พิมพ์หน้านี้ - [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 6 26/4/61 P.3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: applecaramel ที่ 09-08-2017 12:04:34

หัวข้อ: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 6 26/4/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: applecaramel ที่ 09-08-2017 12:04:34
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

เรื่องนี้เป็นแนวหญ้าแก่โดนเคี้ยวนะคะ แต่งสนองนี้ดตัวเองเฉพาะค่ะ

แนะนำติชมได้ตามอัธยาศัย

ชอบแนว omegaverse มากแต่ยังไม่ค่อยเห็นคนเขียนเยอะ ไหนๆแล้วเลยลองเขียนบ้างหลังจากอ่านของเค้ามานานมาก ฮ่า

หัวข้อ: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 1 9/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: applecaramel ที่ 09-08-2017 12:21:14
วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ตามปกติแล้วผมจะอยู่บ้านดูทีวี แต่วันนี้ผม นายกันตพัฒน์ มั่งมีสุข หรือ กันต์ ชายวัยกลางคนอายุ 40 มานั่งรอรับลูกสาวที่น่ารักของผมครับ


หลังจากที่เธอกดจองตัวที่นั่งแถวหน้าของงานแฟนมีตติ้งกลุ่มไอดอลสุดรักในดวงใจได้ เธอดีใจถึงกับฮัมเพลงทั้งวัน ทำกับข้าวให้ทานอีกด้วย! อาหารฝีมือลูกสาวผม ถึงตายก็ไม่เสียดายแล้ว ประดุจบรรลุเควสแห่งชีวิตไปหนึ่งเลยทีเดียว แม้จะเจ็บช้ำที่เธอทำเพราะแก๊งไอดอลนั่นก็ตาม


งานแฟนมีตเริ่ม 5 โมงเย็น เลิก 3 ทุ่ม ดึกขนาดนั้นผมปล่อยให้เดินทางเองไม่ได้หรอก ถ้าถูกทำมิดีมิร้ายจะทำยังไงล่ะ ลูกผมยิ่งน่ารักอยู่ด้วย ถึงจะเป็นเบต้าเหมือนผมกับภรรยาที่ตายไปไม่น่ากังวลเท่าโอเมก้าแต่ยังไงผมก็ต้องมาส่งให้ได้ ลูกผม ผมห่วงผมหวง!


ผมกับภรรยาพบรักกันตั้งแต่เรียนมหาลัย แต่งงานกันตอนอายุ 25 แล้วก็มีลูกเลย(เชื้อมันดี) แต่ที่รักกลับจากไปตอนคลอดลูกสาว ตอนนั้นผมเสียใจมาก แต่ชีวิตมันต้องเดินหน้า ยังมีลูกน้อยที่ผมต้องดูแลปกป้อง ผมจึงรักลูกสาวคนนี้มาก ตั้งใจเลี้ยงดูแทนส่วนของเธออย่างเต็มที่ น้องพีช พิชารัตน์ ถึงได้โตมาเป็นเด็กดีน่ารักแบบนี้ไงล่ะ


ในสังคมปัจจุบันนั้นนอกจากเพศชายหญิงแล้ว ยังมีเพศที่สองอยู่ซึ่งได้แก่ อัลฟ่า เบต้า โอเมก้า อัลฟ่าเป็นเพศที่ถือว่าอยู่จุดสูงสุด มีทั้งความแข็งแกร่งทางด้านร่างกายและสติปัญญา สามารถทำให้โอเมก้าและเบต้าหญิงท้องได้ มีปฏิกิริยากับฟีโรโมนของโอเมก้าทำให้เกิดอาการรัท(ภาษาบ้านๆตัวผู้ติดสัตว์นั่นเอง) เบต้านั้นเป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดา ไม่มีอะไรดีเป็นพิเศษแต่ก็ไม่ได้แย่ สุดท้ายคือโอเมก้า มีร่างกายที่อ่อนแอโดนรังแกได้ง่าย มักมีอาการฮีตทุกเดือน(การติดสัตว์ของตัวเมียนั่นแหละครับ) และปล่อยฟีโรโมนในช่วงฮีตเป็นเหมือนสัญญานบอกความพร้อมในการผสมพันธุ์และตั้งครรภ์ สามารถตั้งท้องได้ทั้งกับอัลฟ่าและเบต้า แต่จะมีปฏิกิริยากับอัลฟ่าเป็นพิเศษ อัลฟ่ากับโอเมก้าจะจับคู่กันได้โดยการกัดที่หลังคอเป็นสัญลักษณ์


เมื่อก่อนนั้นมีการแบ่งแยกชนชั้นจากเพศที่สองอย่างรุนแรง โดยเฉพาะโอเมก้าที่เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่ต่ำที่สุด ถูกกดขี่รังแกอยู่เสมอเนื่องจากร่างกายที่มีอาการฮีตทุกเดือน ครั้งละ 5-7 วันแล้วแต่คน ทำให้ไม่เป็นที่ต้องการในการทำงาน โดนเหยียดหยามเอาเปรียบจากสังคมกดให้เป็นเพียงเครื่องมือระบายอารมณ์และคลอดลูกเท่านั้น แต่ในปัจจุบันการแบ่งแยกได้ลดน้อยลงแล้วจากความพยายามของหลายฝ่าย ทั้งรัฐบาลที่รณรงค์ให้โอเมก้ามีพื้นที่ในสังคมมากขึ้น ทั้งโอเมก้าหลายคนก็แสดงความสามารถออกมาให้เห็นว่าพวกเราไม่อ่อนนะ จึงทำให้การแบ่งแยกค่อยๆลดลง รวมไปถึงเหล่าเบต้าทั้งหลายด้วย


หลายคนความสามารถมีมากกว่าเหล่าอัลฟ่าซะอีก ถ้าโดนกดเพราะเรื่องเพศก็น่าเสียดายแย่เลย แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีปัญหาอะไรเลยนะ ยังไงฟีโรโมนของโอเมก้าน่ะก็ดึงดูดอัลฟ่าอยู่ดี เพื่อไม่ให้มีปัญหาในการทำงานจึงเป็นกฏบังคับให้โอเมก้าใส่ปลอกคอตลอด รวมถึงทานยาระงับอาการฮีต และให้อัลฟ่าพกยาระงับการรัทฉุกเฉินทุกคน(สวัสดิการสังคมแจก) โชคดีชะมัดที่ผมกับลูกเป็นเบต้าเลยไม่ต้องยุ่งกับอะไรพวกนี้ นี่เป็นข้อดีของชนชั้นสามัญยังไงล่ะ
ระหว่างรอลูกก็นั่งๆนอนๆทำอะไรเรื่อยเปื่อย ดูหนังฟังเพลงอยู่บนรถ เชื่อมั้ยครับว่า 50% ซีดีบนรถผมเป็นเพลงของแก๊งไอดอลนั่น ถึงจะไม่ชอบขี้หน้ามันเพราะแย่งความรักของลูกสาวผมไปแต่ทำไงได้ ก็ความสุขของลูกนิ(กระซิกๆ)
นั่งๆนอนๆผ่านไปชั่วโมงหนึ่งแล้วชักปวดฉี่แหะ ไปเข้าห้องน้ำดีกว่า










หลังจากเดินเข้ามาในฮอลจัดการแสดง เนื่องจากงานยังไม่เริ่มจึงยังเห็นคนต่อแถวอยู่ ผมพาลูกมาก่อนเวลาเพราะเธออยากมารอโอปป้า โถ่ลูกทำไมต้องมาลำบากแบบนี้นะ


ห้องน้ำชายโล่งมากเพราะคนมางานเป็นผู้หญิงส่วนใหญ่ มีโอเมก้าชายบ้างแต่ไม่เยอะ แต่แบบนี้ก็ดี จะได้ยิงกระต่ายอย่างสบายใจ


ว่าแล้วก็ยืนประจำตำแหน่ง รูดซิบชักอาวุธเล็งตำแหน่งแล้วยิง


ฮ้า... โล่ง


เสร็จแล้วก็เก็บอาวุธปืนใหญ่ของผมลงไป ล้างมือให้เรียบร้อย


ปัง!!


หืม ไม่มีมารยาทเอาซะเลย เปิดประตูเสียงดังแบบนี้รู้ไหมคนแก่ตกใจนะ


พอหันไปก็เจอผู้ชายสองคนเดินเข้าห้องน้ำมา เป็นฝาแฝด ผมเผ้าปิดหน้าผิดตานิดหน่อย อาการเหมือนเป็นไข้เลยแหะ ช่วยดีมั้ยนะไอ้เรามันพลเมืองดีด้วยสิ


“คุณๆ เป็นอะไรมั้ย ให้ผมช่วยรึเปล่า” ดูแล้วอายุน่าจะยังวัยรุ่น ลูกครึ่งซะด้วยหน้าตาดีอีกต่างหาก แต่หน้าคุ้นๆจังแฮะ


“ถอยไป... รีบหนีไป เร็ว!”


“ให้ผมช่วยเถอะ พวกคุณดูไม่ไหวแล้ว” ผมเป็นพลเมืองดีครับ จะปล่อยไปเฉยๆได้ยังไง อย่างน้อยก็ช่วยเรียกรถพยาบาลมาก่อนแล้วกัน อาการท่าจะไม่ไหวแล้ว


พูดจบผมก็ควักมือถือออกมากดเบอร์โรงพยาบาล ยังไม่ทันกดโทรออกก็ดันโดนตะครุบไว้ก่อน มือถือก็นอนแอ้งแม้งบนพื้นไป


“พวกคุณเป็นอัลฟ่า รัทงั้นเหรอ อุ๊ป!”


เชี่ยละ ท่าทางพูดกันไม่รู้เรื่องแล้ว สองคนนี้ไม่เหลือสติเลยซักนิด ถ้าพูดกันรู้เรื่องอย่างน้อยผมจะได้เอายาระงับที่เขาพกฉีดให้ แต่มันก็แปลกอยู่ดี แถวนี้ไม่มีโอเมก้า ไม่น่าจะเกิดอาการรัทจนขาดสติได้ขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ ฉีดยาของตัวเองไปก็จบแล้ว


ผมโดนคนข้างหน้าจับแหงนหน้าขึ้นระดมจูบ แถมยังสอดลิ้นเข้ามาตอนอ้าปากพูดอีกเหมือนจูบสูบกระชากวิญญาณ ตอนนี้ข้อมือโดนรัดเจ็บไปหมด แผ่นหลังแนบชิดกับหน้าอกคนข้างหลังจนรู้สึกถึงไอร้อนจากร่างกาย


“อึก.. อ๊ะ” ตายห่า พวกมันเริ่มปู้ยี่ปู้ยำผมหนักขึ้นไปอีก คนหนึ่งไซร้คอด้านหลังอีกคนเลียยอดอกผ่านเสื้อ ท่าจะไม่ดีแล้ว


“ปะ.. ปล่อยนะ ฮึก” ผมจะไม่ไหวแล้ว มันรู้สึกดีมาก แต่ดิ้นก็แล้วเตะก็แล้วต่อยก็แล้วพวกนั้นไม่สะดุ้งสะเทือนเลยซักนิด ยังคงตั้งหน้าตั้งตาจับปล้ำผมอย่างจริงจัง พวกมันตัวใหญ่กว่าผมมาก ผมที่สูง 175 ยังแหงนหน้าคอตั้งคาดว่าน่าจะเกือบ 190 เลยทีเดียว


ตอนนี้เสื้อเชิ้ตของผมโดนกระชากกระดุมหลุดหมด มือโดนจับไขว้หลังไว้ทำให้ขยับไม่ถนัด คนด้านหลังล็อคข้อมือพร้อมไล้เลียขบติ่งหูไปด้วย คนด้านหน้าก็เลียหน้าอกก่อนขบเม้มปลายยอดจนเป็นไตแข็ง


“ฮึก..อา”


ผมรู้สึกดีจนเสียงครางเล็ดลอดออกจากลำคอ พอเห็นผมเริ่มเคลิ้มเหมือนจะยิ่งได้ใจ แฝดด้านหน้าละเลงลิ้นหนักกว่าเดิม มืออีกข้างก็บี้ยอดไตแข็งไปด้วยไม่ปล่อยให้เว้นว่างจนเป็นสีแดงก่ำ จากนั้นจึงค่อยๆลงต่ำเรื่อยๆ อีกมือเลื้อยเข้าไปในกางเกงด้านหลังสัมผัสกับช่องทางด้านที่ปิดสนิทไล้วนไปรอบๆ แฝดด้านหลังเอามืออีกข้างที่ว่างจากการล็อคผมมาปลดกระดุมกางเกงแล้วรูดซิบลง


“อึก อ๊ะ” ผมร้องออกมาเมื่อลูกชายโดนขยำขยี้ ฮือ แย่แน่ ผมเป็นเบต้านะ ร่างกายไม่ได้มีไว้เพื่อรองรับพวกอัลฟ่าแถมเป็นผู้ชายอีก โดนเข้าไปทีถึงตายแน่ๆ ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างมีหวังเสร็จพวกมันแหงๆ แรงก็เริ่มน้อยลงๆ จะเก่งกันไปไหนวะเนี่ย



ปึกๆ !!



เสียงแรกผมเอาหัวโหม่งคนข้างหลัง เสียงที่สองผมเอาเข่าเสยคางคนข้างหน้าในจังหวะก้มเตรียมถอดกางเกงผม พวกนี้แข็งแรงกว่าต้องจู่โจมตอนทีเผลอม้วนเดียวจบ ระหว่างที่พวกมันมึนอยู่ก็รีบเก็บโทรศัพท์บนพื้นแล้วชิ่ง







หลังจากออกมาจากสถานที่อันตรายต่อพรหมจรรย์ด้านหลังได้ก็รีบวิ่งไปลานจอดรถโดยด่วน สภาพตอนนี้ไม่อยากบรรยายเลย ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง กางเกงหมิ่นสะโพก กระดุมเสื้อหลุดหมดแผง วิ่งไปด้วยรวบสาบเสื้อไปด้วย ดีนะที่คนเข้าไปในส่วนจัดการแสดงเกือบหมดแล้ว จึงไม่มีคนเห็นสภาพสุดทุเรศทุรังของผม


ให้ตายเถอะ เกิดมาไม่คิดเลยว่าจะต้องมาพบเจออะไรแบบนี้ ยังดีที่ผมเป็นเบต้า ถึงไม่ถูกสัญชาติญาณพาให้เคลิ้มหนักหรือไม่มีสติตามไปด้วย







พอเข้ามานั่งในรถแล้วผมก็รีบหยิบเสื้อผ้าสำรองที่อยู่ท้ายรถมาเปลี่ยนทันที ติดกระดุมคอให้เรียบร้อยเพราะพวกมันดันทำรอยทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้า ดีที่ผมชอบซื้อเสื้อผ้าแบบซ้ำๆ ลูกสาวจะได้ไม่สงสัยผมไม่ต้องการให้เธอเป็นห่วงผม


หลังจากนั่งสงบจิตใจจากเหตุการณ์ระทึกขวัญที่สุดในชีวิตชายชาตรี ก็คิดว่าไอ้ยาระงับนั่นน่าจะให้พกซะทุกคนเลยก็ดี ถ้ามียาคงจบไปนานแล้ว ไม่ต้องมาทนโดนโอ้โลมแบบนั้นตั้งนานหรอก


คิดถึงเรื่องนั้นปืนใหญ่ผมก็มีอาการมากขึ้น ยังไม่ได้ปลอบลูกชายเลย ไม่ต้องพร้อมรบขนาดนั้นก็ได้ลูก โถ่


ตั้งแต่ภรรยาตายไปก็ไม่ค่อยได้เอาออกเลย ยุ่งกับการเลี้ยงน้องพีชมาก พอเริ่มสบายกลับไม่ค่อยมีอารมณ์แล้ว แต่ไหงมาสู้เพราะมือผู้ชายได้ เศร้า


นั่งดึงดาวไปซักพักก็ถึงฝั่งฝัน ทำความสะอาดคราบคาวเสร็จ ตรวจดูรอบที่จอดรถให้แน่ใจแล้วก็หลับ


ปิ๊บๆๆๆ


หืม เสียงโทรศัพท์


น้องพีชส่งข้อความมาล่ะครับ บอกว่างานใกล้จบแล้ว เดี๋ยวมาหาที่ลานจอดรถ








“กรี้ดๆๆๆๆ พี่บอสกับพี่วินสุดยอด หนูได้จับมือกับพี่เขาด้วย ได้ลายเซ็นอีก ถึงจะดูเหนื่อยนิดหน่อยแต่ยังเทคแคร์แฟนๆ ดีเหมือนเดิมเลย ฟินตัวตายมากเลยค่ะ ปลื้มปริ่ม สุดขีดชีวิตติ่งแล้ว จะไม่ล้างมือไปเป็นเดือนเลยค่ะ อ้ายๆๆ”


น้องพีชมาถึงหลังผ่านไปประมาณ 20 นาทีจากที่ได้รับข้อความ มาถึงลูกผมก็ใส่ใหญ่เลยครับ หือ บังอาจจับมือลูกสาวผมงั้นรึ แล้วว่าไงนะ ไม่ล้างมือมันไม่ดีต่อสุขภาพนะน้องพีช


“แถมคอนเสิร์ตก็มันส์มากเลยค่ะ เต้นลืมตายเลย หนูอยากให้คุณพ่อไปสัมผัสความฟินด้วยจัง ความจริงดีทั้ง 5 คนเลยแต่ยังไงหนูก็มีแค่สองใจรักเมนแม่นมั่นพี่บอสกับพี่วินเท่านั้น!”


ตั้งแต่เข้ามานั่งในรถน้องพีชยังพูดเรื่องงานวันนี้ไม่หยุดเลยท่าทางมีความสุขมาก ผมก็พยักหน้ารับเป็นจังหวะพอเหมาะ แต่สองใจมันไม่ดีนะลูก เอ้ย! นี่ไม่ใช่ประเด็นสิ ไอ้นรากับนรินทร์นั่นบังอาจแย่งความรักจากลูกรักผม ยอมไม่ได้


ตั้งแต่เล็กแต่น้อยน้องพีชยกให้ป๊ะป๋าเป็นที่ 1 ตลอดเลยแท้ๆ บอกว่าจะแต่งงานกับป๊ะป๋า พอไอดอลพวกนั้นเดบิวต์เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ใจของน้องพีชก็หันเห ผมไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวในใจอีกต่อไป ห้องนอนของลูกเต็มไปด้วยโปสเตอร์ ซีดี วง Miracle ไอดอลกลุ่ม 5 คนที่กำลังมาแรงในขณะนี้ ไม่นับแท่งไฟ ป้ายผ้าเชียร์ พัด และอีกสารพัดของออฟฟิเชียล


ถึงจะไม่ชอบยังไงแต่ผมจะไม่แสดงออกหรอก เพราะผมยังอยากให้ลูกเข้ามาคุยกับผมบ่อยๆอยู่นะ การที่ลูกสาวที่เข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแล้วสามารถนั่งคุยเปิดออกกับผู้ปกครองได้อยู่เนี่ยวิเศษที่สุดเลย


ปกติเห็นเขาว่าพอเข้าสู่วัยนี้เด็กๆก็จะเริ่มตีตัวออกห่างพ่อแม่ ดีนะที่ลูกผมไม่เป็นแบบนั้น และผมก็ต้องสร้างภาพลักษณ์เป็นคุณพ่อที่เข้าใจจิตใจสาวน้อยวัยใสเพื่อไม่ให้ลูกเหินห่างออกไปเรื่อยๆ แม้จะเริ่มห่างไปบ้างตั้งแต่ไปตามวงไอดอลก็ตามทีเถอะ


ตอนนี้ผมกับลูกกลับมาถึงบ้านแล้วครับ ระหว่างทางน้องพีชก็จ้อไม่หยุดเลยซักนิดจนกลัวว่าจะคอแห้งเลยแวะปั้มซื้อน้ำให้ก่อน








“คุณพ่อคะ งั้นหนูขึ้นไปอาบน้ำนอนก่อนนะคะ ฝันดีค่ะ”


“อย่าลืมล้างมือด้วยล่ะลูก”


ผมเตือนลูกไป ยังไม่ลืมนะครับว่ามือลูกผมโดนลวนลาม แต่กลายเป็นว่าลูกไม่สนใจผมเลยครับ เดินขึ้นบันไดไปฮัมเพลงไปอย่างมีความสุข


เฮ้อ ขึ้นไปอานน้ำนอนบ้างดีกว่าแฮะเรา


ตอนแรกก็เหมือนจะลืมๆเหตุการณ์เลวร้ายนั่นไปแล้ว พอถอดเสื้อจะอาบน้ำเท่านั้นแหละ อะหือ ทั้งช่วงคอกับหน้าอกมีรอยแดงช้ำเป็นจ้ำๆเต็มไปหมด แถมหัวนมผมตอนนี้ก็เป็นสีแดงชูชันจนหน้ากลัว


ดีนะที่รอดมาได้ ขนาดพวกโอเมก้าที่ร่างกายถูกสร้างมาให้รองรับอัลฟ่ายังได้ยินว่าแทบแย่ ถ้าเราโดนเข้าไปจริงๆ อายุมากแถมสองคนอีกโดนหามส่งห้องฉุกเฉินแน่ คิดแล้วสยองเลิกคิดดีกว่า


ปกติผมอาบน้ำค่อนข้างไว แต่วันนี้โดนทำเรื่องแบบนั้นมาก็เลยอาบนานเป็นพิเศษ ขัดๆ ถูๆ ประดุจลอกหนังกำพร้าจนแดงไปทั้งตัว มันขยะแขยงครับ ถึงจะรู้สึกดีอยู่บ้างก็เถอะ แต่ไม่เอาดีกว่า แค่นี้ผมก็ไม่มีหน้าไปพบภรรยาบนสวรรค์แล้ว ฮือ


พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็รีบมุดเข้าที่นอนซุกตัวในผ้าห่มทันที ก่อนนอนก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ด้วยเดี๋ยวตื่นสาย พรุ่งนี้ทำงานแต่เช้าด้วยสิ










แซกๆๆ





หืม ตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนเนี่ย เหมือนอยู่กลางทุ่งหญ้ารกๆ แฉะๆนิดหน่อยน่าจะเป็นที่ชุ่มน้ำด้วย แล้วมาอยู่ที่นี่ได้ไง


ถึงจะสงสัยแต่ก็ยังเดินคลำทางไปอยู่ดี ไม่รู้จะไปสุดตรงไหน เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่กว้างมาก มีแต่หญ้าขึ้นสูงไม่มีแลนด์มาร์กอะไรเลย มืดก็มืดมองทางลำบากชะมัด




แซกๆๆๆ






หือ เสียงหญ้าเหมือนมีอะไรพุ่งมาทางนี้เร็วมาก อะไรวะเนี่ย



แซกๆๆๆๆๆๆ




เสียงเหมือนเร็วขึ้นแล้ว เอาไงดี มากสองทางเลยอ่ะ จะค่อยๆเดินสโลวไลฟ์รึวิ่งป่าราบ



แซกๆๆๆๆๆ ฟ่อ !



เชี่ยๆๆๆๆ วิ่งสิครับรออะไร อ้ากๆๆๆ


ผมตั้งหน้าตั้งตาวิ่งหนีตายเอามากๆ จะเลอะ สกปรก หรือเปียกก็ช่างมันแล้วตอนนี้ วิ่งเข้าไปให้มันหลุดโลกเป็นใช้ได้ หลุดจากอสรพิษนั่นได้ยิ่งดี


ใช่ครับ ที่ตามผมอยู่เป็นงูสองตัว ดูท่าทางแล้วตัวคงใหญ่น่าดู แต่ผมไม่หันไปดูหรอกครับ ลองหันไปทีชีวิตคงจบไม่สวยนัก


แซกๆๆๆๆๆๆ


เอาแล้ว วิ่งหน้าตั้งขนาดนี้แต่เหมือนมันเร็วขึ้นอีก จะไล่ตามผมทันแล้ว ทำไมวันนี้มันซวยจัง ทั้งโดนลวนลามแล้วยังต้องมา
วิ่งหนีงูแบบนี้อีก ไอ้ทุ่งหญ้านี่ก็ไม่รู้จะกว้างไปไหน ถ้าเป็นฝันก็รีบๆ ตื่นซักที เหนื่อยแล้วนะ




ตุบ!


กรรมแล้ว ผมสะดุดครับ หญ้าเกี่ยวขาตอนที่วิ่งจนล้มหน้าทิ่ม เปียกไปทั้งตัวเลยตอนนี้


ฟ่อ...แผลบๆ


ตอนนี้งูสองตัวนั่นมันเลื้อยมาถึงแล้วครับ จะลุกวิ่งต่อก็โดนรัดไว้แน่นแล้วขยับตัวไม่ได้เลย กระดูกเหมือนจะแหลก พวกมันตัวใหญ่มากลำตัวกว้างประมาณไม้บรรทัดเลยทีเดียว


ตัวแรกพันท่อนล่างไปแล้วอีกตัวที่ตามมาสมทบก็ไม่ยอมน้อยหน้าตามมาเลื้อยรัดช่วงลำตัวพลางละเลงลิ้นสองแฉกตวัดบนหน้าผมไปมา นี่จะตายทั้งแบบนี้เหรอเนี่ย


“อึก...”


ไอ้งูสองตัวนี้มันเริ่มเคลื่อนไหวแปลกๆ จากรัดแน่นกลับลายเป็นค่อยๆ เลื้อยคลึงไปตามร่างกาย รู้สึกอึกอัดแต่กลับมีความหวามไหวแทรกผ่านและร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ


นี่ใช่วิธีงูรัดเหยื่อก่อนกินแน่หรือ


“ฮะ... อ้ากๆๆ”


จู่ๆ พวกมันก็ง้างเขี้ยวกัดผมกระทันหัน ตัวบนงับช่วงไหล่แถวไหปลาร้าตัวล่างงับบริเวณสะโพกต่างก็กัดจนจมเขี้ยว เลือดค่อยๆ ไหลซึมออกจากแผลผ่านเนื้อผ้าสีขาวบางเบาของเสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนส์สีเข้ม


“ฮึก” นี่ผมคงใกล้ตายแล้วสินะ ไม่! ผมยังมีลูกสาวที่ต้องดูแลอยู่ หลังจากละคมเขี้ยวออกจากตัวผมเลือดก็กระฉูดออกมาจากปากแผลอย่างล้นหลามจนกลัวว่าเลือดจะหมดตัว


ตอนนี้ผมเบลอมาก ภาพค่อยๆ พร่ามัวขึ้นไปทุกที เจ็บจนชาจากการถูกกัดและลำตัวที่พันธนาการแน่นขึ้นไปอีก
ไม่ไหวแล้ว









ปิ๊บๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ





เฮือก!!


เสียงนาฬิกาปลุกดังกระชากผมออกมาจากฝันร้ายพอดี เช้าแล้วสินะ


ผมตื่นขึ้นมาในสภาพเหงื่อท่วมตัวจนชุดนอนเปียก แถมยังหอบหายใจเหมือนไปเต้นโคฟเวอร์กับลูกซักสิบรอบได้ วันนี้ดันฝันอะไรไม่เข้าท่าซะได้บ้าชะมัด


เข้าไปอาบน้ำดีกว่าแหะ จะได้สดชื่นไปทำงานอย่างสดใสซาบซ่า ฮึบ!


อาบน้ำแล้วเช็คความหล่อซักนิด ผมสีดำตัดรองทรงต่ำไว้หน้าม้าปัดๆ หน่อย ตาชั้นเดียวสีดำกลมโตแอบมีตีนกานิดนึง คิ้วไม่หนาไม่บางทรงตรงๆ จมูกไม่โด่งมากแต่ก็ไม่ใช่มีมีเลย ริมฝีปากบางสีชมพูอมน้ำตาลอ่อนๆ วงหน้ารูปไข่ ผิวขาวไม่มีไฝฝ้า



เอิ่ม... 



เรียบจืดอย่างยิ่ง ทำไมไม่ได้ความหล่อเข้มแบบพ่อมาซักนิดเลยนะ แต่คิดอีกทีอาจจะดีแล้วก็ได้ เพราะน้องพีชหน้าเหมือนผมเลย ถ้าผมหน้าคมเข้มลูกสาวคงไม่น่ารักแบบนี้หรอก สมัยนี้เทรนเกาหลีกำลังมา หน้าตาอาตี๋อาหม๋วยแบบครอบครัวผมกำลังอิน พล่ามไปพล่ามมาชักหิวแล้วสิ


กองทัพต้องเดินด้วยท้อง แต่งตัวเรียบร้อยก็ออกมาทำกับข้าวในห้องครัว วันนี้เป็นหมูผัดขิงก็แล้วกัน มีไข่ดาวหนึ่งฟองแบบไข่แดงเยิ้มๆ ด้วยน้องพีชชอบ


เมื่อก่อนก็ทำอาหารไม่เป็นครับ พอแต่งงานมาถึงเริ่มหัดทำเพราะจะได้เบาแรงภรรยา แถมการเห็นคนที่เรารักทานอาหารที่เราทำเนี่ยมีความสุขมากจริงๆ


หุงข้าวทิ้งไว้แล้วก็ทอดหมู หั่นเนื้อหมูหนาหน่อยนำมาคลุกแป้งบางๆ ลงกระทะทอด สุกแล้วพักให้สะเด็ดน้ำมันเตรียมนำมาผัด


ต่อมาหั่นหอมใหญ่สับขิงเตรียมไว้ ซอสขิงใช้ของสำเร็จรูปเอาครับไม่ยุ่งยากดี ใส่น้ำมันลงในกระทะนิดนึง ใส่หอมหัวใหญ่ลงไปผัดตามด้วยหมูทอด สุดท้ายใส่ขิงสับเพิ่มความเผ็ดอีกนิดก็ใช้ได้ ผมก็ไม่ใช่คนทำอาหารเก่งเท่าไหร่แค่พอกินได้เท่านั้นเอง


อา...ข้าวสุกพอดี ได้ยินเสียงน้องพีชเดินลงบันไดมาแล้ว


“พ่อคะ หนูช่วยจัดโต๊ะนะคะ” ผมตักข้าวใส่จานไว้แล้ว น้องพีชอาสานำไปวางที่โต๊ะให้ ลูกสาวผมนี่น่ารักจริงๆ เลยน้า


บ้านผมเป็นบ้าน 2 ชั้นขนาดเล็กอยู่ชานเมืองเป็นน้ำพักน้ำแรงของผมกับภรรยา แต่งเฟอร์นิเจอร์เรียบง่ายโทนอบอุ่นตามความชอบของเธอ ชั้น 2 เป็นห้องนอน 2 ห้อง ชั้นล่างแบ่งเป็นห้องครัวรวมเป็นห้องทานข้าวไปด้วย ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำแขก ด้านหน้ามีสนามหญ้าเล็กๆ หลังบ้านเอาไว้ตากผ้าครับ


“หนูไปโรงเรียนก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”


“ไปดีมาดีนะ ระวังตัวด้วยล่ะน้องพีช” ว่าแล้วก็จับมาหอมซักฟอดให้ชื่นใจ


“โธ่ พ่อนี่ละก็”


น้องพีชทำหน้างอแล้วรีบออกไปทันที ผมให้ลูกเดินทางไปโรงเรียนเองเพราะเวลางานของผมไม่แน่นอน บางครั้งเลิกดึกจะให้รอนานก็ไม่ดี ยอมให้ไปกลับเองดีกว่า








“เฮ้ย ไอ้กันต์ ไปกินข้าวๆ” ไอ้พอทเพื่อนผมครับ มันมาชวนไปกินข้าวกลางวันทุกวัน เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเข้ามาทำงานใหม่ๆ แต่ทำคนละแผนก ผมอยู่บัญชีมันอยู่บุคคล มันเป็นอัลฟ่าที่ดูเหมือนหยิ่งแต่ความจริงไม่มีอะไร ซี้กันตอนมีงานเลี้ยงบริษัทจนผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว ตอนแรกก็สุภาพพอนานไปกลับกลายสภาพเป็นสถุลแทน เป็นเฉพาะกับเพื่อนนะครับ ฮ่าๆ


“เออ เก็บของแปป”


“ทำไมวันนี้แกติดกระดุมคอวะ ไม่อึดอัดตายเหรอ” ฮึก มาสังเกตอะไรวันนี้วะเนี่ย ปกติไม่เห็นสนใจเลยไม่ใช่รึไง


“ก็กูอยากเรียบร้อยบ้างไม่ได้เหรอวะ” อย่าถามอย่าซักกู ได้โปรด


“ช่างเหอะ วันนี้กินไหน”


“โรงอาหารก็แล้วกัน ง่ายดีไม่ต้องไปไกล” นอกจากจืดชืดแล้วผมยังเป็นพวกขี้เกียจ ไม่ชอบออกไปตากแดดตากลม


“วันนี้ลูกท่านประธานจะเข้ามาดูงานตอนเย็นด้วยว่ะ พวกลูกน้องผู้หญิงระริกระรี้ใหญ่”


พอซื้อข้าวเสร็จก้นถึงเก้าอี้ปุ๊บก็เม้าท์ปั๊บ ไอ้นี่มันหน่วยข่าวกรอง ข่าวล่ามาไวดุจ FBI ต้องมันนี่แหละ


“แล้วไง มาก็มาสิ” จะไปกังวลอะไร แค่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเองไปก็สิ้นเรื่องแล้ว


“ก็ลูกท่านเขาเป็นดาราไง ไอดอลวง Miracle ลูกแกชอบไม่ใช่เหรอ ไม่ลองขอลายเซ็นคุณๆ ไปฝากหน่อยล่ะ”


ห๊ะ เป็นไอดอลที่ลูกผมชอบ ใครฟะ หวังว่าไม่ใช่เมนลูกผม


“พวกคุณๆเขาเป็นใคร อยู่ๆจะเข้าไปขอลายเซ็นได้ง่ายๆ แค่เข้าถึงตัวยังยากเลยมั้ง” ผมมันแค่หัวหน้าแผนกต๊อกต๋อย จะมีโอกาศเจอคนระดับสูงๆซักเท่าไหร่กันเชียว


“ไม่แน่เสมอไปหรอก อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น จริงมั้ย” แหนะ มีการมาขยิบตา กูไม่ใช่โอเมก้าไม่หลงเองหรอกเว้ย
“ช่างเหอะ รีบๆกิน”

ตอนนี้ใกล้ได้เวลาเลิกงานแล้วครับ เดี๋ยวซักพักพวกผู้บริหารก็มาแล้ว ผมจึงเตรียมตัวทำหน้าที่หัวหน้าแผนกคอยต้อนรับท่านๆทั้งหลาย


“คุณกันตพัฒน์ครับ สวัสดีครับ งานเป็นยังไงบ้าง ราบรื่นดีใช่มั้ยครับ” คุณวุฒิชัยรองประธานน้องชายของท่านประธานเป็นคนเริ่มต้นบทสนทนา


“ครับ ไม่มีปัญหาครับ” ลองมีปัญหาดูสิ ผมคงตกงานไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมลูกแหง


“อีกซักพักหลานผมคงตามมา เขาไปเข้าห้องน้ำกัน เดี๋ยวผมแนะนำให้รู้จัก จะได้ฝากให้คุณกันต์ช่วยดูแลด้วย อะ มาพอดี มานี่สิจะได้แนะนำให้รู้จักคุณกันต์



ห่ะ




ตอนนี้ผมยังยืนนิ่ง ตาเบิกโตขึ้นอีกนิด แต่ใจของผมเหมือนแหลกสลายน้ำลายฟูมปากหลังจากเห็นหลานของท่านรอง


สองคนที่เดินเข้ามาในแผนก มีผมสีดำหยักศกนิดๆ ซอยสั้น ลำตัวค่อนข้างหนา สูงประมาณ 190 เซ็น แขนขายาวสมกับเป็นนายแบบอยู่ในชุดสูทสีควันบุหรี่พอดีตัวช่วยขับให้ดูภูมิฐานทั้งยังเข้ากับสีผิวขาวแบบตะวันตก คนหนึ่งเสื้อตัวในสีน้ำเงินเข้มอีกคนเป็นสีแดงเลือดหมูเข้ากับตัวสูทได้เป็นอย่างดี นัยตาสีฟ้าอ่อนจางทั้งสองคู่หันมาสบมอง


“นี่หลานชายผม นรากับนรินทร์ ตอนนี้ทำงานวงการบันเทิงอยู่ อีกสักพักก็จะให้เริ่มศึกษางานในบริษัทแล้ว” คุณวุฒิชัยหันมาผายมือไปทางผู้มาใหม่สองคน



อะไรจะดวงซวยขนาดนี้ โลกนี้ช่างบัดซบได้อีก



ไอ้สองคนนี้แหละที่เมื่อวานรุมจับปล้ำผม! สัญชาตญาณมันบอก แถมยังเป็นเมนลูกสาวอีก ผมจำหน้าได้จากโปสเตอร์ติดฝาบ้าน เห็นหน้าชัดแล้วนึกออกเลย ไม่ชอบขี้หน้าคูณสองไปอีก


“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณกันต์ เรียกผมว่าบอสก็ได้ครับ” คนที่ใส่เนกไทสีน้ำเงินชื่อนรายื่นมือมาจับมือทักทาย


“ยินดีเช่นกันครับ” ผมยื่นมือไปจับตอบแอบเหงื่อตก หวังว่าคงจำเรื่องเมื่อวานไม่ได้นะ อัลฟ่ารัทน่าจะเบลอๆ ไอ้พอทเคยบอกไว้


“ผมคงต้องให้คุณกันต์ช่วยสอนอะไรหลายอย่างเลยล่ะครับ ผมวินครับ” คราวนี้เป็นนรินทร์ที่ยื่นมือมาจับบ้าง


“ด้วยความยินดีครับ”


ตอนนี้ความรู้สึกมันปนเปกันไปหมด ทั้งไม่ชอบหน้าทั้งหวาดกลัวตามสัญชาตญาณที่เจอผู้อยู่เหนือกว่า กับอัลฟ่าคนอื่นๆ ไม่เห็นเป็นขนาดนี้เลย อาจเป็นเพราะเรื่องคืนมันฝังใจ แต่ก็ยื่นมือไปจับคืนอีกเช่นกัน ยังไงก็ว่าที่เจ้านาย


“วันนี้ผมคงไม่รบกวนคุณกันต์มาก แค่พาสองคนนี้มาทำความรู้จักเท่านั้นแหละครับ มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน หลานผมยังใหม่กับบริษัทอยู่ ไว้วันหลังผมค่อยให้มาเรียนรู้งานจากแผนกคุณกัน”


“ครับ ยังไงทางผมก็พร้อมอยู่แล้ว ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ”


“งั้นผมขอตัวก่อนแล้วกัน เดี๋ยวไปอีกแผนกหนึ่ง”


“ครับ” ผมยกมือไหว้ท่านรองประธานไปหนึ่งที หลานของท่านรองหรือลูกชายของท่านประธานก็หันหลังเดินตามคุณอาไป


โล่งครับ ดูจากท่าทางคงจำผมไม่ได้แน่ๆ ไปเสยคางเขาไว้ด้วย ดีนะจะได้ทำงานแบบราบรื่นไร้กังวล


หวังว่าต่อไปคงไม่มีเรื่องซวยๆอีกแล้วนะ เห็นทีคงต้องไปไหว้พระ 9 วัดกับเขาบ้างแล้วสิ




-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งเพื่อสนองตัณหาโดยเฉพาะ 3p แนวเคะแก่นะคะ


เราชอบเรื่องแนว abo มาก แต่หาคนแต่งไม่ค่อยมี ไหนๆแล้วก็แต่งเองเลยแล้วกัน


ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: [omegaverse] It's not destiny รักร้ายนายไอดอล
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 09-08-2017 13:37:21
คุณพ่อเป็นนายเอกใช่ไหม? แต่คุณพ่อจะไหวหรือเปล่า ต้องรับมือกับอัลฟฟ่า2คนเลยนะ :hao7:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] It's not destiny รักร้ายนายไอดอล
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 09-08-2017 14:53:41
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 1 9/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: Ignite ที่ 09-08-2017 16:34:04
จะเอาอีกกกกก
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 1 9/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-08-2017 16:56:23
ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ปกติมีแต่อัลฟ่า โอเมก้า ชูโรง
ไม่เคยมีเบต้าเป็นนายเอก เอาละสิ เบต้า มีบทและ

ไม่น่าเป็นไปได้ ที่สองแฝดจะจำกันต์ไม่ได้
รอตอนต่อไป มาไวๆนะ  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 1 9/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 09-08-2017 18:22:14
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 1 9/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 09-08-2017 19:03:22
 :o8: :o8: :o8: น่าสนๆ
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 1 9/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: m.starlight ที่ 09-08-2017 19:34:25
ไม่เคยอ่านเรื่องที่ตัวหลักเป็นเบต้ามาก่อนน่าสนใจมาก o13
ฝาแฝดได้กลิ่นจากพ่ออ่ะป่าวถึงเกิดอาการ ไม่มีทางจำไม่ได้หรอก  :hao7:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 1 9/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 09-08-2017 21:19:56
เฮ้ยยยย น่าติดตามอ่ะ ดีงามพระราม8มากที่มีเบต้าเป็นตัวเอกอ่ะ ปกติมีแต่โอเมก้าเป็นตัวเอก ที่พีคอีกคือ3pด้วย กำลังอยากอ่านแนวนี้ยุพอดีเลย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 1 9/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-08-2017 21:37:57
จำกันบ่ได้กาทั้งสองคน
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 1 9/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 09-08-2017 22:08:37
มารอ
หัวข้อ: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 2 12/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: applecaramel ที่ 12-08-2017 16:57:57
ตอนนี้เป็นเวลา 6 โมงเช้า พระสงค์ออกมาบิณฆบาตพอดี ผมจึงออกมาใส่บาตรกับน้องพีช หลังจากรับศิลรับพรเรียบร้อยก็กลับเข้าบ้านทานข้าวดูทีวีฟังข่าวก่อนไปทำงาน


ผ่านมา 1 อาทิตย์ แล้วนับจากเหตุการณ์หวาดเสียวต่อปราการเบื้องหลัง ผมยังคงใช้ชีวิตกับลูกสาวอย่างมีความสุขตามอัธภาพ ร่องรอยตามร่างกายก็จากลงไปมากจนใกล้หายสนิท และยังไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ช่วงวันหยุดแก้เคล็ดแก้ชงครบหมดครับ


พอน้องพีชไปโรงเรียนแล้วผมก็ออกไปทำงานบ้าง ใช้เวลาเดินทางพอสมควรทีเดียวกับรถติดยามเช้า ไม่ว่าใครต่างก็เร่งรีบไปให้ถึงก่อนเวลาเข้างาน แล้วทุกบริษัทดันเข้างานไล่เลี่ยกันอีกเลยต้องทนการจราจรติดขัดยามเช้าทุกวัน น่าเบื่อเป็นบ้า


ตั้งแต่เจอกับลูกชายของท่านประทานหรือเมนของน้องพีชวันนั้น ก็ไม่มีเหตุอะไรให้ต้องเข้าไปพัวพันกับพวกเขาอีก ข่าวล่ามาเร็วจากเจ้าพ่อข่าวพอทบอกว่าคุณๆ เพิ่งเรียนจบ ท่านประธานยังไม่รีบให้มาสืบทอดตำแหน่งเท่าไหร่ เลยให้ทำงานที่ชอบคือการเป็นไอดอลไปก่อนแต่ก็ให้เข้ามาศึกษางานเป็นครั้งคราวบ้าง ข่าวนี้คงยังไม่หลุดไปถึงหูแฟนคลับ ไม่งั้นลูกสาวผมต้องให้ไปล่าลายเซ็นมาให้แน่นอนรับรองได้ และผมก็ไม่คิดจะบอกด้วย


ทั้งนราและนรินทร์ต่างก็เป็นอัลฟ่าผู้สูงส่งที่มีอัตตราการกำเนิดต่ำ คนในตระกูลภัทธ์รัฐชัยต่างก็หมายมั่นปั้นมือให้ขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไปไม่ใครก็ใครซักคน


เห็นว่าเพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังเกียตินิยมอันดับ 1 จากคณะบริหาร ทั้งหน้าตาดี หุ่นเลิศ หัวสมองฉลาดปราดเปรื่อง ใดๆในโลกล้วนแล้วแต่ลำเอียงทั้งสิ้น(ไม่ใช่อะไร แอบอิจฉาครับ)






แต่พอเดินเข้ามาในแผนกบัญชีก็เจอสิ่งที่ไม่น่าเชื่อสุดๆเลยครับ


“สวัสดีครับคุณกันต์ ตั้งแต่วันนี้คุณพ่อให้พวกผมมาศึกษางานที่แผนกบัญชี 2 เดือนครับ แบ่งเวลามาอาทิตย์ละ 2 วัน ฝากตัวด้วยนะครับ” ฝาแฝดทั้งสองยกมือไหว้ผมก่อนคนที่ชื่อนราจะพูดขึ้นมา ผมรู้จากป้ายชื่อพนักงานที่ห้อยคอทั้งสองคนอยู่


“ยินดีครับ” ผมนี่เหงื่อแตกผลัก ทำไมไม่มีใครติดต่อประสานงานมาก่อนเลยเรื่องใหญ่ขนาดนี้


“งั้นผมจะให้คุณเรียนรู้งานแต่ละส่วนของแผนกก็แล้วกันนะครับ” ในแผนกมีการทำงานหลายส่วน ให้เขาค่อยๆเรียนรู้ไปทีละอย่างดีกว่า


แม้จะไม่ชอบขี้หน้าเอามากๆ แต่ผมไม่หาเรื่องแกล้งเขาในที่ทำงานแน่ ลูกของเจ้านายก็คือเจ้านายในอนาคต หาเรื่องไปเดี๋ยวกรรมตามสนองทีหลัง


เรื่องที่โดนปลุกปล้ำผมไม่ติดใจเท่าไหร่เพราะมันสุดวิสัย ใช่ว่าใครจะอยากให้เกิด คนดีแบบผมอภัยให้ได้ แต่สาเหตุที่ทำให้ผมไม่ชอบพวกเขาหลักๆเลยคือแย่งความรักไปจากลูกสาวผม! ลวนลาม(?)มือลูกสาวผม! อันนั้นสุดทนจริงๆ ในฐานะป๊ะป๋าอดีตที่ 1 ในใจน้องพีชยอมไม่ได้!


“นิด น้องมล อาทิตย์นี้ฝากพวกเขาด้วยนะครับ” ผมให้ทั้งสองคนแยกกันไปคนละส่วนจะได้เร็วขึ้น


นิดเป็นคนเก่าคนแก่พอสมควร เป็นเจ้าหน้าที่บัญชีประสบการณ์สูงคนหนึ่งคงช่วยให้คำแนะนำได้ดี ส่วนน้องมลถึงจะทำงานมาไม่นานเท่าแต่ก็เป็นคนเก่ง ที่สำคัญสุดผมเลือกคนมีครอบครัวแล้วครับ จะได้ไม่มีปัญหาลูกท่านประธานโดนเต๊าะ แผนกบัญชีผู้หญิงเยอะครับ มีผู้ชายเพียงไม่กี่คนที่หลุดเข้ามา


“ถ้ามีเรื่องสงสัยหรือมีอะไรให้ช่วยเหลือก็ถามพี่ๆในแผนกได้นะครับ หรือมาถามผมได้เลย เรียกพี่กันต์ก็ได้ แผนกเราสบายๆกันเอง”


ผมยิ้มแย้มส่งสายตาไมตรีจิตอย่างเต็มที่ สร้างบรรยากาศที่ดีในการเริ่มงานวันแรก ตอนนี้ถือเป็นเด็กฝึกแผนกผมถือว่าเป็นรุ่นน้อง (อายุเป็นน้าเป็นอาแล้วแต่ไม่ยอมรับครับ)


“ครับ ถ้ามีเรื่องสงสัยพวกผมคงต้องรบกวนพี่กันต์ด้วยนะครับ” เอะ ทำไมรู้สึกตาสองคนนั้นมันวิบวับแปลก หรือว่าเป็นสกิลไอดอล ตาขวาผมกระตุกยิกๆเลย


จบเรื่องแล้วผมก็ไปนั่งเช็คเอกสารที่โต๊ะตัวเองต่อ เซ็นต์เอกสารบางส่วนที่จะส่งให้ผู้บริหารเซ็นต์


พอทำงานได้ซักพักผมจึงเดินไปเยี่ยมเยือนแถวโต๊ะน้องใหม่ของแผนกบ้าง ดูท่าแล้วทั้งสองคนเป็นเด็กดีตั้งใจเรียนรู้งานทำงานกันอย่างจริงจัง เห็นแล้วก็ชื่นใจครับ


ผมสอบถามไปยังท่านรองประธานแล้วเกี่ยวกับการศึกษางานของลูกชายท่านประธาน ท่านบอกว่าให้ทำเหมือนกับพนักงานธรรมดาเข้ามาทำงานได้เลยไม่ต้องเกรงใจ






ช่วงพักกลางวันวันนี้ผมพาลูกน้องทุกคนไปเลี้ยงข้าวที่ร้านอาหารนอกบริษัทเป็นการต้อนรับการทำงานวันแรกของคู่ฝาแฝดไอดอล


ผมจองห้องส่วนตัวในร้านอาหารญี่ปุ่นใกล้บริษัท ยอมใจป้ำนิดหนึ่ง เพราะบอสกับวินเป็นคนของประชาชน เดี๋ยวจะวุ่นวายกับเหล่าแฟนคลับจนไม่ได้กินข้าว


“สั่งกันเต็มที่เลย วันนี้ยอมควักกระเป๋าเลี้ยง”


“วันนี้หัวหน้ายอมละลายเกลือด้วย น้ำขึ้นต้องรีบตักนะทุกคน เอาให้หมดตัวเลยฮ่าๆ”


“ไอ้เมฆให้มันน้อยๆหน่อย เกลืออะไร งั้นแกอด” ผมแกล้งทำหน้านิ่งใส่ไอ้เมฆ พนักงานบัญชีต้นทุน บังอาจมาว่าผมเค็มเหมือนเกลือ ผมแค่เก็บเงินไว้เป็นค่าเทอมลูกเท่านั้นเอง


“โอ๊ยๆๆๆๆ หัวหน้าผมผิดไปแล้วอภัยให้ข้าน้อยด้วยท่านผู้จิตใจกว้างขวางดุจมหาสมุทรอันกว้างใหญ่” ไอ้เมฆมาทำท่าเลียแข้งเลียขา เอาหัวมาถูไถไหล่ผมไปมา


“ทะเลมันก็เค็มไม่ใช่หรือไง อดไปเลยแก”


“โธ่หัวหน้าๆๆๆๆ” ฮ่าๆ แกล้งมันนี้สนุกจริงๆ


ตอนนี้ทั้งโต๊ะหัวเราะขำขันกับท่าทางของไอ้เมฆกันยกใหญ่ แต่ทำไมเหมือนมีรังสีทะมึนแปลกๆแถวนี้


เราสั่งอาหารกันไปหลายอย่าง สั่งอาหารชุดมากินกันคนละหนึ่งชุดแล้วสั่งกับข้าวหรือของทานเล่นมาเป็นกองกลางแยกต่างหาก


พวกเรานั่งทานไปคุยกันไปสร้างสีสันบนโต๊ะอาหาร มีบรรดาหญิงแกร่งแห่งบัญชีเป็นแกนนำบทสนทนาทำให้ไม่น่าเบื่อ


“หัวหน้าคะ นี่ก็ใกล้ช่วงเที่ยวประจำปีของบริษัทแล้ว รู้หรือเปล่าคะว่าได้ไปที่ไหน” น้องจ๊ะจ๋าพนักงานบัญชีอีกคนเปิดประเด็นใหม่


“นั่นสิครับ หัวหน้าพอจะรู้มั้ยครับ” ไอ้เมฆตามทันที กินฟรีเที่ยวฟรีขอให้บอก


คืออย่างนี้ครับ บริษัทเราจะมีสวัสดิการพนักงานอยู่อย่างหนึ่งคือการพาพนักงานทั้งบริษัทไปเที่ยวปีละครั้ง ส่วนจะไปไหนก็แล้วแต่ท่านประธาน โดยจะไปช่วงปลายปี


“เบื่องบนยังไม่ระบุเลย มีประกาศเดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ”


“โธ่หัวหน้า หัดเอาอย่างหัวหน้าพีระบ้างสิคะ ข่าวช้าตลอดเลย” พีระคือชื่อจริงของไอ้พอทครับ


“ยังไงก็รู้ก่อนไปก็แล้วกัน” จะรีบกันไปไหน ยังไงบริษัทก็ประกาศให้เตรียมตัวทันอยู่แล้ว พอผมทำหน้าเนือยก็ทำเสียงจิ๊จ๊ะใส่ผมทันที


“น้องบอสน้องวินพอรู้บ้างมั้ยจ้ะ” ยัยจ๋าเปลี่ยนเป้าหมาย ถามผู้ที่ใกล้ชิดกับประธานที่สุดแทน


“พวกผมก็ยังไม่ทราบครับ”


ทั้งสองคนยิ้มตอบอย่างสุภาพ เห็นไหม ขนาดลูกชายเขายังไม่รู้เลย


“งั้นหรอจ้ะ เสียดายจังนึกว่าจะได้รู้ก่อนคนอื่นซะอีก”


“กินๆๆๆ ใกล้บ่ายโมงแล้ว เดี๋ยวไม่ทัน” ผมเร่ง


จากนั้นพวกเราก็ตั้งหน้าตั้งตากินกันอย่างตั้งใจครับเพราะสั่งกันมาเยอะพอสมควร ผมบอกไปว่ากินไม่หมดจ่ายเอง ฮา






พอกลับมาทำงานกันต่อได้ซักพักก็ได้ยินเสียงหึ่งๆเหมือนคนเม้ามอย ได้ความว่าประกาศเรื่องท่องเที่ยวประจำปีมาติดบอร์ดหน้าลิฟแล้ว สรุปว่าได้ไปที่พัทยาครับ 3 วัน 2 คืน อีกหนึ่งเดือนข้างหน้าหรือก็คือเดือนกันยา อะไรคือการไปเที่ยวทะเลตอนหน้าฝน ท่านประธานจะอินดี้เกินไปแล้ว


ตอนนี้ทุกคนดูหมือนกระตือรือล้นเรื่องเที่ยวกันมากทีเดียว


ผมรีบปรามพวกที่จับกลุ่มคุยกันให้รีบไปทำงานกันต่อ ไม่อย่างนั้นงานไม่เดินซักที


วันนี้ก็ผ่านพ้นไปได้อย่างปกติสุข เนื่องจากไม่ใช่ช่วงสิ้นเดือนที่งานจะล้นมือดังนั้นจึงได้กลับบ้านเร็ว พวกลูกน้องก็ทยอยกลับกันหมดแล้ว ผมเก็บสัมภาระก่อนตรวจสอบความเรียบร้อยรอบๆ ออฟฟิศ จัดการปิดแอร์ปิดไฟประหยัดพลังงานครับ คนดีสุดๆ ใช่มั้ยล่ะ






พอผมกลับมาถึงบ้านก็เจอน้องพีชทำท่าทางหงอยเหงาเซื่องซึมอยู่บนโซฟาหน้าทีวีที่ฉายรายการข่าวบันเทิงตอนเย็นอยู่ เหมือนมีปัญหาคิดไม่ตก ปกติเวลานี้จะนั่งทบทวนบทเรียนทำการบ้านซ้อมเต้นอยู่บนห้องหรือดูซีรีย์แท้ๆ ใครทำอะไรลูกผมเนี่ย พ่อที่ดีต้องรีบไปให้คำปรึกษาโดยด่วน


“น้องพีชเป็นอะไรหรือครับ ฮึ้ม มีอะไรบอกพ่อได้นะ” ผมวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ เข้าไปนั่งกับลูกพลางเอาแขนโอบไหล่น้องพีชให้กำลังใจ เห็นลูกเศร้าพ่อยิ่งเศร้ากว่า


น้องพีชค่อยๆหันหน้ามาหาผม ดวงตาเซื่องซึมค่อยๆมีน้ำตาเอ่อคลอก่อนจะไหลอาบลงมาที่แก้ม


“คุณพ่อคะ ทำยังไงดี พี่บอสพี่วินใกล้จะออกจากวงการแล้ว ฮึกๆ” ลูกสาวผมรำพึงรำพันออกมาก่อนจะโถมตัวเข้ามาซบอกผมอย่างเต็มที่


“พี่เค้าจะออกภายในปีนี้แล้ว เพิ่งเดบิวต์แค่ 3 ปีอายุวงยังไม่มากทำไมรีบออกก็ไม่รู้ ฮึก ต้นสังกัดก็ประกาศออกมาแล้ว หนูเสียใจค่ะ ถึงจะเป็นทางที่พวกเค้าเลือกแต่ก็จะไม่ได้เจอกันอีก ไม่ได้ฟังเพลง ไปดูคอนเสิร์ตไปงานจับมืออีกแล้ว ฮือๆๆ”


พูดจบน้องพีชก็ร้องเป็นเต่าเผา สะอื้นตัวโยน ไอ้ผมก็ได้แต่ปลอบอย่างเดียวเท่านั้นไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้แล้ว
เรื่องนี้มันเป็นการตัดสินใจของทั้งสองคนนั่น ซึ่งซักวันก็ต้องออกมาบริหารบริษัทของครอบครัว แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้เลยแหะ


“โอ๋ๆๆ ยังไงน้องพีชก็ยังมีป๊ะป๋าอยู่นะครับ” เวลาแบบนี้ต้องโกยคะแนน ช่วงเวลาแห่งการเป็นที่ 1 กลับมาหาผมแล้ว!


“น้องพี่แค่ผูกพันมากเท่านั้นเองค่ะ คอยติดตามมานาน พอได้ข่าวแบบนี้เลยใจหาย ฮึก ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะคะ” น้องพีชเงยหน้าขึ้นมาสบตาผมก่อนจะผละออกไป


“ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงป๊ะป๋าก็อยู่กับหนูเสมอนะ ตอนนี้เค้ายังไม่ออกไม่ใช่เหรอ เวลาที่เหลืออยากทำอะไรก็ทำให้เต็มที่สิ” ผมลูบหัวลูกเบาๆ ส่งสายตาอ่อนโยนไปให้


แค่ออกจากวงการถึงกับทำให้น้องพีชเศร้าขนาดนี้เลยแฮะ แสดงว่าสองคนนั้นมีอิทธิพลกับจิตใจลูกสาวผมพอสมควรเลย


สักพักน้องพีชก็ขอตัวขึ้นไปทำการบ้านต่อหลังจากทำใจได้แล้ว ส่วนผมลุกไปทำอาหารเย็นทานแทน


วันนี้น้องพีชมีเรื่องทุกข์ใจ ผมทำเมนูโปรดอีกอย่างให้น้องพีชดีกว่า เป็นหมูมะนาวสูตรบ้านภรรยาผมครับ เธอชอบทำให้ทานประจำเป็นเมนูคลีนๆ ทานแบบเมี่ยงก็สนุกแบบกับข้าวก็ดี แถมยังสอนผมทำด้วย แต่เพราะขั้นตอนมันยุ่งยากเลยไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่ นานๆทำที ถือเป็นการเอาใจน้องพีชเรียกคะแนนเบื้องต้นก่อน


ดีนะมีสันในหมูอยู่พอดี เอามาโรยเกลือเล็กน้อยก่อนนำไปนึ่ง ผมนึ่งเส้นหมี่ไวไวที่แช่น้ำแล้วไปด้วยเลยพร้อมกัน วันนี้กินเป็นเมี่ยง ผักเยอะๆดีต่อสุขภาพ หันมาสับพริกสับกระเทียมเตรียมทำน้ำจิ้มต่อ ที่ยากก็ตรงนี้ครับ แสบหูแสบตากันไปข้างหนึ่งเลย สับให้ละเอียดยิบ ใส่ถ้วย เยาะน้ำปลา บีบน้ำมะนาวลงไป อย่าลืมเอาน้ำซุปจากที่นึ่งหมูมาใส่ด้วย เพิ่มความหวานนิดๆ ด้วยน้ำตาลทรายแดงก็เรียบร้อย ทำตามสูตรทุกอย่างเป๊ะ ภรรยาจะต้องภูมิในในตัวผมอย่างแน่นอน


ผมเรียกน้องพีชลงมากินข้าว พอลงมาเห็นอาหารที่วางไว้บนโต๊ะแล้วหน้าตาสดใสขึ้นทันที


“โห วันนี้เป็นหมูมะนาวเหรอคะ” ดวงตาสองชั้นกลมโตกวาดมองอาหารบนโต๊ะ ดวงตาเป็นประกาย


“วันนี้ทำให้เป็นพิเศษเลย เป็นไงครับ ขอหอมหนึ่งทีให้ป๋าหน่อย” ผมหันแก้มไปให้ลูกสาว ย่อตัวนิดหน่อยให้หอมง่ายขึ้น อ่อยสุดๆไปเลย


“ฮึบ ฟอด ขอบคุณค่ะป๊ะป๋า รักป๊ะป๋าที่สุดเลยค่ะ” ฮ้า แค่นี้ก็ชื่นใจแล้วครับ


บรรยากาศบนโต๊ะอาหารตอนนี้ดีมากเลยทีเดียว นั่งทานอาหารไปพูดคุยหยอกล้อกันไป มีความสุขจัง ผมคะยั้นคะยอให้ลูกสาวกินให้เยอะๆ เด็กสาวๆต้องมีน้ำมีนวลหน่อยถึงจะดี เอาแต่พูดว่าไดองไดเอ็ตอะไรกัน คนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่อยากเห็นลูกตัวเองผอมโซแน่นอนเชื่อสิ


หลังจากทานมื้อเย็นเรียบร้อยน้องพีชก็เป็นฝ่ายรับอาสาล้างจาน ผมจึงขึ้นห้องอาบน้ำเข้านอนตามปกติ เมื่อก่อนผมจะแอบแวะไปส่องน้องพีชที่ห้องก่อนนอนเสมอ แต่เดี๋ยวนี้เหมือนอาณาเขตของสาวน้อยกลายเป็นแดนลับแลต้องห้ามไปซะแล้ว ผมจึงไม่ได้เข้าไปอีกเลย






ปิ๊บๆๆๆๆๆๆ



ผมตื่นด้วยเสียงนาฬิกาปลุกเวลา 6 โมงเช้าอีกเช่นเคย เมื่อคืนนอนเต็มอิ่มสุดๆ ไม่ฝันอะไรแปลกๆทั้งนั้น ดีจริง


อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็แต่งตัว วันนี้รอยหายไปหมดแล้วครับผมจึงกลับมาแต่งตัวเหมือนเดิมก่อนเกิดเหตุ ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวทับในไม่ติดกระดุมคอ กางเกงสเลคพอดีตัวสีดำ ก่อนสวมเข็มขัดหนังคาดทับตามไป ดูจืดเรียบเป็นระเบียบ แต่งตัวไปทำงานจะเอาอะไรมาก ผมไม่ต้องการให้สาวที่ไหนมาสนอยู่แล้ว มีน้องพีชคนเดียวก็พอ สุดที่รักของผม


ลงบันไดมาเดินผ่านห้องนั่งเล่นเข้าไปในครัวก็เจอน้องพีชยืนทำอาหารอยู่ในชุดนักเรียน สวมผ้ากันเปื้อนลายกระต่ายที่ผมซื้อให้ ขมักเขม้นทอดใข่ดาวอย่างตั้งใจ


“วันนี้เป็นแบบอเมริกันงั้นเหรอครับ มีอะไรให้พ่อช่วยมั้ย” ผมเดินเข้าไปหาพลางก้มดูใข่ดาวรูปทรงหัวใจในกระทะเทฟลอน


น้องพีชหันมามองเล็กน้อยก่อนหันไปทำต่อแล้วคุยกัยผมไปด้วย “ไม่ต้องค่ะคุณพ่อ วันนี้หนูโชว์ฝีมือเอง คุณพ่อไปนั่งรอนะคะ”


ในเมื่อลูกพูดมาขนาดนี้แล้วผมก็รอกินอย่างเดียวก็แล้วกัน ว่าแล้วก็หยิบจานช้อนส้อมไว้รอ เห็นมีไส้กรอกรมควันกับแฮมทอดเสร็จแล้ว จึงตักลงจานให้ก่อนเดินไปหยิบขวดน้ำกับแก้วน้ำมาวางไว้บนโต๊ะกินข้าว แล้วนั่งรอด้วยหัวใจที่พองโต


ตอนนี้น้องพีชทำเสร็จแล้วหยิบจานใส่ไข่ดาวเดินมาที่โต๊ะ หลังจากนั่งลงแล้วเราก็เริ่มลงมือทานกัน


วันนี้เหมือนน้องพีชเหมือนพยายามทำตัวร่าเริงไม่ให้ผมเป็นห่วง แต่ผมแอบเห็นนะว่ายังซึมๆอยู่ แต่จะทำเป็นไม่เห็นก็แล้วกัน









หลังจากผ่านไปหลายวันน้องพีชก็หายซึมแล้วครับ  แต่ผมกลับเศร้าแทนเพราะเธอเปลี่ยนเมนไปเป็นไอดอลอีกคนในวงเดียวกันซะงั้น ปะป๋าโซแซด


“พี่กันต์ ผมเอาเอกสารมาส่งครับ” พอได้ยินเสียงเรียก ผมจึงเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสารที่สุมเต็มโต๊ะ เห็นผู้ชายใส่เชิ้ตสีฟ้าเอาเอกสารวางไว้ในตะกร้า ดูจากป้ายชื่อเป็นบอสเอางานมาส่ง


ตอนนี้ฝาแฝดมาทำงานได้ประมาณ 3 อาทิตย์แล้ว จากการคลุกคลีอยู่ด้วยกันมาสักพัก ถึงจะเล็กน้อยแต่ก็ทำให้ผมลดอคติลงเยอะทีเดียว ทั้งสองคนเป็นเด็กดีมีสัมมาคารวะ ไม่ใช้อำนาจแม้เป็นลูกเจ้าของบริษัท ตั้งใจทำงานขยันขันแข็ง ช่วงนี้เป็นช่วงใกล้ปิดยอดทำงานแบบลืมตาย อาทิตย์นี้อยู่โอทีกันทั้งแผนกแต่ก็ไม่มีบ่น แถมยังมาทำงานนอกเหนือจากวันที่กำหนดไว้ด้วยแม้งานไอดอลที่ต้องทำก่อนจะออกจากวงจะยุ่งมากก็ตาม นับถือจริงๆ สมกับเป็นว่าที่ประธาน


“ขยันจังนะเรา ตั้งแต่มีเราสองคนงานไวขึ้นเยอะเลย ขอบใจมาก” ช่วงใกล้สิ้นเดือนปกติเหมือนใกล้สิ้นใจเลยครับสำหรับแผนกผม พอมีคนช่วยเลยรอดเส้นตายออกมาบ้าง พวกสาวๆ ก็ได้มีอาหารตาทำงานกระชุ่มกระชวย วินวิน


“พี่กันต์งานเต็มโต๊ะเชียว อย่าลืมพักบ้างนะครับ” บอสส่งสายตาเป็นห่วงมาให้ พึ่งมารู้ทีหลังครับว่ามันเป็นแฝดพี่ เกิดห่างจากวิน 2 นาที ดังนั้นนิสัยจึงดูเป็นผู้ใหญ่ ขรึม นิ่ง มากกว่าคนน้อง


“อ่าหะ รับทราบ” ตอนแรกก็เกรงอยู่ครับ ลูกของท่านประธานเชียวนะ เป็นดาราอีก ทำไปทำมาโดนตีซี้จนพูดเป็นกันเองมากขึ้น แต่ผมไม่กล้าสถุลใส่เหมือนไอ้พอทหรอก ยังกลัวอยู่ครับ แหะๆ


หลังจากพ่อเทพบุตรอัลฟ่าจากไปก็นั่งปั่นงานต่อครับ เอกสารต้องตรวจสอบเต็มไปหมด ห้ามมีข้อผิดพลาดใดๆ ทั้งสิ้น มิเช่นนั้นคอขาดแน่นอน ทำไมรู้สึกร้อนแหะ ใครไปเบาแอร์หรือเปล่าเนี่ย มึนหัวด้วย สงสัยเครียดไป


“พี่กันต์ครับ ผมเอางานมาส่งให้ครับ” คราวนี้เป็นคนน้องมาครับ


“อืม วางใส่ตะกร้าได้เลย”


“พี่กันต์พักก่อนมั้ยครับ หน้าพี่ดูไม่ดีมากเลย” หลังจากวางเอกสารวินก็เอ่ยออกมา สงสัยเห็นผมหน้านิ่วคิ้วขมวด


“งั้นเรามาช่วยทางนี้หน่อยสิ งานส่วนโน้นใกล้เสร็จรึยัง” ต้องใช้ตัวช่วยแล้วล่ะครับแบบนี้ ยิ่งทำยิ่งเบลอกลัวเกิดการผิดพลาด


“ทางพวกผมไม่ค่อยมีอะไรแล้ว งั้นเดี๋ยวผมเรียกนรามาด้วยเลยนะครับ” ข้อเสนอนี้ดีครับ ผมพยักหน้าให้ไป รีบไปพามาด่วนๆ


สักพักก็มีแรงงานทาสมาเพิ่ม 2 คน ให้นั่งทำที่โต๊ะข้างๆ ใกล้ๆ กัน วางหน้าที่เป็นคนเช็คตัวเลขยอดต่างๆ ว่าตรงไหม บิลตรงรายการเบิกจ่ายเป็นต้น ถ้าติดตรงไหนสงสัยอะไรให้ถามทันที


เอกสาร 2 กองใหญ่ถูกยกออกไปทัศนียภาพบนโต๊ะทำงานก็โล่งขึ้นมาทันตา ผมนั่งเช็คเอกสารที่เหลือต่อกับเซ็นต์เอกสารที่ฝาแฝดตรวจสอบแล้ว แต่ทำไปซักพักกลับปวดหัวจี๊ดขึ้นมาอีกเหมือนมีค้อนทุบ



ตุบ!


“พี่กันต์ครับ! พี่กันต์!”


“เฮ้ย แย่แล้วว่ะ ทำไงดี กันต์สลบไปแล้ว”


เสียงดังมากเลย เงียบกันหน่อยได้มั้ย ปวดหัวจะตายอยู่แล้วเนี่ย ความรู้สึกตอนนี้เหมือนได้ยินเสียงอะไรหึ่งๆไกลๆ จับใจความไม่ค่อยได้เลย น่ารำคาญ


“พาไปห้องพยาบาลเหอะ” เสียงใครพูดนะ แยกเสียงออกยากจัง


“เออได้ เดียวกูอุ้มไปเอง”


จู่ๆก็ตัวเบาขึ้น เหมือนลอยได้


จี๊ดๆๆ


คราวนี้ปวดหัวหนักๆมาเป็นคอมโบเซ็ต จากนั้นผมก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย







ตื่นมาอีกทีก็เห็นเพดาลห้องสีขาว กลิ่นยาลอยคลุ้งไปทั่วห้อง ผมคงอยู่ห้องพยาบาลของบริษัท มีผ้าแปะอยู่ตรงหัวด้วย แต่ทำไมหนักๆล่ะเกิดอะไรขึ้น ผีอำ?


หันไป มองทางด้านซ้ายขวาของเตียงก็เจอต้นตอ สองแฝดอัลฟ่าแห่งตะกูลภัทธ์รัฐชัยที่นอนขนาบข้างกำลังเอาแขนพาดพุงผมอยู่จากทั้งสองฝั่ง ถึงว่าล่ะรู้สึกอุ่นเป็นพิเศษแบบที่ผ้าห่มบางๆ ของห้องพยาบาลให้ไม่ได้


ทั้งสองคนหลับตาพริ้มหันหน้าเข้าหาผม พอมองใกล้ๆ แล้วหน้าตาดีจริงๆ แหะ ขนตายาวเป็นแพ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางหยักสีชมพูระเรื่อสุขภาพดีสุดๆ


แต่นอนอัดกับแบบนี้รู้สึกว่ามันแน่นไป อึดอัดมาก พอผมขยับตัวสองคนนั้นก็ลืมตาตื่นขึ้นมาทันที


“อืม... พี่กันต์เป็นไงบ้างครับ หายปวดหัวหรือยังครับ” เสียงคนทางซ้ายเอ่ยขึ้นมาหลังจากหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง ดูจากสีเสื้อคงเป็นคนพี่


“อืม ดีขึ้นบ้างแล้วล่ะ เราเป็นคนพาพี่มาส่งที่นี่เหรอ”


“ครับ จู่ๆพี่ก็ฟุบลงไป พวกผมเป็นห่วงแทบแย่แนะ” คราวนี้เป็นทางขวาบ้าง วินเอนหัวลงมาซบบนศีรษะผมที่ลุกขึ้นมานั่งแล้ว ส่วนมือก็ยังคงเกี่ยวที่เอวไม่ยอมเอาออกไป


“งาน... แล้วงานล่ะ” กองเต็มโต๊ะขนาดนั้น จะทำยังไงดี


“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ พวกเราช่วยกันทำให้แล้ว เหลือให้พี่เซ็นต์อย่างเดียว” บอสพูดจบก็เอามือมาแตะหน้าฝากวัดไข้ “ตัวไม่ร้อนเท่าไหร่”


โล่งอก ค่อยยังชั่ว ถ้าเหลือแค่นี้คงทันเวลา


“แล้วเมื่อไหร่จะลงจากเตียงเนี่ย ชอบนอนเบียดกันแบบนี้เหรอไง ติดหวัดขึ้นมาจะทำยังไง”


“ก็พวกผมกลัวพี่หนาว นอนด้วยกันอุ่นดีออก อีกอย่างพวกผมร่างกายแข็งแรงหวัดแค่นี้ทำอะไรเราไม่ได้หรอก” แนะ ไม่พูดเปล่า มีการเอาหัวมาไถอีก ถึงจะไม่ถือเรื่องถึงเนื้อถึงตัวแต่รู้สึกพวกเราสนิทกันไวไปมั้ยนะแบบนี้


“ฮะๆ ยังไงก็ขอบใจนะ” ทั้งเรื่องงานรวมถึงที่มาดูแลตอนไม่สบายด้วย จากรูปการแล้วคงเป็นฝาแฝดที่คอยเอาผ้าชุบน้ำแปะหัวให้


“เพื่อพี่พวกเราทำให้ได้อยู่แล้ว” อะหือ ซึ้งเลยทีเดียว ช่างเป็นคนดีมีจิตสาธารณะ ทุ่มเทอะไรอย่างนี้


“เห็นเป็นเด็กดี อยากได้รางวัลอะไรมั้ย” ทำเพื่อผมขนาดนี้ตอบแทนสักหน่อยก็แล้วกัน ใจดีใจสปอร์ตครับ


“รางวัล?”


“อือ ตอบแทนที่ช่วยทำงานกับคอยมาดูแลไง เอาอะไรก็ได้นะพี่ใจป้ำ” ทั้งสองคนเป็นไอดอล แถมยังรวยอยู่แล้วคงไม่อยากได้อะไรเท่าไหร่หรอกมั้ง


“อะไรก็ได้งั้นเหรอครับ” ทั้งสองคนหรี่ตานิดๆเหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่


“แต่อย่าแพงนะ พี่ต้องเก็บไว้จ่ายค่าเทอมลูก” ผมรีบบอกไว้ก่อนเผื่อคนรวยจะหันมารีดเลือดปู
ทีนี้ฝาแฝดต่างหันมองหน้ากัน เหมือนคุยกันทางโทรจิต ก่อนวินจะเอ่ยปาก “ตอนนี้ยังคิดกันไม่ออกครับ ไว้คิดได้แล้วค่อยขอได้มั้ย”


“อ่า ได้สิ อย่าลืมก็แล้วกัน”


เหลือบตาไปมองนาฬิกาที่ติดไว้ที่ผนังห้อง บอกเวลา 6 โมงครึ่ง นี่หลับนานขนาดนี้เลย ไม่ได้ป่วยมานานมาก เป็นเพราะแก่แล้วแน่เลย


“งั้นพี่กลับบ้านเลยนะ” กว่าจะถึงบ้าน ฝ่ารถติดชั่วโมงครึ่งคงซัก 2 ทุ่ม ไลน์บอกน้องพีชก่อนให้ทานข้าวก่อนเลย ไม่ต้องรอ


“ไหวหรอครับ พวกผมไปส่งมั้ย”


“ไม่ๆๆๆๆๆ ไม่ต้อง ดีขึ้นมากแล้วล่ะกลับเองได้” อาการปวดหัวหายแล้วด้วย ไข้ก็ไม่มีรู้สึกลมหายใจร้อนเฉยๆ เอง อีกอย่างคือ ถึงผมจะยอมรับและหายเกลียดแล้วแต่เรื่องอะไรจะให้ไปเจอลูกสาวผม ถึงจะเป็นอดีตแต่เมนก็คือเมน เดี๋ยวถ่านไฟเก่าคุ ไม่ได้อย่างเด็ดขาด


ผมยืนกรานอย่างหนักแน่น จนพวกนั้นยอมปล่อยผมมาเก็บของเตรียมตัวกลับ


แต่ถ้าผมหันหลังไปดูซักหน่อยอาจคิดได้ว่า วันนี้ไม่น่าพูดอะไรโง่ๆ ไปแบบนั้นเลย
 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



ตอนนี้ถือว่ากระชับความสัมพันธ์ตัวละครระดับหนึ่งนะคะ

ส่วนน้องจะขออะไรนั้น.......ฟามลับค่า
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 2 12/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: m.starlight ที่ 12-08-2017 17:14:16
 :hao7: :hao7:
จะเริ่มรุกรึยังสองแฝด
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 2 12/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-08-2017 19:16:15
จะรีดอะไรน้อแฝด ฮิฮิ
วันนั้นจะต้องมีอะไรบางอย่างลึกๆแน่ที่ทำให้สองคนจู่โจมพี่กันต์แบบนั้น
สงสารสังขารพี่แกล่วงหน้าเลยละกัน555
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 2 12/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: Midorima ที่ 12-08-2017 19:36:04
มาตามมมมมม ! เนื้อเรื่องน่าติดตามดีค่ะ เราชอบแนววัยทำงานเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 2 12/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 12-08-2017 20:25:31
 :o8: :o8: :o8: รอ
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 2 12/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 12-08-2017 20:27:25
ขุดหลุมฝั่งตัวเองไป 1 เมตร รออีก เมตรเอาให้มิดหัวไปเลย ถถถ
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 2 12/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: amisezmin ที่ 12-08-2017 20:59:06
ขอรางวัลเป็นอะไรก็ได้นี้อันตรายเลยนะเนี้ย :z1:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 2 12/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-08-2017 21:56:16
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 2 12/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-08-2017 23:15:06
สองแฝด จะขออะไรนะ  o18  o18  o18

ขึ้นมานอนเบียดบนเตียงนี่ คิดอะไรนะ  :z3: :z3: :z3: 
พี่กันต์ ซื่อจัง แต่ชอบบบบบบ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 2 12/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 13-08-2017 11:24:12
รออออออ :katai5:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 2 12/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 13-08-2017 16:38:48
นายเอกเราเป็นเบต้าแล้วจะท้องได้มั้ยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 2 12/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 14-08-2017 12:30:17
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 2 12/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 14-08-2017 23:05:12
เป็นการขุดหลุมฝังตัวเองที่เข้าทางแฝดสุดๆไปเลยค่ะพี่กันต์
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 2 12/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: morningpaper ที่ 15-08-2017 01:49:33
คุณพ่ออาจจะเป็นโอเมก้าแบบที่ไม่แสดงอาการรึเปล่า....//คิดเยอะไปก่อน// แต่ถ้าเป็นโอเมก้าจะผูกพันธะยังไงสองคน ถ้าคนนึงผูก อีกคนก็จะมากอดคุณพ่อไม่ได้อะสิ ฮือ จะเศร้าไหมเนี่ย เป็นเบต้าไปก็ได้ค่ะคุณพ่อ ถึงจะอยากให้คุณพ่อท้องก็เถอะ ฮืออ อินหลอ คิดไปถึงนู่นแล้ว55555555555555 แต่คุณพ่อน่ารักมาก
หัวข้อ: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 3 16/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: applecaramel ที่ 16-08-2017 18:32:33
“1 2 3 4 5 6 7 และ 8 แบบนั้นแหละค่ะคุณพ่อ” ผมวาดมือชูแขนขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนจะค่อยๆนำลงมาแนบอก เสร็จแล้วก้าวขาไปทางขวาหมุนตัวพรึบ


“1 และ 2 3 4 5 และ 6 7 8 ไม่ใช่ค่ะ ต้องวางแขนระดับนี้นะคะ” คราวนี้ไขว้ขา ตวัดแขนทั้งสองไปด้านข้างเฉียง 45 องศาเป็นเส้นตรงก่อนนำมาขัดฉากด้วยความรวดเร็วแล้วเปลี่ยนเป็นประสานมือเหวี่ยงไปซ้ายทีขวาที แต่เหมือนยังไม่ถูกใจน้องพีช ลูกผมเลยเต้นช้าๆให้ดูใหม่อีกรอบ กำลังทำอะไรอยู่งั้นเหรอ?




ถูกแล้วครับ ผมถูกลูกสาวจับมาเต้นโคฟเวอร์




หลังจากกลับบ้านแล้วน้องพีชรู้ว่าผมไม่สบายเพียงเท่านั้นแหละ การบ่นชุดใหญ่ยักษ์ก็ตามมาเป็นพรวน และนั่นก็เป็นที่มาของการที่ถูกลากมาเต้นแบบนี้หลังจากหายแล้วครับ บอกว่าสุขภาพแข็งแรงจะได้ไม่ป่วยง่าย


แต่ให้ตาลุงวัย 40 ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายมาเต้นแบบนี้บอกตรงๆว่าทรมารสังขารมาก เดี๋ยวสับขา สะบัดไม้สะบัดมือ มูฟเม้นท์ ก้มๆเงยๆ ไหนจะหมุนตัวอีก ตาลายจนทำผิดทำถูก แถมเพลงที่เต้นก็ไม่ใช่ของคนอื่นคนไกล วง Miracle ของสองแฝดนั่นเองครับ น้องพีชบอกว่าแกะท่ามาให้ผมโดยเฉพาะ ปกติเต้นแต่เพลงผู้หญิงเท่านั้น


เต้นไปด้วย ตาดู mv ไปด้วย ต้องยอมรับว่าสองคนนั้นเท่มาก


การเต้นที่ดูแข็งแรง พริ้วไหว แต่สื่อสารอารมณ์เพลงออกมาได้อย่างดี เสียงร้องไม่ถึงกับเทคนิคเลิศเลออลังการกลับพอเหมาะส่งเพลงมากขึ้นไปอีก ทั้งที่มีกันตั้ง 5 คนแต่ไม่มีใครด้อย ต่างส่งเสริมกันและกันอย่างเหลือเชื่อ และสำหรับผม บอสกับวินเป็นคนที่ดึงดูดจริงๆ ละสายตาออกจากการแสดงตรงหน้าไม่ได้เลย


ข้อมูลจากน้องพีชบอกว่าฝาแฝดเป็นเมนแดนซ์ หมายถึงแกนหลักการเต้นของวง มิน่าล่ะถึงเต้นเก่งกันจัง ร่างกายก็บึกคงเทรนมาเฉพาะทาง


พอหายเหนื่อยก็โดนลากไปเต้นต่ออีกครับ โอ๊ยๆๆ เอวผม เอาวะ คิดซะว่าเตรียมร่างกายก่อนไปเที่ยว






ผ่านวิกฤตการณ์สิ้นชีพตอนสิ้นเดือนมาแล้ว ก็ใกล้ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยครับ



นั่นคือทัวร์ของบริษัทนั่นเอง



เมื่อก่อนผมไม่ได้ไปกับเค้าเท่าไหร่เพราะต้องอยู่บ้านกับน้องพีช พอน้องพีชเริ่มดูแลตัวเองได้บ้างประมาณช่วง ม.ต้น ก็คะยั้นคะยอให้ไปให้ได้ ‘เป็นหัวหน้าแท้ๆ ถ้าไม่ยอมไปทั้งที่ไม่มีเหตุผลจำจะดูไม่ดีนะ’ น้องพีชว่าไว้


ทำไมจะไม่มีเหตุผลล่ะ! ใครจะยอมทิ้งลูกสาวที่น่ารักอยู่บ้านคนเดียวกัน! เกิดมีโจรบุก แก๊สรั่ว ไฟไหม้ โรคจิตรังควาน จะทำยังไง! สุดท้ายก็น้อมรับบัญชาแต่โดยดีจากดาเมจท่าไม้ตายติดคริติคอล ‘ถ้าป๊ะป๋าไม่ไปหนูจะไม่พูดด้วย’


ตอนนี้ที่บอร์ดใหญ่หน้าลิฟมีการลงรายละเอียดโปรแกรมทัวร์เอาไว้เรียบร้อย มีวันอิสระหนึ่งวัน อย่างกับทัศนศึกษาชัดๆ


ใครใคร่เตรียมอะไรเตรียมใครใคร่พกอะไรพก


ปกติพวกผมมักได้แบกหามสัมภารกของท่านหญิงทั้งหลาย ผู้ชายอย่างเราจะเอาอะไรมาก กระเป๋าแฟบๆ เสื้อผ้าไม่กี่ตัวกับของใช้เล็กน้อยก็อยู่ แต่สาวๆ นี่มีทั้งชุดนอน ชุดว่ายน้ำ ชุดใส่เล่น ชุดดินเนอร์ ชุดกินเลี้ยง สารพัดชุดเท่าที่นึกได้และนึกไม่ถึง เครื่องสำอางเป็นกระบุง ไหนจะของจุกจิกอีกหลายแสนเหมือนเอาไปขายมากกว่าใช้เอง


บ่นไปงั้นแหละครับ ยังไงเจนเทิลแมนก็ต้องช่วยสุภาพ(?)สตรี


ต้นเดือนเหมือนต่อชีวิตใหม่หลังจากคราวเคราะห์พัดผ่าน กลับมาทำงานชิวๆ จิบลาเต้ไปพลางๆ กลางเดือนเร่งขึ้นมานิด และก็ตายตรงสิ้นเดือนที่ทุกฝ่ายพร้อมใจกันส่งข้อมูลเข้ามาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย กลายเป็นลูปนรกลูปหนึ่ง


ผมก็นั่งตรวจเอกสารแบบสบายๆ ไป มือหนึ่งถือแก้วกาแฟ ข้างหนึ่งจับปากกา ยกแก้วขึ้นมาละเลียดเป็นพักๆ จนใกล้เที่ยง


“เฮ้ย ไอ้กันต์ ลุกๆๆๆๆ กินข้าวกันๆๆ” มาแล้วเจ้ากรรมนายเวร ยอดชายนายพอท


“เออๆ วันนี้โรงอาหารเหมือนเดิมนะ” วันชิวๆ สายลมและแสงแดดพร้อมใจทำให้ขี้เกียจไปไกล เมฆทะมึนแสดงว่าเป็นลางร้าย ไม่ควรออกนอกตึกไปไหน


“แกนี่เคยคิดจะไปไหนกับเขาบ้างมั้ยหะ” ไอ้อัลฟ่าหน้าหล่อเท้าแขนกับโต๊ะเอียงคอถาม


“ไม่เห็นเหรอวะว่าฝนจะตก โง่?” หมั่นไส้มันครับ แค่นี้สาวยังหลงไม่พออีกเหรอถึงมาเต๊ะท่าอีก


“ว่าไงนะ กล้าด่ากูเหรอ” จากนั้นหัวผมก็โดนคว้าหมับ ขยี้ไปมาจนผมชี้ตั้ง ไอ้เลว เสียทรงหมด


“พอๆ ผมกู อุตส่าห์เซ็ตตั้งนาน” ผมรีบปัดมือทิ้ง ลุกออกจากเก้าอี้เดินนำมันออกจากห้องอย่างรวดเร็ว ไม่เคยสู้ชนะมันได้สักที




“พี่กันต์ ไปกินข้าวเหรอครับ” ยังไม่ทันเดินออกจากแผนกก็มาเจอแก๊งแฝด


“อืม พี่ว่าจะไปกินที่โรงอาหารน่ะ”


“งั้นพวกผมไปด้วยนะครับ” ว่าแล้วแฝดน้องก็มาเกาะแขน ช่วงหลังมานี่ถึงเนื้อถึงตัวขึ้นเยอะเลย


“อ๊ะ ลืมแนะนำ นี่พอท ชื่อจริงพีระ อยู่บุคคล” ผมแนะนำเพื่อนยากให้สองพี่น้องรู้จัก


“สวัสดีครับ” ไอ้พอททักทายก่อน


“สวัสดีครับ ความจริงพวกเราเคยรู้จักกันแล้วตอนไปแนะนำตัวที่ฝ่ายบุคคลน่ะครับ” บอสกล่าว  เออ ผมก็ลืมไป วันนั้นฝาแฝดไปแนะนำตัวทุกแผนกเลยนี่ โชว์โง่แล้วไง


“งั้นรีบไปกัน เดี๋ยวโต๊ะเต็ม ไหนๆแล้วก็มาด้วยกันเลยสองคนนั้นน่ะ” ไอ้พอทพูดจบก็เอาแขนคล้องคอเกี่ยวให้เดินตามไป


บอกให้เดินดีๆ ก็ได้มั้ย? แถมยังทิ้งตัวมาเต็มที่ หนักมาก สูงกว่าตั้ง 10 เซนตัวใหญ่สมเป็นอัลฟ่า หาเรื่องแกล้งเบต้าธรรมดาอย่างผมอยู่ได้


บอสกับวินเดินตามหลังมา ระหว่างทางมีหลายคนทักทายพวกเรา ในกลุ่มมีแต่อัลฟ่าชั้นเลิศ กลายเป็นที่จับตามองของสาวๆ และบรรดาโอเมก้าในบริษัท


พอถึงโรงอาหารของบริษัทกลุ่มของเราก็ได้รับความสนใจค่อนข้างมาก ทั้งยอดชายนายพอทหนุ่มใหญ่โสดสุดฮอต ลูกของท่านประธานที่เป็นดาราอีก ผมเหมือนหลุมดำไปเลยเวลาอยู่กับพวกนี้ เดินเรียงกันแหว่งที่ผมคนเดียว เศร้ากับส่วนสูงมาตรฐานเบต้าแป๊ป





หลังจากได้โต๊ะนั่ง ผมก็จิกหัวใช้ไอ้คุณพีระไปซื้ออาหารแทน ทำหัวผมยุ่งต้องไถ่โทษ ส่วนฝาแฝดแยกย้ายไปซื้อข้าวตามอัธยาศัย


“ทำไมใส่ผักอย่างอื่นมาด้วยล่ะ”


สิ่งที่ถูกยื่นมาตรงหน้าผมคือผัดกะเพราหมูชิ้น แต่! นี่มันไม่ใช่! มันควรเรียกว่าผัดผักรวมมิตรมากกว่าผัดกะเพรา ข้าวโพดอ่อน หัวหอม คะน้า ถั่วฝักยาว มาครบ


“โทษที ลืมบอกป้าเค้า แหะๆ” ไม่ต้องมาแหะๆ จงใจชัดๆ คบมา 10 กว่าปีทำเป็นจำไม่ได้ เชื่อก็บ้าแล้ว อีกอย่างผัดกะเพราร้านป้าหมอนใส่แต่ใบกะเพราเว้ย


มิน่าล่ะเดินยิ้มมาแต่ไกล วางแผนไว้นี่เอง ไม่น่าให้มันไปซื้อแทนเลย


“ตั้งใจเห็นๆ ไม่ต้องทำมาเป็นพูด กินก็กิน” พูดเสร็จทำหน้าบูดใส่มันหนึ่งที


ถึงจะกินได้เกือบทุกอย่างแต่ผมเป็นพวกเรื่องมากจุกจิกเรื่องอาหารมาก อย่างผัดกะเพรานี่ ไม่ชอบที่ใส่ผักอย่างอื่นลงไปเลยครับ รู้สึกเสียรส มันจะมีน้ำผักออกมาเวลาผัดทำให้กินแล้วรสชาติจัดจ้านที่ควรได้หายไปเยอะ โดยเฉพาะถั่วฝักยาวถ้าผัดสุกมากจะกลบหมดเพราะรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ออกมาชัดเจน แถมใบกะเพรายังโดนลดอีก เซ็ง


“งั้นพี่กันต์แลกกับผมมั้ยครับ” เสียงแฝดคนพี่ดังขึ้น บอสกับวินที่ถึงโต๊ะแล้ววางอาหารลง ของแฝดพี่เป็นบะหมี่เกี๊ยวน้ำท่าทางน่าอร่อย ส่วนแฝดน้องเป็นสเต็กเนื้อ แหม่ กินหรู


“ไม่เป็นไร พี่กินได้” สงสัยทั้งคู่เห็นสีหน้าปุเลี่ยนของผมเข้า เป็นเด็กดีจริงๆ


“ผมอยากกินกะเพราพอดี แลกกันนะครับ” คราวนี้ไม่พูดเปล่า จัดการสับเปลี่ยนตำแหน่งจานชามเสร็จสรรพ


เลยตามเลยแล้วกัน น้องมันอยากกินนี่ ผมเหลือบตามองชายผู้พ่ายแพ้เยาะเย้ยกับแผนการอันล้มเหลว ส่วนมันหันไปส่งสายตาดำมืดใส่พวกฝาแฝดแทน


บะหมี่น้ำร้านเจ้หงษ์อร่อยดีจริง เส้นลวกพอดีกรุบเด้งกระทบฟัน น้ำซุปกระดูกหมูหวานอร่อย หมูแดงชุ่มฉ่ำรสคล้ายเบคอนแสดงว่าใช้เนื้อติดมันส่วนสันคอ เกี๊ยวกุ้งเน้นๆเนื้อแน่น ผักคะน้าลวกกำลังดีไม่ขม ดีจังที่แลก


“ว่าแต่ไปทำงานกับไอ้กันต์เป็นยังไงบ้าง มันใช้งานหนักมั้ย” คุณพอทผู้มีสกิลการสื่อสารดีเลิศเปิดบทสนทนาบนโต๊ะอาหาร แต่คำพูดนั่นมันอะไร หาเรื่อง?


“ไม่หรอกครับ พี่กันต์ตั้งใจสอนงานมาก ให้ผมเรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง เป็นประสบการณ์ใหม่เลยครับ”


พูดได้ดีๆ


“ใช่ครับ พี่กันต์ใจดี เป็นกันเองด้วย จนตอนนี้ผมสนิทกับพี่กันต์มากเลยล่ะครับ”


นี่ก็พูดดี หัวหน้าที่ใจดี สปอร์ตแบบผมจะหาที่ไหนได้อีก


“เห.... งั้นเหรอ” หลังจากน้องใหม่ในแผนกทั้งสองชื่นชมผมจบ ไอ้พอทมันก็ยิ้มออกมาทันที 


“ปกติเห็นคุยกับคนอื่นไม่เก่ง คิดว่าจะเข้ากันกับพวกน้องๆไม่ได้ซะอีก ทั้งบริษัทมันสนิทกับพี่คนเดียวนี่แหละ”


ทำไมบรรยากาศมันแปลกๆ ล่ะ เรากำลังพูดถึงความดีของผมกันอยู่ไม่ใช่หรือ


น้องบอสยิ้มกลับ “เป็นอย่างนั้นหรือครับ แปลกจัง พี่กันต์อัธยาศัยดีจะตาย ตั้งวันแรกผมก็รู้สึกเหมือนสนิทกับพี่กันต์มานานแล้วเลย” ขนาดนั้นเลย? แสดงที่ผ่านมาที่ไม่ค่อยมีเพื่อนในบริษัทคงไม่ใช่เพราะสาเหตุนี้แน่ ผมสะบัดหน้าหันไปมองคนข้างๆ ไอ้พอทเอาความมั่นใจตลอด 10 ปีคืนมา!


“ฮะๆ ปรับตัวได้ก็ดีแล้ว อยากให้มาฝึกแผนกของผมเร็วๆ จัง ตั้งตารอเลย”


“คงไม่ใช่เร็วๆ นี้ครับ แต่พวกผมก็ตั้งตารอเหมือนกัน”


ว่าแล้วอัลฟ่าบนโต๊ะก็พากันยิ้ม แต่ฉากหลังทำไมมันหม่นๆ ล่ะ


ตอนนี้ผมกลายเป็นคนวงนอกโดยสมบูรณ์ นั่งซดบะหมี่เจ้หงษ์ต่อไปเงียบๆ ปล่อยเหล่าอัลฟ่าคุยกัน คนมีอะไรเหมือนกันมักจะคุยถูกคอสินะ มีเบต้ามานั่งด้วยอีกคนก็คงไม่เลว






หลังจากมื้ออาหารผ่านไปด้วยดีแบบแปลกๆ พวกเราก็กลับไปทำงานต่อ ไม่วายไอ้เวรพอทเกี่ยวคอเหมือนขามาอีกรอบก่อนแยกย้าย ไม่สงสารผมที่ขาสั้นกว่าสักนิดว่าจะเดินตามมันทันมั้ย


“ว่าแต่พี่กันต์กับพี่พอทสนิทกันจังเลยนะครับ” ฝาแฝดคนน้องถาม


“อ่า รู้จักกันมา 10 กว่าปีแล้วล่ะ ตั้งแต่มาทำงานใหม่ๆเลย พวกพี่เข้ามาพร้อมกัน” ตอนที่ยังไม่สนิทกับใครไอ้คุณพีระเป็นคนที่ผมกาหัวไว้ว่าจะไม่ไปคุยด้วยเด็ดขาด ถึงแม้บริษัทนี้จะรับคนเข้ามาตามความสามารถแต่เรื่องการแบ่งชนชั้นใช่ว่าจะหายไปทั้งหมด ยังมีหลงเหลืออยู่บ้างกับพวกหัวเก่า และไอ้พอทตอนนั้นโคตรวางท่า หยิ่ง ขี้เก็ก ดุจดั่งมีรังสีแผ่ออกมาจากตัวว่า ‘ไอ้พวกชั้นต่ำอย่าเข้ามาแหยม’ เบต้าธรรมดาอย่างผมเองก็ไม่อยากยุ่งกับคนแบบนั้นเท่าไหร่


แต่อะไรดลใจมันไม่รู้ถึงเข้ามาทักผมในปาร์ตี้ของบริษัทที่เพิ่งเข้าร่วมครั้งแรก จนต่อมาก็เข้ามาคุยด้วยทั้งที่อยู่คนละแผนก สมัยนั้นเวลามีเอกสารอะไรที่ต้องดิลงานกันมันจะเป็นคนเอามาให้เองตลอด ทำไปทำมาจึงสนิทกันแบบงงๆซะงั้น


ชอบใช้เป็นโล่กันโอเมก้าฉุกเฉิน เอะอะก็อ้างผม หาเรื่องให้คนที่หมายจะจ้องเขมือบมันเพ่งเล็งผมแทน ไอ้ผมที่ไม่ได้รู้เรื่องไปกับเค้าพาลไม่มีคนคุยด้วยไปอีก หมอนั่นก็ชอบย้ำว่าเพราะความสามารถด้านมนุษยสัมพันธ์ของผมติดลบ และด้วยความขี้สงสาร โอเมก้าเดี๋ยวนี้รุกน่ากลัวมาก ไม่อยากให้มันไปกัดคอใครแบบไม่ตั้งใจถึงยอมเป็นเครื่องมือเรื่อยมา คิดแล้วแอบเคือง


“ดีจังเลยนะครับ พวกผมเองก็อยากสนิทกับพี่กันต์แบบนั้นบ้าง” คราวนี้คนน้องพูดบ้าง นี่ยังสนิทกันไม่พอหรือ? มากกว่านี้ก็ปีนเกลียวแล้วล่ะ


“อยากเป็นมากกว่าเจ้านายกับลูกน้องจัง” เสียงนี้ถูกเปล่งออกมาเบาๆเท่านั้น


“ห้ะ ว่าไงนะ” ผมหันไปถาม เมื่อกี้ได้ยินไม่ชัด


“ไม่มีอะไรครับ” ทั้งสองส่งยิ้มนัยตาวิบวับมาให้







และแล้วก็มาถึงวันออกทริป


ผมร่ำลากับลูกสาวอยู่นานมากกว่าจะก้าวขาออกจากบ้านได้


ทั้งเป็นห่วง กลัวว่าจะเกิดอะไรไม่ดี ทั้งอยากอยู่กับลูก สารพัดความรู้สึกทำให้ไม่อยากออกไปไหน ตั้ง 3 วันเชียวนะ ขาดลูกเหมือนขาดใจ


สุดท้ายน้องพีชทนไม่ไหว ดันหลังผมออกพ้นประตูบ้าน จับยัดเข้ารถ โยนกระเป๋าสัมภาระที่จัดไว้ให้เมื่อคืนตามมาเหมือนทุกปี


“อย่าลืมลงกลอนประตูบ้านล่ะ ปิดหน้าต่างล็อคทุกครั้งนะ ห้ามเปิดประตูให้คนแปลกหน้าด้วย แล้ว...”


“รับทราบค่ะป๊ะป๋า จะไปได้หรือยังคะ เดี๋ยวสายนะ” น้องพีชมองผมด้วยสายตาเอือมระอา ทำไมล่ะ ผมแค่เป็นห่วงเท่านั้นเองนะ อย่ามองพ่อแบบนั้นสิลูกจ๋า


“พ่อไปแล้วนะ” หันไปมองด้วยสายตาละห้อยน่าสงสาร


“ขับรถดีๆนะคะ” น้องพีชโบกไม้โบกมือตอบ


“พ่อไปแล้วนะลูก”


“รีบไปเถอะค่ะป๊ะป๋า”


“....”







ในที่สุดก็เดินทางมาถึงบริษัทโดยสวัสดิภาพ


ที่ลานจอดรถมีรถทัวร์จอดอยู่ 3 คัน ผมจอดรถเสร็จก็เดินไปรวมกลุ่มกับพลพรรคนักบัญชี


“พี่กันต์มาแล้ว ทางนี้ค่ะทางนี้” เป็นน้องจ๊ะจ๋ากวักมือเรียกยิ๊กๆ


“มาช้าตลอดเลยพี่ เป็นหัวหน้ามาทีหลังลูกน้องได้ไง”


“ปากแกก็ยังน่าโดนตบตลอดนะเมฆ” ผมมองหน้ามัน ทำมือกระตุกแบบพร้อมกระแทกปากทุกเมื่อ


“หัวหน้าโหดอีกแล้ว พี่นิดช่วยด้วย” แกล้งทำเป็นสำออยอีกไอ้นี่


“ทีกับฝาแฝดยังใจดีเลย ทำไมถึงลงไม้ลงมือกับผมคนเดียว กระซิกๆ” พูดจบมีการเข้าไปกระแซะนิดมากขึ้น   


“สองคนนั่นไม่ได้ปากเปิดฟาร์มหมาเหมือนแก”


“คุยอะไรกันอยู่เหรอครับ” พูดไม่ทันขาดคำฝาแฝดอัลฟ่าก็เดินเข้ามา ตายยากจริงๆ ผมรีบเก็บมือที่จะตบหัวไอ้เมฆอย่างรวดเร็ว


“ไม่มีอะไรหรอก เม้าอะไรไปเรื่อยน่ะ”


อะหือ วันนี้อยู่ในชุดไปรเวท รัศมีเปร่งประกายวิ้งๆ ระยิบระยับจนแสบตา ขนาดใส่แค่เสื้อยืดกางเกงยีนส์เท่านั้น ออร่าความเป็นไอดอลปิดไม่มิดจริงๆ


“แล้วนี่ขึ้นรถกลับพวกพี่เหรอ” น้องจ๋าถาม


“ครับ ตอนนี้เป็นเด็กบัญชีก็ต้องไปกับบัญชีสิครับ” นรินทร์ตอบกลับ


จากการทำงานด้วยกันมาเดือนนึง ผมสังเกตุได้ว่าฝาแฝดคนพี่จะชอบใส่เสื้อผ้าโทนสีขาวฟ้า คนน้องจะใส่สีมืดๆ หน่อยโทนดำแดง การแต่งกายคล้ายบอกนิสัยไปในตัว


ตอนแรกคิดว่าจะนั่งรถไปกับท่านประธานซะอีก ที่ว่าปฏิบัติเหมือนพนักงานไม่คิดว่าจะขนาดนี้  ท่านประธานสุโค่ย


ผมดูนาฬิกาข้อมือ ใกล้ได้เวลารถออกแล้วจึงพากันเอากระเป๋าไปเก็บใต้ท้องรถ แล้วก็จ๊ะเอ๋กับหัวหน้าฝ่ายบุคคลเข้าพอดี


“งาย ถึงซักทีนะ” โดนล็อกคออีกแล้ว ทำไมพักนี้มันทำบ่อยจังห้ะ อย่าให้สูงกว่าบ้างนะแก (คงไม่มีหวัง)


“ไปๆๆ ขึ้นรถ” อย่าตั้งหน้าตั้งตาลากขึ้นรถอย่างเดียวสิเฮ้ย ช่วยดูหน้ากูกับโอเมก้ารอบๆที่อยากนั่งกับแกด้วย


ขึ้นมาบนรถก็โดนจับยัดลงที่นั่งติดหน้าต่างฝั่งคนขับ  ก่อนเอาร่างกายสูงใหญ่นั่งตามปิดทางเข้าออก


“ทำไมแกไม่นั่งในวะ ตัวใหญ่ขนาดนี้ไม่คิดจะให้กูอกไปเข้าห้องน้ำบ้างเหรอ”


นั่งแบบนี้ทุกปีแต่ก็โวยทุกปี เวลาปวดฉี่กว่าจะเบียดมันออกไปได้ลำบากมาก พวกแขนขายาวเกะกะ


“กูแขนยาวขาก็ยาว ต้องการพื้นที่กว้างขวาง พวกผอมแห้งแคระแกรนอย่างแกอยู่ในไปเหอะ”


หนอยๆๆๆ ทำมายักคิ้วหลิ่วตา


เอื้อมมือไปตบหัวมันหนึ่งทีพร้อมพ่นคำว่า “ไอ้เวร” ใส่หน้า



หมับ!


“ปล่อยนะเว้ย”


“ไม่! บังอาจมาตบหัวท่านพอทผู้นี้ต้องโดนซะให้เข็ด ฮ่าๆ”


สภาพตอนนี้ผมโดนไอ้คุณพีระคว้าไปกอดรัดแนบแน่นกระดูกเคลื่อนเครื่องในทะลัก แรงน้อยๆของเบต้าจะไปเทียบกับพลังมหาศาลของอัลฟ่าแค่คิดก็ผิด ดิ้นจนผมเผ้ายุ่งเหยิงชายเสื้อยืดเลิกสูงขึ้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลุด ยังคงรักษาความเหนียวของอุ้งมือได้อย่างดีไม่มีตก ฮึ่ย!


ปึก!


“ทำอะไรกันอยู่หรือครับ” เสียงของวินดังขึ้นพร้อมกับกระชากแขนไอ้พอทไปด้วย ผมเลยหลุดจากอ้อมกอดมรณะมาได้ อายจังเลยครับ เล่นกันเหมือนเด็กเลย

 
“ฮะๆ ก็แค่เล่นตามประสาคนสนิทเท่านั้นเอง” ไอ้พอทยักไหล่


“อย่างงั้นหรือครับ” แฝดพี่น้องบอสตามมาสมทบอีกคน


“ปล่อยแขนผมได้แล้วหน่า จับแรงจนเจ็บเลยนะ จริงจังไปได้”


“โทษทีครับ ไม่ได้ตั้งใจ” คำพูดที่มาพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก แฝดน้องปล่อยมือออกจากแขนของไอ้พอททันที


“พวกเราอยากนั่งกับพี่กันต์บ้างจังเลยครับ ขากลับเราไปนั่งข้างหลังด้วยกันได้มั้ย” น้ำเสียงแบบนี้มันคืออะไร! อ้อนนิดๆ ถ้าเป็นโอเมก้าหรือเบต้าสาวๆ คงเหลวลงไปกองกับพื้นแน่


“ไอ้กันต์ไม่ชอบนั่งข้างหลังน่ะ เสียใจด้วย” ทั้งสามคนมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม


เป็นอีกครั้งที่ผมอยู่วงนอกทั้งที่มันเป็นเรื่องของตัวเองแท้ๆ


สุดท้ายฝาแฝดก็เดินไปนั่งที่นั่งด้านหลังพวกเรา จากนั้นบรรยากาศบนรถจึงเข้าสู่ความสงบ






พนักงานขึ้นรถกันหมดแล้วรถทัวร์ทั้งสามคันจึงเริ่มวิ่ง มุ่งน่าสู่พัทยาหาดสววรค์


นั่งไปนั่งมาเริ่มง่วงแล้วครับ ถึงบนรถจะเฮฮาปาจิงโกะแต่ไม่มีอะไรสู้แอร์เย็นๆ เบาะนุ่มๆ นี่ได้หรอก วันนี้ตื่นเช้าเป็นพิเศษด้วย


ว่าแล้วผมก็หลับตา เตรียมตัวไปหาภรรยาในความฝันอันแสนสุข


ซักพักหัวก็ถูกดันเอียงลง ไปแปะไหล่คนข้างๆ และผมก็หลับไปแบบนั้นตลอดทาง



-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



เปิดตัวตุงเพื่อนอย่างเป็นทางการนะคร้าๆๆๆๆๆ

สำหรับเรื่องนี้เบต้าท้องไม่ได้นะคะ ไม่มีฟีโรโมนอะไรเป็นพิเศษ มีแต่ฟามรัก >///<

โดนกัดหลังคอก็ไม่มีปัญหา เพราะแบบนี้ถึงควบสองยังไงล่ะ ฟุๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 3 16/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-08-2017 19:02:13
อวยพรให้พี่ได้ควบทั้งสองไวๆทริปนี้จะมีความคืบหน้าไหมน้อแฝด
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 3 16/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 16-08-2017 19:19:13
พอทแอบชอบหรอ
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 3 16/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 16-08-2017 19:49:14
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 3 16/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 16-08-2017 20:21:55
ตกลงว่าคุณอัลฟ่าเพื่อนสนิทนี่หวงเพื่อนหรือคิดไม่ซื่อ
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 3 16/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-08-2017 21:12:37
พอท คิดไรกับกันต์ใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 3 16/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 19-08-2017 09:52:36
ชอบเรื่องนี้ตรงที่เป็นเบต้านี่แหละ แถม3pด้วยอิๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 3 16/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 19-08-2017 14:01:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 3 16/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: philosopher ที่ 19-08-2017 16:00:32
คุณเพื่อนสนิทนี่คิดไม่ซื่อหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 3 16/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 19-08-2017 21:48:47
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 3 16/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 22-08-2017 01:47:04
ตาม
หัวข้อ: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 4 23/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: applecaramel ที่ 23-08-2017 17:10:15
ขอประกาศก่อนเลยนะคะ คือเราขอรีไรต์ชื่อเล่นของสองแฝดนะคะ

ตอนแรกยังคิดชื่อเล่นไม่ออกเลยใส่ชื่อจริงไปเลย แต่คนเราเรียกกันแต่ชื่อจริงมันแปลกค่ะ ขนาดในที่ทำงานยังรู้สึกแปลกเลย

ดังนั้นจึงขอเพิ่มชื่อเล่นลงไปหน่อย

คนพี่ชื่อ บอส คนน้องชื่อ วิน นะคะ

กราบขออภัยมา ณ ที่นี้


ขอบพระคุณผู้ที่หลงเข้ามาอ่านทุกท่านค่ะ   :mew3:


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


จิ๊กๆ


ใครมาสะกิดเนี่ย คนจะหลับจะนอน


จิ๊กๆ


อีกแล้ว อะไรเนี่ย ผมเอื้อมมือไปปัดสิ่งรบกวนออก


“ตื่นๆ ไกล้ถึงแล้ว”


ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาจากเสียงเรียกและแรงกระแทกตรงศีรษะ


“ต้องรุนแรงขนาดนี้เลย?” เมื่อกี้ไอ้พอทมันเอาไหล่ข้างที่หนุนอยู่กระแทกหัวผมครับ


“อยากตื่นยากเองนี่ เมื่อยจะตาย”


“ตอนแรกจิ้มซะเบาใครมันจะไปตื่น” กวนกันชัดๆ แนะ มีการมายิ้มอีก เห็นแก่การให้ยืมใหล่จะให้อภัยก็แล้วกัน ถึงจะไม่ได้ขอก็เถอะ


หันออกไปมองทิวทัศน์นอกรถเห็นทะเลอยู่ไกลๆ มาถึงประมาณ 10 โมงเช้า ใช้เวลาเดินทางไม่นานจากกรุงเทพฯ








หลังจากนั้นไม่นานพวกเราก็มาถึงโรงแรมที่พักซึ่งอยู่ใกล้ชายหาดพัทยา เป็นโรงแรมที่ค่อนข้างมีระดับหรูหราพอสมควรเลย พอรถจอดที่หน้าโรงแรมก็พากันทยอยลงจากรถอย่างรวดเร็ว


ข้างนอกว่าหรูแล้วเดินเข้ามาในยิ่งหรูกว่า ตอนนี้ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่ล็อบบี้เพื่อรับกุญแจห้องพัก โดยแบ่งพักห้องละ 2 คน ผมอยู่กับไอ้พอทเจ้าเก่าเจ้าประจำเช่นเดิม


“ตอนนี้ก็แยกย้ายไปห้องพักนะครับ บ่ายโมงให้มารวมกันที่นี่อีกรอบนะ” พนักงานที่รับหน้าที่ผู้นำกลุ่มประกาศกลางห้องโถงหลังจากแจกจ่ายกุญแจให้ทุกคนครบแล้ว พวกเราจึงแยกกันไปห้องของตัวเองทันที พวกแฝดไอดอลได้เลขห้องติดกันพอดีก็เดินตามหลังมาด้วย


พอเข้ามาในห้องแล้วผมก็ตะลึงทั้นที โชคดีที่ได้ห้องมองเห็นทะเล วิวดีสุดๆ ห้องพวกผมอยู่ชั้นที่ 8 ไม่สูงมากแต่ก็ไม่เตี้ยไป มุมกำลังดี เดินออกไปนอกหน้าต่างเป็นบานกระจกเลื่อนภายนอกเป็นระเบียงมีที่ชุดโต๊ะเก้าอี้วางอยู่กับต้นไม้ประดับอีกเล็กน้อยด้านข้างสร้างบรรยากาศให้ร่มรื่นอีกนิด


ตุ๊บ


หันไปมองตามเสียง เจอไอ้พอทโยนกระเป๋าเข้าตู้เสื้อผ้าไปแล้ว ผมก็ไปเก็บของเข้าที่บ้างดีกว่า


เปิดกระเป๋าหยิบชุดออกมาแขวนไว้ที่ราวแขวนในตู้ บังเอิญเหลือบไปเห็นกระเป๋าของคุณเพื่อนยังคงสภาพเดิมทุกสิ่งอย่าง ไอ้นี่มันไม่คิดจะจัดของเลยรึไงนะ


ช่างเหอะ เรื่องของมัน


ว่าแล้วก็หยิบพวกครีมบำรุงทั้งหลายที่น้องพีชซื้อมาให้วางบนโต๊ะเครื่องแป้งในห้อง น้องพีชกำชับว่าต้องใช้ทุกวันห้ามบิดพลิ้ว เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกรักผมจึงกลายเป็นผู้ชายเจ้าสำอางขั้นต้น พกครีมกันแดด ทาครีมบำรุง ก่อนนอนต้องมาร์กหน้า ทั้งที่เมื่อก่อนปล่อยเนื้อปล่อยตัวมาก แต่สีทนได้ จะได้เป็นคุณพ่อสุดหล่อของน้องพีชไปนานๆ


เบนสายตาไปทางอัลฟ่าที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำมา จ้องมองใบหน้าที่ยังคงหนุ่มแน่นทั้งที่อายุเท่ากัน


อิจฉาอ่ะ


“มองหน้ามีไร”


“ห้ะ เปล่านี่” ใครจะบอกว่าอิจฉาหนังหน้ามันมาก อัลฟ่านี่มันอัลฟ่าจริงๆ


“ไม่ได้หลงกูใช่ป่ะ” ไอ้พอทยื่นหน้ามาใกล้ๆ ผมรีบเอามือยันไว้ทันที


“หลงบ้าหลงบออะไร มีแต่แกนั่นแหละที่หลงตัวเอง”


“ที่รักทำมาเป็นปากแข็ง ชอบเขาก็พูดเถอะ” ไอ้พอทพ่นคำพูดแสลงหูพร้อมกับยื่นหน้ามาใกล้กว่าเดิมพลางทำหน้าชวนถีบไปด้วย


“เล่นไรเนี่ย ขนลุก” ผมว่าเอามือยันหน้าแรงกว่าเดิม ทำไมไม่ขยับเลยว่ะ ความต่างชั้นนี้


ก๊อกๆ


ใครมาเคาะประตูห้อง?


เพื่อนเลวผละออกจากตัวผมไปส่องตาแมว ผมเลยถามมันว่าใครมา


“ลูกท่านประธานมา เปิดมั้ย” ยังมีหน้ามาถาม


“เปิดดิ”


ผมเดินตามไปที่ประตู พบฝาแฝดออร่ากระแทกตา 1 คู่ ยืนยิ้มแย้มแจ่มใสแจกชาวโลกที่หน้าประตู


“ผมมาชวนพี่กันต์ไปทานข้าวด้วยกันน่ะครับ”


“ไปด้วยกันนะครับ”


ดวงตาสีฟ้าจางสองคู่พากันส่งสายตาเหมือนลูกหมาขออาหารมาให้ ฮึ่ย สมกับเป็นมืออาชีพ ขนาดเป็นผู้ชายยังแอบเคลิ้ม


“ชวนแต่กันต์คนเดียวเหรอ ใจร้ายจัง” ไอ้พอทส่งเสียงตัดพ้อ ผมยืนอยู่ข้างหลังจึงไม่เห็นว่ามันทำหน้ายังไงตอนพูดประโยคนี้ แต่ผมเห็นคู่สนทนากับมันดวงตาวาววับแว๊บนึงรึเปล่า? คิดไปเองมั้ง


“พวกผมก็ให้ไปด้วยกันนี่แหละครับ กินข้าวหลายคนสนุกดีจะตาย” หนุ่มวิ้งค์คนพี่ตอบ


“ผมเป็นได้แค่ตัวแถมเหรอเนี่ย น่าน้อยใจจริง”


“ไม่หรอกครับ คุณพีระเป็นเพื่อนพี่กันต์ต่างหาก”


“......”


ทำไมแอร์โรงแรมเย๊นเย็น








ในที่สุดเราก็เคลื่อนพลมาที่ห้องอาหารของโรงแรม แม้ว่าภูผาฟ้าครามจะเป็นไอดอลโด่งดังก็ไม่เป็นปัญหากับการมานั่งทานอาหารในห้องรวมเพราะแขกส่วนใหญ่ยังคงเป็นชาวต่างชาติ จึงไม่มีใครสนใจพวกเรามากนัก


ผมยื่นบัตรทานอาหารของโรงแรมที่ได้มาพร้อมกับกุญแจห้องให้พนักงานหน้าห้องอาหารก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน มองหาโต๊ะนั่งสำหรับ 4 คน


พวกเราเลือกที่นั่งติดกระจกมองเห็นภายนอก บรรยากาศดีใช้ได้เลยครับ คุมโทนสีเทาน้ำตาล มีสีสันจากดอกกุหลาบแดงและใบสีเขียวในแจกันทรงโมเดิร์นตัดกับผ้าปูโต๊ะสีขาวสะอาดเน้นความเรียบหรู


หลังจากนั่งลงเป็นที่เรียบร้อยบริกรก็เดินเข้ามารับออเดอร์อาหาร ผมสั่งสปาเก็ตตี้ต้มยำกุ้งไป เหล่าอัลฟ่าทั้งหลายพากันสั่งโปรตีนเน้นๆ ฝาแฝดสั่งสเต็กทีโบนกับริบอาย ส่วนคุณพอทสั่งเป็นสเต็กเนื้อส่วนเทนเดอร์ลอย ล่อของแพงเชียว


อาหารมาเสริฟแล้วต่างคนต่างกิน อัลฟ่าสามัคคีชุมนุมยังคงมีเรื่องพูดคุยเล็กน้อยตามประสาพวกเดียวกัน ผมม้วนเส้นกินไปเรื่อยๆชมนกชมไม้ไม่ขอเข้าร่วมวงสนทนาชวนหนาวนั้น


อา... อร่อยแฮะ กุ้งนี่สดดีจัง แอบจำกลับไปทำให้น้องพีชลองทานบ้างดีกว่า








เวลา 13.00 นาฬิกา พนักงานทุกคนที่มาร่วมทริปรวมตัวอยู่ที่ล็อบบี้ครบทุกคน เฮโลขึ้นรสบัสอีกรอบเพื่อไปจุดหมายปลายทางของวันนี้


แกะ?


ที่พัทยาหรือ?


ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ฟาร์มแกะแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ที่ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของพัทยาเลยทีเดียว พวกผู้หญิงที่มากันกรี้ดกร้าดด้วยความดีใจ ถ้าไม่นับว่าแกะมันดูไม่ค่อยเข้ากับทะเลสักเท่าไหร่ก็ถือว่าเป็นแหล่งถ่ายรูปชั้นยอดของบรรดานักเซลฟี่ตัวแม่ที่ตอนนี้พากันควักกล้องฟรุ้งฟริ้งออกมาถือกันให้พรึบ


หลังได้รับแจกตั๋วเข้าโครงการที่สามารถนำไปแลกหญ้าให้น้องแกะได้ 1 กำก็เดินเข้าไปข้างในอย่างเอื่อยเฉื่อยผิดกับสาวๆ ทั้งหลาย


“พี่กันต์ไปถายรูปด้วยกันนะครับ” บอสกับวินเอ่ยขึ้นพร้อมกัน


ครั้งนี้ฝาแฝดไวกว่าเพื่อนเก่าแก่ ตรงเข้ามาคว้าแขนทั้งสองข้างพาไปที่โซนถ่ายรูปก่อนจะหยุดตรงแกะตัวยักษ์สีแดงแป๊ดสะใจ ผมยังมึนอยู่ ตามไม่ทัน


ทั้งสองจับผมยัดช่องภายในตัวแกะ คนพี่จัดท่าจัดทางให้เรียบร้อยคนน้องตั้งกล้องเตรียมถ่ายดุจมืออาชีพเสร็จแล้วรีบวิ่งมาโพสท่าข้างผม


“3 2 1 ชีส” ทั้งคู่ออกเสียงนับถอยสไตล์คาวาอี้ ผมก็ยิ้มตาม ไม่ถนัดอะไรแบบนี้เลยครับ


จากนั้นผมก็โดนลากไปถ่ายรูปทั่วสารทิศเท่าที่จะไปได้ ปิดท้ายจบที่มุมรูปปั้นแกะน้อยมุ้งมิ้งเล็มหญ้า


เหนื่อยครับ เหนื่อยมาก เข้าใจถึงสัจธรรมสังขารไม่เที่ยงอย่างแท้จริง การเต้นโคฟไม่ได้ช่วยอะไรเลย ฮือ








ตอนนี้ผมเลยหนีมานั่งในร้านกาแฟบรรยากาศดีพักร่างกายกับพวกลูกน้องในแผนกแล้วครับ แก๊งค์สาวแกร่งแรงเกินร้อยนั่งเช็ครูปกันอยู่ คาดว่าน่าจะได้ถ่ายใหม่อีกรอบเพราะได้ยินเสียงบ่นหงุงหงิงว่าหน้าลอย แสงไม่ดี รูปดูอ้วน ฯลฯ ส่งรูปวิวที่ถ่ายให้น้องพีชดูดีกว่า เผื่ออยากให้ป๊ะป๋าพามา


“ว่าแต่อยากถ่ายรูปกับน้องวินน้องบอสจัง อุตส่าห์มากับคนดังทั้งที” น้องจ๋าขาเม้าส์พูดบ่นงืมงำ


“นั่นสิ หัวหน้ายึดบุคคลสาธารณะไปแบบนี้ไม่ยุติธรรมเลย” น้องมลผู้คล้ายจะเรียบร้อยรับไม้ต่อจากจ๋า


“หือ อะไร เปล่าสักหน่อย” ผมเงยหน้าจากมือถือหันไปมองพวกผู้หญิงที่ทำหน้าตาไม่เชื่อถือส่งมาให้ พวกนั้นมาถึงก็ลากเอาๆ ไม่ใช่ความผิดผมเลยสักนิด


“น้องๆ เขาดูเหมือนจะติดหัวหน้ามากเลยอ่ะ กับพวกผมที่ทำงานด้วยยังไม่สนิทขนาดนี้เลย” ไอ้เมฆก็มาร่วมวงด้วย


สองสาวเบต้าหันหน้าเข้าหากันพยักหน้าหงึกหงัก 1 ทีก่อนเบนเข็มมาทางผม


“ติดเติดอะไร ไม่หรอกหน่า” น้องมันแต่อยากอ้อนผู้สูงวัยตามประสาผู้เยาว์เฉยๆมั้ง คงเห็นว่าผมไม่ค่อยมีเพื่อนนอกจากไอ้พอท ว่าแต่มันหายไปไหนเนี่ย โดนโอเมก้าลากเข้ามุม?


“โหๆๆ หัวหน้าไม่รู้ตัวจริงๆ เหรอคะ คนที่น้องเขามาสกินชิพมีแค่หัวหน้านั้นแหละค่ะ”


เป็นอย่างนั้นหรอกหรือ ไม่รู้ตัวเลยแฮะ คิดว่าเป็นคนเฟรนลี่ซะอีก


“หัวหน้าไปอยู่ไหนมา โดนมองด้วยสายตาเทิดทูนปานจะกลืนกินขนาดนั้นยังไม่รู้ตัว”


“แกก็เวอร์ไปนะไอ้เมฆ” ผมเอ็ด กลืนกินเลยเหรอ เกินไป๊


“ไม่เวอร์หรอกค่ะหัวหน้า ชัดจนทิ่มตาคนทั้งแผนกแล้วค่ะ มีอะไรก็พี่กันต์จะส่งงานอะไรให้พี่ก็รับอาสาหมด ถ้ามองไม่เห็นก็ตาบอดแล้วค่ะ” ยัยจ๋าพูดอะไรออกมาน่ะ จะเป็นแบบนั้นได้ไงกัน


“จบเอกมโนโทจินตนาการใช่มั้ยพวกคุณ? คิดไปเอง”


หันไปมองที่พึ่งสุดท้ายส่งสายตาอย่างแรงกล้าว่า ‘ไม่จริงใช่มั้ย’ ไปให้นิดผู้สุขุมที่สุดในแผนก


เธอส่งยิ้มพิมพ์ใจให้ชุ่มชื้นก่อนหันหน้าหนีไปทางอื่น


อะไรกัน ไม่มีพวก โดดเดี่ยวเดียวดายอย่างแท้จริง!




“อยู่นี่เองพี่กันต์”


สะดุ้งเลยครับ จู่ๆก็โดนกอดซ้ายขวาเป็นแซนวิช คนแก่หัวใจจะวาย


“น้องบอสน้องวินมาพอดีเลย พวกพี่อยากถ่ายรูปกับน้องน่ะค่ะ จะได้อวดแผนกอื่นให้อิจฉาเล่น” จ้ะจ๋าพูดพลางยิ้มหน้าทะเล่น


ทั้งสองหันไปตอบทั้งที่ยังไม่เอาแขนออกจากคอผม “ได้สิครับพี่สาว แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ” ภูผาว่า


“อะไรเหรอ พี่สาวพร้อมเปย์จ้ะ” ยัยจ๋าทำหน้าสาวใหญ่มีเงินเรียกเด็กโฮสเปิดขวด


วินผละออกไปซุบซิบกับยัยจ๋าแป๊ปนึง คุยอะไรกันนะอยากรู้


“พี่สาวจัดให้ค่ะ ถึงไหนถึงกัน” จากนั้นทั้งสองคนจึงจับมือกันบ่งบอกว่าดีลสำเร็จลุล่วง แล้วสาวๆ ก็ลุกไปถ่ายรูปพร้อมไอดอลของปวงชนเหลือผู้ชายวัยกลางคน 1 วัยผู้ใหญ่ตอนต้นอีก 1 เฝ้าโต๊ะ


“เออพี่ ว่าแต่คุณพีระเค้าไปไหนอ่ะ ปกติมาเที่ยวแบบนี้ตัวติดกับพี่จะตาย”


“ไม่รู้อ่ะ โดนลากไปไหนซักที่แหละมั้ง” โอเมก้ากับเบต้าหญิงในบริษัทเล็งมันเยอะจะตาย ในบริษัทเรามีอัลฟ่าหลายคนก็จริง แต่มันก็เหมือนอัลฟ่าในหมู่อัลฟ่าถ้าไม่นับลูกชายท่านประธาน มาสนิทกับผมได้ยังไงยังงงอยู่เลย


“ผมน่ะอิจฉาคุณพีระมากเลยอ่ะ หน้าหล่อ หุ่นก็ดี เก่งอีกต่างหาก เบต้าอย่างผมคงได้แค่ฝันถ้าจะเป็นแบบนั้นบ้าง” ไอ้เมฆโอดครวญพลางเอาหน้าลงไปไถโต๊ะ


“เบต้าเราก็มีข้อดีในแบบเบต้านะเว้ย อย่าน้อยใจในโชคชะตาเลย ไม่ต้องฮีทไม่ต้องรัท ดีจะตาย อย่างน้อยเราก็สูงกว่าโอเมก้านะ” ผมตบไหล่ปุๆ ส่งคำพูดให้กำลังใจมัน รวมถึงให้กำลังใจตัวเองด้วย ใช่ซี๊ เรามันกลุ่มชนบ้านๆ เกณฑ์ค่าเฉลี่ยของชาติทุกสิ่งอย่าง


“หัวหน้า...” ไงล่ะ ซาบซึ้งล่ะสิ สายตาดูมีชีวิตชีวาขึ้นนะ


“ส่วนหน้าตาเดี๋ยวนี้วิทยาการกว้างไกล พึ่งมีดหมอก็ไม่เสียหาย”


“หัวหน้า!”


ฮะๆ หน้ามันตลกดีจัง ถือว่าเอาคืนคำพูดพิเรนทร์ๆ ของมันก็แล้วกัน ฮึ



“คุยอะไรกันเหรอ หึ้ม?” ตายยากตายเย็น แค่เอ่ยถึงก็สามารถอัญเชิญได้


“ฮะๆ เปล่าสักหน่อย ว่าแต่หายไปไหนมา”


“ก็แค่น้อยใจ คนแถวนี้ได้ใหม่แล้วลืมเก่า เรามันสู้หนุ่มเอ๊าะๆ วัยขบเผาะไม่ได้นี่” ทำสะบัดสะบิ้ง มันไม่เข้ากับหน้าตาอัลฟ่าของแกเลยซักนิด จากดูดีกลายเป็นทุเรสมาก มลพิษทางสายตา


“พูดอะไรไร้สาระ ห่างกันบ้างก็ดีแล้วไงแกจะได้หาคู่บ้าง” เห็นมันโสดมานานไร้คู่เคียง อยากให้มีคนมาดูใจมัน ผมเป็นเพื่อนที่ดีใช่มั้ยครับ (ความจริงคือไม่ได้ตั้งใจหรอก แค่โดนเด็กลากไปเฉยๆ)


“มีนายอยู่แล้วจะไปมองคนอื่นได้ยังไงล่ะ”


บรึย! ขนลุกมากอ่ะ ยัง! ยังมากอดคอผมอีก


“ช่วยเลิกพูดจาแบบนั้นได้ป่ะ” ดูสายตาของโอเมก้าที่ทิ่มแทงสิ พรุนไปหมดแล้วๆๆๆ ผมเบต้าครับ ไม่ต้องกลัวโดนแย่งอัลฟ่าขนาดนั้นก็ได้ๆๆๆ


“ฮะๆ เบต้าแบบหัวหน้านี่เป็นที่อิจฉามากเลยนะครับ”


“มีอะไรน่าอิจฉา” มนุษย์ค่าเฉลี่ยเนี่ยนะน่าอิจฉา


“ก็อัลฟ่าคัดเกรดล้อมหน้าล้อมหลังขนาดนี้ โอเมก้าส่งสายตาเร่าร้อนมาเต็มไปหมด ผมยังโดนลูกหลงไปด้วยเนี่ย” ตาตี่ๆ ของลูกน้องชายคนเดียวหันมองรอบๆ ก่อนจะตัวสั่นเหมือนหวาดกลัวพลังงานลึกลับบางอย่าง


ไม่เห็นน่าอิจฉาตรงไหน แกไม่ได้โดนเองยังตัวสั่น คนโดนทิ่มเต็มๆมันผมนี่! เก็กไว้เฉยๆหรอกถึงยังนิ่งอยู่ได้








และแล้วอัลฟ่าผู้เป็นเป้าหมายก็ลากผมไปไห้อาหารแกะ กูยังอยากหย่อนก้นจิบกาแฟอยู่นะเฮ้ย


“หญ้า 2 กำนะครับ” พนักงานทวนพร้อมรับหางตั๋วไป เสร็จแล้วหันหลังไปหยิบหญ้าอาหารแกะมาให้พวกเรา คุณพอทที่ใช้เรี่ยวแรงของอัลฟ่าลากผมมาได้สำเร็จก็จูงไปคอกแกะทันทีที่ได้รับหญ้า


ผมนั่งยื่นหญ้าให้น้องแกะตัวที่ใกล้ที่สุด หวังให้มันหันหน้ามางับหญ้าที่ถืออยู่แต่กลับโดนสบัดหน้าหนีใส่ หันไปมองไอ้พอทที่โดนแกะรุมแย่งหญ้าในมืออย่างเอาเป็นเอาตาย อะไรอ่ะ ทำไมไม่กินของผมล่ะ


ยังมายิ้มเยาะเย้ยอีก หมั่นไส้แรง ผมโปรยหญ้าเข้าคอกไปเลยครับ กินก็กิน ไม่กินก็ไม่ต้องกิน ยื่นแขนนานๆ แล้วเมื่อย


“เสร็จยัง จะได้ไปขึ้นรถ” เริ่มอยากกลับแล้วครับ ความมุ้งมิ้งนี้มันไม่เข้ากับผมเลย มากับน้องพีชก็ว่าไปอย่าง งื้อ คิดถึงลูก


“ไปถ่ายรูปรวมก่อนสิ” แล้วผมก็โดนลากมาจุดถ่ายรูปสุดท้ายก่อนกลับ


แอคท่าไปหลายท่าในที่สุดก็ได้ขึ้นมาตากแอร์บนรถสักที


พวกเรานั่งรถกลับที่พัก วันนี้ตอนค่ำมีงานเลี้ยงปาร์ตี้เล็กๆ ในห้องจัดเลี้ยงโรงแรมแบบไม่เป็นทางการ กินดื่มได้เต็มที่ ผมชอบงานแบบนี้ที่สุดเลย








หลังจากขึ้นห้องอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยก็ออกมานั่งเช็ดผมบนเตียงให้คุณชายพอทเข้าไปอาบบ้าง เอาไดรมาเป่าต่อให้แห้งกันหนังศีรษะขึ้นรา เป็นคนชอบสระผมตอนกลางคืนครับ รู้สึกสะอาดดีเวลานอนไม่คันหัว


ไอ้พอทที่อาบเสร็จแล้วเดินออกมา คราวนี้พ่ออัลฟ่าร่วมห้องนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวคาดเอวผืนเดียว เปลือยท่อนบนอวดกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบฉบับอัลฟ่า หยดน้ำตามลำตัวพร่างพราวหยอกล้อแสงไฟในห้อง แขนข้างหนึ่งยกขึ้นเช็ดผมด้วยผ้าขนหนูของโรงแรม ท่วงท่าดุจนายแบบโฆษณาชั้นในชายยั่วยวนชวนให้ฮอร์โมนโอเมก้าพุ่งพล่าน


มันไม่อายผมก็ไม่อาย กล้าเปิดก็กล้าดู ผู้ชายเหมือนกัน อยากถ่ายรูปไปขายหาค่าเทอมให้น้องพีชจังแฮะ น่าจะได้หลายตัง


ผมเข้างานก่อนมันดีกว่า ไปพร้อมกันเดี๋ยวโดนเขม่น หนีไปคนเดียวนี่แหละดี ตอนมันหันไปเปิดตู้เสื้อผ้าแต่งตัวผมก็ย่องๆ ออกจากห้องอย่างรวดเร็ว








ภายในห้องจัดเลี้ยงตอนนี้เริ่มมีคนมาประปรายแล้วครับ มีบริกรเดินขวักไขว่ภายในงาน โต๊ะวางอาหารจนละลานตา เป็นแบบบุฟเฟต์เลือกตักได้ตามสะดวก ผมคว้าอาวุธในการกิน จาน ช้อน มีด ส้อม ก่อนจะเดินไปตักอาหาร พุ่งเข้าซุ้มซีฟูดอย่างว่องไว ตักกุ้งลายเสือย่างจนพูนจาน หยิบน้ำจิ้มซีฟูดมาวางแล้วเดินไปที่โต๊ะของเมฆที่กินเนื้อไปได้ครึ่งจาน


“รับน้ำอะไรดีครับ” บริกรถามด้วยท่าทางสุภาพ


“ขอเป็นน้ำเปล่าแล้วกันครับ” พ่อที่ดีต้องไม่แตะแอลกอฮอล์ครับ


“ซักครู่นะครับ” พอบริกรเดินจากไปผมก็เริ่มเอาส้อมจิ้มกุ้งย่างที่ผ่ากลางมาให้แล้วในน้ำจิ้มสีเขียวสด


ฮ้า แซบ เค้าทำรสจัดกำลังดีไม่เหม็นเขียวพริก สมเป็นโรงแรมมีระดับ กุ้งก็อร่อย ลาบปาก ฟินมาก


ระหว่างที่นั่งทานไปเรื่อยๆ ฝาแฝดแห่งตระกูลภัทธ์รัฐชัยได้ก้าวเข้ามาในงานเป็นที่เรียบร้อย ทั้งสองคนแต่งตัวกึ่งทางการด้วยเชิ้ตสีขาวและสีดำตัดกัน เข้ากับกางเกงขายาวสีน้ำตาลอ่อนเข้ารูปเน้นขาเรียวยาวกล้ามเนื้อสมส่วน สวมรองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้ม ผมสีดำขนกาปล่อยเป็นธรรมชาติเข้ากับบรรยากาศเบาสบายของงานเลี้ยง มุ่งตรงมาที่โต๊ะผมทันทีไม่สนใจสายตาคนทั้งงานที่จ้องมอง


“โห พี่กันต์ตักกุ้งมาเยอะเลย ชอบหรือครับ” แฝดพี่เสื้อขาวนั่งประกบซ้ายถาม


“อืม พี่ชอบอาหารทะเลน่ะ” ซีฟูดนี่รักมาก แต่รักที่สุดต้องกุ้ง รักรองลงมาจากน้องพีชเลย


แฝดน้องตักอาหารเสร็จก็หย่อนตัวนั่งข้างขวา แฝดพี่จึงออกไปตักอาหารบ้าง ผมหันไปมองจานของวิน เนื้อเน้นๆ อีกแล้ว เด็กหนุ่มระบบเผาผลานดีจริง


พวกเรานั่งกินกันไปเรื่อย พวกสาวบัญชีก็ตามมาสมทบ ความอลังการของอาหารบนจานที่พอกันกับเสื้อผ้าหน้าผมทำเอาต้องมองหน้าพวกเธอสลับกับจานอยู่หลายรอบ รักยมข้างตัวผมยังอ้าปากค้างไปกับความยิ่งใหญ่นั้น


อย่ามาบ่นอ้วนทีหลังล่ะ


“หนีมาก่อนเฉยเลยได้ไงกัน” จองเวรไม่มีหยุดคุณเพื่อนยากนั่นเอง ที่นั่งข้างผมถูกจองหมดมันจึงนั่งถัดจากบอสไป


“ทำไมคุณพีระไม่นั่งกับฝ่ายบุคคลล่ะครับ” บอสเปิดฉากพูดกับคนนั่งข้างก่อนทันทีทั้งที่ยังไม่ทันหย่อนก้นดีเลย


ความจริงงานนี้ไม่ได้ฟิกซ์ที่ แต่ส่วนใหญ่มักจะสนิทกันในแผนกสุดท้ายกลายเป็นนั่งแยกส่วนกันเฉย มีส่วนน้อยเท่านั้นถึงจะไปนั่งกับคนแผนกอื่น หนึ่งในนั้นคือไอ้หมอนี่


“ทำไมผมต้องไปนั่งด้วยละครับ อยากนั่งตรงไหนก็นั่งไม่ผิด งานเค้าไม่ได้ห้ามนี่ครับ” หัวหน้าฝ่ายบุคคลตอบคำถามอย่างมาดมั่นส่งยิ้มละลายใจเปร่งรัศมีเจิดจ้าสู้ไอดอลข้างกาย


วันนี้มันก็แต่งตัวดีครับ เสื้อยืดคอกว้างสีเทาอ่อนแขนสามส่วนแต่งกระดุมคอสามเม็ดแหวกอกพอเซ็กซี่ บวกกับกางเกงยีนส์สีฟ้าซีดมีรอยขาดชวนแหวกให้ขาดมากกว่าเดิม ผมสั้นสีน้ำตาลเปลือกไม้หยักศกพริ้วไหวระต้นคอ ดวงตาสีดำคมกริบจ้องมองคุณชายไอดอลอย่างกวนอารมณ์ชวนให้ประทับรอยเท้าที่หน้า


“ผมถามเพราะสงสัยเองครับ” นัยตาสีฟ้าใสหรี่ลง มุมปากโค้งขึ้นได้รูปสวยส่งให้คู่สนทนา


ทำไมถึงหนาวแบบนี้ คุยเล่นกันอยู่ไม่ใช่รึ? พวกสาวๆ ที่ตอนแรกซุบซิบกันอยู่ยังเงียบสนิทเพิ่มความเย็นเข้าไปอีก คนบนโต๊ะที่เหลือเหล่กันไปมา ได้ข้อสรุปจากการเทเลพาธีทางสายตาว่าก้มหน้าแล้วกินเถอะ ผมจึงเลิกสนใจพวกนั้นแกะกุ้งกินต่อไป






งานเลี้ยงเริ่มครึกครื้น กิจกรรมเกมส์ต่างๆที่ทางบริษัทจัดมาถือว่าสนุกใช้ได้ นั่งดูคนหนุ่มสาวเล่นกันไปพลางทานอาหารไปพลาง ค่อยสมกับเป็นปาร์ตี้หน่อย


“เดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ท่อน้ำเดินแล้วครับ ต้องปลดปล่อย


ดีที่ห้องน้ำอยู่ไม่ไกลห้องจัดเลี้ยงมาก เดินตามสัญลักษณ์ห้องน้ำชายเข้าไปทำธุระให้ไวจะได้รีบไปกินต่อ คราวนี้เล็งเนื้อย่างชุ่มฉ่ำไว้แล้ว น่ากินจริงๆ ครับ


ผมหันหลังกลับหลังจากล้างมือเช็ดให้แห้งเรียบร้อยเตรียมเดินออกจากห้องน้ำ





“เฮ้ย”


ตกใจหมดครับ ฝาแฝดเข้ามากันเงียบๆ ผมยังผวากับเรื่องสยองในห้องน้ำไม่หาย อยู่ๆก็เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง สะดุ้งแรง


“พวกผมมีเรื่องพูดกับพี่นิดนึงครับ” วินว่า


“มีอะไรงั้นเหรอ”


“เรื่องรางวัลที่พี่บอกจะให้น่ะครับ” บอสเริ่มเกรินเข้าเรื่อง นัยตาทอแสงสะท้อนสวยงาม


“หือ ว่าไงล่ะ” บอกป๋ามาเลย


“วันพรุ่งนี้เราขอจองตัวพี่ทั้งวันเลยได้มั้ยครับ” ห้ะ อะไรคือจองตัว


“อยู่เที่ยวกับเราทั้งวันน่ะครับพี่” อ่อ อย่างนี้นี่เอง เผลอถอยไปก้าวนึงซะแล้วสิ


“ได้สิ ขออย่างเดียวอย่าทรมารสังขารพี่เยอะ พี่แก่แล้ว” วันนี้เที่ยวนิดหน่อยยังไหลไปกับเก้าอี้ มากกว่านี้ต้องนอนแหมะแน่นอน 


“แก่อะไรกันครับ พี่กันต์ยังหนุ่มแน่นอยู่เลย” คนน้องเข้ามาเกาะไหล่ออดอ้อน ไม่รู้ว่าชมเล่นหรือจริงแต่ก็ดีใจครับ ฮ่า


“งั้นเข้างานกันเถอะครับ” วินและบอสคล้องแขนผมคนละข้างพาเดินเข้างานไปอีกครั้ง












ว่าแต่ทำไมต้องคุยในห้องน้ำด้วยอ่ะ?



 
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 4 23/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 23-08-2017 18:00:01
นั่นสินะ ทำไมต้องคุยในห้องน้ำ
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 4 23/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 23-08-2017 19:01:54
เป็นผู้หญิงหราต้องคุยในห้องน้ำ ถถถ
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 4 23/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: Anfield@..@ ที่ 23-08-2017 19:04:22
 :impress2:ระลึกความหลังรึเปล่า :impress2:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 4 23/8/60
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 23-08-2017 19:53:51
 o13  o13 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 4 23/8/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 23-08-2017 19:57:10
 :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 4 23/8/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-08-2017 20:16:48
อย่างที่คิด พอท คิดไรๆกับกันต์จริงๆ

เลยเกิดสงครามเย็น ระหว่างสองแฝดกับพอท ตลอด

แสดงว่ากันต์นี่ต้องหน้าตาดี น่ารัก มีเสน่ห์
มีฟีโรโมนกับอัลฟ่าสามหนุ่ม มากกว่าโอเมก้าซะและ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 4 23/8/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 23-08-2017 21:02:24
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 4 23/8/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 23-08-2017 22:21:19
ชอบความอัลฟ่าคัดเกรดมารุมล้อม แต่พ่อน้องพีชก็ยังไม่รู้ตัว ฮาาา
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 4 23/8/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Spenguin ที่ 23-08-2017 22:24:02
เสียดายพอทอะจับเข้าฮาเร็มด้วยได้ไหมค้า :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 4 23/8/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 23-08-2017 23:56:42
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 4 23/8/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 24-08-2017 01:10:34
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 4 23/8/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 24-08-2017 02:47:09
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 4 23/8/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: philosopher ที่ 24-08-2017 20:12:15
การคุยในห้องน้ำนี้นั้น
5555555555555
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 4 23/8/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: VpupinaV ที่ 01-09-2017 06:10:51
สุดยอดดด ชอบเรื่องแนวๆนี้มากเลยค่ะ เคะแก่ดีต่อใจ แถมเป็นแนว Omegaverse อีก อ๊ายยย ชอบมากเลย ติดตามนะคะ  o13
หัวข้อ: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: applecaramel ที่ 08-09-2017 21:07:50

ณ เวลา 9 โมงเช้าอันสดใส แสงอาทิตย์เจิดจ้าแม้เป็นหน้าฝน ตอนนี้ผมกำลังเสริมหล่ออยู่หน้ากระจกอยู่ครับ ต้องไปเดินเที่ยวกับไอดอลก็อยากดูดีนิดนึงบ้างอะไรบ้าง


วันนี้เป็นวันเที่ยวอิสระ 1 วัน เหมือนดั่งปล่อยสัตว์คืนสู่ป่า อยากทำอะไรก็ทำให้เต็มที่ แค่ไม่ผิดกฏหมายเดือดร้อนมาถึงบริษัทเป็นพอ แต่คราวนี้ผมก็ไม่ได้คิดไว้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ฝาแฝดคงมีที่อยากไปกันอยู่แล้ว เป็นรางวัลของพวกเขานี่ครับ


แต่งเสร็จก็หมุนซ้ายหมุนขวา ตรวจสอบความเป๊ะก่อนออกจากห้อง ไอ้พอทก็ปล่อยมันนอนไป เมื่อคืนจัดหนักอยู่เหมือนกันครับไม่รู้นึกครึ้มอะไรยกเอาๆ กว่าจะหามกลับห้องได้ลำบากแทบแย่ การแบกผู้ชายที่ตัวโตกว่าไม่ใช่เรื่องตลกแล้วไม่รู้ทำไมไม่มีใครยอมช่วยผมหามมันกันเลย ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาเห็นมันเมาครั้งแรกนี่แหละ เพิ่งรู้ว่าเป็นคนที่เมาแล้วเลื้อยมาก ซุกไม่หยุดจริงๆ ถึงห้องผมจึงโยนลงเตียงไปเลย จัดท่านอนให้อย่างเดียว


ดีนะที่นอนแยกเตียง ไม่งั้นเหม็นเหล้าแย่


ก่อนออกไปผจญภัยก็ต้องเติมเสบียงให้ท้อง ผมลงมาที่ห้องทานอาหารของโรงแรมซึ่งตอนเช้าจะจัดเป็นบุฟเฟต์แบบโชว์คิทเช่น มีพ่อครัวยืนทำอาหารกันสดๆ อยู่หน้าเตาให้ได้ตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่เดินเข้ามาก็เห็นฝาแฝดแต่ไกล ดูโดดเด่นจากผู้คนทั่วไปมากแทบไม่ต้องหาเลย แถมยังโบกมือหยอยๆ เหมือนกำลังบอกว่ามานี่สิๆ ยิ่งเป็นจุดสนใจทั้งไทยและเทศเข้าไปใหญ่ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นผมก็เดินไปหาพวกเขาอยู่ดีหลังจากได้รับออมเล็ตครีมสดสีเหลืองสวยน่าทานส่งตรงจากพ่อครัว ทนสายตาเหมือนลูกหมาไม่ได้ แอบแพ้ทางเบาๆ ครับ จิตใจอ่อนไหว


ไข่สีเหลืองทองดูนุ่มฟู ส่วนที่ยังกึ่งสุกกึ่งดิบไหลเยิ้มออกมาเวลาตักเข้าปาก สวรรค์แห่งการกินจริงๆ รสเข้มข้นของไข่ประสานกับครีมสดอย่างลงตัวหอมเนยมาก มีเบค่อนผัดตัดรสชาติได้ดีสมเป็นอาหารโรงแรม


“วันนี้พี่กันต์มีที่อยากไปหรือเปล่าครับ” บอสเงยหน้าจากจานอาหารขึ้นมาถามหลังจากทานเสร็จแล้ว ส่วนผมกินไปได้ครึ่งจาน


“ไม่นะ ตามใจเราเลย”


“งั้นห้ามมาบ่นพวกเราทีหลังนะครับ”


ผมยิ้มแหะๆ ให้พวกเขาไป ไม่แน่ใจในศักยภาพตัวเองเหมือนกันครับ แต่ฝาแฝดคงไม่ทรมารคนแก่หรอกมั้ง








เราพากันออกจากโรงแรมตอน 10 โมง นั่งรถเช่าเดินทางไปดูโลมาน้อยที่ดอลฟินเวิลด์ ไม่คิดว่าจะชอบอะไรน่ารักแบบนี้เลยแฮะ ผิดกับภาพลักษณ์เท่ๆ ตอนเป็นไอดอลหรือตอนทำงานลิบลับ


หลังจากซื้อตั๋วสำหรับเข้าชมการแสดงโลมาฝาแฝดก็ขอถ่ายรูปกับรูปปั้นโลมาสีชมพูกระโดดหน้าทางเข้า เหมือนเด็กๆ กันเลยครับ ทั้งคู่ดูร่าเริงกว่าปกติมาก ยืนเรียงหน้ากระดานถ่ายกันหลายแชะอยู่ ผมคิดว่าพวกเขาคงไม่ค่อยว่างมาเที่ยวสักเท่าไหร่ งานหนักน่าดู


ผมอมยิ้มนิดๆ เริ่มรู้สึกสนุกตามไปด้วยเหมือนโดนกระชากวัยกลับมา 14 อีกครั้งตามพลังงานอันล้นเหลือที่ทั้งสองคนปลดปล่อยออกมา


ปล่อยแก่วันนึงแล้วกัน ฮะฮ่า


ใกล้เวลาแสดงแล้ว พวกเราหยุดการถ่ายรูปไว้เพียงเท่านี้ เดินเข้าไปภายในอาคารจับจองที่นั่งบนอัฒจันทร์ บอสจูงมือผมไปยังที่นั่งช่วงตรงกลางแถวที่ 3 ถัดจากแถวหน้าสุดมองเห็นสระได้ชัดเจน ตอนนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 20 นาทีถึงจะเริ่มรอบการแสดงคนเริ่มทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัวพาเด็กมาชมโลมา


เห็นแล้วคิดถึงน้องพีชครับ อยู่บ้านเป็นยังไงบ้างเนี่ย ผมเองก็โทรหาลูกบ้างช่วงเย็น ถามสารทุกข์สุกดิบตามประสาคุณพ่อที่เลิฟๆ ลูกสาวมาก น้องพีชบอกให้ผมเที่ยวให้สนุกไม่ต้องเป็นห่วงอะไร ช่วงนี้เธอไปค้างบ้านเพื่อนผู้หญิงที่โรงเรียน ไม่ต้องกลัวว่าจะอยู่บ้านคนเดียว ผมคุยกับผู้ปกครองทางนั้นแล้วก็หายห่วงไปเปราะนึง


“สวัสดีครับท่านผู้ชมทุกท่าน ยินดีต้อนรับสู่โลมาโชว์ครับ”


อ้ะ การแสดงเริ่มแล้ว ตอนนี้มีครูฝึกโลมายืนอยู่บนเวทีกลางสระเริ่มแนะนำตัวกันทีละคน ก่อนจะแนะนำน้องโลมา แต่ละตัวเรียงสายแหวกว่ายวาดลวดลายอย่างเต็มที่เรียกน้ำย่อยก่อนเมนดิช พวกผมพากันนั่งจ้องตาไม่กระพริบ


โชว์แรกเปิดด้วยการกระโดดท่าต่างๆ แสดงความสามารถของน้องๆ โลมาแต่ละตัว ส่วนตัวที่เป็นดาวเด่นทางด้านนี้ก็เพิ่มระดับความแอดวานซ์ไปเรื่อยๆ ตีลังกากลับหลัง กระโดดจูบครูฝึก ไปจนถึงกระโดดลอดห่วงซึ่งยากมาก เรียกเสียงปรบมือเกรียวกราวจากผู้ชมดังสนั่นได้ทุกครั้ง


“เอาล่ะครับ ต่อไปเราจะสุ่มผู้โชคดีขึ้นมาร่วมสนุกกันนะครับ จะให้น้องพิ้งค์คาบลูกบอลในถังออกมา ได้หมายเลขไหนขอเชิญมาหน้าเวทีเลยนะครับ” สิ้นเสียงครูฝึกก็ตามด้วยเสียงดนตรีกระหึ่มจังหวะเร้าใจเพิ่มความตื่นเต้นลุ้นระทึกของการจับสลาก น้องพิ้งค์โลมาปากขวดสีชมพูดาวเด่นเอาหัวมุดเข้าไปในถังคุ้ยหาลูกบอลที่ถูกใจ แต่ผมไม่หวังว่าจะได้หรอกครับ ไม่มีดวง ซื้อหวยไม่เคยถูกเลย ฮ่าๆ


“เอาละครับ น้องพิ้งค์ได้ลูกบอลมาแล้ว จะเป็นใครกันนะ แท่นแทนแท๊น” มีการเล่นเสียงเอฟเฟกต์เองอีก ครูฝึกคนนั้นคงเป็นคนเฮฮาน่าดู


“หมายเลขที่นั่ง 56 ครับ ยืนขึ้นเลยครับ” หลังจากประกาศผู้โชคดีก็มีเสียงพูดคุยกันพลางหันหลังดูเลขที่ติดไว้กันเป็นแถว จนผ่านไปสักพักผู้โชคดีก็ยังไม่ปรากฎกาย เสียงก็ค่อยๆ เงียบลง


“เลขที่ 56 ครับ อยู่มั้ยครับ” ครูฝึกประกาศเรียกอีกครั้ง ก็ยังเงียบ


“พี่กันต์ครับ” บอสที่นั่งฝั่งซ้ายมือสะกิดไหล่ผม


“หืม มีอะไรเหรอ”


“56 เลขที่นั่งพี่น่ะครับ” เจ้าตัวยิ้มแหะๆ ขยับตัวให้เห็นเลขที่นั่งของตัวเอง เป็นเลข 55 ถ้าอย่างนั้นถัดมาก็เป็น 56


“...” ผมหันกลับไปดูพนักพิงของตัวเอง ชัดเลย เลข 56 เด่นมาก


“ลุกเร็วครับพี่” วินสะกิดผมยิกๆ ผมรีบเด้งตัวขึ้นมาทันที


“ฮ้า เจอแล้วคุณผู้โชคดี เชิญที่เวทีครับ น้องๆ อยากเล่นด้วยจนว่ายวนไปมาเลย”


ผมเดินตามสตาฟไปยืนเงอะงะอยู่บนเวที


“ตอนนี้คุณผู้โชคดีมาแล้วนะครับ ชื่ออะไรครับ”


“กันต์ครับ” ผมตอบคำถามของครูฝึกร่างสูงใหญ่ไป


“คุณกันต์นะครับ มาถึงคำถามสำคัญดีกว่า มีน้องโลมาที่ชอบมั้ยครับ”


“น้องพิ้งค์ครับ” เลือกดาวเด่นนี่แหละ ดูแล้วน่ารักแสนรู้กว่าใครพวก


“น้องพิ้งค์งั้นเหรอครับ เชิญคุณกันต์มายืนตรงนี้เลยครับ” ครูฝึกพาผมไปยืนอยู่ขอบเวทีติดสระน้ำ มีน้องโลมาว่ายวนๆ อยู่แถวนั้นหลายตัวทีเดียว


ผมยื่นหน้าออกไปนอกสระ ท่าทางคงให้น้องโลมาหอมแก้มแน่ๆ ดูๆ ไปแล้วก็น่ารักดีครับ


“เอาล่ะนะครับ 3 2 1 ปิ๊ด” สิ้นเสียงนกหวีดก็มีเสียงตีน้ำดังตู้ม! น้ำกระเซ็นแรงมากจนตัวผมเปียกนิดหน่อย ก่อนตามมาด้วยสัมผัสลื่นๆ เย็นชื้น จากปากของโลมา ผู้ชมคนอื่นตบมือเกรียวกราวให้กับน้องโลมาอีกครั้งกับความน่ารักแสนรู้ รู้สึกดีเหมือนมีน้องหมาคลอเคลียเลยครับ โลมานิสัยน่ารักมาก หลังจากกลับลงไปในน้ำก็มีอีกตัวกระโดดมาหอมแก้มผมต่อ โอ้โห เซอร์ไพรส์


“คุณกันต์นี่น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของน้องๆ มากเลยนะครับเนี่ย” ครูฝึกพูดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมตอนนี้ น้องพิ้งค์และอื่นๆ กำลังสลับกันกระโดดมาออเซาะ ผมก็ยื่นแก้มค้างอยู่แบบนั้น ไม่ใช่ว่าเตี้ยมกันมาหรอกเหรอ?


“พอๆๆๆ ลูกๆ กลับประจำที่” ครูฝึกเป่านกหวีดอีกปี๊ดโลมาจอมซนทั้งหลายก็พากันเรียบร้อยลอยเอื่อยอยู่ในน้ำ ผงกหัวขึ้นมาเป็นระยะ


“ขอบคุณคุณกันต์มากนะครับที่มาร่วมสนุกกันเรา น้องๆ ตื่นเต้นกันใหญ่เชียว ขอบคุณมากครับ ของเสียงปรบมือให้คุณกันต์หน่อยครับ” ผู้ชมพากันปรบมือจนดังทั่วทั้งลานการแสดง ผมก้มหัวให้เหล่าครูฝึกเล็กน้อยก่อนเดินกลับที่นั่งของตัวเอง ตัวที่ผมจำได้ว่าเป็นน้องพิ้งค์แอบเกยตื้นขึ้นฝั่งมาส่งผมด้วย น่าร๊ากๆๆ


จากนั้นก็เป็นการแสดงคิวถัดไป มีทั้งให้โลมาโยนครูผึกขึ้นสู่ท้องฟ้า น้ำกระเซ็นซ่านอลังการดาวล้านดวง หรือคนขี่โลมาโต้คลื่นก็ดูสนุกไปอีกแบบ สุดท้ายหลังจบการแสดงก็มีการให้อาหารโลมา ผมกับฝาแฝดก็ลงไปยื่นๆ ให้โลมากระโดดงับ สนุกดีครับ ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับน้องพิ้งค์ด้วย พวกเราสลับกันถ่ายสลับกันป้อนจนหมดเวลาจึงเดินออกมาจากอาคารตามผู้ชมคนอื่น


“นี่ใกล้เที่ยงแล้ว อยากกินอะไรรึเปล่า” แฝดน้องถามขึ้นหลังจากก้มดูนาฬิกาข้อมือ


“ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่นะ” เพิ่งกินไปตอน 9 โมง 10 โมง กระเพาะยังย่อยไม่หมดดี


“แต่ไปที่มีของกินเผื่อไว้ก่อนก็ดีนะครับ” บอสผู้สุขุมรอบคอบเอ่ยทัก นั่นสินะ ถ้าหมดแรงขึ้นมาก็ต้องเดือดร้อนแฝดอีก ไม่ดีๆ


“แต่พี่ไม่รู้เรื่องที่เที่ยวเท่าไหร่หรอกนะ เราว่าไงพี่ก็ว่าตาม” นี่แหละครับปัญหา ผมมาแค่ร่างกายและสมองโล่งๆ คิดไม่ออกจริงๆ


“พวกผมมีคิดไว้อยู่ที่นึง ช่วงบ่ายเราไปนั่งชิลๆ กันดีกว่า” ที่ไหนล่ะ?








ในที่สุดเราก็มาถึงจุดหมายต่อไปแล้ว ในร้านคาเฟ่ที่มีอาหารบริการด้วย บรรยากาศเบาสบายเหมือนอยู่ปารีส คงโรแมนติกถ้ามาเที่ยวกับภรรยาหรือคู่รัก มิโมน่า อาณาจักรจำลองเมืองที่แสนโรแมนส์ให้ทุกคู่รักได้ตรึงใจกับกลิ่นไออันหอมหวาน อบอวลด้วยไอแห่งความรัก


แล้วทำไมเราต้องมาสถานที่เดตฮอตฮิตนี่ด้วยล่ะ? ร้านอาหารที่อื่นมีเยอะแยะ ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ติดอยู่ในใจแต่ไม่อยากถาม นั่งจิบลาเต้ของโปรดพร้อมพายแอปเปิ้ลชิ้นใหญ่ไปเพลินๆ มองคู่รักกระหนุงกระหนิงเซลฟี่ตามมุมต่างๆ ของสถานที่ที่จัดมุมสำหรับถ่ายรูปเป็นจุดๆ ทั่วทั้งบริเวณ


ส่วนบอสกับวินนั้นสั่งอาหารจานหนักมานั่งทาน หลังจากอาหารถูกเสิร์ฟบนโต๊ะกระจกกลมมนก็ลงมือรับประทานทันที


ทั้งสองคนนั่งม้วนเส้นสปาเกตตี้เข้าปากด้วยท่าทางงดงามตามแบบลูกผู้ดีที่ได้รับการอบรมมาทุกกระเบียดนิ้ว ดูละเมียดละไมจนเหมือนภาพวาด นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาเริ่มเมียงมองมากขึ้น ถึงแม้จะไม่เป็นไอดอล ออร่าความดูดีเกินมนุษย์มนาจากสายเลือดอัลฟ่าและตระกูลสูงส่งก็แผ่ออกมาจนคนรอบข้างรู้สึกได้อย่างชัดเจน จนอดไม่ได้ที่จะเหลียวมองคู่แฝดที่ราวกับถูกบรรจงสรรสร้างนี้


ท่านประธานนี่ฝีมือจริงๆ


แต่สุดท้ายมุมปากขาวก็เปื้อนซอสจนได้ กินเรียบร้อยแค่ไหนก็ยังมีเปื้อนบ้างสินะ ผมยิ้มขำให้คนที่ยังไม่รู้ตัว เอื้อมมือใช้ทิชชูเช็ดคราบซอสให้วินที่กินเลอะ เห็นแล้วอดไม่ได้ครับ หน้าเหวอกันเลย ตลกจัง


แฝดน้องพูดขอบคุณก่อนจะทานต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แอบเห็นว่าใบหูแดงด้วย คงจะอายที่ตัวเองกินเลอะละมั้ง


“พี่กันต์นี่ชอบดูแลคนอื่นเหมือนเดิมเลยนะครับ” บอสที่ทานเสร็จก่อนวินวางช้อนส้อมลงบนจาน ก่อนเอามือวางประสานกันบนโต๊ะ ยิ้มสดใส ตาสีฟ้าสวยมองตรงมาที่ผม “เหมือนตอนนั้นเลย”


“อะไรกัน มีแต่เรานั่นแหละที่ดูแลพี่ พี่ยังไม่ได้ทำอะไรให้เราเลยนะ”


พยายามนึกก็นึกไม่ออก ตอนนั้นนี่มันตอนไหน ผมไม่ค่อยได้ทำอะไรให้ลูกๆ ท่านประธานเลยด้วยซ้ำ มีแต่พวกเขาที่คอยดูแล ผมต้องรบกวนอยู่เสมอเลย


“ช่างเถอะครับ ผมดีใจที่ได้มาเที่ยวกับพี่นะ” โดนพูดแบบนี้คนแก่ก็แอบเขินเหมือนกันแฮะ ชอบย้ำจัง แต่ทำไมถึงเห็นแววตาเหมือนตัดพ้อ น้อยใจอะไรสักอย่างออกมาจากใบหน้าหล่อเหลานั้น เพราะอะไรกันนะ




ช่วงบ่ายหลังจากทานเสร็จก็ไปเดินย่อยอาหาร ซื้อของฝากที่ระลึกไปด้วย ผมมองหาสิ่งที่เข้ากับน้องพีชอยู่ครับ พวกพวงกุญแจน่ารักหรือของกระจุกกระจิกของผู้หญิง ถึงจะรู้ดีว่าไม่มีอะไรดีเท่าการพาสองแฝดเข้าบ้านไปให้ลูบคลำ ไม่ๆๆ! ลูกผมเป็นเด็กน่ารักเรียบร้อย แค่รูปถ่ายกับลายเซนต์ก็พอแล้ว อ๊ะ หมวกอันนั้นเข้ากับน้องพีช หยิบด่วน


“ทั้งหมด 350 บาทค่ะ” พนักงานสาวน้อยน่ารักของร้านกิฟช็อปคิดเงินให้ผม แต่สายตาจ้องฝาแฝดตาไม่กระพริบ สงสัยจำได้แน่ๆ แฟนคลับชัวร์


“เอ่อ...คือว่า...ขอลายเซ็นต์หน่อยได้มั้ยคะ” สาวน้อยคนนั้นยืนบิดกระมิดกระเมี้ยนอย่างเขินอายพลางยื่นปากกาและกล่องซีดีอัลบัมของวงMiracle โอ้โห เอามาทำงานด้วยเหรอเนี่ย


ไอดอลทั้งสองคนตอบรับคำขอ รับกล่องซีดีไปเซ็นต์ให้อย่างไม่อิดออด ส่งรอยยิ้มพร้อมจับมือให้เป็นของแถม เซอร์วิสแฟนคลับเก่งอย่างที่น้องพีชเล่าเด้ะเลย


ปล่อยให้น้องเขาดีใจจนแทบเป็นลมอยู่ที่เค้าเตอร์ต่อ พวกผมเดินไปอีกหลายร้าน คนที่จำบอสกับวินได้มีไม่น้อย แต่ไม่ได้เข้ามารบกวนอะไร อย่างมากก็แค่ส่งเสียงเรียกเท่านั้นไม่มีการเข้ามาประชิดตัวใดๆ ทั้งสิ้น คงเพราะส่วนใหญ่มากับแฟน เราจึงเดินทางได้ราบรื่นไร้อุปสรรค


“แล้วต่อไปไปไหนต่อดี” ซื้อของฝากมาเยอะมากก็นั่งพักดื่มน้ำที่เก้าอี้ในสวน เนื่องจากผมไม่รู้โปรแกรมของทั้งคู่เลยถามออกไป


“เอ...ไปไหนดีน้า~” วินพูดลากเสียงยาวทำหน้าคิขุอาโนเนะ หนังหน้าดีทำอะไรก็ได้ไม่ผิด


“ความจริงอยู่ที่นี่ต่ออีกนิดก็ดีนะครับ ยังมีหลายมุมที่เราไม่ได้ไปเลย มีเวทีการแสดงด้วยไปดูหน่อยก็ดีนะครับ” บอสเสนอความคิดเห็นออกมาด้วยมาดผู้นำกลุ่ม


“เอาแบบนั้นก็ได้” ก็ดี ไม่เปลืองแรง ที่นี่ก็บรรยากาศร่มรื่น แดดเปรี้ยงๆ อย่างนี้เหมาะเลย


“จะว่าไปแล้วพวกเราเหมือนมาเดตกันเลยนะ” น้องวินพูดอะไรอย่างนั้น เดตที่ไหนเขามากัน 3 คน ไม่เห็นเหมือนเดตตรงไหน คล้ายผมพาหลานเที่ยวมากกว่าอีก




“อ๊ะ”


จู่ๆ บอสก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ จนเผลออุทานออกมา


ใกล้มาก ใกล้จนตาของบอสปรากฎภาพสะท้อนของผมอยู่ภายใน เหมือนโดนสะกดให้นิ่งงัน ทุกการเคลื่อนไหวของร่างกายหยุดลง ถูกตรึงไว้ด้วยแสงสีฟ้าอันเจิดจรัสจนไม่อาจละสายตาได้แม้แต่นิด สติถูกทำให้ปลิวไปไม่เหลือจากตาคู่นั้น


ฝ่ามือขาวเกลี้ยงเกลาค่อยๆ ยื่นมาช้าๆ ปลายนิ้วเรียวยาวไล้ใบหน้าของผมอย่างแผ่วเบา ก่อนจะใช้นิ้วหัวแม่มือสวยเกลี่ยที่ใต้ตาอย่างเบามือ ริมฝีปากบางส่งยิ้มอันอบอุ่นดุจแสงตะวันยามเช้ามาให้ “มีขนตาติดอยู่ตรงนี้ครับ ต้องระวังหน่อยนะ”


ยังไม่ทันผละออกไปสายลมเย็นก็พัดผ่านจนใบไม้พริ้วไหว ผมหรี่ตาเล็กน้อยกันลมเข้าตาก่อนจะรู้สึกถึงอ้อมแขนอันอบอุ่นจากข้างหลัง มือเรียวสวยนั้นหยิบอะไรบางออกจากศีรษะหลังจากสายลมหยุดแล้ว “ใบไม้ติดผมน่ะ” เสียงนุ่มทุ้มปัดผ่านริมใบหูอย่างแผ่วเบานุ่มนวล ผมสะดุ้งตื่นจากภวังค์ พอรู้สึกตัวว่ามีชายหนุ่มวัยละอ่อนอิงแอบแนบชิดบนม้านั่งก็พยายามจะออกจากวงล้อม แต่ไม่สามารถทำได้ดั่งใจเพราะกับดักหนุ่มหล่อทำงานดีเหลือเกิน


“ขอบใจนะ แต่ถอยออกไปก่อนได้มั้ย พี่ว่ามันใกล้ไปแล้ว” คนแก่ใจไม่ดีเลยครับ


“โทษทีครับ” ปากพูดแต่ตัวไม่ขยับ เด็กพวกนี้เล่นอะไรกันเนี่ย


สุดท้ายเป็นผมต้องลงมือ เอาแขนดันอกของพวกเขาออกไป คราวนี้ฝาแฝดยอมถอยแต่โดยดี ยัง ยังมายิ้มหน้าระรื่นอีก จริงๆ หยิบออกเฉยๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องขยับมาใกล้ขนาดนี้เลย คนแก่งง


“เราลองไปดูการแสดงตรงนู้นกันมั้ย น่าจะสนุกนะคนดูเต็มเลย” ไม่ทันได้ตอบก็ถูกลากไปแล้วครับ พลังงานล้นเหลือสมเป็นวัยรุ่น วินนี่แอบเลือดร้อนต่างกับบอสกระตือรือล้นมากมาย


เมื่อมาถึงบริเวณเวทีภายในเต้นผ้าใบดีไซน์เก๋ก็เจอผู้คนนั่งรับชมโชว์เต็มไปหมด นักมายากลหนุ่มหล่อบนเวทีกำลังทำการแสดงมายากลนกพิราบอยู่ ระหว่างนั้นเราก็หาที่นั่งกัน คนเยอะมากจนที่นั่งดีๆ ไม่เหลือแล้ว ในที่สุดก็ได้ที่นั่งแถวหลัง แต่ยังพอมองเห็นบนเวทีได้ไม่มีปัญหาอะไร เรานั่งชมไปเรื่อยๆ จนเย็น นอกจากมายากลแล้วยังมีสุนัขแสนรู้มาเรียกแขกเพิ่ม สาวๆ กรี้ดกร้าดให้ความน่ารักของมันเป็นทิวแถว มาเที่ยวรอบนี้กลายเป็นทัวร์สัตว์โลกน่ารักไปซะแล้วสิ








เข้าสู่ช่วงพลบค่ำ เราย้ายมาที่ร้านอาหารริมชายหาดแห่งหนึ่ง สองแฝดการันตีว่าอาหารอร่อยแน่นอน ผมนี่ตั้งตารอชิมด้วยความมุ่งมั่นเต็มสูบ เรื่องกินผมก็ไม่แพ้นะจะบอกให้


โห ท่าทางคงจะแพงน่าดู แค่ทางเข้าก็อลังการ ตกแต่งหรูหราโมเดิร์นแต่ยังคงกลิ่นไอความเป็นร้านริมทะเลอย่างเต็มเปี่ยม พนักงานต้อนรับแต่งตัวสุภาพภูมิฐานเดินเข้ามาหา ยกมือไหว้ชดช้อยงดงามประหนึ่งประกวดนางสาวไทย


“สวัสดีค่ะ ทางร้านมูนไลท์บีชยินดีต้อนรับ ไม่ทราบว่าได้จองที่นั่งไว้หรือเปล่าคะ”


“ครับ จองในชื่อนราครับ”


“คุณนรานะคะ เชิญทางนี้เลยค่ะ”


พนักงานสาวสวยเดินนำออกจากตัวอาคารไปยังริมหาดทราย มีแสงไฟสีนวลส่องอยู่ตามทางเดินทำให้ไม่มืดจนเกินไป บวกกับคืนนี้แสงจันทร์สว่างมาก ทำให้บรรยากาศยิ่งดูละมุนมากขึ้น


ที่นั่งของเราเดินไปไม่ไกลนักแต่เป็นส่วนตัวดีมาก ชุดเก้าอี้หวายรูปทรงทันสมัยมีเบาะสีเทาเรียบดูหนานุ่ม เข้าคู่กับโต๊ะกระจกใสขาไม้สีเข้มทรงเหลี่ยม บนโต๊ะมีแก้วใส่เทียนให้แสงสลัวเพิ่มความดื่มด่ำในยามค่ำคืนอยู่บนจานรองสีดำโรยด้วยกลีบกุหลาบแดงสร้างกลิ่นหอมอ่อนๆ จานอาหาร 3 จานถูกวางไว้พร้อมผ้ากันเปื้อนด้านบน ชุดอาหารคอร์สผมเคยทานบ้างแต่ไม่บ่อย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยไก่กลางวงแน่นอนรับประกันได้เลย


“อีกสักครู่ทางเราจะนำอาหารออกมาเสิร์ฟนะคะ” พนักงานสาวค้อมตัวอย่างสุภาพไม่มีท่าทีแทะโลมหนุ่มหล่อแต่อย่างใด อบรมมาดีจริง น่าชื่นชมครับ


“ที่นี่บรรยากาศดีจังนะ” ผมเปิดบทสนทนาในฐานะผู้อาวุโสสุดก่อน


“ครับ คุณพ่อเคยพาพวกผมมาทานที่นี่ อาหารอร่อยบริการเยี่ยม วิวสวยด้วย ดีไหมครับ” แฝดพี่เล่าให้ฟังถึงที่มาของการพามาทานอาหารร้านนี้


โห ท่านประธานเคยมาร้านนี้ด้วยเหรอเนี่ย แสดงว่าฝีมือต้องล้ำเลิศสุดๆ


ผมเคยเป็นเลขาชั่วคราวให้คุณวุฒิชัยอาของฝาแฝดสมัยฝึกงานโน้น เลยได้ยินข่าวซุบซิบพวกคุณๆ ผ่านหูมาบ้างตอนพี่ๆ เลขาของท่านประธานมาร่วมชุมนุมมะ...เอ่อ สอนงานผม เล่าว่าเรื่องอาหารการกินท่านพิถีพิถันสุดในบรรดาพี่น้อง รวมถึงความเรื่องมากต่างๆ ที่พี่เลขาต้องเจอ ยกตัวอย่างตอนชงกาแฟ ต้องใช้น้ำแบบไหนชงกาแฟ ปริมาณเมล็ด ความเข้มความขม จำนวนน้ำตาล รสชาติ อุณหภูมิ ฯลฯ เคี่ยวจนพี่เขาไปเปิดร้านขายกาแฟหลังเกษียณรวยไปเลย


“รู้มั้ยว่าคุณพ่อมาขอคุณแม่แต่งงานที่ร้านนี้ด้วยนะ” จริงเหรอเนี่ย


“อย่างนั้นเหรอ” ผมอึ้งไปเลย ไม่คิดว่าจะได้มานั่งสถานที่สำคัญของพวกเขาอย่างนี้


“คุณแม่ชอบทะเลมาก คุณพ่อก็เลยเลือกร้านนี้น่ะ เล่าให้ฟังด้วยว่าถึงกับขนาดปิดร้าน ให้คนขนเปียโนมาเล่นให้คุณแม่ฟังด้วย ลงทุนมาก” แฝดน้องยังคงเล่าประวัติความเป็นมาต่อไป แต่ไม่คิดว่าท่านประธานหน้านิ่งจะเป็นคนโรแมนติกเกินคาด


ก็สมควรนะ ที่นี่เหมาะมากเลยกับการดินเนอร์หรือทำอะไรแบบนี้ เสียงคลื่นกระทบฝั่งเหมือนเสียงดนตรีคลอเบาๆ รับกับบรรยากาศชวนฝัน แสงจันทร์เป็นพยานรัก อะหือ นึกถึงตอนขอมุกแต่งงาน ผมจองห้องอาหารบรรยากาศดีแห่งหนึ่ง นั่งทานอาหารจิบไวท์ใต้แสงเทียน มีเสียงไวโอลินบรรเลงประกอบฉาก จากนั้นก็บอกว่าแต่งงานกับผมนะครับเหมือนในหนังสือนิยายที่มุกชอบ และเธอก็ยอมตกลงปลงใจเป็นแม่ของลูกผมจนมีน้องพีชขึ้นมา คิดถึงจังนะ ผมอดยิ้มไม่ได้เลย


“พวกผมพากันมาที่นี่ปีละครั้ง มาที่ที่คุณแม่เคยมา ทานอาหารที่คุณแม่เคยทาน ถึงจะมีความทรงจำเกี่ยวกับคุณแม่อยู่ไม่มาก แต่อย่างน้อยได้ทำในสิ่งที่คุณแม่ชอบก็ยังดี” แววตาของทั้งคู่ฉายแววเศร้าสร้อย แต่ก็แอบมีความสุขอยู่ในนั้นด้วย


จริงสินะ แม่ของฝาแฝดเสียไปตอนยังเด็กนี่นา เห็นว่าเป็นโดนอุบัติเหตุรถชนเพราะเมาแล้วขับ ท่านประธานโกรธมากเอาเรื่องคนขับให้ถึงที่สุดเท่าที่ทนายจะสามารถทำได้ ผมเข้ามาทำงานช่วงนั้นพอดีบรรยากาศภายในออฟฟิศหดหู่มาก


“ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารครับ” บริกรชายนำตะกร้าขนมปังและเนยสดวางลงบนโต๊ะ พร้อมด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยรายการแรกกับเครื่องดื่ม


พออาหารมาเสิร์ฟแล้วพวกเราก็ลงมือทานกันอย่างเรียบร้อย ประทับใจมากครับ รู้สึกเหมือนลิ้นถูกยกระดับเลย สมกับเป็นร้านที่ท่านประธานชอบ ทั้งรูปลักษณ์และรสชาติไร้ที่ติ ไม่ผิดหวัง แต่ละจานถูกจัดมาให้สมดุลกันทั้งคอร์สดั่งคำนวนมาแล้วอย่างดี ไวท์ที่จิบก็เข้ากับอาหารแต่ละจานได้ดีมาก ขนมปังที่วางอยู่ก็นุ่มหอมน่าทาน ผมกินไปหลายก่อนทีเดียว ทาเนยแล้วอร่อยมากมีชีสมาเพิ่มยิ่งอร่อยเข้าไปอีก


สุดท้ายจบมื้ออาหารด้วยของหวานอร่อยล้ำกับกาแฟรสกลมกล่อม 1 ถ้วยใส่ครีมเยอะๆ เน้นครีมไม่เน้นน้ำตาลครับ นั่งจิบกาแฟไปด้วยคุยเล่นไปด้วย ฟังเสียงลมเสียงคลื่นทะเลไปด้วย ฟูลคอร์สมื้อนี้ถือว่าจบได้ดีทีเดียว


“ร้านนี้มีดนตรีสดด้วยเหรอ ไม่บอกกันบ้างเลย”


บริเวณระเบียงไม้ระแนงโล่งกว้างที่อยู่ไม่ใกลจากเราเท่าไหร่อยู่ๆ ก็มีวงควอเต็ตขึ้นมานั่งบรรเลงเพลงตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ท่วงทำนองอ่อนหวานเบาสบายของ Canon in D Major ดังคลอกับเสียงคลื่นอย่างลงตัว โต๊ะอื่นๆ ก็ให้ความสนใจกับวงดนตรีนี้เช่นกัน ผมหลับตาซึมซาบบรรยากาศตรงหน้าอย่างเคลิบเคลิ้มปล่อยอารมณ์ไปกับเสียงเพลง


ฝาแฝดตรงหน้าผมเริ่มเงียบ คงกำลังดื่มด่ำกับการเสียงดนตรีอยู่เหมือนกันละมั้ง เป็นนักร้องนักดนตรีด้วยคงยิ่งเข้าถึงอารมณ์มากกว่าผมแน่นอน


“พี่กันต์ครับ” เสียงฝาแฝดคนใดคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาหลังจากผ่านไปสักพัก


“อะไรเหรอ” ผมยังคงหลับตาฟังเพลงต่อไป


“พวกเราชอบพี่กันต์นะครับ”





“...” ห๊ะ





ผมลืมตาขึ้นมาทันที มองหน้าทั้งสองคนด้วยความตกใจ “วะ ว่าไงนะ อีกทีซิ”


ผมฟังผิดไปใช่มั้ย ใช่แล้ว ผมต้องฟังผิดแน่ๆ เสียงลมเสียงคลื่นเสียงดนตรีคงทำให้หูผมเบลอ


สีนวลอมส้มของแสงเทียนทำให้ใบหน้าเทพบุตรนั้นชวนหลงใหลขึ้นยิ่งกว่าเดิม ทั้งสองส่งสายตาอันแน่วแน่มาทางผม ดวงตาสีฟ้าใสฉายแววจริงจังกว่าครั้งไหนๆ ที่เคยเห็นมาจนผมไม่กล้าหลบตา


พวกเราชอบกันต์ ได้ยินชัดหรือยังครับ” สองเสียงประสานกันพร้อมกับบทเพลงที่เข้าสู่ช่วงเร่งเร้าอารมณ์


ผมเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง อยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ในหัวมันตื้อไปหมด คิดไม่ออกว่าจะพูดอะไรดี เสียงท่วงทำนองอ่อนหวานของ Canon ไม่ช่วยทำให้ใจสงบลงได้เลย ความรู้สึกตอนนี้ตะลึงจนแข็งค้างสติบินหายล่องลอยคล้ายเพลง Four seasons: Winter มากกว่า


ได้ยังไงกัน!


คนแก่อย่างผมเนี่ยนะ!


หน้าตาจืดๆ แถมยังเป็นเบต้าอีกเนี่ยนะ!


แถมเวลาแค่เดือนกว่าเอาตรงไหนมาชอบผม คิดไม่ออกเลยสักนิด แต่จะหลอกตัวเองว่าไม่ใช่ก็ทำไม่ได้แล้ว ดวงตาสีฟ้าสวยที่สดใสเจิดจ้าตอนนี้จ้องเขม็ง ยื่นแขนมากุมมือผมไว้ไม่ยอมให้เพ้อหนีความจริงอีกต่อไป










วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม ใช้เซียงเพียวอิ้ว อิ้ว อิ้ว ...... . .  .  .   .    .


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



ขออภัยที่ให้รอนานค่ะ  :hao5:

ตอนนี้เป็นตอนที่ใช้พลังมโนมาก ไอ้เรามันคนไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีผู้ชายมาขอเป็นแฟน มีแต่สัมมี 2D

ตอนนี้สติของพี่กันต์ของเรานั้นปลิวไปดาวอังคารแล้วค่ะ 5555 (น่าสงสารพี่เขานะคะ  :laugh:)

ส่วนเพลงคลาสสิคที่ใช้ในเรื่อง เพลงดังที่ทุกคนค่อนข้างคุ้นหูกันพอสมควร
Canon in D Major
https://www.youtube.com/watch?v=JvNQLJ1_HQ0 (ftp://www.youtube.com/watch?v=JvNQLJ1_HQ0)

Four Seasons: Winter
https://www.youtube.com/watch?v=ZPdk5GaIDjo (ftp://www.youtube.com/watch?v=ZPdk5GaIDjo)

ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ มีคำแนะนำติชมได้เลยค่ะ ขอบคุณผู้หลงเข้ามาอ่านทุกท่าน  :mew1:

หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-09-2017 23:06:28
บอกแล้ว แฝดบอกกันต์แล้วว่าชอบ

กันต์ได้ฟังกับหูชัดเจนไปเลย

แถมวิงเวียนจะเป็นลม ก็เข้าทางแฝดน่ะสิ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 09-09-2017 01:42:06
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 09-09-2017 06:52:28
ตื่นมาอีกทีขออยู่บนเตียงเลยนะคะ5555555  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 09-09-2017 08:19:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 25-09-2017 15:15:00
โหยยยยยสนุกมาก ชอบๆๆๆ
หาแนวนี้ยาก อยากอ่านพอดีเลย
อยากรู้แล้วว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อ หวังว่าคนแก่จะไม่ช็อกจนเป็นลมล้มพับไปนะ555555
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Midorima ที่ 28-09-2017 00:53:11
รู้สึกเสพติดเรื่องนี้ ฮืออออ :hao5:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: พันธุ์ไทย ที่ 10-10-2017 14:47:28
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 16-12-2017 02:05:13
ยังรออยู่เสมอค่ะ
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Husky ที่ 20-02-2018 02:14:36
รอครับ
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: NC Wanted ที่ 07-04-2018 22:58:00
 :mew2:  รอน้าาา
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: skies ที่ 22-04-2018 19:03:40
พี่กันต์จะทำยังไงต่อเนั่ย รอนะคะ :hao3:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 23-04-2018 00:35:51
โถ มาอัพต่อเถอะค่ะ เผลอเข้ามาอ่านแล้ว ค้างงง
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 23-04-2018 10:50:59
น้องแฝดบอกชอบไปแล้ว


 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 23-04-2018 13:21:27
หายไปนานเลยนะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 23-04-2018 14:56:42
 o13
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 5 8/9/60 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 24-04-2018 11:37:28
มาต่อเร็วนะ
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 6 26/4/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: applecaramel ที่ 26-04-2018 04:55:50
อืม..






นี่ที่ไหน


คุ้นๆ แฮะฝ้าเพดานขาว โคมไฟสีอมส้มแบบนี้





ผมกระเถิบตัวลุกขึ้นนั่งหันมองไปรอบๆ นี่มันโรงแรมที่เราพักกันนี่ ทั้งรูปแบบห้องทั้งเฟอร์นิเจอร์คล้ายกับห้องผม ต่างกันแค่การจัดวางตำแหน่งกับพวกของใช้บางส่วนที่ทำให้รู้ได้ว่าไม่ใช่ห้องผมแน่แล้ว


ทำไมมาอยู่นี่ได้ล่ะ


ลองนึกถึงความทรงจำสุดท้ายดูผมหน้ามืดเป็นลมคาร้านอาหาร จากการสันนิษฐานของผมฝาแฝดคงแบกผมมาแน่ แต่พอคิดถึงสาเหตที่ทำให้ล้มพับกลางร้านใบหน้าก็รู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที


มันไม่เหมือนกับตอนภรรยาตอบรับผมเป็นแฟนเลยสักนิด


ทั้งตกใจ สงสัย งุนงง ไม่อยากยอมรับ รวมถึงความหวาดกลัวต่อพวกเขานิดหน่อย ต่างกับความรู้สึกในอกพองฟูมีผีเสื้อบินว่อนทุ่งดอกไม้รายล้อมเมื่อตอนวันวานยังหวานอยู่ลิบลับ แต่ถึงอย่างนั้นกลับมีความรู้สึกจั๊กกะจี้นิดๆ แปลกๆ อย่างที่ไม่ควรมีซะได้ ผมล่ะงงตัวเองจริงๆ บอกตรงๆ เลยว่าถึงตอนนี้ผมยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี


“กันต์ตื่นแล้วเหรอ”






เฮือก!


ผมสะดุ้งสุดตัวเพราะเสียงที่ดังขึ้นกับสัมผัสอุ่นร้อนของแขนล่ำๆ ที่โอบรอบเอว ไม่ทันสังเกตเลยว่ามีคนนอนอยู่บนเตียงด้วยกันตั้งนาน เซ่อจริงเลยผม


“อะ อือ ตื่นแล้ว ขอบใจนะที่พามาส่ง” ถึงจะไม่ใช่ห้องผมก็ตามทีเถอะ


ผมพยายามแกะมือออก แต่มันเหนียวเกินไป ไม่สามารถขยับได้แม้แต่มิลเดียว เบนเข็มไปทางเจ้าของแทน พ่อแฝดน้องนอนยิ้มหน้าแป้นแล้นไม่สะดุ้งสะเทือนกับการที่ผมพยายามยกแขนเขาออกอย่างเอาเป็นเอาตาย


“เอ่อ คือว่า ปะ ปล่อยเอวพี่ก่อนนะ” ผมบอกกับเจ้าตัวทั้งที่ยังก้มหน้าก้มตาแกะแขนเหนียวเหมือนกาวนี้อยู่ ไม่กล้าหันไปสบตาเลยจริงๆ


“หือ ว่าไงนะ ไม่ได้ยินเลย” ไม่เพียงแค่ไม่ปล่อย แถมยังรัดแน่นขึ้นอีกต่างหาก กลายเป็นเด็กพูดไม่รู้เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่ห้ะ


“อ่าว ตื่นแล้วเหรอครับ” เสียงนุ่มทุ้มดังออกมาจากห้องนั่งเล่น ก่อนที่เจ้าตัวจะปรากฏกายออกมาพร้อมกับแก้วน้ำดื่ม


“ดื่มน้ำหน่อยไหมครับ”


“อืม” ผมยื่นมือไปรับน้ำดื่มจากมือเรียวสวยนั้น ยกแก้วขึ้นดื่มจนหมดก่อนส่งคืนให้


“เอาอีกมั้ยครับ”


“ไม่ล่ะ ขอบใจนะ”


หลังจากนำแก้วน้ำไปเก็บแฝดพี่ก็ตามมานั่งบนเตียงด้วยกันอีกคน รู้สึกเดจาวูอย่างน่าประหลาด


“นี่กี่โมงแล้ว”


“สองทุ่มครับ” บอสหันมาสบตาระหว่างพูด ผมหลบแนวสายตาเฉไปทางอื่นทันที ไม่กล้ามองหน้าคนรุ่นหลานหลังจากผ่านการสารภาพรักมาสดๆ ร้อนๆ ถึงอยากจะทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่มันก็ยังยากอยู่ดี ตั้งแต่เกิดจนแก่เพิ่งเคยถูกบอกรักก่อนครั้งแรกนี่แหละ บอกตรงนี้เลยว่าใจรับไม่ไหวอย่างยิ่ง


“งั้นพี่กลับห้องก่อนนะ” ว่าเสร็จก็รีบไถตัวลงจากเตียง แต่ลืมไปว่ายังโดนล็อคเอวอยู่ จะไปไหนได้ โถ่ถัง


“พี่บอกให้ปล่อยไงวิน” ผมบอกอีกรอบ คราวนี้ลองใช้เสียงเข้มขึ้นกว่าเดิม อย่าให้ต้องเอาจริงนะ จะได้เห็นฤทธิ์เดชหัวหน้าฝ่ายบัญชีกันบ้าง


“พวกเราคงปล่อยกันต์กลับห้องไปไม่ได้หรอกครับ”


“ทำไม” เริ่มอารมณ์บ่จอยแล้วครับ อีกฝ่ายยังคงพูดด้วยโทนเสียงเรียบเฉื่อยทำเหมือนไม่รับรู้ถ้อยคำของผมทำให้ทนไม่ไหวจนต้องเงยหน้าขึ้นไปหาแผดพี่คนพูด






อึก






เข้ามาใกล้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน


ใบหน้าที่ดูสุภาพเรียบร้อยอยู่ตลอดยังคงแย้มยิ้มเหมือนลูกหมาน้อย แต่กลับมีบรรยากาศเหมือนหมาป่าเตรียมพร้อมขย่ำเหยื่อ ดวงตาคมเลื่อนเข้ามาใกล้เอ่ยประโยคที่ทำให้ผมหน้าซีด


“วันนี้กันต์ต้องอยู่กับพวกผมทั้งวัน จำไม่ได้หรือครับ” เสียงนุ่มทุ้มระยะประชิดทำให้จากซีดเปลี่ยนเป็นไร้สีไปแล้ว


“พี่ก็ไปเที่ยวกับเราแล้วไง” ผมแย้งทันนที ทำตามสัญญาไปแล้วนี่ ทีนี้ปล่อยกลับห้องได้รึยัง?


บอสส่ายหน้าเอานิ้วจุ๊ปากพลางยิ้มอ่อน “พวกเราบอกแล้วไม่ใช่หรือครับว่าขอจองตัวพี่ไว้ทั้งวัน


อย่าให้เป็นแบบที่ผมคิดนะ ไม่นะ หลังจากได้ยินคำพูดนั้นอาการหลีกหนีความจริงก็ถามหา ความเอ๋อก็เริ่มแทรกซ้อนกวักมือเรียกก่อนที่คำพูดต่อมาของคนน้องจะทำคอมโบฮิตตามมาติดๆ ไม่ให้พักหายใจหายคอ


“ที่บอกว่าอยู่เที่ยวทั้งวันน่ะรวมถึงอยู่เที่ยวห้องผมทั้งวันด้วยนะ พรุ่งนี้เช้าเราถึงจะยอมปล่อยให้พี่กันต์กลับไปได้” ว่าแล้วก็หันหน้าซุกพุงผมต่อหลังจากขยิบตาให้อย่างน่ารัก






เป๊งๆๆๆๆๆ


K.O. น็อคกลางอากาศไปเรียบร้อย


“พี่คงไม่ผิดสัญญาใช่ไหมครับ หื้ม” บรรยากาศหมาป่าจางหายไปจากพ่อหนุ่มเรียบร้อยเหมือนไม่เคยมีมาก่อนเหลือแต่ลูกหมาโกลเด้นแสนซนให้เห็น แต่ยังสามารถเอ่ยคำพูดตอกประตูปิดฝาโลงได้อย่างไร้ปราณี


สติสติ! สติมาปัญญาเกิด! อย่าปล่อยให้เด็กมาปั่นหัวเราเล่นได้


ฮึบๆ สู้เว้ย!


“นอนตักกันต์สบายจังเลย” มัวแต่ตกใจ ลืมไปเลยว่ามีตัวอะไรนอนทับอยู่


“โอเคๆ พี่ไม่กลับห้องก็ได้ ปล่อยพี่ก่อน” ได้แต่ถอนหายใจยอมลงให้คนละครึ่งทาง เป็นผมเองที่ไปสัญญิงสัญญากับพวกเขา ไม่อยากกลายเป็นผู้ใหญ่ผิดคำพูดขี้โกหก


“เมื่อก่อนไม่เห็นจะว่าอะไรเลยอ่ะ น้อยใจนะเนี่ย”


ยังมีหน้ามาตัดพ้อ มันเพราะใครกันละห้ะ


น้องพีชช่วยพ่อด้วย ฮือ






“ว่าแต่....พี่กันต์จะอาบน้ำเลยไหมครับ” บอสยิ้มอย่างสุภาพเช่นเดิมแต่ทำไมนะรู้สึกว่านัยตาคมนั่นมันวิบวับ


“พี่ว่าไปอาบห้องตัวเองดีกว่านะ” ห้องอยู่ห่างกันแค่ผนังกั้น ไปอาบแล้วค่อยกลับมาก็ได้จะได้ไปทำใจด้วยสักนิดก็ยังดี


“อาบที่ห้องผมก็ได้นี่” ร่างที่กองแผละอยู่บนตักทำเสียงกระเง้ากระหงอดเหมือนสาวน้อยแรกแย้ม ไม่ได้เข้ากับหน้าตาเลยนะพวกนาย


“นั่นสิครับ ยังไงอาบห้องพวกเราก็ได้ สบู่ยาสระผมก็มี แปรงสีฟันพวกเราเผลอซื้อมาเกินหนึ่งอันกันต์ใช้ได้พอดีเลย” น้องโจมดีพี่ปิดช่องว่าง นี่มันการโจมตีประสานของฝาแฝด


“เฮ้อ ก็ได้ก็ได้” อาบก็อาบ คงไม่มีอะไรหรอกก็แค่อาบน้ำ


“นี่ครับฝ้าเช็ดตัว”


“อืม ขอบใจนะ” ผมรับผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่มาจากบอสซึ่งทางโรงแรมมีเตรียมไว้ให้อยู่แล้วทุกห้องก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งคราวนี้คนที่เกาะหนึบอยู่ยอมปล่อยไปแต่โดยดีแสดงสายตาพึงพอใจอย่างชัดเจน






ในห้องน้ำที่เหมือนกับห้องของผมเป๊ะเดินเข้าไปเจออ่างล้างหน้าเป็นอย่างแรก ผมเห็นแปรงสีฟันที่ยังไม่ได้แกะอยู่บนชั้นวางของบนเคาน์เตอร์จึงหยิบมาแกะห่อมาใช้งานทันที


ว่าแต่สองคนนั้นใช้ยี่ห้อเดียวกันเลยแหะ


ผมบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าหลังแปรงจนฟองฟูฟ่องเต็มปากอย่างใจจนสะอาดเอี่ยมทุกซอกมุมไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์ในช่องปาก เสร็จแล้วเข้าไปเปิดฝักบัวในที่กั้นกระจกราดตัวราดหัวให้เย็นลง


ว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี


ไม่สิ


เอาแค่ให้รอดคืนนี้ไปก่อนดีกว่าเรา


ดวงตาชั้นเดียวแบบตี๋อินเทรนของผมเหม่อมองทะลุเพดานไปถึงท้องฟ้าในมโนจิต แต่เพิ่งมาสำนึกได้ทีหลังว่ายังมีคนรออาบน้ำจิตใจที่ฟุ้งซ่านจึงกลับมาหาร่าง


แต่เอ๊ะ ครีมอาบน้ำกับแชมพูนี่มัน....


ถ้าเป็นของโรงแรมก็จะไม่ตะขิตตะขวางใจ แต่ดันเป็นยี่ห้อที่ผมใช้ประจำหมดนี่สิ แม้แต่ครีมนวดผมก็ด้วยยังเป็นยี่ห้อที่(น้องพีชซื้อให้)ผมใช้


หรือจะบังเอิญ?


แต่พวกดาราไอดอลเขาไม่ได้ใช้ของแพงกันเหรอ อย่างพวกพวกแบรนด์ดังอะไรแบบนั้นเหมือนคุณชายพอทที่ใช้แต่ของแบรนด์ไฮเอนด์?


ช่างเถอะ อาบๆ ไปแล้วกัน ยี่ห้อเหมือนกันก็ดีแล้วนี่


“ฮัดเช่ย!”


หลังจากอาบน้ำอุ่นอย่างสะใจสิ่งที่พบถัดไปคือความเย็น การเปลี่ยนแปลงกระทันหันทำให้ร่างกายเกิดอาการใจเสาะจามฟุดฟิดคันจมูกหนักมาก ผมรีบเช็ดตัวให้แห้งก่อนพันผ้าขนหนูรอบเอวแล้วออกไป






“....”






ลืมไปซะสนิทเลย ไม่ได้อยู่บ้าน ไม่ได้อยู่ห้องตัวเอง เสื้อผ้าไม่มี ยืนเปลือยอกต่อหน้าคนที่มาสารภาพรักอีก


น้องพีชจ๋าช่วยพ่อด้วย~






“ผมเตรียมชุดนอนไว้ให้แล้วครับ ใส่ของผมไปก่อนนะ เป็นแบบผูกเชื่อกกันต์น่าจะใส่ได้” บอสเดินถือเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นไม่มากสีเทาส่งมาให้ถึงมือ ถึงจะติดสตั้นอยู่แต่แอบเห็นนะว่าแอบกวาดสายตามองผมก่อนจะแอ๊บหน้าเรียบร้อยเหมือนเดิมน่ะทั้งพี่ทั้งน้องเลย


“อืม ขอบใจนะ เดี๋ยวขอพี่ไปแต่งตัวแปปหนึ่ง” ว่าแล้วก็หันหลังเข้าห้องน้ำอีกครั้งอย่างว่องไว


ปกติผมไม่เคยเขินอายเลยนะ กับไอ้พอทก็แต่งตัวตรงหน้ามันทุกครั้งอย่างไม่สะทกสะท้าน แต่หนนี้สัญชาตญาณลึกๆ มันร้องเตือนว่าครั้งนี้ควรที่จะหน้าบางบ้าง ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดอะไรที่ไม่ปลอดภัยต่ออะไรในตัวผมขึ้นมาก็ได้


คิดแล้วก็ขนลุก







ทั้งๆ ที่คิดว่าส่วนสูงไม่ได้ต่างกันมากขนาดนั้นแต่พอใส่เสื้อของแฝดพี่คอดันกว้างจนเห็นไหปลาร้า แขนเสื้อยาวคลุมหมดทั้งมือ ดีที่กางเกงเป็นขาสั้น ไม่อย่างนั้นผมต้องเดินสะดุดขากางเกงแน่เลย


“พี่เสร็จแล้ว เข้าไปอาบต่อได้เลย”


พูดเสร็มผมก็มานั่งบนโซฟานำผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กมาเช็ดผมให้แห้งขยี้ไปมาหลายทีจนหมาด ส่วนบอสนั้นลุกไปเข้าห้องน้ำต่อจากผมเรียบร้อย


“เดี๋ยวผมช่วยเช็ดดีไหม” วินที่นั่งอยู่ไม่ไกลส่งสายตาเศร้าใจทนไม่ไหวกับการทำร้ายหนังศีรษะของผมจนต้องขันอาสาทำให้


“เอาสิ” ด้วยความมึนจากการกระชากหนังหัวหรืออย่างไรผมถึงตอบตกลงไป


ร่างสูงของหนุ่มไอดอลขยับมาใกล้ มือเรียวยาวค่อยๆ บรรจงเช็ดผมให้อย่างเบามือ สัมผัสแผ่วเบาชวนให้เคลิบเคลิ้ม ดวงตาหรี่ปรือจากความสบายที่ได้รับ


นวดหัวให้ด้วย ดีจัง ฮ้า~


ผมปล่อยให้ปลายนิ้วขาวแบบคนตะวันตกไล้วนไปทั่วหนังศีรษะ หลับตาพริ้มจนเกือบหลับ น้อมรับการปรนนิบัติพัดวีอย่างดียิ่ง


“เรียบร้อยแล้วครับ”


เฮือก!!


ผมสะดุ้งยกมือขวากุมหูทันที


อย่ามาพูดเสียงกระเส่าใส่หูแบบนี้สิ ผมยิ่งเป็นคนขี้ตกใจ เกิดหัวใจวายขึ้นมาจะทำยังไงห้ะ ขนลุกวูบเลย


จะแอบฉวยโอกาสตอนที่ผมเผลอหวังให้หันหน้าไปชนแบบในหนังล่ะลิ ไม่ได้แอ้มหร๊อก~ มุกนี้ภรรยาผมเคยใช้แล้วไม่หลงกลแน่นอน


“เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง” ผมเอ็ดใส่เด็กนิสัยไม่ดี


แต่ถึงจะเอ็ดไปแล้ววินก็ยังไม่ขยับหน้าออกไป ในที่สุดก็ต้องเขยิบตัวเองออกมาจากร่างแฝดน้อง นั่งท่องพุทธ-โทให้จิตใจสงบ พอดีกับแฝดพี่ที่เดินออกมาจากห้องน้ำเลยสบโอกาสไล่ไปอาบน้ำ


บอสเดินมาแบบเปลือยท่อนบนอวดแผงอกล่ำที่สาวๆ หลายคนอยากซบชวนให้ผู้ชายหลายคนอิจฉาตาร้อน ผิวขาวออร่าแบบสุขภาพดีคงทำให้โอเมก้าหลายคนน้ำลายหก


ถ้าผมมีแบบนี้บ้างน้องพีชจะมาซบป๊ะป๋าไหมนะ


“จ้องผมขนาดนี้คิดอะไรอยู่ครับเนี่ย” ดวงตาคมหรี่ลงเล็กน้อยคล้ายยั่วเย้าและล้อเลียนในทีชวนให้รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ


“เปล่านะ ไม่ได้คิดอะไรนี่” ใครจะบอกล่ะครับว่าผมกำลังจินตนาการถึงตัวเองที่มีหุ่นแบบนั้นอยู่แล้วน้องพีชก็ถลาโผเข้าซบออดอ้อนเอาใจเลยเผลอมองนานไปหน่อย แหม่ คิดแล้วมันดีต่อใจ อยากไปฟิตหุ่นเลย


“ไม่ได้คิดอะไรจริงเหรอครับ”


ทำไมต้องยิ้มมุมปาก ทำไมต้องเดินเข้ามาใกล้ ไปแต่งตัวสิเดี๋ยวเป็นหวัดนะ


“อ่า..อืม แต่กล้ามสวยดีนะ”


พูดชมไปหนึ่งคำ ยิ้มแห้งๆ ให้หนึ่งที นี่ผมพูดความจริงแล้วนะทำไมยังรู้สึกวูบๆ อยู่ล่ะ คนแก่ใจบ่ดี~


“อย่างนั้นเหรอครับ”


เสียงนุ่มทุ้มลากยาวเล็กน้อยเหมือนไม่ติดใจเอาความ แต่หลังจากเอ่ยคำนั้นร่างสูงชะลูดก็ค่อยๆ เยื้องย่างมาอย่างช้าๆ มั่นคง ไม่ให้เหยื่อที่หมายตาตื่นตกใจ แต่ก็ไม่สามารถหนีไปไหนได้ จนในที่สุดก็ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาข้างผม ทิ้งช่องว่างระหว่างกันห่างแค่คืบเดียว




“ถ้ากล้ามผมสวย”




มือข้างซ้ายของแฝดพี่เอื้อมมือมาจับมือผมไว้




“ก็จับสิครับ”




แล้วก็แปะลงไปบนหกห่อนั่น







อ๊ากๆๆๆๆๆ!!







ผมรีบชักมือกลับสปริงตัวเด้งก้นออกมาจากพื้นที่อันตรายทันที ทางนั้นเองก็ยอมปล่อยมือผมออกมาอย่างง่ายดาย ดวงตาสีฟ้าที่มองมาเหมือนมีประกายล้อเลียนขำขันผมอยู่เล็กๆ


เด็กสมัยนี้รุกหนักเกินไปแล้ว! ตอนผมจีบภรรยาผมยังค่อยเป็นค่อยไปเลยนะ ใจคอจะไม่ให้ตั้งตัวกันเลยรึไง


“มะ...ไม่เป็นไร ไม่ต้องก็ได้” ไม่ได้อยากจับเลย แต่ว่ามันก็แข็งดีนะ


เฮ่ย! ไม่ใช่แล้ว


“คิดว่ากันต์อยากลองลูบดูซะอีก ผมอุตส่าใจดี ปกติไม่เคยให้ใครจับเลยนะครับ” บอสเปลี่ยนเป็นเอามือมาลูบหน้าท้องตัวเองเบาๆ ชวนให้รู้สึกสยิวกิ้ว ริมฝีปากบางหยักสวยเยียดยิ้ม




“เพราะกันต์เป็นคนพิเศษหรอกนะครับผมถึงยอม” เสียงทุ้มแหบพร่ามีเสน่ห์ชวนให้ผู้คนทั้งหลายพากันตกหลุมพรางของพ่อหนุ่มหล่อราวกับเทวดาปั้นได้อย่างไม่ยากเย็น อยู่ดีๆ ก็รู้สึกมือไม้ติดขัดเกะกะไปหมดจากคำพูดนั้น อุณภูมิของร่างกายคล้ายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วแล่นพล่านไปทั้งร่างกาย สุดท้ายก็มากองบนใบหน้าจนรู้สึกเห่อร้อนเหมือนเป็นไข้ 


อึก....โดนดาเมจอย่างแรงครับ


ไม่ได้ๆๆๆๆๆ! ใจเราต้องมีแค่น้องพีชและภรรยาที่รักยิ่งเท่านั้นนะ!


“พี่ว่าพี่ไปนอนก่อนดีกว่าวันนี้เหนื่อยมาก บอสเองก็รีบไปแต่งตัวได้แล้ว” เพื่อเป็นการเรียกสติสตังของตัวเองกลับมาผมจึงรีบลุกขึ้นเตรียมเผ่นหนีไปก่อน ว่าแล้วก็รีบจ้ำไปห้องนอนทันที


ใครว่าปอดก็ช่าง ขอไปตั้งหลักสักแปบหนึ่ง


ได้ยินเสียงตอบรับ ‘ครับๆ’ ด้วยน้ำเสียงยียวนลอยตามหลังแต่ตอนนี้ไม่สนใจแล้วครับต้องรีบ


รู้สึกตัวจะระเบิดแล้ว อ๊ากๆๆๆๆ










กลับเข้าห้องมาก็มานั่งแหมะ ณ จุดๆ เดิมที่เคยนอน แต่แปลกใจอยู่อย่างเดียว สิ่งที่ในห้องนอนนี้ไม่เหมือนกับห้องของผมซึ่งตั้งแต่เข้ามาซึ่งผมลืมสังเกตไปซะสนิท


ทำไมห้องนี้ถึงเป็นเตียงเดี่ยวไม่ใช่เตียงคู่ฟะ!


เตียงสีขาวขนาดคิงไซส์ดูหรูหรามีระดับปูทับด้วยผ้านวมหนานุ่มฟูพร้อมหมอนสามใบที่จัดวางอย่างสวยงามบนหัวนอน


สงสัยคืนนี้ต้องไปนอนโซฟาแล้วล่ะเรา เฮ้อ~


ตือดือดื่อดึ้ง~ตือดื่อดือดึ้ง~


เสียงโทรศัทพ์ของผมที่วางเอาไว้ในห้องนอนดังขึ้น ใครโทรมานะตอนนี้


ผมรีบดูที่หน้าจอทันทีปรากฎว่าเป็น....









น้องพีชโทรมา! น้องพีชโทรหาป๊ะป๋าด้วย!


ถ้าใครมาถามว่าแค่ลูกสาวโทรมาทำไมต้องดีใจขนาดนั้นด้วย ก็แหม ปกติน้องพีชไม่เคยโทรมาหาผมเลยทุกครั้งที่มาออกทริปกับบริษัทมีแต่ผมที่ต้องโทรหาก่อน แต่น้องพีชคราวนี้โทรมาหาก่อนเชียวนะ โทรมาหาก่อนเชียวนะ! จะไม่ให้ผมดีใจได้ยังไงเล่า ผมน่ะอยากจะคุยกับลูกสาวทุกวันเลยด้วยซ้ำ อ๊ะ รีบรับดีกว่า


“หวัดดีครับน้องพีช เป็นยังไงบ้างลูก”


‘ดีค่ะป๊ะป๋า ใกล้จะนอนหรือยังคะ’ อ้า~ เสียงยังน่ารักเหมือนเดิม


“ยังครับ อีกนานเลย” เพื่อน้องพีช ไม่ต้องนอนเลยก็ได้


‘ไปเที่ยวเป็นยังไงบ้าง สนุกมั้ยคะ’


“ก็สนุกดีครับ มีหลายที่เลยปะป๋าคิดว่าน้องพีชน่าจะชอบอย่างพวกฟาร์ม ไว้คราวหน้าเดี๋ยวป๊ะป๋าพามาดีมั้ย” ไม่ได้มาเที่ยวกับน้องพีชนานแล้วอยากมาลั้ลลากับลูกบ้างเหมือนกัน


‘ไม่เป็นไรหรอกค่ะ วันหยุดหนูอยากให้คุณพ่อพักผ่อนมากกว่านะคะ’ เป็นเด็กดีจริงๆ ลูกสาวผม


“ได้ไงล่ะ นานๆ ทีเราจะไปเที่ยวกัน ป๊ะป๋าเองก็อยากไปกับน้องพีชนะ” คิดถึงตอนน้องพีชเด็กๆเลย ผมชอบพาลูกไปสวนสัตว์ แต่พักหลังช่วงวัยรุ่นเปลี่ยนเป็นไปสวนสนุกแทน แต่สังขารผมไม่ไหวเลยปล่อยให้ไปกับเพื่อน กลัวลูกไม่สนุกครับต้องมาคอยดูแลผมที่เป็นลมเป็นแล้ง


“แล้วอยู่คนเดียวได้รึเปล่า หรือไปนอนบ้านป้าน้อย” ป้าน้อยคือแม่ของเพื่อนสนิทน้องพีชที่ชื่อนิดครับ เราเคยเจอกันหลายครั้งตอนงานประชุมผู้ปกครองตั้งแต่ตอนน้องพีชเรียนม.ต้น บางครั้งน้องพีชก็ไปนอนกับเพื่อนหรือเพื่อนน้องพีชมาที่บ้านผมก็ได้ฝากฝังลูกสาวอยู่บ่อยๆ รวมถึงคุณน้อยที่ฝากลูกสาวกับผมด้วยเช่นกัน อย่างช่วงที่มาออกทริปผมก็จะฝากคุณน้อยช่วยดูแลน้องพีชให้อีกทาง


‘ค่ะ วันนี้มานอนบ้านนิดค่ะ’ ค่อยโล่งใจครับ ดีกว่าให้ลูกอยู่บ้านคนเดียว


“กันต์จะนอนหรือยัง” ฝาแฝดคนน้องโผล่มาทั้งเสียงและตัวเดินอาดๆ เข้ามาในห้องใส่ชุดนอนเสื้อยืดกางเกงขายาวเรียบร้อย ก่อนฝาแฝดคนพี่จะเดินตามหลังเข้ามาโดยที่ใส่ชุดคล้ายกันต่างแค่สีเท่านั้น


‘คุณพ่อคะ นั่นเสียงใครเหรอคะคุ้นจังเลย’


ตายล่ะ เสียงมันดังเข้าไปในโทรศัพท์ด้วย เกิดน้องพีชจำได้ขึ้นมาล่ะแย่เลย


“เสียงพอทเพื่อนป๊ะป๋าไงลูก อาพอทเคยไปที่บ้านเราด้วยนี่ จะคุ้นเสียงก็ไม่แปลก” ใช่ๆ สมอ้างไปก่อนแล้วกัน ขอยือชื่อแกมาใช้นะเพื่อนพอท


‘แต่ไม่เห็นเหมือนที่เคยได้ยินเลยค่ะ เสียงอาพอทปกติไม่ใช่แบบนี้นี่คะ’


“อ๋อ อาพอทไม่สบายนิดหนึ่งน่ะลูก วันนี้อาเค้าเล่นน้ำหนักไปหน่อย” วันนี้เป็นวันที่ผมอยากให้น้องพีชคิดน้อยๆ จังครับ เหงื่อตกเลยทั้งที่แอร์เย็น


“วันนี้กันนอนตรงกลางแล้วกันนะครับ พวกผมขอนอนริมเหมือนเดิมแล้วกัน” บอสเดินเข้ามาใกล้จัดวางตำแหน่งการนอนของวันนี้ แต่! ไม่เห็นเหรอว่าผมคุยโทรศัพท์กับลูกอยู่น่ะ อย่าเพิ่งพูดสิ! ปกติออกจะฉลาดแท้ๆ


“อ่า แล้วน้องพีชจะนอนรึยังครับลูก” รีบเปลี่ยนเรื่องดีกว่า น้องพีชจะได้นอนเร็วด้วย เด็กต้องพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อสุขภาพที่ดี


“น้องพีชครับ....ฮัลโหล” ทำไมถึงเงียบไปล่ะลูก ปะป๋าใจคอไม่ดี


‘อ๊ะ ขอโทษนะคะคุณพ่อ คือว่าพอดีมีคนแอบกินขนมของน้องพีชก่อนเวลาน่ะค่ะ น่าหงุดหงิดมากเลย ต้องลงโทษซะหน่อยแล้ว’ หืม น้องพีชจะเล่นบทโหด?


“ยังไงก็คุยดีๆ กับเพื่อนนะลูก” สมัยวัยรุ่นเรื่องกินเรื่องใหญ่ครับสำหรับผม และน้องพีชก็คงเหมือนกัน แต่ยังไงก็ต้องไม่ทำให้มิตรภาพร้าวฉาน เคยมีเพื่อนคนหนึ่งสมัยมัธยมงอนที่ผมแกะขนมกินก่อนมันนานมากจนกลายเป็นห่างเหินไป กว่าจะต่อติดได้ก็ยาก ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นกับลูกผม


‘ฮะๆ ค่ะป๊ะป๋า ยังไงเค้าก็ไม่กล้างอนหนูหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูจะไม่เอาขนมให้อีกคงมาร้องห่มร้องไห้ใส่หนูแน่เลย’ ได้ฟังแบบนี้ค่อยสบายใจครับ


“งั้นนอนได้แล้วนะลูก เดี๋ยวนอนดึกผิวไม่สวยน้า”


‘ค่ะป๊ะป๋า ดูแลตัวเองดีๆ ระวังตัวด้วยนะคะ ป๊ะป๋ายิ่งแพ้อะไรง่ายอยู่ด้วย’


“ครับผม ฝันดีนะลูก”


‘ฝันดีค่ะ’









น้องพีชตัดสายไปแล้วผมก็หันไปจ้องหน้าสองพี่น้องด้วยสายตากรุ่นโกรธ มาพูดตอนคุยโทรศัพท์กับน้องพีชอภัยให้ไม่ได้ ถ้าเกิดน้องพีชรู้ขึ้นมาว่าไอดอลที่ตัวเองเคยปลื้มอยู่ใกล้ตัวล่ะก็จะต้องลืมผมแน่นอน แถมยังจะโกรธที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับลูกอีก ผมมันคนมีชนักติดหลัง


ไม่ได้! ให้ลูกรู้ไม่ได้เด็ดขาด!


“ผมขอโทษนะครับ เราไม่ได้ตั้งใจ” นัยตาสีฟ้าสองคู่ส่งท่าพิฆาตหมาหงอยออกมา คล้ายว่ามีภาพเสมือนหูลู่หางตกอยู่ลางๆ
อย่าใจอ่อนนะ ฮึ่ย


“อย่าพูดตอนพี่โทรคุยกับลูกอีกนะ” ทำเสียงเข้มให้สมกับเป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชี ผมจ้องเขม็งไปที่ฝาแฝด นั่งไขว่ห้างกอดอกตรงปลายเตียงอย่างมาดมั้น


“ครับ เราจะไม่ทำอีกแล้วครับ” ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน ทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าผมราวกับยอมศิโรราบแต่โดยดี


“อืม ครั้งนี้แล้วไป ทีหลังอย่าทำอีก” สุดท้ายก็ใจอ่อน ผมมันเป็นพวกทนลูกอ้อนไม่ได้จริงๆ ฮื่อ~


“ขอบคุณครับ!” บอสกับวินพูดด้วยน้ำเสียงตื้นตันก่อนจะกระโดดมาตะครุบขาผม


เฮ้ยๆ เกินไปแล้วนะ อะไรจะขนาดนั้น


ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม ทำไมเสียวสันหลังแปลกๆ อ่ะ


“ทีนี้เรามาคุยกันต่อดีกว่าครับ” ใบหน้าหมาน้อยหายไปกลายเป็นหมาป่าอีกแล้ว ทำไมเปลี่ยนอารมณ์กันไวจังวะ


“เรื่องอะไรเหรอ?”


ขณะที่ยังนั่งงงทั้งคู่ก็ยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วหิ้วปีกผมทั้งสองข้างก่อนจะโยนตุ๊บลงไปบนเตียง









นี่มันอะไรก๊าน~



แล้วเสียงแหบเสน่ห์อันเจ้าเล่ห์ของฝาแฝดก็ดังขึ้นเพื่อเฉลยทุกสิ่งพร้อมกับเงาดำมืดที่ทาบทับลงมาบดบังแสงสีนวลจากเพดานจนหมดสิ้น



นัยตาอความารีนสวยที่ย้อนแสงไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด













“ก็เรื่องการนอนของพวกเรายังไงล่ะ/ครับ”





------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


กราบขออภัยที่หายตัวไปนานเจ้าค่ะ พอดีรู้สึกเฟลกับหลายๆเรื่องทำให้หมดอารมณ์ไป ตอนนี้ come back แล้วค่ะ อาจจะมาประมาณอาทิตย์ละครั้งหรืออาจเร็วกว่านั้นแล้วแต่อารมณ์ ขอโทษจริงๆนะคะ


เรื่องนี้เป็นแนวแฮปปี้โอเมก้าเวิลด์สไตล์ใสค่ะ 5555555
มีฉากกรุ๊งกริ๊งตามสมควร

ขอขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามอยู่นะคะ   :mew6:






หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 6 26/4/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 26-04-2018 11:14:19
คงไม่หลอกหม่ำคนแก่นะ
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 6 26/4/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 26-04-2018 12:59:48
เข้ามารอฉากอัศจรรย์
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 6 26/4/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 26-04-2018 13:01:53
น้องพีชมีส่วนรู้เห็นรึเปล่านะ :hao4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 6 26/4/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 26-04-2018 13:12:34
 :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 6 26/4/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 26-04-2018 14:13:57
น้องพีชก็มีพิรุจนะนี่

แอบมีแฟนไม่ให้พ่อรู้แน่เลย

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 6 26/4/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 26-04-2018 19:34:24
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 6 26/4/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 30-04-2018 00:08:42
คนเขียนกลับมาแล้วววว :pig4:
หัวข้อ: Re: [omegaverse] 3p It's not destiny รักร้ายนายไอดอล ตอนที่ 6 26/4/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 04-05-2019 10:03:33
มาต่อจนจบเลยนะ..อย่าได้ทิ้งกันให้เคว้งคว้างนะ..จะรอ ๆ ๆ  :mew1: