ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
[ Yaoi ] เรื่องสั้น : บอกนะ...
เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นนิยายชาย<3ชาย
สวัสดีค่ะ
เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองที่แต่ง หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ
เข้ามาจิ๊จ๊ะทักทาย กันได้นาจา
https://twitter.com/GaJungGaJing (https://twitter.com/GaJungGaJing)
.........................................................
"เปรียบตัวเองเป็นท้องฟ้า ต่อให้มีฟ้าฝนพายุหรืออะไรอีกมากมาย สุดท้ายมันก็กลับมาสดใสได้เหมือนเดิมในวันถัดไป"
.................................................
"ขอวอน เป็นเธอได้ไหมที่พยุงฉันไปให้สมหวัง...."
.......................................................
:pig4:
รบกวนติดแท็ก #บอกนะ ในทวิตเตอร์นะคะ
[/color]
แรกเริ่ม....
ทุกคนเกิดมาล้วนมีความหวัง หวังที่จะทำสิ่งต่าง ๆตามความฝันของตัวเอง หวังว่าในสักวันหนึ่งเราจะเป็นได้ดั่งใจต้องการ แต่ความหวังนั้นไม่ได้จะประสบความสำเร็จทุกคนหรอกนะ ทุกสิ่งอย่างล้วนแล้วแต่โชคชะตากำหนด บางคนท้อกับการที่หวังแล้วไม่ได้เป็นดั่งใจบางคนดีใจกับการที่หวังแล้วได้สมหวัง หากแต่ความไม่สมหวังก็นำมาให้เราได้พบบางอย่าง บางทีอาจจะเรียกมันว่า ความเข้มแข็ง
ผมชื่อ ธนน์ (อ่านว่า ธะ-นะ) ครับ เคยหวังว่าสักวันผมจะทำตามความฝันของตัวเองให้ได้ แต่ความเป็นจริงนั้นมันทำร้ายจิตใจแทบจะยืนไม่ไหว เพราะความจริงมันคือความหวังที่ล้มเหลว มันเหมือนการที่เราปีนขึ้นไปบนที่สูงๆแล้วตกลงมาอย่างไม่เป็นท่า เจ็บแต่ร้องไม่ออก ผมเลยได้แต่หวังว่าคงจะมีสักคนที่จะมาช่วยพยุงผมให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง แต่ความจริงนั้นมันไม่มี
ความหวังที่พังไม่เป็นท่าของผมคือต้องย้อนไปเมื่อเกือบ 6 เดือนก่อน ผมหวังไว้ว่าผมจะเป็นหมอ และผมต้องเป็นให้ได้ แต่ความหวังสิ้นสุดลงเมื่อผมสอบไม่ติด ผมที่ทุ่มเททุกแรงทำทุกทางเพื่อสอบให้ติดแต่ผลลัพธ์มันกลับพังไม่เป็นท่า ก็ได้แต่เคว้งคว้างไปพักใหญ่ๆเหมือนกัน ดีที่ผมมีครอบครัว ไม่งั้นผมคงไม่รอดมายืนอยู่จุด ๆ นี้ได้ ตอนนี้สภาพจิตใจผมโอเคขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าเพราะผมระลึกถึงคำสอนของป๊าเสมอ ป๊าบอกว่า ให้เปรียบตัวเองเป็นท้องฟ้า ต่อให้มีฟ้าฝนพายุหรืออะไรอีกมากมาย สุดท้ายมันก็กลับมาสดใสได้เหมือนเดิมในวันถัดไป ผมเลยมายืนที่จุดนี้ คณะมนุษยศาสตร์ สาขาจิตวิทยา ผมคิดว่าหากผมไม่ได้เป็นหมอ ผมก็ขอรักษาคนด้วยการเยียวยาจิตใจแทนก็คงดี
“ทำไรอยู่หรอ นะ นั่งเหม่อเชียว” เสียงหวานเรียกผมให้หลุดออกจากภวังค์ ซีส เธอเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของผมแล้วก็ว่าได้ในตอนนี้
“ป่าวอะ ทำไมมาสายจังล่ะซีส”
“สายที่ไหน อีกตั้ง 15 นาทีกว่าจะเข้าเรียน”เธอบุ้ยปากทำท่ามองนาฬิกาว่าไม่ได้สายจริงๆ
“ครับๆ เอาที่สบายใจเนาะ”
“อืม...ว่าแต่ ช่วงนี้ทำไมของฝากที่จะฝากมาให้นะน้อยลง สงสัยไม่ฮอตแล้วสิท่า” ใช่ครับเพราะผมตัวเล็ก เพื่อนๆชอบบอกว่าผมน่ารักเลยทำให้ติดโผในเพจหนุ่มคิวท์บอยของมหาลัยบ่อยๆ ขนมและของฝากจึงมีมาให้เห็นทุกวัน
“ก็ดีแล้วนี่ เราไม่อยากให้คนที่เอามาฝากทุกวันเปลืองหรอก ให้เขาได้ใช้เงินในทางที่เป็นประโยชน์กว่าการซื้อขนมของฝากมาให้เราน่ะดีแล้ว”
“จ้า พ่อคนดี พ่อทูนหัวของพี่ซีส” ผมได้แต่หัวเราะกับท่าทางของเธอที่ทำให้ผมอยู่ได้อย่างมีความสุขในทุกวันนี้
“อ๊ะ นี่ เจ้าเดิมอีกละ คนนี้เหนียวแน่นจริงๆ ท่าทางจะชอบนะมากแน่ๆ ส่งมาให้ทุกวันแถมยังเป็นของชอบนะอีก โหยอยากเห็นหน้าจุง” และใช่ครับทุกๆวันจะมีของอยู่หนึ่งอย่างที่มักจะเป็นของชอบของผมตลอด โดยเจ้าของคนเดิมที่ให้มา ที่ผมรู้ว่าเจ้าของคนเดิมเพราะลายมือหวัดๆแต่อ่านง่ายและโพสอิทสีเขียวมะนาวแบบเดิม ทำให้รู้ว่าคนๆนี้คือคนเดิมคนเดียวกันที่ส่งของมาให้แต่ไม่เคยเอ่ยชื่อหรือเสนอตัวมาให้เห็นเลย
“อืม....เราก็อยากเห็น”
..
..
..
..
คาบเช้าอันหนักหน่วงหมดเวลาไปอย่างเชื่องช้า กว่าอาจารย์จะปล่อยนักศึกษาหลายๆคนก็แทบเป็นลม เช่น ซีส ที่ตั้งแต่เลิกคลาสก็ยังไม่เลิกบ่นเลย
“นี่ถ้าเราหิวตาย ไส้ขาดขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ดูสิเลยเที่ยงมาจะครึ่งชั่วโมงแล้ว” เธอพยายามจิ้มๆที่น่าปัดนาฬิกา ทำท่าทางหงุดหงิดที่ผมมองแล้วอดขำไม่ได้
“เอาน่าไหนๆก็เลิกแล้วนี่ไง ป่ะ ไปกินข้าวกัน มัวบ่นนี่แหละไส้จะขาดซะก่อน”
..
..
..
..
..
ท่ามกลางโรงอาหารกลางที่เต็มไปด้วยนักศึกษาที่พักเที่ยงพร้อมกัน แต่ผมมักจะชอบมากินข้าวที่นี่ก็ตรงที่จะมีผู้ชายคนนึงที่มองแล้วน่าดึงดูด เขามักจะมาทานข้าวที่นี่ตอนพักเที่ยงและมักจะชอบมาทานคนเดียวเงียบๆ มองภายนอกดูเป็นคนที่น่าเกรงขาม แต่พอมองไปในทุกอริยาบถของเขาแล้วมันช่างดูอ่อนโยน หากถามว่าอ่านผิดไหมก็คงไม่เพราะผมสนใจผู้ชายคนนี้จริง ๆ แต่เหมือนฟ้าช่างสรรสร้างให้วันนี้ผมและเขาต้องนั่งใกล้กัน
“ขอโทษนะครับ เอ่อ ตรงนี้ว่างไหมครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมามองผมช้า ๆ สายตาเขาที่มอง ทำให้ผมแทบหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ รูปหน้าที่หล่อเหลา นัยน์ตาคมดุ ริมฝีปากที่กำลังขยับและเอ่ยเสียงออกมาทำให้ผมจ้องเขาตาค้าง
“นั่งได้ ว่าง”
“..........” เขาขมวดคิ้วมุ่นจึงทำให้ผมหลุดจากภวังค์และนั่งลงช้า ๆ สักพักซีสก็เดินเข้ามาจากที่เดินไปซื้อข้าว
“นั่งนี่ใช่ป่ะนะ เดี๋ยวเราไปซื้อน้ำแปป เอาน้ำไรป่ะ”
“......”
“นะ ฮัลโหล เหม่อไรเนี่ย”
“อะ เอ่อ เอาๆ เอาน้ำแดงแล้วกัน”
“ได้ๆ นั่งเฝ้าโต๊ะก่อนนะ”
ขณะที่ซีสเดินห่างออกไป สายตาผมก็จดจ่ออยู่ที่คนๆเดิมอีกครั้ง จะว่านี่เป็นการคุยแล้วตกลงไปในหลุมของเขาเลยก็ว่าได้ คนอะไรหล่อน่าหลงใหลชะมัด ผมนั่งมองเขากินข้าวจนหมดจาน เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม แต่ทำไงหลบตาไม่ทันแล้วด้วย
“หากหน้าผมมีอะไรติด รบกวนบอกด้วย เห็นคุณจ้องมานานแล้ว”
“ห้ะ อะ เอ่อ มีๆ ตรงแก้มขวาน่ะ” แถได้ต้องแถก่อน มองเขาที่ยกมือขึ้นมาลูบแก้ม มองนิ้วเรียวที่กำลังลูบอยู่บนแก้มนั่นแล้ว ทำไมมันดูอบอุ่นเหลือเกิน
“ขอบคุณครับ” เขาผงกหัวให้ผม รอยยิ้มมุมปากนั่นทำให้ใจสั่น ทำให้ผมยิ่งตาค้างไปใหญ่ จนเขาลุกเดินออกไปไกลลิบตา ผมจึงกลับมาที่ตัวเอง ลืมไปเลยว่า ซีสกลับมานั่งอยู่ด้วยนานแล้ว
“เลิกเหม่อได้ยังคะ”
“ห้ะ เราป่าวเหม่อสักหน่อย”
“อ๋อเหรอ นี่ไม่เหม่อสินะ เดินตามเขาไปได้คงเดินตามไปแล้ว แต่ก็นะ หล่อขนาดนั้นแถมพอพูดแล้วยิ้มที่มุมปากแบบนั้น กระชากใจเราไปเลยล่ะ โอ้ยอย่างกะเทพบุตรลงมาเกิด”
“อืม....”
“อะไรแค่อืมนี่นะ แล้วข้าวไม่กินแล้วเหรอ อิ่มทิพย์แล้วสินะ นี่จะว่าไปแล้วถ้านะชอบเขาขนาดนั้นทำไมไม่บอกไปเลย มองเขามาจะสามเดือนแล้วนะ” ใช่ครับเพราะซีสรู้มาตลอดว่าผมแอบมองคนๆนี้ เพื่อนก็ได้แต่เชียร์ แต่ผมก็แค่กลัว
“ไม่เอาอ่ะ กลัว”
“เฮ้อออ ฟังนะคะลูกนะ แม่ซีสจะบอกให้ฟัง คนเราคาดหวังได้ แต่อย่าสูงเพราะตกลงมามันจะเจ็บแต่หากไม่หวังเลยก็กลายเป็นเราเจ็บตั้งแต่ยังไม่เริ่มที่จะหวังด้วยซ้ำ การผิดหวังไม่ทำให้เราตายแต่อยู่ที่ว่าเราจะกลับมายืนได้เมื่อไหร่เท่านั้นเอง โอเคเนาะ อย่าคิดมาก การที่แกเคยผิดหวังมาแล้วใช่ว่าแกจะผิดหวังซ้ำซากนะ นะ”
“อ่าห้ะ เข้าใจแล้วครับแม่”
“ดีมากค่ะลูก ทำตามใจดูบ้างอย่าเอาแต่คิด ปล่อยไปตามหัวใจบ้าง”
“อืม จะพยายาม”
..
…
..
..
แล้ววันนี้ก็เป็นเหมือนเช่นทุกวัน ขนมของฝากจากคนเดิมที่ยังคงส่งมาให้ การเฝ้ามองคนๆนึงที่น่าหลงใหลในช่วงพักเที่ยงจวบจนเขาเดินจากไป ทำให้ผมที่คิดมาตลอดหลายวันค้นพบแล้วว่า หากไม่ทำตามหัวใจตัวเองไม่ยอมรับความเจ็บปวดที่จะเข้ามาก็อย่าคิดถึงความหวังว่าจะได้พบเจอกับความสุข ผมจึงตัดสินใจสร้างความหวังขึ้นมาอีกครั้ง ขอวอนว่า คนนี้ๆจะเป็นคนที่ช่วยพยุงผมและทำให้ความหวังผมสำเร็จสักที
วันถัดมา
..
..
..
พักเที่ยงคือช่วงเวลาแห่งการรอคอย และแล้วมันก็มาถึง ผมรู้สึกถึงความวาบหวิวในอก ที่ไม่รู้ว่าจะพบกับเรื่องดีหรือร้ายผมก็ได้แต่ภาวนาวอนให้มันผ่านไปได้ด้วยดีด้วยเถิด
“สะ สวัสดี .... เอ่อ มีคนนั่งไหม” เขาเงยหน้าขึ้นมามองผมช้าดั่งเดิม ใบหน้าอันหล่อเหลายังคงเดิม ริมฝีปากที่กำลังขยับทำให้ผมยิ่งรู้สึกมือสั่นขึ้นไปทุกที
“อืม ว่างนั่งสิ” นี่เปรียบดั่งเสียงสวรรค์เมื่อเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยออกมา เพียงแค่ไม่กี่คำแต่มันกลับทำให้ผมยิ้มกว้าง
“นายนั่งคนเดียวแบบนี้ไม่เบื่อเหรอ เราเห็นนายนั่งกินข้าวคนเดียวแบบนี้ทุกวัน” ในเมื่อความเงียบเริ่มปกคลุมผมจึงเริ่มบทสนทนาที่อีกฝ่ายอาจจะรำคาญแต่ขออย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย
“เพื่อนบอกว่าไกล ไม่ยอมมากินด้วย เลยนั่งคนเดียว”
“อ่าว....”
“เรียนแพทย์ ตึกแพทย์ไกล แต่อยากมากินข้าวที่นี่” เรียนแพทย์...ความหวังสูงสุดของผมนี่นะ คนๆนี้น่าค้นหาเกินไปแล้ว
“โหย...มากินไกลจริง ๆ แสดงว่าอาหารที่คณะแพทย์ไม่อร่อยสินะ”
“ป่าว อยู่ที่...”เสียงตอนท้ายประโยคช่างเบาทำให้ผมส่งเสียงถึงความอยากรู้ออกไป
“ห้ะ “
“ไม่มีไร”
“อ่อ อืม ..............นี่รู้ไหมเราอยากเรียนแพทย์มากเลยอ่ะ”
“อืม ... รู้”
“เอ๋......รู้ได้ไง?”
“คนดังมั้ง” ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เหอะแต่ผมแทบจะไม่เคยบอกใครเลยนะว่าผมอยากเรียนหมอ นอกจากคนที่ติดตามผมจริง ๆ ตั้งแต่แรกเพราะผมเอาแต่ทวีต ลงในทวิตเตอร์ ตัดพ้อต่าง ๆตอนที่สอบไม่ติด แต่พอคิดได้ก็ลบทวีตพวกนั้นออกไปหมด คงต้องเก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ
“เหรอ..... ว่าแต่ นายชื่ออะไรอ่ะ เราชื่อนะ นะ “
“บอก”
“หืมม”
“ชื่อ บอก”
“อืม.... ชื่อแปลกดีอ่ะ ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะบอก”
“อืม” มาอีกแล้ว ยิ้มมุมปากสยบความเคลื่อนไหว
“แล้วนี่มีเรียนต่อป่าวอ่ะ โทษที ชวนคุยจนบอกกินข้าวช้า”
“มี แต่ไม่เป็นไร”
“อ่าวเหรอ งั้นบอกกินเถอะ เดี๋ยวเราไปซื้อข้าวแปปนึง”
“วันหลังซื้อข้าวมากินด้วยกัน”
“ห้ะ”
“ป่าว” อะไรของเขานะ ผมคิดถูกแล้วใช่มั้ยที่เลือกเขาเป็นผู้พยุงผม ชอบพูดอะไรที่แปลกๆ บางทีผมไม่ได้ยินแต่ก็ไม่พูดใหม่ แต่ก็นะ ช่างเถอะ เอาเป็นว่าความหวังครั้งนี้ของผมเริ่มต้นได้ดีทีเดียวเชียวล่ะ
TBC.
......................................................................................
รบกวนติดแท็ก #บอกนะ ในทวิตเตอร์นะคะ
แค่เธอเท่านั้น [END]
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ผมที่กำลังหุบยิ้มไม่ได้ จากวันนั้นที่เราคุยกันครั้งแรก ทำให้เรามีวันนี้ วันที่เราเลิกเรียนพร้อมกัน แล้วบอกชวนผมไปกินข้าวด้วยกัน ห้างก็เหมือนเดิม ๆ แต่ที่แปลกไปกว่าเดิมคือผู้ร่วมเดินทางมาต่างหาก ใครจะว่าผมบ้าก็ได้ การที่แอบมองคนๆนึงจนชอบ มันก็คงต้องเป็นแบบนี้ทุกคน บอกเรียนแพทย์ผมรู้ดีว่าเป็นคณะที่หนักหน่วงแค่ไหน เขาจึงไม่ค่อยมีเวลา นอกจากเวลาพักเที่ยงที่เรากินข้าวและพูดคุยด้วยกันทุกวัน แต่ที่แปลกกว่าแต่ก่อนคือ วันนี้ของฝากจากเจ้าเดิมหายไป ทั้งที่ปกติแล้ว ต้องมาทุกวัน
“กินไรดีอ่ะบอก ชอบกินแนวไหนอ่ะ”
“ขออาหารญี่ปุ่น”
“จริงป่ะเนี่ย ชอบเหมือนเราเลย นี่รู้ป่ะ เราชอบกินยำปลาแซลม่อนที่สุด แซ่บลืมอ่ะ”
“รู้”
“หืม”
“บอกว่ารู้”
“รู้ได้ไง ที่โรงอาหารกลางไม่มียำปลาแซลม่อนนะ โม้ปะเนี่ย”
“ชอบกินยำปลาแซลม่อน แล้วต้องสั่งชาเขียวแบบไม่ใส่น้ำตาล”
“เดี๋ยวๆ นี่ไปสืบมาจากไหนเนี่ย” ดีใจสิครับถามได้ นี่ผมกำลังยิ้มกว้างแค่ไหนกันนะ
“ป่าว รู้เอง”
“เหรอ จริงดิ งั้นทายมา ขนมอะไรที่เราชอบมากที่สุด”
“ฝอยทองกรอบ”
“เหย เก่ง เอาอีกๆ งั้นน้ำอะไรเราชอบที่สุด”
“น้ำเปล่า ถ้าเหนื่อยจะกินน้ำส้มคั้น”
“เดี๋ยวนะ จีบเราป่ะเนี่ย”
“จีบมานานแล้วเมื่อไหร่จะรู้ตัวสักที”
“ห้ะ ว่าไงนะ”
“รู้ว่าได้ยิน ก็ตามนั้น นี่อ่ะ” กล่องขนม ที่ถูกยื่นมาให้ผมบนโต๊ะอาหาร หน้าตากล่องคือขนมฝอยทองกรอบของเจ้าเดิมที่ผมชอบกิน แถมโพสอิทสีเขียวมะนาวที่ติดไว้กับลายมือหวัดๆที่อ่านง่ายลายมือเดิม
“วันนี้มาสาย เอาไปฝากให้ไม่ทัน”
“หืม คืออะไรอ่ะ งงไปหมดแล้ว” ใช่ครับงง งงจริงๆ อะไรคือ ขนมเหมือนเดิม ลายมือเดิมโพสอิทสีเดิม
“ก็บอกแล้วว่าจีบมานานแล้ว ไม่รู้ตัวสักที”
“งั้น.......นี่หมายถึง เอ่อ อย่าบอกว่ามาชอบมากินข้าวตึกกลางเพราะ......”
“มารอเจอ” ไอ้บ้าเอ้ย ขอHowto หุบยิ้มหน่อยได้ไหม ผมไม่ไหวแล้ว ยิ้มกว้างกว่านี้คงปากฉีกถึงหูแน่ๆ
“พูดอะไรไม่ออกเลยอ่ะ”
“ไม่ต้องพูดหรอก รับมันไว้ก็พอ”
“รับดิ จำได้ไหมที่เคยบอกไปว่าเราเคยอยากเรียนหมอ”
“อืม จำได้”
“รู้ป่ะ โครตเสียใจเลยตอนนั้น เหมือนตกจากภูเขาสูงแล้วกลิ้งตัวลงมาเจ็บมากเลยอ่ะ เลยไม่กล้าที่จะหวังอีก...................แต่พอ...... พอเจอบอก เราคิดว่า สามเดือนกว่าที่นั่งมองมาไม่น่าเสียดายเลยอ่ะ เพราะมันทำให้เรารู้ว่า บอกจะเป็นคนที่คอยช่วยพยุงเรา และเรา...... เรา..คิดไม่ผิด”
“ขอโทษนะ”
“หืม ขอโทษทำไม?”
“ขอโทษที่ไม่กล้าพอที่จะเข้าไปช่วยพยุงนะขึ้นมาตั้งแต่แรกไง”
“เอ๋ หมายความว่าไง?”
“เรามองนะมานานมากแล้ว ตั้งแต่ม.6 แต่นะสนใจแค่หนังสือกับการสอบเข้าหมอ แล้วพอมารู้ว่านะสอบไม่ติด เห็นข้อความต่าง ๆในทวีตที่นะตัดพ้อ เราไม่รู้จะช่วยยังไง เลยตั้งใจอ่านหนังสือให้หนักกว่าเดิม ผลคะแนนแอดมิชชั่นออกมากซึ่งเราติดหมอ เราอยากมอบโอกาสนี้ของเราให้นะมากแต่ก็ทำได้แค่คิด เราเลยไม่กล้า ไม่กล้าเลยที่จะเข้าหานะ” ใบหน้าหล่อเหลาทุกครั้งที่มองครั้งนี้มองเข้าไปในดวงตาแล้วดูเศร้า ทำไมถึงเป็นคนดีแบบนี้นะ เราเลือกไม่ผิดจริง ๆ
“บอกไม่ผิดหรอก นะทำตัวเองแหละ เพราะถ้านะตั้งใจอีกนิด ลองสอบแอดมิชชั่นอีกครั้งนะอาจจะติด แต่นะเลือกที่จะเสียใจอยู่อย่างนั้นไง นะเลยไม่ติด ขอบคุณนะ ขอบคุณที่อยากช่วยกันมากขนาดนี้ ขอบคุณที่ชอบกัน” ผมยิ้ม ยิ้มกว้างมาก ๆเท่าที่คนๆนึงจะยิ้มได้ ผมไม่รู้ว่าความสุขที่มีอยู่ตอนนี้จะหายไปตอนไหนแต่ผมก็ได้รู้ว่าในตอนนี้ผมมีความสุข เราทานอาหารกันเสร็จบอกชวนผมไปดูหนัง ทำให้ผมรับรู้ว่าคนๆนี้แหละที่พร้อมจะช่วยพยุงผม
“นี่บอก ดึกแล้วจะกลับเลยมั้ย” บอกขับรถมาส่งผมที่คอนโด เราอยู่ในรถซึ่งผมกำลังจะลงจากรถแต่หันไปถามคนขับก่อน
“อืมกลับเลย ต้องไปท่องหนังสือน่ะ”
“อืม งั้นขับรถกลับดี ๆนะ ถึงแล้วไลน์มาบอกด้วย”
“ครับผม” ขณะที่ผมกำลังจะหันไปเปิดประตูรถ เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้น
“นะ ขอจีบนะ” ผมได้แต่หัวเราะกับการกระทำนิ่งๆของเขาจริง ๆ คือไม่จีบก็ติดแล้วมั้ยล่ะ
“ฮ่าๆ อืม แต่เราจีบยากนะ” พูดจบผมก็ลงจากรถทันที
สามวันถัดมา
..
..
..
..
ผมเจอบอกแค่ช่วงพักเท่านั้นเพราะเขาบอกว่า เรียนหนักมากแถมยังมีสอบ สอบ และก็สอบเข้ามาเยอะมาก จนผมอดคิดไม่ได้ว่า ผมเลือกถูกแล้วที่ไม่เรียนหมอ
“นี่คุณลูกนะ แม่ซีสจะไปร้านนมหน้ามอ ไปด้วยป่าว เอ๊ะหรือว่ารอพี่บอกคะ”
“ไปสิ วันนี้บอกสอบย่อย”
“แหม พอพี่บอกไม่อยู่ฉันดูมีบทขึ้นมาเชียว ว่าแต่ เขาจีบเป็นไงบ้างแก ท่าทางนิ่งๆแบบนั้นเวลาจีบโรแมนติกมะ”
“อืม ไม่นะ”
“อะไรวะ เล่าหน่อยๆ อยากเผือก”
“ฮ่ะๆๆ เล่าก็ได้ ก็ไลน์มาจีบอ่ะ”
“ไลน์มาจีบยังไง เล่าต่ออย่าให้ต้องค้าง”
“ฮ่า ๆๆ ใจเย็นดิ ก็ไลน์มา แบบจีบทั่วไปแหละ”
“ไหนเอามาดู ไม่ต้องเล่าละ” ผมหัวเราะพลางยื่นโทรศัพท์เครื่องหรูให้กับซีส
ทรงกระบอก : สวัสดีครับคุณนะ ผมชื่อบอก ผมขอจีบคุณนะครับ
จีบติดยากนะครับ : นะนะ
ทรงกระบอก : ถึงจะจีบติดยากแต่ถ้าหากผมอ่อยมาก ๆคุณว่าจะติดไหมครับ
เรื่องนี้ต้องดูที่การอ่อยครับ 5555 : นะนะ
*สติ๊กเกอร์รูปหมีบราวน์*
ทรงกระบอก : งั้นอ่อยเลยนะครับ 080******* เบอร์ผม เผื่อคุณอยากได้ใจ
เสี่ยวมากครับ 555555 : นะนะ
ทรงกระบอก : ที่ผมเสี่ยวเพราะผมรักเดียวใจเดียวนะครับ *-*
เสียดายข้าวที่กินไปมากอ่ะบอก : นะนะ
*สติ๊กเกอร์รูปเจมส์อ้วก*
ทรงกระบอก : ฮ่า ๆ อย่าอ้วกนะ เราเป็นพ่อเด็กเดี๋ยวเราไปดูอาการให้นะ
พอเลยครับคุณหมอเถื่อน นอนแล้ว ผันดีนะ : นะนะ
ทรงกระบอก : ครับ ฝันดี อย่าลืมห่มผ้านะครับ J
เช่นกันครับ : นะนะ
“โอ้ยยยยยยยยยยยยยย อ้วกได้ไหม พี่ซีสขออ้วก ท่าทางนิ่งๆไม่น่าจะเสี่ยวได้ขนาดนี้นะ”
“ฮ่า ๆ บอกแล้วว่าไม่มีอะไร “
“แล้วเมื่อไหร่แกจะยอมเป็นแฟนเขาล่ะนะ”
“ก็ไม่ได้ขัดขืนมานานแล้วนะ แต่บอกไม่พูดเอง”
.
.
..
..
“งั้น เป็นแฟนกันนะ” เสียงทุ้มที่คุ้นเคย ดังออกมาจากด้านหลัง ทำให้ผมตกใจหันไปมองอย่างรวดเร็ว ไหนว่ามีสอบไง…..
“มาได้ไงเนี่ย ไหนว่ามีสอบไง”
“เป็นแฟนกัน นะครับ” ความมึนมาอีกแล้วถามอย่างตอบอย่าง แต่ทำไมผมรู้สึกร้อนที่หน้าได้ขนาดนี้นะ
“บอกนะบอก หมอเถื่อนเอ้ย..........................ครับเป็นแฟนกัน”
“โหนะ ไหนแกบอกว่าแกจีบยาก นี่เขาขอเป็นแฟนก็เป็นสะละ แย่ๆ แต่ รักกันนาน ๆนะคะ รักกันนาน ๆนะแก แม่ซีสปราบปลื้ม” ซีสยกมือทาบอก ยิ้มกว้างดีใจจนตาปิด
“ฮ่ะ ๆ ขอบคุณนะแก ขอบคุณนะ”
ช่วงเวลายามเย็นมาถึง วันนี้แปลกกว่าทุกวันเพราะผมกับบอกเราอยู่กันที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ผู้คนอื่น ๆต่างออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่นั่งอยูริมบ่อปลาขนาดใหญ่ ให้อาหารปลาและยิ้มเท่าที่คนๆนึงจะยิ้มกว้างได้
“เพราะนะไม่ได้เป็นหมอ แต่เราเป็นหมอเราจะขอดูแลนะเองทั้งร่างกายและจิตใจ” จู่ ๆเสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นทำให้ผมหันไปมองทั้งรอยยิ้ม
“ความเสี่ยวไม่ได้ลดลงเลยนะหมอบอก ฮ่า ๆๆ.......”
“ก็อย่างที่เคยบอก เราเสี่ยวเพราะเรารักเธอคนเดียว”
“อยากจะอ้วกนะ แต่เราก็มีไรจะบอก”
“หืม” เราต่างมองหน้ากันท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นที่แม้จะอากาศร้อนแต่ผมคิดว่ามันสบายทั้งกายและใจ
“เพราะนะไม่ได้เป็นหมอ แต่นะจะเป็นนักจิตวิทยา ที่จะรักษาและดูแลหัวใจของเราตลอดไป ขอบคุณที่ทำให้ความหวังของนะเป็นจริง” ผมยิ้มพร้อมสบตากับบอก จนผมโน้มตัวเข้าไปใกล้เรากอดกันท่ามกลางปลานับพันตัวที่เวียนว่ายไปมาในบ่อน้ำ กอดกันจนมีความรู้สึกถึงกันและกัน อกที่อบอุ่นของบอก นะอยากจะบอกบอกว่าขออยู่แบบนี้ตลอดไป
“ชอบว่าเราว่าเสี่ยวตัวเองไม่ต่างเลยฮ่าๆๆ” ผมได้แต่บุ้ยปาก แล้วเราก็หัวเราะไปด้วยกัน จนผมนึกขึ้นได้ ในเมื่อไม่นานมานี้ผมชอบฟังเพลงๆนึง
“ฟังเพลงกัน”ผมหยิบหูฟังสีขาวขึ้นมาเสียบกับโทรศัพท์เครื่องหรู เพลงนี้คือเพลงที่ผมอยากจะให้กับบอก เพราะเขาคือคนที่ผมขอวอนให้มีจริง
เพลง ขอวอน 2
ขอวอนดาวที่คอยส่อง
ลมที่พัดโชยมาพาให้ฉันได้ยิน
ว่าเสียงเพลงที่หมู่นกได้กล่อมเกลา
คืนที่ช่างพร่างพราวอย่าจากไปโดยพลัน
อยู่ด้วยกันให้นาน ให้เราอยู่ใกล้กัน
ส่งสัมผัสถึงกัน จวบจนข้ามคืนนี้
ได้ร่วมสุขซักที
พอถึงท่อนนี้ผมเปล่งเสียงร้องออกมาพร้อมมองหน้าบอกทั้งรอยยิ้ม
** ขอบคุณโลกนี้ ที่ส่งคนในฝันให้กับฉัน
ขอบคุณอีกครั้ง ที่ทำให้พบรักที่ยิ่งใหญ่
ฉันไม่เคยพบเจอใคร ที่เข้ามาทั้งหัวใจ
เธอคือคน ๆ นั้น จะอยู่คู่เคียงข้างกัน
แค่มีเธอที่เข้าใจ ฉันไม่เคยต้องการใคร
แค่เธอเท่านั้น**
เมื่อเพลงจบลง เราที่ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มที่มีแต่ความสุข ผมได้รู้แล้วว่าคนเราเกิดมาแล้วไม่มีอะไรเพอร์เฟคไปสะทุกอย่างหรอก บางทีสิ่งบางอย่างมักจะไม่สมหวังเสียใจมากมายเท่าไหร่มีความทุกข์แค่ไหนแต่สักวันหนึ่งเราจะกลับมายืนได้อีกครั้ง บางอย่างจะไม่ได้มาถ้าหากเราไม่แลกมันออกไป ทำตามที่ใจต้องการ เพราะสิ่งที่เราต้องการคือคำตอบของความสุขของเรา....
ทำตามที่ใจต้องการ ปล่อยไปตามหัวใจ ทุกอย่างอยู่ที่เราอยากให้เป็นไป แต่เมื่อไหร่ที่ท้อ ให้บอกกับตัวเองไว้ว่าเรายังมีเราเรายังคงหายใจ พรุ่งนี้คือวันใหม่ จงทำให้ทุกวันมีความสุข
........................................................
เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นแก้บนของเราเอง ฮ่าๆ อ่านเอาสนุกขำๆเนาะ ฝากผลงานด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่หลงเข้ามาอ่านถึงตรงนี้นะคะ :) :pig4:
**เปิดเพลงไปด้วยฟินนะเออ อิอิ**
รบกวนติดแท็ก #บอกนะ ในทวิตเตอร์นะคะ