พิมพ์หน้านี้ - ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Ch0cmint ที่ 23-05-2016 08:30:26

หัวข้อ: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 23-05-2016 08:30:26
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม






FOLLOW YOU ตามรักคุณ


♦ Intro ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3385312#msg3385312)
♦ ตอนที่ 1 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3385338#msg3385338)
♦ ตอนที่ 2 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3385344#msg3385344)
♦ ตอนที่ 3 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3385353#msg3385353)
♦ ตอนที่ 4 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3386080#msg3386080)
♦ ตอนที่ 5 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3386081#msg3386081)
♦ ตอนที่ 6 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3386391#msg3386391)
♦ ตอนที่ 7 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3386395#msg3386395)
♦ ตอนที่ 8 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3386398#msg3386398)
♦ ตอนที่ 9 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3386878#msg3386878)
♦ ตอนที่ 10 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3387710#msg3387710)
♦ ตอนที่ 11 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3391857#msg3391857)
♦ ตอนที่ 12 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3394167#msg3394167)
♦ ตอนที่ 13 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3399653#msg3399653)
♦ ตอนที่ 14 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3403943#msg3403943)
► ตอนพิเศษใส่ไข่ ฟาง x เฟีย ◄ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3409322#msg3409322)
♦ ตอนที่ 15 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3415794#msg3415794)
♦ ตอนที่ 16 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3420443#msg3420443)
♦ ตอนที่ 17 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3425044#msg3425044)
♦ ตอนที่ 18 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3428234#msg3428234)
♦ ตอนที่ 19 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3435190#msg3435190)
♦ ตอนที่ 20 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3439013#msg3439013)
♦ ตอนที่ 21 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3446810#msg3446810)
♦ ตอนที่ 22 ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3467227#msg3467227)
♦ ตอนจบ ♦ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53962.msg3489309#msg3489309)




เข้าไปเวิ่นเว่อกับเราที่เพจได้น้า https://www.facebook.com/Ch0cmint/





ผลงานทั้งหมด
♥ [เรื่องสั้น] Tweet Love (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54078) - จบแล้ว
♥ [เรื่องสั้น] Flirt (Pack x Jeans) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54393) - จบแล้ว
♥ [เรื่องยาว] Day & Night เพราะว่ารัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54272) - ยังไม่จบ
♥ [เรื่องยาว] Coffee Shop รักนี้...รสกาแฟ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54690) - ยังไม่จบ
♥ [เรื่องยาว] Fierce ถึงร้ายก็รัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55202) - ยังไม่จบ
♥ [เรื่องยาว] Love at first sight คุณครับ...มาเป็นของผมเถอะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55408) - ยังไม่จบ
♥ [เรื่องยาว] Demon' s Contract (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55940) - ยังไม่จบ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP Intro 23/05/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 23-05-2016 08:35:03
Follow You 00







                ผมเคยเหนื่อยหน่ายกับการเรียนมหาวิทยาลัยมาก ทั้งเรียนทั้งงานมันหนักหนาสาหัสจริงๆ แต่เมื่อใครคนหนึ่งเข้ามาในสายตาของผม ทั้งๆที่เขาคนนั้น..เป็นคนใกล้ตัว เรียนคณะเดียวกันสาขาเดียวกันแต่เราไม่ได้สนิทกันอะไรมากมาย คุยกันได้ทักทายกันได้ วันหนึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดมันก็เริ่มเปลี่ยนไปเพราะอะไรผมก็ไม่อาจตอบได้ จากที่เขาแค่อยู่ในสายตาของผมกลับกลายเป็นเขาเข้ามาในหัวใจของผมซะอย่างนั้น เขาทำให้การเรียนมหาวิทยาลัยของผมมีสีสันยิ่งขึ้นไม่น่าเบื่อเหมือนปีที่ผ่านๆมาอีกแล้ว

 

                ครั้งหนึ่งเราเคยทะเลาะกัน เอ่อ คงเรียกว่าทะเลาะกันไม่ได้หรอกครับ แค่มีปัญหาเกี่ยงกันนิดหน่อยตอนจะประกวดดาวเดือนคณะ ผมกับเขาโดนเลือกเป็นตัวแทนสาขาให้เข้าชิงเป็นเดือนคณะ แต่ผมค้านหัวชนฝาไม่ยอมท่าเดียวส่วนเขาก็ไม่ชอบงานอะไรที่มีคนเยอะแยะ การพบปะผู้คนมากๆเป็นเรื่องที่น่ารำคาญสำหรับเขา แต่ผมก็ไม่สนใจอะไร ผมยอมรับว่าผมเอาแต่ใจตัวเองครับ ก็คนมันไม่อยากประกวดจะบังคับได้ยังไงกัน จริงไหม? จากวันนั้นเขาก็ได้เป็นเดือนคณะครับ ก็ตามคาดล่ะนะ ก็เขาหล่อ สูง ขาว หุ่นดี อาตี๋... แต่เอาจริงๆผมมองว่าเขาก็ดูสวยได้เหมือนกันนะ ส่วนสูงของเขาที่ว่าสูงแล้วก็ยังเป็นรองผมเกือบๆฝ่ามือเลยทีเดียว ส่วนผมเหรอ ไม่ได้หลงตัวเองนะ แต่ผมเป็นคนที่มีใบหน้าคม ตาคม สูง ผิวออกจะคล้ำกว่าเขานิดหน่อย หุ่นเหรอ ก็ไม่ได้ดีอะไรมากมายแค่มีซิกแพคแค่นั้นเอง

 

                จะบอกว่าเรายังติดใจเรื่องประกวดดาวเดือนกันอยู่รึเปล่า? ก็ไม่นะครับ หลังจากวันนั้นเราก็พูดคุยกันได้แบบปกติ มีแต่ผมเนี่ยล่ะที่สายตามักจะมองไปหาเขาและเฝ้าสังเกตพฤติกรรมหลายๆอย่างของเขา เพราะแบบนี้ล่ะมั้งที่ทำให้เดือนคณะอย่างเขาเดินเข้ามาในหัวใจของคนเหนือเดือนอย่างผมได้ แปลกดีเนอะ ผู้หญิงมากมายเข้าหาผม แต่ผมดันมาสนใจผู้ชายด้วยกันเอง

 

                ตอนนี้ผมนั่งอยู่ตรงหน้าลานคณะ ในมือมีกล้องโปรตัวใหม่ล่าสุดที่เพิ่งถอยออกมาจากร้าน ผมยกมันขึ้นมาเล็งโฟกัสไปที่หน้าของเพื่อนร่วมโต๊ะอย่างไอ้โฟร์ท มันก็เอามือมาปัดแล้วทำเสียงจิ๊จ๊ะออกมาอย่างไม่พอใจ มันไม่ชอบเป็นแบบให้ใครถ่ายรูปครับ เกลียดการเข้ากล้องมากเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าเป็นเซลฟี่ตัวเองมันไม่เกี่ยงนะเว้ย หลังจากที่มันปัดกล้องผมทิ้ง ผมก็วางกล้องลงบนโต๊ะแล้วยกมือขึ้นโบกหัวมันแทนพร้อมกับยักคิ้วกวนตีนมัน

 

                “มึงนี่ลามปาม”

                มันว่าผมก่อนจะจ้องเขม็งแล้วกลับไปสนใจลอกงานต่อ มันไม่ค่อยโกรธผมหรอกครับ เป็นเพื่อนที่ดี น่าแกล้งที่สุดในกลุ่มแล้วก็ว่าได้ อ้อ พูดถึงคนในกลุ่ม กลุ่มผมมีกันอยู่สี่คนครับ มีผม ไอ้โฟร์ท ไอ้แทม แล้วคนสุดท้าย ไอ้บีท พวกผมชอบเรียกมันว่าฮาร์ทบีทล่ะ แล้วก็ชอบยกมันให้สาวๆด้วย ก็ลูกอมฮาร์ทบีทไงครับ

 

                “กูลามปามอะไรมึง? กูแก่กว่ามึงนะโฟร์ท”

                ผมว่าพร้อมกับยกกล้องตัวเดิมขึ้นมาแล้วกวาดมันไปรอบๆลานคณะ เผื่อเจอสิ่งที่สนใจจะได้กดชัตเตอร์ทันที แล้วผมก็เจอกับฟอง... อืม คนที่ผมแอบขอบนั่นล่ะครับ กำลังเดินมาทางนี้พร้อมกับเพื่อนของมันอีกสองคน มือไวเท่าความคิดครับ กดชัตเตอร์รัวๆไปเกือบสิบภาพ หวังว่าเจ้าตัวเขาจะไม่ทันได้สังเกตนะ

 

                “ไอ้มิน!!”

                เสียงตะโกนเรียกชื่อผมดังขึ้น.. เอาจริงผมแอบสะดุ้งนะ ก็มันดังจนคนทั้งลานหันมามองทางโต๊ะผม พวกของฟองก็หันมามองแล้วยิ้มให้ผมด้วย โอย ทำไมน่ารักล่ะครับ จะยกกล้องขึ้นมาถ่ายอีกครั้งก็ไม่ได้ด้วยดิ ผมยิ้มกลับให้พวกเขาแล้วหันไปหาไอ้โฟร์ทที่มันแหกปากเรียกผมเมื่อกี้

 

                “อะไรของมึงเนี่ย นั่งใกล้กันแค่นี้ทำไมต้องตะโกนวะ”

                ผมปิดเลนส์กล้องแล้ววางมันลงก่อนจะให้มือเสยผมนิดหน่อย ก็อากาศมันร้อนครับไม่ได้จะทำเท่อะไรหรอก แต่ถ้าใครจะมองผมว่าเท่ของให้เป็นฟองได้ไหมล่ะ แค่คิดก็อิ่มเอมใจจนไม่ต้องกินข้าวแล้วล่ะครับ

 

                “แม่ง เรียกสองสามรอบแล้วนะเว้ย หูตึงรึไง”

                ไอ้โฟร์ทหน้ายุ่งเลยครับ แล้วนิ้วมันก็จิ้มลงกลางหน้าผากผมจึกๆ  ไอ้บ้านี่ หน้าผากนะเว้ยไม่ใช่ขี้ ทำตัวเป็นอาราเล่จิ้มอุนจิไปได้ ผมปัดมือมันทิ้งก่อนถลึงตาใส่

 

                “เออๆ มีอะไร?”

                ผมไม่อยากจะเถียงกับมันครับ เดี๋ยวยาว ไอ้โฟร์ทมันเถียงและแถเก่ง

 

                “จะถามว่ามึงเขียนว่าไร กูอ่านไม่ออก”

                มันพูดจบก็เอามือจิ้มที่ใบงานของผม อ๋อ... คือแบบผมก็อ่านไม่ออกเหมือนกันว่ะ สงสัยเมื่อคืนมันกึ่งหลับกึ่งตื่นตอนทำเลยกลายเป็นภาษาต่างดาวไปซะงั้น

 

                “กูก็อ่านไม่ออกว่ะ มึงลอกของไอ้บีทไป”

                ผมดึงใบงานออกจากมือมันแล้วจับยัดลงกระเป๋าทันที ยับก็ช่างมันครับ จังหวะนี้แบบอายลายมือตัวเอง มีหลายครั้งที่ไอ้พวกนี้มันชอบบอกว่าลายมือแบบผมน่าจะไปเรียนหมอ... จริงๆผมก็เรียนหมอได้นะแต่ชอบด้านอาร์ตมากกว่า

 

                “เอ้า อย่าโยนให้มันมาลอกกูดิวะ กูยังไม่เสร็จเว้ย”

                ไอ้บีททำตาโตแถมออกอาการโวยวายอีก ผมว่ามันเสียงดังเกินไปอีกแล้วนะครับ คนทั้งลานหันมามองอีกแล้วไง กลุ่มผมนี่มันกลายร่างมาจากโทรโข่งรึไง มีแต่ผมนี่ล่ะครับที่ใช้เสียงอย่างประหยัดตามสถานการณ์ที่สุดแล้ว

 

                “งั้นลอกของไอ้แทม”

                ผมพยักเพยิดหน้าไปทางไอ้แทม มันเอาแต่ส่ายหน้ากลับมาแล้วชูกระดาษรายงานที่มีแค่ชื่อ... ไอ้เชี่ยนี่หนักกว่าคนอื่นเลยครับ กระดาษมีแค่ชื่อ คนอื่นยังตอบมาข้อสองข้อ สงสัยเมื่อคืนมันจะเล่นเกมยันเช้าจนลืมทำการบ้านอีกตามเคย

 

                “ไอ้ชั่ว ติดเกมอีกสินะมึง”

                ผมไม่ได้ด่ามันนะครับ เป็นไอ้โฟร์ทนู่น ปากยื่นปากยาวด่ามันเข้าไป เดี๋ยวมึงก็ไม่มีการบ้านลอกยาวหรอก คือน้อยครั้งครับที่ไอ้แทมมันจะมากระดาษเปล่า เพราะมันเป็นคนที่เรียนเก่งที่สุดในกลุ่มแล้วก็ว่าได้ มันคงทำแค่แปปเดียวแล้วมีต้นฉบับให้เพื่อนๆ

 

                “เรื่องกู กูมีปัญญาทำแล้วกัน ไม่ต้องคอยลอกใคร”

                เจ็บปวดครับ... ไอ้แทมมันพูดแต่ละครั้งแทบจะหงายหลังกันล่ะ เรียนเก่งปากหมา... คุณสมบัติอะไรของมันก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่คนก็ชอบมันเยอะนะ หนุ่มแว่นอะไรแบบนั้น

 

                “เจ็บไหมล่ะมึง ด่ามันก่อนเอง”

                ผมตบบ่าไอ้โฟร์ทเป็นการปลอบมัน ไอ้โฟร์ทหน้าเหลือสองนิ้วเถียงต่อไม่ออกเลยครับ มันแพ้ทางไอ้แทมตลอดล่ะ ไม่เคยชนะสักที ส่วนไอ้บีทนี่หัวเราะจนท้องแข็งไปแล้ว ทำท่าจะหงายหลังตกจากม้านั่งด้วย ดีนะที่ผมละมือจากไอ้โฟร์ทไปดึงแขนมันทัน หน้ามันยังดูตกใจอยู่เลย

 

                “โอ้ยๆ ใจหายใจคว่ำหมดกู ขอบใจเว้ยมิน”

                มันขอบคุณผม ผมส่ายหัวเป็นเชิงว่าไม่เป็นไรแล้วปล่อยแขนมันออก ไอ้โฟร์ทนี่แลบลิ้นปลิ้นตาล้อไอ้บีทต่อเลยครับ อย่าให้ได้ผุดได้เกิดกันเถอะกลุ่มผมเนี่ย

 

                “เดี๋ยวมึงจะโดนนะไอ้โฟร์ท”

                ไอ้บีทว่าคาดโทษมันไว้ก่อนจะกลับไปสนใจการบ้านที่ต้องส่งคาบบ่ายต่อ ไอ้บีทมันชอบพยายามด้วยตัวเองก่อนครับถ้าทำไม่ได้ถึงจะขอคนอื่นลอก ก็ดีของมันครับ

 

                “แม่ง.. งั้นกูไปขอไอ้ฟองลอกก็ได้วะ รายนั้นลายมือสวย งานดี”

                โฟร์ทพูดจบก็หอบใบรายงานพร้อมเครื่องเขียนเอาไว้ในมือก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ผมรีบเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะแล้วคว้าข้อมือมันทันที

 

                “อะไรของมึงไอ้มิน?”

                โฟร์ทมันก้มลงมองข้อมือก่อนจะมองหน้าผมแล้วยิ้มกวนๆมาให้ อยากตายรึไงวะมาทำหน้าตากวนตีนแบบนี้ใส่ผมเนี่ย

 

                “มึงจะไปไหน?”

                ผมก็ถามคำถามโง่ๆกับมันอีกแล้วไงครับ ฮ่วย

 

                “ก็ไปหาฟองไง แหม หรือมึงหวงครับคุณมิน”

                นั่นไงครับ โดนแซวจนได้ ทุกคนในกลุ่มรู้ครับว่าผมชอบฟองแล้วก็หวงฟองมาก.. พวกมันชอบกวนตีนผมด้วยการไปอยู่ใกล้ฟองจับเนื้อต้องตัวไรแบบนั้น ผมเห็นแล้วหงุดหงิดทุกทีถึงจะรู้ว่าพวกนั้นแค่แกล้งผมเล่นๆก็เถอะ

 

                “ก็รู้ๆอยู่”

                ผมยักไหล่แล้วปล่อยมือจากข้อมือไอ้โฟร์ท ส่วนไอ้บีทกับไอ้แทมนี่ยิ้มล้อหน้าบานเชียวครับ ผมได้แต่ยักคิ้วกวนๆไปให้พวกมัน อย่าคิดว่าผมจะเขินนะ ... ถ้าอยากให้ผมเขินก็ดึงไอ้ฟองมานั่งใกล้ๆดิวะ

 

                “เดี๋ยวกูจะโอบไหล่ไอ้ฟองเลยคอยดู”

                ไอ้โฟร์ทยิ้มเจ้าเล่ห์แถมยังแลบลิ้นเลียปากด้วยนะ ไอ้เชี่ย เดี๋ยวมึงจะโดนกูถีบหน้าคะมำ

 

                “โอบตีนกูก่อนไหม?”

                ผมแยกเขี้ยวแล้วยกเท้าขึ้นมาวางบนม้านั่ง ผมเป็นคนพูดจริงทำจริง กล้าได้กล้าเสียนะ แต่กับเรื่องฟองนี่โคตรป๊อดเลยว่ะ

 

                “อุ้ยตาย คุณมินมีน้ำโหแล้วว่ะ กูล้อเล่น”

                ดูมันอุทานครับ -_- ถามจริงเหอะ พ่อแม่มึงเครียดไหมที่มึงอุทานได้ตุ๊ดแตกขนาดนี้ แล้วผมก็ยกเท้ายันก้นมันจนได้ครับ มันหน้าเสียเลยไง ก็โดนคนทั้งลานหันมามองอีกแล้ว

 

                “มึงก็ไปแกล้งไอ้มินมัน”

                ไอ้บีทพูดจบก็ส่ายหน้าไปมา มือมันก็หมุนปากกาเล่นไปเรื่อย ชิวจังนะมึง การบ้านเสร็จแล้วรึไงวะ

 

                “เออ ส้นตีน”

                พี่แทมมาสั้นๆได้ใจความมากครับ จนไอ้โฟร์ทก้มหัวปรกๆ

 

                “ขอโทษคร้าบคุณชายทั้งหลาย กูไปหาฟองแล่ว การบ้านไม่เสร็จสักที”

                แล้วมันก็วิ่งไปหาฟองจริงๆครับ แม่ง... นึกว่าโดนขนาดนั้นมันจะเบนเข็มไปขอลอกคนอื่นซะอีก ไอ้นี่มันกวนตีนผมไม่เลิกจริงๆเลยเว้ย ผมก็ทำได้แค่มองตามหลังไอ้โฟร์ทที่หย่อนก้นลงโต๊ะของฟองเรียบร้อยแล้ว มันทั้งคุยทั้งยิ้มให้ฟองอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วฟองก็หยิบเอากระดาษใบงานของตัวเองส่งให้ไอ้โฟร์ท อิจฉาว่ะ ได้แต่นั่งมองตาละห้อยเนี่ย คราวหน้าไม่ทำการบ้านมาดีไหมวะ จะได้ทำเนียนไปขอลอกฟองบ้าง... แต่แม่ง ไม่ได้ไง ผมเสือกอยู่ในเกณฑ์เรียนดีแบบไอ้แทมมันซะด้วย

 

                “มึงจะอยู่แบบนี้อีกนานแค่ไหน?”

                อยู่ๆไอ้บีทก็ถามขึ้น ผมเลยต้องเบนความสนใจจากฟองมาสนใจมันแทน เสียเวลาส่องฟองว่ะ ถ้าไม่มีไรสำคัญนะกูจะคว่ำโต๊ะ

 

                “อะไร?”

 

                “ก็แอบชอบฟองไง”

 

                “ไม่รู้ว่ะ จะให้กูทำยังไง”

                ชิบหายเลยครับ มันไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่มันเป็นเรื่องเครียดต่างหาก จริงๆแล้วที่ผมทำได้แค่แอบชอบเพราะผมเป็นผู้ชายแล้วฟองก็เป็นผู้ชายไงครับ จะให้ผมเริ่มยังไงล่ะวะ ก็ไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อนฟองเป็นคนแรก และมันยังเป็นคนแรกที่ผมเข้าไปชอบก่อนด้วย ที่ผ่านๆมาผู้หญิงเข้ามาชอบเข้ามาจีบผมก่อนทั้งนั้นล่ะ ถ้าผมเข้าไปสารภาพรักกับฟองแล้วโดนรังเกียจขึ้นมาจะทำยังไงล่ะวะ

 

                “ไม่คิดจะบอกให้ฟองรู้บ้างเหรอ?”

                เป็นไอ้แทมที่เงยหน้าจากใบงานขึ้นมาถามผม ส่วนไอ้บีทก็พยักหน้าเห็นด้วย ผมได้แต่มองหน้ามันสองคนแล้วขมวดคิ้วเข้าหากัน ถามปัญหาเชาว์ยังตอบง่ายกว่านี้เลยว่ะ

 

                “ก็มันเป็นผู้ชาย”

 

                “แล้วไงวะ? เดี๋ยวนี้เรื่องเพศมันเป็นรองจากความรักแล้วเว้ย”

                ข้อคิดมึงดีงามมากครับบีท แต่ฟองมันจะคิดเหมือนมึงไหมล่ะ นั่นประเด็นสำคัญเลยนะเว้ย

 

                “กลัวว่าฟองมันจะไม่คิดแบบมึงแล้วรังเกียจกูนี่สิ”

                ผมเสยผมตัวเองอีกครั้งก่อนจะขยี้มันไปมา เวลาเครียดผมชอบเป็นแบบนี้ล่ะครับ ผมนี่ขยี้ให้ยุ่งเท่าไหร่ยิ่งเครียดเท่านั้น หมดมาดเหนือเดือนกลางลานคณะก็ไม่แคร์

 

                “ระวังหมาคาบไปแดกแล้วกันนะมึง”

                ไอ้บีทยักไหล่แล้วก้มหน้าทำงานของมันต่อ เอ้า ไอ้นี่ทิ้งระเบิดไว้แล้วหนีไปแบบนี้อ่ะนะ ฟายเอ้ย

 

                “พ่อง ทำกูเครียดนะไอ้บีท”

                ผมขยี้หัวตัวเองอีกครั้ง เอาให้แม่งหวีไม่ออกเลยไง แล้วผมต้องทำยังไงวะ หน้าด้านเดินเข้าไปหาฟองแล้วก็บอกว่า ‘เราชอบฟองว่ะ’ แบบนี้เหรอ? คิดว่ากูกล้าขนาดนั้นเลยเนอะไอ้พวกเชี่ย ถ้ากูกล้ากูคงสารภาพรักกับมันไปตั้งแต่ปีสองแล้วเว้ย

 

                “มึงควรทำอะไรสักอย่างได้แล้ว”

                ไอ้แทมพูดพร้อมกับเอื้อมมือใหญ่ๆของมันมาลูบหัวผม... เอาซะกูเป็นลูกมึงเลยไง ผมขยับหนีมือมันที่เอาแต่อมยิ้มน้อยๆ ถ้ามึงไม่ใช่เพื่อนสนิทที่รู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้วกูคงจีบมึงไปแล้วล่ะ ปลอบคนอื่นได้น่ารักถึงมันจะปากหมาไปบ้างก็เถอะนะ

 

                “เออ ไอ้บีทมึงไปถวายตัวให้ฟองดิ๊”

                ไอ้บีทหันขวับมองผม ตามันถลน ปากกาในมือร่วงไปเลยครับ

 

                “มึงว่าไงนะ??”

 

                “ก็มึงคือฮาร์ทบีทสื่อรักไงวะ”

                ผมหัวเราะในลำคอเพราะพอใจที่มันทำหน้าตาเหรอหรา โคตรตลกเลยครับ แต่ดูเหมือนมันจะดึงสติกลับมาได้แล้วหยิบปากกามาเคาะลงหน้าผากผม โอย ไอ้บ้า เจ็บนะเว้ย ผมปัดมือมันทิ้งแล้วลูบหน้าผากตัวเองไปมา

 

                “พ่อง กูไม่ใช่ลูกอม”

                ไอ้บีทว่าอย่างหัวเสียเล็กๆ แต่มันก็กลับไปทำงานต่อ ดีแบบนี้ล่ะครับกลุ่มผม ไม่ค่อยต่อปากต่อคำกันยาวเท่าไหร่ พอผมว่างจากพวกเพื่อนๆก็หันไปสนใจฟองอีกครั้งแต่ก็ต้องแปลกใจที่ฟองเดินมาทางผม เห้ย ไอ้โฟร์ทเล่นอะไรแผลงๆอีกแล้วแน่ๆ จะทำตัวยังไงดีวะเนี่ย ผมรีบหันหน้าเข้าหาโต๊ะแล้วหยิบกล้องขึ้นมาเปิดดูรูปที่ถ่ายๆไปจนฟองเดินมาถึงโต๊ะแล้วสะกิดผมนั่นล่ะ ไอ้บีทกับไอ้แทมก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับฟองแล้วกลับไปทำงานต่อ

 

                “ว่าไงฟอง?”

                ผมเงยมองหน้าฟอง พยายามควบคุมตัวเองให้ดูเป็นธรรมชาติและปกติที่สุดทั้งๆที่ตอนนี้ตัวเองแทบสติแตก พอได้เห็นหน้าขาวๆใสๆของฟองใกล้ๆมันพาลจะละลาย ไหนจะมือนุ่มๆที่แตะอยู่บนไหล่ผมอีก โอย อยากคว้ามาดมชิบหาย

 

                “เห็นโฟร์ทบอกว่ามินตอบคำถามข้อที่แปดไม่ได้ก็เลยให้ฟอง เอ้ย เราเดินมาบอก”

                ฟองยิ้มเล็กน้อย จริงๆผมก็รู้มาบ้างว่ากับคนที่สนิทกันฟองจะแทนตัวเองด้วยชื่อแต่เฉพาะกับสาวๆนะครับ เพราะกับเพื่อนผู้ชายที่ฟองสนิทก็กูมึงธรรมดา แต่กับคนที่ไม่สนิทฟองจะแทนตัวเองว่าเรา ถ้าถามว่าฟองเคยพูดหยาบไหม คำตอบคือเคยครับ เรื่องปกติของผู้ชายล่ะวะ

 

                “ห๊ะ? เอ่อ...”

                งงสิครับ งานผมเสร็จแล้วนะ ไอ้โฟร์ทเล่นบ้าอะไรวะเนี่ย ผมเลยหันไปอ้าปากถามไอ้โฟร์ทที่นั่งห่างออกไปสามโต๊ะแบบไม่มีเสียง ‘ว้อท?’ มันได้แต่ขยิบตาให้ผม ผมเลยแยกเขี้ยวใส่มันก่อนจะหันไปมองฟองที่กำลังมองผมแบบงงๆ

 

                “อ๋อ เอ้อ ใช่ๆ มันตอบอะไรนะ”

                ผมเลยเออออห่อหมกไปกับฟองด้วย ฟองยิ้มอีกครั้งแล้วก็บอกคำตอบผมก่อนเขาจะหยุดกึกไปเมื่อสายตามาหยุดที่กล้องผม ผมเลยมองตามฟองไปดูกล้องในมือบ้าง ผมถึงกับเบิกตากว้างแล้วปิดกล้องทันที ไอ้เชี่ยยยย รูปฟองเมื่อกี้เลยครับคุณ โชว์หราเต็มจอกล้องเลยไง ย๊าก

 

                “อ่า งั้นเราไปก่อนนะ”

                ฟองหลบหน้าผมน้อยๆแล้วเดินหนีกลับโต๊ะไปเลย โอ้ยย ชีวิตปรมินทร์จบแล้วใช่ไหมวะเนี่ย เครียดเว้ย ผมวางกล้องเจ้าปัญหาลงแล้วยกมือทั้งสองข้างขยี้หัวตัวเองจนพังยับเยิน คิดไปคิดมาก็เสียดายแว็กซ์ที่ใส่มาเมื่อเช้าว่ะ

 

                “เป็นไรของมึง ปรมินทร์?”

                ไอ้บีทวางปากกาลง สงสัยมันจะทำงานเสร็จแล้วล่ะครับ ผมนี่ส่งสายตา SOS ให้มันเลยครับ

 

                “ฟองแม่ง... เห็นรูปตัวเองในกล้องกูว่ะ”

                ผมพูดจบก็เปิดกล้องแล้วส่งให้ไอ้บีทดูเพื่อยืนยันว่าผมพูดจริง บีทก็นะ... พอเห็นรูปแล้วเอาแต่หัวเราะบ้าบอ ส่วนไอ้แทมก็วางปากกาแล้วชะโงกหน้าไปเสือกเหมือนกัน มันยิ้มมุมปากมาให้ผม เกลียดเว้ย

 

                “กูว่ามึงต้องเตรียมใจสารภาพกับฟองเร็วๆนี้แล้วว่ะ”

                เออครับ ปิดได้มาเป็นปีความแตกเพราะความประหม่าห่าเหวของตัวเอง โอ้ย แล้วจะสารภาพกับฟองยังไงล่ะวะ ปรมินทร์ขอยาพาราสิบเม็ดเลยได้ไหม ตอนนี้เครียดแล้วปวดหัวมาก ไอ้โฟร์ทกลับมาเมื่อไหร่ผมจะฆ่ามัน โทษฐานที่เป็นต้นเหตุให้ฟองเดินมาหาผม



♥♥♥♥♥
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 1 23/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 23-05-2016 09:39:50
Follow You : 01



 

                “เมื่อวานมึงแสบมากเลยนะไอ้เชี่ยโฟร์ท”

                ผมด่ามันแล้วโบกหัวมันไปหนึ่งทีหลังจากเลิกเรียนภาคเช้าแล้วเดินตรงไปที่โรงอาหารคณะ ไอ้โฟร์ทหันมาทำตาขวางก่อนจะต่อยเข้าที่ไหล่ผมเบาๆหนึ่งทีเป็นการเอาคืนที่ไม่รุนแรงมากนัก เพราะถ้ามันต่อยแรงผมจะสวนมันกลับอีกรอบ

 

                “แสบไรของมึง อุตส่าห์ช่วยมึงให้ได้คุยกับฟองนะเว้ย”

                มันมุ่ยหน้าแล้วพ่นลมออกทางจมูก... ไอ้บ้าเอ้ยเหมือนกระทิงตอนโกรธเลยว่ะ อยากจะขำนะแต่ผมกำลังเครียดอยู่ไง คิ้วแทบจะผูกกันเป็นโบว์ได้อยู่แล้ว ไอ้บีทกับไอ้แทมนี่ไม่เคยจะทุกข์ร้อนอะไรกับเขาหรอกครับเดินหลีสาวมาตลอดทางล่ะ

 

                “ช่วยทำให้มันพังดิวะ ฟองแม่งเห็นรูปตัวเองในกล้องกู”

                ผมเหลือบตามองมันอีกครั้งก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะว่าง ทุกคนก็นั่งตามครับเพราะยังไม่ได้ตกลงกันว่าจะกินอะไรดี

 

                “เห้ย เรื่องนั้นก็โทษกูไม่ได้ป่ะวะ มึงประมาทเอง”

                มันทำหน้าเครียดใส่ผมเลยครับ ก็จริงของมันล่ะครับที่เป็นเพราะความประมาทของผมเอง แต่ถ้ามันไม่ทำให้ฟองเดินมาหาผมผมก็คงไม่พลาดแบบนี้หรอก สรุปแล้วผมจะให้มันผิดครับใครจะทำไม

 

                “ก็กูจะให้มึงผิด มีปัญหาไง?”

                ผมจ้องไอ้โฟร์ทเขม็ง ถ้าวันนี้มันไม่ยอมผมก็อย่าหวังจะได้กินข้าวนะเว้ย ก็มันดันลืมเอากระเป๋าตังค์มาแล้วจะยืมผมเพราะไอ้สองตัวที่เหลือมันไม่ยอมให้ยืมไงล่ะ

 

                “ไอ้เชี่ย ผิดกันคนละครึ่งได้ไหม?”

                โอ้โห เดี๋ยวนี้หัดต่อรองแบบหน้าตายเลยครับ ไม่ยอมผิดคนเดียวด้วยว่ะ สายตาที่มันใช้มองผมนี่เหมือนลูกหมาอ้อนเจ้านายเลยไง คงรู้ชะตากรรมตัวเองถ้ามันยังดึงดันเถียงผมแบบเต็มรูปแบบอยู่

 

                “งั้นเที่ยงนี้มึงกินข้าวแค่ครึ่งจานพอ”

                เอาสิครับ ดูสิมันยังจะกล้าต่อรองอะไรอีกไหม ตอนนี้ผมถือไพ่เหนือกว่ามันนะ ผมยักคิ้วแล้วยิ้มกวนตีนไปให้มัน ไอ้โฟร์ทเลยทำถ้าฮึดฮัดก่อนจะยอมผมไปตามระเบียบ

 

                “ไอ้คนใจร้าย แม่ง กูผิดคนเดียวก็ได้วะ”

                ไอ้โฟร์ทหน้าหงิกเลยครับ ผมก็เลยยิ้มกว้างออกมาในชัยชนะที่บังคับมันได้ ส่วนไอ้แทมกับไอ้บีทเอาแต่หัวเราะแล้วตบบ่าปลอบไอ้โฟร์ทแบบเสแสร้งกันไปตามเรื่องตามราว

 

                “ดีมากครับคุณโฟร์ท เอานี่ตังค์ ซื้อกระเพราไก่ไข่ดาวให้กูด้วย”

                ผมยื่นตังค์ให้มันพร้อมกับสั่งเมนูสิ้นคิด เอาจริงๆผมเป็นคนกินอะไรง่ายๆครับ ไม่ได้เรื่องมากเลือกกินอะไรหรอก ไอ้โฟร์ทรับตังค์จากผมไปแล้วพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะดึงแขนไอ้แทมที่เป็นเวรซื้อน้ำวันนี้ไปด้วยกัน

 

                “กูเอาราดหน้าทะเลนะเว้ย”

                ไอ้บีทตะโกนตามหลังไปส่วนไอ้โฟร์ทแค่ยกมือทำสัญลักษณ์โอเคแล้วเดินต่อไป

 

                “เออ มิน”

                อยู่ๆไอ้บีทก็เรียกผมที่ตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมในมือถืออยู่ ผมกดสต็อปแล้วเงยหน้าขึ้นมาคุยกับมัน

 

                “ว่าไง?”

 

                “เมื่อเช้ากูเห็นฟองมองมาทางมึงด้วยว่ะ”

               

                “หือ ตอนไหนวะ?”

                ผมนี่งงเลยครับ ปกติฟองมันไม่เคยมองมาที่ผมหรอกครับ หรือว่าเป็นเพราะเรื่องเมื่อวาน? ผมจะโดนหาว่าเป็นสต็อกเกอร์ไหมวะเนี่ย

 

                “กูจะบอกมึงถูกไหมล่ะ ก็ตอนเรียนวิชาถ่ายภาพนั่นล่ะ”

                เอ้า ก็กูอยากรู้ว่าช่วงจังหวะไหนที่ฟองมองผมไง อยากรู้ว่าตัวเองพลาดชอตนั้นไปได้ยังไง ก็แค่นั้นเอง

 

                “เออ เขาคงติดใจเรื่องเมื่อวานมั้ง”

                ผมตอบไปแบบไม่ใส่ใจ ก็ไม่เคยคิดมาก่อนอยู่แล้วว่าฟองจะมองผมด้วยความพิศวาส นิ้วผมกดเล่นเกมต่อแต่ไอ้บีทก็ยังไม่เลิกพูด

 

                “ไอ้มิน - - แสดงว่ามึงไม่ได้ฟังอาจารย์พูดเลยใช่ไหม?”

                อ่าว อาจารย์พูดไรอีกวะเมื่อวาน ความทรงจำผมขาดๆหายๆเพราะมัวแต่เล่นเกมให้คาบเรียนล่ะมั้ง

 

                “มั้ง แล้ว’จารย์ว่าไง”

                ผมถามมันทั้งๆที่ตาและสมาธิกำลังจดจ่อเล่นเกมต่อไป กำลังมันเลยครับ ตีบอสอยู่

 

                “จับคู่ถ่ายภาพ Portrait”

 

                “อ๋อ แล้วไง?”

 

                “ไอ้เชี่ยมิน นี่มึงไม่รู้ห่าไรเลยใช่ไหม?”

                ไอ้บีทขึ้นเสียงใส่ผมครับ ไม่พอแค่นั้นนะ ฝามือมันจะฟาดลงกลางหัวผมด้วย เจ็บสิครับ เกมเชี่ยไรไม่เล่นมันแล้ว ผมวางมือถือลงบนโต๊ะแล้วจ้องมันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อทันที กล้ามากนะมึง

 

                “อะไรของมึงห๊ะ ทั้งด่าทั้งทำร้ายร่างกายกู”

                ผมพูดจบมันได้แต่ทำหน้าเอือมๆใส่ผมแล้วส่ายหัวเบาๆเหมือนผมเป็นควายที่เพิ่งลุกจากการแช่ตัวในโคลน เสียเซลฟ์คนเรียนเก่งชิบหาย

 

                “กูน่าจะปล่อยมึงให้โง่ต่อไปว่ะ แต่กูทำไม่ได้เพราะกูเป็นคนดี”

                ไอ้นี่พูดอะไรชวนงงเว้ย มันยิ้มมุมปากนิดหน่อย แล้วนี่กูไปโง่อะไรตอนไหนอีกวะเนี่ย

 

                “มึงพูดไรของมึงเนี่ย กูงง”

                ผมยกมือเกาหัว โอย งงเว้ย เกิดมาไม่เคยงงอะไรแบบนี้ แถมโดนด่าว่าโง่อีก เจริญเลยครับนายปรมินทร์

 

                “มึงคู่กับฟองไง ไอ้ฟาย”

                กรี๊ด เมื่อกี้ผมฟังไม่ผิดใช่ไหมครับ? ผมเนี่ยนะได้ทำงานคู่กับฟอง โอ้ยยย ผมมันโง่จริงๆล่ะเว้ย ถ้าฟังอาจารย์ตั้งแต่ตอนนั้นผมคงตะโกนลั่นห้องแล้วล่ะครับ อายคนอื่นไปอีก โว้ยยย แบบนี้มันต้องฉลองเว้ย แอร้ย ผมยิ้มกว้างมากครับจังหวะนี้ ยิ้มเหมือนบ้าเลยไง

 

                “กูดีใจมากกกกกกกกกก”

                ผมลุกขึ้นเอื้อมมือไปจับไหล่ไอ้บีทที่นั่งฝั่งตรงข้ามแล้วเขย่าตัวมันไปมา มันด่าผมเสียงกระท่อนกระแท่นเลยครับ

 

                “ไอ้ห่า ปล่อยกู กูจะอ้วก!”

                มันยกมือขึ้นมาตีแขนผมรัวเลยครับ ผมเขย่ามันจนพอให้แล้วปล่อยมือ สะใจเล็กๆครับ มันก็อมพะนำอยู่ได้ไม่รีบบอกตั้งแต่ตอนเรียนล่ะวะ

 

                “เครื่องในกูมิกซ์กันหมดแล้วมั้ง”

                มันส่ายหัวไปมาเล็กน้อยไล่ความมึน ผมยักไหล่ไม่ได้รู้สึกผิดแต่อย่างใด คนมันมีความสุขครับถึงจะรู้ตัวช้าไปหน่อยก็เถอะ แต่ไอ้งานจับคู่ถ่ายภาพนี่มันทำไงบ้างวะ

 

                ก่อนที่ผมจะได้ถามอะไรต่อ ไอ้สองตัวที่หายไปซื้อข้าวกับน้ำเป็นนานสองนานก็เดินกลับมาพร้อมถาดอาหาร ไอ้แทมนั่งลงข้างผม ส่วนไอ้โฟร์ทนั่งลงข้างๆไอ้บีท มันแจกจ่ายอาหารให้ทุกคนในโต๊ะแล้วก็เริ่มลงมือกิน

 

                “เออ แล้วงานคู่มันทำยังไงบ้างวะ?”

                ผมถามแบบไม่ได้เจาะจงว่าถามใคร เป็นไอ้โฟร์ทที่หันมาสนใจผมคนแรกทั้งๆที่มันเพิ่งสูดเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากไปเมื่อกี้ ผมจ้องมันเป็นเชิงบอกว่ามึงอย่าอ้าปากพูดตอนกินนะเว้ย แล้วมันก็เข้าใจครับรีบเคี้ยวรีบกลืนทันที สงสัยกลัวคนอื่นจะแย่งพูด

 

                “กูหัวเสียมากเลยมึงรู้ป่ะเรื่องงานคู่เนี่ย”

                ไอ้โฟร์ทว่าก่อนมันจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว มันกระแทกแก้วลงบนโต๊ะพร้อมทำหน้าเครียดส่งมาให้ผม... มันหัวเสียแต่ผมหัวสั่นว่ะ... หัวใจน่ะ!! อย่าคิดลึก

 

                “หัวเสียไรของมึง?”

                ผมถามมันก่อนจะยกขวดน้ำขึ้นดื่มบ้าง... ผมมันแนวฮาร์ดคอร์ครับไม่ค่อยชอบใช้แก้วน้ำเท่าไหร่

 

                “ก็แม่ง ต้องผลัดกันเป็นแบบถ่ายให้อีกคน แล้วกูได้คู่กับอิงฟ้า ฮ่วยย”

                ไอ้โฟร์ทมันไม่ชอบให้คนอื่นถ่ายรูปมันครับเลยเป็นเหตุผลที่ทำให้มันหัวเสีย แล้วอีกอย่างอิงฟ้าเป็นคนสวยด้วยล่ะครับ มันคงเขินเข้าไปอีก ไอ้โฟร์ทคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวขึ้นมากินด้วยความดุดันอีกครั้ง ผมที่กำลังดื่มน้ำอยู่เกือบพ่นน้ำออกมา แต่สุดท้ายผมก็สำลักน้ำครับ ไอ้โขลกจนหน้าดำหน้าแดง ชิบหายแล้วไหมล่ะ... ตอนแรกผมได้ยินงานคู่เลยนึกว่าให้เราทำงานกันเป็นคู่แล้วเลือกแบบถ่ายภาพเป็นคนอื่น ที่ไหนได้ให้ผลัดกันเหรอวะ โอ้ย ขอเอาความดีใจเมื่อกี้กลับมาได้ไหม ผมไม่พร้อมจะเป็นแบบให้ฟอง!! ถ้าถามว่าทำไม ก็เพราะว่าผมเขินยังไงล่ะวะ

 

                “ไอ้มิน เบาๆเว้ย เดี๋ยวก็ตายกันพอดี”

                ไอ้แทมวางช้อนส้อมในมือแล้วลูบหลังผมเบาๆ มันมองผมด้วยสีหน้าเป็นห่วงแค่แว้บเดียวก่อนจะยิ้มล้อเลียน ไอ้เชี่ย สงสัยจะคิดสาเหตุที่ผมสำลักน้ำได้แล้วมั้งครับ ผมก็ปิดปากไอแบบเอาเป็นเอาตาย ทรมานมากครับ

 

                “เปลี่ยนคู่ แค่ก ตอนนี้ทันไหมวะ”

                ผมพูดทั้งๆที่ยังมีอาการสำลักน้ำอยู่

 

                “ไม่ทันแล้วเหอะ ฟองตอบตกลงอาจารย์ไปแล้ว”

                ไอ้บีทเป็นคนทำฝันผมพังทลายลงต่อหน้าต่อตาและต่อจานกระเพราไก่ไข่ดาวของผม ผมอ้าปากหวอจนไอ้บีทต้องเอื้อมมือมาตบคางผมให้หุบปาก

 

                “กูขอลาไปทำใจก่อนได้ไหมวะ”

                ผมบอกพวกมันก่อนทำหน้าจะร้องไห้ ไอ้โฟร์ทก็ฉวยโอกาสทองขโมยไข่ดาวของผมไปหน้าตาเฉย ไอ้ห่า มึงต้องตายคาตีนกูสักวัน!

 

                “ไอ้สัดโฟร์ท!”

                ผมปาขวดน้ำเปล่าๆใส่มัน มันเสือกหลบได้แล้วแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผม ผมชี้หน้าแล้วขยับปากแบบไม่มีเสียงว่า ‘ฝากไว้ก่อนเถอะมึง’ เดือดร้อนไอ้แทมต้องหันไปตบหัวคนกวนตีนแล้วกลับมาลูบไล่ผมเบาๆให้อารมณ์เย็นลง ผมหลับตาลงแล้วพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ แต่ไม่ทันได้ลืมตาขึ้นก็มีมือใครบางคนมาสะกิดไหล่ผม พอลืมตาก็เจอไอ้แทมนั่นล่ะครับที่สะกิดผมอยู่

 

                “หืม?”

                ผมส่งเสียงถามมันในลำคอ

 

                “เก้านาฬิกา”

                มันพูดสั้นๆก่อนผมจะหันไปตามทิศทางที่มันพูด ไอ้โฟร์ทกับไอ้บีทก็เช่นกัน... อืม เต็มตาเลยครับ กลุ่มของฟองนั่นเอง กำลังเดินมาทางผมกันด้วยนี่ดิ ต้องตะโกนบอกไหมว่าอย่าเข้ามายังไม่พร้อมจะเจอหน้า

 

                “โอ้โห มาถวายตัวให้คุณมินถึงที่เลยว่ะ”

                ไอ้โฟร์ททท มึงช่วยหยุดกวนส้นตีนกูสักห้านาทีได้ไหม มึงไม่ได้กวนกูนี่มึงจะลงแดงชักดิ้นชักงอรึไง เขามาถวายตัวให้กูก็ดีดิวะ กลัวเขาจะมาถวายตีนให้กูเนี่ย

 

                “ถวายพ่องงง”

                ผมว่ามันเสียงรอดไรฟันเลยครับ เพราะเสียงดังมากไม่ได้ ฟองเดินเข้ามาใกล้พวกผมก่อนจะหยุดแล้วส่งยิ้มมาให้พวกผมทั้งกลุ่ม ผมยอมรับตรงๆเลยว่าผมหลบสายตาสดใสนั่น

 

                “เรานั่งด้วยได้ป่ะ โต๊ะอื่นไม่ว่างเลย”

                เสียงใสใสของฟองถามขึ้น เขามากับเพื่อนอีกสองคนมันก็นั่งพอล่ะวะ ส่วนคนอนุญาตไม่ใช่ผมหรอกเว้ย เป็นไอ้ฮาร์ทบีทลูกอมสื่อรักต่างหาก บางทีผมก็คิดว่ามันทำหน้าที่ดีเกินไปทั้งๆที่มันปฏิเสธหัวชนฝาว่ามันไม่ใช่ลูกอมรูปหัวใจ

 

                “นั่งเลยๆ ตามสบาย”

                มึงบอกเขาตามสบายมึงช่วยดูเพื่อนมึงด้วยนะบีทว่าสบายดีไหม... มือไม้กูมีแต่เหงื่อแน่ จะตื่นเต้นทำห่าอะไรวะ เขาแค่มานั่งกินข้าวเอง โธ่เว้ย

 

                “เราขอนั่งด้วยนะ”

                เสียงใสๆพูดขึ้นตรงหน้าผมพร้อมด้วยร่างโปร่งที่นั่งลงฝั่งตรงข้าม เลือกที่ได้ดีนิฟอง... มานั่งข้างผมเถอะครับ ยังดีกว่ามานั่งมองหน้ากันนะเว้ย

 

                “อือ ต ตามสบาย”

                ผมจะพูดตะกุกตะกักทำไมวะเนี่ยพอหันไปมองเพื่อนที่เหลือมันดันขยับก้นไปทางนู้น... ก็ว่าทำไมฟองนั่งลงหน้าผมได้ ไอ้บีท ไอ้คนทรยศเอ้ย พวกมันยิ้มล้อผม ไอ้ชิบหาย ถ้ามันแซวได้มันคงแซวผมไปแล้วล่ะ ผมไม่สนใจพวกแม่งละ พอหันกลับมาก็เห็นมาฟองส่งยิ้มบางๆมาให้ ผมก็ได้แค่ยิ้มกลับไป ไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี

 

                “ว่าไงมึง สีหน้าดูไม่ค่อยดีเลยว่ะ”

                เอ้า.. กูหันกลับมาแปปเดียว แล้วทำไมข้างกูมันไม่ใช่ไอ้แทมแล้ววะ กลายเป็นไอ้ฝุ่นเพื่อนฟองแทน

 

                “ห๊ะ? อ๋อ สงสัยกินมากไปเลยปวดท้องว่ะ”

                ผมตอแหลมันไปเต็มๆครับ นี่ผมทำหน้าแย่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ แค่ตื่นเต้นเว้ยไม่ได้จะตาย ฝุ่นมึงถามโอเวอร์ไปป่ะวะ

 

                “ปวดท้องหรือใจสั่น มึงเอาให้แน่”

                ครับปิน ขอบคุณมากครับ ไอ้เชี่ยยย กูอยากจะกระโดดพุ่งออกจากโต๊ะไปบีบคอแม่งให้ตายๆตรงนี้เลย มันรู้ครับว่าผมชอบฟอง แต่มันไม่เคยปากโป้งบอกฟองหรอกนะ แต่มันชอบแซวเงี้ยล่ะครับ ไอ้พวกที่เหลือก็ไม่ช่วยผมหรอกครับ หัวเราะบ้าบอทำหน้าล้อเลียนผมส่งเสริมกันเข้าไป! มีแต่ไอ้ฝุ่นกับฟองนี่ล่ะที่ไม่เข้าใจอะไร... ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ~

 

                “ตอนนี้ตีนสั่นว่ะปิน”

                ผมจ้องหน้ามัน จริงครับ ตอนนี้ผมตีนสั่นและพร้อมลั่นถีบหน้ามันแล้ว ปินมันอ้าปากหวอก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ข้างๆฟอง

 

 

                “กูไปซื้อข้าวดีกว่า พวกมึงสองคนเอาไร?”

                มันหันไปถามฝุ่นกับฟอง พอได้คำตอบเสร็จมันก็รีบก้าวขายาวๆออกไปจากตรงนี้ กลัวตีนกูลั่นสินะมึง หึหึ แต่พอมันไปผมก็สัมผัสได้ว่าฟองกับลังจ้องผมอยู่ ส่วนไอ้ฝุ่นอ่ะเหรอ เข้าสมาคมช่างเม้าท์ไปกับไอ้สามตัวที่เหลือแล้ว ไม่มีอะไรมากครับ เรื่องสาวๆตามเคย

 

                “หือ มีอะไรติดหน้าเราเหรอวะ?”

                ผมถามขึ้นเมื่อฟองเอาแต่จ้องหน้า ผมยกมือขึ้นลูบไปทั่วหน้าตัวเองจนฟองหัวเราะแล้วส่ายหน้าไปมาพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆที่เผยให้เห็นเขี้ยว... ฮึก อยากฟัดว่ะ

 

                “เปล่าๆ เรากำลังพิจารณาแบบงานของเราไง”

                ฟองพูดจบก็ยกมือขึ้นทำเป็นสี่เหลี่ยมแล้วโฟกัสมาที่หน้าผม... จ้า พ่อคนร่าเริง ถ้ารู้ว่าผมคิดอะไรจะไม่ทำตัวแบบนี้กับผมแน่ๆ

 

                “แล้วเป็นไงบ้าง หล่อป่ะ?”

                ตอนนี้ต้องพยายามหน้าด้านเข้าไว้ครับ ไม่งั้นสติจะแตกแบบที่ไอ้พวกตัวแสบไม่ต้องแซว ฟองยกมือลงทันทีก่อนจะบุ้ยปากใส่ผม โอ้ย พ่อคนหล่อ อย่าทำตัวแบบนี้ครับรู้ไหมว่ามันน่ารักเกินจะต้านทาน ถ้าผมเป็นไอติมคงละลายภายในสามวิ

 

                “เราหล่อกว่า เราเป็นเดือนคณะ”

                หืมม ไม่ยอมแพ้ผมด้วยนี่สิครับ แบบนี้มันน่าจับฟัดซะให้เข็ด ฟองพูดจบยังยักคิ้วให้ผมด้วยอีกนะ กวนตีนใช่เล่นนะเรา แต่กวนใจเก่งกว่าอีก T T  ผมหลุดขำก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยกับเจ้าตัว โอเคครับ เขาหล่อ

 

                “ฮ่าๆ โอเคๆเรายอมแล้ว”

                ผมยกมือขึ้นยอมแพ้ทำให้ฟองหันมายิ้มกว้างให้ผม ไอ้พวกที่เหลือก็ผิวปากล้อผมอีกแล้วครับ สัด! มึงสงสารฝุ่นกับฟองที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเถอะนะ ไม่อยากให้เขามองพวกมึงเป็นคนบ้าว่ะ

 

                “งั้นเรื่องสถานที่กับวันเวลาเราค่อยนัดมินอีกทีนะ เอ้อ ขอไลน์หน่อยดิจะได้ติดต่อง่ายๆ”

                อุย.... ขอกรี๊ดเป็นตุ๊ดสักครั้งได้ไหมครับ โดนคนที่ตัวเองชอบขอไลน์อ่ะครับ เขินตัวจะบิดแล้ว .... เอ่อ ผมแมนนะครับ ขอโทษถ้าทำให้หลายๆคนเข้าใจผิด แล้วหลังจากนั้นเราก็แลกไลน์กันภายใต้สายตาล้อเลียนของพวกตัวแสบอีกเช่นเคย แล้วยังโดนไอ้ปินที่กลับมายิ้มล้ออีก - - เชิญครับ รุมให้เต็มที่ อย่าให้ถึงคราวผมบ้างนะ จะเอาให้เละจนไม่มีใครจำศพพวกมันได้เลยคอยดู



♥♥♥♥♥
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 2 23/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 23-05-2016 09:50:37
Follow You 02





 

                ผมแหกขี้หูขี้ตามานั่งร้านกาแฟแถวๆมหาวิทยาลัยตั้งแต่เก้าโมงเช้า ก่อนจะมาถึงที่นี่ได้ยังต้องแวะไปรับไอ้บีทอีกต่างหาก มันไม่ยอมขับรถมาเองครับ ทั้งๆที่คอนโดมันก็อยู่ใกล้แค่นี้ ลำบากให้ผมต้องจอดรับมันไปอีก แต่ก็ไม่เสียเปล่าครับ มันรับปากว่าจะเลี้ยงกาแฟผมพร้อมกับคืนค่าข้าวกลางวันเมื่อวันก่อนด้วย

 

                ผมกับบีทเลือกนั่งโต๊ะมุมในสุดของร้านติดกับกระจกใส มันมีเหตุผลอยู่สองข้อครับที่เลือกนั่งตรงนี้

1.       ส่องสาวๆได้ง่ายครับ เพราะนั่งติดกระจก

2.       คนไม่พลุกพล่าน เป็นส่วนตัวครับ

พอได้ที่สร้างแลนมาร์คเรียบร้อยผมกับไอ้บีทก็หันไปเรียกเด็กเสิร์ฟมาสั่งอาหารกันครับ ออกมาเช้าขนาดนี้ผมยังไม่ทันได้กินอะไรสักอย่างเลยเถอะ ก็ไม่เข้าใจว่าไอ้แทมกับไอ้โฟร์ทมันจะรีบนัดออกมาทำไม มีเรียนตั้งบ่ายโมงครับ ถ้ามันมาถึงผมจากง้างปากมันให้ได้เลยคอยดูเถอะ

 

“มาแต่เช้าเลยนะ”

                เสียงนุ่มๆของเด็กเสิร์ฟ ไม่สิ เจ้าของร้านต่างหากครับ พี่เอสเจ้าของร้านกาแฟสนิทกับพวกผมครับ ก็พวกผมมันลูกค้าประจำ ถึงขั้นกินแล้วติดไว้ค่อยจ่ายก็ได้ ผมหันไปยิ้มให้พี่แกบางๆพร้อมกับยกมือไหว้ ให้บีทก็ทำเหมือนกับผม เพราะพี่แกแก่กว่าพวกผมอยู่หลายปีเหมือนกัน

 

                “เออดิพี่ ไอ้แทมกับไอ้โฟร์ทไม่รู้มันจะรีบอะไรนักหนา”

                ไอ้บีทว่าก่อนที่มันจะเกาหัวแกรกๆ ดูแล้วให้ความรู้สึกซกมกว่ะ มันอาบน้ำมารึยังเนี่ย ผมก็ได้แต่มองมันสลับกับพี่เอสแล้วพยักหน้าแกนๆ

 

                “อ๋อ เออ พวกมึงจะสั่งไรบ้าง?”

               

                “ผมขอคาปูชิโน่ร้อนกับครัวซองแฮมชีสครับ”

                เรื่องกินขอให้บอกบีทครับ สั่งอย่างไว นี่มึงนอนคิดมาก่อนแล้วใช่ไหม?

 

                “ผมขอเอสเพรสโซ่กับโจ๊กหมูแล้วกันครับ”

                ผมสั่งบ้าง ตอนเช้าๆขออะไรที่มันเบาๆสบายท้องหน่อยเหอะวะ พี่เอสพยักหน้ารับก่อนจะเดินหายเข้าไปหลังครัว สงสัยจะเอาออเดอร์ไปส่งให้พ่อครัว ตอนนี้ผมก็ว่างเพราะไม่รู้ว่าไอ้แทมกับไอ้โฟร์ทมันนัดผมสองคนออกมาทำไม แถมไอ้ฝ่ายนัดแม่งมาสายอีก

 

                “บีท”

                ผมเรียกคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามที่เอาแต่มองหน้าจอมือถือแบบไม่วางตา มีอะไรน่าสนใจขนาดนั้นวะ? ผมล่ะโคตรสงสัยเลย กำลังจะชะโงกหน้าไปแอบดูแล้วเชียวแต่มันเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมซะก่อน

 

                “มีไร?”

               

                “มันนัดเราออกมาทำไมแต่เช้าวะ?”

 

                “กูก็ไม่รู้”

                น้ำเสียงมันดูหงุดหงิดมากเลยครับ เอาจริงๆผมเดาว่ามันคงเพิ่งได้นอนเมื่อตอนตีสี่อะไรแบบนั้นเพราะไอ้บีทมันติดเกม แล้วพวกที่เหลือโทรไปปลุกมันตอนเจ็ดโมงเหมือนๆกับผมล่ะมั้ง แต่ผมนอนพอครับไม่ได้อดหลับอดนอนแบบมัน ใครเป็นแฟนผมนี่ไม่ต้องคิดว่าผมจะนอกใจนะครับ เพราะว่างเมื่อไหร่เป็นนอน

 

                “เออ ถ้าไม่มีไรสำคัญนะกูจะด่าให้เป็นหมัน”

                ผมว่าก่อนจะทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้แล้วหยิบมือถือตัวเองที่ตั้งอยู่บนโต๊ะขึ้นมากดดูอะไรไปเรื่อย ส่วนไอ้บีทก็กลับไปนั่งสนใจอะไรที่มันดูค้างอยู่เมื่อกี้ต่อ



 

                เออ หลังจากที่ผมแลกไลน์กับฟองไปเราก็ไม่ได้ทักคุยอะไรกันนะ ... ทั้งๆที่ผมอยากทักไปคุยแทบตายแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี ก็บอกแล้วไงครับเรื่องอื่นน่ะผมกล้าหาญนะแต่ถ้าเป็นเรื่องฟอง ต่อให้นานแค่ไหนก็ป๊อดอยู่ดีล่ะวะ พอคิดถึงเรื่องนี้ก็เข้าไปส่องไลน์ฟองหน่อยเถอะครับ จริงๆผมก็ไม่รู้นะว่าฟองมีแฟนหรือแอบไปชอบใครอยู่รึเปล่า นี่คืออีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้ผมยังอยู่ในที่ของตัวเอง คิดแล้วก็เครียดครับ - -

 

                นิ้วผมจิ้มลงไปที่ไลน์ของฟองกำลังจะกดไปดูหน้าโฮมของเขา แต่แล้วผมก็ต้องสะดุ้งเมื่อแจ้งเตือนไลน์เด้งขึ้นมาแล้วมันเป็นไลน์ของฟองเว้ย!! หรือผมจะกดโดนอะไรแล้วส่งข้อความไปหาฟองก่อนรึเปล่าวะเนี่ย ผมแทบคุมสติตัวเองไม่อยู่ มือไม้เริ่มชื้นเหงื่อขึ้นมาซะงั้นทั้งๆที่แอรืก้เป่าลงบนหัวตลอดเวลา



                ผมกลั้นใจแล้วตั้งสติเปิดหน้าแชทของฟองขึ้นมา พบว่า...ฟองเป็นคนทักผมมาก่อน! เหมือนสวรรค์มาโปรดเลยครับ ไม่ต้องเริ่มประโยคสนทนาเองด้วย เห้ย ถือว่าวันนี้ตื่นเช้ามานั่งร้านกาแฟก็มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นวะ จะยกโทษให้ไอ้แทมกับไอ้โฟร์ทไปก็แล้วกัน หลังจากดีใจอยู่นาน สงสัยจะเผลอยิ้มมากไปไอ้บีทเลยเงยหน้าขึ้นมาแซว

 

                “ยิ้มไรนักหนา คุณฟองบอกรักมึงรึไง”

                ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงอ่ะครับเพื่อน  ใครจะว่าผมเป็นผู้ชายขี้มโนก็เอาเถอะครับ แต่ผมขอบอกไว้ก่อนเลยว่าผมมโนเรื่องฟองแค่คนเดียวเท่านั้นนะ เอ้อ เป็นตัวอย่างที่ดีเห็นไหมล่ะ รักเดียวใจเดียวนะ

 

                “ฟองทักไลน์มาว่ะ”

                ผมยักคิ้วให้ไอ้บีทกวนๆ มันถึงกับเบ้ปากแล้วด่าผมแบบไม่มีเสียงว่า ‘สัด’ ก่อนกลับไปดูอะไรของมันต่อ ให้ผมเดานี่หนังเอวีแน่ๆ - - จ้องจนตาจะติดจอขนาดนั้น ผมยกมือโบกหัวมันเลยครับ ไม่สนใจว่ามันจะด่าอะไรผมอีกไหม ส่วนมันก็เงยหน้ามาแล้วชูนิ้วกลางให้ผม ไอ้นี่นิ ไม่จบไม่สิ้นนะมึง แต่เอาเถอะครับ ผมกำลังอารมณ์ดีจะปล่อยมันไปแล้วกัน

 

                ผมก้มหน้าลงอ่านข้อความของฟองอีกครั้งก่อนจะยิ้มมุมปากเล็กน้อย

 

-           หวัดดีมิน

-           เราฟองเองนะ


ไม่บอกก็รู้แล้วครับคุณฟอง ใครมันจะไปลืมไลน์คนที่ตัวเองชอบล่ะวะ มือผมกำลังบรรจงพิมพ์ตอบกลับฟองไปว่า ‘อ๋อ ที่รักนั่นเอง’ คือแค่พิมพ์ไว้ในช่องเล่นๆครับไม่ได้คิดจะกดส่ง จังหวะที่ผมมองด้วยความพอใจแล้วกำลังจะกดลบ ไอ้เชี่ยที่ไหนไม่รู้พาดแขนกอดคอผมจากด้านหลังพร้อมกับทิ้งน้ำหนักตัวลงมาแบบที่ไม่ทันตั้งตัว นิ้วโป้งผมดันเสือกจิ้มลงบนหน้าจอมือถือ แต่ที่ตกใจมากกว่านั้นคือมันจิ้มลงบนเครื่องหมายสามเหลี่ยมแล้วกดส่งข้อความที่ผมตั้งใจจะลบออกไป บรรลัย!!! ใครทำกับกูแบบนี้มึงต้องตาย!

 

ผมรีบหันกลับไปดูไอ้มารผจญแล้วก็พบกับใบหน้าของไอ้โฟร์ทที่ซุกลงมาบนลาดไหล่กว้างของผมอย่างรักใคร่ ... ผมให้มือผลักหัวมันออกไปแรงๆด้วยความโมโห มันตกใจจนทำหน้าเหวอเลยครับ ก็ปกติผมไม่ได้ผลักไสมันหรอกถ้ามันทำแบบนี้กับผม

 

“มิน มึงเป็นไรวะ อารมณ์เสียมาจากไหน?”

โฟร์ทละล่ำละลักถามผมแบบกล้าๆกลัวๆ ส่วนไอ้แทมที่มาพร้อมมันก็เข้าไปนั่งข้างไอ้บีทเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่มันนี่ล่ะครับที่เล่นจ้องตากับผมอยู่

 

“เพราะมึงเลย มึงคนเดียว”

ผมพูดเสียงรอกไรฟันแล้วโชว์หน้าจอมือถือให้มันดู พอมันเห็นมันก็ปิดปากแล้วทำตาเป็นประกาย - - มันคงไม่เข้าใจที่ผมต้องการสื่อครับ ผมฟันธง

 

“ฟองทักมานี่ แล้วมึงก็เรียกฟองที่รักด้วยอ่ะ โอยๆ หวานจัง”

มันทำหน้าเคลิ้มฝัน มือสองข้างก็กุมกันแบบสาวน้อยช่างฝัน ไอ้เชี่ย! หวานพ่องมึงสิ หายนะไหมล่ะมึงเอ้ย ยังไม่รู้ตัวอีกว่ามึงทำอะไรลงไปเนอะ จากที่จะยกโทษให้เรื่องปลุกตอนเช้า ตอนนี้แม่งเพิ่มความผิดให้มันสองกระทงเลยไง มึงไม่ต้องผุดไม่ต้องเกิดแล้วครับเพื่อน

 

“พ่องมึง!! กูกำลังจะกดลบ มึงนั่นล่ะเสือกมากอดกู ห่า นิ้วแม่งดันไปโดนกดส่ง”

ผมด่ามันแล้วประดคนหมัดใส่ท้องมันแบบไม่เบาไม่แรง กำลังพอดีให้จุกเล่นๆครับ จะทำอะไรมากก็ไม่ได้ตอนนี้ เพราะลูกค้าคนอื่นๆก็เริ่มทยอยกันเข้ามานั่งในร้านแล้ว

 

“โอ้ย ไอ้มิน กูจุก”

ไอ้โฟร์ทกุมท้องตัวเองแน่นแล้วทิ้งตัวลงนั่งแหมะข้างไอ้แทมแล้วออดอ้อนออเซาะกันอย่างกับผัวเมีย ผมมองด้วยสายตาอาฆาตแค้นก่อนจะยกนิ้วชี้หน้ามันคาดโทษบอกเป็นนัยว่าเรื่องยังไม่จบแค่นี้แน่ๆ ผมกะว่าจะพิมพ์ไปแก้ตัวกับฟองว่าส่งแชทผิด แต่ฟองดันตอบผมกลับมาซะก่อน

 

-           หืม? ใครที่รักของมินวะ


แหม... พอเห็นฟองถามมาแบบนั้นไอ้เรื่องแก้ตัวเหมือนจะโดนพับเก็บไปซะแบบนั้น ผมอยากจะพิมพ์ตอบกลับไปเหลือเกินว่า ก็ฟองไงครับที่รักของมิน แต่ก็กลัวว่าฟองมันจะบล็อกไลน์ผมไปเลยนี่สิ

 

-           โทษๆ มินส่งแชทผิดคนว่ะ

ผมส่งแก้ตัวไปแบบนั้นล่ะครับ ไม่รู้จะบอกว่าอะไรดี ก่อนที่ผมจะได้ทำอะไรต่อเมนูอาหารที่สั่งไปก็ได้แล้วครับ ผมเลยละความสนใจจากมือถือมาสนใจข้าวต้มแทน ส่วนไอ้แทมกับไอ้โฟร์ทก็สั่งของมันกันบ้าง



“เออ พวกมึงนัดพวกกูออกมาทำไมแต่เช้า”

ไอ้บีทถามขึ้นหลังจากที่มันเพิ่งยกแก้วกาแฟดื่มไป คราบกาแฟแม่งติดปากด้วย มันแลบลิ้นออกมาเลียช้าๆเนิบๆ - - ผมมองแล้วทำหน้าเอือม มึงกำลังยั่วใครเหรอบีท กูล่ะอยากเอาเท้ายันปากมึงจริงๆ แล้วมันคงเห็นผมมองอยู่ก็เลยเบนมาถามผม

 

“เซ็กซี่ป่ะ? เปลี่ยนใจมาชอบกูก็ได้นะ”

มันพูดพร้อมขยิบตาข้างนึงให้ผมด้วยนะ ผมนี่รีบคว้าซองน้ำตาลที่อยู่ข้างแก้วขว้างใส่มันทันที แค่คิดก็สยองแล้วครับคุณ ใครจะไปเอามันลง! ไอ้แทมกับไอ้โฟร์ทนี่หัวเราะดังลั่นไม่เกรงใจลูกค้าคนอื่นเลยครับ

 

“เซ็กซ์เสื่อม!!!”

พูดพร้อมกันทั้งโต๊ะเลยครับ ไอ้บีทนี่หน้าหงิกหน้างอเลย โอย ขำครับ 55555555555555 งอนเป็นตุ๊ดเลยเพื่อน ผมเอื้อมมือไปดึงแก้มมันเล่นเป็นการง้อนะ... มันนี่มองผมตาเขียวเลยไง

 

“โอ๋ๆ กูง้อนะครับ อย่างอนนะ”

ผมฉีกยิ้มกว้างโคตรจริงใจให้มัน แต่มันกลับปัดมือผมทิ้ง

 

“ไม่ต้องมาแอคแทคกูเลย มึงอ่ะนอกใจกูตลอด”

มันบุ้ยปากใส่ผม.. ตกลงเพื่อนผมแมนหรือเป็นเกย์ช่วยบอกทีเถอะครับ ผมกับมันชอบเล่นกันแบบนี้ล่ะ โรคจิตดีเนอะ

 

“อ้าว มึงเพิ่งรู้เหรอ กูนอกใจมึงมาเป็นปีแล้วนะ”

ผมว่าพร้อมยักคิ้วให้มัน ก็ตามนั้นครับ ผมชอบฟองมาเป็นปีๆแล้วล่ะ เก่งเนอะคนแอบชอบเนี่ย ความอดทนสูงดี

 

“ไอ้มิน ไม่ต้องมาพูด มึงกำลังขายตัวเองว่ามึงป๊อดมาเป็นปีแล้ว”

พี่แทมครับ มึงจะนั่งเงียบแดกขนมปังปิ้งทาแยมไปเงียบๆก็ไม่มีใครว่าหรอก พูดทีผมหน้าหงายเลยไงครับ เถียงไม่ออกด้วยดิ

 

“กูเห็นด้วยว่ะ”

ไอ้โฟร์ทพูด

 

“เออๆ ใช่”

นี่เสียงไอ้บีทครับ มาองมาเออกับเขา เมื่อกี้ยังบอกว่ากูนอกใจอยู่เลย

 

“พอครับพอ เออ แล้วมึงนัดกูสองคนมาทำไม?”

ผมหันไปถามไอ้โฟร์ทกับไอ้แทมต่อ เพราะตอนมันเรียกพวกผมออกมามันก็ไม่ยอมบอกรายละเอียดอะไร บอกแค่ว่าออกมาเจอกันแล้วจะบอก

 

“รีบจังนะพวกมึง รอกูกินเสร็จก่อนเดะ”

ไอ้โฟร์ทว่าก่อนจะตักข้าวต้มกุ้งเข้าปากคำโต ผมเลยหันไปหาไอ้แทมเพื่อเอาคำตอบ แต่มันก็แค่จิ้มขนมปังปิ้งเข้าปากไปซะงั้น - - ความกวนตีนนี่พวกมึงมีกันทุกคนสินะเพื่อน

 

“เออๆ รีบๆยัดเลยมึง”

ผมบอกพวกมันเสร็จก็หยิบมือถือขึ้นมาเล่นต่อ ป่วยการจะไปเร่งอะไรพวกมันครับ มันไม่อยากบอกก็คือไม่บอกนั่นล่ะ ผมตั้งใจจะเข้าไปดูไอจีแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเข้าไลน์ก่อน เพราะฟองส่งข้อความกลับมาแล้ว

 

-           ว้าว งั้นแสดงว่ามินมีแฟนแล้วอ่ะดิ?

 

แฟน?... ไม่มีเว้ยฟอง แฟนที่ไหน อย่าเพิ่งเข้าใจผิดได้ไหมเล่า นิ้วผมรีบรัวลงบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็วเพื่อแก้ความเข้าใจผิด

 

-           เห้ย ไม่มีๆ มินแค่เล่นกับคนในกลุ่ม

 

-           อ๋อ แต่เหนือเดือนอย่างมินไม่น่าเชื่อว่าไม่มีแฟนนะ

 

-           55555555 เชื่อมินเหอะ แล้วเดือนอย่างฟองล่ะมีแฟนยัง?

 

 

เอ้า เฮกันหน่อยครับทุกคน นายปรมินทร์ก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้วที่กล้าถามว่าฟองมีแฟนรึยัง แล้วฟองก็เงียบไปครับ เงียบหายไปจนน่ากลัวเลยว่ะ นี่ผมถามคำถามที่ไม่ควรถามไปรึเปล่าวะ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองคงเครียดมากแน่ๆ ความเงียบนี่มันช่างกดดันจนประสาทจะกินจริงๆนะ

 

“มึง ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้น?”

ไอ้โฟร์ทถามขึ้น ผมเลยเงยหน้าจากมือถือขึ้นเพื่อจะพบว่าทุกคนกำลังจ้องหน้าผมอยู่ด้วยสายตาเป็นห่วง คงเป็นเพราะช่วงนี้ผมชอบทำหน้าเครียดล่ะมั้ง คนอื่นๆเลยออกอาการเป็นห่วงกันขนาดนี้

 

“หือ เปล่าๆ แล้วตกลงนัดออกมาทำไม”

ผมบอกมันปัดๆแล้วถามเรื่องที่อยากรู้แทน พวกมันก็เลยมองผมอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ถามอะไรต่อ

 

“พรุ่งนี้วันเสาร์”

ไอ้แทมพูดขึ้น... เล่นเอาผมกับบีทนี่งงเป็นไก่ตาแตกเลยไง

 

“แล้ว?”

ผมถามเองล่ะ

 

“ต้องไปทำงานถ่ายภาพ”

 

“เออ แล้วไงต่อ มึงช่วยพูดแบบครั้งเดียวจบได้ไหมวะ”

เป็นไอ้บีทพูดขึ้นแทนผมครับ สงสัยมันจะเริ่มหงุดหงิดแล้ว

 

“เออ วันนี้ก็เลยนัดไอ้ปินมาที่นี่ ตกลงเรื่องสถานที่กับเวลา”

แค่นั้น? แล้วพวกกูเกี่ยวอะไรกับงานของมึงด้วยเนี่ย เดี๋ยวนะ... แล้วไอ้แทมคู่ไอ้ปินเหรอ กูเพิ่งรู้อีก - - มีไรไม่เคยจะบอกผมกันเลยนะพวกมันเนี่ย

 

“แล้วพวกกูเกี่ยวอะไรด้วย?”

ผมทำหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ สายตาก็เหลือบไปมองหน้าจอมือถือที่ตั้งไว้บนโต๊ะเป็นระยะ ถ้าฟองตอบกลับมาผมจะรีบหยิบมันขึ้นมาอ่านเลยล่ะ

 

“กูอยู่กับมัน มันออกมากูก็เลยออกมาด้วย ขี้เกียจอยู่ห้องคนเดียว”

ไอ้โฟร์ทตอบ ผมก็พยักหน้าเข้าใจ เพราะสองคนนี้มันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมสนิทกันจนเรียนมหาวิทยาลัยเลยอยู่คอนโดเดียวกัน

 

“ส่วนไอ้มิน.. เพราะฟองจะมากับปินด้วย”

เหตุผลมึง! กูขอมอบโล่เพื่อนดีเด่นให้เลยครับ รักมึงมากที่สุดเลยไอ้แทมเอ้ย ให้กูจุ๊บหน้าผากมึงสักทีเถอะ

 

“มึงอย่ายิ้มเยอะ แม่ง เหมือนคนบ้า”

ไอ้โฟร์ทหันมาด่าผม... เออ กูขอโทษได้ไหมล่ะที่ยิ้มกว้างเกินไป ก็มันดีใจนี่หว่า

 

“ว่ากูนะมึง”

ผมขยำกระดาษทิชชู่แล้วปาใส่หัวมัน มันเสือกรับได้ครับ เออ พ่อนักบาสมหา’ลัย

 

“แล้วกูเกี่ยวไรรรรรรรรร?”

ไอ้บีทถามลากเสียงยาวเลยครับ เพราะดูยังไงๆ มันก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียเรื่องนี้เลยสักนิด

 

“มึงฆ่ากูตายในเกมเลยอยากแกล้งมึงเฉยๆ ไม่มีไร”

ไอ้แทมตอบหน้าตายเลยครับ นี่มึงเล่นเกมกันแล้วออกมาอาฆาตกันในชีวิตจริงด้วยเหรอวะ พ่อมหาจำเริญของผม

 

“กูยอมใจมึงจริงๆอ่ะแทม”

ไอ้บีทว่าเสียงเนือยๆก่อนจะปั้นกระดาษปาใส่ไอ้แทมบ้าง หน้ามันนี่หงิกปากเชิดจนจะถึงจมูกอยู่แล้ว ตลกชะมัดเลย 55555555

 

“เดี๋ยวกูกระโดดถีบ”

ไอ้แทมว่าไอ้บีทเสียงเย็นเลยครับ ส่วนไอ้บีททำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้แล้วยกมือถือขึ้นมากดปิดหน้าปิดตาตัวเอง

 

“เออ แล้วนัดกี่โมงวะ?”

ผมถามไอ้แทมที่กำลังจะเรียกพนักงานในร้านมาสั่งอะไรกินต่ออีก

 

“สิบครึ่ง”

 

“โอเค”

ผมตอบมันก่อนจะยกแก้วกาแฟตัวเองขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด เย็นชืดชิบหายเลยไง แล้วผมก็วางแก้วลงพร้อมด้วยหน้าจอมือถือสว่างวาบแจ้งเตือนข้อความไลน์เข้าของฟองเด้งขึ้นมา ผมรีบตะครุบมือถือแล้วกดอ่านทันที

 

-           เดือนอย่างเราก็ไม่มีแฟนเหมือนกัน โสดสนิท 555555555

-           เอ้อ เดี๋ยวเจอกันนะ เราจะไปนัดสถานที่กับเวลาพร้อมปินเลย

 

ผมรู้สึกว่าหลังจากอ่านข้อความของฟองจบแล้วโลกมันก็สดใสขึ้นมาอีกเท่าตัวเลยครับ ความหวังของผมมีแบบเต็มร้อย แต่ความกล้าล่ะ! เมื่อไหร่ผมจะสร้างได้สักทีวะ มีที่ไหนเปิดสอนเปิดติวเรื่องความกล้าสารภาพรักกับคนที่ชอบบ้าง ผมจะไปเข้าคอร์ส

 

-           อ่า โอเคครับ พวกมินรออยู่ที่ร้านแล้ว



♥♥♥♥♥

หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 3 23/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 23-05-2016 10:13:39
Follow You 03





 

                เสียงกรุ๊งกริ๊งจากประตูร้านกาแฟเรียกความสนใจจากพวกผมได้เป็นอย่างดี ตาของทุกคนจ้องไปที่ประตูร้านอย่างตั้งใจ ชายหนุ่มสองคนกำลังเดินเข้ามาในร้าน คนหนึ่งใส่กางเกงขาสั้นเหนือเข่าขึ้นมานิดหน่อยสีกรมท่ากับเสื้อเชิ้ตสีขาวล้วนพับแขน หน้าอกด้านซ้ายมีรูปหัวใจสีแดงดวงเล็กๆ เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนไม่สั้นไม่ยาวพลิ้วไปตามแรงเครื่องปรับอากาศที่กำลังเป่าลงมา แสงแดดยามเช้าตกกระทบทำให้ใบหน้าหล่อเหลาติดจะสวยนั้นโดดเด่นขึ้นอีกเท่าตัว ส่วนอีกคนเหรอ? ไม่อยู่ในสายตาผมเลยว่ะ ถึงมันจะแต่งตัวดูดีแค่ไหนก็เถอะ โอย! ทำไมฟองแต่งตัวน่ารักแบบนี้วะเห้ย คนในร้านหันไปมองกันเต็มเลยไง หวงนะครับ ก็ได้แค่พูดในใจครับ แสดงออกไปก็ไม่ได้

 

                “มึง.. มองขนาดนั้นแดกฟองเข้าไปเลยไหม?”

                ไอ้บีทพูดเสียงกระซิบกระซาบข้างหูผม ถ้ามันไม่พูดผมก็ไม่รู้หรอกว่าตัวเองกำลังมองฟองด้วยสีหน้าและแววตาแบบไหนอยู่ พอได้ยินมันพูดแบบนั้นสมองผมก็คิดทันทีว่า ‘กูหื่นขนาดนั้นเลยเหรอ’ ผมหันไปมองหน้าบีทแล้วไหวไหล่ ไม่แคร์หรอกครับ เพราะฟองไม่ได้สังเกตเห็นผมมองเขาสักหน่อย....มั้ง

 

                “แดกได้กูแดกไปนานแล้ว”

                ผมพูดเสียงไม่ดังไม่เบาแต่มันก็พอจะทำให้ได้ยินทั้งโต๊ะ ตอนนี้ผมเลิกสนใจฟองแล้วครับเพราะเขากำลังเดินมาจะให้จ้องตลอดเวลาเดี๋ยวจะมีปัญหาอีก ยิ่งไอ้ปินมันยิ้มล้อๆผมก็เลยต้องถอยก่อน

 

                “อย่าว่าแต่แดก สารภาพรักกับเขาให้ได้ก่อนเถอะ”

                เจ็บไหมครับให้ทาย.... ไอ้แทมพูดแบบนี้เข้ามาต่อยหน้ากูเลยเถอะครับ ผมชักสีหน้าให้มันนิดหน่อยก่อนจะลุกขึ้นยืน เพราะคิดได้ว่าเก้าอี้มันไม่พอสำหรับหกคน แต่ก็ต้องนั่งลงที่เดิมเพราะไอ้บีทมันกดไหล่ผม

 

                “ไร?”

                ผมถามมันสั้นๆพร้อมกับเงยหน้ามอง ส่วนมันยิ้มกว้างให้ผม

 

                “มึงไม่ต้อง กูเอง”

                แล้วมันก็ปล่อยไหล่ผมเดินไปลากเก้าอี้จากตะว่างมาสองตัว ไอ้นี่รู้งานเว้ยเห้ย แล้วแทนที่มันจะกลับมานั่งข้างผมเหมือนเดิม มันดันขยับไปนั่งเก้าอี้ตัวใหม่ที่อยู่ห่างผมไปอีกสองตัว แหม... ทำตัวเป็นลูกอมสื่อรักจริงๆเว้ยเพื่อนผม

 

                “เจ๋งง”

                ไอ้โฟร์ทลากเสียงยาว ใบหน้าของมันยิ้มแย้มอยากปิดไม่มิด ก่อนที่ไอ้บีทจะได้อวยตัวเองฟองกับปินก็เดินมาถึงโต๊ะพวกผมพอดี

 

                “หวัดดีทุกคน”

                ฟองทักทายพวกเราด้วยรอยยิ้ม ส่วนพวกเราก็ยิ้มให้ฟองแล้วพูดสวัสดีพร้อมๆกัน

 

                “นั่งด้วยนะ”

                ฟองก้มลงมากระซิบเสียงเบาข้างหูผม ผมอยากบอกว่าจังหวะนั้นผมโคตรตื่นเต้นเลยครับที่ฟองขอนั่งใกล้ๆ แต่ต้องเก็บอาการเอาไว้ ไม่งั้นเดี๋ยวจะโดนล้อกันไปใหญ่

 

                “นั่งเลย”

                ผมพูดเสียงเรียบ ไอ้พวกเพื่อนที่เหลือก็ยิ้มแบบมีเลสนัยมาให้ผม - - ไม่แซวสักวันจะตายไหมวะ ส่วนไอ้ปินนี่ก็รู้หน้าที่ครับไม่หือไม่อือนั่งลงที่เก้าอี้ตัวถัดจากฟองทันที

 

                “สั่งไรกินก่อนไหม?”

                ผมหันไปถามฟองพร้อมกับยื่นเมนูที่ยังไม่ได้เก็บไปให้ ฟองส่ายหน้าเบาๆแล้วยิ้มบางมาให้ก่อนจะตอบผมด้วยเสียงนุ่มๆ ฟังแล้วมันลื่นหูชะมัด

 

                “เรากินมาแล้วล่ะ”

                ฟองว่าก่อนจะหยิบเอามือถือขึ้นมากดเล่น... อื่ม ตัดการสนทนาของผมแบบไร้เยื่อใยมากครับ ฮื่อออ

 

                “เอาเมนูมานี่ กูยังไม่ได้กินไรเลย”

                ไอ้ปินหันมามองผมก่อนยักคิ้วกวนๆแล้วเอนตัวแบมือมาตรงหน้าผม แขนข้างหนึ่งเท้ากับพนักเก้าอี้ของฟองไว้ด้านหนึ่งยื่นมาแบตรงหน้าผม.... นี่มึงโอบฟองเหรอไอ้ปิน!

 

                “เอาไป”

                ผมพูดแล้วส่งเมนูให้มัน... จริงๆจะพูดว่าส่งก็ไม่ได้ครับเพราะผมเอาเมนูฟาดมือมันที่แบรอไว้ก่อนหน้านี้ หึ อยากแกล้งกูดีนัก

 

                “อูวว พี่มินอารมณ์ไม่ดี”

                อูววพ่องมึงสิไอ้โฟร์ท ถ้าไม่เกรงใจฟองนะผมเอื้อมมือไปตบหัวไอ้โฟร์ทแล้ว

 

                “เออ ฟาดเมนูลงมาได้ มือจะหัก”

                ไอ้ปินพูดพร้อมเบ้ปากใส่ผมก่อนมันจะเปิดเมนูแล้วเรียกพนักงานมาสั่งของ ส่วนฟองก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับมือถือ... นี่แอบคุยกับใครแล้วมีความสุขขนาดนั้นล่ะหืม อยากรู้อยากเห็นว่ะ ผมขยับตัวเข้าไปใกล้ฟองนิดหน่อยหมายจะชะเง้อมองหน้าจอมือถือของเขา แต่เสียงกระแอมของใครสักคนขัดขึ้นก่อน ไอ้มารหัวใจ!!

 

                “แฮ่มมม คันคอชิบหาย สงสัยน้ำหวานไป”

                ไอ้ปินที่ถือแก้วชาเขียวปั่นอยู่ยิ้มกว้างจนตาปิด ไอ้ตัวจังไร มึงแกล้งกูอีกแล้วนะ!

 

                “เวลากินเขาห้ามพูด แดกๆไปมึง”

                ผมแทบจะก้มลงไปกราบบนตักไอ้แทมครับ มันช่วยชีวิตผมเป็นอย่างมากเลยตอนนี้

 

                “มิน”

                เสียงเรียกจากคนข้างๆตัวผมดังขึ้น ผมเลยหันไปหาฟองแทบจะทันที แต่ก็ต้องเก็บอาการดีใจที่ฟองสนใจผมแล้วเพราะก่อนหน้านี้เอาแต่กดมือถือ มันน่าน้อยใจไหมล่ะ...

 

                “ว่า?”

                พูดน้อยได้อีกครับ... กลัวพูดมากไปแล้วจะหลุดท่าทางสนใจฟองมากเกินไปน่ะครับ ช่วยเข้าใจปรมินทร์คนแอบรักด้วยนะ

 

                “ไปถ่ายรูปงานที่สวน xxx กันดีไหม? เราว่าวิวมันสวยดี”

                ฟองพูดจบก็ยื่นมือถือตัวเองมาตรงหน้าผม ในนั้นปรากฏรูปของสวน xxx ที่ฟองบอก นี่นั่งยิ้มน้อยนิ้มใหญ่อยู่ตั้งนานเพราะหาสถานที่ทำงานหรอกเหรอ? ผมมองพิจารณาแล้วพยักหน้าน้อยๆ จริงๆแล้วฟองเสนอที่ไหนผมก็ไปหมดล่ะครับ ที่ต้องทำเป็นพิจารณานานหน่อยเพื่อให้ความร่วมมือช่วยคิดฟองนั่นเอง แต่ที่ฟองบอกว่าวิวสวยดี ผมว่าฟองสวยกว่าวิวอีกนะ

 

                “เออ สวยดีๆ ไปที่นี่ก็ได้”

                ผมตอบฟองไป สายตาที่มองรูปในมือถือค่อยๆเลื่อนไปที่หน้าฟองแล้วจ้องอยู่แบบนั้น เจ้าตัวเขาไม่รู้เรื่องหรอกครับเพราะมัวแต่เลื่อนรูปในมือถืออยู่ มองใกล้ๆแล้วรู้สึกถึงความนุ่มนิ่มยังไงก็ไม่รู้ ถ้าเอามือไปดึงแก้มหรือเอาปากไปชนมันจะฟินแค่ไหนวะ แล้วไอ้กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวฟองอีก มันโคตรจะทำให้ผมหลงใหลเลยไงครับ พี่มินหัวใจจะวายสติจะแตก

 

                “งั้นตกลงที่นี่....นะ”

                ฟองเงยหน้าขึ้นจากมือถือแล้วหันมาทางผม เขาชะงักคำพูดไปเมื่อปลายจมูกของเราชนกัน ตาตี๋ๆของเขาเบิกกว้างขึ้นเพราะตกใจ ผมก็ตกใจครับแล้วก็เป็นคนถอยหน้าออกเองด้วย หัวใจนี่เต้นโครมครามแถบจะทะลุออกมาจากอก ดีนะที่ผมเป็นคนเขินยาก ไม่งั้นหน้ากับหูคงแดงแปร้ดไปแล้ว ส่วนฟองก็รีบหันกลับไป หน้าเขาขึ้นสีชมพูน้อยๆ โอย น่ารักชิบหายเลยครับ ดีต่อใจนายปรมินทร์มาก

 

                “แหมะ มาสวีทอะไรกันตรงนี้ครับคุณปรมินทร์ คุณจิรัสย์”

                โอ้โหไอ้ปิน... มึงจะอัพเลเวลการแซวมากไปแล้วนะครับ มึงจะทำให้ฟองรู้แล้วใช่ไหมว่ากูชอบฟองเนี่ย มึงเงียบๆบ้างก็ได้ครับกูยังไม่พร้อมตอบคำถามจากฟองนะ ผมเลยหันไปถลึงตาใส่มัน ส่วนมันก็ยักไหล่ไม่สนใจอะไร ไอ้พวกที่เหลือนี่ยิ้มล้อกันใหญ่เลยครับ ช่วยซ้ำเติมกันเข้าไป!

 

                “สวีทบ้าอะไรของมึง”

                ฟองพูดเสียงแข็งเลยครับ แล้วจ้องไอ้ปินแบบเอาเรื่องด้วย ปินมันเลยขำออกมาแล้วโบกมือตรงหน้าฟอง

 

                “กูล้อเล่นน อุบัติเหตุเนอะ”

                แล้วมันก็ทำท่ากลั้นขำ ส่วนฟองถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

 

                “เออดิ”

                ฟองเหมือนจะยังอายกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ เพราะเขาไม่ได้มองมาทางผมอีก ตอนแรกก็ดีใจอยู่หรอกนะที่เกิดเรื่องแบบนั้น แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกแย่แล้วว่ะ ผมคงทำหน้าเครียดจนไอ้แทมที่นั่งด้านข้างสัมผัสได้จนตกยกมือขึ้นมาจับไหล่ผมแล้วบีบเบาๆ ผมหันไปมองมันแล้วพยักหน้าน้อยๆเป็นอันรับรู้ความห่วงใยของมัน

 

                “มิน”

                เสียงทุ้มๆเรียกชื่อผมอีกแล้วครับ พร้อมกับมีแรงแตะมือลงเบาๆบนแขนผม ผมรีบหันไปมองก็เจอฟองกำลังมองผมอยู่ ใจที่ห่อเหี่ยวไปเมื่อกี้กลับมาพองโตอีกครั้ง... ฟองจับแขนผมด้วย มือเขานิ่มชะมัดเลย ฮ่อยย

 

                “ครับ?”

                ผมมองฟองกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉย ส่วนฟองยิ้มให้ผมบางๆ

 

                “ทำหน้าเครียดทำไมวะ? เพราะเรื่อเมื่อกี้เหรอ มันเป็นอุบัติเหตุนะ เราไม่คิดไรหรอก หรือมินคิด?”

                ฟองหุบยิ้มลงแล้วเริ่มทำหน้าเครียด สงสัยจะกลัวผมคิดมากหรือรังเกียจสินะ เห้ย มันตรงกันข้ามต่างหากว่ะ ผมเลยรีบส่ายหน้าเบาๆให้ฟอง เท่านั้นล่ะครับฟองยิ้มกว้างออกมาเลย คือขยันแอคแทคผมมากไปแล้วครับ อยากขย้ำให้เละจริงๆเลยเชียว

 

                “เปล่าๆ มินไม่ได้คิดหรอก แค่กลัวฟองจะคิดเฉยๆ”

                แล้วผมก็ส่งยิ้มให้ฟองแบบที่จริงใจที่สุดไปให้ ตอนนี้แทบไม่ได้สนใจคนที่เหลือบนโต๊ะเลยไงครับ โลกนี้มีกันอยู่แค่สองคนอะไรประมาณนั้น

 

                “อย่ามัวแต่จีบกันสิเว้ย”

                เสียงไอ้โฟร์ทล้อพวกผม ไอ้นี่ก็ปากหมา! ผมรีบหันขวับไปหามัน จ้องแบบหาเรื่องเลยครับ - -

 

                “จีบพ่องงง”

                ผมด่ามันออกไปจนทั้งโต๊ะหัวเราะเลยครับ เอาจริงๆแล้วเขินว่ะ แซวห่าอะไรของมันเนี่ย ใจก็กลัวว่าฟองจะจับได้ว่าผมรู้สึกยังไงกับเขา

 

                “ฟองๆ เราถามไรหน่อยดิ”

                หืม... ผมหันไปมองไอ้บีทตาโตเลยครับ ผมล่ะกลัวใจมันเหลือเกินว่ามันจะหลุดพูดอะไรออกมารึเปล่า คือบอกไปแล้วเนอะว่าเรื่องของฟองผมยังไม่พร้อมจะสารภาพเพราะกลัวคำตอบที่จะได้รับกลับมา

 

                “ถามมาดิ”

                ฟองมองบีทอย่างตั้งใจ ดวงตาเล็กๆนั่นดูจะสนใจเรื่องที่บีทกำลังจะถามเป็นอย่างมาก ถ้าไอ้บีทถามเรื่องอะไรเกี่ยวกับผมนะ มันไม่ตายดีแน่ๆ

 

                “ฟองคิดยังไงกับเรื่องผู้ชายรักกับผู้ชายวะ?”

                สัดบีท... แม่ง ถามเรื่องห่าอะไรเนี่ย แต่มันหันมันยักคิ้วให้ผมนะ... ก็ช่างเหอะ ถือว่ามันถามเพื่อให้ผมรู้ว่าฟองคิดยังไงกับเรื่องแบบนี้ ก็ดีเหมือนกันครับ ผมอาจจะตัดสินใจอะไรได้หลังจากฟังคำตอบของฟอง

 

                “หือ ก็เฉยๆนะ ความรักมันก็จำกัดไม่ได้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”

                ฟองพูดด้วยท่าทีสบายๆ  คนได้ฟังคำตอบก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กันเข้าไป ส่วนผมนี่พยายามทำหน้านิ่งสุดๆ ถ้ายิ้มตามพวกมันไปด้วยก็โดนแซวดิวะ

 

                “เออ คิดเหมือนเราเลยว่ะ ความรักมากก่อนเรื่องเพศ”

                แหม ไอ้บีท ได้ทีนะมึง ผมก็ไม่ได้ขัดอะไรมันนะเพราะอยากรู้ว่ามันจะยกอะไรขึ้นมาถามฟองต่อ ผมก็เลยคว้าแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มพลางรอมันถามคำถามฟองต่อไป ถ้าถามว่าทำไมผมแน่ใจว่าบีทจะถามต่อ ก็เพราะไอ้บีทมันมีนิสัยถ้าชวนใครคุยแล้วจะชวนคุยยาว

 

                “อื้อ”

                ฟองตอบแค่นั้นแล้วยกมือขึ้นจัดผมตัวเองนิดหน่อย ผมน่าจะนุ่มเนอะ อยากจับจัง

 

                “ถามต่อนะ”

               

                “ถามมากจังวะ ฮ่าๆ”

                ฟองพูดแล้วหัวเราะออกมาเบาๆแบบไม่จริงจังอะไรมาก แล้วพยักหน้าอนุญาตให้บีทถามต่อได้ ไอ้ปินที่มันเงียบไปเพราะมันกำลังกินขนมอยู่ ก็ดีเหมือนกันครับหมดตัวมารไปหนึ่งตัว

 

                “สมมตินะ.. ถ้ามีคนแบบไอ้มินเข้าไปจีบฟอง ฟองจะว่าไง?”

                ทั้งโตะเงยหน้าขึ้นมองไอ้บีทเป็นตาเดียวกันครับ ผมเห็นไอ้โฟร์ทแอบชูนิ้วโป้งให้ไอ้บีทด้วย ส่วนไอ้แทมนี่ยกยิ้มมุมปาก ส่วนไอ้ปินนี่อ้าปากพูดคำว่า ‘เยี่ยม’ แบบไม่มีเสียง ส่วนผมเหรอ?.... น้ำแทบพุ่งออกจากปากเลยครับ ดีนะที่กลืนลงคอทัน ไม่งั้นได้รับน้ำมนต์กันถ้วนหน้าเลยล่ะครับ

 

                “เบาๆ”

                ไอ้แทมลูบหลังผมเบาๆแล้วหยิบทิชชู่มาให้ สงสัยมันเห็นตอนที่ผมกำลังจะสำลักน้ำแน่ๆ ผมรับมาแล้ววางแก้วน้ำลงก่อนจะเอาทิชชู่มาเช็ดปาก ฟองหันมามองผมแว้บนึงก่อนจะทำท่าคิด ส่วนผมนี่ลุ้นจนจะนั่งไม่ติดเก้าอี้อยู่แล้วครับ

 

                “แบบมินเหรอ?”

                ฟองเอียงคอนิดหน่อยแล้วหันกลับมามองผมอีกครั้ง คราวนี้มองนานครับคล้ายจะพิจารณาผมอยู่ ส่วนผมน่ะเหรอ พอโดนมองนานๆสายตาเลยเปลี่ยนโฟกัสไปที่อื่นที่ไม่ใช่คนตรงหน้าแทน รู้สึกเขินๆยังไงไม่รู้ว่ะ

 

                “มินหล่อมากนะ อืมมม”

                ฟองเงียบไป เหมือนจะกำลังคิด ไอ้คนที่เหลืออยู่มันก็มองมาที่ผมกับฟองแบบลุ้นๆเหมือนกัน นี่พวกมึงจะเอาแต่จ้องอย่างนี้เลยรึไง ไม่คิดจะทำอย่างอื่นเหรอ! จงใจเกินไปแล้วเว้ย

 

                “สาวๆคงติดเยอะ”

 

                “.....”

 

                “นิสัยก็ไม่ได้เลวร้าย เรียนเก่ง กีฬาก็เล่นเป็น ดนตรีก็เล่นได้ คุณสมบัติชายในฝันของสาวๆเลยเนอะ”

                มานงมาเนอะอะไรกับผมเล่า ผมก็ทำตัวไม่ถูกดิครับ ทั้งโดนจ้องทั้งโดนชม(?)แบบนี้เลยยกมือขึ้นถูท้ายทอยแก้เขิน... มันก็จริงครับที่ผมมีคุณสมบัติจะเป็นชายในฝันของสาวๆ แต่ผมอยากเป็นคนที่มีคุณสมบัติเป็นคนในฝันของฟองบ้างครับ จะมีโอกาสไหม

 

                “.....”

 

                “อืม ถ้าเป็นมิน เราก็คงไม่มีปัญหาหรอกถ้าจะจีบเรา J”

                ฟองว่าก่อนจะยิ้มให้กับผม.... เดี๋ยวนะ แอบรู้รึเปล่าว่าผมชอบเนี่ย โอยย แบบนี้เขาเรียกว่าอ่อยไหมครับ ถ้าฟองอ่อยผมไม่ทนแล้วนะ ตอนนี้ผมว่าผมมีความพร้อมจะสารภาพรักกับฟองแล้วล่ะ!! ความกล้าไหลมาอย่างกับน้ำป่าเลยครับ

 

                “ฮ่าๆ ครับ แล้วตกลงฟองกับมินไปทำงานที่ไหน?”

                ไอ้บีทเปลี่ยนเรื่องได้เร็วมาก แต่ผมนี่ดิยังใจเต้นอยู่เลยแล้วไม่ได้พูดอะไรออกไปสักคำเพราะมัวแต่กลั้นยิ้มอยู่

 

                “สวน xxx ล่ะ แล้วบีทไปที่ไหน?”

                ฟองถามกลับไป ผมเลยไม่ได้ฟังอะไรที่พวกเขาคุยกันอีก เพราะไอ้โฟร์ทมันลากผมออกไปหาอิงฟ้าที่โทรมาหามันเมื่อกี้เหมือนกัน โธ่เอ้ย ทำไมไม่ไปคนเดียววะ คนกำลังซึมซับกลิ่นกายฟองอยู่นะ นี่ไม่ได้หื่นนะครับ ใสใสเลย

 

                “ลากกูมาทำไมวะ?”

                ผมถามโฟร์ทแต่ก็ยอมให้มันเกาะแขนแล้วลากผมไปตามทางเพื่อไปหน้าร้านนะ ผมเห็นอิงฟ้ายืนรออยู่ตรงนั้นคนเดียวล่ะ... อ๋อ ผมเคยบอกไปรึยังครับว่าอิงฟ้าเนี่ยแอบชอบไอ้โฟร์ท แต่จะบอกว่าแอบก็ไม่ได้หรอกครับเพราะเมื่อวันวาเลนไทน์ปีที่แล้วเธอประกาศตัวแบบโจ่งแจ้งกลางลานคณะว่าชอบไอ้โฟร์ทโดยการเอาช่อดอกไม้มาให้มัน....ผมถึงกับอึ้งนิดหน่อยล่ะครับเหมือนโลกเรากลับตาลปัตร ผู้หญิงจีบผู้ชายก่อน

 

                “เป็นไม้กันหมาให้กูหน่อยเถอะนะที่รัก”

                ขนลุกเลยครับ ไอ้นี่ชอบเรียกผมงี้ล่ะแล้วชอบแสดงความรักแบบถึงเนื้อถึงตัวผมด้วย ถ้าใครไม่รู้ว่าผมกับมันเป็นเพื่อนสนิทกันคงคิดว่าผมกับมันเป็นผัวเมีย

 

                “กันดอกฟ้ามากกว่ารึเปล่า มึงอ่ะหมา”

                ผมหันไปพูดหยอกๆกับคนที่เงยหน้ามองผมตาขวาง เราไม่ได้สูงห่างกันเท่าไหร่หรอกครับแต่เมื่อกี้มันก้มหน้าอยู่

 

                “ตกลงมึงเป็นเพื่อนใคร?”

                มันยู่ปากใส่ผม... ทำไมมึงต้องหน้าหวานด้วยวะโฟร์ท บางทีกูก็สงสารผู้หญิงที่มาชอบมึงว่ะ สวยกว่าเขาอีก

 

                “กูไม่ใช่เพื่อนมึง”

                ผมยักคิ้วให้มัน มันไม่โกรธครับ ยิ้มกว้างให้ผมด้วยนะ

 

                “เออ มึงเป็นผัวกู ♥”

                ไอ้โฟร์ทพูดจบยังเอานิ้วมาจิ้มแก้มผมต่อหน้าอิงฟ้าที่จ้องพวกผมตาแทบถลน พวกผมก้ไม่ได้สนใจอะไรครับ แค่ทักทายเธอแบบปกตินั่น โฟร์ทมันก็ปล่อยแขนผมนะ แต่มือมันยังจับแขนเสื้อผมอยู่ อยากทำไรทำไปครับเพื่อนดอาให้เต็มที่ เอาที่มึงทำแล้วสบายใจ อีกไม่นานกูจะลาออกจกตำแหน่งผัวโฟร์ทไปเป็นแฟนฟองนะ ขี้มโนเนอะผม เอาเวลากลับไปคิดวิธีสารภาพรักเถอะ! เป็นประโยชน์กว่านี้เยอะ



♥♥♥♥
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 3 23/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 23-05-2016 15:52:14
เอาใจช่วยคุณมินค่ะ555555
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 3 23/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-05-2016 20:30:46
ฟองบอกไม่มีปัญหาถ้าจะจีบเพราะฉะนั้นมินอย่าป๊อด

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 3 23/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-05-2016 22:28:52
ความกล้าจงบังเกิด
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 4 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 24-05-2016 08:19:58
Follow You 04





 

                ผมกับโฟร์ทก็ยังคงยืนคุยกับอิงฟ้าอยู่หน้าร้านอยู่เหมือนเดิม ผมชวนเธอเข้าไปในร้านแล้วนะแต่เธอก็ไม่สนใจผม ทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุแล้วเอาแต่มองไอ้โฟร์ทชวนคุยนั่นนี่ไปเรื่อย ผมสงสัยมากว่าที่โทรมาหาไอ้โฟร์ทแล้วบอกว่าอยากมาคุยเรื่องสถานที่ไปถ่ายงานเนี่ยมันเป็นข้ออ้างรึเปล่า เพราะตั้งแต่คุยมาไม่เห็นมีอะไรเกี่ยวกับงานสักอย่าง ผมจะเดินกลับโต๊ะก็ไม่ได้อีก เพื่อนตัวดีมันจับเสื้อผมไว้แน่นมาก เห้อ

 

                “โฟร์ท ตอนเย็นว่างรึเปล่าอ่า?”

                เสียงหวานๆถามไอ้โฟร์ทขึ้น จริงๆเขาก็คุยกันมานานแล้วครับแต่ผมเพิ่งมาตั้งใจเผือกนี่ล่ะ 55555555

 

                “เย็นนี้? ไม่ว่างๆ มีนัดทำงานกับเพื่อน”

                ผมมองคนข้างตัวอย่างอึ้งๆ จริงๆแล้วเย็นนี้พวกเราไม่ได้มีนัดอะไรกันเลยด้วยซ้ำครับ แต่โฟร์ทมันคงไม่อยากไปไหนสองต่อสองกับอิงฟ้า

 

                “เสียดายจัง ว่าจะชวนไปกินไอติมซะหน่อย เอ้อ แล้วตอนบ่ายล่ะ?”

                ถ้าเธอจะสังเกตพวกเราที่ใส่ชุดนักศึกษาสักนิด... พวกผมมีเรียนตอนบ่ายครับ ซึ่งมันเป็นวิชาเลือก พวกผมสี่คนลงวิชาเดียวกันหมดครับ ไม่อยากแยกกันไปเผชิญความลำบากกันคนเดียว

 

                “บ่ายเรามีเรียนไง แล้วจะคุยเรื่องนัดทำงานไหม?”

                เสียงไอ้โฟร์ทเริ่มแข็งแล้วครับ จากที่เก็บอาการมาได้ตั้งนาน

 

                “อ่าๆ คุยๆ ไปทำที่ไหนกันดีอ่ะ แต่เราไม่ชอบที่คนพลุกพล่านนะ”

                มองเพื่อนผมซะตาเยิ้มขนาดนั้น อิงฟ้าต้องการไปที่ลับตาคนรึไงครับ ถ่ายบนคอนโดเลยไหมล่ะ ถ้าจะส่งสายตาอ่อยกันขนาดนั้น

 

                “เราจะไปที่สวน xxx”

                ไอ้โฟร์ท.... นี่มึงจะไปที่เดียวกับกูเหรอ ไอ้มารผจญ - - แต่ผมก็เข้าใจล่ะวะ ถ้ามันไปทำงานกับอิงฟ้าสองคนผมก็กลัวว่ามันจะโดนอิงฟ้าลากไปปล้ำ(?)เหมือนกัน แต่มันจะไปเป็นก้างชิ้นโตระหว่างผมกับฟองนี่ดิ หลังจากนั้นเขาก็ตกลงกันได้นัดแนะเวลาเสร็จสรรพแต่อิงฟ้าก็ยังหาเรื่องชวนโฟร์ทคุยอยู่ ผมก็เลยไม่ได้สนใจฟังอีกจนสายตาเหลือบไปเห็นว่าฟองกำลังเดินมาทางนี้แล้ว... งั้นก็แสดงว่าฟองจะกลับแล้วอ่ะดิ?

 

                “ฟอง”

                ผมเรียกคนที่กำลังจะเดินผ่านกันไว้ด้วยเสียงไม่ดังมาก อีกฝ่ายก็หันมามองผมแล้วเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อยแต่ก็ส่งยิ้มมาให้

 

                “เรากลับก่อนนะมิน พรุ่งนี้เก้าโมงเจอกันนะ”

               

                “อ๋อ โอเคๆ พรุ่งนี้เจอกัน แล้วนี่จะไปซ้อมเต้น?”

                ผมถามไปงั้นล่ะครับ แต่เพราะรู้ว่าฟองเต้นโคฟเวอร์ด้วยไง ซึ่งผมก็แอบไปดูเขาซ้อมอยู่บ่อยๆนะ แต่เขาไม่รู้ตัวหรอก

 

                “ฮ่าๆ มินรู้ได้ไง เก่งว่ะ อือ จะไปซ้อมเต้น วันอาทิตย์จะแข่งแล้ว”

                นั่นไง... วันอาทิตย์ผมจะไปเชียร์ฟองให้ได้

 

                “มินเก่งอยู่แล้ว ฟองสู้ๆล่ะ”

                ผมยิ้มให้เขาพร้อมกับทำท่าชูสองนิ้ว กูจะแบ๊วไปไหนเนี่ย อายตัวเองเหมือนกัน ส่วนฟองเห็นผมทำแบบนั้นก็หลุดหัวเราะแล้วก็พยักหน้ารับเบาๆ

 

                “ไปนะ”

                แล้วฟองก็โบกมือให้ผมก่อนจะพาร่างของตัวเองเดินจากไป ผมก็ได้แต่มองตามฟองไปจนลับต่อ ถึงได้รู้ว่ามีแรงดึงเสื้อตัวเองยิกๆอยู่ข้างๆ

 

                “ไร?”

                ผมถามโฟร์ทที่ดึงแขนเสื้อผมไม่หยุด

 

                “ไม่เดินตามเขาไปเลยล่ะคุณมิน”

                มันพูดจบก็ยิ้มล้อผม... ผมเพิ่งสังเกตว่าอิงฟ้าก็ไม่อยู่แล้วเหมือนกันนะเนี่ย

 

                “ถ้ากูไม่มีเรียน กูตามฟองไปแล้ว”

                ผมว่าพร้อมกับยักคิ้วกลับไปก่อนพวกเราจะพากันเข้าไปในร้านเหมือนเดิม พวกที่นั่งรากงอกอยู่ก็คุยอะไรกันเรื่อยเปื่อยอยู่ที่โต๊ะ พอผมทำท่าจะนั่งลงพวกมันก็ลุกขึ้นบอกว่าจะเข้ามอแล้ว ผมก็เลยไม่ว่าอะไรแล้วก็ออกมาพร้อมพวกมัน

 

               

                ตอนนี้ผมกับไอ้โฟร์ทยืนอยู่ริมน้ำที่เป็นแหล่งนัดแนะทำงานถ่ายภาพครับ ทำไมผมกับมันถึงอยู่ด้วยกันเหรอ? ก็พอดีว่าสวน xxx เนี่ย ถ้ามาจากบ้านผมก็ต้องผ่านคอนโดไอ้โฟร์ท มันก็เลยให้ผมรับมันมาด้วย - - ทำไมทุกคนขี้เกียจขับรถขนาดนี้วะ แล้วเลือกมากระจุกตรงทางผ่านไปไหนมาไหนของผมทุกที

 

                “มึง”

 

                “ว่า?”

                ผมหันไปมองโฟร์ทที่กำลังมองไปบนท้องฟ้า ดูอารมณ์มันไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่เลย สีหน้าก็ดูเครียดๆยังไงชอบกล

 

                “เปลี่ยนคู่ได้ป่ะวะ รำคาญอิงฟ้า”

                มันพูดด้วยเสียงติดจะหงุดหงิดนิดหน่อย ตากลมๆของมันปิดลงช้าๆแล้วถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ผมเอื้อมมือไปจับไหล่มันแล้วบีบเบาๆ

 

                “ทำไมวะ? อิงฟ้าทำไรมึงอีก”

 

                “ก็แม่งไลน์มาหากูแล้วให้กูเลือกชุดนั่นชุดนี่ที่เขาจะใส่มา ถามว่ากูชอบชุดไหน ใส่แบบนี้จะน่ารักไหม บลาๆ มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบเขา เขาก็ยังตื้อกูอยู่ได้ ต้องทำไงวะ”

                ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยมันยังไง ทั้งๆที่โฟร์ทก็เคยปฏิเสธอิงฟ้าไปแบบจริงจังแล้วเหมือนกัน แต่ก็เท่านั้นครับ สาวเจ้าเขาไม่ยอมเลิกราง่ายๆ ขนาดบอกว่ามีแฟนแล้ว เธอก็ยังยืนยันว่า มีก็มีไปสิ เราจีบโฟร์ทนะไม่ได้จีบแฟนโฟร์ทซะหน่อย - - ผมนี่ถึงกับพูดไม่ออกเลยครับ ผู้หญิงอะไรน่ากลัวขนาดนี้

 

                “ไปหาแฟนเป็นผู้ชายไป เผื่ออิงมันจะปล่อยมึง”

                ผมพูดติดตลกไปงั้นล่ะครับ ถึงไอ้โฟร์ทมันจะหน้าหวานแต่มันก็แมนนะ มันลืมตาแล้วหันมามองผมแทบจะทันทีเลยครับ ตลกหน้ามันด้วยที่ทำท่าทางตกใจขนาดนั้น

 

                “เชี่ยมิน... ถ้ากูมีแฟนเป็นผู้ชายจริงกูก็ไปเป็นเมียเขาแบบไม่ต้องสืบอ่ะ - -”

                หน้ามันบึ้งเลยครับ ก็อย่างที่มันพูด มีผู้ชายมาจีบมันนะ... แถมหล่อด้วยครับ ได้ข่าวว่าเรียนวิศวะการบินแถมเป็นเดือนคณะอีก แต่เป็นรุ่นน้อง แหม เพื่อนผมนี่เสน่ห์แรงจริงๆ

 

                “เป็นๆไปเหอะ ไม่เสียหายไรหรอก”

 

                “ไม่เสียหายบ้านพ่อมึงดิ เสียตูดเนี่ย”

                ปากร้ายว่ะมึง บางทีบ้านพ่อกูก็บ้านกูนะ

 

                “กูก็เห็นไอ้รุ่นน้องนั่นตามจีบมึงอยู่นิ ไม่ลองเปิดใจบ้างวะ”

                ผมหมายถึงไอ้เด็กวิศวะการบินนั่นล่ะครับ ดูท่าทางมันจะจริงจังกับเพื่อนผมนะ ไม่ก้าวก่ายวุ่นวายแบบอิงฟ้าด้วย

 

                “ไอ้แอร์หลานรหัสไอ้เฟียอ่ะนะ?”

                มันนั่งตัวตรงแล้วมองไปที่ริมน้ำด้านหน้าเหมือนกำลังใช้ความคิด เฟียเป็นพี่ชายแท้ๆของมันครับ ส่วนแอร์ก็ชื่อคนที่มาจีบมันนั่นล่ะ จะบอกว่าพี่เฟียโคตรจะเชียร์ไอ้แอร์เลย - - มันอยากให้น้องมันเป็นเกย์รึยังไง

 

                “เออ หรือมึงมีหลายคน?”

                ผมถามพร้อมกับผลักหัวมันเบาๆ มันบึนปากใส่ผม บรรยากาศแม่งเหมือนคู่รักเลยครับ

 

                “หลายดิ มึงด้วยอีกคน ที่รักจ๋า”

                มันพูดจบก็ดึงแขนผมไปกอดแล้วซบหน้าเอาหัวถูไถกับช่วงไหล่ผมทันที - - ไอ้นี่... ผมผลักหัวมันออกแบบไม่เบาไม่แรงเท่าไหร่ จนได้ยินเสียงหัวเราะเล็กๆดังมาจากด้านหลังจนผมกับไอ้โฟร์ทรีบหันไปมองทันที

 

                “ฟอง!”

                ผมตกใจจนเรียกชื่อฟองดังไปนิดหน่อย เจ้าของชี้เลยยกนิ้วขึ้นจรดริมฝีปากตัวเองแล้วส่งเสียง ชู่วออกมาเบาๆ ผมหุบปากทันทีเลยครับแล้วผลักหัวไอ้โฟร์ทแรงๆ ไอ้โฟร์ทจิ๊ปากขัดใจแต่มันก็หันไปยิ้มให้ฟอง ฟองก็หัวเราะแล้วยิ้มจนตาเป็นขีดเดียว เขี้ยวเล็กๆโผล่ออกมาอีก คนเราจำเป็นต้องน่ารักขนาดนี้เลยเหรอวะ แถมใส่เสื้อยืดสีชมพูพาสเทลกับกางเกงยืนส์สีซีดที่ขาดจนเห็นขาอ่อนด้วย โอย ขาวกระแทกตาปรมินทร์ไปอีกครับคุณ

 

                “สวีทกันเชียวนะ เรามาช้าไปห้านาทีเอง”

                ฟองว่าพร้อมขำอออกมาเล็กน้อย สวีทอะไรกันเล่าฟอง จะฆ่าไอ้โฟร์ททิ้งอยู่แล้วเนี่ย

 

                “เห้ย ไม่ได้สวีทอะไรกันนะ”

                ผมรีบแก้ตัวอย่างร้อนรน จนฟองดูอึ้งๆไปแต่ก็ยกมือโบกไปมาให้ผม

 

                “เราล้อเล่นน่า ฮ่าๆ แล้วนี่โฟร์ทมาได้ไง?”

                ประโยคแรกพูดกับผมนะ แต่ประโยคถัดมาพูดกับคนข้างตัวผมแทน

 

                “มาทำงานกับอิงเหมือนกัน ไม่อยากไปที่อื่นกับอิงสองต่อสองว่ะ”

                ไอ้โฟร์ทตอบพร้อมทำหน้าเหนื่อยๆ ผมรู้ว่ามันลำบากใจที่ต้องทำงานคู่กับอิง อาจารย์ก็ช่างจับคู่ครับ เห้อ

 

                “อิงยังไม่เลิกตื้อโฟร์ทอีกเหรอ?”

                ฟองถามก่อนจะเดินลงมานั่งข้างๆผมที่ยังเหลือที่ว่าง

 

                “อือ เห้อออ”

                โฟร์ทมันถอนหายใจยาวๆพร้อมกับเสียงสดใสของสาวสวยวัยแรกแย้มตะโกนเข้ามา ไม่ต้องเดาให้ยากครับว่าเป็นใคร ก็น้องอิงฟ้าขวัญใจพี่โฟร์ทเขาล่ะนะ? พวกผมหันขวับไปตามเสียงนั้นก่อนจะพบเข้ากับร่างบอบบางที่เดินเข้ามาด้วยชุดที่ทำให้ทุกคนตะลึง... ชุดเดรสสีเขียวอมฟ้าสายเดี่ยวกระโปรงสั้นพลิ้วตามแรงลม ในความคิดของผู้ชายมันก็สวยนะครับ แต่โคตรยั่วเลยไง ไซต์หน้าอกของอิงก็ไม่ใช่เล็กๆซะด้วย

 

                “โห...”

                ไม่ใช่เสียงผมนะครับ เสียงฟองล่ะ ฟองมองอิงแบบตาค้างเลยครับ แต่ไม่ได้มีแววตาสนใจหรือหื่นกามอะไรนะ คงเพราะทึ่งมากกว่าที่อิงกล้าแต่งตัวแบบนั้นมา เพราะกระโปรงเธอเนี่ย ถ้าไม่จับเอาไว้ลมมันก็พัดจนเปิดขึ้นเห็นอะไรต่อมิอะไรได้แบบสบายๆเลย

 

                “ชอบอ่ะดิ?”

                ผมแกล้งกระซิบถามฟอง ฟองรีบหันมาหาผมแล้วส่ายหน้ารัวเลยครับ

 

                “มันมากเกินไปว่ะเราว่า ล่อเสือล่อตะเข้เกิน”

                ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับเขา ส่วนไอ้โฟร์ทนี่มองไปทางอื่นแล้วครับ หวังว่าชุดนั้นมันคงไม่ได้เลือกให้อิงใส่หรอกนะ

 

                “มึงไม่รอดแน่ๆไอ้โฟร์ท”

                ผมหันไปกระซิบกระซาบกลับเพื่อนสนิทของตัวเอง มันหันกลับมามองผมตาขวางก่อนพูดอะไรที่ทำให้ผมอึ้งเล็กน้อย

 

                เดี๋ยวขากลับกูจะโทรให้แอร์มารับ! หึ”

                หืม... ความแรดเพื่อนผมเริ่มก่อตัวแล้วเหรอเนี่ย มันสะบัดหน้าหนีผมติดจะงอนด้วยเอาเถอะครับ ค่อยง้อทีหลังแล้วกันตอนนี้ขอแยกย้ายกันไปทำงานก่อนเถอะ

 

                ฟองขอให้ผมเป็นแบบให้กับเขาก่อน ไอ้ผมก็อิดออดไงครับ เพราะยังไม่ได้เตรียมใจอะไรมาก่อน ถึงฟองจะอยู่หลังเลนส์กล้องก็เถอะ แต่ผมก็เขินไง เพราะเขาต้องถ่ายรูปผมไม่รู้ตั้งกี่ชอต แต่ด้วยความอยากโชว์แมนล่ะเนอะ อิดออดพอหอมปากหอมคอสุดท้ายผมก็ยอมเป็นแบบให้ฟองก่อน ซึ่งเราก็ไม่ได้ไปไหนไกลครับ แค่ขยับใกล้ริมน้ำเพิ่มขึ้น วันนี้ผมใส่แค่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์สีเข้ม มีสร้อยคอยาวๆประดับ ที่หูก็มีต่างหูสีดำอยู่แค่ข้างเดียว

                ฟองบอกกับผมว่าคู่เราไม่ต้องแต่งตัวโอเวอร์อะไรมากมายหรอก เพราะหน้าตาก็ดีอยู่แล้ว ถ้าแต่งตัวเยอะอีกมันอาจจะดูเยอะกันไปใหญ่ ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเขาเท่าไหร่ แต่ก็ตอบตกลงไปครับ ผมก็ไม่ค่อยชอบแต่งตัวอะไรเยอะๆเหมือนกันล่ะ ผมมีปัญหานิดหน่อยเพราะเกร็งครับ... ก็คนที่ตัวเองชอบมาจ้องกันผ่านเลนส์แบบนี้นี่หว่า แต่พอทำงานด้วยกันไปเรื่อยๆผมก็เริ่มผ่อนคลายจนส่วนของฟองเสร็จเรียบร้อย คราวนี้ถึงทีฟองมาเป็นแบบให้ผมบ้างล่ะ

 

                “ฟองนั่งบนหญ้านะแล้วเงยมองกล้อง”

                ผมบอกฟอง ฟองก็ทำตามแบบไม่อิดออดนะ ทั้งๆที่ตอนนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว ผมพยายามรีบถ่ายให้เสร็จๆสักที แต่เพราะความที่ผมตื่นเต้นนี่ล่ะครับ ทำให้มือสั่น (_ _) อยากจะขอโทษฟองสักล้านครั้ง ก็พอถ่ายใกล้ๆ เห็นหน้าฟองผ่านกล้อง สายตา ท่าทางที่ตั้งใจทำออกมาเพื่อให้ผมเก็บรูป มันมีความเป็นธรรมชาติมาก ฟองให้บรรยากาศที่ชวนเคลิ้บเคลิ้ม ชวนหลงใหล งานผมจะเสร็จไหมเนี่ย เพ้ออะไรเป็นตุเป็นตะอยู่ได้!

 

                กว่าเราจะทำงานกันเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายโมง  พวกเรารอโฟร์ทกับอิงทำงานเสร็จจนเดินมาหาพวกเรา อิงฟ้าทำหน้าตาค่อนข้างไม่พอใจ ให้ผมเดานะ เธอคงชวนโฟร์ทไปกินข้าวต่อแล้วโฟร์ทไม่ยอมไปแน่นอน

 

                “ก็บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวมีคนมารับ”

                เสียงไอ้โฟร์ทพร้อมจะเหวี่ยงตลอดเวลาเลยครับ แต่มันยังคงสีหน้าเรียบเฉยอยู่ ผมกับฟองได้แต่มองหน้ากันแล้วยิ้มบางๆ สงสารไอ้โฟร์ทมันครับ ถึงจะพูดตัดเยื่อใยหรือรุนแรงแค่ไหน อิงฟ้าก็ไม่เคยยอมแพ้สักที

 

                “ก็โทรไปบอกเขาสิคะว่าโฟร์ทจะไปกับอิง”

                เธอพูดเสียงกระเง้ากระงอด เหย คุณไม่มีสิทธิ์มางอนเพื่อนผมนะครับ

 

                “ผมโทรนัดเขามารับเองล่ะ มีปัญหาอะไรอีกไหม?”

                คราวนี้ไอ้โฟร์ทจ้องอิงฟ้าเขม็งเลยครับ ผมกับฟองนี่ขยับเข้าหากันแบบอัตโนมัติเลยล่ะ

 

                “อะไรกันคะ เขาเป็นใครเหรอ สนิทกันมากเหรอ?”

                อิงฟ้าไม่ได้รับรู้ถึงความอันตรายเลยครับ ผมว่าไอ้โฟร์ทมันพร้อมระเบิดอารมณ์แล้วล่ะตอนนี้

 

                “นี่... จะมีใครตายป่ะ?”

                เสียงฟองกระซิบข้างหูผม ดวงตาเล็กๆนั่นก็มองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความหวั่นใจ เพราะยังไงฝ่ายที่สร้างเรื่องก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่

 

                “ไม่หรอกมั้ง”

                ผมไหวไหล่ ก็ไม่รู้หรอกครับ แต่ผมเชื่อว่าโฟร์ทมันคงไม่ทำอะไรรุนแรงตอนนี้มั้ง เพราะคนในสวนก็เยอะ แต่ก่อนที่เราจะได้เห็นอะไรไปมากกว่านี้ เสียงทุ้มๆก็ตะโกนเรียกชื่อไอ้โฟร์ทมาแต่ไกล พร้อมกับการปรากฏกายของไอ้แอร์ หล่ออร่ามาเชียวนะมึง สาวๆแถวนั้นหันมองเพียบเลยว่ะ ก่อนหน้านั้นเขาก็มองพวกผมล่ะนะ แต่คงเบื่อแล้วมั้ง

 

                “พี่โฟร์ทครับ รอนานไหม?”

                ไอ้แอร์ส่งเสียงถามโฟร์ทแต่มันก็ยกมือขึ้นไหว้ผมกับฟอง ผมกับฟองเลยพยักหน้ารับ ส่วนฟองดูจะงงๆนิดหน่อย

 

                “ไม่นาน พี่เพิ่งทำงานเสร็จ แอร์เหงื่อออกเต็มเลย”

                ไอ้โฟร์ทเดินเข้าไปหาแอร์แล้วล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของตัวเองซับหน้าให้กับแอร์ แอร์ดูตกใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมให้ไอ้โฟร์ทเช็ดดีๆแถมส่งยิ้มละลายใจสาวๆให้อีก

 

                “ขอบคุณครับ”

                แอร์ว่า ไอ้โฟร์ทก็ยิ้มกลับไปให้ มีความเคะมากมายก่ายกองเลยเพื่อนผมเวลามันอยู่กับไอ้แอร์เนี่ย ผมอยากถ่ายวีดีโอไปให้พี่เฟียดูชะมัด

 

                “ฟะ โฟร์ทคะ ทำไมต้องเช็ดเหงื่อให้เขาด้วยล่ะ”

                เสียงอิงฟ้าสั่นเลยครับ เธอมองโฟร์ทสลับกับแอร์ด้วยความสับสน อย่าว่าแต่อิงเลย พวกผมสองคนก็อึ้งเหมือนกัน

 

                “ก็มันเรื่องของโฟร์ท แอร์ไปกันเหอะ”

                ไอ้โฟร์ทพูดจบมันก็จับแขนแอร์แล้วลากออกไปทันที แล้วปล่อยผมกับฟองไว้กับอิงฟ้าเนี่ยนะ ให้ตายเถอะครับ ผมอยากฆ่ามันจริงๆนะ ผมกับฟองหันหลังจะเดินหนีไปพร้อมๆกันแต่เสียงของอิงฟ้าก็หยุดพวกผมไว้ก่อน เรามองหน้ากันนิดหน่อยแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

 

                “เมื่อกี้มันหมายความว่ายังไงคะมิน?”

                หน้าตาเธอเอาเรื่องมากเลยครับ ประมาณว่าถ้าผมตอบคำถามไม่ถูกใจ เธอจะกระโดดกัดคอผมอย่างนั้นล่ะ

 

                “ก็ตามที่เห็นครับ”

                ผมตอบเสียงราบเรียบ ถึงมันจะทำให้เธอโมโหจนควันออกหูก็เถอะ

 

                “อะไรคือตามที่เห็นคะ? หมายความว่าโฟร์ทชอบผู้ชายเหรอ?”

 

                “ครับ ผมไปล่ะ”

                ผมพูดจบก็สะกิดแขนฟองให้เดินออกมาพร้อมกัน มีเสียงซาวน์ประกอบเป็นเสียงกรี๊ดตามหลังมาด้วย เอาจริงๆนะครับ ผมแอบขนลุกว่ะ

 

                “โห... อิงนี่เสียงดีเนอะ”

                ฟองพูดหน้าตายมากครับ ผมถึงกับหลุดหัวเราะเลยล่ะ

 

                “แล้วนี่ฟองจะไปไหนต่อ?”

                ผมชวนฟองเปลี่ยนเรื่องครับ ไม่อยากพูดเรื่องอิงฟ้าเท่าไหร่ พวกเราเดินกันไปเรื่อยๆนี่ล่ะครับ ผมจะไปเอารถส่วนฟองจะไปไหนก็ไม่รู้

 

                “เราจะไปซ้อมเต้นล่ะ”

 

                “อ๋อ ขับรถไป?”

 

                “เปล่าอ่ะ ว่าจะไปรถเมล์”

 

                “อ่าว แล้วรถฟองล่ะ?”

 

                “ส่งซ่อมน่ะ”

 

                “งั้นเราไปส่งก็ได้”

                เหมือนฟ้าปะทานโอกาสมาให้ผมเลยนะครับเนี่ย ต้องรีบคว้าไว้ก่อน

 

                “จะดีเหรอ รบกวนมินรึเปล่า?”

               

                “ไม่หรอก มินจะไปห้างอยู่แล้วล่ะ”

 

                “งั้นก็ฝากตัวด้วยนะ ฮ่าๆ”

                ฟองหันมายิ้มกว้างให้ผม ผมก็ยิ้มตอบไปครับ มันถือว่าเป็นความสุขเล็กน้อยอย่างหนึ่งเลยนะเนี่ยที่ผมได้ใช้เวลาอยู่กับฟองนานขึ้นไปอีกแม้สักนาทีก็ยังดี รอผมรวบรวมความกล้าให้ได้ก่อนเถอะ ผมไม่ปล่อยฟองไปไหนแน่




♥♥♥♥♥ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 5 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 24-05-2016 08:21:29
Follow You 05





 

                “คุณชายปรมินทร์ มึงจะลากกูมาทำไมเนี่ย คนเยอะชิบหาย”

                ไอ้บีทบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็ยอมเดินตามการลากของผมฝ่าผู้คนที่ยืนอยู่หน้าเวทีประกวดโคฟเวอร์เข้าไปเรื่อยๆจนตอนนี้เกือบจะอยู่ด้านหน้าเวทีแล้ว ผมก็ไม่อยากมาที่คนเยอะๆแบบนี้หรอก แต่เพราะว่าวันนี้ฟองแข่งโคฟเวอร์รอบชิงชนะเลิศและเป็นงานสุดท้ายที่ฟองจะเต้นแล้ว เพราะฟองจะเลิกเต้นถาวร

 

                “มาดูฟองแข่งเต้นไงวะ”

                ผมบอกไอ้บีทแล้วหยุดลากมัน ผมไม่ได้อยู่หน้าสุดของเวทีหรอกนะแต่อยู่ถัดลงมาสองสามแถว ใครจะไปกล้านั่งเสนอหน้าให้ฟองเห็นกันล่ะครับ ผมก็ลงทุนไปลากไอ้บีทตั้งแต่เช้ามาจากคอนโดด้วยการหลอกมันว่าจะพามาเลี้ยงอาหารญี่ปุ่น มันก็รีบกระเด้งตัวจากเตียงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที หลอกง่ายชิบหายเลยครับเพื่อนผมเนี่ย ใครอย่าเอาของกินมาล่อมันนะ ส่วนไอ้โฟร์ทกับไอ้แทมมีแก้งานถ่ายภาพกันครับ ผมหวังว่าไอ้โฟร์ทจะไม่ฆ่าอิงฟ้าตายนะ วันนี้มันมีตัวช่วยไปครับ ไอ้น้องแอร์นั่นล่ะ ผมเลยเบาใจ

 

                “แล้วมึงบอกฟองยังเนี่ย?”

                ไอ้บีททิ้งตัวลงนั่งข้างผม ตอนนี้คนเริ่มเยอะกว่าตอนที่ผมลากไอ้บีทเข้ามาอีกครับ อีกประมาณหนึ่งชั่วโมงงานก็จะเริ่มแล้ว

 

                “ไม่บอก จะบอกทำไมวะ”

               

                “เอ้า ไม่อยากให้เขารู้เหรอว่ามึงมาเชียร์เขา”

 

                “ไม่อยาก กูอาย”

 

                “ตกลงว่ากูจะได้เพื่อนเขยเหรอ ตอนแรกนึกว่าจะได้เพื่อนสะใภ้ซะอีก”

                ไอ้บีททำหน้าตากวนตีนจนผมอดไม่ได้ที่จะโบกหัวมันไป มันมองผมตาขวางก่อนจะยอกมือขึ้นลูบหัวตัวเองป้อยๆ สมน้ำหน้า อยากปากหมาดีนัก

 

                “อย่างกูต้องอยู่บนเว้ย”

 

                “ออนท็อปอ่ะนะ?”

 

                “มึงอยากลองไหมล่ะบีท?”

                ผมทำหน้าตาหื่นกามใส่จนมันผลักหน้าผมออกไปไกล แหม... แค่นี้ต้องเขินผมด้วย

 

                “กูก็ล้อเล่นไหมล่ะ อย่าทำงี้บ่อยๆเดี๋ยวกูก็กลายเป็นเมียน้อยมึงหรอก”

                มันพูดพร้อมกระพริบตาปริบๆ ไอ้นี่กวนตีนผมอีกแล้วครับ - - วันไหนไม่ได้กวนตีนผมกันคงหลับไม่สบายแน่ๆ

 

                “สัดด”

 

                “งั้นกูเลือกเป็นกระต่ายนะ”

                ผมด่ามันไม่เคยสะเทือนเลยรึไงยังจะมาเลือกว่าจะเป็นสัตว์อะไรอีก ผมล่ะเครียดครับ ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้จะรีบเลิกคบตั้งแต่ปีหนึ่งเลย มันก็ทำหูกระต่ายแล้วยื่นหน้าแบ๊วๆมาหาผม ผมจิ้มกลางหน้าผากมันให้ถอยห่างแล้วเบ้ปากใส่

 

                “ไปไกลๆ”

 

                “มึงแน่ใจแล้วรึไงว่าไล่กู แม่ง สาวๆแต่ละคนเขาเบียดเสียดกันมาจะนั่งข้างมึงทั้งนั้น”

                ไอ้บีทกระซิบกระซาบแล้วมองไปรอบๆที่เราสองคนนั่ง ก็จริงครับ สาวๆออกแรงยื้อยุดฉุดกระชากเพื่อนตัวเองกันใหญ่เพื่อจะเข้ามานั่งใกล้ผมให้ได้มาที่สุด ทางฝั่งไอ้บีทก็เกิดเหตุการณ์คล้ายๆกัน... หรือพวกผมควรลุกออกจากตรงนี้วะ น่ากลัวชะมัด

 

                “ลุกดีป่ะวะ?”

                ผมหันไปกระซิบกระซาบกับไอ้บีท แต่มันส่ายหน้าเบาๆ มึงอยากโดนรุมทึ้งรึไง?

 

                “มึงลุกแล้วจะดูฟองแข่งยังไงวะ เออ แล้วถ้าฟองชนะมึงจะให้อะไรเขา?”

 

                “หา? ต้องให้อะไรด้วยเหรอไง”

                ถ้าผมให้ฟองก็รู้ดิวะว่าผมมาตามเชียร์ มันดูมีพิรุธเกิดไปรึเปล่าครับ ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น

 

                “อย่างเช่น ถ้าฟองแข่งชนะมึงจะสารภาพรักอะไรแบบเนี่ย”

                ไอ้บีทมองหน้าผม ผมก็หันไปมองหน้ามัน เฮ้ย ปิ๊งไอเดียว่ะ

 

                “เออ ช่างคิดนะมึง เอาเป็นว่าถ้าฟองชนะกูจะยอมเดินเข้าไปสารภาพกับฟอง”

                ผมพูดพร้อมส่งรอยยิ้มไปให้ไอ้บีท บีทก็ยิ้มกลับมาด้วยท่าทางพอใจ เอาวะ! แอบชอบมานานขนาดนี้ อึดอัดมานาน ทำใจบอกซะที คำตอบจะเป็นยังไงก็จะยอมรับแล้ว นายปรมินทร์จะไม่ป๊อดอีกต่อไป!

 

                เอาความจริงไหมครับ ตอนนี้ผมนั่งไม่ติด มือทั้งสองข้างชื้นเหงื่ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน วงของฟองกำลังเต้นครับ มีคนตะโกนเรียกพี่ฟองๆสลับกับมาร์คๆ ตามมาด้วยเสียงกรี๊ดหลอดลมแทบแตกของสาวๆ... มาร์คเป็นชื่อศิลปินที่ฟองโคฟเวอร์ครับ วงอะไรนะ ก็อตซิล่า หรือ ก็อตเซเว่นอะไรนี่ล่ะ แฟนคลับฟองชอบบอกว่าฟองหน้าตาเหมือนมาร์คแต่ผมว่าฟองตาตี๋กว่ามาร์คนะ โดนรวมก็หน้าคล้ายๆครับ ส่วนตัวผมนี่คนชอบบอกว่าเหมือนอี้ฟาน... แต่ขอถามครับ อี้ฟาน(คริส : อู๋อี้ฟาน) นี่มันใคร แล้วผมก็มันใจว่าตัวเองหน้าตาดีกว่า!

 

                ผมตั้งใจดูวงโคฟเวอร์ของฟองมากครับ วงเขาเต้นดีนะ เสียงเชียร์ก็ดัง ใจผมนี่เต้นรัวเป็นกลองเลยครับ ตอนนี้ไม่อยากให้ฟองชนะแล้วดิ ความกล้าจะสารภาพนี่มันลดฮวบลงไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แล้วมันมีจังหวะหนึ่งที่เหมือนฟองจะเห็นว่าผมมานั่งเชียร์แล้วยิ้มให้นิดๆ ผมนี่สตั้นเลยครับ นั่งแข็งทื่อจนไอ้บีทต้องตบแก้มผมให้ได้สติ

 

                “เป็นไรวะมิน นั่งแข็งค้างอย่างกับรูปปั้น”

                ไอ้บีทป้องปากตะโกนใส่หูผมเพราะตอนนี้ทั้งเสียงเพลงทั้งเสียงกรี๊ดดังกระหึ่มมาก สาวๆด้านข้างก็เอาตัวมาเบียดผมเหลือเกินเว้ย จะเอาให้ได้เสียกันกลางงานเลยรึไงครับ เบียดจนจะขึ้นมาเกยตักผมอยู่แล้ว จนต้องเดือดร้อนไอ้บีทที่เอื้อมมือไปสะกิดสาวน้อยคนนั้น แล้วมันก็พูดกับเขาว่า ‘นี่แฟนผมครับ กรุณาอย่าเบียด’ เท่านั้นล่ะครับ สาวน้อยคนนั้นดีดตัวออกจากผมทันทีแล้วหันไปกรี๊ดกร๊าดกับเพื่อนแทน ผมนึกว่าเขาจะเสียใจนะ แต่ไม่เลยครับ จิ้นพวกผมเข้าไปอีก เจริญจริงๆ

 

                “มึงกลัวสาวน้อยข้างมึงเหรอ นั่งตัวเกร็ง”

 

                “เปล่าเว้ย เมื่อกี้เหมือนฟองจะยิ้มให้กูว่ะ”

                ผมตะโกนตอบแข่งกับเสียงเพลงและเสียงกี๊ดไป มันเบะปากใส่ผม อ้าว.... นี่ผมทำอะไรผิดอีก

 

                “ไอ้ขี้มโนเอ้ย”

                มันด่าผมซะงั้นอ่ะ แต่ผมไม่สนใจหรอก ความสุขผมครับ ถึงมันจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็เถอะ

 

                ตอนนี้ถึงช่วงเวลาสำคัญของงานแล้วครับ บนเวทีเขากำลังจะประกาศผลการแข่งขันโคฟเวอร์แล้ว ตอนนี้มีเหลืออยู่แค่สามตำแหน่งคือ รองชนะเลิศอันดับสอง รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง และ อันดับหนึ่ง มือไม้ผมชื้นเหงือและเย็นไปหมดอาการกังวลออกทางสีหน้าจนเห็นได้ชัด ไอ้บีทถึงกับยิ้มหน้าบานแล้วพูดซ้ำไปซ้ำมาว่า ‘ฟองชนะแน่’ กรอกหูผมเป็นสิบๆรอบ จนผมต้องเอาฝ่ามือดันหน้ามันออกไปไกลๆ

 

                “เตรียมตัวเลยมึง หึหึ”

                กูเกลียดเสียงหัวเราะมึงมากเลยไอ้เชี่ยบีท!

 

                “และรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งได้แก่...ทีม xxx ครับ ยินดีด้วยครับ!!!”

                สิ้นเสียงประกาศ เสียงกรี๊ดจากบรรดาแฟนคลับก็ดังขึ้น ทีมฟองชนะเลิศครับแต่แทนที่ผมจะรว่มยินดีไปกับคนอื่นๆ ผมกลับถลึงตามองค้างไปด้านหน้า มือไม้เหมือนหมดเรี่ยวแรงเอาดื้อๆ นี่ผมต้องไปสารภาพรักกับฟองจริงดิ? หรือเมื่อกี้ผมฟังผลประกาศผิดวะเฮ้ย หัวใจของผมเต้นรัว ถ้าคำตอบมันออกมาแย่ล่ะ... เฮ้อ

 

                “พร้อมยังมึง?”

 

                “พร้อมเชี่ยไร?”

                ผมหันไปมองหน้าไอ้บีททันที นี่อย่าบอกนัว่าจะให้ผมเดินไปบอกฟองตอนนี้น่ะ คนเยอะแบบนี้เนี่ยนะ! ขนาดอยู่กันสองต่อสองผมยังไม่เคยกล้าบอกเลยนะเว้ย แบบนี้มันจะมากเกินไปหน่อยแล้วนะ

 

                “เอ้า ก็เรื่องสารภาพรักไง เร็วๆเลยมึงอย่ามาอิดออด ชักช้าหมาคาบไปแดกนะเว้ย มึงก็เห็นๆอยู่ว่าเพื่อนในวงฟองมันตัวติดกับฟองแปลกๆ”

                ผมหันไปจ้องทางที่สมาชิกวงของฟองยืนอยู่ จริงด้วยครับไอ้ตัวสูงๆหล่อๆผิวสีแทนนั่นที่โคฟเวอร์เป็นแจ็คสันอะไรนั่นตามประกบฟองแบบไม่ห่างเลย มันต้องคิดไม่ซื่อกับฟองแน่ๆ จากที่สังเกตมาสักระยะหนึ่งที่ผมแอบไปดูฟองด้วยแล้ว มันคงไม่ใช่แค่กระแสคู่จิ้นธรรมดา

 

                “เออๆ แต่รอให้คนซาก่อนเถอะ คนรุมฟองเยอะชิบ”

                ผมบ่นอุบอิบ จริงๆอยากตะโกนว่าหวงฟองแทบตายแต่ก็กลัวว่าจะโดนรุมกระทืบซะก่อน ผมเลยได้แต่ยืนหลบอยู่แถวๆนั้นรอ ผมกับบีทยืนเล่นมือถือฆ่าเวลาไปเรื่อยโดยบางครั้งหันไปมองฟองบ้างคุยกับบีทบ้างจนไม่ทันได้สังเกตว่ามีสาวๆกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาใกล้เราสองคน

 

                “เอ่อ พี่คะ”

                เสียงใสๆเรียกให้ผมกับไอ้บีทเงยหน้าจากมือถือแล้วเก็บลงกระเป๋า บนใบหน้าผมตอนนี้คงเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามล่ะครับ ก็ผมจำหน้าพวกเธอได้นะว่ากรี๊ดฟองอยู่เมื่อกี้แล้วตอนนี้มาอยู่ตรงหน้าผมทำไม

 

                “ครับ?”

                พวกผู้หญิงนี่เขามั่นใจจังเลยเนอะว่าจะอายุน้อยกว่าผู้ชายแบบผม ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นรุ่นพี่บ้างรึไง

 

                “เอ่อคือ ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ?”

                สาวคนตรงหน้าผมเธอทำท่าทางเขินอาย แก้มขาวๆระเรื่อไปด้วยสีชมพูจางๆ แต่ผมไม่ชอบถ่ายรูปกับคนแปลกหน้าไงครับ ไม่รู้ว่าเขาจะเอารูปผมไปลงที่ไหนบ้าง ผมรักความเป็นส่วนตัวนะ ถึงแม้ว่าตอนอยู่มหา’ลัยจะโดนเอารูปลงเพจคิวท์บอยบ่อยๆก็เถอะ ผมมองไอ้บีทอย่างขอความช่วยเหลือ มันก็ยิ้มมุมปากแล้วสอดมือเข้ามาจับแขนผมทันที สาวๆตรงหน้าผมนี่จ้องตาเป็นมันเลยครับ ผมมั่นใจแล้วล่ะถึงเขาจะชอบผมมากแค่ไหนแต่การจิ้นของสาววายมักมาก่อนเสมอ

 

                “เกรงว่าจะไม่สะดวกนะครับ แฟนพี่ขี้อายน่ะ”

                มันพูดกับสาวๆพร้อมส่งยิ้มละมุนให้พวกเธอ... ส่วนพวกเธอหน้าแดงแปร๊ดแล้วกระโดดเร่าๆเหมือนโดนผีเข้าพร้อมกับกลั้นเสียงกรี๊ดกันยกใหญ่ก่อนจะตั้งสติแล้วเงยหน้าขึ้นจ้องผมกับไอ้บีทสลับกันไปมา

 

                “ถ้าอย่างนั้นขอเป็นถ่ายรูปพี่กับพี่คนนี้แทนได้ไหม?”

                เธอทำหน้ากลั้นฟินใส่พวกผมด้วยครับ แต่...ถึงจะถ่ายกับไอ้บีทผมก็ไม่อยากให้ถ่ายนะ เดี๋ยวเอาไปเขียนแคปชั่นมั่วๆแล้วจะเป็นเรื่องอีก - -

 

                “พี่ว่าไม่ดีกว่าครับ”

 

                “มิน เราหาอยู่ตั้งนาน”

                เสียงสดใสของฟองดึงความสนใจของผมกับคนที่เหลือไปจนหมด เพราะผมมัวแต่ยุ่งกับคนพวกนี้เลยไม่ทันสังเกตว่าฟองเดินเข้ามาหา

 

                “หาแต่มินเหรอครับฟอง?”

                ไอ้บีทถามเสียงล้อ คือล้อผมอ่ะได้ครับ แต่ล้อฟองมันไม่ใช่ป่ะวะ ผมกระทุ้งศอกใส่มันแต่มันดันหลบทัน

 

                “น้อยใจเหรอบีท? อ่า สาวๆครับ พี่อิฐเรียกพวกเราอยู่น่ะ”

                ประโยคแรกฟองถามบีทครับ แต่ประโยคหลังหันไปพูดกับสาวๆพวกนั้น พวกเธอก็ไม่รอช้านะ วิ่งไปหาคนที่ชื่ออิฐทันที ซึ่งมันก็คือคนที่ตามติดฟองนั่นล่ะ

 

                “ล้อเล่น ยินดีด้วยนะฟอง ได้ที่หนึ่ง”

                ไอ้บีทว่าแล้วก็ยิ้มกว้างให้ฟอง ตัดหน้าผมชิบหายเลยไงครับ ไม่ให้ผมทำคะแนนเลยเนอะ

 

                “ยินดีด้วยนะฟอง”

                ผมรีบพูดบ้าง กลัวน้อยหน้าไอ้บีทมันครับ

 

                “ขอบคุณนะ แล้วนี่มาเชียร์วงไหนล่ะ?”

                ฟองถามพวกผมอย่างร่าเริง ส่วนผมนี่หาขอแก้ตัวพัลวันเลยครับ แต่ไม่ทันไอ้บีท ไอ้บ้านั่นปากไวชิบหาย ผมอยากฆ่ามันทิ้งตอนนี้เลยครับ

 

                “มาเชียร์ฟองนั่นล่ะ ใช่ไหมมึง?”

                มาถามกูอีกเนอะ ถามไม่พอมีกระแซะไหล่กูด้วย ผมได้แต่ยิ้มแห้งแล้วพยักหน้ายอมรับแต่โดยดี จะโกหกอะไรตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วนี่ครับ

 

                “โห แล้วทำไมไม่บอกเราก่อน”

 

                “ก็คิดจะมาก็มา เลยไม่ได้ไลน์บอกน่ะ”

                คราวนี้ผมรีบตอบก่อนไอ้บีทเลยครับ ไม่งั้นฟองต้องสงสัยผมแน่ๆ แต่ตอนนี้ก็ไม่ต้องปิดบังอะไรแล้วนี่หว่า เพราะยังไงไอ้บีทมันก็ไม่ยอมปล่อยให้ผมกลับไปแบบไม่ยอมอ้าปากสารภาพอะไรแน่ๆ

 

                “อ๋อ แล้วมากันตั้งแต่ตอนไหน?”

                ฟองเล่นถามแบบนี้จะให้ผมตอบว่าไงล่ะครับ มาตั้งแต่ห้างเปิดยันสองทุ่มแบบนี้ มันจะดูจงใจเกินไปหน่อยไหม ผมรีบตะครุบปิดปากไอ้บีทเลยครับ แม่ง มันอ้าปากจะตอบฟองจริงด้วย

 

                “อื้อออ อ๋อยอู!”

                ไอ้บีททั้งดิ้นทั้งแงะมือผมออกจากปากมัน ตอนแรกผมไม่คิดจะปล่อยหรอกครับแต่ฟองมองมาผมเลยยอมปล่อยมัน

 

                “เออ แค่ก มินมันมีอะไรจะคุยกับฟองอ่ะ เดี๋ยวกูไปรอตรงนู้นนะ”

                มันพูดกับฟองเสร็จก็หันมาพูดกับผมแล้วเดินหนีไปลิ่วๆตามทางที่มันชี้ให้ผมดูเมื่อกี้ ไอ้นี่ คิดจะทิ้งผมมันก็ทิ้งเลยเว้ย คราวนี้เอาไงล่ะครับ

 

                “มีอะไรจะพูดเหรอ?”

                มินมองผมท่าทางของเขาตั้งใจฟังมาก ตั้งใจเกินไปแล้วครับ ใจผมกำลังเต้นรัว มือไม้กลับมาเย็นชื้นเหงื่ออีกรอบ

 

                “คือว่า...”

 

                “อื้อ รอฟังอยู่”



                “เอ่อ เราชอบฟองวะ!”

                ผมกลั้นหายใจแล้วพูดออกไป คิดว่าเสียงคงดังมากจนทำให้ฟองสะดุ้งเลยล่ะ เหมือนเขาจะหลบสายตาผมไปเลย ทำไงดีวะเนี่ย

 

                “มิน...เอ่อ ชอบเรา?”

                เสียงฟองเบากว่าปกติอยู่มาก แต่ผมก็ได้ยินมันชัดเจนนะ ฟองไม่กล้าสบตาผม เขาไม่ได้ก้มหน้าลงแต่เสมองไปทางอื่น

 

                “ครับ มินชอบฟอง”

 

                “ล้อเล่นรึเปล่าเนี่ย ไม่คิดว่าไอ้เรื่องสมมติของบีทจะเป็นเรื่องจริง”

                โห... กว่าจะรวบรวมความกล้าพูดออกไปกลายเป็นโดนหาว่าล้อเล่น แบบนี้ก็เฟลเหมือนกันนะครับเนี่ย แต่ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นแก้มขาวเนียนของฟองระเรื่อไปด้วยสีชมพูอ่อนๆล่ะ

 

                “จริงๆดิ แล้วต่อจากนี่ไปมินจะจีบฟองแล้วนะ”

                พอผมกล้าก็เข้าข่ายคนหน้าด้านเลยว่ะ แต่เขาบอกว่าด้านได้อายอดนะ

 

                “โห มีบอกด้วยว่าจะจีบ เราป๊อปนะ”

                ฟองจ้องตาผม ไม่มีแววตาล้อเล่นหรืออาการเขินอายให้เห็น

 

                “เราก็ป๊อปเหมือนกัน”

 

                “ฮ่าๆ ไม่ยอมแพ้เหรอมิน”

                ฟองหัวเราะร่วนเมื่อผมพูดออกไปว่าผมก็ป๊อปเหมือนกันนะ ก็มันความจริงนี่หว่า

 

                “เปล่านะ ถ้าเป็นฟองเรายอมแพ้ทุกอย่างล่ะ”

 

                “นี่เริ่มจีบแล้วเหรอ?”

                ฟองมองผมตาโต ผมก็มองเขากับแล้วยกยิ้มมุมปากแบบที่เคยชอบทำ

 

                “เริ่มแล้วสิ”

                ถ้าไม่เริ่มตอนนี้แววกินแห้วคงฉายมาตั้งแต่ไกล





♥♥♥♥♥ :L1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 5 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: toshika ที่ 24-05-2016 08:58:09
สู้ๆนะคะน้องมิน55555555
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 5 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 24-05-2016 09:09:29
ชอบเรื่องนี้น่ารักมากกกเลยต้องติดตามครับ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 5 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-05-2016 13:17:54
มินหายป๊อดแล้ววว :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 5 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-05-2016 14:02:38
กว่าจะตัดสินใจบอกได้
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 5 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 24-05-2016 14:32:44

5555555555555555
พยายามเข้านะคะคุณปรมินทร์
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 6 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 24-05-2016 19:39:02
Follow You : 06



 

- Forth -

 

                ตอนนี้ชีวิตของผมมันช่างวุ่นวายอะไรขนาดนี้ ตั้งแต่วันที่ผมเรียกแอร์ให้ไปรับที่สวน xxx ผมนึกว่าอิงฟ้าเขาจะเลิกวุ่นวายกับผมนะ ที่ไหนได้อิงฟ้ายิ่งทำตัวเยอะขึ้นเรื่อยๆ แทบจะเกาะติดผมไปทุกที่ จนตัวผมเนี่ยต้องร้องขอความช่วยเหลือจากแอร์ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่แอร์ก็ไม่เคยบ่นอะไรสักคำ ยิ้มรับทุกครั้งที่ผมขอช่วยจนผมเริ่มเกรงใจแล้วล่ะครับ

 

                ถ้าถามผมว่าแอร์เข้ามาในชีวิตของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ตั้งแต่วาเลนไทน์ปีที่แล้วล่ะครับ... หลังจากที่อิงฟ้าให้ดอกไม้ผมไปตกเย็นมาเด็กจากคณะวิศกรรมอย่างแอร์ก็ตรงเข้ามาหาผมแล้วเอาช่อดอกไม้ให้ผม ตอนนั้นผมจำได้เลยว่าตัวเองทำหน้าเอ๋อแดกแค่ไหน เพื่อนๆก็เอาแต่โห่แซวเสียงดัง ผมทำได้แค่ตวาดแอร์ไปดังลั่นว่า ‘กูเป็นผู้ชายนะเว้ย ไม่ชอบผู้ชาย’ แล้วดูอย่างทุกวันนี้สิครับ ผมแทบจะซิ่วไปอยู่คณะเดียวกันกับแอร์อยู่แล้ว เพราะยัยอิงฟ้าคนเดียวเลย

 

                “เหม่ออะไรอยู่ครับพี่โฟร์ท?”

                เสียงนุ่มๆของแอร์เรียกให้ผมหลุดจากความคิดของตัวเอง ผมหันไปตามเสียงเรียกแล้วก็เจอกับรอยยิ้มของเดือนคณะวิศวะปีที่แล้ว มันช่างเป็นรอยยิ้มที่สดใสชวนหลงใหลมากครับ แต่พอดีผมเป็นผู้ชายไงไม่หลงง่ายๆหรอก

 

                “คิดไรนิดหน่อย แล้วนี่ต้องทำงานถึงกี่โมง?”

                ตอนนี้ผมนั่งอยู่ลานเกียร์ครับ ไม่ได้ตั้งใจจะมาเฝ้าอะไรแอร์เขาหรอก แต่พอดีวันนี้ที่คณะผมเขามีงานสังสรรค์ของปีสามแล้วยัยอิงฟ้าอยู่ด้วย ผมเลยต้องหนีมาอยู่กับแอร์แทน จะกลับคอนโดก่อนก็ไม่ได้เพราะไม่ได้เอารถมา ติดรถไอ้มินมา... แฮะๆ

 

                “ก็ประมาณสามทุ่มล่ะครับ”

                แอร์ตอบผมกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มบางๆก่อนจะกลับไปสุ่มหัวทำงานกับเพื่อนต่อ ผมก็ได้แค่นั่งเล่นเกมในมือถือฆ่าเวลาไปเรื่อย แต่เล่นได้ไม่นานหรอกครับเสียงที่คุ้นเคยดันดังมาไกลๆ ตอนแรกนึกว่าแค่หูแว่ว พอได้ยินถี่เข้าถึงมั่นใจว่าเรียกผม

 

                “ไอ้โฟร์ท!”

                กว่าผมจะเงยหน้าขึ้น เสียงเรียกมันก็ดังกระแทกข้างหูผมจนผมต้องเอียงตัวหลบแล้วเบ้หน้าหันไปด่าคนที่บังอาจทำขี้หูผมเต้น

 

                “หูจะแตก!”

                ผมเหวใส่ไอ้มินแต่ปากผมยังไม่ทันได้หุบหรอกครับ มันเขกตัวผมดังโป้กจนเด็กวิศวะการบินเงยหน้าขึ้นมาดูกันเลยทีเดียว ผมได้แต่อ้าปากด่ามันแบบไร้เสียง

 

                “กูเรียกตั้งแต่เดินมายันมาถึงมึงเนี่ยไม่ได้ยินไง หูหนวก?”

 

                “ก็แม่งนึกว่าหูแว่ว”

                ผมตอบมันก่อนจะขยับตัวไปใกล้แอร์ให้ไอ้มินนั่ง มันก็นั่งนะครับ ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้น ส่วนคนที่เหลือในโต๊ะก็ยกมือไหว้ไอ้มินกันใหญ่ มันก็รับไหว้ลวกๆตามสไตล์

 

                “งานเลิกแล้วเหรอวะ?”

                ผมหันไปถามมันที่ตอนนี้เอามือถือออกมากดแล้วครับ - - คือจะมานั่งทำไมเนี่ย ไม่ได้มารับกลับบ้านก็ไม่ต้องมาไหม

 

                “ยัง กูหนีอิงฟ้ามา ถามมากชิบหาย”

                ปากมันพูดกับผมนะแต่ตามันยังจ้องหน้าจอมือถือไม่ละสายตา หน้าตามันก็บ่งบอกว่ารำคาญอิงฟ้ามากแค่ไหน ขอโทษนะที่มึงต้องมาเป็นเพื่อนกับคนหล่ออย่างกู

 

                “มึงหนีมาแล้วไอ้แทมกับไอ้บีทล่ะ?”

                คือไอ้มินเนี่ยรับมือกับอิงฟ้าเก่งที่สุดแล้วส่วนไอ้แทมนี่ไม่ยอมพูดอะไรเลยทำหน้าตึงไร้อารมณ์ตลอดเวลา ส่วนไอ้บีทนี่...กลัวว่ามันจะหลุดบอกอิงฟ้าว่าผมอยู่ที่ไหนนี่ดิ

 

                “ป่านนี้ตายไปแล้วมั้ง”

                มันตอบผมก่อนจะเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ขาดๆของมัน กูใส่แล้วเหมือนกุ๊ย แต่มันใส่แล้วหล่ออย่างกับเทพบุตร ไหนความยุติธรรมครับ

 

                “เชี่ย...มึงฆ่าเพื่อนทางอ้อมเหรอวะ”

                ผมว่าพร้อมกับขำเบาๆ มันก็ยักไหล่แบบไม่แคร์

 

                “แล้วไม่กลับเหรอมึง?”

 

                “ยัง กูรอไปส่งฟอง”

 

                “หว่าย เดี๋ยวนี้สามีกูพัฒนามากอ่ะ มีไปส่งกันด้วย อิจฉาจัง”

                ผมพูดแล้วยิ้มล้อมันก่อนจะกอดแขนแล้วเอาหัวถูไถ

 

                “ไม่ต้องมาอิจฉากู ทุกวันนี้มึงจะย้ายมาอยู่วิดวะแล้วเหอะ”

                มันยักคิ้วกวนให้ผม ผมถึงกับจุกจนพูดไม่ออกเลยครับ ก็ไม่ได้จะย้ายมาอยู่วิศวะอะไรหรอก ก็แม่งต้องหนีอิงฟ้าทุกวันนี้หว่า - - แล้วนี่ไอ้แอร์มันจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทำไมวะ แถมยังเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมด้วย เดี๋ยวตบกะโหลกแยก

 

                “ตั้งใจทำงานไป”

                ผมกัดฟันพูดกับแอร์ มันหลุดขำแล้วพยักหน้าน้อยๆก่อนจะกลับไปตั้งใจทำงานต่อ

 

                “ก็ต้องมาหา แอร์เป็นไม้กันหมาให้กูนี่หว่า”

                ผมพูดไปตามความจริงครับ ก็เวลาอยู่กับแอร์ อิงฟ้าเขาจะไม่ค่อยกล้าเข้ามาใกล้ผมหรอก แต่ก็ยังแว้ดๆใส่ผมอยู่ได้นะ

 

                “พูดงี้น้องเสียใจไหมล่ะมึง”

                ไอ้มินว่าพร้อมกับมองไปที่แอร์ น้องมันก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มบางๆก่อนจะส่ายหัวเบาๆ ผมว่าในแววตามันมีความเศร้าปะปนอยู่นะถึงแม้จะแค่แว้บเดียวเท่านั้นก็เถอะ

 

                “แอร์ ถ้ามันทำร้ายจิตใจเรา เราก็ฟ้องพี่เฟียเลยนะเว้ย ให้พี่เฟียจัดการ”

                ผมอ้าปาตาโตทันทีเลยครับแล้วออกหมัดต่อยลงบนต้นแขนที่มีแต่มัดกล้ามของไอ้มิน มึงนี่ชอบหาเรื่องคอขาดบาดตายมาให้กูตลอด ไอ้เฮียเฟียมันก็รักหลานรหัสมันคนนี้มากกว่าน้องตัวเองอีก - - ไม่รู้ว่าตกลงผมเป็นน้องแท้ๆของมันรึเปล่า

 

                “ฮ่ะๆ ไม่หรอกครับพี่มิน พี่โฟร์ทเขาไม่ได้ทำอะไรให้ผมเสียใจหรอก”

                มันตอบมินเสร็จก็หันมาฉีกยิ้มกว้างจนตาปิดให้ผม... ขอร้องน้องอย่างแอทแทคพี่ให้มากครับ จากไม่หวั่นไหวเดี๋ยวมันจะเริ่มหวั่นไหวนะเว้ย

 

                “เห็นมะ กูออกจะเป็นคนดี”

                ผมยืดอกอย่างภูมิใจ ก็แค่การแสดงออกครับว่าภูมิใจ แต่ในใจลึกๆก็อยากขอโทษแอร์อยู่เหมือนกันที่ผมขอความช่วยเหลือจากน้องมากเกินไปแล้วไม่มีอะไรตอบแทนบ้างเลย

 

                “เออๆ กูจะกลับคณะแล้วนะ ไอ้บีทแม่งไลน์มาโวยวายว่ากูทิ้งมัน มันจะตายอยู่แล้วไอ้แทมก็ไม่ช่วย”

                มันหยิบมือถือขึ้นมาเมื่อกี้ครับ ได้เรื่องเลยไง ผมก็ทำได้แค่ตบบ่ามันเบาๆทำหน้าหงอยๆ

 

                “ขอโทษนะมึง”

                ผมว่าเสียงเบาส่วนมันก็แค่ถอนหายใจออกมาแล้วส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเอื้อมมือมายีหัวผมอย่างอ่อนโยน

 

                “ไม่เป็นไร เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อน กูไปล่ะ เสร็จเรื่องแล้วจะมารับ”

                มันว่าก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินกลับไปที่รถคันหรูของมัน ผมก็ทำได้แค่มองแผ่นหลังของเพื่อนเดินจากไปแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ ผมเครียดนะ ไม่รู้จะทำยังไงให้อิงฟ้าเลิกวุ่นวายกับผมสักที หรือว่าผมต้องเป็นแฟนกับแอร์ก่อนเขาถึงจะเลิกยุ่งกันนะ?

 

                ผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยพอเมื่อก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองคนด้านข้างก็พบว่าเขามองผมอยู่ก่อนแล้ว พอเราสบตากันเขาก็ยิ้มบางให้ผม อย่าขยันยิ้มให้มันมากเลยครับน้องแอร์ คุณน้องหล่อเกินหน้าเกินตาพี่มากไปแล้วครับ

 

                “พี่โฟร์ทครับ”

                แอร์เรียกผมก่อนจะจ้องเข้ามาในดวงตาของผม... จ้องจนผมเริ่มทำตัวไม่ถูกจนเป็นฝ่ายต้องเสมองไปทางอื่นแทน

 

                “วะ ว่าไง?”

                จะติดอ่างเพื่อใครครับ

 

                “เดี๋ยวผมไปส่งพี่ก็ได้ครับไม่ต้องลำบกพี่มินวนมารับอีก”

                หะ? แต่อย่างที่แอร์พูดก็มีเหตุผลครับ ไอ้มินยังต้องไปส่งฟองอีกนี่ ถ้าต้องไปส่งผมด้วยมันก็ต้องวนไปวนมาหลายรอบอีก ก็ดีครับ ผมจะได้ขอโทษแอร์เรื่องที่ขอความช่วยเหลือเขามากมายเหมือนกัน

 

                “อ่า ก็ได้”

                แล้วผมก็ได้รับรอยยิ้มกว้างมาจากไอ้น้องแอร์คนหล่อ... เหมือนมีดวงอาทิตย์ขึ้นตอนสองทุ่มเลยว่ะ แสบตาชะมัด

 







                ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนรถของแอร์ครับหลังจากที่โทรไปบอกไอ้มินเรียบร้อย...แถมมาด้วยเสียงแซวจากไอ้พวกที่เหลือด้วยว่าอย่าลากน้องแอร์ไปปล้ำที่ไหนนะ พ่อง คือเอาตามความจริงไหม? ผมตัวเล็กกว่าแอร์ครับ เตี้ยกว่าด้วย กล้ามเนื้อห่าเหวอะไรกับเขาก็มีเพียงเล็กน้อยพอให้ดูว่าเป็นผู้ชายนี่ล่ะ จะเอาแรงที่ไหนปล้ำน้องมันล่ะวะ ถ้าน้องมันปล้ำผมอันนั้นไม่แน่ แล้วนี่ผมคิดบ้าอะไร๊

 

                ภายในรถเงียบครับ ได้ยินแค่เสียงเครื่องปรับอากาศดัง สถานการณ์แบบนี้มันน่าอึดอัดนะที่ต่างคนต่างเงียบ แต่ถ้าคิดในทางที่ดีแอร์คงกำลังตั้งสมาธิอยู่กับการขับรถล่ะมั้ง

 

                “แอร์... พี่ขอเปิดเพลงนะ”

                ผมเอ่ยเสียงเบา แต่เจ้าของชื่อกับสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันมามองผมแค่แว้บเดียว เหมือนเขากำลังพยายามระงับอารมณ์อะไรบางอย่างอยู่เลยว่ะ

 

                “ตามสบายเลยครับ”

                ผมได้รับคำอนุญาตก็ครางอือตอบไปก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดเครื่องเสียงแล้วเลือกเพลงที่ฟังสบายๆ ดึกแล้วครับฟังเพลงคึกๆแล้วมันน่ารำคาญ เพราะผมง่วง T^T หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก เอาจริงๆผมว่าเพลงมันไม่ได้ช่วยให้หายอึดอัดเลยว่ะ ผมคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ

 

                “แอร์”

                ผมเรียกชื่ออีกคนทำลายความเงียบ แอร์สะดุ้งอีกแล้วครับ ผมอยากขำนะ แต่น้องมีท่าทางเกร็งๆยังไงบอกไม่ถูกเลยครับ

 

                “ครับ?”

                เขาตอบผมมาแค่นั้น ตาโตๆยังคงมองถนนต่อไป

 

                “เป็นอะไร พี่เรียกทำไมต้องตกใจขนาดนั้น?”

                ผมเหลือบไปมองคนด้านข้างอย่างพิจารณา ใบหน้าด้านข้างของแอร์ก็หล่อไม่แพ้หน้าตรงเลย ยิ่งได้มองใกล้ๆก็ยิ่งรู้ว่าจมูกสวยนั่นโด่งมากแค่ไหน ดวงตากลมโตที่ติดจะคม ปากสีชมพูสุขภาพดีรูปกระจับ... ถ้าแอร์เป็นผู้หญิงผมจับแอร์มาจูบแล้วล่ะ และเหมือนคนด้านข้างเขาจะรู้ตัวว่าผมกำลังจ้องอยู่ก้ยิ่งนั่งตัวเกร็งแล้วลมหายใจนั่นก็สะดุดกึกด้วย ผมกลัวน้องจะเกร็งจนตะคริวกินชิบหาย

 

                “อ่ะเอ่อ... ผมตื่นเต้นครับที่ได้ไปส่งพี่โฟร์ท”

                เสียงนุ่มตอบกลับมาตะกุกตะกักแต่นั่นมันทำให้ผมต้องเผลอยิ้มออกมา... ตื่นเต้นที่ได้ไปส่งผมอย่างนั้นเหรอ? ควรจะดีใจไหมนะ

 

                “ฮ่าๆ ต้องเกร็งขนาดนั้นเลยเหรอ?”

                ผมหัวเราะออกมาเพราะตอนนี้รู้สึกว่าความอึดอัดเริ่มคลายลงแล้วหลังจากที่เริ่มพูดคุยกัน

 

                “ก็...ได้ไปส่งคนที่ตัวเองชอบเป็นครั้งแรกนี่ครับ”

                ฉ่า... ตรงกว่านี้มีอีกไหมครับ ตรงจนผมหน้าร้อนเลยล่ะ ปกติเคยเขินใครที่ไหนกันเล่า! จะเก่งเกินไปแล้วครับน้องแอร์ แต่ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวที่นั่งหน้าแดงนะเว้ย ไอ้คนข้างผมก็หูแดงเหมือนกัน พูดเองเขินเองสินะ

 

                “อ่า...เออ ขอโทษนะที่ขอความช่วยเหลือจากแอร์บ่อย”

                ในที่สุดผมก็ขอโทษแอร์ครับ ถึงแอร์จะบอกว่าเต็มใจทำก็เถอะครับแต่เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะ เกรงใจ

 

                “ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ผมเต็มใจทำ”

                แอร์หันมามองผมแล้วยิ้มให้นิดๆ ผมก็เลยพยักหน้ารับเบาๆ ผมกำลังจะพูดต่อแต่แอร์ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

 

                “ผม...ขออะไรจากพี่โฟร์ทอย่างนึงได้ไหม?”

                น้ำเสียงนุ่มเอ่ยจริงจังแต่แฝงด้วยน้ำเสียงคล้ายจะอ้อนวอน ผมหันไปมองใบหน้าด้านข้างของแอร์อีกครั้ง ครามนี้ก็จ้องเหมือนเดิมนั่นล่ะครับ ผมจงใจมอง ใครจะว่าอะไรผมไม่สนครับ

 

                “อ่าฮะ”

                ผมตอบพร้อมกับรถที่หยุดนิ่ง... แอร์หันมามองสบตาผมอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมไม่คิดจะหันหนีแล้วครับ จะทำใจดีสู้เสือหล่อก็แล้วกัน

 

                “เปิดใจรับผมไปพิจารณาได้ไหมครับ?”

                น้ำเสียงอ้อนวอนพร้อมกับสายตาอ้อนๆนั่นทำให้ใจผมแกว่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมไม่เคยอนุญาตให้แอร์จีบครับ แอร์เขาก็เลยขอคุยกับผมแบบพี่น้องซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรดีซะอีกมีน้องหล่อๆนิสัยดีเพิ่มขึ้นอีกคน แต่ในตอนนี้ ณ เวลานี้ แอร์เขาคงทนอยู่ในสถานะนั้นไม่ไหวแล้วมั้ง... ส่วนผมเหรอ?

 

                “คิดดีแล้วเหรอว่าจะจีบพี่?”

                ผมถามออกไปตรงๆ ผมไม่ได้มีอะไรดีแบบไอ้มินไอ้แทมหรือไอ้บีทเลยนะ ออกจะเป็นคนที่ไม่สนใจใคร ไม่สนใจโลก ไม่แคร์ความรู้สึกคนอื่นๆซะด้วยซ้ำ แล้วแอร์ที่แสนจะดีเนี่ยคิดอะไรอยู่

 

                “ผมคิดมาตลอดหนึ่งปีเลยนะ ผมยังยืนยันคำเดิมครับว่าผมจะจีบพี่”

                นั่นสินะ...ตั้งแต่วันที่แอร์มาบอกชอบผมจนมาถึงตอนนี้มันก็ปีกว่าๆแล้วสิ ผมไม่เคยคิดเลยนะว่าแอร์ยังชอบผมอยู่ ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ผมยอมก็ได้

 

                “อื้อ จะจีบก็จีบ”

                หวังว่าหลังจากวันนี้มันจะมีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้นนะ




----------------------------------
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 7 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 24-05-2016 19:40:19
Follow You 07

 





                ผมกลับเข้าไปในงานเลี้ยงของปีสามคณะศิลปกรรมศาสตร์หลังจากที่ขับรถหนีการตามตื้อจากอิงฟ้ามา กว่าผมจะสะบัดเธอหลุดเล่นเอาเหนื่อยแทบตาย ก่อนจะได้เดินหนีออกมาเธอยังด่าผมอีกว่าเป็นตัวขัดขวางความรักของเธอกับโฟร์ท... คือผมก็ไม่เข้าใจว่าอิงเขาคิดอะไรอยู่? ผมขัดขวางตรงไหนในเมื่อเพื่อนของผมมันไม่เล่นด้วย เธอคงเป็นยัยขี้มโนขั้นเทพล่ะมั้ง

               

ผมเดินกลับโต๊ะของตัวเองก็เพิ่งเห็นมามีสมาชิกเพิ่มมาอีกสามคนจากที่ตอนแรกไม่มีใครกล้ามานั่งร่วมโต๊ะกับพวกผม ใจผมกระตุกเล็กน้อยเมื่อเจ้าของหัวใจของผมหันมายิ้มหวานให้พร้อมกับเอ่ยทัก ก็ตอนแรกฟองนั่งอยู่อีกโต๊ะนึงต่างหาก

 

“หวัดดีมิน”

เสียงฟองมันนุ่มละมุนจนผมอยากจะได้ยินมันทุกวันเอ่ยทักผมขึ้นมา ผมยกยิ้มมุมปากนิดหน่อยก่อนจะทักเขากลับไปบ้าง

 

“หวัดดีฟอง มานั่งตรงนี้นานรึยัง?”

ผมถามฟองกลับไปก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างไอ้แทม โต๊ะผมนั่งกันเป็นวงกลมครับ เริ่มจากผม ไอ้แทม ไอ้บีท ไอ้ฝุ่น ฟอง จบด้วยไอ้ปิน  ผมเหล่มองคนข้างตัวนิดหน่อยแล้วมันก็หันมายักคิ้วให้ผมหนึ่งที รู้เลยครับว่ามันเป็นคนจัดที่นั่งแน่ๆ กะจะแกล้งผมล่ะสิท่าที่ไม่ยอมให้ฟองนั่งด้านนอกสุด จะบอกว่าไอ้ปินมันหวงเพื่อนก็ไม่ถูกครับ มันคงอยากแกล้งผมมากกว่า

 

“แหม ถามกูก็ได้น่ามิน กูมาพร้อมฟองนะ”

ไอ้ปิน ไอ้ขี้สอด - - ผมแยกเขี้ยวใส่มัน คนอื่นๆก็ดูชอบใจที่ไอ้ปินแซวผมแบบนี้ได้ ตกลงพวกมันเป็นเพื่อนใครกันแน่วะเนี่ย

 

“เออๆ ถามมึงก็ได้ปิน”

ผมไม่อยากโดนแซวไปมากกว่านี้ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมไม่ได้เขินนะแต่กลัวว่าฟองเขาจะอึดอัด แค่ผมไปจีบเขาก็คงมากมายพออยู่แล้วอย่าให้เขาต้องมาโดนแซวจากทั้งเพื่อนของเขาและเพื่อนของผมอีกเลย

 

“ย้ายมาตอนเห็นมึงเดินหนีอิงอ่ะ พวกกูก็หนีสาวๆของไอ้ฟองมาเหมือนกัน”

หืม? สาวๆของฟองงั้นเหรอ? ก่อนจะเดินหนีอิงผมก็เห็นอยู่หรอกว่าโต๊ะของฟองก็นั่งกันแค่สามคน พอสาวๆเขาเห็นว่ามีที่ว่างก็คงอยากเข้าไปนั่งด้วยล่ะมั้ง ไม่แปลกที่ฟองจะมีสาวๆเข้าหา ก็เพราะเป็นเดือนคณะยังไงล่ะ... ส่วนเหนือเดินอย่างผมน่ะเหรอ ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามายุ่งเท่าไหร่หรอก เพราะผมเป็นคนหน้าดุไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ด้วย ส่วนฟองเขาเป็นคนร่าเริง โลกสดใสตลอดเวลา ถ้าเขายิ้มตลอดเวลาด้วยผมคงคิดว่าฟองเป็นคนบ้า

 

“อ๋อ สาวๆรุมจีบอีกแล้วอ่ะดิ?”

ผมหันไปถามฟองที่กำลังยกแก้วบรรจุน้ำสีอำพันดื่มอยู่ ดวงตาเล็กๆนั่นมองผมแล้วแก้วที่บังหน้าของเขาก็เลื่อนต่ำลงเผยให้เห็นว่าเจ้าตัวกำลังยิ้มอยู่ มือสวยนั่นยังถือแก้วเบียร์ค้างอยู่ก่อนจะตอบผม

 

“อืม หนุ่มๆก็มีนะ”

ฟองพูดจบก็หัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะวางแก้วเบียร์ลงแล้วปัดปอยผมที่หน้าออก เผยให้เห็นว่าใบหน้าขาวใสบัดนี้ที่แก้มของเขามีสีแดงระเรื่ออยู่ คงเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่กินเข้าไป น่ารักว่ะ อยากจับมาฟัดสักทีสองที

 

“เรามีคู่แข่งด้วยเหรอ?”

ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงสบายๆ ถึงจะมีคู่แข่งเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายผมก็ไม่หวั่นหรอก เพราะยังไงฟองก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกคบใครก็ได้อยู่แล้ว ถ้าถามว่าผมหึงหวงฟองไหม ตอบได้แบบไม่ต้องคิดเลยว่าหึงและหวงมาก แต่เพราะผมรู้ว่าสมควรวางตัวแบบไหนไม่ให้อีกฝ่ายอึดอัด เลยเลือกจะเก็บอารมณ์ทั้งหมดไว้กับตัวเองก็แค่นั้น

 

“มีดิ เยอะแยะ”

ฟองยักคิ้วให้ผม กวนนะเราน่ะ ได้เป็นแฟนเมื่อไหร่จะลงโทษให้เข็ดเลยเชียว แต่ตอนนี้ทำได้แค่คิดครับ เชื่อว่าหนทางในการจีบฟองยังอีกยาวไกล ถึงอุปสรรคจะเยอะผมก็ไม่หวั่นอยู่แล้ว ผมได้แต่ทำหน้าหงอยๆกลับไปให้ฟอง แต่ก็ได้ยินเสียงหัวเราะของคนในโต๊ะดังขึ้น ตลกนักรึไงวะเพื่อนมีคู่แข่งเนี่ย

 

“โอ๋ๆ กลายเป็นหมาหงอยเลยเว้ย มึงก็ไปเชื่อไอ้ฟอง มีมึงคนเดียวนี่ล่ะที่เป็นผู้ชายมาจีบมัน”

ไอ้ปินขายเพื่อนหมดเลยครับ ผมหันไปมองฟองทันทีก็ได้รับเสียงหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังกลับมาจากคนขี้แกล้ง ฟองนะฟอง อย่าให้ผมแกล้งกลับบ้างนะเว้ยจะเล่นให้กลับบ้านไม่ถูกเลย

 

“แกล้งเรานะฟอง เดี๋ยวจะโดน”

ผมชี้หน้าฟองเอ่ยด้วยเสียงแข็งๆ ฟองรีบหุบปากฉับทันที ตาเล็กๆนั่นเบิกขึ้นเล็กน้อย เหมือนเขาจะตกใจที่ผมขู่เลยว่ะ แต่ทำไมต้องทำท่ากลัวขนาดนั้นด้วย พี่มินคนนี้ใจดีนะเว้ย ถึงแม้จะใจดีกับฟองคนเดียวก็เถอะ

 

“เดี๋ยวๆๆ กูขอขัดพวกมึงแปปนะ นี่กูพลาดอะไรป่ะ?”

ไอ้ฝุ่นถามพร้อมกับเกาหัวแกรกๆ ในมือมันยังถือแก้วน้ำอัดลมอยู่... ไอ้นี่มันชอบแดกไวน์ครับไม่ชอบแดกเบียร์ แต่ถ้าเป็นเหล้ามันก็ไม่หวั่นเหมือนกัน

 

“มึงไม่พลาดไรหรอก มึงแค่โง่”

โห... พี่แทมคนดีของกูปากหมาอีกแล้วครับ มึงไม่กลัวโดนรุมกระทืบบ้างรึไงวะ ปากหมาในกลุ่มไม่พอยังจะปากหมานอกกลุ่มอีก แต่มันก็ไม่ได้แคร์สีหน้าของไอ้ฝุ่นที่เอ๋อแดกไปแล้วนะ มันกลับหยิบถั่วแล้วโยนเข้าปากเคี้ยวหงุบหงับด้วยความกวนตีนไป

 

“กดไลค์ที”

ไอ้ปินยกนิ้วโป้งขึ้นมาแล้วขยับขึ้นลงหลายที  จนไอ้ฝุ่นเอื้อมมือข้ามตัวฟองไปตีมือไอ้ปินดังเพี้ยะ เจ็บแทนเลยครับ

 

“มึงชอบฟอง? มึงกำลังจีบฟอง?”

แล้วมันก็หันมาคาดคั้นผมแทน ดวงตากลมๆของมันจ้องผมเขม็ง ปากบางสีชมพูอ่อนของมันเม้มเข้าหากันแน่น

 

“เออ”

ผมตอบสั้นๆก่อนจะหยิบถั่วขึ้นมาเคี้ยวบ้าง ฟองดูจะอึ้งนิดหน่อยที่ผมยอมรับง่ายๆไม่มีปิดบัง ผมถือคติว่าจะทำอะไรแล้วก็ต้องทำให้ชัดเจนไม่ใช่ครึ่งๆกลางๆ เจ้าของคำถามอ้าปากค้างก่อนจะยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าผม

 

“มึง.. มึง อย่าลากเพื่อนกูไปปล้ำนะ กูหวง!”

คนหวงเพื่อนที่แท้จริงเผยตัวออกมาแล้วครับ หวงอ่ะหวงได้ผมเข้าใจ แล้วทำไมประโยคมันทะแม่งๆ แล้วทำไมมันคิดว่าผมจะทำแบบนั้นกับฟองด้วยวะ ขอคำอธิบายด่วนเลย!

 

“เฮ้ย ฝุ่นมึงพูดไรออกมา”

เป็นฟองครับที่ถามออกไปก่อน มือเรียวสวยๆนั่นก็ฟาดลงบนไหล่ของเพื่อนสนิทดังเพี้ยะ อื่ม... ฟังจากเสียงแล้วมือฟองน่าจะหนักกว่าไอ้ฝุ่นด้วยซ้ำ

 

“ก็ไอ้มินอ่ะ ใครๆก็บอกว่ามันหื่นตัวพ่อเลยนะเว้ย”

อ้าวเฮ้ย ใครเอาเรื่องกูมาพูดวะเนี่ย ผมออกจะเงียบขรึม หื่นนี่ก็หื่นเงียบนะครับไม่ค่อยแสดงออกให้ใครเห็นซะหน่อย

 

“ก็รู้ แล้วทำไมต้องคิดว่ามินจะปล้ำกูด้วย?”

 

“เออ ทำไมต้องคิดว่ากูจะทำเรื่องแบบนั้นกับฟองวะ?”

                ได้ทีผมก็ถามต่อจากฟองเลยไง คนหื่นก็ไม่จำเป็นว่าต้องเลวนี่ครับ หื่นก็หื่นในที่ของผมนะเว้ยไม่ได้ไปหื่นกับใครให้เดือดร้อน แต่ฟองรู้ด้วยเหรอวะว่าผมหื่น T T บรรลัยจริงๆเลยเว้ย

 

                “กับคนที่ชอบเราก็อยากสัมผัสเขาไม่ใช่เหรอ? หรือกูเข้าใจไรผิด?”

                พอผมได้ยินคำตอบของไอ้ฝุ่นก็ได้แต่นั่งเงียบ ไม่มีข้อโต้แย้ง... ก็จริงของมันครับ ก็เมื่อกี้ยังคิดว่าฟองน่าฟัดอยู่เลย ฮือ

 

                “จริงของมึง”

                ไอ้แทมพูดพร้อมกับเหล่มามองผมที่เอาแต่ยกแก้วเบียร์ขึ้นกระดกอึกๆ ไม่ได้กลัวเมาเลยครับ ตอนนี้ขอกลบเกลื่อนความรู้สึกผิดของตัวเองก่อนเลยอันดับแรก

 

                “เอ้า เงียบเลยนะมึง สรุปเรื่องจริงใช่ไหม?”

                ปินครับ... กูอุตส่าห์นั่งเงียบแล้วแดกเบียร์ของกูไป ทำไมมึงต้องหางานมาให้กูด้วย นั่นไง ฟองจ้องผมแบบต้องการคำตอบซะด้วยสิ ผมเลยทำได้แค่ลดแก้วเบียร์ลงจากปากแล้วตั้งมันไว้บนโต๊ะก่อนจะหลับตาแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

 

 

                “เออก็จริง แต่กูก็แค่คิดในที่ของกู ไม่ได้เลวถึงขั้นลากฟองไปปล้ำหรอกว่ะ”

                ผมปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน เผลอตอบตามความจริงทั้งๆที่ฟองก็นั่งอยู่ด้วย โอย ปากพาซวยแล้วไหมล่ะกู

 

                “ตรงชิบหาย แบบนี้ฟองจะคิดไงวะ?”

                ไอ้บีทที่เงียบมานานถามขึ้น ผมก็นึกว่ามันเมาหลับไปแล้วนะเนี่ย ที่แท้แม่งนั่งเก็บรายละเอียดอยู่นี่เอง

 

                ฟองจะคิดอะไรผมไม่รู้นะ แต่ที่รู้คือกูไม่น่าพูดเลย

 

                “มินลามกว่ะ”

                ฟองว่าผมแต่แก้มขาวๆนั่นกลับแดงมากขึ้นกว่าเมื่อกี้ที่ผมสังเกตอีก จะคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่าฟองเขิน... แต่เขาไม่ได้มองมาทางผมนะ เพราะสายตาของเขากำลังจดจ่อกับจานยำรวมมิตรตรงหน้าต่างหาก

 

                “ก็นะ..ไม่ปฏิเสธ”

                หลังจากที่ได้สารภาพว่าชอบฟองแล้วเริ่มจีบฟองไป ไอ้ความอายความไม่กล้าไม่รู้มันไปมุดหัวอยู่ที่ไหนหมด เหลือแค่ไอ้มินที่หน้าด้านอยากพูดไรก็พูด อยากจะหยอดไรก็หยอดแบบไม่มีกั๊ก ไม่สนไม่แคร์คนอื่นด้วยนะ อยากได้ตัวเองคนเดิมกลับมาจัง

 

                ทั้งโต๊ะหันมามองผมเป็นตาเดียวแบบอึ้งๆแล้วก็หลุดหัวเราะกันออกมาพร้อมกับคำมากมายที่เพื่อนๆของเขาพูดออกมา เจ๋ง หน้าด้านว่ะ ชอบๆ ตรงว่ะ แล้วก็อีกมากมายนับไม่ถ้วน มีแต่ฟองนั่นล่ะที่เบิกตามองผมช้อนที่ตักยำก็ค้างอยู่ในอากาศ ปากสีชมพูสวยเริ่มขยับถามผม

 

                “ลามกกับคนอื่นแบบนี้ด้วยรึเปล่า?”

                หลังจากจบคำถามช้อนยำก็เคลื่อนไหวเข้าปากอิ่มนั่น ผมเผลอมองปากฟองที่ขยับเคี้ยวหงุบหงับแล้วรู้สึกว่า... มันน่ารักจนอยากจะจุ๊บลงไปหลายๆครั้ง นั่นไงครับ คิดลามกอีกแล้ว ฮืออ

 

                “แล้วคิดว่าไงล่ะ?”

                ผมถามฟองกลับ ไม่ใช่อะไรหรอก อยากกวนประสาทฟองบ้างเท่านั้นเอง หลังจากที่เจ้าตัวเคี้ยวยำในปากหมดก็ตอบคำถามของผมต่อ

 

                “อย่างมินเหรอ คงลามกกับสาวๆไปทั่วแน่เลย ก็เหนือเดือนสาวติดตรึมขนาดนั้น”

                ฟองพูดเหมือนจะน้อยใจนะที่ผมมีสาวๆมาติด แต่ผมรู้ว่านั่นก็แค่เป็นการพูดเล่นของฟองเท่านั้นล่ะ ผมเลยยักไหล่แบบไม่แคร์อะไรแล้ววางแก้วเบียร์ที่หยิบขึ้นมาจิบเมื่อกี้ลง

 

                “บ้าเหอะฟอง ไม่เคยคิดลามกกับคนอื่นว่ะ”

                ฟองมองผมแบบไม่เชื่อ ผมพูดความจริงนะเว้ย ตั้งแต่รู้ตัวเองว่าชอบฟองก็ไม่เคยเหลียวแลคนอื่นด้วยซ้ำ ถึงจะมีสาวๆอกอึ๋มเข้ามามากแค่ไหนผมก็ไม่เคยสนพวกเธอสักนิด

               

                “ตอแหลแล้วมึงอ่ะ”

                ไอ้ปินพูดขึ้นมา ผมนี่ไม่สนอะไรแล้วครับหยิบถั่วในจานปาหัวแม่งเลย มันก็หลบนะ แต่หลบไปทางฟองแล้วเอาหัวซบไหล่ซะงั้น ฮึ่มมม

 

                “ฟองงงงงงงง มึงดูมันดิ มันทำร้ายกูอ่ะ อย่าไปชอบมันนะเว้ย”

                ได้ทีอ้อนฟองใหญ่เลยนะไอ้ปิน ปากก็หมาน่าจะเอาไปอยู่กับไอ้แทม ผมถลึงตาใส่มันแต่มันยักคิ้วให้ผม กวนตีนชิบหาย

 

                “มึงว่ามินก่อนเอง เอาหัวเน่าๆของมึงออกไปเลย”

                ฟองว่าไอ้ปินก่อนจะผลักหัวมันออกไปจากไหล่ บอกได้เลยว่าตอนนี้ปรมินทร์สะใจมาก ไอ้ปินหน้างอเลยครับ มันจ้องฟองอย่างเอาเรื่อง

 

                “มึงปกป้องมันอ่ะฟอง มึงชอบมันแล้วใช่มะ!”

                ไอ้ปินโวยวายใส่ฟอง ฟองส่ายหน้าอย่างเอือมระอาแล้วผลักหัวไอ้ปินไปไกลๆ ส่วนผมที่กำลังจะตักยำเข้าปากชะงักมือเพราะประโยคที่ให้ปินพูด ผมยิ้มออกมาบางๆก่อนจะเคลื่อนช้อนยำเข้าปากตัวเอง มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่ฟองจะชอบผมน่ะ ก็เพิ่งเริ่มจีบเองนี่เนอะ

 

 

                “เพ้อเจ้อแล้วปิน เมาแล้วใช่ไหม?”

                ฟองว่าก่อนจะหยิบถั่วใส่ปากเพื่อนเป็นกำมือ ไอ้ปินเบิกตากว้างแล้วพยายามเคี้ยวถั่วในปากให้หมด

 

                “แฮ่ก ยัดมาได้นะมึง กูไม่ได้เพ้อเจ้อ ก็ทีไอ้พี่อิฐอะไรนั่นจะมาจีบมึง มึงยังไม่ยอมให้มันจีบเลย แล้วนี่อะไร ไอ้มินขอจีบมึงก็ให้มันจ... อื้อออ”

                ผมจ้องทั้งสองคนนั้นด้วยตาเป็นประกาย พี่อิฐอะไรนั่นก็จะจีบฟองด้วยเหรอวะ แต่ฟองไม่ยอมให้จีบ? แล้วฟองยอมให้ผมจีบเนี่ยนะ ผมมีหวังใช่ไหมครับ ใครก็ได้บอกผมทีเถอะ ไอ้ปินโดนฟองปิดปากไปแล้วครับ มันก็พยายามแงะมือฟองออกใหญ่เลย

 

                “เมาแล้วชอบเพ้อเจ้อนะปิน”

                เหมือนฟองกำลังไม่พอใจเลยครับ แต่เขาก็ยอมปล่อยไอ้ปินให้เป็นอิสระ ไอ้ปินก็เช็ดปากตัวเองไปมาไม่โวยวายอะไรต่อ

 

                “เออ คงเมาแล้วอ่ะ พูดไรไปไม่รู้เรื่อง จำไม่ได้แล้ว”

                ไอ้ปินพูดออกมาแบบนั้น ฟองถึงได้ระบายยิ้มแล้วผลักหัวเพื่อนตัวเองไปมาเบาๆ

 

                ผมก็ไม่ได้ถามอะไรต่อจากนั้นอีกแล้วทั้งๆที่ยังคาใจแต่ก็เลือกเก็บไว้จะดีกว่า เพราะผมคิดว่าคนเราก็ต้องมีเหตุผลส่วนตัวอยู่แล้วล่ะและมันไม่จำเป็นต้องเอาเหตุผลเหล่านั้นไปป่าวประกาศในคนอื่นได้รู้เลย

 

 

                ตอนนี้ผมกับฟองอยู่บนรถด้วยกันครับ ก็อย่างที่รู้ว่าผมอาสาไปส่งฟองที่บ้านซึ่งบ้านผมกับบ้านฟองเนี่ยมันไปทางเดียวกัน แต่บ้านฟองจะไกลออกไปมากกว่าบ้านผม ส่วนเพื่อนๆของฟองเนี่ย คนละฝากฝั่งกันเลยครับ ภายในรถเงียบสนิทครับยกเว้นก็แค่เสียงเครื่องปรับอากาศกับเสียงหายใจของเราสองคน อึดอัดชะมัด

 

                “มิน”

                อ่า... ฟองทำลายบรรยากาศน่าอึดอัดนี้ลงแล้วล่ะครับ อยากจะดึงมาหอมแก้มสักที รู้ใจกันจริงๆเลย

 

                “ว่าไงครับ?”

                ผมตอบกลับไปแต่ตาก็ยังคงจ้องถนนอยู่เหมือนเดิม ผมไม่ค่อยชอบขับรถกลางคืนเท่าไหร่ครับ เพราะผมสายตาสั้นด้วยล่ะ ทุกวันนี้ก็ใส่คอนแทคเลนส์เอา อยู่บ้านก็ใส่แว่นตาไปครับ ไม่ได้ห่วงหล่ออะไรหรอกที่ไม่ได้ใส่แว่นไปเรียนก็เพราะความสะดวกสบายของตัวเองเป็นอย่างแรกนั่นล่ะ

 

                “มินคิด...เรื่องแบบนั้นกับเราจริงเหรอ?”

เสียงนุ่มๆของฟองขาดห้วงก่อนจะพูดต่อไป ผมถึงกลับกลั้นหายใจในจังหวะทิ้งห่างนั่นเลยครับ แล้วก็ต้องกลับมาขมวดคิ้วเมื่อประโยคคำถามมันจบลง ผมควรจะตอบว่ายังไงไม่ให้ฟองกลัวผมดีวะ? เรื่องแบบนั้น ฟองก็คงหมายถึงเรื่องที่เราคุยกันในงานเลี้ยงนั้นล่ะ ความหื่นและความลามกของผม

 

                “ก็..คิด แต่เราไม่เคยคิดจะปล้ำฟองนะเว้ย”

                ผมตอบตามความจริงแล้วเหลือบไปมองคนด้านข้างที่ตอนนี้ก็หันมามองผมเช่นกัน แต่ต่างคนก็ต่างหลบตากันไป

 

                “ฮ่าๆ อืม แล้วคิดยังไงบ้างล่ะ?”

                ดูเหมือนฟองจะไม่ได้เครียดอะไรกับเรื่องนี้ แถมยังหันมามองหน้าผมแล้วทำสีหน้าทะเล้นใส่อีก ผมว่าผมเห็นแก้มฟองแดงนะ... แต่คงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อีกล่ะมั้ง

 

                “ก็... จะให้พูดจริงๆเหรอวะ? มันน่าอายจะตาย”

                ผมลูบท้ายทอยตัวเองเบาๆแล้วขับรถมือเดียว ผมได้ยินเสียงหัวเราะเล็กๆดังมาจากคนข้างตัว

 

                “อื่อ คนที่ต้องอายควรจะเป็นเรามากกว่าป่ะ?”

 

                “เออจริง”

                ผมตอบออกไปก่อนจะหัวเราะแห้งๆ ตอบก็ตอบวะ เพื่อนก็แม่งเอาผมไปขายหมดแล้วไงไม่มีอะไรจะปิดบังแล้ว

 

                “ก็.. คิดว่า ปากคงจะนิ่มเนอะ แก้มก็คงจะนุ่ม ถ้าได้จุ๊บคงจะฟิน”

                โอย พูดออกไปแล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเองตายๆไปซะ ผมไม่ได้เหลือบมองว่าคนด้านข้างตอนนี้ทำหน้ายังไง ถ้าโดนรังเกียจกลับมาคงจะแย่มากแน่ๆ

 

                “แค่จุ๊บเองเหรอ?”

                ฟองถามผมเสียงทะเล้นแถมยังจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆที่มีกลิ่นเบียร์จางๆปะปนอยู่ ผมขยับหน้าหนีทันที เพราะหัวใจดันเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้

 

                “อย่าแกล้งเราน่าฟอง ขยับออกไปเลยเดี๋ยวเราอดใจไม่ไหว”

                ผมว่าเสียงเครียด ซึ่งฟองก็หลุดยิ้มกว้างออกมาแล้วขยับตัวไปนั่งที่เดิม สนุกเขาล่ะครับ ไม่คิดว่าฟองจะขี้แกล้งขนาดนี้นะเนี่ย กว่าผมจะจีบฟองติดผมไม่ประสาทตายไปก่อนหรอกเหรอ

 

                “ไว้จีบติดจะให้ลองสัมผัสดูนะ”

                คำให้ความหวังนั่นมันอะไรกันนะ ผมไม่อยากจะเก็บเอามาคิดให้วุ่นวายใจเลยให้ตายสิ

 

 

                หลังจากนั้นเราก็เงียบกันมาตลอดทางจนตอนนี้รถของผมจอดนิ่งสนิทอยู่หน้าบ้านสองชั้นหลังขนาดกลาง คนตัวบางกว่าผมเดินลงจากรถแล้วผิดประตูลงก่อนจะก้มตัวมาพูดกับผมที่เปิดกระจกรถทิ้งไว้

 

                “ขอบคุณนะที่มาส่ง ขับกลับบ้านดีๆล่ะ อย่าลงไปนอนข้างทาง เราขี้เกียจไปเก็บ”

                ฟองพูดจบพร้อมกับส่งรอยยิ้มกว้างมาให้ เล่นเอาผมใจกระตุกเลยครับ

 

                “ระดับไหนแล้ว ไม่นอนข้างทางหรอก เป็นห่วงอ่ะดิ?”

                ผมถามเสียงทะเล้นกลับไปบ้าง ฟองก็ได้แต่เบ้ปากใส่ผม

 

                “ขี้ตู่นะเรา จะเข้าบ้านแล้ว บาย”

                ฟองยกมือมาโบกสองสามครั้งก่อนจะหมุนตัวเข้าบ้าน แต่ผมก็ส่งเสียงให้เขาหยุดเดินซะก่อน ใบหน้าหวานๆของฟองเลยเอี้ยวมามองผมโดยไม่ได้หันตัวมาด้วย ผมเลยได้เห็นแค่ใบหน้าด้านข้างของฟองเท่านั้น

 

                “ฝันดีนะครับ”

                ผมพูดออกไปแล้ว... ผมเห็นฟองเม้มปากตัวเองนิดหน่อยก่อนจะตอบผม

 

                “อื้อ ฝันดี”

                แล้วฟองก็เดินหายเข้าไปในบ้าน ผมยิ้มให้กับคำบอกฝันดีของฟอง... ผมคิดว่าคืนนี้ผมคงนอนหลับแล้วมีความสุขที่สุดเลยล่ะ




---------------------------------------
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 8 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 24-05-2016 19:42:07
Follow You 08





 

                เช้าวันนี้ผมมามหาวิทยาลัยด้วยความงัวเงียขั้นสุด เพราะเมื่อคืนยุ่งวุ่นวายกับงานที่ดองไว้เกือบทั้งคืน พูดง่ายๆคือผมไม่ได้นอนเลยหนึ่งวันเต็มๆ ผมเดินเข้าคลาสด้วยใบหน้าอิดโรยแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆไอ้แทมที่กำลังนั่งเคี้ยวแซนวิซด้วยสีหน้าสดใส ผมเหลือบมองมันก่อนจะยื่นหน้าไปใกล้ไอ้แทมมันผงะถอยหลังแล้วจ้องหน้าผมไม่เลิก มันรู้ครับว่าผมต้องการอะไรในเวลานี้

 

                “ขอหน่อย”

                ผมพูดเสียงแหบแห้งเหมือนคนยังไม่ตื่นนอน แต่จริงๆแล้วเกิดจากการเพลียล้วนๆ ไอ้แทมมันยิ่งเอนตัวหนีผมมากขึ้นจนตอนนี้หัวมันไปชนกับไอ้โฟร์ทแล้ว

 

                “อะไรของมึงเนี่ยแทม เอาหัวออกไป”

                ไอ้โฟร์ทผลักหัวไอ้แทมกลับมาหาผมแล้วก็เป็นจังหวะเดียวกันที่แซนวิซของไอ้แทมที่มันคาบไว้ตรงมาที่หน้าผมเหมือนกัน ผมไม่รอช้าที่จะอ้าปากงับส่วนที่เหลือออกมาจากปากมัน ตอนนี้ไม่ได้สนแล้วครับว่าปากจะโดนกันรึเปล่า พวกผมไม่ค่อยจะถือเรื่องนี้กันอยู่แล้ว

 

                “ไอ้มิน แซนวิซกู”

                มันเหลือกตาโตแล้วผลักหัวผมที่กำลังเคี้ยวแซนวิซด้วยความสบายใจ ส่วนที่เหลือไอ้แทมก็เอามือยัดเข้าปากตัวเองจนหมด ไอ้นี่มันหวงของกินเป็นที่หนึ่งเลยครับกับเพื่อนกับฝูงไม่เคยจะแบ่ง เห็นนิ่งๆเงียบๆแบบนี้พี่แทมมันกินเก่งที่สุดในกลุ่มเลยครับ

 

                “อร่อยว่ะ”

                ผมยิ้มร่าให้มันก่อนจะแลบลิ้นเลียคราบมายองเนสที่มุมปากตัวเองและนั่นทำให้ไอ้แทมตบหัวผมไปอีกที... หัวกูไม่ใช่ลูกวอลเล่ย์นะเว้ยตบเอาๆเนี่ย

 

                “ไปไกลๆตีนกูเลย - -”

                มันไล่ผมเสียงแข็งแล้วรีบหยิบกล่องนมที่ตั้งอยู่บนโต๊ะไปดูดจนหมดโดยตาก็ยังคงจ้องผมเขม็ง ผมแค่หยักไหล่ไม่สนใจมัน

 

                “ที่รัก มึงแย่งไอ้แทมกินอีกแล้วสินะ หน้ามันหงิกขนาดนั้น”

                โฟร์ทชะโงกหน้ามาคุยกับผมพร้อมกับมองหน้าไอ้แทมไปด้วย ผมก็แค่ยักคิ้วให้ไอ้โฟร์ทไปแค่นั้น แต่กินไปแค่นั้นมันไม่อิ่มว่ะ ต้องหาของกินต่อ

 

                “โฟร์ท... มีไรให้กูกินไหม?”

                ผมมองมันอย่างมีความหวัง ไอ้โฟร์ทถึงกับอ้าปากหวอแล้วสักพักมันก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ ส่วนไอ้แทมนี่มันเลิกสนใจผมแล้ว

 

                “กินกูได้ป่ะ? อิอิ”

                มันกัดปากล่างคล้ายจะยั่วยวนผม... ยั่วตีนอ่ะนะ ขนลุกเว้ย

 

                “ไปยั่วไอ้แอร์ไป กูจะอ้วก”

                ได้ทีผมก็กัดมันคืนบ้างครับ เห็นช่วงนี้แอร์มาเฝ้ามันเกือบทุกวัน ไม่รู้ว่ายอมให้แอร์มายุ่งวุ่นวายกับตัวมันเองขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะปกติแล้วแอร์จะไม่ดอดมาหามันขนาดนี้  ถ้าไม่ใช่ว่าเพื่อนผมยอมให้แอร์จีบไปแล้วน่ะนะ

 

                “เงียบไปเลยไอ้มิน”

                มันจิ๊ปากใส่ผมแล้วกลับไปจิ้มไส้กรอกในถุงกินต่อ ไอ้พวกไร้น้ำใจเอ้ย เหยื่อรายต่อไปก็เป็นไอ้บีทที่กำลังเดินเข้าห้องมานั่นล่ะ มันกำลังจะเดินผ่านหน้าผมไปนั่งข้างไอ้โฟร์ท แต่ผมยื่นแขนไปกั้นตัวมันเอาไว้ก่อน มันมองผมทั้งๆที่ตัวมันเองคาบหลอดกาแฟอยู่

 

                “ฮาร์ทบีทครับ มีไรให้กูกินมั่ง?”

                ผมมองมันด้วยสายตาอ้อนวอน มันเลยคายหลอดแล้วส่งแก้วกาแฟมาให้ผม.. ผมมองมันงงๆ อะไรวะ

 

                “อ่าว กูให้แล้วทำไมไม่เอาอ่ะ”

                ไอ้บีทยิ้มกว้างแล้วขยับแก้วกาแฟเข้ามาใกล้หน้าผมอีก หลอดเกือบทิ่มตาเลยครับ ไอ้เพื่อนเวรเอ้ย ผมเลยเอาฝ่ามือดันแก้วไปไกลๆแล้วจ้องหน้ามัน

 

                “มีแต่กาแฟ?”

               

“เออดิ วันนี้กูตื่นสายอ่ะ ได้แค่กาแฟมากิน แล้วมึงล่ะ?”

มันถามผมก่อนที่จะถอยหลังแล้วทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ข้างผมซะเลย

 

“กูยังไม่ได้นอนเลยเถอะ ลากสังขารมาเรียนได้นี่เทพสุดแล้ว”

ผมมองมันตาปรือ รู้สึกว่าความง่วงกำลังโจมตีผมอีกระลอกแล้ว ง่วงจนอยากร้องขออาจารย์กลับไปนอนที่บ้าน

 

“ปั่นงานอ่ะดิ? กูบอกแล้วว่าให้ย้ายมานอนคอนโดมึงได้ละ ไปกลับบ้านมหา’ลัย มึงตายพอดี”

มันพูดจบก็ดูดกาแฟอย่างสดชื่น ผมมองมันตาละห้อยก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ ผมมีคอนโดที่เดียวกันกับไอ้บีทครับ แต่สาเหตุที่ผมไม่ได้นอนคอนโดเลยเพราะว่ามันอยู่ไกลจากบ้านเท่ากับผมอยู่ไกลจากฟองไปด้วย เพราะฟองเขาอยู่บ้านแถวๆเดียวกับผม เหตุผลโคตรปัญญาอ่อนครับรู้ตัว แต่เอาจริงๆคือไม่อยากอยู่คนเดียว ที่บ้านยังมีพ่อ แม่ พี่เลี้ยง ไหนจะไอ้เบนซินอีก... เอ่อ เบนซินนี่ไม่ใช่น้ำมันนะครับ แต่เป็นหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้สีเทาขาวต่างหาก ตามันสีฟ้าด้วยนะครับไม่อยากจะอวดเลย

 

“เออ อาทิตย์หน้าคงย้ายเข้าคอนโดแล้วว่ะ งานเยอะชิบหาย”

แม่กับพ่อผมก็บัญชามาแล้วล่ะครับว่าให้ย้ายมานอนคอนโดสักทีเพราะงานเยอะจนไม่ได้หลับได้นอน กลัวผมจะขับรถจากบ้านแล้วรถชนตายไปซะก่อน

 

“เอาเบนซินมาด้วยดิ”

ไอ้บีทยิ้มกว้าง มันชอบไอ้เบนซินมากครับ ไปบ้านผมทีไรมันก็ไปขลุกตัวอยู่กับไอ้หมาหล่อประจำ กับเพื่อนกับฝูงไม่เคยจะสนใจ ยังหาว่าผมหน้าเหมือนหมาด้วยนะ ตอนนั้นผมไล่เตะมันรอบบ้านเลยครับ แต่มันก็ตะโกนว่า ‘มึงกับหมาหล่อเหมือนกันไงวะ’ ผมเลยหยุดไล่เตะมัน

 

“เออ เอามาอยู่แล้ว แต่ห้องกูจะพังไหมล่ะมึง ไฮเปอร์ขนาดนั้น”

ผมพูดจบก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ตอนนี้ผมง่วงจนควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วว่ะ ของีบสักสิบนาทีแล้วกัน

 

หลังจากที่ผมเข้าสู่นิทราไปจริงๆก็รับรู้ถึงแรงสะกิดที่ไหล่เบาๆ ผมเลยเงยหน้าขึ้นแล้วหลี่ตามองคนข้างๆก่อนภาพจะชัดขึ้น รอยยิ้มหวานๆนั่นทำให้ผมตาสว่างเลยทีเดียว ฟองมานั่งข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่วะ แล้วไอ้บีทมันหายไปไหนแล้วเนี่ย ผมรีบยืดตัวขึ้นตรงเอาฝ่ามือลูบหน้าตัวเองไปมาก่อนจะขยี้หัวจัดทรงผมของตัวเองไปด้วย นี่ผมอยู่ในสภาพที่น่าเกลียดเกินฟองจะรับไหวรึเปล่าวะเนี่ย

 

“หวัดดีมิน ไปอดหลับอดนอนมาจากไหน หมีแพนด้าเรียกพ่อแล้วมั้ง”

ฟองกระซิบถามผมเพราะตอนนี้อาจารย์เข้ามาในคลาสและเริ่มสอนแล้ว ผมแทบจะเอามือขึ้นมาปิดตาเมื่อฟองทักแบบนั้น ความหล่อของผมนี่ติดลบไปแล้วแน่ๆ โอย โคตรจะอายเลยครับ

 

“ปั่นงาน ยังไม่ได้นอน ตามินคล้ำขนาดนั้นจริงเหรอวะ?”

ผมลูบๆตาตัวเอง ฟองก็มองผมแล้วขำเบาๆแต่ไหล่สั่นอ่ะครับ มันน่าจริงๆเลย

 

“มินห่วงหล่ออ่ะดิ ฮ่าๆ เราล้อเล่นเว้ย แค่ดูเพลียๆน่ะ”

ฟองจดอะไรยุกยิกๆลงในสมุดไปเรื่อย คือฟองสมาธิดีมากครับ ฟังอาจารย์แล้วจดไปด้วยแถมยังคุยกับผมได้อีก สุดยอดจริงๆครับ ส่วนผมเหรอ ฟังอาจารย์พูดยังไม่เข้าหูเลยครับ เบลอไปหมด

 

“เปล่าหรอก แต่กลัวฟองจะเห็นสภาพดูไม่ได้ของมิน”

ผมพูดไปตามความจริงแล้วเริ่มรื้อสมุดกับปากกาออกจากกระเป๋ามาจดสิ่งที่อาจารย์สอนลงไปบ้าง

 

“คิดอะไรมาก ไม่ต้องดูดีตลอดเวลาก็ได้นะคนเรา”

ฟองพูดแบบไม่สนใจอะไรมาก แต่รอยยิ้มที่ติดอยู่ตรงมุมปากของฟองทำให้ใจผมเต้นถี่ขึ้นมาซะงั้น จะบอกผมว่ารับได้ที่ผมเป็นตัวผมสินะ น่ารักว่ะ จำเป็นต้องทำตัวน่ารักขนาดนี้เลยรึไงวะ ไม่อยากให้คนอื่นได้เห็นความน่ารักแบบนี้ของฟองเลย หวง

 

หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก แต่หางตาผมเนี่ยเหลือบมองฟองเกือบจะตลอดเวลาที่นั่งเรียนข้างกัน บางครั้งฟองก็หันมาสบตาผมแบบพอดิบพอดีแล้วยังจะยักคิ้วให้ผมอีก ไม่ได้มีความเขินกับเขาบ้างเลยรึไง เป็นผมเองที่ต้องหลบสายตาเพราะโดนจับได้ว่าแอบมองเขาอยู่

 

หลังจากหมดคาบเรียนช่วงเช้าพวกผมก็ไม่มีเรียนต่อเลยจะไปร้านกาแฟกินขนมกันสักหน่อย แต่ไอ้เพื่อนตัวดีอย่างไอ้ฮาร์ทบีทก็ดันทะลึ่งไปชวนพวกฟองด้วย สรุปว่าฟองไป แต่ไอ้ฝุ่นติดธุระ ไอ้ปินต้องไปรับแม่ที่สนามบิน ก็ตามนั้นครับ ดีกับผมซะอีกได้ใช้เวลาอยู่กับฟองนานขึ้น

 

วันนี้เราได้นั่งโต๊ะสี่เหลี่ยมครับ ผมนั่งตรงข้ามกับฟอง ไอ้แทมนั่งตรงข้ามกับไอ้บีท ส่วนไอ้โฟร์ท...พี่เฟียโทรมาตามมันให้ไปหาที่คณะวิศวะด่วน ผมเดาว่าพี่เฟียคงกำลังทำตัวเป็นกามเทพให้กับแอร์อยู่แน่ๆ พอที่นั่งลงตัวพวกเราก็เริ่มสั่งเครื่องดื่มและขนมกัน ผมได้เค้กช็อคโกแลตกับอเมริกาโน่ ฟองได้เป็นแบล็คฟอเรสกับชาเขียวเย็น ส่วนไอ้สองคนที่เหลือผมไม่ได้สนใจมันหรอกครับ สนใจคนตรงหน้ามากกว่า

 

ผมนั่งกินเค้กไปเรื่อยๆ สายตาก็เหลือบมองฟองไปหลายรอบ เอาอีกแล้วครับแอบมองเขาได้ทุกช่วงเวลาจริงๆเลยไง ถ้าใครหาว่าผมโรคจิตผมก็คงต้องก้มหัวยอมรับแต่โดยดีแล้วมั้งครับ ก็เล่นมองจนฟองจ้องผมกลับแล้วเนี่ย ผมก็ทำให้แค่ยิ้มก่อนจะก้มก้นเค้กของตัวเองต่อ

 

“มองขนาดนั้นกินเข้าไปเลยไหม?”

ไอ้แทมมันนั่งข้างฟองครับ แล้วผมก็รู้ว่ามันคงเห็นผมแอบมองฟองหลายรอบแล้ว แต่พูดแบบนั้นออกมามันไม่แรงไปหน่อยรึไงวะนั่น ผมถลึงตาใส่คนข้างฟอง มันก็มองผมกลับด้วยใบหน้าเฉยชาพร้อมกับหยิบมาการองสีฟ้าใส่ปากเคี้ยวหงุบหงับ ฟองหันมองไอ้แทมสลับกับมองผมทั้งๆที่เจ้าตัวยังคาบช้อนอยู่ ให้ตายเถอะครับ หยุดน่ารักบ้างก็ได้ แค่นี้ผมก็หลงรักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้วเนี่ย

 

“กินไปเงียบๆเลยมึง”

ผมกัดฟันพูดแล้วแยกเขี้ยวใส่มัน ผมรู้นะว่าฟองมองอยู่ทุกการกระทำ ไอ้แทมก็แค่ยักคิ้วแล้วหยิบมาการองอีกชิ้นใส่ปาก กวนตีนชะมัด ระวังไว้เถอะ ถึงคราวมันมีคนที่ชอบเมื่อไหร่ผมจะแซวแม่งให้อายจนต้องมุดดินหนีไปเลย

 

“ฟองก็กินไปเลย ไม่ต้องทำหน้าสงสัยขนาดนั้น”

พอเห็นฟองมองหน้าผมสลับกับมองหน้าไอ้แทมผมเลยไม่รู้จะตอบอะไรฟองเลยพาลว่าฟองไปด้วย ฟองพยักหน้าให้ผมแต่ก็บุ้ยปากทั้งๆที่ยังคาบช้อนนั่นล่ะ ผมทำเป็นไม่สนใจแล้วจ้วงเค้กเข้าปากอย่างรวดเร็วราวกับกลัวว่าใครจะมาแย่งกิน ทำหน้าแบบนั้นคิดว่าตัวเองน่ารักมากมั้ง เออ น่ารักมาก น่ารักจนอยากเก็บเอาไว้มองคนเดียวไม่ใช่แบ่งกันมองทั้งร้านแบบนี้

 

“ฟอง ปากเลอะ”

ไอ้บีทที่นั่งข้างผมเอ่ยทักฟอง ฟองเลยเงยหน้าขึ้นจากแก้วชาเขียว... อื่ม วิปปิ้งครีมติดอยู่มุมปากด้านขวาอ่ะครับ ผมล่ะอยากเช็ดให้ใจจะขาด เช็ดด้วยลิ้นน่ะนะ เห็นไหมครับ... ชีวิตผมมีแต่เรื่องหื่นและหื่น แต่เป็นหื่นเงียบนะ

 

“ตรงไหนเหรอบีท?”

ฟองหันไปถามบีท แต่ไอ้บีทไม่ยอมบอกแล้วดันลุกขึ้นขอตัวไปเข้าห้องน้ำซะอีก ส่วนไอ้แทมเหรอ กำลังเจรจาสั่งขนมจานใหม่กับเด็กเสิร์ฟอยู่เลยเหลือแต่ผมที่เป็นเป้าหมายต่อไปของฟอง

 

“มิน ปากเราเลอะตรงไหน?”

ผมมองหน้าฟองแล้วชี้ไปที่มุมปากด้านซ้าย ฟองก็ยกมือขึ้นเช็ดนะ... ตลกดี ผมแค่อยากแกล้งฟองบ้างแค่นั้นล่ะ เจ้าตัวเช็ดแล้วไม่มีอะไรติดออกมาเลยขมวดคิ้วยุ่งแล้วถามผมอีกรอบ

 

“ไหน? ไม่เห็นมีเลย”

 

“ด้านขวาๆ”

ผมบอกแค่นั้นก่อนจะหยิบแก้มอเมริกาโน่ขึ้นมาจิบไปด้วย ส่วนฟองก็รีบเอาหลังมือถูๆไถๆด้านขวาของปากตัวเอง ครีมขาวๆติดหลังมือของเขาออกมาก็จริงแต่ตอนที่เขาถูมันไปมา วิปปิ้งครีมเจ้ากรรมก็ไปเลอะอยู่แถวแก้มใสซะแล้ว

 

“ออกแล้ว”

ฟองว่าพร้อมถอนหายใจออกมาเบาๆ ผมได้แต่มองแล้วกลั้นยิ้มไว้แบบนั้นจนฟองหันมามองผมแล้วตวัดสายตาใส่

 

“เป็นอะไร มันยังไม่หมดเหรอ?”

 

“อืม ยังเลอะ”

คราวนี้ผมไม่ว่าเปล่าแต่กลับหยิบทิชชู่แล้วยื่นไปตรงหน้าฟองก่อนจะบรรจงเช็ดคราบวิปปิ้งครีมที่เลอะแก้มใสๆนั่นออกอย่างเบามือ ฟองขยับหน้าหนีน้อยๆ ผมสังเกตได้ว่าแก้มที่ขาวซีดเมื่อกี้กลับมีสีชมพูจางๆขึ้นมา

 

“เราเช็ดเองก็ได้น่า”

ฟองดึงกระดาษทิชชู่ออกจากมือผมแล้วเอาไปเช็ดแก้มตัวเองแรงๆโดยสายตายังเบี่ยงไม่ยอมมองผม คงจะเขินล่ะมั้งที่ถูกผมทำแบบนั้นใส่

 

“ก็ให้ฟองเช็ดเองแล้วมันเลอะไปเรื่อยนี่หว่า”

ผมว่าพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก แก้วอเมริกาโน่ของผมถูกวางลง แขนผมเท้ากับโต๊ะแล้วประสานมือกันก่อนจะวางคางลงไปแล้วใช้ดวงตาคมของตัวเองจ้องคนด้านหน้า ฟองเลื่อนสายตากลับมาก็เห็นผมมองอยู่ก่อนแล้วเขาเลยขยับนั่งตัวตรงแล้ววางทิชชู่ลง

 

“มองอะไรนักหนา?”

เสียงฟองติดจะแข็งเล็กน้อย ไม่รู้ว่าผมไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจรึเปล่านะเนี่ย

 

“เขามีกฎห้ามไม่ให้มองคนที่ตัวเองชอบด้วยเหรอวะ?”

ผมพูดออกไปหน้าตาเฉยพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก... คิดว่ายิ้มแบบนี้คงทำให้สาวๆละลายได้ แต่กับฟองคงเป็นยิ้มที่มองยังไงก็กำลังกวนประสาทอยู่แน่ๆ

 

“หยอดหนักขนาดนี้กลัวจีบเราไม่ติดรึไง”

ฟองยักคิ้วให้ผม... เอากับเขาสิครับ ตอนแรกคิดว่าเขาจะเขิน แต่ที่ไหนได้กลับมากวนผมแทนซะแล้ว

 

“ก็กลัวอยู่ล่ะน่า แล้วฟองจะสั่งอะไรเพิ่มอีกไหม?”

เค้กในจานพวกเราหมดแล้วครับรวมทั้งเครื่องดื่มด้วย ส่วนของไอ้แทมไม่ต้องไปสนใจมันครับ รายนั้นมันสั่งแล้วกินไปได้เรื่อยๆจนกว่าเราจะกลับกันนั่นล่ะ

 

“จะเลี้ยง?”

ฟองถามผมก่อนจะเคาะช้อนลงเบาๆกับจานเปล่า

 

“กับฟองให้เลี้ยงตลอดชีวิตก็ได้น่า เราเคยบอกแล้วไง”

เอาครับ ได้ที่ผมก็หยอดไปเรื่อยล่ะ ไม่หวั่นไหววันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องหั่วนไหวกันบ้างล่ะวะ นายปรมินทร์คนนี้สู้ตายอยู่แล้วครับผม

 

“เลิกหยอดเราได้แล้ว”

ฟองเบ้ปากใส่ผม จะทำอะไรก็น่ารักว่ะ แบบนี้เขาคงเรียกว่าหลงใช่ไหม แต่ของผมไม่ใช่แค่หลงธรรมดานะ หลงรัก

 

“โอเคๆ เลิกหยอดแล้ว แต่ไม่เลิกชอบนะ”

ผมพูดจบก็ขำออกมานิดๆ แต่ฟองนี่ขมวดคิ้วยุ่งเลย แต่ก็ไม่ได้สั่งห้ามอะไรผมอีกนะ

 

“เลิกหยอดฟองสักที เบาหวานกูจะขึ้นแทนแล้ว”

ไอ้แทมเบ้ปากใส่ผมอีกคนแล้วครับ แต่ผมก็ทำหน้าไม่แคร์โลกใส่มันไป ส่วนฟองเหรอ... เรียกเด็กเสิร์ฟมาสั่งขนมกินต่อตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ เอาเถอะ ยังไงวันนี้ผมก็มีความสุขมากล่ะนะ แล้วก็อยากให้มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆทุกวัน

 



------------------------------------

ทยอยอัพถึงตอนปัจจุบันที่แต่งไว้แล้วน้า ตอนต่อไปอดใจรอกันหน่อยนะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 8 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-05-2016 20:12:44
ขยันหยอดจริงๆ :mew3: :mew3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 8 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 24-05-2016 21:53:22
ขี้หรี่จริงๆเลยตาคนนี้
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 8 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-05-2016 23:00:57
มีใจให้เหมือนกันใช่ไหมฟอง
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 8 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 25-05-2016 00:10:23
อ้ายยยย น่ารักกก
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 8 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 25-05-2016 06:52:13
มินโคตรน่ารักเลย หื่นเงียบ 5555+
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 9 25/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 25-05-2016 13:40:27
Follow You 09



   Fong

   ตั้งแต่มินประกาศตัวว่าจะเดินหน้าจีบผม เขาก็จีบผมจริงๆนะ ดูแลผมดีด้วย อาจจะมีกวนไปบ้าง หยอดมากไปบ้างแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมอึดอัดหรอก ชิวๆมากกว่าครับ ตอนเขาสารภาพว่าชอบผมกลางงานโคฟเวอร์ผมยอมรับว่าความรู้สึกแรกคืออึ้งมาก ไม่คิดว่าคนอย่างมินจะมาชอบผู้ชายด้วยกันแถมยังเป็นผมอีกต่างหาก ผมคิดมาตลอดว่ามินคงไม่ได้ชอบหน้าผมเท่าไหร่หรอก เพราะตอนปีหนึ่งที่เราต้องลงประกวดดาวเดือนกันผมก็มีปากเสียงกับมินไปด้วย ก็มินเขาไม่ยอมลงประกวด ส่วนผมก็ไม่ชอบอะไรที่ต้องเจอกับคนเยอะๆ แต่หลังจากมีเรื่องกันตอนนั้น เราก็คุยกันได้ปกติ แต่คิดไม่ถึงว่ามินจะชอบผม ชอบเพราะอะไรนี่ผมยิ่งคิดไม่ออกเข้าไปใหญ่เลยครับ

   ก่อนหน้านี้ก็เคยมีผู้ชายมาชอบผมนะ เขาก็ขอจีบผมแบบที่มินทำแต่ผมรีบปฏิเสธไปทันทีเพราะตอนนั้นคิดแค่ว่าเป็นคู่จิ้นในวงเต้นโคฟเวอร์ก็อึดอัดจะแย่แล้ว ยังจะมาจีบผมแบบจริงจังอีก ไม่เอาด้วยหรอกครับ แต่กับมินแล้ว...ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายอมไปได้ยังไง แต่บรรยากาศรอบตัวของมินมันไม่ได้กดดันผมล่ะมั้ง อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจมากกว่าอยู่กับพี่อิฐ พี่อิฐมีบรรยากาศที่เหมือนจะกดดันผมและบังคับผมอยู่กลายๆ แต่กับมินเขาจะชิวมากกว่า ไม่ได้ก้าวก่ายชีวิตประจำวันของผม ไม่ได้ออกตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอะไร ไม่มีการแต๊ะอั๋งอะไรเกินควรทั้งๆที่เจ้าตัวเป็นคนหื่นกามขนาดนั้น

ผมก็ได้รู้ความจริงอย่างหนึ่งจากปากเพื่อนสนิทของผมเองอย่างไอ้ปิน มันบอกว่ามินเนี่ยชอบผมมาตั้งนานแล้ว นานในที่นี่คือเป็นปีๆมาแล้ว ทุกวันที่เจอมินผมก็ยิ้มให้เขาแบบปกติ พูดคุยทักทายกันเล็กน้อย ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของเพื่อนผู้ชาย พอมารู้แบบนี้ก็อดจะรู้สึกแปลกๆขึ้นมาไม่ได้เหมือนกัน เอาเป็นว่าถ้ามินทำตัวดีอย่างนี้ไปเรื่อยๆผมคงเปิดใจให้เขามากขึ้นเรื่อยๆล่ะนะ

ตอนนี้ผมกับมินอยู่ในห้องพักอาจารย์ครับ พวกเราโดนเรียกมาคุยเรื่องงานถ่ายรูป Portrait คู่เมื่อครั้งก่อน รูปของเราได้คะแนนเต็มทั้งสองคนครับ แล้วตอนนี้ทางสาขาก็มีการจัดนิทรรศการภาพถ่ายของนักศึกษาทุกชั้นปีอยู่พอดี อาจารย์เลยจะมาพูดเรื่องเอารูปของพวกเราไปโชว์

“ปรมินทร์มีปัญหาไหม?”
อาจารย์หันไปถามคนที่ยืนนิ่งไม่ปริปากพูดอะไรมาตั้งแต่แรกแล้วครับ เอาแต่ยืนมองอาจารย์พูดอยู่เงียบๆ เอาจริงๆแล้วมินเป็นคนที่ภายนอกดูเงียบขรึม พูดน้อยเวลาอยู่กับคนไม่สนิท แต่เมื่อไหร่ที่เขาอยู่กับกลุ่มเพื่อนหรือกับผมหรือเพื่อนๆของผมแล้ว จะกลายเป็นคนขี้แกล้ง พูดจากวนประสาทขึ้นมาทันที ผมเหลือบไปมองคนด้านข้างเล็กน้อยก็เห็นเพียงเขาพยักหน้าช้าๆแล้วตอบคำถามของอาจารย์ออกมาเบาๆ

“ไม่มีครับ ตามสบาย”
มินพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ผมว่าเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นะ เพราะเขาก็มีนิสัยบางอย่างคล้ายๆกับผมคือไม่ชอบเรื่องวุ่นวาย แต่ถ้าอาจารย์เอารูปของพวกเราไปจัดนิทรรศการ จากที่ปกติก็มีคนนั้นคนนี้เข้าหาไม่หยุด เพราะตำแหน่งอดีตเดือนอย่างผม กับคนที่โดนลงรูปในเพจคิวท์บอยบ่อยๆด้วยแล้ว หลังจากเอารูปพวกเราไปจัดนิทรรศการคนอื่นๆคงรู้จักพวกเรามากขึ้นไปอีก อาจารย์พยักหน้าเข้าใจแล้วเบนสายตามาถามผมต่อ

“แล้วจิรัสย์ล่ะ มีปัญหาอะไรรึเปล่า?”
ผมเหลือบมองคนข้างตัวอีกครั้งก็สบเข้ากับด้วยตาคมที่มองผมอยู่ก่อนแล้ว สีหน้าของเจ้าตัวดูไม่สดชื่นจริงๆนั่นล่ะ ผมก็ไม่คิดว่าเขาจะคิดมากขนาดนั้น ก็แค่โชว์รูป ถ้าคนอื่นเข้ามาวุ่นวายกับเรามากๆเราแค่หนีเอาก็ได้ล่ะมั้ง? จริงๆผมก้อยากบอกอาจารย์นะว่ามีปัญหา แต่มันเป็นเหตุผลที่งี่เง่าเกินผู้ใหญ่จะรับได้ ผมเลยได้แต่ส่ายหน้าเบาๆแล้วตอบคำถามเหมือนกับมิน

“ไม่มีปัญหาครับ แต่พวกผมไม่ต้องไปยืนพรีเซ็นต์รูปใช่ไหม?”
นี่อาจจะเป็นเรื่องที่ผมกับมินกลัวอีกอย่างหนึ่งด้วย

“ผลงานของพวกเธอ พวกเธอก็ต้องไปนำเสนอสิ”
อาจารย์พูดออกมาหน้าตาเฉยเลยครับ แถมยังทำท่ากวนๆด้วยการเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ คือพวกผมก็ไม่ได้ขอให้เขาเอาผลงานผมไปโชว์นะ เขาอยากเอาไปโชว์เอง แล้วเรื่องอะไรที่จะให้พวกผมไปนำเสนอรูปอีก วันๆเวลาว่างพวกผมมีเยอะนักนิครับ นี่ปีสามแล้วนะครับ เวลาจะกระดิกตัวไปทำเรื่องไร้สาระมันมีน้อยมากเลยนะ ผมเห็นมินเขาคิ้วกระตุกด้วยล่ะ สงสัยจะไม่สบอารมณ์เข้าให้แล้ว แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรออกไปเป็นมินเองที่ออกปากพูดไปก่อนผม

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเอาไปโชว์ครับ ผมไม่พร้อมนำเสนอ”
มินพูดอย่างตรงไปตรงมา มือที่ทิ้งตัวอยู่ในตอนแรกกลับยกขึ้นมากอดอก ไม่ได้สนว่าจะเสียมารยาทต่อหน้าอาจารย์มากแค่ไหน ผมเองก็ไม่ได้ห้ามอะไรมินหรอกครับ ถ้าเป็นผมผมก็คงพูดแบบเดียวกับมิน แต่ใช้น้ำเสียงและท่าทางที่มันดีกว่านี้ขึ้นมาหน่อย


“ไอ้มิน แกอย่าเอาแต่ใจนักสิ นี่เป็นโอกาสที่แกจะได้แสดงฝีมือของตัวเองต่อหน้าคนอื่นๆนะ”
เอาแล้วสิครับ... ดูเหมือนอาจารย์ก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นมาแล้วบ้าง สรรพนามอย่างสุภาพในตอนแรกหายไปเหลือแค่ชื่อเรียกที่สนิทสนมกันมากขึ้น อาจารย์คนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องของมินเขาล่ะครับ เขาเลยไม่ได้เกรงกลัวเท่าไหร่

“พี่เปอร์จะว่าผมงี่เง่าก็ได้ว่ะ แต่ผมกับฟองจะไม่ไปทำอะไรที่ตัวเองไม่อยากทำ ผมยอมให้พี่เอารูปพวกผมไปโชว์ในงานก็มากพอแล้ว ยังจะให้ผมไปนำเสนออะไรบ้าบออีกเหรอ? ไม่มากไปหน่อยเหรอครับ”
คุณชายปรมินทร์ร่ายยาวเหยียดใส่ผู้ที่มีศักดิ์เป็นพี่ หน้าตาท่าทางของมินตอนนี้บ่งบอกได้ว่าไม่พอใจจริงๆ น้ำเสียงแข็งๆนั่น ดวงตาคมที่จ้องพี่ของตัวเองเขม็ง ผมได้แค่ยื่นมือไปแตะที่ต้นแขนของเขาเบาๆเพื่อหวังจะให้เขาอารมณ์เย็นลง

“โอเคๆ พี่ยอมแพ้แก”
สุดท้ายอาจารย์ก็ยกมือขึ้นแบบยอมแพ้แล้วส่ายหน้าเบาๆให้กับความดื้อรั้นของผู้เป็นน้องชาย มินถอนหายใจเบาๆแล้วจับมือผมไว้หน้าตาเฉย ผมก็แค่มองแต่ไม่ได้สะบัดออกแต่อย่างใด

“ไปกันเถอะ”
มินหันมาพูดกับผมแล้วจับมือผมให้เดินตามเขาออกจากห้องพักอาจารย์ เราเดินกันไปอยู่อย่างนั้นเรื่อยๆ และยังไม่ได้ปล่อยมือออกจากกัน ผมก็อยากจะดึงมือออกอยู่หรอก แต่เห็นมินเขาอารมณ์ไม่ดีแล้วน่ากลัว

เราเดินกันไปจนถึงลานหน้าคณะมินถึงหยุดแล้วรีบปล่อยมือของผมทันที เขามองหน้าผมแล้วยิ้มเจือน

“มินขอโทษที่จับมือฟอง ตอนนั้นมันโมโหไปหน่อย”
เสียงอ่อยๆขอโทษผม เขาคงคิดว่าผมโกรธสินะเลยไม่ยอมมองหน้าผมตอนขอโทษเนี่ย แบบนี้ขอแกล้งหน่อยแล้วกันเนอะ ผมลอบยิ้มก่อนจะหุบยิ้มแล้วดำเนินแผนการของตัวเอง

“ช่างมันเหอะ”
ผมพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วเดินหนีมินทันที ดูเหมือนเจ้าตัวจะตกใจแล้วรีบเดินตามผมออกมาทันที ผมยิ้มอีกครั้งที่มินติดกับผม คนอะไรแกล้งง่ายจริงๆ

“เห้ย ฟองโกรธมินเหรอ ขอโทษครับ!”
เสียงมินดังมากครับ รู้สึกได้ว่าคนทั้งลานหันมามองทางเรากันหมดแล้ว มินพูดแล้วก็วิ่งมาดักหน้าผมด้วยนะ นี่ถ้าผมเบรกไม่ทันหน้าคงได้ชนกับไล่มินแน่ๆ ผมเงยหน้ามองเขาเล็กน้อยก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่นแล้วคงใบหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม จริงๆอยากจะหัวเราะหน้ามินที่ดูร้อนรนนะ แต่ไม่ได้ครับเดี๋ยวแผนแตกง่ายๆแล้วผมจะโดนเอาคืน มันไม่คุ้มเท่าไหร่หรอก

“ไม่ได้โกรธ”
ผมก็ยังพูดเสียงเรียบเหมือนเดิม ใบหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม ผมเบี่ยงตัวเดินหนีมินอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ยอมปล่อยให้ผมหนีไปง่ายๆ มือใหญ่ของมินจับไหล่ผมเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาก้มลงมองพื้นก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้ผมต้องยืนอึ้ง

“จะให้มินทำยังไงฟองถึงจะหายโกรธ มินไม่ได้ตั้งใจนะครับ ให้มินทำอะไรก็ได้ มินยอมทุกอย่าง แต่ฟองต้องหายโกรธนะ”
ใบหน้าหล่อเหลานั่นเงยขึ้นดวงตาคมจ้องมองผมอย่างอ้อนวอน มันเหมือนแววตาของหมาไซบีเรียนฮัสกี้ตอนอ้อนเจ้าของเวลาทำผิด น้ำเสียงอ่อนๆของมินทำให้หัวใจของผมอ่อนยวบตามไปด้วย ตอนแรกก็ไม่ได้โกระอยู่แล้วยิ่งทำแบบนี้ผมเลยรู้สึกผิดซะเอง

“เราไม่ได้โกรธมิน อย่าคิดมากดิ”
ผมส่งยิ้มกว้างให้มินในที่สุด แกล้งมามากพอแล้วมั้ง ก็เวลามินอยู่กับเพื่อนมินจะไม่ยอมแบบนี้ไง แต่กับผมมินยอมจนผมไม่กล้าโกรธเลย ถ้าวันไหนผมโกรธมินขึ้นมาจริงๆแล้วมินทำแบบนี้ผมคงหายโกรธง่ายๆ

“จริงนะครับ? ถ้าฟองโกรธมิน มินคงรู้สึกแย่มากแน่ๆ”
มือที่จับไหล่ของผมตอนนี้หายไปแล้วครับ คงอาจจะกลัวผมโกรธขึ้นมาอีกที่มาแตะเนื้อต้องตัวกัน ผมไม่ได้หวงตัวขนาดนั้นหรอกครับ ก็ผู้ชายเหมือนกันถึงจะคิดไม่ซื่อก็เถอะ แต่มันก็ไม่ได้เกินเลยอะไรนี่

“คิดเยอะไปแล้ว”
ผมว่าก่อนจะออกเดินอีกครั้ง มินก็เดินตามผมมานะโดยที่ไม่ถามสักคำว่าผมกำลังจะไปไหน

“มินเดินตามเรามาทำไม?”
ผมหยุดเดินแล้วถามมิน ซึ่งมินก็มองผมแล้วเกาท้ายทอย ดูเหมือนเขาก็ไม่รู้จะตอบผมยังไงล่ะมั้ง

“แล้วฟองจะไปไหน?”

“เราจะกลับบ้าน”

“กลับยังไง?”

“รถเมล์”

“งั้นเดี๋ยวไปกินข้าวเย็นกับมินก่อน เดี๋ยวมินไปส่งที่บ้าน”
มินเสนอตัวเสร็จสรรพ ผมได้แต่ยืนมองตาปริบๆก่อนจะหัวเราะออกมานิดหน่อยกับท่าทางเป็นห่วงของเขาที่มีให้ผม คือรถผมยังซ่อมไม่เสร็จครับ อะไหล่บางอย่างต้องใช่เวลานำเข้าจากต่างประเทศ

“จะเลี้ยงเราด้วยป่ะ?”
ผมถามก่อนจะยิ้มทะเล้นไปให้ ส่วนมินก็ยกยิ้มมุมปากที่เขาชอบทำประจำ ผมไม่อยากปฏิเสธหรอกนะว่ามันดูดีมาก ดูดีจนสาวๆที่อยู่บริเวณนี้หันมามองกันเลยทีเดียว

“เลี้ยง ไปกับมินนะ”
มินทำสายตาอ้อนๆมาให้ผมอีกแล้ว... ยอมก็ได้ครับ ไม่มีอะไรเสียหายแถมได้กินของฟรีอีก

“โอเค”


เรากินข้าวกันเสร็จก็ตรงกลับบ้านครับ ปรากฏว่า พ่อแม่ พี่ฟาง ไม่อยู่บ้านกันสักคน ผมเพิ่งเห็นกระดาษโน้ตที่แปะไว้หน้าตู้เย็นว่าออกไปงานแต่งงานของลูกสาวเพื่อน ผมก็เลยเดินขึ้นห้องพร้อมกับน้ำเย็นๆขวดนึง ก็กะว่าจะอาบน้ำ แต่ตอนนี้ดันติดลมคุยกับใครคนหนึ่งที่ทักไลน์มานี่ดิ

-   ฟองทำอะไรอยู่?
ให้ทายครับว่าเขาเป็นใคร? แต่คงทายไม่ยากหรอก ก็นายปรมินทร์นั่นล่ะ เพิ่งบอกลาผมไปเมื่อยี่สิบนาทีที่แล้วเอง

-   กำลังจะอาบน้ำ แล้วมินถึงบ้านยัง
ผมวางมือถือทิ้งไว้แล้วเตรียมเสื้อผ้าเพื่อจะไปอาบน้ำ แต่เสียงแจ้งเตือนข้อความไลน์มันดังขึ้นก่อน ความคิดที่จะเดินไปห้องน้พเลยจบลงแค่นั้น

-   ยังไม่ถึงว่ะ รถติดมาก


-   จะเล่นมือถือทำไม ตั้งใจขับรถไปดิ



-   ก็คนมันคิดถึง
เอากับเขาสิครับ ขนาดคุยไลน์กันยังจะมีหน้ามาหยอดอีก ผมอมยิ้มกับข้อความที่ได้อ่าน มินจะตรงไปตรงมาเสมอเมื่ออยู่กับผม ซึ่งเพิ่งมารู้ทีหลังอีกเหมือนกันว่าก่อนที่มินจะมาสารภาพกับผมนั้นมินป๊อดแค่ไหนด้วย

-   อาการหนักแล้วครับคุณชายปรมินทร์
ผมส่งข้อความไปแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ติดลมวะแล้วครับ ค่อยอาบน้ำแล้วกัน ห้องน้ำไม่หนีไปไหนหรอก

-   เพราะคุณจิรัสย์เลยครับ ทำให้ผมต้องเป็นแบบนี้
ผมขมวดคิ้วฉับเมื่อได้อ่านข้อความล่าสุด อยู่ๆเจ้าคนที่มาจีบก็โทษว่าเป็นความผิดผมซะงั้น ผมจิ๊ปากก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป

-   ผมอยู่เฉยๆนะคุณปรมินทร์ อย่ามาโยนความผิด

-   แค่อยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไรผมก็แย่แล้วครับคุณจิรัสย์

-   ชอบคุณจิรัสย์จะแย่แล้ว
ผมควรรู้สึกยังไงกับการหยอดของมินดีครับ ผมว่ามันน่ารักดีนะถึงจะขี้หยอดมากไปหน่อยก็เถอะ แต่ผมไม่ได้อึดอัดอะไรหรอก ขำๆดี ผมยิ้มให้กับข้อความนั่นอีกครั้ง ขอให้ชอบไปได้ตลอดเถอะ

-   ไปอาบน้ำล่ะ
ผมส่งข้อความเสร็จก็หอบเสื้อผ้าไปอาบน้ำทันที ปล่อยให้มือถือส่งเสียงเตือนต่อไปอยู่แบบนั้น

ผมนอนเล่นอะไรไปเรื่อยเปื่อยรอพ่อแม่ พี่ฟาง กลับบ้าน เวลาเกือบสี่ทุ่มผมก็ได้ยินเสียงรถขับมาจอดภายในตัวบ้าน ผมเดินลงบันไดด้วยสีหน้างัวเงียเล็กน้อยก่อนจะเจอพี่ฟางยืนอยู่ขั้นบันไดล่างสุด พร้อมกับถือถุงอะไรบางอย่างในมือ

“ไอ้ฟอง ถุงเนี่ยมันแขวนอยู่หน้าบ้าน ทำไมไม่เอาเข้ามาด้วยวะ”
พี่ฟางยื่นถุงที่เขาถือมาให้ผม ผมมองอย่างสงสัยแต่ก็รับมันมาเปิดดู ในถุงมีแต่ขนมเค้กหลากหลายชนิด ผมจำได้ว่าผมไม่ได้ซื้ออะไรแบบนี้กลับมาด้วยนะ มินนู่นที่เป็นคนซื้ออ่ะ แล้วมันจะมาอยู่หน้าบ้านผมได้ยังไง

“ขอบคุณครับ แล้วนี่งานแต่งเป็นไงบ้าง?”
ผมถามพี่ฟางที่ตอนนี่เริ่มถอดสูทกับเนคไทออกและปลดกระดุมเสื้ออกสองสามเม็ด พี่ฟางเป็นผู้ชายที่สูงพอๆกับมิน หน้าตาเขาคล้ายผมครับแต่ติดที่หน้าเขาเข้มกว่าผมเลยติดจะดูดีกว่านิดหน่อย แต่หน้าตาไม่ค่อยเข้ากับไลฟ์สไตล์ของพี่ชายเท่าไหร่หรอกนะ ก็รายเนี่ยเขาเลี้ยงกระต่ายพันธุ์ฮอลแลนด์ลอปสีน้ำตาล เจ้าหูตกชื่อว่าซันเดย์ ได้ยินชื่อแล้วอยากกินไอศกรีมเลยสิ

“ก็น่าเบื่อ เพื่อนแม่ก็แนะนำลูกสาวให้พี่อยู่ได้ น่ารำคาญว่ะ”
พี่ฟางพูดด้วยเสียงเบื่อหน่ายก่อนจะยืนพิงกับราวบันได คิ้วเข้มๆนั่นขมวดเข้าหากันก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ

“ไม่สนใจสักคนเลยรึไง?”
ผมถามก่อนจะจิ้มแก้มพี่ชายเล่น ก็มันน่าหมั่นไส้นี่ครับมายืนทำหน้าบึ้งคุยกับผมอยู่ได้ ควรเก็บอารมณ์หงุดหงิดของตัวเองไว้บ้างสิ พี่ฟางหันมามองผมแล้วดึงนิ้วผมไปกัดซะอย่างนั้น แต่ไม่เจ็บหรอกครับ พี่เขาก็แค่งับมือผม ผมเห็นแบบนั้นก็หัวเราะกับความเป็นเด็กของพี่ชายตัวเอง พวกเราอายุห่างกันสามปี พี่ฟางน่ะเรียนจบแล้วนะ เขาช่วยกิจการบริษัทพัฒนาซอฟแวร์ที่ใหญ่ติดอันดับสิบของประเทศของพ่อแม่

“ผู้หญิงน่ารำคาญ”
ตอบไวแบบไม่ต้องคิดเลยครับ แล้วที่บอกผู้หญิงน่ารำคาญนี่หมายความว่าไงครับ? จะหาแฟนเป็นผู้ชายหรือยังไง

“อ่าว แล้วพี่จะหาแฟนเป็นผู้ชายรึไง?”
ผมถามทีเล่นทีจริงไปอย่างนั้นล่ะครับ พี่ชายผมถึงจะดูมุ้งมิ้งเลี้ยงกระต่าย แต่ความจริงแล้วพี่ฟางแมนมากเลยนะ เรียนจบวิศวะคอมพิวเตอร์ด้วย คบผู้หญิงมาตลอด เจ้าชู้ประตูดินด้วย

“เออ ก็น่าลองไม่ใช่เหรอ?”
พี่ฟางพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ ถ้าพูดขนาดนี้ผมคิดว่าพี่เขาคงเล็งใครสักคนไว้แล้วล่ะนะ แล้วผมก็อยากรู้ด้วยดิว่าใครคือผู้โชคร้ายรายนั้น

“แหนะ พูดแบบนี้แสดงว่าเล็งใครไว้แล้วอ่ะดิ บอกผมได้ป่ะ?”
ผมล็อคคอพี่ฟางให้ตัวเขาออกห่างจากราวบันไดแล้วกระโดดขึ้นขี่หลัง พี่ฟางเซเล็กน้อยก่อนจะดุผม

“เล่นอะไรเป็นเด็กว่ะ”
ถึงจะดุแต่ก็เอามือช้อนสะโพกผมไว้กันตกนะ เป็นพี่ชายที่ดุแต่ก็ใจดีที่สุดเลยล่ะ เขาก้าวขึ้นบันไดที่ละขั้น ไม่แสดงอาการว่าตัวผมหนักแต่อย่างใด พี่ฟางแข็งแรงครับ หุ่นดีจนผมต้องอิจฉาเลยล่ะ ถึงผมจะมีซิกแพคแต่มันก็สู้พี่เขาไม่ได้เลยสักนิด

“ไม่ต้องมาดุผมกลบเกลื่อนเลย บอกได้ยังว่าเล็งใครไว้”
ผมถามย้ำอีกครั้ง พี่ฟางก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินผิวปากอย่างสบายใจ แบบนี้มันยิ่งทำให้ผมอย่างรู้นะเว้ย พี่ฟางปล่อยผมลงที่หน้าห้อง ก่อนจะเอื้อมมือใหญ่มายีหัวผมจนยุ่งเหยิงไปหมด

“ใบ้ให้ว่าฟองรู้จักแล้วกัน”
พี่ฟางยิ้มแล้วก็เดินกลับห้องตัวเองไป ปล่อยให้ผมยืนสงสัยอยู่แบบนั้น ผมยิ้มออกมาก่อนจะส่ายหน้าเบาๆแล้วกลับเข้าห้องตัวเอง ถ้าพี่ฟางอยากให้รู้เมื่อไหร่เขาคงบอกผมเองครับ ถึงจะคาดคั้นให้ตายแต่ถ้าเจ้าตัวไม่อยากบอกก็คือไม่อยากบอกนั่นล่ะ

ก่อนที่ผมจะทิ้งตัวลงนอนก็เพิ่งรู้ตัวว่าถือถุงเค้กติดมือมาด้วยซะแล้ว ผมวางมันไว้ที่หัวเตียงแล้วหยิบมือถือขึ้นมากดพิมพ์ข้อความหาใครคนหนึ่งที่น่าจะเป็นเจ้าของถุงเค้ก

-   ทำไมเอาเค้กมาแขวนไว้หน้าบ้านเรา?
ผมกดส่งเสร็จก็เดินถือถุงเค้กลงไปไว้ในตู้เย็นด้านล่างก่อนจะเดินกลับเข้าห้องแล้วทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่มๆ หยิบมือถือขึ้นมาดูว่าอีกคนส่งข้อความตอบกลับมารึยัง

-   ก็ซื้อให้ ขับรถไปถึงหน้าปากซอยแล้วเพิ่งคิดได้เลยวนเอาไปให้อีกรอบ

-   มันเปลืองเงิน เลี้ยงข้าวแล้วยังซื้อขนมให้อีก


-   ก็ต้องเลี้ยงให้ดีสิครับ เลี้ยงไม่ดีแล้วฟองหนีไปมินจะทำยังไงล่ะ


-   ไม่ต้องมาหยอด ยังไงก็ขอบคุณครับ ฝันดีนะ



-   ฝันดีครับ

ผมว่าคืนนี้ผมคงฝันดีจริงๆนั่นล่ะ



♥♥♥♥♥


ตอนนี้ให้ฟองมายึดพื้นที่บ้างเนอะ เจอกันตอนต่อไปน้า  :mew1:

หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 9 25/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-05-2016 14:13:47
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 9 25/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 25-05-2016 16:30:14
ค่อยๆรักกันเบาๆ :katai5:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 9 25/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 25-05-2016 21:37:40
น่ารักจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 9 25/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 26-05-2016 00:01:16
ดีต่อใจ

ชอบอะ มาต่อเร็วดีจัง
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 9 25/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-05-2016 11:25:34
ฟองจะได้เขยเข้าบ้านพี่ฟางเองก็จะหาสะใภ้ชายเข้าบ้าน
ว่าแต่คนที่ใช่ของพี่ฟางนี่เพื่อนในกลุ่มน้องฟองหรือเปล่าหนอ


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 10 26/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 26-05-2016 18:38:05
Follow You 10





 

                วันนี้ถ้าผมเลือกได้นะ ผมจะนอนห่มผ้าห่มผืนหนาอยู่บนที่นอนนุ่มๆทั้งวัน แต่ความจริงแล้วมันทำอย่างนั้นไม่ได้ในเมื่อผมมีเรียนวิชาเอกของสาขา ขาด ลา มาสายไม่ได้และที่สำคัญห้ามตายก่อนจะเรียนวิชานี้จบ คือวันนี้ฝนตกหนักมากครับแทบจะมองถนนไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ แต่ดีหน่อยที่ผมย้ายเข้ามาอยู่คอนโดตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ส่วนเจ้าเบนซินผมก็กั้นที่ทางในห้องนอนเล็กให้มันอยู่ซะเลย ความซวยของผมไม่ได้จบลงแค่ฝนที่เทลงมาอย่างหนักหรอกครับ แต่มันอยู่ที่ผมดันลืมเอาร่มมาด้วย ที่จอดรถของคณะกับตัวคณะก็อยู่ห่างกันพอสมควรผมก็เลยได้แต่ยืนรออยู่ใต้หลังคาลานจอดรถให้ฝนมันซา

 

                ผมยืนกอดกระเป๋าเป้ของตัวเองเอาไว้บรรเทาความหนาว เสื้อนักศึกษาสีขาวของผมเริ่มชื้นขึ้นเพราะโดนไอฝนที่ไม่อาจหลบเลี่ยงได้ ตอนแรกก็จะรอฝนซาครับแต่ตอนนี้คงรอไม่ได้แล้วครับ ต้องโทรหาใครสักคนให้พาผมออกไปจากที่นี่แล้วล่ะ ผมล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงกดไล่หาเบอร์ที่พึ่งยามฉุกเฉินของผมทันที รอสายไม่นานนักเสียงรีบร้อนของอีกคนก็ดังขึ้น

 

                ‘ว่าไงมิน’

 

                “มึงอยู่ไหน?”

 

                ‘กูเหรอ เพิ่งลงจากรถไอ้เฟียหน้าคณะเนี่ยแล้วมึงอยู่ไหน?’

 

                “มึงมีร่มไหม มารับกูที่ลานจอดรถหน่อย”

                ผมตะโกนแข่งกับเสียงฝนที่เทลงมาหนักอีกครั้ง คราวนี้น้ำฝนมันกระเซ็นเข้ามาจนกางเกงผมเปียกไปครึ่งตัวแล้ว - - กลับไปนอนได้ไหม ยอมใจกับอากาศเมืองไทยเลยครับ เดี๋ยวแดดเดี๋ยวฝน เฮ้อ

 

                ‘ไม่มีเว้ยที่รัก ไอ้เฟียแทบจะขับรถเข้ามาส่งกูในตึกคณะ’

                ผมนี่ทึ่งในตัวพี่เฟียที่มันเป็นห่วงไอ้โฟร์ทมากครับ ถ้ามันขับรถเข้าตึกคณะได้มันคงขับเข้าไปแล้วจริงๆนั่นล่ะ ผมได้แต่เสยผมที่ปรกลงมาด้านหน้าขึ้น ตอนนี้ตัวผมไม่ต่างกับไปยืนกลางฝนเลยครับ ชื้นจนเสื้อนักศึกษาแนบเนื้อแล้วเนี่ย ผมได้แต่สะพายกระเป๋าไว้บนบ่าด้านหนึ่งแล้วดึงเสื้อออกจากกางเกงแล้วจับมันสะบัดไปมา เป็นลูกหมาตกน้ำในเวลาไม่กี่นาที โคตรเกลียดหน้าฝนเลยครับ

 

                “เออๆ เดี๋ยวกูโทรหาคนอื่นก่อน แค่นี้นะ”

                แล้วผมก็กดตัดสายมันไปก่อนจะไล่โทรหาไอ้แทม ไอ้บีท แล้วก็ได้ข้อสรุปว่า...แต่ละคนก็ไม่มีใครเอาร่มมากันเลย อาศัยจอดรถแล้วติดร่มคนที่มาจอดรถด้วยกันเข้าคณะไป ผมไม่ได้ดวงดีเหมือนพวกมันนี่หว่า ผมพยายามกวาดตามองหาผู้โชคร้ายคนนั้น แต่ผมก็ไม่เห็นวี่แววของสิ่งมีชีวิตเลยเพราะตอนนี้เหลือเวลาอีกห้านาทีก็จะเริ่มเรียนคาบเช้ากันแล้ว โอย ผมโดนอาจารย์ทำโทษแน่เลยว่ะ

 

                “เชี่ยเอ้ย”

                ผมสบถกับตัวเองเบาๆก่อนจะใช้มือขยี้หัวตัวเองแรงๆ ชื้นมาถึงขนาดนี้ลุยฝนเข้าคณะเลยแล้วกันครับ ถ้าไม่ได้เรียนห้องแอร์ผมคงวิ่งไปคณะนานแล้ว แต่นี้เรียนห้องแอร์ไงครับ แล้วอารจารย์คนนี้ชอบเปิดแอร์อย่างกับตัวเองเป็นนกเพนกวินที่ขั้วโลกเหนืออย่างนั้นล่ะ

 

                สุดท้ายผมก็ตัดสินใจวิ่งไปที่คณะด้วยความเร็วที่ใครๆไม่อาจคาดถึง ฝนตกแล้ววิ่งเร็วก็ลื่นสิวะ ไถลไปหลายรอบแล้วครับกว่าจะมาถึงใต้ตึกคณะเนี่ย พอถึงที่หมายผมก็ปิดน้ำฝนออกจากชุดตัวเองให้ได้มากที่สุด ส่วนกระเป๋าเป้นี่ไม่มีปัญหาครับมันกันน้ำ ผมสะบัดเสื้อกับกางเกงอีกรอบแล้วรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องเรียนทันที และผมก็ได้เจอกับบทลงโทษที่โคตรรอำมหิต ถ้าจะทำแบบนี้ฆ่าผมเถอะ

 

                “นายปรมินทร์ เปียกเป็นลูกหมาเลยนะ แถมมาสายอีก”

                เสียงอาจารย์ดังลั่นคลาสเพราะเขาพูดผ่านไมค์ ทุกสายตามองมาที่ผมกันหมดเลยครับ ไอ้เสื้อนักศึกษานี่จะแนบเนื้อไปไหนกันครับ โดนสาวๆในคลาสกับสาวน้อยในร่างผู้ชายมองแบบจะกลืนกินผมเข้าไปทั้งตัวอีก ขนลุกสิครับรออะไร

 

                “ขอโทษครับ’จารย์”

                ผมยกมือไหว้อาจารย์เป็นการขอโทษ แต่แกไม่สนใจครับ ยังทำลอยหน้าลอยตาพูดใส่ไมค์ต่อ ถ้าไม่ติดว่าเป็นอาจารย์นี่ผมกระโดนถีบขาคู่ไปแล้ว

 

                “ไปยืนกางแขนตรงใต้แอร์ไป ฉันบอกให้พอเมื่อไหร่ค่อยกลับไปนั่งที่”

                เสียงอาจารย์ออกค่ำสั่งแบบเด็ดขาด ผมไม่มีข้อโต้แย้งว่ะ แต่เปียกชุ่มขนาดนี้ให้ไปยืนตากแอร์เนี่ยนะ ฟายเถอะครับชีวิต ปอดบวมนี่ร้องเรียกผมระงมเลยไง แล้วนี่ขนาดยืนอยู่ตรงหน้าห้องนะเว้ยตัวผมยังสั่นเป็นเจ้าเข้าขนาดนี้ ให้ไปยืนรับแอร์แบบตรงๆผมไม่แข็งตายตรงนั้นเลยรึไงวะ

 

                แล้วผมก็ทำได้แค่ก้มหน้าก้มตาเดินไปหาแอร์ ตลอดทางที่เดินมาผมก็ไม่ได้สนใจใครสักคน ก็ตอนนี้ทุกคนแม่งสนใจผมแทนไงครับ มีแต่ความอับอายและอับอายล้วนๆ แล้วหัวนมเนี่ยจะทะลุเสื้อนักศึกษาไปอีกนานแค่ไหนวะ ไอ้ลิซซี่ก็จ้องเอาๆจนขนลุกไปหมดแล้ว พอผมถึงที่หมายก็ยืนนิ่งตรงนั้น โอย ลมแอร์เบาลงมานี่ถึงกับหนาวสะท้านเลยครับ ขนทุกหย่อมในร่างกายพร้อมใจกันลุกพรึบ แขนทั้งสองข้างยกขึ้นกอดตัวเองแบบอัตโนมัติ หนาวชิบหาย! อาจารย์แม่งบังคับให้ผมเป็นไข้ชัดๆ

 

                “เอ้า ปรมินทร์ เมื่อไหร่จะพร้อมสักที!”

                เสียงผ่านไมค์ดังขึ้นมาเร่งผมอีกแล้วครับ จะอะไรกับผมนักหนาวะอาจารย์คนนี้ ผมเคยไปแย่งเด็กแกรึไงกัน แต่เอาจริงที่ผมพูดไปมันคงถูกครับ เพราะเหมือนอาจารย์เขาจะแอบชอบนักศึกษาสาวสวยคนหนึ่ง แต่สาวเจ้ากลับบอกว่าเขาชอบผม ซวยกูไปอีกทั้งๆที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย ถ้าถามว่าผมไปรู้มาจากไหน ก็ข่าววงในจากพี่เปอร์นั่นล่ะครับ

 

                “คร้าบบบบบบ”

                ผมลากเสียงตอบยาวๆแล้วจัดการวางกระเป๋าเป้ลง แต่มือของใครคนหนึ่งกลับดึงมันไว้ซะก่อน ผมเลยเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของมือนั่นแล้วก็เจอกับรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของผมทำงานไม่ปกติ รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจผมกระตุกได้ตลอดเวลาที่เห็น

 

                “เอากระเป๋ามาไว้กับเราก็ได้ แล้วเอานี่ไป”

                ฟองดึงกระเป๋าของผมไปตั้งบนเก้าอี้ว่างข้างๆตัวแล้วส่งผ้าผืนขนาดพอดีกับการเช็ดหัวมาให้ อีกด้านหนึ่งก็เป็นไอ้ฝุ่นแล้วตามด้วยไอ้ปิน ถ้าลองมองไปอีกก็จะเจอกลุ่มผมนั่งถัดกันไปเลย ปกติแม่งเคยนั่งใกล้กันที่ไหน ทำไมวันนี้มันรวมตัวกันแบบนี้วะเนี่ย

 

                “ขอบคุณ”

                ผมตอบพร้อมกับรับผ้าขนหนูมาไว้ในมือแล้วเอาคลุมหัวไว้ก่อนจะกางแขนออกตามที่อาจารย์เขาต้องการ โอย หนาวชิบหาย หนาวโคตรพ่อโคตรแม่ หนาวจนนึกว่าอยู่ในห้องดับจิต ฟันผมกระทบกันดังกึกๆ ตัวเริ่มสั่นเพราะอากาศภายในห้องสี่เหลี่ยมนี่หนาวมาก

 

                “จิรัสย์!”

                เสียงอาจารย์ดังขึ้นอีกครั้ง ผมกับฟองที่กำลังมองหน้ากันอยู่ถึงกับสะดุ้ง ฟองหันไปมองอาจารย์ก่อนจะขานรับเสียงใส วันนี้ฟองใส่เสื้อกันหนาวสีกรมท่าด้วย ก็ดูแปลกตาดีครับ ปกติไม่เคยเห็นเจ้าตัวใส่อะไรแบบนี้ถึงแม้ว่าจะหนาวแค่ไหนก็เถอะ ฟองเขาชอบอากาศหนาวครับ แต่วันนี้มันคงหนาวเกินไปที่ฟองจะรับได้ แล้วผมล่ะ...

 

                “ครับอาจารย์”

                ฟองขานรับพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับอาจารย์ ผมได้แต่มองรอยยิ้มนั่นอย่างเคลิบเคลิ้ม แต่มันก็แค่เสี้ยววินาทีล่ะครับ เพราะเสียงอาจารย์ดังแทรกขึ้นมาอีกรอบ ชอบขัดจังหวะสวีทจริงๆเลยให้ตายเถอะ

 

                “ตรงที่ปรมินทร์ยืนแอร์เป่าลงไหม?”

                น้ำเสียงราบเรียบถามขึ้นผ่านไมค์ คือใครๆในคลาสเขาก็รู้ว่าอาจารย์หมั่นไส้ผม หาโอกาสจะแกล้งผมเสมอ แต่คะแนนเขาไม่ลำเอียงครับ ให้ตามชิ้นงานที่ทำส่ง

 

                “ลงครับ หนาวมากๆ”

                ฟองทำท่ากอดตัวเองแล้วถูแขนไปมา หนาวจริงๆครับผมยืนยัน นั่งยัน นอนยันเลยเอ้า ไข้จะแดกผมอยู่แล้วเนี่ย

 

                “ดี ปรมินทร์ยืนไปนะ ห้ามหนีไปนั่งถ้าผมยังไม่ได้สั่ง”

                ผมว่าเมื่อกี้ผมเห็นรอยยิ้มเย้ยหยันของอาจารย์นะ แล้วแกก็กลับไปสอนอย่างอารมณ์ดี

 

                “ไหวป่ะวะมิน? เสื้อผ้าเปียกแบบนั้น”

                ฟองมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า อาจจะด้วยความสงสารหรือความเป็นห่วงผมก็ไม่อาจรู้ได้ ผมไม่ได้มีความสามารถอ่านคนอื่นออกขนาดนั้น ผมก้มมองตัวเองแล้วยิ้มแห้งๆไปให้

 

                “หนาวโคตรๆ จะไม่ไหวแล้วว่ะ”

                ผมบอกฟองเสียงเบาหวิว ผมรู้สึกว่าตาร้อนๆยังไงชอบกล เหมือนไข้จะเริ่มขึ้นแล้ว ฟันก็ยังกระทบกันดังกึกๆ ฟันผมจะสึกก่อนวัยอันควรไหมเนี่ย แล้วฟองก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดด้วยการเอาหลังมือมาแตะที่หน้าผากของผมก่อนที่เขาจะสะดุ้งเล็กน้อยแล้วเบิกตาโต

 

                “อาจารย์ครับ ปรมินทร์ไข้ขึ้น!”

                ฟองยกมือขึ้นแล้วตะโกนออกไปทันทีโดยไม่ได้รออาจารย์อนุญาต อาจารย์มองมาที่ผมกับฟองด้วยสีหน้าไม่พอใจนิดหน่อยแต่ก็อนุญาตให้ผมไปนั่งที่ได้ ผมเลยขอบคุณฟองไปเบาๆก่อนจะพาร่างที่เกือบไร้วิญญาณเดินไปนั่งข้างไอ้บีท แล้วผมก็เห็นฟองกำลังมองมาด้วยสายตา...เป็นห่วง คราวนี้ผมว่าผมเข้าใจถูกนะ ฟองกำลังเป็นห่วงผม ผมเลยยิ้มบางตอบกลับให้เขาไป

 

                “ไหวไหมมึง?”

                ไอ้บีทเอาหลังมือมาแตะตามซอกคอผมเพื่อเช็คอาการ ผมก็เอียงหน้าให้มันทำอะไรตามใจชอบได้สะดวกขึ้น

 

                “ตัวโคตรร้อนเลยว่ะ ไปหาหมอไหม?”

                ไอ้บีทเก็บมือกลับที่ก่อนจะมองผมอย่างเป็นห่วง ผมส่ายหน้าเบาๆแล้วไอออกมาเล็กน้อย

 

                “ไม่ได้ดิ เดี๋ยว’จารย์ว่ากูสำออยอีก แค่ก”

                ผมพูดจบก็ต้องปิดปากตัวเองเมื่อเริ่มไอ ไอ้บีททำเสียงฟึดฟัด มันไม่ชอบอาจารย์คนนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วครับ เพราะอะไรนั่นผมก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกัน

 

                “ที่รัก กูว่ามึงกลับไปนอนที่คอนโดก่อนน่าจะดีกว่านะ”

                ไอ้โฟร์ทหันมาพูดกับผมอีกคน ผมทำเพียงส่ายหน้าปฏิเสธไป ถึงผมจะอยากกลับแค่ไหนอาจารย์แกก็ไม่อนุญาตหรอกครับ เพราะแกไม่เคยเห็นใจใครหรอก

 

                “ดื้อชิบหาย”

                เสียงไอ้แทมลอยมาเลยครับ มาแต่เสียงนะครับ สมาธิมันยังอยู่ที่อาจารย์

 

                “ดื้อพ่อง ‘จารย์ไม่ยอมให้กูกลับแน่ๆ”

                ผมนั่งกอดตัวแน่น ผ้าขนหนูที่ฟองเอามาให้ตอนนี้ก็ปิดช่วงแขนผมอยู่โดยความช่วยเหลือของไอ้บีท

 

                “เออ ลืมไป”

                แม้แต่ไอ้แทมก็ไม่มีอะไรจะเถียงกับเรื่องนี้ ผมไม่มีสติจะรับรู้ว่าอาจารย์สอนอะไรไปบ้าง ไม่นานผมก็รู้สึกว่าโลกด้านหน้าเริ่มเบลอแล้วก็มืดลงในที่สุด

 

                ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งในห้องของตัวเอง อาการปวดหัวเล่นงานผมอย่างหนักจนไม่สามารถลุกจากเตียงได้ สายตาสอดส่องมองไปรอบห้องนอนก็ไม่เจอใคร แล้วนี่ผมกลับคอนโดมาได้ยังไงวะเนี่ย ใครมันลากไอ้ยักษ์อย่างผมกลับมากันล่ะ แต่ไม่นานคำตอบของผมก็เปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับกลิ่นโจ๊กหอมๆกับใบหน้าใสๆที่เกือบจะทำให้ผมหายดีเพียงแค่เห็น นายจิรัสย์อยู่ในห้องของนายปรมินทร์ครับ นี่มันเรื่องจริงหรือผมแค่เพ้อเพราะพิษไข้!

 

                “นะ นั่นฟองเหรอ?”

                เสียงของผมแหบแห้งลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากพูดจบก็ไอโขลกไปหนึ่งชุดใหญ่ๆจนฟองต้องรีบเดินเข้ามาแล้ววางถ้วยโจ๊กไว้บนโต๊ะข้างเตียง แล้วมาช่วยพยุงผมให้นั่งพิงหัวเตียง

 

                “มินไปหาหมอดีกว่านะ เราว่ามินอาการหนัก”

                ฟองวางมือลงบนแก้มผม ซึ่งผมว่าตอนนี้มือฟองเย็นมาก ส่วนตัวผมร้อนมากจริงๆนั่นล่ะ

 

                “กินยานอนพัก เดี๋ยวก็หาย”

                ไม่ใช่ว่าผมเกลียดกลัวหมอกับโรงพยาบาลอะไรหรอกนะ แต่ตอนนี้สภาพร่างกายของผมไม่พร้อมจะขยับไปไหนเลยว่ะ เหมือนมีอาการปวดระบมไปทั้งตัวปนอยู่ด้วย เพราะเมื่อวานเขาย้ายของจากบ้านมาที่คอนโดนี่ล่ะ

 

                “ถ้าช็อคขึ้นมาเราไม่สนนะ ดื้อแบบนี้”

                ฟองบุ้ยปากใส่ผมก่อนจะดึงมือกลับไปแล้วยกถ้วยโจ๊กขึ้นมา ผมมองตามไปแล้วได้แต่ยิ้มบาง แค่มีฟองอยู่ข้างๆก็ดีขึ้นมากแล้วครับ

 

                “ไม่ได้ดื้อนะครับ แต่ตอนนี้ไม่มีแรงจะไปไหนแล้วจริงๆ”

                ผมหลับตาลงช้าๆ ปล่อยเวลาผ่านไปสักพักแล้วลืมตาขึ้นมาใหม่ก่อนจะเห็นว่าช้อนโจ๊กยื่นมาตรงหน้าผมแล้ว

 

                “กินเข้าไปเลย”

                ฟองจ่อช้อนเข้ามาจนชนปากผม ผมก็เลี่ยงไม่ได้เลยต้องกินเข้าไป ฟองป้อนผมไปเรื่อยๆผมก็กินไปเรื่อยๆจนหมดเหมือนกัน ไม่อยากให้ฟองเสียน้ำใจครับ ทั้งที่จริงๆผมเกือบจะอ้วกไปหลายรอบ ยาและน้ำก็โดนประเคนมาเป็นคิวต่อไป พอจบขั้นตอนฟองก็ประคองผมให้นอนลงเหมือนเดิมก่อนจะห่มผ้าให้ผมเรียบร้อย

 

                “ขอบคุณครับ แต่ว่า... ฟองอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

                ผมถามเรื่องที่คาใจออกไป เพราะคนที่อยู่กับผมตอนนี้น่าจะเป็นเพื่อนๆของผมมากกว่า แต่กลายมาเป็นฟองแบบนี้มันต้องมีเบื้องหลังแน่ๆ ฟองที่กำลังจะเอาถ้วยไปเก็บชะงักแล้วหันมามองผมที่กำลังมองเขาอยู่

 

                “จริงๆแล้วโฟร์ทก็จะมาส่งมินแล้วเอารถมินกลับมาที่นี่ล่ะ แต่พอดีพี่เฟียเขารีบมารับโฟร์ทไปทำธุระซะก่อน ส่วนคนอื่นก็เอารถไปกันหมด เหลือแต่เรานี่ล่ะที่ไม่ได้ขับรถไปมหา’ลัย เราก็เลยอาสาขับรถมินแล้วก็มาส่งมินเอง”

                ฟองพูดจบก็เดินออกจากห้องนอนไป ปล่อยให้ผมอมยิ้มกับความใจดีของฟอง แต่...ฟองใจดีกับทุกคนแบบนี้รึเปล่า ผมหวงความใจดีพวกนี้ไว้คนเดียวได้ไหม

 

                “มิน เราเช็ดตัวให้มินไปแล้วนะ ถ้าไม่สบายตัวอีกก็บอกเรานะ เราจะได้เช็ดให้อีกรอบ”

                ฟองบอกผมด้วยใบหน้าไม่ขัดเขินใดๆ... นี่เขาเช็ดตัวให้ผมนะเว้ย ไม่เขินอะไรเลยรึไงวะ แต่ผมนี่สิเขิน เขินมากด้วย ถ้าตอนนั้นผมมีสติอยู่คงปฏิเสธความหวังดีของฟองหัวชนฝาเลยล่ะ

 

                “อ่ะ เอ่อ ขอบคุณมาก ฟองจะกลับรึยังครับ?”

                ผมยกมืออังหน้าผากของตัวเอง ร้อนมาก ผมว่าผมเป็นไข้หนักกว่าทุกครั้งนะ เพราะคราวนี้ทั้งนอนไม่พอ ใช้แรงงานตัวเองเยอะ ตากฝนเข้าไปอีก... กลายเป็นผักเฉาเลย

 

                “ยังหรอก มินนอนไปเหอะ เรากลัวว่าถ้าเรากลับแล้วมินจะไข้ขึ้น”

                ฟองจะน่ารักไปถึงไหนครับช่วยหยุดน่ารักสักพักได้ไหม แค่นี้ผมก็หลงรักจะแย่แล้วครับ แค่นี้ก็ไม่คิดจะไปไหนแล้ว ฟองนั่งลงบนเตียงข้างๆผมก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาให้ผมอีก นี่จะปิดหน้ากันอยู่แล้วนะ

 

                “น่ารักเกินไปแล้ว”

                ผมพูดเบาๆแล้วมองหน้าฟอง ส่วนฟองที่มองผมอยู่แล้วขมวดคิ้วเน้น ก่อนที่ปากสีชมพูธรรมชาตินั่นจะขยับขึ้นลงเปร่งเสียงทุ้มนุ่มออกมา

 

                “ใครใช้ให้ชมผู้ชายด้วยคำว่าน่ารักวะ”

                ฟองกำหมัดแล้วต่อยลงบนไหล่ผมเบาๆ ผมได้ทีรีบคว้ามือขาวนั่นแล้วซุกหน้าลงไป ฟองมองผมตาโตแต่ก็ไม่ได้สะบัดมือออกแต่อย่างใด หน้ายุ่งๆของฟองมองยังไงๆมันก็น่ารักอยู่ดี

 

                “ก็ฟองของมินน่ารักจริงๆนี่ ขอยืมมือหน่อยนะ”

                ผมพูดจบก็หลับตาลง ไม่อยากรับรู้ว่าฟองจะทำหน้าตายังไง ขอแค่ฟองไม่ปฏิเสธผมก็พอแล้วในตอนนี้ จากหมัดที่กำไว้หลวมๆตอนนี้กลายว่ามันคลายแล้วแบออกรองรับหน้าผมที่นอนตะแคงกอดมือฟองอยู่ ถือเป็นการอนุญาตแล้วกันนะ

 

                “หายไวๆนะครับมิน”

                ประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินจากฟองมันช่างแผ่วเบาแต่กลับอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ





--------------------------------------------------------------------



คอมเม้นท์ให้กำลังใจไรท์ด้วยน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 10 26/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 26-05-2016 19:05:22
จารย์ใจร้ายมาก :z13:
คู่นี้น่ารักจังน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 10 26/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-05-2016 19:20:46
อาจารย์นิสัยเสียอ่ะ แค่เรื่องจีบสาวแล้วสาวไม่เล่นด้วยดันมาหาเรื่องแกล้งมิน :angry2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 10 26/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-05-2016 22:08:06
 นี้หรือคือครู
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 10 26/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 27-05-2016 10:43:49
อีอาจารย์นี่มันแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออกหรือไงนะ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 10 26/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 27-05-2016 15:26:21
อ่านแล้วฮาอ่ะ สรุปใครเมะใครเคะอ่ะ  :impress2: :impress2:

อาจารย์นิสัยเสียอ่ะ น่าโดนจับสั่งสอนชะมัด :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 8 24/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 28-05-2016 00:11:04
หวานมากครับ ติดตาม,,
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 10 26/05/59
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 28-05-2016 14:46:49
ฟองน่ารักอ่ะ
มินมีลุ้นนะนี่

ว่าแต่อาจารย์ใจดำจัง
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 11 01/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 01-06-2016 08:26:50
Follow You 11





ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าทั้งห้องสว่างไปด้วยแสงจากหลอดไฟ ไม่ต้องเดาให้เหนื่อยก็รู่ว่าตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ว่าแต่... ฟองนั่งหลับบนเก้าอี้อยู่ข้างๆเตียงผมนี่เอง มือที่ผมกอดไว้ก่อนหลับ เจ้าของเขาก็ดึงมันกลับไปแล้ว ทำไมฟองไม่กลับบ้านไปล่ะ?

ผมพยุงตัวลุกขึ้นแล้วมองฟองที่นั่งคอพับคออ่อนหลับอยู่ ผมว่าฟองมีความสามารถพิเศษนะ นั่งหลับได้ขนาดนี้ เป็นผมเมื่อยคอเมื่อยหลังตายเลย ผมว่าผมปลุกฟองดีกว่านะ ตอนนี้ก็สองทุ่มเข้าไปแล้ว ฟองจะกลับบ้านยังไงล่ะ

"ฟองครับ"
ผมเรียกแล้วเขย่าตัวฟองเบาๆ เขางัวเงียเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผมแล้วบิดตัวไปมา จะหลับหรือจะตื่นฟองก็น่ารักว่ะ ผมมองไปก็เผลอยิ้มไป แต่คงยิ้มกว้างไปหน่อยฟองเลยบุ้ยปากใส่ผม

"มองมากเกินไปแล้ว"
มือไม่เล็กไม่ใหญ่ดันหน้าผมให้หันไปทางอื่น ผมแอบสูดกลิ่นหอมจากมือของเขา อืม... กลิ่นสบู่ล้างมือในห้องผมเอง ตอนผมล้างทำไมมันไม่หอมเหมือนตอนอยู่บนมือของฟองวะ

"มองแล้วมีความสุขก็อยากมองนี่"
หยอดครับ ถึงผมจะป่วยเราก็จะทำหน้าที่ของเราต่อไป เรื่องจีบนี่พักไม่ได้ครับ ถ้าเผลอแล้วมีคนมาแข่งทำคะแนนจะแย่เอา ฟองมองหน้าผมก่อนจะเบะปากลง ดูเขาทำหน้า...ไม่รู้ตัวรึไงว่ามันน่ารักมากน่ะ

"หยุดหยอดก่อน.. เออ มินเลี้ยงหมาเหรอ?"
อยู่ๆฟองก็ถามขึ้นมา ผมเลยพยักหน้าหงึกหงัก แต่ว่าฟองรู้ได้ยังไง?

"เออ เลี้ยง ฟองรู้ได้ไง?"
ผมลูบแก้มตัวเองเบาๆเพราะยังรู้สึกมึนๆไม่หาย

"ก็ได้ยินเสียงมันหอนน่ะ แต่เราหากุญแจห้องนอนเล็กไม่เจอ"
ฟองพูดจบก็ลุกขึ้นเป็นเชิงเชิญชวนให้ผมเดินตาม เอ้อ ชิบหายล่ะครับ ป่านนี้แล้ว ไอ้เบนซินคงหิวมากแน่ๆ ผมรีบกระโดดลงจากเตียงแต่แล้วโรคเพดานหมุนก็มาเยือนจนฟองต้องเข้ามาพยุงผม

"ระวังๆหน่อยดิ ยังไม่หายนะ"
ฟองมองผมตาเขม็ง น้ำเสียงหวานๆที่ได้ยินประจำตอนนี้กลายเป็นเสียงแข็งๆดุๆ ผมยิ้มแห้งส่งให้ฟองก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นเกาท้ายทอยเบาๆ

"โทษที พอดีเป็นห่วงไอ้เบนซินไปหน่อย"
ผมพูดไปตามจริง ไอ้หมาพันธุ์เนี่ยชอบกัดของไปทั่ว ยิ่งเวลามันหิวแล้วไม่ได้กินนะ..ของกระจุยแน่ แต่ดีหน่อยที่ผมเอาของออกจากห้องนอนเล็กจนหมด เหลือไว้แค่ของใช้จำเป็นสำหรับเบนซินเท่านั้น

"ห่วงแต่หมา ห่วงตัวเองด้วย"
ฟองว่าก่อนจะเดินห่างออกจากผมที่พยุงตัวเองได้แล้ว เสียดายชะมัด อยากโอบไหล่ให้นานกว่านี้อีกหน่อย

"ให้ฟองห่วงมินแทนไง"
ผมพูดจบแล้วยกยิ้มหวานๆให้กับฟอง เจ้าตัวขมวดคิ้วแน่น ไม่พอใจผมแน่ๆ ก็เขาบอกให้ผมเลิกหยอดไปเมื่อไม่กี่นาทีนี่เอง

"ใครจะไปห่วงคนดื้อวะ เอากุญแจมาเลย จะไปปล่อยหมา"
ว่าผมครับ แต่ตาไม่ได้มองผมเลยแถมยังเดินดุ่มๆน้ำผมไปที่ห้องนอนเล็กอีก ผมก็เลยตรงไปเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานแล้วหยิบกุญแจดอกหนึ่งที่มีพวงกุญแจอะคลิลิกรูปหมาไซบีเรียนฮัสกี้ห้อยอยู่ก่อนจะเดินไปหยุดข้างๆฟองแล้วไขประตู

ประตูเปิดออก พร้อมกับหมาขนฟูกระโดดผลุงออกมาจากห้อง มันโถมตัวเข้าใส่ผมที่ยังไม่ทันตั้งตัวจนล้มทั้งยืน ลิ้นสากๆแลบเลียไปตามใบหน้าของผม ผมพยายามดันมันออกอย่างสุดชีวิต ไอ้เบนซินตัวหนักเป็นบ้าเลย ฟองก็เอาแต่ยืนมองผมแล้วหัวเราะชอบใจ ไม่คิดจะช่วยกันเลยเนอะคนเราเนี่ย

"เฮ้ย เบนซินอย่าเลียดิวะสกปรก"
ผมเอามือปัดป้องหน้าตัวเอง พยายามหันหน้าหนีลิ้นสีชมพูของมัน แต่มันคิดว่าผมเล่นด้วยมันเลยยิ่งมุดหัวเข้าช่องว่างของแขนผมเขามาไม่หยุด หางเป็นพวกของมันก็กระดิกส่ายไปมาด้วยความสนุกสนาน คิดถึงกูมากเลยรึไง!

"เบนซิน!"
ผมตะโกนเรียกมันอีกครั้ง เจ้าหมาหล่อเลยหยุดชะงักแล้วเอาหัวซบลงที่กลางอกผม แววตาเศร้าๆซบตาผม เฮ้อ.. ไอ้หมาบ้า ขี้อ้อนถูกเวลาทุกทีสิน่า ผมยกมือขึ้นลูบหัวมันเบาๆก่อนที่มันจะลุกขึ้นโดยเหยียบลงบนตัวผมแล้วเดินสั่นหางไปหาคนแปลกหน้าอย่างฟองที่กวักมือเรียกมันแล้วนั่งขัดสมาธิลงกับพื้น ไอ้หมาเลว! เหยียบมาได้นะ ไม่เหยียบหน้ากูเลยล่ะ

ผมลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิบ้างแล้วมองไปที่ฟองกับเบนซิน ผมอยากรู้เหมือนกันว่าถ้าไอ้หมาหล่อเจอคนแปลกหน้าแล้วมันจะทำยังไง แล้วผมก็ได้คำตอบที่น่าหงุดหงิด -_- ก็ไอ้เบนซินมันเดินเข้าไปหาฟองแล้วเดินวนๆรอบตัว ก่อนจะหยุดตรงหน้าของฟอง จมูกเปียกๆของมันไล่ดมไปแถวๆซอกคอของฟอง ไอ้หมาหื่น ไอ้หมาฉวยโอกาส โอยย อิจฉาหมาได้ไหมครับ แล้วที่ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดคือ ฟองไม่ได้ปัดป้องแต่อย่างใดแถมยังยิ้มและหัวเราะเสียงใสด้วย ฮือ ปรมินทร์อยากสิงหมา

"เบนซินนี่หื่นเหมือนเจ้าของป่ะ?"
อยู่ๆฟองก็ถามผมขึ้นมา มือนุ่มๆกำลังลูบหัวไอ้เบนซินที่ตอนนี้นอนแผ่แล้วเอาหัวเกยขาของฟอง โอ้ย มึงมันไอ้หมาปลาไหล ฮือ ทำไมแย่งซีนกันแบบนี้วะเนี่ย พ่อจะให้อดข้าวสักสองวัน! โทษฐานออดอ้อนออเซาะนายจิรัสย์

"ถามไรเนี่ย"
ผมขมวดคิ้วยุ่งจนฟองขำออกมาเบาๆ ไรวะ ไม่เห็นจะน่าขำเลย

"ก็มันเอาแต่ดมแถวๆซอกคอเรานี่"
เออ... แต่ก็จริง หมาบ้าอะไรวะดมคนที่ซอกคอ นี่มึงคิดจะแย่งฟองจากกูใช่มะ! กับหมาก็ไม่เว้นครับบอกเลย คนมันหวงนี่หว่า

"มินหื่นกว่ามันเยอะ"
ผมแกล้งบอกฟองไปแบบนั้น ฟองบุ้ยปากใส่ผมก่อนจะยืดแก้มไอ้เบนซินออก ไอ้หมาหล่อมันก็หลับตาพริ้มยอมให้ฟองเล่นสบายๆ ที่กับผมนะ...แม่งต้องตอบโต้ด้วยการกระโจนใส่ตลอด ไอ้หมาสองมาตรฐาน!

"ไปเอาอาหารให้มันกินได้แล้ว"
ฟองพูดขึ้นไม่มองหน้าผม เอาแต่แกล้งไอ้เบนซิน ดึงหูบ้าง จิ้มจมูกบ้าง ดึงแก้มบ้าง สนุกเขาล่ะครับ ผมเผลอยิ้มกับภาพตรงหน้าที่เห็น ฟองเป็นแม่ ผมเป็นพ่อ ไอ้หมาหล่อเป็นลูก ครอบครัวคงสุขสันต์น่าดู โอย แค่คิดก็มีความสุขแล้วครับ

"มิน!"
ฟองเรียกผมเสียงดังจนผมสะดุ้ง ความคิดเมื่อกี้แตกกระจายออกเป็นเสียงๆ ใบหน้าหวานๆของฟองจ้องมาทางผม... พอจะรู้เหตุผลที่โดนตะโกนใส่แล้วครับ ก็ผมนั่งมองฟองเล่นกับไอ้เบนซินซะเพลินจนลืมไปเอาอาหารให้

"ครับๆ เดี๋ยวไปเอามาให้"
ผมค่อยๆลุกขึ้น ไม่อยากลุกพรวดพราดแล้วหน้ามืดไปอีก ถ้าเป็นแบบนั้นคงโดนฟองดุใส่อีกเป็นแน่ ผมตรงไปที่มุมห้องแล้วหยิบถุงอาหารก่อนจะหายเข้าห้องนอนเล็กไปหยิบที่ใส่อาหารของไอ้หมาหล่อออกมาจัดการเทอาหารใส่แล้วตั้งไว้ข้างๆมัน

ผมนั่งลงข้างๆฟองแล้วมองไอ้เบนซินทำจมูกฟุดฟิดดมหากลิ่นหาอาหาร พอมันเห็นเป้าหมายก็ยอมย้ายตัวโตๆของตัวเองออกจากตักฟองไปยืนกินอาหารสบายใจเฉิบ... อยากทิ้งตัวนอนตักฟองแทนไอ้เบนซินจริงๆเล้ย ป่วยแล้วโคตรอยากอ้อนใครสักคนจริงๆนะ

"มันน่ารักดีนะ"
ฟองหันมามองผมแล้วพูดออกมาก่อนจะส่งรอยยิ้มสดใสให้กัน ดูเหมือนฟองจะชอบสัตว์นะเนี่ย

"มันซนจะตายเถอะ หมาไฮเปอร์"
ผมพูดก่อนจะเอื้อมมือไปเคาะกะโหลกไอ้เบนซินเบาๆ รายนั้นพอได้กินเขาก็ไม่สนอะไรแล้วล่ะครับ ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว เป็นหมาที่มีระเบียบวินัยดีครับ กินเป็นกิน เล่นเป็นเล่น นอนเป็นนอน แม้กระทั่งเวลาตื่น.. มันตื่นตรงเวลาทุกวัน ถ้าวันไหนผมปล่อยมันมานอนกับผม วันนั้นมันจะขึ้นเตียงมาปลุกผมด้วย ถ้าผมไม่ตื่นความชิบหายจะมาเยือนทันที เหมือนใครเอาน้ำสาดหน้า เพราะไอ้เบนซินมันจะเลียหน้าผมจนน้ำลายเยิ้มไปหมด

"ไฮเปอร์เหมือนเจ้าของไง"
ฟองขยับเข้าไปลูบขนสวยๆของไอ้เบนซินบ้าง ผมถึงกับเบ้ปากเลยทีเดียว ผมไม่ได้ไฮเปอร์ขนาดนั้นนะเว้ย

"เออ บ้านฟองเลี้ยงสัตว์ป่ะ?"

"เลี้ยงดิ ซนเหมือนกันนะ"

"เลี้ยงหมา?"

"ไม่ใช่"

"แมวเหรอ?"

"เปล่า"

"อ่าว แล้วเลี้ยงอะไร?"
ผมมองหน้าฟองด้วยความสงสัย ฟองมองกลับมาพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นแล้วชูสองนิ้วไว้บนหัวตัวเอง โอยย ทำไมน่ารัก กระต่ายฟอง อยากฟัด จะเอา เจา เจา อยากได้

"กระต่ายเหรอ?"
ผมพยายามเก็บอารมณ์ตัวเองให้มากที่สุด ไอ้อาการอยากจับฟองมาฟัดนี่มันจะเกิดขึ้นง่ายมากเกินไปแล้ว ฟองพยักหน้าก่อนจะลดมือลง

"ใช่ พันธุ์ฮอลแลนด์ลอป หูตกๆน่ะ มินรู้จักป่ะ?"
ฟองถามผมก่อนที่เขาจะล้วงเอามือถืออกมาจากกระเป๋ากางเกงนักศึกษาแล้วเปิดรูปกระต่ายให้ผมดู ผมพยักหน้าหงึกๆ เคยเห็นตามในอินเตอร์เน็ตอยู่บ่อยๆ

"รู้จักๆ แล้วมันชื่ออะไร?"
ฟองเก็บมือถือไว้ที่เดิม ไอ้เบนซินพอมันกินเสร็จก็กลับมานอนตักฟองอีก มึงเป็นอะไรมากไหมไอ้หมาหล่อ เอาแต่สโลว์ซบตักฟองอยู่ได้ ไม่รู้รึไงว่าพ่อมึงอิจฉาตาร้อนแค่ไหน!

"ชื่อซันเดย์ น่ากินป่ะล่ะ?"
ฟองขำออกมาเล็กน้อย มือนุ่มๆก็ลูบขนของไอ้เบนซินเล่นไปเลย ไอ้นี่ก็เชื่องละเกินกับคนน่ารักเนี่ย

"เออ ชื่อน่ากินจริงด้วย"
นี่ถ้าจับไอ้ซันเดย์มาย่างคงจะหอมน่าดู

"เราเคยบอกพี่ฟางว่าซันเดย์น่ากิน แต่พี่ฟางก็ด่าเราแล้วบอกว่าซันเดย์กินไม่ได้นะ เสียงดุเลย"
ฟองว่าก่อนจะขำออกมาอีกแล้ว.. ผมนี่ขำไม่ออกเพราะสมองกำลังมีความคิดว่า 'พี่ฟาง' เป็นใคร จะให้ถามออกไปตรงๆคงไม่ดีเท่าไหร่ เหมือนก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวกันมากเกินไป

"อ่าฮะ แล้วนี่กินไรยัง หิวไหม?"
ผมถามไปเมื่อคิดได้ว่ามันดึกแล้ว ฟองทำอาหารให้ผมกินแล้วเจ้าตัวเขากินอะไรไปรึยัง

"กินแล้ว ข้าวต้มนั่นล่ะ มินหิวอีกป่ะ?"
ฟองหยุดเล่นกับไอ้เบนซินแล้ว ไอ้หมาหล่อมันเดินไปคาบตุ๊กตาแมวน้ำของมันออหมาแล้วฟัดอยู่แบบนั้น ไอ้นี่ก็แปลก ของอย่างอื่นมันกัดซะกระจาย แต่กับตุ๊กตาแมวน้ำยัดนุ่นตัวเดียวที่มันไม่กัดจนไส้ทะลัก

"ไม่หิวแล้ว จะกลับบ้านยัง เดี๋ยวมินไปส่ง"
ผมเสนอตัวไปส่งทั้งๆที่ป่วย... ผมไหวน่า ฟองมองผมด้วยสายตาดุๆอีกแล้ว นี่ผมทำอะไรผิดล่ะเนี่ย

"จะไปส่งยังไง ไม่สบายอยู่นะ เรานอนนี่ได้ป่ะ? พี่ฟางก็ไม่ว่างมารับเรา"
ฟองมองผม ผมเบิกตาขึ้นเล็กน้อย นี่ฟองขอนอนกับผมเหรอ ทำไมป่วยแล้วเจออะไรดีๆแบบนี้ว้า ขอป่วยนานๆได้ไหม ฟินจังครับ แต่... ถ้าได้ยินไม่ผิด ชื่อพี่ฟางอะไรนั่นโผล่มาอีกแล้ว แถมจะให้มารับดึกๆดื่นๆด้วยเนี่ยนะ เขาเป็นใครกัน

"นอนได้ๆ เดี๋ยวฟองไปนอนเตียง มินนอนโซฟาเอง"
ละครไทยก็มาครับพี่ แสดงความเป็นสุภาพบุรุษสุดๆ แต่ดูเหมือนผมจะทำมันผิดเวลาไปหน่อยเพราะตอนนี้ฟองจิ๊ปากด้วยความขัดใจซะแล้ว

"เจียมตัวว่าป่วยหน่อย เรานอนโซฟาเองมินก็นอนเตียงของมินไป"
ไม่ดุอย่างเดียวนะครับ...แต่ใช้คำพูดแรงซะด้วย ผมนี่เหวอไปเลย แต่ก็ไม่โกรธหรอกครับ ฟองคงเป็นห่วงผมล่ะ

"งั้นเอางี้ ไปนอนบนเตียงด้วยกัน"
ผมออกความคิดเห็น ก็เตียงนอนออกจะกว่างขนาดนั้นนอนแค่สองคนได้สบายๆอยู่แล้ว แต่ฟองกลับส่ายหัวเบาๆห่อนจะยิ้มทะเล้นแล้วพูดในสิ่งที่ผมให้ลมหายใจของผมสะดุดกึก

"ไม่นอน เดี๋ยวมินหน้ามืดปล้ำเราขึ้นมาจะทำยังไง?"
โอย... สรุปว่าใครกันแน่ที่หื่นกว่ากันครับเนี่ย ผมยังไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นเลยจริงๆนะ แต่พอฟองพูดออกมาผมก็เริ่มคิด ปล้ำฟองเหรอ ความคิดดีแฮะ เฮ้ย ไม่ใช่ๆ ห้ามคิด

"ป่วยอยู่.. ปล้ำไปแล้วสลบกลางคันไม่ดีว่ะ"
ผมพูดแล้วยักคิ้วให้ฟอง กวนมาก็กวนกลับครับ แฟร์ๆ ฟองยกมือขึ้นแล้วดีดหน้าผากผมดังเป๊าะ เจ็บอ่ะครับ เฮือก ผมรีบยกมือขึ้นลูบหน้าผากตัวเอง ก่อนจะมองฟองด้วยสายตาออดอ้อน อย่ารุนแรงกับคนป่วยนักสิ

"ไอ้หื่น มีเสื้อผ้าให้เราเปลี่ยนป่ะ จะอาบน้ำ"
ฟองลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะชูมือขึ้นแล้วบิดตัวไล่ความเมื่อยล้า ผมที่กำลังเงยหน้าขึ้นก็ได้เห็นหน้าท้องแบนราบที่โผล่พ้นเสื้อนักศึกษาออกมา ผมรีบก้มหน้าลงเหมือนเดิมแล้วรีบลุกขึ้นยืนเต็มความสูง อาการหน้ามืดพุ่งเข้าเล่นงานผมอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมทรงตัวได้ ไม่ค่อยแน่ใจแล้วว่าหน้ามืดเพราะพิษไข้หรือหน้ามืดเพราะหน้าท้องขาวๆของฟอง

"เดี๋ยวไปเอาให้ รอนี่นะ"
ผมรีบเดินเข้าห้องนอนแล้วรื้อหาเสื้อกับกางเกงที่มีขนาดเล็กที่สุดออกมา ได้เป็นเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงบ็อกเซอร์ลายตารางสีแดง... อื่ม สีแดงกับผิวขาวๆ แค่คิดกำเดาก็จะไหลแล้วครับ

ผมออกจากห้องพร้อมกับยื่นเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวให้กับฟอง เจ้าตัวเขาขอบคุณผมก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำ ผมเลยเดินไปนั่งลงบนโซฟาก่อนจะหยิบรีโมทมาเปิดดูรายการอะไรไปเรื่อย รออาบน้ำต่อจากฟองนั่นล่ะครับ ไอ้เบนซินก็กระโดดขึ้นมานอนหนุนตักผมหน้าตาเฉยเลย ผมเลยเขกหัวมันเบาๆอย่างหยอกล้อ มันผงกหัวขึ้นมองผมก่อนจะกลับไปนอนท่าเดิมอีก

ไม่นานนักฟองก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดที่ผมให้เขาใส่ ขนาดเล็กที่สุดแล้วของผมฟองยังใส่หลวมอยู่เลย กางเกงสีแดงนั่นตัดกับเรียวขายาวขาวๆนั่นได้ดีทีเดียว ผมเผลอมองนานไปหน่อยจนฟองรู้ตัว นี่กูจะซวยซ้ำซ้อนเพราะเรื่องแอบมองไปถึงไหนกันครับ ใครก็ได้ เทลมี พลีสสส

"มินอย่าทะลึ่ง มองเราจนน้ำลายจะหกแล้ว"
ปากว่าผมนะ แต่ก็เดินเข้ามานั่งข้างๆผม ส่วนไอ้เบนซินมันกระโดดลงจากโซฟาแล้วเดินสะบัดหางกลับไปหาที่นอนของตัวเองซะแล้ว

"โทษที เผลอไปหน่อย"
ผมเกาท้ายทอยแก้เก้อ ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง หลักฐานคาหนังคาเขาแบบนั้น

"เราล้อเล่นน่า มินมานั่งตรงนี้ทำไม? ไปนอนพักดิ"
ฟองยกผ้าผืนเล็กที่พาดบ่าอยู่ขึ้นมาขยี้ผมที่เปียกลู่ไปมา ... เซ็กซี่ว่ะคนเรา.. จะทำให้ใจผมสั่นไปอีกแค่ไหนกันครับนายจิรัสย์

"มินรออาบน้ำ ไม่สบายตัว"

"เฮ้ย ไม่ได้ๆ อาบน้ำแล้วไข้จะขึ้น ไปนอนไป เดี๋ยวเราเช็ดตัวให้อีกรอบ"
ฟองว่าด้วยน้ำเสียงตกใจก่อนจะดึงข้อมือผมแล้วออกแรงลากให้ผมกลับเข้าห้องนอน ผมไม่ได้สะบัดมือเขาออกแต่อย่างใด เดินตามเป็นลูกหมาเชื่องๆไปซะอย่างนั้น

"จะเช็ดตัวให้อีกแล้วเหรอ? เราเช็ดเองได้"
ไม่เอานะเว้ย มาเช็ดตัวตอนผมมีสติเนี่ย ถ้าเช็ดไปเช็ดมาแล้วผมมีอารมณ์ขึ้นมาล่ะ... ฟองได้เกลียดผมแน่ๆ

"อย่าดื้อดิ แค่เช็ดตัวเอง แปปเดียวก็เสร็จ"
ฟองลากผมมาจนถึงเดียงแล้วปล่อยข้อมือของผมออกก่อนจะใช้มือกดไหล่ผมไม่ให้ลุกไปไหน

"รอตรงนี้ เราไปเอาน้ำกับผ้าก่อน"
คือรวบรัดรวดเร็วจนผมได้แต่อ้าปากพะงาบๆ พูดไม่ออกกันเลยที่เดียว สุดท้ายผมก็ต้องยอมนอนเปลือยท่อนบนให้ฟองเช็ดตัว ผมกัดปากตัวเองอย่างหนักเพราะต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ยุบหนอ พองหนอ... อย่าพองนะเว้ย!!

มือนุ่มๆของฟองกับผ้าเย็นๆลูบไล้ไปตามตัวของผม มีบางจังหวะที่มันโดนจุดกระตุ้นความรู้สึกของผม แต่ผมก็พยายามข่มมันเอาไว้ กว่าจะเช็ดตัวเสร็จเล่นเอาผมกลั้นหายใจจนแทบจะตาย

"นอนกัน"
ฟองบอกผมหลังจากที่เขาเอาผ้ากับกะละมังใส่น้ำไปเก็บ และเอายามาให้ผมกินเรียบร้อย เขาซุกตัวเข้าในผ้าห่มที่ผมห่มอยู่ก่อนแล้วนอนหงายมองเพดาน

"โอเค นอนกันครับ"
ผมตอบออกไปก่อนจะหลับตาลงนอนท่าเดียวกันกับฟอง

"ฝันดี"

"ฝันดีครับฟอง ขอบคุณนะ"
แล้วสติของผมก็ดับวูบไป

ตื่นเช้ามาอีกทีก็เห็นฟองนั่งทำหน้าบึ้งอยู่บนเตียงข้างๆผม สายตาที่มองมาราวกับอยากจะฉีกผมออกเป็นชิ้นๆ... อย่าบอกนะว่าผมละเมอปล้ำฟอง! ไม่จริงใช่ไหม ทำไมผมจำอะไรไม่ได้เลยวะเนี่ย ขอรีเพลย์อีกรอบนะ.. โอ้ย ขวดน้ำลอยมาจากไหน !!

"อรุณสวัสดิ์ครับ"
ผมขยี้ตาก่อนจะลุกขึ้นนั่งบ้าง ฟองยังมองผมอยู่แบบนั้น ผมเริ่มเสียวสันหลังแล้วดิ จำไม่ได้ด้วยว่าผมทำอะไรฟองไปรึเปล่า

"มินแม่ง ทำเรานอนไม่หลับทั้งคืนเลย"
ฟองหน้าบึ้งใส่ผมมากขึ้นไปอีก ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าขอบตาของฟองจะช้ำผิดปกติ คำบอกเล่าของคนตรงหน้าทำให้ลมหายใจของผมสะดุดกึก นี่ผมทำอะไรลงไปวะเนี่ย โอย

"เอ่อ.. มินทำไรไปวะ ขอโทษนะฟอง"
ผมมองฟองด้วยแววตาสำนึกผิด ผิดอะไรก็ไม่รู้ว่ะ แต่ฟองคงไม่แกล้งผมเล่นแน่ๆ ก็เล่นหน้าบึ้ง ตาขวางขนาดนี้

"มินอ่ะดิ พลิกตัวมากอดเราซะแน่น ถ้ากอดธรรมดาเราก็ไม่ว่าไรหรอก นี่กอดแบบรัดแน่นเหมือนงูเลย กว่าจะดิ้นหลุดออกมาได้ แทบแย่"
สายตาตำหนิส่งมาให้ผมอีกระลอก โอย ไม่รู้ตัวอะไรเลย ถ้ารู้ตัวสักนิดผมคงจะฟินไปยันโลกหน้า ได้กอดฟองด้วย

"ขอโทษๆ ตอนนี้ฟองนอนเถอะ เดี๋ยวสายๆเราไปส่งที่บ้านนะ"
ผมขอโทษฟองอีกครั้ง เจ้าตัวเขาก็พยักหน้ารับก่อนจะทิ้งตัวลงนอน

"สิบโมงปลุกเราด้วยนะ"
แล้วเขาก็หลับตาลงปล่อยให้ผมอมยิ้มกับภาพตรงหน้า ผมคิดนะว่า ถ้าได้เห็นฟองเป็นคนแรกยามตื่นนอน ได้เห็นฟองเป็นคนสุดท้ายก่อนเข้านอนแบบนี้ทุกๆวันมันคงมีความสุขดีนะ


♥♥♥♥♥

เม้นท์ติชมให้กำลังใจไรท์หน่อยนะ ~ เขียนไปเขียนมาก็อยากเลี้ยงไซบีเรียนฮัสกี้สักตัว  :mew1:

หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 11 01/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 01-06-2016 09:34:39
หวานเวอร์
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 11 01/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 01-06-2016 11:32:39
มินพลาดเลย อุตส่าห์ได้กอด ^^ น่ารักมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 11 01/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-06-2016 13:46:42
เสียดายได้กอดตอนหลับซะได้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 11 01/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 01-06-2016 19:10:33
โธ่มินอดมีโมเมนต์เลยย
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 11 01/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 01-06-2016 19:54:56
มินนายหึงแม้แต่หมาเลยเรอะ 555555 :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 11 01/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-06-2016 20:37:31
ดูแลดีขนาดนี้ มาเป็นแฟนกันเถอะ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 11 01/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 01-06-2016 23:47:52
ย้อนเวลาไปฟินเอานะมิน หรือจะรออนาคตที่จะได้กอดอีกดีล่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 11 01/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: ssipra ที่ 02-06-2016 10:35:07
น่ารักจังง :impress2:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 12 04/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 04-06-2016 20:21:03
Follow You 12





หลังจากวันนั้นที่ผมไปส่งฟอง ผมก็ได้รู้ว่า 'พี่ฟาง' คือใคร เขาเคยเป็นอดีตเดือนมหาวิทยาลัยของผม และจบไปเมื่อปีที่แล้ว ผมรู้จักเขาครับ แต่ไม่ได้สนิทอะไรกันมากมาย เพราะด้วยความที่พี่ฟางเป็นพี่รหัสสายโคของพี่เฟีย พี่ชายของไอ้โฟร์ทน่ะครับ เราเลยพอเห็นหน้ากันอยู่บ้างตอนที่นัดสังสรรค์กินเหล้า ที่ผมต้องการจะบอกคือ วันนี้เป็นวันเสาร์และผมก็โดนพี่ฟางเรียกตัวมาที่บ้าน ซึ่งมันจะดีถ้าฟองอยู่ด้วย แต่เปล่าเลยครับ ฟองออกไปซื้อของข้างนอก กว่าจะกลับคงเย็นๆ

ผมมาถึงบ้านฟองตอนเที่ยงตรง พี่ฟางออกมาเปิดประตูรั้วให้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ผมยกมือไหว้พี่เขาพอเป็นพิธีแล้วเดินตามเข้าไป ผมยืนมองการตกแต่งบ้านของฟองด้วยความตะลึงเล็กน้อย มันเป็นโทนสีขาว ดำ เทา แบบโมเดิร์น ไม่คิดว่าพ่อแม่ของเขาจะยอมให้ภายในบ้านตกแต่งด้วยสีแบบนี้เลย ท่านคงใจดีน่าดูที่ปล่อยให้ลูกๆออกแบบกันเอง พี่ฟางคงสังเกตว่าผมสนใจการตกแต่งเลยเอ่ยทักขึ้น

"ฟองเป็นคนออกแบบล่ะ ป๊ากับม๊าตามใจฟองจะตาย"
พี่ฟางว่าก่อนจะนั่งลงบนโซฟาใกล้ๆ บนตักของเขามีเจ้าฟูขนปุกปุยหูยาวหนึ่งตัว กำลังทำจมูกฟุดฟิดๆดมไปตามแขนของพี่ฟาง คงเป็นกระต่ายที่ชื่อซันเดย์ ผมนั่งลงไม่ห่างจากพี่ฟางมากนักแล้วมองเจ้าฟู

"เพราะเป็นน้องชายคนเล็กรึเปล่าพี่ ป๊าม๊าพี่เลยตามใจ"
ผมมองหน้าพี่ฟางแล้วพูดออกมา ส่วนพี่ฟางเหลือบมองผมแว้บหนึ่งก่อนจะแกล้งดึงหูไอ้ซันเดย์เล่น ผมสารภาพนะว่าอยากเอาไอ้ฟูมาขยำเล่น คงนุ่มน่าดู

"ประมาณนั้น คิดดีแล้วรึไงมาจีบไอ้น้องฟองเนี่ย"
ผมมองพี่ฟางเล่นกับไอ้ฟูที่ตอนนี้มันงับนิ้วพี่ฟางเล่นเหมือนจะกินเข้าไปทั้งนิ้ว สงสัยมันจะหิว ผมลอบยิ้มออกมาก่อนจะตอบคำถามว่าพี่ของว่าที่แฟน

"คิดดีแล้วดิ ชอบมาตั้งนาน"
พี่ฟางเงยหน้ามองผมแล้วเลิกคิ้วขึ้น ผมพูดไรผิดรึเปล่าวะ

"นานของมึงอ่ะกี่วัน?"
พี่ฟางถามผมเสียงทะเล้นก่อนจะลูบตัวไอ้ซันเดย์อย่างเมามัน พี่พูดงี้ดูถูกผมป่ะเนี่ย นานก็ต้องเป็นเดือนเป็นปีดิวะ เป็นวันมันนานยังไง ไม่ติดว่าเป็นพี่ของฟองนะผมกวนตีนกลับไปแล้ว

"ปีกว่าแล้วพี่"
ผมตอบพลางยักคิ้วประกอบ พี่ฟางมองแล้วเบ้ปากใส่ผมก่อนจะเอาไอ้ซันเดย์มากองไว้บนตักผมหน้าตาเฉย ไอ้ผมที่ไม่เคยเลี้ยงกระต่ายก็ทำท่าเงอะๆงะๆกันมันกระโดดลงจากตัก พี่ฟางมันก็มองแล้วเอาแต่หัวเราะที่ผมทำหน้าเหวอๆ

"ชอบอะไรมันนักหนาวะ?"
พี่ฟางจ้องหน้าผม ผมก็มองพี่เขา พี่ฟางมีเค้าโครงหน้าตาคล้ายๆฟองแต่สีผิวเข้มกว่า ตาโตแถมคมเข้ม ส่วนสูงที่สูงพอๆกับผม ตัวหนาเพราะเล่นกล้าม หล่อครับ หล่อมาก แต่ผมก็หล่อไม่แพ้พี่เขาหรอก และตอนนี้ผมจับไอ้ฟูนอนหงายแล้วใช้นิ้วมือล็อคขาหน้ากับช่วงคอไว้กันมันกระโดดหนี

"โห ถามงี้คือหวงน้องชายใช่ไหม?"
ผมว่าด้วยเสียงล้อๆ ถ้าพี่ฟางจะหวงฟองก็ไม่ผิดนะครับ ก็น้องชายเขาน่ารักขนาดนี้ พอผมเห็นไอ้ฟูก็พาลคิดถึงฟองที่ทำท่าหูกระต่าย.. โคตรน่าฟัด ให้ตายเถอะ ถ้าพี่ฟางรู้ว่าผมคิดเรื่องอกุศลกับน้องชายของเขาอยู่ ผมจะโดนเตะโด่งออกจากบ้านไหมนะ

"หวงมันทำไม ฟองมันก็เป็นผู้ชายนะ"
พี่ฟางว่าด้วยเสียงสบายๆพร้อมกับเอนหลังพิงพนักโซฟา ผมนี่วุ่นวายกับไอ้หระต่ายบนตักมากครับ มันกำลังปีนป่ายออกจากตักผมทั้งๆที่ผมเอามือกั้นไว้

"พี่ฟาง เอาซันเดย์ไปเข้ากรงเหอะพี่"
ผมพยายามอุ้มไอ้ฟูที่ดิ้นพราดๆส่งกลับไปให้พี่ฟาง รายนั้นก็เอาแต่หัวเราแล้วรับตัวกระต่ายน้อยกลับไป

"มึงนี่นะ แทนที่จะทำความรู้จักกับกระต่ายกูเอาไว้"
พี่ฟางว่าขำๆ แล้วจับไอ้ฟูนอนหงายเหมือนที่ผมเคยทำแล้วลูบขนมันเล่น... มันนอนนิ่งเลยครับ ไม่ดื้อไม่ซนด้วย ผมนี่ตาขวางใส่มันเลย ตอนอยู่กับผมนี่ดิ้นเอาๆ เล็บมันข่วนมือข่วนแขนผมจนเป็นรอยแดงไปหมด

"ผมจีบฟองนะพี่ ไม่ได้จีบซันเดย์"

"กูอนุญาตมึงแล้วเหรอ? พูดเต็มปากเต็มคำ"

"อ่าว ผมจีบฟองนะไม่ได้จีบพี่ฟาง

"มึงอย่ากวนตีนไอ้มิน"
ผมสาบานว่าไม่ได้ตั้งใจกวนนะเว้ย เมื่อกี้มันแค่หลุดปาก พี่ฟางเสียงแข็งทำหน้าดุใส่ผมเลยไง ปากพาซวยแท้ๆเลยไอ้ปรมินทร์

"ผมขอโทษๆ อย่าโกรธผมนะ"
ผมว่าเสียงอ่อย ไม่กล้ามองหน้าพี่ฟางอีก แต่เขาก็หัวเราะออกมาเบาๆจนผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองแล้วพบว่าดวงตาคมๆนั่นกำลังฉายแววสนุกสนาน.. ขี้แกล้งกันทั้งบ้านเลยว่ะ

"มึงนี่นะ จะมาเป็นเมียไอ้น้องฟองเหรอ?"
นั่นไงครับ ระเบิดมาอีกลูกแล้ว พี่ฟางแม่ง...กลั้นขำจนไหล่สั่นเมื่อเห็นผมคิ้วขมวดจนแทบจะผูกโบว์ได้ ใครเขาจะไปเป็นเมียฟองกันล่ะครับ อย่างผมนี่ตำแหน่งผัวเด่นชัดมาก อุย ขออภัยในความไม่สุภาพ

"พี่ฟาง... พี่อยากได้น้องสะใภ้อย่างผมเหรอ?
ผมพูดพร้อมกับกระพริบตาปริบๆ ยิ้มกว้างหวานๆให้พี่มัน พี่ฟางถึงกับขยับถอยห่างแล้วเบ้ปากใส่ผม โอย..ขำครับ พี่เขาทำท่าขยะแขยงผมด้วย

"พอเลยไอ้มิน ขนลุก อย่างมึงนะ คำว่าผัวติดอยู่กลางหน้าผากตัวเบอเริ่ม"

"แน่ล่ะครับ หล่อขนาดนี้"
ผมยิ้มกริ่ม ส่วนพี่ฟางถอนหายใจเฮือกใหญ่ อ่าว... ผมผิดตรงไหน

"อย่ามาหลงตัวเองในบ้านกู"
พี่ฟางทำหน้าเอือมใส่ผมแล้วอุ้มไอ้ซันเดย์ไปใส่กรงก่อนจะเดินกลับมานั่งที่เดิม

"หิวข้าวยัง?"
ประโยคคำถามสามัญทั่วไปมาแล้วครับ พี่ฟางโยนขนมปังทาเนยที่หยิบติดมาด้วยให้ผมห่อหนึ่ง อีกห่อพี่เขาแกะกินและคาบไว้ในปากเรียบร้อยแล้ว ผมรับมาแกะแล้วหยิบใส่ปากบ้าง

"หิวครับ พี่จะทำเหรอ?"
ผมเคี้ยวขนมปังไปเรื่อยๆ มืออีกข้างก็ล้วงมือถือออกมากดดูอะไรไปเรื่อย

"ฝัน รอไอ้น้องฟองกลับมาถึงจะได้กิน"
อ้อ... แสดงว่าเปิดโอกาสให้ผมเจอฟองสินะ เป็นพี่ชายที่รักน้องอะไรขนาดนี้ แทบจะจับฟองใส่พานถวายให้ผมเลยมั้ง

"แล้วพี่มีไรกับผม?"

"เรื่องเฟีย"
หื้ม..สั้นๆตรงประเด็น คือเขาไปมีเรื่องกันเหรอหรือยังไงครับ น่าจะเรียกไอ้โฟร์ทมาคุยมากกว่าไหมเนี่ย

"หือ พี่เฟียพี่ของไอ้โฟร์ทเหรอครับ?”

"เออ"

"มีไรเหรอครับ?"

"มึงช่วยกูจีบเฟีย เดี๋ยวกูจะช่วยมึงเรื่องฟอง"
พี่ฟางพูดจบก็ยักคิ้วให้ผม แต่ก่อนที่ผมจะดีใจผมขอตกใจก่อนนะเว้ย พี่ฟางชอบพี่เฟียเนี่ยนะ!! เฮ้ย พี่ฟางเป็นชายแท้ที่คบผู้หญิงมาเยอะนะ แล้วทำไม....

"เดี๋ยวๆๆ ผมหูฟาดป่ะวะ?"
ผมทำหน้างงอย่างสุดซึ้ง ยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแกรกๆ ตอนนี้มันมึนงงไปหมดแล้วครับ

"ให้กูตบบ้องหูให้ไหม?"
อ่า.. ผมนี่รีบส่ายหน้าพรืดเลยครับ ขืนโดนพี่ฟางตบมีหวังหูวิ๊งแน่ๆ

"เกรงใจมากก แต่พี่ชอบพี่เฟียเนี่ยนะ แล้วสาวๆล่ะ?"
พี่ฟางคิ้วกระตุก แต่ก็ไม่ได้ด่าอะไรผมที่ถามออกไปแบบนั้น เขากลับหลับตาลงแล้วพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ

"ผู้หญิงแม่งน่าเบื่อว่ะ เห็นแล้วไม่อยากอยู่ใกล้ แต่กับผู้ชายกูก็ไม่ได้พิศวาสอะไรนะ มีแต่เฟียนี่ล่ะที่ทำให้กูรู้สึกว่าอยากอยู่ใกล้มัน"
พี่ฟางลืมตาขึ้นมาเมื่อพูดจบ มีรอยยิ้มเล็กๆติดอยู่ที่มุมปากหยักได้รูปนั่น ดูเหมือนเขาจะมีความสุขเมื่อคิดถึงพี่เฟีย

"แล้วจะให้ผมช่วยอะไร พี่ก็เป็นพี่รหัสสายโคของพี่เฟียมันอยู่แล้วนี่หว่า"
ผมยกแก้วน้ำขึ้นดื่มแล้วเหลือบมองพี่ฟาง รอเขาตอบคำถามของผม เขาหันมามองหน้าผมแล้วตอบช้าๆชัดๆ

"ไม่ได้สนิทว่ะ ตอนไปเลี้ยงสายโคกูก็เอาแต่เต๊าะสาวๆในสาย ไม่ได้สนใจมันเท่าไหร่ แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่กูโดนเชิญให้ไปเป็นวิทยากรพิเศษที่คณะวิศวะ กูเจอมัน... กูแทบละสายตาจากมันไม่ได้ หน้ามันสวยขึ้นป่ะวะ"
พี่ฟางแลบลิ้นเลียปากตัวเองเบาๆ ผมเหล่มองเขาก่อนจะยกยิ้มมุมปาก.. ไอ้พี่ฟางนี่สายเดียวกันกับผมแน่ๆ สายหื่น

"ก็ว่างั้นครับ พี่เฟียเหมือนจะสวยขึ้น ขาวขึ้น"
พี่ฟางหันขวับมาหาผม สายตาคมจ้องเขม็ง... เดี๋ยวนะ ! ผมไม่ได้คิดอกุศลอะไรกับพี่เฟียนะเว้ย

"มึงแอบเหล่ไอ้เฟียเหรอ?"
พี่ฟางถามผมเสียงแข็ง ผมรีบโบกมือไปมาอย่างตกใจ

"เปล่าเว้ย ผมเหล่ฟองคนเดียวนะ"
ผมยืนยันเสียงหนักแน่น ไม่เคยสนใจใครคนอื่นจริงๆเลยเถอะ แล้วอีกอย่าง ผมไม่ได้เป็นเกย์เว้ย ในบรรดาผู้ชายผมก็ชอบฟองคนเดียวล่ะวะ

"เออ มีเบอร์โทรกับไลน์เฟียป่ะ?"

"ต้องถามไอ้โฟร์ทนะพี่ ผมไม่มี"

"งั้นมึงถามมันเดี๋ยวนี้"
พี่ฟางออกคำสั่ง ผมเลยรีบกดแอพไลน์บนมือถือทันที นิ้วเรียวพิมพ์ข้อความหาเพื่อนสนิทอย่างรวดเร็วภายใต้สายตาดุๆที่มองมาอย่างกดดัน ผมเหลือบมองพี่ฟางนิดหน่อยก่อนจะก้มหน้าก้มตาพิมพ์ตอบโต้ไอ้โฟร์ทที่ตอบกลับมาราวติดจรวด

ไม่นานนัก สิ่งที่ต้องการก็มาอยู่ในหน้าจอบทสนทนาระหว่างผมกับไอ้โฟร์ท ผมแชร์มันต่อให้กับพี่ฟาง ผมกับพี่ฟางเพิ่งแลกไลน์กันเมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่พี่เขาได้รู้ว่าผมจีบฟอง พอฟองถามว่าจะเอาไลน์ผมไปทำไม พี่ฟางกลับตอบหน้าตาเฉยว่า เอาไว้เช็คความประพฤติของน้องชายว่าแรดหรืออ่อยเกินงามรึเปล่า ฟองได้ยินแบบนั้นเลยจัดการต่อยท้องพี่ฟางไป เล่นเอาพี่มันจุกแล้วร้องโอดโอยอยู่นาน... สมควรอ่ะครับ จากใจผมเลย

พี่ฟางยิ้มกริ่มเมื่อได้สิ่งที่ต้องการ แต่ก่อนที่ผมจะได้ถามอะไรออกไป เสียงรถยนต์ก็จอดสนิทลงที่หน้าบ้านพร้อมกับฟองที่เดินเข้ามาถือของพะรุงพะรัง ผมรีบลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปหาเจ้าตัวทันที ฟองตกใจที่เห็นผมแต่ก็ยอมให้ผมช่วยถือของ

"มาได้ไงเนี่ย"
ฟองถามขณะที่ผมรับถุงมาจากฟอง ผมยิ้มให้เขาแล้วตอบไป

"พี่ฟางให้มาหาน่ะ"
ผมหันไปทองพี่ฟางเพื่อหาคำยืนยัน ซึ่งเขาก็มองมาทางนี้แล้วพยักหน้าหงึกหงักด้วยรอยยิ้มกว้างแล้วหันกลับไปกดมือถือยิกๆ... เดาว่าคงได้ต่อบทสนทนากับพี่เฟียแล้วแน่ๆ

"ทำไมพี่ฟางดูอารมณ์ดีกว่าปกติ?"
ฟองหันมาเลิกคิ้วถามผม ผมทำแค่ยักไหล่ให้ ไม่รู้จะตอบยังไงนี่ครับ รอให้พี่น้องเขาคุยกันเองจะดีกว่า

"มีความลับเหรอไง?"
ฟองยู่ปากใส่ผมแล้วเดินนำเข้าไปในครัว ผมแอบยิ้มกับความน่ารักนั่นแล้วเดินตามเข้าไปบ้าง จริงๆพี่ฟางบอกว่าฟองจะกลับเย็นๆ แต่กลับมาตอนบ่ายกว่าๆผมก็แปลกใจเหมือนกัน สงสัยว่าผมโดนแกล้งอีกตามเคยล่ะครับ

"มินไม่มีความลับหรอกน่า ฟองไว้ใจได้"
ผมพูดขณะที่ช่วยเข้าของออกจากถุง ฟองเหลือบมองผมก่อนจะพึมพำอะไรออกมา... เอาเป็นว่าผมได้ยินชัดเจน

"พอมินมาพี่ฟางก็อารมณ์ดี หมายความว่าไงวะ แอบจีบพี่ฟางเหรอ?"
ฟองมองผม มือที่จับหัวกะหล่ำปลีค้างอยู่แบบนั้น ใบหน้าหล่อๆของฟองตอนนี้มันบึ้งจนไม่รู้จะบึ้งยังไง แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าเขาน่ารักอยู่ดี แต่ผมกลับขำก๊ากออกมาซะอย่างนั้น คิดได้ไงว่าผมมาจีบพี่ฟางวะเนี่ย

"หึงเหรอครับ?"
ผมถามด้วยเสียงนุ่มแล้วยื่นหน้าไปใกล้เขา ฟองย่นจมูกใส่ผมแล้วเอากะหล่ำปลีในมีดันหน้าผมออกไปห่างๆ เห้ย สกปรกนะเนี่ย ผมถอยหลังหลบแล้วมองฟองด้วยใบหน้าเหวอๆ

"หึงบ้าไร หลงตัวเองชะมัด"
ปากว่าผมนะแต่แก้มขาวๆใสๆนั่นเริ่มแดงระเรื่ออีกแล้ว จะน่าฟัดไปถึงไหนกันครับคุณจิรัสย์ ฟองหยิบของอย่างอื่นออกจากถุงต่อโดนไม่ยอมมองหน้าผมอีก สรุปว่าเขินจริงๆสินะ

"ไม่อยากหลงตัวเองครับ อยากให้ฟองหลงมินมากกว่า"
ผมยิ้มกรุ้มกริ่ม ฟองถึงกับหยุดรื้อของแล้วเงยหน้ามาถลึงตามองผมอย่างเอาเป็นเอาตาย แก้มแดงแปร๊ดเข้าไปอีกครับคนเรา โอย ผมนี่ใจเต้นแรงจนมันจะออกมาแด๊นซ์ออกสเต็ปข้างนอกอยู่แล้ว

"ไปไกลๆ จะทำอาหาร!"
ฟองตะโกนไล่ผมแล้วหันหลังใส่ทันที ผมได้แต่ยืนมองด้านหลังของเขาแล้วแอบยิ้ม ทำโมโหกลบเกลื่อนความเขินสิน้า น่ารักเป็นบ้าเลย แต่ที่ผมมายืนตรงนี้ไม่ได้จะมากวนประสาทอะไรเขานะ แต่จะมาช่วยทำอาหารต่างหาก

"เดี๋ยวมินช่วย"

"ไม่ต้องเลย เป็นแขกก็ไปนั่งไป"
ฟองก้มหน้าก้มตาล้างผักจัดเตรียมของสำหรับทำอาหารไปเรื่อย ผมขยับออกมายืนห่างๆไม่เกะกะคนตัวเล็กกว่า

"อยากช่วยนี่"
ผมย้ำจุดประสงค์เดิม แต่ฟองหันมามองผมตาขวาง อูย.. กลัวแล้วจ้า ดุจริงๆเลยวุ้ย

"อย่าดื้อ เดี๋ยวไล่กลับบ้านซะนี่"

"โอเคๆ ไปนั่งแล้วครับๆ"
ผมรีบออกมาจากห้องครัวแต่ก็ไม่วายมองไปที่เขา เดินออกมาเกือบจะชนกับพี่ฟางแหนะ แล้วพี่แกมายืนเก๊กหล่ออะไรที่หน้าประตูครัวล่ะวะ

"โอยพี่ เกือบจูบกันแล้วไหม?"
ผมผงะถอยหลังตอนที่หันมาเจอหน้าพี่ฟางห่างออกไปไม่ถึงสิบเซนติเมตร อีกฝั่งก็ตกใจเหมือนกันล่ะ มองผมตาถลนเชียว

"เก็บปากไว้จูบไอ้น้องฟองเหอะ กูรังเกียจมึง"
พี่ฟางทำหน้าขยะแขยงใส่ผม นั่นทำให้ผมหัวเราะเบาๆ แต่เราทั้งคู่ก็ต้องกลั้นหายใจเมื่อมีเสียงของคนโดนพากพิงดังขึ้นมา

"เงียบไปพี่ฟาง ไม่งั้นฟองจะเอาไอ้ซันเดย์มาทำกระต่ายทอด!"
ฟองถลึงตาใส่พี่ฟาง ส่วนพี่ฟางเบิกตาโตขึ้นไปอีกแล้วโวยวายเสียงดังลั่น

"ลูกพี่นะเว้ย ห้ามทำร้ายเด้ ไอ้มินมึงรับผิดชอบง้อฟองไปเลย"
พี่ฟางว่าจบก็เดินหนีออกไปเลย แล้วอะไรคือให้ผมง้อฟองแทน? คือผมไม่ใช่พี่นะเว้ย แล้วผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดด้วยจะให้ง้อยังไงล่ะวะ.. ผมยืนดูเชิงอยู่สักพัก ฟองกลับไปทำอาหารแล้ว ผมก็เลยสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะก้าวเท้ากลับเข้าครัวไปใหม่ แต่ผมเดินไปได้แค่สองก้าวฟองก็พูดออกมา

"ไม่ต้งง้อ เราไม่ได้งอนมิน ไปนั่งรอเหอะ เดี๋ยวอาหารเสร็จจะเรียก"
ฟองพูดจบก็หันมายิ้มให้ผมแม้เพียงเสี้ยววินาทีแต่มันทำให้ผมหัวใจพองโตอย่างไม่น่าเชื่อ.. ฟองน่ารักเสมอในความคิดของผม เขามีเหตุผลกับสิ่งที่ทำเสมอนะ

"รับทราบครับผม!"
ผมทำท่าตะเบะแบบทหารจนฟองหลุดขำออกมา นี่คือสิ่งที่ผมภูมิใจนะ..ผมทำให้ฟองยิ้มได้ เราหัวเราะด้วยกันก่อนจะแยกย้ายกันไป ผมกลับไปนั่งข้างพี่ฟางที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับมือถือ มีความสุขจริงๆเลยวุ้ย

"พี่ฟางคุยกับพี่เฟียเหรอ?
ผมถามเพราะความอยากรู้ล้วนๆครับ เห็นพี่แกยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งแล้วต่อมเผือกมันทำงาน

"ไม่เสือกสิครับน้องเขย"
มาแต่เสียงครับ ความสนใจอยู่ที่หน้าจอมือถือล้วนๆ แต่คำว่าน้องเขยนี่หยุดความเสือกผมลงได้ทันตาเห็น โอยๆ พี่ชายว่าที่แฟนยอมรับเป็นน้องเขนแล้ววุ้ย

"โอเคครับคุณพี่"
ผมยิ้มกว้างจนพี่ฟางหมั่นไส้เอื้อมมือมาโบกหัวผม โห... โหดชิบหาย เดี๋ยวฉี่แตกพอดี

"อย่ายิ้มให้มาก ความหล่อมึงทำให้กูหมั่นไส้"
ความอิจฉาก็มาครับ ณ จุดๆนี้ ผมได้แต่ยิ้มกว้างเหมือนเดิม โดนหาว่ากวนตีนแน่ๆแบบไม่ต้องสงสัยเลยครับ

"กินตีนกูป่ะ กวนตีนว่ะ"
นั่นไงครับ คิดอะไรไม่เคยผิด พี่ฟางจ้องหน้าผมนิ่ง คือผมแค่ยิ้ม..ไม่ได้คิดจะกวนตีนนี่หว่า

"ขอกินฟองแทนได้ไหมพี่?"
ผมกระซิบเสียงเบาจนไอ้พี่ฟางมันแสยะยิ้ม... ผมก็พูดอะไรไม่กลัวตีนพี่ชายเขาเลยเนอะ กล้าหาญเกินไปแล้วปรมินทร์

"รอกูได้กินเฟียก่อนนะครับ"
พี่ฟางยิ้มกริ่ม แทนที่มันจะโมโหผมเนอะ ไม่หวงน้องเลยดิ... พี่ประเภทไหนวะเนี่ย

"เมื่อไหร่ครับพี่ ผมไม่รอจนแก่รึไงวะ"
ผมเบ้ปาก แต่พี่ฟางเอามือมาผลักหัวผมแถมยังยิ้มมั่นใจเข้าไปอีก

"มึงไม่ต้องกลัวเลยไอ้มิน กูไม่ช้าหรอก ไว้ใจได้ ไม่เกินสามเดือนกูได้ไอ้เฟียเป็นเมียแน่ ว่าแต่มึงเหอะ ไอ้น้องฟองมันเรื่องมากนะเว้ย จีบมันมึงต้องอดทน"
พี่ฟางเอื้อมมือมาตบบ่าผมให้กำลังใจ ผมพยักหน้ารับแล้วขอบคุณไปเบาๆ เรื่องนี้ผมก็พอรู้มาบ้างล่ะครับ ก็เป็นเดือนคณะยังไงโสดมาได้สองสามปีแบบนี้ ทั้งๆที่มีคนเข้าหาเยอะแยะไปหมด แต่ก่อนที่จะได้ดราม่ากันต่อเสียงฟองก็ดังมาจากในครัว

"อาหารเสร็จแล้วครับ"
เสียงใสๆเรียกพวกผมให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน ผมกับพี่ฟางเดินเข้าไปในครัวพร้อมกับช่วยยกอาหารไปจัดบนโต๊ะ พี่ฟางนั่งหัวโต๊ะ ผมกับฟองนั่งตรงข้ามกัน ช่วยกันจัดการอาหารตรงหน้า

"ป๊ากับม๊าจะกลับมาตอนไหน?"
หลังจากที่กินเสร็จ ฟองก็ถามพี่ฟางที่กำลังตักขนมหวานใส่ปาก.. มันคือกล้วยบวชชีที่แม่บ้านทำเอาไว้เมื่อเช้า ซึ่งผมไม่ชอบกินครับ

"อีกครึ่งชั่วโมงคงถึงบ้าน"
พี่ฟางตอบหลังจากกินกล้วยบวชชีชิ้นสุดท้ายเสร็จ ฟองพยักหน้ารับรู้ ส่วนผมก็คงถึงเวลาต้องขอตัวกลับแล้ว เพราะเวลาครอบครัวของเขากำลังจะมาถึง

"เอ่อ งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ"
ผมทำท่าจะลุก แต่พี่ฟางเอามือกดไหล่ผมให้นั่งลงที่เดิมต่อ ฟองกับผมมองหน้าพี่ฟางด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนที่แก่กว่าต้องการอะไร

"รอเจอป๊ากับม๊าก่อน"
พี่ฟางพูดด้วยเสียงสบายๆ แต่ผมกับฟองนี่อ้าปากค้างแล้วตะโกนพร้อมกัน

"เฮ้ย!!"

"ไม่เฮ้ย ห้ามกลับนะมึง ฟองไปล้างจานไป"
พี่ฟางรวบรัดเรียบร้อยก็ลากผมออกไปจากโต๊ะ ปล่อยให้ฟองมองมาที่ผมด้วยสีหน้ากังวลว่าพี่ชายของตัวเองกำลังเล่นอะไรอยู่ ส่วนผมก็ทำได้เพียงเดินตามแรงลากของพี่ฟางไปอย่างยากที่จะขัดขืน ให้ตายเถอะครับ ผมควรทำตัวยังไงดีวะเนี่ย นายปรมินทร์แย่แล้ว


♥♥♥♥♥


ฝากติชมด้วยน้า
ตอนนี้เฉลยแล้วนะว่าฟางมีเป้าหมายคือใคร ♥  :o8:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 12 (P.2) 04/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 04-06-2016 21:45:07
ดูท่าเรื่องนี้จะมี 4 คู่ได้ไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 12 (P.2) 04/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 07-06-2016 03:46:57
เรื่องนี้ท่าจะมีหลายคู่ *__*
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 12 (P.2) 04/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 07-06-2016 08:29:23
เอาแล้วๆ มิน จะเจออารายย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 12 (P.2) 04/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 07-06-2016 09:10:40
นายมินโดนซะแล้ว พี่ฟางอย่างฮาอ่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 12 (P.2) 04/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: Fahsaizzz ที่ 07-06-2016 14:33:51
มิน ฟองน่ารักกกกกกก
รอมินกินฟอง อิอิ #ทีมมินหื่น
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 12 (P.2) 04/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 08-06-2016 14:37:35
มิน ต่อไปนายคงจะได้อยู่สมาคมคนเกลียมัวแล้วนะ555
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 13 (P.2) 12/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 12-06-2016 13:39:18
Follow You 13



ผมนั่งสงบเสงี่ยมอยู่นานนับสองชั่วโมงไม่ได้กระดิกตัวไปไหนเลยนอกจากเดินไปเข้าห้องน้ำ ผมนั่งอยู่บนโซฟา ส่วนพี่ฟางนั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากผมนักตาเขาเอาแต่จ้องหน้าจอมือถือบางครั้งก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่บางครั้งก็ขวดคิ้วแน่น ส่วนฟองนั่งอยู่บนพื้นหน้าทีวี ตากำลังจับจ้องเกมไฟนอลแฟนตาซี มือสวยๆนั่นกดจอยเกมอย่างเมามัน ผมอยากไปเล่นด้วยนะแต่กลัวเล่นไปแล้วจะเป็นตัวถ่วงฟองเลยเลือกจะนั่งดูอยู่เงียบๆดีกว่า

ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมงคนที่นั่งบนพื้นก็วางจอยเกมลงพร้อมกับยืนแขนบิดขี้เกียจไปมาแล้วหันหน้ามามองผมแล้วกระพริบตาปริบๆ

"นั่งเงียบเลยนะ นึกว่าหลับไปแล้ว"
ผมยักไหล่แล้วยิ้มให้คนตรงหน้าแล้วขยับตัวบิดไล่ความเมื่อยบ้างก่อนจะตอบฟองด้วยเสียงสบายๆ

"ก็เห็นตั้งใจเล่นเกมเลยไม่อยากขัด"
ฟองมองผมก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ มันน่าขำตรงไหนวะ นี่มันความเกรงใจของผมนะ ผมเลิกคิ้วก่อนจะยกมือขึ้นลูบท้ายทอยไปมา

"ทำตัวน่ารักเกินไป"
ฟองพึมพำเบาๆแต่ผมกลับได้ยินชัดเจน เพราะตอนนี้ทั้งบ้านเงียบสงบ พี่ฟางนอนเหยียดยาวบนโซฟาอีกตัวเรียบร้อยแล้ว

"น่ารักก็รักดิ"
ผมยักคิ้วให้ฟอง เจ้าตัวเบะปากมองบนแล้วหันหน้ากลับไปสนใจเกมต่อ ผมเห็นตัวละครเกมแล้วนึกหมั่นไส้ มันจะหล่อไปไหนวะนั่น

"ใครเขาจะใจง่ายขนาดนั้น"
ฟองว่าลอยๆ ผมได้ยินแบบนั้นก็เผลอคิ้วกระตุกขึ้นมา คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอัตโนมัติ ใครเขาคิดว่าฟองใจง่ายเล่าครับ คิดเองเออเองไปไหนเนี่ยว่าที่แฟนผม

"ถ้าใจง่ายกับมิน มินก็โอเคนะ"
ผมยิ้มกริ่มแล้วนั่งมองท้ายทอยของฟางอย่างกับคนบ้า แค่มองท้ายทอยเขายังมีความสุข ดูท่าทางตัวเองน่าจะอาการหนักซะแล้ว

"นั่งเงียบๆแบบเดิมไปเหอะ"
เสียงฟองสะบัดเล็กน้อย อาจจะเพราะเขินหรือเบื่อมุขของผมก็เป็นได้ แต่คราวนี้ผมหลุดยิ้มกว้างซะอย่างนั้น แล้วไอ้คนที่ผมคิดว่าหลับไปแล้วก็พูดขึ้นมา

"จะจีบกันอะไรนักหนาครับ เกรงใจบุคคลที่สามอย่างผมบ้าง"
พี่ฟางหลี่ตามองผมสลับกับมองท้ายทอยฟอง ผมทำเป็นเมินคำพูดนั้นด้วบการหยิบมือถือขึ้นมาเล่นบ้าง ถ้าพูดอะไรไม่เข้าหูเขาออกไปเดี๋ยวผมจะเจอถีบ เพราะนั่งอยู่ปลายเท้าพี่มัยพอดี

"ตอนพี่จีบสาวก็ไม่เห็นจะเกรงใจใครนี่"
ปากฟองพูดครับแต่ตากลับจ้องไอ้พระเอกเกมเขม็ง ถ้าผมจะเริ่มหึงฟองเพราะพระเอกเกมไฟนอลแฟนตาซีจะผิดไหม? อย่าเพิ่งด่าผมกันนะ ให้ผมด่าตัวเองเถอะว่างี่เง่า ประโยคที่ฟองพูดออกมานี่ผมแอบกดไลค์ในใจแบบรัวๆเลยล่ะ ไม่กล้าแสดงท่าทางออกมา เดี๋ยวพี่ฟางเขาจะกริ้ว

"ไม่ทันไรเข้าข้างไอ้มินแล้วรึไงไอ้น้องฟอง"
พี่ฟางหันมาจ้องหน้าผมเขม็ง ผมได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ อ้าปากพูดแบบไร้เสียงว่า 'ผมไม่รู้เรื่อง' พี่ฟางจิ๊ปากอย่างขัดใจ ผมได้แต่แอบขำในใจ ฟองน่ารักอีกแล้วว่ะ

"ใครเข้าข้าง ผมพูดความจริง"

"เหอะ ไม่ใช่ว่าชอบไอ้มินไปแล้วรึไง"
พี่ฟางวางมือถือลงแล้วยกแขนกอดอกตัวเอง แผ่นหลังเอนพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางสบายๆ ดวงตาคมหลี่มองน้องชายตัวเองที่ยังคงสนใจเกมมากกว่าสิ่งไหนๆ และแล้วก็เกิดความเงียบชั่วขณะ ผมนั่งลุ้นคำตอบ แต่ฟองกำลังฟาดฟันบอสในเกมอยู่

"หา พี่ฟางว่าอะไรนะ? เมื่อกี้ฟองตีบอสเพลิน"
ฟองหันมามองพี่ฟางที่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ มือโตๆเอื้อมไปขยี้ผมน้องจนหัวยุ่งไปหมด ฟองหลับตาปี๋แล้วปัดมือพี่ชายออก

"พี่ฟางทำผมเสียทรงอ่ะ"
ปากบางยู่เข้าหากันก่อนจะใช้มือตัวเองจัดทรงผม น่ารัก โคตรน่ารัก ฟองตอนงอแงผมไม่อยากให้ใครได้เห็นแบบนี้เลย

"ฟอง...คนมันจะหล่อทรงไหนมันก็หล่อว่ะ"
พี่ฟางยักคิ้วก่อนจะแกล้งเอื้อมมือไปขยี้หัวฟองอีกครั้ง แต่รอบนี้ฟองหลบได้ซะอย่างนั้น พี่ฟางเลยทำได้แค่หัวเราะร่วน

"พอเลยพี่ ขี้เกียจจัดทรงแล้ว"
ฟองลุกขึ้นยืนเต็มความสูงบิดตัวไล่ความเมื่อยขบสักพักแล้วรีบวิ่งออกไปหน้าบ้านเพราะได้ยินเสียงรถยนต์ดังเข้ามา... เดาไม่ผิดพ่อแม่ของฟองคงกลับมาแล้ว ปรมินทร์กำลังจะบ้าตาย จีบได้ไม่เท่าไหร่ต้องเจอพ่อแม่ของเขาแล้วเหรอวะ

"ป่ะลุก ป๊ากับม๊ากลับมาแล้ว"
พี่ฟางหันมาชวนผมแล้วลุกขึ้นเดินไปทางหน้าบ้านอีกคน ผมรีบพยักหน้าแล้วลุกตามไปอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าพี่ฟางให้ผมอยู่รอเจอพ่อแม่ของเขาทำไม... คิดแล้วก็ยังกังวลอยู่ดี ถึงบรรยากาศมันจะไม่ได้ตึงเครียดอะไรก็เถอะ

ตอนนี้พวกเรากลับมานั่งที่โซฟาในห้องรับแขกแล้ว พี่ฟางกับฟองนั่งประกบพ่อกับแม่ ส่วนผมนั่งโซฟาแยกข้างๆฟอง พ่อของฟองเป็นคนสูง ดูอบอุ่น ภูมิฐาน หล่อเหลา ส่วนแม่เป็นคนสวย ตัวเล็ก ตาชั้นเดียว.. ดูออกเลยครับว่าแม่ฟองนี่ล่ะมีเชื้สายจีนแน่ๆ พวกท่านใจดีครับ ตอนผมแนะนำตัวว่าเป็นเพื่อนกับฟองเขาก็ยิ้มแย้มรับเป็นอย่างดี

"ฟอง ตัดสินใจเรื่องนั้นรึยัง?"
อยู่ๆพี่ฟางก็ถามขึ้นมา ผมที่เป็นคนนอกทำได้แค่ฟังไปเงียบๆ ความสงสัยผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ด.. ฟองต้องตัดสินใจเรื่องอะไรวะ?

"นั่นสิลูกฟอง ตัดสินใจรึยังคะ?"
แม่ของฟองถามขึ้นอีกคน ส่วนพ่อแค่พยักหน้าตามแม่เบาๆ

"ผมไม่อยากไปอยู่คอนโดคนเดียว อยู่บ้านก็ดีอยู่แล้วนะม๊า"
ฟองตอบออกมา สายตาที่เขามองไปยังครอบครัวมันช่างอ่อนโยนเหลือเกิน แล้วไอ้ความอ้อนที่แฝงอยู่นั่นมันคืออะไร ไม่อยากไปอยู่คอนโดขนาดนั้นเชียว แต่ว่า..ทำไมฟองต้องไปอยูคอนโดวะ

"แต่ฟองเรียนหนักนะลูก ย้ายไปอยูใกล้มหา'ลัยจะดีกว่า สะดวกดี"
คราวนี้พ่อของฟองออกความคิดเห็นบ้าง ฟองมองหน้าพ่อพร้อมกับเบะปากลงน้อยๆให้พอน่ารัก

"แต่มันเหงานี่ ยอมตื่นเช้าแล้วอยู่บ้านดีกว่า"
เสียงติดจะงอแงดังขึ้น คนเป็นพ่อยิ้มอ่อนโยนก่อนจะเอื้อมมือมาลูบผมฟองเบาๆ ผมสรุปในใจได้ว่าครอบครัวนี้โคตรอบอุ่น

"งอแงนะเจ้าลูกชาย"
แม่ฟองพูดพร้อมกับยิ้มละมุนให้

"เปล่าซะหน่อยม๊า"

"นี่ไง ก็ไปอยู่กับไอ้มินดิวะ สบายๆ มีเพื่อนด้วย"
อยู่ๆพี่ฟางก็พูดขึ้นมา ผมได้แต่เบิกตาด้วยความตกใจ เดี๋ยวนะ อะไรนะ จะให้ฟองไปอยู่กับผมเนี่ยนะ ไม่มีบอกกล่าวล่วงหน้าเลยรึไงวะ เฮ้ย ไม่ให้ตั้งตัวเลยเหรอ บ้าไปแล้วไอ้พี่ฟาง! ฟองนี่ตกใจไม่แพ้ผมเลยครับ เขามองพี่ฟางแล้วอ้าปากค้างไปเลย

"นั่นสิ มินอยู่คอนโดใกล้ๆมหา'ลัยใช่ไหม ลูกสะดวกให้ฟองอยู่ด้วยรึเปล่า? ม๊าจะหาห้องให้ฟองอยู่คนเดียวฟองก็ไม่ยอม"
แม่ฟองงพูดเสียงเครียดๆ พวกท่านคงเป็นห่วงฟองกันมากล่ะมั้ง เพราะตั้งแต่ขึ้นปีสามมาเนี่ย ไม่เรียนเช้าก็มีส่งงานเช้าตลอด งานที่ให้ทำแต่ละครั้งมันก็ต้องทำแบบหามรุ่งหามค่ำซะส่วนมาก

ผมเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมพี่ฟางให้ผมรออยู่พบพ่อแม่.. จะมีพี่ชายที่ไหนถวายน้องชายให้คนอื่นแบบนี้บ้างวะเนี่ย หวงฟองบ้างก็ได้ครับพี่ ผมนี่น้อยใจแทนเลย แต่จริงๆคือโคตรดีใจแล้วตอบตกลงแบบรัวๆ แต่กลัวว่าฟองจะด่าผมซะก่อนเลยต้องเก็บอาการไว้

"ม๊าอ่ะ มันรบกวนมินเขานะ"
ฟองหันไปพูดกับแม่ แววตาของฟองมีความขี้เกรงใจติดอยู่จริงๆด้วย แต่ผมไม่อยากให้ฟองเกรงใจเลยเถอะ

"ไม่รบกวนครับ ผมก็อยู่คนเดียวเหมือนกันมีเพื่อนมาอยู่ด้วยคงดี"
ใครเขาจะปล่อยโอกาสดีๆให้หลุดมือไป ต้องทำให้ฟองยอมย้ายมาอยู่กับผมให้ได้

"เห็นไหม มีเพื่อนอยู่ด้วยแล้ว อย่าทำให้ป๊ากับม๊าเป็นห่วงดิ"
พี่ฟางช่วยเสริมอีกแรงแล้วหันมายักคิ้วให้... จบงานนี้ผมคงต้องหาอะไรมาเซ่นพี่ฟางยกใหญ่แล้ว

"นั่นสิลูก พักผ่อนไม่พอ ขับรถคับราไกลๆมันอันตรายนะ"
แม่ฟองช่วยพูดอีกแรง นี่ถ้าเขารู้ว่าผมคิดอกุศลกับลูกเขาจะพูดแบบนี้อยู่อีกไหมนะ

"ไม่มีห้องให้ฟองนอนอ่ะดิ ห้องนอนเล็กไอ้เบนซินยึดไปแล้ว"
ปากบางพึมพำเบาๆก่อนจะเหล่สายตามามองผม ก็นอนห้องผมสิครับคุณจะไปยากอะไร๊ จริงไหม?

"เบนซินคือ? เคยไปห้องมินแล้วเหรอ?"
ผมว่าแล้วว่าทุกคนต้องสงสัยว่าไอ้เบนซินเนี่ยมันคือใครหรือตัวอะไร ผมกำลังจะอ้าปากตอบแทนแต่ฟองเขาก็ชิงตอบของเขาก่อน

"ก็เคยไปส่งมิน.. เบนซินคือน้องหมาไซบีเรียนฮัสกี้ครับ"
ตาฟองเป็นประกายขึ้นมาเมื่อพูดถึงไอ้เบนซิน... คงรักกันมาสินะ หึงฟองกับหมาอีกแล้วไหมล่ะกู

"อ้าว ฟองชอบหมาพันธุ์นี้มากเลยนี่"
พ่อของฟองร้องเสียงดังเลยครับคราวนี้  ฟองก็พยักหน้าหงึกๆพร้อมยิ้มกว้าง

"เบนซินน่ารักมากครับป๊า ชอบมาอ้อนฟองด้วย"

"งั้นก็อยู่ร่วมกันได้ไม่มีปัญหา"
พี่ฟางเขาว่ามาแบบนั้น

"ฟองไม่มีห้องนอน"

"นอนห้องไอ้มิน"

"ได้ไงกัน รบกวนมินไปอีก"
ศึกระหว่างพี่น้องกำลังเกิดและผม...เสือกเป็นคนหยุดสงคราม เฮือก

"ได้ครับ เตียงคิงไซต์"
หืม... ตะครุบปากตัวเองแทบไม่ทันเลยครับ เผลอพูดออกไปหน้าตาเฉยเลย โอ้ย ฟองมองแรงมาทางผมด้วยอ่ะ

"โอเค ตกลงตามนั้นเนอะ เดี๋ยวป๊ากับม๊าจะจ่ายเงินให้มินเป็นค่สเช่าห้องด้วย"

"ไม่ต้องครับๆ ถือว่าฟองไปนอนเป็นเพื่อนผมดีกว่า"
แค่ฟองมาอยู่ด้วย เรื่องเงินอะไรไม่สำคัญแล้วครับ นี่ถือว่าพ่อกับแม่จ่ายเงินค่าความเป็นอยู่ลูกชายให้ผมพร้อมกับผมได้กำไรมหาศาลเลยนะ

"ใจดีจังเลยนะไอ้มิน"
พี่ฟางเบ้ปากใส่ผม ผมยิ้มกว้างให้เขาไป มีความสุขครับ ลูกกวางจะเข้ามาอยู่ในถ้ำเสือแล้ว

"มิน.. นี่ก็เย็นแล้ว เดี๋ยวอยู่ทานข้าวเย็นกับป๊าม๊านะ ค้างที่นี่เลยด้วยก็ดี พรุ่งนี้จะได้ช่วยๆกันขนของฟองไปคอนโด"
โอ้โห... แบบนี้ใครไม่ตกลงก็แย่แล้วว่ะครับ ทั้งกินข้าว นอนค้าง แถมฟองจะย้ายเข้าคอนโดผมพรุ่งนี้อีก กำไรแล้วกำไรอีก ไม่เห็นความขาดทุนเลยสักนิด

"ป๊า ! ย้ายพรุ่งนี้เลยเหรอ มันเร็วเกินไป"
ฟองเสียงดังเลยครับ แขนเล็กๆนั่นรวบกอดเอวพ่ออย่างออดอ้อนทันที

"ทำตัวเป็นเด็กน้อย ไม่อายมินบ้างรึไง แล้วเราจะย้ายตอนไหนล่ะ พรุ่งนี้ดีแล้ว ไปช่วยม๊าทำกับข้าวได้แล้ว"
พ่อฟองว่าก่อนจะดีดเหม่งลูกชายไปหนึ่งที ไอ้พี่ฟางหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเดินไปขยี้หัวน้องแล้วเดินหายเข้าไปในครัว

"ก็ได้ๆ แล้วจะให้มินนอนที่ไหนอ่ะคืนนี้?"
ฟองปล่อยเอวพ่อแล้วกลับมายืนตรงพร้อมกับหันมามองหน้าผม

"นอนห้องลูกไง"

"อ่า... ไปทำกับข้าวดีกว่า"
ฟองพูดแล้วรีบเดินหายเข้าครัวไปอีกคน ก่อนจะไปผมเห็นนะว่าแก้มขาวๆนั่นซับสีชมพูจางๆไว้ด้วย... ผมอยากจะเดินตามไปแล้วดึงเขินคงช่างเขินเขามาฟัดแก้มแรงๆสักครั้ง น่ารักเป็นบ้า ต้องให้หลงไปอีกมากแค่ไหนนะคนเรา หลังจากผมวุ่นวายอยู่กับความคิดของตัวเอง พ่อฟองก็ขอตัวไปอาบน้ำแล้วบอกให้ผมกลับไปนั่งรอเฉยๆเหมือนเดิม ผมก็พยักหน้ารับแล้วกลับไปนั่งรอ


ตอนนี้ผมกับฟองอยู่บนห้องนอนแล้วครับ เรานั่งอยู่ข้างๆกัน ผมยืมเสื้อผ้าของพี่ฟางมาใส่... จะยืมฟองก็เกรงใจครับเพราะเสื้อผ้าฟองตัวเล็กกว่าของผม ห้องของฟองตกแต่งด้วยโทนเดียวกันกับด้านนอก ตู้เสื้อผ้าเป็นกระจกบานใหญ่ ฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นสีดำมากกว่าสีขาวหรือสีเทา เตียงขนาดแค่หกฟุตสำหรับนอนคนเดียวปูด้วยผ้าปูสีดำ ดูแล้วโคตรแมนจริงๆครับ ไม่ค่อยเข้ากับหน้าตาเจ้าของห้องเท่าไหร่เลย

"มินนอนข้างล่างนะ"
ผมว่าก่อนจะดึงหมอนอีกใบมากอดไว้พร้อมแล้วที่จะพุ่งลงข้างเตียง ผมทำใจไม่ได้ที่จะนอนข้างฟองบนเตียงหกฟุตตอนนี้ครับ ถ้าเกิดผมห้ามตัวเองไม่ได้แล้วปล้ำฟองขึ้นมาจะทำยังไง... ที่สำคัญนี่บ้านฟองด้วย ถ้าเป็นที่คอนโดก็ว่าไปอย่าง เอ้ะ ไม่ใช่สิครับ

"จะนอนข้างล่างทำไมให้ปวดตัว นอนด้วยกันนี่ล่ะ เราไม่ดิ้นหรอก"
ฟองหันมายิ้มให้ผมแล้วแย่งหมอนออกจากอ้อมกอดผมเอาไปวางที่เดิม.. นี่เขาจะรู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังอยู่ในสถานการณ์เกือบอันตราย แค่เกือบเพราะผมยังไม่หน้ามืดไงเล่า

"ที่นอนมันแคบ"
เหตุผลไก่กามากครับที่นอนมันกว้างพอจะนอนสองคนอยู่แล้วอย่างไม่ต้องสงสัย ฟองเอียงคอมองผมแล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง เหมือนเขาจะจับอะไรบางอย่างในน้ำเสียงผมได้ แต่เอาจริงผมก็ทำตัวน่าสงสัยล่ะครับ เพราะพูดจบผมก็เบือนหน้าไปอีกทางไม่มองหน้าคู่สนทนาเหมือนทุกครั้ง

"ที่นอนมันไม่แคบนะ แต่กลัวจะอดใจไม่ไหวเหรอ?"
ฟองยังคงขำปิดท้ายประโยคของตัวเอง แถมยังมองมาที่ผมแล้วทำหน้าทะเล้นอีก นี่ไม่กลัวกันเลยใช่ไหม! ผมหันขวับไผมองหน้าฟองทันทีที่ฟังจบ จะรู้ใจกันเกินไปแล้วครับ ถ้าเป็นเรื่องอื่นจะดีใจมาก แต่รู้ใจเรื่องผมหื่นนี่ไม่ไหวนะ อายครับ

"เฮ้ย บ้าน่า"
ความปรมินทร์ครับ ไม่ยอมรับง่ายๆทั้งที่แสดงออกไปขนาดนั้น ฟองนี่หุบยิ้มแล้วใช้มือทั้งสองข้างประคองหน้าผม ผมยิ่งตกใจจนเบิกตากว้างมองคนตรงหน้า จะทำอะไรของเขาน่ะ

"ไม่มองหน้าเราแบบนี้ยังจะปฏิเสธอีกเนอะคนเรา"
ฟองว่าอย่างนั้นครับ ผมนี่หลุบตาลงแทบไม่ทัน มือฟองโคตรนิ่มอ่ะครับอกเลย อยากจับมาหอมสักฟอด แล้วยังมีอารมณ์มานงมาเนอะใส่อีกนะ รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่ปลอดภัยแท้ๆ ครั้งที่แล้วที่นอนด้วยกันผมก็กอดเขา มีประสบการณ์มาแล้วนะเว้ย

"รู้แบบนี้ยังจะให้นอนด้วยกันรึไง"
ผมพูดเสียงอ้อมแอ้ม เผลอคิดอกุศลว่าตัวเองลวนลามฟองอีกแล้ว ใครก็ได้ช่วยพาผมไปเลิกความหื่นทีเถอะครับ มันมีมากเกินความจำเป็นแล้ว

"นอนด้วยกันนี่ล่ะ ไม่อยากให้พ่อไอ้เบนซินบ่นว่าปวดตัว ถ้ามินปล้ำเราเดี๋ยวเราถีบมินตกเตียงเองล่ะ ไม่ต้องห่วง"
ฟองพูดจบก็ฉีกยิ้มให้ผมก่อนจะยืดแก้มผมด้วยมือทั้งสองข้างของเขา ผมมองฟองแล้วเม้มปากเน้น ข่มอาการอยากฟัดเขาเอาไว้อยากสุดความสามารถ

"เหมือนจะอ่อย แต่ก็ไม่อ่อยว่ะ"
ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่ไม่ได้คิดว่าฟองจะได้ยินครับ..
รู้ตัวอีกทีคือผมกำลังโดนฟองมองด้วยใบหน้าที่มีสีชมพูเจืออยู่บนแก้ม นั่นเขินใช่ไหมไม่ได้โกรธ?

"อ่อยบ้าอะไร!"
ฟองโวยใส่ผมเสียงดังมุ่ยหน้าใส่ก่อนจะฟาดมือลงบนอกผมเต็มๆแล้วทิ้งตัวลงนอนหันหลังให้ผมทันที โอ้ย น่ารัก หัวใจผมโคตรทำงานหนักเลยครับเอาจริง

"อย่าทำตัวน่ารักดิ เดี๋ยวอดใจไม่ไหวจริงๆจะเรื่องใหญ่นะ"
ผมทิ้งตัวลงนอนข้างๆเขาแล้วกระซิบเสียงเบา ผมนอนมองหชังฟองแล้วยิ้มออกมา อีกแล้วครับ ไอ้อาการมีความสุขด้วยการมองแผ่นหลังเขาเนี่ย

"กล้าเหรอ?"
ฟองพลิกตัวมาเผชิญหน้ากับผม สายตาเรามองสบกันนิ่ง ผมไม่ได้ตอบอะไรแต่ขยับหน้าเข้าไปใกล้จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เบารดกัน.. มันอุ่นมาท่ามกลางอุณหภูมิหนาวสั่นของเครื่องปรับอากาศ

"มิน"
ฟองเรียกชื่อผมด้วยเสียงแผ่วเบา ผมยิ้มบางให้เขาก่อนจะกดริมฝีปากหยักลงบนหน้าผากเนียนของคนตรงหน้า ฟองหลับตาลงไม่ได้โวยวายอะไรที่ผมล่วงเกินเขาแบบนี้ ใบหน้าติดหวานของฟองบัดนี้มีสีแดงจางๆระเรื่อขึ้นที่แก้มขาวอีกแล้ว.. จำเป็นต้องน่ารักขนาดนี้ลยเหรอวะคนเรา

"ฝันดีนะครับฟอง"
ผมขยับใบหน้าห่างออกมาเพื่อจะมองอีกคนให้เต็มตา ฟองค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วพลิกตัวนอนหงายก่อนจะพูดบางอย่างออกมา

"อือ ฝันดีครับมิน"
อ่า.. เสียงทุ้มหวานนั่นฟังสบายหูจนผมคิดว่าคืนนี้ผมคงไม่ได้ฝันดีอย่างเดียวแน่ๆ แถมฝันหวานเข้าไปอีกหนึ่งรายการแล้วกัน

ถ้าใครสงสัยว่าไอ้เบนซินจะอยู่ยังไง ไม่ต้องห่วงครับผมโทรบอกไอ้บีทให้ไปเป็นพ่อชั่วคราวของไอ้เบนซินเรียบร้อยแล้ว รายนั้นชอบครับ ไม่มีปฏิเสธ รีบรับปากแล้วตรงดิ่งไปหาน้องหมาทันที คีย์กงคีย์การ์ดมันก็ถือของผมไว้อีกชุดเรียบร้อยแล้ว แถมยังอวยพรให้ผมได้เสียกับฟองอีก -_- คิดอกุศลมากกว่าผมก็เพื่อนผมนี่ล่ะครับ

เช้าวันอาทิตย์ที่สดใส.. ผมสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังทับผมอยู่ ผมพยายามลืมตาอย่างยากลำบาก เพราะแสงมันแยงตา พอลืมตาได้เท่านั้นล่ะครับแทบช็อกตาย ขาฟองพาดอยู่บนหน้าท้องผม ส่วนเจ้าตัวนอนยิ้มแป้นมองหน้าผมแล้วยักคิ้วให้เฉย สรุปว่าแกล้งกันเหรอ? แล้วอะไรเนี่ย ใส่บ็อกเซอร์อยู่ไม่ใช่รึไง ขาโคตรขาว! โอยยย ปรมินทร์กำลังจะตายแล้ว

"ทำไรเนี่ย?"
ผมขมวดคิ้วมองหน้าฟอง เขายิ้มหวานแล้วแกล้งลูบไล้หน้าอกผม อื้อหือ อย่าทำแบบนี้สิวะ คนเพิ่งตื่นตอนเช้าน้องชายมันก็ตื่นเหมือนกันนะเว้ย ผมเกร็งตัวเพราะไม่รู้จะทำยังไงดี จนฟองทนไม่ไหวแล้วขำก๊ากออกมานั่นล่ะ

"แกล้งมินสนุกว่ะ ฮ่าๆ"
แล้วฟองก็เลื่อนขาตัวเองกลับไปนอนดีๆ ขำจนตัวงอเลยครับคนเรา -_-

"เดี๋ยวปล้ำแม่ง อย่าแกล้งดิ"
ผมพูดด้วยเสียงเซ็งๆ โดนแกล้งตั้งแต่เช้าเลยไงครับ

"โอ๋ๆ ไม่งอนนะครับมิน"
แนะ ยังจะมาโอ๋อีก ไม่พอแค่นั้นนะครับยังเอานิ้วมาจิ้มแก้มง้อกันอีก ผมมันเขี้ยวเลยจับนิ้วเขาแล้วอ้าปากงับลงไปเบาๆก่อนจะแกล้งแลบลิ้นเลียก่อนจะดูดเบาๆ

"อ๊ะ!"
ฟองร้องออกมาพร้อมกับใบหน้าขาวขึ้นสีทั้งหน้า ดวงตากลบหลุมต่ำเมื่อผมมองตรงไป ฟองรีบดึงนิ้วตัวเองกลับแล้วลุกขึ้นจากเตียงทันที ผมลอบยิ้มให้กับตัวเอง โดนไปแบบนั้นคงเลิกแกล้งผมไปสักพักล่ะนะ

"ระ เราไปอาบน้ำแล้วนะ!"
แล้วฟองก็รีบหอบเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไปทันที ส่วนผมจะทำอะไรได้นอกจากนอนยิ้มเป็นคนบ้าอยู่บนเตียงของคนที่ชอบ กลิ่นของฟองอบอวลไปหมด มันเป็นเช้าที่ผมชอบมาก.. อยากให้เป็นแบบนี้ทุกวันไปอีกนานๆ


---------------------------------------------

พี่มินของเราคืบหน้าไปอีกแล้วน้า ฝากติชมกันด้วยเนอะ
ขอให้อ่านให้สนุกน้า :mew1:

หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 13 (P.2) 12/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-06-2016 15:41:22
อะไรๆก็เข้าทางมิน :hao6: :hao6:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 13 (P.2) 12/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 12-06-2016 21:49:07
หื่นเสมอต้นเสมอปลายมาก มิน :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 13 (P.2) 12/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 13-06-2016 00:16:24
รุกแร๊งงง น่ารักมากค่ะ อ่านแล้วยิ้ม ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 13 (P.2) 12/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 13-06-2016 01:09:11
เเงงงงน่ารักน่าหยิกน่ากอดน่าขย้ำ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 13 (P.2) 12/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 18-06-2016 00:28:16
น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 14 (P.2) 18/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 18-06-2016 11:59:31
Follow You 14

- Fong -



ตอนนี้ผมย้ายมาอยู่กับมินที่คอนโดแล้วครับ ด้วยความร่วมมือของพี่ฟาง ช่วยผมกับมินขนของอย่างขมักเขม้นผิดวิสัย ผมแอบเคืองพี่ฟางนะที่ไม่แสดงท่าทางหวงน้องบ้างเลย อะไรๆก็ยัดเยียดให้มินซะหมด สรุปพี่ฟางเป็นพี่ชายของใครกันแน่ล่ะเนี่ย ยิ่งคิดก็ยิ่งงงเข้าไปอีก

ผมนั่งอยู่บนพื้นหน้าทีวีหลังพิงชิดกับโซฟา ดวงตากำลังจับจ้องเกมที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ผมชอบเกมไฟนอลแฟนตาซีมากนะกราฟฟิกสวยมาก นางเอกพระเอกเกมแต่ละภาคก็ยังหล่อโดนใจอีกด้วย เวลาผมเล่นเกมผมจะตั้งใจและมีสมาธิกับมันมาก แต่ไม่ได้ถึงกับหงุดหงิดเวลาใครอยากคุยด้วยหรอกนะ แต่มินเขาก็นั่งบนโซฟาอย่างเงียบๆเช่นเคยไม่ยอมเอ่ยปากพูดอะไร

"มินมีไรป่ะ?"
ผมถามมินออกไปทั้งๆที่ตากับมือยังคงจดจ่อกับวีดีโอเกมตรงหน้า ผมได้ยินเสียงขยับตัวไปมาพร้อมกับโซฟาสั่นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมเสียสมาธิแต่อย่างใด

"ว่าจะชวนออกไปห้าง"
มินตอบเสียงเรียบผมเลยหยุดเกมแล้วเงยหน้าไปมองเขา หัวของผมเอนลงบนโซฟา อ่า...สบายจัง

"ไปทำไมเหรอ?"
ผมกระพริบตาปริบๆมองมินที่กำลังเคี้ยวอะไรอยูในปาก ผมเหลือบมองที่มือเขาแล้วเจอกับซองเยลลี่รูปขวดโคล่า กินอะไรเป็นเด็กๆไปได้

"ไปซื้อของใช้ครับ บางอย่างมันหมดแล้ว ออกไปกินข้าวเย็นด้วย"
มินตอบพร้อมกับล้วงมือไปหยิบเยลลี่ส่งใส่ปากอีกอัน ผมอยากรู้ว่ามันจะอร่อยสักแค่ไหนไอ้เยลลี่สีน้ำตาลเข้มติดจะดำเนี่ย ขอชิมบ้างดีกว่า

"มิน ป้อนหน่อยดิ"
ผมมองที่ซองเยลลี่ก่อนจะมองหน้ามินอีกครั้ง เจ้าตัวเลิกคิ้วเป็นเชิงถามแล้วชูซองเยลลี่ขึ้น ผมผงกหัวเบาๆแล้วอ้าปากรอ

"อย่าติดใจล่ะ"
มินขำเบาๆแล้วหยิบเยลลี่เจ้าปัญหาหย่อนใส่ปากผม เคี้ยวมันอยู่สักพักแล้วพยักหน้าหงึกหงักเพราะมันอร่อยดีเหมือนกัน

"อร่อยอ่ะดิ?"
มินก้มหน้าลงมามองผม ตาของเรามองสบกัน รู้สึกได้ถึงลมหายใจเบารดแก้มบางเบา

"มิน... ใกล้ไปแล้ว"
ผมว่าแล้วยกมือขึ้นดันหน้าผากอีกคนให้ห่างออกไป มินหลุดยิ้มออกมาแล้วคว้ามือผมเอาไว้ เราสบตากันอีกครั้งไม่มีใครเบนสายตาหนีใคร

"มินอยากอยู่ใกล้ๆฟองครับ"
มินเอ่ยเสียงหวานมาพร้อมกับดวงตาอ้อน ผมเผลอใจสั่นเล็กน้อย อ่า... อย่าเพิ่งหวั่นไหวสิครับหัวใจของผม มันเร็วไปนะ

"อยู่ด้วยกันขนาดนี้แล้วจะเอาใกล้แค่ไหนอีกครับคุณปรมินทร์"
ผมบิดแขนออกจากมือเขาแล้วกลับไปนั่งพิงโซฟาท่าเดิม ขืนเอาหัวเอนลงบนโซฟาสบตากันอีกคงแย่แน่ๆ

"ตัวใกล้แล้ว อยากให้ใจใกล้บ้าง"
เสียงมินไกลออกไปกว่าเดิม ผมเดาเอาว่าเขาคงกลับไปนั่งท่าเดิมก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้ผมรู้สึกว่าหน้าร้อนวูบวาบแปลกๆ อยู่ตรงนี้นานๆอาจจะเหงื่ออกได้ ไปห้องน้ำดีกว่า

"มินไปเตรียมตัวดิ จะไปห้างไม่ใช่เหรอ? เราขอไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วกัน"
ผมพูดออกไปโดยไม่มองหน้าอีกคนแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะก้าวเท้าไปที่จุดหมายปลายทางของผมโดยไม่รอคำตอบของอีกคน

ผมยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ มือขวายกขึ้นลูบแก้มตัวเองที่มีริ้วสีแดงจางๆพาดอยู่ นี่ผมกำลังเขินมินเหรอครับ? ตอนนี้ความรู้สึกของผมที่มีให้มินมันเป็นไปในทางที่ดีครับ อยู่กับมินก็สบายใจดี ไม่ได้มีเรื่องอะไรให้อึดอัดมากมาย มินเขาไม่ได้รุกหนักหรือบีบบังคับอะไรผม มันค่อยๆเป็นค่อยไป ค่อยๆเรียนรู้ ก็ดีเหมือนกันครับ ไม่รีบร้อย จะได้ดูจักนิสัยกันมากขึ้น

"ฟองครับ เสร็จรึยัง?"
เสียงมินตะโกนมาจากข้างนอกทำให้ผมรีบเปิดน้ำแล้วล้างหน้าทันที นี่ยืนเหม่อจนไม่ได้ทำอะไรจนมินต้องมาตามเลยเหรอเนี่ย

"เสร็จแล้วๆ"
ผมหยิบผ้าขนหนูที่พาดอยู่กับราวมาเช็ดหน้าลวกๆแล้วเดินออกจากห้องน้ำ มินยืนขวางประตูอยู่พอดิบพอดี เกือบชนไปแล้วไหมล่ะ

"ฟอง เสื้อเปียก"
มินไล่สายตามองมาที่หน้าอกผมที่มีน้ำเปียกเป็นวงใหญ่ เสื้อสีขาวเปียกลู่แนบเนื้อจนเห็นสีผิวด้านในเด่นออกมา ยอดอกสีชมพูก็ดันทะลุเสื้อออกมาด้วย แต่คงไม่เป็นไรยังไงก็ผู้ชายเหมือนกัน

"อ่า เดี๋ยวไปเปลี่ยน มินรอเราแปปนึงนะ"
ผมว่าก่อนจะรีบเบี่ยงตัวออกจากตรงนั้น เดินไปจนถึงหน้าตู้เสื้อผ้าก็จัดการถอดตัวเก่าทิ้งแล้วหาเสื้อยืดตัวใหม่มาใส่เรียบร้อย ผมปิดตู้แล้วหันไปหามิน.. เจ้าตัวยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนจนผมนึกสงสัยว่าเขาเป็นอะไรรึเปล่า

"มิน"
ผมเดินเข้าไปหาแล้วเรียกชื่อเขาก่อนจะยกมือแตะลงบนบ่ากว้างนั่น มินสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันหน้ามาหาผม ใบหน้าหล่อๆของเขาขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น ปากหยักได้รูปก็เม้มตรงเป็นเส้นขาวเหมือนกำลังพยายามระงับอารมณ์อะไรสักอย่าง

"เป็นไรรึเปล่า?"
ผมเอียงคอมองเขา นั่นทำให้มินเสมองไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว ท่าทางของมินเริ่มทำให้ผมใจเสีย มินโกรธอะไรผมรึเปล่าเนี่ย

"เปล่าๆ รีบไปกันเหอะ เดี๋ยวกลับดึก"
แล้วมินก็รีบเดินนำผมออกจาห้องไปทันที ปล่อยให้ผมเดินตามไปแบบงงๆ ไม่เข้าใจท่าทีเมื่อกี้ของเขาเลยสักนิด

พวกเราเดินซื้อของในส่วนซุปเปอร์มาเก็ต แปรงสีฟันใหม่ของผม รองเท้าสลิปเปอร์ แชมพู สบู่ ยาสีฟัน บลาๆนั่นมินบอกว่าไม่ต้องซื้อ ใช้รวมๆกันนี่ล่ะ ผมเลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นผมจะออกเงินครึ่งหนึ่งไม่อยากใช้ฟรี มินเขาอิดออดไม่ยอมรับเงินจากผมสุดท้ายเลยต้องยัดใส่กระเป๋าเสื้อของเขาแล้วมองตาขวาง ขืนหยิบคืนล่ะก็มีเรื่องแน่ๆ

"ฟองรออยู่ตรงนี้ก่อนก็ได้ มินจะไปหยิบอาหารไอ้เบนซิน"
ตอนนี้เราสองคนอยู่ส่วนของอาหารแต่มินเขาลืมซื้ออาหารเบนซินเลยตะเดินย้อนกลับไป แต่เรื่องอะไรที่จะให้ผมกินแรงเขาล่ะ ชวนมาเป็นเพื่อนกันก็ต้องไปด้วยกันดิ

"ไปด้วย"
ผมบอกเขาก่อนจะจับรถเข็นไว้ มินมองผมแล้วยิ้มก่อนจะพยักหน้า แล้วเราก็เดินไปด้วยกัน

"ปกติเบนซินกินอาหารยี่ห้อไหน?"
ผมถามก่อนจะไล่มองถุงอาหารเม็ดหลากหลายยี่ห้อที่เรียงตัวกันเต็มชั้นวางของตรงหน้า มันมีหลายรสชาติจนผมเริ่มเพลินกับการอ่านถุงอาหาร

"เพดดีกรีครับ"
มินตอบสั้นๆแล้วเดินตรงไปยังถุงอาหารสีเหลืองมีรูปหมาพันธุ์โกเด้นรีทรีฟเวอร์ติดอยู่ ผมขยับตัวไปยืนข้างๆดขาแล้วอ่านรสชาติของอาหารเม็ดออกมา

"รสไก่และผัก เนื้อวัวและผัก ตับและผัก... อ้อ มีแกะและผักด้วย เบนซินชอบรสไหนเหรอ?
ผมอ่านทุกรสที่มีบนชั้นจนครบแล้วหันไปหามิน เขามองผมและยิ้มละมุนมาให้ ผมรู้สึกว่าบรนยากาศมันหวานแปลกๆเลยเบือนหน้าหนีไปทางอื่นซะอย่างนั้น

"รสอะไรก็ได้ครับ ตามใจฟองเลย เบนซินมันกินทุกรสนั่นล่ะ"
ผมเหลือบมองมิน เขายังยิ้มอยู่ ไม่รู้ถูกใจอะไรนักหนา ผมทำเป็นไม่สนใจเขาแล้วยืนพิจารณาถุงอาหารเม็ดต่อ อืม.. รสอะไรดีนะ

"งั้นเอารสตับและผักก็แล้วกัน!"
ผมพูดแล้วหยิบถุงอาหารเม็ดรสตับและผักขึ้นมา มินรีบช่วยผมแล้วเอาไปใส่รถเข็นไว้ ผมเดินนำเขาออกไปหยุดอยู่ในส่วนของขนมน้องหมา เบนซินมันจะชอบขนมไหม ผมอยากซื้อไปผูกมิตรกับมันจัง ก็ต้องอยู่ด้วยกันอีกตั้งเกือบสองปีแน่ะ

"ซื้อขนมไปด้วยดีป่ะ?"
ผมหยิบนั่นหยิบนี่ตรงหน้าขึ้นมาดูแล้วพลิกอ่านรายละเอียดขนม

"หือ ไม่ต้องหรอก"

"อยากซื้อไปผูกมิตรกับเบนซินอ่ะ"
ผมบอกมินก่อนจะหันไปมองหน้าเขา เอาอีกแล้วครับ มินยิ้มกว้างให้ผมอีกแล้ว จะยิ้มอะไรนักหนาเนี่ย

"เตรียมตัวเป็นแม่ที่ดีเหรอ?"
มินว่าเสียงทะเล้นก่อนจะยักคิ้วข้างเดียวให้ผม ผมถลึงตาใส่แล้วต่อยเข้าที่ต้นแขนแกร็งนั่น เป็นแม่ที่ดีบ้าอะไรเล่า! พูดแบบนี้ก็ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาอ่ะดิถ้าเป็นแฟนกันไปผมนี่เสียเปรียบแน่ๆเลยสินะ

"พูดบ้าอะไรของมินวะ เราก็ผู้ชาย ไม่ยอมเป็นแม่หรอก"
ผมบ่นงุบงิบก่อนจะหันไปสนใจขนมน้องหมาต่อ นี่แค่วันแรกที่อยู่ด้วยกันนะยังรุกหนักขนาดนี้ ผมต้องสร้างเกราะป้องกันหัวใจอย่างดีแล้วมั้งเนี่ย

"หื้ม แล้วจะเป็นพ่อเหรอครับ? ให้มินเป็นแม่งี้เหรอ?"
มินยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม รู้สึกได้ว่าลมหายใจอุ่นๆกำลังรดอยู่ข้างแก้มจนต้องเบี่ยงตัวหนีไอ้คนเจ้าเล่ห์ ผมขอกลับไปอยู่บ้านหรือยอมอยู่คอนโดคนเดียวตอนนี้ทันไหมครับ

"ใครจะยอมเป็นพ่อเป็นแม่ไอ้เบนซินกัน มินขี้มโนว่ะ"
ผมขยับตัวออกมาจากตรงนั้นแล้วเดินหนีไปดื้อๆ ได้ยินเสียงมินรีบเข็นรถเข็นตามมาอย่างรวดเร็ว เสียงหัวเราะเบาๆของมินทำให้ผมหน้าร้อนอย่างห้ามไม่ได้ สนุกเขาล่ะที่ได้แกล้งผมกลับเนี่ย

ตอนนี้พวกเราซื้อของกันเสร็จแล้วครับ ตอนแรกก็กะว่าจะกินข้าวบนห้างให้เรียบร้อยไปเลย แต่อยู่ๆก็เปลี่ยนใจมากินอาหารญี่ปุ่นแถวๆคอนโดแทน เอาจริงๆราคามันถูกกว่าร้านอาหารขึ้นห้างเยอะครับ ถึงเงินจะพอมีพอใช้แต่เราก็ต้องประหยัดกันนะ

"ฟองอยากกินอะไรสั่งเลยนะ"
มินพูดขณะที่สายตาจับจ้องเมนูอาหารในมือ ผมเหลือบมองเขา ตอนมินตั้งใจทำอะไรสักอย่างก็น่ามองเหมือนกันนะ

"มินจะเลี้ยงรึไงพูดแบบนี้"
ผมพูดจบก็ขำออกมาเบาๆก่อนจะกลับไปสนใจเมนูในมือของตัวเองต่อ

"ใช่ไง เลี้ยงต้อนรับสมาชิกใหม่"
ผมเงยหน้าขึ้นมองเขา มินส่งยิ้มบางมาให้ผม อ่า.. ยิ้มเรี่ยราดไปกี่รอบแล้วครับคุณเหนือเดือน อะไรจะขยันยิ้มขนาดนั้น เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย ชอบทำหน้าขรึมจนสาวๆไม่กล้าเข้ามาทักเลยเหอะ

"บ้า เราเข้าไปอยู่ด้วยก็รบกวนมินจะแย่ ยังจะมาเลี้ยงข้าวเราอีก"
ผมขมวดคิ้วยุ่งมองหน้าคนที่ยิ้มเผล่อย่างไม่เครียด เป็นผมเองที่เครียด เกรงใจมินมากทั้งๆที่เขาจีบผมอยู่ แต่ก็แค่จีบไหมล่ะครับ ไม่ใช่ว่าจะรบกวนเขาได้ทุกเรื่องสักหน่อย

"ไม่ต้องเครียดครับ มินเต็มใจนะกับทุกอย่างที่ทำให้ฟอง"
นิ้วอุ่นๆยื่นมานวดคลึงหว่างคิ้วของผมให้คลานออก ผมไม่ได้ขยับหนีสัมผัสนั่นปล่อยให้มินทำตามใจชอบ ผมยิ้มบางออกไปเมื่อรู้สึกสบายใจขึ้น มินยิ้มตอบแล้วผละมืออออกไปเหมือนกัน

"อื่อ ขอบคุณนะ แต่ว่ามินหยอดเรารึเปล่าเนี่ย?"
ผมเหล่ตามองเขาอย่างไม่ไว้ใจ เจ้าตัวทำเพียงแค่ยักไหล่เชิงให้ผมคิดเอาเอง ทำกันแบบนี้ผมก็แย่สิครับ

"สั่งอาหารกันเถอะ"
มินบอกผมก่อนจะกวักมือเรียกคนมารับออเดอร์ ผมกับมินสั่งกันไปคนละสองอย่างไม่มากไม่น้อย ระหว่างที่เรานั่งรออาหารก็ไม่ปล่อยเวลาว่างให้สูญเปล่า ต่างคนต่างหยิบมือถือขึ้นมาเล่นฆ่าเวลาไปเรื่อย มีพูดคุยเรื่องทั่วไปบ้าง

"ฟอง!"
เสียงเรียกจากหน้าร้านทำให้ผมหันไปมอง แล้วก็เจอเข้ากับพี่อิฐที่เคยเต้นโคฟเวอร์ด้วยกัน ฝ่ายนั้นโบกมือแล้วส่งยิ้มมาให้ผมก่อนจะสาวเท้าเข้ามาหากัน ผมยิ้มกลับไปแล้วมองมินที่กำลังมองไปที่พี่อิฐเช่นกันสีหน้ามินดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย เหมือนอยู่ๆเขาก็หงุดหงิดขึ้นมา สงสัยเพราะพี่อิฐล่ะมั้ง

"มากินข้าวเหรอ?"
เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อเขามาถึงโต๊ะของผม พี่อิฐไม่แม้แต่ตะสนใจคนร่วมโต๊ะของผมอย่างมินเลยสักนิด เขาพูดคุยยิ้มแย้มกับผมเหมือนมินไม่มีตัวตน

"ครับ พี่อิฐมาคนเดียวเหรอ?"
ผมถามออกไปแล้วแอบมองมินที่ตอนนี้ก้มหน้าก้มตากินไม่พูดอะไรออกมา

"มาคนเดียวครับ คิดถึงฟองจัง"
เอาแล้วครับ ผมรับรู้ได้ว่ามินชะงักกับคำนั้นของพี่อิฐ เขาเงยหน้าขึ้นมามองเราสองคน ริมฝีปากหยักนั่นเม้มเป็นเส้นตรง ชั่วอึดใจเขาก็พ่นลมหายใจออกมาเบาๆปล่อยปากที่เม้มออกแล้วก้มหน้าก้มตากินอาหารต่อ... เมื่อกี้เขาระงับอารมณ์หงุดหงิดของตัวเองอย่างนั้นเหรอ

"ผมขอตัวกินข้าวก่อนนะพี่อิฐ มันเริ่มอืดแล้วอ่ะ"
ผมมองถ้วยข้าวของตัวเองแล้วแกล้งๆเขี่ยมันเล่น ตัดบทแบบนี้น่าจะดีกว่านะครับ ไม่อย่างนั้นพี่อิฐเขาคงชวนผมคุยยาว เห็นคิ้วที่ขมวดกันแน่นของมึนแล้วรู้สึกไม่สบายใจยังไงชอบกล

"ใจร้ายจังนะครับ มีคนมาด้วยแล้วไม่ยอมชวนพี่นั่งเลยนะ"
พี่อิฐทำหน้าเศร้าแล้วมองมาที่ผม ผมมองเขากลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทั้งๆที่ผมเคยปฏิเสธพี่เขา แต่พี่เขาเหมือนจะไม่เคยฟังอะไรที่ผมบอกไป เมื่อเขามีโอกาสเมื่อไหร่เขาก็ยังตามตื้อผมอย่างไม่ลดละ

"ขอโทษนะครับ แต่แฟนผมคงไม่ชอบใจนักที่ผมจะชวนคนอื่นนั่งด้วยตอนเรากำลังเดทกัน"
มิยชะงักช้อนที่กำลังจะเข้าปากมองผมด้วยสีหน้าอึ้งๆ ผมมองเขาแล้วยิ้มออกมาบางๆ ตอนนี้ขอเอาตัวรอดก่อนเถอะครับ ไม่อยากโดนพี่อิฐตามตื้อ มันน่ารำคาญและน่าอายเอามากๆเลยด้วย

"หืม แฟนฟองเหรอ? เพราะแบบนี้ใช่ไหมถึงไม่ยอมให้พี่จีบ"
เสียงพี่อิฐแข็งขึ้นทันที สายตาเขาจับจ้องมินอย่างไม่เป็นมิตร ส่วนมินก็วางช้อนลงแล้วจ้องพี่อิฐกลับแบบไม่ยอมแพ้เหมือนกัน

"อย่างที่เห็นครับ ขอโทษด้วยนะ"

"พี่แย่กว่ามันตรงไหนครับ? ทำไมฟองไม่เลือกพี่ เราสนิทกันไม่ใช่เหรอ?"
พี่อิฐหันมาคาดคั้นผม ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงดีอยู่ๆมาถามกันแบบนี้ เหตุผลที่ผมไม่ยอมให้พี่อิฐจีบจริงๆแล้วคือผมอึดอัดกับนิสัยชอบแสดงความเป็นเจ้าของผม บังคับผมทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ผมพูดไปตรงๆเราจะมองหน้ากันติดเหรอ

"ขอโทษนะครับ พี่ไม่ควรมาคาดคั้นฟองเขาแบบนี้นะ เขาจะตัดสินใจยังไงมันก็เรื่องของฟอง"
มินเอ่ยปากแทนผมเรียบร้อย พี่อิฐละสายตาไปมองมินเขม็งด้วยความโมโห

"มึงเงียบไป กูคุยกับฟอง"

"พี่กำลังทำให้ฟองลำบากใจ"
มินพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเรียบ สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรนอกจากส่งแววตาเป็นห่วงมาให้ผม ซึ่งผมอยากจะบอกมินว่าตอนนี้มินควรระวังตัวเองไว้ก่อนดีกว่า พี่อิฐอารมณ์ร้อนมากกว่าที่มินเห็นนะ

"กูบอกว่ามึงอย่าเสือกไง"
พี่อิฐก้าวเข้าไปหามินที่ทำสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนเหมือนเดิมจนผมต้องคว้าข้อมือพี่อิฐเอาไว้แล้วลากพี่เขาออกมาด้านนอกร้าน สุดท้ายข้าวผมก็อืดตามที่ได้โกหกไว้จริงๆ

"ตอบพี่มา"
พี่อิฐจ้องตาผม มือทั้งสองข้างจับไหล่ผมแล้วออกแรงบีบหนักๆจนผมต้องเบ้ปากแล้วสะบัดตัวออกมายืนห่างๆ

"เพราะพี่เป็นแบบนี้ไงวะ ทั้งบังคับ ขี้โมโห ทำตัวเป็นเจ้าของผม ผมอึดอัด"
ผมก็ไม่ใช่คนที่มีควาทอดทนสูงเท่าไหร่หรอกนะ อยากให้เรื่องบ้าๆระหว่างผมกับพี่อิฐจบลงซะที พี่อิฐมองหน้าผมอึ้งๆแล้วหัวเราะหึออกมา

"หึ เข้าใจแล้ว พี่มันน่ารำคาญสินะ เอาเถอะครับ ขอให้รักกันดีๆแล้วกัน"
พี่อิฐมองผมด้วยแววตาที่ทั้งโมโหและผิดหวังก่อนจะเดินออกไปปล่อยให้ผมยืนงงอยู่ตรงนั้น บทจะพูดง่ายก็ง่ายแบบนี้เลยเหรอวะ ถ้ารู้แบบนี้ผมพูดไปตั้งนานแล้ว

ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วกลับเข้าร้านไป มินมองผมมาด้วยความเป็นห่วง ผมทิ้งตัวนั่งลงแล้วยิ้มบางส่งให้เขา

"เป็นยังไงบ้าง?"

"โอเค เคลียร์แล้ว"
ผมหยิบตะเกียบขึ้นมาเขี่ยข้าวอีกครั้ง แต่เสียงมินก็ทำให้ผมหยุดมือไปก่อนจะได้ทำอะไรต่อ

"สั่งใหม่เหอะ มันเย็นหมดแล้ว"
พอดีว่าผมสั่งข้าวหน้าทงคัสสึไข่ตุ๋น.. พอมันเย็นแล้วจะแหยะๆ แต่ผมกินได้นะ ไม่ได้เรื่องมากอะไรจริงๆ

"กินได้ๆ"
ผมคีบหมูทอดขึ้นกำลังจะงับแต่มินก็จับมือผมเอาไว้ก่อน ผมเงยหน้ามองเขาแล้วยอมลดตะเกียบลง

"เมื่อกี้มินหงุดหงิดมากเลยนะที่พี่อิฐทำแบบนั้น"
อยู่ๆเขาก็พูดขึ้นมาแล้วผละมืออกไปลูบท้ายทอยตัวเอง ดวงตาคมเสมองไปทางอื่น

"อารมณ์เสียแทนเรารึไง"
ผมว่าก่อนจะวางตะเกียบลงแล้วเอามือเท้าคางนั่งจ้องมินเขา

"ก็ใช่ แต่เอาจริงๆเราหึงมากกว่า เฮ้อ"
มินเกาแก้มตัวเองหลังจากพูดจบ นั่นมันทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

"ขี้หึงเหรอเราน่ะ แต่มินก็ไม่โวยวายนี่"
ผมพูด มินมองผมก่อนที่หน้าเขาจะขึ้นสีเล็กน้อย มีมุมน่ารักด้วยว่ะคนเรา

"มันจะโวยวายได้ไงครับ ไม่ได้เป็นอะไรกัน"
มินทำหน้าเศร้าลงแค่แว้บเดียวเท่านั้นก่อนจะกลับมาทำสีหน้าปกติ บางทีผมก็เห็นใจเขานะ แต่เรื่องของความรักแล้วเราทั้งคู่ยังเป็นผู้ชายอีกด้วย ไม่รู้ว่ามันจะยั่งยืนแค่ไหนก็ต้องรอดูกันไปยาวๆจริงไหมล่ะครับ

"แต่มินหึงแล้วบอกว่าหึงตรงๆมันน่ารักดีนะ"
ผมว่าก่อนจะคีบไข่หวานย่างใส่ปากตัวเอง

"เก็บคำว่าน่ารักไว้ชมตัวเองเถอะฟอง เมื่อกี้มินโคตรอึ้งเลย"
มินว่าก่อนจะมองตรงมาที่ผม รอยยิ้มกรุ่มกริ่มปรากฎบนใบหน้าอย่างชัดเจน ต่างจากมินที่ขี้หึงที่เขินคนเมื่อกี้ลิบลับ มินคนเจ้าเล่ห์กลับมาแล้วสินะ

"อะไร ไม่เห็นมีอะไรน่าอึ้ง"
ผมเฉไฉก่อนจะคีบซาซิมิเข้าปาก ทำเป็นสนใจของกินมากกว่าคงรอดตัวไปได้ล่ะมั้ง แต่เมื่อกี้นับถือตัวเองมากเลยนะที่กล้าพูดว่ามินเป็นแฟนออกไป คิดแล้วก็รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาซะอย่างนั้น

"บอกว่ามินเป็นแฟนนี่มันเรื่องปกติเหรอวะ นี่กลั้นยิ้มจะตายอยู่แล้ว"

"แค่เอาตัวรอดเหอะ! ไม่ได้คิดไรสักหน่อย"
ผมโวยเสียงไม่ดังนักแล้วคีบเนื้อกระทะร้อนของมินมากินหน้าตาเฉยแบบไม่เกรงใจ จังหวะนี้ทำอะไรที่ช่วยให้ตัวเองรอดจากสายตากรุ่มกริ่มได้ก็จะทำ

"โหๆ นี่กินกลบเกลื่อนความเขินรึเปล่าเนี่ย ใจเย็นๆนะครับ"
เสียงมินขำเบาๆทำให้ผมต้องถลึงตามองคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง มินหุบปากฉับแต่ก็กลั้นขำจนหน้าแดง สนุกมารึไงคนเราได้แกล้งคนอื่นเนี่ย มันน่าตีจริงๆเลย

"สั่งข้าวให้เราใหม่เลย อย่ามัวขำ!!"
ผมเอื้อมมือไปดีดเหม่งคนตรงหน้าแล้วก้มลงคีบไข่หวานอีกชิ้นมาเข้าปากต่อ ตอนนี้ไม่อยากรับรู้แล้วครับว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับคนตรงหน้า ก็มันอายจนไม่รู้จะทำตัวแบบไหนแล้วนี่!

"ครับๆ ได้ตามบัญชาเลยที่รัก"
นั่น! ยังจะเรียกผมว่าที่รงที่รักอีก คนบ้าอะไรขยันหยอดกันจริงๆเลย ผมไม่ใช่กระทะทำขนมครกนะที่จะหยอดเอาๆเนี่ย เว้นช่วงให้ผมหายใจบ้างเถอะครับคุณปรมินทร์ !



--------------------------------------

มินเขารุกหนักขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ ฟองก็สร้างเกราะป้องกันเพราะไม่อยากหวั่นไหวเร็วไปซะอย่างนั้น

แต่ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก แค่อยากให้มั่นใจและมีความั่นคงในความรู้สึกก็แค่นั้นเอง

ใครรออ่านอยู่ก็ขอให้อ่านอย่างสนุกน้า ♥
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 14 (P.2) 18/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-06-2016 12:23:16
หยอดบ่อยๆเดี๋ยวก็ตกหลุม :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 14 (P.2) 18/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 18-06-2016 15:24:18
มินขี้แกล้ง ขยันหยอดจริงๆน้าาาาาาาา :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 14 (P.2) 18/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 20-06-2016 09:31:46
ตามอ่านทันล่ะหลังจากทิ้งไว้หลายตอนช่วงนี้ไม่ค่อยว่าง 55555
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP Special Fang x Fia (P.3) 25/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 25-06-2016 15:09:49
Follow You Special

Fang x Fia




ผมชื่อพิรัชครับ ใครๆเรียกผมว่าฟาง จบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาคการบิน แต่ทำงานด้านพัฒนาซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ วันนี้ผมได้รับเชิญไปบรรยายพิเศษให้กับนักศึกษาคณะวิศวะปี 4 เป็นการแนะแนวและการให้ความรู้เกี่ยวกับด้านวิศวกรรมในประเทศ ตอนที่ผมกำลังเตรียมตัวอยู่ด้านหลังเวทีอาจารย์ที่สนิทกันตั้งแต่สมัยเรียนส่งนักศึกษาคนหนึ่งมาดูแลผม

"น้ำครับ"
เสียงทุ้มติดหวานดังขึ้นพร้อมกับยื่นแก้วน้ำมาตรงหน้า ผมเงยขึ้นมองเพราะรู้สึกคุ้นเคยกับเจ้าของเสียง พอต่างฝ่ายต่างเห็นหน้ากันก็ตะลึงซะอย่างนั้น

"เฟีย/พี่ฟาง!!"
เราสองคนต่างเรียกชื่อของอีกคนเกือบจะเป็นเสียงตะโกน ผมตั้งสติได้ก่อนแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ คนตรงหน้าผมยังเหวอไม่หาย

"มึงตกใจอะไรขนาดนั้น?"
ผมถามก่อนจะใช้นิ้วดีดหน้าผากเรียกสติของมันที่กระเจิงหายไป พอมันรู้ตัวก็มองผมตาเขียวเชียว

"อะไรมาดีดหน้าผากกัน วู้ ก็ใครจะคิดว่าวิทยากรจะเป็นพี่ล่ะวะ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี"
เฟียว่าก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ว่างข้างๆผม แก้วน้ำในมือถูกตั้งเอาไว้บนโต๊ะหน้าผมเรียบร้อยแล้ว ขณะนั้นผมลอบสังเกตใบหน้าที่ไม่ได้เห็นมานานของน้องรหัสสายโคของผม ตอนที่ผมยังเรียนอยู่หน้าตาของมันก็ปกติธรรมดาอยู่หรอก แต่ตอนนี้ผมว่าเฟียสวยขึ้นนะ ฟังไม่ผิดหรอกครับ มันสวยขึ้นจริงๆ

"ไม่คิดว่ากูจะทำเรื่องแบบนี้ได้รึไง?"
ผมลอบยิ้ม หน้ามันสวยจนทำผมติดใจเลยล่ะครับ แต่ก่อนไม่เคยจะมองมันสักนิด

"ก็เปล่า แล้วนี่เตรียมตัวดีรึยัง ผมไม่กวนดีกว่า"
มันทำท่าจะลุกขึ้น แต่ผมกลับกดไหล่ให้มันนั่งลงที่เดิม มันหันมามองผมด้วยใบหน้าติดสงสัย หัวคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ทำไมผมมองว่าไอ้เฟียน่ารักวะ เป็นผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ

"อาจารย์ส่งมึงมาดูแลกูไม่ใช่รึไง จะหนีกูแล้วเหรอ?"
ผมปล่อยมือออกจากไหล่มันแล้วหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม เฟียมองผมก่อนจะยักไหล่ราวกับไม่ใส่ใจเรื่องที่ต้องดูแลผม

"ไม่เจอตั้งนาน สบายดีป่ะพี่?"
เฟียจ้องหน้าผมคล้ายกับจะสำรวจอะไรบางอย่าง ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพียงแค่นั่งนิ่งๆให้อีกฝ่ายมอง มองมามองกลับครับ แฟร์ๆ

"สบายดี โสดกระปิดกระปรอย"
ผมเล่นมุก แต่เอาจริงๆก็แค่อยากบอกมันว่าผมโสดแค่นั้นล่ะ.. ไม่รู้ทำไมว่าต้องไปป่าวประกาศให้มันฟังเรื่องส่วนตัวด้วย

"แหมๆ พ่อคาสโนว่าแบบพี่อ่ะนะโสด เชื่อตาย"
เฟียเบะปากแล้วเหลือบตามองบน ผมมองหน้ามันแล้วหลุดขำออกมา ทำไมชอบทำหน้าตลกจังวะเด็กคนนี้

"ขำไร?"
มันยิ่งขมวดคิ้วยุ่งหนักขึ้นไปอีกจนผมต้องเอานิ้วไปคลึงตรงหว่างคิ้วมันเบาๆ เฟียตกใจนิดหน่อยก่อนจะถอยหนีมือผม

"มึงทำหน้าตลก คาสโนว่าแบบกูโสดไม่ได้รึไง?"
ผมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวย น่ามอง น่าหลงไหล ผมว่าผมถูกใจไอ้เฟียเข้าแล้วล่ะ ผมไม่ได้เป็นเกย์หรอกนะ แค่ไม่ได้กำหนดว่าความรักต้องเป็นเพศไหนก็เท่านั้นเอง

"ไม่รู้ดิ เห็นสมัยก่อนควงสาวไม่ซ้ำหน้า"
มันเหล่ตามองผมอย่างไม่เชื่อกัน ผมยักไหล่ไม่แคร์กับคำครหาที่เป็นจริงนั้น

"ผู้หญิงน่าเบื่อ กูเลิกควงสาวมาสักพักแล้ว"

"พูดงี้จะเล็งหนุ่มๆรึไงพี่?"
ไอ้เฟียพูดแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้ผม มันจะรู้ตัวไหมว่ากำลังจะเป็นเป้าหมายของผมน่ะ

"ก็มีเล็งๆไว้บ้างนะ"
ผมพูดแล้วยักคิ้วให้มัน เฟียทำตาโตอย่างไม่เชื่อคำพูดของผมแล้วขยับเก้าอี้มานั่งใกล้ผมเข้าไปอีก

"จริงอ่ะ ใครวะ เด็กในมอเหรอ?"
มันทำท่าอยากรู้อยากเห็นซะเต็มประดาจนผมนึกมันเขี้ยวเลยเอื้อมมือไปขยี้ผมมันจนยุ่งเหยิง เฟียจิ๊ปากแล้วปัดมือผมออกก่อนจะมุ่ยหน้าอย่างหงุดหงิด

"โว้ะ เล่นหัวอีกละ เมื่อกี้ก็ดีดหน้าผาก สนิทกันมารึไงเล่า"
ไอ้คนข้างๆผมนี่นิสัยเหมือนเด็กจริงๆเลย ขี้โวยวายชะมัด แต่ก็น่ารักดีนะ

"กูอยากสนิทกับมึงนะเฟีย"
ผมพูดเสียงหวานพร้อมกับจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยอีกครั้ง แต่คราวนี้เราอยู่ใกล้กันมาก ใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจของอีกฝ่าย

"เออๆ อยากสนิทก็สนิทดิ จะเข้ามาใกล้ทำไมวะพี่ ขนลุก"
มันว่าก่อนจะรีบขยับเก้าอี้ของตัวเองออกไปไกล ผมกลับมานั่งตัวตรงแล้วยกยิ้มมุมปาก เพิ่งรู้ว่าแกล้งเฟียแล้วผมมีความสุข

"ไม่อยากรู้แล้วเหรอว่าคนที่กูเล็งไว้คือใคร?"
ผมวกกลับเข้าเรื่องเดิมซะอย่างนั้น เพราะคำถามเมื่อกี้ของเฟียผมยังหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมต้องเข้าไปใกล้เขาขนาดนั้น

"จะบอกจริงดิ ผมแค่ล้อเล่นน่า"
ถึงปากเฟียจะพูดแบบนั้นแต่แววตากลับแสดงความอยากรู้อยากเห็นออกมาอย่างชัดเจน

"ถ้าอยากรู้ก็จะบอก"
ผมเคาะนิ้วลงบนโต๊ะด้วยท่าทางสบายๆ เฟียขมวดคิ้วยุ่งมือเรียวๆยกขึ้นมาลูบคางตัวเองไปมา สงสัยคงกำลังคิดอยู่ล่ะมั้ง

"แฮะ บอกหน่อยดิ"
ผมขำออกมาเบาๆกับคำของเฟีย พอพูดจบไอ้คนอยากรู้อยากเห็นก็เกาแก้มตัวเองแก้เขินซะอย่างนั้น

"สมัยเรียนกูไม่เคยคิดจะสนใจมันเลยนะ แต่พอมาเจอมันอีกทีนี่ทำกูติดใจเลย"
ผมพูดแล้วลอบมองปฏิกิริยาของเฟียไปด้วย เจ้าตัวมีท่าทางตื่นเต้นจนผมอยากแกล้งไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่นานผมก็ต้องขึ้นไปบรรยายแล้ว

"โหย ใครวะพี่ ผมรู้จักป่ะเนี่ย?

"อยู่ภาคเดียวกันนี่ล่ะ"
คำใบ้ของผมเริ่มแคบลงครับ ปฏิกิริยาของเฟียก็ยิ่งมากขึ้น

"เฮ้ยๆ ภาคการบินเนี่ยนะ ลุ้นว่ะ"

"เป็นน้องสายโคของกู"
ผมพูดพร้อมกับลอบยิ้ม ไอ้เฟียถึงกับชะงักแล้วมองมาที่ผมตาโต รู้ตัวแล้วรึไง ไม่สนุกเลย

"สายรหัสผมอ่ะนะ?!"
เสียงมันตกใจมากครับ มือข้างหนึ่งของมันกำชายเสื้อตัวเองแน่น ตลกว่ะ

"เออ ลองเดามา"
ผมยกน้ำขึ้นดื่มอีกครั้ง ไอ้เฟียมันยกมือขึ้นลูบคางตัวเองอีกแล้วครับ จะคิดมากอะไรวะ สายโคตอนนั้นมีแค่ ไอ้พี่นิกพี่รหัสเพื่อนผมที่เป็นแฟนกับพี่ออยพี่รหัสผม ไอ้ทัชเพื่อนผม น้องเอมคนสวย สุดท้ายก็ไอ้เฟีย

"พี่ทัช เอ้ย ไม่ใช่ดิ"

"....."

"พี่ออย.. เห้ย ไม่ใช่ เดี๋ยวนะ"

"....."

"ผมงั้นเหรอ?!!"
มันเบิกตากว้างแล้วชี้มือเข้าหาตัวเอง กว่าจะฉลาดได้เล่นเอาผมกลั้นหัวเราะจนหน้าแดงเลย ผมพยักหน้ารับแล้วหัวเราะออกมา

"เออ กว่าจะฉลาดนะมึง"
ผมว่าก่อนจะเอื้อมมือไปยีผมมันเบาๆ เฟียตัวแข็งทื่ออ้าปากพะงาบๆ

"พะ พี่ฟาง ไม่เล่นนะเว้ย"
มันตะโกนออกมาแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองผมด้วยแววตาเลิ่กลั่ก

"เล่นเชี่ยไรล่ะ กูไปบรรยายละ"
ผมว่าก่อนจะเอื้อมมือไปดึงแก้มมันแล้วเดินออกมาด้วยรอยยิ้ม ไอ้คนที่โดนผมแต๊ะอั๋งได้แต่โวยวายตามหลังผมมาเท่านั้น

"ผมเป็นผู้ชายเต็มร้อยนะเว้ยยย!"
ผู้ชายก็ผู้ชายสิครับ ผมก็ผู้ชายเหมือนกัน ถ้ามันใจว่าตัวเองจะรักษาความเป็นชายเอาไว้ได้ก็ลองดูครับ เพราะตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปปฏิบัติการเปลี่ยนเฟียให้เป็นเมียฟางจะเริ่มขึ้นแล้ว

ตอนที่ผมบรรยายไปสายตาก็มองหาไอ้คนที่ทำให้ผมติดใจไปพลางจนเจอมันนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อน ใบหน้าหวานๆนั่นเด่นกว่าใครๆ เพราะรอบตัวมันไม่เถื่อน รุงรัง ก็หล่อลากดิน ผมมองอยู่สักพักมันก็หันมาสบสายตาพอดี เฟียเบนหน้าหนีก่อนจะหันไปสนใจเพื่อน หึหึ แบบนี้น่าสนุกแน่ครับ

หลังจากวันนั้นผมก็ไปคะยั้นคะยอเอาเบอร์โทรกับไลน์เฟียจากว่าที่น้องเขยอย่างไอ้มิน จริงๆผมจะเอาจากไอ้โฟร์ทก็ได้ แต่กลัวมันจะปากโป้งบอกพี่มันซะก่อน พอได้ทุกอย่างมาผมก็จัดการลงมือจีบมันทันที เฟียมันก็โวยวายหาว่าผมแกล้งมันบ้างล่ะ แหย่มันบ้างล่ะ มันเป็นผู้ชายเต็มร้อยบ้างล่ะ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ ก็ผมชอบมันซะอย่าง

"พี่ฟาง!"
เสียงแข็งๆตะโกนเรียกชื่อผมที่กำลังก้าวขาลงจากรถที่หน้าคณะวิศวะ จริงๆก็ตั้งใจจะมารับเฟียไปเที่ยวหลังเลิกเรียนนั่นล่ะ แต่เจ้าตัวปฏิเสธหัวชนฝาว่าไม่ให้มา ไม่ไป จะกลับบ้าน แต่ผมฟังที่ไหนล่ะครับ วันนี้อุตส่าห์อุ้มไอ้ซันเดย์มาด้วยเชียวนะ ผมหันไปตามเสียงเรียกแล้วยักคิ้วให้เจ้าของเสียงแข็งๆนั่นก่อนจะเอ่ยทักทาย

"เรียกซะเสียงดัง กลัวพี่ไม่ได้ยินเหรอครับ?"
ผมลูบหัวไอ้ซันเดย์ที่อยู่ในอ้อมกอดก่อนจะส่งยิ้มให้เฟีย มันทำหน้ามุ่ยตอนเห็นผมแว้บแรก แต่ตอนนี้มันจ้องเจ้าฟูตาไม่กระพริบเลยครับ ผมรู้ว่ามันชอบกระต่าย... หึหึ เสร็จกูแน่ไอ้เฟีย

"พี่ฟางง ~ กระต่ายของพี่เหรอวะ?"
ดวงตากลมเป็นประกาย มือเรียวๆหวังจะเอื้อมมาลูบตัวไอ้ซันเดย์ แต่ผมกลับเบี่ยงตัวหลบไม่ยอมให้เฟียสัมผัส มันเงยหน้าขึ้นจ้องผมเขม็ง เบะปากคว่ำลงด้วยความขัดใจ

"ทำเป็นหวง!"

"ไปกินข้าวด้วยกันก่อนดิแล้วจะให้จับ"
ผมยื่นข้อเสนอพร้อมกับยกยิ้มมุมปากแล้วลูบหูไอ้ซันเดย์ไปพลาง เฟียเบ้ปากใส่ผมก่อนจะเบือนหน้าหนี

"อะไรวะ ชอบบังคับอ่ะ"
มันบ่นเบาๆแต่ผมได้ยินนะ ใครไปบังคับมันเมื่อไหร่เนี่ย มโนชิบหายเลย

"ใครเขาบังคับมึง?"
ผมถามก่อนจะนั่งลงข้างๆมันแล้ววางไอ้ซันเดย์ลงบนโต๊ะหินอ่อนที่ลานเกียร์ ไอ้เฟียมองตามกระต่ายที่เดินไปเดินมาสำรวจขอบโต๊ะ ถ้าเราไม่ดูให้ดีไอ้ซันเดย์มันกระโดดร่มแน่ๆครับ

"พี่ฟางดิบังคับผม เอากระต่ายมาล่อ"
ปากมันตอบผมแต่ตานี่จ้องกระต่ายตาไม่กระพริบ แถมไอ้มือเรียวๆก็พยายามเอื้อมไปจับตัวไอ้ซันเดย์อีก จนผมต้องตีมือเฟีย ให้ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวข้อต่อรองของผมเป็นหมัน

"เอ้า ถ้ามึงไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปไง"
ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะจับไอ้ซันเดย์หงายท้องแล้วแกล้งเกาพุงมัน มันนอนนิ่งตัวแข็งทื่อให้ผมเกา

"พี่ฟางแม่ง พี่สาบานป่ะว่าพี่จีบผมอยู่ไม่ใช่กวนตีน!"
มันเหวใส่ผมเฉยเลย... หน้าตามันตอนโมโหโคตรน่ารักครับ ปากเบะๆ จมูกแดงรั้นๆ ไหนจะหัวคิ้วที่ขมวดจนจะเป็นปมนั่น ถ้าไม่เกรงใจว่าอยู่ลานเกียร์ผมคงจับมันกดไปแล้ว

"ยอมรับแล้วเหรอว่าโดนกูจีบ เห็นปฏิเสธได้ตั้งนาน"
ผมว่าก่อนจะยักคิ้วกวนมันไป มันเบิกตากว้างก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปมองทางอื่น ตั้งแต่เริ่มคุยใหม่ผมบอกมันตลอดว่าผมจีบมันอยู่นะ แต่มันไม่เคยยอมรับเลยว่าโดนผมจีบ มันจะปัดแล้วบอกว่า พี่แม่งแกล้งผม ไม่จริงใจ ไม่จริงจังบ้างล่ะ รักสนุกบ้างล่ะสารพัด

"กวนประสาท!"
มันตะโกนใส่หน้าผมซะอย่างนั้นแล้วแก้มขาวๆนั่นก็ขึ้นริ้วสีแดง ไอ้ซันเดย์ตกใจเสียงเฟียเลยมุดเข้าอกผมใหญ่เลย

"ทำเสียงดังกลบเกลื่อนความเขินเหรอ?"
ผมแกล้งอุ้มไอ้ฟูไปแนบแก้มอีกคนที่ตอนนี้ไม่ยอมมองหน้าผม มันสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันกลับมา พอเห็นว่าเป็นกระต่ายเท่านั้นล่ะไอ้หน้าบึ้งตึงติดโมโหตอนแรกหายไปในพริบตา

"พี่ฟาง เจ้าฟูชื่อไรวะ?"
เฟียอุ้มกระต่ายออกจากมือผมหน้าตาเฉย ไม่ได้สนใจเลยว่าทำกำลังยิ้มจนแก้มจะแตก ดวงตากลมมองเจ้าฟูในมือแล้วบีบๆนวดๆตัวมันเล่น

"ซันเดย์"
ผมตอบเสียงเรียบก่อนจะเอื้อมมือไปดึงหูกระต่ายเบาๆ หมั่นไส้นี่หว่า มาแค่ไม่กี่นาทีได้นอนขดตัวอยู่บนตักไอ้เฟียซะแล้ว

"พี่อย่าดึงหูมันเด้"
เฟียตีมือผมเบาๆแล้วหันมาทำตาดุใส่ก่อนจะลูบหูไอ้ซันเดย์เบาๆราวกับกำลังปลอบประโลม เออ.. สนใจแต่กระต่ายนะ จำไว้เลยไอ้เฟีย

"มึงก็โอเว่อร์เนอะเฟีย กูดึงเบาๆเอง"
ผมเหล่ตามองทั้งเฟียทั้งไอ้ซันเดย์ที่ไล่งับมือเฟียอยู่ ทีกับกูแล้วเมินหนีนะซันเดย์ ไอ้กระต่ายไม่รักดี

"กระต่ายมันบอบบางนะพี่"
เฟียจับไอ้ฟูนอนหงายแล้วลูบท้องมันเล่น ซันเดย์ดิ้นขลุกขลักก่อนจะดีดตัวกลับมานอนขดตัวพองด้วยท่าเดิม

"บอบบางเชี่ยไร วันก่อนกูวางมันไว้บนโซฟา แม่ง กระโดดลงมาวิ่งที่พื้นหน้าตาเฉย"
ผมพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปบีบตัวไอ้ซันเดย์ด้วยความมันเขี้ยว เฟียมองแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

"กระต่ายพี่อึดว่ะ ซนด้วย"
เฟียก้มมองมันแล้วยิ้มหวานออกมา อ่า... อิจฉากระต่ายอีกแล้วครับ

"กูก็อึดนะ"
ผมพูดแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มให้คนข้างๆ ไอ้เฟียเงยหน้าขึ้นมองผมแล้วถลึงตาใส่... ผมทำผิดอะไรล่ะเนี่ย

"ทะลึ่งแล้วพี่ฟาง"
เฟียว่าผมก่อนจะขยับตัวหนีผม ผมเลิกคิ้วมองเขา

"ทะลึ่งอะไรวะ มึงคิดลึกล่ะสิ"
ผมเอื้อมมือไปหยิกแก้มแดงๆของมันเล่น พูดเองเขินเองคืออะไรวะเฟีย ชอบทำตัวน่ารักให้กูใจสั่นตลอดเลยนะมีง

"อื้อ มาดึงแก้มผมทำไมวะพี่"
มันมุ่ยหน้าใส่ผมแล้วกอดไอ้ซันเดย์ขึ้นแนบอก.. เอ้อ รักกันเข้าไป จากที่จะเอากระต่ายมาล่อเฟีย กลายเป็นผมอิจฉากระต่ายไปแล้วว่ะ

"ความสุขกู แล้วนี่จะไปกินข้าวกับกูได้ยัง?"
ผมมองเฟียที่เอาแต่สนใจไอ้ซันเดย์ ผมเลยตัดสินใจอุ้มมันกลับมา เฟียจิ๊ปากอย่างขัดใจแล้วมองไอ้ซันเดย์ตาละห้อย

"ไม่ไปได้ป่ะ ได้จับซันเดย์ละ"
มันยักคิ้วกวนให้ผม อย่าคิดว่าผมจะยอมง่ายๆนะเว้ย ลงทุนอุ้มไอ้ซันเดย์มาจากบ้านเนี่ยต้องได้อะไรกลับเป็นของตอบแทนบ้างเหอะ

"เฟีย... จะไปดีๆหรือให้พี่ใช้กำลังครับ?"
ผมถามมันก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เฟียสะดุ้งแล้วรีบถอยหลังจนตกเก้าอี้ไปเลย.. โอย ไอ้เด็กบ้า กลัวอะไรหนักหนาเนี่ย

"โอ้ย เจ็บก้น พี่ฟางแม่งขี้แกล้ง!"
ไอ้เฟียตะโกนใส่ผมหน้าดำหน้าแดง มองผมซะตาขวางเชียว ผมยักไหล่ไม่แคร์แล้วอุ่มไอ้ซันเดย์มือเดียวก่อนจะส่งมือที่เหลือให้เฟียจับ

"เอ้า ลุกขึ้นมา จะนั่งเล่นอีกนานไหม?"
เฟียจิ๊ปากแล้วยอมจับมือผมพยุงตัวลุกขึ้นก่อนที่เขาจะปัดเศษผงออกจากกางเกงยีนส์ของตัวเอง

"ไปกินข้าวกันได้แล้ว"
ผมว่าเสียงเรียบแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองไอ้เฟียที่ยืนจัดเสื้อช็อปของตัวเองอยู่

"ไปก็ไป เลิกแกล้งผมได้แล้ว"
พอมันจัดเสื้อผ้าตัวเองเสร็จก็เหลือบมองผมก่อนจะส่งมือมาขอไอ้ซันเดย์ไปอุ้มเอง

"มึงนี่สนใจแต่กระต่ายเนอะ ไม่เห็นจะสนใจกูเลย"
ผมว่ามันเสียงอ่อยแล้วไม่ยอมส่งไอ้ฟูให้ เฟียส่ายหน้าเบาๆแล้วเลื่อนมือมาบีบแก้มผมทั้งสองข้างแทน ผมอึ้งกับการกระทำของมันนิดๆ

"ขี้น้อยใจว่ะพี่ฟาง ก็เลิกแกล้งผมดิ"
มันพูดพร้อมกับมองตาผมโดยที่มือมันยังไม่ปล่อยจากแก้มผม

"เคยได้ยินป่ะ เด็กผู้ชายชอบแกล้งคนที่ตัวเองชอบ"
ผมมองมันแล้วส่งยิ้มให้ เฟียมันหลบตาผมแล้วรีบปล่อยมือออกจากแก้มผม จากนั้นมันก็หันหลังใส่ ผมเห็นนะว่าแก้มมันแดง

"ผมไม่เห็นจะชอบแกล้งคนที่ตัวเองชอบเลยว่ะ"
มันบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว แต่ผมได้ยินนะเว้ย เฟียแม่งชอบใครวะ

"มึงชอบใคร?"
ผมยื่นหน้าเข้าไปถามข้างหูมัน เฟียสะดุ้งแล้วก้าวหนีผมออกไปหนึ่งก้าว

"เรื่องอะไรจะบอก! ไปกินข้าวได้แล้ว หิว ~"
แล้วมันก็เดินลิ่วๆหนีผมไปเฉยเลย ผมได้แต่หงุดหงิดอยู่ในใจแล้วเดินตามมันไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

ผมพาไอ้ฟูกลับไปไว้ที่บ้านก่อนแล้วพาไอ้เฟียไปกินอาหารเกาหลี มันบ่นอุบว่ากินไม่เห็นจะอิ่มเลย ผมนี่อยากจะถามมันว่ามึงกินหรือยัด ตัวก็เล็กกินอะไรนักหนา เนื้อย่างสองสามจานแม่งมันกินคนเดียวเกลี้ยง ผมนี่ได้แต่นั่งดูมันกินก็เหมือนจะอิ่มตามแล้ว

"พี่ฟางไม่กินล่ะ มานั่งมองผมอยู่ได้"
ปากเล็กๆยังเคี้ยวเนื้อย่าหงุบหงับเต็มปาก ดูมันมีความสุขกับการกินเหลือเกิน

"เห็นมึงกินกูก็อิ่มแล้วเฟีย กินเก่งฉิบหาย"
ผมคีบเนื้อย่างชิ้นเล็กๆเข้าปากตามด้วยข้าวผัดกระเทียม

"พี่แม่งมองแต่ผมมันจะไปอิ่มได้ไง กินๆเข้าไปเลย"
มันคีบเนื้อย่างชิ้นใหญ่พร้อมจิ้มน้ำจิ้มให้ผมเรียบร้อยจ่อมาที่ปาก ผมรีบกลืนของเก่าลงแล้วงับเนื้อชิ้นใหม่เข้าปาก เฟียยิ้มให้ผมแล้วเอ่ยปากถาม

"อร่อยป่ะ?"

"อร่อย... เพราะมึงเป็นคนป้อน"
ผมยักคิ้วให้ หน้าขาวๆของมันตอนนี้แดงเถือกเหมือนลูกมะเขือเทศเลย บทจะเขินมันก็เขินซะอย่างนั้น

"เสี่ยว"
มันพึมพำเบาๆก่อนจะพลิกเนื้อย่างบนเตาแล้วไม่ยอมมองผม ก้มมากๆเดี๋ยวหน้ามึงก็จมเตาปิ้งหรอก ยังไม่อยากกินเฟียย่างว่ะ อยากกินเฟียสดๆ

"ว่ากูเสี่ยวแล้วมึงเขินทำไม?"

"อะไร๊ ใครเขิน ไม่มีอ่ะ เตามันร้อนหรอก โคตรมั่วเลยพี่"
คนขี้เขินรีบคีบเนื้อใส่ปากแล้วตามด้วยผักก่ดหอมอีกใบใหญ่ แก้มขาวๆนั่นกลมดิ๊กจนน่ามันเขี้ยว ผมเลนเอื้อมมือไปจิ้มแก้มมันเล่น เฟียมันทำท่ารำคาญแล้วปัดมือผมออกเบาๆ

"โกหกไม่เนียนเลยมึง แล้วตกลงจะบอกกูได้ยังว่าชอบใคร?"
ผมดึงบทสนาที่ค้างไว้ตั้งแต่มหาวิทยาลัยกลับมา ก็มันอยากรู้นี่ครับว่าเฟียชอบใคร ผมจะได้ตั้งรับได้ถูกวิธี หลังจากที่ตามจีบมันมาเป็นเดือนๆก็ไม่เห็นมันจะไปเจ๊าะแจ๊ะกับผู้หญิงคนไหนนี่หว่า

"ไม่บอกไง"
มันกลืนเนื้อแล้วตอบผมก่อนจะหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม เฟียมองหน้าผมแว้บหนึ่งก่อนจะก้มลงดูเนื้อบนเตาอีกครั้ง ผมนี่อยากเอาเตาย่างไปไกลๆเหลือเกินตอนนี้ เฟียจะสนใจอะไรมันนักหนา

"กูหวั่นนะเว้ยถ้ามึงชอบคนอื่นอยู่"
ผมพูดความรู้สึกของตัวเองออกไป.. เคยได้ยินไหมครับ ถึงคุณจะชอบเขามาแค่ไหนแต่สุดท้ายคุณก็แพ้คนในใจเขาอยู่ดี

"หวั่นอะไร กลัวแพ้คนในใจผมงั้นเหรอ?"
มันวางตะเกียบลงเท้าแขนกับโต๊ะแล้ววางคางไว้บนนั้นก่อนจะหันมาจ้องหน้ากันตรงๆ ผมถอนหายใจเบาๆแล้วพยักหน้ารับอย่างหมดท่า

"เออดิ กลัวแพ้ เพราะกูจริงจังเรื่องของมึงไปแล้ว"
ผมไม่เคยใช้คำว่าจริงจังกับใครมาก่อน มีมันคนแรกนี่ล่ะที่ผมคิดจะจริงจังด้วย

"ถามจริงดิ ชอบอะไรผมขนาดนั้น?"

"ให้กูตอบจริงเหรอ?"

"เออดิพี่ ถ้าไม่รู้จะถามทำไม"

"อืม ตอนแรกก็ติดใจหน้าตามึงนี่ล่ะ แต่พอได้คุยกันกูเลยเปลี่ยนจากถูกใจเป็นชอบมึงแทน นิสัยมึงก็ดี คุยกับมึงแล้วกูสบายใจว่ะ ยิ่งตอนแกล้งมึงกูก็มีความสุข"
เหตุผลของผมอาจจะดูเด็กๆไปหน่อยแต่ผมรู้ความรู้สึกตัวเองดีว่าคนๆนี้มันใช่สำหรับผม เฟียมองหน้าผมอย่างอึ้งๆก่อนจะเสมองไปทางอื่น แก้มใสๆของมันขึ้นสีชมพูระเรื่ออีกแล้ว

"เกลียดเหตุผลพี่ว่ะ แต่คุยกับพี่ก็ดีนะ ไม่เหงา"
มันพูดเสียงอ้อมแอ้ม มือบางยกขึ้นเกาแก้มตัวเองแก้เขิน ผมมองมันแล้วอมยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

"เอาไงดีวะ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าตัวเองจะหวั่นไหวกับผู้ชายที่ตัวโตกว่าแถมยังหล่อกว่าอีก แต่ไปๆมาๆใจดันเต้นแรงทุกทีที่อยู่ใกล้พี่ไปซะได้"
มันยิ่งพูดก็ยิ่งหน้าแดง ผมยิ่งฟังก็ยิ่งยิ้มกว้าง แค่มันหวั่นไหวบ้างก็ดีแล้ว

"เฟีย"
ผมเรียกมันเสียงเบา เฟียมันเหลือบสายตามองผมแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

"ถ้ามึงชอบกูเมื่อไหร่มึงบอกกูด้วยนะ กูรออยู่"
ผมส่งรอยยิ้มมุมปากให้มันแล้วเอื้อมมือไปกุมมือเรียวของมันเอาไว้ เฟียมองก่อนจะพยักหน้าช้าๆ

"รอก่อนนะพี่ อย่าเพิ่งถอดใจ"

"เออ กูรอเก่ง มึงไม่ต้องห่วง"



------------------------------------------------
คู่ฟางกับเฟียมาแล้วเนอะ อ่านให้สนุกน้า ♥
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP Special Fang x Fia (P.3) 25/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 25-06-2016 19:11:03
เฟียน่ารักอ่ะ อั๊ยยย :-[
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP Special Fang x Fia (P.3) 25/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 25-06-2016 23:33:10
คู่นี้คือฟินมาก 555
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP Special Fang x Fia (P.3) 25/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 29-06-2016 22:18:45
พี่ฟางแม่งพระเอกในดวงใจเลย
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP Special Fang x Fia (P.3) 25/06/59
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 04-07-2016 00:01:22
คู่นี้ก็น่ารัก,,,
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 15 (P.3) 04/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 04-07-2016 10:19:26
Follow You 15






"ฟอง วันนี้มินมีเรียนวิชาเลือกนะ"

ผมเดินงัวเงียออกมาจากห้องนอนพร้อมยกมือขยี้ตามองคนที่กำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่ ผมยืนพิงเค้าเตอร์ครัวก่อนจะขยี้ผมเบาๆ ฟองหันมามองแล้วหลุดยิ้มก่อนจะพยักหน้าเบาๆ สภาพผมตอนนี้คงหมดหล่อสิ้นดีแน่ๆ

 

"เรียนกี่โมง?"

เสียงทุ้มเอ่ยถามผมก่อนที่มือเรียวจับตะหลิวกลับไส้กรอกในกระทะไปด้วย ท้องผมส่งเสียงร้อง น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเริ่มทำงานซะแล้ว

 

"บ่ายโมงครับผม"

ผมตอบเสียงใสขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อยหลังจากที่เดินไปดื่มน้ำในตู้เย็น อย่าถามว่าล้างหน้าแปรงฟันแล้วหรือเปล่า คำตอบคือยังครับ ตื่นมาก็ตรงดิ่งเข้าครัวเลย

 

"อ๋อ เราก็จะออกไปทำธุระช่วงนั้นเหมือนกัน"

ฟองตักไส้กรอกใส่จานที่มีขนมปังปิ้งและไข่ดาวรออยู่แล้ว ผมมองตามเขาแล้วทำจมูกฟุดฟิดใกล้ๆจานอาหาร หิวครับ หิวมาก มันหอมจนน้ำลายจะไหล

 

"ไปอาบน้ำก่อนไป"

ฟองผลักไหล่ผมเบาๆแล้วย่นจมูกใส่ก่อนจะส่งรอยยิ้มมาให้กัน ผมเลยยอมยืดตัวยื่นตรงแล้วพยักหน้ารับก่อนจะหมุนตัวหยิบเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไป

 

เรานั่งกินอาหารบนโต๊ะร่วมกัน ฟองอยู่ในชุดลำลองสบายๆเสื้อยืดสีดำกับกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ส่วนผมอยู่ในชุดนักศึกษา เสื้อเชิ้ตแขนยาวแต่ดันพับแขน ปลดกระดุมสองเม็ด ไร้เนคไท กางเกงสแล็คสีดำและเข็มขัดมหา'ลัยคงเป็นสองอย่างที่เรียบร้อย

 

"เออ ฟองจะกลับช่วงกี่โมง? ถ้ากลับก่อนมินเลิกเรียนมินจะได้ทิ้งคีย์การ์ดไว้ให้ ยังไม่ได้ไปแจ้งส่วนกลางให้ทำคีย์การ์ดเพิ่มเลย"

ผมพูดหลังจากที่จัดการไส้กรอกชิ้นสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว ฟองที่กำลังดื่มน้ำอยู่ลดแก้วลงแล้วส่ายหน้าเบาๆ ผมเลยเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าจะเอายังไง

 

"ไม่ต้องๆ มินเอาคีย์การ์ดไป เดี๋ยววันนี้เราไปส่งไปรับมินเอง"

ฟองพูดจบแล้วส่งยิ้มมาให้ผมก่อนจะรวบเก็บจานทั้งของผมและของเขาไปล้าง ผมกระพริบตาปริบๆด้วยความอึ้ง นี่ฟองจะขับรถไปส่งแถมไปรับผมที่มออีก... ดูเหมือนเป็นแฟนกันเลยว่ะ

 

"เห้ย ลำบากน่า มินไปเองดีกว่า"

หลังจากที่รวบรวมสติกลับคืนมาได้ผมก็พูดออกไป คนที่กำลังล้างจานอยู่หันมามองผมแว้บหนึ่งก่อนจะวางจานแล้วเดินตรงมาหา ผมมองเขาที่ยืนอยู่ตรงหน้า

 

"ผ่านมอพอดีไง จะเปลืองน้ำมันทำไมวะ"

ข้อนิ้วเคาะลงมาบนหน้าผากผมเบาๆ ตามมาด้วยเสียงหัวเราะสดใสเมื่อผมทำหน้าบึ้งใส่เขา โดนด่าแต่เช้าเลยไงครับ แต่ก็มีความสุขนะ คนที่เราชอบไปรับไปส่งเราด้วย

 

"โอเคๆ โดนเพื่อนมินล้อไม่รู้ด้วยนะเว้ย"

ผมส่งยิ้มกรุ่มกริ่มไปให้ ฟองเบ้ปากแล้วเดินหนีกันซะอย่างนั้น ผมเลยต้องลุกขึ้นแล้วเดินตามเขาออกไปจากห้องครัว เขานั่งลงที่โซฟาแล้วหันมาย่นจมูกใส่ผมอีกครั้ง ผมยิ้มออกมากับท่าทางน่ารักของเขาก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ

 

"เพื่อนมินชอบแซวตลอดเหอะ แต่อย่าคิดว่าเราจะเขินนะ"

ฟองยักคิ้วข้างเดียวให้ผม ส่วนผมยักไหล่กลับไป ฟองเป็นคนที่ตายด้านกับคำแซวเล็กๆน้อยๆของคนอื่นมาก แต่ถ้าเป็นตัวผมหยอดเขาหนักๆเองก็จะได้เห็นแก้มแดงๆของเขา จังหวะนั้นสติผมชอบหลุดหายอยากขย้ำฟองทุกครั้งไป

 

"ไม่ต้องเขินเพื่อนมินดิ เขินมินคนเดียวก็พอแล้วครับ"

ผมมองตาเขาด้วยแววตาสื่อความหมาย ฟองหลบสายตาแล้วลุกขึ้นยืนจนผมเผลอหลุดยิ้มออกมา ก่อนที่เจ้าตัวเขาจะเขินก็หาวิธีหลบเลี่ยงกันง่ายๆแบบนี้ล่ะ

 

"ไปเล่นกับเบนซินล่ะ"

แล้วฟองก็เดินหนีกันเฉยๆไปหาไอ้เบนซินที่นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นห่างออกไปจากโซฟาประมาณห้าก้าว พอมันเห็นฟองเดินเข้าไปก็หูหางกระดิกทันที... อยู่ด้วยกันมาไม่กี่อาทิตย์ ฟองกลายเป็นคนโปรดของไอ้เบนซินไปแล้ว ส่วนฟองก็ดันสนใจไอ้เบนซินมากว่าผมซะอีก ส่งไอ้หมาหล่อกลับบ้านดีไหมครับ ชักจะหมั่นไส้มันขึ้นมาแล้ว ฟองทิ้งตัวลงนั่งมันก็พุ่งเข้าใส่แล้วเอาหัวหนุนตักฟองทันที โอย! อิจฉาหมามาก

 

"ไอ้เบนซินให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ"

ผมว่าก่อนจะชี้หน้ามันคาดโทษ เบนซินกระดิกหางตีกับพื้นอย่างไม่ใส่ใจมันหลับตาพริ้มให้ฟองลูบหัวอย่างเชื่องๆ เป็นฟองที่หันมาถลึงตาใส่ผมแทน โห.. ตกลงผมตกกระป๋องเหรอ ผมเป็นส่วนเกินของเขาใช่ไหมเนี่ย

 

"กับหมาก็ไม่เว้นนะมิน"

 

"ก็มัน..."

ผมพูดไว้แค่นั้นแล้วไม่ยอมพูดต่อ แต่ลุกขึ้นแล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งลงข้างๆฟองก่อนจะยื่นมือไปบีบตัวไอ้เบนซิน มันสะดุ้งหันมามองกันก่อนจะเมินผมแล้วหนุนตักฟองเหมือนเดิม มันน่าฆ่าทิ้งไหมล่ะครับ มาเมินกันได้!

 

"มันอะไร พูดต่อให้จบดิ"

ฟองหันมาจ้องหน้ากัน ผมเม้มปากกำลังตัดสินใจว่าจะพูดหรือไม่พูดดีเพราะมันเป็นอะไรที่โคตรงี่เง่าและโคตรตลกเลย พูดออกไปไม่โดนฟองด่าก็โดนฟองหาว่าบ้าแน่ๆ เอาไงดีล่ะ

 

"......"

 

"มิน ทำไมต้องเม้มปาก มันเครียดขนาดนั้นเลยเหรอ?"

 

"หึ เปล่า"

 

"อ่าว งั้นเราไม่อยากรู้ก็ได้"

 

"คือ...มันงี่เง่า"

 

"งี่เง่ายังไง?"

 

"ก็แบบว่า..."

 

"แบบไหน?"

ฟองเอียงคอมองเล็กน้อย ในแววตาใสๆนั่นฉายแววกำลังลุ้นคำตอบของผมอย่างเห็นได้ชัด สุดท้ายผมก็แพ้ทางเขาก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดออกมา

 

"อิจฉาหมาว่ะ"

ผมพูดจบก็หัวเราะแห้งๆพร้อมกับยกมือถูแก้มตัวเองแก้เขิน ฟองมองหน้าผมนิ่งก่อนจะหลุดขำพรืดออกมาอย่างเอาเป็นเอาตายจนไอ้เบนซินยังต้องยกหัวขึ้นมามองกัน ตลกอะไรนักหนาวะเนี่ย หัวเราะจนผมเริ่มอายแล้วนะฟอง!

 

"มินแม่งจี้ กับหมายังอิจฉาได้นะคนเรา"

ฟองยังขำต่อท้ายประโยคอีกนิดหน่อยก่อนจะยกมือเรียวมาขยี้หัวผมเล่น... มันจะฟินกว่านี้ถ้ามือนั่นไม่ได้ผ่านการลูบหัวไอ้เบนซินมา -_- ขนหมาติดหัวผมเถอะ เพิ่งสระผมมานะเว้ย

 

"ก็หมาอ้อนฟองได้นี่หว่า"

ผมว่าเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะหนีมือของฟอง เขาละมือออกไปแล้วส่งยิ้มกว้างมาให้กันก่อนจะหลบตาแล้วพูดประโยคชวนให้ใจสั่นซะอย่างนั้น

 

"แล้วใครห้ามมินไม่ให้อ้อนเรา"

รู้สึกว่า..แก้มของฟองจะแดงนะครับ ผมจ้องแก้มใสๆสีชมพูระเรื่อของเขาก่อนจะยิ้มกว้าง แบบนี้ผมถือว่าอ่อยนะเว้ย

 

"ฮันแน่ อยากให้มินอ้อนก็บอกมา"

ผมแกล้งใช้นิ้วจิ้มแก้มนิ่มๆนั่น คนโดนแต๊ะอั๋งหันขวับมาทำตาเขียวใส่ก่อนจะจับนิ้วผมไปกัดหน้าตาเฉย เจ็บครับ ซี้ดเลย ฟองกัดจนจมเขี้ยว! ผมรีบดึงมือกลับแล้วลูบรอยฟันบนมือไปมาด้วยใบหน้าเหยเก นิ้วช้ำแน่ๆครับรับรอง

 

"เพ้อเจ้อว่ะมิน เราไม่ได้พูดแบบนั้นสักคำ"

หลังจากจัดการผมเสร็จเขาก็ก้มหน้าลงแล้วลูบหัวไอ้เบนซินอย่างเอาเป็นเอาตาย ไอ้หมาหล่อถึงกับขยับหัวหลบกันเลยทีเดียว

 

"มินล้อเล่นน่า"

 

"อืม เออ แล้วมินเลิกเรียนกี่โมง?"

 

"เลิกสี่โมงครับ"

 

"อ่าฮะ งั้นตอนเย็นเราไปรอหน้าคณะแล้วกัน"

 

"หือ ถ้าฟองยังทำธุระไม่เสร็จมินให้ไอ้บีทมาส่งก็ได้"

 

"คงเสร็จแล้ว เดี๋ยวเราไปรับเอง"

 

"แต่..."

 

"ไม่แต่แล้ว"

 

"โอเค..."







 

ใกล้เที่ยงผมกับฟองก็ตรงดิ่งไปมหา'ลัย การจราจรติดขัดนิดหน่อยแต่เพราะว่าคอนโดอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่เลยทำให้พวกเราถึงก่อนเวลาเรียนของผมเกือบยี่สิบนาที ฟองจอดรถหน้าคณะ ก่อนจะผมจะลงรถก็บอกลากันนิดหน่อยตามประสาคนจีบ

 

"ขับรถดีๆนะครับ ถ้าเสร็จธุระช้าก็ไม่ต้องรีบนะ มินรอได้"

ผมกดรอยยิ้มมุมปากส่งให้เขา ส่วนฟองทำแค่พยักหน้าเบาๆก่อนจะโบกมือไล่ให้ผมลงจากรถได้แล้วเพราะเพื่อนของผมชะเง้อคอยืดคอยาวมองอยู่

 

"ลงไปก่อนที่เพื่อนมินจะเดินมา"

ฟองพูดแล้วมองไปที่เพื่อนของผม ผมพยักหน้ารับแล้วเปิดประตูลงไป แต่ก่อนจะปิดประตูเสียงฟองก็ชะงักการกระทำของผมไว้ซะก่อน

 

"ตั้งใจเรียนด้วย"

เสียงนั้นเบามากแทบจะเป็นเสียงกระซิบ ใบหน้านั่นไม่ได้มองมาที่ผมสักนิดแต่ก็เดาได้ว่าเจ้าตัวกำลังกลั้นยิ้มอยู่แน่ๆ

 

"ครับผม!"

ผมรับคำตอนทำท่าตะเบะเหมือนทหารใส่เขา ฟองหันมาหัวเราะเบาๆให้กัน ส่วนผมก็ยิ้มตอบกลับก่อนจะปิดประตูรถลงแล้วยืนรอจนฟองเคลื่อนรถออกไปถึงได้เดินไปหาพวกยีราฟสอดรู้สอดเห็น

 

"หูยยยย คุณชายมีคนมาส่งด้วยอ่ะ"

เสียงไอ้บีทดังมาก่อนที่ผมจะทิ้งตัวลงนั่งด้วยซ้ำ หน้ามันมันกวนโอ๊ยจนผมต้องผลักหัวมันไปก่อนจะนั่งลง

 

"เสือก"

ผมว่าก่อนจะทักทายคนที่เหลือ ไอ้แทมนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์ ส่วนไอ้โฟร์ทก็ก้มหน้าก้มตาแชทกับใครบางคนอยู่ เดาไม่ยากก็น่าจะเป็นหนุ่มวิศวะการบินนั่นล่ะครับ...ไม่ใช่พี่เฟียนะ ไอ้น้องแอร์ต่างหาก เดี๋ยวนี้คู่แอร์โฟร์ทเขาพัฒนาครับ เมื่อไหร่แอร์ว่างจะโผล่หน้ามาหาไอ้โฟร์ทตลอด พวกผมที่เหลือก็สนุกปากแซวกันใหญ่ บางทีไอ้โฟร์ทมันก็เขิน บางทีไอ้โฟร์ทมันก็ไล่เตะพวกผม...

 

"แรงว่ะที่รัก ไอ้บีทมันก็แค่อยากมีส่วนร่วมในชีวิตมึงเอง"

ไอ้โฟร์ทพูดทั้งๆที่ยังก้มหน้าก้มตาตอบแชท ไอ้บีทพยักหน้าหงึกหงักเพราะไอ้โฟร์ทคงพูดถูกก่อนที่มันจะชะเง้อมองหน้าจอโทรศัพท์คนข้างๆ ไอ้โฟร์ทเหมือนจะรู้ตัวมันเลยคว่ำหน้าจอลงซะอย่างนั้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นถลึงตาใส่ไอ้บีท

 

"กูว่ามันอยากมีส่วนร่วมในชีวิตทุกคนว่ะ"

ผมพูดพลางหยิบโทรศัพท์ออกมาดูเวลา อีกสิบนาทีจะเข้าเรียนแต่พวกผมไม่รีบหรอกครับ วันนี้เรียนชั้นล่าง เป็นวิชาเลือก วิชาคอมพิวเตอร์กราฟฟิกล่ะ

 

"เออ เสือก สอด เกินหน้าเกินตา"

ไอ้โฟร์ทว่าเสียงติดหงุดหงิดเล็กน้อย ไอ้คนโดนว่ามันยังทำหน้าระรื่นไม่รู้สึกรู้สาแล้วอ้าปากส่งเสียงวนกลับมาเรื่องผมเหมือนเดิม

 

"ไปไงมาไงวะ ฟองมาส่งมึงเนี่ย"

บีทถาม แววตาอยากรู้อยากเห็นเต็มที่ แต่ผมว่าคงไม่ได้มีแค่บีทคนเดียวที่อยากรู้หรอกครับ เพราะแม้แต่ไอ้แทมยังยอมหยุดเกมในมือแล้วเงยหน้าขึ้นมาตั้งใจฟังเหมือนกัน กับไอ้โฟร์ทนี่ไม่ต้องพูดถึง เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าเสื้อท้าวมือใต้คางตั้งใจฟังเรียบร้อยแล้ว

 

"สรุปพวกมึงนี่ขี้เสือกทุกคน"

 

"เรื่องของเพื่อนคือเรื่องของเรา"

บีทแม่งหน้าด้านมาก

 

"รวมเรื่องบนเตียงด้วยเหรอมึง?"

 

"ถ้าได้ก็ดีครับคุณปรมินทร์"

ไอ้บีทยิ้มกรุ่มกริ่มจนไอ้โฟร์ทมันไส้แล้วยกมือตบหัวมันไปหนึ่งที

 

"พ่อง!"

ผมด่ามันก่อนจะตบหัวมันแถมอีกหนึ่งครั้ง มันมุ่ยหน้าก่อนจะลูบหัวตัวเองไปมา ไอ้แทมยกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยวาจาเชือดเฉือนใส่กัน

 

"สมควร"

 

"มึงมันก็งี้ล่ะ ปากร้ายใส่กูตลอด ใช่สิ มึงไม่รักกูนี่ ฮือๆ"

ไอ้บีทเบะปากก่อนจะแกล้งทำเสียงร้องไห้ใส่ไอ้แทม รายนั้นมองไอ้บีทก่อนจะส่ายหน้าด้วยความระอา

 

"อย่ามาปัญญาอ่อน"

โดนไปอีกหนึ่งดอก ไอ้บีทถึงกับหุบปากทันที

 

"กลับมาประเด็นเดิม ตอบมาไอ้มิน"

จ่ะ... โฟร์ทแม่ง มึงช่วยเป็นปลาทองสักวันไม่ได้เลยหรือไง

 

"ก็ฟองจะไปทำธุระพอดีเลยแวะมาส่งกูด้วย เขาบอกจะใช้รถหลายคันทำไมเปลืองน้ำมัน"

 

"เหมือนเมียกำลังดุผัวเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านเลยว่ะ"

ไอ้บีทว่าพลางทำหน้าครุ่นคิด ผมแทบสำลักน้ำลายตัวเองตอนฟังมันพูดจบ ไอ้เชี่ยนี่ก็คิดได้.. เอาซะผมเขินเลยว่ะ

 

"มึงก็พูดเรื่อยเปื่อย"

 

"แหม ชอบก็บอกมาเหอะที่รัก อย่ามาตอแหลใส่พวกกู"

ไอ้โฟร์ทพูดจบแล้วหันไปแท็กมือกับไอ้บีทด้วยรอยยิ้มกวนตีน ผมเบ้ปากใส่พวกมันเพราะเถียงไม่ออก ใครไม่ชอบบ้างล่ะว่ะ ความมโนเรื่องฟองผมมีสูงนะเว้ย

 

"ขึ้นเรียนเหอะ"

แทมพูดขึ้นพวกผมเลยจบบทสนทนาแล้วเดินไปห้องเรียน ระหว่างทางไปก็ยังโดนพวกมันแซวเล็กแซวน้อยไปตลอดทาง ชินแล้วล่ะครับกับการโดนพวกมันแซวเรื่องฟอง ชินจนอยากบอกให้พวกมันเลิกแซวซะที.. เพราะผมอยากให้มันเป็นเรื่องจริงแล้ว







 

หลังจากเรียนเสร็จผมก็ออกมาจากห้องพร้อมกับเพื่อนๆ แต่ยังไม่ทันจะก้าวไปได้ไกล สาวน้อยร่วมคลาสคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหากันพร้อมใบหน้าที่แดงระเรื่ออย่างคนเขินอาย พวกผมมองหน้ากัน ในสมองของทุกคนตอนนี้คงกำลังเดาว่าเป้าหมายของสาวน้อยตรงหน้าคือใคร แล้วแจ็คพอตก็มาแตกที่ผมเพราะเสียงใสๆนั่นเฉลยออกมา

 

"มินคะ คือว่า..."

เธอเรียกชื่อผมก่อนจะปรายสายตามามองกัน ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่ามีอะไร มือของเธอกำสายกระเป๋าของตัวเองไว้แน่นแล้วเปล่งเสียงหวานออกมา

 

"คือเราชอบมิน ช่วยรับรักเราหน่อยได้ไหม?"

เธอมองผมด้วยสายตาออดอ้อน ผมหันไปมองหน้าเพื่อนๆที่กำลังทำหน้าล้อเลียนผมอยู่ มีความกวนตีนแม้แต่ตอนที่ผมกำลังเผชิญสถานการณ์จริงจังอีกแล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่ถือว่ามีความกล้ามากครับ เพราะคนที่ไม่สนิทจะรู้จักผมที่เป็นคนนิ่งๆเงียบๆ มาดคุณชายเย็นชาอะไรประมาณนั้นเลยไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาสารภาพรักกับผมตรงๆแบบนี้

 

"พวกกูไปก่อนนะ"

แล้วมันสามตัวก็เดินจากไปโดยที่ไม่ยอมให้ผมยื่นคำทักท้วงใดๆทั้งสิ้น ผมลอบมองเธออีกครั้งแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆอีกครั้ง

 

"ผมคงรับรักไม่ได้หรอกครับ ขอโทษด้วยนะ"

ผมตอบด้วยสีหน้าและแววตาที่เรียบเฉยจนเธอกำมือลงบนสายกระเป๋าแน่นกว่าเดิม แววตาของเธอแสดงความเจ็บปวดออกมาอย่างชัดเจน

 

"ทำไม...ล่ะ?"

เธอยังคงถามต่อด้วยน้ำเสียงขาดห้วง ผมวางมือลงบนหัวของเธอแล้วลูบเบาๆเป็นการปลอบโยน

 

"ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ซึ่งเขาก็ยืนอยู่แถวๆนี้ล่ะ"

ผมยิ้มบางให้กับเธอที่เงยหน้ามองด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำใสๆ เธอพยักหน้ารับด้วยความเข้าใจแล้วผละตัวเดินหนีผมออกไป ส่วนคนที่ยืนพิงกำแพงอยู่ไม่ห่างกันเท่าไหร่ก็สาวเท้าตรงเข้ามาหาผมที่ยืนรออยู่

 

"มาได้จังหวะเลยนะฟอง"

ผมทักเขาก่อนจะส่งยิ้มให้ ฟองยักไหล่ก่อนจะควงกุญแจรถเล่น

 

"สาวมาสารภาพรักเหรอ?"

ฟองถามด้วยน้ำเสียงที่ผมไม่สามารถจับอารมณ์เขาได้ นิ้วเรียวยังคงหมุนกุญแจรถในมือเล่นอยู่ สายตามองตรงไปนอกอาคารที่บัดนี้เริ่มมีสายฝนตกลงมาปรอยๆ.. ไม่มีสัญญาณเตือนใดๆว่าฝนจะตกเหมือนกับที่ฟองโผล่มาในจังหวะที่ผมโดนสารภาพรักพอดี

 

"อือ"

ผมตอบไปสั้นๆแล้วมองสายฝนที่เพิ่มจำนวนลงมาอย่างรวดเร็ว ดีนะที่ที่เรายืนอยู่มีหลังคากันฝนพอดี

 

"ไม่รับรักเหรอ?"

คำถามที่ชวนให้ผมใจกระตุก น้ำเสียงของฟองยามถามมันช่างราบเรียบไร้ความรู้สึกมันเหมือนกับว่าผมไม่เคยทำให้เขาหวั่นไหวเลยสักครั้ง

 

"อยากให้มินรับรักเขาเหรอ?"

ผมถามน้ำเสียงเบาหวิว รู้สึกปวดหนึบแปลกๆในอกกับท่าทีไม่ยินดียินร้ายของฟอง ผมเหลือบสายตามองเสี้ยวหน้าของเขา มันดูปกติมาก ปกติจนน่าใจหาย

 

"ไม่รู้ ก็แค่ถามเฉยๆ"

ฟองหันมามองผมเพียงแค่แว้บเดียวก่อนจะหันไปสนใจฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่ง ละอองฝนเริ่มทำให้เสื้อผ้าของพวกเราเปียกชื้น

 

"จะให้มินรับรักคนอื่นได้ไงวะ ในเมื่อมินกำลังจีบคนข้างๆอยู่"

ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่ทอดสายตาตรงไปด้านหน้าเช่นเดียวกับคนด้านข้าง ในตอนนี้ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น รู้แค่ว่าตัวเองกำลังท้อกับเรื่องฟอง ท้อแต่ไม่ถอยนะ

 

"ใครเหรอไอ้คนข้างๆเนี่ย?"

ฟองเหล่สายตามามองผมพร้อมกับยกยิ้มมุมปากขึ้นนิดๆ.. รู้ได้ทันทีเลยในตอนนั้นว่าที่ผ่านมาทั้งหมดทั้งมวล ฟองแกล้งผม!

 

"ยังไม่รู้ตัวอีก?"

ผมจ้องหน้าเขากลับไปพร้อมขยับตัวเข้าไปใกล้จนหน้าอกของตัวเองชนเข้ากับหัวไหล่ของคนขี้แกล้ง ฟองไม่ได้ขยับหนีแต่หันมาเผชิญหน้ากันซะอย่างนั้น ระยะห่างเพียงแค่นี้ทำให้หัวใจทำงานหนักเป็นบ้า คาดว่านายปรมินทร์อาจจะเป็นโรคหัวใจตายก่อนจะได้คุณจิรัสย์เป็นแฟนแล้วล่ะมั้ง

 

"ไม่รู้"

คำตอบสั้นๆมาพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆของคนตรงหน้ากำลังทำให้สติของผมกำลังจะจางหาย ยิ่งกลิ่นตัวหอมๆที่รบกวนประสาทรับรู้ในตอนนี้ อาการของผมก็ยิ่งแย่.. ห้ามใจไม่ให้คิดอกุศลกับฟองนี่ต้องทำยังไง

 

"ต้องทำยังไงถึงจะรู้ครับ?"

ผมขยับหน้าเข้าไปใกล้เข้าอีกจนปลายจมูกเราสัมผัสกัน ดีหน่อยที่ตอนนี้แถวนี้ไม่มีคนอื่น.. จะทำอะไรก็สะดวก ฟองขยับถอยหนีผมแล้วเบนหน้ามองไปทางอื่น ปากบางเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง ผิวแก้มใสขึ้นสีแดงระเรื่อ น่าจับมาหอมแก้มชะมัด

 

"อยู่มหา'ลัยอย่าทำตัวรุ่มร่ามดิ"

 

"ถ้างั้นอยู่คอนโดก็ทำได้อ่ะดิ?"

 

"ที่ไหนๆก็ไม่ได้เว้ย ถ้าทำจะอัดมินให้เละ"

ฟองหันมาทำตาโตใส่กันพร้อมกับยกหมัดขึ้นขู่ ผมระบายยิ้มออกไปอย่างไม่เกรงกลัว.. ก็ฟองนะ เหมือนแมวตัวน้อยๆที่กำลังขู่เสืออยู่น่ะสิ น่ารักเป็นบ้า

 

"ยิ้มบ้าไร อยากโดนต่อยเหรอ?"

หมัดนั้นตรงเข้ามาที่หน้าของผม ผมไม่ได้หลบเลี่ยงเพราะรู้ว่าฟองไม่ทำแน่ๆ เขาเป็นคนที่ไม่เคยใช้กำลังพร่ำเพรื่อหรอก

 

"ต่อยสิครับ"

ผมว่าก่อนจะหลับตาลงแล้วสัมผัสได้ถึงหมัดที่แตะลงมาบนสันจมูกก่อนจะออกแรงผลักหน้ากันเบาๆพร้อมกับเสียงจิ๊ปาก

 

"หมั่นไส้"

 

"มินหล่ออ่ะดิเลยไม่กล้าต่อย"

ผมลืมตาแล้วยักคิ้วให้เขา ฟองย่นจมูกแล้วส่งหมัดมาที่แก้มของผมก่อนจะดันมันเข้ามาจนหน้าผมเอียงไปด้านหนึ่ง ผมไม่รอช้าที่จะจับมือฟองแล้วกุมไว้อย่างนั้น เจ้าตัวเขาก็ไม่ได้สะบัดออกแต่อย่างใด

 

"คนอะไรโคตรหลงตัวเอง"

เสียงฟองพึมพำอะไรเบาๆแต่ผมกลับได้ยินชัดเจนทั้งๆที่สายฝนเทกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย มือของเรายังคงจับประสานกันอยู่แบบนั้น สายตาของเราจ้องมองไปที่สายฝนตรงหน้า

 

"ไม่อยากหลงตัวเองแล้วว่ะ อยากให้ฟองหลง"

 

"รอไปจนแก่นู่นล่ะ"

 

"แก่แค่ไหนก็จะรอ"

 

"ให้มันจริงเหอะ"

 

"ตามจีบ ตามรักขนาดนี้ จะให้รอนานแค่ไหนก็ไม่มีปัญหา"

หลังจากคำพูดของผมจบลงพวกเราทั้งสองก็ปล่อยให้เสียงฝนทำหน้าที่ของมันไปเรื่อยๆ มือที่ยังจับประสานกระชับกันแน่นขึ้นส่งฝ่ายทั้งความรู้สึกและความอบอุ่นให้กัน.. แต่มันน่าแปลกตรงที่จับมือกันแต่อุ่นวาบไปทั้งหัวใจนี่ล่ะครับ





----------------------------------------------------------

มินกลับมาแล้วนะ... อย่าเพิ่งไปหลงคนอื่นกันก่อนเนอะ ^^
อ่านให้สนุกน้า ♥
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 15 (P.3) 04/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 04-07-2016 11:15:33
 :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 15 (P.3) 04/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 04-07-2016 11:56:13
หวานนนน อ่านแล้วอมยิ้มแก้มตุ่ยเลย
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 15 (P.3) 04/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 04-07-2016 19:25:03
หวานมากอ่ะ พยายามเข้านะมิน สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 15 (P.3) 04/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 04-07-2016 21:47:03
ดูนิ่มนวลจริงๆนะ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 15 (P.3) 04/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 06-07-2016 00:36:42
หวานละมุน,,,
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 16 (P.3) 10/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 10-07-2016 08:35:33
Follow You 16





"มิน"
เสียงใครบางคนเรียกชื่อผมอยู่ห่างไกล มันเลือนรางจนเหมือนเสียงกระซิบ ผมพลิกตัวซุกหน้าลงกับหมอนใบโตแล้วขดตัวเข้าใต้ผ้าห่มทั้งๆที่ยังหลับตา อากาศกำลังสบายขอนอนต่ออีกสักหน่อยเถอะ

"มิน!"
เสียงเรียกชื่อผมดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ระดับเสียงมากขึ้นกว่าเก่าเหมือนคนแรกขยับเข้ามาใกล้กันอีกนิด แต่ผมเลือกที่จะไม่สนใจแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง

"ถ้าไม่ตื่นเราถีบนะ!!"
ผมสะดุ้งตกใจลืมตาตื่นในทันทีก่อนจะถีบผ้าห่มออกจากตัวแล้วลุกขึ้นนั่ง ดวงตาสอดส่ายหาคนต้นเสียงก่อนจะส่งยิ้มแหยไปให้ ฟองยืดกอดอกทำหน้าบึ้งอยู่ข้างเตียงนั่นเอง

"ตื่นแล้วๆครับ"
ผมว่าก่อนจะยกมือขึ้นขยี้หัวไปมา ติดเป็นนิสัยตั้งแต่เด็กจนโตว่าตอนตื่นต้องขยี้หัวตัวเอง ฟองมองมาแล้วถอนหายใจเบาๆแล้วพยักหน้ารับ

"ทำไมปลุกยากปลุกเย็นแบบนี้"
ฟองนั่งลงที่ว่างข้างๆก่อนจะส่งมือถือมาให้ ผมมองด้วยความงงแล้วรับมันเอามาถือไว้

"เอามาให้ทำไม?"

"บีทโทรมาเป็นสิบสายแล้ว"

"อ้าวเหรอ จริงๆฟองรับให้มินเลยก็ได้นะ"
ผมว่าก่อนจะก้มลงกดมือถือ หางตาผมเหลือบเห็นฟองส่ายหน้าเบาๆ

"ไม่เอาอ่ะ มือถือมันของส่วนตัวนะ"
ฟองลุกขึ้นยืนแล้วบิดขี้เกียจเบาๆ ตอนที่เขายืดแขนทั้งสองข้างขึ้นเสื้อยืดสีขาวดันเปิดโชว์รอบเอวบาง ผมเผลอมองจนฟองจับได้

"มองอะไร?"
ดวงตาเล็กๆหันมามองกันอย่างคาดคั้น ผมส่ายหน้ารัวแล้วหันหนีสายตาของเขาก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากดมือถือทั้งๆที่มันไม่มีอะไรเลย

"เปล่าๆ แต่เรื่องมือถือมินไม่ว่าอะไรนะ สำหรับฟองแล้วมินไม่มีความลับอะไร"
ผมกดเข้าโปรแกรมไลน์ก่อนจะพิมพ์ข้อความไปถามไอ้บีทว่ามีธุระอะไรถึงกระหน่ำโทรขนาดนั้น เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ผมเลยนอนตื่นสายกว่าปกติอยู่มาก

"รอให้เป็นมากกว่าเพื่อนแล้วค่อยมาพูดแบบนี้นะ"
ฟองย่นจมูกใส่ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไป ปล่อยให้ผมอมยิ้มกับประโยคที่ฟองพูดออกมา เป็นมากกว่าเพื่อนนี่ก็ต้องเป็นแฟนสินะ พูดแบบนั้นผมถือว่าให้ความหวังกันนะเอ้อ แต่สิ่งที่เริ่มทำให้ผมหงุดหงิดคือไอ้เบนซินวิ่งมาดักหน้าฟองแล้วส่ายหางไปมาอย่างร่าเริง ก่อนจะใช้หัวถูไถขาฟอง ออดอ้อนให้เล่นด้วยกัน เป็นหมาที่โคตรน่าหมั่นไส้เลย

ผมพับผ้าห่มเรียบร้อยแล้วเดินตามฟองออกไป ภาพที่เห็นคือคนตัวเล็กกำลังพยายามลากไอ้เบนซินลงอ่าง สงสัยคงคิดจะอาบน้ำให้ไอ้เบนซินแหงๆ ผมต้องเป็นพ่อที่ดีเข้าไปแจมด้วยแล้วล่ะ

"ทำอะไรครับ?"
ผมเท้าแขนกับวงกบประตูแล้วมองทั้งคนทั้งหมาฟัดกันอยู่ในอ่างอาบน้ำ ตอนแรกฟองก็เป็นต่อล็อคตัวไอ้เบนซินได้ แต่ไปไงมาไงไม่รู้กลายเป็นไอ้เบนซินขึ้นไปนอนสบายบนตัวฟองซะอย่างนั้น ตอนนี้ผมกำลังคิดว่าที่ตรงนั้นควรเป็นผมมากกว่า...

"จะอาบน้ำให้เบนซิน มินมาช่วยจับมันหน่อยดิ ตัวหนักชะมัดเลย"
ฟองบ่นกระปอดกระแปดแล้วกอดรวบตัวไอ้เบนซินไว้ ผมหลุดขำนิดหน่อยก่อนจะเดินไปดึงไอ้หมาหล่อให้ลงจากตัวฟอง ที่มันดื้อแบบนี้ก็เพราะมันคิดว่าฟองกำลังเล่นด้วยนี่ล่ะ

"มันคิดว่าฟองเล่นด้วยน่ะเลยไม่ยอมอยู่นิ่งๆ"
ผมอธิบายให้ฟองเข้าใจก่อนจะใช้มือขยี้หัวไอ้เบนซินเล่น ฟองร้องอ๋อเบาๆก่อนจะดันตัวลุกขึ้นแล้วก้าวออกมาจากอ่างลงมานั่งคุกเข่าข้างๆผม

"แล้วทำไงให้เบนซินอยู่นิ่งๆ?"
ฟองหันมามองผมด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น ผมอดไม่ได้ที่จะมองใบหน้าของฟองนานๆ... มองยังไงก็หล่อ น่ารัก มองยังไงก็รักว่ะ

"มิน..จ้องมากเกินไปแล้ว"
ฟองว่าก่อนจะหลบส่ายตาแล้วส่งมือมาดันหน้าผมให้หันกลับไปมองด้านหน้า มือนิ่มๆที่สัมผัสลงบนแก้มทำให้ผมไม่อยากให้เขายกมือออกเลย โคตรจะฟิน แถมยังมีกลิ่นหอมด้วย

"หน้าฟองมันน่ามองนี่หว่า"
ผมพึมพำเบาๆก่อนจะคว้าขวดแชมพูสุนัขที่อยู่ใต้อ่างล้างหน้าออกมา เหมือนจะเห็นฟองขมวดคิ้วยุ่งอยู่แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรก่อนจะคว้าฝักบัวแล้วเปิดน้ำใส่ไอ้เบนซิน มันนั่งนิ่งหลับตาพริ้มรอรับสายน้ำเย็นๆ นี่ล่ะวิธีที่จะทำให้มันอยู่นิ่ง

"เราหล่ออ่ะดิ"
ฟองพูดก่อนจะคลายคิ้วที่ขมวดออกแล้วยักคิ้วกวนๆมาให้กัน จะกี่ครั้งผมก็ไม่เคยปฏิเสธหรอกนะว่าเขาหล่อ.. แต่ก็มีมุมน่ารักด้วยนะ บางทีอาจจะมากกว่ามุมหล่อซะอีก

"อือ แต่หล่อสู้เราไม่ได้หรอก"
ผมหันไปยักคิ้วให้คนด้านข้างก่อนจะส่งฝักบัวที่ปิดน้ำเรียบร้อยแล้วไปให้ ส่วนผมเทแชมพูลงบนฝ่ามือแล้วขยี้ลงบนตัวไอ้เบนซิน

"หลงตัวเองจริงๆเลย"
ฟองว่าก่อนจะขำออกมาเบาๆแล้ววางฝักบัวลงก่อนจะเอื้อมมือมาละเลงฟองเล่นบนตัวไอ้เบนซิน

"ก็บอกแล้วว่าไม่อยากหลงตัวเอง"
ผมพูดก่อนจะวางมือลงบนมือฟองที่กำลังลูบฟองไปทั่วตัวไอ้หมาหล่อ เขาชะงักมือแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากัน

"ประโยคต่อไปไม่ต้องพูดออกมานะ"
ฟองเบ้ปากใส่ก่อนจะขยับมือออกจากกัน ผมถึงกับหลุดหัวเราะออกมา... โธ่ รู้ทันกันแบบนี้ก็แย่น่ะสิครับ

"ถ้าไม่อยากให้พูดก็หลงสักทีสิครับ"
ผมพูดก่อนจะระบายยิ้มหวานส่งไปให้ ฟองมองหน้าผมก่อนจะเบนสายตาไปสนใจไอ้เบนซินแทน ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาแต่อย่างใด ว้า.. ไม่เขินอีกแล้ว

"อาบน้ำเบนซินเหอะ"
แล้วเรื่องก็จบลงเพราะการตัดบทของฟอง ผมไม่เร่งรัดอะไรหรอก เพราะการที่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็ทำให้คนจีบแบบผมมีความหวังไปเจ็ดสิบเปอร์เซ็นแล้วล่ะ

หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีกเพราะตั้งใจอาบน้ำไอ้หมาหล่อ พอจัดการเช็ดตัวให้มันเรียบร้อย ฟองเลยอาสาเป็นคนเป่าขนมันให้แห้งเอง ส่วนผมก็ล้างห้องน้ำแล้วจัดการอาบน้ำให้ตัวเองซะเลย

ผมเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับเสื้อยืดสีเขียวขี้ม้าและกางเกงขาสั้นเท่าเข่า ภาพตรงหน้าคือฟองกำลังทำหน้าบูดแล้วถือไดร์เป่าผมจ่อหัวไอ้เบนซินอยู่ เสียงบ่นเบาๆลอยมาทำให้ผมต้องอมยิ้ม

"ขนหนานะเรา เป่าเท่าไหร่ก็ไม่แห้งสักที"
ฟองบ่นแต่ใบหน้าเขากลับยิ้มอย่างมีความสุขนั่นทำให้คนมองอย่างผมยิ้มตามไปด้วย พอสบโอกาสผมก็เลยเดินไปนั่งลงบนพื้นข้างๆกัน ฟองหันมามองผมเล็กน้อยก่อนจะกลับไปสนใจไอ้เบนซินต่อ

"เสียงมือถือมินดังอีกแล้วล่ะ"

"อ้อ โอเค"
ผมเอื้อมขยับตัวไปหยิบมือถือของตัวเองที่ตั้งทิ้งไว้บนโต๊ะกาแฟ สายโทรเข้าล่าสุดที่เจอคือไอ้บีทเจ้าเดิม สงสัยตอนที่ผมส่งไลน์ไปถามมันแล้วมันตอบกลับมาผมก็หายตัวไปเลย... ก็ไปปฏิบัติพ่อแม่ลูกอยู่นี่ครับ เวลาครอบครัวน่ะ

"ไอ้บีทโทรมา"
ผมบอกฟอง รายนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วเลิกคิ้วมองกัน..ก่อนจะปิดไดร์แล้งถามคำถามผมออกมา

"ไม่โทรกลับเหรอ เหมือนบีทจะมีธุระสำคัญนะ"

"กำลังจะโทรๆ"
ผมตอบแล้วกดมือถือโทรออกหาไอ้บีทไม่นานมันก็รับสาย

'เชี่ยยยย อะไรของมึงเนี่ย ติดต่อยากชิบหาย'
คำแรกที่มันทักทายกันทำให้ผมอยากจะมุดมือถือไปต่อยปากมันจริงๆ ด่ากันแต่เช้าวันนี้ผมคงเจอแต่เรื่องโชคร้าย

"อะไรของมึง มาถึงก็ด่ากูเลยนะ"
ผมกรอกเสียงลงไปแต่สายตากลับโฟกัสฟองที่เอาแต่เล่นกับไอ้หมาตัวใหญ่ ตอนนี้อยากคุยธุระให้จบๆแล้วไปร่วมวงบ้าง

'โทรไปก็ไม่รับ ไลน์มากูไลน์กลับแม่งก็ไม่ยอมอ่าน'

"กูเพิ่งตื่นแล้วไปอาบน้ำหมา"

'เออๆ แล้วฟองอ่ะอยู่ป่ะ?'

"อะไร อยู่ๆมาถามหาฟอง"
ผมว่าก่อนที่ฟองจะหันมามองแล้วเลิกคิ้ว ผมเลยโบกมือไปมาแล้วยิ้มส่งไปให้ ฟองพยักหน้ารับแล้วกลับไปเล่นกับไอ้เบนซินต่อ

'อย่ามาหวง กูแค่จะชวนมึงกับฟองไปกินเหล้าคืนนี้ ไปป่ะ?'

"อ๋อ รอแป็ป กูถามฟองก่อน"

'เออๆ'
แล้วผมก็ขยับมือถือให้ไกลจากปากก่อนจะเรียกชื่อคนที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

"ฟองครับ"
ฟองเงยหน้าขึ้นมามองกันผมเลยพูดต่อ

"ไอ้บีทมันชวนไปกินเหล้าคืนนี้ ฟองจะไปป่ะ?"
ฟองมองผมด้วยสีหน้างงงวยก่อนจะชี้มือเข้าหาตัวเอง

"ชวนเราเหรอ?"

"ใช่ๆ ชวนมินกับฟอง"

"อ๋อ เราขี้เกียจอ่ะ"

"อ่า ไม่ไปเหรอ?"

"ขอคิดดูก่อนแล้วกันนะ"

"โอเคๆ"
ผมส่งยิ้มให้ก่อนจะขยับมือถือเข้ามาแนบหูอีกครั้ง

"โหลๆ ไอ้บีท ฟองขอคิดดูก่อน"

'โอเคๆ แล้วมึงอ่ะ ไปป่ะ หรือว่าต้องรอคำตอบฟอง?'

"เออ ตามนั้นเลยมึง"

'แหมมมมม ไอ้คนติดเมีย'

"เมียพ่อง ไม่ใช่เว้ย"
ผมพูดเสียงเบาลงมาก เพราะไม่อยากให้ฟองได้ยิน พวกเพื่อนผมก็แม่ง...จะชงอะไรหนักขนาดนั้น แฟนยังไม่ได้เป็นจะให้จับทำเมียเลยมันก็ยังไงๆอยู่นะ

'อยู่ด้วยกันขนาดนั้นมึงจะปล่อยให้รอดเหรอวะ?'

"ค่อยเป็นค่อยไปไหมล่ะมึง"
ผมเบ้ปากก่อนจะเป่าลมใส่มือถือ หมั่นไส้แม่งแกล้งให้หูแตกซะเลย

'ไอ้เชี่ยย พายุลมปากเข้ารึไง เออ พ่อสุภาพบุรุษ! แค่นี้นะ คำตอบว่าไงก็บอกกูด้วย บาย'

"เออ บาย"
ผมวางมือถือลงบนโต๊ะเหมือนเดิมแล้วขยับไปใกล้ฟองอีก ก่อนจะใช้สายตาอ้อนๆมองไปที่เขา ฟองปล่อยตัวไอ้เบนซินที่พยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดไปแล้วหันมาสนใจผมแทน

"มามองกันแบบนี้จะเอาอะไร?"
ฟองจ้องมาส่วนผมก็ยกฝ่ามือขึ้นลูบท้องตัวเองไปมา .... หิวแล้วครับ

"หิวข้าว"

"เอ้อ ลืมเลย! รอเดี๋ยวนะเราไปทำให้"
ฟองลุกลี้ลุกลนจะลุกขึ้น แต่ผมก็คว้าข้อมือเขาเอาไว้ให้นั่งลงที่เดิม

"ไม่ต้องๆ เดี๋ยวออกไปกินข้างนอกเลยก็ได้"

"จะเลี้ยงเหรอ?"
ฟองถามผมก่อนจะยิ้มทะเล้นมาให้ เจ้าตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วก้มหน้ามามองกัน

"ถ้ายอมให้เลี้ยงก็จะเลี้ยงนะ"
ผมตอบก่อนจะยิ้มหวานส่งไป ฟองย่นจมูกใส่ก่อนจะส่ายหน้าแล้วส่งมือมาให้กัน.. ส่งมาทำไมเนี่ย

"ไม่ต้องเลี้ยง ลุกขึ้นมาเลย"
อ๋อ ยื่นมือมาให้ผมจับนี่เอง คนอะไรทำไมน่ารักขนาดนี้ ชักอยากจะเร่งรัดให้รับความรู้สึกของผมไปแล้วล่ะสิ ผมจับมือฟองแล้วลุกขึ้นแต่ขอเนียนจับต่ออีกหน่อยเถอะ นุ่มดี

"ลุกแล้วก็ปล่อยมือดิ"
ฟองมองหน้าผมสลับกับมือตัวเอง ผมยิ้มให้แต่ยังไม่ยอมปล่อยมือออกทำฟองยกมืออีกข้างมาดีดหน้าผากกันซะอย่างนั้น ผมเบิกตาโตก่อนจะยกมืออีกข้างขึ้นลูบหน้าผากตัวเอง ยังไงๆก็ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยมือข้างนี้

"ทำไมต้องทำร้ายกันด้วย"
ผมว่าเสียงอ่อยพร้อมกับทำหน้าเศร้า ฟองมองผมด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายแต่สักพักก็หลุดยิ้มจนได้ ผมเกือบจะใจเสียแล้วไหมล่ะ

"มินอยากเนียนก่อนเองนี่"

"ก็มือฟองนุ่ม"
ว่าแล้วผมก็ยกมือข้างที่จับมือฟองให้แนบกับแก้มแล้วถูไถไปมาเบาๆบนหลังมือเขา ดวงตาของผมจ้องมองหน้าฟองที่ตอนนี้เริ่มกลายเป็นสีชมพูไปแล้ว ปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเพราะกำลังกลั้นยิ้มอยู่ ทำไมต้องน่ารัก... นี่ก็รักจนไปไหนไม่ได้แล้วนะ

"ไม่ต้องมาปากหวาน เราไม่ใช่ผู้หญิงนะเว้ย"
ฟองดึงมือออกแล้วหันหนีไปอีกทางก่อนจะเดินนำผมไปที่ประตูห้อง ผมรีบเดินตามไปติดๆจนทันคนที่ใส่รองเท้าอยู่

"ขอโทษ ก็มินไม่เคยจีบใคร"
ผมขอโทษเขาเสียงเบา ฟองคงรู้สึกแย่ไม่น้อยที่ผมจีบเขาด้วยวิธีการจีบผู้หญิงที่เห็นได้เกลื่อนกลาด แต่การจีบผู้ชายมันต้องทำยังไงล่ะวะผมไม่เคยศึกษามาซะด้วยสิ

"ทำหน้าเครียดอีกแล้ว"
ฟองหันมาก่อนจะใช้นิ้วจิ้มลงตรงหัวคิ้วของผมแล้วออกแรงนวดมันให้คลายออกเบาๆ สายตาของฟองไม่ได้บ่งบอกถึงความเครียดแต่อย่างใด มันกลับดูอ่อนโยนด้วยซ้ำ ผมก็ไม่รู้ตัวหรอกว่าไปขมวดคิ้วตีหน้าเครียดตอนไหนจนฟองทักกันขึ้นมานี่ล่ะ

"กลัวฟองรู้สึกไม่ดี"
ผมช้อนสายตามองเขา มือนุ่มนั่นเลื่อนมาประคองแก้มด้านหนึ่งของผมแล้วลูบเบาๆ

"ถ้าเป็นแบบนั้นเราก็พูดกับมินตรงๆไปแล้ว อย่าคิดมากดิ"
ฟองดึงแก้มผมก่อนจะผละมืออกแล้วส่งรอยยิ้มบางมาให้ เขาหันไปเปิดประตูแล้วก้าวออกไปยืนรอผมด้านหน้าห้อง ผมยิ้มตอบกลับก่อนจะคว้ารองเท้ามาใส่แล้วออกไปกับเขา
ตอนนี้ผมอยู่ร้านเหล้าใกล้ๆกับคอนโด ซึ่งฟองก็ตกลงมาด้วยกันจนได้เพราะอะไรผมก็ไม่รู้ ตอนกลับจากออกไปกินข้าวเช้าควบเที่ยงผมถามฟองอีกรอบเขาก็บอกว่าไม่อยากไป แต่พอผมแต่งตัวอะไรเรียบร้อยแล้วมานั่งรอเวลา เขาก็บอกว่าเปลี่ยนใจแล้วออกมาด้วยกันซะอย่างนั้น ผมก็ไม่ได้ถามอะไร ดีซะอีกที่ไม่ต้องปล่อยฟองอยู่กับไอ้เบนซิน ไม่รู้จะรักจะหลงอะไรกันขนาดนั้น

ตอนที่ผมเดินเข้ามาทุกคนรออยู่ก่อนแล้วไม่ว่าจะเป็น ไอ้บีท ไอ้แทม ไอ้โฟร์ท หรือแม้แต่ ไอ้ปินกับไอ้ฝุ่นก็มาด้วย จริงๆแล้วโซฟามันมีสองตัวใหญ่ ข้างหนึ่งจุได้ประมาณสามสี่คนแบบสบายๆ พวกมันก็นั่งแบ่งข้างกันดิบดี ฝั่งซ้ายของโต๊ะ มีไอ้บีท ไอ้แทม ไอ้โฟร์ท ส่วนฝั่งขวามีไอ้ปินกับไอ้ฝุ่น และมีโซฟาตัวเล็กขนาดหนึ่งคนนั่งตรงหัวท้ายโต๊ะอีก แต่พอพวกมันเห็นผมเดินมากับฟอง ไอ้ปินย้ายตัวเองไปนั่งโซฟาหัวโต๊ะ ส่วนไอ้ฝุ่นย้ายไปนั่งโซฟาท้ายโต๊ะซะอย่างนั้น ไม่ค่อยจะสร้างสถานการณ์อะไรเลย... ต่อหน้าต่อตากันด้วย

"เชิญครับ คู่ข้าวใหม่ปลามัน"
ไอ้ปินพูดด้วยสีหน้าระรื่นจนฟองตบกบาลมันไป แล้วทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา ผมหลุดขำก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบ้าง โซฟามันกว้างไปเลยทำให้เรานั่งห่างกันพอสมควร

"ข้าวใหม่ปลามันอะไรของมึง อย่ามามั่ว"
เป็นฟองที่พูดออกไป ส่วนผมเหรอ นั่งฟังอย่างเดียวครับ ไม่อยากไปขัดอารมณ์ระหว่างเพื่อนกันเท่าไหร่

"แหมๆ หน้าแดงแล้วมึง เขินอ่ะดิ๊"
ไอ้ปินแหย่เพื่อนตัวเองก่อนจะต้องหลบตัวหวืดเพราะฟองส่งหมัดไปหามัน คนพลาดเลยได้แต่จิ๊ปากเบาๆ

"หน้าแดงอะไรของมึง มั่วอีกละ มืดขนาดนี้จะเห็นได้ไง"
ฟองปัดมือไปมา ผมที่รับแก้วเหล้ามาจากไอ้โฟร์ททั้งสองมือเลยยื่นให้ฟองไป

"เอานี่ ไอ้โฟร์ทชงให้แล้ว"
ฟองหันมามองกันก่อนจะรับแก้วไปแล้วหันไปขอบคุณไอ้โฟร์ท

"ขอบคุณนะโฟร์ท"

"ไม่เป็นไรครับเพื่อนสะใภ้"
ไอ้โฟร์ทยิ้มแฉ่ง แต่ฟองนี่สิทำหน้าไม่ถูกกันเลยทีเดียวจนต้องยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มแล้วเบนหน้าออกไปมองทางอื่น ไอ้โฟร์ทหันมายักคิ้วให้ก่อนที่ผมจะชูนิ้วโป้งให้มัน ทำดีมากครับ นานๆทีที่ฟองเขาจะเขินเวลาโดนคนอื่นแซว

"แล้วนี่แอร์ไม่มาเหรอ?"
ผมหันไปคุยกับไอ้โฟร์ทปล่อยให้ฟองอยู่กับบรรดาเพื่อนๆของเขาไป เพื่อนผมมันหันขวับขึ้นมาจากจานกับแกล้มกันเลยทีเดียว ก็เพราะช่วงนี้ผมเห็นอะไรๆก็แอร์ ไม่ให้ถามถึงสิแปลก

"ถามทำไม?"
เสียงแข็งมาเชียวครับ แต่ผมไม่ใส่ใจหรอก คนอยากรู้ก็ต้องถามไม่ใช่รึไง

"ก็กูอยากรู้ว่าน้องเขยจะมารึเปล่า"
ผมพูดก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบ ไอ้โฟร์ทถึงกับหยุดมือที่ตักกับแกล้มเข้าปากทันที ถ้าไฟสว่างสักหน่อยคงได้เห็นคนหน้าแดงล่ะครับ

"น้องเขยบ้าบออะไรของมึง เพ้อเจ้อ"
มันว่าเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะโดนไอ้บีทที่นั่งอยู่ข้างๆล็อคคอไว้ ไอ้โฟร์ทดิ้นไปมาแต่สุดท้ายก็ยอมแพ้คนข้างๆ

"มึงพูดว่าเพ้อเจ้อกลบเกลื่อนความเขินอีกแล้วสิน้า"

"มึงมันขี้มโน!"
ไอ้โฟร์ทตะโกนก่อนจะอ้าปากงับลงบนแขนไอ้บีท รายนั้นรีบปล่อยทันทีด้วยความตกใจ

"เจ็บนะมึง!"

"สมควร"

"เดี๋ยวกูจะฟ้องแอร์ว่ามึงทำร้ายกู"
ไอ้บีททำหน้าบึ้งใส่ แต่โฟร์ทมันไม่แคร์ก่อนจะพูดหน้าตาย

"ฟ้องไปดิ แล้วคอยดูว่าแอร์จะอยู่ข้างใคร"
มันยักคิ้วกวนๆส่งไปให้ไอ้บีทอีกรอบ

"เอ้อ ใส่สิ๊ คนเขารักเขาหลงของเขานี่!!"
ไม่วายจะว่าประชดไอ้โฟร์ทแถมยังพาดพิงคนที่ยังมาไม่ถึงอีกด้วย

ผมเลิกสนใจที่มันสองคนเถียงกันแล้วมองเลยไปที่ไอ้แทม... ถึงว่าทำไมมันนั่งเงียบผิดปกติ บ้าเล่นเกมอยู่นี่เอง มาร้านเหล้าก็ยังเล่นเกมอีก

"แทม มึงติดเกมขนาดนั้นเลยเหรอวะ?"
ผมขยับตีวยื่นหน้าข้ามโต๊ะไปดูหน้าจอมือถือ มันเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมแว็บหนึ่งก่อนจะพยักหน้าเบาๆแล้วกลับไปสนใจเกมต่อ

"กำลังตีบอส"
คำตอบสั้นๆแต่มีความหมายยิ่งใหญ่ ผมพยักหน้าเข้าใจแล้วไม่อยากทำมันให้เสียสมาธิ ถ้ามันแพ้บอสเมื่อไหร่งานจะเข้าผมทันที ผมกลับมานั่งเหมือนเดิมแต่เนียนเข้าไปใกล้ฟองอีกหน่อย จริงๆเราก็ไม่ได้นั่งกันคนละฝั่งโซฟาหรอก นั่งกันกลางๆโซฟานี่ล่ะ ระยะในตอนนี้ก็พอให้ผมกอดไหล่ฟองสบายๆ ว่าแล้วผมก็วางแขนข้างหนึ่งไว้บนพนักพิงคล้ายโอบกอดอีกคนไว้กลายๆ จังหวะนั้นฟองก็หันมาเห็นกันพอดีแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังตักกับแกล้มมาจ่อปากกันอีก

"กินกับแกล้มบ้าง กินแต่เหล้าเดี๋ยวก็เมาตาย"

"เป็นห่วงเหรอครับ?"
ผมส่งสายตาหวานๆไปให้แล้วงับช้อนกินกับแกล้มที่ส่งมาให้กัน ฟองป้อนผมเสร็จก็รีบหันกลับไป ทำให้ผมที่กำลังเคี้ยวอาหารแทบจะกลั้นยิ้มไม่อยู่

"ห่วงอะไร ขี้เกียจแบกคนเมาหรอก"
คนเรานี่เฉไฉเก่งเนอะครับ แต่ผมไม่แซวเขาหรอกเดี๋ยวจะไม่ยอมทำตัวน่ารักๆแบบนี้กับผมอีก เพื่อนผมมันก็รู้งานนะนั่งเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นั่งไปนั่งมาผมก็รู้สึกปวดห้องน้ำเลยขอตัวไปเข้าพอเดินกลับมาเท่านั้นล่ะ สาวสวยที่ไหนไม่รู้ยืนค้ำหัวคุยกับฟองอยู่ ผมมองอยู่สักพักก้อนจะเดินเข้าไปทิ้งตัวลงข้างฟอง ผู้หญิงคนนั้นเหลือบมองผมนิดหน่อยก่อนจะยิ้มหวานส่งมาให้ สรุปว่าเขามาอ่อยฟองหรือผมกันแน่ครับ

"ขอนั่งด้วยได้ไหมคะ?"
เสียงหวานเอ่ยถามฟอง ซึ่งผมก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วส่งแก้วเหล้าไปให้ไอ้โฟร์ทชงใหม่ ไอ้แทมที่เลิกเล่นเกมแล้วแอบมองไปทางฟองอยู่เหมือนกับทุกๆคนบนโต๊ะ

"ก็ได้นะครับ แต่เพื่อนคุณเขาจะไม่ว่าเอาเหรอ?"

"ไม่ว่าหรอกคะ งั้นขอนั่งด้วยน้า"
พูดจบเธอก็ไม่ได้รอให้ผมหรือฟองขยับที่ว่างให้ เธอเบียดตัวลงนั่งแทบจะเกยบนตักฟองอยู่แล้ว ผมเหลือบมองเธอก่อนจะขยับตัวออกแล้วดึงแขนฟองเบาๆให้ขยับตามมา ฟองเห็นแบบนั้นเลยรีบขยับตามผม สีหน้าของเธอดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ก็กลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้ม

"หนุ่มๆมาที่นี่กันบ่อยเหรอ?"
เงียบทั้งโต๊ะ ไม่มีสัญญาณตอบรับ กลุ่มผมไม่ค่อยจะชอบสาวๆที่เข้ามาหาในร้านเหล้าเท่าไหร่ แล้วการแต่งตัววับๆแวมๆของเธออีกด้วย มันดูไม่ดีงาม

"เอ่อ..."
เธอถึงกับหน้าเสียแต่ก็ยังแกล้งปั้นยิ้มอยู่เหมือนเดิมก่อนจะขยับตัวมาชิดฟองอีกครั้ง แต่อย่าหวังครับว่าจะได้เอาอกตูมๆนั่นมาเบียดไหล่ของฟอง เพราะผมไวกว่าเลยเอื้อมมือไปกอดไหล่ฟองไว้เรียบร้อยแล้ว คราวนี้เธอชักสีหน้าว่าไม่พอใจอย่างชัดเจน

"ต้องกอดไหล่กันด้วยเหรอคะเนี่ย?"
เธอจีบปากจีบคอถาม ฟองไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกไปแต่ก็ยอมให้ผมกอดอยู่แบบนั้น จริงๆตอนนี้ฟองแทบจะขึ้นนั่งบนตักผมอยู่แล้ว

"ก็เรารักกันนี่ครับ กอดไหล่แค่นี้ธรรมดามาก"
ผมตอบไปก่อนจะยกยิ้มมุมปาก ฟองเหลือบมามองกันก่อนจะหลุดขำออกมาเบาๆ มือนุ่มนั่นเอื้อมไปหยิบถั่วลิสงอบเกลือแล้วส่งมาจ่อปากกัน... เดี๋ยวนะ คือฟองกำลังจะแสดงบทบาทอะไรให้เธอดูล่ะเนี่ย ตามไม่ทันเลยครับ

"กินสิครับมิน"
ผมถึงกับอึ้งไปเลย เพราะฟองยิ้มหวานให้แถมยังพูดเพราะกว่าปกติอีก ผมอ้าปากงับช้าๆแต่ปากกลับสัมผัสเข้ากับนิ้วฟอง ตอนนี้เหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นปลาบไปตามตัว ฟองรีบเก็บมือกลับพร้อมกับก้มหน้าลง

"นี่ทั้งสองคนเอ่อ... เป็นอะไรกันคะ?"
สีหน้าเธอดูจะตกใจมากกับการกระทำของผมกับฟองเมื่อสักครู่ แต่ผมไม่ได้แคร์อะไรหรอก จ้องจะกินฟองกับผมตาเป็นมันขนาดนั้น.. น่ากลัวจริงๆ

"คู่ข้าวใหม่ปลามันครับ ไม่ต้องอ่อยให้เสียเวลา"
ไม่ใช่ทั้งผมและฟองที่เป็นคนตอบ เป็นไอ้แทมที่นั่งดูสถานการณ์เงียบๆมาโดยตลอดนั่นเอง

"เอ่อ... ขอตัวนะคะ"
แล้วเธอก็ลุกขึ้นไปเฉยๆปล่อยให้พวกผมขำออกมากันทั้งโต๊ะ สีหน้าเหวอๆของเธอมันตลกจริงๆนะเออ

"ปล่อยได้แล้วมั้ง"
เสียงของฟองดังแทรกขึ้น ใบหน้าหวานๆที่อยู่ห่างกันไม่มากทำให้ผมใจเต้นรัว อยากกดจมูกลงบนแก้มใสๆแล้วสูดดมความหอมเข้าปอดชะมัด แต่ทำไมได้คนเยอะ

"ไม่อยากปล่อยครับ"
ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดวงตาจดจ้องอยู่ที่ใบหน้าด้านข้างของฟอง เจ้าตัวหันมาสบตากันก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น

"ทำไม?"

"กลัวว่าจะมีสาวๆเข้ามานั่งเบียดฟองอีกน่ะสิ"

"ไม่มีหรอกน่า"

"ฟองเสน่ห์แรงเกินไป มินหวงนะ"
ผมพูดพร้อมกับจ้องลึกไปในดวงตาคู่นั้น ใบหน้าของเราขยับเข้าหากันเรื่อยๆ รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดหน้ากัน เสียงหัวใจของผมในตอนนี้ดังกว่าเสียงเพลงในร้านซะอีก

"ทำไมขี้หวงจังนะ"
ดวงตาเล็กๆนั่นเบนหลบกัน เสียงเบาๆที่เอ่ยออกมาแต่มันกลับชัดเจนในโสตประสาทการรับรู้ของผม ผมเลื่อนหน้าไปกระซิบข้างหูของเขาถึงเหตุผลที่เป็นคนขี้หวงแบบนี้

"เพราะมินมีฟองคนเดียว จะไม่ให้หวงได้ยังไงกันครับ"

"หยุดพูดแล้วกินเหล้าไปเลย!"
ฟองเหวเสียงดังก่อนจะผลักอกกันแล้วหยิบแก้วเหล้ามาส่งให้เกือบกระแทกหน้าผม ผมกลั้นยิ้มแล้วรับแก้วมาดื่มอย่างเลี่ยงไม่ได้ จนไอ้พวกเพื่อนๆที่คงเห็นเหตุการณ์มานานเอ่ยแซว

"พวกมึงจะสวีทกันก็เกรงใจพวกกูบ้างเถอะ กลับห้องแล้วค่อยจู๋จี๋กันนะ"
ไอ้ฝุ่นพูดพร้อมกับเบ้ปาก ฟองหันไปมองแล้วถลึงตาใส่เพื่อน

"สวีทบ้านมึงสิ!"

"จะไปสวีทกันที่บ้านกูเหรอ? ได้ๆ มีห้องว่างนะ"
ไอ้ฝุ่นยังคงพูดกวนฟองอยู่ ผมลอบมองปฏิกิริยาของฟองแล้วเผลอยิ้มออกมา แม้แต่ตอนกำลังโมโหยังน่ารัก

"พ่องงงงงงงง"
แล้วฟองก็ปล่อยกระสุนถั่วลิสงอบเกลือในมือใส่ไอ้ฝุ่นไม่ยั้ง ทั้งโต๊ะหัวเราะครืนด้วยความเฮฮา ค่ำคืนนี้อีกยาวไกล ความสุขที่ได้รับมาในตอนนี้ก็อยากให้มันยาวนานตลอดไปเช่นกัน



----------------------------------------------
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 156 (P.3) 10/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 10-07-2016 10:57:56
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 156 (P.3) 10/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 10-07-2016 13:20:19
น่ารักมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 156 (P.3) 10/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 10-07-2016 15:02:00
มินขี้หวงอ่ะ กับหมายังไม่เว้น

ฟองน่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 156 (P.3) 10/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 10-07-2016 17:07:49
น่ารักกกกก เขินแทนฟองเลย
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 156 (P.3) 10/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 10-07-2016 21:21:47
มินถ้ายังรักษาระดับความมั่นคงแบบนี้ได้เสมอต้นเสมอปลายล่ะก็ควรจะพิจารณาเป็นแฟนได้ล่ะน่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 156 (P.3) 10/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 13-07-2016 00:21:34
555 สุดยอดจนชะนีหายเลย. ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 156 (P.3) 10/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 13-07-2016 17:12:59
อ่านตอนแรกแล้วรู้สึก น่ารักดี ไว้มาอ่านต่อนะ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 17 (P.3) 16/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 16-07-2016 18:34:09
- Follow You 17 -




ผมนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ วันนี้ทั้งผมและฟองไม่มีเรียนครับเลยใช้เวลาว่างในการพักผ่อนอยู่ห้อง แต่ตอนเย็นตกลงกันว่าจะออกไปถ่ายรูปเมืองกรุงยามค่ำคืนส่งงานอาจารย์ แอร์เย็นช่ำทำให้ผมตาปรือปรอยแต่ไม่ยอมหลับสักทีเพราะกังวลว่าไอ้เบนซินจะแย่งซีนผมมากเกินไป ตอนนี้มันก็เอาหัวถูไถตักฟองอีกแล้วไง หมั่นไส้ชะมัด มีวันไหนที่มันจะไม่ยอนว่าที่แฟนผมบ้างวะเนี่ย

"เบนซินขี้อ้อนอีกแล้วนะ"
ฟองยิ้มหวานก่อนจะใช้มือขยี้หัวไอ้เบนซิน มันหลับตาพริ้มทิ้งหัวลงบนตักฟองอย่างสบายใจ ผมเบะปากลงด้วยควาทอิจฉา ไม่รู้ว่าวิธีแก้ความอิจฉาหมามันต้องทำยังไง

"เลิกเล่นกับมันได้แล้วมั้ง เดี๋ยวก็จาม"
ผมลุกขึ้นนั่งแล้วขยี้หัวตัวเองน้อยๆ ช่วงนี้ไอ้เบนซินมันผลัดขน ผมเตือนฟองด้วยความเป็นห่วงจริงๆนะเอ้อ ไม่มีความหมายอื่นแอบแฝง

"มันกำลังนอนสบายเลยนะ"
ฟองเงยหน้าขึ้นมาแล้วส่งยิ้มอบอุ่นมาให้กัน ผมรู้ดีว่ารอยยิ้มนั้นมีไอ้เบนซินเป็นเจ้าของ.. ฟังไม่ผิดหรอก ฟองรักไอ้เบนซินมาก ผมนี่อยากเกิดเป็นมันแล้วสิ ไม่ต้องทำอะไรมากฟองก็รัก โธ่ คิดแล้วก็น้อยใจว่ะ

"ปล่อยมันนอนไปเหอะ ฟองมาเล่นกับมินดีกว่า"
ผมขยับลงไปนั่งข้างๆฟองแล้วส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้ก่อนจะยืนหน้าไปใกล้ ก็แค่อยากแกล้ง อยากรู้ว่าจะเขินกันบ้างไหม เริ่มมีใจให้กันบ้างรึยัง ฟองมองผมหวั่นๆแล้วเอนตัวไปด้านหลัง ไอ้เบนซินเห็นผมมายุ่งวุ่นวายมันก็เลยขยับมานอนตักผมแทน ช่างมันครับตอนนี้ผมสนใจคนมากกว่า

"ละ เล่นอะไรของมิน?"
เสียงทุ้มติดหวานเอ่ยตะกุกตะกัก ตั้งแต่วันที่เราไปกินเหล้าด้วยกันมาฟองก็มีท่าทีแปลกๆ เหมือนจะเขินผมมากกว่าเดิมล่ะมั้ง ไม่แน่ใจเหมือนกัน

"เล่นจ้ำจี้ดีไหมครับ?"
ผมขยับเข้าไปใกล้แล้วแกล้งเท้าแขนคร่อมตัวเขาเอาไว้ ฟองเอนตัวหนีจนกลายเป็นว่าตอนนี้เหมือนเขาอยู่ใต้ร่างผมไปโยปริยาย ระยะห่างชวนหวั่นใจนี้ทำให้ผมไม่อยากห้ามตัวเองอีกแล้ว

"มินจะบ้ารึไง ไม่เล่นนะ ถอยออกไป"
มือเรียวยกขึ้นดันอกผมให้ถอยห่าง แต่ผมไม่ยอมถอยฝืนตัวขยับเข้าใกล้เขามากยิ่งขึ้นจนในที่สุดฟองก็นอนลงบนพื้นจนได้ หน้าหวานๆขึ้นสีจนผมแอบยิ้มมุมปาก เขินสินะ จะทำให้เขินมากกว่านี้อีก ฟองหลบสายตาผมแต่มือยังดันอกไว้ ไม่มีทางที่ผมจะถอยง่ายๆแน่ๆ

"ฟองครับ"
ผมเรียกฟองด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าหวานที่สุด เขาเบนหน้ามองก่อนจะเม้มปากเน้น... ไม่อยากให้เม้มมันเลย ผมอยากจะแตะปากตัวเองลงไปจัง อยากรู้ว่าปากบางๆสีชมพูนั่นจะนุ่มสักแค่ไหน

"อะไร"
ฟองถามเสียงเบา ดวงตาเล็กหลุบลงมองต่ำ ผมลอบยิ้มที่ฟองไม่ได้ขัดขืนอะไรแล้ว จะทนไม่ไหวแล้วนะ ทำไมต้องทำตัวน่ารักขนาดนี้ด้วยวะคนเรา หัวใจผมเต้นแรงแทบจะกระเด็นออกมาจากอกอยู่แล้ว กลิ่นสบู่อ่อนๆจากตัวฟองทำให้ผมเคลิบเคลิ้มไปอีก ทรมานชะมัดกับการหักห้ามใจ

"เริ่มชอบมินบ้างรึยังครับ?"
ผมขยับหน้าลงไปจนปลายจมูกของเราทั้งสองคนชนกัน ฟองสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ขยับหน้าหนีไปไหน ดวงตาเล็กช้อนมองกันเหมือนอยากสื่อความหมายอะไรบางอย่าง ซึ่งผมโง่เรื่องนี้ครับ ถ้าไม่บอกออกมาตรงๆให้ตายยังไงก็เดาไม่ออก

"คิดเอาเองดิ"

"มินไม่อยากคิดไปเองนี่ครับ ถ้าคิดเข้าข้างตัวเองขึ้นมาแล้วมันไม่เป็นความจริงก็แย่สิ"
ดวงตาของเรายังคงมองประสานกันอยู่ มือเรียวของฟองค่อยๆเลื่อนขึ้นมาประคองใบหน้าของผม.. ผมตกใจผงะไปเล็กน้อยแต่ก็มองเขากับไปด้วยสายตาอ่อนโยน ไม่มีท่าทีแกล้งเหมือนตอนแรก

"แค่นี้ก็ยังดูไม่ออกอีกเหรอ นี่โง่จริงหรือแกล้งโง่ครับมิน?"
ฟองยิ้มขำก่อนจะใช้นิ้วโป้งกดลงมาบนแก้มผม กดจนรู้สึกเจ็บกันเลยทีเดียว ผมไม่ได้โกรธกับการที่ฟองหาว่าผมโง่ เพราะรู้ว่าทั้งหมดที่พูดมานั้นอยากจะทำให้เราทั้งคู่ไม่อึดอัดจนเกินไป

"โง่จริงๆหรือแกล้งโง่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ฟองช่วยตอบหน่อยสิครับ นะ นะครับ"
ผมว่าด้วยน้ำเสียงอออ้อน คนใต้ร่างหลุดยิ้มออกมาก่อนจะเปลี่ยนมาดึงแก้มกันด้วยความมันเขี้ยว

"ไม่ชอบคงไม่ยอมให้เข้าใกล้ขนาดนี้หรอก"
ฟองพูดจบก็ส่งรอยยิ้มสวยมาให้ ผมแทบจะลืมวิธีการหายใจเมื่อฟังประโยคนี้จบ รอยยิ้มค่อยๆคลี่ออก หัวใจพองโตราวกับลูกโป่งที่โดนอัดอากาศเข้าไป มันกำลังจะลอยขึ้นสวรรค์อยู่แล้ว

"ขอบคุณนะครับ"
เรามองสบตากัน ฟองส่ายหน้าไปมากับคำพูดของผม ทำให้หัวคิ้วของผมขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจการกระทำตรงหน้า

"ไม่เห็นจะต้องขอบคุณเลยนี่ แล้วเมื่อไหร่จะลุกออกไปสักทีเนี่ย"
ฟองย่นจมูกใส่ก่อนจะออกแรงผลักอกผมอีกครั้ง ผมหัวเราะเบาๆก่อนจะยอมยันตัวขึ้นไปนั่งดีๆแล้วช่วยดึงฟองให้ลุกขึ้นเช่นกัน

"ฟอง..."
หลังจากที่เรานั่งเงียบกันอยู่นานผมก็ตัดสินใจเรียกเขา ฟองเลิกคิ้วขึ้นมองผมเป็นเชิงถามว่ามีอะไร

"หิวแล้ว"
ผมเกาท้ายทอยตัวเองแล้วส่งยิ้มแหยไปให้ ไม่ทันจะเที่ยงดีท้องดันมาร้องซะได้ ฟองหัวเราะออกมาก่อนจะพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นยืน

"เดี๋ยวเราไปทำอะไรให้กินแล้วกัน"

"อ่า ออกไปกินข้างนอกไหมจะได้ยาวไปถ่ายรูปเลยด้วย"

"เอางั้นก็ได้ เราขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ"

"โอเคครับผม"

หลังจากที่กินข้าวกันเรียบร้อยผมก็ชวนฟองมานั่งกินขนมที่คาเฟ่ใกล้ๆกับสถานที่ที่เราจะถ่ายรูปกันคืนนี้ ผมสั่งแค่เพียงคาปูชิโน่ร้อน แต่ฟองสั่งนมสดเย็นกับคุกกี้อัลมอนต์ บรรยากาศภายในร้านเหมาะที่จะมากับคนรักเพราะโดยส่วนรวมแล้วตกแต่งด้วยโทนสีชมพูอ่อนๆ เพลงที่ใช้เปิดยังเป็นเพลงรักอีกด้วย แต่พวกเราไม่ได้คิดอะไรมากที่ไหนใกล้มากที่สุดก็ที่นั่นล่ะ

ฟองยกกล้องของตัวเองขึ้นมาเปิดดูสิ่งที่บันทึกผ่านมาแล้ว ดวงตาเล็กๆมองมันอย่างมีความสุข มุมปากบางยกยิ้มบ้างเบะลงบ้างทำให้คนมองอย่างผมมีความสุขเช่นกัน นี่ล่ะมั้งสาเหตุที่ผมไม่สั่งขนมหวานเพราะมีสิ่งที่หวานกว่าอยู่ด้วยกัน

"จะจ้องกันอีกนานไหม?"
ผมสะดุ้งเมื่อโดนทัก ไม่รู้ตัวเลยว่าฟองมองกลับมาตั้งแต่ตอนไหน ผมคลี่ยิ้มบางให้ก่อนจะขยับตัวเปลี่ยนท่าแก้ความเขิน โดนจับได้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะ

"โทษที มองเพลินไปหน่อย"
เขาถามมาตรงๆเราก็ตอบไปตรงๆเนอะ แฟร์ดีออก แล้วจังหวะนั้นเมนูที่สั่งไปก็มาเสิร์ฟ บทสนทนาเรื่องการมองก็เป็นอันจบไป

ตอนนี้ผมหยิบกล้องของตัวเองขึ้นมาดูรูปในนั่นเหมือนๆกับที่ฟองทำก่อนหน้านี้ เปิดไปเปิดมาก็พบว่ามีรูปแอบถ่ายของฟองเกือบสามสิบเปอร์เซ็นจากจำนวนรูปทั้งหมดสองพันรูป... ไม่คิดว่าตัวเองจะอาการหนักขนาดนี้เลยนะเนี่ย ว่าแล้วก็แอบถ่ายฟองตอนที่กำลังขมวดคิ้วอยู่กับหน้าจอมือถือดีกว่า

ผมเปิดฝาปิดเลนส์กล้องออกช้าๆก่อนจะยกมันขึ้นแล้วจับโฟกัสที่หน้าของฟอง ตอนที่เขากำลังจดจ่อกับอะไรสักอย่างคนมองอย่างผมจะรู้สึกได้ว่าเขามีเสน่ห์ขึ้นมาอีกเท่าตัว หัวใจของผมกำลังเต้น เต้นแรงขึ้นทุกๆครั้งที่ขยับเข้าใกล้กัน ผมกดชัตเตอร์ทำให้ฟองหันขวับกลับมาทันที เพิ่งสำนึกได้ว่าแอบถ่ายระยะใกล้เป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวง

"แอบถ่ายเราอีกแล้วเหรอ?"
หัวคิ้วของฟองขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย มือเรียวยื่นออกมาตรงหน้ากัน ผมเลิกคิ้วมองไม่เข้าใจว่าฟองต้องการอะไร

"อ่า.. ก็นิดหน่อยเอง แล้วแบมือมานี่จะเอาอะไรครับ?"
ผมรู้สึกถึงลางสังหรณ์แปลกๆแล้วว่ะ รีบเก็บกล้องตอนนี้ทันไหม? แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทันแล้วเพราะทั้งนิ้วทั้งสายตาของฟองมันบอกว่าต้องการกล้องในมือผม เอาไงดีล่ะวะ...

"จะเอากล้องมินเหรอ?"
ผมแสร้งตีหน้าตายถามออกไปทั้งๆที่รู้ความต้องการของเขาอยู่แก่ใจ ฟองพยักหน้าหงึกหงักแล้วจ้องมากดดันให้ผมส่งกล้องให้ แต่เข้าใจผมไหมว่ามันให้ไม่ได้จริงๆ...

"อือ ส่งมาเลย แอบถ่ายรูปเราไปกี่รูปแล้วเนี่ย"

"คือว่า..."

"มีความลับเหรอ?"

"เปล่าๆ ให้ก็ได้"
สุดท้ายผมก็สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วส่งกล้องในมือให้เขาไป ตายเป็นตายวะไอ้ปรมินทร์ ยอมรับผลกรรมที่จะตามมาแล้วกัน ฟองเหลือบมองผมก่อนจะหันไปสนใจกล้อง ใบหน้าหวานขมวดคิ้วยุ่งเป็นบางครั้ง บางทีก็แอบเม้มปาก หนักๆหน่อยคงเป็นแอบกลั้นยิ้ม เขาใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมงในการเปิดรูปทั้งหมดแล้วเงยหน้ามองกันด้วยสีหน้าที่พยายามปั้นให้เคร่งขรึม ผมนี่ลุ้นตัวโก่งว่าจะโดนด่าหรือได้รับคำชม

"เป็นสต็อกเกอร์เหรอวะ ทำไมแอบถ่ายเราเยอะขนาดนี้"
ฟองไม่ได้มองหน้าผมเพราะยังคงมองหน้าจอของกล้องอยู่ ใบหน้าหวานๆเริ่มมีสีแดงระเรื่อ เพราะเขินหรือเพราะโกรธวะ ผมเริ่มหวั่นใจแล้วล่ะ

"ก็...คนมันชอบ"
ผมพูดเสียงเบาพร้อมกับเสมองไปทางอื่น ความอายเอ่อล้นขึ้นมาที่หน้าอย่างห้ามไม่ได้ จะโดนจะได้อีกกี่ครั้งกี่เรื่องกันวะเนี่ย

"ชอบมากขนาดนั้นเลยเหรอ?"
ผมหันกลับมามองหน้าฟองในขณะที่เขาก็มองตรงมาอย่างต้องการคำตอบ ไม่มีการหลบเลี่ยงทั้งๆที่หน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศขนาดนั้น มือเรียวยังคงถือกล้องค้างอยู่ที่รูปล่าสุดที่ผมเพิ่งถ่ายไป

"จะให้พูดยังไงดีล่ะ ทุกครั้งที่ได้กดชัตเตอร์ถ่ายรูปฟอง มินก็ยิ้มได้ทุกครั้ง คงไม่เรียกว่าชอบแล้วล่ะ รักเลยมากกว่า"
ผมตอบกลับเขาไปพร้อมกับจ้องตาอย่างมีความหมาย พยายามที่จะถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดผ่านดวงตาและคำพูดว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ฟองหลบตาแล้ววางกล้องในมือลงบนโต๊ะ มุมปากบางยกยิ้มขึ้น น่ามอง... อยากเก็บฟองไว้คนเดียวจังครับ

"พูดอะไรโคตรเลี่ยนเลย"

"แต่มันก็ความจริงทั้งนั้นนะ"

"อื้อ จ่ายเงินเหอะ ไปเดินตลาดนัดกันดีกว่า"
ฟองเก็บของแล้วลุกขึ้นผมก็ทำตามโดยไม่จัดก่อนจะลุกขึ้นไปจ่ายเงินที่หน้าเค้าน์เตอร์แล้วเดินออกจากร้านไปพร้อมกัน

ตลาดนัดที่เราสองคนกำลังเดินอยู่ผู้คนคึกคักและเบียดเสียดกันมาก ของที่มาขายมีทั้งของกิน เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของจุกจิกต่างๆมากมาย พอฟ้าเริ่มมืดหลอดไฟดวงเล็กๆที่ประดับก็ถูกเปิดให้มันส่องแสงดูมีชีวิตชีวา

"เดินระวังๆนะ"
ผมเตือนคนด้านข้างด้วยความเป็นห่วง เพราะคนเริ่มจะเยอะและเริ่มเบียดเสียดกันทำให้การเดินลำบาก ผมซึ่งตัวใหญ่กว่าเขาไม่เป็นปัญหามากนัก

"อือ คนเยอะมากอ่ะ"
เสียงหวานตอบกลับมาก่อนจะใช้มือดึงแขนเสื้อผมเอาไว้ ผมหันไปมองก็พบว่าฟองมองมาเช่นกัน

"ขอจับหน่อยนะ เดี๋ยวหลงกันอ่ะ"

"จับแบบนี้ดีกว่า"
ผมคว้ามือที่ดึงแขนเสียมาประสานนิ้วเข้าด้วยกัน ฟองเบิกตากว้างเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าหนีแล้วพยักหน้ารับเบาๆ อนุญาตกันแบบนี้ผมก็ยิ้มสิครับจะรออะไร

เราเดินฝ่าฝูงชนไปเรื่อยได้ทั้งของกินและเสื้อผ้าติดไม้ติดมือกันมาคนละอย่างสองอย่าง ตอนนี้เราขึ้นมายืนบนอาคารที่อยู่สูงมองลงไปจะเห็นตลาดนัดได้ทั่วบริเวณ ถ้ามองจากมุมนี้มันเป็นมุมที่หน้าถ่ายรูปเก็บบรรยากาศมากที่สุด

ทั้งผมและฟองต่างก็งัดอาวุธประจำกายขึ้นมา งานถ่ายภาพเมืองกรุงยามค่ำคืนกำลังเริ่มขึ้น พวกเราไม่ได้คุยกันตลอดระยะเวลาที่กล้องอยู่ในมือ เมื่อได้รูปที่พอใจจึงหันกลับมายิ้มให้กัน

"มินถ่ายเสร็จแล้วนะ"

"เราก็ได้รูปที่คิดว่าดีแล้วล่ะ"
ฟองตอบทั้งๆที่ยังมองรูปในกล้อง ผมเห็นแบบนั้นเลยยกกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์อีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นรูปแอบถ่ายฟองอีกแล้ว

"แอบถ่ายอีกแล้วนะ ไม่เบื่อบ้างเหรอ?"
ฟองช้อนตามองก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบกล้องไปจากมือผม เขาก้มลงมองก่อนจะบุ้ยปากเล็กน้อย

"หน้าก็มองไม่เห็นยังจะถ่ายเนอะคนเรา"
เขาคืนกล้องมาผมก็รับมาถือไว้แล้วส่งยิ้มกลับไป ไม่ว่าจะเห็นหน้าหรือไม่เห็นยังไงๆผมก็จำได้ว่าเป็นเขาอยู่ดี

"จะเป็นมุมไหนของฟอง มินก็ชอบหมดนั่นล่ะ"

"ปากหวานกับคนอื่นแบบนี้ป่ะวะ?"

"ไม่ครับ กับฟองแค่คนเดียว"

"เปลี่ยนเรื่องดีกว่า เอาป่ะ เราเป็นนายแบบจำเป็นให้เลย จ่ายค่าจ้างให้เราด้วยนะ"
ฟองยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วยักคิ้วกวนๆ ผมหัวเราะออกมาก่อนจะพยักหน้าแรงๆ เอาก็เอาสิต้องจ่ายด้วยอะไรก็ยอม

"เอาสิ ค่าจ้างเท่าไหร่หื้ม?"
ฟองเบิกตากว้างนิดหน่อย คงตกใจว่าผมจะทำแบบนั้นจริงๆน่ะเหรอ ผมยังคงส่งยิ้มและสายตาจริงจังให้เขา ไม่อยากแอบถ่ายแล้วล่ะ อยากเป็นคนที่สามารถถ่ายรูปฟองได้อย่างเปิดเผยสักที

"สองแสน จ่ายไหวป่ะ?"
ฟองยักคิ้วให้ผมแล้วยิ้มกวนๆมาให้กันอีกครั้ง ผมถึงกับเบิกตากว้าง นี่เรียกร้องกันสองแสนเลยเหรอ.. แสนสาหัสมากๆเลยล่ะ

"ขอจ่ายมัดจำเป็นหัวใจมินก่อนได้รึเปล่า?"
ผมได้ทียื่นหน้าเข้าไปใกล้คนที่กำลังเม้มปากเข้าหากันแน่น ดวงตาเล็กเหลือบมองกันแต่ก็ไม่ได้ขยับหนี

"ไม่เอาด้วยหรอก ขยับออกไปเลย"
ฟองว่าเสียงสั่น มุมปากเหมือนจะมีรอยยิ้มปรากฏแต่ก็แค่แว็บเดียว ผมไม่ได้ทำตามคำสั่งฟองแต่ขยับจนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดกัน ถึงตอนนี้คนด้านหน้าผมยังไม่ได้อาบน้ำรอบสอง แต่กลิ่นหอมยังไม่จางหายไปไหน แก้มเนียนนุ่มตรงหน้าดึงดูดผมเหลือเกิน ขอหอมแก้มสักทีจะได้ไหมนะ

"ฟอง.."
ผมกระซิบข้างหูของเขาเบาๆ ฟองขยับตัวเล็กน้อยแล้วยกมือขึ้นวางทาบลงบนอกผม

"อะไร"
เสียงเบาๆถามกลับมา ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะปล่อยออกมาแล้วกลั้นใจพูดสิ่งที่อยากทำ

"ขอหอมแก้มได้ไหม?"

"....."
ฟองเอียงหน้าหลบกันแต่ไม่มีคำตอบจากร่างตรงหน้า ผมเริ่มใจเสีย แต่ก็ยังแข็งใจงัดความพยายามออกมาใช้

"ถ้าไม่ตอบจะถือว่าอนุญาตนะครับ"
ผมยืนรออยู่นานนับนาทีก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา ผมเลยโมเมเอาเองว่าเจ้าของแก้มอนุญาต จมูกโด่งค่อยๆเลื่อนลงไปแตะแก้มขาวเนียน มันหอมมากจนผมต้องกดจมูกฝังลงไปก่อนจะได้รับรู้ถึงความนุ่มราวกับจมูกสัมผัสกับมาร์ชเมลโล่ ไม่อยากขยับตัวออกห่างเลยได้แต่ค้างไว้แบบนั้น จนฟองเริ่มออกแรงดันออกกัน

"จะมากเกินไปแล้ว"
หน้าใสขึ้นสีแดงระเรื่อ ปากบางเม้มเข้าหากันแน่เพราะพยายามกลั้นยิ้มอยู่ ให้ตายเถอะครับ ถ้าไม่ติดว่าอยู่ข้างนอกจะจับฟัดให้จมเตียงเลย คนอะไรน่ารักเป็นบ้า

"นุ่มนะ"
ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ทั้งๆที่ขยับออกห่างจากแก้มฟองแค่นิดเดียว มือเรียวทุบลงบนอกผมไม่แรงมากนัก ผมเลยรวบมือเล็กนั่นเอาไว้แล้วก้มหน้ากดจูบลงไป.. รักผมสักทีสิครับ ผมจะรอไม่ไหวแล้วนะ ถ้าคุณให้ความหวังกันขนาดนี้

"พอแล้ว เราจะกลับแล้ว"
ฟองดึงมือออกจากการเกาะกุมของผมแล้วรีบหมุนตัวเดินลงจากอาคารทันที ผมได้แต่ยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินตามฟองไป

เรากลับมาเจอสภาพคนพลุกพล่านอีกแล้ว ฟองเดินนำผมไปหลายช่วงตัวจนกลัวว่าจะหาไม่เจอผมเลยต้องเร่งฝีเท้าให้ทันเขาแล้วจับข้อมือบางเอาไว้ ฟองหยุดชะงักแล้วหันมามองกันก่อนจะทำหน้าโล่งใจ คงคิดว่าเป็นคนอื่นมาจับล่ะมั้ง

"เดี๋ยวหลง"
ผมพูดสั้นๆแล้วออกแรงกระตุกข้อมือนั่นให้เดินมาด้วยกัน ชอบช่วงเวลานี้นะ ถึงแม้ผู้คนจะมากมายแต่เราสองคนก็เหมือนมีกันและกันตลอดเวลา

ผมกับฟองเดินมาถึงลานจอดรถ ฟองขึ้นไปนั่งเรียบร้อยมีแต่ผมที่ยืนจัดของอยู่ด้านหลัง ก่อนจะเปิดประตูขึ้นรถก็มีเสียงใครคนหนึ่งเรียกชื่อกัน

"มิน ~"
เสียงนั้นคุ้นเคยมากจนผมต้องหันไปมองก็พบกับข้าวหอม คนที่ครั้งหนึ่งเคยคุยกัน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้คบกันเพราะผมดันหลงรักผู้ชายที่นั่งในรถ เธอเดินเข้ามาหากันพร้อมด้วยรอยยิ้มหวานๆ ผมมองเธอก่อนจะส่งยิ้มตอบกลับไป

"ข้าวหอมาเที่ยวเหรอ?"

"อื้อ นัดกับเพื่อนเอาไว้ แต่มันยังไม่มาเลย แล้วนี่มินมากับใคร?"

"มากับฟองครับ"

"อ๋อ เพื่อนที่คณะเหรอ?"

"อ่าฮะ แล้วนอีกนานไหมกว่าเพื่อนจะมา"

"ก็อีกสักพักแหละ มินรอเป็นเพื่อนเราก่อนได้ป่ะ?"

"อ่า.. งั้นมินถามเพื่อนแป็ปนึงเนอะ"

"ได้เลยค่ะ"
หลังจากที่คุยกับเธอเรียบร้อยผมก็เดินอ้อมไปฝั่งที่ฟองนั่งอยู่ ผมเอื้อมมือไปเปิดประตูแล้วเท้าแขนไว้ก่อนจะก้มลงไปคุยกับฟองที่ตอนนี้ขมวดคิ้วมองมา

"มีอะไรเหรอ?"

"คือ.. ช่วยอยู่รอเป็นเป็นเพื่อนข้าวหอมได้ป่ะ พอดีว่าข้าวหอมนัดเพื่อนไว้แต่ยังไม่มา"
ฟองหันไปมองคนที่ผมพูดถึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ผมส่งยิ้มให้แล้วขยับตัวออกจากประตู

"เดี๋ยวลงไปรอข้างนอกด้วยแล้วกัน"
ฟองลงมาแล้วปิดประตูลงก่อนที่เราจะมายืนพิงรถกัน ผมแนะนำให้ฟองกับข้าวหอมรู้จักกันหลังจากนั้นก็ชวนคุยอะไรนิดหน่อย ไม่นานักเพื่อนของข้าวหอมก็มา

"มินคะเพื่อนข้าวหอมมาแล้วค่ะ ขอบคุณมากเลยนะที่อยู่รอด้วยกัน ขอบคุณฟองด้วยนะคะ"
เธอยิ้มหวานแล้วก้มหัวขอบคุณเราทั้งสองคน

"ไม่เป็นไรครับ"
ฟองตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม เธอโบกมือให้เราทั้งสองคนก่อนจะเดินออกไป พวกเราเลยได้โอกาสกลับคอนโดกันสักที

ระหว่างทางต่างคนต่างเงียบเหมือนฟองกำลังคิดอะไรในใจอยู่ ผมไม่กล้าถามอะไรออกไป กลายเป็นฟองที่ตั้งคำถามกลับมาแทน

"เมื่อกี้...เพื่อนเหรอ?"
เสียงฟองขาดห้วงจนผมแอบใจหาย ถ้าถามว่าเป็นเพื่อนกันรึเปล่า ก็คงไม่ใช่ เพราะหลังจากที่เลิกคุยกันไปก็ไม่ได้ตกลงจะเป็นเพื่อนกันต่อ แต่วันนี้แค่บังเอิญมาเจอกัน และไม่คิดว่าข้าวหอมจะคุยปกติกับผมด้วย ยังอดแปลกใจไม่ได้

"อ่า... จริงๆก็ไม่ใช่หรอก เป็นคนที่เคยคุยๆกันน่ะ"
ผมตอบออกไปฟองพยักหน้ารับเบาๆด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีกันแน่

"อือ น่ารักดีเนอะ สายตาที่เขามองมินก็เหมือนจะมีความรู้สึกดีๆให้กันอยู่นะ"
ฟองหันมายิ้มบางให้กัน ผมมองเขาอย่างไม่เข้าใจความหมายในคำพูดนั้น ก็จริงที่ฟองจะคิดแบบนั้น เพราะข้าวหอมเขาเคยบอกว่าจะรอผม

"ฟอง.."

"ไม่คิดจะกลับไปคุยกับข้าวหอมดูเหรอ มินกับเขาก็เหมาะสมกันดีนะ"
ฟองหันกลับไปแล้ว เขามองออกไปนอกรถทั้งๆที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ สายตาเหม่อมองไม่มีจุดหมายที่แน่ชัด อะไรบางอย่างจากน้ำเสียงและคำพูดของเขากำลังทำให้ผมกลัว กลัวว่าเขาจะผลักไสผมให้กับคนอื่น

"มินรักฟอง จะให้พูดกี่ครั้งก็ยืนยันคำเดิม"
ผมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นที่สุดเท่าที่เคยพูดมา ผมอาจจะคิดไปเองว่าฟองคิดมาก แต่ผมก็อยากจะพูดย้ำให้ฟองมั่นใจในตัวผม

"อื้อ ถึงคอนโดปลุกเราด้วยเนอะ"
แล้วตาสวยๆคู่นั้นก็ปิดลงทั้งๆที่ฟองไม่ชอบนอนในรถเลยด้วยซ้ำ นี่อาจจะเป็นการปิดกั้นการรับรู้และอาจจะกำลังคิดอะไรบางอย่างที่ผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ภาวนาให้ผลลัพธ์มันออกมาดีด้วยเถอะ



--------------------------------------------


มินก้าวไปอีกขั้นนึงแล้วเนอะ... แต่หนูข้าวหอมเข้ามาเบรกซะนี่
มาลุ้นกันว่าฟองเขาคิดอะไรอยู่แล้วจะทำยังไงกันต่อไป
อ่านให้สนุกน้า ♥
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 17 (P.3) 16/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 16-07-2016 21:28:46
หน่วงตามฟองเลย  :mew6:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 17 (P.3) 16/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-07-2016 21:41:24
หน่วงก็พออย่ามาม่านะ :call: :call: :call:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 17 (P.3) 16/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 16-07-2016 23:13:17
ว่ะ กำลังหวานอยู่เลยอ่ะ แล้วไมมีคนมาขวางซะได้ล่ะนี่ :katai1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 17 (P.3) 16/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-07-2016 09:36:45
เดี๋ยวจะรออ่านตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 17 (P.3) 16/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-07-2016 09:56:32
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 17 (P.3) 16/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 17-07-2016 20:30:33
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 17 (P.3) 16/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 17-07-2016 23:41:26
กำลังจะไปได้ดี โดนชะนีมาทำเสียงานอีกละ. 555
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 18 (P.4) 20/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 20-07-2016 15:26:42
- Follow You 18 -




ตั้งแต่วันนั้นที่ฟองเจอกับข้าวหอมเหมือนมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไประหว่างผมกับเขา ฟองที่ปกติจะร่าเริงอยู่เสมอกลับเงียบขรึมลง ฟองที่เคยด่าว่าผมตอนผมออกอาการหื่นก็ไม่มีให้เห็นแล้ว มีเพียงแค่ถอนหายใจเบาๆแล้วส่งรอยยิ้มบางให้กันพร้อมกับพูดว่า 'เดี๋ยวต่อย' ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูราบเรียบจนน่าใจหาย อาจจะเพราะว่าหลังจากวันนั้นเราก็เข้าสู่ช่วงสอบปลายภาคก็ได้ แต่จนตอนนี้ปิดเทอมก็ผ่านมาสองสามวันแล้วอาการฟองก็ยังเหมือนเดิม

"ฟอง"
ผมแตะมือลงบนไหล่ฟองที่กำลังนั่งดูรายการเพลงอยู่บนโซฟา ใบหน้าหล่อติดหวานหันมามองพร้อมกับคลี่ยิ้มบางก่อนจะหันกลับไปดูรายการเพลงต่อ ผมผละมือออกแล้วเดินอ้อมไปทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเขาแล้วถือวิสาสะทิ้งตัวลงนอนบนตักเขาแบบไม่ขออนุญาต ฟองทำแค่ก้มลงมองแล้วไม่สนใจผมอีก

"ฟองครับ"
ผมเรียกฟองอีกรอบ ครั้งนี้เจ้าตัวก้มลงมาแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่ามีอะไร ผมเลยเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มนุ่มอย่างเบามือ แล้วใช้นิ้วโป้งไล้วนเบาๆ

"คิดอะไรอยู่ครับ ดูซึมๆไปนะ"
ดวงตาเล็กเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเพียงครู่เดียวก่อนจะกลับไปเป็นปกติ ฟองส่ายหน้าน้อยๆพร้อมระบายยิ้มที่ดูยังไงก็คงฝืนมาให้กัน

"บอกมินสิครับ เป็นห่วงนะ"
ผมยังคงไม่ยอม และวันนี้ผมจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไปอีกแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมคอยถามไถ่แบบนี้ทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ฟองก็บอกแค่ว่าไม่มีอะไรทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมจะปล่อยไม่ได้อีกแล้วอผมทนเห็นฟองเป็นแบบนี้ไม่ได้

"ไม่มีอะไรจริงๆ ไม่ต้องห่วง"
มือเรียวยกขึ้นลูบหัวของผมเบาๆ ดวงตาเล็กเสมองไปทางอื่นมันดูเลื่อนลอยไม่มีจุดหมายจนผมเริ่มกลัวว่าฟองคิดอะไรอยู่

"ฟอง... บอกมินมาเถอะ ฟองรู้ตัวไหมว่าฟองซึมแบบนี้มาเป็นอาทิตย์แล้ว มินสังเกตฟองมาตลอดนะ"
จบคำพูดของผมฟองก็ก้มลงมามองอีกครั้ง ดวงตาสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

"มินมั่นใจแล้วเหรอวะที่มาชอบเรา"
ฟองจ้องตาผมอย่างสื่อความหมาย ผมคิดไว้ไม่ผิดเลยว่าฟองต้องคิดมากเรื่องนี้.. แต่มันออกจะเหนือความคาดหมายของผมที่ฟองกลายเป็นคนคิดมากขนาดนี้  ผมลุกขึ้นก่อนจะโอบไหล่ฟองให้มาซบกันและใช้ฝ่ามือลูบผมสีน้ำตาลอ่อนของฟองเบาๆ

"คิดมากเรื่องนี้เหรอ?"
ผมถามย้ำแล้วมองตาฟอง เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับอย่างง่ายดายต่างจากทุกครั้ง

"อือ ก็มินเพอร์เฟ็คทุกอย่างน่าจะมีผู้หญิงดีๆเป็นแฟนนะ"

"หืม ฟองก็เหมือนๆกับมินนี่ครับ น่าจะมีผู้หญิงดีๆเป็นแฟนแต่ก็ยอมเปิดโอกาสให้มินจีบ"

"มิน..."
ฟองเรียกชื่อผมสั้นๆ ก่อนจะผละตัวออกจากลาดไหล่ของผม เราสบตากันอีกครั้ง แต่ไม่รู้ทำไมครั้งนี้ทำให้ผมใจเต้นแรง

"ไม่ต้องคิดมากแล้วนะครับ มินรักฟองนะ มินไม่สนใจคนอื่นหรอก ถ้าเรามัวแต่แคร์คนอื่น เราจะมีความสุขได้ยังไง จริงไหม?"
ผมคลี่ยิ้มอ่อนโยนส่งไปให้พร้อมกับเคลื่อนตัวกดจูบลงบนหน้าผากมน ฟองสะดุ้งเบาๆแต่ก็ไม่ได้ปัดป้องแต่อย่างใด ใบหน้าของเขาเริ่มมีรอยยิ้มบางๆประดับ แค่นี้ก็ทำให้ผมสบายใจแล้ว

"อือ"
ฟองพยักหน้ารับแล้วคลี่ยิ้มกว้างกว่าเดิม ผมหัวเราะออกมาน้อยๆก่อนจะทำท่าดึงเขามากอด ฟองรีบยกแขนดันอกผมทันทีแล้วมองตาขวาง.. เอ้า เมื่อกี้ยังได้หอมเหม่งอยู่เลยอ่ะ ตอนนี้ทำไมห้ามกอดวะ

"อย่าเพิ่งกอด ให้เราพูดอะไรบ้างสิ"
ฟองย่นจมูกใส่มือยังคงดันหน้าอกผมอยู่

"โอเคๆ พูดมาเลยครับ มินตั้งใจฟังอยู่"
ผมขยับตัวนั่งขัดสมาธิทำหน้าตั้งใจฟังเต็มที่ ฟองถึงขนาดทำท่าอึกอักใส่ผมเลยทีเดียว

"คือ..เอ่อ มินอย่าจ้องหน้าดิ"

"มินกำลังตั้งใจฟังนะ"
ผมทำหน้าใสซื่อแล้วจ้องหน้าเขาเหมือนเดิม พร้อมกระพริบตาปริบๆแถมด้วย รู้สึกตัวเองน่าเตะยังไงก็ไม่รู้แฮะ ฟองเบะปากใส่ผมก่อนจะใช้มือเรียวนั่นดันหน้าผมจนเกือบจะหงายหลัง แต่ผมก็คว้ามือเขาไว้ได้ก่อนจะยิ้มแฉ่งใส่

"พูดมาเถอะครับ ถ้าฟองเขินไม่ต้องมองหน้ามินก็ได้นะ แต่มินเลิกมองหน้าฟองไม่ได้ว่ะ"
หยอดได้หยอดครับ อย่าปล่อยเวลาให้เสียเปล่า ฟองหันมาค้อนผมก่อนจะดึงมือออกแล้วขยับออกห่างผมไปอีก โธ่..

"ไม่พูดแล้ว!"
อยู่ๆฟองก็ลุกขึ้นแล้วเดินหนีผมเข้าห้องครัว เดือดร้อนให้ผมเดินตามไปอ้อนซะอย่างนั้น

"ฟองคร้าบ ไม่งอนสิ ~"
ผมลากเสียงยาวแล้วเดินเข้าไปหยุดอยู่ข้างๆฟองที่กำลังคว้าหม้อมาตั้งน้ำ สงสัยจะทำมาม่ากินแน่ๆ..

"งอนอะไร ใครงอน ไปไกลๆเลยนะ"
ฟองเดินหนีผมไปหยิบนั่นหยิบนี่ แต่ผมไม่ละความพยายามเดินตามฟองเหมือนลูกเป็ดเดินตามแม่เป็ด สุดท้ายฟองเลยแกล้งหยุดเดินจนผมชนหลังเข้าจังๆ บอกเลยว่าจุกครับ จุกจนจะลงไปดิ้น หัวฟองชนเข้าปลายคางผมแบบพอดิบพอดีมาก

"โอย เจ็บๆๆ"
ผมยกมือขึ้นกุมคางตัวเองแล้วกระโดดโหยงเหยง พี่เจ็บครับ ฟันจะหักป่ะวะเนี่ย ฟองขี้แกล้งยังไงก็ยังขี้แกล้งอยู่แบบนั้นให้ตายสิ

"สมน้ำหน้า"
ฟองหันมาแลบลิ้นใส่แล้วส่งเสียงหัวเราะอย่างถูกใจก่อนจะกลับไปตั้งใจต้มมาม่า.. ไม่รู้จะตั้งใจอะไรนักหนาวะ

"ฟองอ่า พูดสิครับ มาทำให้มินอยากแล้วจากไปแบบนี้ไม่ได้นะ"
ผมเข้าไปประชิดฟองอีกครั้งพร้อมก้มตัวลงกระซิบข้างหูเขาด้วยเสียงแหบพร่า บอกตามตรงว่าถ้าพูดด้วยเสียงปกติฟองคงไม่คิดลึก แต่นี่ผมตั้งใจ คึคึ

"มิน! พูดจาไรกำกวมว่ะ"
ฟองขยับหนีผมทั้งๆที่ตอนนี้มาม่าให้หมอกำลังเดือดปุดๆ ผมเอื้อมมือไปหมุนปิดเตาก่อนจะย่างสามขุมเข้าไปหาฟอง แววตาฉายแววเจ้าเล่ห์อย่างปิดไม่มิด

"เข้ามาใกล้ทำไมเนี่ย"
ฟองเบิกตาโตแล้วพยายามขยับหนีผมจนหลังชนเค้าน์เตอร์ ผมได้โอกาสเท้าแขนปิดกันทางหนีของฟองเอาไว้ รายนั้นก็ไม่ยอมให้ผมทำตามใจออกแรงดิ้นจนผมเกือบจะเสียการทรงตัว แต่มาถึงขนาดนี้ผมไม่ยอมปล่อยง่ายๆหรอกน่า

"ไม่ยอมบอก มินก็ไม่ปล่อยนะครับ"
ฟองนิ่งไปแล้วเม้มปากเขาหากันแน่นเหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง ผมไม่รอช้าที่จะขยับใบหน้าใกล้เข้าไปอีกระดับจนฟองเขาขยับตัวนั่งบนเค้าน์เตอร์แล้วเอาเท้ายันหน้าขาผมเอาไว้.. ร้ายกาจ!

"ไม่มีอะไรสำคัญหรอกน่ามิน ปล่อยเราเหอะ"
ฟองออกแรงถีบผมเบาๆให้ถอยห่าง แต่ผมกลับปัดเท้าเขาออกแล้วแทรกตัวไปยืนตรงระหว่างขาทั้งสองข้าง นั่นทำให้ฟองยิ่งเบิกตากว้างแล้วขยับลึกขึ้นไปบนเค้าน์เตอร์อีก

"ไม่เอาครับ บอกมา"

"โอย ไอ้บ้า บอกแล้วๆ แค่จะบอกว่า ถ้ามั่นใจว่ารักเราขนาดนั้นก็ห้ามมองคนอื่นอีกนะ!!"
พอตะโกนใส่หน้าผมจนพอใจเขาก็ออกแรงผลักหน้าอกผมจนกระเด็นออกแล้วกระโดดลงวิ่งหนีเข้าห้องนอนล็อกประตูเสร็จสรรพ ปล่อยให้ผมยืนยิ้มเหมือนคนบ้าขาดสติไปแล้ว อยากจะวิ่งรอบห้องแล้วตะโกนว่าดีใจเว้ย แต่ทำได้แค่ร้องเบาๆอยู่กับที่เท่านั้น

ผมนั่งยิ้มหวานชวนฝันอยู่บนโซฟาโดยไม่ได้เข้าไปยุ่งกับฟองให้เขาเขินอีก แต่นั่งเคลิ้มได้ไม่นานนักก็มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นจนผมต้องรีบเดินไปเปิด ใครมาขัดจังหวะฝันหวานของกูวะเนี่ย

ผมเปิดประตูก็เจอเข้ากับบรรดาเพื่อนสนิทของผมและพ่วงด้วยเพื่อนสนิทของฟอง พวกมันยิ้มทักทายเสร็จก็เเดินขบวนเบียดเสียดเจ้าห้องห้องอย่างผมเข้าไปหน้าตาเฉยไม่ได้รอคำอนุญาตกันเลย ผมขมวดคิ้วแน่นแล้วปิดประตูลงก่อนจะยืนกอดอกมองพวกมัน

"พวกมึงมาทำอะไรห้องกูเนี่ย ขนกระเป๋าเสื้อผ้ามาอีก"
ผมยืนจ้องพวกมันเขม็ง พวกมันหันมายิ้มแฉ่งใส่พวกผมก่อนไอ้แทมที่ทำหน้าตายคนเดียวจะพูดออกมา

"จะไปประจวบฯ"
พร้อมกับส่งสายตาจริงจังมาให้ ผมเลิกคิ้วขึ้น จะไปประจวบฯกันแล้วเกี่ยวอะไรกับกู??

"ไม่เข้าใจ จะไปก็ไปสิวะ มาห้องกูทำไมเนี่ย"
ผมเริ่มเสียงดังเพราะคนที่เหลือยังยิ้มแฉ่งอยู่ เมื่อกี้ยังนั่งฟินตอนนี้เริ่มอารมณ์เสียแล้วนะเว้ย ไม่ใช่คนที่อารมณ์ดีตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงนะ

"ชวนมึงกับฟองไปด้วยไง"
ไอ้โฟร์ทพูดขึ้นคนที่เหลือพยักหน้าหงึกหงักรับ คือแบบนี้ไม่เรียกชวนแล้วป่ะวะเขาเรียกบังคับ เชี่ย ผมง้างฝ่ามือตบหัวมันไปคนละหนึ่งที เสียงโวยวายดังขึ้นจนฟองออกมาจากห้องนอนแล้วชะงักไปเมื่อเห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญนั่งหน้าสลอนอยู่เต็มห้อง

"มาทำอะไรกัน?"
ฟองก้าวมาหยุดอยู่ข้างกันแล้วหันมามองผมสลับกับพวกเพื่อนๆหาคำตอบ ผมถอนหายใจก่อนจะไขข้อสงสัย

"มันจะชวนเราไปประจวบฯด้วย แต่มาแบบนี้คือไม่ได้ชวนหรอก บังคับให้ไป"
ผมพยักหน้าหงึกหงักไม่มีแววโมโหแต่อย่างใด กลับกันคือเขาเดินไปนั่งเบียดระหว่างไอ้ปินกับไอ้ฝุ่นเรียบร้อยแล้ว

"ไปดิ เราอยากไปเวเนเซียอยู่พอดี ไปถ่ายรูปน่าจะสวย"
จากตอนแรกที่จะปฏิเสธกลายเป็นง่าตอนนี้ต้องรับคำชวนพวกมันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไปก็ไปวะ ฟองอยากไปมินก็อยากไปก็ได้

ตอนนี้ผมกับฟองเตรียมของเรียบร้อยแล้ว ไอ้มาม่าที่ฟองต้มไว้ก็เป็นอันต้องเททิ้งเพราะต่างคนต่างลืมกินไปเลย ผมถือกระเป๋าตัวเองลงจากห้อง จริงๆแล้วกะจะหิ้วของฟองมาด้วยแต่เจ้าตัวบอกว่าถือได้ ผมเลยไม่เข้าไปยุ่งเพราะยังไงเราก็เป็นผู้ชายเหมือนๆกัน ตอนที่ตกลงว่าจะเอารถใครไปผมแทบจะกัดหัวพวกมันทิ้งเพราะไม่มีใครเสนอรถตัวเอง สุดท้ายก็กลายเป็นรถของผมและรถของฟอง

ไอ้แทมขับรถของผมที่เป็นรถครอบครัวเจ็ดที่นั่ง ส่วนผมขับรถฟองไป แทนที่พวกมันจะไปอัดกันที่รถผมให้หมดๆก็ไม่ได้ ยังแบ่งไอ้แสบอย่างโฟร์ทมาให้พวกผม -_- ปกติมันก็ไม่ค่อยแยกตัวจากไอ้แทมเท่าไหร่นะ วันนี้มาแปลกว่ะ

"ทำไมมึงไม่ไปกับไอ้แทม?"
ผมถามขณะที่ออกตัวรถเป็นคันแรกนำไอ้แทมที่ไม่ชำนาญทาง ไอ้โฟร์ทขยับมานั่งตรงกลางแล้วยื่นหน้ามาตอบคำถาม

"เดี๋ยวมึงต้องผ่านหน้ามอใช่ป่ะ จอดก่อนนะ"
ผมเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะหันเหลือบมองมันทางกระจกมองหลัง ถ้าตาไม่ฝาดเห็นแก้มมันแดงด้วยล่ะ ผมว่าแอร์ก็เปิดจนหนาวแล้วนะ หรือว่าด้านหลังแอร์จะไม่พอวะ

"จอดทำไม?"

"คือว่า.."
มันพูดแค่ยั้นแล้วเงียบไปก่อนจะยกมือขึ้นเกาแก้ม ผมว่าอาการมันแปลกๆชอบกลว่ะ ผมหันมองหน้าฟองอย่างขอความคิดเห็นในอาการของเพื่อน แต่ฟองทำแค่ส่ายหน้าไปมา

"มึงทำตัวแปลกๆนะโฟร์ท"
ผมอาศัยช่วงติดไฟแดงหันไปมองหน้ามันอย่างคาดคั้น อีกไฟแดงเดียวผมก็จะถึงมหา'ลัยแล้ว ให้จอดโดยไม่มีเหตุผลมันก็แปลกเกินไป

"เดี๋ยวจอดหน้ามอก็รู้เองล่ะน่า"
มันบอกปัดแล้วเสหน้ามองไปทางอื่น แก้มที่ขึ้นสีชมพูระเรื่อตอนนี้กลับแดงก่ำ นี่เพื่อนผมมันป่วยหรือยังไงวะ ยิ่งเห็นท่าทางมันผมยิ่งสงสัยหนัก หัวคิ้วแทบจะผูกโบว์ได้อยู่แล้ว ทำลังจะอ้าปากถามมันต่อแต่ฟองสะกิดแล้วบอกว่าไฟเขียวแล้ว ผมเลยตัดสินใจเงียบออกรถขับมาจอดที่หน้ามหา'ลัย รถจอดสนิทผมเลยมีโอกาสมองไอ้โฟร์ทอีกครั้ง มันกำลังกดมือถือยิกๆไม่นานนักก็ยิ้มร่าพร้อมกับเสียงเคาะกระจกด้านผม ผมหันไปมองแล้วพบกำสาเหตุที่ทำให้มันหน้าขึ้นสีมาตลอดทาง ไอ้น้องแอร์ยกมือไหว้ผมปรกๆอยู่ข้างรถพร้อมกระเป๋าสะพายขนาดใหญ่ แค่บอกว่าจะเอาผัวไปด้วยนี่มันยากเย็นขนาดนั้นเลยเหรอวะ

"ทำไมไม่บอกว่าจะเอาผัวไปด้วย"
ผมพูดออกมาแล้วมองไอ้โฟร์ทด้วยหน้าตาทะเล้น มันแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะโวยวายยกใหญ่

"ผัวบ้าอะไรของมึง ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเว้ย!"
ผมยกกำปั้นขึ้นมาหมายจะต่อยแขนผม แต่ผมหลบได้ทันแล้วกดปลดล็อกประตูให้น้องแอร์ขึ้นมา ฟองหัวเราะออกมาเบาๆ ส่วนไอ้โฟร์ทหน้างอคอพับไปแล้ว

ผมขับรถไปเรื่อยๆจนฟองที่นั่งข้างๆสะกิดแล้วบอกว่าหิว ผมพยักหน้ารับรู้แล้วแวะจอดร้านอาหารที่ใกล้ที่สุด คันหลังก็เลี้ยวเข้ามาจอดเทียบเหมือนกัน เวลานี้เป็นเวลาบ่ายสองแล้วไม่หิวก็คงแปลก

พวกเราทั้งแปดคนนั่งล้อมวงโต๊ะใหญ่ก่อนจะสั่งเมนูง่ายๆอย่างก๋วยเตี๋ยวมากิน ทุกคนตั้งหน้าตั้งตากินของตัวเองไปแต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นการกระทำของน้องแอร์

"นี่ครับลูกชิ้น พี่โฟร์ทกินเยอะๆนะ"
เจ้าหนุ่มวิศวะคนเดียวของทริปคีบลูกชิ้นของตัวเองทั้งสองลูกใส่ถ้วยไอ้โฟร์ทที่กำลังฉีกยิ้มกว้าง ความหมั่นไส้ของคนที่เหลือปรากฏในดวงตาจนอดแซวไม่ได้

"ฟองครับนี่ลูกชิ้นนะ กินเยอะๆนะครับ ~"
ผมแกล้งพูดขึ้นทำให้ฟองตีเข้าเบาๆที่ต้นแขน ส่วนไอ้คนโดนล้อหันขวับมามองหน้ากันทันที เสียงจิ๊จ๊ะดังลอยมาพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ

"เงียบไปเลยมึง!"
คนขี้เขินสั่งเสียงดัง แต่มีหรือผมจะสนใจ หันไปกระทุ้งซอกใส่ไอ้บีทที่นั่งอยู่ข้างๆให้มันแซวต่อไปอีก ทำอะไรเราต้องทำเป็นทีมครับแล้วผลลัพธ์จะออกมาดี

"ก๋วยเตี๋ยวหวานจังเลยว่ะมึง นี่ๆน้ำเป็นสีชมพูด้วย"
ไอ้บีทพูดกน้าระรื่นก่อนจะแกล้งยกชามก๋วยเตี๋ยวให้ไอ้แทมนี่นั่งอีกข้างดู รายนั้นเห็นเงียบๆแต่ก็เข้ารวมกระบวนการแซวเพื่อนด้วยเหมือนกันโดยการพยักหน้าแล้วพูดคำสั้นๆที่ทำให้ไอ้โฟร์ทถึงกับหน้าแดงเถือกไปเลย

"ผัวเอาลูกชิ้นให้กินทำหน้าระรื่นเชียวนะ"
ไอ้แทมพูดหน้าตายจนทุกคนในโต๊ะเงียบกริบ ไอ้โฟร์ทหน้าแดงก่ำก่อนจะหยิบกระดาษทิชชู่ใช้แล้วตรงหน้าขว้างใส่ไอ้แทม รายนั้นหลบได้แล้วกระตุกยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ หลังจากนั้นทุกคนก็ฮาลั่นโต๊ะ ไม่เว้นแม้กระทั่งฟองก็เป็นกับเขาไปด้วย

"ปากมึงนะแทม! น่าเตะให้เลือดกลบ"
โฟร์ทแยกเขี้ยวใส่ไอ้แทมก่อนจะหันไปฟาดแขนแอร์ที่ยิ้มน่าระรื่นไม่มีปฏิเสธกับคำกล่าวหาของไอ้แทมเลยสักนิด

"เตะมากูเตะกลับ แฟร์ๆ"
แทมยักคิ้วก่อนส้นเท้าไปให้ก่อนจะคีบเส้นหมี่เข้าปากอย่างไม่แคร์ ไอ้โฟร์ทนี่แทบจะกระโดดข้ามโต๊ะมากัดคอถเาไม่ติดว่าน้องแอร์จับแขนไว้ก่อน

"ใจเย็นๆนะพี่โฟร์ท ถ้าพี่แทมทำอะไรเดี๋ยวผมปกป้องพี่โฟร์ทเองนะครับ"
น้องแอร์พูดแล้วส่งยิ้มแอทแทคไปให้คนพี่ได้แยกเขี้ยวใส่อีกครั้ง

"นี่ก็ขยันพูดให้คนอื่นคิดไปไกลฉิบหาย!"

"อ่าว ผมก็ทำตามที่พูดจริงๆนะพี่โฟร์ท เขาจะคิดอะไรก็คิดสิครับ ผมแค่พูดความจริงเองนะ"

"โอ้ยย เงียบไปเลย"
ไอ้โฟร์ทคีบลูกชิ้นในถ้วยยัดปากน้องแอร์ให้หยุดพูด เจ้าเด็กวิศวะก็งับลูกชิ้นเข้าปากด้วยรอยยิ้มกว้างจนพวกเราหัวเราะกันออหมาอีกครั้ง ถ้าไอ้โฟร์ทยอมใจอ่อนคบกับน้องคงเป็นคู่รักที่น่าอิจฉาคู่หนึ่งเลยล่ะ

"ฟอง"
ผมกระซิบเรียกคนด้านข้างเบาๆ เขาหันมามองแล้วเลิกคิ้วขึ้นทั้งๆที่ยังคาบหลอดคาไว้ในปาก.. เปลี่ยนจากดูดน้ำเป็นดูดปากผมดีกว่าไหม

"ทำอย่างโฟร์ทกับแอร์บ้างไหมครับ?"
ผมทำสีหน้ากรุ้มกริ่มส่งใบให้ ฟองดูเหวอไปก่อนจะคลี่ยิ้มหวานที่ผมรู้สึกว่ามันน่ากลัวแปลกๆ

"อยากให้เราฟาดมินอ่ะเหรอ ได้ๆ"
ฟองวางขวดน้ำลงแล้วเตรียมง้างมือขึ้น ผมรีบขยับเก้าอี้หนีทันทีก่อนจะมุ่ยหน้าใส่ ผิดประเด็นแล้วเว้ยฟอง คนขี้แกล้งเอาแต่หัวเราะชอบใจที่แกล้งผมได้

"โธ่ ฟองอย่าแกล้งกันดิ"

"ขยับมาใกล้ๆดิ"

"ทำไม?"

"เร็วๆน่า ก่อนที่เราจะฟาดมินจริงๆ"
ผมมองฟองหวาดๆแต่ก็ยอมขยับเก้าอี้กลับไป ฟองคีบหมูแดงในถ้วยขค้นมาก่อนจะจ่อที่ปากกัน ผมเลิกคิ้วมองก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างแล้วงับหมูแดงเข้าปาก แต่ยังไม่ทันได้ปล่อยตะเกียบทุกสายตาก็หันขวับมาทางนี้... ให้กูคายตะเกียบก่อนไม่ได้รึยังไงวะ หันมาได้จังหวะกันเหลือเกินนะพวกมึง

"โอ้ย มดกัดกูอ่ะ"
เสียงไอ้โฟร์ทดังมาก่อนใครเพื่อน พร้อมกับยักคิ้วกวนส้นมาให้กัน ฟองรีบดึงตะเกียบออกจากปากผมทันที ส่วนผมรีบขยับมานั่งตัวตรงแล้วเคี้ยวหมูแดงหงุบหงับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ หน้าด้านครับ ไม่รู้สึกอะไรหรอก

"พวกมึงแซวมันดิ"
เมื่อทิ้งช่วงนานโฟร์ทเลยหันไปเร่งคนที่เหลือให้แซวผม แต่ไม่มีใครปริปากเพราะแซวไปพวกผมก็ทำหน้าตายใส่อยู่ดี

"หึ แซวมึงสนุกกว่า"
ไอ้แทมพูด

"เออ ไอ้มินกับฟองปล่อยให้เขาไปเขินกันสองคนเถอะ"
ไอ้บีทเสริมส่วนฝุ่นกับปินพยักหน้าเห็นด้วยซะอย่างนั้น สรุปแล้วทริปนี้ทุกคนเขาตั้งหน้าตั้งตาแกล้งไอ้โฟร์ทกันชัวร์ๆ

หลังจากที่อิ่มท้องขบวนทัวร์ประจวบฯก็เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง ไม่นานนักก็ถึงที่พักที่พวกตัวแสบทั้งหลายจองเอาไว้ พวกเราขนกระเป๋าทั้งหมดเข้าบ้านพักขนาดใหญ่มีสี่ห้องนอนแบ่งกันห้องละสองคนอย่างลงตัว แต่มันต้องมีหนึ่งคนที่มีปัญหา

"กูจะนอนกับแทม"
เสียงไอ้โฟร์ทพูดขึ้นก่อนจะเข้าไปยืนกอดคอไอ้แทมที่ทำหน้าเบื่อหน่าย จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ตัวติดกันอะไรขนาดนั้นหรอก แต่เชื่อว่ามันคงเขินน้องแอร์ขึ้นมา

"หืม ให้กูไปนอนกับแอร์?"
ไอ้บีทชี้ตัวเองแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย ไอ้โฟร์ทพยักหน้าก่อนยิ้มแฉ่ง

"อ้อ ได้ๆ แต่น้องแอร์ต้องเป็นหมอนข้างให้พี่นะเว้ย พี่ติดหมอนข้างว่ะ"
ไอ้บีทว่าก่อนจะเดินเข้าไปตบไหล่คนเป็นน้อง แอร์ยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ก็เหมือนทุกอย่างจะลงตัว ผมกับฟองกำลังจะหันหลังเดินไปเก็บของที่ห้อง แต่เสียงไอ้โฟร์ทขัดขึ้นมาก่อน

"กูเปลี่ยนใจละ กูนอนกับแอร์เหมือนเดิมก็ได้ แยกย้ายๆ"
หลังจากที่มันพูดจบก็ลากแอร์ขึ้นชั้นสองทันที ทำให้พวกผมหัวเราะกับการกระทำของมัน คนอะไรแสดงความขี้หวงออกมาอย่างโจ่งแจ้งแต่ปากกลับบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกันอีก ท่าทางทริปนี้คงมีอะไรๆให้ลุ้นเยอะแน่ๆ รวมทั้งตัวผมและฟองด้วย อาจจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นที่นี่ก็เป็นได้



-----------------------------------------------------------

สถานการณ์กลับมาหวานชื่นแล้วนะ แถมแอร์กับโฟร์ทเข้าไปด้วย คึคึ
ตอนหน้าหนุ่มๆเขาจะตะลุยประจวบฯกันนะ มาลุ้นไปพร้อมๆกันว่าเรื่องดีๆของมินจะเป็นอย่างไร

ปล. อ่านให้สนุกน้า พรุ่งนี้ต้องไปสู้กับงานแล้ว ให้กำลังใจเราด้วยเนอะ(?) 5555555
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 18 (P.4) 20/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-07-2016 15:50:25
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 18 (P.4) 20/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-07-2016 16:15:06
 :L2:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 18 (P.4) 20/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 20-07-2016 21:26:56
น่ารักอ่ะ หวานจริงๆไม่เติมน้ำตาลเพิ่มเลยนะ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 18 (P.4) 20/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 21-07-2016 19:35:18
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ จะรออ่านตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 18 (P.4) 20/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 22-07-2016 00:06:48
หวานกันจนน่าอิจฉาอ่า
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 19 100% (P.4) 29/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 28-07-2016 21:18:20
Follow You 19



"มิน"
เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อผมที่กำลังวุ่นวายกับการนอนกลิ้งบนเตียงกว้าง หลังจากขับรถมาเกือบสามชั่วโมงจนถึงประจวบฯ ผมหยุดกลิ้งแล้วหันไปมองคนที่ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงข้างๆ... ได้เตียงคู่ครับ โคตรจะเสียดายเลย อยากได้เตียงเดี่ยวมากกว่า

"มีอะไรเหรอ?"
ผมพลิกตัวนอนตะแคงแล้วมองหน้าเขา ฟองขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะตั้งคำถามขึ้น

"มินลืมอะไรรึเปล่าก่อนออกมาจากคอนโด"
ผมขวดคิ้วตามเขาเมื่อได้ยินคำถาม.. ก็เอาของมาครบแล้วนี่หว่า จะให้ลืมอะไรอีก

"คิดไม่ออก.."

"มินลืมเบนซินอ่ะ"

"เออ เห้ย ลืมสนิทเลย ฉิบหายแล้ว"
ผมลุกพรวดขึ้นมานั่งก่อนจะคว้าโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงมากดเบอร์คนที่สามารถช่วยผมได้ ฟองมองตามด้วยความสงสัยว่าผมกำลังทำอะไร แต่ก็ไม่ได้ตอบไปเพราะปลายสายรับซะก่อน

'ว่าไงคะคนหล่อ'
เสียงหวานๆกรอกมาตามสายทำให้ผมที่กำลังขมวดคิ้วอยู่ยิ้มได้ทันที

"คนสวย ช่วยไปรับเบนซินที่คอนโดหน่อยครับ พอดีเพื่อนลากพี่มาประจวบฯแบบกะทันหันน่ะ"
ผมอธิบายให้คนปลายสายเข้าใจ ฟองมองผมก่อนจะขมวดคิ้วยุ่งขึ้นไปอีก คงอยากถามว่าผมพูดกับใครล่ะมั้ง

'ได้ค่ะ คนหล่อทำไมไม่ชวนหนูไปด้วยล่ะ'

"ก็พวกเพื่อนมันบุกไปคอนโดเมื่อเช้าแล้วมันก็ลากพี่ออกมาเลยเนี่ย คนสวยอยากมาเที่ยวเหรอคะ?"

'อยากไปค่ะ แต่เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกัน'

"โอเคครับ กุญแจห้องอยู่ที่แม่นะ"

'ค่ะๆ แค่นี้นะคะคนหล่อ หนูจะไปรับเบนซินแล้ว'

"ครับผม รักคนสวยน้า"

'ค่า ~ รักคนหล่อ จุ๊บๆ บาย'
แล้วสายก็ตัดไปปล่อยให้ผมอมยิ้มกับความน่ารักของเธอ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเธอก็ยังเป็นสาวน้อยน่ารักของผมอยู่เสมอ ผมวางมือถือลงแล้วหันไปส่งยิ้มให้ฟองที่ตอนนี้ทำสีหน้าเรียบเฉยใส่ผม

"เรื่องเบนซินไม่ต้องเป็นห่วงแล้วนะ มีคนไปรับมันแล้ว"

"อือ ใครเหรอ?"

"อ๋อ น้องสาวครับ ชื่อจิน"
ผมตอบพร้อมกับลอบมองปฏิกิริยาของฟองไปด้วย จากที่มีสีหน้าเรียบเฉยในตอนแรก ตอนนี้กลับดูสดชื่นขึ้นอย่างน่าประหลาด.. หรือว่าฟองกำลังหวงผมอยู่อย่างนั้นเหรอ อยากรู้ว่ะ แต่ควรถามด้วยวิธีไหนดี

"อ๋อ มีน้องสาวด้วยเหรอ ไม่เห็นเคยพูดถึง"
ฟองหยิบมือถือขึ้นมากดเล่นเหมือนไม่ได้สนใจจะเอาคำตอบสักเท่าไหร่ จนผมคิดอยากแกล้งเขาขึ้นมา อยากรู้นักว่าไอ้อาการพวกนั้นที่ฟองทำมันหมายความว่ายังไงกันแน่ ว่าแล้วก็แกล้งพูดเรื่องข้าวหอมสักหน่อยก็แล้วกัน

"จินไปเรียนต่างประเทศน่ะ เป็นเพื่อนกับข้าวหอมด้วย"
ดูเหมือนฟองจะชะงักไปเมื่อผมพูดถึงข้าวหอม แต่ผมยังคงทำเหมือนพูดเรื่องดินฟ้าอากาศให้เขาฟัง ก็ผมอยากลองใจฟองดูบ้างว่าตอนนี้รู้สึกยังไงกับผม

"อ๋อ อืม เราไปหาปินกับฝุ่นก่อนนะ"
ฟองลุกขึ้นยืนก่อนจะก้าวเท้ายาวๆออกไปจากห้อง สีหน้าของเขาเหมือนไม่อยากรับรู้อะไรจากปากผมอีก.. อาจจะเพราะมันไม่น่าฟัง หรือฟองกำลังคิดมากอีกแล้ว? ผมรีบเดินตามแล้วไปยืนขวางทางออกเอาไว้ เขาเงยหน้ามองแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

"มีอะไร?"
น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยถามกัน สีหน้าเรียบเฉยเดาไม่ออกมากำลังคิดอะไร แต่ที่แน่ๆฟองไม่ยอมสบตากับผมตรงๆ

"ฟองเป็นอะไรรึเปล่า?"
ผมถามออกไปในใจลึกๆหวังว่าคำตอบของฟองจะออกมาในแนวหึงหวงอะไรทำนองนั้น แต่คงได้แค่คิด เพราะคนอย่างฟองคงไม่พูดอะไรแบบนั้นออกมา

"เปล่า ถ้ามินไม่มีอะไรก็หลีกทางให้เรา"

"ฟองดูแปลกๆนะ บอกมินสิว่าเป็นอะไร"
ผมเอื้อมมือไปจับไหล่ทั้งสองข้างก่อนจะบีบลงไปเบาๆ ฟองช้อนตามองผมในแววตากำลังสั่นไหวอย่างไม่ปิดบัง

"แน่ใจจริงๆเหรอว่ามินรักเรา"
ผมสะดุดลมหายใจตัวเอง..ไม่คิดว่าจะโดนถามคำถามเดิมๆอีกแล้ว ที่บอกไปฟองไม่เชื่อผมเลยเหรอว่าผมรักฟองจริงๆ

"แน่สิครับ จะถามกี่ครั้งมินก็ตอบเหมือนเดิม"
ผมส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้คนตรงหน้า ฟองจ้องผมก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆมาให้แล้วพยักหน้าเป็นอันรับรู้

"ฟอง"
ผมเรียกชื่อเขาเบาๆก่อนจะขยับหน้าไปใกล้จนปลายจมูกของเราแตะกัน เขาไม่ขยับหนีแต่กลับจ้องตากันอยู่แบบนั้น สายตาของผมเลื่อนลงไปอยู่ที่ปากบางสวยได้รูป... ความคิดหนึ่งเดียวตอนนี้คืออยากจูบ

"จูบได้ไหมครับ?"
ผมถามออกไปด้วยเสียงที่แผ่วเบาจนไม่คิดว่าฟองจะได้ยินด้วยซ้ำ แต่แก้มใสๆตรงหน่าผมนั้นกลับแดงระเรื่อเหมือนกำลังเขิน มือเรียวยกขึ้นตบเข้าที่แก้มผมเบาๆก่อนจะยิ้มให้

"จูบไม่ได้ครับ ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะ"
ถึงแม้ฟองจะเขินแต่ก็ยังทำหน้าทะเล้นยักคิ้วให้ผมอยู่ ผมเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะใช้ความคิดอย่างหนัก ถ้าขอเป็นแฟนไปตอนนี้จะสำเร็จไหม หรือจะกินแห้วแทนข้าววะ

"ถ้ามินจะขอให้ฟองเป็นแฟนกับมินล่ะครับ จะตกลงไหม?"
ผมวางมือทาบทับลงบนมือเรียวนั่น ดวงตาของเราทั้งสองคนจ้องประสานกัน ฟองเม้มปากแน่นอยู่อย่างนั้นก่อนจะค่อยๆปล่อยออกมา

"จะไม่ถามเราหน่อยเหรอว่าเรารู้สึกยังไงกับมิน"
ฟองพูดก่อนจะหลบตากัน มือที่เคยตบแก้มผมตอนนี้แนบลงสนิทที่ข้างตัวเรียบร้อยแล้ว ผมสะอึกไปกับคำพูดฟอง.. เออว่ะ ลืมไปเลย ยังไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไงด้วยไปขอเขาเป็นแฟนซะอย่างนั้น คิดได้แบบนั้นเลยยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เก้อ

"แหะๆ โทษทีครับ ใจร้อนไปหน่อย"

"หื่นมากกว่ามั้ง"
ฟองพูดด้วยน้ำเสียงทะเล้นแต่ไม่ยอมมองหน้าผมตรงๆ ไอ้ผมก็อายตัวเองจนไม่กล้ามองหน้าเขาเหมือนกันที่โดนรู้ทันแบบนั้น

"โห.. พูดงี้มินเสียหายนะเนี่ย"
แก้ตัวแบบไม่เต็มเสียงนัก ก่อนจะขยับถอยหลังให้เรามีระยะห่างระหว่างกันนิดหน่อย

"แล้วมันไม่ใช่เรื่องจริงรึไง?"
ฟองเงยหน้าขึ้นมามองกันก่อนจะเบ้ปากให้ ผมหลุดหัวเราะแล้วพยักหน้าช้าๆเป็นเชิงรับว่าตัวเองหื่น ยอมแพ้แล้วครับ

"โอเคๆ ยอมรับก็ได้ว่าหื่น แต่อยากรู้นะครับว่าฟองพร้อมจะคบกับมินแล้วรึยัง?"
สายตาเราประสานกันอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีใครหลบตาใครทั้งสิ้น ฟองเป็นฝ่ายขยับเข้ามาใกล้ก่อนที่เขาจะกดจมูกลงบนแก้มผมเบาๆ นั่นทำให้ผมเบิกตาค้างด้วยความตกใจ

"อะ เอ่อ .. มะ หมายความว่ายังไงครับ?"
ผมเบิกตากว้างมองคนที่ขโมยหอมแก้มตัวเองด้วยความตื่นเต้น ฟองหน้าแดงก่ำด้วยความเขิน ไม่ยอมสบตากันอีกแล้ว หัวใจผมเต้นจนแทบทะลุออกมาจากอกแล้วตอนนี้

"พาเราไปเที่ยวก่อนสิ แล้วเราจะให้คำตอบทีหลัง"
ฟองยักคิ้วกวนให้ผมก่อนจะเดินหนีออกไปทางประตูห้อง ปล่อยให้ผมยังคงเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเชื่องช้า พอตั้งสติได้ก็รีบวิ่งตามฟองออกไปทันที

สุดท้ายพวกเราก็เดอนเล่นกันริมหาดในเวลาห้าโมงเย็น ต่างคนต่างลงความเห็นกันว่าค่อยเริ่มออกทริปกันพรุ่งนี้ เนื่องด้วบแต่ละคนเพลียจากการเดินทาง ผมเดินอยู่กับไอ้บีทและไอ้แทม ส่วนไอ้โฟร์ทไปตลาดกับน้องแอร์ เพราะมื้อค่ำพวกเราจะทำบาร์บีคิวกินกัน ส่วนฟองก็เดินอยู่ด้านหน้าผมกับฝุ่นและปิน

"มึงๆ"
ไอ้บีทใช้ศอกกระทุ้งเข้าที่สีข้างของผมเบาๆก่อนจะยื่นหน้ามากระซิบกระซาบต่อโดยที่ผมยังไม่ได้ตอบอะไรออกไป

"มึงกับฟองเป็นไงบ้างวะ ได้เสียกันยัง?"
ผมเบิกตากว้างก่อนจะยกมือตบหัวมันไปหนึ่งที มันหันมาค้อนใส่กันก่อนจะดบ้ปากใส่

"ถามเชี่ยไรของมึง ทะลึ่ง"
ผมกัดฟันตอบมันเบาๆเพราะกลัวว่าฟองที่เดินอยู่ข้างหน้าจะได้ยิน ไอ้แทมที่อยู่อีกฝั่งของผมเพียงแค่เหลือบสายตามองก่อนจะก้มลงไปเล่นอะไรในมือถือต่อ.. ไอ้นี่ก็ติดเกมจังนะ อยากรู้ว่าถ้ามันมีแฟนมันขะเลิกติดเกมได้ไหม

"เอ้า ก็กูอยากรู้อ่ะ ไปอยู่ด้วยกันตั้งเป็นเดือนๆ"
มันว่าเสียงกระเง้ากระงอดอย่างกับเป็นบ้านเล็กบ้านน้อยของผมซะอย่างนั้น ผมแยกเขี้ยวให้มันก่อนจะเมินไม่สนใจอีก แต่บีทมันก็ไม่ละความพยายามโดยกานกระตุกแขนเสื้อผมยิกๆ

"อะไรของมึงอีกเนี่ยบีท"
ผมว่ามันก่อนจะทำหน้าเซ็งๆ นี่ถ้าไม่ติดว่าฟองเดินอยู่ข้างหน้าผมไล่เตะไอ้บีทไปแล้ว น่ารำคาญเป็นบ้า

"เป็นแฟนกันยังอ่ะ?"
มันทำตาเป็นประกายวาววับแล้วกระซิบถามผมเสียงเบา... แต่ผมว่ามันเบาจนคนที่เดินอยู่ด้านหน้าได้ยินว่ะ เพราะเหมือนฟองจะสะดุ้งเล็กน้อยด้วย

"ยัง ทำไมมึงเซ้าซี้จังวะ"
ผมผลักหน้ามันออกไปไกลๆก่อนจะเดินหนีไปตีคู่กับฟองที่ด้านหน้า เขาหันมายิ้มให้ผมก็เลยยิ้มตอบไป

"ไม่เดินกับเพื่อนแล้วเหรอ?"
คำถามของฟองทำให้ผมหันไปค้อนไอ้บีทที่เดินตามหลังมาติดๆ ไอ้ชีทยิ้มหน้าระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะอย่างนั้น ผมเลยเบือนหน้าหนีมันไปตอบฟองแทน

"เบื่อมันแล้วครับ เดินกับฟองดีกว่า"
ผมส่งยิ้มหวานให้ ฟองส่ายหัวเบาๆก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเมื่อมีเสียงประท้วงง้องแง้งจากทางด้านหลัง

"ไปเดินกับบีทเหอะ งอแงใหญ่แล้วนั่น"
ฟองว่าพลางหัวเราะไปด้วย ไอ้ฝุ่นกับไอ้ปินนี่โบกมือไล่ผมเลยเถอะครับ ผมเลยเบ้ปากใส่พวกมันไป

"มันตอแหลไปงั้นล่ะ อย่าไปสนใจมันเลย"

"มิน.. ปากร้ายนะเนี่ย"
ฟองเหล่มองผมด้วยหางตา ส่วนไอ้คนถูกกล่าวหามันเดินมาเทียบด้านข้างผมแล้ว สายตาที่มันมองผมเหมือนกำลังจะเอาคืนกัน

"ฟองครับ ถ้ามินมันขอเป็นแฟนไม่ต้องไปคบกับมันนะ"
มันพูดแถมยังยิ้มหน้าระรื่นจนผมต้องตบหัวมันไปอีกที มีอย่างที่ไหนยุให้ฟองไม่คบกับผม เป็นเพื่อนประสาออะไรของมันวะ

"ทำไมเหรอ?"
ฟองถามกลับทำให้ผมถึงกับอึ้ง ถ้าไอ้บีทพูดอะไรบ้าๆขึ้นมาผมจะซวยเอาไหมล่ะเนี่ย ผมแสดงสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัดจนฟองเหล่มองผมด้วยหางตาอีกรอบ... มองกันแบบนี้เสียวสันหลังว่ะ

"เพราะมันรักฟองมาไงครับ ฟองน่าจะอึดอัดเพราะความรักของมันน้า"
ผมแทบจะถอดรองเท้าแตะขว้างใส่หน้าไอ้บีท กวนตีนไม่มีใครเกินจริงๆอ่ะครับ แม่ง.. ไอ้เราก็กระวนกระวายอยู่นานว่ามันจะพูดอะไร โล่งอกไปครับ

"บ้า.."
ฟองพูดเสียงเบาเหมือนต้องการบ่นกับตัวเอง แต่ผมหูดีไงครับได้ยินเต็มๆ แถมตอนนี้เจ้าตัวเขาหน้าแดงมากอีกด้วย

"แหม...เพื่อนกูเขินหน้าแดงเลยว่ะมิน ของมึงดีจริงนะเนี่ย"
ผมยิ้มภูมิใจส่วนฟองฟาดมือใส่แขนไอ้ปินเต็มๆจนมันร้องโอดโอย

"หุบปากไปเถอะ ไม่พูดก็ไม่มีใครว่ามึงเป็นใบ้นะปิน"
ฟองเหวใส่ไอ้ปินด้วยใบหน้ายุ่งเหยิงก่อนจะเอื้อมมือมาจับแขนเสื้อผมแล้วกระตุกแรงๆ

"ไปทางนู้นกันเหอะ"
ผมยังไม่ทันได้ตอบคำถามฟองก็ลากผมเดินลิ่วๆนำหน้าไอ้พวกนั้นไปเลย มีแต่เสียงแซวดังไล่หลังมาไม่หยุดหย่อนจนฟองหน้าแดงเถือก ผมหลุดยิ้มกับการกระทำน่ารักๆของฟองที่นานๆทีจะเขินที่เพื่อนแซว ผมคิดว่าเร็วๆนี้คงได้ฟังข่าวดีล่ะมั้ง



----------------------------------------------------------

50 %


หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 19 50% (P.4) 20/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 28-07-2016 21:29:27
อ๊ายยยยยยย หวานนนน หวานมากค่ะ รออีกครึ่งนะคะ//ปัดมด ปัดๆๆๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 19 100% (P.4) 29/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 29-07-2016 11:49:03
50 % หลัง



ประมาณหกโมงครึ่งผมกับฟองก็เดินกลับไปที่บ้านพักพร้อมๆกับไอ้โฟร์ทและน้องแอร์หิ้วของพะรุงพะรังกลับมาจากตลาด

"ไปสวีตกันถึงไหนวะนั่น?"
ไอ้โฟร์ทเอ่ยแซวตอนที่ผมเข้าไปช่วยมันรื้อของออกจากถุง ผมยิ้มกริ่มแต่ไม่ยอมตอบมัน ปล่อยให้เพื่อนร้อนรนเพราะความสงสัยคืองานถนัดของผมล่ะครับ

"ที่รัก มึงเป็นใบ้รึไง ~"
โฟร์ทเดินมาเขย่าแขนผม แต่ผมก็ยังคงทำหน้าระรื่นและเงียบอยู่เหมือนเดิม มันคงทนไม่ไหวจึงกำหมัดแล้วต่อยแขนผมแทน

"เชี่ยนี่ อะไรของมึง เดี๋ยวกูให้แอร์มาลากไปเลยนี่"
ผมหันขวับไปจ้องหน้ามันเขม็ง แต่เจ้าตัวเขาไม่สะทกสะท้านไม่กลัวที่ผมขู่เลยสักนิด ก็ใช่สิครับแอร์มันตามใจโฟร์ทยิ่งกว่าอะไรดีซะอีก

"แอร์ไม่ทำกับกูแบบนั้นหรอก"
มันยักคิ้วกวนให้ผมก่อนจะกลับไปเตรียมของทำบาร์บีคิว ปล่อยให้ผมทำเสียงจิ๊จ๊ะเพราะขัดใจอยู่คนเดียว

"เป็นอะไรของมึง?"
เสียไอ้แทมดังขึ้นข้างๆ ไม่รู้มันมายืนลงมือหันพริกหวานตั้งแต่เมื่อไหร่ ไอ้นี่คิดจะมาก็มาคิดจะไปก็ไปโคตรเดาใจลำบาก

"เปล่า แล้วมึงเลือกติดเกมแล้วรึไงถึงมายืนหั่นพริกได้"
ผมเหล่มองมันก่อนจะจัดการกับขวดน้ำอัดลมและเครื่องดื่มมึนเมาที่ไอ้โฟร์ทซื้อมาก่อนจะหั่นไปคว้าจานมาให้ไอ้แทมใส่พริกหวานของมัน

"รำคาญไอ้บีท"
มันกรอกตาด้วยความเบื่อหน่ายแล้วเหลือบมองไอ้บีทที่กำลังหยิบขวดน้ำต่างๆไปแช่เย็นไว้ก่อน

"ห้ามรำคาญกู!"
บีทเหวใส่ไอ้แทมก่อนจะกระทืบเท้าอุ้มขวดน้ำไปแช่เย็น นานๆครั้งไอ้แทมจะบ่นรำคาญใครสักคนนะ ผมล่ะงงจริงๆ

"ทะเลาะไรกันมาเนี่ย"

"มันยุ่งวุ่นวายจนกูเล่นเกมแพ้"

"เรื่องแค่เนี่ย?"

"เออ ไม่เข้าข้างกูก็เงียบไป"
มันพูดจบก็เอาปลายมีดแหลมๆมาชี้หน้ากัน ผมผงะถอยหลังแล้วยกมือทั้งสองข้างขึ้นยอมแพ้ ไอ้แทมเลยกลับไปหั่นพริกหวานหลากสีของมันต่อโดยไม่สนใจใครอีก

"ฟอง ให้มินช่วยไหม?"
ผมเดินไปอีกฝั่งที่เขากำลังเสียบไม้บาร์บีคิวกันอยู่ ฟองเหลือบตามองผมทั้งๆที่ในมือยังคงเสียบเนื้อไก่ใส่ไม้ ใบหน้าหวานส่งยิ้มมาให้ก่อนจะเอ่ยถามคำถามที่ทำให้ผมแทบทรุด

"แน่ใจเหรอว่าทำได้?"
ผมเบะปากลง กับไอ้แค่การเสียบทุกอย่างเข้าในไม้มันจะไปยากอะไรวะ

"ทำได้ดิ แค่นี้เอง"
ผมว่าก่อนจะหยิบไม้แล้วหยิบพริกหวานขึ้นมา.. ดูตัวอย่างจากที่ฟองกับฝุ่นเสียบไปนั่นล่ะครับ ถ้าไม่มีตัวอย่างผมคงเสียบไก่กับหมูทั้งไว้แน่ๆ

"ระวังมือด้วย เนื้อมันลื่นนะ"
ฟองเอ่ยเตือนผมเลยพยักหน้ารับและหยิบของมาเสียบเรื่อยๆ จนถึงเนื้อไก่ ผมพยายามจับมันไว้แต่ตอนเสียบไม้เนื้อไก่ก็ลื่นไปลื่นมากว่าจะเสียบได้เล่นเอาเหงื่อตกอยู่เหมือนกัน ปลายแหลมของไม้จะเสียบเข้ามืออยู่หลายรอบ

"ไก่มันยังไม่ตายรึไงวะ ดิ้นไปดิ้นมา"
ผมบ่นพึมพำอยู่คนเดียว คิ้วขมวดแน่นเมื่อหยิบไก่อีกชิ้นแล้วพยายามเสียบลงไม้ เสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากคนที่ยืนข้างกัน  นี่เขาหัวเราะที่ผมเสียบไก่ไม่ได้หรือหัวเราะกับสิ่งที่ผมพูดกันวะเนี่ย ถ้าเป็นข้อหลังโคตรจะอายเลยนะ

"ไก่มันตายแล้ว มินวางเหอะเดี๋ยวฟองทำเอง"
เขาพูดก่อนจะส่งยิ้มมาให้กันแล้วแย่งของในมือผมไปทำเอง แล้วปมจะขัดอะไรได้ล่ะครับนอกจากจะตามใจฟองไป

"โธ่ ก็มันลื่นนี่นา"
ผมว่าด้วยเสียงเซ็งๆก่อนจะเดินไปลากเก้าอี้มานั่งแหมะอยู่ข้างๆฟอง ดูเขาทำแล้วเพลินดีนะเนี่ย ฟองเหล่มองผมก่อนจะส่ายหน้าเบาๆแล้วส่งจานบาร์บีคิวที่เสียบไม้เสร็จแล้วมาให้ผม

"อ่ะ เอาไปย่าง... เอ้ย เอาไปให้ปินย่างนะ ถ้าให้มินย่างสงสัยจะไหม้แน่ๆ"
ฟองหัวเราะเอิ้กอ้ากราวกับถูกใจในคำพูดของตัวเอง ผมย่นจมูกก่อนจะใช้มือข้างที่สะอาดจิ้มเอวฟองด้วยความมันเขี้ยว ฟองขยับหนีก่อนจะใช้สายตาดุๆมองกัน

"นี่ อย่าเล่นสิ เอาไปให้ปินได้แล้ว"
จานบาร์บีคิวถูกส่งมาตรงหน้าผมอีกครั้ง แต่คราวนี้บาร์บีคิวดิบแทบจะทิ่มหน้ากันเลย ผมผงะก่อนจะรีบรับจานมา

"โห นี่ไล่กันป่ะเนี่ย"

"ไล่บ้าอะไรเล่า จะกินหรือไม่กินล่ะ?"

"กินครับๆ ~ ไปแล้ว อย่าคิดถึงมินล่ะ"
ผมลุกแล้วรีบเดินหนีมือฟองที่ง้างรอจะตีผม เสียงตะโกนไล่หลังมาทำให้ผมนิ้มกว้างอย่างไม่ทราบสาเหตุ เพราะมันไม่ควรยิ้มซะด้วยซ้ำ

"ใครจะไปคิดถึงกันเล่า!"
แอบเหลือบไปเห็นคนตะโกนมาหน้าแดงด้วยล่ะ น่ารักฉิบหาย ถ้าไม่ติดว่าคนเยอะจะลากเข้าห้องไปฟัดซะนี่

"ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยนะมึง"
ผมส่งจานบาร์บีคิวให้ไอ้ปินที่รออยู่ มันยิ้มทะเล้นก่อนจะเอ่ยแซวกัน ผมไม่สะทกสะท้านครับบอกเลย อยากพูดอะไรเอาให้เต็มที่ตอนนี้กำลังมีความสุข

"มีความสุข"
ผมตอบสั้นๆก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ อยากช่วยอยู่หรอกครับแต่กลัวกินไม่ได้ เรื่องทำกับข้าวนี่ต้มมาม่าเซียนสุดแล้วครับ นอกนั้นต้องมีคนช่วย

"อิจฉาเว้ย แล้วเป็นไงกันบ้างวะ ไปถึงขั้นไหนแล้ว?"
ปินย่างบาร์บีคิวไปด้วยมองหน้าผมไปด้วย จากที่นั่งพิงเก้าอี้อยู่เลยขยับนั่งตัวตรงแล้วยนคิ้วเข้าหากันนิดหน่อยเมื่อได้คำตอบให้กับปินแล้ว

"ก็ดีว่ะ แต่ถามไปว่าคิดยังไงกับกู ฟองไม่ยอมตอบ"

"งั้นล่ะ เล่นตัว"
ปินว่าก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งข้างๆผม นี่มึงไม่กลัวบาร์บีคิวไหม้หรือยังไงวะ

"คือยังไง?"
ผมถามกลับไปสายตาเลื่อนไปมองฟองที่ยังคงเสียบบาร์บีคิวอยู่

"ฟองมันชอบมึง กูบอกแค่นี้ล่ะ"
ปินพูดแล้วหันมายักคิ้วให้ผม ไอ้เรื่องฟองชอบผมนี่ผมรู้แล้วเพราะฟองเคยบอกก่อนที่พวกนี้จะบึกเข้ามาในห้องผม แล้วเรื่องเล่นตัวยังไงผมก็ไม่เข้าใจ ในเมื่อฟองยังไม่บอกว่ารักผมเลยนี่นา

"เรื่องฟองชอบกู กูรู้แล้ว เขาบอกกูเอง"
ไอ้ปินทำหน้าอย่างกับเห็นผีแล้วจ้องผมตาโต คือทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วยวะ

"ห้ะ ไอ้ฟองบอกมึงแล้วเหรอ มันเล่าอะไรให้ฟังบ้าง?"

"เล่าไรวะ? กูแค่ถามว่าฟองชอบกูบ้างยัง ฟองเลยตอบว่าชอบ"
ผมเกาหัวแกรกๆยิ่งคุยกับมันยิ่งงงเว้ย

"อ๋อ มันมีอะไรมากกว่านั้นเว้ย หึหึ"
ปินหัวเราะมีเลศนัย ไอ้ผมด้วยความที่ติดใจอยู่แล้วและอยากรู้เลยลองอ้อนขอให้มันเล่าสักหน่อยน่าจะดี

"เล่าให้ฟังหน่อยดิ เรื่องไรวะ"
ผมเกาะแขนมันพร้อมกับเขย่าเบาๆ ไอ้ปินยิ้มกริ่มก่อนจะยืดตัวขึ้นเหมือนผู้กำชัยชนะจนผมอดหมั่นไส้ไม่ได้ แต่ทำไรไม่ได้ว่ะเดี๋ยวมันไม่ยอมเล่าให้ฟัง

"มาๆ เดี๋ยวกูจะทำให้มึงตาสว่างนะน้องมิน"
มันขยับเข้ามากระซิบกระซาบข้างหูกันทำให้ผมยิ่งลุ้นไปอีกเท่าตัว ดวงตาคมฉายแววอยากรู้อยากเห็นเต็มที่

"ไวๆเลย"
ผมเร่งมันด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นซะเต็มประดา

"เออ.. ก็แบบว่า ไอ้ฟองมันแอบ.."
ปินยังพูดไม่จบก็มีเงาใครคนหนึ่งเดินมาหยุดอยู่ข้างเตาบาร์บีคิว ผมกับปินเงยหน้าขึ้นก็เจอเข้ากับเจ้าของเรื่องยืนมาตรงมาอยู่ เราขยับตัวแยกออกจากกันโดยอัตโนมัติ

"ทำไรกันอ่ะ ทำไมไม่เฝ้าบาร์บีคิวเนี่ย จะไหม้แล้วนะ"
ฟองเบะปากใส่ก่อนจะหยิบบาร์บีคิวบนเตาขึ้นมายืนให้พวกผมดู มันเกือบจะดำปี๋อยู่แล้วครับ ไอ้ปินรีบกระเด้งตัวขึ้นไปกลับข้างบาร์บีคิวทันที ส่วนผมก็นั่งยิ้มแหยอยู่ตรงนั้น

"พอดีคุยกันเพลินเลย"
ผมเป็นคนตอบออกไป ฟองส่ายหน้าเบาๆแล้วเดินมาดึงแขนผมให้ลุกขึ้น

"ไปเตรียมเครื่องดื่มกัน"
แล้วผมก็โดนลากออกไปอีก มีสายตาล้อเลียนของไอ้ปินตามมา สุดท้ายผมก็ไม่ได้รู้เรื่องที่ไอ้ปินจะเล่า.. ไว้ฟองเผลอเมื่อไหร่ผมจะวิ่งไปถามไอ้ปินให้ได้เลยเชียว โคตรคาใจ



----------------------------------------------

มาอัพครบ 100% แล้วน้า มันยังคงหวานหยดย้อยอยู่เหมือนเดิม
ใครเป็นเบาหวานแล้วบ้างเนี่ย 555555555

อ่านให้สนุกน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 19 100% (P.4) 29/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-07-2016 14:45:42
เราก็อยากรู้ว่าปินจะพูดว่ายังไง :ling1: :ling1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 19 100% (P.4) 29/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 29-07-2016 15:48:57
เลาตามเก็บทุกเรื่องของ Ch0cmint 5555555

เรื่องนี้ก็ละมุน ชอบบุคลิกฟองนะ จากการตามอ่านจนทัน มีความแอบรักมินมานานละสิ
เพื่อนๆในกลุ่มน่าจะรู้  :katai2-1:


มาให้กำลังใจนักเขียน เย๊ ไฟท์ติ้ง @@@
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 19 100% (P.4) 29/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 29-07-2016 20:19:44
ฟองหวงสินะ ใช่ม่ะๆๆๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 19 100% (P.4) 29/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 29-07-2016 20:46:38
ยิ้มค่ะยิ้มมมมเลยย
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 19 100% (P.4) 29/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 30-07-2016 00:03:37
โอ้ยยยคาใจด้วย น่ารักมากเลยค่ะ ^^ :o8:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 19 100% (P.4) 29/07/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 30-07-2016 21:57:39
อยากรู้อ่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 20 (P.4) 02/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 02-08-2016 13:38:32
- Follow You 20 -



วันนี้พวกเราทั้งหมดตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อจะออกมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมหาด ฟองดูสดชื่นกว่าครั้งไหนๆอาจจะเพราะความชอบทะเลของเจ้าตัวอยู่แล้ว ส่วนผมยังยืนมึนและขยี้ตาไปมาอยู่ข้างๆเขา คนอื่นๆก็มีสภาพไม่ต่างกันนัก ไอ้โฟร์ทนี่สบายเลยครับเอนหัวพิงไหล่น้องแอร์มีความหวานหยดย้อยจนผมแอบล้อมันไม่ได้

"แหม.. กรุ๊ปเรามีคู่ข้าวใหม่ปลามันด้วยว่ะมึง"
ผมพูดกับไอ้บีทที่ยืนอยู่อีกข้าง มันหันมายิ้มทะเล้นพร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วยแล้วเชิญชวนเพื่อนคนอื่นๆให้เหล่มองไอ้โฟร์ทกับน้องแอร์ที่ยืนกันอยู่ท้ายแถว

"โอ้ยๆ มดกัดกูอ่ะมิน"
ไอ้บีทพูดเสียงทะเล้นดังพอสมควรจนไอ้โฟร์ทที่อยู่ท้ายแถวหันขวับมามองก่อนจะแยกเขี้ยวใส่แล้วรีบผละตัวออกจาแอร์ทันที แก้มขาวๆของมันต้องแดงมากแน่ๆผมเอาหัวเป็นประกัน

"อะไรของพวกมึง รอดูไปเงียบๆเหอะ"
มันมุ่ยหน้าก่อนจะสลับที่ยืนกับไอ้ฝุ่นหน้าตาเฉย รายนั้นก็ขยับกลับมายืนข้างไอ้ปินเหมือนเดิมอย่างไม่ยอมแพ้ สุดท้ายเลยเกิดเป็นสงครามขนาดย่อม จนทุกคนย้ายมายืนข้างฟองที่เป็นหัวแถวกันหมด ไอ้น้องแอร์ก็ยืนขำกับท่าทีที่ไอ้โฟร์ทแสดงออกไม่ได้มีสีหน้าเครียดอะไรเลยที่โดนหนีแบบนั้น

"พวกมึงจะหนีกูทำไมเนี่ย"
ไอ้โฟร์ทหยุดอยู่ตรงหน้าผมแล้วกอดอกจ้องเขม็ง ปากบางเบะลงจนเป็นเส้นโค้ง ผมหมั่นไส้เลยยกมือดีดปากมันไปหนึ่งทีจนมันโวยวายลั่นหาดแบบไม่อายใคร

"ไอ้มิน ไอ้เลว! แอร์ดูมันทำกับพี่นะ"
จากที่หนีแอร์เบาเป็นเอาตายสุดท้ายมันก็หันกลับไปฟ้องคนที่ยืนอยู่ด้านหลังซะอย่างนั้น แต่พอคิดได้ว่าตัวเองหลุดปากอะไรออกมามือเรียวก็ยกขึ้นตะครุบปากตัวเองทันที ดวงตากลมๆเบิกโพลงด้วยความตกใจ

"โห.. มีฟ้องกันด้วยอ่ะ ตกลงว่าเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม?"
ฟองเป็นคนถามขึ้นมา ไอ้โฟร์ทเบิกตากว้างกว่าเดิมแล้วหันหน้าหนีพวกผมส่วนแอร์ยิ้มกว้างก่อนจะพยักหน้าตอบรับ ทำให้ไอ้โฟร์ทต้องยกมือฟาดแขนน้องไปตามระเบียบด้วยความอาย

"จะไปบอกเขาทำไมวะแอร์!"
ไอ้โฟร์ทโวยวายทั้งๆที่หน้าแดงก่ำ ทุกคนเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้เมื่อมันโดนแอร์ดึงเข้าไปกอดไว้

"เขินเหรอครับ งั้นซบอกผมไว้นะ"
เสียงนุ่มๆของหนุ่มวิศวะดังขึ้น ไอ้โฟร์ทที่ขัดขืนในตอนแรกกลับหยุดนิ่งแล้วซุกหน้าลงกับอกกว้างนั่นจริงๆ หมั่นไส้ว่ะ.. ความสาวแผ่ออร่าสุดๆเลยเพื่อนผม

"มีความอ้อนผัว"
คำเดียวสั้นๆจากไอ้แทมแต่สะเทือนถึงขั้วหัวใจ ไอ้โฟร์ทหันมามองค้อนก่อนจะแยกเขี้ยวใส่แต่ไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรกลับมาเพราะเป็นจังหวะที่แอร์สะกิดให้ดูแสงรำไรของพระอาทิตย์ที่ริมขอบฟ้าพอดิบพอดี พวกผมเลยกลับเข้าสู่โหมดเงียบแล้วมองตามพวกมันไป

"สวยเนอะ"
ฟองหันมายิ้มให้กันยามแสงอาทิตย์โผล่พ้นริมขอบฟ้า ใบหน้าหวานดูสวยกว่าทุกครั้ง เราสบตากันรู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ผมพยักหน้าช้าๆก่อนจะถือวิสาสะกุมมือนุ่มเอาไว้ ฟองไม่ได้สะบัดหนีแต่อย่างใด ถือว่าเป็นเช้าที่ดีที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้

หลังจากที่เรากลับมาแต่งตัวอาบน้ำและกินข้าวเช้าเรียบร้อย แผนการเที่ยวที่ได้วางไว้ถูกยกขึ้นมาใช้ในวันนี้ ที่แรกที่เราจะไปคือสถานีรถไฟหัวหินเพื่อที่จะถ่ายรูปล้วนๆ หลังจากนั้นต่อด้วยเพลินวานและจบทริปวันนี้ด้วยเวเนเซีย

"มึงขับนำนะ"
เสียงไอ้ปินดังมาจากข้างหลัง ผมพยักหน้ารับก่อนจะเก็บของที่จำเป็นลงกระเป๋าเป้ ส่วนคนอื่นๆก็เตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว

"โอเค งั้นไปกัน"

พวกเรามาถึงสถานีรถไฟหัวหินในเวลาประมาณสิบโมง ลงจากรถเสร็จต่างคนก็ต่างหามุมถ่ายรูปของตัวเอง บางคนก็ดึงตัวเพื่อนไปเป็นนายแบบจำเป็น อย่างเช่นโฟร์ทที่ดึงแอร์ไปเป็นนายแบบซะทุกเฟรมจนพวกผมต้องเอ่ยแซวเป็นระยะๆ ส่วนไอ้แทมก็ถ่ายรูปของมันไปเงียบๆมีบ้างที่จะดึงคนอื่นๆเข้าไปอยู่ในโฟกัสของตัวเอง ผมกับฟองก็ถ่ายรูปของใครของมันไปเรื่อยๆจนเดินมาหากันในที่สุด

"มิน เดินไปอยู่หน้ากล้องเราหน่อย"
ฟองบอกก่อนจะยกกล้องขึ้นมรระดับสายตา ผมทำตามอย่างว่าง่ายแล้วยืนตรงอยู่อย่างนั้น ก็ไม่รู้นี่หว่าจะให้ทำอะไร

"โพสต์ท่าด้วยดิ"
ฟองพูดขึ้นทั้งๆที่ไม่ได้มองตรงมา แต่มองผ่านเลนส์กล้อง

"หา จะถ่ายรูปมินเหรอ?"
ผมถามกลับไปแล้วชี้มือเข้าหาตัวเอง ฟองพยักหน้ารับก่อนจะกดชัตเตอร์ทั้งๆที่ผมยังอ้าปากหวอ เสียงหัวเราะใสๆดังขึ้นเมื่อแกล้งผมได้สำเร็จ

"เฮ้ยย ถ่ายไปแล้วเหรอ ลบเลยนะฟอง หน้ามินต้องเอ๋อมากแน่ๆ"
ผมโวยวายไม่จริงจังนักแต่ก็ไม่ได้เดินเข้าไปหา ฟองส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะยกกล้องขึ้นมาระดับสายตาอีกครั้ง

"เร็วๆ โพสต์ท่าหล่อๆหน่อยครับนายแบบ"

"โอเคๆ ถ่ายมินหล่อๆนะเว้ย"
ผมพูดเสียงกลั้วหัวเราะก่อนจะจัดท่าทางตัวเองให้ฟองได้ถ่ายรูปแบบสมใจ พอเสร็จจากตรงนั้นพวกเราก็ตรงไปยังเพลินวานเพื่อหาอะไรกินยามเที่ยง

"อยากกินผัดไทย"
ไอ้แทมพูดขึ้นเมื่อเรายืนปรึกษาว่าจะกินอะไรดีอยู่ใกล้ๆสะพานข้ามฝั่ง

"กูอยากกินส้มตำอ่ะ"
ไอ้โฟร์ทพูดขึ้นบ้าง

"กูอยากกินขนมจีน"
ไอ้ปินเสนอบ้าง.. ตกลงว่าไม่มีใครอยากกินอย่างเดียวกันเลยหรือยังไงวะ ส่วนผมอยากกินก๋วยเตี๋ยว แม่ง ไปคนละทิศคนละทางกันเลย

"มีใครอยากกินเหมือนกันบ้างป่ะเนี่ย"
ไอ้ฝุ่นยืนเกาหัวแกรกๆเพราะแต่ละคนต่างอยากกินอะไรที่ไม่เหมือนกันเลย

"กูกินอะไรก็ได้"
ฟองตอบเพื่อนก่อนจะมองมาทางผมเหมือนขอความคิดเห็นหรือให้จัดการเรื่องตรงหน้าให้หน่อย

"หรือจะแยกกันไปกินแล้วค่อยนัดเจอกันอีกที?"
ผมเสนอทางที่วิน-วินกับทุกฝ่าย แต่ละคนมองหน้ากันไปมาก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย

"งั้นตกลงตามนี้ มาเจอกันอีกทีตอนบ่ายโมงครึ่งตรงนี้นะเว้ย"

"รับทราบ!"
ทุกคนตอบพร้อมเพรียงกันก่อนจะแยกย้าย ตอนนี้เหลือแค่ผม ฟอง บีท และ ฝุ่น

"แล้วเราจะเอายังไงกัน?"

"มินอยากกินอะไรล่ะ?"
ฟองถามผมกลับมาก่อนจะส่งรอยยิ้มสดใสมาให้ ถึงแม้ตอนนี้อากาศจะร้อนแต่ดูเหมือนฟองจะมีความสุขมาก

"อยากกินเตี๋ยวต้มยำ"

"งั้นเราไปกินด้วย ฝุ่นกับบีทล่ะไปด้วยกันป่ะ?"

"ไม่ไป ไม่อยากเป็นก้างว่ะ ป่ะฝุ่น เราไปหาไรกินกันสองคนดีกว่า ปล่อยไอ้สองคนนี้ไปเดทกัน"
ไอ้บีทพูดพร้อมกับยักคิ้วกวนๆส่งมาให้ก่อนจะกอดคอฝุ่นแน่น ฟองแยกเขี้ยวใส่ทั้งสองคน แต่แก้มขาวๆกลับแดงระเรื่ออย่างน่ารัก

"ไม่ได้จะไปเดทกันนะ"
ฟองพูดเสียงอ้อมแอ้มแต่ใช้สายตาดุๆมองไปยังไอ้บีท รายนั้นก็เอาแต่ยิ้มก่อนจะลากไอ้ฝุ่นออกไปอีกทาง ปล่อยให้ผมกับฟองไปไม่เป็นกันอยู่แค่สองคน

"งั้นเราก็ไปเดท เอ้ย ไปกินเตี๋ยวกันเนอะ"
ผมแกล้งพูดก่อนจะโดนฟองต่อยเข้าที่ต้นแขน แต่แทนที่จะร้องโอดโอยผมกลับหัวเราะออกมา จนฟองต้องย่นจมูกใส่กันแล้วเดินนำหน้าไป

"เดทบ้าอะไรเล่า อย่ามั่วนะ"
เสียงฟองบ่นพึมพำดังมาขณะที่ผมรีบสาวเท้าไปเดินข้างๆกันก่อนจะยกมือขึ้นพาดบนไหล่บางนั่น ฟองไม่ได้สะบัดตัวหนีแต่หันมาเบ้ปากใส่กันแล้วเปลี่ยนมาเป็นหัวเราะอย่างร่าเริง

หลังจากกินข้าวกันเสร็จพวกเราก็เดินเลือกซื้อของฝากกลับกรุงเทพฯกัน ผมได้ขนมโบราณหลายอย่างเพราะพ่อชอบกิน ส่วนแม่ผมซื้อเป็นพวกของใช้เครื่องประดับไปฝากแทน ฟองได้พวกเครื่องหอม ของใช้ ขนมไปฝากที่บ้าน เสียเงินกันมาพอสมควรเราก็ออกจากเพลินวานในเวลาเกือบๆสี่โมง ไปถึงเวเนเซียด้วยสภาพไม่ค่อยเต็มร้อยนักเพราะเดินกันมาทั้งวันแล้ว

"มึงๆจะนั่งรกม้าหรือเรือกอนโดล่าดีวะ?"
ไอ้โฟร์ทสะกิดแขนผมยิกๆเพื่อขอความคิดเห็น ส่วนแอร์ก็ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ห่างสักเท่าไหร่

"ถามแอร์ดิ มาถามอะไรกู"
ผมว่าก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปทางแอร์ ไอ้โฟร์ทย่นจมูกใส่กันก่อนจะกอดแขนผมแน่น

"กูอยากถามมึงอ่ะ จะทำไม พอกูมีแฟนแล้วมึงจะเลิกเป็นที่รักของกูรึไง?"
มันมองผมด้วยสายตาตัดพ้อ แต่ผมส่ายหน้าเอือมๆก่อนจะผลักหัวมันเบาๆจนได้ค้อนวงใหญ่กลับมา

"มึงจะให้กูเป็นชู้รึไง?"
เล่นมาก็เล่นกลับครับ ไม่มีโกงนะบอกเลย

"ชู้อะไร มึงมาก่อนแอร์อีก แอร์สิต้องเป็นชู้"
มันทำหน้างอนๆก่อนจะหันไปเบะปากใส่แอร์ที่ยืนขำอยู่ใกล้ๆ น้องมันเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ผมยังไม่รู้ตัวเลย มัวแต่มองไอ้โฟร์ททำเรื่องบ้าๆ

"แอร์ยอมเหรอ?"
ผมหันไปถามแอร์ที่ยังยืนยิ้ม น้องมันส่ายหัวรัวๆก่อนจะตอบกลับมาเสียงดังฟังชัด

"ไม่ยอมครับ ใครจะยอมกันล่ะ พี่มินเลิกกับพี่โฟร์ทเลยนะครับ"
น้องว่าก่อนจะหัวเราะออกมาเพราะไอ้โฟร์ททำหน้าบึ้งแล้วส่งค้อนวงใหญ่ให้กับแอร์

"พี่เลิกให้ตอนนี้เดี๋ยวนี้เลย แถมข้าวสารให้อีกสองกระสอบด้วย"
ผมว่าก่อนจะหัวเราะเอิ้กอ้ากแล้วดันตัวไอ้โฟร์ทให้กับแอร์ที่อ้าแขนรอรับอยู่แล้ว มันฮึดฮัดเล็กน้อยแต่ก็ยอมกอดเอวแอร์ซะอย่างนั้น สรุปว่าเพื่อนผมมันหน้าด้านใช่ไหม?

"ชิ กูอยู่กับเสี่ยแอร์ก็ได้ อยู่กับมึงแดกแกลบ"
มันหันมาเหน็บแนมใส่ผมจนคนอื่นๆหัวเราะ ไม่เว้นแม้แต่ฟอง

"มึงแดกแกลบเพราะไอ้มินไม่ได้สนใจมึงไง ถ้าเป็นฟองคงได้กินอาหารภัตตาคารทุกวัน"
รางวัลทับถมเพื่อนดีเด่นแห่งปีผมคงยกให้ไอ้บีทอย่างไม่ต้องสงสัย ไอ้โฟร์ทถึงกับถลึงตาใส่พวกผมทันที

"จริงเหรอ ถ้าเราเป็นแฟนมินจะได้กินอะไรแบบนั้นจริงๆรึเปล่า?
ฟองถามด้วยเสียงทะเล้นแถมยังยักคิ้วกวนกันอีกด้วย ผมมันเขี้ยวเลยยกมือขึ้นดีดหน้าผากเขาเบาๆ ฟองย่นจมูกใส่ก่อนจะหัวเราะออกมา

"ถึงจะไม่ทุกวัน แต่ก็เลี้ยงฟองได้ตลอดชีวิตนะ"
ผมก้มลงกระซิบข้างหูเพราะอยากให้ได้ยินกินแค่สองคน ฟองเบนหน้าหนีเมื่อฟังจบก่อนที่แก้มขาวๆจะแดงระเรื่อขึ้น ผมอมยิ้มก่อนจะยืดตัวยืนตรงเหมือนเดิม ไอ้ปินที่ยืนข้างๆหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ให้กัน

"กูจะนั่งรถม้ากับไอ้ฝุ่นนะ"
ปินพูดขึ้น ผมพยักหน้ารับ

"กูว่าจะไปนั่งเรือว่ะ"

"กับฟองเหรอ?"
ไอ้ปินถามกลับ ผมพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มออกมา

"กูว่ามีมารผจญแน่ๆเพราะเรือนั่งได้สี่คน"
มันหันมากระซิบพร้อมกับมองไปที่ไอ้แทมกับไอ้บีท

"กูก็ว่างั้น แต่ถ้าฟองยอมกูก็ขัดไรไม่ได้"
ผมยักไหล่ไม่ใส่ใจนัก จะนั่งกันกี่คนแค่มีฟองอยู่ด้วยผมก็พอใจแล้ว ฟองหันมามองด้วยสีหน้าสงสัยว่าผมกับไอ้ปินกระซิบอะไรกัน ผมทำแค่ยิ้มกลับไปเพราะยังไม่อยากพูด

"กูไปล่ะนะ เดี๋ยวกลับมาเจอกันหน้า 3D Art Gallery แล้วกัน"
ปินพูดก่อนจะลากไอ้ฝุ่นไปหาจุดบิการรถม้า ส่วนไอ้โฟร์ทกับแอร์ตกลงกันว่าจะนั่งเรือกอนโดล่าแค่สองคนหลังจากตบตีกับไอ้บีทที่พยายามเข้าไปเป็นกขคของเขา และเป้าหมายมันก็เบนมาทางผม..ซวยไปอีกกู มันเดินตรงเข้ามาพร้อมกับลากไอ้แทมติดมาด้วย

"มิน.. นั่งเรือป่ะ"
มันถามพร้อมกับส่งยิ้มกว้างมาให้ ผมกำลังจะอ้าปากตอบแต่ฟองดันแย่งกันซะก่อน

"เราจะไปนั่งเรือกับมินสองคนอ่ะ บีทจะนั่งเหมือนกันเหรอ?"
คำตอบแบบระบุจำนวนคนทำให้ไอ้บีทยิ้มค้าง ส่วนไอ้แทมยกยิ้มมุมปากเหมือนกำลังสะใจอะไรบางอย่างอยู่

"เอ่อ.. เราว่าจะไปนั่งรถม้าว่ะ ใช่ไหมไอ้แทม"
มันตอบอึกอักก่อนจะหันไปหาคนยืนยัน ไอ้แทมเลิกคิ้วก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ แต่สายตาเยาะเย้ยกันน่าดู

"เออ งั้นพวกกูไปละ เดี๋ยวเจอกัน"
ไอ้แทมพูดก่อนจะยกมือโบกลาพวกผมแล้วดึงคอเสื้อไอ้บีทให้เดินตามไป ผมหันไปมองฟองแล้วยิ้มน้อยๆให้ก่อนจะเอ่ยแซว

"อยากนั่งกับมินสองคนอ่ะดิ?"
ผมถามด้วยเสียงทะเล้น แต่ฟองไม่ยอมตอบกันก่อนจะเดินนำไปที่จุดบริการเรือทันทีปล่อยให้ผมรีบสาวเท้าตาไปติดๆ

ตอนนี้เราทั้งสองคนนั่งอยู่บนเรือกอนโดล่าสีดำสนิทมีลวดลายสวยงามจนต้องยกกล้องขึ้นมาเก็บรูปไว้ ผมเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของฟองที่เต็มไปด้วยความสุขก่อนจะกดชัตเตอร์เก็บภาพนั้นไว้

"แอบถ่ายอีกแล้ว"
เสียงดุไม่จริงจังดังขึ้นก่อนจะได้รับรอยยิ้มบางๆจากเขา ผมยิ้มรับก่อนจะกดชัตเตอร์อีกครั้งเมื่อใบหน้าสวยหันมามองกัน

"นี่ไง ไม่แอบถ่ายแล้ว"
ผมว่าก่อนจะลดกล้องลงทำให้เราสบตากัน ฟองเบนสายตาหนีก่อนจะแอบอมยิ้มน้อยๆ นั่นทำให้ผมใจเต้นแรงขึ้น ทำไมถึงทำตัวน่ารักได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้สิ

"นี่.. เรามีอะไรจะเล่าให้ฟัง"
หลังจากที่เรานั่งเงียบมาสักพัก เสียงทุ้มติดหวานก็เอ่ยขึ้น สายตาเขามองตรงไปข้างหน้า

"อ่าฮะ เล่าดิ"
ผมมองตรงไปข้างหน้าเช่นกันแล้วรอฟังเรื่องเล่าของฟอง

"อื้อ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว.."
ฟองเงียบไปจนผมต้องหันไปมองคนที่เอาแต่ขำออกมาเบาๆ

"จะเล่านิทานเหรอ?"
ผมเลิกคิ้วถาม

"ล้อเล่นๆ จะเล่าจริงๆแล้วนะ"

"ครับผม"

"อือ เมื่อตอนปีหนึ่งเราเคยคิดว่าเราไม่ถูกชะตากับคนๆหนึ่งมากเพราะเรากับเขาทะเลาะกัน แต่หลังจากนั้นเราก็คุยกันได้ปกตินะ มีวันหนึ่งเราทำมือถือหายแต่เขาเป็นคนเก็บเอามาคืนเรา แถมยังซื้อเคสใหม่ให้กันด้วย"

"อ่า..."
ผมว่าเรื่องมันคุ้นๆเหมือนจะเคยได้ยินมาจากที่ไหนว่ะ

"จากนั้นมาเราทั้งคู่ก็ทักทายกันบ่อยขึ้น อาจจะทักทุกครั้งที่เจอกันก็ว่าได้ เราไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเผลอมองคนๆนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอรู้ตัวอีกทีก็ไม่สามารถละสายตาจากเขาได้แล้ว เขามีบางอย่างที่ทำให้เราสนใจ จนวันหนึ่งเราเข้าไปช่วยบอกคำตอบการบ้านให้แล้วเจอเข้ากับรูปถ่ายตัวเองในกล้องของเขา.. ความรู้สึกของเราที่มีให้เขาและเราคิดว่ามันคลุมเครือมาตลอดกับชัดเจนในตอนนั้นว่าเราชอบเขา"
ฟองเล่ามาถึงตรงนี้แล้วเงียบไป ใบหน้าหวานหันมามองผมที่กำลังทำหน้าตกใจสุดขีด เพราะเรื่องที่ฟองเล่ามาทั้งหมดมันคือเรื่องเกี่ยวกับตัวผม แบบนี้ก็แสดงว่าฟองแอบชอบผมอยู่เหมือนกันล่ะสิ

"ฟอง.. ทำไมเพิ่งมาบอกกัน รู้ไหมว่ามินดีใจมาก"
ผมยิ้มก่อนจะพูดเสียงสั่นด้วยความดีใจ มือเรียวเอื้อมมากุมมือกันไว้ ใบหน้าหวานแดงระเรื่อไปหมด

"ก็... อยากรู้ว่ามินจริงจังกับเราแค่ไหน"
ดวงตาเรามองสบกัน มันกำลังถ่ายทอดความรู้สึกที่เรามีต่อกันส่งให้อีกคนได้รับรู้

"มินไม่เคยจริงจังกับใครมากเท่านี้มาก่อนเลยนะ มินรักฟองนะครับ"

"อื้อ"
ฟองเบนสายตาหลบกัน แต่มุมปากกลับยกยิ้มอย่างเขินอาย

"เป็นแฟนกันได้ไหม?"
ผมเอ่ยขอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะเปลี่ยนเป็นฝ่ายกุมมือเรียวไว้แทน ฟองช้อนตามองกันก่อนจะยิ้มแล้วพยักหน้าเบาๆ

"ครับ เป็นแฟนกันแล้วเนอะ"

"งั้นก็จูบได้แล้วดิ?"
ผมถามเสียงทะเล้นก่อนจะหัวเราะออกมา ฟองถลึงตาใส่ก่อนจะดึงมืออกแล้วยกขึ้นฟาดลงบนไหล่ผมแก้เขิน

"ไอ้บ้ามิน อายคนอื่นบ้างเหอะ!"

"กลับบ้านพักเมื่อไหร่ไม่รอดแน่"

"บ้า!"

ผมกับฟองเดินจับมือกันไปที่ 3D Art Gallery แบบไม่อายสายตาใคร เจอคนอื่นๆยืนรออยู่ด้านหน้ามองตรงมาด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น ไอ้ปินถึงกับผิวปากแซว

"แหมๆ จับมือกันมาขนาดนี้พวกกูพลาดอะไรไปรึเปล่าวะ?"
ไอ้ปินเขามากระแซะไหล่ฟอง ทำให้เจ้าตัวเบ้ปากใส่แล้วใช้มือข้างที่ว่างผลักไหล่เพื่อนออกไป

"เสือก"
คำด่าที่นานๆทีจะหลุดจากปากฟองดังขึ้น ไอ้ปินถึงกับหัวเราะเอิ้กอ้ากออกมาราวกับถูกใจ คนอื่นมามาด้วยสายตาล้อเลียนเต็มที่

"สงสัยจะมีคู่ข้าวใหม่ปลามันกว่าเราอีกเนอะแอร์"
โฟร์ทว่าก่อนจะเหล่สายตามองมาทางคู่เรา ผมยักไหล่ก่อนจะยิ้มกวนๆส่งไปให้ไม่ยอมตอบคำถามของใครทั้งนั้น

"มีลับลมคมในว่ะ"
ไอ้บีทมองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ก่อนจะกระชากตัวฟองเข้าไปกอดไว้แนบอกก่อนจะส่งยิ้มกวนๆมาให้ ฟองดูตกใจแต่ไม่ได้ขัดขืน ต่างจากผมที่รีบดึงฟองกลับมากอดทันทีแล้วพูดเสียงลอดไรฟัน

"แฟนกู ห้ามยุ่ง!"

"หว่ายยย ความจริงเปิดเผยแล้วอ่ะพวกแก ~"
ไอ้บีททำท่าทางสะดีดสะดิ้งจนไอ้แทมง้างมือขึ้นโบกหัวมันไปหนึ่งที

"เชี่ย ตบมาได้"
ไอ้บีทบ่นกระปอดกระแปดแล้วยกมือขึ้นลูบหัวตัวเอง

"ดีใจด้วย"
ทุกคนเอ่ยแสดงความดีใจก่อนจะชวนกันเข้าไปด้านใน ต่างคนต่างถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน ใช้เวลาอยู่เกือบๆสองชั่วโมงถึงจะกลับออกมา หลังจากนั้นก็เดินไปถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้ก่อนจะได้ของฝากติดไม้ติดมือกันไปอีกหนึ่งรอบ

กลับมาถึงบ้านพักต่างคนต่างแยกย้ายไปอาบน้ำและเตรียมตัวพักผ่อน ผมที่ได้โอกาสอาบน้ำก่อนเลยนอนแผ่เล่นมือถือไปเรื่อย ส่วนฟองกำลังอาบน้ำ

- พี่ฟาง.. สำเร็จแล้วว่ะ

- ห้ะ สำเร็จอะไรของมึง

- พี่ได้น้องเขยแล้วไง

- เห้ยย จริงเด้? ฟองมันยอมแล้วเหรอวะ

- เออดิ วันนี้เลย ดีใจว่ะ

- เตรียมเลี้ยงข้าวกูเลย ขอตึกใบหยกนะ

- โหยพี่! แพงนะเว้ย

- หรือมึงจะไม่เลี้ยงกู?

- เออๆ เลี้ยงแน่นอน แล้วพี่ฟางกับพี่เฟียเป็นไงบ้าง

- เรื่อยๆว่ะ แต่ก็ดีมั้ง

- สู้ๆนะเว้ย แล้วเจอกันครับ กลับพรุ่งนี้แล้ว

- โอเค เอาน้องฟองมาส่งที่บ้านนะ

- ครับๆ รับทราบพี่ชาย

ผมวางมือลงแล้วยิ้มหน้าบานให้ความสุขที่ได้รับวันนี้โดยไม่ได้สังเกตว่าฟองกำลังยืนมองกันอยู่

"ยิ้มอะไรครับคุณมิน คุยกับใครเหรอ?"
ฟองขยี้ผมที่เปียกไปมาก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกัน ผมขยับลุกขึ้นก่อนจะรวบตัวฟองจากด้านหลังมากอดไว้แล้วขโมยหอมแก้มขาวๆนั่น

"อื้อ ฉวยโอกาสนะมิน"
ฟองว่าก่อนจะใช้มือตีลงบนแขนผม ใบหน้าหวานยกยิ้มเล็กๆชวนให้ผมใจสั่น

"คุยกับพี่ฟางน่ะ วันนี้มินโคตรมีความสุขเลยรู้ไหม?"
ผมว่าก่อนจะกดจูบลงบนลาดไหล่บาง ผมหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะพยักหน้ารับ

"มีความสุขเหมือนกันครับ"
แล้วฟองก็หันมากดจมูกลงบนแก้มผม.. โอย โคตรจะเขินครับ ฟองทำตัวน่ารักใส่กันแบบนี้

"ฟอง..อย่าทำตัวน่ารักนักดิวะ แบบนี้มันเหมือนยั่วกันนะ"
ผมกระซิบเสียงเบาข้างหู ฟองย่นคอหนีก่อนจะรัวมือลงบนแขนผม

"หื่นกามอีกแล้วว่ะมิน ปล่อยเลย!"

"โอ้ยๆ ล้อเล่นครับ มาๆ มินเช็ดผมให้เนอะ"

"อื้อ"



--------------------------------------------------

เรื่องราวกระจ่างแล้วนะ? ... หวานจนน่าอิจฉา มดขึ้นแล้วเนี่ย คึคึ

อ่านให้สนุกน้า
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 20 (P.4) 02/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 02-08-2016 14:28:35
โอ้ยเขิน
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 20 (P.4) 02/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-08-2016 14:37:05
 :-[  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 20 (P.4) 02/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 02-08-2016 15:57:28
เค้าเป็นแฟนกันแล้ววววววววว :hao7:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 20 (P.4) 02/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 02-08-2016 19:41:00
เป็นแฟนกันแล้ว ดีใจกับมินด้วย
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 20 (P.4) 02/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 03-08-2016 12:24:24
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 20 (P.4) 02/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-08-2016 14:08:08
รอคู่ของพี่ฟาง ^^
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 20 (P.4) 02/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 03-08-2016 18:19:26
เบาหวานขึ้นค่า  :o8:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 20 (P.4) 02/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 04-08-2016 10:00:36
เขาเป็นแฟนกันแล้ว ดีใจ ~  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 21 (P.4) 13/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 13-08-2016 10:42:43
Follow You 21




ขากลับจากประจวบฯแอร์อาสาเป็นคนขับรถให้ ส่วนไอ้โฟร์ทก็ย้ายตัวเองไปเป็นตุ๊กตาหน้ารถ ผมกับฟองเลยนั่งสบายๆอยู่ที่เบาะหลัง ใบหน้าหวานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับเจ้ากล้องโปรฯที่วางอยู่บนตัก มือเรียวกำลังไล่กดดูรูปที่เพิ่งถ่ายไปเมื่อเช้านี้

"ลบได้ไหมรูปนั้น มินนอนน้ำลายยืดนะฟอง"
ผมชี้นิ้วไปที่รูปบนจอสี่เหลี่ยม มันเป็นรูปตอนที่ผมหลับหัวยุ่งเหยิงแถมอ้าปากหวออีก ไม่รู้ว่าฟองคิดยังไงถึงแอบถ่ายกันแบบนี้ จะว่าดูดีก็ไม่ใช่นะครับ ถึงจะเป็นคนเหนือเดือนแต่ก็มีมุมสถุนได้เหมือนกัน

"ไม่ลบหรอก เก็บไว้เป็นที่ระทึกไง"
ฟองย่นจมูกใส่ก่อนจะขยับกล้องหนีเมื่อผมเอื้อมมือไปจะกดลบ แฟนใครวะเนี่ย ทำไมแสบได้ขนาดนี้

"ระทึกขวัญมากเลยนะนั่น.. เสียชื่อเหนือเดือนสุดๆ"
ผมบ่นกระปอดประแปดเพราะทำอะไรไม่ได้ คนขี้แกล้งยังยิ้มร่า มือเรียวยังคงกดไล่ดูรูปไปเช่นเคย ไม่รู้จะอารมณ์ดีไปถึงไหน ถึงกรุงเทพฯก็ต้องแยกกันแล้วแท้ๆ เพราะเป็นช่วงปิดเทอมที่ฟองจะกลับไปอยู่บ้าน ส่วนผมแค่กลับไปเอาไอ้เบนซินเพราะที่บ้านไปต่างประเทศกันหมดแล้ว น้องสาวเลยเอาเบนซินไปฝากไว้บ้านข้างๆแทน

"บ่นอะไร ได้ยินนะ ทำไมต้องห่วงหล่อขนาดนั้นคนเรา กลัวสาวๆจะไม่มองรึไง"
ฟองมองผมด้วยหางตา ปากบางเบะลงอย่างไม่พอใจเท่าไหร่ คิดเข้าข้างตัวเองว่าฟองหึงได้ป่ะวะ

"กลัวจะมีสาวๆมาติดมินเหรอ?"
ผมว่าเชิงแหย่ ฟองหันมาถลึงตาใส่กันเฉยเลย ผมทำอะไรผิดวะ โธ่

"หลงตัวเองไม่มีใครเกินอ่ะ"
เสียงใสๆว่ากันก่อนจะเลิกสนใจผม อยากรู้จริงๆไอ้กล้องนั่นมีอะไรดีกว่าผมวะ สนใจมันไม่เลิกสักที

"งั้นต่อไปจะเลิกหลงตัวเอง เปลี่ยนไปหลงฟองแทนแล้วกันเนอะ"
ผมว่าก่อนจะยิ้มแฉ่งให้คนข้างๆ ฟองบุ้ยปากใส่กันก่อนจะยกมือมาแจกมะเหงกให้ผมหน้าตาเฉย แถมยังหัวเราะอีกด้วย

"เห้ยๆ ข้างหลังอ่ะ อย่าหวานกันให้มากนะ กูกับแอร์ยังนั่งหัวโด่อยู่เกรงใจกันหน่อย"
ไอ้โฟร์ทยืนหน้ามาระหว่างเบาะแล้วเบ้ปากใส่พวกผม

"มึงก็หวานกับแอร์ไปสิวะ ใครห้ามมึงล่ะ"
ผมว่าก่อนจะผลักหัวมันด้วยความหมั่นไส้ แฟนตัวเองก็นั่งอยู่ข้างๆยังจะหันมาแว้งกัดพวกผมอีก ใจคอจะไม่ปล่อยให้ผมกับฟองหวานกันเลยหรือยังไง
   
"แอร์ขับรถ มึงเห็นป่ะที่รัก น้องแอร์ขับรถแทนมึงอ่ะ ขับรถๆๆๆๆ"
ไอ้โฟร์ทเริ่มโวยวายจนฟองยังต้องขมวดคิ้วมอง น้องแอร์หลุดขำออกมาเล็กน้อย ส่วนผมทำหน้าเอือมเกินจะบรรยายส่งให้มัน  ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าไอ้โฟร์ทนับวันยิ่งทำตัวเป็นสาวน้อย

"งั้นแอร์จอด แล้วให้ไอ้โฟร์ทขับแทน"
ผมว่าก่อนจะยักคิ้วกวนๆให้มัน ไอ้โฟร์ทถึงกับหน้าตูมฟาดมือใส่ไหล่ผมทันทีข้อหากวนประสาท แอร์หัวเราะเอิ้กอ้ากจนโดนไอ้โฟร์ทดุไป เจ้าตัวเลยนั่งเงียบกริบ นี่แววกลัวเมียเด่นชัดมากเลยนะไอ้น้อง ส่วนผมเหรอ ไม่มีทางเป็นคนกลัวเมียหรอกแค่เคารพเมียต่างหาก กว่าจะจีบติดเสียพลังงานไปตั้งเท่าไหร่ ต้องรักษาให้ดีที่สุดสิ จริงไหม?

"มินแม่ง กวนตีนว่ะ มึงมาขับดิ๊"

"น้องมันอาสาขับเองเหอะ มึงจะอะไรนักหนาเนี่ยโฟร์ท"

"กูอยากนอนตักมัน"
ไอ้โฟร์ทบ่นพึมพำแต่กลับได้ยินทั้งรถ... แอร์ถึงกับหน้าแดงเลยครับ แต่ไอ้โฟร์ทนี่ดิ ยกมือปิดปากแทบไม่ทัน อะไรมันจะเอ๋อได้ขนาดนี้ เผลอพูดเสียงดังยังไม่รู้ตัวอีก และด้วยความอยากแกล้งเพื่อนผมเลยดึงกล้องจากมือฟองออกแล้วทิ้งตัวลงนอนตักนิ่มๆ ฟองเหวอนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร

"กูนอนตักฟองให้แทนละกันนะโฟร์ท นุ้มนุ่ม"
ผมว่าก่อนจะแกล้งหลับตาพริ้ม ได้ยินแว่วเสียงฟองหัวเราะเบาๆก่อนที่มือเรียวจะลูบหัวผมเล่น ให้ความร่วมมือในการแกล้งเพื่อนเป็นอย่างดี แฟนใครเนี่ยน่ารักเป็นบ้าเลย

"เกลียดมึง!"
ไอ้โฟร์ทเหวเสียงดังจนผมต้องลืมตามอง มันสะบัดหน้าใส่ผม กลัวจริงๆว่ากระดูกคอมันจะเสื่อมก่อนวัยอันควร

"มินก็ไปแกล้งโฟร์ท นิสัยไม่ดีว่ะ"
ฟองว่าก่อนจะย่นจมูกใส่กัน มือเรียวตีแปะลงบนหน้าผากผมเป็นการทำโทษซะอย่างนั้น ผมยิ้มเผล่ให้คนหน้าหวานทันที

"ฟองก็ช่วยแกล้งด้วยเหอะ ว่ามินได้ไง"
ฟองเบ้ปากใส่กันก่อนจะใช้มือดึงแก้มผมซะยืด เจ็บนะเว้ยฟอง แก้มไม่ใช่ยางยืด

"โอย เบาๆครับ เจ็บนะเนี่ย"
ผมลูบแก้มตัวเองไปมาเผื่อจะคลายความเจ็บ ฟองถลึงตาใส่แล้วทำท่าจะดึงแก้มอีกข้างจนผมต้องยกมือขึ้นปิดอย่างรวดเร็ว

"ห้ามว่าเรา เข้าใจป่ะ เราไม่ผิด"
โห... พูดมาแบบนี้ผมจะขัดอะไรได้ล่ะวะนั่น แถมยังจ้องกันแบบเอาเป็นเอาตายอีกด้วย มีแฟนโหดต้องทำใจนะครับงานนี้

"จ้าๆแม่ทูนหัวของบ่าว ~"
ผมว่าก่อนจะยิ้มทะเล้น แต่แทนที่ฟองจะดีใจกลับแยกเขี้ยวใส่กันซะอย่างนั้น ผมเลยหลับตาปี๋หนีความผิดซะเลย.. และเผลอหลับไปด้วย จนตื่นมาอีกครั้งเพราะเสียงฟองกำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคน

"ครับ.. ไม่ไปครับ พี่อิฐควรเลิกทำแบบนี้นะ"

"....."

"พี่อิฐ ผมไม่ได้ชอบพี่ ผมบอกกี่ครั้งแล้วครับ ถึงผมจะไม่มีใครผมก็ไม่รักพี่"
   
"....."
ผมมองฟองที่กำลังก้มมองผมลงมาพอดี ใบหน้าหวานระบายยิ้มบางๆเหมือนกำลังพยายามควบคุมสถานการณ์ในสาย ผมยกมือขึ้นลูบแก้มเขาเบาๆหวังจะให้กำลังใจกัน

"ผมมีแฟนแล้วครับ แค่นี้นะ"
ฟองพูดจบก็กดตัดสายทันทีก่อนจะพ่นลมหายหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน

"เขาโทรมาทำไมเหรอ?"
ผมถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ฟองมองกันก่อนจะเอื้อมมือเรียวมาลูบหัวผมเล่นอีกครั้ง

"ชวนไปเที่ยว ขอโอกาส ก็..ตื้อปกติของพี่เขานั่นล่ะ"

"อ่าฮะ ฟองไม่เป็นไรใช่ไหม?"

"อือ ไม่เป็นไร ชินแล้ว แต่คราวนี้พี่เขาคงเลิกตื้อมั้ง"

"ทำไมล่ะ"

"ก็เรามีแฟนแล้วไง"
ฟองตอบก่อนจะบีบจมูกผมเบาๆ

"หื้ม.. เราเคยโกหกไปนี่ว่าเราเป็นแฟนกัน แต่พี่เขาก็ไม่เลิกตื้อไม่ใช่รึไง"

"เออเนอะ จริงด้วย แต่ช่างมันเถอะ เราทำมินตื่นใช่ป่ะ นอนต่อๆ"
ฟองว่าพร้อมกับยิ้มกว้างก่อนจะก้มตัวลงมาแตะจูบบนหน้าผาก ผมเผลอหน้าร้อนวูบเพราะสัมผัสอ่อนโยนของเขาที่นานๆครั้งจะได้รับ แต่พอตกลงเป็นแฟนกันทำไมเจอแบบนี้บ่อยจังวะ ชื่นใจ

"จะไปนอนลงได้ยังไง ทำตัวน่ารักขนาดนี้"
ผมว่าก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วรั้งท้ายทอยฟองลงมาใกล้อีกครั้ง เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืน แต่มีเสียงกระแอมจากไอ้โฟร์ทขัดคอ

"น้อยๆหน่อย เกรงใจน้อง เกรงใจกูบ้างอะไรบ้างก็ได้นะเพื่อน อย่าเห็นพวกกูเป็นต้นไม้ใบหญ้าเลยขอร้อง"

"เรื่องกู ทนดูไม่ได้ก็หลับไปซะ"
ผมว่ากวนจะยักคิ้วกวนๆให้มัน โฟร์ทจิ๊ปากก่อนจะสะบัดหน้ากลับไปอีกครั้ง นี่ผมสงสารกระดูกคอมันจริงๆนะเว้ย ฟองมองผมก่อนจะถลึงตาใส่

"พอเลย พูดอะไรอายคนอื่นบ้าง"
จบประโยคนั้นผมก็หลับต่อโดยที่ปากยังยิ้มกริ่ม มีความสุขเหอะ

ผมตื่นมาอีกครั้งเมื่อโดนปลุกจากฟอง แอร์ขับรถมาจอดแถวๆที่อยู่ของโฟร์ท ผมเลยลงจากรถเปลี่ยนเป็นคนขับ ส่วนฟองก็ลงตามมานั่งข้างๆกัน ผมเกิดอาการงอแงเล็กน้อยเพราะต้องไปส่งฟองที่บ้าน.. อยู่ด้วยกันมาตั้งสองสามเดือน ห่างกันช่วงปิดเทอมโคตรไม่ชินเลยว่ะ

"บ้านเราก็อยู่ไม่ไกลป่ะ มาหาก็ได้ อย่างอแงเป็นเด็กๆดิ"
ฟองว่าก่อนจะผลักหัวผมเบาๆ มันก็จริงที่บ้านไม่ได้อยู่ไกลกันขนาดไปหากันไม่ได้ แต่นั่นล่ะ ไม่ได้นอนด้วยกันนี่หว่า เสียใจ

"ไม่ใช่เด็กนะ แค่อยากงอแงใส่แฟน"
ผมว่าก่อนจะจอดรถที่หน้าบ้านของฟอง มือเรียมส่งมาดึงแก้มกันอีกครั้ง ไม่รู้ว่าฟองชอบอะไรนักหนากับแก้มผมเนี่ย ดึงเอาๆตลอดเลย

"ทำตัวแบบนี้เตรียมเป็นเมียเราเหรอ งอแงเป็นบ้าเลย"
ฟองหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะยักคิ้วให้กัน ผมเบะปากใส่แล้วเคลื่อนหน้าเข้าไปขโมยหอมแก้มคนขี้แกล้ง

"ใครเขาจะยอมเป็นเมียฟองกันครับ หน้าตาดีแบบนี้ต้องเป็นสามีสิ"
ผมยักคิ้วกวนๆส่งให้กัน ฟองย่นจมูกใส่ก่อนจะเอานิ้วจิ้มกลางหน้าผากผม

"แล้วใครเขาจะยอมเป็นเมียมินกันล่ะหื้ม ~"

"เดี๋ยวก็รู้"
ผมแกล้งขยับเข้าไปใกล้จนปลายจมูกของเราชิดกัน ฟองสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้หลบเลี่ยงไปไหน มันมำให้ผมยิ่งรุกหนักโดนการแตะจูบลงบนริมฝีปากบางเบาๆ กะจะรุกล้ำมากกว่านั้นแต่เสียงเคาะกระจกรถดังขึ้นจนเราต้องรีบผละออกจากกัน

"ไอ้พี่ฟาง.."
เสียงฟองพึมพำ แก้มขาวๆของฟองแดงระเรื่อไปหมดเมื่อพี่ฟางส่งยิ้มทะเล้นมาตอนผมลดกระจกลง อย่าว่าแต่ฟองอายเลยครับ ผมก็อายเหมือนกัน หัวใจนี่เต้นตึกตักเลย

"แหม.. ดีนะที่เป็นกูมาเปิดประตู ถ้าเป็นพ่อกับแม่คงเรื่องใหญ่"
พี่ฟางว่าเหน็บแนมแบบไม่จริงจังนักก่อนจะเท้าแขนลงกับขอบกระจก

"ขอโทษครับ ไม่ทันระวัง"
ผมกล่าวขอโทษก่อนจะยิ้มแห้งๆส่งไปให้ พี่ฟางยิ้มให้ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

"ไม่เป็นไร เออ กูมีเรื่องสำคัญจะบอกทั้งสองคนด้วยนะ"
ผมกับฟองมองหน้ากันไปมา.. กลับมาคือเจอเรื่องสำคัญเลยเหรอวะ แบบ.. ตั้งตัวไม่ทัน

"เรื่องอะไรครับ?"
เป็นฟองที่ถามออกไป ผมได้แต่นิ่งเงียบแล้วตั้งใจรอคำตอบจากพี่ฟาง

"คือ... พ่อกับแม่เขารู้แล้วว่าพวกมึงคบกัน"
พี่ฟางยิ้มแหย่ๆให้ก่อนจะยกมือขึ้นเกาท้ายทอย ผมกับฟองเบิกตากว้างมองหน้ากันเลิ่กลั่กทันที ฉิบหาบไหมล่ะครับคราวนี้ ไม่ใช่เรื่องสำคัญธรรมดานะ แต่มันโคตรสำคัญ สำคัญมากๆด้วย

"รู้ได้ยังไงพี่ฟาง"
ฟองถามด้วยน้ำเสียงกังวล ผมก็กังวลไม่แพ้เขาเหมือนกัน

"กูหลุดปากพูดเองล่ะ ขอโทษว่ะ แต่พ่อแม่ดูจะไม่ได้โกรธอะไรนะเว้ย บอกแค่ว่าถ้าพวกมึงกลับมาให้เข้าไปคุยด้วยหน่อย"
งานเข้าอย่างแท้จริงเลยไหมล่ะครับงานนี้ ผมกับฟองพยักหน้ารับด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักก่อนจะลงจากรถแล้วช่วยฟองขนสัมภาระและของฝากต่างๆลง ภายในบ้านพบแค่คุณพ่อของฟองนั่งดุทีวีอยู่ ผมกับฟองพร้อมใจกันวางของแล้วยกมือไหว้ท่านทันที

“ทั้งสองคนมานั่งข้างๆพ่อมา”
เสียงทุ้มที่ไม่ได้มีแววโกรธดังขึ้นมา แต่สีหน้าของคุณพ่อยังนิ่งขรึมจนพวกผมแอบหวั่นใจ ถ้าเขาสั่งให้เลิกกันผมคงทำตัวเป็นเด็กไม่ดีแน่ๆ เพราะยังไงๆผมก็ไม่มีทางเลิกกับฟองแน่นอน

“ครับ/ครับ”
ผมกับฟองตอบรับพร้อมกันก่อนจะย้ายตัวเองไปนั่งข้างๆคุณพ่อ ฟองเป็นคนนั่งติดส่วนผมนั่งถัดไป พี่ฟางนั่งลงที่โซฟาเดี่ยวข้างๆกัน

“ไปเที่ยวมาสนุกไหมทั้งสองคน”
คำถามแรกโคตรเบสิกเลยครับ แต่ทำไมมือผมกลับชื้นเหงื่อแบบนี้ กลัวเหลือเกินว่าจะมีคลื่นใต้น้ำลูกใหญ่ตามมา

“สนุกดีครับพ่อ”
ฟองตอบก่อนแล้วหันมาสะกิดกัน ผมเลยได้สติกลับคืนมาหลังจากคิดเรื่องเพ้อเจ้ออยู่นาน

“อ่า ผมก็สนุกเหมือนกันครับ”
ผมส่งยิ้มไปให้คุฯพ่อที่มองมา เขาพยักหน้ารับก่อนจะส่งรอยยิ้มบางๆกลับมาด้วยเช่นกัน ผมลอบถอนหายใจออกมาเบาๆจนพี่ฟางต้องเอื้อมมือมาบีบไหล่กันเหมือนกำลังให้กำลังใจ

“สนุกก็ดีแล้ว ฟองกลับมาอยู่บ้านตอนปิดเทอมใช่ไหม?”
คุณพ่อถาม ฟองพยักหน้ารับเบาๆ

“แล้วมินล่ะกลับบ้านหรือเปล่า?”

“ผมไม่ได้กลับบ้านครับ พอดีว่าพ่อแม่กับน้องสาวไปต่างประเทศกัน”

“งั้นก็มาอยู่ที่บ้านด้วยกันสิ จะได้ไม่เหงา พาเจ้าเบนซินมาอยู่ด้วยก็ได้นะ”
เดี๋ยวนะ... นี่มันเกิดอะไรขึ้นครับ ผมตามไม่ทันเว้ย ไม่จริงใช่ไหม นี่ผมฝันอยู่เหรอที่พ่อฟองชวนมาอยู่ที่บ้านช่วงปิดเทอมเนี่ย ดีใจว่ะ ดีใจจนเผลอยิ้มกว้างออกมา แต่...เรื่องมันง่ายเกินไปรึเปล่า แอบหวั่นใจแปลกๆแฮะ




--------------------------------------------

มาช้าดีกว่าไม่มารึเปล่า? 55555555 คุณพ่อของฟองดูใจดีแปลกๆนะ หาเรื่องแกล้งมินรึเปล่าน้อ
ติดตามตอนต่อไปเนอะ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 21 (P.4) 13/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-08-2016 11:17:19
คุณพ่อคิดจะทำอะไรหรือเปล่าครับ ทำไมใจดีแปลกๆ ไม่น่าไว้ใจอ่ะ ^^"
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 21 (P.4) 13/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 14-08-2016 00:37:41
จะมีตลบหลังรึป่าวเนี่ย ลุ้นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 21 (P.4) 13/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 14-08-2016 00:59:49
คุณพ่อจะทำอะไร รับขวัญว่าที่ลูกเขยรึป่าว
สงสัยมินจะอ่วม
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 21 (P.4) 13/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 14-08-2016 06:04:31
โดนแน่มินน
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 21 (P.4) 13/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 14-08-2016 11:48:36
คงอยากให้อยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ล่ะมั้ง
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 21 (P.4) 13/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-08-2016 20:17:05
คุณพ่อจะรับขวัญลูกเขยรึป่าวเนี่ย 555555
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 21 (P.4) 13/08/59
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 16-08-2016 20:57:40
เดาใจคุณพ่อไม่ถูกเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 22 (P.5) 10/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 10-09-2016 10:43:34
Follow You 22




"ฟอง..."
ผมเรียกคนข้างตัวที่เพิ่งล้มตัวลงนอนบนเตียง ดวงตากรอกไปมาอย่างหวาดระแวงเพราะตอนนี้ผมนอนค้างที่บ้านของฟอง พรุ่งนี้ต้องกลับไปเก็บเสื้อผ้ามาอยู่ที่นี่ชั่วคราวในช่วงปิดเทอมตามคำชวนของพ่อฟอง

"หืม มีอะไรเหรอ"
ฟองพลิกตัวนอนตะแคงมองหน้ากัน ผมถอนหายใจเฮือกแต่สายตายังคงจ้องมองเพดานอยู่

"พ่อดุไหม"
ผมถามด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย ไอ้กล้ามันก็กล้าแต่บางทีก็กลัวว่าเขาจะไม่ยอมรับ ไม่คิดว่าพ่อแม่คนไหนจะยอมรับว่าลูกชายมีแฟนเป็นเพศเดียวกันได้ไวขนาดนี้ ฟองเลิกคิ้วมองก่อนจะหัวเราะออกมาน้อยๆ

"นี่ทำหน้าเครียดตั้งแต่เย็นเพราะกลัวพ่อเหรอ"
เสียงทุ้มหวานเอ่ยถามกันก่อนที่นิ้วเรียวจะจิ้มลงบนแก้มกร้าน ผมเหลือบสายตามองฟองก่อนจะำยักหน้ารับเบาๆ ใครจะไม่กลัวพ่อตาบ้างล่ะวะ มานิ่งๆเงียบๆอาจจะร้ายลึก นึกคึกลุกขึ้นมายิงแซกกลางหน้าผากก็เป็นได้

"ก็...มันกังวล ไม่ได้เตรียมใจเรื่องนี้มาก่อน"
ผมพูดไปตามความจริง ยังไม่พร้อมจะบอก ไม่ใช่ว่าจะปิดบังแต่กลัวโดนสั่งให้เลิกกันต่างหาก ถึงแม้ว่าผมจะยืนยันหลังชนฝาว่าไม่ยอมเลิกก็เถอะนะ

"อ๋อ... พ่อเราดุมากเลยนะ มินระวังตัวให้ดี"
ฟองพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังจนผมเผลอเม้มปากแน่นแล้วหลับตาลงโดยไม่ทันเห็นว่าอีกคนลอบยิ้มมุมปาก

"โห... แบบนี้ก็แย่ดิ"
ผมบ่นงุ้งงิ้งจนฟองหัวเราะออกมาเบาๆ มือเรียวเอื้อมมาหยิกแก้มกร้านของผมแล้วดึงจนยืดทำให้ผมลืมตาตื่นทันที

"โอยๆ เจ็บนะครับฟอง"
ผมว่าก่อนจะรวบมือฟองมาจับเอาไว้ ใบหน้าหวานอยู่ห่างกันแค่คืบเดียวเท่านั้นจนผมเผลอปล่อยตัวปล่อยใจขยับหน้าเข้าไปใกล้แล้วบรรจงกดจูบลงบนริมฝีปากบาง แต่ไม่นานก็ต้องผละออกจากกันเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง

"เชี่ย"
ผมสบถเบาๆเมื่อเห็นว่าพี่ฟางยืนอยู่กลางกรอบประตู ใบหน้าหล่อเหลายิ้มล้อเลียนส่งมาให้กัน ผมหัวเราะแห้งๆเพราะไม่รู้จะพูดอะไร ส่วนฟองเม้มปากแน่นแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดถึงปลายจมูก

"แหม... หวานกันจังเลยเนอะ"
ไม่ว่าเปล่าพี่ฟางดันเดินมาใกล้เตียงแล้วทิ้งตัวลงนอนแทรกระหว่างกลางเราสองคนทันที กวนตีนสุดๆ.. ถ้าผมไม่ขยับตัวหนีปากคงไปจูบหน้าผากพี่เขาแล้ว

"มานอนเบียดทำไมเนี่ย ประตูก็ไม่ปิด"
ฟองเบ้ปากก่อนจะใช้ขาเตะสะโพกพี่ฟางเบาๆเพราะไม่ได้จริงจังนัก อาจจะทำไปเพราะความเขินก็ได้

"ไอ้น้องฟอง กล้าถีบพี่เหรอวะเดี๋ยวยึดไอ้มินเลยนี่"
พูดจบก็หันมาดึงหัวผมให้ไปนอนซุกอกแล้วกอดไว้อย่างแนบแน่น ไม่คิดว่าผมจะหายใจไม่ออกบ้างเหรอวะเฮ้ย แต่ไม่กล้าประท้วงอะไรมากเพราะแค่นี้ก็หมิ่นเหม่จะตกเตียงอยู่แล้ว กลัวพี่ฟางแกล้งกระแทก

"แฟนผมนะ ปล่อยเลย"
ฟองแยกเขี้ยวใส่พี่ฟางแล้วตีมือที่กอดผมไว้ เกิดสงครามแย่งชิงขนาดย่อมจนผมเผลอยิ้มทั้งๆที่ไม่สามารถหลบลูกหลงได้แม้แต่นิด เจ็บก็ยอมวะถ้าฟองจะแสดงอาการหวงได้น่ารักขนาดนี้

"ไม่ปล่อย แฟนน้องก็เหมือนแฟนพี่ เคยได้ยินไหม"
ผมแทบจะสำลักอากาศเมื่อได้ยินประโยคนี้จากปากของพี่ฟาง... ถึงจะรู้ว่าพี่มันแค่กวนตีนฟองแต่ผมแอบขนลุกไม่ได้เพราะคิดสภาพผมสวีทกับเขาไม่ออก... บรึ๋ย ฟองขมวดคิ้วแน่นแล้วกำหมัดต่อยลงบนไหล่ของพี่ฟางไม่แรงมากนัก

“ของผมก็คือของผมดิ หรือพี่เฟียเป็นของผมด้วยน้า”
มีการเอาคืนกันเบาๆจนพี่ฟางทำเสียงฮึดฮัดแล้วผลักผมออกจากอกเขา... อยากจะบอกว่าเกือบตกเตียงไป ดีหน่อยที่เอาขาเกี่ยวเอวพี่ฟางทัน... เขาหันมามองตาเขียวปั๊ดจนผมต้องยกขาออกแล้วยกมือไหว้ปรกๆ

“ไอ้น้องฟอง เดี๋ยวนี้เถียงเหรอ”
พี่ฟางเปลี่ยนเป้าหมายเข้าไปล็อคคอน้องชายตัวเองแล้วใช้มืออีกข้างขยี้หัวฟองจนยุ่งเหยิงไปหมด เจ้าตัวดิ้นขลุกขลักทั้งถีบทั้งตีจนสุดท้ายพี่ฟางก็ยอมแพ้แล้วลุกขึ้นหนีลงจากเตียงไปยืนเท้าเอวตรงปลายเตียง

“พี่ฟาง! ใครเริ่มก่อนเล่า คนเขาจะนอนแล้วออกไปเลย”
ฟองบุ้ยปากแล้วโบกมือไล่พี่ชายออกจากห้อง ไอ้ผมที่เป็นคนกลางกลับดึงผ้าห่มมาคลุมโปงเพราะไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงดี หนีแม่งเลยคงดีกว่าให้เขาจัดการปัญหาภายในครอบครัวเอาเอง....ตอนนี้ผมขอเป็นคนนอกก่อนครับ ไม่อยากโดนพี่ชายแฟนลากไปเชือด

“พอมีแฟนแล้วโหดกับพี่นะ”
เสียงนิ่งๆพูดจนผมเผลอลดผ้าห่มลงโผล่มาแค่ลูกกะตา สายตาคมของพี่ฟางจ้องผมเขม็งอย่างคาดโทษ เชื่อเถอะว่าพรุ่งนี้เช้าผมต้องเละเป็นโจ๊กแน่ๆอย่างไม่ต้องสงสัย

“ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย พี่ฟางกวนก่อน”
ฟองยังไม่ยอมแพ้ที่จะเถียงพี่ตัวเอง เป็นพี่ฟางเองที่ยอมแพ้แล้วเดินออกไปจากห้องก่อนจะปิดประตูให้เรียบร้อย ผมลอบถอนหายใจออกมาก่อนจะหันไปมองคนที่ยังทำหน้าตาบึ้งตึงอยู่ ผมใช้นิ้วเรียวนวดระหว่างคิ้วของคนหน้าหวานให้คลายออกแล้วส่งยิ้มให้

“ไม่อารมณ์เสียน่า นอนกันเถอะ ดึกแล้ว”
ผมว่าก่อนจะดึงตัวเขาเข้ามากอดอย่างถือวิสาสะ ปกติไม่เคยนอนกอดกันแบบนี้หรอกเพราะฟองบอกว่ามันนิอึดอัดจะตายแถมยังร้อนด้วย แต่ครั้งนี้เขานิ่งและยอมให้ผมกอดแถมยังมุดตัวเข้ามาใกล้อีกด้วย อืม...ชอบว่ะ

“ฝันดีนะมิน”

“ฝันดีครับ”
แล้วผมกับเขาก็จมเข้าสู้ห้วงนิทราอันมืดสนิท ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะเสียงเคาะประตูห้องรัวๆ ไม่ต้องเดาให้ปวดหัวก็รู้ว่าเป็นพี่มือพี่ฟางแน่ๆ ผมเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างยากลำบากเพราะดวงตายังไม่สามารถสู้แสดงแดดอ่อนๆที่ลอดผ่านรอยแยกของผ้าม่านเข้ามาได้ เหลือบไปมองทางซ้ายเล็กน้อยก็เจอเข้ากับฟองที่นั่งหัวยุ่งอยู่ก่อนแล้ว เขาอ้าปากหาวก่อนจะยกมือขึ้นขยี้หัวไปมาอย่างน่ารัก... อย่าว่าอะไรผมเลยที่มองการกระทำทุกอย่างของคนรักว่าน่ารัก ก็มันทั้งหลงทั้งรักมากนี่หว่า

“ตื่นนานแล้วเหรอ”
ผมถามเสียงอู้อี้เพราะเสียงยังไม่สามารถให้ปรับเป็นปกติได้ ฟองหันมามองกันก่อนจะส่ายหน้ารัวแล้วชี้ไปที่ประตูเป็นสัญญาณว่าโดนปลุกเพราะเสียงเคาะเหมือนกัน ผมพยักหน้าเข้าใจก่อนจะลุกขึ้นนั่งเคียงข้างเขาแล้วลุกเดินโซซัดโซเซไปเปิดประตูให้กับคนด้านนอก เชื่อไหมครับว่าเมื่อคืนผมตื่นมาล็อคประตูเพราะกลัวพี่ฟางพรวดพราดเข้ามานี่ล่ะ

“ทำไมเปิดประตูช้าวะ ทำอะไรกันอยู่”
คำถามแรกเมื่อผมเปิดประตูให้ดังทันทีอย่างไม่ทันตั้งตัว พี่ฟางเบียดตัวเข้ามาในห้องแล้วมองผมกับฟองสลับกันไปมาแล้วถอนหายใจเฮือก

“เพิ่งตื่นครับพี่ แล้วมีอะไรแต่เช้าเหรอ”
ฟองเป็นคนตอบก่อนจะบิดขี้เกียจไปมา ผมตามไปนั่งลงที่ปลายเตียงข้างๆพี่ฟางด้วยสภาพที่ยังตื่นไม่เต็มตาท่าไหร่ รู้สึกบรรยากาศจะแตกต่างจากเมื่อคืนอยู่มากโข

“พ่อให้มินไปช่วยทำสวน”

“ห๊ะ / หา !!”
ผมกำฟองอุทานออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย คงจะเจอการต้อนรับลูกเขยตั้งแต่วันแรกเลยวินะกู ฮึก... ก็แค่ทำสวนคงไม่หนักหนาอะไรหรอกใช่ไหม ชายชาติทหารอย่างผมไม่กลัวอยู่แล้ว!

บอกเลยว่าคิดผิดมหันต์... เพราะตอนนี้ผมกำลังยกกระถางต้นไม้ที่หนักราวสิบกิโลกรัมไปแล้วสิบกระถาง เคลื่อนจากทางหลังบ้านมาไว้ตรงสวนหน้าบ้าน จากที่คำนวณด้วยสายตาแล้วตกอยู่ประมาณ 20 กระถางเป็นอย่างต่ำ ก็ไม่ได้อยากบ่นสักเท่าไหร่ถ้าวันนี้ไม่ได้มีอากาศร้อนอับอ้าวตับจะแตก ฟองทำท่าจะเข้ามาช่วยผมหลายต่อหลายครั้งแต่เขาก็โดนพี่ฟางดึงตัวไปบอกว่าไอ้ช่วยอาบน้ำเจ้ากระต่ายหน่อย

“ไหวไหมมิน”
เสียงทุ้มนุ่มของพ่อฟองถามขึ้นขณะที่ผมวางกระถางใบสุดท้ายลงแล้วทิ้งตัวนั่งอย่างหมดแรง ผมยังคงพยักหน้ารับว่าไหว ทั้งๆที่จะเป็นลมแดดอยู่แล้ว ไม่อยากดูอ่อนแอต่อหน้าว่าพ่อตาหรอก

“ไหวครับผม”
ผมตอบเสียงแหบแห้งแล้วรับขวดน้ำดื่มเย็นชื่นใจมาจากมือของแม่ฟอง แทบจะแทะขวดในทันทีทันใดเพราะไม่อยากเสียเวลาเปิดขวด... ผมกระดกน้ำอักๆจนเกือบจะสำลักอยู่หลายรอบ เฮ้อ

“งั้นปีนไปตัดกิ่งต้นไม้ให้พ่อหน่อยนะ”
พ่อหันมายิ้มให้อย่างอารมณ์ดี ส่วนผมก็ยิ้มตอบกลับไปอย่างฝืนสุดชีวิตก่อนจะตอบรับเสียงดังฟังชัดทั้งๆที่ในใจนี่แทบจะดิ้นตายตรงนี้อยู่แล้ว ถ้าอากาศไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนฝนจะตกขนาดนี้ผมคงทำงานได้ง่าย

หลังจากตัดกิ่งต้นไม้ให้พ่อของฟองเสร็จเรียบร้อยผมก็ลงมานอนแผ่กลางสนามอย่างหมดแรงจริงๆ เพราะตอนอยู่บนต้นไม้โดนสั่งให้ปีนไปทางนั้นทีทางนี้ทีจนอกสั่นขวัญแขวนไปหมดเพราะมันสูง ผมหลับตาพริ้มอยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่ก่อนจะรู้สึกว่ามีตัวอะไรสักอย่างกำลังขยับยุกยิกไปมาอยู่กลางหน้าอกเลยตัดสินใจลืมตาก็พบกับเจ้าซันเดย์กระต่ายหูตกกำลังเลียขนที่เปียกชื้นของตัวเอง โดยมีฟองนั่งอยู่ข้างๆกัน

“ไม่เอาซันเดย์ไปเป่าขนล่ะ”
ผมถามขึ้นแล้วขยี้ขนที่เปียกปอนของเจ้ากระต่ายตัวน้อยเล่น มันเหลือบมองกันน้อยๆแล้วใช้ลิ้นสีแดงเล็กๆเลียทำความสะอาดขนของตัวเอง ฟองหันมามองกันเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

“พามันมาวิ่งรับลมก่อนสัก 20 นาทีค่อยเอาไปเป่า ขนมันหนาจะตายแห้งช้า”
ฟองบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็ยังเอื้อมมือมาลูบขนเปียกๆของมันเล่น เสื้อสีเข้มของผมเปียกเป็นวงกว้างแต่ก็ไม่บ่นอะไรออกไป ดีซะอีกเย็นขึ้นมานิดหน่อย

“แล้วคิดยังไงเอามันมานอนบนตัวมินเนี่ย”
ผมแกล้งถามเสียงเครียด ว่าจะไม่บ่นแล้วแต่ขอแกล้งคนหน้าหวานหน่อยแล้วกัน

“ก็ให้มันเช็ดตัวกับเสื้อมินไง”
ฟองหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะแลบลิ้นใส่กัน ผมกำลังจะเอื้อมมือไปดึงฟองแต่เขากลับเบี่ยงตัวหลบราวกับรู้ทันแล้วย่นจมูกใส่

“จะหนีมินไปไหนน่ะ”
ผมว่าก่อนจะจับตัวซันเดย์ไว้แล้วลุกขึ้นนั่ง ฟองคว้าเจ้ากระต่ายไปจากมือผมแล้วไม่ได้ตอบอะไรต่อเพราะเขาไม่ได้คิดจะลุกไปไหน

“มินลูก ไปอาบน้ำแล้วมาช่วยแม่ชิมกับข้าวหน่อย!”

“หา!”
ผมหันขวับไปทางประตูข้างบ้านเห็นแม่ของฟองยืนยิ้มหวานอยู่ตรงนั้นพร้อมกับถือตะหลิวไว้ในมือ ผมพยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงด้วยความงงงวย ฟองที่นั่งอยู่เลยลุกขึ้นตามแล้วหันมาส่งยิ้มให้ก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้าน

ผมขึ้นไปอาบน้ำส่วนฟองแยกไปเป่าขนไอ้ซันเดย์ที่ชายคาบ้าน ไม่นานเกิน 10 นาที ผมก็พาตัวเองลงมายังชั้นล่างก่อนจะตรงเข้าไปในครัวตามที่ได้ตกลงกับแม่ของฟองไว้ว่าจะช่วยชิมอาหาร

“แม่ครับ”
ผมเรียกก่อนจะส่งยิ้มให้ แม่เลยรีบขยับที่ว่างให้ผม แกงจืดในหม้อกำลังเดือดปุดๆ กลิ่นหอมฟุ้งจนน้ำย่อยในกระเพาะอาหารเริ่มทำงาน

“ชิมเลยจ๊ะ ลองดุว่าถูกปากหรือเปล่า”
แม่ส่งช้อนที่มีน้ำแกงร้อนๆมาให้ ผมรับมันไว้แล้วเอ่ยขอบคุณก่อนจะเป่ามันให้คลายร้อนแล้วกิน รสชาติกลมกล่อมทำให้ผมคลี่ยิ้มออกมาทันที

“อร่อยมากเลยครับ ผมเริ่มหิวแล้วล่ะ”

“งั้นมินไปเรียกฟองมานะ คนอื่นๆออกไปทำธุระแล้ว”
ผมพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะออกไปตามฟองที่ยังนั่งเป่าขนกระต่ายอยู่ชายคาบ้าน ทีมแกล้งลูกเขยออกไปทำธุระด่วนที่บริษัทกันหมด

“ไปกินข้าวกัน”
ผมนั่งยองๆลงข้างๆเขา ฟองหันมามองกันเล็กน้อยแล้วอุ้มเจ้าซันเดย์มาตรงหน้า ผมรับมาไว้แล้วมองด้วยความงง

“เอามาให้มินทำไม”

“เราจะเก็บของ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย ติดขน”

“อ๋อ โอเค มินรอที่โต๊ะอาหารแล้วกันครับ”
ผมพูดก่อนจะเอาซันเดย์ไปเข้ากรงแล้วกลับไปช่วยแม่ยกอาหารมาจัด ไม่นานนักฟองก็กลับมาให้ชุดใหม่กางเกงขาสั้นเสื้อแขนสั้นตามสไตล์อยู่บ้าน เรานั่งกินอาหารกันไปเงียบๆ มีพูดคุยถามไถ่เรื่องเรียนจากแม่ของฟองบ้าง

หลังจากนั้นผมกับฟองก็ขอตัวออกไปขนเสื้อผ้าที่คอนโดมาแล้วแวะไปรับเจ้าเบนซินมาจากยัยน้องสาวคนสวย อยากจะโวยวายนักเมื่อฟองย้ายไปนั่งเบาะหลังกับไอ้เบนซินซะอย่างนั้น ผมเลยนั่งหน้างอเป็นปลาทูคอหักขับรถอยู่คนเดียว

“หน้าบึ้งอีก... หึงหมารึไง”

“จะหึงหมาทำไมวะ หึงฟองดิ”
ผมบ่นเสียงอู้อี้ ใครมันจะบ้าไปหึงไอ้เบนซินล่ะ หึงแฟนตัวเองที่เห็นหมาดีกว่าผมนี่ล่ะ แล้วอะไรคือฟองหัวเราะเสียงใสขนาดนั้น

“แค่ย้ายมานั่งกับเบนซินเองนะ ไม่ได้นอกใจไปหาคนอื่นซะหน่อย”

“ไม่อนุญาตให้นอกใจเว้ย”
ผมพูดเสียงแข็งก่อนจะมองเขาผ่านกระจก ฟองทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วจับไอ้เบนซินมากอดไว้ทำราวกับรักกันมากอย่างไรอย่างนั้น ไม่รู้รึไงว่าผมอิจฉาน่ะ

“รักจะตาย ใครจะไปนอกใจ”
เสียงพึมพำเบาๆจากปากฟองผมไม่ได้ยินมันเพราะเสียงริงโทนมือถือดังขึ้นขัดจังหวะ




-----------------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 22 (P.5) 10/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 10-09-2016 10:53:32
นึกว่าคุณแม่จะแกล้งทำกับข้าวเผ็ดๆให้มินกินเพื่อเป็นการต้อนรับว่าที่ลูกเขยเสียอีก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 22 (P.5) 10/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 10-09-2016 20:52:48
เป็นการต้อนรับที่อบอุ่นมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :m29: :m29:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 22 (P.5) 10/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-09-2016 21:19:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 22 (P.5) 10/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 10-09-2016 21:51:49
ต้อนรับได้น่าร้ากก
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 22 (P.5) 10/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 10-09-2016 22:15:35
 :pig2: :pig2:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 22 (P.5) 10/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 11-09-2016 09:51:04
แอบน่ากลัวเล็กๆกับการต้อนรักลูกเขย
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 22 (P.5) 10/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 11-09-2016 10:09:28
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 22 (P.5) 10/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 11-09-2016 19:53:17
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 22 (P.5) 10/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 13-09-2016 07:41:19
สนุกมากๆ บรรยากาศแบบเพื่อนฝูงน่ารัก
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 22 (P.5) 10/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: Jadd ที่ 15-09-2016 05:41:45
 :mew1: ตามอ่านเพลินเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนที่ 22 (P.5) 10/09/59
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 15-09-2016 06:41:35
อ่านรวดเดียวเลย. อมยิ้มตลอด
น่ารักมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: Ch0cmint ที่ 10-10-2016 12:09:29
- ตอนจบ -




ไม่อยากนับว่าผมกับฟองคบกันมานานแค่ไหน ตอนนี้เราทั้งสองคนเรียนจบแล้วและกำลังอยู่ในงานรับปริญญาที่แสนวุ่นวาย ญาติสนิทมิตรสหายต่างเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ผมแยกไปอยู่กับครอบครัว ส่วนฟองก็เช่นกัน กว่าจะกลับมาเจอกันก็ตอนที่ใบหน้าชื้นเหงื่อนั่นล่ะ

"เป็นไงบ้างมิน สาวๆมาหาเยอะนี่"
ฟองถามก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นผมเบะปากให้กับคำพูดของเขา ผมแทบจะปลีกตัวหนีไม่ได้ตอนที่สาวๆพวกนั้นรุมถ่ายรูป เห็นฟองยืนอยู่แค่เอื้อมแล้วหงุดหงิดฉิบหายที่เดินไปหาไม่ได้

"จะบ้าตาย นี่คนนะไม่ใช่ขี้ ตอมกันเยอะเหลือเกิน"
ผมบ่นกระปอดกระแปดแล้วยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อที่ไหลตามหน้า แต่ฟองขัดก่อนจะดึงมือผมไว้แล้วใช้กระดาษทิชชู่ซับให้เบาๆ ท่าทางตั้งใจของเขาทำให้ผมเผลอยิ้มออกมา ก็เป็นซะแบบนี้ ไม่ให้รักยังไงไหวล่ะคนเรา

"บ่นอะไรเยอะแยะ เรายังไม่บ่นเลย"
ฟองยิ้มให้กันก่อนจะแอบดึงแก้มผมจนปวดไปหมด แฟนผมน่ะไม่บ่นหรอกตอนมีสาวๆมาล้อม เป็นปกติของคนดังอยู่แล้วคงจะชินตามประสาเขานั่นล่ะ

"ก็มินไม่ชอบนี่หว่า ถ้าเป็นฟองมาขอถ่ายรูปแทนผู้หญิงพวกนั้นจะยินดีมาก"
ผมว่าก่อนจะฉีกยิ้มกว้างให้ ฟองย่นจมูกใส่แล้วผลักอกกันเบาๆ

"พอเลย แล้วนี่จะไปฉลองที่ไหนต่อรึเปล่า?"

"ไม่รู้ดิ ยังไม่ได้คุยกันกับที่บ้าน แต่ละคนสนใจถ่ายรูปกันอย่างเดียว"
ผมมองไปทางพ่อแม่และน้องสาวกำลังช่วยขนของขวัญไปเก็บที่รถแล้วส่ายหน้าช้าๆ ตื่นเต้นยิ่งกว่าคนเรียนจบเองแบบผมอีกมั้งนั่น

"งั้นไปกับที่บ้านเราปะ ที่ร้านอาหาร ××× แม่กับพ่อฝากมาชวนด้วย"
ฟองพูดแล้วคลี่ยิ้มออกมา ในอ้อมแขนกอดตุ๊กตากระต่ายเอาไว้แน่น ผมล่ะสงสัยจริงๆว่าใครให้มา

"เดี๋ยวมินถามที่บ้านให้แล้วจะโทรไปบอกนะ แล้วนี่ใครให้มา?"
ผมชี้ไปที่ตุ๊กตาใยอ้อมแขนของเขา ฟองเงยมองหน้ากันก่อนจะร้องอ๋อออกมาเบาๆแล้วยิ้มทะเล้น... ผมรู้สึกถึงลางสังหรณ์แปลกๆว่ะ ไม่น่าอยากรู้เลยไงกู

"ให้ทาย"

"โห... มินจะเอาปัญญาที่ไหนไปทาย คนให้ของขวัญฟองตั้งเยอะแยะ"
ผมว่าก่อนจะเบ้ปากใส่ ไอ้หวงมันก็หวงอยู่นะ แต่อย่างที่บอก โดนรุมอย่างกับขี้ จะขยับไปไหนก็ถูกปิดทางไว้หมด ถ้าเมื่อกี้ไม่บอกว่าปวดท้องเข้าห้องน้ำคงฝ่าวงล้อมออกมาไม่ได้

"ทำหน้าแบบนั้นเกิดอาการหวงขึ้นมาอีกล่ะสินะ"
ฟองว่าก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ มีแฟนรู้ทันนี่ไม่ดีเสมอไปนะ คิดอะไรทำอะไรบางครั้งโดนดักคอซะหมด อย่างเช่นหลอกล่อเพื่อลวนลามเนี่ย พลาดมาหลายครั้งแล้ว เฮ้อ

"แฟนทั้งคน ไม่หวงดิแปลก แล้วตกลงว่าใครให้มาล่ะครับ?"
ผมถามย้ำอีกครั้งก่อนจะจับข้อมือฟองให้เดินหลบเดินมาอยู่ใต้ร่มของต้นไม้ใหญ่ จริงๆแล้วมีหลายคนตั้งท่าจะเข้ามาขอถ่ายรูปแต่ผมคงแผ่รัศมีอึมครึมจนพวกเธอล่าถอยไปเอง

"อะๆ แว๊บแรกคิดว่าใครให้เรามาล่ะ"
มีถามกลับอีกแล้ว... ทำไมตอบยากตอบเย็นจังวะคนเรา คิดจะแกล้งอะไรกันอีกครับแฟน

"พี่อิฐ?"
ผมตอบออกไปด้วยเสียงต่ำกว่าปกติ เพราะพี่อิฐคือคนแรกที่จะทำให้ผมรู้สึกงุ่นง่านในหัวใจได้มากขนาดนี้ ไม่รู้ว่าปัจจุบันจะเลิกชอบฟองไปรึยังด้วย

"โห... คิดว่าเป็นอดีตศัตรูหัวใจของตัวเองเลยเหรอ?"
ฟองทำน้ำเสียงเหมือนตื่นเต้น ดูก็รู้ว่ากำลังแกล้งกันอย่างสนุกสนาน ผมนึกมันเขี้ยวเลยยกมือขึ้นบีบแก้มคนตรงหน้าไปหนึ่งที ฟองมุ่ยหน้าแล้วปัดมือผมทิ้ง

"เจ็บนะ"

"ก็แกล้งกันดีนักนี่ ตกลงใครให้มาครับ บอกมาได้แล้ว"

"ก็พี่อิฐนั่นล่ะครับ มินไม่หึงเนอะ เขาเพิ่งเอามาให้เมื่อกี้เลยยังไม่ได้เอาไปเก็บเฉยๆ"
ฟองอธิบายทุกอย่างออกมาจนกระจ่างทำให้ผมถอนหายใจออกไปอย่างโล่งอก แต่ก็ยังติดใจสงสัยว่าเขาเลิกชอบฟองไปแล้วรึยัง ถ้าถามฟองไปจะตอบได้รึเปล่านะ

"โอเค ไม่หึงก็ได้ครับ แล้วเขายังชอบฟองอยู่รึเปล่า?"
ผมจ้องดวงตากลมเรียวรีนั่น ฟองไม่ได้เบนสายตาหลบกันแต่กลับมาจ้องมา

"ไม่น่าถามเลยมิน คำตอบคงทำให้มินอารมณ์ไม่ดี"

"หมายความว่า?"

"ก็... พี่อิฐยังรอเราอยู่ เราก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว เหนื่อย"
ฟองว่าก่อนจะทำหน้าเหนื่อยๆ ผมถอนหายใจเบาๆก่อนจะยกมือวางบนหัวเขาแล้วออกแรงขยี้ไปมาเบาๆ

"ช่างเขาเถอะ ความรักมันห้ามกันไม่ได้ เขาอยากรักก็ปล่อยเขาไป"
ผมพูดปลอบฟองทั้งๆที่ตัวเองก็รู้สึกหน่วงๆ ไม่มีใครที่พอใจให้คนอื่นมารักแฟนตัวเองในทำนองชู้สาวหรอก ไม่ใช่เพราะกลัวแฟนตัวเองจะไขว่เขว แต่กลัวใจของคนที่มาชอบมากกว่า

"พูดดี แต่ไม่หึงเลยเหรอ?"
ซึ้งกันได้ไม่เท่าไหร่ โดนเอาคืนซะอย่างนั้น ฟองหัวเราะร่วนก่อนใส่กันจนผมนึกอยากจะจูบปิดปาก แต่ทำไม่ได้เพราะคนเยอะนี่ล่ะ ขัดใจจริงๆเลย

"หึงดิ แต่ไม่แสดงออก แยกย้ายกันกลับบ้านเถอะ คงรอกันนานแล้ว"
ผมบอกฟองก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านกันไปอยู่กับครอบครัวของตัวเอง

งานเลี้ยงฉลองรับปริญญาของผมกับฟองถูกจัดในร้านอาหารแห่งหนึ่งพร้อมๆกันหลังจากที่พ่อแม่ของพวกเราตกลงกันได้ การสังสรรค์ผ่านไปอย่างมีความสุขและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เกือบเที่ยงคืนที่พวกเราแยกย้ายกันกลับบ้าน.. เอ้ะ ไม่ใช่ดิ ผมกับฟองกลับมาคอนโดต่างหาก ร่วมมือกันหนีมาฉลองวันครบรอบด้วย

"แม่ต้องบ่นหูชาแน่ๆ"
ฟองบ่นพึมพำอยู่ข้างๆกันในขณะที่เราอยู่ในรถคันเก่งของผมซึ่งได้เป็นของขวัญรับปริญญาสดๆร้อนๆ อืม... Benz มันนุ่มแบบนี้นี่เอง

"กลัวว่าพี่ฟางจะบ่นมากกว่าใคร"
ผมพูดติดตลกเมื่อคิดถึงหน้าพี่ฟางตอนที่เราบอกว่าจะกลับคอนโด ใบหน้าหล่อๆนั่นงอง้ำแล้วเอาแต่แยกเขี้ยวใส่กัน ทำนองว่า 'พวกแกตะหนีไปสวีทวันครบรอบใช่ไหม อิจฉานะเว้ย' อะไรประมาณนั้น ก็ไอ้แฟนของคุณพี่ที่รักนักรักหนาอย่างพี่เฟียไปทัวร์แคนาดายังไม่กลับน่ะสิ

"ไม่ต้องห่วงเลย ไลน์มาด่าเรากระจายแล้ว"
ฟองบุ้ยปากแล้วยื่นมือถือที่มีแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นไลน์เกือบ 100 ข้อความมาให้ดู ล้วนมาจากพี่ฟางทั้งหมด อะไรจะขยันพิมพ์ขนาดนั้น นับถือมาก

"โห คนจริงว่ะ"
ผมว่าก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ฟองหันมามองกันแล้วหัวเราะตามมาติดๆ กว่าจะถึงคอนโดก็ปาเข้าไปเกือบตีหนึ่งแล้วนั่นก็แสดงว่าวันครบรอบได้ล่วงเลยมาหนึ่งชั่วโมงแล้ว เฮ้อ ไม่ทันทำอะไรอยู่ดี

"โคตรเหนื่อยเลยฟอง"
ผมทิ้งตัวลงนอนข้างๆฟองที่เล่นมือถืออยู่ กลิ่นหอมสบู่อ่อนๆจากตัวเขาทำให้ผมกดจมูกฝังลงบนซอกคออย่างมันเขี้ยว เขาละสายตาออกจากมือถือก่อนจะลุกขึ้นมานอนทับตัวผมเต็มๆ แกล้งกันอีกแล้ว

"เหนื่อยมากเลยเหรอ แต่เรายังไม่ให้มินนอนนะ"
ฟองบอกเสียงใสก่อนจะวางมือถือไว้บนหัวเตียงแล้วกลิ้งลงไปนอนตะแคงมองหน้ากัน ผมหันไปเผชิญหน้าด้วยแล้วรวบเอวสอบมากอดไว้

"จะชวนมินทำอะไรล่ะถึงไม่ยอมให้นอนกันแบบนี้"
ผมถามกลับไปก่อนจะกดจมูกลงบนหน้าผากมนซ้ำๆจนฟองหดคอหนี

"เราคบกันมานานเท่าไหร่แล้ว?"
คำถามง่ายๆที่ใครๆต้องจำได้อยู่แล้วเพราะเป็นระยะเวลาที่ตัวเองกับคนรักบ่มเพาะด้วยกันมา ผมยิ้มแล้วยกมือขึ้นเกลี่ยแก้มนุ่มเล่นก่อนจะตอบออกไป

"ก็ประมาณ... สามปีมั้ง"

"ทำไมต้องมั้งอะ"

"มั้งไม่ได้เหรอ?"

"กวนแล้วมิน"
ฟองบุ้ยปากใส่แล้วเอื้อมมือมาดึงปากเป็นการลงโทษ แต่ผมก็อ้าปากงับมือขาวๆนั่นไว้ไม่ยอมปล่อย ส่งผลให้ฟองยิ่งหน้ายุ่งไปกันใหญ่

"ก็แกล้งเล่นน่า แล้วถามทำไมครับ?"

"ปีนี้อยากได้อะไรเป็นพิเศษรึเปล่า?"
ฟองไม่ได้ตอบแต่ถามกลับมาซะงั้น ผมเลิกคิ้วมองก่อนจะทำหน้าครุ่นคิด ไม่รู้ว่าตัวเองอยากได้อะไรนะ เพราะที่มีอยู่ก็พอแล้ว

"หึ มินคิดไม่ออกล่ะ ฟองมีอะไรอยากให้มินปะ?"
ผมถามกลับก่อนจะกอดเอวเขาเอาไว้หลวมๆ จริงๆไอ้ที่อยากได้น่ะมี แต่รอฟองพร้อมอาจจะดีกว่า ก็ผมมันคนดีนี่ หึหึ

"ใครจะไปอยากให้อะไรกับมินล่ะ"
ฟองยักคิ้วกวนๆให้ก่อนจะดึงมือที่พาดเอวของตัวเองออก เนี่ย แค่กอดยังไม่ให้กอด ไอ้สิ่งที่ผมอยากได้ก็พับเก็บไปเถอะน่า

"โห ใจร้ายว่ะแฟน ไม่คิดจะให้อะไรกันจริงๆเหรอ?"
ผมแกล้งทำเสียงเศร้าใส่ ทั้งๆที่จริงแล้วไม่ได้คิดมากอะไรเรื่องนี้อยู่แล้ว แค่เขายอมตอบรับและรักผมกลับก็มากมายและมีค่าเกินกว่าอะไรทั้งหมดทั้งมวล

"เอาแต่ถามเรา มินล่ะไม่มีอะไรให้เราเหรอ?"
ฟองถามกลับมาบ้างทำให้ผมนิ่งไป... เอาจริงๆก็มัวแต่เตรียมตัวเรื่องงานรับปริญญาจนไม่มีเวลาไปซื้อของขวัญครบรอบให้ ตอนนี้มีสิ่งเดียวจะให้ล่ะวะ แต่ไม่รู้ฟองจะเอาไหม

"มีตัวมินน่ะ ฟองจะเอาไหมล่ะ?"
ผมถามแล้วทำหน้ากรุ้มกริ่มใส่ ฟองย่นจมูกแล้วขยับเข้ามาจุ๊บปากผมเบาๆแต่ไม่ได้ตอบคำถามที่ชัดเจนมา แบบนี้เรียกว่าตกลงได้ปะวะ นี่ถวายตัวให้เลยนะเว้ย หึหึ

"ทำแบบนี้หมายความว่าไงครับ หื้ม?"
ผมถามก่อนจะขยับไปชิดจนหน้าผากของเราจรดกัน ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดใบหน้าอีกคนสลับกันไปมา ไม่รู้ว่าอากาศร้อนขึ้นหรืออุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นกันแน่นะ ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่

"ก็... เอามาดิตัวมินอะ เราพร้อมแล้ว"
ฟองตอบเสียงเบา ใบหน้าหวานๆก้มลงมองหน้าอกผมโดยไม่ยอมสบตากัน แทบอยากจะแหกปากให้ลั่นคอนโดว่าดีใจฉิบหาย แต่ต้องกลั้นไว้เดี๋ยวโดนคนข้างห้องด่าเอา

"ยั่วกันใช่ไหมเนี่ย?"
ผมถามก่อนจะกดจูบลงบนกระหม่อมของเขาแล้วใช้แขนตวัดกอดรอบเอวฟองไว้ก่อนจะลูบไล้ไปมาอย่างย่ามใจ

"อือ... ยั่วไม่เป็นหรอก จะทำก็ทำ แต่อย่าบ่นว่าเราจืดชืดนะ จะกระทืบให้ม้ามแตกเลย"
ฟองว่าเสียงดุๆจนผมเผลอหัวเราะออกมา ดุยังไงทำไมถึงน่ารักได้ขนาดนี้ ไม่ต้องยั่วก็ได้ แค่ทำตัวปกติผมก็แทบห้ามใจไม่ไหวอยู่แล้วเนี่ย

"ดุจังเลย"
ผมว่าก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากบางแล้วค่อยๆบดขยี้ลงไปอย่างเนิบนาบ ค่อยเป็นค่อยไปดูจะเหมาะกว่าสำหรับครั้งแรกของกันและกัน... ถ้าเกิดเผลอรุนแรงไปอาจจะโดนงดเรื่องบนเตียงไปเลยก็ได้ ไม่ค่อยอยากเสี่ยงอะไรนักหรอก

"พูดมากจังเลยนะมิน"
ฟองว่าก่อนจะกระชากเสื้อผมจนกระดุมหลุด นี่จะเหมารวมว่าฟองชอบความรุนแรงได้ไหม ผมจะได้ใส่ไม่ยั้ง...

"โอะ... รุนแรง"
ผมว่าก่อนจะแกล้งบีบสะโพกมนแรงๆ ฟองสะดุ้งแล้วมองผมตาขวางแล้วขึ้นมานั่งทับผมกลางลำตัวก่อนจะลงมือทำอะไรต่อมิอะไรด้วยตัวเองไปซะหมด... เพิ่งรู้นะว่าแฟนตัวเองจะร้อนแรงได้ขนาดนี้ หึหึ ออนท็อปตั้งแต่ครั้งแรก

ยามเช้าเคลื่อนผ่านเข้ามาแต่ผมกับฟองยังไม่พร้อมจะขยับกายออกจากผ้าห่มเลยสักนิด ความเหนื่อยล้ายังคงมีหลงเหลือจากเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ถึงจะได้ผลลัพธ์แบบนั้นแต่มันทำให้เราทั้งคู่มีความสุข

ผมนอนมองใบหน้าหวานยามหลับแล้วเผลอยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ไม่รู้จริงๆว่ารักคนๆนี้ไปมากเท่าไหร่ แต่ที่รู้และมั่นใจคือจะไม่มีวันปล่อยมือเขาเป็นอันขาด ไม่ว่าจะเจอปัญหาหรืออุปสรรคที่เพียงใด ผมก็พร้อมจะเดินไปกับฟองในทุกสถานการณ์

"อือ มองอะไรขนาดนั้น?"
ดวงตารีเล็กปรือขึ้นมองกันแล้วหาวหวอดใส่ ผมหลุดหัวเราะออกมาแล้วกดจูบลงบนหน้าผากของเขาแสดงความเอ็นดู ฟองนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อเผลอขยับตัวแรงไป

"เจ็บชะมัดเลยมิน แบบนี้ต้องงดเรื่องบนเตียงยาวๆละ"
ฟองว่าก่อนจะเบะปากใส่ มือเรียวยกขึ้นตบแก้มผมแปะๆ

"งดจริงอะ... ?"
ผมถามก่อนจะทำหน้าหงอยลง ไอ้งดอะงดได้ แต่แบบ...จะงดไปนานอีกนานแค่ไหนกันล่ะชีวิต

"จริงดิ เจ็บจะตาย"
ฟองบุ้ยปากก่อนจะมุดหน้าเข้าหาอกของผม ไม่รู้ว่าเขินเรื่องเมื่อคืนหรือไม่อยากให้ผมอ้อน... อาจจะกลัวใจอ่อนล่ะมั้ง

"งดนานเท่าไหร่..?"
ผมถามเสียงเบาหวิว แค่อยากแกล้งหรอก ไม่มีอะไรจริงๆ

"นานเท่าที่เราอยากงด เลิกถามได้แล้วน่า ง่วง"
ผมหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อฟองยืดตัวขึ้นมาจุ๊บปลายคางกันเบาๆก่อนจะมุดหน้าลงกับอกผมเหมือนเดิม ไอ้เรื่องงดไม่งดนี่ช่างมันเถอะครับ ยังไงๆเราก็อยู่ด้วยกันทุกวันล่ะน้า ~

"ครับ รักฟองนะ"

"อือ เหมือนกัน"



--------------------------------------------------------


จบแล้วนะ จบแล้ว จุดพลุกันโหน่ย 55555555555
หายไปนานเลยเพราะพล็อตตัน ฮือๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 10-10-2016 13:20:03
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 10-10-2016 13:54:45
โธ่ น่าสงสารมินกว่าจะได้กินฟองก็ตอนจบ แถมยังติดโทษงดอีก 555555 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: kajeaw ที่ 10-10-2016 14:10:27
จบได้หวานมาก  ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 11-10-2016 01:21:46
หวานมากเลยยยยยย
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 11-10-2016 01:52:26
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-10-2016 03:21:39
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 11-10-2016 10:59:33
ชอบอ่ะตอนจบหวานมาก
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 10-11-2016 16:59:40
 :pig4: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 11-11-2016 11:14:50
จบได้น่ารักมากเลย ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 20-11-2016 01:13:26
 :L1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: packy ที่ 21-11-2016 13:46:39
อ่านจบแล้ว น่ารักดี มีภาคต่อแยกคู่มั้ยคะ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: spsygk ที่ 21-11-2016 18:05:16
 :hao4: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 21-11-2016 19:30:33
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 03-12-2016 00:13:19
มีตอนพิเศษอีกไหม
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 03-12-2016 19:57:17
มินสุดยอด นับถือใจเลย อดทนได้ใจมาก โอ๊ย รักมิน
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 04-12-2016 07:28:28
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 21-12-2016 11:52:05
น่ารักดีครับ ไม่ดราม่าด้วย ใสๆ ตอนจบเหมือนตัดจบนิดๆนะครับ ฮ่าๆ
เอาเป็นว่าอ่านเพลินดี อมยิ้มด้วย ขอบคุณครับสำหรับเรื่องสนุกๆ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-03-2017 20:27:31
5555 งดไม่มีกำหนด แต่ยังไงพอเจอลูกอ้อน ฟองก็แพ้ทางแน่

น่ารักค่ะ หลงรักกันเอง คนหนึ่งก็แอบมอง คนหนึ่งก็แอบสนใจ ดีต่อใจจริงๆ
ไม่หวือหวา จีบแบบเปิดเผย ฟองทำตัวเนียน แต่ใจคงเต้นระรัว

มินมีความมุ่งมั่น อบอุ่นนะนี่ เพื่อฟอง มินยอมได้
ฟองก็มีความน่ารัก น่าหมั่นเขี้ยว ทำดุ ทำขู่ แต่สุดท้ายก็ยอม มีแอบหึงแต่ไม่แสดงตัวด้วย 55555

ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ ติดตามเรื่องอื่นๆต่อไปจ้า

หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 02-03-2017 02:00:26
พึ่งได้อ่าน ทำไม เรา อยากไห้ แทม คู่กับ บีท ฮ่าๆๆๆๆ คงดูสมน้ำสมเนื้อน่าดู
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 10-03-2017 08:49:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-03-2017 01:43:15
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 11-03-2017 08:09:34
ละมุนหวานกลมกล่อม
รักนะฟองมิน
 :L1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 18-03-2017 21:58:21
 o13 o13
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 24-04-2017 16:14:59
โอ้ยยยยพลาดเรื่องนี้ได้ไงน่ารักมากเลยค่ะอยากได้ตอนพิเศษแต่ละคู่เพิ่มจัง :z3:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 27-04-2017 18:46:08
อ่านนรวดเดียวจบเลยค่ะ
สนุกกและน่ารักมากกก
ฟองน่ารักอะ มินก้น่ารักมากด้วย
สงสารมินนิดๆนะ555555
กว่าจะได้เริ่มจีบก้แอบชอบมาเปนปีกว่าๆ
กว่าจะได้กินฟองก้รอไปอีก3ปีหลังจากคบกัน
แถมพอได้กินปุ๊บติดโทษแบนหม่มีกำหนดไปอีกก55555
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: imseries ที่ 12-10-2018 22:05:37
น่ารัก ชอบอะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 22-10-2018 23:24:36
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 25-10-2018 12:25:31
หวานๆอ่า อมยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 25-03-2019 20:34:21
น่ารักมากกกก  :m1:
หัวข้อ: Re: ♥ Follow You ตามรักคุณ ♥ UP ตอนจบ (P.5) 10/10/59 -จบแล้ว-
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 25-04-2019 09:59:38
เรียบง่ายๆ น่ารักมากค่ะ  :hao3: