พิมพ์หน้านี้ - ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 01-07-2019 18:45:39

หัวข้อ: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 01-07-2019 18:45:39
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

----------------------------

นิยายที่แต่งจบแล้ว
{{ King’s Club }} เพราะเสพติดเซ็กซ์  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47157.0)
{{ Knight's Hour }} เพราะเป็นเจ้านาย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52388.0)
{{ Prince's Room }} ระวัง...เขตอันตราย!! [3P] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56382.0)
{{ I'm Not Him }} เขาให้ผมเป็นดารา  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60933.0)
{{ He's Not Me }} ผมไม่อยากเป็นดารา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=62107.msg3707544)
{{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา  (https://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66315.msg3795969)
แฟนผมไม่จอมมารขนาดนั้นหรอก!  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68654.0)

(https://sv1.picz.in.th/images/2019/08/16/Z3GrQt.jpg)

#นาวาสไตล์

อาถรรพ์รักเจ็ดปีไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้คนเลิกกัน
การนอกใจต่างหากที่ทำให้คนเคยรักกันไปต่อไม่ได้
และบางครั้งเหตุผลของการนอกใจก็อาจเป็นเพราะไม่ได้รักกันมากพอ
 

ถ้าไม่มี ‘ศศิน’ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะตาสว่าง
ติดก็แต่คนที่เอาหลักฐานการนอกใจมาประเคนดันหน้าระรื่น
หวังเสียบต่อทันทีนี่สิที่น่าหนักใจ
ส่วน ‘ตวัน’ คนรักที่ทรยศความเชื่อใจกันได้ลงคอ
แม้เสียใจแค่ไหนแต่เขาก็พร้อมสลัด (อดีต) คนรักสุดใจร้ายออกไปจากชีวิต
แต่จะให้ทิ้งไปเฉยๆ แล้วปล่อยให้คนทรยศอยู่กันอย่างมีความสุขคงเป็นไปไม่ได้
อะไรที่เคยให้ไป ‘นาวา ดาราลัย’ จะทวงคืนกลับมาให้หมด!

-----------------

สวัสดีค่ะทุกคน (ไหว้ย่อรอบทิศทาง)
ขอฝากลูกชายคนใหม่แกะกล่องอย่างตาหนูนาวาด้วยนะคะ ลูกชายคนนี้ใครดีมาก็ดีใจหาย ร้ายมาก็ร้ายเหลือทน
เลี้ยงไม่ยากเพราะรวยมาก แถมยังกินน้อยเป็นแมวดม งานอดิเรกคือนอนขี้เกียจ
มีความติสแตกนิดๆ แฟชั่นนิสต้าหน่อยๆ
ขอแค่รักจริงและจริงใจ รับร้องว่าน้องจะน่ารักมากๆ ค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยน้า (โค้ง)


เพจนักเขียน : มาจะกล่าวบทไป  (https://www.facebook.com/MajaYnaj) 

สารบัญ
ตอนที่ 1 : อาถรรพ์รักเจ็ดปี
ตอนที่ 2 : ยุทธการทวงคืนรัก
ตอนที่ 3 : พาฝัน
ตอนที่ 4 : พี่ชายที่แสนดี (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3987313#msg3987313)
ตอนที่ 5 : นับถอยหลังสู่วันงาน  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3987542#msg3987542)
ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3987818#msg3987818)
ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3988145#msg3988145)
ตอนที่ 8 : แยกห้องนอน  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3988635#msg3988635)
ตอนที่ 9 : เลิกรา (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3989144#msg3989144)
ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3989611#msg3989611)
ตอนที่ 11 : ฟ้าหลังฝน (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3990105#msg3990105)
ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3990521#msg3990521)
ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3990901#msg3990901)
ตอนที่ 14 : ลักพาตัว (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3991429#msg3991429)
ตอนที่ 15 : จุดหักเห  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3991925#msg3991925)
ตอนที่ 16 : ทดลองดูใจ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3992347#msg3992347)
ตอนที่ 17 : ความสัมพันธ์ที่พัฒนา (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3993621#msg3993621)
ตอนที่ 18 : ลุยเข้าหา  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3993697#msg3993697)
ตอนที่ 19 : อดีตดำมืด (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3993876#msg3993876)
ตอนที่ 20 : นี่แหละนาวา (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3994089#msg3994089)
ตอนที่ 21 : ความสัมพันธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไป (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3994341#msg3994341)
ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3994641#msg3994641)
ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3995084#msg3995084)
ตอนที่ 24 : จับขโมย  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3995297#msg3995297)
ตอนที่ 25 : ในที่สุดเราก็... (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3995484#msg3995484)
ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3995684#msg3995684)
บทส่งท้าย (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3996023#msg3996023)
ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70619.msg3998373#msg3998373)

หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 1 : อาถรรพ์รักเจ็ดปี [01/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 01-07-2019 18:53:24
   ตอนที่ 1

   อาถรรพ์รักเจ็ดปี

   

   ผมถือรูปถ่ายใบหนึ่ง

   เพราะเป็นรูปซูมไกลๆ ภาพจึงเบลอ แต่ก็เห็นอย่างแจ่มแจ้งว่าชายหญิงคู่หนึ่งกำลังจุมพิตกันอย่างลึกซึ้งในรถยนต์

   คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกหากผู้ชายในภาพนั้น...ไม่ใช่แฟนผม

   นายตวัน ใจภักดี แต่ตอนนี้คงไม่ภักดีแล้วล่ะมั้งในเมื่อความรักเจ็ดปีไม่อาจสู้นางแบบสาวที่ชื่อพาฝัน...

   พาไปฝันหวานกันสองต่อสองสมใจเลยทีเดียว!

   น่าแปลกที่ผมยังหัวเราะออก อาจเพราะสังหรณ์บางอย่างบอกเตือนถึงความเหินห่างของคนรัก สายตายามทอดมองที่แฝงความรู้สึกผิด ไม่ได้รักใคร่หวานซึ้งเหมือนเคย แต่ทั้งๆ ที่รู้ว่าผิดแล้วทำไมถึงทำ!

   “ฮะๆๆ...ฮ่าๆๆ!” เสียงแค่นหัวเราะเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ หากใครมาเห็นคงเข้าใจผิดว่าผมเป็นบ้า และใช่ ผมคงกำลังจะเป็นบ้า เพราะคงไม่มีคนปกติที่ไหนหัวเราะไปร้องไห้ไปอย่างนี้

   แม่งเอ๊ย!

   ผมขยำรูปถ่ายในมือ ในใจเจ็บปวด แต่ความไม่เข้าใจมีมากกว่า ความสัมพันธ์ของผมกับตวันไม่ใช่ความรักฉาบฉวยแม้พวกเราจะเป็นเพศเดียวกัน พวกเรา...เติบโตมาด้วยกัน

   ผมกับตวันเกิดเดือนมกราคมเหมือนกัน เขาเกิดวันที่สิบเจ็ด ส่วนผมเกิดวันที่ยี่สิบเจ็ด เขาเป็นลูกคนใช้ในบ้าน ส่วนผมเป็นลูกชายคนเล็กของตระกูลดาราลัย ด้วยความที่อายุใกล้กัน แถมผมยังร่างกายอ่อนแอ ป่วยกระเสาะกระแสะเพราะคลอดก่อนกำหนด ทำให้ไม่เคยได้ออกไปเล่นนอกบ้านกับเด็กคนอื่น ตวันเลยเป็นเพื่อนคนแรกรวมถึงคนเดียวที่ผมไว้ใจ ภายใต้สายตาของผู้ใหญ่และความปลาบปลื้มของนางช้อย แม่ของเขาซึ่งไม่ได้แต่งงานกับสามีอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพราะสามีของนางช้อยเจ้าชู้ ชอบหลอกฟันสาวไปเรื่อย พอรู้ว่าแม่ของเขาท้องก็รีบทิ้งไม่อยากมีภาระ แม่ผมนึกสงสาร เห็นแก่ที่นางช้อยมาจากต่างจังหวัดตัวคนเดียว โดนหนุ่มชาวกรุงหลอกจึงรับทำงาน รวมถึงช่วยส่งเสียค่าเล่าเรียนทั้งหมดให้ตวันได้ศึกษาในโรงเรียนดีๆ เป็นเพื่อนผม

   ผมกับตวันจึงตัวติดกันตลอดเวลา เป็นภาพคุ้นตาทำให้ทุกคนต่างเรียกเราว่าปาท่องโก๋

   ผมอยู่ไหน ตวันอยู่นั่น แต่ความจริงแล้วเป็นผมต่างหากที่ติดตวัน เพราะเขามักช่วยเหลือผมตลอดเวลา

   อย่างตอนที่ผมเป็นลมล้มพับ ตวันก็จับผมขี่หลังวิ่งร้องขอความช่วยเหลือ ตอนที่ผมไข้ขึ้นไปเรียนไม่ไหว ตวันก็ช่วยจดสรุปให้ตลอด ตอนที่ทำการบ้านไม่ทัน ตวันก็ช่วยปั่นให้ ตอนที่เผลอทำเครื่องเพชรสุดรักสุดหวงของคุณแม่เป็นรอยร้าว ตวันก็ช่วยรับผิดแทน ตอนที่ผมโวยวายงอแง ตวันก็ตามอกตามใจ

   พวกเราเคยหนีเที่ยวด้วยกัน เล่นซนด้วยกัน แกล้งคนด้วยกัน เรียกว่าเป็นทุกอย่างของกันก็ไม่ผิด

   จุดเปลี่ยนอยู่ตรงไหนน่ะเหรอ

   วันนั้น...ครอบครัวของผมรวมถึงแม่ของตวันตั้งใจมาเยี่ยมพวกเราที่หอพัก ที่เลือกอยู่หอเพราะผมและตวันชอบอยู่เป็นส่วนตัวมากกว่า สาเหตุคือถ้าอยู่ที่บ้านตวันจะวางตัวไม่ค่อยถูก เขามักโดนมองว่าเป็นลูกคนใช้ แม้พ่อกับแม่ผมจะนึกเอ็นดูแต่คนอื่นๆ ในบ้านไม่ค่อยชอบใจนักหากต้องทำอาหารเผื่อตวัน ซักเสื้อผ้าให้ตวัน หรือทำอะไรให้เขาทั้งที่มีฐานะเท่ากัน

   ...ความสูญเสียเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมยังจำได้ดี วันนั้นผมกับตวันนั่งเล่นเกมกันในห้อง รอให้พ่อแม่มาหาเหมือนที่มักมาเยี่ยมเยียนทุกสุดสัปดาห์ แต่กลับได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลว่ามีคนขับรถบรรทุกหลับในขับรถพุ่งชนรถพวกเขา ผลคือ...ตายยกคัน

   ผมช็อกค้าง กว่าจะตั้งสติได้ก็เป็นตอนตวันแย่งโทรศัพท์ผมไปคุย เมื่อพวกเราสบตากัน ผมก็ร้องไห้โฮ พวกเรากอดกัน ร่ำไห้จนแทบไม่มีน้ำตา ก่อนจะจูงมือพากันไปโรงพยาบาลเพื่อดูหน้าผู้ให้กำเนิดเป็นครั้งสุดท้าย

   ผมกับตวันกลายเป็นเด็กกำพร้า

   ตอนนั้นพวกเราอายุสิบหก...โชคดีคือผมมีพี่ชายคนหนึ่งเรียนปริญญาโทอยู่ที่ต่างประเทศ ไม่อย่างนั้นเขาคงนั่งรถคันนั้นด้วย ตอนรู้ข่าว พี่ชายรีบนั่งเครื่องบินกลับจากอเมริกา ถึงจะรีบแค่ไหนก็เสียเวลาทั้งวัน ช่วงเวลาแห่งความสูญเสียนั้นมีเพียงผมและตวันที่ช่วยกันติดต่อญาติ ดูแลงานศพ รวมถึงปลอบใจกันและกัน

   พวกเราจับมือกันตลอดเวลา

   ในงานศพพ่อกับแม่ของผมมีคนมาร่วมงานเกือบพันคน งานจัดอย่างยิ่งใหญ่ พวงหรีดเต็มศาลา แต่แม่ของตวันซึ่งจัดแยกออกไปศาลาข้างๆ นั้น...ถ้าไม่นับคนใช้ในบ้าน ก็แทบไม่มีใครจุดธูปไหว้

   เพราะอยากสงบใจ ผมเลยปล่อยพี่ชายรับหน้า ส่วนตัวเองนั่งอยู่ในศาลาของนางช้อยเป็นเพื่อนตวัน ผมจุดธูปไหว้เธอ บอกขอบคุณที่มาที่บ้านของผม ขอบคุณที่ให้กำเนิดตวัน ขอบคุณที่มอบเพื่อนที่ดีที่สุดให้ ขอบคุณที่ทำให้ได้เจอกับตวัน อยู่เคียงกันในวันนี้ และไม่ต้องห่วงเพราะผมจะดูแลตวันอย่างดี

   ตอนนั้นตวันค่อนข้างเคว้งคว้าง เพราะครอบครัวผมช่วยชุบเลี้ยงมาตลอด เมื่อพ่อกับแม่ผมรวมถึงแม่ของเขาเสีย สถานะของตวันเลยยุ่งยากนิดหน่อย แต่ผมพูดเรื่องนี้กับพี่ชายแล้ว พี่ซึ่งรับมรดกสืบทอดกิจการของตระกูลยินดีจะดูแลตวันเหมือนเดิม

   ‘จะดีเหรอครับ ผม...ผมเกรงใจ’ กับคนที่อายุมากกว่าแปดปี ตวันไม่กล้าเห็นแก่ตัวขนาดนั้น

   ‘ดีสิ!’ ผมยืนยัน ยังคงจับมือตวันไม่ปล่อย ‘ถ้าไม่มีตวัน ใครจะปลุกให้ไปเรียนตอนเช้า ใครจะบอกให้ทำการบ้าน ซื้อของกินที่ชอบให้ คอยดูแลตอนไม่สบาย บ่นเรื่องทำห้องรก แล้วก็...แล้วก็...’

   ผมร้องไห้

   ‘หน้าที่ของตวันคืออยู่ข้างๆ วาก็พอแล้ว!’

   ภาพของผมที่ร้องไห้จับมือเขาแน่นในศาลางานศพของแม่เขาเองคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ตวันมองผมในแง่รักใคร่ลึกซึ้งมากขึ้น

   จากนั้นไม่กี่ปีตวันก็สารภาพรักและขอผมคบ ผมแปลกใจนิดหน่อย อาจเพราะพวกเราสนิทกันมากเกินไปเลยไม่เคยคิดในด้านนั้นมาก่อน ถึงอย่างนั้น...ผมก็ตอบตกลง

   ผมไม่เคยรังเกียจตวัน ไม่เคยสักนิดเดียว

   หลังเรียนจบพี่ชายมอบกิจการจิวเวลรี่ให้ผมดูแล เพราะเขาไม่ถนัดด้านแฟชั่นและของสวยงามเท่าไหร่ ตอนนั้นผมอยากให้ตวันมีความมั่นคงมากขึ้น ไม่ต้องขอเงินจากคนอื่นเลยโอนหุ้นครึ่งหนึ่งให้คนรัก มอบอำนาจแล้วให้ตวันบริหารงานเต็มที่ ส่วนตัวเองนอนตีพุงอยู่บ้าน

   ผมถูกเขาเอาใจจนกลายเป็นคนเอาแต่ใจเต็มขั้น!

   ตวันอยากพิสูจน์ความสามารถ ผมจึงเชื่อใจและไว้ใจให้เขาบริหารงานแทน เพราะถ้าผมโผล่หน้าไปที่บริษัทบ่อยๆ หลายคนจะวางตัวลำบาก นามสกุลผมบ่งบอกถึงความเป็นเจ้าของ แล้วตวันล่ะคืออะไร แม้จะมีหุ้นเท่ากัน แต่ก็มีคำนินทาบ่อยครั้งว่าตวันเกาะผมกิน...

   คนในบริษัทหลายคนไม่ค่อยสนับสนุนตวัน ถือหางผมมากกว่า ผมเลยตัดปัญหาด้วยการไม่ไปซะเลย ตวันจะได้กุมอำนาจ ถือสิทธิ์ขาดที่สุดซึ่งก็ได้ผล หลังบริหารงานอยู่สามปีความพยายามของตวันก็ประสบผลสำเร็จ ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้นของดาราลัยจิวเวลรี่ทำให้พี่ชายผมถึงกับออกปากชมเชย

   ตอนวิ่งมาบอกว่าทำได้แล้วเป็นวันแรกที่ผมเห็นเขาดีใจขนาดนั้น เพราะเขามักมีสายตาหม่นเศร้าเสมอ ตวันพาผมไปเลี้ยงข้าว ไปเที่ยว ช็อปปิ้งด้วยเงินที่เขาเป็นคนหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงตนเอง ไม่ใช่ได้จากคนอื่น

   พวกเรามีความสุขกันมาก...

   ปีนี้เป็นปีที่เจ็ดที่เราคบกัน อาถรรพ์เจ็ดปี? เฮอะ คนจะนอกใจ อาถรรพ์ก็แค่ข้ออ้าง!

   เอ๊ะ...จะว่าไปผมเพิ่งอายุยี่สิบห้า หรือจะเป็นอาถรรพ์เจ็ดปีผนวกกับวัยเบญจเพสกันนะ?

   “ทำไมที่รักโง่จัง โดนหลอกใช้ยังไม่รู้ตัวอีก”

   “เงียบน่า!”

   ผมหันไปตวาดคนข้างตัว...ผู้นำหลักฐานการนอกใจมาแฉด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่มน่าหมั่นไส้ หมอนี่ชื่อศศิน แทนที่จะสุขุมเยือกเย็นดั่งพระจันทร์ตามชื่อดันเป็นคนบ้าแถมหน้าด้าน ตามจีบผมแบบนี้มาหลายปี แม้จะโดนปฏิเสธรอบที่ล้านว่าผมมีแฟนแล้วและพวกเรารักกันดี ไม่มีวันเลิกกันง่ายๆ เขาก็ทำหูทวนลม บอกว่าขอแค่เทียวไล้เทียวขื่อให้ผมอารมณ์เสียอาละวาดก็พอใจแล้ว ไม่เป็นแฟนได้ ขอแค่เป็นคนที่จีบเธอ...

   ยิ่งกว่าคนบ้าคือคนบ้ารัก

   น่าขำชะมัดที่ผมเองก็กำลังจะเป็นแบบนั้น หน้ามืดตามัว ศศินพยายามบอกว่าทุกอย่างที่ตวันทำทั้งหมดไม่ใช่ความจริงใจ แต่คือการหลอกใช้เพื่อจะได้มีฐานะ มีเงิน มีอำนาจ แต่ผมไม่เชื่อคำยุยงของคนบ้าหรอก ผมอยู่กับตวันตั้งแต่เกิด เขาเป็นคนยังไงทำไมจะไม่รู้ ถึงผมจะบ้ารักก็ไม่ถึงขนาดโง่ดูคนแกล้งรักไม่ออก

   ตวันรักผมจริง

   แต่รักนั้นจืดจางลงเมื่อเขามีทุกอย่างดีพร้อมและเจอคนที่ตรงสเป็กมากกว่า

   ตวันเป็นผู้ชายแท้ๆ...เขาชอบผู้หญิง แต่ตวันบอกว่าผมจะเป็นผู้ชายคนเดียวที่เขารัก

   แล้วผมก็เชื่อไง!

   แต่ความรักของเราคงไม่เท่ากันล่ะมั้งถึงทรยศหักหลังได้ลงคอ

   “โอ๋ ที่รัก ไม่โมโหนะไม่โมโห ถ้าโกรธมากๆ คิ้วขมวดเยอะๆ จะหน้าเหี่ยวนะ”

   ผมชักหัวเราะไม่ออกเพราะไอ้คนหน้าด้านข้างตัวเนี่ยแหละ

   ผมเจอกับศศินตอนเข้ามหา’ลัย ตอนนั้นผมเพิ่งเริ่มคบกับตวัน ความรักกำลังหวานชื่นทีเดียว ตวันไม่ชอบขี้หน้าศศิน ผมเลยพยายามไม่ยุ่งกับหมอนี่ แม้จะถูกนัด โดนดักเจอก็พยายามหนีหน้าตลอด นี่เป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดปีที่ผมยอมมาเจอเขา...เพียงเพราะอีกฝ่ายบอกว่าตวันกำลังนอกใจ

   แต่ถ้าศศินทำสีหน้าเห็นอกเห็นใจสักนิด ตีหน้าเศร้าสักหน่อย ผมคงรู้สึกขอบคุณกว่าไอ้สีหน้ายียวนอย่างดีใจฉิบหายนี่!

   ‘ที่รักจะโสดแล้ว เย้!’

   ถ้าเขียนประโยคนี้บนหน้าผากได้เขาคงทำแล้ว โคตรไม่ปิดบังความรู้สึกเลย

   อย่าประหลาดใจว่าทำไมผมไม่ขัดเมื่อโดนเรียกว่าที่รัก ผมขัด! ทั้งแย้งทั้งเถียง สาปแช่งด่ากราด แต่ศศินไม่สนใจ ลอยหน้าลอยตายังไงก็ยังเหมือนเดิม...เอาจริงๆ ผมก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะรักปักใจอะไรขนาดนั้น พวกเราไม่ได้สนิทกัน แทบไม่เคยคุยกันดีๆ ด้วยซ้ำไป

   แต่ถึงสนิทสนมรู้อกรู้ใจแล้วยังไงล่ะ

   ขนาดคนที่รู้จักมาทั้งชีวิตยังเชื่อถือไม่ได้!!

   “นายมีภาพพวกนี้อีกมั้ย” ผมถามศศิน พวกเรานัดพบกันลับๆ ที่ไนต์คลับแห่งหนึ่งซึ่งศศินเป็นเจ้าของ ครับ หมอนี่หน้าตาเหมือนวายร้าย นิสัยชั่วช้าไม่พอยังทำการค้าด้านอบายมุข แถมยังเป็นเจ้าพ่อเงินกู้ แล้วก็ชอบวางมาดมาเฟียอีกต่างหาก

   ต่อหน้าลูกน้องก็เป็นผู้เป็นคนดีหรอกนะ แต่พอเจอผมทีไร เป็นไอ้บ้าทุกที

   “มีสิ ที่รักอยากได้เยอะแค่ไหนล่ะ ตั้งแต่สองคนนี้เริ่มนัดพบกันเลยมั้ย”

   “นี่นายรู้มานานแล้วแต่เพิ่งมาบอกฉันเนี่ยนะ!” ผบตบโต๊ะดังปัง ลูกน้องข้างหลังศศินขยับตัวนิดหน่อย หมายจะตักเตือน สงสัยจะเป็นหน้าใหม่เพิ่งทำงาน ไม่รู้ซะแล้วว่า...

   “เจ็บมือมั้ยครับที่รัก มา ฉันตบโต๊ะทำโทษให้ที่ทำที่รักเจ็บมือ นี่แน่ะๆ”

   ...เจ้านายแม่งเพี้ยนขนาดไหน!

   “อย่าจ้องเขม็งกันอย่างนั้นสิ ถ้าจู่ๆ ฉันบอกว่าไอ้ตวันนัดเจอผู้หญิงที่รักก็คงไม่ฟังอยู่แล้ว แต่ไหนแต่ไรที่รักก็เชื่อแต่คำของไอ้ตวันมากกว่า ถ้าไม่มีหลักฐานชัดๆ คาตาขนาดนี้ ฉันก็ไม่กล้านัดมาเจอหรอก ปกติสองคนนั้นระวังตัวดีมาก คนของฉันก็ตามไปถ่ายถึงในห้องนอนไม่ได้ด้วยสิ เฮ้อ...นี่เป็นนัดครั้งที่หนึ่งหมื่นสามพันเจ็ดร้อยห้าสิบสามครั้งสินะ ฉันจะจดวันนี้ไว้ในปฏิทิน ที่รักรับนัดครั้งแรก ปลื้มใจจัง”

   คุยกับมันแล้วผมล่ะปวดหัว

   “นายให้คนตามจับผิดตวันมาตลอดเลยเหรอ”

   “ที่รักน้อยใจเหรอ ไม่ต้องห่วงนะ ฉันให้คนตามที่รักจ๋าเหมือนกัน”

   “ศศิน!” ผมตะโกนลั่นอย่างหมดความอดทน ต้องมาพึ่งคนหวังเคลมตัวเองไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีนักหรอก

   “ไม่เล่นแล้วครับ” ศศินกลับเป็นมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง ก่อนจะหันไปส่งสัญญาณมือให้ลูกน้องด้านหลัง ไม่นานกล่องกระดาษขนาดกลางก็ถูกยกวางบนโต๊ะ ผมมือสั่นเล็กน้อยขณะเปิดดู ก่อนจะพบอัลบั้มรูปห้าเล่มใหญ่ บรรจุภาพแอบถ่ายจำนวนมากเรียงลำดับเวลาชัดเจน

   ไม่เพียงแค่วันที่ ยังระบุสถานที่และระยะเวลาที่ห่างกันของแต่ละภาพด้วย แถมมีลูกศรลากเป็นแกตเชื่อมโยงอีกต่างหากว่าถึงจะไม่เจอกันแต่พวกเขาลอบติดต่อกันยังไง ละเอียดยิบบ่งบอกความใส่ใจของผู้ทำ

   เมื่อเห็นน้ำตาก็เริ่มคลออีกครั้ง แต่ที่มีมากกว่าคือความโกรธ!

   เยอะขนาดนี้...ผมถูกตวันนอกใจนานแค่ไหนกัน!!

   “ที่รักจะฟ้องชู้เหรอ”

   “ฟ้องได้ที่ไหน ฉันกับมันไม่ได้แต่งงานกัน!” ผมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ข้อเสียของรักร่วมเพศคือจดทะเบียนสมรสไม่ได้ และเมื่อจดทะเบียนสมรสไม่ได้ จะฟ้องว่าอีกฝ่ายมีชู้เรียกคืนทรัพย์สินก็ไม่ได้จริงมั้ย ขณะเดียวกันถ้าฝ่ายนั้นจดทะเบียนสมรสแล้วฟ้องว่าผมคือชู้ล่ะก็...

   ฉิบหาย

   ทำไมชีวิตมันน่าเศร้าแบบนี้วะ

   “ที่รักอย่าทำหน้าจะร้องไห้อย่างนั้นสิ เห็นแล้วใจไม่ดีเลย โกรธเยอะๆ แบบเมื่อกี้ดีกว่านะ เอ้า ฉันยกแก้วให้เลย อยากจะขว้าง จะปา จะกระแทกโต๊ะจนบุบก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันซื้อใหม่เอง”

   เอ่อ...ไม่ล่ะ ผมไม่เชื่อว่าตวันจะใจกล้าขนาดนั้น ถ้าเป็นศศินก็ไม่แน่

   “นายนี่มันช่างสปอยล์จริงๆ” ผมประชด หลายปีที่ผ่านมาผมว่าตวันเอาใจผมเก่งแล้วนะ มาเจอศศิน...หมอนี่เอาอกเอาใจแบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่ว่าจะถูกหรือผิดก็ตามอวยตลอด

   “ที่รักจะทำยังไงต่อ ถ้าอยากได้ความช่วยเหลือ บอกฉันได้เลยนะ”

   “ไม่ต้อง แค่รูปพวกนี้ก็พอแล้ว”

   “จะเอาไปบอกเลิกเหรอ!”

   ...ช่วยทำหน้าดีใจให้มันน้อยๆ หน่อยได้มั้ย ทำอย่างกับว่าพอผมบอกเลิกตวันแล้วก็พร้อมเสียบทันทีอย่างนั้นล่ะ!

   “ไม่ ความรักเจ็ดปีจะให้จบง่ายๆ ได้ยังไง” ผมแค่นยิ้ม แม้จะเป็นรอยยิ้มที่ขมขื่นไปสักหน่อย แต่ประกายตาแข็งกร้าวพร้อมเผชิญหน้า “ฉันจะทำให้ตวันรู้ซึ้ง...อะไรที่ฉันเคยให้ก็ทวงคืนได้เหมือนกัน!!”


   --------------------

   สวัสดีค่าทุกคน ไม่ได้เปิดเรื่องใหม่นานเลย ตื่นเต้นมากเลยค่ะ!

   ก่อนอื่นขอแนะนำตัวลูกชายคนใหม่ของเราก่อน #นาวาสไตล์ แฮชแทคนี้มีที่มาแน่นอนค่ะ เพราะตาหนูนาวาเป็นคนที่มีความเป็นตัวเองสูงปรี๊ดๆๆๆ ชนิดที่ยากจะหาคนเลียนแบบ เอาแค่แฟชั่นการแต่งตัวก็กินขาดแล้วค่ะ แม้ตอนแรกจะยังไม่อธิบายลงลึก แต่ตอนต่อๆ ไปเตรียมใจได้เลย! รับประกันความแซ่บสิบกะโหลก !! อ่านแล้วชอบหรือไม่ชอบยังไงคอมเม้นเป็นกำลังใจกันด้วยน้า รักทุกคนที่กดเข้ามาอ่านเรื่องนี้ค่ะ จุ๊บๆ

   

   ตัวอย่างตอนตอนไป

   "ตวันนอกใจวาเหรอครับ..ตวันกล้านอกใจวาด้วยเหรอครับ"   

   
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 1 : อาถรรพ์รักเจ็ดปี [01/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-07-2019 21:12:44
แค่ตอนแรกก็สนุกน่าติดตามแล้ว นาวาตอนเอาคืนจะแสบขนาดไหน รอเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 1 : อาถรรพ์รักเจ็ดปี [01/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: lcortsess ที่ 01-07-2019 22:31:25
รอตอนต่อไปงับบบบบ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 1 : อาถรรพ์รักเจ็ดปี [01/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: apple32 ที่ 01-07-2019 23:46:54
เริ่มมาก็น่าตามเลยจ้า อยากรู้ว่าจะเอาคืนยังไง
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 1 : อาถรรพ์รักเจ็ดปี [01/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 02-07-2019 00:17:52
ตามเรื่องนี้จ้า :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 1 : อาถรรพ์รักเจ็ดปี [01/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-07-2019 03:29:13
 o13 o13
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 1 : อาถรรพ์รักเจ็ดปี [01/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-07-2019 10:46:59
จะทวงอะไรๆ จากตะวัน ...... ทวงเลย เห็นด้วย   :katai2-1:
แต่อย่าทวงความรักกลับคืนมา เพราะคนมันตั้งใจนอกใจ ไปแล้ว
คนแบบนี้ไม่มีคุณค่า ไม่ซื่อสัตย์ ทำร้ายจิตใจกัน   :fire: :angry2: :serius2:
แถมเป็นผู้ชายแท้จะรักวาที่เป็นชายต่อไปคงไม่ใช่
คงคิดว่าอยู่กับวาก็ถูกมองว่าเป็นลูกคนใช้บ้านวาไปตลอด  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 1 : อาถรรพ์รักเจ็ดปี [01/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 02-07-2019 14:28:35
เป็นลูกคนใช้เขาอุตสาห์ช่วยให้ได้ดีทุกอย่าง พอได้ดีทำกันยังงี้เหรอไม่สำนึกบุญคุณเลย
วาอะไรที่ให้ไปเอาคืนมาให้หมด แต่อย่านะอย่าใจอ่อนเด็ดขาดเลย
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 1 : อาถรรพ์รักเจ็ดปี [01/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 02-07-2019 15:00:45
จะทวงคืน หมื่นล้าน ประจานแจก
เอามาเขวี้ยง ให้แตก แหลกไม่เหลือ
ทวงคืนมา ให้หมด งดจุนเจือ
เอาความเชื่อ ใจคืน ตื่นซะที

ตวัน#ผู้ชายหัวดอ

+1 ชอบเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 2 : ยุทธการทวงคืนรัก[02/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 02-07-2019 18:53:09

   ตอนที่ 2

   ยุทธการทวงคืนรัก

   

   “วา”

   ผมก้มหน้า หลุบตาต่ำ พยายามปิดบังความแค้นเคืองเมื่อตวันกลับห้องของเรา

   “วา ทำไมเงียบแบบนี้ล่ะครับ เกิดอะไรขึ้น” ตวันปราดเข้าหาอย่างร้อนใจ เพราะคนอย่างนายนาวา ดาราลัยมักมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าเสมอ ใช้เงินมือเติบ ปากไว เอาแต่ใจเหนือใคร มีความสุขและใช้ชีวิตอย่างแสนสบาย หายากที่จะมานั่งซึมเศร้าเหงาหงอย ไม่หือไม่อือ

   “วันนี้มีคนพูดแปลกๆ ใส่วา” ผมเอ่ย กับคนสนิทมักแทนตัวเองด้วยชื่อเสมอ

   “พูดอะไรเหรอครับ”

   ผมมองหน้าตวัน คนซื่อตรงอย่างเขาเผยพิรุธในทันที...ผมมองข้ามความผิดปกติได้ยังไง ทำไมต้องรอให้ศศินมาบอกด้วย คนรักกันควรจะรู้กันเองดีที่สุด หรือไม่...ก็เพราะรักแสนรักถึงได้หลอกตัวเองว่าไม่มีอะไร

   “วา...ร้องไห้ทำไม” ตวันทำอะไรไม่ถูก เพียงรั้งตัวผมไปกอดแน่นก่อนจะลูบศีรษะแผ่วเบา เขามักทำแบบนี้เสมอเวลาผมเสียใจ ซึ่งมีเพียงเรื่องครอบครัวที่เสียชีวิตกะทันหันเท่านั้นที่เรียกน้ำตาจากนาวาคนนี้ได้

   “มีคนบอกว่าตวันนอกใจวา”

   ผมแกล้งร้องไห้ แต่ไม่รู้ทำไม...ถึงร้องสะอึกสะอื้นหนักกว่าเดิมซะงั้น ถึงจะรู้สึกแย่และหมดความไว้ใจกับตวัน แต่ความรักความผูกพันมาตลอดหลายปีก็ทำให้ผมร้องไห้แบบสุดตัวในอ้อมอกเขา

   สัญญาว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย

   พวกไม่รู้คุณคนแถมตอบแทนความรักได้เจ็บแสบสะท้านทรวงเรียกน้ำตาจากผมได้แค่วันนี้เท่านั้น!

   “ใครบอกครับ” ตวันถามเสียงห้วนทันที แต่พอผมช้อนตามองเขาก็รีบปรับน้ำเสียงให้นุ่มนวลลง ตวันมักปฏิบัติกับผมอย่างอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่กล้าแม้แต่จะทำร้ายจิตใจ มีแต่ตามใจ อยากตอบแทนครอบครัวผมจึงดูแลให้อยู่อย่างสุขสบายที่สุด

   หึ สุกจนแทบไหม้เลยสิ!

   โกรธจนหน้าสั่นไปหมดแต่ต้องปั้นหน้าร้องไห้ ผมไปเป็นนักแสดงได้เลยนะเนี่ย

   “ใครบอกไม่สำคัญ ถ้านั่นคือเรื่องจริง” พูดจบผมก็กัดปากข่มกลั้นความขุ่นเคือง อยากจะต่อยหน้าตวันให้ล้มหงาย แต่ยังไม่ถึงเวลา “ตวันนอกใจวาเหรอครับ...ตวันกล้านอกใจวาด้วยเหรอครับ”

   ผมถามย้ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาแลน่าสงสาร แต่น้ำเสียงเค้นถามกึ่งท้าทาย

   กับคนรักที่ประเคนทุกอย่างให้ทั้งที่อยู่ อาหาร เสื้อผ้า การเรียน ไม่เว้นกระทั่งหน้าที่การงาน เขากล้านอกใจผมได้ยังไง!!

   ตวันเงียบทันที เพราะเขากอดผมอยู่เลยรู้สึกถึงร่างกายที่แข็งเกร็ง

   “อย่าคิดมากเลยครับ สมัยนี้ใครอยากจะพูดอะไรก็พูดง่าย เมื่อก่อนตอนผมทำงานวาก็ได้ยินข่าวลือด้านไม่ดีไม่ใช่เหรอครับ”

   ใช่ ตอนตวันเพิ่งทำงานใหม่ๆ ด้วยนามสกุลที่ไม่มีใครรู้จัก แต่โผล่มาก็ถือหุ้นใหญ่เทียบเท่าเจ้าของอย่างผม ข่าวลือทั้งเรื่องมั่วผู้หญิง ทำงานห่วยแตก มีปัญหากับเพื่อน และหนักสุดคือขายตัวให้ผมมีมาเป็นระลอก

   ตอนนั้นผมหัวเราะลั่น ตบเข่าฉาด ยังเล่นมุกแซวกับตวันอยู่เลยว่าจะขายให้ผมเท่าไหร่ดี แต่ผมไม่เอาเงินหรอกนะ ขอเป็นทั้งชีวิตของตวันได้มั้ย พวกเราเกิดห่างกันแค่สิบวัน ตั้งแต่จำความได้ก็อยู่ด้วยกันตลอด ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะตายจากไปพร้อมๆ กัน

   ...นึกแล้วน้ำตาจะไหลอีกรอบ แม่งเอ๊ย

   “สรุปเป็นเรื่องโกหกเหรอครับ” ผมผละออกมาเล็กน้อยเพื่อจะได้มองตาตวันให้ชัดๆ

   นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมจะมอบให้เขาแล้ว

   ไม่ใช่โอกาสปรับความเข้าใจหวังคืนดี แต่เป็นโอกาสที่เราจะเลิกรากันโดยไม่ถึงกับต้องเรียกคืนทุกสิ่งทุกอย่าง หากเขาสารภาพตามตรง บอกสาเหตุที่หมดรัก ผมจะยอมปล่อยเขาไปพร้อมเงินทุนติดตัวสักก้อน แล้วก็แยกจากกันแบบไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก

   คนอย่างนาวารักแรงแค้นแรง หากทำร้ายความเชื่อใจก็อย่าหวังจะอ้อนวอนขอความรัก แต่ผมยังเห็นแก่ความดีที่ช่วยดูแลมาตลอดหลายปี กับแค่เศษเงินที่คงไม่น้อยสำหรับเขาแต่น้อยนิดสำหรับผมยังพอบริจาคทานให้ได้บ้าง

   “ใช่ครับ”

   แต่เขาตัดโอกาสนั้นแล้ว

   ผมผลักอกตวัน แสร้งไม่พอใจ ทั้งที่ความจริงแล้วอยากจะหัวเราะลั่น...ซึ่งถ้าทำจริงๆ ตวันคงช็อกค้าง

   บางทีผมก็งงตัวเอง เจ็บช้ำเจียนตายแท้ๆ แต่ดันหัวเราะในใจไม่หยุด ตลกตัวเอง ขำชีวิต ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีวันนี้

   “วา...ไม่เชื่อใจผมเหรอครับ”

   โห พูดมาได้

   ผมย้อนในใจ พอรู้ความจริง การกระทำทุกอย่างของตวันที่แม้จะพยายามง้องอนยอมลงให้แค่ไหนก็ไม่รู้สึกใจเต้นเหมือนเคย แต่กลับยิ่งโกรธและมองราวเห็นคนแปลกหน้ามากกว่า

   นี่น่ะเหรอคนที่โตมาด้วยกัน นามสกุลใจภักดีของเขากลายเป็นมุกตลกน่าล้อเลียนสุดๆ!

   “เชื่อใจสิ” ในเมื่อเขาไม่จริงใจก่อน ผมก็เล่นละครได้ดีขึ้น สลัดความรู้สึกแอบแฝงทิ้ง เหลือเพียงแผนการในหัวที่จะต้องเอาคืนอีกฝ่ายให้เจ็บแสบ รวมถึงชู้รัก...พาฝันที่จะกลายเป็นฝันเฟื่องในเร็วๆ นี้ “แต่ไม่เชื่อใจคนที่เป็นข่าวกับตวัน พรุ่งนี้วาไปทำงานด้วยนะครับ”

   ตวันสะดุ้งโหยง

   ร้อยวันพันปีนาวา ดาราลัยไม่เคยเข้าบริษัท จนทำให้หลายคนแทบจะลืมเลือนไปแล้วว่ามีผู้ถือหุ้นใหญ่อีกคนหนึ่ง

   “จะดีเหรอวา”

   “แล้วไม่ดีตรงไหน วาไปแสดงตัวว่าเป็นคนรักของตวัน จะได้ไม่มีใครคิดไม่ซื่อกับคนของวาไง” ผมถามเขากลับ ข้ออ้างสมบูรณ์แบบ ไปแสดงตัวเป็นคนรัก ไม่ใช่ไปแสดงตัวเป็นผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของที่แท้จริงสักหน่อย

   แน่นอนว่าเป้าหมายผมน่ะคืออย่างหลัง

   “ก็คนที่เป็นข่าวกับตวันคือพาฝันนี่ครับ”

   คราวนี้ตวันเหงื่อตกหนัก เห็นแล้วสะใจชะมัด ระหว่างคนโกหกตีหน้าซื่อกับคนที่รู้ความจริงแต่แกล้งอมพะนำ ดูท่าฝ่ายแรกจะเหนื่อยกว่าเป็นไหนๆ

   “ถ้าไปแล้ววาสบายใจขึ้นก็ไม่เป็นไรครับ แต่จะตื่นไหวเหรอ”

   “ตวันก็ปลุกวาสิ” ผมยิ้มหวาน เพราะนอนดึกตื่นสาย สมัยเรียนตวันเลยเป็นคนคอยปลุกตลอด แต่พอเขาทำงานก็ปล่อยผมนอนสบายๆ เต็มที่

   “ครับ” ตวันรับคำ หอมแก้มผมก่อนจะเดินไปอาบน้ำ วันนี้เขากลับห้องตอนสามทุ่มโดยอ้างว่ามีประชุมงานเลยไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ผมแอบไปพบศศิน

   ผมมองตามแผ่นหลังนั้นด้วยสายตาทั้งรักทั้งแค้น

   ถ้าเลือกได้ ตวันคงไม่อยากให้ผมไป แต่คนร้อนตัวจะทำอะไรได้นอกจากรีบรับปากเพราะผมดันพูดชื่อชู้รักถูกต้องตรงเผง

   พาฝัน นางแบบสาวโนเนมผู้โด่งดังขึ้นมาจากการเดินแบบในแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรของดาราลัยจิวเวลรี่ งานนั้นเป็นงานเปิดตัวครั้งแรกและทำให้ตวันเป็นที่ยอมรับ ขณะเดียวกันก็เป็นงานแจ้งเกิดให้เธอมีหน้ามีตาในวงการ

   พาฝันซาบซึ้งและมักพูดถึงดาราลัยจิวเวลรี่เสมอว่าเป็นผู้ให้โอกาส จึงไม่แปลกที่เธอจะสนิทสนมกับตวันผู้เลือกเธอขึ้นเดินแบบและทำให้นางแบบที่ดูไม่สะดุดตาคนนั้นโด่งดังในข้ามคืน

   ครั้งนั้นผมเองก็ไปด้วย ยังประทับใจอยู่เลยว่าตวันตาถึง เลือกนางแบบได้เหมาะกับเครื่องเพชรโชว์ปิดท้ายได้อย่างงดงามและสร้างความเซอร์ไพรส์แก่หลายๆ คน

   นั่นเป็นเมื่อหนึ่งปีก่อน

   และปีนี้งานแฟชั่นโชว์เซ็ตใหม่ที่กำลังมาถึง พาฝันก็ได้รับเลือกเป็นผู้เดินปิดท้าย สวมใส่เครื่องประดับราคาเป็นสิบล้าน เธอจึงมักมาที่บริษัท ปรึกษาเรื่องงานกับตวันโดยไม่มีใครสงสัยในความสัมพันธ์

   แต่โทษเถอะ อย่าหวังเลยว่าจะแอบพลอดรักที่บริษัทผมอีก นาวามาแล้ว!

       



   “วา...ตื่นได้แล้วครับวา”

   นิทราแสนสุขถูกรบกวน ใครเลยจะเข้าใจหัวอกนาวา

   วูบหนึ่งผมนึกว่าตัวเองยังเป็นเด็ก ต้องตื่นเช้าไปเข้าเรียนให้ทัน ตวันช่วยถือกระเป๋า จูงมือพาผมวิ่งขึ้นตึกเรียน สภาพกระเซอะกระเซิง เสื้อหลุดออกนอกกางเกง คนสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตนไม่กล้ามีปากเสียงอย่างเขาต้องวิ่งสู้ฟัดเป็นเพื่อนแทบทุกวัน เวลาไปสายผมจะหัวเราะลั่น ขำกับสภาพเราสองคน ตวันทำได้เพียงมองอย่างอ่อนใจ ช่วยจัดทรงผมให้ บอกว่าไม่เป็นไร พรุ่งนี้จะปลุกให้ไวขึ้น แต่ถ้ามาถึงทันเวลาผมก็จะกระโดดกอดตวัน บอกเขาว่าขอบคุณนะครับคนดีของวา

   “อีกห้านาที”

   “ห้านาทีหลายครั้งแล้วนะครับ เดี๋ยวไปสายนะ”

   ตวันมักพูดกับผมอย่างอ่อนโยนเสมอ แม้ผมจะเกี่ยง เขาก็จะอดทนปลุกอย่างใจเย็น คอยลูบศีรษะให้รู้สึกตัวตื่นไม่รู้เอาซะเลยว่ายิ่งทำให้ผมเคลิ้มหลับกว่าเดิม

   แต่ผมไม่บอกหรอก เพราะผมชอบเวลาเขาลูบศีรษะมาก มันแสดงถึงความรัก ความห่วงใย และใส่ใจกัน

   “งั้นผมไปทำงานก่อนนะครับ”

   ผมพลันลืมตาโพลง ฝันหวานพังทลาย ตวันในตอนนี้ไม่มีความอดทนมากพอ แถมยังโล่งอกด้วยซ้ำที่ผมไม่ยอมตื่นสักที

   “ตื่นแล้วๆ วาตื่นแล้ว!” ผมรีบเด้งตัวลุกจากเตียง มึนเบลอหน่อยๆ เลยไม่รู้ตัวสักนิดว่าผ้าห่มพันขาพอก้าวลงมาเลยหน้าแทบทิ่ม

   “ใจเย็นๆ นะครับวา” ตวันหัวเราะเบาๆ ในลำคอ ช่วยพยุงผมด้วยรอยยิ้มหวานแกมเอ็นดู ทั้งที่ว่าจะไม่ใจเต้นกับคนคนนี้แล้วเชียว...

   นึกแล้วก็โมโหตัวเอง ผมรีบสะบัดตัวหนีแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำ ตวันมองตามด้วยสายตารักใคร่เพราะคิดว่าผมเขิน

   ถ้ารักแล้วทำไมถึงนอกใจ

   ...หรือเพราะเขามีหัวใจสองดวง

   


   ตวันเดินข้างผมขณะพวกเราเดินเข้าบริษัทดาราลัยจิวเวลรี่ ซึ่งเป็นตึกสามชั้นขนาดไม่ใหญ่มากเพราะมีหน้าร้านตามห้างดังร่วมสี่สาขา เน้นกรุงเทพฯ เป็นหลักเนื่องจากเครื่องเพชรมีราคาแพงและจำกัดเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม แต่มูลค่ารวมถึงกำไรต่อปีนั้นมหาศาล แค่ชุดเครื่องเพชรที่จะนำมาจัดแสดงในงานแฟชั่นโชว์ก็มีราคาหลายสิบล้านแล้ว

   “สวัสดีค่ะคุณตวัน/สวัสดีครับคุณตวัน”

   พนักงานพากันทักทายตวันโดยส่งสายตาสงสัยมาให้ผมที่ยืนยิ้มอย่างเป็นมิตรแม้จะติดเย่อหยิ่งบ้าง มันเป็นที่หนังหน้าน่ะครับ เพราะดวงตาของผมเรียวและชี้ขึ้น เวลาตวัดมองแล้วให้อารมณ์ข่ม แลดุแต่ไม่ถึงกับชวนหาเรื่องท้าตีท้าต่อยเท่าศศิน พอยกยิ้มแค่มุมปาก เลยให้อารมณ์มั่นหน้าเข้าไปใหญ่

   เทียบกับตวันที่มีคิ้วเข้ม หน้าตาใจดี ซื่อตรง แลยอมคน ความแตกต่างเลยเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นก็เทียบบารมีกันไม่ได้ เพราะแม้ไม่คุ้นหน้าคุ้นตา ทว่าก็ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมองผมอย่างเสียมารยาท อีกทั้งยังดูยำเกรง

   ออร่าลูกคุณหนูมันฉายชัด ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่เกิดมาบนกองเงินกองทอง

   พอตกเป็นเป้าสายตามากเข้า ผมก็ควงแขนตวันอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ คนรักเหลือบมองเล็กน้อย แต่พอผมถลึงตาใส่ก็ไม่กล้าห้ามปราม

   สร้างความเข้าใจให้คนในบริษัทซะใหม่ว่าเจ้าของบริษัทตัวจริงคือผม!

   ต่อจากนี้ถ้าตวันเปิดเผยความสัมพันธ์กับพาฝัน จะได้รู้ว่ารายนั้นต่างหากที่มาทีหลัง!

   พวกเขาคบชู้ ส่วนผมคือผู้ถูกกระทำ!!!

   จงเบิกตามองให้ชัดซะเถอะทุกคน!

   แต่เดินควงได้ไม่นานผู้หลักผู้ใหญ่ซึ่งทำงานในบริษัทตั้งแต่สมัยแม่ของผมก็ลงมาต้อนรับด้วยตัวเอง ท่าทางพินอบพิเทาจนสร้างคำถามในใจใครหลายคนว่าผมคือใคร

   “ไม่เจอกันนาน คุณนาวาโตขึ้นมากเลยนะครับ”

   “ขอบคุณครับลุงสมชิด ลุงเองก็เหมือนสมัยแม่พาผมมาวิ่งเล่นที่นี่เลย”

   “แหม หลายสิบปีมาแล้ว อย่าปากหวานเลยครับ”

   “ผมพูดจริงนี่นา เนอะตวัน” ผมหันไปยิ้มขี้เล่นให้ตวัน แต่สีหน้าเจ้าตัวไม่ค่อยดีเท่าไหร่

   เพราะลุงสมชิดเนี่ยล่ะตัวตั้งตัวตีในการต่อต้านตวันตอนขึ้นมาเป็นผู้บริหารแทนผม คุณลุงค่อนข้างหัวโบราณและไม่ค่อยเชื่อในความรักระหว่างเพศเดียวกัน แถมยังสนิทกับแม่ผมเลยรู้ว่าตวันเป็นลูกคนใช้ในบ้าน

   ผมต้องอธิบายอยู่นานว่าตวันเป็นลูกใครไม่เกี่ยวทั้งนั้น แต่เขาได้รับการศึกษาที่ดีเทียบเท่าผม มีความรับผิดชอบและอดทนกว่าผม ขอให้ลุงสมชิดเปิดใจ ซึ่งหลังจากนั้นตวันก็ทำผลงานดี ลุงสมชิดจึงไม่คัดค้านอีก ได้แต่แอบไม่พอใจอยู่เงียบๆ

   เขาไม่อยากให้บริษัทของคุณแม่ตกเป็นของใครก็ไม่รู้

   ผมยอมรับ ผมรักตวันมาก ตอนโอนหุ้นครึ่งหนึ่งให้ตวันขนาดพี่ชายยังอ้าปากค้าง แต่ถ้าผมไม่ทำแบบนั้น ตวันก็คงน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่ยอมรับช่วงต่อแล้วเดินสายสมัครงาน ซึ่งผมเองก็ไม่อยากให้คนรักลำบาก สร้างเนื้อสร้างตัวจากศูนย์ แต่คงจะปรารถนาดีมากไปสักนิด ทำให้เขาเหลิงไปสักหน่อย

   พอเห็นลุงสมชิดเลยแอบเจ็บจี๊ดในใจ แหม คุณลุงนี่สมพรปากจังนะครับ

   “นาวา...นาวา ดาราลัยน่ะเหรอ”

   เสียงซุบซิบของพนักงานทำให้ผมยืดอกขึ้นมาได้บ้าง

   “ดูดีจังเลย”

   “ขาวมากด้วย ออร่าเปล่งปลั่งสุดๆ”

   ผมยิ้มกริ่ม อยากจะเดินไปตกรางวัลให้พนักงานสาว แต่ก็ต้องวางมาดไว้ก่อน แม้ดวงตาจะชี้จนดูร้ายแต่ลูกคุณหนูที่ได้รับการดูแลมาอย่างดี ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม งานไม่เคยแตะ นั่งกินนอนกินอยู่บ้างนั้นทำให้ผิวพรรณของผมเปล่งปลั่งจนแทบจะสะท้อนแสงออกมาตัดกับผมสีดำขลับประบ่า ใบหน้าเรียวเล็กได้มาจากผู้เป็นแม่ ปากเป็นกระจับอมชมพู คิ้วโก่งสวย รูปร่างสูงโปร่งไม่อ้อนแอ้นแต่ก็ไม่ได้ฟิตกล้ามเกินพอดี ออกจะดูสง่ามีราศี มองรวมๆ แล้วทรงเสน่ห์สุดๆ

   แน่ล่ะว่าทั้งหมดนั่นชมเองในใจล้วนๆ

   ไม่คิดว่าตัวเองหน้าตาดีแล้วใครจะคิด อย่างน้อยก็เสริมสร้างความมั่นใจ ไม่ได้พูดออกมาสักหน่อย ยังไงก็ไม่เสียหายอยู่แล้ว!

   “คุณนาวามาดูงานเหรอครับ”

   “ผมมาดูตวันทำงานต่างหาก” ผมเอียงศีรษะพิงไหล่ตวัน “แล้วก็มาดูนางแบบชื่อดัง พาฝัน...”

   วูบหนึ่งผมคิดว่าตวันกำลังขนแขนลุกซู่

   “อยากเห็นคนที่จะมาเดินปิดงานในแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรของผม ลุงสมชิดช่วยพาไปทีนะครับ”

   ลุงสมชิดตอบรับทันที ไม่เผยพิรุธอะไร แสดงว่าแม้จะพบหน้ากันบ่อยแต่ตวันกับพาฝันยังไม่กล้าขนาดทำอะไรประเจิดประเจ้อที่บริษัท

   แต่ไม่ต้องห่วง...

   อีกไม่นานผมจะทำให้โด่งดังจนเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์เลยล่ะ!!!




   

   -----------

   มีเรื่องตลกเล่าให้ฟังค่ะ

   จริงๆ แล้วเรื่องนี้เดิมทีชื่อ 'ยุทธการสลัดแฟนเก่า' แต่พอส่งให้ทางสนพ. โดนบก.แย้งกลับมาว่าให้เปลี่ยนชื่อใหม่ คำว่ายุทธการเก่าเกินไป! โบราณเกินไป! เราเสียใจมากเลยค่ะ วิ่งไปร้องไห้อยู่ริมตะลิ่ง ไม่เข้าใจว่าคำว่ายุทธการมันเก่าจริงเหรอ อาจเพราะอายุเราก็ไม่ใช่วัยรุ่นแล้ว เลยไม่เก็ตจริงๆ ค่ะ 55555 แต่สุดท้ายก็มาลงตัวที่ชื่อนี้...ด้วยปัจจุบันนี้ก็ยังไม่เก็ตว่ามันเก่าจริงอ่ะ? โบราณจริงเหรอ???

   คำว่ายุทธการมันเก่าเกินแกงจริงๆ เหรอคะทุกคนนนนน #นาวาสไตล์

   
   ตัวอย่างตอนต่อไป   

    “ตวันไม่ต้องสร้างผลงานพิสูจน์ตัวแล้วนี่ ยกงานปีนี้ให้วาเถอะ วาอยากลอง”

หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 2 : ยุทธการทวงคืนรัก[02/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 02-07-2019 19:18:10
ยุทธการดูมีระดับออก
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 2 : ยุทธการทวงคืนรัก[02/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 02-07-2019 19:51:01
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 2 : ยุทธการทวงคืนรัก[02/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 02-07-2019 23:04:00
ต้องตัดทิ้ง กิ่งก้านใบ ไม้ทั้งต้น
เหมือนตัดคน หลายใจ ไม่สงสาร
อย่าไว้หน่อ เพาะเชื้อ เหลือเบ่งบาน
ก่อกองไฟ เผาเถ้าถ่าน ไม่เหลือตอ

ตวัน#ร่านหัวดอ

วันนี้ได้อ่านอีก
ดีจายยยยยยยยยย
ชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 2 : ยุทธการทวงคืนรัก[02/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 03-07-2019 00:31:08
 :katai2-1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 2 : ยุทธการทวงคืนรัก[02/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 03-07-2019 00:47:20
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 2 : ยุทธการทวงคืนรัก[02/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-07-2019 08:23:03
ยุทธการ ......... ไม่เก่านะ ฮ่าๆ ........  :mew2:
ทำให้นึกถึง ยุทธการขยับเหงือก  :เฮ้อ: :serius2: มันก็นานมาแล้วจริงๆ
แผนลับสลัดแฟนเก่า ก็ดีพอๆกับยุทธการทวงคืนรัก  ชอบทั้งสองชื่อเลย   :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 2 : ยุทธการทวงคืนรัก[02/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 03-07-2019 10:29:56
สนุกกกกก :mew1: :mew1:
รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 2 : ยุทธการทวงคืนรัก[02/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 03-07-2019 11:38:01
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะค่ะ o13
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 2 : ยุทธการทวงคืนรัก[02/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 03-07-2019 11:44:57
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 2 : ยุทธการทวงคืนรัก[02/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 03-07-2019 12:01:43
สนุกมาก น่าติดตามนาวาจะทำยังไงต่อ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 2 : ยุทธการทวงคืนรัก[02/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 03-07-2019 13:11:19
อยากรู้จริงถ้าตวันเหลือแต่ตัวไม่มีอะไร ยัยพาฝันนั้นยังจะเอาตวันอยู่ไหม
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 2 : ยุทธการทวงคืนรัก[02/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 03-07-2019 13:11:55
ถ้าบอกว่าชอบชื่อ ยุทธการมากกว่าจะกลายเป็นรุ่นเดียวกันไหมเนี่ย 555+
มีความรู้สึกว่า ทั้งหมดทั้งมวลนี้ นาวาจะคิดไปเอง โดยมีศศินคอยเร่งไฟ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อ่านต่อแน่นอนคร้าบบบ ได้กลิ่นความสนุกแล้วสิ อิอิ
ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องใหม่นะฮะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 3 : พาฝัน [03/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 03-07-2019 18:44:28
   
ตอนที่ 3

   พาฝัน

   

   “สวัสดีค่ะคุณนาวา”

   พาฝัน นางแบบสาวไทยแท้อายุยี่สิบสามปี รูปร่างสูงโปร่งเท่าผมซึ่งเป็นระยะพอเหมาะในการเอนซบไหล่ตวันพอดิบพอดี เธอมีเครื่องหน้าคมสวย ผิวสีน้ำผึ้ง เหมาะกับการยืนโดดเด่นเฉิดฉายบนเวทีท่ามกลางนางแบบผิวขาวแล้วสวมเครื่องเพชรตัดกับสีผิวของเธอ

   นั่นเป็นคอนเซ็ปต์ที่ตวันวางไว้เมื่อปีก่อน

   ‘Real Diamond’

   เปิดโชว์ด้วยนางแบบผิวขาวอวดผิวสวยล้อแสงไฟกับเครื่องเพชรที่ออกแบบให้เข้ากับสีแดงของทับทิม สีเขียวของมรกต สีน้ำเงินของไพลิน สีม่วงของอะเมทิสต์ ก่อนจะจบท้ายด้วยพาฝัน เธอสวมชุดเดรสสีดำ เกล้าผม เผยสีหน้ามุ่งมั่น ซึ่งต้องเข้าใจก่อนว่าเธอไม่ค่อยประสบความสำเร็จในอาชีพการงานนัก การได้เดินเป็นโชว์สุดท้ายจึงเป็นโอกาสจำต้องทำให้ดีที่สุด พลังที่ส่งผ่านดวงตาของเธอทำให้แขกผู้มีเกียรติประทับใจ บวกกับเพชรแท้ไร้สีสันใดๆ ซึ่งประดับบนสร้อยคอ ต่างหู และกำไลข้อมือทำให้การแสดงโดดเด่นและทรงพลัง

   Real Diamond หรือเพชรน้ำเอกที่แท้จริงได้เปล่งประกายเจิดจรัสในงานวันนั้น พายอดสั่งจองให้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ พาฝันกลายเป็นที่ชื่นชม ได้รับโอกาสอีกมากมายหลังจากนั้นจนกลายเป็นนางแบบชื่อดัง

   ตวันเคยเล่าให้ผมฟังว่าเธอมีส่วนช่วยในการออกไอเดียโชว์และช่วยแก้ไขแบบเครื่องเพชรให้เข้ากับตัวเธอ เพราะนั่นเป็นโอกาสสุดท้ายในการพิสูจน์ฝีมือของพวกเขาทั้งคู่ ความสนิทสนมของนางแบบสาวกับประธานดาราลัยจิวเวลรี่จึงเป็นที่คุ้นชินของคนในบริษัท พาฝันได้รับการต้อนรับดีทีเดียว

   “ไม่ต้องสนใจผมหรอกครับ เชิญคุยงานได้เลย”

   ผมยิ้มให้พาฝัน หลบซ่อนความไม่พอใจที่เธอแย่งผู้ชายของผมไป เพราะไอ้เราก็ถือคติตบมือข้างเดียวไม่ดังซะด้วยสิ แม้ทั้งคู่จะเข้าอกเข้าใจกันจนเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหน ความจริงเพียงหนึ่งเดียวก็คือ...ตวันไม่รักผมมากพอ

   ถ้ารักจริงคงไม่ทำแบบนี้

   ถ้ารักจริงคงไม่แม้แต่จะโกหกหลอกลวงกัน

   ถ้ารักจริงคงไม่สบสายตากับพาฝันเป็นเชิงจำใจ...ทั้งที่ผมยังควงแขนเขาอยู่!

   วูบหนึ่งผมอยากจะหักแขนตวันทิ้งแล้วถีบส่งเขากับนางแบบสาวไปให้พ้น แต่ถ้าทำผมคงเป็นไอ้ตัวร้าย ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะทำงาน พอช้ำรักก็ไล่ส่งประธานกับนางแบบผู้ไม่ต่างกับสัญลักษณ์ของดาราลัยจิวเวลรี่ไป ผมจะทำผิดซ้ำสองไม่ได้ เลือกผู้ชายผิดก็หนึ่งกระทงแล้ว แต่ต้องไม่ทำชีวิตพังเพราะคนคนนี้!

   คอยดูเถอะ วาจะตอบแทนความรักของตวันอย่างสาสม!

   “คอนเซ็ปต์ของแฟชั่นโชว์ครั้งนี้คือ ‘Eternal Emerald’ ”

   แม้ผมจะไม่เคยเข้าบริษัทในฐานะประธาน แต่ตอนเด็กแม่เคยพามาวิ่งเล่นบ่อยๆ เลยพอรู้เกี่ยวกับการทำงานคร่าวๆ ถึงผมจะเกียจคร้านแต่ก็ไม่ถึงกับโง่งม ขั้นตอนของแฟชั่นโชว์นั้นยิ่งรู้แก่ใจ ผมยกให้ตวันบริหารเพราะไม่อยากให้เขาโดนเปรียบเทียบกับเจ้าของตัวจริง แต่ใช่ว่าจะปิดหูปิดตา งอมืองอเท้าทำอะไรไม่เป็นสักหน่อย

   Eternal Emerald เป็นแฟชั่นโชว์ที่เน้นมรกตเป็นหลัก ผมมองสีผิวของพาฝัน คิดว่าเธอคงเหมาะกับสีเขียวของอัญมณีชนิดนี้ นับว่าคอนเซ็ปต์น่าสนใจ เพราะมรกตมีหลายเฉดสี สามารถเล่นแสงสีเสียงในโชว์ได้อย่างน่าตื่นตา แหวกแนวจากงานเมื่อปีก่อนโดยสมบูรณ์

   ผมฟังตวันประชุมพลางหยิบรายละเอียดบนโต๊ะทำงานของเขาขึ้นมาอ่าน ถ้าเป็นคนอื่นคงโดนตำหนิ แต่ใครจะกล้ากับนาวา ดาราลัย ภาพร่างของเครื่องประดับแต่ละแบบมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป โดยชุดสุดท้ายของโชว์จะให้นางแบบแสกผมข้างหนึ่งปิดใบหูและเปิดอีกข้างหนึ่งโดยใส่ต่างหูมรกตเพื่อขับเน้นให้โดดเด่น ลำคอสวมโชกเกอร์หรือสร้อยแบบติดคอร้อยมรกตไล่เฉดสี และสวมแหวนมรกตเม็ดโตที่นิ้วสลับฝั่งกับด้านที่ใส่ต่างหู

   น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้

   แสดงความงามอันเป็นนิรันดร์ของมรกตหลากหลายเฉดสีในรูปแบบต่างๆ แล้วจบท้ายด้วยเครื่องประดับที่เน้นมรกตเม็ดใหญ่ดึงดูดสายตา

   ผมเคาะนิ้วกับโต๊ะ ถึงลุงสมชิดจะพร้อมสนับสนุนผม แต่หลังผ่านร้อนผ่านหนาวพาบริษัทไปสู่จุดสูงสุดพนักงานหลายคนก็ให้ความเคารพตวันอย่างมาก แม้ผมจะได้ชื่อว่านาวา ดาราลัย แต่ถ้าจู่ๆ จะชิงในสิทธิ์ของตัวเองคืนเอาดื้อๆ ย่อมเป็นไปไม่ได้

   ก่อนอื่น...ผมต้องสร้างที่ยืนให้ตัวเอง

   “น่าสนุกจัง วาขอคุมโชว์นี้ได้มั้ย” ผมหันไปพูดกับตวัน แทนตัวเองด้วยชื่อราวกับว่าเราอยู่กันสองคนทั้งที่มีพาฝันและลุงสมชิดอยู่ในห้องประธานบริษัทด้วย

   “นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะวา”

   “วาก็ไม่ได้จะทำเล่นๆ สักหน่อย” ผมยักไหล่ “ตวันไม่ต้องสร้างผลงานพิสูจน์ตัวแล้วนี่ ยกงานปีนี้ให้วาเถอะ วาอยากลอง”

   เอาจริงๆ แล้วผมก็แทบไม่ต้องทำอะไรมาก เพราะอิงข้อมูลจากเอกสาร ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้พร้อมสมบูรณ์ เหลือแค่คอนเฟิร์มเครื่องเพชรทั้งหมด ส่งให้เริ่มผลิตตามแบบ แล้วพานางแบบไปลองเดินในสถานที่จริงก็เท่านั้น อ้อ เหลือแจกบัตรเชิญด้วย

   ผมตาเป็นประกาย ในบัตรเชิญนั้นต้องลงชื่อว่านาวา ดาราลัย

   “หรือไม่เชื่อฝีมือวา? ตวันลืมแล้วเหรอว่าเราเรียนมาด้วยกันนะ ถึงวาจะให้ตวันช่วยทำการบ้านตลอด แต่ตอนสอบน่ะ...”

   ผมหัวเราะหึๆ เห็นขี้เกียจอย่างนี้แต่ผมหัวดี ก่อนสอบจะทำสรุปใส่กระดาษแผ่นเดียว ใช้เวลาท่องจำไม่นานก็ได้คะแนนเกือบเต็ม เทียบกับตวันที่เปิดหนังสืออ่านทีละหน้า ทุกประโยค ทุกบรรทัดคะแนนกลับสู้ผมไม่ได้

   ใช่ว่าผมงกความรู้ไม่แบ่งกระดาษสรุป แต่ตวันดันอ่านไม่เข้าใจ เพราะผมเขียนตัวย่อแบบจำแค่คีย์เวิร์ดสำคัญๆ เท่านั้น พออธิบายทีละตัวก็ยิ่งมึน ตวันเลยต้องขวนขวายด้วยตัวเอง

   ผมไม่เคยยกเรื่องนี้มาข่มเขา แต่ครั้งนี้ต้องย้ำสักหน่อยว่าผมไม่ใช่ไอ้โง่ที่ทำอะไรไม่เป็น

   ผม-แค่-ไม่-อยาก-ทำ!

   ไม่ใช่ไม่อยากทำงาน แต่ไม่อยากแย่งหน้าที่การงานที่ตวันภาคภูมิใจ ผมเป็นคนรักที่ดีขนาดไหน แม้ส่วนหนึ่งจะเพราะขี้เกียจด้วยก็เถอะ...

   โอเค ผมยอมรับอย่างไม่อายว่าขี้เกียจ และคนขี้เกียจก็มีวิธีของคนขี้เกียจในการหาทางลัดที่ง่ายที่สุด

   อยากหาที่ยืน? สร้างผลงาน? ไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์หรอก เดิมทีผมก็มีอำนาจสูงสุดในบริษัทอยู่แล้ว

   “นาวา ดาราลัยออกงานครั้งแรกจะต้องมีคนให้ความสนใจกับโชว์เยอะขึ้นมากเลยนะ ว่ามั้ย”

   จะโดนด่าว่าแย่งผลงานก็ช่าง ในเมื่อเขาร้ายกับผมก่อนก็อย่าหาว่าผมสารเลวเลย!

   



   ความเอาแต่ใจของผมที่คิดจะทำอะไรขึ้นมาก็จะเอาให้ได้นั้นใช่ว่าตวันไม่เคยเจอมาก่อน แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาตวันจะยอมลงให้ผมเสมอ ถ้าในแง่ตวันน่ะนะ แต่ถ้าถามในแง่ของผม นั่นคือแม้จะงี่เง่าในบางครั้งแต่ผมไม่เคยเรียกร้องอะไรเกินความสามารถของเขา ออกจะสนับสนุนค้ำชูด้วยซ้ำ ผมเห็นเขาเป็นคนสำคัญ เป็นคู่ชีวิต ไม่งั้นจะกล้าโอนหุ้นให้เหรอ

   ครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่หักหน้าตวันอย่างโจ่งแจ้ง

   และเมื่อเขาถามว่าทำไมเมื่อในห้องเหลือแค่เราสองคน ผมก็แสร้งปั้นหน้าปั้นปึ่ง ค้อนส่งให้

   “วาหึง ไม่อยากให้ตวันอยู่ใกล้กับพาฝัน”

   ตวันถอนหายใจเฮือกอย่างโล่งอก

   แม้ผมจะขี้เซา ขี้เกียจ แทบหาข้อดีไม่ได้ แต่ผมรักเดียวใจเดียว มีเงิน และอุ้มชูคนรักได้แล้วกันเอ้า!

   ตวันที่รู้นิสัยของผมดีว่าถ้าไม่โดนหาเรื่องก่อนก็ไม่มีทางคิดร้ายกับใครเพราะเสียเวลานอนเชื่อว่าผมยังระแวงเรื่องข่าวซุบซิบนินทาระหว่างเขากับพาฝัน จะพูดมากก็ไม่กล้าในเมื่อเป็นเรื่องจริง

   “พาฝันมาที่บริษัทมากขึ้นเพราะออกไอเดียหลักในงานแฟชั่นโชว์ งั้นวาจะคุมงานนี้เอง ไว้จบแล้วจะไม่มาที่บริษัทอีก ตวันจะได้ไม่ต้องลำบากใจกับความเอาแต่ใจของวา”

   ผมพูดให้ตวันวางใจว่าทำเพราะอารมณ์ส่วนตัว ไม่ได้ตั้งใจจะมาทวงตำแหน่งประธานคืน

   “งอนอะไรกันครับคนดี ไม่เอาน่า อย่าคิดมากสิ ผมกับพาฝันไม่มีอะไรเกินเลยนะ”

   นึกถึงรูปถ่ายชายหญิงที่กอดจูบกันผ่านหน้าต่างรถ ซึ่งถ้าขยายความอีกนิดคือในลานจอดรถของโรงแรมแห่งหนึ่งผมก็ลอบกำหมัด แม้หลังจากนั้นจะไม่มีหลักฐาน แต่คงไม่จบแค่จูงมือไปนอนคุยบนเตียงหรอก!

   “ตวันจะให้วาคุมรึเปล่า” ผมใช้ข้ออ้างคบชู้เป็นประกัน แม้ไม่อยากยินยอมหรือรู้สึกไม่ยุติธรรมแค่ไหน...

   “ถ้าวาอยากทำก็ทำเถอะครับ ติดขัดตรงไหนก็ปรึกษากันได้เสมอ ดีเหมือนกัน วาจะได้มาทำงานด้วยกันทุกวันเลย”

   ...ตวันก็ต้องยอมอยู่ดี

   แถมยังมีหน้ามาหยอกกันอีก

   อยากรู้ชะมัดว่าตวันคิดอะไรอยู่ ตอนแอบนัดพาฝันไปที่โรงแรมเคยคิดถึงใจผมบ้างมั้ย

   ผมหันหน้าหนี หลับตาเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา พอสักทีนาวา เลิกตัดพ้อกับผู้ชายคนนี้สักที

   “วา?”

   “งั้นวาไปเรียนรู้งานกับลุงสมชิดก่อนนะ ไม่ขัดตวันทำงานแล้ว”

   “ครับ ตอนเที่ยงกินข้าวด้วยกันนะ วาคิดเลยว่าอยากกินอะไร ผมจะขับรถพาไปเอง”

   ผมพยักหน้ารับอย่างขอไปที พอเดินออกจากห้องก็เจอกับเลขาฯ ของตวัน ผมยิ้มให้เขา ก่อนจะเดินไปหาลุงสมชิดเพื่อศึกษางานทั้งหมด ไม่ใช่แค่แฟชั่นโชว์อย่างที่ใครบางคนเข้าใจ

   ถึงผมจะอยากนอนตีพุงอยู่บ้านมากแค่ไหน แต่ให้ยกบริษัทกับคนทรยศที่หาผลกำไรเอาเงินไปจีบหญิง ผมก็ไม่มีวันยอมหรอก!!!


   --------------------

   ความสั้นยาวของแต่ละตอน อยู่ที่จังหวะการตัดฉากล้วนๆ ค่ะ

   ฉะนั้นบางตอนเลยมีสั้นบ้าง ยาวบ้าง ขึ้นกับอารมณ์ของนาวาล้วนๆ ตอนนี้เริ่มจะชัดขึ้นแล้วถึงเจตจำนงค์ในการนอนตีพุง แต่งเรื่องนี้ไป เราอิจฉานาวาไป อยากจะมีเวลานอนตีพุงขี้เกียจบ้างอ่ะ!!! อแต่ถึงจะประชดประชันแค่ไหน นาวาก็เจ็บมากนะคะกับการโดนนอกใจครั้งนี้ ฉะนั้น...เวลาเอาคืนก็ต้องให้สะใจค่ะ!!!
       ขอบคุณทุกคอมเม้นเลยนะคะ เราอ่านหมดน้า และดีใจมีคนคิดเรื่องชื่อยุทธการเหมือนเราด้วยค่ะ 55555


   #นาวาสไตล์

   
   ตัวอย่างตอนต่อไป ใครรอศศินบ้าง?

   'เลิกส่งคนมาตามถ่ายรูปฉันได้แล้ว ไอ้โรคจิต!'   
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 3 : พาฝัน [03/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 03-07-2019 19:27:30
คือไม่ชอบแบบตวันเล้ย
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 3 : พาฝัน [03/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 03-07-2019 20:09:58
ทำไมอยู่ๆ ก็มีความคิดแปลกๆว่า บางทีเรื่องทั้งหมดอาจหักมุม
ตวันกำลังวางแผนกับพาฝัน ลวงศศินที่ส่งคนตาม และเพื่อให้นาวาหึงลุกขึ้นมาทำงานรึเปล่า
หรือเราโลกสวยเกินไป ฮ่าๆๆๆ


แต่ตอนนี้เอาใจช่วยนาวาก่อนละกัน เอาคืนให้สำเร็จนะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 3 : พาฝัน [03/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 03-07-2019 21:07:45
ต้องเอาคืนให้สาสมกับที่ตวันไม่รู้บุญคุณเอาให้หมดตัวแบบมาตัวเปล่าไม่เคยมีอะไรก็กลับไปแบบนั้นให้ยัยพาฝันมันเลี้ยงดูซิว่าถ้าตวันมีแค่ตัวเปล่ายังจะเอาอยู่อีกหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 3 : พาฝัน [03/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 03-07-2019 21:44:04
ทำหน้าซื่อ ตาใส แต่ใจคด
ปากพูดปด สะกดใจ ให้ไหลหลง
สาระเลว เหวห่า นรกลง
กระชากหน้า ความจริงจง เผยออกมา

ตวัน#ปลิดหัวดอ
ในเร็ววัน
หุหุ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 3 : พาฝัน [03/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-07-2019 21:53:13
ณ ตอนนี้บอกได้แค่ว่า รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 3 : พาฝัน [03/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-07-2019 22:17:06
วา จัดไป ใส่ให้เต็มที่เลย  :z6:
เกลียดคนนอกใจ  ทั้งที่วาเปิดโอกาสให้พูด ยังจะโกหกตาใสอีก :fire: :angry2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 3 : พาฝัน [03/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 03-07-2019 23:32:16
อ่านไปเจ็บไป สถานการณ์เหมือนกันเลย,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 3 : พาฝัน [03/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-07-2019 00:01:24
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 3 : พาฝัน [03/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 04-07-2019 00:18:18
วาต้องเอาคืนให้หนักคนที่หักหลังผู้มีพระคุณ
ติดตามตอนต่อไปจ้าา มาเร็วนะๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 3 : พาฝัน [03/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 04-07-2019 00:52:22
ปักหมุดรอจ้า
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 3 : พาฝัน [03/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 04-07-2019 11:33:17
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 3 : พาฝัน [03/07/62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 04-07-2019 12:36:07
นาวาเริ่มเดินหน้าแล้วอย่าใจอ่อนนะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 4 : พี่ชายที่แสนดี [04/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 04-07-2019 18:44:41

   ตอนที่ 4

   พี่ชายที่แสนดี
   

   นานแล้วที่ไม่ได้กินข้าวเที่ยงด้วยกันในวันธรรมดา

   เมื่อก่อนตอนเพิ่งทำงานใหม่ๆ ทุกพักเที่ยงตวันจะขับรถไปรับผมมาทานข้าวเสมอ เขาบอกว่าอยากเห็นหน้าผมเป็นการเสริมสร้างกำลังใจ ช่วงสองปีแรกเขาท้อมาก ผมเลยพยายามยิ้มแย้มให้คำแนะนำไปหลายอย่าง ทั้งคนใกล้ชิดของแม่ที่พอทำประโยชน์ได้ ทั้งบอกเล่าถึงผลงานเด่นๆ และไอเดียที่แม่ไม่เคยทำแต่เล่าให้ผมฟังมาก่อน แม้สุดท้ายแล้วโชว์จะจบลงด้วยการนำเสนอที่โดดเด่นของพาฝัน แต่การใช้เพชรเป็นตัวชูโรงและชื่อคอนเซ็ปต์ผมเป็นคนคิด ส่วนตวันเป็นคนสานต่อ ลงรายละเอียดยิบย่อยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

   แม้จะเป็นการบอกปากเปล่าท่ามกลางเรื่องเล่าสารพัดอย่าง แต่ตวันชอบฟังแล้วมองผมยิ้มๆ อย่างเอ็นดู

   น่าเสียดายที่พอเขาได้รับการยอมรับมากขึ้น หาคนรู้ใจที่ออกไอเดียได้ดีกว่าก็อ้างว่างานยุ่งแล้วแทบไม่มารับผมทานข้าวเที่ยงด้วยกันอีกเลย

   เวลาออกงาน ตวันก็มักไปกับพาฝัน ไม่ใช่ควงคู่แบบคนรัก แต่เพราะพาฝันมักสวมใส่เครื่องเพชรของดาราลัยจิวเวลรี่ จึงเป็นการโปรโมตไปในตัว ในเมื่อแค่เห็นหน้าหลายคนก็มักจะนึกถึงเพชรน้ำเอก มีนักข่าวตั้งฉายาเธอว่า Real Diamond ตามชื่อโชว์ เพราะแม้จะมีคนที่สวยกว่า ขาวกว่า รูปร่างดีกว่า แต่ความสามารถและความมุ่งมั่นตั้งใจของพาฝันล้วนเป็นที่ยอมรับในวงการ

   “กินเยอะๆ หน่อยสิครับ”

   “พูดแบบนี้ทุกวัน ตวันไม่เบื่อบ้างเหรอ” ผมถามแกมลองใจ เพราะทุกครั้งเวลากินข้าวด้วยกัน ตวันจะคะยั้นคะยอให้ผมกินเยอะๆ เสมอ ช่วยไม่ได้จริงๆ คนนอนกินบ้านกินเมืองอย่างผม ไม่ชอบออกกำลังกาย ถ้าให้กินจุอีกเห็นทีจะอ้วนเป็นหมู ปริมาณอาหารในแต่ละมื้อของผมเลยโดนตวันบ่นว่ากินเหมือนแมวดม เลยตอบกลับว่าไม่แค่กินเหมือนแมว ผมยังลิ้นแมวด้วย

   แต่ดันชอบดื่มโกโก้ร้อน

   ให้ถูกคือโกโก้ร้อนที่ผมนั่งรอจนอุ่นกำลังดี ผมชอบมองควันลอยเหนือแก้วค่อยๆ จางลง เป็นอารมณ์สุนทรีย์อย่างหนึ่งที่ถูกตวันแซวเสมอ แล้วอย่าถามนะว่าทำไมผมไม่ชอบดื่มกาแฟเหมือนตวัน คุณครับ...ถ้าเสพกาเฟอีนแล้วจะนอนตีพุงได้ยังไง โปรดเข้าใจงานอดิเรกผมด้วย

   “ไม่เบื่อหรอก” ตวันเอ่ยพลางจิ้มเฟรนช์ฟรายด์ของที่ผมเขี่ยใส่จานเขาเข้าปากอย่างคุ้นชิน “วาล่ะเบื่อผมบ้างมั้ย”

   ช่างกล้าถาม!

   “ไม่เบื่อ” แต่ขยะแขยงคนโกหกหน้าตายโคตรๆ!

   ตอบแล้วความรู้สึกก็จุกอกขึ้นมาทันที ผมชักไม่อยากอาหารเลยหยิบโทรศัพท์มาเล่นฆ่าเวลา

   

   ‘ทำไมที่รักทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าคนอย่างนั้นล่ะ’

   

   ศศินก็ช่างส่งข้อความมาถูกจังหวะ

   

   ‘อยากจะฆ่านายนั่นแหละ! เลิกส่งคนมาตามถ่ายรูปฉันได้แล้ว ไอ้โรคจิต!!’

   

   “ใครเหรอวา” คงเพราะเห็นผมทำหน้ายุ่ง ตวันเลยอดถามไม่ได้ เทียบกันแล้วตวันขี้หึงกว่าผมนะ คงเพราะตั้งแต่เด็กจนโตคนที่โดนตามจีบเสมอคือผมไม่ใช่ตวัน

   ไม่ใช่ว่าหน้าตาดีใครเห็นเป็นต้องเหลียวมอง...แต่เพราะเงินล้วนๆ

   ใครดีมาผมก็ดีใจหาย อยากได้อะไรแค่ออกปากเป็นให้ได้ แต่ถ้าร้ายมาก็ร้ายกลับไม่โกง อยากทำอะไรผมจะขัดให้ดู!

   ตลอดมาตวันคอยเป็นไม้กันหมา ช่วยกันผมจากคนหวังผลประโยชน์เสมอ ทำให้ผมไม่ค่อยร้ายใส่ใครนัก เพราะผมเป็นพวกเกลียดความยุ่งยาก ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ ก็ไม่หาเรื่องให้ตัวเองวุ่นวายหรอก แต่ตวันเป็นคนแรกที่ได้รับเกียรติทั้งสองอย่าง ทั้งตอนผมดีใจหาย และร้ายเหลือทน!

   

   ‘ไม่ตามถ่ายที่รักก็ได้ แล้วไอ้ตวันล่ะจ๊ะ’

   ‘ถ่ายต่อไป’

   ‘รับบัญชา’


   

   “วา” ตวันเรียกชื่อเสียงดุเพราะผมเอาแต่ก้มหน้าพิมพ์โทรศัพท์มือถือ

   “ศศินทักมาน่ะ” ผมยิ้มยั่วกึ่งยียวน

   “จนป่านนี้ยังตามจีบแฟนคนอื่นอีก อย่าไปคุยกับมันเลยวา” ตวันขมวดคิ้วมุ่นทันที

   สองมาตรฐานจริงจริ๊ง!

   ผมวางโทรศัพท์เพื่อให้ตวันหายโกรธ ความหน้าด้านหน้าทนของศศินทำให้ผมรำคาญ แต่กับตวันเรียกว่าชังน้ำหน้าเลยจะถูกกว่า

   แล้วพาฝันที่ยุ่งกับคนมีแฟนแถมยังลักกินขโมยกินเนี่ย...จะเรียกว่าอะไรดีนะ

   ผมคิดยิ้มๆ กับคำพูดที่วกเข้าหาตัวของตวัน เขาไม่สะดุ้งสะเทือนบ้างรึไง เทียบกันแล้วศศินยังจริงใจกว่า ส่วนตวันกลายเป็นพวกหน้าหนาได้โล่เลย

   ป่านนี้แล้วยังจะหึงจะหวงอะไรอีก

   คิดจะให้วาเป็นหลวง พาฝันเป็นน้อยรึไง


   ตวันไม่ใช่คนโลภ เพราะโตมาในบ้านตระกูลดาราลัยที่มีฐานะร่ำรวย แม้พ่อกับแม่ผมจะเอ็นดูเขา ช่วยส่งเสียค่าเรียนและให้ค่าขนมบ่อยๆ แต่ด้วยฐานะของแม่เขาที่ค้ำคอทำให้ตวันมักประหยัดอดออมและยอมใช้จ่ายแต่กับเรื่องของผมเท่านั้น เขาแทบไม่ซื้ออะไรให้ตัวเองเลย เวลาเหลือขนมชิ้นสุดท้ายเขาก็จะยกให้ผมก่อน ถ้าจะเลือกของใช้ในบ้าน ไม่ว่าจะโซฟาหรือโทรทัศน์ตวันก็จะให้ผมเลือกตามความชอบโดยไม่ขัดแม้แต่นิดเดียว

   แต่ในรูปถ่ายที่ศศินเก็บไว้ในอัลบั้มมีรูปที่ตวันเดินเข้าร้านเสื้อผ้าผู้หญิง หยุดมองเดรสกระโปรงสีหวานตัวหนึ่ง และหลังจากนั้นไม่กี่วันเขาก็นัดเจอพาฝัน แล้วเธอก็สวมเสื้อชุดนั้นที่เขาเป็นคนเลือกให้...

   ว่ากันว่าผู้ชายซื้อเสื้อให้เพราะอยากถอด

   นึกแล้วผมกลัวมือจะลั่นสาดน้ำใส่หน้าเขาชะมัด!

   



   “ตอนลุงสมชิดโทรบอกว่าวาอยากเรียนรู้งาน พี่นึกว่าวันนี้เป็นวันที่หนึ่งเมษาซะอีก”

   บ่ายวันนั้นแขกผู้มีเกียรติมาเยือนผมถึงห้องทำงานของลุงสมชิด เพราะแม้จะวางแผนชิงตำแหน่งประธานคืนจากตวัน แต่ผมยังไม่พร้อมนั่งตำแหน่งนั้น แค่เรียนรู้งานคร่าวๆ กับการจัดการแฟชั่นโชว์ก็ล่อเอาขมับปวดตุบๆ พอเห็นพี่ชายเสนอหน้าด้วยรอยยิ้มละมุนก็คล้ายจะครั่นเนื้อครั่นตัวขึ้นมาทันที

   “ว่างมากเหรอครับพี่ที”

   นที พี่ชายของผม ผู้รับหน้าที่ผู้ปกครองหลังพ่อกับแม่เสียและดูแลกิจการในเครือดาราลัยยืนกอดอกอยู่หน้าประตู สายตาของพี่ทีเป็นอะไรที่ชวนเสียวสันหลังเสมอ คล้ายเห็นผมเป็นเด็กทารกทำอะไรไม่เป็นตลอดเวลา

   มันหวาน มันเยิ้ม มันละมุนอบอุ่นจนขนลุกซู่

   ธุรกิจรองของตระกูลดาราลัยคือร้านเครื่องเพชรที่แม่ผมรับช่วงต่อจากคุณย่า ส่วนธุรกิจหลักคือโรงแรมรวมถึงคอนโดฯ ซึ่งเป็นกิจการเดิมของครอบครัวตั้งแต่สมัยปู่ทวด พี่นทีเป็นประธานหลัก รับช่วงต่อจากคุณพ่อหลังท่านเสีย คอยคุมคุณภาพโดยรวม เน้นดูแลโรงแรมและคอนโดฯ ห้าดาวต้อนรับลูกค้าระดับสูง ส่วนพวกสี่ดาว สามดาวก็จะเป็นของบรรดาลุงป้าน้าอาซึ่งใช้นามสกุลเดียวกัน

   เข้าใจแล้วใช่มั้ยละครับว่ารายได้หลักของตระกูลมาจากไหน

   ร้านเครื่องเพชรน่ะเป็นเหมือนอาชีพเสริม แม้จะขายราคาแพงแต่ต้นทุนก็สูงลิ่ว พี่นทีเลยยกให้ผมโดยไม่มีใครกล้าแย่งชิง เป็นความหวังดีตามประสาพี่ชายผู้หลงน้อง จนป่านนี้ก็ยังหลงแบบหาทางออกไม่เจอ

   พอพี่นทีมาเยือน ลุงสมชิดก็ขอตัวอย่างรู้หน้าที่ ผมแสร้งก้มหน้าอ่านเอกสารขณะพี่ชายทิ้งตัวนั่งฝั่งตรงข้าม

   “มีอะไรจะเล่าให้พี่ฟังรึเปล่าวา”

   “ไม่มี”

   “วา” เสียงพี่นทีเข้มขึ้น ทำเอาผมอึกอักเล็กน้อยก่อนจะตอบเสียงอ่อนระโหยแบบอยากตาย

   “ไม่มีครับพี่ที”

   พี่ชายหลงน้องยิ้มแก้มปริแทบไม่ทันเมื่อผมพูดสุภาพด้วย ไอ้การแทนตัวเองด้วยชื่อกับคนใกล้ชิดก็เป็นฝีมือพี่ทีที่ทั้งหลอกทั้งล่อให้ผมทำเพื่อความชุ่มชื่นของหัวใจคนฟังทั้งนั้น

   “ไม่มีก็ดีแล้วครับ” พี่นทีพยักหน้าหงึกหงัก เผยสีหน้านุ่มนวลชวนเคลิ้ม พี่ชายของผมเป็นไฮโซหน้าตาดีประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย ออกงานที่ไหนมีนักข่าวถ่ายรูปที่นั่นเพราะความสุภาพ อบอุ่น อ่อนโยน เป็นกันเองและเข้าถึงง่าย

   ยามทำงานพี่นทีละเอียดรอบคอบจริงจังราวคนละคน แต่พอไม่ได้แตะงานก็คล้ายจะมีดอกไม้บานอยู่รอบๆ ดูเอื่อยเฉื่อยไม่คิดอะไรมาก ต่อให้สงสัยก็ไม่เซ้าซี้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เป็นผู้ฟังที่ดี ต่อให้ไม่มีคนพูดด้วยก็ยังยิ้มอยู่อย่างนั้นทั้งวันทั้งคืน

   ข้อเสียคือพี่นทีเป็นคนคิดช้าทำช้า ถือคติช้าแต่ชัวร์ ผิดกับผมที่เน้นรวดเร็วฉับไวไว้ก่อนเพราะขี้เกียจ พวกเราเคยไปเลือกนาฬิกาด้วยกัน คุณผู้ชมครับ พี่นทีเพ่งมอง ลองสวม ทำแบบนี้จนวนครบทั้งร้าน กว่าจะได้นาฬิกาสักเรือนกินเวลาร่วมสามชั่วโมง!

   นับแต่นั้นมาผมก็ไม่เคยไปซื้อของกับพี่ชายอีกเลย...

   ความรักของพี่ชายนั้นพร้อมรับ แต่ความสนิทสนมใกล้ชิดกันนั้นเป็นผมเองที่พยายามถอยห่างไปเกาะติดกับตวันที่ตามใจผมมากกว่าแทน

   ไม่ใช่พี่นทีไม่ตามใจนะ แต่กว่าจะรู้ว่าผมอยากได้อะไร ต้องการสื่ออะไร พี่แกช้าจนผมหมดความอดทนก่อนทุกที!

   ส่วนสาเหตุที่ผมปิดเรื่องโดนนอกใจก็เพราะ...

   “ตวันล่ะ ทำไมไม่มาช่วยวา”

   พี่นทีคิดว่าตวันแย่งน้องชายไปจากตัวเอง เพราะผมย้ายออกจากบ้านก็ด้วยไม่อยากให้ตวันอึดอัดกับสภาพแวดล้อมเดิมๆ ทิ้งพี่ชายหงอยเหงาคร่ำครวญน่าสงสาร

   ฉะนั้นถ้าเล่าความจริง ผมเชื่อว่าพี่ชายพร้อมจะเขี่ยตวันทิ้งในทันทีโดยไม่สนเหตุผลอะไรทั้งนั้น

   จากนั้นก็จะโอ๋ผม มองผมเหมือนคนอกหักที่กำลังจะตาย เกาะติดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ดูแลเหมือนผมเป็นผู้ป่วยระยะสุดท้าย พร่ำพูดแต่ว่าเห็นมั้ยวา ไม่มีใครในโลกดีกับวาเท่าพี่อีกแล้ว

   ผมจะแก้แค้นเอาคืน ไม่ได้อยากเป็นลูกนกใต้ปีกของพี่ชายโคตรเฉื่อยสักหน่อย!

   พี่นทีชอบทำตัวเหมือนพ่อ หลงผิดตาบอดเห็นผมเป็นเด็กที่ทำอะไรไม่เป็น ต้องปกป้องทะนุถนอมตลอด

   เชื่อมั้ยว่าต่อให้ผมยืนยันว่าทำได้ พี่นทีก็จะมองด้วยสายตาเอาใจช่วยแบบชวนหงุดหงิด คอยถามว่าไหวมั้ยวา จะไหวเหรอวา อย่าลำบากเลยวา ปล่อยไปเถอะเดี๋ยวพี่จัดการเอง วานอนตีพุงเฉยๆ ก็พอนะ

   “ถ้าวาอยากเรียนรู้งานก็ไม่เป็นไรหรอก แต่อย่าฝืนตัวเองมากนะ”

   ผิดจากที่คิดซะที่ไหนล่ะคุณพี่ชายหลงน้อง

   “ใครคาบข่าวไปบอกพี่ทีเนี่ย” ผมแยกเขี้ยวใส่ ผลคือพี่นทียิ้มหวานคล้ายเห็นกงจักรเป็นดอกบัว

   “ลุงสมชิด”

   ...ขนาดย้ำหนักย้ำหนาแล้วเชียว สรุปลุงสมชิดเป็นคนของพี่นทีสินะ มิน่าล่ะตอนแรกถึงคัดค้านตวันสุดพลัง

   “วาอยากคุมงานแฟชั่นโชว์เหรอ”

   “พี่ทีจะห้ามวารึไง...ครับ” ผมกัดปาก รู้สึกเขินจนหูเริ่มแดงเมื่อพี่นทียิ้มน้อยยิ้มใหญ่

   “ถ้าวาอยากทำพี่ก็ไม่ห้าม แต่กลัวจะหนักเกินไป ให้ตวันทำไปเถอะ แล้ววาค่อยขึ้นเวทีตอนจบ ยืนยิ้มสวยๆ เหมือนเป็นคนคุมงานเองก็พอ”

   ดูพี่ชายผมสิ ลำเอียงโคตรๆ

   ขอแก้ต่างแทนหน่อยแล้วกัน ปกติแล้วพี่นทีเป็นคนยุติธรรมมาก อย่าเข้าใจผิดว่าเขาชั่วช้าสามานย์เลย หากคนโดนแย่งผลงานไม่ใช่ตวัน พี่นทีก็ไม่ยื่นข้อเสนอนี้หรอก

   “ความจริงตวันเตรียมงานเกือบหมดแล้ว เครื่องเพชรก็ออกแบบเรียบร้อย นางแบบ รายชื่อแขก รายละเอียดโชว์ทั้งหมดมีข้อมูลพร้อม วาแค่คอยดำเนินงานไม่ให้ผิดพลาด ไม่หนักหนาเลยครับพี่ที”

   พี่นทียิ้ม คนอะไรจะมีดอกไม้บานเป็นฉากหลังเยอะขนาดนี้

   ไม่รู้ว่าถ้าความลับแตกจะยิ้มออกรึเปล่า

   น่าสนใจแฮะ ในความทรงจำของผม พี่นทีคู่กับรอยยิ้มเสมอ ขนาดในงานศพของพ่อกับแม่ พี่นทียังยิ้มบางๆ ต้อนรับแขกและยิ้มให้กำลังใจผมยามร้องไห้จนหมดแรง

   เอาไว้ค่อยบอกหลังทุกอย่างสำเร็จลุล่วงก็แล้วกัน ถึงตอนนั้นพี่นทีจะได้เลิกมองผมเป็นลูกเจี๊ยบสักที!!

   ---------------------

   ถ้านาวาคือชีวิตในฝัน พี่นทีก็คือพี่ชายในฝันค่ะ

   แสนดี ใจเย็น รักน้อง อยากให้น้องนอนตีพุงสบายๆ แม้จะเยอะไปหน่อยก็เยอะอย่างมีคุณภาพนะคะ(???)

   อะแฮ่ม พูดถึงศศินที่ยังไม่ค่อยมีบทคนนี้บ้าง ใครที่ชอบพ่อหนุ่มคนนี้เตรียมตัวค่ะ เดี๋ยวพี่แกจะมาทำคะแนนแน่นอน! เตรียมป้ายไฟรอเลยค่ะ เตรียมหัวใจไว้ด้วยนะคะ แล้วจะหาว่าไม่เตือนนน #นาวาสไตล์


ตัวอย่างตอนต่อไป

“ตวันบอกว่าคุณเข้าใจผิด ฉันเลยอยากยืนยันว่าระหว่างเราไม่มีอะไรกันจริงๆ นะคะ”
ผู้ชายก็หน้าหนา ผู้หญิงก็หน้าด้าน!
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 4 : พี่ชายที่แสนดี [04/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 04-07-2019 19:47:58
รอบตัวนาวานี่ หลากหลายบุคคลิกมาก
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 4 : พี่ชายที่แสนดี [04/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 04-07-2019 20:15:09
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 4 : พี่ชายที่แสนดี [04/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-07-2019 20:45:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 4 : พี่ชายที่แสนดี [04/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 04-07-2019 22:07:58
ถ้าพี่นทีมีแฟนคงฟรุ้งในทุ่งดอกไม้สีชมพู. มีพี่ชายแสนดีขนาดนี้โชคดีมากนะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 4 : พี่ชายที่แสนดี [04/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 04-07-2019 22:49:14
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 4 : พี่ชายที่แสนดี [04/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 04-07-2019 23:43:17
รอวันฉีกหน้ากาก
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 4 : พี่ชายที่แสนดี [04/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 05-07-2019 00:36:53
เอาให้สุดๆหปเลยครับ,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 4 : พี่ชายที่แสนดี [04/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 05-07-2019 01:07:10
เป็นพี่ที่หลงน้องมากๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 4 : พี่ชายที่แสนดี [04/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 05-07-2019 05:59:56
พี่นทีให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มจัง
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 4 : พี่ชายที่แสนดี [04/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 05-07-2019 11:38:15
ทำไมเราว่ามันแปลก ๆ เหมือนศศินวางแผนอะไรบ้างอย่างเอาไว้
แต่เราคงคิดไปเองมั้ง ตวันถ้านอกใจจริงก็หน้าด้านหน้าทนมากที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 4 : พี่ชายที่แสนดี [04/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-07-2019 12:51:05
นาวา น่าจะส่งภาพที่สองคนจู๋จี๋ออกสื่อ  :m16: :angry2:
ดูซิจะแก้ตัวว่ายังไง ภาพฟ้องชัดอย่างนั้น  :z3:
ไม่แน่ว่าศศิน มีวิธีเด็ดๆก็ได้  :m20: :laugh:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 5 : นับถอยหลังสู่วันงาน [05/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 05-07-2019 18:47:26
   ตอนที่ 5

   นับถอยหลังสู่วันงาน



   เพราะงานแฟชั่นโชว์เป็นงานใหญ่ประจำปีของดาราลัยจิวเวลรี่จึงเป็นที่คาดหวังมาก

   โชคดีที่แม่พาผมไปงานแฟชั่นโชว์นี้ทุกปีตั้งแต่เด็ก แม้จะไม่เคยศึกษามาก่อนแต่พอได้ลองทำก็รู้ว่าต้องคุมงานไปทางไหน เกือบลืมบอก ทุกครั้งเวลาที่แม่พาผมออกงานหรือมาที่ทำงาน ตวันไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตามด้วยหรอกนะ ตอนได้รับมอบหมายให้ดูแลบริษัท เขาถึงขอคำแนะนำจากผมเยอะเลย

   ฉะนั้นพอเทียบกันแล้วผมเริ่มต้นได้ดีกว่าตวันสมัยเพิ่งรับตำแหน่งใหม่ๆ อีก!

   “ชิ้นนี้ปรับขนาดเพชรให้เล็กลงหน่อย” ผมชี้นิ้วบอกทีมงานซึ่งรับหน้าที่จำลองโมเดลสามมิติก่อนจะไปเจียระไนเป็นของจริง หลังเรียนจบปริญญาตรี ตวันมาบริหารงาน ส่วนผมก็เรียนต่อด้านแฟชั่นดีไซน์ซึ่งเป็นความชอบส่วนตัว แม้จะไม่เจาะลึกด้านจิวเวลรี่โดยเฉพาะ แต่ผมซึ่งขลุกกับเครื่องประดับสวยงาม ชินตากับรสนิยมของแม่ที่ชอบอวดเครื่องเพชรใหม่ๆ ก็พอรู้ว่าควรออกแบบอย่างไรให้ออกมาดี

   อย่างต่างหูมรกตซึ่งเป็นชุดฟินาเล่ปิดงานส่งท้ายที่พาฝันออกไอเดียก็โดนผมแก้ยับ เพราะเธอดันอยากให้ออกมาหรูหราเลยเสนอให้ใช้เพชรประดับรอบจี้มรกตรูปหยดน้ำ กลายเป็นตัวมรกตไม่โดดเด่น

   ก็ไม่รู้ว่าเป็นงานแฟชั่นโชว์ของดาราลัยจิวเวลรี่หรือพาฝันโชว์กันแน่

   แค่ฟังคำเธอแล้วงานประสบความสำเร็จในปีก่อน ตวันถึงกับหน้ามืดตามัวยอมเลยรึไงนะ

   “ปรับเป็นเท่านี้ดีมั้ยครับคุณนาวา”

   “ดีแล้ว แต่ฉันอยากให้ตัวโครงมีส่วนโค้งด้วย เป็นเส้นตรงทื่อๆ แบบนี้ถึงจะดูเรียบไปหน่อย เดี๋ยวฉันจะวาดให้ดู”

   ผมพลิกกระดาษหน้าว่างขึ้นมาแล้วร่างภาพโครงต่างหูให้เหมือนเกลียวของสายน้ำ ซึ่งสื่อความหมายของนาวา ผมจะทำให้แฟชั่นโชว์ชุดนี้เป็นงานเปิดตัวของผม ไม่ใช่การเพิ่มชื่อเสียงให้พาฝัน!

   “สวยมากเลยครับคุณนาวา”

   “ขอบคุณ” ผมรับคำอย่างไม่คิดจะถ่อมตัว เพราะจะให้บอกว่าไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ชมเกินไปแล้วก็ใช่ที่ ผมไม่ใช่คนแบบตวันที่โอนอ่อนให้คนอื่นไปเรื่อยซะหน่อย

   ผมมองภาพร่างในมือที่แก้จากต้นแบบราวเครื่องประดับคนละชิ้นอย่างพอใจ พาฝันต้องการต่างหูซึ่งเป็นเพชรประดับห้อยระย้าแนวตรงโดดเด่นล้อมมรกตเม็ดใหญ่ เวลาเดินจะกรีดกรายสวยงามเกิดเป็นเสียงกระทบเพราะพริ้ง ส่วนของผมแก้จากระย้าเป็นโครงแข็งที่ดัดเป็นเกลียวฝังเพชรเม็ดเล็กๆ ส่วนปลายคือจี้มรกต แม้จะไม่หรูหราเท่า แต่เน้นที่ตัวอัญมณีสมชื่องาน ยามก้าวเดิน มีเพียงตัวจี้สีเขียวทรงหยดน้ำเท่านั้นที่จะขยับล้อแสงไฟ สวยงามจับตา

   “สร้อยคอลดขนาดลงนิดหน่อยและเติมลายอีกนิด ส่วนตัวแหวน...” มาที่ปัญหาต่อไป ผมมองแหวนมรกตทรงเหลี่ยมที่มีเพชรโอบล้อมแผ่ออกมาเป็นแผงอย่างกับกันสาดแล้วส่ายหน้า ถึงจะดูสวยงามอลังการ แต่ติดรกรุงรัง บางทีรสนิยมของผมกับพาฝันจะไม่เหมือนกัน

   แต่แปลกนะ เพราะเราดันชอบผู้ชายคนเดียวกันซะงั้น

   ผมหัวเราะหึๆ ในลำคอแกมประชดตัวเอง ก่อนจะแก้แบบใหม่

   “เอาแบบนี้แล้วกัน”

   ผมโละแผงกันสาดทิ้งแล้วเปลี่ยนเป็นเกลียวเพชรเล็กๆ ที่กระหวัดเกี่ยวกันอย่างมีศิลปะด้วยลายที่ไม่ซ้ำกัน ทั้งสี่ด้านล้อมมรกตทรงเหลี่ยมเม็ดเขื่องให้ดูแข็งแกร่งและอ่อนช้อยในคราวเดียวกัน ไม่แย่งความโดดเด่นจากตัวอัญมณีแต่ชูสีสันของมรกตแท้ชั้นเลิศให้ยิ่งเปล่งประกายงดงาม

   “แล้วโชว์ชุดอื่นละครับคุณนาวา”

   “ไม่มีปัญหา” ผมเอ่ยกับพนักงาน เครื่องประดับของโชว์แต่ละชุดเป็นการนำเสนอของนักออกแบบมือฉมังในบริษัท ซึ่งเป็นมรกตคู่กับเพชรแบบอัตราส่วนห้าสิบ-ห้าสิบต่อหนึ่งชุด มีเพียงโชว์สุดท้ายเท่านั้นที่พาฝันอยากสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง หรือไม่ก็นึกชอบฉายา Real Diamond จากปีที่แล้วเลยประโคมเพชรข่มโชว์อื่นจนแทบจะลืมหัวข้อหลักในปีนี้

   ทั้งที่ต้องเน้นมรกตแปดสิบ-ยี่สิบต่างหากยัยบ้าเอ๊ย!

   ผมนวดขมับ นึกโชคดีที่เข้ามาขวางทัน หากเห็นเองในงานต้องขัดใจมากแน่ๆ แต่ถ้าตวันบอกว่าเป็นคนออกไอเดียคงไม่กล้าตำหนิมากอยู่ดีเพราะกลัวเขาจะเสียกำลังใจ แม้ความจริงแล้วจะเป็นไอเดียของพาฝันก็ตาม

   ตวันทำงานที่บริษัทนี้ทั้งหมดสามปีเต็ม ปีแรกเขายังเรียนรู้งานไม่ได้รับโอกาสทำโชว์ ปีที่สองเขาร่วมมือกับพาฝันทำให้เกิดปรากฏการณ์นางแบบผิวสี สร้างยอดขายและค่านิยมให้สังคมยอมรับนับถือในแนวคิดของผู้บริหาร นับเป็นงานโชว์ที่ไม่ได้มีแค่สวยงามแต่ยังแฝงด้วยความหมายลึกซึ้งทั้งตัวอัญมณีและนางแบบเอง

   ส่วนครั้งนี้...

   ผมลูบใบหูซ้ายซึ่งสวมต่างหูเขี้ยวเพชรอันเล็กๆ ด้วยความคลุกคลีกับผู้เป็นแม่ที่ชอบเครื่องประดับ ผมเลยพลอยชอบใส่ไปด้วยแม้จะเป็นผู้ชาย ถ้าตวันเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิง แต่ปักใจรักกับผม นาวาคนนี้ก็เป็นไบเซ็กช่วล ชอบทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แถมยังเปิดกว้าง ไม่คิดว่าเครื่องประดับสวยงามจะจำกัดแค่เพศเพศเดียว

   บางครั้งผมก็ซื้อเสื้อคลุมสำหรับผู้หญิงมาใส่เพราะแบบของผู้ชายบางทีก็ไม่ตรงใจเอาซะเลย ตวันเห็นแล้วมักชมว่าผมเข้าใจนำแฟชั่นมาประยุกต์ อย่าเข้าใจผิด ผมก็ไม่ใช่คนอ้อนแอ้นผอมบาง ความหมายของคำว่าประยุกต์คือการนำมาปรับในแบบของตัวเอง ฉะนั้นแม้จะสวมเสื้อคลุมผู้หญิง หยิบรองเท้าบู๊ตมีส้นมาใส่บางโอกาส แต่ก็ไม่ได้ตุ้งติ้งขัดตา ผมยังคงความเป็นตัวเอง มั่นใจ เป็นนาวา ดาราลัยที่ยากจะมีใครเลียนแบบ

   ฉะนั้นงานอดิเรกของผมนอกจากนอนตีพุง ก็คือการช็อปปิ้งพวกเสื้อผ้าเครื่องประดับต่างๆ ถึงขนาดมีห้องสำหรับแต่งตัวของผมโดยเฉพาะเต็มๆ สองห้อง

   ผมยอมรับว่าฟุ่มเฟือย แต่พ่อแม่ให้มรดกมาดี ไม่รู้ชาตินี้จะใช้หมดรึเปล่า ก็เลยใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเต็มที่ ไม่คิดปิดบังความต้องการของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ผมก็ใช้เงินตัวเองซื้อนะ นอกจากหุ้นในบริษัทดาราลัยจิวเวลรี่ ผมยังมีหุ้นอีกส่วนในเครือของดาราลัยที่พี่นทีดูแลอยู่ด้วย

   ฉะนั้นแม้ตวันจะถือหุ้นเท่ากัน ผมก็ยังรวยกว่าเขาเป็นสิบเท่า

   เห็นแบบนี้แต่ผมเดินได้ทั้งในห้างและตลาดนัดเลยนะเออ

   วันดีคืนดีก็หยิบชุดนอนลายหมีตัวละร้อยมาใส่ ถ้านึกคึกสวมแค่เสื้อคลุมตัวเดียวกับถุงเท้าคนละสียังมี แต่ถ้าวันไหนอารมณ์ครึ้มๆ หน่อยก็หยิบชุดนอนผ้าฝ้ายปักลายมังกรตัวละหมื่นมาสวมเหมือนกัน ตวันมักยิ้มขันกับอาการผีเข้าผีออกของผมเสมอ แต่เขาไม่เคยขัด ออกจะมีความสุขด้วยซ้ำเวลาเห็นผมทำตามใจตัวเองแล้วยิ้มแย้มแจ่มใสทั้งวัน

   นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่มีอะไรกัน


   อาจเพราะพวกเราเริ่มจากเพื่อนสนิท อาจเพราะแฟชั่นชุดนอนของผมชักจะพิลึกขึ้นทุกที อาจเพราะตวันทำงานกลับดึก อาจเพราะคบกันเจ็ดปีจนเริ่มเบื่อเรื่องบนเตียง เดิมทีตวันชอบผู้หญิง กิจกรรมอย่างว่ากับผู้ชายเลยค่อนข้างน้อยกว่าคู่รักทั่วไป ซึ่งผมไม่นำมาเป็นปัญหา พวกเรารักและผูกพันกันที่ใจ จะนอนจับมือตลอดก็ได้เพราะผมเองก็ไม่ใช่พวกหมกมุ่น

   ครั้งล่าสุด...น่าจะเมื่อสามเดือนก่อน

   ผมนับนิ้วแล้วยิ้มฝืดเฝื่อน แหม รูปที่ศศินนำมาให้เหมือนตวันกับพาฝันจะเพิ่งมุดโปงด้วยกันเมื่ออาทิตย์ก่อนเองนี่นะ

   หรือว่าระหว่างผมกับตวันจะไม่ใช่แค่รักไม่พอ แต่ยังเกี่ยวกับรสนิยมด้วย?

   ถ้ามีอารมณ์กับผู้หญิงจะมาขอคบกันทำไม!

   คนที่สารภาพรักก่อนก็คือเขา คนที่สัญญาว่าจะไม่ทิ้งไปก็คือเขา คนที่บอกจะรักผมคนเดียวก็คือเขา

   ผมให้โอกาสตวันแล้ว ในเมื่อไม่พูดหลังจากนี้จะอ้างหรือขอความเห็นใจก็สายเกินไป!!




   

   เวลาผ่านไวเหมือนโกหก อีกสองวันงานแฟชั่นโชว์ของดาราลัยจิวเวลรี่ที่รอคอยก็มาถึงสักที

   เมื่อเครื่องเพชรพร้อม สถานที่พร้อม นางแบบพร้อม วันนี้ผมกับทีมงานอีกหลายคนจึงมาดูหน้างานเพื่อลองซ้อมเดินแบบในสถานที่จริง

   ผมนั่งไขว่ห้างอยู่หน้าเวทีเพื่อจะได้มองภาพรวมทั้งหมด ด้านข้างคือเลขาฯ ของตวันที่ส่งมาช่วยดูแล ตวันคงกำชับมาอย่างดี ไม่งั้นชายหนุ่มวัยสามสิบกว่าคนนี้คงไม่ซื้อโกโก้ร้อนมาให้ ผมเลยนั่งจ้องควันลอยอ้อยอิ่งเหนือแก้วอย่างเพลิดเพลินระหว่างรอทีมงานซึ่งกำลังวุ่นวายอยู่หลังเวทีเตรียมตัวให้เรียบร้อย

   ก่อนอื่นก็ต้องลองทดสอบแสง สี เสียงก่อน ทุกอย่างเพอร์เฟ็กต์ ไม่นานเหล่านางแบบหน้าสดซึ่งแต่งตัวเหมือนวันจริงก็ทยอยเดินขึ้นมาบนเวทีเพื่อลองเดินให้ชินกับสถานที่ ทุกคนดูจะเกร็งเล็กน้อยเพราะต้องมายืนโพสท่าประจันหน้ากับผม

   เห็นแก่โกโก้อร่อยมาก ผมเลยส่งยิ้มหวานอารมณ์ดีให้เป็นรายคน พวกเธอพากันหลบตา บางคนแก้มแดงเขินอาย บางคนทำอะไรไม่ถูก บางคนก็ยิ้มกลับ ซึ่งคนคนนั้นคือพาฝัน

   เธอเพิ่งรู้ว่าเครื่องเพชรที่ช่วยออกแบบนั้นถูกเปลี่ยนโฉมจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม

   รอยยิ้มนั้นอ่อนหวาน แต่สายตายามมองมานั้นแฝงความไม่พอใจที่พยายามปกปิด ผมเลยคลี่ยิ้มให้เธออย่างบรรจงเป็นพิเศษ แถมด้วยการยักคิ้วยียวนเป็นเชิงว่าถ้ามีปัญหา ก็เชิญมาถามกับพี่ได้เลยน้องเอ๋ย

   แน่นอนว่าพาฝันไม่หาญกล้าพอจะชนกับผู้ถือหุ้นอย่างผมที่แม้จะถือเท่าตวันแต่ฐานะจริงนั้นเหนือกว่าเยอะ หลังลองเดินกันสามรอบทั้งแบบไม่มีเพลงประกอบและมีเพลงประกอบ พวกเธอก็เดินไปหลังเวทีเพื่อลองสวมใส่เครื่องเพชรที่มีการคุ้มกันเป็นพิเศษเพราะมูลค่านั้นมากมายมหาศาลชนิดที่หากทำเสียหายรับรองว่าชดใช้ไม่หวาดไม่ไหวแน่นอน

   ผมส่งแก้วโกโก้ว่างเปล่าให้เลขาฯ ข้างตัว ขณะที่ไฟเริ่มดับลงเหลือแต่สปอตไลต์สาดส่องบนเวที นางแบบคนแรกสวมเครื่องเพชรประดับมรกตเฉดเขียวอมฟ้า เธอหยุดยืนตรงหน้าผมเพื่อพรีเซนต์เครื่องประดับ การเคลื่อนไหวนั้นตรงจังหวะกับเสียงดนตรีคลาสสิกบรรเลงคลอ ดูเย้ายวนงดงามน่าตรึงตรา

   แม้ใบหน้าของผมจะยังคงรอยยิ้ม แต่ในมือกลับจดข้อดีข้อเสียสำหรับปรับปรุง เมื่อครู่สปอตไลต์ส่องนางแบบไม่ทัน แม้จะพรีเซนต์ตอนหยุดยืนกลางเวทีดี แต่ตอนหันหลังกลับรีบร้อนเกินไป ทำให้สร้อยคอเคลื่อนจากตำแหน่งเดิมเล็กน้อย

   ผ่านไปหนึ่งคน สองคน สามคน ผมจดข้อดีข้อเสียทั้งหมด งานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้จะผิดพลาดไม่ได้ แม้จะมีความแค้นส่วนตัวร่วมด้วย แต่นี่ก็เป็นหยาดเหงื่อของแม่ที่ประคับประคองตลอดหลายปี ในเมื่อรับมาแล้วผมก็อยากทำให้ออกมาดีที่สุด

   ทั้งที่ไม่ใช่คนจุกจิกเรื่องมากแท้ๆ พอทำงานขึ้นมาคำวิจารณ์ของแม่ที่มักพูดกรอกหูบ่อยๆ ก็คล้ายจะแวบเข้าหัว รู้ตัวอีกทีก็แทบเต็มหน้ากระดาษ

   พอดีกับโชว์สุดท้าย

   พาฝันในชุดเดรสสีดำยาวลากพื้นเดินหน้าเชิดหลังตรงอย่างงามสง่า ต่างหูโครงเกลียวคลื่นโอบจี้มรกตที่ทิ้งตัวตรงส่วนปลายนั้นโดดเด่นล้อแสงไฟอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด ยามเธอขยับตัว จี้มรกตก็ขยับไหวตาม ดึงดูดตรึงสายตา และเมื่อหยุดยืนตรงหน้าผม มือซึ่งเท้าเอวของเธออวดโฉมแหวนก็ค่อยๆ กรีดกรายปลายนิ้ววาดไปตามโครงหน้าเพื่อให้เห็นอัญมณีเม็ดเขื่องบนตัวแหวน มรกตทรงเหลี่ยมโดดเด่นท่ามกลางกรอบเพชรที่โอบล้อมดูทรงพลังตระการตา สร้อยคอที่ไล่เฉดสีนั้นก็สร้างความงดงามของอัญมณีได้ยอดเยี่ยม แม้จะไม่ชอบพาฝัน แต่ผมต้องยอมรับว่าเธอทำหน้าที่ได้ดีจริงๆ

   เป็นโชว์ปิดท้ายที่สวยงามไร้ข้อติ

   ดีแล้ว...

   ผมคลี่ยิ้ม มองแผ่นหลังของพาฝันขณะเธอเดินกลับเข้าไปด้านหลังเวที เพราะในงานจริงช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ผมจะเดินออกมาขอบคุณผู้ร่วมงานพร้อมเปิดตัวในฐานะเจ้าของดาราลัยจิวเวลรี่ ยิ่งเธอเดินได้ดีเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ผมได้รับเสียงชื่นชมมากขึ้น เพราะหลังจากโค้งตัวและร่วมเดินกับนางแบบทั้งเจ็ดคน ผมจะเดินไปหาตวัน...

   ควงแขนเขาขึ้นเวทีเป็นการให้เกียรติว่าเราสองคนถือหุ้นเท่ากันและ...เป็นคนรักกัน

   ผมไม่ใช่ดาราจึงไม่กังวลเรื่องภาพลักษณ์ ไม่จำเป็นต้องกลัวหากจะป่าวประกาศเรื่องรสนิยม สิ่งที่ผมต้องการคือให้นักข่าวทำข่าวผมกับตวันเยอะๆ ว่าผมคือคนรักของเขาและเป็นผู้สนับสนุนค้ำชูอยู่เบื้องหลัง ทั้งที่มีสิทธิ์ในดาราลัยจิวเวลรี่อย่างเต็มตัว

   จากนั้น...

   ก็ค่อยๆ เอาภาพหลุดที่ศศินให้ผมขายกับพวกปาปารัซซี่

   ได้เงินแถมได้แฉ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

   ตวันที่เพิ่งควงแขนกับผมมีข่าวกับนางแบบสาวพาฝัน แน่นอนว่าผมจะเริ่มจากภาพสนิทสนมก่อน ให้ตวันพอออกมาแก้ต่างได้

   แล้วค่อยปล่อยรูปจูบในรถออกไป

   ทุกอย่างจะพลิกกลับตาลปัตร ตวันกับพาฝันจะกลายเป็นคนโกหกหลอกลวงต่อหน้าคนทั้งประเทศ ส่วนผมก็จะเป็นนาวา ดาราลัย ไฮโซหนุ่มอนาคตไกลผู้โดนทรยศอย่างเลือดเย็น

   ถึงตอนนั้นก็คงไม่มีใครอยากร่วมงานกับทั้งคู่แล้ว

   ผมได้นั่งตำแหน่งประธานแบบสวยๆ ทุกคนให้การต้อนรับอย่างดีไม่สงสัยว่าหายหัวไปนอนตีพุงที่ไหนตั้งสามปี พาฝันเองก็ฝันดับกลางอากาศ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเธอที่มายุ่งกับคนมีเจ้าของ

   ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะเสนอตัวให้ผู้ชายที่มีคนรักอยู่แล้ว

   ผมไม่สงสารพวกเขาเลย!

   “คุณนาวาครับ คุณนาวา”

   พลันผมสะดุ้งตื่นจากฝันหวานถึงความพินาศของตวันและพาฝัน

   “มีอะไรเหรอครับ” ผมเอ่ยกับเลขาฯ ข้างตัว

   “นางแบบทุกคนรอคำสั่งจากคุณอยู่ครับ จะให้ซ้อมเดินอีกรอบมั้ยครับ”

   “อ้อ ครับ ฝากด้วยนะ” ผมลูบแก้มอย่างหน้าม้านเล็กน้อย คิดไปซะไกลทั้งที่งานยังไม่ทันเริ่มเลยนะเรา

   หลังซ้อมเดินแบบเสร็จ ผมเดินตรวจสถานที่อีกเล็กน้อย วิจารณ์เรื่องการตกแต่งภายในห้อง ก่อนจะแปลกใจเมื่อพาฝันยืนรอผมอย่างสงบไม่คิดเร่งเร้าทั้งที่เสียเวลาหลายชั่วโมง

   “มีปัญหาอะไรกับฉันรึไง” ผมถามกึ่งท้า คิดว่าเธอผูกใจเจ็บเรื่องถูกเปลี่ยนแบบเครื่องเพชร

   “ไม่ใช่ค่ะ คือว่า...” พาฝันอึกอัก ดูลำบากใจคล้ายไม่เคยคิดร้ายกับใคร “ตวันบอกว่าคุณเข้าใจผิด ฉันเลยอยากยืนยันว่าระหว่างเราไม่มีอะไรกันจริงๆ นะคะ”

   ผู้ชายก็หน้าหนา ผู้หญิงก็หน้าด้าน!

   ผมเลิกคิ้ว วูบหนึ่งไม่รู้จะพูดอะไรดี เพราะในหัวมีแต่คำด่าจำพวกสิงสาราสัตว์วิ่งวนเต็มไปหมด

   “เสื้อสวยดีนะ” สุดท้ายผมก็เลือกจะชมเชยการแต่งตัวในชุดเดรสสีหวานลายดอกไม้ของเธอแทน

   ชุดเดรสตัวโปรดที่ไม่แคล้วชายคนรักซื้อให้

   พาฝันสะดุ้งเล็กน้อย แต่เธอเก็บอาการได้ดีกว่าตวันเยอะ

   “เรื่องไร้สาระแบบนั้นฉันเลิกคิดมากตั้งนานแล้ว ตอนนี้กำลังสนุกกับงานโชว์มากกว่า คุณเองก็ทำให้เต็มที่ อย่าทำให้ผิดหวังล่ะ”

   “ค่ะ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน”

   พาฝันโล่งอกเมื่อผมทำหน้าเหมือนไม่คิดอะไรแล้วจริงๆ ว่าแต่เขา เราเองก็แสดงเก่งใช่ย่อยแฮะ

   ว่าแต่เมื่อกี้เธอเน้นคำแบบจงใจเกินไปรึเปล่านะ

   ผมโคลงศีรษะ แทบรอให้งานโชว์มาถึงไม่ไหวแล้ว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูข้อความ คนที่ส่งมาคือศศินเจ้าเก่าเจ้าเดิม

   

   ‘อีกสองวันเจอกันในงานนะที่รัก’


   

   ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากจะเชิญหมอนี่นักหรอก ถ้าไม่ติดว่าศศินเป็นไฮโซคนหนึ่งที่มีรสนิยมดี เป็นลูกค้าชั้นยอดของดาราลัยจิวเวลรี่ ถึงผมอยากจะตัดออก แต่ผู้บริหารหลายฝ่ายคงไม่ยอม

   ว่าไปนั่น ถึงจะนึกหมั่นไส้อีกฝ่ายแค่ไหน ผมก็ส่งข้อความตอบกลับ

   

   ‘ฉันจะรอ’

   

   เพราะแม้จะไม่ได้เจอกันอีก แต่รูปถ่ายของตวันและพาฝันยังส่งมาไม่ขาดผ่านทางอีเมลของผมเอง

   เมื่อวันก่อนตวันอ้างว่าไปคุยงานกับลูกค้าทั้งที่จริงแล้วไปหาพาฝันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทั้งคู่คุยกันหน้าคร่ำเคร่ง ไม่เหมือนคู่รักมาดินเนอร์กัน

   แต่เหมือนวางแผนตลบหลังใครบางคน

   นึกถึงการพูดแปลกๆ ของพาฝันเมื่อครู่แล้ว...หรือว่าทั้งสองคนจะเริ่มร้อนตัวอยากกำจัดผมเต็มแก่?

   ตวันยังรักผมอยู่ เขาคงไม่ใช้วิธีโหดร้ายเท่าที่ผมกำลังจะใช้ แต่กับพาฝันนั้น...

   ผมนิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะโทรหาศศิน

   [เชิญสั่งการได้จ้ะที่รัก]

   หมอนี่คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงรอรับคำสั่งจากผมตลอดเวลาเนี่ย

   จะลดตัวเองเกินไปแล้ว

   แต่ผมเองก็ไม่ขัด เพราะชินกับการรุกจีบของศศิน เขาทำแล้วมีความสุขก็ตามสบาย ถือซะว่าวิน-วินกันทั้งคู่

   “ให้คนตามพาฝันหน่อย”

   [แค่นั้นเหรอที่รัก]

   “ถ้าวันงานเธอไม่มา ก็ช่วยลากมาให้ได้แล้วกัน”

   [รับทราบ]

   แม้จะไม่อยากยอมรับ แต่พาฝันเปรียบดั่งสัญลักษณ์ของดาราลัยจิวเวลรี่ คนอื่นยังหาคนแทนได้ แต่พาฝันนั้นแทนไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อแขกหลายคนรอดูเธอในโชว์สุดท้าย หากคิดจะขัดขาผม เธอแค่ไม่มาเดินงานก็ทำให้ชื่อของนาวา ดาราลัยถูกวิจารณ์ยับ!

   เรื่องอะไรจะยอมล่ะ!

   ต่อให้ต้องลากมาก็ต้องทำ!!!

   -----------------------

   วิ่งมาสารภาพผิดค่ะ เรานับตอนผิด!!!

   ศศินออกตอนหน้าต่างหาก ขอโทษที่เตรียมป้ายไฟเก้อกันด้วยนะคะ ขอขายของสักนิด แม้ศศินจะโรคจิต ตามจีบแฟนชาวบ้าน แต่ศศินก็เป็นคนดีคนหนึ่งที่ไม่คิดจะแย่งนาวามาจากตวันเลยนะคะ แค่ขอจีบๆ ให้กระชุ่มกระชวยเฉยๆ! ถ้าตวันไม่ทำผิดก่อน ศศินก็จะเฝ้ามองนาวาอย่างชื่นชมยินดีต่อไปค่ะ...ทำไมยิ่งขยายความ ยิ่งน่าขนลุกกว่าเดิม อืม...เอาเป็นว่า...ตอนหน้าศศินจะมาทำคะแนนค่ะ เปิดใจให้พ่อหนุ่มคนนี้ด้วยนะคะ!

   #นาวาสไตล์

   

ตัวอย่างตอนต่อไป สุดท้ายก็เกิดเรื่องวุ่นในงานจนได้! นาวาจะทำยังไง...หรือว่าจะ...   

      "โชว์ปิดท้าย...ฉันจะเดินเอง!”

   

หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 5 : นับถอยหลังสู่วันงาน [05/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-07-2019 19:24:20
ตื่นเต้นๆ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 5 : นับถอยหลังสู่วันงาน [05/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-07-2019 20:50:53
พาฝัน นังงูพิษ :beat:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 5 : นับถอยหลังสู่วันงาน [05/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 05-07-2019 21:55:29
พวกคนชั่วมันกำลังวางแผนอะไรอ่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 5 : นับถอยหลังสู่วันงาน [05/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 05-07-2019 23:32:01
 :กอด1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 5 : นับถอยหลังสู่วันงาน [05/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 05-07-2019 23:36:10
งูพิษชัดๆเลย,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 5 : นับถอยหลังสู่วันงาน [05/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 05-07-2019 23:59:25
จะสะสาง ผิดสะสม ที่จมลึก
ขุดขึ้นมา ให้สะอึก สำนึกสาย
ให้กระอัก สำลักลิ่ม เลือดวางวาย
ไอ่ผู้ชาย ตะกายดิ้น สิ้นหัวดอ

ตวัน#รอนะเจ้า งานเข้าเมิง
แม่งงงงงเชี่ยยยยยยย

+1 ขอบคุณฮับ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 5 : นับถอยหลังสู่วันงาน [05/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 06-07-2019 00:32:24
รอตอนต่อไปนะคะสนุกมากเลยๆ :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 5 : นับถอยหลังสู่วันงาน [05/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: เปลว แว๊บแว๊บ ที่ 06-07-2019 03:12:48
ตวันกับพาฝันจะตลบหลังนาวาเหรอคะ เอาอะไรมาคิดที่จะทำทั้งๆที่ตัวเองมากันแบบผิดๆค่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 5 : นับถอยหลังสู่วันงาน [05/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 06-07-2019 09:37:03
พาฝันนังงูพิษ แบบนี้ต้องเอาคืนให้หนัก แบบไม่ให้มีอะไรเหลือไม่พอต้องจ่ายคืนเพิ่มมาอีกถึงจะคุ้ม
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 06-07-2019 18:46:47
   
   
ตอนที่ 6

   แฟชั่นโชว์ที่รอคอย

   

   ในที่สุดงานแฟชั่นโชว์ก็มาถึง

   ผมตื่นเช้าโดยไม่ต้องให้ตวันมาปลุก ตื่นเต้นจนยิ้มแฉ่งให้ตวันหลายรอบ ช่วงหลังมานี้ต่างคนต่างคร่ำเคร่งกับงานเพราะต่างปิดบังความลับของตัวเองไว้ ทำให้แทบจะลืมเลือนความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันสมัยวันวาน เมื่อได้ยิ้มได้หัวเราะ ตวันก็จับหอมแก้มหลายครั้งตอนผมหมุนตัวหน้ากระจกเดินวนดุกดิกไม่ยอมหยุด

   “หล่อแล้วครับคนดี”

   ขณะที่ตวันสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและสูทดำเรียบๆ ผมกลับสวมเชิ้ตสีเขียวไล่สีจากอ่อนไปเข้มกับเนกไทลายขวางกลัดเข็มเพชรลายดอกไม้ห้าแฉกคล้ายดวงดาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของดาราลัยจิลเวลรี่ ทับด้วยเสื้อสูทเข้ารูปสีดำสนิทเนื้อดี

   เพราะเป็นธีมมรกต วันนี้เลยสวมต่างหูมรกตเม็ดเล็กๆ ด้วย เมื่อพอใจกับตัวเองแล้วผมก็หันไปมองตวัน ก่อนจะเดินไปหยิบเนกไทสีเขียวเข้มมาเปลี่ยนให้แล้วกลัดเข็มกลัดแบบเดียวกัน

   “ตวันก็หล่อแล้ว”

   ผมยิ้มกว้าง นึกภาพเดินควงแขนตวันเย้ยพาฝันบนเวที

   แต่เขาคงเข้าใจผิด เพราะนานแล้วที่ผมไม่ได้ช่วยเขาแต่งตัวจับชุดเสื้อเข้าคู่สีด้วยกัน แหม ปกติผมตื่นทันเขาไปทำงานที่ไหนล่ะ จากหอมแก้มเลยเป็นจุมพิตหวานๆ อบอุ่นอ่อนโยนสมชื่อตวัน

   ผมนิ่งงัน วินาทีนั้นเหมือนมีน้ำท่วมอยู่ในอก เอ่อล้นอยู่ในใจ

   “ไปกันเถอะ”

   ตวันเป็นฝ่ายจูงมือผมออกจากห้อง คอนโดฯ ชั้นบนสุดที่พวกเราเหมาพักเป็นหนึ่งในเครือของตระกูลดาราลัย นอกจากจะพักฟรี สั่งอาหารฟรี บริการสปาและบาร์ฟรี ยังมีลิฟต์ส่วนตัวรวมถึงลานจอดรถชั้นพิเศษสำหรับซูเปอร์คาร์ด้วย




   

   พวกเราไปถึงงานก่อนเวลาเพื่อดูความเรียบร้อย

   ตวันตรวจรายชื่อแขก ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อของศศิน ส่วนผมนั้นเดินไปหลังเวที นั่งไขว่ห้างท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายของเหล่านางแบบที่กำลังแต่งหน้าทำผมกันอย่างเร่งรีบ

   คนที่กลัวจะไม่มายกมือไหว้ผมเป็นคนแรก

   ผมพอเดาได้ตั้งแต่เห็นคนของศศินยืนรออยู่ด้านนอกแล้ว แม้จะขอความช่วยเหลือ แต่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ตามเข้ามาด้านใน พาฝันวันนี้ดูสดชื่นพร้อมทำงาน เธอสวมชุดราตรีและแต่งหน้าเกือบเสร็จแล้ว ส่วนเครื่องเพชรนั้นถูกจัดเก็บในตู้นิรภัย มีพนักงานรักษาความปลอดภัยคุ้มกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

   “โกโก้ครับวา” ตวันโผล่เข้ามาหลังเวทีพร้อมแก้วกันความร้อน ผมเลยรับมาโดยไม่ต้องกลัวลวกมือ มองควันที่ลอยอ้อยอิ่งราวตัดขาดจากโลกภายนอกความตื่นเต้นก็คล้ายจะสงบลง ผมพยายามจะไม่เหลือบตามองตวันที่เดินเข้าไปหาพาฝัน ชมเชยเธอในชุดราตรีว่าดูดีมาก

   วันนี้เป็นวันดี ผมไม่อยากอารมณ์เสียเลยดื่มด่ำกับโกโก้ที่แม้จะร้อนลวกลิ้นก็ไม่โวยวายอะไร ไม่รู้เพราะในใจมันเจ็บจนชินแล้วรึเปล่าถึงมองพวกเขาสองคนไม่ต่างกับควันลอยเบาบาง ยังดีที่ตวันแค่ทักทายตามประสาก่อนจะเดินกลับมาหาผม ชวนทานข้าวด้วยกัน

   “วามาเร็วจัง ทานข้าวกับพี่นะครับ”

   แต่โดนพี่นทีดักซะก่อน

   ไม่แปลกหากจะเห็นพี่ชายของผมคนนี้ในเมื่อสถานที่จัดงานคือโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่พี่นทีดูแลอยู่ ตวันเห็นสองพี่น้องไม่ได้เจอกันนานเลยเป็นฝ่ายขอตัว เพราะแม้จะซาบซึ้งที่พี่นทีช่วยส่งเสียต่อหลังพ่อแม่ของผมเสีย แต่ท่าทีไม่ชอบใจของพี่ชายก็แสดงออกชัดเจนจนเขาวางตัวลำบาก

   โปรดนึกภาพคนเฉื่อยดอกไม้บานเขม่นมองเป็นระยะ มันน่าอึดอัดจริงๆ นะเออ

   ผมตอบตกลงกับพี่นทีไม่ลังเล เพราะไม่อยากให้อะไรในใจมันกวนให้ขุ่นก่อนงานเริ่ม นี่ก็พยายามระงับอารมณ์เต็มที่แล้วนะเนี่ย ตวันถอยห่างออกไปอย่างรู้มารยาท แม้ตอนอยู่กับผมตวันจะเป็นทั้งเพื่อนและคนรัก แต่พออยู่ต่อหน้าพี่นที ตวันจะเป็นแค่ลูกน้องคนหนึ่งที่จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด

   “ตื่นเต้นมั้ย” พี่นทีพาผมไปห้องอาหารวีไอพีชั้นบนสุดซึ่งเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาชัดเจนท่ามกลางท้องฟ้าเปิดโล่งของกรุงเทพมหานคร “ลุงสมชิดบอกว่าวาออกแบบเครื่องประดับในโชว์ครั้งนี้ด้วย พี่ประหลาดใจมากเลยนะ”

   “ก็พี่ทีคิดว่าวาเป็นเด็กเสมอนี่...ครับ” ผมบ่นอุบอิบ กลัวจะโดนพี่ชายตำหนิที่ทำอะไรโดยพลการ ในสายตาของพี่นทีเห็นผมเป็นเด็กน้อยที่ต้องปกป้องดูแลทะนุถนอม หากมีเรื่องกระทบสักเล็กน้อยก็พร้อมจะแตกสลายในทันที

   ใช่ว่าไม่เข้าใจพี่ชาย ในความคิดเขาเห็นผมเป็นน้องชายแสนอ่อนแอที่โดนลมเป็นไข้ขึ้น วิ่งเล่นเป็นเหนื่อยหอบ หนักเข้าถึงเลือดกำเดาไหลไม่รู้ตัว ร่างกายผมอ่อนแอเพราะคลอดตอนเจ็ดเดือน แต่เมื่อโตขึ้น ได้รับการบำรุงดูแลอย่างดีก็แข็งแรงเหมือนคนปกติ น่าเสียดายที่พี่นทีไม่ทันเห็นเพราะไปเรียนต่อเมืองนอกซะก่อน เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้งก็เป็นวันที่พ่อกับแม่เสียชีวิต ผมในตอนนั้นร้องไห้ใจแทบขาด ดูอ่อนแอน่าสงสารจนพี่นทีเจ็บปวดร้าวรานแล้วนึกโทษตัวเอง

   เขาสัญญาว่าจะดูแลผมแทนพ่อกับแม่ ไม่ยอมให้ผมต้องลำบากจนกลายเป็นการห่วงใยเกินพอดี แถมยังย้ำกับตวันหนักหนาว่าถ้าผมต้องการอะไรให้หามาประเคน

   เงินทองมีเหลือกินเหลือใช้ กลัวก็แต่จะไม่มีคนใช้

   นั่นเป็นอย่างเดียวที่ตวันกับพี่นทีเห็นตรงกัน

   ผมเห็นชอบนะ แต่ขอให้มันพอดีๆ หน่อย ไม่ต้องถึงกับให้นอนทั้งวันทั้งคืน ช็อปปิ้งทั้งคืนทั้งวันก็ได้ ผมเบื่อเป็นเหมือนกัน แต่พี่นทีไม่ยอมให้ผมยุ่งเรื่องโรงแรม จะเข้าบริษัทจิวเวลรี่ก็กลัวตวันโดนมองไม่ดี ให้ไปกินเลี้ยงสังสรรค์ก็ไม่ชอบอีก ผมเลยกลายเป็นคนว่างงานแห่งปีที่ร่ำรวยสุดๆ วันดีคืนดีก็สมัครเรียนคอร์สแฟชั่นหาความรู้เสริมเล่นๆ

   “พี่ทีคิดว่าสวยมั้ยครับ” ผมเปิดรูปถ่ายต่างหูและแหวนที่ออกแบบเองให้ดู

   “น้องชายพี่เก่งอยู่แล้ว แต่จะดีกว่านี้ถ้าไม่ต้องทำอะไรเลย”

   ผมกลอกตา

   คาดหวังอะไรกับพี่ชายที่ปวดหัวจะเป็นจะตายเวลาจัดงานแฟชั่นโชว์เพราะดูไม่ออกว่าอันไหนสวยไม่สวย พี่นทีเก่งด้านบริหาร แต่เซ้นส์เรื่องความสวยความงามเท่ากับศูนย์

   ที่ดาราลัยจิวเวลรี่ยังไม่ล่มจมต้องขอบคุณบรรดานักออกแบบและลุงสมชิดล้วนๆ ที่ประคองมาถึงมือผมและตวันได้อย่างปลอดภัย

   “พี่ไม่อยากให้วาเหนื่อย”

   “แค่ออกไอเดียกับวาดภาพไม่เหนื่อยหรอกครับพี่ที”

   “วาชอบก็ดีแล้ว แต่อย่าฝืนตัวเองมากนะ”

   อยากจะบ้า พี่ทีเห็นผมเป็นตัวอะไร แค่เดินเกินสิบก้าวก็หมดแรงตายอะไรพรรค์นี้เหรอ

   “ถ้าผลลัพธ์ออกมาไม่ดีเท่าที่หวังก็ไม่เป็นไร หรือถ้าทุบสถิติที่ตวันเคยทำไม่ได้ก็อย่าคิดมาก วายังมีพี่ชายคนนี้อยู่เสมอนะ ถ้าอยากได้บริษัทจิวเวลรี่คืน พี่จะบีบตวันให้ขายหุ้นเอง ไม่ต้องลำบากวาต้องลงมือลงแรงขนาดนี้หรอก”

   “พี่ที!” ผมลุกพรวด “พี่จะเชื่อในตัวผมสักครั้งไม่ได้เลยรึไง!!”

   ไม่มีคำตอบจากพี่ชาย ช่วยไม่ได้จริงๆ ในเมื่อสายตาเขาเห็นผมเป็นเด็กน้อยแสนอ่อนแอ และหน้าที่ของเขาในฐานะพี่ชายแสนดีก็คือการปกป้องผมให้รอดพ้นจากภยันตราย

   เพราะอย่างนี้ไงผมถึงไม่อยากจะเล่าเรื่องตวันให้เขาฟัง

   เพราะอย่างนี้ไงผมถึงไม่อยากจะปรึกษาเรื่องงานหรือเสนอตัวอยากช่วยบริหารโรงแรมทั้งที่ว่างแสนว่าง

   ผมรู้คำตอบดีอยู่แล้ว

   โกรธคนแบบนี้ก็เปล่าประโยชน์ แม้จะเป็นการทำร้ายผมทางอ้อม แต่พี่นทีก็หวังดีกับผมจริงๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมาอะไรยอมได้ผมก็ยอมตลอด เพราะอยากให้คนที่รักซึ่งเหลือเพียงสองคนบนโลกนี้สบายใจ ถึงผมจะขี้เกียจ แต่ผมเองก็มีสิ่งที่อยากทำและมีความฝันเหมือนกัน แต่พวกเขาไม่แม้แต่จะถาม ไม่เคยคิดจะเข้าใจผมบ้างเลย...

   ตอนพี่นทีเรียกให้มากินข้าวด้วยกัน เกริ่นเรื่องผมออกแบบเครื่องประดับ ไอ้เรารึก็หลงดีใจแทบแย่ แต่พูดกับคนที่เห็นเครื่องเพชรเป็นแค่สินค้า แยกแยะความแตกต่างไม่ออก มองเห็นแต่เรื่องราคาและกำไร

   ผมก็คร้านจะอธิบาย

   เพราะพี่นทีมีจุดยืนของตัวเอง

   และพื้นที่ตรงนั้น...ไม่มีผมร่วมด้วย

   




   หลังมื้ออาหารกับพี่ชายที่ค่อนไปทางล้มเหลว ผมรีบกลับเข้างานจดจ่อกับนั่งดูนางแบบซ้อมเดินจนแทบจะลืมไปแล้วว่าจุดประสงค์คือต้องการเปิดตัวเพื่อล้างแค้นตวันกับพาฝัน ผมอยากพิสูจน์ตัวเองให้พี่ชายได้เห็นว่าเด็กน้อยคนนั้นที่เขาอยากปกป้องทะนุถนอมไว้ในกรงทองก็มีความคิดและจุดยืนของตัวเองเหมือนกัน

   ตวันโดนความจริงจังของผมกระแทกตาจนไม่กล้าชวนคุย

   หลังตรวจสอบรายละเอียดและนัดแนะกับทีมงาน ไม่นานแขกผู้มีเกียรติก็เริ่มมาเยือน ตวันยืนต้อนรับโดยมีผมยืนยิ้มอยู่ข้างๆ หลายคนไม่รู้จักว่าผมคือใคร พอบอกว่าชื่อนาวา ดาราลัยก็เพียงพยักหน้าแต่ไม่ได้ฉุกใจเป็นพิเศษ เพราะตลอดสามปีมานี้แม้จะมาร่วมงานตลอดแต่ผมก็เก็บตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร แบบว่ามาให้กำลังใจแฟนน่ะครับ ไม่ได้มาสวมหน้ากากเข้าสังคม

   ส่วนนักข่าวแม้จะสงสัยแต่ก็ยังไม่มีโอกาสสัมภาษณ์ เพราะจะเปิดให้สอบถามหลังแฟชั่นโชว์เสร็จแล้ว

   “วาเมื่อยมั้ยครับ ไปนั่งพักก่อนได้นะ”

   “ไม่เป็นไร” ผมส่ายหน้าให้ตวัน ก่อนจะถึงบางอ้อว่าทำไมจู่ๆ ตวันถึงอยากให้พักเมื่อหันไปเห็นศศินเดินมากับบอดี้การ์ดสองคน

   เพราะเป็นเจ้าพ่อเงินกู้ มีคนผูกใจเจ็บเยอะ ข้างตัวศศินจึงมักมีบอดี้การ์ดประกบติดเสมอผิดกับไฮโซคนอื่นๆ สร้างอำนาจบารมีแบบแปลกๆ ให้หลายคนพากันมองแล้วกระซิบกระซาบทั้งในแง่บวกและแง่ลบ ศศินแย้มยิ้มวายร้าย เมินตวันแล้วทักทายผมแบบจงใจซะยิ่งกว่าจงใจ

   “วันนี้ที่รักดูดีจัง”

   ยังดีที่ศศินเอ่ยเสียงเบาเพราะไม่อยากให้เป็นประเด็น

   “ขอบใจ” ผมตอบเป็นมารยาท ศศินเองก็ไม่ได้เซ้าซี้ เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นในงานสังคม หมอนี่จะไม่จีบโจ่งแจ้งให้ผมอับอาย เพราะเขาไม่อยากโดนเกลียดขี้หน้ามากกว่าที่เป็นอยู่

   “มองอะไร หึงเหรอ” ลับหลังศศิน ผมก็แกล้งแซวตวัน

   “หึงสิครับ”

   ถ้าเป็นปกติผมคงยิ้มหวานหยดย้อยมองตวันอย่างรักแสนรักแล้ว คนอย่างนาวามักทำตามใจตัวเองก่อนเสมอ แขกเหรื่อรอสักนิดได้แต่คนข้างกายสบายใจย่อมยินดีมากกว่า แต่ตอนนี้ผมแสร้งทำเป็นยุ่งสุดขีด เพราะนอกจากไฮโซแล้วยังมีดาราชื่อดังระดับต้นๆ ของประเทศได้รับเชิญด้วย

   ดารามักมาคู่กับข่าวฉาว นักข่าวเลยรุมล้อมยกใหญ่ ในฐานะเจ้าของงานผมย่อมช่วยดูแลอย่างดี

   เมื่อเริ่มเข้าที่เข้าทาง ผมก็เดินไปหลังเวที นึกภาพว่าจะต้องพร้อมโชว์แล้ว แต่คาดไม่ถึง...

   ภาพที่ปรากฏตรงหน้ากลับพาฝันหน้าซีดคล้ายจะเป็นลม ชุดราตรีเปื้อนคราบด่างดวงเหมือนกับว่าเธอเพิ่งอาเจียนออกมา

   “เกิดอะไรขึ้น” ผมเดินไปถามผู้จัดการของพาฝันที่เมื่อสองชั่วโมงก่อนยังซ้อมเดินได้อยู่เลย

   “น่าจะอาหารเป็นพิษค่ะคุณนาวา”

   “อาหารเป็นพิษ?” ผมถามเสียงสูง คนเราจู่ๆ จะอาหารเป็นพิษทันดีทันใดได้ยังไง แต่พอมองพาฝันที่นั่งหมดแรง ผมก็ให้คนไปเรียกทีมพยาบาลซึ่งจัดเตรียมไว้เผื่อฉุกเฉินให้ตรวจอาการ ซึ่งยืนยันว่าเธอไม่ได้แสร้งทำ

   ผมอยากจะหัวเราะดังๆ ให้ลั่นไปทั้งโลก เชื่อก็ควายแล้วมั้ย! ถึงผมจะถูกสวมเขาแต่ยังไม่มีเขางอกนะ!

   “วา เกิดอะไรขึ้น” มีคนไปตามตวันมาพอดี

   “ตวันคะ ฝันปวดท้อง” คนนั่งหน้าซีดเหมือนจะหมดสติทุกเมื่อเอ่ยเรียกแฟนชาวบ้านอย่างกับว่าถ้าตวันมาดูจะหายอย่างนั้นล่ะ ผมดึงแขนคนของตัวเอง ดูจากสีหน้าตกใจคาดว่าตวันก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าชู้รักจะล่มงาน เก่งจริงๆ พาฝัน ป่วยก่อนโชว์จะเริ่มไม่ถึงสิบนาที หาคนแทนไม่ทันแน่นอนแล้ว

   “เหมือนจะแพ้อาหารมากกว่าอาหารเป็นพิษนะครับคุณนาวา”

   ผมฟังคำวินัจฉัยของหมอแล้วมองพาฝันอีกครั้งพลางเหยียดยิ้มชื่นชมในความทุ่มเท

   ใจเด็ดจริงๆ

   แม้ไม่อยากจะเดินแบบให้ผม แต่พาฝันก็จำต้องมางานเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา จึงลงทุนขนาดแอบไปกินอาหารที่ตัวเองแพ้ก่อนเริ่มงานเพื่อให้ออกอาการว่าป่วยหนักจนขึ้นเดินแบบไม่ได้

   เธอทั้งหน้าซีด ทั้งอาเจียน แถมยังมีผื่นขึ้นตามตัว ใครจะใจยักษ์ใจมารลากขึ้นเวทีลงคอ

   แถมยังหวังคะแนนสงสารจากตวัน อยากให้คนรักของผมช่วยประคองไปโรงพยาบาลเต็มแก่

   น่าเสียดายนะพาฝัน

   “วา...” ตวันกุมมือผม แม้จะซื่อแต่เขาไม่ได้เซ่อ ทำไมจะมองไม่ออกว่าเป็นแผนเรียกร้องความสนใจของชู้รัก ในเมื่อทุกอย่างช่างประจวบเหมาะเกินไป “วาไม่ต้องขึ้นไปหรอก ผมจะรับผิดชอบเอง”

   พาฝันตะลึง แค่นี้ก็รู้แล้วว่าถ้าให้เลือกขึ้นมาจริงๆ ตวันจะเลือกใคร

   แม้นอกใจแต่ก็ไม่อยากทำให้เสียใจ

   แต่ตวัน...นายรู้มั้ยว่าที่นายทำมันยิ่งกว่าเสียใจซะอีก

   ผมมองหน้าเขา สบแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด อยากจะถามออกไปเหลือเกินว่ารักของเรามันมีปัญหาตรงไหนกันแน่ ถ้าต้องการอะไรทำไมไม่พูดออกมา ทำไมต้องไปหาหญิงอื่น ทำไม ทำไม...

   ทั้งที่รักกันขนาดนี้แท้ๆ แล้วทำไมถึงทำ!

   แต่พูดไปก็เท่านั้น เพราะตวันนอกใจผมไปแล้ว หาสาเหตุให้ตายยังไงความจริงข้อนี้ก็ไม่เปลี่ยน

   ผมแกะมือตวันออก ความรักของเขาหนุนผมเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน

   แต่เป็นการหนุนให้ผมยิ่งอยากสลัดห่างจากเขา ยิ่งอยากทำให้แผนสำเร็จเพื่อจะได้ส่งพวกเขาทั้งคู่ไปให้ไกล เพราะปัญหารักสามเส้าบ้าๆ บอๆ นี้กำลังทำให้งานที่แม่ผมฟูมฟักทุ่มเทมาตลอดต้องพัง! ผมให้อภัยไม่ได้ และยิ่งไม่ให้อภัยตัวเองถ้าเลือกจะหลบหลีกใต้ปีกของตวันและพี่นที

   “วา...”

   “พาเธอไปโรงพยาบาลเถอะ”

   “ทำไมต้องเป็นผม ให้ผู้จัดการพาเธอไปก็ได้”

   “งั้นก็จัดการแล้วกัน ส่วนเรื่องโชว์ปิดท้าย...” ผมไม่มองหน้าตวัน และไม่แม้แต่จะมองพาฝัน “ฉันจะเดินเอง”

   พาฝันคือสัญลักษณ์ของดาราลัยจิวเวลรี่?

   ผิดแล้ว นาวาต่างหากที่เป็นสัญลักษณ์ของดาราลัยจิวเวลรี่!!

   




   ศศินมองแฟชั่นโชว์ตรงหน้าอย่างไร้อารมณ์

   เขาไม่มีความสนใจในเครื่องประดับโดยสิ้นเชิง ทั้งที่เป็นอย่างนั้นกลับเป็นลูกค้าดีเด่นที่มียอดสั่งซื้อสูงติดอันดับหนึ่งในห้าทุกปี

   ทั้งหมดเพื่อให้ได้รับบัตรเชิญ เพราะเป็นงานเดียวที่นาวา ดาราลัยจะยอมปรากฏตัว

   นางแบบคนแล้วคนเล่าเดินผ่าน อวดเรือนร่างงดงามเข้าคู่กับเครื่องเพชรเฉิดฉาย ไม่เพียงพวกเธอ แต่ทั้งดารา เซเลบริตี้ซึ่งได้รับเชิญล้วนไม่อยู่ในสายตาของเขา เฉพาะยามที่ไม่มีนาวาอยู่ตรงหน้าเท่านั้น ชายหนุ่มจึงจะเผยใบหน้าเรียบเฉยไม่มีแม้แต่รอยยิ้มสมชื่อ ‘ศศิน’

   ดวงจันทร์ลอยเด่นกลางฟากฟ้ายามราตรี เย็นชาและเยียบเย็น

   ศศินมีใบหน้าหล่อเหลาแบบวายร้าย ยามนิ่งสงบแลกดดันน่ากลัวบรรยากาศคุกคาม คล้ายไม่สนโลก มองทุกสิ่งไปต่างจากภาพดำไร้สีสัน ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ไม่ว่าจะงดงามหรือขี้เหร่ ทุกอย่างล้วนเท่าเทียมและไร้ความหมาย เพราะอย่างนี้จึงเลือดเย็น เป็นที่น่าเกรงขามของลูกน้อง ขณะเดียวกันก็เป็นคนอันตรายที่แม้จะเป็นที่หมายปองกลับไม่มีใครกล้าตอแย

   ใครจะอยากมีคนรักที่มองตัวเองคล้ายเห็นก้อนเนื้อเดินได้ ขนาดเป็นมนุษย์ยังเป็นไม่ได้เลย!

   สำหรับศศิน ต่อให้นางงามระดับโลกมายืนตรงหน้า ชายหนุ่มก็แค่มองนิ่งๆ แล้วถอนหายใจอย่างคิดถึงที่รักจังเลยหนา

   นั่นสิ คิดถึงจะแย่แล้ว เมื่อไหร่จะออกมาสักที

   เห็นสีหน้าของเจ้านายจากขรึมเป็นอมยิ้ม ลูกน้องที่ชินชาก็เริ่มรู้กันในใจว่าศศินไม่พ้นคิดถึงชายหนุ่มผิวขาวจอมโวยวาย เห็นหน้าทีไรเป็นต้องขับไล่อย่างรำคาญ แม้จะไม่เข้าใจว่าไปชอบใจเอาตรงส่วนไหน แต่ใครเลยจะกล้าท้าทายรสนิยมของคนคนนี้ เพราะมีเพียงนาวา ดาราลัยเท่านั้นที่ทำให้ศศินแสดงความรู้สึกออกมา

   มีเพียงคนคนนี้เท่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกการ ‘มีชีวิต’

   ศศินรักนาวายิ่งกว่ารักตัวเองซะอีก เพราะอย่างนี้ถึงได้เชื่อหมดใจ...ว่าคงไม่มีใครในโลกรักนาวาเท่าที่เขารักอีกแล้ว

   แต่ความรักของศศินนั้นเป็นไปอย่างหวังน้อยจนเหล่าลูกน้องยังไม่เข้าใจในเจตนา แม้จะเทียวหยอดเทียวจีบทีเล่นทีจริง แต่นั่นเป็นเพียงการเย้าแหย่เพื่อให้นาวาไม่ลืมก็เท่านั้นว่ายังมีคนที่รักนาวาอย่างมากพร้อมเป็นกำลังสำคัญ เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสมหวัง เพราะนาวามีเจ้าของแล้ว และต่อให้ทั้งสองคนเลิกกัน ศศินก็ไม่คิดว่าตัวเองจะสมรักอยู่ดี

   สาเหตุเพียงข้อเดียวที่ศศินให้คนตามตวันคือหมอนั่นหน้าซื่อใจคด แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเลี้ยงไม่เชื่อง ศศินให้คนจับตามองมาตลอดเพราะอยากจะเปิดโปงความจริงของผู้ชายคนนี้ นาวาจะได้เลิกหลงผิดเก็บตัวเองเพื่อสนับสนุนคนรักลับหลังจนไม่เป็นตัวเองสักที

   เขามองคนขาดเสมอ เพราะเติบโตมาในโลกบิดเบี้ยวท่ามกลางอบายมุขทุกรูปแบบจึงมองทุกอย่างเป็นสีเทา ไม่มีหรอกเด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ หรือสวย หล่อ น่ารัก เขาดูไปถึงแก่นแท้สันดาน จึงไม่แปลกหากจะเย็นชาเหลือเกินเวลาปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ค่อนไปทางเบื่อหน่าย ชินชากับความสกปรกของโลกใบนี้

   ศศินเริ่มอ้าปากหาวท่ามกลางความตื่นตาของโชว์เบื้องหน้า นึกในใจให้อดทนไว้ เขาไม่ได้เจอที่รักตั้งหลายเดือนนับจากนัดเจอกันที่ไนต์คลับ เมื่อก่อนยังมองผ่านรูปถ่ายบ้าง แต่พอที่รักสั่งว่าห้ามให้คนตามอีกก็เชื่อฟังอย่างดี นี่เป็นมุมน่ารักของศศิน ขอแค่นาวาเอ่ยปาก เขายินดีทำให้ แม้จะทำเอาใจแทบขาดรอนๆ ก็ตาม

   และแล้วก็มาถึงโชว์สุดท้าย

   หลายคนคาดหวังกับพาฝัน นางแบบสาวซึ่งโด่งดังในข้ามคืนกับแฟชั่นโชว์เมื่อปีก่อน ผิดกับศศินที่ง่วงจนตาปรือ ก่อนจะแทบตาถลนเมื่อเห็นร่างของคนในฝันก้าวฉับๆ อย่างมาดมั่นบนเวที

   “นายครับ...นั่น...”

   “เงียบ”

   ไม่แค่ศศินที่ช็อกค้าง ผู้มาร่วมงานแทบทุกคนพากันชะงัก เพราะหายากมากที่จะมีนายแบบเดินในงานแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรซึ่งเป็นเครื่องประดับสำหรับสตรี

   แต่ร่างบนเวทีกำลังเปลี่ยนความคิดทุกคน

   รวมถึงตัวศศินเอง

   นาวาสวมสูทดำตัวเดิมที่ยืนต้อนรับแขกเหรื่อ แต่ไม่มีเสื้อตัวใน เนกไทแทนที่ด้วยโชกเกอร์ร้อยมรกตไล่เฉดจากอ่อนไปเข้มยิ่งขับเน้นให้ผิวขาวเนียนละเอียดแทบจะเปล่งแสง ทั้งที่เปิดเปลือยแผ่นอกวับๆ แวมๆ แต่กลับดูสูงสง่าไม่ส่อแววอนาจารสักนิด

   นาวาเชิดหน้าเดินอย่างมั่นใจ ฝีเท้ายามก้าวเดินเป็นจังหวะเคล้าคลอกับเพลงบรรเลง ทำให้จี้มรกตซึ่งมีเกลียวเพชรโอบล้อมนั้นแกว่งไกว สวยงามและแข็งแกร่งในคราวเดียวกัน เส้นผมสีดำเปิดเสยแสกข้างปิดใบหูขวา ไม่น่าเชื่อว่าเครื่องประดับผู้หญิงกลับโดดเด่นจับตาบนเครื่องหน้าของผู้ชาย

   ไม่ขัดตาหรือแปลกแยกสักนิดเดียว

   เมื่อเดินมาถึงปลายเวที นาวาก็ยกมือขึ้น เผยให้เห็นแหวนมรกตทรงเหลี่ยมเม็ดเขื่องล้อแสงไฟจนเป็นประกายหลากหลายเฉดสีตระการตา สมชื่อโชว์ Eternal Emerald นาวาปรายตามองตามมือที่วาดขึ้นเผยอวดโฉมแหวนบนนิ้วนางข้างขวา ท่าทางนั้นทำให้ทุกคนแทบลืมหายใจ ดวงตาเรียวชี้ซึ่งใครต่อใครมักคิดว่าดุเกินกลายเป็นมนตร์สะกดชั้นดี ไม่ว่านาวาจะมองไปจุดไหน ทุกคนล้วนมองตาม ต้องมนตร์เสน่ห์ของอัญมณีและนายแบบเข้าอย่างจัง

   พลันแสงแฟลชสว่างจ้า นักข่าวแทบลืมหายใจกับภาพเบื้องหน้าซึ่งฉีกกฎวงการแฟชั่นโชว์เครื่องเพชร

   ผลตอบรับที่เรียกสีหน้าตะลึงค้างราวตกอยู่ในภวังค์ ทั้งลุ่มหลงและชื่นชม เรียกให้นาวาขยับยิ้มทรงเสน่ห์ ชายหนุ่มเอียงศีรษะเล็กน้อย ทำให้จี้มรกตตรงต่างหูนั้นแนบกับลำคอขาวที่มีส่วนโค้งงดงามไม่ต่างจากคอหงส์ ก่อนจะสะบัดมือวาดออกเป็นครึ่งวงกลม หันหลังเดินกลับราวเวทีนี้เป็นที่ของเขา

   เพราะเป็นโชว์ปิดงานจึงมีหลายช่วงให้นาวาหยุดยืนสบตากับผู้ร่วมงานทั้งหลาย ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำเข้ารูปที่พรีเซนต์เครื่องเพชรอย่างเป็นธรรมชาติ นำพาให้ทุกคนในงานลืมเลือนพาฝัน

   คำถามที่ควรจะเป็น ‘พาฝันหายไปไหน’ กลายเป็น ‘ชายหนุ่มตรงหน้าคือใคร’

   แม้พาฝันจะเดินได้ดี แต่เธอคือนางแบบที่พยายามเสนอสินค้า กลับกัน นาวาไม่ใช่นายแบบ แต่เขาคือเจ้าของสินค้า ความมั่นใจที่แสดงออกจึงแตกต่าง หากพาฝันเชิญชวนให้ทุกคนอยากซื้อ นาวาก็ทำราวกับว่าเขาคุ้นเคยกับเครื่องประดับหรูเป็นอย่างดี ให้ทุกคนชื่นชม อยากได้อยากมี อยากสวมแล้วมีความมาดมั่นแบบเขา ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็สามารถสวมใส่เครื่องเพชรของดาราลัยจิวเวลรี่ได้

   ลับหลังเงาร่างที่เดินกลับเข้าไปหลังเวที ศศินเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นปรบมือ เมื่อครู่เขาคล้ายต้องมนตร์สะกด แทบละสายตาจากนาวาไม่ได้ และเชื่อว่าใครหลายคนในที่นี้ก็ไม่ต่างกัน หลักฐานคือเสียงปรบมือที่ค่อยๆ ดังกึกก้อง

   นี่สิคือนาวาที่เขารัก นาวา ดาราลัยผู้มีความเป็นตัวเองอย่างไม่มีใครเทียบเทียม น่าเสียดายที่จะต้องเก็บตัวเพียงเพื่อหนุนหลังผู้ชายห่วยๆ เทียบกับตวันที่พอใจกับนาวาที่ไม่ยุ่งเรื่องงานในบริษัท เทียบกับการปกป้องของนทีที่ไม่เชื่อว่านาวาจะทำอะไรเป็น ศศินคงเป็นคนเดียวที่เชื่อมั่นในตัวนาวา

   เขารู้แต่แรกว่านาวาจะทำได้และทำดี ท่ามกลางเสียงคัดค้านเขาคือคนเดียวที่พร้อมสนับสนุนให้นาวาเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่อยู่กับที่หรือเดินถอยหลัง

   นาวาทำให้เขาประทับใจเสมอ

   ครั้งนี้ก็ใช่

   ...ครั้งแรกที่พบกันก็ด้วย


   --------------------

   ตอนนี้เป็นตอนที่เราชอบมากๆ ค่ะ เพราะเผยให้เห็นความในใจของตาหนูนาวาว่าแม้จะชอบนอนขี้เกียจ และพี่ชายสนับสนุนให้ทำ แต่จริงๆ แล้วน้องก็อยากจะทำอะไรบางอย่าง แม้ใช้ชีวิตไปวันๆอย่างสุขกายสบายใจ แต่จริงๆ แล้วน้องก็สละความฝันเพื่อผลักดันคนรัก ต้องเสียสละและทนกับความคิดของคนใกล้ตัวที่ไม่คิดจะเข้าใจตัวเองเลย

   แต่มีคนหนึ่งที่ไม่ใช่

   คนที่มองข้ามตลอดอย่างศศิน กลับเป็นคนที่เข้าใจคนนั้น

   เป็นความโรแมนติกที่น่ารักมั้ยคะ แต่แรกพบกันนั้นเป็นยังไงบอกเลยว่านาวาจำไม่ได้! 55555 จริงๆ แล้วศศินมีนิสัยเหมือนพระรองอยู่นะคะ คืออยากเห็นคนรักมีความสุข ถ้ารักกับตวันแล้วดีก็จะไม่ขอยุ่ง แต่ก็มีความตัวร้ายนิดๆ คือเธอสุขกับเขาก็ดีไป แต่ขอฉันแวะเวียนมาหาความสุขใจของตัวเองบ้าง นั่นคือการหยอกนาวาให้โวยวายใส่ค่ะ กร๊ากกก

   #นาวาสไตล์
   ตัวอย่างตอนต่อไป วาไปทำร้ายพี่นทีทำไมลูกกก   

   “จะว่าไปตอนเด็กๆ วาเคยจับพี่ติดเข็มกลัดคอลเล็กชั่นใหม่ของแม่ไล่เฉดเป็นสีรุ้งด้วยนะ”

   

เพจ : มาจะกล่าวบทไป
Twitter : MajaYnaja
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 06-07-2019 19:16:29
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-07-2019 19:26:41
 o13
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 06-07-2019 20:04:43
ชอบจัง ทั้งนาวาทั้งศศินเลย
พาฝันตัดอนาคตตัวเองแท้ๆ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-07-2019 20:13:36
นาวา สุดยอดดดดด  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พาฝัน นางคงคิดว่าขาดนาง งานต้องล่ม กร๊ากกกกกก  :m20: :laugh: :pigha2:
ลงนรกไปซะ คู่ผัวเมียปลิ้นปล้อน  :fire: :angry2: :z6:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 06-07-2019 20:24:08
ดีงามมม :katai2-1: :impress2:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 06-07-2019 21:49:05
วาสุดยอดมาเลยลูก แบบนี้พาฝันคงนึกเสียใจแล้วก็เสียดายโอกาสของตัวเองที่ไม่น่าทำตัวเองเจ็บแล้วไม่มีคนสนใจหรือถูกลืมไปเลยแบบนี้ บอกได้แค่ว่าสมน้ำหน้าค่ะ ทำตัวเองแท้ ๆ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 06-07-2019 23:26:38
ชอบความแซ่บบบ รักก
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 06-07-2019 23:35:02
ชอบตอนนี้มากเลยรู้สึกสะใจแทนนาวาที่คนในงานมีผลตอบรับดีมากๆๆ พาฝันดับแน่กล้ามากที่คิดจะล่มงานของนาวา ขนาดงานนี้คืองานที่สร้างชื่อให้ตัวเองแท้ เนรคุณ :beat: ส่วนศศินกับคนอื่นน่ากลัวแต่กับนาวาคือกวนสุด รักสุด เชื่อมั่นในตัวนาวาสุด รอวันที่นาวาเลิกรำคาญศศินแล้วเปลี่ยนมารัก
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 06-07-2019 23:56:02
รีบๆจัดการสองคนที่คิดจะตลบหลังสักที
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 07-07-2019 00:52:46
เป็นเม็ดกรวด อวดคน ก่นเพชรแท้
แค่เนื้อแร่ ราคาถูก ไร้สุกใส
เป็นพลอยหุง ไม่สูงค่า กว่าแร่ใด
แค่ผู้ชาย ใจหมา หาขี้กิน

ตวัน#หมดเวลาระเริงสุขแล้ว
กาดอกุด

ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: lcortsess ที่ 07-07-2019 01:06:18
มารอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: lcortsess ที่ 07-07-2019 02:15:48
เป็นเม็ดกรวด อวดคน ก่นเพชรแท้
แค่เนื้อแร่ ราคาถูก ไร้สุกใส
เป็นพลอยหุง ไม่สูงค่า กว่าแร่ใด
แค่ผู้ชาย ใจหมา หาขี้กิน

ตวัน#หมดเวลาระเริงสุขแล้ว
กาดอกุด

ฮ่าฮ่า

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaWikit ที่ 07-07-2019 09:55:45
โธ่เอ๊ย พาฝัน คิดว่าตัวเองจะได้สะใจ กลับคิดได้แค่ทำให้งานใหญ่ระดับนี้ พัง เพราะต้องพึ่งตัวเอง
โลกหมุนรอบตัวเอง จริงจริง

จบตอนได้อย่างงดงามตามแบบ #นาวาสไตล์

ศศิน นายจะเป็นได้แค่พระรอง จริงเหรอ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 07-07-2019 10:38:29
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 07-07-2019 12:30:01
นาวาคือเริ่ดมาก นี้สิเจ้าของตัวจริง  :katai2-1: ชอบศศินมากความฟังนาวาทุกอย่างรู้เลยนะคะว่าเป็นพ่อบ้านกลัวเมีย555 นางพาฝันดับไปซ่ะ ทั้งพาฝันทั้งตวันคือเนรคุณสุดๆเลยแต่ก็ทำตัวเองแท้ๆ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 6 : แฟชั่นโชว์ที่รอคอย [06/07/62] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: AidinEiEi ที่ 07-07-2019 15:17:04
คำเดียว "ว้าว"
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 07-07-2019 18:47:36


   ตอนที่ 7

   พลิกตลบในข้ามคืน

   

   “ตวัน”

   เมื่อเดินไปหลังเวที ผมยื่นมือหาตวันซึ่งมองมาตะลึงค้าง

   อย่าว่าแต่เขาเลย บรรดานางแบบรวมถึงทีมงานเบื้องหลังพากันมองผมด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป น่าเสียดายที่พาฝันถูกพาไปโรงพยาบาลแล้ว ไม่งั้นผมคงได้เห็นภาพนางแบบสาวมองอย่างอิจฉาริษยา เพราะนับแต่นี้เป็นต้นไป สัญลักษณ์ของดาราลัยจิวเวลรี่จะไม่ใช่พาฝัน แต่คือนาวา!!

   ผมปฏิญาณไว้ในใจก่อนขึ้นโชว์ และก็ทำได้จริง

   นึกแล้วก็อดหัวเราะเบาๆ ออกมาไม่ได้ เมื่อครู่ตอนอยู่ท่ามกลางแสงไฟ ความรู้สึกจุกในอกคล้ายจะคลายออก ผมลืมเลือนทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความตื่นเต้นลนลานกับงานเปิดตัวครั้งแรก ความเคารพนับถือแกมประชดประชันกับการกระทำของพาฝัน หรือกระทั่งความผิดหวังเสียใจกับคนรักของตัวเอง

   ผมทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง เมื่อสวมใส่เครื่องเพชรที่ออกแบบเองก็ก้าวเดินอย่างมั่นใจ ผมชอบสวมใส่เครื่องประดับอยู่แล้ว แม้จะไม่เคยสวมต่างหูที่ทิ้งตัวยาวเป็นจี้กับรูปทรงโค้งมนแบบสตรีลงมาแบบนี้ก็ตาม แต่ไม่ยักหวาดหวั่นสักนิด ตอนนั้นผมคิดเพียงอย่างเดียว...คือผมเป็นอิสระแล้ว

   เป็นอิสระจากความรักความผูกพันที่พันธนาการมาหลายปี

   เป็นอิสระจากการปกป้องดั่งไข่ในหินของพี่ชาย

   ผมทำเพื่อคนอื่นมากไป ใจดีเกินไป เพื่อคนที่รัก ผมพร้อมจะเสียสละตัวเองอยู่ในมุมที่ปลอดภัยที่สุด ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายที่สุดเพื่อให้พวกเขาวางใจจนเวลาที่ผ่านไปแต่ละวันนั้นไร้ค่าไร้ความหมาย

   แต่นับแต่นี้ไป...ผมจะใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง!

   ความรู้สึกนั้นส่งผ่านการเดินให้ยิ่งเฉิดฉาย เครื่องประดับที่สวมใส่ก็คล้ายส่งเสริมให้ผมเป็นตัวเองโดยไม่ต้องกังวลถึงความคิดของใคร จนตอนนี้ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผลตอบรับเป็นอย่างไร เพราะผมแทบไม่สนใจกับปฏิกิริยาของผู้ชม ไม่ว่าจะออกมาดีหรือแย่ผมก็พร้อมน้อมรับโดยไม่เสียใจ

   “ตวัน” ผมเรียกชื่ออดีตคนรักอีกครั้ง ตลอดเวลาที่ผ่านมาแม้จะบอกกับตัวเองว่าอยากสลัดเขาทิ้งแค่ไหน แต่ก็ยังรักและนึกตัดพ้อเสมอ ถึงขนาดสงสัยตัวเองว่าทำอะไรผิดไป ลาก่อน ไม่มีอีกแล้วนาวาคนนั้น ผมมองเขาเป็นคนรู้จักคนหนึ่ง ไม่มีทั้งความรักและเจ็บปวด ตัดความรู้สึกพรรค์นั้นออกไปโดยสิ้นเชิง

   หลงงมงายตั้งนาน ช่างไร้สาระจริงๆ!

   ขณะที่ผมปลงตกถึงขั้นตกสะเก็ดแถมยังเตะสะเก็ดนั้นให้กระเด็นไกลยันนอกโลก ตวันกลับจับมือผมคล้ายหลงละเมอ สายตายามทอดมองมานั้นแฝงประกายบางอย่างคล้ายวันที่เขาสารภาพรักเมื่อเจ็ดปีก่อน

   ผมเลิกคิ้ว ก่อนจะคลี่ยิ้มเย็น จูงมือตวันออกไปหน้าเวทีพร้อมนางแบบอีกหกคนซึ่งประกบด้านละสาม พวกเราโค้งขอบคุณแขกผู้มีเกียรติที่ปรบมือชื่นชมเกรียวกราว และนั่นทำให้ผมเพิ่งตระหนักได้ว่าทำสำเร็จแล้ว

   ผมมองพี่นทีซึ่งนั่งตรงโซนวีไอพีด้านหน้าสุดเป็นคนแรก พี่ชายผู้เอื่อยเฉื่อยของผมยังนั่งช็อกอยู่เลย ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะตั้งสติและลุกขึ้นปรบมือเหมือนคนอื่นๆ ด้วยสีหน้าเหมือนโดนหมัดน็อคเข้าอย่างจัง

   ผมยิ่งฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะสะดุดสายตากับศศินซึ่งนั่งถัดจากอีกนทีไปสองที่นั่ง

   ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าวายร้ายกำลังมองผมอย่างเชิดชูและภาคภูมิ

   วินาทีนั้นในใจลึกๆ ลอบสั่นไหว เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ผมอยากให้คนที่รักทั้งสองคนมองเห็นมาตลอด ซึ่งทั้งตวันและพี่นทีไม่แม้แต่จะมอบให้ แต่กับคนที่ไม่แม้แต่จะให้ความสำคัญ กลับเห็นค่าของผมยิ่งกว่าใคร

   เพราะตั้งแต่แรกพบจนถึงตอนนี้ ตลอดเวลาเจ็ดปีศศินมองผมอย่างนี้เสมอไม่เคยเปลี่ยน

   ทุกครั้งผมพยายามหลีกหนี ถอยห่าง ไม่อยากให้ตวันหึงหวงจึงแสร้งไม่สนใจ

   แต่ตอนนี้ผมพยักหน้าช้าๆ เป็นเชิงขอบคุณ แม้ไม่อาจตอบรับความรัก แต่ผมขอบคุณในความจริงใจที่เขามีให้

   ศศินเผยความประหลาดใจวูบหนึ่ง ก่อนจะหลุดยิ้มบางออกมา ยิ้มนั้นไม่ยักยียวนเหมือนเดิม เพราะเป็นยิ้มที่มาจากใจไม่ใช่การกวนประสาทให้ผมอาละวาดโวยวาย เพราะนั่นเป็นทางเดียวที่เขาจะทำให้ผมยอมโต้ตอบด้วย

   คล้ายเพิ่งรู้ตัวว่าผมยังมองอยู่อย่างรอคอยคำตอบ ศศินจึงพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงไม่เป็นไร

   พลันตวันกำมือผมแน่นขึ้นจนเรียกสติให้จดจ่อกับเวทีอีกครั้ง ผมรับช่อดอกไม้จากนางแบบ ความจริงแล้วคนที่ควรทำหน้าที่นี้คือพาฝัน แต่ในเมื่อเธอไม่อยู่ นางแบบซึ่งเดินเป็นคนแรกจึงส่งให้แทน

   ผมเดินไปกลางเวทีเพื่อให้นักข่าวเก็บภาพชัดๆ

   ซึมซาบช่วงเวลาแห่งความสุขนี้อย่างเชื่องช้า ก่อนจะก้มจูบแหวนมรกตแผ่วเบา

   วาทำได้แล้วครับ คุณแม่




   




   วันต่อมาในหน้านิตยสารแฟชั่นและเว็บไซต์เกี่ยวกับเครื่องเพชรและแวดวงไฮโซต่างเขียนบทความเกี่ยวกับนาวา ดาราลัยผู้เป็นเจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่ดาราลัยตัวจริง ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกว่าคบหากับตวัน ใจภักดีผู้เป็นหนึ่งในผู้บริหารร่วมเจ็ดปี

   

   ‘ก่อนหน้านี้ที่ผมไม่เคยออกหน้า เพราะอยากให้ตวันพิสูจน์ตัวเองน่ะครับ’

   

   บทสัมภาษณ์ของนาวา ดาราลัยถูกแชร์กระหน่ำในโลกโซเชียลเพราะความรักลึกซึ้งระหว่างทั้งคู่

   

   ‘และตวันก็ทำสำเร็จ ยอดขายของดาราลัยจิวเวลรี่ในงานแฟชั่นโชว์ปีที่แล้วทุบสถิติเดิมเป็นประวัติการณ์ ทุกคนยอมรับตวัน คนรักของผมคนนี้ แม้เขาจะไม่มีฐานะร่ำรวย แต่เขามีใจที่ภักดีและไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง พวกเราถือหุ้นคนละครึ่งไม่ต่างกับการสัญญาใจ’


   

   ภาพถ่ายยามสองคนยืนเคียงกันช่างเหมาะสม เพราะไม่แค่ความรักของเพศเดียวกัน แต่ยังเป็นความทุ่มเทและพิสูจน์ในรักที่มั่นคงถึงเจ็ดปี

   และเมื่อถูกถามถึงนางแบบสาวพาฝันที่หายตัวอย่างเป็นปริศนาในงาน

   

   ‘เธอแพ้อาหารน่ะครับ คงจะรับประทานไม่ระวังก่อนขึ้นโชว์ ในฐานะเจ้าของดาราลัยจิวเวลรี่ ผมย่อมเป็นผู้รับผิดชอบหลัก จึงตัดสินใจเดินแทน เพราะอย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยให้โชว์ล่มไปเฉยๆ คาดไม่ถึงเลยครับว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีขนาดนี้’

   

   ไม่เพียงการตอบรับที่ดี แต่การกระทำของนาวายังทำให้เกิดเป็นกระแสในกลุ่ม LGBT หรือรักร่วมเพศและเพศทางเลือกให้หันมารักตัวเองและมั่นใจความเป็นตัวเอง อีกทั้งยังส่งสารถึงสังคมให้เลิกอคติถึงการแบ่งแยกระหว่างหญิงชายผ่านการสวมใส่เครื่องประดับครั้งนี้

   จึงไม่แปลกที่ยอดขายจะพุ่งกระฉูด...แซงหน้าที่ตวันทำไว้ชนิดไม่เห็นฝุ่น

   เครื่องเพชรราคาแพงนั้นจำกัดเฉพาะกลุ่มอยู่แล้ว ทำให้แม้จะทุบสถิติเดิมก็ไม่ได้ห่างมากเป็นเท่าตัว แต่หลังแฟชั่นโชว์ของนาวาถูกจัดแสดงและได้รับการเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต ก็เพิ่มลูกค้าต่างเพศซึ่งมีกำลังซื้ออีกกลุ่มหนึ่งที่เคยมองข้ามโดยปริยาย

   การปรากฏตัวของนาวา ดาราลัยตามงานต่างๆ ก็เป็นที่ชินตาเมื่อเห็นชายหนุ่มสวมต่างหู สร้อย แหวน หรือกำไลข้อมือ นาวามีรสนิยมที่ดี เครื่องประดับมักเลือกที่เข้ากับตัวเองเน้นความมาดมั่น ไม่ใช่อ่อนช้อยอ่อนหวาน มีเอกลักษณ์ของตัวเองจนทุกครั้งที่มีการออกงาน เครื่องประดับที่นาวาสวมใส่นั้นๆ เป็นต้องมียอดจองพุ่งสูงทุกครั้ง

   เพราะนาวาสวมใส่แล้วดูดีเหลือเกิน

   ผู้สั่งจองนั้นก็มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง

   จึงไม่แปลกหากปีนี้จะเป็นปีทองของดาราลัยจิวเวลรี่ และบุคคลที่ได้รับการค้นหามากที่สุดก็คือนาวา ดาราลัยนั่นเอง

   “พี่ทีมีอะไรจะคุยกับวาเหรอครับ”

   ผมถามพี่ชายซึ่งบุกมาหาถึงบริษัทโดยขณะเช็กข่าวสารต่างๆ ผ่านคอมพิวเตอร์ ไม่นึกเลยว่างานแฟชั่นโชว์จะนำมาซึ่งความสำเร็จมากมายขนาดนี้ การแต่งตัวของผมที่แตกต่างในแต่ละธีมงานเป็นที่สนใจของผู้คน ถึงขั้นรอคอยด้วยซ้ำว่าวันนี้ผมจะมาแนวไหน เพราะบางครั้งหาสวมทับทิมผมจะร้อนแรงดั่งไฟ หากเป็นไพลินก็จะแต่งสุภาพดั่งสายน้ำ

   ท่ามกลางความประหลาดใจ ผมกลับสงสัยซะงั้นว่ามันประหลาดตรงไหน เพราะเดิมทีผมก็ชอบสวมใส่พวกเครื่องประดับอยู่แล้ว มักประยุกต์กับการแต่งตัว เพียงเปลี่ยนจากเน้นที่การแต่งกายแล้วค่อยเลือกเครื่องประดับ เป็นเลือกเครื่องประดับแล้วค่อยเลือกชุดสวมใส่ซึ่งตรงตามความหมายของอัญมณีหรือการออกแบบนั้นๆ

   ขนาดตวันที่เห็นผมผีเข้าผีออกเป็นประจำยังงงเลย คงเพราะปกติผมแต่งตัวอยู่กับบ้านไม่ก็ออกไปช็อปปิ้งเจอเพื่อน ไม่เคยแต่งตัวเป็นทางการออกงานจึงให้อารมณ์ที่แตกต่างออกไป

   เขาดูจะปลาบปลื้มเป็นพิเศษเวลาควงแขนผมนะ

   ผิดกับพาฝัน

   ทั้งคู่ยังติดต่อกัน แต่เว้นช่วงนานกว่าเดิม จากเมื่อก่อนนัดเจออาทิตย์ละสามถึงสี่วัน ตอนนี้ก็เหลือแค่หนึ่งถึงสองวันเท่านั้น

   ส่วนหนึ่งเพราะตวันติดออกงานกับผม ทั้งที่เมื่อก่อนจะไปกับพาฝัน ส่วนตัวนางแบบสาวเองก็โดนสื่อสัมภาษณ์พอประมาณถึงอาการแพ้อาหารฉับพลัน แม้จะน่าฉุกใจสงสัย แต่ก็ไม่มีใครเชื่อว่าเธอจะตัดอนาคตตัวเองถึงขนาดจงใจกินอาหารที่แพ้ลงไป ส่วนใหญ่คิดว่าเป็นอุบัติเหตุมากกว่า

   ข่าวของเธอถูกนำเสนอสั้นๆ เพียงเท่านี้และไม่ได้เอ่ยถึงอีกเลย

   ป่านนี้พาฝันคงนั่งร้องไห้น้ำตานอง นึกเสียใจไม่น่าเปิดโอกาสให้ผมอยู่ละมั้ง

   นึกแล้วผมก็หลุดยิ้มขัน คลิกเม้าส์ปิดหน้าจอเพื่อหันมาคุยกับพี่ชาย

   ไม่น่าเชื่อว่าหลังจบงานพี่นทีไม่ยอมติดต่อผมเกือบสองอาทิตย์ ขนาดผมโทรหายังไม่ยอมรับสาย เหมือนเขาต้องไปทำความเข้าใจกับน้องชายซะใหม่ และตอนนี้ก็คงจะตระหนักได้แล้วว่าผมไม่ใช่เด็กน้อยอ่อนแอแสนเปราะบางคนเดิม

   “ปีนี้วาอายุยี่สิบห้าแล้วสินะ”

   “ใช่ครับ เบญจเพสพอดีเลย” ผมโคลงศีรษะ

   “ตอนนอนโรงพยาบาลครั้งสุดท้าย...ก็ตอนอายุสิบสอง ผ่านมาตั้งสิบสามปีแล้วเหรอเนี่ย”

   “พี่ทีอย่าพูดให้วารู้สึกแก่สิ” ผมขมวดคิ้วมุ่น ยิ้มแยกเขี้ยวให้พี่ชาย เพราะต้องแต่งชุดสูทไปงานติดต่อหลายคืน วันนี้ผมเลยนึกพิลึกหยิบเสื้อคลุมสีสดใสทับบนเสื้อยืดสกรีนลายตัวตลก กางเกงสีเขียวขี้ม้ารับกับรองเท้าบู๊ตครึ่งแข้งสีกากี เสยเปิดผมข้างหนึ่งและติดกิ๊บสีเงินเข้าคู่กับต่างหูสีเงินที่มีลักษณะเหมือนตะปู

   พี่นทีมองผมแล้วส่ายหน้า บางทีคนที่ทำให้พี่ชายเข้าไม่ถึงแฟชั่นอาจเป็นตัวผมเองก็ได้...

   “จะว่าไปตอนเด็กๆ วาเคยจับพี่ติดเข็มกลัดคอลเล็กชั่นใหม่ของแม่ไล่เฉดเป็นสีรุ้งด้วยนะ”

   “เรื่องตั้งนมนานแล้วพี่ทีจะพูดขึ้นมาทำไม”

   “มีครั้งหนึ่งวาไม่สบายร้องงอแงว่าจะไปดูแฟชั่นโชว์ให้ได้ด้วย จนพี่ต้องขอร้องแม่ให้ยอมพาวาไป”

   “พี่ที!”

   “อย่าตะโกนสิครับ” พี่ทีหัวเราะเอื่อยๆ เชิงอย่าคิดมากเลยนะ ผมเป็นพวกโกรธง่ายหายไว แต่ไหนแต่ไรก็แพ้ทางพี่ชายเลยกดสายในหาเลขาฯ ให้ช่วยชงโกโก้ร้อนแก้เขิน “ถึงประหลาดใจ แต่พี่ภูมิใจนะ”

   “...”

   “แม่เองก็คงภูมิใจ”

   “ขอบคุณ...ครับ” ผมเอ่ยตอบเสียงเบา ยกมือลูบหน้าขณะหูแดงก่ำ

   พลันพวกเราสองพี่น้องพากันดื่มด่ำกับบรรยากาศอบอุ่น

   ก่อนจะถูกขัดจังหวะเมื่อเลขาฯ ของผมนำโกโก้ร้อนมาเสิร์ฟ ผมวางแก้วกันความร้อนสีแดงลายหัวกะโหลกบนที่รองแก้วสีม่วงลายดอกไม้กำลังเบ่งบาน

   “พี่เป็นพี่ชายที่แย่จริงๆ ไม่เคยรู้เลยว่าน้องชอบอะไรทั้งที่เห็นชัดขนาดนี้แท้ๆ”

   อย่ามองผมคล้ายเห็นตัวประหลาดนะ นี่มันแฟชั่น!

   “ช่างเถอะครับ พี่ทีก็รู้ตัวช้าอยู่แล้ว” ผมยิ้มซุกซน “กว่าจะมาพูดกับวายังใช้เวลาตั้งสองอาทิตย์ ช้าสุดๆ!”

   “งั้นตวันไม่ช้ากว่าพี่เหรอ เขาอยู่กับวาตลอดเลยนี่”

   “ตวันรู้แต่แรกต่างหาก พี่ทีอย่าหาพวกสิครับ” ผมยักไหล่ ถ้าตวันไม่รู้ตัวก็ตาบอดเต็มทีแล้ว แถมคนที่ขอความเห็นเรื่องแฟชั่นโชว์เมื่อปีก่อนก็คือตวัน เขาน่ะ...รู้ดีเลยล่ะว่าผมชอบและถนัดอะไร แต่ที่ไม่ออกปากก็เพราะต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง และผมก็ยินดีที่จะไม่เข้าไปก้าวก่ายเพื่อไม่ให้สถานะในบริษัทของเขาโดนกดต่ำดูแคลน

   “...อ้อ”

   ผ่านไปห้านาทีพี่นทีเพิ่งถึงบางอ้อ

   ผมมองพี่ชายกึ่งยิ้มขัน ก่อนจะปัดมือผ่านกลุ่มควันที่ลอยเหนือแก้วโกโก้ร้อนๆ อย่างสำราญใจ

   ช่วงเวลาสามปีตวันทุ่มเทแรงกายแรงใจจนได้รับการยอมรับ ทำให้แม้ผมจะเปิดตัวและทำผลงานแซงหน้าก็ไม่ทำให้ตวันด้อยค่าลง แต่ได้รับการยอมรับอย่างทัดเทียมกัน อย่าลืมสิว่าผมแย่งงานมาจากตวันโดยปรับแก้ไขแค่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ น่ะ ผมเองก็ไม่เร่งรีบ ยังต้องใช้เวลาเรียนรู้งานและขุดความรู้สมัยเรียนที่ลืมๆ ไปอีกเยอะ แม้จะน่าปวดหัว ไม่อยากทำ แต่ผมไม่ใช่เด็กที่จะเกี่ยงงอนเอาแต่ใจ คิดจะเดินด้วยสองขาของตัวเองก็ต้องลุยให้สุดตัว

   เดิมทีผมวางแผนให้ตัวเองเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง คอยให้คำแนะนำตวันและออกแบบเครื่องประดับบ้างตามโอกาส เลยไปลงเรียนเพิ่มเติมด้านแฟชั่นไม่ใช่บริหาร เพราะผมเกลียดพวกงานนั่งโต๊ะที่สุด แต่ไม่รู้ตวันไปโดนพาฝันเป่าหูอะไร ถึงไม่ค่อยฟังผมแล้ว เพิ่งมีช่วงหลังจากงานแฟชั่นโชว์นั่นแหละ ที่เขาเหมือนจะตาสว่างขึ้นมา เกาะติดกับผมคอยถามความเห็นตลอด

   ตวันเสนอให้ผมทำงานห้องเดียวกับเขา มีอะไรจะได้ปรึกษากันได้ แต่ผมบอกปัด ยึดห้องประชุมเล็กมาเป็นห้องทำงานชั่วคราว ปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์นิดๆ หน่อยๆ ก็พอใช้ได้

   เอาจริงๆ คือเพราะห้องประชุมตรงนี้ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านมาดี ส่วนแถวตวันน่ะมีคนแวะเวียนตลอดเวลา น่ารำคาญจะตาย

   “แล้ววาจะทำอะไรต่อเหรอ” พี่นทีคงถามเรื่องงาน ผู้มากประสบการณ์อย่างเขาพร้อมจะให้คำแนะนำแก่น้องชาย แต่โทษที เพราะผมดันตอบในสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับดาราลัยจิวเวลรี่แม้แต่น้อย

   “ทำเรื่องน่าสนุกน่ะครับพี่ที”

   ผมหันมาคลิกคอมพิวเตอร์อีกครั้ง บนหน้าจอปรากฏภาพแอบถ่ายของตวันที่ผมขอไฟล์มาจากศศินเนื่องจากจะดึงรูปในอัลบั้มส่งไปรษณีย์ขายให้ทีมข่าวก็ออกจะชักช้าไม่ทันใจไปสักหน่อย

   คลิกเดียวจบ ส่งออกทุกสำนักข่าวบันเทิง

   ความจริงก็ไม่อยากให้เร็วขนาดนี้หรอกนะ ผมกะจะเว้นช่วงสักเดือนหลังจบงานแฟชั่นโชว์เพื่อให้มีเวลาได้สร้างหลักปักฐานในบริษัทมากกว่านี้ แต่เพราะตวันเริ่มทำตัวแปลกๆ ขยันมากอดมาจูบผม หนักสุดถึงขนาดเชิญชวนขึ้นเตียง...

   ขยะแขยงเขาจะแย่! ใครจะไปอยากมีอะไรกับคนสองใจกัน แต่เริ่มจะหมดมุกหาข้ออ้างแล้ว รีบดำเนินการตามแผนขั้นต่อไปดีกว่า

   น้ำตาเทียมซื้อเตรียมไว้แล้ว พอข่าวแพร่สะพัด จะได้เล่นบทนาวาเจ้าน้ำตา ขอแยกห้องนอนกันสักที!!


   ------------------

   ทุกอย่างเริ่มเข้าตามแผนการสลัดตวันทิ้งของนาวา และนาวาก็เริ่มเป็นตัวเองมากขึ้นหลังอยู่ฉากหลังคอยหนุนคอยดันคนรักมานานค่ะ

   ถึงพี่ทีเห็นแฟชั่นนาวาแล้วไม่เข้าใจ แต่แม่ๆ อย่างเราต้องเข้าใจลูกนะคะ เรานี่น้ำตาปริ่ม ดีใจกับนาวาที่ใกล้จะสลัดตวันได้สักที แต่...เอ๊ะ...เอ๊ะ...เหมือนตวันจะเริ่มๆ หลงรักนาวาอีกครั้งรึเปล่านะ?

   มาทำให้เรื่องอลหม่านกันยิ่งกว่าเดิมกันเถอะค่ะ!! #นาวาสไตล์

   

   
ตัวอย่างตอนต่อไป คำแก้ตัวของตวัน ยิ่งฟังยิ่งขึ้น!!   

   "วาให้โอกาสผมนะครับ ตลอดสองเดือนมานี้ผมก็ดูแลวาอย่างดีไม่ใช่เหรอ

ส่วนพาฝัน ผมเลี้ยงข้าวเธอเป็นการขอบคุณเรื่องงานเท่านั้น อย่าคิดมากเลยนะ”

   

เพจ : มาจะกล่าวบทไป
Twitter : MajaYnaja
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 07-07-2019 19:00:45
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: apple32 ที่ 07-07-2019 19:15:08
 :ling1:แต่ละตอนมันสั้นไปปปปปปปปป น้องนาวาาาาาา
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-07-2019 19:59:16
รออย่างใจจดจ่อ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-07-2019 20:31:49
ตวัน เพิ่งจะตาสว่างสินะ เพิ่งเห็นค่าของนาวา    :a5:  o22
นายตาบอดเพราะทำตัวเองทั้งนั้น  :hao3:
ชอบหญิงก็ไปหาหญิง ไปเลย ชิ้วๆ
อย่ามากลับลำ  ลำ.......ที่นาวาขยะแขยงแล้ว  :really2: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 07-07-2019 21:19:26
ตวันทำตัวเองทั้งนั้น ช่วยไม่ได้ :hao3:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: c4jeab ที่ 07-07-2019 21:28:46
สนุกมากกกก
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 07-07-2019 22:00:32
ต้องจัดการให้ราบคาบ


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 07-07-2019 23:21:21
คิดนอกใจ ไปแล้ว อย่าแจวกลับ
เหมือนเทียนดับ มอดไหม้ ไส้ผุยผง
อย่าจุดเทียน จุดไฟ ให้คืนคง
ที่กุเจ็บ ลืมไม่ลง คงวันตาย

หยุดเสแสร้ง แกล้งหน้า ว่าสดชื่น
หยุดระรื่น ระรี้ริก พลิกลิ้นไหว
หยุดสายตา ว่ายังรัก ชักหลบใน
กุขอแค่ เมิงจงไป ให้ไกลตรีน

ตวัน#จุดจบกาดอสายร่าน
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 07-07-2019 23:50:00
ไรท์อัพได้รวดเร็วมากค่ะเราชอบมากไม่ต้องรอลุ้นนาน ตวันจะแก้ตัวยังไงก็ไม่ขึ้นแล้วล่ะภาพมันฟ้องซะขนาดนั้น ถ้าแค่เลี้ยงข้าวต้องจูบกันด้วยเหรอ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 08-07-2019 01:03:27
นาวาเริ่ดมากกกกก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-07-2019 01:15:56
ตอนมันสั้นไปไหมอ่าาา มันไม่จุใจเลย :hao5:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 08-07-2019 11:26:34
ร้ายมาร้ายกลับไมาโกง เรื่องนี้สะใจมากแม่ คือชอบบุคลิกน้อง มั่นหน้า มั่นใจ แต่ไม่น่าหมั่นไส้ ขอบทให้ศศินเยอะๆหน่อยนะคะ ค่าตัวนางเเพงรึเปล่าโผล่มาวับๆแวบๆ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 08-07-2019 12:00:02
รอดูความตอของตวันและพาฝัน รอดูการเล่นละครของนาวาขำความซื้อน้ำตาเทียมมาเตรียมไว้5555
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 08-07-2019 23:12:34
ส่วนตัว ผมชอบศศินนะครับ อยากเชียร์ให้เค้าเป็นพระเอกนะ แต่ว่าผมไม่เคยอ่านแนวของคุณมาจะกล่าวบทไป ก็เลยไม่รู้ว่าโทนเรื่องเราจะให้คนไหนเป็นพระเอก หรือว่าโทนเรื่องคือการให้ความสนใจกับชีวิตของนาวาล้วนๆ เพราะเห็นบรรยายเหมือนว่านาวาไม่มีทางที่จะชายตามองศศินเลย เหมือนตัดขาดเคมีที่จะจูนกันไปเลย สัมพันธ์กันแค่ระดับเพื่อนร่วมงานที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตื๊อมากก็เท่านั้น

ความจริงชื่อศศินผมแทบไม่เคยเจอผู้ชายใช้นะครับ ส่วนมากจะเป็นผู้หญิง อาจจะเพราะดวงจันทร์มักเป็นอุปมาอุปมัยของสตรีมากกว่าบุรุษ แต่การตีความ ‘พระจันทร์’ (ที่เป็นอัตลักษณ์เชิงเทวะ) ในแบบฮินดูที่เป็นผู้ชาย ก็มีปรากฏบ้างเหมือนกันในวรรณกรรมแบบตะวันออก ตอนแรกที่เจอตัวละครชื่อนี้ก็รู้สึกประหลาดใจไปบ้าง แต่ก็ต้องนับว่าผู้แต่งเขียนนิสัยตัวละครออกมาได้ประทับใจผมพอสมควรเลยทีเดียว

อันดับแรกที่ประทับใจของศศิน คือเรื่องของการมองคนครับ ผมเข้าใจว่าผู้แต่งอยากจะให้นาวาเป็นตัวนางที่มั่นใจในตัวเองสูง มีความรู้ความสามารถ แต่เลือกจะคมในฝัก แล้วคนข้างตัวก็ไม่ยอมรับ เลยทำให้นาวาค่อนข้างเก็บกดและรำคาญ กลายเป็นคนที่ไม่ mature ทางอารมณ์และการใช้ชีวิตกับคนรอบข้าง ดังนั้นด้วยการวางนิสัยตัวละครแบบนี้ จะทำให้นาวาใช้อารมณ์ในการตัดสินคนมากพอดู และจากเท่าที่เห็นก็เป็นอย่างนั้นเสียด้วย ทั้งตะวัน ที่พอนาวาชอบ ก็ดีจนใจหาย ไม่มองอะไรทั้งนั้น ให้อำนาจการบริหารทุกอย่าง ดันเป็นพ่อบุญทุ่มสุดตัว แต่พอเกลียดก็จะเฉดหัวออกไปให้หมด (ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรทำนะครับ แต่ควรจะใจเย็นกว่านี้ มองอะไรให้เคลียร์กว่านี้แล้วตัดสินใจทำ) แม้แต่กับนทีที่เป็นพี่ชาย นาวาก็ใช้อารมณ์ เอะอะก็มั่นใจว่าพี่ชายต้องไม่เชื่อมือ ไม่คิดว่าจะคุยกันด้วยหรือปรับความเข้าใจ แม้ว่านทีจะแสดงออกมาอย่างนั้นจริงๆ แต่ถ้าเป็นพี่ชายที่สปอยล์มาตั้งแต่เด็ก มีหรือที่นทีจะไม่ยอมฟังนาวาถ้าคุยกันดีๆน่ะครับ

แต่ศศินไม่ใช่... ศศินเป็นตัวละครที่มาตัดมุมมองด้วยอารมณ์ของนาวาได้อย่างชัดเจน จากบทบรรยายเองก็พูดชัดอยู่แล้วว่าศศินใช้ชีวิตในโลกสีเทาๆมาตลอด ทำให้เขามองคนได้เร็ว ลุ่มลึก ผมชอบที่เขามองปราดเดียวก็เห็นแล้วว่าตะวันเป็นคนหน้าซื่อใจคด ขณะที่นาวาโดนตะวันทำดีด้วยหน่อยนึงก็โดนซื้อใจแบบไม่คิดอะไรเลย ศศินกลับมองแวบเดียวก็รู้

ผมว่าตะวันจริงๆก็ไม่ได้เป็นคนใจคดอะไรขนาดนั้นในตอนแรกๆ เพียงแค่สถานการณ์มันพาไป ตอนแรกตะวันก็สนิทกับนาวาเพราะอยู่บ้านเดียวกัน แม้ว่าจะเป็นลูกคนใช้ แต่ครอบครัวนาวาก็อุปถัมภ์ค้ำชู แต่สงสัยจะได้ใจเกินไป พอนาวาไม่มีพ่อกับแม่ แล้วก็มาติดแต่กับตะวัน รวมถึงหลงเขาหัวปักหัวปำ มันก็ง่ายมากที่จะยกระดับฐานะของตัวเองผ่านนาวา ยิ่งนาวาเป็นคนใช้อารมณ์ ไม่ฟังพี่ชาย สั่งเสียงกร้าวอย่างเดียวว่ายังไงตะวันก็ต้องอยู่กับนาวา มันก็ยิ่งกว่าง่าย ผมว่าตะวันอาจจะเริ่มทะเยอทะยานแล้วแหละตอนที่ขอนาวาคบ เพราะตะวันเป็นคนที่ชอบผู้หญิง อาจจะไม่ได้อินอะไรกับผู้ชาย เพียงแค่สนิทกับนาวาแล้วก็ชอบดูแลคนอื่น (สังเกตว่า ถ้าดูแลพาฝันแบบเดียวกับนาวา ก็แสดงว่าพื้นฐานเป็นคนใจดีเอื้ออารี ชอบดูแลคน สำหรับเพศที่ตัวเองสนใจก็จะชอบเป็นพิเศษ) ทำไมถึงรีบร้อนขอคบขนาดนี้ มันควรจะต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองก่อนเพื่อให้คู่ควร แต่ถ้ารีบขอคบ มันเหมือนรีบผูกตัวเองเข้ากับนาวา แล้วใช้ประโยชน์จากการที่นาวายังไงก็จะดันแฟนตัวเองอยู่แล้ว ยิ่งชอบใช้อารมณ์ ก็เลยประเคนทุกอย่างให้ตะวัน

ผมคิดว่า ในมุมมองของตะวัน มันอาจจะปกติ (การที่ตะวันจะฮุบบริษัทจิวเวอรี่เพราะว่านาวาไม่สนใจจะทำ แล้วก็เขาควรจะได้อะไรกลับมามากหน่อย) เพราะในเมื่อเขาสนิทกับนาวา ดูแลนาวามาตลอด ดังนั้นเขาก็ควรจะได้รับสิ่งที่มากมายกว่าแค่การขนานนามว่าเป็นแค่ลูกคนใช้ที่มาเกาะนามสกุลนาวากิน แต่ว่าถ้าตะวันวางตัวดี ยังไงนาวาเองก็ต้องให้ตะวันเป็นมือขวาอยู่แล้ว ถ้าตะวันวางตัวไม่อ้อล้อกับนาวามาก อยู่แต่พอดี แล้วบอกให้ชัดว่าตะวันชอบผู้หญิง นาวาอาจจะเฮิร์ตตอนแรก แต่สักพักยังไงก็น่าจะทำความเข้าใจได้

ถ้าตะวันเป็นแค่นั้น ผมโอเค แต่นี่ไม่ใช่ ตะวันนอกจากจะทะเยอทะยาน ยังพยายามทำหลายเรื่องที่เป็นการทรยศนาวา คือแอบคบกับพาฝันนี่ก็แย่แล้ว (ถ้าชอบผู้หญิง จะคบกับผู้หญิง ทำไมไม่พูดตรงๆแต่แรก?) ยังเริ่มพยายามสร้างพื้นที่อำนาจของตัวเองในบริษัทอีก แถมพอเริ่มสะกิดใจว่านาวาน่าจะรู้เรื่องที่เขาแอบคบกับพาฝัน ยังทำตัวแย่ด้วยการที่จะมาเอาอกเอาใจนาวาผิดปกติ ทั้งๆที่เดิมทีตะวันเริ่มพยายามตีตัวห่างเพราะจะทำให้ตัวเองรุ่งเรืองจากแผนการที่ค่อยๆวางไว้ และเรื่องที่ชัดมากเลยคือชวนนาวาขึ้นเตียง ผมชอบที่นาวาเคยพูดไว้ว่าตอนที่คบกัน ตะวันเองไม่ได้ชอบขึ้นเตียงกับนาวา แล้วนาวาเองไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ทั้งสองคนเลยไม่ค่อยมีอะไรกัน อันนี้บ่งชี้ชัดเลยว่าตะวันชอบผู้หญิงมากกว่า พอมาตอนนี้จะชวนขึ้นเตียง เดาว่าเป็นเพราะพยายามทำให้นาวากลับมาชอบตัวเอง แล้วก็ตายใจว่าเขาไม่ได้นอกใจอะไรเลย เหมือนพยายามปกปิดความผิด ผมว่ามันน่าเกลียดครับ หน้าซื่อใจคดแบบที่ศศินพูดไว้ไม่มีผิดเพี้ยน

เช่นเดียวกัน ถ้ามามองเรื่องบนเตียงกับนาวา ระหว่างตะวันกับศศิน ผมให้ศศินสุดทางเลย เพราะศศินชอบนาวามาตลอด ดังนั้นเขาอยากจะสานสัมพันธ์กับนาวาด้วยความรักโรแมนติกแน่ นี่ขนาดยังไม่คบ ยังเพี้ยนๆกับนาวาขนาดนี้ ถ้าคบแล้วนี่ไม่หื่นขึ้นตาเลยเหรอ (หัวเราะ)

ดังนั้นอันที่สองที่ผมชอบสำหรับศศินคือเรื่องที่เขาไว้ใจนาวา เขารู้ว่านาวาทำอะไรได้และทำอะไรไม่ได้ เขายอมที่จะให้นาวาทำในสิ่งที่นาวาอยากจะทำ ศศินมีความเชื่อใจนาวาและปล่อยให้นาวาโลดแล่นโดดเด่นด้วยตัวของเขาเอง โดยเขาจะเป็นที่พึ่ง เป็นอกที่คอยรับเวลาอีกฝั่งเซ อันนี้เป็นบุคลิกของผู้ชายที่เชื่อใจและใส่ใจในสิ่งที่คู่รักทำ มันเป็นบุคลิกที่ดีครับ เจออันนี้ผมก็ให้บวกมากๆแล้วแหละ

สำหรับนาวา นอกจากข้อเสียที่เกิดขึ้นจากนิสัยแบบที่ผมเขียนไปข้างต้น ก็ยังน่าสนใจอยู่ว่าการที่เป็นคนแบบนี้ มันจะสร้างความน่ารักหรือสร้างสายสัมพันธ์เชิงความรักที่มันยืนยาวยังไง เพราะข้อด้อยของนาวาอาจจะกลบได้ด้วยศศินที่เป็นคนฉลาดกว่า เด็ดขาดและรอบคอบมากกว่า เป็นอัลฟ่ามากกว่าที่จะสามารถสยบนาวาได้ แต่มันก็ไม่ได้แก้ปัญหาการใช้อารมณ์ของนาวาเป็นที่ตั้งอยู่ดี ตัวละครนาวาจะพัฒนาได้คือต้องเรียนรู้การควบคุมอารมณ์ เข้าใจสถานการณ์คน แล้วก็ไม่ยัดเยียดสิ่งที่ตัวเองคิดให้คนอื่น เพราะตอนนี้นาวาเองก็ไม่ชอบสิ่งที่คนอื่นยัดเยียดให้ตัวเองโดยไม่ฟัง แต่กลับชอบที่จะยัดเยียดสิ่งที่ตัวเองอยากให้กับคนอื่นโดยไม่สนใจอีกฝั่งเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 08-07-2019 23:52:19
อยากอ่านต่อแล้วววว
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 09-07-2019 14:02:11
 :katai3: :katai3: แซ่บบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 7 : พลิกตลบในข้ามคืน [07/07/62] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 09-07-2019 14:05:32
รอค่ะ  เรื่องนี้ถ้าจะมันส์ สะใจ :laugh:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 8 : แยกห้องนอน [09/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 09-07-2019 18:46:49
   ตอนที่ 8

   แยกห้องนอน

   

   “รูปพวกนั้นไม่มีอะไรจริงๆ นะวา เชื่อใจผมสิครับ”

   สำนักข่าวไม่ทำให้ผมผิดหวังจริงๆ เพิ่งจะกดส่งไปไม่ถึงชั่วโมง ภาพถ่ายก็กระจายว่อนโลกโซเชียล ลับหลังพี่นทีกลับไปไม่ทันไรตวันก็เข้ามาอธิบายหน้าตาตื่นประหนึ่งพระเอกถูกใส่ร้าย

   ผมมองอดีตคนรักอย่างตัดพ้อ แต่ในใจไร้เยื่อใย

   “วา...”

   ตวันตะลึงเพราะจู่ๆ ผมก็หลั่งน้ำตาออกมา แม่งเอ๊ย ดีนะที่ก่อนออกไปพี่นทีล็อกประตูให้ด้วยความเคยชิน ผมเลยมีเวลาหยอดน้ำตาเทียม!

   “ถ้าแค่รูปเดียว...วาก็คงจะเชื่อ แต่รูปหลุดพวกนั้นมีเป็นสิบรูปเลยนะ แถมแต่ละรูปยังไม่ซ้ำวันกันด้วย ตวันสนิทกับพาฝันขนาดนัดเจอเธอที่ร้านอาหารบ่อยกว่ามารับวาไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันอีก”

   ตวันอึกอักประหนึ่งโดนหมัดตรงต่อยเข้าให้ที่ลิ้นปี่ เพราะถ้าย้อนไปก่อนผมจะเหยียบย่างเข้ามาในบริษัท ตวันปล่อยให้ผมกินข้าวเที่ยงคนเดียวในวันธรรมดาถึงหนึ่งปีเต็มๆ!

   น่าเศร้าที่น้ำตาเทียมทำให้ผมมีน้ำตาแค่สองสามหยดเท่านั้น พูดจบผมเลยยกมือปิดหน้าเหมือนไม่อยากให้ตวันเห็น ตัวสั่นน้อยๆ คล้ายสะอื้นไห้

   ตีบทแตกชะมัดนาวาเอ๊ย

   ผมชมตัวเอง ขณะรู้สึกถึงสัมผัสอบอุ่นที่ค่อยๆ โอบกอดอย่างสำนึกผิด

   “ขอโทษนะครับ ช่วงหลังมานี้...ผมละเลยวาจริงๆ”

   ผมลอบกลอกตาอย่างเซ็งจิต

   “แต่ผมจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว วาให้โอกาสผมนะครับ ตลอดสองเดือนมานี้ผมก็ดูแลวาอย่างดีไม่ใช่เหรอ ส่วนพาฝัน ผมเลี้ยงข้าวเธอเป็นการขอบคุณเรื่องงานเท่านั้น อย่าคิดมากเลยนะ”

   “วาไม่อยากคิดมาก แต่ก็ห้ามความคิดตัวเองไม่ได้”

   “วา...”

   “เราแยกห้องนอนกันเถอะ”

   “วา!”

   “ช่วงที่ตวันกลับบ้านดึกบ่อยๆ ก็ขอแยกห้องนอนเพราะไม่อยากทำวาสะดุ้งตื่นไม่ใช่เหรอ อย่าทำเหมือนพวกเราไม่เคยทำเลย ตอนนี้...วายังปรับอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ไม่อยากพาลใส่ตวัน ถ้าต้องทะเลาะกันแล้วแย่กว่าเดิมงั้นเราแยกห้องนอนกันดีกว่า ให้เวลาวาได้คิดอะไรเงียบๆ คนเดียวเผื่อทุกอย่างจะดีขึ้น”

   “ถ้าวายืนยันอย่างนั้น...” ตวันหน้าเจื่อนลงทันที ไม่บอกก็คงรู้กันใช่มั้ยว่าเป็นเพราะมีชนักติดหลัง เขาเคยทำมาก่อน ทำไมผมจะทำบ้างไม่ได้

   ช่วงที่เขาขอแยกห้องถ้าเทียบกับในอัลบั้มของศศินคือเวลาเดียวกับที่ตวันแวะห้องพาฝันหลายชั่วโมง แม้ไม่มีหลักฐาน แต่ก็คาดเดาได้ว่าพวกเขาน่าจะสานสัมพันธ์ลึกซึ้งถึงขั้นขึ้นเตียงกันพอดี คงจะติดใจมากสินะ ถึงได้รังเกียจไม่อยากนอนกอดผม!

   “แต่วาไม่ใช่คนแยกห้องหรอกนะ” ผมเงยหน้าสบตาอดีตคนรัก “คนที่ต้องเก็บของแยกออกไป...คือตวัน ไม่ใช่วา!”

   





   ภาพของตวันที่เมียงมองอยากขอกลับมานอนด้วยแต่โดนผมเมินเป็นอะไรที่สะใจมาก

   เพราะพวกเราย้ายมาอยู่คอนโดฯ นี้ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันเลยมีห้องนอนสองห้องแต่แรก พอเขยิบสถานะเป็นแฟน ห้องนอนของตวันซึ่งเล็กกว่าห้องของผมก็กลายเป็นห้องเก็บของแทน นานครั้งตวันจะลุกขึ้นมาทำความสะอาด

   นี่ก็เข้าวันที่ห้าแล้ว ตวันพยายามง้อทุกวิธีทางจนแทบหงอย เพราะปกติผมหายโกรธง่าย แค่เขาพูดดี ทำดีเข้าหน่อยก็ยิ้มร่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะผมขี้เกียจคิดเยอะไง ถ้าสะสางปัญหาได้เร็วก็จะได้รีบๆ โยนทิ้ง ไม่เอากลับมาพูดซ้ำให้เสียเวลาและเสียพื้นที่สมอง

   ผมกลิ้งจากสุดเตียงริมขวา ไปถึงสุดเตียงริมซ้าย รู้สึกสบายใจชะมัดเมื่อได้ห้องตัวเองคืน!

   พอกันทีกับการนอนรอห่วงเขาจะกลับมากี่โมง จะไปงานเลี้ยงแล้วดื่มเหล้าจนขับรถไม่ไหว นับแต่นี้ผมจะตัดตวันออกไป! ใช้ชีวิตของตัวเองโดยไม่ต้องยึดเขาเป็นที่ตั้งสักที!

   นึกแล้วผมก็ตั้งนาฬิกาปลุกสามเรือนตรงหัวเตียง...พอไม่มีตวันนอนข้างกาย ผมก็ต้องพยายามตื่นเองให้ได้ สามเรือนไม่พอต้องตั้งเวลาในโทรศัพท์ด้วย เพลียกับความขี้เซาของตัวเองจริงๆ

   วันแรกที่แยกห้องนอน ผมหลวมตัวนอนจนสายโด่ง ตวันใช้กุญแจสำรองไขเข้ามา ถือโอกาสกดจูบบนหน้าผาก มองด้วยสายตารักใคร่เอ็นดู คอยลูบศีรษะจนตอนนี้ยังสยิวไปถึงแผ่นหลัง

   วันต่อมาผมรีบเรียกช่างคอนโดฯ มาเปลี่ยนกลอนประตูใหม่ ตวันจะได้ใช้กุญแจสำรองไม่ได้ ผลคือวันนั้นเขาเคาะประตูเรียกจนมือแดง ก่อนจะโทรศัพท์มาปลุกผมจนสะดุ้งตื่นทำหน้ามึน

   วันที่สามผมซื้อนาฬิกาปลุกมาเพิ่ม ปรากฏว่าโดนผมถีบตกโต๊ะข้างเตียงจนดับดิ้น ร้อนให้ตวันต้องโทรมาปลุกอีกครั้ง ผมไม่อยากให้เขาฉวยโอกาสทำคะแนนขอคืนดีเลยไปซื้อนาฬิกาปลุกที่แข็งแรงดุจเหล็กกล้าแบบมีหูหิ้วสำหรับตั้งโต๊ะ มาตอกตะปูยึดส่วนหูหิ้วนั้นให้ติดกับผนังห้องซะเลย

   ผลคือวันที่สี่ผมถีบนาฬิกาไม่ไป แต่ความเพลียสะสมทำให้ผมนอนท่ามกลางเสียงเพลงบรรเลงดัง ตวันโทรเข้ามาก็โดนกลบ กว่าจะทนไม่ไหวจนตื่นเองก็หลังจากนั้นร่วมสิบห้านาที...

   ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วเลยไปซื้อนาฬิกาปลุกมาเพิ่ม เผื่อเสียงตีกันเองจนรำคาญแล้วจะตื่น ตอนผมโทรสั่งนาฬิกามาส่งที่บริษัท ตวันมองมาทั้งรอยยิ้มขัน บอกว่าให้เขาไปนอนด้วยก็จบแล้ว

   จบกะผีน่ะสิ!

   ก็ไม่รู้เหมือนกันว่านึกอุตริอะไร ตอนศศินส่งข้อความมารายงานเรื่องของตวันกับพาฝัน ผมเลยบ่นเรื่องนี้ไป อาจเพราะสายตาที่เขามองมาในวันนั้นทำให้รู้สึกสนิทใจขึ้น แม้เป็นคนรักไม่ได้ เป็นเพื่อนกันก็พอไหว เพื่อนน่ะดีกว่าแฟนเยอะ ทะเลาะกันจนเส้นสมองแทบแตก เกลียดขี้หน้าจนอยากจะไล่ไปพ้นๆ ก็ยอมทนๆ คบได้

   แต่ถ้าเป็นคนรักน่ะเหรอ

   ขนาดจะมองหน้ายังทนมองไม่ติด!

   ศศินเลยส่งไฟล์เสียงมาให้ผม บอกว่าเป็นเพลงปลุกที่ได้ผลดีมาก แต่ห้ามเปิดฟังก่อนนะ ไม่งั้นจะชินหูแล้วตอนเช้าจะไม่ตื่น ไอ้เราแม้จะสงสัยแทบตาย แต่เพราะปัญหาหนักอกเลยยอมฟัง เพื่อความชัวร์ผมจึงตั้งนาฬิกาปลุกหลังเสียงปลุกของศศินให้ห่างกันเครื่องละสามนาที เผื่อว่าไม่ตื่นจริงๆ จะได้มีแผนสำรอง

   พูดถึงพาฝัน...เกือบลืมเล่าเลยว่าเธอออกมาแถลงข่าวแล้ว

   หลังภาพหลุด ตวันก็รีบมาแก้ตัวกับผมปั๊บ พาฝันเองที่โดนโยนข้อหามือที่สามระหว่างคู่รักไฮโซซึ่งสวีตหวานจนน่าอิจฉาก็ไม่รอช้า ออกสื่อรีบอธิบายว่าการนัดพบกันของเธอและตวันเพื่อปรึกษางานเท่านั้น ความสัมพันธ์คือเพื่อนร่วมงานและเพื่อนปรึกษาปัญหาหัวใจ

   ไม่รู้ว่าโดนตวันย้ำมารึเปล่า แต่พาฝันพูดคล้ายท่องสคริปต์ แม้ปากยิ้มแต่ตาไม่ยิ้ม บอกว่าเธอช่วยให้คำแนะนำตวันเกี่ยวกับเรื่องของผมหลายอย่าง จากมือที่สามกลายเป็นที่ปรึกษาความรัก ข้อหานั้นจึงตกลงไปอย่างรวดเร็ว

   ดีแล้ว ยิ่งเธอแก้ตัวได้หมดจดมากเท่าไหร่ แผนการต่อจากนี้ก็ยิ่งได้ผลทบทวี!

   ผมหัวเราะลั่นขณะกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง เล่นโทรศัพท์เช็กข่าวสารอีกเล็กน้อย ก่อนจะนอนหลับแบบกางแขนกางขา ไม่ต้องกลัวว่าจะเผลอไปเตะโดนใครหรือถูกรวบเข้าไปกอด

   “วา นอนรึยังครับ”

   ก่อนจะสะดุ้งเมื่อตวันเคาะประตูเรียก

   “นอนเคลิ้มๆ จนตวันมานั่นแหละ!”

   “งั้น...ราตรีสวัสดิ์นะครับ” เป็นอีกวันที่ขอนอนด้วยไม่สำเร็จ น้ำเสียงตวันเจื่อนลงเพราะดันมาง้อไม่ถูกจังหวะ

   ถ้าเป็นแต่ก่อน ไม่ว่าผมจะทำอะไรอยู่ก็พร้อมจะเปิดประตูให้ตวันทั้งนั้น แม้เขาจะโอ๋ผมหนัก แต่ผมก็ยอมให้เขาเยอะพอตัว ถือซะว่าเสมอกัน ไม่มีใครติดค้างใคร

   ลุ้นก็แต่พรุ่งนี้ผมจะตื่นเองโดยตวันไม่ต้องเคาะประตูรึเปล่าเนี่ยสิ เห็นมือแดงๆ ของเขาแล้วถึงจะไม่ผูกพัน แต่ผมรู้สึกไม่ดี ถ้าเลือกได้ก็อยากจะตัดขาดแบบไม่ต้องมาติดค้างบุญคุณกันอีกเลย!

   ...คืนนั้นผมหลับสนิท

   อาจเพราะเหนื่อยสะสมจากงานที่เริ่มมีโปรเจ็กต์พิเศษจากลูกค้าร้องเรียกให้ผมช่วยออกแบบเครื่องประดับให้ ทั้งที่ผมไม่ใช่นักออกแบบมืออาชีพที่สมองแล่นฉิวตามใบสั่ง ผลคือต้องระดมสมองกับทีมงาน เพราะไอเดียผมเป็นพวกแวบผ่านมาแล้วผ่านไป ใช่ว่าองค์ประทับมันซะทุกครั้งสักหน่อย

   ยามเจ็ดโมงตรง ผมกลิ้งตัวจากสุดเตียงฝั่งซ้ายมาซุกหน้ากับหมอนนุ่มนิ่มทางฝั่งขวา ผ้าห่มนวมครึ่งหนึ่งถูกขยำเป็นก้อนขยุกขยุยในอ้อมกอด ช่วงเวลาแสนสุขนั้น...

   [ที่รักจ๋า เช้าแล้วนะ ถ้าไม่ตื่น ฉันจะจูบนะ]

   เชี่ย!!

   ผมสะดุ้งโหยง ลืมตาตื่นจากนิทราหวานในทันควัน ตื่นแบบไม่มีความง่วงงุนหลงเหลือแม้แต่นิดเดียวด้วย ผมใช้พลังทั้งหมดที่มีในการตะกายตัวไปกดปิดโปรแกรมปลุกในโทรศัพท์ก่อนที่เสียงของศศินจะดังซ้ำอีกครั้ง

   ก่อนจะนั่งจ๋องบนเตียงแบบตาค้างไม่หาย

   ...วิธีเวรตะไลแบบนี้แม้ได้ผลดี แต่ไม่อยากได้ยินอีกแล้วโว้ย!





   

   “เป็นไงครับ วันนี้ตื่นสายรึเปล่า”

   ผมถลึงตาใส่ศศินขณะจิบโกโก้ดับอารมณ์ เล่นเอาลิ้นแทบพองเพราะยังร้อนอยู่

   ศศินรีบส่งกระดาษทิชชูให้ทันที แต่ผมไม่รับ ใช้ผ้าเช็ดปาดซึ่งพับเรียบร้อยบนตักขึ้นซับแทน ตวันนัดพาฝันมาคุยเรื่องงานได้ ทำไมผมจะนัดศศินบ้างไม่ได้ ที่สำคัญพวกเราคุยเรื่องงานจริงๆ ไม่ใช่แค่ข้ออ้างด้วย เพราะหนึ่งในลูกค้าตัวดีที่ยืนยันนอนยันจะให้ผมออกแบบเครื่องประดับให้ได้นั้นแบบทุ่มเงินไม่อั้นก็คือผู้ชายคนนี้เอง

   เขาระบุชัดห้ามให้ทีมงานคนอื่นช่วย ต้องเป็นไอเดียผมเพียวๆ ต่อให้ไม่สวยก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงเขาก็ดูไม่ออกอยู่แล้ว

   คุณครับ ในฐานะเจ้าของดาราลัยจิวเวลรี่นี่โคตรเหมือนโดนดูถูกเลย!

   ถึงศศินจะไม่ถือสา แต่ผมปล่อยผลงานออกมาลวกๆ ไม่ได้อยู่แล้ว มันเป็นจรรยาบรรณและศักดิ์ศรีของผมเอง

   ศศินเป็นพวกเดียวกับพี่นที

   มีตา แต่ดันแยกความสวยงามไม่ออก!

   “เราคุยเรื่องงานกันดีกว่ามั้ยครับ”

   เพื่อความปลอดภัยและบริสุทธิ์ใจ ผมนัดศศินที่ห้องอาหารวีไอพีในโรงแรมของพี่นที ถ้าไม่นับบอดี้การ์ดสองคนซึ่งมักประกบติดศศินเสมอก็มีบริกรที่พี่นทีส่งมาอำนวยสะดวกด้วย ความจริงนัดที่บริษัทก็ได้ แต่เพราะลูกค้าส่วนใหญ่กระเป๋าหนัก เมื่อสั่งซื้อเครื่องเพชรราคาแพงย่อมมีบริการที่ดีจึงเป็นปกติมากที่พนักงานจะเป็นคนติดต่อประสานงานให้ตามแต่ลูกค้าจะนัดหมาย การเลี้ยงเครื่องดื่ม ขนมกินเล่น หรืออาหารสักมื้อก็รวมอยู่ในงบ

   “แหม ที่รักพูดสุภาพด้วย ฟังแล้วเพราะเสนาะหูจังเลย”

   “ก็คุณเป็นลูกค้า” ผมกัดฟันตอบ แยกแยะเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวชัดเจน “ผมออกแบบเข็มกลัดไว้สามแบบ คุณลองดู”

   ผมเปิดโน้ตบุ๊กเพื่อให้เขาดูรายละเอียดที่ได้ทีมงานช่วยขึ้นโมเดลให้หมุนดูแบบสามร้อยหกสิบองศา ศศินต้องการเข็มกลัดสำหรับติดสูทออกงาน เน้นดีไซน์เรียบๆ ที่บ่งบอกความเป็นตัวเขาเอง ไม่ว่าเปล่ายังแนบประวัติส่วนตัวทั้งของกินที่ชอบและคนที่ชอบแบบอธิบายลักษณะคร่าวๆ สามบรรทัดถ้าคนอื่นอ่านอาจไม่เข้าใจ แต่ถ้าผมอ่าน...

   แจ่มแจ้งว่าเขาหมายถึงนาวา ดาราลัย!

   ผมมองเมินประโยคหลัง อิงความหมายของชื่อศศินซึ่งแปลว่าพระจันทร์ออกแบบเข็มกลัดทรงจันทร์เสี้ยว แน่นอนว่าคนอย่างนาวาย่อมไม่มาแค่ทรงโค้งเรียบๆ อยู่แล้ว แบบแรกคือจันทร์เสี้ยวฝังเพชรโดยตรงกลางมีตัวเอสเว้าเข้ามาเป็นตัวอักษรสะบัดคล้ายลายน้ำกึ่งลายเซ็นเก๋ๆ เชื่อมไปยังส่วนเข็มสำหรับติดเสื้อ เหมาะสำหรับเจรจาธุรกิจ แบบที่สองคือจันทร์เสี้ยวที่ส่วนปลายโค้งม้วนเข้าหาคล้ายคลื่นน้ำ ไล่เฉดสีจากไร้สี ฟ้าใส และน้ำเงินเข้ม เหมาะสำหรับงานสังสรรค์พบปะเพื่อนฝูง และจันทร์เสี้ยวทรงกลวงประดับเพชรตามขอบโดยมีเกลียวคลื่นด้านในคล้ายตัวเอสเกาะเกี่ยวกัน เหมาะสำหรับทุกโอกาส

   “...สวยมาก”

   ความภูมิใจของผมคือการให้คนแยกแยะเครื่องประดับว่าต่างกันยังไงให้ออกปากว่าสวยเนี่ยแหละ!

   เชื่อว่าแม้ปากจะพูดว่าอะไรก็ได้ แต่ศศินก็แอบคาดหวังไม่น้อย เมื่อผลออกมาเกินคาดผมเลยยืดมาก อารมณ์ดีขึ้นทันตา อธิบายถึงที่มาที่ไปและไอเดียของเข็มกลัดทั้งสามแบบ เขาตั้งใจฟังอย่างดี ก่อนจะสรุปจบท้ายด้วยรอยยิ้มพริ้มพรายว่า...

   “ฉันเอาทั้งหมด”

   ผมอธิบายแทบหอบ เปรียบเทียบของดีข้อเสียและการใช้งานในแต่ละโอกาส ความแตกต่างของเพชรที่ใช้ ระบุละเอียดถึงขนาดกี่กะรัตน้ำหนักกี่กรัม ถ้าจะเอาหมดแต่แรกก็ไม่เห็นต้องให้พูดจนคอแห้งเลยนี่!

   ผมจิบโกโก้ที่เริ่มเย็นดับกระหาย แอบส่งสายตาเคืองๆ ให้ศศิน ก่อนจะรีบสรุปงาน เพราะยังไงมียอดขายเพิ่มขึ้นก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

   “จบเรื่องงานแล้ว งั้นคุยเรื่องส่วนตัวกันดีกว่า สรุปแล้วเมื่อเช้าตื่นสายมั้ยจ๊ะที่รัก”

   ผมยกนิ้วกลางให้เขาเป็นคำตอบ นึกแล้วบัดซบมาก เรียกเสียงหัวเราะชอบใจจากศศิน

   “หรือที่รักมีวิธีที่ดีกว่านี้ล่ะ?”

   เวรละ ไม่มีจริงๆ ซะด้วย

   “ฉันจะลองหาวิธีอื่นดูก่อน”

   “ว้า เสียดายจัง”

   ผมโคลงศีรษะอย่างขอไปที คนที่ตามจีบแฟนชาวบ้านมาเจ็ดปีเต็มนับว่ามีเกียรติให้เคารพด้วยรึไง

   แต่ถ้านับในแง่ความจริงใจ ต้องยอมรับว่าศศินเป็นเพื่อนที่คบได้

   น่าเศร้าเหลือเกินนาวาเอ๋ย แทบทั้งชีวิตผมเกาะติดกับตวันตลอด ไม่มีเพื่อนสนิทเลย พอจะสลัดตวันทิ้ง คนที่เหลืออยู่ก็ดันเป็นศศินซะงั้น

   “ต่อไปก็เรื่องของ...ไอ้ตวัน”

   เมื่อก่อนเวลาคนรักของผมโดนเรียกแบบนี้ ผมโคตรอยากกระโดดถีบศศิน แต่ตอนนี้เหรอ จิบโกโก้สบายอุรา เลิกคิ้วถามเป็นเชิงว่ายังมีความจริงอะไรที่ผมควรจะรู้อีกรึไง

   “ดูเหมือนว่าเมื่อสองวันก่อนไอ้ตวันจะตัดสินใจบอกเลิกพาฝันแล้วนะ”

   ผมแทบสำลักโกโก้

   “ดูเหมือน!?”

   “ใช่ครับผม” ศศินยักคิ้วหลิ่วตาแบบทีเล่นทีจริง “พาฝันเก็บตัวตั้งแต่หลังทั้งคู่นัดพบกันลับๆ ที่คอนโดฯ ของเธอเอง และนี่คือภาพล่าสุดของเธอที่กองถ่ายแบบเมื่อวาน”

   ศศินวางรูปถ่ายใบหนึ่งบนโต๊ะ แน่นอนว่าเป็นภาพแอบถ่ายเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือใต้ตาพาฝันบวมมาก

   เหมือนคนร้องไห้มาทั้งคืน

   “แค่นี้พิสูจน์คำพูดนายไม่ได้หรอกนะ”

   “ฉันรู้อยู่แล้วว่าที่รักจะพูดแบบนี้ เลยให้คนแสร้งเดินชนพาฝันที่กำลังใจลอยแอบใส่เครื่องดักฟังในกระเป๋าของเธอ...” ศศินพูดหน้าตาเฉยทั้งที่ละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล ส่วนผมน่ะเหรอ...รับหูฟังมาใส่แบบโยนมโนสำนึกทิ้ง!

   [เราต้องคุยกันอีกครั้งนะคะตวัน]

   ศศินขยับปาก อธิบายว่านี่เป็นเสียงที่อัดได้ตอนพาฝันคุยโทรศัพท์ ฉะนั้นอย่าแปลกใจหากได้ยินเธอพูดคนเดียว

   [ฝันผิดตรงไหน พวกเราสู้ด้วยกันมาตลอด คุณจะทิ้งฝันไว้แบบนี้ไม่ได้ คุณลืมไปแล้วเหรอ วันที่คุณทดท้อสิ้นหวังทำงานโชว์ไม่ได้ คนที่ช่วยคุณก็คือฝันนะ!]

   ผมเลิกคิ้ว ก่อนจะเหยียดยิ้ม ถ้าพาฝันช่วยให้ตวันจัดงานแฟชั่นโชว์สำเร็จโดยอิงจากไอเดียของผมไปประยุกต์ให้ยิ่งสมบูรณ์แบบ งั้นคนที่มอบบริษัทและหุ้นให้ตวันอย่างผมล่ะคืออะไร อย่าให้ลำเลิกบุญคุณเลย ตวันน่ะถูกครอบครัวผมอุปถัมภ์ค้ำชูมากแค่ไหนให้นับนิ้วยังไงก็นับไม่ไหว!

   แล้วพาฝันถือสิทธิ์อะไรมาเทียบนาวา ดาราลัย!

   [ฝันขอโทษที่คิดทำลายงาน แต่คุณไม่เห็นต้องโกรธขนาดนี้เลย...ฝันสัญญาว่าจะอยู่เงียบๆ เราแอบคบกันเหมือนเดิม มาเจอกันบ้าง กินข้าวด้วยกันบ้าง ฝันขอแค่นี้นะตวัน...]

   ช่างเป็นผู้หญิงหวังน้อยจนน่าหัวร่อ ผมไม่รู้หรอกนะว่าระหว่างพาฝันกับตวันรักกันมากแค่ไหน แต่คงไม่มากพอแน่ ตวันนะตวัน ช่างเป็นผู้ชายที่ได้รับความรักล้นเหลือ ได้รับการช่วยเหลือตั้งแต่เด็กจนโต แต่ไม่เคยให้ค่าความรักอย่างที่ได้รับเลย

   ผมถอดหูฟังออก เมื่อรู้คำตอบที่ต้องการก็เสนียดหูเกินจะฟัง

   “ที่รักจะเอาไงต่อ”

   น่าแปลก เพราะศศินไม่ยักจะยิ้มยียวน แต่ออกจะลุ้นๆ กับการตัดสินใจของผมมาก

   “เอาไงต่อ? ก็แฉต่อน่ะสิ!”

   ศศินถอนหายใจเฮือกแบบไม่คิดปิดบังความกังวลสักนิด

   “กินยาผิดมารึไง” ผมเลิกคิ้วกับสีหน้าตึงเครียดประหลาดๆ ของเขาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

   “โธ่ ที่รัก ฉันกลัวว่าถ้าตวันตัดขาดกับพาฝัน ที่รักจะใจอ่อนยอมกลับไปคบกับมันต่อนี่”

   ผมแค่นหัวเราะ คนอย่างนาวา ดาราลัย ยอมโง่ครั้งเดียวพอ ไม่โง่ซ้ำโง่ซ้อนหรอกโว้ย!

   “ที่รักจะไม่ให้โอกาสไอ้ตวันจริงเหรอ”

   “เซ้าซี้ชะมัด สรุปนายอยากให้ฉันเลิกหรือกลับไปคบกันแน่?”

   “ก็ต้องอยากให้เลิกอยู่แล้ว” ศศินย้ำเสียงหนักแน่น พยักหน้ายืนยันอีกต่อ

   “ถึงจะเป็นการนอกใจครั้งแรก แต่ตวันแอบคบกับพาฝันเป็นปี...ฉันโดนนอกใจเป็นปี! ต่อให้กลับตัวกลับใจตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว ถ้าเขาอยากได้โอกาส ต้องรู้ตัวแต่แรกตั้งแต่ฉันถามเมื่อสองเดือนก่อน ไม่ใช่รอให้ฉันขอแยกห้องนอนแล้วเพิ่งสำนึก!”

   พูดแล้วก็แค้น ถ้าตวันคิดว่าขอเลิกกับพาฝันแล้วเรื่องจะจบก็คิดน้อยไปแล้ว

   ยิ่งเขาทำแบบนี้ผมยิ่งรังเกียจ เพราะเท่ากับว่าเขาเลือกทิ้งพาฝันแล้วมาง้อผม เหมือนคนไม่เคยทำความผิด หวังฝังกลบเงียบๆ ให้เป็นแค่อดีต ราวกับว่าความสัมพันธ์ลึกซึ้งบนเตียงนั่นไม่เคยเกิดขึ้น...

   ไม่เคยกะผีน่ะสิ!!

   ผมเปิดโน้ตบุ๊กที่ปิดไปแล้วหลังเสนองานกับศศินขึ้นมาเปิดอีกครั้ง ล็อกอินเข้าระบบด้วยตัวตนใหม่ ก่อนจะกดอีเมลฉบับร่างซึ่งมีรูปถ่ายกอดจูบของตวันและพาฝันนับสิบรูปส่งให้สำนักข่าวเจ้าเก่าเจ้าเดิม

   เพิ่มเติมคือส่งไปหาตวันด้วย

   อยากรู้ชะมัดครั้งนี้จะแก้ตัวยังไง!!


   ------------------------------

   เมื่อวานหนีไปดูหนังมาค่ะ แฮะๆ และขอแจ้งข่าวด้วยว่า หลังจากนี้จะอัพวันเวันวันทุกหนึ่งทุ่มน้า หากมีเลทหรืออะไรจะแจ้งในทวิต อัพรอรูปเล่มนิดนึงค่า

     และในตอนนี้ก็ใกล้ได้เวลาปิดจ็อบแผนลับสลัดแฟนเก่าแล้วค่ะ โฮะๆๆ

   ตาหนูนาวาจะได้เล่นบทผู้ถูกกระทำที่น่าสงสารแล้วทวงคืนบริษัทอย่างสวยๆ สักที ปล่อยให้ตวันกับพาฝันออกมาแก้ต่างแล้วค่อยปล่อยหลักฐานตลบหลังอย่างนี้ก็ร้ายใช่เล่นนะคะ แต่ก็สะใจมากเหมือนกัน! มาร่วมเอาใจช่วยนาวากันเถอะค่ะว่าจะลุล่วงตามแผนรึเปล่า!

   #นาวาสไตล์

   

   
ตัวอย่างตอนต่อไป ตอกกลับได้เด็ดมากลูก ปรบมือออ

   “ผมบอกเลิกพาฝันแล้ววา! ผมเลือกวา!”
“วาไม่ใช่ตัวเลือกของใคร!”

   

เพจ : มาจะกล่าวบทไป
Twitter : MajaYnaja
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 8 : แยกห้องนอน [09/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-07-2019 19:11:07
รอซ้ำ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 8 : แยกห้องนอน [09/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 09-07-2019 20:25:18
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 8 : แยกห้องนอน [09/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: lonesomeness ที่ 09-07-2019 21:06:03
เก่งมากยัยน้อง!!!
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 8 : แยกห้องนอน [09/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 09-07-2019 21:30:51
ศศินรีบทำคะแนนนะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 8 : แยกห้องนอน [09/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 09-07-2019 22:30:32
มันต้องแบบนี้ อย่ายอมนะ,,, ถ้าทิ้งได้ idol ผมเลยนะ นาวา,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 8 : แยกห้องนอน [09/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-07-2019 23:17:57
แซ่บมากแม่เอ้ยยยย
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 8 : แยกห้องนอน [09/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 09-07-2019 23:25:11
จัดให้หนักนาวาอย่าใจอ่อนเด็ดขาด โดนนอกใจนอกกายมาเป็นปีขนาดนี้ ถ้าจะให้ดีหันมาสนใจคนที่รักเราด้วยจะดีมาก :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 8 : แยกห้องนอน [09/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 10-07-2019 11:36:52
เราอาจจะใจอ่อนก็ได้แต่ก็น่าให้โอกาสตวันนะ แต่แบบมาคิดดูอีกทีมีครั้งแรกย่อมต้องมีครั้งต่อไป
และครั้งต่อไปคงจะจับได้ยากกว่าครั้งแรกเพราะมีประสบการณ์มาแล้ว ฉะนั้นตวันรับกรรมไปเถอะนะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 8 : แยกห้องนอน [09/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-07-2019 12:58:29
นาวา ถล่มหนักๆไปเลย   :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 8 : แยกห้องนอน [09/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 10-07-2019 14:17:07
กุจะมี คนใหม่ ใช่!ดีกว่า
ทั้งจิตใจ หน้าตา มาเปิดเผย
คนอย่างเมิง กลับไปหา ของเน่าเลย
อยากก่ายเกย หรือก่ายหีบ รีบให้ไว

ตวัน#เชิญครับรับหีบเน่า
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 8 : แยกห้องนอน [09/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 10-07-2019 21:48:32
สมน้ำหน้านังผีเน่ากับโลงผุ แฉเลยลูกแม่ !!
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 11-07-2019 18:52:54
   
ตอนที่ 9

   เลิกรา

   

   ผมเมินสายโทรเข้าจากตวัน ขณะนั่งกินเค้กที่โรงแรมกับพี่นทีที่แทบจะทิ้งงานมาหา

   ส่วนศศินเมื่อจบธุระก็ขอตัวอย่างรู้งาน เขามองผมตาระยับทีเดียวเพราะได้เป็นสักขีพยานในการแฉความสัมพันธ์ของชู้รักลวงโลก ผมไม่ได้ตั้งฉายานี้นะ แต่เป็นคอมเมนต์จากโซเชียลต่างหากที่ด่าทอคำโกหกของพาฝัน คุยเรื่องงาน? เป็นที่ปรึกษาความรัก? ถ่มถุยสิ้นดี! จูบจนแทบจะดึงปากไปเคี้ยวขนาดนั้นยังตอแหลหน้าด้านๆ ได้ลงคอ แล้วนั่น...มีรูปเข้าโรงแรมด้วยกันอีก ไม่บอกคงรู้กันใช่มั้ยว่ากระแสพลิกกลับแรงขนาดไหน

   “วา...”

   ต่อหน้าพี่ชาย ผมไม่จำเป็นต้องแสดงละคร เล่าทุกอย่างให้ฟังหมดเปลือก แถมยังสั่งขนมหวานมากินฆ่าเวลา กะให้ตวันร้อนใจจนเต้นเร่าสักหลายๆ ชั่วโมงค่อยติดต่อกลับ ทำทีว่าช้ำใจจนหนีหน้า ความจริงแล้วก็แค่มาปรามพี่ชายก่อนเขาจะส่งผมเข้าโรงพยาบาลเพราะกลัวช็อกจนเป็นลม

   ผมอ่อนแอแค่ไหนกันในสายตาเขาเนี่ย คิดแล้วก็มองหน้าพี่ชายที่เพิ่งจะประมวลผลเสร็จหลังกินเค้กไปสามก้อน ขนมหวานในโรงแรมพี่นทีเนี่ยอร่อยเหมือนเดิม แม้จะผมจะกินข้าวเหมือนแมวดม แต่ของหวานนั้นทานบ้างตามโอกาสและอารมณ์

   “พี่ทีจะมองวาเหมือนแก้วใสเปราะบางไปถึงไหนครับ ดูสิ วาอุดมสมบูรณ์ดี!” ผมดึงแก้มที่เริ่มอวบของตัวเองพิสูจน์ จบวันนี้สงสัยต้องงดของหวานไปอีกหลายสัปดาห์ “พี่ทีควรจะดีใจที่วาแข็งแรงสดใส ไม่ใช่ทำหน้าจะเป็นจะตายแทนวา!”

   “นั่นสินะ วาแข็งแรงก็ดีแล้ว แข็งแรงมากๆ เลย...”

   พี่นทีมองผมเหมือนสติฟั่นเฟือนไปแล้ว น้ำเสียงเนิบนาบชวนน่าโมโห ผมยัดเค้กใส่ปากพี่นที เล่นเอาพี่ชายผงะ รีบยกน้ำดื่มกลืนลงคอด้วยสีหน้าฝืดเฝื่อน เขาเกลียดรสหวานๆ ที่สุด ช่างเป็นพี่ชายที่น่าเบื่อ ไม่รู้จักของสวยงามแล้วยังไร้อารมณ์สุนทรีย์กับรสหวานบาดลิ้น

   เอาเข้าจริงผมก็บรรยายความรู้สึกตัวเองไม่ออก จะว่าดีใจก็ใช่ จะว่าช้ำใจก็ไม่เชิง ผมหมดรักตวันแล้ว แต่พอใกล้ถึงเวลาต้องเลิกราก็หน่วงๆ ในอก เลยต้องมาระบายด้วยการกินของหวานแล้วเรียกพี่นทีมาอยู่เป็นเพื่อน

   ต่อให้อยากเข้มแข็งแค่ไหนก็ฝืนตัวเองไม่ได้

   ผมผูกพันกับตวันมานานมากจริงๆ แม้ตอนเด็กจะอยู่กับครอบครัวมากกว่า แต่เวลาไปโรงเรียนก็มีตวันนี่แหละที่คอยเคี่ยวเข็ญคนขี้เกียจอย่างผม เขาเป็นเพื่อนคนแรกและคนเดียว รวมถึงเป็นรักแรกและเกือบจะเป็นรักเดียว...

   ความสัมพันธ์ของคู่เราเป็นทั้งเพื่อนและแฟน แม้หมดรักกัน การตัดเขาออกจากชีวิตก็ชวนใจหาย

   วันเกิดปีนี้จะไม่มีตวันอยู่ข้างๆ แล้วเหรอ

   แล้ววันเกิดของเขาล่ะผมไม่ต้องหาของขวัญให้แล้วใช่มั้ย

   ทุกคืนหลังกลับห้อง ผมจะไม่เจอตวันแล้วสินะ

   คนที่คอยเอาใจเวลาผมงี่เง่า ช่วยปลุกผมตอนเช้า หัวเราะกับการแต่งตัวของผม คะยั้นคะยอให้ทานข้าวเยอะอีกนิด ชงโกโก้ที่อร่อยที่สุดในโลก ขับรถพาไปผมเที่ยวเล่นในวันหยุด ถ่ายรูปสวยๆ ให้แล้วบอกรักกัน จะไม่มีคนคนนั้นอีกแล้วใช่มั้ย

   ‘ที่รักไม่ให้โอกาสไอ้ตวันจริงเหรอ’

   คำพูดของศศินทำให้ผมสะท้อนในอก ตวันอาจแค่เผลอไผลชั่วคราว ตลอดมาเขาเห็นผมเป็นที่หนึ่งเสมอ หรือควรจะให้อภัยจริงๆ

   บ้าบอ! คิดในอีกแง่สิ ทั้งที่คอยเอาใจเวลาผมงี่เง่า ยิ้มให้กัน แล้วทำไมถึงไปกับพาฝันได้ลงคอ ทั้งที่ช่วยปลุกผมตอนเช้า ลูบศีรษะด้วยสายตาอ่อนโยน แล้วทำไมถึงมองหญิงอื่น ทั้งที่มักประหลาดใจกับการแต่งตัวของผม หัวเราะแล้วชอบเวลาโดนควงแขน แล้วทำไมมือข้างนั้นถึงไปจับกับใครอีกคน ทั้งที่อยากให้ผมทานข้าวเยอะๆ ดูแลสุขภาพตัวเอง แต่กลับละเลยกินข้าวกับคนอื่น ทั้งที่รู้ใจผมกว่าใคร กลับซื้อเสื้อให้ผู้หญิง ทั้งที่วันหยุดเรามักใช้เวลาด้วยกันสองต่อสอง แต่เขาก็ยังจะหาเวลาปลีกตัว หาข้ออ้างว่าไม่มีธุระเพื่อไปอยู่กับพาฝัน

   ...เขาทำลงได้ยังไง!

   เพื่อเขา...ผมไม่ยอมไปเรียนต่างประเทศกับพี่นที ขอร้องแม่ให้ส่งเสียตวันจะได้เรียนโรงเรียนเดียวกัน เพื่อเขาผมยอมออกจากบ้านไปอยู่หอกันสองคนตั้งแต่ชั้นประถมเพราะไม่อยากให้อึดอัด เพื่อเขาผมยอมออกหน้าโต้เถียงแทนคนอื่นยามโดนดูแคลน ไม่ให้เขาน้อยใจกับฐานะของตัวเอง เพื่อเขาผมยอมอ้อนวอนพี่นที จะได้ยังอยู่ด้วยกันจนเรียนจบ เพื่อเขาผมยอมโอนหุ้นให้ครึ่งหนึ่งโดยไม่ลังเล มอบสิทธิ์และตำแหน่งหน้าที่การงานมั่นคง

   เพื่อเขา...ผมยอมทิ้งความชอบ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับดาราลัยจิวเวลรี่ทั้งที่แม่หมายมั่นให้สืบทอด เพราะคิดว่าจะเป็นของ ‘เรา’

   ก็ไม่ผิดใช่มั้ยที่ผมทวงทุกอย่างคืน!

   “พี่ที วามีเรื่องอยากปรึกษา”

   “ถ้าเรื่องปลดตวันล่ะก็ ไม่ต้องห่วง พี่ทำให้วาได้เดี๋ยวนี้เลย”

   นี่ก็เร็วไปมั้ยพี่ชาย!

   การทำความเข้าใจว่าผมโตแล้วนี่ช่างยากเย็น แต่พอถีบส่งตวันนี่ไวว่องเชียว

   “ไม่ต้องหรอก ผมจะทำให้ตวันยอมออกไปเอง”

   ถ้าไล่ออก พนักงานคนอื่นอาจปรับตัวไม่ทัน แต่ถ้าเขาเป็นฝ่ายยอมออก ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น

   “พี่ทีช่วยโทรไปบอกตวันให้หน่อย แล้วพูดตามนี้นะครับ...”

   





   นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้กลับบ้าน

   “คุณหนูนาวา!”

   “ป้าแช่ม ผมคิดถึงป้าจัง” ผมกอดแม่ครัวประจำบ้านที่มักปวดหัวกับคุณหนูคนเล็กที่ชอบป่วยกระเสาะกระแสะเสมอสมัยวัยเด็ก เธอต้องสรรหาสมุนไพรมากมายให้ผมลองดื่ม หาของกินที่ชอบให้ผมทานเยอะๆ ทำข้าวต้มให้ตอนป่วยแล้วผมงอแงไม่ยอมกิน หาขนมหวานล้างคอเวลาผมโดนบังคับให้กินยา

   ผมสนิทกับเธอมาก และเธอเองก็สนิทกับป้าช้อย แม่ของตวัน

   เธอเป็นคนแนะนำให้แม่ตวันที่ท้องลูกไม่มีที่ไปมาสมัครงานที่ตระกูลดาราลัย

   ป้าแช่มคือคนเพียงคนเดียวที่ช่วยหนุนหลังตวันเสมอ เพราะท่ามกลางคนอื่นในบ้านที่ไม่ชอบเมื่อป้าช้อยได้อภิสิทธ์ ได้เสื้อผ้าดีๆ ได้เงินซึ่งเป็นผลพ่วงจากลูกชาย ต่อหน้าพ่อกับแม่ของผมตวันเลยไม่ค่อยกล้าแสดงตัวนัก กลัวโดนหาว่าขี้ประจบ มักหลบอยู่ในห้องครัวกับป้าแช่ม ขณะที่ป้าช้อยทำความสะอาดบ้าน

   เขาจะยอมมาเล่นกับผมเฉพาะตอนเราไปโรงเรียนด้วยกัน ตอนที่ไม่มีใครจ้องจับผิดว่าทำดีเอาหน้า

   ‘เป็นลูกคนใช้แล้วทำไม ตวันเป็นคนดี’

   ป้าแช่มบอกอย่างนี้เสมอเมื่อเด็กชายโดนตำหนิ

   “คุณหนูคะ ป้าเห็นข่าวแล้ว ตวัน...ตวัน”

   แต่เธอคงพูดไม่ออกแล้ว

   เมื่อเห็นผมมาที่บ้าน ป้าแช่มก็กอดผมเหมือนกลัวจะแตกสลาย ไปกันหมดแล้วคนบ้านนี้ สงสัยจะไม่ได้กลับมานาน ใครต่อใครถึงเห็นผมเป็นคุณหนูขี้โรคคนเดิมเพิ่มเติมคือสูงขึ้น

   “ผมไม่เป็นไรครับป้า” ผมตบแขนเธอเบาๆ

   “แล้วคุณชายใหญ่ล่ะคะ”

   “มาส่งผมแล้วโดนไล่ไปที่อื่นชั่วคราวครับ”

   “?”

   “ผมรอตวันอยู่”

   นี่เป็นที่แรกที่ผมเจอเขา และจะเป็นที่ที่ผม...บอกเลิกเขา

   ป้าแช่มเหมือนจะรู้ความนัย เธอกอดให้กำลังใจผมอีกครั้ง ก่อนจะถามว่าอยากกินอะไร

   “ผมคิดถึงข้าวต้มปลาของป้าแช่มที่สุดเลย”

   เพราะตอนเด็กผมป่วยบ่อยมาก กินข้าวต้มกับโจ๊กจนเบื่อ พอโตมาร่างกายแข็งแรงขึ้น ผมเลยเกลียดข้าวต้มจับใจ ถ้าเลี่ยงได้ก็พยายามเลี่ยง แต่ตอนนี้เมื่อผ่านมาหลายปี ได้กลับมาบ้านหลังเดิม ผมก็หวนคิดถึงรสชาติของข้าวต้มชามนั้นที่ป้าแช่มทำอย่างตั้งใจ ไม่ใส่ผักชี ไม่ใส่กระเทียม ต้มข้าวจนนิ่ม หั่นปลาเป็นชิ้นเล็กเพราะอยากให้ผมกินได้เยอะที่สุด

   “ได้ค่ะคุณหนู”

   ลับหลังป้าแช่มรถคันหนึ่งก็จอดหน้าบ้านเดี่ยว ชายคนหนึ่งเดินลงมาอย่างรีบร้อน สวมชุดสูทมาดดีผิดกับสมัยก่อนที่สวมเสื้อเก่าๆ มีแค่ชุดนักเรียนเท่านั้นที่ใหม่

   เขาคือตวัน ใจภักดี

   ส่วนสาเหตุที่เขารีบร้อนจนแทบจะขาขวิดหน้าทิ่มพื้น ก็เพราะผมวานให้พี่นทีโทรไปบอกตวันว่าผมกำลังแย่แล้ว ตอนเห็นข่าวเสียใจจนแทบเสียสติ ร้องไห้กับอกพี่ชายจนตัวโยน พร่ำพูดแต่ว่าไม่อยากเห็นหน้าตวัน จนเลือกที่จะกลับมาบ้านไม่ยอมกลับห้องของเรา

   “วา!”

   ตวันตะโกนเรียกผม แต่โทษที ขอเล่นตัวอีกนิด ผมหันหลังเดินขึ้นชั้นสอง เข้าห้องนอนตัวเองแล้วล็อกประตู

   “วา เปิดประตูสิครับ วา!”

   แม้ไม่กลับบ้านมาหลายปี เพราะบ้านหลังนี้ช่างโหวงเหวงเมื่อไร้พ่อกับแม่ แต่ห้องนอนของผมได้รับทำความสะอาดสม่ำเสมอ เหมือนพี่ชายรอคอยให้ผมพร้อมจะกลับมา เขารู้ว่าผมไม่ได้ทำเพื่อตวันแค่อย่างเดียว แต่อีกสาเหตุคือจนตอนนี้ผมยังนึกโทษตัวเอง...

   ว่าผมเป็นสาเหตุทำให้พ่อกับแม่ต้องตาย

   เพราะอย่างนั้นวันที่เกิดอุบัติเหตุ ผมถึงร้องไห้จนแทบจะขาดใจ ตอนพี่นทีมาเห็นถึงกับกลัว เขาบอกว่าตอนนั้นผมดูแย่มาก แย่จนไม่กล้าปล่อยไว้คนเดียว

   เขาจึงไม่กล้าว่าอะไรเมื่อผมขอไปหลบอยู่ในศาลาของแม่ตวัน

   เพราะผมคงกลั้นความรู้สึกผิดไม่ได้เมื่อเห็นโลงศพของพวกท่าน

   กาลเวลาช่วยเยียวยาความรู้สึก ความทรงจำที่เคยมีก็ยังประทับตราตรึง แม้จะเศร้าอยู่ในอก แต่ตอนนี้ผมก็ยังยิ้มออก เพราะบนเตียงของเด็กชายนาวานั้นมีตุ๊กตาหลายตัว แม่ซื้อให้ผมเล่นตอนนอนซมบนเตียงเพราะกลัวเหงา ส่วนใหญ่เป็นตุ๊กตาที่เปลี่ยนเสื้อได้ ผู้นำแฟชั่นมาจากเจ้าตุ๊กตาพวกนี้เอง

   “วา!”

   ตวันยังตะโกนอยู่ด้านนอก ป่านนี้คนอื่นในบ้านคงชะโงกหน้ามามองแล้ว เมื่อเห็นตวัน ไม่รู้จะสมเพชยังไง ทั้งที่เป็นหนูตกถังข้าวสาร ได้ดิบได้ดี แต่สุดท้ายก็ทำตัวเอง

   ตวันอึดอัดกับสีหน้าของคนในบ้านหลังนี้ตลอด แต่ตอนนี้เขาคงลืมสนิท

   ผมนั่งบนเตียง ฟังเสียงตะโกนอย่างร้อนใจนั้น ขณะเดียวกันก็ซึมซับความรักของพ่อและแม่ในความทรงจำเพื่อแปรเปลี่ยนเป็นพลังในการเผชิญหน้ากับตวัน

   ก่อนอื่น...ก็ต้องหยอดน้ำตาเทียมสินะ

   ผมหยอดเยอะเกินจนแสบตาไปหมด สุดท้ายก็ร้องไห้ออกมาจริงๆ เพราะระคายตาสุดขีด ตาแดงก่ำดูเหมือนคนร้องไห้มานาน

   และแล้วตวันก็พังประตูเข้ามาสำเร็จ

   สภาพของเขาแทบดูไม่ได้ หน้าเสีย ปากสั่น ดูสิ้นหวังจนหนทาง เมื่อเปิดประตูได้เขาก็คุกเข่าลงตรงหน้าผม ยอมรับผิดแต่โดยดี

   “วา...ภาพหลุดนั้น ผม...ไม่ได้ตั้งใจ”

   “ไม่ได้ตั้งใจจูบ? แต่ตั้งใจพาเข้าโรงแรมเหรอ งั้นบอกวาสิว่าใครเป็นคนจ่ายค่าห้องวันนั้น ใช่ตวันรึเปล่า นั่นก็ไม่ได้ตั้งใจด้วยใช่มั้ย” ผมแค่นยิ้มประชด น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ดูคล้ายคนพยายามจะเข้มแข็งทั้งที่อ่อนแอ “ตวันจำได้มั้ย...ไม่ว่าจะมีข่าวลืออะไร วามองผ่านทั้งหมด เพราะวาเชื่อใจตวัน แต่ตอนได้ยินเรื่องพาฝัน...วากลับสังหรณ์ใจ”

   ตวันก้มหน้านิ่ง

   “ตวันจำได้มั้ยว่าตอบวายังไง”

   “...”

   “ตวันบอกว่าวาคิดมากไปเอง!” ผมหัวเราะขมขื่น “วาเชื่อตวัน เชื่อมาตลอด ที่ตามไปบริษัทก็เพราะไม่เชื่อใจพาฝัน วาพยายามจะกันทั้งสองคนออกจากกัน แต่ก็ไม่มีประโยชน์...”

   ผมหลุบตามองคนตรงหน้า

   “เพราะตวันนอกใจวามานานแล้ว”

   “ผม...” ตวันพูดอะไรไม่ออก “ผมขอโทษ วายกโทษให้ผมนะ ผมสัญญา ผมจะไม่นอกใจวาอีก นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ผมรักวา รักวาที่สุด”

   “รักวาที่สุด? ถ้ารักวามากที่สุดจริงๆ วันนี้จะไม่เกิดขึ้น”

   “ผมบอกเลิกพาฝันแล้ววา! ผมเลือกวา!”

   “วาไม่ใช่ตัวเลือกของใคร!” ผมตะโกนลั่น ลุกขึ้นยืนพลางก้มมองตวันที่ยังนั่งคุกเข่าอย่างจนปัญญา เขาคงรู้แล้วว่าผมไม่มีวันให้อภัย คนอย่างนาวา ดาราลัย เมื่อรักก็รักมาก เมื่อตัดก็ตัดขาด เมื่อคิดจะทำอะไรก็ไปให้สุด เหมือนที่ออกไปจากบ้านหลังนี้แล้วไม่ย้อนกลับ เหมือนที่ยกหุ้นให้ตวันแล้วไม่คิดเหยียบเข้าไปในบริษัท

   “บอกมาสิตวัน วาทำอะไรผิด ถ้าไม่ชอบใจทำไมไม่พูดกัน ทำไมต้องไปหาพาฝัน วาทำผิดตรงไหน”

   “ไม่เลยวา...คนที่ผิดคือผม คนที่ผิดคือผมเอง” ตวันร้องไห้ สะอึกสะอื้นจนน่าสงสาร

   เฮอะ เขามีสิทธิ์อะไรมาร้องไห้คร่ำครวญ!

   “ผมรักวา เชื่อผมนะ ผมรักวา”

   “วาทนรับความรักแบบนี้ของตวันไม่ไหวหรอก!” คนที่ควรรับบทร้องไห้คือผมต่างหาก ผมปิดหน้า เอ่ยเสียงเครืออย่างต้องการจบเรื่องนี้สักที “เราเลิกกันเถอะตวัน”

   “ไม่ วา ไม่...ผมขอโทษ ผมจะไม่ทำอีกแล้ว อย่าทิ้งผมนะวา ไม่เอา” ตวันผวาหนัก จากนั่งคุกเข่าคอตกเปลี่ยนเป็นถลามากอดขาผม อ้อนวอนขอร้องอย่างกลัวแสนกลัว

   “คำพูดนั้น...พูดจริงเหรอตวัน”

   “จริงสิ ผมพูดจริงๆ นะวา ผมจะไม่ทำอีก ผมรักวาคนเดียว”

   “งั้นเหรอ” ผมก้มมองเขา ลูบใบหน้านั้นอย่างอาวรณ์ “แต่วาไม่เชื่อคำพูดตวันอีกแล้ว”

   ตวันชะงักค้าง

   “ต่อให้ตวันยืนยันอีกกี่ครั้ง อ้อนวอนอีกกี่หน ต่อให้กอดขาร้องไห้ขอร้อง วาก็ไม่เชื่อคำพูดตวันอีกแล้ว...” ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งกว่าที่คาด เพราะต้องการให้เขาได้ตระหนัก ครุ่นคิดถึงสิ่งที่ต้องการสื่อ “ตวันเข้าใจใช่มั้ย...ว่าทำไม”

   เขามองผมนิ่ง ในตาสั่นไหว ก่อนจะกัดปากตอบอย่างจำใจ

   “ผมเข้าใจ”

   จะไม่เข้าใจได้ยังไง ในเมื่อทั้งหมดนั่นเป็นผลจากการกระทำของเขาทั้งนั้น

   “ผมเข้าใจแล้ววา...” ตวันยอมปล่อยขาผมในที่สุด เขาทรุดตัวนั่งอย่างทดท้อ ก่อนจะร้องไห้โฮออกมาอย่างสุดกลั้น รับรู้ถึงความรู้สึกของความรักที่เฝ้าถนอมมาตลอดแต่ต้องสูญเสียไปด้วยน้ำมือของตัวเอง

   ผมให้เวลาเขาร้องซะให้พอ เพราะผมเองก็ต้องใช้เวลาในการบีบน้ำตาอีกนิดเหมือนกัน ช่วยไม่ได้ ตอนนี้ไม่ค่อยจะแสบตาเท่าไหร่แล้ว เอ้า บีบอีกนิด อีกนิด...

   “วาอยากได้หุ้นคืน” ผมเอ่ย เมื่อตวันเงยหน้าก็ทันเห็นน้ำตาหนึ่งหยดพอดิบพอดี “ตวันคืนให้วาได้มั้ย”

   “ผมจะพูดว่าไม่ได้ได้ยังไง...” ตวันพูดอย่างสิ้นหวัง สีหน้าเขาย่ำแย่เหลือทน ขณะพูดยังเจือสะอื้น น้ำตาไหลพรากไม่หยุด “วาทำเรื่องมาเถอะ ผมจะ...คืนให้วาเอง”

   ผมพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันหนี เอ่ยกับตวันอย่างพยายามคุมเสียงให้นิ่งที่สุด

   “งั้นตวันก็ไปเถอะ วาอยากอยู่คนเดียว”

   เขาเม้มปาก ก่อนจะค่อยๆ ยันตัวขึ้น มองผมอย่างทอดอาลัยเล็กน้อยยามปาดน้ำตา คล้ายไม่อยากลงเอยแบบนี้ แต่ก็จนปัญญาจะรั้ง

   เขาทำพังทั้งหมด

   ทุกสิ่งทุกอย่างเขาเป็นคนเริ่มและทำพังทั้งหมด!

   “วาไม่เชื่อคำบอกรักผมก็ไม่เป็นไร” เขาเอ่ยทิ้งท้าย มองผมไม่กะพริบคล้ายอยากจดจำทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นสีหน้ากล้ำกลืน เส้นผม ริมฝีปาก ดวงตาแดงเรื่อ เพราะนี่...อาจจะเป็นการพบเจอครั้งสุดท้าย “แต่ผมอยากพูดอีกครั้ง...ว่าผมขอโทษ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของผมคนเดียว และผม...รักวาที่สุด”

   เขาเว้นช่วงเล็กน้อยเพื่อกลั้นน้ำตาที่เริ่มเอ่อล้นอีกครั้ง

   “ผมรักวาที่สุด”

   ตวันเดินออกไปแล้ว

   ประตูห้องที่ตัวล็อกถูกกระแทกยังเปิดอ้า สงสัยต้องเรียกช่างมาเปลี่ยนกลอนประตูซะแล้วสิ

   เอียงหูฟังเสียงฝีเท้าที่เริ่มห่างออกไป ผมซึ่งฝืนหน่วงน้ำตาปลอมไว้แทบตายก็ถอนหายใจเฮือกออกมา

   รักวาที่สุด?

   คำสารภาพที่เคยซึ้ง มาตอนนี้ไม่ต่างกับหนามหยอกอกคอยทิ่มแทงกัน

   ผมเดินไปล้างหน้าในห้องน้ำ เห็นสภาพตัวเองแล้วก็แอบตกใจ แค่หยอดน้ำตาเทียมทำไมถึงได้บวมเป่งขนาดนี้ล่ะเนี่ย

   เมื่อกลับออกมาป้าแช่มก็ถือข้าวต้มปลารออยู่แล้ว

   “จะทานเลยมั้ยคะคุณหนู” ป้าแช่มไม่ทักอะไรทั้งเรื่องผมและตวันอีก เธอเพียงจัดโต๊ะให้เมื่อผมพยักหน้า ก่อนจะช่วยจัดจาน รินน้ำเปล่า และคอยยืนรออยู่ห่างๆ

   “อร่อยมากเลยครับป้า” ผมเอ่ยเมื่อชิมคำแรก

   ทั้งที่เคยเกลียด แต่วันนี้กลับเปลี่ยนไป

   นี่ล่ะหนาใจคน


   -------------------

   และแล้วเรื่องราวก็ดำเนินมาถึงจุดนี้...

   ถึงจะหมดรักแล้ว ถึงนาวาจะทำเหมือนไม่เป็นไร ไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง ไม่อยากเสียใจเพราะตวันอีก แต่ใจคนแม้อยากจะห้ามแค่ไหนก็ห้ามไม่ไหวหรอกเนอะคะ มาร่วมกันกอดปลอบตาหนูนาวากันเถอะค่ะ นับจากนี้ต้องเข้มแข็งให้มากๆ แล้วยืนหยัดสวยๆ เอาให้ตวันเสียดายไปจนตายเลยลูก!! #นาวาสไตล์

   ส่วนที่ถามว่าทำไมเหมือนนาวาไม่ปิ๊งศศินเลย อันนี้เราจงใจนะคะ ศศินกับนาวาจะเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์หลังเลิกกับตวันแล้ว เพราะถ้านาวารู้สึกดีๆ กับศศินช่วงนี้จะเหมือนนาวานอกใจตวันไปด้วยอีกคน เราอยากให้น้องเคลียร์ก่อนค่า

   ปล.อย่าตกใจคิดว่าเรื่องจบแล้วนะ ยังดำเนินมาไม่ถึงครึ่งเรื่องเลยค่า อยู่กับเราก๊อนนน
   

   
ตัวอย่างตอนต่อไป ได้เวลาศศินทำคะแนนแล้ว!
   “แปลกจังที่เห็นที่รักดื่มเหล้า ไม่ต้องกลัวเหงานะ ฉันจะเมาเป็นเพื่อนเอง"


เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-07-2019 19:53:25
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 11-07-2019 20:15:55
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 11-07-2019 21:29:27
เราเชียร์ศศิน :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 11-07-2019 22:04:16
เลิกกันแล้ววกี้สสดีใจมาก ขำความหยดน้ำตาจนแสบ แอบสงสารตวันนิดหนึ่งแต่ก็ทำตัวเองทั้งนั้น รอฉากเสี่ยศศินทำคะแนน :impress2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 11-07-2019 22:05:36
เลิกกันแล้ววกี้สสดีใจมาก ขำความหยดน้ำตาจนแสบ แอบสงสารตวันนิดหนึ่งแต่ก็ทำตัวเองทั้งนั้น อยากรู้ว่าตวันจนเหมือนเดิมแล้วพาฝันจะยังไงต่อ รอฉากเสี่ยศศินทำคะแนน :impress2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 11-07-2019 22:08:21
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-07-2019 22:48:58
นาวา เลิกกับตวันดีแล้ว  ถูกแล้ว  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ตวัน ลืมตัว เหลิงไปกับหญิง นอกใจวา
ลืมว่าที่มีงาน มีเงิน ทำธุรกิจทั้งหมดได้เพราะวาทั้งนั้น
ตวัน อยากจะมีหญิง ก็ควรบอกวา เลิกลากับวาเสียก่อน แต่ก็นะ..........
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 11-07-2019 23:10:10
ชอบมาก นาวาคือนายเอกในอุดมคติของเราเลย  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 11-07-2019 23:22:53
เราชอบพี่ที 55555 คาร์แรคเตอร์นางทั้งฮาทั้งน่าเอ็นดู ใครได้เป็นแฟนน่าจะปวดหัวเหมือนวา 5555
อยากอ่านพาร์ทของตวัน อยากรู้ความคิดของตวันว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ทั้งที่ร่วมทุกร่วมสุขกันมาหลายปี ทำไมถึงนอกใจวา ทั้งที่ตวันก็ดูไม่น่าเป็นคนเลวร้าย ดูเหมือนรักวา จริงๆแล้วตวันรักวาบ้างมั้ยนะ หรือมีเหตุผลอะไรถึงต้องทำตัวแบบนี้
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 11-07-2019 23:49:53
การกระทำ สำคัญกว่า อ้าปากพูด
เหมือนรูตูด พ่นตด งดออกเสียง
แต่ส่งกลิ่น เหม็นเน่า ใกล้ไกลเคียง
อย่าเอนเอียง เสียงตูด กว่าสูดดม

ตัวนอกกาย รักนอกใจ ไปปีกว่า
สุขเริงร่า ไปหาหีบ หนีบสุขสม
เมื่อความแตก จะหวนคืน ฟื้นอารมณ์
อย่ากลับเลย คนโสมม ดมหีบไป

ตวัน#นอกกายนอกใจ#ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ
ห่านจิก
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 12-07-2019 10:33:02
ถ้าจับไม่ได้ความไม่แตกก็คงไม่สำนึกซินะ ตวันทำตัวเองแท้ ๆ รักแล้วนอกใจมันคืออะไร
คำพูดกับการกระทำมันสวนทางกันนะคะตวัน แบบนี้จะกลับไปคืนดีกับพาฝันไหมล่ะคะ
ฝั่งนู่นเหมือนจะยังอยากได้อยู่นี่แต่ก็ไม่รู้ว่าอยากได้ตัวหรือเงินของตวันที่ได้มาจากนาวากันแน่
แล้วถ้ารู้ว่าตวันโดนขอให้โอนหุ้นคืนยังจะอยากกลับมาคืนดีอยู่ไหมนะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 12-07-2019 12:26:17
ถ้ารักที่สุดอย่างปากพูดจะไม่นอกใจกันแบบนี้
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 12-07-2019 15:45:49
ให้พี่นทีบงโทษตวัน

ด้วยการจับทำเมียได้ใหม

พี่นทีเคมีเข้ากับตวันนะ

และที่สำคัญ ทำไมเราคิดว่าศศินกับตวัน

อาจเป็นพี่น้องพ่อเดียวกันล่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 12-07-2019 16:38:50
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 13-07-2019 00:16:53
รักที่สุดหรอ???  ถ้ารักแล้วทำแบบนี้ก็อย่าดีกว่า,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 9 : เลิกรา[11/07/62] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 13-07-2019 15:17:39
       สวัสดีค่ะ คุณมาจะกล่าวบทไป  :L2:
เราอ่านนิยายของคุณทุกเรื่องติดตามทุกผลงานเลยนะค่ะขอบอกว่าคุณคือนักเขียนที่แต่งนิยายได้น่ารักมากเลยค่ะ
อาจจะมีช่วงหลังๆที่เราไม่สะดวกพิมพ์ให้กำลังใจเพราะเราอ่านกับโทรศัพท์นะค่ะ
เลยยากมากที่จะพิมพ์กลัวพิมพ์ออกทะเลนะค่ะ
      แต่ตอนนี้สะดวกมากกกกกอิอิ เลยอยากมาให้กำลังใจนะค่ะสำหรับนิยายเรื่องใหม่
เราอ่านมาตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนล่าสุดถุงจะสงสารนาวามากก็ตามแต่ไม่รู้ทำไมเราถึงทำใจเกลียดตะวันไม่ลงจริงๆทั้งๆที่สิ้งที่ตะวันทำเรียกได้ว่าคือการทำลายความเชื่อใจกันก็เถอะค่ะแต่เราสงสารเค้านะ อิอิ
แต่กับพระเอกที่ยังไไม่มีบทบาทมากมายในตอนแรกๆเราก็รักตัวละครตัวนี้นะค่ะ รู้สึกถึงความห่วงใยที่มีจริงๆที่ส่งให้นาวามาตลอดเราว่าเค้าสมควรจะได้รับความรักที่เค้าวาดหวัง
       แต่อีกนิดอิอิก็อยากให้ตะวันเจอคนดีๆเพราะชีวิตเค้าตอนจากบ้านทางฝั่งของนาวาแล้วพอไม่มีนาวาเค้าก็ไม่เหลือใครแล้วสงสารรรร
        รออ่านตอนต่อไปนะค่ะสู้ๆๆๆค่ะ :mew1: :mew1:
       
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 13-07-2019 18:47:57

   ตอนที่ 10

   ถึงเวลาต้องอำลา
   

   ผมนอนค้างที่บ้านสองวัน จนสะสางเรื่องการโอนหุ้นเรียบร้อยแล้วโดยวานพี่นทีช่วยจัดการเรื่องสัญญาเพื่อป้องกันไม่ให้ตวันยืดเยื้อ ก็กลับมานอนห้องตัวเอง

   ผมอมยิ้มเมื่อเห็นว่าข้าวของของตวันหายหมดแล้ว

   อย่างน้อยก็ไม่ถึงกับต้องไล่สินะ

   ผมพยักหน้าอย่างพอใจ หลังโอนหุ้นตวันก็เก็บข้าวของจากไป ส่วนเขาจะไปไหนจะทำอะไรต่อก็ไม่ใช่เรื่องของผมแล้ว

   ผมเดินไปนั่งโซฟา ยังจำได้ว่าวันที่เลือกโซฟาตัวนี้ ผมลังเลระหว่างสีแดงกับสีน้ำเงิน ตวันบอกว่าสีไหนก็ได้ขอแค่ผมชอบ แต่ผมยึกยักอยู่นาน จนสุดท้ายตวันก็บอกว่าให้เลือกสีแดงสิ เพราะสีแดงเป็นสีของความรัก เวลาเห็นแล้วเราจะได้รักกันมากขึ้น

   มาตอนนี้น่าจะเป็นสีของความช้ำมากกว่านะ

   ผมหัวเราะเหอะๆ ให้ตัวเองขณะกลิ้งตัวเอกเขนกบนโซฟา พอเงยหน้ามองไปรอบๆ ก็รู้สึกวูบโหวงชอบกล

   ห้องนี้โล่งขึ้นเยอะ

   ไม่เหมาะกับการอยู่คนเดียวสักนิด


   ผมเปิดโทรทัศน์เพื่อไม่ให้เงียบเหงาเกินไป เอาน่า ตอนแรกอาจยังไม่ชิน แต่อีกไม่นานผมก็ต้องอยู่ได้ แม้ตลอดยี่สิบกว่าปีนี้จะมีตวันเคียงข้างมาตลอด แต่เขาไม่ใช่เจ้าชีวิต ให้รู้กันไปเลยว่าอกหักไม่ยักกะตาย!

   ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่คิดแล้วไม่ใช่เหรอ ตื่นสิตื่น!

   ผมตบแก้มตัวเอง เรียกสติให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ผมควรจะยิ้มสิ ควรจะดีใจที่สลัดตวันออกไปได้ตามแผน!

   อะไรนะ ทำไมผมถึงไม่กลับบ้าน โธ่ แม้พี่นทีพร้อมจะต้อนรับ ป้าแช่มแสนจะรอคอย แต่ผม...ยังไม่พร้อมให้พวกเขามองมาอย่างเป็นห่วง ประคบประหงมคนอกหักรักคุดแบบเด็กตัวเล็กๆ ทั้งที่ผมตัวโตตั้งมาก

   คิดแบบนี้ก็เริ่มจะทำใจได้จริงๆ ผมเริ่มต้นงานอดิเรก นั่นคือการนอนขี้เกียจ เพราะตั้งแต่หัวหมุนกับงานก็หาโอกาสทำได้ยากกว่าที่เคย เพิ่งมีโอกาสก็ช่วงขอลาหยุดพักใจนี่แหละ ข่าวของตวันกับพาฝันครึกโครมทั่วบ้านทั่วเมือง ผมไม่ปรากฏตัวย่อมไม่แปลก ยิ่งทำให้หลายคนพากันซุบซิบนินทากล่าวโทษสองคนนั้น แล้วนึกเห็นอกเห็นใจผมมากขึ้น

   แต่จะมัวซ่อนตัวทำเป็นอ่อนแอนานๆ ไม่ได้ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานตามปกติแล้ว

   เพียงนึกผมก็ถอนหายใจเฮือก แม้จะรักชอบด้านแฟชั่นดีไซน์ แต่พอเป็นงานแบบนั่งโต๊ะจริงจังพ่วงบริหารก็ชวนปวดหัวไม่น้อย ยากยิ่งกว่าวางแผนตลบหลังอดีตคนรักซะอีก!

   เอาล่ะ ถึงตอนนี้หลายคนคงสงสัยว่าทำไมผมถึงไม่เฉลยความจริงแก่ตวัน

   โธ่ คุณๆ ครับ ผมไม่อยากเป็นตัวร้ายที่วางแผนให้เขาติดกับ แต่อยากเป็นตัวเอกน่าสงสารผู้ถูกกระทำต่างหาก! ลองนึกภาพสิ ถ้าผมโยนอัลบั้มภาพให้ตวัน เขาคงหน้าเสีย พูดไม่ออก ปากสั่น หน้าชา เมื่อทุกอย่างตั้งแต่ผมเข้าบริษัทนั้นคือแผน แล้วเขาจะยอมออกง่ายๆ เหรอ ไม่ เขาคงหน้าด้านหน้าทน ฝืนอยู่จนโดนไล่ต่างหาก แถมไม่ยอมคืนหุ้นง่ายๆ ด้วย

   แต่ถ้าทั้งหมดเริ่มจากความระแวงแบบไม่รู้ลับลมคมในแต่เชื่ออย่างดีของผมล่ะ...

   หนังคนละม้วนแน่นอน เพราะผมเข้าบริษัทก็ด้วยข่าวลือของเขากับพาฝัน เพื่อความบริสุทธิ์ใจ ตวันยอมให้ผมคุมงานแฟชั่นโชว์เอง ทั้งคู่คงขัดแย้งกันเรื่องนี้จนพาฝันคิดล่มงาน กลับกลายเป็นโอกาสให้ผมได้เปิดตัวควงคู่สมใจ จากนั้นก็มีภาพหลุดมาให้สงสัยเป็นระยะ ผมพยายามจะเชื่อตวัน แม้จะร้องไห้น้ำตานอง ขอแยกห้อง ตวันเองก็ตามง้อไม่ลดละ แต่แล้วทุกอย่างก็กลับตาลปัตร...ตวันโกหกผมตั้งแต่ต้น

   ดูสิ ทั้งที่ไทม์ไลน์เหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ต่างกันนะเห็นมั้ย

   เมื่อเขามาเจอผมผิดหวังเสียใจจะเป็นจะตาย ตวันก็หน้าด้านหน้าทนไม่ไหว เขายอมทำตามคำขอร้องผมแต่โดยดี...นั่นคือการลาออกและยกหุ้นคืนให้ผม

   พ่วงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต!

   เมื่อเอ่ยถึงนาวา เขาจะนึกถึงคนรักแสนดีที่โดนหลอกจนเจ็บช้ำ ไม่ใช่นาวาคนร้ายกาจ คิดลากเขาลงมาจากตำแหน่งนั้นด้วยวิธีที่ล่มจมทั้งตัวตวันและพาฝัน

   ถึงแม้จะซับซ้อนวุ่นวาย แต่ก็จบเรื่องได้รวดเร็วทันใจ

   คนขี้เกียจก็มีวิธีของคนขี้เกียจ คิดหาทางลัด ใช้คนอย่างมีประสิทธิภาพ รอเก็บเกี่ยวผล!

   ลาก่อนตวัน ใจภักดี

   จากนี้เขาจะไปทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของผมแล้ว

   ลาแล้ว ลาลับ อย่ากลับมา!!

   




   “แปลกจังที่เห็นที่รักดื่มเหล้า”

   อุตส่าห์หนีมานั่งดื่มตามผับตามบาร์ร้านเล็กที่ไม่ค่อยมีคนเยอะ ศศินก็ดันตามมาถูกอีก เขาทิ้งตัวนั่งข้างผม แถมยังโบกมือสั่งเครื่องดื่มเพิ่มเหมือนเราทั้งคู่นัดเจอกันอย่างนั้นล่ะ

   “ไม่ต้องกลัวเหงานะ ฉันจะเมาเป็นเพื่อนเอง”

   “ตามมาถูกได้ยังไง”

   “ก็แบบว่า...เป็นห่วงนิดหน่อย” ศศินเอ่ยเก้อๆ เมื่อผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชากว่าที่คิด จะไม่ให้ฉุนได้ยังไง ในเมื่อผมเคยบอกห้ามเขาส่งคนมาจับตามองกัน “ก่อนหน้านี้ไม่ให้คนตามแล้วนะ แต่ช่วงนี้...รู้สึกว่าควรจะต้องฝ่าฝืนสักหน่อย เกิดที่รักเมาพับขึ้นมาจะได้พาไปส่งบ้านถูกไง”

   “เฮอะ” ผมแค่นหัวเราะกับข้ออ้างนั้น แต่ก็ไม่ไล่เขาไป

   เพราะศศินเป็นคนเดียวที่รู้ความจริงทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้

   “อมยิ้มมั้ย”

   “ไม่มีอารมณ์” ผมตอกกลับคนที่คลี่ยิ้มหวานหวังประจบ

   “อา...งั้นฉันจะนั่งเงียบๆ แล้วกัน” ศศินทำตามคำพูด เขาปล่อยให้ผมดื่มด่ำกับช่วงเวลาของการมอมตัวเอง ทั้งที่แต่ก่อนนอนกลิ้งกับห้องได้สบายๆ แต่ตอนนี้พอทำงานเสร็จกะจะนอนกลิ้งแก้เหนื่อยซะหน่อย...ดันหงุดหงิดงุ่นง่านจนทนไม่ได้ ต้องอับเปหิตัวเองมานั่งจ๋องตรงนี้

   “ตวันหนีไปต่างจังหวัดแล้ว ลองสมัครงานบริษัทหลายแห่ง”

   “...”

   “เขาไม่ได้ติดต่อกับพาฝันเลย แม้ฝ่ายหญิงจะพยายามแทบตายก็เถอะ”

   “...”

   “แต่เพราะข่าวฉาวยังสดใหม่เลยโดนปฏิเสธตั้งแต่รอบยื่นประวัติแล้วล่ะ”

   “เล่าทำไม” ผมวางแก้ว จ้องหน้าเขากึ่งเคือง

   “ฉันพูดกับดินฟ้าอากาศน่ะ ที่รักอย่าสนใจ”

   ผมถลึงตาจ้องเขา แต่สุดท้ายก็นิ่งฟัง ดื่มเหล้าเงียบๆ ถึงจะท่ามากแต่ความจริงแล้วผมก็ค่อนข้างกังวลว่าตวันจะไปยังไงต่อ แต่ก็มีทิฐิมากเกินกว่าจะไปตามข่าว ในเมื่อศศินพูดกับดินฟ้าอากาศก็ไม่เป็นไรหรอกมั้ง

   ว่าแต่...ตวันหางานยากขนาดนั้นเลย

   ผมเริ่มคิดว่าพอจะมีเส้นสายบ้างมั้ย ก่อนจะรีบส่ายหน้า ไม่เอา พอสักทีนาวา! หยุด!!

   “ฉันช่วยได้นะ”

   “นี่ก็พูดกับดินฟ้าอากาศเหรอ”

   “ใช่ พูดกับดินฟ้าอากาศ แต่ถ้าที่รักจะพูดกับดินฟ้าอากาศบ้าง ฉันก็ไม่ถือหรอกนะ”

   ผมเม้มปาก “ถ้าอีกหนึ่งอาทิตย์ยังโดนปฏิเสธ ค่อยช่วยแล้วกัน”

   “ครับ ดินฟ้าอากาศ”

   ผมส่ายหน้า ไม่รู้จะพูดอะไรกับศศินจอมยียวนที่ตอนนี้ปั้นหน้ายิ้มน่าหมั่นไส้เหลือเกิน

   “ทำไมถึงช่วยตวัน”

   ใช่ ทำไมถึงช่วย ทั้งที่เขาเกลียดขี้หน้าตวันจนเรียกไอ้ทุกคำแท้ๆ

   “ฉันไม่ได้ช่วยไอ้ตวันซะหน่อย” ศศินแย่งขวดเหล้าจากบริกรมาเทใส่แก้วผมเพิ่ม “ฉันช่วยที่รักต่างหาก”

   “ช่วยฉัน?”

   “ใช่ ช่วยที่รัก แล้วก็ช่วยตัวเองด้วย ถ้าไอ้ตวันตกงานไปเรื่อยๆ ที่รักคงกังวลใจ กลัวทำคนอดตายใช่มั้ยล่ะ ซึ่งฉันเองก็คงไม่แฮปปี้ถ้าที่รักจะจะทำหน้าเศร้า เลยจำใจช่วยไง”

   “นายนี่มัน...”

   “ฉันรักที่รักนะ”

   “แต่ฉันไม่ได้รักนาย” ผมตอกกลับไร้เยื่อใย แม้เขาจะเฝ้ารอให้ผมเลิกกับตวันมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีที่ว่างให้หรอก ผมไม่ง่ายขนาดนั้น

   “ฉันรู้...” ศศินไม่ถือสา แถมยังยิ้มบางอย่างชินแล้ว ขืนผมตอบว่ารักกลับสิ เขาจะกระโดดเด้งดึ๋ง คิดว่าฝันไป “แต่กับคนที่รักมากยังหมดรักได้...”

   ศศินเผยยิ้มวายร้าย

   “กับคนที่ไม่ได้รักเลย สักวันอาจจะเป็นที่รักก็ได้นะ”


   




   ผมลืมตาอีกครั้งบนเตียงนอนในโรงแรมแห่งหนึ่ง

   ผมอ้าปากค้าง รีบสำรวจตัวเองทันที ก่อนจะพบว่าเสื้อผ้าอยู่ครบ ที่ขาดไปคือรองเท้ากับเสื้อตัวนอกเท่านั้น

   ผมกุมศีรษะ รู้สึกมึนมาก ทั้งโลกหมุนทั้งพื้นเอียง แย่ล่ะสิ ผมไม่ค่อยกินเหล้าเท่าไหร่เพราะเมื่อก่อนเคยลองแล้วอ้วกจนไข้ขึ้น ตวันเลยห้ามดื่มเด็ดขาด แต่ตอนนี้ไม่หนักขนาดนั้นแล้ว ผมเดินโซเซเข้าห้องน้ำ เกาะชักโครกเพื่ออาเจียน

   พะอืดพะอมสุดๆ

   ผมด่าตัวเองว่าทำบ้าอะไรวะ ทรมานตัวเองเพื่ออะไร ดีนะที่เลือกดื่มวันศุกร์ ไม่งั้นคงไปทำงานไม่ไหว ตอนนี้บริษัทยิ่งระส่ำระสายเพราะการลาออกกะทันหันของตวัน หลายๆ อย่างยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง แม้ลุงสมชิดจะช่วยหนุนหลัง แต่การเปลี่ยนแปลงเจ้านายคนใหม่ก็ทำให้ติดขัดอยู่มากทีเดียว

   ผมอาบน้ำแล้วใส่ชุดเดิม พอเดินออกมาก็ถามพนักงานว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น

   เขาเล่าว่าศศินให้คนมาเรียกไปอุ้มผมในรถ เพราะกลัวว่าถ้าเขาพาเข้ามาเองจะดูไม่ดี จากนั้นพนักงานโรงแรมสองคนก็หามผมขึ้นห้องนอน ช่วยถอดรองเท้าและเสื้อนอกให้ ก่อนจะล็อกประตูไม่กล้าแตะต้องอะไรทั้งนั้น

   ผมให้ทิปพนักงาน ก่อนจะนวดขมับ นึกกลัวว่าหากพี่นทีรู้เข้าต้องโวยวายแน่

   “วา!”

   ...ผิดจากที่คิดซะที่ไหน!

   พี่นทีเข้ามาพยุงผม ดมฟุดฟิดเหมือนภรรยาจับผิดสามี เมื่อได้กลิ่นเหล้าก็รีบทาบมือบนหน้าผากผมทันที ก่อนจะหันไปหาพนักงานคนเดิมให้ช่วยเรียกหมอมาตรวจ

   “พี่ที วาสบายดี”

   “วาไม่สบาย ตัวร้อนยังไม่รู้ตัวอีก”

   ผมกะพริบตาปริบๆ หรือไอ้ที่มึนหัวจะไม่ใช่เพราะฤทธิ์เหล้า แต่เพราะไข้ขึ้นงั้นเหรอ

   ลองทาบหน้าผากตัวเอง...อุ่นนิดๆ เทียบเท่าโกโก้ตอนผมทิ้งให้ควันลอยกรุ่น...

   พี่นทีนะพี่นที แค่นี้ต้องห่วงขนาดลากผมจนแทบจะจับอุ้มเลยเหรอ

   พี่ชายเปิดห้องใหญ่สุดทั้งลากทั้งฝืนจับผมนอน แล้วเช็ดตัวระหว่างรอหมอที่ถูกเชิญตัวมากะทันหัน เมื่อตรวจแล้วพบว่าผมไข้ขึ้นแค่สามสิบแปดองศาเท่านั้น...แค่กินยาก็หายแล้ว แต่พี่นทียืนยันให้ผมนอนพัก

   “พี่ทีไม่ไปทำงานเหรอครับ”

   “ไม่ไปหรอก” พี่นทีเอ่ย ลูบศีรษะผมพร้อมแย้มยิ้มบาง “พี่จะอยู่กับวา”

   ผมหลับตา ซึมซับความอบอุ่นจากฝ่ามือนั้น พลันรู้สึกอยากจะร้องไห้

   ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่ค่อยสนิทใจกับพี่ชายเพราะเขาไปเรียนเมืองนอก ทิ้งให้ผมอยู่กับตวันไม่พอ กลับมายังไม่ชอบขี้หน้าตวัน แสดงออกชัดเจนจนพวกเราอึดอัด แต่ผมเกือบจะลืมไปแล้วว่าก่อนตวันจะคอยลูบศีรษะปลุกอย่างอ่อนโยนนั้น คนที่ช่วยดูแลผมยามป่วยกระเสาะกระแสะตอนเด็ก นั่งเฝ้าไข้ไม่ห่างก็คือพี่ชายคนนี้เอง

   หลังจากวันนั้นพี่นทีก็เกลี้ยกล่อมให้ผมกลับบ้าน

   ผมหลงตามมาแบบมึนๆ

   แต่พอโดนพี่นทีประคบประหงม ห้ามนอนดึกเกินห้าทุ่ม ห้ามเล่นโทรศัพท์ตอนกลางคืน จู้จี้กระทั่งการแต่งตัวก็เริ่มคิ้วกระตุก

   ทานข้าวกับพี่ชายแล้วเจอพี่แกถามบริกรไล่ทุกเมนู กว่าจะได้สั่งปาไปครึ่งชั่วโมงก็ชักทนไม่ไหว

   ทนอยู่กับพี่ชายได้อาทิตย์เดียวผมก็หอบผ้าหอบผ่อนกลับคอนโดฯ อันแสนสุข โลกส่วนตัวที่ไม่มีคนมาจุกจิกหรือต้องมายืนรอพี่นทียิ้มให้กับต้นไม้ใบหญ้าในสวน...

   ผมรักพี่นะ แต่เราอยู่ด้วยกันไม่ได้จริงๆ บาย!


   ----------------------

   ขอเวลาให้นาวาได้เศร้าสักสองตอนนะคะ ตอนต่อไปน้องจะกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมแล้ว!!

   ความจริงเราอบอุ่นใจฉากพี่นทีลูบศีรษะนาวามากเลย แม้พี่แกจะเยอะเหมือนเดิม...แต่ก็เห็นถึงสายไยความผูกพันระหว่างสองพี่น้อง พี่นทีรักน้องชายมากจริงๆ อาจเพราะเสียพ่อแม่ไวด้วย และเพราะตั้งแต่จำความได้นาวาก็เป็นน้องชายที่ร่างกายอ่อนแอมาตลอด แถมยังชอบทำเหมือนตัวเองไม่เป็นไรตลอดอีกแหน่ะ พี่นทีจะชอบคิดว่าฝืนก็ไม่ผิดใช่มั้ยคะ ( ช่วยแก้ตัวให้แล้วนะพี่นที! ขอสินบนด้วยย !)

   #นาวาสไตล์

   

   
ตัวอย่างตอนต่อไป นาวามาให้สัมภาษณ์นิตรสารค่า
   “ไม่ทราบว่าคุณตวันขอลาออกเพราะละอายใจเรื่องที่เกิดขึ้นรึเปล่าคะ”

   

เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-07-2019 20:19:00
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 13-07-2019 20:32:07
ขอเสนอคำว่าพี่นทีคนหลงน้อง
ตวันสู้นะ
     ศศินก็น่ารักและดีกับนาวาเสมอ
รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 13-07-2019 21:29:55
 :pig4:
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 13-07-2019 21:41:53
คุณจันทรา อ้าอ้อมแขน แสนอบอุ่น
กระชับกอด สอดปุยนุ่น ละมุนหมอน
หลับสนิท ชิดกายเกื้อ เอื้อฝันนอน
รออีกนิด ตื่นซะก่อน บอกรักคุณ

ศศิน#น่าฮักขนาด#ใครชักช้าจะแย่ง  :impress2:
อิอิ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-07-2019 21:53:00
พี่นทีก็น่ารักในสไตล์พี่เขา  :mew1:
คู่ของพี่นทีจะเป็นยังไงนะ  :really2:
คงดูแล ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมแน่เลย  o22
กระดิกตัวไปไหน คงอยู่ในสายตาพี่เขาแน่ๆ  :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 13-07-2019 22:10:24
ตลกที่น้องหนีพี่นที 5555555 แอบสงสารตวันนิดหน่อย เราเชื่อนะว่าตวันรักน้อง แต่ตวันยังรักน้องไม่พอ สมควรแล้วที่ต้องเจอแบบนี้ ขอให้โชคดี
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 13-07-2019 23:37:42
พี่นทีน่าจะมีคนมาดูแล ขำความบายไม่อยู่กับพี่ชายของนาวาหนักมาก :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-07-2019 00:36:52
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 14-07-2019 00:48:47
จะเป็นยังไงต่อนะ,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 14-07-2019 01:05:48
นี่แหละนะตวัน ทำตัวเองแท้ๆ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 14-07-2019 07:40:46
จบตามทางที่ควรจะเป็นเพราะทำตัวเองแท้ๆ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 14-07-2019 10:01:22
ยัวยืนยันให้พี่นทีคู่กับตะวัน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 14-07-2019 12:28:40
ศศินสู้ๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Himbeere20 ที่ 14-07-2019 14:38:05
ตวันคงรักนาวาจริงๆนั่นแหละ แต่ความที่นางขาดมาตั้งแต่ต้น ด้อยกว่าในทุกทาง ทำให้มีความทะเยอทะยาน จนประสบความสำเร็จ
ความรู้สึกที่ว่าไม่ได้ยืนอยู่ในเงาของใคร โลกใบนี้อยู่ในมือของฉันน่าจะมากพอดู จังหวะเหมาะได้รู้จักกับพาฝัน คงเป็นผู้หญิงคนแรกที่ตวันได้ใกล้ชิด ทำให้ความรู้สึกของตวันเตลิดไป มันแย่ก็ตรงที่โอกาศครั้งที่สองไม่ได้มีเสมอไป พังคือพัง
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 14-07-2019 22:07:35
ก็สงสารตวันนะแต่ทำไงได้ทำตัวเองแท้ ๆ หวังว่าถ้ามีรักครั้งต่อไปก็อย่าทำแบบนี้อีกก็แล้วกัน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 10 : ถึงเวลาต้องอำลา[13/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 15-07-2019 20:29:53
   
ตอนที่ 11

   ฟ้าหลังฝน

   

   อกหักไม่ยักกะตาย

   เมื่อก่อนเวลาผมแต่งตัวผีเข้าผีออก จะหมุนตัวต่อหน้าตวัน ให้เขาหัวเราะและยิ้มขันก่อนจะเดินควงแขนกันไปข้างนอก แต่ตอนนี้ไม่มีคนชมดูแล้วก็เบื่อๆ เลยถ่ายรูปลงอินสตาแกรมซะเลย กลายเป็นเทรนด์ #นาวาสไตล์ เพราะแต่ละวันผมแต่งตัวไม่ซ้ำแบบ จากผู้ติดตามหลักหมื่นขึ้นเป็นหลักแสนอย่างรวดเร็ว เมื่อผลตอบรับดีเกิดคาด ผมก็เริ่มหยิบเครื่องประดับของดาราลัยมาประยุกต์กับการแต่งกายแต่ละวัน ทั้งที่แต่ก่อนมักสวมใส่เฉพาะเวลาออกงานเท่านั้น

   โฆษณาแฝงเนียนๆ แต่ยอดขายพุ่งนะครับขอบอก

   จากที่โด่งดังเฉพาะกลุ่มตอนนี้ชื่อของผมก็เริ่มเป็นที่ติดหูในแวดวงสังคมทั่วไป เดี๋ยวนี้เวลาผมออกไปเดินห้างโดนขอถ่ายรูปยังมีเลย อย่างต่างหูไม้กางเขนฝังเพชรเม็ดเล็กที่ผมสวมตอนนี้ก็เป็นคอลเล็กชั่นใหม่ราคาไม่แพงมาก พูดถึงต่างหูอย่างเดียวคงไม่เห็นภาพ วันนี้ผมหยิบแจ็กเก็ตสีแดงซึ่งเต็มไปด้วยซิปสีทองไขว้ไปมาละลานตาคลุมไหล่ เสื้อยืดด้านในสีขาว กางเกงหนังรัดรูปสีดำคล้องโซ่ทองตรงข้างเอว รองเท้าบู๊ตแบบผูกเชือกสีน้ำตาลแดง

   เสื้อคลุมหลักแสน เสื้อยืดหลักร้อย กางเกงหลักพัน รองเท้าหลักหมื่น

   “งั้นมาเริ่มสัมภาษณ์เลยมั้ยคะ”

   “ครับ”

   คือชุดสัมภาษณ์สำหรับนิตยสารชื่อดัง บุคคลซึ่งเป็นที่พูดถึงแห่งปี เมื่อปีก่อนตวันกับพาฝันก็ได้รับการติดต่อ ผมยังเอารูปตวันที่สวมสูทเก๊กขรึมมาหยอกอยู่เลย เพราะเป็นนิตยสารที่ไม่ได้เน้นเรื่องการงาน เน้นสัมภาษณ์ไลฟ์สไตล์มากกว่า ทางกอง บ.ก. ติดต่อว่าขอให้ผมแต่งตัวเต็มที่ ผมเลยเอาแบบพอประมาณ ไม่มากไม่น้อยเกินไป

   ส่วนใหญ่ก็เริ่มจากเรื่องทั่วไปว่าผมสนใจด้านนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ มาย้อนนึกดูก็อย่างที่นทีบอก ผมชอบมานานแล้ว แม่เห็นแววก็เลยพาไปที่ทำงานบ่อยมากเมื่อมีโอกาส แฟชั่นโชว์เครื่องเพชรต่อให้ป่วยก็งอแงจะไปให้ได้ ผมเล่าวีรกรรมตอนเด็ก ทั้งขำทั้งตลกตัวเอง ผมครั้งหนึ่งผมรื้อเครื่องเพชรแม่ซะเละ คิดจะจับตะวันแต่งตัว แต่เขาปฏิเสธหัวเด็ดตีนขาดไม่ยอมแต่งเด็ดขาด

   “แสดงว่าคุณนาวารู้จักคุณตวันตั้งแต่เด็ก”

   “เราโตมาด้วยกันครับ” ผมตอบยิ้มๆ รู้ดีว่าทางนิตยสารต้องการจับประเด็นที่กำลังเป็นที่พูดถึงตอนนี้ เพราะมีหลายสำนักติดต่อผม แต่คุณครับ ผมไม่ใช่ดารา ไม่ขอให้ข่าวเรื่องสัมพันธ์รักสามเส้าหรอก

   แต่ใช่ว่าจะไม่บอกเป็นนัยๆ พ่วงโปรโมตตัวเองเรียกคะแนนสงสาร

   จากนั้นก็เป็นรายละเอียดของแฟชั่นโชว์ล่าสุดที่จู่ๆ ผมก็ลุกขึ้นมาทำซะเฉยๆ มีข่าวลือออกมาว่าผมตัดหน้าตวัน ผมเลยโคลงหัวถามกลับว่าจะเรียกตัดหน้าได้ยังไง ในเมื่อนี่เป็นบริษัทของเรา ผมโอนหุ้นให้ตวัน แล้วกับแค่ดึงมาคุมเองจะนับเป็นอะไรได้

   “เห็นว่าคุณออกแบบเครื่องเพชรในโชว์สุดท้ายเองเหรอคะ”

   “ใช่ครับ” ผมพยักหน้ารับ

   “คุณกลับมาเพราะสงสัยในความสัมพันธ์ของคุณตวันกับคุณพาฝันใช่มั้ยคะ”

   “เรื่องนี้ผมขอไม่ตอบนะ” ผมเอ่ยอย่างสุภาพ ยังคงยิ้มแย้มและเป็นกันเอง บรรยากาศค่อนข้างราบรื่นด้วยดี จนจบประวัติของนายนาวา ดาราลัยก็เริ่มสอบถามถึงเจาะลึกขึ้น

   “ไม่ทราบว่าคุณตวันขอลาออกเพราะละอายใจเรื่องที่เกิดขึ้นรึเปล่าคะ”

   “นี่เป็นเรื่องส่วนตัว ผมไม่ขอตอบแทนตวันนะครับ”

   “งั้นกับคุณพาฝัน คุณนาวาให้ความเห็นกับกระแสของเธอตอนนี้ยังไงเหรอคะ”

   “นั่นก็เรื่องส่วนตัวของเธอเหมือนกัน ผมไม่ขอตอบคำถามของพวกเขาทั้งสองคน แต่ที่ยืนยันได้แน่ชัด คือตอนนี้ผมโสดสนิท”

   แค่นี้ก็ชัดแล้วว่าผมกับตวันเลิกกันเพราะใคร

   ฝ่ายผู้สัมภาษณ์ก็ค่อนข้างพอใจกับคำตอบ เพราะเธอเองก็ไม่ใช่นิตยสารจับผิดดารา แค่อยากให้เนื้อหาดูน่าสนใจมากขึ้นเพื่อเกาะกระแสข่าวตอนนี้ก็เท่านั้น

   “ไม่ทราบว่าจะเป็นการละลาบละล้วงเกินไปมั้ยคะหากจะสอบถามถึงความชอบส่วนตัวของคุณนาวา”

   “ได้สิครับ คุณนัดผมมาสัมภาษณ์เรื่องตัวเองอยู่แล้วนี่”

   “งั้นคุณนาวาคิดอย่างไรกับความรักของคนเพศเดียวกันเหรอคะ”

   ครั้งนี้ผมขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะตอบอย่างมาดมั่น

   “ผมคิดว่าความรักไม่จำกัดเรื่องเพศนะครับ ก็เหมือนกับการแต่งตัวที่หลากหลาย หรือการที่ผมนำเครื่องประดับผู้หญิงมาสวมใส่ ขอเพียงทำแล้วมีความสุข เหมาะสมกับตัวเอง แค่นั้นก็พอแล้วครับ”

   “คุณนาวาจะสื่อว่าเปิดกว้างทั้งผู้หญิงและผู้ชายเหรอคะ”

   “ใช่ครับ”

   “งั้นขอถามสเป็กคุณนาวาได้มั้ยคะ เพราะตอนนี้มีคนสนใจคุณเยอะมากเลย”

   “อืม...ผมชอบผู้ใหญ่น่ะครับ ไม่ได้หมายความว่าคนอายุมากนะ แต่ผมชอบคนนิสัยผู้ใหญ่ เพราะผมเป็นพวกไม่ค่อยคิดอะไรเยอะ รักก็รัก เกลียดก็เกลียด คิดจะลุยงานขึ้นก็มาก็ทำเต็มที่ ถ้าอยากจะนอนกลิ้งก็นอนอย่างเดียว อยากจะทำอะไรก็ทำ หรือเรียกง่ายๆ ว่าทำตามใจตัวเองน่ะครับ” ผมหัวเราะ “ผมเลยคิดว่าถ้าได้คนนิสัยผู้ใหญ่ ใจเย็น พึ่งพาได้น่าจะเป็นคู่รักที่ดี แต่นั่นก็เป็นแค่สเป็กในอุดมคติ ความจริงขอแค่เข้ากันได้ อยู่ด้วยแล้วชอบ มีความสุขทั้งสองฝ่ายก็โอเคแล้วครับ ที่สำคัญ...”

   “ที่สำคัญอะไรเหรอคะ”

   “ต้องซื่อสัตย์” ผมหลุบตาต่ำเล็กน้อยคล้ายไม่อยากหวนนึกถึงอดีตที่ทำร้ายจิตใจ “ถ้าเข้ากันไม่ได้ยังพอปรับกันรอด ถ้าใจร้อนเหมือนกันผมยังอาจยอมลงให้ได้ แต่ถ้าไม่ซื่อสัตย์...ผมรับไม่ได้”

   “เป็นการทิ้งท้ายที่สมเป็นคุณนาวาจริงๆ ค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะสำหรับการให้สัมภาษณ์ในวันนี้ รบกวนขอทางเราเก็บภาพสักสามสี่ภาพนะคะ”

   “ตามสบายเลยครับ”

   




   หลังนิตยสารนั้นตีพิมพ์ได้ไม่นาน รวมถึงนำบทสัมภาษณ์ลงในเว็บไซต์ออนไลน์ คนก็แคปแล้วแชร์กันเป็นจำนวนมาก เพราะทางพาฝันกับตวันไม่ขอให้ความเห็น คำตอบของผมจึงไม่ต่างกับการยืนยันบทสรุปถึงเรื่องราวสามเส้าทั้งหมด

   แล้วผมก็ฮอตมาก มีคนติดต่อเข้ามาทั้งหญิงและชาย คนรวยจริงก็นึกอยากท้าทายลองจีบดู ส่วนคนรวยไม่จริงก็หวังเกาะกระแส นาวาล่ะเพลีย กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้เวลาออกงานหลังจากเดินโชว์เครื่องเพชรรอบงานจนคนเห็นกันทั่วแล้วก็ต้องพยายามปลีกตัวหลบเลี่ยงผู้คนสุดชีวิต ซึ่งคนที่หาเจอคนแรกก็คือ...ศศิน

   แม้ผมจะยังไม่พร้อมมีความรักครั้งใหม่ แต่ก็ไม่เสียหายอะไรหากจะลองเปิดใจคุยกับศศินหลังวิ่งหนีเขามาตลอดเจ็ดปี ส่วนเรื่องจะพัฒนาความสัมพันธ์ไปได้ถึงไหนนั้น...ก็เป็นเรื่องของอนาคต

   ศศินบอกว่าเขารอผมมาเจ็ดปีแล้ว ต่อให้ต้องรออีกสิบแปดปีให้เท่ากับที่ตะวันรู้จักผมมาทั้งชีวิตก็ยังไหว

   “สวัสดีครับคุณนาวา”

   “มามุกไหนของนายเนี่ย” ผมเลิกคิ้วขณะมองคนยียวนกวนประสาทที่เห็นหน้าเป็นต้องเรียกที่รักจ๊ะที่รักจ๋า แต่วันนี้กลับเก๊กหน้าเคร่งขรึม ถือแก้วแชมเปญยกขึ้นเป็นเชิงขออนุญาตคุยด้วย นับตั้งแต่ออกแบบเข็มกลัดให้ ศศินก็มักติดมันบนเสื้อสูทเสมอจนแทบเป็นเอกลักษณ์ของเขาไปแล้ว และเพราะวันนี้เป็นงานเลี้ยงการกุศล ศศินจึงเลือกใช้เข็มกลัดแบบแรกที่มีตัวเอสตรงกลางซึ่งเหมาะกับการออกงานสำคัญเพื่อให้เกียรติงาน เห็นทีไรก็ภูมิใจทุกทีว่าผมเนี่ย...มีพรสวรรค์ด้านนี้แฮะ

   ถึงจะแทบไม่มีความรู้เรื่องการใช้งานจริง แต่ผมจ้างคนมาเพื่อจัดการด้านนี้อยู่แล้ว ผมนั่งร่างภาพ จากนั้นก็โยนให้มืออาชีพช่วยปรับแล้วขึ้นโมเดลให้ว่าจะใช้เพชรกี่กะรัต ขนาดเท่าไหร่ จำนวนเท่าไหร่ โครงสร้างนี้สามารถทำได้ไหมและต้องทำยังไงให้ออกมาใกล้เคียงที่สุดโดยไม่เสียสมดุล

   “ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะครับคุณนาวา คุณชอบผู้ใหญ่ใจเย็นไม่ใช่หรือ”

   ผมหัวเราะพรืด ช่วงหลังมาคนที่เข้ามาจีบมักวางมาดนี้ ทำเอาผมนึกโชคดีชะมัดที่ไม่บอกว่าชอบแบบท้าตีท้าต่อย ไม่งั้นคงมีหลายคนเรียงแถวเข้ามาหาเรื่อง น่าปวดหัวพิลึก

   “พอเถอะ ฉันขนลุก” ผมเอ่ยพร้อมยกแก้วขึ้นชนกับศศิน ก่อนจะยกจิบพลางดื่มด่ำกับพระจันทร์ในค่ำคืนนี้ ผมปลีกตัวออกมายืนหลับอยู่หลังเสาด้านนอกงาน เลือกที่ที่เงียบที่สุด ไม่มีคนเดินผ่านที่สุดแล้วเชียว

   แต่ศศินก็หาเจอ

   เขาหาผมเจอทุกรอบจนชักไม่มั่นใจว่าแอบติดจีพีเอสไว้รึเปล่า พอถามไปว่าหาผมเจอได้ยังไง ศศินก็ตอบง่ายๆ ว่าก็แค่ไปตรงจุดที่มืดที่สุดหรือจุดที่ดูไม่น่าจะมีคนไปที่สุดก็เจอแล้ว

   ศศินรู้ว่าควรเข้าหาผมตอนไหนหรือยังไง เขาเย้าหยอกเวลาผมเหงาและเงียบยามที่ผมต้องการความสงบเสมอ อย่างตอนนี้เขาก็แค่ยืนอยู่ข้างผมเฉยๆ ไม่ได้เข้าใกล้เกินไป จะว่าไปศศินก็มักเว้นระยะห่างเสมอ แทบไม่เคยเข้าใกล้ลามปาม ฉวยโอกาสแต๊ะอั๋งเลย

   ต้องโทษไอ้คำพูดยียวนที่ชวนเข้าใจผิด

   จนลืมมองว่าเขาเองก็เป็นสุภาพบุรุษเหมือนกัน

   เดี๋ยวนาวา นายจะโดนหมอนี่หลอกไม่ได้ สุภาพบุรุษบ้าอะไรตามจีบคนมีแฟนมาตลอดเจ็ดปี!

   ผมส่ายหน้า สยองตัวเองที่เริ่มคิดในแง่ดีกับศศิน ก็ไม่แปลกเพราะผมกับเขาคุยกันมากขึ้น แม้จะไม่ได้โทรคุย แต่ก็แชตผ่านโทรศัพท์ ช่วยไม่ได้ครับ ถึงไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากเขา แต่พอไม่มีตวัน ไม่มีพี่นทีช่วยปลุกตอนเช้า ผมก็ไปทำงานสายตลอดจนเหนื่อยใจตัวเอง นาฬิกาสามเรือนไม่ช่วยอะไร ตอนนี้บริษัทกำลังระส่ำระสาย แม้ยอดขายจะดีแต่ก็เป็นช่วงปรับตัวครั้งใหญ่เมื่อตวันลาออก แถมยังออกด้วยเรื่องชู้สาว

   ผมเลยพยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการเข้างานแต่เช้า ออกงานตอนเย็น สร้างความมั่นคงให้พนักงานเชื่อถือว่าจะไม่มีการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงอีกแน่นอน สุดท้ายเลยต้องส่งข้อความไปหาศศิน ให้เขาช่วยอัดเสียงมาตั้งปลุกโดยที่ห้ามพูดจาชวนเลี่ยนเด็ดขาด

   ศศินจัดให้ตามคำขอ

   ทุกวันนี้ผมลืมตาตื่นตอนเช้าอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่นาฬิกาปลุกเครื่องไหนจะทำได้ เพราะศศินเล่นสวดมนต์ให้ผมฟังทุกภาษาไล่ตั้งแต่ไทย จีน อังกฤษไปถึงรัสเซียหรือภาษาที่ผมฟังไม่ออก วันดีคืนดีก็ร้องเพลง (เสียงเพี้ยนๆ) ที่เล่นเอาผมหลอนหูไปทั้งวัน บางวันเล่านิทาน บางวันท่องกลอน บางวันก็เล่นมุกแบบชงเองตบเอง เรียกว่าไม่ซ้ำรูปแบบจนผมชักจะติดใจขึ้นมานิดๆ และเริ่มรอคอยว่าพรุ่งนี้จะเป็นเสียงแบบไหนกันนะ

   ไม่คิดไม่ฝันว่าคนอย่างศศิน เจ้าพ่อเงินกู้ผู้เป็นเจ้าของไนต์คลับซึ่งมีเงินนอกภาษีหมุนเวียนมากมายมหาศาลจะมาทำอะไรติงต๊องให้ผม แถมไม่อายด้วย ตอนผมทักบอกว่าเขาร้องเพลงเพี้ยนสุดกู่ ยังมีหน้าตอบว่า ‘งั้นที่รักสอนให้สิจ๊ะ นัดกันเลยมั้ย คาราโอเกะที่ไหนดี’ เล่นเอาผมกลอกตามองบน

   “กลุ้มใจอะไรเหรอที่รัก”

   ผมเหนื่อย อึดอัด แม้จะรู้ว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ แต่แค่คิดว่าจะต้องเดินเข้าไปในงาน สวมหน้ากากปั้นหน้าก็อยากกลับบ้านจะแย่แล้ว แต่ก็กลัวว่าหากชิ่งกลับก่อนจะโดนมองไม่ดี ถูกหาว่าไม่ให้เกียรติเจ้าของงาน

   อย่างไอ้การเดินมาหลบแบบนี้ก็ทำได้มากสุดแค่สิบห้านาที ผมต้องเดินกลับเข้าไปให้คนพอเห็นหน้าแล้วหนีมาปลีกวิเวกสลับไปมาอย่างนี้จนได้เวลาเหมาะสมถึงจะเรียกคนขับรถมารับกลับ

   “เหนื่อยเหรอ”

   “...”

   “โธ่ที่รัก เหนื่อยนี่เอง”

   “...”

   “ไม่อยากคุยกับฉัน งั้นคุยกับมูนนี่ของที่รักแทนมั้ย”

   “นายจริงๆ ด้วย” ผมหลุดหัวเราะ อย่างงกัน ‘มูนนี่ของที่รัก’ คือชื่อแอ็กเคาต์ในอินสตาแกรมต้องสงสัยที่มักคอมเมนต์ใต้รูปผมอย่างสม่ำเสมอ เป็นแอ็กเคาต์สมัครใหม่ที่ติดตามนาวา ดาราลัยแค่คนเดียว แถมยังเรียกที่รักอย่างนั้น ที่รักอย่างนี้จนนึกถึงคนอื่นไม่ออกเลย แต่ก็ไม่ได้ถามไปหรอกนะ เพราะพอมีคนเห็นเขาเรียกผมว่าที่รักก็เริ่มมีแฟนคลับของผมเรียกตาม จนตอนนี้นาวากลายเป็นที่รักของทั้งชายและหญิง บันเทิงดี

   “คนที่เรียกว่าที่รักจะมีใครไปได้”

   “มีสิ มีคนเรียกตามนายเยอะเลย” ไม่พูดเปล่า ผมยังเปิดอินสตาแกรมให้ดูเป็นการยืนยัน ไอ้ความอึดอัดในใจพอได้คุยเรื่องไร้สาระก็เริ่มผ่อนลง “นี่ไง”

   “ยิ้มได้ก็ดีแล้ว”

   “...”

   ก่อนจะกลับมาทำหน้าตึงอีกครั้ง

   “ถ้าเหนื่อยก็พักบ้าง”

   “พักได้ที่ไหน” ผมถอนหายใจเฮือก เหม่อมองฟ้า นึกในใจว่าอยากนอนตีพุงจังเลยน้า อยากวิ่งหนีเข้าป่า อยากปีนเขาไม่ก็ล่องไพรให้รู้แล้วรู้รอด

   “ด้ายที่ขึงตึงเกินไปก็ไม่ดี หย่อนเกินไปไม่ดี งั้นฉันช่วยแนะนำดีมั้ย” พลันศศินก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์

   “อะไรของนาย” ผมมองเขาแบบไม่วางใจสุดขีด

   “ทางสายกลางไงครับที่รักจ๋า”


   ---------------------

   เมื่อจับคนที่นอนตีพุงขี้เกียจมาตลอดเข้าทำงานในระบบบริษัท นาวาก็จะเครียดหนักยิ่งกว่าตอนวางแผนสลัดตวันทิ้งอีกค่ะ

   แรกเริ่มปรับตัวอาจจะยากหน่อย แต่เชื่อมั่นว่านาวาจะทำได้แน่นอนเนอะพวกเรา!! หาเสียงช่วยให้กำลังใจน้องกันค่ะ น้องคงเหวอมากตอนศศินมาทักในมาดผู้ใหญ่ใจเย็น เราแต่งเองยังขำกร๊าก มันใช่เหรอศศิน!! แต่ถ้าเกิดนาวาให้สัมภาษณ์ว่าชอบแนวนักเลงท้าตีท้าต่อยก็คงสนุกน่าดูนะคะ ศศินต้องป่วนหนักแน่ๆ 555555

ปล.วันนี้อัพช้าขอโทษด้วยนะคะ คอมเราเปิดไม่ติดเลยต้องแบกไปร้านซ่อม เพิ่งเปลี่ยนจอมาก็อัพให้เลยค่า

   #นาวาสไตล์

   

   ตัวอย่างตอนต่อไป แม้ตวันจะยอมถอย แต่มีคนหนึ่งที่ไม่ยอมถอยค่ะ
   “ฉันอยากให้คุณช่วยติดต่อตวันให้รับผิดชอบฉัน”
   “เอ่อ...ขอโทษนะ ฉันต้องเล่นบทพ่อพระเป็นสะพานเชื่อมให้พวกคุณด้วยเหรอ”


   

เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 11 : ฟ้าหลังฝน [15/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 15-07-2019 22:06:57
แสงเดืิอนอ่อน ตอนตะวัน พลันจ้าแสง
แสงเดือนแรง เมื่อตะวัน ลับเหลี่ยมเขา
มีแสงเดือน อยู่เป็นเพื่อน เหมือนสองเรา
ไม่อ่อนล้า ไม่กลัวเหงา เจ้าจันทรา

ศศิน#อยากแย่งมาเป็นของเรา#เหงาอ่ะ
อิอิ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 11 : ฟ้าหลังฝน [15/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 15-07-2019 22:08:21
ทางสายกลางนี่ใช่กลางใจของศศินรึเปล่าคะ ฮิ้วววววว
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 11 : ฟ้าหลังฝน [15/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 15-07-2019 22:17:30
55555ที่ร้ากกกกกก


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 11 : ฟ้าหลังฝน [15/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-07-2019 22:29:46
ศศิน มาถูกทางแล้ว  :katai2-1:
ที่รัก.....ของศศิน เริ่มรอคอยแล้วว่าศศินจะมาในรูปแบบใด   :m20: :laugh:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 11 : ฟ้าหลังฝน [15/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 15-07-2019 23:17:04
เอาละสิ ศศิน เริ่มรุกหนักแล้ว,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 11 : ฟ้าหลังฝน [15/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 16-07-2019 01:05:50
ชอบศศินมากๆ น่ารักมากแม่ :-[ :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 11 : ฟ้าหลังฝน [15/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 16-07-2019 02:07:54
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 11 : ฟ้าหลังฝน [15/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 16-07-2019 02:14:58
ศศินน่ารักอ่าาาา
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 11 : ฟ้าหลังฝน [15/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 16-07-2019 09:28:32
อ้าวมาบอกให้รับผิดชอบแบบนี้อย่าบอกนะว่าท้อง ไม่เอานะถึงตวันจะเผลอนอกใจนาวาแต่เราก็ไม่อยากให้ตวันคู่กับยัยชะนีนี่
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 11 : ฟ้าหลังฝน [15/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-07-2019 11:56:13
สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 11 : ฟ้าหลังฝน [15/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 16-07-2019 14:53:05
       เป็นตอนที่จีบแบบน่ารักในสไตล์ศศินนางก็บ้าๆบอๆตามสไตล์แต่ไม่รู้ทำไมถ้ามีคนแบบนี้จริงๆใน ชิวิตมาจีบเราว่าคงสนุกน่าดู
        รออ่านตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 11 : ฟ้าหลังฝน [15/07/62] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: PAtxxkMxxn ที่ 16-07-2019 18:40:17
เชียร์ศศิน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 17-07-2019 18:46:20
   
ตอนที่ 12

   พายุตั้งเค้า

   

   ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วนับจากตวันลาออก รวมๆ แล้วผมเรียนรู้งานที่ดาราลัยจิวเวลรี่ได้ร่วมสี่เดือน ถ้าเป็นเด็กทดลองงานนับว่าผ่านโปรฯ ฉลุย หลายๆ อย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น รวมถึงร่างกายผมเองที่เริ่มชินกับการตื่นเช้าทั้งที่ตอนแรกแทบจะเป็นจะตาย

   ผมค่อยๆ ปรับตารางตามคำแนะนำของศศิน ไปทำงานเช้าตรงเวลาทุกวัน แต่หลังประชุมเสร็จเมื่อไม่มีธุระสำคัญหรือเอกสารต้องเซ็นก็ออกมานั่งทำงานข้างนอก ส่วนใหญ่ตระเวนนั่งตามร้านคาเฟ่ถูกใจ ติดต่องานกับเลขาฯ ผ่านอีเมล กินลมชมวิวสักสามสี่ชั่วโมงก็ค่อยไปที่ทำงานอีกครั้ง ก่อนจะกลับพร้อมพนักงานทุกคน

   ตอนแรกๆ หลายคนก็ไม่ชินหรอกกับเจ้านายที่แวบไปแวบมา เพราะตวันเป็นหัวหน้าที่ตรงต่อเวลาและประจำอยู่ในบริษัทเสมอ แต่ผมก็เริ่มจากออกมานั่งอาทิตย์ละครั้งบ้าง สองอาทิตย์ครั้งบ้าง จนตอนนี้เริ่มกลายเป็นสามวันครั้งต่ออาทิตย์ ข้อดีคือผมคิดงานได้ไวกว่านั่งหน้าโต๊ะซะอีก และผลงานก็เป็นที่น่าพอใจด้วย หลายคนเลยเริ่มเข้าใจถึงวิธีการทำงานของนาวา ดาราลัย เพราะตอนนี้มีใบสั่งให้ผมช่วยออกแบบเครื่องประดับเรียงยาวเป็นหางว่าว แต่ผมดันไม่ทำตามออเดอร์ เน้นทำตามอารมณ์ซะส่วนใหญ่ เล่นเอาฝ่ายบริการลูกค้าถึงกับหัวหมุน จะเร่งก็ไม่ได้เพราะถ้าคิดไม่ออกก็คือคิดไม่ออกจริงๆ

   วิธีการทำงานของตวันคือการสนับสนุนลูกน้อง เน้นเติบโตไปพร้อมๆ กันอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้จะไม่มีผลงานโดดเด่นแต่ยอดขายเพิ่มขึ้นแบบเรื่อยๆ ส่วนวิธีการทำงานของผมคือต้องสนับสนุนคนที่มีผลงานโดดเด่นและสร้างความเชื่อมั่นว่าผู้นำอย่างผมจะสามารถขับเคลื่อนดาราลัยจิวเวลรี่ไปข้างหน้าได้อย่างก้าวกระโดด ยอดซื้อยอดสั่งจองแบบสั่งพิเศษนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ฉะนั้นเมื่อผมเริ่มเถลไถลมากขึ้น จากไม่ชินไม่เข้าใจ พอเห็นผลงานออกมาดีกว่าเดิมพนักงานหลายคนก็แทบจะไล่ให้ผมไปไวๆ ด้วยซ้ำ

   ผมเองก็ค่อยยังชั่ว ไม่อึดอัด ให้นั่งหน้าโต๊ะทำงานทั้งวันตายพอดี!

   อย่างวันนี้เองผมก็หาร้านคาเฟ่ถูกใจได้อีกแห่ง เป็นร้านเรือนกระจกที่ตกแต่งสวนด้วยต้นไม้ของจริง แต่ใช้เครื่องปรับอากาศให้ความเย็นแทนลมธรรมชาติ เพราะประเทศไทยตอนนี้ร้อนตับแลบ ขืนนั่งกลางสวนกลางแดดมีหวังคงหัวร้อนมากกว่าจะนั่งทำงานสบายๆ จุดที่ผมนั่งอยู่นี้เป็นโดมไม้ซึ่งมีลักษณะคล้ายเถาวัลย์พันเกี่ยวซึ่งแยกจากโซนหลักและเป็นส่วนตัว เก้าอี้รูปไข่ตัวใหญ่ปูด้วยเบาะนุ่มและหมอนหนุนอัดแน่นถึงสามใบ พิงไปทางไหนตัวก็แทบจมไปในหมอน นุ่มนิ่มจนเกือบเคลิ้มหลับไปหลายรอบ ถ้าไม่ติดว่ามีโกโก้ให้นั่งจิบแก้ง่วง มองวิวไปก็ทำงานไป สุขีสุดๆ

   จนกระทั่งมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา

   ผมเงยหน้าจากกระดาษสเก็ตช์ซึ่งวาดละเลงเละเทะทั้งแหวนและต่างหู

   “ขอคุยด้วยได้มั้ยคะ”

   “ไม่ได้”

   ผมตอบทันทีก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อ แต่ผู้มาเยือนไม่ฟัง เธอถือวิสาสะทิ้งตัวนั่งฝั่งตรงข้ามผม ซึ่งจะเป็นใครไม่ได้นอกจากพาฝัน

   ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่กับการปรากฏตัวครั้งนี้เพราะผมเพิ่งจะถ่ายรูปเช็กอินร้านลงโซเชียลเมื่อสามสิบนาทีก่อนนี่เอง ปกติผมไม่บอกใครหรอกนะว่าอยู่ที่ไหน แต่ร้านนี้ศศินเป็นคนแนะนำมา ผมไม่อยากขอบคุณเขาตรงๆ เลยใช้วิธีอ้อมโลกอย่างถ่ายรูปลงโซเชียลให้มูนนี่ของที่รักเห็นแทน

   “ฉันท้อง”

   “เรื่องของคุณ” ผมเอ่ยตัดบทไร้เยื่อใย เพราะเธอจะท้องหรือไม่ท้อง ผมก็ไม่ใช่คนมีอะไรกับพาฝันอยู่ดี แม้จะแอบสะดุ้งในใจก็ตาม...

   หนึ่งเดือนที่มานี้ตวันไม่ติดต่อมาอีกเลยและหายหน้าหายตาไปจากแวดวงสังคม ซึ่งผมรู้มาจากศศินว่ากำลังตระเวนหางานแต่ไม่ค่อยรุ่งนัก ตวันเป็นคนมีความสามารถ แต่ประวัติติดตัวไม่ดี แถมยังขัดแย้งกับตระกูลใหญ่อย่างดาราลัย เลยไม่ค่อยมีคนอยากรับเผือกร้อนนี้เท่าไหร่นัก

   ส่วนพาฝัน เธอหมดอนาคตในวงการ คนไทยชอบเรื่องคาวๆ รักสามเส้าเราสามคนอยู่แล้ว จากที่ดังในแวดวงนางแบบ ไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าดารานักแสดง ตอนนี้กลายเป็นที่รู้จักทั้งประเทศ เธอกลายเป็นมือที่สาม เมียน้อย คนขี้โกหก สภาพแย่กว่าตวันหลายเท่า

   “ฉันอยากให้คุณช่วยติดต่อตวันให้รับผิดชอบฉัน”

   “เอ่อ...ขอโทษนะ” ผมโคลงศีรษะเล็กน้อย “ฉันต้องเล่นบทพ่อพระเป็นสะพานเชื่อมให้พวกคุณด้วยเหรอ”

   ผมถามงงๆ

   “ฉันติดต่อตวันไม่ได้! เขาบล็อกเบอร์ เปลี่ยนที่อยู่ หายตัวไปดื้อๆ แต่ถ้าเป็นคุณ...เขาต้องรับแน่”

   พาฝันดูหมดหนทางแล้ว

   “อย่างน้อยก็เห็นแก่เด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรที่กำลังจะเกิดมาด้วยเถอะ”

   ผมเหลือบมองท้องพาฝัน อาจเพราะเป็นท้องสาว เพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือนเลยยังดูไม่ค่อยออกเท่าไหร่ แต่จากท่าทางของเธอบ่งบอกว่าเธอจนปัญญาจะตามหาตวันแล้วจริงๆ

   ตลกดี ตอนกินก็แอบไปกินกันในที่ลับ มีความสุขกันสองคน พอความแตกก็แยกย้ายทางใครทางมัน แล้วมาทำหน้าทุกข์ตรมอ้อนวอนผมซะงั้น

   ผมไม่ตอบอะไร แต่นั่งสเก็ตช์ภาพต่อซึ่งไม่ค่อยเกี่ยวกับงาน ผมหันไปวาดรูปดอกไม้ ใบไม้ ต้องขอบคุณตอนเด็กที่แม่ชอบพาไปเรียนพิเศษทั้งภาษาและคณิตศาสตร์ แต่ผมชอบวิชาศิลปะที่สุด แม้ดอกไม้ของผมจะใหญ่กว่าแบบตรงหน้า แถมยังมีเส้นใยย้วยๆ ยืดๆ ลากออกจนกลายเป็นภาพวาดหลุดโลกไปแล้วก็ตาม

   พอผมไม่ตอบรับ พาฝันก็นั่งร้องไห้ให้ชมซะงั้น วัดความอดทนงั้นเหรอ ได้สิ ผมหันมานั่งวาดภาพพาฝัน ยื่นดินสอมาตรงหน้าพลางหลับตาข้างหนึ่งเหมือนพวกศิลปิน ผมไม่ค่อยถนัดวาดภาพคนเท่าไหร่ แต่คิดว่าออกมาไม่เลว อย่างน้อยก็มองออกว่าเป็นผู้หญิงผมยาว

   “อ้าว จะไปแล้วเหรอ”

   พาฝันร้องไห้หนึ่งชั่วโมง ผมเพิ่งวาดเสร็จแค่ครึ่งตัวเท่านั้น

   เธอไม่ตอบอะไร แต่ถลึงตามองผมโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ กระทืบเท้าลาจากโดยไม่บอกลากันสักคำ เอาเถอะ ผมเองก็เริ่มจะเบื่อเก็บรายละเอียดเสื้อผ้าที่ใกล้จะกลายเป็นการออกแบบเสื้อผ้าแทนวาดภาพเหมือนอยู่รำไร พอเธอไปผมก็ฉีกกระดาษขยำทิ้ง หันมาจิบโกโก้ที่เริ่มเย็น ก่อนจะนั่งขีดๆ เขียนๆ แบบจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

   สุดท้ายก็ถอนหายใจเฮือก

   นาวานะนาวา นายจะหาเรื่องให้ตัวเองทำไมเนี่ย!

   [ที่รักจ๋าโทรหาก่อนด้วย แม้จะเพราะเรื่องของพาฝัน แต่ฉันก็ดีใจนะ]

   “ไหนนายเลิกให้คนตามฉันแล้วไง” ผมเอ่ยเซ็งๆ ถึงไม่รู้สึกตัวเวลาโดนตาม แต่ผมไม่ชอบความรู้สึกของการถูกจับตามอง ศศินให้คนตามผมช่วยอกหักใหม่ๆ เพราะกลัวจะไปเมาหัวราน้ำแล้วกลับห้องไม่ถูก แต่หลังจากทรมานตัวเองได้ไม่กี่วันผมก็เลิกแล้วบอกให้เขาเอาคนของตัวเองไปไกลๆ ได้แล้ว

   ศศินเป็นพวกพูดคำไหนก็เป็นคำนั้น

   ผมเลยไม่คิดว่าเขาจะผิดสัญญา

   [ฉันให้คนตามพาฝัน ก็เลยรู้ว่าเธอไปหาที่รัก อย่าโกรธนะครับ]

   ผมนวดขมับ

   “เธอท้อง”

   [อ้อ แล้วไงล่ะ]

   คำตอบศศินโคตรเหมือนผมเลย นั่นสิ เธอท้อง แล้วมาเกี่ยวอะไรกับผมวะ

   “เธอติดต่อตวันไม่ได้ แต่นายคงรู้ใช่มั้ยว่าตวันหายไปไหน”

   [ที่รักจะไปหามันเหรอ]

   “อยากจะจบเรื่องนี้สักทีต่างหาก ฉันปวดหัวจะแย่ พาฝันพูดถูก เด็กไม่รู้เรื่องด้วย ไม่ว่ายังไงฉันก็ปล่อยให้เธอติดต่อตวันไม่ได้จนคลอดไม่ไหวหรอก เจอกันแล้วพวกเขาจะตกลงยังไงก็ช่าง ถือว่าอย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องมารู้สึกผิดทีหลัง”

   [ที่รักประเสริฐเหลือเกิน]

   “สรุปแล้วตวันอยู่ที่ไหน”

   [ฉันจะพาไปเอง]

   




   เย็นวันนั้นผมแวะเข้าบริษัทเพื่อส่งงานสเก็ตช์ร่างเครื่องประดับที่ทำได้แค่สองแผ่นเท่านั้นก่อนพาฝันจะมาหา แล้วรอให้ศศินมารับไปด้วยกัน ผมนั่งรถจนเบื่อ ตวันหนีมาไกลถึงต่างจังหวัด ก็ไม่แปลกที่พาฝันจะหาไม่เจอ

   แต่ไม่พ้นสายตาของศศิน

   ถึงจะโอนหุ้นคืนผมทั้งหมด แต่ผลกำไรในช่วงที่เขาทำงานก็นับเป็นเงินเก็บให้ตวันใช้จ่ายฟุ่มเฟือยโดยไม่อดตายอีกสักปีสองปี ผมเลยแปลกใจเมื่อศศินให้คนขับรถจอดอยู่หน้าตึกแถวเก่าโทรมแห่งหนึ่ง ตวันเช่าห้องรูหนูทำไม นึกอยากใช้ชีวิตสมถะงั้นเหรอ

   “ห้องของตวันคือ 2084 ขึ้นบันไดแล้วเลี้ยวขวา คนของฉันรายงานว่าเขาเก็บตัวไม่ออกมาข้างนอกสามวันแล้ว”

   ผมพยักหน้า ก่อนจะลงจากรถ แน่นอนว่าศศินไม่ตามลงมาด้วย เพราะเขาถือเป็นคนนอกโดยสิ้นเชิง

   ถึงอย่างนั้น...ก็ฟังคำเอาแต่ใจของผมตลอด

   ในอกคันยุบยิบอย่างบอกไม่ถูก ก่อนจะสลัดความรู้สึกนั้นทิ้งแล้วขึ้นเดินขึ้นบันไดไปหาตวันตามคำบอกเล่าของศศิน เคาะประตูห้องอยู่นาน ถึงจะได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวด้านใน

   ทันทีที่ตวันเห็นผมเขาก็นิ่งค้าง

   ส่วนผมเองเมื่อเห็นตวันก็อ้าปากค้างจนยุงบินเข้าไปหลายตัว

   ตวัน...ชายหนุ่มซึ่งมักแต่งตัวสุภาพ ให้ภาพลักษณ์อบอุ่นอ่อนโยนเข้ากับคนง่ายคนนั้น กลายเป็นไอ้ขี้เมากลิ่นเหล้าหึ่ง ผมเผ้าปล่อยกระเซิง หนวดไม่โกน น้ำไม่อาบ สภาพแย่ชนิดที่หากเดินสวนกันริมถนน ผมก็คงจะจำไม่ได้

   หลังเลิกกับเขา ผมเป๋ไปช่วงหนึ่ง

   แต่เหมือนหลังจากเลิกกับผม ตวันแทบไม่เป็นผู้เป็นคนเลย...

   “วะ...วา” ตวันคงอับอาย เพราะเมื่อหายตะลึงเขาก็พยายามจะปิดประตูห้องหนี แต่โทษทีเถอะ วันนี้ที่มาไม่ได้จะถามสารทุกข์สุกดิบ แต่เพราะพาฝันต่างหาก

   “ฉันคุยแป๊บเดียวก็กลับแล้ว” ผมวางมือบนกรอบประตู ตวันหักใจกระแทกประตูปิดไม่ลงเลยได้แต่ปล่อยผมให้เดินเข้ามาสำรวจในห้องด้วยสภาพหน้าม่อยคอตก ยกมือปิดหน้า พูดพึมพำแทบจับใจความไม่ได้

   ดูเหมือนตลอดสามวันนี้...ไม่สิ ตลอดเดือนนี้ตวันจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยเหล้าล้วนๆ ถึงว่าผอมลงแถมโทรมสุดๆ ห้องนี้เครื่องเรือนแทบไม่มี เหมือนเขาเช่าห้องเปล่าๆ มานอนกลิ้งเกลือกกลางขวดเหล้า ย่ำแย่กว่าที่ผมคิดไว้มากนัก

   เพราะได้รับการอบรมมาดี แม้จะขยะแขยงแค่ไหนแต่ผมก็ใช้มือกวาดขวดเหล้าระเกะระกะเพื่อหาที่นั่ง ผมอยากให้ตวันสงบใจก่อนเข้าเรื่องสำคัญเลยจัดแจงสร้างพื้นที่แล้วหาผ้าแถวนั้นมาปูรอง...นี่มันเสื้อตวันนี่หว่า ช่างเถอะ

   “นั่งลง” พูดจบ ตวันก็แทบจะทรุดตัวลง เขาคุกเข่าตรงหน้าผม เอ่ยวกวนเหมือนวันนั้นที่เลิกรา

   “ขอโทษนะวา ผมขอโทษ ผมผิดเอง ผมไม่ควรทำอย่างนั้น ผม...ผม...”

   “เงียบ” ผมเอ่ยเสียงห้วน “ที่ฉันมาไม่ได้จะพูดเรื่องของเรา แต่จะมาพูดเรื่องของนายกับพาฝัน”

   คำแทนตัวที่ไม่ใช่ชื่อเหมือนเดิม ทำให้ตวันมองผมตาลอย

   “พาฝัน?...ผมเลิกกับเธอแล้ว!”

   “อ้อเหรอ แต่เหมือนเธอจะไม่อยากเลิกกับนายนะ โดยเฉพาะตอนที่เธอกำลังท้อง”

   ตวันตะลึง เขาพยายามจะเถียง คล้ายอยากปฏิเสธ แต่ก็พูดไม่ออก

   “นายกำลังจะเป็นพ่อคน ตวัน”

   “แต่...”

   “จะบอกว่าใช้ถุงยางทุกครั้งว่างั้น? แต่นายคงไม่ลืมนะว่าตอนเรียนสุขศึกษา ถุงยางป้องกันไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์!”

   ต้องมาพูดเรื่องกิจกรรมบนเตียงของคนรักเก่า ไม่ใช่เรื่องน่าอภิรมย์นักหรอก

   “คงยังไม่ถึงกับทิ้งโทรศัพท์ใช่มั้ย ติดต่อหาเธอซะ แล้วพาไปฝากท้องให้ถูกต้อง ถ้าจะให้ดี ก็หาที่อยู่ใหม่แล้วพาเธอไปอยู่ด้วย ไม่ต้องกลับกรุงเทพฯ สักพัก”

   “วา...” เขาน้ำตาคลอ เหมือนก่อนหน้านี้แม้จะเลิกรายังพอทำใจได้ แต่การต้องไปรับผู้หญิงอีกคนที่ไม่ได้รักมาใช้ชีวิตด้วย คงไม่ต่างกับนรกทั้งเป็น

   ก็ถือว่าสาสมกับที่พวกเขาทำกับผมน่ะนะ

   “จำไว้ตวัน นายจะเป็นคนรักที่ไม่ดีก็ได้ แต่นายต้องเป็นพ่อที่ดี” ผมลุกขึ้น หมดธุระแล้ว “นายอยากเป็นมาตลอดไม่ใช่เหรอ ยินดีด้วยนะ”

   ตวันปล่อยให้ผมเดินออกไปโดยไม่รั้ง คงจะคิดถึงอนาคตข้างหน้าว่าจะทำตัวสำมะเลเทเมาอย่างนี้ไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจคือตวันเป็นคนมีความรับผิดชอบมากพอ แม้จะเลิกรากับพาฝัน แต่เขายินดีจะรับเลี้ยงลูกในท้อง

   เพราะเขามีปมด้อยเรื่องนี้มาตลอด

   ตวันเป็นเด็กไม่มีพ่อ อีกทั้งแม่ยังเป็นคนใช้ที่ไม่สามารถพูดออกมาเต็มปากได้ เขาจึงตั้งมั่นมาตลอดว่าอยากมีครอบครัวที่ดี ด้วยกำลังทรัพย์ที่พรั่งพร้อม จะไม่ให้ลูกต้องขาดความอบอุ่น จะไม่ให้ต้องเติบโตมาอย่างเขา

   แต่ตวันเก็บความฝันนั้นเมื่อคบกับผม

   เมื่อได้เป็นจริง...ก็นับเป็นเรื่องดีๆ ท่ามกลางความโชคร้าย

   ลับหลังตวัน ผมก็ลูบหน้าลูบตาตัวเอง อดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นนักบุญรึไงนะ

   ตอนเด็กผมเกลียดคนที่ล้อเลียนตวันมาก ฉะนั้นผมจะไม่มีวันเป็นอย่างที่เกลียดเด็ดขาด ผมไม่เคยคิดจะใช้เรื่องชาติกำเนิดหรือปมด้อยมาทำร้ายเขา เหมือนที่แม้ตวันจะนอกใจกัน ผมก็ไม่คิดจะประชดเอาคืนด้วยการนอกใจ อะไรที่ไม่ชอบผมก็ไม่ทำและไม่คิดจะทำด้วย

   รวมถึงเรื่องนี้ซึ่งผมยังงงว่ามันใช่ปัญหาของผมที่ต้องนั่งรถจากกรุงเทพฯ ถ่อมาเตือนสติคนรักเก่าด้วยเหรอ

   ช่วยไม่ได้จริงๆ ผมเกลียดการรู้แก่อกแต่ไม่ทำอะไรสักอย่าง ความเอาแต่ใจของผมบางครั้งก็รวมถึงเรื่องพวกนี้

   การเป็นนาวานั้นไม่ง่ายเลย

   “เรียบร้อยแล้วเหรอที่รัก”

   แต่การเป็นศศินคงไม่ง่ายยิ่งกว่า

   เขาทำเหมือนพวกว่างงาน แค่ผมเรียกก็พร้อมมาหาทันที ทั้งที่งานจริงๆ ของเขาคือคอยคุมพวกร้านไนต์คลับช่วงกลางคืน

   “ขอบใจ”

   “อะไรนะที่รัก เหมือนหูไม่ค่อยดีชอบกล” ศศินแสร้งตบบ้องหู เขามองผมเหวอๆ แบบทีเล่นทีจริง

   “ขอบใจ!”

   พลันอีกฝ่ายยิ้มกว้างทันที

   “ฉันเต็มใจทำให้ที่รักเสมอ ขอแค่เวลามีปัญหา นึกถึงฉันเป็นคนแรกก็พอแล้ว”

   คำพูดพระเอกมาก ถ้าไม่ติดว่าคนพูดทำหน้าตัวร้ายแบบนี่สิโอกาสฟ้าประทานแบบไม่ปิดบังสักนิด

   ผมรีบขึ้นรถ รู้สึกเขินขึ้นมาอย่างประหลาด

   เขินอายกับศศินเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว!


   -----------------------

   การเป็นนาวานั้นไม่ง่าย แต่การเป็นศศินนั้นยากกว่า...เพราะศศินแทบไม่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย แต่กลับเสนอตัว ช่วยสืบ พานาวามาส่ง เรียกว่าที่รักสั่งอะไรทำให้หมด โดยที่ตัวเองไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เสียทั้งเวลา ทั้งเงิน แถมยัง...ความรู้สึกในหลายๆ ครั้งเวลานาวาไปหาตวัน ฉะนั้นการเป็นศศินไม่ง่ายเลยจริงๆ ค่ะ

   แต่...แต่!!!

   นาวาก็เริ่มจะแพ้ความดี?...เอ่อ...ความชั่ว?...เอ่อ ความอะไรดี เอาเป็นว่า...นาวาก็เริ่มจะแพ้ความศศินขึ้นมานิดๆ แล้วค่ะ!

   #นาวาสไตล์

   

   
ตัวอย่างตอนต่อไป นาวาใจอ่อนทั้งที ไม่ให้รุกคงไม่ใช่ศศิน!
   “ที่รักจ๋า วันนี้อยากกินอะไรเอ่ย อาหารทะเล อาหารไทย หรืออาหารฝรั่งดีจ๊ะ?”
   

เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 17-07-2019 19:11:10
มาขอความช่วยเหลือ ด้วยมาดแบบนี้นะ มันน่าช่วยไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-07-2019 20:13:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-07-2019 21:17:23
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 17-07-2019 21:48:42
เฮ้ออออ เป็นเวรเป็นกรรมจริง ๆ นะตวัน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 17-07-2019 22:01:14
ถึงจะไม่น่าช่วยแต่เห็นแก่เด็กที่ไม่รู้เรื่องด้วยอ่ะเนอะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 17-07-2019 23:24:52
      ท้องกับตวันจริงดิ

เริ่มต้นใหม่กับศศินเร็วๆนะนาวา :mew2:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 17-07-2019 23:59:47
ใจอ่อนกับศศินแล้วสุดๆ,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 18-07-2019 00:01:35
ไม่หลงเหลือ เยื่อใย ให้กันอีก
ไม่ต้องหลีก หัวใจ ให้เศร้าหมอง
ไม่ต้องมา เจอกัน ไม่อยากมอง
เรื่องของเรา ทั้งสอง ให้จบลง

ไม่ต้องมา คร่ำครวญ ชวนให้คิด
เพราะไม่เหลือ ซักนิด คิดรักหลง
อโหสิ ผิดทำไว้ ให้ชวนปลง
ไม่คืนดี ไม่ลดลง จงลืมไป

นาวา#มันต้องยังงี้ดิคนสวย#ขยะเปียกต้องทิ้งในถังขยะเน่า

ฮักนะ#จันทราเจ้าเล่ห์#ศศินกินได้ก่ะ  :hao6:
อิอิ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 18-07-2019 00:59:09
สนุกแฮะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 18-07-2019 01:11:43
สมน้ำหน้าพาฝัน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 18-07-2019 11:17:09
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 18-07-2019 14:43:09
สงสารเด็กที่จะเกิดมาเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 18-07-2019 17:59:59
 :ruready :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 18-07-2019 20:42:09
ต่อจากนี้ก็ใช้ชีวิตเลี้ยงดูลูกให้ไม่ขาดเหมือนตัวเองนะตวัน  :hao3:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 19-07-2019 01:13:49
ศศินสู้ๆนะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 12 : พายุตั้งเค้า [17/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 19-07-2019 13:33:33
สนุก คงเพราะไม่ค่อยได้ส่องเล้าเลยไม่รู้ว่าคุณมาจะกล่าวบทไปลงนิยายใหม่แล้ว ตามนะคะ สนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ [19/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 19-07-2019 18:46:53
   
ตอนที่ 13

   ช่วงเวลาแห่งความสงบ
   

   ผมหัวหมุนกับงานจนลืมตวันโดยสิ้นเชิง

   เพราะมีโปรเจ็กต์ใหญ่เข้ามาซึ่งเป็นงานแต่งงานของไฮโซท่านหนึ่งที่เป็นลูกสาวของลูกค้าของดาราลัยจิวเวลรี่มาเนิ่นนาน เธอต้องการเครื่องเพชรสำหรับสวมใส่ทั้งหมดสี่ชุด...ในฐานะเจ้าของ ผมพูดอะไรไม่ได้นอกจากจัดสรรตามประสงค์ เพราะไม่ค่อยสันทัดเรื่องเครื่องประดับเจ้าสาวเท่าไหร่เลยเป็นการระดมความคิดของผมกับทีมออกแบบของบริษัท

   ทีมออกแบบสร้างสรรค์เครื่องประดับใหม่ๆ ออกเป็นคอลเล็กชั่นวางขายตามหน้าร้าน ส่วนผมนั้นจะทำเฉพาะใบสั่งซื้อพิเศษเท่านั้น หรือถ้าอารมณ์กรึ่มๆ กำลังคึก ก็อาจจะออกแบบเครื่องประดับวางกระจายตามหน้าร้านแค่หนึ่งหรือสองชิ้น เกิดเป็นของแรร์สำหรับนักสะสมและลูกค้ารอยัลอย่างศศินที่ตามเก็บโดยไม่สนราคา

   นี่คือความแตกต่างที่ตวันทำไม่ได้ ยุคสมัยใหม่ของดาราลัยจิวเวลรี่ที่เริ่มโปรโมตในโซเชียลผ่านตัวเจ้าของเองอย่างผม และความตื่นเต้นกับการออกแบบใหม่ๆ แบบไม่ซ้ำจำเจ

   ปัญหาก็คือ...คนเป็นเจ้าสาวช่างเรื่องมากเหลือเกิน!

   วันก่อนยังบอกว่าสวยจัง ชอบมาก แต่วันต่อมาก็ขอแก้ไม่ยั้ง แก้เสร็จบอกว่าแบบเดิมสวยกว่า ผ่านไปอีกสองวันขอโละแบบใหม่หมด ผมถึงกับปวดสมอง! เพราะเธอไม่มีความคิดของตัวเอง วันดีคืนดีก็เอารูปงานแต่งของดาราต่างประเทศว่าจะเอาแบบนี้ๆ ทั้งที่แบบเดิมไม่ใช่เลย! งานแต่งมีครั้งเดียวในชีวิต เธอจึงอยากให้ออกมาดีที่สุด ผมเองก็อยากทำให้ดีเหมือนกัน ถ้าเธอไม่เปลี่ยนใจไวน่ะนะ!

   เครื่องประดับหนึ่งชุดประกอบด้วยเทียร่าหรือมงกุฎ ต่างหู สร้อยคอ กำไลข้อมือ

   แก้แบบทีก็แก้ยกชุดเพราะต้องให้ไปทางเดียวกัน

   ผมไม่ไหวแล้ว อยากจะระเบิดตัวตายแล้ว!!

   “ที่รักจ๋า วันนี้ฉันเจอร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ที่น่าจะชอบด้วยล่ะ ไปทานด้วยกันนะ”

   “ฉันยังแก้งานไม่เสร็จเลย!”

   “แก้ไม่เสร็จก็ต้องมา ที่รักจ๋าเชื่อฉันเถอะ”

   “โว้ย ไอ้ศศิน ไอ้บ้า!”

   เพราะไม่อยากถูกฉุดกระชากลากถูต่อหน้าพนักงานที่เริ่มอมยิ้ม ผมเลยยอมเดินตามศศินแต่โดยดีกึ่งฉุนเฉียว พอถลึงตาใส่อีกฝ่ายก็ยิ้มขำอย่างกับว่าผมช่างน่ารักเหลือเกิน ขนาดทำตาแทบถลนก็ยังน่ามอง ทะเลาะกับคนบ้าพรรค์นี้มีแต่เจ็บตัวเองซะเปล่าๆ ผมเลยนั่งกอดอกหน้าบึ้งอยู่ในรถ ไม่ยอมพูดกับเขา

   อย่าแปลกใจว่าทำไมพนักงานถึงดูจะยิ้มกรุ้มกริ่มตอนเห็นศศินบุกขึ้นห้องทำงานท่านประธาน เพราะหลังจากนั่งรถไปสะสางเรื่องตวันกับพาฝันด้วยกัน ศศินก็คล้ายจะจับความรู้สึกผมว่าเริ่มเปิดใจมากขึ้นเลยยิ่งรุกหนัก เขาจะมารับผมไปทานข้าวกลางวันทุกวัน รอดบ้าง แห้วบ้างตามอารมณ์ของนาวาคนนี้ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่อาจหาญขนาดฉุดผมออกจากห้องทำงานที่กองเต็มด้วยกระดาษแก้แบบ พรุ่งนี้ต้องไปคุยกับลูกค้าแล้วแต่ยังไม่เสร็จเลย!

   ผมนวดขมับเป็นพักๆ ในหัวคิดวกวนว่าจะไปปรึกษากับทีมงานยังไงดีหลังทานอาหารมื้อนี้เสร็จ แต่พอถึงร้านอาหารก็ต้องอ้าปากค้าง เพราะเป็นร้านขนาดเล็ก คนไม่พลุกพล่าน แถมยังติดริมน้ำ ลมพัดเอื่อยโชยกลิ่นต้นไม้ใบหญ้า บรรยากาศดีน่านั่งสุดๆ

   “ที่รักชอบล่ะสิ”

   เรื่องอะไรจะทำให้เขาได้ใจกันล่ะ

   ผมไม่ตอบแต่เดินนำเข้าไปในร้าน เรียกเสียงหัวเราะเบาๆ จากศศินที่โบกมือให้บอดี้การ์ดสองคนแยกไปนั่งโต๊ะห่างๆ เพื่อให้เวลาพวกเราสองคนแบบส่วนตัว เขารู้ดีเลยล่ะว่าแม้ไม่พูดอะไรว่าหางตาผมมักมองบอดี้การ์ดร่างบึกแบบนึกรำคาญอยู่บ่อยๆ

   การมีคนเดินตามหลังต้อยๆ แถมไม่รู้จักมักจี่มันอึดอัดนะ!

   ศศินสั่งเมนูแนะนำของร้านและกับข้าวอีกสองสามอย่าง เขาสืบเรื่องผมมาละเอียดยิบๆ เลยรู้ว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร ซึ่งเป็นข้อดีเพราะตอนนี้ผมไม่ค่อยอยากพูดมากเท่าไหร่ ให้เขาจัดการทุกอย่างก็ดีแล้ว

   ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ รสชาติไม่นับว่าดีเลิศ ไม่งั้นคงมีคนนั่งเต็มร้าน แต่ก็ไม่ถึงกับย่ำแย่ เพราะผมเน้นชมบรรยากาศมากกว่า หลังพนักงานทำความสะอาดโต๊ะเหลือทิ้งไว้แค่เครื่องดื่ม ผมก็หยิบสมุดสเก็ตช์ขึ้นมาวางบนตัก นั่งชันเข่าหันหน้าเข้าหาแม่น้ำ ฝั่งตรงข้ามคือศศินที่นั่งนิ่งไม่กวนใจ เขาหยิบหนังสือฆาตกรรมของแดน บราวน์ขึ้นมาอ่าน

   เป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบอย่างหาได้ยาก

   อาจเพราะเรียนหนังสือไม่เก่ง ทำให้ตอนเด็กต้องอ่านหนังสือหนักเพื่อทำคะแนนให้ได้ทัดเทียมหรือไม่ห่างกับผมมาก ตวันเลยเกลียดการอ่านหนังสือไปโดยปริยาย เวลาอยู่ด้วยกันผมชอบนั่งวาดรูปดูบรรยากาศ ชมฟ้าชมดิน ดื่มโกโก้ร้อนผ่อนคลายสบายใจ ตวันจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา บางครั้งก็อ่านข่าวทำหน้าเคร่งเครียด ไม่ก็ชวนผมถกการเมือง ซึ่งบอกเลยว่ายิ้มฟังอย่างเดียวไม่ขอออกความเห็น

   เสียงขีดเขียนของดินสอจรดกระดาษ และเสียงพลิกหน้าหนังสือคลอไปกับเพลงบรรเลงในร้านอาหาร ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ผมเองก็ไม่รู้จะบรรยายยังไง แต่สงบใจอย่างบอกไม่ถูก เป็นความเรียบง่ายคล้ายตัดขาดจากโลกภายนอก ลดละโซเชียล ดื่มด่ำกับธรรมชาติและใช้เวลาของตัวเองโดยไม่ก้าวก่ายกันและกันแต่คล้ายจะเชื่อมโยงเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว

   โดยเฉพาะตอนที่ผมละสายตาจากกระดาษแล้วเผลอสบตากับศศินที่เงยหน้าจากหนังสือขึ้นมาพอดี ยิ้มให้กันน้อยๆ แล้วก้มหน้าก้มตากับกิจกรรมของตน ทั้งที่เหมือนไม่อะไรแต่กลับชวนให้หัวใจอบอุ่นอย่างน่าประหลาด

   รักของตวันสนิทสนมลึกซึ้งแทบไม่ต่างกับการเป็นทุกอย่างของกันและกัน ฉะนั้นแม้ความชอบหรือหลายอย่างของเราจะต่างกันคนละขั้ว แต่ด้วยความรักความผูกพันก็ทำให้เลือกจะมองข้ามแล้วคล้อยตามกันเป็นการถนอมน้ำใจ และด้วยปมด้อยของเขาทำให้ผมซึ่งเหมือนจะโดนตวันเอาใจเสมอนั้นเป็นฝ่ายฉุดรั้งดึงดันให้เขาได้ในสิ่งที่ทัดเทียม

   ผมเหนื่อย...ตวันเองก็เหนื่อย

   ส่วนรักของศศิน เป็นความรักค่อนไปทางส่งเสริมสนับสนุนเพราะมีกำลังทรัพย์และทุกอย่างพรั่งพร้อม แม้เวลาคุยกันเป็นต้องแยกเขี้ยว แต่พออยู่ด้วยกันกลับสงบ แตกต่างกับตอนอยู่กับตวันที่แม้จะสุขสมแต่แฝงความอึดอัดในบางครั้ง อาจเพราะผมยังไม่ได้รักเขา ถึงได้ไม่ใส่ใจความรู้สึกอีกฝ่ายอย่างที่ทำกับตวัน

   ถึงอย่างนั้น...ก็อดยอมรับไม่ได้ว่านี่เป็นความรู้สึกที่ดี

   ผมแก้ไขแบบร่างของเครื่องประดับตามคำเรียกร้องของลูกค้าเสร็จตั้งแต่ชั่วโมงแรก นอกนั้นคือนั่งวาดรูปเล่น ความกดดันในใจจากคำวิจารณ์ของลูกค้าที่แก้แบบครั้งแล้วครั้งเล่าจนชักจะไม่มั่นใจตัวเองเริ่มเยียวยาทีละน้อย อาจเพราะผมนิยมทำงานอิสระ และตลอดมาการออกแบบตามใบสั่งก็มักออกมาด้วยดีด้วยทุกคนให้จินตนาการเต็มที่ด้วยประสงค์ไอเดียแปลกใหม่อยู่แล้ว พอครั้งนี้มีธีมชัดเจนแถมยังเป็นงานใหญ่ซึ่งสำคัญที่สุดของชีวิตผู้หญิงคนหนึ่ง ผมเลยหน้าดำคร่ำเคร่ง ถ้าศศินไม่คะยั้นคะยอลากมานั่งรับลมริมน้ำอาจจะสมองระเบิดอยู่ในออฟฟิศ

   “ขอบใจ”

   ถึงจะเขินอายเวลาพูดแค่ไหน แต่สุดท้ายพอศศินขับรถมาส่งที่บริษัท ผมก็เค้นคำขอบคุณออกมาได้คำหนึ่งหลังนั่งเงียบมาตลอดทั้งขาไปและขากลับ

   อย่าหาว่าผมทำตัวใจร้ายกับเขาเลย แต่วิธีการของศศินในหลายๆ ครั้งก็กวนประสาทเกินจะพูดจาดีๆ ด้วยนี่นา โดยเฉพาะเวลาเรียกที่รักจ๊ะที่รักจ๋า ได้ยินแล้วเส้นสมองปวดตุบๆ

   ไม่รู้ป่านนี้พนักงานในบริษัทจับกลุ่มนินทาเรื่องรักของเจ้านายไปถึงขั้นไหนแล้ว

   อย่างที่บอกไปว่าหลังเลิกกับตวัน ผมมีคนเข้าหาเยอะมาก ที่ซื้อของฝากแวะเวียนเป็นลาภปากพนักงานก็มีเป็นประจำ แต่มีศศินคนเดียวนั่นแหละที่ลากผมออกไปทานข้าวด้วยสำเร็จ ซึ่งต้องบอกว่าแทบจะแลกด้วยหยาดเหงื่อแรงกายไม่น้อย

   เทียบคนอื่นแล้วน่าเศร้ากว่าเยอะ

   ผมไม่มีเฟซบุ๊ก ไม่มีไลน์ เพราะไม่ชอบเรื่องวุ่นวายตามอ่านเรื่องชาวบ้าน อินสตาแกรมที่เพิ่งเปิดใหม่สดๆ ก็อัพรูปแบบตามใจฉัน บางครั้งก็อัพติดๆ กันหลายสิบรูป บางครั้งก็หายหัวไปเลยสามวันติด เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวนั้นรู้เฉพาะวงในคนใกล้ชิด เพราะเบอร์บนนามบัตรคือเบอร์ของเลขาฯ จะมาหาที่บริษัทก็เจอบ้างไม่เจอบ้าง ก็นาวาคนนี้ชอบเถลไถลนั่งร้านคาเฟ่มากกว่าห้องทำงาน เรียกได้ว่าใครหลงผิดคิดจีบผมนั้น...โคตรซวย!

   ยกเว้นศศินที่มีเบอร์ผมตั้งแต่สมัยมหา’ลัย เพราะแม้จะรำคาญเขาแค่ไหน แต่ผมขี้เกียจเปลี่ยนเบอร์ใหม่มากกว่า แถมยังใจใหญ่ หน้าหนา ให้บอดี้การ์ดหิ้วของฝากพนักงานไม่ขาดตั้งแต่หัวหน้ายามยันเลขาฯ หน้าห้อง แม้ผมบอกปัดไม่ไปด้วยก็ไม่เป็นไร เขาขอแค่ได้เจอหน้าที่รักสักหนึ่งนาทีก็ดีใจแล้ว รอยยิ้มทะเล้นยียวนของเขาเวลาเจอผมนั้นทำให้สาวๆ หลายคนในออฟฟิศเทใจให้คะแนนนำโด่ง ยิ่งผมเริ่มยอมไปทานข้าวด้วยก็ยิ่งซุบซิบนินทากันสนุกปาก ผมคร้านจะแก้ความเข้าใจผิด ใช้เวลาทั้งหมดทุ่มเทกับงานเพื่อจะได้กลับห้องไปนอนตีพุงสบายๆ

   เพียงนึกถึง...ความนุ่มนิ่มของเตียงก็ทำเอาผมแทบจะเททุกอย่างทิ้ง อยากนอนขี้เกียจจังเลยนา...

   “ฝันหวานอะไรอยู่ที่รัก ไปทำงานได้แล้ว”

   แต่ศศินดับฝันผมอย่างไม่ปรานี เรียกเสียงหัวเราะน่าหมั่นไส้กับสายตาวาวๆ จนผมถลึงตาใส่ ก่อนจะเดินกระทืบเท้าเข้าบริษัทโดยมีอีกฝ่ายช่วยเปิดประตูให้อย่างสุภาพบุรุษทั้งที่มีบอดี้การ์ดพร้อมรับคำสั่งอยู่สองหน่อ

   ก็เป็นซะอย่างนี้แล้วจะไม่ให้เคืองได้ไง คนบ้าเอ๊ย!!

   




   ในที่สุดการแก้ไขซึ่งแทบไม่เหลือเค้าจากเดิมก็ผ่านพ้นด้วยดี ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ลับหลังลูกค้าพลางคิดว่าควรจะไปไหว้พระขอพรที่ไหนดีไม่ให้วันดีคืนดีเธอนึกอุตริอยากเปลี่ยนแบบใหม่อีกครั้ง เพราะทั้งผม ทั้งทีมงาน รวมถึงฝ่ายขึ้นโมเดลและช่างฝีมือพากันเป๋กันไปแทบๆ กับความเอาแต่ใจของลูกค้ารายใหญ่ท่านนี้

   เห็นว่าเพิ่งเรียนจบจากต่างประเทศ อายุยี่สิบเอ็ด คบหาดูใจกับแฟนหนุ่มชาวต่างชาติแค่หนึ่งปีเท่านั้น กำลังอยู่ในวัยคึกคะนองเต็มขั้น แถมพ่อแม่ยังหน้าใหญ่ ลูกสาวคนเดียวแต่งงานทั้งทีเลยทุ่มงบไม่อั้น น่าจะเลี้ยงแบบสปอยล์แต่เด็กจนไม่คิดว่าการแก้ไปแก้มาทั้งที่ตกลงดีลงานกันแล้วจะสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ขอแค่พอใจแล้วจะทำไม อยากจะเพิ่มเงินแค่ไหนก็เอาไปสิ

   ตอนผมเพิ่งเรียนจบใหม่ๆ คงไม่เป็นอย่างเธอหรอกนะ...ไม่หรอกมั้ง ไม่ใช่สิน่า

   ผมปาดเหงื่อ นึกภาพตอนตัวเองจูงมือตวันจะแยกออกจากบ้านให้ได้ท่าเดียวแล้วคิดว่าตอนนั้นก็ดื้อน่าดูนะตัวเรา

   อโหสิกรรมให้ด้วยเถอะนะพ่อครับ...แม่ครับ

   ผมพนมมือ สวดมนต์แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรและพ่อกับแม่ที่เคยสร้างความเดือดร้อนเอาแต่ใจใส่

   แต่ไม่ทันได้ไล่ถึงครูบาอาจารย์ซึ่งผมเคยก้าวร้าว ทำตัวขี้เกียจใส่แล้วแอบพาตวันโดดเรียน เลขาฯ หน้าห้องก็แจ้งว่าศศินมาหา

   ...เที่ยงแล้วสินะ

   “ที่รักจ๋า วันนี้อยากกินอะไรเอ่ย อาหารทะเล อาหารไทย หรืออาหารฝรั่งดีจ๊ะ?”

   พอเปิดประตูก็เจอกับศศินนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขามาตรงเวลาเสมอ สวมเชิ้ตพับแขนสีแดงเลือดหมู ทั้งที่ปกติใส่แต่สีครามจนเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวไปแล้ว

   ตัดภาพมาที่ผม วันนี้นัดเจอลูกค้าเลยไม่กล้าแหวกแนวมาก เพียงสวมกั๊กสีแดงเลือดหมูตัดกับเสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีขาว ผูกเนกไทปมหลวมพร้อมหนีบเข็มกลัดเพชรแบบเก๋ไก๋มีสไตล์เข้าคู่กับแว่นตากันแดดกรอบแดงซึ่งคาดอยู่บนหัวและรองเท้าหนังสีเดียวกัน

   “อุ๊ย วันนี้เราจับคู่สีเหมือนกันเลย บังเอิญจังนะ”

   “บังเอิญบ้าบังเอิญบออะไร” ผมประชดขณะเปิดโทรศัพท์ให้เขาดูคอมเมนต์มูนนี่ของที่รักใต้ภาพของผมที่เพิ่งถ่ายก่อนมาบริษัท

   

   ‘วันนี้ที่รักใส่สีแดงเลือดหมูสินะ งั้นฉันจะใส่ด้วย!’

   

   คอมเมนต์ธรรมดาที่มีคนเม้นเลียนแบบอีกหลายสิบคน แต่ไม่ธรรมดาเมื่อคนหน้าด้านคนนั้นดันทำเหมือนการแต่งตัววันนี้เป็นเรื่องบังเอิญ!

   ศศินหัวเราะร่วน ก่อนจะโค้งตัวพลางผายมือเชื้อเชิญให้ผมเดินนำไปก่อนเพื่อจะได้ไปกินข้าวกัน เขาเคยบอกว่าอยู่กับผมแล้วมีความสุข ก็น่าจะสุขมากจริงๆ เพราะเล่นหัวเราะไม่เคยหยุดเลย

   พอออกมาข้างนอกผมก็รั้งแว่นกันแดดที่คาดบนศีรษะมาใส่ดีๆ สบตากับบอดี้การ์ดสองคนในรถเล็กน้อยก่อนจะเมินมองวิวนอกหน้าต่าง

   “ที่รักจ๋าอยากกินอะไร”

   “ฉันหิวมาก อยากกินสเต๊กเนื้อจานใหญ่ๆ”

   “ที่รักกินน้อยอย่างกับแมวดม จู่ๆ ตะบี้ตะบันกินหมดจานใหญ่เดี๋ยวก็ท้องอืดหรอก” ศศินแย้ง ก่อนจะรีบกลับคำเมื่อผมมองค้อน “ที่รักกินเยอะก็ดีแล้ว เอาตามแต่ใจอยากเลยจ้ะ ฉันมียาแก้ท้องอืด”

   คนอะไรชวนมือไม้กระตุกน่าตีให้ตายจริงๆ ผมไม่แปลกใจเลยที่เขาต้องมีบอดี้การ์ดคอยคุ้มกัน คำพูดน่ากระทืบเอามากๆ!

   ครั้งนี้ศศินพาผมมาที่ภัตตาคารหรูชั้นดาดฟ้า แม้เปิดโล่งแต่มีเป็นเพิงไม้ไว้บังแดด มองเห็นรอบกรุงเทพฯ สวยงามแปลกตาดี

   “นายรู้จักร้านอาหารดีๆ เยอะจังนะ” ผมกล่าวขณะมองไปรอบๆ อย่างถูกใจ เพราะตัวเองกินน้อย เลยมักเสพบรรยากาศเป็นหลัก เมื่อก่อนตอนอยู่กับตวันพวกเรามักไปร้านซ้ำๆ เดิมๆ เพราะเขาเน้นสะดวก ส่วนผมขี้เกียจหา

   “เพื่อที่รักจ๋า ฉันทำทุกอย่างได้อยู่แล้ว”

   ผมพยักหน้าขอไปที นึกในใจว่าช่วงโปรโมชั่นตามทำคะแนนก็ดีอย่างนี้ ผมกับตวันพัฒนาจากเพื่อน เลยไม่มีโมเม้นต์หวานๆ ของการตามจีบขอเป็นแฟนสักเท่าไหร่

   นับว่ากระชุ่มกระชวยดีเหมือนกัน

   อย่าเห็นว่าผมเปรียบเทียบศศินกับแฟนเก่า แล้วหาว่าได้ใหม่ลืมเก่าเชียวล่ะ ต่อให้ตวันจะเป็นยังไง ต้องปรับตัวเข้าหากันมากแค่ไหน ถ้าเขาไม่นอกใจผมก่อน ผมก็มั่นใจว่าจะคบกับเขายืดยาวไปจนแก่เฒ่าอยู่ดี เพราะคนอย่างนาวาถ้าตัดสินใจเลือกที่จะรัก ก็จะรักตลอดไป ไอ้ความรู้สึกเหนื่อย เศร้า ขัดแย้ง สงสัย ก็เป็นปกติของชีวิตคู่ไม่ใช่รึไง

   ส่วนศศิน ถึงแม้เขาจะทำดีกับผมเหลือเกิน แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นคบหาในแง่นั้น

   ผมรู้จักตวันดีทุกอย่าง แต่ยังหักหลังกันได้ลงคอ แล้วกับศศินล่ะ...เขารู้จักผมดี แต่ผมแทบไม่รู้จักเขาเลย

   เหมือนพยายามเผยเพียงด้านหนึ่งให้เห็น ไม่ได้ปอกเปลือกตัวตนจริงๆ ออกมา

   เพราะอย่างนี้ล่ะมั้งเวลาอยู่กับเขาบางครั้งก็สงบ แต่บางทีก็หงุดหงิด

   “ที่รักกินไม่หมดจริงๆ ด้วย เห็นมั้ย บอกว่าอย่าสั่งจานใหญ่ก็ไม่เชื่อ”

   “ฉันมีเงิน” พูดแล้วคล้ายจะเข้าตัวกับลูกค้าที่เพิ่งตกลงงานกันเมื่อเช้า...ไม่น่า ผมไม่อาการหนักขนาดนั้นหรอก!

   “ที่รักก็รู้ว่าฉันไม่ให้ที่รักจ่ายเองอยู่แล้ว รับของหวานเพิ่มมั้ยครับ” ศศินยื่นเมนูของหวานเข้าล่อ ทำเอาผมที่กำลังสับสนกับนิสัยของตัวเองเผลอจิ้มนิ้วภาพเครปเค้กสายรุ้งเข้าโดยไม่ตั้งใจ

   “เอาอันนี้เนอะ” ศศินหันไปสั่งของหวานเพิ่มทันที ส่วนผมลอบปาดเหงื่อ...ช่วงนี้รู้สึกอ้วนขึ้นชอบกล แบบว่ามีคนบริการดี พาไปกินข้าวข้างนอกชมวิวกินของหวาน กลับมาก็มีของกินเล่นตุนเพียบ แก้มก็ชักจะอวบๆ หรือควรจะงดข้าวเย็นดีนะ?

   “ที่รักที่กลมกลิ้งน่ารักสำหรับฉันเสมอ”

   “ใครกลมกลิ้ง!” ผมแหวใส่เขาที่หัวเราะอย่างผ่อนคลายสบายใจเหลือเกินกับการแกล้งให้ผมฉุนเฉียวเนี่ย ไม่นานเครปเค้กสายรุ้งก็มาเสิร์ฟ ผมเลยใช้ส้อมจิ้มเนื้อแป้งทะลุเพื่อระบายอารมณ์

   “ที่รักที่รุนแรงฉันก็รักนะ”

   “ไอ้บ้าศศิน!”

   ยังดีที่เขาเพียงยิ้มขันแล้วรีบโบกมือเป็นเชิงไม่แกล้งเล่นแล้ว ก่อนจะทำหน้าเคร่งขรึม เล่นเอาผมถึงปรับอารมณ์ไม่ทัน

   “ที่รักกินเค้กไปฟังไปก็แล้วกัน” ศศินพูดพลางหยิบรูปถ่ายใบหนึ่งเลื่อนมาตรงกลางโต๊ะ

   ผมซึ่งอมเครปเค้กจนแก้มตุ่ยก้มมองทันควัน ก่อนจะเลิกคิ้วเมื่อภาพนั้นคือตวันกับพาฝันที่ประคองกันไปเลือกซื้อของใช้สำหรับทารก เธอท้องแค่สี่เดือน พุงไม่ป่องมาก แต่ดูอ่อนแรงคล้ายแพ้ท้องหนักจนต้องเอนพิงตวันตลอดเวลา แน่นอนว่าเพราะยังมีกระแสข่าวเป็นระยะ เธอเลยสวมหน้ากากปิดปากเพื่อปกปิดตัวตน ส่วนตวันนั้นไว้หนวดเครา แม้สภาพจะไม่โทรมเท่าที่เจอกันล่าสุด แต่แววตานั้นดูอ่อนโยนยามมองหญิงสาวข้างกาย ถึงไร้รัก แต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและพยายามที่จะรัก ทำดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำให้ได้

   ผมดีใจที่เขาลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง จะบอกว่าไม่ห่วงเลยก็เป็นไปไม่ได้ เพราะเพิ่งรู้ซึ้งกับตัวว่าการอกหักนั้นเจ็บปวดกว่าที่คาดไว้หลายเท่า ผมยังมีพี่นที มีป้าแช่ม มีบ้านให้กลับ มีห้องให้อยู่ แต่ตวัน...เขาไม่เหลืออะไรเลย

   เมื่อเลิกกับผม เขาไม่มีอะไรเหลือสักอย่างเดียว!

   พอสมัครงานไม่รอด ไม่เหลือคุณค่าหรือเป้าหมายในชีวิตถึงได้เมาหัวราน้ำขนาดนั้น แต่เมื่อพาฝันเข้ามาพร้อมลูกน้อยในท้องเธอ ถึงเขาจะไม่รักอีกฝ่าย แต่ก็พร้อมจะเปิดใจรับครอบครัวใหม่เข้ามา

   ดีแล้ว...

   ผมคิดแบบนี้จริงๆ นะ ไม่ได้ประชดประชัน เพราะเทียบกับเห็นเขาสภาพไม่เป็นผู้เป็นคน ยังชวนเจ็บกว่าภาพที่เขาประคองพาฝันกว่าเยอะ ซึ่งหมายความว่าผมตัดใจจากตวันได้จริงๆ เหลือเพียงความผูกพันตามประสาเพื่อนสมัยเด็กเท่านั้น

   “ฉันให้คนติดต่อตวันเรื่องงานแล้วนะ” ศศินเอ่ยต่อ มองตาวาวๆ คล้ายหวังให้ถามรายละเอียด ผมมองหน้าเขา พลันรู้สึกผิดขึ้นมาเพราะเพิ่งรู้ตัวว่าจะยอมพูดดีๆ ด้วยก็แค่เรื่องของตวันเท่านั้น

   “ขอบคุณ” ผมเอ่ย ก่อนจะยื่นรูปส่งคืนให้ “แต่ไม่ต้องตามตวันแล้วล่ะ รวมถึงพาฝันด้วย ไม่ต้องช่วยอะไรพวกเขาแล้ว”

   “จะดีเหรอที่รัก”

   “ดีสิ ไม่ได้เกี่ยวข้องกันซะหน่อย” ผมยักไหล่ ตัดสินใจแน่วแน่เมื่อเห็นศศินย้ำจริงจังราวกับเป็นเรื่องสำคัญของตัวเอง ทั้งที่...เป็นเรื่องสำคัญของผมต่างหาก ซึ่งนับแต่นี้ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว! “เจอหน้ากันก็คุยแต่เรื่องของตวัน นายไม่เบื่อฉันก็เบื่อจะแย่”

   “ใครว่าไม่เบื่อ พนันกันมั้ยล่ะว่าฉันเบื่อกว่าที่รักเยอะเลย!”

   ผมหลุดยิ้มกับศศินที่โวยวายเหมือนเด็กสื่อว่าเขาโคตรจะเบื่อเรื่องพรรค์นี้มากจริงๆ

   ผมก้มหน้ากินเค้กต่อขณะที่ศศินแทบจะฉีกรูปตวันกับพาฝันทิ้ง ก่อนจะหลุบตาต่ำ...

   เมื่อตวันรับผิดชอบผลของการกระทำตัวเองแล้วเดินหน้าต่อ ผมเอง...ก็ควรจะเลิกหยุดยืนอยู่กับที่ ลองรักดูอีกสักครั้ง...บ้างดีมั้ยนะ


   ---------------

   ในที่สุดศศินก็ไม่ต้องคอยหาเรื่องตวันมาชวนนาวาคุยแล้วค่ะ! ปรบมือออออออออ

   ดีใจกับศศินด้วยจริงๆ นะคะเนี่ย ภายใต้รอยยิ้มเฮฮา จริงๆ ศศินก็คงแอบเซ็งและด่าตวันไปหลายรอบมากๆ เหมือนกัน เลิกกันไปแล้วแต่ต้องคอยสืบให้ที่รักจ๋าไม่ห่วงมันอีก ทำบุญอะไรมาวะ อิจฉา!! แต่ไม่ต้องอิจฉาแล้วนะศศิน นาวาจะพยายามตัดขาดตวันแล้วค่ะ ข้อดีของตาหนูนาวาคือไม่ชอบคิดอะไรซับซ้อน วกวน เสียเวลานอน เลยตัดสินใจได้ไวค่ะ

   #นาวาสไตล์


   
ตัวอย่างตอนต่อไป เมื่อคิดจะเปิดใจ นาวาก็เริ่มเป็นฝ่ายเรียนรู้คนโรคจิต(?)บ้างแล้ว   
   “วันนี้ที่รักอยากกินอะไร”
   “ฉันขี้เกียจคิดแล้ว นายนั่นแหละอยากกินอะไร”


เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ [19/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 19-07-2019 19:17:35
      ทุกอย่างกำลัง move on ซินะ
รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ
สำหรับตอนนี้ศศินทำคะเเนนจนนาวา
เปิดใจมากขึ้นรอลุ้นค่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ [19/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 19-07-2019 22:35:35
ศศินคงรีบรุกมากกว่าเดิมเลยละมั้งเนี่ยเมื่อนาวาเลิกสนใจตวัน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ [19/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 19-07-2019 22:44:20
Move on จ้า
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ [19/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 19-07-2019 23:12:27
ศศินนี่ น่ารักนะ แต่ความกวนกลบหมด
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ [19/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-07-2019 23:32:54
 o13
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ [19/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 19-07-2019 23:33:13
เอาละสิ เปิดใจแล้ว,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ [19/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 20-07-2019 02:04:22
ยอมใจศศิน ตามรักตามหยอดตามจีบเขามา7ปี แแล้วจีบแบบกวนๆแต่เป็นสุภาพบุรุษ(?)

สนุกดี นาวาเด่ง รออ่านนะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ [19/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-07-2019 04:01:49
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ [19/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 20-07-2019 12:57:25
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ [19/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 20-07-2019 13:40:18
ยินดีกับศศินด้วย
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ [19/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 20-07-2019 15:16:18
เอ็นดูความใส่ใจที่ยังตัดไม่ขาดของนาวา
นาวาเป็นคนคิดดีเลยล่ะ แต่บางทีก็นิสัยอะเนาะ
มันก็มีแก้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ช่วยให้ตวันมีงานเลี้ยงลูก
ก็ถือว่าจบกันแล้ว ไม่ต้องมีอะไรให้ติดค้างกันอีก

ศศินเป็นคนดีกับแค่นาวา ถูกไหม
ต่อไปอาจจะต้องตั้งรับมากขึ้นละนะ
อยากเห็นศศินเหวอบ้างค่ะ แบบไม่คิดว่านาวาจะทำ

เปิดใจใหม่ได้แล้ว และไม่เจ็บกับการอกหักด้วย
ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดีนะ นาวาก็ถูกที่นาวามีคนรายล้อม
แต่ตวันไม่มีใคร และถ้าไม่ช่วยตอนนี้ ก็คงไปต่อยาก
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ [19/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-07-2019 16:51:49
เอ็นดูความใส่ใจที่ยังตัดไม่ขาดของนาวา
นาวาเป็นคนคิดดีเลยล่ะ แต่บางทีก็นิสัยอะเนาะ
มันก็มีแก้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ช่วยให้ตวันมีงานเลี้ยงลูก
ก็ถือว่าจบกันแล้ว ไม่ต้องมีอะไรให้ติดค้างกันอีก

ศศินเป็นคนดีกับแค่นาวา ถูกไหม
ต่อไปอาจจะต้องตั้งรับมากขึ้นละนะ
อยากเห็นศศินเหวอบ้างค่ะ แบบไม่คิดว่านาวาจะทำ

เปิดใจใหม่ได้แล้ว และไม่เจ็บกับการอกหักด้วย
ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดีนะ นาวาก็ถูกที่นาวามีคนรายล้อม
แต่ตวันไม่มีใคร และถ้าไม่ช่วยตอนนี้ ก็คงไปต่อยาก

ตามนี้เลย..........   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ [19/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 20-07-2019 22:27:26
เสือตัวใหญ่ ใจเย็น เล่นกับเนื้อ
ปล่อยให้เหยื่อ ตายใจ ไม่วิ่งหนี
ได้เวลา มาขย้ำ หม่ำพอดี 
ตะกายหนี พี่ไม่ปล่อย เพราะอ่อยนาน

หน้าเจ้าเล่ห์ เผล่ยิ้ม กรุ้มกริ่มบ่อย
มาเฝ้าคอย ติดตาม ทุกคาวหวาน
บ่อยมากเข้า ชักชิน สิ้นอาการ
นาวาขาน รักตอบ ชอบจันทรา

#ใจอ่อน#อ่อนใจ#ศศินนาวา
ลุยเล๊ยยยยยยยย 55
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 13 : ช่วงเวลาแห่งความสงบ [19/07/62] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-07-2019 07:10:02
ดีจ้านาวาเดินหน้าต่อ หันมองคนใกล้ตัวได้แล้ว :กอด1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 14 : ลักพาตัว [21/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 21-07-2019 18:55:10

   ตอนที่ 14

   ลักพาตัว

   

   “วันนี้ที่รักอยากกินอะไร”

   “ฉันขี้เกียจคิดแล้ว นายนั่นแหละอยากกินอะไร”

   ศศินตะลึง เพราะเป็นครั้งแรกที่ผมถามความเห็นเขา

   ท่าทางนั้นน่าตลกมาก เขามองมาตะลึงค้าง ไร้รอยยิ้มยียวนบนใบหน้าเหมือนเคย คล้ายกับตอนที่ผมพยักหน้าขอบคุณครั้งแรกกับเขาตอนเดินแฟชั่นโชว์ ผมชอบเขาที่เป็นแบบนี้มากกว่าตอนกวนประสาทใส่กันซะอีก

   “ถ้าฉันอยากกินส้มตำใส่ปลาร้าเยอะๆ ล่ะ”

   “ก็ไปสิ ทำไม คิดว่าฉันกินไม่เป็นรึไง” ผมยักคิ้วใส่ศศิน เห็นแบบนี้แต่ตอนเด็กผมเคยกินส้มตำกับตวันออกบ่อยไป เพราะในวันว่างๆ เหล่าคนงานลูกจ้างในบ้านดาราลัยจะล้อมวงกินอาหารอีสานกัน ป้าแช่มจะเป็นมือตำชั้นดี ป้าช้อยแม่ตวันเป็นลูกมือ ผมเห็นตวันกินแล้วแก้มแดงน่ารักมากเลยลองชิมดู

   ผลคือเผ็ดจนปากแดง! แต่อร่อยเหาะอย่าบอกใคร!

   ถึงจะชอบแต่ผมก็กินไม่บ่อยหรอก เพราะกินเผ็ดมากๆ แล้วปวดกระเพาะ และถ้าไม่ใช่ป้าแช่มตำเองก็ไม่วางใจว่าจะสะอาดปลอดภัยรึเปล่า

   ศศินมองผมเหวอๆ ก่อนจะกลายเป็นนิ่งสงบ สายตาเยือกเย็น แต่แล้วก็ฉีกยิ้มจนตาหยี

   ผมว่าตัวเองเป็นคนอารมณ์แปรปรวนแล้วนะ เจอศศินเปลี่ยนอารมณ์ไวเหมือนโชว์เปลี่ยนหน้ากากละยอมซูฮกเลย

   “งั้นฉันจะพาที่รักไปชิมร้านโปรด”

   “ที่ไหน” ผมชักไม่วางใจ กลัวเขาจะเล่นพิเรนทร์

   “ความลับ”

   เผลอตกบ่วงอะไรเข้ารึเปล่านะ ผมเริ่มสยองขวัญพิลึก แต่ก็ยอมขึ้นรถแต่โดยดี เชื่อว่าศศินคงไม่ถึงกับหน้ามืดจับปล้ำหรอกมั้ง

   ...รึเปล่านะ

   ผมมองคอนโดฯ หรูตรงหน้าแล้วรีบหันหลังมองไปยังตึกสูงฝั่งตรงข้าม นั่น...คือคอนโดฯ ที่ผมพักอาศัย ส่วนนี่...อย่าบอกนะว่าเป็นคอนโดฯ ที่ศศินพักอาศัย!

   “ที่รักนี่หัวไวดีจัง ใช่แล้วล่ะ นี่คือที่พักของฉันเอง” ศศินเห็นผมเอี้ยวคอไปมาจนน่ากลัวว่าจะเคล็ดก็รีบเฉลย ก่อนจะเปิดประตูให้ผมลงหน้าคอนโดฯ เพื่อให้บอดี้การ์ดนำรถไปจอด แล้วกดลิฟต์ส่วนตัวขึ้นไปยังชั้นยี่สิบสาม...

   นั่นเป็นชั้นเดียวกับผม แต่ไม่ใช่ชั้นบนสุดของที่นี่!

   ขณะที่ผมชักจะก้าวเท้าอย่างยากลำบาก ศศินกระตือรือร้นมากที่จะนำเสนอห้องพักชั้นดี และทันทีที่เขาเปิดประตูห้อง แล้วเปิดม่านออกเผยให้เห็นทัศนียภาพฝั่งตรงข้ามชัดๆ...ชัด...ชัดมาก ชัดว่าห้องของเขาหันหน้าเข้าหาห้องของผมพอดีเป๊ะ!

   “ไอ้โรคจิต!”

   วินาทีนั้นผมหันไปต่อยหมัดเปรี้ยงเข้าเต็มกรามขวาของศศิน รู้สึกสยดสยองครั่นคร้ามอย่างบอกไม่ถูก แต่อีกฝ่ายดันเบี่ยงตัวหลบอย่างไม่ยากเย็น หัวเราะฮะๆ อย่างชอบอกชอบใจเมื่อผมตามต่อยเขาไม่หยุด

   มองไปมองมาเหมือนราชสีห์กำลังแหย่หนูเล่นชอบกล ขณะที่เขาสนุกสนานมาก ผมก็เริ่มหอบเหนื่อย ชี้หน้าเขาเป็นเชิงฝากไว้ก่อนเถอะแล้วทิ้งตัวนั่งพักบนโซฟา ขยับคอเสื้อแบบร้อนเหลือทน

   “น้ำเย็นครับที่รัก” ศศินช่างบริการดี เขาเห็นผมหยุดวิวาทก็รีบรินน้ำเย็นมาประเคนด้วยรอยยิ้มประจบเอาใจ แต่อย่าคิดว่าแค่นี้จะยอมถอยให้นะ ไอ้โรคจิตเอ๊ย นี่เขาแอบส่องจากตรงนี้นานแค่ไหนแล้วเนี่ย!

   “นายมีกล้องส่องทางไกลใช่มั้ย”

   “จะบ้าเหรอที่รัก จะมีได้ยังไง”

   “...”

   “มีครับ เดี๋ยวเอามาให้นะ”

   ไม่นานศศินก็ประเคนกล้องส่องทางไกลที่ดูจะสมบุกสมบันคล้ายใช้งานอย่างหนักหน่วงหลายปีให้ เห็นแล้วผมละขนแขนลุกซู่ ก่อนจะรีบส่องกล่องไปทางฝั่งตรงข้ามเพื่อดูว่าเห็นชัดมากที่สุดแค่ไหน

   โชคดีที่ไม่ชัดมาก เพราะห้องผมแม้จะมีกระจกรอบ แต่ก็มีม่านสีขาวขวางตลอดแนว ถึงมุมนี้จะตรงกับประตูกระจกสำหรับเปิดออกไปเดินเล่นแถวระเบียงพอดี แต่ผมก็ไม่ใช่คนชอบตากแดดเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยออกมาโชว์ตัวให้ศศินส่องชัดๆ ถ้าจะเห็น...ก็คงเห็นแค่เงาเวลาเดินวนไปมาในห้องเท่านั้น

   ...พอคิดว่าจะลองรักครั้งใหม่ เปิดใจให้ศศินมากกว่าเดิม ดันเจอความดำมืดที่ไม่คาดคิดซะงั้น

   “ที่รักจ๋าจะไปไหน!”

   “ไปให้พ้นจากคนโรคจิตอย่างนายไง!!”

   ลาก่อนศศิน นายน่ากลัวเกินไป ผมขอบาย

   แต่พอเปิดประตูห้องก็ผงะเมื่อเจอกับบอดี้การ์ดสองคนยืนขวางจนไม่เหลือทางให้แทรกตัวหนี ผมหน้าซีดเผือด นึกกลัวว่าหรือโดนลวงมาปล้ำจริงๆ วะเนี่ย พลันศศินตะโกนแทรกเสียงเข้ม เล่นเอาบอดี้การ์ดทั้งสองแหวกทางให้แทบไม่ทัน “ปล่อยเขา!”

   ผมเหลือบมองศศินอย่างสับสน อีกฝ่ายดูจะเสียความมั่นใจพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังยิ้มยียวนให้อย่างที่ชอบทำ แม้จะเป็นยิ้มฝืนๆ ที่ดูยังไงก็ไม่มีความร่าเริงสดใสเลยก็ตาม วูบหนึ่งผมคิดว่ารอฟังคำแก้ตัวของเขาดีมั้ย แต่พอหันไปมองห้องตัวเองซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็คิดว่าคงรับไม่ไหวหรอก ต่อให้จะยกเหตุผลร้อยแปดมาอ้างก็ตาม

   ส่งคนตามว่าหนักแล้ว แต่แอบส่องขนาดนี้เกินไปจริงๆ!

   คิดแล้วก็หันหลังกลับ ไม่เหลือบมองศศินอีก บอดี้การ์ดของเขาเองก็ไม่ได้ตามมาประกบ ปล่อยให้ผมลงไปเรียกแท็กซี่ชั้นล่างกลับบริษัทไม่คิดเหนี่ยวรั้ง

   แต่นั่งไปสักพักผมก็สำนึกได้ว่า...ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย!

   ศศินตั้งใจจะพาผมไปทานร้านโปรด แต่ไหงพาขึ้นห้องซะงั้นล่ะ นึกได้ตอนนี้ก็สายไปแล้ว อีกอย่างผมก็ไม่คิดวกกลับไปถามเขาด้วย เลยบอกให้แท็กซี่จอดข้างร้านอาหารตรงหน้า แบบว่ามีอะไรให้กินก็ขอรองท้องไว้ก่อน ขี้เกียจเลือกเยอะ

   ปรากฏว่ารสชาติอร่อยกว่าที่คิด ผมเรียกพนักงานคิดเงิน ก่อนจะเดินไปรอเรียกแท็กซี่หน้าร้าน ปกติผมขับรถเองนะ แต่เพราะนั่งรถศศินมาแล้วทิ้งเขาไว้กลางทางเลยต้องพึ่งบริการขนส่งสาธารณะ...ที่ปฏิเสธเป็นครั้งที่สองแล้วเพราะย่านที่ผมไปรถติด!

   กรรมจริงๆ นาวา เจออิทธิฤทธิ์แท็กซี่ไทยเข้าแล้ว ดีนะตอนลงจากคอนโดฯ ศศินแท็กซี่ไม่เรื่องมาก อาจเพราะเป็นรถที่ทางพนักงานต้อนรับช่วยเรียกให้ด้วยล่ะมั้ง

   อากาศก็ช่างร้อนจริงๆ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นเพราะจำได้ว่าตวันเคยดาวน์โหลดแอพฯ เรียกแท็กซี่อะไรสักอย่างให้ เขาบอกว่าผมโลว์เทคเกินไป ต้องรู้จักตามทันโลกบ้าง ขณะยืนจิ้มอย่างงงๆ อยู่จู่ๆ ก็มีรถคันหนึ่งจอดตรงหน้า

   ผมเงยมองตามสัญชาตญาณ ก่อนจะถูกปิดปากลากขึ้นรถคันนั้นด้วยเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที

   นาวา ดาราลัยโดนลักพาตัว!

   





   เอาล่ะ มาตั้งสติกันก่อน

   นี่เป็นการลักพาตัวครั้งแรกในชีวิตผม ซึ่งก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ลิ้มรสประสบการณ์นี้ โลกมันไปไกลขนาดไหนแล้วยังมาลักพาตัวบ้าๆ บอๆ อีก ต่อให้โลภอยากได้เงิน แต่ตำรวจและเทคโนโลยีในการตามจับน่ะมีประสิทธิภาพมาก ยิ่งเป้าหมายมีเงินเยอะยิ่งน่ากลัว เพราะเท่ากับว่าพวกเขาเหล่านั้นจะทุ่มเงินเต็มที่ในการจ่ายให้ปล่อยคน แล้วทุ่มอีกเท่าหนึ่งในการตามจับคนร้ายให้เข้าคุกก่อนจะได้ใช้เงินก้อนนั้นซะอีก!

   ผมขยับตัวเล็กน้อยอย่างอึดอัดเพราะผู้ชายห้าคนเบียดกันอยู่ในรถคนเดียว ทุกคนสวมไอ้โม่ง สองคนนั่งด้านหน้า อีกสองประกบผมด้านหลัง ดูคุกคามน่าหวาดหวั่น แต่การลักพาตัวนั้นดีอย่างตรงที่ค่อนข้างรับประกันชีวิต เพราะตราบใดที่คนร้ายไม่ได้เงิน ผมจะปลอดภัยแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์

   แต่จะให้เขาโทรหาพี่นทีก็ใช่เรื่อง

   เกรงว่าถ้ารู้เข้า พี่นทีคงจับผมไปขังไว้ในบ้านไม่ให้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันอีกเลย

   แล้วใครจะยอมล่ะไอ้บ้าเอ๊ย ผมอุตส่าห์มีชีวิตอิสระที่พี่ชายยอมรับแล้วนะ!!

   “อื้อๆๆๆ” ผมดิ้นขลุกขลัก จนผู้ชายที่ปิดปากไว้ยอมปล่อยมือ แต่ผู้ชายอีกคนยังคงจับมือไม่ยอมปล่อย แถมยังมัดแขนมัดขา ไม่ยอมให้หนีลงจากรถไปได้ “แค่ก! ถุงมือนายเหม็นชะมัด ซักบ้างรึเปล่า!”

   “...”

   เหล่าคนร้ายถึงกับจุดๆๆ กับประโยคทักทายแรกของผู้ถูกลักพาตัว

   “พวกนายอยากได้เงินเท่าไหร่” ผมเข้าประเด็นสำคัญทันที “ห้าล้าน? สิบล้าน? ถ้าอยากได้ก็บอกกันดีๆ อย่ามาลักพาตัวแบบนี้ นอกจากจะวุ่นวาย เป็นข่าวดัง โดนประกาศจับ ต้องหาแผนหลบหนีไปต่างประเทศแล้วยังเสี่ยงตายอีก ถ้าอยากได้ก็บอกมาตรงๆ ฉันจะเซ็นเช็คให้”

   “เอ่อ...” คนร้ายซึ่งนั่งฝั่งคนขับที่เพิ่งหาเสียงเจอหันมาพูดกับผมด้วยท่าทางประจบทันที “จะให้เงินพวกเราจริงๆ เหรอ”

   “ก็จริงน่ะสิ พวกนายจะลักพาตัวเรียกค่าไถ่ไม่ใช่รึไง เสียเวลาน่า คนถือเงินก็คือฉัน จะติดต่อคนอื่นให้วุ่นวายทำไม อยากได้ก็มาเจรจาต่อรองกันนี่ เอ้า แก้มัดด้วย มันเจ็บนะ"

   พลันคนซึ่งนั่งประกบด้านซ้ายของผมรีบแก้มัดให้ทันที ดูว่าง่ายพิกล หรือว่าเป็นการเข้าใจผิด?

   “คุณจะให้เงินพวกเราเท่าไหร่”

   “ก็แล้วแต่ว่านายอยากได้เท่าไหร่” ผมเอียงศีรษะเล็กน้อย เริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่อย่างที่คิด “เดี๋ยวนะ พวกนายไม่ได้จะลักพาตัวเรียกค่าไถ่กันใช่มั้ย”

   “อ่ะแฮ่ม” ชายซึ่งนั่งประกบฝั่งขวาผมกระแอมกระไอ “ลักพาตัวน่ะใช่ แต่ไม่ใช่การเรียกค่าไถ่ คุณหนูครับ พวกเราโดนจ้างมาให้พาคุณไปที่แห่งหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าคุณจะกรุณา..สิบล้านนั้น...”

   อำนาจเงินตราเปลี่ยนคนได้จริงๆ เพียงพริบตาเจ้าพวกนี้ก็ดูแลผมอย่างดี เรียกคุณหนูไม่พอยังหายาหม่องมาทามือที่เป็นรอยแดงเพราะโดนมัดให้ด้วย!

   “พวกนายโดนจ้างมาเท่าไหร่”

   “คนละหมื่น”

   ฉิบ! ค่าตัวผมมีแค่หนึ่งหมื่นเท่านั้นเหรอ มิน่าล่ะพอได้ยินว่าหลักล้านถึงได้ตาวาวกันขนาดนี้

   “เอาล่ะ ก่อนอื่นพวกนายมีสี่คน ฉันตั้งต้นให้ที่คนละล้าน รวมเป็นสี่ล้าน”

   “ตั้งต้น?”

   “ใช่ ฉันจะถามคำถาม ถ้าพวกนายตอบถูกใจ ฉันจะเพิ่มให้คนละล้าน ยุติธรรมดีมั้ย ได้เท่ากันทุกคน ไม่ต้องทะเลาะกันภายหลังเรื่องส่วนแบ่ง วิน-วิน”

   ทั้งสี่คนลอบสบตากันก่อนจะตอบรับอย่างพร้อมเพรียง

   “ตกลง!”

   “คนที่จ้างพวกนายคือใคร”

   “เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธอไม่บอกชื่อ สวมหน้ากากอนามัยปิดหน้า แต่ผมยาว ผิวคล้ำ สวมชุดคลุมท้อง...”

   พาฝัน?

   ผมยิ้มกริ่ม ไม่น่าเชื่อว่าเธอยังตามมารังควานกันอีก

   “เธอสั่งให้พวกนายทำอะไร”

   “ให้จับคุณไปที่แห่งหนึ่ง แล้วก็...”

   พูดยังไม่ทันจบดีคนขับรถก็ร้องอุทานเมื่อจู่ๆ ก็มีรถตัดหน้าจนต้องเบรกกะทันหัน ผมแทบหน้าคว่ำถ้าไม่ติดว่าชายชุดดำช่วยประคองด้วยเห็นว่าเป็นบ่อเงินบ่อทอง พอเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องสะดุ้งโหยงเพราะเห็นศศินยืนล้วงมือในกระเป๋ากางเกง สีหน้าเย็นชา สายตาเยือกเย็น ประกบด้วยบอดี้การ์ดสองคนซึ่งไม่ยักจะเย็น แถมยังถือปืนจ่อที่ฝั่งคนขับแบบไม่กลัวเกรงกฎหมายทั้งที่เป็นกลางวันแสกๆ

   “ใครวะเนี่ย!” คนในรถพากันร้องเสียงหลง

   “เปิดประตู” ผมรีบสะกิดคนข้างตัวให้เปิดประตูทันที พอโผล่หน้าออกไปศศินก็รีบฉีกยิ้ม ครั้งนี้ทำได้ดีกว่าตอนผมเดินออกจากห้องเขาเยอะ

   “ที่รัก บาดเจ็บรึเปล่า ขอโทษนะที่ฉันมาช้าเกินไป...” ศศินกางแขนคล้ายจะโอบกอด แต่ก็ไม่กล้าแตะต้องเลยทำได้เพียงขยับมืออย่างเก้ๆ กังๆ ท่าทางเขาดูผวาหนักกว่าคนโดนจับอย่างผมซะอีก

   “ฉันไม่เป็นไร ให้คนของนายเก็บปืนแล้วหาที่คุยกันเงียบๆ หน่อย” ผมรีบเอ่ยกึ่งเร่ง กลัวจะมีตำรวจมาจับ ซึ่งตอนนี้หลายคนคิดว่าเป็นแค่การทะเลาะวิวาทขับรถตัดหน้ากัน ยังไม่มีใครเห็นปืนเพราะคนของศศินใช้ตัวบังในมุมอับอย่างมืออาชีพ

   “หาที่คุยกัน? แต่เจ้าพวกนี้มัน...”

   “ต่อให้นายไม่มาช่วย ฉันก็จัดการได้อย่างอยู่หมัดแล้วละน่า” ผมหวังให้เขาใจร่มๆ ดูทำหน้าเข้าอย่างกับจะฆ่าคนตาย ถึงก่อนหน้านี้จะรู้สึกไม่ดี แต่การเห็นเขารีบมาช่วยแบบไม่สนอะไรทั้งนั้นก็ทำให้เริ่มใจอ่อนขึ้นมาหน่อยๆ เพราะถ้าเป็นการลักพาตัวเรียกค่าไถ่จริง และคนที่จับผมโหดเหี้ยมกว่านี้จนไม่ฟังคำต่อรอง ทุกอย่างอาจจะแย่กว่าที่คิดก็ได้

   “จัดการ?” เห็นผมยังยิ้มออก ศศินก็เริ่มผ่อนคลายลง แต่ก็ยืนประกบผมไม่ห่างพลางช่วยเปิดประตูรถให้เข้าไปในรถของเขาจึงจะพอวางใจ “ที่รักทำยังไงน่ะ”

   “ฉันสู้ใครไม่เป็น แต่ฉันรวยมาก” ผมยักคิ้ว “จบมั้ย”

   ศศินหัวเราะออกจนได้

   “จบครับ” สายตายามมองมานั้นแฝงความรักใคร่ไม่เคยปิดบัง “คนมีเงินนี่เท่สุดๆ ไปเลย”

   ผมเกาแก้มแก้เก้อ รู้สึกเขินขึ้นมานิดหน่อย แม้การกระทำหลายอย่างของศศินจะน่าสยองขวัญแกมบิดเบี้ยวผิดปกติ แต่เห็นแก่ที่เขาห่วงความปลอดภัยผมเป็นอันดับหนึ่ง แม้จะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ไม่เคยฉวยโอกาสแตะเนื้อต้องตัวกัน จะยอมให้โอกาสอีกสักครั้งแล้วกัน...

   ครั้งสุดท้ายแล้วนะ!

   -------------------

   

   เกือบไปแล้วทั้งศศินและนาวาเลยค่ะตอนนี้

   ศศินเกือบจะโดนทิ้งแล้วเพราะแสดงด้านมืด(?)ออกมาโดยที่ตาหนูยังไม่เตรียมใจ นาวาคบกับตวันตลอด เจอแต่อะไรใสๆ(??)คอยเป็นห่วงเป็นใยตวัน มาเจอศศินถ้ำมองก็ไม่แปลกที่จนขนลุกขนพองค่ะ แต่ศศินเองก็รักของเขามาตั้งนาน...ได้แต่แอบส่องแฟนชาวบ้านอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ไม่ได้มีใจอกุศลจริงๆ นะ(???)

   ส่วนเรื่องการใช้เงิน...นาวาเป็นคนใช้เงินมือเติบมากๆ ค่ะ ฟุ่มเฟือยสุดๆ ขอแค่ตัวเองพอใจ ถ้าจะโทษ...ต้องโทษวิธีการสั่งสอนของพี่นทีค่ะ... ( คติประจำใจพี่ชาย : น้องชายที่น่ารักน่ะแค่นอนตีพุงเฉยๆ แล้วคอยใช้เงินก็พอ! )

   #นาวาสไตล์

   
   ตัวอย่างตอนต่อไป เรื่องสนุกอะไรกำลังรออยู่นะ   
   “รู้อย่างนี้แล้วที่รักจ๋าจะทำยังไงต่อ”
   “ทำอะไรต่อน่ะเหรอ? ก็พานายไปดูเรื่องสนุกไง”


เพจ : มาจะกล่าวบทไป  (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 14 : ลักพาตัว [21/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 21-07-2019 19:26:17
 :hao3: :hao3: :hao3: ความรวยยยยยย
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 14 : ลักพาตัว [21/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 21-07-2019 19:53:56
จิตใจทราม ต่ำช้า บ้าฉิบหาย
หลงผู้ชาย มัวเมา เอาตัณหา
ลืมแล้วหรือ คือผู้ชาย แย่งเค้ามา
ลืมแหกหู แหกตา อย่าบ้อบอ

ได้แค่ข่วย ซวยจริง เค้าไม่รัก
ยิ่งกว่าผัก ปลาเน่า เร้าร้องขอ
ปล่อยหูเน่า หมีเน่า เซาซบรอ
สมน้ำหน้า โดนอิิผอ อัวไม่เอา

พาฝัน#เลวววววววววว#ตวันเล่นงานแน่#ทำร้ายคนที่เค้ารัก

ยิ่งอ่านยิ่งอยากกิน#ศศิน
แซ่บบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 14 : ลักพาตัว [21/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-07-2019 19:55:39
ศศิน  มีด้านมืด ทั้งที่สามารถทำได้มากกว่านี้ แต่ดูชิลๆนะ
เพราะกี่ปีแล้ว เฝ้าแต่รอคอยแต่นาวาคนเดียว ถือว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ  :m20: :laugh:

พาฝัน ยังถามหาอะไรอีกหรือ ?????  :fire: :angry2:
ไปเป็นมือที่สาม แยกคนที่เขารักกันจนสำเร็จ
อยากได้สามี พ่อของลูก นาวาก็ส่งไปให้  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
แล้วยังมาแว้งกัดบาวาอีก โอ้......นางอยากอะไรกันน้อ  :z6: :m16: :serius2:
ว่าแต่แค่พาฝันเท่านั้น หรือตวันมีเอี่ยวด้วย  :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 14 : ลักพาตัว [21/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-07-2019 20:43:46
พาฝันยังไม่เลิกวุ่นวายกับนาวาเดี๋ยวโดนจนได้ :beat:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 14 : ลักพาตัว [21/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 21-07-2019 21:27:41
      พาฝันชื่อเธอแปลว่าฝันร้ายใช่ไหม...
เพราะเร็วๆนี้น่าจะมีเรื่องสนุกแบบหัวเราะไม่ออกเกิดกับเธอหรือเปล่า
#นาวานิสัยรวย
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 14 : ลักพาตัว [21/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 21-07-2019 21:32:19
พาฝันนิ่โง่กว่าที่คิดไปเยอะนะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 14 : ลักพาตัว [21/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 21-07-2019 21:41:13
ก็รู้ ๆ กันอยู่เพราะตวันไม่มีเงินแล้วไง เลยอยากได้เงินซะก้อนไปใช้ แต่แผนตื้น ๆ แบบนี้มันจะใช้ได้ผลได้ไงคิดโง่ ๆ แล้วอีกอย่างท้องกับตวันจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ อย่างที่รู้ ๆ กันวงการนางแบบมันไม่ได้ใส ๆ หรอกนะ กว่าจะพอมีชื่อขึ้นมาได้ต้องผ่านมากี่คนแล้วละยัยพาฝัน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 14 : ลักพาตัว [21/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-07-2019 21:43:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 14 : ลักพาตัว [21/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 21-07-2019 22:25:58
รอตามไปดูเรื่องสนุกเลย >>0_0<<
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 14 : ลักพาตัว [21/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-07-2019 23:20:26
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 14 : ลักพาตัว [21/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 21-07-2019 23:28:58
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 14 : ลักพาตัว [21/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 21-07-2019 23:57:19
ถึงขั้นลักพาตัวเลยหรอ,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 14 : ลักพาตัว [21/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-07-2019 02:29:46
พาฝันไม่น่าจะท้องนะเราว่า
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 14 : ลักพาตัว [21/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 22-07-2019 11:24:11
ทึ่งกับความนาวาจริงๆ รักนางจ้า ฮีเก่ง มั่น และรวยมาก จบนะ  o13  :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 23-07-2019 18:43:59
   
ตอนที่ 15

   จุดหักเห

   

   ผมเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น พวกคนร้ายตอบสองคำถามก็บวกเพิ่มอีกคนละสองล้าน

   เมื่อได้รับเช็คเงินสดจำนวนสิบสองล้าน ชายทั้งสี่ก็แทบจะเรียกได้ว่าผมหันซ้ายก็ซ้าย หันขวาก็ขวาไม่อิดออด

   “รู้อย่างนี้แล้วที่รักจ๋าจะทำยังไงต่อ”

   ทั้งที่เป็นปัญหาของผม แต่ศศินก็ไม่รังเกียจที่จะเสนอตัวเข้ามาร่วมฟังด้วย ตอนได้ฟังแผนของพาฝัน เขาถึงกับเผยยิ้มเย็นเหี้ยมเกรียมวูบหนึ่ง เล่นเอาผมขนแขนลุกยิ่งกว่าตอนรู้ว่าโดนคนโรคจิตแอบส่องมาตลอดเจ็ดปีซะอีก แต่พอหันมาศศินก็ยิ้มเอาใจเหมือนเดิม

   “ทำอะไรต่อน่ะเหรอ? ก็พานายไปดูเรื่องสนุกไง”

   “เป็นเกียรติเหลือเกินที่ได้รับคำเชิญจากที่รัก” ศศินฉีกยิ้มยียวน แต่แววตาคล้ายโล่งอกด้วยกลัวว่าจะโดนผมสลัดทิ้ง

   ความจริงเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลย แทบไม่ได้เฉียดใกล้เลยด้วยซ้ำ แต่แบบว่า...ลึกๆ ในใจผมอยากจะมีใครสักคนเคียงข้างในสถานการณ์ที่ตัวเองยังสับสนไปไม่เป็น

   เพราะผมพลาดอีกแล้ว...เป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย

   “ที่รัก...”

   “ไปกันเถอะ” เมื่อโดนเรียกผมก็หันไปพยักหน้ากับศศิน ก่อนจะเดินไปนั่งรถของคนร้ายที่กลับกลายเป็นคนดี โดยมีรถของศศินขับตามมาห่างๆ เพื่อไม่ให้เสียแผน

   เพราะผมต้องการ...ตลบหลังพาฝัน!!

   ทุกอย่างดำเนินอย่างที่เธอต้องการ เมื่อชายทั้งสี่จับผมมัดแล้วลากไปยังตึกร้างแห่งหนึ่งที่จังหวัดใกล้กรุงเทพฯ ซึ่งตวันเลือกพักอาศัย และเมื่อโดนแก้มัด ผมก็ตีบทแตกด้วยการร้องโวยวายอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

   “จับฉันมาทำไมพาฝัน!”

   ตรงหน้าผมคือหญิงสาวในชุดคลุมท้องทั้งที่หน้าท้องก็ไม่ได้นูนขึ้น เหมือนว่าการแต่งกายเท่านั้นจึงจะช่วยให้เธอเหมือนคนท้องสักนิดก็ยังดี...

   “ทำไมถึงนานขนาดนี้!”

   เธอมองเมินผม หันไปตำหนิชายทั้งสี่คนซึ่งหลังจากซักไซ้แล้วก็จึงรู้ว่าเป็นแค่แก๊งนักเลงธรรมดา

   “ลักพาตัวคนไม่ใช่ง่ายๆ นะ ก็ต้องใช้เวลาบ้างสิวะ!” หัวโจกตะโกนกลับ แม้ถูกจ้างวานแต่ก็นับเป็นต่างคนต่างพึ่งพาอาศัยกัน แผนของเธอจะสำเร็จไม่ได้ถ้าไม่มีพวกเขา... “แล้วยังไง จะให้ลุยเลยมั้ย”

   พาฝันมองผมด้วยรอยยิ้มแค้นเคือง ก่อนจะพยักหน้าตกลง

   ทันใดนั้นชายทั้งสี่ก็พากันรุมล้อมด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด...รุมล้อมพาฝันนะไม่ใช่ผม

   อะไรนะ คิดว่าเธอจะสั่งให้เจ้าพวกนี้จับผมมากระทืบเล่นไม่ก็ลวงข่มขืนให้หายแค้นเหรอ โธ่ พาฝันไม่โง่ขนาดนั้นหรอก เพราะสิ่งที่เธอต้องการคือการป้ายสีต่างหาก โดยการลักพาตัวผมมานั่งทำหน้างงๆ อยู่ตรงนี้ แล้วดูเธอโดนผู้ชายสี่คนทุบตีอย่างไม่ยั้งมือเพื่อความสมจริง

   “ฝัน!”

   และเมื่อตวันมาถึง ชายทั้งสี่ก็ตกใจแล้วรีบมายืนอยู่หลังผมอย่างพร้อมเพรียง สำหรับคนที่เพิ่งมาถึงอย่างตวัน เห็นหญิงคนรักถูกทุบตีจนเลือดอาบหน้า กุมท้องน่าสงสาร แล้วเห็นผมนั่งจ๋องอย่างสุขสบาย มีผู้ชายหน้าเหี้ยมสี่คนอยู่รอคำสั่ง ก็ไม่แปลกใช่มั้ยครับหากจะเข้าใจผิดว่า...ใครคือผู้จ้างวาน

   นับว่าเธอถนัดแผนทรมานตัวเอง ครั้งก่อนก็แพ้อาหาร ครั้งนี้ก็ยอมถูกกระทืบ

   “ตวันคะ ฝันปวดท้อง...” พาฝันกุมท้องโอดครวญอย่างทรมาน ตวันทำอะไรไม่ถูก เพราะเขาคาดไม่ถึงว่าจะเห็นผมในสถานที่แบบนี้

   ผมเลิกคิ้วให้ผู้มาใหม่ คิดในใจว่าถ้าเขาหลงเชื่อการจัดฉากครั้งนี้ก็ควายแล้วนะ

   “วา...ทำไมถึง...”

   โอ๊ย ควายจริงๆ ด้วย!

   ผมกุมขมับ คาดไม่ถึงว่าเคยคบกับเขาได้นานถึงเจ็ดปี แม้ตวันจะหัวไม่ดี แต่ความขยันของเขาก็ทดแทนในส่วนนั้นได้ดีเยี่ยม ถ้ามองไม่ออกก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยควรจะรู้จักผมสักหน่อยมั้ยว่าคนอย่างนาวาไม่ลดตัวมาเกลือกกลั้วกับผู้หญิงเจ้าเล่ห์อย่างพาฝันหรอก!

   เจ้าเล่ห์ยังไงน่ะเหรอ...

   “ตวัน นายพาภรรยาของนายไปฝากท้องหรือยัง” ผมถามอดีตคนรักเสียงเรียบ

   “ไม่ใช่เวลาถามเรื่องนี้นะวา ผมต้องรีบพาเธอไปโรงพยาบาล...”

   “อ้อ โรงพยาบาลไหนล่ะ” ผมเลิกคิ้วถามขณะจ้องเค้นพาฝันที่ยังกุมท้องร้องโอดโอยพลางหันไปพูดกับตวันเป็นเชิงขอร้อง

   “ตวันคะ ฝันไม่อยากไปโรงพยาบาล พาไปหาเพื่อนของฝันคนนั้นนะคะ”

   “เพื่อนคนที่เป็นเจ้าของคลินิกแล้วช่วยฝากท้องให้น่ะเหรอ แล้วนายก็ยอมเนี่ยนะตวัน” ผมส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ “เห็นแก่ฉันที่เป็นคนเกลี้ยกล่อมให้นายรับเธอมา ฉันจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง...”

   พูดจบรถพยาบาลก็มาถึงด้วยการโทรเรียกของศศินซึ่งมายืนเคียงข้างผม เพียงเห็นหน้าคนที่จ้องจะจีบแฟนตัวเองมาตลอดเจ็ดปี ตวันก็โกรธจนเส้นเลือดปูดโปนตามขมับ เขามองโยงระหว่างชายสี่คนกับบอดี้การ์ดสองคนของศศินว่าเป็นพวกเดียวกันในพริบตา

   “วา...นี่นายคบกับศศินจนกลายเป็นคนเลือดเย็นไปแล้วรึไง กับผู้หญิงท้องยังทำได้!”

   “ท้องจริงท้องปลอมค่อยว่ากันอีกทีเถอะตวัน” ผมยิ้มกริ่ม ขณะเดินหลบให้หน่วยพยาบาลถือเปลมาหามพาฝันขึ้นรถ เธอรีบร้องขอความช่วยเหลือจากตวัน ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมไปโรงพยาบาล และนั่นก็ทำให้อดีตคนรักของผมเริ่มฉุกใจคิด

   “ท้อง...ปลอม?”

   “ทำไมนายถึงไม่พาเธอไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลล่ะ”

   “เพราะพาฝันกลัวมีคนจำได้แล้วแอบถ่ายลงโซเชียล...ผมเลยยอมทำตามคำขอร้องของเธอ”

   “ช่างเป็นคนดีจริงๆ” ผมประชด “แต่ฉันเองก็ผิด...ไปเถอะตวัน ไปพิสูจน์ว่าผู้หญิงคนนั้นมีลูกให้นายจริงรึเปล่า”

   ผมชี้ให้เขาขึ้นรถพยาบาลที่รอให้ญาติคนไข้ตามไปด้วยได้

   “ระหว่างนั้นฉันจะให้ศศินส่งคลิปแอบถ่ายเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่นี่ให้ ดูแล้วก็...ทำใจดีๆ เข้าล่ะ”

   




   ขณะที่ตวันขึ้นรถพยาบาล ผมนั่งรถกับศศินตามห่างๆ

   นึกแล้วก็ปวดหัว ผมนวดขมับ ถึงโรงพยาบาลแล้วชักอยากจะขอยาพารามากินสักสองเม็ด

   ทุกอย่างวุ่นวายถึงขนาดนี้ได้ยังไงวะเนี่ย!

   “ที่รักไม่ผิดหรอก” ศศินเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ “ฉันต่างหากที่ผิดเพราะไม่ตรวจสอบก่อน”

   แล้วดูคนข้างตัวผมสิ หรือเห็นว่าผมนั่งขมวดคิ้วมุ่นเลยฉวยโอกาสโทษตัวเองหวังให้สบายใจ?

   “นี่ไม่ใช่เรื่องของนายด้วยซ้ำ” ผมแย้ง “ที่ทำให้ทั้งหมด...ก็มากเกินไปแล้ว”

   “ไม่มากเกินไปสักหน่อย เพื่อที่รัก ฉันเต็มใจเสมอ”

   ผมเหม่อมองศศิน มองคนที่ยิ้มให้ไม่ว่าจะสถานการณ์ใดก็ตาม ต่อให้ผมรู้สึกแย่หรือเขารู้สึกแย่ ชายคนนี้ก็ยังมีรอยยิ้มบนหน้าและมองผมด้วยสายตารักใคร่ไม่เสื่อมคลาย

   “ช่างเถอะ” ผมถอนหายใจเฮือก เรื่องของเรื่องคือผมหูเบาหลงเชื่อพาฝันแล้วไปบอกตวันให้รับผิดชอบโดยไม่ฉุกใจสักนิดว่าเธอท้องจริงหรือท้องปลอม

   ใครเลยจะเชื่อว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะยอมโกหกเรื่องลูกเพื่อให้อยู่กับผู้ชายที่เธอรัก

   พาฝันไม่ใช่คนโง่ ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถหาโอกาสแจ้งเกิดในวงการได้ขนาดนี้ แต่ความฉลาดของเธอมักใช้ในทางที่ผิด ทั้งเรื่องการเข้าหาคนมีเจ้าของอย่างตวันและเลือกที่จะรั้งอีกฝ่ายไว้ด้วยคำว่าครอบครัว

   ตวันโหยหาครอบครัวขนาดไหน พาฝันเคยรู้บ้างมั้ย เมื่อเธอใช้ลูกเป็นข้ออ้างให้ตวันยอมติดต่อกลับและรับเธอไปอยู่ด้วยก็ควรจะเตรียมใจว่าเมื่อความแตก...ทุกอย่างจะยิ่งแย่กว่าเดิมหลายเท่า!

   หรือเพราะกลัวแสนกลัวจึงเลือกใช้วิธีบ้าๆ อย่างโยนความผิดว่าผมเป็นคนทำให้เธอแท้งเพื่อให้ตวันผูกใจเจ็บ หวังกำจัดศัตรูความรักทิ้งแล้วทำให้ตัวเองรอดพ้นจากเรื่องท้องปลอมอีกกระทง เพราะแม้จะรับพาฝันมาแต่ตวันก็ไม่รักเธอ เขารักผม...จนตอนนี้ก็ยังรัก

   ถึงได้เชื่อว่าผมจะไม่โกหก หากบอกว่าพาฝันท้องก็คือเธอท้องจริงๆ

   เรื่องวุ่นวายทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความรักล้วนๆ

   รวมถึง...ศศินเองก็ด้วย

   “ทำไมนายถึงรักฉันมากขนาดนี้”

   คำตอบของศศินคือความเงียบ...

   และสายตาที่ทอดมองมาอย่างเศร้าสร้อยปานพระจันทร์แสนโดดเดี่ยว

   เขาช่างรู้ใจผมดีเหลือเกิน

   ในเมื่อผมแทบจะทำลายชีวิตของตวัน ผมก็ต้องรับผิดชอบเขา

   ถึงอยากตัดขาดแค่ไหนก็สลัดไม่หลุดสักที

   ผมปล่อยตวัน...ที่เคว้งคว้างตอนนี้ไม่ได้จริงๆ ไม่ว่าจะในฐานะอดีตคนรักหรือฐานะเพื่อนสมัยเด็กก็ตาม

   ศศินทำถูกแล้ว

   ความเงียบคือคำตอบที่ดีที่สุด

   เพราะถ้าพูดออกมาแล้วไม่มีประโยชน์...เลือกเก็บไว้เป็นความทรงจำสวยงามในใจยังมีค่ามากกว่า

   ---------------------------

      อย่าเพิ่งด่านาวานะคะ น้องไม่ทิ้งศศินแน่นอน แต่เหมือนว่าให้มาสารภาพรักขอคบตอนนี้ยังไม่เหมาะเฉยๆ ค่ะ และรับประกันว่านาวาไม่มีวันไขว้เขวกับตวัน น้องเจ็บแล้วจำ!

   สรุปสถานะตอนนี้ของศศิน = คนคุย ระยะดูใจ

   ตวัน = เพื่อนสมัยเด็กที่เทไม่ลง น้องกลัวตวันจะไปโดดตึก

   เอาจริงๆ จะบอกว่าใครผิดก็บอกได้ว่าพาฝันผิดค่ะที่โกหก นางรู้ว่านาวาเลิกกับตวันแล้วก็อยากได้ตวัน แต่ตวันหนีนางซะงั้น เลยกุเรื่องจนเจอตัวตวัน มาถึงขั้นนี้ก็ต้องโกหกให้สุดแล้วป้ายความผิดให้นาวา แต่โดนนาวาซ้อนแผนแทน

นาวากับศศินไม่ตรวจสอบก็สมควรนะคะ ใครจะไปอยากเจาะลึกเรื่องของคนอื่นกันหาาาา ทำก็ทำกันเองก็ไปเคลียร์กันเองเซ่ อุตส่าห์พาไปหาก็ถือว่านาวาใจบุญแล้วนะะะ (อิน) จำ!

   #นาวาสไตล์

   

   ตัวอย่างตอนต่อไป เมื่อนาวาเปิดตัวคนคุยกับพี่ชาย แต่ปฏิกิริยาจากพี่นทีก็คือ...   
   “วาไปเก็บคนพูดจาน่าขนลุกมาจากไหน”

   

เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-07-2019 18:54:23
 :ruready
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 23-07-2019 19:17:00
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-07-2019 20:25:39
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-07-2019 20:57:44
ค้างงงงงงงงงงง  :z3: :z3: :z3:
พาฝัน เป็นแบบไหนเอ่ย..........
พาฝันดี หริอพาฝันร้าย....... เหอะๆ  :z6: :m16:
ชื่อก็ดี๊ ดี แต่เจ้าของชื่อ มีแต่ความเลวในสมอง   :m31: :fire:
ตวัน สมกับที่นาวาว่าจริงๆ  :angry2: :a5:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 23-07-2019 21:22:47
อารมณ์ ขว้างงูไม่พ้นคอ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-07-2019 21:36:39
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 23-07-2019 22:57:08
เปิดโปงแบบจัดหนักเลย นาวา
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 23-07-2019 22:57:48
ราตรีมืด ชืดเย็น ไม่เห็นแสง
อ่อนโรยแรง แห่งหน บนยอดเขา
เจ้าจันทรา ไร้คู่ อยู่แค่เงา
แสนหงอยเหงา เปล่าเปลี่ยว เหี่ยวหัวใจ

เจ้าสายน้ำ กับจันทรา พาลอยล่อง
แต่ยังข้อง เกี่ยวตะวัน ให้ขานไข
กลางคืนมืด กลางวันแจ้ง แบ่งกันไป
แต่หัวใจ แบ่งหรือเปล่า เจ้านาวา

ส่งมาทางนี้#ศศิน#รอรับอยู่#ไม่คืนนะ :กอด1:
อิอิ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 23-07-2019 23:35:34
       เข้าใจนะว่าทำไมนาวาถึงทำแบบนี้
ความรักมันมีหลายแบบสำหรับตวัน
คงเรียกว่ารักแบบหวังดี
       สำหรับพาฝันก็รับผลแห่งการกระทำไปนะ
ความผิดพลาดครั้งแรกคือแย่งคนรักของคนอื่น
มาครั้งนี้คือโยนความผิดให้คนอื่น
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 24-07-2019 00:13:23
ศศินน่าเห็นใจที่สุด
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 24-07-2019 10:42:15
ลงจากรถพยาบาลเราคงเห็นอะไรดี ๆ แน่
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 24-07-2019 14:07:21
แผนสูงจริงๆเลย,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 24-07-2019 14:10:56
ก็บอกแล้วโง่ๆแบบตวัน

ไปเป็นเมียพี่นทีดีที่สุด

พีนทีฉลาดและรวยมากเราชอบ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 24-07-2019 23:44:41
คนเคยรัก เคยผูกพันจะเทกันง่ายๆก็ใช่ที่ รอหน่อยนะศศิน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 25-07-2019 00:46:15
มีเรื่องนึงที่อยากพูด คือเรื่องความยาวครับ ผมรู้สึกว่าแต่ละตอนค่อนข้างสั้นนะครับ ประมาณ 7 หน้า A4 แบบเว้นบรรทัดเอง อีกทั้งการเดินเรื่องแบบตัดฉากค่อนข้างไวและดำเนินเรื่องเร็ว มันทำให้ขาดการละเลียดเนื้อเรื่องและซึมซับในบทบรรยายนะครับ เพราะว่าการบรรยายเชิงความรู้สึกมีไม่มาก และที่เขียนเชิงบรรยายก็ค่อนข้างห้วนไว เข้าใจว่าเนื่องจากอิงตามความรู้สึกของตัวเอก (นาวา) ซึ่งจะเป็นคนเร็วๆไวๆ แต่ว่าผลลัพธ์ก็คือทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังดูซีรีย์ซิทคอมที่เป็นตอนๆไป จบไปเป็นตอน เริ่มตอนใหม่ก็เซ็ตฉากใหม่ และแทบจะปมจบในตอนนั้นๆเลย ประกอบกับนิสัยนาวาอีก มันเลยทำให้ผมไม่อินกับปม สัมผัสไม่ได้ถึงความแน่นตัวละคร ไม่ว่าจะปมชีวิตที่มาจากแบ็คกราว์นของตะวัน หรือความทุ่มเทของศศินที่พยายาม เท่าที่เห็น ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องของความต่อเนื่องทางอารมณ์ให้รับรู้ผ่านบทบรรยายและการเชื่อมโยงแต่ละตอนนะครับ ซึ่งมันกระทบมิติในแต่ละด้านของตัวละคร พลอยทำให้ภาพของคาแรกเตอร์กลายเป็นไม่แน่นไปด้วย

ว่าแต่ ศศินมีพี่ชายหรือญาติผู้พี่ไหมครับ? ผมคิดว่าคุณนทีที่ทำอะไรเรื่อยๆช้าๆ เป็นคนตื่นตูมนิดหน่อย แต่ก็ใจเย็น อ่อนโยน ยิ้มให้ต้นไม้ใบหญ้า แล้วก็เป็นห่วงแคร์ความรู้สึกคนอื่นอยู่ตลอด ผมว่าคนนิสัยที่โหดๆหน่อย ค่อนข้างห่าม ตรงไปตรงมา น่าจะเป็นคู่ของคุณนทีที่น่ารักดีนะครับ เคมีน่าจะออกมาน่ารักในสายตาคนมองเลยทีเดียว แต่ว่าคนนิสัยแบบนี้เราก็มักจะเจอในแวดวงการทำงานของศศินนี่แหละ ถ้าจะให้สมฐานะกับนที ก็คงต้องเป็นคนที่ทำงานเก่งพอสมควรด้วย เลยคิดว่าถ้าศศินมีพี่ชายหรือญาติผู้พี่ เรื่องก็จะน่าสนใจดีครับ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 15 : จุดหักเห [23/07/62] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 25-07-2019 12:01:52
ทั้งคู่รักนาวานะ แต่คนนึงทำผิดแอบมีชู้ อีกคนรักแต่รักมากจนน่ากลัว
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 16 : ทดลองดูใจ [25/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 25-07-2019 18:50:37
   ตอนที่ 16

   ทดลองดูใจ

   

   เป็นอย่างที่ผมคิด เมื่อตวันรู้ความจริงทั้งหมดเขาเสียศูนย์ยิ่งกว่าตอนผมบอกเลิกซะอีก

   เพราะตอนนั้นเป็นเขาที่ทำผิดเอง ย่อมต้องยอมรับผลที่ตามมา แต่ครั้งนี้เขาเตรียมตัวเริ่มต้นใหม่ กับครอบครัวใหม่ สำหรับชายคนหนึ่งที่ไม่เหลือใคร อีกทั้งยังรักชอบเพศเดียวกัน การมีลูกก็ไม่ต่างกับของขวัญฟ้าประทาน

   แต่ทุกอย่างเป็นเพียงการวาดวิมานบนเมฆ

   เป็นคำหลอกลวงของชู้รักที่ไม่ได้รักผ่านปากของอดีตคนรักที่รักแสนรัก

   ตวันไม่มีน้ำตาสักหยด สายตาตอนมองพาฝันซึ่งได้รับการรักษาบาดแผลฟกช้ำและตรวจพบว่าในท้องเธอไม่มีเด็กนั้นเหมือนคนเจ็บจนชา ไม่ว่าเธอจะขอโทษยังไงก็ไม่ตอบรับ มองเมินเหมือนไม่มีตัวตน และเมื่อเห็นผมเดินมากับศศิน เขาก็ยิ่งเหมือนคนไร้วิญญาณ ไร้ความรู้สึก

   ไม่มีคำกล่าวโทษเพราะเขาโทษผมไม่ลงในเมื่อเขาก็ไม่ตรวจสอบเอง

   ไม่มีคำแก้ตัวเพราะเขาเป็นคนเริ่มต้นทั้งหมด

   ไม่มีคำขอคืนดีเพราะเขาคิดว่าผมกับศศินคบกันแล้ว

   ตวันขยับปาก แต่ไม่มีเสียงออกมา คล้ายจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็พูดออกมาไม่ได้ ทุกอย่างอัดแน่นอยู่ในอก เหมือนคนจนทางตันที่หาทางออกไม่ได้ เคว้งคว้างไม่เหลือใคร

   สุดท้ายผมทนมองไม่ไหวต้องเขาไปกอดปลอบคนตรงหน้า

   ตวันว่างเปล่าจนน่ากลัว เขาเหมือนคนพร้อมจะจากโลกนี้ไปทุกเมื่อ

   “ไม่เป็นไรตวัน ฉันยังอยู่ตรงนี้นะ...ฉันยังอยู่ตรงนี้”

   “วา...” ตวันกอดผม ในที่สุดเขาก็ร้องไห้ออกมาจนได้ ผมถอนหายใจเฮือก อย่างน้อยมีน้ำตาก็แปลว่ายังมีความรู้สึก ได้ระบายความทุกข์ออกมาย่อมดีกว่าเก็บไว้ในใจ

   โดนทิ้งครั้งแรกหนักหนาแสนสาหัสแต่ยังลุกไหว

   โดนหลอกครั้งที่สองโลกพังทลาย แม้แรงจะก้าวเดินก็ไม่มี

   ตวันมีปมด้อยเรื่องไม่มีพ่อและเป็นลูกคนใช้จึงอ่อนไหวเรื่องครอบครัวมาก เขาอยากมีครอบครัวแสนอบอุ่น อยากเป็นหัวหน้าครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อม ให้ความรักกับลูกไม่ให้ขาดเหมือนที่เขาเป็น

   นึกรูปที่ตวันช่วยประคองพาฝันอย่างอ่อนโยน ทั้งที่ไม่ได้รักแต่ทำสุดความสามารถเพื่อให้ยังเป็นครอบครัวในฝัน ที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้รับ ตัดใจจากรักแรกและรักเดียวเพื่อสิ่งนี้ ผมก็ลูบหลังเขาอีกหลายที

   อกหักไม่ยักกะตาย แต่ครั้งนี้คนบางคนแทบปางตายเลยจริงๆ





   

   ถึงจะเห็นใจผมก็ไม่คิดจะอยู่ร่วมห้องกับแฟนเก่าหรอกนะ แต่จะพาเขากลับบ้านก็ไม่ได้อีกเพราะมีคนพร้อมจะซ้ำเติมอยู่เลยตัดสินใจเช่าห้องอยู่ใกล้ๆ คอนโดฯ แล้ววานป้าแช่มให้ช่วยแวะมาทำกับข้าว เพราะถ้าเป็นฝีมือป้าแช่ม ตวันคงไม่กล้ากินทิ้งกินขว้าง หนักสุดคือไม่กินอะไรเลยอย่างที่กำลังทำอยู่

   ผมวุ่นวายกับตวันอยู่พักใหญ่ รอจนเขาเริ่มมีสติโต้ตอบมากขึ้นค่อยพาไปพบจิตแพทย์ เขามีปมในใจหลายอย่างที่ไม่กล้าบอกใคร โดยเฉพาะกับผม เวลาอยู่ด้วยกันคล้ายจะทรมานใจมากกว่ามีความสุข แต่ช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะนอกจากผมเขาก็ไม่มีคนอื่นคอยห่วงใยอีกแล้ว

   อ้อ ยกเว้นพาฝันน่ะนะ

   หลังโดนตวันเมิน พูดยังไงก็ไม่ตอบ พาฝันก็คล้ายจะเสียสติไปอีกคน หนักกว่าการแอบรักคือโดนคนที่รักมองเหมือนไม่เคยมีตัวตนอยู่ แต่เธอไม่ใช่เพื่อนผม เลยไม่ใช่เรื่องต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว

   แค่นี้ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว!

   จนตอนนี้พาฝันก็ยังไม่รู้ว่าทำไมตวันถึงเสียใจมากขนาดนี้ ปมในใจที่ทำให้เขาฝันอยากมีครอบครัวที่แสนสุขและอยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกถูกฉีกกระชากจนเป็นแผลเหวอะหวะ หลังพยายามดักเจอและขอโอกาสแก้ตัวแต่ตวันกลับไม่แม้แต่จะสบตา เธอก็เริ่มตัดใจและหายตัวไปเงียบๆ

   ขอบคุณความสงบสุข!

   ขอบคุณช่วงเวลาแห่งการนอนกลิ้ง!

   ตอนกลับมาที่ห้องแล้วได้กลิ้งซ้ายกลิ้งขวา ซบหน้ากับหมอนนุ่มและกอดผ้าห่มซึ่งม้วนเป็นกอดๆ แนบอก ผมสุขียิ่งกว่าอะไร แต่พอเดินออกไปเข้าห้องน้ำ ผ่านห้องนั่งเล่นซึ่งเป็นประตูกระจกเปิดไปทางระเบียง ผมก็หรี่ตาเล็กน้อย หลังจากแยกกับศศินวันนั้น เขาก็ยังมารับผมไปทานข้าวเที่ยงเหมือนเดิม ทำราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ช่วงบ่ายผมจะแอบแวบมาหาตวันก็ไม่ว่าอะไร

   เขาจะว่าอะไรได้ ในเมื่อเราไม่ได้คบกันด้วยซ้ำ

   ยังไงก็ตามผมยื่นคำขาดว่าห้าม! ถ้ำ! มอง! ถึงจะเชื่อว่าศศินรับปากแล้วคงไม่ทำ แต่พอมองไปเห็นห้องฝั่งตรงข้ามก็อดสยองขวัญไม่ได้ทุกที

   ศศินเหมือนจะดีทุกอย่าง โดยเฉพาะความรักที่มีต่อผมนั้นแน่วแน่ซื่อสัตย์อย่างหาได้ยาก แต่ก็มีอีกหลายๆ อย่างที่ต้องใช้เวลาและปรับตัวอีกนาน โดยเฉพาะไอ้ความยึดติดประหลาดๆ นั่น!

   แต่ในเมื่อคิดจะให้โอกาส คนอย่างนาวาก็พร้อมจะลองลุยกันอีกสักตั้ง ต้องคอยแวะเวียนไปหาตวันแล้วยังไง เขาเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็ก พวกเราไม่มีวันกลับเป็นเหมือนเดิมแล้ว ส่วนศศิน...คือคนที่อยู่ในช่วงทดลองดูใจ

   ถึงเจ้าตัวจะออกไปทางคาดหวังแกมหมดหวังก็เถอะ คงกลัวถ่านไฟเก่าจะคุ!

   โธ่ พ่อคุณเอ๊ย คุให้ตายยังไงผมก็ไม่หลงผิดลงเอยกับตวันอีกหรอกน่า ตอนนี้มีแค่ความสงสารในฐานะคนที่เติบโตมาด้วยกันก็เท่านั้น สมัยเด็กตวันถูกล้อเลียนเรื่องครอบครัวเยอะมาก พอกลับบ้านมาก็โดนคนอื่นดูแคลนหาว่าเกาะผมหวังสบาย กว่าจะเป็นคนอบอุ่นอ่อนโยนอย่างนี้ก็ตอนผมยื่นคำขาดขอแยกบ้านนั่นแหละ

   แต่จะไม่ให้ศศินสงสัยก็คงไม่ได้ เพราะช่วงแรกๆ ผมแทบจะคลุกกับตวันทุกวัน โผล่หน้าไปดูว่าเขายังอยู่ดีก็โล่งใจแล้ว ความสัมพันธ์ของเราเลยหยุดชะงักชั่วคราว เพราะผมคงไม่มีอารมณ์ไปเริงร่ากับชายอื่นขณะที่เพื่อนกำลังทุกข์ตรมจะเป็นจะตาย เพิ่งมาสานต่อเอาตอนตวันเริ่มอาการดีขึ้น จึงเว้นช่วงไปหาเป็นวันเว้นวันบ้าง สามวันครั้งบ้าง เวลาศศินรับไปทานข้าวก็ไม่ค่อยกังวลลนลาน โทรเช็กกับป้าแช่มห่วงว่าวันนี้ตวันจะยอมกินรึเปล่า

   อย่าให้พูดเลยว่าตอนพี่นทีรู้เรื่องโกรธขนาดไหน

   เขาหาว่าผมกับตวันก็เหมือนชาวนากับงูเห่า โดนกัดแล้วยังกล้าเลี้ยงต่ออีก!

   ผมเลยแย้งกลับว่าถ้าตวันเป็นงูพิษก็คงโดนผมตีตายก่อนจะฉกผมตาย พี่นทีฟังแล้วก็ถอนหายใจ พึมพำว่าน้องชายชักจะไม่น่ารักเหมือนตอนเด็กแล้ว...

   แล้วผมก็แนะนำงูพิษตัวใหม่ให้พี่ชายได้รู้จัก

   ก็ไม่ได้อยากจะเปิดตัวไวทั้งที่ยังไม่ได้ตกลงคบหากันหรอกนะ แต่พี่นทีดันมาหาผมตอนศศินนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องทำงานรอไปกินข้าวด้วยกันนี่สิ

   “สวัสดีครับคุณพี่ชาย ผมศศินครับ” ศศินแนะนำตัว ยกมือไหว้อย่างรู้มารยาท พี่ชายผมตอนแรกคิดว่าเป็นลูกค้าเลยรับไหว้พร้อมยิ้มดอกไม้บาน ดีใจที่ผมทำบริษัทให้ก้าวหน้าด้วยดี “ผมกำลังจีบนาวาครับ”

   “อ้อ” พี่นทีขานรับในลำคอ ดอกไม้ยังบานอยู่รอบตัว เพราะรู้ว่าช่วงนี้ผมฮอต มีคนจีบเยอะมาก

   ผมซึ่งออกมาเห็นฉากในตำนานเข้าพอดีเลยจับเวลาว่าพี่ชายจะรู้ตัวตอนไหน

   ผ่านไปห้านาที พี่นทีที่คล้ายจะนั่งขุดประวัติคนชื่อศศินทุกคนที่เคยรู้จักทั้งหมดเสร็จก็จ้องอีกฝ่ายเขม็ง

   “ศศิน...เจ้าพ่อเงินกู้น่ะเหรอ!”

   “ครับ” ศศินเอ่ยมาดเคร่งขรึม แม้คำพูดจะติดยียวนบ้าง แต่สีหน้าแววตาไม่มีล้อเล่นเหมือนที่แสดงออกกับผมสักนิดเดียว แต่พอหันมาเท่านั้นแหละ “ที่รักจ๋า ไปกินอะไรกันดีจ๊ะ”

   ช่วยเก็บสายตาเยิ้มๆ กับมุมปากที่ยกขึ้นนั่นไปจะได้มั้ย!

   “ทะ...ที่รัก!?”

   พี่ชายผมจับหัวใจ คล้ายกลัวว่าจะหล่นหายไปที่ตาตุ่ม

   “เขาเป็นคนที่วาคุยด้วยมากที่สุดในตอนนี้น่ะ” ผมโคลงศีรษะให้ศศินที่ยิ้มหน้าระรื่น ปรากฏได้เห็นคนหน้ายิ้มมาดหลุดอีกครั้งอย่างหาได้ยาก นับเป็นบุญตาจริงๆ ทั้งศศินกับพี่นทีพากันเหวอทั้งคู่ ก่อนจะรีบปรับสีหน้า คนหนึ่งยิ้มดอกไม้บานชวนเย็นใจ อีกคนยิ้มเจ้าเล่ห์แกมหยอกชวนสยิวอยู่ลึกๆ

   สรุปมื้อเที่ยงครั้งนี้ต่างไม่มีใครยอมถอย ผมเลยต้องหิ้วกระเตงทั้งคู่ไปภัตตาคารขึ้นชื่อแทน เพราะพี่นทีชอบกินอาหารจีน ไม่เจอพี่ชายซะนาน เอาใจหน่อยก็แล้วกัน

   “วาไปเก็บคนพูดจาน่าขนลุกมาจากไหน”

   แม้ศศินจะตามจีบผมอยู่นานมาก แต่เขาก็จีบอยู่เงียบๆ ในแบบฉบับรังควานผมทางโทรศัพท์และแอบดักเจอแบบลับๆ ฉะนั้นถึงผมจะชินแล้ว แต่พี่นทีไม่ชินกับไอ้คำเรียกที่รักจ๋าที่รักจ๊ะสักนิด

   “ก็จากแถวๆ นี้ล่ะมั้งครับ” ผมตอบไม่มั่นใจเท่าไหร่ ครั้งนี้ติดรถนั่งคู่กับพี่ชาย ส่วนคนของศศินขับตามอยู่ด้านหลัง เตรียมไปเจอกันที่ภัตตาคาร

   “แล้วตวันล่ะ”

   “พี่ที วาเลิกกับตวันแล้วนะ เลิกไปเป็นเดือนๆ แล้วด้วย”

   “ก็เห็นวายังตัดใจไม่ขาด”

   “ไม่ขาดอะไรล่ะ ที่ทำอยู่เนี่ยเรียกว่ามิตรภาพล้วนๆ” ผมแย้ง ไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งพี่นทีและศศินถึงคิดว่าตวันยังมีโอกาส ทั้งที่พวกเราทั้งคู่น่ะรู้ดีแก่ใจว่าไม่มีวันนั้น

   “ครับ?”

   “วาหมายถึง...ครับ...วากับตวันตอนนี้เป็นเพียงเพื่อนกันครับ” ผมเอ่ยเสียงอ่อย แก้มซับสีจางน้อยๆ กับรอยยิ้มหวานหยดของพี่ชายที่พออกพอใจทุกครั้งเวลาทำน้องชายเขินได้

   “พี่เชื่อวา”

   ผมมองหน้าพี่นที ก่อนจะส่ายหัว คนคนนี้หัวช้ายิ่งกว่าอะไร ปากบอกเชื่อ แต่คงกลับไปนั่งคิดอีกร้อยแปดพันเก้าว่าเชื่อยาก พี่นทีน่ะเห็นยิ้มเล็กยิ้มน้อยดอกไม้บาน แต่ยึดความคิดตัวเองเป็นใหญ่สุดๆ ตามประสาพี่ชายคนโตและผู้บริหารสูงสุดของตระกูลดาราลัย

   พลันผมสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆ พี่ชายก็วางมือลูบหัวแปะๆ ด้วยรอยยิ้มเอ็นดูราวรู้ทันความคิดว่าโดนนินทา

   “น้องชายที่น่ารักของพี่...”

   “ขนลุกน่าพี่ที” ผมอุบอิบ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนดึงมืออีกฝ่ายออก

   “วารู้จักศศินดีหรือยัง”

   จู่ๆ พี่ชายก็เปลี่ยนเรื่อง เล่นเอาผมที่กำลังซึบซาบสัมผัสอบอุ่นอ่อนโยนถึงกับกะพริบตาปริบๆ

   “ก็...ดีในระดับหนึ่งมั้งครับ”

   “ศศินน่ะเป็นเจ้าพ่อเงินกู้ วารู้ใช่มั้ยว่าหมายความว่ายังไง”

   ผมพยักหน้าน้อยๆ เจ้าพ่อเงินกู้ที่ไม่ใช่นายธนาคารก็คือการกู้นอกระบบที่มีเงินหมุนเวียนมหาศาลและค้ากำไรเกินควรจากการเก็บดอกเบี้ยที่มากกว่าปกติหลายเท่า แน่นอนว่าเงินพวกนี้ไม่ผ่านการยื่นภาษี เก็บเข้ากระเป๋าแล้วซื้อเป็นสินทรัพย์ล้วนๆ

   ฉากหน้าศศินเปิดร้านไนต์คลับกลางกรุง กระจายสาขาออกต่างจังหวัดตามเมืองใหญ่ แต่อาชีพจริงๆ คือการปล่อยกู้เงินซึ่งสร้างกำไรเยอะกว่าหลายเท่าตัว แต่กลุ่มเป้าหมายที่ต้องบากหน้ามาขอกู้เงินกับเจ้าพ่อขาใหญ่โดยไม่ผ่านธนาคารคือจำพวกไหนกันล่ะ ย่อมเป็นคนที่ไม่มีแผนอนาคตที่มั่นคง ฐานะย่ำแย่ หรือเกิดเหตุฉุกเฉินที่จำต้องใช้เงินด่วน ซึ่งล้วนแล้วแต่ถูกทวงหนี้เช้าเย็น เพราะยากจะจ่ายเงินทั้งต้นทั้งดอกครบในระยะเวลาจำกัด

   ขยายความอีกนิด การทวงหนี้ย่อมมีทั้งไม้แข็งและไม้อ่อน ซึ่งเชื่อสิว่าสำหรับศศินที่มีบอดี้การ์ดประกบตลอดเวลา แม้การเงินจะราบรื่นรับทรัพย์อื้อซ่า แต่การงานก็ไม่ได้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์

   “พี่ไม่อยากให้วาคบกับคนคนนี้”

   “ทำไมครับ”

   “วาไม่รู้เหรอว่าตัวเองนิสัยยังไง” พี่นทีหันมาพูดอย่างจริงจัง ดอกไม้รอบตัวแม้จะดูนุ่มนวลแต่ก็แฝงความรู้สึกกดดันอยู่ไม่น้อย “เวลาวามีความรักก็ทุ่มเทให้ทุกอย่าง วาพร้อมจะเข้าไปแก้ปัญหา ช่วยเหลือโดยไม่สนใจว่าตัวเองจะเดือดร้อนหรือถูกเอาเปรียบขนาดไหน ตอนคบกับตวันก็เป็นอย่างนี้ จนตอนนี้แม้เลิกไปแล้วก็ยังทำเหมือนเดิม ถ้าเกิดวาคบกับศศิน เอาตัววุ่นวายกับปัญหาของเขา พี่ไม่มั่นใจว่าวาจะปลอดภัย”

   “ศศินกับตวันไม่เหมือนกัน”

   “ไม่เหมือนกันยังไง”

   “วาปกป้องตวัน” ผมเม้มปาก “ศศินปกป้องวา”

   ตั้งแต่เด็กตวันไม่ค่อยกล้ามีปากเสียง ผมจึงไม่ต่างกับช้างเท้าหน้า คอยจับจูงช่วยเหลือตวัน จนโตขึ้น มอบหุ้นให้เขาครึ่งหนึ่ง จึงเป็นการพิสูจน์ฝีมือของตวันจริงๆ แต่ถึงจะเป็นฝ่ายออกหน้า ตวันก็ดูแลผมดีมากตลอด คอยอยู่กับผมในวันเราสองคนต่างเสียใจที่สุด...การก้าวผ่านค่ำคืนแสนสาหัสนั้นด้วยกัน คือจุดเริ่มต้นของความรัก

   ส่วนศศิน เขามาแฉตวัน แต่ทั้งหมดนั้นก็เพื่อไม่ให้ผมโดนสวมเขา ถึงจะจีบอย่างเปิดเผย แต่ก็ไม่เคยทำอะไรลับหลัง แม้จะน่ากลัวไปบ้าง ลึกลับปกปิดตัวเอง แต่ความจริงใจนั้นเต็มร้อย จุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมเริ่มอยากลองพัฒนาความสัมพันธ์กับเขาคือไม่ว่าจะช่วงเวลาไหน ผมกำลังเสียใจ หรือเขากำลังเสียใจ ศศินก็ยิ้มให้และอยู่เคียงข้างตลอดเวลา

   สำหรับคนรักกัน สิ่งที่ต้องการมากที่สุดไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง โดยเฉพาะกับคนที่มีพร้อมทุกอย่างแบบผมที่ต้องการแค่ใครสักคนอยู่ด้วยกัน...ในช่วงเวลาที่โหยหาหรือต้องการ

   ศศินอยู่ตรงนั้นเสมอ

   ให้ถูกคือไม่ว่าผมจะต้องการหรือไม่ต้องการ เขาก็อยู่ในตำแหน่งเดิม ที่เดิม ณ จุดเดิม

   หัวเราะใส่แล้วเรียกว่าที่รักจ๋า ดวงตาประกายวับวาวบ่งบอกว่ามีความสุขแค่ไหนกับการที่ผมหันมามอง

   ตอนคบกับตวัน ผมไม่คิดสนใจใครอื่น แต่มาตอนนี้เมื่อได้รู้จักศศินมากขึ้น ได้เห็นว่าภายใต้รอยยิ้มนั้นก็ใช่ว่าจะมีแค่ด้านเดียว เขามีมุมยิ้มฝืน ยิ้มเพื่อเอาใจ ยิ้มแบบผ่อนคลาย ยิ้มงงๆ และอีกหลายอย่างที่เก็บกลั้นไว้ข้างใน แม้หลายครั้งจะทำเหมือนไม่เป็นไร แต่ผมรู้...ว่าเขาเป็น

   อยากจะเห็นให้มากขึ้นอีกนิด

   อยากจะรู้จักใจจริงให้มากขึ้นอีกหน่อย

   สำหรับความรู้สึกที่เกิดขึ้นก็นับว่าเป็นจุดเริ่มความสัมพันธ์ที่ดีไม่ใช่รึไง

   “พี่ไม่เคยห้ามวาสำเร็จ” พี่นทีเอ่ยเสียงเอื่อยแฝงความทดท้อ ถึงอย่างนั้นก็หันมายิ้มดอกไม้บาน ลูบศีรษะผมเชื่องช้า “ถ้าเลือกแล้วก็อย่าเสียใจภายหลังนะน้องชาย”

   “วาไม่เคยต้องเสียใจภายหลัง เพราะไม่เคยทำผิดกับใครก่อน” ผมยืนยันเด็ดขาด นึกภาพตวันที่จนตอนนี้ยังแทบตั้งตัวไม่ได้ “แต่คนที่ทำผิดกับวาก่อนต่างหาก...ที่ต้องเสียใจ!”


   -------------------

   เพราะแบ่งเวลาไปดูแลตวัน เพื่อไม่ให้ศศินน้อยใจ นาวาเลยต้องชัดเจนขึ้นค่ะ!
   แนะนำตัวกับพี่ชายเลยว่าคุยกับคนนี้นะ สำหรับศศินถือว่าเป็นความสำเร็จที่ไม่คิดไม่ฝัน!!

   ส่วนตวัน...อาจจะสงสัยว่าทำไมอาการหนักขนาดนี้ ด้วยบุคลิกของตวัน...เราตั้งใจเขียนให้เป็นคนที่มีอะไรมักเก็บไว้ในใจค่ะ ตวันมีอะไรมักจะไม่พูด เพราะเคยชินกับสถานะลูกคนใช้ในบ้านเลยไม่กล้ามีปากเสียง โดนบูลลี่โดนรังแกมาเยอะค่ะ และนาวาคือคนคนเดียวที่เห็นค่า ตวันเลยรักนาวามาก แต่จริงๆ แล้วตวันไม่ได้ชอบผู้ชาย เขาชอบนาวา และความฝันสูงสุดของตวันตั้งแต่เด็กสมัยยังเป็นเพื่อนกับนาวาคือการมีครอบครัวพ่อแม่ลูกที่สมบูรณ์เพื่อแก้ปมด้อยในใจตัวเองค่ะ

   ความฝันนั้นตวันไม่เคยคิดว่าจะเป็นจริง เพราะเลือกนาวาแล้ว ( เหมือนที่นาวาเลือกสละความฝันเพราะสนับสนุนตวัน) พอเป็นจริงขึ้นมา ตวันเลยตั้งใจทำให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ แม้ไม่ได้รักพาฝันเท่าที่รักนาวา แต่ตวันก็ไม่อยากให้ลูกต้องเกิดมาน้อยเนื้อต่ำใจขาดความอบอุ่นเหมือนตัวเองค่ะ เขาจะไม่มีวันทิ้งเหมือนที่โดนพ่อทิ้ง จะให้ความรักความหวังดีให้มากกว่าแม่ตัวเองที่หวังแต่จะใช้ลูกในการได้รับความเมตตาจากตระกูลของนาวา

   แต่พอฝันสลาย...โดนหลอก ตวันก็ไปไม่เป็น เขาโดนคนที่รักมาก(นาวา)บอกให้ทำหน้าที่พ่อจนเชื่อสนิทใจ และโดนคนที่ใจอ่อนด้วย(พาฝัน)มาทำให้มีความหวัง จริงๆ แล้ว ณ จุดนี้ตวันคือคนที่น่าสงสารค่ะ ตวันเป็นคนมีปม และมีอะไรในใจเยอะมาก หลายอย่างที่เจอในฐานะคนรักของนาวาก็หนักใช่ย่อย โดยเฉพาะตอนเข้าไปรับตำแหน่งประธานใหม่ๆ แต่ตวันก็ไม่เคยเอามาพูดกับนาวาค่ะ

   แต่คนนอกใจยังไงก็ผิดอยู่ดี สงสารได้ แต่ต้องแยกเรื่องค่ะ นาวาก็แยกแยะระหว่างเรื่องโดนนอกใจ กับเรื่องตวันโดนหลอกเป็นสองกรณีเหมือนกัน
   ส่วนสาเหตุที่ทำไมตวันถึงนอกใจนาวา อันนี้มีเฉลยแน่นอนค่ะ
   เราตั้งใจเขียนให้ทุกตัวละครมีเหตุมีผลของตัวเอง เรื่องที่พาฝันรักตวันจนยอมเป็นน้อยก็มีที่มาที่ไปค่ะ

   #นาวาสไตล์

   
   ตัวอย่างตอนต่อไป ศศินขอแก้ตัว พานาวาไปที่คอนโดอีกครั้งค่า
   “นี่เหรอร้านโปรดที่นายภูมิใจนำเสนอ ศศินตามสั่ง?”


เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 16 : ทดลองดูใจ [25/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-07-2019 19:20:13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 16 : ทดลองดูใจ [25/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-07-2019 19:36:44
แล้วตวัน ก็จบกับพาฝันจริงๆ   :เฮ้อ:
พาฝัน คิดเลว สมควรแล้ว  :fire:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 16 : ทดลองดูใจ [25/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 25-07-2019 19:46:06
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 16 : ทดลองดูใจ [25/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 25-07-2019 20:44:21
สงสารตวันเนอะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 16 : ทดลองดูใจ [25/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 25-07-2019 21:09:43
ถ้าหลอกลวงกันแบบนี้มันก็สมควรแล้วที่จะไปไม่รอดดีแล้วที่จบกับยัยพาฝันนั่นได้ ชีวิตมันต้องเดินต่อไปตวันเก็บบทเรียนนี้ไว้แล้วเริ่มต้นใหม่ดี ๆ ละ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 16 : ทดลองดูใจ [25/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 25-07-2019 21:12:08
ตวันก็น่าสงสารอยู่นะ สู้ๆล่ะกัน ส่วนนาวาเดินหน้าต่อกับศศินไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 16 : ทดลองดูใจ [25/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-07-2019 21:39:58
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 16 : ทดลองดูใจ [25/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 25-07-2019 22:22:54
ถ้าอยากมี ครอบครัว ตัวอย่างอ้าง
ต้องเป็นคน ตัวว่าง อย่างใครเขา
แต่นี่มี ตัวตน คนของเรา
แล้วเที่ยวเอา คนอื่น ไม่ฝืนเลย#ตวัน

ถ้าอยากมี คนของตัว อย่ามั่วอ้าง
ต้องเลือกคน ที่ว่าง อย่างเปิดเผย
ไม่ใช่เอา ของคนอื่น มาชื่นเชย
แล้วทำหน้า ยิ้มสเบย เย้ยแย่งมา#พาฝัน

ไม่ควรมีเหตุผลดีดี#คนนอกใจ#คนแอบเป็นชู้#คนผิดศีลกาเม
จุดจบที่ต้องเจอต้องคือนรกเท่านั้นที่คู่ควร

ไปลงนรกซะสำหรับคนผิดศีล
อยู่ให้นานเลย ชั่วกัปป์ชั่วกัลป์
หุหุ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 16 : ทดลองดูใจ [25/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 25-07-2019 22:47:22
       ผ่านช่วงนรกไปให้ได้นะตวันฟ้าหลังฝนรออยู่
       นาวาก็เช่นกันนอกจากความสัมพันธ์ในฐานะคนรักจะจบแล้วแต่ความหวังดีที่มีให้ตวันเราว่ามันสวยงามมาก
       ศศินก็เดินหน้าจีบต่อไปค่ะนาวาโสดแล้วแถมยังเปิดใจให้แล้ว
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 16 : ทดลองดูใจ [25/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 25-07-2019 22:56:59
ตะวันก็น่าสงสารอยู่ แต่ให้ได้แค่เพื่อนแหละ ดีแล้วครับ,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 16 : ทดลองดูใจ [25/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 26-07-2019 09:01:32
 :mew6:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 16 : ทดลองดูใจ [25/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 26-07-2019 19:31:26
วาวา เอาตวันไปให้พี่นทีดูแลจ้า

ส่วนเวลาของวาวาต้องให้ศศินบ้าง
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 16 : ทดลองดูใจ [25/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-07-2019 19:59:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 17 : ความสัมพันธ์ที่พัฒนา [31/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 31-07-2019 23:41:56

   ตอนที่ 17

   ความสัมพันธ์ที่พัฒนา

   

   มื้ออาหารระหว่างพี่นทีและศศินเป็นอะไรที่พิลึกโคตรๆ

   บอกตรงๆ ว่าผมไม่เคยมีโมเมนต์คนรักกับพี่ชายร่วมโต๊ะอาหารกันเท่าไหร่ เพราะตวันเกรงใจพี่ผมมาก เห็นหน้าเป็นต้องหลบ เห็นตัวเป็นต้องหลีก ส่วนศศินน่ะเหรอ...เหอะๆ

   “ที่รักจ๋า หมูหันชิ้นสุดท้าย กินแล้วได้แฟนหล่อหน้าตาดีเหมือนฉันคนนี้แน่นอน”

   พี่นทีที่กำลังจะคีบหมูหันยกตะเกียบค้างกลางอากาศ สำหรับคนเชื่องช้าจะทำอะไรต้องประณีต ละเอียด กิริยามารยาทสุภาพใจเย็น มีหรือจะสู้ศศินสายประจบ ผมมองหมูหันในจานตัวเอง ก่อนจะยิ้มเหยเกแบบไม่รู้จะแบ่งให้พี่ชายหรือยัดใส่ปากศศินที่กำลังยิ้มกวนๆ ให้ดี

   สุดท้ายผมก็เลือกคีบให้พี่นที

   ขณะที่พี่ชายดอกไม้บานสะพรั่ง ศศินก็พูดแทรกแบบชวนช็อก

   “คุณพี่ชายระวังทานแล้วจะได้แฟนหล่อหน้าตาดีเหมือนผมคนนี้นะครับ”

   พี่นทีหมดความอยากอาหารในทันดล

   เขาคีบกลับคืนให้ผม ก่อนจะยกน้ำชาขึ้นจิบ

   ...สุดท้ายผมก็เลือกจะคีบส่งแก่ศศิน

   “ที่รักคีบกับข้าวให้ฉันครั้งแรกเลย ขอบคุณนะครับ” ศศินยิ้มร่า เขาบรรจงกินหมูหันชิ้นนั้นอย่างละเมียดละไม เล่นเอาพี่ชายแทบสำลักน้ำชา ก่อนจะหันมามองหน้าผมเป็นเชิงว่า...จะเลือกคนนี้จริงๆ เหรอ

         ไม่แค่การงานมีปัญหา แต่นิสัยน่าจะเป็นปัญหาด้วยนะน้องชาย!


   อย่าว่าแต่พี่นทีสงสัยเลย เวลาอยู่กับศศิน ผมก็ถามตัวเองอย่างนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนกัน

   มื้อนี้จบลงด้วยความป๋าของศศิน พี่นทีขอแยกตัวออกไปก่อน ผมกับศศินเลยไปหาร้านคาเฟ่นั่งเถลไถลกันต่อ นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนับจากงานแฟชั่นโชว์ เมื่อไม่ออกสื่อกระแสความนิยมเลยเริ่มตก เพราะเวลาไปงานเลี้ยงผมผลุบๆ โผล่ๆ ไม่ค่อยร่วมวงกับใครสักเท่าไหร่ ใบออเดอร์สั่งพิเศษจึงน้อยลงกว่าช่วงแรกมาก มีเวลาให้ผมนั่งดีไซน์เครื่องประดับสำหรับวางร้านสักที

   ผมเลือกทำสร้อยยาวซึ่งสามารถนำมาคล้องซ้อนเป็นกำไลหรือเข็มขัดได้ ประยุกต์ใช้ได้หลากหลายโอกาส นึกแล้วก็ชักสนุก เลยนั่งวาดออกมาหลากหลายสไตล์ ก่อนจะถ่ายส่งให้เลขาฯ เพื่อส่งต่อกับฝ่ายการตลาดในการเตรียมทำแผนโปรโมตแบบเด็ดๆ

   เมื่อผมเข้ามาคุมบริษัท จากเน้นเครื่องประดับแบบไฮจิวเวลรี่ซึ่งนิยมสวมใสในงานเลี้ยงก็เริ่มนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำมากขึ้น ทันสมัยมากขึ้น ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น การโฆษณาทางโซเชียลมีเดียเลยเป็นสิ่งสำคัญ ผมไม่สันทัดเรื่องนี้ แค่ถ่ายรูปลงอินสตาแกรมตามอารมณ์ก็นับว่าเต็มกลืน

   จะว่าไปนี่ก็ใกล้จะฮัลโลวีนแล้ว ออกแบบเครื่องประดับตามเทศกาลก็ไม่เลวเหมือนกัน

   ผมชักคึก ก่อนจะสะดุ้งเมื่อจู่ๆ ศศินซึ่งนั่งตรงข้ามวาร์ปตัวเองมานั่งข้างๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

   ศศินไม่หือไม่อือ จดจ่อกับหนังสือฆาตกรรมเล่มใหม่ ผมเลยขี้เกียจทัก นั่งวาดรูปต่อ เอียงตัวเล็กน้อย จนต้นแขนของพวกเราชนกัน

   ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมานั้นทำให้ผมลอบยิ้ม

   ขอแค่อยู่ด้วยกันอย่างนี้ก็สุขใจแล้ว

   




   วันต่อมาศศินขอแก้ตัว พาผมไปคอนโดฯ ชั้นยี่สิบสามพร้อมยื่นกล้องส่องทางไกลอันเดิมเพิ่มเติมคือผูกโบว์เป็นของขวัญ

   “อะไร จะเอามาขอขมารึไง”

   “ให้ที่รักจ๋าส่องฉันกลับต่างหาก”

   ผมแทบจะปากล้องส่องทางไกลทิ้ง ส่องกลับบ้าอะไร ไม่ได้โรคจิตอย่างเขานะ!!

   ศศินหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัว แล้วออกมาใหม่พร้อมผ้ากันเปื้อนสีขาว

   “ที่รักจ๋าอยากกินอะไรครับ”

   “นี่เหรอร้านโปรดที่นายภูมิใจนำเสนอ ศศินตามสั่ง?” ผมวางกล้องส่องทางไกลลงกับโต๊ะข้างโซฟา ก่อนจะมองศศินแบบทึ่งๆ สรุปแล้วครั้งก่อนเขาไม่ได้ลวงผมมาหลอกปล้ำหรือตั้งใจให้ความแตกเรื่องแอบส่องจริงๆ นั่นแหละ แต่อยากให้มาลองชิมฝีมือทำอาหารของเจ้าพ่อเงินกู้ต่างหาก

   ไม่ทันแสดงฝีมือผมก็วิ่งหนีป่าราบ สมควรอยู่หรอกที่จะหน้าสลดขนาดนั้น

   “นายทำอะไรอร่อยที่สุดก็ทำมาเถอะ” ผมพูดขอไปที แต่ใจจริงค่อนข้างคาดหวัง

   “พอดีฉันทำอร่อยทุกอย่างเลยนะที่รักจ๋า”

   ขี้โม้จริงๆ!

   “งั้นเอาแกงเขียวหวานไก่ไม่ใส่มะเขือ” ผมลองเชิง ผลคือศศินส่ายหน้าทั้งรอยยิ้ม

   “ทำไม่เป็น”

   “งั้นข้าวผัดปูล่ะ” ผมลดระดับลงมา แม้พี่นทีจะชอบกินอาหารจีน แต่ผมชอบอาหารไทยมากกว่า อาจเพราะอยู่กับตวัน เขาทำอาหารเป็น น่าจะเรียนวิชามาจากป้าแช่ม ผมเลยลาภปากตลอด แม้จะกินได้ไม่เยอะก็เถอะ

   “ทำไม่เป็นครับ” ศศินยิ้มหวานขึ้น แต่ผมเริ่มหน้าตึง

   “สรุปแล้วอร่อยทุกอย่างของนายมีอะไรบ้างฮะ!”

   “ไข่เจียว ไข่คน ไข่ดาว ไข่ต้ม ไข่ลวก ไข่ตุ๋นก็พอได้นะครับที่รักจ๋า”

   มาจ๋าเจ๋ออะไร นี่มันเมนูเบสิกที่คนทั่วไปก็ทำเป็นทั้งนั้นมั้ยล่ะ!

   เอ่อ...ยกเว้นคนตอกไข่แตกคามืออย่างผมไว้คนหนึ่งแล้วกัน

   “นายพาฉันมาถึงห้องเพื่อให้กินเมนูสารพัดไข่เนี่ยนะ” ผมมองอีกฝ่ายทึ่งๆ ศศินรีบพยักหน้ารับ สีหน้าออกจะระรื่นชื่นบาน เห็นแล้วก็ปฏิเสธไม่ลง

   “งั้น...ก็ทำมาทั้งหมดแล้วกัน”

   “ไข่เหลือแค่สามฟอง ได้แค่สามอย่างนะครับที่รัก”

   “...”

   ผมกุมขมับที่ปวดตุบๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงระโหยแบบให้จบเรื่องจบราวสักที

   “ทำอะไรก็ได้ที่มันเสร็จไวๆ น่ะ ฉันหิวแล้ว!”

   ศศินรีบขานรับเสียงสดใสก่อนจะหายเข้าไปในครัว ผมนั่งดูโทรทัศน์ฆ่าเวลา ก่อนจะนึกพิเรนทร์หยิบกล้องส่องทางไกลมาส่องห้องตัวเอง นึกภาพเปรียบเทียบศศินที่ทำท่าทางแบบนี้แล้วก็สยองแกมเหลือเชื่ออยู่หน่อยๆ เลยรีบโยนของแสลงทิ้ง แล้วเดินสำรวจห้องแทน

   ห้องรับแขกของศศินสะอาดมาก แถมเครื่องเรือนยังน้อยสุดๆ มีแค่โต๊ะเตี้ย โซฟา พรมตกแต่งสีน้ำเงินเข้ม โทรทัศน์จอแบนแบบติดผนัง ชั้นหนังสือ และรูปภาพทิวทัศน์พอให้ไม่แห้งแล้ง เทียบกันแล้วรู้สึกว่าห้องตัวเองรกขึ้นมาทันที เพราะผมวางของกระจัดกระจาย หนังสือนิยายก็มีบ้าง แต่หนังสืออ่านเล่นพวกนิตยสารแฟชั่นหรือการ์ตูนมีมากกว่า ของประดับตกแต่งเพียบ ทั้งแจกันดอกไม้ รูปวาด รถของเล่น ตุ๊กตา หุ่นยนต์ และของสะสมอีกหลายอย่าง

   ผมเดินไปที่ชั้นหนังสือ พบว่ามีทั้งวิชาการและนิยายซึ่งแบ่งหมวดเป็นแปลไทยและภาษาอังกฤษ ถึงจะนึกภาพศศินแอบส่องผมท่าไหนไม่ออก แต่ถ้าเป็นภาพเขานั่งอ่านหนังสือเงียบๆ สีหน้าเคร่งขรึมนั้นคุ้นตามากทีเดียว

   ถ้าไม่หมั่นฉีกยิ้มยียวน ศศินจะหน้านิ่งจนเหมือนรูปปั้น ดูหล่อเหลางามสง่า ดวงตายามกวาดตามองตัวอักษรนั้นแลเย็นชาจนอยากถามว่าสรุปว่าไอ้ที่อ่านเนี่ยสนุกหรือไม่สนุกกันแน่ คล้ายว่าเขาแค่เสพเรื่องราว แต่ไม่ได้ใส่อารมณ์ตามความนึกคิดของตัวละคร

   ทุกครั้งที่ศศินเริ่มเปิดหนังสือบรรยากาศรอบตัวจะสงบนิ่งในทันที ผมเองก็พูดไม่ถูก แต่สงบขนาดแทบไม่รู้สึกลมพัดเลย ราวกับว่าถูกหยุดเวลาเอาไว้ แลจับต้องไม่ได้ยากเอื้อมถึง แต่ทันทีที่เขาเงยหน้าสบตากัน เผยยิ้มน้อยๆ อย่างน่ามองก็คล้ายจะมีสายลมอุ่นอวลพัดผ่าน ห้อมล้อมเราสองคนเอาไว้

   ชักจะเพ้อไปกันใหญ่ ผมโคลงศีรษะ ก่อนจะลองหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาเปิดผ่านๆ ในเมื่อคิดจะศึกษาดูใจกัน ก็ต้องเริ่มจากเรียนรู้ในอุปนิสัยและความชอบส่วนตัวจริงมั้ย แต่พออ่านเจอฉากบรรยายวิธีฆาตกรรมแบบชำแหละศพเป็นชิ้นๆ...ซึ่งศศินอ่านได้หน้านิ่งถึงขนาดนั้น ผมก็รีบปิดหนังสือแล้วยัดกลับเข้าชั้น นั่งซบหน้ากับโซฟาอย่างหมดแรง

   ยอมแพ้ง่ายเกินไปแล้วนาวา!

   พลันผมฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง อารมณ์แปรปรวนเปลี่ยนไวอยู่แล้วจะแคร์อะไร ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเสิร์ชชื่อของศศิน ก่อนจะผิดหวังเพราะมีคนกล่าวถึงน้อยมาก แน่ล่ะ เขาไม่ใช่ดารา แต่เป็นเจ้าพ่อเงินกู้ที่มีประวัติลึกลับเข้าไว้เป็นดี

   เทียบกับตระกูลดาราลัย ซึ่งออกงานสังสรรค์บ่อยครั้งโดยเฉพาะกับพี่นทีซึ่งได้รับเชิญแทบทุกงานเลี้ยง ก็เพิ่งนึกได้ว่าศศินซึ่งมีธุรกิจด้านมืดทำไมถึงมาดักเจอผมในงานได้ตลอด แต่คิดอีกที อำนาจเงินตราซะอย่าง แค่ดีดนิ้วก็หาบัตรเชิญได้แล้ว

   อีกอย่างถ้าเขาหน้าด้านมา ใครจะกล้าหน้าด้านไล่

   ผมนอนหมดแรงบนโซฟาอีกครั้ง เอกเขนกเหยียดเต็มตัวแบบเกียจคร้าน พอดีกับศศินที่ถือเมนูนำเสนออย่างไข่เจียว ไข่คน และไข่ดาว

   “ฉันใส่แฮมกับแครอตที่ที่รักชอบด้วยนะ!” ศศินเอ่ยขณะผมพาสารร่างตัวเองมานั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะอาหารซึ่งแยกพื้นที่ออกมาจากห้องนั่งเล่นโดยมีตู้หนังสือกั้นกลาง ด้านในมีบาร์เครื่องดื่มเรียงราย กับมุมจิบไวน์ที่เป็นเก้าบุนวมหนานุ่มน่าทิ้งตัว

   “จะให้กินไข่เปล่าๆ เหรอ ข้าวล่ะข้าว”

   ผมตบโต๊ะเบาๆ เรียกร้องความยุติธรรมจากพ่อครัวขณะพิจารณาเมนูไข่ทั้งสามจาน จานแรก สีสันน่ากินเพราะเป็นไข่เจียวแบบผสมแฮมและแครอต กลิ่นหอมกรุ่นกำลังดี ผ่าน! จานที่สอง...ไข่คนไม่เละเกิน ไม่สุกเกิน ใช้ส้อมจิ้มแล้วเด้งดึ๋ง ผ่าน! จานที่สาม...ไข่ดาวที่ไข่แดงเปล่งปลั่งไม่ปะปนกับไข่ขาว ด้านล่างเกรียมนิดหน่อยกำลังกรอบอร่อย สามผ่าน!

   ศศินออกไปรับถุงข้าวจากบอดี้การ์ด คาดว่าคงจะโทรสั่งจากร้านอาหารข้างล่างเพราะห้องเขาไม่มีข้าวสารสำหรับหุง ผมมองตามชายหนุ่มที่เดินไปเทข้าวใส่จาน ก่อนจะถือมาให้ผมด้วยรอยยิ้มมุมปากแลเจ้าเล่ห์แต่ความจริงแล้วเจ้าตัวกำลังดีใจจัด พิสูจน์ได้จากดวงตาที่แทบจะเปล่งแสงวิบวับออกมา

   พลันผมโคลงศีรษะเล็กน้อย แปลกใจตัวเองที่คิดว่าศศินอ่านอารมณ์ยาก แต่ก็ไม่ได้ยากเย็นเกินความสามารถหากใส่ใจมากขึ้นสักนิด

   “ซอสมั้ยครับ”

   “ไม่ล่ะ ฉันจะชิมเปล่าๆ นายอุตส่าห์ตั้งใจทำ ฉันก็จะตั้งใจกิน”

   ศศินยิ้มร่าไม่ปิดบัง มองไปมองมาชักจะเขินขึ้นมาตงิดๆ

   “จ้องทำไมล่ะ กินด้วยกันสิ ถ้าท้องเสียจะได้เป็นทั้งคู่!”

   “ได้ครับที่รัก” ศศินพูดพลางรินน้ำให้ผม ก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ ไม่ยักจะนั่งฝั่งตรงข้ามเหมือนปกติ ผมลอบสะดุ้งในใจ ก้มหน้าก้มตาพิจารณาอาหารอย่างไม่รู้จะเริ่มจากจานไหนก่อน สุดท้ายก็ประเดิมด้วยไข่เจียว ไข่คนและไข่ดาวตามลำดับ นับว่าศศินเป็นยอดฝีมือด้านการทอดไข่อย่างแท้จริง ต่อให้ไม่กินกับซอสก็ยังได้รสชาติของพริกไทยและซีอิ๊วไม่จืดชืด

   ผมไม่ใช่คนเลือกมากเรื่องกิน เพราะทานน้อยอิ่มไวเลยไม่มีปัญหากับเหล่าไข่ๆ สักเท่าไหร่ จะกลัวก็แต่ศศินจะไม่อิ่ม ไข่แค่สามจานพอยาไส้อะไร แต่ดูจากสีหน้าท่าทาง...ท้องไม่อิ่ม แต่อิ่มใจน่าดู

   ทั้งที่จะยิ้มก็ไม่ใช่ จะหัวเราะก็ไม่ออก แต่แก้มมันร้อนๆ หูเหอแดงอย่างบอกไม่ถูก

   พอศศินเก็บจานหายเข้าไปในครัว ผมก็รีบเดินตาม เพราะแยกมาอยู่กับตวันกันสองคนตั้งแต่ช่วงประถมปลาย ผมจึงไม่ใช่ลูกคุณหนูทำอะไรไม่เป็น

   “ฉันล้างเอง”

   ศศินมองผมอย่างประหลาดใจเหมือนกับตอนรู้ว่าผมกินส้มตำปลาร้าเป็น ผมเห็นแล้วก็ลอบหัวเราะเหอะๆ คิดในใจว่าเราสองคนยังต้องเรียนรู้กันอีกเยอะ

   ไม่รู้ว่ากลัวผมจานแตกหรือไม่รู้จะไปไหนเพราะผมอยู่ตรงนี้กันแน่ ศศินเลยยืนมองอยู่ห่างๆ แล้วช่วยรับจานที่ล้างน้ำเสร็จแล้ววางพาดบนตะแกรง

   “ของหวานต่อมั้ยครับที่รัก”

   “ตั้งแต่นายรับฉันไปกินข้าวข้างนอก แนะนำร้านคาเฟ่อร่อยๆ ฉันน้ำหนักขึ้นตั้งสามกิโล!” ผมเหวลั่น เรียกเสียงหัวเราะจากศศินอีกครั้ง “งดของหวานสามวัน เข้าใจมั้ย”

   “จ๋าจ้ะ” ศศินขานตอบเสียงหวานเยิ้ม ทำเอาผมที่กำลังฮึ่มแฮ่ถึงกับอายม้วนขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะลูบแก้มแก้เก้อ เอ่อ...ทำไมแก้มอวบๆ ยุ้ยๆ ชอบกล เปลี่ยนจากสามวันเป็นสามอาทิตย์น่าจะได้ผลดีกว่า

   คิดแล้วก็หันหลัง ปะทะกับมือของศศินที่กำลังเอื้อมถอดผ้ากันเปื้อนอยู่พอดี ไม่ทันจะบอกขอโทษ ผมผิดเอง อีกฝ่ายก็ชักมือกลับพลางถอยกรูดชิดผนังด้วยสีหน้านิ่งสงบแต่แววตาหวั่นวิตก

   ...นี่เขารักหรือรังเกียจกันแน่ โปรดตอบที

   “ขอโทษ” ศศินเอ่ยเสียงแผ่ว ราวเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย กับแค่มือมาโดนตัวผมเนี่ยนะ จะโอเวอร์เกินไปมั้ย

   แต่คิดดูดีๆ...ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาแตะตัวผมก่อน

   มีแต่มานั่งข้างๆ แล้วผมนี่แหละที่ไปเนียนพิง!

   นึกแล้วก็หน้าม้านแปลกๆ แต่พอเห็นท่าทางแตกตื่นของศศินก็ชักคึกขึ้นมา

   ผมยื่นสองมือมาด้านหน้า แล้วเดินยิ้มเข้าหาเขา

   “แตะดูสิ”

   อย่างกับตัวเองเป็นสัตว์หายากที่รอให้นักท่องเที่ยวมาลูบคลำชื่นชมชอบกล แต่ปฏิกิริยาของศศินนั้นน่าลุ้นกว่านั้น เขามองมือผมหวาดๆ เหมือนอยากจะสัมผัส แต่ก็ไม่กล้ายื่นมือออกมา

   ผมยืนรออย่างอดทน

   จนศศินเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วนั่นแหละว่าไม่ได้พูดเล่นถึงยอมแตะฝ่ามือผมแผ่วเบาราวกลัวว่าจะแตกสลาย ไม่ก็กลัวว่านี่เป็นเพียงความฝัน

   ท่าทางขลาดๆ ไม่สมเป็นเขานั่นทำเอาผมหลุดหัวเราะ ก่อนจะจับหมับเข้าเต็มๆ

   ศศินชักมือออกก็ไม่ทันแล้ว เขาโดนผมจับกุม บีบนิ้วไม่ปล่อย แถมยังแกว่งไปแกว่งมาพลางฮัมเพลงอย่างสนุกสนาน

   จากตัวแข็งเกร็งก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง ศศินมองผม ยังตะลึงไม่หาย ก่อนจะคลี่ยิ้มราวเด็กชายตัวน้อยที่เพิ่งได้รับของขวัญครั้งแรกในชีวิต

   เห็นแล้วผมก็ได้แต่เอ็ดเจือเสียงหัวเราะด้วยหัวใจพองฟู

   “เจ้าบ้าเอ๊ย...”


   ------------------

   หากการมีครอบครัวคือความฝันที่ตวันคิดว่าไม่มีทางเป็นจริง

   สำหรับศศิน...การได้อยู่ในฐานะพิเศษอย่างในตอนนี้ ได้พูดคุยสนิทสนมกับนาวาโดยไม่ถูกโวยวายใส่ แม้ยังไม่ถึงขั้นเป็นคนรัก แต่สำหรับเขาก็นับเป็นความฝันที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นจริงเหมือนกันค่ะ

   ศศินมองนาวามาเจ็ดปีเต็มๆ แบบไม่เคยหวังเลย แม้ตลอดมาจะขยันหยอกตลอด แต่ถ้าสังเกตศศินไม่เคยแม้สักครั้งจะแตะตัวนาวาก่อน ให้เกียรตินาวามากๆ และเพราะกลัวใจตัวเองด้วยค่ะ ไม่ใช่กลัวจะยั้งไม่ไหว แต่กลัวใจตัวเองจะหวังมากไปกว่านี้แล้วสุดท้ายไม่ได้ลงเอยกัน ถึงตอนนั้นศศินก็คงใจแหลกลาญไม่ต่างกับตวัน ถือคติหวังน้อยๆ จะได้เจ็บน้อยๆ ค่ะ

   ศศินเป็นคนโรคจิตที่น่ารักจริงมั้ยคะ <3

   #นาวาสไตล์

ปล.ขออภัยที่หายไปนาน เราไปเที่ยวเพิ่งกลับมาค่ะ พรุ่งนี้จะมาอัพชดเชยให้อีกตอนนะ

   

   
ตัวอย่างตอนต่อไป นาวาก็ยังขีดเส้นแบ่งกับตวันอย่างชัดเจนเหมือนเดิมค่ะ ไร้เยื่อใยมาก 555
   “ต่อให้เป็นความสงสาร แต่ถ้าวายอมอยู่ด้วย ผมก็ดีใจนะ”
 “มาเล่นบทโศกอะไรตอนนี้ ตื่นได้แล้วตื่น”   

   

เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 17 : ความสัมพันธ์ที่พัฒนา [31/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-08-2019 00:12:28
 o13
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 17 : ความสัมพันธ์ที่พัฒนา [31/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 01-08-2019 00:31:38
ศศิน คิวท์บอย~  นึกภาพแล้วแบบ งุ้ยยย  :-[
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 17 : ความสัมพันธ์ที่พัฒนา [31/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-08-2019 00:33:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 17 : ความสัมพันธ์ที่พัฒนา [31/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 01-08-2019 00:37:22
ชอบความฮัมเพลงแล้วแกว่งมือ ดูน่ารักดี เป็นโรคจิตที่น่ารักจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 17 : ความสัมพันธ์ที่พัฒนา [31/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-08-2019 01:14:22
อ้าวว อีตะวันมาตอนหน้า มาเพื่ออ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 17 : ความสัมพันธ์ที่พัฒนา [31/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 01-08-2019 01:31:07
       ศศินคืนกวังน้อยๆจะได้เจ็บน้อยโธ่ๆๆๆ
เจ้าพ่อเงินกู้ที่น่าสงสาร555
นางน่ารักมากขึ้นในทุกๆตอนจริงๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 17 : ความสัมพันธ์ที่พัฒนา [31/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-08-2019 08:27:08
อีกคนและที่ท่าทางจะมีปมในใจ   :z3:
แต่นาวาซะอย่าง......... แก้ได้.....  :katai2-1:
เอิ่ม.....แก้อย่างอื่นด้วยก็เยี่ยม  :z1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 17 : ความสัมพันธ์ที่พัฒนา [31/07/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 01-08-2019 15:42:40
พี่นทีของฉันจะได้ตวันเป็นเมียตอนใหน ตอบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 18 : ลุยเข้าหา [01/08/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 01-08-2019 18:47:22
   ตอนที่ 18

   ลุยเข้าหา

   

   ตอนเย็นผมไปแวะหาตวัน เอาราดหน้าเจ้าโปรดไปฝาก

   ตวันอาการดีขึ้นมาก แต่ยังต้องไปพบจิตแพทย์ทุกสัปดาห์ แม้ไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้า แต่ก็แบกรับความเครียดความกดดันมากเกินไปจนอยู่ในภาวะปิดตัวเองชั่วคราว ซึ่งเป็นกลไกเพื่อรักษาสภาพจิตใจของตัวเอง

   จิตแพทย์ให้คำแนะนำว่าอย่าเพิ่งไปเร่งเร้าหรือกระตุ้นอะไรมาก ผมจึงไม่ยังพูดเรื่องงานของตวันว่าเขาโดนไล่ออกจากที่เดิมแล้ว ปล่อยให้ใช้ชีวิตแต่ละวัน รอให้ผมมาหาและนั่งเหม่อเงียบๆ อยู่คนเดียว

   “ต่อให้เป็นความสงสาร แต่ถ้าวายอมอยู่ด้วย ผมก็ดีใจนะ”

   “มาเล่นบทโศกอะไรตอนนี้ ตื่นได้แล้วตื่น” ผมดีดนิ้วตรงหน้าตวัน ปลุกให้เขากินราดหน้า หลายวันมานี้ตวันชอบพูดแกมหยอก ทีเล่นทีจริง แต่ผมก็ดับความหวังนั้นทุกครั้ง ซึ่งตวันเองก็ไม่เซ้าซี้อะไร อย่างที่เคยบอกไป พวกเราทั้งคู่รู้แก่ใจดีว่าไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิม

   “ศศินล่ะ”

   “อยากรู้ก็โทรไปถามเขาเองสิ เอ้า อย่าลืมกินยาด้วย”

   ถ้าไม่อยู่คุม ตวันจะไม่ยอมกินยาที่แพทย์สั่ง ทำตัวเหมือนเด็กสามขวบไปได้

   แน่นอนว่าผมแก้ความเข้าใจผิดแล้วว่าไม่ได้คบกับศศิน แค่กำลังคุยกันเฉยๆ ซึ่งตวันดูจะสนอกสนใจมากเป็นพิเศษจนต้องย้ำบ่อยๆ ว่าอยากรู้นักก็ถามศศินเองเพื่อตัดรำคาญ

   มาหึงมาหวงอะไรตอนนี้

   ต่อให้ในฐานะเพื่อนก็ไม่มีสิทธิ์!

   “วา...”

   “หืม?” ผมง่วนกับการเขี่ยคะน้าให้ตวันอย่างคุ้นชินระหว่างรอให้ราดหน้าหายร้อน อย่าลืมสิว่าผมลิ้นแมว ซึ่งอีกฝ่ายจิ้มคะน้าบางส่วนเข้าปากเป็นระลอกกันผักล้นจานอย่างคุ้นเคยไม่ต่างกัน ก่อนจะแกะซองเครื่องปรุงใส่ให้เพราะรู้ดีว่าผมกลัวมือเลอะ พริกหนึ่งหย่อม น้ำตาลสองหย่อม น้ำส้มสายชูสามหยด ผมไม่ชอบกินเค็มเลยไม่นิยมน้ำปลา

   ตวันปรุงเสร็จพอดีกับที่ผมจัดการผักใบเขียวในจานเสร็จ หลังคลุกให้เข้ากันก็เงยบอกขอบคุณเบาๆ เมื่อเขารินน้ำเปล่าเย็นชื่นใจให้

   ทุกการกระทำเป็นไปอย่างธรรมชาติโดยไม่ต้องพูดหรือสบตาด้วยซ้ำ

   โตมาด้วยกันก็อย่างนี้

   “นายมีเรื่องอยากปรึกษาฉันเหรอ”

   ที่แตกต่างจากเดิมคือผมไม่คิดแทนตัวเองด้วยชื่อเหมือนสมัยเป็นแฟนกันอีก

   “ผมอยู่เฉยๆ มาเดือนกว่าแล้ว...” ตวันยิ้มเจื่อน แกมลำบากใจแต่ก็ไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกตัวเองยังไง ความเคว้งคว้างไร้ทางไป แต่ยังต้องมาพึ่งพาผมทั้งที่เป็นฝ่ายทรยศหักหลังความเชื่อใจ ออกมาเป็นบรรยากาศกระอักกระอ่วนแปลกๆ “ผมคงโดนไล่ออกจากงานแล้วใช่มั้ย”

   “แหงสิ” ผมตอบทันทีพลางตักเส้นราดหน้าให้ตวันเพิ่ม “เล่นหายตัวชนิดติดต่อไม่ได้ โทรไปไม่รับ อีเมลไม่อ่าน ย้ายที่อยู่ขนาดนี้ ใครจะยังให้กลับไปทำงานอีกล่ะ”

   ตวันเป็นคนชอบหนีปัญหา

   เขาคล้ายจะจัดการความรู้สึกตัวเองไม่เก่งนัก เวลามีเรื่องหนักใจ หรือกังวลใจ ก็มักจะหนีไปนั่งเงียบๆ คนเดียว อย่างตอนเด็กก็ไปนั่งในห้องครัว พอโตขึ้นมาหน่อยก็ขังอยู่ในห้องนอน จนเริ่มมาเป็นแฟนกัน ผมก็ไม่ค่อยเห็นเขาทำแบบนั้นอีก ไม่รู้ว่าเพราะไม่มีเรื่องทุกข์ใจ หรือหนีไปแอบที่อื่นกันแน่ ต่อหน้าผมตวันจะยิ้มบางให้วางใจเสมอ ให้เชื่อมั่นในตัวเขา ซึ่งผมเองก็เชื่อหมดใจ ในเมื่อสิ่งที่ตวันขาดคือความเชื่อมั่นในตัวเอง

   เกือบลืมไปแล้วว่าเขามีนิสัยแบบนี้จนกระทั่งเลิกรากัน

   อาจเพราะปมด้อยสมัยเด็กทำให้ไม่กล้ามีปากเสียง จนได้แต่เก็บกลั้นไว้ในใจ

   “ผม...” ตวันเขี่ยเส้นราดหน้าไปมา คนที่ไม่เคยถือสาเวลาผมเขี่ยอาหารเพิ่มให้พูนจาน กลับทานได้น้อยกว่านาวาคนนี้ซะอีก “ผมอยากจะลองเรียนต่อปริญญาโท”

   “ก็ดีนะ” ผมพยักหน้า เปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่ๆ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับตวัน “อยากเรียนต่อที่ไหนล่ะ”

   “อเมริกา”

   ผมย่นหน้า

   “นายไม่เก่งภาษาอังกฤษไม่ใช่เหรอ ถ้าจะสอบเข้าต้องสอบวัดคะแนนโทอิค ไอแอล โทเฟลอะไรพวกนั้นด้วยนะ”

   “ผมคงไม่ปุบปับเข้าเรียนได้ทันทีหรอกวา ต้องใช้เวลาเตรียมตัวเป็นปีเลยกะว่าจะลงคอร์สเรียนพิเศษก่อนน่ะ”

   “เอาสิ” ผมสนับสนุนเต็มที่ “แล้วนายเล็งมหา’ลัยอะไรไว้ ต้องให้คนเซ็นรับรองด้วยรึเปล่า ฉันมีคนรู้จักที่จบมหา’ลัยดังๆ จากต่างประเทศอยู่นะโดยเฉพาะพี่นทีที่ไปเรียนต่อเนี่ยได้เส้นสายมาเพียบเลย ถ้านายไม่แน่ใจตรงไหน ฉันจะไปลองถามเก็บข้อมูลให้ แล้วนี่มีทุนพอรึเปล่า ค่าครองชีพที่อเมริกาสูงมากเลยนะ ถ้านายจะไปเรียนต่อปริญญาโทสองปี...กลับมาอาจหมดตัวได้เลย ช่วงนี้ฉันว่าลองหางานพิเศษควบคู่กับเรียนเสริมจะดีกว่า เอางี้ ฉันจะลองถามคนรู้จักให้ ถ้ายังไงตวั...”

   “วา” ตวันเอ่ยแทรกเสียงขรึม “ขอให้ผมพยายามด้วยตัวเองเถอะนะ วา”

   ผมเลิกคิ้ว ก่อนจะกะพริบตาปริบๆ ไอ้ความเคยชินที่เอะอะเป็นเสนอทางเลือกที่สบายกว่าให้ตวันนั้นต้องตัดทิ้งได้แล้ว!

   “เอ่อ...โอเค” ผมจิ้มหมูเข้าปากเคี้ยวหงุบๆ กินแก้เก้อ “สู้ๆ แล้วกัน ไฟต์ติ้ง!”

   




   [อ้อเหรอ ไอ้ตวันจะไปเรียนต่อต่างประเทศงั้นเหรอ]

   “ใช่”

   ผมนอนกลิ้งเกลือกบนเตียง ในมือถือโทรศัพท์ที่วิดีโอคอลล์กับศศิน เวลาผมไปหาตวันทีไร คนที่เป็นเดือดเป็นร้อนที่สุดก็คือเจ้าพ่อเงินกู้ซึ่งส่งข้อความย้ำแล้วย้ำอีกว่ากลับถึงห้องเมื่อไหร่ให้โทรหานั่นแหละ

   จากนั้นเขาก็จะเค้นถามว่าผมคุยอะไรกับตวันบ้าง ด้วยวิธีพูดหวานเลี่ยนแกมหึงหวงที่ทั้งจั๊กจี้และขนลุกซู่

   ผมบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ก็เล่าให้ฟังทั้งหมด รวมถึงประโยคสุดท้ายของตวันด้วย

   [งั้นช่วงนี้ที่รักก็ไม่ต้องคอยส่งเสบียงให้หมอนั่นแล้วสิ]

   “ใช่ ตวันยอมออกข้างนอกแล้ว ความจริงช่วงที่เก็บตัวนั่งซึมเขาก็พอคิดหาลู่ทางให้ตัวเองอยู่เหมือนกันนะ เสิร์ชหาที่เรียน รายละเอียดการเรียนต่อ เอกสารข้อมูลที่ต้องเตรียมไว้จนมั่นใจแล้วค่อยมาบอกฉันน่ะ” ผมยักไหล่ “แต่ก็ยังต้องพาไปพบจิตแพทย์อยู่ดี เพื่อให้ยืนยันว่าไม่ต้องกินยากล่อมประสาทแล้ว เขายังนอนไม่หลับบ่อยๆ ถึงจะฮึดขึ้นมา แต่สภาพจิตใจตวันก็ยังไม่เต็มร้อย ต้องให้แพทย์ยืนยันนั่นแหละฉันถึงวางใจ”

   ศศินฟังแบบเบื่อๆ แม้จะยังยิ้มหวานหยด แต่ดูจากแววตาไร้อารมณ์ก็พอเดาได้ว่าพอได้คำตอบที่พอใจไอ้ส่วนขยายความที่เหลือเขาก็ฟังผ่านหูไปงั้น

   “ช่วงนี้หลังเลิกงานเลยว่างแล้ว” ผมกลิ้งไปซุกหน้ากับกองหมอนเต็มเตียง “งานก็ไม่ค่อยเยอะแล้วด้วย งานเลี้ยงก็เริ่มปฏิเสธไปบ้าง...”

   ช่วงแรกที่ผมขยันออกงานเพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านประธานบริษัทจึงต้องขยันเสนอหน้าให้ทุกคนรู้ว่าดาราลัยจิวเวลรี่เป็นของนาวา ไม่ใช่ตวัน

   “ฉันไม่อยากให้นายโดดงานมาหา งั้นฉันไปหานายดีมั้ย ไนต์คลับไหนดี อยากกินค็อกเทลหวานๆ จังเลย”

   ศศินทำงานตอนกลางคืน เขามักตระเวนคุมตามไนต์คลับ ไม่ค่อยอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นพิเศษ

   [อย่าลำบากเลยที่รักจ๋า ให้ฉันไปหาเองดีกว่า]

   ผมหรี่ตาจ้องจับผิดศศินที่ยังยิ้มกว้าง ตลอดเวลาที่ทำความรู้จักกัน ศศินมักเป็นฝ่ายเข้าหาผม พยายามทำตัวกลมกลืนกับความชอบและโลกของผม แต่ผมแทบจะไม่รู้จักโลกของเขาเลย

   แถมยังไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้วย

   [ที่รักจ๋า ที่รักจ๋า!]

   ผมยิ้มกริ่มขณะวางสาย ก่อนจะกลิ้งเล่นครุ่นคิดว่าในเมื่อศศินที่เหมือนจะเปิดใจดันมีกำแพงกั้นขวาง งั้นควรจะอยู่เฉยๆ หรือลุยเลยดี

   อืม...คนอย่างนาวา ดาราลัยใช้เวลาคิดแค่สิบวินาทีก็รู้คำตอบ

   มันก็ต้องลุยอยู่แล้วน่ะสิ!

   มองโทรศัพท์ที่สั่นครืดคราดเพราะสายโทรเข้า ผมก็นอนกอดหมอนวางแผนในใจว่าจะโผล่ไปหาศศินยังไงดี ในเมื่อเขามักแวบไปแวบมา ไม่ประจำที่ใดที่หนึ่ง

   ภาพของบอดี้การ์ดสองหน่อผู้ตามติดศศินเป็นอึปลาทองวาบขึ้นมาเป็นอันดับแรก

   สำหรับคนขี้เกียจแบบผม ชอบหาแผนที่ง่ายแต่ได้ผลเร็วไว้ก่อน ฉะนั้นพรุ่งนี้ตอนเที่ยงที่ศศินมารับไปทานข้าว จะต้องหาทางตีสนิทลูกน้องของเขาสองคนนี้ให้ได้!

   คอยดูเถอะ เรื่องแค่นี้ไม่ยากเกินความสามารถของนาวา ดาราลัยหรอก!

   




   “เฮ้ นายชื่ออะไร”

   สบโอกาสตอนศศินเข้าห้องน้ำที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ผมเดินไปหาบอดี้การ์ดทั้งสองคนถึงโต๊ะซึ่งแยกห่างออกไปเพื่อให้ความส่วนตัวกับเจ้านาย ยืนเท้าสะเอวพลางวางมือขวาค้ำโต๊ะกึ่งหาเรื่องอยู่ในที

   สองบอดี้การ์ดเงยมองแบบเหวอสุดขีด ไม่ตอบแต่อ้าปากหวอจนยุงบินเข้าไปคนละสองตัว เล่นเอาผมที่วางมาดเก้อชักเขินขึ้นมาหน่อยๆ

   ช่วยไม่ได้จริงๆ ตลอดเวลาที่ศศินตามจีบ สองคนนี้จะคอยเดินตามตลอด แม้ช่วงมหา’ลัยจะไม่จี้ติดขนาดนี้ แต่ก็คอยขับรถรับส่ง เห็นเจ้านายเดินตามผมต้อยๆ เสมอ ซึ่งผมก็ไม่เคยคิดจะสนใจ นับดูแล้วพวกเราเป็นคนคุ้นหน้าที่ไม่รู้จักชื่อกันมาเจ็ดปีกว่าแล้ว!

   จู่ๆ ก็เพิ่งมาถามชื่อเอาตอนนี้

   ไม่เหวอสิแปลก!

   “ตอบสิ” ผมย้ำเสียงเร่งรีบ กลัวศศินจะออกมาเห็น หูเริ่มแดงเพราะนอกจากจะไม่สนใจไยดีศศิน ผมยังไม่แม้แต่จะทำความรู้จักคนใกล้ตัวเขาด้วย

   “ผมชื่อโชคครับ” บอดี้การ์ดคนซ้าย ร่างกายกำยำ สีหน้าสงบนิ่งตอบ

   “ผมชื่อชัยครับ” บอดี้การ์ดคนขวา ตัวเล็กกว่าคนซ้ายนิดหน่อย ตัดผมสั้นเกรียนตอบ

   “อ้อ” แม้จะถามช้าไปสักนิด แต่สัญญาว่าจะจำให้ขึ้นใจเลย “ขอเบอร์หน่อยสิ”

   “ครับ!?”

   จะเหวออะไรขนาดนั้น จะให้ผมอายม้วนจนลงไปมุดใต้โต๊ะเลยรึไง!

   “ฉันอยากจะถามตารางงานศศิน แต่ถ้าถามเขาคงบอกว่าสำหรับที่รักจ๋าว่างเสมอ ไม่ว่าจะยุ่งหรือติดนัดใครก็คงยกเลิกหมดเลยอยากขอเบอร์พวกนายแทนไง คงไม่อยากให้เจ้านายโดดงานบ่อยๆ ใช่มั้ยล่ะ”

   ลูกน้องทั้งสองแลจะรู้จักนิสัยรักหลงแบบหน้ามืดตามัวของเจ้านายดีจึงรีบบอกตามตรงโดยไม่อิดออด

  “นี่เบอร์ฉันนะ” ผมโทรเข้าเครื่องพวกเขาทั้งสองคน “บันทึกให้ดีล่ะ เพราะฉันคงจะโทรไปหา...เร็วๆ นี้”


   ---------------

   ตอนนี้แต่ละคนเริ่มมีทิศทางของตัวเองชัดเจนขึ้นค่ะ

   ตวันคิดจะไปตั้งตัวที่ต่างประเทศเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย นาวาเองก็คิดที่จะเรียนรู้ศศินผู้หวังน้อยจนน่าเป็นห่วงด้วยการเข้าหาก่อนเหมือนกัน ตอนแรกเราตั้งชื่อพี่โชคกับพี่ชัยว่าไชโยค่ะ...คนหนึ่งชื่อไช อีกคนชื่อโย เรียกรวมแล้วตลกดี แต่พอเขียนปุ๊บก็ลบทิ้ง...คนชื่อไชแลไร้ความหมายไปนิด คนชื่อโยก็แบ๊วเกินหน้าบอดี้การ์ดไปหน่อย สุดท้ายเลยมาลงเอยกับชื่อไทยๆ จำง่ายและคู่กันได้อย่างโชคและชัยค่ะ

   โชคชัย/ไชโย ความหมายคล้ายๆ กัน ใช้แทนได้แหละเนอะ 5555

ปล.ตอนนี้สั้นไปหน่อย จะชดเชยให้ตอนหน้ายาวๆ ไปกับอดีตศศินค่ะ

   #นาวาสไตล์

   

   
ตัวอย่างตอนต่อไป มาล้วงลึกถึงอดีตของศศินกันบ้างค่ะ!
“บางครั้งฉันก็เหมือนรู้จักนาย แต่บางทีก็เหมือนไม่รู้จักเลย สรุปแล้วนายเป็นคนยังไงกันแน่นะศศิน”


เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 18 : ลุยเข้าหา [01/08/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-08-2019 19:32:47
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 18 : ลุยเข้าหา [01/08/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 01-08-2019 20:38:18
ตวันเปลี่ยนแปลงได้ ก็ดีกับทุกคน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 18 : ลุยเข้าหา [01/08/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 01-08-2019 22:20:17
ลุยไปเลยยยย :katai5:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 18 : ลุยเข้าหา [01/08/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-08-2019 23:06:44
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 18 : ลุยเข้าหา [01/08/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 01-08-2019 23:12:07
ลุยเลยสิครับ รอไร??
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 18 : ลุยเข้าหา [01/08/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 01-08-2019 23:50:07
       ตวันจร้าาดีใจด้วยนะเริ่มใหม่และขอให้เจอสิ่งดีๆ และสมหวัง
เราว่าตัวละครของตวันนี่ซับซ้อนในอารมณ์มากมีหลายมุมมากไหนจะความกดดันจากฐานะชาติกำเนิด และไหนจะจากคนที่ดูถูก
      ไหนๆ ก็จะไปเริ่มชีวิตใหม่ที่อเมริกาแล้วขอใก้เจอรักเเท้นะมีลูกเป็นลูกครึ่งก็น่ารักดีอิอิ
       ส่วนนาวาก็ใจีมากไม่คิดเอาความผิดพลาดในอดีตที่โดนอกใจมาเป็นปมและตัดขาดจากตวัน
แต่ยังคอยห่วงในฐานะเพื่อนที่ดีเสมอ❤️❤️
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 18 : ลุยเข้าหา [01/08/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 02-08-2019 09:01:22
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 18 : ลุยเข้าหา [01/08/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 02-08-2019 09:34:44
ความจริงก็อยากรู้ตอนที่ตวันคิดที่จะนอนกับยัยนั้นนะว่าคิดอะไรอยู่ถึงทำลงไปแบบนั้น
ยังไงจะเริ่มชีวิตใหม่แล้วก็ขอให้เจอคนดี ๆ และสมหวังเรื่องครอบครัวที่เคยอยากจะมีก็แล้วกัน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 18 : ลุยเข้าหา [01/08/62] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 02-08-2019 13:50:21
ง่ะ ตวันไปเรียนต่อ

แล้วพี่นทีฉันก็อดมีเมียหล่ออ่ะดิ

พี่นทีคนเชื่องช้าแห่งปี

ปีศาจน้ำแข็งตื่นซะที
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 19 : อดีตดำมืด[02/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 02-08-2019 18:47:34

ตอนที่ 19

อดีตดำมืด

 

เย็นวันนั้นผมกลับไปแปลงโฉมที่ห้อง ยืนหมุนหน้ากระจก ก่อนจะขับรถไปไนต์คลับแห่งหนึ่งซึ่งสืบมาจากสองบอดี้การ์ดที่ไม่อาจหาญกล้าปฏิเสธข้ออ้างของผม

ถ้าเล่าให้พี่นทีฟังคงโดนด่าว่าอยู่เฉยๆ ให้คนมาชอบ ปรนนิบัติเอาอกเอาใจ แสดงความรักให้อย่างเดียวก็ดีแล้วจะหาเรื่องใส่ตัว หาเหาใส่หัวทำไม แต่พี่นทีที่มีความคิดตัวเองเป็นใหญ่จะไปเข้าใจอะไรล่ะ! คนโสดสามสิบสามปีอย่างเขารู้รึเปล่าเถอะว่าความรักเป็นยังไง ถ้าคิดจะคบหากัน จะรอให้อีกฝ่ายมาทำดีอย่างเดียวแล้วเรานั่งไขว่ห้างเฉยๆ ไม่ได้! ต้องรู้ซึ้งถึงธาตุแท้ แสดงความจริงใจอย่างเดียวไม่พอ ต้องแสดงนิสัยและข้อเสียออกมาด้วย! แน่นอนว่าคนอย่างนาวา ขี้เกียจก็บอกขี้เกียจ ขี้เซาก็บอกขี้เซา งอแงไม่อยากทำงานนั่งโต๊ะก็พูดตรงๆ ผมใช้เงินเปลืองมาก หมดไปกับเสื้อผ้าและเครื่องประดับ เอาแต่ใจและอารมณ์แปรปรวน ทุกอย่างเปิดเปลือยไม่ปิดบัง แต่ศศินนี่สิ...เก็บเร้นซ่อนคมไว้เยอะชะมัด

บางอย่างก็ชวนสยองขวัญเหมือนคนโรคจิต แต่บางอย่างก็ชวนใจเต้นเหมือนเด็กน้อย ผมอยากจะขุดค้นตัวตนของอีกฝ่ายให้มากกว่านี้ ทำความรู้จักอย่างตรงไปตรงมา จะได้แน่ใจว่าสรุปแล้วจะลุยให้ถึงที่สุด หรือหยุดแล้วโบกมือลากันแน่

เวลาผมนึกสนใจหรือรักชอบอะไรจะทุ่มเทเต็มที่ เหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้ ปลอมตัวใส่วิกผมยาวยุ่งกระเซิง แว่นตากรอบเหลี่ยมหนาเตอะ สวมชุดเสื้อยืดแขนยาวเชยๆ กับกางเกงขายีนขาดๆ สีซีดเก่าเหมือนใส่ซ้ำมาร้อยครั้ง ให้อารมณ์คนเซอร์ๆ มาเที่ยวคลับที่ดูยังไงก็ไม่เหมือนนาวา ดาราลัยสักนิดเดียว

ผมไม่ใช่คนชอบเที่ยวเพราะเกลียดเสียงดัง คนเยอะๆ เต้นเบียดกันให้วุ่นวายรำคาญใจ พอต้องมายืนงงๆ กลางดงนักเที่ยวกลางคืนก็เล่นเอามึนหัวไม่น้อย ไนต์คลับของศศินมีทั้งแบบนั่งดื่มในห้องวีไอพีสุดหรูบรรเลงเพลงคลาสสิก ยันไนต์คลับเต้นรูดเสา หญิงสาวสวมชุดเซ็กซี่กลางโต๊ะที่มีบรรดาผู้ชายห้อมล้อมชอบอกชอบใจ ครับ วันนี้ผมแจ็กพ็อต ได้มาเปิดหูเปิดตา ยืนเกาหัวอยู่ท่ามกลางการแสดงเต้นรูดเสา แสง สี เสียง อลังการงานสร้าง มีคนคอยยืนคุมตามจุดเพื่อไม่ได้นักแสดงโดนลวนลาม เป็นศิลปะในแง่ยั่วยวนต่อกามา ซึ่งเหล่าลูกค้าก็แสดงความต้องการไม่ปิดบัง

เหมือนหลงทิศหลงทางเข้าสู่แดนพิศวง

ผมเป็นพวกเปิดกว้างทางเพศและอิสระทางความคิด จากตื่นตาตื่นใจแกมตกตะลึงก็เริ่มปรับตัว หลังการแสดงจบลงยังยืนปรบมือให้ด้วยซ้ำ ก่อนจะเริ่มถอยชิดมุมเมื่อเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีเพราะบรรดานักแสดงเต้นรูดเสาเมื่อครู่ถูกลูกค้าสายเปย์เรียกไปนั่งด้วย ถ้าแค่รินเครื่องดื่ม จับนิดๆ หน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก แต่มีตาแก่หน้าหื่น ท่าทางเมามายน่าดูล้วงหน้าอกเข้าให้นี่สิ ไม่ไหวมั้ง

นักแสดงสาวอุทานลั่น แต่โดนตาแก่คว้าเอวมากอดหมับแล้วยังจับก้นอีกต่างหาก ผมมองซ้ายมองขวา ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเล่าชายฉกรรจ์ที่ยืนคุมตามมุมร้านเดินเข้ามาล้อมตาแก่คนนี้แล้วกันนักแสดงสาวออกไป อะไรนะครับ คิดว่าผมจะทำตัวเป็นฮีโร่เข้าไปช่วยเธอเหรอ บอกก่อนเลยว่านาวาคนนี้เก่งวิชาการ ทำคะแนนสอบได้ดีก็จริง แต่ห่วยพละนะ!!

ให้วิ่งสู้ฟัด ท้าตีท้าต่อย ขอเถอะขอที ในเมื่อมีคนคุมอยู่แล้วจะหาเรื่องทำไม อยู่เป็นนะครับ!

พลันเรื่องราวลุกลามบานปลายเมื่อตาแก่มีพรรคพวกอีกสี่คนตามมาสมทบเผชิญหน้ากับคนคุม แถมยังตะโกนกร้าวกร่างๆ ว่าจับหน้าอกแล้วไง มีเงินโว้ย ที่ผู้หญิงมาทำงานนี้ก็เพราะหิวเงินไม่ใช่เหรอ อยากได้นักก็เอาไปสิ จะมาเรียกร้องสิทธิอะไร อยากได้เท่าไหร่ก็บอกมา ข้ามีเงิน มีเงิน มีเงิน!

ผมกลอกตามองฟ้า ช่วงนี้เจอคนมีเงินเยอะจังนะโลกใบนี้ ยิ่งเห็น ก็ยิ่งย้อนดูตัวเองให้ใช้เงินระวังๆ อย่าทำตัวน่ารังเกียจ เบียดเบียนคนอื่น ตอนเจอลูกค้าเอาแต่ใจ ขอแก้แบบสารพัดจนวุ่นกันทั้งบริษัทแล้วใช้เงินโปะก็เล่นเอาเพลียจิตแล้ว มาเจอตาแก่หื่นกาม เอาเงินแลกสิทธิมนุษยชน ยิ่งสะอิดสะเอียนเข้าไปใหญ่

แม้เงินจะซื้อได้ทุกอย่าง แต่บางอย่างก็เป็นข้อยกเว้น อย่างหญิงสาวที่โดนจับหน้าอกนั้นร้องไห้ไม่ยินยอม เธอหน้าตาสะสวย ร่างกายมีส่วนเว้าโค้ง คงต้องตาผู้ชาย ถูกมองเป็นเครื่องสนองทางเพศเป็นประจำ คนคุมพยายามเจรจา ถึงขั้นมีผู้หญิงอีกคนเสนอตัวแทน แต่ตาแก่ก็ไม่ยินยอม จะเอาตัวผู้หญิงคนนั้นให้ได้

ผมถือคติทุกคนมีสิทธิ์เลือกและตัดสินใจ ต่อให้เรามองว่าผิด แต่สำหรับคนอื่นอาจจะถูกก็ได้ อย่างเช่นการรักชอบเพศเดียวกัน แม้สมัยนี้จะเปิดกว้าง แต่ก็มีบางความเชื่อที่เห็นว่าการเป็นเกย์นั้นน่าขยะแขยง เป็นความผิด วิปริต เป็นโรคที่รักษาไม่หาย จะโน้มน้าวให้เข้าใจตรงกันย่อมเป็นไปได้ยาก แต่คนที่รู้ดีที่สุดก็คือตัวเราเอง ฉะนั้นตอนเห็นผู้หญิงอีกคนยินยอมขายร่างกายแลกเงิน ผมก็ไม่ได้ดูถูกดูแคลน

เพราะถึงจะมีสิทธิ์เลือก แต่บางคนก็ไม่ได้มีทางเลือกมากมายนัก

ในใจหดหู่หม่นหมองแปลกๆ สำหรับนาวา ดาราลัยที่ถูกปกป้องและเอาใจจากตวันและพี่ชายมาตลอด นอนกลิ้งเล่นมีความสุข ได้ทำในสิ่งที่รักชอบและใช้เงินสิ้นเปลืองตามใจ เมื่อได้มาเห็นโลกในอีกมุมก็เหมือนโดนแพ่นกบาลแรงๆ เข้าเหมือนกัน

กลับมาที่เหตุการณ์ตรงหน้าที่การทะเลาะถกเถียงเริ่มรุนแรงมากขึ้น จนสุดท้ายคนคุมเริ่มคุมไม่อยู่ เพราะอย่างไรลูกค้าก็เป็นลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้ากระเป๋าหนักที่มีพรรคพวกอีกหลายคน ก่อนสถานการณ์รุนแรงจะกลายเป็นนิ่งสงบ เมื่อคนที่ผมรอคอยปรากฏตัว

ศศินเดินมาพร้อมบอดี้การ์ดโชคและชัย สวมเสื้อเชิ้ตเปิดอกและเสื้อสูทไม่ติดกระดุม ตรงอกประดับด้วยเข็มกลัดที่ผมออกแบบให้ ไม่น่าเชื่อว่าแม้จะไม่ได้ออกงาน แต่เขาก็ยังกลัดเข็มกลัดกับตัวตลอดเวลา เมื่อศศินเดินออกมา เหล่าตาแก่ก็เริ่มมีความยำเกรงขึ้นทันที ไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้า แต่เพราะบรรยากาศรอบตัวศศินนั้นเย็นยะเยือกแปลกๆ แม้จะโวยวายหาเรื่องยังไงก็เหมือนต่อยกระสอบทราย...ไม่สิ ต่อยกับภูเขาสูงใหญ่ที่ไม่สะทกสะท้านสักนิดเดียว

สำหรับผมที่เห็นศศินยิ้มเป็นคนบ้า เรียกที่รักจ๊ะที่รักจ๋า เจอเขามาดนี้เข้าไปน่าตกใจยิ่งกว่าเห็นสาวเต้นรูดเสาซะอีก ดวงตาที่มักทอดมองอย่างรักใคร่เสมอเวลามองพวกตาแก่กลับไร้อารมณ์สุดกู่ ถ้าตวันมองพาฝันเหมือนคนไร้ตัวตน ศศินก็มองคนพวกนี้เหมือนขยะไร้ค่า แถมยังแฝงความเบื่อหน่าย คร้านจะเปิดปากพูดด้วย

เมื่อเจ้านายปรากฏตัว เหล่าลูกน้องที่ไม่กล้าลงมือกับลูกค้าโดยพลการก็พร้อมรับคำสั่ง คนที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าเรื่องราวทั้งหมดข้างหูศศิน เมื่อเขาพยักหน้ารับเนิบช้าก็ผละห่างออกไป ด้วยรูปร่างโดดเด่นและมาดของเขาทำให้ทุกคนมองทุกการกระทำแบบตาไม่กะพริบราวรอการตัดสินชะตา แต่ศศินยังไม่โหดร้ายขนาดนั้น เขาแค่ให้ลูกน้องคนหนึ่งเจรจาโดยมีตัวเองยืนคุม

เพียงยืนเฉยๆ แต่รังสีกดดันทำให้พวกตาแก่พูดง่ายขึ้นทันตา แต่ก็คล้ายจะไม่ชอบใจอยู่บ้างเพราะอดได้หญิงที่ถูกใจ ระหว่างนั้นการแสดงรูดเสาชุดต่อไปก็เริ่มขึ้น น่าจะเพราะต้องการดึงความสนใจลูกค้าให้ออกห่างจากจุดเกิดเหตุ ผมเหลือบมองศศิน เห็นเขาเหม่อมองด้วยสายตาเย็นชาไปรอบๆ คล้ายกายหยาบอยู่ตรงนี้แต่ใจล่องลอยไปไหนสักแห่ง ไม่แม้แต่จะหยุดสายตากับเหล่าสาวๆ สุดเซ็กซี่ที่เริ่มดึก การแสดงก็ยิ่งโจ่งครึ่มกว่าเดิม เดาได้สองอย่างว่าหนึ่ง เขาเห็นจนชิน และสอง เขาเห็นเป็นแค่ก้อนเนื้อดุกดิกไปมา ไม่มีค่าพอจะสนใจ

ผมรีบก้มหน้า แสร้งทำเป็นหันข้างคุยโทรศัพท์เมื่อสายตาศศินเหม่อเพลินๆ จนมาถึงจุดที่ยืนอยู่ ในใจแอบสะท้านว่าเขาจำไม่ได้หรอก ไม่มีทางจำได้แน่ แต่หางตาเจ้ากรรมเหลือบเห็นเขาเดินเข้าหาอย่างเร่งรีบ ขมวดคิ้วมุ่น บรรยากาศรอบตัวเองก็คุกรุ่น คาดว่ากำลังโกรธมาก

ซวยแล้ววา ซวยแล้วโว้ย!

คนอย่างนาวากล้าทำก็กล้ารับ พอมั่นใจว่าเขาจำได้แน่นอน ผมก็ถอดแว่นแล้วเงยหน้ายิ้มหวาน ไม่ปกปิดมันแล้ว แสร้งเนียนเอาโต้งๆ เนี่ยล่ะ!

“ไง ศศิน วันนี้อากาศดีเนอะ”

คนที่ทำหน้าเคร่งเตรียมเอาเรื่องผมเต็มที่พลันเผยสีหน้าไปไม่เป็น ดวงตาแข็งกร้าวแปรเปลี่ยนเป็นโอนอ่อนแกมอ่อนใจในพริบตา ศศินคนคิ้วขมวดไม่มีแล้ว เหลือเพียงคนโรคจิตที่มองมาหวานเยิ้ม รักใคร่ลุ่มหลงอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

“ทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้ล่ะ” ศศินช่วยเกลี่ยวิกผมยาวกระเซอะกระเซิงที่ปิดหน้าผมไปครึ่งหนึ่งอย่างถนอม

ผมชอบเขาที่เป็นแบบนี้มาก ไม่ต้องเรียกกันด้วยคำหวาน ไม่ต้องฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ยียวน

“นาวาสไตล์ไง มูนนี่ของที่รักไม่ชอบเหรอครับ”

“ชอบสิครับ ถ้าเป็นวาไม่มีอะไรที่มูนนี่ของที่รักไม่ชอบหรอก” ศศินหัวเราะในลำคอ ท่าทางนั้นเรียกสายตาของเหล่าลูกน้องรวมถึงลูกค้าบางส่วนมองมาอย่างตกตะลึงพรึงเพริด เมื่อโชคกระซิบเตือน สีหน้าของศศินก็เกร็งขึ้นทันที ก่อนจะชี้ชวนให้เดินตามขึ้นไปชั้นบน ไม่พูดไม่จาอะไรอีก

เขาพาผมไปห้องทำงาน โชคกับชัยช่วยจัดหาเครื่องดื่มให้ ก่อนจะทิ้งให้พวกเราอยู่แบบส่วนตัว

“ที่รักจ๋าตามมาถูกได้ยังไง ใครเป็นคนบอก”

กลับมาเป็นคนโรคจิตอีกแล้ว ผมจ้องหน้าศศิน มองว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนสีหน้าไวขนาดนี้

“ที่รัก...?” โดนจ้องสะกดระยะประชิด ศศินก็ทำอะไรไม่ถูก เขาฝืนยิ้มสู้ได้ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเรียกผมเสียงอ่อย “วา...”

ดีมาก ผมพอใจมากเลยจับแก้มเขาดึงยืดทั้งสองมือ

“บางครั้งฉันก็เหมือนรู้จักนาย แต่บางทีก็เหมือนไม่รู้จักเลย สรุปแล้วนายเป็นคนยังไงกันแน่นะศศิน”

“เป็นคนที่รักที่รักจ๋าที่สุดไงจ๊ะ โอ๊ยๆๆ”

คราวนี้บิดแก้มจนแทบจะขาดติดสองมือ จากยอมให้เล่นตามใจศศินก็เริ่มบิดตัวขัดขืน แต่ก็ไม่กล้าแกะมือผมตรงๆ

“นายชอบมองฉันแบบรักถวายหัว แต่เอาเข้าจริงไม่กล้าแตะตัวด้วยซ้ำ ชอบป้วนเปี้ยนใกล้ๆ แต่ดันมีระยะห่าง พออยากจะรู้จักขึ้นมาก็เหมือนเข้าไม่ถึงสักที”

“ที่รักจ๋าคิดมากไปแล้ว”

“ไม่คิดมากได้ไง ก็ฉันจริงจังกับนาย”

คนโดนบิดแก้มจนหน้าแดงพลันชะงักค้าง

“จนป่านนี้ยังไม่เชื่ออีกรึไง เจ้าบ้าเอ๊ย!” ผมจิ้มหน้าผากเขาอย่างหัวเสีย เรียกให้ศศินคืนสติ ก่อนจะลูบแก้มที่แดงก่ำจากการโดนประทุษร้ายอย่างประหม่า

“เราไม่ได้ เอ่อ...คุยๆ กันอยู่เหรอ”

“ก็คุยๆ กันไง แต่คุยอย่างจริงจัง ตั้งใจจะพัฒนาความสัมพันธ์ ทดลองดูใจว่าจะรอดหรือร่วง ไม่ใช่แค่คุยฆ่าเวลา คุยแก้เหงา คุยแก้เบื่อ คุยแบบไปนั่งกินข้าวแล้วกลับ คุยโทรศัพท์สักพักแล้ววาง แบบไม่มีจุดมุ่งหมายปลายทางน่ะเข้าใจมั้ย”

พูดจบก็กอดอกอย่างขุ่นเคือง เจ้าบ้าศศินช่างคิดน้อยหวังน้อย สำหรับเขาแค่ได้คุยกับผมก็พอใจแล้ว

ขนาดเคยบอกต่อหน้าพี่นที เขายังทำหน้าเหวอไม่เชื่อ และขนาดยืนยันในตอนนี้ เขาก็ยังมองแบบไม่อยากจะเชื่ออีก

น่าโมโหสุดๆ!

“ฉันเลยหงุดหงิดมากตอนนายไม่ให้มาหา เหมือนพยายามปั้นภาพลักษณ์ด้านดีๆ ให้ฉันเห็นอยู่ด้านเดียว เอาอกเอาใจฉันอยู่คนเดียว สรุปแล้วอยากจะคบกับฉันแบบแฟนหรือแค่คนคุยๆ กันแบบเจอหน้าแล้วตัวใครตัวมันกันแน่?”

“ก็ต้องแบบแฟนอยู่แล้ว” ศศินตอบทันที

“งั้นก็ให้ความร่วมมือสิ!” ผมย้ำคำหนักแน่น พลันอีกฝ่ายทำหน้าเหมือนจะหัวเราะก็ไม่ใช่ร้องไห้ก็ไม่เชิง

“ฉัน...ไม่ใช่คนที่ดีพอ”

“เกณฑ์อะไรที่ตัดสินว่าคนไหนดีพอหรือไม่ดีพอ”

ศศินไม่ตอบ เขาก้มหน้า ปกปิดแววตาก่อนจะสารภาพบาปเสียงเครือ

“ฉันเคยฆ่าคนตาย...”

คราวนี้เป็นผมเองที่ช็อกค้างบ้าง

พลันอีกฝ่ายนิ่งไปอึดใจหนึ่ง คล้ายต้องใช้ความกล้าอย่างมากที่จะพูดถึงอดีตอันยากจะลืมนี้

“ฉันฆ่าพ่อแท้ๆ ของตัวเอง แถมยังไม่รู้สึกผิดสักนิด...” ศศินเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเหยียดที่แฝงความประชดตัวเอง แววตาเย็นชาเหมือนกับที่เขาใช้มองคนอื่น ราวกับว่าไม่ใช่แค่คนพวกนั้นหรอกที่เป็นเศษขยะไร้ค่า แต่เป็นตัวเขาเองต่างหาก

...เป็นตัวเขาที่ก็เป็นเศษขยะไร้ค่าเหมือนกัน

“คุณกล้าคบกับฆาตกรคนนี้มั้ยล่ะ นาวา”

ผมเงียบไปนานมาก เพราะไม่ทันเตรียมใจเรื่องนี้เลยประมวลผลไม่ทัน พลันศศินเงยหน้า เผยยิ้มยียวนพร้อมผายมือแล้วยักไหล่อย่างขอไปที

“เรื่องมันก็แบบนี้แหละที่รัก เอาเป็นว่าอย่าถลำลึกกับฉันมากนักเลย”

เปลี่ยนสีหน้าไวยิ่งกว่ากิ้งก่าเปลี่ยนสี เห็นแล้วความหมั่นไส้ก็พุ่งพรวด

“แต่นายถลำลึกกับฉันได้?”

“ถ้าที่รักยินยอม”

สีหน้าทีเล่นทีจริงกับรอยยิ้มเสแสร้งจอมปลอม ผมพลันคันไม้คันมือ ดึงแก้มเขายืดทั้งซ้ายขวาอีกรอบ

“โอ๊ย ที่รักจ๋า เบาหน่อย”

ยิ่งเขาพูดผมก็ยิ่งออกแรงหนักขึ้น พอได้ออกกำลังกายสมองก็เริ่มโล่ง ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งมีเหตุผลมากพอจะขายเรือนร่างตัวเองเพื่อแลกกับเงินก้อนหนึ่ง กับผู้ชายที่ลงมือฆ่าพ่อตัวเองก็ต้องมีเหตุผลที่มากพอจะลงมือเช่นกัน

“ฉันถาม...เอ่อ...เรื่องนั้นได้มั้ย” ผมปล่อยมือจากแก้มศศินพลางเอ่ยอ้อมแอ้มเพราะกลัวไปจี้ใจดำเข้า คนไม่อยากเล่าไอ้เราก็ไม่กล้าฝืนใจ

“ที่รักอยากรู้เหรอ”

“อื้อ!” ผมพยักหน้าไม่ลังเล จริงจังมาก เพราะนี่จะเป็นประโยคตัดสินว่าจะไปต่อกับเขาถึงขั้นไหน เล่นเอาศศินถึงกับหลุดหัวเราะ

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก” เขาเอ่ยเปรยๆ แบบไม่ค่อยอยากพูดถึงเท่าไหร่ “แค่พ่อทุบตีฉันกับแม่ จนถึงจุดหนึ่งทนไม่ไหวก็เลยพลั้งมือฆ่าเข้าให้น่ะ”

ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก ศศินไม่โหดขนาดวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน แต่เป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบจากการปกป้องตัวเอง

“จากนั้นก็ถูกส่งไปสถานพินิจ พอออกมาญาติฝั่งแม่ก็รับไปดูแลแทน”

“แล้วแม่นายล่ะ”

“อ้อ ฉันเล่าตกไป พ่อทุบตีฉันกับแม่ พลั้งมือฆ่าแม่ก่อน ฉันเลยพลั้งมือฆ่าพ่อน่ะ”

ศศินเอ่ยทั้งรอยยิ้มบาง น้ำเสียงระรื่นคล้ายเป็นเรื่องตลกที่สุดในชีวิต

ผมตะลึงแล้วตะลึงอีก อ้าปากแล้วหุบ หุบแล้วอ้าปาก สลับไปมาแบบไม่รู้จะปลอบโยนหรือควรเสนอความเห็นยังไงดี ศศินทำเหมือนเรื่องผ่านมานานแล้ว ตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรแล้ว ทั้งที่...เขารู้สึกมาก และยังเป็นตราบาปในใจจนตอนนี้

ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีความเสียใจภายหลัง

ละอายใจ แต่ไม่เสียใจที่จะทำ

เพราะโลกนี้มันโหดร้าย กล่อมเกลาให้เด็กผู้ชายคนหนึ่งเติบโตมาด้วยจิตใจบิดเบี้ยว ผมเชื่อว่ามีรายละเอียดอีกมากในเหตุการณ์นั้นที่เขาเลือกจะเล่าข้ามไป รวมถึงการเติบโตหลังจากที่เขาออกจากสถานพินิจด้วย

ผมเคยคิดว่าเขาเป็นคนบ้า มาตอนนี้ก็มั่นใจ...

เขาบ้าของจริงด้วยว่ะ!

แต่เป็นความบ้าคลั่งที่น่าสงสารซึ่งแฝงความโดดเดี่ยวไม่เหลือใครอย่างบอกไม่ถูก คล้ายกับตวันแต่หนักหน่วงกว่ามาก ผมเองก็คงบ้าไม่แพ้กันที่มักตกหลุมรักผู้ชายซึ่งมักเผยแต่ด้านดีๆ ยิ้มแย้มอบอุ่นให้ แต่มีมุมอ่อนแอร้าวรานใจ เก็บซ่อนไว้ในส่วนลึกอย่างดำมืด

ตวันบอกว่าผมเป็นพวกไม่คิดมาก ไม่คิดเยอะ ไม่เอาเรื่องวุ่นวายใส่สมอง ไม่ยุ่งเรื่องคนอื่นยกเว้นคนที่รัก ทุ่มเทต่อความตั้งใจที่จะทำ มุ่งมั่นกับสิ่งที่ต้องการอย่างแรงกล้า เมื่ออยู่ด้วยแล้วจึงสบายใจ และวางใจว่าต่อให้จะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะร้ายหรือดี ผมก็ยังเป็นนาวา ดาราลัย เป็นตัวของตัวเองแบบสุดโต่งอย่างนี้

นั่นน่าจะเป็นคำชมนะ เอ๊ะ หรือจะเป็นคำด่าว่าผมเอาแต่ใจจนโลกลืมกันแน่

ชักจะสับสนซะแล้วสิ แต่ช่างเถอะ ผมลูบแก้มศศิน เล่นเอาคนโดนบิดแก้มไปสองครั้งซ้อนสะท้านเฮือกๆ แต่แล้วเขาก็ต้องนิ่งงัน เมื่อผมเพียงลูบแก้มเขา...อย่างอ่อนโยน

พลันคนเดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวเย็นชา เดี๋ยวซึมเศร้าหลับตาพริ้ม ก่อนจะแนบหน้ากับฝ่ามือผมคล้ายเป็นแหล่งพึ่งพิงสุดท้าย

วินาทีนั้นใจเต้นรัวยิ่งกว่ากลองรบ

แม้จะเคยใจเต้นกับศศินบ้าง แต่ก็ไม่มีครั้งไหนจะเต้นเป็นบ้าเป็นบอเท่านี้มาก่อน ตวันมักเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว ต่อให้ผมถามก็ไม่ตอบ มักหลีกเลี่ยงไปเรื่องอื่น อาจเพราะไม่อยากให้ลำบากใจ และมีบุญคุณกัน เขาถึงดูแลผมดีไม่เคยขาดตกบกพร่อง และไม่คิดจะเผยด้านอ่อนไหวให้เห็น มีบ้างที่ท้อใจ เหนื่อยล้า แต่เขาจะเพียงขอกำลังใจ แล้วยิ้มให้เป็นเชิงไม่เป็นไร

บางทีปัญหาของแฟนเก่าอาจเริ่มต้นที่จุดนี้ เมื่อเขาไม่พูด ผมก็สนับสนุนทุกอย่าง หวังแค่อยากให้เขาดีใจ ซึ่งบางทีไม่รู้ว่าตวันต้องการหรือเปล่า แม้อึดอัดผมก็พยายามปรับตัว ยิ้มหวานเข้าสู้ เลยคบกันราบรื่นจนกระทั่งฝ่ายตวันเป็นคนก่อปัญหาขึ้นมาเอง

ส่วนศศินแม้จะไม่เล่าทั้งหมด แต่การกระทำนั้นยอมลงให้ทุกทาง เชื่อสิว่าผมเป็นคนแรกที่เขายอมเล่าอดีตให้ฟังและคงเป็นคนเดียวในโลกใบนี้ด้วยที่ถามแล้วตอบทุกคำโดยไม่อิดออด ผมเป็นพวกแพ้ความจริงใจอยู่แล้ว เมื่อเจอมุมอ่อนแอแกมออดอ้อนนี้เข้าไป บอกเลย...ตายแน่นาวา!

สงสัยสเป็กผมจะผูกติดกับพวกผู้ชายมีปม แบบว่าเห็นแล้วอยากจะจับมาอยู่ด้วยให้คลายความหม่นเศร้าเหงาหงอย เพราะผมได้ทุกอย่างมาง่ายเกินไป ชีวิตราบรื่นสะดวกโยธิน ถึงจะมีเรื่องผิดหวังบ้างก็มองผ่านเลยไม่เอามาติดค้างในใจ เมื่อเจอกับด้านตรงข้ามกับตัวเองเลยอยากให้มาช่วยเติมเต็มกันและกัน

นึกถึงตอนนี้ผมก็คิดว่าตัวเองคงชอบศศินแล้วนั่นแหละ สำหรับผู้ชายที่แรกพบหน้ามีแต่คำว่าน่ารำคาญคนนี้ หากโชคชะตาพลิกตลบ ตวันไม่สารภาพรักกับผมก่อน ตอนศศินมาขอคบช่วงมหา’ลัย ไม่แน่ผมอาจจะยอมตอบตกลงก็ได้

แต่นั่นก็เป็นเพียงภาพฝันกลางวัน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพราะสุดท้ายผมก็ใจอ่อนกับศศินเข้าจริงๆ

“พอแล้ว จะซบมือวาถึงวันพรุ่งนี้เลยรึไง”

พลันศศินเงยหน้าพรวดพราด มองผมเขม็ง ก่อนจะหน้าแดงก่ำจนต้องยกมือปิดหน้า แต่ก็ปิดรอยยิ้มกว้างอย่างดีใจสุดขีดนั้นไม่อยู่

แค่แทนตัวเองว่าวา...ต้องคลุ้มคลั่งขนาดนี้เลยเรอะ!

“ทำตัวดีๆ หน่อย วาเขินตามแล้วเนี่ย” ผมกุมแก้มตัวเองที่เริ่มเห่อแดง ไอ้เราก็เป็นประเภทขี้เขินซะด้วยสิ “ไหน มีอะไรต้องสารภาพอีกมั้ย แอบกิ๊กกั๊กใครอยู่รึเปล่า”

“ไม่มีแล้ว ไม่มีแน่นอนครับที่รัก”

คำเรียกที่รักของศศินพลันหวานละมุนขึ้นทันตา ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำเอาผมคิดว่าโคตรคุ้มกับการปลอมตัวบุกมาหาเขาถึงไนต์คลับ

“งั้นกล้าจับมือวารึยัง” ผมแบมือรอตรงหน้าศศิน วัดใจว่าเขาจะกล้าๆ กลัวๆ จะแตะก็ไม่กล้าแตะอีกรึเปล่า

ผลคือศศินลังเลเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือกล้าจับเต็มมือมากขึ้น ไม่ใช่แค่เอานิ้วจิ้มๆ

“งั้นกล้าขอวาคบรึเปล่า”

คราวนี้ศศินผละมือแทบไม่ทัน เล่นเอาผมขมวดคิ้วมุ่นแบบอะไรวะ อุตส่าห์หว่านล้อมขนาดนี้แล้ว ขอผมคบสิ ขอสิ!

อะไรนะ ผมใจด่วนใจเร็วเกินไปแล้ว? สมัยตวันขอคบ ผมก็ใช้เวลาแค่สองนาทีในการพิจารณาความรู้สึกตัวเองว่า...เอ่อ ก็ชอบเขานะ แล้วตอบตกลงทันทีเหมือนกัน

“อย่าเข้าใจผิดนะที่รัก” ศศินรีบยกมือทั้งสองมือแบบยอมแพ้ ด้วยกลัวว่าผมจะอาละวาด “ฉันก็เหมือนไอ้ตวันนั่นแหละ กับความปรารถนาในใจที่คิดว่าให้ตายยังไงก็ไม่มีวันเป็นจริง หากสมหวังขึ้นมาแล้วต้องสูญเสียไป จิตใจคงแตกสลายไม่มีชิ้นดี”

“น้ำเน่า”

“กับคนที่ตกหลุมรักแฟนชาวบ้าน ก็จำต้องยอมรับความจริงข้อนี้นะ” ศศินเอ่ยยิ้มๆ “ถึงฉันจะรักมาก แต่ก็ไม่ได้ชาติชั่วขนาดแย่งแฟนคนอื่น ในเมื่อไม่สมหวังเลยขอตามมองแบบใกล้ๆ ดีกว่า”

“คนปกติมันต้องมองแบบห่างๆ ไม่ใช่เหรอ” ผมหัวเราะ เพราะไอ้การตามตื๊อเจ็ดปีของเขามันเกินขอบเขตของคนแอบรักเงียบๆ มากโข

“โทษทีนะ พอดีฉันไม่ปกติ”

สรุปวันนี้นาวาชวดสินะ

กับคนที่ตามจีบมาเจ็ดปี แค่ขอคบยังไม่กล้า ยอมใจเขาเลย

เอาเถอะ ยังไงเรื่องระหว่างเราก็ไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง แม้ผมจะนอนเปื่อยๆ บนเตียงแบบโคตรเหงาก็ตาม อยู่กับตวันมาตั้งแต่เด็ก พอต้องมาอยู่คนเดียว แม้จะเริ่มชินแต่อดโหวงเหวงในใจไม่ได้จริงๆ

“ที่รักอยากรู้อะไรอีกมั้ย”

“นายมีชื่อเล่นรึเปล่า”

“ไม่มี แต่เรียกศินเฉยๆ ก็ได้”

“งั้นศินชอบกินอะไร”

“ไข่ไก่ จะเป็นไข่อะไรก็ได้ ไข่เป็ด ไข่ไก่ ไข่เยี่ยวม้า กินได้ทุกอย่าง”

ช่างกินง่ายอยู่ง่าย น่ารักน่าเอ็นดูประหลาดๆ

ภาพลักษณ์และหน้าตาของเขาโคตรขัดกับนิสัยแท้จริงเลย

“ชอบดื่มอะไร”

“กาแฟดำ”

“สีที่ชอบล่ะ?”

“ครามหรือน้ำเงินเข้ม”

“งานอดิเรก?”

“อ่านหนังสือ”

“ปกตินอนกี่โมง ตื่นกี่โมง”

“ไม่เป็นเวลาเท่าไหร่ บางครั้งนอนสามชั่วโมงก็มี”

“งานหนักขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมมองอย่างเวทนา สำหรับนาวา ดาราลัยการนอนเป็นสิ่งสำคัญมาก หนึ่งวันถ้านอนไม่ครบแปดชั่วโมง คือความผิดมหันต์ต่อมโนธรรมในจิตใจ!

“งานไม่หนัก มีคนช่วยดูแลเยอะ แต่เวลามีเรื่องยุ่งๆ ฉันก็ต้องออกโรงเอง”

“เรื่องยุ่งๆ อะไรบ้าง”

“ถ้าด้านเงินกู้ก็มีคนขู่จะฆ่าตัวตายถ้าไปทวงเงินอีก ไม่ก็หนีไปซบขอความคุ้มครองจากคนอื่นจนสร้างเรื่องเดือดร้อนบานปลาย ส่วนด้านคุมไนต์คลับก็มีคนทะเลาะวิวาทแย่งผู้หญิง ชักปืนมายิงกันในที่สาธารณะ สายตำรวจปลอมตัวเข้ามา แล้วก็อีกหลายๆ อย่างน่ะ”

“เคยโดนลอบทำร้ายมั้ย”

“มีบ้าง แต่ไม่บ่อย”

“ครั้งล่าสุด?”

“ปีที่แล้ว”

ผมค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องให้มันชุ่มชื่นหัวใจบ้าง

“ศินเป็นเกย์หรือเป็นไบ”

“เป็นคนที่รักเธอ”

“...”

ศศินยิ้มกว้าง ส่วนผมปาดเหงื่อ

“สเป็กที่ชอบ?”

“ยิ้มแล้วโลกสดใส แบบที่รัก”

“เวลาวาแต่งตัวประหลาดๆ คิดว่าไงบ้าง เอาตามตรงนะ”

“ที่รักแต่งอะไรก็น่ารัก”

“ถ้าวาแก่ หนังเหี่ยวหนังยานล่ะ”

“ก็น่ารัก”

ถามไปถามมาผมก็ชักขนลุกขึ้นทุกทีเลยขอยุติแต่เพียงเท่านี้

“ถ้าที่รักอยากมาหา อย่าแอบมาเอง บอกกันก่อนได้มั้ยครับ”

“ได้ๆ” ผมพยักหน้าหงึกๆ ทันที ไม่คิดหาเรื่องโดนโกรธอีกหรอกนะ

“ว่าแต่...ใครเป็นคนบอกที่รักจ๋าเหรอ”

“พี่โชคเป็นคนบอก เอ่อ...ศินเองก็อย่าลงโทษพี่เขาล่ะ เขาทำเพราะโดนวาบังคับน่ะ”

ศศินยิ้มแต่ไม่ตอบ ผมเลยถองศอกใส่เขาหนึ่งที

“ที่รักขอก็ไม่ทำครับ”

ได้ฟังค่อยชื่นใจหน่อย แต่มองรอยยิ้มหวานๆ กับสายตาเยิ้มๆ นั้นดูอีกที ไม่รู้ทำไมถึงคิดว่าศศินดูเจ้าเล่ห์สุดๆ

วันต่อมา...พี่โชคตาบวมช้ำเหมือนโดนต่อย

เมื่อผมเลียบๆ เคียงๆ ถามก็ได้ความว่าศศินไม่ได้ลงโทษด้วยตัวเองจริงๆ แต่สั่งพี่ชัยลงโทษคู่ซี้ตัวเอง

โหดเหี้ยมมาก

เจ้าคนโฉดคนนี้ใช่คนเดียวกับที่หลับตาพริ้มซบหน้ากับฝ่ามือผมแบบเชื่องแสนเชื่องจริงเหรอ!!!


-------------------

ใครไหวไปก่อนเลยค่ะเพราะเราไม่ไหวแล้ววววววว

ฉากซบหน้ากับฝ่ามือตะหนูนาวาคือเชื่องมากกก น่ารักมากกก อยากเอาไปเลี้ยงงงงงงงง (ผิดๆๆ) ศศินน่ารักขนาดไหนใครจะไม่ชอบใช่มั้ยล่ะค่ะ และแล้วตอนนี้ก็เฉลยเรื่องอดีตของศศิน กับอีกมุมของศศินที่ไม่เชื่องเหมือนตอนอยู่ต่อหน้านาวา ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาค่ะท่านผู้โช้มมมมม

#นาวาสไตล์


ตัวอย่างตอนต่อไป เกิดอะไรขึ้นนะพี่นทีถึงฟิวขาด
“พี่บอกแล้วใช่มั้ยว่าคบหมอนี่มันอันตราย!”

เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 19 : อดีตดำมืด[02/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 02-08-2019 20:51:44
ศศินมีหลายบุคลิก
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 19 : อดีตดำมืด[02/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 02-08-2019 21:18:53
รักคนมีปมตลอดเลยเนอะนาวา ฉากซบมือคือฟินมาก :-[
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 19 : อดีตดำมืด[02/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 02-08-2019 22:29:24
อยากกินศศินมาก#น่าจะอร่อย#เต็มปากเต็มท้อง
#ได้เธอซักครั้งฉันจะฟิน
อิอิ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 19 : อดีตดำมืด[02/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-08-2019 22:47:20
พี่ศินอ่อนโยนกะวาคนเดียว
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 19 : อดีตดำมืด[02/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 02-08-2019 22:54:03
ศศินเป็นแมวตัวโหน่ยๆ เชื่องบ้าง อ้อนบ้าง ดุกับคนแปลกหน้า
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 19 : อดีตดำมืด[02/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 02-08-2019 23:01:40
พยัคฆ์​ร้าย​กลายเป็น​แมวเชื่อง​เมื่ออยู่​กับ​นาวา​  :impress2:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 19 : อดีตดำมืด[02/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 02-08-2019 23:14:21
โห่วววว นึกว่าวาจะชกเปรี้ยงแก้แค้นให้พี่โชคซะอีก พี่เขาอุตส่าห์ให้ข้อมูล  :ruready
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 19 : อดีตดำมืด[02/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 03-08-2019 12:15:46
มุมนี้ของศศิน น่ารักมากกกก จะละลาย~
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 19 : อดีตดำมืด[02/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 03-08-2019 16:04:13
เชื่องเชียว,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 20 : นี่แหละนาวา[03/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 03-08-2019 18:43:47
   
ตอนที่ 20

   นี่แหละนาวา

   

   “วา คนข้างหลังนั่นมัน...”

   “อย่าสนใจเลย”

   ผมโบกมือปัดๆ เบี่ยงความสนใจของตวัน ไม่เจอกันสิบวันนับจากโดนเขาปฏิเสธความช่วยเหลือ สีหน้าเขาดีขึ้นจม วันนี้เป็นการนัดพบจิตแพทย์ครั้งสุดท้าย ผมเลยมาให้กำลังใจ

   ถึงตวันจะไม่ได้ชวน แต่ไอ้การบอกเวลานัดหมายก็เป็นการบอกกลายๆ ให้มาด้วยกัน ผมเคยชินกับนิสัยด้านนี้ของเขาที่มักเห็นว่าน่ารักจังน้าจึงเสนอตัวมาเอง เขาเป็นคนขี้เกรงใจ มักไม่พูดออกมาตรงๆ แต่จะบอกอ้อมๆ แบบซื่อๆ มากกว่า ตอนเห็นผมยืนรออยู่ด้านหน้าคลินิก ตวันยิ้มกว้าง ก่อนจะกลายเป็นหุบยิ้มเมื่อเห็นชายร่างสูงใหญ่กำยำสวมสูทยืนคุมอยู่ด้านหลัง

   ไม่ใช่ใครอื่นไกล พี่โชคไงจำไม่ได้เหรอ

   ส่วนสาเหตุที่พี่โชคมายืนคุมตรงนี้ก็เพราะหลังเปิดอกเปิดใจกับศศิน ผมบอกเขาว่าถ้ามีอะไรไม่พอใจให้พูดมาตรงๆ เลย อย่าน้อยใจเองเงียบๆ คนเดียว ผมเดาใจใครไม่เป็นนะ ศศินเลยตอบหน้าซื่อตาใสว่า...

   ‘ไม่อยากให้เจอไอ้ตวันอ่ะที่รักจ๋า’

   ผมเลยเริ่มการอภิปรายความสัมพันธ์ตอนนี้ของตัวเองกับตวันให้ศศินฟังหนึ่งชั่วโมงเต็มว่าผมไม่มีความรู้สึกรักชอบอะไรในตัวตวันแล้ว เหลืออยู่แค่ความเป็นเพื่อน ถึงก่อนหน้านี้จะเกลียดขี้หน้าจนไม่อยากเจอะอยากเจอ แต่ถ้าเพื่อนล้มในเรื่องอื่นก็ควรเข้าไปช่วยพยุงหน่อยมั้ย ยิ่งเป็นเรื่องที่ผมมีส่วนทำให้เข้าใจผิดกันทั้งบางด้วยแล้ว...

   ส่วนตวันเขาไม่ใช่คนหัวแข็งดื้อด้านอะไร ออกจะอ่อนน้อมถ่อมตนและเจียมเนื้อเจียมตัวด้วยซ้ำ ผมไม่เล่นด้วย เขาก็ไม่กล้าหรอก โดยเฉพาะในตอนนี้...ตอนที่เขาเริ่มปฏิเสธความช่วยเหลือจากผมครั้งแรกแล้วก้าวต่อด้วยตัวเอง แม้ไม่มั่นคงนัก ไม่อาจลุยได้เต็มร้อย แต่ก็นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

   ศศินฟังผ่านหูไปงั้นๆ เห็นแล้วผมก็หมั่นไส้ บิดหูเขาแก้เผ็ดไปสองที จนเจ้าตัวยอมสารภาพออกมาว่าเวลาผมอยู่กับตวันจะมีบรรยากาศรู้ใจกันที่เห็นแล้วชวนอิจฉาตาลุกวาว ถึงทั้งสองคนไม่คิดอะไรเกินเลย แต่เขาไม่สบายใจ

   ‘ถ้าฉันนัดพบกับแฟนเก่าสองต่อสอง ที่รักจ๋าจะไม่รู้สึกอะไรเหรอ ยิ่งถ้าแฟนเก่าคนนั้นคบกันมาเจ็ดปี รู้จักกันมาตลอดชีวิต ทั้งที่ฉันยืนยันว่ารักที่รักจ๋าคนเดียว แต่ที่รักจ๋าจะไม่ตะขิดตะขวงใจเลยจริงๆ เหรอ’

   ฟังแล้วผมก็ถึงบางอ้อ ไม่ใช่ไม่เชื่อใจ แต่เหมือนมีคนเอาเข็มมาสะกิดยิบๆ ในใจตลอดเวลา การถามตรงตอบตรงก็ดีแบบนี้ เคลียร์จบครบในนาทีเดียว สุดท้ายเลยตกลงกับศศินว่าผมไม่เจอตวันสองต่อสองก็ได้ ให้เขามาเป็นก้างขวางคอสิ จะได้เลิกทำหน้าเซ็งสักที

   ศศินยิ่งส่ายหัวหนักเข้าไปใหญ่ เขาเกลียดตวัน เจอหน้าแล้วคันไม้คันมืออยากจะต่อย กลัวทำเสียเรื่อง สุดท้ายก็ส่งตัวแทนเป็นพี่โชคซึ่งทดลองงานตามติดผมมาเกือบสัปดาห์แล้ว พี่โชคเป็นทั้งบอดี้การ์ด เป็นทั้งคนขับรถ เป็นทั้งเลขาฯ ส่วนตัวที่ช่วยโทรจองร้านอาหารเวลาผมนัดคุยกับลูกค้าตอนที่เลขาฯ ของผมไม่ว่าง เรียกว่าทำงานสารพัดอย่าง แถมไม่พูดเยอะพูดมากเหมาะกับคนอินดี้อย่างผมพอดี

   “วา?”

   “ไม่มีอะไรหรอก เข้าไปข้างในกันเถอะ” ผมเดินนำตวันเข้าไปในคลินิก จำได้เลยว่าครั้งแรกที่บังคับพามา ตวันคัดค้านเสียงแข็ง กระชากยื้อยุดกันอยู่หน้าประตู แถมยังมองผมเหมือนหาว่าเขาเป็นบ้า ไม่รู้อะไรซะแล้วว่าสมัยนี้คนมาหาจิตแพทย์ใช่ว่าจะเป็นบ้าอย่างเดียวซะเมื่อไหร่ ขอแค่เครียด อยากระบายความในใจ อกหักรักคุดก็มาได้แล้ว

   แน่นอนว่าแพทย์ย่อมเก็บข้อมูลคนไข้เป็นความลับ แม้ผมจะมาเป็นเพื่อนเขาแทบทุกครั้ง แต่ก็ไม่เคยรู้หรอกนะว่าตวันเล่าอะไรบ้าง แต่นั่นคงเป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงให้เขาคิดอยากเรียนต่างประเทศ แล้วยืนหยัดด้วยตัวเอง

   มองส่งตวันที่เข้าไปพบแพทย์แล้วผมก็หยิบสมุดสเก็ตช์ขึ้นมาวาดภาพเล่น ก่อนจะรับโทรศัพท์จากเลขาฯ ซึ่งกำชับว่าช่วงบ่ายนี้ต้องเข้าไปดูคอลเล็กชั่นใหม่ที่ทางฝ่ายช่างฝีมือทำล็อตแรกเสร็จแล้ว

   คงยังไม่ลืมสร้อยที่สามารถสวมคล้องเอวและพันทบเป็นกำไลข้อมือได้ใช่มั้ยล่ะครับ นั่นแหละคอลเล็กชั่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ของดาราลัยจิวเวลรี่ ต้อนรับธีมฮัลโลวีนด้วยค้างคาวที่ดวงตาประดับทับทิมสีแดง ฟักทองประดับแซฟไฟร์แท้สีส้ม และแมวดำที่มีดวงตาเป็นอะเมทิสต์สีม่วง ผมเน้นดีไซน์แปลกใหม่เข้าถึงง่าย ราคาอยู่ในระดับกลางๆ ค่อนไปทางสูงแต่ไม่ถึงกับเกินเอื้อมอย่างเครื่องประดับในงานแฟชั่นโชว์

   แถมลูกค้ายังสามารถออกความเห็นเลือกจับคู่ระหว่างค้างคาวกับแมวหรือแมวกับฟักทอง รวมถึงเปลี่ยนชนิดอัญมณีได้ด้วยนะ

   แค่คิดก็ตื่นเต้นอยากเห็นแล้ว ก่อนจะเพิ่งรู้ตัวว่าวาดรูปเพลินจนเผลอออกแบบเข็มกลัดให้ศศินในธีมฮัลโลวีนด้วยซะงั้น ก่อนหน้านี้เพราะศศินเหมือนจันทร์เสี้ยวที่ดูเว้าแหว่ง ผมเลยเน้นดีไซน์ที่ความโค้งสวยของพระจันทร์ แต่มาตอนนี้กลับวาดจันทร์เต็มดวง ฉลุลายเป็นแมวนอนขดอยู่ด้านใน

   แมวนาวา

   ผมหัวเราะคิกคัก เข็มกลัดนี้วาดเล่นล้วนๆ แต่ถ้าทำจริงแล้วให้เป็นของขวัญเซอร์ไพรส์ศศินก็ไม่เลว เลยถ่ายรูปส่งให้เลขาฯ ช่วยนำไปปรึกษากับทีมงานว่าพอจะทำได้จริงหรือเปล่าเนื่องด้วยมีรายละเอียดยิบย่อยตรงตัวแมวเยอะ ถ้าต้องลดทอนลงต้องลดแค่ไหนและควรจะปรับแก้ยังไงให้เหมาะแก่การใช้งานจริง

   ไอเดียผมเยอะ ซึ่งต้องให้มืออาชีพช่วยดูอีกต่อ เป็นการร่วมงานแบบทีมเวิร์ก ไม่ใช่คิดจะทำก็เอาแต่ใจจะทำอยู่คนเดียว

   จะว่าไปช่วงฮัลโลวีนก็ใกล้กับวันลอยกระทงที่พระจันทร์เต็มดวงพอดีนี่นะ ผมเริ่มมีไอเดียแผลงๆ อยากจะทำคอลเล็กชั่นใหม่เกี่ยวกับพระจันทร์ขึ้นมาเลยก้มหน้าก้มตาสเก็ตช์ภาพอย่างเมามัน รู้ตัวอีกครั้งตวันก็เดินยิ้มออกมาแล้ว

   “เป็นไงบ้าง”

   “ไม่ต้องมาแล้วล่ะ ยาก็ไม่ต้องกินแล้วด้วย”

   “ดี” ผมยกนิ้วโป้งชื่นชมให้ตวัน “งั้นแยกย้ายกันเลยเนอะ มีอะไรโทรก็มาแล้วกัน”

   “ขอบคุณนะวา”

   “ไม่ต้องมาทำตาซึ้ง ฉันขนลุก” ผมตั้งใจตบอกตวันแกล้งหยอก แต่พี่โชคถลาเอาตัวมาขวาง เอ่อ...นอกจากจะเป็นตัวแทนของศศินแล้ว ยังคอยห้ามไม่ให้แตะตัวตวันด้วยเหรอ ก็ได้ ไม่แตะก็ไม่แตะ

   คนอะไร ตัวไม่อยู่ แต่ขี้หวงชะมัดเลยโว้ย

   ผมยักไหล่ให้ตวัน ก่อนจะต่างคนต่างแยกย้าย พี่โชคขับรถมารับผม ส่วนตวันเดินไปขึ้นรถเมล์ ถึงได้ชื่อว่าเพื่อน แต่ก็ใช่ว่าจะกลับมาสนิทสนมกันเหมือนเดิม

   เวลาเขาไม่เหลือใคร ผมมาหา แต่เมื่อเขาลุกขึ้นเองได้ ผมก็ไปตามทางตัวเองเหมือนกัน

   ซึ่งทางของผมก็คือการไปกินข้าวเที่ยงกับศศินนั่นเอง

   แต่ชีวิตของทุกคนย่อมมีอุปสรรค เช่นเดียวกับผมวันนี้ เพราะขณะนั่งฟังเพลงเพลินๆ ในรถจู่ๆ พี่โชคก็เบี่ยงพวงมาลัยไปทางขวากะทันหันจนศีรษะแทบพุ่งชนกระจก

   “ขอโทษครับคุณวา”

   ผมงงมาก ปกติพี่โชคขับรถนิ่ม ทำเอาเคลิ้มเผลอสัปหงกหลายรอบ ถ้ารู้ว่ามีคนขับรถมันดีแบบนี้คงจ้างนานแล้ว แต่ช่วยไม่ได้จริงๆ ผมเป็นพวกคนใกล้ชิดสนิทสนมแต่กับคนนอกนั้นตั้งกำแพงสูงมาก ถ้าต้องให้คนแปลกหน้าขับรถให้ก็สู้ขับเองดีกว่า แต่แน่นอนว่าพี่โชคนับเป็นข้อยกเว้น เพราะเขาเป็นคนของศศินและเราก็เริ่มคุ้นเคยกันแล้ว

   ฉะนั้นพอพี่โชคบอกขอโทษ ผมก็ไม่ได้ถือสาอะไร ก่อนจะแทบร้องเหวอเมื่อคราวนี้รถเบี่ยงไปทางซ้าย เล่นเอาหน้าผากโขกกระจกเข้าจังๆ

   “โอ๊ย!”

   “ผมขอโทษจริงๆ ครับคุณวา” พี่โชคพูดแกมลำบากใจ แต่การขับรถซอกแซกจนได้เสียงบีบแตรดังจากเพื่อนร่วมถนนเนี่ยไม่ธรรมดาแล้วมั้ง

   “ขับรถหนีใครรึไง”

   “คือ...”

   “พูด!” ผมลูบหน้าผากที่เริ่มโนแล้วตวาดอย่างหัวเสีย ต้องให้โขกอีกกี่ครั้งถึงจะยอมเปิดปาก หรือคิดจะปิดบังไปตลอด? ชิชะ!

   “คือ...มีคนขับรถตามเราครับคุณนาวา”

   “ใคร”

   “น่าจะเป็น...คนที่ไม่ชอบใจนายครับ”

   นายในที่นี้ไม่ใช่การเรียกว่าเฮ้ย นายจะไปไหน นายกินอะไรยัง แต่เป็น ‘เจ้านาย’

   ศศินไงจะใครล่ะ

   “แล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน” ผมกอดอก ขมวดคิ้วมุ่นอย่างขุ่นเคือง

   “จะมีคนบางจำพวกที่ผูกใจเจ็บ แต่เล่นงานนายไม่ได้เลยคิดเล่นงานจุดอ่อนของนายแทน...”

   “ซึ่งก็คือฉัน?” ผมชี้นิ้วเข้าหาตัว

   “ครับ...” ยิ่งอธิบาย พี่โชคก็ยิ่งเสียงอ่อยลงทุกที เมื่อรู้เรื่องผมก็เข้าใจว่าทำไมหัวเด็ดตีนขาดศศินก็จะส่งพี่โชคมาเกาะผมให้ได้ จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่เรื่องตวัน แต่เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายเลยส่งคนมาคุ้มครองต่างหาก

   ส่วนที่ไม่พูดเพราะกลัวผมจะวิตกจริตเกินเหตุ ในเมื่อนี่เป็นแค่ข้อสันนิษฐานว่าอาจจะเกิด แต่ไม่รู้จะเกิดจริงรึเปล่า

   ถึงว่าสิ หลังไปหาศศินที่ไนต์คลับวันนั้นถึงโดนกำชับแล้วกำชับอีกว่าให้บอกก่อน จะส่งคนไปรับ ไม่ต้องเข้าทางหน้าร้านให้เป็นเป้าสายตา

   ดูเหมือนคนคนนี้จะอันตรายอย่างที่พี่นทีเตือนจริงๆ นั่นแหละ

   แต่โทษที นาวาคนนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดานะ!

   “คุณวาจะโทรหานายเหรอครับ”

   “โทรหาศิน? โทรทำไม โทรมาให้เขาโอ๋ฉันเหรอ ไร้สาระ!” ผมกระแทกเสียง ก่อนจะกดเบอร์โทรหาลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่ง ตระกูลดาราลัยน่ะมีญาติโกโหติกาเพียบนะขอบอก “ว่างมั้ยน้องชาย ช่วยอะไรหน่อยสิ แต่เรื่องนี้ห้ามบอกพี่ทีนะ ห้ามเด็ดขาด”

   พี่โชคดูจะงงๆ ว่าผมคิดจะทำอะไรกันแน่

   แต่เรื่องอะไรจะบอกล่ะ ปล่อยให้เขาตื่นตาตื่นใจยังดีกว่าเยอะ หลังวางสายผมก็บอกให้พี่โชคเลิกขับแบบนักซิ่งเบี่ยงซ้ายเบนขวาปาดหน้าชาวบ้านสักที ผมไม่อยากหัวโน

   “แต่...”

   “ฉันก็มีวิธีของฉันน่า” ผมยืนยัน พี่โชคทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมขับแบบคนปกติธรรมดา ซึ่งสุดท้ายแล้ว...รถของเราก็โดนคู่กรณีตามทัน แล้วยังปาดหน้าจนเกือบชนโครมเข้าให้อีกต่างหาก

   ชายฉกรรจ์สามคนย่างสามขุมเตรียมจะจับคนกลางวันแสกๆ ช่างไม่กลัวฟ้ากลัวดินเอาซะเลย พอดีกับคนที่ผมขอความเหลือมาพอดี...

   ในพริบตารถตำรวจที่เปิดไซเรนดังมาแต่ไกลก็ตีกรอบโอบล้อมรถคู่กรณีทั้งสี่ทิศทาง มาถึงไม่พูดไม่จา ชายฉกรรจ์ที่ไม่ทันเดินมาถึงตัวผมก็ถูกจับสวมกุญแจมือขึ้นรถตำรวจไปแทนแล้วด้วยความงงว่าเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย

   ก็ไม่ได้เข้าใจยากขนาดนั้นหรอก แค่ลูกพี่ลูกน้องของผมแต่งงานกับลูกสาวของบัญชาการตำรวจสูงสุดที่มีอำนาจสั่งการ ใช้กฎหมายจับคนก่อนค่อยไปเคลียร์คดีภายหลังได้น่ะ!

   ผมให้พี่โชคขับรถตามหลังพวกตำรวจไปสถานีเพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แม้ยังไม่ลงมือทำร้ายร่างกาย แต่การขับรถปาดหน้าและไล่จี้รถจนทำให้ผมบาดเจ็บหัวโนก็พอให้แจ้งความได้แล้ว ศศินอาจจะทำงานในที่ลับ แต่คนอย่างนาวานั้นเลือกจัดการในที่แจ้ง โดยเฉพาะกับคนพวกนี้ที่แม้ไม่เกรงกลัวกฎหมายเพราะมีเส้นสาย

   แต่โทษเถอะ ใครจะเส้นใหญ่เท่าตระกูลดาราลัย?

   ถ้าเส้นใหญ่ไม่พอก็เอาเงินโปะได้ ถามอีกครั้ง ใครจะร่ำรวยเท่าตระกูลดาราลัย?

   ก็แค่นั้นแหละท่านผู้ชม

   “ใครกันที่คิดว่าฉันเป็นจุดอ่อนศิน เทียบกับตระกูลดาราลัย ศินก็เป็นแค่เจ้าพ่อเงินกู้ รายได้เบื้องหลังรวมทั้งหมดยังไม่เท่ากำไรธุรกิจของพี่นทีแค่คนเดียวด้วยซ้ำ!”

   พี่โชคขับรถไม่พูดไม่จา ไม่กล้าเถียงกับผมที่ยังหงุดหงิดไม่หาย

   คิดจะเล่นงานใครโปรดเบิกตาดูสักนิดว่าผมคือใคร

   เหนือฟ้ายังมีฟ้า

   เล่นผิดคนแล้วไอ้น้อง!

   ทันทีที่ถึงสถานีตำรวจใกล้สุด เพียงผมเดินลงมา เหล่าตำรวจก็แทบจะปรนนิบัติแตกต่างกับคนธรรมดาลิบลับ ขนาดผู้บัญชาการไม่ได้มาด้วยตัวเอง แต่แค่นามสกุลของผมก็พอข่มขวัญแล้ว นี่ล่ะนะคืออำนาจของเงินตรา ผมไม่ใช่คนดีเด่อะไร โดยเฉพาะกับคนที่ประสงค์ร้ายก่อน

   เคยบอกแล้วไง ใครดีมาผมดีกลับ ใครร้ายมาผมก็เลวกลับเหมือนกัน

   ท่ามกลางความชุลมุนในโรงพักทนายที่ดีที่สุดของตระกูลดาราลัยที่บึ่งมาทำคดีนี้ด้วยตัวเองก็มาถึง เตรียมฟ้องศาลดำเนินคดีถึงที่สุด นอกจากติดคุกแล้วยังต้องจ่ายค่าชดเชยที่ทำให้ผมขวัญเสียและค่ารักษาหัวโนด้วย ศศินตามมาถึงหลังจากนั้นไม่นาน แทบจะพร้อมๆ กับพี่นทีซึ่งแม้อยากจะปิด ก็ปิดไม่อยู่

   “ทำไมไม่โทรหาฉันล่ะวา!”

   “พี่บอกแล้วใช่มั้ยว่าคบหมอนี่มันอันตราย!”

   สองหนุ่มสองมุมเดินมาถึงไม่แม้แต่จะมองหน้ากัน แต่หันมาพูดกับผมซึ่งนั่งไขว่ห้างตากแอร์ในห้องรับรองแขกซึ่งกำลังดื่มดำกับโกโกร้อนที่พี่โชคช่วยซื้อมาให้

   ผมรอให้พวกเขาสงบสติ เพราะหายากมากที่จะเห็นศศินขึ้นเสียงใส่ อาจจะด้วยอารามตกใจแกมสำนึกผิดที่ทำให้ผมโดนลูกหลงจากธุรกิจของเขา ส่วนพี่นที...อืม ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป กับคนที่ยิ้มดอกไม้บานมาตลอดหุบยิ้มได้ก็นับว่าบุญตาแล้ว

   “วา!”

   ประสานเสียงสามัคคีกันดีจริงๆ ผมจิบโกโก้ในมือ ก่อนจะพยักพเยิดให้พวกเขานั่งลงเพื่อคุยกันดีๆ

   “ตอบศินก่อนแล้วกัน ที่ไม่โทรหาเพราะไม่อยากโทร วากำลังโกรธอยู่ นายต้องง้อสิไม่ใช่มาทำหน้าถมึงทึงใส่ ส่วนพี่ที คบกับศินอันตรายตรงไหนครับ ผมไม่บุบสลาย แถมคนทำผิดก็โดนยัดข้อหาอยู่ตรงโน้น” ผมชี้ให้พี่นทีเห็นว่าในห้องนี้แม้จะสงบ แต่ด้านนอกนั้นชุลมุนวุ่นวายมาก พรรคพวกหมายประกันตัวคนของตัวเอง ทนายเริ่มโต้เถียงกัน ต่างคนต่างคาดไม่ถึงว่าแค่เล่นงานคนหวังแก้แค้นจะลามปามถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลใหญ่โต

   แหม นี่ไม่ใช่ยุค 2499 อันธพาลครองเมืองนะ คิดจะดักตีหัวแบบไม่โดนโทษก็เกินไป

   “ที่รัก...ฉันขอโทษ...” ศศินรีบปรับสีหน้าเป็นออดอ้อนในทันทีเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าหลุดมาด แต่สำหรับคนที่รักผมหัวปักหัวปำจะมีอะไรที่น่ากลัวไปกว่าการที่คนรักตัวเองถูกทำร้าย คงเจ็บยิ่งกว่าตัวเองโดนกระทืบ “ครั้งหน้าโทรหาฉันนะ สัญญาสิ”

   “ยังจะมีครั้งหน้าอีกเหรอ” พี่นทีเปรยเสียงเรียบด้วยรอยยิ้มดอกไม้บาน นี่ก็อีกคนที่เริ่มสงบใจ “วา กลับไปกับพี่ แล้วก็เลิกติดต่อกับหมอนี่ซะ”

   ศศินเหลือบมองพี่นทีด้วยสายตาเย็นเยียบจนผมเองยังหายใจสะดุด แต่สำหรับคนที่โกรธจนหน้ามืด พี่นทีจึงจ้องกลับไม่ยอมแพ้ ด้วยรอยยิ้มเย็นๆ และดวงตาวาวโรจน์ตั้งใจเอาเรื่อง

   “ทั้งคู่หันมามองวานี่” ผมดีดนิ้ว เรียกความสนใจให้พวกเขาเลิกจ้องตาปานจะกินเลือดกินเนื้อสักที และมันก็มหัศจรรย์มาก เพียงหันมา ศศินก็ยิ้มหวาน รอฟังที่รักจ๋าอย่างแสนเชื่อง ส่วนพี่นทีก็ยิ้มอบอุ่นอ่อนโยน เป็นเชิงว่าน้องชายน่ารักที่สุด

   เป็นนาวาก็ลำบากเหมือนกันแฮะ

   “รู้มั้ยว่าวาโกรธเรื่องอะไร”

   “เรื่องที่ทำให้ที่รักจ๋าต้องมาประสบเหตุสะเทือนขวัญทั้งที่เป็นคู่กรณีของฉันไม่เกี่ยวกับที่รักจ๋าเลย”

   “เจ้าบ้า วาโกรธที่ส่งพี่โชคมาตามต้อยๆ แต่ไม่คิดจะเล่าอะไรให้ฟัง จำไว้นะศศิน วาเกลียดคนทำอะไรลับหลังที่สุด!”

   ศศินหน้าซีดเผือดในบัดดล สำหรับคนที่เพิ่งมีลุ้นว่าจะได้รับความรัก จู่ๆ ก็ถูกพ่นคำว่าเกลียดใส่หน้าแบบชัดถ้อยชัดคำก็นับว่าทำร้ายจิตใจคนหวังน้อยอย่างเขาจนหลบตาสำนึกผิด

   “ส่วนพี่ที...ขอบคุณนะครับที่ห่วงใยวาเสมอ แต่พี่ทีต้องย้อนมองดูก่อนว่าใครกันแน่ที่อันตรายกว่ากัน” ผมชี้นิ้วระหว่างพี่นทีกับศศิน “ศินเป็นเจ้าพ่อเงินกู้ เป็นเจ้าของไนต์คลับ ส่วนเรามีญาติซึ่งมีแบ็กหนุนหลังเป็นผู้บัญชาการใหญ่ แล้วยังมีเส้นสายทั้งตำรวจและทหาร ถ้าคิดจะจัดการศิน แค่ให้คนไปตรวจไนต์คลับ ใช้อำนาจยัดข้อหาสั่งปิด ทลายแก๊งเงินกู้ของเขาอนาคตก็จบแล้ว! ขนาดกับศินยังสู้เราไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับพวกปลายแถวที่มาเกาะแกะวอแวเขา ถึงจะลามปามมาถึงวาด้วย แต่ครั้งนี้คงเป็นบทเรียนสำคัญว่าเข้าหาศินนั้นยากแล้ว แต่คิดเล่นงานวา นอกจากจะยาก...ยังโดนเล่นกลับเป็นเท่าตัว!”

   “บราโว่!” ศศินปรบมือชมเชยแบบอวยเต็มที่ “ที่รักจ๋าเท่อีกแล้ว เท่ที่สุดเลย”

   “เทียบกันจริงๆ แล้วโลกธุรกิจยังน่ากลัวกว่างานของศินอีก พี่ทีน่าจะเข้าใจดีที่สุดด้วยซ้ำ อย่างน้อยพวกนี้ก็ยังทำร้ายซึ่งหน้า แต่พวกแทงข้างหลังน่ะแค่ป้องกันยังทำได้ยากเลย ถึงวาจะชอบนอนกลิ้ง อู้งานไปนั่งเล่นนอกออฟฟิศบ่อยๆ ทำตามใจตัวเองในโลกที่มีพร้อมทุกอย่างไม่มีภัยอันตรายมาแผ้วพาน แต่วาก็ไม่ได้ไร้เดียงสานะ!”

   พูดจบผมก็จบโกโก้แก้เจ็บคอ แล้วรอให้สองหนุ่มได้ปรับความคิดกันไป

   สำหรับศศินนั้นเร็วหน่อย เขาเป็นพวกอะไรก็ได้ขอแค่ที่รักจ๋าพอใจ ยิ่งผมปกป้องตัวเองได้ดี ก็ยิ่งโล่งใจด้วยซ้ำ ส่วนพี่นที...เอ่อ...อาจต้องใช้เวลาสักสัปดาห์กว่าพี่แกจะประมวลผลเสร็จ

   “ที่รักหิวมั้ย ยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงกันเลยนี่นา”

   โดนทักก็ชักหิว ผมลูบท้องตัวเองแล้วพยักหน้ารับนิ่งๆ ให้รู้ว่ายังโกรธอยู่

   “งั้นไปทานข้าวกันเถอะเนอะ ร้านนี้มีขนมหวานที่ไม่เคยขายที่ไหนด้วยนะ ที่รักจ๋าต้องชอบแน่เลย”

   ผมหูกระดิก เมื่ออารมณ์เสียก็ต้องอยากกินอะไรหวานๆ เป็นเรื่องธรรมดา เลยยกโทษให้ศศินอย่างรวดเร็ว

   “ไปกันเถอะ” ผมยื่นมือไปหาศศิน ซึ่งเจ้าตัวก็แบมือรออย่างรู้ใจ

   พี่นทีมองพวกเราจับมือกัน สบตาแล้วหัวเราะคิกคักแฝงด้วยความหวานและเขินอายเหมือนวัยรุ่นแรกรัก ก็ถอนหายใจเฮือกแล้วปรับสีหน้าให้ยิ้มแย้มอบอุ่น

   “งั้นพี่ก็ขอตัวเหมือนกัน ถ้าทนายจัดการเรียบร้อยแล้วจะให้ติดต่อวาอีกที”

   “ขอบคุณครับ”

   พี่นทีเดินออกไปก่อน ผมกับศศินค่อยจับมือเดินตามด้านหลัง มองผ่านความวุ่นวายของกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เริ่มอาละวาดทำร้ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งไม่วายโดนแจ้งข้อหาเพิ่มไปอีกกระทง ก็เชื่อใจได้ว่าทนายมือดีของตระกูลดาราลัยจะจัดหนักจัดเต็มเอาให้ไม่กล้าคิดแตะต้องคนของตระกูลนี้อีกเลย

   มีเงินก็ใช้ให้คุ้ม มีอำนาจก็ใช้ให้ถูกจังหวะ มีชีวิตก็ใช้ให้เต็มที่

   และเมื่อมีความรัก...ก็ใช้กับคนคนเดียว

   นี่แหละนาวา ดาราลัย

    -------------------

   

    เด็ดสมชื่อ #นาวาสไตล์

   คิดจะมาเล่นงานนาวา ต้องพิจารณาตัวเองสักนิดค่ะว่าต่อกรกับชาติตระกูลและความรวยของตะหนูไหวรึเปล่า?? ไหวไม่ไหวศศินยังต้องยอม เราชอบฉากนาวาดีดนิ้วแล้วเปลี่ยนพี่นทีให้มายิ้มดอกไม้บานกับศศินมายิ้มหวานที่รักจ๋ามากเลยค่ะ ไม่ใช่นาวาทำไม่ได้นะเนี่ยยยยย

   ขอย้ำอีกครั้ง #นาวาสไตล์

   แทคค่อนข้างเงียบเหงา มาหวีดกันได้น้า


   
ตัวอย่างตอนต่อไป หวานกันต่อค่ะ
   “ที่รักจ๋า อย่าดื่มเร็วแบบนั้นสิ ที่รักน่ะแค่ห้าแก้วก็ร่วงแล้วนะ”
“หยาบคาย!”


เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 20 : นี่แหละนาวา[03/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-08-2019 20:01:11
 o13​
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 20 : นี่แหละนาวา[03/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-08-2019 20:50:12
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 20 : นี่แหละนาวา[03/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 03-08-2019 22:42:37
คนที่น่ากลัวที่สุด คนนั้นน่ะ  :a5:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 20 : นี่แหละนาวา[03/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 03-08-2019 23:02:55
เห็นภาพแบบ กระดิกเท้าแล้วหันมาพูดว่า ก็รวยอะนะ โทษทีที่เรื่องธรรมดาของฉันเป็นเรื่องเวอร์วังสำหรับเธอ 5555
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 20 : นี่แหละนาวา[03/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: TongRung ที่ 03-08-2019 23:04:05
 o13
ให้กำลังใจนาวาสไตล์
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 20 : นี่แหละนาวา[03/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 03-08-2019 23:45:11
บอกได้อย่างเดียวนี่แหละ #นาวาสไตล์ แต่พี่นทีใช้เวลาประมวลผลนานไปป่ะ5555
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 20 : นี่แหละนาวา[03/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 04-08-2019 02:09:00
 :L2: :pig4: :L2:


 o13
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 20 : นี่แหละนาวา[03/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 04-08-2019 03:26:55
นาวาคือเท่เลยอ่ะ555
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 20 : นี่แหละนาวา[03/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 04-08-2019 07:46:18
     #นาวาสไตล์ คนจริง :mew1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 20 : นี่แหละนาวา[03/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-08-2019 11:06:59
คนที่ร้ายกว่าใคร คือ นาวาเองแหละ  :m20: :laugh: :pigha2:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 20 : นี่แหละนาวา[03/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 04-08-2019 12:00:43
น่ากลัวที่สุดก็คงเป็นนาวาซินะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 20 : นี่แหละนาวา[03/08/62] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 04-08-2019 13:04:06
พี่นทีจะมีคู่ใหมอ่ะ

เค้ารอคู่พี่นที
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 21 :ความสันพันธ์ที่... [04/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 04-08-2019 19:54:00
   
ตอนที่ 21

   ความสันพันธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไป

   

   แม้จะจับเข่าคุยกับศศินและพี่นทีด้วยดี แต่มีคนหนึ่งที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทน

   ตวัน

   ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเขากล่อมยากกว่าพี่นทีซะอีก

   แถมยังบุกมาหาถึงบริษัท เล่นเอาพนักงานพากันขยี้ตาแล้วขยี้ตาอีกว่าตวัน อดีตประธานบริษัทผู้มากด้วยข่าวฉาว คบกับนางแบบลับหลังประธานคนใหม่ จนสุดท้ายต้องลาออกไปเองจะกล้าเหยียบย่างเข้ามาที่นี่อีก

   ไอ้เราก็นึกว่ามีเรื่องสำคัญสุดหนักหนา เพราะตอนจะเลิกราตวันก็ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม บุกไปที่บ้านดาราลัยโดยไม่สนใจว่าจะโดนซุบซิบนินทาเหมือนกัน ทั้งที่เขาเป็นพวกหน้าบาง หวั่นไหวกับพวกคำครหามากที่สุด

   แล้วดูสิ ไอ้เรื่องที่เขาต้องวิ่งแจ้นมาไม่ได้คอขาดบาดตายอะไรเลย

   ก็แค่เรื่องที่ตระกูลดาราลัยฟ้องดำเนินคดีสถานหนักกับกลุ่มวัยรุ่นที่ขับรถปาดหน้าจนทำให้นาวา ดาราลัยได้รับบาดเจ็บ แน่นอนว่าในข่าวไม่ได้ระบุรายละเอียดชัดเจนนักว่าผมเจ็บอะไร แต่เน้นไปที่การเอาจริงของตระกูลดาราลัยที่คล้ายจะเชือดไก่ให้ลิงดู ส่วนที่ว่าทำไมไฮโซโดนทำร้ายถึงมีข่าวแพร่สะพัดขนาดนี้...ก็ด้วยอำนาจของเงินไงล่ะ!

   ผมจงใจเล่นใหญ่เพื่อให้พวกชอบประทุษร้ายในที่ลับขลาดกลัวที่สุด เอาให้แค่คิดยังไม่กล้า!!

   ฉะนั้นพอตวันที่หน้าตาตื่นเห็นผมเปิดหมวกให้เห็นหัวโนๆ...ก็ออกจะไปไม่เป็นนิดหน่อย

   เขาเปิดโทรศัพท์เทียบข่าวที่บอกว่าไฮโซหนุ่มบาดเจ็บกับหัวโนๆ ที่เริ่มบวมขึ้นนับจากวันเกิดเหตุสลับไปมา

   “จะมองให้ทะลุหน้าผากเลยมั้ย ฉันแค่หัวโนจริงๆ!”

   ตวันค่อยโล่งใจขึ้นมาบ้าง

   “เรื่องแค่นี้โทรมาถามก็ได้ ไม่เห็นต้องบุกมาเลย” ผมบ่นอุบอิบขณะรับแก้วโกโก้จากพี่โชคซึ่งไปรับมาจากเลขาฯ หน้าห้อง เขาประคองส่งให้ผมอย่างบรรจง ส่วนกาแฟของตวันที่เลขาฯ ชงมาเผื่อนั้น...วางกระแทกโต๊ะดังโครมเป็นเชิงขับไล่

   ผมยิ้มเจื่อน เพราะเป็นคนของศศินเลยไม่อยากจะปรามมาก แค่ตวันมาหาถึงบริษัทก็เกรงว่าพวกพนักงานจะนินทาสนุกปากแล้วว่าถ่านไฟเก่าจะคุรึเปล่า

   ความดีสามปีของตวันทำให้แม้จะมีข่าวฉาวนอกใจ แต่ก็มีพนักงานหลายคนถือหางเข้าข้าง!

   “ขอโทษนะวา...พอเห็นข่าวผมก็เผลอ...นั่งรถมาที่นี่เลยน่ะ”

   เป็นคำตอบน่าชื่นใจ ถ้าไม่ติดว่าสถานะของเราคือแฟนเก่า

   “งั้นก็กลับไปได้แล้วมั้ง” ผมใส่หมวกเพื่อปิดหัวโนๆ ของตัวเอง ก่อนจะโบกมือไล่ชิ่วๆ

   “วา...จะคบกับศศินจริงๆ น่ะเหรอ เกิดเรื่องแบบนี้ไม่คิดจะเปลี่ยนใจหรอกเหรอ”

   แต่ตวันไม่ยอมไป

   “นี่มันเรื่องของฉัน ไม่ใช่เรื่องของนาย”

   “ถือซะว่าผมห่วงในฐานะเพื่อน”

   “ขนาดพี่ทียังกล่อมฉันไม่ได้ แล้วนายที่เป็นแค่เพื่อนคิดว่าจะกล่อมฉันได้รึไง” ผมเลิกคิ้วท้าทายเขา ก่อนจะปรายตามองพี่โชคไม่ให้พลั้งมือจับตวันมาต่อยซ้ายต่อยขวาข้อหาใส่ไฟเจ้านายตัวเอง “สำคัญตัวผิดแล้วตวัน ก่อนหน้านี้ที่ฉันไปหานายบ่อยๆ ก็เพราะความสงสารหรอกไม่ใช่พิศวาส”

   “ผมรู้ ตลอดมาที่วาทำดีกับผมก็เพราะสงสาร...”

   “นาย...”

   ผมกะพริบตาปริบๆ แปลกใจว่าทำไมเขาถึงคิดอย่างนั้น แต่เรื่องมันผ่านมานมนานแล้ว ก็ให้ผ่านไปดีกว่า

   “วันนี้ฉันยุ่งมาก” ผมบ่น “ต้องประชุมกับคณะบริหารเรื่องความคืบหน้าของโปรเจ็กต์ ต้องประชุมกับทีมช่างและฝ่ายออกแบบเพื่อคอนเฟิร์มครั้งสุดท้าย แล้วต้องประชุมกับฝ่ายการตลาดเพื่อเตรียมโปรโมตอีก ฉันยุ่งมาก! มากๆ!” พูดจบก็แทบจะดึงทึ้งผมตัวเอง

   ตวันหัวเราะ เขาเอื้อมมือหมายจะช่วยลูบหัวผมเหมือนที่เคยทำเป็นประจำ

   แต่ก็นั่นแหละ...

   โดนพี่โชคคว้าหมับเข้าให้เต็มแรงจนร้องโอดโอย

   “คุณนาวาครับ ได้เวลาประชุมแล้วครับ”

   ขอบพระคุณเลขาฯ ที่ตามได้จังหวะพอดี

   “งั้นผมขอตัวนะ”

   “อืม”

   ตอนเพิ่งเรียนรู้งานที่บริษัทนี้เมื่อหลายเดือนก่อน เวลาผมนั่งคุยกับตวันในห้องทำงาน คนที่เป็นฝ่ายเดินออกจากห้องเข้าประชุมคือเขา ส่วนคนที่เดินออกไปนั่งเล่นก็คือผม

   แต่ตอนนี้กลับกัน คนที่เดินไปเข้าห้องประชุมก็คือผม ส่วนคนที่แม้แต่จะนั่งเล่นก็ยังทำไม่ได้ ต้องรีบจรลีจากไปก็คือตวัน...

   ผมมองแผ่นหลังนั้นแล้วพลันเข้าใจสัจธรรมขึ้นมาชอบกล

   ก่อนจะสะบัดหน้าหนีเพื่อเผชิญกับเหล่าผู้บริหาร เทียบกับโดนลักพาตัวหรือถูกวัยรุ่นขับรถปาดหน้าหมายรุมตื้บแล้วห้องประชุมยังน่ากลัวกว่าหลายเท่า เอาวะ ตายเป็นตาย!

   





   นาวาจะตายแล้ว...

   “ที่รักจ๋า ยิ้มหน่อยซิ”

   เสียงแชะดังขึ้น ผมปรือตามองศศินซึ่งเพิ่งเดินเข้ามาในห้องทำงาน แล้วถ่ายรูปผมที่กำลังไหลตายกับโต๊ะทำงานอย่างสนุกสนาน

   อย่าแปลกใจว่าทำไมเขาถึงปรากฏตัวทั้งที่ไม่ใช่ตอนเที่ยง แต่เป็นช่วงเย็นย่ำหลังเลิกงาน สาเหตุสำคัญคือแม้ศศินจะยิ้มแย้มปรบมือบอกว่าผมโคตรเท่เลย จัดการปัญหาได้อยู่หมัด เขาก็ยังระแวง และขอรับส่งผมเท่าที่จะทำได้ หรือให้ถูกคือจับผมนั่งรถคันเดียวกับเขาตลอดทั้งวัน

   ตอนเช้าศศินจะให้พี่ชัยขับรถมาจอดรออยู่หน้าคอนโดฯ ของผม

   ตอนเที่ยงศศินจะขึ้นมาตามไปทานข้าวเหมือนปกติ

   ตอนเย็นศศินก็จะมารับถึงที่ แล้วไปส่งผมที่คอนโดฯ ก่อนค่อยเข้างาน

   สรุปคือผมประหยัดน้ำมันได้โข แถมยังต้องเจอหน้าหมอนี่ตลอดทั้งวันเลยด้วย

   เพราะนี่เป็นคำขอโทษแกมขอรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นกลายๆ เลยปฏิเสธไม่ลง

   เฮ้อ...กับคนใกล้ตัวที่มีใจให้เนี่ย ผมแสนจะใจอ่อนสุดๆ เลยล่ะ

   “งั้นฝากที่เหลือด้วยนะ”

   มีคนมารับแล้ว ผมก็หันไปพูดกับเลขาฯ ที่ช่วยจัดเรียงเอกสารหลังการประชุมอยู่ข้างๆ ช่วงนี้ใกล้เวลาเปิดตัวสินค้าใหม่แล้ว พนักงานทุกคนเลยยุ่งหัวหมุน หน้าดำคร่ำเคร่ง ทำให้บรรยากาศในบริษัทพลอยอึดอัดไปด้วย

   ผมบิดขี้เกียจ ก่อนจะเดินตามหลังศศินโดยมีพี่โชคช่วยถือกระเป๋าให้ จากตอนแรกแค่แตะตัวยังไม่กล้า พอผมเริ่มจับมือเขาก่อนให้คุ้นชิน หลังๆ ศศินก็เริ่มมือไว เอะอะเป็นคว้ามือผมจับหมับ แถมยังไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เหมือนเด็กน้อยรอคอยของขวัญที่อยากได้มานาน แล้วคิดว่าฝันไป แต่พอสัมผัสแตะต้องว่ามีอยู่จริง ก็อยากจะตระกองกอดในอ้อมแขนอย่างหวงแสนหวง

   มุมเด็กๆ แบบนี้ของศศินก็น่ารักดี

   เย็นวันศุกร์ วันเวลาดีๆ แบบนี้เราสองคนตอบรับไปงานแต่งงานของไฮโซท่านหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่าทุกคนจำได้รึเปล่า...เพราะเจ้าสาวก็คือคุณหนูตัวแสบ ผู้ทำเอาผมแทบคลั่งตายกับการเปลี่ยนแบบเครื่องประดับนั่นเอง ครอบครัวของเธอเป็นลูกค้าประจำของดาราลัยจิวเวลรี่ ฉะนั้นเมื่อได้รับเชิญผมก็ไม่รังเกียจที่จะมาชื่นชมผลงาน โดยควงแขนศศินมาด้วย

   เจ้าสาวแสนสวยไม่เหลือมาดเด็กวัยรุ่นเอาแต่ใจ เพราะเธอยิ้มแย้มมีความสุขกับชายคนรักที่เหมาะสมราวคู่ในอุดมคติ ผมใส่ซองและเขียนอวยพรบ่าวสาว หลังถ่ายรูปรวมก็ขออนุญาตถ่ายคู่กับเจ้าสาวโดยเฉพาะ ถึงแม้ขั้นตอนการทำงานจะชวนนรกแตก แต่เมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์และเครื่องประดับก็ทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่ ขับให้เจ้าสาวมั่นใจและสวยงามโดดเด่นจนได้รับคำชื่นชมจากแขกเหรื่อ ผมก็อดเก็บภาพเป็นที่ระลึกไม่ได้

   “ขอบคุณนะคะคุณนาวา งานออกมาถูกใจฉันจริงๆ”

   ผมไม่ใช่คนผูกใจเจ็บ เพราะมันรกสมองเกินจะมานั่งคิดว่าคนนั้นเคยงี่เง่า คนนี้เคยว่าร้าย ไร้สาระน่ะครับ ใครหาเรื่องมาก็เอาคืน แต่ไม่มานั่งคิดต่อว่าแค้นใจจังนะน่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้มากกว่า เหมือนกับพาฝันที่ตอนนี้ผมก็ตัดออกจากสมองไปแล้ว

   ฉะนั้นพอเจ้าสาวจับมือผม พูดขอบคุณเป็นครั้งที่สาม ผมก็ยิ้มตอบและพูดเชิญชวนว่าหากอยากได้เครื่องประดับสวยๆ อย่าลืมนึกถึงดาราลัยจิวเวลรี่

   เพราะเป็นแค่แขกรับเชิญตามมารยาท ไม่ใช่ญาติพี่น้องหรือคนรู้จักมักคุ้น หลังเดินไปนั่งโต๊ะทักทายคนรู้จักพอเป็นพิธีผมกับศศินก็แยกมานั่งกันสองคนในสวนของโรงแรมซึ่งจัดเป็นแกลลอรี่ภาพถ่ายบ่าวสาวซึ่งมีแขกบางส่วนจับกลุ่มถ่ายรูปกัน

   ปกติผมไม่ใช่คนชอบดื่ม โดยเฉพาะเวลาต้องขับรถกลับคนเดียวจะไม่แตะเลย ถือคติ เมาไม่ขับ เดี๋ยวจะกลับไม่ถึงบ้าน แต่คงเพราะเครียดเรื่องงาน แถมเพิ่งทะเลาะกับหนึ่งในผู้บริหาร พอปลีกตัวได้ก็ดื่มไม่ยั้ง ถ้าพี่นทีหรือตวันมาเห็นคงห้ามเสียงหลง แต่แทนที่ศศินจะห้ามดันดื่มเป็นเพื่อนผมซะงั้น

   “อัดอั้นมากเกินไปก็ไม่ดีเนอะที่รักเนอะ”

   ศศินพูดกลั้วหัวเราะ ขณะเรียกบริกรให้มารินแก้วผมที่เพิ่งยกซดจนเต็ม

   “ไม่คิดจะห้ามกันจริงดิ” ผมมองเขาอึ้งๆ สำหรับนาวาที่ได้รับการทะนุถนอม ปกป้องดูแลอย่างดี มาเจอคนให้ท้ายสุดโต่งขนาดนี้ก็ออกจะรู้สึกแปลกนิดหน่อย แม้จะโล่งใจเอามากๆ ก็ตาม

   เพราะขืนศศินร้องโวยวายบอกว่าดื่มแล้วไม่ดี แต่มาดื่มโชว์ต่อหน้าเหมือนพี่นทีหรือตวัน ผมจะสาดน้ำใส่หน้าเขาให้ดู!

   “ก็ที่รักมีเหตุผลที่จะดื่ม แล้วทำไมถึงดื่มไม่ได้ล่ะ”

   โอย อยากจับเขาไปพูดต่อหน้าพี่นทีสุดๆ! โดนใจใช่เลย นาวาไม่ชอบดื่ม ฉะนั้นถ้าคิดจะมอมตัวเองก็ต้องมีเหตุผลดีๆ ที่ฟังขึ้น เช่นอยากจะเมาให้โลกลืมเพื่อสลัดเรื่องเครียดๆ สักพักก็ยังดี แล้วถ้าโดนห้ามขึ้นมา คิดว่าผมจะหงุดหงิดขนาดไหนล่ะ

   แค่จะดื่มย้อมใจยังทำไม่ได้ จับผมเข้าวัดฟังเทศน์เลยมั้ยถึงจะพอใจ!

   ผมซบหน้ากับไหล่ของศศิน ซาบซึ้งน้ำตาจะไหลจนไซ้เขาไม่หยุด

   “ที่รักจ๋า...สามแก้วก็เมาแล้วเหรอ”

   “ไม่ได้เมา!”

   ผมแย้งเสียงเคือง เหลือบตาค้อนศศิน ก่อนจะก้มหน้าไซ้เหมือนเดิมอย่างดีใจสุดขีด เฮ้อ...ทำไมไม่เจอเขาให้เร็วกว่านี้นะ ถ้าเราเจอกันก่อนคบกับตวัน...ช่วงเวลาสามปีที่ผมนอนตีพุงคงจะสนุกและมีสีสันน่าดู

   ขณะผมงึมงำไม่ได้ศัพท์ ศศินก็นั่งตัวเกร็ง

   ป่านนี้แล้วยังจะมาเกร็งอะไรอีก ผมตีอกเขาประท้วง ก่อนจะจับแขนมาโอบรอบเอวตัวเองเพื่อจะได้ซบสะดวกๆ

   “ที่รักจ๋า”

   เสียงอ่อนระโหยของคนหน้าแดงก่ำ ทำเอาผมหัวเราะร่วน

   “ที่รักจ๋า อย่าดื่มเร็วแบบนั้นสิ ที่รักน่ะแค่ห้าแก้วก็ร่วงแล้วนะ”

   “หยาบคาย!” ผมเถียงไม่ยอมแพ้ ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ และเมื่อดื่มถึงแก้วที่ห้า...

   บัดซบ ผมน็อคจริงๆ ด้วย!

   




   ผมลืมตาในห้องนอนที่ไม่ใช่ของตัวเองและไม่ใช่โรงแรมของพี่นที

   ด้วยศีรษะที่ปวดแทบระเบิด สายตาเลยมองไปรอบๆ อย่างจับโฟกัสไม่ได้ กว่าจะเริ่มทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วผมมานอนแผ่พุงอยู่บนเตียงคิงไซส์โคตรนุ่มซึ่งมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ได้ยังไง ประตูห้องก็ถูกเปิด

   คนที่เดินเข้ามาคือศศิน

   วินาทีนั้นผมสะดุ้งพรวด อย่าบอกนะว่าโดนจับกินแล้ว!

   “ใจเย็นๆ ที่รัก ฉันไม่ได้แตะตัวมากไปกว่าโอบเอวและอุ้มมานอนเลยนะ เสื้อผ้ายังไม่กล้าแตะเลย ที่รักจ๋ายังปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอนจ้ะ” ศศินรีบพูดเสียงอ่อนเมื่อโดนผมมองเหมือนเขาเป็นผู้ร้ายชอบฉวยโอกาส เมื่อพิสูจน์แล้วว่าผมยังอยู่ในชุดเดิมพร้อมร่างกายที่ไม่ได้ถูกล่วงละเมิดแต่อย่างใด ไอ้เราก็นอนแผ่กับเตียงร้องโอดโอยต่อ

   “วาปวดหัว...”

   “งั้นดื่มน้ำอุ่นก่อนนะครับ ฉันสั่งให้โชคลงไปซื้อซุปไก่กับยาแก้เมาค้างแล้ว อีกไม่นานคงมา ที่รักจ๋าอดทนก่อนนะ” ศศินเดินมาทิ้งตัวนั่งข้างเตียง ก่อนจะประคองผมแบบเก้ๆ กังๆ เพื่อดื่มน้ำ เห็นท่าทางเขาแล้วก็แทบหลุดหัวเราะ กับคนที่แค่จะจับมือยังต้องใช้เวลาให้ชิน โดนผมซุกไซ้เข้าหน่อยเป็นตัวเกร็ง เผลอคิดได้ยังไงนะว่าเขาจะปล้ำผมไหว

   น่าจะล่มตั้งแต่ปากอ่าว!

   “เมื่อคืนศินนอนที่ไหน” ผมถามเขาขณะเอาหัวตัวเองไปนอนบนตักของอีกฝ่ายที่แข็งทื่อเป็นรูปปั้นหินเรียบร้อยแล้ว

   “นอนโซฟาข้างนอกครับ...”

   “โธ่ พ่อสุภาพบุรุษ” ผมหัวเราะ “แต่วาชอบนะ ขอบคุณครับที่ไม่ฉวยโอกาสกัน”

   “ที่รักจ๋าก็รู้ว่าฉันไม่กล้าพังความสัมพันธ์ตอนนี้หรอก” ศศินเอ่ยขณะวางมือบนศีรษะของผม เขามองเป็นเชิงขออนุญาต เมื่อผมกะพริบตาปริบๆ ตอบรับก็ค่อยๆ นวดขมับให้ ตอนแรกลงน้ำหนักไม่ค่อยถูก นวดไปงงไปเหมือนคนไม่เคยทำมาก่อน แต่เมื่อจับจังหวะได้ศศินก็ยิ้มบาง “ดีขึ้นมั้ยครับ”

   เห็นแก่ความพยายามของเขา แม้ขมับจะร้าวหนักกว่าเดิม ผมก็ได้แต่ตอบว่า “ดี แต่เบาแรงอีกนิดจะดีมาก”

   “แบบนี้?”

   “นั่นก็เบาไปแล้ว”

   “งั้นแบบนี้ล่ะที่รักจ๋า”

   “ดีมาก เรียนรู้เร็วนะเนี่ยเด็กชายศศิน”

   เราสองคนหัวเราะพร้อมกัน ชั่วขณะนั้นพลันทุกอย่างหยุดนิ่ง ผมกะพริบตามองศศิน รู้สึกถึงระยะห่างของเราสองคนที่ค่อยๆ หดสั้นลงทีละน้อย ทีละน้อย...

   เสียงเคาะประตูห้องดังแทรกคือลูกน้องผู้แสนภักดีนามว่าพี่โชคนั่นเอง

   ผมกับศศินคล้ายเพิ่งตื่นจากภวังค์ ก่อนจะต่างคนต่างเขินอายแก้มแดงหูแดง ผมกลิ้งไปนอนบนหมอนเหมือนเดิม ส่วนศศินเดินไปเปิดประตู

   อยู่ต่อหน้าลูกน้อง เขาเคร่งขรึมสีหน้าเย็นชา แต่พอปิดประตูแล้วหันมาเห็นผม รอยยิ้มก็ผุดบนหน้า ดวงตาหวานเยิ้มมองอย่างรักใคร่ไม่เคยปิดบัง

   ผมมองตามร่างที่เดินถือถ้วยซุปไก่พลางบ่นว่าร้อนมาก น่าจะยังกินไม่ได้หยิบหนังสือเล่มบางตรงข้างเตียงไปพัดแล้วรู้สึกอยากจะกอดเขาขึ้นมาชอบกล

   “ที่รัก!”

   คิดจบก็ทำเลย จะลีลามากทำไม ศศินที่นั่งหันหลังพัดซุปให้หายร้อนสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆ ผมก็ถลาไปกอดหมับเข้าให้ เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะกุมมือผมที่โอบรอบเอวเขาอย่างแผ่วเบา

   เมาให้โลกลืม พอตื่นมาก็มีคนดูแลเคียงข้าง

   จะมีอะไรสุขใจเท่านี้อีก


   ---------------

   ตอนนี้ตาร้อนผ่าวๆ ไปหมดแล้ว อิจฉานาวา!!! เหม็นความรัก!!

   แม้จะยียวนกวนประสาท โรคจิต มีมุมมืดมุมน่ากลัว แต่ศศินสุภาพบุรุษกับนาวามาตลอด ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนก็ไม่เคยล่วงเกินหรือแตะต้องลวนลามนาวาสักครั้งเดียว น่าชื่นชมใช่มั้ยคะ แต่กับคนที่อดกลั้นอดทนมานานเก่งขนาดนี้เนี่ย...บทได้กินจะเป็นยังไงนะ ฮุฮุฮุ โฮะโฮะโฮะ ฮี่ฮี่ฮี่ ฮ่าฮ่าฮ่า

   หวีดกันต่อได้ที่ #นาวาสไตล์

ขอบคุณทุกคอมเม้นมากๆ ค่า
ปล.เรื่องนี้พี่นทีไม่มีคู่นะคะ


   
ตัวอย่างตอนต่อไป เข้าสู่ช่วงไคลแมกสุดท้ายของเรื่องแล้วค่ะ!   

   “ผมคือนาวา ดาราลัย เป็นคนออกแบบเครื่องประดับทั้งสามชิ้นนี้กับมือแน่นอน ถ้าคุณคิดจะสู้ ก็ให้คนออกแบบของคุณมาแสดงตัว มาคุยกันด้วยหลักฐาน อย่ามาป้ายสีกันด้วยลมปากพล่อยๆ!”


เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 21 :ความสัมพันธ์ที่... [04/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 04-08-2019 21:03:37
โอ๊ย ศศินน่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 21 :ความสัมพันธ์ที่... [04/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-08-2019 21:11:06
 o13
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 21 :ความสัมพันธ์ที่... [04/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-08-2019 21:24:55
ชอบ  หวานใส่กัน  :o8: :-[ :impress2:
มีคนหาญมาต่อกร กับนาวา   :m16:  :a5: o22
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 21 :ความสัมพันธ์ที่... [04/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 04-08-2019 21:36:06
          ตอนนี้ว่าดีว่าฟินในความหวานชนิดรถบรรทุกอ้อย100คันยังอาย
        แต่ตอนหน้าใครค่ะที่กล้าทำนาวาโกรธ ลุ้น!!! :katai4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 21 :ความสัมพันธ์ที่... [04/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 04-08-2019 21:48:25
คนหลงแฟน#นาวา#ศศิน

เมื่อไหร่พระจันทร์จะขย้ำกินกระต่าย..ซะทีๆ
รออ่านใจจดใจจ่อรุย 5555
 :hao6:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 21 :ความสัมพันธ์ที่... [04/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-08-2019 21:49:57
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 21 :ความสัมพันธ์ที่... [04/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 05-08-2019 01:10:45
อย่าแกล้งเด็กชายศศินมากนะ เดี๋ยวหัวใจวายตาย
ป.ล.ขออนุญาตเกลียดเสียงหัวเราะนักเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 21 :ความสัมพันธ์ที่... [04/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Kaamnutt ที่ 05-08-2019 05:40:43
ศศิน น่ารักอ่ะ อยากได้เป็นของตัวเอง
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 21 :ความสัมพันธ์ที่... [04/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: TongRung ที่ 05-08-2019 05:58:33
 :o8: :-[ อิจฉาที่สุดดดดดด
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 21 :ความสัมพันธ์ที่... [04/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-08-2019 08:16:20
นาวาคนแซ่บ555
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 21 :ความสัมพันธ์ที่... [04/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 05-08-2019 09:02:01
 :man1:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 21 :ความสัมพันธ์ที่... [04/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 05-08-2019 10:44:01
ตอนหน้าใครมาใส่ร้ายวาอีกล่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 21 :ความสัมพันธ์ที่... [04/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 05-08-2019 10:54:30
ง่ะ พี่นทีไม่มีคู่เรื่องนี้

แสดงว่าเรื่องหน้าพี่นทีมีคู่เหรอ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 21 :ความสัมพันธ์ที่... [04/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-08-2019 11:31:57
ตอนหน้าศศินจะเป็นเสือแล้ว
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 05-08-2019 20:33:43

   ตอนที่ 22

   ฆ่าได้ฆ่า

   

   ความรักของผมนับว่าเรียบเรื่อยด้วยดี แต่การงานของผมนี่สิ...

   “นี่มันบ้าอะไรวะเนี่ย!”

   ผมตะโกนลั่นขณะจ้องหน้าจอโทรศัพท์ไม่กะพริบ หวังว่าแค่ตาฝาด แต่ไม่ว่าจะตะแคงมองยังไง...นี่ก็คือผลงานของผม คือเครื่องประดับของดาราลัยจิวเวลรี่ที่จะประกาศขายในวันพรุ่งนี้ แต่กลับถูก...บริษัทคู่แข่งตัดหน้าด้วยผลงานที่เหมือนกันราวกับแกะ!

   ใครมันกล้าขโมยผลงานผม!

   ช่างเรื่องตัวการก่อน เพราะตอนนี้โทรศัพท์ของผมมีข้อความเข้ารัวๆ ถึงการเรียกประชุมเร่งด่วน ผมรีบโทรหาพี่โชค ซึ่งปกติแล้วจะนั่งเฝ้าอยู่ล็อบบี้คอนโดฯ เผื่อมีเรื่องเร่งด่วน ก่อนจะรีบนั่งรถบึ่งไปบริษัท เพื่อหาคำตอบว่า...งานของผมไปโผล่ในนามของคนอื่นได้ยังไง!!

   ที่น่าโมโหคือเครื่องประดับชิ้นนี้ยังถูกปรับแก้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดที่ผมเพิ่งประชุมลงความเห็นกันเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วย ตอนนั้นต้องทะเลาะกับฝ่ายช่าง ทะเลาะกับทีมบริหารตั้งนานเนื่องจากใกล้จะถึงวันวางขาย ซึ่งก็เป็นต้นเหตุให้ผมเมาหัวราน้ำจนได้ไปนอนที่ห้องศศิน แต่คุณครับ...ขนาดผมยังทะเลาะกับทีมงานแทบตายกว่าจะได้ตามต้องการ แต่เจ้าบริษัทคู่แข่งก็ยังอุตส่าห์ได้แบบแก้ไขไปด้วย นี่มันยิ่งกว่าวงในแล้ว!!

   ไม่สิ ถ้าเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหาร หนึ่งในทีมงาน ทีมออกแบบ ทีมมาร์เก็ตติ้งที่ต้องรู้รายละเอียดของสินค้าเป็นอย่างดีก็ใช่ว่าจะข้อมูลรั่วไหลไม่ได้ แต่ผู้ต้องสงสัยมีเยอะมาก จะจับมือใครดมได้ล่ะเนี่ย!!

   เพราะนึกอะไรไม่ออก ผมเลยโทรหาฝ่ายรักษาความปลอดภัยให้ช่วยดูกล้องวงจรปิดเพื่อจับคนร้าย แต่พอโดนถามว่าให้ดูวันไหนบ้าง ที่ไหนบ้างก็ไปต่อไม่ถูกเพราะนี่มันสมัยไหนกันแล้ว แค่ขโมยผลงาน...ไม่เห็นต้องหยิบให้เห็นโต้งๆ เลย ในเมื่อแต่ละคนล้วนมีโอกาสเข้าถึงสินค้า แค่เอากล้องถ่าย ทำทีเหมือนคุยงาน แต่จริงๆ แล้วส่งภาพให้ศัตรูก็ทำได้ไม่ยากเย็น

   ผมดึงทึ้งศีรษะตัวเองอย่างทำอะไรไม่ถูก

   “คุณวาครับ นายโทรมา”

   ก่อนจะเงยหน้ารับโทรศัพท์ของพี่โชค เพราะโทรศัพท์ของผมตอนนี้มีคนโทรเข้าสายแทบไหม้

   [ที่รักจ๋า ที่รักรับจ็อบพิเศษด้วยเหรอ]

   “จ็อบพิเศษอะไรล่ะ มันลอกผลงานวาต่างหาก!” ได้ยินคำทักของศศินผมก็ระเบิดลงทันที ต่อด้วยคำด่ายาวเหยียดอีกเป็นชุด เหมือนมีคนมาให้ระบายพอดีเลยจัดหนักจัดเต็ม “ถึงเครื่องประดับที่ปรับเป็นสร้อย เป็นกำไล หรือเข็มขัดได้จะไม่แปลกใหม่อะไร แต่ดีไซน์มันเหมือนกันเป๊ะเลย! เหมือนกระทั่งขนาดของทับทิมที่ประดับบนตาค้างคาว! ศินดูสิ ขนาดทรงฟักทองที่วาออกแบบใหม่ให้ไม่เหมือนใครยังเหมือนเลย! หางแมวที่ม้วนน่ารักน่าชังก็ด้วย! แถมยังใช้กลยุทธ์เหมือนกันอีก! ทั้งเรื่องเปลี่ยนสีอัญมณีได้ คละแบบคละลายได้ มันเกินไปแล้ว! ศินจำได้มั้ย เมื่ออาทิตย์ก่อนวาขอปรับขนาดความยาวก็ยังอุตส่าห์ปรับให้เหมือนกันด้วย ใครมันหักหลังวา!”

   [ทีมช่างรึเปล่า ช่วงนี้ที่รักจ๋าคุยกับทีมช่างเยอะที่สุดไม่ใช่เหรอ]

   “ก็จริง แต่ทีมช่างก้มหน้างุดๆ คอยเจียระไนเพชรทั้งวันจะมารู้เรื่องการโปรโมตได้ยังไง จงใจลงตัดหน้าขนาดนี้แสดงว่าต้องรู้ว่าวากำลังจะขายสินค้าวันพรุ่งนี้! ต่อให้เป็นหัวหน้าช่างยังไม่รู้เลย!! แล้วยังเรื่องราคาอีก วาไม่เคยพูดเรื่องนี้กับฝ่ายช่าง!”

   [เอ...หรือจะเป็นทีมการตลาดน้า]

   ฟังเสียงระรื่นของเขาผมก็ยิ่งปรี๊ด

   “วาก็สงสัยเหมือนกัน แต่ฝ่ายการตลาดก็ได้แค่รูปถ่าย! ไม่เคยเห็นของจริงมาก่อน แล้วเขาจะสามารถสร้างเลียนแบบได้เหมือนเป๊ะทุกระเบียบนิ้วได้ยังไง ไม่มีทาง!!”

   [ฝ่ายทีมออกแบบล่ะ ที่รักสนิทกับทางนั้นมากไม่ใช่เหรอครับ อาจจะเผลอหลุดก็ได้นะ]

   “ศินเห็นวาเป็นคนแบบไหน จะไปหลุดเรื่องแผนโปรโมตกับฝ่ายออกแบบที่วันๆ เจอหน้าเป็นจับกระดาษมาวาดรูปใส่กันน่ะเหรอ ถึงวาจะสนิทกับฝ่ายนี้ที่สุดก็ไม่หลุดปากหรอก! นั่นเป็นช่วงเวลาแสนสุขของวาเลยนะ จะเอาเรื่องปวดหัวของทีมการตลาดมาทำให้เสียอารมณ์ทำไม บ้าบอ!”

   [งั้นทีมบริหารล่ะ ที่รักจ๋าเพิ่งประชุมกันเมื่อวานเองนี่]

   “กับพวกผู้ใหญ่หัวคร่ำครึ ชอบหาว่าวาทำให้ดาราลัยจิวเวลรี่ดูไม่ไฮแฟชั่นน่ะเหรอ...แค่เอาแบบโยนใส่แล้วอธิบายแผนงานทั้งหมดก็ประสาทเสียจะแย่แล้ว พวกนั้นเอาแต่บอกว่าเจาะตลาดให้เข้าถึงวัยรุ่นมากขึ้นนั้นไม่คุ้มทุน สู้ออกแบบให้หรูหราไม่อิงตามงานเทศกาลแต่เน้นที่มูลค่าราคาจะดีกว่า เกลี้ยกล่อมกันจนวินาทีสุดท้าย ขนาดมีลุงสมชิดช่วยวายังแทบจะกัดลิ้นตัวเองตาย แค่ทะเลาะก็เสียเวลาไปหลายชั่วโมงแล้ว พวกรายละเอียดเจาะลึกน่ะแทบไม่ได้พูดถึงเลย!”

   [เอ๊ะ หรือจะเป็นลุงสมชิด]

   “ลุงสมชิดทำงานกับแม่วาตั้งแต่สมัยยังเป็นวัยรุ่น เห็นวาตั้งแต่แรกเกิดจนตัวโตมาขนาดนี้ เป็นคนเก่าคนแก่แถมยังเป็นคนของพี่นทีอีก ต่อให้ลุงสมชิดไม่เห็นชอบกับวา แต่ไม่กล้าหักหลังพี่นทีแน่ๆ อีกอย่างลุงสมชิดไม่เห็นจะได้ประโยชน์เรื่องนี้เลย นอกจากตกงานตอนแก่ ปีนี้ลุงสมชิดอายุหกสิบแล้ว แถมลุงแกไม่มีลูกไม่มีเมีย ไม่เล่นพนัน ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย แทบไม่มีแรงจูงใจอะไรเลย”

   [คิดดีๆ สิครับที่รัก ถ้าไม่ใช่ลุงสมชิดก็ไม่เหลือใครแล้วนะ]

   “จะบ้าเหรอ ไม่ใช่ลุงสมชิด วาบอกแล้วไงว่าไม่ใช่ลุงสมชิด! ถึงก่อนวาจะทำอะไรก็ปรึกษาลุงสมชิดทุกอย่าง แต่ไม่ใช่เขาแน่นอน เพราะนอกจากลุงสมชิดแล้วคนที่คอยดูแลโปรเจ็กต์และช่วยติดต่อกับทุกๆ แผนกก็คือ...”

   [ใครเหรอครับที่รักจ๋า]

   ผมชะงัก...เพิ่งมารู้ตัวหลังสติแตกไปหลายรอบว่าที่แท้...ศศินก็ช่วยผมระบุตัวคนร้ายอยู่

   ทั้งที่ตอนแรกคิดหัวแทบระเบิด จับมือใครดมไม่ได้ แต่พอมานั่งไล่เรียงจากแรงอารมณ์ ซึ่งมาจากจิตใต้สำนึกจริงๆ ไม่มีอย่างอื่นเจือปน เรื่องที่คิดว่ายากก็คล้ายจะง่ายขึ้นมาซะอย่างนั้น

   ตัดทีมช่าง ตัดทีมการตลาด ตัดทีมออกแบบ ตัดทีมผู้บริหาร ตัดลุงสมชิด...

   ก็เหลือความจริงเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!!

   [หัวโล่งขึ้นมั้ยครับ]

   “อืม โล่งขึ้นแล้ว” ผมเอ่ยเสียงอ่อน เพราะน้ำเสียงของศศินนั้นแม้จะน่าโมโห เริงร่าได้ไม่ดูจังหวะเอาซะเลยว่าผมกำลังหัวเสีย แต่ก็เพราะความขี้เล่นของเขาซึ่งชอบเย้าแหย่ให้ผมอาละวาดนั่นแหละที่ทำให้ผมตาสว่าง...

   ใครเลยจะรู้วิธีรับมือนาวาได้ดีเท่าศศิน

   ขนาดตัวผมเองยังขอยอมแพ้

   “โคตรรักนายเลยศิน”

   [อะไรนะที่รัก พูดใหม่อีกทีซิ ขอฉันอัดเสียงก่อน ที่รักจ๋า ที่รัก!]

   ผมวางสาย ก่อนจะเสยผมพร้อมรอยยิ้มมุมปาก ไม่เสียสติจะเป็นจะตายอีก ขนาดตัวไม่อยู่ก็ยังโทรมาช่วยดึงสติผมด้วยประโยคแค่ไม่กี่ประโยค แล้วแบบนี้จะไม่ให้รักเขาได้ยังไง

   กับคนที่ทำผมมากขนาดนี้จะไม่ให้รักตอบได้ยังไง

   




   คนร้ายมีเพียงหนึ่งเดียว

   แต่เพราะไม่มีหลักฐาน แม้จะรู้อยู่แก่ใจ สงสัยอยู่กับอก ผมก็ไม่คิดเปิดโปงให้เหยื่อตื่นตูม

   เหมือนกับที่รู้ว่าตวันลอบคบกับพาฝันลับๆ ก็ไม่เอาหลักฐานมาแฉทั้งคู่ต่อหน้า ค่อยๆ วางกับดักล่ออยู่เบื้องหลัง รอให้พวกเขาติดกับกันเอง โดยที่นาวาคนนี้นั่งไขว่ห้างรอรับชม

   “แกใช่มั้ยที่แอบติดต่อกับบริษัทนั้น!”

   “ผมจะทำไปทำไม หรือว่านายนั่นแหละที่ทำแล้วร้อนตัว คุณนาวาครับ หมอนี่แน่ๆ ผมเคยเห็นเขาซื้อเครื่องประดับของบริษัทนั้น!”

   “ฉันซื้อมาศึกษา! ไม่ได้คิดจะอุดหนุน ถ้าไม่ใช่แก...งั้นก็เธอ เธอนั่นแหละเป็นคนทำ!”

   “อย่ามาโทษฝ่ายการตลาดนะ สินค้าที่ออกมาไม่เกี่ยวกับทางเรา! เรามีหน้าที่แค่คิดแผนโปรโมตเท่านั้น!”

   “เห็นมั้ยล่ะว่าการลองอะไรใหม่ๆ มันลอกเลียนแบบง่ายๆ ถ้าเกิดทำให้เรียบหรู คงคอนเซ็ปต์เดิมของดาราลัยเข้าไว้ ทางนั้นก็คงไม่กล้าเลียนแบบหรอกเพราะเราเน้นเครื่องประดับออกงาน ส่วนบริษัทนั้นเน้นเครื่องประดับใส่ในชีวิตประจำวัน แทนที่จะได้ตีตลาดดึงกลุ่มลูกค้าทางนั้นมา กลายเป็นฝ่ายเราเสียหายกว่าเดิม!”

   เข้าที่ประชุมปุ๊บอารมณ์ที่เริ่มจะดีขึ้นก็พลันคุกรุ่นในทันที ผมนั่งกอดอกอยู่ตรงหัวโต๊ะ รู้สึกเหมือนตกอยู่ในสงครามน้ำลายที่ต่างฝ่ายต่างโทษโยนความผิดกัน แต่ละคนพากันลนลานเสียสติ ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะเมื่อไม่กี่นาทีก่อนผมก็เป็นเหมือนกัน

   “พี่โชค ขอฉาบหน่อย”

   “อะไรนะครับ?”

   “ไปหยิบฉาบที่ใต้ชั้นหนังสือในห้องทำงานให้หน่อย ฉันซื้อไว้เมื่อเดือนก่อน อยากจะใช้มานานแล้วแต่ไม่มีโอกาส”

   พี่โชคทำหน้ามึนๆ เดินจากห้องประชุมที่ยังทะเลาะกันจนคนฟังชักจะปวดหู ผมนวดขมับพลางหันไปยิ้มบางให้เลขาฯ ข้างตัวที่ยืนทำอะไรไม่ถูกอย่างปลอบใจ เลขาฯ คนนี้เคยทำงานกับตวันมาก่อน ค่อนข้างเงียบ ทำงานดี ผมเลยชอบมากและจ้างต่อแม้ตวันจะลาออกไปแล้ว

   ไม่นานพี่โชคก็เดินเข้ามาพร้อมฉาบอันใหญ่ ผมลุกขึ้น ถือมั่นทั้งสองมือ ก่อนจะตีฉาบดังผ่าง!

   เสียงสนั่นสะท้อนก้องไปทั้งห้องประชุม เล่นเอากลุ่มคนที่ถกเถียงกันหน้าดำหน้าแดงกลายเป็นฝ่ายอุดหู แล้วหันมามองผมอย่างตื่นตะลึง

   ไม่คิดว่าจะได้ผลขนาดนี้นะเนี่ย ตอนเห็นผ่านช็อปปิ้งออนไลน์ ผมคิดว่าตลกดี ไม่เคยเห็นคนขายฉาบออนไลน์มาก่อนเลยซื้อเล่นๆ แล้วเอามาเก็บไว้ในห้องทำงานด้วยความคิดพิเรนทร์ว่าถ้ารำคาญพวกผู้บริหารมากๆ ตีฉาบใส่ก็ไม่เลว

   ผมส่งฉาบคืนให้พี่โชค ก่อนจะกระแอมกระไอแก้เก้อแล้วนั่งลงด้วยมาดประธาน

   “ก่อนจะหาว่าใครคือตัวการ ก่อนอื่นเราควรหาแผนรับมือวันพรุ่งนี้ก่อนดีกว่ามั้ยครับทุกคน”

   “จริงสิ สินค้าถูกกระจายไปตามร้านแล้ว ต้องระงับไม่ให้วางขายก่อน!”

   “แสดงว่าจะห้ามโปรโมตเลยใช่มั้ยคะคุณนาวา”

   “แบบนี้ก็เท่ากับว่าเรายอมให้ฝ่ายนั้นขโมยผลงานไปง่ายๆ สิคะ”

   “แถมยังเสียทุนฟรีทั้งหมดอีก ฝ่ายการเงินต้องดิ้นพล่านแน่”

   “ไม่ได้สิไม่ได้! เราต้อง...”

   เมื่อสถานการณ์เริ่มบานปลาย ผมก็หันไปให้สัญญาณพี่โชคตีฉาบอีกครั้งเพราะขี้เกียจลุกแล้ว

   พลันทั้งห้องประชุมกลับมาสู่ความเงียบอีกครั้ง ให้ตาย ผมรักฉาบ!

   “ใครบอกว่าจะระงับการขาย?”

   “คุณนาวาคะ ถ้าเราฝืนดันทุรังจะยิ่งแย่นะคะ!”

   “นี่เป็นแผนโปรโมตที่ยอดเยี่ยมเลยต่างหาก พรุ่งนี้ทำเหมือนเดิม ไม่ต้องระงับการขาย โปรโมตให้เต็มที่! ฉันบอกให้เตรียมรับมือคือตั้งรับเรื่องกระแสข่าวด้านลบต่างหาก จำไว้นะทุกคน ถ้ามีคนนำเครื่องประดับของเราไปเปรียบเทียบ หาว่าไปลอกเลียนแบบอีกบริษัทหนึ่ง ให้ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ใช่ นี่เป็นคอลเล็กชั่นใหม่ที่นาวา ดาราลัยออกแบบเอง”

   “ไม่น่าจะดีนะคะคุณนาวา”

   “ไม่ใช่ไม่น่าจะดี แต่ยอดแย่เลยต่างหาก! คุณสมชิด คุณยกยอว่าลูกชายคุณนายเก่ง ผมก็ยอมรับในฝีมือนะ แต่ให้เด็กมานั่งบริหารมีแต่จะเจ๊งมากกว่า คนคนเดียวถือหุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ คิดว่าจะมีอำนาจสั่งทั้งหมดหรือไง เราไม่ยอมรับ! จะให้เอาชื่อเสียงดาราลัยจิวเวลรี่มาแลกกับเรื่องฉาวๆ พรรค์นี้เหรอ เดินหน้าพุ่งชน? แผนรับมือบ้าบออะไร ระงับการขายเดี๋ยวนี้!”

   “ขอโทษนะครับคุณประจักษ์ ถ้าคุณไม่พอใจ กลัวว่าดาราลัยจิวเวลรี่จะต้องมาเจ๊งในมือผม งั้นขายหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ในมือมั้ยล่ะครับ ผมยินดีแบกรับความเสี่ยงซื้อคืนทั้งหมดเอง” ผมคลี่ยิ้มหวานหยด สมัยก่อนผมกับตวันถือหุ้นคนละยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ ทำให้นายประจักษ์คนนี้มีสิทธิ์มีเสียงในการประชุมรองเป็นอันดับสอง ใครเห็นเป็นต้องเกรงใจ อีกอย่างให้ประจบตวันที่มีข่าวลือว่าเป็นลูกคนใช้ สู้มาประจบนักธุรกิจอนาคตไกลยังดีกว่า เขาเลยมีคนถือหางเยอะ เสียก็แต่หลังผมควบหุ้นรวมเป็นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ใช้นามสกุลดาราลัยเข้ายึดตำแหน่งประธาน ทั้งสิทธิ์ทั้งเสียงของเขาก็ลดฮวบฮาบในบัดดล เอะอะเป็นต้องขัดไว้ก่อน พยายามโจมตีให้ดูแย่

   ทะเลาะกับคนหัวอคติคือศึกที่น่าปวดหัวที่สุดในโลกหล้า!

   “คุณวา...” ลุงสมชิดปราม เขาเป็นคนกลางย่อมลำบากใจ เห็นแก่ลุงสมชิดที่เคยเป็นเลขาฯ แม่ของผมมาก่อน และถือหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ ผมเลยยอมละสายตาจากนายประจักษ์

   “สรุปว่าพรุ่งนี้เราจะโปรโมตสินค้าเหมือนเดิม ไม่สิ เอาให้ยิ่งใหญ่อลังการกลบฝั่งนั้นไปเลย! ไม่ต้องห่วง คนที่จ่ายเงินเดือนก็คือฉันคนนี้! ใครอยากได้โบนัสสิ้นปีก็ฟังคำของฉัน ส่วนผลที่ออกมา ไม่ว่าจะดีหรือแย่ ฉันรับผิดชอบเอง!”

   ไม่ต้องให้ตีฉาบเป็นครั้งที่สาม การประชุมแบบเร่งด่วนก็จบลง

   กล้าท้าชนกับดาราลัยจิวเวลรี่ ผมก็จะไม่ทำให้ฝ่ายนั้นผิดหวัง ชนมาชนกลับ ไม่โกง!!

   





   บางทีผมก็สงสัยตัวเองนะว่าเป็นตัวซวยรึเปล่า ทำไมถึงมีแต่เรื่องชวนใจหายใจคว่ำอยู่เรื่อย

   ตั้งแต่งานแฟชั่นโชว์ที่เกือบล่ม เปลี่ยนตัวประธานกะทันหัน แล้วยังมาเรื่องลอกแบบเครื่องประดับคอลเล็กชั่นล่าสุดของบริษัทคู่แข่งอีกต่างหาก การเปิดตัวด้วยเวลาไล่เลี่ยกันชนิดห่างแค่ยี่สิบสี่ชั่วโมง กับการโปรโมตที่เหมือนกันเด๊ะ เครื่องประดับเหมือนกันเป๊ะ กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโซเชียลว่าใครเลียนแบบใครกันแน่

   ไม่สิ นี่ไม่ใช่การเลียนแบบ แต่เป็นการขโมยผลงาน!

   ผมได้รับการติดต่อจากรายการโทรทัศน์ซึ่งสนใจประเด็นนี้หวังให้คู่กรณีทั้งสองเผชิญหน้ากัน ผมไม่อิดออด ทำไมต้องกลัวด้วยในเมื่อนี่เป็นผลงานของผม

   เรตติ้งวันนั้นสูงสมใจอยาก อย่างน้อยหลายคนก็ต้องจำชื่อของดาราลัยจิวเวลรี่และนายนาวาได้อย่างแน่นอน เพราะผมแบบร่างที่ตัวเองวาดมาเป็นหลักฐาน แต่ทางบริษัทคู่กรณีก็มีหลักฐานเป็นแบบร่างตั้งแต่แรกซึ่งได้รับการปรับแก้มาเรื่อยๆ

   เหมือนกันทุกแผ่น ซึ่งผมไม่แปลกใจ ก่อนจะหยิบแฟ้มอีกใบขึ้นมาเปิด

   “ที่ให้ทุกคนดูเมื่อครู่เป็นแบบร่างที่ผมนำเสนอให้กับที่ประชุมครับ แต่สำหรับคนออกแบบเครื่องประดับย่อมไม่ใช่แค่การตวัดลายเส้นบนกระดาษแล้วเสร็จ ก่อนจะออกมาสรุปเป็นลายแมว ฟักทอง และเจ้าค้างคาวน้อยนั้นผมมีตัวเลือกอีกเยอะมาก และนี่ก็เป็นภาพร่างอื่นๆ ที่ผมคัดออกไป ไม่เคยเปิดเผยให้ใครเห็น”

   มีหลายคนหาว่าผมโง่ เอาหลักฐานมาเปิดที่สถานีโทรทัศน์ทำไม ทำไมไม่เอาไปฟ้องแล้วเปิดโปงที่ศาล แต่โทษที ผมไม่ฟ้อง มันช้าเกินไป แล้วยังไม่นับที่ผมขี้เกียจไปขึ้นศาล อีกอย่างผมก็ไม่ได้อยากได้เงินค่าเสียหายด้วย เพราะสุดท้ายแล้ว...คนที่กล้าขโมยผลงานของผมก็ต้องแพ้ภัยตัวเองอยู่ดี

   ขอตอกหน้าใส่คนทั้งประเทศ แฉมันสดๆ กลางรายการ สะใจกว่าเยอะ!

   ภาพร่างของผมมีทั้งหมดเกือบสองร้อยแผ่น มีตั้งแต่แบบขีดๆ เขียนๆ อย่างไร้คอนเซ็ปต์ เป็นแค่ร่างแบบของตัวสร้อยที่จะนำมาปรับเป็นกำไลยังไงและเปลี่ยนเป็นเข็มขัดด้วยลูกเล่นแบบไหน จากนั้นก็ค่อยๆ เพิ่มลวดลายเข้ามา ตอนแรกผมออกแบบให้ใช้อัญมณีเป็นตัวหลัก เน้นเรียบหรูดูแพง แต่ดันเบื่อก่อน คิดอยากทำอะไรแผลงๆ ประจวบเหมาะกับใกล้วันฮัลโลวีนเลยเริ่มวาดออกมาเป็นตัวการ์ตูนน่ารักๆ

   เริ่มจากค้างคาว ผมวาดค้างคาวทั้งหมดสี่สิบแบบ มีทั้งกางปีก หุบปีก ยกปีกข้างหนึ่ง เอียงหัวทางซ้าย เอียงหัวทางขวา มาที่ฟักทองกันบ้าง อันนี้ผมมีแค่ยี่สิบแบบ ตอนแรกกะจะใส่ตาฟักทอง แต่สุดท้ายก็ไม่ใส่ลงไปเพราะกลัวซ้ำกับแบบอื่น มีทั้งฟักทองโดนกัด ไม่โดนกัด ฟักทองหยึกๆ แบบฮัลโลวีนและอีกมากมาย

   สุดท้ายมาที่ตัวแมว

   แบบแมวมีทั้งหมดเก้าสิบกว่าใบ เพราะผมร่างสนุกมือมาก แค่เฉพาะส่วนหางก็วาดเล่นไปแล้วกว่ายี่สิบแบบ เมื่อโดนผมเอาหลักฐานมาเทกระจายเต็มโต๊ะ ซึ่งยังมีแวมไพร์ ซอมบี้ และผีผ้าคลุมอีกไม่ต่ำกว่าห้าสิบใบ ฝ่ายตัวแทนของบริษัทคู่กรณีก็ถึงกับเบื้อใบ้ไป

   ยัง ยังไม่จบ

   ผมยังนำวิดีโอที่ศศินเป็นคนถ่ายช่วงที่นั่งวาดรูปในร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งด้วย วันนั้นจู่ๆ ผมก็ไอเดียพุ่ง กลัวจะลืมแล้วพูดในที่ประชุมไม่เหมือนเดิมเลยขอให้ศศินเป็นคนช่วยอัดวิดีโอ นั่งเปิดแต่ละภาพแล้วบรรยายอย่างละเอียด วิดีโอมีระบุวันเวลาที่ถ่ายอย่างชัดเจน ไม่สามารถเนรมิตได้ในข้ามคืนแน่นอน

   “คุณเป็นคนขโมยผลงาน รู้อยู่แล้วว่าจะมีวันนี้เลยสร้างหลักฐานปลอมก็ได้”

   ยัง...ยังจะเถียงอีก!

   “ผมคือนาวา ดาราลัย เป็นคนออกแบบเครื่องประดับทั้งสามชิ้นนี้กับมือแน่นอน ถ้าคุณคิดจะสู้ ก็ให้คนออกแบบของคุณมาแสดงตัว มาคุยกันด้วยหลักฐาน อย่ามาป้ายสีกันด้วยลมปากพล่อยๆ!”

   ยกแรกผมชนะอย่างสวยงาม กระแสด้านบวกย้ายกลับมาที่ดาราลัยจิวเวลรี่

   และในเมื่อมียกแรกก็มียกสอง

   ครับ ยกสองผมโดนหมัดฮุคเข้าอย่างจัง

   เพราะหลังจากเรียกร้องให้คนออกแบบของบริษัทคู่กรณีมาแสดงตัว เธอก็เผยโฉมหน้าจริงๆ แถมยังเป็นคนที่ไม่มีใครคาดคิด!

   [สวัสดีค่ะ ฉันพาฝัน เป็นคนออกแบบเครื่องประดับทั้งสามชิ้นซึ่งถูกขโมยผลงานไป]

   นางแบบสาวผู้โดนข่าวฉาวเรื่องมือที่สามจนตกอับในวงการ กลับมาผงาดและเป็นที่พูดถึงอีกครั้งด้วยภาพลักษณ์ของสาวน้อยใบหน้าซูบตอบ ใต้ตาคล้ำ ไร้สง่าราศี บ่งบอกว่าระหว่างที่ตกงานนั้นเธอต้องตกระกำลำบากขนาดไหน

   [ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมฉันถึงออกแบบเครื่องประดับได้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกค่ะ เมื่อปีก่อนงานแฟชั่นโชว์ของดาราลัยจิวเวลรี่ ชุดเครื่องประดับที่ฉันสวมใส่และเดินปิดท้ายงาน...คือเครื่องประดับชุดแรกที่ฉันออกแบบเอง]

   “นังแพศยา!”

   ผมปารีโมตใส่โทรทัศน์อย่างเกรี้ยวกราด พาฝันนะพาฝัน เธอวิ่งแจ้นไปให้คนสัมภาษณ์โดยมีเงื่อนไขว่าต้องมีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ห้ามเชิญใครเป็นอันขาด แถมรายการยังฉายในช่วงค่ำ ช่วงที่มีเรตติ้งดีซะด้วย

   [นั่นเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ฉันโด่งดังในวงการ Real Diamond คือผลงานที่ฉันภูมิใจมากที่สุด นับจากนั้น ฉันก็มีโอกาสได้เข้าไปร่วมเสนอความคิดที่บริษัทดาราลัยจิวเวลรี่หลายครั้ง และหลงรักตวัน...ประธานบริษัทในขณะนั้นอย่างที่ทุกท่านคงทราบกันดี ฉันไม่ขอพูดถึงกรณีมือที่สาม เพราะฉันยอมรับผิดและได้รับบทลงโทษจากการกระทำนั้นแล้ว ซึ่งนั่นทำให้ฉันไม่กล้าแสดงตัวในตอนแรก และอยากขอร้องให้ทุกคนแยกแยะเป็นคนละกรณีกัน เพราะครั้งนี้ฉันมาเรียกร้องความยุติธรรม นาวา ดาราลัยคนนี้...คือคนที่แย่งผลงานของฉัน!]

   พูดจบพาฝันก็น้ำตาร่วงเผาะๆ ออสการ์ปีนี้ต้องให้เธอแล้ว

   [เขาโกรธแค้นที่ฉันแย่งคนรัก เลยแกล้งฉันไม่ให้ขึ้นเดินแบบในโชว์สุดท้ายของปีนี้ ทุกคนคงสงสัยว่าฉันแพ้อาหารได้ยังไง นางแบบที่ใกล้จะขึ้นโชว์ต้องควบคุมอาหารอย่างดี แต่เพราะเป็นอาหารที่คุณนาวาเตรียมให้ ฉันจึงวางใจยอมทาน กลายเป็นว่าฉันแพ้อาหารรุนแรง! โดนส่งเข้าโรงพยาบาล!! และค่ำคืนนั้นคุณนาวาก็ขึ้นเดินแทน ถ้าไม่เตรียมพร้อมไว้ก่อน จะเดินได้อย่างมั่นใจขนาดนั้นเหรอคะ ไม่ว่าใครเมื่อขึ้นโชว์ครั้งแรกก็ต้องตื่นเวทีทั้งนั้น แต่เขาทำได้สมบูรณ์แบบ มันเป็นไปได้เหรอคะที่ทุกอย่างจะบังเอิญขนาดนั้น]

   “กล้าพูดได้ยังไง...กล้าพูดออกมาได้ยังไง!” ผมอาละวาดจนขว้างปาข้าวของเพื่อระบายอารมณ์พลุ่งพล่าน ถ้าไม่ติดว่าพาฝันอยู่ในโทรทัศน์ ผมคงพุ่งเข้าไปบีบคอเธอ

   [แต่ฉันไม่โทษเขาหรอกค่ะ ฉันบอกแล้วว่ายอมรับผิด จึงไม่เคยพูดเรื่องนี้มาก่อน แต่ที่ฉันต้องพูด! เพราะอยากให้รู้ว่านาวาผูกใจเจ็บกับฉันมานานแล้ว เครื่องประดับสุดท้ายที่ขึ้นโชว์ เขาก็ปรับเปลี่ยนใหม่ ทั้งที่ฉันเคยออกแบบไว้อีกอย่างหนึ่ง]

   พาฝันกางแบบเครื่องประดับที่โดนผมโละทิ้ง

   [นี่คงพิสูจน์แล้วว่าฉันเองก็ออกแบบเครื่องประดับเป็น และมีประสบการณ์มากพอจนเคยขึ้นโชว์เมื่อปีก่อน หลังจากถูกแบนจากวงการ ฉันก็ลำบากมาก ฉันถูกทิ้ง ไม่เหลือใคร...แต่แล้ววันหนึ่ง...ตวันก็กลับมา เขาเลิกกับนาวาแล้ว และบอกจะดูแลฉันอย่างดี] เธอเผยยิ้มอย่างดีใจที่สุดในชีวิต แถมยังนำโทรศัพท์มาเปิดให้ดูว่าทุกอย่างที่เธอพูดนั้นเป็นความจริง ภาพของคู่รักซึ่งดูแลรักใคร่ เพราะตวันคิดว่าเธอท้องนั้น มองยังไงก็ดูเหมาะสม

   คราวนี้เสียงเริ่มแตกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกคือรอชมว่าใครเป็นผู้ออกแบบแท้จริงกันแน่ ซึ่งเริ่มเอนเอียงไปทางพาฝัน ส่วนเสียงที่สองคือฝ่ายที่ตามมาตั้งแต่ข่าวมือที่สาม เมื่อรู้ว่าสุดท้ายชู้รักทั้งสองกลับมาคบกันอีกครั้ง ก็ไม่พอใจจนด่าทอสาดเสียเทเสีย

   [ฉันเริ่มมีแรงบันดาลใจออกแบบเครื่องประดับช่วงนั้นค่ะ แต่ฉันไม่กล้าทำเครื่องประดับออกงานเลี้ยงอย่างที่ดาราลัยจิวเวลรี่เคยทำ จึงเลือกออกแบบเครื่องประดับที่ใช้งานง่าย มีลวดลายน่ารัก ซึ่งฉันเองก็มีภาพร่างทั้งหมดเหมือนกันค่ะ]

   พาฝันนำหลักฐานซึ่งเป็นภาพร่างเกือบสองร้อยใบมาวางแผ่ตรงหน้า เตรียมการขนาดผูกเรื่องราวได้น่าคล้อยตามขนาดนี้ จะวาดภาพมาข่มผมเพิ่มอีกสักหน่อย ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ

   [จุดหักเหคือฉันกับตวันเราไปกันไม่รอด เพราะตวันยังคงรักมั่นในตัวคนรักเก่า สุดท้ายเขาก็กลับไปงอนง้อขอคืนดีกัน ซึ่งฉันคิดว่า...คุณนาวาคงจะยังแค้นฉันอยู่ เลยขอให้ตวันช่วยขโมยผลงาน สำหรับคนที่เมามายในรักอย่างฉัน ทั้งที่รู้ว่าผิด ก็ยังจะทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อตวันมาขอ ฉันก็ให้โดยไม่คิดอะไรสักนิดเดียว]

   พาฝันร้องไห้อีกครั้ง ปานคนช้ำรักโดนหลอกน่าสงสาร

   [ขอแค่เขาติดต่อมาหาก็มีความสุขจะแย่แล้ว ฉันเล่าให้ตวันฟังว่าลองยื่นแบบเครื่องประดับชุดนี้ให้บริษัทหนึ่ง และก็ได้รับโอกาส ตวันชื่นชมฉัน ดีใจกับฉัน เมื่อเขาขอดูแบบที่แก้ใหม่ ฉันก็ให้เขาดูไม่ปิดบังเพราะอยากได้รับคำชมสักนิดก็ยังดี...]

   คราวนี้กระแสเริ่มแตกอีกครั้ง จากด่าพาฝันว่าเป็นหญิงชั่ว ก็เริ่มเห็นใจว่าแท้จริงแล้วเธออาจจะโดนหลอก พาฝันเป็นเด็กต่างจังหวัดที่มาตามหาความฝันในกรุงเทพฯ มีความสามารถแต่แทบไม่มีโอกาส เมื่อได้รับโอกาสจากตวัน จะตกหลุมรักก็ไม่แปลก

   ทั้งที่รู้ว่าผิดก็ยังทำ ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่รักก็ยังยอมให้โดนหลอก

   ผมโกรธจนตัวสั่น โทรศัพท์ดังครืดคราด คงเป็นศศินไม่ก็ตวันที่ทราบข่าวแล้ว

   พลิกลิ้นเก่งจริงๆ พาฝัน! สมแล้วที่เคยชมเธอว่าไม่โง่ แต่ความฉลาดนั้นไม่เคยใช้ในทางที่ถูก ดันมาจองล้างจองผลาญผมไม่จบสิ้นสักที!!

   ใครกันแน่ที่เกลียดขี้หน้ากัน ผมหรือพาฝัน ใครกันแน่ที่วางแผนกลั่นแกล้ง ผมหรือพาฝัน ไม่เจอกันหลายเดือน อัพเลเวลขึ้นจมเชียวนะ ขนาดตวันก็ไม่เห็นหัวกันแล้ว

   หรือเพราะตวันมองเมินเธอเหมือนไร้ตัวตนก่อน พาฝันเลยเจ็บแค้นใจเอาคืนบ้าง

   ดูสิ ถ้าคบกับศศินแล้วอันตราย ผมว่าคบกับพาฝัน เด็กต่างจังหวัดที่ดูไม่มีพิษมีภัยยังอันตรายกว่าหลายเท่า!

   สิ่งที่คาดเดายากที่สุดคือใจคน

   เธอเดินหมากตานี้ก็นับว่าฆ่าได้ฆ่า ไม่ผมก็เธอต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายกันไปข้าง!!


   ------------------

   พาฝันอีสรีเทิร์นค่ะ

   ครั้งนี้กลับมาแบบไม่ธรรมดาด้วย นาวาเองก็มีจุดเดือดเหมือนกัน ครั้งนี้รับประกันว่าไม่ปล่อยไปง่ายๆ อีกแล้วค่ะ มาฟาดกันเลยด้วยจิวเวลรี่แบบเด็ดๆ ยกนี้ใครจะแพ้ จะมีพลิกกลับ หักมุม น็อคเอ้าหรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไป!!!

   ปล.เราชอบตอนนาวาเอาฉาบมาตีมาก ถ้าเราเป็นหนึ่งในคนร่วมประชุมเจอคนก็อปงานว่าเหวอแล้ว เจอนาวาตีฉาบเข้าไป...เหวอกว่าค่ะ!! 5555555555

   #นาวาสไตล์

   

   ตัวอย่างตอนต่อไป น้องจะแก้เกมส์อย่างไรนั้นนนน
   “จะได้ผลเหรอคะคุณนาวา”
   “พวกคุณแค่ทำตามคำสั่งก็พอ”


เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: lonesomeness ที่ 05-08-2019 21:08:36
นังพาฝันนนนนน โอ้ยมันร้ายมาก
ขอเดาว่าบุคคลต้องสงสัย คนที่ขโมยไปคือคุณเลขาใช่มั้ยคะ!
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 05-08-2019 21:17:30
 :hao7: :hao7:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 05-08-2019 21:18:22
มันส์มาก
นาวาจะแก้เกมส์ยังไง ลุ้นต่อ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-08-2019 21:39:37
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-08-2019 21:53:23
ต้องเอาให้สาสม
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-08-2019 22:32:07
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 05-08-2019 23:36:55
อยากจะกรี้ดดังๆ พาฝันนนนนน ไปฝันไกลๆไป รำคาญจริงๆ//ขอโทษค่ะ อินจัดดด
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: TongRung ที่ 05-08-2019 23:48:14
 :z6: นังพาฝัน ต้องโดนนาวาซักดอกแล้วสิ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 06-08-2019 00:44:19
อ่านตอนนี้บอกเลยว่าจะไปซื้อฉาบมาใช้5555
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 06-08-2019 07:57:30
พี่นทีฉันไท่มีบท
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 06-08-2019 08:45:07
โอ้ย เด็ดอ่ะเป็นเรื่องที่มันส์ในการเอาคืนแบบนายเอกใช้สมองได้แซ่บสุด สู้ๆนะน้องวา
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 06-08-2019 09:26:35
          ขอตอนต่อไปเลยค่ะไม่ไหวจะรอแล้ว
ใครสนใจดักตีหัวพาฝันบ้างค่ะ
สนใจมารวมทางนี้ค่ะlol.  :katai1:
น่าเสียดายความสามารถนางนะพาฝัน
ใช้ผิดเรื่อง ผิดที่ตลอด แทนที่จะแก้ไข
รอโอกาสเพื่อกลับมาแต่นางคือตัวละครที่อ่านไปเกลียดไป :katai3:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 06-08-2019 11:01:02
 :z6:
 :m16:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 06-08-2019 11:31:28
อินี่ก็วอนหาเรื่องไม่เลิกเนอะ สงสัยคราวนี้ต้องจัดให้หนักแล้วล่ะนาวา :angry2: :beat: :z6:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 06-08-2019 13:26:34
เอาให้ตายไปเลยยัยพาฝันนี่ เอาให้ไม่ได้ผุดได้เกิดไปเลยนะวา
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Chakaimook ที่ 06-08-2019 18:59:40
ศศินมาหาวาโดยด่วนนน องค์ลงแล้วจ้าาา55555  :laugh:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-08-2019 21:07:54
นาวา จัดการนางพาฝันสลาย ให้ดิ้นไม่หลุดเลย แถ.....ดีนัก  :z6: :fire: :angry2:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Kaamnutt ที่ 06-08-2019 21:31:33
ลุ้นๆๆ รอดัก .... ค่ะ ทีมนาวา  อินจัด55555
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 06-08-2019 22:49:40
งานนี้เอาให้ตายเลยนะ อย่าให้พาฝันรอดไปได้อีก
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 22 : ฆ่าได้ฆ่า [05/08/62] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 07-08-2019 11:27:07
 :z6: อย่าให้อีฝันตายดีนะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 07-08-2019 18:43:44
   
ตอนที่ 23

   ทิ้งไพ่ตาย

   

   เพราะประกาศกร้าวเองว่าพร้อมน้อมรับผลที่ตามมา สายตาของคนในบริษัทที่โคตรจะทิ่มแทงกันนั้นเลยไม่ทำให้ผมสะทกสะท้านสักนิด ซึ่งส่วนใหญ่คงจะเชื่อทางพาฝัน เพราะการปรากฏตัวของตวัน...ทั้งที่ไม่ควรจะมีหน้าเข้ามาในบริษัทนี้นั้น...ค่อนข้างตรงกับคำบอกเล่าของพาฝันได้ดีเยี่ยมทีเดียว

   ผมเริ่มคิดแล้วว่าคนที่เป็นตัวซวยอาจเป็นตวันมากกว่า ไม่ใช่ผม!

   “จะเอายังไงต่อดีคะคุณนาวา...”

   “ก็ไม่ยังไง ขายต่อไปสิ ยอดก็ยังดีไม่ใช่เหรอ”

   ต้องขอบคุณวิดีโอทำให้เมื่อเทียบกันจริงๆ ผมมีหลักฐานแน่นกว่าพาฝัน แต่ด้วยปากคนที่ชอบเรื่องซุบซิบนินทา ไม่อยากให้เรื่องจบง่ายเกินไป เลยพากันสนใจคำบอกเล่าของพาฝันมากกว่า ผลตอบแทนที่ได้รับจากข่าวฉาวคือมีลูกค้ากลุ่มใหม่รู้จักดาราลัยจิวเวลรี่มากขึ้น ด้วยราคาของคอลเล็กชั่นใหม่ที่ไม่ได้สูงมากเกินเอื้อมจึงทำให้มียอดสั่งซื้อต่อเนื่อง

   หลายคนพูดไม่ออก ต่างรู้กันว่ายอดดีแค่ครั้งนี้ แลกกับชื่อเสียงในอนาคต

   โคตรไม่คุ้ม!

   การประชุมวันนี้ไม่มีอะไรคืบหน้า เมื่อใกล้เที่ยงศศินก็มารับผมไปทานข้าว ก่อนจะพาไปเถลไถลเพราะรู้ว่าผมยังไม่อยากเข้าบริษัท

   “พาวามาที่ไหนเนี่ย”

   “ค่ายมวย” ศศินยิ้มกริ่ม ก่อนจะจับมือผมเข้าไปในค่ายมวยที่มีนักมวยฝึกซ้อมกันอยู่ และนั่นทำให้ผมรู้ว่าแม้ข่าวภายนอกจะโด่งดังจนแทบทุกคนรู้จักชื่อของนาวาและพาฝัน แต่ที่ค่ายมวยแห่งนี้นั้นแทบไม่สนใจข่าวพรรค์นี้ ทุกคนมองผมแล้วก็ผ่านเลยไป นับเป็นสถานที่ดีๆ ที่ไม่เคยคิดมาก่อน

   “เอาเลยที่รักจ๋า ต่อยมาเลย!”

   ศศินคงติดต่อกับเจ้าของค่ายไว้ก่อนแล้ว เมื่อเดินไปมุมหนึ่งเลยมีกระสอบทรายแขวนไว้พร้อมใช้ ศศินช่วยสวมนวมให้ผม ก่อนจะตีกระสอบทรายปุๆ เป็นเชิงให้ผมจัดการมันจนสิ้นซาก!

   อารมณ์ที่อัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อคืนวานพร้อมปะทุทันที ผมทั้งเตะทั้งต่อยไม่ยั้ง คิดซะว่าเจ้ากระสอบทรายนี้เป็นพาฝัน ไอ้เรารึเคยหวังดี ให้เธอกับตวันคืนดีกัน คนที่ทำลายครอบครัวแสนอบอุ่นก็คือเจ้าของคำโกหกนั้นไม่ใช่ผมสักหน่อย! แล้วถือดีอะไรมาเอาคืนเจ็บแสบขนาดนี้ ถือดีอะไร ยัยผู้หญิงบ้า!!

   ผ่านไปแค่ห้านาที ผมก็เริ่มหอบ มือที่ต่อยคล้ายไร้เรี่ยวแรง ขาที่เตะปักๆ ก็ยกไม่ขึ้น นี่ละนะคนไม่ค่อยออกกำลังกาย พอเงยหน้าขึ้นก็เพิ่งเห็นว่าศศินกำลังกลั้นขำ ในมือถือโทรศัพท์ถ่ายตั้งแต่ต้นจนจบ

   “ศศิน!”

   แค่นึกว่าเมื่อกี้ตัวเองทุเรศขนาดไหน ผมก็กระโจนประเคนหมัดให้ศศินทันที คนเจ้าเล่ห์แสนยียวนวิ่งวนรอบๆ กระสอบทราย หลบหลีกไม่ยากเย็นแถมยังหันกล้องถ่ายวิดีโอต่ออีกต่างหาก ผมวิ่งไล่เขาเหมือนวัวตกมัน แต่ผ่านไปอีกห้านาทีก็ยืนหอบแฮกขยับตัวไม่ไหวแล้ว

   “ที่รักจ๋า แบตหมดแล้วเหรอ” ศศินจิ้มแขนผมดูเชิง เลยโดนแยกเขี้ยวใส่ “น่ารัก เอ๊ย น่ากลัวจังเลย แยกเขี้ยวจนกลัวตัวสั่นแล้วครับเนี่ย”

   “ไอ้บ้าศศิน!” ผมคิดจะวิ่งไล่เขาอีกครั้ง แต่ก็หมดแรงจนลงไปนั่งแปะกับพื้น ส่งสายตาค้อนให้อย่างหงุดหงิด ผลคือศศินหัวเราะลั่น ก่อนจะทิ้งตัวนั่งข้างกัน ช่วยเกลี่ยผมชื้นเหงื่อทัดหูให้ “ไม่ต้องมาแตะเลย”

   “โธ่ งอนเหรอครับที่รัก” ศศินยิ้มกว้างชอบใจ “เหงื่อออกเยอะขนาดนี้ระวังไม่สบายนะ ไปอาบน้ำเถอะ ที่นี่มีห้องอาบน้ำด้วย แต่ไม่มีน้ำอุ่นนะครับ”

   “แต่วาไม่มีเสื้อเปลี่ยน” ผมมองชุดตัวเก่งของตัวเองที่โชกเหงื่อก็เบ้ปาก น้ำอุ่นน้ำเย็นไม่ใช่ปัญหาแล้ว

   “งั้นที่รักใส่เสื้อวอร์มของที่นี่ไปก่อนเนอะ”

   แค่เห็นเสื้อวอร์มซึ่งปักชื่อค่ายมวยอย่างไม่แฟชั่นเอาซะเลยผมก็ส่ายหน้าว่องไว

   “แล้วเดี๋ยวศินคนนี้จะพาที่รักจ๋าไปช็อปปิ้งนะครับ”

   ข้อเสนอนี้ค่อยน่าฟังหน่อย ผมยื่นมือให้ศศินช่วยถอดนวม ก่อนจะโบกแขนไปมาให้เขาช่วยฉุดขึ้น

   ศศินยิ้มร่า ออกแรงนิดเดียวตัวผมก็แทบจะปลิวไปแปะกับเขาแล้ว พอได้ออกกำลังกาย อาบน้ำเย็น ผมก็เริ่มอารมณ์ดี ก่อนจะเพิ่งสังเกตว่าการใส่เสื้อวอร์มโคตรเชยและหมวกปักชื่อค่ายมวยนั้น...ทำให้คนอื่นจำผมไม่ได้เมื่อไปช็อปปิ้งในห้างดัง

   ผมเงยมองศศิน คิดไม่ถึงว่าเขาจะใส่ใจรายละเอียดมากขนาดนี้

   “อะไรครับ ที่รักจ๋าอยากได้อะไรเหรอ”

   “เปล่า” ผมมองมือที่เกาะกุมกันอย่างคุ้นชินแล้วบีบแน่นขึ้น ซึมซาบความอบอุ่นใส่ใจที่แม้ไม่พูด แต่แสดงให้เห็นด้วยวิธีประหลาด ต้องยั่วให้ผมด่าสักยกสองยกทุกที

   เป็นไอ้โรคจิต

   ไม่สิ เป็นคนรักที่โรคจิต...ที่มักอยู่เคียงข้างในยามที่ต้องการได้ดีที่สุดในโลกเลย

   




   เห็นเงียบๆ แต่ผมไม่ได้นั่งเฉยๆ นะครับ

   ถึงการออกตัวของพาฝันจะทำให้ผิดคาดมากก็ตาม แต่แผนจับหัวขโมยในบริษัทนั้น...ยังราบรื่น

   ไม่แน่ใจว่าทุกคนยังจำได้รึเปล่าว่าผมคิดจะทำเข็มกลัดลายพระจันทร์ออกหลังจากช่วงฮัลโลวีนเป็นวันลอยกระทงด้วย โปรเจ็กต์นี้เล็กกว่าและไม่ได้มีรายละเอียดเยอะเท่าเลยไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงนัก แต่ความจริงแล้วยังทำมาตลอดซึ่งก็ได้เวลาที่ต้องเปิดตัวเร็วกว่ากำหนดเพื่อกลบกระแสข่าว

   “จะได้ผลเหรอคะคุณนาวา”

   ในที่ประชุมผมยังคงโดนมองอย่างคลางแคลงใจ เพราะในสายตาพนักงานทั้งหลายคงแทบไม่มีความเชื่อมั่นในตัวประธานบริษัทคนนี้แล้ว

   ยิ่งเวลาผ่านไปคำด่าสงสัยก็ยิ่งทบทวี

   “พวกคุณแค่ทำตามคำสั่งก็พอ”

   เมื่อมาถึงขั้นจะทำอะไรก็ติดขัดตะกุกตะกักไปหมด ผมก็เล่นบทโหดซะเลย

   พนักงานหลายคนซ่อนความไม่พอใจไว้ แต่เพื่อเงินเดือนและโบนัสสิ้นปีจึงยอมทำงานต่อไป

   และเมื่อมีคนถามเรื่องตวัน ผมก็โยนความผิดให้ตวันว่าเป็นคนขโมยงานให้พาฝันเป็นการจบปัญหา โทษทีนะตวัน แต่ทั้งหมดเริ่มเพราะความนอกใจของนายทั้งนั้น ยอมบากหน้ารับผิดไปซะเถอะ!

   ผมติดต่อตวันน้อยลง แม้เขาจะโทรหาสายแทบไหม้ก็ตาม เมื่อมาที่บริษัทก็โดนขวางไว้หน้าประตู โดนพนักงานเขม่นใส่พร้อมเพรียงว่านี่เองคือตัวการ ตวันงุนงงมาก ส่งข้อความมาว่า ‘ผมไม่ได้ทำนะ วา เชื่อผมสิ!’

   แหงอยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ทำ ทั้งเรื่องขโมยงานพาฝันให้ผมและเรื่องขโมยงานผมให้พาฝัน

   เพื่อไม่ให้เขาอาการทรุดหนักจนไปพบจิตแพทย์อีกครั้ง ผมจึงส่งข้อความไปว่าเชื่อ แต่ทางที่ดีที่สุดเราอย่ามาพบกันสักพักจะดีกว่า

   ตวันจึงถูกกันออกจากเรื่องราวสุดชุลมุนไปอย่างมึนๆ เช่นนี้

   ตัดปัญหาเรื่องตวันได้ ความคืบหน้าของเครื่องประดับชิ้นใหม่ก็ทำให้ทุกคนเริ่มมีความหวัง แต่ละคนร่วมแรงร่วมใจกัน หวังกอบกู้สถานการณ์นี้ให้จงได้!

   แต่แล้ว...ทุกอย่างก็พลิกกลับตาลปัตร!!

   คราวนี้ไม่ทันได้กลับบ้านด้วยซ้ำ ระหว่างที่กำลังประชุมงานเตรียมจะเปิดขายสินค้าวันพรุ่งนี้ พนักงานคนหนึ่งก็ขออนุญาตเข้ามาในห้องประชุม พร้อมโทรศัพท์ที่เปิดหน้าร้านของบริษัทคู่แข่ง

   ...ว่าเขาลงขายตัดหน้าหนึ่งวันอีกครั้ง!!

   ทุกคนในห้องช็อกค้างทันที มองผมอย่างไม่เข้าใจ ตวันก็โดนเตะโด่งไปแล้ว ทำไมยังโดนขโมยผลงานอีก จะบอกว่าโดนพร้อมกับคอลเล็กชั่นก่อนหน้านี้ก็ไม่ถูก เพราะเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ผมเพิ่งจะเรียกให้ทีมช่างแก้แบบให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันปัญหานี้

   ผมใจเย็นมาก เรียกให้พนักงานคนนั้นส่งโทรศัพท์ให้ดู เพราะเวลาเข้าประชุมผมจะปิดโทรศัพท์เสมอ และเมื่อเห็นเข็มกลัดจันทร์เต็มดวงที่ฉลุลายน่ารัก ผมก็หัวเราะลั่น!

   “คะ...คุณนาวา”

   ทุกคนช็อกหนักกว่าเดิม คิดว่าผมเสียสติ

   ไม่ ผมไม่ได้เสียสติ แต่ดีใจที่แผนการลุล่วงต่างหาก!!

   “พรุ่งนี้เตรียมเปิดขายทันที”

   “นาวา! ครั้งนี้ฉันไม่ยอมแล้วนะ นายจะทำลายดาราลัยจิวเวลรี่ไปถึงไหน” ประจักษ์คัดค้านคนแรกตามเคย ผมเลยอนุญาตให้ทุกคนในห้องประชุมเปิดโทรศัพท์เพื่อดูลายเข็มกลัดนั้นชัดๆ

   ตอนแรกทุกคนยังไม่เข้าใจ แต่เมื่อผมอธิบายอย่างใจเย็น สายตาที่มองมาอย่างคลางแคลงก็เปลี่ยนไป

   “นี่มัน...”

   “เชื่อฉัน เปิดขายพรุ่งนี้ แล้วเราจะเห็นอะไรสนุกๆ กัน!”

   




   ข่าวเก่าไม่ทันซา การขโมยผลงานครั้งใหม่ก็มาให้ตามขุดอีกครั้ง

   คราวนี้ผมได้รับเชิญให้ออกรายการเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือครั้งนี้พาฝันมาด้วย เธอคงจะได้รับการต้อนรับอย่างดีเลยสินะ จากสาวน้อยซูบผอมเมื่อสองสัปดาห์ก่อน กลายเป็นหญิงสาวใบหน้าเปล่งปลั่ง พร้อมออกโทรทัศน์หวังมีแมวมองมาทาบทามทันที

   “ใครจะเป็นคนพูดก่อนดีครับ” พิธีกรเอ่ยถาม ลังเลระหว่างเราสองคนที่ส่งสายตาฟาดฟันกัน

   “เลดี้เฟิร์สเลยครับ” ผมผายมือให้พาฝัน แทบกลั้นยิ้มไม่อยู่

   ในเมื่อได้ออกโทรทัศน์คู่กับผม เธอย่อมเตรียมการบ้านมาพรั่งพร้อม ข้ออ้างเดิมๆ ถูกหยิบยกมาอีกครั้ง พร้อมด้วยภาพร่างหลายร้อยใบที่ตอนนี้แทบไม่นับว่าเป็นหลักฐาน เพราะแค่ขีดเขียนลงกระดาษ ใครๆ ก็ทำได้

   ครั้งแรกก็จบอย่างคลุมเครือแบบนี้

   แต่ครั้งนี้จะไม่เป็นแบบเดิม!

   “จบรึยังครับ”

   “จะ...จบแล้วค่ะ” พาฝันชะงักเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงยิ้มกริ่มไม่หยุด

   “ไม่มีอะไรเพิ่มเติมจริงๆ นะครับ” ผมถามย้ำ ซึ่งพาฝันเองก็พยักหน้าอย่างงุนงงแกมระแวง “ถ้างั้น...ทุกคนครับ โปรดดูให้ดี ลวดลายในเข็มกลัดของดาราลัยจิวเวลรี่และของอีกบริษัทนั้นไม่เหมือนกัน!”

   ผมหยิบตัวอย่างทั้งสองชิ้นมาเทียบ แวบแรกอาจมองไม่ออก แต่ถ้าสังเกตดีๆ...จะพบความแตกต่าง

   เข็มกลัดเงินแท้ทรงพระจันทร์เต็มดวงหรือวงกลมฝังเพชร ด้านในฉลุลายรูปแมวนอนหลับพริ้มน่ารัก รอบๆ แมวเป็นเกลียวคลื่นม้วนตัวแลอบอุ่นอ่อนโยน ประเด็นคือตรงเกลียวคลื่นที่เหมือนวาดขึ้นมาตามอารมณ์นี้เส้นสายที่ปัดพาดอย่างสะเปะสะปะ...แท้จริงแล้วผ่านการจัดวางอย่างดิบดี

   “หากให้ซูมกับตัวเข็มกลัดเองอาจจะมองยากหน่อยเพราะรายละเอียดมันเล็กมาก ถ้างั้น...ขอยืมภาพร่างของคุณพาฝันหน่อยนะครับ” ไม่พูดเปล่า ผมก็หยิบภาพร่างตัวต้นแบบของเธอมาวางกางบนโต๊ะ ก่อนจะหยิบปากกาขึ้นมาเขียนทับบนรอยคลื่นซึ่งใช้ดินสอเขียน “จริงๆ แล้วคลื่นรอบตัวแมวไม่ใช่ว่าผมวาดเล่นหรอกนะ แต่เป็นตัวอักษรที่ผมจงใจใส่เข้าไปให้เป็นลูกเล่นจับผิดคนขี้ขโมยน่ะครับ”

   ผมกลั้วหัวเราะ เมื่อเขียนทับจนออกมาเป็นตัวอักษรสองคำ ก็หันกระดาษแผ่นในให้กล้องถ่ายชัดๆ

   เผยออกมาเป็นคำว่า

   ‘Pafun Asshole (พาฝันคนโง่)’

   ทั้งห้องเงียบกริบในทันดล

   “เพื่อหลอกขโมย เมื่อสองสัปดาห์ก่อนตอนเพิ่งเกิดเรื่องผมเลยแก้แบบใส่ตัวอักษรชุดนี้ลงไป โดยของดาราลัยจะไม่มีข้อความนี้ ในเมื่อของทั้งสองชิ้นแตกต่างกัน โดยที่คนอ้างว่าออกแบบเองและกล่าวหาว่าผมขี้ขโมยยังดูไม่ออก แถมฝั่งของตัวเองยังใส่ข้อความบอกว่าตัวเองโง่เง่าด้วย ทุกคนครับ ผมว่านี่คือหลักฐานที่ชัดเจนที่สุด คิดเห็นอย่างไรแล้วแต่ทุกท่านจะพิจารณา!”

   พูดจบผมก็เดินออกจากห้องส่งอย่างไม่สนใจอะไรอีก ต่อให้โดนเรียกก็ไม่หัน เพราะผมพูดในสิ่งที่อยากพูดทั้งหมดแล้วและไม่อยากฟังคำแก้ตัวจากพาฝันด้วย หลักฐานชัดคาตาขนาดนี้จะแถว่าอยากด่าตัวเองเล่นๆ ก็ไม่ใช่มั้ง

   แก้ต่างความบริสุทธิ์ของดาราลัยจิวเวลรี่ได้หมดจด

   สะใจจริงๆ โว้ย!


   เมื่อผมเดินไปลานจอดรถ รถคันหนึ่งก็จอดเทียบอย่างรอคอยอยู่แล้ว และเมื่อผมเปิดประตูเข้าไปนั่ง ศศินก็โบกโทรศัพท์ที่มีการถ่ายทอดสดภาพในห้องส่งว่าพาฝันเองก็เดินหนีเพราะไม่กล้าสู้หน้าคนอื่น

   ต่างก็แต่ผมเดินออกมาอย่างผู้ชนะ ส่วนพาฝันคือผู้แพ้

   ถ้าเธอไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น ยึดติดผมกับตวัน แล้วใช้ความสามารถนั้นในโอกาสที่ได้ร่วมงานกับอีกบริษัทอย่างเหมาะสมก็คงดีกว่านี้ เอ...แต่พาฝันก็ไม่ได้เก่งกาจ ถึงขนาดสามารถวาดภาพจากความว่างเปล่าได้ซะด้วยนี่สิ เธอเก่งแต่วาดเลียนแบบ ไม่ก็ต่อยอดจากของเดิมต่างหาก

   ช่างเรื่องพาฝันก่อน เพราะบนอกเสื้อของศศินตอนนี้...มีเข็มกลัดซึ่งเป็นประเด็นอย่างมากในโซเชียลติดอยู่

   “ถ้าเข็มกลัดอันนั้นไว้เปิดโปงขโมย แล้วอันนี้ล่ะครับ ที่รักจ๋าคงไม่แค่วาดคลื่นเฉยๆ หรอกใช่มั้ย”

   รู้ใจผมดีนัก

   รู้ดีจนน่าหมั่นไส้ จนต้องยื่นมือไปหยิกแก้มที่ยิ้มแป้นแล้นนั้นระบายความเขิน

   “เรื่องอะไรวาต้องตอบด้วย ดูเอาเองสิ”

   ใช่ เรื่องอะไรจะต้องตอบ ในเมื่อเข็มกลัดที่ผมออกแบบจนวางขายทั่วประเทศนั้น...ถ้าสังเกตดีๆ และลากเส้นให้ถูกต้อง จะเห็นคำว่า

   ‘Moonny My Love’

   มูนนี่ของที่รัก...

   พระจันทร์...ที่ผมรัก


------------------   

   นาวาลากพาฝันมาตบที่กลางสี่แยกเรียบร้อยค่ะ!!!
   แถมยังด่าโง่กลางรายการอีก ไม่เด็ดจริงทำไม่ได้นะคะ แบบนี้พาฝันไม่เหวอไม่ได้แล้ว ไปก็อปเขามาไม่พอ ดันก็อปคำด่าตัวเองมาอีก เหมือนทำเองด่าตัวเองประจานเอง สมน้ำหน้า 5555555
   แต่นอกจากสมน้ำหน้าพาฝัน...ในที่สุดตอนนี้นาวาก็สารภาพรักกับศศินค่ะ...ผ่านเข็มกลัด
   ศศินจะรู้ตัวหรือไม่นั้น...อืม...จากเซนส์ด้านความงามติดลบแล้ว...อืม...น่าจะต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะรู้ตัวนะคะ!! โธ่ศศิน คำที่อยากฟังอยู่ใกล้แค่เอื้อม ติดอยู่บนอกดันไม่รู้ตัว น่าสงสารเขานะคะ 5555

   #นาวาสไตล์
   ตัวอย่างตอนต่อไป ใครคือหนอนบ่อนไส้??
   "ฉันอยากรู้ว่าทำไมนายถึงร่วมมือกับพาฝัน นายไม่น่าจะโง่ขนาดนั้นนะ”


เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-08-2019 19:39:12
กระทืบซ้ำ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-08-2019 21:44:31
ใครคือหนอนบ่อนไส้หว่าาา
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 07-08-2019 21:45:49
ใครขโมยแบบนะ?
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-08-2019 21:47:07
แอบสงสัย "ประจักษ์" จริง  :m16: :serius2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: lcortsess ที่ 07-08-2019 22:17:21
อ่าว อ่าว อ่าววววววว :katai1: :katai1: อยากอ่านถึงตอนจบเลยยยยย ไม่ขอลุ้นแล้ววว
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 07-08-2019 22:29:26
 o13

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: TongRung ที่ 07-08-2019 23:09:57
 o13 ดีงามพระรามเก้า
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 07-08-2019 23:15:10
ใครคือขโมยละทีนี้,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 08-08-2019 00:11:54
ใครกันเป็นหนอน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 08-08-2019 01:48:20
สะใจ :laugh: รายต่อไปหนอนบ่อนไส้ :z6:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 08-08-2019 04:02:44
คิดว่าเป็นคุณเลขา
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 08-08-2019 11:17:39
ชอบเรื่องนี้มาก แต่ไม่ชอบ สปอยท้ายเรื่อง

ซึ่งคนอ่านเรื่องจนจบก็รู้เรื่องแล้ว คนเขียนไม่จำเป็นต้องสรุปอีกครั้ง

และเกริ่นตอนต่อไป ทำให้คนอ่านไม่ต้องคิดเลยว่าตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร

แต่อย่างไรก็ขอบคุณคนเขียนที่นำเรื่องสนุก ๆ มาให้อ่าน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 08-08-2019 12:38:07
ประจักษ์เหรอ ขโมยแบบ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 08-08-2019 14:29:37
           พาฝัน...จริงๆอยากอ่านมากกว่านี้อยากรู้นางตะเอาไงจะแบกหน้ายังไง
           มารอจับขโมยค่ะ จับได้ ตีให้ตายเลยค่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Kaamnutt ที่ 08-08-2019 18:45:42
นาวาเก่งมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 23 : ทิ้งไพ่ตาย [07/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 08-08-2019 19:43:56
 :m16:  อิหน้าโง่ตัวไหนคือหนอนบ่อนไส้ จัดมันให้ยับไปเลย​
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 08-08-2019 20:16:39
ตอนที่ 24

จับขโมย

 

ออกจากสถานีโทรทัศน์ ศศินก็ไปส่งผมที่บริษัท ก่อนจะหาร้านกาแฟนั่งรอ พวกเราสองคนไม่ก้าวก่ายงานของกันและกัน แค่รับรู้ไว้ในใจและช่วยสนับสนุนยามที่อีกฝ่ายต้องการ

ฉะนั้นในห้องประธานตอนนี้เลยมีแค่ผมกับพี่โชคซึ่งมาเป็นเสาประดับ ไม่ออกความเห็นใดๆ และ...

เลขาฯ ส่วนตัวของผมเอง

นอกจากลุงสมชิด พี่โชค และศศินที่ผมเล่าทุกอย่างให้ฟังก็มีแค่เลขาฯ ที่คอยเดินตามผมต้อยๆ ช่วยประสานงานกับทุกแผนกเท่านั้นที่จะรู้รายละเอียดทั้งหมดได้ชัดเจนแจ่มแจ้งที่สุด แถมยังถือภาพร่างไว้กับตัว นึกอยากจะถ่ายรูปส่งให้พาฝันตอนไหนก็ทำได้ ให้ถูกคือแทบทุกคนในบริษัทที่เคยเข้าประชุมกับผมล้วนได้รับเอกสารก๊อปปี้ภาพร่างไว้กับตัวอยู่แล้วคนละหนึ่งใบ

จริงๆ แล้วก็ไม่ปักใจเต็มร้อยหรอก เพราะอย่างนั้น...เลยต้องคิดวิธีเอาคืนทั้งพาฝันและหัวขโมย เรียกว่า...ลากให้เขาเป็นคนเผยหลักฐานเอง!

“บอกเหตุผลที่จะทำให้ฉันเมตตานายสิ”

ตอนแรกเลขาฯ คนนี้พยายามปฏิเสธ แต่พอผมเล่าแผนทั้งหมดว่าตั้งใจจะหลอกทุกคนแต่ต้นด้วยการจัดประชุมว่าจะแก้แบบ โดยให้แต่ละฝ่ายได้ภาพคนละใบ มองผ่านๆ คล้ายกันแต่ถ้าเป็นคนวาดภาพที่ใส่ตัวอักษรแฝง เพียงปรายตาก็รู้ทันทีว่าไม่เหมือนกัน

ฝ่ายช่างได้ภาพที่มีตัวอักษร ‘Moonny My Love’

ฝ่ายการตลาดได้ภาพที่มีตัวอักษร ‘Pafun Stupid’

ฝ่ายทีมออกแบบได้ภาพที่มีตัวอักษร ‘Dumb Pafun’

และคุณเลขาฯ ซึ่งผมให้ภาพร่างหลักกับเขาไว้คอยถือเทียบโดยเฉพาะก็คือคำว่า ‘Pafun Asshole’

และเมื่อหวยมาออกที่ประโยคสุดท้ายก็เท่ากับชี้ตัวคนร้ายโดยปริยาย!

“ผม...”

เลขาฯ คาดไม่ถึงว่าจะโดนซ้อนแผนชนิดดิ้นไม่หลุดขนาดนี้ แหม ผมเป็นคนใจดีนะ เห็นแก่ที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งเลยให้โอกาสสารภาพเพื่อจะได้ให้เขาลาออกเอง แต่ถ้าไม่เขาก็จะโดนไล่ออก

ระหว่างลาออกเองกับโดนไล่ออกเพราะขโมยผลงานมันต่างกันนะครับ

ผมให้โอกาสตวัน ให้โอกาสพาฝัน ให้โอกาสเลขาฯ คนนี้ ดูซิว่านาวาแสนดีขนาดไหน

“ผมรู้จักกับพาฝันตั้งแต่เด็ก เราเป็น...เพื่อนบ้านกันครับ” เลขาฯ เล่าอย่างจนตรอก เขาอายุมากกว่าผมสามปีเท่ากับว่าอายุมากกว่าพาฝันถึงห้าปี “เราไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้วจนเมื่อปีก่อน...พาฝันมาแคสงานเป็นนางแบบของดาราลัยจิวเวลรี่ ถึงได้เจอกันโดยบังเอิญ”

ผมนั่งประสานมือกับตักเงียบๆ อย่างตั้งใจฟัง

“ผมจำเธอได้แต่แรกเห็น พอเธอแคสงานไม่ผ่านเลยปลอบโยน และทำให้รู้ว่าเธอหนีออกจากบ้าน เพราะนอกจากทางบ้านจะไม่ยอมให้เรียนต่อ ยังบังคับให้เธอแต่งงานกับตาแก่คราวพ่อ หวังขายลูกสาวกิน พาฝันจึงมาเสี่ยงหางานทำที่กรุงเทพฯ แต่เพราะไม่มีวุฒิ ไม่มีประสบการณ์จึงอยู่อย่างลำบาก จนกระทั่งมีแมวมองให้เธอลองแคสงาน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นการเป็นนางแบบ แต่อาจเพราะหน้าตาที่ไม่ใช่พิมพ์นิยมจึงโดนปฏิเสธบ่อยครั้ง”

เลขาฯ ถอนหายใจเฮือก

“ผมนึกสงสารจึงลองคุยกับท่านประธาน ผมหมายถึง...คุณตวัน ให้ลองพิจารณาเธออีกครั้ง ซึ่งพาฝันก็พยายามทำเต็มที่ แต่เธอไม่ได้เดินแบบเก่งกว่าคนอื่น ไม่ได้สะสวยไปกว่าคนอื่น เมื่อคุณตวันไม่สนใจ ผมเลยเสนอความเห็น...ให้เธอลองพูดเรื่องแฟชั่นโชว์”

ที่แท้...ก็มีเบื้องลึกเบื้องหลังคอยช่วยพาฝันอีกต่ออยู่นี่เอง!

“ผมทำงานกับบริษัทนี้ร่วมหกปี มีประสบการณ์และพอมีไอเดียในใจอยู่แล้ว แต่นี่เป็นผลงานพิสูจน์ตัวของคุณตวัน ผมจึงไม่คิดจะยื่นมือเข้าสอด แต่เพราะพาฝัน...สุดท้ายผมก็ให้พาฝันพูดกับคุณตวัน แก้ไขโชว์ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น จนทั้งคู่ได้ร่วมงานกันและประสบความสำเร็จ”

ผมนึกภาพพาฝันในความทรงจำ เธอเมื่อหนึ่งปีก่อน ยามเดินแบบบนเวที โดดเด่นมุ่งมั่น เข้มแข็งอย่างงดงาม ชวนให้ใครหลายคนเห็นพากันหลงใหล แต่ความโด่งดังของเธอนั้น...ไม่ได้มาจากตัวเธอคนเดียว

“ผมขอโทษครับคุณนาวา คนที่ทำให้พาฝันกับคุณตวันติดต่อกันจนกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ควรเกิด แถมยังปิดมิดชิดไม่ให้คนในบริษัทรู้ก็คือผมเอง”

“เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ช่างเถอะ เล่าต่อสิ” ผมโบกมือปัดๆ จะมาหยุดเล่าอะไรตอนช่วงพีคเนี่ย!

“ครับๆ หลังร่วมงานกันทั้งคู่ก็ติดต่อกันบ่อยขึ้น นัดพบกันบ่อยขึ้น ก่อนจะเริ่มห่างเหินกันเมื่อคุณนาวาเข้ามาในบริษัทนี้...”

“ช่วงนั้นข้ามไปเถอะ ฉันอยากรู้ว่าทำไมนายถึงร่วมมือกับพาฝัน นายไม่น่าจะโง่ขนาดนั้นนะ”

“ผม...แอบชอบเธอครับ” แล้วความจริงก็ถูกประกาศ

ผมเบิกตากว้าง มองเลขาฯ ที่ก้มหน้างุดๆ

จะว่าไป...เพราะแอบชอบจึงจำพาฝันได้ตั้งแต่แรกเห็น เพราะแอบชอบจึงเข้าไปปลอบ แถมยังช่วยเหลือออกหน้า เพราะแอบชอบจึงยอมส่งเธอถึงฝั่งฝัน และเพราะแอบชอบจึงเก็บงำความรักของพาฝันและตวันไว้...

ความรักชอบที่ยอมเป็นมือเป็นเท้า ไม่หวังให้ได้รักแต่หวังให้เธอมีความรักที่สมหวัง แม้จะดูโง่เง่าแค่ไหน แต่สำหรับผมที่มีคนบ้าโรคจิตอยู่คนหนึ่ง...ก็ไม่กล้าที่จะประณามการกระทำนี้ด้วยรู้ดีว่าเจ้าตัวได้ตัดสินใจแล้ว

ไม่ใช่แค่อารมณ์เผลอไผล แต่คิดและตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนจึงเลือกที่จะทำ

“โอเค ฉันเข้าใจความรู้สึกนายแล้ว แต่ต่อให้รักชอบพาฝันแค่ไหน ก็ไม่น่าจะถึงกับทำผิดจรรยาบรรณ เอาผลงานของดาราลัยจิวเวลรี่ให้เธอแอบอ้างว่าเป็นผลงานของตัวเองมั้ย ถ้าถูกจับได้ขึ้นมาคนที่ซวยก็คือนายด้วยนะ”

“เพราะพาฝันบอกว่าคุณนาวาจ้างนักเลงไปทำร้ายเธอ...”

ผมกลอกตา ใครจ้างคนไปทำร้ายใครกันแน่นะ ขออีกทีซิ

“คุณตวันหลอกให้ความรักว่าจะคบกัน แล้วก็ทิ้งเธอไป ส่วนคุณนาวาก็เจ็บแค้นใจจนส่งคนมาทำร้ายเธอ ผม...ตอนเห็นพาฝันร้องไห้น่าสงสาร ไม่มีทางไป กลับบ้านก็ไม่ได้ หางานทำก็ไม่มีคนรับ ก็...หน้ามืดชั่วขณะ”

“ชั่วขณะหรือหน้ามืดยาวๆ เอาให้ดี”

“เพราะพอทำตามคำขอร้องของเธอ...พาฝันก็ดีใจมาก บอกชอบผม บอกรักผม บอกว่าจะอยู่กับผม ก็เลย...หน้ามืดนานไปหน่อยครับ” เลขาฯ ก้มหน้ายอมรับผิดแต่โดยดี “แต่ตอนนี้ผมตาสว่างแล้ว พาฝันเพิ่งบอกเลิกผมเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เธอหาว่าผมร่วมมือกับคุณนาวาจงใจป้ายสีเธอ”

เลขาฯ หัวเราะแห้งๆ คล้ายรู้ดีอยู่แล้วว่าต้องพบจุดจบแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็แอบหวัง...ว่าพาฝันจะมีใจให้สักนิด หรืออย่างน้อยก็ไม่ดูแคลนน้ำใจหาว่าเขาเป็นฝ่ายทรยศหักหลังทั้งที่ไม่เคยคิดจะทำ

ความรักหนอความรัก

ผมยอมรับว่าสิ่งที่พาฝันเจอตอนเด็กนั้นโหดร้าย แต่ถึงโลกจะโหดร้าย เธอก็ไม่ควรทำตัวเหมือนทุกสิ่งที่เจอนั้นช่างเลวร้ายโดยไม่ดูการกระทำของตัวเองว่ายอดแย่ไม่ต่างกัน

แย่งแฟนคนอื่น โกหกว่าท้อง หลอกใช้ผู้ชายอีกคน แถมขโมยแอบอ้างผลงานผมอีก

แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าโดนรังแก โธ่ แม่คุณเอ๊ย กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมสนองมั้ย!

“ขอบคุณสำหรับคำตอบ พร้อมเมื่อไหร่ก็ไปเขียนใบลาออกแล้วกัน”

“ขอบคุณครับ”

ลับหลังเลขาฯ ที่เดินออกไป พี่โชคก็ช่วยเปิดหน้าต่างให้มีลมพัดเย็นสบายเข้ามา

“ผมโทรรายงานนายนะครับ” เรื่องบางเรื่องแม้ผมไม่บอก พี่โชคคนดีก็พร้อมจะเล่าให้เจ้านายฟังอย่างภักดียิ่งกว่านามสกุลของตวันซะอีก

“แล้วบอกด้วยล่ะว่าเย็นนี้ฉันอยากกินเมนูไข่ๆ ของเขา”

“ครับ คุณวา”





 

หลังหายไปเกือบเดือนตามคำขอของผม ตวันก็กลับมาจนได้

กลับมาโดยไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยว่าทุกคนวุ่นวายกันแค่ไหนเพราะการนอกใจของเขาที่ส่งผลลากยาวมาถึงตอนนี้

 

‘วา พรุ่งนี้ผมจะไปต่างประเทศแล้วนะ ผมอยากเจอคุณ’


 

ข้ออ้างนี้ไม่ไปก็ไม่ได้ซะด้วยสิ ผมยื่นหน้าจอที่มีข้อความของตวันให้ศศินอ่านเป็นเชิงขอความเห็นระหว่างที่นั่งข้างกันในร้านอาหารแห่งหนึ่งในตอนเที่ยงซึ่งมีลมเย็นพัดผ่านเพราะอยู่ในช่วงหน้าหนาวของประเทศไทย...ที่ก็ไม่ค่อยจะหนาวสักเท่าไหร่

“อ้อ พรุ่งนี้แล้วเหรอ” ศศินหัวเราะหึๆ อย่างชอบอกชอบใจ “งั้นก็ไปเถอะที่รักจ๋า ฉันใจกว้างเสมอ”

ใจกว้าง? อยากจะขำให้ฟันหัก!

“ตวันบอกว่าอยากเจอศินด้วยแน่ะ”

“หืม? ก็ได้ ถือซะว่าเจอหน้ากันครั้งสุดท้ายก่อนลาจาก”

เอ่อ...ตวันแค่ไปเรียนต่อ ไม่ได้ไปตาย!


-----------------------

ตอนนี้สั้นหน่อยนะคะ เพราะว่าต้องตัดตอนไปเจอตวันวันพรุ่งนี้...การเจอกันครั้งสุดท้ายของแฟนเก่าและแฟนใหม่(?)จะเป็นอย่างไร!

บอกเลยว่า...ไม่ธรรมดา!!!

ปล.เห็นหลายคนเดาได้ว่าเป็นคุณเลขา เลยขอขยายความเรื่องของพาฝันค่ะ

พ่อแม่บังคับให้ลูกแต่งงานกับคนรวยนี่เรื่องจริงไม่อิงนิยายนะคะบอกเลย...เราเจอกับตัวจากเพื่อนสมัยมหาลัยคนหนึ่ง หลังเรียนจบปุ๊บแต่งงานปั๊บกับผู้ชายอายุเท่าแม่แท้ๆ ของตัวเอง สาเหตุคือเมื่อก่อนผู้ชายคนนี้ช่วยอุปถัมภ์คุณแม่ของน้องเขา แม่เลยบังคับให้ลูกไปแต่งงานเพื่อ 'ทดแทนบุญคุณมารดา'

...ขอย้ำว่าเรื่องจริงค่ะ ตอนเจอเราเหวอมาก หน้างี้เลย =0="

สำหรับพาฝัน...เธอเป็นเด็กสาวที่ใจกล้า และมีชะตาอาภัพ เธอถูกแม่บังคับให้แต่งงานกับผู้ชายคราวพ่อและเลือกจะหนีมา ด้วยรูปร่างหน้าตาทำให้เธอมีโอกาสทำงานนางแบบ แต่ก็เพราะด้วยสีผิวทำให้มีโอกาสไม่มากเท่านางแบบคนอื่นๆ แฟชั่นโชว์ของดาราลัยจิวเวลรี่คือโอกาสสุดท้าย...ทำให้พาฝันทุ่มหมดหน้าตักเพื่องานนี้ค่ะ

สถานการณ์ของพาฝันในตอนนั้นคล้ายกับตวันที่ต้องกู้หน้าท่ามกลางคำดูถูกของคนในบริษัทให้ได้ ถ้าเขาทำไม่ได้ ต่อให้มีหุ้นที่นาวาโอนให้ก็ไม่มีใครนับถือเชื่อฟังอยู่ดี การเจอกันของสองคนนี้เลยชักพาให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ถูกไม่ควร สำหรับพาฝัน ตวันคือผู้ชายที่เข้าใจเธอ ( ความกดดันด้านการงาน) เห็นใจเธอ ( โดนดูถูก) และพึ่งพาได้ (มีฐานะมั่นคงสนับสนุนด้านการงาน ) อีกทั้งตวันมีนิสัยอบอุ่น คล้อยตามง่าย ดูแลดี จึงไม่แปลกที่เธอจะรัก

แต่ความใจกล้าของพาฝันก็มักทำให้เธอใช้วิธีผิดๆ เพื่อบรรลุจุดประสงค์ เธอคิดว่าตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ น่าสงสาร จึงพยายามไขว่คว้าโดยไม่สนวิธี ตั้งแต่แอบหลอกใช้คนที่เคยรักเธอ เป็นชู้กับตวัน และจองล้างจองผลาญนาวา

ทั้งที่ด้วยความสามารถของพาฝันถ้าทนพยายามมากอีกสักนิด แม้อาจจะใช้เวลานานสักหน่อย แต่เชื่อเลยว่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยากค่ะ

#นาวาสไตล์


เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-08-2019 20:23:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 08-08-2019 20:46:41
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Kaamnutt ที่ 08-08-2019 20:50:35
นาวาสุดยอด :z2:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 08-08-2019 21:19:13
ถึงพาฝันจะชีวิตรันทดยังไงจำเป็นต้องโกหก หลอกใช้คนอื่น ทำเรื่องไม่ดีแบบนี้หรา เลือกทำเองทั้งนั้นฉะนั้นก็ต้องพร้อมรับผลที่จะตามมา
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 08-08-2019 21:19:58
          ต่อให้ชีวิตเราแย่แค่ไหน ผ่านอะไรมาแค่ไหน
ก็ใช่ว่าจะเป็นข้ออ้างในการจะเอาเปรียบคนอื่นได้
เช่นพาฝันที่สุดท้ายไขว่คว้าในสิ่งที่ต้องการจนลืมว่าวิธีการที่ให้มันเห็นแก่ตัว
       เป็นการจับขโมยที่ใช้สมองมากนาวา
หลายซับหลายซ้อน เก่งกว่านาวาก็ไอน์สไตน์แล้ว :กอด1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 08-08-2019 22:17:02
 :z6: สงสารไม่ลงหรอก​ ทำตัเองทั้งนั้น​ แค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 08-08-2019 22:34:14
พี่นทีฉันอยู่ใหน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 08-08-2019 23:14:17
รอจ้าา
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-08-2019 23:20:50
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-08-2019 23:28:21
พอมีความรักเข้าแล้ว..........  ความรักก็ทำให้ตาบอด........  :เฮ้อ: o22
สมองก็กลวง.........   :serius2:
จิตวิญญานก็หาย........  หายไปในอากาศ.......
พอตกงาน คราวนี้พาฝันคงเคียงข้างคุณเลขาแน่เลย
เพราะ.........รักคุณเลขาไง  :m20: :laugh: :pigha2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 08-08-2019 23:37:42
ความรักหนอความรัก,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 08-08-2019 23:49:09
พาฝัน จบแล้ว ? แค่นี้เลย ?
ไม่ทำให้เป็นนิยายหน่อยเหรอ แบบมีผลของการกระทำมาเล่าสู่กันฟังบ้าง คนรอเผือกแบบเราค่อนข้างขัดใจเล็กๆ  :ruready
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-08-2019 01:03:08
อยากรุ้จุดจบของพาฝัน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-08-2019 01:13:41
 :katai2-1:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 09-08-2019 09:44:13
ความรักทำให้คนตาบอดจริง ๆ ซินะถึงได้ยอมทำผิดแบบนี้ น่าเสียดายหน้าที่การงานดี ๆ
ต้องมาดับเพราะคนเลว ๆ อย่างยัยพาฝันจริงๆ แล้วก็เหวอจริง ๆ ที่ยัยพาฝันบอกว่าวาจ้างคนมาทำร้าย
อยากให้เอาคลิปให้ดูจริง ๆ ว่าเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่จะได้รู้เช่นเห็นชาติกันไปเลย
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 09-08-2019 11:49:29
อ่านแล้วอย่างติดดด  :hao7:
รอออออ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 24 : จับขโมย [08/08/62] P.11
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 09-08-2019 13:15:05
 :a5: ขอจุดจบอิยัยพาฝันร้าย​แบบหนักหน่วงหน่อยนะ​  :z13:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 25 : ในที่สุดเราก็... [09/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 09-08-2019 20:34:19



   ตอนที่ 25

   ในที่สุดเราก็...

   

   การเจอหน้ากันของแฟนเก่าและว่าที่แฟนใหม่คือภาพประวัติศาสตร์ที่ควรเก็บเป็นที่ระทึก

   ตวันยิ้มเจื่อน ส่วนศศินยิ้มแห้งเมื่อผมจับพวกเขาสองคนถ่ายรูปข้างกัน เพราะศศินไม่ยอมให้ตวันถ่ายคู่กับผม งั้นพวกเขาถ่ายกันเองแล้วกัน จบนะ!

   “ไปเรียนต่อแค่สองปี ไม่เห็นต้องทำเหมือนจะไม่ได้เจอกันตลอดชีวิตเลยนี่” ผมยักไหล่กับตวันเมื่อเขาแทบจะลบภาพคู่กับศศินทิ้งทันที

   “ผมกะจะหางานต่อที่ต่างประเทศเลยน่ะ” ตวันสารภาพ “ถ้าอยู่ที่นี่ก็คงตัดใจไม่ได้สักที”

   ผมเหลือบมองศศินโดยอัตโนมัติ เห็นคนรักยิ้มเย็นยะเยือกจนบรรยากาศลดต่ำ เหมือนมีพายุหิมะโหมกระหน่ำ

   “อ้อเหรอ อยากเจอฉันเพราะจะบอกว่ายังตัดใจจากที่รักไม่ได้หรอกเหรอ”

   ผมเหยียบเท้าศศิน เจ้าตัวเลยยอมเก็บรังสีลงไปหน่อยหนึ่ง

   เกือบลืมเล่า พวกเรานัดเจอกันที่ร้านอาหารนะครับ ตวันบินพรุ่งนี้เช้าซึ่งผมติดเข้าประชุมเลยตกลงกันว่ามาเจอกันช่วงเย็นเลยดีกว่า จะได้รีบเจอ รีบแยกย้าย...

   อย่าคิดว่าผมไร้เยื่อใยกับคนรักเก่าและเพื่อนสมัยเด็กขนาดนี้ ดูหน้าศศินก่อน ไปถามคนขี้หวงโน่น!

   “ผมแค่อยากคุยให้แน่ใจว่าคุณจะดูแลวาอย่างดี”

   “อ้อ ฉันดูแลได้ดีกว่าใครบางคนแถวนี้แน่นอน”

   “อ่ะแฮ่ม” ผมกระแอมกระไอ นึกสงสัยว่าตัวเองมาเป็นส่วนเกินอะไรตรงนี้

   “ผมขอฝากวาด้วย”

   “ฝากได้แต่ไม่ให้คืนนะ”

   “อ่ะแฮ่ม!”

   “ที่รักจ๋าเจ็บคอเหรอจ๊ะ มามะ ดื่มโกโก้อุ่นๆ นะ” ศศินรีบหันมาประจบเอาใจผมทันที ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าชวนหาเรื่องมาก เพราะผมเห็นจนชินแล้วเลยยังยั้งมือไม้ตัวเองทัน แต่สำหรับตวันคงจะมือกระตุกน่าดู

   “ตวัน ไหนตอนแรกบอกว่าต้องเตรียมตัวเป็นปี แล้วทำไมถึงไปเร็วขนาดนี้ล่ะ”

   “ผมคิดว่าไปเรียนภาษาที่นู่นเลยน่าจะเร็วกว่านะ แล้วก็ไม่อยาก...เป็นตัวต้นเหตุให้เกิดเรื่องวุ่นวายกับวาอีกด้วย”

   สรุปแล้วการกระทำของพาฝันคือตัวกระตุ้นชั้นดีให้แฟนเก่าของผมละอายใจและอยากเริ่มต้นใหม่โดยสลัดเรื่องฉาวๆ ทิ้งสินะ อืม...ผมเองก็เบื่อกับเรื่องราวรักสามเส้าที่ใครคนหนึ่งไม่ยอมยุติสักทีเหมือนกัน

   ถ้าตวันไม่อยู่ นอกจากเขาจะตัดใจจากผมได้ พาฝันก็คงเลิกคิดอะไรบ้าๆ ด้วย

   เมื่อคุยกันเข้าใจ ไม่มีอะไรติดค้าง มื้อนั้นผมก็ยอมให้ตวันเป็นคนเลี้ยงขอโทษแม้ตอนแรกตั้งใจจะเป็นเจ้าภาพเองเพราะถึงศศินจะเปย์ให้ผมตลอด แต่ให้จ่ายส่วนของตวันด้วยคงไม่ยุติธรรมกับเขาเท่าไหร่

   ถ้าไม่เพราะอยากเมาจริงๆ ผมก็ไม่คิดแตะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยมีแต่สองหนุ่มนั่นแหละที่ดูจะบันเทิงเป็นพิเศษ คนหนึ่งก็ดื่มย้อมใจ กังวลว่าไปอยู่ต่างประเทศจะรอดมั้ย อีกคนก็ดื่มข่มขวัญ หวงก้าง กลัวถ่านไฟเก่าจะคุ

   ผมกินน้อยเหมือนแมวดม ไม่ทันไรก็วางช้อนแล้วหันไปสั่งของหวาน ปล่อยให้ศศินกับตวันดื่มไปกินไปเต็มที่ แม้ทั้งคู่จะเอาแต่จ้องตากัน มีอะไรอยากจะพูดแต่ไม่กล้าพูดเพราะเกรงใจผมก็ตาม

   ถ้าอ่านจากสายตาตวันคือ ‘ถ้าฉันไม่ทำผิดกับวาก่อน อย่าหวังเลยว่าแกจะมีวันนี้!’

   ศศินจ้องกลับอย่างเชือดเฉือนกวนโอ๊ย ‘เสียใจไปตลอดชีวิตเถอะไอ้เวร สมน้ำหน้า!’

   อา...ความเงียบสงบที่มีกระแสไฟฟ้าเปรี้ยงๆ กลางอากาศคืออะไรกันนะ ผมเหม่อมองฟ้า คิดในใจว่าโกโก้ช่างอร่อยจริงๆ

   แล้วมื้ออาหารก็จบลง ได้เวลาแยกจากสมใจอยากศศิน ที่ถึงแม้จะหวงผมมากแค่ไหน แต่เมื่อเดินออกมาหน้าร้านเขาก็แตะไหล่เบาๆ ก่อนจะหลบไปอีกทางที่ถึงไม่ไกลมาก แต่ก็ไม่ใกล้เกินจนได้ยินอะไรต่อมิอะไร

   “เขาทำอะไร” ตวันมองศศินอย่างงุนงง

   “เขาให้เราคุยกันส่วนตัวน่ะ” ผมยักไหล่ ชินกับศศินที่โคตรจะรู้ใจยิ่งกว่าพยาธิในท้อง “เพราะต่อหน้าศิน นายคงไม่กล้าพูดความในใจกับฉันใช่มั้ยล่ะ เราอาจจะไม่ได้เจอกันแล้ว มีอะไรก็พูดมาตรงๆ เถอะ”

   “วา...” ตวันมองผม อึกอักเล็กน้อยเหมือนไม่มั่นใจว่าควรจะพูดดีหรือเปล่า

   “นายไม่พูดงั้นฉันพูดก่อนแล้วกัน ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ตั้งแต่เด็กจนโตฉันไม่ได้ทำดีกับนายเพราะสงสาร แต่ฉันทำเพราะเห็นนายเป็นเพื่อนจริงๆ ฉันไม่เคยมีปัญหากับชาติกำเนิดของนาย ถึงจะฟังดูน่าหมั่นไส้เพราะคนพูดดันมีทุกอย่างพร้อมจนไม่เคยต้องขวนขวาย แต่ฉันก็อยากให้รู้ไว้ว่าแม้คนทั้งโลกจะคิดดูถูกนาย แต่ฉัน...นาวาคนนี้ ไม่เคยคิดทำแบบนั้นสักครั้งเดียว”

   ตอนแรกก็คิดอยู่หรอกนะว่าควรพูดรึเปล่า จะยิ่งกวนน้ำให้ขุ่นมั้ย แต่เมื่อตวันตัดสินใจว่าอาจจะไม่กลับมา แล้วผมก็ไม่ได้มีงานอดิเรกชอบนั่งเครื่องบินไปไหนมาไหน ขอนอนตีพุงอยู่ห้องดีกว่า ก็เลยเลือกที่สบายใจดีกว่ามาเสียใจทีหลัง

   “ผมรู้...ผมผิดเองวา” ตวันน้ำตาซึม จับมือผมกึ่งขอโทษ “เพราะผม...”

   “วา!”

   เสียงตะโกนของศศินดังลั่น เรียกให้ผมหันไปมองและเห็นว่าเขากระโจนมาหาผมด้วยความรวดเร็วจนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งเราสองคนล้มกระแทกพื้น โดยศศินช่วยเอามือรองศีรษะและใช้แผ่นหลังช่วยกำบัง เสียงปืนที่ดังไล่เกือบจะติดๆ กันก็ทำให้ผมรู้ว่าทำไมเขาถึงลนลานขนาดนี้

   ปัง!

   ผมกอดศศินแน่น ใจหายวาบ แม้คิดว่าเขาไวขนาดนี้ กระโจนพาผมล้มลงก่อนเสียงปืนจะดังซะอีก ยังไงก็คงยิงไม่โดน แต่ความห่วงใยที่ท่วมท้นก็ทำให้ผมผวากอดเขา ปัดป่ายมือจนมั่นใจว่าไม่บาดเจ็บตรงไหนค่อยมีแก่ใจชะโงกหน้าดูเหตุการณ์

   ตอนแรกผมก็นึกว่ามีคนร้ายหนีตำรวจก่อเหตุกลางถนนซะอีก

   ปรากฏว่าคนถือปืนก็คือพาฝันเจ้าเก่าเจ้าเดิม ยังไม่ยอมปล่อยพวกเราสักที!

   “ตวัน!!” เธอกรีดร้องลั่น แทบจะเสียสติ หมายจะตะเกียกตะกายมาทางผม แต่ก็โดนพี่โชคกับพี่ชัยเข้ามารวบตัวไว้ก่อน และนั่นก็ทำให้ผมเพิ่งเห็นว่าห่างจากผมและศศินที่นอนกอดกันมีร่างหนึ่งนอนโชกเลือดอย่างน่ากลัว

   “ตวัน!” ผมดันศศินออกแล้วรีบไปประคองตวันทันทีเพื่อดูว่าเขาโดนยิงตรงไหน พอเห็นว่าเป็นตรงหัวไหล่ก็โล่งใจ ใช้มือหนึ่งกดห้ามเลือดขณะที่อีกมือก็กดโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล

   “วา...”

   “เจ้าบ้า ไม่ต้องพูด พูดแล้วเสียพลังงาน แถมเลือดยังออกเยอะกว่าเดิมด้วย นอนนิ่งๆ นั่นแหละ” ผมด่าตวันที่เหมือนอยากจะสานต่อบทสนทนา “นายโดนยิงไหล่ ไกลหัวใจจะตาย ฉะนั้นต้องยิ้มสู้นะตวัน!”

   “วา...”

   “ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องพูด เจ้าบ้าเอ๊ย” ผมเอ่ยเสียงเครือ เลือดไหลเยอะมาก เยอะจนผมกลัวว่าแม้แผลจะไกลหัวใจ แต่เขาจะเสียเลือดตายรึเปล่า ดูหน้าตวันสิ ขาวซีดเหมือนเอาแป้งมาโบก แล้วทำไมรถพยาบาลยังไม่มาอีกนะ ชักช้าจริง!

   ท่ามกลางช่วงเวลาที่แสนเชื่องช้าเหลือเกินในความรู้สึก ผมพูดปลอบตวันหลายครั้งโดยไม่แม้แต่จะให้เขามีโอกาสได้พูด จนกระทั่งรถพยาบาลมาถึงผมก็รีบลุกให้บุรุษพยาบาลมาห้ามเลือดและพาขึ้นเปล เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีก็รีบวิ่งขึ้นรถพยาบาล นำโด่งทุกคน ตั้งใจจะไปพร้อมกับตวันโดยลืมซะสนิทว่า...

   ลับหลังประตูรถพยาบาลที่กำลังปิดสนิท เงาร่างหนึ่งมองผมด้วยสายตาอ่านไม่ออก

   แต่กลับทำให้สติที่หลุดไปไกลของผมหวนกลับมาอย่างรวดเร็ว

   เหมือนโดนค้อนทุบเข้าอย่างจัง!

   “เดี๋ยวก่อนครับ!” ผมรีบตะโกนห้ามบุรุษพยาบาลที่ปิดประตูสนิทดีแล้ว “ผมขอลงก่อน ขอลงก่อน!”

   ลาก่อนรักน้ำเน่า ลาก่อนความเข้าใจผิดบ้าๆ ผมไม่มีวันปล่อยให้คนรักยืนเหงาอีก

   ต่อให้รถเริ่มวิ่งแล้วผมก็จะกระโดดลงไป!!

   บุรุษพยาบาลทำหน้าเหวอ แต่ก็ยอมเปิดประตูให้ใหม่ ดีนะที่รถยังไม่ออก ผมเหลือบมองตวันแวบหนึ่ง เมื่อเห็นเขาพยักหน้าอย่างเข้าใจก็แทบจะวิ่งร้อยเมตรไปหาร่างที่เดินหันหลังโดยไม่คิดเหลียวมอง คล้ายไม่อยากเห็นภาพของผมที่ขึ้นรถไปกับตวันแล้วทิ้งเขาไว้ตรงนั้นอย่างโดดเดี่ยว

   “ศิน!”

   ผมกระโจนกอดแผ่นหลังนั้นแบบสุดตัว ชนิดถ้าหวืดก็หน้าทิ่มพื้นได้เลย แต่ศศินยังไม่ใจร้ายขนาดนั้น เมื่อได้ยินเสียงตะโกนลั่น เขาก็หยุดเดิน ทำให้ผมโอบรัดร่างนั้นแนบแน่นด้วยความรู้สึกผิด จนตอนนี้ก็ขอยืนยัน ผมไม่ได้รักตวันแล้วจริงๆ แต่ยังมีความผูกพันและความห่วงใยตามประสาเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันตลอดยี่สิบห้าปี เมื่อเห็นเขาถูกยิงมีหรือจะไม่ตกใจ แต่สำหรับศศินที่เห็นความสัมพันธ์ของเราไม่ต่างกับฝันที่เป็นจริง จนหลายครั้งก็กลัวจะตื่นจากฝัน เวลาแตะตัวผมแต่ละครั้งมักทำหน้าเหลือเชื่อตลอด คงเข้าใจผิดเข้าเต็มเปา

   “ฉันรักนาย ไอ้บ้าเอ๊ย!”

   ผมคำรามเบาๆ ในลำคอ ใครเลยจะรู้ว่าเมื่อกี้ผมใจหายขนาดไหน ถ้าไม่รีบวิ่งลงมามีหวังเหตุการณ์พลิกตลบ จากหน้ามือเป็นหลังเท้าแน่ๆ

   “ฉันรักนาย ฉันรักนาย ฉันรักนาย จะให้พูดอีกกี่ครั้งถึงจะเชื่อ เจ้าบ้าศศิน ถ้าไม่ชอบก็บอกมาตรงๆ สิ ถ้าไม่อยากให้ไปก็ดึงแขนฉันสิ แค่นี้ทำไม่เป็นรึไง!”

   ผมเปลี่ยนเป็นทุบหลังศศินอย่างโมโห ก่อนจะยกมือค้างเพราะจู่ๆ คนที่ยืนนิ่งเป็นเสาปักหลักก็เปลี่ยนมาเป็นโอบกอดผมแทน นี่เป็นครั้งแรกที่ศศินกอดผมแบบแทบจะรัดเข้าไปทั้งตัวขนาดนี้ ไม่นับที่กระโจนรวบให้หลบปืนเมื่อครู่น่ะนะ...

   “ไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย...”

   ผมชักเสียใจที่ไม่ขยันบอกว่ารักเขาให้มากหน่อย นึกว่าการกระทำทุกอย่างสื่อชัดแล้วเชียว

   แสดงว่าศศินยังมองไม่ออกใช่มั้ยว่าไอ้เข็มกลัดตรงอกเสื้อที่ติดทุกวันคือจดหมายสารภาพรัก

   ลืมสนิท คนที่แยกแยะความสวยงามไม่ออก จะไปเข้าใจศิลปะลายมือไก่เขี่ยของผมได้ยังไง!

   “ไม่ได้ฝัน ฉันรักนาย อยากถามอะไรอีกมั้ย” ผมกอดเขาตอบ ชักเขินขึ้นมาหน่อยๆ เพราะสถานการณ์ไม่อำนวยให้พลอดรักกันเท่าไหร่ ลับหลังรถพยาบาล รถตำรวจก็เข้ามาจับกุมพาฝัน เธอไม่ขัดขืนสักนิด เหมือนยังตกใจว่าทั้งที่ตั้งใจยิงผมแท้ๆ ทำไมถึงพลาดไปโดนตวันเอาได้

   เธอไม่ได้พลาดหรอก เพราะตวันเอาตัวขวางผมต่างหาก!

   แต่เป็นการขวางด้วยสัญชาตญาณ โดยที่เขาไม่ทันฉุกใจว่าศศินนั้นเข้ามารวบผมก่อนพาฝันจะลั่นไกซะอีก ซึ่งหมายความว่าต่อให้ตวันไม่ทำตัวเป็นฮีโร่ ผมก็ไม่โดนยิงอยู่ดี หรือเรียกง่ายๆ คือตวันเอาตัวเข้าหาลูกกระสุนเองโดยไม่จำเป็น

   ผมสรุปให้เลยแล้วกัน คนที่ซวยที่สุดในเรื่องนี้ก็คือตวันนั่นแหละ!

   แต่ถึงอย่างนั้นความรักและห่วงใยที่เขาให้ผมโดยยอมแลกด้วยชีวิตก็ชวนซาบซึ้งใจไม่น้อย

   “ที่รักจ๋า รักฉันมากแค่ไหนเหรอ”

   “อาจจะไม่เท่าที่นายรักฉัน แต่ก็เป็นความรักแน่นอน” ผมตอบขณะผละจากกอดเปลี่ยนเป็นจับมือกัน “นี่ไม่ใช่คำถามที่อยากได้ยินสักหน่อย จะลีลาไปไหน เลิกถ่วงเวลาแล้วพูดคำนั้นมาสักที”

   “ฉันรักที่รักจ๋าที่สุดเลย”

   “ไม่ใช่คำนั้น”

   “คิดถึงที่รักจ๋าทุกเวลาทุกวินาที”

   “ก็ยังไม่ใช่”

   “อยากจะอยู่กับที่รักจ๋าตลอดไป”

   “แล้วยังไงต่อล่ะ”

   “ก็...คงต้องขอคบแล้วล่ะ ที่รักจ๋า...ไม่สิ นาวาครับ จะคบกับศศินคนนี้มั้ยครับ” จากคนมาดยียวนกลายเป็นสุภาพบุรุษแสนอบอุ่นในพริบตา ผมแทบปรับอารมณ์ไม่ทัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่รีรอที่จะตอบรับในทันที

   “คบ!”

    “คบแล้วห้ามเลิกนะ ไม่งั้นฉันคงใจสลาย”

   ไม่ทันไรจากสุภาพบุรุษแสนดีก็กลายเป็นไอ้บ้าโรคจิตซะงั้น

   เอาความเขินอายของผมคืนมาได้มั้ย หน้ายังไม่ทันแดง ปากยังไม่ทันได้ยิ้มเลยนะ!

   “วาไม่เคยทำผิดกับใครก่อน แต่ถ้าศินคิดลองดี...” ผมข่มขู่เขา ส่งสายตาเหี้ยมเกรียม “แค่ใจสลายยังน้อยไป!”

   “ที่รักเท่จังเลย”

   “เจ้าบ้านี่!”

   ผมชกอกเขาอย่างหมั่นไส้ ก็ชอบยียวนแบบนี้ไง คู่เราถึงแทบไม่มีความโรแมนติกแบบหวานๆ บ้างเลย ผมฮึดฮัดขัดใจ อุตส่าห์รอเขาพร้อมจนขอคบมาตั้งนาน กะให้เป็นความทรงจำน่าคิดถึงสักหน่อย แต่เหมือนจะผิดจากที่คาดไว้อยู่โข

   ไม่ทันจะเดินขึ้นรถซึ่งพี่โชคเปิดประตูรออยู่นานแล้ว ศศินก็คว้ามือผมพร้อมกระชากเข้าหา ไม่ทันจะตวาดด่าอีกยกริมฝีปากของผมก็ถูกประกบ

   วินาทีนั้นผมตาเบิกกว้าง สมองระเบิดปุ้ง

   เดี๋ยวนะ...นี่มัน...อะไรกัน

   คล้ายได้รับการปลดล็อก ศศินซึ่งไม่ต้องกลัวว่าแตะผมแล้วจะหายไป จับแล้วจะเป็นแค่ฝันหวาน โอบเอวผมให้แนบชิด โดยที่อีกมือช่วยประคองหลังคอ เพื่อให้เรียวลิ้นซุกซนนั้นสอดแทรกเข้ามาได้ง่ายดาย ผมได้ยินเสียงแลกลิ้นที่ชวนวาบหวาม รู้สึกถึงริมฝีปากตัวเองที่กำลังถูกดูดกลืนอย่างหิวกระหาย

   ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ก็คงนานพอให้ผมแทบจะหมดสิ้นลมหายใจ ศศินก็ปล่อยผม พร้อมใช้นิ้วโป้งแตะริมฝีปากซึ่งเริ่มบวมเจ่อของผมด้วยสายตาวิบวับแพรวพราว

   “จูบประเดิมคบกันวันแรก”

   พูดจบเขาก็ก้มหน้าจุ๊บผมเบาๆ อีกรอบอย่างแสนรักแสนเอ็นดู ก่อนจะจับมือพาเดินขึ้นรถโดยที่ผมยังเรียกวิญญาณกลับมาสู่กายเนื้อไม่ทัน

   เอ๊ะ คิดถูกหรือคิดผิดนะที่ตอบตกลงคบคนคนนี้

   ทำไมเหมือนหมาน้อยแสนเชื่องจะกลายร่างเป็นหมาป่าชอบกล ผมพลาดรึเปล่าเนี่ย!!


   ------------------

   ไหนนน ใครบอกว่าศศินจะล่มปากอ่าวค่ะ กลับคำเดี๋ยวนี้!!!!!!

   ก่อนหน้านี้เพราะยังไม่ได้คบกันอย่างจริงจัง ศศินเลยถนอมวามาก ด้วยใจที่คิดตลอดว่า...จะสมหวังจริงเร้อออ ศศินมองนาวามาตลอดเจ็ดปีเต็มๆ และรู้ในใจเสมอว่านาวาไม่มีวันหันมามองตัวเอง ศศินรักวาที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่รักเดียวใจเดียว จึงเชื่อว่าไม่มีวันของตัวเองแน่น่อน จนกระทั่ง...ตวันนอกใจวา

   ใครเลยจะรู้ว่ามีวันที่ตวันจะนอกใจนาวา? สำหรับศศินนั้นเป็นโอกาส แต่ในโอกาสนั้นก็แฝงความไม่มั่นใจ เวลาโดนนาวารุกใส่ศศินเลยไปไม่เป็น วางตัวไม่ถูก ไม่กล้าคาดหวัง แต่ตอนนี้นั้นตัดทุกอย่างทิ้งค่ะ ศศินคนโฮกมาแล้ว!!!

   เราชอบตอนนี้มากๆ นะคะ เราชอบโมเม้นแฟนเก่าเจอแฟนใหม่ 55555 ชอบตอนนาวาวิ่งกลับไปหาศศิน และชอบตวันคนซวยด้วย ที่พาฝันมีบทในตอนนี้...เป็นความสะใจของเราล้วนๆ ที่อยากคู่ชู้คู่นี้จบทุกอย่างด้วยมือตัวเองค่ะ ตวันโดนพาฝันยิง ค่อยสาสมกับที่ทำร้ายจิตใจนาวาหน่อย โดนนาวาประจาน เอาคืน โดนจับ ยังไม่เจ็บเท่ายิงคนรักตัวเอง / โดนชู้ตัวเองยิง จริงมั้ยคะ

   คราวนี้พาฝันโดนจับแน่ๆ แล้วค่ะไม่ต้องห่วง


    #นาวาสไตล์




เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 25 : ในที่สุดเราก็... [09/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-08-2019 21:12:31
ลืมกันหรือเปล่าจ้ะว่าอยู่ท่ามกลางผู้คนนะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 25 : ในที่สุดเราก็... [09/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 09-08-2019 21:21:56
พาฝันเล่นไม่เลิก
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 25 : ในที่สุดเราก็... [09/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-08-2019 21:38:28
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 25 : ในที่สุดเราก็... [09/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 09-08-2019 21:52:19
 :jul1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 25 : ในที่สุดเราก็... [09/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 09-08-2019 22:18:11
จูบดูดวิญญาณ  o18 นี่แค่เริ่มต้น
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 25 : ในที่สุดเราก็... [09/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-08-2019 22:51:26
 :3125:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 25 : ในที่สุดเราก็... [09/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 09-08-2019 23:21:50
หมาป่าจะกล้าขย้ำกินกระต่ายเหรอ
ไม่เช่ือหรอก กลัวขนาดน้านนนนนน อิอิ

แต่จะรออ่านจนถึงวันนั้น
เน๊าะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 25 : ในที่สุดเราก็... [09/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: TongRung ที่ 10-08-2019 00:01:56
 :กอด1:
หมาป่าถึงเวลาออกโรงแล้ว ต้องเตรียมเลือดไม๊
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 25 : ในที่สุดเราก็... [09/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Kaamnutt ที่ 10-08-2019 11:54:27
ศินคนดุุุุ :ling1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 25 : ในที่สุดเราก็... [09/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 10-08-2019 12:16:19
กริสสสสส เริ่มแล้ววววว กริสสส :-[
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 25 : ในที่สุดเราก็... [09/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 10-08-2019 20:07:29
      ศศิน จูบแรกไปแล้วต่อไปก็จูบเรื่อยๆ

เลยนะชดเชยที่เเอบมองแอบรักมาตลอด7ปี
       ตอนที่นาวาขึ้นรถไปกับตวันศศินคงเหมือนคน

ใจสลายเลยซินะถึงได้เดินคอตกกลับไป
เพราะหวาดกลัวกับความรักที่ได้รับอยู่แล้ว
ว่ามันจะหายไปไหม  แต่พอนาวากลับมา  วิ่งมากอด
ศศินคงดีใจมากยิ่งกว่าอะไรๆทั้งหมดซินะ
       
       และพอตกลงคบกับนาวาแล้ว  ก็จูบเพื่อยื่นยัยซะเลย....เป็นตอนที่น่ารักก มากเลยค่ะ
หลากหลายอารมณ์ในตอนนี้ :L1: :L1:

หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 10-08-2019 20:14:04
   ตอนที่ 26

   บทสรุปของเรื่องราว

   

   เพราะตวันติดผ่าตัดเอากระสุนออก ผมเลยตัดสินใจไปที่สถานีตำรวจกับศศินก่อน

   นอกจากทนายตระกูลดาราลัยแล้ว ยังมีอดีตเลขาฯ ของผมที่มาให้กำลังใจพาฝันซึ่งเริ่มให้การกับตำรวจ

   “ฉันรักตวันค่ะ ฉันรักเขาจริงๆ” พาฝันร้องไห้โฮ “เราเข้าใจกันและกัน ต้องตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายคลึงกัน ต้องต่อสู้ฟันฝ่าไปพร้อมๆ กันจึงไม่มีใครจะฉันจะรักไปมากกว่าตวันแล้ว พวกเรามักปลอบใจกัน ช่วยเหลือกัน ปรับทุกข์กัน คุยกันได้ทุกอย่างทุกเรื่อง แม้จะรู้ว่าผิด แต่ฉันก็รักเขา...และเลิกรักเขาไม่ได้”

   ผมได้รับเกียรติให้นั่งฟังคำสารภาพครั้งนี้ด้วย

   “เพื่อรั้งเขา ฉันยอมทำหลายๆ อย่างที่ไม่เคยคิดจะทำ ฉันมันเป็นผู้หญิงสารเลว แต่ในเมื่อทุกอย่างมันพังไปหมด ฉันก็ไม่รู้...ว่าจะต่อสู้เพื่อตัวเองไปทำไม วันนี้ฉันตั้งใจจะไปขู่ฆ่าตัวตายต่อหน้าเขาด้วยซ้ำ ฉันพยายามติดต่อตวันตลอด ขู่ว่าถ้าเขาไม่มาหาจะทำลายดาราลัย ถ้าเขาไม่มาฉันจะทำร้ายนาวา และถ้าเขาไม่มา...ฉันจะทำร้ายตัวเอง”

   มิน่าตวันถึงได้รีบร้อนจะไปต่างประเทศขนาดนี้ นับเป็นอีกมุมที่ไม่เคยรู้มาก่อน

   “แต่พอเห็นเขาจับมือกับคนรักเก่าอยู่กันสองต่อสอง ฉันก็สติหลุด กลัวว่าทั้งคู่จะคืนดีกันอีกครั้ง ก็เลย...”

   ศศินหันมาเลิกคิ้วให้ผมเหมือนจะพูดว่าเขาถอยห่างเกินไปจนกลายเป็นว่าเปิดฉากให้พาฝันเข้าใจผิดเหรอเนี่ย ช่างน่าเศร้าใจจริงๆ ปลอบกันหน่อยสิที่รักจ๋า

   ผมเลยเหยียบเท้าปลอบซะเลย มันใช่เวลามาอ้อนเหรอ!

   “ฉันไม่ได้ตั้งใจยิงตวันนะคะ ฉัน...”

   “แต่ตั้งใจยิงคุณนาวาสินะครับ” ทนายของผมพูดแทรกนายตำรวจซึ่งจดคำสารภาพอันน่าเศร้านั้น “ทางเราต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด รบกวนด้วยนะครับสารวัตร”

   “ไม่รบกวนเลยครับ”

   แล้วอนาคตของพาฝันก็ถูกปิดตายด้วยน้ำมือของเธอเองด้วยประการฉะนี้

   







   กลับมาที่แฟนเก่าแสนซวยของผมบ้าง ตอนมาถึงโรงพยาบาลตวันก็ผ่าตัดเสร็จพอดี แต่เพราะโดนยาสลบผมเลยต้องนั่งรออยู่นานกว่าจะได้คุยกับอีกฝ่ายดีๆ โดยมีศศินประกบอยู่ข้างๆ เหมือนลูกหมีโคอาลา

   “ตวัน”

   แค่เรียกชื่อ ยังไม่ทันประคอง ศศินก็โบกมือให้พี่โชคช่วยประคองตวันนั่งบนเตียง พี่ชัยช่วยรินน้ำให้ตวันจิบแก้กระหาย ผมซึ่งเพิ่งยืนขึ้นแต่ไม่ทันได้ทำอะไรทั้งนั้นถึงกับเบื้อใบ้ไปครู่หนึ่ง แต่ตวันอาการหนักกว่า เขาแทบจะสำลักน้ำกับอาการหวงที่ทบทวีเมื่อเราสองคนตกลงคบหากัน

   “ฉันให้เลขาฯ คนใหม่ช่วยเลื่อนตั๋วเครื่องบินแล้ว นายเองก็พักรักษาตัวให้ดีเถอะนะ ไม่ต้องรีบร้อน”

   “พาฝัน...” เมื่อเอ่ยถึงชู้รัก ตวันก็พลันเผยสายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

   “เธอถูกจับเข้าคุกแล้ว ทนายของตระกูลดาราลัยไม่ปล่อยให้หนีคดีง่ายๆ หรอก”

   “งั้นเหรอ...” ตวันหลับตา คล้ายหวนนึกถึงช่วงเวลาที่ทั้งสองเผลอไผลมีใจให้กัน สำหรับพาฝันเธอเรียกว่าความรัก แต่สำหรับตวันอาจเรียกว่าความหลง “ผมมีส่วนทำให้เธอเป็นแบบนี้”

   “แน่สิ ถ้าไม่เพราะนายนอกใจฉันก่อนจะบานปลายมาถึงขนาดนี้เหรอ” ผมตอกกลับไม่ไว้หน้า “ว่าแต่ก่อนพาฝันจะก่อเรื่อง นายอยากพูดอะไรกับฉัน”

   ตวันมองศศินเหมือนส่วนเกิน ซึ่งครั้งนี้เจ้าตัวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเหมือนไม่สนใจจะฟัง แต่ก็ไม่คิดจะขอตัวออกไป

   “คิดว่าเราอยู่กันสองคนก็ได้ ไม่เป็นไรหรอก” ผมผลักไหล่ศศินเบาๆ อย่างหมั่นไส้ แต่โทษเขาก็ไม่ได้ ภาพตอนผมห้ามเลือดตวัน ตกใจลนลานจนลืมเขาคงทำให้ศศินร้าวรานใจน่าดู และคงไม่ลืมง่ายๆ แน่นอน

   “วา...ผมรักวาคนเดียว รักมาตลอด จนตอนนี้ก็ยังรัก”

   ศศินคิ้วกระตุก แต่ก็ยังอดทนไม่เงยหน้ามาบีบคอคนสารภาพรักแฟนตัวเองต่อหน้า

   “แล้วทำไมถึงนอกใจ”

   ในที่สุดผมก็ได้ถามในสิ่งที่ค้างคาใจที่สุดสักที

   “เพราะนอกจากความรัก...ผมยังอิจฉาวา อยากเป็นเหมือนวา” ตวันเอ่ยเสียงสะอื้น คล้ายรังเกียจตัวเองที่เป็นแบบนี้ แต่ก็ห้ามความคิดตัวเองไม่ได้ “ท่ามกลางคนทั้งโลกที่ดูถูกผม วาเป็นคนเดียวที่ไม่เคยทำอย่างนั้น แต่ตัวผมเอง...เป็นผมเองที่กดค่าตัวเองต่ำกว่าใคร เมื่อมองวา...ที่มีทุกอย่าง เก่งทุกอย่าง มีคนรัก มีคนห้อมล้อมเอาใจก็อดไม่ได้ที่จะหันมองตัวเอง แล้วพบว่าผมไม่มีอะไรเลย”

   “ตวันมีวาไง” ผมหลุดใช้ชื่อเรียกแทนตัวเองเหมือนสมัยก่อน

   “ใช่ ผมมีวา แต่บางครั้งตัวตนของวาก็ทำให้ผมเปรียบเทียบตัวเองเสมอ ความรักของวาทำให้ผมกดดันตัวเอง สำหรับวา ทุกอย่างช่างง่ายดาย แต่สำหรับผม ทุกอย่างช่างยากเย็น และเมื่อหันไปมองพาฝัน เราสองคนมีหลายอย่างที่เหมือนกัน เป็นคนไม่มีความสามารถที่พยายามพิสูจน์ตัวเองให้คนทั้งโลกเห็น...” ตวันยกมือปิดหน้า ไม่กล้าสบตากัน “ผมผิดเองวา...เป็นผมที่ผิดเอง”

   “ขอบคุณ...ที่บอกความจริงกันสักที” ผมบอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกยังไง เพราะมันด้านชาหรือกึ่งๆ จะตายด้าน “ฉันรู้แต่แรกแล้ว”

   ตวันเงยมองผมอย่างเหลือเชื่อ

   “ฉันรู้ว่านายนึกอิจฉา ถึงพยายามให้ทุกอย่างเท่าที่ให้ได้ ฉันยอมออกจากบ้าน ยกบริษัท ยกความฝันให้นาย ฉันไม่ได้โง่นะตวัน ฉันแค่อยากสื่อว่าทุกอย่างที่เป็นของฉัน ก็คือของของนาย ฉะนั้นไม่ต้องอิจฉา ไม่ต้องมาแยกเขาแยกเรา นายเป็นพวกชอบคิดมาก ฟุ้งซ่าน ฉันเลยไม่คิดจะก้าวเข้าบริษัทแม้แต่ก้าวเดียว เพราะรู้ว่านอกจากนายจะกลัวถูกคนอื่นเปรียบเทียบแล้ว นายยังเปรียบเทียบตัวเองกับฉันเองด้วย...” ในเมื่อเขาเปิดอก ผมก็พร้อมจะพูดความในใจที่ไม่เคยคิดจะพูดต่อหน้าตวันสักครั้ง ถึงความอ่อนแอของเขา ถึงความรู้สึกที่คิดว่าซ่อนไว้อย่างมิดชิด แต่ผมก็ยังมองเห็นอย่างชัดเจน “บางทีเราสองคนก็ไม่ควรคู่กันแต่แรก เพราะฉันไม่เข้าใจความคิดของคนไม่มีอย่างนายว่าต้องการอะไร ส่วนนายก็ไม่เคยเข้าใจว่าคนมีพร้อมอย่างฉันต้องการอะไร”

   ผมถอนหายใจเฮือก ก่อนจะยักไหล่แบบช่วยไม่ได้จริงๆ

   “ในเมื่อต่างฝ่ายต่างมองคนละมุม ดึงดันไปคนละทาง งั้นเลิกกันก็ดีแล้ว”

   “ผมรักวานะ”

   “ฉันรู้”

   “ผมรักวา...”

   “เสียดายล่ะสิ” ผมหัวเราะร่วน หวังเปลี่ยนบรรยากาศให้ไม่หม่นเศร้าเกินไป โดยเฉพาะกับศศินที่ดูจะตั้งใจฟังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเดิม แต่ไม่มีทางหรอก ศศินกับตวันเป็นคนละคนกัน นิสัยต่างกันคนละโยชน์ “ไม่มีอะไรทำให้ฉันมีความสุขมากกว่าการทำให้แฟนเก่าเสียดายแล้ว ขอบคุณนะตวัน ขอบคุณที่อย่างน้อยแม้จะนึกอิจฉาฉัน แต่ก็ยังอยู่ด้วยกันมาตลอด”

   “วา...”

   “เลิกทำเสียงเล็กเสียงน้อยได้แล้ว แฟนฉันหึง!”

   ศศินหลุดหัวเราะในตอนนี้ เช่นเดียวกับผมและตวัน

   พวกเราสามคนที่มีสถานะพิลึก คนหนึ่งเป็นแฟนเก่า อีกคนเป็นคนที่ตามจีบผมตลอดเจ็ดปีและเป็นแฟนใหม่ มานั่งจ้องหน้าพูดความในใจ นึกๆ ดูแล้วก็น่าขนลุกชอบกล

   “โชคดีนะตวัน ไว้ค่อยเจอกันวันขึ้นเครื่องบินนะ”

   “ครับ”

   ผมจับมือศศินออกจากห้องคนป่วย ไม่น่าเชื่อว่าเขายังขำไม่หยุด

   “หัวเราะอะไรเนี่ย”

   “ดีใจที่รักคนไม่ผิด” ศศินหันมามองผมตาหวานเยิ้ม “รู้สึกยังไงบ้างครับตอนนี้”

   แน่นอนว่าโล่งใจ เพราะในที่สุดปัญหารักสามเส้า เราสามคนของผม ตวัน และพาฝันก็จบลงจริงๆ สักที

   แต่นอกจากความโล่งใจก็คือความ...

   “สะใจโว้ย!”

   ผมชูกำปั้นขึ้นฟ้า นึกสะใจกับผลลัพธ์วุ่นวายซึ่งแต่ละคนล้วนได้รับผลของการกระทำไป บอกแล้วไงว่าใครที่ทำผิดกับผม ผมจะไม่ใช่คนที่เสียใจและไม่แม้แต่จะนึกเศร้าใจแทน เพราะผมไม่ใช่คนแสนดี

   แต่เป็นพวกเขาต่างหากที่ต้องนึกว่าไม่น่าเลย ไม่น่ามายุ่งกับนาวาเลย!!

   นี่แหละนาวา ดาราลัย

   นี่แหละคือผมล่ะ!


   -------------------------------

   

   ทิ้งทวนได้สมเป็น #นาวาสไตล์

   ตอนหน้าเป็นบทส่งท้ายแล้วค่ะ สั้นๆ แต่ได้ใจความ เราจะมาอัพให้ต่อวันพรุ่งนี้น้า สำหรับวันนี้นั้น...

   มาค่ะตามธรรมเนียม(?) วิเคราะห์ตวันกัน 55555

   'สำหรับวา ทุกอย่างช่างง่ายดาย แต่สำหรับผม ทุกอย่างช่างยากเย็น'

   ประโยคนี้คือส่วนสำคัญที่ทำให้ตวันนอกใจ แม้จะรักนาวาแค่ไหน แม้จะรู้ว่านาวาเป็นคนเดียวที่ไม่เคยดูถูกกัน แต่สำหรับตวัน...เขาไม่กล้าปรึกษาความในใจตัวเองเพราะคิดว่านาวาไม่มีวันเข้าใจค่ะ ปัญหาของคู่รักคือการไม่พูดคุยกัน ยิ่งเก็บงำอย่างตวัน ก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ยิ่งอึดอัดและกลายเป็นว่าการอยู่ด้วยกันนั้น...คือการฝืนทนอย่างหนึ่ง เวลาพูดถึงเรื่องบริษัท ตวันได้แต่ยิ้ม นาวาเองก็ยิ้ม ทั้งสองคนต่างคิดกันไปคนละทาง และสุดท้ายตวันก็เลือกหาคนที่ปรึกษาปัญหาได้ คนที่จะเข้าใจถึงความยากลำบากของเขา...คนคนนั้นคือพาฝัน

   สำหรับพาฝัน เธอรักตวัน แต่สำหรับตวัน พาฝันคือเหมือนเพื่อนคนสนิทที่สามารถคุยได้ทุกอย่าง อะไรที่อัดอั้นในใจ พูดกับนาวาไม่ได้ ตวันเล่าให้พาฝันฟังทุกอย่าง ทั้งคู่จับมือฝ่าฟันไปด้วยกันในงานแฟชั่นโชว์ และทำให้จากเพื่อนคู่คิด...พัฒนาเกินเลยไป

   ตวันรักนาวาจริงๆ เพราะสำหรับตวัน นาวาทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีค่า ทำให้มีวันนี้ แต่ความรักไม่มากพอเท่าที่...ตวันรักตัวเอง

   ตวันเป็นผู้ชายคนหนึ่งค่ะ เมื่อผู้หญิงให้ท่าเขาก็สนอง

   ตวันคิดว่านาวาไม่รู้หรอก เพราะนาวาไม่เคยเข้าบริษัท ซึ่งถ้าไม่มีศศิน...นาวาก็ไม่คิดจะจับผิดตวันจริงๆ นี่เป็นความเห็นแก่ตัวของตวันล้วนๆ ค่ะ พอนาวาจับผิดได้จริงก็รีบบอกเลิกพาฝัน คิดว่าจะได้รับอภัย แต่ตวันคงลืมไป...ว่านาวาไม่ใช่ตัวเลือกของใคร

   จริงๆ ยังมีรายละเอียดยิบย่อยอีกซึ่งจะอยู่ในตอนพิเศษค่ะ  เพราะการนอกใจมีหลายปัจจัยเนอะ แต่หลักๆ ก็ประมาณนี้ค่ะ

   ยังไงก็ตาม...

   

“ไม่มีอะไรทำให้ฉันมีความสุขมากกว่าการทำให้แฟนเก่าเสียดายแล้ว"

   #นาวาสไตล์ ซะอย่าง มีแฟนใหม่อย่างมีความสุขเรียบร้อย อวยพรให้น้องด้วยนะคะ!!!

   

เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://twitter.com/MajaYnaja)
Twitter : MajaYnaja (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: TongRung ที่ 10-08-2019 21:15:22
 o13 บทส่งท้ายจะมาแล้ว คิดถึงงงงแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 10-08-2019 21:31:29
         อ่านเรื่องนี้ไม่เบื่อเลยค่ะสนุกมากไม่อยากให้รีบจบเลยค่ะ
         
          ตวันก็เป็นตัวละครที่มีหลายมุมเวลาอ่าน
ทำให้คิดตามตัวละครได้สนุกดี       
         
          นาวาและศศิน ก็เป็นตัวละครที่มีหลากหลายมุมเช่นกันค่ะอ่านในมุม ของแต่ละคนแล้ว ได้หลากหลายอารมณ์ชวนคิดตามมากเลยค่ะ

         
           รอติดตามผลงานเรื่องต่อไปนะค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-08-2019 21:37:52
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 10-08-2019 21:47:07
อ่านจนมาถึงตอนนี้
จะบอกว่าคนอ่านก็"สะใจโว้ยยยยย"เหมือนกัน

วาแบ่งๆศินมาให้กินบ้างดิ
ขอบคุณล่วงหน้าไว้เลย อิอิ

หมาป่ามันเร้าจวยยยยยยย
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-08-2019 21:47:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 10-08-2019 22:20:29
 :L1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 10-08-2019 22:28:53
ต้องหาคู่ให้ตวันนะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 10-08-2019 22:58:56
พี่นทีอยู่ใหน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 11-08-2019 00:09:50
ศศินได้ใจมาก กรีดร้อง
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 11-08-2019 01:54:09
 o13


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Kaamnutt ที่ 11-08-2019 02:01:33
ปรมมือรัวๆๆให้กับนาวา  จะจบแล้วเหรอใจหายอ่ะ  :กอด1: :heaven
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 11-08-2019 10:26:33
เขียนเรื่องของตวันต่อก็ดีนะคะ แบบหาคู่ให้ตวัน ตวันจะได้ไม่เหงาและอีกอย่างตัวละครตวันเป็นบุคลิกที่มีความหลากหลายในอารมณ์จริง ๆ ถ้ามีพล็อตต่อน่าจะเขียนได้สนุกแน่ ๆ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 11-08-2019 11:09:34
จบแบบสมกับเป็นนาวา ดาราลัยจริงๆ สะใจโว้ย5555 นาวากับศศินยังไม่ทันหวานๆกันเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: lonesomeness ที่ 11-08-2019 13:20:29
นาวาทำไมเป็นคนน่ารักขนาดนี้ ประโยคที่บอกว่าเลิกทำเสียงเล็กเสียงน้อยได้แล้วแฟนฉันหึง คือตัดมู้ดมาก 5555
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll บทส่งท้าย [13/08/62] P.13 END
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 11-08-2019 19:33:54
   บทส่งท้าย

   

   อย่าสงสัยว่าพี่นทีหายไปไหนถึงไม่มาโอ๋น้องชาย

   พี่นทีติดไปทำธุระที่ต่างจังหวัดน่ะครับ กว่าเขามาถึงกรุงเทพฯ พาฝันก็โดนจับเข้าคุก ตวันก็ผ่าตัดเสร็จแล้ว พวกเราทุกคนจบกันด้วยดี หมายถึงผมเนี่ย โคตรจะสุขกายสบายใจดีเลย

   เห็นผมเดินจับมือควงแขนกับศศินยิ้มร่า พี่นทีก็พูดอะไรไม่ออกเลยเดินเนิบๆ ไปเล่นงานตวันแทน ซึ่งผมก็ไม่รู้นะว่าสองคนนี้ทะเลาะอะไรกัน แต่ดูจากตาช้ำๆ ของตวันที่ใกล้จะขึ้นเครื่องอยู่แล้วยังไม่หายดี แสดงว่าพี่นทีแสนละมุนของผมคงระบายแค้นให้น้องชายที่เกือบโดนยิงผ่านกำปั้นแล้ว

   ศศินถึงกับลูบตาตัวเอง แทบจะเดาออกว่าถ้าในอนาคตมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับผม คนที่จะโดนกำปั้นเป็นรายต่อไปคือใคร

   “ผมไปแล้วนะวา”

   “อืม เดินทางดีๆ ล่ะ”

   ผมโบกมือให้ตวันจนเขาหายลับเข้าไปในเกต ข้างๆ คือศศินซึ่งยืดอกเชิดหน้า เอาแขนพาดไหล่ผมอย่างแสดงความเป็นเจ้าของชนิดไม่อายใครสุดๆ

   “ที่รักจ๋า วันนี้เราไปฉลองที่ไหนดี”

   “ให้มันน้อยๆ หน่อย” ผมหัวเราะ อะไรกัน พอตวันไปถึงกับต้องฉลองเลยเหรอ

   “น้อยอะไรจ๊ะ รักน้อยๆ เหรอ คงทำไม่ได้หรอก เพราะฉันรักที่รักมากๆ เลยนี่นา”

   ผมคร้านจะโต้เถียงกับคนยียวนอย่างเขา ได้ลาภปากก็ดีแล้วเลยพยักหน้าเออออไป

   นึกแล้วก็น่าตลก จุดเริ่มต้นมาจากตวันนอกใจผม ทำให้ผมอยากจะสลัดเขาทิ้งไปไกลๆ แต่ทุกอย่างก็ไม่ง่าย แถมกลายเป็นลุกลามบานปลาย ลุ้นระทึกเหนือคาดจนถึงขั้นเสียเลือดกันด้วย แต่ถึงจะล้มลุกคลุกคลาน ปวดหัวอาละวาดไปหลายครั้ง สุดท้ายแล้ว...

   ผมก็สลัดแฟนเก่าทิ้งสำเร็จ!

   อ้อ แถมได้แฟนใหม่ควงต่อด้วยนะ เจ๋งมั้ยล่ะ!!



   ------------------------

   บทสั้นท้ายสั้นกระจุ๋งนึง แต่สำคัญนะคะเพราะจะโยงไปชื่อเรื่อง 5555

   แผนการสลัดแฟนเก่าที่ยาวนานถึง 26 ตอน ขอบคุณทุกคนมากๆ นะคะที่ติดตามกันมาจนถึงจุดนี้ ขอสารภาพตามตรงว่าช่วงแรกที่ลงนิยายเรื่องนี้...ผลตอบรับของค่อนข้างเงียบเหงา เราเองก็หงอยเหงาไปเหมือนกัน แต่ตอนนี้มีคนอ่านเพิ่มขึ้น คอมเม้นเพิ่มขึ้น เราขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ เราชอบอ่านคอมเม้น ตลกเวลามีคนด่าพาฝัน เดี๋ยวก็โกรธตวัน เดี๋ยวก็สงสารตวัน เชียร์นาวา เอ็นดูศศิน ยืนยันว่าทุกคนสนุกสนานและอินไปกับตัวละครและเรื่องราวจริงๆ เป็นผลตอบแทนสำหรับนักชอบเขียนอย่างเรามากๆ เลยค่ะ

   จุดเริ่มต้นที่เราแต่งเรื่องนี้เพราะ...อ่านเจอนิยายพระเอกนอกใจนายเอกแล้วได้รับการอภัยค่ะ!!! เราแค้นมาก!! เพราะเราเชียร์พระรองไงคะ!!! พระรองคนที่รักนายเอกอ่ะะะะะะ แล้วทำไมพระเอกถึงได้รับการอภัยล่ะะะะ นั่นมันคนนอกใจนะะะะะ ไปคู่กับพระเอกทำม้ายยย เห็นใจพระรองเซ่!!!!

   แคกๆ อินเนอร์มามาก...สรุปก็คือเพราะอ่านนิยายเรื่องนั้นและอีกหลายๆ เรื่องที่เป็นแนวใกล้ๆ กัน ทำให้เราทนไม่ไหวค่ะ พระเอกนอกใจต้องโดนเท! พระรองรักจริงต้องสมหวัง!! แล้วก็บังเกิดมาเป็นนิยายเรื่องนี้....สนองนี๊ดล้วนๆ 55555

   แต่พอแต่งจริงๆ การหาสาเหตุให้คนนอกใจก็ถือว่าขอบคุณเวปพันทิปมา ณ ที่นี้ค่ะ...เรานั่งอ่านกระทู้คนโดนนอกใจเพื่อหาเหตุผลเข้าทีพอจะเอามาปรับมาเปลี่ยนให้เข้ากับบริบทเรื่อง เพราะคนแต่งน่ะโสด! ซิง! ไม่มีประสบการณ์ทางนี้ เราไม่อยากแต่งให้ตัวละครจู่ๆ ก็นอกใจไปดื้อๆ แบบไม่มีเหตุผล คบกันมาตั้งเจ็ดปีเนอะ! และเราเองก็ถือคติ...ไม่มีใครร้ายสุดโต่งในโลกใบนี้ ตัวร้ายทุกเรื่องของเราจะพยายามหาเหตุผลซัพพอร์ตตลอดค่ะ

   ทอส์กจบแล้ว...ต่อไปถึงเวลาขายของค่ะ แคกๆๆๆ

   นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับสนพ. EverY นะคะ ข่าวดีจะมาภายในเดือนนี้แน่นอน ถ้ามีความคืบหน้าจะมาอัพเดตอีกทีค่ะ
   ในหนังสือมีตอนพิเศษอีก 4 ตอน ใครที่รอลุ้นว่าศศินจะล่มปากอ่าวหรือไม่...ห้ามพลาด!!!

   ตอนพิเศษ 1 : ตวัน
   ตอนพิเศษนี้จะเล่าในมุมมองตวันตั้งแต่เด็ก ตอนที่ยังอิจฉานาวา และตอนที่ความรู้สึกค่อยๆ เปลี่ยน หลงรักนาวา ตอนที่เริ่มหึง ตัดสินใจขอคบ ตอนที่เรียนจบ เข้าบริษัท เจอพาฝัน และเริ่มนอกใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ยังค้างคาใจ ตอนพิเศษนี้จะเคลียร์ทุกอย่างถึงเหตุผลการกระทำทั้งหมดค่ะ และรวมถึงตอนสรุปจบ...ที่ตวันโดนบอกเลิกด้วย

   ตอนพิเศษ 2 : ศศิน
   ตอนพิเศษนี้จะเล่าในมุมมองของศศินตั้งแต่เด็ก ( ค่ะ เราก็อปประโยคข้างบนมาแล้วเปลี่ยนชื่อ ) ตอนที่ยังอยู่กับพ่อและแม่ และสาเหตุที่ทำให้ก่อเหตุฆาตกรรม ตอนศศินถูกส่งเข้าสถานพินิจ และได้รับการปล่อยตัวออกมาค่ะ และแน่นอนว่าที่พลาดไม่ได้คือ...ตอนศศินเจอนาวาครั้งแรก!!!
   ใครอยากรู้ว่าทำไมศศินตามรักปักใจนาวาขนาดนั้น ตอนพิเศษนี้จะให้คำตอบค่ะ ถ้านาวามาอ่านก็คงจะอ้าปากค้าง...พึมพำว่าไม่น่าเล้ยยยยย ไม่น่าทำแบบนั้นไปเล้ยยยยย

   ตอนพิเศษ 3 : หลังจากนั้น
   เรื่องราวหลังจากเรื่องหลัก เมื่อศศินกับนาวาคบกัน และย้ายมาอยู่ด้วยกันที่ห้องของนาวาค่ะ ตอนนี้น่ารักมาก เพราะศศินได้เข้ามาเหยียบในห้องนาวาจริงๆ แล้ว...หลังแอบส่องมาตลอดเจ็ดปี!!! สมหวังคุณเขามั้ยล่ะคะ 555555
   มาลุ้นและเอาใจช่วยศศินคนน่ารักแสนเชื่องตอนเป็นแฟนกับนาวาและต้องมาอยู่ร่วมกันนาวาสองต่อสองกันค่ะ! ฉากหวานๆ เยอะมากบอกเลย!!

   ตอนพิเศษ 4 : เกมเรียงเพชร ( NC18+)
   เมื่อนาวาท้าศศินเล่นเกม ใครชนะขออะไรก็ได้...แล้วศศินจะขออะไร!!?
   ดูวงเล็บก็รู้กันนะคะว่าศศินจะขออะไร 55555 เตรียมกล้องเตรียมทิชชู่ให้พร้อม เพราะศศินไม่ได้มาเพื่อล่มปากป่าวแน่นอน จากหมาบ้านจะกลายร่างเป็นหมาป่า นาวาจะต้องตกใจร้องขอชีวิต!!!

   ขอบคุณสำหรับพื้นที่โฆษณานะคะ ขอฝากช่องทางการติดตามสำหรับนิยายเรื่องต่อไปด้วยน้า


----------> เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
----------> Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: udongjay ที่ 11-08-2019 19:43:33
รอซื้อหนังสือนะคะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 11-08-2019 19:54:33
จึ๋งเดียวจริงๆ แต่เรื่องราวแสนสนุกที่พลิกไปพลิกมาให้ได้ลุ้นตลอด

ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 11-08-2019 20:59:07
 :mew1: :mew1: :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-08-2019 22:58:58
สะใจ.......ว้อยยยยย ด้วยคน   :z3: :z3: :z3:
ดีใจที่นาวาตัดสินใจลงจากรถพยาบาล  กลับไปหาศศินได้ทันเวลา    o22
ไม่งั้นศศินได้น้อยใจ เศร้าโศก ตีตนไปก่อนไข้แน่เลย  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ศศิน  นาวา   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณไรท์มากกกกก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 11-08-2019 23:05:22
ตอนหน้าจะจบแล้ว. ศศินยังไม่ได้กินนาวาเลย. ไร้น้ำยาจริงๆ // โชคเอาปืนจ่อหัว
ขอโทษค่าาาาา
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 11-08-2019 23:25:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 12-08-2019 09:21:24
          เป็นนิยายที่มีความสนุกมากค่ะ
นาวากับศศินก็ตกลงคบกันแล้ว
พาฝันก็รับผลของการกระทำของเธอแล้ว
ตวันก็ได้ไปเริ่มต้นใหม่ของเค้าแล้วเช่นกัน
         
          ทุกๆอย่างในนิยายเล่มคือดีย์มากจริงๆ
 

          รออุดหนุนนะค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 12-08-2019 10:49:24
รอหนังสือด้วยคน
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll ตอนที่ 26 : บทสรุปของเรื่องราว [10/08/62] P.12
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 12-08-2019 14:11:31
เราชอบนะ มันดูสนุกดี มีความสุข ไม่ดราม่ามากและฉลาดอะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll บทส่งท้าย [13/08/62] P.13 END
เริ่มหัวข้อโดย: lcortsess ที่ 14-08-2019 19:56:58
รอยิยายเรื่องใหม่ต่อค่ะ  >w<  แหะๆๆๆ //เกาหัว
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll บทส่งท้าย [13/08/62] P.13 END
เริ่มหัวข้อโดย: Kaamnutt ที่ 15-08-2019 01:22:33
  :hao5: :hao5: ชอบนาวา  ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll บทส่งท้าย [13/08/62] P.13 END
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 15-08-2019 10:13:24
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ ชอบบุคลิกนายเอกของเรื่อง จะรอติดตามผลงานเรื่องต่อๆไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll บทส่งท้าย [13/08/62] P.13 END
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 15-08-2019 17:40:02
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
อ่านได้เรื่อยๆเลย ขอบนาวาสไตมาก
นางไม่เหมือนใครดี นาวารวย ทุกอย่างจบ
ชอบศศินที่ไม่เคยเปลี่ยนใจจากนาวาเลย
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll บทส่งท้าย [13/08/62] P.13 END
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 15-08-2019 21:30:07
ต้องเก็บเงินรอซื้อเล่มซะแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll บทส่งท้าย [13/08/62] P.13 END
เริ่มหัวข้อโดย: brapair ที่ 16-08-2019 07:35:42
แงงง จบแล้ววว
เราชอบมาก เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll บทส่งท้าย [13/08/62] P.13 END
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 16-08-2019 10:03:14
 :katai2-1: o13 :katai2-1:



 :กอด1: :L2: :L1: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :L1: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll บทส่งท้าย [13/08/62] P.13 END
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 16-08-2019 10:59:08
สวัสดีค่ะทุกคนนน วันนี้เราเอาปกเต็มๆ มาอวดดด กรี๊ดดดดดดดด

(https://sv1.picz.in.th/images/2019/08/16/Z3GrQt.jpg)

เรียงจากซ้ายไปขวา ตวัน -> นาวา -> ศศิน นะคะ

ตวันเป็นแฟนเก่า ก็จะทำหน้าแบบขอคืนดี จับมือนาวา ส่วนนาวาไม่จับตอบ แอบอยากสลัดทิ้งนิดๆ และแน่นอนว่าสำหรับมูนนี่ พระเอกที่น่ารัก ได้สิทธิ์กอดนาวาไปเลยค่ะ!!!! ( มูนนี่คิดในใจ นี่ที่รักจ๋าของฉัน!! )

นิยายพิมพ์กับสนพ. EverY เคาะราคาที่ 239 บาทค่ะ ( ซื้อในงานจามจุรีหรือเวปแจ่มใส ลดเหลือ 203 บาท )

จำหน่ายวันที่ 20 สิงหาคมตามร้านหนังสือทั่วไป
พิเศษ! เมื่อซื้อนิยายเรื่อง ‘แผนลับสลัดแฟน(เก่า)’ ที่งานจตุรัสจามจุรีบุ๊คแฟร์ ครั้งที่ 11 ในวันที่ 23 ส.ค. - 8 ก.ย.
รับฟรีทันที!...โปสเตอร์ภาพปกขนาด A4 1 ใบ

ในหนังสือมีตอนพิเศษอีก 4 ตอน ขอบอกว่าตอนพิเศษน่ารักและไม่ควรพลาดเลยค่ะ โดยเฉพาะตอนศศินเจอนาวาครั้งแรก และตอนศศินกินนาวาครั้งแรก ( แคกๆๆๆๆ )
ก่อนอ่านแนะนำเตรียมกระดาษทิชชูให้พร้อมนะคะ
ขอฝากมูนนี่และนาวาสไตล์ไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยน้า ขอบคุณค่า <3


----------> เพจ : มาจะกล่าวบทไป (https://www.facebook.com/MajaYnaja/)
----------> Twitter : MajaYnaja (https://twitter.com/MajaYnaja)
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - แจ้งข่าว - [16/08/2562] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: lonesomeness ที่ 16-08-2019 17:03:02
ภาพปกคือนาวาชักมือได้ดูขยะแขยงตะวันมาก 55555555
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - แจ้งข่าว - [16/08/2562] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 16-08-2019 21:08:01
นาวาใจเด็ดมาก เลิกคือเลิกจริง ชอบความฉลาดแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี
ศศินแม้บางทีจะดูเพี้ยน แต่ก็มีรักที่มั่นคงสุดๆ เล่นเอาหวั่นไหวแทนนาวาเลย :o8:
ตวันน่าสงสารค่ะ แค่หลงผิดเพราะปมในใจ แต่ไม่ใช่คนเลวร้าย ก็หวังว่าจะมีคนดีๆมาดามใจให้อ่ะนะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - แจ้งข่าว - [16/08/2562] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Carina ที่ 17-08-2019 07:23:52
เพิ่งได้มาตามอ่าน สนุกมากกกกกกค่ะ เห็นชื่อนักเขียนแล้วกดมาอ่านเลยไม่ลังเล :3123:

ปกติเราจะเจอแต่นิยายที่นายเอกให้อภัยพระเอกที่นอกใจ แต่ทำมั้ยทำไมไม่รักพระรองที่ดีกว่า เรื่องนี้ตอนอ่านแรกๆ ก็กลัวพลิกว่ากลับมาคบตะวัน แต่สบายใจแล้วค่ะ o13

เสียดายที่ตามหวีดไม่ทันตอนลงสด แต่ก็ขอตามหวีดตอนนี้น่าจะยังทันนะคะ ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ จะตามอุดหนุนเล่มต่อค่ะ  :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - แจ้งข่าว - [16/08/2562] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: BankkunG23 ที่ 17-08-2019 17:07:14
สนุกมากจริงๆครับ เรื่องนี้ ถูกใจมาก ตรงจริตสุดๆ
คือแบบ ตอนแรกนะ คิดว่ามีเราเป็นคนเดียว ที่คิดว่าพระเอกจะนิสัยแย่แค่ไหน
ก็ยังได้รับการอภัยจากนายเอก แนวนี้คือ พอเถอะ!!! ไม่ไหวละ

พอเรื่องนี้ พระเอกไม่ได้รับการให้อภัยจากนางเอกนะ กรีสเลยยยย บอกตรง
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - แจ้งข่าว - [16/08/2562] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 17-08-2019 23:41:57
โดนใจมากชอบมาก พล็อต แบบนี้ เคยเจอพระเอกนอกใจ นายเอกให้อภัยมาเยอะเหมือนกันเรื่องนี้โดนใจมากกกกกอ่ะ ขอบคุณนะสำหรับนิยายดีดี :really2:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - แจ้งข่าว - [16/08/2562] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Onlyoil231 ที่ 18-08-2019 10:44:44
ชอบบบ

Sent from my CPH1723 using Tapatalk

หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - แจ้งข่าว - [16/08/2562] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 18-08-2019 17:27:49
ชอบนาวามากๆ ชอบความโอเวอร์ของศิน  :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - แจ้งข่าว - [16/08/2562] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 18-08-2019 23:01:26
เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ
สงสารตวันเหมือนกันนะแต่ช่วยไม่ได้ทำตัวเอง
ชอบศศิน จ๊ะจ๋ากับนาวาตลอดดดด
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll บทส่งท้าย [13/08/62] P.13 END
เริ่มหัวข้อโดย: airjang ที่ 19-08-2019 02:54:39
สนุกมากๆ ไม่ผิดหวังกับคุณมาจะกล่าวบทไป มีเหตุผล ที่มาที่ไป ความเป็นไปได้
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - แจ้งข่าว - [16/08/2562] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 19-08-2019 07:56:43
มันต้องอย่างนี้ นาวาเลิศมาก ฉันสวย รวย และฉลาดมาก ชอบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - แจ้งข่าว - [16/08/2562] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 19-08-2019 08:30:25
มันต้องแบบนี้แหละ โดนนอกใจนะ
ความแก้แค้นอ่ะ วิธีของคนฉลาด คนรวยเค้าละ
แก้เกมทัน ต่างๆนานา ทำให้รักมูนนี่มากๆ
ดีมากๆๆๆๆๆ


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - แจ้งข่าว - [16/08/2562] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: pinkcolormoutain ที่ 19-08-2019 16:51:38
มาตามอ่านตอนรู้ว่าจะออกเล่ม  เด๋วตามไปสอยแน่นวล หนุก o13 :katai2-1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - แจ้งข่าว - [16/08/2562] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: pinkcolormoutain ที่ 19-08-2019 18:11:43
 :impress2: ตอนนี้  ดี๊ดีย์อ่ะ :hao7:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - แจ้งข่าว - [16/08/2562] P.13
เริ่มหัวข้อโดย: wetter ที่ 20-08-2019 07:17:30
นิยายของคุณไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ
ตอนแรกเห็นเกริ่นนำนึกว่า 3p หรือจะดราม่านอกใจหนักๆ เกือบจะไม่อ่าน
แต่เหลือบไปเห็นชื่อคนแต่งก็คือต้องอ่านรึปะ  แล้วก็ดีใจมากที่ตัวเองตัดสินใจถูก5555555
สนุกมากกกก นาวาคือแซ่บ เป็นปมดราม่านอกใจที่ไม่ปวดหน่วง มีวิธีการแก้แค้นฉบับนาวาที่แบบว้าว เท่จัง55555
แต่บทลงโทษเบาไปหน่อยแต่ก็ถือว่าคนผิดได้รับโทษทุกคน
ศศินคือน่ารักมากกกกกกก ความโหดกับคนทั้งโลกแต่จ๊ะจ๋ากับเธอคนเดียว
เอ็นดูคุณเขานะเหมือนแมวตัวโตๆ ปกติเวลาเห็นบทพระรองมาแบบนี้จะทำใจแล้วว่าคงเป็นได้แค่พระรอง
แต่ศศินคือดีมากจนต้องเชียร์ แง
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll -ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: มาจะกล่าวบทไป ที่ 20-08-2019 19:13:53
   ตอนพิเศษ 3

   หลังจากนั้น (ตัวอย่าง)

   

   “นั่นคือห้องของฉัน”

   ผมชี้นิ้วไปยังห้องนอนของตัวเองที่มีป้ายกระดานวาดรูปแขวนอยู่ตรงกลอนประตู เขียนคำว่า ‘นาวา’ มีความหมายว่าเรือ...เรือซึ่งโลดแล่นในน่านน้ำอย่างมีอิสรเสรี

   “ส่วนนั่น...คือห้องของนาย”

   หรือให้ถูกคือห้องเก่าของตวัน

   “จ๋าจ้ะ” ศศินไม่ถือสา ขานรับเสียงหวานด้วยใบหน้าระรื่นสุดขีด บอดี้การ์ดพี่โชคกับพี่ชัยถือกระเป๋าเดินทางใบโตให้เจ้านาย เมื่อได้รับอนุญาตก็พากันเข้าไปในห้องนอนของศศินเพื่อจัดแจงเสื้อผ้าและขนของใช้จำเป็นจัดวางให้เรียบร้อย

   ครับ นับแต่นี้ผมกับศศินจะอยู่ด้วยกัน

   มันประหลาดมั้ยล่ะที่เขาต้องเวียนมารับตอนเช้า ส่งตอนเย็นทั้งที่คอนโดฯ อยู่ฝั่งตรงข้าม เพื่อตัดปัญหาและเพื่อพิสูจน์ว่าเราจะอยู่ด้วยกันได้มั้ย ผมเลยบอกให้ศศินมาอยู่ห้องตวัน เพราะแม้นิสัยเราจะเข้ากันได้ แต่ใช่ว่าจะอยู่ด้วยกันรอด

   “มองอะไร” ผมกลั้นขำกับศศินที่เหลียวซ้ายแลขวา ดูตื่นตาตื่นใจไปหมดนับตั้งแต่ก้าวเข้ามาห้องนี้

   “แอบส่องมาตั้งนาน พอได้เห็นกับตาตัวเองจริงๆ เลยปลื้มปริ่มอยู่น่ะ!”

   ไล่เขาออกไปได้มั้ย อะไรนะ พี่โชคกับพี่ชัยจัดของเสร็จแล้ว ไวเกิ๊น!!

   “คงไม่ได้เอากล้องส่องทางไกลมาใช่มั้ย...”

   “จะเอามาทำไม ที่รักเดินให้เห็นตัวเป็นๆ อยู่ตรงนี้แล้วนี่นา” ศศินอ้าแขนเหมือนอยากจะกอด แต่ด้วยรู้สึกขนลุกขนพอง ผมเลยเดินเลี่ยงไปนั่งตรงโซฟา

   “มาตั้งกฎกันก่อน” ผมตบที่ว่างข้างตัว ซึ่งศศินแทบจะพุ่งถลาเข้าหาด้วยความไวแสง “วาจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกวันอาทิตย์ แต่ระหว่างนั้นถ้าใครทำสกปรกก็ต้องช่วยกันเก็บช่วยกันทำความสะอาด ซึ่งวาจะไม่ขัดห้องน้ำเด็ดขาด แต่นอกนั้นก็พอทำได้”

   ศศินพยักหน้าหงึกๆ อย่างตั้งใจฟัง

   “เสื้อผ้าส่งซักทุกตัว ถอดแล้วให้ใส่ไว้ในตะกร้าสีขาว เดี๋ยววันอาทิตย์แม่บ้านจะขนไปจัดการให้เอง”

   พลันพี่โชคก็ถือลังเข้ามา มองเป็นเชิงถามความเห็นว่าควรไว้ตรงไหน

   “ชั้นหนังสือยังเหลือ แต่ไม่น่าจะพอกับหนังสือของศิน ลองจัดเรียงไปก่อน ถ้าเหลืออีกเยอะก็ค่อยไปซื้อชั้นมาเพิ่มแล้วกัน อ้อ กองกระดาษตรงนี้ห้ามยุ่งนะ ถึงจะเหมือนขยะก็เถอะ แต่เป็นภาพวาดเล่นของวาเอง ถึงตอนนี้จะยังไม่ได้ใช้แต่อนาคตอาจได้ใช้ก็ได้ ส่วนพวกนิตยสารแฟชั่นตามเก็บได้ไม่มีปัญหา วาชอบหยิบมาดูแล้วลืมน่ะ”

   ศศินพยักหน้าอีกหลายหงึก

   “สองห้องนั้นเป็นห้องแต่งตัวของวา ห้องซ้ายคือเสื้อผ้ากับเครื่องประดับ ห้องขวาคือรองเท้ากับหมวกแล้วก็พวกกระเป๋า ยืมได้แต่ต้องบอกก่อน แตะได้แต่ห้ามสลับที่วางได้เด็ดขาด ไม่งั้นวาจะโกรธมาก” เพื่อความจริงจังผมเลยจับหางตาตัวเองให้ชี้ขึ้นกว่าเดิมเพื่อขู่ขวัญ ศศินหลุดหัวเราะ จับผมไปหอมแก้มไวๆ หนึ่งทีอย่างมีความสุข

   “อ่ะแฮ่ม ที่นี่สั่งอาหารฟรี แต่ถ้าอยากเข้าครัวก็ตรงนู้น นั่นห้องครัว แต่ในตู้เย็นไม่มีอะไรหรอกนะ ข้างๆ คือห้องทานอาหาร ถัดไปเป็นระเบียง ออกไปรับลมเล่นได้ มีสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วย แต่วาไม่ค่อยใช้หรอก แดดส่องตรงหัวร้อนสุดๆ ส่วนฟิตเนส สปา บาร์ลงไปใช้บริการของคอนโดฯ ได้ ทุกอย่างฟรีหมดก็จริง แต่ให้ทิปพนักงานเยอะๆ แทนก็ดี ปกติวาจะทำแบบนั้น เอ่อ...แล้วมีอะไรอีกนะ”

   “ตรงนั้นคืออะไรเหรอที่รัก”

   ศศินชี้ไปที่กองหมอนหลายสิบใบบนพื้นยางนุ่มนิ่มริมระเบียงที่แสงแดดสาดส่องเข้ามาได้พอดิบพอดี ข้างๆ เป็นหนังสือการ์ตูนและกองกระดาษ

   “อ้อ โซนเอกเขนกน่ะ”

   “อ้อ โซนนอนขี้เกียจของที่รักจ๋านี่เอง”

   พูดเองยังพอรับได้ แต่พอฟังจากปากศศินแล้วไม่รู้ทำไมใจมันเต้นรัว

   เขินอาย? เปล่า อยากต่อยหน้า!

   “มีอะไรอยากถามอีกมั้ย”

   “ไม่มีแล้วครับที่รัก อย่ารีบร้อนสิ อยู่ไปเดี๋ยวก็ค่อยๆ เรียนรู้กันเอง”

   ฟังดูดี น่าเชื่อถือ คารมคมคาย ช่วยประโลมใจที่คุกรุ่นให้สงบนิ่ง

   ตัดภาพอีกชั่วโมงถัดมา

   เมื่อพี่โชคและพี่ชัยช่วยจัดของเสร็จเรียบร้อยและแยกย้ายกลับห้องตัวเองซึ่งอยู่ถัดลงไปหนึ่งชั้น ผมก็มองศศินที่นั่งอยู่ตรงโซฟา ไม่ขยับตัวด้วยสายตาขบขัน

   “ทำอะไรตรงนั้น”

   “นั่งตรงนี้ก็สบายดี”

   ผมหลุดหัวเราะลั่น แฟนใครทำไมน่ารักจัง ศศินเป็นคนปากดี เก่งกล้า โหดเหี้ยม แต่พออยู่กับผมสองต่อสองก็เหมือนสุนัขเชื่องๆ ที่เพิ่งย้ายบ้านใหม่ ไม่ค่อยกล้าซุกซน แถมหาที่ทางให้ตัวเองไม่เจอเลยได้แต่นั่งนิ่งอย่างปรับสภาพแวดล้อม สำหรับศศินซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่คนเดียวจนชิน เมื่อต้องย้ายมาอยู่กับคนรักที่เขาพร่ำบอกทุกวันว่ารักมากเลยทำตัวไม่ถูก เกรงจะทำให้ผมอึดอัด

   นี่ใครกัน...นี่นาวา ดาราลัยนะ ต่อให้มีคนเดินเล่นอีกสิบคนในห้อง มีพี่โชคยืนมอง ผมก็ยังทำตัวผ่อนคลายสบายใจ ศศินคิดมากเกินไปแล้ว!

   “มานี่” ผมตบพื้นที่ว่างข้างตัวหลังนอนขี้เกียจอ่านการ์ตูนไปสามเล่มตรงโซนเอกเขนก

   ศศินก็ช่างว่าง่ายน่ารัก ผมเรียกเป็นต้องหัน ย้ายตัวเองมานั่งแบบเก็บมือเก็บเท้า กลัวจะไปทำลายกองหมอนจนถล่ม

   อะไรจะเกร็งขนาดนี้!

   ผมนึกสนุก ตบแปะกับพื้นอีกหลายทีให้เขานอนพิงสบายๆ พอได้มุมก็ทิ้งศีรษะนอนตรงหน้าท้องของเขา ศศินยิ่งเกร็งหนัก แต่ผมไม่สนใจ

   “หยิบการ์ตูนเล่มทางซ้ายให้หน่อย”

   “เล่มนี้เหรอ”

   “ไม่ใช่ อีกเล่มหนึ่ง ซ้ายมือของศินไม่ใช่ซ้ายมือของวา”

   ศศินช่วยหยิบการ์ตูนให้ผมด้วยท่ากึ่งนอนกึ่งนั่งโดยมีผมนอนทับบนพุง

   “จะเกร็งหน้าท้องทำไม รู้แล้วว่ามีซิกซ์แพ็กส์ แต่ทำให้มันนุ่มนิ่มหนุนนอนสบายๆ ไม่ได้เหรอ”

   “โธ่...ที่รักจ๋า นี่มันกล้ามเนื้อที่ฉันภูมิใจเลยนะ” ศศินเอ่ยเสียงอ่อน แต่สุดท้ายก็ยอมผ่อนคลายร่างกายลง ผมนอนอ่านการ์ตูนสบายใจเฉิบ จบหนึ่งเล่มศศินก็เริ่มลูบศีรษะกันแผ่วเบาอย่างคนไม่มีอะไรจะทำ แต่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็สุขใจ

   “หัววาหนักมั้ย”

   “ความรักที่ฉันมีให้ที่รักจ๋าหนักกว่าเยอะ”

   “...”


   -------------------ติดตามที่เหลือต่อได้ในเล่ม--------------

   สวัสดีค่า วันนี้เอาตัวอย่างตอนพิเศษที่สาม จากตอนพิเศษสี่ตอนมาให้อ่านเป็นน้ำจิ้มนะคะ

   นี่แค่วันแรกที่อยู่ด้วยกันก็น่ารักมากแล้วเนอะ แล้ววันที่เหลือจะเป็นยังไงน้า? ตอนเห็นนาวาเพิ่งอาบน้ำเสร็จตัวหอมฉุยๆ ตอนเห็นแฟชั่นชุดนอนของนาวา ตอนไปปลุกนาวาคนขี้เซาถึงเตียง ศศินจะเป็นยังไงน้า~~~

   ใครอยากเห็นพัฒนาการของศศินเริ่มจากหมาน้อยเชื่องๆ และค่อยๆ ชินจนกลายร่างเป็นหมาป่า ต้องห้ามพลาดตอนพิเศษเลยนะคะ!

ปล.หนังสือออกแล้วน้าาาา สั่งซื้อผ่านเวปแจ่มใส จาก 239 เหลือ 203 บาทเท่านั้น นั้น นั้นนน (จิ้มลิ้ง -> https://bit.ly/2ZcjAf7)

 หรือหาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วประเทศเลยค่า นายอินทร์ ซีเอ็ด บีทูเอส มีหมด!!

   ขอฝากเนื้อฝากตัวนาวาสไตล์และเด็กชายศศินด้วยนะคะ

   


----------> เพจ : มาจะกล่าวบทไป
----------> Twitter : MajaYnaja
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 20-08-2019 19:28:38
          พร้อมเปย์ :mew1:
เพราะนาวาน่ารักของมันเลยต้องมี
รออ่านผลงานเรื่องใหม่น่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 21-08-2019 05:14:33
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 21-08-2019 09:21:22
เมนท์ตอนที่ 7
ฮืออออออ ทำไมรู้สึกภูมิใจในตัวนาวาไปด้วยประดุจเป็นแม่เขา เรารู้สึกซึ้งเลย ศศินเห็นเล่นๆ แต่จริงจังจริงใจมาก ขอบคุณที่เขาเชื่อมั่นในตัวนาวา


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 21-08-2019 17:29:06
เมนต์ตอน 12
เข้าใจนาวานะ คือไม่ได้จะพ่อพระ นักบุญอะไรหรอก แต่โตมาด้วยกันยังมีความผูกพันก็อดห่วงตวันไม่ได้
สงสารศศินด้วย หน้าชื่นอกตรม เป็นพระเอกที่ไม่เหมือนพระเอก 555555


Sent from my iPad using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 21-08-2019 22:34:29
เมนต์ตอนที่ 18
ดีใจกับศศินด้วย ได้จับมือนาวาแล้ว 555555555 แอบซึ้งกับความรักมั่นคงของศศินนะ ดีใจด้วยจริงที่ใกล้สมหวังแล้ว


Sent from my iPad using Tapatalk
หัวข้อ: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 22-08-2019 01:47:24
เราขำนาวาตีฉาบมากจริงๆ แบบไม่ไหวเลย 55555555555 นาวาก็ติงต๊องเหมือนกันนะเนี่ย


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 22-08-2019 02:09:17
ว่าแล้วต้องเป็นเลขา เสียดาย หน้ามืดตามัวไปหน่อย


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 22-08-2019 02:42:49
จบด้วยดีกับความตลกของคู่รัก(สติ)เกินๆ 5555555 บางฉากซึ้งและแอบหน่วงก็จริงนะคะ แต่ความล้นของศศินพาเราขำตลอดเลย
สะใจพาฝัน ทะเยอทะยานเกินตัว ได้รับโทษที่สาสมแล้ว ส่วนตวันเราแอบสงสารนางนะ นางผิดจริงที่นอกใจแต่อะไรหลายๆ อย่างในชีวิตนางน่าเห็นใจมาก


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 22-08-2019 02:49:44
ตอนพิเศษน่ารักมากกกกกกกก คงต้องไปซื้อเล่มแล้ว แง


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 22-08-2019 09:31:17
เอาจริงๆก็แอบสงสารตวันนะแต่ก็ช่วยไม่ได้นอกใจนาวาเอง นาวาก็สุดยอดมากใจเด็ดและเป็นคนเด็ดขามาก
ส่วนพี่ศศินต้องยอมรับเรื่องความรักเดียวใจเดียวเลย ถึงจะดูเหมือนบ้าๆแต่ก็เป็นที่พึ่งได้ ขอบคุณมากค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 22-08-2019 13:59:37
ขอบคุณคนเขียนมาก เรื่องนี้เป็นอะไรที่ดี การนอกใจก็สมควรไม่ให้โอกาสเพราะว่าสองคนนี้เข้ากันไม่ได้ตั้งแต่แรกด้วยถึงจะรักกันก็เถอะ ศศินคือผู้ชายไทป์หมาน้อยที่น่ารักมากรักเดียวใจเดียวแต่ตอนเขามีแฟนก็ไม่เข้าไปแย่งแค่หยอกพอหอมปากหอมคอ5555555
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 23-08-2019 01:29:32
อยากได้แฟนแบบมูนนี่~
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 23-08-2019 11:36:31
สนุกมากครับ ขอบคุณครับ,,,
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 23-08-2019 12:44:02
5555 น่ารักดีค่ะ ตลกด้วย
พอเป็นนาวาเล่า อะไรก็ดูชิลดูสบายไปหมดเลย
ถึงคนอื่นจะดราม่า หรือลุคโหดยังไง ก็ไม่แคร์
ก็นาวาสไตล์ไง จะใครล่ะ ไม่เห็นต้องดิ้นตามคนอื่น

ศศินคือคนบ้าบอ ที่น่าสนใจนะ โตมาแบบไม่ครบ
และเจอสภาพแวดล้อมไม่โอเค แต่กับนาวา ศศินทำได้ดีเลย
มั่นคง ดูแล ติดตาม แบบไม่ทำลาย มาตั้ง 7 ปี
ไม่รักจริง คือไม่ทำได้ขนาดนี้เลยนะ

ตวันคือทำตัวเองโดยแท้ รักแค่ไหน แต่ไม่ซื่อสัตย์
และยังคอยเปรียบเทียบ เพื่อกดดันตัวเองด้วย
ทำตัวเองด้วย แล้วจะอยู่กันต่อได้ยังไง

นทีคือคนหลงน้องที่แท้จริง 5555 ก็น่ารักดีค่ะ

ขอบคุณมากนะคะสำหรับนิยายดีๆ มีความซับซ้อนเบาๆ
แต่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี เพราะความนาวา
เป็นกำลังใจให้ต่อไป และรอติดตามผลงานอื่นๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: 14th-friedegg ที่ 24-08-2019 16:01:55
อรั้ยยยยยยยน่ารักมากตามเก็บแน่นอนคะ!!
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 01-09-2019 18:13:48
เห็นชื่อเรื่องแล้ว ก็นึกไปออก จะมีอะไรนะ จะสนุกมั้ย
แต่พอได้อ่านเท่านั้นแหละ
จากตอนที่1 อ่านลากยาวจนถึงตอนพิเศษเลย

เรื่องนี้ชอบมากกกกกกกกก
เป็นการสลัดแฟนเก่าได้สะใจสุดๆ
แถมยังใส่เนื้อเรื่องให้เข้มข้นหลากหลายรสชาติ
เศร้า โกรธ เขิน หวาน ดราม่า
ขมวดรวมได้เยี่ยม ^^//

ปล. ถึงจะเพี้ยน ทำตัวแปลก แต่ชอบอ่ะ 'ศศิน'
ผู้ชายอะไรน่ารักได้ขนาดนี้

 :mew1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 06-09-2019 13:01:16
แอบสงสารตะวันเบา ๆ แต่ก็นะทำตัวเองแท้ ๆ นาวานี่ก็ร้ายไม่เบาเลยจริง ๆ
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 07-09-2019 20:52:41
เคยอ่านเรื่อง เขาให้ผมเป็นดารา รักมากๆ  แล้วเรื่องนี้ อยากรักนาวา คนเดียวได้มั๊ย อิอิ เป็นตัวละคร ที่มีพร้อมทุกอย่าง ฉลาดดี ตัดความรู้สึกได้รวดเร็ว เหมือนเดินสายกลาง
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 09-09-2019 10:00:13
เราตามอ่านนิยายของมาจะกล่าวบทไปทุกเรื่อง
ตามมาหลายปีตั้งแต่พี่คิงกับน้องนิลเริ่มอัพแค่ไม่กี่ตอน
แต่ขอสารภาพว่าเรื่องนี้เรามาตามอ่านช้า ตามอ่านหลังจากที่อัพจบไปแล้วเพราะชื่อเรื่อง
พอเห็นชื่อเรื่อง เราเลยตัดสินใจคิดไปก่อนแล้วว่าพล็อตเรื่องน่าจะคล้ายๆแนวเก่า
ที่ตามแก้แค้นแฟนเก่าประมาณนั้น เนื้อเรื่องน่าจะเชย เพราะแนวนี้ก็มีเยอะ
แต่นี่คือสิ่งที่เราคิดผิดมากๆ อ่านแล้วสนุก อ่านแล้วไหลลื่น ชอบในความน่ารักของศศิน
ชอบความมั่นใจและแผนการของนาวา และความหวงน้องชายของคุณพี่นที
สรุปคือชอบมากๆ และจะตามอ่านเรื่องถัดๆไปนะคะ  :L1:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: abc_b ที่ 10-09-2019 16:52:30
ชอบนายเอกแซบๆแบบเน้~  :hao7:
ดีมาดีกลับ ใช้ความรวยให้เป็นประโยชน์(?)  :laugh:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: มาดามพีพี ที่ 10-09-2019 19:20:34
ไม่เคยผิดหวังกับนักเขียนคนนี้จริงๆค่ะ นายเอกแซ่บตาลอดดดด
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 18-09-2019 01:26:32
อยากอ่านตอนพิเศษ ต้องไปหาซื้อหนังสือแล้วว

ขอบคุณนักเขียนสำหรับนิยายสนุกๆด้วยจ้าา
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: praewypn ที่ 19-09-2019 12:26:00
สนุกมากๆๆเลยค่า ขอบคุณนะคะ ซื้อเล่มแน่นอน อิอิ  :o8: :-[
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: ชินจังไม่กินหัวหอม ที่ 06-10-2019 22:00:54
นาวาน้องร้ายใช่เล่นเลยนะ แต่ศศินน่ารักมาก เป็นความรู้สึกว่าเหมือนไม่อยากคาดหวัง มีความสุขความพอใจแบบนี้ อยากให้น้องนาวาเอ็นดูศศินเยอะๆ หน่อยนะ ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ อีกเรื่องนะครับจะติดตามผลงานในเรื่องต่อไป
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 11-10-2019 19:24:57
นาวานี่มันนาวาจริงๆ 5555555555
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 27-10-2019 23:41:50
สนุกไปอีกแบบ ขอบคุณ​นะคะ​ ชอบศศินกลายร่าง555
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: nyxca ที่ 23-03-2020 15:45:26
ตอนที่7 แล้ว ทำไมเราชอบศศิน เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนมีเสน่ห์ เค้ารักนาวามากลายปีแต่เค้ารู้ว่าตัวเองยืนตรงไหน เราประทับใจศศินมาก และตอนที่นาวายืนบนเวทีสบตากับศศิน ประทับใจอะค่ะ ถึงเขาจะไม่ได้กันแต่นาวาจะไม่มีทางลืมศศินตลอดชีวิตเรามั่นใจ5555


Edit///อ่านจบแล้ว สนุกมาก55555 เหมือนเรื่องจะเครียดใช่มั้ยแต่ด้วยความที่นาวาผู้เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองเล่า มันเลยออกมามีสีสันมาก ไม่หน่วงใจเท่าไหร่

นาวา:เราชอบคาแรคเตอร์นางนะ รักคนอื่นและในขณะเดียวกันก็รักตัวเอง ไม่ยอมเรื่องการนอกใจ(ซึ่งเราก็เกลียดเรื่องนอกใจเช่นกัน นิดเดียวก็ไม่ได้) เราเลยยินดีมากที่นาวาเลิกกับตวัน และบทส่งท้ายที่เขียนว่าตวันอิจฉานาวา เออ เราคิดตามนะ สองคนนี้มีแค่รักอย่างเดียวที่รู้สึกตรงกันแต่การใช้ชีวิต ความคิด ทัศนคติมันคนละทางเลย คบกันไปต่อให้ไม่นอกใจก็ต้องเลิกกันอยู่ดี


ตวัน:โอเคนะที่ว่าตวันน่าสงสาร แต่การนอกใจไม่ใช่เรื่องตลกเนอะ ไม่ว่าตวันจะรักผู้หญิงคนนั้นหรือไม่แต่มันคือการแทงข้างหลัง เราขยะแขยงผู้ชายที่นอกใจคู่ตัวเองจริงๆ นอกใจเป็นปีด้วย แต่ดีอย่างที่ตวันยอมไปง่ายๆ ไม่ทำตัวน่ารำคาญ


ศศิน:แฟนเราเอง เขิล5555 เราชอบศศินที่สุดในเรื่อง แค่คิดว่ามีผู้ชายแบบที่รอเรามา7ปีได้โดยไม่หวังอะไรนี่ก็ฟินดีอะ555 สมหวังสักทีนะศศิน


พาฝัน:เห็บนรกมาก แบบอ่านไปละเซ็งไป นางไม่จบไม่สิ้น รำคาญ

สุดท้ายขอบคุณคนเขียน เราชอบเรื่องนี้นะคะ ชอบที่ได้อ่านนายเอกเข้มแข็งบ้าง เลิฟค่า
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 08:53:41
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ll แผนลับสลัดแฟน(เก่า) ll - ตัวอย่างตอนพิเศษ : หลังจากนั้น[20/08/2562] P.14
เริ่มหัวข้อโดย: Gimlongdeep ที่ 25-07-2020 14:23:10
ความไอต้าวลูกหมาของศินช่างน่าเอ็นดูววววว555555เกร็งเลยยย นังพาฝัน!!!฿(฿+&฿#()#฿-฿))_+;';แกร๊