สงสารตัวเองที่ตะกุยหน้าจอเพราะอยากอ่านต่อ ฮือออออออ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (5-6) [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ia091 ที่ 11-06-2017 22:18:39
จากบทนี้ที่เฉลยปมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอริแอดเน่ เราว่าจบเเบบนี้ก็โอเคอีกแบบนะ นางช้ำมามากเกินพอเเล้ว สมควรได้พักผ่อน T T
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (5-6) [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 11-06-2017 23:11:26
ถ้าริวอร์นอร์ไม่ได้ทำ แต่คนอื่นทำ

หรือเขาทำ แล้วทำเพราะอะไร?

เพราะรักจนไม่อาจให้คนอื่นครอบครอง?
เพราะหวังบัลลังก์ และนางค้ำจุนได้ เป็นตัวเสริมที่ดี?
เพราะแค้นที่นางจะแต่งกับเฟรธูริน? หักหลังเขา?

สงสารทุกคนต่อไป

สงสารตัวเองที่ตะกุยหน้าจอเพราะอยากอ่านต่อ ฮือออออออ
ฮือๆ /โผกอด  :mew6:
สปอยเนื้อเรื่องมะได้แต่อยากลงตอนต่อจนจบเรื่องเลยค่ะ!!
แต่ว่างทำวันละนิดละหน่อย /ซิกๆ คนอ่านอยากอ่าน คนเขียนก็อยากโพสค่า แง
รอนิดนะคะ พรุ่งนี้ๆ

จากบทนี้ที่เฉลยปมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอริแอดเน่ เราว่าจบเเบบนี้ก็โอเคอีกแบบนะ นางช้ำมามากเกินพอเเล้ว สมควรได้พักผ่อน T T
มีโมเมนต์คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะ เขียนท่อนปาดคอจบก็คิดว่าแบบ...
ชั้นไม่ยื้อตัวละครตัวนี้แล้วดีไหมนะ แค่มีความสุขทำไมมันยากจัง /ฮือๆ ยกโทษให้ด้วยยย
เวลาเขียนเอริแอดเน่ต้องแบกอารมณ์คนที่หันหน้าไปพึ่งใครไม่ได้ มีแต่ต้องให้คนอื่นมาพึ่ง
จะยอมอ่อนข้อก็ไม่ได้ โอยยย
พอริวอร์นอร์ฟื้นนี่ฟางเส้นสุดท้ายแล้วค่ะ
ต้องรอดูว่าริวอร์นอร์จะยื้อเอริแอดเน่ไหมนะคะ...
กับ...มีสายตาดุๆ มองคนเขียนมาจากฝั่งอิซิลดาร์
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 25 : (5-6) [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-06-2017 15:00:04
น้องไม่ไหวล้าวววจิมๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (1) [12/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 12-06-2017 15:50:01
บทที่ 26 : เงาอาดูร (1)

เจย์ทำตัวสงบเสงี่ยมเรียบร้อยในห้องรับรอง บางครั้งก็เล่นเกมสบตากับอัศวินสตรีที่ได้รับหน้าที่ให้เฝ้าเขาในแต่ละกะ อย่างกะนี้เป็นสตรีผมสีเขียวดุจใบไม้แรกผลิ พูดตามตรงว่าเจย์หายใจหายคอสะดวกขึ้นเพราะได้นางมาเปลี่ยนกะจากสตรีผมดำ รายนั้นจ้องเขาเขม็งแทบไม่กะพริบตา จนนึกว่าอยู่กับรูปปั้นเสียแล้ว

เวเรด้ากำลังพิจารณาตุ้มหูของตนอย่างใจลอย อัญมณีสีฟ้านี้ได้รับมาจากท่านหญิงเอริแอดเน่ เวลานี้จามิลลาเป็นตายร้ายดีอย่างไรไม่มีใครทราบ แต่นางสวมตุ้มหูของท่านหญิงเช่นกัน หากจะมีใครสักคนใช้เวทมนตร์ระบุตำแหน่งของจามิลลาได้ ก็ต้องเป็นจอมเวทผู้ประดิษฐ์ตุ้มหูเวทมนตร์คู่นั้น

เจย์กระแอมเบาๆ ครั้งแรกนางไม่ได้ยิน เขาจึงกระแอมดังขึ้นเหมือนไอโขลกๆ พอเรียกความสนใจจากผู้คุมได้ โจรหนุ่มก็เอ่ยว่า

“จริงๆ แล้วข้าค่อนข้างรีบ” เจย์เผยยิ้มให้นางอย่างเป็นมิตร

เวเรด้ามองบุรุษที่ท่านหญิงเอริแอดเน่ให้ความไว้ใจ ที่จริงนางเป็นคนมีนิสัยเป็นมิตร เข้าถึงง่าย และน่าคบหากว่านี้ ทว่าหลังเกิดเรื่องกับท่านหญิงในคืนวิวาห์กับราชาเฟรธูริน นางลงโทษตัวเองอย่างจริงจังและเข้มงวดจนกลายเป็นจามิลลาอีกคน

“ข้าเป็นห่วง...โรสเวน” เจย์พูดคำว่าโรสเวนอย่างระมัดระวัง เนื่องเพราะเขาเรียนรู้ว่าสถานการณ์ซึ่งมี ‘ท่านหญิงเอริแอดเน่สองคน’ ไม่ใช่แค่อันตรายธรรมดา แต่อันตรายอย่างยิ่ง

เวเรด้ายังไม่ทันตอบอะไร ตุ้มหูในมือนางก็ร่วงหลุดจากนิ้ว ตัวอัญมณีมีรอยร้าวอยู่แล้วจากการต่อสู้กับหน่วยกาลาฮานที่เมืองโรสมินาส ทว่าเวเรด้าไม่คิดว่ามันจะแตกออกแค่ตกลงบนพื้นห้อง

อัญมณีรูปหยดน้ำสีฟ้าที่แตกเป็นสองเสี่ยงทำให้เวเรด้าสังหรณ์ร้าย

ปึง! ประตูถูกเปิดออก ท่านหญิงเอริแอดเน่ที่เจย์มาพบเป็นคนเปิดอย่างรีบร้อนด้วยตัวเองนาง สีหน้าของนางเคร่งเครียด “เรามีข่าวไม่สู้ดี” นางบอกเวเรด้าและหันมองเจย์

ก่อนหน้านี้ที่เจย์ถามนางว่า

 

“ข้าเคยบังอาจตั้งชื่อให้ท่าน ชื่อนั้นคืออะไร”

 

นางตอบกลับอย่างสงบนิ่ง

 

“เรื่องนั้นข้าไม่ทราบดอก คนที่ส่งท่านมา คนที่ท่านอ้างว่าตั้งชื่อให้ ข้ากับนางเป็นคนละคน”

 

เจย์ผุดลุกขึ้น ใจเต้นถี่รัวกับคำว่า ‘ข่าวไม่สู้ดี’ จะมีข่าวอะไรที่นางยอมเปิดเผยต่อหน้าคนแปลกหน้าเช่นเขา หากไม่ใช่ข่าวที่เขาเกี่ยวข้องด้วย...เวลานี้เขาไพล่นึกถึงไนติงเกล

“ข่าวอะไรขอรับ” เจย์ถามอย่างร้อนใจเมื่อนางไม่เอ่ยเสียที

“ราชามงกุฎดำ” ท่านหญิงเอริแอดเน่คนนี้เอ่ย ในยามที่นางเอ่ยชื่อนั้น สีหน้าของนางไม่เหมือนไนติงเกลของเจย์ ไม่มีแววร้าวลึกในดวงตา แต่เป็นการเอ่ยถึงสิ่งที่มาพร้อมกับคำสัญญาแห่งการลงทัณฑ์และไม่อาจให้อภัยอย่างเย็นชา

เวเรด้าพุ่งมา ใช้แขนกระแทกคอเจย์ ตรึงเขาเข้ากับกำแพง “พูดมา!” นางตะคอก ดุดัน “เจ้าจะเล่ามาทั้งหมด หรือให้ข้ารีดเจ้าอย่างทรมานที่สุด ก่อนที่เจ้าจะเล่ามาทั้งหมดเช่นกัน!”

เจย์ยกมือขึ้นเป็นเชิงยอมและให้นางใจเย็นๆ เขาละสายตาจากสตรีผู้โกรธเกรี้ยวตรงหน้าและหันไปทางสตรีในชุดสีแดงสดผู้เยือกเย็นกว่า

“โรสเวนปลุกชีพให้กษัตริย์เอลฟ์ผู้หนึ่ง นางเรียกท่านว่า ‘ริวอร์นอร์’ ”

เมื่อได้ฟัง เวเรด้าถึงกับทรุดตัวลง สองมือยันตัวเองอยู่บนพื้น นัยน์ตาสีเขียวอ่อนเบิกกว้าง ไม่จับภาพใดๆ “ท่านหญิง...” นางพึมพำ

สีหน้าของสตรีชุดแดงแข็งเหมือนหินอ่อน

จากปฏิกิริยาของเวเรด้า เจย์เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างที่สำคัญมาก เช่น...ไนติงเกลเป็นท่านหญิงเอริแอดเน่ตัวจริง ไม่ใช่นางเอลฟ์ที่อยู่ตรงหน้า

“ไม่ใช่” นางเอลฟ์ในชุดแดงกล่าว สองมือกุมเข้าหากันอย่างแน่นหนา คล้ายนางกำลังปลุกปลอบใจตนเอง

“ข้ามีคำแนะนำ ท่านหญิงเอริแอดเน่” เจย์เลิกใช้คำศัพท์รุงรังในเวลาที่ร้อนใจอย่างถึงที่สุด “นี่ไม่ใช่เวลาปฏิเสธความจริง ข้าเห็นมากับตา และถ้ามันสำคัญมากขนาดทำให้นักรบเข่าอ่อนได้ ข้าว่าต้องรีบทำอะไรสักอย่างแล้ว”

“ไม่ใช่” นางทวนคำ มอบรอยยิ้มเปราะบางให้เจย์ สีหน้าคล้ายไนติงเกลตอนที่จุมพิตหน้าผากของเขา พวกนางเหมือนกันจริงๆ เพียงแต่คราวนี้เอริแอดเน่ ‘คนนี้’ มีน้ำตาคลอ “ท่านไม่เข้าใจหรือ ข้ากำลังบอกว่านางไม่ใช่โรสเวน ‘ข้า’ คือโรสเวน”

“ชี่!” เจย์แทบกระโจนไปอุดปากนาง “มารดาเจ้าไม่เคยบอกหรือว่ามีหูมีตาอยู่ทุกที่ อย่าร้องไห้ ฮึบไว้ก่อนแล้วทำอะไรสักอย่าง ข้าจะรีบกลับไปดูนาง นั่นคือสิ่งที่ข้าทำได้”

น้ำตาร้อนๆ ของนางเอลฟ์ที่เพิ่งยอมรับว่าตนเองคือ ‘โรสเวน’ ไหลออกมา ทว่าเป็นเวเรด้าที่เอ่ยสิ่งที่อยู่ในใจของนาง

“ท่านหญิงเคยสาบานว่าจะไม่อยู่ร่วมโลกกับคิงริวอร์นอร์ หากเขากลับมา แปลว่านางคิดละทิ้งชีวิตจริง”

---------------------------------------

ณ โรงเตี๊ยมเล็กๆ แต่หรูหราแห่งหนึ่ง ชานเมืองทิลบ็อต ใกล้หุบผาพฤกษาทองคำ

ริวอร์นอร์มีสีหน้าเคร่งเครียด นัยน์ตาสีดำนั้นดุดันจนสามารถฆ่าคนได้เพียงจ้องมอง เขาคาดการณ์ว่า พอรถม้าเข้ามายังเขตเมืองแล้ว เหล่าอัศวินคนสนิทของเอริแอดเน่จะทราบเรื่องและรุดมาตรวจสอบด้วยตัวเองทันที แต่เวลาผ่านไปจนถึงกลางคืนยังไม่มีความเคลื่อนไหว ทำให้ทราบว่าเอริแอดเน่ไม่ได้ติดต่อบริวารของนาง เขาจึงส่งทหารผู้จงรักภักดีไปสืบสถานการณ์ในเมืองหลวงซิลเซเลียนแทน พบว่าที่อิซิลดาร์กลับมีท่านหญิงเอริแอดเน่อีกคนหนึ่ง

ช่างลึกลับซับซ้อนสมเป็นแผ่นดินแห่งอสรพิษสตรีเสียจริง

เวลานี้ ริวอร์นอร์รอฟังอาการของเอริแอดเน่ตรงระเบียงห้องของโรงเตี๊ยม อดีตราชาเอลฟ์บีบราวไม้จนแทบแตกคามือ หมอ...หรือควรเรียกว่า ‘แม่มด’ สั่งห้ามไม่ให้เขาขัดการรักษาของนาง โดยให้เขารออยู่ด้านนอก--อยู่ตรงระเบียงนี้ ส่วนนางอยู่กับเอริแอดเน่เพียงลำพังด้านใน ประตูและหน้าต่างถูกหับปิดทุกบาน มีแค่กลิ่นฟืนผสมกลิ่นสมุนไพรฉุนจัด และเสียงร่ายเวทแปลกประหลาดลอดออกมาเท่านั้น

กล่าวถึงแม่มด ริวอร์นอร์สั่งให้ทหารคนสนิทเรียกนางมาตั้งแต่อยู่บนรถม้า ถึงขั้นกล้าฝากคำไปขู่นางว่า

 

“หากราชินีของเราหมดลมหายใจก่อนเจ้ามาถึง เราจะทำให้แน่ใจว่าลมหายใจสุดท้ายของนางเป็นลมหายใจสุดท้ายของเจ้าเช่นกัน”

 

โดยปกติไม่มีใครกล้าขู่แม่มด มีแต่คนโง่และคนเสียสติเท่านั้นละที่จะทำ ริวอร์นอร์ไม่ใช่ทั้งสองกรณี เขามีสายสัมพันธ์อันดีกับนาง และ...ความจริงแล้วนางก็ชอบให้เขาขู่

 

ย้อนไปก่อนหน้านี้ หลังได้รับสารจากทหารของริวอร์นอร์ แม่มดก็รุดมาด้วยความเร็วยิ่งกว่าพายุ นางขึ้นรถม้าระหว่างทางถึงเมือง ปิดปากตัวเองเมื่อพบว่าราชามงกุฎดำกลับมาแล้ว มือแบบบางของนางกอบใบหน้าแข็งกร้าวดุดันของเขาไว้ ใจของนางสั่นระรัวเมื่อราชาของนางไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ เขาสลบไสลทั้งเลือดกบปาก ไม่พอ...รอบลำคอยังมีอนุสรณ์แห่งความตายพาดอยู่ด้วย แม่มดหันขวับไปยังตัวการที่แทบไร้ลมหายใจอยู่ข้างๆ ใจหนึ่งอยากให้มันตาย แต่อีกใจหนึ่งก็บูชามันเหลือเกิน

ท่านหญิงเอริแอดเน่...ท่านหญิงใจแกร่ง ตัวแทนของสตรีแห่งอิซิลดาร์ นางผู้นำความรุ่งโรจน์มาสู่แผ่นดินเกิดด้วยการนำชัยเหนือสงครามสองร้อยปีกับจอมทัพทมิฬ

แต่ท่านหญิงก็ตัดคอผู้ชายของข้า…

นางแม่มดถอนใจหนักๆ ก่อนละมือจากราชามงกุฎดำมายังท่านหญิงโฉมงาม นางใช้สองมือกุมบริเวณขมับของท่านหญิง แล้วโน้มหน้าผากจรดหน้าผาก นางเริ่มบริกรรมคาถาด้วยภาษาของพวกนอกรีต ซึ่งผสมปนเปด้วยภาษาเอลฟ์และดาร์กเอลฟ์ มาจากภาษาเก่าแก่ของพวกเอลฟ์ทางใต้บ้าง ทางตะวันออกบ้าง และทางแดนทมิฬ คาถานั้นใช้กักวิญญาณให้อยู่กับร่าง เป็นการยื้อวิญญาณกับบิดาแห่งความตาย อันที่จริงต้องเชือดเอลฟ์ มนุษย์ หรือดาร์กเอลฟ์ในการต่อรองกับบิดาท่านด้วย แต่นางขอผัดผ่อนไปก่อน

จนกว่าจะถึงเมืองนะเจ้าคะ นางแม่มดพึมพำในใจ

และเมื่อถึงชานเมืองทิลบ็อต นางสั่งให้ทหารของริวอร์นอร์ตรงไปยังโรงเตี๊ยมสำหรับชนชั้นสูงที่ไว้ใจกันแห่งหนึ่ง แม่มดยิ้มร่าให้เจ้าของโรงเตี๊ยมขณะวางไข่มุกน้ำงามให้มันเป็นค่าปิดปาก จากนั้นก็ออกคำสั่งให้ทหารคนสนิทของราชามงกุฏดำอุ้มท่านหญิงเอริแอดเน่ขึ้นไปชั้นบน โดยไม่ลืมใช้ผ้าคลุมหน้าผืนบางปิดบังใบหน้างดงามและลำคอท่วมเลือดนั้น

นางแม่มดก้าวตามขึ้นไปแล้วออกคำสั่งอีกว่า

 

“พอเจ้าพาราชาของข้ามาพักผ่อนแล้ว จงไปหาเอลฟ์ มนุษย์ หรือดาร์กเอลฟ์มาให้ข้าเจ็ดคน มัดพวกมันไว้ในที่ลับเพื่อรอข้าไปทำพิธี...อย่าลืมว่าเจ็ดคน เลขเจ็ดนี้กำลังดีสำหรับการบูชายัญเพื่อกักวิญญาณ อย่ามากกว่านั้นหรือน้อยกว่านั้น ห้ามเด็กเกินไปหรือชราเกินไป และอย่าช้า ไป…รีบไป”

 

แม่มดจัดเตรียมสถานที่ จุดไฟเผากระดูกสัตว์เล็กและกำยาน นางจัดวางร่างของท่านหญิงกลางห้อง ส่วนราชามงกุฎดำนอนอยู่บนโซฟากำมะหยี่และยังไม่ได้สติ แม่มดระบายลมหายใจยาวขณะตั้งสมาธิ นางขัดสมาธิบนพื้นห้องด้านที่วางศีรษะท่านหญิง ก่อนจะโน้มหน้าผากแนบหน้าผาก ร่ายมนตราขอความเมตตาจากพระบิดาแห่งความตาย

ระหว่างทำพิธี นางเห็นภาพสุดท้ายของเอริแอดเน่ ทั้งรู้สึกอย่างที่ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์รู้สึก แม่มดกระตุกเฮือกเมื่อลำคอร้อนและเจ็บเกินบรรยาย

นั่นคือความรู้สึกในสำนึกสุดท้ายของสตรีตรงหน้า…

นางแม่มดเห็นภาพชัดเจนและรู้สึกชัดแจ้ง นางเห็นบาดแผลบนลำคอของท่านหญิงเอริแอดเน่เป็นเส้นกรีดคมกริบอันไร้ความลังเล ทว่าคมมีดนำความเจ็บปวดมาสู่ท่านหญิงมหาศาล ร่างเล็กบางกระตุก ความเจ็บทำให้ทุกส่วนในร่างกายต่อต้านการกระทำของเจ้าของร่าง เลือดตรงลำคอทะลักออกมาอย่างรวดเร็วจนทำให้ร่างกายช็อก

ราชามงกุฎดำฟื้นในตอนที่เอริแอดเน่กระตุกอย่างรุนแรงบนพื้น ทั้งยังเห็นแม่มดตาเหลือกลอยและกระตุกอย่างรุนแรงเช่นกัน ภาพนั้นทำให้ริวอร์นอร์คำรามเสียงต่ำ เขาจะเข้าไปช่วยเหลือทว่านางแม่มดลืมตาฉับ! ร้องสั่งให้ออกไปรอด้านนอก

ริวอร์นอร์นึกอยากตบปากนางที่กล้าดี แต่เวลานี้เขาจำต้องพึ่งนาง ราชามงกุฏดำออกมารอที่นอกระเบียง รอ...และรอ จนพระจันทร์ขึ้นสูงก็ยังไม่มีข่าวดี

 

ราชามงกุฎดำแตะริมฝีปากตัวเอง รสเลือดของเอริแอดเน่ยังค้างอยู่บนริมฝีปาก หลังนางเชือดคอตัวเองและหมดสติ คำสั่งเวทก็สิ้นผล เขาวางริมฝีปากกับรอยแผลบนลำคอของนาง เวทในการสงครามนั้นมีทั้งใช้ทำลายศัตรูและรักษาบาดแผลในเบื้องต้น เขาร่ายมนตราที่ทำให้เลือดแข็งตัวปิดบาดแผลของนาง จากนั้นก็รักษาตัวเอง ก่อนจะอุ้มนางขึ้นรถม้า สั่งให้ทหารขับรถม้าไปยังชานเมืองใกล้ที่สุดและเรียกนางแม่มดมาพร้อมกัน

เจ้ายังหนีจากเราไปไม่ได้ เอริแอดเน่…

ริวอร์นอร์ทุบราวระเบียงโดยแรง เสียงร่ายคาถายังคงดังยาวนานต่อเนื่อง...และไม่ทราบว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด



—————————————————————————

A/N ก็ดูเป็นห่วงเป็นใยนะคะ แต่ชอบมาห่วงตอนเขาไม่เห็น จะมีประโยชน์ไหม แงๆ /แล้วแม่มดนั่นคือผู้หญิงคนที่เท่าไหร่ แงๆๆ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (1) [12/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 12-06-2017 16:43:53
บร๊ะ! ผู้ชายของข้า

เออเนอะ ก็สมน้ำสมเนื้อกันดี
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (1) [12/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 12-06-2017 17:09:39
บร๊ะ! ผู้ชายของข้า

เออเนอะ ก็สมน้ำสมเนื้อกันดี
"เขาเป็นผู้ชายของผู้หญิงทั่วดินแดนเลยละมั้ง!" เจ้าปลาจิ๋วเอรี่ฟ้อง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (1) [12/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-06-2017 18:33:11
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (2) [13/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 13-06-2017 17:47:12
บทที่ 26 : เงาอาดูร (2)

เจย์ถูกพามายังส่วนในของราชวัง เขาเพิ่งได้เห็นว่าราชวังแห่งนี้ล้อมรอบด้วยอาคารหอคอยสี่ด้าน ดูแข็งแกร่ง เป็นด่านปกป้องราชวังอย่างมั่นคง ทว่ามองอีกทีก็ดูคล้ายกำแพงหรือกรงขังด้วยเช่นกัน

“นั่นคือตัวแทนแห่งความจงรักภักดีและการแก่งแย่งช่วงชิงกันระหว่างอิซิลดาร์ตระกูลหลักและอิซิลดาร์ตระกูลรอง ผู้ที่พ่ายแพ้จะต้องมอบความภักดีแก่ ‘ราชินี’ หาไม่แล้วนั่นจะเป็นสถานที่แห่งสุดท้ายในชีวิตของพวกนาง”

สตรีที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนเอริแอดเน่เอ่ย นางคือผู้แสดงตัวเป็นเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ โดยมีองครักษ์ผู้ภักดีของเอริแอดเน่ตัวจริงติดตามรับใช้และรับรองว่านางคือผู้ปกครองแคว้นอิซิลดาร์อันเกรียงไกร

เจย์เดินอยู่ตรงกลาง มีเวเรด้าตามหลัง โรสเวนนำอยู่ข้างหน้า ถือตะเกียงด้วยตนเอง แสงตะเกียงสลัวริบหรี่อย่างน่าใจหาย เป็นจุดแสงเล็กจ้อยในบรรยากาศยามกลางคืนที่ท้องฟ้ากลายเป็นสีม่วงเข้มและดำ

“เรามาที่นี่กันทำไมรึ” เจย์ถามอย่างอดไม่ได้

“ก่อนท่านมา เราตามหาและติดตามข่าวที่อาจเกี่ยวข้องกับ ‘นาง’ เป็นอย่างลับ จากทุกๆ ที่ที่ทำได้ หลังท่านมา เราเปลี่ยนไปค้นหาพื้นที่ในรัศมีสามวันที่ท่านใช้เดินทางมาหมู่บ้านกุหลาบหิน...”

เจย์นึกได้ว่านักบวชสตรีเคยถามเขาว่าใช้เวลาเดินทางมายังวิหารนานหรือไม่

“เมื่อตอนค่ำ สายสืบของเรา หน่วยอสรพิษส่งข่าวมาอย่างรีบร้อนว่า พบเห็นบุรุษที่มีลักษณะคล้ายราชามงกุฎดำพร้อมผู้ติดตามเข้ามาในเขตอิซิลดาร์ตะวันตก แต่การติดต่อหลังจากนั้นขาดหายไป...อสรพิษอาจโดนเก็บไปแล้ว ข้าส่งคนออกไปอีก แต่เรายังไม่ทราบที่อยู่ปัจจุบันของคนกลุ่มนี้แน่ชัด”

ทางที่นางนำไปคืออาคารหอคอยทิศตะวันออก เป็นหอคอยที่สร้างจากหินอ่อนสีชมพูเหมือนวิหารบูชามารดานทีในหมู่บ้านกุหลาบหิน “นี่คือหอคอยที่ท่านหญิงมอบให้ข้า คุกใต้ดินของที่นี่มีทหารคนสนิทของคิงริวอร์นอร์ถูกขังอยู่ แต่นั่นเป็นความลับ”

เรื่องราวทั้งหมดโถมถั่งใส่เจย์รวดเร็วเกินไป เขาส่ายศีรษะน้อยๆ ขณะถอนใจ “ข้ามีคำถามเต็มไปหมด...คืออย่างนี้ ข้าไม่รู้ที่มาที่ไปของอะไรๆ สักนิด ท่านหญิงเอริแอดเน่เกลียดชังพระราชาเอลฟ์ขนาดไม่อยากหายใจร่วมโลก ส่วนพวกเจ้าก็เป็นเดือดเป็นแค้นพอพระองค์ฟื้นขึ้นมา ไม่นับว่าท่านหญิงเอริแอดเน่มีสองคน พูดตรงๆ ข้าสับสน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าตัวข้าเองอยากรู้แค่ไหน”

“แล้วข้าจะเล่าให้ฟัง” โรสเวนตอบ ครู่ใหญ่ ทั้งหมดก็เดินมาถึงหน้าหอคอยซึ่งมีทหารยามสองนางเฝ้าประตูทางเข้าออก พวกนางทำความเคารพอย่างนอบน้อมโดยเรียกโรสเวนว่า ‘ท่านหญิง’

นั่นแปลว่าพวกนางไม่รู้ฐานะแท้จริงของโรสเวน

ทั้งสามเข้ามาด้านใน ภายในอาคารหอคอยนี้ร้างไร้ผู้คน ห้องหับต่างๆ ถูกปิดประตูตาย เป็นเขตหวงห้ามที่ห้ามใครเข้าออกนอกจากคนของท่านหญิงเอริแอดเน่

หลังเดินผ่านระเบียงและโถงซับซ้อน โรสเวนนำทั้งหมดมาหยุดหน้าประตูไม้บานหนาหนัก นางร่ายมนตร์ปลดผนึก เวเรด้าใช้กุญแจไข เมื่อปลดล็อกสองชั้น ประตูก็เปิดออก เผยบันไดหินทอดยาวลงไปด้านล่าง

“ชายที่ถูกขังอยู่ด้านล่างนี้เป็นคนรักของจามิลลา...นางเป็นครอบครัวที่สำคัญอีกคนหนึ่ง” โรสเวนเล่าขณะลงบันได “ตอนที่ราชามงกุฎดำสิ้นพระชนม์ หากไม่นับทหารที่หนีรอดไปได้ คนรักของจามิลลาเป็นองครักษ์ของอดีตราชาเพียงคนเดียวที่ได้รับการละเว้นโทษตายเพราะคำขอร้องของจามิลลา”

“การรอดตายของมันผู้นี้เป็นความลับ ราชาซิกฟรีดจะทราบไม่ได้ ปกติจามิลลาจะกลับมาที่นี่ทุกเดือน นางเป็นผู้รับผิดชอบดูแลมันด้วยตัวเอง โดยทิ้งอาหารและน้ำพอให้มันประทังชีวิตได้จนถึงครั้งต่อไปที่นางกลับมา ทว่านางไม่ได้กลับมาเกือบสองเดือนแล้ว ครั้งล่าสุดข้าจึงเป็นคนนำเสบียงมาให้มัน” เวเรด้าเสริม นางไม่เชื่อว่าจามิลลาตายไปแล้ว องครักษ์ทุกคนสวมตุ้มหูที่ช่วยคุ้มครองจากเวทมหานทีของท่านเอริแอดเน่ นางจึงรับหน้าที่ช่วยยืดชีวิตนักโทษซึ่งเป็นคนรักของเพื่อน

อากาศใต้ดินหนาวจนโจรหนุ่มต้องกระชับเสื้อคลุม ทั้งยังชื้น มืด และหดหู่ เขานึกไม่ออกเลยว่าจะมีใครสามารถคงสติได้ภายใน ‘คุก’ แบบนี้

สุดบันไดเป็นโถงทางเดินอันมีสองข้างทางเป็นห้องขังติดลูกกรงเหล็ก เชิงด้านนอกลูกกรงมีน้ำตาเทียนจับตัวแข็งย้อยแห้งกรัง บ่งบอกว่าไม่มีการใช้งานห้องขังเหล่านี้มาเป็นเวลานาน ที่ปลายโถงมีห้องขังซึ่งต่างออกไปจากห้องขังอื่น กล่าวคือมีการก่อกำแพงอิฐ ประตูเป็นไม้มีช่องสี่เหลี่ยมติดซี่กรง ส่วนล่างของประตูมีช่องติดบานเหล็กลงกลอนสำหรับส่งอาหารและของใช้ที่จำเป็น

มีแสงเรืองรองลอดผ่านช่องติดซี่กรงบนบานประตู แสงนั้นเกิดจากพรรณไม้เรืองแสง ทำให้คนที่อยู่ในห้องยังได้รับแสงสว่าง

“ข้าจะเข้าไปคนเดียว” เวเรด้าลดเสียง นางรับตะเกียงจากโรสเวน

“ไปหมดนี่ละ จะได้รู้เรื่องพร้อมกันทีเดียว” เจย์ค้าน “รอเจ้าซักแล้วออกมาบอกมันเสียเวลา ตอนนี้แค่วินาทีเดียวก็เสียไม่ได้แล้ว”

โรสเวนแตะแขนเจย์แล้วพาไปยังห้องขังที่อยู่ติดกับห้องขังด้านในสุด “เราดูจากห้องข้างๆ นี้ได้” นางบอก

เจย์เลยตามนางไป เขาคิดว่าตนเองอดทนได้ดีทีเดียว มองจากภายนอกเขาดูเยือกเย็นกว่าภายในมาก ถึงแม้ว่าจะเคาะนิ้วถี่ๆ กับขา ซึ่งเป็นนิสัยติดตัวที่เลิกไม่ได้สักที

มีเสียงประตูไม้เปิดและปิด เวเรด้าเข้าไปด้านในห้องขังแล้ว ส่วนโรสเวนพาเจย์มายังกำแพงด้านหนึ่ง นางดึงก้อนอิฐออกสองก้อน จึงเห็นว่ามีช่องที่สร้างเพื่อใช้จับตาดูคนด้านในจากภายนอก

จุดที่เจย์และโรสเวนอยู่สูงกว่าพื้นห้องขัง เขาเห็นเวเรด้าถือตะเกียงเดินลงบันไดไปอีก ตรงเข้าไปหาเงาตะคุ่มที่อยู่กลางห้อง แสงจากตะเกียงส่องให้เห็นร่างนั้นชัดขึ้น มันเป็นบุรุษร่างกำยำ แขนขาถูกล่ามด้วยโซ่ตรวนที่มีความยาวพอสมควร

“โธรอส” เวเรด้าเรียก นางย่อมรู้จักคนรักของจามิลลา เพราะเคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาในสงครามกับเผ่าทมิฬ...อันที่จริง องครักษ์ของราชาริวอร์นอร์สนิทสนมคุ้นเคยกับพวกนางในสงครามครั้งนั้น...เหมือนที่ท่านหญิงสนิทสนมกับท่านริวอร์นอร์

ครั้งล่าสุดที่มา เวเรด้าแค่ส่งน้ำและอาหารผ่านช่องประตู มิได้เข้ามาด้านในห้อง และห้องนี้ก็ไม่เคยมีใครเข้ามานอกจากจามิลลา การปรากฏตัวของนางจึงเป็นสัญญาณบางอย่าง

โธรอสนั่งขัดสมาธิอย่างสงบ ท่อนแขนแกร่งพาดบนหัวเข่า ผมยาวเลยบั้นเอวตกคลุมใบหน้าจึงไม่เห็นว่าชายหนุ่มมีปฏิกิริยาอย่างไร

“จามิลลาไม่กลับมาแล้ว” เวเรด้าวางตะเกียง นางพอทราบว่าครั้งสุดท้ายที่จามิลลามาที่นี่ นางมาลาชายตรงหน้า หรืออย่างน้อยก็มาบอกว่าอาจไม่ได้กลับมาอีก

“เอ่ยธุระของเจ้ามา” เสียงแหบและดุลอดจากริมฝีปากแห้งแตก เมื่อทหารเดนตายผู้นี้ยอมเงยหน้ามองเวเรด้า เจย์ถึงได้เห็นบุรุษที่มีประกายตาน่ากลัวที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น มันเป็นประกายตาที่เด็ดขาด ไร้ความกลัว และไม่ยอมจำนน

เวเรด้าไม่เปลี่ยนสีหน้าแม้โดนจ้องกดดัน “นางได้รับสัญญาจากท่านหญิง หากวันใดนางไม่อยู่แล้ว เจ้าจะเป็นอิสระ...วันนี้ข้ามาปล่อยเจ้า”

โรสเวนพยักหน้าให้เจย์เป็นการยืนยันว่าสัญญานั้นเป็นเรื่องจริง

“เรื่องที่เจ้าไม่ทราบ เวเรด้าแห่งอิซิลดาร์...นั่นคือข้าได้รับโอกาสให้ออกไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ข้าไม่ทำ”

โรสเวนขมวดคิ้ว คิดตามคำบอกนั้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่เวเรด้าคุกเข่าตรงหน้าโธรอส “ข้ารับปากจามิลลาว่าจะเป็นธุระเรื่องของเจ้า”

“ข้าหักดาบของตัวเองเพื่อที่จะได้อยู่กับนางเช่นสามัญชน” โธรอสหลุบสายตาลงเพียงเล็กน้อย คล้ายถูกภวังค์แห่งคำสัญญาในอดีตดึงไป “ข้าพอแล้วกับสงคราม แต่นางยังจับดาบและตาย...เช่นนั้นหรือ”

“ใช่...นางไม่อยู่แล้ว นางต่อสู้อย่างสมศักดิ์ศรีในฐานะอัศวิน” เวเรด้าใจหาย แม้นางพูดเองก็ยังรู้สึกเหมือนไม่จริง ฝ่ามือเล็กที่มีแรงง้างศรคันใหญ่โตวางบนตรวนข้อมือของโธรอส นางเอ่ยเวทปลดผนึก ทำให้ตรวนทั้งสี่หลุดออก “ข้าไม่ได้มาช่วยเหลือเจ้า แต่มาทำให้ความตั้งใจของจามิลลาเป็นจริง”

แสงจันทร์พ้นเมฆ ลำแสงนวลส่องผ่านลงมาจากปล่องหอคอยด้านบน ทำให้ห้องขังสว่างขึ้น มองเห็นโลกภายนอกที่อยู่สูงขึ้นไป มันคือคำสัญญาแห่งอิสระ จากนี้ไปชายผู้ถูกขังจะไม่ต้องเงยหน้ามองท้องฟ้าอีก

“หมดธุระของเจ้าแล้วหรือ” โธรอสยกสองมือขึ้นดู มันเบาอย่างประหลาดเมื่อไม่มีตรวน

“ไม่ เจ้าเดินออกไปเฉยๆ ไม่ได้หรอก ข้าจะนำทางเจ้าจนพ้นเขตอิซิลดาร์” เวเรด้ามองหาเสื้อผ้าที่จามิลลาน่าจะทิ้งไว้ให้ผู้ชายของนาง นางหยิบเสื้อคลุมส่งให้อีกฝ่าย

“ทำไมเพิ่งมาปล่อยข้า”

“ถ้าไม่ปล่อยตอนนี้ เกรงว่าต่อไปจะไม่มีโอกาสอีก”

“ทำไมจึงไม่มาก่อนหน้านี้” โธรอสคล้ายหยั่งเชิง ดวงตาของทหารหนุ่มคมดุจปลายธนู “จามิลลาหายไปสองเดือนแล้วมิใช่หรือ”

เวเรด้าหรี่ตา “ช่างนับเวลาจริงๆ เจ้าคิดว่าข้าไม่อยากรอนางนานกว่านี้หรือ สองเดือนแล้ว ได้เวลายอมรับความจริง ทั้งเจ้าและข้า และเจ้าเป็นใคร นักโทษแผ่นดินใช่หรือไม่ คิดว่าข้าอยากปล่อยเจ้าเฉยๆ วันไหนก็ทำได้หรือ”

โธรอสพิจารณาคำพูดของนาง ท่าทีของนาง...และแววตาของนาง พบว่าไม่มีอะไรน่าสงสัย

อาจแค่ยังไม่มีกระมัง

หลังรอให้โธรอสขยับตัวคลายกล้ามเนื้อและลุกเดินได้สะดวก เวเรด้าก็ถือตะเกียงนำเขาออกมา “ห้ามทำอันตรายแก่คนของอิซิลดาร์ หาไม่ ข้าก็ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้” นางกำชับ

โรสเวนดันเจย์ติดกำแพง เอามือปิดปากเขาพร้อมส่งสายตาให้เงียบไว้ รอจนเวเรด้าและโธรอสเดินขึ้นบันไดจึงดึงมือเจย์ให้เดินตาม “เขาจะต้องกลับไปหาพรรคพวก คนของคิงริวอร์นอร์ เราจะตามไป นั่นอาจทำให้เราเข้าใกล้เบาะแสที่อสรพิษเหลือทิ้งไว้ได้มากที่สุด”

นางหมายถึง...นางก็จะตามไป โดยไม่สนใจฐานะที่ควรปิดบังของตน

“ข้า…” เจย์รู้สึกวูบวาบอย่างประหลาด ขนอ่อนบริเวณต้นคอลุกชันจนเขาตบหลังคอตัวเองให้มันหยุด

“ท่านต้องการช่วยนางใช่หรือไม่” โรสเวนบีบมือเขา “ถ้านางคิดทิ้งชีวิตจริง ตอนนี้เราต้องการคนที่จะช่วยหยุดนาง นางมอบความไว้ใจให้แก่ท่าน ข้าจึงพาท่านไป”

“ไอ้ไปน่ะไป แต่…” เจย์ขยับใบหน้ามาใกล้โรสเวนอีกนิด “ข้าคิดว่าเขารู้”

ลูกครึ่งเอลฟ์เห็นว่า ระหว่างตามเวเรด้าไป โธรอสหันมาทางกำแพงที่โรสเวนกับเขาลอบมองอยู่ เพียงแวบเดียว...ไม่สลักสำคัญด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นแวบเดียวที่น่าอึดอัด

โรสเวนมีสีหน้าเหมือนยามที่นางนั่งบัลลังก์นางกษัตริย์ผู้ปกครองแคว้น เป็นสีหน้าที่แสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องปั้นแต่ง ทั้งห้าวหาญและเด็ดขาด

“ไม่เป็นไร ต่อให้โธรอสรู้หรือมีอันตรายใด เพื่อนางแล้ว ข้าพร้อมกระโจนเข้าไป”

เจย์มองนางตาค้าง ก่อนกะพริบตาปริบๆ แล้วเอ่ยว่า “ไนติง...อ่า เอริแอดเน่… ‘ท่านหญิงเอริแอดเน่’ ควรทราบว่ามีคนรักนางมากขนาดนี้นะนี่…”

เจ้าพังทลายเพราะไม่ยอมรับความรักที่สมควรได้รับใช่หรือไม่...เจ้านกน้อยอิซิลดาร์



—————————————————————————

A/N เจย์นี่ดูพึ่งพาได้และน่าจะเป็นสามีที่ดีได้นะคะ U_U

ป.ล. โธรอสxจามิลลา เป็นอีกคู่ที่เราชอบ สมัยนี้เราต้องกักขังหน่วงเหนี่ยวสามีไว้ค่ะ แค็กๆ อ่านเรื่องของคู่นี้เต็มๆ ได้ในภาค Ugly Queen นะคะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @VinzeSchwarz
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (2) [13/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-06-2017 19:27:41
องครักษ์ของราชาริวอร์นอร์สนิทสนมคุ้นเคยกับพวกนางในสงครามครั้งนั้น...เหมือนที่ท่านหญิงสนิทสนมกับท่านริวอร์นอร์

บริวารเอรีแอดเน่ ได้รับความเสมอภาคเหมือนนายดีนะ
ริวอร์นอร์ เอรีแอดเน่  :กอด1:
โธรอส จามิลลา  :กอด1:

โธรอส ประสาทไว เจย์ ก็เหมือนกัน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (2) [13/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 13-06-2017 19:37:34
องครักษ์ของราชาริวอร์นอร์สนิทสนมคุ้นเคยกับพวกนางในสงครามครั้งนั้น...เหมือนที่ท่านหญิงสนิทสนมกับท่านริวอร์นอร์

บริวารเอรีแอดเน่ ได้รับความเสมอภาคเหมือนนายดีนะ
ริวอร์นอร์ เอรีแอดเน่  :กอด1:
โธรอส จามิลลา  :กอด1:

โธรอส ประสาทไว เจย์ ก็เหมือนกัน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
จำเลยรักภาคสาวขังหนุ่มค่ะ แค่กๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (2) [13/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 13-06-2017 19:46:49
เจ้าไนติงเกลเอย ค่ำนี้เจ้าจะนอนหนใด

ห๊ะ! นี่ยังไม่อัปลักษณ์อีกเร๊อะ!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (2) [13/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 13-06-2017 21:03:39
เจ้าไนติงเกลเอย ค่ำนี้เจ้าจะนอนหนใด

ห๊ะ! นี่ยังไม่อัปลักษณ์อีกเร๊อะ!
เราชอบพวกนกที่อยู่ในนิทานเด็ก (แต่สยองขวัญนะคะ)
อย่างนกในเรื่องจูนิเปอร์ tree ก็ดีค่ะ >.<
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (3) [14/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 14-06-2017 13:20:33
บทที่ 26 : เงาอาดูร (3)

ใกล้รุ่งสาง โรงเตี๊ยมชานเมืองใกล้หุบผาพฤกษาทองคำ

เอริแอดเน่ลืมตา ก่อนหน้านี้นางไม่ฝันอะไร ทว่าจู่ๆ ความว่างเปล่าที่สงบเงียบก็หายไป ผลักให้นางรู้สึกตัว นางจะขยับตัวแต่เจ็บที่ลำคอจนต้องนิ่ง รู้สึกว่าเสื้อผ้าที่สวมชุ่มโชกด้วยเหงื่อ และสิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกคือริวอร์นอร์กำลังใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดใบหน้าให้นางอยู่ คิ้วเข้มสีดำขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากขึงตึง ไม่มีรอยยิ้มใดๆ มอบให้แก่นาง ไม่ว่าจะเป็นยิ้มเยาะหรือยิ้มหยอก ไม่มีเลย...ซึ่งยามที่เขาเป็นเช่นนี้ ก็ดูคล้ายพระเชษฐาเฟรธูรินผู้เอาจริงเอาจังเหลือเกิน

เอริแอดเน่คอแห้งผาก สำนึกของนางย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ที่นางเปิดเผยความในใจซี่งตนหวาดกลัวที่สุดออกมา และตัดสินใจปลิดชีวิตตนเอง

นางอ้าปาก ทว่าไม่สามารถเปล่งเสียงเพราะเจ็บที่คออย่างมาก นางจึงขยับปากโดยไร้เสียง

‘ทำไม’

ริวอร์นอร์ไม่ตอบคำถาม เขาวางผ้าสะอาดไว้ตรงขอบชามกระเบื้อง แล้วผละไปรินน้ำให้เอริแอดเน่ เขาประคองนางขึ้นนั่ง ไม่น่าเชื่อว่ามือที่ปลิดชีพคนมานับไม่ถ้วนจะนุ่มนวลได้ถึงเพียงนี้

เอริแอดเน่สังเกตความเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งกับริวอร์นอร์ นั่นคือบริเวณรอยแผลเป็นรอบคอมีรอยสลักอักขระของพวกแม่มดนอกรีตอยู่ รอยสลักนั้นเป็นสีทองซึ่งได้จากยางของเซลันดีนผสมกับผงทองคำบริสุทธิ์ จอมเวทสงครามอย่างนางเห็นแล้วก็มองออกว่าเป็นเวทซึ่งใช้สกัด แทรกแซง หรือบิดเบือนความสัมพันธ์ระหว่างวรรณะเวทของนางกับเขา เนื่องเพราะรอยสลักนั้นอยู่บริเวณบาดแผลที่ส่งให้เขาถึงแก่ความตายและกลับมาจากความตาย เป็นบาดแผลที่นางสั่งให้คนอื่นบั่นและกลับมาประสานมันด้วยตนเอง

เอริแอดเน่ไม่ยอมเปิดปาก แต่กำหมัด ทุบมือกับเตียง นอกจากไม่ได้ความตายที่นางออกคำสั่งเด็ดขาดแล้ว ริวอร์นอร์ยังสามารถหาวิธีแทรกแซงวรรณะเวทของนาง

แต่นางไม่เชื่อว่าอักขระเวทพวกนั้นจะช่วยเขาได้ตลอดไป

เมื่อนางไม่เปิดปากรับน้ำ ริวอร์นอร์จึงใช้นิ้วจุ่มน้ำก่อนไล้บนปากของนางเพื่อกระตุ้นความกระหาย

เอริแอดเน่หลับตาแน่น ต่อสู้กับความชุ่มฉ่ำบนริมฝีปาก

“ ‘เงา’ ของเจ้าน่าจะตามรอยมาถึงที่นี่ในไม่ช้า”

นางลืมตาเมื่อได้ยินประโยคนั้น เล็บคมจิกแขนเขาอย่างแรงเท่ากำลังที่มี

ริวอร์นอร์เอื้อมไปยังโต๊ะข้างเตียงที่วางสารพัดตลับยาอยู่ เขาป้ายตัวยาหนึ่งจากตลับทองคำขนาดเล็ก ก่อนจะกดนิ้วบนริมฝีปากของเอริแอดเน่แรงขึ้น เมื่อแทรกนิ้วเข้าไประหว่างริมฝีปากอิ่มของนางได้ ริวอร์นอร์ก็ไล้นิ้วไปตามไรฟันและกระพุ้งแก้มอย่างถือสิทธิ์

เอริแอดเน่ฝืนปิดปากไม่ไหว นางเจ็บร้าวไปทั้งคอ นิ้วที่ป้ายยามีรสสดชื่นของน้ำผสมกับรสขมเย็นซ่านของยา

นางยื้อแขนอีกฝ่ายเมื่อถูกกวาดยาบนลิ้นซ้ำๆ จนต้องขยับลิ้นหนีนิ้วเพราะหายใจลำบาก ความนุ่มของลิ้นแตะท้องนิ้วผู้บังคับป้อนยา นางข่วนและจิก สายตาโกรธเคืองแต่ก็อ่อนแรง

ฝืนได้ครู่ใหญ่ เอริแอดเน่ก็กัดนิ้วของริวอร์นอร์เป็นการต่อต้าน ทว่าบาดแผลที่คอทำให้นางออกแรงได้ไม่ถนัด แรงของนางตอนนี้มีเท่าลูกแมวตัวหนึ่ง

ริวอร์นอร์ให้นางขบกัดตามชอบใจ แล้วกระซิบเสียงต่ำว่า “อย่าทำให้ข้าอยากทำเรื่องชั่วช้ากับร่างกายของเจ้าเลย” พูดจบ แขนข้างหนึ่งรัดเอวแบบบางของนางไม่ให้ขยับหนีแม้เพียงน้อย เขาดึงนิ้วกลับ คว้าจอกน้ำมาชิดริมฝีปากนางอีก บังคับให้ดื่มน้ำ

เขาเห็นสีหน้านางแปลกไป มันลดความแข็งกร้าวลงเป็นลังเล ไม่มั่นใจ ใบหูแหลมยาวชี้ตั้งอย่างเวลานางไม่สบอารมณ์ ในที่สุดนางก็เปิดปาก ยอมดื่มน้ำแต่โดยดี

“เด็กดี…” ราชามงกุฎดำเอ่ยชมเหมือนเอริแอดเน่เป็นเด็กหญิงตัวน้อย

เอริแอดเน่โกรธขึ้งต่อคำเรียก นางกุมลำคอเขา บีบมือลงไป แต่ก็เหมือนเดิม...แรงนางมีแค่พอทำให้กายบุรุษถูกสะกิดเท่านั้น

“เราจะไว้ชีวิตอัศวินของเจ้าก็ต่อเมื่อเจ้ายังมีลมหายใจ” ริวอร์นอร์หยิบตลับยาอีกตัวหนึ่งมาชูต่อหน้าเอริแอดเน่ “ขี้ผึ้ง เป็นเด็กดีแล้วเราจะนุ่มนวลกับแผลของเจ้า”

เอริแอดเน่สูดหายใจลึก นางไม่อยากยอมแพ้เช่นนี้ ไม่ให้เขากุมจุดอ่อนของนางและเป็นฝ่ายเหนือกว่า

หากใช้กำลังไม่ได้แล้วละก็...นางก็ควรยืมวิธีของริวอร์นอร์

ใช้ความอ่อนโยน

นางละมือที่พยายามบีบคอเขา เปลี่ยนไปไล้และวางบนหลังคออย่างขออภัย หัวใจของนางเต้นแรงเมื่อตนเป็นฝ่ายแนบร่างเข้าหาเขา พิงศีรษะกับไหล่กว้าง สูดกลิ่นเหงื่อซึ่งผสมกับกลิ่นกายบุรุษของเขา

เอริแอดเน่รู้สึกประดักประเดิก ทั้งที่มารยาหญิงแค่นี้เป็นสิ่งที่สตรีอิซิลดาร์ล้วนเจนจัดเชี่ยวชาญกันทุกคน ในเมื่อเขาแสดงออกว่าห่วงใย ก็มาดูกันว่าใครจะเสแสร้งได้เก่งกว่าและมีชัย

ในห้องร้อนเกินไป เมื่อไฟคิดเล่นกับไฟ

ริวอร์นอร์ระบายลมหายใจหนัก เขาป้ายขี้ผึ้งบนรอยแผลบริเวณลำคอของสตรีมากเล่ห์ สัมผัสนั้นนุ่มนวลเมื่อนางไม่พยศ

นางสั่นน้อยๆ เมื่อแผลเย็บที่คอถูกสัมผัส นางกำมือ โอบรอบคอเขาแน่นอีก กับริวอร์นอร์ นางไม่เคยเข้าใจเขา แต่ถ้าจะถามหาสิ่งที่นางรู้ว่าเขาจะไม่ปฏิเสธ ก็มีอยู่สองสามเรื่อง

แต่เวลานี้อาจปฏิเสธก็ได้

เอริแอดเน่แนบแก้มของนางกับแก้มของริวอร์นอร์ สัมผัสนั้นเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ นางขยับใบหน้าให้ใบหูของเขาและนางบดเบียดกันอย่างเชื่องช้า นางครางในคอแผ่วเบา เจ็บที่คอ แต่รู้สึกหวานในอก

ริวอร์นอร์ครางเสียงต่ำ แววตาแฝงไปด้วยอารมณ์หลากหลาย ทั้งหงุดหงิด ทั้งโกรธ ทั้งไม่เข้าใจและรักใคร่ผสมกับความเกลียดแค้นชิงชัง

ใจเขาและนางเกลียดกันได้ แต่ร่างกายมักแสดงออกอย่างที่มันคุ้นเคย ใบหูของนางร้อนและไวสัมผัส นั่นทำให้นางกอดเขาไว้ทั้งตัว รู้สึกทรมาน

ริวอร์นอร์พลิกร่างขึ้นทาบทับนางขณะบดจูบ ใช้อารมณ์ลึกลับและสัญชาตญาณนำเหตุผลทั้งหมด ไฟไม่อาจทำให้เขาร้อนได้ น้ำแข็งก็ไม่สามารถทำให้เขาหนาวเหน็บได้เช่นกัน

แต่นาง…

นางทำได้เสมอมา

ถ้าร่างกายไม่รู้สึกร้อนหนาวแล้ว อารมณ์ที่ปะทุอยู่นี้คืออะไร...ราชาเอลฟ์ผู้คืนชีวิตมาจะทราบหรือไม่

เอริแอดเน่จิกต้นแขนอีกฝ่ายเพราะความเจ็บ นางอยากตำหนิที่เขาบดจูบโดยไม่คิดถึงบาดแผลที่คอของนาง ทว่าร่างกายของนางแอ่นขึ้นรับเขา หน้าท้องแบนราบอ่อนนุ่มแนบกับกล้ามท้องอันแน่นขนัด แข็งแกร่ง

เอริแอดเน่ตาพร่า ไม่เข้าใจว่าทำไมตนจึงหวั่นไหวกับบุรุษผู้นี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก...ทั้งที่น่าจะเจ็บแล้วจำ นางถูกกรีดร่างและทิ้งให้ตายเพราะเขา ต่อให้จิตใจของนางเข้มแข็งแค่ไหน มันก็อ่อนล้าได้เช่นกัน และยิ่งอ่อนลงเมื่อความอ่อนโยนของริวอร์นอร์ทำให้ใจเพริดไป

หากจะมีสิ่งที่เรียกว่าการร่วมรัก ย่อมมิใช่ช่วงเวลาที่นางร่วมเตียงกับซิกฟรีด...แต่เป็นช่วงเวลาที่ชายตรงหน้ามอบให้

เอริแอดเน่รู้สึกอยากร้องไห้

ริวอร์นอร์ประทับริมฝีปากกับเปลือกตาของนางขณะลูบมือจากน่องขึ้นไปถึงขาอ่อน แต่ละสัมผัสในเวลานี้ช่างหนักและเอาแต่ใจ ถึงอย่างนั้นก็ยังทะนุถนอมอยู่ในที เขาลดใบหน้าลงไปยังทรวงอกของนาง สัมผัสเนินเนื้อผ่านเสื้อผ้า ขบเม้มยอดถันเต่งตึง นางรู้สึกได้ว่าเขากระหาย และมันก็สายเกินไปที่จะหยุด

กระดุมถูกปลดออก เสื้อผ้าของทั้งสองหลุดจากตัว เขาแนบแก้มกับทรวงอกอิ่มพร้อมบีบเคล้น ดูดและดึงจนร่างของนางผวาขึ้น หัวใจซึ่งเต้นอย่างบ้าคลั่งทำให้เลือดในกายวิ่งพล่านไปทั่ว เขาช้อนข้อพับขานางแล้วยกขึ้นเพื่อบดเบียดความเป็นชายอันแข็งขึงเพราะนางลงไป ก่อนจะกดและดันลงอย่างเชื่องช้า เรียกเสียงหวีดจากนางสั้นๆ

เอริแอดเน่สับสน บทรักบนเตียงที่นางเป็นคนเริ่มได้เขาสานต่ออย่างเร่าร้อนเกินจะคาด

การสอดใส่ของริวอร์นอร์ไม่รั้งรอแม้นางแสดงออกว่าเจ็บ นางขยับปากเรียกชื่อเขาช้าๆ อย่างห้ามตัวเองไม่ได้ คิดในใจว่าริวอร์นอร์เป็นแบบนี้เสมอ เขามักทำให้มันเริ่มด้วยความเจ็บ ไม่เล้าโลม แต่หาใช่เพราะเขาไม่มีชั้นเชิงทางเพศรส

เขาแค่มีรสนิยมบนเตียงเป็นฝ่ายควบคุมอย่างดิบเถื่อนและนุ่มนวลไปพร้อมกัน

นางรู้สึกแปลกที่จนถึงตอนนี้ตัวนางเองก็ยังไม่ชิงชังรังเกียจบทรักของเขา กลับกัน นางกลับรู้สึกไว้ใจ...ซึ่งนั่นไม่ควรเกิดขึ้น

ปากแนบปาก อกแนบอก ทุกส่วนสัดในร่างกายแนบชิดกันจนไม่มีพื้นที่ให้อากาศแทรก อบอุ่นและถูกโอบอุ้ม เขาพานางไปจนสุดปากเหว ฉุดนางให้กระโจนตามกัน แต่ระหว่างที่กำลังดิ่งจนลึกสุดลึก นางก็ถูกเขากระชากให้พุ่งขึ้นสูงกระทั่งเห็นแสงระยับหลังเปลือกตา เขากอดนางอย่างแนบแน่นในชั่วขณะนั้น เหมือนเขาและนางมีแค่กันและกัน ก่อนจุมพิตแลกลมหายใจอย่างลึกซึ้ง

มันไม่ควรเป็นเช่นนี้...ใช่หรือไม่

เจ็บ เอริแอดเน่คิด แต่ระลอกแห่งความสุขซาบซ่านพร้อมความเจ็บปวดนั้น นางยอมมองตาริวอร์นอร์ กอบหน้าเขา จ้องเข้าไปในดวงตาสีดำคู่นั้น

‘ข้า’ นางขยับปาก ‘เรา...’ นางเม้มปาก จากนั้นก็เอ่ยทีละคำอย่างหม่นหมองและเดียวดาย ‘สาย...เกิน...ไป’

“ชี่…” ริวอร์นอร์คลึงหน้าผากของตนกับหน้าผากของนาง “อย่าเพิ่งพูดอะไร”

‘ข้าเรียกเจ้า’ ตอนนั้น ในสติสุดท้ายของค่ำคืนอันโหดเหี้ยมที่สุดในชีวิตของนาง...นางเรียกหาเขา แต่ทว่า… ‘เจ้าไม่มา’

นางสะอื้น

“เอริแอดเน่…” ริวอร์นอร์เชยคางนาง “มีบางสิ่งที่เจ้าต้องทราบ...บางสิ่งที่เจ้าจะไม่เชื่อ”

นางบีบมือเขาเป็นการอนุญาตให้บอก

“ขอบใจที่ในที่สุดเจ้าก็ยอมฟัง”



—————————————————————————

A/N แผลที่ใครคนหนึ่งทำไว้ ก็ต้องให้ใครคนนั้นรักษานะคะ ;w;

แถม ความคืบหน้าของภาพปกค่ะ สวยมากๆๆ เลย โคลด์ เป็นพระเอกเถอะ! ฮือๆๆ /ผิด น้อง Enfer จัดเต็มจริงๆ ค่ะ

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/1791617369-member.jpg)

นิยายเรื่องนี้จะเปิดให้จองประมาณวันที่ 1 ก.ค. 60 ประกาศโปรโมชั่นพิเศษรอบจองหลังลงจบเรื่องค่า
(คาดว่าลงจบภายในอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมิถุนายน)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @ILLREIwriter
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (3) [14/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-06-2017 16:22:44
ภาพวาดสวยมาก
ทั้งส่วนสัด ลายเส้น แสงเงา  :mew1: :mew1: :mew1:

เอริแอดเน่ ริวอร์นอร์ ยังไงกัน ฮึ  :katai1:
เคมีตรงกันสินะ กอดนิด ยั่วเย้าหน่อย
ขึ้นเลย ขึ้นแล้วต้องลง เฮ่ยยย.......
เอริแอดเน่เลยเจ็บ แต่คงไม่เจ็บอย่างเดียวหรอกเนาะ
ก็ริวอร์นอร์ เขามีชั้นเชิง /รู้ดีอีกและ
ก็นางสนม กำนัลมากมายก่ายกอง ไหนจะแม่มดอีก
ริวอร์นอร์เก่งทั้งรบ ทั้งรัก
แม้แต่แม่มดยังติดใจ หลงใหล เป็นเด็กริวอร์นอร์ :z3: :z3: :z3:
เอริแอดเน่จะพอใจบทรักของริวร์นอร์ ก็น่าอยู่หรอก  :hao5: :heaven  :heaven
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (3) [14/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-06-2017 18:59:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (3) [14/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 14-06-2017 22:59:37
บางอย่างที่บิดเบือนไม่ได้ ลบไปจากใจไม่ได้ คือ สอนคนนี้รักกัน
แม้จะซับซ้อน บิดเบี้ยว และทรยศผู้อื่นและคนรัก แต่มันก็คือรัก
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (4) [15/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 15-06-2017 15:43:29
บทที่ 26 : เงาอาดูร (4)


โธรอสอยู่ระหว่างการตัดสินใจครั้งสำคัญ

เขาบอกเวเรด้าว่าตนหักดาบและหันหลังให้สงครามแล้ว--นั่นจริง แต่พอทราบว่าราชามงกุฏดำกลับมา ใจที่ภักดีก็ปีติ มันสั่งให้เขากลับไปรับใช้พระองค์เดี๋ยวนั้น

ก่อนหน้าไม่นาน ตราเวทล่องหนบริเวณข้อมือขวาของเขาผุดขึ้นมาเป็นระยะ ตราเวทนี้ราชาริวอร์นอร์เป็นผู้มอบให้แก่เขาและทหารใกล้ชิด พระองค์ใช้มันเรียกเขาได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน และเขาจะตามหาพระองค์พบอย่างแน่นอน

ตราเวทเป็นรูปม้าดำซึ่งมีเขาเดี่ยวกลางหน้าผาก หรือที่เรียกกันว่ายูนิคอร์นทมิฬ มันเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเงามืด คู่กับยูนิคอร์นแห่งแสง ทั้งสง่างาม ดุร้าย และน่าเกรงขาม มันจะบอกเขาว่าควรไปยังทิศใด

โธรอสนิ่งไปครู่ใหญ่ เขาจ้องตราเวทซึ่งผุดขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งยังดันผิวจนนูนขึ้นอย่างน่ากลัว ราชามงกุฏดำกำลังเรียกทหารของพระองค์

ในที่สุด โธรอสก็ตัดสินใจเด็ดขาด เขาก้าวไปทางทิศตะวันตกอย่างมั่นคง

เวเรด้าลอบสังเกตโธรอส นางคุ้นเคยกับเขามากกว่าซอนย่า จึงได้รับงานนี้ แต่เหตุผลสำคัญที่ท่านโรสเวนเลือกนาง ก็เพราะนางคือเวเรด้า

พวกนางเหล่าอัศวินแห่งอิซิลดาร์ พร้อมทำตามคำสัตย์สาบาน จงรักภักดีและพลีชีพให้นายโดยไม่เสียดายชีวิต แต่นางกับจามิลลากลับมีนิสัยต่างกัน เห็นภายนอกนางเงียบขรึมเป็นจามิลลาคนที่สอง แต่ที่จริงนางไม่ใช่คนเงียบขรึม นางมิได้เด็ดขาดเช่นจามิลลาที่สามารถคุมขังคนรักของตนเพื่อแลกกับชีวิตเขา

ความเงียบขรึมและดุดันของเวเรด้ามาจากการลงโทษตัวเอง หลังเกิดเรื่องคืนวันวิวาห์สีเลือด นางไม่สามารถสนุกสนานได้อีก นางรู้สึกเศร้าและไร้ค่า เพลงที่มักจะฮัมเวลาอารมณ์ดีก็กลายเป็นทำนองปร่าแปร่ง นางรู้สึกผิดทุกครั้งที่อยากฮัมเพลงนั้น เพราะนางไม่ควรมีความสุขหลังไร้ความสามารถจนทำให้เจ้านายเผชิญทุกข์สาหัส

ความใจอ่อนของนางส่วนนี้เองที่ถูกนำมาใช้ในแผนการตามรอย เพราะนางยินดีปล่อยโธรอสจากใจจริง

ส่วนสาเหตุที่ทำให้นางยินดีปล่อยตัวเขานั้น...

 

“เวเรด้าชอบโธรอส” โรสเวนเอ่ยกับเจย์ นางสวมเสื้อคลุมสีดำ ใช้ฮู้ดปิดบังหน้าตา การสะกดรอยตามห่างๆ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะกับสตรีสูงศักดิ์ซึ่งมีใบหน้าเหมือนท่านหญิงเอริแอดเน่ แต่นางคล่องแคล่วกว่าที่เขาคาด

“นางชอบคนหน้าโหดหรือ” เจย์ว่า “ขอโทษ ข้าไม่ควรเล่นตลกอะไรตอนนี้ แต่เวลาเครียดจัดข้ามักทำตัวตลกประชดชีวิตทุกที”

“โธรอสไม่ทราบหรอก แต่เขามีประสาทเฉียบคม เขาจะรับรู้ว่านางอยากให้เขาเป็นอิสระจริง ซึ่งนั่นจะสร้างความวางใจระดับหนึ่ง” โรสเวนเอ่ยอย่างคิดคำนวณมาแล้ว จากนั้นก็ยิ้มให้เจย์ “ข้าชอบบุรุษที่มีอารมณ์ขัน ท่านเป็นแบบนี้ดีแล้ว”

ลูกครึ่งเอลฟ์ยิ้มแห้งๆ โรสเวนหน้าตาเหมือนเอริแอดเน่ ท่าทางหรือบรรยากาศเวลาสวมรอยเป็นท่านหญิงก็เหมือน แต่พอนางผ่อนคลาย เป็นตัวของตัวเอง ก็ดูต่างจากเอริแอดเน่ลิบลับ

โรสเวนระบายลมหายใจแล้วเอ่ยอย่างนุ่มนวล “จากนี้ข้าอาจไม่มีชีวิตกลับไปอีก อารมณ์ขันเล็กน้อยช่วยชูใจได้”

นางไม่ได้แสดงความหวาดกลัวหรือร้อนใจ แต่มุ่งมั่นแน่วแน่ในสิ่งที่ตนจะทำ

“ถ้าอย่างเจ้าไม่รอด ข้าก็ไม่เหลือ” สีหน้าเจย์จริงจังแต่ไม่มีความกลัว “รู้มั้ยข้ารอดมาได้นานขนาดนี้เพราะรู้จักเวทดีๆ บทหนึ่ง”

“เวท?”

“ ‘ต้องรอด’ ” เจย์ตีหน้าขรึมใส่โรสเวน “มีแค่สองคำ ไหนลองท่องให้ข้าฟังหน่อย”

“ท่านจะรอด” นางเอ่ยรับรองและเติมกำลังใจ “ข้าไม่หวังให้ท่านเสี่ยงชีวิต ท่านจะเป็นไพ่ตายของเรา ฝ่ายนั้นคงไม่คิดหรอกว่าเราจะมีกำลังเสริมอย่างท่าน”

เจย์โบกมือ “ไม่ใช่แค่ข้า เจ้าด้วย ท่องให้ฟังหน่อยเถิดนะ”

“ท่านอ่อนโยนมาก แม้กับคนที่เพิ่งรู้จักกัน เราไม่ได้เห็นสิ่งนั้นมานานแล้ว และปกติจะเรียกมันว่าความโง่งม แต่ข้าพอเข้าใจแล้วว่าเหตุใดนางจึงเปิดใจให้ท่าน”

แต่ข้าเล่นพวกโจรเสียยับเลยนะ เจย์คิด

“ท่านเป็นสุภาพบุรุษ” โรสเวนยิ้มอ่อนใจให้เจย์...และเอ่ยสิ่งที่เขารอฟัง “ต้องรอด”

 

โธรอสมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก โดยใช้ม้าที่เวเรด้าเป็นผู้เตรียมให้ ณ จุดผูกม้าที่เตรียมไว้นอกเมืองหลวง โรสเวนเองก็มีม้าให้ตนและเจย์เช่นกัน

ผู้เป็นอิสระและผู้สะกดรอยตามควบม้าห่างกัน แต่โรสเวนสามารถติดตามเวเรด้าได้ด้วยตุ้มหูเวทที่พวกนางใช้ร่วมกัน

เมฆขาว ท้องฟ้าสีคราม พระอาทิตย์สาดแสงกล้า เวลาสาย เที่ยง และบ่ายมาเยือน โรสเวนตระหนักว่าหากราชามงกุฎดำฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริง เอริแอดเน่จะอยู่ในสภาพเปราะบางที่สุด...เพราะนางเปราะบางหากเป็นเรื่องของบุรุษผู้นี้มาแต่ไหนแต่ไร

สิ่งที่นางต้องทำ...คือหวังว่าเอริแอดเน่จะยังมีชีวิตอยู่ และไม่เลือกทางที่ผิดพลาดอันพ่ายแพ้ให้แก่ริวอร์นอร์เป็นครั้งที่สอง

------------------------------

“ข้ามีนามว่าแมรี่โกลด์เจ้าค่ะ เรียกสั้นๆ ว่าเอ็มก็ได้นะเจ้าคะเจ้าขา” แม่มดนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่บนพื้นตรงหน้าเอริแอดเน่ นางเพิ่งกลับมาจากพิธีบูชายัญเลือด คนเจ็ดคนถูกส่งไปหาบิดาแห่งความตายเพื่อแลกกับการกักวิญญาณของเอริแอดเน่ให้อยู่ในร่างซึ่งใกล้หมดลม

เอริแอดเน่อ่อนเพลียเพราะเสียเลือดมาก นางหลับไปตั้งแต่รุ่งสาง จนคล้อยบ่ายก็คงไม่รู้สึกตัวหากสตรีตรงหน้าไม่มาปลุก

“อาหารเจ้าค่ะ” นางแม่มดยิ้มกว้าง ท่านหญิงเป็นต้นแบบที่นางบูชา แม้จะฆ่าท่านริวอร์นอร์ แต่คิดอีกแง่...การได้ฆ่าชายคนรักก็โรแมนติกดีไม่หยอก

เอริแอดเน่มองสตรีแปลกหน้าแล้วปรายตามองสำรับอาหาร นางรู้สึกว่าลำคอเจ็บน้อยลงจนสามารถออกเสียงได้...อาจด้วยเวทรักษาของนางผู้นี้ “เจ้าเองหรือ…” นางกล่าวแค่นั้นด้วยเสียงพร่า แทนเรื่องที่นางอาจทราบแล้วทั้งหมด

‘เจ้าเองหรือที่ทำให้ข้าไม่ตาย’

‘เจ้าเองหรือที่สลักอักขระเปลี่ยนแปลงวรรณะเวทของข้า’

‘เจ้าเองหรือ ผู้หญิงของริวอร์นอร์อีกคน’

ขึ้นต้นแค่ ‘เจ้าเองหรือ’ ความเป็นไปได้ช่างมากมายจริงๆ

“เจ้าค่ะ ข้าเองเจ้าค่ะ” แม่มดรับแม้จะไม่ทราบว่าท่านหญิงหมายถึงอะไร นางกระเถิบเข้าไปใกล้อีกหน่อย ใบหน้าของนางช่างงามร้ายแบบสตรีอิซิลดาร์ขนานแท้ ตรงหน้าผากไล่มาถึงขมับมีรอยสักแบบนูนแต้มสีทอง ผมสีเข้มถักเข้ากับดอกไม้หอม

นางแต่งหน้า ทำผม สวมชุดอย่างแม่มดเต็มรูปแบบมาเพื่อไอดอลโดยแท้

“ป้อน” เอริแอดเน่ปล่อยผ้าที่ปิดบังหน้าอก นางยังอยู่ในสภาพเปล่าเปลือย นางยื่นตัวมา ใช้แขนเพรียวยันกับเตียง เส้นผมสีทองยาวพลิ้วระทรวงอกเต่งตึงซึ่งทิ้งตัวตามแรงโน้มถ่วงอย่างนุ่มนวล นัยน์ตาสีหินแก้วประกายรุ้งช้อนมองอย่างเฉียบคมและทำให้ผู้มองใจสั่น

“โอ๊ย ใจเต้นเจ้าค่ะ” แมรี่โกลด์หรือเอ็มเอามือทาบอก ท่านหญิงสวยเหลือเกิน สวยจับจิตจับใจ นางตักข้าวโอ๊ตต้มปรุงด้วยเกลือเล็กน้อยป้อนให้ท่านหญิง “รับประทานสิ่งนี้ไปก่อนนะเจ้าคะ พอร่างกายฟื้น ข้าจะจัดสำรับเต็มรูปแบบให้”

“ยินดีที่ทราบว่าสตรีอิซิลดาร์ยังทำให้เจ้าใจเต้นได้ไม่แพ้บุรษ” เอริแอดเน่เอ่ยแล้วแตะปากกับช้อน หากริวอร์นอร์ใช้เสน่ห์มัดใจนางผู้นี้ นางก็ทำได้เช่นกัน ส่วนอาหารมีพิษหรือยาสั่งหรือไม่ นางไม่กังวล ร่างกายของนางทนทานต่อเวทมนตร์ และริวอร์นอร์ก็ยังไม่ให้นางตาย

“แหม...บุรุษนี่ของเล่นทิ้งได้ขว้างได้เจ้าค่ะ”

“หรือ” คนถามยิ้มไปถึงดวงตา

“โอ๊ย ใจจะหลุดออกมานอกอกแล้วเจ้าค่ะ” เอ็มหน้าแดงไปถึงหู นางยกมือสองข้างกุมอก ก่อนบอกความในใจว่าท่านหญิงเป็นสตรีและแม่มดต้นแบบของนาง นางเอ่ยพร้อมประกายตาวิบวับ

เอริแอดเน่นั่งอวดร่างเปลือยอยู่บนเตียง นางยิ้มพอใจนิดๆ และเอ่ยรับอย่างสนใจฟัง “งั้นหรือ เพราะชอบข้า เจ้าจึงอยากลิ้มรสผู้ชายที่ข้าเคยลิ้มรส...”

เอ็มยิ้มเจื่อน “กินอีกนิดนะเจ้าคะ” ...และเปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉย

“อืม” สตรีผู้มีเสน่ห์เปี่ยมล้นแม้กับสตรีด้วยกันรับ อิซิลดาร์เป็นบ้านของนาง เหตุใดนางจะไม่รู้ว่าสตรีอิซิลดาร์ชอบอะไร หลงใหลสิ่งไหน นางจึงไม่รีบร้อนและกินอาหารเพื่อเอากำลังกายกลับคืนมา

เมื่อกินหมดนางก็ถามว่า “ริวอร์นอร์ล่ะ”

“ไม่ทราบเจ้าค่ะ ท่านราชาไม่ได้แจ้งไว้” เอ็มเป่าข้าวโอ๊ตต้มให้ท่านหญิงอีกคำ

“เขาไม่อยู่หรือ” คำถามนี้อันตราย

“อยู่เจ้าค่ะ แต่ไม่ทราบว่าทำอะไร” นางแม่มดรู้จักเล่นลิ้นเสียด้วย

“หรือ” เมื่อกินจนหมดถ้วย เอริแอดเน่ก็เอ่ยว่า “ข้าอยากอาบน้ำ เจ้าช่วยข้าอาบได้หรือไม่”

“ท่านราชาจะอาบให้เจ้าค่ะ” เอ็มยิ้มไปถึงดวงตา

“ข้าไม่อยากรอเขา” นางยิ้มล่อลวงและล้วงความจริง

“ไม่อยากรอเรา หรือไม่อยากรอที่จะหนี” ริวอร์นอร์เข้ามาในห้อง เขาเพิ่งคุยกับทหารที่เพิ่งเดินทางมาถึงในห้องข้างๆ ...ใช่ อย่างที่แม่มดว่า เขาอยู่ แต่ไม่ได้บอกนางว่าทำอะไร

เอริแอดเน่ไม่แสดงออกว่าผิดหวัง แม้นางอยากให้ริวอร์นอร์ไม่อยู่ และใช้โอกาสนี้ล่อลวงแม่มด หรือให้ดีกว่านั้นคือได้ติดต่อกับ ‘โรสเวน’

กลับกัน นางเอนตัวอย่างไม่สะทกสะท้านและบอกแมรี่โกลด์ว่า “ไว้คราวหน้าก็แล้วกัน”

“โธรอสกำลังเดินทางมาพร้อมคนของเจ้า” ริวอร์นอร์โบกมือให้นางแม่มดออกไป นางหมอบทำความเคารพกษัตริย์ทั้งสองแบบหน้าผากแนบพื้น ก่อนจะออกไปตามคำสั่ง

เอริแอดเน่รอจนนางแม่มดออกไปจึงเอ่ยโดยไม่มองริวอร์นอร์ว่า “เจ้าจะอาบน้ำให้ข้าจริงหรือ ถ้าไม่ ข้าจะอาบตามลำพัง เพราะข้าต้องการอาบน้ำจริงๆ”

“เช็ดตัว”

“ที่นี่ต้องมีอ่างอาบน้ำ” ให้นางได้เดินออกจากห้อง ออกไปข้างนอก

“ไม่มีสำหรับเจ้า”

“ข้าต้องการอ่างอาบน้ำ ข้าไม่อาบน้ำในห้องนี้” เอริแอดเน่ยืนยัน

ริวอร์นอร์ก็ยืนยันคำพูดของตนด้วยการจับนางเช็ดตัว เขาพลิกนางไปมา ลูบผ้าชุบน้ำซึ่งแช่ดอกไม้หอมไปทั่วผิวเนียนละเอียด เขาไม่ใช่ผู้ชายช่างเอาใจ (แม้จะทำได้) สัมผัสก็นุ่มนวลบ้าง รุนแรงบ้าง โดยเฉพาะเวลาที่นางฮึดฮัดขัดขืน

“เจ้า!” เอริแอดเน่ดันหน้าเขา “ข้าไม่ใช่ม้าให้เจ้าล้างขนนะ ริวอร์นอร์ ข้าจะอาบเอง”

“อยู่นิ่งๆ อย่าข่วน!” ริวอร์นอร์ดุ เขาเช็ดตัวให้นางเสร็จก็ทาน้ำมันบำรุงผิว แมรี่โกลด์เตรียมทุกอย่างให้ กลิ่นน้ำมันหอมรื่นช่วยให้ผ่อนคลาย

“เอามือของเจ้าออกไป” นางเบี่ยงตัวเมื่อมือใหญ่ลูบหนักๆ จนผิวเนื้อนุ่มนิ่มเป็นรอยแดง

“เราให้คนเตรียมชุดแบบอิซิลดาร์ไว้ สีแดงปักทับทิม”

ริวอร์นอร์กำลังเอาใจนางใช่หรือไม่

เอริแอดเน่สะดุ้งจนใบหูสั่นระริกเมื่อมือลูบเข้ามาแตะส่วนเร้นลับเพื่อทำให้นางเงียบ “อือ…”

ริวอร์นอร์หัวเราะในคอ “เตรียมตัวต้อนรับคนของเจ้าเถิด” เขาว่า “คงมาถึงในไม่ช้ากระมัง”

ผู้ฟังจิกมืออีกฝ่ายอย่างแค้นเคืองเป็นคำตอบ

ก่อนหน้านี้ เขาอาจบอกอะไรบางอย่างที่ไม่เคยปริปากบอกแก่นางก็จริง แต่ใช่ว่านางจะเชื่อ ‘อะไรบางอย่าง’ นั้นอย่างง่ายดายและโง่งม ที่นางยังเล่นตามเกมของเขาเพราะเขากำจุดอ่อนของนางไว้ ทั้งใช้องครักษ์ของนางมาข่มขู่ บอกเป็นนัยว่าทราบเรื่อง ‘โรสเวน’ และหาทางเบี่ยงเบนวรรณะเวทให้เขาไม่ต้องฟังคำสั่งของนาง

อย่างเมื่อสักครู่ นางใช้วรรณะเวทในการถกเถียงเพื่อออกจากห้อง แต่ไม่เป็นผล

หากมีเวลามากกว่านี้ เอริแอดเน่สามารถหาวิธีลบล้างอักขระเวทที่แทรกแซงเวทของนางได้

แต่เวลาเป็นสิ่งที่นางไม่มี


—————————————————————————

A/N เอริแอดเน่กับริวอร์นอร์ เวลากัดกันน่ารักดีนะคะ


ใส่ฟิลเตอร์ จิ้นภาพสมัยเด็ก...

"ข้าไม่ใช่ม้าให้เจ้าล้างขนนะ!" เอรี่จิ๋วโวยวายๆ แก้มแดงๆ กลมๆ

ริวอร์นอร์จิ๋วเหยียดรอยยิ้ม ชอบแกล้งท่านหญิงแก้มกลม


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @ILLREIwriter
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (4) [15/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-06-2017 17:10:43
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (3) [14/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 15-06-2017 18:47:53
ภาพวาดสวยมาก
ทั้งส่วนสัด ลายเส้น แสงเงา  :mew1: :mew1: :mew1:

เอริแอดเน่ ริวอร์นอร์ ยังไงกัน ฮึ  :katai1:
เคมีตรงกันสินะ กอดนิด ยั่วเย้าหน่อย
ขึ้นเลย ขึ้นแล้วต้องลง เฮ่ยยย.......
เอริแอดเน่เลยเจ็บ แต่คงไม่เจ็บอย่างเดียวหรอกเนาะ
ก็ริวอร์นอร์ เขามีชั้นเชิง /รู้ดีอีกและ
ก็นางสนม กำนัลมากมายก่ายกอง ไหนจะแม่มดอีก
ริวอร์นอร์เก่งทั้งรบ ทั้งรัก
แม้แต่แม่มดยังติดใจ หลงใหล เป็นเด็กริวอร์นอร์ :z3: :z3: :z3:
เอริแอดเน่จะพอใจบทรักของริวร์นอร์ ก็น่าอยู่หรอก  :hao5: :heaven  :heaven
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ดีใจที่ชอบปกนะคะ น้องนักวาดตั้งใจสุดๆ นักเขียนก็มีไฟเลยค่ะ!
เอรี่กับริวอร์นอร์ต้องเพลง ก็ถ่านไฟเก่ามันร้อนรอวันรื้อฟื้น แค่กๆๆ /บอกอายุ แงงง
แต่เรื่องกิ๊กเยอะนี่น่าเคืองจริงค่ะ

:pig4:
:mew1: :mew1:

บางอย่างที่บิดเบือนไม่ได้ ลบไปจากใจไม่ได้ คือ สอนคนนี้รักกัน
แม้จะซับซ้อน บิดเบี้ยว และทรยศผู้อื่นและคนรัก แต่มันก็คือรัก
ชอบคอมเมนต์ของคุณ Alternative มากเลยค่ะ
แบบว่า สรุปประเด็นเรื่องตรงใจจังๆ หลายครั้ง และยังสรุปได้อย่างงดงาม /จับหัวใจ แงงง  :mew6:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (4) [15/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 15-06-2017 20:15:06
ตาพร่าตามเอ็ม
โอย....เสน่ห์วิบวับล่อใจมาก

เอรี่แพ้ทางริวอร์นอร์ตลอด ขนาดกัดกันเล็ก ๆ ยังไม่พ้นถูกถูตัวอย่างกับอาบน้ำม้า ฮ่า ๆ ๆ ๆ

เจย์เต๊าะโรสเวนหรือ? นางดูน่ารัก เต๊าะเผื่อเราด้วย

ปล. ดีใจที่ชอบความคิดเห็นค่ะ เราหลงรักนิยายเรื่องนี้จริง ๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (4) [15/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 15-06-2017 22:11:05
น้องยอมใจแต่ละคนจิงๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (5) [16/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-06-2017 14:34:08
บทที่ 26 : เงาอาดูร (5)

เวเรด้าหายเข้าไปในเมืองกับโธรอสเป็นเวลานานกว่าที่โรสเวนคาด ตุ้มหูที่นางมอบให้เวเรด้าไม่สามารถใช้สื่อสาร ทำได้แค่ระบุตำแหน่ง นอกจากนี้ภายในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ยังเงียบเชียบผิดปกติ แค่เพียงคล้อยบ่าย ผู้คนก็บางตา หน้าต่างประตูร้านค้าและบ้านเรือนหับปิดทุกบาน หากเป็นนักเวทจะรู้สึกถึงไอเวทระคายผิวเหมือนกระแสไฟฟ้าอย่างอ่อนลอยทั่วบรรยากาศ

“เราอาจได้พบคนที่ตามหาเร็วกว่าที่คาด” นางบอก ความเคร่งเครียดในน้ำเสียงเจือความกังวล

เจย์ว่าตามโรสเวน นางจะขยับไปทางไหน จะหยุดเมื่อไหร่ เขาทำตามทั้งนั้นเพื่อไม่ให้เสียเรื่อง

“ข้าเคยได้ยินว่าราชาริวอร์นอร์เอาชนะจอมทัพทมิฬได้” โจรหนุ่มกระซิบ

“ด้วยความช่วยเหลือของเอริแอดเน่” โรสเวนเรียกชื่อนางอย่างคนที่สนิทสนมกัน ไม่มีตำแหน่งพาดหน้า นางเป็นเหมือนเอริแอดเน่อีกคนหนึ่ง แต่แสดงออกอย่างคนในครอบครัว...เหมือนเป็นพี่น้องกัน

จู่ๆ นางยกแขนกันเจย์ ทั้งที่รอบด้านไม่มีอะไร “เราต้องแยกกัน”

โจรหนุ่มพยักหน้า เขาคลำยาสารพัดในกระเป๋าคาดสะโพกและพบว่ายังพอมีเหลือ จากนั้นก็วางมือบนดาบสั้นซึ่งคาดอยู่ที่เอวเพื่อความอุ่นใจ

โรสเวนแกะตุ้มหูของนางมอบให้เจย์ “ตราเวทบนหน้าผากของท่านเป็นเวทที่ใช้ลงทัณฑ์ แต่เป็นเวทพิทักษ์ด้วยเช่นกัน มันจะช่วยคุ้มครองท่าน ส่วนตุ้มหูของข้ามีเวทมนตร์บรรจุอยู่ หากเจอศัตรูที่สู้ไม่ไหวก็บีบมันให้แตก”

“เจ้ามีแผนมั้ย บอกข้าที” เจย์ภาวนาขออย่าให้นางด้นสดแบบที่เขาคิดไว้เลย

นางชี้ไปทางขวาของบริเวณหลังอาคารที่ใช้หลบซ่อนตัวอยู่ ตรงนั้นมีตรอกเล็กๆ ระหว่างอาคารไม้ ดูสลับซับซ้อน “ร่องรอยของเวเรด้าหายไปทางนี้” จากนั้นก็ชี้ป้ายบอกทางตรงมุมถนน “นั่นป้ายของโรงเตี๊ยม ปกติถนนสายที่มีโรงเตี๊ยมควรคึกคัก แต่แถวนี้ร้างยิ่งกว่าสุสาน น่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล คุ้มที่จะลองไปสำรวจดู แต่ตอนนี้เราถูกล้อมอยู่ ข้ารู้สึกถึงไอสังหาร ข้าจะเดินออกไปตรงๆ เพื่อดึงความสนใจของพวกมัน ส่วนท่านไปทางลัด”

พูดจบนางก็เดินออกไปยังถนนโล่งว่างอย่างไม่ยอมเสียเวลาอีก ก้าวไปได้ราวสิบเมตร ร่างสูงใหญ่ในเสื้อคลุมสีดำก็เดินเข้ามาหานาง โรสเวนสะบัดมือ ดาบเวทสีฟ้าอ่อนแบบเดียวกับของเอริแอดเน่ปรากฏในมือนาง นางชี้ปลายดาบเวทไปยังคนผู้นั้น สายลมรุนแรงผลักมันกระแทกผนังอาคารทันที

จนถึงเวลานี้ ถนนในเมืองก็ยังร้างไร้ผู้คน คล้ายฉากที่ถูกจัดมาให้นางติดกับดัก

จุดนัดพบล่ะ ถ้าเจอไนติงเกลแล้วให้ข้าหิ้วหนีไปทางไหนล่ะ เจย์คิดแต่ไม่ทันได้พูดออกไป เพราะนางถูกดักหน้าและเดี๋ยวคงยุ่งจนไม่มีเวลาหันบอกเขา (คิดถึงตรงนี้เจย์ก็อยากเคาะหัวตัวเอง ไม่ใช่เวลาตลกเลย!) เขาจึงทำตามที่นางบอกไว้ ไปทางลัด...ไปทางลัด จากนั้นเข้าโรงเตี๊ยมและข้าก็มั่วเองเลยนะ มารดาขอรับ ข้าจะเก็บเงินเก็บทองไปเรียนเวทแล้วขอรับ

เจย์ฝีเท้าเร็ว เขาลัดเลาะไปตามตรอก ไม่นานคงถึงโรงเตี๊ยม

ทว่า

มารดาขอรับ...

เอลฟ์จะตัวสูงใหญ่เหมือนยักษ์ได้ขนาดนี้เลยหรือขอรับ


ตรงหน้าเจย์คือทหารเดนตายอีกนายของริวอร์นอร์ รูปร่างกำยำและสูงประมาณสองเมตร ในมือถือตุ้มเหล็กหนาม เป็นคู่ต่อสู้ที่เจย์รู้ตัวดีว่าเอาชนะไม่ได้เลย

แต่เขาเป็นโจร

โจรย่อมไม่สู้อย่างอัศวิน

โจรนั้นขโมยของแล้วหนีเป็นอาชีพ

เจย์สะบัดขาไปมาขณะเป่าลมออกจากปาก

ไนติงเกล...ข้าพร้อมขโมยเจ้าและโกยอ้าวแล้ว

ไม่ทันที่ทหารร่างยักษ์จะจู่โจมโจรลูกครึ่ง มันก็ถูกขัดขวางด้วยลูกเตะ ผู้ที่เตะมันเป็นนางเอลฟ์รูปร่างปราดเปรียว ใบหน้างามคมมีเลือดไหลข้างขมับ ปกตินางใช้ธนูเป็นอาวุธ แต่ธนูที่พกติดกายเป็นประจำของนางหายไป

นางดีดตัวออก ย่อตัวยันพื้นในท่าล่าเหยื่อ ยกยิ้มเสมือนได้พบสหายสนิท “วันนี้เป็นวันรวมซากทัพหรือ ข้าละจำพวกเจ้าได้ทั้งที่ไม่อยากจำเลยจริงๆ”

“ไม่พบกันนานเลย...เวร่า” ทหารผู้นั้นเรียกนาง เขาเป็นคนที่ชอบเรียกชื่อนางเพี้ยนๆ เสมอ แถมยังชอบแข่งยิงธนูกับนางเวลาพักรบ

ควิลดอร์...

“เวเรด้า” นางแก้ชื่อตัวเองให้อีกฝ่ายเรียกให้ถูกแล้วดีดตัว ชักมีดสั้นคู่ที่เอวแทงใส่บริเวณลำคอ

ควิลดอร์ตั้งรับ เขาใช้เกราะแขนกันแล้วดันนางออกไป

เจย์เห็นเวเรด้าสวยขึ้นสิบเท่าเวลานางสู้ เขาร้องบอกว่า “ฝากด้วยนะ” ก่อนจะออกวิ่งไปทางโรงเตี๊ยม พริบตาเดียวก็หายไปจากสายตาทางมุมตรอก

“ข้าไม่เคยเห็นบุรุษฝากสตรีให้รับดาบแทนมาก่อน” ควิลดอร์ให้ความเห็น

“ข้าก็ไม่เคยเห็นบุรุษที่ใช้ให้บุรุษคนอื่นไปข่มขืนและฆ่าสตรีที่เขาเอ่ยปากว่ารักมากเช่นกัน”

โอ...เวเรด้าตัวจริงปากกล้าเช่นนี้ละ

“เจ้าพูดเรื่องอะไร” ควิลดอร์เอียงศีรษะเล็กน้อย

“นายของเจ้า ทำ!” นางหมุนตัวเตะ

“อา…” ทหารร่างยักษ์แทบไม่สะเทือน และเช่นเคย...เขาเพียงตั้งรับและดันนางออกไป

“เรื่องที่เจ้าว่า ไม่จริงเลย”

“คนมีปาก ปากจะพูดอะไรก็ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นต่างหากที่เที่ยงตรง”

“ข้าไม่ได้รับอนุญาตให้พูด แต่หากวันใดข้าพูดได้ ข้าจะแสดงหลักฐานให้เจ้าชม”

“คิงเฟรธูรินสิ้นแล้ว ท่านหญิงของข้าก็…!” เวเรด้ากัดปาก นางเหมือนได้พบที่ระบายอารมณ์ ท่วงทำนองของเพลงที่มักฮัมกระหึ่มอยู่ในหู สิ่งที่เกิดขึ้นมิได้ทำลายแค่นายของนาง แต่ทำลายตัวนาง เพื่อนของนาง และมิตรภาพทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นกับบุรุษเหล่านี้ทุกคน

ควิลดอร์ให้เวเรด้าเข้ามาเต็มที่ เขายินดีเป็นที่ระบายอารมณ์ให้นาง อย่างไรเสีย...ราชามงกุฏดำไม่ได้สั่งให้จับตาย

เขามองนางที่เคยซ้อมรบด้วยกัน เคยร้องเพลงด้วยกัน นางเป็นผู้หญิงที่น่ารัก มีชีวิตชีวา แต่บัดนี้ไม่เหลือแม้เพียงร่องรอย

 

ห้า...หก โรสเวนนับคนที่พุ่งเข้ามาและถูกนางซัดออกไปด้วยเวทลม มีมากจริง ด้วยฐานะของผู้ครองแคว้นของ ‘ท่านหญิงเอริแอดเน่’ ที่นางสวมตัวตนอยู่ นางจะนำกำลังทหารมาด้วยก็ได้ ทว่านางตัดสินใจมากับเวเรด้าและเจย์เพียงสามคน ให้ซอนย่าควบคุมสถานการณ์และรับมือเหล่าเอลเดอร์อยู่ที่ราชวัง

โรสเวนใช้กำลังคนเพียงเท่านี้เพราะต้องการความรวดเร็วและเกรงจะเสี่ยงต่อการเปิดเผยว่ามีท่านหญิงเอริแอดเน่สองคนต่อหน้าทหารทั้งกอง

และข้าต้องสังหารทหารเหล่านั้นทั้งหมด

ความลับและความมั่นคงในราชบัลลังก์ของเอริแอดเน่คือการมีอยู่ของโรสเวน คนที่รู้ตัวตนของนางมีน้อยเท่าน้อย ตอนนี้ก็เหลือเพียงเอริแอดเน่ นาง จามิลลา เวเรด้า ซอนย่า และผู้สรรหาควบคุมดูแล ‘ตัวแทนเงา’

ตัวแทนเงาเป็นไพ่ตายของราชวงศ์ที่ไม่ควรมีตัวตน มีอยู่เพื่อค้ำจุนบัลลังก์แห่งอิซิลดาร์ มีเพื่อออกหน้ายามกษัตรีไม่สามารถออกว่าราชการหรือออกศึก และเพื่อตายแทนกัน

เหตุการณ์ในเมืองโรสมินาสที่เอริแอดเน่หายสาบสูญไปบังคับให้โรสเวนเคลื่อนไหว ผู้ที่ส่งสารไปถามหาเอริแอดเน่กับราชาซิกฟรีดก็คือนาง เมื่อซอนย่าปรากฏตัวพร้อมเชลยจากรูเมเรียร์ นางจึงทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจากซอนย่า และตัดสินใจออกมาหน้าฉากเพื่อควบคุมสถานการณ์

เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ไม่ได้อยู่ที่รูเมเรียร์ และจะหายตัวต่อไปไม่ได้เมื่ออัศวินของนางกลับมา หาไม่แล้วนั่นจะกลายเป็นจุดอ่อนให้เอลเดอร์จากสายตระกูลรองแทรกแซง

อันที่จริง ก่อนเกิดเหตุที่เมืองโรสมินาส โรสเวนได้รับข่าวจากจามิลลาว่าเอริแอดเน่แปลกไป จามิลลารู้ว่านางเป็นคนเดียวที่เอริแอดเน่จะฟัง จึงคิดอยากให้เอริแอดเน่รีบกลับอิซิลดาร์ ทว่าทำไม่สำเร็จ

เอริแอดเน่และโรสเวนอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก คนหนึ่งเป็นนาย อีกคนเป็นบ่าว คนหนึ่งเป็นแสง อีกคนเป็นเงา คนหนึ่งมีชีวิต และอีกคนไม่มีชีวิตเป็นของตนเอง

โรสเวนใช้ชีวิตใต้เงาของเอริแอดเน่ นางต้องเหมือน ต้องชอบ ต้องชัง ต้องรู้สึก และต้องแสดงออกให้ได้อย่างเอริแอดเน่ผู้เป็นต้นแบบ การอุทิศตนนี้ได้สร้างสายสัมพันธ์อันแข็งแกร่งและลึกซึ้งระหว่างพวกนาง พวกนางรู้เรื่องของกันและกันในทุกรายละเอียด กระทั่งขั้นตอนการร่วมเตียงกับชายคนรัก

โรสเวนคือกระจกของเอริแอดเน่ซึ่งมีหน้าที่คอยตักเตือนให้นางเข้าใจตัวเองยิ่งกว่าใครทั้งหมด

ศัตรูซึ่งถูกเวทลมซัดไปกลับมาอีก บางรายถูกซัดกระแทกผนังตึกอย่างแรงจนไม่ควรลุกได้ บางรายถูกซัดไปไกลหลายเมตรแบบที่ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะกลับมายังจุดเดิม ทว่าพริบตาเดียว พวกมันก็ลุกขึ้นแล้ว ‘พุ่ง’ เข้าประชิดตัวโรสเวน

คำว่าพุ่งในที่นี้ไม่ใช่พุ่งในความเร็วของมนุษย์ แต่พวกมันพุ่งเข้ามาเร็วยิ่งกว่าลูกธนู และไม่ได้พุ่งมาในทิศเดียวกัน แต่โอบล้อมนางจากทุกทาง

พวกมันเป็นสิ่งประดิษฐ์ของแม่มดนอกรีตนามแมรี่โกลด์

สตรีจอมเวทยกดาบเวทขึ้น ป้องแขนไว้ด้านหน้า สายลมพัดจากคมดาบเป็นริ้วสีเงิน ตัดร่างอมนุษย์เหล่านั้นอย่างไม่ปรานี เศษร่างกายของอมนุษย์ร่วงตุบๆ ลงพื้นโดยสีหน้าของผู้ร่ายเวทไม่เปลี่ยน

ถ้าเจย์มาเห็นภาพนี้ อาจไม่พูดว่าโรสเวนต่างจากเอริแอดเน่

โรสเวนสาวเท้าไวยิ่งขึ้น หากมีอมนุษย์ตนใดลุกขึ้นมาอีก นางเพียงสะบัดดาบ ใช้สายลมบั่นคอมันอย่างไม่ลังเล นางเห็นโรงเตี๊ยมอยู่เบื้องหน้า มันวังเวง ดูไม่เหมือนที่อยู่ของสิ่งมีชีวิต

“ยินดีต้อนรับ ‘เงา’ ” เสียงดังมาจากด้านบน เมื่อโรสเวนเงยหน้ามองตามเสียงก็พบสตรีนางหนึ่งยืนอยู่บนหลังคาด้านซ้ายมือของนาง

สตรีผู้นั้นสวมชุดอย่างแม่มดอิซิลดาร์ เนื้อผ้าสีเหลืองอ่อนดุจแสงจันทร์ยาวกรอมเท้า มันบางเบาและพลิ้วไหวจนทำให้นางคล้ายเงาของสายน้ำที่จับต้องไม่ได้

“ข้าคือ เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์” โรสเวนยกดาบเวท สายลมพัดแรงจนเสื้อคลุมของนางถูกตีสะบัดไปด้านหลัง ฮู้ดที่ใช้คลุมศีรษะร่วงหล่น เผยใบหน้างามคมที่ขึงตาอย่างกราดเกรี้ยวดุดัน



—————————————————————————

A/N ช่วงนี้เป็นเรื่องของสาวๆ และเจย์ ดีใจที่หลายคนบอกว่าชอบเจย์นะคะ

เวลาเขาออกมาเราก็คิดว่าน่ารัก นิสัยประมาณนี้ ถึงเปิดใจสาวๆ อิซิลดาร์ได้ (อาจรวมหนุ่มๆ ด้วย)

แปะรูปหล่อๆ (เก๊กอยู่) ของเจย์บ้าง


(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/2114948720-member.jpg)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @ILLREIwriter
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (4) [15/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-06-2017 14:42:16
ตาพร่าตามเอ็ม
โอย....เสน่ห์วิบวับล่อใจมาก

เอรี่แพ้ทางริวอร์นอร์ตลอด ขนาดกัดกันเล็ก ๆ ยังไม่พ้นถูกถูตัวอย่างกับอาบน้ำม้า ฮ่า ๆ ๆ ๆ

เจย์เต๊าะโรสเวนหรือ? นางดูน่ารัก เต๊าะเผื่อเราด้วย

ปล. ดีใจที่ชอบความคิดเห็นค่ะ เราหลงรักนิยายเรื่องนี้จริง ๆ
รัก แง คนอ่านทำให้เรามีแรงเขียนนี่แหละค่ะ -3-
สมัยเด็กเอรี่ริวอร์นอร์ภาค ugly queen ก็สนุกนะคะ เชียร์ๆ แต่ภาคนั้นจะไม่ได้ลงเล้า
ถ้าสนใจ ติดตามได้ทางหน้าเพจของเราอะค่ะ (หลังจากจบภาคนี้ เรามีนิยายวายใหม่คั่น 1 เรื่องค่ะ)
ส่วนเจย์ คุณ foulsoul เขาก็ว่าชอบโรสเวน แต่ไม่รู้ตัวเจย์อะ ชอบใคร

น้องยอมใจแต่ละคนจิงๆ
ยอมแล้วรักไหมคะ ปิ๊งๆๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (5) [16/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-06-2017 22:20:04
บางคนต้องยอมเสียสละเพื่อสิ่งที่สำคัญกว่าตนเอง

โรสเวน เอรี่ ซิกฟรีด มาลแกธ เฟรธูรินเป็นเช่นนั้น

ภาระหน้าที่ต่อประชาชนที่ตนปกครอง คุ้มครอง แลกมาด้วยหัวใจและชีวิต
ช่างน่านับถือ

จะติดตามไปอ่านควีนผู้ซับซ้อนนะคะ

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (5) [16/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-06-2017 22:37:35
บางคนต้องยอมเสียสละเพื่อสิ่งที่สำคัญกว่าตนเอง

โรสเวน เอรี่ ซิกฟรีด มาลแกธ เฟรธูรินเป็นเช่นนั้น

ภาระหน้าที่ต่อประชาชนที่ตนปกครอง คุ้มครอง แลกมาด้วยหัวใจและชีวิต
ช่างน่านับถือ

จะติดตามไปอ่านควีนผู้ซับซ้อนนะคะ
ตัวละครฝั่งเอลฟ์ทั้งนั้นเลย ถ้าสังเกต ตัวละครฝั่งดาร์กเอลฟ์จะมีวิธีปกครองต่างออกไปนะคะ
/ชี้ไปทางโคลด์ มึนๆ ถ้าฝั่งดาร์กเอลฟ์จอมทัพทมิฬมีบทมากกว่านี้เมื่อไรจะเห็นความต่างค่า
ป.ล. จอมทัพฯ มีบทใน Ugly Queen ด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (6) [17/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 17-06-2017 13:42:18
บทที่ 26 : เงาอาดูร (6)

“ท่านราชาให้ข้ามาเชิญเจ้าน่ะ” แมรี่โกลด์ย่อตัวลงนั่งยอง มือซึ่งมีเล็บคมแหลมเกาะหลังคา

ดวงตาของโรสเวนเรืองด้วยแสงเวท นางหงายฝ่ามือแล้วกำ สายลมหยุดนิ่ง ความเคลื่อนไหวในอากาศหยุดชะงัก รวมถึงอากาศที่ใช้หายใจรอบตัวนางแม่มด

“ข้ารู้ว่าเจ้าใช้ลม” แม่มดไต่หลังคาเหมือนแมงมุมแม่ม่ายดำ แม้นางจะงดงามแต่ดูวิปริต “ข้าเลยเตรียมตัวรับมือไว้”

อากาศรอบด้านหายไปจริงๆ ทว่าอากาศรอบปลายจมูกของแมรี่โกลด์ยังอยู่ นางเอ่ยกับผู้ที่มีรูปโฉมเหมือนกับต้นแบบสตรีใจแกร่งที่นางบูชาว่า

“ท่านราชารออยู่ ท่านหญิงก็รออยู่ เราต้องการพูดคุยปรึกษาหารือ”

โรสเวนไม่ตอบ ฝ่ามือแบบบางกำแน่นขึ้นอย่างน่ากลัว ส่งกระแสลมเวทรุนแรงเพื่อบดขยี้สตรีบนหลังคา โดยไม่นับเรื่องราชามงกุฎดำ นางมีหน้าที่ปกป้องความลับของ ‘เงา’

ศัตรูผู้ใดรู้ ย่อมไม่เหลือชีวิต

“แง” แมรี่โกลด์ทำมือคล้ายดันอากาศออกไป “ใจร้ายจัง แต่ข้าตายไม่ได้ ปีศาจไม่อนุญาต เอ้า! โรงเตี๊ยมอยู่ทางด้านโน้น ท่านราชาอยากพบเจ้า ส่วนคนอื่นที่มากับเจ้าก็แล้วแต่พระบิดาแห่งความตาย”

“เจ้าต้องตายต่างหาก” เสียงไพเราะนั้นบอกอย่างตัดสินชะตาของแม่มดตรงหน้า

“ข้าบอกแล้วว่าข้าตายไม่ได้” แมรี่โกลด์ทำหน้าหงอย นางไต่หลังคาไปมาพร้อมดันคุกอากาศออกไปด้วย

“ปีศาจหรือจะร้ายกาจกว่าข้า” โรสเวนสะบัดดาบเวท บริเวณที่นางแม่มดเกาะอยู่ร่วงพัง ทำให้นางตกลงกระแทกพื้นดังโครมใหญ่

โรสเวนก้าวเข้าไปไม่เร็วไม่ช้า นางยกดาบเวทขึ้น แทงลงกลางหัวใจร่างที่นอนอยู่

แมรี่โกลด์สะดุ้งเฮือก นางบอกว่านางตายไม่ได้ทว่ายังรู้สึกเจ็บรู้สึกปวด “อะ” นางกำใบดาบไม่ให้มันแทงลึกไปกว่านี้ ทว่าอีกฝ่ายบิดข้อมือกดใบดาบลงอย่างมีแรงกำลังมากกว่าที่เห็น

แม่มดจ้องมองโรสเวน ท่านราชาแกล้งส่งให้ข้ามาตายแท้ๆ

เอ๊ะ หรือให้รางวัลกันนะ


แมรี่โกลด์รู้ว่าถ้าโรสเวนถอนดาบ ชีวิตที่ 77 ของนางดับสูญทันทีแน่ แต่นางต้องพูดบางอย่างในเวลานี้ จึงใช้กำลังยึดดาบไว้แน่น

“เจ้าสวย...แถมยังเท่แบบท่าน...หญิง” แม่มดพูดไปแล้วก็โล่งใจ นางชอบสตรีสวยๆ ยิ่งสวยและดุยิ่งหลงรัก เมื่อบอกความในใจเสร็จนางก็นอนแผ่ อ้าแขน เตรียมรับความเจ็บปวดระลอกใหญ่ “...รอ...พบกันใหม่ ท่านราชารอเจ้าอยู่”

โรสเวนใช้สายลมจากดาบขยี้หัวใจของนางแม่มด เมื่อเห็นอีกฝ่ายกระตุกและร่วงลง เลือดสดๆ ทะลักออกมาจากรอยแผลบนอก จึงค่อยถอนดาบออก

นางแม่มดยิ้ม เป็นรอยยิ้มซึ่งมีแต่คนวิปลาสเท่านั้นที่จะยิ้มได้ในช่วงเวลาแบบนี้ นางหายใจขัด เจ็บ...แต่ยอดเยี่ยม

ความตายช่างยอดเยี่ยม

ดวงตาของนางเบิกค้าง นางกระตุกอีกครั้งและสิ้นลมตรงนั้นเอง

โรสเวนยืนเงียบอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง ก่อนออกเดินไปทางโรงเตี๊ยม

เอริแอดเน่ เจ้าปลุกชีพเขาขึ้นมาจริงหรือ เจ้าทำอะไรลงไป อยากเห็นราชาซิกฟรีดถูกพี่ชายตัวเองบั่นคอหรืออย่างไร!

-------------------------------------------

ริวอร์นอร์สวมชุดอย่างเอลฟ์ชั้นสูง คอปกตั้งปิดบังรอยแผล เขานั่งอยู่ในห้องรับรองของโรงเตี๊ยม โดยมีท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์นั่งบนโซฟาเดี่ยวข้างๆ และมีโธรอสยืนอารักขาอยู่ไม่ไกล

นั่งอยู่ในความเงียบสักพัก ราชามงกุฏดำว่า “เงาของเจ้าเหมือนเจ้าแค่ไหนหรือ”

“ถ้าข้าแทงอกซ้ายของเจ้า นางจะแทงอกขวาอย่างไม่ลังเล” เอริแอดเน่สวมชุดสีแดงเพลิง หน้าตาเครียดขึ้ง โธรอสอยู่ที่นี่ แล้วคนของนางเล่า...

“อืม…” ริวอร์นอร์ยิ้ม “เรายังสงสัยว่าเจ้าปลุกเราทำไม บอกเราให้ชัดเจนเถิด”

“ใครปล่อยเจ้าออกมา จามิลลาหรือ” เอริแอดเน่เมินริวอร์นอร์และหันไปถามโธรอส ทว่าในใจนางสังหรณ์ร้ายกว่านั้น...จามิลลาไม่มีทางปล่อยโธรอสด้วยอารมณ์ชั่ววูบ

ริวอร์นอร์ไม่ถือสา เขาพยักหน้าให้โธรอสตอบคำถามนางได้

“เวเรด้าขอรับ”

“แล้วนางอยู่ที่ไหน” คำถามนี้มีนัยสำคัญ ในเมื่อริวอร์นอร์เคยบอกว่าคนของนางกำลังเดินทางมาพร้อมโธรอส เป็นไปได้มากว่าเวเรด้าปล่อยโธรอสเพราะระแคะระคายเรื่องราชามงกุฎดำและวางแผนตามรอยมา...แม้รู้ว่าอาจถูกตลบหลังก็ตาม

โรสเวน...เวเรด้า เอริแอดเน่ไล่รายชื่อของคนที่อาจอยู่ที่นี่ในใจ

“เราให้คนไปต้อนรับ แต่พวกนางไม่ยอมมาดีๆ” ริวอร์นอร์เอ่ย “เราอยากรู้ว่าเจ้ามีเป้าหมายอะไรถึงปลุกเรา หากน่าสนใจ เราจะร่วมมือด้วย”

น่าสนใจ...สำหรับริวอร์นอร์ จะมีอะไรน่าสนใจไปกว่าการได้พบน้องชายอีกครั้ง และได้อบรมสั่งสอนกันอีกหน่อย

เอริแอดเน่รู้สึกตัวเย็นเฉียบ นางไม่คิดดึงโรสเวนและองครักษ์ที่สนิทสนมกันมาร่วมแผนการฆ่าตัวตาย จึงได้จัดการทั้งหมดด้วยตนเอง

แผนของนางคืออะไรงั้นหรือ...น่าสมเพชที่จะบอกว่าอยากตายไปให้พ้นๆ แล้วช่างเรื่องที่เหลือใช่หรือไม่ ใช่...นางคิดเช่นนั้นจริง ในเมื่อมารดานทีนำนางไปยังที่ฝังศพของริวอร์นอร์ ก็เท่ากับนางยังตายไม่ได้หากไม่คืนชีวิตให้ราชามงกุฎดำ--นักรบคนสำคัญที่แม้เลวทรามเพียงใดก็มีกำลังปกป้องแผ่นดินเอลฟ์จากจอมทัพทมิฬ

มารดานทีเป็นพยานว่านางพยายามแค่ไหนในการใช้เวทมนตร์นอกรีตเพื่อคืนชีพให้ท่านเฟรธูริน

...และอาจเพื่อให้นางได้ละทิฐิเมื่อเห็นว่าเป็นวาระสุดท้ายของชีวิต...กล้าถามคำถามที่ตนคาใจ

 

“เราอาจต่ำทราม เอริแอดเน่ แต่ไม่ทรามถึงขั้นย่ำยีศักดิ์ศรีของสตรี นั่นไม่ใช่วิถีของเรา เราทราบเรื่องเมื่อสายเกินไป จำได้หรือไม่...ในวันที่เจ้าไปเยี่ยมพระศพของเฟรธูริน ที่เรือลำนั้น เราเอ่ยกับเจ้าว่า ‘ยามเราโกรธแค้น เราจะทำให้มันผู้นั้นตายทั้งเป็น’ ไม่ใช่เจ้า...ราชินีของเรา แต่เป็นดาร์กเอลฟ์ที่บังอาจแตะต้องเจ้า เราสั่งให้เอ็ดราฮิมล่าพวกมันและจับขังไว้ ให้น้ำ...ให้อาหาร ให้มันทนยามถูกแล่เนื้อทีละชิ้นทุกวัน”

 

บนเตียง ในอ้อมแขนของเขา ริวอร์นอร์กระซิบบอกนางเช่นนั้น และทำให้นางสับสนใจ นางฟังแล้วแตะต้นแขนร้อนผ่าวของเขา เกาะมันไว้เหมือนเป็นหลักยึด

ไม่ได้! ง่ายดายแค่นี้เองหรือ แค่เขาพูดสิ่งที่ข้าอยากฟัง ข้าถึงจะโง่ยอมเชื่อว่ามันเป็นความจริง และนั่นก็ไม่เปลี่ยนเรื่องที่เขาฆ่าท่านเฟรธูริน!

“ข้าไม่ได้อยากปลุกชีพเจ้า นั่นเป็นพระประสงค์ของมารดานที” เอริแอดเน่เลือกตอบความจริงเพียงส่วนเดียว

ที่จริง ถ้านางเป็นตัวของตัวเอง ไม่ตกอยู่ในสภาพอ่อนแอและสิ้นหวังจากการสูญเสียซิกฟรีดผู้รักและเชื่อฟังตนมาตลอด นางอาจคิดปลุกชีพริวอร์นอร์มาทำลายซิกฟรีดที่ทรยศต่อความไว้ใจของนาง แต่เวลานั้นนางไม่รู้สึกถึงไฟแค้นใดๆ ต่อซิกฟรีดเหมือนที่มีต่อริวอร์นอร์ ไม่มีแรงผลักดันถึงขนาดอยากล้มบัลลังก์ของ ‘ราชาแห่งรูเมเรียร์’ เป็นครั้งที่สอง

“มารดาผู้บริสุทธิ์” อดีตราชาเอลฟ์รำพึง “หากเป็นเช่นนั้นจริงก็อาจเกี่ยวข้องกับรูเมเรียร์”

“ข้าจะต้อนรับเจ้าสู่บ้านของข้า ริวอร์นอร์ เพื่อเห็นแก่พระประสงค์ของมารดานที” เอริแอดเน่ไม่มีทางเลือกอื่น นางปล่อยเขากลับรูเมเรียร์ไม่ได้ ความตายของซิกฟรีดไม่ใช่สิ่งที่นางอยากเห็น...ในตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่

“หากเจ้าบริสุทธิ์ใจ เราก็จะแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราไม่คิดทำร้ายอัศวินของเจ้า” ริวอร์นอร์วางมือบนหลังมือของเอริแอดเน่ “เราเชื่อคำพูดของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ได้หรือไม่”

ท่านหญิงที่เคยฆ่าเรามาแล้วครั้งหนึ่ง...

น้ำหนักที่วางบนหลังมือเปรียบได้กับการหยั่งความเชื่อใจและการกล่าวโทษ เอริแอดเน่ยอมรับมันอย่างมีศักดิ์ศรี “ถ้าเจ้าอยากได้คำยืนยันที่ข้าสาบานต่อมารดานภาและมารดานทีได้สักเรื่องหนึ่งละก็...ข้าสาบานว่าข้าจะไม่กลับไปหาซิกฟรีด และไม่คิดเป็นราชินีของเขา” นางกระตุกรอยยิ้มอย่างนางงูพิษ “ข้าบอกเจ้าว่าอย่างไร ‘ซิกฟรีดให้ข้าเป็นราชินี แต่เขารักดาร์กเอลฟ์’ ...บุรุษ...ดาร์กเอลฟ์”

ริวอร์นอร์หรี่ตา “บุรุษดาร์กเอลฟ์?” มีรอยไม่พอใจปนสมเพชอยู่ในน้ำเสียง

จนถึงตอนนี้ เอริแอดเน่ยังไม่สนิทใจให้บุรุษแตะตัวนาง และบางครั้ง เมื่อรู้สึกเครียดถึงขีดสุด นางจะเห็นบุรุษที่บังเอิญเข้ามาอยู่ในสายตาไม่มีใบหน้า ใบหน้าของบุรุษเหล่านั้นจะเป็นภาพเลือนๆ...เหมือนดาร์กเอลฟ์ที่เคยทำร้ายนาง

“ก็เขารักของเขา” นางเข่นเขี้ยวอย่างมีโทสะ

“ชื่อและลักษณะของมันเป็นอย่างไร”

“ข้าไม่ใช่คนส่งสารของเจ้า ไปสืบหาเอาเองเถอะ”

“ช่างปากร้าย” ริวอร์นอร์ไม่โต้กลับไปมากกว่านี้ เขากางมือขวาออกแล้วร่ายเวท เกิดตราเวทรูปม้าทมิฬผุดขึ้นมา “ทหารของเรา…” เสียงนั้นจะก้องในหัวของทหารที่ราชามงกุฏดำต้องการเรียกใช้ “จงปล่อยให้สตรีจากอิซิลดาร์ทุกนางมาหาเรา...โดยไร้รอยขีดข่วน”

พูดจบ ริวอร์นอร์กำมือเป็นการผูกตราเวทกับทหารผู้นั้น บังคับให้ทำตามคำสั่งจนกว่าจะลุล่วง หาไม่แล้ว ตราเวทจะทำลายอวัยวะส่วนที่มันฝังอยู่ เช่น โธรอสจะเสียแขนขวาที่เขาสาบานว่าจะจับดาบเพื่อราชาของตน

นี่เป็นการแสดงความจริงใจของราชาริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์

 

ระหว่างที่กษัตริย์และกษัตรีพูดคุยกันอยู่ มีหนูลอบเข้ามายังโรงเตี๊ยมแล้ว เจย์คิดว่าสายเลือดของเอลฟ์ในร่างช่างไร้ประโยชน์ เขาเคยไปทดสอบเวท ผลที่ได้คือศูนย์หรือแปลง่ายๆ ว่าไร้พรสวรรค์โดยสิ้นเชิง ทว่าสิ่งที่เจย์ไม่รู้คือ...การที่ไม่มีพลังเวทนั่นแหละเป็นพรสวรรค์ เขาสามารถลบตัวตนของตัวเองได้อย่างหมดจด พลังเวทแฝงอยู่ในกายอย่างแนบเนียนเสียจนการทดสอบแบบธรรมดาไม่สามารถจับได้ เพราะเหตุนั้นเอง...โจรหนุ่มจึงใช้ทักษะย่องเบารวมกับพรสวรรค์ที่เขาไม่เคยรู้ เข้ามายังโรงเตี๊ยมโดยไม่มีใครจับได้

อ้อ ก็มีไปเจอะกับพนักงานโรงเตี๊ยมบ้าง แต่ไม่เป็นปัญหาเพราะเจย์มียาสารพัดสารพัน และหนึ่งในนั้นคือยาสลบ…

เอายาอุดปากแล้วลากไปเก็บเลยจ้ะ

ถึงโจรหนุ่มจะมีพรสวรรค์ในการลบตัวตน ทว่ายังมีคนหนึ่งจับสัมผัสของเขาได้ นางรู้ว่าเขาเข้ามาใกล้ด้วยตราเวทบนหน้าผากซึ่งนางเป็นผู้ประทับไว้เอง

เอริแอดเน่เงียบไป แล้วเอ่ยว่า “ข้าจะออกไปพบคนของข้า”

“ให้พวกนางเข้ามา” ริวอร์นอร์ยืนยัน “พูดคุยกันที่นี่จะเป็นไร”

“พวกนางอาจทำตัวเองเป็นอันตรายได้ ตราบใดที่ยังไม่ได้เห็นหน้าข้า” เอริแอดเน่ลุกขึ้น เดินไปทางโธรอส มองให้อีกฝ่ายหลีกทาง

ริวอร์นอร์ลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาเคียงนาง เขาวางมือบนแผ่นหลังแบบบาง “ให้เราได้ต้อนรับอย่างเจ้าบ้านเถิด” พูดจบ ริวอร์นอร์ก็พยักหน้าให้โธรอสถอยไป ทหารหนุ่มน้อมศีรษะ จากนั้นตามอารักขาอยู่เบื้องหลัง

เอริแอดเน่อยากเถียงว่า ‘อิซิลดาร์เป็นบ้านของข้า ไม่ใช่ของเจ้า’ แต่นางเสียเปรียบ จึงแค่เดินนำลงไปอย่างนิ่งเฉย โดยมีริวอร์นอร์โอบประคองเอวนางอย่างถือสิทธิ์

นั่นทำให้เจย์ที่หาทางซอกแซกมาจนถึงห้องรับรองได้ถึงกับสบถในใจ แม้ยังไม่ได้จังหวะฉกตัว แต่กว่าจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ได้เขาก็ใจหล่นไปหลายวูบ นึกขอบคุณบิดาแห่งโจรทั้งปวงที่อวยพรเขา ทำให้เขาลอดจากสายตาดุคมของทหารชื่อโธรอส และที่สำคัญ โจรกระจอกอย่างเขาดันลอดจากหูตาของกษัตริย์เอลฟ์ได้อย่างไรก็ไม่ทราบ

ต้องเป็นพระบิดาแน่ๆ พระบิดาเจ้าข้า รอดไปได้ข้าจะบูชาท่านด้วยสินแร่หนึ่งแท่ง...อ่า สองแท่งก็ได้ขอรับ

เอริแอดเน่อึดอัดกับมือที่วางบนเอว ปกติริวอร์นอร์ไม่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง แม้ตอนที่นางเป็นคู่หมั้นของเขา แค่จับมือถือแขนกันยังไม่ทำเลยด้วยซ้ำ “เจ้ามีแผนอะไรอีก” นางไม่เชื่อว่าเขาพิศวาสนางถึงขนาดนั้น ที่แสดงออกอย่างสนิทสนม ต้องมีจุดประสงค์

“ไม่มีอะไรมากไปกว่าแสดงให้พวกนางเห็นว่าเจ้าอยู่กับเรา...และปลอดภัยดี” ริวอร์นอร์มองเอริแอดเน่ด้วยสายตานุ่มนวลจนน่าขนลุก

“บิดามารดาลงโทษข้าเถิด” นางสบถ เกลียดที่จู่ๆ โลกก็พลิกกลับ เขาเป็นฝ่ายกุมอำนาจเหนือนางได้อย่างไร

ลงไปชั้นล่าง ทหารที่ขับรถม้าให้ริวอร์นอร์นามโอริม และทหารเอลฟ์ร่างยักษ์นามควิลดอร์ยืนเหมือนกำแพงเหล็ก ควิลดอร์อุ้มเวเรด้า ตาของนางปิดอย่างทรมาน ร่างกายสั่นเทา



—————————————————————————

A/N ตอนนี้เฉลยหลายเรื่องเลยค่ะ ความในใจที่ซับซ้อนก็คลี่ออกมาทีละชั้น

เรารู้สึกว่าความรักที่เอริแอดเน่มีให้ซิกฟรีดก็คือเอ็นดูและตามใจ ต่างกับริวอร์นอร์ที่เป็นรุ่นเดียวกัน

และ...ตอนนี้ริวอร์นอร์ก็รู้เรื่องน้องชายรักดาร์กเอลฟ์แล้ว /งืมๆๆๆ โคลด์ แงงงงง


ป.ล. แอบชอบตอนโรสเวนว่า 'ปีศาจหรือจะร้ายกาจกว่าข้า' /เท่ แงงงง


อวดหน้าโคลด์หยุยๆ อิอิ! วาดโดย Oiru © I L L R E I 2017

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/1249438429-member.jpg)

ภาพนี้เป็นของพิเศษสำหรับงาน Y Book Fair วันที่ 1 ก.ค. 60 นี้ค่ะ

(ใครที่ไม่รู้จัก งานนี้เป็นงานรวมหนังสือแนว Y เหมือนงานสัปดาห์หนังสือของสายวายค่ะ

สนใจงานกด google search ด้วยชื่องานได้เลยค่ะ เพจหลักของงานอยู่ใน Facebook)

รายละเอียดของพิเศษจะมาเร็วๆ นี้ คอยติดตามเพจ ILLREI ไว้นะคะ!


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @ILLREIwriter
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (6) [17/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 17-06-2017 15:27:37
เดาใจกันไม่ถูกจิงๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (6) [17/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-06-2017 16:36:38
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (6) [17/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 17-06-2017 22:36:47
 ก็เขารักของเขา กิๆ :L2:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (6) [17/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 18-06-2017 15:15:51
ถ้าเช่นนั้นใครคือคนที่สั่งให้ทำลายเอรี่? หรือเป็นจอมทัพทมิฬ?

คิด ๆ ไปริวอร์นอร์ไม่น่าจะทำ เพราะเขารักของเขามากจริง ๆ แม้จะถูกทรยศก็ตาม

เอรี่ไม่รักซิกฟรีดฉันชู้สาว นางจึงไม่เคืองแค้น ไม่ผิดหวังจากรัก แต่นางผิดหวังที่น้องชายที่รักกลับไปรักดาร์กเอลฟ์ที่นางชิงชัง

ส่วนความรักกับริวอร์นอร์นั้นร้อนรุ่มด้วยอารมณ์และแผดเผานางเสมอ

อยากฟัดโคลด์หน้ายู่ วรั๊ย! 


หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (6) [17/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: lostboy ที่ 18-06-2017 19:13:03
 :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (6) [17/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 18-06-2017 21:18:19
พอจะแยกความรู้สึกของเอรี่จากสามพี่น้องเอลฟ์ได้ละ

เฟรรูธริน - น่าจะรักแบบบริสุทธิ์ใจ แบบรักแรก ศรัทธา ยกย่อง เป็นที่ยึดเหนี่ยวใจ อะไรทำนองนั้น

ริวอร์นอร์ - รักที่เปี่ยมอารมณ์หนุ่มสาวอย่างเข้มข้น ทั้งแค้นทั้งรัก เป็นรักที่ลึก หวั่นไหวรุนแรง

ซิก - รักอย่างน้องชายที่เชื่อฟัง คอยดูแล

แต่คิดว่าทั้งหมดนี่ เอรี่รู้สึกกับริวอร์นอร์มากที่สุด ศรัทธาเฟรรูธรินมากที่สุด เอ็นดูซิกฟรีดที่สุด


ส่วนตัวแอบกรี๊ดราชามงกุฎดำ โอยยย เพ่ช่างเท่กร๊าวใจอะไรขนาดนี้!~
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (7) [18/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 18-06-2017 21:36:53
บทที่ 26 : เงาอาดูร (7)

เอริแอดเน่ก้าวไปดูคนของตัวเองทันที นางแตะเส้นชีพจรข้างลำคอ “ไม่ใช่เวท...พิษ” สตรีอิซิลดาร์เชี่ยวชาญการใช้เวทมนตร์และยาพิษ พิจารณาจากอาการตัวร้อน หายใจลำบาก เหงื่อออกท่วม ปากกลายเป็นสีม่วงซีด ไม่มีกลิ่นอายเวทมนตร์

เอริแอดเน่คิดถูกต้อง เวเรด้าตามโธรอสมา และถูกล้อมจับ นางถูกโอริมฟาดจนศีรษะเป็นแผลแตก จากนั้นก็แหวกวงล้อมของอมนุษย์ที่เป็นบริวารของนางแม่มดแมรี่โกลด์ นางแม่มดย่อมเป็นผู้ใช้พิษ แค่เพียงแผลบาดที่แขน พิษก็เข้าสู่ร่างกายของเวเรด้า นางตัดสินใจช่วยเจย์แม้รู้ว่าตนถูกพิษ สู้กับควิลดอร์ได้จนสุดความสามารถก็ล้มลง

“วางนางลง!” เอริแอดเน่สั่ง

ควิลดอร์จะทำตามที่ราชาริวอร์นอร์สั่งเท่านั้น เขาหลุบตาขณะหันไปหาพระองค์เพื่อขออนุญาต ซึ่งพระองค์ก็ให้เขาวางนางลงได้

“ท่าน...หญิง” เวเรด้าพึมพำ น้ำตาคลอ

“นางแม่มดของเจ้าอยู่ที่ไหน” เอริแอดเน่หันไปถามริวอร์นอร์เสียงเฉียบ ทหารของริวอร์นอร์เป็นใคร มีความสามารถอะไรบ้างนางย่อมรู้ โธรอส โอริม และควิลดอร์ไม่ใช่ผู้ใช้พิษ

“น่าจะไม่อยู่แล้ว” ริวอร์นอร์เอ่ยเรียบๆ เขาย่อตัวลงคุกเข่าข้างกายเวเรด้า นิ้วแข็งแรงแตะชีพจรบริเวณลำคอนาง สำรวจลักษณะบาดแผลที่แขนซึ่งพิษซึมแทรกเข้าไป

“นางแค่หยอก” ราชามงกุฏดำให้เอริแอดเน่ดูขอบรอยแผล “ขอบมีรอยไหม้ ร่างกายร้อนจัด เป็นไปได้มากว่านางถูกพิษในกลุ่มเพลิง แก้ได้ด้วยเวทวารีของเจ้า”

“งั้นหรือ” เอริแอดเน่ขึงตา “นางแค่หยอกหรือ” นางเอ่ยทวนคำ “ช่างรู้ใจกัน น่าเสียดายที่นางไม่อยู่แล้ว ข้าจะได้หยอกนางคืนบ้าง”

“เราหยอกนางแทนเจ้าแล้ว”

คำตอบที่ได้ฟังทำให้สีหน้าของท่านหญิงทะมึน “ข้าจะกลับราชวัง” นางวางมือบนหน้าผากของเวเรด้า

“เอริแอดเน่...อีกคนหนึ่ง ทำไมเจ้าไม่ออกมาจากเงา เราส่งนางแม่มดไปให้เจ้าหยอกมิใช่หรือ” ริวอร์นอร์หยัดกายขึ้น ก่อนหน้าเขาสั่งให้แมรี่โกลด์ทักผู้ที่มีใบหน้าเหมือนกับเอริแอดเน่ว่า ‘เงา’ ริวอร์นอร์กำชับให้นางออกเสียงดังฟังชัด ใช่...เขารู้ว่านางจะตาย และถูกต้อง เขาให้รางวัลนางที่ยุดยื้อเอริแอดเน่จากอุ้งพระหัตถ์ของพระบิดาแห่งความตาย

แมรี่โกลด์ไม่ใช่แม่มดสติดีนักหรอก แต่แม่มดก็เป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ...

มือแบบบางปิดปากเจย์จากด้านหลัง มือนั้นกดลงเป็นเชิงให้โจรหนุ่มที่แอบซ่อนตัวอยู่เงียบ

เจย์เกือบว้ากออกมาแล้ว ใจเขาหล่นทะลุพื้นไปถึงนรก เวลานี้เขาซุ่มอยู่บริเวณเสาใกล้ทางออก เขาเห็นด้านนอกไม่ชัดนักและกำลังจะหาทำเลที่ดีกว่า จนกระทั่ง…

‘โรสเวน!’ เจย์ถลึงตาใส่นาง

โรสเวนกอดเอวเจย์ ดึงเขาออกมา ทำท่าจะลากไปอีกทาง เป็นภาพประหลาดที่นางดึงตัวชายหนุ่มร่างสูงด้วยท่าทางเหมือนเขาเป็นเด็กชายตัวเล็กๆ

โจรหนุ่มชี้ไม้ชี้มือว่า ‘ข้าใกล้ถึงตัวนางแล้ว ไม่! จะไปไหน!’

‘ไปก่อน’ นางขยับปาก ‘เอริแอดเน่ยังอยู่ดี’ เมื่อเข้ามาในโรงเตี๊ยมได้ โรสเวนเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง นางเห็นเอริแอดเน่ลงมาจากบันไดที่ชั้นสอง เห็นราชาริวอร์นอร์โอบเอวนางคล้ายเป็นผู้คุมและเสี้ยวหน้าเรียบตึงของผู้ถูกโอบ อยู่ด้วยกันมาในฐานะที่เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน โรสเวนทราบทันทีว่าสีหน้าของเอริแอดเน่ในเวลานี้ไม่ใช่สีหน้าของผู้ที่คิดจะตาย

เจย์มองโรสเวนแบบไม่เชื่อเท่าไหร่ ‘ไปก็ไป’ แต่เขาทำตามนาง นางรู้จักเอริแอดเน่ดีกว่าเขา และเข้าใจสถานการณ์ดีกว่ามาก

โรสเวนถอนหายใจ บีบมือเจย์ ‘พาท่านออกไปก่อน ข้าค่อยกลับไป’ สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ถ้าไม่ต้องเกลี้ยมกล่อมเอริแอดเน่ไม่ให้คิดฆ่าตัวตาย โรสเวนก็ไม่อยากเอาชีวิตของเจย์มาเสี่ยง

เจย์ขบกรามน้อยๆ เขาเป็นโจร เรื่องหนีเป็นความเชี่ยวชาญพิเศษ เรื่องตัดช่องน้อยแต่พอตัวด้วย แต่เวลานี้เขาไม่อยากทิ้งใคร พวกนางไม่เหมือนโจรพวกนั้นที่เขาสามารถทิ้งโดยไม่ต้องคิดมาก

โรสเวนลอบมองเสี้ยวหน้าของเจย์ นางรู้สึกสะท้อนใจ เขาอายุยังน้อยเท่านี้ หากต้องทิ้งพวกนางเอาตัวรอดคนเดียว ในอนาคตหัวใจจะเกิดบาดแผลหรือไม่…

แต่มีบาดแผลก็ดีกว่าตาย!

‘ถ้าข้าเรียกความสนใจได้ล่ะ’ เจย์ขยับปาก ‘ถ้าข้าทำให้พวกมันสับสน เจ้าจะฉกเอริแอดเน่ได้หรือไม่’

แววตาของโจรหนุ่มมั่นคงและเด็ดขาด

เขาเชื่อว่าบิดาแห่งโจรอยู่เคียงข้างเสมอ

และแน่นอน… ‘ต้องรอด’

 

รออยู่นานกับความเงียบ เอริแอดเน่วางมือบนต้นแขนของเวเรด้า ไอเวทสีฟ้าแผ่จากมือนางอาบบาดแผล เมื่อสักครู่นางเคร่งเครียดเกินไป จึงมองลักษณะของบาดแผลไม่ขาด

ไอเย็นจากเวทวารีช่วยประคองอาการของเวเรด้า แต่อย่างไรก็เป็นพิษร้ายกาจของแม่มด หากไม่รีบพาไปรักษา...

“เรียกเงาของเจ้าออกมา หากเจรจาเป็นผลจะได้ออกเดินทาง ช้ากว่านี้...นางเอลฟ์ตะวันออกคงไม่รอด” ริวอร์นอร์แตะไหล่เอริแอดเน่เบาๆ

“เงาของนางอยู่ที่นี่แล้ว” เสียงที่เหมือนกับเอริแอดเน่ตอบ ผู้พูดเดินออกมาจากประตูที่เชื่อมไปทางด้านหลังโรงเตี๊ยม นางเอลฟ์ผู้นี้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกษัตรีแห่งอิซิลดาร์ทุกประการ นางสวมชุดสีแดงเพลิง ใบหน้างามเฉิดฉันเรียบตึง ไม่ประดับรอยยิ้ม เมื่อมาประจันกับเอริแอดเน่ที่สวมชุดคล้ายกัน ก็ดูราวกับดอกไม้เพลิงสองดอก

เอริแอดเน่ลุกยืน หลุบตามองโรสเวน

ริวอร์นอร์คลี่รอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ นัยน์ตาสีดำยังคงร้อนแรงไม่แพ้ครั้งที่เคยเป็นสีแดงโลหิต เขาน้อมศีรษะให้นางเล็กน้อยในฐานะที่นางทำหน้าที่สำคัญ--เงา

ใช่ว่าเชื้อพระวงศ์สำคัญทุกพระองค์จะมีเงา การสร้างและฝึกเงาทำได้ยากยิ่ง ไม่ใช่แค่ใบหน้าเหมือน ท่าทางเหมือน หรือฝึกจนบรรยากาศเหมือนเท่านั้น แต่เงาต้องจงรักภักดีในระดับเกินสามัญ เป็นตัวตายตัวแทน เป็นทหารและเป็นพี่น้อง เคยมีประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งบันทึกในเชิงว่า ‘ราชวงศ์รูเมเรียร์เกือบตกในวิกฤติ เพราะเงาไม่ยอมเป็นเงา มันริอยากเป็นแสงสว่าง’ ถอดความได้ว่ามีเงานึกทรยศ ต้องการสวมรอยเป็นเจ้านายเสียเอง หลังจากนั้น ราชวงศ์รูเมเรียร์ก็ยกเลิกประเพณีการสร้างตัวแทนเงาไป

โรสเวนถอนสายบัวอดีตราชา จากนั้นหันไปพิจารณาท่านหญิงของนาง ไล่จากดวงหน้าซีดเซียว เพราะผอมลงดวงตาจึงดูโตกว่าปกติ ริมฝีปากแห้ง...และบาดแผลเย็บที่ลำคอ

ดวงตาสีหินแก้วประกายรุ้งของโรสเวนมีไอน้ำเอ่อขึ้นมา “ท่านคิดจะตายจริงๆ”

ริวอร์นอร์ได้เห็นเอริแอดเน่หลบตา

เป็นครั้งแรกที่เอริแอดเน่ผู้เย่อหยิ่งหลบตาใครสักคน

“และตอนนี้ท่านเปลี่ยนใจแล้ว...ข้าควรดีใจหรือไม่” เสียงโรสเวนพร่าอย่างน่ากลัว เร็วกว่าใครจะคาด นางก้าวเข้ามา ตบใบหน้าของเอริแอดเน่ดังฉาด

เอริแอดเน่เกิดมาอย่างท่านหญิงสูงศักดิ์ สมัยยังเด็ก หากนางล้มได้แผลเพียงนิดเดียว นางกำนัลแทบจะหมอบกรานเพราะกลัวถูกลงทัณฑ์ จะมีใครกล้าแตะต้องหรืออบรมนางนอกจากท่านย่าของนางเอง

นางพญาแห่งอิซิลดาร์เป็นสตรีที่หยิ่งทะนง ทว่านางยอมให้ ‘เงา’ ตบหน้าตนต่อหน้าคนนอก ซ้ำยังไม่เอ่ยปากเถียง

เพราะครั้งนี้นางทราบว่าตนผิดจริง

นางคิดทิ้งชีวิตโดยไม่คำนึงถึงแผ่นดิน อันว่ากษัตริย์ยืนอยู่เหนือเอลฟ์ทั้งเผ่าพันธุ์ แต่เป็นข้ารับใช้แผ่นดิน มีหน้าที่ปกป้องแผ่นดินจากข้าศึกศัตรูภายนอก คุ้มครองจากความขัดแย้งภายใน ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีและปลอดภัย นำความรุ่งเรืองทั้งทางร่างกายและจิตวิญญาณมาสู่เผ่าพันธุ์

ทว่านางกลับเอาความต้องการของตนเป็นที่ตั้ง คิดทิ้งทุกอย่างให้โรสเวน เอริแอดเน่คิดว่าหากมีโรสเวนอยู่ ก็จะมี ‘เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์’ แผ่นดินจะยังมั่นคงและอาจดีกว่าเมื่อปกครองด้วยสตรีที่มีนิสัยแตกต่างจากนางอย่างโรสเวน

จริงหรือ

ทว่าในมุมหนึ่งของหัวใจ เอริแอดเน่กลับทราบดีว่า นางได้ทิ้งภาระหนักหนาให้โรสเวน สิ้นนางแล้วความสัมพันธ์ระหว่างรูเมเรียร์และอิซิลดาร์จะเป็นอย่างไร ท่าทีอันละสายตาไม่ได้ของจอมทัพทมิฬเล่า

นางสั่งบั่นคอริวอร์นอร์ ทำลายขุมกำลังของเผ่าเอลฟ์จากภายในด้วยมือตนเอง และทำลายจิตใจของซิกฟรีดแลกกับชีวิตของตน

เอริแอดเน่หนาวเยือกไปถึงสันหลัง นางพยศร้ายกาจต่อชะตากรรม ให้นางก้มหน้ายอมรับสิ่งที่ริวอร์นอร์และซิกฟรีดกระทำไม่ใช่ตัวนาง นางยินดีแลกชีวิต กระนั้นบิดาแห่งความตายกลับปฏิเสธนางครั้งแล้วครั้งเล่า

นางเห็นความโกลาหลเมื่อรูเมเรียร์ทราบว่าริวอร์นอร์กลับมาแล้วอยู่ไม่ไกล

“ท่านจะโง่อีกกี่ครั้งถึงจะพอใจ” เพราะเป็นเงา สาเหตุที่เอริแอดเน่อยากปลิดชีวิตและยอมอยู่ต่อ โรสเวนใช้ความคิดนิดเดียวก็ทราบ “จนป่านนี้แล้ว ท่านยังให้เขาจูงจมูก”

เอริแอดเน่จ้องตอบตรงๆ นางบีบข้อมือของโรสเวนที่ยกค้างไว้หลังตบนาง ทว่าเค้นคำพูดไม่ออก

โรสเวนหันมองริวอร์นอร์ “เขาต้องการอำนาจของอิซิลดาร์ และท่านเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ท่านคิดว่าตัวเองมีอะไรพิเศษไปกว่านั้นหรือ”

ทุกคำพูดของโรสเวนช่างแทงใจ และเมื่อเอ่ยจากปากนาง ก็คล้ายเงาในกระจกของเอริแอดเน่กำลังบอกตัวนางเอง

ริวอร์นอร์กระตุกยิ้มให้กับเงาที่ปากกล้าไม่กลัวตาย เขาต้องการอำนาจของอิซิลดาร์หรือ...ใช่ แต่เขาก็ต้องการตัวนางด้วย ผลประโยชน์มาพร้อมความรัก นั่นไม่ดีหรืออย่างไร

อ้อ ผสมความชังเข้าไปด้วยในบางอารมณ์ นางฆ่าเขา ทำลายหัวใจเขา--เป็นข้อเท็จจริงที่เขาไม่อาจลืม

“ข้า…” เอริแอดเน่ได้แต่บีบข้อมือของอีกฝ่าย

“เขายังเรียกท่านว่า ‘ราชินีของเรา’ อยู่หรือไม่ ถ้าท่านไม่ใช่ราชินี ไม่มีแผ่นดิน ไม่มีอำนาจ ท่านก็เป็นได้แค่สตรีโง่เง่าในกำมือเขา” โรสเวนเจ็บปวดที่ต้องพูดออกมาตรงๆ ต้องแสดงความอ่อนแอของเอริแอดเน่ให้บุรุษเหล่านี้ชม ซึ่งนอกจากราชาริวอร์นอร์แล้ว ยังมีทหารของเขา

“ก็ให้เขาเรียกไป!” เอริแอดเน่ขึ้นเสียง “ข้า! คือเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์” ดวงตาของนางมีประกายไฟอันเกรี้ยวกราดและแข็งกร้าวฉายวาบขึ้นมา ไม่ริบหรี่อ่อนแสงดังเช่นก่อนหน้า นางหันไปมองริวอร์นอร์ “ข้าสั่งให้เขารู้ฐานะของตนเมื่อไหร่ เขาก็ต้องทราบ”

ราชามงกุฎดำเหลือบสายตามองนาง ก่อนตวัดกลับไปยังเงา “นางเอลฟ์ตะวันออกต้องการหมอ ส่วนเราและคนของเราต้องการที่พำนักในอิซิลดาร์ ถ้าตกลง เราทั้งหมดจะออกเดินทาง” เขาเจรจาอย่างห้วนและสั้น ทั้งตรงประเด็นแบบไม่ให้พวกนางเสียเวลา

ริวอร์นอร์แสดงความใจกว้างอีกครั้ง เขาไม่จำเป็นต้องรักษาเวลาให้พวกนางเลย จะใช้เวเรด้ามาขู่เอริแอดเน่หรือเงาก็ได้ แต่ไม่ทำ…

ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือกมากนักเช่นนี้ โรสเวนคิดว่านางคิดถูกจริงๆ ...ที่ตีเจย์จนสลบไป



—————————————————————————

A/N ฮ่าๆ จริงๆ อยากให้เจย์บู้นะคะ แต่ว่ากลัวไม่รอด จึงต้องตีจนสลบค่ะ \(*0*)/


จบบทเงาอาดูรแล้ว จากไปอีก 2 บทก็จะจบภาคค่ะ

อยู่กับอิซิลดาร์อีก 2-3 ตอน เรื่องจะวนกลับไปทางโคลด์และซิกฟรีดเร็วๆ นี้ค่ะ

ริวอร์นอร์ก็กลับมาแล้วเนอะ ไม่รู้ซิกฟรีดจะว่ายังไง


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @ILLREIwriter
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (6) [17/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-06-2017 21:49:12
พอจะแยกความรู้สึกของเอรี่จากสามพี่น้องเอลฟ์ได้ละ

เฟรรูธริน - น่าจะรักแบบบริสุทธิ์ใจ แบบรักแรก ศรัทธา ยกย่อง เป็นที่ยึดเหนี่ยวใจ อะไรทำนองนั้น

ริวอร์นอร์ - รักที่เปี่ยมอารมณ์หนุ่มสาวอย่างเข้มข้น ทั้งแค้นทั้งรัก เป็นรักที่ลึก หวั่นไหวรุนแรง

ซิก - รักอย่างน้องชายที่เชื่อฟัง คอยดูแล

แต่คิดว่าทั้งหมดนี่ เอรี่รู้สึกกับริวอร์นอร์มากที่สุด ศรัทธาเฟรรูธรินมากที่สุด เอ็นดูซิกฟรีดที่สุด


ส่วนตัวแอบกรี๊ดราชามงกุฎดำ โอยยย เพ่ช่างเท่กร๊าวใจอะไรขนาดนี้!~

คิดเหมือน
ริวอร์นอร์ เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ดิบเถื่อน หื่น เอ่อ.....เซ็กส์จัดชัดๆ แต่ชอบบบบบ
นี่ริวอร์นอร์ คงไม่คิดทำร้ายโคลด์นะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (7) [18/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 18-06-2017 21:57:21
โรสเวน คือ สติของเอรี่สินะ

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (7) [18/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-06-2017 22:28:04
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (7) [18/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 18-06-2017 22:36:33
พอจะแยกความรู้สึกของเอรี่จากสามพี่น้องเอลฟ์ได้ละ

เฟรรูธริน - น่าจะรักแบบบริสุทธิ์ใจ แบบรักแรก ศรัทธา ยกย่อง เป็นที่ยึดเหนี่ยวใจ อะไรทำนองนั้น

ริวอร์นอร์ - รักที่เปี่ยมอารมณ์หนุ่มสาวอย่างเข้มข้น ทั้งแค้นทั้งรัก เป็นรักที่ลึก หวั่นไหวรุนแรง

ซิก - รักอย่างน้องชายที่เชื่อฟัง คอยดูแล

แต่คิดว่าทั้งหมดนี่ เอรี่รู้สึกกับริวอร์นอร์มากที่สุด ศรัทธาเฟรรูธรินมากที่สุด เอ็นดูซิกฟรีดที่สุด


ส่วนตัวแอบกรี๊ดราชามงกุฎดำ โอยยย เพ่ช่างเท่กร๊าวใจอะไรขนาดนี้!~

คิดเหมือน
ริวอร์นอร์ เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ดิบเถื่อน หื่น เอ่อ.....เซ็กส์จัดชัดๆ แต่ชอบบบบบ
นี่ริวอร์นอร์ ตงไม่คิดทำร้ายโคลด์นะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

คิดเหมือนกันเลยเรื่องความรู้สึกของเอรี่

ยังไงหวังว่าริวอนอร์จะเป็นกำลังให้รูเมเรียต่อกรกับจอมทัพนะ

ไม่ใช่มาสู้กันเอง
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (7) [18/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-06-2017 01:06:05
น้องปวดหัวกับความวุ่นวาย ถ้าไม่รักไม่อ่านแน่ๆ

แต่มันหลงเสน่ห์ไปล้าว ก้อต้องตามต่อปายยย
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (6) [17/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 19-06-2017 01:29:28
เดาใจกันไม่ถูกจิงๆ
อย่างนี้ต้องติดตามไม่ให้คลาดสายตาค่ะ!

:pig4: :pig4:
:katai2-1: :katai2-1:

ก็เขารักของเขา กิๆ :L2:
"ก็เขารักของเขา" เอรี่ทวนงอนๆ

ถ้าเช่นนั้นใครคือคนที่สั่งให้ทำลายเอรี่? หรือเป็นจอมทัพทมิฬ?

คิด ๆ ไปริวอร์นอร์ไม่น่าจะทำ เพราะเขารักของเขามากจริง ๆ แม้จะถูกทรยศก็ตาม

เอรี่ไม่รักซิกฟรีดฉันชู้สาว นางจึงไม่เคืองแค้น ไม่ผิดหวังจากรัก แต่นางผิดหวังที่น้องชายที่รักกลับไปรักดาร์กเอลฟ์ที่นางชิงชัง

ส่วนความรักกับริวอร์นอร์นั้นร้อนรุ่มด้วยอารมณ์และแผดเผานางเสมอ

อยากฟัดโคลด์หน้ายู่ วรั๊ย!
"งืมๆๆๆ อือๆๆ อย่าฟัดข้า อือๆๆ อื้อๆๆๆ" เสียงร้องของโคลด์จิ๋ว
ริวอร์นอร์นี่ เดาใจยากจังค่ะ ก็ดูรักนะ แต่ทำไมโหดจัง เคยมาปลอบเค้ามั้ย? ;w;
ถ้าเป็นเรา เรารักคนแบบเจย์ดีกว่า ฮือออ ดีต่อใจมากกว่านะคะ
แต่นี่เป็นเอรี่ คงมีแค่เอรี่ที่รู้ว่าอดีตของนางและริวอร์นอร์เป็นยังไง
แล้วทำไมเขาถึงทำลายนางได้ (หรือรออ่าน Ugly Queen แค่กๆ)
อารมณ์เอรี่ก็หวงซิกฟรีด aka ผักกาดขาวน้อย จริงๆ ค่ะ
/แบบ /กอดหนุบ "ผักกาดขาวน้อยของข้าถูกหมูดำ (โคลด์) คาบไปกิน" ;w;

:mew1:
:mew1: :mew1: :mew1:

พอจะแยกความรู้สึกของเอรี่จากสามพี่น้องเอลฟ์ได้ละ

เฟรรูธริน - น่าจะรักแบบบริสุทธิ์ใจ แบบรักแรก ศรัทธา ยกย่อง เป็นที่ยึดเหนี่ยวใจ อะไรทำนองนั้น

ริวอร์นอร์ - รักที่เปี่ยมอารมณ์หนุ่มสาวอย่างเข้มข้น ทั้งแค้นทั้งรัก เป็นรักที่ลึก หวั่นไหวรุนแรง

ซิก - รักอย่างน้องชายที่เชื่อฟัง คอยดูแล

แต่คิดว่าทั้งหมดนี่ เอรี่รู้สึกกับริวอร์นอร์มากที่สุด ศรัทธาเฟรรูธรินมากที่สุด เอ็นดูซิกฟรีดที่สุด


ส่วนตัวแอบกรี๊ดราชามงกุฎดำ โอยยย เพ่ช่างเท่กร๊าวใจอะไรขนาดนี้!~
โอย เหมือนมานั่งกลางใจนักเขียนเลยค่ะ วรั๊ยๆ
เวลาเขียนตัวละครที่มีอารมณ์ซับซ้อน และมีความสัมพันธ์หลายรูปแบบกับตัวละครหลายคน
มันเขียนยากจริงๆ ค่ะ ที่จะให้คนอ่านเข้าใจสิ่งที่เราต้องการสื่อ /แปลว่าเราจูนตรงกัน '///' /จับจูบ

ริวอร์นอร์งานดีจริงค่ะ เขียนเองก็จิ้นฮีกับทหารคนสนิทเอง... (จริงๆ คุณ FOULSOUL เขียน เราจิ้นค่ะ 555)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (1-2) [19/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 19-06-2017 18:12:48
บทที่ 27 : มากเล่ห์ (1)

ในสระน้ำอุ่นสีฟ้าใส อวลไอน้ำกรุ่นผสานกลิ่นเครื่องหอมที่ทำให้ผิวเนื้อซ่านระยิบ สตรีเอลฟ์สองนางในชุดผ้าแนบเนื้อโปร่งบางเดินลงบันไดฝั่งซ้ายและขวาลงไปหาบุรษที่ยืนอยู่กลางสระ

ราชามงกุฏดำเปลือยเปล่า ร่างกายตั้งแต่สะโพกลงไปซ่อนอยู่ใต้น้ำ กล้ามเนื้อทุกส่วนสัดแข็งแรงเฉกนักรบแห่งรูเมเรียร์ ไล่ตั้งแต่แผงอกกำยำ หน้าท้องเคร่งครัด ไปจนถึงสะโพกสอบแน่น ดวงตาสีดำรัตติกาลจ้องมองพวกนางเช่นดวงตาของสัตว์ร้ายกระหายเนื้อ

แสงยามเที่ยงวันส่องผ่านหลังคากระจกเหนือศีรษะ อาบไล้ผิวขาวละเอียดของนางเอลฟ์ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนให้เรืองรอง ในมือของพวกนางคือถาดวางพู่กัน ผ้า และชามแก้วเจียระไนบรรจุหมึกสีแดง พวกนางวางถาดลอยน้ำ คนหนึ่งยืนด้านหน้า อีกคนยืนด้านหลัง ต่างหยิบผ้าชุบน้ำเหมือนกัน เช็ดอักขระสีทองบนลำคอของเขา

สตรีเอลฟ์ร่วมกันเอ่ยภาษาเวท อักขระที่ถูกเขียนไว้ด้วยฝีมือของแม่มดนอกรีตค่อยๆ ถูกเช็ดจนจาง หมึกสีทองไหลจากลำคอแกร่งสู่แผ่นอกและแผ่นหลัง มือนุ่มนิ่มกดผ้าเช็ดลากตาม กระทั่งสีทองบนร่างกายของเขาหมดไป

พวกนางหยิบพู่กันจุ่มหมึกขึ้นพร้อมกัน หมึกสีแดงข้นทำจากโลหิตผสมหินแก้วบดเป็นผงและเครื่องหอมที่ใช้ในพิธีเวท ปลายพู่กันเรียวเล็กแตะรอยแผลเป็นบนลำคอ บรรจงเขียนอักขระประณีตละเอียดลออทีละตัวอักษร

โฉมงามด้านหน้าเขียนวนทางขวา ขณะโฉมงามด้านหลังเขียนวนทางซ้าย พวกนางสลับที่กันหลายครั้ง ทว่าด้วยสีหน้าท่าทางที่เหมือนกันทุกกระเบียดทำให้แยกไม่ออกว่าคนไหนคือคนไหน ใครคือคนที่เคยอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลัง

เมื่อเขียนเสร็จ อักขระสีแดงบนลำคอรัดร้อยเกี่ยวกระหวัด กลายเป็นรอยสักรูปมงกุฎหนามคมกริบพันรอบคอเขา มือเล็กคู่หนึ่งแตะที่รอยแผลเป็นด้านหน้า อีกคู่แตะที่รอยแผลเป็นด้านหลัง

พวกนางบริกรรมคาถา

ราชามงกุฎดำเห็นกระแสเวทแห่งผืนน้ำสั่นไหว น้ำในสระช่วยเพิ่มความเข้มข้นของไอเวท ปลายนิ้วที่ลูบไล้อยู่บนลำคอแกร่งทั้งล่อลวงและยั่วยวนใจ เขาร้อนที่ลำคอขึ้นเรื่อยๆ ขณะพวกนางร่ายมนตร์ พร้อมกันนั้นก็เกิดความเปลี่ยนแปลงกับร่างกายของเขา

ผมสีดำกลายเป็นสีทองไล่จากโคนถึงปลาย รวมถึงขนอ่อนทั่วร่างกายก็กลายเป็นสีทอง ดวงตาสีดำมีสีแดงเข้มข้นผุดซ้อนขึ้นมา กลายเป็นสีตาดุจโลหิต รอยสักรูปมงกุฎหนามรอบลำคอเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีดำ ซ่อนรอยแผลเป็นจากการถูกบั่นคอให้ผิวเนื้อบริเวณนั้นเชื่อมกันสนิท

นี่คือเวทอำพรางกายชั้นสูงอันแข็งแกร่ง กระทั่งกลิ่นอายของริวอร์นอร์ก็กลับมามีชีวิต แม้ใช้เวทตรวจสอบก็ไม่อาจทราบว่าเขาคือคนตายฟื้นคืนชีพ

“เจ้ายังต้องกินเลือดและเนื้อเพื่อต่อชีวิต แต่ความหิวจะบรรเทาเมื่อมีเวทของเราช่วยพยุง” พวกนางเอ่ยพร้อมกัน เสียงเสนาะทับซ้อนฟังลี้ลับ มีมนตร์

“ค่าตอบแทนเล่า…” ริวอร์นอร์กระซิบ เขาวางสายตาไปยังพวกนางทีละคน เงาเหมือนเอริแอดเน่ เอริแอดเน่เหมือนเงาไม่ผิดเพี้ยน สมแล้วที่พวกนางเป็นสตรีคนสำคัญแห่งอิซิลดาร์ แผ่นดินที่ขึ้นชื่อในกลตบตาและเวทมากเล่ห์

สตรีด้านหน้าเชิดหน้านิดๆ ไอน้ำทำให้ชุดผ้าขาวบางแนบเรือนร่าง ไม่มีสัดส่วนใดของนางถูกบดบังจากสายตาเขา เพียงแค่ถูกซ่อนเร้นให้ยิ่งน่าค้นหา ขณะสตรีด้านหลังลูบแผ่นหลังเขาลงไปถึงเอว นิ้วเปียกน้ำลื่นผิว ให้สัมผัสน่าพึงใจ

“ให้เจ้าเป็นผู้ชายของเรากระมัง” เสียงร้ายกาจจากด้านหลังบอก ขณะสตรีด้านหน้ายกยิ้มซึ่งร้ายกาจไม่แพ้กัน

ริวอร์นอร์เชยคางสตรีด้านหน้า ก่อนจะหันไปวางมือบนแก้มของสตรีด้านหลัง เขาพิจารณาว่าผู้ใดคือเอริแอดเน่ ถูกต้อง พวกนางรูปโฉมเหมือนกัน กิริยาท่าทางไม่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับเขาเอริแอดเน่มีเพียงคนเดียว

พวกนางยิ้มท้าทายเขา นางเงา พอแสดงบทแสง ก็ทำได้เหมือนไม่มีที่ติ พวกนางเดิมพันกัน ว่าหากริวอร์นอร์ยอมรับข้อเสนอหรือแยกพวกนางไม่ออก สิ่งที่โรสเวนพูดก็จะเป็นจริง เขาแค่ต้องการ ‘ราชินี’ จะเป็นสตรีคนไหนก็เหมือนกัน

ร่างนุ่มนิ่มของทั้งสองเบียดหากายแกร่ง ออดอ้อนและยินยอมพร้อมใจ อุณหภูมิของน้ำทำให้การแนบชิดยิ่งเร่าร้อนขึ้น

“เจ้า…” ราชามงกุฏดำเอ่ยกับสตรีด้านหลัง “ร้องเพลงให้เราฟังสักท่อนหนึ่ง”

“ข้าไม่ใช่นางขับร้องของเจ้า นางชื่ออะไรนะ คนที่ให้แหวนแก่เจ้า” นางโอบมือจากด้านหลัง ข่วนเล็บบนอกริวอร์นอร์อย่างมีจริต

ริวอร์นอร์หัวเราะในคอ “หากไม่ให้คำใบ้แก่เราสักนิด เราก็จะใช้สัญชาตญาณ ให้บิดานภาชี้ทางแก่เรา”

สตรีด้านหน้ากอบหน้าเขา นางแตะนิ้วบนสันกรามแกร่ง พอใจกับความสง่างามสมชาย “สัญชาตญาณแบบไหนหรือ” บาดแผลที่ลำคอและมือทั้งสองข้างของเอริแอดเน่ได้รับการรักษาแล้ว เขาจึงไม่สามารถแยกพวกนางด้วยร่องรอยบาดแผล

อดีตราชาเอลฟ์หลับตา เขาโน้มใบหน้าไปยังสตรีด้านหน้า สูดกลิ่นบริเวณต้นคอไล่มาจนถึงไหปลาร้า จากนั้นค่อยจับให้นางหันหลังแล้วสูดกลิ่นบริเวณท้ายทอย ริวอร์นอร์โอบเอวนางเข้ามา แนบใบหน้ากับไหล่แบบบาง ก่อนจะแนบริมฝีปากกับหลังใบหู

สตรีด้านหน้าครางในคอ นางยกแขนเกี่ยวคอเขา ขยุ้มเส้นผมที่กลายเป็นสีทอง ริวอร์นอร์สังเกตว่านางจิกเท้าเมื่อใบหูถูกสูดดมลึกขึ้น

“โรสเวนเคยร่วมเตียงกับเจ้า” สตรีด้านหลังบอก ไม่ทราบว่าจริงหรือเท็จ หรือคนไหนคือโรสเวน “เจ้าแยกเราไม่ออกตั้งแต่ตอนนั้น”

ราชามงกุฏดำกอดนางเอลฟ์แน่นเข้า “ผู้ชายก็มีสัญชาตญาณไม่ต่างจากผู้หญิง เขาทราบว่ากำลังกอดใครอยู่…เขาทราบว่าภรรยาของตนลงโทษเขาด้วยการให้ร่วมเตียงกับหญิงอื่น แม้เขาจะไม่เข้าใจเล่ห์กลของนางก็ตาม”

ริวอร์นอร์ลากริมฝีปากลงมาถึงหลังของสตรีด้านหน้า เขาฝังจมูกตามสันหลัง และยามแนบใบหน้าลงไปก็ได้ยินเสียงหัวใจเต้นเบาๆ

ใบหน้าของริวอร์นอร์ถูกจับหันมาด้านหลัง เขาและสตรีด้านหลังจ้องตากัน นางยกยิ้ม “ใครเป็นภรรยาของเจ้าหรือ”

“เอริแอดเน่...หรือเจ้าปลาในอ่างแก้วแห่งอิซิลดาร์”

พวกหน้ามีสีหน้าแข็งค้างไปชั่วขณะเมื่อถูกเปรียบเทียบเช่นนั้น ดวงตาคู่งามสองคู่ฉายแววไม่พอใจ

“น่าขำ ถือดีอย่างไรมาเรียกข้าว่าภรรยา เจ้ากับข้าไม่มีพิธีวิวาห์ด้วยซ้ำ” คนหนึ่งบอก สีหน้าเข่นเขี้ยวของพวกนางเหมือนเงาสะท้อนบนกระจก แต่ลักษณะเฉพาะตัวยามโกรธของเอริแอดเน่เป็นสิ่งที่เลียนแบบได้ยาก

...จะมีใครเลียนแบบองศาใบหูของอีกคนเวลาโกรธได้หรือ โดยเฉพาะท่าทางที่แสดงออกเกิดขึ้นเฉพาะเวลาที่นางถูกเขายั่วยุ

“หูเจ้าชี้แล้ว” ริวอร์นอร์ยกยิ้ม เขาปล่อยสตรีด้านหน้า แล้วหันมาหานางผู้เป็นที่รัก

สตรีด้านหลังยกมือสองข้างจับหูตัวเอง หน้าแดงก่ำ “แค่วันนี้เจ้าโชคดีหรอก” แปลว่านางจะทดสอบเขาต่อไป

“กลิ่นของนางไม่เหมือนเจ้าเสียทีเดียว อาจต้องเคร่งครัดในการกินมากกว่านี้ เราหมายถึงตัวเจ้าเอง นางได้กินอาหารสมบูรณ์ แต่เจ้าได้กินเพียงผลไม้ของเอ็ดราฮิม”

เมื่อไม่ต้องแสดงบทบาทแล้ว โรสเวนก็เอาแขนข้างหนึ่งปิดหน้าอกและยืนเงียบๆ

ครั้งนี้...นางแพ้เดิมพัน

ริวอร์นอร์เข้ามาหาเอริแอดเน่ เขาจับคางนางไว้ “เจ้าคงไม่ใจร้ายปล่อยเราไว้ตรงนี้ใช่หรือไม่”

สายตาของโรสเวนคาดคั้นเอริแอดเน่เช่นกัน ว่าท่านจะปล่อยให้เขาเล่นสนุกต่อไปหรือ

ส่วนเอริแอดเน่เชิดหน้า เอ่ยไม่เร็วไม่ช้า “ไปนอนกับนางแม่มดของเจ้าเถิด”

“เจ้าเป็นใหญ่ที่สุด” ริวอร์นอร์จูบริมฝีปากบึ้งตึงของนาง

โรสเวนเห็นเอริแอดเน่หลุบตาลง ใช้เล็บไล้แผ่นอกของชายตรงหน้าอย่างเหม่อลอย นางก็หมุนตัวเดินออกไป

“โรสเวน” เอริแอดเน่เรียกไว้

ทว่าโรสเวนถอนใจแล้วเดินต่ออย่างไม่ลังเล

จะต้องสนิทสนมกันถึงขั้นไหนหรือ นางถึงมีอิทธิพลต่อเอริแอดเน่ถึงขนาดนี้

เอริแอดเน่เงียบครู่หนึ่งก็เงยหน้าบอกริวอร์นอร์ “ค่าตอบแทนคือตัวเจ้า ใต้คำสั่งของข้า” ความเชื่อมโยงแห่งวรรณะเวทของนางกับเขากลับมาแล้ว เขายอมให้นางชะล้างมนตร์ของนางแม่มดก็จริง แต่นางคิดว่าเขาทราบอยู่แล้วว่ามันจะค่อยๆ เสื่อมไป จึงยอมให้นางล้างมนตร์เพื่อแลกกับผลประโยชน์ส่วนอื่น

“เราจะขัดขืนอย่างไรได้เล่า” ริวอร์นอร์จุมพิตนางอย่างดูดดื่ม แขนกระหวัดกอดและดันให้นางเข้ามาใกล้

ราชามงกุฏดำไม่เคยเอื้อนเอ่ยคำรักเลยสักครั้ง

ทว่าร่างกายของเขา...บอกรักนางนับพันครั้ง

—————————————————————————

A/N ขึ้นบทรองสุดท้ายแล้วค่ะ สังเกตว่าเวลาเอริแอดเน่ว่าง่าย ริวอร์นอร์จะพอใจเป็นพิเศษ ...ช่างเป็นคนที่!


ป.ล. วันนี้ลง 2 ตอนนะคะ เลื่อนอ่านตอนต่อไปเลยจ้า -3-


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @ILLREIwriter
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (1-2) [19/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 19-06-2017 18:20:22
บทที่ 27 : มากเล่ห์ (2)

ความรู้สึกแรกหลังเจย์ฟื้นคืนสติคือ

ปวดหัวฉิบหาย

ความรู้สึกที่ตามมาหลังเขาครางโอดโอย คลำหัวป้อยๆ และพลิกตัวคือ

นิ่ม…

นุ่ม

เด้งดึ๋ง?

สัมผัสที่บดเบียดเข้ามาทั้งนุ่มทั้งอุ่น โจรหนุ่มดีดเปลือกตาขึ้นแวบหนึ่งแล้วกลับไปหลับตาใหม่ด้วยความตกใจ เนื่องเพราะเวลานี้เขาถูกรายล้อมไปด้วยสตรีโฉมสะคราญนับไม่ถ้วน หญิงที่นอนชิดเขาที่สุด--คนที่เขาลืมตาใส่เมื่อครู่หัวเราะคิกคัก ทำเอาเขาหน้าแดงวูบวาบ มันใช่หรือนั่น คนที่สมควรเขินอายควรเป็นนางไม่ใช่หรืออย่างไร

เจย์แอบลืมตาแบบหรี่ๆ พบว่านางเป็นเอลฟ์ผมสีเทา ใช้นิ้วจิ้มแก้มเขาอยู่ “นี่คือผู้ชายสินะ” นางบอก

เขาจนคำพูดทันที

“เจ้าก็เป็นผู้หญิงสินะ…” เจย์เอ่ยแก้เก้อ เขาตัวแข็ง ไม่รู้จะขยับตัวไปทางไหน โจรหนุ่มอุทาน “อุ…!” เมื่อด้านหลังก็มีสัมผัสนุ่มๆ นิ่มๆ เบียดชิดเข้ามา ไม่เพียงเท่านั้น แขนเรียวบางยังถือวิสาสะกอดเขาจากด้านหลังอีก เจย์มองไล่ไปยังมือที่ลูบหน้าท้องเขา เล็บตะไบคมกริบทาสีเขียวปีกแมลงทับ หลังมือเขียนลายงดงามแปลกตาไปจนถึงข้อมือ

“นี่ๆ อย่าลูบเขาก่อนข้าสิ อ้อ ข้าชื่อซิลเวียนะ” นางบอกเจย์แล้วทำหน้าเหมือนอยากลองแตะหน้าท้องของโจรหนุ่มบ้าง

เจย์ลุกพรวดพราด เขาพบว่าตัวเองสวมแค่กางเกงชั้นในจึงลากผ้าห่มมาปิด พวกนางหัวเราะคิกคักเหมือนเจอเหยื่อตัวน้อย โจรหนุ่มเลิ่กลั่ก เขาชอบสตรีและที่นี่คือสวรรค์...แต่คิดอีกที เขาไม่แน่ใจนัก

เดี๋ยว เอ๊ะ...มองดีๆ เจ้าของมือที่ลูบหน้าท้องเขาเมื่อกี้...ไม่มีหน้าอกนี่หว่า!

ผิวนุ่มนวลขาวผ่อง เอวคอด ยอดอกเล็กสีชมพู บุรุษใดเห็นก็อยากฟอนเฟ้นไปทั้งตัว แต่อย่างไรแผ่นอกก็แบนราบ...เป็นหนุ่มน้อยหน้าตาสะสวยที่ไม่กลัวการสบตา เขายกมุมปากให้เจย์

เจย์ยกมือขึ้นปิดหน้า ส่งเสียงครางลอดฝ่ามือ ก่อนจะขยี้ผมแรงๆ

“ผู้ชายเขินล่ะ” ซิลเวียบอก...แล้วหนุ่มน้อยที่อยู่กับนาง...ไม่เรียกผู้ชายหรือ

“นั่นก็ผู้ชาย” เจย์ชี้ไปทางบุรุษที่ตะไบเล็บแหลมเปี๊ยบ

“เขาเป็นอสรพิษต่างหาก” นางแก้ความเข้าใจผิดของคนตรงหน้า “ไม่ต้องกลัวนะ เขาชอบผู้ชายเหมือนข้า” นางเอ่ยมีจริตแต่เป็นมิตรว่าทุกคนที่นี่ชอบเขา หวังให้เจย์ผ่อนคลายอารมณ์

“ข้าอยู่ที่ไหน” เจย์เข้าเรื่องในที่สุด “โรสเวนล่ะ เอริแอดเน่ เวเรด้า…”

“ท่านหญิงโรสเวน?” ซิลเวียขมวดคิ้ว จับแค่คำแรก ไม่เช่นนั้นคงตำหนิที่เจย์เรียกชื่อท่านหญิงเอริแอดเน่ห้วนๆ “ท่านเป็นผู้บัญชาการหน่วยอสรพิษ ไม่ใคร่ออกมาภายนอกราชวัง แม้แต่ใบหน้าของท่านข้ายังไม่เคยเห็นเลย”

“ไม่มีผู้ใดในพวกเจ้าเคยเห็นโรสเวน แต่เขาเคยเห็น ดังนั้นเขาจึงเป็นแขกคนสำคัญของข้า” สตรีผู้ครองแคว้นเดินเข้ามา ด้านหลังนางคือองครักษ์ผมดำ--ซอนย่า

เมื่อนางเข้ามา ทั้งห้องเงียบกริบ หยุดการเคลื่อนไหว

ซิลเวียเข้าไปรายงานตัวกับซอนย่าพร้อมเอ่ยขอโทษที่องครักษ์สตรีและหน่วยอสรพิษฝึกหัด เข้ามาดู ‘แขก’ โดยพลการ

“ท่านหญิงสั่งห้ามใครเข้ามาไม่ใช่หรือ” ซอนย่าไม่ใคร่พูด ทว่าพูดแต่ละครั้งทำให้คนสะดุ้งไปตามกัน เพราะนางดุและเคร่งครัดกว่าใคร

เจย์เห็นซิลเวียและคนอื่นๆ คุกเข่าทันที ทั้งหมดหมอบกรานโดยมีนางเอลฟ์ผมสีเทาเอ่ยขออภัยอย่างหวาดเกรง “พวกเราแค่อยากมาต้อนรับบุรุษที่ให้ความช่วยเหลือท่านหญิงที่เมืองโรสมินาสเจ้าค่ะ”

ซิลเวียและเอลฟ์ผู้เยาว์ย่อมไม่ทราบเรื่องตัวแทนเงา ซอนย่าจึงรับคำสั่งโรสเวนให้พาเขามาซ่อนในรังอสรพิษโดยบอกคนในหน่วยว่า ‘ลูกครึ่งเอลฟ์ผู้นี้คือผู้ที่ให้ความช่วยเหลือท่านหญิงเอริแอดเน่หลังเหตุการณ์วังน้ำวนที่เมืองโรสมินาส จงต้อนรับเขาอย่างแขกคนสำคัญ’

“ข้าผิดเอง ใจเย็นๆ นะ...ข้าโวยวายไปเอง” เจย์จะยกมือห้ามทัพ แต่นึกได้ว่าตนใส่เพียงกางเกงเนื้อบางเบาแทบปกปิดอะไรไม่ได้ จึงยืนเก้ๆ กังๆ อย่างนั้น

ซอนย่าตวัดสายตามาทางเจย์ ทำเอาโจรหนุ่มเกือบสะอึก...ทำไมต้องดุขนาดนั้นขอรับ

“ให้พวกนาง...เอ่อ และพวกเขาออกไปก่อนดีไหม”

เมื่อเอริแอดเน่พยักหน้า ซิลเวียและคนอื่นๆ ถึงกับครางออกมาอย่างโล่งใจ รอจนทั้งหมดออกไป เหลือเพียงนาง เจย์ และซอนย่า สามคนอยู่ในห้อง นางก็เดินมานั่งฟูกหนานุ่มวางติดพื้นซึ่งใช้เป็นที่นอนของเจย์ “ยังเจ็บศีรษะอยู่หรือไม่”

“ข้าอยากคุยนะ แต่พวกเจ้าหันหลังสักครู่ได้มั้ย” เจย์วนนิ้ว เป็นเชิงให้พวกนางหมุนตัวหันหลัง “หมุนเลยๆ”

“ไม่เป็นไร ข้าไม่ถือสา” นางตอบ เวลานี้เจย์จะแยกออกหรือไม่ว่านางคือโรสเวนหรือเอริแอดเน่

“ข้าหันหลังเองก็ได้…” เจย์จะบ้าตาย เขาเดินลากผ้าห่มควานหาเสื้อผ้าสวม พอสวมเรียบร้อยก็สบายใจ นั่งคุยกับสตรีได้ไม่มีปัญหา “ตกลงเจ้าฉกเอริแอดเน่ได้หรือเปล่า” โจรหนุ่มเอ่ยถามสตรีตรงหน้า เขาดูมั่นใจมากว่านางคือโรสเวน

“เราต้องตกลงเรื่องการระมัดระวังคำพูดจาของท่านเสียก่อน” โรสเวนแปลกใจที่เจย์แยกนางออก แต่ไม่แสดงออก “เมื่อสักครู่ หากข้าไม่เข้ามา ทั้งหมดในห้องอาจไม่เหลือศีรษะไว้บนบ่า”

เจย์พยักหน้ายอมรับผิด “ข้าขอโทษ ข้าใจร้อนเกินไป”

“ท่านประหม่าหรือ” นางผ่อนคลายอารมณ์ ดวงตาสีสวยมองคล้ายรู้ทัน

“ใจร้อนเรื่องท่านหญิงด้วย ประหม่าด้วย ข้าไม่เป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ นัก”

“สตรีอิซิลดาร์ชอบบุรุษรูปร่างสูงใหญ่” นางยกมือคล้ายวัดความสูงให้เจย์ “อย่างท่านนี่ อยู่ในระดับ...อืม…”

“เลือดเอลฟ์ทำให้กล้ามข้าไม่หนาเหมือนพวกมนุษย์” เจย์คอตก “หมู่บ้านข้า ผู้ชายที่ไม่ขาดผู้หญิงต้องร่างหนา บึกบึน เหวี่ยงขวานผ่าฟืนท่อนขนาดนี้ขาดในฉับเดียว” เขาทำมือวัดขนาดท่อนฟืน

“หรือ…” นางยิ้ม “ท่านยังเยาว์ ขอแค่ฝึกฝนร่างกายอีกสักหน่อยก็จะองอาจสง่างามเป็นแน่” นางพูดเอาใจเขาเหมือนชมเด็กชายตัวน้อย ทั้งปลอบโยนและทำให้อารมณ์ดี

“ตกลงว่าท่านหญิงปลอดภัยหรือไม่” เจย์ถอนใจหนักๆ “ส่วนเรื่องที่เจ้าตีหัวข้าค่อยว่ากัน”

โรสเวนคลี่ยิ้มเมื่อเจย์ไม่ถือสาเรื่องนางตีเขาสลบไป และไม่ได้ขอตุ้มหูที่นางมอบให้คืน เพราะจากนี้เขาอาจต้องพบอันตรายยิ่งกว่าที่โรงเตี๊ยมเสียอีก

“นางปลอดภัย...ในเวลานี้ เรื่องของนางข้าให้ท่านถามไถ่นางเองดีกว่า ส่วนถามว่าชิงนางคืนมาได้ไหม...ข้าก็ไม่แน่ใจ ตัวนางอยู่ที่นี่ แต่ใจนางยากจะบอก”

“โอเค...เอาตัวนางก่อน ถ้าตัวนางปลอดภัยก็ถือว่าดีมากแล้ว” เจย์เป่าลมออกจากปาก “เวเรด้าล่ะ”

“นางไม่มีโชคนัก ได้รับพิษร้ายแรงของแม่มด แต่อาการยังทรงตัวอยู่” โรสเวนมองซอนย่า “ซอนย่าจัดการกลบเกลื่อนให้แล้ว แต่ท่านบอกใครไม่ได้เช่นกันว่าเวเรด้าไปที่ไหนหรือทำอะไรมา”

“ข้าเก่งเรื่องรักษาชีวิต และการปิดปากให้สนิทก็เป็นหนึ่งในนั้น” เจย์รับรองกับนาง

เขากำลังถลำลึก...ไม่สิ เขาถลำลงมาจนสุดตัวแล้ว ร้ายกว่านั้น เขาไม่ทราบว่าตนอยู่ในฐานะใด มีหน้าที่อะไร เขาเคยเป็นโจรที่อยากแต่งเมีย แต่เวลานี้เขาไม่แน่ใจสักอย่าง

“เจ้าว่าท่านหญิงอยากจ้างโจรประจำพระองค์หรือเปล่า” เจย์หาที่ทางให้ตัวเอง

สายตาที่โรสเวนมองเจย์มีความรู้สึกตีขึ้นมา มันเหมือนเวลาที่เราห่วงใยหรืออ่อนใจกับใครสักคน “ท่านคงต้องลองถามนางดู แต่ท่านควรตัดสินใจหลังจากทราบว่านางพาใครกลับมา”

“ข้าพอเดาออก” เจย์ถอนใจ “ข้าคงไม่ได้พบนางในฐานะเพื่อนแล้วสินะ”

“อย่างที่ข้าบอก ท่านต้องลองถามนางดู” โรสเวนอยู่คุยกับเจย์อีกครู่หนึ่งจึงเรียกซิลเวียเข้ามาดูแลแขกแทนนาง

แน่นอนว่า ซิลเวียย่อมคิดว่านางได้รับมอบหมายงานจากท่านหญิงเอริแอดเน่


—————————————————————————

A/N ตอนเขียนช่วงนี้ เรารอบทเจย์ได้พบกับเอริแอดเน่อีกครั้ง อยากรู้จังว่าจะเป็นยังไง


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @ILLREIwriter
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (1-2) [19/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-06-2017 19:07:39
โถ่ สงสารโจรน้อย
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (1-2) [19/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 19-06-2017 19:47:36
คนที่โชคร้ายที่สุดในเรื่องนี้คือ....เจย์ ฮ่า ๆ ๆ

มางง ๆ ถลำลึกงง ๆ โดยไม่รู้ที่มาที่ไปเลย


ฉากในห้องเวทวารีนี่ร้อนประหนึ่งหม้อนึ่งปลา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (1-2) [19/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-06-2017 20:18:04
ริวอร์นอร์ ขนันแหย่ หยอกให้เอริแอดเน่โกรธบ่อยๆ
ทำให้จำลักษณะท่าทางเวลาโกรธของนางได้ ไม่ใช่่ย่อยจริงๆ
ริวอร์นอร์ ปากหนักสินะ ไม่เคยเอื้อนเอ่ยคำรักกับเอริแอดเน่เลย
แต่ทำรักกับนางเป็นพันครั้ง
เชื่อละว่าชอบทำรัก และชอบร่างกายเอริแอดเน่จริงๆ  :o8: :-[ :impress2:

เจย์ ซื่อมากๆ ที่อยากรู้ว่า เอริแอดเน่ อยากจ้างตัวเองเป็นโจรประจำพระองค์หรือเปล่า  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (1-2) [19/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ia091 ที่ 19-06-2017 22:18:29
เจย์ต้องรักนวลสงวนตัวไว้นะ 5555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (1-2) [19/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-06-2017 22:51:34
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 26 : (7) [18/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 19-06-2017 23:01:03
พอจะแยกความรู้สึกของเอรี่จากสามพี่น้องเอลฟ์ได้ละ

เฟรรูธริน - น่าจะรักแบบบริสุทธิ์ใจ แบบรักแรก ศรัทธา ยกย่อง เป็นที่ยึดเหนี่ยวใจ อะไรทำนองนั้น

ริวอร์นอร์ - รักที่เปี่ยมอารมณ์หนุ่มสาวอย่างเข้มข้น ทั้งแค้นทั้งรัก เป็นรักที่ลึก หวั่นไหวรุนแรง

ซิก - รักอย่างน้องชายที่เชื่อฟัง คอยดูแล

แต่คิดว่าทั้งหมดนี่ เอรี่รู้สึกกับริวอร์นอร์มากที่สุด ศรัทธาเฟรรูธรินมากที่สุด เอ็นดูซิกฟรีดที่สุด


ส่วนตัวแอบกรี๊ดราชามงกุฎดำ โอยยย เพ่ช่างเท่กร๊าวใจอะไรขนาดนี้!~

คิดเหมือน
ริวอร์นอร์ เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ดิบเถื่อน หื่น เอ่อ.....เซ็กส์จัดชัดๆ แต่ชอบบบบบ
นี่ริวอร์นอร์ คงไม่คิดทำร้ายโคลด์นะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
เฮียแกขยันทำการบ้านค่ะ แค่กๆๆ

โรสเวน คือ สติของเอรี่สินะ
ใช่เลยค่ะ สุดยอดสามีแห่งอิซิลดาร์ แงงงงง

:pig4: :pig4:
:katai2-1: :katai2-1:

พอจะแยกความรู้สึกของเอรี่จากสามพี่น้องเอลฟ์ได้ละ

เฟรรูธริน - น่าจะรักแบบบริสุทธิ์ใจ แบบรักแรก ศรัทธา ยกย่อง เป็นที่ยึดเหนี่ยวใจ อะไรทำนองนั้น

ริวอร์นอร์ - รักที่เปี่ยมอารมณ์หนุ่มสาวอย่างเข้มข้น ทั้งแค้นทั้งรัก เป็นรักที่ลึก หวั่นไหวรุนแรง

ซิก - รักอย่างน้องชายที่เชื่อฟัง คอยดูแล

แต่คิดว่าทั้งหมดนี่ เอรี่รู้สึกกับริวอร์นอร์มากที่สุด ศรัทธาเฟรรูธรินมากที่สุด เอ็นดูซิกฟรีดที่สุด


ส่วนตัวแอบกรี๊ดราชามงกุฎดำ โอยยย เพ่ช่างเท่กร๊าวใจอะไรขนาดนี้!~

คิดเหมือน
ริวอร์นอร์ เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ดิบเถื่อน หื่น เอ่อ.....เซ็กส์จัดชัดๆ แต่ชอบบบบบ
นี่ริวอร์นอร์ ตงไม่คิดทำร้ายโคลด์นะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

คิดเหมือนกันเลยเรื่องความรู้สึกของเอรี่

ยังไงหวังว่าริวอนอร์จะเป็นกำลังให้รูเมเรียต่อกรกับจอมทัพนะ

ไม่ใช่มาสู้กันเอง
ดีใจ คิดตรงกันหลายคน -3-

น้องปวดหัวกับความวุ่นวาย ถ้าไม่รักไม่อ่านแน่ๆ

แต่มันหลงเสน่ห์ไปล้าว ก้อต้องตามต่อปายยย
โหย รักเลยค่ะ รู้เลยว่ารักกันจริงๆ ขอบคุณมากๆ นะคะ
มาๆ นวดให้หายปวด
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (3) [20/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 20-06-2017 15:23:43
บทที่ 27 : มากเล่ห์ (3)

รูเมเรียร์ ห้องเก็บของชั้นใต้ดินแห่งหนึ่ง

อิลราลานจ้องอสรพิษตรงหน้า มันสะบักสะบอมเพราะต่อสู้และถูกเขาจับมาเค้นข้อมูล ริมฝีปากอิ่มที่ถูกมัดของมันเปื้อนเลือด เป็นเขาที่ลงมือทำให้เกิดรอยแผลนั้น และเป็นเขา...ที่ถอนฟันพิษของมันเพื่อไม่ให้ชิงฆ่าตัวตาย

‘อสรพิษแห่งอิซิลดาร์’ คือหน่วยลับใต้เงาของท่านหญิงเอริแอดเน่ พวกมันมีหน้าที่สืบข่าว เป็นสายลับ ลอบสังหาร ทำงานสกปรกและสิ่งที่อัศวินออกหน้าไม่ได้ สมาชิกในหน่วยส่วนมากเป็นบุรุษรูปร่างหน้าตาเหมือนอสรพิษร้าย สวย แต่มีเขี้ยวพิษที่ฉกถึงตาย

อสรพิษตัวที่อิลราลานจับมาคือตัวที่ส่งข่าวเรื่องราชามงกุฎดำแก่โรสเวน มันรับหน้าที่สืบข่าวในเขตตะวันตก รวมถึงมีเส้นสายกับนักค้าข่าว วันนั้นนักค้าข่าวแจ้งว่า ‘มีแม่มดนั่งรถม้ามาที่โรงเตี๊ยมเมืองทิลบ็อต จากนั้นโรงเตี๊ยมก็ปิดไม่รับแขกเพิ่ม พร้อมทั้งย้ายแขกที่พักอยู่ออกไป’

ขุนนางปิดโรงเตี๊ยมมีให้เห็นบ่อย ท่านผู้สูงศักดิ์ที่ไม่ใคร่จะหายใจร่วมกับสามัญชนนั้นแทบเดินชนกันในเขตเมืองหลวง แต่แม่มดเหมาโรงเตี๊ยมสิแปลก พึงรู้ไว้ว่าแม่มดเป็นผู้ใช้เวทนอกรีตที่เกลียดสถานที่ชุมชน และสถานที่ชุมชนก็รังเกียจหวาดกลัวพวกนาง อสรพิษจึงทำตามหน้าที่ ตามรอยเบาะแสไป เมื่อถึงก็ซุ่มรออยู่ด้านนอก และได้เห็นชายที่มีลักษณะท่าทางเหมือนราชามงกุฎดำออกมาที่ระเบียง!

เป็นไปได้อย่างไร! มันคิด ทว่าซุ่มรออีกครู่ใหญ่ก็เห็นบุรุษท่าทางอย่างทหารเข้าไปในโรงเตี๊ยม มันลอบหาจุดมองใบหน้าทหารผู้นั้น...จากนั้นจึงแน่ใจว่า นั่นคือ ‘โอริม’ ทหารคนสนิทของราชาริวอร์นอร์

มันหลบออกมาไกลด้วยไม่กล้าประมาทฝีมือทหารเอกที่เก่งเชิงรบกว่ามันไม่รู้กี่เท่า วิ่งไปพลางเขียนสารอย่างรีบร้อน ตั้งใจส่งข่าวด้วยนกกลางคืนกลับไปยังซิลเซเลียน ทว่าเขียนได้ครึ่งเดียวก็ถูกจู่โจม ข้อความในสารจึงไม่ครบ ไม่ทันได้บอกที่อยู่ของราชามงกุฎดำก็ต้องปล่อยนกบินไป

อสรพิษถูกโซ่เวทเข้ารัดอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ การโจมตีแม่นยำจนมันแทบไม่ทันตั้งตัว พอหลบ โซ่ก็ฉกเข้ามารัดอีก จากโซ่หนึ่งเส้นเพิ่มเป็นสองเส้น ผู้โจมตีใช้อาวุธระยะไกลคล่องแคล่วทั้งสองมือ มือขวาเหวี่ยงโซ่เส้นหนึ่งเพื่อบังคับทิศทางการเคลื่อนไหวของมัน มือซ้ายเหวี่ยงโซ่อีกเส้นเพื่อจับรัด โดยโซ่ทั้งสองเส้นไม่ตีกันเลย

ทว่าผู้จู่โจมมันไม่ใช่ทหารของราชามงกุฎดำ กลับเป็นบุรุษปริศนาที่ไม่เปิดเผยว่ารับใช้ฝั่งไหน มันถูกโซ่เวทรัดและลากออกมาไกลจากโรงเตี๊ยม ซึ่งตัวมันเองก็ยอมในคราแรก เนื่องเพราะหากต่อสู้ตรงนั้นจะเสี่ยงต่อการเปิดเผยกิจลับของท่านหญิง

บุรุษผู้นั้นปิดบังใบหน้าด้วยผ้าสีดำ นัยน์ตาแข็งกระด้าง ฝีมือการต่อสู้ยอดเยี่ยมทั้งในระยะไกลและประชิดตัว ในที่สุดอสรพิษก็เพลี่ยงพล้ำ มันถูกจับในลักษณะช้ำไปทั้งร่าง กระดูกซี่โครงหัก ข้อมือบิด ไหล่หลุดตกร่องแร่ง มันแน่ใจอย่างหนึ่งว่าบุรุษปริศนาถูกฝึกมาเช่นเดียวกับมัน…

ฆ่า


ทว่าอสรพิษยังมีชีวิต ครั้งแรกที่มันลืมตาขึ้นเพราะถูกสาดน้ำเย็นจัด บุรุษผู้นั้นเปิดเผยใบหน้าให้มันเห็น ผมสีทองสว่างและผิวขาวจัดบ่งบอกว่าเป็นเอลฟ์แผ่นดินใหญ่อย่างรูเมเรียร์ ใบหน้าหล่อเหลาคมสันรวมไปถึงดวงตาสีฟ้ากระจ่างชวนให้ใจสั่น...หากอยู่ในสถานการณ์ที่ต่างออกไป

 

“มีสองทางให้เจ้าเลือก หนึ่ง ตอบคำถามข้า สอง ขัดขืนข้าและถูกตอกเล็บ”

 

เวลานั้นอสรพิษหัวเราะในคออย่างผยองทั้งที่ถูกมัดปาก

มันจึงถูกตอกเล็บ จากนั้นก็ถูกทรมานจนหมดสติครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกครั้งที่ได้สติ มันสังเกตว่าสถานที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่นตอนนี้...มันคิดว่าตนอยู่ในห้องใต้ดินของโรงเหล้า รอบๆ มีเงาสลัวของถังไม้บ่มเหล้าและกลิ่นสมุนไพรหลากชนิดจากชั้นวาง

อิลราลาน--องครักษ์มือซ้ายผู้รับใช้ราชาซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์นั่งบนเก้าอี้ไม้ตัวเล็กตรงข้ามอสรพิษ มือใหญ่ดันหน้ามันหันไปมา เห็นยังมีปฏิกิริยาตอบโต้ก็ละออก เวลานี้เขาไม่คิดทรมานรีดเร้นอะไรจากมัน ให้มันพัก อันที่จริง...ถือว่าเป็นวิธีการทรมานอย่างหนึ่งเหมือนกัน

แรกทีเดียวเขาได้รับคำสั่งจากราชาซิกฟรีดให้ตรวจสอบสถานที่ฝังพระศพของราชาริวอร์นอร์ในหุบเขาลึก แต่ภายหลังได้รับคำสั่งให้มาสืบข่าวท่าทีของอิซิลดาร์ที่มีต่อรูเมเรียร์ รวมถึงข่าวการเคลื่อนไหวของท่านหญิงเอริแอดเน่ ระหว่างนั้น เขาได้ข่าวแปลกประหลาดจากนักค้าข่าวเกี่ยวกับแม่มด จึงลองมาตรวจสอบ และพบเรื่องน่าสะพรึงที่ไม่คาดคิด

อิลราลานไม่อยากเชื่อสายตาว่าตนเห็นราชาริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์

เขาเคาะรหัสผ่านตุ้มหูเวทถึงราชาซิกฟรีดทันที ขณะที่สายตาปะทะกับร่างที่รีบร้อนหนีจากโรงเตี๊ยม จึงตัดสินใจไล่ตามไป และเมื่อเห็นมันเร่งร้อนเขียนสารก็ตัดสินใจเข้าจับกุม...ทว่าสารถูกส่งออกไปแล้ว

เขาพบตราแสดงตัวบนร่างมันว่าคืออสรพิษแห่งอิซิลดาร์

ไม่นานหลังจากนั้น อิลราลานได้รับคำสั่งให้รอ อย่าเพิ่งติดตามบุรุษผู้มีลักษณะเหมือนราชาริวอร์นอร์ไป ให้เลี่ยงสถานการณ์เสี่ยงที่จะเปิดเผยตัว และนำตัวอสรพิษกลับมายังรูเมเรียร์

“น้ำ” อิลราลานปลดผ้ามัดปาก ดึงผมสีม่วงแปลกตาของอสรพิษให้มันเงยหน้าขึ้นแล้วกรอกน้ำลงไป จนบัดนี้มันยังไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ซึ่งถือว่าเป็นอสรพิษที่ดี

ถึงจะหยิ่งทะนงแค่ไหน แต่มันก็มีใจหวาดกลัว เหนื่อย และหิวเช่นคนปกติ เมื่อกระหายถึงขีดสุดก็หน้ามืด เปิดปากรับน้ำ

มันดื่มน้ำจากมือบุรุษรูเมเรียร์ อึกๆๆ

“ดี”

ใบหน้าสวยจัดร้อนแรงแบบอิซิลดาร์ แต่ก็สะบักสะบอมด้วยมือที่ไม่ออมแรงของเอลฟ์นักรบ มันขึงตามองอีกฝ่ายด้วยดวงตาสีเหลืองอำพัน น้ำไหลจากมุมปากถึงคาง รสเลือดจากแผลที่ถูกถอนฟันปนกับรสน้ำ สภาพร่างกายที่หมดทางหนีทำให้มันอยากรีบจบชีวิตเสียที...ใครบ้างจะชอบโดนทรมาน

อิลราลานสอดนิ้วง้างปากมันค้างไว้ นิ้วชี้และนิ้วกลางสวมปลอกเหล็ก กันไม่ให้มันกัด มืออีกข้างเอื้อมไปหยิบช้อนซุป ตักซุปเข้าปากมัน บังคับให้มันกิน

อสรพิษครางในคอ ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของบุรุษที่จับมันมา มันไม่พูด แทนที่จะฆ่าให้จบๆ กลับเลี้ยงเอาไว้ต่อ น้ำตาแห่งความอัดอั้นตันใจตลอดหลายวันไหลออกมา สภาพดูไม่ได้ผิดกับวันแรกๆ ที่ยังผยอง

อิลราลานป้อนซุปจนหมดชามจึงปล่อยมัน เขานั่งตรงข้าม จ้องมองนิ่งๆ ทรมานด้วยความเงียบ...ด้วยความสงสัย เวลาในห้องมืดซึ่งสลัวด้วยแสงตะเกียงยาวนานราวนิรันดร์

องครักษ์รูเมเรียร์ไม่เร่งร้อน การจะกร่อนใจอสรพิษอิซิลดาร์ไม่ควรเร่งเร้า เขาลุกขึ้นเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง ก่อนเดินหายไปในความมืด ทิ้งให้อสรพิษจมกับห้วงคิดอันแสนทรมาน

อสรพิษคิดว่าจะกัดลิ้นฆ่าตัวตายดีไหม แต่เกรงอย่างเดียวคือไม่ตาย แล้วจะทรมานหนักยิ่งกว่าเดิม ชะตากรรมของสายลับที่ถูกจับได้เป็นอย่างไรมันทราบดี ตัดสินใจอยู่นาน มันก้มหน้าลง สะอื้นเบาๆ

พูดก็ตาย ไม่พูดก็ตาย…

“ก็ได้...ข้า…ข้า” ถึงตัดสินใจจะพูดเพื่อจบความทรมาน...แต่จะให้ทรยศท่านหญิง มันก็ยังทำใจไม่ลง จึงได้แต่ทำเสียงอู้อี้ในจมูก

มันสะอื้นไห้สักพักก็รู้สึกถึงมือใหญ่วางบนศีรษะ ลมหายใจเป่าแนบใบหูด้านหลัง กลิ่นหอมหนักเช่นบุรุษแตะจมูก เป็นกลิ่นที่ส่งให้รู้สึกอุ่นในอก ท่ามกลางอากาศเยียบเย็นของห้องใต้ดิน

อสรพิษสะดุ้ง ใบหูอ่อนไวสัมผัส มันหดคอหนี หากเป็นยามปกติมันก็คงใช้วิธียั่วยวนใจบุรุษ แต่ยามนี้บุรุษที่อยู่กับมันเป็นก้อนหินไร้อารมณ์ที่พร้อมทุบมันให้แหลกมากกว่า

“อยากรู้อะไร…”

“ทั้งหมด” เสียงที่ตอบกลับมาไม่ใช่เสียงบุรุษคนเดิม มือใหญ่และอุ่นจัดเลื่อนจากศีรษะมาวางบนลำคอของมัน ก่อนจะกำไว้หลวมๆ แล้วดันให้พิงท้องตน มืออีกข้างหนึ่งวางบนอกของมันคล้ายกอดไว้…ช่างนุ่มนวลอ่อนโยน แต่แฝงคำขู่ในทุกสัมผัส

อสรพิษหายใจเข้าและออกอย่างแรง ในใจคิดวกวน มีคนตามมาเก็บข้าหรือ หรือเป็นพวกเดียวกับเจ้าคนเมื่อกี้ แต่ที่มันมั่นใจคือนี่ไม่ใช่เพื่อนอสรพิษ อสรพิษไม่มีบุรุษรูปร่างกำยำเช่นคนที่อยู่ด้านหลัง

นิ้วแข็งแรงดันคางมันขึ้นให้เงยหน้า มันจึงพบว่าบุรุษผู้นั้นคือราชาซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ นัยน์ตาสีแสดล้อมด้วยสีเงินงดงามคล้ายเรืองเรื่อในความสลัว

พูดก็ตาย ไม่พูดก็ตาย… มันคิดเช่นเดิมอีกครั้ง...ทว่าตัดสินใจได้ในที่สุด หากเป็นคนอื่นถาม มันคงลังเลกว่านี้ แต่ก็เลือกเช่นเดิม เวลานี้เห็นหน้าคนถาม ความลังเลของมันถูกพัดกระเจิง “ข้าภักดีต่อนายข้าเท่านั้น”

ดวงตาสีเหลืองอำพันปิดลง มันกัดฟันแน่น รอรับความตาย ถ้าสบายหน่อยคงแค่คอถูกหัก...

“หากเจ้าตาย ใครจะช่วยพี่หญิง” มันได้ยินเสียงร่ายเวทเบาๆ เป็นเวทสำหรับรักษาอาการบาดเจ็บเบื้องต้น ทุกรอยช้ำกลับคืนสภาพปกติ ยกเว้นไหล่ ซี่โครง และเล็บที่ถูกตอกที่ต้องรักษาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ

“ราชามงกุฏดำกลับมาแล้ว...ข้าเชื่อว่าอิซิลดาร์กระตือรือร้นกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะพี่หญิง”

อสรพิษเกรงตัวเองจะเผยพิรุธ มันจึงกัดฟัน รู้อยู่แล้วหรือ หรือแค่หยั่งเชิงข้า ถ้ารู้อยู่แล้วจะเอาข้ามาทรมานทำไม

ในที่สุดมันก็คิดออก

สิ่งที่ราชาซิกฟรีดและข้ารับใช้ของพระองค์อยากทราบ ไม่ใช่เรื่องราชามงกุฎดำ แต่เป็นเรื่องท่านหญิงเอริแอดเน่...

“อืม…” ซิกฟรีดแตะลำคอมัน วัดจังหวะการเต้นของหัวใจ

ชีพจรของอสรพิษนิ่งและเต้นช้าลง มันสงบใจได้แล้ว “นายของข้าไม่เอ่ยถึงองค์ราชาสักคำ ความสัมพันธ์ของพวกท่านคงห่างเหินแล้วกระมัง” มันกล่าวแค่นั้นและเงียบอย่างยอมรับชะตากรรม

“ดูจากที่เจ้ารีบร้อนส่งสาร แปลว่าเอริแอดเน่ไม่ทราบหรือว่าเขากลับมา” อีกเสียงหนึ่งดังจากเงามืดของชั้น คนผู้นี้เร้นกาย ไม่ยอมออกมา

อสรพิษเกร็งตัว กลั้นหายใจ ไม่ยอมเอ่ยปาก ซิกฟรีดจึงลูบแก้มมันอย่างแผ่วเบา “ไม่เป็นไร เจ้าอาจล้า เราจะให้อิลราลานดูแลเจ้า ฟื้นกำลังแล้วเราค่อยพูดคุยกัน”

เมื่อสังเกตภาษาร่างกายของอสรพิษจนพอใจแล้ว คนในเงามืดก็ทำมือให้ราชาออกไปคุยกันด้านนอก

 

“มันมีอะไรขัดๆ กันอยู่นะ” โคลด์เอ่ยกับซิกฟรีด เขาคือคนที่ซ่อนอยู่ด้านหลังชั้นวางสมุนไพร

“เช่นว่า” ซิกฟรีดให้โคลด์เอ่ยต่อ

“ไม่รู้สิ นางปรากฏตัวครั้งแรกหลังเหตุการณ์ที่เมืองโรสมินาสเมื่อไหร่นะ...” ดาร์กเอลฟ์กอดอก ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์

ซิกฟรีดลูบปาก ใช้ความคิด เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างขัดกันอยู่ แต่ยังไม่เอ่ยออกมา

“มันขัดกันจริงๆ นั่นแหละ” โคลด์ทำหน้ายุ่ง “เจ้าบอกว่าฝันเห็นนางที่เกาะซึ่งใช้เก็บพระศพใช่ไหม และถ้าความฝันของเจ้าคือการบอกเหตุโดยมารดานทีจริง แสดงว่าเอริแอดเน่ต้องรู้อยู่แล้วว่าริวอร์นอร์อยู่ที่ไหน ก็นางเอาศพเขาไปคืนชีพ แล้วจะให้อสรพิษมาสืบข่าวเขาทำไม”

“ข้าคิดเหมือนเจ้าเรื่องการคืนชีพ ไม่ว่าฝันบอกเหตุของข้าจะเป็นจริงหรือไม่ แต่หากพิจารณาว่าไม่มีใครทราบสถานที่ฝังพระศพนอกจากข้ากับพี่หญิง ก็เป็นไปได้มากว่าผู้ปลุกชีพริวอร์นอร์ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นนาง อย่าลืมว่าสถานที่ฝังพระศพมีสองแห่ง มีสัตว์พิทักษ์ และมีศิลาเวทป้องกันผู้บุกรุกอย่างแน่นหนา ถ้าเป็นใครอื่นลงมือ...ข้ามั่นใจว่าคงไม่ราบรื่นขนาดที่ข้าจะไม่รู้ตัวจนริวอร์นอร์กลับมา”

โคลด์พยักหน้า “เราไม่รู้ว่าเอริแอดเน่อยู่ในวังตลอดเวลาหรือเปล่า หรือนางคืนชีพให้เขาที่ไหน แต่ถ้าทำในอิซิลดาร์ แล้วริวอร์นอร์กับนางแตกกันทันทีที่เขาคืนชีพ เขาจะไปพักที่โรงเตี๊ยมในอิซิลดาร์ทำไม”

ซิกฟรีดลูบริมฝีปากจนช้ำ กรามขบกันแน่น “อย่างที่เจ้าว่า ถ้า...พี่หญิงเป็นผู้คืนชีพให้ริวอร์นอร์ การส่งอสรพิษมาสืบเรื่องที่ตนเองทำช่างไร้เหตุผล”

“อืม…เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ให้ข้าฆ่ามันแล้วถามเอาจากศพ แบบนั้นจะได้คำตอบชัดเจนกว่า” ชาแมนสายอันเดดมีอำนาจควบคุมศพ บางคนบังคับให้ศพเอ่ยความลับที่ซ่อนไว้ได้ สำหรับโคลด์ที่สามารถควบคุมคนตายด้วยพรสวรรค์แต่กำเนิด เรื่องนี้ง่ายและรวดเร็วกว่ารีดความลับจากคนเป็นเสียอีก

“รอก่อน” ซิกฟรีดเมตตาหรือ...อาจใช่ เขายังไม่อยากเห็นความตายในเวลานี้ โดยเฉพาะความตายที่มีริวอร์นอร์เป็นสาเหตุร่วม “หากมีเหตุจำเป็นหรือสถานการณ์บังคับ ข้าจะให้เจ้าเชือดมัน”

โคลด์ยกมือเป็นทำนองว่ายอม “ก็เจ้าเป็นคนสั่งการนี่นะ ถึงข้าไม่ลังเลจะฆ่าคนของนางก็ตาม” ดวงตาสีม่วงฉายแววอำมหิตวูบหนึ่ง “เอาเป็นว่า เรารู้ว่าในอิซิลดาร์มีการเคลื่อนไหวที่แปลกพิกล และเราไม่ควรมองข้ามมัน”

โดยไร้ที่มา ซิกฟรีดคล้ายสดับเสียงหวานเศร้าของพี่หญิงคาลิเธียล เสียงนั้นขับขานบทเพลงกล่อมเด็ก

‘จงระวังยามอสรพิษเคลื่อนไหว

กายมันขยับเงียบงันในฝันร้าย

หากเผลอไผลความตายคงมาเยือน

เด็กเอ๋ย...จงระวังอสรพิษ

เขี้ยวคมดุจกริชฝังเนื้ออ่อน

มันพร้อมขย้ำเจ้ายามหลับนอน

รีบเถิดจงรีบซ่อนให้พ้นภัย’



—————————————————————————

A/N ยาวๆ กับฝั่งรูเมเรียร์ค่ะ มาให้หายคิดถึงเลย ตอนนี้มีหลายเรื่อง ทั้งความเท่ของอิลราลาน และอสรพิษเชลย (รัก) ของเขา /แค่กๆ และความเท่ของซิกฟรีด ปกติเห็นยอมโคลด์ๆ เอาจริงๆ ก็ดูเท่เลือดเย็นเหมือนพี่ชายเหมือนกันนะ ;w; /ปลื้มใจ


ป.ล. บทนี้วิเคราะห์กันใหญ่

ป.ล. 2 เพลงท้ายบทโดยคุณ FOULSOUL เพราะมากเลย!

ภาพอิมเมจของน้องอสรพิษค่า <3

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/1736266104-member.jpg)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (3) [20/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 20-06-2017 15:41:13
ชายและหญิงในเรื่องนี้ทำให้หลงเสน่ห์ได้ทุกคนสิน่า

หลงซิกฟรีด เจ้าหัวผักกาดของหมูดำ ฮ่า ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (3) [20/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 20-06-2017 19:04:25
โถ่ สงสารโจรน้อย
โดนแกล้งตลอดเนอะ

คนที่โชคร้ายที่สุดในเรื่องนี้คือ....เจย์ ฮ่า ๆ ๆ

มางง ๆ ถลำลึกงง ๆ โดยไม่รู้ที่มาที่ไปเลย


ฉากในห้องเวทวารีนี่ร้อนประหนึ่งหม้อนึ่งปลา
นึกถึงปลานึ่งมะนาวเลยค่ะ /แผล็บๆ

ริวอร์นอร์ ขนันแหย่ หยอกให้เอริแอดเน่โกรธบ่อยๆ
ทำให้จำลักษณะท่าทางเวลาโกรธของนางได้ ไม่ใช่่ย่อยจริงๆ
ริวอร์นอร์ ปากหนักสินะ ไม่เคยเอื้อนเอ่ยคำรักกับเอริแอดเน่เลย
แต่ทำรักกับนางเป็นพันครั้ง
เชื่อละว่าชอบทำรัก และชอบร่างกายเอริแอดเน่จริงๆ  :o8: :-[ :impress2:

เจย์ ซื่อมากๆ ที่อยากรู้ว่า เอริแอดเน่ อยากจ้างตัวเองเป็นโจรประจำพระองค์หรือเปล่า  :ling1: :ling1: :ling1:
ริวอร์นอร์นี่...ชอบมีโมเมนต์ให้เผลอใจค่ะ แง

เจย์ต้องรักนวลสงวนตัวไว้นะ 5555
5555555555555555  :mc4:

:pig4:
:mew1: :mew1:

ชายและหญิงในเรื่องนี้ทำให้หลงเสน่ห์ได้ทุกคนสิน่า

หลงซิกฟรีด เจ้าหัวผักกาดของหมูดำ ฮ่า ๆ ๆ
ซิกฟรีดนี่ ไม่มาแปบเดียว (หลายแปบอยู่) มาทีก็เร้าใจดีนะคะ /แค่กๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (3) [20/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-06-2017 20:23:45
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (3) [20/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-06-2017 23:02:24
ลุ้น ให้ ซิกฟรีด โคลด์ รู้เรื่องไวๆ
อสรพิษดำ จงรักภักดี ไม่แอะปากเลย
แต่สุดท้ายจะบอกมั้ยนะ
เสน่ห์เปี่ยมจริงๆนะซิกฟรีด
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (3) [20/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 21-06-2017 12:21:27
เชื่อใจใครได้บ้าง แม้กระทั้งคนแต่ง 5555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (4-5) [21/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 21-06-2017 13:10:53
บทที่ 27 : มากเล่ห์ (4)


เสียงแตรดังขึ้นเมื่อได้รับสัญญาณว่าขบวนของราชาริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์ผ่านเข้าประตูเมืองหลวงซิลเซเลียน ทหารกล้าแห่งอิซิลดาร์กันประชาชนไม่ให้กีดขวางทางเสด็จ พวกมันสวมเกราะเต็มยศเพื่อต้อนรับอาคันตุกะคนสำคัญ เช่นเดียวกับประชาชนซึ่งสวมชุดที่ดีที่สุดมาต้อนรับองค์ราชาผู้มีชัยเหนือกองทัพทมิฬ

ราชาริวอร์นอร์เป็นที่รัก...ใครจะไม่รักและเทิดทูนกษัตริย์ซึ่งกล้านำทัพต่อกรกับจอมทัพทมิฬด้วยพระองค์เองบ้าง ทั้งในรัชสมัยของพระองค์ยังมีการออกกฎหมายควบคุมผู้อพยพชาวดาร์กเอลฟ์ และออกมาตรการปราบกบฏดาร์กเอลฟ์อย่างเด็ดขาด ข่าวนั้นแพร่มาถึงแผ่นดินทางใต้ พระองค์ได้ใจชาวรูเมเรียร์ที่อาศัยอยู่ในอิซิลดาร์ไม่น้อย ซ้ำยังได้ใจชาวอิซิลดาร์ในด้านความเด็ดขาด

ว่ากันด้วยหลักมนุษยธรรม แม้ภายในจะต่างความคิด แต่ภายนอกทุกแผ่นดินยินดีและพร้อมอ้าแขนรับผู้อพยพซึ่งหนีจากไฟสงคราม ทว่าหลังทุกอย่างจบลง ผู้อพยพชาวดาร์กเอลฟ์ส่วนใหญ่ไม่ยอมกลับแผ่นดินเกิด แต่พากันตั้งรกรากที่แผ่นดินอื่น แย่งอาชีพ เบียดเบียนพื้นที่อาศัยและทำกิน รวมไปถึงบางส่วนยังสร้างความเดือดร้อน อาชญากรรมพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าประหวั่นใจ

ว่ากันด้วยหลักมนุษยธรรม...คงใช้ในช่วงหลังสงครามไม่ได้กระมัง

กลีบดอกไม้สีแดงและสีขาวอมทองโปรยปรายจากด้านบน สีแดงแทนโลหิตอันห้าวหาญ สีขาวอมทองแทนสัตว์เทพผู้พิทักษ์แผ่นดิน--ยูนิคอร์นแห่งแสงซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ประจำตระกูลอิซิลดาร์ บรรดาสตรีโฉมสคราญแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใสได้รับหน้าที่ให้โปรยกลีบดอกไม้ พวกนางเป็นธิดาของขุนนางคนสำคัญในอิซิลดาร์ มีศักดิ์เป็นท่านหญิงตระกูลรอง ทำงานรับใช้เอลเดอร์และท่านหญิงตระกูลหลักผู้มีศักดิ์สูงกว่า พวกนางเก็บอาการตื่นเต้นอย่างแนบเนียน พยายามไม่ชะเง้อมองขบวนบุรุษรูเมเรียร์ซึ่งกำลังผ่านประตูเข้ามา

ราชามงกุฏดำทรงม้าพ่วงพี ขนสีดำมันปลาบ ตาสีแดงเฉกไฟกัลป์ ลมหายใจของมันพ่นไอระอุเช่นอาชาไนยของพระบิดาแห่งสงคราม เมื่อเหยาะย่าง...เสียงเกือกเหล็กดำกระทบกับพื้นหินดังเป็นจังหวะหนักแน่น สมเป็นม้าศึก

ริวอร์นอร์แห่งรูเมเรียร์สวมเกราะเหล็กดำ ศีรษะคาดรัดเกล้าของพิลกริมหรือผู้แสวงบุญ พระองค์จับบังเหียนด้วยมือข้างเดียว บังคับม้าให้ตรงไปตามถนนสายหลักซึ่งเชื่อมกับถนนหลวงของราชวังอิซิลดาร์ ผู้ที่ติดตามพระองค์มาคือโอริม โธรอส และควิลดอร์--นักรบแห่งรูเมเรียร์

เสียงโห่ร้องต้อนรับด้วยความยินดีสะเทือนไปถึงท้องฟ้า ‘ราชามงกุฏดำทรงกลับมาแล้ว!’

หน้าประตูทางเข้าราชวังอันโออ่าเปิดต้อนรับผู้มาเยือนไว้อยู่แล้ว ท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ยืนอยู่ด้านหน้าเหล่าเอลเดอร์และสตรีในตระกูลหลัก นางถือดอกไม้สีเพลิงเพื่อมอบแก่บุรุษที่กลับถึงมาตุภูมิ ชุดสีแดงดั่งโลหิตเหมาะสมกับนางยิ่งกว่าสตรีนางใด มงกุฎทองคำและเครื่องประดับร่างกายของนางคืองานศิลป์ชิ้นเอกอันบ่งบอกความมั่งคั่งและประวัติศาสตร์รุ่งโรจน์ยาวนานของแผ่นดินเกิด

นางถอนสายบัวอย่างสง่าให้ราชาผู้องอาจเมื่อพระองค์ลงจากหลังม้ามายืนบนพื้นอย่างภาคภูมิ

“ยินดีต้อนรับสู่อิซิลดาร์ ดีใจเหลือเกินที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ มิได้ถูกกบฏดาร์กเอลฟ์บั่นคอดังเช่นข่าวลือ”

มีอันตรายแฝงอยู่ในน้ำเสียงของนาง ทว่าเพียงพอแค่ให้เขาจับสัมผัสได้ ข่าวลืออะไรกัน นางนี่แหละที่อยู่ด้วยตอนซิกฟรีดประทับพระราชลัญจกรลงในประกาศสิ้นพระชนม์ของเขา ไม่ต้องเอ่ยถึงความโกลาหลในท้องพระโรงอิซิลดาร์เมื่อนางแจ้งว่าจะทำการต้อนรับราชาผู้สมควรสิ้นชีพ ระหว่างนางกับเขายังมีข้อตกลงเด็ดขาดว่าห้ามเปิดเผยความจริงว่าผู้ก่อการกบฏคือนาง และผู้บั่นคอเขาคือซิกฟรีด หาไม่แล้วการสังหารราชาเฟรธูรินก็จะถูกเปิดเผยเช่นกัน ซึ่งนั่นไม่เป็นผลดีต่อเขา นาง หรือซิกฟรีด ซ้ำยังทำให้ประชาชนสูญเสียศรัทธาในราชวงศ์

“อา...เรื่องนั้น” ริวอร์นอร์ทอดหางตาลงแบบผู้ที่รู้สึกผิดเหลือใจ “สงครามสร้างบาดแผลฉกรรจ์แก่ใจของเรา เราจึงออกจาริก ส่วนเรื่องที่เราไม่ได้มอบตำแหน่งให้ซิกฟรีดอย่างเป็นทางการนั้น เราขอเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัวเถิด”

หึ ช่างพูดนัก อย่างนี้ก็เหมือนซิกฟรีดขึ้นเป็นราชาเองโดยพลการ และเจ้ามีสิทธิ์ทวงตำแหน่งราชาคืน

ถึงจะเป็นเหตุผลที่เขาและนางตกลงกันเป็นการส่วนตัวในสระน้ำอุ่น แต่เมื่อได้ฟังเขากล่าวอย่างลื่นไหลและมีนัยให้พลิกลิ้น นางก็อดทึ่งฝีมือการแสดงของเขาไม่ได้

“ราชาซิกฟรีดอาดูรท่านมากทีเดียว” นางเยินยอซิกฟรีดด้วยสีหน้าปลอบโยน เห็นอกเห็นใจริวอร์นอร์

“ไม่ได้พบหน้าน้องชายมานาน เราแทบทนไม่ไหวที่จะกลับรูเมเรียร์ แต่เราผ่านทางอิซิลดาร์ก่อน อันที่จริง ท่านหญิงไม่น่าลำบากจัดการต้อนรับยิ่งใหญ่เช่นนี้เลย”

ริวอร์นอร์ช่างถ่อมตัวและสุภาพไม่ผิดกับอดีตราชาเฟรธูริน

ข้าจัดงานต้อนรับเจ้าเพราะเจ้าบังคับให้ข้ารับเจ้าเข้าบ้านมิใช่หรือ! แม้ความคิดจะเผ็ดร้อน แต่ภายนอกของนางกลับสงบ สำรวม “สำหรับวีรบุรุษคนสำคัญแห่งอิซิลดาร์และ ‘อดีต’ คู่หมั้นของข้า จะมีเกียรติใดเหมาะสมกับข้ายิ่งกว่าได้ต้อนรับท่านเป็นคนแรกอีก”

ริวอร์นอร์มองนางอย่างลึกซึ้งโดยไม่ปิดบัง คล้ายประกาศให้ผู้ที่อยู่โดยรอบ--เช่น...เอลเดอร์ รับทราบว่าเขายังอาลัยอาวรณ์ท่านหญิงเอริแอดเน่เพียงใด

“ขออภัยที่เราไปโดยไม่ได้บอกลาเจ้า”

และทำให้ผู้ฟังคิดไปว่าเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์กำลังตัดพ้อตน

ยิ่งเจ้ารั้งเราไว้หน้าประตู เจ้ายิ่งเสียเปรียบ...ราชินีที่รัก

เอริแอดเน่เดือดดาลอยู่ในใจ นางจะไม่ยอมให้ริวอร์นอร์กำชัยในการโต้คารมและชักนำให้บริวารของนางคล้อยตามเขา ทว่านางก็ไม่ประสงค์จะกลับไปหาซิกฟรีดเช่นกัน

“หลังสิ้นท่านเฟรธูรินและสูญเสียท่าน จิตใจของข้าสงบลงมากแล้ว เวลานี้ข้ากลับมาพำนักที่บ้านเกิดเพื่อให้ความสงบแก่จิตใจอันว้าวุ่นของท่านซิกฟรีดเช่นกัน และเมื่อเขาคลายความว้าวุ่นนั้น ข้าก็ยินดีรับใช้เขาในฐานะพระคู่หมั้น”

นางปฏิเสธริวอร์นอร์ด้วยเหตุผลว่าเวลานี้นางเป็นคู่หมั้นของซิกฟรีด และปฏิเสธซิกฟรีดต่อหน้าธารกำนัลอย่างนุ่มนวลด้วยการบอกเป็นนัยว่าจะไม่กลับไปรูเมเรียร์จนกว่าเขาจะ ‘คลายความว้าวุ่นใจ’ ซึ่งความว้าวุ่นใจนั้นย่อมหมายถึงดาร์กเอลฟ์นามโคลด์ สตาร์ และนางรู้ดีว่าซิกฟรีดไม่มีวันทำได้

“ดูเหมือนว่าเรามีหลายเรื่องที่ต้องคุยกัน” ริวอร์นอร์ยิ้ม และเผื่อแผ่รอยยิ้มนั้นให้เหล่าเอลเดอร์และบรรดาสตรีตระกูลหลักด้วย “เราจะคุยกันตรงนี้ก็ย่อมได้ แต่คงลำบากท่านเอลเดอร์กระมัง”

“งานเลี้ยงต้อนรับรอท่านและบริวารอยู่” เอริแอดเน่ผายมือ รอจนเขายื่นแขนให้นางเกาะตามธรรมเนียม นางก็เกาะแขนเขาเพื่อเดินเข้าสู่ราชวัง

“เตียงของเจ้าเล่า...จัดเตรียมไว้รอเราหรือไม่” ริวอร์นอร์กระซิบพอให้นางได้ยิน เขาชอบหยอกให้นางหลุดความเยือกเย็น

คำตอบก็คือเล็บคมที่เกร็งขึ้นเล็กน้อยพร้อมจิกเขา และใบหูที่ชี้ตั้งอย่างไม่สบอารมณ์ของนาง

------------------------------------

“มาทางนี้ๆ” นางเอลฟ์ผมสีเทาผู้รับหน้าที่ดูแลเจย์ลากเขาอย่างกระตือรือร้น วันนี้นางต้องพาเขาเข้าราชวัง ก่อนเข้ายังพาไปชมขบวนเสด็จอันเอิกเกริกของราชาริวอร์นอร์ กลีบดอกไม้ยังติดผมนางและเจย์อยู่เลย

โจรหนุ่มปล่อยให้นางลากขณะดึงคอเสื้อปกตั้งไปด้วย “ข้าไม่ชินเสื้อแบบนี้” เขาสวมชุดอย่างชนชั้นสูงในอิซิลดาร์ ทอด้วยไหมนุ่มละเอียดสีเขียวเข้ม ปักลายเครือไม้แดนใต้วิจิตรงดงาม เจย์โดนบังคับให้ตัดผมสั้น (“ข้าก็ไว้ผมสั้นอยู่แล้ว แต่พวกนางบอกว่าเหมือนรังนก” เจย์โอดครวญ) แล้วเสยขึ้นด้วยน้ำมันหอม ถอดร่างโจรล่าสมบัติเป็นชายหนุ่มตระกูลสูง

...และดูหล่อเหลาผิดหูผิดตาเสียด้วย

“อย่าดึงสิ ติดไปก่อน กลับที่พักแล้วค่อยปลดนะ” ซิลเวียปลอบเหมือนหลอกล่อเด็ก พลางคิดว่าชายหนุ่มถอดรูปแล้วดูดีไม่น้อย

“ก็ได้ๆ” เจย์ถอนใจ เขาละมือจากคอเสื้อมาวุ่นวายกับผมต่อ “มันเรียบร้อยเกินไปนะข้าว่า”

“เจ้าแก่กว่าข้าจริงสิ” อยู่ด้วยกันมาหลายวัน ก็มีถามไถ่พูดคุยภูมิหลังกัน ซิลเวียจึงสนิทกับเจย์มากขึ้น “เจ้าเหมือนเด็กดื้อไม่ยอมใส่เสื้อที่อยู่ข้างบ้านข้าสมัยก่อนเลย”

“อายุเป็นเพียงตัวเลขน่า” เจย์เถียงข้างๆ คูๆ เขาดันให้นางเดินต่อ พลางหยิบกลีบดอกไม้ออกจากผมนางด้วย

นางหัวเราะคิก “ไม่ค่อยมีใครแตะผมข้า”

“ทำไมล่ะ เจ้าไม่ชอบสระผมหรือ” เจย์ถามพาซื่อ

“เขาว่าสีผมของชาวตะวันออกจะเปื้อนมือน่ะ” ซิลเวียลูบผมตัวเองอย่างหวงๆ “แต่ท่านหญิงชมว่าผมข้าสวย เพราะงั้นข้าไม่สนพวกนั้นหรอก”

“ถ้ามันเปื้อนมือจริง ข้าจะลูบทั้งวัน สีเงินวิบๆ วับๆ จะได้ติดมือข้า เท่จะตาย”

นางเอลฟ์วัยเยาว์แก้มแดงนิดๆ พึมพำว่า “ขอบใจ”

เจย์ลัดเลาะไปตามทางเดินรอบนอกของราชวัง โดยให้ซิลเวียนำไป เขาไม่ได้สังเกตว่านางเขินอายกับคำชม ความสนใจของเขามุ่งไปที่ห้องรับรองหลักที่ซิลเวียเคยนำชมก่อนหน้า จะต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองก็ต้องเป็นโถงจัดงานเลี้ยงใช่ไหมล่ะ

“ไม่ใช่ เราไม่ไปทางนั้น” นางพาเจย์เดินเลยโถงจัดงานเลี้ยงที่เห็นอยู่ไกลๆ เข้าถนนสายเล็กและประตูข้างไปยังส่วนในที่ลึกกว่านั้น ใช้เวลาเดินราวสิบห้านาทีก็ถึงบริเวณน้ำตกจำลองในราชวังซึ่งไร้ผู้คน นางแตะหลังเจย์ให้ยืนริมน้ำตก

“รอนี่นะ จะมีคนมาพบเจ้า ข้าไปงานเลี้ยงก่อนนะ” นางส่งจูบให้เจย์แล้วรีบร้อนจากไป

จ้ะ...โจรหนุ่มยืนเหม่อ นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไปเหมือนนกบินเชียว


—————————————————————————

A/N กลับมาอย่างยิ่งใหญ่เลยค่ะ ริวอร์นอร์


ป.ล. เจย์นี่ฟาดหัวใจสาวๆ อิซิลดาร์เรียบเลยนะ =.=

สมเป็นไทป์ที่สาวๆ และหนุ่มน้อยอิซิลดาร์ชอบ


ป.ล. 2 ลงสองตอนค่ะ กดไปอ่านตอนต่อไปได้เลย ใกล้จะประกาศเปิดจองแล้วนะ จุ๊บๆ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (4-5) [21/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 21-06-2017 13:23:08
บทที่ 27 : มากเล่ห์ (5)


รออยู่นานทีเดียว แต่ไม่มีใครมา จนเจย์นึกว่าโดนซิลเวียแกล้งเล่น เสียงไพเราะที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น “ท่านดูคันในชุดนั้น”

เจย์มองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นที่มาของเสียง กระทั่งข้อเท้าของเขาโดนจับ ดึงลงสระ ดวงตาของเจย์สบกับตาของนางพรายน้ำในชุดแดง ทว่ามองอีกทีจึงทราบว่านางเป็นคนคุ้นหน้า

เอริแอดเน่ที่อยู่ใต้น้ำเอานิ้วปิดปากเจย์แล้วพาว่ายไปหลังม่านน้ำตก ขึ้นฝั่งที่เป็นลานหินเปิดไปสู่ห้องรับรองอันกว้างขวาง

เจย์เคยหยอกเอริแอดเน่ว่านางเป็นมารดานทีแปลงกายมา เวลานี้เขาเริ่มคิดจริงจัง

“พอชุดนี้เปียกน้ำแล้วหนักมาก” โจรหนุ่มพาตัวเองขึ้นฝั่ง เขายิ้มกว้างให้ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ “ส่วนเจ้าก็สวยมากในชุดสีแดง” คำชมของลูกครึ่งเอลฟ์ตรงไปตรงมา จริงใจ และไม่มีศิลปะเอาเสียเลย

เอริแอดเน่ยกมุมปาก “ซิลเวียชมท่านหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องปากหวานจนทำให้นางเล็กๆ ใจสั่น”

“ข้าเปล่า” เจย์ทำหน้าเหลอหลา ใช่ว่าเขาไม่เคยจีบสตรี เขาปากหวานและเอาใจเป็น แต่กับพวกนางเขาชมด้วยความบริสุทธิ์ใจ

“ท่านออกผจญภัยเพื่อหาเงินตบแต่งภรรยา คนของข้ามีใครถูกใจท่านบ้างหรือยัง” เอริแอดเน่บิดน้ำจากผม นางไม่แปลกใจที่เจย์แยกนางกับโรสเวนได้ เพราะทราบเรื่องนี้จากโรสเวนแล้วเช่นกัน

อาจเพราะโรสเวนไม่ได้แสดงเป็นข้ายามอยู่ต่อหน้าเขาด้วยกระมัง
ไหนเลยเอริแอดเน่จะไม่ทราบความไม่พอใจของโรสเวนเรื่องริวอร์นอร์ และโรสเวนก็อยากให้เจย์ช่วยเตือนสตินางอีกทางหนึ่ง

“ข้าเริ่มติดใจการผจญภัยครั้งใหม่มากกว่าแต่งเมียแล้ว” เจย์เสมองไปทางอื่น เพดานบ้าง ผนังบ้าง ไม่อย่างนั้นสำนึกชั่วของเขาต้องนึกลามก แอบดูเรือนร่างของนางซึ่งถูกขับเน้นด้วยเสื้อผ้าชุ่มน้ำเป็นแน่

“เจย์ พรีออน” เอริแอดเน่จับหน้าเขาให้มองนาง “ท่านจะไม่กล่าวโทษข้าสักคำหรือ” เรื่องที่นางหลอกลวงเขาว่าจะตามไป ทั้งที่ตั้งใจจะจบชีวิต

“ไม่มีประโยชน์อะไรนี่” เจย์ไหวไหล่ “อย่างไรเจ้าก็อยู่ตรงนี้แล้ว ยังพังทลายเหมือนเดิมแต่ดูดีขึ้น”

เอริแอดเน่ยิ้มๆ “ที่นี่เป็นห้องประชุมส่วนตัวของข้า เรามีเวลาอีกนานกว่างานเลี้ยงจะจบ ข้าให้โรสเวนประกบริวอร์นอร์ไว้ และเขายังต้องวุ่นวายกับการรักษาหน้า เรามาคุยกัน ข้ามีเรื่องอยากเล่าให้ฟัง”

เจย์พยักหน้าพร้อมรอยยิ้มกว้างถึงหู “ดี ข้าอยากรู้จักเจ้า และอยากให้เจ้ารู้จักข้า”

เอริแอดเน่เริ่มเล่าถึงราชาเฟรธูริน อาร์ธีออน รูเมเรียร์ ว่าพระองค์ทรงเป็นราชาเช่นไรและจบชีวิตลงอย่างไร เล่าถึงการชิงบัลลังก์ของริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์ และสิ่งที่เกิดขึ้นกับนางในคืนวันอภิเษกสมรส ตามด้วยแผนการล้มบัลลังก์ของริวอร์นอร์และการหมั้นหมายของนางกับราชาองค์ปัจจุบัน--ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ จบด้วยการแตกหักกับซิกฟรีดเพราะนางไม่ยอมรับคนรักดาร์กเอลฟ์ของเขา นำมาสู่การปลิดชีวิตตนเองและปลุกชีพริวอร์นอร์

เอริแอดเน่เล่าทุกอย่างโดยไม่ปิดบัง ดวงตาของนางมองตรง แอบซ่อนความอ่อนแอในจิตใจได้ราวกับไม่เคยมีมัน

เจย์เงียบไปครู่ใหญ่ และคำแรกที่เขาเอ่ยคือ

“เป็นเจ้านี่ลำบากนะ” เขาอ้าแขนออก “ข้าอยากปลอบเจ้า แต่ควรขอก่อน”

รับรองว่าข้าจะกดสำนึกชั่วให้นิ่ง เจย์บอกกับตัวเองในใจ

เอริแอดเน่แปลกใจกับปฏิกิริยาของเจย์ “เจ้าไม่ตำหนิข้าสักหน่อยหรือ” หางตาของนางทิ้งลง ชายหนุ่มลูกครึ่งทำให้นางนึกถึงท่านเฟรธูรินผู้ไม่เคยตำหนินางเช่นกัน

“เจ้าตัดสินใจไปแล้ว ซึ่ง...ไม่รู้สิ ข้าว่าเจ้าไม่ได้อยากเป็นคนไม่ดีหรอก”

“เจ้ามองข้าดีเกินไป”

เหมือนกับท่านเฟรธูริน

“ข้าอยู่กับคนเลวมาเยอะ” เจย์ว่า “ข้ามองออกว่าใครเลวโดยสันดาน ใครไม่ใช่”

เอริแอดเน่ส่ายหน้า หลุบตาลง

“ตกลงว่าข้าปลอบเจ้าได้หรือไม่ ตัวข้าออกจะชื้นหน่อยๆ”

“ตอนที่ข้าทำผิด ท่านเฟรธูรินเคยกอดข้าไว้ บอกว่าไม่เป็นไร...ข้าไม่คิดว่าตนควรได้รับความใจดีเช่นนั้นอีกครั้ง”

แม้จิตใจส่วนที่อ่อนแอและน่าบดขยี้ของข้าจะต้องการมัน

เจย์ถอนใจแล้วถือวิสาสะกอดนาง “โอ๋...คนเก่ง เจ้าเก่งมากที่ผ่านมาได้ นิ่งซะนิ่ง ข้ายังไม่รู้เลยว่าถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะเก่งแบบเจ้ามั้ย”

เอริแอดเน่น้ำตาไหล นางแข็งขืนในตอนแรก ทว่าค่อยๆ ยอมให้อีกฝ่ายกอด

“เก่งมาก...เก่งมาก”

เจย์เห็นนางซุกหน้าลง ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ “ท่านพี่...เฟรธูริน ท่านพี่เฟรธูริน...” นางพึมพำซ้ำๆ และกอดเขา “ข้าขอโทษเจ้าค่ะ ท่านพี่เฟรธูริน”

เขาได้แต่ลูบแผ่นหลังแบบบางของนาง กอดไว้ ปกป้องเท่าที่ทำได้ เขารู้ว่านางแกร่ง แต่นางแกร่งมานานเกินไปจนเปราะ

“มีดวอร์ฟ…” เอริแอดเน่เอ่ยช้าๆ เมื่อปรับอารมณ์ได้ “นางยังเยาว์...ปกติข้าไม่สังหารผู้เยาว์...”

“มันผ่านไปแล้ว ค่อยเริ่มใหม่...นะ?”

เอริแอดเน่ส่ายหน้า “ข้าหมายถึง นางอาจจะรอดก็ได้...ถ้ามารดานทีเมตตา เวเรด้าฝีมือยิงธนูยอดเยี่ยมที่สุดในอิซิลดาร์ ข้าให้นางยิงเลี่ยงหัวใจของดวอร์ฟ”

นี่เป็นเรื่องที่เอริแอดเน่ไม่มีวันสารภาพ หากผู้ฟังเป็นซิกฟรีด

“เจ้าอยากให้ข้าไปตามหานางมั้ย”

“ข้าแค่อยากสารภาพ แต่...” เอริแอดเน่เงยหน้าทันควัน นั่นทำให้นางสบตากับเจย์ ใบหน้าอยู่ใกล้กัน

โจรหนุ่มสูดหายใจ เขามองริมฝีปากนาง ใบหน้าเคลื่อนเข้าไปใกล้…

แต่แล้วเขาก็ถอยออกมา

“วันไหนที่เจ้าเบื่อชีวิตนี้ เจ้าไปกับข้า ไปเริ่มชีวิตใหม่ได้เสมอ” เขายิ้มอ่อนโยนให้นาง มือลูบแก้ม จากนั้นก็ใช้นิ้วเกลี่ยผมออกจากหน้าผากให้

“ข้ารับฟัง” เอริแอดเน่ตอบอย่างสงบ นางยอมให้เขาแตะต้องตัวนางมาตั้งแต่เมื่อสักครู่ ทั้งที่หลังเกิดเหตุการณ์นั้น...นางไม่สนิทใจกับชายคนใด “ท่านไปตามหาดวอร์ฟได้ ข้าไม่ห้าม อย่างไรข้าก็ต้องตามหาองครักษ์ของข้า จามิลลา ท่านสามารถแฝงตัวออกจากอิซิลดาร์พร้อมอสรพิษ”

“ข้าไม่รู้จักดวอร์ฟ แต่หากเจ้าต้องการข้าจะตามหานางเพราะเจ้าดูเศร้า ถ้าเจอศพก็เอามาทำพิธี ถ้านางยังมีชีวิตก็ดีไป”

“พิจารณาจากท่าทีของริวอร์นอร์ ท่านไม่อยู่ในอิซิลดาร์จะดีกว่า ข้าไม่คิดว่าเขาจะหึงหวงข้า แต่เขาคงไม่ยอมให้ข้าเปลี่ยนใจ ให้เขาขาดแรงสนับสนุนจากอิซิลดาร์”

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปกับอสรพิษ ไปตามหาจามิลลาและดวอร์ฟ หวังว่าข้าจะไม่ทำให้พวกเขาอึดอัดนะ…” เจย์ลูบท้ายทอยตัวเอง

“ท่านควรระวังพวกเขาจะกลืนท่านลงไปทั้งตัวมากกว่า ท่านคงไม่ได้บังเอิญเป็นหนุ่มบริสุทธิ์หรอกกระมัง” นางหยอก

เจย์หัวเราะแห้งๆ เขายังจำอสรพิษเล็บคมได้อยู่เลย

“อสรพิษคนหนึ่งของข้าหายไป แต่สืบแล้วไม่ใช่เพราะคนของริวอร์นอร์ อาจเป็นได้ว่า...การกลับมาของริวอร์นอร์ไม่ทำให้รูเมเรียร์แปลกใจเท่าไร”

“ข้าไม่ค่อยสันทัดเรื่องการเมือง เอาเป็นว่าตามหาจามิลลาตามด้วยดวอร์ฟ”

เอริแอดเน่พยักหน้า “แล้วเรื่องใจบุรุษล่ะ ข้าควรเชื่อริวอร์นอร์หรือไม่ เขาร้ายกาจกับทุกคนกระทั่งสายเลือดเดียวกัน...ถ้าเขาแค่พูดสิ่งที่ข้าอยากฟังเล่า”

เจย์เพียงรับฟัง เรื่องนี้เขาไม่สามารถออกความเห็นได้ เขาไม่รู้จักราชาริวอร์นอร์เป็นการส่วนตัว (ลูกครึ่งมนุษย์คนไหนจะไปรู้จักสนิทสนมกับราชาเอลฟ์ได้ละ!) และเขาคิดว่านางเพียงระบายความอัดอั้นตันใจเท่านั้น

ซึ่งเขารับฟัง...เขาพร้อมจะรับฟังนางเสมอ

เมื่อเจย์ไม่ตอบ เอริแอดเน่ก็ไม่คาดคั้น “ตาของท่านมีลักษณะด้อยแบบลูกครึ่งใช่ไหม ข้าสังเกตมานานแล้ว ข้าพอรู้สูตรยาที่ใช้บรรเทาอาการได้ ข้าจะสอนท่านปรุงมัน แต่หากท่านอยากหายขาด ข้าแนะนำให้ตามหาผู้ให้กำเนิด ให้เขายอมรับท่านเข้าตระกูล พลังของบรรพบุรุษจะช่วยท่าน”

“ข้ายอมตาบอดดีกว่า” เจย์กลอกตาไปมา “แค่บรรเทาได้ก็ดีแล้ว ข้าจะตั้งใจเรียน”

“ดี ข้าชอบคนที่มีมานะ” นอกจากเรื่องปรุงยา นางยังต้องการให้เจย์มีทักษะการต่อสู้และการเอาตัวรอด...อีกเยอะๆ เลยล่ะ


—————————————————————————

A/N เฉลยปมสำคัญแล้วค่ะ อิลมาเร ฮือๆๆ โฮวๆๆ เก็บมานานเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ โฮวๆๆ

หวังว่าจะได้เจอกันในภาคต่อไปนะ /อุ้มอิลมากอด ฮือๆๆๆ


และนี่คือ!!! ปกหลัง Elven Almanac Mini Book ตอน ฝนแรก

© ILLREI 2017


(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/522080396-member.jpg)

มินิบุ๊กนี้เป็นของแถมรอบจองหนังสือชุด Elven Almanac

ที่จะเปิดให้จองในงาน Y Book Fair บูธ A6 ILLREI

วันเสาร์ที่ 1 ก.ค. 60

@ กรมทหารม้าที่2รักษาพระองค์ (BTS สนามเป้า)
เวลา 10.00-16.00 น.

สัมภาษณ์เนื้อหาข้างในโดยลูกต่ายที่ชื่นชอบพรตัวหนึ่ง \(*0*)/

ลูกต่ายยื่นไมค์ให้พี่ชายซิกฟรีด

ลูกต่าย : "เรื่องสั้นนี้มีคอนเซ็ปต์ยังไงฮะ"

พี่ชายซิกฟรีด : "เราปรุงเหล้า"

ลูกต่าย : "ปรุงเพื่อ?"

พี่ชายซิกฟรีด : "เราหัดปรุง"

ลูกต่าย : "เรื่องสมัยไหนฮะเนี่ย หัดปรุงเหล้า"

พี่ชายซิกฟรีด : "ในอาศรม"

ลูกต่าย : "แล้วปรุงเพื่อ?"

พี่ชายซิกฟรีด : "ก็หัดปรุง เลยให้ดาร์กเอลฟ์ลองดื่ม"

ลูกต่าย : "จะมอมเหล้าโคลด์เหรอฮะ!?! แล้วก็ xxx yyy zzz abcdefg ใช่มั้ยฮะ!"

พี่ชายซิกฟรีด : "ไม่ได้กะมอม แต่ได้ก็เอา"

ลูกต่าย : "โอเค ชัดเจนดีนะฮะ!"

พี่ชายซิกฟรีด : "อืม"

ลูกต่ายทำตาสุกใส "จะรออ่านนะฮะ" ปิ๊งๆๆ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (4-5) [21/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 21-06-2017 14:45:45
หัวใจที่ไม่ได้เลวโดยสันดานย่อมปรารถนาการให้อภัย

แอรี่ร้ายและลงมือทำมากมายเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย แต่นางก็เจ็บปวด
เฟรธูรินให้อภัยนาง ปลอบโยนจิตใจที่ผุกร่อนนี้ เจย์ก็เช่นเดียวกัน (แม้จะตื้นเขินกว่า เนื่องเพราะไม่ได้รู้เท่าที่เฟรธูรินรู้)

นางจึงปรารถนาดีต่อเจย์ อาจจะเพื่อเยียวยาความรู้สึกผิดต่อเฟรธูรินก็ได้


เจย์จ๊ะ เหล่าอสรพิษอิซิดาร์รอแทะโลม..เอ๊ย! ดูแลจ้ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (4-5) [21/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-06-2017 14:49:18
อย่างนี้อิลมาเร รอดแน่
จามิลลา ก็รอดเหมือนกัน

เจย์ แปลงโฉมแล้วหล่อเริด แถมปากหวานแบบธรรมชาติซะด้วย
เจย์ มีจิตใจดีงาม เข้าใจเอริแอดเน่จริงๆ
ไม่โทษ ไม่ปรักปรำ ไม่มองเอริแอดเน่ในแง่ร้ายเลย
เจย์ คงเจออิลมาเร และจามิลลาแน่ๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:   
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (4-5) [21/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 21-06-2017 21:31:46
ไปเจย์เราหนีไปด้วยกัน.....เดี๋ยวๆ
เจย์ดูน่ากินมาก :hao6:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (4-5) [21/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-06-2017 21:34:35
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (4-5) [21/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 21-06-2017 22:24:15
เชื่อว่าเหล่าอสรพิษจะเขมือ-- อ่า.. ดูแลเจย์อย่างดี (ปล่อยให้เค้าเขมือ-- เอ้ย ดูแลเถอะน่า)

รอลุ้นเอรี่และริวอร์นอร์ #ทีมริวอร์นอร์
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (6) [22/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 22-06-2017 18:41:21
บทที่ 27 : มากเล่ห์ (6)

งานเลี้ยงดำเนินมาทั้งวัน แม้เป็นที่กังขาว่าตอนนี้รูเมเรียร์มีราชาสองพระองค์ ทว่าผู้ฉลาดย่อมไม่เอ่ยออกมา ผู้ฉลาดมาเข้าเฝ้าเพื่อแสดงความจงรักภักดี และถวายเครื่องบรรณาการอย่างดีที่สุดแด่มหากษัตริย์ยอดนักรบ

ขุนนางแห่งอิซิลดาร์ ชนชั้นสูง และผู้มีอำนาจจากเผ่าพันธุ์อื่นพิจารณาแล้วว่าราชาผู้กลับมากะทันหันได้รับการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติจากท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ ทั้งที่นางเคยหมางเมินพระองค์...การทำตามเจ้าบ้านย่อมไม่มีอะไรเสียหาย

...นอกจากนี้คณะทูตจากรูเมเรียร์ซึ่งพำนักในอิซิลดาร์ก็มาเข้าเฝ้าเช่นกัน

เมื่อราชสำนักอิซิลดาร์ประกาศว่า จะมีการจัดขบวนและงานเลี้ยงต้อนรับราชาริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์อย่างเกรียงไกร พิราบสื่อสารของรูเมเรียร์ถูกส่งจากหอสื่อสารในอิซิลดาร์อย่างเร่งด่วน ราชสำนักรูเมเรียร์แทบโห่ร้องยินดีกับเนื้อหาในสารนั้น

ราชามงกุฏดำผู้พิชิตจอมทัพทมิฬกลับมาแล้ว!

ที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่านั้น คือของขวัญอันเป็นสัตว์สงคราม--พยัคฆ์ เหยี่ยว อสรพิษ อาชาศึก ตำรา พืชพันธุ์หายาก ผ้าทอลาย เครื่องประดับหินเวทมนตร์ อัญมณี ทองคำ รวมไปถึงสินแร่ล้ำค่าจำนวนห้าสิบคันรถจากทูตสันถวไมตรีของจอมทัพทมิฬ!!!

 

“เอิกเกริก” ริวอร์นอร์อยู่ในห้องส่วนตัวของท่านหญิงคนสำคัญ เขาสางนิ้วไปตามแนวขนมันปลาบของเสือดำ--หนึ่งในของขวัญจากจอมทัพทมิฬ

“เจ้าเข้ามาในห้องข้าได้อย่างไร” เอริแอดเน่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ งานเลี้ยงต้อนรับริวอร์นอร์กำหนดจัดโต้รุ่งเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน นางใช้จังหวะพักผ่อนก่อนงานเลี้ยงอาหารค่ำสลับตัวกลับมา ส่วนโรสเวนเร้นตัวอยู่ในหอคอย

เวลานี้เอริแอดเน่สวมแค่เสื้อคลุมผ้าแพรเนื้อนุ่ม นางกอดอกอย่างไม่สบอารมณ์

“หายไปไหนมา” ริวอร์นอร์ดันตัวเสือดำให้ย่างไปหานาง ก่อนจะไปนั่งบนโซฟาปลายเตียง

“ไม่เห็นหรือว่าข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด” นางแตะที่สาบเสื้อคลุม จากนั้นตวัดมือลูบแก้มเสือดำ “ทมิฬส่งของขวัญมาให้เจ้า ทีนี้คงโจษจัน” จอมทัพทมิฬทำเช่นนี้ ด้านหนึ่งมองได้ว่าเป็นความใจกว้างของผู้ปกครองแผ่นดินที่มีให้แก่ศัตรูคู่ปรับ อีกด้านหนึ่งคือบ่อนทำลายความสัมพันธ์ของเหล่าเอลฟ์จากภายใน สร้างความเคลือบแคลงในตัวริวอร์นอร์ใช่หรือไม่…

น่าขำที่อย่างไร...ความสัมพันธ์ก็พังทลายอยู่แล้วละนะ


“เรากับจอมทัพทมิฬเป็นสหายที่ดีต่อกัน” ริวอร์นอร์เผยรอยยิ้มร้ายเกินร้าย “บางครั้งที่ประดาบ เราเหมือนได้พบพี่น้องที่แท้จริง”

“หึ” เอริแอดเน่เหยียดในใจ เสียแรงที่ท่านเฟรธูรินเมตตาเจ้า นางยกมืออย่างนุ่มนวล นางกำนัลก็ถอยออกไป รอจนอยู่ตามลำพัง นางจึงเอ่ย “ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาที่ห้องของข้าอีก”

“ขอรับ...นายหญิง” ริวอร์นอร์ไล้ริมฝีปากขณะพิจารณาสตรีโฉมงามผู้มีพิษร้าย “เราไม่อาจขัดวรรณะเวทของเจ้าได้ก็จริง เอริแอดเน่ แต่เรากุมความลับเดียวกับเจ้า เช่นว่า...เจ้าคืนชีพให้เราอย่างที่เอลฟ์ไม่พึงทำ เจ้าช่วยให้อาเลธตัดคอเรา และเจ้าหยามเกียรติเราด้วยการผนึกวิญญาณในโลงหิน เจ้าไม่คิดว่าเราควรทำดีต่อกันหรือ”

เอริแอดเน่รินสุราทับทิมลงแก้วเจียระไน นางย่างเท้าอย่างนุ่มนวลไปยืนหน้าระเบียงหินอ่อนที่เปิดกว้าง มองทิวทัศน์ท้องทะเลยามเย็นจากมุมงดงามที่สุดของราชวัง--ของกำนัลแด่นางกษัตริย์ ริมฝีปากอิ่มแตะขอบแก้ว ดื่มของเหลวสีแดงใส และเอ่ย

“ความลับที่จะพากันล่มจมทั้งหมดน่ะหรือ” นางกรีดรอยยิ้ม “ข้ารู้ว่าเจ้ารักตัวเองแค่ไหน เจ้าไม่มีทางยอมเสี่ยง”

“เราเรียนรู้อะไรมากกว่านั้นจากความตาย” เห็นว่านางจงใจทิ้งระยะห่าง ริวอร์นอร์ก็อดเข้าไปใกล้เพื่อหยอกเย้าไม่ได้ เขาลุกขึ้น เดินไปยืนซ้อนด้านหลัง ไล้ฝ่ามือกับหลังมือเนียนขาวก่อนจะสอดนิ้วประสานนิ้ว ตรึง...และขังนางไว้ในอ้อมกอด ยัง ยังไม่พอ เมื่อนางทำท่าจะขืนออก จมูกโด่งก็โน้มลงเฉียดปลายใบหูอย่างย่ามใจ

“การเสี่ยงเป็นสิ่งที่เราอยากทำมากที่สุดในเวลานี้ เพราะมันทำให้ใจเต้นแรงจนรู้สึกถึงชีวิต...ที่เจ้ามอบให้”

เอริแอดเน่รู้สึกถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็น มันหนักและรุ่มร้อน ต้นกำเนิดความร้อนมาจากกายเขา ทว่าทั่วสรรพางค์กายของนางเย็นเฉียบ “เจ้ากำลังขู่ข้าเพราะข้าผลักไสเจ้า หรือแค่อยากทำสิ่งที่ขัดกับข้า” นางหันประจันหน้าเขา มือเล็กประสานมือใหญ่ ดันเขาให้ถอยไปยังเตียง หงายหลังและนอนลง “แล้วถ้าข้าอยากทำแบบนี้ เจ้าจะขัดไหม” นางยืนเหนือร่างเขา เล็บคมจิกกลางแผ่นอกแข็งแรง

“ย่อมไม่” ประกายตาขบขันฉายวาบขึ้นมา ริวอร์นอร์ไล้คมเล็บของนางช้าๆ ไปถึงเนื้ออ่อนที่ยึดระหว่างนิ้ว

หัวคิ้วของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ขมวดเข้าหากัน “มักมากไม่เปลี่ยน”

“เรายอมรับ” มืออีกข้างลูบปลีน่อง...สูงขึ้น สูงขึ้นจนถึงขาอ่อนและไม่ยอมหยุดเพียงเท่านั้น

มือของริวอร์นอร์ถูกนางปัดออก “ถือดีอย่างไรมาแตะตัวข้า ข้าไม่ใช่นางบำเรอของเจ้า” ก่อนนี้นางยั่วยวนเขา โอนอ่อนผ่อนตาม เวลานี้แข็งกร้าว ดูขัดแย้งกัน ทว่าทั้งหมดคือเรื่องของการกุมอำนาจ ว่าใครคือผู้นำ และใครคือผู้ตาม เอริแอดเน่อาจเป็นอสรพิษหลังหัก แต่นางไม่มีทางยอมโดนล่ามไว้ใช้งาน

“ผิดแล้ว…” ริวอร์นอร์บีบเคล้นสะโพกแน่น “เราไม่แตะต้องนางบำเรอ พวกนางต่างหากที่ควรให้ความสุขแก่เรา”

“หึ บนเตียงของเจ้ากับพวกนาง ข้าจะเคยเห็นหรือ และข้าไม่สนใจ” นางแกะมือเขาออก ทว่ามือนั้นไม่ยอมขยับ

ริวอร์นอร์ยิ้มมุมปาก เขาดึงนางให้ผวาลงมาทาบทับ ร่างอันนุ่มละมุนไปเสียทุกส่วนเช่นสตรีแนบชิดกับอกแน่นหนั่นอย่างบุรุษ เขาสบนัยน์ตาหยิ่งทะนงของนาง หัวเราะเบาๆ นิ้วช้อนปอยผมสีทองสวยไปทัดหู และถือโอกาสคลึงมันอย่างทะนุถนอม นิ้วของนักรบ...นิ้วของนักฆ่า อ่อนโยนกับนางได้ถึงเพียงนี้

เอริแอดเน่ปรือตาเพราะสัมผัสตรงส่วนนั้นสงวนไว้สำหรับคนรัก นางโกรธ ทั้งโกรธที่ริวอร์นอร์อยู่ใต้อำนาจเวทของนางแต่ทำตัวผยองดั่งเป็นเจ้าของนาง และโกรธตัวเองที่ไวต่อสัมผัสของเขา “ข้ายังเป็นคู่หมั้นของซิกฟรีด เจ้าอยู่ร่วมห้องกับข้า...ไม่เหมาะสม”

ริวอร์นอร์วางมือบนหลังศีรษะของเอริแอดเน่ ลูบเหมือนปลอบโยน “เจ้าปฏิเสธเราได้ไม่ใช่หรือ” เขากระซิบ

หากนางไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเอง เมื่อครู่...น้ำเสียงทุ้มในอกนั้นเจือการเว้าวอนใช่หรือไม่

“ข้า...”

เมื่อท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์นิ่งไป ริวอร์นอร์ก็ค่อยๆ ดันหลังศีรษะของนางเข้ามาใกล้ ริมฝีปากแตะกันแผ่วเบา เช่นเดียวกับลมหายใจที่แลกเปลี่ยนกันค่อยๆ ถี่ขึ้นและถี่ขึ้น เขาขัดใจนางครั้งแล้วครั้งเล่า แน่นอนว่าจะมีครั้งต่อๆ ไป นางควรยอมเขาหรือ ถ้าไม่ยอมจะทำอย่างไรกับเขาได้

เอริแอดเน่เผชิญการตัดสินใจ ทั้งความรู้สึกและเกมการเมืองล้วนกลายเป็นเรื่องที่คุยกันบนเตียง นางใช้สองมือดันอกริวอร์นอร์ ก้มหน้า สูดลมหายใจ “ข้า...ข้าต้องการเวลาริวอร์นอร์ ถ้าเจ้าพูดความจริง แล้วจะให้ข้าทำอย่างไร” นางกำหมัดทุบอกเขา “บอกว่าไม่เป็นไร ข้าเข้าใจผิดไปเอง ขอโทษที่สังหารเจ้าหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร และความจริงก็คือ...” นางเงยหน้า “เจ้า...สังหาร...เขา”

ท่านเฟรธูริน ข้าจะยกโทษให้กับคนที่สังหารท่านได้อย่างไร...


“เรายินดีหากเจ้าเอ่ยคำขอโทษ” ริวอร์นอร์จับคางมน “เรามาเริ่มกันใหม่เถิด”

ช่างใจกว้าง…

แต่ในคำเชื้อเชิญก็แสนอันตราย เอริแอดเน่ทราบดี...ริวอร์นอร์ไม่ใช่คนใจกว้างโดยไม่หวังผลใด

ส่วนเรื่องสังหารพี่ชายตัวเอง ริวอร์นอร์ไม่เอ่ยถึง เขาฆ่าเฟรธูรินจริงและไม่นึกเสียใจ

“ข้ายังไม่เชื่อเจ้า” เอริแอดเน่สงบลง ริวอร์นอร์ชอบความโอนอ่อนของนาง ข้อนี้นางเพิ่งแน่ใจ นางอาจโอนอ่อนให้เขาได้โดยไม่ต้องเสแสร้ง แต่นางจะใช้ประโยชน์จากมันเช่นกัน

“ถ้าอยากได้ข้า จงไปขอเอากับซิกฟรีด ทำให้มันถูกต้อง”

แบบนี้สิเจ็บแสบ จงไปขอเอาจากซิกฟรีดเถิด

“ช่างรู้ใจ” ริวอร์นอร์เลียขอบฟัน ดวงตาสีแดงวาวโรจน์ “เราจะติดต่ออาเลธในวันพรุ่งนี้ เขาควรได้เวลาเตรียมใจก่อนพบหน้าพี่ชายที่ตัวเองฆ่า”

“ก็มาดูกันว่าเขาจะยกข้าให้เจ้าหรือไม่”

ริวอร์นอร์ลูบศีรษะเอริแอดเน่พลางส่งเสียงชี่...เหมือนปลอบเด็กหญิงตัวน้อย “ถ้าเขาให้จริงๆ เล่า เจ้าจะรู้สึกอย่างไร”

“ไม่แปลกใจ” เอริแอดเน่ตอบทันที ออกจะไวเกินไป “เขาค่อนข้างไร้เดียงสา เชื่อว่าความรักสำคัญนัก ข้าให้ใจเขาได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่เขาไม่ต้องการมัน”

เอริแอดเน่ถามใจตัวเองเป็นพันๆ ครั้งหลังสิ้นริวอร์นอร์ว่านางสามารถรักซิกฟรีด--เจ้าชายน้อยในความทรงจำได้หรือไม่ นางตอบตัวเองหลายครั้งว่า ‘ได้’ ทว่าเป็น ‘ได้’ ที่หมิ่นเหม่ อันตราย ทุ่มเทความรักอย่างสิ้นหวัง หน้ามืดตาบอด

“ข้าเคยสาบานว่าจะรักและดูแลเขา ไม่ให้เขากลายเป็นคนที่ผิดพลาดเหมือนกับเจ้า...ข้าจะเป็นราชินีของเขา สร้างราชวงศ์อันเกรียงไกร ทว่าทั้งหมดพังทลายแล้ว พังเป็นกองทราย ข้าเป็นคนที่จมไปแล้วครั้งหนึ่งริวอร์นอร์ วันที่ซิกฟรีดหนีออกจากอาศรมควาร์ เขาไม่พูดถึงดาร์กเอลฟ์ แต่เข้ามาเป็นหลักให้ข้าเกาะ เขาขึ้นเป็นราชา รับข้าเป็นคู่หมั้น ทว่าจากนั้นเขากลับคิดขึ้นมาได้ว่า...” นางหัวเราะ “เขายังรักดาร์กเอลฟ์ และจะรักมันไปพร้อมให้ข้าสมรสกับเขา ร่วมเตียงเขา เลี้ยงดูบุตรของเขา” นางอสรพิษแยกเขี้ยว “ข้าไม่เหลือหลักอะไรให้เกาะอีกต่อไป และเจ้าควรระวังให้ดี เพราะสาเหตุที่ข้าจมล้วนมาจากเจ้า!”

“อืม…” ริวอร์นอร์จ้องลึกเข้าไปยังนัยน์ตาใสดุจอัญมณี เขารู้จักนิสัยใจคอของเอริแอดเน่ดี ทว่าเมื่อครู่ นางเพิ่งเปิดเปลือยความอ่อนแอของตน สตรีผู้พังภินท์เพราะรัก นางมีหัวใจที่แสวงหาความสงบ ความดีงาม--สิ่งที่เขาไม่มีให้

“อย่าบังอาจใช้สายตาสมเพชข้า เขาเต็มใจร่วมเตียง ข้าไม่ตกต่ำถึงขนาดบังคับเขา”

“ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ยังไม่แค้นเคืองอาเลธ” ริวอร์นอร์คล้ายหยั่งเชิง

“เจ้าคิดว่าความแค้นของข้าเป็นของไม่มีราคาหรืออย่างไร จะได้เที่ยวยกให้ใครต่อใคร” นางยกมุมปาก ไม่ตอบรับไม่ปฏิเสธ

ริวอร์นอร์ส่ายหน้า “เราเพียงคิดว่าหากเจ้าแค้นเคืองอาเลธสักนิด ‘เกม’ ที่เราจะชวนมันเล่นคงสนุกพิลึก”

เอริแอดเน่เห็นแววตาเฉก ‘ราชามงกุฏดำ’ ยามริวอร์นอร์เอ่ยคำว่า ‘เกม’

“ก็ขึ้นอยู่กับว่าเกมของเจ้าน่าสนุกแค่ไหน” เอริแอดเน่มองท้า

“เกมดาษดื่นที่เจ้าเคยเล่นมาแล้ว” ริวอร์นอร์แตะปลายจมูกนาง “ ‘ชิงแผ่นดิน’ ”

เอริแอดเน่ทราบมานานแล้วว่าริวอร์นอร์มีบางสิ่งที่สามารถกระตุ้นเร้าจิตวิญญาณของนางให้ลุกไหม้ บางสิ่งที่ไม่ดีงามทว่าทำให้นางอยากก้าวไปยืนเคียงข้างเขา นางลูบรอยสักบนลำคอเขาแผ่วเบา จุดที่นางแย่งชิงทุกสิ่งของเขามา...และคืนให้เขาไป

“ถ้าเป็นเกมนั้น ไม่ว่าข้าคิดอยากเล่นหรือไม่ เมื่อลงสนามแล้ว ข้าก็จะไม่ปรานีใคร”

“แดนทมิฬอาจอยากร่วมกระดานด้วย” ริวอร์นอร์หลงรักไฟในตัวนาง ไฟที่ผลาญได้ทุกสิ่งอย่างไร้ปรานีแม้กระทั่งตัวเขา ราชามงกุฏดำหยัดกายขึ้น ก่อนจะอุ้มราชินีไร้มงกุฏให้นั่งประจันหน้า สายตาเขาขย้ำทุกสัดส่วนในร่างกายนาง

“นี่หรือคือเวลาที่เจ้าให้ข้า” แค่ไม่กี่นาทีของการพูดคุย ทว่าความไม่มั่นใจของเอริแอดเน่คล้ายถูกชะล้าง เพราะริวอร์นอร์...เพราะมีเขา ไม่ว่าจะความรัก ความชัง หรือความแค้นของนาง ล้วนมีเขาเป็นเชื้อไฟ

“เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ” ริวอร์นอร์เหยียดรอยยิ้มพลางกระซิบใกล้ริมฝีปากแดงชาด

นางกระซิบตอบบนริมฝีปากเขา “คำขอโทษไม่มีประโยชน์ ข้าจะกอดเจ้า มอบความสุขให้แก่เจ้า รึกระทั่งรักเจ้า แต่ข้าไม่ลืมว่าเจ้าเคยทำอะไร ถ้าวันใดข้าพิสูจน์ได้ว่าเจ้าพูดโกหกเรื่องในคืนนั้น ไม่ต้องรอบิดาแห่งความตายมาพบเจ้า ข้าจะส่งเจ้าไปหาพระองค์ในสภาพสัตว์นรกน่าสมเพชเวทนาที่สุดเท่าที่นรกเคยให้กำเนิด”

“เราก็ไม่เคยลืม ‘คืนนั้น’ ”

เอริแอดเน่ทราบดีว่าริวอร์นอร์หมายถึงคืนไหน ศีรษะที่ถูกใบดาบคมกริบบั่นกระเด็นยังตอบสนองในชั่วระยะหนึ่ง นัยน์ตาสีแดงเบิกค้างจ้องนางอย่างโกรธแค้น อย่างรวดร้าว...และเจ็บปวดถึงที่สุด ในชั่วขณะนั้นเอริแอดเน่ทราบดีกว่าใครว่า หากไม่ผนึกวิญญาณให้แน่นหนา ริวอร์นอร์จะกลับมาไม่ว่าในรูปแบบใด

“เท่านี้เราก็รู้สึกเหมือนกันแล้วใช่ไหม ช่างน่าดีใจ” เขาจะสั่งการดาร์กเอลฟ์พวกนั้นจริงหรือไม่ นางยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่ที่พิสูจน์ได้คือเขาปล่อยให้นางจมน้ำตายในความโศกเศร้า ไม่เคยแก้ตัว ขอโทษ หรือแสดงความเสียใจ

“เราดีใจตั้งแต่ได้เห็นใบหน้าแหลกลาญของเจ้าในวันที่เจ้าปลุกเราขึ้นมา เจ้าถูกอาเลธหยามน้ำใจ แต่ทำไมกันหนอ ทำไมเจ้าถึงยังเมตตามันเหลือเกิน”

“ข้าจะปล่อยให้เจ้าสงสัยต่อไป” นางยิ้ม

ริวอร์นอร์เลิกคิ้ว “รู้จักหยอกล้อด้วยหรือ” เขากระเซ้านางก่อนจะพลิกให้นอนใต้ร่างตน “รักเราเถิด นายหญิง” ริวอร์นอร์ปัดริมฝีปากกับขนตานางก่อนแนบลงไป

ให้นางแผดเผาเขา...และเขาแผดเผานาง

จนกว่าจะถือกำเนิดใหม่จากเถ้าในดินแดนนิรันดร์


—————————————————————————

A/N ขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก อยู่กับริวอร์นอร์เป็นอะไรที่เครียดและกดดันอยู่เหมือนกันนะคะ

แต่ก็หวาน โรแมนติก ใจเต้นไปพร้อมกัน /ช่างเลือกยากจริงๆ XD!


ป.ล. เหลืออีก 1 บทใหญ่ และ 1 บทส่งท้าย Elven Almanac ภาคพันธนาการรักราชันเอลฟ์ ก็จะจบลงแล้วค่ะ

บอกได้เลยว่าเนื้อเรื่องที่เหลือจะกลับไปโฟกัสที่รูเมเรียร์แล้ว ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวอิซิลดาร์กันนะคะ จุ๊บเบาๆ


แฟนอาร์ตสวยๆ คู่ ริวอร์นอร์ x เอริแอดเน่ จากคุณ Ann Sophon ค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ ดีใจมากเลย วาดได้ละมุน รู้สึกถึงความรักเลยค่ะ ;w;

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/1392331142-member.jpg)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (6) [22/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-06-2017 19:45:05
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (4-5) [21/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-06-2017 20:12:25
ชอบเจย์จัง ทั้งเรื่องเนี่ยดูโอเคสุดล้าว ห้ามตายเด้อ

และหวังว่าจะไม่ทำให้เจย์ดำมืดไปอีกคน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (6) [22/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 22-06-2017 21:44:24
แผดเผา ลุกไหม้ อยู่ตรงใจกลางไฟ
ยินยอมจะถูกไฟทำลายซ้ำ ๆ เพียงแค่รู้ว่าต้นเพลิงมาจากน้ำมือเจ้า

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (1) [23/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 23-06-2017 14:52:41
บทที่ 28 : สองราชัน (1)

ท้องพระโรงแห่งแผ่นดินรูเมเรียร์

ราชาซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ถือว่าปกครองแผ่นดินด้วยความหวาดกลัวอยู่เหมือนกัน…

ความหวาดกลัวมาพร้อมความเคลือบแคลงที่ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึง บรรยากาศมัวซัวโรยตัวเหมือนหมอกในเช้าวันสถาปนา ริมฝีปากของเหล่าขุนนางเป็นอัมพาตชั่วขณะ ไม่มีผู้ใดกระซิบกระซาบกัน ริมฝีปากนั้นจะขยับได้ก็ต่อเมื่อเอ่ยคำว่า ‘ขอความสวัสดิวัฒนาจงมีแก่องค์ราชา ขอพระหัตถ์แห่งความเมตตาจากบิดานภาจงวางบนบ่าของพระองค์ ขอจุมพิตแห่งความรักจากมารดานภาจงประทับบนกระหม่อมของพระองค์ ขอบิดาธรณีแลมารดานทีเป็นสักขี ในการทรงพระแสงดาบ คทา และมงกุฏของราชาพระองค์ใหม่--ซิกฟรีด อาเลธ แห่งรูเมเรียร์ด้วยเทอญ’ 

บรรดาขุนนางชั้นผู้ใหญ่ถวายพระพรโดยพร้อมเพรียงกัน

จากนั้น...เมื่อพระองค์ทรงออกไปยังระเบียงท้องพระโรง เหล่าขุนนางชั้นผู้น้อยก็ถวายพระพรตามกันไป ทหารสะบัดธงสีแดงอันมีตราสัญลักษณ์วิหคเพลิงจากราชวังชั้นในสู่ราชวังชั้นนอก และจากราชวังชั้นนอกสู่ประชาชนซึ่งออกันอยู่หน้าประตู เสียงระฆังดังขึ้นในเวลานั้นเอง...ตามด้วยเสียงแตรและเสียงพลุ ดอกไม้ไฟสีทองบานซ้อนกับสีฟ้า ไม่ทันจะดับหายดอกไม้ไฟสีแดงก็วาบขึ้นมา จับตาและจับใจ

งานรื่นเริงจำกัดเพียงหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืน ประชาชนเข้าใจ...เอ่ยกันว่า ‘ราชาผู้เยาว์ยังคงโศกเศร้ากับการจากไปของพระเชษฐาริวอร์นอร์’ และให้ความเห็นว่า ‘พระองค์ทรงมีเมตตาแก่ดาร์กเอลฟ์ยิ่งกว่าพระเชษฐาเฟรธูริน ดูสิ พระเชษฐาทั้งสองพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เพราะฝีมือกบฏดาร์กเอลฟ์ แต่พระองค์กลับไม่แค้นเคือง ไม่เนรเทศพวกมันออกจากรูเมเรียร์ ข้ารู้...ลูกเล็กเด็กแดงไม่เกี่ยว แต่อย่างไรก็เสี่ยงจริงไหม ถ้าพวกมันโตแล้วคิดอกตัญญูแผ่นดินเล่า จะทำอย่างไร’

ทว่าผู้ทราบความจริงใต้พรมนองเลือดไม่มีใครกล้าเอ่ยถึงแม้เพียงครึ่งถ้อยคำ ท้องพระโรงแห่งนี้เพิ่งซากลิ่นโลหิตของอดีตราชาริวอร์นอร์ไปเมื่อไม่กี่คืนก่อน พระองค์ไม่ได้หลั่งเลือดให้อาวุธอาบพิษของกบฏดาร์กเอลฟ์ แต่ให้แก่ดาบใหญ่มหึมาของพระอนุชา และคมเขี้ยวอสรพิษของพระคู่หมั้นแห่งอิซิลดาร์ ผู้รู้เห็นถ้าไม่สวามิภักดิ์ก็จะถูกตัดศีรษะ ถูกลากร่างไปสุมรวมกันแล้วจุดไฟเผา ไม่ใช่ไฟธรรมดาแต่เป็นไฟเวทซึ่งผลาญถึงกระดูกในพริบตา กลิ่นความตายอบอวล แม้กระทั่งหยาดฝนบริสุทธิ์ในเช้าถัดมาก็ไม่อาจชะล้างได้

ราชาซิกฟรีดทรงมีเมตตาหรือ…

หากพูดว่าทรงโหดเหี้ยมอาจเข้าใจได้ง่ายกว่า

ความหวาดกลัวปิดปากบรรดาขุนนางซึ่งระแคะระคายเรื่องนี้จนแน่นสนิท ทำตัวสงบเสงี่ยมท่ามกลางเหล่าขุนนางผู้สนับสนุนกษัตริย์พระองค์ใหม่

ไม่มีใครพูด ไม่มีใครกล้าวิจารณ์ เรื่องราวก็ดำเนินไปในหมอกอันพร่ามัว

ประวัติศาสตร์ดำมืดเฉกนี้จะไม่ได้รับการบันทึกไว้

ไม่มีหลักฐานใดหลงเหลืออยู่

เช่นเดียวกับคราวที่ราชาริวอร์นอร์ปลงพระชนม์ราชาเฟรธูรินผู้เป็นพระเชษฐา...ด้วยน้ำมือของพระองค์เอง

 

เช้า...หมอกโรยตัวบางเบาคล้ายเช้าในวันสถาปนา ทูตอิซิลดาร์ประจำรูเมเรียร์แจ้งข่าว ว่าราชาริวอร์นอร์ อาห์นดี แห่งรูเมเรียร์ มีพระประสงค์จะสนทนากับราชาซิกฟรีด

หนึ่งแผ่นดิน สองราชา และความกังขาอันอัดแน่นอยู่ในใจประชาชนชาวรูเมเรียร์ ข่าวการกลับมาของราชาริวอร์นอร์กระจายไปไวราวติดปีกเพราะพิธีต้อนรับอันยิ่งใหญ่ ซ้ำบริเวณชายแดนติดแดนทมิฬ ฝั่งทมิฬยังชักธงแห่งช่วงเวลาสันถวไมตรี ซึ่งแปลว่าจะไม่มีการรุกรานใดๆ จอมทัพทมิฬประกาศจะคงธงนี้ไว้เป็นเวลาสามเดือน เพื่อร่วมแสดงความยินดีที่แผ่นดินเอลฟ์ได้กษัตริย์กลับคืนมา

ราชาซิกฟรีดตอบรับด้วยการสั่งให้นำกระจกเวทมาตั้งในท้องพระโรง โดยเลือกวางตรงบัลลังก์เหล็กดำ ส่วนพระองค์จะประทับฝั่งเดียวกับขุนนาง บนพระที่นั่งซึ่งตั้งบนยกพื้นสูงอีกทอดหนึ่ง

ตำแหน่งช่างแปลกทว่าไม่มีใครทักท้วง

ทุกอย่างถูกจัดเตรียมอย่างรีบเร่งให้ทันบ่ายที่จะถึงนี้

ราชวังกลับคืนชีวิตชีวาสำหรับผู้ที่ไม่ทราบเรื่องราวแท้จริง

...และน่าประหวั่นพรั่นพรึงสำหรับผู้ที่เข้าใจเรื่องราวโดยตลอด

 

โคลด์พิจารณาหน้ากากไม้ที่เขาเพิ่งแกะสลักและประกอบเสร็จเมื่อคืน มันปิดซีกหน้าครึ่งบนด้วยจะงอกปากยาวเหมือนปากอีกา ครึ่งหน้าด้านล่างเปิดโล่ง เขาลูบไปตามลวดลายบนเนื้อไม้ เมื่อเห็นว่ามันคล้ายหน้ากากในความทรงจำดีแล้วก็หลับตาเพื่อทำสมาธิ

วันนี้โคลด์สวมชุดต่างไปจากที่เคยและแปลกตา มันเป็นชุดแบบดาร์กเอลฟ์ขนานแท้ ท่อนบนกึ่งเปลือยสวมเกราะเบาทำจากหนังสีดำ ตัวเกราะดัดแปลงจากรูปลักษณ์กระดูกสันหลังทว่านำมาสวมด้านหน้า ประกอบด้วยแผ่นหนังแข็งยืดหยุ่นเย็บติดกันเป็นกระบังบ่าและหน้าอกส่วนบน เส้นกลางลำตัวมีสายหนังโยงออกมาข้างละสามเส้น สายหนังเหล่านี้รัดตั้งแต่ใต้ราวนมลงไปตามลำตัว ดูคล้ายกระดูกซี่โครงสีดำ เผยผิวสีม่วงอมเทาเนียนละเอียด

เสียงเคาะประตูดังเบาๆ เมื่อโคลด์ตอบรับค่อยเปิดออก ซิกฟรีดสวมชุดอย่างกษัตริย์เต็มยศ เสื้อปกตั้งสีครามปักดิ้นเงินเป็นลายเมฆ กระดุมเงินเรียงเม็ดลงไปถึงใต้สะดือ ส่วนชายเสื้อหยุดลงบริเวณครึ่งหน้าแข้ง กางเกงพอดีตัวสีเข้มกว่าเล็กน้อยไม่มีลวดลาย รองเท้าหนังขัดมันไร้ฝุ่นให้เสียงกึก...กึก ยามก้าวเข้ามาใกล้โคลด์ ซิกฟรีดสวมผ้าคลุมเนื้อละเอียดประดับขนวิหคเพลิง และสวมมงกุฏซึ่งตกทอดมาจากบรรพบุรุษ เพชรสีน้ำเงินดุจพระเนตรของบิดาแห่งนภาล้อกับแสงเช้าซึ่งลอดผ่านหน้าต่าง ราชาหนุ่มผู้งดงามและแสนเศร้า...

“เต็มยศ” โคลด์วิจารณ์สั้นๆ

“เจ้าก็เหมือนกัน” ซิกฟรีดมองชุดนักรบดาร์กเอลฟ์ของโคลด์ “ช่างท้าทายบิดาแห่งความตาย” เขายิ้มขณะลากนิ้วไปบนผิวเนียนซึ่งไม่ได้รับการปกป้องจากเกราะ

“มันต่างจากชุดออกรบอยู่นิดหน่อย แต่ก็ใช้รบได้เช่นกัน” โคลด์ไม่ปัดป้อง อาจเพราะกำลังมองคนตรงหน้าอย่างใช้ความคิด

“ได้ยินข่าวหรือไม่ แดนทมิฬมอบของขวัญให้ริวอร์นอร์และชักธงเป็นเกียรติแก่ ‘ราชา’ ผู้คืนแผ่นดิน”

สารจากจอมทัพทมิฬอาจแปลได้ว่า ผู้เหมาะสมคู่ควรกับแผ่นดินเอลฟ์คือราชาริวอร์นอร์ ส่วนราชาซิกฟรีดน่ะหรือ...ไม่อยู่ในสายตา

“ได้ยินแล้ว นั่นไม่ดีกับเจ้า และทำให้ข้าต้องเตรียมของพวกนี้” โคลด์ยกหน้ากากขึ้น นอกจากหน้ากากและชุดที่สวม ยังมีกลุ่มไหมสีเงินและผ้าคลุมขนนกสีดำเหลือบลายเงินวางข้างกัน “ข้าหวังว่าจะไม่ต้องใช้พวกมัน...แต่ก็นะ”

“ถ้าเจ้าเข้าร่วม…” ซิกฟรีดแตะหางตาโคลด์ เขาหลงรักดวงตาสีม่วงถึงขั้นเพ้อคลั่งในบางครั้งยามหลับฝัน ดวงตาที่เคยสะท้อนภาพเขาเพียงคนเดียว และในช่วงวัยเยาว์อันแสนสั้นที่มีร่วมกับโคลด์ เขาคล้ายเห็นร่องรอยความรักฉายออกมาเจือจางผ่านดวงตาคู่นั้น

“ถ้าเจ้าปรากฏตัว ข่าวจะไปถึงหูจอมทัพทมิฬหรือไม่”

“ย่อมถึงอยู่แล้ว เพราะข้าประสงค์ให้ถึง เขาก็ไม่ได้เลี้ยงข้ามาให้โง่เขลาหรอกนะ” โคลด์ยกยิ้ม จากนั้นเอ่ยจริงจัง “เจ้าต้องการพันธมิตร ซิกฟรีด ข้าไม่ให้ริวอร์นอร์เป็นราชา ถ้าเขาเป็น คอของเจ้าก็กระเด็น”

“ข้าไม่แน่ใจเลยว่าจะได้ตายสบาย เขาน่าจะบังคับให้ข้าจุดไฟเผาตัวเอง รู้ไหม คืนที่ข้าประมือกับเขา ข้าแน่ใจว่าลำพังฝีมือข้าไม่มีทางเอาชนะเขาได้ เขาเพลี่ยงพล้ำอย่างน่าประหลาด โคลด์ สตาร์...เขาชะงักตอนที่พี่หญิงร้องสั่งให้ข้าตัดศีรษะเขาเสีย”

“แปลว่าเขาก็มีหัวใจกระมัง ไม่ว่าจะเป็นหัวใจรัก หวาดเกรง ผิดหวัง หรือเคียดแค้นชิงชัง” โคลด์บีบมือบนบ่าซิกฟรีด “เขาไม่ใช่อสูรร้ายไร้เทียมทานที่ใครก็ต่อต้านไม่ได้ เจ้าเองก็แกร่ง อย่ากลัวเขา”

คำปลุกใจนี้หนักแน่น ทว่าโคลด์ทราบดีว่าเงาของริวอร์นอร์แผ่ปกคลุมซิกฟรีด ฝังรากลึกในใจราชาหนุ่ม รากแห่งความหวาดเกรงนี้คล้ายบุตรที่ประหวั่นบุพการี...เขาเข้าใจดี เพราะเขาเองก็เป็น หากมีคนบอกให้เขาเลิกเกรงบิดาบุญธรรม ก็คงยากยิ่ง

“มันยาก แต่อย่ากลัว ต่อสู้กับความกลัวของเจ้า เพราะเจ้ามีสิ่งที่ต้องปกป้อง ข้าเคยอยู่จุดเดียวกับเจ้า จนถึงตอนนี้ก็ยังอยู่จุดเดียวกับเจ้า แต่ข้ากล้าเพราะข้าต้องปกป้องกวินีเวียร์...เกวนโดลิน” โคลด์ดึงซิกฟรีดเข้ามากอด “และตอนนี้ ข้าปกป้องเจ้า”

ท่านพี่เฟรธูรินเคยว่าอย่างไรนะ…

‘ดาบที่แข็งแกร่งที่สุดคือดาบที่กวัดแกว่งเพื่อปกป้องใครสักคน’ ใช่หรือไม่

แขนที่แข็งแกร่งเล่า ใช่แขนที่สามารถกอดปลอบโยนคนสำคัญได้...ใช่หรือไม่

ซิกฟรีดรับกอด แล้วกระหวัดแขนกอดโคลด์กลับ “เช่นกัน…” เขากระซิบ “ข้าจะแข็งแกร่งขึ้น ข้าให้สัญญา” จมูกโด่งฝังในกลุ่มผมนุ่ม สูดกลิ่นคุ้นเคยซึ่งทำให้รู้สึกปลอดภัยเสมอมา

โคลด์เป็นเพื่อน เป็นบ้าน และเป็นคนรัก

...เสมอมา

โคลด์กำหมัด ตบเบาๆ บนหลังคออีกฝ่าย “เจ้าฉลาด เก่งกล้า และเจ้าจะไม่ยอมให้เขาชิงสิ่งที่เจ้าได้มาโดยชอบธรรม ‘ชอบธรรม’ เหมือนที่เขาได้สิทธิ์นั้นด้วยการสังหารท่านเฟรธูริน ใช่หรือไม่ ซิกฟรีด”

“ข้าเริ่มคิดว่าเจ้าเป็นบิดาแล้ว” ซิกฟรีดวางมือบนแก้มโคลด์ มือเขาเย็น แสดงถึงความหวาดหวั่นที่ซุกซ่อนอยู่ แม้ปากจะเย้าแหย่โคลด์ก็ตาม

“ข้าไม่มีลูกตัวขาวเป็นแป้งอย่างเจ้าหรอก ซิกฟรีด” โคลด์จับมือนั้น ยิ้ม “หลับตาแล้วนับถอยหลัง ห้า...สี่...สาม...สอง...หนึ่ง แล้วเจ้าจะเดินออกไป ยังท้องพระโรง ประกาศสิทธิ์และศักดิ์ของเจ้า มีข้า มาลแกธ อิลราลาน และกอห์นดีเอนสนับสนุน ข้าจะคอยดูเจ้าในกลุ่มทูตดาร์กเอลฟ์ ข้าหวังว่าจะไม่ต้องออกไป แต่ถ้าข้าออกไปจริง จงเชื่อใจข้า เหมือนกับที่ข้าเชื่อใจเจ้า ยอมเปิดเผยตัวตน”

ซิกฟรีดมองโคลด์นิ่งและนาน เขาจูบหน้าผากมน กระชับกอดอีกครั้งแล้วเอ่ย “ข้าเชื่อใจเจ้ายิ่งกว่าใครมานานแล้ว ดวงดาวที่แสนเย็นชา”


—————————————————————————

A/N พี่ชายน้องชายใกล้จะเจอกันแล้วค่ะ โคลด์เองก็ยืนข้างซิกฟรีด และมีแผนการรับมือริวอร์นอร์อยู่ค่ะ


ป.ล. ใกล้จบภาคแล้ว อยากทราบว่านักอ่านท่านไหนที่ยังติดตามกันอยู่และรอคอยบทสรุปของภาคนี้กันบ้างคะ




ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (1) [23/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-06-2017 15:28:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (1) [23/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 23-06-2017 16:36:19
ฉันยืนข้างโคลด์และซิกฟรีดเสมอ

อาจจะว่อกแว่กบ้างก็ยามหนุ่ม ๆ สาว ๆ สวยงามมาล่อตา

แต่ฉันหนักแน่นนะ! จะบุกน้ำลุยไฟไปกับโคลด์และอาเลธไม่เปลี่ยนเรือ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (1) [23/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-06-2017 19:17:54
ซิก โคลด์  :กอด1: :กอด1: :กอด1: สู้ สู้
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (1) [23/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 23-06-2017 23:11:14
ฉันยืนข้างโคลด์และซิกฟรีดเสมอ

อาจจะว่อกแว่กบ้างก็ยามหนุ่ม ๆ สาว ๆ สวยงามมาล่อตา

แต่ฉันหนักแน่นนะ! จะบุกน้ำลุยไฟไปกับโคลด์และอาเลธไม่เปลี่ยนเรือ

ตามนั้นค่ะ5555
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (1) [23/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 23-06-2017 23:12:23
นางเหมือนแม่นกไปและ 

ดวงดาวที่แสนเย็นชา :-[
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (2) [24/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 23-06-2017 23:55:31
บทที่ 28 : สองราชัน (2)

ท้องพระโรงแห่งแผ่นดินอิซิลดาร์

ถึงเวลานัดหมาย ริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์--กษัตริย์ผู้คืนแผ่นดิน ได้รับเกียรติให้นั่งบัลลังก์เคียงข้างบัลลังก์ของท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ ธงประจำพระองค์สองผืนถูกชักขึ้นเคียงกัน ธงสัญลักษณ์อันแขวนอยู่หลังบัลลังก์ของราชาริวอร์นอร์เป็นม้าดำเขาเดี่ยว นัยน์ตาปักด้วยไหมสีแดงฉาน เขากลางหน้าผากปักด้วยไหมดำประกายเงินซึ่งคล้ายปั่นจากแร่เหล็กดำจริงๆ ลมหายใจของมันปรากฏเป็นลวดลายม้วนวน ปักด้วยไหมสีขาวอมเทาแซมด้วยไหมสีแสดเกือบแดงนิดๆ แสดงถึงความร้อนระอุเฉกม้าศึก ขณะที่ธงสัญลักษณ์อันแขวนอยู่หลังบัลลังก์ของท่านหญิงเอริแอดเน่เปรียบเสมือนคู่ตรงข้าม ยูนิคอร์นขนสีขาวบริสุทธิ์ครองสีหน้าสงบและสูงส่ง เขาเดี่ยวมีลายปักสายน้ำอ่อนโยนม้วนเป็นเกลียวโอบล้อมอยู่ ฝีมือช่างอิซิลดาร์ประณีตกระทั่งลายปักดอกไม้สีขาวอมทองยังคล้ายส่งกลิ่นหอมหวานอวลท้องพระโรง

ทว่าขณะนี้ สิ่งที่ส่งกลิ่นฉุนที่สุดคือ ‘ความประหวั่นต่ออนาคตและความเคลือบแคลงใจ’

ไม่มีผู้ใดทราบว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร แม้กระทั่งเอลเดอร์ผู้อาวุโสที่สุด แก่ประสบการณ์ที่สุดยังไม่อาจทำนายได้ พวกนางยืนบนยกพื้นต่ำกว่าบัลลังก์หนึ่งขั้น ดวงตางดงามอันซ่อนเล่ห์กลแนบเนียนหลายคู่จับไปที่กระจกเวทบานยาวซึ่งตั้งอยู่กลางท้องพระโรง ในกาลก่อน ราชาเฟรธูรินแห่งรูเมเรียร์ได้มอบกระจกเวทบานนี้ให้ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ เพื่อใช้ติดต่อสื่อสารในยามห่างไกล

กระจกเวทได้รับการดัดแปลงเล็กน้อย แต่เดิมมีบานเดียว เวลานี้ถูกประกอบใหม่เป็นกระจกหกด้าน ซึ่งสะท้อนภาพแบบเดียวกันจากกระจกเวทบานหลัก

นอกจากเอลเดอร์และขุนนางสูงศักดิ์แห่งอิซิลดาร์แล้ว ท่านหญิงเอริแอดเน่ยังเชิญราชทูตจากเผ่าพันธุ์อื่นเข้าร่วมรับฟังการสนทนาอันจะถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ครั้งนี้ด้วยน้ำใจกว้างขวาง ทั้งเซ็นทอร์ ดวอร์ฟ มนุษย์ หรือกระทั่งคณะทูตดาร์กเอลฟ์ของจอมทัพทมิฬ

ผู้ร่วมท้องพระโรงทุกผู้เฝ้ารอภาพที่กำลังจะฉายขึ้นมา

ภาพของกษัตริย์หนุ่มองค์ปัจจุบันของรูเมเรียร์

“เราตื่นเต้นจนมือเย็นไปหมด” ริวอร์นอร์โน้มใบหน้ามากระซิบข้างหูเอริแอดเน่

“หรือ” นางรำพึงพอให้ได้ยินกันสองคน ใบหน้าเชิดและมองตรง “เจ้ากำลังเนื้อเต้นว่าจะรับขวัญน้องชายอย่างไรดีสินะ”

ริวอร์นอร์ยิ้มอ่อนโยน ต่อหน้าธารกำนัล เขาแสดงออกได้อย่างเหมาะสม ไร้ที่ติ

เสียงแตรประกาศว่าถึงเวลาแล้ว ผู้เป่าแตรเป่าเสร็จก็กลั้นหายใจ รอให้ภาพฝั่งรูเมเรียร์ปรากฏขึ้นบนกระจกเวท

ไม่คลาดสักวินาทีตามกำหนด ภาพของราชาซิกฟรีดปรากฏขึ้นในกระจกเวท ราชาหนุ่มประทับฝั่งเดียวกับข้าราชบริพารของพระองค์ สีหน้าของเหล่าขุนนางรูเมเรียร์ช่างเคร่งขรึม ริมฝีปากเรียบตึงราวกับไม่เคยแย้มรอยยิ้ม ขุนนางคนสำคัญอยู่บริเวณฝั่งขวา หมายรวมถึงอิลราลานผู้เป็นองครักษ์และหน่วยกาลาฮานซึ่งยืนถัดไปทางด้านหลัง มาลแกธอยู่บริเวณฝั่งซ้าย--ฝั่งเดียวกับคณะทูตจากหลายดินแดน มีทาราเธียลและทูตจากตระกูลล็องธูขนาบข้าง

“น้องชายเรา” ริวอร์นอร์ยิ้มกว้างพร้อมผายมือออก ขณะซิกฟรีดอ้าปากน้อยๆ คล้ายไม่เชื่อสายตา ก่อนจะยิ้มกว้างเช่นกัน

“พี่…”

ละครอันตรายเริ่มขึ้นแล้ว

“มีหลายเรื่องที่เราต้องคุยกัน แต่เวลานี้คงลุกไปกอดทักทายเจ้าไม่ได้ ท่านหญิงเอริแอดเน่กรุณาให้เราพำนักที่อิซิลดาร์ก่อนเดินทางกลับรูเมเรียร์ นางแสดงความกังวลว่าหากเรากลับไปกะทันหันจะทำให้ราชสำนักแตกตื่น จึงขอเอ่ยทักทายเจ้าและขุนนางผ่านกระจกเวทก่อน” ริวอร์นอร์กล่าวอย่างลื่นไหล ภาษากายผ่อนคลายและเปิดเผย เป็นราชาที่ใจกว้าง เป็นพี่ชายที่อารี

เจ้าเป็นคนอยากติดต่อเอง มาอ้างชื่อข้า งามหน้านัก ริวอร์นอร์ ถึงจะคิดเช่นนั้น เอริแอดเน่ก็ไม่เอ่ยอะไร นางพิจารณาซิกฟรีดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

ขณะเหล่าเอลฟ์ผู้ไม่ทราบความจริงล้วนปลาบปลื้มต่อท่าทีรักใคร่ปรองดองของสองกษัตริย์

“พี่หญิง…” ซิกฟรีดน้อมศีรษะให้เอริแอดเน่

“ท่านซิกฟรีด สบายดีหรือไม่” จากกันครั้งสุดท้ายบอกลาไม่ดีนัก ทว่าเอริแอดเน่ไม่แสดงอาการตัดพ้อหรือน้อยใจ

“ขอบพระทัย น้องสบายดีเช่นเดิม พี่หญิงเล่า…”

แม้จะแสดงละครต่อหน้าริวอร์นอร์เก่งเพียงไหน แต่พอถึงคราวสนทนากับเอริแอดเน่ ซิกฟรีดกลับแสดงสีหน้าอย่างซื่อตรงและจริงใจ ริวอร์นอร์จับสังเกตนั้นได้ เขากระตุกยิ้มบางๆ ...ยังอ่อนแอเช่นเคยต่างหากเล่า อาเลธ

“เป็นกังวล” นางหันมองริวอร์นอร์ด้วยสีหน้าห่วงใยแล้วเบือนหน้ากลับมายังกระจก “ราชาที่รักของพวกเราเดินทางมาไกล ข้าได้ต้อนรับพระองค์อย่างดีที่สุด และหวังว่าการต้อนรับนี้จะช่วยแสดงความจงรักภักดีและความจริงใจของท่านที่มีต่อเขาได้ ข้าทราบดีว่าความกังขาและวิตกกังวลแพร่กระจายไปทั่วแผ่นดินเมื่อเรามีราชาถึงสองพระองค์ รูปการณ์เช่นนี้ พวกท่านทั้งสองคิดเห็นเป็นอย่างไร”

ผู้ร่วมฟังเผลอกลั้นหายใจ เมื่อท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์เอ่ยออกมาตามตรง ความสนใจทั้งหมดก็พุ่งไปที่สองกษัตริย์

“สำหรับเรื่องนั้น...ข้าคิดว่าพี่ริวอร์นอร์เตรียมการไว้แล้วใช่หรือไม่” ซิกฟรีดหยั่งเชิงพี่ชายของตน

“อืม…” ริวอร์นอร์ถอนใจหนัก “เราติดค้างเจ้า อาเลธ…”

ซิกฟรีดกำหมัดน้อยๆ ใช่ เจ้าติดค้างข้า เจ้าขโมยชีวิตไปจากข้า จากพี่เฟรธูริน และจากพี่หญิง

ในคณะทูตดาร์กเอลฟ์ฝั่งรูเมเรียร์ โคลด์พิจารณาริวอร์นอร์ ดวงตาของเขากระตุก ถ้าไม่รู้เช่นเห็นชาติกันมาก่อน เขาก็เป็นราชนิกูลเอลฟ์ที่เหมาะจะนั่งบัลลังก์กษัตริย์

ถ้าไม่รู้มาก่อนน่ะนะ...

“เราถูกดาร์กเอลฟ์ลอบสังหารจริง ถูกพิษจริง และเกือบตายจริง พวกมันประกาศว่าทำเพื่อปลดแอกดาร์กเอลฟ์ในรูเมเรียร์ และเพื่อแก้แค้นให้จอมทัพทมิฬ คืนที่เราเจ็บหนักและเจ้าถูกกันออกจากห้องของเรา เป็นคืนที่เราเหนื่อยล้ากับสงครามอย่างยิ่ง...น้องชาย เราเอ่ยกับท่านหญิงผู้เป็นที่รักและคนสนิทว่า ‘หากจะมีพรใดที่เราบังอาจขอได้จากบิดาและมารดานภา เราขอเพียงความสงบ’ ”

มีเสียงฮือฮาจากกลุ่มดาร์กเอลฟ์ฝั่งรูเมเรียร์ คำกล่าวนี้เหมือนอารี แต่ย่อมทำให้ที่ยืนของดาร์กเอลฟ์ในรูเมเรียร์ลำบากขึ้น

อาเลธผู้ไร้เดียงสา...เจ้าตามเราทันหรือไม่ ประกายตาของริวอร์นอร์วามวาว เขาว่าต่อไป

“ขุนนางทั้งหลาย เราเห็นแก่ความสงบส่วนตนและทิ้งพวกท่านไป เรือที่พวกท่านจุดไฟเผาเป็นเรือเปล่า เราเตรียมการให้อาเลธขึ้นเป็นกษัตริย์อย่างชอบธรรม บัลลังก์ที่เขานั่งอยู่เป็นบัลลังก์อันชอบธรรม”

เมื่อราชามงกุฏดำประกาศว่าราชาซิกฟรีดขึ้นครองราชย์อย่างชอบธรรม ก็มีเสียงระบายลมหายใจอย่างโล่งอกจากฝั่งที่ไม่ทราบเรื่อง และเสียงสูดหายใจอย่างอึดอัดจากฝั่งที่สนับสนุนการชิงบัลลังก์

“มีผู้ทราบเรื่องไม่มากนัก” ถึงตรงนี้เขาบีบมือเอริแอดเน่ คล้ายประกาศว่านางเป็นหนึ่งในผู้รู้เห็นคนสำคัญ--อาจเป็นผู้ร่วมวางแผนเสียด้วยซ้ำ

เอริแอดเน่ไม่ผ่อนท่าที นางรู้ว่าริวอร์นอร์กำลังวางหมากล้อมนางและซิกฟรีด...ให้ไปถึงจุดรุกฆาตที่ว่า...นี่ไม่ใช่การชิงบัลลังก์อันมีเหตุผลเน่าเฟะมืดดำ แต่เป็นการมอบให้...และการขอคืนกลับ

ดั่งซิกฟรีดเป็นตัวแทนในตำแหน่งราชาเพียงชั่วคราว--ผู้รักษาการณ์ตำแหน่งราชา ซึ่งถ้ายอมรับเรื่องนี้ ณ เวลานี้ วันข้างหน้าซิกฟรีดจำต้องถวายบัลลังก์คืนแก่ริวอร์นอร์...อย่างน้องชายที่ดีและรักใคร่กลมเกลียวกับพี่ชายพึงกระทำ

ซิกฟรีดรับฟังอย่างสงบ เขากำลังนึกหาวิธีเล่นเกมรุกอย่างหนัก ซึ่งดูเหมือนจะพ่ายตั้งแต่หมากยังไม่ถูกวางบนกระดาน ริวอร์นอร์เริ่มเกมด้วยการปิดทางรอดทุกประตู โดยใช้เหตุผล ‘กบฏดาร์กเอลฟ์’ ที่เขาอ้างกับประชาชนย้อนมาแทงตัวเขาเอง ทั้งกระหน่ำไปถึงดาร์กเอลฟ์ผู้ไม่รู้ไม่เห็นเรื่องอันใด ซ้ำราชามงกุฏดำยังบีบพี่หญิงไว้ในอุ้งมือ ฐานะที่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดเสียอีก เขาไม่อาจปฏิเสธ ทั้งไม่อาจตอบรับ จะมีหนทางใดหลงเหลือนอกเหนือจากนิ่งเฉย

จะมีหนทางใดอีกหรือ

“ข้าขอคัดค้าน” เสียงเยือกเย็นดังมาจากคณะทูตดาร์กเอลฟ์ฝั่งรูเมเรียร์ “ข้าเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ต้องคัดค้าน และอาจทำลายความหวังของประชาชนชาวรูเมเรียร์ แต่หากไม่คัดค้านในวันนี้ อนาคตประเทศแห่งเอลฟ์อาจสิ้นชาติ”

มันผู้นี้กล่าวอย่างใจกล้า และเดินออกมาข้างหน้า เมื่อเดินออกมาจากกลุ่มดาร์กเอลฟ์ย่อมเป็นดาร์กเอลฟ์ เพียงแต่มันสวมเสื้อคลุมและฮู้ดปิดบังหน้าตา เห็นเพียงหน้ากากที่มีจะงอยปากยืดยาวออกมาด้านบน

กลุ่มทูตจากดาร์กเอลฟ์แปลกใจ พวกเขามิใช่ราชทูตอย่างเป็นทางการของจอมทัพทมิฬ แต่เป็นดาร์กเอลฟ์ที่ลี้ภัยสงครามและเข้ามาตั้งรกรากในรูเมเรียร์ตั้งแต่ครั้งราชาเฟรธูริน แต่ละฝ่ายเป็นหลายเผ่าที่ห่างเหินกัน แต่ละเผ่าได้รับเชิญจากราชาซิกฟรีดให้มารวมกัน จึงไม่มีใครเอะใจว่ามันผู้นี้ที่ไม่ใช่คนในเผ่าของตนเป็นใคร เพราะนึกว่าได้รับเชิญมาด้วยกัน

เห็นดาร์กเอลฟ์ที่ทรยศเผ่าพันธุ์ไปสยบแทบเท้าเอลฟ์เดินออกมา ทูตของจอมทัพทมิฬที่ฝั่งอิซิลดาร์ก็มีท่าทางไม่พอใจ

“อา…” ริวอร์นอร์ขยับกายมาเบื้องหน้าเล็กน้อย สายตาเขม้นมองดาร์กเอลฟ์ผู้นั้นให้ถนัด “เราได้ยินมาว่าอาเลธให้ ‘ความเมตตา’ แก่ดาร์กเอลฟ์ผู้หนึ่งเป็นพิเศษ ดูจากการที่น้องชายเราไม่ทักท้วงแม้จะถูกขัด เจ้าคงเป็นดาร์กเอลฟ์นามโคลด์ สตาร์...หากเราได้ยินมาไม่ผิด”

คำพูดของราชามงกุฏดำให้น้ำหนักข่าวลือว่าราชาหนุ่ม--ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์มีใจให้ดาร์กเอลฟ์จนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว และการที่ราชาซิกฟรีดนิ่งเฉย ไม่ปฏิเสธคำพูดนั้น ก็ตอกหมุดข่าวลือให้เป็นข่าวจริง--เป็นความจริง

“เจ้าชายของข้า” โคลด์คุกเข่าทำความเคารพสูงสุดแก่ริวอร์นอร์ ฝ่ามือแตะหน้าผากและทาบบนหน้าอก “ท่านย่อมรู้จักข้า เพราะท่านรับข้ามาจากจอมทัพทมิฬในฐานะตัวประกันเชื่อมสัมพันธ์...”

ป้ายสี! นี่คือการป้ายสีซึ่งๆ หน้าอย่างไร้ความละอาย

“แม้ราชาซิกฟรีดจะทราบความลับระหว่างท่านกับจอมทัพทมิฬก็ยังปิดบังไว้ ซ้ำยังให้เกียรติข้าดั่งมหามิตรจนถูกประชาชนของเขาเข้าใจผิด ความดีของเขาทำให้ข้ารู้สึกละอาย ‘เจ้าชายริวอร์นอร์’ เวลานี้ความเมตตาและความรักอันยิ่งใหญ่ของราชาซิกฟรีดที่มีต่อท่านทำให้ข้าคิดได้และกลับตัวกลับใจ ข้าจึงกล้าออกมาประกาศความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับจอมทัพทมิฬ”

“หืม” ริวอร์นอร์ดันตัวกลับไปนั่งพิงบัลลังก์ สีหน้าปกติ ไม่ทุกข์ร้อน “เรามีความสัมพันธ์อะไรกับจอมทัพทมิฬหรือ วานเจ้าบอกเราที เราจำไม่ได้ว่าเคยรับเจ้ามาในฐานะตัวประกัน หรือหากเป็นเช่นนั้นจริง ย่อมถือเป็นประโยชน์แก่รูเมเรียร์ในการเชื่อมสัมพันธ์กับแดนทมิฬ ไม่จำเป็นต้องรบพุ่งกันอีกใช่หรือไม่”

“เรื่องนั้นซับซ้อน ท่านจะให้ข้ากล่าวออกมาจริงหรือ” โคลด์โต้แล้วยกยิ้มลำบากใจ

ริวอร์นอร์ผายมือ เป็นเชิงให้ดาร์กเอลฟ์ว่าต่อได้

“กล่าวออกมาเถิด มีเรื่องใดของราชามงกุฎดำที่ข้าไม่ทราบหรือ” เอริแอดเน่เอ่ยสนับสนุนพลางชักมือออกจากริวอร์นอร์อย่างแนบเนียน นานทีจะมีคนกล้าหักหน้าริวอร์นอร์ ถึงมันจะเป็นดาร์กเอลฟ์ที่นางชัง นางก็ยินดีชมการแสดงของมัน

ซิกฟรีดหลุบตาลง กริยาเพียงเล็กน้อยแต่แฝงนัยมหาศาล สำหรับผู้ที่สังเกตโดยตลอด...อาจเข้าใจว่าราชาหนุ่มทราบเรื่องที่ดาร์กเอลฟ์กำลังจะพูดเป็นอย่างดี และไม่อยากให้ ‘เรื่องนั้น’ ถูกเปิดเผย

ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วซิกฟรีดไม่ทราบแผนการของโคลด์ เขาเพียงเชื่อใจโคลด์

ยามนี้...คำถามที่เขาเคยถามบรรดาขุนนางดังแว่วในมโนสำนึก

‘สิ่งใดกันเล่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าคมดาบ’

และคำตอบของอิลราลานกลับดังก้องยิ่งกว่า

‘ความเชื่อใจ’

“เมื่อสิบสามปีก่อน ข้าถูกส่งมายังราชวังรูเมเรียร์ในฐานะทาสนามโคลด์ สตาร์ ด้วยข้อตกลงของท่านกับจอมทัพทมิฬ ภายนอกท่านเหมือนไม่รู้จักข้า แต่ภายในทราบว่าข้าคือตัวประกัน ท่านยังพาข้าไปสถานที่ลับของท่านซึ่งใช้ศึกษาวิชาทมิฬ” โคลด์เว้นจังหวะ “แน่นอนว่าสถานที่นั้นมีเพื่อประโยชน์ของรูเมเรียร์ แต่จะให้ข้าพูด ก็เป็นสถานที่น่าเวทนาของดาร์กเอลฟ์”

โคลด์เอ่ยเช่นนี้เพื่อบอกว่า เขาทราบสถานที่ลับสำหรับเล่นเวททมิฬของริวอร์นอร์แล้ว ซึ่งความจริงกอห์นดีเอนยังหาไม่พบหรอก แต่ถ้าต้องแสดงหลักฐาน ฉากแบบไหนก็ใช้อำนาจของซิกฟรีดจัดขึ้นมาได้ทั้งนั้น

“นี่คือป้ายผ่านทางสำหรับเข้าไปสถานที่นั้น” โคลด์โยนป้ายเหล็กดำสลักตราสัญลักษณ์ดาร์กเอลฟ์ซึ่งเคยกรีดอยู่บนร่างเอริแอดเน่

คราวนี้ นางกษัตริย์เกร็งร่างขึ้น นางกำเท้าแขนบัลลังก์ ข่มความอับอายที่เกิดขึ้นในใจ

“อืม” บรรยากาศสบายๆ ของริวอร์นอร์หายวับไป เหลือเพียงสายตากร้าวและดุดัน

“เจ้า!” เอริแอดเน่เอ่ยเสียงพร่า

“เจ้ากำลังกล่าวหาเราด้วยข้อหาที่ร้ายแรงที่สุด ดาร์กเอลฟ์…” ริวอร์นอร์ลุกขึ้น เขาก้าวช้าๆ ลงจากบัลลังก์ ก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้ากระจกเวทบานยาว

“ที่เป็นจริง” โคลด์ลุกยืนเช่นกัน

“เจ้ามีหลักฐานอะไรที่บอกว่าตนเป็นตัวประกัน” เอริแอดเน่เข่นเขี้ยว หันไปทางคณะทูตของจอมทัพทมิฬ “ถ้าเจ้ามีความสำคัญต่อจอมทัพทมิฬจริง ทูตเหล่านี้ย่อมรู้จัก”

ไม่ว่าทูตเหล่านี้จะรู้จักโคลด์ สตาร์หรือไม่ การที่จอมทัพทมิฬถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับเอลฟ์ก็เป็นเรื่องร้ายแรงเช่นกัน พวกมันย่อมปฏิเสธทุกทาง เอริแอดเน่คำนวณเช่นนั้น

“ของขวัญที่จอมทัพทมิฬมอบให้ท่านริวอร์นอร์ในวาระกลับคืนสู่แผ่นดินนั้นมีค่าน้อยนิด” โคลด์ลดฮู้ดลง เผยเส้นผมสีเงินยาวลากพื้น ใบหน้าซ่อนอยู่ใต้หน้ากากรูปนก ผิวสีม่วงอมเทา และผ้าคลุมขนนกสีดำแซมเงินที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมชั้นนอก “มีค่าน้อยนิดจริงๆ เมื่อเทียบกับตัวข้า ทายาทของเซลันเดียร์แห่งเผ่าจันทร์”

เข่าของดาร์กเอลฟ์ฝั่งรูเมเรียร์ทรุดลงแทบพร้อมกัน พวกมันคล้ายได้เห็นภูตผีอยู่ตรงหน้า ดาร์กเอลฟ์ที่รักสันติ ไหนเลยจะไม่รู้จักหัวหน้าเผ่าอันเป็นที่รักของเทพีจันทร์ ‘เซลันเดียร์ผู้แสวงหาสันติ’ บุรุษผู้ถูกจอมทัพทมิฬสังหารอย่างเหี้ยมโหด

หัวหน้าเผ่าดาร์กเอลฟ์ที่มาในวันนี้ล้วนเป็นเผ่าที่ให้ความเคารพแก่เซลันเดียร์--บิดาของโคลด์--ผู้ซึ่งถูกจอมทัพทมิฬบั่นศีรษะเมื่อสิบแปดปีก่อน พวกเขายังจดจำภาพของท่านไว้ในใจได้ไม่ลืม หน้ากากแพทย์รูปนกสลักลวดลายของเผ่าจันทร์ ผ้าคลุมขนนกมูนไลท์สีดำแซมเงิน เส้นผมสีเงินยาวลากพื้น และผิวสีม่วงอมเทา

โคลด์ใช้ปลอกเล็บกรีดฝ่ามือทั้งสองข้างช้าๆ โดยไม่แสดงอาการเจ็บปวด จากนั้นก็ผายมือมาข้างหน้าเพื่อให้คณะทูตดาร์กเอลฟ์ฝั่งอิซิลดาร์เห็นได้ชัด คำเอ่ยภาษาเวทมนตร์ของเผ่าจันทร์ก่อให้เลือดบนฝ่ามือส่องแสงนวลตาดุจแสงจันทร์วันเพ็ญ

นี่เป็นวิธีแสดงตัวของเผ่าจันทร์

“ข้าคือฮีมเดียร์แห่งเผ่าจันทร์”

พร้อมคำประกาศถึงเผ่าสมมติเทพที่สูญสิ้น เผ่าที่ได้รับความรักดุจราชวงศ์รูเมเรียร์ในแผ่นดินเอลฟ์ มีศักดิ์และสิทธิ์สูงส่งหยั่งรากลึกในใจชนดาร์กเอลฟ์

ทูตดาร์กเอลฟ์ฝั่งรูเมเรียร์ร่ำไห้ ร้องตะโกนว่า “ถวายความเคารพแด่เผ่าจันทร์! แด่เผ่าจันทร์!”


—————————————————————————

A/N โคลด์ก็มีไม้เด็ดเหมือนกันเนอะ >_0

เป็นตอนที่เขียนยากเหมือนกันค่ะ ตัวละครเอกของทั้งสองฝั่งมาฉะกัน

เอาจริงๆ ถ้าไม่มีอะไรรั้ง โคลด์ aka ฮีมเดียร์ ก็แสบไม่แพ้เอริแอดเน่

ความเจ้าเล่ห์และความราชินีกินกันไม่ลง /สวมรองเท้านางพญาให้ฮีมเดียร์


ป.ล. ผมยาวแบบนี้ มีคนแอบติดใจตั้งสองคน \(*0*)/


ชุด Sexy ของโคลด์

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/843961672-member.jpg)

และภาพแฟนอาร์ตน้องงูจากคุณ Ann Sophon ค่ะ

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/483222987-member.jpg)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 27 : (4-5) [21/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 24-06-2017 00:12:45
:pig4: :pig4:
ขอบคุณที่แวะมาอ่านเป็นประจำนะคะ

ลุ้น ให้ ซิกฟรีด โคลด์ รู้เรื่องไวๆ
อสรพิษดำ จงรักภักดี ไม่แอะปากเลย
แต่สุดท้ายจะบอกมั้ยนะ
เสน่ห์เปี่ยมจริงๆนะซิกฟรีด
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ตอนนี้รู้เรื่องกันแล้วเนอะคะ
อสรพิษนี่ฮอตขนาดมีแฟนอาร์ตเป็นของตัวเองเลยค่ะ
เป็นไทป์หนุ่มน้อยที่อิลราลานชอบเสียด้วย

เชื่อใจใครได้บ้าง แม้กระทั้งคนแต่ง 5555
หวาย เชื่อใจเราสิ /ทำตาปิ๊งๆ

หัวใจที่ไม่ได้เลวโดยสันดานย่อมปรารถนาการให้อภัย

แอรี่ร้ายและลงมือทำมากมายเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย แต่นางก็เจ็บปวด
เฟรธูรินให้อภัยนาง ปลอบโยนจิตใจที่ผุกร่อนนี้ เจย์ก็เช่นเดียวกัน (แม้จะตื้นเขินกว่า เนื่องเพราะไม่ได้รู้เท่าที่เฟรธูรินรู้)

นางจึงปรารถนาดีต่อเจย์ อาจจะเพื่อเยียวยาความรู้สึกผิดต่อเฟรธูรินก็ได้


เจย์จ๊ะ เหล่าอสรพิษอิซิดาร์รอแทะโลม..เอ๊ย! ดูแลจ้ะ
อยากเชื่อว่าคนเราก็ต้องมีด้านดีด้านเลวผสมปนเปกันนะคะ
จริงๆ เราว่าเอรี่พังเพราะริวอร์นอร์เยอะมาก
ถ้าเป็นภาคที่เล่าเรื่องก่อนหน้านี้ เอรี่จะแสบกว่านี้เยอะเลยค่ะ แล้วก็ไม่เป็นที่รังเกียจขนาดนี้ ;w;
ส่วนเจย์ เรารักเขาค่ะ เขาน่ารัก อยากได้เป็นแฟนจริงๆ เลย

อย่างนี้อิลมาเร รอดแน่
จามิลลา ก็รอดเหมือนกัน

เจย์ แปลงโฉมแล้วหล่อเริด แถมปากหวานแบบธรรมชาติซะด้วย
เจย์ มีจิตใจดีงาม เข้าใจเอริแอดเน่จริงๆ
ไม่โทษ ไม่ปรักปรำ ไม่มองเอริแอดเน่ในแง่ร้ายเลย
เจย์ คงเจออิลมาเร และจามิลลาแน่ๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:   
อุบไว้ อยากบอกมานานแล้วค่ะ คิดถึงอิลมาเรจริงจังนะคะ
แต่เพราะเสียอิลมาเร โคลด์ถึงเปิดใจ มองตัวเอง มองคนรอบตัว
เห็นความสำคัญของคนรอบๆ ที่รักเขาขึ้นมา  :mew4:
จามิลลานี่อยากเห็นมีบทกับโธรอสเหมือนกันนะคะ
อยากให้เจย์เจออิลมาเรด้วยค่ะ คงจะสนุกดี

ไปเจย์เราหนีไปด้วยกัน.....เดี๋ยวๆ
เจย์ดูน่ากินมาก :hao6:
อยากกินด้วยค่ะ แค่กๆๆ เดี๋ยวๆๆ

:pig4:
:katai2-1: :katai2-1:

เชื่อว่าเหล่าอสรพิษจะเขมือ-- อ่า.. ดูแลเจย์อย่างดี (ปล่อยให้เค้าเขมือ-- เอ้ย ดูแลเถอะน่า)

รอลุ้นเอรี่และริวอร์นอร์ #ทีมริวอร์นอร์

อาจโดนเขมือบเป็นหมู่คณะ แบบไม่หยุดพักนะคะ /ว้ายๆๆ แงงง หื่นออกไมค์  :jul1:
เอรี่กับริวอร์ ฉะ กับโคลด์ซิกฟรีด แล้วค่ะ แมตซ์นี้น่าลุ้น
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (1) [23/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 24-06-2017 00:21:21
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
:mew1: :mew1:

ชอบเจย์จัง ทั้งเรื่องเนี่ยดูโอเคสุดล้าว ห้ามตายเด้อ

และหวังว่าจะไม่ทำให้เจย์ดำมืดไปอีกคน
เขาดูจับต้องได้นะคะ อยู่ด้วยแล้วคงสบายใจ เป็นคนที่ตรงข้ามกับริวอร์นอร์เลย
เราก็ชอบเขามากเหมือนกันค่ะ  :mew2:

แผดเผา ลุกไหม้ อยู่ตรงใจกลางไฟ
ยินยอมจะถูกไฟทำลายซ้ำ ๆ เพียงแค่รู้ว่าต้นเพลิงมาจากน้ำมือเจ้า
เขินเลยค่ะ มันช่างโรแมนติก SM จริงๆ ระหว่างสองคนนี้ ฮือออออ

:pig4: :pig4:
:katai2-1: :katai2-1:

ฉันยืนข้างโคลด์และซิกฟรีดเสมอ

อาจจะว่อกแว่กบ้างก็ยามหนุ่ม ๆ สาว ๆ สวยงามมาล่อตา

แต่ฉันหนักแน่นนะ! จะบุกน้ำลุยไฟไปกับโคลด์และอาเลธไม่เปลี่ยนเรือ
โอยมวยคู่เอกฉะกันแล้วค่ะ เลือกข้างยากจริงๆ ;w;

ซิก โคลด์  :กอด1: :กอด1: :กอด1: สู้ สู้
กลับมาแล้วค่ะ! เรือนี้ที่อ่านกี่ทีก็รู้สึกถึงความรักความห่วงใย ฮือๆ ;w;

ฉันยืนข้างโคลด์และซิกฟรีดเสมอ

อาจจะว่อกแว่กบ้างก็ยามหนุ่ม ๆ สาว ๆ สวยงามมาล่อตา

แต่ฉันหนักแน่นนะ! จะบุกน้ำลุยไฟไปกับโคลด์และอาเลธไม่เปลี่ยนเรือ

ตามนั้นค่ะ5555
ไปค่ะ เรียงแถวด้วยกัน  o13

นางเหมือนแม่นกไปและ 

ดวงดาวที่แสนเย็นชา :-[
555 แม่นก ใช่เลย หลังๆ รอบทราชินี SM ใส่ ซิกฟรีดอยู่เหมือนกัน
แต่ตอนนี้เป็นแม่นกไปก่อนนะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (2) [24/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 24-06-2017 11:39:32
งัดไม้เด็ดมาสู้กันสุดฤทธิ์

ปล. อิมเมจน้องอสรพิษน่าจับฟัดมาก

อุ้ย! ลืมตัวปีนกราบเรือ #ถอยลงมานั่งพับเพียบในเรือนุ้งโคลด์#
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (2) [24/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 24-06-2017 12:16:14
ว้าย! ตอนนี้แซ่บ ต่างฝ่ายต่างงัดไม้เด็ดภายใต้หน้ากากคนดี

ไงล่ะน้องโคลด์ชั้นชียอมเปิดเผยตัวและ ต่อไปยิ่งเจ้มจ้นแน่ๆ

ว่าแต่เสื้อนี่เปิดไปนะลูก#ทีมหวงลูกสาว :o8:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (2) [24/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 24-06-2017 14:37:25
งัดไม้เด็ดมาสู้กันสุดฤทธิ์

ปล. อิมเมจน้องอสรพิษน่าจับฟัดมาก

อุ้ย! ลืมตัวปีนกราบเรือ #ถอยลงมานั่งพับเพียบในเรือนุ้งโคลด์#
ไปได้ค่ะๆ ไปมุงเรืออิลราลานxน้องงูกัน ผู้ชายรูเมเรียร์ดูเผ็ดทุกคน อิอิ

ว้าย! ตอนนี้แซ่บ ต่างฝ่ายต่างงัดไม้เด็ดภายใต้หน้ากากคนดี

ไงล่ะน้องโคลด์ชั้นชียอมเปิดเผยตัวและ ต่อไปยิ่งเจ้มจ้นแน่ๆ

ว่าแต่เสื้อนี่เปิดไปนะลูก#ทีมหวงลูกสาว :o8:
เปิดอย่างสวยและแสบค่ะ ความแสบนี้ไม่ด้อยกว่าตอนขโมยหัวใจมังกร อิอิ
ป.ล. เสื้อนี้เสื้อคุณพ่อนุ้งโคลด์เขาค่ะ เขาแค่ใส่ตามพ่อ
ลูกๆ สวยทั้งพี่ทั้งน้อง คุณพ่อก็สว--
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (2) [24/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-06-2017 22:44:06
โอ.....โคลด์ เด็ดมาก สุดยอดดดดด  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ไม่ใช่แต่ริวอร์นอร์ ที่เจ้าเล่ห์ เพทุบาย โกหกปลิ้นปล้อนได้คนเดียว

หมากของโคลด์ ไม่เบา ทั้งยกฐานะตัวเอง
ทั้งประกาศฐานะจริงของตัวเองต่อหน้าเผ่าต่างๆของดาร์กเอลฟ์ ฮู้เล่ๆๆๆๆๆ
ทั้งเอารูปสัญลักษณ์ ที่เคยวาดบนหน้าท้องเอริแอดเน่มาใช้
ตบหน้าเอริแอดเน่อีก เยี่ยมมมมไปเลย  :z6: :z6: :z6:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (2) [24/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-06-2017 23:07:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (3) [25/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-06-2017 00:11:54
บทที่ 28 : สองราชัน (3)

ทูตดาร์กเอลฟ์ฝั่งอิซิลดาร์เหมือนถูกสาปให้แข็งเป็นหิน นานทีเดียว...พวกมันจึงยอมคุกเข่าลง เอานิ้วแตะหน้าผากและเอาฝ่ามือทาบอกเพื่อแสดงความเคารพเช่นกัน

หลักฐานโลหิตอยู่ตรงหน้า ฮีมเดียร์ที่เฝ้าตามหากันแทบตายมาอยู่ในแผ่นดินเอลฟ์ หากเป็นการแลกเปลี่ยนตัวประกันจริง ชื่อเสียงของท่านจอมทัพย่อมมัวหมอง แต่พวกมันไม่สามารถปฏิเสธให้ฮีมเดียร์แห่งเผ่าจันทร์เสียเกียรติเช่นกัน ปฏิเสธเผ่าจันทร์คือปฏิเสธเทพีจันทร์ อีกทั้งฮีมเดียร์คือบุตรสุดที่รักของจอมทัพทมิฬ ลบหลู่เจ้าเด็กน้อยนี่คือการลบหลู่ท่านจอมทัพ หากท่านทราบเรื่อง...แม้จะเป็นการทำเพื่อท่าน หัวของพวกมันก็อาจไม่อยู่กับตัว

ริวอร์นอร์กำหมัดแล้วยกขึ้น เป็นสัญญาณให้บรรดาขุนนางฝั่งอิซิลดาร์ที่เริ่มส่งเสียงฮือฮาเงียบ เขาพิจารณาดาร์กเอลฟ์ตรงหน้า มันใจกล้า...ใช่กล้าเพราะมันรู้ฐานะของตัวเองในเผ่าทมิฬดีเท่านั้น แต่เพราะใจมันบ้าบิ่นด้วย ประกาศตนท้าทายเกียรติของราชามงกุฏดำและจอมทัพทมิฬซึ่งๆ หน้า...อาเลธ เจ้าเก็บมันได้จากที่ไหน

นัยน์ตาสีแดงโลหิตเขม้นมองทายาทเผ่าจันทร์ จำได้รางๆ ว่า ‘โคลด์ สตาร์’ เคยเป็นพระพี่เลี้ยงให้ซิกฟรีด เฟรธูรินให้มันดูแลน้องชายคนเล็กระหว่างสงครามใช่หรือไม่ ตัวเขาเองก็น่าจะเคยเห็นมันในราชวังมาก่อนแต่ไม่ได้ใส่ใจ

ไม่น่าเชื่อว่ามันจะมีความลับสำคัญซ่อนอยู่

“ฮีมเดียร์…” ริวอร์นอร์กระซิบ “ฮีมเดียร์…” และกระซิบอีกครั้งคล้ายจดจำผู้ที่กล้าลุกขึ้นมาต่อต้าน

“ขอเทพีจันทร์อวยพร” โคลด์พริ้มตาและเอ่ยกับริวอร์นอร์อย่างนอบน้อม รอยยิ้มตรงมุมปากดุจเทพีผู้เมตตา

“เราไม่ทราบมาก่อนว่าจอมทัพทมิฬใฝ่สันติขนาดส่งตัวประกันอย่างเจ้ามาให้เราง่ายๆ” ริวอร์นอร์วางหมากขวางน้ำ เขาปฏิเสธที่จะเล่นตามเกมของโคลด์

“ข้าจึงขออนุญาตท่าน ว่าจะให้ข้ากล่าวออกมาจริงหรือไม่ ข้ารู้สึกเศร้ายิ่งนักที่ต้องเปิดเผยความลับของผู้ชุบเลี้ยงข้าทั้งสองคน ทั้งท่านและจอมทัพทมิฬ แต่ข้าจำต้องทำเพื่อสันติแห่งแผ่นดินรูเมเรียร์” โคลด์ใช้บลัดเมจิกปิดบาดแผลบนฝ่ามือ ทำให้มันคล้ายรักษาตัวเองได้ราวกับเซลันเดียร์ตัวจริง

จอมทัพทมิฬคือสัญลักษณ์แห่งความตายและอำนาจของแดนทมิฬ ได้รับสมญา ‘บิดาแห่งเปลวไฟและเถ้า’ ขณะเดียวกัน แม้จะเกรงต่อความแข็งแกร่งหาใครต้านทานของเขา ความรักที่มีต่อราชวงศ์แห่งเทพีจันทร์ก็แตกแขนงรากลึกสุดหยั่งในใจประชาชน เซลันเดียร์ อดีตผู้นำเผ่าจันทร์ผู้ล่วงลับมีพรสวรรค์ในการเยียวยารักษา คนเจ็บคนป่วยใกล้ตายแค่ไหน ขอแค่ถึงมือเขาย่อมมีชีวิตรอด ชื่อเสียงเมตตาและรูปลักษณ์เป็นหนึ่งเลื่องลือเป็นที่รู้จักตั้งแต่ภูเขาไฟเหนือสุดถึงทะเลใต้สุดแผ่นดินทมิฬ

สำหรับดาร์กเอลฟ์ที่แสวงหาสันติ ไม่มีสัญลักษณ์ใดทรงอำนาจเท่าเผ่าจันทร์ เดิมทายาทเผ่าจันทร์หายสาบสูญไปจากดินแดนทมิฬ พวกเขาสิ้นหวัง เวลานี้ฮีมเดียร์ปรากฏตัวร่วมกับราชาเอลฟ์ซิกฟรีดผู้ออกกฎหมายต้อนรับดาร์กเอลฟ์ ย่อมช่วยให้ประชาชนดาร์กเอลฟ์ในรูเมเรียร์เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

แต่สำหรับจอมทัพทมิฬ มันคือการเอาใจออกหากของดาร์กเอลฟ์นับแสนนับล้านทั่วทั้งรูเมเรียร์อย่างน่ากลัวยิ่ง!

โคลด์กุมมือไว้ด้านหน้าและยืนสงบนิ่ง ไม่เอ่ยอะไรอีก เขากดดันและสร้างความเคลือบแคลงใจแค่นี้พอแล้ว ที่เหลือปล่อยให้มันฟุ้งอยู่ในใจเหล่าเอลฟ์

กดดันริวอร์นอร์เกินไปมันจะไม่มีที่ยืนจนเล่นแรงกลับ ถึงเวลานั้นอาจล่มจมกันหมด

แต่ถ้าเจ้าอยากเล่นให้แตกหัก ข้าก็เอาเหมือนกัน


“อืม…” ริวอร์นอร์มองไปยังเหล่าขุนนางอิซิลดาร์ หันกลับไปทางเอลเดอร์และท่านหญิงเอริแอดเน่ เขาเยือกเย็นได้พอๆ กับร้อนเช่นไฟผลาญ

“ให้เราสรุปการสนทนาสักนิด เจ้าเอ่ยว่าเราร่วมมือกับจอมทัพทมิฬ ในการอ้าแขนรับเจ้าเป็นตัวประกันเพื่อสงบศึก นั่นแปลว่าสงครามครั้งก่อน ‘พี่เฟรธูริน’ มีชัยเหนือแดนทมิฬได้ก็เป็นเพราะการทูต ไม่ใช่ด้วยการศึกและการเสียสละของทหารกล้า ถึงแม้การทูตนั้นจะไม่สง่าผ่าเผยแต่ก็ทำไปเพื่อให้ได้มาซึ่งสันติ เรายังไม่เห็นข้อด่างพร้อยอันแฝงนัยสำคัญอย่างที่เจ้ากำลังพยายาม ‘หว่านล้อม’ ให้ขุนนางเชื่อว่าเรื่องนี้มีนัยสำคัญ”

“เรื่องนั้น...” โคลด์เอ่ยเสียงกระจ่าง ฟังแล้วบริสุทธิ์ แม้กระทั่งหูของควาร์ยังรู้สึกหลงใหล “เป็นท่านไม่ใช่หรือ ที่ ‘นำชัย’ ต่อกองทัพของจอมทัพทมิฬ เวลานั้นข้าอายุน้อยนิด ไม่อาจทราบความนัยทั้งหมด ทราบเพียงว่าหลังจากนั้นราชาเฟรธูรินก็สิ้นพระชนม์ และท่านขึ้นครองราชย์สืบต่อมา”

โคลด์ไม่ฝืนโกหก แต่จับความจริงมาร้อยเรียงใหม่ให้มีรูปลักษณ์ต่างออกไป...ให้บิดเบี้ยวน่าชังจนผู้คนไม่อาจหยุดขบคิด

“ไปกันใหญ่แล้ว ดาร์กเอลฟ์...” ริวอร์นอร์ถอนใจ “สิ่งที่เจ้าเอ่ยสามารถตีความอย่างร้ายแรงได้ว่าเราเป็นกบฏแผ่นดิน”

โคลด์สงบปาก ไม่ต่อคำ

“ใช่หรือไม่เล่า...ท่านพี่อาห์นดีร์” ซิกฟรีดเอ่ยหลังจากเงียบมาโดยตลอด เพียงเท่านั้น...ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไร

ริวอร์นอร์หรี่ตาคล้ายแปลกใจ ขณะซิกฟรีดลูบริมฝีปากช้าๆ ห้วงเวลาแห่งความเงียบอันแสนอึดอัดคล้ายจะยืดยาวออกไป เมื่อราชาหนุ่มลงจากบัลลังก์ไปยืนเคียงข้างฮีมเดียร์แห่งเผ่าจันทร์ ทำให้คำพูดของโคลด์ สตาร์ไม่เป็นเพียงคำกล่าวอ้างลอยลมจากเผ่าพันธุ์อื่น

“ข้าดีใจที่ได้พบท่านอีกครั้ง รอยยิ้มของข้าเป็นของจริง และเวลานี้...รอยขุ่นแค้นในดวงตาข้าก็เป็นของจริงเช่นกัน”

ซิกฟรีดไม่ให้ความกระจ่างกับผู้ใด เว้นเสียแต่บรรดาขุนนางผู้ทราบเรื่องและสนับสนุนเขาโดยตลอด

ริวอร์นอร์ไม่โต้เถียง แต่ก็ไม่ได้ยอมรับ เขาเพียงระบายลมหายใจหนัก ส่ายหน้าพลางหัวเราะเบาๆ

“ข้าจะรอท่านอยู่ที่นี่ ท่านพี่อาห์นดีร์…” ซิกฟรีดน้อมศีรษะทว่าสายตาไม่ยอมละจากใบหน้าของริวอร์นอร์ “บัลลังก์ยังตั้งอยู่ที่เดิม และมงกุฏของบรรพชนยังวางอยู่บน ‘ศีรษะ’ ข้า”

ราชาหนุ่มท้าทายราชามงกุฏดำใช่หรือไม่

สายตาของเอริแอดยังจับที่แผ่นป้ายเหล็กดำ บทสนทนาของริวอร์นอร์ โคลด์ และซิกฟรีด นางได้ยิน ทว่าปล่อยมันเลยผ่านหู...แล้วนางก็เงยหน้าขึ้นมา มองซิกฟรีดอย่างเสียใจ เขาเปิดเผยความลับของนางให้ดาร์กเอลฟ์นำมาใช้ประโยชน์...ให้มันประจานนางต่อหน้าผู้คน ต่อบริวารของนาง และผู้ที่ทราบเรื่อง…

ดอกไม้สีแดงที่เคยได้รับ และรอยยิ้มของเจ้าชายน้อยผู้บริสุทธิ์ใจต่อนางวาบเข้ามาในความทรงจำ

ซิกฟรีด… น้ำตาของเอริแอดเน่ไหลเงียบๆ ขณะจ้องตาราชาหนุ่มผู้ไม่เหลือเค้าของเจ้าชายน้อยในความทรงจำ โพรงอกที่คิดว่าว่างเปล่าไปแล้วกลับมาเจ็บปวดอีกครั้ง สีหน้าห่วงใย การสอบถามที่ดูจริงใจในตอนต้น...จบลงด้วยสิ่งนี้หรือ

ผู้สังเกตเห็นเงียบกริบ ใจหวาดหวั่น ด้วยไม่ทราบสาเหตุ ทว่าผู้รู้เบื้องหลังย่อมทราบ ว่าสัญลักษณ์นี้เป็นตราบาปในใจนางกษัตริย์ที่สลักลึกจนเลือดไหลซิบ

“ริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ แห่งรูเมเรียร์” นางลุกยืน เรียกชายที่อยู่หน้ากระจกเวทพร้อมยื่นมือให้เขาอย่างแช่มช้า ทว่าเด็ดขาด สายตาของผู้เฝ้ามองกิริยานั้นพร่าเลือนราวกับกำลังมองภาพฝันอันแสนโศก

“ท่านหญิง…” ริวอร์นอร์น้อมศีรษะให้เอริแอดเน่ ก่อนรับหลังมือแบบบางมาจุมพิต

“ราชาของข้า ได้โปรด...ทำให้ข้าเป็นราชินีของท่าน”

‘ท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์เลือกจุดยืนแล้ว’ นี่คือสารที่ส่งถึงขุนนางทุกท่าน ทั้งอิซิลดาร์และรูเมเรียร์

ไม่มีใครทราบว่านางร่ำไห้เพราะเหตุใด อาจเพราะราชาซิกฟรีดเลือกทายาทแห่งเผ่าจันทร์ หรืออาจเพราะโศกเศร้าที่การสนทนาครั้งนี้มาถึงจุดแตกหัก

เอริแอดเน่จับมือริวอร์นอร์กลับอย่างหนักแน่น “ทำให้ข้าเป็นราชินีของราชาผู้ยิ่งยง และร่วมกันสร้างราชวงศ์ที่แม้แต่สวรรค์ยังล่มสลายไม่ได้สืบไป”

“แม้เราจะไร้บัลลังก์น่ะหรือ” ริวอร์นอร์ถามคำถามสำคัญต่อหน้าขุนนางและคณะทูตทั่วแผ่นดิน

“ข้าเลือกท่าน อิซิลดาร์ก็เลือกท่าน เฉกเช่นกัน” เมื่อนางปรายตา เหล่าขุนนางแห่งอิซิลดาร์ อัศวิน และพันธมิตรก็คุกเข่าลง

ซิกฟรีดมองภาพนั้นแล้วปวดในอก...พี่หญิง ท่านเลือกเดินทางเส้นเดิมหรือ

เหล่าขุนนางฝั่งรูเมเรียร์หายใจไม่ทั่วท้อง อิซิลดาร์ซึ่งสนับสนุนรูเมเรียร์เพิ่งประกาศว่าผู้ใดเป็นราชาแท้จริง--ราชาซึ่งมีกำลังและอำนาจอยู่ในอุ้งพระหัตถ์ มิได้มีเพียงสัญลักษณ์แห่งกษัตริย์หรือมงกุฏสวมอยู่บนพระเศียรเท่านั้น

“เจ้าเข้าใจสถานการณ์ดีใช่หรือไม่ อาเลธ” ริวอร์นอร์กลับมาสนทนากับน้องชาย มันกล้าแว้งกัดเขาเป็นรอบที่สอง รอบแรกได้รับการสนับสนุนจากอิซิลดาร์ รอบที่สองได้รับการสนับสนุนจากทายาทเผ่าจันทร์...คิดพิจารณาอย่างไรก็ไม่เข้าใจว่า เหตุใดมันจึงได้รับการสนับสนุนจากผู้นำคนสำคัญถึงสองครั้งสองครา มันอ่อนแอหรือมิใช่

หรือเพราะมันอ่อนแอจนผู้คนเหล่านั้นทนสมเพชไม่ไหวกันแน่

“ข้าเข้าใจดี” ซิกฟรีดหลุบตา น้ำเสียงค่อนข้างสงบ “ข้าเข้าใจว่าตัวข้านั้นต้องรักษาคำปฏิญาณในวันสถาปนาเยี่ยงชีวิต” ราชาหนุ่มระลึกถึงเช้าวันขึ้นครองราชย์ เขาจำได้ว่าตนคุกเข่าบนพื้นหินขัดมันของท้องพระโรง ใบหน้าเงยขึ้นไปยังรูปสลักบิดาและมารดานภาซึ่งประดับอยู่เหนือบัลลังก์ ดวงตาพร่าด้วยน้ำ...เขาจำต้องทำให้มันไหลกลับคืนไป

“ ‘บิดาและมารดานภา ขอพระเนตรของพระองค์ทอดมายังข้าผู้มีนามว่าซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ ข้าปฏิญาณสัตย์สาบานจะรับใช้แผ่นดิน จะหลั่งโลหิตและพลีทุกสิ่งแด่รูเมเรียร์ หากมันผู้ใดกล้าทำให้เกียรติและศักดิ์ศรีของบรรพชนและวิญญูชนแห่งรูเมเรียร์แปดเปื้อน...ไม่ว่ามันผู้นั้นจะเป็นผู้ที่ข้ารักยิ่งก็ตาม ข้าจักสำเร็จโทษมันด้วยคมดาบ แม้การนั้นจะทำให้วิญญาณข้าไม่บริสุทธิ์และอาจถูกปฏิเสธจากดินแดนนิรันดร์ของพระองค์ก็ตาม’ ”

ซิกฟรีดสบตาริวอร์นอร์ขณะย้ำหนักแน่นว่า “ข้าจักสำเร็จโทษมัน...ไม่ว่ามันผู้นั้นจะเป็นพระเชษฐาของข้าก็ตาม ขอบิดาและมารดานภาโปรดเป็นพยานด้วยเทอญ”

ริวอร์นอร์คาดไม่ถึงว่าซิกฟรีดจะกล้าประกาศสงครามในที่ประชุม...กล้าขนาดเอ่ยสิ่งที่ไม่ควรเอ่ยอย่างยิ่ง ใครเล่าจะกล้าเอ่ยว่าต้องการฆ่าพี่ชายของตัวเอง ซ้ำยังเป็นพี่ชายผู้เป็นที่รักของประชาชน

“พูดอะไรก็ระมัดระวังบ้าง เคยฝึกในสำนักควาร์ เขาน่าจะสอนศิลปะการเจรจาไม่ใช่หรือ” ราชามงกุฏดำทอดเสียงทุ้ม

“ขอรับ และยังสอนให้พิจารณาว่าเมื่อใดที่การเจรจาไร้ประโยชน์ ไม่เป็นผล สมควรใช้กลยุทธ์ในศาสตร์แขนงอื่น”

โคลด์กำมือแน่น เขาอยากจับมือให้กำลังใจซิกฟรีด ทว่าสิ่งที่ทำคือกำมือแน่น ทั้งเขาและซิกฟรีด เมื่อประกาศเช่นนี้แล้วก็ไม่มีที่ให้ถอยกลับ แต่สำหรับเขา ชีวิตของซิกฟรีดสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด!

เอริแอดเน่เฉยชาคล้ายไม่มีหัวใจ นางเพิ่งสนับสนุนผู้ฆ่าท่านเฟรธูริน ทว่า...นางหลับตาแล้วลืมตาขึ้น

นี่ก็เป็นจุดแตกหักเช่นกัน!

“เป็นตัวเจ้าเองก็พอ” นางกระซิบบอกริวอร์นอร์ สิ่งที่นางเลือกจะกัดกร่อนนาง แต่ไม่เป็นไร...ไม่เป็นไร...ให้มันพัง

“หากเจ้าอ้างว่าเรามีความสัมพันธ์กับจอมทัพทมิฬละก็...” ริวอร์นอร์หันไปพูดกับโคลด์ รอยยิ้มยกขึ้นคล้ายเหยียดหยัน “เรามาดูกันว่าแผ่นดินซึ่งปกครองด้วยราชาหนุ่มอ่อนประสบการณ์จะแหลกลาญได้เพียงใด”

ราชามงกุฏดำยื่นมือออกไปเบื้องหน้า แหวนเวทอันประดับด้วยโกเมนแดงก่ำเรืองเรื่อ เสียงเปรี๊ยะ...เบาๆ ดังกระทบโสต และเมื่อเขากำมือ กระจกก็แตกเป็นเสี่ยง

ท่ามกลางเสียงอุทาน ริวอร์นอร์สืบเท้าเข้าไปหาเศษกระจกชิ้นใหญ่บนพื้น ภาพสะท้อนของซิกฟรีดและบรรดาขุนนางที่เคยทรยศเขาฉายชัด ริวอร์นอร์เหยียบเศษกระจกนั้นแล้วขยี้มันช้าๆ รอยร้าวแล่นไปทั่ว

“เจ้ามันเกินอบรมแล้ว...อาเลธแห่งรูเมเรียร์”

สิ้นคำ เศษกระจกก็กลายเป็นผงละเอียด ตัดการสื่อสารและตัดสัมพันธ์กับรูเมเรียร์ในเวลานั้นเอง

เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์คุกเข่าลง

...แทบเท้าราชาของนาง


—————————————————————————

A/N อื้อหือ สุดท้ายก็ไม่มีใครยอมใครในเกมนี้ค่ะ หลังจากนี้เรื่องก็ยังอยู่ที่โคลด์ค่ะ

ยาวๆ ไปจนจบและตอนพิเศษเลยจ้ะ หายคิดถึงแน่นอน!


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (3) [25/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 25-06-2017 09:21:49
เด็ดขาดอย่างเฉียบคมทุกคน
และต่างเชือดเฉือนในแผลกลัดหนองทั้งของตนและผู้อื่น

รอชมว่า นี่จะเป็นการกรีดแผลเพื่อรักษาให้หายขาด หรือกดลึกจนเฉือนเส้นเลือดให้ตายไปเสียเลย
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (3) [25/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 25-06-2017 14:27:32
อ่านแล้วกระหายเลือด สู้กัน สู้กันๆๆ

555#ทีมหนูดาว :hao7:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (3) [25/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 25-06-2017 15:50:14
เด็ดขาดอย่างเฉียบคมทุกคน
และต่างเชือดเฉือนในแผลกลัดหนองทั้งของตนและผู้อื่น

รอชมว่า นี่จะเป็นการกรีดแผลเพื่อรักษาให้หายขาด หรือกดลึกจนเฉือนเส้นเลือดให้ตายไปเสียเลย
เขียนเองก็เจ็บแผลที่เปิดเองค่ะ ;w;

อ่านแล้วกระหายเลือด สู้กัน สู้กันๆๆ

555#ทีมหนูดาว :hao7:
สู้กันๆๆๆ เลือดสาดแน่เลย แงงงงง  :jul1: (เลือดกำเดา อิอิ)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (3) [25/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-06-2017 16:15:55
ตีกันให้ตายไปข้าง ตัวเอกต้องอยู่ครบ ใสๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 : (3) [25/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-06-2017 17:06:00
เฉียบ คม ชัด ตัดขาด ประกาศสงครามกันแล้ว  :z6: :z6: :z6:

เอริแอดเน่ ช้ำแค้นซิก ที่เอาความลับไปเปิดเผยกับดาร์กโคลด์
แต่ที่นางคืนชีพริวอร์นอร์ มันก็ไม่เห็นจะดีต่อซิกนี่

มันจะเป็นสงครามสามเส้า หรือสองเส้ากันนะ
คงอยู่ที่ราชาทมิฬเลือกข้างแล้วละ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 (4) : 29 (1) [26/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 26-06-2017 00:10:21
บทที่ 28 : สองราชัน (4)

เกิดเสียงฮือฮาขึ้นในเหล่าขุนนางรูเมเรียร์หลังราชามงกุฏดำตัดการสื่อสาร

ผู้ที่แตกตื่นย่อมเป็นผู้ที่ไม่ทราบเรื่องราวอันใด ส่วนผู้ที่สนับสนุนราชาหนุ่มเงียบแสนเงียบ มาลแกธดูเหมือนจะนิ่งที่สุด เขามองไปรอบๆ ก่อนโน้มไปกระซิบกับทาราเธียลผู้เป็นหลานชายว่า

“ข้าจะกลับแดนตะวันออก”

“ขอรับ?” ทาราเธียลเอียงมาหา สายตายังเหม่อไปที่กระจกเวท เขานึกชอบราชามงกุฏดำอยู่ในใจ สง่า...องอาจ ดูท่อนแขนสิ ถึงจะซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อ แต่เห็นชัดว่าเป็นท่อนแขนแข็งแกร่งเยี่ยงนักรบ

สุดเท่!


“ซิกฟรีดตายแน่ถ้าไม่มีพันธมิตร อิซิลดาร์เพิ่งประกาศสนับสนุนราชาโฉดชั่วไป ซิกฟรีดก็ผ่าประกาศสงครามกลับ ไม่นับว่ากำลังจะเกิดความโกลาหลภายในราชสำนัก ขุนนางบื้อๆ ต้องการคำอธิบายแน่ ซึ่ง...ถ้าตอบไม่ดี ซิกฟรีดเตรียมต่อเรือล่องแม่น้ำของตัวเองได้เลย เจ้าไม่ได้ตั้งใจอ่านสถานการณ์หรือ” มาลแกธกระซิบดุ

“ตั้งใจขอรับ” ทาราเธียลกระซิบตอบ ใครจะไม่ตั้งใจบ้าง การเมืองเข้มข้น เห็นแววฉะกันอยู่ไหวๆ สนุกขนาดนี้ทาราเธียลไม่แอบหลับในเหมือนตอนเข้าประชุมกับขุนนางรูเมเรียร์แน่

“ดี ต่อจากนี้ตระกูลล็องธูจะเป็นพันธมิตรกับรูเมเรียร์ และ...อืม ลำบากใจสักหน่อย แต่ถ้าได้พวกดีรานมาด้วยจะช่วยได้มาก เราอาจต้องดึงข้อกับพวกมันในราชสำนักรูเมเรียร์ รบด้วยสมองแบบพวกอารยะ แค่นึกก็ขนลุก” ระหว่างคุยกับทาราเธียล มาลแกธยกมือห้ามไม่ให้ขุนนางซึ่งยืนข้างตนพูดอะไร เขารู้ มันจะถามความเห็นเขาต่อเหตุการณ์เมื่อครู่ แต่ยังก่อน...เขาจะไม่พูดอะไรในช่วงเวลาเปราะบางเฉกนี้

“ลุงจะไปหาผู้นำตระกูลดีรานหรือขอรับ”

คราวนี้ทูตจากตระกูลล็องธูเอนมาฟังด้วย การขอความช่วยเหลือหรือความร่วมมือระหว่างตระกูลเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โดยเฉพาะกับล็องธูซึ่งถือว่าตนแข็งแกร่งแบบไม่ต้องพึ่งใคร

“วอร์ล็อค” มาลแกธเอ่ยตำแหน่งของพ่อมดสูงสุดในตระกูลดีราน ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้ผู้นำตระกูลด้วย “เริ่มจากเข้าหาวอร์ล็อคของมันก่อน ถ้าดูท่าทีแล้วน่าจะเข้าไปคุยได้ ข้าก็จะให้มารดาเจ้าไปคุย ข้าคุยเองไม่น่าจะรอด”

มาลแกธเคยมีความสัมพันธ์ซับซ้อนกับวอร์ล็อคของดีรานคนก่อนหน้า--คนที่สอนเวทย้ายเวลา และให้กริชเวทซึ่งตัวด้ามพันผมสีเทากับทองแดงนั่นละ

“จะเดินทางเมื่อไหร่ขอรับ” ทาราเธียลคิดว่าตัวเองเดาคำตอบได้

เร่งด่วนขนาดนี้มันก็ต้อง...


“เร็วที่สุด” มาลแกธเอ่ยขณะมองซิกฟรีดที่ยังนิ่งขึงอยู่หน้ากระจกอย่างเป็นกังวล

“พวกเจ้าอยู่ที่นี่ คอยสนับสนุนซิกฟรีด ราชสำนักจะวุ่นวายมาก ซิกฟรีดคงประวิงเวลาการให้คำอธิบายแก่ขุนนางและคณะทูตได้อย่างช้าที่สุดก็เช้าพรุ่งนี้ ช่วยเขาหาทางออก”

ทาราเธียลและทูตจากตระกูลล็องธูตอบรับหนักแน่น มาลแกธพยักหน้า ก่อนจะสั่งให้ทูตส่งพิราบแจ้งข่าวแก่พระนางซึ่งเป็นผู้นำตระกูลล็องธู

จงเข้มแข็ง...ราชาผู้เยาว์


--------------------------------

ในห้องส่วนตัว หลังสิ้นการสนทนาอันร้าวฉานจนนำไปสู่การแบ่งแยกแผ่นดินเอลฟ์เป็นสองส่วน โคลด์หลบผู้นำเผ่าดาร์กเอลฟ์ในรูเมเรียร์ออกมารอซิกฟรีดเงียบๆ

เป็นดังที่มาลแกธคาด ซิกฟรีดไม่สามารถจัดประชุมได้ทันที เขาต้องการเวลาเตรียมตัวและเตรียมคำอธิบาย ซึ่งค่ำนี้ซิกฟรีดจะประชุมกับขุนนางคนสำคัญก่อน พรุ่งนี้เช้าจะประชุมกับคณะทูต

เมื่อซิกฟรีดเข้ามา โคลด์ที่ยังไม่เปลี่ยนชุดถอดหน้ากาก และเอ่ยคำแรกว่า “ขอโทษ” ผมยาวสีเงินทำให้ดวงหน้าของทายาทเผ่าจันทร์ดูละมุน ทว่าสวยบาดตา “ข้าไม่ได้บอกเรื่องจะนำตรามาใช้เพราะไม่อยากให้เจ้ามีส่วนร่วม เจ้าบอกเอริแอดเน่ได้ว่าข้าทำไปโดยพลการ”

โคลด์ยอมเสียเกียรติ เขาเลือกโจมตีเอริแอดเน่ เพราะนาง ‘อาจจะ’ เป็นหัวใจ--เป็นจุดอ่อนของริวอร์นอร์ ซึ่งมันก็ได้ผล เวลานั้นเขารอริวอร์นอร์พูดก่อนแล้วพลิกลิ้นตาม ไม่ทราบเช่นกันว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าจิตใจของอีกฝ่ายไม่หวั่นไหวเพราะเรื่องของเอริแอดเน่ เขาคงป้ายสีได้ลำบากกว่านี้มาก...หรือเลวร้ายถึงขั้นทำไม่สำเร็จและเพิ่มโทษให้ซิกฟรีด

มือของโคลด์ยังเย็นเฉียบ หนาวไปถึงสันหลัง ริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์มีความคิดฆ่าอยู่ในแววตายามมองเขา เขาไม่เคยเกรงใครนอกจากจอมทัพทมิฬและท่านพี่เบเลธ...เวลานี้ขอรวมริวอร์นอร์เข้าไปด้วย

“ไม่เป็นไร” ซิกฟรีดลูบแก้มโคลด์แล้วดึงมากอด แลกความหวาดหวั่น ความกังวล ไปจนถึงความอบอุ่นและการปลอบประโลม เขาไม่พูดอะไรเป็นนานสองนาน เหนื่อยล้าเกินกว่าจะหาถ้อยคำใดมาปลอบโยนโคลด์ในเวลานี้

โคลด์กอดตอบ หลับตา “อืม...ไม่เป็นไร ข้าจะอยู่ข้างเดียวกับเจ้าเอง”

ยามกอดศีรษะแนบกัน ใบหูก็แนบกันโดยที่ซิกฟรีดไม่ได้ตั้งใจ เขากระชับแขนแน่นเข้า ระบายลมหายใจยาว...ก่อนจะสูดกลับอย่างเชื่องช้า

“ข้าสับสน” ซิกฟรีดเอ่ยด้วยความจริงใจถึงที่สุด

“ตอนนั้นข้าคิดเพียงแต่ว่า ถ้าข้าไม่ออกไป เขาจะกลับมา และเจ้าจะหายไป...”

“ข้ารู้…” ซิกฟรีดซุกหน้ากับบ่าโคลด์ “ข้ารู้ว่าเจ้าตัดสินใจดีแล้ว ข้าเองก็เช่นกัน แต่ข้าไม่แน่ใจว่าตัวเองตัดสินใจได้ ‘ถูกต้อง’ หากไม่นับว่าริวอร์นอร์ฆ่าท่านพี่เฟรธูริน มันก็เป็นราชาที่ดีกว่าข้า…การที่ข้าไม่ยอมถอยทำให้ผู้คนอีกมากต้องเดือดร้อน”

“ถอยแล้วเจ้าตาย ข้าก็ไม่ยอม หรือมันจะขังเจ้า ข้าก็ไม่ยอม” โคลด์ตัดสินใจเด็ดขาด “ข้าไม่คิดเรื่องอื่น ในเมื่อเจ้าเอ่ยคำสาบานจะปกป้องแผ่นดินเอลฟ์ไปแล้ว ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้ ซิกฟรีด ใจที่คิดเพื่อประเทศชาตินั้น ข้ามีไม่ถึงเจ้าสักกระผีก” เขายิ้มขื่นเมื่อนึกถึงปฏิกิริยาของดาร์กเอลฟ์ที่มีต่อ ‘ฮีมเดียร์แห่งเผ่าจันทร์’

“แต่ข้าเกือบทิ้งแผ่นดินเพื่อเจ้า…” ซิกฟรีดหัวเราะเบาๆ คล้ายสมเพชตัวเอง “เอาเถิด คงเป็นเพียง ‘ภาวะเพ้อคลั่งของวัยรุ่น’ เหมือนที่เจ้าเคยว่า”

“...เจ้าคิดได้แบบนั้นก็ดี” โคลด์ไม่แน่ใจนักว่าควรตอบว่าอะไร จะให้ถามกลับว่า ‘ตอนนี้เจ้าไม่ทำแล้วใช่ไหม’ เขาก็ยังกลัวคำตอบ สติของซิกฟรีด...เหมือนระเบิดเวลา

“หากข้าเป็นสามัญชนเรื่องอาจง่ายกว่านี้ เพราะข้าคงหนีตามเจ้าไปแล้ว แต่ถึงเป็นราชา...ข้าก็ยังคิดหาวิธีหนีตามเจ้าอยู่ดี”

ดูจากการพูดจาเย้าแหย่ในสถานการณ์เคร่งเครียด โคลด์เห็นว่าซิกฟรีดเริ่มผ่อนคลาย

“แล้วเอริแอดเน่...จะเอายังไง”

ซิกฟรีดขมวดคิ้ว กลับมาเคร่งขรึมจริงจัง “พี่หญิงเลือกเส้นทางของนางแล้ว...”

“แปลว่าถ้านางตาย เจ้าก็ไม่เสียใจ” โคลด์ยังไม่ลืมหนี้แค้นที่ฝังลึก

“อย่า…” ซิกฟรีดส่ายหน้า

โคลด์ถอนใจ ถอดวิกผมออก “ข้ายังไม่พูดเรื่องนี้ก็ได้ ส่วนเรื่องทายาทเผ่าจันทร์ อืม เจ้าจะต้องวุ่นวายกับดาร์กเอลฟ์ที่อยากพบข้า แต่ข้าไม่อยากพบพวกเขา เพราะฉะนั้นข้าจะเขียนจดหมายให้พวกเขาไม่มารบกวน”

“เจ้าคิดว่าเป็นไปได้ไหมที่ริวอร์นอร์กับจอมทัพทมิฬจะร่วมมือกันจริงๆ”

“เพื่อให้ริวอร์นอร์ถูกจอมทัพทมิฬบั่นคอทีหลังน่ะหรือ” โคลด์ยกยิ้ม “หากจะมีอะไรที่ข้าแน่ใจ คือบิดาบุญธรรมของข้าไม่ถือสาเรื่องเกียรติหรือศักดิ์ศรีใดๆ ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวรสำหรับเขา สิ่งที่เขาทำมีเพียงเอาชนะและกลืนกินผู้แพ้ ป่านนี้อาจหัวเราะชอบใจที่ข้าโผล่หน้าออกมาเองโดยไม่สนใจว่าข้าป้ายสีเขา คนที่ข้ากลัวคือ...ท่านพี่เบเลธ”

“นายพลทมิฬน่ะหรือ” ซิกฟรีดเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับนายพลคู่ใจของจอมทัพทมิฬมาบ้าง ทุกเรื่องล้วนน่าสะพรึง

“เขาภักดีมาก มักชอบขัดคำสั่งบิดา แต่เอาตัวรอดได้ทุกครั้งเพราะภักดีอย่างที่สุด เอาไว้ข้าจะบอกทุกสิ่งที่ข้ารู้จากกองทัพทมิฬ เพราะนั่นคือศัตรูของเรา บิดาบุญธรรมต้องส่งคนมาตามข้าคืนไป”

“อืม…” ซิกฟรีดเห็นศึกที่จะมาสองด้านพร้อมกัน “ข้ากังวลอีกเรื่อง” เขาลูบใบหน้าซีกซ้าย

“คำสาปรุนแรงขึ้นหรือ…”

ซิกฟรีดส่ายหน้า “เปล่า”

“มันยังพูดอีกไหม”

“ไม่”

“แล้วเจ้าลูบหน้าทำไม”

“ริวอร์นอร์ไม่ทักแผลคำสาปที่เขาทำกับมือ ไม่ทักสักคำว่ามันหายไปไหน ข้าไม่ไว้ใจ…”

ซิกฟรีดคิดว่ามันจะเป็นอย่างแรกที่ริวอร์นอร์ยกขึ้นมาขู่เสียด้วยซ้ำ--แต่ไม่

“เราจะรักษามันจนหาย” โคลด์ให้กำลังใจ

ซิกฟรีดยิ้มบางๆ เขาวางมือบนศีรษะโคลด์ โยกเบาๆ

“ข้ามีเรื่องต้องบอกเจ้าอีกเรื่อง” โคลด์ทำหน้ามุ่ย เอียงศีรษะหนี เขาหยุดคิดนิดหนึ่ง “ในสารที่ข้าเขียนถึงดาร์กเอลฟ์ จะระบุว่า...ข้าเดินทางไปแดนตะวันออกเพื่อหาพันธมิตร”

มุมปากของซิกฟรีดตึงทันที

“มาลแกธชวนข้าไป” โคลด์ไม่ปิดบัง แม้ซิกฟรีดอาจได้ยินบทสนทนานั้นแล้วก็ตาม “สถานการณ์เช่นนี้ เขาต้องเดินทางเร็วๆ นี้แน่ ข้าจะตามไปดูเขา...ไม่ให้มีอะไรเปลี่ยนใจเขาไปจากเจ้า” โคลด์เป็นห่วงมาลแกธด้วย ทว่าเลี่ยงไม่พูดออกไป

“ใครจะบังคับใจเจ้าได้…” ซิกฟรีดจูบหน้าผากโคลด์ “ข้าเคยใช้เวทล่ามเจ้าไว้ ยังล่ามไม่ได้เลย”

“ข้าจะกลับมา ครั้งนี้ ข้าไม่ได้หนีไปไหน” โคลด์จับข้อมือซิกฟรีดหนักแน่น และให้คำสัญญาอย่างจริงใจ


—————————————————————————

A/N บทต่อไปเป็นบทส่งท้ายอีกไม่กี่ตอน เพื่อเปิดม่านการผจญภัยครั้งใหม่

ยังมีอีกหลายส่วนในโลกของ Elven Almanac รอคุณมาค้นหาอยู่นะคะ


ป.ล. วันนี้ลง 2 ตอน เลื่อนไปอ่านตอนต่อไปกันค่ะ!


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 (4) : 29 (1) [26/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 26-06-2017 00:28:03
บทส่งท้าย (1) : สู่ตะวันออก

ราวสองอาทิตย์กว่า โคลด์และมาลแกธเดินทางด้วยม้าเร็วจนถึงท่าเรือ ซึ่งมีเรือสินค้าระหว่างรูเมเรียร์กับแดนตะวันออกจอดเทียบอยู่ ท่าเรือแห่งนี้ใหญ่ มีเรือหลากชนิดหลายขนาดจอดเทียบเป็นทิวแถว ตั้งแต่พวกเรือหาปลาขนาดเล็กสีสันสดใสไปจนเรือขนสินค้าขนาดกลางและเรือเดินสมุทร เรือส่วนตัวของบรรดาเศรษฐีก็มีให้ชมบ้างประปราย ไม่เพียงเรือเท่านั้นที่หลากหลาย แต่รวมไปถึงเผ่าพันธุ์ของชาวเรือผู้เดินทางไปๆ มาๆ จนท่าเหมือนเป็นบ้านแห่งที่สองด้วย

“วันแรกที่ข้าเดินทางมาถึงรูเมเรียร์ ข้านึกว่าทั้งแผ่นดินจะเป็นแบบนี้” มาลแกธผายมือไปรอบๆ “คึกคัก สนุกสนาน และ...เละเทะหน่อยๆ”

ปลาบนแผงข้างทางดีดตัวคล้ายได้ยินคำของเอลฟ์ตะวันออก มันกระเสือกกระสนที่จะยืดลมหายใจของตัวเอง และเฝ้าฝันถึงทะเลซึ่งห่างออกไปไม่กี่เมตร

โคลด์ถอยหลังเมื่อแม่ค้าปลาชาวมนุษย์จับปลาตัวนั้นฟาดลงที่แผงตามเดิม นางส่งเสียงเรียกลูกค้า เสนอขายปลาทะเลสดๆ ที่เพิ่งมาถึงท่าตอนเช้ามืด

“แล้ววันนี้ล่ะ”

“มากพิธี ค่อนข้างน่าเบื่อจนกระทั่งพี่น้องหันดาบใส่กัน” มาลแกธพาโคลด์เดินไปสุดท่า และหยุดรอใครสักคนบริเวณนั้น

“พี่น้องแดนตะวันออกรักใคร่กลมเกลียวกันหรือ ไม่เคยฆ่ากันเพื่อชิงตำแหน่งเลยสินะ” โคลด์ใช้หลังมือเคาะอกมาลแกธ คำตอบนั้นเขารู้ดี

“เราฆ่ากันตลอดเวลา เพิ่มสีสันให้ชีวิต” มาลแกธฉีกยิ้มกว้าง

“แล้วมันต่างกับรูเมเรียร์ตรงไหน” โคลด์ทำท่าคิด “อ้อ ไม่มากพิธี”

“ข้าบอกว่า...วันที่เดินทางมาถึงวันแรก ข้านึกว่ารูเมเรียร์จะคึกคักเหมือนท่าเรือแห่งนี้ แต่เวลานี้ข้ารู้แล้วว่าลึกเข้าไปในแผ่นดินใหญ่มันน่าเบื่อ ถ้าสองพี่น้องไม่ทำศึกกันคงน่าเบื่อไปเรื่อยๆ จนข้าอึดอัดตาย” มาลแกธหันไปกางฝ่ามือขึ้นฟ้า วัดระยะของดวงอาทิตย์กับขอบฟ้า รำพึงว่า “อยู่ไหนของมันวะ”

“เจ้าดูดีใจที่ได้กลับทะเล” โคลด์มองเสี้ยวหน้ามีชีวิตชีวาของมาลแกธ “เจ้ามาที่นี่แต่แรกทำไมหรือ ที่บ้านเกิดล็องธูก็มิได้อ่อนแอจนต้องแสวงหาพันธมิตรจากแผ่นดินใหญ่ไม่ใช่หรือ”

“การภูมิใจประวัติศาสตร์ของตัวเองมากเกินไปก็เหมือนถูกมอมเมาด้วยภาพลวงตานั่นละ ใครจะรู้ อีกสิบปีพวกดีรานอาจขึ้นเป็นตระกูลอันดับที่หนึ่งในแดนตะวันออก ข้ามาเพื่อแสวงหาอนาคตที่รัก...อนาคต” มาลแกธจัดผมโคลด์ที่ถูกลมทะเลพัดให้เข้าที่ “เจ้าใส่วิกผมยาวก็ดูเหมาะดี ลองไว้ผมยาวดูไหม”

“ติดใจจากเมื่อวันก่อนหรือ” โคลด์ร้องอือในคอ ทำไมใครต่อใครชอบลูบโน่นลูบนี่เขากันนักนะ “ดาร์กเอลฟ์ชายที่ไว้ผมยาวคือพวกมีศักดิ์ ข้าต้องปลอมตัวเลยตัดผมออก ตอนนี้ข้าชอบสั้นๆ เบาหัวดี”

“ท่านมาลแกธ!” เอลฟ์ผมสีทองเหลือบแดงคนหนึ่งร้องทักมาลแกธ ขณะเดินเข้ามาหาด้วยท่าผายมือออกกว้าง

“คาริม” มาลแกธหัวเราะแล้วผายมือรับเช่นกัน เอลฟ์ตะวันออกจากตระกูลล็องธูสวมกอดและตบหลังกันอย่างหนักแน่น “คิดถึงจริง ญาติข้า” เขามองเปียสงครามของอีกฝ่าย เห็นถักสีฟ้าแซมเขียวก็จุปาก “ไม่เห็นสีเทาสักเส้น ไหนว่าพอข้ากลับมาจะเห็นถักเต็มหัว”

“แดนตะวันออกเปลี่ยนไปแล้ว ท่านมาลแกธ” คาริมถอนใจเบาๆ “ไม่รบกันบ่อยเท่าเดิมแล้ว พระนางเพิ่งลงนามในสัญญาสันติห้าสิบปีกับอีกสามตระกูลใหญ่ ดีราน การาซีน ดาเอียร์ ห้าสิบปีท่านเชื่อไหม แต่โชคยังดี พวกดีรานเสนอมาร้อยปี พระนางต่อรองเหลือห้าสิบปี บ้าเอ๊ย ใครมันจะทนไหว ห้าสิบปี!”

มาลแกธยิ้มขำ “ข้ารู้อยู่แล้ว เห็นพระนางว่าสัญญาสันติครอบคลุมถึงการเพิ่มความถี่ในการประลองระหว่างตระกูล จากปีละหนึ่งครั้งเป็นปีละหนึ่งครั้งใหญ่ สามครั้งย่อย ข้าค่อนข้างเห็นด้วยเพราะไม่ต้องเสียกำลังพลและกำลังทรัพย์มาก”

“เป็นการจัดระเบียบที่ดี” โคลด์เปรย ตามคำแนะนำของมาลแกธ เขาสวมฮู้ดของอีกฝ่ายที่เคยได้มาติดตัวไปแดนตะวันออก อันที่ทอจากไหมหลากสีนั่นละ “แล้วแดนตะวันออกก็จะมีพิธีการมากขึ้น” เขาเหน็บมาลแกธ

“อา...ขออภัยขอรับ” คาริมกำหมัดทุบกลางอกแล้วน้อมศีรษะต่ำ “ข้ามัวตื่นเต้นที่ได้พบญาติผู้พี่จนไม่ได้เอ่ยทักทายท่าน” อันที่จริง...คาริมตัวใหญ่จนสายตาเลยผ่านโคลด์ไป เขานึกอยากทุบอกตัวเองหนักๆ อีกสักทีเพราะเพิ่งเห็นว่าโคลด์สวมฮู้ดทอจากเส้นผมหลากสี เป็นเปียสงครามของท่านมาลแกธแน่!

“โคลด์ สตาร์ คนรักของข้า ข้าเขียนแนะนำไว้ในจดหมายแล้ว” มาลแกธยิ้มกว้างอย่างที่ไม่น่าจะกว้างไปกว่านี้ได้อีก

ก่อนออกเดินทางจากเมืองหลวงมายังเมืองท่า มาลแกธเขียนจดหมายถึง ‘พระนาง’ หรือน้องสาวร่วมบิดาที่เขายกปราสาทและตำแหน่งผู้นำตระกูลล็องธูให้ เนื้อหาในจดหมายกล่าวถึงสถานการณ์ระหว่างรูเมเรียร์กับอิซิลดาร์ เรื่อยไปจนเหตุผลที่ตัดสินใจเดินทางกลับแดนตะวันออก มาลแกธได้รับสารตอบกลับระหว่างเดินทางด้วยม้าจากเหนือลงใต้ หลังจากส่งจดหมายประมาณห้าวัน พระนางยินดีเป็นที่ยิ่ง

 

‘ที่นี่เป็นบ้านของพี่เสมอ ปราสาทและตำแหน่งก็รอพี่ ข้าจะให้คาริมไปรับพี่ที่เมืองท่า เขาอยู่ใกล้พี่ที่สุด มาถึงแล้วค่อยพูดคุยรายละเอียดกัน

อ้อ…

ข้ายินดีที่พี่มีคนรักเป็นตัวเป็นตน จะรอพบดาร์กเอลฟ์ผู้โชคร้ายคนนั้น

 

ขอเทพนำทางเมตตาพี่

เมธิลด์’

 

“สวัสดี” โคลด์ที่ได้รับการแนะนำว่าเป็นคนรักไม่เอ่ยปฏิเสธ แม้จะแปลกใจที่เอลฟ์ตะวันออกซึ่งขึ้นชื่อเรื่องเจ้าชู้มากรักอย่างมาลแกธจะแนะนำเขาแบบนี้

ไปถึงโน่น เขาจะแนะนำข้ากับคนรักคนอื่นว่ายังไงนะ อืม...คนรักคนที่หนึ่ง สอง สาม สี่ อะไรอย่างนี้หรือเปล่า

โคลด์ไม่อยากคิดให้ปวดหัว ตราบใดที่การไปตะวันออกราบรื่นไม่เกิดปัญหา มาลแกธจะแนะนำเขายังไงก็ตามใจเถอะ

แค่ไม่บอกว่าเป็นฮีมเดียร์แห่งเผ่าจันทร์ก็พอ…

การปรากฏตัวอย่างเอิกเกริกในการพบปะกันอีกครั้งของราชาเอลฟ์สองพี่น้องทำให้โคลด์ไม่อาจปิดบังการคงอยู่ของ ‘ฮีมเดียร์’ ได้อีกต่อไป ดีที่เขาสวมหน้ากาก ใบหน้าจึงไม่เป็นที่กระจ่าง และเขาก็ยังไม่อยากให้มันแพร่ไปในแดนตะวันออก

ตอนออกจากราชวังรูเมเรียร์ โคลด์เห็นผู้แสวงบุญชาวดาร์กเอลฟ์หลั่งไหลมาออกันหน้ากำแพงวัง ต้องการเข้าพบทายาทแห่งเผ่าจันทร์...แม้ได้รับการปฏิเสธและมีหน่วยคิงเบลดมาควบคุม คนเหล่านั้นก็ยังปักหลักไม่ยอมไปไหนอย่างอดทน

โคลด์ค่อนข้างแน่ใจว่า ในบรรดานั้นมีทั้งผู้ประสงค์ดีและร้ายปะปนกัน

“เราจะขึ้นเรือเลยไหม แล้วลำไหน” โคลด์มองหาเรือไปแดนตะวันออก

“ตามข้ามาเถิด คนรักของท่านมาลแกธ” คาริมโบกมือ ท่าทางกระฉับกระเฉง เขาพาทั้งคู่ไปยังเรือเดินสมุทรชื่อ ‘เออร์ซา เมเจอร์’ ตั้งตามชื่อโคมดวงสำคัญของเทพนำทาง มันเป็นหนึ่งในกลุ่มดาวที่ชาวเรือใช้บอกทิศทางในทะเล

“ตั้งแต่เกิดเรื่อง พวกคิงเบลดตรวจเข้ม” คาริมพยักพเยิดให้โคลด์และมาลแกธดูทหารที่กำลังตรวจตราแผงสินค้า รวมถึงตรวจตราใบรายชื่อสินค้าและตัวสินค้าจริงในเรือทุกลำ “ตอนเทียบท่าข้าโดนซักจนยับเยินว่ามาจากไหน มารับใคร อยู่นานเท่าไหร่ จะไปไหน ขนสินค้าอะไรมาบ้าง...พอเห็นเรือลำยักษ์แต่ไม่ได้ขนอะไรมาก็พร้อมจับข้า ก็บอกอยู่มารับท่านมาลแกธ ล็องธู เอ้า...เดี๋ยวท่านไปคุยกับคิงเบลดให้ข้าหน่อยเถอะ ท่านมาลแกธ มันยึดใบผ่านแดนของข้าไปด้วย”

“เราจะกลับแค่สองคน ไยต้องใช้เรือลำใหญ่สะดุดตา” โคลด์เดินตามคาริม

“แดนตะวันออกอยู่ไกลน้า...ท่านโคลด์ พวกสี่ตระกูลใหญ่อยู่ไกลกว่านั้นอีก” คาริมอธิบายเพิ่มเติมว่าจะใช้เรือขนาดย่อมลงมาก็ได้ แต่ช้าเพราะต้องหาเส้นทางเลี่ยงจุดอันตรายในทะเล ถ้าเจอสภาพอากาศเลวร้ายก็จำต้องหยุดพัก อันตรายกว่าเรือซึ่งสร้างมาสำหรับล่องน้ำลึกโดยเฉพาะ

โคลด์พยักหน้า ไม่ถามอะไรอีก นอกจาก… “แปลว่าเจ้ารวยไม่เบา” เขาหันไปทางมาลแกธ ความเคยชินต่อการประเมินเรื่องเงินๆ ทองๆ นั้นติดมาจากความยากจนและได้รับอิทธิพลจากอิลมาเร

“แรกทีเดียว เออร์ซ่า เมเจอร์เป็นเรือขนสินค้าบังหน้า” มาลแกธกระซิบข้างหูโคลด์ “แต่ความจริงขนอดีตผู้นำตระกูลล็องธู ทูต และนักรบเข้ามาแทรกซึมราชสำนักรูเมเรียร์”

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามาลแกธพูดถึงตัวเอง

“ข้าไปคุยกับคิงเบลดก่อน เจ้าอยู่ที่นี่กับคาริม อย่าแกล้งเขาละ” มาลแกธขยี้ผมโคลด์แล้วตรงเข้าไปหาคิงเบลดซึ่งยืนอยู่ตรงสะพานเชื่อมลำเรือกับฝั่ง

โคลด์ยืนนิ่งอย่างไม่ชิน เขาเป็นแอสซาสซิน ใช้ชีวิตในเงา วันนี้ยืนกลางแจ้ง ใต้แสงแดดจ้า กับนักรบจากดินแดนไกลโพ้นทะเล...เขาระบายลมหายใจ

จะว่าไป ชีวิตก็น่าขำ วัยเยาว์เขาอยู่ในเผ่าจันทร์ เพียบพร้อมสุขสบายและได้รับการยกย่องประหนึ่งเทพเจ้า--บุตรน้อยแห่งเทพีจันทร์ โตมาหน่อยเป็นเชลยของบิดาบุญธรรม เหยียบย่างไปบนโลหิตและเถ้าของเผ่าตน จากเมืองแห่งธรรมชาติอันงดงามกลางป่าสู่ป้อมปราการหินสูงตระหง่านในดินแดนมืดทึม จากนั้นก็เป็นทาสของเอลฟ์ อาศัยอยู่ในราชวังรูเมเรียร์และอาศรมควาร์ แล้วมาเป็นนักฆ่าในเงามืดของเมืองหลวงแห่งแสงสว่าง และเวลานี้...เขากำลังจะขึ้นเรือ สู่ท้องทะเล เดินทางไปแดนตะวันออก

จะว่าไป...ก็เป็นชีวิตผจญภัยที่ไม่เลวใช่ไหม...แบบที่เจ้าชอบเลย อิลมาเร

โคลด์ไม่รู้ว่ามีอะไรรออยู่ข้างหน้า ในแดนตะวันออก

แต่เขาพร้อมสำหรับมัน

 

เออร์ซ่า เมเจอร์ออกจากท่าในยามสาย ดวงอาทิตย์แผดแสงกล้า ท้องฟ้าไร้ซึ่งเค้าของเมฆฝน

ใบเรือถูกกางออกรับลม เรือลำใหญ่แล่นฉิวสมที่คาริมอวด เขาว่าเจ้ายักษ์เออร์ซ่าตัวใหญ่แต่เคลื่อนไหวเร็ว เป็นภูมิปัญญาซึ่งบรรดาช่างต่อเรือจากล็องธูแสนภูมิใจ

โคลด์ยืนบนดาดฟ้าเรือ ให้สายลมตีหน้า ขณะที่เมืองท่าตรงขอบฟ้าค่อยๆ ห่างออกไป เขารู้สึกว่ามีคนมาด้านหลัง สวมกอดเขา “มาลแกธ?”

ทว่าคนที่สวมกอดเขาอยู่ไม่ตอบคำ กระทั่งโคลด์หันกลับไปจึงพบว่าเป็นซิกฟรีด นัยน์ตาสีแสดร้อนแรงมีรอยหึงหวง

“ข้ามาส่ง” เขาจูบแก้มดาร์กเอลฟ์ “จงจำไว้...โคลด์ สตาร์ จงจำว่าข้าไม่มีวันห่างจากเจ้าไปไหน”

โคลด์ไม่ทันโต้กลับ แขนสองข้างของซิกฟรีดก็ระเหิดและสยายออกเป็นเงาปีกทมิฬ ราชาหนุ่มเหยียดยิ้มแล้วจากไปเฉกวิหคซึ่งเป็นอิสระในท้องนภา

แม้ว่าอิสระนั้นจะเป็นของปลอมก็ตาม...

เสียงเพลงแห่งการกล่าวโทษกระหึ่มในหูโคลด์ เขาจับขอบเรือแน่น ไม่คลายอาการเกร็ง “ข้าเลือกแล้ว” โคลด์กระซิบกับตัวเองและปล่อยให้เสียงเบาแทบจับความไม่ได้นั้นถูกพัดหายไปกับสายลม

เขายินดีเป็นกำลังให้ และช่วยเหลือซิกฟรีด ใช้ความโอนอ่อนเข้าล่อให้อีกฝ่ายไม่เสียสติและมีชีวิตรอด เขาให้ซิกฟรีดได้หลายอย่าง...ยกเว้นเรื่องเป็นคนรักเท่านั้น

“เมาเรือหรือ” คราวนี้เป็นเสียงของมาลแกธ แขนแข็งแรงที่โอบรอบเอวย่อมเป็นเอลฟ์ตะวันออกไม่ผิดแน่ “ข้าไปดูห้องนอนให้เจ้า คาริมทำได้ไม่เลวนัก ถึงจะผ่าจุดกำยานจนควันโขมงก็เถอะ”

โคลด์ดึงมาลแกธมาจูบ มือยึดหน้าอีกฝ่ายแน่น เขางับปากเอลฟ์ตะวันออกอย่างรีบร้อน เมื่อจูบเสร็จก็เอ่ยอย่างรีบร้อนพอกัน “มันก็นานแล้วใช่ไหม ข้าพร้อมแล้ว มาลแกธ”

มาลแกธตงิดใจกับความเร่งร้อนของโคลด์แต่ไม่ได้ทัก เขาพาโคลด์ไปยังห้องนอน ถอดเสื้อผ้ากันและกันอย่างรวดเร็ว ขณะริมฝีปากไม่ยอมห่างกันแม้สักวินาที

โคลด์จิกเล็บกับแผ่นหลังกว้าง เขารู้ว่านี่ไม่ถูกต้อง...เขากำลังใช้มาลแกธ ทว่าความประทับใจที่อีกฝ่ายมอบชีวิตให้ก็สลักลงในใจเขาเช่นกัน

แล้วนั่นต่างอะไรกับซิกฟรีด...เขาไม่ได้มอบชีวิตให้ข้าเช่นกันหรือ

“ข้าไม่เคยอยากได้เลย” โคลด์พึมพำ “ข้าไม่เคยชินการให้ ข้าไม่เคยให้อะไรพวกเจ้าด้วยซ้ำ”

“ชี่…” มาลแกธแตะริมฝีปากโคลด์ “อย่าคิดมาก” เขาลดจังหวะลงด้วยการจูบตามแอ่งชีพจรบริเวณไหปลาร้าของโคลด์ จากนั้นจูบแผ่นอกเลยไปถึงยอดอกสีอ่อน เขาดูดดึงปลายยอดเรียกเสียงคราง และดึงให้โคลด์กลับมาจดจ่อกับปัจจุบัน--กับความรักที่เขามอบให้

มาลแกธยกขาโคลด์ขึ้น สอดนิ้วเข้าช่องทางด้านหลังเพื่อเตรียมร่างกายแบบไม่เร่งรีบ เขาควานหาจุดกระสันพบแทบจะทันที

“เจ้านี่มัน…” โคลด์สะดุ้ง “เวลาแบบนี้ควรหยุดทำไม่ใช่หรือ” ใบหน้าเนียนมีสีเลือดจางพาดผ่าน ใบหูกดไปกับฟูกนุ่ม นิ้วเท้ากระตุกแล้วงองุ้ม เขาดันหน้าท้องแข็งแน่น ทว่ามือตกลงอย่างไม่ตั้งใจ ปะกับความเร่าร้อนที่แข็งเป็นลำของเอลฟ์ตะวันออก

โคลด์รู้สึกหายใจไม่ทัน

เรือลำใหญ่เคลื่อนไปในทะเล พื้นห้องในเรือสงบนิ่ง สิ่งที่โยกเหมือนคลื่นคือตัวโคลด์เอง ด้วยแรงจากนิ้วมือของมาลแกธ

ดวงตาของทั้งสองสบกัน ชั่วขณะนั้นคำพูดเงียบลง ความในใจส่งผ่านสิ่งที่กำลังกระทำ มันคือการชำแรกเข้าไปในความเป็นส่วนตัวที่สุดของอีกฝ่าย ด้วยความดึงดันปรารถนาที่จะได้ผูกสัมพันธ์

เอลฟ์ตะวันออกดันขาโคลด์ไปข้างๆ ให้พร้อมรับแก่นกายที่แข็งตึงจนปวดหนึบ เขาจูบโคลด์ ส่งผ่านความหวานซ่านทางปลายลิ้น และดึงโคลด์ออกจากความเจ็บร้าวที่ก่อตัวขึ้นด้านล่าง เมื่อโคลด์หวีดร้องเป็นเสียงอื้อ! ในลำคอ มาลแกธค่อยหยุด ก่อนจะเริ่มใหม่อีกครั้งอย่างอดทน

“แน่น…” เขากระซิบเย้า “จะทนไม่ไหวแล้ว”

“เจ้า...” ดาร์กเอลฟ์หน้าร้อนและวาบหวาม ทั้งยังเสียวซ่านในท้องผสมกับเจ็บแปลบ...ถึงไม่ใช่ครั้งแรกก็ยังเป็นความรู้สึกที่ยากเกินบรรยาย “ขะ เข้ามาสุดแล้ว” โคลด์บอก

ความจริงจะสุดหรือเปล่าเขาก็ไม่ทราบ แต่มันแน่นเต็มท้องไปหมด

มาลแกธอุ้มโคลด์นั่ง เขากอดเอวดาร์กเอลฟ์แน่นขณะพาขยับขึ้นลง ริมฝีปากวนเวียนอยู่ระหว่างต้นคอกับใบหู บางครั้งเรียวลิ้นก็ฉกวูบเข้าช่องหูอันเป็นพื้นที่สงวนสำหรับคนรัก

“อะ!” โคลด์หวีดกับความลึกที่มากขึ้นและลิ้นที่วนเวียนในช่องหู เขาต้องเกาะไหล่มาลแกธไม่ให้ร่างทรุดลงไป “เสียว อย่า...อือ” แก่นกายใหญ่โตของอีกฝ่ายส่งความสุขเป็นจังหวะ โคลด์รับรู้ได้ว่าส่วนปลายของเขาเปียกชุ่ม ต้นขาด้านในชาวาบตามแรงกระแทก

ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งสั่งให้ทำ ใครจะหยุดในเมื่อคนรักครางหวีดอย่างพอใจเสียขนาดนั้น เอลฟ์ตะวันออกดันโคลด์นอนบนฟูก ก่อนจะโหมแรงคล้ายจะทำให้เสร็จสมในอึดใจถัดมา

มาลแกธฝากรอยรักไว้ทั่วคอและอกของโคลด์ เวลานี้จูบหลังใบหูและโถมจังหวะใส่ดาร์กเอลฟ์ เสียงร่วมรักดังลั่นห้อง เขาสอดนิ้วทั้งห้ากับนิ้วโคลด์แล้วตรึงไว้ไม่ให้ดิ้นหนี

“แรงไป อื้อ!” โคลด์ร้อง แก่นกายของเขาเหยียดตรงและดีดตามแรงกระตุกของสะโพก ความร้อนที่อัดแน่นในท้องน้อยทะลักออกมาเป็นของเหลวอุ่นข้นสีขาวน้ำนม เปื้อนกลุ่มไหมสีเงินเหนือเครื่องเพศ เท้าสีเข้มจิกผ้าปูที่นอน นิ้วเท้าเกร็ง สีหน้าจมในความสุขสมดูน่าหลงใหลและยั่วยวน

มาลแกธครางเสียงทุ้มเมื่อเห็นภาพนั้น เขาเร่งจังหวะตัวเอง ก่อนจะหลับตาแน่นขณะความสุขดันผ่านท้องน้อยแล้วระเบิดออกในตัวโคลด์ มือใหญ่ขยุ้มผมสีเงินนุ่มนิ่ม ดึงมาให้รับจูบแนบแน่น

“อีกรอบได้หรือไม่” เอลฟ์ตะวันออกกระซิบ ฟันขบติ่งหูเบาๆ

“เจ้า…” เป็นพวกชอบใช้กำลังบนเตียงใช่หรือไม่ โคลด์พูดไม่ออก ทั้งที่โดนกดมือและขยุ้มผม

ไม่รอให้โคลด์ตอบรับหรือปฏิเสธ มาลแกธขยับกายอีกครั้ง สะโพกดันเข้าหาโคลด์จนไม่อาจแนบชิดได้มากกว่านี้อีกแล้ว

โคลด์ครางเพราะเสียววาบ

“ข้ารักเจ้า”

มาลแกธพิสูจน์คำรักกับโคลด์

ครั้งแล้ว...ครั้งเล่า

โดยไม่มีใครกล้ารบกวน

—————————————————————————

A/N ไม่รบกวนแต่ขอตั้งกล้องได้ไหม เลือดจะไหลหมดตัวแล้วอะ แงๆๆๆ >/////<


ตอนนี้มีรายละเอียดการพรีออเดอร์หนังสือ Elven Almanac แจ้งทางเพจ ILLREI นะคะ

>> Pre-Order นิยายชุด Elven Almanac พร้อมส่วนลดและของแถมสุดพิเศษ สนใจคลิกที่นี่ << (https://www.facebook.com/ILLREI/photos/ms.c.eJwtyskNADAIA7CNKhKusP9iFVW~;lpGIIUZJVmsOHtAFjQfqgxt3lPJDsBey7ALPYw2X.bps.a.1501061629946158.1073741885.149095125142822/1514921985226789/?type=3&theater)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 (4) : 29 (1) [26/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-06-2017 06:19:27
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 (4) : 29 (1) [26/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 26-06-2017 07:46:47
ให้เป็นคนรักไม่ได้ แต่ก็รักเขามากใช่มะโคลด์
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 28 (4) : 29 (1) [26/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 26-06-2017 19:31:24
 :jul1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 29 : (2-3) [26/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 26-06-2017 23:23:05
บทส่งท้าย (2) : ราชาผู้เยาว์

ซิกฟรีดนวดขมับไล่อาการปวดศีรษะ เช้าจรดค่ำ ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา...ราชาหนุ่มเข้าประชุมกับเหล่าขุนนางรูเมเรียร์เพื่อวางแผนรับมือกับราชามงกุฏดำและอิซิลดาร์ท่ามกลางบรรยากาศเคร่งเครียด ซิกฟรีดเห็นแววกังขาฉายในดวงตาขุนนางบางคน เห็นแววกังวลปนเปกับความหวาดเกรงในสีหน้า ขุนนางที่ประสาทอ่อนสูดลมหายใจขัดทุกครั้งที่เขาเอ่ยชื่อริวอร์นอร์ ส่วนบางคนที่ประสาทแข็งหน่อยก็เพียงกำหมัดเรียกกำลังใจ

สองสัปดาห์...ทั้งราชามงกุฏดำและบรรดาอสรพิษแดนใต้ไม่มีการเคลื่อนไหว ข่าวทั้งบนดินและใต้ดินสงบเงียบ สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับฝ่ายตั้งรับอย่างรูเมเรียร์ ซิกฟรีดต้องรับมือกับจิตใจของเหล่าขุนนางมากกว่าที่คิด มีผู้ยื่นใบลาออกจากราชการทุกวัน และยังต้องรับมือกับประชาชนซึ่งเริ่มถามคำถามว่า ‘ราชามงกุฏดำจะนิวัติแผ่นดินเกิดเมื่อไรกัน’

เวลานี้พระอาทิตย์ลาขอบฟ้าแล้ว การประชุมอันยาวนานสิ้นสุด ซิกฟรีดกลับห้องส่วนตัว เอ่ยขอมวนยาสูบจากข้ารับใช้ พอได้ก็สั่งให้ออกไป เขาต้องการเวลาส่วนตัวซึ่งช่วงนี้เหลือเพียงน้อยนิดในแต่ละวัน

ซิกฟรีดสูบยาไปหลายมวน กลิ่นหอมฉุนติดอยู่ในลมหายใจ เขาไพล่นึกถึงเช้าของวันนี้ โคลด์กับมาลแกธเดินทางถึงเมืองท่าโดยสวัสดิภาพ หน้าตาดูสดชื่นแบบคู่รักที่เพิ่งตกลงปลงใจว่าจะร่วมชีวิตกัน เขาหึงหรือ...ใช่ หึงไร้สาระขณะที่แผ่นดินตกอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานหรือ

...แน่นอนที่สุด

หากเป็นเมื่อก่อน ยามคิดเช่นนี้ ซิกฟรีดจะรู้สึกถึงน้ำหนักของวิญญาณหลายร้อยดวงกดลงบนบ่า พวกมันจิกกรงเล็บแน่นขณะกระซิบว่า ‘พวกเราสละชีวิต ช่วยท่านชิงบัลลังก์จากพี่ชายผู้โหดเหี้ยม เพื่อให้ท่านสำราญกับความรักเล็กๆ หรือ’ ...และเขาก็พ่ายแพ้ให้กับการต่อว่าต่อขาน ก้มหน้าแบกแผ่นดิน ละทิ้ง ‘ความรักเล็กๆ’ ไป

แต่ในปัจจุบัน ซิกฟรีดสั่งให้พวกมันเงียบ ข้าจะเป็นเจ้าแผ่นดินผู้คลั่งรักไม่ได้หรือ...คำตอบคือได้ แต่อันตรายอย่างมาก เขาหัวเราะให้คำตอบที่ผุดขึ้นมาในมโนสำนึก สูบยาลึกจนไฟกินมวนกระดาษรวดเร็ว อันตรายหรือ…

ก็ดี

ข้าเอียนกับชีวิต ‘ราชาผู้เป็นที่รัก’ ที่ต้องระมัดระวังทุกคำพูด ทุกการกระทำ...ทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว


ซิกฟรีดก้าวไปยังระเบียง เงยหน้ามองท้องฟ้า “ท่านพี่เฟรธูริน...” เขาเริ่มอย่างนั้น

“หากท่านพำนักอยู่ในดินแดนนิรันดร์ โปรดฟังข้า…”

ราชาหนุ่มขยี้มวนยาสูบกับระเบียงแล้วเอ่ยต่อ

“คนดีเปลี่ยนโลกไม่ได้...พี่จึงตาย แต่ความดีของท่านไม่ควรตาย มันควรสถิตอยู่ในหัวใจของประชาชน ความอุตสาหะในการสร้างโลกอุดมคติของท่านควรได้รับการกล่าวขานเช่นเดียวกับวีรกรรมนองเลือดของริวอร์นอร์ ด้วยเหตุนั้น พี่ชายข้า...ข้าจะเปลี่ยนโลก ข้าจะประกาศความดี ทว่าการต่อสู้กับปีศาจอย่างริวอร์นอร์ข้าจำต้องสวมหน้ากากคนชั่ว กวีอาจแต่งบทเพลงสาปส่งข้าที่กล้าหันดาบใส่เชษฐาที่พวกมันไม่รู้ว่าเป็นเดรัจฉาน ทว่าอีกร้อยปี พันปี หรืออาจหมื่นปีนับจากนี้ เมื่อความจริงปรากฏชัดแจ้ง บทเพลงที่เคยสาปส่งข้าจะสรรเสริญข้าและท่าน สรรเสริญความดีในโลกที่ดียิ่งกว่า ข้าโอหังใช่หรือไม่…”

ซิกฟรีดแตะใบหน้าซีกซ้าย สัมผัสผิวเรียบเป็นปกติเพราะฤทธิ์ของเงาทมิฬ แต่เขารู้...รอยแผลเป็นที่ซ่อนอยู่กำลังเน่าเฟะด้วยจิตใจอัปลักษณ์

เขาเพิ่งตระหนักรู้ไม่นานมานี้ เสียงกระซิบก่นด่าที่เคยได้ยินไม่ใช่เสียงสาปแช่งของริวอร์นอร์เลย…

แต่เป็นเสียงในใจของตัวเขาเอง

เสียงจากส่วนลึกที่อัปลักษณ์ที่สุดพยายามชักนำเขาไปสู่ด้านที่มืดมิดที่สุด

เขาระลึกได้ก็เวลานี้...ก่อนที่คมดาบจะบั่นศีรษะพี่ชายผู้น่าชัง มันเอ่ยว่า

 

“เจ้าไม่ต่างอะไรจากเราเลย”


 

เขาปฏิเสธคำของมันด้วยการแผดเสียงจนสุด ขณะยุดยื้อกอดปล้ำกันบนพื้น ฝ่ามือของมันยันใบหน้าซีกซ้ายของเขา เสียงร่ายเวทนอกรีตน่าสะพรึงกระหึ่มก้อง

 

“แล้วเจ้าจะเห็น อาเลธ”

 

เขาเห็น...ทุกคนเห็น ความอัปลักษณ์ภายในถูกฉายให้ปรากฏรูปร่าง ใบหน้าซีกซ้ายมีรอยแผลเป็นคล้ายไฟคลอก เส้นเลือดสีดำเต้นตุบ...ตุบ อยู่ใต้ผิวหนังน่าเกลียด และทุกครั้งที่เขาเกิดความคิดด้านลบ เกิดความโกรธ ความชิงชัง ไปจนถึงความโลภโมโทสัน รอยแผลเป็นจะขยายใหญ่ขึ้น กลืนกินส่วนที่ดีไปทีละน้อย...ทีละน้อย จนในที่สุดเขาอาจกลายเป็นราชาวิกลจริต

ทว่า

เขายังจำเสียงกระซิบที่คล้ายเสียงอดีตราชาเฟรธูรินได้ เสียงนั้นให้กำลังใจเขา มอบความเชื่อมั่นให้เขา

เสียงจากสำนึกด้านที่ดีที่พยายามยุดยื้อเขาสุดกำลัง

 

‘เจ้าไม่อาจบังคับความคิดหรือความรู้สึกใครได้ น้องชายข้า

แต่เจ้าต้องรู้ใจตัวเอง…

หากเจ้าคิดว่ามันดีแล้วก็จงทำ

และหากเจ้าทำแล้วก็จงรับผลที่ตามมา

ภูผาต้องรับได้ทั้งแรงประโลมของลม

...และแรงโหมของพายุ’


 

ความชั่วไม่อาจกลืนกินเขาได้ทั้งหมด ขณะเดียวกันเขาก็ยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ราชาที่ดี ไม่ใช่ต้นแบบที่ดีให้แก่ประชาชน แต่อย่างว่า...ในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญหน้ากับเดรัจฉาน เขายอมเป็นปีศาจให้คนหยามหมิ่น

ซิกฟรีดมองดาวเกลื่อนฟ้า ก่อนจะเผยรอยยิ้มคล้ายเอลฟ์หนุ่มผู้บ้าบิ่น “แต่ท่านจำต้องทราบ พี่ชายที่รัก ข้าอุทิศเลือดเนื้อให้แผ่นดินได้มากพอกับอุทิศความรักให้โคลด์ สตาร์”

ความรักที่เรียกได้ว่าหลงใหลมัวเมาเชียวละ

“ส่วนพี่หญิง…” เขาเงียบไปครู่ใหญ่ “ข้ารักและเทิดทูนพี่หญิงเสมอ ข้าจะไม่ให้นางเป็นอันตรายอีก แม้นางเลือกสนับสนุนริวอร์นอร์ก็ตาม”

เขารักพี่หญิงเช่นครอบครัว เมื่อพูดถึงพี่หญิง แววตาของซิกฟรีดคล้ายอ่อนลง สะอาดใสขึ้น ราวกับเขาย้อนเวลาเป็นอาเลธน้อยให้พี่หญิงในชั่วขณะหนึ่ง

ระหว่างที่ราชาหนุ่มคิดว่าจะสูบยาอีกสักมวนนั้น จู่ๆ ดาวดวงหนึ่งกลับส่องสว่างขึ้น แต่พอมองให้ดีแล้ว ดวงดาวกลับเป็นนกส่งสารสีขาวตัวหนึ่ง

มันเป็นนกหงส์หยกที่ซิกฟรีดไม่เคยเห็นมาก่อน ขนของมันขาวเสียจนคล้ายเรืองแสงได้ มันร่อนเข้ามาเกาะคอนในห้องบรรทมอย่างไม่กลัวเกรง ก่อนจะเขยิบไปเบียดนกส่งสารสีน้ำเงินที่เกาะคอนอยู่ก่อนหน้าพลางร้องทักทาย

ซิกฟรีดเห็นม้วนสารที่ขาของมัน เจ้านกขนขาวกระโดดบนคอนเรียกร้องให้เปิดสารโดยเร็ว

ราชาหนุ่มขมวดคิ้วน้อยๆ เขาแกะสารออกและอุทานว่า

“พี่หญิงคาลิเธียล…”


—————————————————————————

A/N บทนี้เราได้เห็นความดาร์กของซิกฟรีด และตัวละครแห่งราชวงศ์รูเมเรียร์ที่ถูกเอ่ยถึงมาทั้งเรื่อง

แต่เพิ่งมีบทบาทจริงๆ ตอนนี้และในภาคต่อไปค่ะ!


ป.ล. วันนี้ลง 2 ตอน เลื่อนไปอ่านตอนต่อไปนะคะ


กิจกรรมสำหรับนักอ่านคนสำคัญ!

วันนี้ - 9 ก.ค. 60 มีกิจกรรม 'รีวิวนิยาย Elven Almanac' ให้ทุกท่านร่วมสนุก

>> Link กิจกรรม คลิก <<
 (https://www.facebook.com/commerce/products/1392698107466003/)

รางวัลมี 2 รางวัล เป็นปลอกหมอนลายซิกฟรีด หรือ มาลแกธ เลือกได้ตามที่ชอบ ห้ามพลาดนะคะ!

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 29 : (2-3) [26/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 26-06-2017 23:34:19
บทส่งท้าย (3) : นาม

เอริแอดเน่ไม่ออกจากห้องส่วนตัวเลยตั้งแต่วันนั้น…

ทว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีผู้ใดทราบนอกจากคนสนิท ฉากหน้า ผู้ออกมาร่วมประชุมกับขุนนางอิซิลดาร์พร้อมราชามงกุฎดำคือโรสเวน

นางปฏิเสธไม่พบใครทั้งสิ้นนอกจากโรสเวน และหลบเลี่ยงริวอร์นอร์ด้วยการไม่อยู่ในสถานที่ของนางกษัตริย์ แต่มาอยู่ในหอคอยของโรสเวน

วันนี้โรสเวนสวมบทบาทท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์เสร็จก็มาเยี่ยมเอริแอดเน่และนำอาหารมาให้เช่นเคย นางเห็นเอริแอดเน่นอนหมอบอยู่บนเตียงคล้ายสัตว์บาดเจ็บ สองตาแดงก่ำ ท่าทางอิดโรย

“ท่านไม่นอนอีกแล้วหรือ” โรสเวนนั่งลงบนเตียง สภาพของเอริแอดเน่เวลานี้คล้ายย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน หลังเหตุการณ์ในคืนวิวาห์เลือด ท่านหญิงก็เก็บตัวเฉกนี้ ตั้งแต่เด็ก โรสเวนทราบว่าเวลาที่ไม่มีคนเห็น เอริแอดเน่ร้องไห้มากมายเพียงใด

ต้องเป็นเวลาที่ไม่มีคนเห็นเท่านั้น...

“ข้านอนไม่หลับ ความคิดเดิมๆ มันวนเวียนอยู่ในหัว ไม่ยอมออกไปเสียที” เอริแอดเน่ตอบเสียงเบา ดวงตาคู่งามเหมือนจะลึกและเห็นรูปตาชัดขึ้นเพราะนางผอมลง

“ท่านคิดอะไรอยู่หรือ” โรสเวนจัดผมให้นาง

“ซิกฟรีด...” เอริแอดเน่หลับตา รู้สึกสบายขึ้นเมื่อมือของอีกฝ่ายช่วยลูบเบาๆ

“ท่านเอ็นดูเขา เขาเป็นจุดอ่อนของท่านหลังสิ้นท่านเฟรธูริน ครั้งนี้ท่านก็ช่วยเขาอีกแล้ว”

“ข้าไม่ได้ช่วยเขา” เอริแอดเน่ปฏิเสธ

“ท่านช่วยเขา เวลานั้นถ้าท่านทอดทิ้งราชาริวอร์นอร์ ป่านนี้เขาคงเปิดเผยความจริงทุกอย่างเพราะไม่เหลืออะไรให้เสียอีกต่อไป แผ่นดินเอลฟ์จะเข้าสู่กลียุคที่แท้จริง ทมิฬจะมีชัยเหนือเรา ล้มล้างราชวงศ์รูเมเรียร์และอิซิลดาร์ที่บรรพกษัตริย์ก่อตั้ง”

เอริแอดเน่เม้มปาก “ข้าคิดถึงเจ้าชายน้อยที่รักข้า...คนที่ข้าสามารถดูแลเขา”

“ไม่เป็นไร...” โรสเวนเอ่ยถ้อยคำแห่งเวทมนตร์ “มันจะไม่เป็นไร ท่านหญิง”

มีเสียงสูดจมูกเบาๆ “ท่านพี่เฟรธูรินคงโกรธข้า”

โรสเวนปัดผมสีทองยาวของเอริแอดเน่ไปรวมกันทางหนึ่ง นางแตะมือกับหลังคอและไหล่เปลือยเพื่อลอบวัดไข้ ผิวเนื้อของเอริแอดเน่ร้อนเหมือนอังไฟ

ข้าคงต้องเพิ่มยาลดไข้ลงในซุป

“ท่านเฟรธูรินรักท่านมากและเข้าใจท่านเสมอ การล่มสลายของราชวงศ์รูเมเรียร์ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ท่านเฟรธูรินประสงค์”

คำปลอบใจเหมือนสายลมเย็น มันช่วยให้เปลือกตาของเอริแอดเน่เบาขึ้น ปวดศีรษะน้อยลง “ตอนนี้ข้าเหลือแค่พวกเจ้า...โรสเวน”

“เราอยู่ข้างท่านเสมอ พักให้สบายเถิดเอริแอดเน่ที่รัก” โรสเวนให้นางนอนตัก “เจย์ก็อยู่ข้างท่าน” นางกระซิบบอกให้เอริแอดเน่รู้ว่ายังมีคนที่รักและห่วงใยนางอยู่อีกมาก

เอริแอดเน่ซุกหน้าลงกับตักของสตรีด้านบน “ขอบคุณ...โรสเวน”

สมัยเด็ก ริวอร์นอร์เคยถามเอริแอดเน่ว่าชื่อกลางของนางคืออะไร เอริแอดเน่ตอบว่า “อิซิลดาร์ไม่มีชื่อกลางหรอก”

แท้จริงแล้ว ชื่อกลางของนางกษัตริย์แห่งอิซิลดาร์นั้นเป็นความลับ มอบให้แก่เงาที่เปรียบเสมือนแขนขา...และครึ่งหนึ่งของกันและกัน

‘เอริแอดเน่ โรสเวน แห่งอิซิลดาร์’

ชื่อกลางของนาง...มอบให้แก่โรสเวน

—————————————————————————

A/N จริงๆ คู่นี้ก็ดีนะ *0* ทำเราแอบจิ้นไปหลายรอบละอะ เราชอบความสัมพันธ์ของพวกเธอจัง



ป.ล. 2 หลังจากนี้จะมีตอนสั้นๆ อีก 2 ตอน และจบภาคค่ะ


แฟนอาร์ตสองสาวเสน่ห์แรง โอท็อปอิซิลดาร์ จากคุณ Ann Sophon

เป็นภาพในตอนทั้งคู่อยู่ห้องสรงกับริวอร์นอร์ แต่มาไว้ตอนนี้ก็เข้ากันดีนะคะ \(*0*)/

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/1776583164-member.jpg)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 29 : (2-3) [26/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 27-06-2017 03:00:09
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 29 : (2-3) [26/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อย ที่ 27-06-2017 07:26:33
อะหือ เศร้าจาย

แต่ในที่สุดตัวละครลับก็ออกมาอีกคนแล้ว

พี่ท่านรู้เรื่องทั้งหมดหรือเปล่านะ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 29 : (2-3) [26/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-06-2017 14:01:09
ยังไงก็มีความผูกพัน ตัดไม่ขาด แม้เหมือนเป็นศัตรูกัน
พี่หญิง เจ้าชายน้อย  :mew1: :mew1: :mew1:

ขำ ตอนมาลแกธ แนะนำโคลด์ ว่าเป็นคนรักกับคาริม
มาลแกธ ยิ้มซะปากกว้างถึงหูเลยมั้ง  :hao3:

โคลด์ ยั่วมาลแกธ ก็ทันทีสิ
มาลแกธ พร้อมยิ่งกว่าพร้อม ขึ้นทันที
บอกรักโคลด์ด้วยร่างกายซะมากกว่าสองรอบที่ขอแน่ๆ /ฮึ่ยยยย...มาลแกธไม่รักษาคำพูดอ่ะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ บทที่ 29 : (2-3) [26/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-06-2017 00:07:48
ราชาผู้มีเป้าหมายยิ่งใหญ่และคลั่งรัก

เอาฉันทำชันยาเรือเลยเถอะ ไม่มีทางปันใจจากเรือราชาเด็ดขาด!

ป๋ามาล ป๋าล่อลวงเด็ก นุ้งโคลด์อายุแค่หนึ่งในสิบของป๋าเอง หักโหมระวังหลังยอกนะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 28-06-2017 01:27:20
บทส่งท้าย (4) : พิลกริม

ในวิหารเก่าแก่...อันตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแผ่นดินรูเมเรียร์ ท่านหญิงคาลิเธียลคุกเข่าหน้ารูปสลักมารดาแห่งนภา ประกบมือเข้าหากันสวดภาวนาแด่พระแม่ผู้ให้กำเนิดและประสิทธิ์ประสาทพลังแด่เผ่าพันธุ์เอลฟ์ทั้งมวล กิริยาของท่านหญิงสง่า นุ่มนวลน่ามอง ทั้งยังสำรวมเป็นที่ยิ่ง ด้วยนางยินดีเข้ารับเชื่อเป็นพิลกริม--หรือนักบวชผู้แสวงหาความสงบแห่งดินแดนนิรันดร์โดยที่ยังไม่ตกตายตามครรลอง การเข้ารับเชื่อเป็นพิลกริมนั้นเคร่งครัด หนึ่งในกฎควรปฏิบัติก็คือตัดความวุ่นวายจากโลกภายนอก นั่นหมายถึงไม่รับข่าวสารภายนอก ไม่ติดต่อคนภายนอก แม้จะเป็นบิดามารดา กระทั่งพี่หรือน้องก็ตาม

อย่างที่กล่าวไปว่านี่เป็นเพียงกฎ ‘ควร’ ปฏิบัติ มิได้มีบทลงโทษ จะมีแค่การตักเตือนจากพิลกริมด้วยกันเท่านั้น ถึงอย่างไรผู้ที่ไม่ได้มาแสวงหาความสงบแท้จริงก็อยู่ได้ไม่นาน บ้างว่ารู้สึกร้อนในอก หรือบ้างว่ารู้สึกหงุดหงิดจนทนไม่ไหว จึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นพิลกริมเสียเอง

สำหรับท่านหญิงคาลิเธียล นางเป็นพิลกริมได้กว่าสิบปีแล้ว หลังราชาเฟรธูรินสิ้นและเจ้าชายริวอร์นอร์ขึ้นเป็นราชา โดยให้เหตุผลว่าต้องการหาความสงบให้จิตใจ นางยืนยันหนักแน่นแม้จะโดนท้วงหลายครั้ง สุดท้ายเสียงร้องขอก็เงียบไป เนื่องเพราะราชาริวอร์นอร์เข้าใจน้องสาว การที่นางสูญเสียดวงตาทั้งสองข้างจากอุบัติเหตุอาจทำให้เกิดแผลใจขนาดใหญ่ ปล่อยให้เดินทางจาริก หาความสงบสักพักน่าจะดีกว่า

ในทีแรก นางเข้ารับเชื่อเป็นพิลกริมเพื่อแสวงหาความสงบทางจิตใจจริง นางจาริกไปตามมหาโบราณสถานต่างๆ ที่โดยมากอยู่ทางตอนเหนือ เข้าสวดภาวนาแด่พระมารดาแห่งนภาด้วยจิตใจสะอาดและมุ่งมั่น เพื่อปลดเปลื้องความโกรธที่มีต่อผู้ ‘ควัก’ นัยน์ตาของนาง

ไม่ใช่อุบัติเหตุ...ไม่ใช่เลย


วันเวลาผันผ่าน เมื่อนางสงบจนความโกรธมลายหายไป นางก็ได้รับพรวิเศษจากมารดาแห่งเอลฟ์ทั้งปวง ดวงตาบอดสนิทกลับมองเห็นภาพประหลาด แรกๆ วูบไหวไม่ชัดเจน กระทั่งสมาธิจากการสวดภาวนาแข็งแกร่งขึ้นจึงเห็นชัดแจ้ง น่าแปลก...นางเห็นซิกฟรีดผู้เป็นน้องชายโตขึ้นมาก เขานั่งบนเก้าอี้ที่วางอยู่บนยกพื้นขณะจ้องเขม็งไปทางกระจกบานหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาตึงเครียด เช่นเดียวกับข้าราชบริพารที่ดูเหมือนกำลังรอคอยอะไรบางอย่างในกระจก

นางประหลาดใจ และค่อยๆ เรียนรู้ในภายหลังว่า สิ่งที่นางเห็นคือ ‘อนาคต’

ตั้งแต่วันนั้น ท่านหญิงคาลิเธียลจึงสวดภาวนามากขึ้น ตั้งสมาธิมากขึ้น นางเห็นภาพหลากหลาย เห็นกระทั่งภาพน้องชายคนเล็กสังหารพี่ชายคนรอง นางเห็นโศกนาฏกรรมทั้งหมด เวลาอยู่ตามลำพังนางร้องไห้อย่างหนัก ภาวนาให้ตนคิดเพ้อเจ้อไปเองทั้งหมด ทว่าหากเป็นเรื่องจริง--หากนางได้พรที่คล้ายคำสาปนี้จริง นางก็อยากจะหยุดเรื่องเลวร้ายก่อนที่จะเกิด อาจโดยการประกาศให้ทุกคนรู้ นางเคยเขียนจดหมายถึงข้ารับใช้คนหนึ่งให้เรียก ‘เงาสังหาร’ มาดูแลรับใช้ ‘ราชาองค์ใหม่’ หรือ ‘ซิกฟรีดแห่งรูเมเรียร์’ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุเลวร้ายบางประการ ซึ่งจะเกิดจากทหารเดนตายผู้ภักดีต่อริวอร์นอร์ทำการลอบสังหารจนพระองค์บาดเจ็บหนัก ผลคือซิกฟรีดรอดจากเงาพระหัตถ์ของบิดาแห่งความตาย ทว่านางเริ่มมองเห็นอนาคตไม่ชัด และดูเหมือนเส้นโชคชะตาของซิกฟรีดหลังจากนั้นจะเปลี่ยนไปในทางเลวร้ายกว่าเดิม

นางจึงอดทน

มีวิธีเดียวเท่านั้นคืออดทน เพ่งมองจนเห็นอนาคตโดยตลอด จ้องจนเห็นว่านางสามารถช่วยเหลืออะไรใครได้บ้าง และได้เมื่อไหร่ นางเก็บตัวเงียบ ไม่ติดต่อกับผู้ใดจากโลกภายนอก จนกระทั่งเวลานี้…

ทุกอย่างประจวบเหมาะ ประสบการณ์หนาหนักโบยตีราชาซิกฟรีดจนพร้อมสำหรับศึกใหญ่ มารดาแห่งนภาปล่อยพระหัตถ์เนียนขาวจากดวงตาของท่านหญิงแห่งรูเมเรียร์ และในคืนหนึ่งก็กระซิบกับนางผ่านฝันว่า

‘บุตรีของเรา…

อย่าลืมว่าปัจจุบันคือพรแท้จริง อนาคตเป็นเพียงสิ่งที่เราเปิดเผยให้เจ้าเห็นเพียงเสี้ยว ให้เจ้าแข็งแกร่งพอจะ ‘หยุด’ สงครามได้

กระนั้น จงอย่าเปิดเผยดวงตาอันเป็นของขวัญจากเราให้ผู้ใดชม และอย่าเปิดเผยความลับที่เจ้าเห็นโดยตรง อำนาจของเจ้าอันตรายนัก...บุตรี’


เวลานี้ ท่านหญิงคาลิเธียลหมอบกรานอยู่หน้ารูปสลัก หน้าผากจรดพื้น นางนึกถึงคำมารดานภา นึกถึงจดหมายสองฉบับที่ตนเป็นผู้ส่งไป

“ข้าแต่พระมารดา บุตรีผู้นี้พร้อมแล้ว…”

นางลุกขึ้นยืน เสื้อผ้าเรียบง่ายบุขนสัตว์เพื่อป้องกันความหนาวเย็นอย่างพิลกริมถูกเปลี่ยนเป็นอาภรณ์หรูหราทว่าไม่โอ้อวดเฉกท่านหญิงสูงศักดิ์จากรูเมเรียร์ โดยมีผ้าลูกไม้สีขาวเนื้อดีคาดทับดวงตา

“ข้าพร้อมกลับบ้านเกิด และทำให้ทุกอย่างเข้าที่ทางที่สมควรเป็น”

 

—————————————————————————

A/N คาลิเธียลนี่มีชื่อเล่นว่าหญิงสามค่ะ เพราะเป็นลูกคนที่ 3 เราจะได้เห็นเธอมากขึ้นในภาคต่อไปเนอะ -3-


ป.ล. วันนี้ลงจนจบและแจ้งข่าวเปิดจองหนังสือ เลื่อนไปอ่านอีก 2 ตอนนะคะ


แถม: มินิเอริแอดเน่ ปะทะ มินิคาลิเธียล

"ข้าเกลียดนาง" / เอรี่

"ข้าไม่รู้สึกอะไรกับท่าน" /หญิงสาม

"ข้าเกลียดเจ้า!" /เอรี่

"ข้าไม่รู้สึกอะไรกับท่าน" /น้ำตาปริ่ม

"ข้าเกลียดเจ้าๆๆๆๆๆ" /เอรี่ๆๆ

"ข้า...ไม่..." / เบบี้หญิงสามร้องไห้


คุณ Ann Sophon จัดแฟนอาร์ตมาอีกแล้วจ้า!

ซิกฟรีด ราชาผู้หล่อเหลาและแสนเศร้า

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/906883298-member.jpg)

เจย์ ขโมยหนุ่มเนื้อหอมที่สาวๆ หนุ่มๆ อิซิลดาร์หลงรัก -3-

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/2005577498-member.jpg)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 28-06-2017 01:36:29
บทส่งท้าย (5) : หินแก้ว

ดังเช่นทุกครั้ง…

หากเอริแอดเน่ห้ามไม่ให้เข้าพบ ริวอร์นอร์ก็ดึงดันจะเข้าพบจนได้ แต่เขายังรู้จักรอจังหวะ ให้อารมณ์ของเอริแอดเน่คลายลงบ้างค่อยเยี่ยมหน้าไปหา

อัศวินสตรีพยายามไม่ให้ริวอร์นอร์เข้าถึงตัวเอริแอดเน่ ซึ่งความจริงแล้วถึงเข้าไปในห้องส่วนตัวได้ ผู้ที่พำนักอยู่ในห้องนั้นก็ไม่ใช่เอริแอดเน่แต่เป็นโรสเวน ผู้เป็นเงาปิดปากเงียบ ไม่ยอมบอกว่าท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ไปพำนักอยู่ที่ไหน

จนริวอร์นอร์ขู่นางว่า

“เราทราบวิธีแยกเจ้ากับนางออกจากกัน เจ้าคงไม่อยากให้ท่านหญิงตระกูลอื่นทราบด้วยใช่หรือไม่”

 

เมื่อได้ยินเสียงกุกกัก เอริแอดเน่ที่เพิ่งได้หลับเต็มตื่นค่อยรู้สึกตัว นางเห็นตนกำหินแก้วกลมเกลี้ยงไว้ในมือ...หลังแปลกใจว่ามันมาจากไหน ค่อยระลึกได้ว่าโรสเวนคงเป็นคนนำมาวางไว้โดยพลการนั่นเอง

หินแก้วลูกเล็กนี้เป็นของที่นางได้มาสมัยเด็ก มักใส่ถุงผ้าเย็บเอง พกติดตัวไว้เสมอ เวลาจับไข้ตัวร้อนนางมักนอนกำหินไว้ เมื่อตื่นมาไข้จะหาย รู้สึกเย็นสบายตัวขึ้นมาก คราวต้องจากอิซิลดาร์ไปอยู่รูเมเรียร์ตอนอายุสิบห้าปี นางฝากมันไว้กับโรสเวน จากนั้นแม้มีเรื่องให้นางแตกหักกับผู้มอบหิน นางก็ไม่ได้สั่งให้โรสเวนทำลายมัน

...แค่ทำเหมือนไม่เคยได้รับมา

“โรสเวนยอมบอกว่าเจ้าอยู่ที่ไหน แต่แกล้งเราด้วยการไม่ให้กุญแจ” ผู้บุกรุกคือริวอร์นอร์ เขามาหานางยามวิกาลผ่านการงัดแงะหน้าต่างอย่างโจร...ซึ่งทำได้ดีทีเดียว

ด้วยปฏิกิริยาตอบสนองซึ่งไวกว่าความคิด เอริแอดเน่ขว้างของใส่ริวอร์นอร์ หมายจะไล่เขาไป...เหมือนที่นางทำบ่อยๆ ยามยังเยาว์ ทว่าคราวนี้ของที่อยู่ในมือคือลูกหินแก้ว

...ที่เขาเป็นผู้มอบให้นางเมื่อนานมาแล้ว

ลูกหินพุ่งมาตรงหน้า ริวอร์นอร์หลบและรับได้ เขาแบมือออกพลางยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นว่ามันเป็นอะไร

เอริแอดเน่เปิดปากน้อยๆ ดวงตาเบิกกว้างคล้ายเพิ่งตื่นดี และเพิ่งรู้ตัวว่าตนขว้างอะไรไป “มันก็แค่หินก้อนหนึ่ง” นางเอ่ยร้อนตัว

“เรายังไม่พูดอะไรสักคำ” ริวอร์นอร์เข้าไปนั่งบนเตียงข้างนาง

“ข้าไม่ต้องการมันแล้ว” เอริแอดเน่กอดอก รีบแก้ไม่ให้อีกฝ่ายคิดว่านางเก็บหินก้อนนี้ไว้เพราะเขา นางเช็ดหน้าเช็ดตาที่คงไม่ดูเรียบร้อยสง่างามเช่นยามปกติ

ริวอร์นอร์ช่วยลูบหน้าลูบตาและจัดทรงผมให้นาง เขายิ้มขำ และเอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้นเราจะเก็บไว้”

“เรื่องของเจ้า” นางปากแข็งใส่เขา

“แต่น่าเสียดายนะ เหมือนสีตาเจ้าแท้ๆ” ริวอร์นอร์ยกลูกหินขึ้นเทียบกับนัยน์ตาใสกระจ่างของนาง

เอริแอดเน่แยกเขี้ยว “ข้าไม่ได้อยากให้เจ้ามีอะไรนึกถึงข้า ข้าเปลี่ยนใจแล้ว จงคืนมา”

ริวอร์นอร์เห็นช่องแกล้งนางจึงกำมันไว้ แล้วยื่นหน้าเข้าไป “มันเป็นของเรา ถ้าเจ้าอยากได้เราจะขายให้”

“ริวอร์นอร์ ข้าเป็นเพื่อนเล่นของเจ้าหรือ” นางแย่งของจากมือเขา

“เราไม่ได้ล้อเล่น ลูกหินสวยขนาดนี้ราคาแพงทีเดียว” ริวอร์นอร์ชูมันสุดแขน ให้ท่านหญิงพยายามเอื้อม พอนางจะแตะถึงก็สลับมือแล้วชูสุดแขนอีก “จ่ายด้วยอะไรดีละ ร้องเพลงได้ไหม หรือจะดีดพิณ?”

“ริวอร์นอร์!” เอริแอดเน่ขู่ ยื้อแย่งกับเขา อารมณ์โกรธทำให้นางลืมความเศร้า อาการรีบร้อนทำให้นางสะดุดชายกระโปรงตัวเองจนเสียหลัก ชุดผ้าเนื้อบางสำหรับใส่นอนขาดแควก!

ริวอร์นอร์โอบนางไว้ไม่ให้ล้มคะมำ เขาหัวเราะพลางส่งเสียงชี่...ชี่...สลับกันไปเพื่อปลอบเจ้าปลาหัวเสีย ริวอร์นอร์คืนลูกหินให้นาง และเรียกค่าตอบแทนเป็นจูบบนหน้าผาก เปลือกตา สองข้างแก้ม และริมฝีปากบึ้งตึง

“ข้ายังไม่ได้อาบน้ำ...สระผม” เอริแอดเน่ตัวสั่น มือเก็บชายชุดที่ขาด จะให้เขาเห็นนางในสภาพอ่อนแอดูไม่ได้ได้อย่างไร

“อืม” ริวอร์นอร์กอดนาง คนใจเหี้ยมกลับมีอ้อมกอดอันอบอุ่น เขาไล้ริมฝีปากไปตามหน้าผากมนพลางกระซิบว่า “คาลิเธียลส่งสารมาถึงเรา”

ดวงตาของเอริแอดเน่กร้าวขึ้น คาลิเธียล นางคนไม่ปกติที่รักริวอร์นอร์เกินพี่ชายน่ะหรือ “นางว่าอย่างไร ให้เดานะ ถ้าไม่พูดถึงข้าว่าให้กำจัดทิ้งเสีย ก็ไม่พูดถึงเลย ส่วนเจ้า...หึ!”

“ชี่…” ริวอร์นอร์คลึงใบหูปลอบนาง

“แปลว่าจริง” เอริแอดเน่เป็นฝ่ายเกาะริวอร์นอร์ ถ้ามีใครสักคนที่ทำให้นางหึงหวงอย่างไม่รู้ตัวได้ละก็...ผู้นั้นย่อมเป็นน้องสาวของริวอร์นอร์

“ไม่...ไม่ใช่” ริวอร์นอร์จูบกระหม่อมท่านหญิง “นางส่งสารมาว่า ‘หยุดเถิด หยุดวิวาท’ สั้นๆ เพียงเท่านี้”

เอริแอดเน่กัดฟันกรอด คาลิเธียลมีสิทธิอะไรที่จู่ๆ จะเข้ามาแทรกหรือ ทั้งตอนที่นางคิดปลุกชีพท่านเฟรธูริน คาลิเธียลก็มาขัดขวาง วางตัวไว้เหนือความเจ็บช้ำของผู้อื่น “คำพูดฟังดูดี ไม่มีตรงไหนบกพร่องเลย แต่ข้าชังความบริสุทธิ์สูงส่งของนาง” เล็บคมจิกแขนริวอร์นอร์เหมือนนางแมวกางเล็บขู่

“เจ้าว่าเราควรหยุดวิวาทหรือ” ริวอร์นอร์ทอดสายตามองอสรพิษที่กลายเป็นนางแมว เขาหัวเราะในคอเมื่อลองเกาคางท่านหญิงสูงศักดิ์แล้วถูกตะปบมือ

“เจ้าอยากหยุดก็หยุดไปสิ ริวอร์นอร์ แต่ข้าสาบานว่าถ้านางกล้ากลับมา คราวนี้จะไม่จบแค่ข้าควักตานางเหมือนคราวก่อน”

“เราไม่ชอบทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ นัก” ริวอร์นอร์เอ่ย “และเราคิดว่าคาลิเธียลก็ไม่ควรอยู่แบบครึ่งๆ กลางๆ ไม่เลือกฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ทั้งที่ใจนางอยู่ฝั่งเดียวกับเรามานานแล้ว...นางก็เหมือนอาเลธ ไม่รู้ใจที่แท้จริงของตัวเอง ให้เงาพี่เฟรธูรินกางทับไว้”

เอริแอดเน่เย็บวาบไปทั่วไหล่และแผ่นหลัง ใจคาลิเธียลรักริวอร์นอร์แค่ไหน ทำไมนางจะไม่รู้ และริวอร์นอร์...นางจะไม่แปลกใจเลยถ้าเขาสมรสกับน้องสาวของตัวเองเพื่อครองบัลลังก์กษัตริย์แห่งรูเมเรียร์

“เราเริ่มเกมแล้ว...เอริแอดเน่” ริวอร์นอร์กระซิบ

เจ้าของนามเงยหน้า แย้มรอยยิ้มอย่างนางอสรพิษสูงศักดิ์ผู้ถือครองอำนาจและเกียรติยศ ริมฝีปากสีทับทิมเอ่ยไม่เร็วไม่ช้า

“ในเกมนั้น ถ้ามีข้า ต้องไม่มีคาลิเธียล”

“สมเป็นราชินีของเรา”

ริวอร์นอร์จุมพิตเอริแอดเน่…สวมมงกุฏล่องหนให้นาง ยกนางเป็นราชินีหนึ่งเดียว

ราชินีผู้ซ่อนความอัปลักษณ์ไว้ภายใต้ใบหน้าอันงดงาม


—————————————————————————

A/N พบกันในภาคแยก 'ราชินีอัปลักษณ์' ค่ะ

แม้ยังไม่มีกำหนดอัปเดตที่แน่นอนเพราะเราจะทำหนังสือเล่ม Of Devil & Angel ก่อน (และไม่ได้ลงในเล้าเพราะเป็น NL)

แต่ขอเล่าคร่าวๆ เป็นน้ำจิ้มนะคะ

ภาค Ugly Queen จะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนภาคนี้

ตัวละครเอกคือ เอริแอดเน่ ริวอร์นอร์ เฟรธูริน และจอมทัพทมิฬ

คุณจะได้พบกับการแก่งแย่งชิงตำแหน่งราชินีของสตรีอิซิลดาร์และรูเมเรียร์

ที่ไม่ได้ใช้แค่ความสวย ความร่ำรวย หรือความดี แต่ต้องใช้สมองและความเหี้ยมด้วย

(เอรี่ร้ายและแซ่บค่ะ ;) จะมีมุมน่ารัก ไม่ดาร์กและโหดเท่าภาคนี้ /แต่ก็โหดอยู่นะ)

เรื่องราวของสตรีสูงศักดิ์ในราชสำนักอันซับซ้อนและการใส่หน้ากากเข้าหากัน

ไม่เพียงสตรีเท่านั้น บุรุษเองก็มีความริษยาเช่นกัน

ความชังในการเป็นเจ้าชายองค์รองของริวอร์นอร์ที่อยู่ใต้เงาพี่ชายที่แสนดี

แผนการยึดบัลลังก์และชิงเอริแอดเน่มาเป็นของตน

และความดีอันเข้มงวดอย่างยิ่งยวดต่อน้องชายของเฟรธูริน

นอกจากนี้ยังเล่าถึงสงคราม 200 ปี กับจอมทัพทมิฬ

ความเป็นมาของจอมทัพและเหล่าบุตรชายของเขา (โดยเฉพาะบุตรชายคนโต)

บอกเลยว่าฝั่งดาร์กเอลฟ์สนุกและมีสีสันไม่แพ้กันค่ะ!


สำหรับท่านที่สนใจหนังสือ Elven Almanac ภาคพันธนาการรักราชันเอลฟ์ กรุณาอ่านตอนต่อไปค่ะ

ทั้งนักเขียนและนักวาดทำงานกันเต็มที่เพื่อสร้างสรรค์นิยายที่ท่านรักเรื่องนี้เป็นรูปเล่ม เหมาะแก่การสะสม

รอบพรีออเดอร์นี้คุ้มค่าจริงๆ ขอฝากให้ทุกท่านช่วยกันอุดหนุน

เพื่อส่งเสริมให้นักเขียนผลิตผลงานได้ต่อไปค่ะ!


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 28-06-2017 01:53:56
TBL-548-828

สั่งซื้อหนังสือนิยายชุด

Elven Almanac ภาค ราชันพันธนาการ


นิยายเรื่องนี้ลงจนจบภาค 1 แล้ว ขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนค่ะ

สำหรับท่านที่ต้องการสะสมเป็นรูปเล่ม พร้อมอ่านตอนพิเศษกว่า 150 หน้า

กรุณาอ่านรายละเอียดด้านล่าง

Link สั่งซื้อหนังสือ

Collector's Set • นิยายชุด Elven Almanac พร้อมโปสการ์ดเฉพาะฉบับพิมพ์ครั้งที่ 1:

สั่งซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป (http://bit.ly/ELF1120)

ปกนิยายโดย Enfer De Hell © ILLREI 2017
เล่ม 1 ปกโคลด์
(https://k.lnwfile.com/oa694d.jpg)
เล่ม 2 ปกซิกฟรีด (จบ)
(https://k.lnwfile.com/jnej2h.jpg)

---------------------------------------------

เรื่องย่อ

'โคลด์ สตาร์' นักฆ่าดาร์กเอลฟ์ เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับราชาเอลฟ์ 'ซิกฟรีด' อดีตเจ้าชายผู้บังคับเขาเป็นทาส

ทั้งสองจากกันด้วยความรู้สึกแตกหัก

สามปีให้หลัง เมื่อกลับมาพบกันอีกครั้ง โคลด์ก่อความวุ่นวายในการล่ามังกรของซิกฟรีดจนต้องหาหัวใจมังกรมาชดใช้

โดยมี 'มาลแกธ' อาจารย์ของโคลด์และองครักษ์มือขวาของซิกฟรีดให้ความช่วยเหลือ

ขณะที่มาลแกธออกตัวรุกจีบโคลด์อย่างหนัก ซิกฟรีดก็กุมตราทาสบนหน้าอกโคลด์ บังคับให้ทำตามที่สั่ง

นอกเหนือจากการถูกรุกเร้าโดยเอลฟ์หนุ่มทั้งสองคน โคลด์เองก็มีความลับสำคัญที่ทำให้เขาต้องหนีหัวซุกหัวซุน

เขาต้องการช่วย 'คนรัก' ที่เขารักมากกว่าอะไรทั้งหมด

ขณะที่ซิกฟรีดและมาลแกธก็ต้องการความรักของเขา

ทั้งบังคับเพื่อให้ได้ และยอมตายเพื่อให้รัก

---------------------------------------------

สัมภาษณ์ตอนพิเศษ! Elven Almanac

"สวัสดีฮะ เรามาสัมภาษณ์กันดีกว่านะฮะว่าตอนพิเศษในหนังสือ Elven Almanac ฉบับรวมเล่มมีอะไรบ้าง"

ลูกต่ายสายวาย: /ยื่นไมค์ให้โคลด์

โคลด์ : "อืม ก็มีข้า...กับซิกฟรีด"

ซิกฟรีด (หน้าขรึม): "เราดื่มฉลองวันสำคัญให้มารดานภาและมารดานที"

“แต่โคลด์เป็นดาร์กเอลฟ์นะฮะ จะฉลองให้มารดาเอลฟ์เหรอฮะ” /ลูกต่ายอีกตัวแย่งไมค์มาให้โคลด์

ลูกต่ายขาว: "อันนี้สัมภาษณ์ไปแล้วนะฮะ เล่มฝนแรก ที่เป็นมินิบุ๊ก ขอตอนพิเศษในเล่มหลักฮะ"

/ยกมินิบุ๊กฝนแรกขึ้นมาโฆษณา

โคลด์ (พยักหน้าขรึมๆ บ้าง): "ใช่สัมภาษณ์ไปแล้ว ไม่ต้องเล่าอีก"

ลูกต่ายสองตัวเปิดเล่มฝนแรกแล้ววี้ดว้ายหน้าแดง: “วี้ดๆๆๆๆ”

โคลด์นั่งกำมือ เขินหูลู่

ซิกฟรีด (คิด): "เล่มหลักหรือ..."

ซิกฟรีด (ยังคิดอยู่): "เป็นเรื่องในอาศรม ข้า...หึงโคลด์บ่อย ก็เป็นเรื่องหึงๆ หวงๆ กระมัง ใช่ไหมโคลด์ สตาร์"

โคลด์ /อ่านบท: "ใช่เจ้าเคยท้าดวลกับมาลแกธด้วย ส่วนตอนพิเศษ...เขาว่าถ่ายทำที่น้ำตก”

/คิดว่าน้ำตกอะไร...แล้วก็ ตูม! ระเบิดเป็นโกโก้ครั้น

/ลูกต่ายสองตัวเตรียมกล้องรอ ขยันขันแข็ง

ซิกฟรีดถึงขั้นลูบปาก: "อ่า น้ำตกนี่เอง"

ลูกต่ายขาว: "พี่ชายมาลแกธมีบทด้วยเหรอฮะ!" /สไลด์ไปอย่างไว

/ยื่นไมค์ให้มาลแกธ ทำตาวิ้บๆ ว่าขอเกาะหน่อย ขอเกาะหน่อยนะฮะๆ

มาลแกธ (หัวเราะ): "มี แต่ไม่ใช่ที่น้ำตก เป็นดินแดนฟากตะวันออกของรูเมเรียร์ เรื่องก็สมัยข้ายังหนุ่มๆ"

"แล้วบทกับโคลด์ล่ะฮะ!" /ลูกต่ายดันไมค์แบบมุ่งมั่น

โคลด์: "บทเขากับข้าไม่มีหรอก"

ซิกฟรีด (พูดเบาๆ ไม่สบอารมณ์): "ดีแล้ว"

ลูกต่ายสองตัวพูดพร้อมกัน : "ต้องมีสิ!"

มาลแกธ: "สมัยนั้นโคลด์ยังไม่เกิด เป็นเรื่องข้าแนะนำแดนตะวันออกล้วนๆ"

โคลด์: "ก็เคยไปขี่ม้าด้วยกัน" /ตอบแบบเมินมาลแกธ "คงไม่น่าจดจำเท่าไร"

มาลแกธ: "โธ่ งอนแล้ว"

โคลด์: /ปรายตา "เขาคงอยากเล่าเรื่องคนรักเก่าน่ะ" /ปัดมือมาลแกธ

ซิกฟรีด: (กัดฟันกรอดๆ)

ลูกต่ายสองตัวที่ดูท่าการสัมภาษณ์จะล่มปาดเหงื่อ

มาลแกธ: "น่า...อย่างไรเรื่องหลักก็มีข้ากับเจ้าเยอะแยะ"

ซิกฟรีดลุกพรวด!

ลูกต่ายสองตัวเด้งไปคนละทางจากการลุกพรวด!

ลูกต่ายขาว: "จากนี้อาจมีระเบิดลง ขอย้ายกล้องไปถ่ายทำคู่อื่นๆ นะฮะ!"

------------------------------------------------------------

ลูกต่ายขาว: "รายการของเราก็ย้ายมาอยู่กับพี่ชายเงาสังหารนะฮะ"

/ยื่นไมค์ ขนยุ่งเล็กน้อยจากการหนีตายเมื่อครู่

ลูกต่ายดำ: "ตอนพิเศษมีบทกับแมดส์ใช่ไหมฮะ"

กอห์นดีเอน: "ใช่ เป็นช่วงแรกๆ ที่แมดส์เกลียดข้า"

แมดส์: "มันขืนใจคนอื่น ไอ้เอลฟ์เลว" /หน้าดุ ขู่แฟ่ๆ

ลูกต่าย: "แต่ตอนนี้เป็นแฟนกันแล้วนี่ฮะ" /ดันๆ ไมค์

กอห์นดีเอน: "ข้าสำนึกผิด ข้าผิด ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง"

แมดส์: "เฮอะ ตอนทำไม่สำนึกเหอะ"

ลูกต่ายดำเอาอุ้งเท้าอุดกำเดา /จิ้นอยู่ฮะ

กอห์นดีเอน (ถอนใจ ลูบหัวแมดส์): "ข้าจะนวดให้หลังอาบน้ำ"

แมดส์: "เงียบไปเลยมึง"

ลูกต่ายขาวจินตนาการไปไกลแล้วฮะ อาบน้ำด้วยกันด้วยเหรอฮะ! /แฮ่กๆๆ

กอห์นดีเอน (ทำหน้าเมียดุจัง): "ไม่ให้นวดจริงๆ หรือ"

แมดส์: "กูบอกให้เงียบไง!" /หน้าแดงแป๊ด มึงออกสื่ออยู่นะ ไอ้เอลฟ์เวร นวดห่าไร!

ตูม! กำเดาลูกต่ายสองตัวระเบิดเป็นสายเหมือนลาวาภูเขาไฟ!

/แฮ่กๆๆ

ลูกต่ายขาว: "ก่อนต่ายดำจะเลือดหมดตัวนะฮะ เราข้ามไปสัมภาษณ์คู่ต่อไปกันนะฮะ"

/ต่ายขาวแปะป้ายที่หน้าผาก ‘เลือดจาง’

------------------------------------------------------------

ลูกต่ายขาว: "สวัสดีฮะ เราก็ย้ายมาคู่สุดท้ายนะฮะ นายน้อยขยันเอากับพี่เลี้ยงของเขา"

ลูกต่ายดำ: "ขยันอะไรนะฮะ!?"

/พรูด! ทาราเธียล: "เกินไป เกินไป"

ลูกต่ายขาว: "เอาแต่ใจฮะ คิดไรกันฮะ ขยันเอาแต่ใจฮะ" /คิกๆๆ

มอร์นเพนไอโขลกๆ อยู่ไกลๆ /ใครนินทา

ทาราเธียล: "จะสัมภาษณ์อะไรลูกต่าย ว่ามา ว่ามาเลย!"

ลูกต่ายขาว: "กับมอร์นเพนนี่เป็นเรื่องสมัยไหนฮะ" /ยื่นไมค์เปื้อนเลือดกำเดา

ลูกต่ายดำ: "ดีมั้ยฮะ ใครรุกใครรับฮะ!" ยื่นไมค์เลือดโชกเช่นกัน

ทาราเธียล (หันไปยิ้มเจ้าชู้ให้มอร์นเพน) : "สมัยยังอยู่แดนตะวันออก ตอนเจอกันใหม่ๆ มาลแกธผู้เป็นลุงข้าจ้างมอร์นเพนมาคุ้มกันข้า"

ลูกต่ายขาว: "โอ สัมภาษณ์คนนี้ดูมีเนื้อมีหนังดีนะฮะ ท่านผู้ชม"

ทาราเธียล: "ช่าย เนื้อแน่นๆ ดึ๋งดั๋ง"

พรวด! ต่ายสองตัวอุดกำเดาอีกรอบ

"แล้วมอร์นเพนหน้าตาเป็นยังไง ใครรุกใครรับฮะ" /ต่ายดำแกว่งไมค์

ทาราเธียล (จับมือมอร์นเพนที่ไม่ยอมพูดอะไร): "เจ้าดูไม่ออกรึว่าใครรุกใครรับ ส่วนหน้าตามอร์เพน...เขาให้ข้าชมคนเดียว ฉะนั้น พวกเจ้าอดดู"

มอร์นเพน : "นายน้อย ท่านคุยกับกระต่ายรู้เรื่องด้วย" /หิ้วหลังคอกระต่ายวี้ดว้ายสองตัวขึ้นมา ถูกอุ้งเท้าชนปุยปัดหน้ากากเลื่อน

/ลูกต่ายสองตัวนิ่งพร้อมกันเมื่อได้เห็นหน้ามอร์นเพนแวบหนึ่ง

“โอววววว” /ตาวิบวับ

ทาราเธียลเอามือเลื่อนหน้ากากคืนที่เดิม: "ไม่ได้ๆ ห้ามดูๆ"

ลูกต่ายสองตัวชูป้าย 'ขี้หวง!' ประท้วง

ทาราเธียล (ฉีกยิ้ม): "แน่นอน ข้าหวง"

ป้ายเพิ่มขึ้น 'ขี้หวง' 'ขี้หวง' 'ขี้เอา'

ลูกต่ายขาว: "โอ๊ะ! ดูทางนั้นระเบิดจะสงบแล้วนะฮะ"

/มองไปทางโคลด์ที่รั้งซิกฟรีดสำเร็จ

โคลด์รั้งซิกฟรีดจนหูลู่ /แรงเยอะจริง

ซิกฟรีดกลับมานั่งโซฟาแบบจำยอม มีโคลด์นั่งข้างๆ กันมาลแกธไว้อีกทาง

โคลด์: "ทำไมรายการนี้จัดโซฟามาตัวเดียว"

ลูกต่ายดำทำหน้าเอียงอาย ก็แหม.../ซ่อนป้ายแฟนคลับราชา

มาลแกธ: "ถามมาได้เลย"

ลูกต่ายขาวชูป้ายแฟนคลับท่านมาลแกธ!

ลูกต่ายดำ: "ได้ข่าวว่านอกจากตอนพิเศษในเล่มหลักแล้ว ยังมีเล่มพิเศษ AU ใช่ไหมฮะ"

ลูกต่ายขาว: "AU นี้เป็นแนวไหนฮะ" /ตื่นเต้นๆ

มาลแกธ: "AU ก็คือ Another Universe หรือจักรวาลอื่น เป็นจักรวาลที่ฉันทำอาชีพทวงหนี้...ประมาณนั้น โคลด์เป็นพนักงานเสิร์ฟในบาร์ ส่วนซิกฟรีดเป็นเด็กรวย"

ลูกต่ายดำ: "แล้วเป็นโลกปัจจุบันเหรอฮะ แค่ทุกคนเป็นเอลฟ์กับดาร์กเอลฟ์"

ซิกฟรีด: "ใช่ โลกปัจจุบัน ทุกคนเป็นเอลฟ์ ดาร์กเอลฟ์ มนุษยก็มี แต่ไม่มีพลังเหนือมนุษย์ ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ"

โคลด์: "ว่าแต่นายทวงหนี้ฉันเหรอ มาลแกธ" /อ่านบทที่เขียนว่า 'โคลด์จนๆ'

มาลแกธ: "แรกๆ ก็ทวง หลังๆ ข้าเป็นหนี้รักเจ้า"

โคลด์ : /ทำหน้าแบล้ง "กล้าพูดได้ไง" /มองความเลี่ยนของมาลแกธ

ซิกฟรีดขบกรามกรอดๆ

ลูกต่ายดำ: "แล้วจะรักกันชุลมุนวุ่นวายไหมฮะ"

ซิกฟรีด: "ข้าไม่ยอมหรอก"

มาลแกธ: "ข้าก็ไม่ยอมหรอก ราชา"

/มีสายฟ้าปะทะกันระหว่างสายตา

โคลด์: "ไม่นะ บทนี้เขียนว่าลงเอยกับ..." /มัวแต่อ่านบท ไม่ได้สังเกตว่าซิกฟรีดเล่นจ้องตากับมาลแกธ : "อืม...ลงเอยกับ...."

ลูกต่ายสองตัว: "ถ้าอยากรู้ว่าจะฟินแค่ไหนก็ต้องซื้ออ่านไงละฮะ!"

/ลูกต่ายชูป้าย 'Hard Sale' บังคำพูดสุดท้ายของโคลด์

ลูกต่ายดำชูป้าย 'ซิกฟรีด!'

ลูกต่ายขาวชูป้าย 'มาลแกธ!'

แล้วต่อจากระเบิดลงก็เป็นสายฟ้าฟาดใส่ลูกต่ายสองตัว มีดาร์กเอลฟ์หน้ามึนนั่งอ่านบทกลางฉาก

เอวังด้วยประการฉะนี้

ลูกต่ายสองตัว: “อย่าลืมอุดหนุนให้ค่าขนมลูกต่ายด้วยนะฮะ!” /ชี้ป้ายลูกศรไปทาง Link จอง

------------------------------------------------------------

ลูกต่ายขายของ: “นอกจากนี้ยังมีจดหมายพิเศษจากตัวละครสำหรับผู้ซื้อ Set 2 ด้วยนะฮะ ซื้อโปสการ์ด 1 Set 4 ใบ ได้จดหมาย 1 ฉบับแบบสุ่มฮะ!”

ลูกต่าขาว: "จดหมายเกี่ยวกับอะไรฮะ" /ยื่นไมค์ให้ผู้มีภาพประกอบ

อิลมาเร: "เอ๋ๆๆ ข้ามีภาพด้วยเหรอเจ้าคะ! ดีใจจัง จะเล่าเรื่องสมัยข้าเป็นคู่หูกับโคลด์ใหม่ๆ ให้ฟังนะเจ้าคะ! รับรองว่าเด็ด! มีคนมาจีบเขาเยอะแยะเลยเจ้าค่ะ!"

มาลแกธ: "ข้าจะเล่าอะไรดี อืม...เป็นเรื่องข้ากับโคลด์สมัยอยู่อาศรมแล้วกัน ข้าสอนอาวุธเขา สอนปรุงยาด้วย"

“สอนอย่างอื่นด้วยสิฮะ” /ลูกต่ายเรียกร้อง

เกวนโดลิน: "ขอบคุณที่เลือกให้มีภาพประกอบนะเจ้าคะ อิลมาเรเล่าเรื่องโคลด์ไปแล้ว ข้าอยู่รังมังกรก็ไม่ค่อยได้ไปไหน จะเล่าเรื่องตอนเลี้ยงรากาลใหม่ๆ แล้วกันเจ้าค่ะ"

"แล้วราชามังกรล่ะฮะ" /ลูกต่ายยื่นไมค์แบบเหนียมอาย คนหล่อเยอะจัง

เอเลียต: "เราจะเล่าเรื่องตอนที่พบเกวนโดลินใหม่ๆ เราเกี้ยวนางอยู่หลายครั้ง"

เกวนโดลินหน้าแดงฉ่า

ลูกต่ายสองตัวพร้อมใจกันหวีดร้อง "อยากได้จดหมายยย!!!!!!!"

ลูกต่ายยกป้าย ‘เอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ!’ ‘จะพลาดได้ไง!’

“ซื้อเลยฮะ!” /ลูกต่ายดำเชียร์

“เย้ๆๆๆ เอาๆๆๆ วันนี้รายการของเราต้องขอลาไปก่อนนะฮะ!”


—————————————————————————

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-06-2017 07:50:32
เหมือนคาลิเธียล จะเป็นหมากชี้ชะตาสงคราม
ระหว่างริวอร์นอร์ กับซิกฟรีดนะ

พรสวรรค์ที่คาลิเธียลได้มา  จากมารดานภา
ไม่ใช่พอเปิดตาที่บอดจะมีไฟแสงระเบิดทำลายล้างนะ ถ้าใช่นะ ....ซู้ดยอดดดดด
อ้าวๆ.....นึกว่าคาลิเธียลแค่ไม่ชอบเอริแอดเน่
แสดงว่าคาลิเธียล เห็นรูปลักษณ์ที่อัปลักษณ์ภายในของเอริแอดเน่ ตั้งแต่แรกๆแล้ว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-06-2017 11:53:15
งุ้ยๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 28-06-2017 13:46:24
โอ.....โคลด์ เด็ดมาก สุดยอดดดดด  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ไม่ใช่แต่ริวอร์นอร์ ที่เจ้าเล่ห์ เพทุบาย โกหกปลิ้นปล้อนได้คนเดียว

หมากของโคลด์ ไม่เบา ทั้งยกฐานะตัวเอง
ทั้งประกาศฐานะจริงของตัวเองต่อหน้าเผ่าต่างๆของดาร์กเอลฟ์ ฮู้เล่ๆๆๆๆๆ
ทั้งเอารูปสัญลักษณ์ ที่เคยวาดบนหน้าท้องเอริแอดเน่มาใช้
ตบหน้าเอริแอดเน่อีก เยี่ยมมมมไปเลย  :z6: :z6: :z6:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
จริงๆ เรื่องเอรี่โคลด์ไม่อยากทำนะคะ เขาเห็นใจ ;w;
เพราะมีพี่สาวด้วย เป็นเรื่องที่สุภาพบุรุษไม่ควรทำ /แต่ฆ่าเอรี่ได้...อืม...

:pig4: :pig4:
:mew1:

ตีกันให้ตายไปข้าง ตัวเอกต้องอยู่ครบ ใสๆ
กำลังคิดว่าเราควรเหมือนลุงมาร์ตินแห่ง Game of thrones เพราะตัวละครเริ่มเยอะแล้ว
แต่อีกใจก็...ชอบพวกเขา ฮือ

เฉียบ คม ชัด ตัดขาด ประกาศสงครามกันแล้ว  :z6: :z6: :z6:

เอริแอดเน่ ช้ำแค้นซิก ที่เอาความลับไปเปิดเผยกับดาร์กโคลด์
แต่ที่นางคืนชีพริวอร์นอร์ มันก็ไม่เห็นจะดีต่อซิกนี่

มันจะเป็นสงครามสามเส้า หรือสองเส้ากันนะ
คงอยู่ที่ราชาทมิฬเลือกข้างแล้วละ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
มันเป็นเลเยอร์ทางอารมณ์ที่ซับซ้อนจริงๆ ค่ะ บางทีก็อยากเขียนเรื่องที่ขาวไปเลย กับดำไปเลยให้เข้าใจง่ายๆ
แต่รู้ตัวอีกทีก็เขียนแบบซับซ้อนซะแล้วค่ะ ฮือออออออออ

:pig4: :pig4:
:katai2-1: :katai2-1:

ให้เป็นคนรักไม่ได้ แต่ก็รักเขามากใช่มะโคลด์
ฮือออออออออออออ แทงใจดำจังเลยค่ะ แง

:jul1:
อิอิ ว่ายเลือกกำเดากัน

:pig4:
:hao5: :hao5:

อะหือ เศร้าจาย

แต่ในที่สุดตัวละครลับก็ออกมาอีกคนแล้ว

พี่ท่านรู้เรื่องทั้งหมดหรือเปล่านะ

 :mew1:
เฉลยแล้วจ้าว่าหญิงสามเป็นยังไง

ยังไงก็มีความผูกพัน ตัดไม่ขาด แม้เหมือนเป็นศัตรูกัน
พี่หญิง เจ้าชายน้อย  :mew1: :mew1: :mew1:

ขำ ตอนมาลแกธ แนะนำโคลด์ ว่าเป็นคนรักกับคาริม
มาลแกธ ยิ้มซะปากกว้างถึงหูเลยมั้ง  :hao3:

โคลด์ ยั่วมาลแกธ ก็ทันทีสิ
มาลแกธ พร้อมยิ่งกว่าพร้อม ขึ้นทันที
บอกรักโคลด์ด้วยร่างกายซะมากกว่าสองรอบที่ขอแน่ๆ /ฮึ่ยยยย...มาลแกธไม่รักษาคำพูดอ่ะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
พี่หญิงกับเจ้าชายน้อยน่ารักนะคะ ระหว่างซฺกฟรีดกับเอริแอดเน่ก็คงรักกันดีถ้าไม่มีโคลด์^^;
ส่วนมาลแกธ อยากให้อภัยที่ไม่รักษาคำพูดจัง อิอิอิ

ราชาผู้มีเป้าหมายยิ่งใหญ่และคลั่งรัก

เอาฉันทำชันยาเรือเลยเถอะ ไม่มีทางปันใจจากเรือราชาเด็ดขาด!

ป๋ามาล ป๋าล่อลวงเด็ก นุ้งโคลด์อายุแค่หนึ่งในสิบของป๋าเอง หักโหมระวังหลังยอกนะ
ขอบคุณที่รักและเอ็นดูซิกฟรีดนะคะ มาเป็นกำลังใจให้เขากันนะคะ แงงงงง
ขำหลังยอกค่ะ ป๋าบอกยอกก็ยอมนะคะ 555
ป๋าคงตอบเหมือนเดิมว่า "ข้ารักเขา และเขาก็น่ารัก"

เหมือนคาลิเธียล จะเป็นหมากชี้ชะตาสงคราม
ระหว่างริวอร์นอร์ กับซิกฟรีดนะ

พรสวรรค์ที่คาลิเธียลได้มา  จากมารดานภา
ไม่ใช่พอเปิดตาที่บอดจะมีไฟแสงระเบิดทำลายล้างนะ ถ้าใช่นะ ....ซู้ดยอดดดดด
อ้าวๆ.....นึกว่าคาลิเธียลแค่ไม่ชอบเอริแอดเน่
แสดงว่าคาลิเธียล เห็นรูปลักษณ์ที่อัปลักษณ์ภายในของเอริแอดเน่ ตั้งแต่แรกๆแล้ว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
รอดูกันไปนะคะ จริงๆ แล้วอีกคนที่คาลิเธียลคิดถึงบ่อยๆ แต่ไม่ยอมรับก็เอริแอดเน่นี่ละค่ะ *0*

งุ้ยๆ
ที่รัก ติดตามกันขนาดนี้ ชวนมาเปย์นะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-06-2017 17:42:25
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-06-2017 22:05:50
โอ้โห มันซับซ้อนยิ่งกว่าหัวผักกาดอีก

#ปรุงน้ำสุกี้รอบนเรือราชา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 29-06-2017 18:47:54
:pig4: :pig4: :pig4:

โอ้โห มันซับซ้อนยิ่งกว่าหัวผักกาดอีก

#ปรุงน้ำสุกี้รอบนเรือราชา
กินด้วยค่ะ ขอสุกี้แห้ง แซ่บๆ ใส่ปลาหมึกกรอบ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 30-06-2017 08:34:34
คนแก่สับสนมาก มันซับซ้อนเหลือเกิน   :katai5:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 30-06-2017 12:15:49
คนแก่สับสนมาก มันซับซ้อนเหลือเกิน   :katai5:
รักนะคะ บีบนวด คลายเส้นเวียนหัว
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 03-07-2017 19:10:31
ภาษาและเนื้อเรื่อง เขียนได้ดีมาก
เสียดายที่จะลงไม่จบแบบนี้
ซึ่งผิดข้อตกลงของเล้า

วานผู้เขียนเห็นใจ ผู้อ่านช่วยลงให้จบด้วยนะครับ

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 03-07-2017 21:11:12
ภาษาและเนื้อเรื่อง เขียนได้ดีมาก
เสียดายที่จะลงไม่จบแบบนี้
ซึ่งผิดข้อตกลงของเล้า

วานผู้เขียนเห็นใจ ผู้อ่านช่วยลงให้จบด้วยนะครับ

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

สวัสดีค่ะ นิยายเรื่องนี้ลงจบแล้ว มั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎใดๆ ข้างต้น
และได้ส่งข้อความไปหาผู้ดูแลแล้ว ขอความกรุณาด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 03-07-2017 21:59:24
ภาษาและเนื้อเรื่อง เขียนได้ดีมาก
เสียดายที่จะลงไม่จบแบบนี้
ซึ่งผิดข้อตกลงของเล้า

วานผู้เขียนเห็นใจ ผู้อ่านช่วยลงให้จบด้วยนะครับ

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

สวัสดีค่ะ นิยายเรื่องนี้ลงจบแล้ว มั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎใดๆ ข้างต้น
และได้ส่งข้อความไปหาผู้ดูแลแล้ว ขอความกรุณาด้วยค่ะ

ขอชี้แจงเรื่องกฏซื้อขายนะคะ ว่า ถ้าต้องการประกาศขาย คือ ทุกคนต้องมี ID ซื้อขาย และ อนุโลมให้ประกาศขึ้นหัวกระทู้ ตามที่ในกฏแจ้งไว้  แต่ก็มีหลายคนและนักเขียนก็อาจจะตีความหมายของกฏ ผิดไป ว่า ไม่มี ID ซื้อขาย  ก็ประกาศในทู้ก็ได้ ไม่ต้องขึ้นหัวกระทู้ ซึ่งอันนี้คือ ผิดค่ะ

หวังว่าจะเข้าใจนะคะ ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็สอบถามมาได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 03-07-2017 22:33:44
ภาษาและเนื้อเรื่อง เขียนได้ดีมาก
เสียดายที่จะลงไม่จบแบบนี้
ซึ่งผิดข้อตกลงของเล้า

วานผู้เขียนเห็นใจ ผู้อ่านช่วยลงให้จบด้วยนะครับ

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

สวัสดีค่ะ นิยายเรื่องนี้ลงจบแล้ว มั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎใดๆ ข้างต้น
และได้ส่งข้อความไปหาผู้ดูแลแล้ว ขอความกรุณาด้วยค่ะ

ขอชี้แจงเรื่องกฏซื้อขายนะคะ ว่า ถ้าต้องการประกาศขาย คือ ทุกคนต้องมี ID ซื้อขาย และ อนุโลมให้ประกาศขึ้นหัวกระทู้ ตามที่ในกฏแจ้งไว้  แต่ก็มีหลายคนและนักเขียนก็อาจจะตีความหมายของกฏ ผิดไป ว่า ไม่มี ID ซื้อขาย  ก็ประกาศในทู้ก็ได้ ไม่ต้องขึ้นหัวกระทู้ ซึ่งอันนี้คือ ผิดค่ะ

หวังว่าจะเข้าใจนะคะ ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็สอบถามมาได้ค่ะ

สวัสดีค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ เรื่อง ID ซื้อขายเราพลาดเอง ต้องขอโทษด้วยค่ะ
เราเข้าใจผิดอย่างที่แอดมินบอกจริงๆ จะสมัคร ID ให้ถูกต้องนะคะ ขอบคุณที่ชี้แจงค่ะ  :mew4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 04-07-2017 06:22:32
ขอบคุณนักเขียนด้วยที่เข้าใจนโยบายเล้าเป็ด ซึ่งเป็นที่ๆรวมตัวกันของนักเขียน นักอ่านที่ชื่นชอนนิยาย เรื่องเล่า ให้อ่านกันฟรีๆ
ซึ่งจะมีภาคต่อๆไปให้ได้ตามอ่านกัน จนกว่าปมจะคลี่คลาย บางภาคที่เป็น nc จะมีลิงค์ให้ออกไปอ่าน เผื่อมีเพื่อนๆอยากรู้เรื่องในส่วนนั้น
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ END [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 04-07-2017 19:46:13
ขอบคุณนักเขียนด้วยที่เข้าใจนโยบายเล้าเป็ด ซึ่งเป็นที่ๆรวมตัวกันของนักเขียน นักอ่านที่ชื่นชอนนิยาย เรื่องเล่า ให้อ่านกันฟรีๆ
ซึ่งจะมีภาคต่อๆไปให้ได้ตามอ่านกัน จนกว่าปมจะคลี่คลาย บางภาคที่เป็น nc จะมีลิงค์ให้ออกไปอ่าน เผื่อมีเพื่อนๆอยากรู้เรื่องในส่วนนั้น

รับทราบค่ะ เดี๋ยวแก้ไขให้นะคะ ขอบคุณที่ช่วยเหลือค่ะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ จบภาค 1 ♰ [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: awfsp ที่ 05-07-2017 10:43:59
สนุกมาก หาอ่านยากนะแนวแบบนี่
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ จบภาค 1 ♰ [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 05-07-2017 18:17:54
สนุกมาก หาอ่านยากนะแนวแบบนี่
ขอบคุณค่า  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ จบภาค 1 ♰ [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 05-07-2017 22:11:46
สนุกมากค่ะ
อยากอ่านภาคสุดท้ายเร็วๆแล้ว
หญิงสามที่กลับมากับสงครามที่จะเกิด
อยากรู้ว่าทางตะวันออกจะเป็นยังไง
โคล์ดหรือฮีมเดียร์จะโตไปแบบไหน
อยากอ่านเร็วๆจัง จะรอนะคะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ จบภาค 1 ♰ [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 06-07-2017 17:45:14
สนุกมากค่ะ
อยากอ่านภาคสุดท้ายเร็วๆแล้ว
หญิงสามที่กลับมากับสงครามที่จะเกิด
อยากรู้ว่าทางตะวันออกจะเป็นยังไง
โคล์ดหรือฮีมเดียร์จะโตไปแบบไหน
อยากอ่านเร็วๆจัง จะรอนะคะ
ดีใจที่ชอบนะคะ ภาค 3 รอหน่อยนึงค่ะ ตอนนี้กำลังปั่นภาค 1 ให้เป็นหนังสือกันอยู่  :mew1:
เนื้อหาภาคใหม่เป็นเรื่องที่ท้าทายแล้วก็น่าสนุก อยากเขียนไวๆ เหมือนกันค่ะ (แต่โดนงานทับ ;w;)
แต่ถ้าว่างแล้วอาจมีตอนพิเศษเขียนเล่นมาลงให้หายคิดถึงค่ะ ;)
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ จบภาค 1 ♰ แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 10-07-2017 23:16:20
Behind the Scene (1) : ราชาเอลฟ์ซิกฟรีด


ช่วง Behind the Scene นักเขียนสองคนจะผลัดกันมาเล่าเบื้องหลังการเขียนนิยายเรื่องนี้

แวะมาอ่านเพื่อคลายความคิดถึงตัวละครกันค่ะ!

Elven Almanac – ภาคพันธนาการรักราชาเอลฟ์

ราชาเอลฟ์ : ซิกฟรีด

(https://k.lnwfile.com/jnej2h.jpg)

เบื้องหลังการถ่ายทำเอลฟ์วันนี้ขอเสนอ 'ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์'

เริ่มแรกที่จะเขียนเอลฟ์ เราจองเป็นเมะ... (555) ตัวละครตัวแรกจึงเป็นตัวหลักอย่างกษัตริย์ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เอลฟ์คือซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ โดย 'ซิกฟรีด' เป็นชื่อต้น 'อาเลธ' เป็นชื่อกลางซึ่งเรียกกันในครอบครัวและหมู่คนสนิท ส่วน 'รูเมเรียร์' เป็นชื่อสกุล (ที่เป็นชื่ออาณาจักรอีกที)

ซิกฟรีดเป็นตัวละครที่เขียนยาก เขามีบุคลิกซับซ้อนที่โดยมากไม่ได้เกิดจากตัวเขาเอง แต่เกิดจากสังคมรอบข้างคาดหวังให้เขาเป็น เช่น เป็นน้องชายที่ดี เป็นสามีที่ดี เป็นราชาที่ดี (หรือบางครั้ง ก็อยากให้เป็นราชาที่ชั่วบ้างอะไรบ้าง...) และเขาก็ไหลเลื่อนไปตามกระแสนั้นจนมองไม่เห็นตัวเอง

เราลอง 'เข้าสิง' ซิกฟรีด ลองจินตนาการว่า ถ้าเราเป็นเจ้าชายจะเป็นอย่างไร สุดท้ายเราก็ยึดจับอารมณ์ 'วัยรุ่นในกรงทอง' (อืม น้ำเน่านิดๆ) มาตีแผ่เป็นตัวละครตัวนี้ ซิกฟรีดเป็นวัยรุ่นที่ไม่ได้ใช้ความเป็นวัยรุ่นของตัวเองมากนัก ไม่สามารถโหวกเหวก มุทะลุ หรือกระทำการ 'สุดๆ' ได้มากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่คาดหวังให้เขาเป็นเจ้าชายที่ 'สง่างาม' แบบพี่ชายทั้งสองคน ลงท้ายเลยเก็บกด และมาลงเอากับโคลด์ สตาร์--เพื่อน ทาส และคนรักที่เขาไม่ต้องวางมาดด้วย

ความคาดหวังพุ่งสูงขึ้นเมื่อซิกฟรีดขึ้นเป็นกษัตริย์ เป็นไม่พอ...ยังเป็นกษัตริย์อายุน้อยอีกต่างหาก ประสบการณ์อ่อนด้อย ตามเล่ห์กลคนอื่นทันบ้างไม่ทันบ้าง แต่ก็ต้องคีพคูล เพราะมีมงกุฏสวมหัว มีอาณาจักรให้ปกครอง เครื่องดื่มที่ซิกฟรีดมักซดก่อนนอนจึงเป็นน้ำจัณฑ์...หรือเรียกง่ายๆ ว่าเหล้า ให้ตัวเองผ่อนคลายและหลับสนิท

สิ่งที่เล่ามาเป็นเพียง 'เสี้ยวหนึ่ง' ของซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ ยังมีอีกหลายมุมหลากมิติที่ประกอบกันเป็นกษัตริย์หนุ่มคนนี้ เราออกแบบซิกฟรีดมาเพื่อให้ 'เติบโต' และหวังว่าจะส่งไปถึงนีกอ่านที่กำลังเจ็บปวดกับการเติบโตเช่นกัน

รัก

ภวิลผู้ติดฝน

 

ป.ล. เปิดจองแล้วนะครับ หากต้องการข้อมูลเพิ่ม ถามในอินบ็อกซ์แชทเพจ FOULSOUL ได้นะ :-)

หรือคลิกที่นี่: http://bit.ly/ELF1120 (http://bit.ly/ELF1120)


—————————————————————————

A/N คุณ FOULSOUL มาแนะนำราชาค่ะ ;)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ จบภาค 1 ♰ [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 11-07-2017 10:01:03
สนุกมากค่ะ
อยากอ่านภาคสุดท้ายเร็วๆแล้ว
หญิงสามที่กลับมากับสงครามที่จะเกิด
อยากรู้ว่าทางตะวันออกจะเป็นยังไง
โคล์ดหรือฮีมเดียร์จะโตไปแบบไหน
อยากอ่านเร็วๆจัง จะรอนะคะ

ดีใจที่ชอบนะคะ ภาค 3 รอหน่อยนึงค่ะ ตอนนี้กำลังปั่นภาค 1 ให้เป็นหนังสือกันอยู่  :mew1:
เนื้อหาภาคใหม่เป็นเรื่องที่ท้าทายแล้วก็น่าสนุก อยากเขียนไวๆ เหมือนกันค่ะ (แต่โดนงานทับ ;w;)
แต่ถ้าว่างแล้วอาจมีตอนพิเศษเขียนเล่นมาลงให้หายคิดถึงค่ะ ;)


นานยังไงก็จะรออ่านนะคะ
แค่ยังระลึกถึงแล้ว
มาจ่ายค่าความคิดถึงเป็นตอนพิเศษก็โอเคค่ะ
ตอนนี้ยังเลือกเรือไม่ได้ 5555
เรือไหนก็สำคัญกับโคล์ดทั้งนั้น
เลยรอลุ้นภาค 3 นี่ละคะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ จบภาค 1 ♰ [28/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 11-07-2017 19:15:51
สนุกมากค่ะ
อยากอ่านภาคสุดท้ายเร็วๆแล้ว
หญิงสามที่กลับมากับสงครามที่จะเกิด
อยากรู้ว่าทางตะวันออกจะเป็นยังไง
โคล์ดหรือฮีมเดียร์จะโตไปแบบไหน
อยากอ่านเร็วๆจัง จะรอนะคะ

ดีใจที่ชอบนะคะ ภาค 3 รอหน่อยนึงค่ะ ตอนนี้กำลังปั่นภาค 1 ให้เป็นหนังสือกันอยู่  :mew1:
เนื้อหาภาคใหม่เป็นเรื่องที่ท้าทายแล้วก็น่าสนุก อยากเขียนไวๆ เหมือนกันค่ะ (แต่โดนงานทับ ;w;)
แต่ถ้าว่างแล้วอาจมีตอนพิเศษเขียนเล่นมาลงให้หายคิดถึงค่ะ ;)


นานยังไงก็จะรออ่านนะคะ
แค่ยังระลึกถึงแล้ว
มาจ่ายค่าความคิดถึงเป็นตอนพิเศษก็โอเคค่ะ
ตอนนี้ยังเลือกเรือไม่ได้ 5555
เรือไหนก็สำคัญกับโคล์ดทั้งนั้น
เลยรอลุ้นภาค 3 นี่ละคะ

มีตอนพิเศษไม่เป็นทางการให้อ่านได้ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/groups/ElvenAlmanac/ (https://www.facebook.com/groups/ElvenAlmanac/)
เราเอาไปไว้ที่นั่นเพราะมันเป็นตอนทดลองเขียน บางอันไม่ได้ใช้งานจริง
ถ้าเอามาไว้กับเรื่องจริงกลัวจะสับสน เลยเปิดห้องแยกไว้ค่ะ
หากสนใจ สามารถสมัครเข้ากลุ่มมาอ่านได้เลยจ้า

พูดถึงภาค 3 เราก็อยากเห็นเหมือนกันค่ะว่าโคลด์จะเติบโตไปในทางไหน
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ Making มาลแกธ :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 11-07-2017 19:20:27
Behind the Scene (2) : เอลฟ์นักรบและนักรักแห่งแดนตะวันออก มาลแกธ ล็องธู


Elven Almanac – ภาคพันธนาการรักราชาเอลฟ์

เอลฟ์นักรบและนักรักแห่งแดนตะวันออก มาลแกธ ล็องธู

โดย FOULSOUL

(https://k.lnwfile.com/ulb1ek.jpg)

'มาลแกธ ล็องธู'

นอกจากรับบทเป็นราชาซิกฟรีดแล้ว เรายังรับบทเป็นคู่ปรับหัวใจอย่างมาลแกธ ล็องธูด้วย

สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน มาลแกธ ล็องธูเป็นองครักษ์มือขวาในราชาซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ แต่มันซับซ้อนกว่านั้นตรงที่ เขาไม่ใช่เอลฟ์ในแผ่นดินรูเมเรียร์ แต่เป็นเอลฟ์ในแดนตะวันออก

อะ เท้าความโลกของเอลฟ์ในนวนิยาย Elven Almanac สักนิด โลกใบนี้แบ่งเป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ คือ

1. อาณาจักรรูเมเรียร์ (อยู่กลางแผนที่ กินอาณาบริเวณไปทางเหนือ)

2. อาณาจักรอิซิลดาร์ (อยู่ทางใต้ของรูเมเรียร์ ค่อนไปทางตะวันตก)

3. แดนทมิฬ (อยู่ทางตะวันตกของรูเมเรียร์ ชายแดนส่วนใหญ่ติดอิซิลดาร์)

4. แดนตะวันออก

แดนตะวันออกจะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของรูเมเรียร์ มีภูมิประเทศเป็นเกาะในมหาสมุทร ไม่มีส่วนใดติดต่อกับแผ่นดินรูเมเรียร์ มีความเชื่อแตกต่างกับคนแผ่นดินใหญ่โดย (เกือบ) สิ้นเชิง และมีประเพณีและวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง การปกครองแบ่งเป็นตระกูล ซึ่งหนึ่งในตระกูลใหญ่ได้แก่ 'ล็องธู'

ถูกต้อง มาลแกธ ล็องธูมาจากตระกูลใหญ่

ใช่ มาลแกธ ล็องธูเคยเป็นผู้นำตระกูลมาก่อน

แล้วทำไมอดีตผู้นำตระกูลล็องธูถึงเดินทางมายังรูเมเรียร์และยอมเป็นข้ารับใช้ราชาที่อายุน้อยที่สุดล่ะ

คำตอบคือเพราะการเมือง

(แต่ไม่เฉลยน้า ติดตามได้ในเล่ม)

มาลแกธ ล็องธูเป็นตัวละครที่เราออกแบบให้ซับซ้อนน้อยกว่าซิกฟรีด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาเป็นเอลฟ์ตะวันออก มีคำกล่าวในหมู่เอลฟ์แผ่นดินใหญ่ ว่าเอลฟ์ตะวันออกเป็น 'พวกป่าเถื่อน' ซึ่งก็จริง...เอลฟ์จากแดนตะวันออกชอบทำสงคราม ว่างๆ ก็ไปตีตระกูลอื่น หรือไม่ก็ท้าดวล เชื่อกันว่าการตายในสนามรบหรือสนามประลองถือเป็นเกียรติสูงสุด สำหรับตระกูลล็องธูส่วนใหญ่จะมีนิสัยมุทะลุ เลือดเดือด ชอบความสนุกสนาน เจ้าชู้ ฯลฯ

ทั้งหมดที่ว่าทั้งหมดนี้...มาลแกธ ล็องธู = ตัวพ่อเลยจ้ะ

เป็นทั้งนักรักและนักรบเลยจ้ะ.........

เราให้มาลแกธมาเป็นตัวผ่อนคลาย เป็นที่พึ่งให้โคลด์ สตาร์ (และซิกฟรีดในบางครั้ง) การเขียนมาลแกธทำให้เราปล่อยวาง เพราะเขาผ่านโลกมาเยอะจนค่อนข้างนิ่ง ไม่อาลัยอดีต มองตรงไปยังอนาคต และไม่เสียใจกับการกระทำใดๆ ในปัจจุบัน มาลแกธเป็นคนที่ใช้ชีวิตแบบคุ้มค่า ไม่เกรงกลัว เราเรียนรู้จากเขาเยอะทีเดียว :-)

เราหวังว่านอกจากความสนุกสนาน ผู้อ่านจะได้รับการปลอบโยนจากมาลแกธ ล็องธู

"จงเชื่อในตัวเอง...ที่รัก"


—————————————————————————

A/N ภาพวาดโดย Enfer De Hell และเป็นหนึ่งในภาพโปสการ์ดค่ะ ติดตามภาพต่อไปได้เร็วๆ นี้จ้ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ Making มาลแกธ :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 20-07-2017 12:08:04
Behind the Scene (3) : ทาสและนักฆ่าดาร์กเอลฟ์ โคลด์ สตาร์


Elven Almanac – ภาคพันธนาการรักราชาเอลฟ์

ทาสและนักฆ่าดาร์กเอลฟ์ โคลด์ สตาร์

โดย ILLREI

(https://k.lnwfile.com/oa694d.jpg)

โคลด์ สตาร์

แนะนำพระเอก 2 คนไปแล้ว วันนี้มาแนะนำโคลด์ สตาร์ นายเอกของเรื่องบ้างค่ะ

โคลด์ สตาร์ เป็นดาร์กเอลฟ์ เกิดขึ้นมาเพราะเราอยากอ่านนิยายวายที่เอลฟ์กดดาร์กเอลฟ์...

คือแบบว่า ดาร์กเอลฟ์ (หนุ่ม) ส่วนมากในนิยายแฟนตาซีจะดิบๆ เถื่อนๆ ออกมาทีก็เหมือนจะมากดเอลฟ์ (หนุ่ม)

เราก็อยากอ่านแบบเอลฟ์หล่อๆ ดุๆ เย็นชาๆ ร้ายกาจ etc. กดดาร์กเอลฟ์บ้างอะ ;w;

ชื่อโคลด์ สตาร์แปลว่าดวงดาวเย็นชา ตอนตั้งชื่อเราคิดว่าต้องการชื่อที่อ่านง่าย จำง่าย Simple ที่สุด แต่ก็ดูน่ารักด้วย

คิดไปคิดมาหลายตลบก็เอาชื่อ Cold (หนาวเย็น) ออกจากหัวไม่ได้ และมันก็พ้องเสียงกับ Coal ที่แปลว่าถ่านหินด้วย

งั้นก็ใช่เลย! เอาชื่อนี้เลย! ดาร์กเอลฟ์ดำๆ น่ารักดีอะ /โคลด์อย่าตีเค้า

โคลด์เป็นตัวละครที่มีอดีตซับซ้อน สมัยเด็ก เขาเป็นเด็กน้อยเย็นชาที่ถูกเลี้ยงมาให้อ่อนโยน

แต่พออ่อนโยนแล้วก็ถูกเปลี่ยนมือคนเลี้ยง ทำให้กลับไปเย็นชาอีกครั้ง

ทำให้บุคลิกของเขาก้ำกึ่งระหว่างความเย็นชากับความอ่อนโยน (และมึนในบางครั้ง)

โคลด์มีอาชีพนักฆ่า ชีวิตของเขาดำเนินไปพร้อมกับมีเป้าหมายสำคัญคือการตามหาสตรีดาร์กเอลฟ์นาม 'เกวนโดลิน'

(สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่าน เกวนโดลินถูกแนะนำตอนต้นเรื่องว่าเป็นคนรักของโคลด์ / สำหรับคนที่อ่านแล้ว จุ๊ๆ ไม่สปอยเนอะ)

และจะด้วยนรก (คนเขียน 1) ชังหรือสวรรค์ (คนเขียน 2) แกล้งก็ไม่ทราบ ซิกฟรีดกับมาลแกธขวางทางโคลด์อยู่

แผนการมากมายจึงถูกงัดขึ้นมารับมือเอลฟ์หนุ่มทั้งสอง

โคลด์เชื่อว่า ซิกฟรีดใช้เขาต่างทาส ทั้งทาสรับใช้และทาสบำเรอบนเตียง

ส่วนมาลแกธเป็นเอลฟ์เจ้าเล่ห์ที่ไว้ใจไม่ได้

โคลด์เกลียดเอลฟ์ ความเกลียดนี้มาจากความต่างทางเผ่าพันธุ์ สีผิว และความเชื่อ

ซึ่งปมเหล่านี้สะท้อนจากการแบ่งแยกในโลกความจริงของเราด้วย

(เวลาเขียนดาร์กเอลฟ์ เราจะบิ้วด้วยหนังแนวทาสผิวสีค่ะ

แนะนำเพลงโปรดของเรา - Glory - https://www.youtube.com/watch?v=HEFRPLM0nEA (https://www.youtube.com/watch?v=HEFRPLM0nEA) )

ระหว่างดำเนินเรื่อง คุณจะได้พบการแบ่งแยกมากมายสอดแทรกอยู่เป็นระยะ

ไม่มากจนชัดเจนและกลบความเป็นนิยายรัก แฟนตาซีผจญภัย

แต่นอกจากความสนุกสนานและความลุ้น (พระเอก) แล้ว

เรายังหวังให้ผู้อ่านรู้สึกแบ่งแยกน้อยลง

 

ขอให้นิยายเรื่องนี้เป็นประโยชน์แก่ความรู้สึกของคุณ

ไม่มากก็น้อยค่ะ

รัก

ILLREI


—————————————————————————

A/N ภาพโคลด์ภาพนี้เป็นหน้าปกเล่ม 1 ค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำโคลด์ :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 21-07-2017 15:36:03
คิดถึงมาก

พอมาอ่านแนะนำตัวละครแล้วเข้าใจมากขึ้น

เข้าใจว่า...ทำไมอาเลธไม่มีวันปล่อยดวงดาวแม้จะมันจะเย็นชาจนปวดใจก็ตาม 
เข้าใจว่า...ทำไมป๋าอยู่ตรงนี้ ทำแบบนี้ รักแบบนี้
เข้าใจว่า...เราไม่เข้าใจดวงดาวสีไลแลคนี้เลย!

ส่งกำลังใจให้นักเขียนทั้งสองคนเลยจ้ะ
เรื่องนี้เลอค่าจริง ๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำโคลด์ :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 21-07-2017 23:19:46
คิดถึงมาก

พอมาอ่านแนะนำตัวละครแล้วเข้าใจมากขึ้น

เข้าใจว่า...ทำไมอาเลธไม่มีวันปล่อยดวงดาวแม้จะมันจะเย็นชาจนปวดใจก็ตาม 
เข้าใจว่า...ทำไมป๋าอยู่ตรงนี้ ทำแบบนี้ รักแบบนี้
เข้าใจว่า...เราไม่เข้าใจดวงดาวสีไลแลคนี้เลย!

ส่งกำลังใจให้นักเขียนทั้งสองคนเลยจ้ะ
เรื่องนี้เลอค่าจริง ๆ

ขอบคุณนะคะ คิดถึงนักอ่านประจำคนนี้เหมือนกันค่ะ  :mew1: ช่วงนี้ปิดต้นฉบับหนังสือส่งสนพ. จะหาเวลาว่างมาเขียนถึงเอลฟ์เล็กๆ น้อยๆ ฝากด้วยนะคะ!

ป.ล. นุ้งโคลด์มันม่วงกลายเป็นตัวละครที่เฉลยน้อยที่สุดไปซะแล้ว /ฮา
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำอิลมาเร :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 06-08-2017 18:30:37
Behind The Scene (4) : อิลมาเร แม่ค้าดวอร์ฟโลลิ คู่หูของโคลด์

Elven Almanac – ภาคพันธนาการรักราชาเอลฟ์

อิลมาเร แม่ค้าดวอร์ฟโลลิ คู่หูของโคลด์


โดย ILLREI

(https://k.lnwfile.com/u1aglp.jpg)

อิลมาเร แม่ค้าดวอร์ฟโลลิ คู่หูของโคลด์

แนะนำตัวละครสำคัญของเรื่อง Elven Almanac คนที่ 4 เธอมีชื่อว่า 'อิลมาเร' ค่ะ

"ข้ามีภาพด้วยเจ้าค่ะ เย้ๆๆ!!! ขอบคุณมากนะเจ้าคะ สำหรับท่านที่ไม่รู้จะลงเรือลำไหน ข้าเปิดโต๊ะรับแทงผลนะเจ้าคะ หรือท่านเลือกไม่ถูกจะเข้าเรือลับ ข้าก็ยินดีเจ้าค่ะ หากท่านลูกค้าต้องการภาพลับเฉพาะของโคลด์กับราชาหรือท่านมาลแกธ ท่านลูกค้าก็--"

โคลด์โผล่มาหิ้วหลังคืออิลมาเรแบบหิ้วคอแมว

"อะไรอ่า!"

"เงียบเลย ห้ามถ่ายภาพข้าไปขาย" โคลด์ทำตาดุ

"แต่ภาพคู่บนเตียงของพวกเจ้าขายดีมากเลยนะ!"

"..."

/โคลด์อยู่ระหว่างการทำโทษอิลมาเร /โปรดรอสักครู่

อะ แฮ่ม อย่างที่เคยแนะนำไปว่า โลกของ Elven Almanac ประกอบด้วยหลายเผ่าพันธุ์

ดวอร์ฟคือเผ่าที่รักการค้าขาย บูชาบิดาแห่งเงินตรา เป็นเจ้าแห่งงานฝีมือและสิ่งประดิษฐ์

ลักษณะพิเศษก็คือไม่ว่าชายหรือหญิงก็ดูโลลิ (เด็กน้อย) อยู่ตลอดเวลา!!! (ขนาดมาลแกธยังไม่กล้ากิน)

"ความสูงเฉลี่ยของดวอร์ฟคือไม่เกิน 155 เซน" โคลด์โผล่หน้ามาเสริม

"เสียมารยาทที่สุด เจ้าดาร์กเอลฟ์เคะ!"

"..."

/โคลด์อยู่ระหว่างการปิดปากอิลมาเร /โปรดรอสักครู่

อิลมาเรเป็นตัวละครที่ทำให้เรื่องมีความเป็นแฟนตาซีผจญภัยมากขึ้น

และเราก็เอ็นดู้ เอ็นดูในความโลลิและความงกของอิลมาเรจังเลยค่ะ แง เตี้ยงก ใส่กระเป๋าน่ารัก

ความพยายามทำมาหากินของอิลมาเรนี่ เขียนทีไรก็สนุกอะ ออกมาทีไรก็เอ้อ อยากลูบหัวจัง อยากขยี้อยากขยำ

และอิลมาเรยังเป็นตัวละครที่ทำให้โคลด์เติบโตทางอารมณ์ไปอีกขั้นหนึ่ง

ใครที่ยังไม่ได้อ่าน ระหว่างอิลมาเรกับโคลด์คือเป็นเพื่อนกันนะคะ ไม่ใช่ความรักระหว่างชาย-หญิง

สองคนนี้สนิทกันสุดๆ เป็นเพื่อนสนิท และอิลมาเรก็มีงานอดิเรกในการใช้โคลด์ให้คุ้มค่าอยู่ตลอดเวลา

จนบางทีก็เดือดร้อนไปถึงเหล่าเมะๆ ค่ะ \(*0*)/

สำหรับคนที่อ่านแล้ว มาเอาใจช่วยพวกเขากันค่ะ!

---------------------------------------

แถมท้าย


อิลมาเร: "ท่านมาลแกธๆ ได้ข่าวว่าท่านเป็นเจ้าของเรือเดินสมุทรลำใหญ่ๆ ตั้งหลายลำหรือเจ้าคะ!"

มาลแกธ: "..."

อิลมาเร: "มีกี่ลำหรือเจ้าคะ อัตราบรรทุกเท่าไหร่ ขนสินค้าบ่อยไหม แวะเมืองท่าไหนบ้าง มีประกันสินค้าอย่างไร รับส่งพัสดุระหว่างแคว้นไหม"

มาลแกธ: "..."

อิลมาเร: "ท่านมาลแกธๆ"

มาลแกธ: "มันเป็นเรือของญาติข้า อิลมาเรที่รัก ถ้าเจ้าสงสัยอะไรข้าเสียใจที่คงตอบไม่ได้ เจ้าต้องไปถามญาติ--"

อิลมาเร: "แต่โคลด์บอกว่าเป็นเรือของท่านนะเจ้าคะ คืนนี้ท่านมากับข้าดีกว่า มาคุยเรื่องธุรกิจการเดินเรือกันเถอะ!" /ลากเอลฟ์ตัวโตด้วยแรงมหาศาล แบบชิลๆ

มาลแกธ: /ชะเฮ้ย!

โคลด์: "หึหึหึ" /หัวเราะอยู่ด้านหลังแบบสะใจ

 

ป.ล. จริงๆ เป็นเรือของมาลแกธนั่นแหละจ้า!

—————————————————————————

A/N คิดถึงนักอ่านจังเลยค่ะ จุ๊บ (-3-)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำอิลมาเร :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 07-08-2017 23:06:11
จะเผ่าพันธ์ไหนก็เสียท่าให้อิลมาเรเสมอ

เทพเจ้าแห่งเงินตราช่างเอ็นดูโลลิตัวน้อยเสียจริง

ขอให้รอดนะป๋ามาล ฮ่า ๆ ๆ ๆ

คิดถึงนักเขียนจ้า ส่งกำลังไปให้จัดการหนังสือเสร็จอย่างราบรื่นนะคะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำเอเลียต :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 12-08-2017 01:32:30
Behind The Scene (5) : เอเลียต ราชาแห่งปวงมังกร

Elven Almanac – ภาคพันธนาการรักราชาเอลฟ์

เอเลียต ราชาแห่งปวงมังกร


โดย FOULSOUL

(https://k.lnwfile.com/5krjrl.jpg)

เอเลียต ราชาแห่งปวงมังกร

นอกจากไซเรน พราย ภูติและปีศาจต่างๆ เรายังหลงใหลมังกรด้วย

โดยส่วนใหญ่ (อย่างน้อยก็เท่าที่เด็กคนหนึ่งเคยอ่านมาจนอายุใกล้สามสิบ) มังกรจะถูกสรรค์สร้างให้มีลักษณะเจ้าเล่ห์ โลภ ดุร้าย นอกจากนี้...ยังดูเหม็นโคลนและไม่แปรงฟัน คือดูเป็นสัตว์ร้ายไม่มีวัฒนธรรมเป็นที่สุด--หรืออาจมี แต่ไม่เคยอ่านเจอ

พอได้มาสร้างสรรค์เผ่าพันธุ์มังกรใน Elven Almanac เราเลยใส่รายละเอียดในฝันวัยเยาว์เข้าไป มังกรต้องเท่ เจ้าเล่ห์ได้แยบคาย โลภจริง ดุร้ายก็จริง แต่โลภในสิ่งควรได้และดุร้ายเมื่อเผชิญสิ่งที่ไม่อาจทน มีจารีต ประเพณีและวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง มีเกียรติ มีประวัติศาสตร์อันเกรียงไกรเป็นของตัวเอง

เช่นเดียวกับเอลฟ์ มังกรนับถือบิดามารดา โดยบิดาองค์ที่บูชาคือบิดาธรณี มารดาคือมารดานที เราวางให้บรรดามังกรเป็นเผ่าพันธุ์แรกซึ่งถือกำเนิดบนแผ่นดิน--มาก่อนหน้าเอลฟ์ ถิ่นอาศัยโดยมากจะอยู่ทางตอนเหนือของแผนที่ ชอบภูเขา ถ้ำ ชะง่อนผา ปราสาทของปฐมกษัตริย์มังกรก็สร้างบนชะง่อนผาลับเหนือขึ้นไปจากรูเมเรียร์ในปัจจุบัน

แต่

การมาถึงของปฐมกษัตริย์เอลฟ์ทำให้เผ่าพันธุ์มังกรต้องไปหลบใต้ธรณี เนื่องด้วยมังกรเป็นฝ่ายแพ้สงครามครั้งใหญ่ จากนั้นประวัติศาสตร์แท้จริงของมังกรก็ถูกชะล้างไป เหลือเพียงแค่ 'ภาพจำ' ว่ามังกรเป็นสัตว์ดุร้าย กินดิน และไม่มีวัฒนธรรม

เอาละ เข้าเรื่องครับ

ที่ได้เล่ามาทั้งหมดด้านบน 'เอเลียต' คือหนึ่งในมังกรที่ได้เห็นสงครามครั้งนั้น อยู่ในเหตุการณ์ สมัยก่อนเขายังเป็นเจ้าชายองค์รองๆ แทบไม่มีโอกาสได้ครองบัลลังก์ เขี้ยวเพิ่งงอกได้ไม่นาน เกล็ดยังอ่อนนุ่ม ปีกก็ยังไม่แข็ง แต่จำต้องบินหนีจากไฟสงครามเพื่อเอาชีวิตรอด นั่นทำให้ความเกลียดชังที่มีต่อเผ่าพันธุ์เอลฟ์ของเอเลียตฝังลึก สำหรับเจ้าชายที่ได้ครองบัลลังก์เหนือเผ่าพันธุ์มังกรในเวลาต่อมา เอลฟ์คือศัตรู...คืออาหาร

ทว่าเราวางให้เอเลียตมองหาสันติภายในตัวเองด้วย เขาเกลียดเอลฟ์ก็จริง แต่การดูแลรักษาเผ่าพันธุ์มาเป็นอันดับหนึ่ง เอเลียตจึงมีความอ่อนโยนแบบนักปกครองพอๆ กับโหดเหี้ยมแบบนักรบ (อันที่จริง นักปกครองก็โหดเหี้ยมเหมือนกัน...) ใจดีเกือบเท่าใจดำ เป็นฝ่ายมอบให้พอๆ กับเรียกคืน เขายึดคติ 'รู้เขารู้เรา' เลยชอบศึกษาศิลปะวัฒนธรรมและการปกครองของเผ่าพันธุ์อื่น ในวังมังกรมึทาสและข้ารับใช้จากทุกเผ่าพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่ พออยู่ไปสักพักก็ไม่อยากไปไหน ที่นี่อุดมสมบูรณ์ ให้เบี้ยสินจ้าง แต่...ต้องระวังอารมณ์ร้อนร้ายจากเจ้านายมังกรสักหน่อย (หึ...หึ)

เอเลียตรวบรวมเอาบุคลิกของผู้ชายที่เราชอบ (หืม?) ทั้งหมดไว้ คือพูดเป็น ใจกว้าง รักศิลปะและมีตรรกะในขณะเดียวกัน เจ้าชู้ มีเสน่ห์ เถื่อน...นิดๆ โอเค กำเดาไหล จบ

นั่นแหละ มีความอวยในตัวอักษรอยู่เยอะ--เรารู้

แต่เราหลงเอเลียตไม่แพ้มาลแกธหรือซิกฟรีด ใครอ่านแล้วมาคุยกันได้นะครับ :-)


—————————————————————————

A/N #มังกรหล่อบอกต่อด้วย จ้า!

ภาพประกอบออกมา 3 ภาพแล้วนะคะ ยังเหลืออีก 1 ภาพสุดท้าย คือเกวนโดลิน

เราเห็นภาพร่างเกวนๆ แล้ว สวยงามมากๆ เลยค่ะ อดใจรอน้า!


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำอิลมาเร :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 12-08-2017 01:35:45
จะเผ่าพันธ์ไหนก็เสียท่าให้อิลมาเรเสมอ

เทพเจ้าแห่งเงินตราช่างเอ็นดูโลลิตัวน้อยเสียจริง

ขอให้รอดนะป๋ามาล ฮ่า ๆ ๆ ๆ

คิดถึงนักเขียนจ้า ส่งกำลังไปให้จัดการหนังสือเสร็จอย่างราบรื่นนะคะ

อยากให้เทพเจ้าแห่งเงินตราเอ็นดูเราด้วยค่ะ 5555 /อยากปล้นอิลมาเร (เพราะเขียนให้นางรวย แงๆๆ)
ขอบคุณสำหรับความรักและคิดถึงนะคะ จะรีบทำงานให้เสร็จ จะได้มาคุยกันในกระทู้อีกค่า -3-
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำเอเลียต :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 13-08-2017 22:12:35
ฉันสาบานตนเป็นชันยาเรือซิกฟรีดไปแล้ว

แต่

โอ....เรือมังกรช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน! (ซับเลือดกำเดาเบา ๆ )

เอางี้ละกันซิก ในตอนที่นายมา ฉันก็จะเหนียวแน่นคอยแจวเรือกางใบ
แต่....ตอนมังกรมา ฉันก็ขอไปพัดวีลูบเกล็ดมังกรเล่นบ้างอะไรบ้าง

เอาน่า ถือซะว่าเป็นวันหยุดของฉันแล้วกัน!
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำเกวนโดลิน :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-08-2017 15:02:44
Behind The Scene (6) : เกวนโดลิน งามดุจเทพีจันทร์

Elven Almanac – ภาคพันธนาการรักราชาเอลฟ์

เกวนโดลิน งามดุจเทพีจันทร์


โดย ILLREI

(https://k.lnwfile.com/267wul.jpg)

เกวนโดลิน ตัวละครนี้ หากใครอ่านแล้วคงทราบว่าเธอมีความเกี่ยวข้องกับโคลด์อย่างไร

ส่วนคนที่ยังไม่ได้อ่าน เนื้อเรื่องแนะนำว่าเกวนโดลินเป็น 'คนรัก' ของโคลด์ในช่วงแรกค่ะ (เราจะไม่สปอยเนอะ)

เกวนโดลินเป็นดาร์กเอลฟ์สาวที่ถูกราชามังกร--เอเลียตจับตัวไปเป็นทาส

ขณะนี้มีหน้าที่เลี้ยงบุตรชายให้เขา และรับมือกับความริษยาของเหล่ามารดามังกร (เมียๆ ของเอเลียต)

เกวนโดลินกับเอเลียตมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา และเหมือนจะมีใจให้กัน แต่ตอนนี้เป็นเพียงนายกับทาส

ในเรื่อง เกวนโดลินถูกขนานนามว่า 'งามดุจเทพีจันทร์'

เทพีจันทร์ที่ถูกกล่าวถึงนี้มีชื่อว่า 'เซฮาไนน์' เป็นหนึ่งในเทพเจ้าประจำเรื่อง

เล่าตำนานเทพเล็กน้อย

เทพีจันทร์เป็นบุตรีที่เกิดจากการคบชู้ของบิดานภากับมารดาสมุทร

มารดาสมุทร นาง และบุตรคนอื่นๆ จึงถูกเมียหลวงหรือมารดานภาสาปให้ผิวมีสีดำเพื่อประจาน

ดาร์กเอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่กำเนิดต่อจากนั้น จึงถูกนับเป็นลูกเมียน้อยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ พื้นฐานความเชื่อเรื่องคู่ครองของเอลฟ์กับดาร์กเอลฟ์จึงไม่เหมือนกัน

เอลฟ์รักเดียวใจเดียว แต่งงานและมีคู่เพียงคนเดียว ขณะที่ดาร์กเอลฟ์สามารถมีคู่ได้หลายคน หากสามารถเลี้ยงดูไหว

(รวมถึงวิถีชีวิตที่แตกต่างกันของทั้งสองเผ่าอันเนื่องมาจากภูมิหลังและที่อยู่อาศัย)

ในภาพ เราบรีฟไปว่าต้องการภาพที่แสดงความเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าของหญิงสาวที่ตกเป็นทาส

ถึงได้สวมเสื้อผ้าดีๆ ก็ยังมีปลอกคอแสดงความเป็นทาสล่ามไว้

น้อง Enfer วาดได้ตอบโจทย์มากเลยค่ะ และสวยมากๆ แงวววว หลงใหล /ขอซุกอกหน่อย (;w;)

เพื่อนๆ นักอ่านอาจไม่ชินกับการที่ผู้หญิงได้รับบทเด่นในนิยาย Y

แต่นิยายเรื่องนี้มีความเป็นแฟนตาซีผจญภัยด้วย

เราจึงอยากนำเสนอโลกทุกส่วนของ Elven Almanac ให้คุณได้สัมผัสชีวิตจริงๆ ของตัวละครที่มีความเกี่ยวข้องกันทุกเพศทุกวัย

(แต่ภาคนี้เน้น Y จ้า ไม่ต้องห่วงน้า)

สำคัญที่สุด เกวนโดลินเป็นเหมือนที่พึ่งทางใจคนสำคัญของโคลด์ค่ะ

โคลด์คือตัวเอกของเรื่องที่เราเคยแนะนำไปแล้วว่ามีความก้ำกึ่งระหว่างดีกับร้าย

เขายังไม่เลือกเดินทางใดทางหนึ่งเต็มตัว และคนที่คอยถ่วงโคลด์ไว้ในด้านดี ก็คือเกวนโดลินคนนี้แหละ!

ขณะนี้โคลด์ก็ยังตามหาเกวนโดลิน และมีแววว่าต้องตบตีแย่งชิงกับเอเลียต

มาเอาใจช่วยโคลด์กันค่ะ!!!

-----------------------------------------

แถมท้าย

รากาล (ลูกมังกร) : "เกวนๆ อาบน้ำๆ!"

เกวนโดลิน: "ได้สิจ้ะ" /หยิบเครื่องอาบน้ำ

รากาล: "ขัดเกล็ดให้ข้าด้วยนะ!"

เกวนโดลิน: "ได้สิจ้ะ" /จับลูกมังกรนั่งตัก ใช้แปรงขัดเกล็ดอ่อนนุ่มทีละส่วน

รากาล: "สบายจังเลย" ลูกมังกรอ้วนกลมตัวสั่นเพราะน้ำอุ่น ใช้หัวดันๆ หน้าอกมหึมาที่แหมะอยู่ข้างบน /ทำหน้าเคลิ้มแบบ 'หน้าอกของข้า อาห์ อาห์'

"เจ้าอาบน้ำเก่งจัง เคยอาบน้ำให้ท่านพ่อหรือเปล่า"

เกวนโดลิน: /หน้าแดง

รากาล: "เกวน หยุดทำไมอะ?" /เงยหน้ามอง

เกวนโดลิน: /หน้าแดงมากขึ้น

รากาล: "เกวน อย่าหยุดสิ!" /ปัดหางไปมา งอแงในอาบน้ำไทม์ "ทำไมเจ้าหน้าแดงขนาดนั้นล่ะ ไม่สบายหรือเปล่า!"

.

.

.

สรุปเคยรึไม่เคยดีนะ หุหุ


—————————————————————————

A/N ภาพประกอบครบแล้ว แต่เบื้องหลังการถ่ายทำยังมีอยู่อีกค่ะ แล้วพบกันจ้ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำเอเลียต :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 16-08-2017 15:04:29
ฉันสาบานตนเป็นชันยาเรือซิกฟรีดไปแล้ว

แต่

โอ....เรือมังกรช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน! (ซับเลือดกำเดาเบา ๆ )

เอางี้ละกันซิก ในตอนที่นายมา ฉันก็จะเหนียวแน่นคอยแจวเรือกางใบ
แต่....ตอนมังกรมา ฉันก็ขอไปพัดวีลูบเกล็ดมังกรเล่นบ้างอะไรบ้าง

เอาน่า ถือซะว่าเป็นวันหยุดของฉันแล้วกัน!

อิอิ จูงมือไปเที่ยววันหยุด -3- ขอบคุณที่มาเม้นให้กำลังใจเสมอนะคะ รักกก แงงงง
ไว้ปลายๆ เดือนจะลงตัวอย่างตอนพิเศษให้อ่านกันค่า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำเกวนโดลิน :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-08-2017 22:53:54
เอ่อ....อ่า....แบบว่า...
ซิกจ๊ะ ฉันลาหยุดไปเที่ยววังมังกรนะ

นี่ไม่ได้อยากไปลูบกล้ามแน่นของราชามังกรหรือไปส่องหน้าอก.. เอิ่ม..หน้าตาเกวนเลยนะ! ไม่เล้ย! ไม่! ไม่!

ปล. ช่วยเตรียมเลือดสำรองไว้รอรับตอนฉันซมซานกลับเรือด้วยนะ
ปล. 2 เกวน เกล็ดมังกรโตเต็มวัยโดนน้ำแล้วเป็นอย่างไรจ๊ะ   ฉัน: เอียงคอ ทำตาใส 
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำเกวนโดลิน :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: akajinkame ที่ 22-08-2017 08:01:39
สนุกมากค่ะ เพิ่งมาอ่านค่ะ ตอนแรกๆ คิดว่าอยู่ในเรื่อง ลอดออฟเดอะริง แบบเราจินตนาการเอลฟ์แบบนั้น ราชินีเอลฟ์เอย ไรเอย แต่อ่านไปอ่านมา อ่า นี่มันอีกโลกเลยนี่นา และคุณทำให้เราเชื่อว่าเกิดสงครามจริงๆ รักอิลมาเรค่ะ รักรากาล(??)เจ้ามังกรน้อยด้วย ตกหลุมรักตั้งกะที่บอกว่า"กินไม่ได้นะ"5555 รอภาคสามค่า
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำเกวนโดลิน :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-08-2017 10:39:36
เกวน หน้าแดงงงงง หรอ
เพราะนึกถึงฉากที่เคยอาบน้ำกับราชามังกรแน่เยย  :sad4: :hao5: :heaven
เฮ้อ......อิจฉา รากาล ได้เอนหลังคลุกๆกับหน้าอกเกวน
แต่อิจฉา เอ้ย.......น้ำลายไหลกับเอเลียตมากกว่า  :z1: :pighaun: :haun4:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำเดเนธอร์ :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 26-08-2017 16:54:37
Behind The Scene (7) : เดเนธอร์ รองหัวหน้าหน่วยกาลาฮาน

Elven Almanac – ภาคพันธนาการรักราชาเอลฟ์

เดเนธอร์ รองหัวหน้าหน่วยกาลาฮาน


โดย FOULSOUL

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/1836707466-member.jpg)

ถึงคราวของ 'เดเนธอร์'

สิ่งที่เราสนุกนอกเหนือไปจากการสร้างคาแรคเตอร์หลักอย่างซิกฟรีด มาลแกธ ริวอร์นอร์ และเอเลียตแล้ว เราก็สนุกกับการสร้างคาแรคเตอร์ประกอบด้วยเช่นกัน

เดเนธอร์เป็นหนึ่งในคาแรคเตอร์ที่เราภูมิใจนำเสนอ ตอนแรกว่าจะให้เขาเป็นตัวประกอบเสริมความเด่นให้มาลแกธ ไปๆ มาๆ กลับเด่นไม่แพ้มาลแกธหรือคาแรคเตอร์อื่นๆ เลย

เท้าภูมิหลังสักหน่อย เดเนธอร์เป็นลูกครึ่งเอลฟ์ธรรมดากับเอลฟ์สายเวทมนตร์จัดๆ พ่อเป็นทหาร แม่เป็นวิทช์ (หรือนางแม่มดนั่นแหละ) เขาเลยมีความแกร่งเฉกนักรบ ผสมกับพรสวรรค์ทางสายเลือด เดเนธอร์บูชาพระบิดาแห่งสายลมเป็นพิเศษ และท่านก็เมตตาเขาด้วยการมอบลางสังหรณ์อันแม่นยำให้ ผ่านเสียงกระซิบของท่าน

เดเนธอร์ตั้งใจเป็นทหารตั้งแต่สมัยเป็นเด็กตัวน้อย ตั้งใจเดินตามพ่อ เมื่ออายุถึงเกณฑ์จึงสมัครเป็นทหาร และเมื่อเอลฟ์ตะวันออกผู้เป็นองครักษ์มือขวาในราชาซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ก่อตั้งหน่วยกาลาฮาน--หน่วยรบพิเศษเทียบเท่า SEAL ในโลกของเรา เดเนธอร์ไม่ลังเลยที่จะสมัครเข้ารับการฝึกโหด

ปัจจุบัน เดเนธอร์ได้เป็นรองหัวหน้าหน่วยกาลาฮาน มีหน้าที่หลักคือควบคุมดูแลการฝึกทหารใหม่ ส่วนหน้าที่รองคือดึงสติมาลแกธ.........

หนักหนา หนักหนา /ถอนใจยาว

เดเนธอร์เป็นคาแรคเตอร์เปี่ยมมิติไม่แพ้คาแรคเตอร์หลัก ซึ่งในอนาคต เขาจะมีบทบาทมากขึ้น

"ข้ามีลางสังหรณ์ไม่ดีเลย"


—————————————————————————

A/N ใกล้ปิดพรีออเดอร์แล้วนะคะ หมดเขตวันที่ 3 ก.ย. 60 นี้

บทต่อไปจะลงตัวอย่างตอนพิเศษให้อ่านค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
 (https://www.facebook.com/ILLREI/)
♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำเกวนโดลิน :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 26-08-2017 20:12:07
เอ่อ....อ่า....แบบว่า...
ซิกจ๊ะ ฉันลาหยุดไปเที่ยววังมังกรนะ

นี่ไม่ได้อยากไปลูบกล้ามแน่นของราชามังกรหรือไปส่องหน้าอก.. เอิ่ม..หน้าตาเกวนเลยนะ! ไม่เล้ย! ไม่! ไม่!

ปล. ช่วยเตรียมเลือดสำรองไว้รอรับตอนฉันซมซานกลับเรือด้วยนะ
ปล. 2 เกวน เกล็ดมังกรโตเต็มวัยโดนน้ำแล้วเป็นอย่างไรจ๊ะ   ฉัน: เอียงคอ ทำตาใส
/โอบและพาแล่นเรือ  :mew1:
ช่วงนี้ยุ่งมากจริงๆ ค่ะ ขอโทษที่ตอบช้านะคะ -3-
ตาราชามังกรนี่เจ้าชู้มากเมียเสียเหลือเกิน ก็ไม่รู้เกวนๆ จะรับมือไหวหรือเปล่านะคะ
แต่ระหว่างนั้น เราก็ส่องกันไปก่อนเนอะ อิอิ
อยากอ่านฉากอาบน้ำเหมือนกันค่ะ วรั๊ยๆ อยากลูบเกล็ดมังกรโตเต็มวัย แค็กๆๆๆ :m25:

สนุกมากค่ะ เพิ่งมาอ่านค่ะ ตอนแรกๆ คิดว่าอยู่ในเรื่อง ลอดออฟเดอะริง แบบเราจินตนาการเอลฟ์แบบนั้น ราชินีเอลฟ์เอย ไรเอย แต่อ่านไปอ่านมา อ่า นี่มันอีกโลกเลยนี่นา และคุณทำให้เราเชื่อว่าเกิดสงครามจริงๆ รักอิลมาเรค่ะ รักรากาล(??)เจ้ามังกรน้อยด้วย ตกหลุมรักตั้งกะที่บอกว่า"กินไม่ได้นะ"5555 รอภาคสามค่า
ขอบคุณมากนะคะ! นึกว่าจะไม่ค่อยมีนักอ่านใหม่เสียแล้วค่ะ ดีใจมากๆ ที่มีคนชอบเรื่องนี้เพิ่มขึ้นนะคะ!
เร็วๆ นี้จะลงตัวอย่างตอนพิเศษสำหรับฉบับรวมเล่ม ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ

เกวน หน้าแดงงงงง หรอ
เพราะนึกถึงฉากที่เคยอาบน้ำกับราชามังกรแน่เยย  :sad4: :hao5: :heaven
เฮ้อ......อิจฉา รากาล ได้เอนหลังคลุกๆกับหน้าอกเกวน
แต่อิจฉา เอ้ย.......น้ำลายไหลกับเอเลียตมากกว่า  :z1: :pighaun: :haun4:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ใช่ค่ะ นึกถึงฉากนั้นเลย อิอิ ('////')
คนเขียนก็จิ้นไปไกลละค่ะ แฮร่ก /อุดกำเดาไหล
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำเดเนธอร์ :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-08-2017 23:36:29
*แล่นเรือวิ่งฉิวกลับจากแดนมังกรมาเฝ้าหน่วยกาลาฮาน

นี่เหนื่อยมากนะ แล่นเรือไปมาหลายเมือง
แต่ฉันยอมมมมมมม ฮ่า ๆ ๆ ๆ

เห็นคนงาม ๆ แล้วกำลังวังชามาเต็ม คริคริ
*อุ้ย เลือดกำเดาไหลหลั่ง*
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตัวอย่างตอนพิเศษ แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 27-08-2017 22:25:47
ตัวอย่างตอนพิเศษฉบับรวมเล่ม (1) : Double Date

สวัสดีค่ะ เราไม่แน่ใจว่าลงตัวอย่างตอนพิเศษได้ไหม จึงขอลงเป็น Link

(https://k.lnwfile.com/ycj6is.jpg)

**กดอ่านที่นี่** (https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1563143&chapter=159)

ตอนพิเศษนี้มีแค่ในฉบับรวมเล่ม สงวนสิทธิ์สำหรับผู้อุดหนุนหนังสือเล่ม
เราตัดแบ่งมาให้ทดลองอ่านเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อค่ะ

—————————————————————————

A/N หนังสือปิดพรีออเดอร์วันที่ 3 ก.ย. 60 นี้ (อีก 8 วัน)

และมีแนวโน้มว่าจำนวนหน้าจะเพิ่มขึ้น

แต่เราจะไม่ขึ้นราคารอบพรีออเดอร์ค่ะ!!! แวะมาจองกันนะคะ (-3-)

จองที่: http://bit.ly/ELF1120 (http://bit.ly/ELF1120)

ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei

หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ แนะนำเดเนธอร์ :แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 27-08-2017 22:26:42
*แล่นเรือวิ่งฉิวกลับจากแดนมังกรมาเฝ้าหน่วยกาลาฮาน

นี่เหนื่อยมากนะ แล่นเรือไปมาหลายเมือง
แต่ฉันยอมมมมมมม ฮ่า ๆ ๆ ๆ

เห็นคนงาม ๆ แล้วกำลังวังชามาเต็ม คริคริ
*อุ้ย เลือดกำเดาไหลหลั่ง*
5555 รออีกนิดค่ะๆ ชวนแล่นไป AU ค่ะ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตัวอย่างตอนพิเศษ แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 29-08-2017 23:59:59
เรือนี่แล่นผ่านเส้นแบ่ง alternated universe ได้ไหม?

จะไปซบอกป๋ามาล ลูบกล้ามปลอบใจซิก ฟัดนุ้งโคลด์
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตัวอย่างตอนพิเศษ แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 30-08-2017 00:44:19
เรือนี่แล่นผ่านเส้นแบ่ง alternated universe ได้ไหม?

จะไปซบอกป๋ามาล ลูบกล้ามปลอบใจซิก ฟัดนุ้งโคลด์
แล่นไปได้ทุกน่านน้ำเลยค่ะ! เชิญๆ -3-
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 03-09-2017 00:50:23
Behind The Scene 8 : เทพีจันทร์เซฮาไนน์ & ธิดาจันทร์เซเนริล

Elven Almanac – ภาคพันธนาการรักราชาเอลฟ์

เทพีจันทร์เซฮาไนน์ & ธิดาจันทร์เซเนริล


โดย ILLREI

(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/1314150/538745859-member.jpg)

ในโลก Elven Almanac เรากับคุณ FOULSOUL ได้สร้างเทวตำนานขึ้นมาใหม่ เป็นตำนานกำเนิดเอลฟ์ ดาร์กเอลฟ์ มังกร มนุษย์ และเผ่าพันธุ์อื่นๆ

เทพีจันทร์เซฮาไนน์ & ธิดาจันทร์เซเนริล เป็นพี่น้องคนละแม่ โดยเซเนริลเกิดก่อน เป็นพี่สาว เซฮาไนน์เกิดทีหลัง เป็นน้องสาว

ทั้งสองเป็น 'ดวงจันทร์' เหมือนกัน ตอนแรกมีเพียงเซเนริลอยู่บนท้องฟ้า แล้วจู่ๆ วันหนึ่งเซฮาไนน์ก็เกิดขึ้นมา เคียงคู่กัน

เซเนริลดีใจที่มีน้องสาว เซฮาไนน์ก็ดีใจที่มีพี่สาว ทั้งสองจับมือกัน หอมแก้ม และกอดกันอย่างมีความสุข

ทว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม...เพราะเซฮาไนน์เปิดเผยความลับการคบชู้ของบิดานภาและมารดาสมุทรด้วยการฉายแสงเคียงข้างเซเนริล

หลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่เคยเขียนไว้ในปูมบันทึกตำนานเอลฟ์ & ดาร์กเอลฟ์

มารดานที--เทพมารดาผู้ให้กำเนิดมังกรและมนุษย์รับหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างมารดานภา--มารดาของเซเนริล และมารดาสมุทร--มารดาของเซฮาไนน์

(มารดานภาและมารดาสมุทรเป็นพี่น้องกัน ทั้งสองแตกหักเมื่อบิดานภา--สามีของมารดานภา สมรักกับมารดาสมุทร)

มารดานทีนำธิดาจันทร์เซเนริลมาพำนักในสายน้ำ กลายเป็นเงาสะท้อนของเทพีจันทร์เซฮาไนน์

เกร็ด: ในความเชื่อของแดนตะวันออก (บ้านเกิดมาลแกธ) ดวงจันทร์คือโคมของเทพนำทาง ไม่ใช่ทั้งเทพีจันทร์หรือธิดาจันทร์

ซึ่งเป็นความเชื่อที่ต่างจากเอลฟ์แผ่นดินใหญ่ อย่างรูเมเรียร์ (บ้านเกิดซิกฟรีด) หรืออิซิดาร์ (บ้านเกิดเอริแอดเน่)

ความต่างกันนี้ออกแบบโดยคุณ FOULSOUL เราคุยกันว่ามันก็คงเหมือนตำนานเทพต่างๆ จากทั่วโลก

ที่มีเทพแทนสัญลักษณ์ในธรรมชาติเช่น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ความตาย แต่เทพเหล่านั้นมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป

พระจันทร์สองพี่น้องเริ่มต้นด้วยความรัก แตกหักด้วยความเกลียดชังของบิดามารดา

จากนั้น...ไม่รู้เมื่อไรที่ทั้งสองเริ่มเข้าหน้ากันไม่ติดและเกลียดชังกันในที่สุด

ผ่านมาเป็นพันๆ หมื่นๆ ปี ความรู้สึกดีๆ อันแสนสั้นคล้ายจางหายไปหมด

ทว่าจริงๆ แล้ว ทั้งสองเติบโตด้วยกันมาระยะเวลาหนึ่ง เป็นช่วงเวลาของพี่น้องที่เข้มข้นลึกซึ้ง ตัดกันไม่ลง

ดังจดหมายจากพระจันทร์ถึงพระจันทร์ ที่กวีขับกล่อมสืบต่อกันมา


ขอโทษ...เวลาโกรธ เรามักหลงลืมสิ่งดีๆ ที่เคยมีร่วมกัน

และปล่อยตัวไปตามอารมณ์ขุ่นเคือง

ให้ตัวเองเป็นบ้า ให้ตัวเองคลั่ง สาดอารมณ์ดั่งไฟใส่เจ้า

คล้ายสรรพสัตว์ซึ่งถูกดวงจันทร์บิดเบือนสติสัมปชัญญะยามน้ำขึ้นน้ำลง

ทว่าเมื่อความโกรธบางเบา และเราย้อนกลับมาดูสิ่งดีๆ ที่เคยมีอยู่มากมาย

สิ่งดีๆ สิ่งละอันพันละน้อยเหล่านั้นยังคงอยู่ตรงนั้น...ในความทรงจำของเรา

ที่เรามองไม่เห็นเพราะมันมีมากเสียจนเกลื่อนเกร่อ

ทำให้เรามองข้าม หันไปยึดติดกับอารมณ์อัปลักษณ์อันมีน้อยนิด

พี่น้องที่รัก...เราขอโทษจริงๆ...


- จดหมายจากพระจันทร์ถึงพระจันทร์

—————————————————————————

*เพลง build คู่พี่น้องพระจันทร์ คลิก* (https://www.youtube.com/watch?v=P6T7v74UAWs&index=7&list=PLkPVv25Zvqi0B1NwOSa7iK5n9RnSCDVK1)


—————————————————————————

A/N วันนี้ 3 ก.ย. 60 เป็นวันพรีออเดอร์หนังสือนิยายเรื่องนี้วันสุดท้ายแล้วนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน หากท่านใดไม่สะดวก สามารถรออุดหนุนเมื่อหนังสือออกเป็นเล่ม หยอดกระปุกมาเปย์โคลด์กันนะคะ! โคลด์รออยู่จ้า /(-3-)/


ป.ล. ขอบคุณภาพประกอบงามๆ ภาพนี้เป็นแฟนอาร์ตจากนักอ่าน คุณ Patcharada Jeangkong ค่ะ

ตอนเห็นภาพนี้ครั้งแรก เรานึกถึงเทพีจันทร์ จึงตั้งใจว่าเขียนบทความเกี่ยวกับเซฮาไนน์เมื่อไรก็จะนำมาลงคู่กัน

ขอบคุณมากๆ ค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/ (https://www.facebook.com/ILLREI/)

♰ Twitter : @ILLREIwriter

♰ LINE : @illrei
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ พันธนาการรักราชันเอลฟ์ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 04-09-2017 18:45:37
พ่อแม่ตีกัน เอาลูกมาพัวพันในปัญหา สุดท้ายพี่น้องก็แตกหักโดยที่ไม่จำเป็นเลย


คิดถึงโคลด์ *ไม่เกี่ยว*
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: kazuribum ที่ 25-10-2017 22:23:20
เอ่อสรุปว่า เรื่องนี้เป็น 3P หรืออย่างไร หรือ มาลแกธxโคลด์ หรือ ยังเป็น ซิกxโคลด์ เพราะตอนแรกเริ่มเปิดมาก็สปอนด์เนื้อหาแน่ซิกกับโคลด์ เชียร์ซิกอย่างเดียว ทอล์กก็ดันซิกสุด แต่ไหงไปๆมาๆ รู้สึกว่าจะเปลี่ยนเป็นดันมาลแกธแทนซะงั้น คนเขียนตั้งใจจะแต่งแบบนี้อยู่แล้ว หรือเปลี่ยนตามกระแสตัวละครครับ...เพราะเริ่มแรกที่เข้ามาอ่านเพราะคู่ ซิกXโคลด์ แต่ถ้าจะเปลี่ยนคู่หรือ จะ เปลี่ยนให้เป็น3P ก็คงจะไม่ขอติดตามต่อ ถึงแม้เนื้อเรื่องจะสนุกน่า แปลกใหม่ แต่ทำใจรับไม่ได้จริงๆ ที่ตามมาจนถึงตอนล่าสุดนี้เพราะยังหวังในคู่ ซิกxโคลด์ แต่จนจบภาคที่ 2 กลับเห็นว่าเข็มเบนไปทาง แกธ-โคลด์ หรือไม่ก็ ซิก-โคลด์-แกธ แล้ว ถึงจะสนุกแต่ถ้าไม่ใช่คู่ที่ชอบ มันก็อึดอัดที่จะอ่านต่อ และรู้สึกผิดหวังจริงๆครับ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: ILLREI ที่ 26-11-2017 13:39:16
พ่อแม่ตีกัน เอาลูกมาพัวพันในปัญหา สุดท้ายพี่น้องก็แตกหักโดยที่ไม่จำเป็นเลย


คิดถึงโคลด์ *ไม่เกี่ยว*
สวัสดีค่า ไม่ได้แวะมากระทู้นี้นานเลย หวังว่าจะได้รับหนังสือแล้วนะคะ!
(สั่งรึเปล่าเอ่ย ถ้าไม่สั่งหน้าแตกเพล้ง!)
ถ้าได้อ่านฉบับรวมเล่มแล้วรับรองว่าหายคิดถึงแน่ๆ เลยค่ะ จุ๊บบบบ  :mew1:


เอ่อสรุปว่า เรื่องนี้เป็น 3P หรืออย่างไร หรือ มาลแกธxโคลด์ หรือ ยังเป็น ซิกxโคลด์ เพราะตอนแรกเริ่มเปิดมาก็สปอนด์เนื้อหาแน่ซิกกับโคลด์ เชียร์ซิกอย่างเดียว ทอล์กก็ดันซิกสุด แต่ไหงไปๆมาๆ รู้สึกว่าจะเปลี่ยนเป็นดันมาลแกธแทนซะงั้น คนเขียนตั้งใจจะแต่งแบบนี้อยู่แล้ว หรือเปลี่ยนตามกระแสตัวละครครับ...เพราะเริ่มแรกที่เข้ามาอ่านเพราะคู่ ซิกXโคลด์ แต่ถ้าจะเปลี่ยนคู่หรือ จะ เปลี่ยนให้เป็น3P ก็คงจะไม่ขอติดตามต่อ ถึงแม้เนื้อเรื่องจะสนุกน่า แปลกใหม่ แต่ทำใจรับไม่ได้จริงๆ ที่ตามมาจนถึงตอนล่าสุดนี้เพราะยังหวังในคู่ ซิกxโคลด์ แต่จนจบภาคที่ 2 กลับเห็นว่าเข็มเบนไปทาง แกธ-โคลด์ หรือไม่ก็ ซิก-โคลด์-แกธ แล้ว ถึงจะสนุกแต่ถ้าไม่ใช่คู่ที่ชอบ มันก็อึดอัดที่จะอ่านต่อ และรู้สึกผิดหวังจริงๆครับ
สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่อ่านจนจบภาคนะคะ ความคิดเห็นของนักอ่าน นักเขียนรับฟัง และทราบว่าเป็นเรื่องอ่อนไหวมากทีเดียว ดังนั้นนักเขียนขออนุญาตไม่ออกความเห็น นอกจากขอบคุณมากๆ ที่คุณกรุณาอ่านนิยายเรื่องนี้ค่ะ ถ้าเป็นไปได้ เมื่อเราลงภาค 3 ที่เป็นเนื้อหาต่อจากภาคนี้ ก็อยากให้แวะมาอ่านนะคะ ขอบคุณมากค่ะ :)  :กอด1:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: cin ที่ 22-12-2017 00:11:53
สรุปโคลด์รักมาลแกธ?
เชียร์ซิกฟรีดมาตลอดเลย
พออ่านตอนโคลด์นอนกับมาลแกธรู้สึกเกลียดสองคนนี่เลย  :z6:



หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 16-04-2018 07:49:22
 o13
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 07-03-2019 11:41:38
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 19-09-2019 00:46:27
เราเพิ่งอ่านในเว็บจบ เดี๋ยวจะตามไปอ่านในหนังสือต่อนะคะ บางทีก็ขี้เกียจพกเลยมาอ่านในนี้เอา 5555 ชอบภาษามากค่ะ ติดงอมแงมเลย รอภาคต่อนะคะ แต่อย่านานนะเดี๋ยวเราลืมค่ะ  :hao7: // กดดันทางอ้อม อิๆ
หัวข้อ: Re: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 24-10-2019 15:22:40
อ่านลากยาวมาจนจบแบบหน่วงๆค่ะ แงงง
อยู่เรือซิกโคลด์ค่ะ เลยก็แบบหน่วงๆหน่อย
ในมุมคนอ่านของเรานะคะ เราว่าดวงความรักของซิกมันแย่เอามากๆ ได้เจอคนที่รักในเวลาที่มันไม่ใช่ มันไม่ถูกทั้งที่ทั้งเวลา อดีตที่พูดไม่ได้ สื่อสารไม่ได้ กับปัจจุบันที่ถึงแม้จะพูดได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ค่อยได้อยู่ดี ด้วยภาระและหน้าที่อะไรหลายๆอย่าง ที่มันค้ำคออยู่ เราสงสารซิกมากๆเลย ผิดกับมาลแกธ (จริงๆเราก็ชอบเขานะ แต่ลงเรือซิกไปแล้วนี่สิ 555 ) มาลแกธมาเหมือนลอยลำมาก ในเนื้อเรื่องที่พูดถึง เราว่ามาลคือชิลมาก ภาระไม่มี ไม่มีอะไรมาผูกคอเลย เลยทำให้เข้าใกล้โคลได้มากกว่า คือโอเคแหละที่จะบอกว่าแต่ก่อนมาลก็ผ่านอะไรมาเยอะ ทั้งเรื่องในเผ่าอะไรแบบนี้ แต่ในจุดที่เขามาเจอโคลมันคือจุดที่พอดีที่อวยเรื่องความรักให้ขึ้นได้แบบง่ายๆเลย เขาเจอคนที่เขารักในเวลาที่เหมาะไม่มีภาระ ไม่มีอะไร มาลทุ่มให้โคลด์ได้เต็มที่ แบบพร้อมเสมอเมื่อเธอต้องการอะไรประมาณนั้น 5555 
อืม ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็คงเหมือนมือคนเราอะค่ะ คนเรามีสองมือเท่ากันก็จริง เหมือนซิกฟรีดกับมาลแกธ แต่ตอนนี้มือของซิกมันมีของพะรุงพะรังเต็มไปหมด(เหมือนในเรื่องที่ซิกบอกว่าระหว่างเขากับโคลด์มันเหมือนมีกำแพงบางๆกั้นอยู่) ถึงพยายามจะจับมือโคลไว้มากแค่ไหนแต่มือที่มีของเยอะขนาดนั้นมันก็จับได้ไม่แน่นพอ จนสุดท้ายแล้วก็จำต้องปล่อยให้หลุดไป ไม่เหมือนของมาลที่มือว่างมากทั้งสองมือ ทำให้จับมือโคลไว้ได้แน่นกว่า
อ่านๆไปเราก็เลยรู้สึกอึดอัดแทนซิกมากๆเลยค่ะ จนเผลอคิดไปเลยว่าถ้าสุดท้ายแล้วถ้าโคลด์จะไม่เลือกใครเลยก็คงดี อยู่คุมเชิงกันไปเรื่อยๆแบบนี้สามคน 55555 เราอินมากจริงๆค่ะ

สุดท้ายนี้ถ้าคนเขียนทั้งสองผ่านมาเห็น หรือแวะเข้ามาดูบ้างก็ต้องขอขอบคุณที่เขียนเรื่องราวแบบนี้ออกมาให้ได้อ่านกัน นะคะ มันสุดยอดไปเลยค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะ