พิมพ์หน้านี้ - :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: ExecutioneR ที่ 06-11-2011 14:20:28

หัวข้อ: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 06-11-2011 14:20:28
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออก ไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2. ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ดโดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคล ที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

จิ้มเบาๆ ที่นี่ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 06-11-2011 14:28:06
ผมเคยคิดมาตลอดนะครับ ว่าการรอคอยและความหวังนี่ช่างเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์จริงๆ ทั้งที่เป็นคำๆ เดียวกัน แต่หากมันเกิดขึ้นกับต่างคนต่างวาระแล้วล่ะก็ ความหมายของมันและสิ่งที่มันนำมา ก็สามารถแตกต่างกันและมีความหลากหลายได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากว่าเรารอคอยที่จะได้ไปเที่ยวที่ไหนสักที่ เราก็คงจะรู้สึกไม่ค่อยต่างกันสักเท่าไหร่ นั่นคือตื่นเต้นและเฝ้ารอให้วันนั้นมาถึงเร็วๆ ถ้าหากว่าเด็กน้อยคนหนึ่งรอคอยรถไอศครีมที่จะวิ่งผ่านหน้าบ้านทุกๆ วันในหน้าร้อน ก็คงจะรอคอยด้วยความหวังและความสุขที่จะได้ลิ้มรสไอศศรีมเย็นๆ ที่ตัวเองโปรดปราน หรือถ้าหากว่าเด็กคนเดียวกันรอที่จะได้พบกับพ่อที่ไม่ได้เจอมานานเพราะต้องไปทำงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ เขาก็คงจะรอคอยด้วยความตื่นเต้น ความกระวนกระวาย ความหวังที่จะได้ของฝาก และความสุขที่จะได้เจอหน้าพ่ออันเป็นที่รัก แต่ถ้าหากไปถามเด็กที่กำลังรอผลสอบเอ็นทรานซ์ คำตอบก็คงจะเป็นกดดัน กระวนกระวาย จนบางคนอาจจะถึงขั้นทุกข์ใจก็เป็นได้

แล้วถ้าเป็นการรอคอยใครสักคนในเรื่องของความรักล่ะ โดยทั่วไปแล้วคนอื่นเขาจะรู้สึกอย่างไรกันบ้าง เขาจะรออย่างมีความหวัง กระวนกระวายใจ หรือทุกข์ใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับกันแน่

ผมในตอนนี้ก็เป็นคนหนึ่งที่กำลังประสบกับความรู้สึกและความสับสนเหล่านี้อยู่เหมือนกัน และผมก็อยู่กับพวกมันมาเป็นเวลาปีกว่าแล้วด้วย เพียงแต่ว่า ความรักที่ผมเฝ้ารอคอยอยู่นั้นมันคือมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่เริ่มจะดูเหินห่างออกไปทุกทีๆ เพราะความผิดที่ผมก่อขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจและขาดความยั้งคิดถึงผลที่อาจจะตามมา

ถ้าจะให้เล่าเรื่องราวความรักของผม ผมก็คงต้องเล่าย้อนไปตั้งแต่สมัยที่ผมเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้แล้ว ในช่วงรับน้อง ผมได้รู้จักกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งกลายมาเป็นกลุ่มเพื่อนสนิทของผมที่สุดในเวลาต่อมา

ในตอนแรก กลุ่มเล็กๆ ของเราก็มีกันอยู่แค่สามคนเท่านั้น ได้แก่ไอ้แพนด้า ผู้ชายตัวเล็ก ยิ้มหวาน อัธยาศัยดี ขี้เล่น และมีชื่อเสียงทั้งในหมู่เพื่อนและรุ่นพี่ติดอันดับต้นๆ จนถูกเสนอชื่อให้เป็นเดือนของคณะในเวลาต่อมา
ไอ้เอ หนุ่มหน้าเข้มลูกชายเศรษฐีจากต่างจังหวัดที่มาพักอยู่กับญาติและน้องชายของมันที่กรุงเทพฯ มันเป็นคนพูดน้อย ยิ้มน้อย ต่อยหนัก แต่ก็หน้าตาดีและหัวดีไม่เบาเหมือนกัน ที่สำคัญ มันยังเป็นคนที่จริงใจและรักเพื่อนมากที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ผมเคยรู้จักมาอีกด้วย

ส่วนคนสุดท้ายก็คือผมเอง ไอ้กีตาร์ หรือที่เพื่อนๆ รวมทั้งรุ่นพี่เรียกกันว่า ไอ้ต้า ซึ่งเมื่อเทียบกับเพื่อนอีกสองคนแล้ว ผมก็คงเรียกได้ว่าเป็นคนธรรมดาแบบที่สุดที่หาเจอได้ทั่วไปตามท้องถนน ผมไม่ได้หน้าตาดีแบบไอ้ด้า ไม่ได้มีเงินแบบไอ้เอ แต่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งจริงๆ ถึงแม้ว่าเพื่อนๆ ของผมจะเคยชมผมอยู่บ้างว่าผมเป็นคนมีเสน่ห์ในตัวเองค่อนข้างสูง แต่ผมก็คิดว่าพวกมันคงจะพูดแซวผมไปอย่างนั้นมากกว่า เพราะว่าผมยังไม่เคยเห็นเลยว่าตัวเองมีเสน่ห์อย่างที่พวกมันว่ากันตรงไหน

ในตอนแรกผมก็รู้สึกสนิทกับเพื่อนของผมแค่สองคนนี้มากกว่าคนอื่นๆ ที่จริง ผมต้องยอมรับด้วยซ้ำว่าเราใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากจนแม้แต่ผมเองก็ยังเคยแอบชอบไอ้ด้าไปด้วยเลยเหมือนกัน แต่ทว่าผมก็รู้นิสัยของมันดีพอที่จะรีบเปลี่ยนความคิดของตัวเองเสีย เพราะผมไม่อยากจะเสียเพื่อนที่ดีที่สุดของผมคนหนึ่งไป จนเมื่อเวลาผ่านไป กลุ่มของเราก็เริ่มใหญ่มากขึ้นโดยคนที่เข้ามาเพิ่มเติมก็คือผู้หญิงอีกสองคนชื่อ ฝนกับนก และรูมเมทของไอ้ด้าที่มันรู้จักกันมาตั้งแต่ก่อนที่จะมาสนิทกับผมเสียอีก ชื่อว่าไอ้อาร์ม

ไอ้อาร์มก็เป็นอีกคนหนึ่งที่หน้าตาดีมาก ที่บ้านมีเงิน และเป็นคนที่ผมเห็นว่ามีเสน่ห์มากอย่างแท้จริงคนหนึ่ง นอกจากนั้นแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าตัวเองก็จะรู้ตัวดีด้วยเหมือนกันนี่สิ ว่าตัวเองหน้าตาดีและมีเสน่ห์ เพราะว่าผมได้ยินชื่อเสียงเรื่องความเป็นเพลย์บอยของไอ้หมอนี่มาตั้งแต่ก่อนมันจะเริ่มเข้ามาสนิทกับกลุ่มของเราแล้วด้วยซ้ำ

พูดง่ายๆ เลยก็คือ ก่อนที่ผมจะมีโอกาสได้รู้จักกับมันอย่างจริงๆ จังๆ ผมยังเคยรู้สึกไม่ค่อยชอบมันเสียเท่าไหร่ด้วยซ้ำ เพราะตอนนั้นผมคิดไปเองว่ามันคงจะเป็นคนที่เจ้าชู้ กะล่อน และคงจะหยิ่งพอตัว แต่เมื่อเราเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น ผมก็จำต้องเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อมันไปโดยปริยาย เพราะที่จริงแล้ว มันเป็นคนที่จริงใจ ร่าเริง เปิดเผย ช่างเอาใจคนอื่น และไม่เคยแสดงความเห็นแก่ตัวออกมาให้ผมได้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว

“เฮ้ย ไอ้ต้า นี่ตกลงมึงเป็นเกย์จริงๆ เหรอวะ” ไอ้อาร์มถามผมขึ้นในบ่ายวันหนึ่ง ขณะที่เรานั่งทำงานรอเพื่อนคนอื่นๆ อยู่ในห้องสมุดด้วยกันแค่สองคน

ผมไม่ใช่คนแสดงออก และไม่คิดที่จะป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ใครต่อใครรู้กันจนทั่ว แต่ผมก็ไม่อยากที่จะโกหกและปิดบังเพื่อนสนิทของผมด้วยเหมือนกัน ดังนั้นไอ้ด้ากับไอ้เอจึงเป็นสองคนแรกในมหาวิทยาลัยที่รู้เรื่องนี้ ตามมาด้วยคนอื่นๆ ในกลุ่มที่เหลือกับเพื่อนนอกกลุ่มที่ผมไว้ใจได้อีกแค่จำนวนหนึ่งเท่านั้น

“เออ ก็จริงอะดิ เรื่องแบบนี้มันจะโกหกกันไปทำไมวะ แล้วที่สำคัญ ทำไมมึงถึงเพิ่งจะมาถามอะไรกูแบบนี้เอาป่านนี้วะ ไอ้อาร์ม มึงเองก็รู้มาตั้งแต่แรกๆ แล้วนะเว้ย”

“เปล่าๆ กูก็แค่สงสัยขึ้นมาไง นั่งๆ มองหน้ามึงแล้วจู่ๆ กูก็คิดขึ้นมาอะ เพราะมึงมันก็หน้าตาดี สาวๆ เค้าก็ชอบมึงเยอะอยู่ กูคิดแล้วเสียดายแทนพวกผู้หญิงว่ะ เนอะ” มันฉีกยิ้มกว้าง

“เฮ้ยยย คนอย่างกูไม่ได้มีคนมาชอบเยอะแยะเหมือนมึงหรอก ไอ้เหี้ย ใครมันจะมาชอบกูวะ กูไม่เห็นเคยได้ยินสักคนเหอะ” ผมปฏิเสธ

“มึงเข้าใจผิดแล้วว่ะ ไอ้ต้า กูอะ อาจจะมีคนเอาไปคุยกันว่ากูหล่อ หน้าตาดี อะไรอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่ง เออ กูก็ยอมรับว่ากูหล่อจริง...”

“ถุ๊ยยย”

“หึๆ แต่ว่าที่จริงแล้วไม่ได้มีคนมาชอบหรือมาจีบกูเยอะแยะหรอกนะเว้ย คนอื่นแม่งเห็นกูเป็นคนเจ้าชู้กันหมดจนไม่มีใครเข้ามาคุยกับกูแล้ว” มันก้มลงมองดินสอกดที่หมุนไปมาอยู่ในมือ

“อ้าว แล้วมึงไม่ได้เป็นแบบนั้นจริงๆ เหรอวะ” ผมพูดติดตลก

“เห็นมะ ขนาดมึงยังเข้าใจกูว่าเป็นอย่างนั้นเลย” ไอ้อาร์มเอนหลังบิดขี้เกียจ “แต่ก็โทษมึงไม่ได้อะนะ เพราะว่ากูมันก็เสือกหน้าตาดีจริงๆ นี่หว่า” มันหันมายักคิ้วให้ผม

“ยังปากดีไม่เลิกไม่เท่าไหร่ แต่ทำหน้าตากวนตีนนักนะมึง!” ผมตบหัวมันเบาๆ “รีบๆ หางานต่อได้แล้ว ไอ้ห่า เดี๋ยวไอ้พวกนั้นมาแล้วเห็นงานไม่เดิน มึงกับกูก็จะโดนด่าตายห่าเอา”

“ใครวะ จะมาด่าเรา ไอ้เอรึไง ไอ้เหี้ยนั่นมันเคยด่าคนอื่นด้วยเหรอวะ”

“มึงไม่รู้อะไรซะแล้ว ไอ้เอน่ะ มันไม่ค่อยด่าใครก็จริง แต่ถ้ามันพูดขึ้นมาล่ะก็ เจ็บกันเป็นแถบๆ นะเว้ย แต่คนที่กูกำลังพูดถึงเนี่ย คือไอ้นกกับไอ้ฝนต่างหาก”

“เออ ฉิบหาย! กูลืมว่าไอ้นกมันก็จะมาด้วยนี่หว่า!” ไอ้อาร์มดีดตัวกลับมานั่งหลังตรง และเริ่มพลิกหน้าหนังสือต่อทันที
ในตอนนั้นผมก็รู้สึกสงสัยสิ่งที่มันพูดอยู่เหมือนกันนะ มันกำลังพยายามบอกผมว่าที่คนอื่นคุยกันว่ามันเป็นคนเจ้าชู้ มีผู้หญิงมาติดเยอะแยะนั้น ไม่เป็นความจริงอย่างนั้นเหรอ เพราะถ้าไม่ใช่แบบนั้น แล้วความจริงมันเป็นอย่างไรกันแน่ล่ะ ผมคิดที่จะลองถามมันต่อดู แต่ปรากฏว่าเพื่อนๆ ของเราก็เดินเข้ามาหาเราเสียก่อน ทำให้โอกาสของผมหมดลงไป

เวลาต่อมาในตอนเย็น หลังจากที่เราแยกย้ายกันออกจากห้องสมุดแล้ว ผมกับไอ้เอก็ไปกินข้าวกันสองคนที่ร้านอาหารแถวมหาวิทยาลัย ไอ้ฝนกับไอ้นกจะไปเดินเล่นกันต่อแถวสยาม ส่วนไอ้ด้ากับไอ้อาร์มก็กลับหอของมันไป ผมที่ยังคงสงสัยเรื่องที่ไอ้อาร์มพูดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ จึงยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกับไอ้เอ

“เรื่องไอ้อาร์มน่ะเหรอวะ... กูก็ไม่ค่อยรู้เรื่องของมันเท่าไหร่หรอก”

“นั่นน่ะสิวะ มึงเองก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกันใช่มั้ยล่ะ แล้วแบบนี้ใครมันจะรู้วะ ไอ้ด้ามั้ง”

“ก็อาจจะนะ แต่ไอ้ด้าเองมันก็ไม่ใช่คนประเภทที่ชอบถามอะไรคนอื่นอยู่แล้วอีกนั่นแหละ”

“ก็จริงของมึง” ผมพยักหน้า

ไอ้เอเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม “แล้วทำไมจู่ๆ มึงถึงสงสัยเรื่องของไอ้อาร์มมันวะ ไอ้ต้า”

“ไม่ใช่ว่าจู่ๆ กูก็สงสัยเว้ย คือไอ้อาร์มมันพูดแบบนี้กับกูไง กูก็เลยรู้สึกเอะใจน่ะสิ...” จากนั้นผมก็เล่าเรื่องที่ผมคุยกับมันให้ไอ้เอฟัง

“แต่ถ้าแบบนั้น มันก็พูดถูกของมันอยู่นะ” ไอ้เอตอบกลับหลังจากที่ผมเล่าจบ

“ยังไงวะ ไอ้เอ”

“ก็เรื่องที่ไม่ได้มีใครมาชอบมันมากมาย กับเรื่องที่คนมาชอบมึงยังเยอะกว่าน่ะสิวะ”

“เฮ้ย! จริงเหรอวะ กูเนี่ยนะ!”

“ก็เออน่ะสิ มึงน่ะคงไม่รู้ตัว แต่เท่าที่พวกกูรู้และได้ยินมาเนี่ย ก็มีผู้หญิงในคณะเราอยู่สี่คนแล้วนะเว้ย ที่เค้าแอบปลื้มมึงอะ ส่วนไอ้อาร์มน่ะ มีรุ่นพี่ที่ชื่อหญิงมาชอบแบบจ้องจะแดกจริงๆ แค่คนเดียวแค่นั้นเอง”

“ทำไมเป็นงั้นวะ กูนึกว่าสาวๆ จะชอบมันเยอะซะอีก” ผมสงสัย

“กูว่าก็คงอย่างที่มันบอกนั่นแหละ ว่าเพราะมันดูเป็นคนขี้เล่น เพลย์บอย ใครๆ ก็เลยได้แค่มองว่ามันหล่อดี แต่ไม่มีใครอยากเอาไง กูว่าเรื่องนี้มึงไปถามไอ้นกกับไอ้ฝนดูจะดีกว่ามั้ง ยังไงพวกมันก็เป็นผู้หญิง คงให้คำตอบที่ดีกว่ากูอะว่ะ”

“เออ ก็จริงของมึง งั้นสรุป มึงคิดว่าไอ้อาร์มไม่ใช่คนเจ้าชู้จริงๆ เหรอวะ สรุปคือมันไม่ใช่คนเจ้าชู้หรอกเหรอวะเนี่ย กูจำได้ว่ากูได้ยินเค้าพูดกันมาตั้งแต่ก่อนที่จะรู้จักมันอีกนะ”

“คนมันจะพูด มันก็พูดกันไป” ไอ้เอตอบพร้อมกับรวบช้อนส้อมอย่างเรียบร้อย “แต่เท่าที่กูรู้ กูก็ยังไม่เคยเห็นไอ้อาร์มมันควงใครอยู่นะ มันอาจจะเป็นคนอัธยาศัยดีก็จริง แต่คนที่มันจริงจังด้วย กูก็ยังไม่เคยได้ยินหรือเห็นว่ามีสักคน สิ่งที่กูรู้มาก็มีแค่มันเคยคบกับแฟนเก่าของมันมาตั้งแต่ม. 4 เท่านั้นเอง”

“ม. 4 เหรอวะ!” ผมตกใจ “งั้นมันก็คบกับแฟนมันมาตั้ง 3 ปีเลยอะดิ”

“ก็งั้นแหละ เพราะงั้นกูว่ามันก็อาจจะไม่ใช่คนเจ้าชู้อะไรอย่างที่ข่าวลือว่าก็ได้มั้ง ใช่มั้ยล่ะ”

“แล้วทำไมมันถึงเลิกกันล่ะวะ มึงรู้รึเปล่า”

“กูก็ไม่รู้ถึงขนาดนั้นหรอกเว้ย กูก็บอกไปแล้วไงว่ากูเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องของมันเท่าไหร่หรอก”

และแล้ว ในที่สุดบทสนทนาของเราก็จบลงแค่ตรงนั้น เมื่อไอ้เอเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องรายงานของเรากันแทน
จะบอกว่าผมเป็นคนช่างสงสัยก็ได้นะ เพราะผมก็รู้สึกสนใจอยากรู้เรื่องของไอ้อาร์มมากจริงๆ อาจจะเป็นเพราะว่ามันเพิ่งเข้ากลุ่มเรามาทีหลังคนอื่นก็ได้ล่ะมั้ง ในตอนนั้นผมถึงยังไม่ได้สนิทกับมันเหมือนอย่างที่ผมสนิทกับไอ้เอและไอ้ด้า และเท่าที่ฟังดูจากไอ้เอแล้ว ดูเหมือนว่ามันเองก็คงจะยังไม่ได้รู้จักไอ้อาร์มดี ไม่ต่างจากผมสักเท่าไหร่

หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: iota ที่ 06-11-2011 14:32:04
มาแล้ว love is...(3) :m4:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 06-11-2011 14:37:01
หลังจากที่พวกเราใช้ห้องสมุดเป็นสถานที่นัดรวมพลทำรายงานด้วยกันมาได้ราวๆ อาทิตย์หนึ่ง ไอ้อาร์มก็เสนอให้พวกเราไปรวมกลุ่มทำรายงานที่บ้านของมันแทน เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องติดปัญหาทั้งเรื่องเวลาเปิดปิดของห้องสมุด ของกิน ความสะดวกสบาย สถานที่ที่ไม่เป็นส่วนตัว อินเตอร์เน็ตที่ช้าจนน่าหงุดหงิด และอื่นๆ อีกมากมาย เพราะว่าหอของมันกับไอ้ด้าก็คงจะแคบเกินไป โต๊ะและเก้าอี้ก็มีไม่พอ แถมพวกมันยังบอกว่าอินเตอร์เน็ตที่นั่นก็ล่มบ่อยมากอีกต่างหาก แต่ถ้าไปบ้านของมันแทน นอกจากสถานที่จะดีกว่าแล้ว มันยังพูดติดตลกว่าที่บ้านมันมีของกินอยู่เยอะแยะชนิดที่กินกันยังไงก็ไม่หมดรอพวกเราอยู่ด้วย เราไม่ต้องเสียเงินซื้ออะไรเพิ่มเติมอีกเลย ซึ่งมันจะเป็นคนขับรถรับส่งให้แก่พวกเราทุกคนเอง มันถึงขนาดเสนอให้ผมกับไอ้เอนอนที่บ้านของมันได้ด้วยซ้ำถ้าหากว่าจำเป็น แต่ไอ้ฝนกับไอ้นกที่เป็นผู้หญิงก็คงจะไม่สะดวกเรื่องต้องค้างคืนอยู่แล้ว รวมไปถึงไอ้ด้าที่ต้องสอนพิเศษในวันศุกร์กับเสาร์ก็จะไม่สามารถมาร่วมทำงานกับพวกเราได้ด้วยเช่นเดียวกัน

ตอนแรก ผมกับไอ้เอก็รู้สึกเกรงใจมันมากอยู่เหมือนกัน แต่ว่าไอ้อาร์มก็ยืนยันกับพวกเราว่าบ้านของมัน ทั้งพ่อ แม่ และน้องชายของมันต้องพร้อมและยินดีต้อนรับพวกเราแน่นอน

“พวกมึงไม่ต้องห่วงหรอก พ่อแม่กูใจดีจะตายห่า” มันบอกกับพวกเรา “บ้านกูอะ อารมณ์ดีกันทั้งบ้านอยู่แล้ว พวกมึงไม่ต้องเกรงใจเลย ดีซะอีก กูจะได้พาเพื่อนๆ ไปให้พ่อแม่รู้จักด้วยสักที พ่อกับแม่กูเค้าก็เคยเจอแค่ไอ้ด้าคนเดียวตอนเค้าไปหากูที่หอแค่นั้นเอง”

“แล้วพวกกูเป็นผู้หญิงสองคนแต่ไปถึงบ้านมึงเนี่ย พ่อกับแม่มึงเค้าจะไม่เข้าใจผิดเหรอวะ ไอ้อาร์ม” ไอ้ฝนถาม

“ไม่ต้องห่วงหรอก ไอ้ฝน เพราะพ่อแม่กูเค้ารู้จักลูกชายเค้าดีพอว่ากูไม่มีทางคิดอะไรกับมึงแน่นอน” มันหัวเราะ

“อีเหี้ย! คนอย่างกูมันไม่สวยไม่น่าเอาตรงไหนวะ!”

“ก็ทุกตรงนั่นแหละ!” ทั้งผมและไอ้อาร์มพูดขึ้นพร้อมกัน

“และที่สำคัญ มึงก็ไม่ได้ไปนอนบ้านกูเหมือนไอ้สองคนนี้สักหน่อย เดี๋ยวเย็นๆ กูจะมาส่งพวกมึงที่หอเอง ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้ากูจะห่วงน่ะ กูก็ห่วงแค่อย่างเดียวว่ามึงจะมาชอบน้องชายกูเข้ารึเปล่าน่ะสิวะ ไอ้อ้วนแม่งยิ่งหน้าตาดีๆ อยู่ด้วย”

“เหรอๆ น้องชายมึงหล่อเหรอวะ ไอ้อาร์ม” ไอ้นกถามขึ้นทันที

“ก็หน้าคล้ายๆ กูนั่นแหละมั้ง แต่ถึงไงก็ยังคงหล่อน้อยกว่ากูอยู่ดีอะว่ะ” มันหัวเราะ ก่อนจะหันมาหาผม “แต่ไม่แน่นะเว้ย ไอ้อ้วนมันอาจจะสเป๊กไอ้ต้าก็ได้นาาาา”

“ครวยเถอะ ไอ้เชี่ยอาร์ม กูไม่สนใจเด็กหรอกนะ และที่สำคัญ มึงรู้รึไงว่าสเป๊กกูเป็นแบบไหนน่ะ”

“กูจะไปรู้ได้ไงล่ะวะ” มันยังคงหัวเราะอยู่

“แล้วทำไมมึงพูดเหมือนน้องมึงเป็นเกย์เลยวะ ไอ้อาร์ม” ไอ้เอถาม

“เปล่าๆ ไอ้เชี่ยอ้วนมันไม่ได้เป็นเกย์หรอก..... หรือมันเป็นกูก็ไม่รู้อะว่ะ เพราะกูก็ไม่เคยเห็นมันคุยกับผู้หญิงคนไหนสักคน แต่ก็ไม่น่าจะเป็นหรอกนะ ไอ้เหี้ย แม่งบ้ากีฬาจะตายห่า ถ้าแม่งเป็นเกย์กูว่าก็คงจะตลกดีอะว่ะ”

“แล้วมึงล่ะ ไอ้ด้า” ไอ้เอหันไปหาไอ้ด้าที่นั่งเงียบ เอาแต่ยิ้มน้อยๆ อยู่คนเดียว “มึงไปไม่ได้นี่หว่า ตกลงมึงเลื่อนสอนไม่ได้จริงๆ ใช่มั้ยวะ”

“ไม่ได้ว่ะ ขอโทษจริงๆ เว้ย แต่ไม่เป็นไรหรอก พวกมึงไปกันเหอะ จะให้กูทำงานอะไรส่วนไหนก็บอกกูไว้ก็แล้วกัน และยังไงตอนเย็นหลังจากกูกลับจากสอนแล้ว กูออนเอ็มคุยกับพวกมึงไปด้วยทำงานไปด้วยก็ได้”

“ถ้างั้นสรุปว่า พรุ่งนี้กูมารับพวกมึงสี่คนที่คณะนะ เก้าโมงเช้า ห้ามสาย ห้ามเบี้ยว โอเค๊” ไอ้อาร์มพูดพร้อมกับเก็บรวบรวมสิ่งของบนโต๊ะลงกระเป๋า “แล้วมึงสองคน อย่าลืมเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วยล่ะ ผ้าเช็ดตัวมีให้ใช้ แต่กางเกงในไม่มีการขอยืม”

“เออออออ กูรู้แล้วน่ะ!”

“โอเค แล้วเจอกันพรุ่งนี้เช้าเว้ย กูรีบกลับบ้านไปเก็บห้องก่อน พวกมึงก็อย่ากลับกันดึกนักแล้วกัน” ไอ้อาร์มลุกขึ้นยืนก่อนจะโบกมือบอกลาพวกเราแล้วจึงเดินจากไป

แต่ปรากฏว่าในคืนนั้น ไอ้เอดันโทรมาบอกผมว่ามันคงไปค้างที่บ้านของไอ้อาร์มกับผมด้วยไม่ได้ เพราะว่ามันมีปัญหาเรื่องที่บ้านนิดหน่อย ทำให้ต้องกลับมาจัดการสะสางธุระให้เสร็จ ซึ่งผมก็ไม่ได้เซ้าซี้ว่ามันมีปัญหาเรื่องอะไรกันแน่ เพราะผมพอจะรู้นิสัยมันดีว่าถ้าหากมันอยากจะให้ผมรู้แล้วล่ะก็ มันคงจะบอกออกมาเองเลยมากกว่า

“อ้าว ไอ้เอ! มึงไปนอนไม่ได้เหรอวะ!” ไอ้อาร์มโวยขึ้นเล็กน้อยในวันรุ่งขึ้น “ไอ้เหี้ยยย มึงผิดสัญญานะเนี่ยยยย”

“ขอโทษทีว่ะ น้องชายกูแม่งเสือกไปสร้างเรื่องกับเพื่อนมันน่ะสิ แล้วอากูเค้าก็ไม่ค่อยจะพอใจ กูเลยต้องอยู่บ้านว่ะ”

“เออ ว่าแต่เรื่องใหญ่มากมั้ยวะ ไอ้เอ” ผมถาม

“ไม่หรอกว่ะ แต่กูก็ต้องดูแลน้องกูอะ ไม่อยากให้แม่งทะเลาะกัน”

“แบบนี้กูไม่นอนด้วยก็ได้นะเว้ย ไอ้อาร์ม กูเกรงใจว่ะ”

“ไม่ได้!” มันรีบปฏิเสธเสียงแข็ง “กูอุตส่าห์จัดห้อง และแม่กูเค้าก็อุตส่าห์เตรียมทำกับข้าวมื้อใหญ่แล้ว เพราะงั้นยังไงมึงก็ต้องรับผิดชอบแทนไอ้เอด้วยเลย ไอ้เชี่ยต้า”

“นี่ๆ แล้วสรุปวันนี้น้องชายของแกอยู่บ้านมั้ยวะ ไอ้อาร์ม” ไอ้ฝนถาม

“อยู่ ทำไมวะ”

“เปล่า กูก็แค่ถามดูเฉยๆ”

“อีนี่คันล่ะสิ จ้องจะแดกน้องชายอีอาร์มมันใช่มั้ยล่ะ!”

“อะไร อีนก! เดี๋ยวกูตบเลย อีนี่พูดจา!”

“พอๆๆ พวกมึงจะทะเลาะเหี้ยอะไรกันตั้งแต่ยังไม่ขึ้นรถวะเนี่ย” ไอ้อาร์มหัวเราะเบาๆ “เอ้าไปๆ ขึ้นรถๆ จะได้รีบไปทำงานกันสักที”

ตอนที่อยู่ในรถ ผมก็นึกกังวลอยู่นิดหน่อย ว่าไอ้อาร์มมันจะคิดอะไรเรื่องที่ผมมานอนบ้านของมันคนเดียวหรือเปล่า แต่ทว่ามันก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ออกมาเลย มันยังคงคุยเล่น เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ และตอบคำถามเกี่ยวกับครอบครัวของมันให้พวกเราฟังไปตามประสา

พวกเรามาถึงบ้านของมันตอนสิบโมงกว่าๆ และหลังจากที่เราลงจากรถแล้ว ไอ้อาร์มก็พาเราเข้าไปไหว้พ่อกับแม่ของมันในบ้าน ก่อนจะพาขึ้นไปนั่งทำงานบนห้องของมันกัน

เมื่อพวกเรานั่งทำงานกันจนถึงเวลาเที่ยงกว่า คนรับใช้บ้านมันก็มาเคาะประตูเรียกให้เราลงไปกินข้าวกลางวันพร้อมกับครอบครัวของมันที่ชั้นล่าง และในที่สุดพวกเราก็ได้เห็นหน้าของไอ้อ้วนหรือไอ้ออกัส น้องชายของไอ้อาร์มมันเสียที ซึ่งน้องมันก็หน้าตาดีอย่างที่ไอ้อาร์มบอกจริงๆ นั่นแหละ และถึงแม้ไอ้อาร์มจะบอกว่าน้องมันกับมันหน้าคล้ายกัน แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าไอ้อาร์มหล่อกว่าอยู่ดี

ระหว่างกินข้าวกลางวัน พวกเราทั้งสี่คนก็ได้เห็นกันวันนั้นแหละว่าครอบครัวของไอ้อาร์มนี่เป็นครอบครัวตัวฮาจริงๆ โดยเฉพาะน้องชายของมันที่ทั้งตลก ทั้งร่าเริง พูดเก่ง และยังกวนโอ๊ยยิ่งกว่าพี่ชายของมันไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า ทำให้ผมรู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้ขึ้นมาทันที แต่ผมก็ไม่ได้คิดกับน้องมันเกินเลยหรอกนะ เพราะก็อย่างที่ผมเคยบอกมันไปนั่นแหละว่าผมไม่ได้รู้สึกสนใจคนที่อายุน้อยกว่าหรอก ผมชอบคนอายุเท่าๆ กัน หรือแก่กว่านิดหน่อยมากกว่า

“น้องชายมึงน่ารักว่ะ ไอ้อาร์ม” ไอ้ฝนพูดขึ้นหลังจากที่พวกเรากลับขึ้นมาบนห้องแล้ว

“ใช่ๆๆ แต่แม่งกวนตีนกว่าพี่มันร้อยเท่าได้อะ มึงคิดดูดิว่ามันกล้าเรียกกูว่า ‘ป้า’ อะ!! กรี๊ดดดดด!!” ไอ้นกกรีดร้อง “น้องมึงมันเพิ่งจะอยู่ม. 4 ใช่มั้ยวะ ทำไมมันปากดีแบบเนี้ย!”

“ฮ่าๆๆ เออ ไอ้เชี่ยอ้วนมันเป็นเด็กพูดเก่งแล้วก็อารมณ์ดีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่จริงๆ มันแอบดื้อเงียบนะเว้ย”

“ไม่เหมือนพี่มันใช่มะ ที่แม่งดื้อแสดงออก ดื้อเสียงดังมาตั้งแต่เด็กอะ” ผมแซว

“ครวยเถอะ ไอ้ต้า กูออกจะว่านอนสอนง่าย” มันหัวเราะ

“เชื่อก็เหี้ยแล้วมึง เมื่อกี้แม่มึงยังเพิ่งบอกอยู่หยกๆ ว่าตอนม. ปลายมึงติดเพื่อนจะตายห่าอะ”

“แถมยังเจ้าชู้ด้วย” ไอ้ฝนพูดเสริม

“โอ๊ยยยยยย! พวกมึงนี่เคยมองกูในแง่ดีกันมั่งมั้ยวะเนี่ย! พอๆๆ มาทำงานได้แล้ว เดี๋ยวพอพวกมึงกลับกันไปแล้วก็ไม่เสร็จหรอก ยังไงวันนี้ก็เอาให้ได้เยอะที่สุดก่อนก็แล้วกัน และเดี๋ยวตอนกลางคืนกูกับไอ้ต้าจะช่วยกันทำต่อเท่าที่ได้เอง”

“แหมมมม เว้ยยย ไอ้อาร์ม กูเพิ่งจะเคยเห็นมึงเอาการเอางานโคตรๆ ก็วันนี้นี่แหละวะ” ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ

“กูอะ เอาการเอางานมานานแล้วเว้ยย แต่กูแค่ไม่แสดงออก ฮ่าๆๆ” มันหันมายักคิ้วให้ผมแล้วยิ้มที่มุมปากน้อยๆ
ผมส่ายหน้าเบาๆ อดคิดในใจไม่ได้ว่ามันเป็นคนที่ดูกะล่อนแต่ก็มีเสน่ห์จริงๆ นั่นแหละ

หลังจากนั้นพวกเราก็ทำงานกันต่อจนกระทั่งถึงห้าโมงเย็น ซึ่งเพื่อนของเราสามคนที่เหลือก็ได้เวลากลับกันแล้ว ตอนแรกผมก็จะนั่งรถไปส่งพวกมันที่มหาวิทยาลัยกับไอ้อาร์มด้วยอยู่หรอก เพื่อที่ว่าขากลับมันจะได้มีเพื่อนนั่งรถกลับมาด้วย แต่มันก็ยืนยันว่าให้ผมรออยู่ที่บ้านจะดีกว่า เพราะว่ามันจะต้องไปทำธุระที่อื่นต่ออีกนิดหน่อย

“ไม่เป็นไรหรอกเว้ย ถ้าเบื่อมึงก็นั่งดูทีวีอยู่ในห้องกูไปนั่นแหละ หรือจะไปนั่งคุยเป็นเพื่อนแม่กูอยู่ข้างล่างก็ได้” ไอ้อาร์มพูดกับผมก่อนที่มันจะขึ้นรถไป

“ไอ้เหี้ย กูเกร็งนะเว้ย ให้ไปคุยกับแม่มึงอะ มันเขินๆ ชอบกลว่ะ”

“มึงไม่ต้องเกร็งหรอกน่า ทำตัวตามสบายเว้ย มึงเป็นคนน่ารักออก ไอ้เชี่ยต้า แม่กูเค้าก็ชอบมึงเหอะ”

ผมรู้สึกเขินขึ้นทันที “จริงดิ แม่มึงเค้าพูดแบบนั้นจริงๆ เหรอวะ แล้วแม่มึงเค้าพูดตอนไหนวะ กูไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

“เปล่า ยังไม่ได้พูดหรอก แต่กูคิดว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้นไง เอาน่าาาาา ทำตัวตามสบายเว้ย เดี๋ยวพอกูส่งไอ้พวกเหี้ยนี่เสร็จ รีบทำธุระเสร็จแล้ว กูจะรีบกลับมาหามึงเลย โอเคปะ” มันตบบ่าผมเบาๆ พร้อมกับยักคิ้วข้างขวาหนึ่งที ก่อนจะเข้าไปนั่งในรถแล้วปิดประตูลง

“นี่ๆ ไอ้ต้า” ไอ้ฝนเลื่อนกระจกรถลงแล้วชะโงกหน้าออกมาพูดกับผม “คืนนี้มึงอย่าแอบย่องเข้าห้องน้องอ้วนนะเว้ย”

“ไอ้เหี้ยยย!” ผมชูนิ้วกลางให้พวกมันที่กำลังหัวเราะชอบใจกันอยู่ จากนั้นรถของไอ้อาร์มก็เคลื่อนตัวออกจากบ้านไป

ผมเดินกลับเข้าไปในบ้านแล้วขึ้นไปนั่งค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตรอไอ้อาร์มอยู่บนห้องต่อ หลังจากที่ผมเริ่มต้นทำงานได้แค่ไม่กี่นาที เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ผมจึงลุกออกจากโต๊ะไปเปิดประตูออกอย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก

“อ้าว พี่ต้า แล้วไอ้อาร์มกับพี่คนอื่นๆอะ ไปกันหมดแล้วเหรอ” ไอ้อ้วน น้องชายของไอ้อาร์มถามพลางชะโงกหน้าเข้ามาในห้อง

“โถ่เอ๊ยยย ไรว้าาาาาา แม่งไปไม่บอกเลย”

“ทำไมอะ อ้วนจะเอาอะไรรึเปล่าล่ะครับ มีอะไรรึเปล่า”

“เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอกพี่ กัสแค่จะเข้ามาถามอะไรมันนิดหน่อยอะ แล้วก็จะเอาเสื้อกัสคืนจากมันด้วย แต่รอให้มันกลับมาก่อนก็แล้วกัน ไม่อยากไปรื้อตู้มันอะ เดี๋ยวแม่งบ่นเอาอีก”

“อ่อออ โอเคๆ ว่าแต่ว่า นี่พี่ควรจะเรียกเราว่าอะไรดีล่ะเนี่ย จะให้เรียกว่า อ้วน หรือว่า กัส ดี”

“เรียกอะไรก็ได้พี่ เรียกอ้วนตามไอ้อาร์มก็ได้ เพื่อนกัสที่โรงเรียนส่วนมากก็เรียกว่าอ้วนเหมือนกัน”

“แล้วว่าแต่ทำไมพ่อกับแม่เราเค้าต้องตั้งชื่อให้เราสองชื่อด้วยล่ะ ตอนนั้นตกลงกันไม่ได้รึยังไง”

“เปล่าหรอกพี่ ก็แค่พ่ออยากให้ชื่อออกัสตามเดือนเกิด ส่วนแม่ดันอยากให้ชื่ออ้วนอะ เพราะเรียกง่ายดี และสงสัยตอนเด็กๆ กัสคงจะอ้วนกลมน่ารักถูกใจเค้าล่ะมั้ง”

“อ๋ออออ” ผมพยักหน้า

“แล้วว่าแต่พี่ทำไรอยู่อะเนี่ย ทำไมไอ้อาร์มมันปล่อยให้พี่อยู่คนเดียวแบบนี้ได้อะ แม่ง ไม่ไหวเล้ยยย”

“มันบอกว่าพอไปส่งพวกนั้นเสร็จแล้วมันจะไปธุระต่อน่ะ ไปหาเพื่อนหรืออะไรสักอย่างอะมั้ง พี่ก็ไม่รู้มันเหมือนกัน”

“อ๋ออออ งั้นสงสัยมันต้องไปหาพี่นิ้งแน่ๆ เลยว่ะ”

“ใครวะ แฟนมันเหรอ”

“โอ๊ยยยย ไม่ใช่หรอกพี่ ถ้าใช่ก็ดีอะดิ”

“อ้าว ทำไมอะ”

“เรื่องมันยาวว่ะพี่ จะยืนคุยกันแบบนี้ก็ยังไงๆ อยู่ ไปๆ เราเข้าไปนั่งคุยในห้องมันดีๆ กันดีกว่า” ไอ้อ้วนผลักประตูออกแล้วเดินสวนผมเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของไอ้อาร์ม “มาๆ ปิดประตูแล้วมาคุยกันพี่ ไม่ต้องเกรงใจ”

ผมหัวเราะเบาๆ ดูท่าทางเด็กคนนี้มันจะเป็นเด็กช่างพูดและอารมณ์ดีกว่าที่ผมคิดเยอะทีเดียวนะเนี่ย

“ถ้าพี่เข้าใจไม่ผิด รู้สึกว่าไอ้อาร์มมันจะเคยมีแฟนแล้วเพิ่งเลิกกันไปไม่นานนี้ใช่ปะ ก็คือคนชื่อนิ้งคนนี้น่ะเหรอ”

“ไม่ช่ายยยยย ไม่ใช่ๆ พี่ แฟนเก่าไอ้อาร์มอะ ชื่อพี่ตุ๊กตา หมายถึงคนที่คบกันจริงๆ จังๆ ตั้งแต่มันอยู่ม. 4 นั่นใช่ปะ”

“ก็คงงั้นมั้ง แล้วมันมีคบแบบไม่จริงจังด้วยเหรอวะ”

“ก็พูดยากว่ะพี่ คือไอ้อาร์มมันก็หล่อไง พูดเก่ง คารมดี สาวๆ ก็ติดมันเยอะอะ แต่มันก็คบกับพี่ตุ๊กตาคนเดียวมานานนะ เว้นแต่ก็แบบ เออ มีทะเลาะกันบ้าง คบๆ เลิกๆ บ้างตามประสาอะ ส่วนไอ้เรื่องที่มันไปกิ๊กๆ กับใครระหว่างที่งอแงๆ กัน มันก็คงมีบ้างแหละมั้ง อันนี้กัสก็ไม่รู้มันเหมือนกัน มันไม่ค่อยเล่าให้ฟังหรอก นานๆ ทีก็จะเห็นมันบอกไปดูหนังกับ ‘เพื่อน’ สองคนบ้างไรบ้าง แต่ก็นานๆ ทีจริงๆ น่ะนะ”

“อ้าว แล้วคนชื่อนิ้งที่พูดมาเมื่อกี้อะ มันยังไง” ผมสงสัย

“อ๋อออ คือพี่นิ้งอะ เป็นคนที่มันชอบมากกกก!! ชอบมาตั้งแต่ก่อนคบพี่ตุ๊กตาอีก แต่เค้าไม่ได้ชอบมันไง แล้วแม้แต่ตอนที่มันคบกับพี่ตุ๊กตา มันก็ยังชอบพี่นิ้งอยู่เลย ตอนนี้ก็ยังชอบ ไม่รู้ว่ะพี่ คงอารมณ์แบบ ‘รักมาก แต่ไม่ได้ครอบครอง’ ล่ะมั้ง”

“เฮ้ยยยย มันเป็นไปได้เหรอวะ ที่คนเราจะรักใครสองคนพร้อมๆ กันอะ”

“ก็เป็นไปแล้วนี่ไงพี่” ไอ้อ้วนยักไหล่

“หืมมมม...”

“โอ๊ยยย ถ้าให้เล่าเรื่องของพี่นิ้งนะ เล่ายังไงก็ไม่จบหรอก เพราะมันตามจีบเค้า ทำนั่นทำนี่ให้เค้าเยอะแยะตั้งแต่สมัยมันอยู่ม. 4 แล้ว แต่ประเด็นคือเค้าไม่รับรักมันไง ขนาดกัสเองยังเคยเห็นมันร้องไห้ตอนมันรู้ว่าพี่นิ้งไปคบกับคนอื่นเลยด้วยซ้ำ”

“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ ไอ้อาร์มเนี่ยนะ ร้องไห้เพราะเรื่องผู้หญิง” ผมรู้สึกประหลาดใจ เพราะภาพของไอ้อาร์มที่ต้องเสียน้ำตาเพราะโดนผู้หญิงหักอกนี่ช่างดูไม่เข้ากับสิ่งที่ผมและคนอื่นๆ ในคณะเห็นเลยแม้แต่นิดเดียว

“ช่ายเลยพี่ กว่ามันจะคบกับพี่ตุ๊กตาก็ปาไปตอนจะจบม. 4 เทอม 2 แล้วนู่นแน่ะ”

“แล้วคนชื่อนิ้งนี่เค้ารู้มั้ยวะ ว่าไอ้อาร์มมันชอบอะ”

“รู้ดิพี่ แถมนอกจากนั้นก็ยังรู้กันทั้งโรงเรียนด้วยแหละ” ไอ้อ้วนหัวเราะ “ไอ้อาร์มมันเรียนที่เดียวกับกัสไง ก็โรงเรียนชายล้วนอะพี่ คนรู้จักมันชอบมันก็เยอะ ทั้งเกย์ ทั้งกะเทย แล้วมันก็ดังด้วย เพราะเป็นนักดนตรีไรงี้อีก แล้วพี่นิ้งก็อยู่หญิงล้วน แถมสวยมากๆ ทั้งเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ทั้งเรียนเก่ง แล้วโรงเรียนพี่เค้ากับโรงเรียนของกัสมันก็คลิกกันบ่อยๆ อะ เพราะงั้นพอไอ้อาร์มมันไปชอบใครที คนก็เลยรู้กันไปทั่วแหละ”

“อ้อออ” ผมพยักหน้าหงึกๆ นี่ผมได้ความรู้ใหม่ๆ จากน้องมันเยอะเลยนะเนี่ย

“นี่ยังน้อยพี่ ตอนนั้นที่มันอกหักนะ โอ๊ยยย กัสนะ ทั้งสงสารมันทั้งสมเพชมัน เพราะมันอะ ถ้ารักใครขึ้นมาแล้วก็โคตรจะรักจริงเลย ตอนนั้นพ่อกับแม่ยังเป็นห่วงมันเลยด้วย กลัวว่ามันจะเกเร ซึ่งจริงๆ มันก็หลุดไปหน่อยนึงแล้วเหมือนกันแหละ ถ้าพี่อยากรู้นะ กัสเล่าให้ฟังก็ได้ สนปะล่ะ”

“จะดีเหรอวะ มันจะเป็นการละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของมันไปป่าว” ผมถามทั้งๆ ที่ก็รู้สึกสนใจอยากรู้ใจแทบขาด

“ไม่หรอกพี่ต้า เรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อย เพราะมันก็ไม่ใช่ความลับอะไรหรอก ก็อย่างที่บอกไงว่าคนในโรงเรียนเค้าก็รู้กันหมดแหละ ทุกวันนี้พวกเพื่อนๆ ของมันก็ยังแซวๆ มันอยู่บ้างเลย ไอ้อาร์มมันไม่ได้เป็นคนมีความลับอะไรเท่าไหร่หรอก และถ้าอันไหนมันเรื่องใหญ่จริงๆ เรื่องส่วนตัวจริงๆ กัสก็จะไม่เล่า แต่ให้พี่ไปถามมันเอาเอง แบบนี้โอเคปะ พี่จะได้ไม่นั่งเบื่ออยู่คนเดียวไง กัสมานั่งเผาไอ้อาร์มให้พี่ฟังเล่นๆ ดีกว่า”

“อะ ถ้าอ้วนพูดขนาดนั้นแล้วก็ จัดมาเลย!” ผมหัวเราะ

หลังจากนั้น น้องมันก็เล่าเรื่องของแฟนและผู้หญิงที่ไอ้อาร์มเคยชอบสมัยตอนเรียนมัธยมปลายให้ผมฟังอย่างละเอียดเท่าที่น้องมันจะรู้ ซึ่งผมที่นั่งฟังก็ยังอดรู้สึกทึ่งๆ กับวีรกรรมและความทุ่มเทของไอ้อาร์มที่มีต่อผู้หญิงคนที่มันรักไม่ได้ เพราะผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มท่าทางเจ้าเล่ห์ขี้เล่นของมันนั้น จะมีความรักที่บริสุทธิ์และความซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเองขนาดนี้ซ่อนเอาไว้อยู่ด้วย เพราะก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าด้วยบุคลิกและท่าทางของมันแล้ว ทำให้มันดูเป็นหนุ่มเจ้าสำอางค์พราวเสน่ห์ตัวพ่อคนหนึ่งเลยทีเดียว

พอหลังจากที่จบเรื่องของไอ้อาร์ม ผมก็นั่งคุยเรื่องอื่นๆ กับไอ้อ้วนต่ออีกพักใหญ่ ยิ่งผมได้รู้จักเด็กคนนี้มากขึ้นเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้สึกถูกชะตากับมันมากขึ้นเท่านั้น เพราะนอกจากที่มันจะเป็นคนร่าเริงและคุยเก่งแล้ว ผมคิดว่ามันยังเป็นเด็กที่มีหัวคิดมากอีกคนหนึ่งเลยด้วย

“คุยกันสนุกเลยนะพวกมึง” เสียงของไอ้อาร์มดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องที่เปิดออก “กูได้ยินเสียงหัวเราะของพวกมึงดังไปถึงข้างนอกนั่นแน่ะ”

“อ้าว กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะมึง” ผมหันไปถามมัน “แล้วธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอวะ”

“มึงไปหาพี่นิ้งมาเหรอ อาร์ม” ไอ้อ้วนถาม

“เปล่า ไปหาตุ๊กตามา” มันตอบพร้อมกับโยนกุญแจรถลงบนเตียง “ว่าแต่มึงเข้ามาทำอะไรห้องกูเนี่ย ไอ้อ้วน”

“ก็กูจะเข้ามาเอาเสื้อ แล้วก็จะมาถามมึงเรื่องรายงานของอาจารย์คนนั้นที่เราเคยคุยกันอะ”

“เออๆ กูลืมไปเลยนะเนี่ย”

“แต่ยังไม่เอาก็ได้วะ มึงคุยกับพี่ต้าไปก่อนเหอะ ทิ้งแขกไว้ให้รอคนเดียวได้ไงวะ สาดดดด เอาล่ะ กูกลับห้องก่อนละ” ไอ้อ้วนลุกออกจากเก้าอี้

“อ้าว มึงจะไปแล้วเหรอวะ”

“เออ กูมานั่งคุยเป็นเพื่อนพี่ต้าเฉยๆ ไง มึงมาแล้วกูก็ไปดิ ไปนั่งโหลดเพลงต่อดีกว่า เมาท์นานจนคอแห้งแล้ว”

“แล้วพวกมึงคุยเรื่องอะไรกันนักหนาวะ”

“ก็เรื่องของมึงกับพี่นิ้งและพี่ตุ๊กตาไง จะเรื่องอะไรซะอีก” ไอ้อ้วนหัวเราะ ส่วนผมนั่งตัวแข็ง เพราะกลัวว่าไอ้อาร์มมันจะไม่พอใจเอา

“ไอ้เหี้ยยย! บังอาจเมาท์เรื่องของกูซะงั้นเนี่ยนะ!” ไอ้อาร์มยกเท้าขึ้นทำท่าจะถีบน้องชายของตัวเอง แต่ใบหน้านั้นกลับกำลังยิ้มกว้าง “สาระแนจริงๆ เลยนะมึง ไอ้เชี่ยอ้วน!”

“เหี้ยไรล่ะ ก็มันเรื่องจริงนี่หว่า แถมเป็นหัวข้อเมาท์ที่เล่ากี่ทีก็สนุกเหอะ” ไอ้อ้วนตัวแสบหัวเราะก่อนจะเดินออกจากห้องไป
หลังจากที่น้องมันปิดประตูลงแล้ว ไอ้อาร์มก็ส่ายหน้าพร้อมกับบ่นกับตัวเองเบาๆ ถึงเรื่องความสามารถในการพูดมากของน้องชายของตัวเอง

“เฮ้ย กูขอโทษทีว่ะ ไอ้อาร์ม กูไม่ได้ตั้งใจจะสอดรู้สอดเห็นเรื่องของมึงหรอกนะเว้ย” ผมพูด

“เอ๊า คิดมากไปได้มึง กูได้ว่าอะไรมึงหรอก แล้วที่สำคัญ กูก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นความลับอะไรนักหรอกว่ะ เรื่องพวกนี้ไอ้ด้าเองมันก็รู้ เพราะกูก็เคยเล่าให้มันฟังอยู่เหมือนกัน”

“แต่ว่าไอ้ด้ามันก็รู้จากปากมึงไง แต่นี่กูดัน....”

“ก็บอกว่าไม่ต้องคิดมากไง มึงนี่เว้ย” มันเดินเข้ามาตบบ่าผมเบาๆ “แล้วไงวะ หิวข้าวรึยัง เมื่อกี้ตอนกูเดินขึ้นมา แม่กูเค้าบอกว่าอีกแป๊บนึงข้าวเย็นก็จะพร้อมแล้ว รอไหวมั้ยวะมึง”

“ไหวๆ ไม่เป็นไร กูยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่หรอก”

“แน่ใจนะ ถ้ามึงหิวมึงก็บอกได้นะเว้ย ไม่ต้องเกรงใจ หรือจะกินขนมรองท้องไปก่อนเลยก็ได้ แค่เหลือท้องไว้กินกับข้าวฝีมือแม่กูหน่อยเท่านั้นก็พอ” ไอ้อาร์มพูดพร้อมกับเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าออก “เดี๋ยวกูว่ากูจะอาบน้ำสักหน่อยว่ะ มึงอะ จะอาบน้ำก่อนเลยรึเปล่า รึจะกินข้าวก่อน”

“เดี๋ยวกูค่อยอาบก่อนนอนก็ได้ว่ะ มึงไปอาบเหอะ กูว่ากูนั่งทำงานต่ออีกหน่อยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา”

“เออๆ ดีๆ ไงฝากมึงด้วยแล้วกันเว้ย หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วเดี๋ยวกูมาช่วยทำต่อ โทษทีว่ะที่กูเสียเวลานานไปหน่อย”

“แล้วว่าแต่ตกลงมึงไปไหนมาวะ”

“ก็ไป.....” มันชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะหันมายิ้มให้ผม “เอาไว้เดี๋ยวกูค่อยเล่าให้มึงฟังตอนนอนทีเดียวก็แล้วกัน”
เมื่อเห็นว่าผมไม่ได้คะยั้นคะยอหรือพูดอะไรต่อ ไอ้อาร์มก็หยิบเสื้อคลุมอาบน้ำและเสื้อผ้าเดินออกจากห้องไป ส่วนผมก็หันกลับมาสนใจงานที่เหลือค้างอยู่ในคอมพิวเตอร์ต่อ

หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 06-11-2011 14:39:32
ผมว่าผมเป็นคนที่ค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นพอสมควรเลยนะ พอมีเรื่องอะไรที่ผมสงสัยขึ้นมา ผมก็มักจะถามจนกว่าผมจะได้คำตอบ แต่ก็ยังโชคดีที่เวลาทำงานอะไรแล้วผมจะสามารถจดจ่ออยู่กับงานนั้นๆ ได้อย่างมีสมาธิ ไม่วอกแวก นั่นคือผมสามารถที่จะบังคับตัวเองได้ในระดับหนึ่งเลยว่า เรื่องไหนที่ยังไม่ใช่เวลาคิด ผมก็จะไม่คิดถึงมันเลย ดังนั้นในระหว่างที่ผมทำงานรอไอ้อาร์มมันอยู่นั้น ผมก็ไม่ได้พะวงอยู่กับเรื่องที่มันบอกว่าจะเล่าให้ผมฟังเลยแม้แต่นิดเดียว ผมจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าจนรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ไอ้อาร์มมันเดินกลับเข้ามาในห้องแล้วนั่นแหละ

“กูอาบเสร็จแล้วนะเว้ย โทษทีว่ะ นานไปหน่อย แม่งขี้ไม่ค่อยจะออก” มันหัวเราะ

“ไอ้แสรส รายละเอียดไม่ต้องก็ได้ แม่งงง ว่าแต่....” ผมก้มลงดูนาฬิกาข้อมือ “นี่มึงอาบนานแล้วเหรอวะ มึงออกจากห้องไปตั้งแต่กี่โมงวะเนี่ย”

“ก็เกือบ 45 นาทีอะว่ะ”

“45 นาทีเลยเหรอวะ!”

“ช่ายย แต่ปกติกูก็อาบน้ำแต่งตัวนานอยู่แล้วด้วยไง” มันเดินผิวปากไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าออก “มึงก็ไปอาบน้ำได้แล้ว ไอ้ต้า”

“เออๆ งั้นมึงมาทำงานต่อจากกูหน่อยแล้วกัน” ผมกวักมือเรียกมัน

“หือออ มึงเริ่มทำสไลด์แล้วเหรอวะเนี่ย” ไอ้อาร์มชะโงกหน้าเข้ามาใกล้หน้าจอคอมพิวเตอร์

“เออ กูก็เริ่มเลือกข้อมูลที่สำคัญๆ มาใส่บ้างแล้วอะว่ะ” กลิ่นสบู่หอมอ่อนๆ จากผิวของมันลอยเข้ามาแตะจมูกของผม ใบหน้าด้านข้างของมันเน้นให้ผมเห็นว่าจมูกของมันโด่งและสวยได้รูปยิ่งกว่าที่ผมเคยคิดเสียอีก

หือออ... ทำไมจู่ๆ ผมถึงได้รู้สึกแปลกๆ แบบนี้นะ

“แล้วไง มึงจะให้กูทำอะไรบ้าง” จู่ๆ มันก็หันขวับมามองหน้าผม

ผมสะดุ้งเบาๆ แล้วรีบหันกลับไปมองที่หน้าจอทันที “เออ ก็พอมึงแต่งตัวเสร็จแล้วมึงก็มาอ่านข้อมูลที่ไอ้พวกนั้นมันหาไว้ที หัวข้อที่กูอ่านและเลือกว่าใช้ได้ กูจะเขียนบอกเอาไว้ให้แล้ว มึงก็อ่านอันที่เหลือแล้วกัน โดยเฉพาะที่มันเป็นภาษาอังกฤษอะ มึงเก่งอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ ช่วยดูให้ทีก็แล้วกัน”

“โอเค ได้ๆ เดี๋ยวกูแต่งตัวเสร็จแล้วกูจะรีบมาดูให้เลย”

“งั้นกูไปอาบน้ำก่อนนะ” ผมลุกออกจากเก้าอี้ หยิบสัมภาระของตัวเอง แล้วเดินออกจากห้องของไอ้อาร์มตรงไปยังห้องน้ำ

ผมใช้เวลาอาบน้ำแค่เพียงประมาณสิบกว่านาทีก็เสร็จเรียบร้อย เพราะผมเป็นคนที่อาบน้ำเร็วอยู่แล้ว และหลังจากที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ผมก็เดินกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง ซึ่งผมก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่ามันกำลังนั่งอ่านงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำเหมือนเมื่อตอนก่อนที่ผมจะเดินออกจากห้องไปไม่มีผิด

“อ้าวเฮ้ย ไอ้อาร์ม ทำไมมึงยังไม่แต่งตัวอีกวะ”

“กูก็นั่งอ่านงานให้มึงอยู่ไง” มันตอบโดยไม่ได้หันกลับมามองผม

“แล้วนั่งแก้ผ้าอยู่อย่างนี้เนี่ยนะ เดี๋ยวก็หวัดแดกหรอกมึง”

“ไม่แดกหรอก เพราะกูเช็ดตัวแห้งแล้ว” มันหันมาหาผม “คือกูแต่งตัวช้าไง ไหนกว่าจะทาครีมนั่นนี่อีก กูก็กลัวว่ากูจะมัวแต่ทาครีมเสริมหล่ออยู่แล้วจะไม่ทันได้ทำงานให้มึงก่อนมึงจะอาบน้ำเสร็จอะดิ เพราะมึงแม่งยิ่งอาบน้ำไวๆ อยู่”

“มึงรู้ได้ไงว่ากูเป็นคนอาบน้ำไว”

“ไอ้เอมันเคยบอกกู” มันยิ้มพร้อมกับยักคิ้วให้ผม “มาๆ มึงมาดูนี่ กูอ่านผ่านๆ ให้แล้วนะว่าอันไหนน่าจะใช้ได้อะ” มันหันกลับไปที่คอมพิวเตอร์เหมือนเดิมแล้วเลื่อนเมาส์ไปคลิกที่ไฟล์งานพร้อมกับอธิบายให้ผมฟังไปด้วย “ก็มีอันนี้ อันนี้ แล้วก็นี่ด้วย... แต่กูยังอ่านไม่จบแล้วก็ยังไม่ได้อ่านละเอียดมากนะเว้ย ก็มึงแม่งเสือกอาบน้ำไวเกินอะ”

“โอเคๆ ไม่เป็นไร งั้นมึงไปแต่งตัวก่อนเหอะว่ะ เดี๋ยวกูทำที่เหลือรอไปพลางๆ เอง”

“โอเค” มันตอบพร้อมกับลุกขึ้นยืน ส่วนผมก็นั่งลงบนเก้าอี้แทนที่มัน “ถ้าไงเดี๋ยวมึงส่งไฟล์เข้าเมลกูนะ แล้วเดี๋ยวกูนั่งเปิดอ่านในไอแพ็ดกูเองก็ได้”

“เออ”

ไอ้อาร์มเดินผิวปากไปยังตู้เสื้อผ้าอย่างอารมณ์ดี ส่วนผมก็ไม่ได้หันกลับไปสนใจมันเลยว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ แต่พอเวลาผ่านไปสักสิบนาที ผมถึงได้เห็นว่ามันก็ยังคงนั่งอยู่หน้ากระจกในสภาพเดิม

“อ้าวเฮ้ย! ทำไมมึงยังไม่แต่งตัวอีกวะ!”

“กูเพิ่งทาครีมที่หน้าเสร็จ ตอนนี้กำลังรอครีมมันซึมอยู่”

“มึงทาครีมที่หน้าเนี่ยนะ ใช้เวลาสิบนาที”

“เออสิ มึงมาดูดิ๊ว่ากูมีครีมที่ต้องทากี่ตัว สาดดด”

“เออๆ กูรู้แล้วว่าเยอะ กูรู้แล้วว่ามึงมันหล่อ ต้องดูแลหนังหน้าดีๆ ไม่งั้นจะไม่มีสาวมาเอา”

“โอ๊ยยยย ปากจัดอะ คนเป็นเกย์ปากจัดอย่างนี้ทุกคนมั้ยเนี่ย” มันทำเสียงล้อเลียน

“เดี๋ยวกูเดินไปเตะตูดให้เลย ไอ้เหี้ยนี่”

“อย่ามายุ่งกับตูดกูนะ กูหวงนะเว้ย” มันหัวเราะ

“ครวยเถอะ! เชิญมึงแต่งหน้าของมึงต่อไปเหอะ ไอ้สัตว์ กูทำงานต่อละ กูชักง่วงแล้วเนี่ย”

“แหมๆ ทำงอน ไอ้ตูด เดี๋ยวกูทาครีมอีกห้านาที แต่งตัวแป๊บเดียวก็เสร็จแล้วน่า”

“เหอ ทาครีมเหี้ยอะไรอีกห้านาทีวะ เมื่อกี้มึงเพิ่งบอกไปหยกๆ ว่าเพิ่งทาครีมเสร็จไปไม่ใช่รึไง”

“อ้าว ก็ทาผิวอีกไงมึง”

นี่แหละครับ ความสำอางของมันที่ผมเพิ่งเคยได้รู้และเจอกับตัวเป็นครั้งแรก

หลังจากนั้นเราสองคนก็ลงไปกินข้าวเย็น กลับขึ้นห้องมานั่งปรึกษาและช่วยกันทำงานอยู่อีกพักใหญ่ๆ จนเวลาผ่านไปถึงเที่ยงคืนกว่า พวกเราก็ตัดสินใจว่าควรจะถึงเวลานอนพักกันสักที

เมื่อไฟทุกดวงในห้องถูกปิดลงจนหมดแล้ว ผมกับไอ้อาร์มก็ต่างคนต่างเงียบ ไม่มีใครเริ่มพูดอะไรออกมาก่อน ผมคิดว่ามันเองก็คงกำลังเรียบเรียงสิ่งที่มันบอกผมว่าจะเล่าให้ฟังก่อนนอนอยู่แน่ๆ ส่วนผมเองที่ถึงแม้จะอยากรู้เรื่องนั้นมากแค่ไหน ก็กำลังนึกถึงเรื่องๆ หนึ่งที่รู้สึกคาใจมาตั้งแต่ตอนก่อนมาที่บ้านของมันแล้วอยู่ด้วยเหมือนกัน

“เฮ้ย” เราสองคนประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน.....
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 06-11-2011 14:44:29
ลืม สำหรับคนที่ไม่รู้จัก love is ลองอ่าน เรื่องราวของ ออกัสกับแพนด้า ได้ที่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,27818.0.html นะครับ

:)

เรื่องไม่เกี่ยวข้องกัน ไม่จำเป็นต้องอ่านต่อกันครับ อ่านเรื่องไหนก่อนก็ได้ เข้าใจเหมือนๆ กันแน่นอน
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 06-11-2011 14:48:47
อาร์มนี่แอบมีลับลมคมในนะ
แอบชอบต้ารึเปล่าเนี่ย
ทำมาเนียนชวนเค้าค้าง
 :laugh:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 06-11-2011 15:13:17
มาแล้ววววววว
เรื่องนี้จะแฮปปี้หรือเปล่าคะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 06-11-2011 15:29:16
มาลงชื่ออ่านจ้า

น้องกัสยังน่ารักเหมือนเดิม 
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 06-11-2011 15:35:57
แฮปปี้มั้ย.... ต้องลองอ่านครับ ยังไงความรักก็มีหลายรสชาติอยู่แล้วเนอะ อิอิ

แต่บอกจริงๆ ว่า ในบรรดา love is ทั้ง 3 เรื่อง ผมชอบอันนี้ที่สุดนะ แบบว่ามันโดนนนนนนนน 55555

มีเสี้ยวนึงที่มาจาก ปสก จริงของผมด้วยล่ะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 06-11-2011 17:51:16
ต่ออีก

อย่าจบเศร้านะ  อยากให้แฮปปี้

หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 06-11-2011 20:24:39
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 06-11-2011 22:33:07
เอ๋ นี่ใช่แพนด้ากับออกัส จาก love is เรื่องก่อนหรือเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 06-11-2011 23:53:25
เหมือนเรื่องนี้ น่าจะเกิดก่อน ออกัสกะแพนด้ารึป่าว
.
.
ท่าทางจะไม่เศร้า แต่ก็ไม่ได้คู่กัน หน่วงๆ !!?
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 07-11-2011 12:07:50
เข้ามาเจิมเรื่องใหม่ค่า

ว่าแต่ง. อาร์มนี่เป็นผู้ชายสำอางค์ที่สุดเท่าที่เคยเจอมาเลยนะนี่
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 07-11-2011 23:39:09
น่ารัก   มาก ๆ  ^^"   มา รอ ตอนต่อไปครับ และ มา จอง love is 3 ด้วยนะ พี่ต้น
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up 8 nov
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 08-11-2011 22:10:19
เมื่อไฟทุกดวงในห้องถูกปิดลงจนหมดแล้ว ผมกับไอ้อาร์มก็ต่างคนต่างเงียบ ไม่มีใครเริ่มพูดอะไรออกมาก่อน ผมคิดว่ามันเองก็คงกำลังเรียบเรียงสิ่งที่มันบอกผมว่าจะเล่าให้ฟังก่อนนอนอยู่แน่ๆ ส่วนผมเองที่ถึงแม้จะอยากรู้เรื่องนั้นมากแค่ไหน ก็กำลังนึกถึงเรื่องๆ หนึ่งที่รู้สึกคาใจมาตั้งแต่ตอนก่อนมาที่บ้านของมันแล้วอยู่ด้วยเหมือนกัน

“เฮ้ย” เราสองคนประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน

“อ้าว มึงจะพูดอะไรวะ” ผมหันไปถามมัน

“ไม่ดิ มึงนั่นแหละที่จะพูดอะไร” มันเองก็หันมาถามผม

“ไม่อะว่ะ กูรอได้ มึงพูดมาก่อนเหอะ”

“เออๆ คือก็ไม่มีอะไรหรอก กูแค่จะเล่าเรื่องของตุ๊กตาให้มึงฟังไง แล้วก็จะขอโทษมึงด้วยที่วันนี้กูเบี้ยวงานออกไปจนต้องทิ้งให้มึงอยู่คนเดียวอะ”

“นั่นดิ แล้วสรุปมึงไปทำอะไรมาวะ น้องชายมึงมันเล่าให้กูฟังว่ามึงยังคบกับคนนี้เป็นแฟนอยู่ใช่ปะ แล้วทำไมตอนก่อนนี้มึงถึงเคยบอกรุ่นพี่ว่ามึงไม่มีแฟนวะ ไอ้อาร์ม”

“คือกูก็ยังคบกันเป็นแฟนแหละเว้ย แต่ว่ามันก็รักๆ เลิกๆ อะ กูรู้สึกว่าบางทีเค้าก็อยากจะเลิกกับกู บางทีก็อยากจะยื้อกูไว้ อะไรยังไงกูก็บอกไม่ค่อยถูกเหมือนกัน”

“แล้วมึงรักเค้าปะวะ”

“รักสิเว้ย กูเองก็ไม่อยากเลิกหรอก กูทำใจไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะเว้ย ถ้ากูทนอะไรได้ กูก็จะทน ถ้ากูทำอะไรให้เค้าได้ กูก็จะทำให้ถึงที่สุด กูจะไม่เลิกเลยจนกว่าเค้าจะบอกว่าหมดรักกูแล้ว หรือว่ามีคนอื่นไปแล้ว อะไรแบบนั้นน่ะ”

“อือออ แล้วตกลงวันนี้มึงไปหาเค้าเรื่องไรวะ”

“ก็เค้าโทรมาหากู บอกว่าเครียด มีปัญหากับที่บ้าน กูก็เลยไปหาเค้าที่หออะ ไปนั่งฟังที่เค้าระบาย....”

“แล้วมึงอะ ได้ ‘ระบาย’ อะไรออกไปมั่งมะ”

“ครวยเหอะ! ไม่ต้องมาทำเสียงแบบนั้นเลย ไอ้สาดดด กูไม่ได้ไปมีอะไรกับเค้าเว้ย แค่ไปนั่งคุยกันเฉยๆ จริงๆ เชี่ยนี่แม่งลามกจริงว่ะ!”

“จ้าาา พ่อคนไม่ลามก พ่อคนใสซื่อบริสุทธิ์... ถุ๊ยย!” ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ

“อ้าว มึงอย่ามาทำประชดกู ความรักกูอะ ทั้งใสและทั้งบริสุทธิ์นะว้อยยยย”

“เออคร้าบบบ ถ้าอย่างนั้นแล้วระหว่างคนชื่อนิ้งกับแฟนมึงเนี่ย มึงรักใครมากกว่ากันวะ ความรักของคนไหนที่บริสุทธิ์กว่ากัน”

ไอ้อาร์มนิ่งไปเล็กน้อย “...กูรักทั้งคู่ว่ะ พูดจริงๆ กูว่ากูรักเท่าๆ กันนั่นแหละ แต่มันคนละแบบ”

“จริงอะ เอาจริงๆ นะเว้ย ไอ้อาร์ม มันเป็นไปได้ด้วยเหรอวะ การที่มึงจะรักใครสองคนพร้อมๆ กันอะ”

“ก็กูนี่ไง ที่รักคนสองคนพร้อมกัน แต่มึงต้องเข้าใจว่ามันเป็นความรักที่ไม่เหมือนกันเว้ย คนนึงกูรักแบบแฟน กูหึงหวง กูห่วงใยและต้องการให้เค้ารักกูคนเดียวเหมือนกัน ส่วนอีกคน มันเป็นความรักฝ่ายเดียวอะว่ะ กูห่วงใย กูแคร์เค้ามาก แต่กูไม่ได้ต้องการให้เค้ารักกูตอบ กูขอแค่เค้ามีความสุขก็พอ แบบเนี้ยอะว่ะ”

“มึงจะบอกว่า มึงไม่อยากได้นิ้งมาเป็นแฟนเลยสักนิดเหรอวะ”

“ถ้าเกิดว่ามันมีโอกาสหนึ่งในร้อยที่เค้าจะเลือกกูอะ กูก็ดีใจเว้ย แต่นั่นต้องหมายถึงตอนนั้นกูไม่มีใคร และเค้าเองก็รักกูจริงๆ หรอกนะ แต่คงเป็นไปไม่ได้หรอกว่ะ เพราะว่าเค้าเองก็มีแฟนอยู่แล้ว เป็นเพื่อนกูเองนี่แหละ กูเคยฝากให้เพื่อนกูดูแลเค้าไปแล้ว เพราะงั้นแค่กูรู้ว่าเค้ามีความสุขดี แค่นี้กูก็โอเคแล้วเว้ย”

“โอโหเว้ย กูไม่คิดเลยนะเนี่ย ว่ามาดผู้ชายเจ้าชู้อย่างมึง จะมีมุมแบบนี้อยู่ด้วยน่ะ”

“ครวยเถอะ ไอ้เหี้ย กูไม่ได้เจ้าชู้อะไรขนาดนั้นหรอกนะเว้ย แต่กูอะ แค่เจ้าชู้เงียบเฉยๆ ฮ่าๆๆ”

“นั่นไง กูว่าแล้ว!”

“สาดดด กูไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น กูอะรักเดียวใจเดียว แต่กูก็รู้ตัวเว้ยว่าถ้ากูจะกะล่อน กูก็ทำได้เหมือนกัน เพราะนิสัยกูมันเป็นแบบนี้อะ กูว่าคนอื่นก็คงมองว่ากูเป็นคนเจ้าสำราญ ร่าเริง ปากหวาน หน้าตาดี มีเงิน แม่งก็เลยคิดกันไปว่ากูเจ้าชู้ใช่มั้ยล่ะ แต่ก็จริงไง กูยอมรับ เรื่องนี้ต้องโทษพ่อกับแม่กูว่ะ ที่ปั๊มกูออกมาหน้าตาดีแบบนี้และยังเลี้ยงกูมาบ้าๆ บอๆ แบบนี้อะ มึงก็เห็นใช่มั้ยล่ะว่าบ้านกูแม่งก็อารมณ์ดีกันทั้งบ้าน โดยเฉพาะไอ้น้องชายกูนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย”

“เออ จริง กูยอมรับว่าบ้านมึงเป็นบ้านหรรษาจริงๆ อะวะ โดยเฉพาะน้องมึงนี่แม่งพูดเก่งเวอร์ๆ ยิ่งกว่ามึงอีก กูว่าดูแม่งเป็นเด็กที่รั่วโคตรๆ ท่าทางคนจะรักจะชอบมันเยอะนะเนี่ย”

“อ้าวๆ เอาแล้วไง มึงชักสนใจน้องกูแล้วรึไงวะ”

“ไอ้เหี้ย! ถึงกูจะเป็นเกย์ แต่กูก็ไม่ได้คิดจะเอาผู้ชายทุกคนที่อยู่ใกล้กูนะเว้ย”

“ฮ่าๆๆ กูล้อเล่นๆ กูรู้ว่ามึงเป็นคนยังไงน่า ไอ้ต้า ไม่งั้นกูก็คงไม่มาสนิทกับมึงหรอก”

“หือออ กูนึกว่ามึงจะสนิทกับไอ้ด้ามากกว่าซะอีก”

“ก็ใช่ กูสนิทกับมันก็จริง แต่ที่กูพูดเมื่อกี้กูหมายถึง ‘พวกมึงทุกคน’ ต่างหาก และที่สำคัญ ถ้าจะพูดเปรียบเทียบระหว่างไอ้ด้ากับมึงเนี่ยนะ กูว่ามึงอะ ดูเปิดเผยกว่าไอ้ด้าอีก กูอยู่หอเดียวกับมัน กูก็พอจะรู้อะว่ามันดูเหมือนจะมีความลับนิดๆ อยู่นะ แต่มึงแม่งไม่มีไง มึงมันเป็นคนซื่อๆ อะว่ะ แล้วก็ดูซื่อตรงกับความรู้สึกดี ขนาดเป็นเกย์ยังกล้าบอกพวกกูเลย”

“ก็กูไม่อยากจะโกหกเพื่อนที่กูสนิทและไว้ใจนี่หว่า...” ผมตอบ “เออ พูดถึงเรื่องนี้ กูก็มีเรื่องอยากจะถามมึงเหมือนกัน ไอ้อาร์ม”

“เรื่องอะไรวะ”

“คือ... ก็เรื่องที่กูเป็นเกย์นี่แหละว่ะ คือว่า...” ผมอึกอัก

“คืออะไรของมึงวะ ไอ้ต้า”

“ไม่รู้ดิ คือตอนแรกไอ้เอมันก็จะมานอนกับพวกเราด้วยใช่มั้ยล่ะ กูก็เลยไม่ได้คิดอะไรไง แต่นี่พอมันมาไม่ได้ กูก็เลยคิดอะว่า... ว่ามึงจะลำบากใจมั้ย ที่ต้องนอนกับกูแค่สองคนอะ”

“ลำบากใจเนี่ยนะ ลำบากใจเรื่องอะไรวะ” มันหันมามองหน้าผม “อ๋อออ ลำบากใจเพราะมึงเป็นเกย์ อะไรเงี้ยอะนะ”

“ก็... เออ ประมาณนั้นอะว่ะ”

“ไอ้ทุยเอ๊ยยยยย! กูจะไปคิดแบบนั้นทำไมวะ! กูเพื่อนมึงนะเว้ย และมึงก็เพื่อนสนิทกู กูรู้น่าว่ามึงไม่ทำอะไรแบบนั้นกับกูหรอก”

“เออ กูขอบใจมึงว่ะ”

“จะมีแต่กูนี่แหละ ที่จะทำมึง”

“เฮอะ! ทำเหี้ยอะไรของมึงวะ” ผมหันขวับไปหามันทันที

“ก็ทำแบบนี้ไง!!” ไอ้อาร์มพูดพร้อมกับกระโจนเข้ามากอดและซุกลงบนซอกคอของผม

“อ๊ากกกกก!! ไอ้เหี้ยยยย!!!”

“แบบนี้ๆๆๆ!!” มันถูหน้าไปมาและเอามือจี้เอวผมไปด้วย

“ปล่อยกู!! ไอ้เหี้ย!! ฮ่าๆๆๆ!!” ผมดิ้นอย่างคนเสียสติ

“เออ ปล่อยก็ได้” มันผละออกจากตัวของผมแล้วกลิ้งลงไปนอนที่เดิม

“มึงเล่นครวยไรของมึงเนี่ย!” ผมลุกขึ้นนั่งแล้วเหยียดขาออกไปถีบสะโพกของมัน

“อะไร หวงตัวเหรอวะ ฮ่าๆๆ” มันหัวเราะ

“ไอ้เหี้ยยยย!!” ผมยังรู้สึกขนลุกไม่หาย

“ฮ่าๆๆๆ กูแค่จะแสดงให้มึงเห็นไง ว่ากูไม่ได้คิดอะไรไม่ดีกับมึงเลย ไอ้ต้า กูอะ อยู่โรงเรียนชายล้วนมาตั้งแต่เด็กแล้ว กูชินกับการมีเพื่อนเป็นเกย์เว้ย  และที่สำคัญ กูก็เล่นแบบถึงเนื้อถึงตัวใกล้ชิดกับเพื่อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วด้วยเหมือนกัน”

“แล้วมึงต้องแสดงออกด้วยวิธีนี้รึไงวะ ไอ้เชี่ย!!”

โชคดีที่ในห้องมันมืด ไอ้อาร์มจึงไม่มีทางเห็นว่าผมกำลังเขินจนหน้าแดงมากแค่ไหน และมันก็คงไม่มีทางรู้ด้วยเหมือนกันว่าในคืนนั้นผมแทบจะนอนไม่หลับเลยแม้แต่นิดเดียว

นั่นคือครั้งแรกที่ผมได้รู้จักตัวตนจริงๆ ของไอ้อาร์ม และได้สัมผัสถึงความมีเสน่ห์ของมัน หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้สึกแปลกใจอีกเลยว่าทำไมคนถึงได้ชอบมองชอบพูดถึงมันกันนัก ทำไมใครๆ ถึงได้แอบชอบมัน และทำไม... จู่ๆ ผมถึงได้เริ่มมีความรู้สึกดีๆ ให้มันมากขึ้นเรื่อยๆ

หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up 8 nov
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 08-11-2011 22:13:07
มา นอน รอ ตอนต่อไปนะครับ ^^"
พี่ต้น.....คิดถึงจังเลย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up 8 nov
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 08-11-2011 22:16:04
คนแรก พี่ต้น น่ารักที่สุด ขอบคุณนะครับ สำหรับ love is  ดี ๆ   แบบนี้
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up 8 nov
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 08-11-2011 22:33:33
โฮะๆๆ  ตาร์เริ่มมีความรู้สึกดีๆ กับอาร์มมากขึ้นเรื่อยๆ แอบรักเพื่อนสนิท เก็บไว้มิดๆ บอกไม่ได้ 
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up 8 nov
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 08-11-2011 23:25:15
จัดว่าจะเป็น มาม่าระดับเส้นอืดแหงๆ !!!
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up 8 nov
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 09-11-2011 00:21:39
เค้าเริ่มรู้สึกดีๆกันแล้วอ่ะตัวเอง
แต่อาร์มมันก็น่ารักจริงๆนะ ผู้ชายแบบนี้อ่ั
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up 8 nov
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 09-11-2011 01:12:44
อยากรู้ว่าอาร์มมีความรู้สึกในใจอะไรแบบต้าบ้างไหมอะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up 8 nov
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 12-11-2011 09:17:44
หลังจากนั้นมา ผมก็กลายเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจให้กับไอ้อาร์มไปด้วยอีกคน เราสองคนสนิทกันมากขึ้นจนเรากล้าที่จะเล่าเรื่องราวของกันและกันแบบไม่มีความลับใดๆ อีกเลย เวลาที่มันมีปัญหากลุ้มใจอะไรเรื่องของแฟนหรือคนที่ชื่อนิ้ง มันก็จะโทรมาหาผมเป็นคนแรกๆ เสมอ และเวลาที่ผมมีปัญหาไม่สบายใจอะไร มันก็จะคอยรับฟังและให้คำปรึกษาแก่ผมได้เสมอเช่นกัน ซึ่งยิ่งผมได้รู้จักมันมากขึ้นเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งได้เห็นว่าแท้จริงแล้วมันเป็นคนที่จริงจังกับเรื่องความรักมาก ไม่สมกับบุคลิกหรือสิ่งที่คนอื่นๆ เข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวมันเลย

ในที่สุด เมื่อผมกับไอ้อาร์มสนิทกันมากขึ้น ได้ใช้เวลาไปไหนต่อไหนด้วยกันสองคนมากขึ้น ผมก็มีโอกาสได้เจอและรู้จักกับทั้งนิ้งและตุ๊กตาจนได้ในที่สุด สำหรับคนชื่อนิ้งนั้นผมก็ยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่นิสัยดีและน่ารักจริงๆ นั่นแหละ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไอ้อาร์มจะหลงรักผู้หญิงคนนี้มาได้หลายปี แต่กับตุ๊กตาแล้ว ผมกลับรู้สึกว่าถึงแม้ผู้หญิงคนนี้จะยิ้มแย้มและปฏิบัติกับผมดีมากแค่ไหน แต่เธอก็ยังคงส่งความรู้สึกไม่เป็นมิตรมาให้ผมบ้างในบางครั้ง ซึ่งผมคิดว่าอาจจะเป็นเพราะเธอรู้สึกหึงหวงในตัวของไอ้อาร์มมันก็เป็นได้ล่ะมั้ง

เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงเทอมที่สองในรั้วมหาวิทยาลัยของพวกเรา และก็เป็นเทอมที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในกลุ่มของพวกเรามากที่สุดด้วย เรื่องแรกเลยก็คือการที่ไอ้เอมันต้องเผชิญกับความเครียดที่น้องชายของมันก่อปัญหาขึ้น และปัญหาที่ว่าก็คือการที่น้องของมันดันเป็นเกย์และมีปัญหาเรื่องผู้ชายเกิดขึ้น ไอ้เอที่ถึงแม้จะยอมรับกับการมีเพื่อนเป็นเกย์ได้ กลับต้องเผชิญกับความลำบากใจเมื่อเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของมันเอง

เรื่องที่สองก็คือผมเริ่มจะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองกำลังถลำลึกไปกับความรู้สึกที่มีต่อไอ้อาร์มมากขึ้นจนเกินไป ดังนั้นผมจึงได้เริ่มเปิดใจคุยและลองคบกับรุ่นพี่ต่างคณะคนหนึ่งเพื่อที่จะได้คิดเรื่องของไอ้อาร์มให้น้อยลง ซึ่งถึงผมจะเพิ่งเริ่มคุยกับพี่เขาได้ไม่นาน แต่กลับดูเหมือนว่าปฏิกิริยาที่ได้รับตอบมาจากเพื่อนๆ ในกลุ่มของผมจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ และถึงแม้พวกมันจะไม่มีใครพูดออกมาตรงๆ แต่ผมก็พอจะรู้สึกได้อยู่ดี จนกระทั่งวันหนึ่งที่เราทุกคนกำลังกินข้าวกลางวันด้วยกันโดยมีพี่อาร์ท พี่ที่ผมเพิ่งเรียกว่าแฟนไปนั่งอยู่ด้วย...

“กูไม่ชอบมัน” ไอ้อาร์มพูดขึ้นหลังจากที่พี่อาร์ทขอตัวกลับไปก่อน

“เฮ้ยยย ไอ้อาร์ม” ไอ้ฝนส่งเสียงปราม

“อ้าว จะทำไมอะ ก็กูไม่ชอบมันจริงๆ นี่หว่า”

“ไม่เป็นไรหรอก ไอ้ฝน กูก็พอรู้สึกได้แหละว่าพวกมึงไม่น่าจะชอบพี่เค้าอะ”

“ถ้ามึงรู้แบบนั้นแล้วมึงจะยังคบกับมันอยู่ทำไมวะ” ไอ้อาร์มหันมานิ่วหน้าใส่ผมอย่างไม่พอใจ

“อ้าว อะไรวะ นี่กูจะคุยกับใคร กูต้องขออนุญาตจากพวกมึงก่อนด้วยเหรอวะเนี่ย”

“เฮ้ยยย ไอ้ต้า มึงใจเย็นเว้ย ไอ้อาร์ม มึงก็เหมือนกัน”

“ไม่เว้ย ไอ้นก กูไม่ได้โกรธอะไรเลย จริงๆ ไม่เป็นไรหรอก พวกมึงบอกมาเถอะว่ามึงไม่ชอบพี่เค้าตรงไหน”

“คือ.... พวกกูก็ไม่ได้ไม่ชอบพี่เค้าหรอกเว้ย แต่กูแค่รู้สึกว่ามันเข้ากับพวกเราไม่ได้ยังไงไม่รู้อะว่ะ แล้วกูก็....”

“คือพวกกูเคยคุยๆ กันน่ะ ไอ้ต้า ว่าดูเหมือนมึงเองก็ใช่ว่าจะเข้ากับพี่มันได้ดีแบบว่าร้อยเปอร์เซ็นต์นะเว้ย” ไอ้ฝนพูดต่อ “แบบว่า มึงงงง คือกูเห็นมึงเองก็กลุ้มๆ เรื่องที่พี่มันเที่ยวเก่ง แล้วก็มีทะเลาะกันเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่บ้างด้วยไม่ใช่เหรอวะ”

“กูรู้ว่ากูกับพี่เค้าไม่ได้จะเข้ากันได้แบบ ‘คลิก’ กันสุดๆ รักกันหวานกันปานจะกลืนอะไรขนาดนั้นหรอก แต่ของแบบนี้มันก็ปรับตัวเข้าหากันได้ไม่ใช่เหรอวะ”

“กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ...” ไอ้ฝนหันไปมองหน้ากับไอ้นก

“แล้วพวกมึงล่ะ ไอ้เอ ไอ้ด้า” ผมหันไปหาเพื่อนอีกสองคนที่นั่งอยู่ริมสุด “มึงก็ไม่ชอบพี่เค้าเหมือนกันรึเปล่า”

“กูเฉยๆ ว่ะ...” ไอ้เอตอบ “ถ้ามึงมีความสุขดี กูก็โอเค แค่นั้นแหละ”

“กูก็เหมือนกัน” ไอ้ด้าพูดต่อ “ถ้าเอาจริงๆ กูก็รู้สึกเหมือนกับที่พวกไอ้ฝนมันพูดเหมือนกันนั่นแหละว่ามึงเองก็ดูไม่ได้มีความสุขขนาดนั้น ดูมึงฝืนๆ อะ แต่ถ้ามึงอยากจะลองปรับตัว ลองให้เวลากันอีกสักหน่อย กูก็โอเค”

“แต่กูไม่โอเค” ไอ้อาร์มยังคงยืนกรานเสียงแข็ง “มันไม่ถูกชะตากูเลยว่ะ แถมกูยังไม่เห็นว่ามึงจะเข้ากับมันได้ตรงไหนด้วย กูเห็นมึงบ่นๆ ว่ามันไม่ค่อยใส่ใจมึงมาสักพักแล้วนะ ไอ้อาร์ม แล้วมึงจะทนอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เหรอวะ”

“บางทีกูก็อาจจะเรียกร้องอะไรมากจนเกินไปเองไง มึงก็ต้องเข้...”

“ไม่อะ กูไม่เข้าใจหรอก”  ไอ้อาร์มพูดขัดผม “คือมึงต้องฟังกูบ้างนะเว้ย ไอ้ต้า กูว่าไอ้เชี่ยอาร์ทอะไรเนี่ย แม่งไว้ใจไม่ได้เลยนะเว้ย ดูมันเป็นคนกะล่อนๆ อะ แถมแม่งยังดูหื่นๆ ชอบกล นี่มึงเคยมีอะไรกับมันไปรึยังวะ”

“เฮ้ยยยย! มึงถามเหี้ยอะไรเนี่ย!”

“ก็แล้วมึงเคยมีไปรึยังล่ะวะ”

“ครวยเหอะ ยังไม่มีเว้ย!”

“เออ แบบนั้นก็ดีแล้ว”

“ทำไมวะ ไอ้อาร์ม ทำไมมึงถึงได้คิดว่าพี่อาร์ทเค้ากะล่อนอะไรแบบนั้นอะ” ไอ้ฝนถาม

“ลางสังหรณ์มั้ง...” มันเบ้ปาก

“อ้าวไอ้เหี้ย! นี่มึงจะบอกว่ามึงแค่ใช้ลางสังหรณ์ตัดสินว่ากูควรจะคบหรือไม่ควรคบใครเลยเหรอวะ”

“กูเป็นห่วงมึงนะเว้ย”

“กูรู้ว่ามึงเป็นห่วงกู แต่มึงก็ต้องเคารพสิทธิ์การตัดสินใจของกูบ้างสิวะ”

“พอๆ พวกมึงสองคนพอได้แล้ว” ไอ้เอพูดขึ้น “ไอ้ต้า มึงจะคบจะคุยกับใครอะนะ พวกกูไม่มีใครว่าอะไรหรอกเว้ย มันเป็นสิทธิ์ของมึง พวกกูน่ะ ขอแค่มึงมีความสุขดีก็พอแล้ว อย่างไอ้อาร์มก็เหมือนกัน ที่มันพูดก็เพราะมันเป็นห่วงมึงแค่นั้นแหละ ส่วนมึงนะ ไอ้อาร์ม พวกกูรู้ว่ามึงเป็นคนพูดจาตรงๆ และพวกกูก็รู้ว่ามึงเป็นห่วงไอ้ต้ามันมาก แต่ มึงก็ต้องให้เวลามันด้วยเว้ย มึงต้องเคารพการตัดสินใจของมันและคอยช่วยเหลือมันสิวะ นี่มันก็เพิ่งจะคบกับพี่เค้ามาได้แค่เดือนเดียวเอง”

“เออ...” ไอ้อาร์มตอบกลับด้วยเสียงขุ่นๆ

ผมล่ะไม่เข้าใจมันจริงๆ ว่ามันจะเป็นห่าอะไรกับพี่อาร์ทนัก ทำไมมันถึงได้อคติกับพี่เขาขนาดนี้ ทั้งๆ ที่มันเองก็ใช่ว่าจะรู้จักเขาหรือได้เคยเห็นด้านดีๆ ของเขาอย่างผมสักหน่อย

มันก็จริงอย่างที่พวกเพื่อนๆ ของผมพูดว่าบางทีผมก็มีรู้สึกน้อยใจบ้าง ที่พี่เขาค่อนข้างจะติดเพื่อนจนบางครั้งดูเหมือนไม่ค่อยมีเวลาให้กับผม แต่เราเองก็เพิ่งจะคบกันได้ไม่นาน และพี่เขาเองก็บอกผมแล้วด้วยว่าเขาจะพยายามปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น อย่างเช่นในวันนั้นเขายังมานั่งกินข้าวกับพวกเราด้วยเลยใช่มั้ยล่ะ

“ไอ้อาร์มมันเป็นเหี้ยอะไรของมันวะ ทำไมมันต้องไม่พอใจขนาดนั้นด้วย” ผมพูดกับไอ้เอขณะที่เราอยู่ด้วยกันตามลำพังในตอนเย็นของวันเดียวกัน

“กูก็บอกไปแล้วไงว่ามันเป็นห่วงมึงมาก แล้วมันก็คงไม่ถูกชะตากับไอ้พี่อาร์ทจริงๆ นั่นแหละ มันก็เป็นคนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่วะ ชอบอะไรก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ มึงก็รู้ อย่าไปถือสาอะไรมันเลย”

“เรื่องนั้นกูก็รู้ แต่...” ผมเว้นช่วงไป “แต่ ไอ้เอ มึงก็รู้ใช่มั้ยล่ะว่ากูแอบชอบมันอยู่น่ะ”

“กูรู้...”

“ใช่ มึงรู้...” ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดต่อ “และมึงลองคิดดูสิวะว่ายิ่งมันทำแบบนี้ มันจะยิ่งไม่เป็นการทำให้กูรู้สึกแย่หนักเข้าไปใหญ่เหรอวะ มันทำตัวจนแทบจะเหมือนกับว่ามัน ‘หึง’ กูขนาดนั้นเลยนะเว้ย และถ้ากูไม่รู้จักที่จะลองไปคุยกับคนอื่นดูบ้าง กูจะหนี จะหลุดพ้นจากความรู้สึกที่ต้องชอบมันฝ่ายเดียวได้เมื่อไหร่ล่ะวะ”

“ไอ้ต้า บอกตรงๆ นะเว้ย ว่ากูก็ไม่ค่อยจะเข้าใจไอ้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่นักหรอก แต่กูว่ามึงเองก็เป็นคนนึงที่น่าจะเข้าใจไอ้อาร์มมันดี ไม่แพ้กับที่มันเข้าใจมึง ซึ่งถ้าต่างคนต่างก็เข้าใจและเป็นห่วงความรู้สึกของกันและกันมากแบบนั้นแล้ว ทำไมพวกมึงถึงยังจะต้องผิดใจกันอยู่ได้อีกล่ะวะ”

คำพูดของมันทำผมอึ้งไปทันที

“กูว่ามึงลองใจเย็นๆ ดูเถอะว่ะ ทั้งเรื่องของไอ้อาร์ม แล้วก็เรื่องของพี่อาร์ทด้วยเหมือนกัน...”

คืนนั้น หลังจากที่กลับถึงบ้าน ผมก็คิดถึงคำพูดของไอ้เออยู่นาน จนในที่สุดก็ตัดสินใจส่งเมสเสจไปบอกไอ้อาร์มว่า “ขอโทษ” ซึ่งหลังจากนั้นแค่ไม่กี่นาที มันก็ส่งกลับมาว่า “เหมือนกัน”

เชื่อมั้ยว่าแค่ข้อความสั้นๆ ห้วนๆ แค่นี้ก็ทำให้ผมนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียวได้แล้ว

หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของผมกับไอ้อาร์มก็กลับมาดีเหมือนเดิม พร้อมๆ กับความสัมพันธ์ของผมกับพี่อาร์ทที่เริ่มพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน ไอ้อาร์มพูดถึงเรื่องของพี่อาร์ทน้อยลง ไม่มีคำพูดแรงๆ หรือประชดประชันให้ผมได้ยินอีก และพี่อาร์ทเองก็เริ่มเที่ยวกับเพื่อนน้อยลง แถมยังแสดงความใส่ใจผมมากขึ้น ทุกอย่างดูจะเริ่มไปได้ด้วยดีซึ่งก็ทำให้ผมมีความสุขขึ้นมาก เพียงแต่ตอนนั้นผมไม่รู้ตัวเลยว่า ความสุขนั้นจะคงอยู่ได้อีกแค่ไม่นาน เพราะปัญหาที่สามของพวกเรากำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าแล้ว
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12nov
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 12-11-2011 09:43:46
น้องต้าปิ้งปลาประชดแมวแบบนี้ไม่ดีนะลูก
เดี๋ยวไอ้พี่อาร์ทมันหื่นๆขึ้นมาโดนปล้ำจะทำยังไง๊
รักเค้าชอบเค้าก็บอกไปเถอะ
ดีกว่าเสียใจทีหลังนะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12nov
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 12-11-2011 11:30:16
 :n1: :เฮ้อ: :กอด1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12nov
เริ่มหัวข้อโดย: watcharet ที่ 12-11-2011 18:35:23
ปัญหที่ว่า มันคืออะไร อย่าให้เก้อน่ะคับ คนเขียนๆๆ อยากอ่านต่อๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12nov
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 12-11-2011 22:34:24
อ่านแล้วชอบเรื่องนี้มากกว่าเรื่องของกัสกับพี่ด้านะ 
เป็นกำลังใจให้จ้า
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12nov
เริ่มหัวข้อโดย: watcharet ที่ 13-11-2011 02:16:12
เรื่องนี้ก็กำลังหนุก แต่เรื่องออกัสกะแพนด้า น่ารักมากๆ น่าจะทำเป็นเรื่องยาว อ่านไม่จุใจเท่าไหร่ อยากอ่านต่อจากนั้นอ่ะ นักเขียนช่วยแต่งเพิ่มได้ไหมเนี่ยๆ น่ารักสุดๆอ่ะ ถ้าเรื่องนี้ได้จัดพิมพ์ ขอจองเป็นคนแรกเลยน่ะ แต่ถ้าพิมพ์ไปแล้วคงเสียดายอ่ะ เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร มีแต่อ่านก็นอนอินตามบท ^^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12nov
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 13-11-2011 03:28:09
ปัญหาที่สาม ??? รอลุ้นในตอนต่อไปดีกว่า
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12nov
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 13-11-2011 03:32:17
ยังไงก็รู้สึกว่าคู่นี้.....ไม่ได้กัน .
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12nov
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 13-11-2011 15:45:02
เรื่องนี้ก็กำลังหนุก แต่เรื่องออกัสกะแพนด้า น่ารักมากๆ น่าจะทำเป็นเรื่องยาว อ่านไม่จุใจเท่าไหร่ อยากอ่านต่อจากนั้นอ่ะ นักเขียนช่วยแต่งเพิ่มได้ไหมเนี่ยๆ น่ารักสุดๆอ่ะ ถ้าเรื่องนี้ได้จัดพิมพ์ ขอจองเป็นคนแรกเลยน่ะ แต่ถ้าพิมพ์ไปแล้วคงเสียดายอ่ะ เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร มีแต่อ่านก็นอนอินตามบท ^^

ตอนพิเศษมีแถมนิดหน่อยในหนังสือแค่นั้นเองอะครับ คิดว่าคงไม่ต่อเรื่องยาว เพราะตั้งใจให้เป็นแค่เรื่องสั้นจริงๆ น่ะครับ ^_^

ปล. ปกเล่มนี้คิดว่าจะวาดเองด้วยแหละเออออ เปรี้ยวปะล่ะ 55555
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12nov
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 13-11-2011 20:53:55
ทิ้งค้างไว้อย่างลุ้น
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12nov
เริ่มหัวข้อโดย: watcharet ที่ 13-11-2011 23:44:36
ตอนพิเศษมีแถมนิดหน่อยในหนังสือแค่นั้นเองอะครับ คิดว่าคงไม่ต่อเรื่องยาว เพราะตั้งใจให้เป็นแค่เรื่องสั้นจริงๆ น่ะครับ ^_^

ปล. ปกเล่มนี้คิดว่าจะวาดเองด้วยแหละเออออ เปรี้ยวปะล่ะ 55555

เสียดายจังๆๆ อยากอ่านต่ออ่ะ แง่ๆๆๆ ชอบมากมายๆ มีสั่งจองเมื่อไหร่ จะจอเป็นคนแรกเลย คนเขียนคงจะวาดปกสวยๆ ^^ จะรอเล่มใหม่แล้วกันๆ แต่ถ้าเล่มของแพนด้ากะออกัสเหลือน่ะ ขอด้วยล่ะกันน่ะครับๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12nov
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 14-11-2011 00:07:20
ปล. ปกเล่มนี้คิดว่าจะวาดเองด้วยแหละเออออ เปรี้ยวปะล่ะ 55555

เครียดตรงนี้นี่แหละ  :laugh:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12nov
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 14-11-2011 09:14:31
เสียดายจังๆๆ อยากอ่านต่ออ่ะ แง่ๆๆๆ ชอบมากมายๆ มีสั่งจองเมื่อไหร่ จะจอเป็นคนแรกเลย คนเขียนคงจะวาดปกสวยๆ ^^ จะรอเล่มใหม่แล้วกันๆ แต่ถ้าเล่มของแพนด้ากะออกัสเหลือน่ะ ขอด้วยล่ะกันน่ะครับๆ

แพนด้ากับออกัสก็ยังมีนะครับ เหลือเพียบบบบบ ขายไม่ออก 55555
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12nov
เริ่มหัวข้อโดย: watcharet ที่ 14-11-2011 22:44:35
แพนด้ากับออกัสก็ยังมีนะครับ เหลือเพียบบบบบ ขายไม่ออก 55555
จิงอ่ะ!! อยากได้ยุพอดีๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12nov
เริ่มหัวข้อโดย: ljk_sj_lovelove ที่ 14-11-2011 22:58:57
อืมมมม กำลังเข้มข้น หวานมันส์ ได้ที่เลย

แต่อย่าขมนักเลยนะค้าาา

อยากให้คู่นี้คู่กันจริงๆน้าาา

รออ่านตอนต่อไปเน้ออ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12nov
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 15-11-2011 09:57:51
เย็นวันเสาร์ หลังจากที่ผมดูหนังกับพี่อาร์ทเสร็จ ผมก็ตัดสินใจไปนอนกับพี่เขาที่ห้องตามคำเชิญ ซึ่งแน่นอนว่าผมก็รู้อยู่แล้วว่าเขาต้องการอะไรจากผม และผมเองก็ต้องการแบบเดียวกันจากพี่เขาเช่นกัน ช่วงเวลาเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมาก็นานเพียงพอสำหรับผมแล้วที่จะช่วยพิสูจน์ว่าพี่เขาจริงจังกับผมมากพอที่เราจะสานสัมพันธ์ให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งหลังจากเรื่องในคืนนั้น ผมก็เล่าให้ไอ้อาร์มฟังเป็นคนแรกว่าผมกับพี่อาร์ทมีอะไรกันแล้ว ซึ่งมันก็ดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก แต่ผมว่ามันก็ยังเก็บความรู้สึกนั้นเอาไว้ได้ดีพอสมควรล่ะนะ

“แล้วมึงป้องกันรึเปล่า” มันถามผม

“ป้องสิวะ กูต้องป้องกันอยู่แล้ว”

“แบบนั้นก็ดีแล้ว และมันได้ทำร้ายอะไรมึงรึเปล่า บังคับมึงรึเปล่า”

“เฮ้ยย ไอ้เหี้ย กูไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะเว้ย แล้วก็ไม่ใช่หนุ่มบริสุทธิ์ด้วยเหมือนกัน มึงก็รู้นี่หว่า กูดูแลตัวเองได้ มึงไม่ต้องห่วงหรอกน่า”

“ก็ดูแลได้ให้มันจริงก็แล้วกัน ถึงกูจะรู้ว่ามึงมันเก่ง และเชื่อใจว่ามึงดูแลตัวเองได้แค่ไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากูจะต้องไว้วางใจแฟนมึงด้วยนี่หว่า”

ผมถอนหายใจเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะไม่อยากที่จะทำให้มันขัดเคืองใจอีกต่อไปแล้ว

ส่วนความสัมพันธ์ของผมกับพี่อาร์ทหลังจากที่เรามีอะไรกันแล้ว ก็ดูเหมือนจะไม่ได้แย่ลงแบบที่พวกไอ้ฝนเคยเตือนเอาไว้ว่าถ้าหากพี่เขาได้ผมแล้วเขาอาจจะเริ่มห่างเหินจากผมไป กลับกัน เขายิ่งดูเหมือนจะต้องการตัวของผมมากขึ้นอีกด้วยซ้ำ จากที่ผมเคยไปนอนที่ห้องของเขาแค่คืนเดียวในหนึ่งสัปดาห์ ก็เริ่มเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นสองถึงสามครั้ง และความสัมพันธ์นอกเหนือจากนั้นก็ยังคงเดินไปข้างหน้าได้อย่างเรื่อยๆ ถึงจะไม่ได้สมบูรณ์แบบมากมายนัก แต่ก็คงเรียกได้ว่าดีพอที่จะทำให้ผมลืมคิดเรื่องของไอ้อาร์มไปได้ในระดับหนึ่งล่ะมั้ง

แต่ทว่าเอาเข้าจริง ผมก็ไม่สามารถที่จะลืมเรื่องของไอ้อาร์มไปได้ง่ายๆ ขนาดนั้น เมื่อจู่ๆ ก็มีเรื่องของนิ้ง คนที่มันแอบชอบอยู่เข้ามาทำให้มันมีปัญหาหัวใจจนต้องเกิดอาการเครียดหนัก ซึ่งแน่นอนว่าผมก็เลยต้องเครียดตามมันไปอีกคนด้วย

ไอ้อาร์มเล่าให้ผมฟังว่านิ้งกำลังอยู่ในช่วงที่มีปัญหาใหญ่กับแฟน ซึ่งมันก็อดที่จะรู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนกับการต้องทนเห็นคนที่มันรักเสียใจไม่ได้ มันทั้งโมโหเพื่อนของมันที่ทำให้ผู้หญิงที่มันชอบมานานต้องร้องไห้ และมันก็ยังต้องรับหน้าที่คอยเป็นที่ปรึกษาให้กับนิ้งอยู่เรื่อยๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะด้วยการคุยโทรศัพท์กันทีละนานๆ หรือไปหาถึงที่บ้าน จนบางทีมันต้องกลับถึงหอดึกๆ ดื่นๆ  หรือไม่กลับเลย ซึ่งในที่สุดก็เป็นสาเหตุที่ทำให้มันเริ่มขาดเรียนในคาบเช้ามากขึ้น และเริ่มขาดส่งงานอาจารย์ในหลายๆ วิชา จนพวกผมเริ่มจะเป็นห่วง แต่มันก็ยังยืนยันว่ามันไม่เป็นไร

ที่จริงปัญหาของนิ้งกับแฟนของเธอ ซึ่งก็อย่างที่ผมบอกว่าเป็นเพื่อนของไอ้อาร์มด้วยนั้น เป็นเรื่องใหญ่โตกว่าที่ผมคิดพอสมควร เพื่อนๆ ในกลุ่มของมันต่างก็วุ่นวายและได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้กันไม่มากก็น้อยทั้งนั้น และจะว่าไปแล้วมันก็คอยเล่ารายละเอียดให้ผมฟังทุกอย่างนั่นแหละ แต่ทว่าตอนนั้นผมไม่ได้สนใจเรื่องว่าคนอื่นจะคิดอะไรยังไงมากไปกว่าความรู้สึกของมันหรอก

“พี่ว่าพี่จะถามต้ามานานแล้วว่าทำไมพักนี้ต้าดูเครียดๆ ไปนะ” พี่อาร์ทพูดขึ้นในคืนหนึ่งขณะที่เรากำลังนอนอยู่ด้วยกัน “เรื่องของไอ้อาร์มอีกแล้วล่ะสิ”

“หืออ ทำไมพี่รู้อะ” ผมถามด้วยความสงสัย

“เอ้า ปกติต้าก็เป็นห่วงเป็นกังวลเรื่องของไอ้อาร์มมากกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัวอยู่แล้ว และก่อนหน้านี้ต้าก็ยังเคยเล่าเรื่องที่ไอ้อาร์มมันมีปัญหาอะไรกับเพื่อนให้ฟังอยู่เลย พี่ก็เลยพอจะเดาได้นั่นแหละ”

ผมไม่เคยรู้สึกตัวมาก่อนเลยว่าตัวเองจะแสดงออกว่ากังวลเรื่องของไอ้อาร์มมากขนาดนี้ ผมว่ามันดูไม่ดีกับพี่อาร์ทเอาเสียเลย

“ก็ส่วนนึงอะพี่ ต้าเหี้ยมากไปปะเนี่ย ที่ทำตัวแบบนี้น่ะ”

“เฮ้ย อะไร หมายความว่ายังไง”

“ก็เวลาต้าอยู่กับพี่แล้วก็ยังทำตัวเครียดจนพี่ดูออกขนาดนี้อะ”

“ไม่หรอก พี่ไม่ได้คิดมากอะไรขนาดนั้นหรอกน่ะ”

อันนี้ผมก็รู้... ว่าเขาเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไรมากนักหรอก ไม่คิดจนบางครั้งผมยังรู้สึกน้อยใจว่าเขาดูเหมือนแต่จะคิดเรื่องของตัวเองจนไม่ได้ใส่ใจผมเลยด้วยซ้ำ

“แต่ถ้ารู้สึกผิดมากจริงๆ ล่ะก็...” เขาหันมาทำหน้าเจ้าเล่ห์ให้ผม

“อะไรๆ ดูทำหน้าเข้า เริ่มคิดอะไรทะลึ่งอีกแล้วล่ะสิ”

“ขออีกยกดิ ได้ปะ”

“นั่นไง! โหยยย ไม่ไหวแล้วพี่ คืนละยกก็พอแล้ว ต้าหมดแรงแล้วเหอะ”

“โหแม่ง อะไรว้าาาา” เขาเบ้ปาก “แม่งไม่ได้ดั่งใจเลยว่ะ”

ผมเริ่มจะรู้สึกน้อยใจ “อะไร ไหงพูดงั้นอะวะ ตัวเองขี้เงี่ยนเองต่างหากเหอะ”

“ก็ใช่อะดิ เพิ่งรู้เหรอ” เขาหัวเราะเบาๆ

จริงๆ ผมก็รู้มานานแล้วล่ะ รู้มาตั้งแต่ก่อนที่เราจะมีอะไรกันอีกด้วยซ้ำ

“นี่ ต้า คราวหลังเรามาลองทำอะไรอย่างอื่นสนุกๆ กันดูมั้ย”

“อะไรวะพี่”

“ก็ลองหา ‘ตัวช่วย’ อะไรอย่างอื่นที่จะทำให้ต้าสนุกกับพี่ได้นานขึ้น บ่อยขึ้น แล้วก็แตกได้หลายรอบมากขึ้นไง” เขาพูดพลางใช้นิ้วเขี่ยหัวนมของผมไปด้วย

“ไม่เอาพี่” ผมปัดมือของเขาออก “ถ้าพี่พูดถึงเรื่องเล่นยาอัพยานะ ต้าไม่เอาด้วยเด็ดขาด”

เขาชักสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะรีบปรับสีหน้ากลับมาเหมือนเดิม “แต่มันก็ยังมีวิธีอื่นที่ไม่ต้องใช้ยาก็ทำให้เราสนุกกันมากกว่าแบบที่เป็นๆ อยู่นี้ได้นา”

ผมกำลังจะอ้าปากตอบเขาไป แต่อะไรบางอย่างในสีหน้าของเขาที่ผมเห็น ก็ทำให้ผมต้องชะงัก “เดี๋ยวนะ ที่พี่พูดแบบนี้นี่พี่แปลว่าอาร์ทเคยเล่นยาด้วยจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย”

“ก็... มีบ้าง แต่ก็ไม่ได้เล่นมานานแล้วนะ”

ผมรู้สึกว่าหัวใจของผมมันกระตุกวูบทันที

“ว่าแต่ตกลงต้ายังไม่ได้ตอบคำถามพี่เลยนะ”

“ตอบว่าอะไรครับ”

“ต้าเคยมีอะไรกับคนอื่นนอกจากกับแฟนรึเปล่า”

ผมนิ่วหน้าด้วยความสงสัยและหวาดระแวง “ไม่พี่ ไม่เคยอะ”

“แล้วเคยมีอะไรแบบสามคนหรือแบบหมู่มั้ย”

“ไม่พี่ แล้วก็ไม่เคยคิดจะทำด้วย” ผมเผลอตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวกว่าที่ตั้งใจเล็กน้อย

“หลังจากนี้ก็ไม่เคยคิดจะลองหน่อยเหรอ...” เขาเขี่ยสะดือของผมเบาๆ

“ไม่ครับพี่! ไม่คิด” ผมผุดลุกออกจากเตียงแล้วเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ

ทันทีที่ผมปิดประตูห้องน้ำลง ผมก็ได้ยินเสียงของอะไรบางอย่างที่หล่นกระแทกลงบนพื้นทันที

“โถ่เว้ยย!!” พี่อาร์ทคำรามขึ้น

นี่มันเหี้ยอะไรกันวะ! นี่กูกำลังคบกับใครอยู่วะเนี่ย! ผมยกมือขึ้นปิดหน้าในขณะที่ภายในใจกำลังกรีดร้องด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น

“ก็ไอ้แค่เซ็กส์! มันจะตายรึไง!” เขาตะโกน “เรื่องแค่นี้ทำไมต้องเดินหนีกันด้วยวะ กูไม่เข้าใจ! ทำเป็นคุณหนูไปได้!!”

“พี่จะโวยวายทำไมเนี่ย!” ผมตอบกลับไป ก่อนจะเปิดประตูออก “ไม่กลัวคนอื่นเค้าจะได้ยินรึไง”

“แล้วต้าเดินหนีพี่ไปทำไม!” เขาเดินตรงเข้ามาหาผม “มีอะไรทำไมไม่คุยกันดีๆ ถ้าไม่ชอบก็บอกมาสิว่าไม่ชอบ!”

“แล้วที่ต้าตอบไปว่าไม่เคยคิดจะทำ มันไม่ได้แปลว่าไม่ชอบเหรอพี่ แค่นั้นพี่ไม่เข้าใจรึไง บอกตรงๆ ว่าต้ารับไม่ได้เว้ย เรื่องพวกนั้นอะ ต้ารับไม่ได้จริงๆ”

“ต้าจะจริงจังทำไมนักเนี่ยยย! มันก็แค่เซ็กส์ ได้ระบายน้ำออกก็จบแล้ว แค่สนุกๆ เท่านั้นเอง ไม่ถึงตายสักหน่อย”

“อ้ออ งั้นที่เรามีอะไรกันมาตลอดนี่ก็เป็นแค่ ‘การระบายน้ำออก’ ของพี่งั้นสิ ใช่มะ”

“มันก็ส่วนนึง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดนี่”

คำตอบของเขาทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับโดนตบหน้าเข้าอย่างจัง

“พี่รักต้านะเว้ย เท่าที่ผ่านมาต้ายังไม่รู้อีกเหรอ พี่พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองตั้งมากมายเพื่อต้าขนาดนี้ ต้ายังไม่พอใจอีกรึไง”

“นี่พี่ต้อง ‘พยายาม’ มากขนาดนั้นเลยใช่มั้ย พี่ลำบากขนาดนั้นเลยใช่ปะ โอเค! งั้นต้าขอโทษนะเว้ย ที่ทำให้พี่ไม่เป็นตัวของตัวเองอะ ต่อจากนี้พี่อยากทำอะไรก็ทำไปเลยก็แล้วกัน ไม่ต้องคิดถึงต้าแล้ว อยากจะไปเล่นยา อยากจะไปมีอะไรกับคนกี่คนก็ไปเหอะ” ผมเดินไปหยิบเสื้อขึ้นมาสวม

“นั่นต้าจะทำอะไร” พี่อาร์ทเดินเข้ามาคว้าแขนของผมเอาไว้ “พี่ถามว่าต้าจะทำอะไร!”

“ปล่อย!” ผมสะบัดแขนออก จากนั้นเราสองคนก็ยืนมองหน้ากันและกันอยู่อีกพักหนึ่ง “...ต้าว่าตอนนี้เราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วว่ะพี่ ต่างคนก็ต่างใช้อารมณ์ ต้าว่าต้ากลับบ้านก่อนดีกว่า”

พี่อาร์ทปล่อยมือออก ผมจึงเดินไปเก็บของใช้ของผมลงกระเป๋า แล้วจากนั้นก็เดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่ได้ยินเสียงคัดค้านใดๆ จากเขาอีกเลย

ในระหว่างทางกลับบ้าน ผมรู้สึกว่าหน้าของผมมันชาไปหมด แต่ทว่าหัวใจของผมนั้นกลับเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ผมทั้งช็อค ทั้งเสียใจ ทั้งตกใจ และหวาดกลัว ถึงผมจะรู้อยู่แล้วว่าพี่เขาเป็นคนเที่ยวเก่งและเซ็กส์จัด แต่ผมก็ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเคยทำอะไรแบบนั้น และแถมยังมีความคิดที่จะ ‘แบ่งปัน’ ผม คนที่เขาบอกว่ารัก ให้กับคนอื่นด้วยอย่างนั้นอีก

ถึงผมจะเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพี่อาร์ทจนผมจำต้องบอกเขาว่าให้เราห่างกันสักระยะ แต่อาการของไอ้อาร์มนั้นกลับยิ่งน่าเป็นห่วงมากกว่าผมเสียอีก เพราะจู่ๆ มันก็โทรมาหาผมในคืนหนึ่งแล้วบอกว่ามันอยากชวนผมไปกินเหล้าด้วยกันแค่สองคน ซึ่งผมรู้ได้ในทันทีเลยว่ามันต้องกำลังมีปัญหาอะไรอยู่แน่ๆ และเมื่อเรานั่งอยู่ในร้านเหล้าด้วยกันแล้ว ผมก็ได้รู้ว่าสิ่งที่ผมคิดเอาไว้นั้นเป็นความจริง

“กูจับได้ว่าแม่งมีผู้ชายคนอื่นว่ะ” ไอ้อาร์มเริ่มต้นเล่าหลังจากที่เรานั่งดื่มนั่งคุยเรื่องอื่นๆ กันไปได้ครู่ใหญ่

“ใครวะ” ตอนแรกผมก็คิดว่ามันหมายถึงนิ้ง แต่เมื่อคิดดูดีๆ แล้วถึงรู้ว่าไม่น่าจะใช่ “ตุ๊กตาน่ะเหรอวะ”

“ก็เออสิวะ และมึงรู้อะไรปะ ที่เหี้ยกว่านั้นคือนะ มันมีมานานแล้วด้วย แต่กูไม่เคยรู้เลย กูแม่งโคตรโง่เลย!”

ผมตบบ่ามันเบาๆ “มึงไม่รู้นี่เรียกว่าโง่เหรอวะ ไอ้อาร์ม กูว่าอีนั่นต่างหากที่โง่อะว่ะ มันถึงได้ทำกับมึงแบบนี้ได้น่ะ”

“หึ แต่นั่นยังไม่เหี้ยสุดนะเว้ย ไอ้ต้า มึงรู้มั้ยว่าทำไมกูถึงจับได้ว่ามันมีคนอื่น”

ผมไม่ตอบแต่มองหน้าของมันพลางยกแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นดื่ม

“กูเจอกางเกงในผู้ชายอยู่ในตู้เสื้อผ้ามันเว้ย! แล้วแม่งมีการบอกว่ากางเกงพ่อมันเว้ยเฮ้ยยย!! แม่ง! ผู้หญิงเหี้ยอะไรวะ! ตอแหลหน้าด้านๆ ได้ขนาดนี้!”

“เฮ้ย แต่มันอาจจะเป็นของพ่อมันจริงๆ ก็ได้นี่หว่า”

“ครวยเหอะ ไอ้ต้า! กางเกงในพ่อมันจะมาอยู่ในห้องของมันได้ไงวะ และที่สำคัญ พ่อแม่งตัวใหญ่ยังกะหมีขั้วโลก แต่กางเกงในที่กูเจอนี่แม่งตัวพอๆ กับกู แต่ไม่ใช่ของกูชัดๆ!” ไอ้อาร์มกระดกแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด

“เฮ้ย มึงใจเย็น ไอ้อาร์ม เดี๋ยวก็เมาตั้งแต่หัววันหรอก”

“เมาก็ให้แม่งเมาไป ไอ้เหี้ยยย! กูเบื่อว้อย!! แฟนแม่งก็เหี้ย นอกใจกู แถมนิ้งก็ยังไม่เคยเห็นกูดีอีก นี่แม่งจะไปคบกับเพื่อนกูอีกคนซะงั้น! แล้วกูล่ะวะ! ทำเหี้ยอะไรให้มันตั้งเยอะแยะเนี่ย ไม่ได้มีค่าในสายตามันเลยรึไง!”

“มึงอย่าพูดอย่างนั้น ไอ้อาร์ม มึงมีค่าในสายตากูเสมอนะเว้ย ไอ้เหี้ย”

มันหันมามองหน้าผม “ใช่ กูก็มีแค่มึงคนเดียวนี่แหละ ไอ้ต้า ที่ไม่เคยทิ้งกูเลยและยังเห็นกูดีอยู่บ้าง”

“ไม่ใช่แค่กูคนเดียวหรอก ไอ้ห่าเอ๊ยย พวกไอ้ด้า ไอ้เอ และคนอื่นๆ มันก็รักมึงมากเหมือนกันนะเว้ย”

ไอ้อาร์มไม่ตอบ แต่หันกลับไปชงเหล้าของตัวเองต่อ

“แล้วเรื่องของมึงกับไอ้... โทษทีว่ะ กูหมายถึงมึงกับแฟนมึงอะ เป็นไงมั่งแล้ววะ ยังดีกันอยู่มั้ย”

“ไม่รู้ว่ะ... แต่ตอนนี้กูเพิ่งมารู้ว่าเรามีบางอย่างที่แม่งเข้ากันไม่ได้โคตรๆ อยู่อะ กูก็เลยบอกเค้าว่าขอห่างๆ กันสักพักไปก่อนจะดีกว่า” ผมถอนหายใจ “เฮ้อออ บางทีมึงอาจจะพูดถูกทุกอย่างมาตั้งแต่ต้นแล้วก็ได้นะเว้ย ไอ้อาร์ม”

“เอาเหอะ มึงอย่าคิดมากเลย กูบอกตรงๆ ว่ากูดีใจนะถ้ามึงจะเลิกกับมันอะ แต่กูกลับเสียใจยิ่งกว่าที่ต้องเห็นมึงเศร้าใจว่ะ” มันบีบหัวไหล่ผมเบาๆ และคำพูดของมันก็ทำให้ผมถึงกับต้องอึ้ง “มึงอย่าทำหน้าแบบนั้นเลย เอ้า มาๆ ชนแก้วหน่อยเว้ย”

เมื่อคนในร้านเริ่มเยอะขึ้น เราสองคนก็เริ่มคุยกันน้อยลง และจำเป็นต้องนั่งเบียดกันมากขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ความรู้สึกที่ครั้งหนึ่งผมเคยพยายามลบมันออกไปจากใจเริ่มกลับมาวนเวียนรบกวนผมอีกครั้ง

“กูเริ่มใกล้เมาแล้วนะเว้ย แล้วมึงอะ” ไอ้อาร์มเขยิบเข้ามาตะโกนลงที่หูของผมแข่งกับเสียงเพลง

“นิดหน่อยว่ะ แต่ยังไหว มึงไหวรึเปล่า” ผมถามคำถามนี้กับมันเป็นรอบที่ร้อยได้แล้วมั้ง

“ไหวดิวะ กูยังไม่เมาเลย แต่คิดไปคิดมา พวกไอ้ด้าแม่งน่ามาด้วยกันเนอะ”

“แล้วทำไมมึงไม่ชวนพวกมันมาเล่า”

“ก็กูคิดไม่ถึงนี่หว่า ตอนนั้นกูนึกออกแค่มึงคนเดียวอะ”

ผมผงะออกแล้วมองหน้ามันแบบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

ไอ้อาร์มยิ้มให้ผมแล้วดึงคอของผมเข้าไปหามันอีกครั้ง “กูขอบใจมึงมากนะเว้ย ไอ้ต้า มึงไม่เคยทิ้งกูเลยจริงๆ”

“เออ กูรู้ กูเต็มใจอยู่แล้ว กูจะทิ้งมึงลงได้ยังไงล่ะวะ”

มันตบบ่าผมเบาๆ สองสามที จากนั้นเราก็ต่างคนต่างนั่งฟังเพลงและมองผู้คนมากมายที่แออัดกันอยู่ในร้านเล็กๆ อีกสักพัก

“กูมีเรื่องอยากบอกมึงอย่างว่ะ ไอ้ต้า กูเริ่มมึนๆ ละ กูอยากพูดก่อนที่กูจะเมา” มันชะโงกเข้ามาหาผม “กูขอบใจมึงมากจริงๆ นะเว้ย ขอบใจจริงๆ”

ผมหันไปตะเบ็งเสียงใส่หูของมันบ้าง “เออ กูรู้แล้ว มึงบอกกูไปแล้วไง”

มันส่ายหน้าแล้วดึงผมเข้าไปใกล้ “กูหมายความว่า ถึงมึงกับกูจะเพิ่งรู้จักกันได้แค่ไม่ถึงปี แต่มึงก็ดีกับกูมากมาตลอด แล้วกูก็รู้สึกสนิทและไว้ใจมึงมาก กูรู้สึกดีนะเว้ย ที่เรามีกันและกันแบบนี้น่ะ”

ผมหันขวับไปมองหน้าของมันทันที นี่ผมฟังอะไรผิดไปรึเปล่านะ

“ขอบใจที่ไม่เคยทิ้งกูนะเว้ย กูก็จะไม่มีวันทิ้งมึงไปเหมือนกัน กูสัญญา”

ผมรู้สึกอึ้งๆ “ไอ้อาร์ม นี่มึง... นี่มึงเมาแล้วใช่มั้ยเนี่ย”

“ไอ้เหี้ย!” มันหัวเราะแล้วตบหัวผมเบาๆ “ยังเว้ย!”

ผมรู้ว่าไอ้อาร์มเป็นคนที่ซื่อตรงกับความรู้สึกและก็มักจะแสดงความความรู้สึกของตัวเองออกมาให้คนรอบข้างรับรู้ตลอด มันเคยบอกพวกเราว่าเพราะมันถูกสอนมาให้เป็นแบบนี้ พ่อกับแม่ของมันจะสอนมันสองคนพี่น้องเสมอว่า
‘ถ้าหากว่ารู้สึกดีๆ กับใคร รู้สึกขอบคุณใคร ก็ให้บอกคนพวกนั้นไปเสีย อย่าปล่อยทิ้งเอาไว้ในใจแค่คนเดียว เพราะเขาจะไม่มีวันรู้ได้เลย’

แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ นี่นับว่าเป็นครั้งแรกเลยที่มันพูดอะไรกับผมแบบนี้น่ะ

เวลาล่วงเลยไปจนถึงตีสองก็ได้เวลาที่เราสองคนควรจะกลับได้แล้ว โชคดีที่ก่อนหน้านี้ผมเริ่มชะลอการดื่มของตัวเองลงแบบไม่ให้มันจับได้ เพราะผมรู้แล้วว่ามันคงจะต้องเมามากแน่ๆ และสุดท้ายก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ เพราะขนาดแค่เดินออกจากร้าน ผมยังต้องคอยช่วยพยุงมันด้วยเลย

ยิ่งเมา ไอ้อาร์มก็ดูเหมือนจะยิ่งเสียใจเรื่องของตุ๊กตากับนิ้งมากขึ้น มันไม่ได้โวยวายหรือฟูมฟายใดๆ แต่ในขณะที่เรากำลังนั่งแท็กซี่อยู่ด้วยกันนั้น มันก็พูดจาตัดพ้อน้อยใจออกมาหลายต่อหลายครั้ง ส่วนผมก็ได้แต่ปลอบมันว่าผมจะไม่มีวันทิ้งมันไปแบบผู้หญิงสองคนนั้นแน่นอน

“ขอบใจนะเว้ย ไอ้ต้า กูขอบใจมึงจริงๆ” มันพูดประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมาเป็นรอบที่พันได้แล้วมั้ง “มึงไม่เคยทิ้งกูไปเลยจริงๆ ฮึก! ไม่เหมือนไอ้สองคนนั้น แม่งงง ไม่เคยเห็นกูดีเลย กูแม่งไม่มีดีในสายตาพวกมันเลย”

“ไม่หรอก ไอ้อาร์ม มึงสำคัญสำหรับกู... สำหรับพวกกูมากเสมอนะเว้ย”

“ขอบใจเว้ย ไอ้ต้า... ฮึก! ที่รักกูมากขนาดนี้ ไม่เคยมีใครรักกูเท่ามึงเลย...”

ผมรู้สึกเจ็บแปลบข้างในอกบอกไม่ถูก มันจะรู้บ้างมั้ยนะว่า คำว่า ‘รัก’ ที่มันเข้าใจกับที่ผมรู้สึกต่อมันจริงๆ แล้วนั้นเป็นความรักคนละแบบกันเลย

“มันก็แน่อยู่แล้ว ไอ้เหี้ยเอ๊ย...” ผมพูดเบาๆ

“กูก็รักมึงเหมือนกันนะเว้ยยย ไอ้ต้า...” มันพูดงึมงำๆ ออกมา ก่อนจะหลับตาลงไป

ผมหันไปมองหน้าของมันทันที เพราะไอ้อาร์มไม่เคยพูดคำๆ นั้นกับผมมาก่อนเลย มันอาจจะเคยพูดเล่นๆ กับพวกไอ้ฝนบ้าง แต่มันก็ไม่เคยใช้คำนั้นกับผม แต่สุดท้ายผมก็ต้องส่ายหน้าเบาๆ แล้วบอกตัวเองว่ามันก็แค่คำพูดของคนเมา และมันก็มีความหมายแค่คำว่ารักในแบบของเพื่อนเท่านั้น

เมื่อแท็กซี่มาจอดอยู่ที่หน้าบ้านของมันแล้ว ผมก็หันไปปลุกมันให้ตื่นขึ้น

“หือออ... ถึงแล้วเหรอวะ” มันพูดแบบเบลอๆ แต่ก็แลดูสร่างขึ้นกว่าตอนก่อนขึ้นรถมาพอสมควร

“มึงเดินเองไหวมั้ยเนี่ย”

“ไหวๆ” มันเปิดประตูออกแล้วเดินลงจากรถไป

ผมรีบจ่ายเงินแล้วก็ออกไปช่วยพยุงมันเอาไว้ในขณะที่มันไขกำลังกุญแจบ้าน

“มึงไหวแน่นะ ไอ้อาร์ม”

“ไหวเว้ยไหว ขอบใจมาก” มันตอบพลางเปิดประตูรั้วออก “กูดีขึ้นเยอะแล้ว แต่... มึงช่วยกูดันประตูทีซิวะ แล้วก็ปิดให้กูด้วยนะ กูมึนนน ฮ่าๆ”

ผมทำตามที่มันบอก จากนั้นก็พยุงมันเดินเข้าบ้าน ซึ่งกว่าที่ผมจะหิ้วปีกมันขึ้นไปถึงหน้าห้องนอนของมันได้ก็ทุลักทุเลและเสียเวลาไปมากพอสมควร

“กลับมากันแล้วเหรอ พี่ต้า” เสียงของไอ้เจ้าอ้วนดังขึ้นข้างหลังเราสองคน

“อ้าว อ้วน ตื่นเลยเหรอ ขอโทษทีๆ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะปลุกเรา”

“เปล่าหรอกพี่ ตื่นมาเยี่ยวอะ แล้วเลยด้ายยินเสียงของพอกพี่พอเดดด.... ฮ้าววว...ว...”มันอ้าปากหาววอด

“เออๆ ไปนอนเถอะไป เดี๋ยวพวกพี่ก็จะนอนแล้วเหมือนกัน” ผมลากไอ้อาร์มเข้าไปในห้องและวางมันลงบนเตียง

“แล้วไอ้อาร์มมันเป็นไงมั่งเนี่ย พี่” ไอ้อ้วนเดินตามหลังผมเข้ามาในห้อง

“กูยังหวายเว้ยยย” ไอ้เพื่อนตัวดีของผมตอบ “มาๆ มาปิดไฟนอนกันเหอะ ไอ้ต้าาา กูง่วงงง”

“เฮ้ยย กูยังไม่ได้อาบน้ำเลย”

“ไม่ต้องอาบแล้วว!!” ไอ้อาร์มจับแขนผม “นอนๆๆ ไอ้อ้วนน พอ มึงออกไปแล้วมึงปิดไฟให้กูด้วยนะเว้ยยย!”

“เออๆ” ไอ้อ้วนเกาหัวแกรกๆ “พี่ต้า ไงก็ฝากดูแลพี่ชายกัสด้วยนะฮะพี่ ถ้าจะเอาผ้ามาเช็ดตัวให้มันก็หยิบในตู้ไปใช้ได้เลยนะฮะพี่ ไม่ต้องเกรงจะ... จายยยย... ฮ้าวว...ว...ว งืมมมๆ ไปละพี่ เจอกันอีกทีพรุ่งนี้เที่ยง”

“เฮ้ย อ้วน เดี๋...”

ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบคำ ไอ้อ้วนก็ปิดประตูห้องลงไปแล้วเสียก่อน

ผมหันกลับมามองไอ้อาร์มที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงแล้วเขย่าแขนมันเบาๆ “ไอ้อาร์ม มึงจะเช็ดตัวอะไรหน่อยมั้ยวะ จะเปลี่ยนชุดรึเปล่า จะนอนทั้งๆ แบบนี้เลยรึไง”

“อือออ นอนเหอะ กูมึนหัวว่ะ...” มันพูดงึมงำตอบกลับมาเบาๆ

“เออ งั้นกูขอนอนชุดนี้เลยแล้วกันนะ ตื่นเช้ามาอย่าบนว่ากูตัวเหม็นปากเหม็นก็แล้วกัน”

“กูไม่บ่นหรอกน่าาา” มันดึงแขนของผมอีกครั้ง “มาๆ เร็วว นอนได้แล้ววว”

“เออๆ กูกำลังจะนอนแล้ว มึงไม่ต้องดึงกูมากนักก็ได้” ผมเอนตัวนอนลงบนเตียง แต่ก็เว้นระยะห่างจากมันอยู่พอสมควร

“มึงเข้ามาใกล้ๆ กูหน่อยสิวะ จะหนีกูไปไหนไกลนักเล่า มึงก็รังเกียจกูเหมือนไอ้สองคนนั้นเหรอวะ ไอ้ต้า” มันพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อน้อยใจ

“เฮ้ยย ไม่ใช่แบบนั้น แต่กูแค่อยากให้มึงนอนสบายๆ แค่นั้นเอง”

“เขยิบเข้ามาหากูหน่อย ขอกูกอดหน่อยยย”

ผมไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “อะ... ไอ้อาร์ม เมื่อกี้มึงพูดว่าไงนะ”

มันไม่ตอบ แต่กลับนอนเงียบไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมถอนหายใจเบาๆ และคิดว่ามันคงเผลอหลุดปากพูดเพ้อเจ้อออกมาตามประสาคนเมามากกว่า ผมนอนลืมตามองมันที่หลับอยู่ข้างกายแบบนั้นสักครู่ ก่อนจะตะแคงตัวหันหลังให้กับมันแล้วจึงหลับตาลงทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองคนจะยังนอนไม่หลับในอีกเร็วๆ นี้แน่นอน
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up15nov
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 15-11-2011 10:00:11
เหมือนเดิมนะครับ สำหรับใครที่เล่นเฟซบุ๊ค คลิกไลค์ http://www.facebook.com/ExecutionerNovel แล้วติดตามข่าวสารได้เรื่อยๆนะครับผม ขอบคุณครับ ^^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up15nov
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 15-11-2011 17:01:27
น่ารักมาก ๆ ^^" เขินด้วยคน
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up15nov
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 15-11-2011 19:56:26
จะได้บอกรักกันมั๊ยเนี่ยคู่นี้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up15nov
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 15-11-2011 20:27:45
แง่มๆ ท่าทางคืนนี้ก็ยังไม่ค่อยมีอะไรคืบหน้าหรอกมั่ง
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up15nov
เริ่มหัวข้อโดย: ljk_sj_lovelove ที่ 15-11-2011 22:16:16
น่ารักดีค่ะ นี่อาร์มพูดแบบนี้มันไม่ดีต่อหัวใจน้าา
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up15nov
เริ่มหัวข้อโดย: watcharet ที่ 15-11-2011 22:24:00
อีกไม่นานก็คงกอดกัน ^^ น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up15nov
เริ่มหัวข้อโดย: watcharet ที่ 15-11-2011 22:27:51
อีกไม่นานก็คงกอดกัน ^^ น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up15nov
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 18-11-2011 15:13:45
ตายระ ขอดันหน่อย ตกไปตั้งหน้าสี่แน่ะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up15nov
เริ่มหัวข้อโดย: watcharet ที่ 19-11-2011 02:07:47
ต้องรีบมาต่อคับๆ เด๋วจะตกไปเยอะกว่านี้ เป็นกำลังใจให้คับ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up15nov
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 19-11-2011 21:13:29
เฮ้อ ความรักแบบเพื่อนนี่มัน...เหมือนจะใกล้กัน แต่ความจริงมันห่างกันคนละมุมเลยนะนั่น
เป็นเรา เราก็คงเหนื่ิยใจแหละ รักกันคนละความหมายแบบนี้อ่ะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up15nov
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 19-11-2011 22:22:39
มาช่วยดัน อีก แรงหนึ่งครับ นอนรอ ^^"
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up15nov
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 23-11-2011 21:24:00
เราสองคนนอนกันอยู่เงียบๆ อยู่นานจนผมคิดว่าไอ้อาร์มมันคงหลับไปแล้ว ผมจึงตัดสินใจค่อยๆ ลุกออกจากเตียง แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำและแปรงฟัน เพราะไม่อย่างนั้นแล้วผมคงพยายามข่มตานอนให้หลับไม่ลงจริงๆ จนเมื่อผมแต่งตัวเสร็จและเดินกลับเข้ามาในห้องแล้ว ผมก็เห็นว่ามันยังคงนอนหลับอยู่ท่าเดิม  ดังนั้นผมจึงค่อยๆ สอดตัวลงใต้ผ้าห่ม แล้วหลับตาลงเตรียมพร้อมจะนอนอีกครั้ง

แต่แล้วในขณะที่ผมเริ่มจะรู้สึกเคลิ้มๆ อยู่นั้น จู่ๆ ไอ้อาร์มที่นอนอยู่ข้างหลังผมก็ขยับตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น

“มึงไปอาบน้ำมาเหรอวะ” มันพูดเบาๆ

“อือ... มึงยังไม่หลับเหรอวะ”

“เคลิ้มไปรอบนึงแล้ว แต่...”

“อะไรวะ ปวดหัวเหรอ” ผมกำลังจะพลิกตัวเป็นนอนหงาย แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อไอ้อาร์มมันเหยียดแขนออกมากอดผมเอาไว้

“กูหนาวว่ะ” มันพูด “แถมยังมึนหัวเหี้ยๆ เลยด้วย”

“เฮ้ย... เฮ้ยยย ไอ้อาร์ม บะ... แบบนี้มันจะดีเหรอวะ”

“อารายวะ แค่ขอกอดมึงหน่อยแค่นี้ก็ไม่ได้รึไง”

“คือ... กูรู้ว่ามึงไม่ได้คิดอะไร มึงเคยบอกกูแล้วว่ามึงเคยชินกับการเล่นกับเพื่อนผู้ชายแบบนี้ แต่กู...”

“ทำไมวะ มึงเสียวเหรอออ” มันวนมือที่หน้าท้องของผมเบาๆ ทำเอาผมสะดุ้งเฮือก

“ไอ้อาร์ม!”

“ทำมายเล่า! ตกลงมึงก็รีงเกียจกูเหมือนกันรึไง เพราะกูมันเหี้ยใช่มั้ย เจ้าชู้ใช่มั้ย หรือเพราะกูเหม็นเหล้า  ยังไม่ได้อาบน้ำ มึงเลยไม่อยากให้กูกอดมึง มึงเกลียดกูเหรอ กูมันไม่ดีพอใช่มั้ย ไอ้ต้า” มันพูดเสียงอ้อแอ้ แสดงให้เห็นชัดเลยว่ามันยังคงเมาอยู่จริงๆ

“กูไม่ได้คิดแบบนั้นกับมึง ไอ้อาร์ม แต่มึงก็รู้ว่ากู...”

“เป็นเกย์... แล้วไงวะ”

“ก็...” ผมอึกอัก “คือกูน่ะ...”

“มึงรักกูมั้ยวะ ไอ้ต้า” ไอ้อาร์มพูดขัดขึ้นเสียก่อน

ผมอึ้งไปทันที “อะ...”

“อย่าอ้ำอึ้งดิวะ คำถามง่ายๆ เอง มึงง่าาาา” มันซุกหน้าลงบนหลังคอของผม ทำเอาผมขนลุกซู่ทีเดียว

“เออ กู ‘รัก’ มึง ไอ้อาร์ม” ผมตอบ “แต่ตอนนี้มึงปล่อยกูก่อนเหอะ มึงทำแบบนี้แล้วกู...”

“มึงทำไม มึงเสียวเหรอวะ” มันงับลงที่ติ่งหูของผม

“ไอ้อาร์ม!” ผมสะดุ้งพร้อมกับรีบดันตัวออกทันที “มึงทำอะไรของมึงเนี่ย!”

“เป็นอารายย เสียวเหรอออ” มันมองหน้าผมแล้วยิ้มน้อยๆ

“มึงอย่าเล่นแบบนี้ ไอ้อาร์ม กูซีเรียสนะเว้ย กูไม่ชอบ” ผมพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่หลบสายตาของมัน

“หืออออ...” ไอ้อาร์มเลื่อนสายตาต่ำลงไปมองยังเป้ากางเกงของผม “ไม่ชอบแล้วทำไมเจี๊ยวแข็งวะมึง”

ผมรีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาปิดเอาไว้ทันที “ไม่ใช่เว้ย! นี่มัน...!!”

“ไม่เอาน่า ไอ้ต้า” มันชันตัวขึ้นนั่ง “มึงเพิ่งบอกออกมาเองไม่ใช่เหรอวะว่ามึงรักกูอะ มึงก็แสดงออกให้กูดูหน่อยดิวะ ว่าคำว่า ‘รัก’ ของมึงน่ะ มันคือยังไง”

“ไอ้... ไอ้อาร์ม มึงเมาแล้วชักพูดจาเลอะเทอะว่ะ กูว่ามึงรีบนอนเหอะ”

“ม่ายยย กูไม่ได้เมาขนาดนั้นนะเว้ยย” มันคว้าแขนของผมเอาไว้ จากนั้นก็เขยิบตัวเข้ามาจนห่างจากผมแค่เพียงคืบเดียว “จะว่าไป... กูอยากรู้ว่ามึงกับไอ้เชี่ยอาร์ทนั่นทำเหี้ยอะไรกันยังไงมั่งว่ะ ไอ้ต้า”

“ไอ้อาร์ม! มึง...!!”

“กูทั้งหวงทั้งห่วงมึงขนาดไหนตอนมึงคบกับไอ้เหี้ยนั่น มึงไม่รู้เลยรึไงวะ” มันยกมือข้างขวาขึ้นจับต้นแขนของผมเอาไว้แน่น “มึงไม่รู้เลยรึไงว่าตอนนั้นกู....”

จู่ๆ ไอ้อาร์มก็หยุด แล้วจึงหลับตาก่อนจะก้มหัวลงเล็กน้อย

“เฮ้ย มึงเป็นไรวะ ปวดหัวเหรอ”

มันส่ายหน้า “เปล่า กู... กูจะอ... อุ๊บ!” มันทำท่าขย้อน ก่อนที่จะอ้อกรดลงบนเสื้อของผมเต็มๆ

“ไอ้อาร์ม!!” ผมรีบใช้มือป้องอ้วกของมันเอาไว้ไม่ให้ไหลลงไปบนเตียง “เฮ้ย! มึงไหวป่าววะ ไปๆ ไปห้องน้ำเร็ว!”

“อุ... อ้วกกก!!” มันแหวะออกมาอีกรอบ คราวนี้ทั้งผมทั้งมันต่างก็เลอะไปด้วยกันทั้งคู่

ผมที่เห็นท่าไม่ดีแล้วรีบพยุงมันขึ้นจากเตียง แล้วกึ่งเดินกึ่งจูงกึ่งลากมันตรงไปยังห้องน้ำอย่างไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเมื่อไปถึงที่ห้องน้ำแล้ว ไอ้อาร์มก็ทรุดตัวลงที่ชักโครกทันที มันโก่งคออ้วกต่ออีกนิดหน่อย แต่ก็ไม่มีอะไรออกมามากนัก เพราะว่าเราแทบจะไม่ได้กินอะไรหนักๆ ลงท้องกันไปเลยแม้แต่นิดเดียว

“ไหวป่าววะมึง” ผมนั่งยองๆ ลงข้างๆ มัน

“ไหวๆ แฮ่ก... แฮ่กก...” มันพยักหน้าเบาๆ อย่างเหนื่อยอ่อน “กูปวดหัวว่ะ มึนหัวฉิบหายเลย...”

“ก็มึงไม่ค่อยกินข้าวด้วยนี่หว่า แถมยังแดกไปซะเยอะก็งี้แหละ นี่มึงทนมาได้ขนาดนี้กูว่าก็สุดยอดแล้วนะเว้ย”
มันที่นั่งอยู่บนพื้นเหลือบมามองอ้วกที่เลอะอยู่บนเสื้อของผม แล้วยื่นมือออกมาจับชายเสื้อของผมเอาไว้
“กูทำเสื้อมึงเลอะหมดเลยว่ะ ไอ้ต้าาา... กูขอโทษ...”

“ไม่เป็นไร มึงเองก็เลอะเหมือนกันนั่นแหละว่ะ อาบน้ำหน่อยมั้ยวะ เดี๋ยวกูช่วย”

มันพยักหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน “แต่มึงต้องช่วยกูนะ”

“อื้ออ กูบอกแล้วไงว่าเดี๋ยวกูช่วยมึงเอง”

“มึงต้องอาบกะกูด้วยนะ... มึงเองก็เลอะไปหมดแล้วเหมือนกันเนี่ย”

“เฮ้ยย ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูอาบเองอีกทีก็ได้”

“มึงอาบกับกูนะ... นะ ไอ้ต้านะ น้าาาา” มันนิ่วหน้าและเบ้ปากแบบเด็กๆ

“เออๆๆ ก็ได้วะ แต่เดี๋ยวกูถอดเสื้อให้มึงก่อนก็แล้วกัน อยู่นิ่งๆล่ะ อ้วกจะได้ไม่เลอะ”

“ค้าบบบบ”

ผมยิ้มแล้วถอนหายใจเบาๆ เวลาไอ้อาร์มมันเมานี่มันก็น่ารักดีเหมือนกันแฮะ ดูมันขี้เล่น ว่าง่าย แถมยัง... ไม่รู้สิ ผมว่ามันดู ‘เซ็กซี่’ มากกว่าตอนปกติเยอะเลยล่ะ

หลังจากที่เราสองคนถอดเสื้อผ้าออกหมดจนเหลือแต่กางเกงในแล้ว ผมก็จัดการช่วยมันอาบน้ำสระผมอย่างทุลักทุเลเพราะว่าผมไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครมาก่อนเลย แถมที่สำคัญ ผมยังต้องพยายามซ่อนไอ้น้องชายของผมที่แข็งเป็นลำจนปวดหนึบไปหมดแล้วไม่ให้มันเห็นอีกด้วย

“เฮ้ยย! ไม่ต้องหันมาสิวะ!” ผมรีบจับหัวของไอ้อาร์มเอาไว้เป็นรอบที่สามแล้ว “กูบอกแล้วไงว่าอย่าหันมาๆ กูเขิน! แล้วก็อยู่นิ่งๆ ด้วย เดี๋ยวยาสระผมก็เข้าตาหรอกมึง”

“มึงสระผมเก่งว่ะ ไอ้ต้า กูชอบ...” มันใช้มือข้างหนึ่งยันตัวเองเอาไว้กับผนังห้องน้ำ “มึงเคยทำแบบนี้ให้ใครป่าว”

“ไม่เคย” ผมตอบ “ว่าแต่มึงเถอะ รู้สึกไงบ้างแล้ว ดีขึ้นรึยัง”

“อืออออ มึนหัวว่ะ แต่คงจะไม่อ้วกแล้วล่ะมั้งงง”

“หลับตาดีๆ ล่ะ กูจะล้างหัวให้มึงแล้วนะ”

“ค้าบบบบ”

หลังจากที่ล้างยาสระผมออกจากหัวของมันหมดแล้ว ผมก็เทสบู่เหลวลงบนมือของตัวเองแล้วเริ่มถูหลังให้กับมัน

“มึงถูข้างหน้าเองนะ ไอ้อาร์ม กูจะถูหลังให้”

มันยกมืออีกข้างขึ้นไปช่วยยันตัวเอาไว้ “ไม่ไหวอ่า ไอ้ต้า กูมึน กูกลัวล้ม มึงถูให้กูหน่อย”

ผมรู้สึกเขินจนหน้าแดง แถมยังตื่นเต้นจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว “กูจะถูให้มึงได้ยังไง ก็มึงหันหลังให้กูอยู่แบบเนี้ยอะ”

“งั้นกูหันหน้าไปหามึงก็พอใช่มั้ย” เมื่อพูดจบมันก็หันขวับมาหาผมเลยทันที

“เฮ้ยย! กูบอกแล้วไงว่าอย่า...!!”

“อือออ กูมึนหัวว่ะ... โอ๊ะๆ!” ไอ้อาร์มทำท่าจะล้ม ผมจึงต้องรีบคว้าตัวของมันเอาไว้ พร้อมๆ กับที่มันเหวี่ยงแขนขึ้นมาเกาะคอของผมเอาไว้ได้ทันพอดี

“ระวัง!”

มันรีบพยุงตัวแล้วเงยหน้าขึ้นมามองผมพร้อมกับยิ้มกว้าง “แหะๆ เกือบหน้าแหกหมดหล่อแล้วมั้ยล่ะกู”

“ยังจะมาหัวเราะอีก เมาแล้วไม่รู้จักเจียมนะมึงเนี่ย”

ผมรอให้ไอ้อาร์มคลายวงแขนที่รัดอยู่รอบคอของผมออก แต่มันก็ไม่ทำ แถมนอกจากมันจะไม่ยกแขนออกแล้ว มันยังจะชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นอีกด้วย

“ขอบใจเว้ย ไอ้ต้า ถ้าขาดมึงไปสักคนชีวิตกูจะเป็นไงวะเนี่ย”

และเมื่อพูดจบ มันก็จุ๊บลงบนริมฝีปากของผมเบาๆ ผมถึงกับตัวแข็งเกร็งเลยทีเดียว

“แหะๆๆ จูบแรกของกูกับผู้ชายเลยนะเนี่ย ก็ไม่เห็นจะต่างจากจูบกับผู้หญิงตรงไหนเลยนี่หว่า”

ผมเขินจนทำอะไรไม่ถูก พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนมองหน้าของมันในระยะประชิดอยู่แบบนั้น

“อะ... เอ่ออ...”

“หือออ” มันนิ่วหน้าทำท่าทางสงสัย “อารายย กูจูบแย่มากเลยเหรอ หรือปากกูเหม็นอ่าาา”

“เปล่าๆๆ” ผมรีบปฏิเสธ “ปากมึงไม่เหม็นหรอก และเมื่อกี้มึงก็แค่จุ๊บปากกูเบาๆ เอง แค่แตะๆ อะ มันจะไปรู้สึกต่างจากจูบกับผู้หญิงคนอื่นของมึงได้ยังไงล่ะวะ”

“จริงเหรอวะ งั้นขอกูลองอีกที” และเมื่อพูดจบ มันก็โถมเข้ามาจูบลงบนปากของผมอีกครั้งทันที และครั้งนี้ไม่ใช่แค่จุ๊บเบาๆ เหมือนเมื่อครั้งแรกแล้วด้วย แต่มันจูบผมแบบเต็มๆ ปาก แถมยังยาวนานจนในที่สุด ผมก็เผลอเผยอริมฝีปากออกนิดหนึ่งจนได้

“อืออออ...” ผมส่งเสียงครางในลำคอเบาๆ

ไอ้อาร์มถอนปากออกแล้วยิ้มให้ผมน้อยๆ “ปากมึงนุ่มมากเลยว่ะ เหมือนปากผู้หญิงเลย”

ผมเขินจนรู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวไปหมด “แต่กูไม่ใช่ผู้หญิงนะเว้ย”

“กูรู้น่าาาา ผู้หญิงอะไรจะมีเดือยแบบนี้วะ” มันคว้าหมับเข้าที่เป้าของผม ทำเอาผมต้องสะดุ้งโหยง

“เฮ้ย!! ไอ้อาร์ม!!”

“Kมึงแข็งนี่หว่า เพราะกูจูบมึงเหรอ”

“ไอ้อาร์ม ปล่อยมือ!” ผมพยายามแกะมือของมันออก

“จริงๆ แล้วกูก็แข็งเหมือนกันว่ะ ไอ้ต้า แหะๆ” มันจับมือของผมไปวางลงบนเป้ากางเกงบ็อกเซอร์ของมัน “มึงเป็นผู้ชายคนแรกเลยนะเนี่ย ที่ได้จับเจี๊ยวกูอะ”

ผมชักมือกลับ “พอเหอะว่ะ ไอ้อาร์ม มันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะเว้ย กูรู้ว่ามึงกำลังเมา แต่...”

“อืออช่ายยยย กูเมาแล้วกูก็เงี่ยนด้วยยย” มันชะโงกหน้าเข้ามาจูบผมอีกครั้ง และครั้งนี้มันยังใช้ลิ้นสอดใส่เข้ามาในปากของผมอีกด้วย

สติ สัมปชัญญะ และความรู้สึกผิดชอบทั้งหมดทั้งปวงของผมหล่นหายไหลลงท่อไปกับสายน้ำจนหมดในทันทีที่ริมฝีปากของไอ้อาร์มแตะลงบนริมฝีปากของผมเป็นครั้งที่สาม ถึงผมจะรู้ว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ไม่ดี และถึงจะรู้ว่าผมอาจจะต้องเสียใจในภายหลัง แต่ผมก็ไม่สามารถห้ามความต้องการของตัวเองได้อีกต่อไป ในเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้านี้คือผู้ชายเพียงคนเดียวที่ผมรักและอยากครอบครองมาโดยตลอด สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้อาจจะเป็นโอกาสเพียงหนึ่งเดียวของผม ที่คงจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกเลยก็เป็นได้
ผมใช้มือทั้งสองข้างจับหัวของมันเอาไว้แล้วแลกลิ้นกับมันอย่างดูดดื่ม เราสองคนต่างโหยหาลิ้นของกันและกัน รสสัมผัสที่ผมรู้สึกได้นั้นส่งกระแสไฟให้ไหลแล่นไปทั่วร่างกายของผมจนขาของผมเริ่มรู้สึกอ่อนแรง

“อื้อออ” ไอ้อาร์มครางในลำคอเบาๆ ก่อนจะถอนปากออก “แฮ่ก แฮ่กก นี่มึงจะไม่ให้กูหายใจเลยเหรอวะ ไอ้ต้าาา”

ผมไม่ตอบ แต่กลับซุกหน้าลงบนซอกคอของมัน ไอ้อาร์มจึงแอ่นหน้าขึ้นพร้อมกับสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่เพราะความเสียวทันที ผมทั้งขบ ดูด และเลียลำคอของมัน จากนั้นก็ค่อยๆ ไล่ต่ำลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงบริเวณหัวนม ผมใช้ลิ้นตวัดหยดน้ำที่เกาะและไหลอยู่บนแผงอกทั้งสองข้างของมันออก และทุกครั้งที่ลิ้นของผมแตะลงบนหัวนมของมัน ไอ้อาร์มก็จะซี้ดปากด้วยความเสียวสะท้านทุกครั้ง

“อาาาา ไอ้ต้าาา ซี้ดดดส์”

เมื่อได้ยินเสียงครางของมัน ผมก็ยิ่งได้ใจ จึงค่อยๆ ไล่ลิ้นต่ำลงมาเรื่อยๆ ถึงที่สะดือ หลังจากที่ลากลิ้นเลียวนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งจนมันยืนบิดไปมาไม่เป็นท่า ผมก็ค่อยๆ จับขอบบ็อกเซอร์ของมันแล้วดึงลงอย่างช้าๆ น้องชายของไอ้อาร์มจึงหลุดออกมาเป็นอิสระอยู่ต่อหน้าต่อตาของผมทันที

ผมมองท่อนลำของมันที่หัวยังไม่เปิดด้วยความตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี่จะเป็นของไอ้อาร์ม คนที่ผมเฝ้าฝันและแอบชอบมาโดยตลอดแล้ว น้องชายของมันยังมีขนาดที่ใหญ่กำลังดี รูปทรงสวยได้รูป ชี้ตรงมาข้างหน้าโดยที่งอนขึ้นเล็กน้อย อีกทั้งยังขาวและเรียบเนียน ช่างน่าเย้ายวนจนผมอดใจไม่ไหวอีกต่อไป

ผมจัดการครอบริมฝีปากลงบนน้องชายของมันทันที

“เฮือกกก!!” ไอ้อาร์มสะดุ้งโหยงพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างจับหัวของผมเอาไว้ “อาาาา ไอ้ต้าาา ซี๊ดดดดส์ส์!!”

ผมใช้ปากให้กับมันในขณะที่ชักของตัวเองไปด้วย และอีกแค่ไม่กี่นาทีถัดมา ผมก็รู้สึกถึงจุดสุดยอดของตัวเองที่เริ่มก่อตัวขึ้น อาจจะเป็นเพราะความตื่นเต้นก็ได้ ผมถึงได้จะแตกเร็วขนาดนี้ และในขณะที่ผมเริ่มคิดว่าจะชะลอความเร็วมือของตัวเองลงนั้น จู่ๆ ไอ้อาร์มก็เกร็งตัวขึ้น

“โอ๊ยยยย! ไอ้ต้าา...า...า กู... กูใกล้แล้วว!”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผมจึงเร่งทั้งจังหวะของมือและปากของตัวเองให้เร็วขึ้นไปอีก จากนั้นผมก็ใช้ปากจ่อไว้ตรงบริเวณส่วนหัวของไอ้อาร์มโดยใช้ลิ้นตวัดตรงเงี่ยงของมันและใช้มืออีกข้างชักให้มันไปด้วย

“ไอ้ต้าาา ไอ้ต้า! กูจะแตกแล้วว! อั๊กก!!”

ร่างกายของไอ้อาร์มกระตุกอย่างแรงพร้อมกับน้ำอุ่นๆ สีขาวข้นที่พ่นออกมาเลอะปากและจมูกของผม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมเองก็หลั่งออกมาเหมือนกัน ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าแค่เพียงได้ทำแบบนี้ให้กับมัน และได้เห็นสีหน้าของมันตอนกำลังเสียวสุดๆ ก็สามารถทำให้ผมถึงจุดสุดยอดได้อย่างง่ายดายขนาดนี้

ไอ้อาร์มหอบและร่างกายของมันก็ยังคงกระตุกเบาๆ ต่ออีกสองสามที จนสุดท้ายมันถึงต้องคว้าข้อมือของผมเอาไว้

“พอแล้ว! หยุดชักได้แล้ว ไอ้ต้า... แฮ่กๆ กูเสียว”

ผมใช้นิ้วมือเช็ดน้ำเหนียวๆ ที่ไหลอยู่ตรงจมูกและมุมปากออกก่อนจะยืนขึ้น

“เป็นไรวะ ไอ้อาร์ม...” ผมถามขึ้นเมื่อเห็นว่ามันหลับตาลงและเอนหัวไปพิงผนังห้องน้ำเอาไว้

“เปล่า กูแค่ปวดหัวว่ะ มึนหัวฉิบหายเลย ตอนน้ำแตกอะ หัวกูแม่งปวดตุบๆๆ จังหวะเดียวกับที่ครวยกูตอดเลย”

ผมอดที่ยิ้มให้กับอารมณ์ขันของมันแม้ในเวลาแบบนี้ไม่ได้ “งั้นกูล้างตัวให้มึงอีกรอบแล้วรีบกลับไปนอนพักกันเถอะ”

“อือออ” มันลืมตาขึ้นแล้วยิ้มให้กับผม “ขอบใจมากว่ะ ไอ้ต้า”

ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันขอบใจผมเรื่องอะไร จะเป็นเรื่องที่ผมช่วยดูแลมันมาตลอด เรื่องที่ผมบอกว่าจะล้างตัวให้มันอีกรอบ หรือว่าเรื่องที่ผมเพิ่งช่วยมันระบายออกไปเมื่อกี้นี้ แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะถามมันออกไปอยู่ดี

“ไม่เป็นไร” ผมตอบได้เพียงสั้นๆ แค่นั้น

ไอ้อาร์มชะโงกหน้าเข้ามาหาผม แล้วจุ๊บลงบนแก้มของผมเบาๆ

“ขอบใจนะเว้ย”

“เออๆ รู้แล้วน่าาา” ผมเขินจนไม่กล้าสบตาของมัน

หลังจากที่เราล้างตัวกันเสร็จเรียบร้อย ผมก็พยุงมันกลับไปที่ห้อง ช่วยมันแต่งตัว แล้วจากนั้นเราก็เข้านอน โดยที่ผมกับมันไม่ได้นอนห่างกันเหมือนเมื่อครั้งแรกอีกแล้ว แต่เรานอนโดยที่ร่างกายแนบชิดติดกันแบบแขนชนแขน ผมยังจำได้ถึงความรู้สึกที่มันหันมาโอบกอดผมเอาไว้ก่อนที่ผมจะหลับ

เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนสายของวันรุ่งขึ้น ผมชันตัวขึ้นนั่งแล้วหันไปมองเห็นว่าไอ้อาร์มยังคงนอนหลับอยู่ข้างกายในท่านอนตะแคงหันหลังให้กับผม และเมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนผนังห้องว่าเพิ่งจะแค่สิบโมงกว่า ผมก็คิดว่ามันคงจะต้องหลับต่ออีกยาวแน่ๆ

ผมลุกออกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็เจอเข้ากับเจ้าอ้วนที่กำลังเดินออกมาจากห้องนอนในสภาพสะลึมสะลือเข้าพอดี เราสองคนพูดคุยกันสั้นๆ จากนั้นผมก็ยืนรอน้องมันทำธุระในห้องน้ำจนเสร็จแล้วเราสองคนก็ลงไปนั่งกินข้าวเช้าและคุยกันต่อที่ชั้นล่าง

หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก แม่ของไอ้อาร์มก็ลงมานั่งที่โต๊ะร่วมพูดคุยกับพวกเราด้วย แม่ถามผมเรื่องของไอ้อาร์มเวลามันอยู่ที่มหาวิทยาลัยเสียยกใหญ่ ซึ่งผมก็ตอบไปตามความจริงบ้าง ตอบเลี่ยงๆ บ้าง แกล้งเผามันบ้างไปตามเรื่อง ยิ่งผมได้พูดคุยกับสมาชิกของบ้านนี้มากขึ้นเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งหลงรักครอบครัวนี้มากขึ้นเท่านั้นจริงๆ

พอตอนเกือบๆ เที่ยง แม่ก็วานให้ผมขึ้นไปปลุกไอ้อาร์มลงมากินข้าว ผมจึงเดินขึ้นชั้นสองไปพร้อมกับไอ้อ้วนและแยกกันที่หน้าห้องของมัน

“ถ้ามันไม่ยอมตื่นก็ถีบมันให้ตกเตียงเลยนะ พี่ต้า”

ผมหัวเราะเบาๆ แล้วเดินตรงไปยังห้องของไอ้อาร์ม

เมื่อผมเปิดประตูห้องออก ผมก็พบว่ามันยังคงนอนหลับอย่างสงบดีบนเตียงในท่านอนหงาย เมื่อผมเห็นใบหน้าของมันยามหลับแบบนี้แล้ว ใจของผมก็เต้นแรงขึ้นทันที เรื่องระหว่างเราที่เกิดขึ้นในห้องน้ำเมื่อคืนนั้นทำให้ผมรู้สึกทั้งเขิน อาย และกลัวจนไม่กล้าแม้แต่ที่จะเดินเข้าไปใกล้มันด้วยซ้ำ

ผมค่อยๆ เดินไปนั่งลงบนปลายเตียงแล้วมองมันหลับอยู่อย่างนั้น เวลาผ่านไปหลายนาทีโดยที่ผมไม่ได้ขยับตัวเลย แต่แล้วสุดท้ายไอ้อาร์มก็เป็นฝ่ายที่ตื่นขึ้นมาเอง มันเริ่มบิดตัวเบาๆ แล้วจึงลืมตาขึ้น

“อืมมม... ไอ้ต้าเหรอวะ..."

“อื้อ กูเอง ตื่นแล้วเหรอวะ รู้สึกยังไงมั่ง”

“ปวดหัวอ่าาาา” มันหลับตาปี๋แล้วค่อยๆ ชันตัวขึ้นนั่ง

ผมลุกไปหยิบขวดน้ำบนโต๊ะหัวเตียงมาเทใส่แก้วแล้วยื่นให้กับมัน “เอ้า กินน้ำก่อน”

“ขอบใจเว้ย...” มันรับแก้วน้ำไปกระดกรวดเดียวจนหมด

“แฮงค์เหรอวะ”

“อือออ เมื่อคืนกูแม่งเมาเหี้ยๆ เลยว่ะ”

ผมเริ่มรู้สึกสังหรณ์ไม่ดีชอบกล “อย่าบอกนะว่าเมาจนจำอะไรไม่ได้เลยแบบในละครน่ะ”

“อือออ... กูจำได้ว่ากูอ้วกใส่มึงด้วยอะ” มันหัวเราะแหะๆ “โทษทีนะเว้ย”

“ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ แต่แม่มึงเค้าให้กูมาตามมึงให้ไปกินข้าวแล้วนะ มึงลุกไปอาบน้ำอาบท่าเถอะ เดี๋ยวจะโดนว่าเอา” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง

“เออๆ ก็ได้วะ” ไอ้อาร์มกุมขมับแล้วส่ายหัวเบาๆ “แม่งเอ๊ยยยย”

“อะไร”

“เปล่า กูมึนหัว เหมือนจะอ้วกว่ะ แม่งงงง พะอืดพะอมว่ะ”

“เดินไหวมั้ยวะ ต้องให้กูไปส่งที่ห้องน้ำมั้ยเนี่ย”

“ไม่เป็นไร กูไปเองได้” มันตอบสั้นๆ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินออกจากห้องไป

ความรู้สึกแปลกๆ ที่ผมกำลังรู้สึกอยู่นี้มันคืออะไรกันนะ ผมไม่แน่ใจว่าผมแค่คิดไปเองเพราะความกลัว หรือว่าไอ้อาร์มมันกำลังดูฝืนๆ อยู่จริงๆ กันแน่

หลังจากที่มันอาบน้ำเสร็จ ซึ่งก็ใช้เวลานานเหมือนอย่างเคย มันก็เดินกลับเข้ามาในห้องเพื่อแต่งตัว และระหว่างนั้นเราสองคนก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย มันไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรกับผมก่อนแม้แต่คำเดียว และเมื่อผมถามอะไรมันออกไป มันก็ตอบกลับมาแค่ประโยคละคำหรือสองคำเท่านั้น

“ปะ ไปกินข้าวกันเถอะ” มันหันมายิ้มน้อยๆ ให้ผมหลังจากที่มันแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ผมส่ายหน้า “กูกินแล้ว”

“อ้าวเหรอ งั้นมึงจะรอกูอยู่ในห้องก็ได้นะ ดูทีวีเล่นเน็ตอะไรไปก็ได้” มันพูดสั้นๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

ผมถอนหายใจด้วยความกังวล แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไรดี จากนั้นผมก็เดินไปเปิดทีวีแล้วก็นั่งดูทีวีคนเดียวรอมันจนกระทั่งเผลอหลับลงไป

ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งในอีกเกือบสองชั่วโมงให้หลัง แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของไอ้อาร์มอยู่ดี ผมลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าจะทำอย่างไรดี ผมไม่รู้ว่าผมควรจะลงไปข้างล่างดีมั้ย หรือว่าจะนั่งรอมันอยู่ในห้องต่อไป แต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะทำอย่างหลัง และเมื่อเวลาผ่านไปอีกราวๆ ครึ่งชั่วโมง ไอ้อาร์มก็ยังไม่มีทีท่าที่จะกลับขึ้นมา ผมจึงเดินไปเก็บสัมภาระของตัวเองลงกระเป๋าใบเล็กด้วยสภาพจิตใจที่ห่อเหี่ยว

ดูท่าว่าสุดท้ายแล้ว สิ่งที่ผมกลัวก็จะเป็นความจริงจนได้สินะ...

ผมสะพายกระเป๋าแล้วเดินตรงไปที่ประตูห้อง และในขณะที่ผมกำลังจะเอื้อมมือออกไปจับลูกบิดอยู่นั้นเอง จู่ๆ ประตูก็ถูกเปิดออก

“อ้าว ไอ้ต้า มึง...”

“อือ กูจะกลับแล้ว”

“เหรอๆ อืมมม...” ไอ้อาร์มนิ่งไปสักพัก “เมื่อคืนขอบใจมากนะเว้ย”

“เออ ไม่เป็นไร แต่ที่จริงมึงขอบใจกูเรื่องอะไรกันแน่ล่ะวะ”

มันดูตกใจเล็กน้อย “ก็ที่มึงไปกินเหล้าเป็นเพื่อนกูไง”

“อืออ ก็นั่นสินะ ก็มีอยู่เรื่องเดียวนี่หว่า ‘เป็นเพื่อนกินเหล้า’ ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันเล็กน้อย

ความเงียบอันน่าอึดอัดแบบเดิมเข้ามาปกคลุมเราสองคนอีกครั้ง

“โถ่เว้ยยยย!” จู่ๆ ไอ้อาร์มก็โพล่งขึ้นอย่างหัวเสีย จากนั้นมันก็ปิดประตูห้องลงแล้วผลักผมให้เดินกลับมานั่งลงบนเตียง “มึงนั่งลงก่อนซิวะ ไอ้ต้า กูว่าเราต้องคุยกัน”

“ไม่ต้องคุยหรอก กูรู้ว่ามึงจะพูดอะไรน่ะ” ผมยืนขึ้น

“ไม่ได้ มึงต้องคุยกับกู” มันผลักให้ผมนั่งลงอีกครั้ง

“ก็ได้” ผมยอมแพ้ “มึงจะพูดอะไรมึงก็พูดมา”

“คือ... เรื่องเมื่อคืนอะ ที่กู...”

“ที่มึงทำไม ที่มึงอ้วกใส่กู ที่มึงกอดกู ที่มึงจูบกู หรือว่า...”

“ไอ้ต้า! เฮ้ย! มึงใจเย็นสิวะ ให้เวลากูหน่อยไม่ได้รึไง!” มันรีบพูดขัดด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

ผมเงียบลงไปและรอให้มันพูดต่อ

“กูขอโทษ... กูขอโทษมึงทุกอย่างเลย เมื่อคืนกูเมามากอะ แล้วก็...”

“นั่นไง กูกะแล้ว” ผมกลอกตา “กูว่าแล้วมันต้องประโยคคลาสสิคนี้ ไอ้อาร์ม มึงฟังกูนะเว้ย กูเข้าใจ กูรู้ว่ามึงเมา กูผิดเองที่ฉวยโอกาสจากมึง โอเคปะ แต่กูจะไม่มีวันทำให้มึงต้องไม่สบายใจเด็ดขาด เพราะงั้นมึงไม่ต้องคิดมากเรื่องของกูหรอก กูจะไม่บอกใคร และกูก็จะไม่ทำตัวแปลกไปจากเดิมด้วย กูจะถือว่าเรื่องนั้นมันไม่เคยเกิดขึ้นเลย โอเคมั้ย”

“มึงจะไม่บอกใครจริงๆ นะเว้ย”

ผมรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นเล็กน้อยที่ได้ยินมันพูดประโยคนั้นขึ้นเป็นอย่างแรก

“อืม กูจะไม่บอกใครเลย กูสาบาน”

มันทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผม “ขอบใจมาก ไอ้ต้า”

“ถ้างั้นกูกลับบ้านก่อนนะ” ผมลุกขึ้นยืน

“เดี๋ยว” มันรีบคว้าข้อมือของผมเอาไว้ “กูขอโทษ...”

“พอแล้ว ไอ้อาร์ม มึงไม่ต้องขอโทษมากมายขนาดนั้นก็ได้ กูบอกแล้วไงว่ากูรู้ กูเข้าใจมึง”

“กูรักมึงนะเว้ย ไอ้ต้า”

คำพูดนี้ของมันบาดเข้าไปถึงในหัวใจของผมจนน้ำตาของผมแทบจะไหลออกมา

“มึงเป็นเพื่อนที่กูรักและรู้สึกผูกพันที่สุดจริงๆ ถึงเราจะรู้จักกันไม่ได้นานมากมายอะไร แต่มึงก็ไม่เคยทอดทิ้งกูเลย มีแต่หวังดีและห่วงใยกู คอยให้คำปรึกษาและดูแลกูมาตลอด กูไม่อยากให้สิ่งที่เรามีต่อกันแบบที่ผ่านๆ มามันเปลี่ยนไปว่ะ...”

ผมหลับตาลง กลืนน้ำลาย น้ำตา และคำพูดที่อยากจะพูดทุกอย่างลงคอไปอย่างยากลำบาก

“ไอ้ต้า...” คราวนี้มันเงียบลงไปครู่หนึ่ง “กูรู้นะเว้ย คือออ... กูรู้ว่ามึงชอบกูอะ”

ผมเจ็บหัวใจแปล๊บทันที นี่มันรู้อย่างนั้นเหรอ

“แต่กูไม่ได้ชอบมึง... กู ‘รัก’ มึง รักแบบเพื่อนรักและจะรักไปตลอดด้วย เพราะงั้นอย่าให้เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นตัวแปรที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็นอยู่ จนสุดท้ายมันอาจจะต้องจบลงเลยนะเว้ย”

ผมหลับตาลงและยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะลืมตาขึ้นแล้วก้มลงไปยิ้มน้อยๆ ให้กับมัน

“แน่นอนเว้ย”

มันยิ้มตอบผมกลับมาแล้วลุกขึ้นกอดผม “ขอบใจมาก ไอ้ต้า กูสัญญาว่ากูจะไม่มีวันทิ้งมึงไปไหนแน่นอน”
และด้วยความคาดไม่ถึง มันดันตัวเองออกแล้วจึงหอมแก้มผมเบาๆ

“กูรักมึงนะเว้ย”

“เออ กูก็รักมึงเหมือนกัน...” ผมตอบกลับไปอย่างอ่อนแรง
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up23nov
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 23-11-2011 21:58:04
สงสารต้ามากกกกกกก
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up23nov
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 23-11-2011 22:08:08
น่าสงสารต้าจัง
 :sad4:
เวรกรรมแท้ๆ
อาร์มแม่งใจร้ายว่ะ
งอน
 :o12:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up23nov
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 23-11-2011 23:07:49
อาร์ม ใจร้ายอ่ะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up23nov
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 23-11-2011 23:28:50
ก็คิดว่า คู่นี้ไม่น่าจะลงเอยกัน ตั้งแต่ตอนอ่านออกัสกะพี่แพนด้าแล้วอ่่ะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up23nov
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 24-11-2011 15:17:51
อ๊ากกกกก ต้าน่าสงสาร แง่งงงง
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up23nov
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 24-11-2011 20:59:40
 :impress3: :กอด1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up23nov
เริ่มหัวข้อโดย: watcharet ที่ 24-11-2011 23:45:44
อ่อๆ ฉากนี้มาเต็มๆเลย ติดเรทด้วย ^^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up23nov
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 25-11-2011 13:29:26
เป็นสถานการณ์ที่น่าดีใจและเศร้าไปพร้อมๆกันเลย...
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up23nov
เริ่มหัวข้อโดย: rubytears ที่ 26-11-2011 21:31:38
เจ็บปวดดีจริงๆเลย สงสารต้าอ่ะ สุดท้ายก็ต้องทรมานกับคำว่ารักของตัวเองต่อไป
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up23nov
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 29-11-2011 20:13:28
ทั้งหมดนั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนในปีก่อน ซึ่งตอนแรกผมก็เชื่อคำพูดของมันทุกอย่าง เชื่อในทุกๆ สิ่งที่เรามีให้แก่กัน และเชื่อว่าเราสองคนจะยังเป็นเพื่อนรักที่สนิทกันดีได้เหมือนที่ผ่านๆ มา แต่ทว่าความเป็นจริงมันโหดร้ายนัก เมื่อสุดท้ายแล้วคำสัญญาของมันก็ถูกบิดเบือนไปด้วยผลกระทบจากเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นเข้าจนได้

ผมก็ไม่คิดหรอกว่าสาเหตุที่ไอ้อาร์มมันเริ่มเปลี่ยนไปนั้นจะเป็นเพราะผม แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะการที่มันอกหักมากกว่า ถึงได้ทำให้มันเริ่มกลายเป็นคนเจ้าชู้และเที่ยวเก่งมากขึ้น มันเริ่มคบหาและจีบผู้หญิงมากหน้าหลายตาเยอะขึ้น ซึ่งสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับผมไม่ใช่การที่มันทำแบบนั้นหรอก แต่เป็นการที่ผมแทบไม่ได้รับรู้เรื่องเหล่านั้นจากปากของมันเองเลยมากกว่า
ภายนอกโดยรวม เราสองคนก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ยังคงเรียน ทำงาน ไปเที่ยว พูดคุยกันปกติ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปลึกๆ ก็คือ ไอ้อาร์มแทบไม่ได้ปรึกษาปัญหาอะไรกับผมอีกต่อไป มันแทบไม่เล่าเรื่องของผู้หญิงคนที่มันไปคบหาอยู่ด้วยให้ผมฟังเลย และสิ่งๆ นั้นก็เป็นตัวการใหญ่ที่ทำให้ระยะห่างภายในใจของเราสองคนเริ่มขยายกว้างออกไปมากขึ้นทีละน้อยๆ

หลังสอบกลางภาคของเทอมสองได้ไม่นาน ไอ้อาร์มประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์แถวๆ ร้านเหล้าที่มันไปกินจนแขนขวาหัก ซึ่งสุดท้ายก็เป็นผมอีกนั่นแหละที่มันโทรหาเป็นคนแรก และเป็นคนที่คอยดูแลพยาบาลมันเป็นส่วนใหญ่เวลามันอยู่ที่บ้าน สลับกับไอ้ด้าในเวลาที่มันจำเป็นต้องมานอนที่หอ และในช่วงเวลาระหว่างนั้นเราก็ได้กลับมาใกล้ชิดกันเหมือนเดิม ไอ้อาร์มจึงเริ่มเล่าเรื่องของผู้หญิงคนที่มันไปจีบๆ อยู่ให้ผมฟังมากขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าผมจะดีใจที่ระยะห่างของเราดูจะลดลงเล็กน้อย แต่มันก็เจ็บปวดเหลือเกินที่ต้องมารับรู้ว่าคนที่เราแอบรักกำลังมีความสุขอยู่อย่างปกติสุขดีกับผู้หญิงคนอื่นที่เราไม่รู้จัก

หลังจากจบปีหนึ่ง เกรดของไอ้อาร์มที่ตกลงอย่างฮวบฮาบก็ทำให้พ่อกับแม่ของมันเรียกตัวกลับไปอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมในที่สุด และนั่นก็เป็นอีกครั้งที่เราสองคนจำต้องห่างจากกันไปอีกเล็กน้อย แต่บางทีมันอาจจะเป็นแค่ความรู้สึกของผมคนเดียวก็ได้ เพราะที่จริงเราก็ยังได้คุยกันอยู่บ้าง ไม่ถึงกับหายหน้าจากกันไปเลย แต่ในช่วงปิดเทอมที่ผมไม่ได้เจอกับมันทุกวันเหมือนตอนมีเรียนก็ทำให้ผมรู้สึกเคว้งไปไม่น้อยเหมือนกัน

พูดได้เลยว่าช่วงปิดเทอมหน้าร้อนที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ผมรู้สึกเหงามากที่สุดของที่สุดจริงๆ เพราะไอ้เอกับไอ้ด้าก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัด ไอ้เพื่อนผู้หญิงอีกสองคนก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง อยู่กับครอบครัวบ้าง กับแฟนบ้าง ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ที่คณะ ผมก็ไม่ได้สนิทสนมมากถึงขนาดที่จะทำให้ผมรู้สึกคลายเหงาและสบายใจได้เท่ากับการอยู่กับพวกมัน นอกจากนั้น ไอ้คนที่ทำให้ผมรู้สึกเหงามากที่สุด ก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับรู้เลยว่าทั้งๆ ที่เราสองคนอยู่ใกล้กันมากกว่าเพื่อนคนอื่นๆ แต่ความรู้สึกและความห่วงใยที่เรามีให้แก่กันมันกลับดูห่างไกลกันเหลือเกิน

“มึงคิดมากไปรึเปล่า ไอ้ต้า” ไอ้เอพูดกับผมทางโทรศัพท์ในคืนหนึ่ง “บางทีมึงอาจจะน้อยใจ อาจจะคิดมาก ก็เลยทำให้มึงคิดแบบนั้นไปเองก็ได้นะเว้ย”

“กูก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่... ไอ้เอ มึงก็เห็นไม่ใช่เหรอวะว่าพักหลังมานี้ไอ้อาร์มมันก็ดูห่างๆ ออกไปจริงๆ และที่สำคัญ มันกับกูไม่ได้คุยกันแทบทุกวันเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วนะเว้ย มันไม่ปรึกษาปัญหากับกู ไม่เล่าเรื่องผู้หญิงของมันให้กูฟังเหมือนเมื่อช่วงที่มันแขนหัก แต่มันกลับไปคุยกับไอ้ด้าและกับมึงมากขึ้นแทน หลายครั้งนะเว้ยที่กูรู้สึกน้อยใจจริงๆ เวลาที่มึงสามคนคุยกันเรื่องคนอื่นๆ หรือเรื่องอะไรที่กูไม่รู้มาก่อนน่ะ แต่กูแค่ไม่เคยพูดเท่านั้นเอง”

“แต่กูรู้ ไอ้ด้าเองมันก็รู้”

“พวกมึงรู้เหรอวะ”

“เห็นหน้ามึงก็รู้แล้ว ไอ้ตูด”

“แล้ว... แล้วไอ้อาร์มมันไม่รู้รึไงวะ”

“อันนี้กูก็ไม่แน่ใจว่ะ แต่กูรู้แค่ว่ามันเองก็ไม่ใช่คนโง่หรอก”

“มึงหมายความว่าที่จริงมันก็รู้อยู่แล้วงั้นเหรอวะ แต่ถ้างั้นแล้วทำไมมัน...”

“นี่ ไอ้ต้า กูอ่านใจคนไม่ออกหรอกนะเว้ย กูไม่มีทางรู้ดีไปกว่าตัวไอ้อาร์มเองหรอก แล้วที่สำคัญคือกูเองก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างมึงสองคนด้วย เดี๋ยวก็ดูดี เดี๋ยวก็ไม่ดี อะไรก็ไม่รู้ และกูก็ไม่คิดจะถามด้วย แต่กูคงแนะนำมึงได้แค่อย่างเดียวว่า มึงลองไปคุยกับมันเองเลยดูดีกว่ามั้ยวะ เพราะยังไงไอ้อาร์มมันก็เป็นคนที่คิดอะไรก็มักจะพูดออกมาตลอดอยู่แล้ว และที่สำคัญกว่านั้น กูมั่นใจว่าถึงยังไง มันก็ยังคงรักมึงและแคร์มึงมากเหมือนเดิมอยู่ดีนั่นแหละว่ะ”

คำพูดของไอ้เอทำให้ผมต้องคิดหนักอีกครั้ง และมันยังทำให้ผมคิดไปถึงคำพูดของไอ้อาร์มที่มันบอกว่า ‘รัก’ ผม และ ‘จะไม่มีวันเปลี่ยนไป’ ในวันนั้นขึ้นมาอีกด้วย แต่ทว่ามันก็ไม่ได้ช่วยให้จิตใจของผมสงบลงได้เลย

ในช่วงต้นเทอมหนึ่งของการเป็นนักศึกษาปีสอง ผมก็เริ่มกลับไปหาเพื่อนคุยทางอินเตอร์เน็ตเพื่อคลายเหงาอีกครั้ง ไม่ว่าจะทั้งทางเฟซบุ๊ค เอ็มเอสเอ็น สไกป์ หรือแม้แต่แคมฟร็อก ซึ่งผมก็รู้หรอกว่ามันไม่ดี แต่อย่างน้อยๆ มันก็ช่วยทำให้ผมคลายเหงาลงไปได้อยู่บ้าง โดยคนที่รู้เรื่องนี้ก็มีไอ้เอแค่เพียงคนเดียว

ผมทำแบบนั้นอยู่พักใหญ่ๆ จนกระทั่งไอ้ด้าได้ตกลงรับปากเป็นครูสอนพิเศษให้ไอ้อ้วน และจนมันสองคนตกลงคบกันเป็นแฟนไปแล้วนั่นแหละ ความลับของผมถึงมาแตกเข้าจนได้ เมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งที่ผมรู้จักจากทางแคมฟร็อกมาโพสข้อความลงบนหน้าวอลล์ของผมในเฟซบุ๊ค และไอ้อาร์มก็ดันมาอ่านเจอเข้าพอดี ทำให้มันแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน

วันนี้ พวกเราสามคนได้แก่ ผม ไอ้อาร์ม ไอ้เอ และไอ้ด้า ก็กำลังนั่งกินข้าวกลางวันด้วยกันอยู่ที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัยด้วยบรรยากาศที่น่าอึดอัดอย่างที่สุด เพราะไอ้อาร์มมันยังคงโกรธผมอยู่

“ก็กูไม่ชอบ” มันพูดแบบห้วนๆ “และกูก็ไม่ชอบใจมึงด้วย”

“เออ กูรู้แล้ว... แต่กูก็บอกมึงไปแล้วไม่ใช่รึไงว่ามันไม่มีอะไรหรอก”

“กูจะรู้ได้ไงว่ามึงพูดความจริง ไอ้ต้า แต่ก็เอาเหอะ จริงๆแล้ว มึงจะเคยไปมีอะไรกับแม่งรึยังมันก็ไม่ใช่เรื่องของกูหรอก แต่มึงไม่อายมั่งเหรอวะ ที่เฟซมึงมีผู้ชายใส่กางเกงในตัวเดียวนั่งแหกแข้งแหกขามาโพสว่า ‘ยังน่ารักน่ากินเหมือนเดิม’ เหี้ยอะไรนั่นน่ะ”

ผมหน้าแดงขึ้นทันที เพราะว่าเรากำลังนั่งกันอยู่ในโรงอาหาร และมันก็ไม่ได้พูดเสียงเบาๆ ที่เราจะได้ยินกันแค่ในกลุ่มนี้ด้วย

“เฮ้ย ไอ้อาร์ม มึงไม่เห็นต้องพูดขนาดนั้นเลย” ไอ้ด้าปรามขึ้น ดูท่าทางว่ามันเองก็คงจะรู้สึกอายและกลัวคนอื่นจะได้ยินเหมือนกัน

“กูบอกไปแล้วไงว่ากูไม่เคยมีอะไรกับมัน และนี่มันก็ผ่านมาตั้งสามวันแล้วนะเว้ย มึงจะยังไม่หายโกรธกูอีกเหรอวะ แม่งงง” ผมส่ายหัวเบาๆ

“กูไม่ได้โกรธมึง แต่กูไม่ชอบ เหี้ยแม่งงง คนเป็นเกย์นี่แม่งน่ากลัวฉิบหาย มึงต้องเห็นรูปโปร์ไฟล์ที่มันใช้ว่ะ ไอ้ด้า แม่งโคตรทุเรศเลยว่ะ”

“มันก็ไม่ทุกคนหรอก” ไอ้เอพูดขึ้นบ้าง “กูว่านะ”

“กูว่าแม่งก็คงไม่ต่างกันนักหนาหรอกวะ” มันพ่นลมหายใจออกทางจมูก “แล้วตกลงมึงลบไอ้เหี้ยนั่นออกจากเฟรนด์มึงไปรึยัง ไอ้ต้า”

“ลบแล้ว...”

“เออ ดีแล้ว แล้วคนอื่นๆ ล่ะ ลบแม่งให้หมดเลยรึยัง แม่งงง มึงคุยกับไอ้คนพวกนี้ไปได้ยังไงวะ ไอ้เชี่ย แม่งมีแต่พวกหาเซ็กส์ หื่นๆ ทั้งนั้น”

สิ่งที่มันพูดก็มีส่วนถูกอยู่บ้าง เพราะผมคงปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเป็นเกย์หลายคนก็ทำตัวแบบที่มันบอกจริงๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะคุยและชอบคนแบบนั้นนี่นา ผมเองก็เลือกคนที่จะคุยด้วยอยู่เหมือนกัน และผมก็ไม่ได้คิดที่จะหาคู่นอนผ่านทางอินเตอร์เน็ตแบบที่มันอาจจะกำลังคิดอยู่ตอนนี้ด้วย

“นี่ถ้าไอ้อ้วนเห็นมันจะรู้สึกยังไงวะ น้องกูมันรักมึงมากนะเว้ย มันเคารพมึงมากกว่ากูด้วยซ้ำ แต่มึงเสือกทำตัวแบบนั้นน่ะเหรอ ไปคุยกับผู้ชายคนอื่นในแคมฟร็อกเนี่ยนะเนี่ย”

“พอได้แล้วน่า ไอ้อาร์ม” ไอ้ด้าปรามอีกครั้ง “ไอ้ต้ามันก็ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นนะเว้ย และไอ้กัสเองมันก็คงไม่คิดอะไรแบบนั้นหรอก”

“ช่างมันเถอะ ไอ้ด้า กูผิดเองจริงๆ นั่นแหละ กูมันเหี้ยเอง”

“นี่มึงประชดกูเหรอวะ ไอ้ต้า” ไอ้อาร์มนิ่วหน้าใส่ผม

“เปล่า... กูยอมรับผิดจริงๆ”

“ถึงน้องกูมันจะตกลงคบกับไอ้ด้าแล้ว และถึงกูจะยอมรับมันได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากูอยากให้น้องกูเห็นต้นแบบเหี้ยๆ จากมึงแบบนั้นนะเว้ย จะบอกให้”

“มึงพูดเกินไปแล้วนะ ไอ้อาร์ม!” ไอ้เอพูดเสียงเข้ม “นี่เพื่อนมึงนะเว้ย คนที่มึงกำลังพูดถึงอยู่นั่นน่ะ มึงจะพูดเหี้ยอะไรก็คิดถึงจิตใจคนฟังด้วยเว้ย!”

“ก็กูพูดความจริงนี่หว่า คนผิดมันก็ต้องยอมรับผิดสิวะ กูบอกแล้วไงว่ากูรับไม่ได้ ที่แม่งไปคุยกับผู้ชายในแคมฟร็อกอะไรแบบนั้น มันมั่วอะ กูว่ามันทุเรศ”

“เออ! ไอ้เหี้ย!!” ผมทุบโต๊ะเสียงดังพร้อมกับลุกขึ้นยืน ผู้คนที่อยู่รอบตัวพวกเราต่างก็เงียบลงและหันมามองที่ผมเป็นตาเดียวกันทันที “ตกลงคือมึงเห็นกูเหี้ย เห็นกูทุเรศแบบนั้นไปแล้วใช่มั้ย! สรุปว่าตลอดเวลาปีกว่าที่กูกับมึงรู้จักกันมา กูไม่เคยมีอะไรดีในสายตาของมึงเลยใช่มั้ยวะ ไอ้อาร์ม!! มึงคงคิดว่ากูมันมั่วมากเลยงั้นสิ! ก็ได้! ถ้าแบบนั้น มึงก็ไม่ต้องมายุ่งกับคนเหี้ยๆ อย่างกูอีกเลยก็แล้วกัน!!”

ผมตะคอกใส่หน้าของมันด้วยความโกรธ ผมไม่เคยรู้สึกโมโหใครมากขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต ความเดือดดาลที่พลุ่งพล่านไปทั่วทั้งร่างทำให้ร่างกายของผมสั่นเทาออกมาเล็กน้อย

แม่งงง! ที่จริงผมรู้สึกราวกับจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้วด้วยซ้ำ!

“ไอ้ต้า! มึงใจเย็นๆ ก่อนเว้ย” ไอ้ด้ารีบลุกขึ้นยืนแล้วจับแขนของผมเอาไว้ “ไอ้อาร์มมันก็ไม่ได้คิดขนาดนั้นหรอก”

“ไม่คิดเหี้ยอะไร!!” ผมสะบัดแขนออก “กูเย็นไม่ไหวแล้ว ไอ้ด้า! กูรู้ว่ากูทำไม่ดี กูรู้ว่ากูทำให้มันผิดหวัง แต่แม่งเคยรู้มั่งรึเปล่าล่ะว่าที่กูต้องเหงา ที่กูต้องเป็นแบบนั้น ที่จริงแล้วมันเป็นเพราะอะไร! แล้วขอโทษทีเหอะว่ะ! กูเองก็แค่ ‘คุย’ แต่ไม่เคย ‘เอามั่วซั่ว’ แบบที่มันทำมาตลอดด้วยซ้ำ!”

จู่ๆ เสียงของผมก็เริ่มสั่น และน้ำตาของผมก็เริ่มไหลรื้นขึ้นมาอยู่ที่ขอบตา

“เฮ้ย ไอ้ต้า...”

“โทษทีว่ะ ไอ้ด้า ไอ้เอ” ผมหยิบกระเป๋าขึ้นแล้วรีบเดินออกจากโต๊ะที่พวกเรานั่งอยู่ไปทันที

ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งผ่านผู้คนจำนวนมากมายด้วยดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตา ผมเพิ่งได้รู้เดี๋ยวนี้เองว่าที่ผมรู้สึกโมโหจนแทบจะร้องไห้ในตอนแรกนั้นแท้จริงแล้วไม่ใช่ความรู้สึกโกรธ แต่หากเป็นความรู้สึกเสียใจและน้อยใจอย่างถึงที่สุด

คำพูดแต่ละคำของไอ้อาร์มบาดและกรีดลึกลงไปในหัวใจจนผมไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้อีกต่อไป แต่ทว่าความเจ็บปวดที่เลวร้ายที่สุดนั้นกลับไม่ได้เกิดจากคำพูดเหล่านั้นของมัน หากแต่เป็นเพราะสิ่งเหล่านั้นถูกพูดออกมาจากปากของมัน คนที่ผมรัก และเคยบอกว่ารักผมต่างหาก

มัน... คนที่เคยบอกว่าเรื่องระหว่างเราจะไม่มีวันเปลี่ยนไป แต่ในวันนี้มันกลับมองผมด้วยความรู้สึกที่เลวร้ายและคงไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิม

“แม่งเอ๊ยยยย!!” ผมสบถออกมาเสียงดังและค่อยๆ ชะลอฝีเท้าลง จากนั้นก็ใช้แขนเสื้อปาดน้ำตาออกจากหางตาของตัวเอง

“ต้า! ต้า!!” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังกระชั้นขึ้นเรื่อยๆ จากทางด้านหลังของผม

ผมหันกลับไปมองคนที่กำลังวิ่งเหยาะๆ ตรงเข้ามาหาผมด้วยความประหลาดใจ

“พี่อาร์ท”

“เป็นอะไรเนี่ย ทำไมจู่ๆ ก็เดินพรวดพราดไม่สนใจใครแบบนั้น พี่เรียกเราตั้งหลายทีแล้ว ไม่ได้ยินพี่เลยเหรอ”

“ต้า... ต้าไม่...”

“ต้าร้องไห้เหรอ! เกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรต้ามาเนี่ย มีปัญหาอะไร”

“เปล่า ไม่มีอะไรครับพี่” ผมปฏิเสธและตั้งท่าจะเดินหนีไป

“เดี๋ยว” เขาคว้าแขนของผมเอาไว้ “ฟังพี่นะ ต้า พี่รู้ว่าพี่ทำไม่ดีกับต้าไว้ แต่พี่ยังคงรักและเป็นห่วงต้าเหมือนเดิมนะเว้ย ที่ผ่านมาพี่ขอโทษ พี่เห็นเราเป็นแบบนี้แล้วพี่ก็ไม่สบายใจจริงๆ อย่างน้อยๆ ก็คิดถึงวันเวลาดีๆ ที่เรามีด้วยกัน เชื่อใจพี่สักนิด แล้วระบายออกมาให้พี่ฟังบ้างก็ได้”

เมื่อผมได้ยินสิ่งที่พี่อาร์ทพูดแล้ว น้ำตาของผมมันกลับยิ่งจะไหลรื้นมากขึ้นไปอีก ผมจึงต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างเต็มที่ และหันไปมองหน้าของพี่เขา

“งั้นเราไปที่หอพี่ก็ได้ครับ ต้าไม่อยากอยู่ที่ที่คนเยอะๆ”

หลังจากที่เราไปถึงที่หอใหม่ของพี่อาร์ทแล้ว ผมก็ดื่มเบียร์ที่เหลืออยู่ครึ่งโหลในห้องของเขาเข้าไปคนเดียวจนหมด นอกจากนั้นพี่อาร์ทก็ยังซื้อกับแกล้มขึ้นมานั่งกินเป็นเพื่อนผมด้วย ซึ่งพอผมเริ่มจะรู้สึกมึนๆ ขึ้นมาแล้ว ผมก็เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้พี่อาร์ทฟัง ไม่ว่าจะเรื่องของผมกับไอ้อาร์มในห้องน้ำคืนนั้น เรื่องที่ผมเริ่มคุยกับคนในอินเตอร์เน็ต ไปจนถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่

ผมดื่มหนักมากทั้งเบียร์และเหล้าที่พี่อาร์ทซื้อเพิ่มมาให้ จนในที่สุดผมก็เริ่มจะไม่รู้ตัวแล้วว่าผมพูดหรือทำอะไรลงไปบ้าง จนกระทั่งสิ่งสุดท้ายที่ผมรู้สึกก็คือสัมผัสจากร่างกายของพี่อาร์ทที่แบกผมขึ้นไปนอนบนเตียง แล้วหลังจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up29nov
เริ่มหัวข้อโดย: winnie_the_far ที่ 29-11-2011 20:32:04
เพิ่งจะอ่านครั้งแรก... อ่านตอนล่าสุด สนุกอ่ะ เดี๊ยวไปตามอ่านแต่แรกดีกว่า
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up29nov
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 29-11-2011 21:46:48
 :m15:เศร้าอ่ะทำไมคนรักกันต้องใช้คำพูดทำร้ายกันขนาดนี้ด้วย
เป็นกำลังใจให้ต้า และคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up29nov
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 30-11-2011 12:02:07
อย่านะ ไม่ นะ ไอ้อาร์ท
พี่อาร์ม มาช่วยด่วน

มานอนรอ ตอนต่อไป ค้าง ๆ สุด ๆ อ่ะ พี่ต้น ^^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up29nov
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 30-11-2011 18:09:26
 :a5: :impress3:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up29nov
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 30-11-2011 19:39:24
อย่าทำอะไรร้ายๆ นะพี่อาร์ท  อ่านแล้วกลัวใจคนเขียนจังเล้ย
เป็นกำลังใจให้นะ 
รออ่านตอนหน้าจ้า
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up29nov
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 02-12-2011 15:00:54
เช้าวันต่อมา ผมตื่นขึ้นพร้อมด้วยอาการปวดหัวจนแทบระเบิดและคอที่แห้งจนเป็นผง ผมหยีตาขึ้นด้วยความทรมานและกวาดสายตามองไปรอบห้องก็ไม่พบใครคนอื่นในห้องอีกเลย ผมต้องใช้เวลาหลายสิบวินาทีกว่าจะนึกออกด้วยซ้ำว่าผมอยู่ที่ไหนและมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

ผมค่อยๆ ลากตัวเองคลานลงจากเตียง แล้วเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำข้างในมากระดกรวดเดียวจนหมด อาการปวดหัวอย่างหนักทำให้ในตอนแรกผมไม่ได้นึกถึงสภาพอาการอย่างอื่นของตัวเองอีกเลย แต่เมื่อผมพยายามจะเดินจากตู้เย็นไปเข้าห้องน้ำโดยใช้มือยันผนังห้องไปเรื่อยๆ ผมก็เพิ่งรู้สึกถึงอาการเจ็บที่ก้นของตัวเอง และยังรู้สึกถึงคราบเหนียวแปลกๆ แถวๆ บริเวณนั้นและต้นขาของตัวเองอีกด้วย

เมื่อผมเดินเข้าไปในห้องน้ำและถอดกางเกงออกแล้ว ผมถึงได้รู้ว่าคราบเหนียวๆ ที่เลอะอยู่ตรงก้นและขาของตัวเองนั้นคือคราบน้ำกามและคราบเลือดที่แห้งกรัง ผมยืนพิงผนังห้องน้ำอย่างอ่อนแรง รู้สึกกลัวความคิดของตัวเอง และขาของผมก็สั่นเทาจนในที่สุดมันก็ไม่สามารถค้ำยันรับน้ำหนักของผมได้อีกต่อไป ผมจึงทรุดตัวลงนั่งแล้วปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้

“ต้า อยู่ในห้องน้ำเหรอ พี่ซื้อข้าวเที่ยงมาให้แล้วนะ” เสียงของพี่อาร์ทดังขึ้นหลังจากที่สิ้นเสียงประตูห้องที่ปิดลง

ผมลุกขึ้นจากพื้นแล้วเดินไปล็อคประตูห้องน้ำทันที

“ต้า ทำอะไรน่ะ!” พี่อาร์ทเดินเข้ามารัวกำปั้นลงบนประตูห้อง “ล็อคประตูห้องน้ำทำไม!”

“เมื่อคืนพี่ทำอะไรต้า!!” ผมตะโกนตอบกลับไปโดยพยายามบังคับเสียงให้สั่นน้อยที่สุด แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่

พี่อาร์ทเงียบลงไปครู่หนึ่ง แต่แล้วจู่ๆ ผมก็ได้ยินเสียงไขกุญแจ และจากนั้นแค่เพียงอึดใจเดียว ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก

“ต้าลืมไปรึเปล่าว่าที่นี่มันห้องพี่ พี่มีกุญแจนะ”

“ออกไปเถอะพี่! ต้าขอร้อง!!” ผมพูดด้วยเสียงสั่นเครือ หัวของผมปวดจนแทบจะระเบิด

“ต้าฟังพี่ก่อนสิ เมื่อคืนต้าจำอะไรไม่ได้เลยรึไง....” เขาเดินเข้ามาจับแขนของผม “เมื่อคืนต้าเองก็มีความสุขจะตายไป ลืมแล้วเหรอครับ”

ผมสะบัดแขนออก “ไม่จริง! ต้าไม่เชื่อ!”

“ต้าจะไม่เชื่อก็ตามใจ แต่มันเป็นเรื่องจริง พี่ไม่ได้ฉวยโอกาสอะไรจากต้าเลยนะ แต่ต้ายอมให้พี่เองจริงๆ ต้าบอกว่าต้าอยากจะลืม และอยากจะมีอะไรกับพี่อีกครั้ง”

ผมรู้สึกสับสนไปหมด ความทรงจำของผมช่างดูเลือนลาง และยิ่งผมพยายามคิดถึงมันมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้สึกปวดหัวคลื่นไส้มากขึ้นเท่านั้น

“อุ๊... อ้วกกกก!!” จู่ๆ ผมก็อ้วกออกมาแบบควบคุมไม่ได้ พี่อาร์มที่นั่งยองๆ อยู่ข้างๆ จึงรีบกระโดดโหยงหลบทันที

“เอ๊า! เวรเอ๊ยยยย!!”

“ค่อกๆๆ!” ผมสำลักจนแสบคอ

“เฮ้ออออ เวรกรรมจริงๆ กู” เขานั่งลงมาตบบ่าผมเบาๆ “เลอะหมดแล้ว ต้าเอ๊ยย ไปอาบน้ำเถอะ พี่อาบให้”

ผมที่หมดเรี่ยวแรงจะต่อล้อต่อเถียงกับเขาอีก ยอมให้เขาถอดเสื้อออกอย่างว่าง่าย และในเมื่อผมเองก็เปลือยท่อนล่างอยู่แล้ว หลังจากที่ถอดเสื้อออกเรียบร้อย พี่เขาจึงสามารถพยุงผมไปยืนอยู่ใต้ฝักบัวได้ทันที

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ผมก็เดินกลับมาล้มตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้งทั้งๆที่ยังแก้ผ้าอยู่แบบนั้น

“ต้าอยากกลับบ้าน.....” ผมพูดเบาๆ

“อย่าเพิ่งกลับตอนนี้เลย นอนพักผ่อนไปก่อนเถอะ” พี่อาร์ทเดินไปทำอะไรบางอย่างตรงโต๊ะข้างตู้เย็น “พี่ซื้อข้าวต้มมาให้น่ะ จะแกะไว้ให้ก็แล้วกัน กินไหวก็ลุกขึ้นมากินซะล่ะ”

“แล้วพี่จะไปไหน”

“เดี๋ยวพี่จะออกไปโทร.... ออกไปธุระข้างนอกแป๊บนึงน่ะ อีกแป๊บเดียวก็กลับมาแล้ว”

ผมพยักหน้าเบาๆ และก่อนที่ผมจะหลับตาลงนั้นเอง ผมก็หันไปเห็นของบางอย่างที่ก่อนหน้านี้ผมไม่ทันได้สังเกตเห็นถูกวางอยู่บนพื้นห้อง ข้างๆ ถังขยะตรงโต๊ะเขียนหนังสือ

ซึ่งมันคือซองถุงยางที่ถูกฉีกออกแล้ว และ ‘ไอ้นั่น’ ปลอมขนาดเขื่อง

ผมหลับตาแน่นด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้าง แต่แค่นี้ผมก็พอจะรู้แล้วว่าอะไรคือต้นเหตุที่ทำให้ผมกำลังรู้สึกเจ็บแสบที่ก้นอยู่แบบนี้

“ทำไมล่ะ ทีเมื่อคืนต้ายังชอบที่พี่ทำให้อยู่เลย” พี่อาร์ทพูดขึ้นหลังจากที่คงรู้ว่าผมเพิ่งจะเห็นอะไรและกำลังคิดอะไรอยู่ “ไม่แน่นะ คืนนี้ต้าอาจจะอยากทำอะไรแบบเมื่อคืนอีกก็ได้” เขานั่งลงบนเตียงแล้วหอมแก้มผมเบาๆ

ผมสะบัดหน้าหนี “ต้าอยากนอน”

“ก็นอนไปสิ” เขาลุกขึ้น “ยากับน้ำอยู่บนโต๊ะนะ ข้าวต้มด้วย ถ้าอยากกินร้อนๆ ก็อุ่นเอาเองก็แล้วกัน พี่ไปละ”

เมื่อพี่ต้าเดินออกจากห้องไปแล้ว ผมก็คิดอยากจะหยิบโทรศัพท์มือถือที่ปิดไปตั้งแต่เมื่อวานขึ้นมาเปิดดูอีกครั้ง แต่ทว่าทิฐิของผมก็เป็นตัวที่สั่งห้ามเอาไว้ และผมเองก็ไม่รู้ว่าผมอยากจะโทรหาใครหรือเล่าให้คนอื่นฟังอย่างไรดีด้วย

ผมค่อยๆ ลุกออกจากเตียงและเดินไปกินยาแก้ปวดที่พี่ต้าเตรียมไว้ให้สองเม็ด จากนั้นก็เดินกลับมานอนที่เดิม ความสับสน ความเศร้า และความกังวลต่างเข้ามารุมเร้าผมจนรู้สึกไม่สงบ แต่ทว่าไม่นานหลังจากนั้น อาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยอ่อน ความเพลีย หรืออาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา ที่ค่อยๆ ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย และเริ่มจะเคลิ้มหลับลงไปในที่สุด

แต่ทว่าก่อนที่ผมจะหลับลงไปได้สนิทนั้นเอง ผมก็ได้ยินเสียงประตูห้องที่ถูกเปิดออก ผมพยายามจะลืมตาขึ้นแต่ก็ไม่สามารถทำได้ และเมื่อผมพยายามจะอ้าปากพูดออกมา ผมก็ยังทำไม่ได้อีกเช่นกัน คำพูดที่ออกมาจากปากของผมเป็นเพียงเสียงอ้อแอ้ๆ ที่จับใจความไม่ได้ ผมพยายามจะขยับตัว พยายามที่จะยกแขนขึ้น แต่ก็ไม่สามารถทำได้อีกเช่นกัน ความผ่อนคลายและความง่วงที่เคยครอบงำผมเมื่อครู่เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นที่ทำให้ผมรู้สึกกลัว ถึงแม้สมองของผมจะไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ทว่าความกลัวจากจิตใต้สำนึกที่ก่อตัวขึ้นจากเบื้องลึกนั้นกลับร้องเตือนผมดังมากขึ้นเรื่อยๆ

นี่พี่อาร์ทมันเอายาอะไรให้ผมกินเนี่ย!!

ผมพยายามจะอ้าปากร้อง อยากจะถามว่าเขาทำอะไรกับผม แต่ผมก็ทำไม่ได้ ประสาทการทำงานทุกอย่างของผมดูเหมือนจะถูกทำลายลงไปอย่างสิ้นเชิง มีแค่เพียงสิ่งเดียวที่ดูเหมือนจะยังพอใช้การได้เกือบเป็นปกติ นั่นคือ ประสาทการได้ยิน เพราะผมยังพอได้ยินสิ่งที่พี่อาร์ทพูดและยังพอจับใจความได้อยู่บ้าง

“ต้า... ต้า...” พี่อาร์ทพูดพร้อมกับเขย่าตัวของผมเบาๆ “กินยาที่พี่ให้ไปแล้วใช่มั้ย”

ผมพยายามจะตอบกลับเขาไป แต่ก็ทำไม่ได้

พี่ต้าผละออกจากเตียงแล้วเดินออกจากห้องไปอีกครั้ง แต่แล้วอีกไม่นานถัดมา เขาก็กลับเข้ามาพร้อมกับสิ่งที่ทำให้ความกลัวของผมกลับยิ่งเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ

เพราะผมคิดว่าผมได้ยินเสียงของคนที่เดินเข้ามาในห้องมากกว่าหนึ่งคน

ผมพยายามจะลืมตาและถามว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น เขาคิดจะทำอะไรกับผม และเงาคนลางๆ ที่ผมเห็นนั้นคือใคร แต่ทว่าก็ไร้ประโยชน์ เพราะว่าผมไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย ตอนนี้แม้แต่ประสาทการรับฟังและการทำงานของสมองก็ดูเหมือนจะเริ่มถดถอยลงไปมากด้วยเช่นกัน

ขณะที่ผมกำลังรู้สึกสับสนอยู่นั้น มีใครบางคนช้อนหัวของผมขึ้น และป้อนน้ำให้ดื่ม ลำคอของผมที่เคยแห้งผากกลับชุ่มชื้นขึ้น ความเย็นของน้ำทำให้ประสาทการรับรู้ต่างๆ ของผมตื่นตัวขึ้นนิดหน่อย จนในที่สุดผมก็พอจะจับใจความของสิ่งที่ผมได้ยินได้บ้าง

“มึงไปจัดการตั้งกล้องสิวะ”

ผมอยากจะกรีดร้องและรีบลุกขึ้นหนีไปจากที่นี่ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ความคิดเหล่านั้นก็พังทลายลงไปเมื่อร่างกายของผมไม่ยอมทำตามคำสั่งของผมเลย

ผมถูกทิ้งให้นอนลงบนเตียงคนเดียวอีกครั้ง และสิ่งถัดมาที่ผมรู้สึกหลังจากนั้นไม่นานคือมือจำนวนมากที่ทั้งจับ ขยำ และลูบไล้ไปตามร่างกายของผมจนทั่ว ตามมาด้วยการโลมเลียไปตามส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะที่ซอกคอ ซอกขา หน้าท้อง และหัวนม

“อื๊อออออ!!” ผมร้องออกมาเมื่อจู่ๆ ก็ถูกกัดเข้าที่หัวนมอย่างแรง

“เฮ้ย! มึงอย่ากัดมันแรงนักสิวะ”

“ก็กูชอบนี่หว่า ว่าแต่ทำไมมันยังร้องได้วะ มันไม่น่าจะเจ็บแล้วไม่ใช่รึไง”

“มันยังเจ็บเว้ย แต่แค่จะขัดขืนไม่ได้แค่นั้นเอง”

เสียงของผู้ชาย 2-3 คนคุยกันอยู่ใกล้ๆ ผม และบทสนทนาที่ผมได้ยินก็ไม่ได้ช่วยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว
ผมพยายามร้องและดิ้นรนขัดขืนคนเหล่านั้น แต่ทว่าก็ไม่ประสบความสำเร็จ เสียงที่ดังออกมาจากลำคอของผมมีเพียงเสียงครางอืออาๆ ที่ดูเหมือนจะยิ่งทำให้คนเหล่านี้พอใจเข้าไปใหญ่ และแล้วในที่สุด สิ่งที่ผมหวาดกลัวก็เกิดขึ้นจริงจนได้ เมื่อผมรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ก้นจากการสอดใส่อย่างรุนแรง แต่เสียงร้องของผมก็ไม่ได้ช่วยให้ความเจ็บปวดนั้นทุเลาลงได้เลย เพราะคนที่กำลังสอดใส่ผมอยู่นั้นกระแทกสะโพกเข้าออกอย่างรุนแรงด้วยความสะใจ  และที่แย่ไปยิ่งกว่านั้นก็คือ นอกจากความเจ็บแสบจากการเสียดสีตรงบริเวณก้นกับอาการจุกในช่องท้องแล้ว ผมยังต้องทนเจ็บจากการถูกกัดที่หัวนมและซอกคอจำนวนหลายแผลอีกด้วย ถึงแม้ว่าผมจะขัดขืนไม่ได้ และถึงแม้ว่าผมจะไม่แน่ใจนักว่าตอนนี้สภาพร่างกายของผมเป็นอย่างไรบ้าง แต่ผมก็ภาวนาอยู่ในใจว่าขอให้ความรู้สึกแฉะๆ ที่ผมรู้สึกได้จากที่หัวนมทั้งสองข้างนั้นเป็นแค่เพียงน้ำลายเท่านั้นทีเถอะ

กิจกรรมอุบาทว์ที่มีผมเป็นของเล่นของพี่อาร์ทและเพื่อนๆ ยังคงดำเนินต่อไป ความเจ็บปวดเหล่านั้นลดลงเล็กน้อยและเริ่มเปลี่ยนเป็นความแสบจนชาไปทั่วทั้งร่างเมื่อผมถูกบังคับให้ดมสารอะไรบางอย่างอยู่ตลอด และเมื่อผมถูกปล่อยทิ้งเอาไว้บนเตียงคนเดียวด้วยสภาพที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำกามของคนเหล่านี้ ผมคิดมันคงจบลงแล้ว แต่กลับต้องรู้สึกเสียใจที่คิดแบบนั้น เมื่อจู่ๆ ผมก็ถูกอะไรบางอย่างยัดเข้ามาที่ด้านหลัง ซึ่งผมแน่ใจเลยว่ามันไม่ใช่แค่ไอ้นั่นของคนพวกนี้หรือแม้แต่ของเล่นที่ผมเห็นวางไว้บนพื้นก่อนหน้านี้ด้วย เพราะขนาดของมันใหญ่กว่ามาก

ผมร้องออกมาอย่างสุดเสียงและพยายามดิ้นหนีอย่างสุดแรงเกิดเท่าที่จะทำได้ แต่ทว่าก็ถูกมือเหล่านั้นกดเอาไว้ ความเจ็บปวดที่ผมรู้สึกมันเป็นอะไรที่ไม่สามารถบรรยายออกเป็นคำพูดได้เลย มันทั้งร้อน ทั้งแสบ และเจ็บยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ในชีวิต เจ็บจนผมเชื่อจริงๆ แล้วว่าช่องทางด้านหลังของผมมันต้องฉีกแน่ๆ และความเจ็บปวดที่มากเกินกว่าผมจะทานทนได้ก็ทำให้ผมสลบลงไปในที่สุด
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up2Dec
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 02-12-2011 21:52:47
-*- อ๊ากกกกกกกกกกก เกิดเรื่องแบบนี้จนได้ อาร์มมาช่วยต้าอย่างด่วนเลย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up2Dec
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 02-12-2011 21:57:27
อาร์ทแม่งโคตรเลว :z6:ซักที :z6:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up2Dec
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 02-12-2011 23:36:30
ขอให้มันเป็นแค่ ความฝัน ไม่อยากให้มันเศร้าแบบนี้เลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up2Dec
เริ่มหัวข้อโดย: watcharet ที่ 03-12-2011 12:26:02
โห!!!สุดๆอ่ะ เลวมากๆๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up2Dec
เริ่มหัวข้อโดย: ommaomma ที่ 03-12-2011 14:37:56
เลววววววววววววววววววววววววววว T_T
กรี๊ดดดดดดดดดด สงสารต้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up2Dec
เริ่มหัวข้อโดย: kengjung23 ที่ 04-12-2011 18:55:55
 เม้นให้ก่อนยังไม่ได้อ่านเลย เรื่องนี้คงสนุกไม่เเพ้กระดานดำน้อ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up2Dec
เริ่มหัวข้อโดย: kengjung23 ที่ 04-12-2011 21:12:14
อ่านจบเเล้ว ไม่อยากให้เป็นเรื่องจริงเลย ขอให้เป็นความฝันได้มั๊ย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up2Dec
เริ่มหัวข้อโดย: peppier ที่ 05-12-2011 23:40:43
สงสารต้าาาาาา
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up2Dec
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 07-12-2011 09:21:14
ผมรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งในสภาพเปลือยเปล่า สมองของผมยังคงทำงานไม่เป็นปกติ แต่ผมก็ยังมีสติพอที่จะสำรวจร่างกายของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก และสิ่งที่ผมเห็นก็ทำให้ผมต้องทำหน้าเหยเกด้วยความขยะแขยง เพราะผมพบว่าทั่วทั้งร่างกายของผมมีแต่คราบเลือดและคราบน้ำกามที่แห้งกรัง ผมพยายามจะขยับมือและแขนทั้งสองข้าง แต่เพราะมันถูกมัดติดไว้กับหัวเตียงทำให้ผมไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นอกจากนั้นผมยังรู้สึกเจ็บแสบไปทั่วทั้งร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงบริเวณด้านหลังที่ผมเพิ่งจะนึกออกว่าถูกอะไรบางอย่างยัดเข้าไปจนทำให้ผมถึงกับสลบ

“เฮ้ยยย เด็กมึงตื่นแล้วว่ะ ไอ้อาร์ท!”

ผมสะดุ้งและรีบผงกหัวขึ้นเพื่อพยายามมองหาที่มาของเสียง แล้วก็พบกลุ่มคน 4 คนกำลังนั่งกินเหล้าและดูดบุหรี่ด้วยกันอยู่

“พอดีเลย กูกำลังเงี่ยนพอดีเลยว่ะ” คนๆ เดิมพูดซ้ำ

“เฮ้ยย อีกแล้วเหรอวะ มึงนี่มันขี้เงี่ยนจริงๆ ว่ะ ไอ้เหี้ยป๋อง” อีกคนหนึ่งหัวเราะขึ้นเบาๆ

“ก็เพราะยามึงนั่นแหละ ไอ้เหี้ย ทำกูเงี่ยนขนาดนี้น่ะ ของแม่งดีจริงๆ ไอ้สาดดด”

“แป๊บซิพวกมึง” คราวนี้พี่อาร์ทพูดขึ้นบ้าง เขาลุกขึ้นยืนและเดินตรงเข้ามาหาผมที่เตียงพร้อมรอยยิ้ม “เป็นยังไงบ้าง สนุกมั้ย”

“ไอ้... เหี้ย!” เสียงของผมที่ดังผ่านปากออกมาเหลือเพียงแค่ลมเบาๆ ไม่ต่างจากเสียงกระซิบเท่านั้น

“หืออ อะไรนะ อยากโดนอีกเหรอ” พี่อาร์ทหัวเราะเบาๆ

ผมมองหน้าของเขาด้วยความเจ็บใจและความเคียดแค้น

“เฮ้ย! แต่ตูดมันยังแหกอยู่เลยนะเว้ย! เลือดเพียบเลย มึงจะเอาลงเหรอวะ” เสียงอีกเสียงดังขึ้น

“ไม่เห็นเป็นไรเลย ไอ้เหี้ย แม่งโดนแค่กำปั้นยัดเข้าไปแค่นี้เสือกทำสำออย สลบไปเสียฉิบ แม่งงง ไม่เห็นเหมือนในหนังโป๊ที่มึงเคยให้กูดูเลยวะ ไอ้อาร์ท! แต่เดี๋ยวไงก็ใช้ครวยปลอมของมึงนำร่องดูก่อนก็ได้นี่หว่า คราวนี้กูจะยัดเข้าไปให้มิดลำเลย คอยดู”

ผมหน้าซีดเผือดทันที พี่อาร์ทที่นั่งมองหน้าผมอยู่อมยิ้มออกมาน้อยๆ เมื่อผมลองนึกดูดีๆ แล้วจึงคิดได้ว่าพวกเขาคงไม่ได้แค่กำลังกินเหล้าและสูบบุหรี่อย่างเดียวแน่ๆ

“ไม่... ไม่...” ผมบังคับให้เสียงลอดผ่านจากลำคอที่แห้งผากได้อย่างยากลำบาก “ไม่เอา...”

พี่อาร์ทก้มลงมาซุกลงบนซอกคอของผมพร้อมกับขบกัดเบาๆ กลิ่นที่โชยออกมาจากร่างกายของเขาทำให้ผมอยากจะอ้วก ผมพยายามบิดตัวหนี แต่ก็ไม่สำเร็จ และในอีกไม่กี่อึดใจต่อมา ผมก็ถูกคนอีกคนหนึ่งจับขาเอาไว้

“เฮ้ย กูว่าจับมันนอนคว่ำดีกว่าว่ะ” คนที่ชื่อป๋องพูดขึ้น “แบบนี้กูเอาครวยปลอมยัดไม่ถนัดว่ะ แม่งดิ้นไปดิ้นมาอยู่ได้”

“ไม่เอาอะ ไอ้เหี้ย!” คนสุดท้ายที่ยังนั่งอยู่บนพื้นพูดขึ้น “แบบนั้นกูก็เลียหัวนมมันไม่ได้ดิวะ แค่นี้มึงสู้แรงมันไม่ได้รึไง ไอ้สัตว์ป๋อง มึงก็ให้ไอ้เหี้ยเต๊ะ ไม่ก็ไอ้อาร์มช่วยจับขาไว้ก็ได้นี่หว่า”

“เฮ้ยๆๆ กูบอกมึงตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ ไอ้แมน ว่าให้กัดมันเบาๆ หน่อย ไอ้เหี้ยนี่ก็โรคจิตชิบหาย กัดแฟนกูจนหัวนมแทบหลุด เลือดท่วมแล้วเนี่ย” พี่อาร์ทเงยหน้าขึ้นหันไปพูดกับเพื่อนของเขา

“ไอ้เหี้ยย..ย...” ผมขบฟันแล้วพูดออกไปให้ดังที่สุดเท่าที่ทำได้

“หืมม ว่าไงนะ” พี่อาร์ทหันมาพูดกับผม “นี่น่ะเหรอ คำพูดของคนที่อุตส่าห์ให้ที่พักพิงหาข้าวให้กินน่ะ หือออ” เขาตบหน้าผมอย่างแรง แล้วใช้มือขวาช้อนคางพร้อมกับบีบแก้มทั้งสองข้างของผมให้เงยหน้าขึ้นไปสบตากับเขา “ทำตัวดีๆ แล้วพี่จะดูแลเราเอง เป็นแฟนพี่มันไม่ดีตรงไหนวะ ฮะ ถ้าตอนนั้นต้ายอมทำตามที่พี่เสนอซะก็คงไม่มีปัญหาไปตั้งนานแล้วแท้ๆ แต่ถ้าจะปฏิเสธพี่อีกล่ะก็ คลิปที่เราสนุกกันเมื่อตอนเย็นก็อาจจะหลุดไปทั้งมหาวิทยาลัย จนไอ้อาร์มมันมาเห็นเข้าก็ได้นา... ไม่สิ แต่ถึงมันจะเห็น มันก็คงไม่สนใจหรอกมั้ง เพราะมันก็ไม่ชอบคนสำส่อนแบบต้าอยู่แล้วนี่หว่า จริงมั้ย”

น้ำตาของผมมันรื้นขึ้นมาที่ขอบตาทั้งๆ ที่ผมไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของผมเลย

“เฮ้ย ไอ้เต๊ะ มึงไปเอากล้องมาดิ๊วะ เอามาให้มันดูสภาพของมันเมื่อเย็นหน่อย”

เมื่อพี่อาร์ทรับกล้องวีดีโอมาจากเพื่อนแล้ว เขาก็เปิดให้ผมดูภาพที่ผมคิดว่ามันคือหนังโป๊ใต้ดินเกรดต่ำ ที่มีผู้ชายคนหนึ่งถูกชายอีกสี่คนที่ใส่หน้ากากปิดหน้าปิดตาเอาไว้รุมเล้าโลมจนทั่วทั้งร่างกาย โดยที่คนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นไม่ได้มีท่าทีขัดขืนมากไปกว่าการส่งเสียงครางในลำคอเบาๆ และบิดตัวไปมาด้วยความเสียวซ่านเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เลย! คนที่อยู่ในวีดีโอนั้นก็คือผมที่พยายามจะดิ้นหนีแต่ทว่าไร้เรี่ยวแรงที่จะทำอย่างนั้นได้ต่างหาก!

“ใครเห็นก็ต้องคิดว่าต้ายินยอมทั้งนั้นแหละ จริงมั้ย” พี่อาร์ทส่งกล้องวีดีโอคืนไปให้กับเพื่อน “แล้วแบบนี้ยังจะขัดขืนพี่อยู่มั้ยนะ”

“ไอ้เหี้ยย!!” ผมคำรามออกมาอย่างสุดเสียงเท่าที่จะทำได้ และน้ำตาของผมมันก็เริ่มไหลรินลงมาบนแก้มทั้งสองข้างของผมแล้ว

“เฮ้ย คุยกันจบรึยัง กูเงี่ยนนะเว้ย!”

“จบแล้ว” พี่อาร์ทลุกออกจากเตียงไป “มึงจัดการเลย คราวนี้กูจะถ่ายให้เอง ไม่ให้ติดหน้าพวกมึงแน่นอน จะได้ไม่ต้องใส่หน้ากาก”

เมื่อสิ้นเสียงพี่อาร์ท ขาทั้งสองข้างของผมก็ถูกใครคนหนึ่งยกขึ้น และอีกคนก็เขยิบตัวเข้ามาซุกลงบนซอกคอของผมพร้อมกับกัดเนื้อของผมเบาๆ แต่ก็แรงกว่าที่พี่อาร์ทเพิ่งทำกับผมไปมากจนผมต้องบิดตัวเพราะความเจ็บปวด

“อึ๊กกก!!”

“ร้องดังๆ สิเว้ย ร้องดังๆ หน่อยยย กูชอบบ” คนที่กัดต้นคอของผมพูดพร้อมกับใช้มือชักให้ตัวเองไปด้วย จากนั้นเขาก็เลื่อนตัวลงต่ำและกัดลงบนหัวนมของผมอย่างแรง

“อ๊ากกก!! อื๊อออ!!” ผมสะดุ้งเฮือกและบิดตัวไปมา “เจ็บบบ!! พอ… แล้ว...ว..!”

ในขณะที่ผมถูกความเจ็บปวดเพราะถูกกัดดึงความสนใจไปอยู่นั้น ผมก็รู้สึกถึงอะไรเย็นๆ ที่ทาลงที่ช่องทางด้านหลัง ใจของผมหล่นหายไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที

“เอาละนะเว้ย ซี๊ดดดส์”

เมื่อสิ้นเสียงของคนที่นั่งอยู่ตรงหว่างขา ผมก็ถูกอะไรบางอย่างขนาดใหญ่ยัดเข้าไปทันที

“อ๊ากกก!!” ผมร้องออกมาอย่างสุดเสียง ความแสบร้อนที่ผมรู้สึกทำให้ผมแทบจะเป็นลมไปอีกรอบ และถ้าเป็นแบบนั้นผมก็คงจะรู้สึกยินดีกว่านี้เยอะ เพราะอย่างน้อยผมก็ไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดและความอับอายที่กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้

ผมเริ่มร้องไห้ออกมามากขึ้นเรื่อยๆ เชือกที่มัดข้อมือทั้งสองข้างของผมเอาไว้บาดผิวหนังของผมจนผมรู้สึกปวดแสบปวดร้อน เท่ากับว่าตอนนี้ผมบาดเจ็บไปทั่วทั้งร่างกายแล้วจริงๆ ผมรู้สึกราวกับว่าไม่มีตารางนิ้วไหนในร่างกายของผมเลยที่ไม่มีบาดแผล และผมก็เริ่มจะเหนื่อยอ่อนจนเกินกว่าจะขยับตัวหรือแม้แต่เปล่งเสียงร้องขอความเมตตาใดๆ อีกต่อไปแล้วด้วยเช่นกัน

ผมภาวนาให้ใครก็ได้มาช่วยผมไปจากที่นี่ที ผมนึกถึงไอ้อาร์ม แล้วก็ขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ช่วยดลจิตดลใจให้มันรู้ทีเถอะว่าผมอยู่ที่นี่ ผมกำลังทรมานจนแทบจะตายอยู่ในไม่กี่นาทีนี้แล้ว หรือถ้าหากว่าจะไม่มีใครมาช่วยผมจริง ผมก็ขอแค่ให้ผมตายๆ ไปเสียที เรื่องทุเรศๆ เหล่านี้มันจะได้จบลง ผมจะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดแสนสาหัสนี้อีกต่อไป

ช่วงที่สติของผมเริ่มจะเลือนรางลงไปอีกครั้ง จนผมเริ่มตัดใจและคิดว่าจะกัดลิ้นตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยนั้น จู่ๆ คนทั้งสามคนที่รุมอยู่บนตัวผมก็ขยับตัวพร้อมๆ กัน

“เสียงอะไรวะ!”

“เสียงคนเดินธรรมดามั้ง”

“แต่ห้องนี้อยู่ริมสุดนะเว้ย แล้วไอ้อาร์ท มันก็บอกเองไม่ใช่เหรอวะว่าไม่มีใครรู้ว่ามึงมาเช่าห้องนี้เอาไว้น่ะ”

ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างเหนื่อยอ่อน และในตอนนั้นเอง ที่จู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแรง คนทั้งสามคนที่เคยคร่อมอยู่บนร่างกายของผมต่างก็กระโดดลุกออกจากเตียงไปกันคนละทิศละทาง ดวงตาที่พร่ามัวของผมเห็นเงาคนๆ หนึ่งพุ่งตัวเข้ามาในห้อง ตามมาด้วยคนอีกจำนวนหนึ่ง และเสียงเอะอะโวยวาย ร่างของชายคนแรกที่ผมเห็นนั้นตรงดิ่งไปยังพี่อาร์ทที่ยืนอยู่ไม่ไกลแล้วเหวี่ยงกำปั้นต่อยเขาที่ใบหน้าอย่างเต็มรัก

“อั๊กก!!” พี่อาร์ทร้องออกมาพร้อมกับล้มลง

“ตายซะเหอะมึง!! ไอ้เหี้ยเอ๊ย!!” คนที่ต่อยพี่อาร์ทสบถออกมาเสียงดัง และผมก็ได้ยินเสียงของพี่อาร์ทร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอีกหลายครั้งด้วย

“พอแล้วไอ้อาร์ม! เดี๋ยวมันก็ตายจริงๆ หรอก!” เสียงของไอ้เอดังขึ้น

ผมเงยหน้าขึ้นมาเห็นภาพไอ้เอวิ่งเข้าไปรั้งตัวของไอ้อาร์มที่กำลังกระทืบพี่อาร์ทที่นอนกองอยู่บนพื้นเอาไว้

นี่ผมไม่ได้กำลังฝันไปใช่มั้ย... ไอ้อาร์มมาช่วยผมแล้วจริงๆ น่ะเหรอ

น้ำตาของผมเริ่มไหลออกมาอีกครั้ง และแล้วผมก็รู้สึกถึงใครบางคนที่กระโดดขึ้นมาคร่อมร่างกายอันเปลือยเปล่าของผมเอาไว้ ผมสะดุ้งและหดตัวหนีด้วยความกลัวทันที แต่แล้วอีกอึดใจหนึ่งผมก็รู้สึกถึงความเป็นอิสระจากเชือกที่เคยมัดมือทั้งสองข้างเอาไว้

“ไอ้ต้า นี่กูเอง มึงไม่ต้องกลัวแล้ว มึงปลอดภัยแล้วนะเว้ย กูขอโทษ... กูขอโทษ!” ผมถูกช้อนให้ลอยขึ้นจากเตียงด้วยอ้อมแขนของชายคนหนึ่ง

“อ... ไอ้อาร์ม... ไอ้อาร์มจริงๆ เหรอวะ...” ผมยกมือขึ้นลูบแก้มของมันเบาๆ อยากจะแน่ใจว่าสิ่งที่ผมเห็นไม่ใช่แค่เพียงฝันไป แต่ทว่าใบหน้าที่เคยหล่อเหลา และดวงตาที่เคยสดใสของมัน กลับดูหมองหม่นและเจ็บช้ำ

“ไอ้ต้า กูขอโทษ กูขอโทษมึงจริงๆ มึงอย่าเป็นอะไรนะเว้ย” น้ำใสๆ หยดหนึ่งที่ไหลออกจากตาของมันหยดลงบนแก้มของผม

“ขอโทษนะครับ น้องช่วยหลบหน่อยครับ ให้พี่ดูอาการของเค้าหน่อย” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้น

“ไม่! ผมจะไม่ปล่อยมันไปไหนอีกแล้ว!”

“ไอ้อาร์ม พี่เค้าจะปฐมพยาบาลให้ไอ้ต้านะเว้ย” ไอ้ด้าเขยิบเข้ามาจับหัวไหล่ของไอ้อาร์มเอาไว้

ไอ้อาร์มดูลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวางผมลงบนเตียง ที่จริงผมก็ไม่อยากให้มันห่างจากร่างกายของผมไปไหนเลยเหมือนกัน แต่ว่าอีกไม่นานหลังจากนั้น โลกของผมก็เริ่มพร่ามัว เสียงดังวุ่นวายต่างๆ ก็ค่อยๆ เงียบลง และดวงตาของผมก็ปิดสนิทพาผมจมลงกลับไปสู่ความมืดมิดอีกครั้ง
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 07-12-2011 09:31:21
 :sad4: :o12:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: nirun4 ที่ 07-12-2011 09:34:23
มาช้าอ่ะ.  :o12: :sad4: :m15:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: golfgab ที่ 07-12-2011 09:47:44
มาช้าอ่ะ พี่ต้น งอน
แต่ก็ยังดีกว่าไม่มาอ่ะ ^^"
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 07-12-2011 09:56:29
หมายถึงไอ้อาร์ม หรือหมายถึงมาต่อเรื่องช้าครับ 55555
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: suginosama ที่ 07-12-2011 11:23:49
สงสารต้าอย่างสุดซึ้งค่ะพี่
เศร้ามากมายT^T
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: winnie_the_far ที่ 07-12-2011 12:36:33
ทำไมคนช่วย มาช้า ช้าไหม ช้าไหม มาช้าหรือไม่ช้า...

น่าสงสารต้าอะ สงสารไหม สงสารไหม สงสารหรือไม่สงสาร...
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 07-12-2011 12:44:55
 :sad4: :o12: :sad2:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 07-12-2011 13:46:14
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 07-12-2011 14:59:08
ก็ดีแล้ว
.
สะใจ อาร์ม ดีมั๊ยล่ะ พอใจรึยังล่ะ อาร์ม ห๊าาา
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: Gulp ที่ 07-12-2011 16:14:53
อาร์มมาช้าอ่ะ แล้วก้ค้างด้วยอ่ะY_Y
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 07-12-2011 21:26:17
โชคดีที่อ่านรวดเดียว3ตอนนะ. ไม่งั้น คงค้างตายกันไปข้างเลย

สงสารเออ่ะ. เจ็บหนักเลย ฮือ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 07-12-2011 22:13:14
สงสารทั้งต้าทั้งอาร์ม
อ่านแล้วเศร้าโคตร
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 07-12-2011 22:31:37
น้ำตาท่วมจอแล้ว สงสารต้ามากมาย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 07-12-2011 23:07:10
 :monkeysad:
เศร้าจริงอะไรจริง
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: ljk_sj_lovelove ที่ 08-12-2011 02:47:33
 :sad4: :m15: :monkeysad: :o12: :serius2:

สงสารต้ามากมายยย....ฮืออออ :z3:

ถ้าอาร์มมันจะมาช้าขนาดดนี้....... :o12:

อ่านแล้วจิตใจห่อเหี่ยว เลิกหวังว่าอาร์มมันจะมาแล้วนะเนี่ย :เฮ้อ:

อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ มาลงเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up7Dec
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 08-12-2011 20:47:29
ผมรู้สึกตัวอีกครั้งและรับรู้ว่าตัวเองนอนอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อนสนิททุกคนยืนอยู่รอบเตียง รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ หมอ และพยาบาลอีกจำนวนหนึ่ง

“เฮ้ย ฟื้นแล้วเหรอวะ รู้สึกเป็นยังไงบ้างวะ ไอ้ต้า” ไอ้ด้าเป็นคนแรกที่พุ่งตัวเข้ามาหาผม

ตามร่างกายของผมมีผ้าพันแผล และผ้าก๊อตปิดเอาไว้หลายจุด นอกจากนี้ผมยังคงรู้สึกมึนหัวอยู่มาก ความทรงจำเลวร้ายที่เพิ่งผ่านมา เหตุการณ์ทั้งหมดที่เพิ่งเกิดขึ้นราวกับเป็นเพียงฝันร้ายอันยาวนาน แต่สิ่งที่ช่วยย้ำเตือนว่าเรื่องทั้งหมดคือความจริงก็คือร่องรอยบาดแผล ความเจ็บปวดที่ยังคงอยู่ และใบหน้าเศร้าหมองของไอ้อาร์มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง

“รู้สึกยังไงบ้างครับ ฟื้นเร็วกว่าที่หมอคิดนะเนี่ย ปวดหัวใช่มั้ย เดี๋ยวหมอให้พยาบาลจัดยาเผื่อไว้ให้เลยก็แล้วกันนะ” ผู้ชายในชุดขาวพูดขึ้น “ช่วงนี้จะยังเจ็บแผลหน่อยนะ แต่ตรงที่ร้ายแรงที่สุดหมอเย็บแผลให้แล้ว ยังไงก็อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวร่างกายเยอะก็แล้วกัน จะเข้าห้องน้ำจะอะไรก็ค่อยๆ หรือเรียกพี่พยาบาลเค้ามาช่วยดูแลก็ได้ เข้าใจนะครับ”

ผมพยักหน้าตอบรับไปอย่างงงๆ

“ถ้ายังไงผมว่าให้คนไข้พักผ่อนก่อนดีกว่ามั้ยครับ” หมอหันไปพูดกับตำรวจที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับไอ้เอ

“แล้วเดี๋ยวถ้าเพื่อนผมเค้าพร้อมจะคุย ผมจะติดต่อพี่ๆ ไปเองก็แล้วกัน ได้มั้ยครับ ผมว่าตอนนี้ไอ้ต้ามันคงยัง...” ไอ้เอหันไปพูดกับตำรวจทั้งสองนาย

“ได้ครับ พวกเราเข้าใจ แล้วหลังจากนี้ผมจะให้คนพาผู้ปกครองของน้องเขามาหาที่นี่ก็แล้วกันนะครับ”

“เดี๋ยวครับ” ผมรีบร้องห้ามขึ้นทันที “เรื่องนี้ไม่บอกพ่อกับแม่ของผมไม่ได้เหรอครับ...”

“ไม่ได้หรอกครับ ตอนนี้เพื่อนของน้องเองก็ได้ทำการติดต่อไปยังผู้ปกครองของน้องแล้ว เราอาจจะพอปิดปากนักข่าวได้บ้าง ซึ่งพ่อกับแม่ของเพื่อนเราคนนี้เค้าก็กำลังจัดการให้อยู่...” ตำรวจนายหนึ่งชี้ไปที่ไอ้อาร์ม “แต่ไม่ว่าจะยังไง ผู้ปกครองของน้องก็ต้องรับรู้เรื่องนี้แน่ๆ อยู่แล้วครับ อีกไม่เกินสองชั่วโมง พวกเขาก็น่าจะมาถึงโรงพยาบาลแล้วล่ะ”

“ขอบคุณมากครับ ถ้ายังไงผมรบกวนเรื่องที่เหลือด้วยนะครับ” ไอ้เอตัดความ จากนั้นตำรวจทั้งสองนายรวมทั้งหมอและพยาบาลก็เดินออกจากห้องไป

ห้องทั้งห้องถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบทันที

“กูหิวน้ำ...”

“ได้ๆ ค่อยๆ ดูดนะมึง” ไอ้ด้าจัดแจงช่วยยกหัวของผมขึ้นและช่วยป้อนน้ำให้แก่ผม

“เดี๋ยวกูออกไปโทรหาพ่อแม่ก่อนก็แล้วกัน” ไอ้อาร์มยืนขึ้น

“เออๆ ใช่ๆ งั้นเดี๋ยวกูสองคนออกไปโทรหาพ่อกับแม่ของไอ้ต้าให้ก็แล้วกัน” ไอ้นกพูดขึ้นพร้อมกับสะกิดไอ้ฝนที่นั่งอยู่ข้างๆ

“เออใช่ ลืมสนิทเลยว่ะ ตอนนี้มึงก็พักผ่อนเยอะๆ นะเว้ย ไอ้ต้า เดี๋ยวพวกกูกลับมา”

“มึงจะคุยอะไรกับพ่อแม่กูวะ ไอ้นก” ผมถาม

“ไม่ได้จะคุยอะไรหรอก มึงไม่ต้องห่วง พวกกูเล่าเรื่องคร่าวๆ ให้พวกเค้าฟังแล้ว นี่ตำรวจก็กำลังไปรับเค้ามาจากที่บ้านไง แต่ไอ้นกมันจะโทรไปช่วยปลอบใจและบอกพ่อกับแม่ของมึงไงว่ามึงฟื้นแล้วและสบายดีมากๆ อะไรแบบเนี้ย” ไอ้ฝนตอบพร้อมรอยยิ้มให้กำลังใจแบบฝืนๆ

ผมพยักหน้าเบาๆ “อืออ... ขอบใจมึงสองคนมากๆ ด้วยนะเว้ย”

ไอ้นกที่ยืนอึกอักๆ อยู่ครู่หนึ่งเดินตรงเข้ามาหาผม แล้วจากนั้นมันก็ทำสิ่งที่ผมคิดไม่ถึงเลย นั่นคือมันจุ๊บลงบนหน้าผากของผมเบาๆ พร้อมกับน้ำใสๆ จากดวงตาของมันที่หยดลงบนแก้มของผม

“มึง... พวกกูรักมึงมากนะเว้ย”

“กูก็รักมึงเหมือนกัน...”

“ไปเถอะ อีนก เดี๋ยวกูก็ร้องไห้ไปอีกคนหรอก อีห่านจิก” ไอ้ฝนพูดด้วยเสียงอันสั่นเครือพร้อมกับดึงแขนเพื่อนของตัวเอง
เมื่อทั้งสามคนเดินออกจากห้องไปแล้ว ไอ้เอก็ลากเก้าอี้มานั่งลงข้างๆ ผมด้วยอีกคน

“มันคงหนีไปร้องไห้กันอีกแน่ๆ เลยว่ะ กูว่า” ไอ้ด้าพูดพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ

“รู้สึกยังไงมั่งวะ ไอ้ต้า”

ผมส่ายหน้าเบาๆ “งงๆ ว่ะ ไอ้เอ กูรู้สึก... ไม่รู้ว่ะ ปวดหัวมาก แล้วมันก็เบลอๆ ยังไงไม่รู้ ไม่รู้เรื่องไหนจริง เรื่องไหนกูฝันไป...”

มันสองคนหันไปมองหน้ากัน แต่ไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมาก่อนเลย

“มีอะไรวะ มึงบอกกูมาเถอะ”

“กูว่ามึงอยากรู้อะไรแล้วมึงถามพวกกูดีกว่าว่ะ ไอ้ต้า” ไอ้ด้าพูด

ผมคิดอยู่ครู่หนึ่ง “...ไอ้พี่อาร์ทอยู่ไหนวะ มันเป็นยังไงแล้วบ้าง”

“ถูกจับไปแล้ว ทั้งก๊วนนั่นแหละ ไอ้พวกเหี้ยนี่ก็รอพ่อแม่มันมาประกันเหมือนกัน แต่ท่าทางจะยากว่ะ หลักฐานแม่งครบอะ ถ้าอย่างยาวก็คงต้องขึ้นศาลแน่ๆ” ไอ้ด้าตอบ

“แล้วพวกมึงเจอกูได้ยังไง...”

“พวกกูก็พยายามโทรหามึง ตามหามึงตั้งแต่วันนั้นนั่นแหละ พอข้ามคืนแล้วมึงยังไม่กลับมา ไม่ติดต่อมาเลย ไอ้อาร์มมันก็เริ่มประสาทเสียแล้ว พวกกูพยายามติดต่อหาเพื่อนทุกคน แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่ามึงไปไหน พอพวกกูรู้ว่าพ่อกับแม่มึงไม่รู้ว่ามึงหายไป พวกกูก็ไม่อยากให้พวกเค้าเป็นห่วง เลยพยายามตามหามึงกันเอง จนกระทั่งเด็กปีหนึ่งคนนึงมันบอกว่าวันนั้นมันเห็นมึงเดินไปกับผู้ชายคนนึง ไอ้อาร์มมันก็เลยรีบติดต่อไปหาไอ้เหี้ยอาร์ททันที” เมื่อไอ้เอเล่ามาถึงตรงนี้ น้ำเสียงที่เคยราบเรียบและใจเย็นของมันก็เปลี่ยนไปทันที “พอครั้งแรกที่มันรับสายและรู้ว่าเป็นไอ้อาร์มโทรไป มันก็รีบปิดเครื่องหนีทันที แค่นั้นพวกกูก็รู้แล้วว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ พอกูไปแจ้งตำรวจ แม่งก็บอกว่ายังทำอะไรให้ไม่ได้เพราะยังไม่ถึง 24 ชั่วโมง และมึงก็โตแล้วด้วยอีก แม่งก็คิดแค่ว่ามึงคงไปกินเหล้ากับใครที่ไหนแล้วแบ็ตหมดแค่นั้นไง แต่พอไอ้อาร์มหาหอของไอ้อาร์ทเจอ แล้วเจอยาเสพย์ติดในนั้นนั่นแหละ พวกตำรวจถึงเริ่มยอมเคลื่อนไหวน่ะ”

ไอ้ด้าที่เห็นผมทำหน้างงๆ เริ่มอธิบายต่อจากไอ้เอ “หอที่มึงโดนขังไว้น่ะ เป็นหอที่ไอ้อาร์ทมันเช่าเอาไว้กินเหล้าเมายาหรือมีปาร์ตี้เซ็กส์กับเพื่อนๆ มันน่ะ ส่วนหอเก่าที่มึงเคยไปนอนตอนยังคบกับมัน มันก็ยังใช้นอนปกติเหมือนเดิมนั่นแหละ”

“เออ นั่นแหละ แล้วพอพวกกูเริ่มคิดแล้วว่ามึงต้องโดนมันหลอกไปไหนแน่ๆ ไอ้อาร์มมันก็พยายามสืบหาให้ได้ว่าไอ้อาร์ทมันมีบ้านอยู่ที่ไหน หรือมีที่ซุกหัวอยู่ที่ไหนอีก จนกระทั่งมันหาเจอว่าเป็นที่นั่นน่ะแหละ พวกกูก็เลยไปรวมตัวกันที่นั่นพร้อมกับตำรวจ แล้วก็บุกเข้าไป ตอนแรกตำรวจก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งหรอก แต่พอเจอแบบนั้นเข้าไป ก็... นะ”

ผมพยายามคิดตามที่เพื่อนสองคนนี้เล่า มีรายละเอียดอีกมากมายที่ผมยังคงสงสัย แต่ผมคิดว่าพวกมันก็คงจงใจเล่าแบบข้ามๆ ย่อๆ เพื่อไม่ให้ผมต้องปวดหัวกับเรื่องพวกนี้มากไปกว่านี้มากกว่า

“มึงต้องเห็นไอ้อาร์มตอนมันพยายามตามหามึง ไอ้ต้า มันไม่ได้นอนตลอดสองวันเลยนะเว้ย เอาจริงๆ มันไม่ได้กลับบ้านเลยด้วยซ้ำ แม่งขับรถวนหามึงแทบจะทั่วทั้งกรุงเทพฯ เลย”

“กูหายไปสามวันเลยเหรอวะ”

“ก็ประมาณนั้นอะว่ะ คือมึงหายไปสองคืนเต็มๆ แล้วพวกกูไปเจอมึงที่ห้องนั่นก็ตอนจะรุ่งเช้าของวันนี้แล้วน่ะ...” ไอ้เอตอบ

“แล้วพวกมึงล่ะเป็นยังไงบ้าง กูขอโทษนะเว้ยที่ทำให้พวกมึงต้องเดือดร้อนกันอะ...”

“เฮ้ย มึงอย่าคิดแบบนั้นสิวะ ไอ้ต้า พวกกูเป็นเพื่อนมึงนะเว้ย กูจะทิ้งมึงไปได้ยังไง”

“ใช่ ไอ้ด้าพูดถูก มึงห้ามคิดแบบนั้นเด็ดขาดเลยนะเว้ย และที่สำคัญ คนที่เป็นเดือดเป็นร้อนที่สุดน่ะ ก็ไม่ใช่ใครหรอก แต่เป็นไอ้อาร์มต่างหาก”

“แต่... เมื่อกี้มันแทบไม่ยอมมองหน้ากูเลยนะ”

ไอ้ด้ากับไอ้เอหันไปสบตากันอีกครั้ง

“กูจะบอกว่า...” ไอ้ด้าหันมาพูดกับผม “ก่อนที่ตำรวจกับหมอจะเข้ามาน่ะ มันจับมือมึงเอาไว้ตลอด ไม่ยอมปล่อยเลยนะเว้ย ขนาดตอนพ่อกับแม่มันมา มันก็ยังไม่ยอมปล่อยมือเลยด้วยซ้ำ”

“ไอ้เหี้ย ตอนอยู่บนรถพยาบาลมันยังไม่ยอมปล่อยมือมึงเลยด้วยซ้ำเหอะ มันเอาแต่บอกว่ามันจะไม่ยอมปล่อยมึงให้ไปไหนไกลเกินสายตามันอีกแล้วน่ะ” ไอ้เอพูดเสริม

“กูว่า... มึงคงรู้แล้วนะ ไอ้ต้า ว่าที่จริงไอ้อาร์มมันรู้สึกยังไงกับมึงน่ะ” ไอ้ด้าพูดพร้อมกับล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือที่กำลังสั่นเบาๆ ออกมาจากกางเกง “ไอ้กัสโทรมาว่ะ กูขอไปรับสายน้องมันก่อนนะ”

“มึงตามไอ้เชี่ยอาร์มเข้ามาด้วย”

ไอ้ด้าพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

“กูว่าไม่ใช่แค่มึงหรอกที่ควรจะรู้ว่าอีกฝ่ายนึงคิดยังไง แต่เป็นไอ้อาร์มเองนั่นแหละว่ะ ที่ควรจะรู้ได้แล้วว่าตัวเองคิดยังไงกันแน่” ไอ้เอพูดพร้อมถอนหายใจเบาๆ จากนั้นมันจึงเริ่มเล่าอาการของผมให้ฟัง สรุปว่านอกจากแผลถูกกัดทั่วทั้งร่างกายแล้ว ผมยังต้องดูแลแผลที่ก้นของผมเป็นกรณีพิเศษอีกด้วย เพราะว่ามันฉีกขาดมาก และคงใช้เวลาอีกพักใหญ่ๆ กว่าจะหายดี นอกจากนั้นก็ยังมีปัญหาเรื่องยาที่ไอ้พี่อาร์ทมันให้ผมกินในครั้งแรก และปัญหาด้านจิตใจของผม ซึ่งผมถูกบังคับให้เข้าพบจิตแพทย์เป็นประจำหลังจากนี้ไปอีกสักระยะ

“แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกอย่างก็อยู่ที่จิตใจของมึงนั่นแหละเว้ย” ไอ้เอพูด “ถ้าจิตใจมึงเข้มแข็งพอ อีกไม่นานร่างกายมึงก็หาย ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอก พวกกูรักมึงมากนะเว้ย มึงมีกำลังใจจากพวกกูเต็มเปี่ยมนะ ไอ้ต้า อย่าลืมซะล่ะ ส่วนเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ พวกกูจะจัดการให้เอง มึงไม่ต้องกังวลอะไรเลย เข้าใจรึเปล่า”

ผมพยักหน้ารับเบาๆ อย่างอ่อนแรง รู้สึกเหนื่อยจนอยากจะหลับลงไปอีกสักครั้งจริงๆ

“มาแล้ว พระเอกของเรา” เสียงของไอ้ด้าดังขึ้นหลังจากที่ประตูห้องถูกเปิดออก

“มึงมานี่ ไอ้อาร์ม กูว่ามึงมีเรื่องต้องคุยกับไอ้ต้ามั้ง” ไอ้เอลุกขึ้นยืน “กูจะให้มึงอยู่กันสองคนสักพักก็แล้วกัน ถ้าจะเอาอะไรก็ออกไปตามกูล่ะ คงเดินเล่นอยู่แถวนี้แหละ”

ไอ้อาร์มเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ที่ไอ้เอเพิ่งลุกออกไป

“ไอ้ตูดเอ๊ย!” ไอ้เอตบหัวของไอ้อาร์มเบาๆ “ถ้ามึงทำเสียเรื่องอีกล่ะก็ คราวนี้ไม่ใช่แค่ตบหัวแน่นะมึง กูจะเอาปืนมายิงมึง ไอ้เชี่ยอาร์ม ถึงกูเองจะไม่ได้เป็นเกย์ ไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่กูยังเข้าใจอะไรๆ ได้ดีกว่ามึงเลย และมึงเองก็น่าจะรู้นะว่าทำไม คราวนี้มึงอยากจะพูดอะไรก็พูดออกไปซะ เพราะพ่อกับแม่มึงก็สอนมาไม่ใช่เหรอวะว่าถ้าหากมีอะไรอยากจะพูด ก็ให้รีบๆ พูดซะก่อนที่จะไม่มีโอกาสน่ะ”

เมื่อไอ้เอพูดจบ มันก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับไอ้ด้า ทิ้งให้ผมอยู่กับไอ้อาร์มตามลำพัง
แต่ทว่าเราสองคนกลับปล่อยให้ความเงียบเป็นคนบอกเล่าความในใจของกันและกันอยู่พักใหญ่ๆ เรื่องที่ไอ้เอกับไอ้ด้าเล่าให้ผมฟังมันแทบจะทำให้ผมคิดว่าไอ้อาร์มเองก็รักผมอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่อยากที่จะคิดเข้าข้างตัวเองไปมากกว่านั้นอีกแล้ว ผมไม่อยากจะเจ็บปวดอีก เพราะบางที มันเองก็อาจจะแค่เป็นห่วงผมมากในฐานะเพื่อนสนิท และรู้สึกผิดที่เคยพูดจาทำร้ายจิตใจผมก็เป็นได้ ใครจะไปรู้

บางทีมันอาจจะรังเกียจผมที่ผมกลายเป็น ‘สิ่งสกปรก’ แบบนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ...

“เฮ้ยย ไอ้ต้า มึงเป็นอะไร มึงร้องไห้ทำไมวะ” ไอ้อาร์มรีบขยับตัวทันทีที่เห็นน้ำตาของผม

“เปล่า แต่กู... กู... ขอโทษ ไอ้อาร์ม กูขอโทษ!”

“มึงจะขอโทษกูทำไม กูสิวะที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษมึง!” มันรีบลุกขึ้นยืน

“มึงดูสภาพกูสิ! มึงดูว่ากูเป็นยังไง! แบบนี้กูก็ไม่ต่างจากคนที่มึงเคยบอกว่ามึงรังเกียจแล้วจริงๆ กูมันสกปรก! กูมันโสโครก! กูมันมั่ว! กูขอโทษจริงๆ ไอ้อาร์ม ฮืออๆๆ” น้ำตาของผมมันไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ

“ไอ้ต้า มึงอย่าพูดอย่างนั้นสิวะ มึงไม่ได้สกปรก มึงไม่ได้โสโครกเว้ย คนที่สกปรกคือไอ้เชี่ยอาร์ทต่างหาก!” ไอ้อาร์มพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “มึงคือเพื่อนกูนะเว้ย เป็นคนที่กูรัก และเป็นคนที่มอบความรักที่บริสุทธิ์ให้กูเสมอมา เพราะฉะนั้น... มึงห้าม...” เสียงของไอ้อาร์มขาดห้วงไป

เมื่อผมหันไปมองหน้าของมัน ดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตาของผมก็เห็นว่ามันกำลังยืนร้องไห้อยู่ด้วยเหมือนกัน

“กูรักมึงนะ ไอ้อาร์ม ฮึก... กูขอโทษที่กูรักมึง แต่กูรักมึงจริงๆ ฮืออๆๆ”

ไอ้อาร์มไม่ตอบอะไร แต่ก้มลงมารวบตัวของผมเข้าไปกอดเอาไว้แน่น บาดแผลทั่วทั้งร่างกายของผมร้องอุทธรณ์ทันที แต่ผมก็พยายามอดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้เพราะไม่อยากจะให้มันคลายอ้อมกอดออกแล้วปล่อยผมทิ้งเอาไว้อย่างอ้างว้างอีกต่อไป
ร่างกายของไอ้อาร์มสั่นไหวน้อยๆ และสุดท้ายมันก็ค่อยๆ คลายวงแขนออกและปล่อยให้ผมนอนลงบนเตียงเหมือนเดิม

“กูขอโทษว่ะ มึงเจ็บแผลรึเปล่า...” มันพูดทั้งๆ ที่น้ำตายังคงอาบแก้ม

ผมพยักหน้าเบาๆ “...แต่กูทนได้”

“ไม่หรอก ไอ้ต้า ต่อจากนี้มึงไม่ต้องทนอะไรเพื่อกูอีกต่อไปแล้ว”

“มึงหมายความว่ายังไง”

มันเช็ดน้ำตาออก “กูขอโทษที่ตลอดเวลาที่ผ่านมากูทำตัวเหี้ยๆ กับมึง ทั้งๆ ที่กูก็รู้ว่ามึงคิดยังไงกับกู แต่กูกลับยังพูดจาหมาๆ กับมึงอีก กูรู้ว่ามึงต้องทนกับความจัญไรของกูมามากแล้ว...” มันคว้ามือของผมไปกุมเอาไว้ “แต่จากนี้ไปกูจะไม่ยอมให้มึงต้องทนเจ็บปวดอะไรแบบนั้นอีกแล้วเว้ย ไอ้ต้า ขอให้กูได้อยู่ดูแลมึงไปข้างๆ แบบนี้ตลอดไปนะ กูรู้แล้วว่ามึงรักกูมากแค่ไหน และมึงมีความสำคัญสำหรับกูมาเพียงใด กูจะไม่ทำให้มึงต้องเสียใจอีก กูสัญญา”

“ไอ้อาร์ม มึง...”

“เดี๋ยว กูยังพูดไม่จบ ไอ้ต้า กูขอโทษ แต่มึงให้กูพูดเถอะนะ”

ผมพยักหน้า

“พ่อกับแม่สอนกูกับน้องมาตลอดว่าเวลาที่กูรู้สึกอะไรยังไง ให้หัดพูดหรือแสดงออกไปเลย ไม่อย่างนั้นถ้าหากมันสายเกินไปแล้วคนที่จะเสียใจก็คือกู... ก่อนหน้านี้กูคิดว่ากูก็ทำแบบที่พ่อกับแม่บอกมาตลอดนะ กูรู้สึกยังไงกับมึงกูก็แสดงออกไปตลอด ทั้งเรื่องในคืนนั้น และเรื่องที่เราทะเลาะกันที่โรงอาหารด้วย กูไม่พอใจ กูก็บอกไปตรงๆ ว่ากูไม่พอใจ แต่ปัญหาคือกูกลับไม่เคยรู้ใจตัวเองอย่างแท้จริง ว่าที่จริงแล้วทำไมกูถึงต้องไม่พอใจมึงขนาดนั้น ทำไมกูถึงได้รักและห่วงมึงมาก จนกระทั่งตอนนี้กูถึงเพิ่งเข้าใจว่า ความรักและความห่วงใยที่กูมีให้กับมึง มันไม่ใช่แค่เพียงเท่านั้น แต่มันมีความผูกพันที่กูก็ไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไรแฝงอยู่ด้วย มันคือสายใยที่มาพร้อมกับความกลัวว่ากูจะคิดกับมึงเกินกว่าคำว่าเพื่อน กูจึงปฏิเสธตัวเองมาตลอดว่ามันเป็นเพราะกูกับมึงเป็นเแค่พื่อนที่รู้ใจกันจริงๆ และกูก็ยังชอบผู้หญิง ยังรักตุ๊กตากับนิ้งมาก และยังรักผู้หญิงคนอื่นๆ ที่กูเคยจีบด้วย แต่พอมาคิดดูดีๆ แล้ว ผู้หญิงที่กูสามารถใช้คำว่ารักด้วยได้ก็มีแค่สองคนนี้เท่านั้นเองว่ะ ความเป็นจริงคือถึงกูจะจีบใคร จะนอนกับใคร จะทำตัวมั่วแค่ไหน แต่คนที่ได้คำว่ารักไปจากกู ก็มีเพียงแค่สองคนนี้ที่ไม่เคยรักกูจริงเลย นอกจากนั้นก็มีอีกแค่คนเดียว ซึ่งคนๆ นั้นก็คือ... มึง”

ไอ้อาร์มเล่าด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและซีเรียส จนกระทั่งสุดท้าย มันที่ก้มหน้าพูดมาตลอดก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม

“กูก็ไม่รู้หรอกนะว่าไอ้ความรู้สึกที่กูมีให้มึงเนี่ย จะเรียกว่าความรักแบบที่กูเคยมีให้นิ้งหรือตุ๊กตาได้รึเปล่า กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากูรักมึงแบบไหน และคำว่ารักครั้งนี้ของกูที่มีให้มึงมันมีคำนิยามว่ายังไง แต่กูรู้แค่ว่ากูรักมึงจริงๆ ก็ใช่ ที่ก่อนหน้านี้กูอาจจะเคยบอกมึงไปแล้วว่ากูรักมึง แต่มันต่างไปว่ะ ไอ้ต้า ตอนนี้กูรู้แล้วว่ะว่ากูรักและเป็นห่วงมึงมาก กูไม่อยากใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีมึง กูกลัวที่จะต้องสูญเสียมึงไปอีก...” เสียงของมันเริ่มสั่นเครือขึ้นอีกครั้ง “ไอ้เหี้ยเอ๊ยยย! มึงรู้มั้ยว่าวินาทีที่กูเห็นมึงนอนอยู่บนเตียงในสภาพนั้นน่ะ กูคิดว่ากูเสียมึงไปแล้วซะอีก ยิ่งตอนที่มึงสลบไปอีกครั้งนั่น กูแทบจะหัวใจสลายเลยนะเว้ย กูกลัว... กูกลัวมาก... และมันก็ทำให้กูรู้เลยว่า กูไม่อยากให้มึงคลาดสายตาไปจากกูอีกต่อไปแล้ว ไอ้ต้า... กู...” มันบีบมือของผมแน่น

“ไอ้อาร์ม... กูเองก็รักมึงเหมือนกัน แต่...”

มันรีบปาดน้ำตาที่ทำท่าจะไหลออกมาอีกและนิ่วหน้าทันที “แต่อะไรวะ”

“แต่มึงแน่ใจเหรอวะว่าสิ่งที่มึงกำลังรู้สึกอยู่นี้เป็นความรักจริงๆ ไม่ใช่แค่ความรู้สึกผิดหรืออะไรอื่นน่ะ”

“โถ่เอ๊ยยย ไอ้ต้า... ถ้ากูไม่รักมึงจริงๆ แล้วล่ะก็ คืนนั้นกูก็คงจะไม่กอดมึง ไม่จูบมึง ไม่ทำแบบนั้นกับมึง และไม่ทำตัวเหี้ยๆ แบบที่ผ่านมากับมึงหรอกนะเว้ย ใช่มั้ยล่ะ” มันยิ้มน้อยๆ

“เออ ก็คงจะจริงของมึงว่ะ...” ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ

“กูว่ากูคงรักมึงมาตั้งนานแล้วล่ะว่ะ และคืนนั้นแหละ เป็นคืนที่กูได้กล้าทำสิ่งที่ตัวเองเคยสงสัยและอยากลองมานาน คงเพราะกูเมาด้วยแหละมั้ง หรือไม่กูก็แค่ใช้ความเมาเป็นเหตุผลในการทำแบบนั้น กูเฝ้าบอกตัวเองแบบนั้นมาตลอดจริงๆ นะเว้ย กูแม่งโคตรขี้ขลาดเลย...”

“ไม่หรอก กูเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้มันย่อมน่ากลัวสำหรับคนที่ไม่เคยคิดจะชอบผู้ชายมาก่อนแบบมึงอยู่แล้ว...”

“มึงยกโทษให้กูได้มั้ยวะ ไอ้ต้า”

ผมส่ายหน้า “คงไม่ได้หรอกว่ะ... เพราะมันไม่มีอะไรที่กูจะต้องยกโทษให้มึงสักหน่อยนี่หว่า”

ไอ้อาร์มยิ้มแห้งๆ และหลังจากนั้นเราสองคนก็ต่างคนต่างเงียบอีกครั้ง

“นี่ ไอ้อาร์ม กูนึกขึ้นมาได้อย่างนึงว่ะ คือตอนที่ไอ้อ้วนมันเล่าเรื่องของมึงกับนิ้งให้กูฟังอะ มันเคยบอกกูว่า ถ้ามึงรักใครเข้าสักคนแล้วล่ะก็...”

“กูก็จะรักและทุ่มเทให้กับคนๆ นั้นมากจริงๆ มึงจะพูดแบบนี้ใช่มั้ย”

“อืออ แล้วกับกูที่เป็นผู้ชายเนี่ย ก็จะอยู่ในกรณีเดียวกันด้วยมั้ยวะ”

“เอาเป็นว่า... กูจะรักมึงให้ดีที่สุดยิ่งกว่าคนไหนๆ ที่กูเคยรักเลย แบบนั้นโอเคมั้ยวะ”

“จริงเหรอวะ”

“มึงเชื่อใจกูมั้ยล่ะ”

ผมพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ไม่เคยมีสักวันที่กูจะไม่เชื่อในตัวมึงเลยด้วยซ้ำ”

เมื่อผมพูดจบ เราก็เงียบกันไปอีกอึดใจหนึ่ง

“นี่ ไอ้ต้า...”

“หืออ”

“มึงจะต้องหายดีนะเว้ย มึงต้องไม่เป็นอะไร ต่อจากนี้มึงห้ามคิดอะไรมากเด็ดขาดเลยนะเว้ย สัญญากับกูได้มั้ย”

“กูจะพยายามนะ...”

“ต่อจากนี้กูจะขอเป็นคนคอยดูแลปกป้องมึงเอง จากทุกอย่างเลย รวมทั้งจากความเสียใจที่อาจจะเกิดจากกูด้วย ได้มั้ยวะ...”

“มึง... นี่มึงกำลังขอกูเป็นแฟนรึเปล่าวะ ไอ้อาร์ม”

“กู... กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ” มันก้มหน้าแล้วบิดตัวไปมาท่าทางอึดอัดใจ “กูบอกตรงๆ ว่ากูก็ไม่รู้ว่ากูอยากจะเป็นแฟนกับมึงรึเปล่านะเว้ย”

ผมใจแป้วลงทันที

“แต่กูบอกมึงไปแล้วว่ากูจะรักมึงมากกว่าใครๆ กูอยากจะมีมึงอยู่ข้างกายกูตลอดเวลา ไม่อยากให้มึงหายไปไหนอีกแล้ว กูรู้สึกแบบนั้นจริงๆ กูอยากจะเดินไปข้างหน้าพร้อมๆ กับมึง มีมึงอยู่ในชีวิตของกู และอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของมึงด้วยเหมือนกัน อย่างที่กูเคยบอกไงว่ากูรู้สึกดีเสมอที่เรามีกันและกันแบบที่ผ่านๆ มา มึงไม่เคยทิ้งกูไว้คนเดียวเลย แต่กูเสือกเป็นฝ่ายผิดสัญญาที่ทิ้งมึงไปจนทำให้มึงต้องเจอกับเรื่องแบบนี้...” มันบีบมือผมแน่นจนผมเริ่มรู้สึกเจ็บ

ผมยกมือข้างขวาขึ้นมาวางลงบนมือของมันแล้วบีบเบาๆ “ไม่เป็นไรหรอก ไอ้อาร์ม มึงไม่ได้ทิ้งกูไปหรอก แต่กูเองต่างหากที่เดินออกไปจากมึงเอง จำได้รึเปล่า”

“แต่ก็เป็นกูเองไม่ใช่รึไงที่ทำให้มึงต้องเสียใจแบบนั้นน่ะ...” มันขบกรามแน่น

“แต่ตอนนี้กูมีความสุขนะเว้ย”

ไอ้อาร์มเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมงงๆ ส่วนผมก็ยิ้มตอบกลับไปให้กับมัน

“ใช่ กูมีความสุขจริงๆ กูดีใจที่มึงนั่งอยู่ตรงนี้กับกู กูดีใจที่มึงเป็นคนไปช่วยกูออกมาจากที่นั่น และกูดีใจที่ในที่สุดกูก็ได้ยินความในใจของมึง เพราะฉะนั้นมึงไม่ต้องคิดอะไรมากแล้วนะ ไอ้อาร์ม...” เมื่อพูดจบ ผมก็อ้าปากหาวออกมาทันที

“มึงเหนื่อยเหรอ ง่วงเหรอวะ นอนพักหน่อยมั้ย”

ผมพยักหน้า เพราะที่จริงในขณะที่ฟังไอ้อาร์มมันพูดอยู่นั้น สมองของผมก็ใกล้จะหยุดการทำงานไปหลายทีแล้วเหมือนกัน

“แล้วเดี๋ยวมึงจะไปไหนรึเปล่า...”

“ไม่ไปหรอกว่ะ กูจะนั่งอยู่ข้างๆ มึงแบบนี้จนกว่ามึงจะตื่นนั่นแหละ”

ผมยิ้มน้อยๆ “ขอบใจมากนะเว้ย ไอ้อาร์ม”

“กูก็เหมือนกัน ไอ้ต้า ขอบใจสำหรับทุกๆ อย่างนะเว้ย ขอบใจที่ไม่เคยทิ้งกู ขอบใจที่คอยดูแลดูมาเสมอ และขอบใจสำหรับความกล้าหาญที่มึงแบ่งปันให้แก่กูมาตลอดด้วยเหมือนกัน”

ผมนึกสงสัยอยู่ในใจกับความหมายของประโยคสุดท้ายที่มันพูด แต่ก็ตัดสินใจเก็บคำถามนั้นไว้ในใจ และหลับตาลง เพราะผมรู้ว่าหลังจากนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าผมจะรู้สึกอะไรหรือมีปัญหาใดๆ ก็ตาม ไอ้อาร์มก็จะยังคงอยู่เคียงข้างผมตรงนี้ เพื่อตอบคำถามและช่วยเหลือผมในทุกๆ อย่าง มันจะไม่มีวันทิ้งผมไปไหน และจะแบ่งปันทุกความรู้สึกที่มีต่อผมอย่างตรงไปตรงมา มันจะจับมือผมแล้วเราสองคนก็จะเดินไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคงตลอดไปแน่นอน

“พักผ่อนซะนะ กูรักมึงนะ ไอ้ต้า” เสียงของไอ้อาร์มกระซิบลงที่หูของผม จากนั้นมันก็หอมแก้มผมเบาๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up8Dec
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 08-12-2011 20:50:46
ยังไม่จบนะเออ

อย่าอ่านเพลินล่ะ คิดกันไว้มั่งรึยังว่าภาคนี้ เรื่องราวระหว่างสองคนนี้ "ความรักคือ... อะไร"

ลป. ฝากไลค์ด้วย http://www.facebook.com/ExecutionerNovel เอาไว้ติดตามความคืบหน้านะคับ เพราะเรื่องนี้ก็ใกล้จะจบแล้ว ยังไม่ได้เขียน love is คู่ต่อไปเลย 55555
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up8Dec
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 08-12-2011 21:02:58
น้องต้าแง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 :sad4:
กว่าจะได้คำว่ารักของอาร์มมา
ต้าต้องเสียอะไรไปมากขนาดไหนรู้บ้างมั้ย?
สงสารต้ามากเลย
ตอนนี้อยากจะเอามีดมาปาดไอ้นั่นของไอ้เชี้ยอาร์ท
แล้วแล้วเอาเกลือทาแผลมัน
 :beat:  :z6:  o18
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เกลียดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อาร์มก็ตาสว่างแล้ว
จริงๆไม่อยากจะให้อภัยอาร์มเท่าไหร่
แต่เห็นว่าต้ายกโทษให้นะ
ฮึ!!!!  :a14:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up8Dec
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 08-12-2011 21:05:15
คู่นี้เป็นความรักที่รันทดมาก :o12:
ถ้าเกิดในชีวิตจริงบาดแผลของทางใจของต้าร์คงฝังแน่น เป็ดก็เอาไม่อยู่ :m15:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up8Dec
เริ่มหัวข้อโดย: winnie_the_far ที่ 08-12-2011 21:22:11
โฮกกกกกก น้ำตาไหลเลยอ่ะ กว่าจะรู้ใจตัวเองก็เกือบสาย...
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up8Dec
เริ่มหัวข้อโดย: watcharet ที่ 08-12-2011 21:37:02
เฮ้อ... จบลงด้วยดี ขอให้รักกันมากๆน่ะ อินซะเหลือเกิน แต่เกลียดไอ้อาร์ทว่ะ ทำตัวได้อุบาทมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up8Dec
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 08-12-2011 22:03:38
ดีที่ยังไม่สายเกินกว่าจะบอกคำว่า"รัก"นะ
ดูแลหัวใจตัวเองให้ดีนะอาร์ม
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up8Dec
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 09-12-2011 13:53:16
พี่ต้นนนนน ขอหวานๆๆแบบเรทสักตอนสิ เหอๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up8Dec
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 09-12-2011 14:36:06
อ่านแล้วรู้สึกหน่วงๆ??
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up8Dec
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 09-12-2011 15:07:06
กว่าจะบอกรัก
เจ็บกันทุกคน :กอด1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up8Dec
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 09-12-2011 15:53:04
คู่นี้คือครึ่งชีวิตของกันและกันละมั้ง
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up8Dec
เริ่มหัวข้อโดย: ljk_sj_lovelove ที่ 10-12-2011 01:39:09
อ่านแล้วเหนื่อยใจจจ  แต่ตอนล่าสุดนี้ช่วยทำให้ใจอบอุ่นขึ้นเยอะ ^^

รักของคู่นี้คือ........คืออะไรดีหว่า....ไว้มาบอกกับตอนจบละกันนะคะ หุหุ

รออ่านตอนจบนะคะ ขอหวานๆปิดท้ายด้วยยย ><
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up8Dec
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 12-12-2011 13:01:16
ผมจำเป็นต้องใช้เวลาพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอยู่ประมาณหนึ่งเดือนเต็มกว่าจะออกมาพักฟื้นต่อที่บ้านและสามารถไปไหนมาไหนได้ ซึ่งสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในตอนนั้นกลับไม่ใช่ความเจ็บปวดทางร่างกายหรือจิตใจ แต่เป็นการที่ผมต้องเห็นความทุกข์และความเศร้าใจของพ่อและแม่ต่างหาก ย้อนไปในวินาทีแรกที่แม่เจอหน้าผม แม่ก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนักทันที ตอนนั้นพ่อกับแม่รู้รายละเอียดมาจากเพื่อนสาวทั้งสองคนของผมเกือบทั้งหมดแล้ว และผมก็เป็นคนที่ช่วยเติมเต็มข้อมูลส่วนสำคัญที่สุดที่ขาดหายไปให้พวกเขาได้รู้เพิ่มอีกในวันนั้น... ซึ่งนั่นก็คือเรื่องที่ผมเป็นเกย์นั่นเอง

ผมรู้ได้จากสีหน้าของทั้งคู่ว่าพวกเขาไม่ได้รับกับความจริงข้อนี้ได้อย่างทันที แต่ผมเชื่อว่าจะด้วยความเป็นพ่อแม่ ความสงสาร ความรู้สึกสมเพชในสภาพของผมในตอนนั้น หรืออะไรก็แล้วแต่เถอะ พวกเขาจะยอมรับผมได้อย่างแท้จริงสักวัน ซึ่งคนที่คอยอยู่เคียงข้างและคอยให้กำลังใจผมอยู่ตลอดเวลาไม่เคยห่างเลยก็คือไอ้อาร์ม

นับจากวันแรกที่เราได้เปิดอกคุยกัน มันก็มานอนอยู่กับผมทุกคืนจนกระทั่งผมออกจากโรงพยาบาล ผมยังจำคืนแรกที่มันหลับอยู่บนโซฟาข้างเตียงของผมได้เลยว่ามันหลับสนิทจริงๆ แถมยังกรนและละเมอเบาๆ ออกมาอีกด้วย ซึ่งก็คงไม่แปลก เพราะว่ามันต้องเหนื่อยกับการตามหาผมมาตลอดตั้งขนาดนั้นนี่นะ

“ไอ้ต้า... เฮ้ยย ไอ้กีตาร์!”

“หือ! อะไรวะ” ผมสะดุ้งเบาๆ และรีบหันไปหาไอ้นกที่นั่งกระทุ้งศอกใส่ผมอยู่

“มึงเหม่ออีกแล้วนะเว้ย พักหลังๆ นี้มึงเหม่อบ่อยขึ้นรึเปล่าวะ” มันมองผมด้วยสายตาเป็นกังวล

“เฮ้ย กูไม่ได้เป็นอะไรหรอก กูก็แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเฉยๆ”

“คิดอะไรวะมึง...” มันยิ่งทำหน้าเครียดหนักยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

“ไม่ใช่เรื่องเหี้ยๆ พวกนั้นหรอกน่า” ผมยิ้มให้กับมัน “กูพูดจริงๆ เว้ย ไม่ได้โกหก”

“แน่นะมึง มึงก็รู้นะเว้ยว่าถ้ามึงอยากพูดอะไร อยากระบายอะไรเกี่ยวกับเรื่องเมื่อตอนนั้น...”

“กูไม่เป็นไรจริงๆ” ผมจับมือมันแล้วบีบเบาๆ “แล้วสรุปที่มึงเรียกกูเนี่ย มีอะไรกันแน่วะ”

“อ๋ออ เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ไอ้อาร์มมันเพิ่งวอสแอพมาบอกกูว่ามันมาถึงแล้วน่ะ และมันโทรหามึงไม่ติด มึงปิดเครื่องเหรอวะ”

ผมรีบหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาจากกระเป๋ากางเกงทันที “เวร แบ็ตกูหมดว่ะ”

“เออ งั้นเรารีบเก็บของเหอะ จะได้ไปนั่งรอมันหน้าตึก” มันหันมายื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองให้กับผม “เอ้า โทรไปหา ‘ที่รัก’ ของมึงซะด้วย เดี๋ยวมันจะเป็นห่วงซะเปล่าๆ”

ผมหน้าแดงทันที “พวกมึงเลิกเรียกกูกับมันแบบนั้นซักทีเหอะวะ ไอ้เหี้ย น่าอายจะตายห่า”

“อ๊าววว แล้วมึงจะให้กูเรียกพวกมึงว่าอะไรล่ะค้าาา ก็ในเมื่อมึงสองคนไม่ได้เป็น ‘แฟน’ กันนี่หว่า”

“เออ ก็จริง แต่...” ผมอ้าปากจะเถียง แต่ทว่ามือถือของไอ้นกที่ผมถืออยู่ในมือก็ดังขึ้นเสียก่อน และแน่นอนว่าคนที่โทรเข้ามาก็คือคนที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี่เอง

“รับสิยะ ไอ้หอยทรงกระบอก” ไอ้นกทำเป็นยิ้มจิกๆ ใส่ผม

“เออๆ รู้แล้วน่า... ฮัลโหล”

“ไอ้ต้า! ทำไมปิดเครื่องวะ!”

“มึงใจเย็นๆ อย่าเพิ่งโวยวายดิ ไอ้เหี้ย กูแบ็ตหมดเฉยๆ เมื่อคืนกูลืมชาร์จอะ แล้วเสือกเปิดเน็ตคุยกับมึงเมื่อตอนเช้ากับตอนกลางวันซะนาน แม่งก็เลยแดกแบ็ตกูไปเกือบหมดเลยไง”

“กูไม่ได้โวยวาย กูเป็นห่วงมึง ไอ้ห่าเอ๊ยยย”

“มึงจะห่วงอะไรกูอีก ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลได้อาทิตย์กว่าๆ เนี่ย พวกมึงเคยปล่อยให้กูอยู่คนเดียวสักนาทีเหรอวะ”

“ก็กูรักมึง กูเป็นห่วงมึงไม่ได้รึไง” มันทำเสียงเศร้า

“พอเลยๆ ไม่ต้องมาทำเสียงแบบนั้นเลย ไอ้หำ”

“ทำไมอ่าคับบบ ที่รัก...” มันยังไม่ยอมเลิก

“พอๆ แค่นี้นะ! เดี๋ยวไปเจอกันหน้าตึกก็แล้วกัน มึงใกล้จะถึงแล้วใช่มั้ยล่ะ”

“โอเคคร้าบบบบ กูใกล้จะถึงแล้วล่ะ อีกไม่เกินสิบนาที”

ผมกดปุ่มวางสาย รู้สึกว่าตัวเองเขินจนหน้าร้อนผ่าวไปหมด และเมื่อผมหันไปเห็นไอ้นกกำลังยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ ผมก็แยกเขี้ยวใส่มันทันที

“มองเชี่ยไร!”

“เปล๊า” มันหันไปทางอื่น

เราสองคนเดินลงจากอาคารหอสมุดแล้วไปนั่งอยู่บนม้านั่งด้วยกัน

“นี่ ไอ้ต้า ทำไมพอมึงออกจากบ้านได้แล้วมึงถึงได้อยากมาที่มหาลัยเป็นที่แรกวะ”

“ไม่รู้ว่ะ... กูคงคิดถึงล่ะมั้ง และกูก็ไม่อยากไปที่ๆ คนเยอะๆ ด้วยว่ะ แถมวันนี้มันก็วันหยุด ในมอมันก็เงียบดี กูก็อยากมาที่นี่อะ”

“ตอนแรกกูก็คิดว่ามึงจะยังไม่อยากมาเพราะ...”

“จะทำให้กูคิดถึงไอ้พี่อาร์ทใช่มะ ไม่หรอกว่ะ เพราะกูมีเรื่องของคนอื่นให้คิดมากกว่านั้นอยู่แล้ว”

“เรื่องของใครอีกวะ”

“เอ้า มึงนี่ ก็แหงสิวะว่า...” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบคำถามของไอ้นก รถของไอ้อาร์มก็เข้ามาจอดเทียบตรงหน้าของเราเสียก่อน

“เอ้า มันมาแล้ว ไปกันๆ เร็ว”

เราสองคนรีบลุกออกจากม้านั่งแล้วกระโดดเข้าไปนั่งในรถของไอ้อาร์มทันที

“ขยับตัวเร็วๆ แบบนี้ ไม่เจ็บรึไง เดี๋ยวก็แผลฉีกหรอก ที่รัก” ไอ้อาร์มนั่งยิ้มหน้าแป้นแล้นอยู่ที่เบาะหลัง

“อ้าว! นี่มึงไม่ได้เป็นคนขับรถเหรอวะ ไอ้อาร์ม” ผมถามขึ้นด้วยความแปลกใจทันที

“ไปๆ มึงรีบออกไปนั่งข้างหน้าเลยไอ้นก” ไอ้อาร์มชะโงกตัวข้ามผ่านผมไปไล่ไอ้นก

“มึงไม่ต้องไล่กูก็จะไปอยู่แล้วย่ะ!”

“ไอ้อาร์มมันเพิ่งจะสลับกับกูเมื่อกี้นี้เอง” ไอ้เอพูดขึ้น

“ก็กูอยากนั่งดูแลที่รักกูนี่หว่า ไม่ได้เจอหน้าตั้งหนึ่งวัน คิดถึงจะแย่” ไอ้อาร์มหันมายิ้มแล้วยักคิ้วให้กับผม

“พอได้แล้ว ไอ้อาร์ม กูจะอ้วก”

“มิน่าล่ะว่าก่อนนี้ทำไมผู้หญิงแม่งถึงได้ติดมันกันนัก แล้วไหนบอกว่ามึงไม่ใช่คนเจ้าชู้ไง ไอ้เชี่ยอาร์ม แต่เท่าที่กูเห็นมาตลอดเนี่ย คารมมึงลิเกมากกกกกเลยนะยะ!”

“มึงสองคนหุบปากไปเลย คนนั่งหน้าก็ส่วนคนนั่งหน้าเว้ย ส่วนคนนั่งข้างหลังเค้าจะสวีทกัน”

“แต่กูเองก็คิดเหมือนไอ้สองคนนี้เหอะว่ะ ไอ้อาร์ม มึงนี่แม่งงง คารมคนเจ้าชู้จริงๆ กูล่ะจะอ้วก!”

“กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ได้เจ้าชู้ แต่กูแค่แสดงออกถึงความรักเท่านั้นเอง” มันคว้ามือของผมไปกุมเอาไว้ “กูจะชดเชยเวลาและสิ่งที่กูเคยทำพลาดไปทุกอย่างเท่าที่กูจะทำได้เว้ย ไอ้ต้า และกูก็จะบอกรักมึงทุกวันจนกว่ามึงจะเบื่อเลยด้วยเหมือนกัน” มันยกมือของผมขึ้นจุ๊บเบาๆ

“แล้วทีก่อนนี้ตอนกูอยู่โรงพยาบาล มึงยังทำเก้ๆ กังๆ แล้วบอกว่ามึงไม่เคยบอกรักผู้ชาย ก็เลยทำตัวไม่ถูกน่ะ จำได้มั้ย ไอ้ทุยเอ๊ยยย”

“โอ๊ยยย กูเลิกอายตั้งแต่ตอนที่ได้จับมึงแก้ผ้าอาบน้ำเป็นครั้งแรกที่โรงพยาบาลวันนั้นแล้วเหอะว่ะ”

ผมเขินจนหน้าร้อนไปถึงใบหู “ไอ้เหี้ยนี่! ไอ้นกมันก็นั่งอยู่นะเว้ย!”

“ก็เรื่องของมันดิ มันไม่ได้เห็นของมึงเหมือนที่กูเห็นสักหน่อย”

“ไอ้ห่าาาา!”

“ไม่เป็นไรหรอก มึงจะด่ากูแค่ไหนก็ได้ ขอแค่กูได้รักมึงก็พอ”

“แอ๊ยยย! พอๆ ไอ้เอมึงรีบๆ ขับไปบ้านไอ้พระเอกลิเกนี่ได้ละ! กูรู้สึกเลี่ยนนนน จนจะอ้วกแล้วว่ะ แถมยังรู้สึกเป็นส่วนเกินชอบกล”

“เออ” ไอ้เอหัวเราะในลำคอเบาๆ

วันนี้พ่อกับแม่ของไอ้อาร์มจะจัดงานเลี้ยงฉลองที่ผมได้ออกจากโรงพยาบาล และพวกเราทุกคนก็ถูกเชิญไปที่บ้านของมันอย่างพร้อมหน้า ซึ่งไอ้ฝนกับไอ้ด้าเองก็กำลังรอพวกเราอยู่ที่นั่นแล้ว

เมื่อเราไปถึงบ้านของมัน พวกเราก็ช่วยแม่ของไอ้อาร์มเตรียมอาหาร ทำขนม และจัดโต๊ะที่สวนหน้าบ้านกันอย่างครื้นเครง โดยนอกจากพวกเราแล้ว ก็ยังมีไอ้อ้วนกับเพื่อนของมันอีกสองคน รวมถึงพ่อแม่ของผมที่จะตามมาทีหลังอีกด้วย

ในตอนหัวค่ำ พวกเราก็เริ่มต้นกินอาหาร ร้องคาราโอเกะ และพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน พ่อกับแม่ของผมที่พลอยสนิทสนมกับครอบครัวของไอ้อาร์มไปด้วย ทำให้งานเลี้ยงเล็กๆ นี้เต็มไปด้วยความอบอุ่น ผมจึงคิดขึ้นมาว่า ถ้าหากจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกขอบคุณไอ้พี่อาร์ทแล้วล่ะก็ สิ่งๆ นั้นก็คงเป็นการที่พวกเราทุกคนได้สนิทสนมกันมากขึ้น ได้มีช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ และการที่ผมได้มีคนรักให้ได้รักและคิดถึงอย่างในทุกวันนี้นี่แหละ

“คิดอะไรอยู่วะ ฮึ...” ไอ้อาร์มหันมากระซิบลงที่หูของผม

“ก็คิดถึงมึงนั่นแหละ” ผมหันไปยิ้มให้กับมัน

นับตั้งแต่วันแรกที่ผมออกจากโรงพยาบาลจนถึงวันนี้ มันก็ยังไม่เคยทิ้งผมให้ห่างจากกายของมันอีกเลยอย่างที่มันเคยบอกเอาไว้
โอเค... ผมอาจจะพูดเกินไปหน่อย มันอาจจะไม่ได้เป็นความจริงตรงตามทุกตัวอักษรอะไรขนาดนั้นหรอก แต่อย่างน้อยๆ มันก็ยังไม่เคยทำให้ผมรู้สึกว่าเราสองคนอยู่ห่างกันเลยแม้แค่เพียงสักครั้ง

“คิดอะไรวะ กูก็นั่งอยู่ตรงนี้ไง”

“ก็แค่คิดว่ามึงจะรักกูแบบนี้ได้นานขนาดไหนแค่นั้นแหละมั้ง”

“นานจนกว่ากูจะหมดรักมึงไง โอเคปะ”

“นั่นไง”

“แต่ก็แค่ว่าวันๆ นั้นมันคงไม่มีทางมาถึงเท่านั้นเองอะว่ะ...” มันหอมแก้มผมเบาๆ ทั้งๆ ที่ทุกคนก็นั่งอยู่ล้อมรอบเรากันแบบนี้นะ

“ก็เพราะมึงชอบพูดจาโอเวอร์แบบนี้ไง กูถึงได้ไม่อยากจะเชื่อน่ะ ปากดีตลอดอะมึงอะ”

“โห มึงพูดแบบนี้กูเสียใจนะเนี่ย กูไม่ได้ปากดีเว้ย แต่กูคิดอะไรก็พูดแบบนั้นต่างหาก มึงก็รู้นิสัยกูไม่ใช่รึไง ไอ้ต้า”

“เรอะ จริงเหรอวะ”

“ก็เออสิวะ กูเคยบอกแล้วไง กูไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นยังไงน่ะ แต่ที่ผ่านมามึงดีกับกูมาก มึงรักกูมาก กูไม่สามารถย้อนเวลาที่ผ่านไปแล้วคืนมาได้ และกูคงจะแสดงออกอะไรมากกว่านี้ก็ไม่ได้แล้วด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นกูก็จะทั้งพูด ทั้งแสดงออก และทำทุกอย่างเพื่อชดเชยเวลาที่กูเสียไปและทำให้มึงมั่นใจที่สุดว่ากูรักมึงจริงๆ แค่นั้นเองอะว่ะ มึงรอดูต่อไปก็แล้วกัน” มันฉีกยิ้มกว้าง

ผมล่ะแพ้รอยยิ้มขี้เล่นของมันจริงๆ!

“พี่ต้าาาาาา!!” ไอ้อ้วนที่นั่งอยู่อีกข้างหันมาดึงแขนผม “พี่ต้าดูดิ! พี่ด้าแม่งใจร้ายกะกัสอีกแล้วง่าาา”

“อะไรอีกล่ะ ไอ้น้องคนนี้”

ที่จริงแล้วไอ้อ้วนเองก็แทบจะไม่ต่างจากพี่ชายของมันเหมือนกัน ในเรื่องของการเกาะผมติดหนึบจนแทบจะไม่ยอมปล่อยให้ผมห่างตาไปไหนเลยเนี่ย

“ก็คืนนี้กัสบอกให้พี่ด้านอนกะกัสแต่มันไม่ยอมนอนด้วยง่าาาา”

“นี่มึงเมาแล้วปะเนี่ย ไอ้อ้วน” ผมหัวเราะ

“ม๊ายยย ม่ายมาววว ไม่เมาเหล้าแต่เมาร๊ากกก”

“พอเลยๆ ไอ้ตัวแสบ หันมานี่เลย ไม่ต้องไปอ้อนไอ้ต้ามัน พี่บอกแล้วว่าไม่ให้กินเหล้าเยอะ ยังไม่ทันไรก็เมาซะแล้วเห็นมั้ยเนี่ย พ่อกับแม่ก็นั่งอยู่ตรงนี้แท้ๆ” ไอ้ด้าลุกออกมาแกะตัวแฟนของมันออกจากแขนของผม

“กัสปวดฉี่อะ พี่ด้าพากัสไปฉี่เป็นเพื่อนหน่อย”

“เอออ ครับๆ มาๆ ลุก” ไอ้ด้าจับมือของไอ้อ้วนแล้วก็ดึงมันให้ยืนขึ้น “เฮ้ออ มันพูดอะไรของมันวะ ‘พาไปฉี่เป็นเพื่อนหน่อย’ เนี่ย” มันส่ายหน้าพร้อมกับพึมพำเบาๆ ก่อนจะพาแฟนของมันเดินออกจากโต๊ะอาหารไป

ผมว่าภาพของไอ้ด้าที่เดินจูงมือไอ้อ้วน ซึ่งตัวใหญ่กว่ามันเยอะเดินเข้าไปในบ้านนี่ก็ดูเป็นภาพที่น่ารักและน่าตลกดีเหมือนกันนะ

“แม่งไม่ได้เมาหรอก มึงเชื่อกูปะ” ไอ้อาร์มพูดขึ้น “ไอ้เหี้ยนี่แม่งแผนสูง กูรู้สันดานน้องกูดี แม่งแรดจะตายห่า กูว่าไม่พ้นคืนนี้ไอ้ด้าก็ต้องนอนที่นี่แล้วก็โดนไอ้เชี่ยอ้วนแดกตามแผนของมันแน่นอน คอยดู”

“แล้วมึงรู้ได้ไงว่าคนอย่างไอ้ด้าจะไม่รู้ทันน้องมึง”

“เออออว่ะ กูก็ไม่ทันคิดนะเนี่ย เพราะกูก็คิดแต่ว่าไอ้อ้วนมันแรดและจ้องอยากจะแดกไอ้ด้ามาตั้งนานแล้วแต่ไอ้ด้าไม่ยอมสักทีเนี่ย”

“แรดเหมือนพี่มันอะเหรอวะ”

“ไม่เหมือนเว้ย กูไม่รู้จักคำว่าแรดหรอก กูรู้จักแต่คำว่ารัก” มันยิงฟันกว้าง

“กูจะอ้วก”

“อ้วกได้ แต่อย่าไอนะ...” มันทำเสียงเลียนแบบโฆษณา

“พอแล้วไอ้เหี้ย!! ฮ่าๆๆ!”

“แหมๆ สองคนนี้ก็มีความสุขกันอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองอย่างเดียวเลยนะ”

“แม่ ลูกแม่มันลิเกอะ! เสี่ยวสุดๆ!” ผมหันไปฟ้องแม่ของไอ้อาร์มที่เดินเข้ามาหาเราสองคน

“ก็เหมือนพ่อมันนั่นแหละ” แม่ยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน “ว่าแต่คืนนี้ต้านอนบ้านนี้กับแม่นะลูก ใช่มั้ย”

“นอนกับแม่อะไรล่ะ มันต้องนอนกับอาร์มสิ มันเป็นของอาร์มนะ ไม่ใช่ของแม่”

“ย่ะ! คราวหลังก็หัดดูแลคนรักของแกให้มันดีๆ ก็แล้วกัน”

“แน่นอน ไม่เชื่อแม่คอยดูได้เลย” ไอ้อาร์มยักคิ้วข้างขวาสองที

“แล้วฉันจะคอยดู ถ้าแกทำลูกฉันคนนี้เสียใจอีกนะ ฉันจะตัดไข่แกก่อนแล้วค่อยตัดแกออกจากกองมรดก!”

“งั้นคงไม่มีวันนั้นหรอกแม่ เชื่ออาร์มดิ” ไอ้อาร์มหันมายิ้มให้กับผม “มึงมานี่หน่อยมา ไปกับกูหน่อย”

“ไปไหนวะ”

“ห้องกู แป๊บนึง”

ผมกับมันสองคนขอตัวแม่และเดินหลบเข้าไปในบ้าน ก่อนจะตรงขึ้นไปยังชั้นสองและเดินเข้าไปในห้องของมัน

“เฮ้ออออ... จริงๆ อยู่กันลำพังแบบนี้ก็สบายใจดีนะ วุ่นวายกันมาแทบทั้งวันละ” ไอ้อาร์มเหยียดตัวนอนลงบนเตียง “มานี่มา!”

“เฮ้ยยย!” ผมถูกมันดึงล้มให้ลงไปนอนทับบนตัวของมัน

“นี่... มึงรักกูมั้ยวะ ไอ้ต้า”

“ถามควายๆ นะมึง”

“แล้วรักมั้ยล่ะ”

“ก็ต้องรักสิวะ ถามได้”

“กูก็เหมือนกัน” มันจุ๊บลงบนริมฝีปากของผมเบาๆ “ก่อนนี้กูไม่เคยคิดเลยนะว่าตลอดเดือนนึงที่ผ่านมา พอกูได้อยู่กับมึง และตัดคนอื่นๆ ที่เคยสร้างแต่ปัญหาให้กู ออกไปจากชีวิตแล้วเนี่ย กูจะรู้สึกสบายใจขนาดนี้อะ”

“ตัดหมดเลยเหรอวะ คนที่มึงเคยบอกว่ารักม๊ากมากสองคนนั้นก็ด้วยน่ะนะ”

“ก็เออสิวะ กูเคยบอกมึงไปแล้วไง”

“เออ กูรู้ กูแค่แซวเล่นเฉยๆ” ผมจุ๊บลงบนหน้าผากของมันเบาๆ

“ไม่เอา ไม่จุ๊บหน้าผากดิ จุ๊บนี่ ตรงนี้” มันทำปากจู๋

“ทุเรศว่ะ!” ผมหัวเราะ “กูก็ไม่เคยคิดเหมือนกันเหอะว่าพอได้อยู่กับมึงจริงๆ แบบนี้แล้วถึงจะรู้ว่ามึงแม่งโคตรปัญญาอ่อนเลยน่ะ”

“แล้วหลังจากนี้มึงจะยังอยู่กับกูต่อไปตลอดมั้ยวะ”

“หืออ กูมีทางเลือกอื่นด้วยเหรอวะ”

“ไม่มีอะ เรียนจบแล้วมึงก็ต้องอยู่กับกู ทำงานแล้วก็ต้องอยู่กับกู กูจะไม่ให้มึงไปไหนทั้งนั้นแหละ”

“เออ กูรู้หรอกน่า เพราะกูเองก็ไม่คิดว่ากูจะไปไหนแล้วเหมือนกัน... ก็กว่าจะได้มึงมาเป็น ‘คนรัก’ แบบนี้ กูต้องลำบากมาตั้งขนาดไหนนี่หว่า ต้องทนเจ็บปวดตอนเห็นมึงไปคบคนนั้นคนนี้มาตั้งนาน ต้องยอมเจ็บตัวตั้งเท่าไหร่กว่ามึงจะรู้ตั...”

“ชู่วววว...” มันรีบยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะลงบนริมฝีปากของผม “ไม่เอา ไม่พูดเรื่องพวกนั้นแล้วนะ เราสัญญากันแล้วไงครับ ที่รัก”

ผมยิ้มน้อยๆ “คร้าบๆ... ที่รัก”

“ดีมากกก เอ้า! ลุกหน่อยซิ กูมีอะไรอยากให้มึงด้วยนะ”

ผมพลิกตัวเป็นนั่งลงข้างๆ มันแทน “อะไรวะ”

มันลุกขึ้นออกจากเตียงแล้วเดินไปหยิบของเล็กๆ บางอย่างขึ้นมาจากบนโต๊ะ จากนั้นก็เดินกลับมานั่งลงข้างๆ ผม

“ขอมือขวาหน่อย เร็ว”

ผมทำตามที่มันสั่งอย่างว่าง่าย จากนั้นมันก็สอดแหวนสีเงินวงหนึ่งเข้ามาในนิ้วนางของผม

“ใส่ให้กูด้วยสิ” มืนยื่นแหวนอีกวงให้กับผม พร้อมกับยื่นมือข้างขวามาให้ผมด้วย

ผมสอดแหวนแบบเดียวกันลงไปในนิ้วนางของมันพร้อมด้วยหัวใจที่พองโต

“มึงให้แหวนกูเหรอวะ ไอ้อาร์ม”

“เออ แต่อันนี้เป็นแค่ของแทนคำสัญญาเฉยๆ นะเว้ย เอาไว้เราเรียนจบเมื่อไหร่ กูจะขอ ‘หมั้น’ มึง จริงๆ ดีๆ อีกครั้งก็แล้วกัน อันนี้ก็แค่ใส่ไว้ให้รู้ว่าเราเป็นของกันและกันไปก่อนพอ... เอ่ออ แค่นี้จะได้มั้ยวะ ไอ้ต้า” มันถามผมด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ “คือกูก็ไม่อยากจะเร่งรัดอะไรมึงมากอะ แล้วกูก็รู้ด้วยว่ากูมันดูตอแหล มึงก็คงยังไม่ค่อยอยากจะเชื่ออะไรกู กูก็เลยอยากจะใช้เวลานานๆ พิสูจน์อะไรหลายๆ อย่างให้มึงรู้น่ะ”

“เกินพอซะด้วยซ้ำ ไอ้อาร์ม!” ผมเหวี่ยงแขนขึ้นกอดมันเอาไว้ทันที “ขอบใจเว้ย... ขอบใจจริงๆ ขอบใจสำหรับทุกอย่าง กูเชื่อมึง กูเชื่อว่ามึงรักกู และกูก็รักมึงเหมือนกันนะเว้ย รักมากๆๆ เลยด้วย”

“กูก็รักมึงเหมือนกัน ไอ้ต้า ขอบใจที่ไม่เคยหมดศรัทธาในตัวของกู ขอบใจที่อยู่เคียงข้างกูตลอดมาและทำให้กูเข้มแข็งขึ้นได้อย่างในทุกวันนี้นะ” มันค่อยๆ ดันตัวของผมออกช้าๆ “เราจะอยู่ด้วยกัน เราจะมีกันและกันแบบนี้ตลอดไปนะ  ‘คนรัก’ ของกู”
มันจับไหล่ทั้งสองข้างของผมเอาไว้และชะโงกหน้าเข้ามาหาผมอย่างช้าๆ ผมค่อยๆ หลับตาลง จากนั้นริมฝีปากของเราสองก็สัมผัสกันอย่างแผ่วเบา

น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากดวงตาของผม ต่อแต่นี้การรอคอยของผมได้สิ้นสุดลงแล้ว...

......................(จบจ้า)......................

ความรักของ 2 คนนี้คืออะไร...?

 :L2:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 12-12-2011 13:04:20
ลป. อย่าลืมติดตามว่าจะรวมเล่มเมื่อไหร่นะครับ คลิกที่แฟนเพจได้นะ เพราะผมจะอัพเดทที่นั่นบ่อยๆอยู่แล้ว แล้วในรวมเล่มจะมีตอนพิเศษเพิ่มให้เหมือนเดิมนะครับ ^___^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 12-12-2011 13:19:39
อ่านตอนจบแล้วรู้สึก เฮ้อ! โล่ง โปร่ง สบายใจจัง
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 12-12-2011 13:25:58
จบซะแล้ว ขอบคุณคุณต้นสำหรับ Love is กีตาร์กะอาร์ม นะคะ
อ่านแล้วรู้สึกเต็มอิ่มกะตัวละครสองตัวนี้มากเลย
 :กอด1: :กอด1:

แล้วจะรออ่านเรื่องใหม่นะคะ

หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 12-12-2011 16:55:44
กว่าจะรักกัน

เล่นเอาน้ำตาพราก

อยากอ่านตอนพิเสดหวานๆน่ารักๆหื่นๆบ้าง
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 12-12-2011 18:52:28
ทำไมมีแต่คนอยากได้สองคนนี้หื่นๆเนี่ย บุคลิกตัวเอกดูเป็นแบบนั้นเหรอ ของอ้วนกะด้าไม่เห็นมีคนขอเลย ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: peppier ที่ 12-12-2011 21:21:07
คู่นี้น่ารักง่าาา อ๊างงงงงง  :-[
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: watcharet ที่ 12-12-2011 23:50:53
จบแล้วอ่ะๆๆ  ไม่อยากให้จบเลยๆๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: suginosama ที่ 13-12-2011 10:52:16
รักปนเศร้าเคล้าน้ำตามากค่ะพี่
แอบดีใจที่สุดท้ายก็หวานกันได้ 5555+
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 13-12-2011 12:31:53
ในที่สุดต้าก็ได้รักแบบไม่ต้องแอบรัก
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 14-12-2011 18:12:40
ยินดีกับน้องต้าด้วย
ที่ความรักของต้าสมหวังซะที
 :m4:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: name ที่ 14-12-2011 21:01:04
สมหวังกันซักทีน้าา ลุ้นแทบแย่
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: ljk_sj_lovelove ที่ 15-12-2011 01:17:51
ในที่สุดก็จบลงแล้ว..... แหมม โล่งใจ

อ่านเรื่องนี้มันหน่วงๆ จบแฮปปี้ดีใจมากกก

ความรักของสองคนนี้คืออะไรหรอ...ก็หานิยามให้ไม่ได้สักที เหอะๆ

รอรวมเล่มนะคะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: ThE_PaRaN ที่ 15-12-2011 03:23:28
เรื่องนี้ รัก คือ ....... น้ำตา ....(ของคนอ่าน)  :m15:

สงสารต้าร์มากอ่ะ แต่สุดท้ายก็สมหวังสักทีนะ

แต่งดีมากเลยค่ะ T T (น้ำตายังไหลอยู่)   :m15:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: temp.jr ที่ 16-12-2011 15:45:25
รัก คือ การรู้ถึงคุณค่าของคนรักเมื่อสูญเสียเค้าไปแล้ว(รึป่าวคับ) เดาล้วน :D
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 16-12-2011 17:23:49
ยังไม่มีใครตอบถูกเลยยย สงสัยต้องอ่านใหม่อีกครั้งรวดเดียวตามด้วยอ่านตอนแถมในรวมเล่มล่ะมั้ง ถึงจะนึกออก ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: yamikilling ที่ 16-12-2011 23:13:16
อ่านแล้วแบบว่ามันรู้สึกบอกไม่ถูกเลยละค่ะ(อ่านไปก็คิดไปว่านี่ละชีวิต!)รู้แต่ว่าชอบมากๆๆๆๆๆ
เศร้าเคล้าน้ำตา  แต่ตอนจบก็สมหวัง(แถมยังหวานซะจนหน้าอิจฉา)

รัก  คือ   การที่เราต้องหันมาทบทวนตนเองและพูดในสิ่งที่เป็นความจริงออกไป  และการคอยช่วยเหลือกันและกันเพื่อก้าวผ่านสิ่งเลวร้าย   .....มั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: yotsaput ที่ 17-12-2011 10:00:24
กว่าจะอ่านจบ ลุ้นแทบแย่ >~<
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: CrazierM ที่ 17-12-2011 22:22:56
เรื่องนี้มัน..บีบหัวใจมาก TT อ่านไปน้ำตาซึมไป แงแง
แต่ตอนจบแฮปปี้ก็โอเคแล้วล่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: Dongmin ที่ 18-12-2011 22:02:00
สนุกมาก
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 24-12-2011 06:31:21
ตามมาอ่านด้วยคนครับ

ช่วงก่อนจบทำเอาปวดอกตุบๆเลยทีเดียว สงสารต้ามาก


แต่ตอนจบทำให้โล่งอกและยิ้มออกมาได้เลย อีกหน่อยท่าจะได้แข่งกันหวานกับคู่น้องอ้วนแน่ๆ หุหุ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 24-12-2011 20:54:08
เศร้าๆ ถึงจะแฮป์ปี้เเต่สงสารต้าร์อ่ะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) up12Dec
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 24-12-2011 21:09:58
 o18. รักคือการให้โอกาส  o18
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: RomioS ที่ 25-12-2011 01:28:54
นานมากแล้วที่ไม่ได้ร้องไห้กับนิยาย

สงสารต้าจากใจจริงๆ
ไอ้พี่อาร์ทเลวมาก ทำได้ไงอ่ะ
อาร์มก็กว่าจะรู้ก็เกือบต้องเสียไป
ยิ่งตอนทำร้ายด้วยคำพูดยิ่งเฮิท
คนเราเวลาถูกคนที่รักพูดให้เจ็บช้ำน้ำใจ มันเศร้ายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

อยากรู้ชีวิตเอจัง ว่าจะมีแนวทางอะไรกับเค้าไหมเนี้ย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: Spissy ที่ 27-12-2011 16:04:14
อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยครับ ตอนจบ แฮปปี้  :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoRin ที่ 30-12-2011 01:00:22
ยินดีกับต้าด้วย  :m1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 05-01-2012 09:44:39
ขออนุญาตอัพเดทนะครับ เรื่องใหม่มาแว้วเน้อ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31090.0 ^___^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 07-01-2012 16:16:26
โอ่ว เรื่องนี้กรีดแทงไปอะไรไป เจ็บปวดอ่ะ

แม้จะจบซึ้งนะ แต่ตอนนั้นมันน่ากลัวมากจริงๆ

มากจน.... :เฮ้อ: (อินอีกแล้วครับท่าน ฮ่าๆๆ)

ผมตามอ่านทุกเรื่องที่ผมหาอ่านได้แล้วนะครับ

แล้วไม่รู้ว่ากดบวกไปกี่ทีแล้ว แต่บอกได้เลย

"เยอะ" ที่สุดเท่าที่เคยกดบวกให้ใครเลยแหล่ะ

 :L2: :L2: :L2: :pig4: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 08-01-2012 21:06:19
ฮือออ น้ำตาไหลไปหลายปี๊บ กีต้าร์น่าสงสารมากๆ :monkeysad:
แต่สุดท้ายก็กลายเป็นที่รักของอาร์ม เลยทำให้ยิ้มได้ขึ้นมาหน่อย ^_^
คุณแม่อาร์มใจดีมากเลย ยอมรับอาร์มกับกีต้าร์ด้วย สงสัยจะชอบกีต้าร์มากๆๆ ชอบพี่ด้าด้วย  :z1:
ขอบคุณค่า ตามไปอ่านเรื่องใหม่อีก :z1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...)
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 13-01-2012 18:30:38
ThankS
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: ExecutioneR ที่ 24-01-2012 20:09:14
เปิดจองแล้วนะครับ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31389.0

^__^

พบกับตอนพิเศษในเล่มและเฉลยว่ารักของคู่นี้คืออะไรที่ท้ายเล่มเหมือนเดิมนะครับผม >3<
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: Umiko ที่ 24-01-2012 22:36:53


เรื่องนี้สนุกจัง...ทั้งเศร้าทั้งซึ้งทั้งหวาน....

 :impress3: o13 :L2:

หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: hours ที่ 26-01-2012 20:55:07
ตอน พีคของเรื่องมันปรี้ดดดจิงๆๆๆๆๆๆๆ
ชอบมากๆๆเลยครับ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: taran ที่ 28-01-2012 17:31:57
หลากหลายอารมณ์มากเรื่องนี้ แต่หดหู่สุดก็ตอนที่โดนไอ่พี่อาร์ทแม่มมมมมมม..................นั้นแหละ
แต่อย่างว่าอะนะ ฟ้าหลังฝนมักสดใสเสมอ ตอนหลัง ๆ เนี้ย อาร์มหว๊าน หวาน ชอบอะ
มีเรียก ที่รัก กันด้วย ถึงจะอยากอ้วกแต่ก็นะ ยินดีด้วยจ้า
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: lervair_y ที่ 29-01-2012 23:46:27
น่ารักมากค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 24-02-2012 22:23:25
อ่านจบแล้ว สงสารต้ามากๆน้ำตาร่วง :monkeysad:แต่ในที่สุดก็มีความสุขซะที :L1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: janek_alo ที่ 03-03-2012 20:02:26
อ่า

ดีใจจจจจจจจ

ในที่สุดก็รู้ใจตัวเองซักที

ฮิ้วววววววววววว :กอด1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: ppanudet ที่ 09-04-2012 00:20:46
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 10-07-2012 21:51:30
เฮ้ยยยย!

ทำไมมีพรสวรรค์ในการแต่งอย่างนี้, เรื่องไหนๆ ดำก็ชอบอ่ะ~

พล็อตไม่ซ้ำ, สำนวนดี น่าสนใจ


แต่เรื่องนี้สงสารนายเอกอ่ะ ไม่โหดไปหน่อยหรอ

พระเอกก็ไม่รอให้นายเอกติดเอดส์ไปก่อนหล่ะ ค่อยรู้ตัว เฮ๊อะ

ดีนะที่รักจริงหวังแต่ง

ยกโทษให้ อิอิ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 20-09-2012 14:09:29
ต้าน่าสงสารนะ แต่จริง ๆ ต้าก็ไว้ใจคนมากเกินไป อาร์ทเคยพูดแบบนั้นกับต้าแล้วต้าก็ยังไปกับอาร์ท แต่อาจจะเป็นเพราะต้ากำลังเสียใจ แต่ตอนที่ต้าตื่นขึ้นมาแล้วรู้ตัวว่าอาร์ททำอะไรกับต้า แล้วต้ายังไว้ใจยอมกินยาที่อีกฝ่ายเอามาให้อีกแบบนั้น ต้าคิดอะไรอยู่กันแน่ แทนที่จะรีบออกมาจากห้อง ลุกไม่ไหวก็โทรหาคนมาช่วยก็ได้ ต้าไม่อยากบอกอาร์ม เพราะยังรู้สึกกับสิ่งที่อาร์มพูด แต่ต้ายังมีเพื่อนคนอื่นอีกนะ ทั้งเอ ทั้งด้า แต่ต้าเลือกที่จะอยู่ที่ห้องนั้นเอง สงสารต้า แต่ส่วนหนึ่งต้าทำตัวเอง ส่วนอาร์ทร้ายกาจเกิน จริง ๆ แล้วอาร์ทเ้ข้าหาต้าเพราะแบบนี้หรือ เพื่อนอาร์ทก็ไม่ไหวจริง ๆ แต่ละคนร้ายกาจมาก ๆ อาร์มจริง ๆ คงจะชอบต้าตั้งนานแล้ว เพราะแปลก ๆ ตั้งแต่อาร์มอารมณ์ไม่ดีเรื่องอาร์ทแล้ว แล้วยังมาอ้อนต้าแบบนั้นอีก แล้วมาไม่พอใจเรื่องที่ต้าร์คุยกับคนอื่นอีก การกระทำเวลาเผลอ หรือเวลาไม่พอใจของอาร์มแสดงออกเยอะมากว่ารู้สึกพิเศษกับต้า แต่ปากเนี่ยพูดไปคนละอย่างตลอด ที่ไม่คุยกับต้าคงพยายามจะห้ามตัวเองอยู่สินะ แต่ดีแล้วที่อารม์ยอมรับความรู้สึกตัวเองสักที และดีแล้วที่ต้าไม่ได้เป็นอะไรมาก
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: keem ที่ 20-09-2012 16:54:56
ดีนะไม่ติดโรค 

ขอบคุณมากนะครับ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 21-09-2012 22:45:21
 :sad4: ครบทุกรสชาด เลยอะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: paintshinki ที่ 22-09-2012 01:26:57
อ่านไปอ่านมาสงสารต้ามากที่ต้องเจอเรื่องร้ายๆแต่ก็ผ่านมาได้
จบได้ซึ้งมากเลยค่ะ :sad4:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 24-09-2012 18:07:50
อ่านจบแล้ว  :เฮ้อ: ปวดหัวใจเล็กๆ แหะ แต่ก็ค่อยยังชั่วหน่อยที่สุดท้า่ยก็ได้รักกัน
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 07-10-2012 23:16:16
ThankS
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: HoAo ที่ 15-10-2012 09:41:26
รักคือ.............รัก
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: seacow ที่ 29-10-2012 19:45:38
รักคือ การเข้าใจ รู้จัก และยอมรับ ใจตัวเองรู้สึกอย่างไง , หรือเปล่า????
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: omeye ที่ 01-11-2012 02:23:42
รักคือ  การยอมรับกับหัวใจตนเอง

น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 04-11-2012 18:56:54
หลากหลายอารมณ์ ทั้งเศร้า หัวเราะ มีความสุข แต่ก่อนที่จะอารม์จะเข้าใจตัวเอง
ก็เมื่อสายไป แต่ไม่มีอะไรที่มันจะสายจนเกินหากเรายังรอคอยและให้คำว่าอภัย
ไม่ว่าคนของเราจะเจออะไรมาบ้าง ขอเพียงเราอย่าทิ้งเขาไปไหนและให้กำลังใจ
ความรักและความห่วงใย เท่านั้นความรักของเราจะก้าวผ่านไปได้ครับ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: Fate ที่ 07-11-2012 01:28:36
ทั้งเศร้า ทั้งซึ้ง
ยิ่งตอนที่กีต้าร์ถูกทำร้าย มันสะเทือนใจมากเลยค่ะ
ยินดีกับต้าร์ด้วยที่ไม่ต้องรออีกแล้ว
แม้ว่าอาร์มจะรู้สึกตัวช้าไปนิด แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยดี
ซึ้งมากจริงๆค่ะ :) 
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: HaLF333 ที่ 15-11-2012 18:22:26
เจ็บปวด ที่ต้องทนแอบรัก...
เจ็บปวด ที่ต้องมาฟังถ้อยคำเฉือดเฉือนใจ...
เจ็บปวด ที่สับสนจนเกิดปัญหา

ซึ้ง ในมิตรภาพระหว่างเพื่อน...
ซึ้ง ในความรักที่มีให้อีกคนอย่างมากมาย...
ซึ้ง ในการเชื่อมั่นในความรัก...

อินมากค่ะคุณต้น :m15:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 16-11-2012 10:46:24
 :pig4:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 19-04-2013 19:54:26
รักคืออะไรไม่รู้
แต่ที่รู้ๆ มันสวยเนอะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 26-09-2013 16:42:37
ขอบคุณสำหรับเรื่องหน่วงๆ แอบคิดว่าอาร์มมันสมหวังเร็วไปหน่อย
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 23-10-2013 01:00:18
 :jul3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: babyblue ที่ 23-10-2013 11:22:39
รักคือการรอคอยว่าสักวันจะรู้ตัวว่ารักคืออะไรและสามารถเอ่ยคำว่ารัก ด้วยความหมายของมันอย่างแท้จริง
 :L2:
 :heaven :L1:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 23-10-2013 14:18:41
น้ำตาไหลไปเยอะ
สงสารต้ามาก
แต่สุดท้ายที่จบด้วยดีก็โอเคแล้วเน๊อะ
ขอบคุณพี่ต้นมากค่ะ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 22-02-2014 13:44:09
อ่านเรื่องนี้แล้วโครตอินอ่ะ
เกลียดๆๆๆๆๆ ไอ้เชี่ยอาร์ท อยากกระทืบให้ตายคาตรีนเลย สาดดดด

ส่วนอาร์มกะต้า กว่าจะมีวันนี้ได้ เฮ้อ!!
แต่ดีใจที่ในที่สุดก็รักกัน สมหวังเนอะ ^^

ของคุณคนเขียน เก่งมากๆๆๆๆๆค่ะ  ^▽^
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 12-08-2015 12:52:06
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 16-08-2015 19:45:08
เฮ้อ สงสารต้ากว่าจะรักกันได้ ..... ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: :: series เรื่องสั้น :: |[ love is ... ]| >> กีตาร์กับอาร์ม (รักคือ...) จองp5
เริ่มหัวข้อโดย: b02290 ที่ 26-11-2016 01:04:44
 :pig4: