พิมพ์หน้านี้ - *หลุดจอง*{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...[14/10/59]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: MiSS-U ที่ 18-05-2014 08:32:27

หัวข้อ: *หลุดจอง*{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...[14/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 18-05-2014 08:32:27
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)



(http://i1310.photobucket.com/albums/s648/MiSS-U_novel/3S_zps681c5ae0.png) (http://s1310.photobucket.com/user/MiSS-U_novel/media/3S_zps681c5ae0.png.html)

รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ
ถ้าอยากรู้ว่า “ฝูหรง” เลขาหน้าใส  และ “พอล” หนุ่มลูกครึ่งรูปหล่อ
มีอดีตอะไรร่วมกันแล้วล่ะก็  ต้องติดตามใน >>> "รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ"

สารบัญ
 • ตอนที่ 1 "สวรรค์เล่นตลก" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2711853#msg2711853)
 • ตอนที่ 2 "กระต่ายน้อย" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2718437#msg2718437)
 • ตอนที่ 3 "เพราะรัก" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2724310#msg2724310)
 • ตอนที่ 4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2729726#msg2729726)
 • ตอนที่ 5 "คนที่รัก" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2735652#msg2735652)
 • ตอนที่ 6 "เริ่มเวลาของเรา" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2741848#msg2741848)
 • ตอนที่ 7 "ความสุข" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2748386#msg2748386)
 • ตอนที่ 8 "ไข้ขึ้น" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2752833#msg2752833)
 • ตอนที่ 9 "ดูแล" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2757340#msg2757340)
 • ตอนที่ 10 "เป็นห่วง" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2761539#msg2761539)
 • ตอนที่ 11 "คำกล่าวหา" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2765984#msg2765984)
 • ตอนที่ 12 "อดีตในนิวยอร์ก" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2770141#msg2770141)
 • ตอนที่ 13 "ตัวป่วนความรัก" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2773984#msg2773984)
 • ตอนที่ 14 "กำจัดหงส์ฟ้า" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2777645#msg2777645)
 • ตอนที่ 15 "รักและใส่ใจ" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2781659#msg2781659)
 • ตอนที่ 16 "ตามจับกระต่าย" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2786297#msg2786297)
 • ตอนที่ 17 "หวานนอกสถานที่" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2791077#msg2791077)
 • ตอนที่ 18 "ทิ้งระเบิด" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2795156#msg2795156)
 • ตอนที่ 19 "โชคดีที่มีเธอ" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2799498#msg2799498)
 • ตอนที่ 20 "แม่มดน้อย" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2803753#msg2803753)
 • ตอนที่ 21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2808166#msg2808166)
 • ตอนที่ 22 "การมาเยือน" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2813086#msg2813086)
 • ตอนที่ 23 "รางวัลแบบจัดหนัก" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2817455#msg2817455)
 • ตอนที่ 24 "ป่วนปะทะแสบ" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2822592#msg2822592)
 • ตอนที่ 25 "ปลอบใจด้วยกาย" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2827040#msg2827040)
 • ตอนที่ 26 "สายสัมพันธ์" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2832052#msg2832052)
 • ตอนที่ 27 "จุดเปลี่ยน" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2836762#msg2836762)
 • ตอนที่ 28 "เอาคืน" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2841659#msg2841659)
 • ตอนที่ 29 "ยาชูใจ" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2846620#msg2846620)
 • ตอนที่ 30 "กันและกันตลอดไป" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42180.msg2851606#msg2851606)


ทั้งชื่อตัวละครและสถานที่นั้นมาจากจินตนาการผู้แต่งล้วนๆค่ะ  อยากให้ลองอ่านดูนะคะ

ขอฝากผลงานที่ผ่านมาไว้ด้วยค่ะ

ชุดเสน่ห์รัก

"เสน่ห์รักปักใจ" (กัส+วิน)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.msg2026832)

"เสน่ห์มัดใจนายเพลย์บอย" (มิค+ฟิน)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29669.0)

"เสน่ห์ร้ายพ่ายรัก" (ธี+ภีม)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31877.0)

ชุดบ่วงรัก

"บ่วงรักพญามังกร" (ธัช+ตี้หลง)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34158.msg2075608#msg2075608)

"บ่วงหงส์" (เฟิงหวง+หลี่จวิน)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36733.msg2279179#msg2279179)

ชุด LOVER

"รักหวานๆของมาเฟียขี้หึง" (ธันว์+หลี่ผิง)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38212.msg2405104#msg2405104)

"รักต้องเคลียร์" (เบส+นน)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40461.msg2569586#msg2569586)

ใครที่สนใจตามไปอ่านได้เพราะจบแล้วทุกเรื่องค่ะ
รับประกันความหวาน ^^

:pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 18-05-2014 08:36:54
ตอนที่ 1

โจวพอล

   “อ้าว  รถตระกูลหวางนี่หว่า  สงสัยจะมาดูโรงแรมที่นี่  ดีเหมือนกันมื้อนี้ได้เจ้าพ่อใหญ่เป็นเจ้ามือแล้ว  ฮึๆ...หลี่ผิง  นายอยู่กงอินใช่มั้ย...ฉันผ่านมาแถวนี้พอดี  เดี๋ยวรอนายอยู่ข้างล่างนะ”

หลังจากกดวางสายเพื่อนสนิท  ผู้มีศักดิ์เป็นถึงว่าที่นายใหญ่ตระกูลหวางหย่งกัง  ตระกูลมาเฟียอันดับหนึ่งของฮ่องกงที่มีอำนาจต่อรองไปทุกวงการในเวลานี้  ผมก็เลี้ยวรถเข้าสู่อาณาเขตโรงแรมแห่งใหม่ที่ยังไม่เปิดตัวของตระกูลหวาง  โอกาสดีที่วันนี้ผมมาดูที่ทางแถวกงอินพอดี  ทำให้ได้เจอเพื่อนสนิทอย่างหวางหลี่ผิงโดยบังเอิญ

ผม  ‘โจว  พอล  วอร์เลนโต้’  หนุ่มลูกครึ่งฮ่องกงอิตาลีสุดหล่อวัยยี่สิบสามปี  ทายาทคนโตของเจ้าพ่ออสังหาฯที่ใครๆก็นับหน้าถือตาอย่างโจวฟู่สือ  ซึ่งผมเองก็กำลังเดินตามรอยเท้าปาปาได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน  และใช้เวลาไม่ถึงปีดีชื่อโจวพอลได้เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการอสังหาฯของฮ่องกงบ้างแล้ว 

การมายืนจุดนี้ของผมไม่ใช่อาศัยบารมีปาปาเพียงอย่างเดียว  แต่อาศัยความพยายามและใช้ความสามารถที่โดนฝึกฝนมาแต่เด็กร่วมด้วย  เพราะวงการนี้ใครๆต่างก็รู้ดีว่ามีการแข่งขันกันสูงเพียงใด  พลาดนิดเดียวก็อาจโดนเขี่ยทิ้งให้ออกไปจากวงการได้อย่างง่ายดาย  หรืออาจถึงขั้นต้องทิ้งทั้งชื่อเสียงและลมหายใจ  สังเวยให้แก่วงการอสังหาฯเดือดแห่งนี้ก็ได้  หากไปขัดขาใครเข้าเพียงเพราะไม่ดูทิศทางลมให้ดี 

สำหรับผมโชคดีที่มีปาปาคอยสั่งสอนและเป็นแบ็คให้กลายๆ  บวกเข้ากับฝีมือที่ไม่ได้ด้อยของผมด้วยแล้ว  จึงยากหน่อยหากใครคิดจะลองของกับทายาทผู้สืบทอดแห่งบริษัท  ‘Joe  F.H.  Estate’ 

การได้เจอเพื่อนสนิทอย่างไม่คาดฝันของผมวันนี้ถือว่าผมโชคดีไม่น้อย  ด้วยผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้ของล้ำค่าที่ทำหายไปคืนกลับมา.....

“ไงเพื่อน  สบายดีนะ”  หลังคำทักทาย  ผมชกเบาๆไปที่ไหล่ของหลี่ผิงตามความเคยชิน  ยามได้เจอหน้าค่าตาเพื่อนสนิทในกลุ่ม 

ผมไม่อยากยอมรับ  แต่ก็ต้องยอมรับว่าทายาทอันดับหนึ่งแห่งแก๊งหวางหย่งกังเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดีจริงๆ  ประกอบกับตอนนี้ที่เพื่อนผมกำลังระบายยิ้มน้อยๆติดมุมปากด้วยแล้ว  หลี่ผิงยิ่งดูดีและน่ามองยิ่งขึ้น  แต่ใครอย่าคิดพิเรนทร์เชียวล่ะ  ว่าผมหลงใหลได้ปลื้มกับเจ้าของรอยยิ้มนี้  แม้ผมจะมีรสนิยมได้ทั้งชายหญิง  แต่ผมยังสติดีพอไม่นิยมจับเพื่อนมาเป็นเมียหรอกครับ  แล้วอย่างหลี่ผิงเนี่ย  บอกเลยว่าไม่เคยแม้แต่จะคิด 

เมื่อทักทายกันพอหอมปากหอมคอ  ผมก็แกล้งถามหาแฟนตัวน้อยของมัน  พร้อมแกล้งชะเง้อหาด้วยความอยากเจอหนักหนา  ด้วยคู่นี้หาน้อยครั้งนักที่จะห่างกัน  จากใบหน้าหล่อเหลาประดับยิ้มน่ามองของเพื่อน  กลับแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงขึ้นทันตา  ทำให้รู้ว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่  หลี่ผิงก็ยังขี้หวงไม่เปลี่ยน  แต่ถ้าใครเคยเจอเคยคุยกับน้องธันว์แฟนมันก็คงรู้แหละว่า  ก็สมแล้วกับที่เพื่อนผมมันจะตามหึงตามหวง  ‘เด็กอะไรไม่รู้ยิ่งโตยิ่งน่ารักน่าฟัด’  บ่งบอกว่าถูกเลี้ยงดูมาในครอบครัวที่อบอุ่นจริงๆ

ผมเองบางครั้งยังเผลอคิดอยากแอบขโมยตัวแฟนมันมากอดนอนสักคืนด้วยซ้ำ  แต่ผมคิดแค่อยากกอดด้วยความเอ็นดูเหมือนน้องนะครับ  ไม่คิดเป็นอื่นเลยจริงๆ  ซึ่งผลของการคิดอกุศลกับแฟนเพื่อนคือ  แฟนตัวจริงของน้องธันว์มันผลักหน้าผากผมแทบหงาย  ‘ไอ้นี่เล่นเป็นเด็กๆตลอดๆ’  แต่ผมก็ไม่คิดโกรธเคืองแค่หัวเราะกลบเกลื่อน  ด้วยผมรู้ว่ามันไม่ได้จริงจังอะไรและไม่ได้โกรธกัน  มันก็แค่หมั่นไส้ในท่าทางและคำพูดของผมเท่านั้น  เพราะเราทั้งคู่เป็นเพื่อนกันกว่าสิบปี  ย่อมรู้ว่าตอนไหนเพื่อนแกล้งแหย่เล่นตอนไหนเพื่อนจริงจัง

แต่แล้ว!?  ผมต้องยืนตกตะลึงตัวชา  เพราะแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าผมจะได้พบคนๆนี้อีกครั้ง  ผู้ชายที่ผมไม่มีวันลืม  ผู้ชายที่ชื่อ  ‘เจินฝูหรง’  แม้ฝูหรงจะเปลี่ยนไปเล็กน้อยด้วยสวมแว่นตาอันโตไว้บนใบหน้า  แต่ผมก็ไม่มีวันลืมดวงหน้าใสและดวงตากลมโตคู่นี้ได้เลย

ถ้าผมเดาไม่ผิดเขาคนนี้คงกลายมาเป็นเลขาคนใหม่ของเพื่อนสนิท  เพราะผมจำได้ว่าเลขาคนแรกของหลี่ผิงนั้นเป็นผู้หญิง  ผมไม่ได้ไปหาหลี่ผิงที่บริษัทนานขนาดนี้เลยเหรอ  ไม่เช่นนั้นผมคงได้เจอเขาเร็วกว่านี้

“อะแฮ่ม!  เลิกจ้องเลขาฉันได้แล้ว  พอล  นายมีอะไรรึเปล่า  ฉันนัดดินเนอร์น้องธันว์กับเพื่อนไว้”  ประโยคดังกล่าวเรียกสติที่แตกกระเจิงของผมให้กลับมารวมตัวอีกครั้ง 

อารามดีใจปนทำอะไรไม่ถูก  ผมจึงได้แต่แก้เขินกับเพื่อนสนิท  ด้วยประโยคหยอกเย้าทีเล่นทีจริงที่ดึงคนน่ารักอย่างแฟนเพื่อนมาเอี่ยวด้วย  ในทำนองว่าเพื่อนนั้นหวงเลขาออกนอกหน้า  และจะเอาความนี้ไปฟ้องคนของมัน  ผลก็คือผมโดนหลี่ผิงชกเข้าที่ไหล่เต็มแรง 

“....[พลัวะ]...โอ๊ย!  อะไรแค่นี้ถึงกับตบตีกันเลย”  เล่นเอาชาไปเหมือนกันครับ 

ระหว่างที่ผมแกล้งโอดครวญ  และหลี่ผิงบ่นผมเรื่องที่ทำให้เจ้าตัวเสียเวลาไปเจอคนน่ารักของมันนั้น  ผมก็แอบเหลือบมองเลขาหน้าใสของเพื่อนไปด้วย  พบว่าอีกคนก้มหน้างุดและทำตัวลีบ  หลบอยู่แต่ด้านหลังหลี่ผิงไม่มีขยับสักนิด  ทำเอาผมทั้งอยากจะขำและอยากโวยวายใส่เจ้าตัวไปในเวลาเดียวกัน

คนเราบทจะได้เจอกันก็ง่ายแสนง่าย  และเจอในแบบที่ไม่ต้องพยายามอะไรให้เหนื่อย  แต่บทที่เราอยากเจอแทบตาย  แม้จะร้อนรนเพียงใดและออกตามหาแทบพลิกแผ่นดินแค่ไหน  กลับไม่มีโอกาสได้เจอตามต้องการ  ‘สวรรค์มักเล่นตลกกับคนที่มีความรักเสมอ’

“ไม่ต้องพล่ามแล้ว  ให้ไปก็ได้”  ฟังจากเสียงเพื่อนสนิท  ผมรู้แหละว่ามันยอมให้ผมไปดินเนอร์ด้วยอย่างเสียไม่ได้มากกว่าจะเต็มใจจริงๆ

“แล้วเลขานายล่ะ  น่าจะให้ไปด้วยนะ  นี่ก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้วด้วย”  ผมรีบฉวยโอกาสนี้ดึงเลขาเพื่อนเข้ามามีส่วนร่วมด้วยทันที  แต่ผมต้องคิ้วกระตุกกับสายตาที่ฝูหรงใช้มองหลี่ผิง  จนนึกไม่พอใจขึ้นมา 

‘เวลาทำให้คนเปลี่ยนไปได้จริงๆใช่มั้ย’

“ไปกันหมดนี่แหละ  ฝูหรงไปทานอาหารด้วยกันก่อนนะ  เดี๋ยวค่อยให้อาเป๋าไปส่ง”  ชัดเลยแววตายินดีเปิดเผยแบบนี้  เจ้าของมันต้องปลื้มไอ้เพื่อนผมที่พูดประโยคดังกล่าวอย่างแน่นอน 

ก่อนที่เจ้านายกับเลขาจะเดินไปที่รถด้วยกัน  ผมขอฉวยโอกาสหน่อยเถอะ  ด้วยการแอบกระตุกข้อมือของคนที่กำลังเดินสวนกัน  และไม่แม้แต่จะยอมสบตาด้วยไว้  ทำเอาเจ้าของร่างบอบบางที่อยู่ในความทรงจำผม  ถึงกลับสะดุ้งหน้าตาแตกตื่น  และจ้องมายังผมอย่างไม่ไว้ใจ  ผมก็ได้แต่แสยะยิ้มใส่ตาคู่กลมภายใต้แว่นสายตาอันโต  ก่อนผมจะรีบปล่อยข้อมือข้างนั้น  ทำให้หลี่ผิงที่หมุนตัวกลับมา  ไม่ทันเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างผมกับเลขาของตัวเอง

“ฉันไม่รู้ทาง  ให้เลขานายไปกับฉันและบอกทางแล้วกันนะหลี่ผิง”  ผมแอบขึงตาใส่หลี่ผิงที่ทำหน้าฉงนยามมองผมเหมือนจะค้าน  เพราะเราต่างรู้กันล่ะว่าที่ผมพูดมันเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง  ที่ผมอยากได้ตัวเลขาของมันให้นั่งรถไปด้วย  ซึ่งเพื่อนก็คือเพื่อน  หลี่ผิงยอมปิดปากไม่ค้านและหันไปบอกเลขาแกมสั่ง  ให้ช่วยนั่งรถไปกับผมเพื่อช่วยบอกทาง

ส่วนเลขาแว่นหน้าใสของมันมีอึกอักเล็กน้อย  ก่อนจะรับคำสั้นๆอย่างไม่เต็มใจนัก  แต่ขัดเจ้านายไม่ได้นั่นเอง  ผมแสยะยิ้มใส่ตากลมๆภายใต้แว่นหนาอีกครั้ง  ก่อนหมุนตัวเดินนำไปที่รถสปอร์ตสีดำคันโปรดของตัวเอง

ภายในรถเงียบสนิทจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง  แม้ในใจผมจะมีคำถามมากมายที่อยากจะถามคนที่นั่งเคียงข้าง  แต่นาทีนี้เหมือนมีอะไรมาปิดปากทำให้พูดไม่ออก  และผมอดยอมรับไม่ได้จริงๆว่าห้าปีที่เราไม่ได้เจอกัน  คนตรงหน้าผมแทบไม่เปลี่ยนไปจากครั้งสุดท้ายที่เราอยู่ด้วยกันเลย  นอกเสียจากไอ้แว่นตาอันโตแสนเกะกะสายตานี่อันเดียวเท่านั้น  ที่เข้ามาบดบังความน่าดูของใบหน้าจิ้มลิ้มที่แสนน่าหลงใหลของฝูหรง...กระต่ายน้อยแสนตื่นตูมของผม

“เลี้ยวขวา...เอ๊ะ!  ทำไมไม่เลี้ยวตามที่บอก”  ผมยังคงทำหูทวนลมและหน้ามึนขับตรงไปยังถนนเบื้องหน้า 

หลังจากไม่ได้เจอหน้ากันมาห้าปี  คำแรกที่จะใช้คุยกันกับเป็นการบอกเส้นทาง  แทนที่จะเป็นคำแสดงความห่วงใย  หรือสอบถามสารทุกข์สุขดิบล่ะไม่มี  นี่อะไรใช้น้ำเสียงแข็งๆออกคำสั่งกับผมได้  บวกเข้ากับสายตาวาวๆที่ใช้จ้องผมอย่างเอาเรื่องนี่อีกล่ะ  อย่าหวังว่าผมจะยอมทำตาม

ผมจึงเลือกที่จะเมินเฉยต่อคำพูดเหล่านั้น  และเมื่อฝูหรงเห็นผมเงียบ  เจ้าตัวก็ได้แต่ฮึดฮัดและสะบัดหน้าหนีไปนอกรถ  หากเป็นเมื่อก่อนกระต่ายน้อยของผมจะไม่มีวันทำท่าทีเฉยชากับผมแบบนี้อย่างแน่นอน  มีแต่จะเอามาอ้อนมาหยอกล้อง้องอนให้ผมยอมพูดด้วย  คิดได้แบบนี้  ทำเอาผมนึกโมโหขึ้นมา

“เวลาเปลี่ยนคนเราก็เปลี่ยนสินะ  หรือว่าตอนนี้ชอบหลี่ผิงมันรึไง  ถ้าไม่ได้ตาบอดน่าจะรู้นะว่ามันรักแฟนมันมาก  หรือคิดจะแย่ง!  แต่คงได้แค่คิดเพราะขืนแย่งจริงก็ไม่สำเร็จหรอก”  ความโกรธความโมโหทำให้ผมประชดใส่คนข้างๆในเรื่องที่ติดใจแต่แรกพบออกไป  ซึ่งผลของการประชดก็ไม่ทำให้อะไรๆดีขึ้น  แต่มันกลับยิ่งแย่ลงกว่าเดิม

ฝูหรงนั่งหลังเกร็งและกำมือไว้จนแน่น  แต่ผมก็แอบเห็นว่าร่างเล็กๆนั่นมีอาการสั่นน้อยๆ  แต่การที่ฝูหรงหันหน้าออกนอกรถ  ทำให้ผมไม่เห็นสีหน้าแววตาว่าเจ้าตัวกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน  โกรธหรือเสียใจกันแน่  แต่ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหน  ผมก็รู้สึกไม่ดีทั้งนั้น  แต่ในเมื่อเอาคำพูดคืนมาไม่ได้  ผมก็ได้แต่นั่งหงุดหงิดเผลอพ่นลมหายใจออกมายาวเหยียด  พร้อมเหยียบคันเร่งแทบมิด  แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองของอีกฝ่ายให้เห็น  ด้วยผมยังเห็นเพียงกลุ่มผมดำขลับและแผ่นหลังบาง  แต่ยังดีหน่อยที่ร่างเล็กๆนั่นบรรเทาอาการสั่นเทาลงแล้ว

“...ฝูหรง  คือ...”

“กลับรถ”  ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยขอโทษ  อีกฝ่ายกลับออกคำสั่งเรียบๆขัดออกมา

เมื่อกระต่ายน้อยตาแดงหันกลับมาถลึงตาเข้าใส่  ผมจึงได้แต่ชะลอความเร็ว  และยอมทำตามคำสั่งของฝูหรงทันที  อาการนี้ของฝูหรงทำผมใจหายไม่น้อย  แต่ก็เหมือนมีอะไรมาอุดปากไว้  ไม่ให้ผมเอ่ยขอโทษออกไป 

ฝูหรงบอกทางผมเป็นระยะด้วยเสียงเรียบๆ  ยามเจอสี่แยกหรือซอกซอยที่ต้องเลี้ยว  ผมก็ไม่มีขัดยอมทำตามคำสั่งนั้นอย่างว่าง่ายด้วยท่าทีเฉยชา  แต่ในใจกำลังพยายามคิดว่าจะชวนอีกคนคุยอย่างไร  ไม่ให้เผลอประชดใส่คนหน้าใสที่มีทีท่าไม่แยแสใส่ผม 

จวบจนกระทั่งมาถึงร้านที่หลี่ผิงนัดน้องธันว์และเพื่อนสนิทไว้  ผมก็ยังไม่ได้คุยกับฝูหรงอยู่ดี  พาลหงุดหงิดหน้าบึ้งไม่รู้ตัว  แต่มารู้ตัวว่าทำให้อีกคนเข้าใจผิดก็ต่อเมื่อได้ยินประโยคนี้

“ถึงแล้ว...ไม่ต้องทนเห็นหน้า  ให้ต้องทนอึดอัดใจอีกแล้ว”  ผมยังไม่ทันได้แก้ตัว  คนที่พูดประโยคดังกล่าวก็ดึงประตูรถขึ้น  และก้าวลงจากรถเดินไปไม่เหลียวหลัง 

ไอ้ครั้นผมวิ่งตามมาทันก็มาทันตรงหน้าห้องอาหาร  ที่มีทั้งเพื่อนและน้องๆอยู่ในนั้น  จึงมีโอกาสได้แค่เปิดประตูให้คนหน้าใส  และก้มหน้าส่งสายตาขอโทษให้เท่านั้น  แต่สิ่งที่ทำไปกลับโดนเมินใส่อย่างไม่ใยดี  พาลให้กรุ่นขึ้นมาในอกอย่างห้ามไม่อยู่  จนอยากกระชากร่างบางเข้าหาอก  และบดจูบลงบนปากเชิดๆคู่นั้นนัก  ด้วยอยากจะรู้ว่าวิธีที่เคยลงโทษได้ผล  มันจะยังใช้ได้อยู่มั้ย 

ผมก็ได้แค่คิด  เพราะสิ่งที่ทำคือการเดินเข้าไปหยิกแก้มเด็กน่ารักของมาเฟียใหญ่ด้วยความเอ็นดู  พร้อมประโยคทักทายด้วยเสียงอันสดใส  ผิดจากความรู้สึกหม่นๆในอก

“หวัดดีครับน้องธันว์  ยังน่ารักไม่เปลี่ยนเลยนะ...[เพียะ!]...อูยยย  แถมเจ้าของก็หวงไม่เปลี่ยนด้วย  ฮ่าๆ”  แม้ผมจะหัวเราะให้กับประโยคหยอกแกมหยิกที่มีให้เพื่อนสนิท  แต่ห้ามสายตาตัวเองไม่อยู่  เพราะดันลอบชำเลืองคนข้างตัวไปด้วย 

สีหน้าละห้อยแววตาหม่นๆของฝูหรงยามมองหลี่ผิงและน้องธันว์นั้น  ทำเอาผมรู้สึกห่อเหี่ยวปนขัดใจขึ้นมา  แต่ภายนอกผมก็ยังทำตัวร่าเริงเป็นปกติ  ตอบรับคำทักทายของน้องธันว์และเพื่อนๆของน้องอีกสองคน  มีแอบแซวไอ้เพื่อนมาเฟียที่นั่งหน้าบูดด้วย  หลังจากหลี่ผิงโดนผมแย่งความสนใจของน้องธันว์มาไว้ที่ตัวเองได้

ท่ามกลางเสียงแซวของน้องๆที่มีให้แก่คู่รักแสนหวานจนน่าอิจฉานั้น  กลับมีสายตาคู่หนึ่งที่จ้องหลี่ผิงไม่วางตาด้วยความชื่นชม  ผมที่ได้เห็นสายตาคู่นั้นเกือบปล่อยอารมณ์หงุดหงิดออกมาประจานตัวเองแล้ว  ถ้าไม่มีประโยคกระแทกใจจากน้องนลินสาวซ่าประจำกลุ่มน้องธันว์ดังขึ้น

“เอ่อ  แล้วนี่ใครคะ  แฟนเฮียพอลเหรอ  เฮ้อออ...ทำไมน้า  เดี๋ยวนี้หนุ่มๆหน้าตาดีถึงจับคู่กันเอง  แล้วจะเหลือหนุ่มหล่อให้นลินสักคนบ้างมั้ยน้อ”  จากอารมณ์หม่นๆเตรียมปะทุ  ประโยคของน้องนลินทำเอาผมฉีกยิ้ม  และจงใจจ้องเข้าไปในแววตาตกตะลึงของคนที่ถูกเหมาว่าเป็นแฟนผม  ด้วยสายตาหยอกเย้าแกมยินดี  แต่อีกฝ่ายคงไม่ได้คิดอย่างผม

“มะ  ไม่ใช่ครับ  ไม่ใช่  ผมกับมิสเตอร์โจวไม่ได้เป็นอะไรกัน  หึ!...จริงๆนะครับ”  ผมละปรี๊ด!  ดูเถอะครับ  ปฏิเสธเสียงหลงด้วยท่าทางร้อนรนและสะบัดเสียงใส่ผมไม่พอ  ยังมีหน้าหันไปส่งเสียงอ้อนๆตาหงอยๆให้เจ้านายตัวเองอีก

“คุณเลขาไม่เห็นต้องปฏิเสธน้องๆให้วุ่นวายเลยนี่ครับ  แต่เอ๊!  หรือคุณเลขาคิดอะไรกับผมกันแน่  ฮึๆ”  แม้น้ำเสียงและรูปประโยคที่ผมใช้ออกแนวหยิกแก้มหยอก  แต่สายตาที่ผมมองฝูหรง  ผมเลือกที่จะจ้องเขม็งเข้าไปในแววตาวาวโรจน์ด้วยอารมณ์ไม่ได้ดังใจแทน 

เมื่อร้อนมาเจอร้อน  มีแต่ความร้อนจะยิ่งรุนแรงขึ้น  จึงกลายเป็นผมกับฝูหรงจ้องตากันแบบไม่มีใครยอมใคร  แต่ดีที่เด็กน่ารักของหลี่ผิงไหวพริบดี  ทำลายบรรยากาศร้อนๆด้วยการแนะนำเลขาของแฟนตัวเองให้เพื่อนๆรู้จัก  ก่อนอาหารจะถูกเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ  และความสนใจของทุกคนบนโต๊ะจะพุ่งไปที่อาหารเบื้องหน้าแทน  ผมเองก็เลือกที่จะชวนน้องๆคุย  แต่สายตาเจ้ากรรมของตัวเองก็อดไม่ได้ที่จะคอยสังเกตเลขาหน้าใสของเพื่อนเป็นระยะ

“เดี๋ยวฉันไปส่งเลขาของนายให้เอง  อยู่แถวไหนล่ะ”  หลังจากผมได้ยินหลี่ผิงสั่งให้คนสนิทอย่างอาเป๋าโทรตามรถที่บ้านอีกคันเพื่อมารับเลขาหน้าใส  จึงแกล้งผละจากโทรศัพท์ข้างหูที่ทำทีว่ากำลังคุยธุระสำคัญอยู่  เพื่อมาออกหน้ารับไปส่งให้อย่างเสียไม่ได้ 

หลี่ผิงหรี่ตามองผมอย่างรู้เท่าทัน  ก่อนจะกระตุกยิ้มใส่ตา  และทำท่าเหมือนจะปฏิเสธด้วยต้องการจะแกล้งผม

“ไม่ต้องหรอกครับนายน้อย  เดี๋ยวผมกลับเองสะดวกกว่า”  อยู่ๆประโยคนี้ก็ดังขึ้น  เล่นเอาผมสองคนก้มมองคนพูดในเวลาเดียวกัน 

ฝูหรงมองเพียงหลี่ผิงด้วยสายตาเกรงอกเกรงใจ  ไม่เหลือบแลมาทางผมสักนิด  หลี่ผิงเองก็เหลือบตามองผมอย่างขอความเห็น  แต่ขืนผมออกปากยืนยันไปส่ง  จะดูเป็นว่าผมตื๊อคนตัวเล็กจนเกินพอดีไปมั้ย  เผลอๆจะถูกตอกกลับหน้าหงายให้ช้ำใจยิ่งกว่าเดิมน่ะสิ

“ไม่ได้สิครับ  พี่ฝูหรงต้องมีคนไปส่ง  เอาแบบนี้ดีกว่า...เฮียหลี่ผิง  เราไปส่งพี่ฝูหรงก่อนกลับบ้านได้มั้ยครับ  ไม่ต้องให้พี่ฝูหรงรอรถอยู่ที่นี่คนเดียวด้วย”  เอาล่ะสิเด็กมาเฟียเล่นผมซะแล้วครับ  แต่ใบหน้าออดอ้อนที่น้องธันว์ใช้กับหลี่ผิง  บวกความหวังดีที่มีต่อเลขาคนรัก  ทำให้ผมโกรธน้องไม่ลงจริงๆ  และผลของการออดอ้อนนั้นมีหรือที่จะได้รับการปฏิเสธจากคนที่หลงแฟนหัวปักหัวปำอย่างหลี่ผิง

‘งานนี้ถ้าอยากรู้ที่อยู่เลขาหน้าใส  ผมคงต้องแอบขับรถตามเพื่อนซะล่ะมั้ง  ทำไมผมต้องมาทำอะไรให้ซับซ้อนด้วยวะเนี่ย’ 
ระหว่างที่ผมหงุดหงิดตัวเองที่ไม่มีความกล้าพอที่จะเอ่ยปากขอไปส่งคนตัวเล็กหน้าใสนั้น  นายนนหนึ่งในเพื่อนที่สนิทที่สุดของน้องธันว์ก็ส่งคำถามให้น้องได้ลังเล  แต่กลับส่งผลดีกับผมได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“อ้าว  แล้วหนังสือที่มึงจะเอาล่ะ  จะให้กูเอาไปให้พรุ่งนี้  หรือว่าจะตามไปเอาหลังจากส่งพี่ฝูหรงดี”  หลังคำพูดนายนนแล้ว  น้องธันว์ทำหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด 

ดูท่าหนังสือที่ว่าคงต้องใช้ในวันนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่ๆ  และก่อนมาเฟียใหญ่ที่กำลังใช้สายตาเอื้อเอ็นดูกับคนของตัวเองจะยุติปัญหาทั้งหมด  คนต้นเรื่องก็ทำท่าปฏิเสธทุกความหวังดี  แต่เรื่องอะไรที่ผมจะปล่อยโอกาสที่จะได้รู้ที่อยู่ของฝูหรงไป  แถมโอกาสครั้งนี้ก็ดูดีมีเหตุผลรองรับ  ไม่ดูเหมือนผมกระเหี้ยนกระหือรืออยากรู้มากไปด้วย  ทั้งที่ความจริงผมโคตรอยากรู้เลย

“สรุปแบบนี้แล้วกัน  เดี๋ยวผมไปส่งคุณเองนะคุณเลขา...ส่วนน้องธันว์ก็ตามไปเอาหนังสือกับเพื่อนเถอะครับ  รับรองเฮียจะส่งเลขาของหลี่ผิงให้ถึงที่อย่างปลอดภัย”  ผมจบด้วยการยักคิ้วกระตุกยิ้มน้อยๆใส่น้องธันว์  และจ้องตาอีกนิดให้น้องรู้ว่าผมยืนยันจะทำให้ได้อย่างที่พูด

เด็กมาเฟียจ้องผมพลางถอนใจก่อนพยักหน้าให้  และหันไปขอโทษฝูหรง  จนคนที่อยู่ๆโดนแฟนเจ้านายเอ่ยปากขอโทษ  ถึงกลับส่ายหน้าหวือโบกมือปฏิเสธให้วุ่น  แต่คำพูดที่ฝูหรงหลุดพูดกับน้องธันว์ทำให้ผมต้องกลั้นยิ้มด้วยความดีใจ

“ไม่ครับๆ  คุณธันว์ไม่ต้องขอโทษผมครับ  คุณพอลรับปากไปส่งผมแล้ว  ผมไม่ลำบากอะไรเลย”

อาการดีใจที่แสดงออกมากไม่ได้ของผมนั้น  คงไม่พ้นสายตาของหลี่ผิง  เพราะมันยกยิ้มน้อยๆใส่ผมอย่างเจ้าเล่ห์  และไม่วายก่อนแยกจากกัน  ดันแกล้งย้ำกับผมให้ส่งเลขาตัวเองให้ถึงที่อย่างปลอดภัยตามที่ผมรับปากไว้อีกด้วย  จนผมพาลคิดไปว่าไม่ใช่เพราะไอ้เจ้านายตัวดี  มันคิดไม่ซื่อกับเลขาตัวเองเข้าหรอกนะ  แต่ความคิดนี้มีอันสลาย  เมื่อผมเห็นสายตาและท่าทางที่หลี่ผิงใช้มองน้องธันว์เข้า

ฝ่ายหนึ่งมั่นใจได้แล้วว่าไม่มีทางคิดอะไรด้วย  แต่อีกฝ่ายนี่สิ  น่าหนักใจไม่น้อย  เพราะดูท่าจะคิดอะไรๆไปคนเดียวจนน่าโมโห  ผมน่าจะได้เจอเจ้าตัวเร็วกว่านี้จริงๆ  ให้ตายสิ!

“...เอ๊ะ!  จับทำไม  ปล่อย!  ถึงแล้วจะกลับก็รีบกลับสิ”  ผมได้ยินคำไล่ด้วยเสียงแข็งๆพร้อมตาวาวๆก็ให้นึกไม่พอใจยิ่งขึ้น  จึงเผลอบีบข้อมือในมือตัวเองซะเต็มแรง

“หึ!  ส่งถึงที่แล้วก็เฉดหัวส่งกันเลยนะ  ขอบคุณสักคำน่ะมีมั้ย  อ๋อ!?  หรือจะมีให้แค่กับหลี่ผิง...ชอบมันมากเลยเหรอ  ก็เห็นอยู่ว่ามันรักแฟนมันมาก  หรือชอบกินน้ำใต้ศอกคนอื่น  เหอะ!  แต่ที่สำคัญคงไม่ได้กินสักหยดมากกว่า  เลิกรักแบบโง่ๆซะเถอะ!!”  อารมณ์โมโหปะปนไปด้วยความหึงหวง  ทำให้ผมพ่นถ้อยคำที่ทำร้ายน้ำใจคนตรงหน้าไปเต็มๆ  แถมอาการหน้ามืดตาบอดชั่วคราว  ดันทำให้ตัวเองไม่สังเกตเห็นอาการหน้าซีด  และดวงตาภายใต้แว่นที่เคลือบคลอไปด้วยหยาดน้ำใส

“ขอบคุณที่มาส่ง!!  พูดแล้วไง  ปล่อยได้รึยังล่ะ  ไม่อยากเห็นหน้า!!”  ถ้อยคำสุดท้ายในประโยคต่อต้านทำให้เส้นความอดทนของผมขาดผึง

ผมกระชากข้อมือบางเข้าหาตัวและกระแทกปากตัวเองเข้าหากลีบปากสีแดงฉ่ำ  ก่อนใช้ฟันขบเนื้อนิ่มๆนั้นเป็นการสั่งสอน  จนได้กลิ่นคาวเลือดจางๆ  ตามมาด้วยแรงดิ้นรนของคนตัวเล็ก  ที่พยายามให้ตัวเองหลุดออกจากพันธนาการของผม  นาทีนี้ยิ่งฝูหรงดิ้นผมก็ยิ่งอยากเอาชนะ  ผมจึงเพิ่มแรงกอดรัดร่างบางเข้าหาอก  และฉกลิ้นเข้าโพรงปากอุ่นทันทียามเจ้าของริมฝีปากนุ่มเปิดปากเตรียมโวยวาย 

พายุร้ายในใจผมโหมกระพือ  ฉวยโอกาสปล้นจูบคนตัวเล็กอย่างเอาแต่ใจ  และกอบโกยความหวานที่แสนโหยหาอย่างไม่รู้เบื่อ  ไม่รับรู้ว่าเจ้าของร่างเล็กที่กรุ่นกลิ่นหอมติดจมูกนี้หยุดดิ้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่  จนกระทั่งผมสัมผัสได้ถึงรสเค็มปร่าของหยาดน้ำตา  พาให้ผมชะงักและเกิดอาการใจกระตุกขึ้นมาฉับพลัน  ก่อนผมจะค่อยๆผละออกจากริมฝีปากแสนหวาน  และดันร่างบางออกจากอก

“ฝู...หรง”  ภาพร่างเล็กที่มีใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตา  ริมฝีปากแตกจนเจ่อช้ำ  พร้อมพวงแก้มซีดเซียว  แว่นเอียงกระเท่เร่จะหลุดแหล่มิหลุดแหล่  แต่ไม่มีเสียงร้องให้ได้ยินสักแอะ  ทำเอาผมใจหวิวความรู้สึกผิดจู่โจมเข้าสู่หัวใจทันที

ผมยื่นมือไปดึงแว่นหนาออกจากใบหน้าซีดเซียว  ก่อนไล้ปลายนิ้วไปตามผิวแก้มใส  และจบที่ริมฝีปากที่แตกช้ำ  พร้อมตัดสินใจก้มหน้าเข้าหาริมฝีปากคู่ตรงหน้าอย่างช้าๆ  ซึ่งปฏิกิริยาของฝูหรงคือมีอาการเกร็งตัวขึ้น  แต่ไม่ขยับหน้าหนี  ผมจึงเหลือบตาขึ้นสบตากลมใสที่ยังมีละอองน้ำตาจางๆเคลือบอยู่ 

แววตาที่ผมเห็นไหววูบและจ้องตาผมกลับไม่กระพริบ  และในแววตาคู่เดียวกันนี้ไม่มีวี่แววรังเกียจหรือต่อต้านให้เห็น  แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับผม  ผมจึงหลับตาและยื่นหน้าเข้าหาเจ้าของลมหายใจอุ่นร้อน  ก่อนประทับริมฝีปากที่กลีบปากช้ำนิ่งนาน

“พอลขอโทษ...คิดถึงฝูหรง  คิดถึงมาตลอด”

............................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ฝูหรงและพอลมาแล้ว  ฝากติดตามความรักของคู่นี้ด้วยนะคะ
แม้เปิดเรื่องมาจะดูยุ่งๆวุ่นๆตามชื่อเรื่องไปบ้าง  แต่เพราะทั้งคู่มีอดีตร่วมกัน
ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องฝากตามกันต่อไปค่ะ
รับประกันได้อย่างหนึ่งว่าคู่นี้หวานหื่นไม่แพ้คู่ที่ผ่านๆมาแน่นอน

ตอนหน้ามาวันอาทิตย์นะคะ  เพราะพุธนี้เรามีนัดกับเบสนนในตอนพิเศษค่ะ
ฝากติดตามความรักของทั้ง 2 คู่ด้วยน้า

เบส&นน ลงตอนพิเศษแล้วค่ะ >>>  SP.1 ”ไปด้วยกันนะ”  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40461.msg2714789#msg2714789)

ปล.ติดตามเหตุการณ์เดียวกันนี้ได้  จากฝั่งของคู่ธันว์&หลี่ผิง
”เครซี่”  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38212.msg2416497#msg2416497)

 :pig4:   :L1:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 18-05-2014 09:20:00
 :katai2-1: ทำไมถึงจากกัน
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 18-05-2014 09:28:04
 :L2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 18-05-2014 09:55:46
 :mc4: ยินดีกับเรื่องใหม่อีกเรื่องค่ะ

แสดงว่าทั้งคู่รู้จักกันมาก่อนตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่มีเรื่องที่ทำให้ต้องแยกจากกัน   ว่าแต่มันเรื่องอะไร  :ling1:

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 18-05-2014 10:05:44
เย้ๆ เฮียพอลกับคุณเลขาฝูหรงมาแล้ว

ว่าแต่คู่นี้มีความหลังอะไรกันหว่า???
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: jessiblossom ที่ 18-05-2014 10:21:25
อยากอ่านคู่นี้มานานแล้ว
ดีใจมากๆเลย คิคิ
ทำไมถึงจากกันอ่า อยากรู้จัง
ให้กำลังใจนักเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-05-2014 11:18:50
มาต้อนรับเรื่องนี้ เขามีอดีตอะไรกันมานะ?ติดตามๆๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 18-05-2014 11:44:02
ต้อนรับเรื่องใหม่
พี่พอลปากร้ายจัง ทำอะไรฝูหรงไว้นะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 18-05-2014 11:50:28
พอลรังแกฝูหรงตั้งแต่ต้นเรื่องเลย :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 18-05-2014 11:55:15
 :mc4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 18-05-2014 13:28:50
กรี๊ด! มาแล้ว!   :mc4:
เด๋ยวมาเมนท์ค่ะ

..............................

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 18-05-2014 13:42:00
 :hao3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 18-05-2014 13:46:20
กรี๊ดดดดดด มีเรื่องใหม่ของคุณmissuมาอีกแล้ว
ตามอ่านๆๆๆๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 18-05-2014 13:48:14
 :pig2: ทักทายเรื่องใหม่จ้า มีอดีตอะไรนะถึงเลิกกัน
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 18-05-2014 20:48:58
 :mc4: :mc4:

มาแล้วๆๆๆๆ พอลฝูหรงมาแล้ววววว ><

คู่นี้เมื่อก่อนมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันหรือป่าวเนี่ยยย

ฝูหรงถึง(น่าจะ)หนีมา

รอค่าาาาาาา  :m1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 18-05-2014 21:08:37
ต้อนรับค่ะ  :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: เปิดเรื่องมาจุ๊บจุ๊บกันแล้ว :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 18-05-2014 21:15:16
จะรอดูว่าจะหวานหื่นอย่างที่กล่าวอ้างไว้หรือไม่   :hao6:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 18-05-2014 21:22:50
รอตอนต่อไปค่ะ :)
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 18-05-2014 22:48:18
มารอเป็นกำลังใจให้นักเขียนจ้า
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 19-05-2014 02:15:20
 :a5: :a5: :a5: :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 19-05-2014 17:34:13
อย่างนี้่ก็แสดงว่าเคยเปํนคนรักกันมาก่อนสิ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 19-05-2014 20:17:19

 :mc4:

มาให้กำลังใจเรื่องใหม่ด้วยค่ะ

  :L2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 20-05-2014 00:47:38
เหมือนคนนึงเข้าใจอะไรผิดไปซักอย่าง
ส่วนอีกคนก็ปากเสียเกินซ่อม
แล้วมันจะปรับความเข้าใจยังไงนี่...ห่างไปหลายปีซะด้วย

อ่อ...ร้อนใจอยากเจออยากรู้ แต่ไปปากเสียใส่เขา ใครจะเอาล่ะค้า พี่พอล - -"
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 20-05-2014 10:44:19
คู่ใหม่ๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 20-05-2014 14:57:26
ที่แท้ก็รู้จักกันมาก่อน อาจจะมากกว่ารู้จักเสียด้วยซ้ำ
เพราะอาการพอลมันฟ้องว่าต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่
อยากจะรื้อฟื้นก็ไม่ได้นุ่มนวลเล้ย เล่นเอาปากแตกน้ำตานองหน้า
นั่นยังไม่ร้ายเท่ากับคำพูดที่ฟังแล้วน่าหาอะไรปาหน้าสักที
งานนี้บอกเลยว่าเราอยู่ข้างฝูหรง นายพอลตายแน่ :laugh:
ไม่รู้หรอกว่าความหลังครั้งเก่าเป็นยังไง เราเอาปัจจุบันเป็นที่ตั้ง
นี่ถ้าพฤติกรรมไม่โดนใจจะหามือที่สามมาขัดขวางเสียให้เข็ด
หรือจะใต้โต๊ะให้หลี่ผิงคอยขัดขวางเพื่อนตัวเองดี :hao3:
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ ท่าทางจะยุ่งสมชื่อ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 20-05-2014 22:51:11
พอล กับ ฝูหรง เคยเป็นแฟนกันมาก่อนแล้วมีเหตุอะไรถึงต้องจากกันนะ เหมือนฝูหรงหนีพอลมาเลย
การแสดงออกของฝูหรงเมื่อเจอพอล ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีเรื่องอะไรที่เข้าใจพอลผิด จนต้องหนีมารึเปล่า
เพราะจนตอนนี้ ก็เหมือนฝูหรงยังเข้าใจว่า พอลไม่อยากเจอ ไม่อยากอยู่ใกล้ตัวเองอยู่เลยนะ
แต่พอลเองก็เถอะ ดีใจที่ได้เจอฝูหรงแท้ ๆ แต่ปากก็พาลจะหาเรื่องเค้าอยู่เรื่อย พูดจาทำร้ายจิตใจคนที่ตัวเองรัก
แล้วก็ต้องมาเสียใจกับสิ่งที่พูดไป นิสัยพอล ดูใจร้อน แล้วก็เอาแต่ใจมากพอดูเลยนะเนี่ย ท่าทางเมื่อก่อน
ฝูหรงจะยอมอ่อนให้น่าดูเลย แถมยังขี้หึง ไม่แพ้เฮียหลี่ผิงเลยนะ คิดว่าฝูหรง ก็คงแค่ปลาบปลื้มเฮียหลี่ผิงเท่านั้น
คงไม่ได้คิดอะไรเกินเลยอย่างที่พอลเข้าใจหรอก แต่ถึงพอลจะปากร้าย อารมณ์รุนแรง แต่ก็ยังดี ที่สุดท้าย
ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับน้ำตาของฝูหรง ยอมเอ่ยปากขอโทษ และพูดความรู้สึกจริง ๆ ว่าคิดถึง ค่อยน่ารักขึ้นมาหน่อย
ดูแล้วฝูหรงเอง ก็ยังรักพอลอยู่นะ  ได้เจอกันอีกครั้ง อย่างคาดไม่ถึงอย่างนี้ ก็เหมือนที่เค้าว่า เป็นคู่กันแล้ว
ก็ไม่แคล้วกันไปได้หรอก นี่คือโอกาส ที่จะให้ทั้งสองคนได้ปรับความเข้าใจกัน อยากให้ดีกันเร็ว ๆ จัง
จะได้อ่านตอนเค้าหวานใส่กันเร็ว ๆ แต่คราวนี้ขอให้พอล ต้องเป็นฝ่ายยอมอ่อนให้ฝูหรงบ้างน้า

ตอนนี้มีนลินกับไอ้ดำตูดหมึกมาแจมด้วย ว่าแต่พี่เบสของเราหายไปไหนน้อ ไม่มาด้วยเหรอคิดถึงพี่เบสแล้ว
รอตอนพิเศษ เบส&นน วันพุธนะจ้ะ ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 21-05-2014 00:45:36
น่าสนุก ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" (18/5/57) MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 21-05-2014 05:31:38
เหมือนฝูหรงเข้าใจว่าพอลไม่ชอบตัวเองเลยอ่ะ
ส่วนพอลชอบฝูหรงจริง แต่หาไม่เจอ 5 ปีเนี่ยนะ สงสารฝูหรงจัง
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" +++เบสนนUPแล้วค่า!!
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 21-05-2014 19:32:04
ปักป้ายจองที่ เย้ :really2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" +++เบสนนUPแล้วค่า!!
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 22-05-2014 13:33:17
เย้ เฮียพอล มาแล้ว

ตามต่อๆ เค้ามีเรื่องราวในอดีตยังงัยน้า

อยากรู้จังเลย

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" +++เบสนนUPแล้วค่า!!
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 23-05-2014 13:19:00
คู่นี้ก็น่าสนใจค่ะ
รู้จักกันมาก่อนด้วยๆๆๆ
>.<
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก" +++เบสนนUPแล้วค่า!!
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 23-05-2014 14:08:04
ความหลังอัลไลกันนนนนนนนน

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.1 "สวรรค์เล่นตลก"เบสนนUPแล้วค่า!!
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 24-05-2014 00:02:56
ต้อนรับเรื่องใหม่ด้วยคนนะคะ (มาช้าไปติ๊ด แหะ ๆ )
ยังไม่ได้อ่านเรื่องเก่าที่มีน้องฝูหรงกะน้องพอล เลยไม่รู้เบื้องหน้า เบื้องหลังไรเลย
ถือว่าเริ่มทำความรู้จักกะน้องฝูหรง และน้องพอลเลยละกันนะคะ
เริ่มต้นเรื่องมาก็มีปัญหากันซะแล้ว เหมือนน้องฝูหรงจะโกรธอะไรน้องพอลซักอย่าง
ไม่รู้เป็นเรื่องเข้าใจผิด หรือน้องพอลทำอะไรให้น้องฝูหรงเสียใจ กับเรื่องบางอย่างในอดีตกันแน่
แล้วน้องฝูหรงจะยอมให้อภัยน้องพอลไหมนะ ทั้งขอโทษ และบอกว่าคิดถึงด้วยอะ ซึ้งจัง
แต่ถ้าเรื่องในอดีตมันเลวร้ายมาก แค่นี้คงยังไม่พออะเนอะ น้องพอลคงต้องพยามเอาชนะเรื่องยุ่ง ๆ ให้ได้อะนะ
สงสัยต้องให้มาเฟียใหญ่ที่น้องฝูหรงแสนเกรงใจเป็นตัวช่วยซะแล้ว
ปล. คิดว่าน่าจะแค่เกรงใจ ไม่น่าจะมีใจหรอกนะน้องพอล เพราะงั้นอย่าหึงโหดน๊าสงสารน้องฝูหรงอะ
รอติดตาม และบวก บวก เป็นกำลังใจให้คุณมาศต่อไปนะค๊า  :pig4:  :L2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 25-05-2014 09:23:35
ตอนที่ 2

โจวพอล

   “กาแฟ!  เช้ากินแค่นั้นน่ะนะ  มิน่าตัวถึงมีอยู่แค่นั้น  ไม่ต่างจากแต่ก่อนเลย”  ผมมองตามร่างเล็กในชุดสูทสีดำพอดีตัว  ที่เพิ่งเดินออกจากร้านกาแฟแบรนด์ดัง  โดยมีกาแฟเพียงแก้วเดียวถือติดมือออกมา  ก่อนผมจะสะกดรอยตามคนตรงหน้าไปห่างๆ  และเลือกที่จะไม่เข้าใกล้จนอีกฝ่ายรู้ตัว
   
เจินฝูหรงหรือที่ใครต่อใครเรียกว่า  ‘ฝูหรง’  และเป็นคนเดียวกับคนที่ผมเคยมอบฉายาอันแสนเหมาะเจาะให้กับเจ้าตัวว่า  ‘กระต่ายน้อย’  ด้วยผิวที่ขาวไร้ตำหนิดังขนกระต่ายตัวขาวปลอด  และยามลูบไล้ก็ให้สัมผัสนุ่มมือ  โดยเฉพาะพวงแก้มใสที่ไม่ได้มีดีแค่ความนุ่ม  แต่ยังส่งกลิ่นหอมอ่อนๆพาติดใจยามใกล้ชิดเสมอ 

ส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ฝูหรงได้ฉายากระต่ายน้อยจากผมคือ  ดวงตากลมโตอันเป็นคุณลักษณะเด่นประจำตัว  ที่สำคัญดวงตาคู่นั้นมักจะจับจ้องมาเพียงผมด้วยความชื่นชม  พร้อมถ่ายทอดอารมณ์ของเจ้าของตามช่วงเวลานั้นๆ  อย่างไม่ปิดบังความรู้สึก  ด้วยยามดีใจดวงตาคู่นั้นมักทอประกายระยิบระยับจับตา  เหมือนว่ามีดาวนับพันส่องแสงอยู่ภายใน  พาให้คนมองกระตือรือร้นที่จะทำทุกอย่างให้แววตาคู่ดังกล่าวคงอยู่นานเท่านาน  แต่ยามเศร้าเสียใจดวงตาคู่เดียวกันนี้  กลับแดงก่ำและเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา  ทำให้คนที่ได้เห็นหดหู่พาลเจ็บปวดแทบขาดใจ  และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเช่นกัน  เพื่อให้แววตาเศร้าๆนั้นจางหายให้เร็วที่สุด  และทั้งหมดทั้งมวลที่ประกอบเป็นกระต่ายน้อยตัวนี้นั้น  ทำผมไม่มีวันลืมจนถึงทุกวันนี้
   
ผมรู้จักกับฝูหรงช่วงที่ผมเรียนอยู่เกรดสิบสอง  โดยที่ฝูหรงย้ายมาอยู่กับป้าที่คอนโดเดียวกับที่ปาปาซื้อไว้ให้ผม  หลังจากพ่อแม่ฝูหรงเสียชีวิตจากเครื่องบินตก  ส่วนเหตุการณ์ครั้งแรกที่ทำให้เราเจอกันนั้นเกิดขึ้นในลิฟต์ของคอนโด  ระหว่างที่ผมหอบกระเป๋าหอบถุงข้าวของที่เพิ่งซื้อมา  เตรียมเดินเข้าลิฟต์เพื่อขึ้นห้องตัวเอง  ฝูหรงก็กระโจนพรวดออกมาแบบไม่ดูทาง  จนมาชนผมทำให้ข้าวของตกกระจายเกลื่อนพื้น 

ผมจำนาทีนั้นได้ไม่มีวันลืม  นาทีที่เงยหน้าขึ้นสบตากลมโตที่แดงก่ำ  และฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตา  ฝูหรงยามนั้นทำให้ผมนึกถึงกระต่ายน้อยตาแดงขึ้นมา  หลังจากต่างฝ่ายต่างหายจากอาการตกตะลึง  ผมก็ได้กระต่ายน้อยตาแดงช่วยเก็บของ  และช่วยขนของขึ้นมาส่งให้ถึงห้อง  โดยที่ถูกผมอ้างถึงความผิดที่เดินไม่ดูทาง  และให้กระต่ายน้อยได้ชดเชยในความผิดที่ก่อไว้ 

เมื่อขึ้นมาถึงห้องผมก็ยื้อเวลา  ด้วยการหลอกถามชื่อถามเลขห้องพัก  กระต่ายน้อยแสนซื่อก็ตอบแบบไม่มีหมกเม็ด  คุยไปคุยมาเรากลับสนิทกันได้เร็วอย่างน่าประหลาด  อาจจะเป็นเพราะผมถูกชะตาตั้งแต่แรกพบ  ถูกใจในความขี้อาย  และติดใจในแววตาเศร้าๆพาใจหายนั่นก็ได้  ทำให้โจวพอลที่ใครๆพาต่างกันพูดถึงว่าเป็นผู้ชายที่เข้าถึงยาก  ไม่เปิดโอกาสให้ใครง่ายๆนอกจากเพื่อนสนิท  ยอมที่จะเป็นคนสอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก 

วันนั้นผมจึงได้รู้ช่วงชีวิตที่แสนเศร้าของกระต่ายน้อยตาแดงของผม  ทำให้ผมนึกเห็นใจและเอ็นดูในตัวเพื่อนคนใหม่มากเป็นพิเศษ  จนเราสนิทกันเพราะฝูหรงมาหาผมที่ห้องบ่อยๆ  บวกกับเจ้าตัวเพิ่งย้ายโรงเรียนด้วย  จึงไม่มีเพื่อนในเมืองนี้สักคน  ด้วยฝูหรงคงยึดผมเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวในฮ่องกง

ช่วงนั้นผมแทบไม่กลับบ้าน  ได้แต่อ้างกับปาปามามาว่าติดทำรายงานติดเรียนไปตามเรื่อง  ที่ไหนได้ผมใช้เวลาเหล่านั้นกับฝูหรงต่างหาก  ส่วนกับเพื่อนสนิทในกลุ่ม  พวกมันก็ได้แต่สงสัยที่ผมไม่ค่อยเข้ากลุ่มยามว่างเหมือนปกติที่เคยเป็น  แต่มันก็แค่ถามด้วยความเป็นห่วงไม่มีก้าวก่ายให้ลำบากใจ  ทำให้ในตอนนั้นทั้งหลี่ผิง  โจเซฟ  และไรอัน  ไม่มีใครรู้จักฝูหรงสักคน

ส่วนสถานะของผมกับฝูหรงในช่วงสี่เดือนมันก้ำกึ่งระหว่างเพื่อนสนิทและคนรู้ใจ  ด้วยเราต่างไม่มีใครเอ่ยถึงสถานะให้ชัดเจน  แต่พฤติกรรมที่เราปฏิบัติต่อกันไม่ต่างจากการที่คนรักเค้าทำให้กันเลย  เพราะคงไม่มีเพื่อนผู้ชายคนไหนที่ผมจะคอยเป็นห่วง  คอยตามดูแลอย่างใกล้ชิดเท่าที่ทำกับฝูหรง  และผมก็ไม่เคยคิดพิศวาสเพื่อนผู้ชายหน้าไหน  ถึงขั้นเข้านัวเนียอยากจะหอมจะจูบยามได้ใกล้ชิด  หรือแม้แต่การนอนกอดกันยามค่ำคืนจนตื่นมาด้วยกันยามเช้า 

ตลอดสี่เดือนที่เราไม่เคยระบุสถานะระหว่างกันให้ชัดเจนนั้น  ผมไม่เคยมีอะไรเกินเลยกับฝูหรง  นอกจากการกระทำที่เล่าไปเลย  แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยทำ  และทำให้ผมเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้  คือการที่ผมไม่เคยบอกรักฝูหรงสักครั้ง  อาจจะเป็นเพราะช่วงวัยที่ทำให้ตัวเองสับสนและไม่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองมากนัก  แม้ตอนนั้นความรู้สึกของผมจะใกล้เคียงกับคำว่ารักมากที่สุดแล้วก็ตาม 

หากผมรู้ว่าการที่ผมไม่พูดไม่บอกความรู้สึกนี้แก่ฝูหรง  จะนำมาซึ่งความเสียใจและการพลัดพรากล่ะก็  ผมจะไม่มีวันลังเลเป็นคนปากหนักเด็ดขาด  ด้วยมันเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมต้องสูญเสียคนที่ผมคิดว่ารักไป 

ด้วยวันหนึ่งอยู่ๆฝูหรงก็หายไปจากชีวิตของผม  เรียกได้ว่าวันนั้นผมมองไปทางไหนก็มืดมนพาลหดหู่ไปหมด  ด้วยตามหากระต่ายน้อยแสนรักไม่เจอ  ทั้งที่คอนโดและที่โรงเรียนของฝูหรง  เหมือนว่าอยู่ๆฝูหรงก็หายตัวไปไม่ทิ้งร่องรอยอะไรให้ผมติดตามได้เลย  กึ่งๆเค้าไม่เคยมีตัวตนในช่วงสี่เดือนนั้นเลยด้วยซ้ำ  เพราะข้าวของในห้องคอนโดที่ฝูหรงอยู่กับป้านั้น  ถูกย้ายออกจนห้องว่างโล่ง  ไม่มีเศษกระดาษเหลือสักชิ้นหรือแม้แต่ร่องรอยว่าเคยมีคนอาศัยอยู่ 

ส่วนที่โรงเรียนก็ไม่มีข้อมูลอะไรให้ผมมากนัก  ด้วยฝูหรงเป็นเด็กที่จบการศึกษาเกรดสิบสองและต้องต่อระดับมหาวิทยาลัย  ไม่ใช่เด็กที่ต้องเรียนต่อในโรงเรียนปีต่อไป  แถมใบจบเจ้าตัวก็รับไปในวันจบการศึกษาแล้วด้วย  และที่สำคัญเพื่อนๆในโรงเรียนก็ไม่มีใครสนิทกับฝูหรงเลยสักคน  หนักถึงขั้นบางคนไม่รู้จักว่าฝูหรงหน้าตาเป็นอย่างไรด้วยซ้ำ

ผมเสียหลักและแอบเสียใจอยู่เงียบๆคนเดียว  ด้วยไม่เคยมีใครรู้จักฝูหรงมาก่อน  ผมจึงไม่รู้จะไประบายกับใคร  ด้วยคิดว่าคงไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกผมในยามนั้นได้เลย  พาลคิดไปเองด้วยซ้ำว่าฝูหรงไม่มีตัวตนบนโลกมนุษย์  และอาจจะเป็นเทวดาแปลงร่างลงมาเล่นกับความรู้สึกของผม  เพื่อลงโทษและสั่งสอนผู้ชายเจ้าชู้ที่ไม่เคยสนใจความรู้สึกของคนที่ควงด้วย  ให้รู้จักคำว่าเสียใจเหมือนอย่างที่บรรดาคู่ควงของผมได้รับดูบ้าง

เมื่อวานช่วงเวลาที่ผมได้เจอเจินฝูหรงอีกครั้ง  มันจึงไม่ต่างจากการที่ผมได้ของล้ำค่าที่ทำหายไปกลับคืน  แต่ฝูหรงคงไม่คิดแบบผม  เพราะทั้งท่าทาง  สายตา  และคำพูดเหมือนไม่ใช่ฝูหรงคนเดิม  นอกจากเสี้ยวนาทีนั้นที่เราอยู่บนรถด้วยกัน  นาทีที่ผมบอกว่า  ‘คิดถึง’  ผมได้เห็นแววตาห่วงหาจากกระต่ายน้อยตัวเดิมของผม 

แต่หลังจากนั้นไม่ถึงนาที  ฝูหรงได้กลายเป็นฝูหรงคนใหม่ที่มีแต่ความเฉยชา  และแสดงอาการไม่แยแสใส่ผม  ซึ่งสำหรับผมแล้วความห่วงหาเพียงชั่วแวบก็เพียงพอแล้ว  ที่ทำให้ผมอยากจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้กระต่ายน้อยตัวเดิมของผมคืนมา  และค้นหาความจริงว่าเพราะอะไรถึงทำให้ฝูหรงหนีผมไปเมื่อห้าปีก่อน

วันนี้ผมจึงเริ่มจากการเป็นสโตกเกอร์ตามติดชีวิตยามเช้าของฝูหรง  และผมก็ต้องขัดใจจนได้  เมื่อกระต่ายน้อยตากลมของผมถูกไอ้ตี๋หน้าจืดบนรถไฟฟ้าเข้ามาตีสนิทด้วย  และดูจากท่าทางแล้วคนของผมไม่มีทีท่ารู้ตัวสักนิดว่าตัวเองกำลังโดนจีบ  ด้วยมุขเกลื่อนๆอย่างการแกล้งชน  ก่อนจะหาเรื่องชวนคุยไปเรื่อย  แถมช่วงเช้ายามชั่วโมงเร่งรีบแบบนี้ไอ้หน้าจืดนั่น  มันยังถือโอกาสค้ากำไรด้วยการเบียดตัวเข้าหาฝูหรงด้วย 

ฝูหรงเองหลังจากหันไปโบกมือและเอ่ยปากพร้อมส่งยิ้มว่าไม่ถือโทษแล้ว  เจ้าตัวก็หันหน้าหนีและขยับตัวเข้าหาผนังโบกี้  แต่กลับเป็นการเปิดโอกาสให้ไอ้นั่นประชิดตัวแนบไปกับแผ่นหลัง  ผมขยับตัวแทรกผ่านผู้คนที่อัดแน่นในขบวนรถไฟฟ้าอย่างยากลำบาก  และเริ่มหงุดหงิดที่ไม่สามารถไปถึงคนของตัวเองอย่างใจคิด  ซึ่งผมก็แทบอยากตะโกนด้วยความโกรธอย่างที่สุด  ด้วยเห็นฝูหรงสะดุ้งโหยง  และหันกลับมามองไอ้นั่นด้วยใบหน้าตื่นๆ  ผมเดาว่าไอ้หน้าจืดโรคจิตคงลวนลามคนของผมเข้าแล้ว

“โอ๊ยย!!  ทำอะไร...โอ๊ยยยยย  ปล่อยๆ”  ‘ยังมีหน้าหันตะคอกใส่กูอีกรึ’  ผมจึงลงแรงบิดข้อมือมันเพิ่มขึ้น  เป็นไปได้ผมอยากจะหักข้อมือมันซะเดี๋ยวนี้  แต่เสียงเรียกชื่อผมที่ดังข้างตัวด้วยเสียงตื่นๆทำให้ผมคลายแรงลง  เป็นจังหวะที่ประตูรถไฟฟ้าเปิดเมื่อถึงสถานีพอดี  ไอ้โรคจิตมันจึงได้โอกาสสะบัดตัว  และเดินหนีออกไปจากขบวนรถไฟฟ้า

“พอล!...ไม่ต้องตาม  ปล่อยไปเถอะ”  ผมสบตากลมโตภายใต้แว่นสายตาอันโตที่ยังมีแววตื่นตระหนกอย่างเงียบๆ  ก่อนจะโอบร่างเล็กเข้าหาอกและขยับตัวเราทั้งคู่เข้าหาผนังโบกี้  เมื่อมีผู้โดยสารตรงสถานีที่รถไฟฟ้าจอดทยอยเดินเข้ามา  โดยให้แผ่นหลังบางชนเข้ากับผนัง  และใช้ตัวผมปิดกั้นฝูหรงออกจากทุกคน 

ผมจึงได้โอกาสกอดฝูหรงโดยที่เจ้าตัวไม่มีโอกาสโวยวาย  จนร่างเล็กๆแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกับร่างผม  สัมผัสอบอุ่นและกลิ่นหอมอ่อนๆที่คุ้นเคย  ทำให้ผมเผลอสูดดมกลุ่มผมนุ่มๆไปหลายฟอด  และเผลอไล้ปลายนิ้วสอดผ่านปกบริเวณคอเสื้อ  เพื่อสัมผัสผิวอ่อนของต้นคอขาวๆอย่างเพลิดเพลิน  ฝูหรงเองก็ได้แต่ยืนนิ่งและฝังใบหน้าเข้าหาอกผมไม่มีขยับ 

จนกระทั่งถึงสถานีที่ใกล้กับโรงแรมสาขาหลักของตระกูลหวางหย่งกัง  สถานที่ทำงานของกระต่ายน้อยของผม  ฝูหรงเริ่มขยับตัวและใช้มือดันอกผมออก  ก่อนพยายามเงยหน้ามาส่งสายตาเขียวๆใส่ผม  ทั้งๆที่แก้มใสแดงก่ำอย่างน่ามอง

“ปล่อย  จะลง”  ผมจึงได้แต่คลายอ้อมกอดอย่างแสนเสียดาย  ก่อนจะเดินตามหลังร่างเล็กออกนอกขบวน

ระหว่างที่ผมเดินตามฝูหรงมาเรื่อยๆ  จนเกือบจะออกจากสถานี  ร่างเล็กๆที่เดินนำมาตลอดทาง  และดูเหมือนว่าเจ้าตัวไม่รับรู้ถึงการคงอยู่ของผม  อยู่ๆก็หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากัน  ด้วยใบหน้านิ่งสนิทติดเย็นชา  ซึ่งทำให้ผมเกือบหยุดเท้าตัวเองไม่ทัน 

“ตามมาทำไม  อ๊ะ!!...หึ้ย!  กอดทำไมเนี่ย”  ปฏิกิริยาที่ผมได้เห็นและคำพูดต่อว่าของฝูหรง  ทำให้ผมแกล้งรวบกอดร่างเล็กเข้าหาอก  และทำให้ดูเหมือนว่าตัวเองชนเพราะหยุดเท้าไม่ทัน  แต่ที่กอดก็เพราะไม่อยากให้เราล้มไปด้วยกันทั้งคู่เท่านั้นเอง...จริงๆนะ 

ผมลอบยิ้มอย่างถูกใจกับอาการดิ้นรนพร้อมการโวยวาย  ก่อนจะคลายกอดเพื่อปล่อยร่างเล็กให้เป็นอิสระ

“ใครอยากกอด  ที่กอดก็แค่ไม่ให้เราล้มไปด้วยกันต่างหาก  และถ้าจะโกรธต้องโกรธตัวเองนะ  ที่อยู่ๆก็หยุดเดิน  อ้อ!  ขอแก้ความเข้าใจผิดนะครับ  ไม่ได้ตาม  ที่เราขึ้นขบวนเดียวกันและเดินมาทางเดียวกัน  มันเป็นเพียงความบังเอิญเท่านั้น”  คงไม่ต้องบอกว่าคนตัวเล็กตรงหน้าผมจะมีอาการเช่นไร  ถ้าไม่ใช่โกรธจนพูดไม่ออก  ตาแข็งโป๊ก  แก้มแดงจัด  และริมฝีปากถูกเม้มไว้จนขาวซีด

แม้ภาพที่เห็นจะน่ามองเพียงใดและถูกใจผมมากขนาดไหน  ด้วยผมไม่เคยเห็นอาการแบบนี้ของกระต่ายน้อยมาก่อนเลย  แต่สถานการณ์ระหว่างเราไม่ควรเริ่มต้นด้วยความมาคุของอารมณ์โกรธเช่นนี้  จนผมล่ะอยากออกแรงสั่งสอนไอ้ปากไม่รักดีของตัวเองนัก  ที่พ่นคำร้ายๆออกไปก่อนสมองจะสั่งการ  แต่มันคงเป็นเพราะจิตใต้สำนึกด้วยล่ะมั้ง  ที่อยากให้คนตรงหน้าหันมาให้ความสนใจกันบ้าง  ไม่ว่าจะต้องทำด้วยวิธีไหนก็ตาม

“...น่ะ  นาย!...หึ้ย!”  ฝูหรงสบถเบาๆ  ก่อนจะหมุนตัวและทำท่าจะเดินจากไป  แต่เจ้าตัวก็มีอันชะงักเท้า  เมื่อเห็นปฏิกิริยาของผู้คนรอบตัวที่จับจ้องมาที่เราทั้งคู่  ‘ตกใจจนก้าวขาไม่ออกเลยล่ะซิ’

“ฮึๆ...ตามมานี่”  หลังจากผมคว้าข้อมือของฝูหรงได้  ผมก็ก้าวนำหน้า  เพื่อพากระต่ายน้อยที่แสนขี้อายไม่เปลี่ยนไปจากเดิมให้ออกเดิน  หนีสายตาอยากรู้อยากเห็นรอบกาย

ผมเหลือบมองคนข้างๆก็ให้นึกสงสารปนเอ็นดู  เมื่อฝูหรงเอาแต่ก้มหน้ามองพื้น  และได้แต่ก้าวเดินตามแรงจับจูงของผม  อาการนี้เป็นฝูหรงในแบบฉบับเมื่อห้าปีก่อนไม่มีผิดเพี้ยน  ทำเอาผมนึกครึ้มใจที่ได้เห็นกิริยานี้อีกครั้ง  ในที่สุดผมก็พาคนขี้อายมาส่งถึงหน้าโรงแรมใหญ่จนได้  แต่ดูท่าเลขาของลูกชายเจ้าของโรงแรมจะยังไม่รู้สึกตัว

“ถึงแล้ว...หาอะไรกินเพิ่มอีกหน่อยมั้ย  แล้วค่อยเข้างาน”  หลังจากผมใช้เสียงนุ่มๆเรียกสติฝูหรง  ใบหน้าขาวๆก็เงยหน้าขึ้นสบตา  และแววตาไม่มั่นใจที่ได้เห็น  ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะส่งคำถามแสดงความห่วงใยออกไป  แถมยังเป็นคำถามที่ทำให้อีกฝ่ายรู้ตัวได้เลยว่า  ที่ผมปฏิเสธไปก่อนหน้าว่าผมไม่ได้ตามเจ้าตัวมานั้น  ผมโกหก!

แต่ฝูหรงยามนี้ที่เพิ่งได้สติ  กลับไม่สะดุดหูในคำพูดของผมสักนิด  เพราะเจ้าตัวทำเพียงบิดข้อมือออกจากอุ้งมือ  และขมวดคิ้วทำหน้ามุ่ยเข้าใส่  ก่อนจะหมุนตัวเดินหนีผมเข้าตึกไปดื้อๆ  ผมจึงได้แต่เอามือล้วงกระเป๋าและมองตามแผ่นหลังบาง  ด้วยรอยยิ้มน้อยๆจนกระทั่งร่างนั้นลับสายตา

“ตอนนี้หนีได้หนีไป  แต่อย่าคิดว่าจะรอดเลยกระต่ายน้อยของพอล  ฮึๆ”  ผมหมุนตัวและเดินจากมา  ท่ามกลางสายตาไม่ไว้วางใจของแขกที่มาพักของโรงแรมหวางหย่งกัง

เช้านี้ผมยอมยกพลกลับไปตั้งหลักใหม่ก่อนก็ได้  ในเมื่อผมรู้ทั้งที่พักและวิถีชีวิตยามเช้าก่อนเข้างานของกระต่ายน้อยแสนรักแล้ว  ใยต้องกลัวอะไรอีก  แถมผมยังจะได้ข้อมูลเชิงลึกของฝูหรงที่ให้นักสืบมืออาชีพที่ไว้ใจได้ไปสืบมาให้อีกด้วย  งานนี้กระต่ายน้อยไม่มีทางดิ้นหลุดไปจากอุ้งมือผมเหมือนในอดีตอย่างแน่นอน  แต่ข้อมูลที่ได้รับในช่วงสายจากนักสืบทำให้ผมแปลกใจ  เมื่อผมได้รู้ว่าฝูหรงหนีผมไปถึงนิวยอร์ก  และเพิ่งกลับมาอยู่ที่ฮ่องกงเมื่อสักห้าเดือนก่อนนี่เอง 

การกลับมาครั้งนี้ฝูหรงกลับมาคนเดียวไร้วี่แววของคนเป็นป้า  แถมยังมีทรัพย์สินในธนาคารจำนวนที่ว่าสามารถทำให้พวกเราเรียกว่าเศรษฐีได้เลยทีเดียว  ซึ่งเรื่องนี้ผิดไปจากฐานะของฝูหรงและป้าเมื่อห้าปีก่อนมากนัก  ตอนนั้นแม้ทั้งคู่จะไม่ได้ยากจน  แต่ก็มีแค่พอมีพอใช้เท่านั้น  เรื่องนี้ผมรู้ดีเพราะอย่างที่บอก  ช่วงเวลาสี่เดือนนั้นผมคลุกคลีกับคู่ป้าหลานมากกว่าใคร 

‘ช่วงห้าปีที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน  เกิดอะไรขึ้นในชีวิตกระต่ายน้อยของผมกันแน่’

“ขอโทษนะครับคุณลูกค้า  มีอะไรให้เราช่วยมั้ยครับ”  ผมลดหนังสือพิมพ์ในมือลง  ก่อนเงยหน้าขึ้นเลิกคิ้วจ้องตาใส่พนักงานรักษาความปลอดภัยประจำโรงแรม 

แม้ใบหน้าของผู้ชายตรงหน้าจะยิ้มแย้ม  แต่สายตาจริงจังที่ใช้จับจ้องผมอย่างจับสังเกตและเฝ้าระวังนั้น  บ่งบอกได้เลยว่าผมได้กลายเป็นบุคคลที่น่าสงสัยของโรงแรมหวางหย่งกังเข้าแล้ว  แถมยังมีพนักงานต้อนรับทั้งหญิงและชายไม่ต่ำกว่าสามคน  มองมาทางเราทั้งคู่ไม่วางตาอีกด้วย  จะไม่ให้พนักงานเหล่านี้สงสัยผมได้อย่างไร  ในเมื่อผมมานั่งบนโซฟาหน้าล็อบบี้โรงแรมนิ่งๆ  โดยไม่มีทีท่าจะติดต่อขอเข้าพักอยู่ร่วมชั่วโมงแล้ว  ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าผมมาทำอะไรที่นี่  ถ้าไม่ใช่นั่งรอใครบางคนเลิกงาน 

ผมต้องยอมรับในความเป็นมืออาชีพของพนักงานที่นี่ทุกคน  ด้วยไม่คิดทำอะไรกระโตกกระตากให้แขกคนอื่นผิดสังเกต  เพราะยังคงยิ้มแย้มและมีทีท่านอบน้อมให้เกียรติคนที่เป็นบุคคลน่าสงสัยอย่างผมไม่เปลี่ยน  แต่หากผมเล่นตุกติกหรือทำตัวเข้าข่ายเป็นตัวอันตราย  คงพร้อมเข้ารวบตัวผมอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบได้อย่างแน่นอน

“ผมมานั่งรอคนรักผมเลิกงานน่ะครับ”  ผมเลือกที่จะบอกจุดประสงค์หลักของการกระทำ  แทนการเปิดเผยตัวว่าผมใคร 

หากบอกไปว่าผมคือ  ‘โจว  พอล  วอร์เลนโต้’  เพื่อนสนิทของนายน้อยหวางหลี่ผิงล่ะก็  พนักงานคงจะแตกตื่นจนไม่เป็นอันทำอะไรซะมากกว่า  แต่คำตอบผมกลับทำให้ได้คำถามตามมาอีกจนได้  แถมคราวนี้แววตาที่เคยจริงจังกลับเพิ่มความเข้มจ้องผมไม่กระพริบเข้าไปอีก

“ขอโทษนะครับ  ใครคือคนรักของคุณ  เพราะปกติโรงแรมเราจะไม่อนุญาตให้ญาติหรือคนสนิทของพนักงานมานั่งรอในส่วนของลูกค้า”  ผมคงดูเป็นบุคคลที่น่าสงสัยมากในสายตาพนักงานรักษาความปลอดภัยคนนี้เข้าแล้วล่ะครับ  แต่ผมเข้าใจและไม่นึกโกรธคนตรงหน้าเลย  เพราะโรงแรมระดับห้าดาวเรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ 

ผมตั้งใจที่จะเฉลยว่าตัวเองเป็นใครอยู่แล้วเชียว  หากหางตาจะไม่เห็นฝูหรงเดินออกมาจากลิฟต์

“นั่นไงครับคนรักผม”  พนักงานรักษาความปลอดภัยหันไปตามปลายนิ้วของผม  ก่อนจะชะงักและหันมามองหน้าผมอย่างไม่ไว้ใจ  มีก้มหัวให้ผมนิดและเดินลิ่วไปหาฝูหรง  ที่ยามนี้เดินเข้ามาใกล้บริเวณล็อบบี้มากแล้ว

ผมจึงลุกขึ้นยืนมีขยับสูทนิดหน่อย  ก่อนล้วงมือเข้ากระเป๋ากางเกง  เพื่อเตรียมตั้งรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น  ในนาทีต่อมาผมต้องกลั้นขำให้กับสีหน้าตกใจของฝูหรง  ด้วยพนักงานรักษาความปลอดภัยคงถามล่ะครับว่าได้นัดคนรักให้มารอรึเปล่า  ฝูหรงหันมาทางผมด้วยใบหน้าเครียดๆแววตาโกรธขึ้งชัดเจน  และหันไปส่ายหน้ากับบรรดาพนักงานที่อยู่ตรงนั้น  คงบอกปฏิเสธว่าผมไม่ใช่คนรักนั่นแหละ  ทำให้พนักงานรักษาความปลอดภัยคนเดิม  เดินตรงมาที่ผมด้วยสีหน้าเครียดขึง  ดูท่าคงตั้งใจเข้ามาลากผมออกจากโรงแรมอย่างแน่นอน  แต่ผมไม่คิดจะเดือดร้อนยังคงยืนยิ้มใส่ตาคนตัวเล็กได้อยู่  แต่กลับเป็นฝูหรงเองที่เริ่มมีทีท่าลุกลี้ลุกลน  ยามได้เห็นท่าทางคุกคามของพนักงานรักษาความปลอดภัยร่างยักษ์เข้า

“ขอโทษนะครับ  ผมคงต้องเชิญคุณออกนอกโรงแรม”  ประโยคอ่อนน้อมนี้มาพร้อมฝ่ามือที่กุมกระชับเข้าที่ท่อนแขน  ผมก็ยังคงยืนยิ้มด้วยท่าทางสบายๆ  และต้องยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม  เมื่อคนตัวเล็กซอยเท้าเข้ามาใกล้  และหยุดยืนตรงหน้าผมด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

“อ่ะ...เอ่อ  พี่จางครับ  ปล่อยมิสเตอร์โจวเถอะครับ”  ถึงกลับพูดติดอ่างเลยเหรอกระต่ายน้อย 

“ทำไมล่ะครับคุณฝูหรง  ก็ไหนว่าไม่ใช่คนรักไงครับ  และคุณคนนี้ก็มีพฤติกรรมน่าสงสัยด้วย  นั่งอยู่ตรงนี้เป็นชั่วโมงแล้ว  ผมกลัวว่าจะมาสร้างความเดือดร้อนให้โรงแรมเรา”  ผิดจากที่ผมคิดที่ไหนล่ะ  ว่าผมโดนสงสัยในพฤติกรรมแปลกๆเข้าแล้ว 

เรื่องโดนสงสัยยังไม่น่าขายหน้าเท่ากับฝูหรงได้รู้ว่าผมมานั่งรอเค้าเป็นชั่วโมงเลย  แล้วดูซินั่นดวงตากลมๆภายใต้แว่นหันมาจ้องผมอย่างแปลกใจแกมไม่เชื่อเข้าแล้ว  ผมจึงแกล้งเบือนหน้าหนีและดึงแขนตัวเองออกมา  ก่อนจะตีหน้าเคร่งใส่พนักงานรักษาความปลอดภัยร่างยักษ์ตรงหน้าแทน

“คงเป็นเรื่องเข้าใจผิดน่ะครับพี่จาง  มิสเตอร์โจวเป็นเพื่อนสนิทนายน้อยน่ะครับ  ท่านคงแค่ล้อเล่น  เดี๋ยวผมคุยกับมิสเตอร์โจวเอง  พี่จางไปปฏิบัติหน้าที่ต่อเถอะครับ”  สิ้นคำพูดของฝูหรงแล้ว  พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ชื่อจางก็มีสีหน้าตกใจ  ก่อนจะรับคำพร้อมก้มหัวและเดินจากไป

เมื่อเราได้เผชิญหน้ากันตรงๆตามลำพังอีกครั้ง  ฝูหรงก็จ้องหน้าผมอย่างเอาเรื่อง  ตากลมๆนี่เรืองแสงวาววับ  จนแทบจะแผดเผาผมให้ร่างไหม้เป็นจุณได้เลย  ก่อนริมฝีปากสีสดจะเผยอปล่อยถ้อยคำต่อว่าผมออกมา

“คุณว่างนักรึไงถึงมาป่วนในที่ทำงานคนอื่นอย่างนี้  หรือตั้งใจมาหานายน้อยล่ะ  แต่คงเสียเที่ยวแล้วล่ะ  เพราะท่านกลับไปแล้ว  หึ!  แต่ผมว่าคุณตั้งใจมาป่วนมากกว่าใช่มั้ย” 

แม้ถ้อยคำในประโยคดังกล่าวจะเต็มไปด้วยการต่อว่าการประชดประชันและใส่ร้าย  ผมดันฟังเพลินไปกับเสียงใสๆที่ห่างหายไปนาน  และมองเพลินไปกับริมฝีปากแดงๆที่ขยับเจื้อยแจ้วไม่หยุด  พาลคิดไปถึงรสชาติหวานๆของริมฝีปากคู่นี้ที่ผมได้ชิมไปเมื่อวาน  ทำให้ผมไม่ทันตอบโต้ประโยคดังกล่าว 

กลายเป็นว่าหลังจากประโยคของฝูหรง  เราต่างยืนเงียบโดยที่ผมมองคนตัวเล็กกว่ายิ้มๆ  คนที่โดนมองก็ยืนเม้มปากหน้าบึ้งจ้องมาที่ผมอย่างเอาเรื่อง  จนอีกฝ่ายเริ่มรู้ตัวว่าอาการของเราทั้งคู่ได้รับความสนใจจากคนรอบกาย  ด้วยฝูหรงมองเลิ่กลั่กไปมา  และทำท่าจะเดินหนีผมออกนอกโรงแรม  ล้มเลิกการเอาเรื่องผมไปดื้อๆซะแบบนั้น  แต่ผมไม่ยอมหรอกอุตส่าห์นั่งรอเป็นชั่วโมง  ปล่อยไปง่ายๆได้ไงล่ะ 

ผมจึงปรี่เข้าไปคว้าข้อมือของคนตัวเล็ก  และออกแรงลากกลับเข้าโรงแรม  เพื่อเข้าไปยังส่วนของลานจอดรถที่ผมจอดรถตัวเองทิ้งไว้  ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าฝูหรงจะขัดขืนแค่ไหน  แต่ก็เป็นหลังจากหลุดพ้นจากสายตาสอดรู้สอดเห็นของคนในโรงแรมแล้วนั่นแหละครับ

“ปล่อย!  ปล่อยซิ  จะลากไปไหน  ฉันไม่ไปกับนายหรอกนะ”  ได้ยินแบบนี้ต้องมีขู่กันบ้างแล้ว  เพราะขืนเจ้าตัวดิ้นมากๆเข้าจะเจ็บตัวเอา  เพราะผมไม่มีวันปล่อยมือจากกระต่ายน้อยตัวนี้  ให้ได้ไปวิ่งซุกซนหนีไปไหนได้อีกแล้ว

“หยุดดิ้น  หยุดโวยวายนะฝูหรง!  ยังไม่ได้คำตอบเลยไม่ใช่รึ  ว่าผมมานั่งรอทำไมหรือเพราะอะไร  ไปกับผมแล้วผมจะบอก”  ได้ผลครับ  เพราะฝูหรงหยุดดิ้นและมองมายังผมอย่างหวาดๆ  ด้วยผมใช้เสียงเข้าขั้นตะคอกกับเจ้าตัว  แต่พอได้เห็นแววตาสั่นๆ  กลับเป็นผมเองที่อดใจหายไม่ได้

เมื่อเปิดประตูรถฝั่งคนนั่งได้  ผมก็พยุงร่างเล็กให้นั่งลง  ซึ่งฝูหรงก็ว่าง่ายไม่มีขัดขืน  ด้วยคงกำลังตกใจไม่หาย  ผมจึงก้มตัวและชะโงกหน้าไปให้อยู่ระดับเดียวกับใบหน้าซีดๆ  ก่อนจะไล้หลังมือเข้ากับข้างแก้มใส  และจงใจมองเข้าไปในดวงตาโตๆของกระต่ายน้อยขี้ตื่นของผม  พร้อมใช้น้ำเสียงนุ่มๆเป็นการปลอบประโลม

“กระต่ายน้อยของผม  อย่าคิดหนีกันอีกเลย  เพราะต่อจากนี้ผมจะไม่มีวันปล่อยคุณไปไหนอีกแล้ว”

............................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

รักเค้า  ห่วงเค้า  คิดถึงเค้า  แต่ก็รุนแรงจังเนอะพ่อโจวพอล
ตอนนี้คงพอได้รู้กันบ้างนะคะว่าสองคนมีอดีตร่วมกันอย่างไร
แต่ยังคงเป็นคำถามว่าเพราะอะไรฝูหรงถึงหนีพอลไป
ซึ่งคำตอบนั้นจะค่อยๆเปิดเผยให้รู้  พร้อมกับได้ดูไอ้ลูกครึ่งปากเสีย
ตอดเล็กตอดน้อยกระต่ายน้อยน่ารักไปด้วย  งานนี้ไม่รู้ว่าพอลจะง้อได้ก่อน
หรือโดนตบจนน่วมก่อนกัน   :laugh:  เจอกันอีกทีวันอาทิตย์หน้านะคะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตาม   :mew1:
ดีใจมากเลยค่ะกับการต้อนรับแสนอบอุ่นของผู้อ่านที่น่ารักที่มีให้ฝูหรงและพอล

ปล.พระเอกอาจจะดูปากจัดปากร้ายไปบ้าง  ซึ่งต้องสารภาพว่าตอนแรกตั้งชื่อเรื่องคือ
“รักยุ่งๆของลูกครึ่งปากเสีย”  แต่แต่งไปแต่งมาพอลดันหวานหยดขัดกับชื่อเรื่อง
จึงหักคอเปลี่ยนเอาซะเฉยๆ  ขอโทษFCกระต่ายน้อยด้วยนะคะ (มีแล้วหรา  555)

ฝากติดตามตอนพิเศษ “รักต้องเคลียร์” เบสนนด้วยนะคะ
”ไปด้วยกันนะ”  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40461.msg2714789#msg2714789) เป็นตอนพิเศษที่เพิ่งลงไปค่ะ

 :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 25-05-2014 09:43:51
พอลชอบแกล้งฝูหรง  ตามง้อเขาไม่ใช่เหรอ
 :hao7: :hao7:

อยากรู้เหมือนกันว่าฝูหรงหายไปไหนมา เกิดอะไรขึ้น
มันเกี่ยวกับที่บ้านพอลไหม
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 25-05-2014 09:59:52
กระต่ายตบก็ไม่เจ็บหรอก นิ่มๆ แบบนี้พอลคงฟินมาก


ฝูหรงน่ารักอ่ะ เป็นหนุ่มวัย 25 ที่มุ้งมิ้งมาก
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 25-05-2014 10:20:55
แต่จริงๆ น่าจะเป็นชื่อเรื่องว่า "รักยุ่งๆ ของลูกครึ่งปากเสีย" นะ  เพราะหมั่นไส้อิตาพอล  ปากเสีย ปากหนักทุกครั้งที่เจอฝูหรง  แต่พอเห็นฝูหรงหน้าหงอย  อิตาพอลถึงค่อยง้อ   

อิตาพอลคงต้องหาคำตอบให้ได้ว่า 5 ปีก่อน ฝูหรงไปทำอะไรที่นิวยอร์ก และคุณป้าของฝูหรงหายไปไหน  และก็ต้องทำให้ตัวเองหายปากหนักที่จะบอกรักฝูหรง  ให้มีความมั่นใจในตัวพอลมากขึ้น
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 25-05-2014 12:09:36
ปากแข็ง ปากหนัก ปากเสีย สารพัด :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 25-05-2014 13:18:15
แบบนี้เขาเรียกซึนใช่ไหมคุณโจวพอล ฮ่ะๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 25-05-2014 15:29:45
 :hao7:พอลจับกระต่ายน้อยไว้ ไม่มีสันปล่อยซะแล้วทำไงดี
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 25-05-2014 18:41:04
+1 เป็นกำลังใจให้พอลง้อกระต่ายน้อยให้สำเร็จเร็วๆน้าาาาา     :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: Mafiaziip ที่ 25-05-2014 22:57:59
คุยกับเค้าดีๆหน่อยเถอะพอล

 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 25-05-2014 23:11:43
พอลลลลเบาๆ(?) กับฝูหรงหน่อย ดูสิ กลัวจนสั่นแล้วนั่นน่ะ

ปากเสียมากๆ ระวังจะโดนฝูหรงเอาคืนนะค่าาาาาาาา  :laugh:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 26-05-2014 05:48:21
เง้อ ขออภัยที่ต้องขอแปะอีกแล้วค่ะ
เย็นนี้จะตามอ่านรวดเลยนะคะ  :กอด1:

..............................

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 26-05-2014 06:57:40
 :z13:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 26-05-2014 09:46:35
เอาล่ะอยากรู้แล้วสิว่า ฝูหรง หนี เฮีบพอล ทำไม

แล้วเฮียรูปหล่อจะง้อ ฝูหรง แบบไหนน้า

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 26-05-2014 10:35:20
กลัวกระต่ายหนีก็ต้องเอาใจกัหน่อย :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 26-05-2014 11:56:02
เชียร์เฮียพอลบอกเลย ฮ่าาาาาาาาาาา

เฮียพอลคราวนี้จับให้มั่นล่ะ อย่าปล่อยให้หลุดมือไปเชียว
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 26-05-2014 12:28:14
กระต่ายน้อยลับเล็บไว้ตะกรุยหน้าเลย :katai1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-05-2014 17:12:45
กระต่ายน้อยตอนนี้คงหนีพอลไปพ้นหรอก โดนตามติดซะขนาดนี้
เราก็อยากรู้ว่าฝูหรงทำไมหนีพอลไป
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 26-05-2014 17:14:52
ุพอลตามติดฝูหรงขนาดนี้ คงหนีไปไหนไม่ได้
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 26-05-2014 20:00:12
เค้ามีอดีตกันนี่นา
ไอ้เราก็หลงนึกว่าจะเป็นรักแรกพบ :hao6:

คุณป้าคงเสียแล้วใช่มั้ยนะ
อิตาพอลนี่ก็น่าโดนตีปากจริงๆ
พูดจาทำร้ายจิตใจกระต่ายน้อยได้ยังไง :angry2:

ปล.ขอพระเอกคนนี้ไม่หวานเลี่ยนซักเรื่องได้มั้ยนะคนเขียนจ๋า :-[
ปล2. สังเกตว่านายเอกของคุณคนเขียนต้องเป็นตัวอะไรซักอย่างทุกเรื่องเลยแฮะ น่าเอ็นดู  :กอด1:
หัวข้อ: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 26-05-2014 21:38:08
แรกเจอกันของนายพอลกับกระต่ายน้อย ทำไมฝูหรงถึงร้องไห้ล่ะ มีเรื่องเศร้าอะไร
ชีวิตฝูหรงดูน่าสงสารจังเลย  เพื่อนก็ไม่ค่อยมี บางคนไม่รู้ถึงการมีตัวตนของฝูหรงด้วยซ้ำ โถ
เหมือนมีพอลคนเดียวให้เป็นที่พักพิงเลยนะ แต่คิดว่าพอลกับฝูหรงเคยเป็นแฟนกันมาก่อนซะอีกนะ
ที่ไหนได้ นายพอลไม่เคยบอกรัก ทั้งที่การกระทำทุกอย่างมันเป็นการกระทำของแฟนกันแท้ ๆ
สถานะที่ไม่ชัดเจน แล้วยังฐานะที่ต่างกันในตอนนั้น คงทำให้ฝูหรงคิดมากเรื่องนี้เหมือนกันสินะ
แล้วอะไรทำให้ฝูหรงหนีพอลมา แถมเจอกันอีกครั้งก็ทำเฉยชาใส่พอลซะอีก ต้องรอพอลตามล่าหาความจริง
ว่าแต่ ถึงขั้นสะกดรอยตามกันเลยเหรอเนี่ยพอล แต่ก็นะ อยากทำดีกับเค้า อยากให้เค้าดีด้วย
แต่ก็ยังไม่วายปากเสียตลอด ๆ แถมคราวนี้มาตะคอกใส่กระต่ายน้อยของเราอีกนะนายพอล ชิส์  :m16:
แล้วก็มาเสียใจทีหลัง มาพูดดีด้วยทีหลังทุกที จะให้ดี คิดก่อนพูดซะมั่งนะนายพอล
อ่อนโยนกับกระต่ายน้อยหน่อยสิ ที่สำคัญ อุตส่าห์ได้โอกาสมาอีกครั้ง คำว่า รัก คราวนี้คงพูดได้ซะทีนะ
รอตอนต่อไปจ้า เราเป็น FC กระต่ายน้อยฝูหรงแล้วน้า น่ารักน่ากอด  :กอด1:
ขอบคุณคนเขียนจ้ะ   :L2:
 
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 26-05-2014 23:43:30
ง่าาาาาา มาแย้วววววววว ขอแปะก่อนนนนน :mc4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2 (25/5/57) แรกเจอ!?
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 27-05-2014 10:36:21
ชีวิตฝูหรงช่างน่าค้นหา ช่วงเวลาที่หายไปเกิดอะไรขึ้นกันนะ
ทั้งเรื่องที่อยู่ๆก็หายไป ทั้งเรื่องฐานะที่แตกต่างจากเดิม
แล้วท่าทีที่แสดงออกกับลูกครึ่งรูปหล่อนี่อีกล่ะเกิดจากอะไร
หรือว่าหมั่นใส้คนปากหนักไม่ขยับความสัมพันธ์สักที
แสดงว่าก่อนหน้านี้ฝูหรงเองก็มีใจให้เขาแล้วเหมือนกันใช่มั๊ย
ดูเหมือนว่าเราจะมีแต่คำถามเต็มไปหมด ก็เพิ่งเริ่มเรื่องนี่เนาะ :m23:
คงต้องติดตามต่อไปเช่นเคย :hao3:
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2>>UP เบสนนแล้ว!
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 28-05-2014 18:48:12
อึ๊บๆ  ดันๆ   :hao7:

แจ้งข่าว UP ตอนพิเศษ2  "โดน" (เบส+นน)  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40461.msg2721265#msg2721265)  แล้วนะคะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2>>UP เบสนนแล้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 28-05-2014 20:25:10
ตามไปอ่านจ้า

อย่าลืม ฝูหรงกะเฮียพอล น้า

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2>>UP เบสนนแล้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 30-05-2014 22:54:40
ตอนนี้คันมาก อยากรู้ว่าในอดีตเกิดอะไรขึ้นนนนนน :z3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2>>UP เบสนนแล้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 31-05-2014 08:09:20
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับฝูหรงในอดีตอ่ะ แต่ให้เดาส่วนหนึ่งที่ฝูหรงไปโดยไม่ลา
คงเพราะความปากแข็งของพระเอกปากเสีย ที่ไม่ยอมบอกรักด้วยแน่เลย ฮึ....
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2>>UP เบสนนแล้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 31-05-2014 10:02:07
สงสัยจะเป็นนิยายแบบตบจูบกระมังคะ  :mew3:
ชอบชื่อเรื่องเดิมมากด้วยค่ะเพราะอ่านมาแค่สองตอนก็ตรงเป๊ะๆ 5555
เดี๋ยวตามไปอ่านตอนพิเศษที่ให้ลิงค์มาค่า ^^
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.2 "กระต่ายน้อย" P.2>>UP เบสนนแล้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 31-05-2014 17:57:32

หมั่นไส้อิตาลูกครึ่งปากเสียนี่จัง
อยากรู้มากเกิดอะไรขึ้นในอดีตถึงต้องจากกัน

 :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 01-06-2014 10:20:50
ตอนที่ 3

เจินฝูหรง

‘กระต่ายน้อยของผม  อย่าคิดหนีกันอีกเลย  เพราะต่อจากนี้ผมจะไม่มีวันปล่อยคุณไปไหนอีกแล้ว’ 

ประโยคดังกล่าวดังวนเวียนอยู่ในหัวของผม  เหมือนใครกดปุ่มรีเพลย์ซ้ำไปซ้ำมาจนกระทั่งถึงนาทีนี้  นาทีที่รถยนต์ที่ผมนั่งเงียบมาตลอดทาง  จอดลงยังลานจอดรถของคอนโดที่ผมพักอาศัย

หากคุณถามผมว่าหลังประโยคดังกล่าวผมมีอาการอย่างไร  ในเมื่อเจ้าของประโยคเอาแต่ใจ  สื่อชัดถึงความตั้งใจว่าไม่มีวันปล่อยผมไปไหนแน่นั้น  คงต้องบอกว่าความรู้สึกในใจผมมันสับสนไปหมด  ทั้งตกใจ  คาดไม่ถึง  โกรธ  และหวั่นไหว!!

จะว่าไปความรู้สึกดังกล่าวไม่ใช่เพิ่งมาเกิด  เรียกได้ว่ามันเกิดกับผมตั้งแต่เมื่อวาน  วันที่ผมกับเขาได้กลับมาเจอกันอีกครั้งด้วยความบังเอิญ  แต่เป็นความจงใจของผมมาตลอดที่พยายามหลีกเลี่ยงการเจอหน้ากัน  ตั้งแต่ผมรู้ว่าเจ้านายโดยตรงของผมเป็นเพื่อนสนิทกับคนที่เคยทำผมเจ็บช้ำ  ครั้นจะลาออกเปลี่ยนงานผมก็เสียดายงานดีๆเกินกว่าที่จะทำแบบนั้น  แต่ผมไม่คิดว่าการติดตามนายน้อยออกนอกสถานที่จะทำให้เจอโจวพอลด้วยความบังเอิญได้ 

ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานั้น  แม้มันจะรุนแรงในความรู้สึกของผมนัก  แต่ในยามที่ผมโดนขโมยจูบ  นาทีนั้นบอกเลยว่าสมองขาวโพลนคิดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ  และได้แต่ดื่มด่ำกับความหอมหวานของรสจูบ  ที่ยังคงจดจำได้ไม่ลืมในส่วนลึกของจิตใจ  ความรู้สึกตกใจความโกรธหรือแม้แต่ความรู้สึกหวั่นไหวหายไปสิ้น   

ตอนที่ผมได้ตัดสินใจกลับมายังฮ่องกงหลังจากที่จากไปร่วมห้าปี  ผมได้เตรียมใจไว้แล้วก็ตามว่าอาจจะมีโอกาสเจอกับคนในอดีต  แต่ผมไม่คิดว่าจะรวดเร็วเพียงนี้

‘โจว  พอล  วอร์เลนโต้’  หนุ่มลูกครึ่งอิตาลีฮ่องกงหน้าเข้มตัวสูงใหญ่  ที่รับการถ่ายทอดข้อดีของเชื้อชาติมาไว้ในตัวจนหมด  จนกลายเป็นชายหนุ่มรูปหล่อชนิดที่ว่าหาตัวจับได้ยาก  โดยเฉพาะดวงตาคมหวานที่ถูกล้อมกรอบด้วยขนตาหนานั้น  ทอประกายระยับจับใจผมไม่รู้ลืม  ยิ่งในวัยยี่สิบสามด้วยแล้ว  กลับได้ความสุขุมแบบผู้ใหญ่  ส่งเสริมให้ผู้ชายขี้เล่นอารมณ์ดีในอดีตของผมคนนี้  ทรงเสน่ห์พอกพูนยิ่งขึ้นไปอีก 

ผมจึงไม่แปลกใจเลย  หากปัจจุบันยามเขาปรากฏกายขึ้นที่ใด  โจวพอลจะเป็นจุดรวมสายตาของใครต่อใครแม้กระทั่งยามนี้

“เหอะ!”  ผมบอกไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกหมั่นไส้หรืออิจฉาในความดูดีของคนตรงหน้ามากกว่ากัน  แต่ก็ทำเอาผมอดใจไม่ไหวสบถเบาๆเป็นการประชด  ทั้งๆที่วางทีท่าเฉยชามาได้ตลอด  จนเดินเกือบจะถึงประตูห้องคอนโดของตัวเองแล้ว 

ใครใช้ให้คนข้างๆผมมันดูดี  จนใครต่อใครที่เดินสวนต่างมองตามจนเหลียวหลังกันล่ะ  แถมไม่ได้มีเฉพาะสาวๆแต่กับชายหนุ่มก็ไม่เว้น  ซึ่งอาการของผมคงไปสะดุดใจเจ้าของความดูดีเข้า  เพราะนายพอลหันมาเลิกคิ้วใส่ผมด้วยทีท่าสงสัยเต็มประดา  เล่นเอาผมหมั่นไส้ยิ่งไปกว่าเดิม  ด้วยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่รู้ตัวว่าได้รับความสนใจ  หรือแกล้งไม่รู้ตัวกันแน่  แต่ผมเลือกที่จะไม่ตอบและเบือนหน้าหนี  ก่อนวางนิ้วหัวแม่มือบนแท่นสแกนลายนิ้วมือพร้อมกดรหัสตัวเลขสี่หลัก 

แม้ระบบความปลอดภัยของคอนโดจะดีเยี่ยมแค่ไหน  แต่มันคงไม่ปลอดภัยหากเราเป็นฝ่ายชักนำตัวอันตรายมาด้วยตัวเอง

“เอ๊ะ!  นาย!...จะเข้ามาทำไม  มาส่งเสร็จแล้วก็กลับไปสิ”  ผมท้วงถึงคำพูดผู้บุกรุกทันที  ‘ไหนตอนอยู่ในรถบอกว่าจะแค่มาส่งไงเล่า’ 

แต่ดูท่าคำพูดผมจะไม่มีผลต่ออีกฝ่ายเลย  เพราะหลังจากนายพอลแทรกตัวผ่านประตูห้องผมเข้ามาได้  มันก็เดินผ่านผมไปอย่างไม่สนใจ  พร้อมกวาดตามองรอบๆห้องอย่างสำรวจตรวจตรา  ก่อนจะเดินไปหย่อนก้นนั่งที่โซฟาหนังสีครีมตัวยาวหน้าจอทีวีพลาสม่าของผม  ด้วยท่าทางเหมือนเป็นเจ้าของห้อง  จากการเอนหลังพิงพนักไขว่ห้างและวาดแขนไปตามยาวของโซฟา  มียกยิ้มมุมปากอย่างยียวนใส่ตาแถมให้ผมหมั่นไส้มันยิ่งขึ้นไปอีก

“บอกว่าจะมาส่ง  แต่ไม่ได้บอกนี่ว่าส่งแล้วจะกลับเลย...หึ!  เรารึอุตส่าห์ขับรถมาส่ง  แทนที่จะได้ดื่มน้ำสักแก้ว  แต่นี่อะไรกลับโดนไล่”  ‘ใครใช้ให้มาส่งเล่า!?’  ผมก็ได้แค่คิดและทำฮึดฮัดใส่เจ้าของแววตาเยาะเย้ยเท่านั้น 

ผมไม่พูดในสิ่งที่คิดเพราะกลัวว่าจะยืดเยื้อ  จึงเลือกที่จะกระแทกเท้าเดินเข้าครัวเพื่อรินน้ำ  ก่อนจะเดินกลับมากระแทกแก้วลงกับโต๊ะเตี้ยหน้าโซฟาที่ปูกระจกใสทั้งแผ่น  แอบหวั่นเหมือนกันว่ามันจะแตกคามือ  แต่นาทีนี้อารมณ์โกรธอยู่เหนือเหตุผลทั้งมวล

“[ปั้ก!]...ดื่มซะ  จะได้รีบกลับ  ผมต้องการใช้เวลาส่วนตัวในห้องของตัวเอง”  ถ้ายังหน้าด้านอยู่ต่อก็เกินคนแล้ว  แต่ผมก็ลืมไปว่าระดับโจวพอลที่ได้ฉายาว่าสิงห์เจ้าเล่ห์นั้น  ผมไม่สมควรประมาทในความคิดซับซ้อนของมัน

ระหว่างที่ผมยืนกอดอกจ้องตานายพอลที่ยกน้ำในแก้วขึ้นจิบช้าๆนั้น  มันเองก็มองผมด้วยสายตามาดหมายแบบแปลกๆ  จนผมเริ่มเอะใจแต่ก็ช้าไป  เมื่อสิงโตเจ้าป่ากระโจนพรวดมาคว้าเอวผมเข้าหาตัว  ทำให้ผมถลาตามแรงลงไปนอนเกยอกมันยังโซฟา  จนได้เห็นดวงตาสีดำขลับทอประกายระยิบระยับในระยะประชิด  จ้องมายังผมด้วยความถูกใจ  พร้อมด้วยริมฝีปากบางที่กำลังยกยิ้มก็อยู่ห่างริมฝีปากผมไม่ถึงคืบ 

นาทีนี้ผมตกใจจนหัวใจเกือบหยุดเต้น  แต่ไม่ถึงนาทีต่อมาหัวใจในอกดันเต้นถี่  ชนิดที่ว่าเจ้าของอย่างผม  อายจนอยากจะหายตัวได้  เมื่อแววตาตรงหน้าส่องแสงวิบวับรู้ทัน

“ฮึๆ  อะไรตื่นเต้นเหรอ...สงสัยเราจะห่างกันนานเกินไปแล้วมั้ง”  คำพูดที่แฝงความหมายและสายตาที่แฝงความนัย  เตือนสติผมว่าต้องเกิดเหตุการณ์อันตรายต่อร่างกายและจิตใจผมขึ้นในเสี้ยวนาทีต่อไปแน่ๆ 

ผมยังไม่ทันขยับหนี  ริมฝีปากนุ่มก็ยื่นมาแตะริมฝีปากผม  พร้อมฝ่ามือหนาที่ตรึงไว้ยังท้ายทอย  และอ้อมกอดที่รัดแน่นรอบเอว

“อืมมม”  สุดท้ายผมก็เคลิบเคลิ้มไปกับริมฝีปากนุ่มและเรียวลิ้นหวานๆจนได้  แถมจูบนี้ยังชักนำให้เกิดความรู้สึกอ่อนหวานเดิมๆกลับมา  จนผมยอมโอนอ่อนมานอนทอดร่างใต้ร่างสูงใหญ่  ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นมั่นคงมากขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างไม่รู้ตัว  แม้กระทั่งฝ่ามืออุ่นที่สอดแทรกผ่านชายเสื้อเข้ามาวนไล้แถวขอบกางเกง 

หากจะอาศัยสติตัวเองเพื่อให้รอดพ้นจากน้ำมือของสิงห์เจ้าเล่ห์  ผมคงไม่มีโอกาสรอด  แต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่มาช่วยชีวิตผมในนาทีวิกฤตที่แสนหวาน  ด้วยการดึงสติที่กระเจิดกระเจิงของผมกลับมา

“Rrr  Rrr  Rrr...[ผลัก!]...เฮือก!...คะ  ครับนายน้อย”  ผมได้สติออกแรงผลักร่างสูงเต็มแรง  ก่อนจะสูดอากาศเฮือกใหญ่  และกดรับสายเจ้านายโดยตรงของผมด้วยเสียงสั่นๆ  แต่ยังดีที่ปลายสายไม่ทีท่าว่าจะจับสังเกตอาการผมยามนี้ได้

คนที่โทรเข้ามาช่วยชีวิตผมอย่างไม่รู้ตัวนั้น  คือหวางหลี่ผิงที่เป็นเจ้านายโดยตรงของผมเองครับ  และเป็นถึงทายาทอันดับหนึ่งของตระกูลหวางหย่งกัง  ซึ่งเป็นตระกูลมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกงเลยก็ว่าได้  เรื่องหน้าตาของนายน้อยนั้นไม่เป็นสองรองใคร  แม้จะมาทางเอเชียไม่เหมือนหนุ่มลูกครึ่งที่นั่งหน้าบึ้งไม่สบอารมณ์ข้างๆผมขณะนี้ก็ตาม  แต่ก็หล่อเข้มด้วยคิ้วหนาจมูกโด่งตาคม  บวกรูปร่างสูงใหญ่ที่ผิดแปลกชาวเอเชียทั่วไป  ส่งเสริมให้นายน้อยตระกูลหวางเป็นที่จับตา  และได้รับความสนใจของผู้ที่พบเห็น  จนอยากสานสัมพันธ์กับชายหนุ่มที่มีคุณสมบัติเกินมาตรฐานคนนี้เสมอ 

ใครต่อใครก็ต้องผิดหวัง  เมื่อหวางหลี่ผิงคนนี้มีเจ้าของหัวใจเสียแล้ว  และยังเป็นรักที่มั่นคงด้วยหยั่งรากลึกมาแต่วัยเยาว์เสียอีกด้วย  แถมเจ้าของหัวใจเองก็แสนดีน่ารักน่าทะนุถนอมเป็นที่สุด  ที่สำคัญคุณธันว์ไม่เคยถือตัวว่าเป็นคนโปรดของนายน้อย  ด้วยให้ความสำคัญของคนรอบตัวนายน้อยเสมอ 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าคุณธันว์สามารถจดจำใบหน้าหรือแม้แต่ชื่อของพนักงานในโรงแรมได้ทุกคน  แม้แต่ผมคนนี้ที่แอบชื่นชอบเจ้านายตัวเอง  ยังได้รับน้ำใจจากคุณธันว์เสมอ  จนผมอดชื่นชมในตัวคุณธันว์ไม่ได้  และละอายใจทุกครั้งที่ถูกหยิบยื่นน้ำใจมาให้  ซึ่งในสายตาของผมคนทั้งคู่จึงเหมาะสมกันอย่างที่สุด 

แม้ความคิดนี้จะทำให้ผมเศร้าใจไม่น้อย  แต่ผมต้องขอยืนยันว่ายินดีกับความรักที่ทั้งคู่มีให้ต่อกันจริงๆ  และผมต้องยอมรับว่าตัวเองไม่มีอะไรดีพอที่จะเอาไปสู้กับคุณธันว์ได้เลย  แค่ความรักที่นายน้อยมีให้คุณธันว์  ผมก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ 

ผมจึงพอใจแค่ยืนดูและชื่นชมความรักของทั้งคู่อย่างห่างๆ  ประกอบกับเหตุการณ์ในมื้อกลางวันของวันนี้ด้วยแล้ว  ผมคงได้แต่ตัดใจอย่างถาวร  ด้วยนายน้อยแสดงออกชัดว่าในสายตาท่านมีเพียงคุณธันว์คนเดียวเท่านั้น  และพร้อมที่จะประกาศแก่ทุกคนว่าใครคือเจ้าของหัวใจพญามังกรหนุ่มแห่งหวางหย่งกัง 

คุณสมบัติเด่นข้อนี้ของนายน้อยล่ะมั้งครับ  ที่ทำให้ผมฝูหรงคนนี้หลงใหลได้ปลื้ม  เพราะผมไม่เคยได้รับสิ่งดีๆแบบนี้  จากคนที่ผมคาดหวังว่าจะได้สิ่งนั้นจากเขาเลย  แม้แต่ถ้อยคำรักผมก็ไม่เคยได้ยิน  จะไปหวังอะไรกับการประกาศว่าเราเป็นอะไรกัน  ห้าปีก่อนผมจึงไม่ต่างจากของเล่นของลูกเศรษฐีคนหนึ่ง  ยังดีที่มีคนมาชี้ทางสว่างให้  ไม่เช่นนั้นผมคงโง่งมตาบอดต่อไป  เพราะหลงคิดว่านั่นคือความรัก  และผมจะไม่มีวันยอมกลับไปเป็นของเล่นของใครอีกแล้ว

“...ผมเตรียมเอกสารไว้ให้เรียบร้อยแล้ว  พรุ่งนี้เช้านายน้อยสามารถมาอ่านรายละเอียดได้เลยครับ...ช่วงบ่ายไม่มีงานด่วนครับ  มีแต่ข่าวจากทางกงอินที่รายงานความคืบหน้าเข้ามา...ครับ  นายน้อย”  ผมกดวางสายหลังรับคำสุดท้ายกับเจ้านาย 

ผมมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์นิ่งๆ  ด้วยกำลังนึกชื่นชมในความเอาการเอางานของนายน้อย  เพราะยังมีแก่ใจโทรมาถามหางานจากผม  หลังจากที่ช่วงบ่ายนายน้อยไม่ได้เข้าโรงแรม  ด้วยไปส่งคนรักตัวน้อยกลับคฤหาสน์  หลังผ่านมื้อกลางวันแสนน่าอิจฉาที่มีผมเป็นก้างชิ้นโตร่วมมื้ออาหารด้วย  แต่อาการของผมก็โดนคนที่ผมลืมไปชั่วขณะเข้าใจผิดจนได้

“อาลัยอาวรณ์มันมากรึไง  หลี่ผิงโทรมาฝากความคิดถึงรึก็เปล่า  มีแต่งานล้วนๆ  มัวมานั่งหน้าระรื่นทำตัวมีความหวังไปได้  ต้องให้ย้ำอีกกี่ครั้งว่ามันมีเจ้าของแล้ว!!”  คำพูดแต่ละคำของไอ้ลูกครึ่งปากเสียตรงหน้าทำผมเจ็บจุกจนแทบพูดไม่ออก  ด้วยแปลว่าผมในสายตามันเป็นคนเลวร้ายมาก 

ผมก็แค่ชื่นชมมันผิดมากนักรึไงกัน  เพราะใจจริงไม่เคยคิดจะแสดงออก  หรือคิดจะแย่งมาเป็นเจ้าของเลยด้วยซ้ำ  จากที่ผมตกตะลึงมองไปที่นายพอลอย่างไม่เชื่อหู  รู้ตัวเลยว่าตัวเองเริ่มโกรธจนน้ำตาคลอเบ้า  จนอีกฝ่ายที่เห็นอาการผมคลายสีหน้าดุดันลง  แววตาก็เริ่มอ่อนแสงคล้ายสำนึกผิด  และทำท่าจะเอื้อมมือเข้าหาผมด้วย 

ผมจึงปัดมือข้างนั้นออกและลุกขึ้นยืนกำมือไว้แน่น  ก่อนจ้องตาไอ้ลูกครึ่งใจร้ายไม่กระพริบ  พร้อมพยายามพูดช้าๆชัดๆให้อีกฝ่ายได้ยิน  ผมจะไม่ยอมให้มันเห็นน้ำตาจากผมตอนนี้  เพราะผมคงดูน่าสมเพชยิ่งขึ้นไปอีก

“ออก  ไป  จาก  ห้อง  ของ  ผม...เดี๋ยวนี้!!”  ผมสะบัดมือชี้ไปทางประตูพร้อมตะคอกคำสุดท้ายใส่หน้าไอ้ลูกครึ่งหน้าตื่น  แต่ผมคงใช้เสียงและออกอาการมากไปหน่อย  ไอ้น้ำตาที่กลิ้งไปมาในตา  มันถึงหยดมาตามร่องแก้มอย่างไม่น่าให้อภัย

“ฝูหรง...ไม่เอาไม่ร้อง”  ผมตกใจกับอ้อมกอดใหญ่โต  และน้ำเสียงปลอบประโลมชวนอบอุ่นใจนี้  จนไม่ทันปัดป้องฝ่ามือที่ลูบไปมาแถวแผ่นหลัง  และปลายนิ้วที่เชยคางผมขึ้น  พร้อมพยายามไล้เกลี่ยความชื้นออกจากผิวแก้มให้แก่กัน 

สายตางอนง้อปะปนไปด้วยความรู้สึกผิด  ทำให้ผมต้องรีบเบือนหน้าหนี  ด้วยไม่อยากหลงกลพาลเข้าใจผิดว่าตัวเองมีความสำคัญต่อเจ้าของสายตาคู่นี้อีกแล้ว

“ถามจริงๆเถอะฝูหรง  ชอบไอ้หลี่ผิงมันมากเลยเหรอ”  เสียงทุ้มที่แอบสั่นท้ายประโยค  จนผมคิดว่าตัวเองหูฝาด  ทำให้ต้องผินหน้ากลับมามองคนถาม 

แม้ใบหน้าคมเข้มจะดูน่าหลงใหลไม่เปลี่ยน  แต่แววตาแห้งผากเหมือนว่าเจ้าของกำลังผิดหวังในตัวผมนักหนาคู่นี้  ก็ทำให้ผมใจแกว่งไปเหมือนกัน  จนต้องเสขยับตัวออกจากอ้อมกอดอบอุ่น  ก่อนจะหมุนตัวหันหลังให้และกอดตัวเองไว้แน่น  จึงค่อยเริ่มตอบคำถามที่ถูกส่งมา

“ใช่  ผมชอบนายน้อย...ผมผิดรึไงที่ชื่นชอบผู้ชายที่มีความรักมั่นคง  และพร้อมจะป่าวประกาศให้ใครต่อใครได้รู้ว่าใครคือคนที่ตัวเองรัก”  หลังคำว่ารักในประโยคสุดท้ายของผม  ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ  แม้แต่เสียงลมหายใจผมยังแทบไม่ได้ยิน  เพราะมันรวยรินเหลือเกินในความรู้สึกของผม
 
“ผู้ชายที่ปากหนักไม่ชอบพูดคำว่ารักให้ได้รู้  ก็ไม่ได้แปลว่าความรักที่มีจะน้อยไปกว่าคนที่ชอบป่าวประกาศหรอกนะ  เพียงแต่ช่วงเวลานั้นมันยังไม่สบโอกาสมากกว่า  และถ้าหากจะพูดตอนนี้  มันจะสายไปมั้ย  จะให้โอกาสกันอีกสักครั้งได้รึเปล่า...ฝูหรง  พอล  ระ...”  ก่อนที่เจ้าของประโยคดังกล่าวจะพูดจบ  ผมก็หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า  และเอื้อมมือปิดปากที่กำลังจะปล่อยถ้อยคำสำคัญออกมา

ผมรู้ว่าคำต่อไปมันคืออะไร  แต่ผมไม่พร้อมที่จะได้ยินตอนนี้  เพราะผมไม่มีศรัทธาต่อคำว่ารักของคนตรงหน้าเหลืออยู่อีกแล้ว  แม้ในใจลึกๆผมจะรอคอยคำนี้มาตลอดก็ตาม  ทั้งๆที่ผมเฝ้าหลอกตัวเองมาตลอดห้าปี  ว่าผมสามารถลืมบุคคลตรงหน้านี้ได้แล้วจริงๆ  แต่นาทีนี้ผมรู้เลยว่าผมไม่สามารถลบ  โจว  พอล  วอร์เลนโต้  ออกไปจากใจได้เลย

“ถ้าจะพูดเพราะอยากเอาชนะ  ขอร้องอย่าพูดเลย  เพราะถึงพูดออกมาตอนนี้  ผมไม่สามารถเชื่อคุณได้จริงๆ”

“ฝูหรง...ขอโทษ”  คำขอโทษที่มาพร้อมอ้อมกอดอบอุ่น  ทำให้ผมไม่คิดขัดขืนและโอนอ่อนยินยอมตกอยู่ในอ้อมกอดนี้  พร้อมซึมซับกระแสความอ่อนโยนและจริงใจไว้ 

ส่วนในใจผมนั้นอดรู้สึกผิดกับตัวเองไม่ได้จริงๆ  ที่ผมดูใจง่ายไปกับสัมผัสอบอุ่นแสนโหยหานี้  ทั้งๆที่เจ้าของมันได้เคยทำร้ายความรู้สึกผม  จนเจ็บเจียนขาดใจมาแล้ว  เพราะไอ้ความรู้สึกรักและผูกพันที่ไม่เคยจางหายไปจากใจแท้ๆเชียว  แต่เมื่ออีกฝ่ายมีความจริงใจถึงกับเอ่ยขอโทษออกมา  ผมก็มีเหตุผลพอที่จะอภัยให้กับเรื่องในอดีต  แต่หากคิดจะสานต่อจากปัจจุบันไปอนาคต  ผมคงไม่เสี่ยงให้ตัวเองเจ็บตัวอีกหน  จึงผลักอกหนาออกห่างจากตัว  และเงยหน้าจ้องตาละห้อยหาด้วยสายตาจริงจัง

“ผมไม่ติดใจกับเรื่องในอดีตแล้ว  ขอให้มันผ่านไป  คุณเองก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วเหมือนกัน”  แววตาที่ผมสบเปล่งประกายยินดีชัดตา  ก่อนมือผมจะถูกรวบไปจับไว้ทั้งคู่  พร้อมกับที่ผมได้รับรอยยิ้มกว้างขวางเป็นการตอบแทน  ทำเอาผมเลือนๆในสิ่งที่จะพูดอยู่เหมือนกัน

“ต่อจากนี้ก็ต่างคนต่างอยู่เถอะครับ”  แต่ผมก็สามารถพูดสิ่งที่ตั้งใจออกไปจนได้ 

ผลก็คือลูกครึ่งหน้าหล่อเกิดอาการตกตะลึงอึ้งตาค้างไปเลย  ผมจึงเสหลบแววตาผิดหวังและพยายามดึงมือออกจากการเกาะกุม  แต่มันกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด  แถมยิ่งผมพยายามดึงมือออก  มือผมยิ่งถูกบีบกระชับไว้ใต้อุ้งมือใหญ่มากขึ้นไปอีก

“ทำไมล่ะฝูหรง  ทำไมต้องตัดขาดกันด้วยท่าทีเลือดเย็นขนาดนี้  ตลอดมาพอลอาจจะผิดที่ไม่เคยสารภาพความในใจว่า  ‘พอลรักฝูหรง’  แต่โทษนั้นถึงขั้นต้องหนีพอลไปถึงนิวยอร์กเลยเชียวเหรอ  ทำไมล่ะ!  หรือเป็นเพราะฝูหรงเองต่างหากที่ไม่ได้รักพอล  เพราะพอลก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากฝูหรงเหมือนกัน”

ผมหัวสั่นหัวคลอนจากการถูกเขย่าตัว  พร้อมโดนตะคอกด้วยเสียงดังลั่น  จากความผิดหวังที่โดนตัดรอนของหนุ่มลูกครึ่งขี้โมโหนั้น  ผมเองก็เริ่มโกรธไม่ต่างกันที่เหมือนว่าโดนโยนความผิดมาให้  ทั้งๆที่สาเหตุทั้งหมดมันเกิดจากไอ้คนขี้โวยวายตรงหน้าแท้ๆ  แต่ประโยคสุดท้ายที่ได้ยินทำเอาผมสะอึก  เพราะมันเป็นความจริงที่ผมไม่อาจปฏิเสธได้  แม้จะรักแต่ก็ไม่เคยที่จะพูดออกไปให้อีกฝ่ายได้รู้  แต่ผมก็มีความรักที่จริงใจให้นายพอลนะ  ไม่เหมือนคนตรงหน้านี้หรอกที่ดีแต่พูด  แต่หาความจริงใจไม่ได้เลย

“ทำไมผมจะไม่  ‘รัก’  คุณ  ถ้าไม่รักคงไม่เจ็บขนาดนั้น  ถ้าไม่รักก็คงไม่หลีกทางให้หรอก  แต่เพราะรักถึงอยากให้คนที่เรารักมีความสุข...ฮึกๆ...แล้วนี่อะไร  มาพูดเหมือนว่าผมผิด  ทั้งๆที่เป็นเพราะคุณเองนั่นแหละ...ฮึกๆ  ฮืออออ”  ผมสุดกลั้นแล้วจริงๆ  ยิ่งพูดอารมณ์เจ็บปวดเดิมๆก็กลับมา  จนสุดท้ายน้ำตาทะลักทลายมาพร้อมความในใจทั้งหมดที่มี

“ฝูหรง!!...ฝูหรง  หยุดร้องนะครับ  พอลผิดเอง  ได้โปรดหยุดร้องเถอะ...ที่รัก~”  คำปลอบประโลมด้วยเสียงตื่นๆที่ลอยมาเข้าหู  พร้อมสัมผัสอุ่นที่ลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง 

แทนที่ผมจะสะกดกลั้นน้ำตาไว้ได้  แต่มันกลับยิ่งไหลพรากไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ  จนถึงขั้นสะอื้นฮักตัวโยน  เหมือนว่าความอดทนอดกลั้นที่มีมาตลอดห้าปี  มันถูกทำลายเพียงได้ปลดปล่อยกับตัวต้นเหตุ  แต่คำสรรพนามสุดท้ายที่ได้ยินด้วยเสียงทุ้มนุ่มข้างใบหู  กลับทำให้ผมชะงักลืมแม้กระทั่งการหายใจ  ก่อนรอยยิ้มละมุนหวานจะถูกส่งผ่านม่านน้ำตามาให้ผม  พร้อมกับที่แว่นถูกถอดออกจากใบหน้า  ตามมาด้วยริมฝีปากนุ่มที่แตะไล้จากหางตามาที่เปลือกตา  และไล่ไปตามข้างแก้มทั้งสองอย่างช้าๆ 

ผมทำได้แค่หลับตาและยืนตัวสั่นน้อยๆอย่างคิดอะไรไม่ออก  มันสับสนในความรู้สึก  ใจหนึ่งอยากผลักไสตัวต้นเหตุของความเจ็บช้ำ  แต่อีกใจหนึ่งกลับโหยหาสัมผัสอ่อนโยนที่กำลังได้รับอยู่ในขณะนี้

สุดท้ายริมฝีปากผมก็ถูกครอบครองอย่างอ่อนโยน  และผมเองก็ต้องยอมเปิดปาก  ให้ลิ้นร้อนได้เข้ามาสำรวจภายในด้วยความเต็มใจ  รสสัมผัสหวานละมุนไม่แตกต่างจากเมื่อห้าปีก่อน  จึงไม่ใช่เรื่องยากที่ผมจะมัวเมาไปกับสิ่งที่ลูกครึ่งรูปหล่อหยิบยื่นให้  และหลงลืมความตั้งใจเดิมว่าจะไม่ยอมให้ตัวเองกลับไปจุดเดิม  จนอาจจะต้องเจ็บซ้ำๆอีกครั้ง

“...พอลรักฝูหรงนะ  ขอโอกาสให้พอลอีกครั้งได้มั้ย  ให้พอลได้อธิบายบ้าง”  นาทีนี้คำพูดหวานๆและคำออดอ้อนที่ได้ยิน  กลับทำให้หัวใจที่แห้งเหี่ยวขาดน้ำมานาน  มันค่อยๆฟูจนพองแทบคับอก  ในหัวเองก็เหมือนมีหมอกสีชมพูจางๆลอยฟ่อง  พาลให้คิดอะไรไม่ออก

ผมอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่น  ยังไม่มีโอกาสตอบรับหรือปฏิเสธ  เพราะได้แต่หลับตาพริ้มหายใจเอาอากาศเข้าปอด  ซึ่งเหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายแบบไม่รู้ตัว  ได้ซุนจมูกเข้าที่ซอกคอและเริ่มไซ้สูดกลิ่นไปตามลาดไหล่  ก่อนฝ่ามืออุ่นจะสอดเข้ามาไล้ผิวอ่อนที่หน้าท้อง  จนกระทั่งถึงยอดอกทำเอาผมสะดุ้ง  และเริ่มรู้สึกตัวว่าได้ปล่อยตัวให้นายพอลเชยชมมากเกินไปแล้ว  แม้จะได้ยินคำรักที่เฝ้ารอ  แต่ผมก็ต้องการคำอธิบายเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อนเช่นกัน

“อ่ะ!...เอ่อ  ผะ  ผมอยากเข้าห้องน้ำ”  เมื่อผลักอกร่างสูงใหญ่ออกจากตัวได้แล้ว  ผมก็รีบตะครุบสาบเสื้อที่กระดุมถูกปลดเข้าหากัน  ก่อนจะรีบก้มหน้าซ่อนแก้มแดงๆของตัวเองจากสายตาเร่าร้อน  และละล่ำละลักขอตัวหลบฉากออกมา 

อย่างน้อยการได้อยู่กับตัวเองสักพัก  น่าจะช่วยเรียกสติที่กระเจิดกระเจิงให้กลับมาได้  เผื่อว่าผมจะมีคำพูดดีๆเพื่อซักไซ้เอาความจริงของเรื่องเมื่อห้าปีก่อน  จากไอ้ลูกครึ่งมือไวขึ้นมาบ้าง

“อ๊ะ!!”  เมื่อผมเข้ามาอยู่ในห้องน้ำภายในห้องนอนแล้ว  ผมออกจะตกใจกับภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกไม่น้อย  ด้วยหัวกระเซิงแก้มทั้งสองข้างแดงจัด  แม้แต่ใบหูและลำคอก็ขึ้นสีจนน่ากลัว  แล้วไหนจะรอยแดงๆเป็นจ้ำเล็กๆที่ซอกคออีกล่ะ

ผมรีบกลัดกระดุมด้วยมือสั่นเทา  ก่อนจะเปิดน้ำล้างหน้าลดอุณหภูมิความร้อนของผิวกาย  และเช็ดหน้ากับผ้าขนหนูผืนนุ่ม  เมื่อส่องกระจกอีกครั้งผมค่อยถอนใจเฮือกใหญ่  แม้จะดูไม่ปกตินักแต่ก็ยังดีกว่าเมื่อแรกเข้ามาล่ะน้า  ก่อนผมจะเรียกกำลังให้ตัวเองด้วยการสูดอากาศเข้าปอดอีกเฮือกใหญ่  แต่ผมก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้  ผมคิดถูกแล้วใช่มั้ยที่จะลองเปิดใจรับฟังความจากโจวพอล  คนที่ผมต้องยอมรับกับตัวเองว่าผมไม่สามารถตัดเขาออกไปจากใจได้เลย

“อ้าว  ไปไหนนะ...สงสัยเข้าห้องน้ำ”  เมื่อผมออกมาก็ไม่พบคนที่ผมเตรียมใจไว้ว่าต้องเจอ  แต่ก็ดีเหมือนกันอย่างน้อยผมก็ยังมีเวลาเตรียมใจอีกนิด 

ผมต้องสะดุ้งเมื่ออยู่ๆก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น  ที่สำคัญมันเป็นของคนที่อยู่ในห้องน้ำตอนนี้  ผมอดไม่ได้ที่จะแอบมองหน้าจอที่สว่างวาบนั้น  และผมต้องตัวชาเมื่อเห็นภาพใบหน้าที่ปรากฏบนหน้าจอ

“Rrr  Rrr  Rrr...” 

สุดท้ายผมก็กดรับสายอย่างห้ามตัวเองไม่ได้  และเสียงที่ดังมาจากอีกฝั่งก็ยืนยันได้ว่าเป็นคนๆเดียวกับที่ผมคิดไว้  เพราะผมไม่มีวันลืมคนๆนี้ได้เลย  คนที่ทำให้ผมต้องตัดสินใจอีกครั้ง  ว่าผมจะให้โอกาสโจวพอลวอร์เลนโต้คนนี้ดีหรือไม่  ในเมื่อตลอดห้าปีเขาก็ยังมีคนๆนี้ข้างกายไม่เปลี่ยน

..........................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

เกือบไปแล้วกระต่ายน้อยเกือบโดนสิงห์เจ้าเล่ห์จับกินล่ะ
ดีที่ยังพอมีสติคิดซักหาความจริงที่คาใจเมื่อ 5 ปีก่อน
แต่ดูท่าอุปสรรคของพอลจะเยอะเกิน!  สายที่โทรเข้าท่าจะ
เป็นตัวปัญหาใหญ่ของรักครั้งนี้ 

ส่วนใครที่อยู่ปลายสายนั้น  คงต้องติดตามต่อไปค่ะ
แต่บอกได้เลยว่าเพราะคนๆนี้แหละที่ทำให้กระต่ายน้อย
คิดตีจากพอลเมื่อ 5 ปีก่อน

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
เจอกันวันอาทิตย์นะคะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 01-06-2014 12:28:11
มาตามอ่านด้วยคนนะคะ
พอล ไม่ชัดเจนเลย อธิบายไม่เคลียร์ คลุกวงในตลอดๆ
เอาใจช่วยฝูหรง เข้าข้างฝูหลงมากกว่า :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 01-06-2014 13:05:16
ใครอีกเนี่ยยยย
 :katai1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 01-06-2014 13:17:41
โอย อยากรู้ใจจะขาดค่ะว่าเขาคือใคร ^^
แล้วอีตาพอลไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาหรือนี่  :ling1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 01-06-2014 13:27:29
ใครละนั่น :really2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-06-2014 14:17:18
เกือบไปแล้วนะฝูหรง เกือบโดนจับกินก่อนจะได้ถามเรื่องเมื่อ 5ปีก่อน
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 01-06-2014 14:28:50
พอลใจร้อน
ยังไม่ได้เคลียร์กันเลย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 01-06-2014 14:55:24
กระต่ายเศร้า สงสารกระต่ายจัง   :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 01-06-2014 15:07:16
ใครโผล่มานะแถมมีผลกับการตัดสินใจด้วย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" (1/6/57) ถึงต้องจาก
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 01-06-2014 15:53:37
 :katai1: :katai1: อ่า มาอ่านรวดสองตอนแล้วค้างอย่างแรง ใครโทรมานะ  เป็นตัวแปรสำคัญซะด้วย
น้องฝูหรงเกือบใจอ่อนแล้วแท้ ๆ  อย่างงี้จากที่กำลังจะให้โอกาสจะกลายเป็นตัดขาดจากน้องพอลกว่าเดิมไหมอะ
น้องพอลอุตสาห์ง้อได้น่าสงสารขนาดนั้น อ่านไปด้วยใจระทวย ชวนฝัน ถึงปากจะร้ายแต่ก็รักจริงนะ
ตอนขอโทษ และบอกว่ารัก ซึ้งจัง เพราะงั้นอย่าโกรธลูกครึ่งปากเสียคนนี้เลยนะน้องฝูหรง
ยังไงน้องพอลคงไม่เคยรับรู้เรื่องที่บุคคลปริศนาคนนี้ทำไว้แน่ เพราะดูแล้วน่าจะเป็นปาปาหรือมามาน้องพอลรึเปล่า
เพราะน้องพอลเล่นตัดขาดครอบครัวและอยู่กะน้องฝูหรงคนเดียว ยังไงคนในครอบครัวก็ต้องเข้าใจผิด
อาจคิดว่าน้องพอลถูกน้องฝูหรงล่อลวงรึเปล่า ยังเดาไม่ถูก ตอนนี้ขอแค่สถานการณ์อย่าเลวร้ายกว่าเดิมเลย
สงสารน้องพอลกะน้องฝูหรงอะ  :ling1: รอติดตาม และ บวก บวก เป็นกำลังใจให้คุณมาศต่อไปค๊า  :pig4: :L2:

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 01-06-2014 16:01:04
ตาพอลมือไวจริงๆ  ว่าแต่ใครนะที่ทำให้ฝูหรงเสียใจ :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 01-06-2014 17:59:43
ค้างอ่ะ แบบนี้อยากรู้จริงๆ ว่าคนที่ ฝูหรง ยอมถอยให้เป็นใคร

รีบมาต่อเร็วๆ นะเดี๋ยวเราจะลงแดงซะก่อน

 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: TrebleBass ที่ 01-06-2014 18:02:06
ใคร ๆ ๆ เขาคือใคร  คน ๆ นั้นคือใคร... :katai1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 01-06-2014 18:23:01
แสดงว่า 5 ปีที่ฝูหรง จากไปต้องมาจากเสียงโทรศัพท์ที่โทรมาหาพอล  แต่อยากรู้ว่าจะเป็น ช หรือ ญ เท่านั้นแหละ 555

อยากให้ทั้งคู่เคลียร์กันให้ชัดเจนไปเลย พอลก็คงอยากรู้ว่าทำไมฝูหรงถึงไปนิวยอร์ค  ส่วนฝูหรงก็คงอยากรู้คนๆ นั้นเป็นอะไรของพอลกันแน่

อิตาพอลนี่มือเป็นปลาหมึกเลย  ฝูหรงคงต้องระวังตัวให้มากๆ อย่าเพิ่งใจอ่อนไปกับเสน่ห์ของนายพอล 
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 01-06-2014 21:36:17
อ้าวววววว อะไร ใครอ่ะ เกิดไรขึ้นนนนนนน  :z3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 02-06-2014 00:06:13
บีบแฮะช่วงนี้...หนึบทีเดียว
แต่ชอบเวลาเห็นน้ำตาคนรักแล้วทนไม่ได้น่ะ
อยากปากร้าย...ทรมานกับการเห็นน้ำตาเขาไปเถอะ

สงสารฝูหรงนิ -^-
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 02-06-2014 01:47:14
 :m16:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 02-06-2014 12:28:49
ใครๆๆๆๆๆ คนนั้นคือใคร
 :ling1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 02-06-2014 14:41:12
หูย สนุกไม่แพ้เรื่องก่อนๆ
ตอนแรกนึกว่าเป็นการพบรักทั่วไป ที่แท้เค้ามีอดีตกันมานานนี่เอง  :katai5:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 02-06-2014 19:31:13
อยากรู้สาเหตุที่ทำให้กระต่ายน้อยฝูหรงตีจากโจวพอลแล้วจ้ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: sine_saki ที่ 02-06-2014 21:05:29
ผู้ใดทำน้องฝูหรงฉันเสียศูนย์เนี่ย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: woodong ที่ 03-06-2014 05:04:30
อ๊ากก นานๆได้อ่านเรื่องที่ตัวเองชอบ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 03-06-2014 08:43:03
ใครกันนะที่เป็นเจ้าของเสียงปริศนา
คนที่ทำให้ทั้งคู่ผิดใจกัน
 :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 03-06-2014 12:01:34
ใคร!!!!!!!!
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 03-06-2014 13:11:10
ตาพอลนี่ หึงทีไร ก็หน้ามืด พูดจาแรง ๆ ใส่ฝูหรงทุกที ทำกระต่ายร้องไห้ทุกทีเลย
ทำเค้าเสียใจเสร็จแล้ว ก็มาขอโทษทีหลังทุกที มันน่านัก ชิส์  :m16:
แต่สรุป ตอนนี้ ต่างฝ่ายต่างบอกรักกันแล้วใช่มั้ยเนี่ย เป็นการบอกรัก
ที่ในอดีตต่างฝ่ายต่างไม่มีโออาสได้บอกแก่กัน แต่ถึงตอนนี้จะบอกแล้ว
แต่ถ้าอะไร ๆ ในอดีตที่ทำให้ฝูหรงต้องเจ็บช้ำ ยังไม่เคลียร์
ก็ยังไม่อยากให้ฝูหรง ยอมโอนอ่อนให้พอลมากไปกว่านี้เลย
ฝูหรง จะให้โอกาสพอลอีกครั้ง แต่พอลก็ต้องรู้ก่อนว่า เรื่องอะไร
และใคร ที่เป็นคนทำให้ฝูหรงเข้าใจผิด และหนีพอลไปเมื่อห้าปีก่อน
แต่ฝูหรง เล่นรับโทรศัพท์จากตัวปัญหาก่อนอย่างนี้ จะโดนพูดอะไรใส่
ให้เข้าใจผิดพอลยิ่งไปกว่าเดิมรึเปล่านี่สิ ท่าว่า ยังไม่ทันให้พอลได้เคลียร์
โอกาสของพอล จะริบหรี่ลงก่อน ก็เพราะบุคคลที่สามนี่แหละ พอลรีบมาด่วน ๆ เลย
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  :L1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoRin ที่ 03-06-2014 15:51:57
ฮ่วย พี่พอลลลลลลลล
จะทำอะไรก็ทำซักอย่างเถอะพี่
เดี๋ยวกระต่ายน้อยก็หนีอีกหรอก
เอิ้อวววว ขัดใจๆๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 03-06-2014 16:23:41
อยากรู้ว่าเป็นใครที่ทำให้ฝูหรงหนีจากพอลไป
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 03-06-2014 17:32:15
สาเหตุที่จากกันก็เพราะมีบุคคลที่สามสินะ ผู้หญิงใช่มั๊ย
แล้วจะได้เคลียร์กันไหมเนี่ย โดนขัดจังหวะตลอดๆเลย
นี่ดีนะที่ยังมีสติไม่อย่างนั้นได้เตลิดก่อนได้รู้เรื่องกันแน่
เอาล่ะ มาตามดูกันสิว่าปลายสายเป็นใคร
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.3 "เพราะรัก" P.3 (1/6/57) ถึงต้องจากUP
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 06-06-2014 22:47:00
อ่านจบแล้วมีความรู้สึกเกิดขึ้นมาว่า อะไร ทำไม ยังไง งงอะ
ไม่ค่อยเก็ท นี่รอเรื่องในอดีตอยู่นะเนี่ย แย้มๆมานิดเดียวเองอะ วู้ว

เห็นคนเขียนว่าตอนแรกจะตั้งชื่อเรื่อง รักยุ่งๆของลูกครึ่งปากเสียใช่ปะ แหม เราอ่านแล้วขำก๊ากเลย เพราะมันอ่าานแล้วคุ้นลิ้นกว่า รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่ออะ ยิ่งตอนแรกๆนะ พอนายพอลปากหมาทีไรเรานี่อยากจะสั่งนายพอลว่า ตบปากตัวเองสิบที ปฏิบัติ!! หนอย ปากแบบนี้อยากโดนเรียกเลือดใช่ปะ เดี๋ยวเหอะๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 08-06-2014 08:43:49
ตอนที่ 4

โจวพอล
   
“พอล.....พอล...พอล!!”

“เสียงดังทำไมจินนี่!”  ผมหันไปดุคนที่ทำเสียงดังไม่เข้าเรื่อง  ทั้งๆที่นั่งกันอยู่ในรถแค่สองคนแท้ๆ  จะต้องตะโกนทำไมให้หนวกหู

“จินนี่เรียกพอลตั้งหลายรอบ  พอลก็ไม่เห็นตอบ  จะไม่ให้เสียงดังใส่ได้ไง...ทำไมพอลต้องทำตัวเหมือนกำลังเบื่อหน่ายจินนี่ด้วยคะ  จินนี่จะฟ้องคุณลุง”  แม่ตุ๊กตากระเบื้องจีนโวยวายใส่ผมไม่พอ  ยังคิดจะทำตัวเป็นเด็กขี้ฟ้องหมายจะฟ้องปาปาผมอีก  แต่ผมรึจะกลัว

“ตามสบาย”  หลังถ้อยคำไม่แยแสของผม  ทำเอายัยจินนี่โวยวายใส่ผมรถแทบแตก  แต่ผมเลือกที่จะวางเฉย  ขืนต่อปากต่อคำด้วย  คงไม่ต่างจากการเทน้ำมันลงบนกองไฟ

ถ้าจินนี่เด็กกว่านี้สักสิบปี  ผมจะหาผ้ามัดปากไม่ให้ส่งเสียงหนวกหู  จนมาทำลายสมาธิในการขับรถของผมจริงๆด้วย  อย่าหาว่าผมใจร้ายเลย  ด้วยหูผมอื้อไปหมดเพราะไม่ได้พัก  ด้วยเสียงเจื้อยแจ้วที่ดังขึ้นตั้งแต่สนามบินจนถึงเดี๋ยวนี้  พาลทำผมหงุดหงิดจึงพยายามปล่อยเสียงน่ารำคาญนั้น  เข้าหูซ้ายผ่านออกไปทิ้งหูขวาแทน  จนผมโดนแม่ตัวดีต่อว่าอย่างที่คุณได้ยินไปนั่นแหละครับ 

ผมต้องยอมรับว่าผมนั้นเบื่อแม่ตุ๊กตากระเบื้องจีนตัวร้ายคนนี้ชะมัด  แค่บินกลับจากการไปเที่ยว  ทำไมต้องให้ผมถ่อมารับถึงสนามบินด้วยตัวเองก็ไม่รู้  ทั้งๆที่บ้านจินนี่เองก็มีคนขับรถรอรับอยู่แล้วแท้ๆ  ซึ่งผมจะไม่มารับยัยจินนี่ขี้โวยวายนี่เลย  ถ้ามามาจะไม่โทรมาบอกผมด้วยตัวเอง  ให้คุณเชื่อเถอะว่ายัยนี่ต้องโทรไปอ้อนมามาของผม  เพื่อให้ท่านมากดดันผมให้ไปรับอีกทอดหนึ่งอย่างแน่นอน 

ผมคงจะเต็มใจและไม่หงุดหงิดเท่านี้  หากว่าผมว่างและไม่ได้กำลังปฏิบัติภารกิจสำคัญ  อย่างการพยายามง้อฝูหรงคนน่ารักของผมอยู่  แต่ผมก็ต้องตัดใจด้วยต้องทำตามคำขอของมามา  เพื่อมารับยัยผู้หญิงน่ารำคาญคนนี้  ที่สำคัญอาการของฝูหรงก่อนผมกลับออกมาดูแปลกๆ  ด้วยก่อนหน้านั้นคนน่ารักของผมดูโอนอ่อนยอมตามใจผมมากแล้วแท้ๆ  ถึงขั้นยอมให้ผมจูบยอมให้ผมชื่นใจเล็กๆน้อยๆ  แต่พอผมออกมาจากห้องน้ำ  กลับเปลี่ยนเป็นฝูหรงที่แสนเย็นชา  ทิ้งภาพกระต่ายน้อยขี้อายแสนน่ารักไปจนหมด

คุณเริ่มสงสัยกันแล้วใช่มั้ยว่าแม่ตุ๊กตากระเบื้องจีนที่ผมเรียกเธอว่าจินนี่นี้เป็นใคร  ทำไมถึงดูสนิทสนมกับผมมากขนาดนี้  แต่คงไม่ได้คิดกันไปใช่มั้ย  ว่ายัยจินนี่เป็นคู่หมั้นคู่หมายที่บุพการีผมหาไว้ให้อะไรเทือกนั้น  เพราะขืนคิดกันไปเช่นนั้น  อาจมีสิทธิ์ที่ฟ้าจะผ่าลงมาบนหัวผมกับแม่สาวขี้โวยวายคนนี้แน่ๆ  เพราะผมกับจินนี่เป็นญาติสนิทกัน  ไม่มีทางที่เราจะมาฟีทเจอริ่งกันได้แน่นอน  แถมนิสัยที่โคตรเอาแต่ใจของจินนี่ก็ไม่ใช่คนในสเป็คที่ผมตั้งไว้ด้วย  ขืนผมได้เจอผู้หญิงแบบนี้  ผมมีแต่จะหนีให้ห่างซะมากกว่า 

ไม่เหมือนใครบางคนที่มีกิริยาอ่อนหวานและท่าทางที่แสนนุ่มนวล  ยิ่งพูดก็ยิ่งคิดถึง  ผมไม่น่าต้องมารับยัยญาติแสนเอาแต่ใจคนนี้เลย  ไม่เช่นนั้นคืนนี้มีสิทธิ์ที่ผมจะได้นอนกอดร่างนุ่มนิ่มก็เป็นได้

‘หมิงอี้ซาน’  หรือที่ใครๆต่างเรียกเธอว่า  ‘จินนี่’  นั้น  เป็นลูกสาวคนเดียวของประธานบริษัทจิวเวลรี่ชื่อดังของฮ่องกง  ที่มีฐานะเป็นคุณอาหญิงของผมเอง  ซึ่งอาหมิงฮุ่ยเป็นน้องสาวคนที่สองของพ่อผมในบรรดาพี่น้องสี่คน  ซึ่งอาๆคนที่เหลือต่างก็เป็นผู้ชายแทบทั้งสิ้น  แถมยัยจินนี่ที่อายุเท่าผมแต่อ่อนเดือนกว่า  ก็เป็นหลานสาวคนเดียวในบรรดาหลานๆทั้งหมดด้วย  ทำให้ปาปาและคุณอาผู้ชายต่างเอ็นดู  และคอยตามใจจินนี่มากกว่าลูกหลานที่เป็นผู้ชายคนอื่น  จนผมและลูกพี่ลูกน้องคนอื่นๆ  ต่างยกตำแหน่งลับๆให้เธอเป็น  ‘ยัยแม่มดน้อยจอมแสบตัวร้ายแห่งตระกูลโจว’

แม้ภายนอกจินนี่จะสวยและดูบอบบางน่าทะนุถนอม  เหมือนดังคำเปรียบเปรยว่าแม่ตุ๊กตากระเบื้องจีนก็ตาม  แต่นิสัยที่ขี้โวยวายและช่างเอาแต่ใจก็ไม่ต่างจากแม่มดตัวร้ายสักนิด  ทำเอาญาติๆอย่างพวกเราต่างส่ายหน้าให้  ทว่ายามที่จินนี่อารมณ์ดี  ด้วยคนรอบตัวยอมตามใจนั้น  จินนี่ก็เปรียบดั่งนางฟ้าตัวน้อยๆที่ทำให้ทุกคนต่างหลงรักได้เหมือนกัน

ข้อเสียของยัยจินนี่ไม่ได้มีเพียงขี้โวยวายและเอาแต่ใจเท่านั้น  แต่ยังมีข้อเสียอีกข้อที่ทำให้พวกเราลูกพี่ลูกน้องต่างปวดหัวกันทั่วหน้ามาแล้ว  นั่นก็คืออาการขี้หวงบรรดาญาติผู้ชายทุกคน  และทำตัวไปคอยกีดกันญาติตัวเองกับบรรดาสาวๆที่ญาติตัวเองคบด้วย  จนถึงขั้นเลิกรากันก็มี 

จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ลูกพี่ลูกน้องตระกูลโจวยังไม่มีใครมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกันสักคน  หรือหากมีสาวที่ตัวเองสนใจก็จะแอบคบลับหลังไม่ให้จินนี่รู้  แต่พวกเราก็หายใจหายคอโล่งหน่อย  ช่วงที่ยัยจินนี่ไปเรียนปริญญาตรีที่อิตาลีเป็นเวลาสี่ปี  ซึ่งพอเธอกลับมาเมื่อกลางปีที่แล้ว  วงจรเดิมๆกลับมาอีกครั้ง  เพราะยัยจินนี่เที่ยวตามสอดส่องและตามกีดกันบรรดาญาติๆ  หากเห็นว่าใครในพวกเรามีวี่แววว่าจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน 

ผมเคยคิดเล่นๆว่าจะหาผู้ชายสักคนให้ยัยญาติจอมจุ้นจ้านนี่  เผื่อว่าจะได้เลิกรังควานพวกเราสักที  แต่ผมก็สงสารไอ้ผู้ชายโชคร้ายคนนั้น  เกินกว่าที่จะชักนำมาให้ยัยแม่มดน้อยจอมแสบของพวกเรา

“ลุงฟู่สือคะ  พอลน่ะว่าจินนี่  แถมยังทำหน้าบูดตลอดเวลาที่อยู่บนรถด้วย  จินนี่ไม่ชอบเลย”  เป็นไงล่ะครับเหมือนที่ผมบอกมั้ยว่ายัยนี่น่ะขี้ฟ้อง  มาถึงและเจอหน้าปาปาผมได้  ก็เข้าไปอ้อนปาปาและฟ้องตามที่ได้ยินไป  ซึ่งปาปาก็ได้แต่กอดตอบยัยขี้ฟ้องและยกยิ้ม  พลางลูบหัวอย่างเอ็นดู  และแค่เหลือบมองมายังผมยิ้มๆเท่านั้น

“ตอนจินนี่โทรไป  พอลรับสายแล้วทำเป็นไม่ยอมคุยด้วย  จนจินนี่ต้องโทรมาอ้อนป้าอีลิน่าให้โทรหาพอลแทน  ไม่งั้นจินนี่คงได้นอนที่สนามบินแล้วมั้งคะ  คุณลุงดูสิ่งที่พอลทำกับจินนี่สิ”  เสียงเจื้อยแจ้วที่ฟังดูน่าสงสารไม่ได้เข้าหูผมสักนิด  เพราะตั้งแต่ประโยคแรกที่ได้ยินนั้น  ได้ดึงความสนใจจากผมไปจนหมด

ถ้าผมฟังไม่ผิดหมายความว่ายัยจินนี่โทรหาผม  ก่อนที่มามาอีลิน่าจะโทรมาบอกให้ผมไปรับเธอ  แต่ผมจำไม่ได้เลยว่าเผลอกดรับ  หรือได้ยินเสียงเรียกเข้าของจินนี่ตอนไหน  หรือจะเป็นช่วงที่ผมเข้าห้องน้ำ  นั่นหมายความว่าคนที่รับสายจินนี่แล้วไม่พูดคือฝูหรงใช่มั้ย 

เพราะฉะนั้นอาการตึงๆทำตัวเย็นชาของฝูหรงที่มีต่อผม  เกิดจากสายโทรเข้าของจินนี่งั้นสิ  หรือว่าที่ฝูหรงมีอาการดังกล่าวเป็นเพราะเข้าใจผิด  คิดว่าผมมีผู้หญิงอื่นโทรมาตามตัวกันแน่  ‘ใช่!...มันต้องเป็นเพราะเหตุผลที่ว่าฝูหรงหึงผม!’

“พอล!  โดนคุณป้าว่าแล้วยังยิ้มได้อีกเหรอ...คุณลุงคุณป้าดูพอลสิคะ”  ผมไม่สนใจยัยเด็กสามขวบนี่หรอก  ปล่อยให้งอแงกับปาปามามาไปแล้วกันครับ  ส่วนผมขอเวลาโทรไปง้อและทำความเข้าใจกับว่าที่แฟนก่อนดีกว่า

“อ้าว  จะไปไหนล่ะพอล”  เสียงนี้เป็นของมามาคนสวยของผมเองครับ 

ผมจึงเลือกที่จะหมุนตัวกลับและก้มไปหอมแก้มท่าน  ก่อนจะบอกว่าขอตัวขึ้นห้องเพื่อไปจัดการธุระส่วนตัว  ซึ่งท่านเองก็ไม่ได้ว่าอะไร  แต่ย้ำให้ผมรีบลงมาทานมื้อเย็นด้วยกันเท่านั้น

ส่วนจินนี่ก็แค่สะบัดค้อนวงโตใส่ผม  ก่อนหันไปฉอเลาะออเซาะปาปามามา  เหมือนดังตัวเองเป็นลูกสาวคนเล็กของบ้านนี้ก็ไม่ปาน  แต่ผมชินซะแล้วครับ  เพราะจะว่าไปผมก็รักยัยแสบขี้วีนไม่ต่างจากน้องสาวคนหนึ่งเหมือนกัน

เมื่อผมขึ้นห้องมาได้  สิ่งที่ทำคือตรวจดูประวัติโทรเข้าจากโทรศัพท์  และพบว่ามันเป็นความจริงตามสิ่งที่จินนี่ฟ้องปาปา  ซึ่งผมพบว่าสายดังกล่าวถูกกดรับ  และใช้เวลาถือสายไม่ถึงนาทีก่อนจะถูกวาง  แม้จะแอบเข้าข้างตัวเองว่าฝูหรงหึงจินนี่  จนพาลเข้าใจผิดและโกรธผมเข้า  แต่ใจลึกๆออกจะแปลกใจอยู่บ้าง  ว่าทำไมฝูหรงคนปัจจุบันนี้ถึงดูไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่  ทั้งๆที่ถ้าถามผมสักนิด  ผมก็จะให้คำตอบได้ว่า  ผมกับยัยจินนี่เป็นเพียงญาติกัน  แต่ฝูหรงกลับคิดเองเออเองไปได้

“...รับสายแล้วกดวางทำไม...กระต่ายน้อยเป็นอะไรเนี่ย”  ผมทั้งสงสัยและเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว  เมื่อโทรไปยังไม่ทันพูดอะไร  นอกจากเอ่ยทักปลายสายเท่านั้น  สายผมกลับถูกกดวางเอาดื้อๆ 

หลังจากนั้นไม่ว่าผมจะเพียรโทรไปกี่รอบและรอนานสักเท่าไหร่  ปลายสายก็ไม่มีทีท่าว่าจะรับอีกเลย  จนสุดท้ายผมต้องยอมแพ้  และได้แต่นั่งหงุดหงิดอยู่เพียงคนเดียว

ภายในใจผมนั้นอยากจะหายตัวได้  และไปโผล่ในห้องของกระต่ายน้อยแสนงอนซะเดี๋ยวนี้  เพื่อจะได้คุยให้ชัดว่าฝูหรงเป็นอะไรถึงไม่ยอมคุยกับผม  แต่ในความเป็นจริงคือผมต้องลงมาทานมื้อค่ำกับครอบครัวและยัยตัวแสบช่างจ้อ  ที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นสาวน้อยน่ารักขี้อ้อนช่างเอาใจไปแล้ว  แต่ยัยจินนี่เวอร์ชั่นนี้ก็ไม่ได้ทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นได้เลย

“คืนนี้พอลจะยอมปล่อยกระต่ายน้อยไปก่อน  แต่พรุ่งนี้อย่าคิดว่าจะรอดเลย”  ผมก็ได้แต่ข่มตาให้หลับพร้อมวาดแผนการไว้ในใจเพียงลำพัง

...............................................

‘ให้มันได้แบบนี้สิ  หึ!’  ไอ้ผมล่ะคิดถึงแทบเป็นแทบตาย  แต่อีกฝ่ายกลับทำเมินใส่เหมือนไม่เห็นผมอยู่ในสายตา  ทั้งๆที่เมื่อวานเคลิ้มไปกับจูบของผม  จนตัวอ่อนอยู่ในอ้อมกอดผมแล้วแท้ๆ  ทำเอาผมฉุนไอ้ที่คิดจะง้อจะอ้อนใส่เป็นอันพับเก็บไว้ก่อน

“เชิญครับ  นายน้อยให้คุณเข้าพบได้เลย”  ผมสะกดกลั้นอารมณ์โกรธไว้เพียงในอก  ก่อนจะแสร้งเมินเหมือนที่อีกฝ่ายทำใส่ผม  และเดินผ่านร่างเล็กที่เปิดประตูห้องทำงานรอไว้ก่อนแล้ว  ด้วยทีท่าไม่ใส่ใจว่าจะมีเค้าหรือไม่ 

ยามที่ผมเดินผ่านฝูหรง  กลิ่นหอมอ่อนๆประจำตัวคนตัวเล็กลอยเข้าจมูกทำเอาใจแกว่ง  จนผมอยากจะเปลี่ยนใจเข้าไปรวบตัวกระต่ายน้อยแสนงอนเข้าสู่อ้อมกอดแทน  แต่ผมก็ไม่ได้ทำอย่างที่ใจคิด  ด้วยทิฐิบ้าๆในใจที่มีมากกว่า

“ไงพอล  ทำไมช่วงนี้มาบ่อยนักวะ  ที่ทำงานฉันมีอะไรดีๆรึไง”  ผมก็ได้แต่แค่นหัวเราะพลางกรอกตาไปมา  ให้กับเพื่อนสนิทที่แสนรู้ใจ  ก่อนจะถือวิสาสะเดินไปนั่งหน้าโต๊ะทำงานของเจ้าของห้อง

“ฮึๆ  ก็คงงั้นว่ะ  มันก็แค่ผลพลอยได้  แต่ที่ฉันมานี่เพราะโดนไรอันใช้ให้มาชวนนายต่างหาก”  ผมส่งยิ้มใสซื่อให้หลี่ผิง  ด้วยเชื่อว่าถึงผมไม่อธิบายไอ้เพื่อนผมคนนี้คงเข้าใจอะไรๆได้ไม่ยาก 

ส่วนเรื่องที่ผมบอกมันก็เป็นเรื่องจริงนะครับ  แต่ก็ถือว่าเป็นข้ออ้างที่ผมใช้เพื่อมาถึงที่ทำงานเพื่อน  เพราะอยากเห็นหน้าใครบางคนเท่านั้น  ด้วยความเป็นจริงแค่ผมโทรบอกแก๊กเดียวก็เป็นอันรู้กันแล้ว

“เอาเถอะมีไรก็บอกแล้วกัน  แล้วไอ้ไรอันให้มาชวนฉันไปไหนล่ะ”  หลังจากหลี่ผิงเลิกคิ้วและจ้องหน้าผมอย่างค้นหาพักหนึ่ง  มันก็พูดประโยคนี้ออกมา  ซึ่งเราต่างก็แค่กระตุกยิ้มและจ้องตากันอย่างรู้เท่าทันกันเท่านั้น

“ไรอันจะมีงานเปิดร้านของมันคืนนี้  มันโทรมาบอกตั้งแต่อาทิตย์ก่อนและฝากบอกนายด้วย  แต่ฉันลืม  ฮ่าๆ  ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นเลย  นี่ไงอุตส่าห์มาบอกถึงที่แล้ว  เพราะรู้สึกผิดนะเนี่ยถึงมาด้วยตัวเอง  มันฝากบอกว่าให้พาน้องธันว์ไปให้ได้  เพราะมันคิดถึง...เฮ้ย!  ฮ่าๆ  แค่นี้ก็ต้องหวง”  ดีนะที่ผมตาไว  หลบด้ามปากกาของมาเฟียขี้หวงได้ทันท่วงที  เพราะไอ้คนขว้างมันไม่มีออมมือให้เพื่อนอย่างผมสักนิด 

หากผมแหย่เรื่องเด็กน้อยของมันทีไร  เป็นว่าหลี่ผิงเอาจริงตลอด  ไอ้ผมเองก็ไม่รู้เป็นอะไรชอบเห็นเพื่อนหงุดหงิดเพราะความขี้หวงเกินเหตุ  มันเองก็หวงได้หวงดีเช่นกัน  แต่ก็นะได้เป็นเจ้าของเด็กน่ารักอย่างน้องธันว์  ไม่หวงก็แปลกคนแล้ว 

ไม่ใช่ว่าผมคิดไม่ซื่อกับแฟนเพื่อนนะครับ  เพราะคุณก็รู้ว่าตลอดมาในใจผมนั้น  มีใครบางคนจับจองไว้เต็มทุกห้องหัวใจแล้ว  และคนๆนั้นเองก็น่ารักน่าใคร่ได้ไม่แพ้น้องธันว์สักนิด  แถมตอนนี้คนน่ารักของผมก็เข้ามาให้ผมได้เห็นหน้าจนได้  ด้วยหลังจากหลี่ผิงกดโทรศัพท์ต่อสายไปถึงเลขาหน้าห้อง  ไม่นานฝูหรงก็เข้ามารายงานตารางงานที่เจ้านายตัวเองขอ  พร้อมถ้วยกาแฟสำหรับผมที่เป็นแขก  ตามคำสั่งของเจ้านายโดยตรงอย่างหลี่ผิง 

ผมเองแอบกระตุกยิ้มกับหน้าจอโทรศัพท์ที่ตั้งใจควักออกมากดเล่นฆ่าเวลา  ก่อนจะลอบชำเลืองเลขาหน้าใสนิด  แต่ก็เล่นเอาผมสะดุ้ง  เมื่อแก้วกาแฟถูกกระแทกวางลงตรงหน้า  ด้วยความจงใจของคนที่ชงมาให้  แถมคนชงเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจผมสักนิด  ทำเอาผมกรุ่นๆในอก  จึงเสจิบกาแฟและมองไปทางอื่นที่ไม่มีร่างเล็กอยู่ในระยะสายตา  และปล่อยให้เจ้านายลูกน้องเค้าได้สั่งงานกัน  แต่ผมมาขัดใจอย่างที่สุด  ก็ต่อเมื่อเหลือบเห็นแววตาชื่นชมเปิดเผยของเลขาหน้าใสที่มีให้กับคนเป็นนาย 

ผมจึงอดใจไม่ได้และเกิดอาการปากเร็วประชดใส่แบบไม่ตั้งใจ  ในทำนองที่ว่าคนเค้ามีเจ้าของแล้วอย่าคิดตั้งความหวังจะดีกว่า  เล่นเอาคนที่ได้ยินหน้าซีดตาตื่นมีอาการก้มหน้าหลบตาทันที  ส่วนคนเป็นเจ้านายก็ได้แต่ขึ้งตาดุๆใส่ผม  ซึ่งผมเองก็ได้แต่วางเฉยทำเป็นไม่สนใจและจิบกาแฟต่อ  แต่ในใจนี่บอกเลยว่ากำลังหงุดหงิดตัวเองที่พลั้งปากทำร้ายฝูหรงเข้า 

แต่ใครไม่มาเป็นผมไม่รู้หรอก  ผมจะทนได้อย่างไร  ในเมื่อคนที่ผมเทใจให้มีสายตาชื่นชมชายอื่นต่อหน้า  แม้ไอ้ผู้ชายคนนั้นจะเป็นเพื่อนสนิทและมีแฟนที่รักมากอยู่แล้วก็ตาม 

หลังจากนั้นหลี่ผิงก็ถอนใจยาวและเอ่ยปากให้เลขาออกไปจากห้อง  ผมดูก็รู้แล้วว่ามันเห็นใจฝูหรง  และคงเหนื่อยใจกับเพื่อนอย่างผมไม่น้อย  ก่อนหลี่ผิงจะเอ่ยเตือนสติผมด้วยประโยคหนึ่งที่ทำเอาผมสะอึกและเริ่มหนักใจ

“ไอ้พอล  มึงนี่นะทำเป็นเด็กไปได้  เรียกร้องความสนใจรึไง  ระวังเถอะปากเสียแบบนี้  นอกจากเค้าจะไม่สนใจ    แต่จะพาลเกลียดขี้หน้าเอา”  ไอ้คำว่าเกลียดนี่มันแทงใจผมชะมัด  เพราะหากฝูหรงเกลียดผมเพราะความปากเสียขึ้นมาจริงๆ  เรื่องง้อขอคืนดีคงกลายเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสสำหรับผมแน่นอน

ผมจึงรีบเอ่ยลาและพุ่งออกจากห้องทำงานของมันทันที  โดยไม่คิดจะรอฟังคำตอบรับสักนิด  แต่เมื่อออกมายืนนอกห้องได้  ผมกลับทำตัวไม่ถูกไม่รู้จะเริ่มพูดกับฝูหรงอย่างไร  ในเมื่อตอนนี้ฝูหรงเอาแต่นั่งเงียบ  และจ้องเพียงหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น  ผมเชื่อว่าเจ้าตัวรู้ว่าผมมองอยู่แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจกันสักนิด  แต่แล้วผมก็ได้ใจหาย  เมื่อได้เห็นหยดน้ำตาร่วงหล่นมาตามพวงแก้ม  ก่อนฝูหรงจะเบี่ยงหน้าหนีและทำท่าจะลุกหนีผมไปดื้อๆ

“ฝูหรง...มานี่”  ผมไม่มีทางปล่อยให้ฝูหรงหนีผมไปไหนอีกแล้ว  จึงเข้าไปรวบจับข้อมือและดึงคนตัวเล็กเข้าหาอก  ก่อนจะบังคับให้เดินหลบมายังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลนัก

เมื่อเข้ามาในห้องน้ำได้  ผมก็กดล็อกและรวบกอดร่างเล็กที่มีน้ำตาไหลพราก  แต่กลับไม่มีเสียงสะอื้นให้ได้ยินไว้กับอก  พลางลูบหลังปลอบประโลม  แต่ผมก็รู้สึกผิดมากจนไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกไป  ยิ่งผมรู้สึกถึงความชื้นบริเวณอกเสื้อมากเท่าไหร่  ผมก็ยิ่งใจแกว่ง  จึงออกแรงรวบกอดร่างบางเข้าหาอกมากขึ้น 

ผมยืนกอดปลอบฝูหรงเงียบๆพักหนึ่ง  ก่อนจะรับรู้ถึงแรงต้านที่อก  จนต้องคลายอ้อมกอดลง  แต่ก็ยังเห็นเพียงกลุ่มผมดำขลับเท่านั้น  ผมจึงเอื้อมมือเชยคางฝูหรงขึ้น  และจงใจถอดแว่นอันโตออกจากใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตา  ผมเองถึงกลับใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม  เมื่อได้สบตาเข้ากับดวงตากลมโตที่ส่งกระแสแห่งการต่อต้านรุนแรงมาให้  โดยที่เจ้าของดวงตานั้น  ยังคงยืนประจันหน้ากับผมไม่มีหลบเลี่ยง

“ฝูหรง...”  ผมหมดแรงจึงเปล่งเสียงเรียกชื่อคนตัวเล็กออกไปได้เท่านั้น  ก่อนจะทำใจกล้าเกลี่ยคราบน้ำตาออกจากพวงแก้มใส  ซึ่งฝูหรงเองก็ยังคงยืนนิ่งและปล่อยให้ผมได้ทำตามใจ

“เลิกยุ่งกับผมเถอะ”  ประโยคนี้ไม่ต่างจากสายฟ้าฟาดลงกลางใจ  แม้ผมจะตกใจและสำนึกตัวแล้วว่าทำผิด  แต่ผมไม่มีทางทำตามคำขอนี้หรอก

“ไม่มีทาง!...พอลได้เจอฝูหรงแล้ว  ยังไงก็จะไม่ยอมปล่อยให้ฝูหรงไปไหนอีก...พอลขอโทษที่ปากเสียใส่  แต่ใครจะทนไหว  ที่ได้เห็นคนที่เรารักชื่นชมผู้ชายอื่นคาตา”  แม้ฝูหรงจะทำหน้าเคร่งขรึม  แต่แววตากลับอ่อนแสงลงกว่าเมื่อแรกที่ตัดรอนกัน  ทำเอาผมเริ่มใจชื้นขึ้นมานิด

“คนที่รักงั้นเหรอ...ผู้ชายอย่างคุณรักคนได้กี่คนกันแน่”  ประโยคประชดประชันและหางเสียงสั่นๆอย่างคนผิดหวัง  แม้จะทำผมใจเสียแต่ก็ทำให้ผมเข้าใจในตัวคนพูดได้ทันที 

ผมรวบมือทั้งคู่ของคนที่เข้าใจผิดไว้ระหว่างอก  ก่อนจะจ้องเข้าไปในดวงตากลมโต  ที่เคลือบคลอไปด้วยหยาดน้ำตาไว้

“ฝูหรง  พอลรักฝูหรง  รักมาตลอดและรักอยู่คนเดียว  ไม่เคยมีใครอื่นนอกจากกระต่ายน้อยขี้ตื่นของพอลคนนี้เลย  ขอให้เชื่อใจพอลนะครับ  ส่วน  ‘คนอื่น’  ฝูหรงคิดมากไปเอง”  ผมคลี่ยิ้มใส่ตากระต่ายน้อยน่ารักที่กำลังหรี่ตามองผมอย่างจับผิด  ก่อนจะรวบกอดร่างเล็กเข้าหาอกอีกครั้ง  และแช่จูบไว้ที่ขมับขาวๆอยู่พักหนึ่ง 

ฝูหรงเองก็มีขยับขลุกขลักอยู่ในอกผมอย่างขัดใจ  ก่อนจะผลักผมออกและจ้องตาอย่างรอคอย  คงหวังว่าจะได้ยินคำอธิบายคำว่า  ‘คนอื่น’  ที่ผมเน้นในประโยคก่อนหน้า  แต่ผมก็เลือกที่จะเงียบและยิ้มใส่ตาวาวๆคู่นี้เท่านั้น  ด้วยผมเริ่มอารมณ์ดีที่อย่างน้อยฝูหรงก็ยังยอมฟังในสิ่งที่ผมพูดและมีทีท่าอยากรู้ 

แต่จะให้ผมมายืนอธิบายท่ามกลางอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ก็ใช่ที่  เพราะแค่คำสารภาพรักเมื่อครู่ก็มากเกินพอแล้ว  ด้วยผมคงต้องร่ายยาวถึงที่มาที่ไปของตัวผมเองตั้งแต่ต้น  ไหนจะเหตุผลที่ผมอยากรู้ว่าทำไมฝูหรงถึงหนีผมไปเมื่อห้าปีก่อนอีก  เอาเป็นว่าผมขอพากระต่ายน้อยเข้าไปทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของผมยังบ้านของตัวเองเลยแล้วกัน
งานนี้เชื่อเถอะว่ากระต่ายน้อยแสนน่ารักไม่มีทางดิ้นหลุดไปจากกรงเล็บของสิงโตเจ้าป่าเยี่ยงผมได้อย่างแน่นอน

..............................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ตอนนี้คงพอเดาออกเนอะว่าอะไรเป็นอะไร  หรือใครเป็นต้นเหตุของเรื่องยุ่งๆนี้
และก็คงขัดใจพอกันว่าเมื่อไหร่ไอ้คู่นี้มันถึงจะเคลียร์กันให้รู้เรื่องสักที
นั่นสิ!!  ‘พอล!  ทำไมนายไม่พูดๆไปให้รู้เรื่องว้า  เล่นตัวทำไม!’ 
ตามนั้นค่ะ  เราต่อว่านายพอลให้แล้ว   :laugh:

ตอนต่อไปมาตามฟังนายพอลแจงเรื่องยุ่งๆเมื่อ 5 ปีก่อนกัน  และลุ้นด้วย
ว่ากระต่ายน้อยขี้ตื่นจะเชื่อมั้ย  เจอกันอาทิตย์หน้าค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.เหตุการณ์เดียวกันนี้มีในตอน  “ซาตานน้อยที่รัก” ธันว์&หลี่ผิง  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38212.msg2428354#msg2428354) เพิ่มอรรถรสในการอ่านนะคะ  เผื่อคนที่ไม่เคยอ่าน “รักหวานๆของมาเฟียขี้หึง” ค่ะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 08-06-2014 09:02:33
พอลนายทำความเข้าใจกับฝูหรงให้สำเร็จสักทีสิ ขัดใจคนเชียร์เฟ้ย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 08-06-2014 09:25:44
สงสัยต้องให้ใครเอาหินออกจากปากนายพอล  :laugh: จะได้หายปากหนัก และปากเสีย

อยากให้พอลเคลียร์กับฝูหรงต่อหน้าจินนี่ไปเลย  จะได้เห็นความหวานของคู่นี้ซะที  รอความหวานและความหื่นของคู่นี้อยู่
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 08-06-2014 10:02:23
ปากหนัก ซะเหลือเกิน พ่อพระเอก

กว่าจะคิดได้ ว่าควรจะอธิบายอะไรๆ ก็ปล่อยเวลาผ่านมาตั้งนาน

สมควรแล้ว ที่ฝูหรงจะชื่นชมคนที่ตรงไปตรงมามากกว่า แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า รัก อ่ะนะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 08-06-2014 11:12:36
พอลหลอกพากระต่ายน้อยเข้าบ้าน
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 08-06-2014 11:31:40
รอความกระจ่าง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 08-06-2014 12:06:44
รีบเคลียร์เลยนะ เฮียพอล

ค้างไว้นานเดี๋ยวจะพาลเข้าใจผิดอีก

แก้ตัวเรื่อง จินนี่ ด้วยนะ ชักจะเห็นเค้าลางความวุ่นวายกลายๆ แฮะ

เหอ เหอ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 08-06-2014 12:10:30
ปากหนัก ปากแข็ง ปากเสียย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-06-2014 12:18:28
พอลปากเสีย!ชอบทำให้ฝูหรงร้องไห้!!
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 08-06-2014 13:53:16
พอลนี่จะง้อทั้งทีเอาแบบที่ดีกว่าเน้มะมีรึไร  :m26:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 08-06-2014 13:58:26
ทำไมฝูหรงถึงหนีพอลไปเมื่อห้าปีก่อน  :hao4: :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 08-06-2014 14:22:52
 :hao4:

พูดไม่คิดก็เลยทำให้คนอื่นเสียใจแบบนี้แหละ
คราวหน้าก็หัดคิดก่อนพูดด้วยนะพอล

รออ่านเหตุผลที่นายพอลถูกทิ้ง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 08-06-2014 14:35:40
อีตาพอล! ไม่ต้องทำตัวให้เหมือนกับชื่อตอนเสียขนาดนี้ก็ได้นะคะ!!
อ่านไปแล้วอยากทึ้งหัวตาพอลไปด้วยเลยค่ะ!   :ling1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 08-06-2014 16:03:04
อ้ากกก!!!!!อยากจับพอลมาเเล้วทำแบบ :fcuk:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 08-06-2014 17:30:24
แง :m5: ขอโทษนะปาปา มามา น้องพอล ถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนทำลายความรักน้องพอลซะงั้น
ที่แท้ก็น้องจินนี่(?)นี่เอง ไหง่นิสัยไม่น่ารักอย่างงี้นะ คนจะรักกันมาทำให้เค้าแตกกันซะนี่
ดีนะแค่ประโยคเดียวก็ทำให้น้องพอลเอ่ะใจ จนรู้ว่าใครทำให้น้องฝูหรงเปลี่ยนไป
แบบนี้ต้องพาไปยืนยันกันให้รู้ไปเลย เผื่อทุกคนจะได้รู้เรื่องที่น้องจินนี่ทำเมื่อห้าปีก่อนด้วย
ดูสิน้องจินนี่จะแก้ตัวว่ายังไง หรืออาจยอมรับง่าย ๆ ก็ได้ เพราะคุณน้องทำให้เค้าเลิกกันเป็นปกติอยู่แล้วนี่
ก็หวังว่าช่วงที่น้องพอลใจเย็นไม่รีบอธิบายให้น้องฝูหรงเข้าใจจะไม่เกิดเหตุอะไรให้เรื่องบานปลายกว่าเดิมหรอกนะ
ดีนะถึงจะทำเย็นชาใส่ แต่น้องฝูหรงก็ดูจะใจอ่อนให้น้องพอลได้ไม่ยาก (รึเปล่า)
ตอนหน้าก็ขอให้น้องพอลรีบแจง รีบเคลียร์ให้กระต่ายน้อยยอมเชื่อใจทีเถอะ
เผื่อจะได้มีฉากหวาน ๆ กะเค้ามั่ง รู้สึกอ่านมากระต่ายน้อยจะร้องไห้เพราะปากน้องพอลแทบทุกตอนเลย น่าสงสารจัง
รอติดตาม และบวก บวก เป็นกำลังใจให้คุณมาศต่อไปค๊า  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 08-06-2014 19:13:08
อยากรู้เหมือนกันเรื่องเมื่อห้าปีก่อนนั่นน่ะ   :katai5:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 08-06-2014 21:34:00
อิตาพอลนี่เล่นตัวจริงๆเลยนะ
 :angry2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 08-06-2014 22:03:12
ทุกอย่างดีหมด ยกเว้นปาก ฮ่วย!
ถ้าพูดดีๆ เลิกปากเสีย ปากแข็ง ปากวอนหาเรื่องนะ อาจจะมีอะไรดีกว่านี้ไปนานแล้ว
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 08-06-2014 22:21:57
 :beat:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 08-06-2014 22:46:58
พอลอาจจะปากหนัก
แต่ถ้าความจริงเปิดเผยนี่คนเงิบคือฝูหรงนะเนี่ย...
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 08-06-2014 22:49:24
แอบตกใจเรื่องญาติสาว
คือถ้าเจอญาติแฟนแบบนี้ เป็นใครก็ถอยนะ
แล้วน้องนางเป็นคนที่กันท่าเมื่อห้าปีที่แล้วมั้ย??
หลายอย่างนะ สงสารฝูหรง

แล้วก็นะ...อยากง้อแต่ปากหมาใส่นี่ขอซื้อ
คือไม่มีใครรู้หรอกว่าช่วงเวลาที่ห่างไป ต่างต้องเจออะไรมาบ้าง
ยิ่งคนที่ทำให้เจ็บแล้วอยากกลับมานี่...ต้องเริ่มจากติดลบนะ ไม่ใช่ศูนย์
แม้เขาจะยังรักอยู่ แต่ทุกคนมีกำแพงทั้งนั้นแหละ...เวลาผ่าน คนเปลี่ยน...รักอยู่ แต่เปลี่ยนความคิด

จะพูดจะจาก็มีสติหน่อย...เพราะคงไม่มีใครสนใจคนที่ทำสิ่งแย่ๆ ใส่เราหรอก

ปล.อิป้านี่อินมาก...เหนื่อยกะผู้ชายปากหมา - -"
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 08-06-2014 23:08:33
พอลปากไม่ดี ทำฝูหรงน้ำตาตกเลย
ตบปากตัวเองเลยพอล
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: rule ที่ 09-06-2014 00:02:42
ของพี่พอลมาแบบเงียบๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 09-06-2014 11:18:19
จินนี่นะจินนี่ อย่าให้เจอนะจะตีซะป้าบ
มันน่านัก!!!!

เคลียร์ค่ะพอล เคลียร์ด่วนๆ หวังว่ากระต่ายน้อยจะยอมฟังนะคะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 09-06-2014 13:54:04
จะพากระต่ายน้อยไปแนะนำที่บ้านเลยก็ได้นะพอล
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoRin ที่ 09-06-2014 20:19:24
จะพากระต่ายน้อยเข้าถ้ำเลยว่างั้น แล้วนึกถึงยัยปีศาจที่บ้านพี่หรือยัง
ให้เดานะ ว่านางคงเป็นเหตุผลที่ทำให้กระต่ายน้อยหนีไปไงล่ะ สิงโตเอ้ยยยยย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 11-06-2014 11:27:44
ก็ปากอย่างนี้ไงถึงได้ต้องตามง้อเขาอยู่อย่างเนี้ย :m16:
ถ้าตกลงเป็นแฟนกัน ฝูหรงอย่าได้ยอมเชียวนะ
เอาให้อยู่หมัดเลย จะได้ไม่ต้องมาปากเสียใส่เราอีก
ถึงกับจะพาเข้าบ้าน แสดงว่าคิดดีแล้วใช่ไหมพอล
เคลียร์ญาติตัวเองให้ดีก่อนเถอะ ก่อนที่จะเป็นแฟนกัน
คดีเมื่อห้าปีก่อนก็คิดว่ามาจากจินนี่นี่แหละ o18
ถือโออาสเคลียร์ไปเลยแล้วกันนะ คนอ่านก็ลุ้นอยู่เหมือนกัน
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 12-06-2014 18:24:44
 :z2:

อึ้บๆ ดันหน่อยๆ  :katai5:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 13-06-2014 18:52:50
อธิบายให้ฝูหรงเข้าใจเร็วๆนะจ๊ะ พอล^^
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 14-06-2014 13:39:46
เปิดเผยตัวมารความสุขของพอลกับฝูหรง ซะที จินนี่ ผู้หญิงอะไร น่ารำคาญมากกก
ทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเค้าไปทั่ว ไม่เฉพาะแค่กับพอล แต่กับญาติผู้ชายทุกคน
ขนาดทำให้เค้าต้องเลิกกัน จินนี่ เธอเป็นอะไรมากรึเปล่า? เลี้ยงดูกันมา จนเอาแต่ใจได้ขนาดนี้
ไม่ไหวเลยนะ นิสัยอย่างนี้ มันน่ารักตรงไหน เที่ยวทำให้ใครต่อใคร เค้าต้องเสียใจเนี่ย
ส่วนนายพอล ก็ยังปากเสียได้คงเส้นคงวาจริง ๆ เลยนะ เฮ้อ  :เฮ้อ:  ปรับปรุงตัวหน่อย
ดูตัวอย่างคนใกล้ตัว อย่างเฮียหลี่ผิงซะบ้าง เคยไหมสักครั้ง ที่จะพูดอะไรให้น้องธันว์ต้องเสียใจน่ะ ชิ
แต่ในเมื่อ ฝูหรง ยอมให้โอกาสพอลได้อธิบายแล้ว ก็หวังว่าพอลจะไม่ทำให้ผิดหวังหรอกนะ
เคลียร์ทุกอย่างให้ชัดเจน ทั้งเรื่องอดีตและปัจจุบัน แล้วถ้าได้รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้ฝูหรงต้องหนีไป
เมื่อห้าปีก่อน มาจากยัยจินนี่น้องสาวที่รักแล้วเนี่ย ก็หวังว่าพอล จะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้
เรื่องในอดีต แก้ไขไม่ได้ แต่หวังว่าปัจจุบัน จะปกป้อง ดูแลฝูหรงได้นะ  เพราะถ้าขืนพอลยังยอมจินนี่
ทุกเรื่องอย่างนี้ ก็มีแววว่าฝูหรงจะต้องเสียใจซ้ำ ๆ อีกแน่ ๆ สงสารฝูหรงมากเลยนะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  :L1:
หัวข้อ: Re:{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย"P.4(8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-06-2014 18:22:53
 o8 o9 :teach: นายควรจัดการนะพอล
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.4 "ทิฐิของผู้ชายปากเสีย" P.4 (8/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 15-06-2014 08:37:06
หนุ่มอิตาลี่นี่เป็นหนุ่มหล่อ นักรักในฝันจริงๆ นะ

แต่สาวที่มาเป็นอุปสรรคความรักนี่ก็ช่างกระไรเลยจริงๆ อีกเช่นกัน

ขอบคุณครับ
.น้ำชา.
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 15-06-2014 09:50:18
ตอนที่ 5

โจวพอล

   “ที่นี่ที่ไหน  ทำไมถึงไม่พากลับคอนโด”  แม้น้ำเสียงและสีหน้าจะชวนหาเรื่องสักแค่ไหน  แต่ใบหน้าเล็กๆนั่นก็ยังน่ารักสำหรับผมไม่เปลี่ยน

“บ้านพอลเอง”  ผมแทบจะหลุดหัวเราะออกมา  ให้กับอาการตกตะลึงอ้าปากหวอดวงตาเบิกกว้างของกระต่ายน้อยขี้ตื่นของผม  จนแว่นอันโตบนดวงหน้าเรียวเล็กเอียงกะเท่เร่เกือบหลุด  ก่อนฝูหรงจะพึมพำคำว่า  ‘บ้าน’  ออกมาเบาๆ  และเอี้ยวตัวไปเกาะขอบหน้าต่างจ้องตัวบ้านไม่มีขยับ

“แล้วพามาทำไม”  เสียงเล็กๆลอยมาเข้าหู  เหมือนว่าฝูหรงพึมพำกับตัวเองเสียมากกว่า

ผมที่จอดรถหน้าบันไดทางขึ้นตึกดีแล้ว  จึงหันมากุมทับหลังมือนุ่มที่วางไว้บนตัก  จนเจ้าของค่อยๆหันมามองกันด้วยแววตาสงสัยปะปนไปด้วยความไม่แน่ใจ  ผมจึงเลือกที่จะไล้หลังมือนุ่มเบาๆและยกยิ้มน้อยๆเป็นการปลอบโยน

“เราต้องคุยกันไงครับ  อ๊ะๆ  พอลรู้ว่าฝูหรงจะพูดอะไร  พอลไม่ปล่อยให้ฝูหรงต้องคิดมากไปเองคนเดียวอีกแล้ว  เรามาคุยกันที่บ้านพอลนี่แหละดีที่สุด  ที่สำคัญพอลอยากทำให้ฝูหรงเชื่อใจ  และรู้จักตัวตนที่แท้จริงของพอล  ซึ่งมันคงไม่มีที่ไหนเหมาะเท่ากับที่นี่อีกแล้ว”  แววตาแข็งๆที่แฝงแววไม่มั่นใจค่อยๆอ่อนแสงลง  ซึ่งถือเป็นนิมิตรหมายอันดีว่าฝูหรงจะยอมเปิดใจเพื่อคุยเรื่องของเรา

ผมยื่นหน้าไปจูบขมับขาวเบาๆอย่างอดใจไม่อยู่  และผมก็ได้แต่อมยิ้มอย่างเอ็นดู  ให้กับกระต่ายน้อยแก้มแดงที่ก้มหน้าหลบตากันให้วุ่น  ก่อนผมจะจับจูงคนตัวเล็กเข้าบ้าน  และได้รู้จากแม่บ้านว่าปาปามามาไม่อยู่  เพราะทั้งคู่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประมูลเครื่องประดับ  ที่มีบริษัทของคุณอาหญิงของผมส่งคอลเลคชั่นใหม่เข้าร่วมในการประมูลครั้งนี้ด้วย  ความตั้งใจของผมที่ว่าจะให้ฝูหรงได้เจอปาปามามาในค่ำนี้เลย  จึงต้องพับเก็บไว้ก่อน 

หลังจากนั้นผมก็หันไปกำชับแม่บ้านให้บอกทุกคนที่ดูแลบ้าน  ว่าห้ามใครแพร่งพรายเรื่องที่ผมพาฝูหรงมาที่บ้านนี้เด็ดขาด  เพราะผมกลัวว่ายังไม่ทันจะได้คุยกันให้รู้เรื่อง  ยัยจินนี่แม่มดตัวร้ายจะมาทำพังซะก่อน  และผมจึงหันไปสั่งให้แม่บ้านตั้งโต๊ะ  ก่อนจะพาฝูหรงทานมื้อเย็นด้วยกันสองต่อสอง  ซึ่งฝูหรงเองก็เงียบไปเลย  แต่ยังคงกินได้ไม่น้อย  จนผมไม่กังวลสักเท่าไหร่  ด้วยเดาว่าเจ้าตัวคงรู้สึกแปลกที่แปลกทางอยู่นั่นเอง

............................................

“ฝูหรงรอพอลอยู่ที่บ้านก่อนนะ  อยากทำอะไรก็ได้เต็มที่เลย  แต่ถ้าอยากได้อะไรเพิ่ม  โทรลงไปบอกแม่บ้านนะครับ...หรือจะเปลี่ยนใจไปงานกับพอล  ไปมั้ย”  ผมลูบแก้มใสอย่างเบามือ  พร้อมส่งสายตาเชิญชวนเต็มที่  ด้วยใจจริงไม่อยากทิ้งกระต่ายน้อยตาใสไว้เพียงลำพังสักนิด  หากไม่ติดว่าผมจะต้องไปงานเปิดร้านของไรอันผู้ที่เป็นเพื่อนสนิทในกลุ่ม

“หึ!  ไม่ไป...ก็ถ้ารู้ว่าไม่ว่างจะต้องให้มาอยู่ที่นี่ทำไมก็ไม่รู้...อื๊อ!  เล่นไรเนี่ย  นี่นาย!...อ๊ะ!”  ฝูหรงทำหน้าบูดส่ายหัวปฏิเสธจนเส้นผมยุ่งเหยิง  แถมด้วยการบ่นกระปอดกระแปดด้วยปากยื่นๆ  ทำเอาคนที่ได้เห็นอย่างผมอดมันเขี้ยวขึ้นมาไม่ได้

ผมจึงแกล้งดึงแก้มใสให้โย้เย้ไปมาเบาๆ  จนเจ้าตัวโวยวายใส่  ก่อนจะตีหลังมือผมอย่างไม่ออมแรงสักนิดด้วยสีหน้าบึ้งตึง  พร้อมกับที่แก้มใสค่อยๆขึ้นสีจากรอยนิ้วมือ  จนผมเองเกิดความรู้สึกเอ็นดูและความเสียดายในเวลาเดียวกัน  ก่อนผมจะตัดสินใจดึงแว่นกรอบหนาออกจากใบหน้าน่ารักๆ  ผลก็คือฝูหรงอุทานอย่างตกใจเตรียมอ้าปากประท้วง  มีเอื้อมมือพยายามจะแย่งแว่นคืนจากผมอีกด้วย 

การกระทำนี้ของกระต่ายน้อยกลับเป็นผลดีสำหรับผม  เมื่อเป็นช่องทางให้ผมสามารถยึดข้อมือบางทั้งคู่ไว้อย่างสะดวก  พร้อมซอกซอนลิ้นผ่านริมฝีปากนุ่ม  เพื่อขโมยความหวานจากโพรงปากอุ่นของคนตัวเล็กได้อย่างถนัด  ซึ่งผมก็ไม่ผิดหวังด้วยรสชาติจูบของเรายังคงหวานไม่เปลี่ยน  ผมตักตวงความหวานจนพอใจ  ก่อนจะตัดใจผละริมฝีปากออกห่างทั้งๆที่แสนเสียดาย  แต่ก็อยากให้กระต่ายน้อยได้พักหายใจบ้าง 

ผมเลือกที่จะเปลี่ยนเป้าหมายมาสูดกลิ่นแก้มใสแทน  และไม่ว่าจะสูดดมยามใด  กลิ่นหอมอ่อนๆชวนสบายใจนี้  พาลทำให้ผมหลงลืมเวลาอยู่ร่ำไป  แต่ผมก็ต้องตัดใจอย่างเด็ดขาด  เมื่อมีเสียงสั่นๆประท้วงขึ้น  พร้อมแรงผลักเบาๆแถวแผ่นอก

“พะ  พอลพอแล้ว...ไม่รีบไปงานรึไงเล่า”  ฝูหรงเรียกชื่อผมแทนคำว่าคุณหรือนายได้  แปลได้สองอย่าง  หนึ่งคือคนน่ารักยังไม่เป็นตัวของตัวเองดีนัก  กับสองฝูหรงเริ่มไว้ใจในตัวผมบ้างแล้ว 

แม้ประโยคที่ผมได้ยินจะเหมือนเป็นการผลักไสกันให้ออกห่าง  แต่ผมกลับหยุดยิ้มไม่ได้จริงๆ

“ครับๆ  แล้วพอลจะรีบกลับมาหาฝูหรงนะ...ฟอดดด...ฮึๆ”  จะไม่ให้ผมหลุดหัวเราะออกมาได้ยังไง  ในเมื่อกระต่ายน้อยน่ารักก้มหน้างุดแก้มแดงแทบแตกไปแล้ว

.............................................

“พอลเป็นไรวะ  วันนี้ดูมีความสุขกว่าปกติ  มีอะไรดีๆรึไง”  ผมเหลือบมองไอ้ลูกครึ่งอินเดียหน้าคมอย่างโจเซฟนิด  ก่อนจะกระตุกยิ้มใส่แววตาสงสัยของเพื่อน  และเสจิบแชมเปญในมือ  ทำตัวเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่มันถาม  ทั้งๆที่ได้ยินเต็มๆทั้งสองรูหู  แต่เป็นเพราะผมยังไม่คิดจะตอบคำถามของเพื่อนตอนนี้  จึงเลือกที่จะพูดถึงเหตุการณ์ตรงหน้าเราแทน

ภาพตรงหน้าของเราคือเจ้าพ่อหลี่ผิงยืนตระหง่านกำลังเผชิญหน้ากับไรอัน  ผู้ที่เป็นเจ้าของอาณาจักรสถานบันเทิงแห่งใหม่อันแสนหรูหรา  และเป็นสถานที่เดียวกับที่พวกเรายืนอยู่ขณะนี้  ทั้งคู่จ้องตากันด้วยท่าทางที่ไม่มีใครคิดจะยอมใครก่อน  โดยที่หลี่ผิงมีคนน่ารักถึงสองคน  อย่างน้องธันว์แฟนตัวน้อยและเหมยอิงน้องสาวฝาแฝดคนสวยยืนขนาบข้าง  ซึ่งท่าทางดังกล่าวของเพื่อนสนิททั้งคู่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย  หากไม่ใช่เพราะไรอันคิดจะครอบครองนางฟ้าแห่งหวางหย่งกัง  จนฝาแฝดขี้หวงอย่างหลี่ผิงอดที่จะแสดงความไม่พอใจไรอันขึ้นมาไม่ได้

เพื่อนสนิททุกคนต่างรู้ดีว่าหลี่ผิงไม่ได้ขี้หวงเฉพาะแฟน  แต่สำหรับน้องสาวมันก็หวงไม่ต่างกัน  ไอ้ลูกครึ่งเดนมาร์กอย่างไรอันเองก็รู้ถึงข้อนี้ดี  แต่ในเมื่อความรักที่มีมานานถูกบ่มเพาะจนสุกงอม  จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่วันนี้ไรอันจะเปิดตัวว่าหมายปองนางฟ้าให้พี่ชายฝาแฝดได้รู้  ซึ่งผมและโจเซฟรู้ถึงความรู้สึกที่ไรอันมีต่อเหมยอิงมาตลอด  แต่ก็ไม่เคยที่จะปริปากบอกไอ้คนหวงน้องสาวได้รู้  ด้วยอยากให้ไรอันเป็นคนบอกเอง  และวันนี้ไรอันมันคงคิดดีแล้ว  ที่จะเปิดเผยความรู้สึกที่มีให้ว่าที่พี่เมียได้รู้  ซึ่งผมเองอดเป็นห่วงไรอันไม่ได้จริงๆ  เพราะอุปสรรคความรักของมันไม่ได้มีแค่หลี่ผิง

“งานนี้ไรอันเจอศึกหนักแน่ว่ะ  นี่แค่หลี่ผิงก็ดูท่าจะอ่วมแล้ว  ถ้าเจอสามพญามังกรแห่งตระกูลหวางและตระกูลหยาง  จะไม่ยิ่งกว่านี้รึไง”  ใช่แล้วครับ  ทั้งปาปาหลี่จวิน  อาหยางตี้หลง  และอากงไป๋หลงของสองพี่น้องฝาแฝดนั้น  ขึ้นชื่อว่าหวงเหมยอิงไม่น้อยไปกว่าหลี่ผิงสักนิด  เผลอๆจะมากกว่าด้วยซ้ำไป

“ในเมื่อไรอันรักเหมยอิง  มันเองก็ต้องเสี่ยงและทุ่มเทให้สุดตัวน่ะถูกแล้ว  ไม่เช่นนั้นมันจะได้คนที่ผูกใจรักอย่างเหมยอิงมาได้ยังไง...เรื่องความรักคงไม่ต่างจากธุรกิจหรอก  หากหวังผลกำไรสูง  คงต้องเสี่ยงที่จะลงทุน  เพียงแต่เรื่องรักต้องเสี่ยงใช้หัวใจเข้าแลกก็เท่านั้น”  ผมเหลือบมองเจ้าของ  ‘AJ  Music  Record’  นิดด้วยความแปลกใจ  เพราะคำพูดลึกซึ้งที่ได้ยินไม่น่ามาจากคนที่ไม่มีความรักอย่างโจเซฟได้  แต่พอคิดอีกทีคนอย่างโจเซฟคิดได้แบบนี้ก็ไม่แปลกเท่าไหร่  ด้วยในกลุ่มเรานั้นมีมันนี่แหละที่ละเอียดอ่อนช่างใส่ใจสิ่งรอบตัวที่สุดแล้ว

ส่วนผมเองก็อดเห็นด้วยกับโจเซฟไม่ได้จริงๆ  เพราะถ้าไม่ใช้ใจแลกจะได้หัวใจอีกดวงมาได้อย่างไรกัน  ซึ่งผมก็ได้เล็งหัวใจดวงหนึ่งไว้แล้ว  ว่าจะต้องได้หัวใจดวงนั้นมาครอบครอง  รวมถึงผมต้องได้เจ้าของหัวใจมาเป็นคนของผมเองด้วย

“ขอบใจนายสองคนมากที่มา”  ไรอันหันมาพูดกับผมและโจเซฟ  หลังจากมันมองส่งท้ายรถลีมูซีนสีดำคันใหญ่ตาละห้อยจนลับตา

“ไม่มาก็ไม่ใช่เพื่อนสนิทสิวะ  ยังไงฉันก็ยินดีกับนายอีกครั้งที่ฝันเป็นจริงสักที”  โจเซฟพูดจบก็ชกเบาๆไปที่ไหล่ของไรอัน  ซึ่งไรอันเองก็ได้แต่หัวเราะเบาๆและเอ่ยขอบใจ  ก่อนมันจะหันมาเลิกคิ้วมองผมยิ้มๆ  ผมจึงยื่นมือไปตบไหล่มันเบาๆเป็นการเอาคืน

“ยินดีกับนายเหมือนกันนะไรอัน  คราวนี้คงได้เวลาทำตามหัวใจสักที  ฉันเอาใจช่วยนายเต็มที่ว่ะเพื่อน...แต่ถ้าโดนมาเฟียใหญ่มันเล่นงาน  บอกก่อนแล้วกัน  ฉันไม่ไปช่วยนะ...แต่จะไปเยี่ยม  ฮ่าๆๆ”  ผมกระโดดหลบหน้าแข้งของไรอันทั้งๆที่กำลังกลั้วหัวเราะ  ‘แหย่แค่นี้ทำเป็นจริงจังไปได้  ฮ่าๆ’

“พอล  มึงนี่ปากดี  ไม่เจอมั่งก็ให้รู้ไป  หึ!”  แม้น้ำเสียงของไรอันจะออกแนวข่มขู่  แต่สีหน้าแววตาดูก็รู้แล้วว่ามันแค่หมั่นไส้ผม  ไม่ได้นึกโกรธเคืองอะไร 

พวกเราต่างรู้ดีแก่ใจว่าสัมพันธภาพของเพื่อนไม่มีวันที่จะตัดขาดกันได้  ซึ่งผมไม่มีทางทิ้งเพื่อนอย่างมันให้ต้องเผชิญปัญหาเพียงลำพัง  และเชื่อว่าหลี่ผิงเองก็คงไม่ตัดขาดกับเพื่อนสนิท  เพียงเพราะเพื่อนสนิทอย่างไรอันรักและจริงใจต่อน้องสาวของตัวเองหรอกครับ  แต่คงต้องให้เวลาหลี่ผิงทำใจบ้างก็เท่านั้น 

ระหว่างที่พวกเราสามเพื่อนซี้กำลังจะแยกย้าย  เสียงโทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้น  และชื่อที่โชว์บนหน้าจอก็ทำให้ผมยิ้มได้  แต่น้ำเสียงตื่นตระหนกของคนปลายสายนี่สิ  ทำเอาผมใจหายและร้อนรนขึ้นมาทันที  แม้แต่ไอ้ไรอันและโจเซฟก็หันมาให้ความสนใจกับอาการกระสับกระส่ายของผม

“พอล!...พอลรีบกลับมาเร็วๆ  มาช่วยทางนี้หน่อย  สถานการณ์ทางนี้ไม่ดีเลย  พะ...”  อยู่ๆปลายสายก็ตัดไป  แถมท้ายประโยคของฝูหรงนั้น  กระแสเสียงที่ผมได้ยินกลับสั่นเครือ  ผมจึงไม่รอช้าที่จะกดโทรกลับไป 

“...[ตื๊ดๆๆๆๆ]...ฝูหรง!... [ตื๊ดๆๆๆๆ]...ฮึ่ม!  เกิดอะไรขึ้นวะ!  ฉันกลับก่อนนะ  ไว้ค่อยคุยกัน”  ผมหันไปโบกมือให้สองเพื่อนสนิทที่ยืนมองมาทางผมด้วยความสงสัย  พร้อมเร่งฝีเท้ากลับไปยังรถที่จอดไว้ไม่ไกลนัก 

ส่วนใจนั้นคงไม่ต้องบอกว่าจะร้อนรนเพียงใด  เรียกได้ว่ารถเร่งได้เท่าไหร่ผมเหยียบคันเร่งจนมิด  ดีที่ไม่ใช่เวลาเร่งด่วน  ทำให้ผมกลับมาถึงบ้านโดยใช้เวลาไปไม่นาน  แต่ในความรู้สึกผมมันก็ยังช้าไป  ด้วยในหัวเฝ้าครุ่นคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับฝูหรงกันแน่  อาจจะเป็นยัยจินนี่ที่รู้ข่าวจึงตามมาราวีเอาเรื่องฝูหรงก็ได้  ถ้าใช่ผมจะไม่ออมมือให้เลยเชียว  หรือว่ามีหัวขโมยที่เข้าไปทำร้ายฝูหรงกันแน่  แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะบ้านผมในเรื่องความปลอดภัย  น่าจะเป็นรองแค่ระบบรักษาความปลอดภัยของธนาคาร  ซึ่งถ้าไม่ใช่คนนอกอย่างที่คิด  ที่จะมาสร้างสถานการณ์เลวร้ายก็คงมีแต่คนในเท่านั้น!

“ฝูหรงอยู่ไหน”  เข้าบ้านมาได้ผมก็ร้องหาคนที่เป็นห่วงสุดหัวใจทันที  แต่สภาพบ้านที่ดูเรียบร้อยไม่มีวี่แววของผู้บุกรุก  ยิ่งทำให้ผมเป็นกังวล 

ก่อนที่ผมจะอกแตกตายไปซะก่อน  เสียงเล็กๆที่เรียกชื่อผมก็ดังแทรกความเงียบขึ้นมา  พร้อมๆกับร่างเล็กในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งและกางเกงขาสั้นตัวใหญ่ที่ชายกางเกงเลยหัวเข่าลงมา  เดินออกมาจากมุมบ้านอย่างช้าๆ  หากเป็นยามปกติผมคงมันเขี้ยวกระต่ายน้อยที่สวมเสื้อผ้าของผมอยู่ไม่น้อย  เพราะฝูหรงขณะนี้ไม่ต่างจากเด็กชายเล็กๆที่ขโมยเสื้อพี่ชายมาใส่สักนิด  แต่นาทีนี้ผมร้อนใจเกินกว่าจะมาชื่นชมความน่าเอ็นดูของคนตัวเล็ก  ด้วยผมปรี่เข้าไปสวมกอดฝูหรงไว้แนบอกด้วยความโล่งใจ  ก่อนจะพรมจูบไปที่กลางกระหม่อมไม่ยั้ง

“เกิดอะไรขึ้นครับ  รู้มั้ยพอลตกใจแทบแย่ตอนฝูหรงโทรไป  โทรกลับก็ปิดเครื่อง”  ส่งคำถามคาใจไปแล้ว  ผมจึงค่อยๆดันร่างเล็กออกจากอก  จนดวงตากลมโตภายใต้แว่นเงยหน้าขึ้นสบตากัน  แต่แววตากลมใสไร้ซึ่งความกังวล  ที่ขัดกับน้ำเสียงตื่นตระหนกก่อนหน้าของฝูหรงนั้น  ทำเอาผมแปลกใจ 

ผมยังไม่ทันซักไซ้ให้รู้เรื่อง  น้ำเสียงทรงอำนาจที่แสนคุ้นหูกลับดังขึ้น

“พอล!...พาคนของแกตามฉันเข้ามาในห้อง”  ปาปาพูดจบก็หมุนตัวเดินกลับไปทางเดิม  ผมจึงก้มหน้ามองคนในอ้อมกอด  ซึ่งฝูหรงเองก็ได้แต่ก้มหน้างุดซ่อนไว้กับอกผม 

ไม่ต้องเดาเลยว่าทั้งคู่ได้พูดคุยกันแล้วหรือไม่  เผลอๆในห้องคงมีมามานั่งรอเราทั้งคู่อยู่แล้วด้วยซ้ำ  ผมที่วางแผนไว้ว่าจะให้ฝูหรงเจอปาปามามาในวันนี้ก็เป็นจริงจนได้  แต่ผมไม่รู้ว่าสถานการณ์ระหว่างทั้งสามคนตอนที่ไม่มีผมอยู่ด้วยนั้น  มันจะดีหรือเลวร้ายแค่ไหน  แต่จากน้ำเสียงตื่นตระหนกในโทรศัพท์  และอาการหลบตาด้วยท่าทางหงอยๆของฝูหรงตอนนี้  ทำให้ผมคิดไปในแง่ร้ายเข้าแล้ว 

ผมไม่รู้ว่าปาปามามาจะตกใจเพียงใดที่เห็นคนแปลกหน้าในบ้านตัวเอง  และพาลมีอคติตั้งแต่ยังไม่รู้จักตัวตนจริงๆของฝูหรง  จนอาจจะต่อต้านและตั้งกำแพงกับคนของผมตั้งแต่การคุยกันครั้งแรกเข้าก็ได้  เพราะไม่เช่นนั้นฝูหรงคงไม่มีอาการเหมือนเด็กที่โดนผู้ใหญ่ดุอย่างที่เป็นอยู่  ผมจึงเอื้อมมือไปลูบหัวทุยเบาๆเป็นการปลอบใจ  ก่อนจะก้มกระซิบให้เราได้ยินกันสองคน

“ไม่ต้องกลัวนะครับ  พอลอยู่นี่แล้ว  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  พอลจะไม่มีวันปล่อยมือฝูหรงเด็ดขาด”  สิ้นคำผมนั้น  แก้มใสๆก็ขึ้นสีระเรื่อน่ามอง  พาลให้อารมณ์มัวหมองค่อยๆจางหาย  จนมุมปากยกยิ้มอัตโนมัติ  ก่อนผมจะตัดสินใจกุมข้อมือบางที่เจ้าของยังคงก้มหน้า  ให้เดินตามกันเข้าไปในห้องรับรอง

ผมคิดตามที่ได้พูดกับฝูหรงเมื่อครู่จริงๆ  เพราะไม่ว่าปาปามามาจะลงความเห็นว่าอย่างไร  ผมได้เลือกแล้วและจะไม่มีวันปล่อยคนที่ผมรอมาห้าปีคนนี้ไปไหนอย่างแน่นอน  ซึ่งในใจลึกๆผมเชื่อว่าหากได้อธิบาย  ปาปามามาต้องเข้าใจและยอมรับในตัวเราทั้งคู่  แถมยังสร้างความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือในตัวผมให้แก่ฝูหรงเองอีกด้วย  ว่าผมนั้นจริงจังกับเจ้าตัวเค้ามากมายแค่ไหน

“มาได้สักทีนะไอ้ตัวแสบ”  แม้น้ำเสียงปาปาจะออกแนวไม่ค่อยพอใจพาให้คนที่ได้ยินใจเสีย  แต่จากสีหน้าละมุนหวานอมยิ้มน้อยๆของมามา  ทำให้ผมเริ่มใจชื้นว่าสถานการณ์อาจไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่คิดไว้ 

ผมจึงส่งยิ้มไปเป็นทัพหน้าให้ปาปาและมามา  ก่อนจะเผื่อแผ่รอยยิ้มนั้นมาให้คนตัวเล็กที่ยืนเงียบๆอยู่ข้างตัว  ฝูหรงเห็นผมยิ้มให้ก็รีบก้มหน้าหนีสายตา  และแก้มที่แดงอยู่แล้วก็ยิ่งแดงขึ้น  แถมยังลามไปที่ใบหูกับลำคออีกด้วย  สงสัยกระต่ายน้อยจะเขินหนัก  เพราะนาทีนี้ไม่ใช่มีแค่ผมที่ชื่นชมในความน่ารัก  แต่บุพการีทั้งคู่ก็มองฝูหรงไม่วางตาเช่นกัน 

ระหว่างที่ผมพาฝูหรงเดินเพื่อเข้าไปนั่งยังโซฟาตัวเล็กข้างๆมามานั้น  ผมแอบเห็นว่าท่านระบายยิ้มด้วยความเอ็นดูมายังฝูหรงอีกด้วย  อย่างน้อยงานนี้ผมน่าจะมีมามาเป็นพวก  ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องยากที่ท่านจะกล่อมคู่ชีวิต  เพื่อลูกชายสุดที่รักอย่างผมและว่าที่สะใภ้แสนน่ารักคนนี้

“โจว  พอล  วอร์เลนโต้!  สารภาพมาให้หมดว่าทำอะไรไว้”  หากว่าปาปาเรียกชื่อผมเต็มยศแบบนี้  แสดงว่าท่านเอาจริงไม่มีเล่น  ซึ่งหาน้อยครั้งนักที่หนุ่มใหญ่เจ้าพ่ออสังหาคนดังที่แสนเงียบขรึมเป็นนิจจะอยู่โหมดนี้ 

ไอ้ผมน่ะไม่เท่าไหร่แต่คนข้างตัวผมนี่ถึงกับสะดุ้ง  และขยับตัวเข้ามาเบียดผมทันที  ผมจึงถือโอกาสปล่อยมือนุ่มที่กุมไว้  และเปลี่ยนมาโอบเอวบางให้ร่างเล็กแนบชิดแผ่นอกผมมากขึ้นไปอีก  พร้อมประสานสายตาจริงจังกับปาปาที่จ้องทุกการกระทำของผมอยู่ก่อนแล้ว

“ปาปามามาครับ  นี่ฝูหรง...เจินฝูหรงคนที่ลูกชายปาปามามาหลงรักมาตลอดห้าปี”  หลังจากผมแนะนำคนข้างตัวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังแล้ว  ผมก็เริ่มสังเกตปฏิกิริยาของแต่ละคนรอบตัว

เริ่มแรกมามาถึงกลับขมวดคิ้วอย่างตกใจ  แต่วินาทีต่อมาท่านกลับระบายยิ้มอ่อนหวาน  ส่งให้ผมและคนข้างตัวให้ได้อุ่นใจขึ้น  ส่วนฝูหรงเองก็เงยหน้าจ้องผมตาค้างด้วยความตกใจเช่นกัน  เพราะคงไม่คิดว่าผมจะสารภาพความในใจต่อหน้าบุพการีเช่นนี้ 
แม้กำลังเผชิญกับสถานการณ์เคร่งเครียด  ผมเองยังคิดอยากจะกดจูบลงบนริมฝีปากที่เผยอค้างด้วยความมันเขี้ยวคู่นั้นเลย  ผมพยายามกดมุมปากลงและตัดใจจากภาพใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดู  ด้วยไม่ใช่เวลาที่ผมจะมาคิดเสน่หาคนน่ารักในตอนนี้  สำหรับปฏิกิริยาของปาปาคือท่านยังคงกอดอกนิ่ง  และจ้องมาทางผมแน่วแน่เหมือนรอคำอธิบายที่มากกว่านั้น

ผมจึงเล่าเรื่องของผมกับฝูหรงเมื่อห้าปีก่อนให้ท่านทั้งคู่ฟัง  เริ่มตั้งแต่เหตุการณ์ที่คอนโดตอนที่เราพบกันครั้งแรก  จนถึงเหตุการณ์ต่างๆระหว่างเราที่มีร่วมกัน  ซึ่งผมเลือกเล่าในส่วนที่ผมประทับใจในตัวฝูหรงแทบทั้งสิ้น  แม้แต่เจ้าตัวเองก็เพิ่งได้ยินจากผมในวันนี้เช่นกัน  รวมพูดถึงเรื่องนิสัยส่วนตัวของฝูหรงที่ผมชื่นชอบ  อย่างความใจเย็นและช่างเอาใจใส่ต่อคนข้างตัว  เพราะไม่ว่าครั้งใดที่ผมกลายเป็นลาวาเดือดมาจากข้างนอก  ก็จะได้ฝูหรงที่เปรียบเป็นน้ำเย็นคอยชโลมร่าง  ทำให้ผมได้อารมณ์เย็นลงทุกครั้ง  รวมถึงความอ่อนโยนและความอ่อนหวานในตัวฝูหรง  เพราะไม่มีสักครั้งที่ผมจะได้ยินเจ้าตัวพูดคำหยาบ  ด้วยมีแต่ผมที่ได้รับถ้อยคำอ่อนหวานแฝงไปด้วยกำลังใจตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน 

บวกหน้าตาน่ารักแบบหาตัวจับยาก  และรูปร่างกะทัดรัดด้วยกอดทีร่างน้อยก็จมไปกับอก  แถมด้วยผิวพรรณเปล่งปลั่งที่ไม่ว่าจะลูบผ่านไปส่วนไหนก็ลื่นมือไม่มีสะดุด  แล้วแบบนี้จะไม่ให้โจวพอลหลงรักจนโง่หัวไม่ขึ้นได้อย่างไรจริงมั้ยครับ  แต่ส่วนดีข้อหลังๆนี้ผมได้แต่คิดอยู่ในใจ  ไม่ได้บอกปาปามามาออกไปหรอกนะครับ

“หลงจนกระทั่งโงหัวไม่ขึ้นเชียวรึ  หึๆ”  ปาปาหัวเราะได้แสดงว่าเริ่มเห็นใจในความรักของผมแล้ว  ส่วนมามาไม่ต้องพูดถึงเพราะระบายยิ้มอย่างกว้างด้วยความถูกใจ  ซึ่งฝูหรงเองก็นั่งตัวแดงก้มหน้างุด  เพราะเขินจัดจนไม่ยอมสบตาใครสักคน  ผมก็ได้แต่ลูบต้นแขนอุ่นเป็นการปลอบโยนเท่านั้น

“ทั้งๆที่ลูกก็รักฝูหรงขนาดนั้น  ทำไมลูกถึงไม่พาฝูหรงมาให้ปาปากับมามาได้รู้จักเร็วกว่านี้ล่ะจ๊ะ”  หลังคำถามของมามา  ผมเหลือบตามองฝูหรงด้วยความรู้สึกผิดนิด  และเสหลบตามามาที่จ้องรอคำตอบ

“ผมผิดเองที่ไม่เคยบอกความในใจให้ฝูหรงรู้  จนกระทั่งฝูหรงน้อยใจและหนีผมไป”

“หมายความว่ายังไงที่ว่าหนี  นี่ลูกกับฝูหรงไม่ได้แอบคบกันลับหลังปาปามามาตลอดห้าปีหรือจ๊ะ”  มามาคิ้วขมวดด้วยความแปลกใจ  จ้องหน้าผมกับฝูหรงสลับไปมา

“ผมเพิ่งได้เจอฝูหรงอีกครั้ง  เมื่อสองวันก่อนนี้เองครับ  ที่ผมพาฝูหรงเข้าบ้านวันนี้  ก็เพราะอยากให้เจอกับปาปามามาด้วย  และผมอยากคุยกับฝูหรงให้รู้เรื่อง  เพราะดูเหมือนว่าฝูหรงจะเข้าใจอะไรบางเรื่องผิดไป  ที่สำคัญผมอยากสร้างความมั่นใจให้ฝูหรงด้วยว่าผมจริงจังกับเค้า”  ผมละสายตาเข้าอกเข้าใจของมามา  เพื่อก้มหน้าส่งยิ้มใส่แววตาสั่นๆของคนในอ้อมกอด

“พอล  คือ  เรา...”  ผมส่ายหน้าพร้อมระบายยิ้มใส่แววตาสับสน  ก่อนจะรวบกอดร่างเล็กไว้กับอกและซุกจมูกซุนเข้ากับกลุ่มผมนุ่ม  จากหางตาผมเห็นปาปาส่ายหน้ายิ้มๆให้แก่มามาที่กำลังระบายยิ้มกว้าง

“ฉันก็นึกว่าแกริอาจพาอีหนูเข้าบ้านซะอีก  ฮึๆ...แล้วตกลงที่หนูหนีไอ้ลูกชายของปาปาไป  เพราะมันมัวแต่ทำตัวไม่รู้เรื่องอมพะนำไม่สารภาพความในใจใช่มั้ย”  ที่แท้ปาปาโกรธผมเพราะเข้าใจผิดนี่เอง  แต่ผมไม่คิดจะพาใครอื่นเข้าบ้านอยู่แล้ว  หากไม่ใช่ตัวจริง  ซึ่งตัวจริงของผมก็คือคนที่นั่งข้างๆนี้คนเดียวนี่แหละ

ผมส่งยิ้มล้อเลียนใส่ตาคนแก้มแดงที่โดนปาปาเลือกใช้สรรพนามเรียกขานอย่างน่ารัก  อย่างคำว่า  ‘หนู’  ได้อย่างเหมาะสมกับตัวตนของฝูหรง  ผมที่เริ่มอารมณ์ดี  เพราะเหตุการณ์เบื้องหน้าไม่ได้ดูเลวร้ายอย่างเมื่อแรกเจอ  ออกจะคลี่คลายและปกคลุมไปด้วยกระแสแห่งความเอื้ออาทรนั้น  ผมต้องประหลาดใจไปกับถ้อยคำจากฝูหรง  ด้วยไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ยินอะไรทำนองนี้

“ไม่ใช่ครับ  ผมไม่ได้หนี...ผมแค่ทำในสิ่งที่ควรทำ  คือการเปิดโอกาสให้พอลได้อยู่กับคนที่รักเท่านั้น”

คนที่ผมรักงั้นเหรอ!?  กระต่ายน้อยพูดอะไรของเค้ากัน  ในเมื่อคนที่ผมรักและรักมาตลอดคือ  ‘เจินฝูหรง’  คนนี้  ผมจะมี  ‘คนที่รัก’  คนอื่นได้ยังไง

................................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ใครหลายคนคงใจหายใจคว่ำกับโทรศัพท์ของฝูหรงใช่ม้า
แต่ผู้ต้องสงสัยก็ไม่ใช่คนที่คุณคิด  กลับเป็นปาปามามาของพอล
และกลายเป็นเรื่องดีที่ทำให้ทั้งคู่ได้เคลียร์ใจกันให้หมด
ซึ่งเรื่องที่ทำให้ฝูหรงเข้าใจไปว่าพอลมี “คนที่รัก” ที่ไม่ใช่ตัวเองอยู่แล้ว
จะมีที่มาที่ไปอย่างไร  แน่นอนคนๆนั้นคือคนที่คุณก็รู้ว่าใคร
รายละเอียดทั้งหมดมาฟังจากฝูงหรงได้ในวันอาทิตย์นะคะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.ติดตามตอน  • ตอนที่ 10 "ผู้กล้า" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38212.msg2431037#msg2431037) ได้นะคะ  จะเป็นเหตุการณ์ช่วงที่พอลไปงานไรอันค่ะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 15-06-2014 10:40:10
หญิงจินนี่ใช่มั๊ย :a5:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 15-06-2014 10:42:16
จินนี่ทำอะไรไว้เนี่ย
 :katai1:
หัวข้อ: Re:{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ}ฝูหรง&พอลCH.5"คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-06-2014 11:02:41
 :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-06-2014 11:17:03
ฝูหรงทำเอาตกใจนึกว่าเกิดเรื่องร้าย แต่ก็ทำให้ได้เคลียร์กันปาปามามาก็อยู่ด้วย แต่ต้องรอถึงอาทิตย์หน้าเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 15-06-2014 11:21:07
จินนี่ มันเป็นเวรกรรมนะ ทำให้คนที่รักคลาดกันไปตั้ง 5 ปี

เดี๋ยวจินนี่จะโดนกรรมตามสนองมิใช่น้อยนะ  o18

ฝูหลงน้อยกับพอลกำลังจะเข้าใจกันแล้ว ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 15-06-2014 11:39:33
พอลแนะนำว่าที่ลูกสะใภ้แล้ว  :o8: :o8: :o8: ฝูหลงเข้าใจอะไรผิด :hao4: :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 15-06-2014 12:18:15
ปาปา - มามา ของพอลเอ็นดูฝูหรง
รอฝูหรงรู้ความจริง
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: jessiblossom ที่ 15-06-2014 12:28:41
หวานจังเลยยยยยยย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-06-2014 12:50:24
ตอนนี้รู้สึกว่ากระต่ายน้อยของพอลน่ารักฝุดๆ อยากอ่านอีกอ่ะต้องรอถึงอาทิตย์หน้าแต่ขอแบบยาวๆกว่านี้ได้ไหม
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 15-06-2014 13:03:44
โจเซฟจินนี่ๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 15-06-2014 15:13:28
 :serius2:จะเป็นไงต่อมันค้างงง
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 15-06-2014 17:57:04
เอาแล้ว ๆ น้องจินนี่เตรียมทำตัวให้น่ารักไว้อ้อนปาปา มามา น้องพอลได้เลย
เพราะความลับเรื่องความร้ายของหนูกำลังจะถูกเปิดเผยซะแล้ว ถึงทุกคนคงรู้อยู่บ้างแล้วก็เถอะ
เสียดายตอนนี้ยังไม่ได้เจอน้องจินนี่ อยากรู้จังว่าคุณน้องจะทำหน้ายังไง
ถ้ารู้ว่าปาปา กะ มามา ของน้องพอลท่าทางจะเอ็นดูน้องฝูหรงตั้งแต่แรกพบซะแล้ว
อย่างงี้ขอแค่น้องพอลได้มีโอกาสอธิบายให้กระจ่างน้องฝูหรงคงเข้าใจและให้อภัยน้องพอลแน่ ๆ
ชอบจังค่ะไม่มีมาม่า โดยเฉพาะจากพ่อกะแม่เพราะดูแล้วช่างเป็นอุปสรรคที่น่ากลัวที่สุดเลยอะ
ตอนหน้าความจริงคงเปิดเผยซะที อย่างงี้ต่อไปคงมีฉากหวาน ผสมหื่นของน้องพอลมากขึ้นแน่เลย
เริ่มสงสารกระต่ายน้อยฝูหรงแล้วสิ อิอิ รอติดตาม และ บวก บวก เป็นกำลังใจให้คุณมาศต่อไปนะคะ
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 15-06-2014 18:22:13
ยัยแม่มดจินนี่ ตัวแสบ  อย่าเพิ่งมาบ้านพอลนะ  รอให้ฝูหรงบอกเรื่องทั้งหมดให้ครอบครัวพอลได้รู้ก่อน

ความน่ารัก ใส ซื่อแค่นี้ก็ทำให้พ่อแม่พอลหลงรักแล้วแหละ ตอนนี้คงได้ใจพ่อแม่พอลไปหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 15-06-2014 20:04:01
 :mc4:
ปาปามามายอมรับแล้วววววววววว (ใช่ปะ)
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 15-06-2014 20:53:56
ปาปามามาโอเค
รอฟังฝูหรงเล่าเรื่องเมื่อห้าปีก่อน
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 15-06-2014 21:17:07
ปาปามามา ทางสะดวกแล้วใช่มั้ยคะ?
ลูกสะใภ้ออกจะน่ารักซะขนาดนี้
 :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 16-06-2014 00:16:48
ยัยจินนี่สร้างเรื่องแหง๊มๆ :beat:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 16-06-2014 00:35:25
หนูฝูหรงน่ารักตลอดเวลา แบบนี้จะไม่ให้พี่พอลหลงหัวปักหัวปำ ได้ยังไงเนอะ  :impress2:
รอสะใจตอนหน้า จัดการด่วนเลยนะพอล  :angry2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoRin ที่ 16-06-2014 12:32:39
ฮ่วยยยยยย จบแบบค้างคามว๊ากกกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 16-06-2014 14:07:07
เราว่าคนที่ ฝูหรง เข้าใจผิดว่าเป็นคนรักของ เฮียพอล ต้องเป็น จินนี่ แน่เลย

ฟันธง

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: natthakan ที่ 16-06-2014 20:38:14
 :-[ อร้ายยยย เค้าเขินแทนอ่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 16-06-2014 22:26:23
โอ๊ะโอ...ท่าทางจะมีแนวร่วมหนุนแล้ว
อะไรจะสุขเท่าพ่อแม่เอ็นดูคนของเราล่ะเนอะ
เขายอมตามมาบ้านก็คุยดีๆ ล่ะ อย่าพาหมามาเดินเล่นอีกนิ

ดูท่าน้องจินนี่นี่คนจะเอือมเรื่องนี้ทั้งบ้าน
น่าสนุกตรงที่...ถ้าต้องช่วยกันปิด พ่อแม่จะฮามั้ย ^^

เรื่องคนรักเมื่อห้าปีก่อนกำลังจะได้เผย...รอลุ้นล่ะ

ปล.เหมือนห่างไป...อ่านนะ แต่เวลาเปิดคอมหายากมาก
อาศัยอ่านจากมือถือ...ดูพยายามสร้างสังคมการอ่านมาก ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 16-06-2014 22:32:13
 :hao6:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 17-06-2014 10:29:23
ตอนนี้ พอลทำดีมาก ๆ จะให้ความมั่นใจกับฝูหรงได้ดีที่สุด ไม่ใช่แค่คำพูด
แต่ต้องกระทำด้วย การพามาเปิดตัวกับปาปา มามา นี่แหละ ชัดเจนที่สุด
ปาปากับมามา ของพอล น่ารักมากเลย ท่าทางจะถูกใจว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้มากซะด้วย
การที่พอลได้เล่าเรื่องความประทับใจที่มีต่อฝูหรงเมื่อห้าปีก่อน ให้ปาปากับมามาได้ฟัง
เลยเหมือนได้เป็นการบอกความรู้สึกของตัวเองที่ีมีต่อฝูหรง ที่ตอนนั้นไม่ได้บอกไปด้วย
ยิ่งทำให้กระต่ายน้อย มีความมั่นใจในตัวของพอลมากขึ้นไปอีก ที่สำคัญ ปาปากับมามา
ก็ได้รับรู้ด้วยว่า ลูกชายของท่าน มีความรักที่จริงใจและมั่นคงต่อคน ๆ นี้แค่ไหน
แต่กำลังจะเฉลยแล้วสินะ สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ฝูงหรงของเราต้องเจ็บช้ำจนต้องหนีไป
คนที่เป็นสาเหตุน่ะ รู้อยู่แล้ว แต่หลังจากที่ทุกคนรู้เรื่องนี้ จะทำยังไงต่อไปนี่สิ
จินนี่ ถึงจะร้ายยังไง ก็เป็นที่รักของทุกคน ฝูหรงจะมาเป็นสะใภ้บ้านนี้อย่างสมบูรณ์
ก็คงต้องทำให้จินนี่ ยอมรับในตัวว่าที่พี่สะใภ้คนนี้ให้ได้สินะ ฝูหรงจะทำยังไง
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 18-06-2014 16:15:58
เราก็พลอยตกอกตกใจไปด้วย ที่แท้ก็ปาปากับมามานี่เอง
นึกว่าฝูหรงโดนสาวน้อยในตะเกียงเล่นงานถึงในบ้านซะอีก
แต่รีบกลับมาก็ดี จะได้รีบเคลียร์กันซะให้กระจ่างเสียที
ต่อไปจะได้ไม่ต้องมีอะไรมากวนใจฝูหรงอีก :hao3:
ว่าแต่ปฏิกิริยาแบบนี้แสดงว่าผ่านปาปากับมามาแล้วใช่มั๊ย
แสดงว่าเอ็นดูกระต่ายน้อยกันทั้งบ้านสินะ น่าปลื้มเนาะ
แต่คงต้องตามให้กำลังใจกันต่อไป ความลับไม่มีในโลกนะ
ถ้าสาวน้อยจินนี่รู้เข้าล่ะก็.....ไม่อยากจะคิดเลย
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 19-06-2014 12:03:46
ฝูหรงคิดว่าขุ่นน้องจินนี่เป็นแฟนพอลแน่เรยยย~

 :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.5 "คนที่รัก" P.5 (15/6/57) คือใคร!? UP
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 20-06-2014 22:46:39
ชอบจังเลย...ฝูหรงเขินน่ารักมาก
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-06-2014 10:02:55
ตอนที่ 6

เจินฝูหรง

“ไม่ใช่ครับ  ผมไม่ได้หนี...ผมแค่ทำในสิ่งที่ควรทำ  คือการเปิดโอกาสให้พอลได้อยู่กับคนที่รักเท่านั้น”  หลังคำพูดของผม  ทุกคนที่นั่งเผชิญหน้าด้วยนั้น  มีอาการแปลกใจไม่ต่างกัน  จะมีก็แต่นายพอลที่มีอาการตกใจร่วมด้วย  ทำเอาผมนึกหมั่นไส้เจ้าตัวขึ้นมาไม่ได้  จึงสะบัดค้อนเล็กๆใส่แววตาแปลกใจของลูกครึ่งตัวโต  แต่กลับต้องหลบตาปาปามามาของเจ้าตัวที่จ้องมา

ผมไม่เข้าใจว่านายพอลจะต้องทำท่าแปลกใจแบบนี้ทำไม  ในเมื่อทำอะไรไว้ย่อมรู้ดีแก่ใจ  ส่วนคำพูดสารภาพความในใจและแววตาแน่วแน่ที่พอลมีให้ผม  ต่อหน้าปาปามามาของเจ้าตัวเมื่อครู่  และพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความจริงใจนั้น  ผมยอมรับว่าซาบซึ้งแต่จะให้เชื่อทั้งหมดย่อมเป็นไปไม่ได้  ในเมื่อเหตุการณ์ในอดีตมันยังเป็นหนามยอกอกของผมอยู่  แถมยังมีพยานตัวเป็นๆที่มาแสดงตัวว่าเป็นคนรักของพอลต่อหน้าผมอีกล่ะ

“ฝูหรงพูดอะไร  ใครคือคนที่พอลรัก  ถ้าไม่ใช่ฝูหรง”  ‘ไอ้ลูกครึ่งปากหวาน  เหอะ!’  พอคิดจะพูดคำว่ารักก็ไม่มีเก็บกั๊กแบบแต่ก่อน  เล่นเอาวันนี้ผมหน้าร้อนไปหลายรอบแล้ว 

คำพูดที่ได้ยินทำให้ผมคิดไปเองว่าพอลตั้งใจหยอดเพื่อให้ผมใจอ่อน  หากไม่เห็นแววตาสงสัยจริงจังคู่นี้เข้า  แถมในดวงตาคู่เดียวกันยังแฝงแววคาดคั้น  เพื่อเร่งให้ผมรีบพูดถึงสิ่งที่เจ้าตัวอยากรู้ออกมาอีกแน่ะ  ผมถอนใจบางเบาและตัดสินใจแบมือขอโทรศัพท์มือถือของพอล  นาทีนี้ผมไม่คิดอิดออดที่จะเฉลยว่าใครกันแน่คือคนที่โจวพอลรัก

“คนนี้ไงคือคนที่คุณรัก...เมื่อห้าปีก่อน  ระหว่างที่ผมรอคุณกลับจากโรงเรียน  วันนั้นคุณบอกว่าจะกลับช้า  เพราะตั้งใจอยู่ฉลองเรียนจบกับเพื่อนๆ  ผู้หญิงคนนี้มาหาผมที่ห้องของคุณ  เธออ้างว่าเป็นทั้งคนรักและคู่หมั้นของคุณ  ขอให้ผมออกไปจากชีวิตคุณซะ  เพราะการที่คุณคบกับผมทำให้ชีวิตของคุณตกต่ำ  บ้านไม่กลับ  กิจกรรมในโรงเรียนก็ไม่ทำ  และตีตัวออกห่างจากครอบครัวจากเพื่อนสนิท  เพราะมัวมาขลุกอยู่กับผม  จนทั้งเพื่อนสนิทและปาปามามาของคุณเป็นห่วง  เตือนคุณไปคุณก็ไม่เชื่อ  จนเธอต้องออกโรงมาพบผมเอง 

ถึงแม้ตอนนั้นผมจะบอกเธอว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันก็ตาม...หรือไม่จริงครับ  คุณอย่าเถียงเลย  เพราะเราไม่เคยตกลงกันอย่างเป็นกิจจะลักษณะ  จะให้ผมอ้างตัวว่าเป็นแฟนคุณ  ผมก็ไม่กล้าพอ  เพราะคำว่ารักว่าชอบสักคำผมไม่เคยได้ยิน...ส่วนแววตาของเธอที่ใช้มองผม  ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเชื่อในความจริงที่ผมบอกไปเลยสักนิด  แถมยังส่งสายตาดูถูกมาให้ผมอีก  แต่ในระหว่างนั้นเธอกลับส่งยิ้มและพูดกับผมว่า  หากผมไม่ได้เป็นอะไรกับคุณจริง  การที่ผมจะหายไปจากชีวิตคุณก็ไม่ใช่เรื่องยาก  นอกเสียจากผมไม่อยากไปเพราะหวังเกาะคุณ”

“ฝูหรงก็เชื่อเลยเหรอ  ว่าพอลกับเธอคนนี้เป็นแฟนกัน”  สายตาเจ็บปวดนี่มันอะไรกันครับ  ผมจึงเลือกที่จะดึงมือตัวเองออกจากอุ้งมืออุ่น  ที่กุมมือผมมาตลอดตั้งแต่เข้ามานั่งในห้องนี้  ก่อนจะจ้องตาคู่นั้นไม่มีหลบ

“ไม่เชื่อก็คงไม่ได้  เพราะทั้งรูปทั้งคลิปที่แสดงถึงความใกล้ชิดของคุณกับเธอ  มันคาตาผมน่ะสิ”  ผมเองแม้จะเป็นคนหัวอ่อน  เรื่องจะให้เชื่อลมปากของคนแปลกหน้าก็ไม่ใช่ผม  แต่เพราะหลักฐานทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคล  มันทิ่มแทงใจเกินกว่าจะหน้าด้านทนอยู่เคียงข้างคนที่ไม่เคยบอกแม้แต่คำว่ารักให้ได้ยิน  และสำคัญที่ดูท่าคนๆนั้นมีเจ้าของแล้วอีกด้วย  ผมไม่อยากได้ชื่อว่าแย่งคนรักของคนอื่น

“เพราะแบบนี้  ฝูหรงเลยหนีพอลไปเพราะเชื่อคนอื่น  มากกว่าจะรอถามความจริงจากพอลใช่มั้ย...แล้วถ้าพอลบอกว่าไม่ได้มีคนรัก  หรือแม้แต่คู่หมั้นบ้าบออะไรนั่น  ฝูหรงจะเชื่อพอลมั้ย”  แววตาวาวโรจน์ที่แสดงถึงร่องรอยของความโกรธและความเอาจริง  มาแทนที่แววตาอ่อนแสงฉายแววเจ็บปวดนั้น  ทำให้ผมไม่อาจต่อตาด้วย 

ผมอดยอมรับไม่ได้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกผิด  ด้วยเริ่มหวั่นไหวไปกับแววตาและน้ำเสียงจริงจังของนายพอล  เพราะนาทีนี้ชักไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองทำเมื่อห้าปีก่อนอย่างการหนีหน้า  แทนที่จะเผชิญหน้าและสอบถามเอาความจริงนั้น  มันถูกต้องรึเปล่า

“ฝูหรงไม่เชื่อ  พอลก็ไม่แปลกใจ  เพราะพอลผิดเองที่ไม่เคยบอกรักสักครั้ง  เพื่อให้ฝูหรงมั่นใจในตัวพอล  และเราคงไม่เสียเวลาไปถึงห้าปีแบบนี้หรอก...พอลขอยืนยันตรงนี้ว่าพอลรักแต่ฝูหรงคนเดียว  ส่วนผู้หญิงคนนั้นไม่ได้อยู่สถานะเดียวกับฝูหรงสำหรับพอลเลย  แม้พอลจะรักยัยนั่น...แต่ก็เป็นความรักของพี่น้อง” 

ผมที่ใจหายตั้งแต่ได้ยินว่านายพอลรักผู้หญิงคนนั้น  ก็ต้องเอ่ยหน้าขึ้นมองพอลด้วยความตกใจอย่างคาดไม่ถึง  พร้อมหัวใจที่เกือบหยุดเต้น  จนได้เจอกับใบหน้าหล่อเหลาที่ระบายยิ้มอ่อนโยนมาให้

“พะ...พี่น้องงั้นเหรอ  ไม่จริง  ไหนว่าเป็นลูกคนเดียว”  ผมพูดแทบจะไม่เป็นคำ  ทั้งเสียงสั่นและตะกุกตะกัก  ด้วยในหัวสับสนไปกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน

“ถ้าไม่เชื่อ  จะให้ปาปามามายืนยันด้วยก็ได้”  ผมเบือนหน้ากลับมาทางผู้ให้กำเนิดทั้งคู่ของพอล  จึงได้พบว่ามามาอีลีน่ายังคงยิ้มหวานส่งกำลังใจผ่านดวงตาคู่สวยมาให้ผมไม่เปลี่ยน  ส่วนปาปาฟู่สือกลับนั่งกุมขมับส่ายหัวด้วยท่าทางเหนื่อยใจอยู่คนเดียว  จนผมเริ่มใจไม่ดีกลัวว่าจะพูดอะไรผิดหูท่านเข้าให้ 

ผมจึงได้แต่ก้มหน้านั่งมองมือที่กุมไว้แน่นของตัวเองที่อยู่บนตัก  ก่อนจะมีมือใหญ่ที่แสนอบอุ่นและเป็นมือข้างเดียวกับที่ผมเคยสะบัดทิ้งมากุมทับ  ทำให้ความไม่มั่นใจที่เริ่มเกาะกุมใจผม  ค่อยๆสลายตัวไปแต่ก็ไม่หมดไปเสียทีเดียว

“หนูฝูหรงจ๊ะ  เชื่อลูกชายมามาเถอะ  ผู้หญิงในโทรศัพท์น่ะเป็นลูกพี่ลูกน้องของพอลจริงๆ  ชื่อหมิงอี้ซานหรือน้องจินนี่  เป็นลูกสาวของอาหญิงน้องสาวปาปาจ้ะ  น้องจินนี่อาจจะขี้หวงญาติมากไปสักหน่อย  แต่จินนี่ก็เป็นคนน่ารักนะจ๊ะ” 

ยิ่งได้ยินสิ่งที่มามาพูด  ผมก็ได้แต่ครางในใจด้วยความรู้สึกผิด  แถมความจริงจากปาปายิ่งตอกย้ำ  ให้ผมรู้ตัวว่าได้เคยตัดสินใจผิดพลาดอย่างมหันต์เข้าแล้ว

“จินนี่นะจินนี่  ก่อเรื่องจนได้  เฮ้อออ  ไม่คิดมาก่อนว่าไอ้นิสัยขี้หวงที่มองเป็นเรื่องเล็ก  สุดท้ายจะเกิดเรื่องขึ้นในที่สุด...ฉันยืนยันนะว่าน้องจินนี่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับไอ้ลูกชายตัวแสบนี่จริงๆ  แม้หน้าตาจะแตกต่างกันจนหาเค้าความเหมือนไม่เจอก็ตาม...แกเองก็เหลือเกิน  มีเรื่องอะไรไม่รู้จักบอก  เป็นไงล่ะเสียเวลาเปล่าๆไปตั้งห้าปี”  ความจริงมันทิ่มแทงใจจนผมห่อเหี่ยวพูดอะไรไม่ออก  ได้แต่นั่งนิ่งปล่อยให้พอลกอดยู่แบบนั้น  และฟังคู่พ่อกับลูกชายโต้ตอบกัน

“โธ่ปาปาครับ  ตอนนั้นผมไม่รู้จะเริ่มเล่ายังไงต่างหาก  แต่เรื่องทั้งหมดก็เกิดจากหลานสาวคนโปรดของปาปานะคร้าบ  ทางที่ดีไปเอาเรื่องยัยนั่นให้ผมทีเถอะ  ไม่งั้นนะปาปามีลูกสะใภ้ตั้งแต่ห้าปีที่แล้วๆ  เนอะฝูหรงเนอะ”  ไอ้ลูกครึ่งน่าไม่อายไม่ใช่แค่ถามด้วยเสียงอ้อนๆอย่างเดียว  แต่พอลกลับเชยคางผมขึ้นและส่งยิ้มบาดตาให้ผมอีกด้วย 

พวงแก้มของผมที่ร้อนอยู่แล้วจึงแทบระเบิด  นี่ถ้าไม่ได้อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ไอ้ลูกครึ่งรูปหล่อคงได้เจ็บตัวไม่ทางใดก็ทางหนึ่งไปแล้ว

“ฮึๆ  เอาเถอะ  ฉันจะเตือนจินนี่ให้แกเอง...โจวพอล  ต่อไปหากมีอะไรหนักหนาที่แกจัดการเองไม่ได้  ต้องรู้จักบอกกล่าวเข้าใจมั้ย!?”  น้ำเสียงทรงอำนาจที่แฝงไว้ด้วยความรักความอบอุ่นของคนเป็นพ่อ  ทำให้ผมตัดสินใจเงยหน้าขึ้นจากหลังมือใหญ่ 

ผมจึงพบกับหนุ่มใหญ่ท่าทางภูมิฐาน  ผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจและความจริงจัง  ที่ใครๆได้เห็นต้องนับถือและยอมก้มหัวให้  แต่ดวงตาคู่เรียวที่ฉายแววอ่อนโยน  แฝงไปด้วยความรักและความเอื้ออาทร  ยามจับจ้องไปยังลูกชายคนเดียวนั้น  กลับไม่ต่างจากพ่อคนหนึ่งที่รักลูกสุดหัวใจ  ทำให้ผมถึงกับซาบซึ้งและยินดีแทนคนเป็นลูกชายไม่ได้จริงๆ  ซึ่งลูกชายตัวจริงอย่างโจวพอลก็มองสบตาท่าน  ด้วยสายตาซาบซึ้งแฝงแววขอบคุณจากหัวใจเช่นกัน  ก่อนพอลจะตอบรับคำ และเอ่ยขอบคุณปาปา  ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ส่วนหนูฝูหรงเอง  ในเมื่อรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว  มามาก็ขอให้หนูอภัยให้น้องจินนี่ได้มั้ยจ๊ะ  และที่สำคัญหนูช่วยให้โอกาสลูกชายมามาหน่อยเถอะจ้ะ  เพราะหนูคงไม่รู้ว่าเมื่อห้าปีก่อน  พอลอาการหนักมากแค่ไหน  เศร้าซึมอยู่เป็นเดือนๆจนซูบผอม  มามาเป็นห่วงแทบแย่...พอมาวันนี้มามาได้รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้พอลมีอาการเช่นนั้น  ก็พอเข้าใจได้  เพราะหนูเป็นฝูหรงในแบบฉบับของหนูแบบนี้ไงล่ะจ๊ะ  ใครไม่หลงรักก็แย่แล้วเนอะ  ใช่มั้ยจ๊ะพอล”

“ถูกต้องที่สุดเลยครับมามา...เพราะฝูหรงเป็นฝูหรงคนที่พอลรักแบบนี้ไงล่ะ  ทำให้พอลไม่มีตาไปมองใครได้อีกแล้ว”
อย่าถามว่าผมมีอาการเช่นไร  หากไม่ใช่อายจนแทบละลายกลายเป็นวุ้น  ได้แต่นั่งตัวลีบทำอะไรไม่ถูก  แก้มร้อนผ่าวๆ  หัวใจก็แทบจะกระดอนออกนอกอก  และไม่มีแรงแม้แต่จะตอบรับคำของมามา  คงได้แต่ปล่อยให้ลูกชายท่านดึงตัวผมเข้าสู่อ้อมกอด  แต่หูยังคงได้ยินเสียงหัวเราะถูกใจของปาปามามาที่ดังห่างออกไปเรื่อยๆ

‘ตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไปคงเป็นเวลาของผมและพอลอย่างแท้จริงแล้วใช่มั้ย!?’

...................................................

“ฝูหรงตกลงเราเป็นแฟนกันแล้วนะครับ”  ผมได้แต่พยักหน้าตอบรับกับแผ่นอกกว้าง  เพราะนาทีนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะปฏิเสธอีกต่อไป 

ผมถูกพอลดันออกจากอกกว้างอย่างช้าๆ  จนได้สบตาคมที่ทอประกายอ่อนหวาน  ก่อนจะรู้สึกถึงความเย็นที่ปลายนิ้วนางข้างซ้าย  ทำเอาผมตื่นตะลึงทำตัวไม่ถูก  ได้แต่มองแหวนทองคำเกลี้ยงถูกบรรจงสวมเข้ามา  ตามมาด้วยรอยอุ่นวาบที่หลังมือ  ลามไปยังอกข้างซ้ายให้หัวใจทำงานหนักเลือดฉีดพ่าน  จนความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วผิวกาย

“พอล~”  ผมหลุดเสียงได้แค่ชื่อของคนที่ทำให้ผมมีอาการผิดปกติดังกล่าว  ก่อนจะถูกดวงตาคู่คมตรึงสายตาไว้

“มันอาจจะช้าไปถึงห้าปี  แต่พอลอยากจะบอกว่าดีใจและมีความสุขที่มีฝูหรงอยู่เคียงข้าง...รักฝูหรงนะ  กระต่ายน้อยของพอล”  เจ้าของรอยยิ้มละมุนและน้ำเสียงที่แสนอ่อนหวาน  เป็นฝ่ายร่นระยะห่างของใบหน้าเราเข้าหากัน 

ผมที่เหมือนโดนมนต์สะกดจากถ้อยคำรักที่รอคอยมานานแสนนาน  จึงได้แต่เงยหน้ารอรับจุมพิตที่แสนอ่อนหวาน  ก่อนจะหลงมัวเมาไปกับริมฝีปากนุ่มและเรียวลิ้นที่แสนช่ำชอง  ผมนึกว่าตัวเองจะขาดอากาศตายไปซะแล้ว  เมื่อพอลไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยปากผมสักนิด  ต่อเมื่อมาถึงลมหายใจเฮือกสุดท้ายนั่นแหละ  ผมถึงได้รับอิสระ  แต่ผมก็ไม่มีแม้แต่แรงที่จะทรงตัวอยู่ได้ด้วยตัวเอง  จนต้องซวนซบไปกับอกแกร่ง  ด้วยแนบแก้มไว้กับซอกคออุ่น  และเอนกายทิ้งน้ำหนักทั้งหมดให้ลูกครึ่งบ้าจูบรับไป

“ฝูหรง...กระต่ายน้อยของพอล~”  น้ำเสียงเพ้อๆที่แอบสั่นพร่าท้ายประโยคดังขึ้นแถวซอกคอ  มาพร้อมลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดไม่เป็นจังหวะ  ทำให้ขนทั่วกายผมลุกชัน  จนต้องหดคอหนีริมฝีปากที่ไซ้สะเปะสะปะไปมา  แต่ผมก็หนีไปไหนไม่ได้มากนัก  ด้วยเรี่ยวแรงที่มีไม่เต็มร้อยและอ้อมกอดใหญ่ที่กักร่างผมไว้กับตัว

“อ๊ะ!  พะ....พอล”  ผมต้องร้องเสียงหลง  เมื่ออยู่ๆก็ถูกอุ้มจนตัวลอยขึ้นจากพื้น  ส่วนแขนก็โอบเข้ากับลำคอหนาอย่างอัตโนมัติ  และได้แต่เรียกชื่อพอลด้วยเสียงขาดๆหายๆ  เมื่อใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มลูกครึ่งหน้าคมก้มลงมองผม  ด้วยสายตามุ่งมั่นแฝงแววปรารถนาชัดเจน

“พอลเสียเวลามาห้าปีแล้ว  วันนี้ฝูหรงเป็นของพอลได้มั้ย...นะครับ”  สีหน้าน้ำเสียงและแววตาออดอ้อนของพอลทำผมใจสั่น 
แถมเวลาห้าปีแห่งการเข้าใจผิดที่เสียไปตามที่เจ้าตัวอ้างถึง  ทำให้ผมได้แต่โอบกระชับรอบลำคอหนา  ยามใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้าหา  ก่อนจะตัดสินใจแตะจูบไปที่ปลายคางเขียว  ตามมาด้วยการฝังหน้าเข้าหาซอกคออุ่นๆ  กระทั่งผมได้ยินเสียงกลั้วหัวเราะทุ้มหูเบาๆที่ข้างแก้ม  ทำให้ผมรู้ว่าไอ้ลูกครึ่งรูปหล่อนั้นรู้ความหมายในสิ่งที่ผมทำ  จนผมเองไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไปต่อว่า  เจ้าของน้ำเสียงหัวเราะที่ตั้งใจหยอกเย้านั่นสักนิด 

เสี้ยวนาทีต่อมาผมรับรู้ถึงรอยอุ่นชื้นที่ไล่เล็มจากข้างแก้มไปตามมุมปาก  ลามมายังปลายจมูกและจบที่หน้าผาก  พร้อมกับที่แผ่นหลังผมแตะเข้ากับฟูกนอนบนเตียงหลังใหญ่  ผมกระพริบตานิดและลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ  เมื่อรู้สึกว่าแว่นตาบนใบหน้าค่อยๆถูกดึงออก  แต่ไม่มีผลต่อการมองเห็นของผมนัก  ผมสามารถเห็นใบหน้าของหนุ่มลูกครึ่งอิตาลีรูปหล่อที่กำลังคลี่ยิ้มเต็มหน้าได้อย่างชัดเจน  ด้วยใบหน้าคมเข้มนั้นลดระยะห่างระหว่างเราขึ้นเรื่อยๆ  จนปลายจมูกเราแตะกันเบาๆ  ไม่เท่านั้นปลายจมูกโด่งยังส่ายไปมาหยอกเย้าผมเล่นอีก  ทำให้ผมถึงกลับหลุดยิ้มไปตามการกระทำแบบเด็กๆของพอล  แม้สิ่งที่เราจะทำร่วมกันต่อจากนี้  มันช่างห่างไกลคำว่าเด็กไปมากก็ตาม

“กระต่ายน้อยของพอลยิ้มได้สักที”  ผมล่ะสะดุดหูกับคำว่ากระต่ายน้อยตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยินแล้ว  ไม่ใช่ไม่รู้ว่าพอลตั้งใจเรียกฉายานี้แทนการเรียกชื่อของผม  แต่ผมล่ะอยากรู้นักว่าผมมีรูปลักษณ์ส่วนไหนเหมือนเจ้ากระต่ายน้อยกัน 

เมื่อผมหลุดถามอย่างที่ใจคิด  ลูกครึ่งรูปหล่อก็กลั้วหัวเราะน้อยๆอย่างอารมณ์ดี  และทำท่าลืมเลือนภารกิจที่ตั้งใจไว้  ซึ่งก็เป็นผลดีแก่ผม  แม้จะตกปากรับคำด้วยความเต็มใจ  ด้วยรู้ตัวว่ายังไงก็หนีไม่พ้น  แต่ถ้ามีอะไรมายืดเวลาในช่วงเวลาน่าอายนั้นไปได้ก็คงดี  ซึ่งคำถามของผมดูเหมือนจะได้ผล  แต่ผมไม่รู้ตัวหรอกว่ามันช่วยได้แค่ถ่วงเวลาเท่านั้น  เพราะในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า  กระต่ายน้อยอย่างผมก็ถูกเจ้าป่าจับกินอยู่ดี

พอลทิ้งตัวลงนอนข้างตัวผม  ก่อนจะจับผมตะแคงตัวเข้าหา  จนเรานอนเผชิญหน้ากันในระยะประชิด  ใกล้ชนิดที่ว่าลมหายใจอุ่นเป่ารดแก้มผมผะแผ่วตลอดเวลา  ก่อนปลายนิ้วยาวๆจะยื่นมาไล้ที่ผิวใต้ตาผม  โดยที่เราประสานสายตาเข้าด้วยกันตลอดเวลา

“ดวงตากลมๆคู่นี้ของฝูหรง  ทำให้พอลนึกถึงกระต่ายมากที่สุด  เพราะมันสุกสกาวแวววาว  และบอกพอลหมดว่าฝูหรงกำลังคิดอะไร  โดยเฉพาะตอนนี้ที่ถ่ายทอดความในใจว่า  ‘รักพอล’  ใช่มั้ยครับ...จุ๊บ!”  หลังจากที่พ่อคนขี้ตู่ทิ้งช่วงคำพูดที่กำลังอธิบายให้ผมฟัง  ผมเผลอกลั้นลมหายใจพร้อมหลับตา  เมื่ออยู่ๆริมฝีปากนุ่มยื่นมาประทับเข้าที่หางตา 

เมื่อผมลืมตาขึ้นอีกครั้งรอยยิ้มเจิดจ้าก็กระแทกเข้าตาอย่างจัง  แถมดวงตาคู่คมที่ฉายแววกรุ้มกริ่มออกแนวเจ้าชู้จ้องใส่ผมอีก  ทำให้ผมเองไม่กล้าแม้แต่จะต่อตาด้วย  แต่ผมก็ต้องสะดุ้งพร้อมอุทานขึ้นมาเบาๆ  เมื่อรู้สึกถึงปลายนิ้วอุ่นๆที่ไล้จากข้างเอว  ก่อนจะไต่สูงขึ้นจนชายเสื้อยืดตัวโคร่งถลกขึ้นตามหลังมือหนา  พร้อมๆกับที่ผมถูกพลิกให้นอนหงาย  โดยมีร่างสูงตามขึ้นมาคร่อมอยู่เหนือร่าง  และแทบไม่รู้ตัวเลยว่าเสื้อที่สวมอยู่  ถูกถลกขึ้นมากองแถวแผ่นอก

“และผิวขาวๆนุ่มมือของฝูหรงนี่ไง  ที่ทำให้พอลนึกถึงขนกระต่าย  ไม่ว่าจะลูบไปตรงไหนก็เนียนลื่นมือไปซะหมด~”  ตอนนี้ท่าทางและแววตาของพอลไม่ต่างจากสิงโตที่เตรียมขย้ำเหยื่อ  จนผมผวาเริ่มดิ้นหนีฝ่ามือหนาที่ลูบไล้ไปมาตามหน้าท้อง  และพยายามดึงชายเสื้อที่อยู่บนอกลง

“อ๊ะ!!...อื้อออ”  ผมได้แต่ร้องด้วยความตกใจ  เพราะโดนรั้งข้อมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัว  แถมยังโดนปิดปากที่เตรียมประท้วงด้วย

คราแรกผมขัดขืนด้วยแอบหวั่นไปกับท่าทางและแววตาหื่นกระหายของพอล  แต่จูบที่ได้รับช่างแตกต่างไปจากท่าทีที่พอลแสดง  เพราะมันทั้งอ่อนหวานพาให้เคลิบเคลิ้ม  และช่างออดอ้อนทำให้ผมยินยอมตอบสนองแบบลืมตัว  สติล่องลอยไปกับสัมผัสเชื่องช้าที่แสนอบอุ่น  ด้วยสภาพเปลือยเปล่านอนทอดร่างให้ลูกครึ่งหน้าคมได้ชื่นชม  ก่อนความเร่าร้อนที่ก่อเกิดจากฝ่ามือและปลายลิ้นที่โลมไล้ไปทั่วร่างผม  จะจุดประกายความเร่าร้อน  จนปะทุเป็นแสงสีแห่งความสุขสมเจิดจ้าจนตาพร่า  ไม่ต่างจากพลุที่ถูกจุดฉลองบนฟากฟ้ายามค่ำคืน

“พะ...พอล  อ่าๆๆๆ”   ผมหลับตาซึมซับความสุขที่เพิ่งได้รับ  พร้อมผิวกายทั่วร่างที่ร้อนผะผ่าว  ยังคงไว้ซึ่งกระแสแห่งความเร่าร้อน  แต่เสียงขยับตัวและเสียงกุกกักที่ดังขึ้น  ทำให้ผมต้องฝืนลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ

ภาพชายหนุ่มร่างกำยำจึงปรากฏต่อสายตา  แถมร่างบึกบึนนั้นยังเปลือยเปล่าไม่ต่างจากผม  แต่อะไรก็ไม่ทำให้ผมตกตะลึงจนหัวใจแทบหยุดเต้นได้เท่าขณะนี้  เมื่อในระยะสายตาปรากฏสัตว์ร้ายตัวเขื่องผิวมันวาว  ที่กำลังโกรธขึ้งเตรียมกระโจนเข้าใส่ผม  ขณะที่สติผมแตกกระเจิงไม่ทันคิดหาทางหนีทีไล่  เจ้าของสัตว์ร้ายก็เชยคางผมขึ้นพร้อมส่งยิ้มหล่อบาดตาให้แก่กัน

“อย่ากลัว...ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี  ไว้ใจพอลนะครับ...กระต่ายน้อยที่รัก~”  ดูท่าผมจะแพ้ทางให้กับเสียงนุ่มๆและแววตาปลอบประโลมของลูกครึ่งหน้าหล่อเข้าแล้ว  ด้วยความกลัวและความไม่แน่ใจที่กำลังก่อตัว  กลับสลายตัวลงอย่างช้าๆ  และยินยอมพลีกายให้แก่คนที่รัก

“ชู่ว์ๆๆ  กระต่ายน้อยเก่งมาก  มันหมดแล้ว  หมดแล้วนะครับ...อึก!  ซี้ดดด”  ผมได้แต่พยักหน้าให้แก่เจ้าของน้ำเสียงปลอบประโลมที่ดังขึ้น  ทั้งๆที่หลับตาไว้แน่น  พร้อมความชื้นที่ไหลจากหางตาไปถึงขมับ  และรู้สึกถึงความใหญ่โตร้อนผ่าวที่อยู่ในร่างกาย  พาให้อึดอัดถึงขั้นเจ็บร้าว  แต่เสียงสูดปากด้วยความทรมาน  ทำให้ผมตัดสินใจที่จะลืมตาขึ้น

ลูกครึ่งรูปหล่อใบหน้าเหยเกขึ้นสีจัด  และเม้มปากไว้จนแน่น  พร้อมหยดเหงื่อที่เกาะพราว  บ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังทรมาน  แต่ก็มีความอดทนมากพอที่จะไม่หักหาญเอาแต่ใจกับผม  แม้ในดวงตาคู่คมที่จ้องผมแน่วแน่จะเปล่งประกายแห่งความปรารถนาชัดเจน 

“ฝูหรง  ผ่อนแรงให้พอลหน่อย...อ่าๆ”  ผมปล่อยลมหายใจที่กลั้นไว้ออกอย่างช้าๆ  เพื่อผ่อนคลายตามที่พอลต้องการ  ซึ่งมันก็ได้ผลเมื่อความเจ็บปวดที่แทบจะฆ่าผมได้  ค่อยๆบรรเทาเบาบางลง  แต่กลับเกิดความรู้สึกแปลกใหม่ที่ผมไม่เคยรู้จักเกิดขึ้นมา

ความรู้สึกอึดอัดทรมานแบบแปลกๆ  พร้อมกับความโหยหาสัมผัสแห่งการแนบชิด  และรู้สึกถึงความเร่าร้อนที่เต้นเร่าอยู่กลางลำตัว  ผมจึงยื่นมือทั้งสองออกไป  ซึ่งพอลก็เหมือนรออยู่แล้วได้โน้มตัวลงมาหาผม  ให้ผมได้โอบรอบคอแกร่งเป็นหลักยึด  ก่อนพอลจะพรมจูบเบาๆไปทั่วใบหน้า  และส่งมือลูบไล้ผิวกายผม  พร้อมกับปลุกปั่นส่วนปรารถนากลางลำตัวให้โหมกระพือความต้องการมากยิ่งขึ้น 

ในความรู้สึกของผมสิ่งที่พอลทำมันยังไม่เพียงพอ  ผมอยากได้อะไรที่มากกว่านี้  คิดได้เท่านั้นร่างกายก็เป็นไปตามธรรมชาติ  ผมโอบขาทั้งคู่ไว้ที่รอบเอวสอบ  และบดเบียดสะโพกตัวเองเข้าหาตามสัญชาติญาณ  ก่อนจะกระซิบเข้าที่ข้างหูพอล  พร้อมร้องขอในสิ่งที่ตัวเองไม่คิดมาก่อนว่าจะพูดออกไป

“พอลช่วยรักฝูหรงที...อึก...ขยับได้มั้ย  มันทรมาน  ช่วยฝูหรงหน่อยครับ  อ๊ะ!  อึก  อ่าๆๆ”  ความทรมานที่คิดว่าจะบรรเทาเบาบางลงกลับไม่เป็นอย่างที่คิด

เมื่อสัมผัสแนบแน่นที่มาพร้อมแรงกระแทกกระทั้น  กลับเพิ่มความทรมานให้ผมยิ่งขึ้น  ด้วยความต้องการที่ไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆนั้น  ไม่มีทีท่าว่าจะเห็นจุดหมาย  แม้ผมจะระบายความทรมานด้วยการกรีดร้อง  และตอบรับจูบดุดันที่ถูกป้อนให้อย่างรู้ใจก็ตาม  ก่อนพอลจะพลิกตัวผมลงกับเตียง  และส่งอาวุธประจำกายแทงพรวดเข้ามาทีเดียว  แต่กลับทำผมสะดุ้งเฮือก  พร้อมๆกับที่ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วร่างกาย  ด้วยดูเหมือนว่าจะโดนจุดพิเศษที่ไวสัมผัสในกายผมเข้าอย่างจัง

“ตรงนี้เหรอ  ฝูหรงชอบมั้ย...ซี้ดดด”  อารมณ์นี้ผมตอบไม่ถูกเพราะมันเสียวแทบขาดใจ  จึงได้แต่ส่ายหน้าไปมากับที่นอน  แต่ยังทันได้ยินเสียงสูดปากอย่างทรมานมาจากด้านหลัง 

ผมหัวสั่นหัวคลอนไปตามแรงกระแทกกระทั้นที่หนักบ้างเบาบ้างช้าเร็วสลับกันไป  แต่เน้นจุดพิเศษในกายจนผมเสียวสะท้าน  และเห็นเส้นชัยอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม  ก่อนผมจะคลายมือข้างขวาจากผ้าปูเตียง  เพื่อกอบกุมความต้องการกลางลำตัวที่จะช่วยให้ผมถึงเส้นชัยแห่งความปรารถนาได้เร็วขึ้น  แต่แล้วพอลกลับรั้งข้อมือผมออก  และยึดไว้กับเตียงตามเดิม  ผมเตรียมฮึดฮัดด้วยความขัดใจ  แต่แล้วมือหนากับกอบกุมความต้องการของผมไว้เอง  แถมยังบริการขยับให้เข้าจังหวะกับสะโพกสอบที่ถ่ายแรงมาให้กันด้วย  พร้อมกับจูบหวานๆที่ถูกป้อนให้ถึงปาก  สุดท้ายความปรารถนาก็เดินทางมาถึงปลายทาง  ผมปลดปล่อยธารรักเต็มหลังมือหนาได้ไม่แพ้ครั้งแรก

ไอ้ลูกครึ่งแรงม้าไม่ปล่อยให้ผมได้พัก  เพราะพอลพลิกร่างผมให้นอนหงาย  และรั้งสะโพกผมเข้าหากลางลำตัว  มีดันเข่าผมให้แยกออกจนสุด  ก่อนจะช้อนสายตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาขึ้นสบตากัน  พร้อมส่งยิ้มมุ่งมั่นมาให้  และเริ่มขยับสะโพกจากช้าก่อนจะแรงเร็ว  สุดท้ายก็คำรามลั่นใบหน้าเชิดหงาย  ก่อนจะฉีดความอุ่นร้อนเข้ามาในตัวผม  จนผมเองยังสะดุ้งไปกับความแรง  และเผลอเกร็งสะโพกรัดอาวุธร้าย  จนพอลครางประท้วงเกร็งตัวลำคอปูดโปน 

เมื่อทุกอย่างสงบลงลูกครึ่งรูปหล่อก็เอนร่างนอนลงข้างตัวผม  และรั้งเอวผมขึ้น  เพื่อให้ผมได้ขึ้นไปนอนก่ายบนร่างหนา  พร้อมฝ่ามือที่ลูบไล้แผ่นหลังผมไปมาอย่างเพลิดเพลิน  ผมเองก็ได้แต่หลับตาพริ้ม  แนบหูไปกับแผ่นอกกว้างและฟังเสียงหัวใจที่เต้นแรง  จนค่อยๆเบาลงและอยู่ในจังหวะที่สม่ำเสมอ  ผมจึงคิดที่จะลงนอนดีๆอยากพักผ่อนเต็มทน  เพราะตาเริ่มลืมไม่ขึ้นแล้ว

“กระต่ายน้อยง่วงแล้วเหรอครับ  หืม”  เสียงกระซิบที่ดังขึ้นแผ่วเบาข้างหู  ทำให้ผมพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบรับ  ทั้งๆที่ยังคงหลับตา

“อาบน้ำก่อนมั้ย”  คราวนี้ไม่ได้มาแต่เสียง  แต่มีมือตามมาลูบหัวลูบหลังอย่างอ่อนโยนอีกด้วย  ผมจึงได้แต่ส่ายหน้าและหลบมือใหญ่  ด้วยการซุกหน้าเข้ากับอกแกร่ง  พร้อมวาดแขนเข้าที่รอบคอ

“ฮึๆ  รู้ตัวมั้ยว่าทำแบบนี้จะไม่ได้นอนเอานะ...กระต่ายน้อย~”  คราวนี้เสียงหัวเราะแผ่วๆและเสียงนุ่มๆมาแบบขาดๆหายๆ  แต่ผมก็เลือกที่จะส่ายหน้าแทนคำตอบไปกับอกกว้าง  ก่อนจะบอกความต้องการด้วยเสียงงัวเงีย

“พอล  ง่วงนอน”  สิ้นคำผม  ทั้งจมูกและริมฝีปากของพอลก็จรดลงบนหัวผม  แต่ก่อนที่สติผมจะเริ่มดับลง  ยังทันได้ยินน้ำเสียงนุ่มๆที่แฝงแววหยอกเย้าดังลอยมาไกลๆ

“ฟอดดด...ครับ  ฝันดีนะกระต่ายน้อยของพอล  คืนนี้พอลจะยอมให้ก่อน  แต่ครั้งต่อไปไม่จบแค่ที่รอบเดียวแน่  ให้รู้ไว้”

.........................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

นี่แค่ “เริ่มเวลาของเรา” ไอ้ลูกครึ่งรูปหล่อก็จัดหนักซะแล้ว
ไม่รู้กระต่ายน้อยจะเป็นยังไงบ้างสิหน่า  555  ตอนนี้ก็เคลียร์
เรื่องยุ่งๆในอดีตไปได้แล้วเนอะ  ต่อไปคงต้องตามดูว่าทั้งคู่ที่อยู่ใน
สถานะคนรักต่อกันแล้ว  จะหวานใส่กันแค่ไหน  หรือจะมีเรื่องยุ่งๆ
ตามให้ต้องแก้ไขอะไรอีกบ้าง  เพราะเชื่อว่าชีวิตคู่ต้องเรียนรู้กันและกัน
ไปทั้งชีวิต  สำหรับคู่ของพอลและฝูหรงเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.ตอนหน้าเจอกันวันอาทิตย์นะคะ  ขอมาอัพพอลฝูหรงวีคละตอนน้า
เพราะช่วงนี้งานท่วมหัวจริงๆค่ะ  แต่งได้วีคละตอนเอง  ปกติอย่างน้อยได้วีคละ2ตอน
พองานยุ่งความจิ้นไม่บังเกิดเลยค่ะ  แต่สัญญาจะมาไม่ขาดแน่นอน

 :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 22-06-2014 10:33:33
 :-[
อ๊ายยย กระต่ายน้อยโดนกินแล้วอะ
 :hao6:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 22-06-2014 10:40:47
 :jul1: ตื่นมาอ่านเจอกระต่ายน้อยโดนรวบซะแล้ว สดชื่นแต่เช้า
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 22-06-2014 10:50:26
ยัยจินนี่ควรโดนตบหรือสั่งสอนจริงๆจังๆซักทีเหอะนะ
เป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องขนาดพ่อแม่เค้าๆยังไม่ทำเท่ามันเลย
เดี๋ยวมันก็ได้ใจที่มีคนคอยถือหาง รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี
เชื่อสิ ยัยนี่ต้องเป็นตัวปัญหาอีกแน่ๆ  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 22-06-2014 10:58:20
พอเคลียร์ได้กันได้ พอลก็จัดให้ฝูหรงเลย
บอกรักกันหวานๆ น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 22-06-2014 11:06:55
พอเคลียร์ได้ ก็จับกระต่ายกินเลยนะ พ่อลูกครึ่ง :hao6:

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 22-06-2014 11:12:35
กระต่ายโดนกินแล้ววว :hao6:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 22-06-2014 11:22:02
อ๋อยยย เค้าเคลียร์ กันแล้ว
เป็นแฟนกันแล้ว
และกระต่ายน้อยก็โดนจับกินแล้วด้วย คริคริ
 :mew3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 22-06-2014 11:24:01
พอเคลียร์กันเสร็จก็ฟินต่อเลยนะ

5555
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-06-2014 13:43:11
พอเคลียร์กันเสร็จก็เข้าหอเลยนะ ปาปามามาก็เป็นใจซะ เขิน~ >///<
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 22-06-2014 17:51:29
พอเคลียร์ได้ปั๊บก็ไม่ให้เสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว  :o8:
ดีค่ะไม่ยืดเยื้อ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 22-06-2014 18:04:25
แก้ปัญหาจินนี่ก่อนจะดีกว่าไหม 55555

น่าจะหนักอยู่นะ กร๊ากกกกกกก

กระต่ายน้อยโดนพอลกินไปซะแล้ววว วู้ววว
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 22-06-2014 19:09:04
พอลกินกระต่ายน้อยซะแล้ว   :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 22-06-2014 19:28:02
พอเข้าใจกันกระต่ายน้อยก็เสร็จโจวพอลเลย   :hao7:   ไม่ธรรมดา  อย่างว่ารอมา 5 ปี
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: natthakan ที่ 22-06-2014 20:41:42
 :haun4: กระต่ายโดนกินนนนน~ อ้ากกกกก ขอเลือดด่วน
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 22-06-2014 21:21:16
อิตาพอล จะเร็วเกินไปไหม เคลียร์กันต่อหน้าปาปา-มามา แล้วสวมแหวน พาฝูหรงเข้าหอเลยนะ  ยังดีที่ไม่จัดหนักฝูหรงถึงเช้า เอาแค่พอเป็นพิธีไปก่อนรอบเดียวเอง 555

แต่ยังไงก็อย่าลืมเคลียร์เรื่องจินนี่ให้ฝูหรงได้รับรู้ด้วยนะ  ฝูหรงจะได้สบายใจขึ้นไปอีก เผื่อจะได้รางวัลพิเศษเพิ่มจากฝูหรงอีกหลายรอบ :z1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 23-06-2014 00:56:17
หา เพิ่งเริ่มต้นก็.... :jul1: กันเลย!!!  :hao6:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 23-06-2014 09:21:21
อิตาพอลมาเร็ว เคลมเร็วจริงๆ
 :laugh:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 23-06-2014 11:14:28
พอเข้าใจกันก็เริ่มหวานเจี๊ยบเชียว!  :mew3:
แต่จะมีอะไรให้ยุ่งๆสมชื่อเรื่องเหมือนเรื่องของไอ้ตูดหมึกหรือเปล่าคะ ^^
จะได้เตรียมใจไว้ล่วงหน้า  :ling1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 23-06-2014 16:32:54
พอเข้าใจกัน พอลจับกระต่ายกินเลยนะ 5555
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 23-06-2014 17:29:35
 :o8: :-[ ปรับความเข้าใจปุ๊ป ก็โดนกินปั๊ปเลย ถนอมๆหน่อยน้า เดี๋ยวกระต่ายน้อยจะช้ำหมด
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 24-06-2014 16:44:31
พอเคลียร์กันได้พอลก็จัดหนักเลย :m25:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 24-06-2014 22:32:11
 :z1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 25-06-2014 00:25:31
แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆ ได้อ่านแล้วๆๆ

ได้เวลาว่าง มาอ่านแล้วววว หงิงๆๆๆ

อ๊าาาา เคลียร์แล้วๆๆ คบกันแล้ววว ต่อไปก็แต่งเลยสินะๆๆ 555

เคลียร์เสร็จต่ายน้อยก็โดนจับกินทันที เอ้ยยย เคลมเร็วนะนะค่ะเฮียพอล  :hao6: :hao6: :haun4:

แต่เอิ่มมม จินนี่เนี่ยย ไปแล้วไปลับเลยได้มั๊ยอ่าาาา
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 25-06-2014 10:28:21
เนื้อกระต่ายอร่อยมั๊ยจ๊ะพอล

 :hao6:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 25-06-2014 15:06:50
จินนี่ก็ไม่ได้กลัวกรรมตามสนองเลยเนอะ ได้ข่าวเป็นแค่ญาติ ฮึ่มๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoRin ที่ 25-06-2014 15:49:05
แล้วเขาก็ได้กัน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :mew3:
หัวข้อ: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 25-06-2014 21:51:30
รู้ความจริงกันเสียที ตัวต้นเหตุที่ทำให้ฝูหรงเจ็บช้ำจนต้องหนีไป
ยัยจินนี่ ก็นะ เฮ้อ นิสัยสุด ๆ อ่ะ เป็นเรามีลูกมีหลานนิสัยอย่างนี้ จะจับสั่งสอนซะให้เข็ด
ฝูหรงเจอพูดใส่ขนาดนั้น มีทั้งรูปทั้งคลิปมาให้ดู นายพอลก็ไม่เคยบอกอะไร
ถ้าฝูหรงจะเชื่อก็ไม่เห็นแปลกนิ แต่ก็เอาเหอะ ในเมื่อเรื่องในอดีตกระจ่างแล้ว
ยังไงก็กลับไปแก้อะไรไม่ได้ นิสัยอย่างฝูหรง จะอภัยให้จินนี่ก็ได้อยู่แล้ว
แต่คาดว่า ยัยจินนี่ คงจะไม่เคยรู้สึกผิดกับสิ่งที่เคยทำไปเลยด้วยซ้ำล่ะมั้งนั่น
ยังไงซะ ตอนนี้พอลกับฝูหรง ก็ได้เริ่มเวลาของทั้งคู่เสียที หลังจากเสียไปเปล่า ๆ ตั้งห้าปี
เพราะฉะนั้น ก็ขอให้ใช้เวลาร่วมกันให้คุ้มค่า ชดเชยเวลาที่เสียไปนั่นด้วยน้า
โดยเฉพาะนายพอล ห้ามทำให้ฝูหรงเสียใจอีกเด็ดขาดเชียว กลัวจริง ๆ ปากนายพอลเนี่ย
แต่อะไรไม่เท่า ถ้าเรื่องรู้ไปถึงยัยจินนี่เมื่อไหร่ รับรอง จินนี่ไม่อยู่เฉยแน่ ๆ
ความรักของทั้งสองคน คงมีอะไรเข้ามาเป็นบททดสอบอีกเยอะเลยล่ะ
เอาใจช่วยพอลกับฝูหรง ฝ่าฟันอุปสรรคความรักน้า
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  :L2:
 
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา" P.6 (22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 26-06-2014 10:20:15
ดีนะเนี่ยที่รู้ความจริงเร็ว ความสุขก็เลยมาเยือนเร็วอย่างนี้
นี่ถ้าไม่โดนบังคับมาจะรู้เรื่องกันไหมเนี่ย ต้องขอบคุณพอลสินะ :laugh:
และที่น่าดีใจมากกว่านั้นคือ ทั้งปาปาและมามาต่างก็ยอมรับ
จริงๆไม่ใช่แค่ยอมรับแต่ยังรักและเอ็นดูพอลมากๆอีกต่างหาก
มีแววว่าพอลจะกลายเป็นหมาหัวเน่า ปาปามามาได้ลูกใหม่แล้ว
ส่วนเรื่องบนเตียงมันก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนรักกันอ่ะเนาะ
ห่างไปตั้งห้าปี มันก็ต้องบอก(ด้วยร่างกาย)ให้รู้กันบ้างแหละ :o8:
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1: สู้ๆนะคะ
+1และเป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.6 "เริ่มเวลาของเรา"(22/6/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 28-06-2014 23:32:14
แหม พอเคลียร์กันเข้าใจก็เริ่มเรียกร้องเวลาที่เสียไปทันทีเลยนะน้องพอล
งานนี้ต้องบอกว่าเพราะได้ปาปา กะ มามาช่วยยืนยันด้วยนะเนี่ย น้องฝูหรงเลยยอมเชื่อ
เพราะสรุปก็ยังไม่ได้เจอกะน้องจินนี่อีกจนได้ เลยไม่ได้เคลียร์กันตัว ตัวไปเลย
อย่างงี้ถ้าน้องจินนี่ที่น่ารักของปาปามามาได้รู้ไม่แน่อาจจะวางแผนใหม่ ๆ มาแยกน้องพอลอีกแน่
แล้วต่อไปคงได้เจอลูกครึ่งรูปหล่อจอมหื่นมากกว่าเดิมแน่ ก็เล่นเตือนกระต่ายน้อยไว้แล้วนี่เนอะ
เป็นแฟนกันแล้ว ยังไงก็ขอให้มีเรื่องหวาน ๆ มากกว่าเรื่องยุ่ง ๆ ละกันนะคะ
รอติดตาม และ บวก บวก เป็นกำลังใจให้คุณมาศต่อไปค๊า  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 29-06-2014 10:10:23
ตอนที่ 7

โจวพอล

   “อ่ะ  เรียบร้อยแล้ว...[จุ๊บ]...ฝูหรงของพอลน่ารักที่สุด”  หลังจากผมขยับเนกไทบนร่างเล็กให้เข้าที่ดีแล้ว

ผมก็ยื่นหน้าไปแตะจูบที่ริมฝีปากสีสดอย่างห้ามใจไม่อยู่  จนกระต่ายน้อยที่นั่งแก้มแดงไม่พูดไม่จามาตลอดทางตวัดค้อนใส่  ก่อนจะหันไปเตรียมเปิดประตูลงจากรถ 

ผมตัดสินใจที่จะรั้งท่อนแขนเล็กภายใต้เสื้อสูทสีเทาเข้มไว้  ฝูหรงจึงเบือนหน้ากลับมาเลิกคิ้วใส่กัน  พร้อมจ้องตารอคำตอบจากผมอย่างเอาเรื่อง  ‘ไม่ได้ดูน่ากลัวสักนิด  ออกจะน่าเอ็นดูกระต่ายน้อยขี้โมโหเสียมากกว่า’  ผมเลือกที่จะส่งยิ้มหวานๆใส่ตาคู่กลมที่มีกระจกใสคั่นไว้  และจิ้มนิ้วเข้าที่แก้มตัวเอง 

แรกทีเดียวฝูหรงขมวดคิ้วจ้องตาผมด้วยแววตาสงสัยชัดเจน  จนผมต้องพองแก้มและจิ้มนิ้วย้ำๆใส่แก้มข้างนั้นแทนคำบอกใบ้  ไม่นานฝูหรงก็กลายเป็นกระต่ายน้อยขี้ตื่นขึ้นมาทันตา  ด้วยเจ้าตัวส่ายหัวไปมาพร้อมทำสีหน้าตื่นๆ  ส่วนแก้มที่แดงอยู่แล้วก็ขึ้นสีจัด  จนผมกลัวว่าแก้มคู่นั้นจะระเบิดในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าเอาน่ะสิ

“เร็วครับจุ๊บแก้มพอลก่อน  ไม่งั้นวันนี้ไม่ต้องทำงาน  พอลจะพาฝูหรงกลับบ้านเดี๋ยวนี้แหละ  ดีเหมือนกันฝูหรงจะได้พัก  ส่วนเรื่องลาเดี๋ยว...[จุ๊บ!]...ฮึๆ  ชื่นใจกระต่ายน้อยของพอล  แต่มาให้พอลดูหน่อยเร็ว”  ผมเชยคางคนที่กระแทกริมฝีปากมาที่แก้มผมขึ้น 

คุณฟังไม่ผิดหรอกที่ผมใช้คำว่ากระแทกแทนคำว่าหอมหรือจุ๊บแก้ม  เพราะมันเหมาะที่สุดแล้วกับกิริยาของฝูหรง  ที่ยื่นหน้าเอาริมฝีปากมาชนแก้มผมอย่างแรง  ไม่ใช่กิริยาที่เอาริมฝีปากมาแตะแก้มเบาๆ  หรือการเอาจมูกมาสูดกลิ่นจนเกิดเสียงดังฟอด  ให้ผมเรียกว่าหอมหรือจุ๊บแก้มได้อะไรแบบนั้น  แต่ผมก็อารมณ์ดีเกินกว่าจะถือสากระต่ายน้อยขี้โมโห  ผมกลัวก็แต่ว่าริมฝีปากที่ผมหวงแสนหวง  จะปริแตกไปกับการกระทำนั้นซะก่อนน่ะสิ 

โชคยังดีที่ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ตามที่คิด  เพราะมันยังคงนุ่มและชุ่มฉ่ำเหมือนเดิม  ยามที่ผมใช้ปลายนิ้วไล้ผ่าน  จนผมเกือบอดใจไม่ไหว  เกือบประทับตีตราย้ำแสดงความเป็นเจ้าของ  หากฝูหรงจะไม่ยื่นมือมาปิดปากผมเข้า

“ไปทำงานได้รึยังเล่า  จุ๊บก็จุ๊บแล้วยังจะเอาอะไรอีก...อ๊ะ!  พอล”  ‘ไม่ได้ปากได้หลังมือก็ยังดีวะ’  นี่ดีเท่าไหร่แล้วที่ผมเลือกที่จะยิ้มใสซื่อใส่ตาวาวๆของกระต่ายน้อยแก้มแดง  ไม่เลือกที่จะตอบคำถามแกมประชดนั่น  ขืนตอบไปกระต่ายน้อยของผม  อาจจะอายจนพูดไม่ออกหรือถึงขั้นโกรธกันเลยก็ได้

“ครับๆ  ตั้งใจทำงานนะ  เย็นนี้เดี๋ยวพอลมารับ  อ้อ!...[ฟอดดด]...อย่าลืมคิดถึงกันนะกระต่ายน้อย  ฮึๆ”  ผมได้แต่กลั้วหัวเราะตามหลังร่างเล็ก  ที่พอโดนผมปล่อยให้เป็นอิสระได้  ก็หมุนตัวหนีและเปิดประตูรถ  ก่อนจะก้าวพรวดพราดออกไปแบบไม่เหลียวหลัง

เมื่อปฏิบัติหน้าที่ของสามีที่ดีแล้วก็ถึงเวลาปฏิบัติหน้าที่ของลูกที่ดีต่อ  ด้วยผมต้องตามไปสมทบกับทีมของบริษัท  เพื่อสำรวจที่ดินแถวเกาลูนแทนปาปา  หากวันนี้ผมไม่มีภารกิจสำคัญดังกล่าว  บวกคนของผมไม่ดื้อไม่อึดและไม่ขยันทำงานจนเกินไป  นาทีนี้ผมคงกำลังนอนกอดร่างอุ่นๆอยู่บนเตียงของผมอย่างแน่นอน รู้แบบนี้เมื่อคืนผมไม่น่าให้จบแค่รอบเดียวเลย

ย้อนคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนก็ให้ผมหุบยิ้มไม่ลง  ในที่สุดผมก็ได้คนรักของผมกลับคืนสู่อ้อมกอดอย่างแท้จริง  แถมผมยังได้ครอบครองเป็นเจ้าของคนที่ผมรออย่างสมบูรณ์แล้วด้วย  ไหนปาปามามาจะได้รู้จักและยอมรับสะใภ้ตระกูลโจวอย่างไม่มีข้อแม้  แต่กลับมีความจริงบางเรื่องที่ทำให้ผมปวดใจมาจนถึงตอนนี้  สำคัญที่คนที่เกี่ยวข้องดันเป็นญาติสนิทที่ผมรักเหมือนน้องสาวแท้ๆซะด้วยสิ

หากยัยจินนี่จะไม่มีนิสัยขี้หวงเข้าขั้นโคม่า  ผมกับฝูหรงคงไม่ต้องจากกันถึงห้าปี  แต่เมื่อไม่สามารถแก้ไขอดีตได้  ผมคงได้แต่ยอมรับในโชคชะตา  เพราะดีเท่าไหร่แล้วที่ฟ้ายังเมตตา  พาให้ผมกับฝูหรงกลับมาเจอกันอีกครั้ง  จนสามารถปรับความเข้าใจกันได้  และสานต่อความสัมพันธ์ถึงขั้นลึกซึ้ง  แม้ผมจะยังไม่ได้ยินคำรักชัดๆจากปากกระต่ายน้อยก็ตาม  แต่ผมเชื่อว่าเจ้าตัวเองก็ต้องรักผมไม่น้อย  ไม่เช่นนั้นคงไม่ยอมตกเป็นของผมง่ายๆหรอก

สำหรับยัยตัวแสบที่สร้างความเข้าใจผิดให้แก่ฝูหรง  ผมก็ได้แต่ฝากความหวังไว้ที่ปาปา  คุณลุงผู้เป็นที่รักและเคารพยิ่งของยัยจินนี่นั่นแหละครับ  เพราะคงมีแต่ปาปานี่แหละที่จะเป็นคนตักเตือน  ด้วยยัยจินนี่จะเชื่อฟังปาปาผมมากกว่าใคร  แม้แต่กับอาหญิงและอาเขยยังไม่มีอิทธิพลต่อเจ้าตัวเท่ากับปาปาของผมเลย

“ติดต่อเจ้าของที่ดินผืนนี้ให้ผมด่วนเลยนะครับ  ถ้าช้าผมกลัวว่าคนอื่นจะชิงตัดหน้าเราไปซะก่อน”  ผมพูดไปพร้อมกอดอกและกวาดสายตามองตึกร้างตรงหน้าไปด้วย  ส่วนในหัวกำลังคำนวณราคาและประเมินความคุ้มค่า  หากถูกเปลี่ยนถ่ายมือให้ถูกจังหวะและเวลา  ที่ดินผืนนี้จะสร้างรายได้ให้บริษัทเราไม่น้อย

“ครับคุณพอล”  ผมหันมาส่งยิ้มพร้อมก้มหัวนิดให้ลูกน้องเก่าแก่ของบริษัท 

บุคคลนี้เรียกว่าเป็นลูกน้องระดับอาวุโสคู่กายปาปา  ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทกันเลยทีเดียว  จึงไม่แปลกที่ผมจะให้ความเคารพ  แต่ก็ทำเอาอาเฉาชิงโน้มตัวก้มหัวให้ผมแทบจรดพื้น  แถมพอผมห้ามและรั้งตัวขึ้น  กลับมองผมด้วยแววตาชื่นชมเต็มเปี่ยม  ทำให้ผมได้แต่ระบายยิ้มพูดไม่ออกทำตัวไม่ถูกไปพักหนึ่ง  ก่อนผมจะเอ่ยขอตัวจากอาเฉาชิง  เมื่อเหลือบดูนาฬิกาก็ได้เวลามื้อกลางวันแล้ว  คนที่อายุเลยวัยกลางคนไปมาก  ไม่ควรทานอาหารผิดเวลา

เมื่อได้อยู่บนรถคนเดียวอีกครั้ง  ใจผมก็กระหวัดคิดถึงใครอีกคนที่อยู่อีกฝั่งของเกาะ  และมือก็เร็วพอที่จะคว้าโทรศัพท์กดหาคนที่คิดถึง  รอสายไม่นานฝูหรงก็รับสาย  ผมจึงไม่พลาดที่จะส่งคำว่าคิดถึงไปให้  และผมต้องยิ้มกว้างอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า  เมื่อได้ยินเสียงเล็กๆดังต่อว่ากันแก้เขินมาตามสาย

“คิดถึงอะไรกันเล่า  เพิ่งห่างกันไม่ถึงครึ่งวัน”  เชื่อเถอะว่าตอนนี้แก้มใสจะต้องขึ้นสี  และตากลมๆคงได้แต่ค้อนลมค้อนแล้งฝากมาถึงผมแน่นอน

“พอลคิดถึง  พอลก็อยากบอกให้ฝูหรงรู้นี่ครับ  ที่จริงพอลคิดถึงฝูหรงตั้งแต่ห้านาทีแรกที่เราจากกันแล้วนะ...ฮึๆ”  ผมได้แต่กลั้วหัวเราะให้กับกระต่ายน้อยช่างเฉไฉ  เพราะทันทีที่จบประโยค  ฝูหรงก็ถามขึ้นมาทันทีว่าผมโทรหาทำไม  แต่ดันดักคอผมว่าไม่เอาเหตุผลว่าคิดถึงกันแล้วนะอีกด้วย

ผมจึงถามไปว่าเจ้าตัวกินมื้อกลางวันรึยัง  แต่พอได้ยินคำตอบ  ผมถึงกลับถอนใจพรืด  และได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ  ให้กับสุดยอดเลขาดีเด่นแห่งหวางหย่งกัง  ด้วยฝูหรงตอบผมด้วยเสียงอ่อยๆอย่างรู้ตัวว่าผิด  เพราะยังไม่ได้กินอะไร  ทั้งๆที่เลยเวลาอาหารมากว่าสิบนาทีแล้ว

“วางงานตรงหน้าก่อน  และรีบไปหาอะไรทานซะนะครับ  หากฝูหรงไม่ยอมทำตามที่พอลบอก  อย่าหาว่าพอลขู่  เพราะพอลจะไปลักพาตัวเลขาหลี่ผิงมาเก็บไว้ที่บ้าน  และจะไม่ยอมให้กลับไปทำงานอีกเลย”  ผมไม่ได้ขู่  เพราะผมหมายความตามที่คุณได้ยินไป  ผมพูดจริงทำจริงด้วย  ดีซะอีกจะได้ใช้เป็นข้ออ้างให้ฝูหรงลาออกจากงาน 

เมื่อเช้าระหว่างทางที่ผมพาฝูหรงกลับคอนโดไปเปลี่ยนชุดทำงานนั้น  ผมได้เกริ่นเรื่องที่ให้ฝูหรงลาออกแล้ว  แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธผมกลับทันควันเหมือนกัน  ว่ายังไงก็จะขอทำงานเป็นเลขาอยู่แบบนี้  ผมจึงได้โอกาสล้วงลึกความในใจเรื่องที่ค้างคาใจ  อย่างเรื่องที่ฝูหรงชอบหลี่ผิงขึ้นมา  ซึ่งเจ้าตัวกลับตอบรับว่าชอบหลี่ผิงขึ้นมาหน้าตาเฉย  ทำเอาผมอึ้งและหน่วงไปทั้งอก  พาลมือไม้อ่อนจนบังคับพวงมาลัยไม่ไหว  เกือบโดนรถที่ตีคู่มาเฉี่ยวเข้าให้  แม้แต่ฝูหรงเองก็ตกใจ  จนออกคำสั่งให้ผมจอดรถข้างทาง  นาทีนั้นผมได้แต่ทำตามคำสั่งด้วยสมองเบลอๆ 

ท้ายที่สุดผมก็กลับมากระปรี้กระเปร่าขึ้นอีกครั้ง  เมื่อกระต่ายน้อยใช้สองมือเกาะท่อนแขนที่กำลังกำพวงมาลัยของผมไว้  ก่อนจะชะโงกหน้ามาตรงหน้าผม  และมองตาผมด้วยแววตาแห่งความรู้สึกผิด  บอกเลยว่าตอนนั้นแม้จะรู้สึกดีที่ฝูหรงแสดงความใกล้ชิดต่อผมเหมือนเมื่อห้าปีก่อน  แต่ไอ้แววตาที่ได้เห็นกลับฉุดรั้งความดีใจไว้  ด้วยคิดไปเองว่าฝูหรงกำลังรู้สึกผิดต่อผม  ที่แบ่งใจไปให้เพื่อนสนิทมาเฟียของผมเข้า  ซึ่งคำพูดหลังจากนั้นต่างหากที่ทำให้ผมยิ้มได้ทั้งปากและใจ  แม้บางประโยคในนั้นจะสะท้อนความในใจให้ผมรู้  และทำให้ผมเสียความมั่นใจไปไม่น้อยก็ตาม

‘เราก็แค่ชื่นชอบนายน้อยที่เป็นคนทำงานจริงจัง  ส่วนเรื่องของหัวใจก็เป็นคนที่แสดงออกชัดเจน  เพราะทั้งคำพูดและการกระทำ  สื่อชัดว่ารักเพียงคุณธันว์เท่านั้น...แต่กับพอลคำว่า  ‘ชอบ’  มันต่างกันนี่น่า’

ผมจึงได้แต่สัญญากับตัวเองว่าต่อจากนี้  ผมจะไม่เก็บกักความรู้สึกที่มีต่อฝูหรงไว้อีก  แต่จะแสดงออกให้คนน่ารักได้รู้และมั่นใจ  ว่าผมรักฝูหรงได้ไม่ต่างจากหลี่ผิงรักน้องธันว์  ซึ่งคำว่าชอบที่ฝูหรงมีให้ในตอนนี้  ก็เพียงพอแล้วสำหรับผม  เพราะอย่างไรซะผมก็พิเศษกว่าใครในสายตาฝูหรงอยู่ดี

“ไม่ขู่เลยยย  หึ!  งั้นวางละนะ  เราจะไปกินมื้อกลางวันแล้ว”  ตั้งแต่เมื่อคืนผมล่ะขัดหูกับสรรพนามแทนตัวที่คนน่ารักใช้ไม่น้อย 

แม้คำว่า  ‘เรา’  ฝูหรงจะใช้แทนตัวเองกับผมเหมือนเมื่อห้าปีก่อน  แต่เวลานี้สถานะและอะไรหลายๆอย่างระหว่างเราก็เปลี่ยนไปแล้ว  สมควรที่สรรพนามแทนตัวจะต้องเปลี่ยนด้วย  ผมเองยังกล้าแทนตัวเองด้วยชื่ออย่างไม่อายปากเลย  ผมจึงอยากได้ยินอีกฝ่ายแทนตัวเองด้วยชื่อเหมือนยามที่เราร่วมรักกัน

“เดี๋ยวครับ...ฝูหรง  พอลขอร้องเถอะนะ  ขอให้แทนตัวเองด้วยชื่อ  ไม่เอาเรานายอะไรพวกนั้นแล้ว  เราไม่ใช่เพื่อนกันเหมือนแต่ก่อน...แต่เป็นอะไรที่มากกว่านั้นมากๆๆ  และถ้าฝูหรงหลุดมาเมื่อไหร่  ต้องโดนพอลทำโทษนะรู้มั้ย”

“เหอะ!  ขู่ได้ขู่ดี  ใครกลัวกัน...เราๆๆๆๆ  นายๆๆๆๆ  คิกๆๆๆ  วางแล้วนะ  หิว”

“กระต่ายน้อยเย็นนี้โดนทำโทษแน่  ระวังตัวให้ดีเถอะ...ฮึๆ”  ขู่ไปก็เท่านั้นครับ  เพราะคนปลายสายส่งเสียงหัวเราะคิกคักดังมาไม่ขาด  จนผมเองถึงกลับหลุดหัวเราะตาม  เพียงแค่คิดภาพกระต่ายน้อยหน้าใสหัวเราะตาปิด  จนแว่นเอียงกะเท่เร่และเปิดยิ้มอย่างกว้าง  ก็ทำเอาผมอยากไปลักพาตัวพ่อยอดเลขากลับบ้านให้รู้แล้วรู้รอด

“คิดถึงและรักมากนะกระต่ายน้อย...เย็นนี้เจอกันครับ”  เมื่อได้ยินเสียงรับคำเบาๆที่หลุดไม่พ้นคอ  ผมก็กดวางและได้แต่ฉีกยิ้มขับรถคนเดียวเหมือนคนบ้า  พร้อมวางแผนไว้ในใจ  สำหรับบทลงโทษของกระต่ายน้อยแสนดื้อในค่ำคืนนี้

ผมขับรถไปได้อีกไม่ไกล  จึงเข้ามาในอุโมงค์ใต้ทะเลทางเชื่อมระหว่างเกาะเกาลูนและเกาะฮ่องกงนั้น  โทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นและได้แต่สังหรณ์ใจ  เมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ  เพราะคนปลายสายน่าจะมีเรื่องสำคัญที่ต้องการคุยกับผม  ถึงขนาดโทรมาหาผมเวลานี้

“ว่าไงไรอัน...ว่าง...ได้  แล้วเจอกัน”

ผมกลับมายังสถานบันเทิงสุดหรูที่เป็นอาณาจักรของเพื่อนสนิทอีกครั้ง  แต่ผิดไปจากเมื่อคืนลิบลับ  ด้วยบริเวณรอบๆไม่ได้ตื่นตาด้วยแสงสีและอึกทึกไปด้วยเสียงเพลง  แต่ความตระการตาด้วยสิ่งก่อสร้าง  ยังสามารถดึงดูดสายตาได้ไม่เปลี่ยน 

ผมพยักหน้ายกยิ้มเล็กๆให้พนักงานต้อนรับในส่วนของห้องอาหาร  ที่กำลังก้มหัวพร้อมผายมือเชิญ  ซึ่งห้องอาหารนานาชาติแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรที่เปิดให้บริการตลอดวัน  ก่อนผมจะเดินตามเข้าไปยังห้องพิเศษที่ถูกเตรียมไว้  ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจนักที่เข้ามาแล้วพบว่าไม่ใช่แค่ผมที่ไรอันโทรตาม  ด้วยลูกครึ่งผิวน้ำผึ้งตาคมกำลังนั่งจิบชาร้อนด้วยมาดนิ่งๆ  เคียงข้างไรอันที่กำลังนั่งหน้าเครียด 

ผมได้สบตากับโจเซฟนิดก็รู้แล้วว่าไอ้ลูกครึ่งเดนมาร์กกำลังเครียดด้วยเรื่องอะไร  บวกกับการที่ผมไม่เห็นหน้าหลี่ผิงเวลานี้ด้วยแล้ว  ผมยิ่งมั่นใจว่าเรื่องนั้นคงไม่พ้นเรื่องของหัวใจ

“ไงเพื่อน  รอนานมั้ย”  โจเซฟส่ายหน้านิดก่อนจะวางถ้วยชาลง  ส่วนไรอันมีโบกมือนิดหน่อยและส่งสัญญาณให้ลูกน้องเอาอาหารลงโต๊ะ

เรื่องที่ทำให้ไรอันดูเคร่งเครียด  จนทำลายลุคชายหนุ่มร่าเริงผู้แสนอบอุ่นของใครต่อใครไม่เหลือนั้น  คงไม่พ้นเรื่องของหญิงเดียวในดวงใจที่มันผูกสมัครรักใคร่มานานแสนนานหรอกครับ  จะใครถ้าไม่ใช่คุณหนูหวางเหมยอิง  หญิงสาวที่แสนเพียบพร้อมแห่งหวางหย่งกัง  ผู้เป็นที่รักและหวงแหนของเหล่าบรรดาพญามังกรทั้งหลาย

เมื่อบรรดาอาหารจีนถูกทยอยวางลงบนโต๊ะ  จนกระทั่งพนักงานเสิร์ฟเดินออกไป  ไรอันยังคงมีสีหน้าครุ่นคิดและไม่พูดอะไรออกมาสักคำ  จนผมเริ่มหนักใจในพฤติกรรมของมัน  จึงเหลือบตาส่งสัญญาณให้พ่อสิงห์ซุ่มที่นั่งหน้านิ่งอย่างโจเซฟได้เอ่ยปากถาม  แต่ประโยคที่หลุดออกมาของโจเซฟเกือบทำผมวืด

“นั่งมองคงไม่อิ่ม  กินก่อนแล้วค่อยว่ากัน...ดีมั้ยวะไรอัน” 

พอผมได้ยินน้ำเสียงที่กดลึกท้ายประโยค  และได้เห็นแววตาคาดคั้นของโจเซฟที่มองไปยังไรอัน  ผมก็อดชื่นชมไอ้เพื่อนคนนี้ไม่ได้  ที่เข้าใจใช้คำพูดกดดันเพื่อนสนิทของเรา  แต่ยังรู้จักเว้นระยะให้ไรอันได้มีโอกาสรวบรวมความคิดและพูดปัญหาของมันออกมา

ผมจึงได้แต่กระตุกยิ้มก่อนจะจับตะเกียบและลงมือเปิดงานเป็นคนแรก  ตามมาด้วยไอ้โจเซฟที่ยักไหล่กวนๆทั้งที่หน้าโคตรนิ่ง  มันจับตะเกียบคีบขนมจีบเข้าปาก  ก่อนจะใช้ตะเกียบจิ้มไปที่ซาลาเปาและยื่นไปตรงหน้าไอ้ไรอัน  พร้อมพยักพเยิดให้รับน้ำใจที่โคตรเต็มใจบริการของมัน  แต่ผมกลับฉวยซาลาเปาลูกนั้นมา  ก่อนจะลอกกระดาษออกและกัดเนื้อนุ่มๆคำโต  ทำเอาไอ้สองตัวเลิกคิ้วมองผมอย่างไม่เชื่อสายตา  ผมแสยะยิ้มให้พวกมัน  ก่อนจะใช้ตะเกียบสองข้างจิ้มซาลาเปาไว้คนละลูก  และยื่นไปตรงหน้ามันสองคน  ทำให้ทั้งคู่ตีหน้าขรึมจ้องไปที่ซาลาเปาสลับกับใบหน้าผม  ด้วยความหมั่นไส้ผมจึงแกล้งยื่นไปจ่อปากพวกมัน  และร้องหม่ำๆเหมือนหลอกล่อเด็กน้อยให้กิน 

“พอล!!...อุ๊บ!  ฮ่าๆๆๆ”  สุดท้ายมันสองคนก็หัวเราะออกมาจนได้  รู้หรอกว่าแกล้งเก๊กใส่ผม  ก่อนผมจะโดนผลักหัวด้วยฝีมือไอ้ไรอัน  และโดนชกเบาๆเข้าที่หัวไหล่เพราะไอ้โจเซฟ  แต่ก็ทำให้บรรยากาศที่ดูอึมครึมก่อนหน้าจางหายไป
 
“ฉันจะไปตระกูลหวาง  เข้าไปขออนุญาตปาปาหลี่จวินไปมาหาสู่กับเหมยอิง”  หลังกินมื้อเที่ยงกันเสร็จ  อยู่ๆไรอันก็พูดประโยคน่าตกใจออกมา  ทำเอาชาร้อนที่ผมกำลังจิบถึงกับลวกลิ้น

“ร้อนๆ!...เดี๋ยวนะไรอัน  นายอยากตายรึไง”  ผมไม่ได้อยากจะกวนเพื่อนนะครับ  เพียงอยากเตือนสติมันมากกว่า  อย่าลืมสิตระกูลหวางน่ะตระกูลมาเฟียนะ  และไม่ใช่แก๊งกระจอกๆทั่วไปด้วย 

ไรอันจ้องตาผมและพยักหน้าใส่ด้วยทีท่ามุ่งมั่นเอาจริง  จนผมต้องเบือนหน้าไปขอความเห็นไอ้โจเซฟ

“ใครจะอยากตาย  แต่ตอนนี้ฉันมีพร้อมทุกอย่างแล้ว  เหลือก็แต่หัวใจที่รอการเติมเต็มเท่านั้น”  หากเป็นเวลาปกติผมคงแกล้งล้อมันไปแล้ว  คำพูดคำจายังกับพระเอกในนิยาย

“แล้วคนที่นายรอ  เธอรู้ตัวรึยัง  ได้บอกความรู้สึกที่เก็บไว้เกือบสิบปีไปบ้างมั้ย”  คำพูดไอ้โจเซฟทำเอาไรอันจากที่เคยมุ่งมั่นกลับห่อเหี่ยวขึ้นมาทันตา  อากัปกิริยาของมันบอกเราสองคนได้หมด  ผมกับโจเซฟถึงกลับถอนใจพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

“ถึงยังไม่บอก  แต่ท่าทางของเหมยอิงก็เหมือนจะรู้...พวกนายก็รู้นี่  เวลาฉันอยู่กับเธอแสดงออกมากได้ที่ไหนกัน” 

ข้อนี้จริงครับ  เพราะหาน้อยครั้งมากที่มีเหมยอิงแล้วจะไม่มีหลี่ผิง  แต่ผมรู้มาว่าไรอันก็กล้าที่จะแอบล้วงคอมังกร  ด้วยการโทรคุยกับเหมยอิงเกือบทุกคืน  และการที่เหมยอิงยอมคุยด้วยคงสร้างความหวังให้แก่มันไม่น้อย

“ไรอัน  ฉันว่านายควรเริ่มที่จะบอกความรู้สึกให้เหมยอิงได้รู้ก่อนดีกว่า  ถ้าเธอไม่ปฏิเสธ  นายก็ค่อยๆสานสัมพันธ์ระหว่างนายกับเหมยอิงให้แน่นแฟ้นขึ้น  หลังจากนั้นค่อยเดินเข้าตระกูลหวางก็ยังไม่สาย”  ผมเห็นด้วยกับโจเซฟที่สุด  แต่มีอีกสิ่งที่ผมอยากจะเสริม

“อย่าปล่อยให้อีกฝ่ายหรือแม้แต่ตัวนายต้องคิดเอาเอง  การพูดจาตกลงกันให้รู้เรื่อง  หรือแม้แต่การยืนยันความรู้สึกของนาย  มันเป็นสิ่งสำคัญมาก  เพราะหากนายไม่ทำสิ่งเหล่านี้ก่อน  มันอาจทำให้นายเสียทั้งใจและเสียทั้งเวลา  ในชนิดที่ว่านายเองคิดไม่ถึงเชียวล่ะ”  ผมอยากเตือนสติเพื่อนสนิท  ด้วยไม่อยากให้มันซ้ำรอยเดิมกับผม 

เราอาจจะคิดว่าการแสดงออกว่ารักของเรา  มันชัดเจนโจ่งแจ้งจนไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำว่ารัก  อีกฝ่ายก็น่าจะรับรู้ได้  แต่อย่าลืมว่าคำพูดก็สำคัญไม่แพ้การกระทำเหมือนกัน  และมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร  หากเอ่ยคำว่ารักแล้ว  ทำให้เราและคนที่เรารักมีความสุข  และสร้างความมั่นใจให้กับคนที่เรารักได้  จงอย่ารีรอที่จะพูดว่า  ‘รัก’  ออกไป

“ฟังแล้ว  เหมือนนายมีประสบการณ์มาก่อนเลยนะ...พอล”  น้ำเสียงนิ่งๆบวกแววตาจับผิดของไรอัน  และท่าทางกระตุกยิ้มเหมือนรอฟังเรื่องสนุกๆอยู่ของโจเซฟ  ทำให้ผมได้แต่ส่ายหัวยิ้มๆให้พวกมัน  ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องของผมให้พวกมันฟัง  ด้วยคงถึงเวลาแล้ว

ในเมื่อชีวิตรักของผมกำลังมีความสุข  ผมก็เต็มใจแบ่งปันให้พวกมันได้รู้  และยังใช้เป็นอุทาหรณ์เรื่องรักให้แก่ไรอันได้อีก  ขนาดผมเล่าแบบหมดเปลือก  มันสองคนยังมีต่อว่าผมอีกแน่ะ  ว่าเก็บเรื่องทุกข์ใจไว้กับตัวได้ยังไงตั้งห้าปี  ทำไมไม่รู้จักที่จะปรึกษาเพื่อนๆบ้าง  ผมก็ได้แต่ยิ้ม  ซึ่งพวกมันคงหมั่นไส้ผม  จึงแกล้งผลักไหล่ต่อยท้องเป็นการเอาคืน  ก่อนโจเซฟจะสั่งให้ผมพาฝูหรงมาให้เพื่อนๆรู้จัก

“ฉันตั้งใจไว้แล้วล่ะน่า  ยังไงฉันก็ต้องพาฝูหรงมารู้จักพวกนายอยู่แล้ว”

“งานนี้หลี่ผิงคงต้องเสียทั้งเลขาและน้องสาวให้เพื่อนสนิทเลยนะเนี่ย  ฮึๆ”  เมื่อเสียงหัวเราะเบาๆของโจเซฟดังขึ้น  ผมกับไรอันก็มองตากันอย่างไม่ได้นัดหมาย  ก่อนเราจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน

หากแต่ในแววตาสีฟ้าของไรอันมันกลับเจือไปด้วยแววกังวลจางๆให้ผมได้เห็น  ผมจึงตบไหล่เบาๆเพื่อส่งกำลังใจให้มัน  ด้วยรู้ว่าเส้นทางรักของเพื่อนยังต้องผ่านอะไรๆอีกมาก  แต่หากคนเราไม่รู้จักคำว่าทุกข์  คงไม่รู้ว่าความสุขเป็นอย่างไรและมีค่ามากมายแค่ไหน  เหมือนอย่างที่ผมเป็นอยู่ขณะนี้ไงครับ  ความรักที่มีพื้นฐานมาจากความเข้าใจมันมีความสุขแบบนี้นี่เอง

ว่าแล้วชักอยากเห็นหน้ากระต่ายน้อยที่รักเร็วๆแล้วสิ  ไหนๆก็ไม่มีงานอะไร  ผมไปนั่งรอฝูหรงดีกว่า  อยากเห็นหน้าตื่นๆของกระต่ายน้อย  ตอนที่เห็นผมแวบแรกจังเลยน้า

...........................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ตอนนี้หวานกันเบาๆพอให้ได้อมยิ้มกับคู่รักคู่ใหม่  แต่อะไรๆมันเพิ่งเริ่ม
คงขอให้คนอ่านได้เอาใจช่วยพอลกับฝูหรงต่อไปด้วยนะคะ
ตอนหน้าอย่าพลาด  เพราะไม่ใครก็ใครคงได้อิจฉากระต่ายน้อยขี้อายกันบ้างล่ะน้า
และอาจอยากมีคนรักปากเสียอย่างพอลบ้างก็ได้   :laugh:

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.ตอนหน้ามาวันศุกร์นะคะ  ขออัพทุก 5 วันลงนิยายเร็วขึ้นมาจี๊ดนึง 
ต้องขออภัยที่สปีดไม่เร็วเหมือนเรื่องก่อนๆ  แต่จะไม่ขาดหายไปแน่นอนค่ะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 29-06-2014 10:38:23
ชอบความเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทของผู้ชายกลุ่มนี้มากค่ะ
คอยเตือน คอยให้กำลังใจกันตลอด
รออ่านความน่ารักของกระต่ายน้อยตอนหน้าค่ะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 29-06-2014 11:34:29
ตอนนี้เบาๆใสๆสินะะะะ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 29-06-2014 12:04:55
เราอยากรู้ว่ายัยจินนี่จะโดนปราบยังไง ปาปาจะใช้วิธีไหนจัดการหล่อน :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-06-2014 13:34:27
แหม หวานกันจริงนะห่างกันไม่เท่าไหร่พอลก็คิดถึงกระต่ายน้อยซะแล้ว~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 29-06-2014 14:07:20
กำลังจะบอกพอดีว่าเจ็ดวันนานเหมือนเจ็ดปี

แต่เลื่อนมาเป็นห้าวัน... o13
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 29-06-2014 14:22:05
หวานแบบเบาๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: natthakan ที่ 29-06-2014 15:47:26
 :mew1: หวานอ่ะ อยากมีแฟนแบบพอลอ่ะ อร้ายยยยย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 29-06-2014 19:21:25
การที่เรารักใคร ก็ควรแสดงออกทั้งคำพูดและการกระทำ  และนั่นก็จะทำให้เกิดความสุข เหมือนกับที่พอลกำลังมีความสุขมากๆ

เห็นด้วยว่าความรักเพื่อนของเพื่อนกลุุ่มนี้ ที่ไม่ว่าเพื่อนคนใดในกลุ่มกำลังทุกข์ หรือสุข เพื่อนในกลุ่มก็พร้อมจะช่วยเหลือในทุกเรื่อง


:pig4: คนเขียนที่เข้ามาอัพเรื่องนี้เร็วขึ้น :L2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 29-06-2014 20:03:27
อาเฮียไรอัน อย่าเพิ่งท้อน้า

สู้ๆๆ

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 30-06-2014 05:52:22
พอล เห่อเมีย หลงเมีย   :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 30-06-2014 06:36:21
รอศุกร์หน้าาา พอลหลงต่ายน้อยมากเกินนน
ไหสไหมนี้ 5555
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 30-06-2014 10:43:39
มาถือป้ายไฟเชียร์คู่นี้
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 30-06-2014 18:46:23
คู่นี้พอดีกันแล้วก็หวานใส่กันตลอด
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 01-07-2014 13:51:15
 :hao7:

อึ้บๆ ดันๆ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 01-07-2014 22:29:55
พอลหายใจเข้าออกเป็นฝูหรง :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 02-07-2014 08:57:23
กระต่ายน้อยฝูหรงนับวันยิ่งน่ารัก พอลรีบๆกลับไปเฝ้าได้แล้ว

+1 ค่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoRin ที่ 02-07-2014 09:51:07
ดีใจนะที่เข้าใจกันแล้ว
แต่ใครจะรับรองว่าชะนีน้อยจะไม่มาป่วนอีกล่ะคะ
สงสารกระต่ายน้อยนะ -**-
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.7 "ความสุข" P.7 (29/6/57) UP แล้วค่า^^
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 02-07-2014 10:39:12
น่ารัก
หวานกันเบาๆ
 :mew3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 04-07-2014 16:06:13
ตอนที่ 8

โจวพอล

   “เครื่องดื่มค่ะ”  ชาร้อนในถ้วยกระเบื้องขาวเนื้อดีถูกวางลงตรงหน้าพร้อมเสียงอ่อนหวานที่ดังขึ้น

ผมละสายตาจากหนังสือพิมพ์ธุรกิจรอบบ่ายและเงยหน้าขึ้น  ทำให้พบกับสาวหมวยร่างบอบบางของพนักงานต้อนรับแห่งหวางหย่งกัง  เป็นผู้ที่ยกชาร้อนมาให้  ผมจึงเอ่ยขอบคุณเธอเบาๆพร้อมรอยยิ้ม  แต่ทำเอาเธอถึงกลับยิ้มเอียงอาย  มีอาการหลบตาและแก้มแดงขึ้นมาทันที  ก่อนเธอจะก้มหัวให้ผมและหมุนตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็วจนขาแทบพันกัน  อาการเหล่านั้นจุดรอยยิ้มขบขันบนหน้าผมได้อีกครั้ง  ส่วนพนักงานต้อนรับคนอื่นๆมีใช้สายตาเมียงมอง  และส่งรอยยิ้มแวะเวียนมาทักทายผมไม่ขาด  ผมทำเพียงส่งยิ้มให้ตามมารยาทเท่านั้น

คุณได้รู้ได้เห็นแบบนี้แล้ว  อย่าเพิ่งต่อว่ากันนะครับ  ผมไม่ได้จงใจมานั่งหว่านเสน่ห์ให้สาวๆเหล่านี้  รวมถึงตี๋น้อยหน้ามนตรงนั้นให้เคลิบเคลิ้มแต่อย่างใด  แต่มันเป็นผลกระทบจากการที่ผมมานั่งรอกระต่ายน้อยที่รักเลิกงานต่างหาก  ไอ้ครั้นจะโทรไปเร่งฝูหรงให้รีบทำงานให้เสร็จและลงมาหา  ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ไม่ดีเท่าไหร่  เผลอๆจะทำให้ฝูหรงหงุดหงิดพาลโกรธจนเสียคะแนนเอาได้ 

ปฏิกิริยาที่เลยคำว่าเป็นมิตรไปมากของเหล่าพนักงานต้อนรับของโรงแรม  รวมถึงพนักงานรักษาความปลอดภัยมาดเข้ม  ที่ครั้งก่อนแทบจะลากผมออกนอกโรงแรม  เพราะความไม่น่าไว้ใจนั้น  ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือต้อนรับขับสู้ผมอย่างดี  ด้วยความจริงที่ว่าผมเป็นเพื่อนสนิทของนายน้อยแห่งหวางหย่งกัง  พ่วงด้วยตำแหน่งแฟนตัวจริงเสียงจริงของเลขาคนสนิทของท่านรองประธานใหญ่อีกด้วย 

งานนี้นอกจากจะไม่โดนมองแปลกๆเหมือนครั้งแรก  ที่ผมริอาจเป็นหนุ่มน้อยนักรักมานั่งรอแฟนหนุ่มแล้ว  ยังได้รับการต้อนรับอย่างดีเยี่ยมตั้งแต่ก้าวเข้าประตูโรงแรมเลยล่ะ  เพราะพนักงานรักษาความปลอดภัยส่งยิ้มทันทีที่เห็นหน้าผม  และโค้งจนต่ำก่อนจะเปิดประตูบริการให้  แถมพอเดินเข้ามานั่งรอยังเก้าอี้ตัวเดิม  ไม่นานกลับมีพนักงานสาวหมวยเข้ามาสอบถามเรื่องเครื่องดื่ม  และตามมาด้วยเหตุการณ์ข้างต้นที่เล่าไป  ก่อนผมจะโดนสายตาไม่ต่ำกว่าห้าคู่ผลัดกันวนเวียนทักทายจนถึงขณะนี้  เรียกว่าสร้างความหรรษาให้ผมไม่น้อย 

ดูท่าข่าวลือที่ผมจงใจปล่อยว่าเลขานายน้อยหลี่ผิงมีแฟนมานั่งรอก่อนเลิกงานนั้น  จะถูกกระพือไปไกล  ด้วยใครต่อใครก็อยากเห็นหน้าผม  ด้วยแวะเวียนมาดูไม่ขาดสาย  ซึ่งสถานการณ์นี้ถูกใจผมที่สุด  เพราะเท่ากับเป็นการป่าวประกาศไปในตัว  ว่าเจินฝูหรงมีเจ้าของแล้ว  ห้ามใครตามวอแวเด็ดขาด

ผมนั่งจิบชาพร้อมอ่านหนังสือพิมพ์ไม่นาน  หางตาก็เหลือบเห็นว่าประตูลิฟต์ส่วนตัวของผู้บริหารระดับสูงนั้นเปิดออก  ก่อนจะปรากฏร่างที่ผมรอคอย  แต่รอยยิ้มของผมต้องหุบลง  พร้อมกับอาการขุ่นใจที่ค่อยๆก่อตัวขึ้น  ก่อนผมจะรีบสาวเท้าไปยังคนสองคนที่ตระกองกอดกันออกมาจากลิฟต์  เมื่อถึงตัวคนของตัวเอง  ผมก็คว้าต้นแขนเล็กไว้และดึงร่างบอบบางเข้าหาตัว  จนฝูหรงเซปะทะแผ่นอก  ก่อนผมจะเขม่นมองใบหน้าคนที่บังอาจถูกเนื้อต้องตัวแฟนผม

“พี่เป๋า  เกิดอะไรขึ้น  พี่มีเหตุผลอะไรถึงต้องใกล้ชิดแฟนผมขนาดนี้!”  แม้ผมจะแปลกใจที่เห็นหน้าบอดี้การ์ดคนสนิทของเพื่อนอย่างพี่เป๋า  แต่ความขุ่นใจที่เห็นชายอื่นยืนกอดคนของตัวเอง  ทำให้ผมเผลอใช้น้ำเสียงเข้มจนเกือบตะคอกออกไป 

พี่เป๋าเองมีชะงักนิดหน่อย  แต่เมื่อเห็นว่าเป็นผมก็ยอมปล่อยมือจากฝูหรง  ก่อนจะก้มหัวให้ผมนิดเป็นการทักทาย  แต่พี่เป๋ายังไม่ทันพูดอะไร  สาบเสื้อผมก็ถูกกระตุกจนผมต้องก้มลงมอง  ซึ่งใบหน้าผมตอนนี้คงดูน่ากลัวไม่น้อย  เพราะคนน่ารักในอ้อมกอดผมถึงกับผงะตาเบิกกว้าง  ก่อนจะหลุบตาลงด้วยแววตาสั่นๆ  จนแว่นกรอบดำอันโตบนจมูกแทบจะหลุดร่วงลงมา  ทำเอาคนที่ได้เห็นอย่างผมใจอ่อนยวบยาบ  บวกกับแก้มซีดๆที่ผมเห็น  และผิวกายอุ่นๆยามสัมผัสนั้น  ทำให้ผมฉุกคิดได้  ก่อนความเป็นห่วงที่ผมมีให้ต่อคนในอ้อมกอดจะเอ่อท้นขึ้นมาในใจ  ผมจึงเชยคางฝูหรงขึ้นและสำรวจไปทั่ววงหน้านวล

“ฝูหรงเกิดอะไรขึ้น...ตัวร้อนนี่ครับ!”  ผมแนบหลังมือไปกับแก้มใสที่เริ่มแดงก่ำอย่างน่าใจหาย

“คุณฝูหรงเซตอนที่กำลังเดินออกจากลิฟต์  ผมจึงช่วยพยุงไว้ครับ  ไม่มีเจตนาจะเอาเปรียบสักนิด”  เสียงนิ่งๆของพี่เป๋าดังขึ้นท่ามกลางความกังวลใจของผม 

ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่านอกจากผมกับฝูหรงแล้ว  ยังมีบอดี้การ์ดหน้านิ่งของเพื่อนสนิทยืนอยู่ด้วย  จึงละสายตาจากดวงตาสั่นๆแฝงแววตัดพ้อขึ้นมา  แถมจากหางตาผมยังสังเกตได้อีกว่า  เราสามคนกำลังได้รับความสนใจจากคนรอบตัวไม่น้อย  ทั้งจากพนักงานต้อนรับและจากบรรดาลูกค้าของโรงแรม  ด้วยตำแหน่งที่เรายืนนั้นเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นเลยทีเดียว 

ไหนจะเสียงที่ผมใช้ก่อนหน้าอีกล่ะ  ไม่แปลกที่ใครต่อใครมุ่งความสนใจมาทางนี้  แถมผมยังเปิดเผยถึงขั้นยืนกอดเลขาร่างบางต่อหน้าสาธารณะชนอีก  แต่นาทีนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าคนในอ้อมกอดของผมอีกแล้ว  ยิ่งได้ยินอาการของฝูหรงจากพี่เป๋าทำเอาผมยิ่งร้อนใจ  และไม่คิดติดใจในตัวพี่เป๋าอีกเลย

“ผมขอบคุณพี่ที่ดูแลฝูหรงให้ผม  และต้องขอโทษด้วยที่เข้าใจผิด  ยังไงผมขอตัวก่อนแล้วกัน  จะได้รีบพาเลขาคนเก่งของนายน้อยพี่ไปหาหมอ  อ้อ!...แต่พี่อย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับหลี่ผิงนะ  ผมจะคุยกับมันเอง” 

เมื่ออีกฝ่ายกระตุกยิ้มและก้มหัวรับคำผมแล้ว  ผมก็แทบจะอุ้มคนในอ้อมกอด  เพื่อเดินหนีจากสายตาอยากรู้อยากเห็นรอบตัว  แต่อดไม่ได้ที่จะระบายยิ้มน้อยๆ  ยามเดินผ่านสาวหมวยที่กำลังระบายยิ้มกว้างมาให้กัน  ซึ่งเป็นคนเดียวกับผู้หญิงที่เอาชามาเสิร์ฟให้ผมนั่นเอง 

จนกระทั่งผมพากระต่ายน้อยเข้ามานั่งในรถด้วยกันแล้วนั่นแหละ  ผมถึงได้มีโอกาสสำรวจคนน่ารักอย่างจริงจัง  ด้วยการใช้มือประคองใบหน้าเล็กๆนั้นขึ้น  แต่ผมก็ต้องแปลกใจ  เมื่อฝูหรงไม่ยอมสบตา  แถมขืนตัวออกจากสัมผัสผมอีก  แต่ผมก็ตามเอาหลังมืออังไปที่หน้าผากมนและซอกคอขาวจนได้  ซึ่งอุณหภูมิที่สัมผัสได้ก็อุ่นจัดจนน่าเป็นห่วง  ส่วนสาเหตุคงไม่ต้องเดาว่าเกิดจากอะไร  รู้แบบนี้ผมยอมขัดใจคนตัวเล็กไม่ให้ฝืนออกมาทำงานซะก็ดี

“ไปหาหมอกันนะครับ...[เพียะ!]...หืม  ฝูหรงเป็นอะไร  ไม่พอใจอะไรพอลอยู่รึเปล่า”  อยู่ๆฝ่ามืออุ่นจัดก็ฟาดลงบนหลังมือผมไม่แรงนัก  ก่อนเจ้าของมือจะขยับตัวไปจนชิดประตูรถ  แถมด้วยอาการนั่งตัวเกร็งก้มหน้าหนีสายตาผมอีก  ไม่ต้องเดาผมก็รู้ว่าได้กระทำการบางอย่างขัดใจกระต่ายน้อยเข้าแล้ว  แต่จะเป็นเรื่องอะไรก็สุดรู้ได้

หลังจากนั้นเรานั่งเงียบกันอยู่พักใหญ่  และฝูหรงเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะเอ่ยปากอะไรให้ผมรู้  ผมจึงตัดสินใจดึงมืออุ่นๆที่กำไว้จนแน่นนั้นมากุมไว้  ก่อนจะพูดบางอย่างที่คิดออกไป

“...ฝูหรง  โกรธอะไรอยู่  บอกพอลได้มั้ย  อดีตทำให้เราเข้าใจผิด  จนเสียเวลามามากพอแล้วนะครับ...ระหว่างทางไปโรงพยาบาล  ฝูหรงค่อยๆคิดและค่อยบอกพอลก็ได้ว่าไม่พอใจเรื่องอะไร  พอลจะได้ปรับปรุงตัวเพื่อเรา”  ผมไม่ได้ต้องการประชดใส่  แต่ต้องการเตือนสติคนตัวเล็กเท่านั้น 

ผมคิดว่าคนรักกันมีอะไรควรต้องหันหน้ามาคุยกัน  ไม่ใช่ปล่อยให้ความเข้าใจผิดเกาะกุมใจ  จนมันขยายใหญ่ขึ้นก่อเกิดเป็นความบาดหมาง  และทำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้ง  กระทั่งลุกลามถึงขั้นเลิกลาในที่สุด  ซึ่งผมไม่อยากให้เราไปถึงขั้นนั้น  จึงต้องรีบตัดเส้นทางสู่ความหายนะนี้เสียก่อน  ด้วยการเอ่ยเตือนสติคนรัก  ให้ต้องเสี่ยงต่อความไม่พอใจของคนน่ารักเหมือนในขณะนี้ 
ผมขอคิดในแง่ดีว่าหากฝูหรงโกรธ  คงยอมปริปากเรื่องที่ไม่พอใจให้ผมได้รู้บ้าง  ซึ่งผมก็พร้อมจะปรับความเข้าใจและปรับปรุงตัว  เพื่อรักษาความรักครั้งนี้ดังปากว่าไว้  แต่ก่อนที่ผมจะขับรถออกจากที่จอด  กลับมีเสียงออดอ่อยดังแทรกความเงียบขึ้นมา

“ไม่ไปโรงพยาบาลได้มั้ย  แค่ปวดหัวเมื่อยตัวกับมีไข้นิดหน่อย  กินยาก็หายแล้ว...ได้มั้ยพอล”  น้ำเสียงออดอ่อยที่ฟังดูน่าสงสารนั้นไม่เท่าไหร่  แต่ตากลมๆที่สั่นไหวและเคลือบคลอไปด้วยหยาดน้ำใสๆนี่ต่างหาก  ที่ทำให้ผมใจอ่อนยวบยาบ  จนยอมพยักหน้าอย่างยอมจำนน  และลืมเลือนถึงสาเหตุแห่งความผิดปกติก่อนหน้าของคนรัก 

ผมตัดสินใจยื่นมืออีกข้างลูบเข้าที่ข้างแก้มใสแผ่วเบา  และส่งยิ้มเข้าใจใส่ดวงตากลมๆคู่นี้  ก่อนความทรงจำในครั้งอดีตจะผุดขึ้นมาในหัว  ความทรงจำที่ว่ากระต่ายน้อยแสนรักตัวนี้นั้น  กลัวการไปโรงพยาบาลมากมายขนาดไหน  ด้วยเจ้าตัวต้องเผชิญหน้ากับการสูญเสียบุพการีทั้งคู่เพียงลำพัง  จากการไปรับศพพ่อแม่ที่โรงพยาบาลด้วยสาเหตุเครื่องบินตก  ซึ่งได้สร้างรอยแผลลึกแห่งความหวาดกลัวไว้ในใจกระต่ายน้อยที่แสนน่าสงสาร 

ครั้งนั้นผมจำได้ไม่ลืมว่าอดีตได้ทำร้ายกระต่ายน้อยของผมมากขนาดไหน  ด้วยฝูหรงถึงกลับตัวสั่นไม่หยุด  น้ำตาไหลพรากอย่างควบคุมไม่ได้  เมื่อตื่นมารับรู้ว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล  หลังจากที่ผมพาเจ้าตัวที่ไข้ขึ้นสูงยามดึกจนหมดสติมาส่งโรงพยาบาล  ซึ่งผมไม่อยากต้องทนเห็นสภาพน่าสงสารของกระต่ายน้อยที่รักในลักษณะนั้นอีกแล้ว  แต่ผมก็ไม่อาจละเลยกับอาการเจ็บป่วยของคนรักตัวเล็กได้

“ถ้างั้นไปคลินิกกัน  ให้หมอตรวจและจ่ายยามากินที่บ้านดีมั้ยครับ  หืม”  ผมเปลี่ยนจากการลูบแก้มมาลูบหัวทุยที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมนุ่มมือ  พร้อมจ้องตาใสๆอย่างขอความเห็น 

ฝูหรงเองก็กระพริบตาปริบๆใส่ผมอย่างน่าเอ็นดู  ก่อนจะขมวดคิ้วน้อยๆด้วยแววตาครุ่นคิด  จนผมนึกอยากขโมยจูบคนป่วยซะตอนนี้  ซึ่งผมก็ได้แต่ข่มใจและเฝ้ารอคำตอบของคนน่ารัก  ก่อนริมฝีปากสีสดที่ถูกเม้มไว้จะขยับส่งเสียงแผ่วเบาอยู่แค่ลำคอออกมา

“ไม่ไปได้มั้ย  มันน่าอาย  ถ้าต้องให้หมอตรวจ...ตรงนั้น”  เสียงที่เบาอยู่แล้วแทบจะหายไปเลยยามฝูหรงเอ่ยคำสุดท้าย 

ผมชะงักมือก่อนจะอมยิ้ม  ทั้งๆที่อยากจะฉีกยิ้มเต็มหน้าด้วยความเอ็นดูคนน่ารัก  เมื่อทบทวนจนรู้ว่า  ‘ตรงนั้น’  ที่ฝูหรงพูดน่ะมันหมายถึงตรงไหน  ซึ่งกระต่ายน้อยที่ได้เห็นปฏิกิริยาของผมถึงกลับแก้มแดงก่ำ  ก้มหน้างุดหนีสายตาทันที  ผมจึงรั้งต้นคอขาวเข้าหาตัว  เพื่อเอาใบหน้าเล็กๆซุกไว้ที่อก  ก่อนจะกดทั้งปากและจมูกลงบนกลุ่มผมนิ่ม  และสูดกลิ่นหอมๆของเส้นผมไว้เต็มปอด  พร้อมคลึงนิ้วมือกับผิวอ่อนบริเวณต้นคอ  เป็นการปลอบประโลมกระต่ายน้อยขี้อายไปในตัว

“แน่ใจนะครับว่าไม่ต้องตรวจ  กินยาแล้วจะหาย”  สิ้นคำถามของผม  ฝูหรงพยักหน้าหงึกหงักกับอกผมทันที  ทำเอาผมอดใจไม่อยู่  จนต้องกลั้วหัวเราะเบาๆออกมา  ผลก็คือกำปั้นน้อยๆทุบเข้าที่อกผมไม่ยั้ง  จนผมต้องรวบข้อมือบางทั้งคู่ไว้แนบอก  และก้มหน้าส่งยิ้มใส่ตาคู่กลมแทนคำขอโทษ

“ไม่ตรวจก็ไม่ตรวจ  แต่เดี๋ยวพอลเข้าไปหาหมอที่คลินิก  เล่าอาการให้ฟังและเอายามาให้ฝูหรงกินเอง  ดีมั้ยครับ”  ฝูหรงถึงกลับเหวอมองผมตาค้าง  จึงเปิดโอกาสให้ผมแตะริมฝีปากเข้ากับปากแดงๆเพราะพิษไข้  ก่อนจะหันมาเข้าเกียร์เพื่อออกรถไปยังจุดหมายที่ว่าไว้

“เข้าไปเล่าอาการให้หมอฟังเพื่อเอายาเนี่ยนะ  เดี๋ยวหมอก็คิดว่า  ว่า...เอ่อ”  กระต่ายน้อยคิดแทนผมไปถึงไหนแล้วนั่น 

ขอแหย่คนป่วยแสนรักหน่อยแล้วกัน  ไหนๆสถานการณ์ระหว่างเราก็คลี่คลายมาทางที่ดีแล้ว  ด้วยคนน่ารักเองก็ยอมที่จะพูดกับผม  ไม่มึนตึงเหมือนเมื่อครู่  ผมแน่ใจว่าคงรออีกไม่นาน  ด้วยสิ่งที่อยากรู้ก็คงออกมาจากปากฝูหรงเอง

“ฮึๆ  หมอก็คงคิดว่าพอลเป็นคนป่วยซะเอง  เพราะโดนคนรักมอบความรักที่แสนเร่าร้อนผ่านทางร่างกายน่ะสิครับ  ฝูหรงจะพูดแบบนี้ใช่มั้ย...แต่มันก็เป็นความจริง  เพียงแต่คนที่โดนไม่ใช่พอลก็เท่านั้น  ฮึๆ”  เหมือนที่คิดไว้เลยครับ  เพราะทันทีที่ผมกลั้วหัวเราะเบาๆ  คนที่นั่งหน้าเหวอเมื่อครู่ถึงกลับถลึงตาใส่  ทั้งๆที่แก้มแดงก่ำเกินกว่าคนที่เป็นไข้

ผมจึงละมือจากพวงมาลัยรถ  เพื่อเอื้อมไปคว้ามืออุ่นมาวางไว้แนบอกโดยที่มีมือผมกุมทับไว้  ดีที่รถติดสัญญาณไฟ  ผมจึงมีโอกาสหันมาสบตากระต่ายน้อยแสนงอน  ก่อนจะหยอดปิดท้ายเพื่อให้คนน่ารักคลายอาการบึ้งตึงลง

“แต่พอลยอมนะ  ยอมที่จะให้หมอเข้าใจผิด  ถ้าเพื่อฝูหรง...พอลทำได้  และยอมไม่ว่าใครต่อใครจะมองพอลเป็นคนแบบไหน  แต่ขอเพียงฝูหรงมองว่าพอลเป็นคนที่รักและหวังดีต่อฝูหรงมากที่สุดก็พอแล้ว”

คงไม่ต้องบอกว่ากระต่ายน้อยจะมีอาการเช่นไร  บอกได้เพียงว่าผมกลัวก็แต่อาการไข้ที่เจ้าตัวเป็นนั้นจะรุนแรงขึ้น  เพราะความเขินอายไปเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายให้อาการยิ่งแย่น่ะสิครับ  ฮึๆ

หลังจากนั้นผมก็มีหน้าที่ขับรถไปยังคลินิกของหมอประจำตระกูลโจว  ท่ามกลางความเงียบและอุณหภูมิอุ่นจัดของฝ่ามือน้อยๆในอุ้งมือผม  พร้อมกับคอยสังเกตคนข้างตัวไปด้วย  ซึ่งผมก็ได้แต่นั่งอมยิ้มอารมณ์ดีไปตลอดทาง  กับอาการเขินอายนั่งก้มหน้าทั้งๆที่แก้มแดงจัด 

มีบ้างที่ผมคอยแตะหลังมือไปยังหน้าผากมนด้วยความเป็นห่วง  กลัวว่าอาการคนป่วยจะทรุดลง  จนเกือบถึงคลินิกที่ใกล้เคียงกับโรงพยาบาลขนาดเล็ก  กระต่ายน้อยข้างตัวก็หมดฤทธิ์นั่งคอพับหลับไปกับเบาะ  ผมจึงตัดสินใจเร่งความเร็ว  พร้อมต่อสายถึงหมอเจ้าของคลินิกไปด้วย  เมื่อจอดรถหน้าคลินิกทั้งหมอและพยาบาลก็ยืนรอเราอยู่แล้ว

“เบาหน่อยนะครับ  ผมไม่อยากให้คนรักผมตื่นขึ้นมาตอนนี้”  ผมพูดยิ้มๆกับลุงหมอที่คุ้นหน้าคุ้นตาด้วยความเกรงใจ  ก่อนจะหมุนตัวไปเปิดประตูรถอย่างนิ่มนวลที่สุด  และเปิดทางให้ลุงหมอกับพยาบาลได้ทำการตรวจคนไข้วีไอพีบนรถ 

ดีที่ก่อนหน้าผมเล่าอาการคนป่วยคร่าวๆไปแล้ว  ทำให้ใช้เวลาไม่นานทุกอย่างก็เรียบร้อย  คราแรกผมไม่ได้ตั้งใจให้ลุงหมอต้องวุ่นวายขนาดนี้  ถ้าฝูหรงจะไม่หลับคารถไปซะก่อน  ผมคงเดินเข้าไปขอยาตามที่บอกเจ้าตัวไว้  แต่ผมก็เป็นห่วงคนน่ารักเกินกว่าจะทิ้งให้หลับอยู่บนรถคนเดียว  ซึ่งพอบอกความต้องการกับลุงหมอเรื่องขอยา  ท่านดันรู้ทันว่าคนป่วยนั้นไม่ใช่ผม  ถึงกลับเอ่ยปากขอตรวจคนป่วยตัวจริง 

ผมเองเมื่อโดนจับได้จึงได้แต่ยินยอม  แต่มีข้อแม้ให้ลุงหมอมาตรวจคนป่วยที่รถ  ด้วยไม่อยากให้ฝูหรงแตกตื่นกับสภาพคลินิกที่มีขนาดใกล้เคียงกับโรงพยาบาล  ซึ่งลุงหมอก็ใจดีและยินยอมออกมาตรวจคนน่ารักของผมให้ถึงรถด้วยตัวเอง

“คุณหนู  นี่ครับยา...ต่อไปอย่ารุนแรงนักนะครับ”  คำเตือนมาพร้อมเสียงนุ่มๆและสีหน้าแววตาที่แสนปรานี

ผมทำได้เพียงยื่นมือไปรับถุงยาและก้มหัวให้ลุงหมอ  เพื่อแสดงถึงการตอบรับและแทนคำขอบคุณไปในตัว  ซึ่งผมไม่แม้แต่จะเอ่ยปฏิเสธกับคำพูดตักเตือนที่ได้ยิน  ถึงแม้ลุงหมอจะไม่ได้ตรวจจุดเกิดเหตุอย่างที่ฝูหรงกังวล  แต่ร่องรอยที่ผมทิ้งไว้ตามร่างกายเจ้าตัว  บวกอาการที่ฝูหรงเป็นอยู่นั้น  น่าจะบอกอะไรๆให้คนเป็นหมอ  ที่มีประสบการณ์ในวิชาชีพนี้มาครึ่งชีวิต  ได้รู้และวินิจฉัยอย่างถูกต้องได้อย่างง่ายดาย

ผมขับรถโดยมีกระต่ายน้อยแก้มแดงนอนหลับตาพริ้มนั่งอยู่เคียงข้างจนกระทั่งถึงบ้าน  จึงตั้งใจจะอุ้มร่างเล็กที่มีเสื้อสูทผมคลุมตัวเกือบตลอดร่างขึ้นห้อง  แต่ระหว่างที่ผมช้อนเข่าขึ้น  ฝูหรงก็ขยับตัวและขนตาหนาก็ปรือขยับหยุกหยิก  ก่อนเปลือกตาจะลืมขึ้นอย่างช้าๆ  เผยให้เห็นตากลมๆที่ไม่มีเลนส์แว่นบดบังเหมือนเคย  ซึ่งดวงตาคู่เดียวกันนั้นก็สบเข้ากับตาผมในระยะประชิด  ก่อนจะค่อยๆฉายแววแห่งการรับรู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ใด 

ฝูหรงหลบตาผมก่อนจะดันอกผมออก  พร้อมพึมพำเบาๆออกมา  จนผมต้องแกล้งเอียงหน้า  และยื่นหูไปเกือบชิดริมฝีปากแดงๆที่กำลังขยับ

“ไม่ต้องอุ้มหรอก  เดินเองได้  อ๊ะ!  ยื่นหน้ามาทำไมเล่า  หึ้ย!...อ้าว!  ไหนว่าจะไปเอายาที่คลินิกไง”  ผมถึงกับต้องเบือนหน้าหนีเพื่อกลั้นขำ  ให้กับอาการเอ๋อเหรอของกระต่ายน้อยแก้มแดง  ที่พอลงมายืนข้างรถเองได้ก็เพิ่งรู้ตัวว่ากลับมาถึงบ้านแล้ว  แทนที่จะไปอยู่หน้าคลินิกเหมือนที่ตัวเองเข้าใจ

ผมเข้าไปคว้าเอวบางและรั้งเข้าหาตัว  ก่อนจะก้มหน้าลงส่งยิ้มใส่ดวงตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม  พร้อมชูถุงยาขึ้น

“เรื่องยาไม่ต้องห่วง...กระต่ายน้อยขี้เซาแบบนี้จะปล่อยให้คลาดสายตาได้ยังไงกัน...[จุ๊บ]...ไปครับเข้าบ้าน  ฮึๆ”  ไม่อยากจะนับว่าวันนี้ผมหัวเราะไปกี่ครั้งแล้ว  เผลอๆผมหัวเราะได้มากกว่าจำนวนครั้งของอาทิตย์ที่แล้วรวมกันซะอีก  ส่วนสาเหตุก็ไม่ใช่ใคร  ถ้าไม่ใช่กระต่ายน้อยตากลมแก้มแดงที่อยู่ในอ้อมแขนของผมคนนี้

เราเข้ามาในบ้านได้ก็เจอมามาอีลิน่าที่กำลังนั่งจัดดอกไม้อยู่  กระต่ายน้อยของผมมีอาการขัดเขินอย่างเห็นได้ชัด  เมื่อฝูหรงเงยหน้าขึ้นจากปลายเท้าของตัวเองที่มองมาตลอดทาง  แล้วพบเข้ากับสายตาล้อเลียนของมามาจ้องอยู่  ก่อนฝูหรงจะยิ้มเก้อๆและโค้งตัวลงเพื่อทักทายท่าน  แต่มีชะงักและพยายามปลดมือผมออกจากเอวตัวเอง  เมื่อเห็นสายตามามาปรายตามองเอวตัวเองยิ้มๆ 

ผมเองก็ยึดเอวบางไว้แน่น  ก่อนจะแกล้งทำหน้าตาจริงจัง  พร้อมจ้องกลับดวงตาแข็งๆที่มองมา  ทั้งๆที่ใจจริงอยากจะหัวเราะให้กลับท่าทางที่แสนน่าเอ็นดูของฝูหรงมากกว่า

“ไม่เอา  อยู่นิ่งๆสิครับ  ไม่สบายอยู่นะ  เดี๋ยวก็หน้ามืดอีกรอบหรอก...ให้พอลประคองอยู่แบบนี้น่ะดีแล้ว  หรือฝูหรงจะให้อุ้มขึ้นห้องเลย  อืม  ก็ดีเหมือนกัน”  ผมเตรียมช้อนขาช้อนหลังคนตัวเล็กข้างกายอย่างปากพูด  แต่ร่างบางกลับขยับห่างพร้อมเสียงเล็กๆที่โวยวายเบาๆออกมา

“อื๊อๆ  ไม่เอาๆ...ฝูหรงจะไข้ขึ้น  เพราะพอลนี่แหละ  ขี้แกล้ง!”  ผมได้กระต่ายแสนงอนตัวเดิมกลับมาแล้วครับ  แบบนี้สิเจินฝูหรงที่ผมรู้จัก  ขี้อาย  แสนงอน  ช่างต่อว่า  สุดท้ายพร้อมที่จะยอมรับในเหตุและผล

“พอลเป็นห่วงนี่ครับ  เกิดฝูหรงล้มทั้งยืนเพราะหน้ามืดขึ้นมาจะทำยังไง  หืม...มานี่ครับ”  ผมระบายยิ้มใส่ตาวาวๆ  พร้อมอ้าแขนเปิดรอรับร่างน้อย  ที่พอได้ฟังเหตุผลก็มีทีท่าอ่อนลง  และยอมที่จะเดินเข้าสู่อ้อมอกผมด้วยตัวเอง

ฝูหรงเอาหน้าผากแตะไว้ที่อกผมเพียงแผ่วเบา  ทั้งๆที่ส่วนอื่นของเราไม่มีส่วนใดสัมผัสกันเลย  ผมจึงกดจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่ม  ก่อนจะรวบร่างบางเข้าหาอกช้าๆ  และกอดไว้หลวมๆพร้อมยิ้มเต็มหน้า  ซึ่งผมคงได้กอดกระต่ายน้อยน่ารักอีกนาน  หากมามาอีลิน่าจะไม่ขัดขึ้นมา

“ฝูหรงไม่สบายเป็นอะไรจ๊ะ  ไปหาหมอมารึยัง  แต่ก่อนอื่นมามาว่าพอลควรให้ฝูหรงได้นอนพักนะลูก  คิกๆ” 

กระต่ายน้อยเริ่มรู้สึกตัวจากเสียงหัวเราะหยอกเย้าของมามาคนสวยแล้วครับ  เพราะฝูหรงผินหน้าไปมองมามาด้วยสีหน้าตื่นๆ  ก่อนจะหันมาจ้องผมด้วยสีหน้าออดอ้อนแววตาอ้อนวอนชัดเจน  ทำเอาผมถึงกลับมันเขี้ยวกระต่ายน้อยจนแทบอยากขย้ำซะตรงนี้  แต่สิ่งที่ผมทำคือกดจมูกเข้าที่แก้มแดงๆและออกแรงฟัดทั้งสองข้าง  ก่อนจะจบด้วยการแตะริมฝีปากเข้าที่ปากแดงแรงๆอีกที

“อ่า...พอลปล่อยก่อน  อ๊ะ!...[ฟอดดด  ฟอดดด  จุ๊บ!]...พอล~”  เสียงชื่อผมแทบไม่หลุดออกจากริมฝีปากแดงๆคู่นั้นเลย  แต่แทนที่ผมจะมีความสุขที่ได้ชื่นชมกระต่ายน้อยขี้อายแก้มแดงตาโตได้นานๆ  ผมกลับตกใจแทบสิ้นสติ  เมื่ออยู่ๆร่างในอ้อมกอดก็หมดแรงทรุดอยู่กับอกเอาดื้อๆ

“เฮ้ย!  ฝูหรง!”  ดีที่ผมรวบกอดร่างบางไว้อยู่แล้ว  ผมจึงช้อนตัวอุ้มคนที่อยู่ๆก็หมดสติขึ้น

“ดูท่าจะไข้ขึ้น  พอลรีบพาฝูหรงขึ้นห้องก่อนเถอะลูก  แกล้งแฟนมากไป  เกิดเรื่องจนได้แล้วมั้ยล่ะ”  สิ้นคำมามาแล้ว  ผมก็ไม่รอช้ารีบซอยเท้าพาร่างน้อยในอ้อมกอดขึ้นห้องทันที

สงสัยผมจะเป็นต้นเหตุทำให้คนตัวเล็กเขินจัด  จนไข้ขึ้นอย่างที่มามาตำหนิเข้าแล้วจริงๆ  ใครไม่มาเป็นผมไม่รู้หรอก  ว่ากระน้อยน่ารักขี้อ้อนแสนงอนน่ะน่าแกล้งขนาดไหน  แต่ทุกอย่างจะดีกว่านี้  หากเจ้าตัวจะไม่ได้เป็นไข้อยู่ก่อนแล้ว  ผมจึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับผิดในคำตำหนิของมามาเท่านั้น  และชดเชยความผิดด้วยการดูแลคนป่วยที่รักอย่างดี

..........................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

แม้กระต่ายน้อยจะไข้ขึ้นได้น่าสงสาร  แต่คนอ่านน่าจะรู้สึกไม่ต่าง
จากพอลแน่ๆ  อยากจะจับกระต่ายมาฟัดแก้มให้ช้ำ  และแกล้งให้ยิ่งอาย
ควานหวานจะเพิ่มดีกรีขึ้นเรื่อยๆเตรียมรับมือให้ดีค่ะ   :laugh:

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.ตอนหน้าหวานเฉียบแน่นอน  ติดตามได้ในวันพุธนะคะ

 :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 04-07-2014 16:47:22
ก็น่ารักน่าแกล้งอย่างนี้พอลก็ชอบแกล้งน่ะสิ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 04-07-2014 16:47:35
พอลทำให้กระต่ายน้อยไข้ขึ้นรึเปล่า  :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 04-07-2014 17:28:05
อะไรคือการที่พอลไปยิ้มให้คนอื่น ตอนประคองกระต่ายน้อย

เดี๋ยวถ่ายคลิปส่งให้กระต่ายจัดการเลย หึ หึ

รอคอยหวานเย็นตอนหน้าค่ะ :o8:


หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 04-07-2014 18:12:36
หวานละเกินนนนนน

กระต่ายน่าฟัดจัง  :-[  :hao7: (โดนพอล :z6: )
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 04-07-2014 18:18:09
แหม่ แกล้งจนไข้ขึ้นเนี่ยนะ :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 04-07-2014 18:19:06
ฝูหรงเป็นคนไข้ที่โดนคนดูแลแกล้งให้อายได้ตลอด  แต่เป็นคนไข้ที่น่ารัก ขี้อ้อนของคนดูแลแบบพอล

 
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: Mani ที่ 04-07-2014 20:34:42
ดีใจมากเลย เปลี่ยนมาอัพเป็นอาทิตย์ละสองวันเหมือนเดิมแล้วรึเปล่าคะ :))
ขอบคุณนะคะที่มาต่อสม่ำเสมอไม่เคยขาดเลย

ฝูหรงน่ารักมากๆ>< เราเป็นพอลก็คงหลงแย่เลย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 04-07-2014 21:07:14
ตอนปกติก็ขี้อ้อนอยู่แล้ว แล้วมาไข้แบบนี้จะขี้อ้อนขนาดไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 04-07-2014 21:42:56
 :-[ พึ่งรู้เบื้องหลังอาการไข้ยึ้นของกระต่ายน้อย หึหึหึ แล้วจะหายมั๊ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 04-07-2014 22:56:48
ฝูหรง ไม่สบายอยู่นะ เฮียพอล ก็เบาๆ มือบ้างสิจร้าาาาา

 :m1: :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 04-07-2014 23:23:46
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ต่ายน้อยน่ารักอ่าาาาา

อยากฟัดแก้มต่ายน้อยยยยย // ดิ้นๆๆ

โอ๊ยยยยย ใจจะละลาย ต่ายน้อยอ้อนได้โคตรน่ารักเลยยยยย  :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 04-07-2014 23:52:12
ฝูหรงป่วยแต่คนดูแลดีแบบนี้ คงหายป่วยไวแน่
หรือจะหนักกว่าเดิม
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 05-07-2014 00:29:14
หวานๆแบบนี้ อ่านแล้วชื่นใจ  :-[
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 05-07-2014 01:41:22
งือ..ถ้าจะมุ้งมิ้งขนาดนี้ >_<
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 05-07-2014 06:24:15
หวานเกิน 555 อิจฉาพอลอะ
อยากกอดกระต่ายบ้าง
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 05-07-2014 09:37:47
สำลักความหวาน น้ำตาลขึ้นแน่ๆอ่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 05-07-2014 09:59:07
 :o8:
อ๊ายยยยย!!!!! กระต่ายน้อยน่าจับฟัดมากอะ (โดนพอล  :z6:)
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 05-07-2014 10:01:45
กระต่ายฝูหรงน่าแกล้งน่าฟัดที่สุดอ่ะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 05-07-2014 12:40:16
ดูแลกระต่ายน้อยดีๆนะพอล + ทำตามคำเตือนของลุงหมอด้วยล่ะ ^^
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-07-2014 13:04:01
ฝูหรงไม่สบายขนาดนั้นพอลยังแกล้งได้ลงคอนะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 07-07-2014 13:07:24
แฮ่ ขออ่านและเม้นท์สองตอนรวดเลยนะคะพี่มาศ :m23:
จะอ่านกี่ตอนเราก็ว่ามันหวานทุกตอนนั่นแหละนะ
ตอนหน้าพี่มาศว่าจะหวานกว่านี้ คนอ่านจะทนไม่ไหวเอา :ling1:
นี่ขนาดว่าเพิ่งจะป่วยยังดูแลดีขนาดนี้ ถ้าต้องดูแลทั้งวันจะขนาดไหน
ไม่รู้ว่าดูแลคนป่วยพอลจะถนัดเหมือนแกล้งคนหรือเปล่า
เห็นน่ารักเข้าหน่อยก็แกล้งได้แกล้งดี คนเขินก็ไม่ชินสักที
คู่นี้จะทำให้เรากลายเป็นเบาหวานอีกคู่แน่ๆ :hao3:
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่า~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 07-07-2014 17:11:06
พอลเทคแคร์ดี๊ดี #ขอแบบพอลหนึ่งคน #ด่วนๆๆค่ะ

 :-[

ขอบคุณนะคะ ย้อนอ่านสองตอนรวด
+1 จ้าาา ^^
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 07-07-2014 20:54:33
ระดับความหวานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
พอลดูแลคนป่วยดีๆนะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.8 "ไข้ขึ้น" P.7 (4/7/57) คนดูแลดี๊ดี^^
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoRin ที่ 09-07-2014 12:31:55
หวานเว่อร์มากค่าาาาาาาาาาา
มุ้งมิ้งกันไม่มีที่สิ้นสุด อิจฉาค่าาาาา อิอิอิ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 09-07-2014 17:02:37
ตอนที่ 9

โจวพอล

“แฟนแกเป็นไงบ้าง  เห็นมามาบอกว่าไม่สบาย” 

ผมชะงักเท้าที่กำลังก้าวขึ้นบันได  ก่อนหันมาเผชิญหน้ากับเจ้าของน้ำเสียงหนักแน่นทรงอำนาจ  แต่แฝงไว้ซึ่งแววเอื้ออาทรท้ายประโยค  จึงได้พบกับปาปาและมามาที่นั่งอยู่ด้วยกันบนโซฟาชุดรับแขกกลางบ้าน  ด้วยทั้งสองท่านกำลังนั่งจิบกาแฟหลังอาหารเช้าด้วยกัน  ซึ่งเป็นภาพที่ชินตาสำหรับลูกชายอย่างผม  ก่อนผมจะหันไปสั่งเด็กรับใช้ที่ถือถาดอาหารตามหลังมา  ให้ยกอาหารขึ้นไปที่ห้องนอนตัวเองก่อนได้เลย  หลังจากนั้นผมก็เดินระบายยิ้มเข้าหาบุพการี  และนั่งลงบนโซฟาเดี่ยวข้างปาปา

“ฝูหรงไข้ลดแล้วครับ  แต่ยังดูเพลียๆอยู่  ผมเลยให้นอนอยู่บนห้อง  นี่ก็กำลังเอาอาหารเช้าไปให้”

“แกนี่นะ  พาลูกเค้ามาอยู่ด้วยแค่คืนเดียวก็เป็นเรื่องซะแล้ว”  ปาปาตำหนิผมและส่ายหัวเบาๆ  พร้อมจิบกาแฟไปด้วย  แต่ดวงตาที่ท่านเหลือบมองมายังผมนี่สิ  ฉายแววรู้เท่าทันชัดๆ  ผมก็ได้แต่อมยิ้มใส่ตาท่านและไม่คิดจะแก้ตัวอะไร

“ลูกอย่าลืมให้ฝูหรงทานยาหลังอาหารด้วยนะจ๊ะ  เดี๋ยวไข้จะกลับซะก่อน...ไปเถอะลูก  ไปดูแลแฟนเราให้ดี  อยู่ตัวคนเดียวในฮ่องกงด้วย  น่าสงสารออก”  ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของมามาอีลิน่า  สอดคล้องไปกับความหมายในประโยคที่ได้ยิน  ด้วยท่านคงทั้งเอ็นดูและสงสารพ่อกระต่ายน้อยของผมจับใจ

“ฝูหรงไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในฮ่องกงแล้วนะครับ  เพราะตอนนี้มีผมคอยอยู่เคียงข้างแล้วทั้งคน  ไหนจะมีปาปามามาคอยเอ็นดูอีกตั้งสอง...ผมขอบคุณปาปามามามากนะครับที่ยอมรับฝูหรง”  เมื่อจบประโยคสุดท้าย  ผมทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าบุพการีก่อนจะก้มหัวให้ท่าน  เพื่อแสดงความขอบคุณจากหัวใจ  ที่ปาปามามาไม่ขัดขวางความรักของผม  แต่ยังสนับสนุนและให้ความเอ็นดูในคนที่ผมเลือกอีกด้วย

“คนเป็นพ่อเป็นแม่รักลูกสุดหัวใจไม่ต่างกัน  ไม่มีเหตุผลอะไรที่มามาปาปาจะไปขัดขวางความสุขของลูกนี่จ๊ะ  พอลรักใครมามาปาปาก็รักด้วยอยู่แล้ว  แต่ขออย่างเดียว...”  ประโยคที่ถูกทิ้งไว้ไม่กล่าวจนจบของมามา  ทำให้ผมตัดสินใจรวบมือนุ่มที่กำลังลูบหัวผมมากุมไว้  ก่อนจะเงยหน้าสบตามามาเพื่อรอฟังคำขอของท่าน  ส่วนในใจนั้นรับคำตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าคำขอคืออะไรไปแล้ว

“อย่าให้ความรักย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองเหมือนครั้งอดีตอีกนะลูก”  แววตามามาอ่อนแสงลงจนผมใจหาย  เพราะท่านคงติดใจมานาน  ด้วยนึกเห็นใจในอาการเศร้าซึมของผมเมื่อห้าปีก่อน  ครั้งที่ฝูหรงทิ้งผมไปโดยไม่บอกกล่าว  ประกอบด้วยท่านเองก็ไม่รู้ถึงสาเหตุของอาการที่ผมเป็น  จึงยิ่งทำให้ท่านกังวลมากกว่าปกติ 

ผมช่างเป็นลูกอกตัญญูเสียจริงที่ปล่อยให้บุพการีโศกเศร้าและเป็นทุกข์เพราะตัวเอง  แม้แต่ปาปาคงมีความรู้สึกไม่ต่างจากมามานัก  ด้วยแววตาของปาปายามนี้แสดงออกชัดถึงความห่วงใยที่มีต่อลูกอย่างผม

“ครับ  ผมจะไม่ทำตัวแบบนั้นอีก  ตอนนั้นผมยังเด็ก  ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าโดนพิษรักเล่นงานเข้าแล้ว  พลอยทำให้ปาปามามาเป็นทุกข์ไปด้วย  ผมขอโทษ  แต่ตอนนี้ผมได้เรียนรู้แล้ว  เรียนรู้ที่จะดูแลความรักของตัวเอง  และดูแลความรักที่ผู้อื่นมอบให้ด้วย  โดยเฉพาะความรักที่ปาปามามามีให้แก่ผม...ยกโทษให้ลูกชายที่ไม่ได้เรื่องคนนี้ด้วยนะครับ”  พูดจบผมก้มหัวลงต่ำแทบจรดพื้น  แต่มีฝ่ามืออุ่นๆถึงสองคู่มารั้งไหล่ผมไว้

“พูดอะไรแบบนั้นกันลูก!  มามาปาปาไม่เคยโกรธลูกเลยนะจ๊ะ”  แม้น้ำเสียงมามาจะฟังดูตกใจ  แต่ดวงตาที่ผมได้สบกลับเอ่อคลอได้ด้วยหยาดน้ำใสๆ  แต่แววตากลับเปล่งแสงแห่งความภาคภูมิใจ  พลอยทำให้ผมตื้นตันใจไปด้วย

“โจวพอล  รับปากแล้วก็ทำให้ได้ตามที่พูด...ไปเถอะไปดูแลคนรักของแกซะ  ป่านนี้คงตื่นแล้ว  ตื่นมาไม่เจอใคร  เดี๋ยวจะพาลน้อยใจจนไข้กลับซะก่อน”  แม้ประโยคที่ได้ยินจะแสดงถึงเจตนา  ที่ปาปาตั้งใจหยอกเย้าลูกชายคนเดียวอย่างผม  แต่น้ำเสียงของท่านยังคงหนักแน่น  เต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจไม่เปลี่ยน 

หากคนไม่รู้จักปาปามาได้ยินเข้าคงอดเกรงกลัวไม่ได้  แต่ถ้าสังเกตดีๆจะพบว่าแววตาคนพูดนั้น  สอดคล้องไปกับความหมายในประโยคที่เพิ่งได้ยิน  ด้วยตาคู่เรียวเล็กนั้นทอประกายขบขันอยู่ไม่น้อย  และนี่แหละคือโจวฟู่สือเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์แห่งฮ่องกงตัวจริง  ผู้ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกน่าเกรงขาม  แต่มีจิตใจที่แสนอ่อนโยนเอื้ออาทรนัก  ที่สำคัญโจวฟู่สือยังเป็นพ่อที่รักลูกมากที่สุดคนหนึ่งด้วย

หลังจากนั้นมามาก็สนับสนุนคำพูดปาปา  ให้ผมรีบขึ้นมาดูแลคนรัก  ผมเองแสนเต็มใจทำตามที่ท่านพูด  ระหว่างทางก็เริ่มกังวลใจว่ากระต่ายน้อยจะมีอาการตามที่ปาปาว่าไว้  ด้วยฝูหรงยามไม่สบายนั้น  กลับมีอาการแปลกๆอย่างที่ผมคาดไม่ถึงมาก่อน  อย่างเมื่อคืนตอนที่ฝูหรงรู้สึกตัวหลังจากเป็นลมต่อหน้ามามาแล้วนั้น  คนน่ารักกลับมีอาการไข้ขึ้น  ตามมาด้วยอาการงอแงหงุดหงิดไม่เอาอะไรทั้งนั้น  แถมยังดื้อไม่ยอมให้ผมเช็ดตัวลดไข้ให้อีก  จนผมต้องแกล้งดุ  ผลก็คือน้ำตาเม็ดโตๆร่วงหล่นมาตามแก้มใสไม่ขาดสาย  และตาฉ่ำน้ำก็จ้องมายังผมด้วยสายตาตัดพ้อชวนน่าใจหาย  ทำเอาผมตกตะลึงอย่างคาดไม่ถึง  และกว่าจะได้สติมาปลอบกระต่ายน้อยให้หยุดร้องได้ก็เล่นเอาเหนื่อยทั้งคู่  สำคัญที่ใจผมนั้นแทบจะขาดออกเป็นชิ้นๆ  กับเสียงสะอื้นและคราบน้ำตาของคนรักเข้าน่ะสิ 

สุดท้ายผมก็ปะเหลาะเช็ดตัวกระต่ายน้อยจนสำเร็จ  แต่ผมก็แทบคลั่งกับผิวละเอียดอมชมพูตลอดร่างของคนรัก  ยามที่ใช้ผ้าเช็ดตัวลูบไล้ไปตามผิวขาวอมชมพูออกแดงเพราะพิษไข้  ซึ่งผมก็ได้แต่ข่มใจและรีบจับกระต่ายน้อยน่ารักสวมชุดนอนอย่างเร็วที่สุด 

อะไรๆข้างต้นที่ว่าลำบากและต้องใช้ความอดทนมากแล้ว  ยังเทียบไม่ได้กลับตอนหลอกล่อให้ฝูหรงกินยา  เพราะกระต่ายน้อยจอมงอแงเกลียดการกินยาเป็นที่สุด  แต่ผมก็มีวิธีจัดการ  ‘ป้อนยา’  ตามสไตล์ผมจนสำเร็จ  ซึ่งผลข้างเคียงที่ตามมาก็เป็นที่น่าพอใจ  ด้วยฝูหรงหมดฤทธิ์เคลิ้มหลับอยู่กับอกผมเชียวล่ะ  ทำให้ผมได้มีเวลาจัดการตัวเอง  ก่อนจะล้มตัวลงนอนเคียงข้างร่างอุ่นจัด 

ส่วนอาการแปลกๆตอนป่วยของกระต่ายน้อยยังไม่หมดเท่านั้น  เพราะกลางดึกเจ้าตัวมีนอนเพ้อโวยวาย  ที่สำคัญพอผมจับใจความได้  ดันเป็นการตัดพ้อต่อว่าตัวผมซะอีก  ด้วยคงเป็นเรื่องอดีตที่ฝังใจจากการเข้าใจผิด  ทำเอาผมสะท้อนใจว่าได้ทำร้ายจิตใจคนรักจนเป็นแผลลึกอย่างไม่รู้ตัวเข้าแล้ว  จนผมต้องกอดรัดร่างที่ดิ้นรนบนเตียงพร้อมกล่อมนอน  สลับกับการเช็ดตัวเพื่อลดไข้ไปด้วย 

หากนับเวลานอนรวมๆกันตลอดคืน  ผมว่าผมได้นอนไม่เกินสองชั่วโมง  ทำเอาตื่นสายจนไม่ได้ร่วมโต๊ะมื้อเช้ากับปาปามามาดังเคย  แต่ดีที่เป็นวันหยุดของผมและฝูหรง  ทำให้ไม่ต้องวุ่นวายและกังวลเรื่องงานนัก  นี่ผมก็ไม่รู้ว่ากระต่ายน้อยตื่นรึยัง  และถ้าตื่นนอนมาแล้วไม่เจอผม  จะมีอาการงอแงพาลงอนไม่คุยด้วย  หรือจะโวยวายทำหน้าบึ้งให้ผมต้องง้อรึเปล่า  กระต่ายน้อยยามป่วยทำเอาผมเดาอาการไม่ถูกเลย  ไอ้ที่พูดที่บ่นไปไม่ใช่เพราะรำคาญหรือไม่ชอบ  แต่ผมกลับพอใจมากกว่าที่ได้เห็นฝูหรงในอีกแง่มุมหนึ่ง  เพราะผมเชื่อว่าน้อยคนนักที่จะได้รู้จักเจินฝูหรงในลักษณะนี้

อาการของฝูหรงที่ผมคาดเดาไว้  ไม่ตรงกับความเป็นจริงที่ผมกำลังเผชิญหน้านี้เลยสักนิด  ทันทีที่ผมเปิดประตูห้องนอนเข้ามา  ผมพบกับกระต่ายน้อยขี้แยกำลังนั่งก้มหน้าน้ำตาไหลพราก  แก้มแดงก่ำ  และเม้มปากจนแน่นเพื่อกลั้นเสียงร้อง  โดยมีเด็กรับใช้ที่ผมให้ยกถาดอาหารเข้ามาก่อนนั้น  ยืนอยู่ข้างเตียงทำหน้าเลิ่กลั่กด้วยทำตัวไม่ถูก  แต่พอกระต่ายน้อยเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าเป็นผม  เสียงที่เคยกลั้นไว้ก็ปล่อยโฮออกมาจนผมตกใจ

“ฮึกๆ  ฮืออออ...พอล  พอลลล  โฮๆๆๆ”  ผมไม่รอช้าที่จะก้าวเข้าหาคนน่ารักบนเตียงที่กำลังเรียกหา  แถมด้วยการยื่นแขนทั้งคู่มาตรงหน้า  เหมือนว่าเจ้าของกำลังต้องการอ้อมกอดจากผมเป็นอย่างมาก 

เมื่อถึงตัวฝูหรงแล้ว  ผมจึงรวบกอดร่างเล็กไว้กับอก  และลงมือลูบหัวลูบหลังเป็นการปลอบประโลม  ก่อนจะพยักพเยิดส่งสัญญาให้เด็กรับใช้ออกไปได้

“ชู่ว์ๆๆ  ไม่ร้องนะครับกระต่ายน้อยของพอล  ไม่ร้องนะ  รู้มั้ยร้องมากๆเข้า  เดี๋ยวไข้ขึ้นพาลปวดหัวขึ้นมาอีก  หยุดร้องนะครับ  ให้พอลดูหน้าหน่อยเร็ว...ต้องแบบนี้สิคนเก่ง”  ผมปลอบคนน่ารักที่กำลังปล่อยโฮกับอก  ไม่ต่างจากการปลอบเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง  ด้วยเสียงนุ่มๆกับสัมผัสอ่อนโยน  ทำให้เสียงร้องของกระต่ายน้อยค่อยๆเบาบางลง  จนกระทั่งเหลือเพียงเสียงสะอึกสะอื้นเล็กๆเท่านั้น 

ผมจึงกอบกุมใบหน้าฝูหรงขึ้น  และระบายยิ้มอ่อนโยนใส่ดวงตาที่ฉ่ำไปด้วยน้ำตา  ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกลี่ยความชื้นที่แก้มใส  จนกระทั่งเหลือเพียงคราบชื้นๆเท่านั้น  แต่แววตาตัดพ้อในดวงตากลมๆที่จ้องผมไม่กระพริบกลับไม่จางหาย  ทำเอาผมแปลกใจไม่น้อย

“ฝูหรง  ทำไมมองพอลแบบนั้น  พอลทำอะไรให้โกรธอีกครับ...ไหนลองบอกซิ”  ผมยื่นหน้าเข้าไปกระซิบชิดริมใบหูแดงๆพร้อมเอ่ยคำขอในท้ายประโยค  ก่อนช้อนร่างเล็กขึ้นนั่งคร่อมตัก  พร้อมโอบกอดและโยกตัวเบาๆ  ด้วยอยากหลอกล่อกระต่ายน้อยขี้แยด้วยสัมผัสอ่อนโยน

ฝูหรงเองก็ซบหน้าลงกับไหล่  และใช้วงแขนคล้องเข้าที่รอบคอผม  ก่อนจะเงียบไปนาน  ปล่อยให้ผมได้หากำไรจากร่างอุ่นๆ  ด้วยการซุนจมูกสูดกลิ่นหนุ่มน้อย  จากซอกคอและท้ายทอยชื้นๆ  แต่แล้วผมต้องชะงักกับคำตอบที่ได้ยิน  จากเจ้าของน้ำเสียงแหบๆที่ดังแผ่วแถวซอกคอ

“ไม่เห็นต้องสนใจเลย  ไม่ได้รักกันมากพออยู่แล้วนี่  ปากบอกว่ารัก  แต่การกระทำ...ฮึกๆ”  เสียงสะอื้นมาอีกระลอกแล้วครับ  และผมจะไม่ทนอีกต่อไป!

ผมกอบกุมใบหน้าเล็กๆขึ้นและประกบจูบปิดปากสีสดที่อุ่นจัด  ก่อนช่วงชิงจังหวะที่กระต่ายน้อยยังไม่ทันตั้งตัว  ส่งลิ้นเข้าโพรงปากชื้นและควานหาลิ้นนิ่มตวัดชิมรสหวานๆของปลายลิ้นช่างตัดพ้อ  จนกระทั่งกระต่ายน้อยคิดเยอะตัวอ่อนระทวยไปกับรสจูบ  ผมจึงตัดใจผละห่างเพื่อปล่อยให้คนตัวเล็กมีโอกาสหายใจหายคอบ้าง  และรอจนกระทั่งดวงตากลมที่ลอยคว้างค่อยๆจับโฟกัสมาที่ใบหน้าผม

“พอลไม่รู้นะว่าพูดหรือทำอะไรให้ฝูหรงคิดมาก  ยืนยันนะครับว่าพอลรักฝูหรง...ถ้าไม่รักคงไม่ตื้อขอคืนดี  ถ้าไม่รักคงไม่พามาที่นี่  ถ้าไม่รักคงไม่อยากกอดอยากจูบฝูหรงอยู่ตลอดเวลาแบบนี้หรอก”  คำว่ารักของผมทำให้ตากลมๆสั่นไหว  ก่อนเจ้าของมันจะหลบตากันด้วยการซุกหน้าลงกับอกผม  ตามมาด้วยเสียงสั่นๆที่เผยความในใจออกมาให้ผมรู้

“ก็ถ้ารัก  ทำไมถึงทิ้งให้นอนคนเดียวล่ะ  ตื่นมาไม่เจอพอล  มัน...ฮึก!...แล้วทำไมถึงทำท่าไม่อยากบอกเรื่องของเรากับนายน้อยด้วย”  สาเหตุของอาการงอแงของกระต่ายน้อย  น่าจะมาจากสาเหตุสุดท้ายมากกว่า  ด้วยฝูหรงคงติดใจในสิ่งที่ผมพูดกับพี่เป๋าตั้งแต่เมื่อวานแล้ว  ส่วนสาเหตุแรกก็เป็นเพียงตัวสนับสนุน  ทำให้คนไม่สบายที่สภาพจิตใจไม่มั่นคงอยู่แล้ว  ได้ปะทุความไม่สบายใจออกมาก็เท่านั้น

“พอลขอโทษที่ทิ้งฝูหรงไว้คนเดียว  ก็ไม่นึกนี่หน่าว่ากระต่ายน้อยตื่นมาไม่เจอใครแล้วจะเกิดอาการงอแงแต่เช้าแบบนี้  โอ๋ๆๆ  พอลล้อเล่นครับ  ไม่ร้องนะ  ฮึๆ...สำหรับหลี่ผิง  ไม่ใช่ว่าพอลไม่อยากเปิดเผยเรื่องของเรา  แต่ที่ห้ามพี่เป๋าไว้  เพราะพอลอยากพาฝูหรงไปเปิดตัวกับเพื่อนๆด้วยตัวเองมากกว่า  ฝูหรงเป็นคนสำคัญของพอลนะ  ถ้าพวกมันจะรู้เรื่องของเรา  ควรที่จะรู้จากปากพอลเองถึงจะถูก...เลิกคิดมากได้แล้วครับกระต่ายน้อย  มาทานโจ๊กดีกว่าจะได้ทานยา  แล้วจะได้หายไวไว”

หลังจากปล่อยให้เจ้าของตาคู่กลมทำความเข้าใจในคำพูดของผมแล้ว  ผมจึงอมยิ้มส่งสายตาหยอกล้อใส่ตากลมๆที่มีแววเขินอายจางๆ  แต่ผมก็ต้องกลั้นขำกับสีหน้าเหยเกยามที่ผมเอ่ยถึงเรื่องการกินยา  และก่อนที่กระต่ายน้อยจะกลับมางอแงอีกครั้ง  ผมก็ก้มหน้าแตะปากเข้ากับกลีบปากสีสดเร็วๆและผละห่าง  ก่อนจะยกร่างน้อยลงจากตัก  เพื่อเอื้อมไปหยิบชามโจ๊กบนถาดอาหาร  และใช้ช้อนคนเบาๆไล่ความร้อน  พร้อมอมยิ้มจ้องตาคนป่วยตัวน้อยไปด้วย

“ทานโจ๊กก่อนนะครับ  อย่าดื้อสิ  อ้าม...แบบนั้นสิคนเก่ง  ฮึๆ”

“หึ!  ไม่ใช่เด็กซะหน่อย”  ผมส่ายหัวยิ้มๆให้กับหนุ่มน้อยผู้ไม่ยอมรับความจริง

“ครับ  ไม่เด็กก็ไม่เด็ก  เพราะถ้าเป็นเด็กจริงก็คงไม่ต้องมาป่วยแบบนี้...ใช่มั้ย”  สิ้นคำผม  ฝูหรงกระพริบตาปริบๆมองมายังผมแบบงงๆ 

‘มีเด็กที่ไหนบ้าง  ที่มีสามีเป็นตัวเป็นตน  คอยปรนนิบัติยามเจ็บไข้เช่นนี้’

ผมเลือกที่จะส่งช้อนไปจ่อปากสีสด  และพยักหน้าลุ้นให้เจ้าตัวอ้าปากรับ  แต่ยังไม่ทันกลืนคนตัวเล็กก็เบิกตากว้าง  เหมือนว่าเพิ่งกระจ่างในคำพูดแฝงนัยยะของผม  และทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างออกมา  แต่ติดที่ว่าปากไม่ว่างจึงได้แต่อึกอักมีสีหน้าขัดใจ  เห็นแล้วผมแทบหลุดขำแต่ก็กลั้นไว้  ขืนหลุดกระต่ายน้อยว่าง่ายคงได้แปลงร่างเข้ามาขบหัวผมน่ะสิ  ก่อนผมจะจ่อช้อนไปที่ริมฝีปากคู่เดิมอีกครั้ง  เมื่อเห็นว่าคนน่ารักกลืนโจ๊กลงคอแล้ว  ซึ่งฝูหรงทำท่าจะเบี่ยงหน้าหนีด้วยท่าทางแสนงอน  ตาแข็งปากยื่นแต่ปลายจมูกกลับแดงก่ำอย่างน่าเอ็นดู

“ถ้าอิ่ม  ก็กินยาเลยแล้วกัน”  ผมชูถุงยาขึ้นแกว่งต่อหน้ากระต่ายน้อยขี้งอน  ผลก็คือฝูหรงส่งเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจ  พร้อมส่งค้อนมาให้ผม

“จิ๊!  จะป้อนก็ป้อนสิ...อ้า~”  รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังยิ้มจนปากแทบฉีก  กับท่าทางแสนงอนอย่างยอมจำนน  และพยายามเอาตัวรอดของกระต่ายน้อยผู้ที่เกลียดการกินยา  ด้วยการอ้าปากรอรับโจ๊กที่ผมป้อน  กับตาเขียวๆที่แอบต่อว่าต่อขานผมในใจ

“ต้องแบบนี้สิคนเก่งของพอล  ฮ่าๆ”  จบคำผมปุ๊บ  คนเก่งของผมก็สวนกลับทันทีว่าไม่ใช่เด็กไม่ต้องชมหรอก 

ผมก็ได้แต่กลั้วหัวเราะและรับคำคนเก่งเท่านั้น  แม้ร่างกายและนิสัยยามไม่สบายของคนน่ารัก  จะใกล้เคียงคำว่าเด็กน้อยก็ตามที  แต่ผมก็ไม่คิดเถียงด้วยไม่อยากเห็นเด็กขี้แยน้ำตาไหลจากการโดนขัดใจ

ไม่นานโจ๊กในชามก็พร่องไปเกือบค่อนชาม  ทำให้ผมต้องยอมรามือ  เมื่อคนน่ารักส่ายหน้าและบ่นว่าอิ่ม  ก่อนผมจะยื่นแก้วให้เจ้าตัวดื่มน้ำ  ตามด้วยการซับมุมปาก  จึงได้รับรางวัลเป็นรอยยิ้มหวานๆของกระต่ายน้อยอารมณ์ดี  แต่แล้วใบหน้าขาวๆที่กำลังผ่อนคลายกลับเริ่มบูดบึ้ง  ยามที่ฝูหรงเห็นผมแกะยาออกจากซอง  ผมลอบยิ้มและเริ่มคาดหวังในบางสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

“ทานยาหลังอาหารนะครับ”  ฝูหรงส่ายหน้าหวือแทบจะทันทีที่ผมพูดจบ  มีขยับกายถอยหนีไปจนชิดขอบเตียงด้วย 

ผมจึงแกล้งขยับตัวเข้าหาอย่างช้าๆ  พร้อมจ้องที่ดวงตาตื่นๆคู่นั้นด้วยสีหน้าจริงจัง  ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าป่าเตรียมขย้ำเหยื่ออันแสนโอชะ

“พะ...พอล  ไม่กินได้มั้ย  มันขมติดคอ...นะพอลนะ~”  แววตาละห้อยที่มาพร้อมน้ำเสียงออดอ้อนของกระต่ายน้อยยามนี้  ไม่ได้ทำให้ผมใจอ่อนเหมือนยามปกติสักนิด  ขืนใจอ่อนด้วยคงไม่พ้นป่วยเรื้อรัง  นี่ฝูหรงก็ยังตัวอุ่นๆมีไข้อยู่เลย

“พอลตามใจฝูหรงทุกเรื่องครับ  แต่ไม่ใช่เรื่องนี้  กินยาก่อนนะจะได้หายป่วย”  ผมระบายยิ้มส่งกำลังใจใส่ตากลมๆที่เต็มไปด้วยความหนักใจ  พร้อมยื่นมือไปปัดปอยผมที่ร่วงปิดหน้าผากให้นิด  ก่อนจะลูบแก้มใสอีกหน่อย  และพยักหน้าน้อยๆอย่างเชิญชวน 

‘ผมไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน  แต่ก็ได้มีประสบการณ์ก็ตอนนี้ล่ะครับ  ฮึๆ’

แม้แววตาของฝูหรงจะอ่อนแสงแห่งความดื้อดึงลงแล้ว  แต่สีหน้าก็ยังบูดบึ้งไม่ยอมลงให้ผมอยู่ดี  แถมริมฝีปากยื่นๆคู่ตรงหน้านี่ก็น่ามันเขี้ยวนัก  ‘น่าจับกินซะให้เข็ด’  ดูท่าแล้วยังไงซะกระต่ายน้อยคงไม่ยอมกินยาง่ายๆ  แน่ะ!  มีหันหน้าหนีผมอย่างงอนๆอีกด้วย  ผมจึงเชยปลายคางมนให้หันกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง

“ถ้าฝูหรงไม่ยอมกินยาดีๆ  งั้นพอลจะใช้วิธีเดิมกับเมื่อคืนนะ”  ผมไม่รอคำตอบ  แต่เลือกที่จะหย่อนยาในมือใส่ปากและกระดกน้ำจากแก้ว  ก่อนเคลื่อนใบหน้าเข้าหากระต่ายน้อยแสนดื้ออย่างรวดเร็ว  เพื่อก้มปิดปากที่กำลังเอ่ยปฏิเสธ

“ห้ะ!  ไม่เอานะ...อุ้บ!...อื้ออออ”  ผมตวัดลิ้นส่งยาเข้าสู่โพรงปากอุ่น  รอจนแน่ใจว่ายาเม็ดเล็กๆเหล่านั้นไหลลงคอคนป่วยตัวน้อยไปแล้วเรียบร้อย 

ผมจึงผละใบหน้าออกอย่างช้าๆ  ทำให้พบกับกระต่ายน้อยหน้ายู่หลับตาปี๋  มีบ่นใหญ่ว่าขมๆทั้งๆที่ยาไม่ได้โดนลิ้นตัวเองสักนิด  ‘ข้อนี้ผมมั่นใจเพราะเป็นคนส่งลงคอด้วยตัวเอง’  แถมยังมีรอยชื้นของน้ำจากมุมปากไหลลงสู่ปลายคาง  ก่อนเปลือกตาใสจะเปิดออก  เผยให้เห็นดวงตาแข็งๆแฝงแววต่อว่าต่อขาน  ผมจึงก้มหน้าไปกัดปลายคางมนเบาๆเป็นการหยอกเย้า  ด้วยความมันเขี้ยว

“อ๊ะ!  กัดไมเนี่ย...อึ้ย!  เลียทำไม  ปล่อยเลยนะ!...อ่ะ!........พอล~  อื้อออ”  หากถามว่าเกิดอะไรขึ้น  เพราะฟังดูเหมือนกระต่ายน้อยถูกผมปล้นจูบ!

คุณเดากันไม่ผิดหรอก  เพราะหลังจากที่ผมหยอกล้อคนน่ารัก  ด้วยการกัดปลายคางเล็กๆนั่นเล่น  เจ้าของดันโวยวายเบาๆต่อว่ากัน  ผมเลยอดแกล้งต่อไม่ได้  ด้วยการเลียรอยน้ำชื้นๆใต้คางย้อนกลับไปยังมุมปาก  และยิ่งกระต่ายน้อยดิ้นรนพร้อมต่อว่า  เพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดของผม 

ผมจึงแกล้งดันร่างน้อยให้นอนหงายลงไปกับเตียง  จนเราได้มาจ้องตากันโดยมีผมนอนคร่อมฝูหรงไว้  แต่ตบะผมมาแตกก็ต่อเมื่อกระต่ายน้อยจงใจเรียกชื่อผมด้วยเสียงหวานๆ  ด้วยเจ้าตัวคงตั้งใจอ้อนให้ผมปล่อยจากท่วงท่าแสนอันตรายนั่นแหละ  แต่หารู้ไม่ว่าการกระทำที่เพิ่งทำไปนั้น  สุ่มเสี่ยงต่ออันตรายที่จะเกิดแก่ร่างกายตัวเองมากยิ่งขึ้น  เพราะผมไม่ขอทนต่อความน่ารักที่อยู่แค่เอื้อม  ด้วยผมก้มประกบจูบริมฝีปากแดงฉ่ำวาวน้ำทันที  และได้พบว่าจูบเรายังหวานเหมือนเดิม 

ผมไม่ได้เอาเปรียบกระต่ายน้อยที่กำลังป่วยมากนัก  เมื่อรู้สึกว่าคนตัวเล็กใต้ร่างเริ่มอ่อนระทวย  ผมก็ผละจูบ  จนได้มานอนมองกระต่ายแก้มแดงหลับตาพริ้ม  ปากเจ่อเผยอรับมวลอากาศ  แถมอกบางๆก็กระเพื่อมขึ้นลงอย่างน่ามอง  ก่อนดวงตาสุกใสที่มีกระแสหวามไหวสั่นระริกจะจ้องกลับมาที่ผม  ผมจึงบรรจงคลี่ยิ้มใส่ตาคู่นั้น  พร้อมส่งปลายนิ้วไปไล้ริมฝีปากแดงฉ่ำแผ่วเบา

“รีบหายเร็วๆนะครับ  กระต่ายน้อยของพอล”  พูดจบผมก็รวบร่างอุ่นเข้าหาอก

หลังจากนั้นไม่นานผมก็รับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆ  ที่เป่ารดแถวซอกคออยู่ในช่วงจังหวะที่สม่ำเสมอ  บ่งบอกว่าเจ้าของร่างในอ้อมกอดผมได้เข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง  คงด้วยเพราะพิษไข้และฤทธิ์ยาที่ฝูหรงได้รับไป 

ตลอดช่วงวันหยุดผมจึงได้มีโอกาสนอนกอดร่างคนรักและได้ดูแลยามเจ็บไข้  เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่เราห่างกัน  แม้มันจะเทียบไม่ได้กับเวลาที่เราเสียไปก็ตาม  แต่มันก็ทำให้ผมรู้ว่าเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องรักษาไว้ให้ดี  ยิ่งเวลาที่มีความสุขยิ่งต้องเฝ้าทะนุถนอมและซึมซับกับความสุขให้เต็มที่  ไม่ควรชะล่าใจและปล่อยมันผ่านพ้นโดยไม่ใส่ใจ  เพราะหากถึงเวลานั้นคงทั้งเสียดายและเสียใจ  แต่ก็ย้อนกลับมาแก้ไขไม่ได้เสียแล้ว

ดั่งที่มีคนกล่าวไว้ว่าคนเราควรรักษาสามสิ่งสำคัญไว้ให้ดี  ‘เวลา  ความรัก  เพื่อนแท้’  เพราะหากต้องสูญเสียไปยากนักที่จะได้กลับคืน  แต่ผมคงเป็นคนที่โชคดีคนหนึ่งที่ได้คนรักที่เคยสูญเสียไปแล้วกลับคืนมา  แม้จะเสียเวลาไปมาก  แต่ผมก็สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่า  เวลาต่อจากนี้ของเรา  ผมจะทำให้คนที่ผมรักมีความสุขที่สุด  แล้วคุณล่ะรักษาสามสิ่งที่ว่าไว้อย่างดีรึยัง

...........................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ตอนนี้คงได้แต่ยอมพ่อพระเอกแสนดีอย่างพอลอ่ะนะ 
ดูแลกระต่ายน้อยดีก็จริง  แต่อดไม่ได้ที่จะหาเศษหาเลยกับคนน่ารัก
แต่เชื่อได้ว่าบรรยากาศหวานๆตอนนี้  คงทำให้คนอ่านบางท่าน
แอบกรี๊ดแอบจิกหมอนขาดกันบ้างล่ะน้า   :impress2:

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.ตอนหน้าเจอกันวันจันทร์นะคะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: wiwari ที่ 09-07-2014 17:14:54
น่ารัก :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 09-07-2014 17:23:22
กระต่ายน้อยป่วยแล้วช่างอ้อนนะ พอลไม่อยู่หน่อยร้องไห้หาเลย น่ารักอ่ะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 09-07-2014 17:24:21
 :o8: อุ๊ยย เขินแทน
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 09-07-2014 17:55:45
น้องต่ายเวอร์ชั่นป่วยก็ง้องแว้งน่ารักไปอีกแบบ
แบบนี้ฝูหรงรักตายเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 09-07-2014 18:03:29
กระต่ายน้อยป่วยแล้วช่างอ้อน ในเมื่อพอลได้ 3 สิ่งแล้ว ก็จงรักษามันไว้ให้ดี โดยเฉพาะความรัก ที่อย่าทำให้ฝูหรงเสียใจแล้วหนีหายไปอีก 
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 09-07-2014 18:16:14
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย

ดูแลกันหวานซ้าาาาาาาาาาาาาา

ต่ายน้อยอ้อนได้น่ารักจริง

เห็นแล้วอยากไปดูแลบ้างงงงงงงง คึคึ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 09-07-2014 19:04:37
กระต่ายน้อยไม่สบายอ้อนน่าดู
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 09-07-2014 19:19:09
ถ้าไม่สบายละจะเป็นเด็กน้อยขี้อ้อนขนาดนี้นะ กิ๊ซซ  :-[
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 09-07-2014 19:34:40
ฝูหรง ตอนป่วยนี่น่ารักจังเลย

ไม่แปลกที่ เฮียพอล จะอดใจไม่ไหวอ่ะ

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 09-07-2014 19:44:05
 :-[
อ๊ายยยยย!!!!! น่ารักจัง
อยากมีคนดูแลแบบนี้บ้างอะ
 :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 09-07-2014 21:06:11
เรื่องนี้เรื่อยๆแฮะ สนุกค่า ปล.แอบอยากอ่านดราม่าเล็กๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 09-07-2014 21:30:18
กระต่ายเด็กน้อยยยยยย
น่ารักจังเล้ยยยยยยย
 :m3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 09-07-2014 21:44:48
อ้ากกก!!!! ฝูหรงน่ารักไปป่ะ.. :hao5:..เล่นเอาอยากกอดกระต่ายน้อยของพอลเลย :hao7: :hao7:
ปาปามามาก็น่ารักอ่ะ....ครอบครัวนี้น่าร้ากกกมากกกก :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 09-07-2014 22:25:10
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 09-07-2014 22:56:34
อยากมีผู้ชายแบบพอลมาอยู่ข้างๆมาก :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 10-07-2014 00:02:26
โอ๊ยยย อ่านไปเขิลไป หวานมากกกก กระต่ายน้อยฝูหรงน่ารักขี้อ้อนแบบนี้ พอลจะไปไหนรอด  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 10-07-2014 09:00:51
พอลซะอย่าง ยายังหวานเลย จริงไหม ฝูหรง  :o8: :o8: :o8: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 10-07-2014 14:06:38
งื้ออ หวานนนน
 :mew3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 10-07-2014 15:33:24
ก้เคยห่างกันตั้ง 5 ปี พอมีโอกาสเลยต้องอ้อนกันหน่อย :impress2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 10-07-2014 23:12:54
กำไรเห็นๆหน่ะพอล!  :hao3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 12-07-2014 14:32:24
ใจคอจะให้คนอ่านอิจฉาไปถึงไหนกันน่ะพอล :ling1:
แค่นี้ก็ไม่ไหวจะตาร้อนแล้วนะ ฝูหรงรีบหายไวๆนะจ๊ะ
แต่ถึงจะหายไข้ก็เชื่อเถอะว่าพอลน่ะยังคงพะเน้าพะนอเหมือนเดิม
นอกจากจะชดเชยช่วงเวลาที่ขาดหายไปด้วยแล้ว
มันกลับเพิ่มพูนขึ้นไปเรื่อยๆ และคงไม่สิ้นสุดเป็นแน่
พูดไปก็อิจฉาเปล่าๆ รออ่านตอนหน้าดีกว่า :hao3:
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่า~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 12-07-2014 16:56:52
กระต่ายน้อยป่วยแล้วอ้อนพอลใหญ่เลยอะ น่ารักกกกกกกก

พอลฉวยโอกาสอะ รังแกคนป่วยเชอะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 12-07-2014 17:14:59
เหมือนจะโชว์หวานมาราธอน คนอ่านเริ่มเขินและอิจฉาตาร้อนเป็นแถบแถว ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-07-2014 14:20:57
พอลดูแลดีขนาดนี้ฝูหรงต้องหายเร็วแน่เลย หวานซ้า~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.9 "ดูแล" P.8 (9/7/57) พาเอาเขิน >///<
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 13-07-2014 19:43:49
ฝูหรงขี้อ้อนแบบนี้ก็เข้าทางเฮียพอลเขาหละ! ^_^
รออ่านตอนหวานๆอีกค่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 14-07-2014 12:30:06
ตอนที่ 10

เจินฝูหรง
   
“ผมสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง...คิกๆ  ขอบคุณครับ...รับทราบคร้าบ...ครับผมจะดูแลตัวเองอย่างดี  แล้วเจอกันครับ...โอ๊ะ!”  ผมยังไม่ทันเก็บโทรศัพท์ให้ดีก็เกือบจะทำมันร่วงหลุดมือด้วยความตกใจ  เมื่ออยู่ๆประตูลิฟต์ตรงหน้าที่เพิ่งเปิดก็มีคนก้าวพรวดพราดออกมา  จนเกือบจะชนผมเข้า  แต่ยังดีที่คนๆนั้นเบี่ยงตัวหลบไปได้ทัน

“ชิ!  ขวางทาง  คราวหลังก็ระวังด้วยล่ะ...มัวแต่ชักช้าอยู่นั่น  ไม่ได้รู้เรื่องเลยรึไง  เป็นถึงเลขานายน้อยเนี่ยนะ  หึ!”  ผมได้แต่ยืนนิ่งมองตามแผ่นหลังบอบบางของสาวสวยหุ่นดีจากไป  ด้วยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมากจนผมตามไม่ทัน

หากถามว่าเธอเป็นใครผมตอบได้ทันที  เพราะเธอคือผู้ช่วยเลขาของนายใหญ่แห่งหวางหย่งกัง  และผู้ที่เคยเป็นคู่แข่งตำแหน่งงานในปัจจุบันของผม  ซึ่งคงพอเดาออกกันแล้วใช่มั้ยว่าทำไมเธอคนนั้นถึงมีปฏิกิริยาต่อผมแบบนั้น  ถ้าไม่ใช่เพราะไม่พอใจที่ผมได้ตำแหน่งเลขาของนายน้อยหวางหลี่ผิงมาครอง 

การที่เรายังเห็นเธอทำงานเป็นผู้ช่วยเลขาของบอสใหญ่  เป็นเพราะช่วงนั้นผู้ช่วยเลขาคนเดิม  ได้ขอย้ายไปเป็นเลขาของผู้จัดการโรงแรมในเครือสาขาอื่น  เพราะต้องย้ายตามสามีไปทำงานยังเมืองนั้น  มิสเคอหลางที่ได้คะแนนสู่สีกับผม  จึงได้รับคัดเลือกเป็นผู้ช่วยเลขานายใหญ่แทน  โดยไปทำงานในตึกสำนักงานใหญ่ของแก๊งอีกแห่งหนึ่ง 

นับจากนั้นเวลาที่เธอเจอผมจึงมีท่าทางที่ไม่เป็นมิตรนัก  แต่เราก็ไม่ได้เจอกันบ่อย  นอกเสียจากว่าเธอจะติดตามนายใหญ่มาเยี่ยมเยียนนายน้อยและบรรดาพนักงานยังโรงแรมสาขาใหญ่แห่งนี้ 

‘แต่เดี๋ยวนะ!  มิสเคอหลานมา  นั่นหมายความว่า...’

“นายใหญ่หวางหลี่จวินมา!”  ทันทีที่คิดได้ผมไม่รอช้าที่จะก้าวเข้าไปในตัวลิฟต์  พร้อมกดปุ่มหมายเลขชั้นรัวๆ  แม้จะรู้ว่าไม่ได้ทำให้ลิฟต์ตัวนี้ขึ้นไปยังชั้นที่ต้องการเร็วอย่างใจคิดก็ตาม  แต่อาการร้อนใจมันหักล้างความจริงข้อนี้ไปจนหมดสิ้น

ผมก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือก็ให้ยิ่งร้อนใจด้วยใกล้เวลาเข้างานมาทุกนาทีแล้ว  แม้ตัวเองจะไม่ได้สาย  แต่การที่ปล่อยให้นายใหญ่และนายน้อยมาถึงที่ทำงานก่อน  จึงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเลขาอย่างผมเลย  จนให้นึกพาลไปถึงคนที่มาส่งและเป็นคนเดียวกับคนที่เพิ่งขับรถออกไปไม่ได้  เพราะหากพอลจะไม่มัวอ้อยอิ่งทำตัวพิรี้พิไรไม่อยากให้ผมห่างตัว  ผมน่าจะถึงโต๊ะทำงานก่อนหน้านี้สักสิบห้านาทีที่แล้วอย่างแน่นอน

เมื่อมาถึงหน้าห้องผมก็พบว่ามีบรรดาบอดี้การ์ดในชุดสูทดำหกคนยืนขนาบข้างประตูห้องอยู่  ซึ่งแต่ละคนก็หน้าตาคุ้นๆทั้งนั้น  ด้วยเป็นบอดี้การ์ดของนายใหญ่และนายน้อยแทบทั้งสิ้น  ผมเร่งฝีเท้าเดินไปยังโต๊ะทำงาน  ก่อนจะเร่งมือเก็บของส่วนตัว  พร้อมคว้าสมุดจดงานและเดินไปยังหน้าประตูห้อง  ก่อนจะก้มหัวทักทายพี่ๆบอดี้การ์ดรวมถึงพี่เป๋าด้วย

“นายใหญ่กับนายน้อยมานานรึยังครับพี่  แล้วท่านเรียกหาผมรึเปล่า  ผมขอโทษที่ไม่ได้มาต้อนรับ  ผม...”  ผมละล่ำละลักถามกับคนสนิทของนายน้อย  ผู้ที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตาที่สุด  แต่ต้องหยุดพูด  เมื่อพี่เป๋ายกมือห้ามพร้อมกระตุกยิ้มน้อยๆที่มุมปากด้วยความเข้าใจ

“ท่านเพิ่งมาถึง  คุณฝูหรงไม่ต้องกังวลหรอก  เพราะไม่อยู่ในกำหนดการของนายน้อยแต่แรก  แต่ตอนนี้ผมว่าคุณเข้าไปรายงานตัวกับนายน้อยก่อนดีกว่า  เผื่อท่านจะเรียกใช้อะไร”  ผมรับคำพี่เป๋าเบาๆ  ก่อนจะขยับแว่นบนใบหน้านิดและสูดหายใจเข้าอีกหน่อย  เพื่อเรียกกำลังใจให้แก่ตัวเอง 

บุคคลที่ผมจะเข้าไปเผชิญหน้าเป็นถึงระดับหัวหน้าแก๊งมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง  แม้ผมจะเคยพบท่านมาหลายครั้ง  และท่านเองก็ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี  แต่ใจลึกๆผมก็อดเกรงไม่ได้

“ขออนุญาตครับ...ผมต้องขอโทษที่ไม่ได้อยู่ต้อนรับครับท่าน”  หลังจากเคาะประตูและได้รับคำอนุญาตให้เข้ามา  ผมจึงเดินเข้าห้อง  ก่อนจะก้มหัวลงต่ำพร้อมเอ่ยคำขอโทษต่อหน้าเจ้านายทั้งคู่

“ไม่เป็นไร  ฉันแค่มาเยี่ยมเยียนกันเท่านั้น  เราน่ะฝูหรงใช่มั้ย...ไม่ต้องมีพิธีอะไรมาก”  น้ำเสียงทุ้มเจือกระแสความอบอุ่น  พร้อมมุมปากที่จุดรอยยิ้มของนายใหญ่แห่งหวางหย่งกัง  ทำให้ผมคลายความกังวลในใจได้จนเกือบหมด

“ครับท่าน  นายน้อยมีอะไรให้ผมรับใช้มั้ยครับ”  ผมจึงหันมาหาคนเป็นนายที่แท้จริง

“เคอหลานจัดการส่วนนั้นให้แล้ว  นายไปเอารายงานการประชุมครั้งที่แล้วเข้ามาให้นายใหญ่ดูหน่อย”  ผมอดสะท้อนใจไม่ได้ที่บกพร่องต่อหน้าที่  ด้วยทุกเช้านายน้อยต้องมีชาร้อนเจ้าประจำวางบนโต๊ะเพื่อจิบตลอดช่วงเช้า  ซึ่งมิสเคอหลานคงจัดการในส่วนที่เป็นหน้าที่ผมให้แล้ว

ผมรับคำนายน้อยและขอตัวออกมา  ก่อนจะหาเอกสารที่นายน้อยต้องการ  และยังไม่ทันจะกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง  มิสเคอหลานที่ถือแก้วกระดาษสีคุ้นตา  และเดินนำพนักงานต้อนรับที่ถือถุงใบใหญ่ตามมานั้น  ได้หยุดลงตรงหน้าผมและออกคำสั่งให้คนเดินตามได้วางถุงลง  พร้อมหันมามองผมและพูดกึ่งออกคำสั่ง  ให้ผมได้จัดการพวกเครื่องดื่มและของว่างให้เหล่าบอดี้การ์ดของนายด้วย  เมื่อมิสเคอหลานพูดจบก็หมุนตัวเดินเข้าห้องไป  ผมก็ได้แต่ถอนใจเบาๆ

“คุณฝูหรงเอาเอกสารเข้าไปให้นายเถอะ  ถุงนั้นเดี๋ยวพวกผมจัดการกันเอง”  ผมชะงักมือที่กำลังหยิบขนมในถุงออกมา  ก่อนจะยอมทำตามที่พี่เป๋าพูด  ด้วยการส่งถุงกระดาษใบใหญ่ไปให้  เมื่อได้เห็นสายตาเข้าอกเข้าใจคู่นั้น  พร้อมปิดท้ายด้วยคำขอบคุณ

ระหว่างที่ผมกำลังหมุนตัวเดินเข้าห้องนายน้อย  ผมต้องชะงักเท้าเมื่อมีเสียงแหบห้าวดังขึ้น  ซึ่งผมจำได้ว่าเป็นคนสนิทเก่าแก่ของนายใหญ่หวางหลี่จวิน

“อย่าทำตัวอ่อนแอให้ใครข่มง่ายๆ  เป็นถึงเลขานายน้อยตระกูลหวาง  ศักดิ์และสิทธิ์มีมากกว่า  ต้องรู้จักวางตัวและเข้มแข็งกว่านี้”  จริงสิครับ  ผมไม่น่าทำตัวอ่อนแอและมัวแต่รู้สึกผิด  จนโดนใครบางคนข่มทำให้ดูน่าเห็นใจอยู่แบบนี้เลย 

ผมตัดสินใจหมุนตัวกลับไปก้มหัวขอบคุณ  ก่อนจะเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มมั่นใจให้อาซานคนสนิทของนายใหญ่

“ขอบคุณที่ตักเตือนครับ  ผมจะจำไว้”  รอยยิ้มอย่างผู้ใหญ่ใจดีถูกส่งมาให้ผม  ก่อนผมจะเดินเข้าห้องนายด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม  ไม่ให้เสียชื่อผู้ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเลขารองประธานใหญ่แห่งหวางหย่งกัง

“รายงานการประชุมครับนายใหญ่”  ผมถอยออกมายืนด้านหลังโซฟาที่นายน้อยนั่ง  และหยิบสมุดจดงานออกมาพร้อมรับคำสั่ง  แต่หางตาเหลือบเห็นมิสเคอหลานปรายตามองผมด้วยสีหน้าเยาะหยัน 

ผมจึงทำเพียงกระตุกยิ้มมุมปากใส่  และแอบเห็นว่าเธอถลึงตาตอบกลับด้วย  ก่อนจะส่งค้อนวงโตมาให้ผม  ผมเดาว่าหากเราเผชิญหน้ากันเพียงลำพัง  เหตุการณ์คงไม่ต่างจากหน้าลิฟต์เมื่อเช้า  ใจจริงผมไม่อยากงัดข้อกับใครเลย  ด้วยการมีมิตรย่อมดีกว่ามีศัตรู  แต่สำหรับมิสเคอหลานที่เหมือนกับไม่ชอบหน้าผมตั้งแต่แรกเจอ  ผมคงใช้แนวคิดนี้ไม่ได้  สาเหตุคงไม่พ้นจากการที่ผมได้ตำแหน่งเลขาของนายน้อยแทนที่จะเป็นตัวเก็งอย่างเธอ 

ผมมารู้เบื้องลึกเบื้องหลังว่าเธอนั้น  เป็นถึงหลานสาวหัวหน้าแก๊งสาขาหนึ่งของหวางหย่งกัง  ซึ่งเธอคงมั่นใจว่าอย่างไรซะตำแหน่งเลขานายน้อยคงไม่พ้นมือเธอ  แต่กระบวนการคัดสรรเลขาของที่นี่ก็มีขั้นตอนเข้มงวด  ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ  ไหนจะการสัมภาษณ์ที่มีนายน้อยหวางหลี่ผิงเข้าร่วมเป็นหนึ่งในกรรมการ  ทำให้ชายหนุ่มที่มีเพียงดีกรีจากสถาบันผลิตเลขาชั้นนำโดยตรงจากนิวยอร์ก  แต่ไร้ซึ่งเส้นสายอย่างผมได้รับคัดเลือก  แทนที่จะเป็นสาวสวยบุคลิกดีเส้นใหญ่อย่างมิสเคอหลาน  จึงไม่แปลกที่เธอจะไม่ชอบหน้าผม  และมีปฏิกิริยาต่อต้านทุกครั้งยามเจอหน้า

“เท่าที่ดูรายได้ของทุกสาขาก็ไม่มีปัญหา  แต่ยังไงอย่าลืมเข้มงวดเรื่องการเก็บรายละเอียดต่างๆของโรงแรมสาขาที่กงอินให้ดีด้วย”  หลังจากนายใหญ่ก้มอ่านรายงานการประชุมพักใหญ่  ท่านก็เงยหน้าขึ้นพูดกับนายน้อยด้วยเสียงทุ้มทรงอำนาจ

“ครับ  ผมตั้งใจไปดูงานที่นั่นเร็วๆนี้อยู่เหมือนกัน  แต่ไม่น่ามีปัญหา  เพราะที่ไปดูมาล่าสุดเป็นไปตามแผนที่วางไว้...ฝูหรง  แจ้งให้ทางนั้นส่งรายละเอียดการส่งมอบงานจากผู้รับเหมาครั้งล่าสุดมาให้ผมดูหน่อยนะ”

“ครับนาย”  ผมรับคำพร้อมจดคำสั่งลงในสมุดกันลืม

“เอาล่ะ  เดี๋ยวปาปาจะลงไปเยี่ยมเยียนพนักงานด้านล่างหน่อย  หลี่ผิงไม่ต้องตามลงไปหรอก  เพราะน่าจะใช้เวลาไม่นาน...เย็นนี้รีบกลับล่ะ  เห็นมามาว่าจะเข้าครัวเอง”  คนเป็นพ่อพูดยิ้มๆพร้อมตบบ่าลูกชายไปด้วย

“ครับ”  คนเป็นลูกเองก็ได้แต่รับคำพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ  และเดินไปส่งที่หน้าประตู

ผมมองภาพพ่อและลูกชายตรงหน้าก็ให้นึกชื่นชม  แม้จะเคยเห็นภาพแห่งความรักและความใส่ใจที่พ่อลูกตระกูลหวางมีให้กันมาก่อน  แต่ทุกครั้งที่เห็นผมกลับนึกชื่นชมทุกครั้งไป  ด้วยหาได้น้อยครอบครัวนักที่จะมีความรักความอบอุ่นควบคู่ไปกับความพรั่งพร้อมของทรัพย์สิน  ครอบครัวส่วนใหญ่มักจะขาดไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง 

รวมถึงครอบครัวเมื่อครั้งอดีตของผมด้วย  ที่ความอบอุ่นได้เติมเต็มในส่วนที่ขาด  จนตัวผมเองไม่เคยรู้สึกว่าเป็นปมด้อยในชีวิตสักนิด  แต่เทพเจ้าก็ใจร้ายพรากความอบอุ่นที่เป็นทุกอย่างของชีวิตไปจากผม  ทั้งปาปามามาและญาติทางสายเลือดคนเดียวที่ผมเหลืออยู่  ดีที่ฟ้ายังปรานีแก่กระต่ายตากลมๆอย่างผมอยู่บ้าง  ด้วยการประทานครอบครัวใหม่ถึงสองครอบครัวและคืนรักเดียวกลับมาให้แก่ผม

“เหอะ!  คนอะไรหยิ่งชะมัด  เป็นแค่ผู้ช่วยเลขาแท้ๆ...ดีที่คุณฝูหรงได้เป็นเลขานายน้อย  ไม่อยากจะคิดว่าถ้าคุณเคอหลานได้ตำแหน่งนี้  ที่นี่จะวุ่นวายแค่ไหน”  ผมเพียงแค่ยิ้มรับและไม่คิดต่อความกับหัวหน้าฝ่ายต้อนรับของโรงแรม  แม้จะเห็นด้วยกับเธอในท่าทางเชิดหน้าไม่เห็นหัวใครของมิสเคอหลานแค่ไหนก็ตาม

“เดินทางอย่างปลอดภัยนะครับนายใหญ่”  ผมก้มหัวพร้อมเอ่ยอวยพรให้นายใหญ่แห่งความหย่งกัง  ด้วยเป็นตัวแทนพนักงานโรงแรมทั้งหมดที่ตามมาส่งท่านถึงรถที่จอดหน้าประตูทางเข้าตึก

“ขอบใจทุกคนมาก  ไปทำงานกันต่อเถอะ”  สิ้นเสียงทุ้มพร้อมรอยยิ้มบางเบา  พลันก็มีเสียงตอบรับหนักแน่นของพนักงานที่มาส่ง  แถมในแววตาแต่ละคนนั้นก็เต็มไปความชื่นชม  ไม่ต้องบอกว่าเจ้าของน้ำเสียงนั้น  จะได้รับความเคารพนับถือจากบรรดาพนักงานเหล่านี้มากมายเพียงใด  ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

หลังจากนั้นนายใหญ่หวางหลี่จวินก็ก้าวขึ้นรถ  โดยมีอาซานคนสนิทปิดประตูตามหลัง  ก่อนจะก้าวขึ้นรถในตอนหน้า  ส่วนผู้ช่วยเลขาอย่างมิสเคอหลานก็ยกยิ้มมุมปาก  และเดินเชิดหน้าผ่านพวกเราทั้งหมดที่กำลังก้มหัวให้นายใหญ่อยู่  แต่ก่อนที่เธอขึ้นรถอีกคัน  ยังไม่วายแสยะยิ้มเยาะเย้ยส่งท้ายให้ผมโดยเฉพาะอีกด้วย  ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าให้กับความเจ้าคิดเจ้าแค้นของเธอ

“คุณฝูหรงคงต้องสั่งสอนแม่นางฟ้าคนนั้นบ้างนะคะ  คนอะไรทำตัวไม่เห็นหัวกันบ้างเลย”

“คะ...ครับ”  ผมออกจะตกใจกับท่าทางจริงจังของเธอคนนี้นะครับ  เพราะไม่ใช่แค่น้ำเสียงแต่ใบหน้าและแววตาก็จริงจังไม่ต่างกัน  แถมยังเอามีมาตะปบลงบนไหล่ผมอีก  ซึ่งผมยังไม่ทันตอบโต้อะไรนอกจากการรับคำ  ผมก็ต้องแปลกใจไปกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ตรงหน้า

“อย่าหาว่าพี่ยุ่งเรื่องส่วนตัวเลยนะคะคุณฝูหรง...ได้ข่าวว่ามีหนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อตามรับตามส่งอยู่ใช่ไหมเอ่ย  ที่สำคัญเป็นเพื่อนสนิทนายน้อยด้วยนี่คะ  ถึงขั้นไหนกันแล้ว...ฮิๆ  อาการแบบนี้เป็นแฟนกันแล้วชัวร์เลย  น่าอิจฉาหนุ่มๆสมัยนี้จังน้า~”  ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของเธอนั้น  ล้อเลียนผมแบบจัดเต็มเลยครับ

‘แบบนี้เค้าไม่เรียกว่ายุ่งน้อยแล้ว  แต่เรียกว่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของผมมากเลยเหอะ’  ผมได้แต่คิดไม่ได้พูดออกไปหรอกครับ  เพราะรู้ในเจตนาของเธอตรงหน้า  ว่าแค่ต้องการหยอกล้อไม่ได้คิดอิจฉาจนกระแนะกระแหนออกมาหรอก 

ผมจึงทำเพียงก้มหน้าซ่อนแก้มแดงๆ  และแก้เก้อด้วยการขยับแว่นให้เข้าที่  ก่อนแกล้งกระแอมเบาๆ  พร้อมเฉไฉขอตัวขึ้นห้องทำงาน  แต่ยังไม่วายได้ยินเสียงแซวตามหลังมาว่า  ให้ผมพาพอลมาแนะนำให้รู้จักบ้างอีกแน่ะ  ทำเอาผมเร่งซอยเท้าหนีเสียงหัวเราะแหลมๆแทบไม่ทัน  พาลนึกฉุนตัวต้นเหตุที่ก่อนหน้านี้ทำตัวประเจิดประเจ้อทำเป็นมานั่งเฝ้าผมไม่ได้  และตอนนี้ก็ไม่รู้ว่านายลูกครึ่งปากดีของผมกำลังทำอะไรอยู่น่ะสิ

“[Rrr  Rrr  Rrr]...คิดถึงก็โทรมาเชียว”  ผมอมยิ้มใส่โทรศัพท์ที่ขึ้นชื่อ  ‘ลูกครึ่งปากเสีย’  ก่อนกดรับ  ตามมาด้วยเสียงนุ่มหูชวนคันยิบๆในหัวใจ  ที่สำคัญเสียงนั้นทำให้มุมปากผมยกยิ้มสูงขึ้นกว่าเดิมอย่างไม่รู้ตัว

“กระต่ายน้อยทำอะไรอยู่  เหนื่อยมั้ย  หลี่ผิงใช้งานหนักรึเปล่า  บอกพอลได้นะครับ”  ผมว่าคำว่าความห่วงใยบางครั้ง  มันเหมือนมีเพียงเส้นบางๆกั้นไว้ระหว่างคำว่าเจ้ากี้เจ้าการนะครับว่ามั้ย 

แม้ผมจะแอบเหน็บพ่อลูกครึ่งช่างห่วงในใจ  แต่หัวใจในอกผมกลับอุ่นวาบ  เพราะรับรู้ถึงความห่วงใยที่ถูกส่งผ่านสายมาให้

“วันนี้ยังไม่ได้ทำงานเลย  นายใหญ่มาเยี่ยมน่ะ  นี่ท่านก็เพิ่งกลับไป  พอลล่ะเจรจาซื้อที่สำเร็จมั้ย”

“ฮึๆ  ระดับนี้แล้ว  ไม่สำเร็จก็ไม่ใช่โจวพอลซิ  ที่สำคัญมีกำลังใจดีจากฝูหรงซะอย่าง  จะไม่สำเร็จได้ไง  จริงมั้ยครับ”  ผมคงต้องเปลี่ยนชื่อในโทรศัพท์ให้เป็น  ‘ลูกครึ่งปากหวาน’  ซะล่ะมั้ง  คำพูดคำจาชวนเลี่ยนชะมัด 

“กระต่ายน้อยเขินอยู่ล่ะซิใช่ม้า  ฮึๆ...ไม่ให้พอลรับไปทานกลางวันจริงๆเหรอ  ขับไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว...เอาแบบนี้แล้วกัน  เดี๋ยวเจอกันดีกว่านะครับ”  คนอะไรรู้ดีและรวบรัดตีมึนเป็นที่สุด 

“เดี๋ยวๆ  พอล  ไม่ต้องๆ...เฮ้อ  เราคุยกันแล้วนี่  เจอกันทีเดียวตอนเย็นเลย  จะต้องห้อตะบึงรีบขับมาทำไมกันล่ะ  ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ...นะครับพอล  เชื่อฝูหรงนะ”  หากให้นายตัวดีมารับไปกินมื้อกลางวันด้วย  คงไม่เรียกว่าขับ  คงเรียกว่าเหาะจะเหมาะกว่า

ผมรู้ทันหรอกเพราะถ้าพอลจะมาให้ทันช่วงพักทานกลางวัน  เจ้าตัวคงเหยียบมามิดไมล์มากกว่าขับมาด้วยความเร็วปกติ  ด้วยสถานที่ที่พอลอยู่ตอนนี้นั้นอยู่อีกเมืองระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆ  ผมไม่อยากเสี่ยงให้นายตัวดีเกิดอุบัติเหตุ  และยอมเป็นฝ่ายขัดใจคนเอาแต่ใจซะเองดีกว่า  แต่อดไม่ได้ที่จะหลอกล่อด้วยเสียงอ้อนๆท้ายประโยค

“ฝูหรงนะฝูหรง  ก็ได้ครับ  ถ้างั้นเจอกันตอนเย็น  อย่าลืมทานยาด้วยนะ  พอลเป็นห่วง...เพราะถ้าฝูหรงหายเร็วเท่าไหร่  พอลจะได้ฝากรักฝูหรงได้เร็วขึ้นเท่านั้น”  ไอ้ลูกครึ่งจอมหื่นพูดจบก็กดวางสายไปเลย  ปล่อยให้ผมนั่งตะลึงตาค้างอยู่คนเดียว

ตรรกะอะไรของไอ้ลูกครึ่งลามกกันล่ะเนี่ย  แสดงว่าที่คอยดูแลตลอดช่วงวันหยุด  เพราะหวังจะเคลมผมอีกครั้งใช่มั้ย  มันน่านัก!

“คอยดูเถอะ  เจอหน้าเมื่อไหร่นะ  หึ!”  ผมได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียว  และยังไม่ทันจะเข้าไปรายงานตัวกับนายน้อย  ก็มีเสียงข้อความเข้าดังขึ้น

‘ล้อเล่นนะกระต่ายน้อย  เอาแค่งอนพอ  อย่าถึงกับโกรธเลย...พอลเป็นห่วงและรักฝูหรงมากนะครับ  อย่ามัวแต่ทำงานจนลืมคิดถึงพอลล่ะ’ 

“เหอะ!  ไอ้ลูกครึ่งปากหวานหยอดได้เป็นหยอด...แล้วแบบนี้จะโกรธลงได้ไงกันเล่า”

........................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

อยู่คนละที่ลูกครึ่งรูปหล่อก็ยังมีแก่ใจโปรยเสน่ห์ส่งความหวาน
มาให้กระต่ายน้อยใจเต้นยิ้มแก้มแตกได้อีกเนอะ  ตอนนี้ก็เบาๆหวานๆ
แต่มีเปิดตัวละครใหม่มาทดสอบเลขาน่ารักอีกหนึ่ง  ซึ่งแน่นอน
เธอยังมีบทบาทต่อไปอีกแน่ค่ะ  และหากใครจะจับได้มีอีกหนึ่งตัวละคร
ที่อยู่ในมุมมืด (ก็เว่อร์ไป  :laugh:) จะออกโรงเร็วๆนี้แน่นอน  บอกเลยว่าทำเอา
พอลป่วนไปเหมือนกัน

ตอนหน้ามาวันเสาร์นะคะ  และจะเปิดตัวละครอีกตัว(สำคัญ)  เรียกว่าตั้งใจใช้
มาป่วนคู่หวานโดยเฉพาะเชียวล่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 14-07-2014 13:00:26
หวานกันอีกแหละ

น่าอิจฉา

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 14-07-2014 13:09:10
ลูกครึ่งพอลระวังฝูหรงเป็นเบาหวานนะ :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 14-07-2014 13:50:11
อีกตัวละครที่อยู่ในมุมมืดคือใครๆๆๆ >.<

พอลก็หวานจ๊างงงงง

ขอบคุณนะคะ +1^^
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 14-07-2014 14:13:40
กำลังใจดี ฝูหรง มีแรงไปรับมือกับยัยเลขาแสบ ไปอีกนาน

พอลน่ารัก :z1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 14-07-2014 14:38:45
 :o8: ห่างกันไม่ได้เลยนิ หวานตลอด
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 14-07-2014 14:59:36
จ้างมือปืนไปเป่าไอ้ตัวที่จะมาป่วนก่อนเลยได้ไหมอ่ะ :m16:
หัวข้อ: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: THE KOP ที่ 14-07-2014 15:19:48
โอ๊ยยยยยย หวานกันตลอดเลยคู่นี้ :o8: :o8: แต่ก็ดีแล้วแหละค่ะ น่ารักดี เอาหวานเรื่อยๆแบบนี้ดีแล้ววววววววววววว :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 14-07-2014 16:33:36
อย่าป่วนมากนะ สงสารฝูหรง :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 14-07-2014 17:47:22
พี่เป๋าไง น่าสงสัย  :laugh:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 14-07-2014 18:21:07
ฝูหรงทำตามที่อาซานบอกแล้วจะดีเอง กลัวอะไรคนดี คนน่ารัก ใครๆ ก็อยากช่วยเต็มที่  ไม่ต้องไปสนยัยผู้ช่วยฯ จอมเชิด
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 14-07-2014 18:50:05
เจ๊ผู้ช่วยเลขานี่น่าโดนตอกกลับให้หน้าหงายซักทีจริงๆนะ  o18
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 14-07-2014 19:15:43
ใครกันหนอในมุมมืด? พี่เป๋า ยายเคอหลาน หรือน้องจินนี่(จำชื่อถูกไหมคะนี่^^)
หรือจะเป็นนายน้อย?!? ถ้าเป็นรายหลังนี่พอลอ่วมแน่ค่ะ >_<
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 14-07-2014 20:30:08

ใครจะมาป่วนคู่หวานกัน

 :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 14-07-2014 20:51:11
ยัยตัวร้ายมีถึง2
ฝูหรงสู้ๆนะคะ!
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 15-07-2014 01:08:38
กระต่ายน้อยฝูหรงต้องเข้มแข็งขึ้นให้มากกว่านี้ สู้ๆ อย่าให้ใครรังแกล่ะ
โจวพอลก็หวานเกิน มดจะขึ้นจอ  :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 15-07-2014 01:19:33
หวานมากไปป่าวเนี่ย อิจฉานะ อิอิ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 15-07-2014 10:26:17
ฝูหรงจะไม่หายก็เพราะความห่วงปนหื่นของพอลนี่แหละ
ตัวไม่อยู่ก็ยังหาเรื่องให้ฝูหรงเขินพาลจะงอนเอาด้วยสิ
ทำเป็นพูดดีไปนี่ยังไม่รู้ตัวใช่มั๊ยว่าพี่มาศเขาหาคนมาป่วนตัวน่ะ
ที่รู้ๆมีแล้วหนึ่ง ผู้ช่วยเลขา แต่อีกหนึ่งนี่ต้องติดตาม
ตอนนี้กำลังหวานได้ที่เลย ก็เลยต้องหาอุปสรรคมาขัดขวางสักหน่อย :laugh:
แล้วก็หวังว่าจินนี่จะไม่โผล่มาให้เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอีกนะ
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 15-07-2014 11:45:13
แอบหวานกันเบาเบา
จะมีอุปสรรคอะไรมาทดสอบกระต่ายน้อยบ้างนะ
แต่ท่าทางยัยมิสเคอหลานนั่นไม่เบาเลย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 16-07-2014 03:57:01
 :impress2:
แหม!!!!หวานกันจังเลยนะ อิจฉาอะ
แต่ว่างๆฝูหรงก็อย่าลืมเอาคืนยายผู้ช่วยเลขาเน้อ หมั่นไส้อะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 16-07-2014 05:30:11
ฝูหรงโดนพอลหยอดตลอด

ฝูหรงอย่าลืมจัดการผู้ช่วยเลขา  เชือดเนียนๆ
สู้ๆนะฝูหรง
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-07-2014 13:33:55
ขนาดอยู่ไกลกันยังโทรมาหยอดได้นะพอล หวานกันตลอดเว.
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 16-07-2014 16:24:04
พอลโทรมาหวานใส่ฝูหรง น่าอิจฉาจัง
แต่หมั่นไส้ยัยมิสเคอหลานทำมาเป็นเชิด
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 16-07-2014 19:26:56
ความหวานทะลักจอเลยเนอะ :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoRin ที่ 16-07-2014 22:45:19
หวานกันตลอดดดดดดดดดด

ปล.ฝูหรงน่าจะจัดซักชุดให้ชะนีนั่นซักหน่อยนะคะ หมั่นไส้จริงเชียว
หัวข้อ: Re:{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ}ฝูหรง&พอลCH.10"เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-07-2014 21:43:55
 :mew1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 18-07-2014 10:41:07
หมาป่าแสนเจ้าเล่ห์อยากกินกระต่ายน้อยเต็มทีแล้วสินะ ขอให้ได้ให้โดนไวๆละ คนอ่านชอบ อิอิ :impress2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.10 "เป็นห่วง" P.9 (14/7/57)ดีแบบนี้เอง
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 18-07-2014 22:38:42
รอ รอ รอออ :katai5:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 19-07-2014 10:06:38
ตอนที่ 11

โจวพอล

   “อืม  ถ้าไม่ใช่นาย  หลี่ผิงคงซัดไม่เลี้ยง”  ไอ้ลูกครึ่งหน้าเข้มเคราดกอย่างโจเซฟ  พยักหน้าน้อยๆพร้อมจ้องตาไอ้ไรอัน  ยามที่พูดประโยคนี้ออกมา

“จริง  มาเฟียขี้หวง  หวงทั้งเมียทั้งน้อง”  ผมเห็นด้วยกับโจเซฟ  เพราะเพื่อนๆในกลุ่มต่างรู้ดีถึงนิสัยนี้ของไอ้หลี่ผิง  ยิ่งไอ้คนที่มันคิดจีบเป็นถึงนางฟ้าประจำตระกูลอย่างเหมยอิงด้วยแล้ว  ไรอันยิ่งรู้ซึ้งในความจริงข้อนี้

บทสนทนาก่อนหน้านี้ระหว่างพวกเรา  ผม  โจเซฟ  และไรอันนั้น  พูดถึงเหตุการณ์ที่ไอ้ลูกครึ่งตาฟ้าได้เผชิญหน้าตัวต่อตัวกับเพื่อนมาเฟียใหญ่  ด้วยเรื่องที่เพื่อนสนิทคิดจีบน้องสาวสุดหวง  ไอ้ไรอันเองก็เปิดใจบอกเล่าความรู้สึกที่มีต่อเหมยอิงจนหมดเปลือก  ทำเอาไอ้หลี่ผิงถึงกลับเดือดเกือบต่อยไรอันหน้าแหก  แต่คงด้วยเห็นแก่มิตรภาพระหว่างเพื่อนและความจริงใจของไรอัน  ไอ้มาเฟียใหญ่เลยยั้งมือทัน  จึงเป็นที่มาของบทสนทนาข้างต้นของโจเซฟ

“ฮึๆ  ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น  หลี่ผิงคงไม่ใช่แค่ซัดไม่เลี้ยง  แต่นายนั่นมันคงหายไปจากโลกนี้ซะมากกว่า”  ไรอันยังมีแก่ใจพูดไปพร้อมส่ายหัวน้อยๆและอมยิ้มนิดๆได้อีก 

ผมและโจเซฟก็อดเห็นด้วยไม่ได้  พวกเราจึงต่างหัวเราะคลอเบาๆให้แก่กัน  เพราะถ้าไรอันไม่ใช่เพื่อนสนิท  มันคงโดนเจ้าพ่อใหญ่สั่งอุ้ม  โทษฐานบังอาจเสนอหน้าเข้ามาจีบน้องสาวฝาแฝดสุดที่รักไปแล้ว  แต่ระหว่างที่ผมยกถ้วยชาร้อนขึ้นจิบ  ผมก็ต้องเลิกคิ้วมองหน้ามันสองคนสลับไปมา  เพราะเพื่อนทั้งคู่จ้องผมเขม็ง  กึ่งๆต้องการค้นหาความจริงอะไรบางอย่างจากผม

“แล้วนายล่ะ  เจอปัญหาเดียวกับไรอันรึเปล่า”  คำถามนี้เป็นของโจเซฟครับ  พอได้ฟังผมรู้เลยว่าโดนเพื่อนจับผิดเรื่องอะไร  ถ้าไม่ใช่เรื่องของกระต่ายน้อยตากลมที่ผมเพิ่งโทรคุยด้วย  ก่อนหน้าที่จะมาหาไอ้โจเซฟยังค่ายเพลงของมัน  เพราะโดนไอ้ลูกครึ่งตาฟ้าโทรตาม

ส่วนเรื่องที่มันสองคนอยากรู้  ผมนั้นยินดีไขความกระจ่างอยู่แล้ว  แต่ขอกวนโทสะพวกมันนิด  ด้วยการเฉไฉหลบตา  และแกล้งจิบน้ำชาช้าๆอย่างไม่เดือดร้อนใจ  เพื่อกระตุ้นความอยากรู้ของเพื่อนๆเล่น  สุดท้ายเป็นไอ้ไรอันที่ทนไม่ไหว  มันหยิบมาการองฝีมือสุดที่รักของมันขว้างมาทางผม  ด้วยสีหน้าสีตาที่โคตรขัดใจ  ผมเองก็เก็บอาการไม่อยู่จนต้องหัวเราะออกมา

“ฮ่าๆ  นี่ฝีมือเหมยอิงเลยนะเว้ย  ไม่เสียดาย!?  เออๆ  เล่าแล้ว  ฮ่าๆ”  จะไม่ให้ผมขำท้องแข็งได้ไง 

ในเมื่อปฏิกิริยาของไอ้ไรอันยามได้ยินสิ่งที่ผมพูดคือ  ใบหน้าหล่อวิ้งของมันอยู่ในอาการตกใจสุดขีด  ปากค้างตาแทบถลน  มันคงลืมตัวล่ะครับ  เพราะไม่เช่นนั้นไม่มีทางปาขนมของคนที่มันหลงรักมาแสนนานทิ้งหรอก

“เล่นเป็นเด็กๆกันไปได้  ฮึๆ”  ‘แม่ะ!  คุณมึงผู้ใหญ่ตายล่ะ’  จะไม่ให้ผมแอบเหน็บไอ้โจเซฟมาดเข้มได้ไงครับ 

คำพูดคำจาของมันฟังคล้ายว่าต้องการปรามผมสองคน  แต่กิริยาคือดันหยิบมาการองชิ้นที่อยู่บนเบาะข้างตัวผมขึ้น  และโยนใส่ไอ้ไรอันที่ก็ดันบ้าจี้ตะครุบรับได้ทัน  แถมด้วยการทำตาละห้อยจ้องขนมเหมือนว่ากำลังรู้สึกผิดนักหนา  ทำเอาผมและโจเซฟขำมันไปพร้อมกัน

หลังจากที่พวกเราปรับอารมณ์เข้ามาสู่โหมดจริงจังได้  ผมจึงเริ่มเล่าเรื่องของผมกับฝูหรงให้พวกมันฟัง  เล่าตั้งแต่การเจอกันครั้งแรก  จนถึงสถานการณ์ในปัจจุบันนี่แหละ  และคงไม่ต้องบอกล่ะมั้งว่าผมเจออะไรบ้าง  ถ้าไม่ใช่เสียงถอนหายใจหนักๆจากไอ้โจเซฟ  และคำสบถอย่างไม่พอใจของไอ้ไรอัน  ก่อนมันสองคนจะพร้อมใจประทุษร้ายร่างกายผมคนละทีสองที  แม้ผมจะโวยวายแม่งก็ไม่มีสีหน้าเห็นใจให้เห็นสักนิด  แถมยังสมน้ำหน้าตามมาอีก

“สมกับสิ่งที่มึงปิดบังเพื่อนๆแล้วว่ะ”  นี่เสียงไอ้ไรอันครับ  แน่ะมีถลึงตาใส่ผมอีก

“ยังน้อยไปด้วยซ้ำ...แต่ก็ยินดีด้วยเพื่อนที่นายได้คนสำคัญคืนมา”  แม้ไอ้โจเซฟจะตอบกลับด้วยเสียงหนักๆ  แต่เพื่อนก็คือเพื่อนที่พร้อมยินดีไปกับเรา  เมื่อเห็นว่าเรากำลังมีความสุข

“มีโอกาสก็พาแฟนนายมาให้พวกฉันรู้จักบ้างนะพอล”  ไรอันพูดพร้อมยกยิ้มและยื่นมือมาตบไหล่ผมเบาๆ  ท่าทางและคำพูดบอกชัดว่ามันยินดีกับผมไม่ต่างกัน

“ขอบใจนายสองคนมาก  ฉันก็ว่าจะพามาให้รู้จักเร็วๆนี้แหละ  ขืนช้ามีสิทธิ์โดนงอนอีก  ฮึๆ”  ผมอดไม่ได้ที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของกระต่ายน้อยแสนรัก  ยามฝูหรงคิดไปเองว่าผมไม่อยากเปิดเผยเรื่องของเรากับเพื่อนสนิท  จนอดอารมณ์ดีถึงขั้นหัวเราะออกมาไม่ได้  เพราะการที่ฝูหรงน้อยใจ  แสดงว่าแคร์ผมและจริงจังเรื่องของเรามากอยู่

ไรอันและโจเซฟเองก็ได้แต่ส่ายหัวมองผมยิ้มๆ  ด้วยคงพอเดาได้ล่ะว่าผมกำลังเพ้อถึงสุดที่รัก  แต่ก็ไม่คิดจะถามหาเหตุผลของอาการแปลกๆที่ผมเป็น  ก็จะเอาเหตุผลอะไรกับคนกำลังมีความรักล่ะครับ  เพราะมันเป็นเรื่องของจิตใจและอารมณ์ล้วนๆ  ฮึๆ 
ผมที่กำลังครึ้มอกครึ้มใจอารมณ์ดีอยู่นั้นก็ต้องสะดุด  เมื่อไอ้โจเซฟส่งคำถามออกมา  แถมยังเป็นคำถามที่คาใจผมอยู่ก่อนแล้วด้วย

“ตกลงแฟนนายไปอยู่นิวยอร์กกับคุณป้าใช่มั้ย  แล้วป้าไม่ได้กลับมาด้วยเหรอวะ”

“ช่วงที่ผ่านมาเรากำลังวุ่นๆ  เคลียร์เรื่องหัวใจอยู่  แถมเจ้าตัวก็มาป่วย  เลยยังไม่ได้คุยเรื่องนี้เลยว่ะ...แต่พวกนายรู้มั้ย  ฝูหรงน่ะมีทรัพย์สินเข้าขั้นเป็นเศรษฐีได้เลย”  แม้ผมจะสืบได้ถึงทรัพย์สินจำนวนมากที่ฝูหรงครอบครอง  แต่ผมตามสืบไปไม่ถึงแหล่งที่มาของมัน 

การที่ผมสงสัยประเด็นนี้ไม่ใช่ว่าผมดูถูกครอบครัวของคนรัก  แต่ผมรู้ถึงพื้นฐานทางการเงินครอบครัวของคู่ป้าหลานดีต่างหาก  จากห้าปีก่อนไม่มีทางที่ฝูหรงจะมีทรัพย์สินได้เท่าปัจจุบัน  แม้คนเป็นป้าจะไปดำเนินธุรกิจยังต่างแดนก็ตาม  ซึ่งก็ไม่น่าจะมีได้มากขนาดนั้น  ในเรื่องนี้ผมยังไม่มีโอกาสถามเอาความจริงจากเจ้าตัว  เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการผิดใจกับคนรักตัวน้อย  ด้วยแอบตามขุดคุ้ยลับหลังเจ้าตัวเอาได้

หลังจากคำพูดเปรยๆของผมนั้น  เพื่อนทั้งคู่นั่งเงียบมีสีหน้าครุ่นคิดไม่ต่างกันและเงียบไปนาน  ก่อนไอ้ไรอันจะพูดในสิ่งที่มันคิดได้ออกมา  ทำนองว่าป้าของฝูหรงแต่งงานกับมหาเศรษฐี  และลุงเขยใจดียกทรัพย์สินมีค่าแบ่งให้หลานชายคนใหม่ด้วยความเอ็นดู  แต่ลึกๆหวังเคลมหลานเลี้ยง 

ผมที่พยักหน้าเห็นด้วยในความคิดของมันมาตลอด  ถึงกับสะบัดหน้าพรืด  และเตรียมเข้าไปเอาเรื่องไอ้เพื่อนปากเสีย  แต่ดีที่ไอ้โจเซฟห้ามไว้ได้ทัน  ผมจึงได้แค่ชี้นิ้วใส่หน้าไอ้ลูกครึ่งตาฟ้าที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผมอยู่

“ฮึๆ  แค่ล้อเล่นน่า  โทษทีๆ  แต่มันน่าคิดนะพอล  เพราะใครจะให้เงินขนาดนั้น  ถ้าไม่ใช่หวังเคลม  หรือเจ้าของเงินตายไปแล้วและยกมรดกให้กันล่ะ”  อืมประเด็นที่ไอ้ไรอันเปิดใหม่นี่พอจะเป็นไปได้มากกว่า  แต่พล็อตแบบนี้เอาไปทำซีรีย์แนวดราม่าได้เลยนะครับว่ามั้ย

“พอๆ  เลิกคิดกันได้แล้ว  คิดไปก็เท่านั้นพาลจะมาทะเลาะกันซะเปล่าๆ  พอลทางที่ดีนายก็เปิดอกคุยกับแฟนนายซะให้รู้เรื่องเถอะ”  กรรมการห้ามทัพก็หนีไม่พ้นโจเซฟ  แต่ความคิดของเพื่อนคนนี้  ผมเห็นด้วยล้านเปอร์เซ็นต์  ยิ่งประเด็นเปิดอกคุยเนี่ย  ฮึๆ

“ตั้งใจไว้อยู่แล้วล่ะ  แต่คงต้องรอจังหวะ...เรื่องเหมยอิง  นายมีแผนอะไรไว้ล่ะไรอัน”  ผมโยนกลองกลับไปยังไอ้ไรอันที่กำลังมองผมด้วยแววตารู้เท่าทัน  มันเองถึงกลับเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันตา

“เรื่องนี้ฉันไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว  แต่อดหนักใจไม่ได้  ถึงหลี่ผิงจะรู้และยอมรับกลายๆ  แต่ทั้งปาปาหลี่จวิน  อาตี้หลง  ไหนจะอากงไป๋หลงอีกเล่า  น่าหนักใจน้อยที่ไหนกัน”  ผมตบบ่าไอ้ไรอันเพื่อส่งกำลังใจไปให้มัน  และนึกได้ว่าตัวเองโชคดีไม่น้อยที่ไม่มีอุปสรรคความรักอย่างเพื่อนสนิท  เพราะการพลัดพรากห้าปีจากคนที่รักนั้น  ก็หนักหนามากพอในความรู้สึกของผมแล้ว

“แต่อย่างน้อยเหมยอิงก็ดูมีใจให้นายนี่  อย่ากังวลเลย  หากผู้ใหญ่เห็นความจริงใจของนาย  พวกท่านก็จะยอมรับเอง”  ถูกของโจเซฟมันครับ  เพราะผมเชื่อว่าความจริงใจและจริงจังของไรอัน  จะทำให้มันประสบความสำเร็จเรื่องของความรักในที่สุด

ผมและโจเซฟนั่งคุยนั่งปรับทุกข์พร้อมช่วยกันให้คำปรึกษาไอ้ไรอันไปพักใหญ่  ก่อนเลขาไอ้โจเซฟจะเข้ามาเตือนเรื่องการคัดเลือกรอบสุดท้ายนักร้องใหม่ของค่าย  ซึ่งมันเป็นหนึ่งในกรรมการสรรหา  โดยต้องไปนั่งดูนั่งฟังว่าที่นักร้องใหม่ร้องกันแบบสดๆ  ผมว่างและนึกสนุกจึงขอตามโจเซฟเข้าไปสังเกตการณ์ด้วย  เพราะกว่าจะถึงเวลาไปรับกระต่ายน้อยก็อีกตั้งสองชั่วโมง  ส่วนไอ้ไรอันมันขอตัว  เห็นว่าจะแวะไปหาเหมยอิงที่ร้านเบเกอรี่ก่อนเข้าที่ทำงานในช่วงเย็น  ดังนั้นผมจึงได้มานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อข้างท่านผู้บริหารใหญ่ของค่าย

“คุณโจเซฟครับ  คนต่อไปค่อนข้างน่าจับตา  เพราะทำเดโมมาดีมาก  ทั้งเสียงและรูปลักษณ์”  เสียงกระซิบเบาๆจากหัวหน้าฝ่ายโปรดักชั่นดังขึ้นทันที  หลังจากกลุ่มนักร้องวงบอยแบนด์เล่นจบและกำลังเดินออกไป 

โจเซฟเองก็เพียงพยักหน้ารับและก้มดูโปรไฟล์ในมือ  ผมชำเลืองดูก็พบว่าเป็นรูปหญิงสาวชาวเอเชียแต่งหน้าคมเฉี่ยวสะดุดตา  เรื่องรูปร่างไม่ต้องพูดถึงเพราะได้สัดส่วนลงตัวสุดๆ  เหลือก็แต่เสียงร้องเท่านั้นว่าจะดีอย่างที่หัวหน้าฝ่ายโปรดักชั่นโวไว้มั้ย  พอได้เห็นตัวจริงต้องบอกเลยว่าในรูปสวยได้ไม่ถึงครึ่งของตัวจริง  แถมยังให้กลิ่นไอสาวมั่นขาร็อคแอบหวาน  ด้วยเธอมาพร้อมเสื้อหนังแขนกุดที่ประดับหมุดประปราย  โดยใส่คลุมเสื้อยืดขาวไว้อีกชั้น  และกางเกงหนังขาสั้นเต่อที่มีเข็มขัดหนังเส้นโตหัวเงินขนาดใหญ่คล้องเอวไว้  พร้อมบูทส้นสูงยาวเกือบถึงเข่า  ส่วนใบหน้าถูกแต่งอย่างประณีต  เด่นที่สุดตรงดวงตาที่แต่งสโมกกี้อายชวนดึงดูด  เรียกได้ว่ามีเสียงฮือฮาทันทีที่เธอหยุดยืนด้านหน้า  ก่อนจะเงยหน้าและระบายยิ้มส่งให้ทีมงานทั้งห้อง 

ขนาดผมที่มีกระต่ายน้อยน่ารักอยู่เต็มหัวใจ  ยังอดชื่นชมในความดูดีของผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้  คงไม่ต้องบอกว่าผู้ชายทั้งห้องจะอยู่ในอาการเช่นไร  ถ้าไม่ใช่ตกตะลึงตาค้างจ้องเธอแทบน้ำลายหก  ไม่เว้นแม้กระทั่งเพื่อนสนิทหน้าเข้มเคราดกของผมอย่างโจเซฟ  อาการของเพื่อนสร้างความแปลกใจให้ผมไม่น้อย  เพราะผมไม่เคยเห็นโจเซฟมีปฏิกิริยาเช่นนี้กับผู้หญิงที่ไหนมาก่อน  ส่วนเรื่องเสียงร้องเพลงของเธอนั้น  สมกับที่ฝ่ายโปรดักชั่นโวไว้จริงๆ  ด้วยมีพลังและกังวานใสในเวลาเดียวกัน  หากบริษัทโจเซฟปล่อยเพชรเม็ดนี้หลุดไปก็โง่เต็มทน  จึงไม่แปลกที่ผมจะได้ยินเสียงปรบมือกึกก้องหลังเสียงโน้ตสุดท้ายของเธอจบลง

“เป็นไงถึงกับตะลึงไปเลยเหรอวะ”  ผมกระแทกไหล่โจเซฟเบาๆ  พร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ตายามที่มันหันหน้ามึนๆมาทางผม 

บอกเลยผมแทบกลั้นขำไว้ไม่อยู่  เพราะผมแทบไม่เคยเห็นท่านประธานใหญ่แห่ง  AJ Music  Record  ทำสีหน้าแบบนี้มาก่อน  และเดาได้ไม่ยากว่าเพื่อนผมกำลังอยู่ในห้วงอารมณ์เช่นไร  ถ้าไม่ใช่  ‘ตกหลุมรัก’  แบบไม่ทันตั้งตัว

ผมไม่มีเวลาอยู่สังเกตปฏิกิริยาของไอ้ลูกครึ่งเคราดกนานกว่านั้น  เพราะได้เวลาที่ผมต้องไปรับสุดที่รักแล้ว  จึงขอตัวจากโจเซฟที่พยายามกลับมาเก๊กหน้านิ่งหลอกตาชาวบ้าน  แต่มันหลอกผมไม่ได้หรอก  ว่ามันกำลังเกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นในใจมันเข้าแล้วน่ะ  และผมก็หันไปเอ่ยลาลูกน้องมันที่คุ้นหน้าคุ้นตากัน  ก่อนเดินออกจากห้อง  แต่ระหว่างที่ผมเดินเกือบถึงรถที่จอดไว้บนลานจอดรถของบริษัทนั้น  ผมกลับเจอคนที่เคยคุ้นหน้าค่าตากันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

“สบายดีมั้ยคะพอล”  ทั้งเสียงทั้งใบหน้านั้นหวานไม่แพ้กัน  แต่บางครั้งสิ่งที่เห็นก็ไม่ได้เป็นจริงเสมอไป

“ครับ  ผมก็หวังว่ามิลลี่คงสบายดี  แต่ต้องขอตัวก่อน  ผมมีธุระที่อื่นที่ต้องรีบไป”  ผมยกยิ้มนิดๆพร้อมเอ่ยลา  ก่อนจะเบี่ยงตัวเดินไปยังรถคู่ใจตรงหน้า  แต่กลับมีเสียงหวานๆพร้อมเสียงกลั้วหัวเราะแผ่วๆลอยตามหลังมา

“พอลต้องสบายดีอยู่แล้วนี่นะ  จะเหมือนคนโดนทิ้งอย่างมิลลี่ได้ยังไง  ฮึๆ”  ผมระงับใจไม่ให้หันกลับไปตอบโต้  และเลือกที่จะขับรถออกมา

ระหว่างที่ผมขับรถผ่านร่างบอบบางของหนึ่งในนักร้องในค่ายของเพื่อนสนิท  ผมก็เจอสายตาต่อว่าต่อขานแฝงแววอาฆาต  จึงเลือกที่จะไม่ใส่ใจเพราะเรื่องระหว่างผมกับเธอคนนี้มันจบไปแล้ว  เพียงแต่การจบกันครั้งนั้นไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไหร่  แต่ขออย่าได้ปักใจในคำกล่าวหาของเธอที่มีต่อผม

“เป็นไงครับเหนื่อยมั้ย...กระต่ายน้อย!  ไข้ขึ้นรึเปล่า  ทำไมแก้มแดงแบบนี้ล่ะ”  อย่าหาว่าผมขี้โวยวายเลย  ดูหน้ากระต่ายน้อยของผมสิแดงเถือกเลย  แถมหัวคิ้วก็ชนกันจนแทบจะผูกเป็นโบว์ได้  ถ้าไม่ใช่เพราะไข้ขึ้นจนปวดหัว  มันจะเกิดจากอะไรได้อีก

ผมประคองแก้มใส่ขึ้นและกวาดตาสำรวจไปทั่วดวงหน้าแดงๆ  ก่อนจะใช้หลังมือไล้ไปตามข้างแก้มและลำคอ  ยิ่งอุณหภูมิอุ่นๆที่สัมผัสได้ทำเอาผมยิ่งร้อนใจตาม  และก่อนที่ผมจะตื่นตระหนกไปมากกว่านี้  มือนุ่มๆก็รั้งข้อมือทั้งสองข้างของผมลง  พร้อมกับเสียงหวานปนแหบที่ดังขึ้น

“พอล!  ฝูหรงไม่เป็นอะไร  ทำไมไม่รออยู่ที่รถล่ะ...อ๊ะ!  จะยื่นหน้ามาทำไมเล่า  แค่นี้คนก็มองมากพอแล้ว”  เสียงแผ่วเบาท้ายประโยคดังขึ้นพร้อมอาการหลบตา  ก่อนเจ้าของมืออุ่นๆจะกระตุกข้อมือผมให้ออกเดิน 

แรกทีเดียวผมยังไม่เข้าใจในอาการของคนรักนัก  แต่เมื่อผมได้กวาดตาไปรอบตัวก็พอเข้าใจ  ด้วยพบกับสายตาชื่นชมแฝงแววหยอกเย้าหลายคู่  แม้บางคู่จะเต็มไปด้วยแววอิจฉาปนหมั่นไส้ก็ตาม  แต่ก็ทำให้ผมรู้ว่าตัวเองเข้าใจผิดในอาการของกระต่ายน้อยไปไกล  ทั้งๆที่ผมน่าจะชินและรู้ดีที่สุด  ว่าแก้มแดงๆกับอาการหลบตาแบบนี้หมายความว่าอะไร  ถ้าไม่ใช่กระต่ายน้อยแสนรักกำลังเขินจัด 

ผมเดินอมยิ้มตามแรงจูงของคนน่ารักไปเรื่อยๆ  และได้แต่มองใบหน้าด้านข้างที่แก้มใสขึ้นสีจัดอย่างน่าเอ็นดู  นาทีนี้ฝูหรงเองก็ก้มหน้าก้มตาเดินไม่คิดจะสบตาใครเลย  แต่คนน่ารักคงเขินจัดจนลืมตัวไปว่าเป็นฝ่ายจูงข้อมือผมเดินโชว์พนักงานของโรงแรมไปจนทั่ว  แต่ผมก็ไม่คิดจะท้วงเพราะออกจะถูกใจในการกระทำนี้ไม่น้อย 

จนกระทั่งถึงรถและเจ้าตัวจะขึ้นรถนั่นแหละถึงเพิ่งรู้ตัว  กระต่ายน้อยยืนนิ่งมองหลังมือตัวเองที่จับข้อมือผมอยู่  สลับไปมากับใบหน้าประดับรอยยิ้มกว้างของผม  ก่อนจะสะบัดมือผมออกและเงยหน้าขึ้นทำหน้าบึ้ง  ส่งสายตาต่อว่าต่อขานใส่ผม  ตามมาด้วยการเรียกชื่อผมอย่างไม่พอใจ 

“โจวพอล!...อ๊ะ!  พอลอ่ะ  ไอ้บ้า!”  โดนคนน่ารักด่าว่าบ้าแค่นี้ผมไม่ถือ  เพราะไหนๆก่อนหน้าผมก็ได้จุ๊บปากแดงๆที่ช่างต่อว่ามาเป็นรางวัลแล้ว  และผมยอมรับคำด่านี้  เพราะถึงบ้าผมก็บ้ารักเจินฝูหรงคนเดียวล่ะน้า

“ฮึๆ”  ผมได้แต่ยืนล้วงกระเป๋าพร้อมหัวเราะอยู่เพียงลำคอ  และมองไปยังกระต่ายน้อยขี้งอนที่หมุนตัวก้าวขึ้นรถไปก่อน  ด้วยผมอยากให้ฝูหรงมีเวลาส่วนตัว  เพื่อปรับอารมณ์สักนิดก็ยังดี  ขืนปล่อยให้กระต่ายน้อยเขินจัด  จนพาลงอนใส่แล้วจะยุ่ง  แต่สิ่งที่ผมทำดูเหมือนว่าจะไร้ผล

เมื่อผมตามขึ้นมานั่งเคียงข้างยังตำแหน่งของคนขับแล้ว  ฝูหรงก็สะบัดหน้าพรืดมองไปอีกฝั่งของประตูรถ  ไม่ต้องบอกว่าผมโดนงอนมั้ย  ด้วยดูแล้วคงโดนงอนขั้นสุดเข้าให้ซะมากกว่า  ผมจึงลองเรียกชื่อกระต่ายน้อยดู  แต่ก็ไร้การตอบรับ  เลยเปลี่ยนเป็นเอื้อมไปกุมมือเล็กไว้ในอุ้งมือ  ก่อนจะจรดริมฝีปากลงบนหลังมือนุ่มในตำแหน่งแหวนที่ผมเป็นคนมอบให้

“ขอโทษครับกระต่ายน้อย  อย่างอนพอลเลยน้า...หันหน้ามาทางนี้ให้พอลวัดไข้หน่อยเร็ว  หายป่วยรึยังเอ่ย  รู้ใช่มั้ยครับว่าพอลเป็นห่วงฝูหรงมาก”  ใบหน้าขาวๆที่แก้มใสยังขึ้นสีระเรื่อ  ค่อยๆเบือนกลับมาหาผมอย่างช้าๆ  และดวงตากลมๆก็ระริกไหวแต่ยังมีแววดื้อดึงเล็กน้อยให้เห็น

ผมระบายยิ้มอ่อนโยนใส่ดวงตาคู่ตรงหน้า  ก่อนจะถอดแว่นอันโตออก  และยื่นหน้าเข้าหาใบหน้าน่ารักของฝูหรง  ก่อนจะทำการวัดไข้ใบแบบฉบับของตัวเอง  จนเจ้าของอุณหภูมิอุ่นๆที่มีไม่มากนัก  ตัวอ่อนระทวยในอ้อมกอดตามมาด้วยระบบการหายใจติดขัด  ผมจึงยอมปล่อยริมฝีปากอุ่นๆให้เป็นอิสระ  ก่อนตระกองกอดร่างน้อยไว้แนบอก  และไล้เกลี่ยไรผมชื้นๆแถวขมับ  ตามด้วยการจรดริมฝีปากลงข้างแก้มใส  ก่อนเคลื่อนไปกระซิบเสียงแผ่วหวิว  พร้อมชิมใบหูแดงๆนั่นไปด้วย

“ยังมีไข้อยู่อีกนิดหน่อย  เดี๋ยวกลับไปทานยาต่อนะครับคนป่วยที่น่ารักของพอล”

.........................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

หวานหยดสมใจคนชอบแนวนี้ใช่ม้า   :impress2:
คงมีคนอยากขโมยฝูหรงมานอนกอดสักคืนสองคืนแน่ๆ  แต่ระวังพอลหน่อยก็ดีเนอะ  :hao3:
อย่างที่บอกว่าตอนนี้จะเปิดตัวละครอีกตัวที่จะมีบทบาทในอนาคต
และคงพอรู้ได้ว่ามิลลี่มีความสัมพันธ์กับพอลยังไง  แต่อดใจอีกนิดจะได้รู้ความเป็นไป
ทั้งหมด  และมาลุ้นกันว่าเธอจะสร้างความปั่นป่วนให้คู่นี้ได้มากน้อยแค่ไหน

ส่วนตอนหน้าจะได้รู้ความเป็นมาของฝูหรงตอนที่อยู่นิวยอร์กกัน
อยู่นู่นตั้งห้าปีจะไม่มีหนุ่มๆมาติดใจกระต่ายน้อยเชียวรึ   o18
ติดตามได้ในวันพฤหัสฯค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

 :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 19-07-2014 11:51:17
หรือฝูหรงจะแอบมีเมียที่นิวยอร์ค  :laugh:

ล้อเล่น กระต่ายน้อยน่ารักไปทำอะไรมานะที่ได้รวยได้อยากรู้เหมือนกัน
แต่พอลนี่ขี้ห่วงหวงจังทีหลังอ่ะมานั่งทำงานกับฝูหรงเลยนะ  o18
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 19-07-2014 12:21:31
มิลลี่จะมาสร้างปัญหาอะไรอีกรึป่าว
ปล.พอลดูแลกระต่ายน้อยจนเว่อร์ไปป่าว เยอะนะ แต่เข้าใจแหละว่าหวงและห่วง ชดเชยช่วงเวลาที่ขาดหายไป อิอิ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 19-07-2014 12:51:30
ฝูหรงจะรู้ตัวไหมว่าตัวเองมีศึกรอบด้าน ทั้งลูกพี่ลูกน้องพอล  ยัยผู้ช่วยเลขาฯ และอดีตของพอล  ฝูหรงต้องหนักแน่นให้มากๆ และพอลจะต้องคอยปกป้องกระต่ายน้อยให้ดี  ไม่งั้นมีหวังโดนทิ้งอีกแน่  แล้วอาจจะนานกว่า 5 ปีด้วย

ตอนหน้าเดาว่าฝูหรงและคุณป้าคงเจอคุณตาใจดีที่ถูกชะตา  เลยให้มาเป็นผู้ช่วยส่วนตัว  พอท่านตายไม่มีลูกหลานเลยยกสมบัติทั้งหมดให้ฝูหรง

นึกว่าโจเซฟจะไม่มีคู่ซะแล้ว  กามเทพดันมาแผลงศร ต่อไปกลุ่มหลี่ผิงก็ครบคู่หมดแล้วดิ     
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 19-07-2014 13:45:29
ชอบวิธีวัดไข้ของพอล  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 19-07-2014 13:53:02
 :o8: อั๊ยยะเค้าวัดไข้กันแบบนี้เหรอจะได้รู้
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 19-07-2014 14:50:36
อยากรู้ว่าฝูหรงไปทำอะไรมาแล้วว :hao7:
หัวข้อ: Re:{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10(19/7/57)ใคร?!UP
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-07-2014 15:54:10
เป็นการวัดไข้ที่เราชอบมาก :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-07-2014 17:11:32
ยัยมิลลี่ไม่ได้มาดีแน่!แต่ตอนนี้เขาก็หวานกันอีกแล้ว~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 19-07-2014 17:12:59
ลุ้นๆกะอดีตของฝูหรง
+
ให้กำลังใจฝูหรงล่วงหน้าเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคในภายหน้า (เว่อซะ)
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 19-07-2014 17:34:13
ดูท่า ฝูหรง คงจะไม่หายไข้แน่เลย

อยู่ใกล้ เฮียพอล ทีไรหน้าแดงทุกที

5555
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 19-07-2014 17:56:57
ชอบการวัดไข้แบบนี้จังเลยยยย :hao5: :hao5:
อยากรู้อดีตของกระต่ายน้อยฝูหรงจังเลยว่าจะป็อบขนาดไหน555+
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 19-07-2014 19:36:35
อยากเป่ากระบาลนังมิลหลอกมิลลี่อะไรนั้นจัง :angry2:

ฝูหรงเป็นใครน้อ :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 19-07-2014 20:04:38
โถวววว
อุตส่าห์ลุ้นว่าว่าตัวละครใหม่จะเป็นหนุ่มๆที่มาจีบกระต่ายน้อยให้พอลหัวปั่นซะอีก
( o18 : พอล)
หัวข้อ: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: THE KOP ที่ 19-07-2014 23:57:56
อย่าให้เรื่องอยู่นิวยอร์คถึงหูพอลเชียวนะ เชื่อเลยว่าต้องมีอาการงอน ไม่พอใจแน่...แต่ที่หนักกว่าคือมิลลี่ จะเข้ามาทำให้พอลและฝูหรงเข้าใจผิดกันรึเปล่า รออ่านนะคะ^^
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 20-07-2014 08:22:55
พอลชอบแกล้งต่ายน้อยย
เชอะๆๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 20-07-2014 09:10:48
พอลฝูหรงเขาหวานกันมาก
เปิดตัวมิลลี่เด็กเก่าพอล ดูท่านางจะร้ายเหมืนกันนะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 20-07-2014 14:56:36
คาดว่ายัยมิลลี่จะทำให้คู่นี้ปั่นป่วน ไม่น้อยเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 20-07-2014 15:21:30
โอยโหย่ว เริ่มเห็นเค้าลางความวุ่นวายลิบๆ!
แต่โจเซฟสงสัยจะเจอเนื้อคู่แล้วมังคะ ^^
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 21-07-2014 15:01:27
หนุ่มๆกลุ่มนี้กำลังจะมีหวานใจกันหมดแล้วสินะ
ที่มีแล้วก็ต้องหมั่นดูแลเอาใจหน่อยนะ โดยเฉพาะพอล
เห็นน่ารักอย่างนั้นน่ะ ดื้อใช่เล่น แถมขี้น้อยใจอีกต่างหาก
ยิ่งตอนที่ไม่สบายจิตใจจะยิ่งอ่อนไหวเป็นพิเศษนะเออ
แต่ถึงฝูหรงจะสบายดีพอลก็ดูแล เอาใจ ไม่ได้ห่างอยู่แล้ว
กำลังหวานอยู่ดีๆ จะมีตัวป่วนมาทำให้ปวดหัวอีกแล้วเหรอ
ท่าทางไม่ใช่เล่นซะด้วย พอลสู้ๆนะ เสี่ยงโดนงอนด้วย :laugh:
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 22-07-2014 10:56:23
ThankS
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 22-07-2014 11:14:12
ต่างคนต่างมีอดีต สินะ

แล้วอดีตจะตามมาป่วงแค่ไหน รอลุ้น o18

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 22-07-2014 13:21:58
ตื่นเต้นค่ะ จะได้รู้ความเป็นไปของฝูหรงที่นิวยอร์ก
คงจะเนื้อหอมน่าดู อิอิ

 :katai2-1:

ขอบคุณค่าาา +1^^
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: คุณขนมหวาน ที่ 22-07-2014 14:44:23
พอลน่ารักมากอ่ะ ฝูหรงก็ยิ่งน่ารักขึ้นไปอีก

รออยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.11 "คำกล่าวหา" P.10 (19/7/57) ใคร?! UP
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 22-07-2014 23:39:20
ทำไรมารวย? บอกบ้างดิ?
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 24-07-2014 12:44:12
ตอนที่ 12

โจวพอล

   “ชิ้นนี้  นี่ด้วย  หือ!?  มีกางเกงขาสั้นขนาดนี้ด้วยรึไงกัน  แต่เอาไปด้วยก็ดีจะได้ให้กระต่ายน้อยใส่ให้เราดูคนเดียว  ฮึๆ...เอาไปหมดตู้นี่แหละ  จะได้ไม่มีข้ออ้างต้องกลับมาห้องนี้อีก”  ระหว่างที่ผมกำลังยุ่งวุ่นวายกับตู้เสื้อผ้าอยู่นั้น  เจ้าของตู้และบรรดาข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่รอบตัวก็ส่งเสียงนำมาก่อนตัว  ทำเอาผมสะดุ้งและเผลอปล่อยของที่อยู่ในมือหล่นกระจายเต็มพื้น

“พอล!  ทำอะไรน่ะ”  ฝูหรงเดินเข้าหาผมพร้อมแก้วนมในมือ  ใบหน้าแววตาไม่ต้องพูดถึงว่าจะแสดงออกถึงความเคลือบแคลงเพียงใด  ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นก้มมองเสื้อผ้าตัวเองที่เกลื่อนอยู่หน้าตู้ 

ผมจึงได้แต่ระบายยิ้มเอาใจใส่ตากลมๆคู่นั้น  ยามตากลมๆที่เต็มไปด้วยคำถามจ้องกลับมายังผม  ก่อนจะเสยื่นมือไปรับแก้วนมมาถือไว้เอง  และกุมมือบางไว้แถมใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงอีกนิด  เพื่อจูงเจ้าของมือนุ่มให้ออกเดินตามมายังเตียงกลางห้อง 

ผมย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้า  และยื่นแก้วในมือไปจ่อริมฝีปากแดงสด  มีพยักหน้าเชิญชวนคนน่ารักให้ดื่มนมก่อนนอน  ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำวันที่ขาดไม่ได้ของฝูหรงที่ผมเพิ่งรู้  ยามได้มานอนยังคอนโดแห่งนี้เมื่อสามวันก่อน

“ดื่มนมก่อนนะกระต่ายน้อย”  แม้ในดวงตากลมๆจะยังมีแววสงสัยไม่เปลี่ยน  แต่ผมเดาว่าเพราะเสียงนุ่มๆที่ผมใช้  และท่าทางเอาอกเอาใจที่ผมแสดงออกกับเจ้าตัว  ทำให้ฝูหรงยอมที่จะดื่มนมตามคำชวนของผม

กระต่ายน้อยค่อยๆละเลียดนม  โดยมีผมช่วยประคองแก้วไว้  ซึ่งผมอดระบายยิ้มไม่ได้  ยามเห็นลิ้นเล็กๆสีชมพูอ่อนแลบเลียกลีบปากสีสดที่เปื้อนคราบนม  เมื่อฝูหรงดื่มนมจนหมดแก้วแล้ว 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านี่คือพฤติกรรมของชายหนุ่มอายุยี่สิบสาม  ด้วยภาพตรงหน้าไม่ต่างจากเด็กชายตัวน้อยอายุไม่เกินสิบขวบ  ‘ไร้ซึ่งมารยา’  และเพราะรอยยิ้มเอ็นดูในความน่ารักของผมที่มีต่อกระต่ายน้อยนั่นเอง  ทำให้เจ้าตัวถึงกลับชะงัก  ก่อนแก้มใสจะขึ้นสีและขึงตาใส่ผม  ด้วยฝูหรงคงรู้ว่าเผลอทำตัวเป็นเด็กต่อหน้าผมเข้าแล้ว 

กระต่ายน้อยน่ารักดันแก้เก้อด้วยการยกหลังมือขึ้นมาเช็ดปาก  ยิ่งตอกย้ำพฤติกรรมเด็กน้อยของเจ้าตัวในความคิดของผมเข้าไปอีก

“อ่ะ!...หัวเราะไมเล่า  แค่ลืมตัว  ก็ไม่รู้จะจ้องทำไมนักหนา”  ท้ายประโยคต่อว่าต่อขานแบบไม่จริงจังของเด็กน่ารักนั้นเบาหวิว  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าตัวกำลังเขินสายตาผมจนทำอะไรไม่ถูก 

ผมจึงเอื้อมไปจับมือนุ่มๆข้างนั้นไว้  ก่อนจะยื่นหน้าเข้าหาเพื่อจุมพิตบางเบา  และส่งลิ้นแลบเลียคราบนม  เพื่อทำความสะอาดให้เสียเอง  ส่งผลให้กระต่ายน้อยขี้ตื่นมีอาการสะดุ้งน้อยๆทันที  ฝูหรงพยายามชักมือกลับแต่ผมไม่คิดปล่อย  ก่อนผมจะเงยหน้ากระตุกยิ้มใส่ตากลมๆที่กำลังสั่นไหว  พร้อมยื่นหน้าเข้าหาใบหน้าเล็กๆอีกครั้ง  ที่ยามนี้เลือดลมสูบฉีดลามเลียไปยังลำคอระหงให้ขึ้นสีชมพูระเรื่อไปทั่ว 

ผมตัดสินใจแตะริมฝีปากเข้าที่มุมปากเล็ก  ที่ยังคงหลงเหลือคราบนมอยู่  และแช่ค้างไว้แบบนั้น  ซึ่งรับรู้ได้เลยว่าฝูหรงนั่งเกร็ง  แถมยังกลั้นลมหายใจไว้ด้วย  ทำเอาผมนึกเอ็นดูกระต่ายน้อยขี้ตื่นเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว  เพราะขนาดว่าเราเคยแนบชิดและลึกซึ้งไปถึงขั้นไหนต่อไหนกันแล้ว  แต่อาการขี้ตื่นขี้อายของฝูหรงก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย  ผมจึงเลือกที่จะผละห่างออกมา  พร้อมยิ้มใส่ตากลมๆและยื่นมือไปลูบกลุ่มผมนุ่มเป็นการปลอบประโลม

“ทีนี้ก็สะอาดจริงๆแล้วนะครับ”  ด้วยความสัตย์จริงที่พูดไป  ผมไม่มีเจตนาจะล้อเลียนคนน่ารักสักนิด  แต่ดูเหมือนจะถูกเข้าใจผิดไปเต็มๆ  เพราะกระต่ายน้อยที่กำลังนั่งจ้องผมด้วยใบหน้าแดงเถือกนั้น  ยู่หน้าทำปากจู๋เข้าใส่ผม  พร้อมพึมพำเบาๆว่าผมขี้แกล้ง  ก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง 

ผมจึงได้แต่ส่ายหัวอมยิ้ม  แต่ยังไม่ละมือไปจากกลุ่มผมนุ่ม  เพราะยังคงลูบเล่นด้วยความเพลินมือ

“ตกลง  พอลตั้งใจทำอะไรกับเสื้อผ้าฝูหรง”  อยู่ๆกระต่ายน้อยก็หันกลับมาจ้องตากัน  พร้อมส่งคำถามดังกล่าวมาให้  ด้วยคงหันไปเห็นหลักฐานเกลื่อนกลาดที่ผมทิ้งไว้หน้าตู้เสื้อผ้าเข้า  และคงเป็นคำถามคาใจตั้งแต่เจ้าตัวเข้าห้องมานั่นเอง

ผมก็ได้แต่อึกอักและเป็นฝ่ายหลบตากระต่ายน้อยบ้าง  ซึ่งในนาทีนี้เหมือนว่าเจ้ากระต่ายขนปุกปุยที่เคยดูน่ารักน่าใคร่  จะกลายร่างเป็นหมีขาวตัวใหญ่ที่กำลังกางกรงเล็บ  เตรียมจ้องตะปบเหยื่อเยี่ยงผมเข้าแล้ว 

ส่วนเรื่องวุ่นวายที่ผมทำไว้กับบรรดาเสื้อผ้าและของใช้ของฝูหรงนั้น  ด้วยผมตั้งใจจะเก็บของเหล่านั้นไปไว้ที่บ้านตัวเอง  เพราะอยากได้ตัวคนน่ารักไปอยู่ด้วยกัน  และขืนผมยังไม่ตอบสิ่งที่ฝูหรงอยากรู้  ไอ้ที่หวังไว้อาจจะล้มเหลวไม่เป็นท่าก็ได้

“ไม่อยากให้ฝูหรงเหนื่อย  พอลเลยเตรียมเก็บเสื้อผ้าไว้ให้ฝูหรงไงครับ  เพราะเชื่อว่ายังไงซะ  ฝูหรงคงต้องตอบตกลงไปอยู่ด้วยกันกับพอล...ฝูหรงย้ายไปอยู่กับพอลที่บ้านนะครับ”  ไหนๆก็ได้โอกาสชี้แจงแล้ว  ผมถือโอกาสชวนไปซะเลยทีเดียว 

พูดอย่างเดียวกลัวไม่สำเร็จ  ผมจึงกอบกุมมือนุ่มไว้  พร้อมพรมจูบหลังมือและอ้อนวอนคนน่ารักไปพร้อมกัน

“นะครับฝูหรง  ไปอยู่กับพอลเถอะนะ  พอลเองบางครั้งก็ทำงานไม่เป็นเวลา  และต้องออกนอกเมืองบ่อยๆ  ไม่อยากให้ฝูหรงอยู่ที่นี่คนเดียว  พอลเป็นห่วง  ถ้าอยู่โน่นฝูหรงจะมีคนคอยดูแลเรื่องจิปาถะให้ มามาเองก็บ่นว่าเหงา  ฝูหรงจะไม่ไปอยู่เป็นเพื่อนคุยให้ท่านหน่อยเหรอครับ  ที่สำคัญฝูหรงก็เป็นสะใภ้ตระกูลโจวเต็มตัวแล้วด้วย  จะไม่ไปอยู่คฤหาสน์โจวได้ยังไงกัน  ใช่มั้ยครับ”  ใครจะว่าผมรวบรัดก็ช่างเถอะ  ถ้าผลที่ได้คือการตอบตกลงของฝูหรงแล้วผมยอม

ผลของการโน้มน้าวอย่างเจ้าเล่ห์ของผมคือ  คนน่ารักนั่งหน้าแดงตัวแดงเถือกไม่ยอมสบตา  แต่ดันไม่มีคำตอบให้กัน  ผมจะขอเหมารวมได้เลยมั้ยว่าฝูหรงตกลงยอมที่จะไปอยู่ด้วยกันแล้ว  แถมอากัปกิริยาน่าเอ็นดูตรงหน้าก็ชวนใจสั่นไม่น้อย  จนผมชักไม่อยากรอคำตอบของคนน่ารักอยู่นิ่งๆอย่างนี้อีกแล้ว 

ก่อนที่ริมฝีปากผมจะแตะโดนพวงแก้มอมชมพู  ฝูหรงก็เงยหน้าขึ้น  มีผงะห่างด้วยความตกใจ  ดวงตากลมๆที่ไร้สิ่งกีดขวางก็มีแววตื่นตระหนก  แถมริมฝีปากที่เป็นจุดหมายหลักของผมก็ถูกเม้มไว้จนแน่น  เหมือนรู้ว่าผมตั้งใจทำอะไร  ก่อนกระต่ายน้อยที่เกือบโดนราชสีห์จับกิน  จะยื่นมือสั่นๆมาดันใบหน้าผมออกอย่างช้าๆ

“เอ่อ...กะ  ก็ได้  แต่ยังไม่ใช่เร็วๆนี้นะ...ได้มั้ย  อืม  ปล่อยก่อน  ขอฝูหรงไปเก็บเสื้อผ้าที่พอลรื้อไว้ก่อนนะ”  ผมรู้หรอกว่ากระต่ายน้อยคิดจะชิ่ง  และผมก็อาจจะปล่อยไป  หากคำตอบของฝูหรงจะเป็นที่น่าพอใจสำหรับผมมากกว่านี้ 

ผมจึงรั้งเอวบางของคนตัวเล็กที่เตรียมคลานหนีเอาไว้  ก่อนจะยกร่างน้อยโยนลงกับเตียง จนร่างนั้นกระเด้งกระดอนขึ้นลงเบาๆ  พร้อมมีเสียงร้องอุทานเกิดขึ้น  ก่อนร่างที่ผมคร่อมไว้มีทีท่าจะดิ้นหนี  แถมปากแดงๆยังขยับต่อว่าต่อขานกันได้อีก  และผมก็ไม่คิดปล่อยให้กระต่ายน้อยร้องตะแง้วๆอยู่นาน  ด้วยประกบจูบปิดปากนุ่มนิ่มเพื่อกั้นเสียง  และหลอกล่อเจ้าของลิ้นน้อยให้คล้อยตาม 

กระต่ายน้อยขี้ตื่นเป็นอันหมดฤทธิ์  ได้แต่นอนระทวยอกกระเพื่อมและจ้องผมตาปรือปรอย  ผมระบายยิ้มใส่ตาฝูหรง  พร้อมไล้ปลายนิ้วแตะความนุ่มชื้นที่ได้มอบความหวานแก่ผม  ก่อนเชยคางมนขึ้น

“กระต่ายน้อยยังต้องรออะไรอีก  ห้าปียังไม่พอสำหรับเวลาที่เราต้องแยกจากกันอีกเหรอครับ”  หลังประโยคของผมนั้น  ฝูหรงดูอึ้งไปก่อนเจ้าของร่างน้อยจะยื่นมือมาปะกบเข้าที่แก้มผม  และเรียกชื่อผมผะแผ่ว

“พอล...ถึงฝูหรงจะไม่ได้ย้ายของเข้าบ้านพอลตอนนี้  แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องแยกกันนี่  ขอเวลาฝูหรงเคลียร์เรื่องห้องก่อนนะ...นี่ก็ไม่รู้ว่าเจ้าของห้องตัวจริงจะว่าไงบ้างเลย”  ประโยคสุดท้ายที่ฝูหรงพึมพำเบาๆนั้นไม่ได้เล็ดลอดหูผมไปได้ 

ผมเองก็ไม่ปล่อยให้คาใจ  ด้วยออกปากถามทันทีว่าเจ้าของห้องที่แท้จริงคือใคร  ทำไมถึงดูมีอิทธิพลต่อเจ้าตัวนัก  จะเดาว่าฝูหรงเช่าห้องนี้อยู่ก็ไม่น่าใช่  ในเมื่อเจ้าตัวครอบครองทรัพย์สินจำนวนมหาศาล  อย่าว่าแต่จะให้ฝูหรงซื้อห้องนี้เลย  เพราะถ้าฝูหรงต้องการเป็นเจ้าของทุกห้องในคอนโดนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ 

หลังจากการซักไซ้ของผมนั้น  ฝูหรงมีสีหน้าลำบากใจขึ้นมาวูบหนึ่ง  ก่อนจะระบายยิ้มบางเบามาให้  เมื่อเห็นว่าผมจ้องเขม็งรอคำตอบไม่วางตา  พร้อมกับใช้วงแขนโอบรอบคอผม  และรั้งให้ลงนอนเคียงข้างกัน  ผมจึงหลุดยิ้มออกจนได้  แต่อาการออดอ้อนของกระต่ายน้อยยังไม่หมดเท่านั้น  ด้วยฝูหรงขยับตัวขึ้นมานอนเกยทับบนตัวผม  ก่อนวางท่อนแขนทั้งคู่ลงบนแผ่นอกของผม  และเกยคางลงบนหลังมือ  พร้อมระบายยิ้มหวานจับจิตส่งมาให้ 

ผมถึงกลับอดใจไม่ไหวที่จะยื่นมือไปยีผมนุ่มๆเล่น  ก่อนจะยื่นหน้าไปจุ๊บหน้าผากมนของคนทะเล้นอีกหนึ่งที  แต่ในใจไม่ลืมนะครับว่าผมรอคำตอบของสิ่งที่สงสัยอยู่

“กระต่ายน้อยทำแบบนี้  พอลก็ยังไม่ลืมนะว่าเราคุยอะไรกันไว้  ตกลงใครเป็นเจ้าของห้อง  อย่าบอกนะว่าเช่าอยู่  ถ้าใช่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก  ตกลงพรุ่งนี้ย้ายเลยแล้วกัน”

“หือออ  พอล!  ฝูหรงต้องคุยกับแพทริคก่อน  ไม่งั้นโดนโกรธแย่เลย”  คุณได้ยินเหมือนผมมั้ย 

หมายความว่าคนที่ชื่อแพทริคอะไรเนี่ยเป็นเจ้าของห้องใช่มั้ย  แถมแฟนผมก็ยังดูกังวลและแคร์ไอ้นั่นมากๆเอาซะด้วย  ไอ้แพทริคมันเป็นใครและมีความสัมพันธ์แบบไหนกับฝูหรงกันแน่

“แพทริค!  หมายความว่ายังไงฝูหรง  ไอ้แพทริคนี่มันคือใคร  ทำไมต้องกลัวมันขนาดนี้ด้วย!”  รู้ตัวเลยครับว่าเสียงโคตรแข็ง  แต่อารมณ์ขุ่นๆบวกความไม่เข้าใจของผมตอนนี้  ทำให้ผมเก็บอารมณ์ไม่อยู่ 

ฝูหรงเองก็ดูตกใจและผวาลุกขึ้นไปนั่งข้างตัว  พร้อมมองมายังผมด้วยแววตาตื่นๆ  เห็นภาพคนรักที่เหมือนกำลังหวาดกลัวในพฤติกรรมของตัวเองเข้า  จึงได้แต่ถอนใจและลูบหน้าตัวเองแรงๆ 

ระหว่างที่ผมคลึงขมับเพื่อให้อารมณ์ผ่อนคลายลงนั้น  ผมรู้สึกถึงปลายนิ้วเย็นๆที่แตะเข้าที่หลังมือ  เล่นเอาผมชะงัก  ก่อนมือข้างเดียวกันนั้นจะรั้งข้อมือผมออกจากใบหน้า  และเอาไปกุมไว้ไม่ยอมปล่อย  ทำให้ผมได้เห็นกระต่ายน้อยขี้ตื่น  จ้องมายังผมด้วยตากลมๆออกสั่นนิดๆอย่างกล้าๆกลัวๆ  แต่ริมฝีปากอิ่มกลับพยายามคลี่ยิ้มเอาใจส่งให้ 

ผมถอนใจอีกเฮือกใหญ่แต่ทำเอาอีกคนสะดุ้ง  บอกก่อนว่าผมไม่ได้ตั้งใจทำให้คนน่ารักของผมต้องตกใจนะ  เพราะแค่รู้สึกโมโหตัวเองเท่านั้นที่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่  ซึ่งอาการของผมกลับทำให้ฝูหรงพูดในสิ่งที่ผมอยากรู้ออกมาทันที  แต่ก็พูดด้วยเสียงสั่นๆแววตาตื่นๆอย่างน่าสงสาร

“แพทริคเป็นลูกชายอังเคิลโลแกน  และเป็นเจ้าของห้องนี้  ฝูหรงไม่ได้กลัวแพทริค  แต่ก็ต้องบอกให้รู้!...บะ...บอกแล้ว  ฮึก  ทำไมต้องทำตาดุมองกัน  ดะ...ด้วยเล่า”  สิ้นเสียงสั่นๆ  ผมก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายดึงข้อมือบางเข้าหาตัว  ทำให้ร่างน้อยล้มตัวนอนซบลงบนอกผมอีกครั้ง  ก่อนจะลงมือลูบแผ่นหลังบางแผ่วเบา 

การกระทำของผมกลับทำให้เจ้าของร่างน้อยสะอึกสะอื้น  ปล่อยน้ำตาออกมาเป็นสาย  จนผมรู้สึกถึงความชื้นที่เสื้อนอน

“ชู่ว์ๆๆ  ขอโทษครับ  พอลมันนิสัยไม่ดี  กระต่ายน้อยหยุดร้องเถอะนะ  พอลก็แค่หวงที่ได้รู้ว่ามีผู้ชายคนอื่นสนิทสนมกับฝูหรงนอกจากพอล”  ผมกอดปลอบกระต่ายน้อยอยู่พักหนึ่ง 

เมื่อเห็นว่าร่างในอ้อมกอดคลายอาการสะอื้นแล้ว  ผมจึงส่งคำถามคาใจออกไปอีก  ว่าทั้งอังเคิลโลแกนและไอ้แพทริคนั่น  มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับฝูหรง 

คนน่ารักเองกว่าจะยอมพูดออกมาก็เกือบทำให้ผมถอดใจ  นาทีนี้แม้จะอยากรู้แต่ผมคงไม่กล้าซักไซ้มากกว่าที่พูดไป  ด้วยไม่อยากกดดันฝูหรงจนต้องหลั่งน้ำตาออกมาอีก  แต่ในเมื่อคนน่ารักยอมเปิดปากเล่า  จึงไม่แปลกที่จะเห็นผมตั้งใจเก็บรายละเอียดเป็นพิเศษ

“อังเคิลโลแกนเป็นสามีของป้าไถ่อี้  ทั้งคู่ไปเจอกันเมื่อห้าปีก่อน  ตอนที่ป้าพาฝูหรงไปอยู่นิวยอร์ก  ส่วนแพทริคคือลูกชายของอังเคิล  ถ้าจะนับลำดับญาติ  แพทริคก็ไม่ต่างจากลูกพี่ลูกน้องของฝูหรง”  แม้ไอ้แพทริคอะไรนั่นจะมีศักดิ์เป็นญาติ  แต่ก็ไม่ได้มาจากสายเลือดเดียวกันอยู่ดี  บวกกับสิ่งที่ฝูหรงบอกเล่าต่อจากนั้น  ยิ่งทำให้ผมไม่ไว้ใจญาติผู้พี่แต่เพียงในนามคนนี้เท่าไหร่

“ส่วนคอนโดนี้ก็เป็นของแพทริค  ตอนที่ฝูหรงเลือกที่จะกลับมาอยู่ฮ่องกงหลังรับปริญญา  แพทริคก็ตามมาส่งและซื้อคอนโดนี้ให้อยู่  ถ้าต้องย้ายฝูหรงก็อยากจะคุยกับแพทริคก่อน  ไม่อยากให้คนที่หวังดีกับเราต้องเป็นห่วง...พอลเข้าใจใช่มั้ย”  ผมที่กำลังสูดลมหายใจช้าๆ  เพื่อข่มความไม่พอใจที่กำลังก่อตัวขึ้นในอก  ต้องฝืนคลี่ยิ้มให้เจ้าของดวงตาแป๋วแหววที่มีร่องรอยแวววาวของหยาดน้ำตา  ยามที่เจ้าของมันเงยหน้าขึ้นส่งสายตาขอความเห็นมาให้  ก่อนผมจะไล้ปลายนิ้วแผ่วเบาผ่านผิวใต้ตาช้ำๆ

“พอลจะพยายามเข้าใจนะฝูหรง...อย่าทำหน้าแบบนั้น...เฮ้อออ  ฝูหรงก็ต้องเข้าใจพอลนะ  เพราะเท่าที่ฟังมาทั้งหมด  ญาติคนละสายเลือดคนนี้ดูจะเป็นห่วงกระต่ายน้อยของพอลมากไปหน่อย  แต่เอาไว้ก่อนเถอะครับ  เพราะสิ่งที่พอลอยากรู้มากกว่าเรื่องนายแพทริคอะไรนี่คือ  ป้าไถ่อี้เป็นอย่างไรบ้าง  ลุงเขยของฝูหรงดูแลท่านดีมั้ย...เฮ้!  เป็นอะไร  ร้องทำไมครับ” 

สิ้นคำถามของผมนั้น  อยู่ๆฝูหรงก็น้ำตาไหลแต่ไม่มีเสียงร้องให้ได้ยิน  ผิดกลับเมื่อครู่ที่ออกแนวตัดพ้อเสียใจ  และการหลั่งน้ำตาครั้งนี้จะออกแนวเศร้าโศกซะมากกว่า  แต่ไม่ว่าอย่างไรปฏิกิริยาของคนรักก็ทำให้ผมตกใจไม่ต่างกัน  ซึ่งคำตอบต่อมาของฝูหรง  ทำให้ผมเข้าใจในอาการของคนรักได้อย่างแท้จริง  ก็ใครเล่าจะไม่เศร้าเสียใจกับการจากไปของญาติสนิททางสายเลือดเพียงคนเดียวที่มี

ฝูหรงเล่าว่าป้าไถ่อี้เสียชีวิตลงเมื่อสองปีก่อน  ก่อนที่ฝูหรงจะเรียนจบแค่ปีเดียว  ด้วยโรคร้ายที่ไม่อาจรักษาได้  การจากไปของญาติสนิทเพียงคนเดียวทำให้ฝูหรงเศร้าเสียใจมาก  เพราะไม่ได้เป็นประสบการณ์การสูญเสียแบบไม่ทันตั้งตัวครั้งแรกของฝูหรง  แต่การเสียป้าไถ่อี้ไปก็ทำให้ฝูหรงได้รู้ว่า  คนที่ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันก็มีความรักและความหวังดีอย่างแท้จริงให้กันได้  เพราะลุงเขยที่เจ้าตัวเรียกว่าอังเคิลโลแกนได้ดูแลหลานนอกไส้อย่างดี  ไม่ต่างจากลูกชายตัวเองอย่างนายแพทริค  และผมก็ได้คำตอบในสิ่งที่ตัวเองสงสัย  เรื่องทรัพย์สินจำนวนมากของฝูหรง 

หลังจากป้าไถ่อี้เสียชีวิตนั้น  ลุงเขยได้ยกสินสมรสที่ป้าไถ่อี้สมควรจะได้ให้แก่หลานชายเพียงคนเดียว  ทำให้ฝูหรงกลายเป็นเศรษฐีน้อยๆไปโดยปริยาย  ผมจึงอดถามไม่ได้ว่าลุงเขยของเจ้าตัวนั้นมีกิจการอะไร  ถึงยกสินสมรสจำนวนไม่น้อยให้หลานชายนอกไส้ได้มากขนาดนั้น

“อังเคิลโลแกนเป็นศิลปินที่ค่อนข้างมีชื่อในนิวยอร์ก  และมีแกลลอรี่แสดงภาพวาดของตัวเองด้วย  ป้าไถ่อี้ได้เจออังเคิลครั้งแรกก็ในแกลลอรี่ของอังเคิลนั่นแหละ  เป็นรักแรกพบ  เจอปุ๊บแต่งปั๊บ  แต่เสียดายที่ทั้งคู่ไม่ได้ใช้ชีวิตด้วยกันนานกว่านี้”  ผมลูบหัวปลอบกระต่ายน้อยตากลมที่เสียงเริ่มสั่นในประโยคสุดท้าย

“แต่ยังดีนะกระต่ายน้อยที่ป้าไถ่อี้ได้เจอคนที่ท่านรักและรักท่านอย่างจริงใจ  แม้จะมีเวลาร่วมกันไม่มากก็ตาม  เพราะอะไรรู้มั้ย...มีน้อยคนนะที่จะหาคู่แท้จนเจอ  และคู่แท้ที่หากันเจอ  หนึ่งในนั้นคือคู่ของเราไงครับ”  หลังจากผมแตะจูบเข้าที่หน้าผากมน  พร้อมระบายยิ้มอ่อนโยนส่งกำลังใจไปให้นั้น

ฝูหรงที่มีน้ำตาคลอหน่วยตา  แก้มใสกลับค่อยๆขึ้นสีระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู  และจ้องตาผมไม่กระพริบ  ซึ่งกิริยาที่ทำให้ความอดทนของผมในค่ำคืนนี้หมดลง  คือแววตาหวานๆที่เคลื่อนลงต่ำมาจับจ้องยังริมฝีปากที่กำลังยกยิ้มของผม  กระต่ายน้อยไม่พูดผมก็รู้ว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่  ‘ชักแก่แดดใหญ่แล้วนะเนี่ย’ 

ผมก็ปล่อยให้ฝูหรงจ้องไป  ก่อนจะแกล้งเลียริมฝีปากช้าๆ  ทำเอาตากลมๆยิ่งเบิกกว้าง  และคงนึกรู้ว่าตัวเองเผลอแสดงความต้องการออกมาให้ผมรู้  ฝูหรงเหลือบตาตื่นๆขึ้นมองผมนิด  และพลิกหน้าเมินหลบไปทางอื่น  ผมจึงจับคางมนให้หันกลับมา

“ไม่ต้องอายกระต่ายน้อย  เพราะพอลก็อยากจูบฝูหรงเหมือนกัน  ความจริงอยากได้มากกว่าจูบ...ได้มั้ย  ให้พอลรักฝูหรงได้มั้ยครับ” 

แม้ไม่มีเสียงตอบรับจากกระต่ายน้อยใต้ร่าง  แต่อาการหลับตาพริ้มพร้อมวงแขนที่โอบรอบคอ  ยามที่ผมเคลื่อนใบหน้าลงต่ำเพื่อประทับจูบนั้น  แปลความได้อย่างเดียวว่ากระต่ายน้อยยินยอมพร้อมใจ  ให้สิงห์เจ้าป่าเยี่ยงผมได้เชยชม  ซึ่งเนื้อกระต่ายก็ยังหวานไม่แพ้ครั้งแรกที่ผมได้ชิม  แถมดูเหมือนว่ายิ่งกินเท่าไหร่ผมก็ยิ่งติดใจไม่รู้เบื่อ  ทั้งจากสัมผัสเนียนลื่นของผิวกายยามฝ่ามือวาดผ่าน  ทั้งจากเสียงครางหวานๆผสมการออดอ้อนดังต่อเนื่องที่ลอยมาเข้าหู  สำคัญที่ความอบอุ่นกระชับแน่นยามผมขับเคลื่อนส่งผ่านความสุขให้แก่เรา  เรียกได้ว่ากระต่ายน้อยน่ารักคนนี้ทำให้สิงห์เจ้าป่าเยี่ยงผมยอมสยบให้ทั้งตัวและหัวใจ

กว่าค่ำคืนแสนหวานของเราจะผ่านพ้น  ทั้งผมและฝูหรงก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด  แต่กลับสร้างความผูกพันที่แน่นแฟ้นขึ้น  พร้อมก่อเกิดความสุขเปี่ยมล้นไปทั้งกายและใจของเราทั้งคู่

.........................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

อุต๊ะ!!  คุยเรื่องอดีตกันอยู่ดีๆ  ทำไมถึงจบด้วยเรื่องบนเตียงได้ล่ะเนี่ย
และดูเหมือนว่าครั้งนี้กระต่ายน้อยจะเริ่มก่อนซะด้วยสิ   :laugh:
ตอนนี้และตอนที่ผ่านๆมา  ใครพอจะรู้บ้างว่าตัวป่วนของเรื่องมีกี่คน
ลองนับเล่นๆกันดูนะคะ  เพราะทุกตัวป่วนจะทยอยมาสร้างเรื่องยุ่งๆ
ให้คู่นี้กันค่ะ  หากหวานอย่างเดียว  เดี๋ยวจะไม่สมกับชื่อเรื่อง
แต่ก็เอาแค่กรุบกริบพอมีรสชาติล่ะน้า

ตอนหน้าตัวป่วนเบอร์หนึ่งจะมาสร้างสีสันแก่คู่นี้แล้วนะคะ  จะเป็นใคร
และมารูปแบบไหน  ต้องติดตามในวันอังคารค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 24-07-2014 13:37:49
แล้วเรื่อง 5 ปีที่ฝูหรงหายไปกระจ่าง  แต่ไม่รู้ว่าแพทริคจะคิดกับฝูหรงแบบไหน  แต่ถ้าพอลจะป้องกันไว้ก่อน แนะนำว่าหาคู่ให้แพทริคโดยด่วน ไหนๆ แพทริคก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับฝูหรง  พอลก็แนะนำลูกพี่ลูกน้องจอมป่วนนั่นให้แพทริคไปเลย

ตอนแรกกำลังซึ้ง  :o8: แต่ตอนหลังไหงออกมาหื่นได้ :z1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 24-07-2014 14:40:23
แหม เคลียร์ใจกันบนเตียงก็ต้องจบลงแบบนี้ละนะเขินนนนน~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 24-07-2014 15:10:46
คุยไปคุยมา ลงเอยที่เตียงนอนอีกแล้ว

55555
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 24-07-2014 15:44:49
สงสารฝูหรง ชีวิตผ่านอะไรมาเยอะแยะเลย
แต่ทำไมมาจบที่เตียงละเนี่ย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 24-07-2014 16:18:23
ก็คุยกันบนเตียง ก็ต่อกันบนเตียง :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 24-07-2014 16:39:39
ตัวป่วนที่ว่านี่ 3 คนหรือเปล่า ไม่ใช่ไม่เป็นไรเนอะ 5555

เขาให้ปลอบใจกระต่ายน้อยนะพอล
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 24-07-2014 18:50:04
 :hao6: พอลหาทางวกเข้าเรื่องเอาเปรียบกระต่ายน้อยทุกที
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 24-07-2014 19:19:48
อยากรู้จักแพทริคแล้วสิ อิอิ >.<
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 24-07-2014 20:13:48
คุยมาดีๆก็หลอกปล้ำเค้าซะงั้นอ่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: คุณขนมหวาน ที่ 24-07-2014 20:30:22
ทั้งพอลทั้งฟูหรงน่ารักจริง ๆ ไม่ไหวแล้ว  :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 25-07-2014 00:40:07
ฝูหรงดูเด็กมากอ่ะตอนนี้!!!  :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 25-07-2014 07:53:12
ฝูหรงน่ารักกกกก กอด
ปัญหาจะวิ่งมาหาพอลแล้ว
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 25-07-2014 09:09:21
ฝูหรงน่ารักน่าเอ็นดู กอดดดดด :กอด1:

รอติดตามใครนะจะมาป่วน
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 25-07-2014 09:10:58
โจวพอล เตรียมใจได้เลย ตัวป่วนจะมาเพิ่มอีกตัวแล้ว

แถม ยังเป็นตัวป่วนที่ฝูหรงติดจะเกรงใจซะด้วย  :laugh:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 25-07-2014 11:49:36
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า ทุกเรื่องเคลียร์ได้บนเตียง :laugh:
ในที่สุดก็ได้รู้ที่มาที่ไปของความร่ำรวยของฝูหรง
ต้องยกให้เป็นบุคคลที่โชคดีที่สุดคนหนึ่งเลยนะเนี่ย
แต่ความโชคดีนั้นก็ต้องแลกมากับการสูญเสียของรักเหมือนกันนะ
เอาเป็นว่าต่อจากนี้ไปก็ใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองต้องการเถอะ
ผ่านเรื่องร้ายมามาก ถึงเวลาที่จะมีความสุขเสียที
ก่อนอื่นต้องเคลียร์อะไรๆหลายๆเรื่องซะก่อนล่ะ
เห็นว่ามีตัวป่วนหลายคนซะด้วย เอ้า! สู้ๆนะทั้งสองคน
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re:{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ}ฝูหรง&พอลCH.12"อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-07-2014 19:46:07
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 25-07-2014 20:36:31
อ่านตอนนี้ แล้วหลงรักฟูหรงขึ้นอีกเยอะเลย  :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 26-07-2014 00:23:02
มีความรู้สึกว่าแพทริคต้องเป็นหนึ่งในตัวป่วนแน่เลย  :hao4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 26-07-2014 10:23:39
เข้ามาเจอตอนใหม่พอดีเลย  :mew1:

ฝูหร่งน่ารักมากๆ
พอลเสียเวลากันมามากแล้วดูแลกันดีๆน๊า

ขอบคุณผู้เขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 26-07-2014 15:50:35
 :-[
ฝูหรงน่ารักน่าหยิกมากเลยอะ
ขอบอกกกกกกก
 :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 26-07-2014 18:02:33
กระต่ายน้อยเริ่มก่อน  :o8:
ท่าทางจะมีตัวป่วนหลายคน
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 26-07-2014 21:13:57
ฝูหรงน่ารักเกินไปแล้ว :ling1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 26-07-2014 22:43:58
นายน้อยแน่ๆ 5555....ใกล้ตัว เริ่มคนแรกเลย หรือไม่ก็แพทริก อิๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.12 "อดีตในนิวยอร์ก" P.11 (24/7/57) UP!
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 29-07-2014 10:20:01
ตัวป่วนในอดีตเริ่มมาปรากฎตัวที่ละคนๆ :hao5: :hao5:
งานนี้วุ่นแน่ๆ :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 29-07-2014 12:43:00
ตอนที่ 13

เจินฝูหรง

   “ตั้งใจว่าเร็วๆนี้จะย้าย...ไม่ๆ  พอลไม่ได้บังคับฝูหรง...อืม  ฝูหรงอยากอยู่กับพอล.......แพทริคไม่ว่าอะไรใช่มั้ย  แพทริค  แพทริค!  ยังอยู่รึเปล่า”  ผมเรียกชื่อคนปลายสายซ้ำๆ  เมื่ออยู่ๆญาติผู้พี่ก็เงียบไป 

ในที่สุดผมก็คลี่ยิ้มออกจนได้  ด้วยได้ยินคำขอโทษที่ดังมาตามสาย  จากน้ำเสียงอ่อนแรงเหมือนคนที่กำลังงัวเงียยังไม่ตื่นเต็มตาดีนัก  ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าเวลานี้เป็นเวลาพักผ่อนของแพทริค  ผู้ที่อยู่ในประเทศอีกฝากฝั่งของโลก 

“โทษที  หาววว~...เรื่องย้ายออกก็ตามใจฝูหรง  แต่ถ้าย้ายไปแล้ว  นายพอลอะไรนั่นมันทำตัวไม่ดีกับยูเมื่อไหร่  ให้โทรมาบอกไอเลยนะ  เดี๋ยวจะบินไปจัดการให้!” 

ผมถึงกลับหลุดหัวเราะคลอเบาๆไปกับข้อความที่ได้ยิน  ด้วยนึกถึงหน้าคนพูดออก  แม้จะไม่ได้อยู่ต่อหน้าก็ตาม  พาลให้นึกถึงใบหน้าของอีกคนที่อยู่ในบทสนทนาด้วย  เพราะทั้งพอลและแพทริคมีนิสัยบางอย่างที่คล้ายกัน  ซึ่งนิสัยที่ว่าคือมักจะชอบโวยวายคิดมากไปเองคนเดียว  พร้อมกับมีนิสัยที่ชอบหาเรื่องเก่งเป็นที่หนึ่ง  แต่ก็เป็นเฉพาะกับเรื่องของผมเท่านั้น  เพราะเท่าที่สังเกตมา  หากเป็นเรื่องของคนอื่นหรือแม้แต่เรื่องของตัวเอง  ทั้งคู่ดูออกจะเฉื่อยชามากไปเสียด้วยซ้ำ  แม้ทั้งคู่จะมีนิสัยส่วนนั้นคล้ายกัน  แต่สำหรับผมคนทั้งคู่อยู่ในสถานะที่แตกต่างกัน  คนหนึ่งคือพี่ชายที่ผมเคารพรัก  ส่วนอีกคนคือคนที่ผมรักสุดหัวใจ

การที่ผมโทรหาแพทริคในครั้งนี้  นอกจากผมจะขออนุญาตย้ายออกแล้ว  ยังเป็นการบอกเล่าความเป็นไปในรอบอาทิตย์ให้คนที่ผมนับถือเป็นญาติคนนี้ได้รับรู้ด้วย  ส่วนเรื่องอดีตของผมกับพอลนั้น  แพทริครู้แบบฉาบฉวย  ด้วยรู้เพียงแค่เราเป็นเพื่อนเก่าที่ผิดใจกัน  ก่อนจะแยกอยู่กันคนละประเทศ  ทั้งๆที่ไม่ได้ปรับความเข้าใจกัน  แต่ด้วยเรื่องอะไรผมนั้นไม่ได้เล่าให้รับรู้  ซึ่งแพทริคก็เพิ่งได้รู้จากผมนี่แหละ  ว่าผมกับพอลได้กลับมาเจอกันอีกครั้งและตกลงคบกัน  พร้อมกับที่ผมขออนุญาตไปอยู่บ้านพอล  แรกรู้แพทริคเงียบไปนาน  ก่อนจะเปิดปากถามว่าผมจะย้ายเมื่อไหร่  ตามที่คุณได้ยินไปก่อนหน้า

“คิกๆ  ไม่ต้องถึงมือแพทริคหรอก  ถ้ามีช่วงเวลาแบบนั้นจริง  ฝูหรงจัดการพอลเอง...ฝูหรงขอบคุณแพทริคมากที่เป็นห่วง  และขอบคุณที่ดูแลฝูหรงเหมือนน้องชายมาตลอด  ฝูหรงสัญญาหากมีอะไรที่เกินกำลัง  หรือมีเรื่องทุกข์แสนสาหัส  ฝูหรงจะนึกถึงพี่ชายคนนี้เป็นคนแรก  ขอบคุณนะแพทริค”  ผมนึกขอบคุณแพทริคตามที่ปากพูดจริงๆ  เพราะหากผมไม่มีพี่ชายคนนี้คอยดูแล  ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นเจินฝูหรงได้อย่างทุกวันนี้มั้ย

แพทริคเงียบไปพักใหญ่  ก่อนจะถอนใจแผ่วเบาแต่ยาวนานในความรู้สึกของผม  จนผมเองคลายยิ้มลงอย่างไม่รู้ตัว  แต่ก่อนที่ผมจะกังวลใจไปมากกว่านี้  ด้วยความไม่แน่ใจในอารมณ์ของญาติผู้พี่ขณะนี้นัก  แต่เสียงนุ่มๆที่ดังรอดออกมา  กลับทำให้ความกังวลที่ผมมีค่อยๆสลายตัวไป  ตามมาด้วยรู้สึกอุ่นวาบขึ้นในอก

“ต้องขอบคุณอะไรกัน  ในเมื่อสิ่งที่ไอทำทุกอย่างให้ยู  ไอไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรทั้งนั้น  ตอนนี้ถ้าฝูหรงทำอะไรแล้วมีความสุขก็ขอให้ทำไปเถอะ  เพราะไอจะยินดีมาก  และขอให้จำคำพูดตัวเองไว้  ว่าถ้าทุกข์เมื่อไหร่  ก็ขอให้นึกถึงไอเป็นคนแรก...แค่นี้ไอก็พอใจแล้ว”

จะหาใครเหมือนแพทริคได้อีก  คนที่มีความหวังดีอย่างจริงใจให้ผมโดยไม่หวังผลตอบแทน  ญาติแท้ๆก็ไม่ใช่  เพื่อนสนิทยิ่งแล้วใหญ่เพราะผมไม่เคยมี  ไม่นับคนรักแสนดีที่ผมมีแล้วนั้น  ก็มีครอบครัว  ‘คอนเนลสัน’  ทั้งอังเคิลโลแกนและแพทริคนี่แหละที่ดีกับผม 

นาทีนี้ผมถึงกลับยิ้มทั้งน้ำตา  และได้แต่กระซิบคำขอบคุณแผ่วเบาผ่านสายไปเท่านั้น  แพทริคเองนิ่งไปนาน  ก่อนจะกลั้วหัวเราะหยอกเย้ามาตามสาย  และย้ำให้ผมดูแลตัวเองให้ดี  จบด้วยการบ่นงึมงำเรื่องที่ผมกวนเวลานอน  แต่ก็เป็นไปแบบไม่จริงจังนัก  ฟังดูเหมือนเป็นการหยอกล้อเสียมากกว่า  ซึ่งก็ทำให้ผมยิ้มออก  ก่อนแพทริคจะขอวางสายไป 

ผมที่กำลังอมยิ้มหลับตาพริ้มรับลมอยู่ที่ระเบียงหลังห้องด้วยความโล่งใจนั้น  ก็ต้องฉีกยิ้มกว้าง  เมื่อเสียงโทรศัพท์ที่ตั้งไว้เฉพาะใครบางคนดังขึ้น  ก่อนผมจะเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ  เพื่อก้มมองชื่อบนหน้าจออย่าง  ‘ไอ้ลูกครึ่งปากเสีย’  ห่างกันไปไม่ถึงสองชั่วโมงมีอะไรให้ต้องโทรหากันนะ 

ผมแกล้งอ้อยอิ่งไม่ยอมรับสาย  และถึงกลับหลุดหัวเราะเบาๆออกมา  ยามจินตนาการถึงใบหน้าบูดบึ้งไม่ได้ดังใจของคนปลายสาย  แต่ก่อนที่ลูกครึ่งปากเสียของผมจะหงุดหงิดไปมากกว่านี้  จนพาลโวยวายเข้าให้  ผมตัดสินใจกดรับสาย  ซึ่งผลก็ไม่แตกต่างจากที่ผมคาดการณ์ไว้เท่าไหร่นัก

“ฝูหรง!  ทำไมเพิ่งรับสายครับ  ไม่สบายอีกรึเปล่า  ไหวไหม  เดี๋ยวพอลให้เด็กที่บ้านเอาซุปเอายาไปให้ดีกว่า  รึถ้าไม่ไหว  ให้พอลเรียกรถพยาบาลให้เอามั้ย  โถ่  ที่รัก  พอลขอโทษที่ต้องออกมากะทันหัน  พอล...” 

ผมเป็นคนฟังยังรู้สึกหายใจไม่ทันเลย  ไอ้คนพูดนี่ช่างมีความสามารถเฉพาะตัวได้อย่างเหลือเชื่อ  เล่นพ่นออกมาเป็นชุด  ไม่ยอมเว้นช่องว่างให้ผมได้แทรกเลย  แถมข้อความที่ได้ยินก็ชักจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้วด้วย  ผมจึงตัดสินใจกระแทกเสียงใส่โทรศัพท์  เพื่อเรียกสติไอ้ลูกครึ่งขี้ตื่นกลับมา

“พอลหยุด!”  ได้ผลครับ  อีกฝั่งของปลายสายเงียบลงแล้ว  คงตกใจเสียงผมไม่น้อยล่ะ

หลังจากนั้นผมก็รีบบอกว่าผมนั้นไม่เป็นไร  แม้ความจริงจะยังรู้สึกตึงๆขัดๆสะโพก  เวลาเดินเวลาลุกนั่งอยู่บ้าง  แต่ไม่ได้ถึงกับไข้ขึ้นเหมือนครั้งแรกที่เรามีอะไรกันอย่างที่พอลกังวล  ก่อนผมจะแอบปดว่าที่รับช้าเพราะอยู่ในห้องน้ำ  ด้วยไม่กล้าพูดความจริงออกไปว่าผมอยากแกล้งเจ้าตัวเล่นนั้น  เพราะอาจทำให้ราชสีห์ของผมพิโรธเอาได้  แถมผมยังเริ่มรู้สึกผิดแล้วด้วย  ที่เอาความเป็นห่วงของคนรักมาล้อเล่น  ซึ่งพอลพอได้ฟังก็ถึงกลับถอนใจยาวเหยียด  ก่อนจะบ่นพึมพำในทำนองว่าไม่น่ามีงานด่วนให้เจ้าตัวต้องออกมาเคลียร์เองเลย  ไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องทิ้งผมให้อยู่คนเดียวแล้ว

คิดถึงช่วงเช้าที่ผ่านมาผมก็ได้แต่ฉีกยิ้ม  ยามรู้สึกตัวตื่นผมรับรู้ถึงอ้อมกอดอบอุ่นเป็นสิ่งแรก  ก่อนจะได้สบตาคมหวานที่จ้องมองผมอยู่ก่อนแล้ว  ดวงตาคู่นั้นสื่อชัดว่าเจ้าของรู้สึกเช่นไร  ด้วยเปล่งประกายทั้งรักและห่วงหา  ทำเอาผมหน้าร้อนแทบระเบิดและพาลทำอะไรไม่ถูก  นอกจากขยับตัวซุกแผ่นอกกว้างมากขึ้น  และเลือกที่จะฝังใบหน้าไหม้ๆของตัวเองไว้ตรงนั้น 

ไม่เพียงแต่ผมจะได้อ้อมกอดอุ่นๆเป็นแหล่งคุ้มภัย  แต่ยังมีคำรักแผ่วหวานข้างหูให้จั๊กจี้เล่น  ตามมาด้วยสัมผัสอุ่นชื้นของริมฝีปากที่ลาดไหล่  พาลให้ขนลุกไปทั่วร่าง  แต่ก่อนที่เราจะเลยเถิดไปกับยามเช้าที่อบอวลไปด้วยไอรักนั้น  เสียงโทรศัพท์ของพอลก็ดังขึ้น  เป็นเหตุให้เจ้าตัวต้องรีบไปสะสางงาน  เรื่องการสร้างคอนโดหรูแถวเกาลูนด้วยตัวเอง 

พอลหงุดหงิดไม่น้อยที่ต้องทิ้งผมให้อยู่คนเดียว  จนผมต้องออกแรงเกลี้ยกล่อมให้เจ้าตัวได้รีบออกไปดูงาน  พร้อมย้ำว่าผมอยู่ได้เพราะผมไม่ใช่เด็กแล้ว  แถมยังอยู่คอนโดนี้คนเดียวมาร่วมปีไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง  ซึ่งพอลเองก็ยังไม่คลายความหงุดหงิดลงทั้งหมด  มีบ่นเบาๆว่าถ้าผมอยู่ที่บ้านเจ้าตัวแล้วจะไม่ห่วงผมเท่านี้  จนผมอมยิ้มขำไปกับลูกครึ่งรูปหล่อไม่รู้จักโต  ได้แต่ทำตัวเป็นเด็กเอาแต่ใจ  ใครว่าผมเด็กมาดูนิสัยโจวพอลตอนนั้นก่อนเถอะครับ  ผมน่ะชิดซ้ายเลยล่ะ 

สุดท้ายผมจึงต้องหลอกล่อด้วยว่าจะรีบโทรหาแพทริค  เพื่อขอย้ายไปอยู่บ้านพอลให้เร็วที่สุด  เจ้าตัวถึงกลับฉีกยิ้มดีใจเป็นเด็กๆ  และยอมออกไปดูงานแบบไม่งอแง  แต่มีย้ำให้ผมโทรหาหากรู้สึกไม่สบายตัว  ก่อนจะจับผมจูบลาที่เล่นเอาผมขาอ่อนแทบขาดอากาศตาย  แต่ผมยังไม่ทันโทรหาลูกครึ่งขี้ห่วงกลับเป็นฝ่ายโทรมาเสียเอง

“ในเมื่อนายแพทริคนั่นรับรู้แล้ว  ตกลงฝูหรงย้ายของวันนี้เลยนะ”  น้ำเสียงไม่มีเก็บอาการว่ากำลังดีใจสักนิด

“ขอเวลาฝูหรงเก็บของบ้างเถอะพอล  แต่บอกไว้ก่อนนะว่ายังไงฝูหรงก็ขอกลับมาดูแลที่นี่บ้าง...ไม่ต้องห่วง  พอลไปทำงานเถอะ...ครับแล้วเจอกัน”  ผมได้แต่ส่ายหัวให้กับลูกครึ่งช่างเอาแต่ใจ 

นี่ถ้าผมไม่ยื่นข้อเสนอไว้ก่อน  คงได้งอแงเอากับผมทีหลัง  หากว่าผมขอกลับมาดูแลที่นี่บ้าง  ด้วยไม่อยากทิ้งร้างให้ห้องดูโทรม  สำคัญที่ผมอาจจะได้มาอาศัยนอนยามมีงานที่โรงแรมต้องเคลียร์  เพราะต้องอยู่ที่ทำงานดึกดื่นไม่อยากเสียเวลาไปกับการเดินทาง  แม้งานลักษณะนี้นานๆครั้งจะมีก็ตาม  ด้วยความจริงแล้วจากคอนโดนี้ระยะทางใกล้โรงแรมที่ผมทำงาน  มากกว่าคฤหาสน์ตระกูลโจวอยู่มาก  แต่ในเมื่อผมเลือกที่จะทำตามหัวใจ  เรื่องการเดินทางจึงเป็นเรื่องรอง

“Rrr  Rrr...ใครมากันนะ  ไม่น่าจะใช่พอล”  หลังจากมีสัญญาณหน้าประตูดังขึ้น  ผมที่กำลังวุ่นกับการเก็บของทำความสะอาดห้อง  ก็ต้องผละจากงานตรงหน้าเพื่อมาเปิดประตู 

พลางฉงนใจว่าใครเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญของวันนี้  เพราะระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่ไม่น่าหละหลวม  จนปล่อยให้คนแปลกหน้าขึ้นมาถึงหน้าห้องผู้อาศัยได้  บวกกับผมไม่ได้นัดใครไว้  ยิ่งคนที่ทำงานมีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าผมพักอยู่คอนโดหรูแห่งนี้  ที่สำคัญไม่มีทางที่จะเป็นพอลอย่างแน่นอน  ด้วยไม่กี่นาทีก่อนลูกครึ่งรูปหล่อของผม  เพิ่งโทรมารายงานตัวว่าเพิ่งเสร็จงาน  และกำลังขับรถออกมาจากฝั่งเกาลูก  อย่างน้อยก็น่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสี่สิบนาทีถึงจะมาถึงที่นี่ได้ 

ผมยิ่งแปลกใจกับภาพใบหน้าด้านข้างของผู้หญิงใส่แว่นดำอันใหญ่  ผู้ที่มีเส้นผมดำสนิทเหยียดตรงถึงกลางหลัง  ที่กำลังยืนหันข้างให้กับกล้องหน้าประตูอยู่  ด้วยแน่ใจเลยว่าผมไม่เคยรู้จักใครที่มีรูปลักษณ์แบบนี้มาก่อน  ผมจึงกดปุ่มไมโครโฟนข้างจอภาพ  เพื่อสอบถามว่าเธอเป็นใครและมาหาใครที่นี่ 

ยามที่เจ้าของเส้นผมดำสนิทผินหน้ากลับมาทางประตูอย่างช้าๆ  ก่อนจะถอดแว่นออกจากใบหน้านั้น  ผมได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อและเผลอกลั้นลมหายใจอย่างไม่รู้ตัว  เมื่อได้เห็นใบหน้าสวยงามไร้ที่ติ  ปากนิดจมูกหน่อยทุกอย่างลงตัวไปหมด  เปรียบดังตุ๊กตากระเบื้องเคลือบเนื้อดีชัดตา  โดยเฉพาะดวงตากลมโตคู่นั้นที่จ้องมายังกล้องหน้าประตูไม่กระพริบ

“เจินฝูหรง...ฉันมาหาเจินฝูหรง”  ขนทั่วร่างของผมลุกชัน  สาเหตุมาจากเจ้าของน้ำเสียงเล็กๆแฝงความเอาแต่ใจนี้  และมาจากความทรงจำเก่าๆระหว่างเรา

‘ออกไปจากชีวิตของพอลซะ  พอลเป็นของฉัน...ดีเท่าไหร่แล้วที่ฉันให้นายยืมควงชั่วคราว  แต่ตอนนี้ฉันที่เป็นเจ้าของตัวจริง  ขอทวงคนของตัวเองคืน’

“ธะ...เธอคนนั้น  จินนี่!”  ผมยอมรับว่าทั้งแปลกใจและตกใจมาก  ด้วยไม่คิดว่าจะได้เจอเธอคนนี้อีกครั้ง  เร็วเท่าวันนี้มาก่อน 

เมื่อผมตกปากรับคำตกลงเป็นแฟนกับพอล  ผมเคยเตรียมใจไว้แล้วว่าอย่างไรซะ  คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเผชิญหน้ากับเธอ  แต่มันต้องไม่ใช่ในสภาพนี้สิ  สภาพที่ผมต้องเป็นฝ่ายอธิบายเรื่องของผมกับพอลให้เธอรับรู้เพียงลำพัง  ด้วยมันช่างไม่มีน้ำหนัก  พาลให้เธอคิดว่าผมแอบอ้างและหวังเกาะญาติของเธอ  แต่ผมจะปล่อยให้เธอยืนอยู่แบบนั้นไม่ได้  มันเท่ากับว่าผมได้กลายเป็นคนคิดมากเกินเหตุ  ทั้งๆที่ความจริงยังไม่ทันเกิด  และกลายเป็นคนขี้ขลาดที่ไม่กล้าเผชิญความจริงในสายตาคนอื่นเอาได้  ผมจึงตัดสินใจเปิดประตู

ยามที่เราได้สบตากัน  รอยยิ้มหวานอาบน้ำผึ้งถูกส่งมาให้ผมเป็นสิ่งแรก  ก่อนผมจะเบี่ยงตัวหลบ  เพื่อให้เธอเดินเข้ามาในห้อง  ร่างอรชรในชุดกี่เพ้าสีเขียวมรกตพอดีตัว  ผู้ที่มีส่วนสูงน้อยกว่าผมไม่มากนัก  ยามที่เธอเดินผ่านตัวผมนั้น  กลับใช้เพียงหางตาเหลือบมองกัน  พร้อมรอยยิ้มหวานบาดตาที่เธอบรรจงปั้นแต่งให้ผม  ก่อนรอยยิ้มร้ายๆนั่นจะเลือนหายไปจากใบหน้ากระจ่างใสทันที  ยามที่เธอสะบัดหน้ากลับไป  เหมือนว่ารอยยิ้มนั้นไม่เคยมีมาก่อน 

ผมมองตามเจ้าของแผ่นหลังบางที่เยื้องกายก้าวเดินอย่างเชื่องช้า  มาดดุจนางพญาหงส์ขนสวย  พร้อมด้วยท่วงท่าทิ้งปลายนิ้วลากผ่านส่วนต่างๆของห้องที่เธอเดินผ่าน  ไม่ว่าจะเป็นขอบเคาน์เตอร์  พนักโซฟา  จอทีวี  หรือแม้แต่ตู้หนังสือของผม  เหมือนว่าเธอกำลังประเมินสภาพห้องและข้าวของเครื่องใช้ของผมอยู่ 

แม้ท่าทางจะดูเหมือนนางหงส์ที่กำลังแหวกว่ายสำรวจอยู่ในสระมรกตด้วยท่วงท่าสง่างาม  แต่ในความรู้สึกผมเหมือนว่าตัวเองกำลังโดนดูถูก  อาจจะเป็นเพราะน้ำเสียงหึหะในคอบางจังหวะที่เธอหยุดดูข้าวของของผม  หรือแม้แต่อาการแสยะยิ้มเยาะใส่ตาผม  ยามที่ผมไปดึงกรอบรูปที่เคยวางบนตู้โชว์คืนจากมือเธอ  ก่อนร่างบอบบางจะทิ้งตัวลงนั่งยังโซฟาหน้าทีวีตัวโปรดของผม  พร้อมวางท่าไขว้ขากุมมือทั้งคู่บนหัวเข่าด้วยแผ่นหลังที่เหยียดตรง  โชว์เรียวขาขาวด้านข้างจากรอยแหวกของกี่เพ้าได้อย่างน่าดู  ก่อนเธอจะช้อนสายตาจับผิดขึ้นมองผมอย่างช้าๆ

“ไม่ได้เจอกันนาน  แต่ท่าทางนายก็น่าจะสบายดีนะ...ดูเหมือนจะสบายกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ  ทั้งคอนโดหรูใจกลางฮ่องกง  ทั้งข้าวของเครื่องใช้หรูหราฟู่ฟ่าพวกนี้  ไม่น่าเชื่อว่าพนักงานกินเงินเดือนธรรมดาๆจะมีปัญญามีทรัพย์สินพวกนี้ได้  ในเมื่อมีขนาดนี้  แล้วกลับมาหาพอลอีกทำไม!”  สิ้นเสียงกระแทกท้ายประโยค 

ผมเผลอกัดริมฝีปากตัวเอง  และบีบกรอบรูปในมือจนแน่นอย่างไม่รู้ตัว  พร้อมกับจ้องดวงตาดูถูกดูแคลนคู่ตรงหน้าไม่มีหลบ  การที่จินนี่ญาติสาวสวยของพอลมาถึงคอนโดผมได้  แสดงว่าเธอต้องมีข้อมูลความเป็นไปของผมไม่มากก็น้อย  และอาจจะรู้ตัวแล้วด้วยซ้ำ  ว่าเรื่องที่เคยแอบอ้างกับผมว่าเป็นแฟนพอลเมื่อห้าปีก่อนนั้น  ผมได้รู้ความจริงหมดแล้ว  เพียงแต่การมาครั้งนี้อาจจะมีวัตถุประสงค์เดิมๆ  อย่างการไล่ผมออกไปจากชีวิตของญาติตัวเอง  สำหรับผมก็รู้ความเป็นไปถึงนิสัยขี้หวงบรรดาญาติผู้ชายรอบตัวของเธอมาจากพอลเช่นกัน

“เรื่องนี้คงต้องให้คุณไปถามเอาจากพอลเอง  เพราะไม่ใช่ผมที่เป็นฝ่ายขอกลับมา  แต่เป็นเพราะญาติของคุณต่างหากที่ขอคืนดีกับผม!”  จินนี่มีอาการชะงักไปชั่วแวบ  คงไม่คิดว่าผมจะสวนเธอออกไปทันใจด้วยน้ำเสียงแข็งๆแบบนี้ 

จินนี่คงจำได้เพียงเจินฝูหรงคนเก่า  ที่ได้แต่ก้มหน้ารับฟังคำหลอกลวงและคำยุแยง  ด้วยใบหน้าอาบน้ำตา  ที่สำคัญเธอคงแน่ใจแล้วว่า  ผมรู้ถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริง  ระหว่างเธอกับพอลว่าเป็นเพียงญาติกัน 

“หึ!  เปลี่ยนไปจากเมื่อห้าปีก่อนเยอะเลยนะ  โดยเฉพาะปาก...แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฉันแปลกใจมากนักหรอก  เพราะคงไม่มีใครกล้าจะผยองพองขน  กล้าต่อปากต่อคำขึ้นมาได้ขนาดนี้  หากไม่รู้ตัวว่าจับลูกชายเจ้าพ่ออสังหาชื่อดังของฮ่องกงสำเร็จ  ใช่มั้ยล่ะ...และสิ่งที่ฉันจะพูดต่อไปนี้  ถึงรู้ตัวว่ามีความหวังไม่มากนัก  แต่ก็อยากให้นายคิดดูให้ดีและรับข้อเสนอจากฉันซะ”  รอยยิ้มเจ้าเล่ห์และแววตาข่มขู่  ช่างไม่เข้ากับใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักของคนที่กำลังยื่นข้อเสนอนี่เลย

แม้จะพอเดาได้ว่าจินนี่กำลังเสนออะไรให้และหวังผลอะไรจากผม  แต่ผมก็ยังอยากได้ยินกับหูตัวเอง  ผมจึงจ้องตาข่มขู่คู่ตรงหน้าไม่มีหลบ  ก่อนจะให้เธอพูดในสิ่งที่อยากพูดออกมา  พร้อมทำการบางอย่างไปด้วย  ในระหว่างที่เธอหัวเราะเสียงพลิ้วหวานบาดหู  ทำให้ไม่ทันมองว่าผมกำลังทำอะไร  เมื่อแน่ใจแล้วว่าทุกอย่างพร้อม  ผมจึงกระตุ้นให้เธอพูดสิ่งที่ต้องการออกมา

“จินนี่  ตกลงคุณต้องการอะไรจากผมกันแน่  พูดมาเลยดีกว่าอย่าเสียเวลา”  หลังคำพูดผมนั้น  ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบของใครๆก็หยุดหัวเราะเหมือนถูกกดสวิทช์  ก่อนจะยืดหลังตรงและยืนขึ้นมาประจันหน้ากับผม

“ถ้านายยอมออกไปจากชีวิตพอลอีกครั้ง  ครั้งนี้ฉันจะไม่ให้นายต้องไปมือเปล่า  แม้สิ่งที่นายจะได้ไป  อาจจะไม่มากเท่าสิ่งที่นายหวังจะได้จากพอลในอนาคตก็เถอะ  แต่อย่าลืมว่าอนาคตมักไม่แน่นอน  และเราก็ควบคุมไม่ได้ซะด้วย  หากวันดีคืนดีพอลไปเจอผู้หญิงที่เหมาะสมกับตัวเองเข้า  ซึ่งเป็นคนที่คู่ควรพร้อมจะยืนเคียงข้างพาออกหน้าออกตาได้  วันนั้นนายคงได้น้ำตาเช็ดหัวเข่า  และอาจจะไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือ  เท่าที่นายจะได้จากฉันวันนี้ก็ได้นะ...ใจจริงฉันไม่ได้เกลียดนายเลย  ออกจะเห็นใจเสียมากกว่า  ฉันกลัวว่านายต้องเป็นทุกข์เพราะพอลเอาน่ะสิ”  ทั้งคำพูดและน้ำเสียงในช่วงท้ายของจินนี่นั้น  แสดงออกถึงความเห็นใจผมอย่างสุดซึ้ง  แถมด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานบางเบาสอดคล้องไปกับสิ่งที่พูด

ผมคงคล้อยตามและยอมรับข้อเสนอแบบไม่ขอรับสิ่งตอบแทนจากเธอไปแล้ว  หากว่าครั้งนี้จะเป็นการพบกันครั้งแรกของเรา  และหากผมไม่เคยสนทนากับเธอมาก่อน  ดังนั้นคำตอบของผมคงไม่ผิดไปจากที่คุณคิดไว้อยู่แล้วครับ  แต่ขอเอาคืนเล็กๆจากนางฟ้าสองหน้าหน่อยเถอะนะ  ผู้หญิงอะไรตั้งใจทำให้ความรักของผมพังพินาศถึงสองครั้งสองครา

“คุณพูดจบแล้วใช่มั้ย...ยังไงผมต้องขอบคุณในความหวังดีที่คุณมีให้ผม  แต่ผมไม่ขอรับข้อเสนอ  เพราะผมเชื่อว่าพอลญาติของคุณไม่มีทางตีจากผมก่อนอย่างแน่นอน  ดังนั้นอะไรก็ตามที่คุณจะใช้หลอกล่อ  ผมไม่คิดสนใจ  แต่ไม่ใช่เพราะผมหวังว่าจะได้มากกว่าที่คุณเสนอหรอก  แต่ที่ผมไม่ตกหลุมพรางของคุณเหมือนเมื่อห้าปีก่อน  จนต้องยอมเดินออกจากชีวิตพอล  เป็นเพราะตอนนี้ผมมั่นใจว่าพอลรักผม  และน่าจะเห็นผมดีกว่าญาติอย่างคุณที่จ้องแต่ทำลายความรักของเรา” 

จินนี่เปลี่ยนท่าทีมายืนกอดอกและเชิดหน้าจ้องผมเขม็ง  ส่วนแววตาที่ใช้มองผมกลับนิ่งสนิท  จนผมอ่านไม่ออกว่าเธอกำลังคิดอย่างไรกับสิ่งที่ผมพูด  หากเป็นเหมือนเมื่อนาทีก่อนที่ดวงตาคู่เดียวกันนี้  ฉายแววเห็นอกเห็นใจแฝงแววเยาะหยันใส่  ผมคงได้หาคำพูดเตรียมตอบโต้การประชดประชันจากเธอเป็นแน่ 

เรายืนจ้องตากันอยู่ไม่นาน  อยู่ๆเธอก็กระตุกยิ้มน้อยๆ  ก่อนจะหรี่ตามองผมให้พอสะดุ้ง  พร้อมกับดวงตากลมที่เริ่มระยิบระยับเปล่งแสงแห่งความสนุก  ก่อนจะเดินเข้าหาผมช้าๆ  บอกเลยผมแอบกังวลอยู่ในใจว่าเธอตั้งใจเข้ามาลงไม้ลงมือใส่ผมแน่ๆ  แต่จะให้ผมที่เป็นผู้ชายตอบโต้กลับก็คงดูไม่ดีนัก  แม้ผมจะมีคนรักเป็นผู้ชาย  แต่ไม่คิดให้ใครมาต่อว่าได้ว่าเป็นผู้ชายน่าไม่อายรังแกผู้หญิง  จึงได้แต่เตรียมตั้งรับ 

ผมจ้องร่างอรชรที่กำลังก้าวเข้าหาอย่างระวัง  และผมต้องผงะเมื่อจินนี่ยื่นมือมาตรงหน้าผม  แต่ปลายนิ้วเรียวยังไม่ทันสัมผัสผิวแก้มผมสักนิด  คนที่ผมรอคอยก็เปิดประตูเข้ามา  และยังไม่ทันที่ผมจะหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับพอลเต็มตัว  ร่างผมกลับลอยติดไปกับฝ่ามือหนา  ก่อนปะทะเข้ากับแผ่นอกกว้าง

“จินนี่หยุดทำลายความรักของฉันได้แล้ว!”  ขนาดว่าผมซุกหน้าอยู่กับแผ่นอกกว้าง  ผมยังอดสะดุ้งไม่ได้กับเสียงตะคอกที่พอลใช้กับญาติสาวคนสวย

เมื่อผมเงยหน้าขึ้น  ไล่สายตามองผ่านปลายคางเขียวๆที่เต็มไปด้วยไรหนวด  จนถึงวงหน้าหล่อเหลาที่กำลังวางสีหน้าถมึงทึง  และสะดุดตาเข้ากับดวงตาคู่คม  ที่กำลังจ้องไปเบื้องหน้าเขม็ง  แถมแววตาคู่นั้นก็ไม่ธรรมดาสักนิด  เพราะมันเต็มไปด้วยแววกรุ่นโกรธอย่างที่ผมยังแอบขนลุก  และผมเชื่อว่าหากบุคคลตรงหน้าไม่ใช่ญาติสนิท  พอลคงพุ่งเข้าไปทำร้ายร่างกายแล้วอย่างแน่นอน

“หึ!  มาถึงก็ใส่ร้ายจินนี่เลยนะพอล  ไม่คิดบ้างรึไงว่าจินนี่แค่มาทักทาย”  คิดอยู่แล้วเชียวว่าแม่ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบตัวร้ายต้องไม่ยอมสิ้นฤทธิ์ง่ายๆ  เฉไฉได้อย่างหน้าตายที่สุด 

แต่ครั้งนี้เธอต้องจนต่อพยานหลักฐาน  ทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ  ด้วยสองสิ่งที่ว่าอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว!!

......................................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

เฉลยแล้วตัวป่วนความรักของพอลกับฝูหรงคนแรกคือแม่สาวจินนี่เองค่ะ
แต่ดูท่าแม่สาวน้อยในตะเกียงคนนี้จะทำอะไรกระต่ายน้อยของพอล
ไม่ได้ซะล่ะม้างงง   :laugh:  ให้รู้ซะบ้างว่ากระต่ายน้อยอัพเวอร์ชั่นแล้ว
แต่ฤทธาของกระต่ายจะเป็นอย่างไร  ต้องติดตามในตอนหน้าค่ะ

เจอกันอีกทีวันอาทิตย์นะคะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

 :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 29-07-2014 12:46:47
 :serius2: ความวุ่นวายเริ่มมาหาคู่นี้แระ จินนี่ท่าทางแรงอ่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 29-07-2014 13:22:00
โจวพอลมาได้ทันเวลาพอดี ครั้งนี้ต้องจัดการให้เด็ดขาดเลยนะ  :angry2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 29-07-2014 13:47:34
หมั่นไส้ยัยจินนี่ ดีที่ฝูหรงไม่เชื่อเหมือนเมื่อก่อน
พอลจัดการยัยป่วนนี่ไปเลยนะบังอาจมาว่ากระต่ายน้อยได้
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-07-2014 13:53:25
ยัยจินนี่นางตามมารังควานไม่เลิกจริงๆ แต่ฝูหรงก็ไม่ใช่คนเก่าแล้วนิเนอะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 29-07-2014 15:20:31
อัดคลิปเสียงไว้ใช่ไหมอะ 555555
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 29-07-2014 15:21:15
อ่านตอนนี้แล้วแบบ น่ารำคาญชะนีขี้อิจ
มีอาการทางจิตอะไรฟระ?
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 29-07-2014 15:54:15
ยัยจินนี่ก็ตามมาเปรี้ยวกะฝูหรงตลอดๆๆๆ

 :katai1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 29-07-2014 16:44:57
จินนี่คงต้องลบภาพฝูหรง 5 ปีก่อนออกไปได้แล้  เพราะตอนนี้ฝูหรงอัพเลเวลเป็น นิวฝูหรงแล้ว  โต้ตอบมา ก็เจอตอบกลับแบบเอาให้หน้าหงายไปเลย  แต่งานนี้เดาว่าจินนี่น่าจะมาลองใจหรือเปล่า  เพราะคงรู้จากพ่อ-แม่พอลแล้วที่ยอมรับฝูหรง  จินนี่ก็คงไม่กล้าทำอะไรเกินเลยหรอก และยิ่งมาเจอนิวฝูหรงแบบนี้  คงยอมรับและวางใจฝูหรงว่าจะเป็นคนรักที่ดีของพอลได้  เผลอๆ ฝูหรงน่าจะได้เพื่อนใหม่เพิ่มอีกคน

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 29-07-2014 18:35:22
จินนี่กลับเข้ากา ไปเลยไป

จะหวงอะไรนักหนา ก็แค่ญาติ อยู่ส่วนญาติไปสิ ชิ้วๆๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 29-07-2014 18:54:41
จินนี่ :beat: :beat: ไม่ยอมเลิก พอลจัดการไปเลย :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 29-07-2014 20:01:51
ตอนนี้ฝูหรงกรุ้มกริ่มนะจ๊ะ :hao6:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 29-07-2014 20:19:50
กะแล้วว่าต้องเป็นนาง ยัยจินนี่!!! 
กระต่ายน้อยสู้ๆอย่าไปยอมนางเด็ดขาด
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoRin ที่ 30-07-2014 00:41:26
ชะนีนี่ก็หวงญาติประหนึ่งเป็นสามีตัวเองเนาะ เพลียกะหล่อนจริงๆ -***-
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: lunarinthesky ที่ 30-07-2014 07:29:29
เข้ามาให้กำลังใจนักเขียน 
ยังไม่ได้อ่านเรื่องนี้เลยค่ะ
เพราะจะรอซื้อหนังสือ ^^
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 30-07-2014 08:47:16
จินนี่ คงสิ้นฤทธิ์แล้วแหละ

วะฮาฮ่า

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 30-07-2014 17:38:38
 :beat:
จัดการยายจินนี่เลยพอล
อย่าให้หล่อนมาระรานฝูหรงอีกนะ
 :m16:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 30-07-2014 19:28:30
ทำไมเรารู้สึกว่าจินนี่ไม่ได้จะมาร้ายขนาดนั้น
หรือเราจะโลกสวยเกินไป  :m28:

ฝูหรงโทรหาพอลแน่เลยอะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 01-08-2014 12:48:33
อึ้บๆๆ  :katai5: ดันหน่อยๆ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.13 "ตัวป่วนความรัก" P.11 (29/7/57) 1st
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 02-08-2014 15:24:49
 ฮา! ดิฉันเดาถูกว่าตัวป่วนอันดับแรกคืออิหนูจินนี่!
แต่อ่านแล้วตะหงิดๆว่าจินนี่จะมาลองใจฝูหรงเสียมากกว่าค่ะ ^^
ตัวป่วนอื่นๆก็น่าจะแพททริกกับนายน้อยนะคะ ใช่ไหมเอ่ย อิอิ  :katai5:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 03-08-2014 10:15:07
ตอนที่ 14

โจวพอล

“จินนี่หยุดทำลายความรักของฉันได้แล้ว!”   

“หึ!  มาถึงก็ใส่ร้ายจินนี่เลยนะพอล  ไม่คิดบ้างรึไงว่าจินนี่แค่มาทักทาย”  ฟังประโยคของนางฟ้าตัวแสบประจำตระกูลโจวซะก่อนเถอะครับ  ผู้หญิงอะไรเจ้าเล่ห์ร้ายกาจไม่สมกับหน้าตาที่แสนน่ารักน่าเอ็นดูสักนิด

นาทีนี้ผมล่ะอยากจับยัยจินนี่มาเขย่าให้หัวสั่นหัวคลอน  และฟาดก้นแรงๆเป็นการสั่งสอน  เผื่อจะเอานิสัยแย่ๆออกจากตัวยัยนี่ได้บ้าง  อย่างนิสัยขี้หวงไม่มีเหตุผลและนิสัยปัดความผิดให้พ้นตัว  ที่จินนี่กำลังแสดงออกอยู่ขณะนี้ 

ผมได้ยินได้ฟังข้อความเกลี้ยกล่อมผสมยุแยงของยัยจินนี่ทั้งหมดแล้ว  หากถามว่าผมรู้ได้อย่างไร  คำตอบคือจากโทรศัพท์เครื่องบางในมือผมนี่อย่างไรเล่า  ด้วยขณะที่ผมขับรถใกล้ถึงคอนโดแห่งนี้  ฝูหรงนั้นโทรเข้าเครื่องผม  แรกทีเดียวผมก็แปลกใจเพราะเพิ่งวางสายจากเจ้าตัวไม่นาน  พอรับสายผมยิ่งแปลกใจเข้าไปอีก  ด้วยมีเพียงเสียงของบทสนทนาที่ฝูหรงกำลังคุยอยู่กับใครบางคน 

จนกระทั่งผมจับใจความได้  จึงได้รู้ว่าคนที่ฝูหรงคุยด้วยคือญาติตัวแสบ  ที่เคยเป็นตัวการให้รักครั้งแรกของผมต้องล่มทั้งๆที่ยังไม่ทันเริ่มมาแล้ว  ประกอบกับข้อความที่ได้ยินจากยัยจินนี่  ทำเอาผมร้อนใจและกรุ่นโกรธเจ้าตัวขึ้นมา  ด้วยรู้เจตนาถึงการมาพบฝูหรงของจินนี่ได้ในทันที  และผมแทบอยากจะจับญาติตัวแสบทุ่มลงกับพื้นนัก  เมื่อเปิดประตูเข้ามาทันได้เห็นจินนี่กำลังยื่นมือมาเหมือนจะตบแก้มฝูหรง  ดีที่ผมคว้าตัวคนของตัวเองไว้ได้ทัน

“หยุดแก้ตัวเลยจินนี่  ถ้าไม่อยากทำให้ฉันโกรธเธอไปมากกว่านี้!!”  รู้ตัวเลยว่าผมต้องใช้ความอดทนมาก  ในการควบคุมอารมณ์ไม่ให้เข้าไปสั่งสอน  คนที่กำลังยกยิ้มและจ้องมายังผมแบบไม่เดือดร้อน  แถมเสียงที่ใช้พูดกับยัยตัวแสบยังแอบสั่น  ด้วยพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ไม่ให้เผลอตะคอกญาติสนิทออกไปอีก

“เหอะ!  พอลนี่ยังไงใส่ร้ายจินนี่ไม่พอ  นี่อะไรมีขู่ด้วย  เพิ่งมาถึงแท้ๆ  รู้ได้ไงว่าจินนี่มาทำลายความรักของพอลกับนายนี่  ไหนล่ะหลักฐาน  ชิ!  จินนี่ก็แค่มาทักทาย...ใช่มั้ยคะฝูหรง”  ยัยแม่มดตัวร้าย!  ปฏิเสธได้หน้าซื่อตาใสมาก  ยังมีหน้ามายิ้มหวานกระพริบตาปริบๆใส่ฝูหรงได้อีก 

นี่ถ้าผมไม่ได้ยินกับหู  ผมคงสองจิตสองใจเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเป็นแน่  ผู้หญิงอะไรร้ายกาจเจ้าเล่ห์อย่างที่สุด  ผมได้แต่ครางเสียงต่ำเรียกชื่อยัยจินนี่ด้วยความหนักใจ  ระหว่างที่ผมกำลังคิดหาวิธีจัดการยัยตัวแสบประจำตระกูลอยู่นั้น  กลับมีเสียงของบทสนทนาคุ้นหูดังขึ้น

‘ถ้านายยอมออกไปจากชีวิตพอลอีกครั้ง  ครั้งนี้ฉันจะไม่ให้นายต้องไปมือเปล่า  แม้สิ่งที่นายจะได้ไป  อาจจะไม่มากเท่าสิ่งที่นายหวังจะได้จากพอลในอนาคตก็เถอะ  แต่อย่าลืมว่าอนาคตมักไม่แน่นอนและเราก็ควบคุมไม่ได้ซะด้วย  หากวันดีคืนดีพอลไปเจอผู้หญิงที่เหมาะสมกับตัวเองเข้า  ซึ่งเป็นคนที่คู่ควรพร้อมจะยืนเคียงข้างพาออกหน้าออกตาได้  วันนั้นนายคงได้น้ำตาเช็ดหัวเข่า  และอาจจะไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือ  เท่าที่นายจะได้จากฉันวันนี้ก็ได้นะ...ใจจริงฉันไม่ได้เกลียดนายเลย  เพียงแต่เห็นใจมากกว่า  กลัวว่านายต้องเป็นทุกข์เพราะพอลเอาน่ะสิ’

ห้องนั่งเล่นตกอยู่ในความเงียบทันที  ที่เสียงหวานๆที่ดังมาจากโทรศัพท์ของคนน่ารักในอ้อมกอดผมจบลง  แต่สีหน้าแต่ละคนในห้องแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  ผมเชื่อว่าตัวเองคงกำลังทำหน้าแปลกใจปนชื่นชม  ยามก้มมองคนรักอยู่ในขณะนี้แน่ๆ  ซึ่งคนรักตัวน้อยของผมเองก็กำลังอมยิ้มน้อยๆอย่างเจ้าเล่ห์  แต่แก้มใสกลับขึ้นสีระเรื่ออย่างคนที่กำลังเขินสายตาชื่นชมของผมอยู่  จนผมอยากจะฟัดแก้มกลมทั้งคู่ซะเดี๋ยวนี้  ด้วยอยากให้รางวัลคนเก่งช่างคิดเก็บหลักฐานมัดตัวยัยจิ้งจอกแสนเจ้าเล่ห์ตรงหน้าเรานัก 

ส่วนจินนี่เองตอนนี้มีสีหน้าคาดไม่ถึงอย่างที่สุด  ดวงตากลมๆเบิกกกว้างฉายแววตกใจชัดตา  และจ้องมายังฝูหรงอย่างไม่เชื่อหูว่าจะได้ยินคำพูดของตัวเองอีกครั้ง  แถมยังเป็นหลักฐานมัดตัวชั้นเยี่ยมอีกด้วย  และผมต้องกลั้นขำสุดความสามารถ  เมื่อได้ยินประโยคต่อมาของฝูหรงที่ใช้พูดกับจินนี่

“ใช่ครับ  มิสหมิงอี้ซานแค่มาทักทายผมเท่านั้น  ไม่มีเจตนายุแยงให้ผมกับพอลแตกคอกัน  และไม่คิดที่จะเอาเงินฟาดหัวผมสักนิดเลย  ไม่มีเลยจริงๆ”  กระต่ายน้อยของผมยามต้องการเอาคืนใครนี่ก็ดูเอาเรื่องไม่ใช่เล่นนะเนี่ย  ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงเยาะเย้ยจินนี่ทำได้แสบทรวงมาก 

ต่อไปผมคงต้องระวังตัวเองอย่างดี  ไม่ให้เผลอไปทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆเข้า  เพราะไม่อยากคิดว่าผมจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
หลังจากจินนี่ตั้งตัวได้ว่าถูกมัดด้วยพยานวัตถุอย่างโทรศัพท์ที่ใช้บันทึกเสียงเข้าให้แล้ว  เจ้าตัวก็กอดอกฉับก่อนส่งค้อนวงใหญ่ให้เรา  และสะบัดหน้าพรืดพร้อมหมุนตัวเดินไปกระแทกก้นนั่งลงบนโซฟา  มีจ้องฝูหรงด้วยแววตาไม่ได้ดั่งใจ  ก่อนจะถอนใจเฮือกใหญ่  และพูดในสิ่งที่ผมได้ฟังแล้วแทบไม่เชื่อหูออกมา

“เฮ้อออ  นายนี่มันร้ายกาจกว่าเมื่อห้าปีก่อนเยอะเลยนะ  ครั้งนั้นน่ะหูเบาแถมยังร้องไห้ตัวสั่นเป็นลูกนก  ไม่เห็นปากเก่งเจ้าเล่ห์เหมือนวันนี้  ชิ!...แต่แบบนี้แหละถึงจะเหมาะสมกับพอล  ขืนพอลได้แฟนประเภทเหยาะแหยะ  เอาแต่อ้อนให้เอาใจ  มีหวังไม่ต้องเป็นอันทำอะไรกันพอดี  และขืนได้คนละโมบ  หวังมาเกาะกินเป็นตัวดูดเลือดล่ะก็  สมบัติตระกูลโจวมีเท่าไหร่ก็คงไม่พอ  ซ้ำร้ายคงได้แต่ปวดหัวไปกับคนรักที่ไม่ได้เรื่องไปตลอดชีวิต”

ตอนนี้ไม่ใช่แค่ผมที่แปลกใจในคำพูดของจินนี่  เพราะฝูหรงเองก็มีอาการไม่ต่างกัน  แต่อาจจะเป็นมากกว่าผมสักหน่อย  ด้วยกระต่ายน้อยยืนประสานสายตากับจินนี่  โดยใช้ตากลมๆที่กระพริบปริบๆจ้องจินนี่ไม่วางตา  แถมยังมีอาการเอียงหัวพร้อมเผยอปากน้อยๆอย่างน่าเอ็นดู  ดีที่แว่นบนจมูกที่กำลังเอียงกะเท่เร่ไม่หล่นลงมา 

ผมจึงใช้วงแขนโอบไปรอบเอวบางและดึงร่างน้อยเข้าหาตัว  ให้แผ่นหลังบอบบางแนบไปกับอกผม  ซึ่งนาทีนี้ผมพอเข้าใจพฤติกรรมของจินนี่ได้บ้างแล้ว  ว่ายัยตัวแสบจอมวุ่นต้องการอะไร  ถ้าไม่ใช่ต้องการยื่นบททดสอบให้ว่าที่สะใภ้ตระกูลโจว  แต่สำหรับคู่ผมและฝูหรงมันเป็นบททดสอบที่โหดร้ายมากเกินไป  เรียกได้ว่าเป็นตลกร้ายที่ขำไม่ออกเอาก็ว่าได้

“หมายความว่าสิ่งที่คุณทำไปทั้งหมด  เพราะต้องการพิสูจน์ใจผม!?”

“เหอะ!  จะเรียกแบบนั้นก็ได้...แต่ถ้าเป็นไปได้  ใจจริงฉันก็อยากกำจัดนายออกไปให้พ้นทาง  ถ้าไม่ใช่พฤติกรรมของนายวันนี้ได้พิสูจน์ตัวเองให้ฉันรู้แล้วว่าไม่ธรรมดา  และสำคัญที่ถ้าไม่ใช่เพราะลุงฟู่สือล่ะก็  ฉันไม่มีวันยอม”  ปาปาคงไปพูดอะไรบางอย่างกับหลานสาวคนโปรดล่ะครับ  ทำให้วันนี้จินนี่ตามมาหาเรื่องฝูหรงถึงนี่ 

ดูท่าการกระทำทั้งหมดของยัยตัวแสบในวันนี้คงเป็นการเอาคืนเบาๆ  ด้วยคงไม่มีวันที่นางฟ้าจอมยุ่งของตระกูลโจว  จะยอมรับข้อตกลงหรือยอมรับใครง่ายๆ  แต่ขอให้ได้สำแดงฤทธิ์เดชบางอย่างออกมาป่วนสักหน่อยก็ยังดี  แม้คนที่ไปคุยด้วยจะเป็นถึงคุณลุงสุดที่รักของเจ้าตัวก็ตาม  ดีที่เหตุการณ์ในวันนี้ไม่เป็นไปตามที่ยัยจินนี่ต้องการ

“พอใจแล้วใช่มั้ยยัยตัวแสบ...งั้นมานี่  มารู้จักกับคนรักของฉันอย่างเป็นทางการ”  หลังคำพูดของผมนั้น  จินนี่ทำท่าแบมือและไหวไหล่  ก่อนจะยอมลุกขึ้นและเยื้องย่างดังนางหงส์มายืนเบื้องหน้าเรา 

แต่ก่อนที่ผมจะเอ่ยแนะนำคนทั้งคู่อย่างเป็นทางการตามที่พูดไป  ฝูหรงกลับเป็นฝ่ายยื่นมือออกไปก่อน  พร้อมแนะนำตัวเองกับอีกฝ่ายด้วยเสียงสดใส  เมื่อผมก้มมองใบหน้าคนที่ผมโอบเอวไว้  ผมก็ต้องคลี่ยิ้มตามรอยยิ้มจริงใจที่คนน่ารักตั้งใจมอบให้ญาติสาวตัวแสบ  จินนี่เองแม้จะเชิดหน้ามองฝูหรงอย่างหยิ่งๆ  แต่ก็ยอมยื่นมือมาจับด้วย  และผมก็ได้แต่ส่ายหัวถอนใจยาวเหยียด  ให้กับคำพูดถือดีแฝงความหวังดีของแม่หงส์สาวจอมหยิ่ง

“เห็นแก่พอลและลุงฟู่สือหรอก  นายเองก็อย่าได้ใจไป  วันนี้แม้ฉันจะยอมรับนาย  แต่ให้รู้ไว้ว่าฉันจะคอยจับตามองนายทุกฝีก้าว  หากวันใดที่นายนอกลู่นอกทาง  วันนั้นฉันจะตามมาเอาคืนให้สาสม  เพราะฉันไม่มีวันยอมให้คนตระกูลโจว  ต้องเจ็บปวดไปกับคนที่ไม่ใช่สายเลือดของเรา”

“ครับ  ผมจะรอ”  ผมถึงกับอยากเห็นใบหน้าของฝูหรงยามเอ่ยรับคำจินนี่  จึงก้มหน้ามอง  ด้วยอยากรู้นักว่าคนน่ารักกำลังแสดงสีหน้าแบบไหน  ซึ่งผมก็ได้แต่อมยิ้มด้วยความถูกใจ  เมื่อเห็นกระต่ายน้อยแสนรักมีสีหน้าจริงจัง  และมองไปยังหงส์สาวจอมหยิ่งอย่างไม่เกรงกลัว

หลังจากนั้นจินนี่ก็เอ่ยขอตัว  แต่ยังไม่ทิ้งความเอาแต่ใจของหลานสาวคนเดียวของตระกูล  ด้วยการขอร้องแกมบังคับให้ผมขับรถไปส่งที่บ้าน  คราแรกผมเตรียมปฏิเสธแต่หากพอฟังเหตุผลว่ายัยตัวแสบไม่ได้ขับรถมา  เพราะขามาให้คนขับรถที่บ้านมาส่งและให้กลับไปแล้ว  ผมฟังก็รู้ว่าตั้งใจไว้แต่แรก  บวกกับการออดอ้อนแกมขู่ของจินนี่ที่ใช้กับผม  ว่าเจ้าตัวจะฟ้องปาปาถ้าผมปล่อยให้กลับเอง 

ผมจึงได้แต่จำใจยอมทำตามที่ยัยตัวแสบต้องการ  ก่อนไปผมขอเวลาส่วนตัวจากยัยตัวแสบ  ด้วยการรั้งตัวกระต่ายน้อยแสนรักเข้ามาในห้องนอนด้วยกัน  ท่ามกลางแววตาหมั่นไส้ของจินนี่

“พอลขอโทษแทนยัยจินนี่ด้วยนะครับ  ฝูหรงโอเคใช่มั้ย”  ผมเชยคางคนในอ้อมกอดขึ้น  และได้แต่ยกยิ้มอย่างสบายใจ  เมื่อได้เห็นวงหน้าใสผ่อนคลายไร้ซึ่งแววกังวลอย่างที่นึกกลัว

“อืม  ครั้งนี้ญาติพอลทำอะไรฝูหรงไม่ได้หรอก”  ฝูหรงอมยิ้มยักคิ้วอย่างกวนๆส่งให้ผม  จนผมอดใจไม่ไหวยื่นมือไปหนีบจมูกโด่งเบาๆด้วยความมันเขี้ยว  คนน่ารักเองมีพองแก้มต่อว่าและลงมือฟาดเบาๆเข้าที่อกพอให้เจ็บๆคันๆ

“กระต่ายน้อยของพอลฉลาดที่สุด  เดี๋ยวนี้เจ้าเล่ห์ใหญ่แล้วนะเรา  ฮึๆ...แต่พอลอยากขอโทษแทนจินนี่  และอยากขอบคุณฝูหรงจริงๆ  ที่ครั้งนี้หนักแน่นและมีสติรับมือกับจินนี่ได้  แถมยังเป็นการสั่งสอนยัยเด็กแสบนั่น  ให้ได้รู้ว่าเหนือหงส์ฟ้าก็ยังมีกระต่ายน้อย  ฮึๆ”  ผมไม่หัวเราะเปล่า  แต่เลือกที่จะประทับจูบบางเบาลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มที่ยื่นน้อยๆอย่างไม่พอใจ  พร้อมกับขโมยสูดกลิ่นแก้มหอมๆที่ถูกอัดลมจนพองลอยไปมายั่วตา  และจงใจกระซิบข้างใบหูเล็กด้วยเสียงทุ้มนุ่ม

“ขอบคุณนะครับกระต่ายน้อยของพอล”  ผมกระตุกยิ้มทันทีที่รู้สึกได้ว่าร่างน้อยสะท้านไปกับปลายลิ้นชื้นที่ผมจงใจเลียไปยังติ่งหูแดงๆ  ก่อนเจ้าของความยั่วยวนแบบไม่ตั้งใจจะซุกใบหน้าเข้ากับอกผมมากขึ้น  เปิดโอกาสให้ผมลูบมือผ่านแผ่นหลังบอบบาง  และซุนจมูกไปตามกลุ่มผมนุ่ม

“จะขะ...ขอบคุณ  อะ...ไร  นักหนาเล่า  เพราะครั้งนี้รู้หรอกว่าเราใจตรงกัน”  เสียงสั่นเชียวนะกระต่ายน้อย

“ใจตรงกัน!?...หมายความว่าฝูหรงรักพอลเหมือนที่พอลรักฝูหรงใช่มั้ย”  ผมส่งคำถามให้กระต่ายน้อยตัวสั่นทั้งๆที่รู้คำตอบดีแก่ใจ  แต่ก็ยังอยากได้รับการยืนยันชัดๆสักครั้ง 

ระหว่างที่ฝูหรงเงียบไป  ผมไล้จมูกผ่านขมับลงมายังข้างแก้มเนียน  และละมือข้างหนึ่งจากสะโพกแน่น  เพื่อถอดแว่นอันโตที่บดบังดวงตาคู่สวยออก  ก่อนจ้องลึกลงไปในตากลมๆที่กำลังสั่นไหวแฝงแววเขินอาย  ผมจึงกระตุ้นให้คนน่ารักได้พูดออกมา  ด้วยการระบายยิ้มบางเบาใส่ตาคู่นั้น  แต่กลับทำให้แก้มใสที่ผมกำลังคลึงเล่นขึ้นสีจัดยิ่งกว่าเดิม  ตามมาด้วยอาการหลบตา  ทำเอารอยยิ้มที่ผมมีเปิดกว้างยิ่งกว่าเดิม  และถึงขั้นผมฉีกยิ้มปากแทบฉีก  กับคำตอบแผ่วหวานที่ดังผ่านริมฝีปากสีสด

“อืม  ฝูหรงรักพอลเหมือนที่พอลรักฝูหรง”  ไม่ว่าจะได้ยินคำรักมากี่ครั้ง  ทุกครั้งผมมีอาการแตกต่างกันไป  เรียกว่าไม่เป็นตัวของตัวเองทุกครั้ง  ส่วนครั้งนี้ผมตื้นตันมีอาการหัวใจพองคับอก  จนเลือดสูบฉีดไปทั่วร่างและหุบยิ้มไม่ลง

“กระต่ายน้อยของพอล~”  ผมเพ้อเรียกฝูหรงด้วยสรรพนามแทนตัวน่ารักๆที่เราเท่านั้นที่รู้กัน  ก่อนใบหน้าน่ารักจะหันกลับมามองผม  ทั้งๆที่แก้มแดงก่ำแทบระเบิด

“ออกไปกันเถอะ  ปล่อยให้จินนี่รอนานแล้ว...อ๊ะ!  พอล...อืมมม”  ใครจะปล่อยให้กระต่ายน้อยน่ารักหลุดมือไปง่ายๆเล่าครับ  ก่อนผมจะต้องทำตามใจญาติสาวแสนเอาแต่ใจ  ขอผมทำตามใจตัวเองหน่อยเถอะ  ซึ่งคงไม่ต้องบอกล่ะนะว่าทำอะไร  ถ้าไม่ใช่ป้อนจูบหวานๆให้คนรักเคลิบเคลิ้มร่างระทวยอยู่กับอก

ริมฝีปากนุ่มๆและปลายลิ้นหวานๆที่เกี่ยวกระหวัดตอบโต้อย่างกล้าๆกลัวๆ  พาลให้ความตั้งใจของผมที่จะขอเพียงชิมรสหวานของโพรงปากอุ่น  เพียงหอมปากหอมคอนั้นสั่นคลอน  ผมเริ่มลงมือสอดมือเข้าชายเสื้อยืดตัวบาง  เพื่อสัมผัสผิวเรียบลื่นบริเวณหน้าท้องแบนราบ  และรู้สึกได้ว่ากระต่ายน้อยเกร็งตัวขึ้นทันที  ก่อนจะครางแผ่วหวิวคาปากเมื่อผมสะกิดยอดอกเล็กๆ  ซึ่งผมต้องรวบกอดร่างน้อยเข้าหาอกแทบจะทันที  ยามที่ฝูหรงขาอ่อนตัวรูดลงไม่มีแรงยืน 

ผมจึงตัดสินใจช้อนร่างบอบบางขึ้น  ก่อนเดินไปยังเตียงควีนไซส์และวางร่างเย้ายวนลงนอน  พร้อมคร่อมทับอยู่เหนือร่าง  นาทีนี้ผมลืมภารกิจที่ต้องทำจนหมดสิ้น  ด้วยภายในสายตาตอนนี้มีเพียงร่างบอบบางที่นอนระทวยใต้ร่างเท่านั้น 

เจ้าของร่างบอบบางที่มีผิวอมชมพูไปทั่วร่าง  และปรือตาฉ่ำเยิ้มมองมายังผมไม่กระพริบ  ผมจึงบรรจงจูบปลุกเร้ากระต่ายน้อยอีกครั้ง  และเตรียมปลดเสื้อผ้าที่เป็นอุปสรรคขัดขวางระหว่างเราออก  แต่แล้วภาระชิ้นโตที่ผมจงใจลืมไว้นอกห้องก็ทำพิษจนได้

“[ปังๆ  ปังๆ]...จะจู๋จี๋กันอีกนานมั้ยพอล  จินนี่รอนานแล้วนะ!!”  สำหรับยัยแม่มดในตะเกียงตัวแสบแสนเอาแต่ใจไม่ได้แค่เคาะประตูให้สติที่เตลิดไปไกลของเรากลับเข้าร่างเท่านั้น  แต่เธอกลับตบบานประตูดังลั่น  แรงชนิดที่ว่าผมยังแปลกใจว่าจินนี่ไปเอาแรงมาจากไหน  และไม่เจ็บมือบ้างรึอย่างไร

อาการของผมน่ะไม่เท่าไหร่  แค่ชะงักมือที่กำลังลูบไล้ยอดอกแข็งเป็นไต  และสะดุดลมหายใจที่กำลังสูดกลิ่นกายหอมๆแถวซอกคอ  แต่สำหรับกระต่ายน้อยที่กำลังเคลิ้มไปกับสัมผัสเย้ายวนที่ผมบรรจงสร้างนั้น  ถึงกลับผวาพร้อมเบิกตาโตอย่างแตกตื่น  และผลักใบหน้าผมออกจากซอกคอตัวเอง  ก่อนจะลุกขึ้นนั่งทั้งๆที่หัวยุ่งหน้าแดงก่ำ  แถมด้วยการเม้มปากเจ่อๆไว้จนแน่น  และวุ่นวายกับการดึงชายเสื้อลงจากอก 

ผมที่กำลังหงุดหงิดยัยญาติตัวแสบ  พอได้เห็นภาพของคนน่ารักที่กำลังเขินจัดก็ให้นึกเอ็นดูจับใจ  จึงเลือกที่จะขยับตัวเข้าไปนั่งซ้อนหลังร่างเล็ก  ก่อนจะรวบเอวบางเข้าหาตัว  และยกร่างนั้นขึ้นนั่งซ้อนตัก  ฝูหรงเองถึงกลับสะดุ้งและบีบเข้าที่ข้อมือผมทั้งสองข้าง  แต่ยังคงก้มหน้าชิดอก  ผมอดใจไม่ไหวกดจมูกแรงๆ  เพื่อสูดกลิ่นแก้มหอมๆไปฟอดใหญ่

“อ่ะ!...จะ  จินนี่  รออยู่  เดี๋ยวจะโมโหไปมากกว่านี้”  ทั้งๆที่พูดกับผมแต่คนน่ารักกลับไม่คิดจะเงยหน้ามามองกัน

นี่ถ้าไม่ติดว่าผมรู้จักนิสัยของยัยจินนี่ดีล่ะก็  ผมจะไม่สนใจยัยตัวแสบแสนเอาแต่ใจคนนี้เลย  เพราะรู้ว่าขืนผมยังร่ำรี้ร่ำไรปล่อยให้ยัยนั่นหงุดหงิดไปมากกว่านี้  จินนี่คงได้หมั่นไส้ผมและคงได้มาก่อความวุ่นวายให้ผมไม่จบสิ้นเป็นแน่ 

ผมจึงต้องตัดใจและเลือกที่จะทำตามคนน่ารักพูด  ด้วยการยกเอวบางขึ้นและประคองให้ร่างเล็กยืนอย่างมั่นคง  ก่อนจะตามลูบหัวจัดทรงผมให้เข้าที่  และเชยคางมนขึ้นสำรวจใบหน้าน่ารัก  ก่อนจะยกยิ้มถูกใจอย่างไม่รู้ตัว  ยามได้เห็นริมฝีปากเจ่อแดงผลของการกระทำของตัวเอง 

จนกระทั่งได้เห็นตาคู่สวยเริ่มทอแสงแรงกล้านั่นแหละ  ผมจึงเปลี่ยนท่าทีทำเป็นกวาดสายตาหาแว่นประจำตัวของกระต่ายน้อยตาเขียว  และลงมือสวมมันคืนลงบนใบหน้าเรียว  ก่อนจะจบด้วยการแตะจูบเร็วๆผ่านริมฝีปากเจ่อๆอีกครั้ง  หลังจากนั้นก็คว้าข้อมือเล็กที่เจ้าของเตรียมโวยวายให้เดินตามออกมานอกห้อง

คงไม่ต้องบอกว่าคนที่รอให้ผมไปส่งจะมีปฏิกิริยาอย่างไร  หากไม่ใช่นั่งหน้าบูดและจ้องมายังเราตาแข็งโป๊กอย่างเอาเรื่อง  ก่อนสายตาคมกริบจะเลื่อนไปจับจ้องยังคนรักข้างตัวผม  และปรายสายตาจับจ้องไปที่ริมฝีปากเจ่อแดงของฝูหรง  มีหรี่ตามองแถมให้อีก  ไม่ต้องมีใครบอกยัยจินนี่คงรู้ล่ะครับ  ว่าฝูหรงโดนผมทำอะไรมาบ้าง 

ฝูหรงเองก็แสดงพิรุธยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้ยัยตัวแสบ  ด้วยการเม้มปากไว้แน่นและเบือนหน้าหลบตาทั้งๆที่แก้มแดงก่ำ  นาทีนี้ผมทั้งเห็นใจและถูกใจคนน่ารักในเวลาเดียวกัน  แต่ก่อนที่ยัยจินนี่จะใช้สายตาซอกแซกสำรวจร่างกายกระต่ายน้อยของผมไปมากกว่านี้  ผมจึงขยับตัวมาบังสายตาคู่ดังกล่าวไว้  ด้วยการหมุนตัวมาเผชิญหน้าฝูหรง  และโน้มตัวลงนิดเพื่อให้สายตาเราอยู่ในระดับเดียวกัน

“เดี๋ยวพอลมานะ  ฝูหรงอย่าเปิดประตูรับคนแปลกหน้าเข้ามาในห้องอีกนะครับ  รู้มั้ย”  ผมแอบเหน็บยัยญาติตัวแสบไม่ได้จริงๆ  ผลก็คือฝูหรงพยักหน้ารับคำแบบไม่มีเสียง  ส่วนคนโดนเหน็บกลับส่งเสียงจิ๊จ๊ะ  พอให้รู้ว่าเจ้าตัวรู้ถึงความตั้งใจของผม

หลังจากสั่งลาแล้ว  ผมตั้งใจเดินนำจินนี่ออกมาทางประตู  แต่ระหว่างเดินสวนกันนั้น  ผมกลับนึกขำท่าทางสะบัดค้อนที่จินนี่ตั้งใจส่งมาให้ผม  แต่ผมไม่คิดจะต่อความด้วย  และก่อนที่บานประตูจะปิดลง  ผมระบายยิ้มใส่ดวงตากลมๆที่จ้องส่งผมไม่กระพริบ  ที่จริงผมอยากพาฝูหรงมาด้วย  แต่ผมยังไม่พร้อมรับมือกับความเอาแต่ใจของยัยจินนี่แม่มดตัวร้ายคนนี้นัก  ด้วยผมคาดเดาอารมณ์ยัยนี่ไม่ถูก  และไม่อยากให้ฝูหรงต้องมารับมือกับอารมณ์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของจินนี่อีก

เหตุการณ์บ่ายนี้เหมือนจะเลวร้าย  แต่สุดท้ายทุกอย่างก็คลี่คลายไปในทางที่ดี  ตัวปัญหาใหญ่ที่เคยทำลายรักของเราครั้งก่อน  กลับไม่ใช่อุปสรรคใหญ่อย่างที่คิดไว้  ผิดคาดที่จินนี่ดันเข้าใจอะไรๆได้ง่าย  แต่ก็เป็นผลดีแก่ผมและฝูหรง  เพราะทำให้ผมรู้ว่าบททดสอบครั้งเก่า  เป็นบทเรียนสำคัญสามารถสร้างเกราะคุ้มกันความรักของเราให้แข็งแกร่งขึ้นได้  ซึ่งผมหวังเพียงว่ารักครั้งนี้จะไม่มีบททดสอบร้ายๆผ่านเข้ามาอีก  ความหวังผมจะเป็นไปได้หรือไม่คงต้องแล้วแต่ชะตาฟ้าลิขิต  แต่เมื่อฟ้าลิขิตให้ผมและฝูหรงกลับมารักกัน  ก็คงไม่ใจร้ายแยกเราให้ต้องห่างกันอีก

ส่วนยัยจินนี่ตัวแสบที่เข้ามาป่วนชีวิตรักของเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า  แม้ครั้งนี้เป็นผลดีมากกว่าผลร้าย  แต่ความผิดนี้ยังคงอยู่  เมื่อไปถึงบ้านยัยตัวแสบได้  ผมลากตัวญาติสนิทเข้าพบอาหญิงและอาเขยทันที  และเล่าพฤติกรรมทั้งหมดของจินนี่ให้พวกท่านรับรู้  แรกรู้คุณอาทั้งคู่ถึงกลับส่ายหัว  ตีหน้าเครียดในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน  จนผมเองยังเริ่มรู้สึกไม่มั่นใจว่าการกระทำดังกล่าว  ผมสมควรทำหรือไม่ด้วยซ้ำ 

แม้แต่จินนี่ที่แสบซ่าถึงกลับนั่งหน้าเจื่อนไม่กล้าสบตาบุพการีเลยทีเดียว  และไม่กล้าต่อว่าผมเหมือนเคย  คงรู้ตัวล่ะครับว่าตัวเองทำผิด  จนผมเริ่มเห็นใจยัยแม่มดตัวร้ายขึ้นมาไม่ได้  แต่ผมก็ต้องปิดปากที่เตรียมอุทธรณ์แทนยัยจินนี่  เมื่ออาหญิงเอ่ยปรามผมเสียงเข้ม  ก่อนหันไปพูดเสียงนิ่งไม่แพ้สีหน้าแววตากับลูกสาวคนเดียว

“จินนี่  ลูกรู้ใช่มั้ยว่าตัวเองทำผิด  เรื่องนี้ลุงฟู่สือเคยมาพูดกับลูกแล้วนี่  ว่าให้ปล่อยเป็นเรื่องของพอลกับคนรัก  ครั้งนี้มามาจะไม่ยื่นบทลงโทษให้ลูก  แต่จะให้ลูกคิดเองว่าความผิดนี้  ลูกสมควรได้บทลงโทษแบบไหน”

ผมไม่ได้อยู่รอฟังหรอกครับว่าจินนี่จะยื่นบทลงโทษอะไรให้ความผิดของตัวเอง  เพราะแค่เห็นแววตาสำนึกผิดของจินนี่  มันก็ไม่สำคัญแล้วว่าเธอจะมีวิธีลงโทษตัวเองอย่างไร  ด้วยผมเชื่อว่าบทลงโทษไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหน  มันก็ไม่เท่าคนทำผิดแล้วรู้สำนึกว่าตัวเองผิดหรอกครับ  สำคัญที่การให้อภัยคนทำผิดนั้น  ทำได้ยากยิ่งกว่าการเอาคืนเป็นไหนๆ  แถมคนที่ทำได้ควรได้รับการยกย่องเสียด้วยซ้ำ  เหมือนอย่างที่ฝูหรงยอมให้อภัยจินนี่ในครั้งนี้นั่นเอง

.................................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

เหนือหงส์ฟ้าก็ยังมีกระต่ายน้อยที่ถูกอัพเกรดเวอร์ชั่นมาแล้ว   o18
คราวนี้จินนี่นางฟ้าในตะเกียงคงสำนึกได้แล้วจริงๆ (มั้ง!?)
ผ่านไปหนึ่งตัวป่วนแบบชิวๆ  แต่ก็ยังมีตามมาอีกเรื่อยๆนะ   :laugh:

ตอนหน้าเรามาพักเรื่องวุ่นๆและติดตามความหวานของสองหนุ่มกันดีกว่า
ทั้งคู่จะมีโมเม้นท์อะไรมาให้เราได้ชื่นหัวใจ  พร้อมอมยิ้มเบาๆนั้นต้อง
ติดตามได้ในวันศุกร์ค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 03-08-2014 11:08:49
โฮะๆๆๆ ชูป้ายไฟ เชียร์กระต่ายน้อย มันต้องอย่างนี้ซิ!!  :heaven
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: Eshardy ที่ 03-08-2014 11:25:54
เชียร์กระต่ายน้อย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 03-08-2014 11:33:12
ยอมง่ายไปเนอะ น่าจะตบสั่งสอนลูกสาวซะให้เข็ด
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 03-08-2014 11:51:07
หมดตัวป่วนไปหนึ่ง

จะได้เวลาหวานสักที หุหุ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 03-08-2014 12:29:20
 :hao3: ในที่สุดกระต่ายน้อยก็ทำให้หงส์ฟ้าถอยได้
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 03-08-2014 12:34:57
อั้ยยะ! ทำไมซื้อล๊อตเตอรี่แล้วไม่ถูกอย่างนี้บ้างนะ เดาถูกจริงๆ ^_^
สมควรแล้วที่พ่อกับแม่จะลงโทษจินนี่ค่ะ
รออ่านตอนเขาหวานกันนะคะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 03-08-2014 12:46:56
ต้องอย่างนี้สิ...ฝูหรง :mew3: :mew3: :hao3:
พอลจร้า....จากนี้ไปทำอะไรก็ระวังตัวดัวยน่าาาาาา :katai2-1: :katai2-1: :hao3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 03-08-2014 12:59:36
กระต่ายน้อยเวอร์ชันแสบ o18
จัดการตัวป่วนไปหนึ่ง
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 03-08-2014 14:14:44
อุปสรรคครั้งนี้ ทำให้พอลกับฝูหรงรักและเข้าใจกันมากขึ้น คือดีงาม
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-08-2014 14:48:28
กระต่ายน้อยอัพเกรด อิอิ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 03-08-2014 15:25:01
กระต่ายน้อยกลายเป็นหงส์ฟ้าแทนดีกว่า  :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 03-08-2014 16:33:39
กระต่ายน้อยเวอร์ชั่นนี้แซบมาก :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 03-08-2014 17:23:25
หวังว่ายัยจินนี่ตัวแสบจะไม่แผลงฤทธิ์ใส่อีกแล้วนะ
ทางที่ดีมาช่วยกระต่ายกำจัดตัวป่วนทั้งหลายที่กำลังจะตามมาดีกว่า
คึคึ

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 03-08-2014 18:34:26
 o13
อ๊ายยยยยยยย!!!!! กระต่ายน้อยชนะเลิศ มันต้องอย่างนี้สิลูก

รอตอนหน้านะ (เตรียมยาลดน้ำตาลในเลือดไว้รอเผื่อน้ำตาลขึ้น)  :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 03-08-2014 20:44:15
และความดี ความน่ารัก + ความเจ้าเล่ห์อีกนิดของฝูหรง ก็ชนะใจหงษ์ฟ้า  และก็กำจัดตัวป่วนไปได้อีกหนึ่ง และดูท่าว่าถ้าฝูหรงหรือพอลมีตัวป่วนอื่นมาขัดขวาง ก็คงเป็นเรื่องเล็กไปแล้ว เผลอๆ  คงได้จินนี่มาคอยช่วยเหลืออีกแรง
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 03-08-2014 21:15:57
นั่นไง
ว่าแล้วว่าจินนี่ไม่ได้ร้ายอะไรขนาดนั้น
นางแค่ขี้โวยวายตามประสายัยตัวแสบ
ให้มันรู้ซะบ้างว่ากำลังเล่นอยู่กับใครเนอะกระตายน้อย  o18
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: Maneesky ที่ 03-08-2014 23:17:05
 o13น้องกระต่ายแซ่บมากเจ้าขา
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 04-08-2014 09:27:39
ตัวป่วง!!!!! หาคนช่วยเกาไปหนู! :beat:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 04-08-2014 11:07:12
ฝูหรงยอดมากเลย ดีนะที่คิดแผนนี้มาใช้กับยัยจินนี่
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-08-2014 11:56:53
ยัยจินนี่ยอมรับก็ดีแล้ว เข้ามาป่วนพอเป็นสีสันเนาะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 04-08-2014 13:31:41
New ฝูหรง 5555 ยอดเยี่ยม!!

 o13
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 04-08-2014 19:21:00
ขออนุญาติเม้นท์รวบยอดเลยนะคะพี่มาศ อ่านไม่ทันเลย :katai1:
โล่งใจที่ผ่านอุปสรรคไปได้แล้วหนึ่ง ถือว่าเป็นด่านลองใจ
ฝูหรงได้คะแนนเต็ม ผ่านไปได้แบบสบายๆ สมควรกับตำแหน่ง
คิดว่าคงต้องเจออะไรอีกเยอะ แต่เชื่อว่าฝูหรงคนใหม่คงรับมือได้
ตอนหน้าเห็นว่าจะหวานเพื่อเติมพลัง เราก็เตรียมซุ่มดูดีกว่า :z1:
แล้วเมื่อไหร่จะย้ายไปอยู่ชายคาเดียวกันหนอ~
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+ 1และเป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 05-08-2014 00:25:26
เพิ่งเห็นว่าอัพสองตอนแล้วเราอ่านตอนเดียวแล้วเม้นต์เลย  :a5:

จินนี่ก็ด่าแล้ว ตอนนี้ไถ่โทษด้วยการ "สมน้ำหน้า" แล้วกัน  :z2:
หัวข้อ: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: THE KOP ที่ 08-08-2014 04:51:27
ไม่ว่าตอนไหนก็หวานกันตลอดอ่ะคูนี้ เดี๋ยวนี้กระต่ายน้อยเขาพัฒนาแล้วนะเออ ไม่ยอมง่ายๆเหมือนเมื่อก่อนแล้วเน้อ ยิ่งเรื่องที่ต้องเสียพอลไปนี่ไม่มีทางยอมเด็ดขาดอ่ะ รอตอนต่อไปค่าาาาาา
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.14 "กำจัดหงส์ฟ้า" P.12 (3/8/57) UP ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 08-08-2014 15:30:35
วันนี้วันศุกร์  :katai5:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 08-08-2014 16:58:25
ตอนที่ 15

เจินฝูหรง

   “ต้องรบกวนฝูหรงหน่อยนะคะ  เหมยอิงอยากให้ธันว์ได้ชิมหลังทำเสร็จใหม่ๆ...และนี่สำหรับฝูหรงโดยเฉพาะค่ะ  แทนคำขอบคุณที่มาเป็นธุระให้เหมยอิง  ทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของเลขา”  สาวสวยรูปร่างบอบบางที่แทนตัวด้วยชื่ออย่างน่ารักไม่แพ้หน้าตา  ยื่นถุงใสใบไม่เล็กบรรจุกล่องทาร์ตไข่สีเหลืองนวลน่ากิน  พร้อมแก้วกาแฟร้อนควันกรุ่นมาให้ตรงหน้าผม

   “ขอบคุณครับคุณหนู  เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว  และผมเต็มใจ  ไม่คิดว่าเป็นเรื่องรบกวนเลยครับ”  ผมก้มหัวให้คุณหนูตระกูลหวางผู้เป็นน้องสาวฝาแฝดของนายน้อย  ก่อนจะเอื้อมมือรับน้ำใจของคุณหนูเหมยอิง  พร้อมส่งยิ้มจริงใจยืนยันในคำพูด

การที่บ่ายนี้ผมมาปรากฏตัวยังร้านเบเกอรี่ดัง  ณ  ห้างใหญ่ใจกลางเมืองได้นั้น  เป็นเพราะคุณหนูเหมยอิงเจ้าของร้านอยากให้คุณธันว์ได้ทานขนมของโปรดแบบสดใหม่ขึ้นจากเตา  ด้วยวันนี้คุณธันว์ว่างจึงโดนนายน้อยพามาเป็นกำลังใจตอนทำงาน  ผมและพี่อู๋บอดี้การ์ดประจำตัวของคุณธันว์  จึงได้รับคำสั่งจากนายน้อยให้ออกมารับขนม  เพื่อนำกลับไปให้คุณธันว์ได้ทาน

“ได้ยินฝูหรงเรียกเหมยอิงว่าคุณหนูแบบนี้แล้วขัดหูยังไงไม่รู้  ต่อไปเรียกเหมยอิงเฉยๆก็พอค่ะ  อ๊ะ!  ห้ามปฏิเสธน้า  ขืนพอลมาได้ยิน  อาจจะนึกไม่พอใจเหมยอิงเข้าก็ได้นะ  โทษฐานทำตัวห่างเหินกับแฟนเพื่อน  คิกๆ...ฝูหรงหน้าแดงด้วย  น่ารักจัง  คิกๆ”  เสียงหัวเราะพลิ้วหวานและสายตาแพรวพราวหยอกเย้าที่คุณหนูเหมยอิงมีให้ผม  ทำเอาผมที่เพิ่งตีความหมายในคำพูดของเธอออกและแก้มร้อนอยู่แล้ว  ถึงกลับก้มหน้างุดยืนนิ่งทำตัวไม่ถูกไปเลยทีเดียว

‘พอลนะพอล  ไม่รู้ไปเล่าเรื่องของเราให้คุณหนูเหมยอิงรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่’  ผมก็ไม่รู้ว่านายน้อยจะทราบเรื่องของผมและเพื่อนสนิทของตัวเองรึยัง  แต่ยังไม่น่าจะรู้มากกว่า  เพราะนายน้อยยังคงวางตัวปกติกับผม  และถ้าวันหนึ่งได้รู้ขึ้นมานายน้อยจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกันนะ  จะคิดต่อต้านหรือรังเกียจผมรึเปล่า 

ระหว่างที่ผมกำลังหมกมุ่นกับเรื่องที่ไม่น่าจะต้องคิดมากอยู่นั้น  ผมก็ต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่ส่งคำถามแสดงความห่วงใยมาให้ด้วยเสียงหวานๆ  ซึ่งคุณหนูเหมยอิงคงเห็นผมเงียบไปนานนั่นเอง

“ฝูหรง  ฝูหรงคะ  เป็นอะไรเงียบไปเลย...หรือกำลังกังวลอยู่ว่าเหมยอิงรู้ได้ยังไง  ใช่มั้ยคะ”  ผมได้แต่ตะกุกตะกักพยักหน้าพร้อมรับคำเบาๆ  จึงได้รับรอยยิ้มอ่อนหวานกลับคืนมา  ก่อนเจ้าของเสียงหวานๆจะขยายความให้ผมรับรู้

“ก่อนอื่นเหมยอิงต้องขอโทษนะคะ  ที่เอาเรื่องนี้มาล้อฝูหรง  เหมยอิงแค่ดีใจที่ได้รู้ว่าเพื่อนอย่างพอลมีคนรู้ใจแล้ว  แถมยังเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตากันอีก  ส่วนเรื่องของพอลกับฝูหรง  เหมยอิงรู้ต่อมาอีกทีน่ะ  เพื่อนสนิทกันไม่มีอะไรต้องปิดบังกันนี่คะ  แต่เหมยอิงไม่ได้รู้จากเฮียหลี่ผิงหรอกน้า  รายนั้นน่ะยังตกข่าวอยู่  คิกๆ...ฝูหรงอย่ากังวลเลยค่ะ  เหมยอิงสัญญาว่าจะพยายามไม่ล้อฝูหรงเรื่องพอลอีก  อ้อ!  เหมยอิงยินดีกับฝูหรงด้วยนะคะ”

“คะ...ครับ  ขอบคุณครับคุณหนู  เอ่อ  คุณเหมยอิง”  ผมยังไม่ทันจบประโยคดี  คุณหนูคนสวยกลับสวนขึ้นมาว่าไม่ต้องใส่คำว่าคุณนำหน้าชื่อ  ให้เรียกแค่เหมยอิงเฉยๆ  ไม่ใช่แค่ประโยคคำสั่งกลายๆเท่านั้นนะครับ  แต่ใบหน้าแววตาก็จริงจังไม่แพ้น้ำเสียงเลยเชียวล่ะ 

ผมจึงได้แต่รับคำคุณหนูเหมยอิงแบบไม่ค่อยเต็มเสียงนัก  และก่อนที่ผมจะก้าวออกจากร้าน  ผมก็สวนทางกับคนที่เพิ่งเดินเข้ามา  ซึ่งบุคคลคนนี้คุ้นหน้าคุ้นตามากเลยทีเดียว  แถมน่าจะเป็นคนๆเดียวกับที่บอกต่อถึงความสัมพันธ์ของผมกับพอลให้คุณเหมยอิงทราบแน่ๆ  ด้วยผมจำได้ดีว่าคุณไรอันนั้นเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของนายน้อย  เพราะคุณไรอันเคยไปขอพบนายน้อยที่โรงแรมมาก่อน  ซึ่งสอดคล้องกับคำบอกเล่าของคุณเหมยอิงก่อนหน้า  ที่ว่าเพื่อนสนิทกันไม่มีอะไรต้องปิดบัง  และคุณไรอันคนเดียวกันนี้แหละที่ผมระแคะระคายมาว่า  ใจกล้าอาจหาญเสนอตัวให้คุณหนูตระกูลหวางพิจารณา  ปะติดปะต่อเรื่องราวเข้าด้วยกันทั้งหมด  ต้องไม่ผิดคนแน่ๆ  คุณไรอันนี่แหละที่เล่าเรื่องของเรา

คิดแล้วก็อดเขินไม่ได้  ทั้งๆที่ผมเคยงอนพอลด้วยซ้ำ  ด้วยคิดว่าเจ้าตัวไม่อยากเปิดเผยเรื่องของเราให้คนอื่นรู้  แต่พอคุณหนูเหมยอิงที่รู้เรื่องของเราเข้าและเอามาล้อ  ผมกลับทำตัวไม่ถูก  แต่ก็เต็มไปด้วยความภูมิใจล่ะน้า  ดังนั้นยามที่ผมสบตาคุณไรอันเข้าในแวบแรก  จึงเผลอหลบตาทั้งๆที่คุณไรอันยังไม่ทันเอ่ยอะไรออกมาสักคำ  ก่อนผมจะรีบเผ่นออกนอกร้าน  หลังจากตอบรับและทักทายคุณไรอัน  ซึ่งผมแอบเห็นด้วยว่าคุณไรอันมีสีหน้ามึนงงกับพฤติกรรมแปลกๆของผมด้วย

“ขอบคุณครับพี่ฝูหรง  ว้าว!  ทาร์ตไข่น่ากินจังเลย  หอมด้วย  คิกๆ...เฮียหลี่ผิงกินกับธันว์มั้ย  อร่อยอ่ะ”  คุณธันว์ขอบคุณผมด้วยเสียงใสๆพร้อมยิ้มพิมพ์ใจ  ก่อนยกจานขนมของโปรดขึ้นจรดจมูก  และยิ้มถูกใจจนตาปิดมีหัวเราะน้อยๆพอให้คนได้ยินคลี่ยิ้มอารมณ์ดี  พร้อมหันไปชวนนายน้อยทานด้วยดวงตายิบหยี  หลังตักทาร์ตไข่ขึ้นชิมคำโต

“ฮึๆ  ทานเลยครับ  เฮียไม่อยากแย่ง  เดี๋ยวเด็กแถวนี้ไม่พอทานจะพาลหงุดหงิดใส่”  นายน้อยหลี่ผิงหยอกเย้าคนรักของตัวเองด้วยเสียงนุ่มๆ  พร้อมใช้ดวงตาอบอุ่นจ้องคุณธันว์ไม่วางตา  แทนที่คนโดนล้อจะงอนจะโกรธ  แต่กลับหน้าขึ้นสีทำปากยื่นแก้มพองใส่กลั้นยิ้มอย่างน่าเอ็นดู 

นาทีนี้แม้แต่ผมยังเห็นว่าคุณธันว์น่ารัก  ในสายตานายน้อยท่าทางของคุณธันว์ตอนนี้  คงเกินกว่าคำว่าน่ารักน่าเอ็นดูไปไกลแล้วล่ะ  เพราะนายน้อยยื่นมือไปลูบหัวคนข้างตัวที่กำลังบ่นพึมพำกับจานขนมในมือ  ด้วยแววตาวิบวับชวนหน้าร้อน  ก่อนจะโน้มหน้าไปกระซิบบางอย่างข้างหู  ทำเอาคุณธันว์เงยหน้าขึ้นมาทำตาโตจ้องนายน้อยเหมือนคนตื่นตระหนก  และแก้มที่แดงอยู่แล้วก็แดงก่ำแทบไหม้กันเลยทีเดียว 

นายน้อยเองก็กลั้วหัวเราะเบาๆที่เห็นอาการของคนรัก  ก่อนจะโน้มคอคุณธันว์เข้าหาและกดจมูกลงบนกระหม่อม  ซึ่งท่าทางผ่อนคลายและใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขของนายน้อยในขณะนี้  อย่าหวังว่าจะมีใครได้เห็นง่ายๆ  แถมคนที่ทำให้พญามังกรหนุ่มหวางหลี่ผิงมีท่าทางเช่นนี้ได้มีน้อยยิ่งกว่าน้อย  ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คงเป็นคนที่ตกอยู่ในอ้อมกอดของท่านตอนนี้

ผมปลีกตัวเดินออกจากห้องแบบเงียบเชียบที่สุด  ไม่อยากรบกวนช่วงเวลาแห่งความสุขของนายตัวเอง  จนออกมานั่งอมยิ้มกับจานขนมและแก้วกาแฟที่เหลือไออุ่นเพียงจางๆของตัวเองที่โต๊ะทำงาน  ผมอดยอมรับและชื่นชมในความรักและความเหมาะสมของคนทั้งคู่ไม่ได้จริงๆ 

คนหนึ่งน่ารักมีน้ำใจรู้จักวางตัวอย่างเหมาะสมต่อผู้คนรอบข้าง  และไม่มีอาการถือตัวต่อผู้ด้อยกว่าสักนิด  จนสามารถครองใจใครต่อใครที่ได้รู้จัก  อีกหนึ่งฉลาดองอาจผ่าเผยเด็ดขาด  และเข้มแข็งแต่ไม่แข็งกร้าว  คุณสมบัติครบเหมาะสมเป็นผู้นำ  หากคนทั้งคู่ได้ครองคู่กัน  ผมเชื่อว่าหวางหย่งกังคงรุ่งเรืองยิ่งขึ้น  และไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน

ส่วนความรักของผมและพอลเพิ่งเริ่มนับพร้อมกันเพียงหลักเดือน  มีอะไรให้เราต้องเรียนรู้กันและกันอีกมาก  แต่โชคดีของผมที่ปาปามามาของพอลเอ็นดู  คงเกิดจากความรักที่บุพการีมีให้แก่ลูกชายเพียงคนเดียวนั้น  เผื่อแผ่มายังผมที่ลูกชายท่านเป็นคนเลือกให้มาเคียงข้าง  จนผมสนิทใจที่ได้เป็นหนึ่งในคนของครอบครัวตระกูลโจว  และซาบซึ้งใจอย่างที่สุด  เมื่อปาปามามาพาผมไปออกงานสังคมพร้อมพอล  โดยในงานนั้นนอกจากนักธุรกิจวงการอสังหาฯแล้ว  ผมยังได้เจอญาติสนิทบางคนของตระกูลโจวด้วย  ซึ่งก็คือครอบครัวของจินนี่ที่มีคุณอาผู้ชายและอาหญิง  ผู้ที่เป็นน้องสาวๆแท้ๆของปาปา  ทำให้การออกงานวันนั้นไม่ต่างจากการเปิดตัวผมกลายๆ  ในฐานะคนรักของลูกชายคนเดียวของโจวฟู่ซือ 

ผมนั้นประทับใจกับการความรักและความอาทรของทุกคน  ด้วยไม่มีทีท่ารังเกียจคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างผมให้เห็นสักนิด  มีแต่ความสนใจใคร่รู้ถึงความเป็นไปของผมและพอล  เป็นที่มาของความสนิทสนมที่ได้จากการซักถามผมด้วยความใส่ใจนั่นเอง 
แม้จะมีเพียงหนึ่งคนที่ออกแนวหมั่นไส้และแอบกระทบกระเทียบผมบ้าง  ด้วยตัวเองนั้นถูกลดทอนความสนใจลงกว่าเคย  ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้  ถ้าไม่ใช่นางฟ้าจอมแสบหลานสาวสุดที่รักของทุกคน  แต่สิ่งที่จินนี่เป็น  ผมกลับเห็นเป็นเรื่องขำๆซะมากกว่า  เพราะตั้งแต่เราได้คุยกันที่คอนโดผมในวันนั้น  ผมพอจะมองออกว่าจินนี่มีนิสัยอย่างไร 

จินนี่เป็นแค่สาวน้อยคนหนึ่งที่ถูกผู้ใหญ่และลูกพี่ลูกน้องรอบตัว  ให้ความรักและตามใจเป็นที่หนึ่ง  ด้วยเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของตระกูล  ย่อมไม่น่าแปลกใจหากความสนใจของญาติคนสนิทอย่างพอลถูกแบ่งปันมายังผม  จนเธอถึงขั้นตามมาสร้างความแตกแยกให้แก่เรา  ตามนิสัยเด็กสาวขี้หวงและต้องการเป็นที่หนึ่งในสายตาทุกคน  บวกความหวังดีด้วยจินนี่คงกลัวว่าพอลจะโดนผมหลอกนั่นเอง  แต่เมื่อโตขึ้นจึงไม่แปลกอีกเหมือนกัน  ที่จินนี่จะยอมเปิดใจรับรู้ความจริงที่อยู่ตรงหน้า  และยอมรับเรื่องของผมกับพอลได้ 

แม้จะยังมีพฤติกรรมแปลกๆต่อผมอยู่บ้าง  จนพอลถึงกลับส่ายหน้าอย่างอ่อนใจทุกครั้ง  ยามได้เห็นจินนี่แสดงอาการนั้นๆใส่ผม  แต่พอลก็ทำให้ผมรู้ว่าจินนี่ไม่ใช่แค่หวงพอลคนเดียว  แต่กับลูกพี่ลูกน้องผู้ชายคนอื่น  จินนี่ก็หวงเค้าเหล่านั้นไม่ต่างกัน  เพราะพอลได้ยุแยงเบี่ยงเบนความสนใจของจินนี่ไปจากผม  ด้วยการให้จินนี่ไปคอยจับตาฉิงเหวินญาติอีกคนที่ได้ข่าวว่ากำลังกิ๊กกั๊กกับดาราสาววัยรุ่นแทน  ซึ่งจินนี่ก็ไม่พลาดจะตกหลุมที่พอลดักไว้  ทำท่าจะโทรหาเอาความจริงกับฉิงเหวินซะเดี๋ยวนั้นเลยเหมือนกัน 

แต่ก่อนจินนี่จะกลับมีหันมากระตุกยิ้มจ้องตาผมสลับกับพอล  และพูดประมาณว่าจะไม่ละความสนใจจากคู่ของเรา  แต่จะคอยจับตาไว้  เพราะหากวันหนึ่งผมเปลี่ยนใจจากพอล  และคิดฮุบสมบัติล่ะก็  คงได้เผชิญหน้ากับเธอเป็นคนแรก  พอลเองก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างหน่ายๆ  แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยแววหมั่นไส้ปนเอ็นดูนักหนา  สำหรับผมนั้นจินนี่จึงไม่ต่างจากน้องสาวจอมเฮี้ยว  ที่มีอะไรมาให้ตื่นเต้นตลอดเวลาเท่านั้นเอง

ช่วงเวลาที่ผ่านมาทำให้ผมนึกขอบคุณใครหรืออะไรก็ตาม  ที่ทำให้ชะตาชีวิตของผมกับพอลบรรจบพบเจอกันอีกครั้ง  ไม่เช่นนั้นผมคนนี้คงไม่ได้สัมผัสคำว่าความสุขเหมือนในตอนนี้หรอก  ซึ่งความสุขที่ว่ามักเกิดจากลูกครึ่งรูปหล่อของผมเป็นคนสร้างแทบทั้งสิ้น 

ตั้งแต่ผมย้ายไปอยู่บ้านพอล  สามรถเรียกความรู้สึกเก่าๆอย่างความอบอุ่นจากคนในครอบครัวได้อีกครั้ง  ด้วยทั้งปาปาฟู่สือและมามาอีลิน่ามอบความรักและความเอื้ออาทรให้แก่ผม  ไม่ต่างจากที่ผมเคยได้รับจากบุพการีของตัวเองสักนิด  เติมเต็มความรักความอบอุ่นในส่วนที่ผมขาดได้อย่างสมบูรณ์  พอลเองไม่ทำให้ผมผิดหวัง  ด้วยเจ้าตัวคอยดูแลเอาใจใส่ผมอย่างดี  ให้ความรู้สึกว่าผมไม่ต่างจากเจ้าชายน้อยเลยเชียวล่ะ 

แม้แต่เรื่องเล็กๆพอลก็ใส่ใจทำให้ผมอย่างที่ผมคาดไม่ถึงเสมอ  เหมือนในขณะนี้  จนผมแอบหวั่นลึกๆว่าความสุขที่แทบล้นอกนี้  มันจะสลายหายไปแบบไม่รู้ตัวเข้าสักวัน  และครั้งนี้มันคงทำให้ผมเจ็บปวดมากกว่าครั้งก่อนหลายเท่านัก  ด้วยผมผูกใจรักลูกครึ่งรูปหล่อคนนี้เกือบทั้งใจแล้ว

“เท่านี้ดีมั้ย...[แก๊บๆ]...เข้าเนื้อรึเปล่า  ถ้าเจ็บให้บอกนะครับ”  ผมได้แต่อมยิ้มและจับจ้องไปยังเจ้าของกลุ่มผมดำขลับ  ที่ใช้เสียงทุ้มนุ่มส่งคำถามอาทรดังกล่าวมาให้  ซึ่งคนเดียวกันนี้ก็กำลังจดจ่อกับภารกิจสำคัญตรงหน้า  จนไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นฟังคำตอบ

ผมเองก็กำลังเพลินไปกับเสียงนุ่มๆและความใจใส่ของคนรัก  จนไม่คิดจะเอ่ยคำใดออกไปเหมือนกัน  ได้แต่เฝ้ามองการกระทำนั้นด้วยหัวใจที่แสนอบอุ่น  ด้วยไม่คาดคิดมาก่อนว่าระดับโจวพอลหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรงแห่งวงการอสังหาฯ  จะมานั่งขัดสมาธิอย่างง่ายๆ  บรรจงตัดเล็บเท้าให้แก่ผู้ชายธรรมดาอย่างผม 

ถ้าถามหาที่มาที่ไปคงเริ่มจาก  ช่วงที่เรานั่งดูหนังเคียงข้างกันภายในบ้านยามบ่ายของวันพักผ่อนสบายๆนั้น  ผมที่นั่งยกขากอดเข่าเกยคางในท่าคุ้นเคย  ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าถูกอีกคนจับจ้องอยู่  ด้วยพอลคงสังเกตเห็นว่าเล็บเท้าผมยาว  พอหนังจบเจ้าตัวก็เดินออกไปจากห้องทันที  แรกทีเดียวทำเอาผมสงสัยไม่น้อยว่าคนรักไปไหน  แต่พักเดียวพอลก็กลับมาพร้อมกรรไกรตัดเล็บในมือ  และขันอาสาตัดเล็บให้กัน 

แรกที่ได้ยินผมก็ปฏิเสธไป  เพราะเห็นเป็นเรื่องส่วนตัวที่เราต้องจัดการเอง  แต่สีหน้าแววตาจริงจังที่พอลใช้มองผม  พร้อมคำขอร้องกึ่งบังคับว่าจะตัดเล็บให้  ทำให้ผมได้แต่ยอมตามใจด้วยการนั่งเหยียดขา  และวางส้นเท้าไว้บนตักพอล  ก่อนจะปล่อยให้ลูกครึ่งช่างเอาแต่ใจได้ทำตามความต้องการ  มาถึงนาทีนี้ผมจึงได้แต่นั่งอมยิ้มมองการกระทำของคนรักด้วยความภูมิใจ

“อ่ะ  เสร็จแล้ว  ยื่นเท้าอีกข้างมาสิครับ...หืม  ฝูหรงยิ้มอะไร”  ผมที่กำลังยิ้มก็ได้แต่ส่ายหัว  และจ้องกลับแววตาแพรวพราวของพอล  ก่อนจะยืดขาข้างที่กอดเข่าไว้ออกไป  เพื่อสลับเท้าไปวางบนตักกับเท้าข้างที่ถูกตัดเล็บให้แล้ว

ระหว่างนั้นผมก็หุบยิ้มไม่ลง  พอลเองก็จ้องผมยิ้มๆไม่วางตา  ก่อนจะก้มหน้าไปบรรจงตัดเล็บให้ผมอีกครั้ง  จึงมีเพียงเสียงกรรไกรตัดเล็บเนิบๆในห้องเพียงเสียงเดียว  พร้อมความสุขที่ผมสัมผัสได้อบอวลไปทั่วห้อง  และสายตาคู่หนึ่งที่จับจ้องไปยังลูกครึ่งตัวโตที่ก้มๆเงยๆกับงานตรงหน้า  ด้วยความรู้สึกรักหมดใจของผม

“ทำไมต้องนั่งท่านี้ด้วยล่ะพอล”  ผมขยับตัวนิดหน่อยด้วยแอบขนลุกไปกับลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดซอกคอ  และสัมผัสอุ่นจัดของนิ้วมือที่แตะมือผมด้วยความทะนุถนอม

“ตัดเล็บมือท่านี้สะดวกสุดแล้ว  ฝูหรงอึดอัดเหรอ”  ผมเหลือบมองเจ้าของตักที่ผมนั่งนิดหน่อย  แต่เมื่อพบแต่แววตาจริงใจไม่มีอะไรซ่อนเร้น  จึงได้แต่ส่ายหัวเป็นคำตอบ  และกลับมานั่งก้มหน้าทอดสายตา  มองเพียงปลายนิ้วตัวเองที่กำลังถูกเล็มปลายเล็บให้อย่างเบามืออีกครั้ง

ถึงแม้ผมจะไม่อึดอัดแต่ต้องยอมรับว่าหายใจไม่ทั่วท้องนัก  ด้วยท่านั่งซ้อนตักและหลังแนบชิดไปกับแผ่นอกกว้าง  จนสัมผัสได้ถึงหัวใจอีกดวงที่เต้นในจังหวะสม่ำเสมอ  ทำให้ผมต้องกลั้นลมหายใจเป็นบางจังหวะ  ยามที่พอลชะโงกใบหน้าผ่านข้างแก้ม  เพื่อให้ความสนใจกับการตัดเล็บมือในบางนิ้ว  จนผมสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อแน่นๆเกือบทุกมัดของแผ่นอก  และเผลอจินตนาการเป็นภาพออกมา  ทำเอาแก้มร้อนฉ่าและต้องเสเบือนหน้าหนี  เมื่อพอลเบี่ยงหน้ามามองกันด้วยความสงสัย  แต่ผมก็แกล้งไม่รู้ไม่ชี้  และแอบนึกต่อว่าตัวต้นเหตุในใจไม่ได้  ที่ทำให้ผมต้องจินตนาการอะไรทะลึ่งๆแบบนั้น

ผมต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการนั่งนิ่งๆ  พยายามไม่สนใจลมหายใจร้อนๆกับริมฝีปากนุ่มที่เฉียดแก้มไปมา  และเปลี่ยนมาเป็นนึกตำหนิตัวเองที่คิดอะไรไม่เข้าท่ามากมายในหัว  ทั้งๆที่อีกฝ่ายตั้งใจดูแลผมอย่างไม่มีอะไรแอบแฝงแท้ๆ  และความอดทนของผมก็เป็นผล  เมื่อปลายเล็บสุดท้ายถูกตัดจนเสร็จ  ส่งผลให้ผมถอนใจยาวเหยียดด้วยความโล่งอกอย่างไม่ทันระวังตัว

“อะไรกันครับ  ถอนใจยาวเหยียดเชียว  กลัวพอลตัดเล็บเข้าเนื้อขนาดนั้นเลยเหรอ  ฮึๆ”  เสียงหัวเราะทุ้มหูหยอกเย้าทำเอาแก้มผมยิ่งร้อนฉ่ายิ่งกว่าเดิม  แถมนาทีนี้ผมยังไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น  เพื่อสังเกตพอลหรอกว่ามีสีหน้าแบบไหน  และรู้ความคิดร้ายๆของผมรึเปล่า

“อืม  กลัวสิ  ขืนตัดเข้าเนื้อ  ฝูหรงได้เจ็บเป็นอาทิตย์แน่”  ผมได้แต่รีบเออออรับคำทันที  ด้วยกลัวว่าพอลจะรู้ความในใจที่แท้จริงเข้า  ขืนรู้ผมได้อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนน่ะซิ  มีอย่างที่ไหนจินตนาการถึงคนรักยามเปลือยกาย  ทั้งๆที่คนเค้าตั้งใจดูแลตัวเองขนาดนั้น

“อ้าว  จะรีบไปไหนครับ  เรารึอุตส่าห์ตัดเล็บให้  ไม่ได้ยินขอบใจสักคำ”  ผมต้องหย่อนสะโพกกลับมานั่งตักแข็งๆตามเดิม  เมื่อพอลรวบเอวผมที่กำลังลุกจากตักและรั้งให้กลับมาที่เดิม

“ทำดีหวังผลรึไงกัน  ชิ!...เอ่อ  แต่ก็ขอบคุณนะที่ดูแลกันแบบนี้”  แม้ผมจะบ่นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ  ซึ่งใครจะรู้นอกจากตัวผมว่าที่ทำไปก็เพื่อกลบเกลื่อนความเขินของตัวเอง 

สุดท้ายผมก็ต้องเอ่ยขอบคุณคนที่กอดผมไว้ด้วยน้ำเสียงแผ่วหวิว  เมื่อได้สบสายตาอบอุ่นที่เต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจ

“ด้วยความยินดีครับ  กระต่ายน้อยของพอล  มากกว่านี้พอลก็ทำให้ได้”

คุณคิดว่าไง  ผมจะมีปฏิกิริยาอย่างไร  ต่อเจ้าของน้ำเสียงนุ่มๆและอ้อมกอดอุ่นๆที่ส่งสายตาจริงใจมาให้ในระยะประชิด  นอกเสียจากปิดเปลือกตาลงช้าๆ  และอยู่นิ่งๆรอรับจูบหวานๆ  ยามคนรักรูปหล่อยื่นหน้าเข้าหา

ผมเตลิดไปกับอ้อมกอดอบอุ่นและสัมผัสอ่อนโยนจนได้  ซึ่งภาพในจินตนาการเทียบไม่ได้กับความจริงตรงหน้า  ด้วยกล้ามเนื้อแน่นๆที่แวววาวไปด้วยหยาดเหงื่อ  ทำเอาตาพร่ามัวเมาหลงใหลไม่ขัดขืน  ไหนจะสีหน้าแววตาแห่งความปรารถนาที่ทอดมองมายังผมไม่เคลื่อนหนี  แถมด้วยความชำนาญในการหลอกล่อและเล้าโลมร่างกายผมไปทั่วร่าง  เพื่อให้ผมตอบสนองความต้องการอย่างเท่าเทียม  ด้วยฝ่ามือ  ริมฝีปาก  และปลายลิ้น  ถ่ายเทความรู้สึกแห่งการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ  อยากครอบครองผ่านร่างกาย  ทำให้ผมรู้สึกเร่าร้อนไปทุกท่วงท่าที่ขยับไหว  ยินยอมพร้อมใจไปทุกที่ที่พอลต้องการ  ก่อนเราจะจับมือพากันก้าวข้ามเส้นชัยแห่งรัก  หลั่งรินหยาดหยดแห่งความปรารถนาในเวลาต่อมา  พร้อมปล่อยเสียงกรีดร้องสุขสมที่ไม่อาจเก็บกลั้นได้อีกต่อไป  และปิดท้ายบทรักที่แสนเร่าร้อน  ด้วยคำรักอ่อนหวานที่ทำเอาอุ่นไปทั้งหัวใจ

“รักมากนะครับ  กระต่ายน้อยของพอล”

............................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ฮุๆ  ปิดฉากด้วยความเร่าร้อนของสองหนุ่ม
ตอนนี้ใครไม่รักลูกครึ่งปากเสียก็ใจแข็งเกินล่ะน้า~
สำหรับกระต่ายน้อยไม่ต้องพูดถึง  เพราะหลงพอล
ชนิดที่ฉุดไม่ขึ้นเลยเชียวล่ะ

ตอนหน้าคุณผู้อ่านจะยิ่งอิจฉาฝูหรงที่มีลูกครึ่งรูปหล่อคนนี้
เป็นแฟน  ผู้ชายอะไรดูแลดีมาก  ซึ่งพอลจะดูแลอย่างไรนั้น
ติดตามได้วันพุธค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
 
ปล.วันนี้มาเสียเย็น  ต้องขอโทษสำหรับคนที่รอค่ะ  :mew2:
แต่ยังไงก็มาเนอะ อิๆ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 08-08-2014 17:10:58
เขิลแทนกระต่ายน้อย  :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 08-08-2014 17:16:18
พอลดูแลใส่ใจฝูหรงมากเลย แถมมีเฮียหลี่ผิงกับน้องธันว์มาแจมด้วย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 08-08-2014 17:29:49
 :o8: เขินไปกับความรักมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งของทั้งคู่   ยัยจินนี่จอมแสบคงต้องปล่อยๆ เธอไป หรือไม่พอลก็ต้องหาคู่ให้น้องสาวจอมแสบซะ  จะได้ไม่หาเรื่องมาป่วนอีก
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 08-08-2014 19:09:14
 :-[ คู่นี้พอรู้ใจรักกันแล้วหวานแหววตลอด
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 08-08-2014 19:42:44
ฝูหรงตอนนี้คงหลงพอลไปแล้วหละ ฮ่าๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 08-08-2014 19:55:12
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 08-08-2014 21:58:58
อิตาลูกครึ่งปากเสียนี่ก็โรแมนติกม้ากมากเนอะ  :-[
มี.. เอ่ออ.. NC(?)แบบงงๆตอนจบด้วย :laugh:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 08-08-2014 22:43:33
พอลนี้นับวันยิ่งจะน่าร้ากกกกกอ่ะ :hao5: :hao5: :hao5: o13
ดูแลฝูหรงได้ดีมากจริงๆๆๆ o13 o13
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 09-08-2014 02:41:39
 :-[
พอลดูแลฝูหรงดีจัง
อิจฉาอะ
 :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 09-08-2014 06:22:52
พอลน่าร๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 09-08-2014 08:57:04
ตัดเล็บกันอยู่ดีๆ ทำไมไปจบที่เตียงได้หว่า

555555

หวานแหววกันจริงๆ นะคู่นี้
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 09-08-2014 11:30:47
ฮิ้ววววววว

อ่านแล้วอยากมีคนตัดเล็บส่วนตัวอ่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-08-2014 16:15:48
หวานกันตลอดๆ ฟินฉากตัดเล็บอ่ะ >///<
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 09-08-2014 20:05:09
คือหวานเว่อร์
อิจฉาๆๆๆๆ
 :mew3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 09-08-2014 21:15:34
พอลหวานเกิน :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 11-08-2014 16:56:47
 :z2:

ดันๆ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 11-08-2014 16:58:59
ที่ผ่านมาโดนข่วนหรอ? เลยต้องมานั่งจับตัดเล็บ  :hao3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoRin ที่ 11-08-2014 20:04:00
หวานตลอดดดดดดดดดด
อิจฉาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 11-08-2014 20:18:26
คุ้มค่ากับที่จากกันไป 5 ปีทีเดียว
พอลน่ารักมาก ใส่ใจฝูหรงที่สุด :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.15 "รักและใส่ใจ" P.13 (8/8/57) หวาน^3^
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 11-08-2014 21:20:33
พอลดูแลกระต่ายน้อยดีมาก :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 13-08-2014 12:23:43
ตอนที่ 16

โจวพอล
   
“พอลมาได้ไง  เราคุยกันแล้วนี่...เอ่อ  พอลจะ..ใจเย็นๆนะ”  กระต่ายน้อยตากลมขยับถอยร่นไม่เป็นท่า  หลังจากที่หลงเปิดประตูให้ผมเข้ามา 

แม้ฝูหรงจะมีท่าทางตื่นตระหนกและขยับถอยหลังหนีผมนั้น  แต่ดวงตากลมๆที่เต็มไปด้วยแววแตกตื่นยังคงจับจ้องผมไม่วางตาอย่างระแวดระวัง  แถมยังมีแก่ใจกล่อมผมให้ใจเย็นๆด้วยเสียงสั่นๆ  ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวหวั่นใจในพฤติกรรมของผมมากอยู่  ซึ่งผมก็รู้ตัวดีว่ามีทีท่าคุกคามคนน่ารักไม่น้อย  แต่จะไม่ให้ผมมีพฤติกรรมเช่นนี้ได้อย่างไร  ในเมื่อฝูหรงอ้างว่างานยุ่งและหนีผมมานอนคอนโดตัวเองถึงสองคืนแล้ว  และหากผมไม่ตามมาในคืนนี้  เราก็คงไม่ได้เจอกัน  ผมเองก็คงอดนอนกอดฝูหรงเป็นคืนที่สาม 

ถึงแม้คืนแรกที่เราต้องแยกบ้านกันนอน  ผมเองก็ติดธุระไปดูที่ดูทางต่างเมืองด้วยก็ตามที  ส่วนในคืนถัดมาผมก็หวังจะได้กลับมานอนกอดคนรักให้คุ้มกับที่ต้องห่างกัน  แต่ฝูหรงกลับเป็นฝ่ายบอกว่าต้องเคลียร์เอกสารอยู่ที่โรงแรมจนดึก  ห้ามไม่ให้ผมตามมานอนกับเจ้าตัว  ทำเอาผมถึงกับหงุดหงิดงุ่นง่านแต่ไม่เสี่ยงโวยวาย  ด้วยรู้แก่ใจว่าหากเป็นเรื่องงาน  ฝูหรงจะให้ความสำคัญเสมอ  และคงเครียดกับมันมากพอแล้ว  จึงไม่อยากเพิ่มความลำบากใจให้คนรักเพิ่มอีก 

ผมก็ได้แต่หวังว่าคืนถัดไปจะได้กอดกระต่ายน้อยให้ชุ่มปอด  ให้สมกับที่เราต้องห่างกัน  แต่ฝันผมก็ต้องสลาย  เมื่อสองชั่วโมงก่อนหน้านี้  ผมได้รับโทรศัพท์จากพ่อกระต่ายน้อยว่าขอนอนคอนโดต่ออีกคืน  เพราะต้องเคลียร์เอกสารที่ยังทำไม่เสร็จ  และฝูหรงไม่อยากหอบหิ้วไปมาให้ยุ่งยาก  ก่อนเจ้าตัวจะวางหูไป  ไม่แม้แต่จะรอคำตอบรับของผม  ทั้งๆที่ตลอดสามวันที่เราห่างกัน  เราคุยกันแทบนับคำได้  สำคัญที่ผมเองคิดถึงฝูหรงจนพาลหงุดหงิดไปหมดแล้วแท้ๆ 

ผมตัดสินใจขับรถมาที่คอนโดนี่  โดยไม่สนเหตุผลอะไรทั้งนั้น  ในเมื่อฝูหรงแค่บอกเล่าว่าจะนอนคอนโด  แต่ไม่ได้ห้ามผมให้มาหาซะหน่อย  เรื่องอะไรคืนนี้ผมจะยอมนอนคนเดียว  และยิ่งได้เห็นหน้ากระต่ายน้อยแสนรัก  ความรู้สึกคิดถึงก็ถาโถมเข้าใส่อย่างห้ามไม่อยู่  จนเผลอแสดงท่าทีคุกคาม  ทำให้กระต่ายน้อยตากลมตื่นตระหนกอย่างที่เป็นอยู่ขณะนี้  แต่ผมก็ไม่คิดเปลี่ยนท่าที  ยังคงก้าวไปข้างหน้าตามติดร่างน้อยอย่างช้าๆ 

จนกระทั่งฝูหรงชนเข้ากับโซฟากลางห้องที่เต็มไปด้วยกองเอกสาร  ก่อนจะหงายหลังลงไปนอนบนเบาะโซฟา  ผมก็ไม่พลาดจะตามประกบคร่อมร่างน้อยไว้ทันที

“อ่ะ...[ตุ้บ!]...เดี๋ยว  ไม่เอานะ  อืมมมม”  ในที่สุดผมก็ได้ครอบครองริมฝีปากนุ่มที่โหยหามาตลอดสองวันสองคืน  และรู้ตัวได้ว่าตัวเองตะกละตะกลามเพียงใด 

เรียกได้ว่าหน้ามืดมัวเมาไปกับความหวานของโพรงปากอุ่น  และเรียวลิ้นนิ่มที่คอยแต่จะกระถดหนี  กระตุ้นให้ผมอยากเอาชนะตามไล่ต้อนด้วยความตื่นเต้น  จนท้ายที่สุดฝูหรงก็โอนอ่อน  เกี่ยวกระหวัดลิ้นตอบโต้กลับคืน

ผมคงเตลิดไปแล้ว  หากไม่เพราะกำปั้นน้อยๆที่ทุบลงมาบนไหล่  และอาการเบี่ยงหน้าหนีจูบของฝูหรง  ทำให้ผมต้องทำใจปล่อยริมฝีปากนุ่มเป็นอิสระ  ก่อนจะฆ่าเวลาด้วยการสูดกลิ่นหอมอ่อนๆของแก้มกลม  เพื่อให้เจ้าของแก้มได้มีโอกาสกอบโกยอากาศเข้าปอด  ชดเชยมวลอากาศที่ผมขโมยไป  และเตรียมตัวทวงคืนความหวานทุกเมื่อ  หากกระต่ายน้อยพร้อมขึ้นสังเวียนดวลจูบระหว่างเราอีกครั้ง 

แต่แล้วระหว่างที่ผมซอกซอนจมูกสูดกลิ่นเนื้อหนุ่มน้อยด้วยความมัวเมานั้น  ผมกลับรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นๆที่ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังอย่างช้าๆ  ให้ความรู้สึกอ่อนโยนและผ่อนคลาย  บวกกับน้ำเสียงนุ่มๆที่กระซิบเรียกชื่อผมอยู่เหนือหัวเข้ามาอีก  ทำเอาอารมณ์ร้อนๆและความหลงมัวเมาจากรสสัมผัสในตัวคนรัก  ค่อยๆลดระดับความรุนแรงลง  เหลือเพียงรอยอุ่นตามทางที่มือน้อยลากผ่าน  และความรู้สึกของความคิดถึงมากมายที่อยู่ในใจ

“พะ...พอล  พอลครับ  ใจเย็นๆนะ...อ๊ะ!  เจ็บ”  ผมสูดกลิ่นกายคนน่ารักแถวซอกคอขาวไปฟอดใหญ่  เพื่อข่มอารมณ์ดิบของตัวเองให้อยู่หมัด  แต่ผิวขาวอมชมพูเหนือยอดอก  ทำเอาผมอดใจไม่อยู่  จึงขอส่งท้ายด้วยการขบเม้มเบาๆพอให้เกิดรอยจางๆ  แต่ก็อดไม่ได้ที่จะทำให้เจ้าของผิวสวยประท้วงด้วยความเจ็บออกมา

ฝูหรงทำหน้ามุ่ยส่งแววตาต่อว่าต่อขานมาให้ผม  ทั้งๆที่ตัวเองยังคงนอนเสื้อหลุดลุ่ยโชว์ยอดอกวับๆแวมๆ  แถมริมฝีปากที่กำลังยื่นใส่ผมอย่างแง่งอนนั้น  ก็บวมเป่งจากฤทธิ์จูบดุเดือดของผมอีกด้วย  กระต่ายน้อยนี่ช่างไม่รู้ตัวเลยว่าทำให้ตัวเองนั้นตกอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายมากแค่ไหน  จนหมาป่าเจ้าเล่ห์ที่โดนผมปรามไว้  แทบอยากกระโจนเข้าใส่ซะเดี๋ยวนี้  ผมเองก็ได้แต่พยายามตัดใจ  เงยหน้าสะกดกลั้นอารมณ์ตัวเองนิด  และถอนใจออกมาเฮือกใหญ่  ก่อนจะตัดสินใจรั้งร่างน้อยให้กลับขึ้นมานั่งดีๆ 

นาทีนี้เองที่ฝูหรงเหมือนจะเริ่มรู้ตัวว่าเผลอยั่วผมแบบไม่ตั้งใจเข้าให้  จึงเอาแต่ก้มหน้านั่งทับขานิ่งๆอยู่บนโซฟา  ยอมให้ผมติดกระดุมเสื้อเชิ้ตไม่มีโวยวาย  ปิดท้ายด้วยการหยิบแว่นที่ผมโยนทิ้งข้างโซฟาสวมคืนให้  จนผมต้องถอนใจบางเบาและกระตุกยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู  แต่การกระทำของผมกลับทำให้กระต่ายน้อยที่เพิ่งเงยหน้าจากอกขึ้นมองผมนั้น  จ้องผมกลับอย่างหวั่นๆแกมไม่มั่นใจด้วยตากลมๆคู่เดิม  เพิ่มความมันเขี้ยวในความรู้สึกของผมนักหนา  จนผมอยากเปลี่ยนใจขย้ำเจ้าของความน่าเอ็นดูตรงหน้านัก 

ผมต้องสะกดกลั้นอารมณ์อย่างหนัก  ไม่ให้เผลอทำตามใจปรารถนา  ด้วยการกดคนรักตัวน้อยลงบนโซฟาอีกครั้ง  ก่อนร่วมรักจนสาแก่ใจ 

ผมตัดสินใจดันไหล่บางออกห่างตัว  และผลุนผลันเดินหนีเข้าห้องน้ำเพื่อไปสงบสติอารมณ์  เพราะถ้าผมยังฝืนนั่งอยู่ตรงนั้น  เชื่อได้ว่าคงกดฝูหรงกับโซฟา  ท่ามกลางกองงานของเจ้าตัวอย่างแน่นอน  และช่วงเวลาแห่งความทรมานที่ต้องห่างกันเพราะงานก็ต้องยืดเยื้อ  สู้ยอมข่มใจให้ฝูหรงได้ทำงานให้เสร็จๆไปซะดีกว่า 

เอ๋...หรือผมจะลองคุยกับฝูหรงอย่างจริงจังอีกครั้ง  เพื่อให้กระต่ายน้อยยอมลาออกจากงานในหน้าที่เลขาของหลี่ผิงดี!?

“อ่ะ!  อ้าว  ฝูหรงมายืนทำอะไรตรงนี้ครับ...หือ!  เป็นอะไรทำไมตาแดงๆ  อย่าบอกนะว่าร้องไห้!”  หลังจากสะกดกลั้นอารมณ์ได้  ผมจึงเดินออกมาจากห้องน้ำ  แต่แล้วก็ต้องตกใจ  เมื่อเปิดประตูมาเจอฝูหรงยืนนิ่งๆและก้มหน้ารออยู่แล้ว  ซึ่งผมยิ่งตกใจมากกว่าเดิม  ยามที่เชยคางมนขึ้นแล้วพบว่าคนน่ารักตาแดงเหมือนคนผ่านการร้องไห้มา 

พอผมถามออกไป  กลับได้คำตอบเป็นหยดน้ำตาที่ไหลมาตามร่องแก้ม  ทำเอาผมใจหายและมึนงงไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนรักของตัวเอง  ทั้งๆที่ผมทิ้งให้เจ้าตัวได้อยู่คนเดียวไม่ถึงสิบนาที  ผมจึงรวบกอดร่างบางเข้าหาอก  และลูบหลังปลอบใจพร้อมปลอบประโลม  ด้วยถ้อยคำที่ไม่ต่างจากการใช้กล่อมเด็กเล็กๆสักคน  แต่เหมือนผมยิ่งปลอบ  ฝูหรงจะยิ่งร้องมากขึ้น  จนถึงขั้นสะอื้นตัวโยนเล่นเอาผมใจแกว่ง 

ผมจึงตัดสินใจช้อนร่างบางขึ้นอุ้ม  ก่อนพามานั่งซ้อนตักโดยหันร่างบางเข้าหาอก  ยังโซฟารกๆตัวเดิม  เพื่อจะกอดปลอบกระต่ายน้อยขี้แยได้ถนัด  ผมรอจนฝูหรงคลายสะอื้น  จึงคลายแรงกอดรัดร่างบางลง  ก่อนจะเชยคางมนเพื่อเช็ดแก้มซับน้ำตาให้  ซึ่งผมถึงกับใจหายไปกับหนังตาบวมๆ  และแววตาหม่นๆในดวงตาคู่ตรงหน้า  บวกอาการเม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียง  ผมจงใจไล้ปลายนิ้วผ่านขอบตาล่างของฝูหรงอย่างอ่อนโยน  ก่อนจะแตะผ่านขอบปากแดง  เพื่อส่งสัญญาณให้เจ้าของคลายแรงลง

“เสียใจอะไรครับ  พอลทำอะไรไม่ถูกใจฝูหรงรึเปล่า”  ที่ถามฝูหรงไปแบบนั้นเพราะผมลองประมวลดูแล้ว  ว่าอาการเสียใจกึ่งน้อยใจของฝูหรงนั้นน่าจะมาจากผมเป็นต้นเหตุ  เพราะก่อนผมเข้าห้องน้ำนั้น  ผมอาจจะมีท่าทางส่อไปในแนวไม่พอใจกระต่ายน้อยช่างยั่ว  ทั้งๆที่ความจริงผมพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ขย้ำกระต่ายน้อยตรงนั้นมากกว่า

หลังคำถามของผมนั้นฝูหรงจ้องกลับตาเขม็ง  แต่เมื่อเห็นผมส่งยิ้มอ้อนๆให้แก้มใสก็ขึ้นสี  ก่อนเจ้าตัวจะสะบัดหน้าหนีสายตาผม  ตามมาด้วยเสียงแหบๆของคนเพิ่งผ่านการร้องไห้ดังขึ้นมา

“ทำไมต้องทำเหมือนไม่พอใจกันด้วย  หรือเพราะว่าไม่ยอม...ก็คนมันงานเยอะ  อยากทำให้เสร็จเร็วๆนี่  จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันจริงๆสักที  และเพราะรู้ไงว่าจะมีอาการแบบนี้  แต่ก็เร่งมือที่สุดแล้ว  ฮึก  ไหนว่า  ฮึก  รัก...ไงเล่า  ทำไมต้องทำท่าไม่พอใจกันขนาดนี้ด้วย  ฮึก  ฮือออ!”  ฟังคำพูดน่ารักๆของกระต่ายน้อยของผมซะก่อนเถอะ  ผิดมั้ยถ้าตอนนี้ผมหุบยิ้มไม่ลงทั้งๆที่คนรักสะอื้นน้ำตาคลอ

เท่าที่ฟังนั่นหมายความว่าฝูหรงเองก็อยากมีเวลาอยู่กับผมเหมือนกัน  และกำลังพยายามทำเพื่อเราในแบบฉบับของตัวเอง  จนผมเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆที่เอาแต่ใจตัวเอง  แถมยังทำให้คนน่ารักเข้าใจผิดจนต้องเสียน้ำตาเข้าไปอีก  แต่นาทีนี้ทั้งความรู้สึกผิดบวกความน่าเอ็นดูจับใจของฝูหรง  ส่งผลให้ผมประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากเนียนเนิ่นนาน  ก่อนทำแบบเดียวกันยังปลายจมูกแดง  กับพวงแก้มระเรื่อทั้งสอง  และจบด้วยการกระซิบข้างใบหูหอมๆของคนกำลังสะอื้นน้อยๆอยู่กับอกของผม

“รักสิครับ  พอลรักฝูหรงนะ  ไม่ได้ไม่พอใจฝูหรงสักนิด  ที่ต้องหลบเข้าห้องน้ำเพราะฝูหรงน่ารักเกินไปต่างหาก  ถ้าพอลไม่เข้าไปสงบสติอารมณ์ในนั้น  ฝูหรงคงไม่รู้หรอกว่าจะโดนอะไรบ้าง  แต่ที่แน่ๆไม่ได้มานั่งทำตัวน่ารักน่ามันเขี้ยวอยู่แบบนี้หรอกรู้มั้ย  ฮึๆ  ส่งตาเขียวๆให้พอลได้แบบนี้  แสดงว่าเราเข้าใจกันแล้วเนอะ  เฮ้อ  ดูสิตาบวมหมดเลย  เอาแบบนี้ดีกว่า  มาให้พอลปลอบใจก่อน  ฝูหรงจะได้มีกำลังใจกลับไปทำงานต่อ  หลังจากนั้นเราจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันเยอะๆ  ดีมั้ยครับ”

แม้คำตอบที่ผมรอคือความเงียบ  แต่ปฏิกิริยาตอบกลับของรอยยิ้มที่ผมส่งให้ท้ายประโยค  คืออาการเบือนหน้าหนีด้วยแก้มแดงๆของฝูหรง  ผมถือว่าเป็นการตอบรับ  จึงกดจมูกฝังเข้ากับแก้มแดงๆไปฟอดใหญ่  และปิดปากเจ่อๆที่เจ้าของหันมาด้วยความตกใจเป็นการปิดท้าย  ก่อนรีบตัดใจจากความหวานล้ำติดปลายลิ้น

“รีบทำงานให้เสร็จนะครับกระต่ายน้อย  แล้วเราค่อยมาต่อกัน”  ผมจงใจยิ้มอ่อนโยนใส่ดวงตาหยาดเยิ้มเป็นการส่งท้าย  พร้อมเกลี่ยริมฝีปากบวมเจ่อที่มันวาวคู่ตรงหน้าด้วยความเสียดายจับใจ  ก่อนจะรวบเอวบางขึ้นจากตัก  และส่งร่างน้อยให้หันกลับไปนั่งหน้าโต๊ะกระจกที่มีโน้ตบุ๊กเครื่องบางเปิดการทำงานรออยู่

ผมแอบขำกับท่าทางเบลอๆและดวงตาลอยคว้างของกระต่ายน้อยไม่ได้จริงๆ  นี่ถ้าผมไม่เป็นฝ่ายยับยั้งชั่งใจ  ฝูหรงคงได้นอนระทวยอยู่ใต้ร่างของผมแล้วล่ะ  เพราะงั้นต้องยกความดีให้ผมนะเนี่ย  ที่ไม่ปล่อยให้กิเลสครอบงำจนทำคนน่ารักเสียงาน  ผมได้ปล่อยให้ฝูหรงนั่งทำงานอยู่หน้าโซฟาท่ามกลางกองเอกสารมากมาย  ส่วนตัวเองก็เดินเข้าไปในครัว  และต้องส่ายหน้าด้วยความละเหี่ยใจแบบขำๆ  กับถุงอาหารฟาสฟู้ดที่เจ้าของห้องคงตั้งใจกินประทังชีวิตแทนมื้อเย็น  แล้วแบบนี้ผมจะปล่อยให้ฝูหรงคลาดสายตาได้อย่างไรกัน  แค่เรื่องดูแลคุณภาพชีวิตตัวเองยังทำได้ไม่ดีเลย 

ผมจึงโทรสั่งอาหารจากร้านอาหารจีนชื่อดังที่มีบริการเดลิเวอรี่สำหรับเราสองคน  ก่อนจะเดินเข้าไปสำรวจยังห้องที่ผมต้องอาศัยนอนในคืนนี้  ระหว่างที่เดินมาผมแอบเห็นกระต่ายน้อยอยู่ในโหมดจริงจังกับงานตรงหน้าด้วย  ฝูหรงเวอร์ชั่นนี้ก็น่าเอ็นดูไม่หยอก  ผมถึงกลับหลุดครางและต้องพยายามสะกดกลั้น  ไม่ให้หมาป่าเจ้าเล่ห์ในตัวกระโจนใส่กระต่ายน้อยที่แสนจริงจังตัวนั้นไว้ 
แต่แล้วผมถึงกลับหลุดขำกับสภาพห้องนอนตรงหน้า  ด้วยทั้งตู้เสื้อผ้าและเตียงนอนเหมือนเพิ่งผ่านมรสุมลูกใหญ่มา  จะมีสักกี่คนที่ได้รู้ว่าเจินฝูหรงที่แสนเรียบร้อยติดเนี้ยบ  และดูออกจะเงียบขรึมในบางเวลานั้น  จะเป็นคนไร้ระเบียบได้แบบสุดๆ  หากความสนใจทั้งหมดถูกดึงไปเพราะงานที่ตัวเองทุ่มเท 

ฝูหรงเองก็ไม่ต่างจากชายหนุ่มทั่วๆไป  ตื่นมาก็ไม่เก็บที่นอน  เปิดตู้เสื้อผ้าก็ไม่ปิด  แต่ดีเท่าไหร่แล้วแม้งานจะยุ่งก็ไม่ลืมหน้าค่าตาคนรักแบบผม  ที่สำคัญยังคิดถึงความรู้สึกผมมากกว่าใครๆซะอีก  แบบนี้ไม่รักได้ไงไหวใช่มั้ยครับ

“ฝูหรงมาทานก่อน  กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะครับ  ฝูหรงอย่าดื้อกับพอล  ไม่งั้นพรุ่งนี้พอลจะไปทำเรื่องลาออกกับไอ้หลี่ผิงแทนฝูหรงนะ”  เรียกดีๆไม่ยอมมาต้องมีขู่กันบ้างครับ  ซึ่งได้ผลเด็กดื้อเงยหน้าจากหน้าจอคอมมาทำสีหน้าขัดใจใส่ผมทันที  และไม่พลาดที่จะทำปากยื่นๆเข้าใส่กัน  อยากขำก็อยาก  แต่ต้องฝืนใจไว้  เดี๋ยวคนน่ารักจะดื้อไม่เลิก

“อื้อออ  ไม่เอาไม่ออก”  คำตอบนั้นผมรู้อยู่แล้ว  เพราะเราเคยคุยเรื่องลาออก  ตั้งแต่ฝูหรงย้ายไปอยู่กับผมที่บ้านใหม่ๆ  ซึ่งเจ้าตัวก็ยืนยันว่ายังไงก็ไม่ออกจะยังคงทำงานเหมือนเดิม 

ผมเองจึงต้องยอมถอย  แต่ก็ตั้งใจไว้ว่าจะปล่อยให้ฝูหรงทำงานไปอีกสักนิด  แล้วค่อยกล่อมให้ลาออกมาเป็นคุณนายตระกูลโจวเต็มตัวอีกที

“ถ้าไม่อยากออกจากงานก็มานี่ได้แล้วกระต่ายน้อย”  สิ้นคำผมนั้น  ฝูหรงลุกขึ้นจากพื้น  ก่อนทำท่าบิดตัวไปมานิดหน่อย  และก้มตัวลงพับหน้าจอโน้ตบุ๊กอย่างไม่รีบร้อน  แถมด้วยการจัดเอกสารต่างๆทั้งๆที่ไม่จำเป็น  มีทำเมินใส่ผมอย่างแง่งอน  และแกล้งยืดเวลาด้วยการก้าวเท้าเข้าหาผมอย่างช้าๆ 

ผมรับรู้ได้ว่าโดนกระต่ายน้อยยั่วให้โมโหเข้าแล้ว  แต่เจ้าตัวจะรู้มั้ยว่าทำแบบนี้  แทนที่ผมจะโมโหหรือหงุดหงิดใส่  แต่ผมกลับมันเขี้ยวกับวิธีการเอาคืนแบบเด็กๆนี่  ผมจึงก้าวเข้าหากระต่ายช่างยั่วอย่างรวดเร็ว  จนฝูหรงเองยังผงะ  ก่อนอุทานออกมาทันทีที่ผมก้มลงทำตามใจคิด

“อ๊ะ!  พอล!  เหว่ออออ...อุ้มทำไมเนี่ยยย  แกล้งกันเหรอ  งื้อออ...โอ๊ย!  เจ็บนะ”  ผมกลั้วหัวเราะให้กับเจ้าของร่างบางช่างยั่วที่อยู่บนไหล่  โดนเอาคืนบ้างแล้วยังมีแรงโวยวายได้อีก  ด้วยความมันเขี้ยวที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว   ผมจึงฟาดฝ่ามือลงบนก้นกลมเบาๆ  แต่ที่ได้ยินคนน่ารักประท้วงออกมาว่าเจ็บ  มันเกิดจากแรงบีบที่ก้อนเนื้อแน่นๆในอุ้งมือผมต่างหาก

“เด็กดื้อต้องโดนทำโทษบ้างนะรู้มั้ย...อึ๊บ!  ทานมื้อเย็นได้แล้วนะครับ”  หลังจากนั้นผมก็วางฝูหรงลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะอาหาร  ก่อนจะจับปลายคางมนเขย่าไปมา  พร้อมชวนกึ่งบังคับให้เจ้าของความน่ารักได้ลงมือจัดการอาหารตรงหน้า  แต่อาการแสยะยิ้มแยกเขี้ยวใส่ผมด้วยความไม่พอใจนั้น  ทำให้ผมไม่คิดอดใจ  ก้มลงจุ๊บปากแดงๆอีกสักที 

“ [จุ๊บ!]...ช่วยไม่ได้  ฝูหรงอยากมาทำตัวน่ารักใส่พอลเองนะ  รีบทานซะนะครับ  ถ้าช้าพอลจะกินฝูหรงซะเอง”  หากฝูหรงยังทำตัวน่ารักน่าขย้ำอยู่แบบนี้  ผมเองก็ชักไม่แน่ใจว่าจะอดกลั้นไหว  และรอจนเจ้าตัวทำงานให้เสร็จได้รึเปล่า 

หลังจากนั้นผมก็ไม่คิดจะแหย่กระต่ายแสนงอนของตัวเองอีก  ปล่อยให้เจ้าตัวได้กินอย่างเต็มที่  และดูท่าจะหิวมากด้วย  กินไม่พูดไม่จาเชียว  แต่ถ้าผมไม่มาที่นี่และบังคับให้กิน  เวลานี้ฝูหรงก็คงนั่งทำงานอยู่ที่เดิม  ผมจึงตั้งใจไว้เลยว่าต่อจากนี้แม้ผมหรือฝูหรงจะยุ่งแค่ไหน  ผมจะไม่มีวันปล่อยให้คนๆนี้ต้องห่างสายตาเด็ดขาด 

ผมเชื่อว่าผู้ชายส่วนใหญ่ชอบที่จะเป็นฝ่ายถูกเอาใจ  หรือรอรับการบริการจากคนรัก  แต่สำหรับผมยินดีเป็นฝ่ายดูแลและบริการคนรักเสียเอง  เพราะแค่ได้เห็นว่าคนรักของตัวเองนั้นมีความสุขและพอใจกับสิ่งที่เราทำให้  ตัวผมเองก็พลอยมีความสุขตามไปด้วย 

ตัวอย่างเหมือนในขณะนี้  ที่ฝูหรงเงยหน้าระบายยิ้มใส่ตาทั้งๆที่เคี้ยวตุ้ยๆอย่างเอร็ดอร่อย  ผมก็สามารถยิ้มตามใบหน้าน่ารักๆนี่ได้แล้ว  และยิ่งยิ้มได้กว้างขึ้น  ยามที่คนรักคีบอาหารส่งให้กันถึงปาก  พร้อมถ้อยคำแสดงความห่วงใยที่ดังตามมา

“ฝูหรงไม่เห็นพอลกินเลย  ปลาอร่อยนะ  ลองกินสิ”  ผมก็ได้แต่อ้าปากกินปลาหิมะเนื้อขาวๆนั่นตามคำพูดเชิญชวนของคนรักที่น่ารักที่สุดในโลก  แต่ใจจริงเชื่อมั้ยว่าอยากชิมเนื้อกระต่ายขาวๆมากกว่า  ซึ่งผมก็ได้แต่คิด

สุดท้ายงานมหาโหดก็จบลงเมื่อเข็มนาฬิกาเดินเข้าวันใหม่ร่วมสองชั่วโมง  คนที่โหมงานจนเสร็จถึงกับถอนใจเฮือกใหญ่พร้อมบิดขี้เกียจ  ก่อนจะซบหน้าลงกับโต๊ะอย่างหมดแรง  ผมที่นอนอ่านหนังสือรอบนโซฟาตัวข้างหลังร่างบาง  เพื่อให้กำลังใจอยู่ไม่ห่างนั้นก็โล่งใจไม่แพ้กัน

“เสร็จแล้วเหรอกระต่ายน้อย”  ผมลูบหัวทุยพร้อมส่งคำถามที่รู้คำตอบดีแก่ใจไปด้วย  แต่เจตนาแท้จริงคือการส่งความห่วงใยผ่านสัมผัสจากฝ่ามือต่างหาก 

ส่วนคำตอบของฝูหรงเองก็เป็นคนละเรื่องกับที่ผมถาม  แต่กลับตรงใจในสิ่งที่ผมอยากรู้  และถูกใจผมนักกับท่าทางที่ฝูหรงแสดงออกมา

“ฝูหรงเหนื่อยจังเลยพอล”  ฝ่ามือผมที่เคยวางบนหัวกลมๆ  นาทีนี้กลับโดนเจ้าของน้ำเสียงออดอ่อยคว้าไปวางแนบแก้ม  มีขยับแก้มถูไปมาด้วยท่าทางออดอ้อนอีก  ทั้งๆที่เปลือกตาทั้งคู่ปิดสนิท

ผมตัดสินใจกดปากกดจมูกเข้าที่กลางกระหม่อมของกระต่ายน้อยขี้อ้อน  ก่อนก้มลงกระซิบข้างใบหูพร้อมลูบแก้มใสข้างเดียวกันนั้นไปด้วย

“เหนื่อยก็นอนนะครับ  เดี๋ยวพอลดูแลกระต่ายน้อยเอง”  พูดจบผมก็ช้อนตัวคนรักขึ้นอุ้ม  ซึ่งคนที่กำลังอมยิ้มน้อยๆในอ้อมกอดผมก็เหมือนจะรู้ตัวอยู่แล้ว 

ฝูหรงโอบแขนเข้าคล้องคอผมทันที  และซบหน้าลงกับไหล่  ก่อนจะถอนใจยาวเหยียดด้วยความโล่งใจตามมา

ผมบอกแล้วว่ายินดีและเต็มใจอย่างที่สุดที่ได้บริการคนรัก  เพราะความสุขของฝูหรงคือความสุขของผมไม่ต่างกัน  ดังนั้นก่อนที่กระต่ายน้อยจะมานอนแก้มใสตัวหอมฟุ้งให้ผมกอดสมใจ  จึงเป็นฝีมือบริการจากผมล้วนๆ  ตั้งแต่อาบน้ำจนกระทั่งแต่งตัว  ซึ่งผมอดที่จะยกย่องตัวเองไม่ได้จริงๆที่มีความอดทนเป็นเลิศ  สามารถข่มใจกับความยั่วยวนได้สำเร็จ  จนได้รางวัลเป็นอ้อมกอดอบอุ่น  จุ๊บเบาๆหนึ่งทีที่ปลายคาง  และคำขอบคุณที่มาพร้อมคำรักหวานหูก่อนเข้านอน

“ขอบคุณนะพอล  ฝูหรงรักพอลจังเลย”  สำหรับค่ำคืนนี้  ถ้อยคำที่ได้ยินทำให้ผมมีความสุขมากจริงๆ

“พอลก็รักฝูหรง”

.............................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

เชื่อว่าคนที่เป็นฝ่ายดูแลจะมีความสุขมากกว่าฝ่ายถูกดูแล
ใครบางคนถึงเคยพูดว่าการเป็นผู้ให้นั้นสุขใจมากกว่าการเป็นผู้รับ
พอลเองก็คงรู้สึกแบบนั้นเหมือนกันเนอะ...ลองเป็นผู้ให้ดูนะคะแล้วคุณจะรู้  :mew1:

ตอนหน้าเรามาเสพความหวานกันต่อ  แอบบอก>>>ทั้งคู่มีเปลี่ยนสถานที่ด้วย!!!
เจอกันวันจันทร์ค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

 :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 13-08-2014 13:03:17
 :o8: คู่นี้หวานใส่กันได้ตลอดอิจฉาอ่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-08-2014 14:02:41
 :กอด1: :impress2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 13-08-2014 14:25:05
โอ๊ยยยยย
หวานกันตลอดดดดดดดดด  :-[

ปล.อยากเห็นฝูหรงหึงพอลจัง :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-08-2014 14:25:15
ดูแลกันหวานเว่อร์!! รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 13-08-2014 14:42:56
พอลดูแลฝูหรงดีจังเลย~ งื้อออออ อิจ 5555 >.<
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 13-08-2014 14:47:27
โอ๊ยยย อิจฉาๆๆๆ อยากมีบ้าง  :ling1:
ตอนแรกก็ตกใจว่ากระต่ายน้อยหนีทำไม พอรู้เหตุผลแล้วอยากจะจับมาฟัดบ้าง
น่ารักอะไรอย่างเน้!!
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 13-08-2014 14:59:15
โจวพอลก็น่ารักนะเนี่ย

ผลัดกันให้ มีความสุขกันทั้งคู่  :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 13-08-2014 17:27:55
หวานสุดๆ ฝูหรงน่ารักอ่าาา ///7///
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 13-08-2014 17:49:55
หวานน้ำตาหยดเลยแฮะคู่นี้ :ling1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 13-08-2014 18:09:37
 :o8:
หวานเวอร์อะ
ทำเอาไอติมที่กินอยู่ไร้รสชาติไปเลย
 :-[
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 13-08-2014 18:18:33
หวานตลอดอ่ะคู่นี้
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 13-08-2014 19:45:50
น้ำตาลขึ้นแล้วอ่ะ...คู่นี้ :ruready
หวานใส่กันตลอดดดดด :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 13-08-2014 20:39:31
ฮื้ออออ อิจฉาาาาาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 13-08-2014 21:36:54
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 13-08-2014 23:12:35
รอจันทร์หน้าค่า  :pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoRin ที่ 14-08-2014 10:36:05
คือมันหวานมว๊ากกกกกกกกก
คือแบบว่าคนอ่านแทบสำลักความหวาน
คือมะนแบบว่า...อิจฉาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 14-08-2014 12:57:03
ขอยาลดน้ำตาลในกระแสเลือดด้วยคะ

หวานกันจริงๆ

 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 14-08-2014 13:57:22
ผลัดกันดูแล เอาใจใส่กันและกัน  เติมความหวานให้กันบ้าง 
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 14-08-2014 17:21:37
หวานกันจนน่าอิจฉา
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 14-08-2014 23:33:58
หวานซะ :L3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: pulove2534 ที่ 15-08-2014 21:03:03
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 15-08-2014 21:22:12
พอลดูอลฝูหรงดีมาก
น่ารักจรืงๆคู่นี้ หวานตลอด
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 15-08-2014 21:24:20
พอลน่ารักสุดสุด เอาใจฝูหรง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: THE KOP ที่ 16-08-2014 03:22:36
อิจฉาาาาาาา ดุท่าว่าความหวานของคู่นี้จะไม่มีทางลดลงเลยแม้แต่น้อย หวานเอาๆทุกตอนอ่ะ น่ารักมากๆเลยยยยยยย :mew1: :mew1: แบบนี้ดีแล้ว ไม่ต้องเอามาม่าให้หนักอกหนักใจ อ่านไปยิ้มไปทุกตอนแบบนี้ สบายใจดีค่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 16-08-2014 09:00:23
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 16-08-2014 12:16:54
แม้ไม่ได้อยู่ใกล้ก็ยังตามมากกมากอดกันถึงที่เชียวนะพอล
อีกทั้งยังดูแลดีสุดๆ อย่างนี้กระต่ายน้อยจะกล้าหนีได้ยังไงกันล่ะ
ทั้งหมดที่ฝูหรงทำก็เพื่อจะมีเวลาได้อยู่ด้วยกันมากขึ้นนั่นแหละ
รู้เหตุผลแล้วก็รีบหารางวัลให้คนขยันเขาหน่อยนะ
หรือว่าเตรียมไว้แล้ว เห็นบอกว่านอกสถานที่ด้วย :z1:
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 16-08-2014 15:04:00
กระต่ายน้อยขี้อ้อน :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.16 "ตามจับกระต่าย" P.14 (13/8/57)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 16-08-2014 18:53:16
ดูแลกันหวานมากค่ะ จงหวานต่อไปนะคะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 18-08-2014 12:50:37
ตอนที่ 17

โจวพอล

   “เป็นอะไร  ทำไมทำหน้าแบบนั้น  ฝูหรงไม่สบายรึเปล่า”  ผมชะโงกตัวเข้าไปในรถทันทีที่เห็นหน้าซีดๆของคนที่ผมเปิดประตูให้  แต่อุณหภูมิบนหน้าผากนวลก็ไม่แตกต่างจากผมนัก  ยิ่งเพิ่มความสงสัยให้แก่ผมว่าฝูหรงเป็นอะไร  ทั้งๆที่ก่อนออกจากบ้านก็ยังดูปกติดีอยู่แท้ๆ

“ปะ...เปล่าไม่เป็นไร  เข้าไปกันเถอะ”  ผมขยับตัวให้กระต่ายน้อยลงจากรถ  แต่ตัดสินใจรั้งข้อมือบางไว้  เมื่อได้เห็นสีหน้าของคนที่หลบตาผมไม่ดีขึ้น 

ผมตัดสินใจเปิดประตูด้านหลังของรถและยัดร่างน้อยเข้าไป  ก่อนตัวเองจะตามไปประกบ  พร้อมกอบกุมแก้มใสขึ้น  เพื่อสบตากับคนที่ปิดบังอะไรบางอย่างกับผมอยู่

“ฝูหรงเป็นอะไร  บอกพอลสิ  อย่าโกหกว่าไม่เป็นอะไร  พอลเคยบอกแล้วว่าตากลมๆคู่นี้ของฝูหรงน่ะบอกพอลหมดว่าคิดยังไง  ฝูหรงกังวลเรื่องอะไรครับ”  หลังคำถามคาดคั้นของผม  ฝูหรงเม้มปากแน่นและใช้แววตาไม่แน่ใจจ้องผมไม่กระพริบ  ก่อนจะหลบตากัน 

อาการทั้งหมดนี้ยืนยันได้ว่าผมคิดถูก  จนผมเริ่มคิดหาวิธีการบางอย่าง  เพื่อใช้คาดคั้นเอาความจริงจากกระต่ายน้อยปากแข็ง  แต่แล้วคนที่ผมคิดว่าดื้อเงียบและคงไม่ยอมปริปากง่ายๆ  กลับเป็นฝ่ายพูดออกมา

“ก็แค่กังวลว่าเพื่อนๆพอลจะคิดยังไงที่พอลควงฝูหรงเข้างาน”  ผมถึงกับถอนใจพรืดด้วยความโล่งใจ  ก่อนจะเชยคางมนขึ้นเพื่อให้ฝูหรงหันมาสบตากันอีกครั้ง

“ใครคิดอะไรไม่สำคัญ  เท่ากับฝูหรงคิดอย่างไรต่างหาก  เลิกคิดเลิกกังวลให้หมด  แล้วเปลี่ยนมายิ้มหวานๆให้พอลดีกว่า  ไหนยิ้มสิครับ  ฮึๆ  น่ารักมาก  แต่แบบนี้เค้าเรียกว่าแยกเขี้ยวใส่มากกว่านะครับ...ฝูหรง  พอลจะบอกอะไรให้  ทีแรกว่าจะไม่บอก  เพราะตั้งใจว่าจะพาฝูหรงไปเจอพวกมันทีเดียวเลย  ความจริงไอ้พวกนั้นมันอยากจะทำความรู้จักกับกระต่ายน้อยของพอลจะแย่แล้วรู้มั้ย  แต่พอลนี่แหละที่ยื้อเวลาไว้  ไม่อยากพาฝูหรงไปเจอพวกมัน  เพราะกลัวพวกมันมาหลงเสน่ห์กระต่ายน้อยของพอลเอาน่ะสิ”

“ตกลง  นายน้อยก็รู้เรื่องของเราแล้วสิ!”  ผมหุบยิ้มทันที 

นี่รึเปล่าความกังวลที่แท้จริงของฝูหรง  ‘กลัวไอ้หลี่ผิงรู้เรื่อง!’  หรือก่อนหน้าที่เราจะกลับมาเจอกันอีกครั้ง  ฝูหรงมีใจให้หลี่ผิงจริงๆ  และตอนนี้ก็ยังคงเหลือเยื่อใยให้มันอยู่

ฝูหรงเห็นปฏิกิริยาของผมก็มีทีท่าร้อนรนทันที  ยิ่งผมแกล้งขยับตัวหนี  ทำท่าเหมือนจะลงจากรถ  เจ้าตัวถึงกลับกระโจนขึ้นมานั่งคร่อมตัก  ในความเร็วที่ผมเองยังตกใจ

“เดี๋ยวๆ  เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว”  หากเป็นยามปกติผมคงต้องมีกอดรัดฟัดเหวี่ยง  เจ้าของใบหน้าตื่นๆตาโตๆตรงหน้านี้ด้วยความมันเขี้ยวแล้วล่ะ  แต่นาทีนี้สิ่งที่ผมทำคือจ้องเข้าไปในดวงตากลมๆคู่นั้น  และย้อนกลับด้วยเสียงหนักๆว่าผมเข้าใจผิดเรื่องอะไร 

วันนี้เรื่องหลี่ผิงต้องเคลียร์สักที  แม้ลึกๆผมจะค่อนข้างมั่นใจว่าหัวใจทั้งดวงของฝูหรงเป็นของผมทั้งหมด  และเจ้าตัวก็รักผมมากอยู่  แต่ฝูหรงอาจจะยังเหลือความชื่นชมหลงใหลในตัวหลี่ผิงอยู่บ้าง  ซึ่งผมไม่ชอบความรู้สึกนั้น  ด้วยเหมือนมีเสี้ยนหนามเล็กๆที่ชื่อหลี่ผิงคอยทิ่มแทงอยู่ตลอด  ยิ่งเราเป็นเพื่อนสนิทกัน  บวกกับหลี่ผิงเองก็ไม่ได้คิดอะไรกับฝูหรง  ผมยิ่งอยากเคลียร์ความรู้สึกของคนรักของตัวเองให้ชัดเจน  เพี่อให้แน่ใจว่าผมเป็นทั้งหมดของฝูหรงในทุกเรื่องจริงๆ  ซึ่งใครจะเหน็บแนมว่าผมขี้หวงและเอาแต่ใจก็ได้  ในเมื่อผมรักของผม  ผมก็อยากได้ทั้งหมดของคนๆนั้นเป็นของตัวเอง  ทั้งตัวและหัวใจ

“ฝูหรงไม่ได้ชอบนายน้อย!  พอลกำลังคิดแบบนั้นอยู่ใช่มั้ยเล่า!  อย่างที่เคยบอกว่าแค่ชื่นชม  ในความรักและการแสดงออกของนายน้อยที่มีต่อคุณธันว์เท่านั้น  ที่กังวลก็แค่กลัวว่านายน้อยและคุณไรอันกับคุณโจเซฟ  จะรังเกียจฝูหรงที่เป็นแค่เลขา  แต่ดันกลายมาเป็นคนรักของพอล  พาลจะอคติกับพอลไปด้วยน่ะสิ  ที่สำคัญฝูหรงหนักใจตรงที่เป็นแค่เลขาของนายน้อย  กลัวว่านายน้อยจะคิดว่าฝูหรงไม่เจียมตัว  พาลคิดว่าฝูหรงไม่เหมาะกับพอล” 

น้ำเสียงตื่นตระหนกแต่แรกด้วยกลัวว่าผมไม่ยอมอยู่ฟังเจ้าตัว  ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นออดอ่อยในท้ายประโยค  พร้อมใบหน้าน่ารักๆนั่นก็ดูสลดสอดคล้องไปกับถ้อยคำที่สื่อถึงความกังวลใจ  ผมถอนใจพรืดใหญ่ให้กับพ่อกระต่ายน้อยช่างคิดมาก  และเป็นฝ่ายเปลี่ยนมาประคองแก้มกลม  แทนมือเล็กๆที่ตกลงข้างตัวทันทีที่เจ้าของพูดจบ

“คิดมากจริงๆ  พอลยืนยันได้ตรงนี้เลย  ว่าไม่มีใครคิดแบบที่ฝูหรงคิดแน่นอน  เพื่อนสนิทที่เรียกว่ายอมตายแทนกันได้แบบพวกมัน  มีแต่ยินดีสิไม่ว่าที่พอลเจอคนที่พอลรักและเค้าก็รักพอล  ไม่มีใครในพวกมันรังเกียจฝูหรงหรอก  แม้แต่หลี่ผิงที่ยังไม่รู้เรื่องของเราเองก็เถอะ  พอลก็เชื่อว่ามันต้องยินดีไปกับเราทั้งคู่  เลิกคิดมาก  และเข้าไปสนุกในงานกันดีกว่านะครับ” 

ผมส่งยิ้มจริงใจใส่ตากลมๆที่ทอประกายสดใส  พร้อมส่งกล่องของขวัญใบไม่เล็กไม่ใหญ่ที่เราไปเลือกด้วยกัน  สำหรับเจ้าของงานวันเกิดในวันนี้ให้ฝูหรงถือไว้  ด้วยดูจากแววตาคู่สดใสตรงหน้า  พบว่ากระต่ายน้อยพร้อมที่จะควงคู่เข้างานกับผมแล้ว  ด้วยคงเข้าใจและเลิกคิดมากตามที่ผมชักจูง  ซึ่งผมเองก็สบายใจที่เห็นคนรักกลับมายิ้มได้ดังเดิม  ไหนจะเรื่องหลี่ผิงที่เปรียบเป็นเสี้ยนหนามเล็กๆกลางใจก็ถูกบ่งออกจนหมดอีกด้วย

ดังนั้นนาทีนี้คู่ควงควบตำแหน่งเจ้าของหัวใจ  จึงเดินตีคู่ให้ผมจับจูงด้วยใบหน้าอิ่มเอิบสบายใจ  เข้างานฉลองวันเกิดของน้องนลินหนึ่งในเพื่อนสนิทของน้องธันว์  ซึ่งงานนี้คนรักของมาเฟียใหญ่ลงแรงจัดงานให้เพื่อนสนิทด้วยตัวเอง  แม้เราจะเข้างานช้าไปนิดเพราะมัวแต่ปรับความเข้าใจกัน  แต่เมื่อเราเหยียบย่างเข้างานก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าของงานวันเกิด 
เป็นไปตามที่ผมบอกฝูหรงว่าไม่มีใครคิดรังเกียจเจ้าตัวสักนิด  มีแต่พยายามสร้างไมตรีด้วย  เพราะพื้นฐานฝูหรงเป็นคนขี้อายไม่ค่อยพูด  ทุกคนรอบตัวเราจึงใส่ใจเป็นพิเศษ  โดยเฉพาะเด็กน้อยของมาเฟียใหญ่ที่มีโอกาสเมื่อไหร่  มักจะส่งคำถามสื่อถึงความเอาใจใส่ให้ฝูหรงตลอด  จนกระต่ายน้อยช่างคิดมากของผมยิ้มไม่หุบ  พาลให้หลี่ผิงเขม่นฝูหรงที่ขโมยความสนใจของน้องธันว์ไปจากตัวเอง 

ไอ้มาเฟียขี้หวงคนนี้  แรกเห็นผมกับฝูหรงเข้ามาพร้อมกัน  มันก็แค่มองด้วยแววตาแปลกใจนิดหน่อย  แต่ไม่ได้ทักอะไรจนผิดสังเกต  ก่อนจะวางตัวปกติเหมือนรับรู้ความสัมพันธ์ของเลขาของตัวเองกับผมอยู่แล้ว  หรือแม้แต่เจ้าของวันเกิดและคู่รักนนกับเบสเอง  พยายามสร้างมิตรภาพกับฝูหรงด้วยความจริงใจ 

แต่มาหนักตรงน้องนลินนี่แหละครับ  ที่มีวิธีทำความรู้จักกับฝูหรงแบบแปลกๆ  แม้ปากจะเอ่ยทักแต่สายตาคู่สวยกลับวิบวับเหมือนรู้อะไรๆดีหนักหนา  ทำเอากระต่ายน้อยของผมได้แต่เงียบและยิ้มแก้มแดงตลอดเวลา  แม้จะถูกใจในอาการของคนรักไม่น้อย  แต่ผมก็อดเห็นใจไม่ได้  จึงหันไปวานพี่อู๋ให้พาฝูหรงไปเข้าห้องน้ำ  ด้วยไม่อยากให้คนรักเขินจัดพาลขยาดไม่กล้ามาด้วยกันอีก 
หลังจากนั้นสาวสวยเจ้าของวันเกิดก็ยังแซวผมไม่เลิกเรื่องเลือกของขวัญ  จนผมจุดประเด็นขึ้นแบบไม่ตั้งใจ  ไปเรียกขานฝูหรงว่าเป็นเลขาของหลี่ผิง  ผลก็คือเจ้าของตัวจริงของหลี่ผิงอย่างน้องธันว์สวนขึ้นมาทันที  เด็กน้อยเตือนผมไม่ให้เติมคำแสดงความเป็นเจ้าของแบบนั้น  เพราะหลี่ผิงน่ะเป็นของเจ้าตัว  ทำเอาเงียบไปทั้งวง 

พอน้องธันว์รู้ตัวว่าหลุดพูดความในใจออกมาก็เขินตัวแดงไปไม่เป็น  แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะบรรดาเพื่อนสนิท  เหมยอิง  ไม่เว้นแม้แต่ผมกับโจเซฟยังโห่แซวเจ้าตัวด้วยความเอ็นดู  ไอ้หลี่ผิงนี่ยิ้มตาพราวอย่างถูกใจที่โดนคนรักหวงแบบไม่ทันตั้งตัวเข้า  แต่ยังมีแก่ใจเอาใจคนรักตัวน้อยด้วยการหันมาปรามพวกเรา  แถมด้วยการเตะขาผมกับไอ้ไรอันใต้โต๊ะอีกคนละที  ซึ่งคู่รักหนุ่มหล่ออย่างนายนนนายเบสคงสงสารเพื่อน  จึงหันไปชวนน้องธันว์ออกไปร้องคาราโอเกะหนีสายตาคนรอบตัว

แขกในงานนี้นอกจากบรรดาเพื่อนสนิทกลุ่มเจ้าของวันเกิดและกลุ่มของเราแล้ว  ตอนนี้ยังขาดไอ้โจเซฟอีกคน  เห็นน้องนลินว่ามันกำลังเตรียมของขวัญมาเซอร์ไพรส์อยู่จึงขอมาช้าหน่อย  ยังมีบรรดาเพื่อนๆในคณะที่สนิทของนลินด้วย  แม้แต่น้องสาวฝาแฝดของหลี่ผิงอย่างเหมยอิงก็มา  ซึ่งไม่น่าแปลกใจเท่ากับใครเป็นคนพามา  แต่คงพอเดาได้ว่าเป็นใครถ้าไม่ใช่ไอ้ไรอัน  ด้วยไรอันคงใช้อภิสิทธิ์เจ้าของสถานที่อย่าง  I-Oke  อาสาพาคุณหนูตระกูลหวางมาที่งานด้วยตัวเอง 

งานนี้คงไม่ต้องบอกว่ามาเฟียขี้หวงจะเขม่นใส่ว่าที่น้องเขยมั้ย  เรียกว่าเขม่นทุกครั้งยามที่ไอ้ไรอันคอยแทคแคร์เหมยอิงต่อหน้าต่อตามันเลยทีเดียว  แต่ยังดีที่หลี่ผิงไม่ทำอะไรออกนอกหน้า  คงเห็นแก่ความเป็นเพื่อนและความจริงใจของเพื่อนสนิทนั่นเอง 
ผมก็ได้แต่กระตุกยิ้มใส่ตาไรอันแทนการส่งกำลังใจให้มัน  ยามที่มันเหลือบตามาทางผม  หลังจากที่ตีสีหน้าออดๆ  อ้อนใส่ว่าที่แฟนอย่างน่าหมั่นไส้

“Chic!!  อ๊ายยย...Chic จริงๆด้วย  กรี๊ดดด  อเล็กซ์  ลีโอ  ซีอาร์  Chic  ตัวจริง  กรี๊ดดด”  เสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมการปรากฏตัวของเพื่อนสนิทหน้าเข้มเคราดกอย่างไอ้โจเซฟ  และกลุ่มนักร้องบอยแบรนด์อย่างวง  Chic 

ดูท่าแล้วของขวัญที่น้องนลินว่าไอ้โจเซฟจะหามาให้  คงเป็นการพานักร้องดังในค่ายมาเอนเตอร์เทนในงานวันเกิดนี่เอง  ซึ่งดูท่าของขวัญชิ้นนี้จะถูกใจเจ้าของวันเกิดไม่น้อยเลย  เพราะเสียงกรี๊ดของน้องนลินนั้นดังกว่าใคร

ระหว่างการแนะนำตัวของนักร้องดังและกลุ่มเจ้าภาพอย่างเรา  โดยมีโจเซฟเป็นคนแนะนำนั้น  จากปลายสายตาผมเห็นฝูหรงเดินกลับเข้ามาในงานอีกครั้ง  จึงปลีกตัวเดินมารับคนรักถึงที่  ก่อนจะคว้าข้อมือบางมาจับไว้  ร่างน้อยสะดุ้งทันทีมีเตรียมสะบัดออก  แต่เมื่อเห็นว่าเป็นผมคนน่ารักถอนใจเฮือกใหญ่  ก่อนจะยื่นมือมากุมทับหลังมือข้างนั้น  พร้อมเงยหน้าส่งยิ้มตาปิดมาให้ด้วยความโล่งใจ 

แต่ฝูหรงจะรู้มั้ยว่าทำให้คนที่ได้รับรอยยิ้มนั้นอย่างผม  แทบหยุดหายใจและอยากจะอุ้มเจ้าตัวกลับบ้านซะนาทีนี้เลย  แต่สิ่งที่ผมทำคือลดใบหน้าลงเพื่อก้มกระซิบข้างใบหูหอมๆนั่น

“กระต่ายน้อยรู้ตัวมั้ยว่ากำลังยั่วพอลอยู่”  ผมกระตุกยิ้มข้างใบหูขาวที่ขึ้นสีระเรื่อคาตา  ก่อนจะแอบเม้มมันเบาๆด้วยความมันเขี้ยว  และไม่คิดรอฟังคำตอบ  แต่เลือกที่จะจูงเจ้าของข้อมือน้อยให้ออกเดิน 

ผมเห็นเต็มตาว่าคนน่ารักของผมแก้มและใบหูแดงแจ๋  มีเม้มปากแน่นและไม่กล้าแม้แต่จะสบตากัน  ทั้งๆที่ผมเพียรส่งสายตาให้ตลอดทาง

เมื่อผมพากระต่ายน้อยกลับมายังกลุ่มเพื่อนๆอีกครั้ง  ผมสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ไม่ปกตินัก  เมื่อสังเกตได้ถึงปฏิกิริยาของคนรอบตัว  และลอบสบตากับเพื่อนสนิทอย่างไอ้ไรอัน  ที่มันบุ้ยใบ้ไปยังหลี่ผิงที่โอบน้องธันว์ไว้ไม่ห่างตัว  โดยที่คนโดนกอดนั้นหน้าบึ้งจัด  และจ้องไปยังหนึ่งในนักร้องดังอย่างไม่พอใจ 

แม้ผมจะไม่รู้ที่มาที่ไปทั้งหมด  แต่ก็พอประเมินได้ว่าเสน่ห์ของมาเฟียใหญ่  คงไปกระแทกตานักร้องหน้าใสเข้าอย่างจัง  และทำให้อีกฝ่ายกระทำการบางอย่าง  จนว่าที่นายหญิงแห่งหวางหย่งกังออกอาการอย่างที่เป็น  ดูท่างานนี้คนที่เคยเป็นแต่ฝ่ายหึงหวงสะบัด  จะเป็นฝ่ายโดนกระทำคืนบ้างแล้ว

“พอล  นายน้อยกับคุณธันว์...”  ผมส่งยิ้มพร้อมส่ายหน้าให้กับเจ้าของน้ำเสียงเล็กๆ  ที่เขย่งตัวยื่นหน้ามากระซิบข้างหู  แม้ไม่ได้เห็นแววตากังวลคู่ตรงหน้า  ผมก็พอเดาออกว่าฝูหรงคิดอย่างไร

“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ  เชื่อสิว่าหลี่ผิงจัดการได้”  สิ้นเสียงผมเท่านั้น  ทุกเสียงกระซิบกระซาบรอบตัวพลันเงียบลง 

เมื่อมาเฟียใหญ่สร้างโลกส่วนตัวกับคนรัก  ด้วยการหันไปซับเหงื่อให้น้องธันว์แบบไม่สนใจสายตาใคร  ยังไม่หมดเท่านั้น  มาเฟียใหญ่ยังวาดลวดลายด้วยการยื่นหน้าเข้าเกือบชิดใบหน้าแดงๆของคนรัก  พร้อมจุดรอยยิ้มที่มุมปากอย่างอ่อนโยน  ใส่ตาคู่กลมที่จ้องมันไม่กระพริบคู่นั้นด้วย 

เหตุผลหลักของหลี่ผิงคงทำเพื่อตัดปัญหา  และตั้งใจประกาศตัวอย่างชัดเจน  ถึงความสัมพันธ์ของตัวมันเองกับน้องธันว์ต่อหน้าทุกคน  โดยเฉพาะคนที่มีทีท่าสนใจในตัวมันนั่นเอง  ซึ่งการกระทำนี้ของหลี่ผิงไม่ทำให้ผมแปลกใจเท่าไหร่  เพราะเหมาะสมกับตัวตนของหวางหลี่ผิงที่ผมรู้จักแล้ว  ‘มั่นคง  ชัดเจน  ตรงไปตรงมา’

บรรยากาศหวานๆรอบตัวของคู่รักตรงหน้า  แผ่กระจายอบอวลจนทุกคนสัมผัสได้  ยิ่งกระต่ายน้อยขี้เขินของผมยิ่งแล้วใหญ่  ด้วยฝูหรงจ้องทั้งคู่ด้วยตาโตๆไม่มีกระพริบ  แถมแก้มใสก็ขึ้นสีจัดจนน่ากลัวว่าจะแตกได้ทุกเมื่อ  ที่สำคัญฝูหรงดันหันกลับมาเหลือบตา  จ้องหน้าผมด้วยแววตาสะเทิ้นอาย  ก่อนจะตวัดมองยังริมฝีปากผมแวบหนึ่ง  และเสหลบตาไปมองเพียงอกเสื้อของผมไม่ยอมสบตากันอีกเลย  ยังไม่เท่านั้นผมยังแอบเห็นลิ้นเล็กๆแลบเลียริมฝีปากแดงๆชั่วเสี้ยววินาทีด้วย

ผมเห็นอากัปกิริยาเหล่านั้นก็ตีความได้แล้ว  ว่าคนน่ารักกำลังคิดอะไรและจินตนาการถึงเรื่องไหนอยู่  ซึ่งความคิดนี้แหละที่ทำให้ความยับยั้งชั่งใจของผมที่มีต่อกิริยาน่ารักๆ  และความช่างคิดช่างจินตนาการของกระต่ายน้อยหมดลง  ‘คนอะไรไม่รู้ช่างน่ารักแถมขี้หื่นแบบไม่เก็บงำ’  ผมลองแกล้งสะกิดและส่งสายตาหยอกเย้า  แถมด้วยการพยักพเยิดไปทางคู่หวานหวังให้ได้อาย  กระต่ายน้อยดันตีสีหน้าขึงขังเข้าใส่ด้วยแก้มแดงแจ๋  พาเอาผมใจสั่นไปหมด

เมื่อเห็นว่าหลี่ผิงพาเด็กน่ารักหลบไฟริษยาของนักร้องดัง  ไปนั่งยังโต๊ะเดิมของพวกเราแล้ว  ผมกระตุกข้อมือน้อยให้ออกเดินหลบออกจากกลุ่มคนในงาน  ท่ามกลางความมึนงงของคนแก้มแดงที่ก้าวเท้าตามผมมาติดๆ  และทิ้งสถานการณ์วุ่นวายของเพื่อนสนิทไว้ข้างหลัง  ด้วยเชื่ออย่างมากว่าระดับว่าที่นายใหญ่หวางหย่งกังสามารถจัดการปัญหาเล็กๆนี้ได้ด้วยตัวเอง  ส่วนผมขอจัดการความรู้สึกมันเขี้ยวในอกที่มีต่อกระต่ายน้อยช่างยั่วนี่ก่อนเถอะ

“พอลพามาห้องน้ำทำไม  เอ๊ะ!...[ปึง!  แก๊ก]...อ๊ะ!  อื้ออออ”  หลังจากดันร่างน้อยเข้ามาในห้องน้ำห้องในสุดได้  ผมรีบปิดประตูตามหลังทันที  ก่อนเข้าประชิดตัวและก้มหน้าปิดปากเล็กๆที่เตรียมโวยวาย  เพื่อไม่ให้เสียเวลาผมฉกลิ้นเข้าหาลิ้นนุ่มนิ่ม  และดูดกลืนความหวานให้สมอยาก

คราแรกร่างน้อยเกร็งตัวต้านสัมผัสผม  แต่เป็นอยู่ได้ไม่นานก็ตัวอ่อนระทวยพร้อมครางเสียงอู้อี้คาปาก  เมื่อผมจงใจดูดลิ้นเล็กๆเต็มแรงและขยำก้นกลมทั้งคู่  พร้อมรั้งร่างบางเข้าหาอก  ก่อนจะสลับตำแหน่งโดยใช้แผ่นหลังตัวเองผิงไปกับบานประตู  และใช้แผ่นอกรองรับร่างน้อยที่ซวนซบเข้าหา

“พอลทนไม่ไหวแล้ว  ฝูหรงผิดที่ยั่วพอล”  ผมกระซิบเสียงพร่าและแหย่ลิ้นใส่รูหูน้อยๆของคนที่หอบตัวโยนจากฤทธิ์จูบยาวนานของเรา  พร้อมสอดมือลูบไล้ผิวเนียนแถวเนินสะโพก  และจงใจแหย่นิ้วผ่านรอยแยกอุ่นๆ

“แฮ่กๆ...อ่ะ  อ่า  พะ...พอล~  ใส่ร้าย  อึก  งานล่ะ”  ฝูหรงมีอาการตัวอ่อนเสียงพร่าตาเยิ้ม  และจ้องมายังผมไม่กระพริบ  ปฏิกิริยาเหล่านี้บ่งบอกได้หมดว่าคนน่ารักมีอารมณ์ร่วมไปกับการชักนำของผมแล้ว  แต่เจ้าตัวยังอุตส่าห์คิดจะแก้ตัวและเป็นห่วงงานเลี้ยงข้างใน

“ช่างสิ  ตอนนี้ฝูหรงมารับผิดชอบพอลก่อนดีกว่านะ”  จบคำผมคว้ามือขวาของฝูหรง  ตะปบลงบนกลางลำตัวของตัวเอง  ทำเอาคนน่ารักสะดุ้งแก้มแดงจัด  พยายามชักมือหนี  ก่อนจะก้มหน้างุดจนผมเห็นแต่กลุ่มผมดำขลับ  ยามที่ผมเบียดสะโพกเข้าหาฝ่ามือน้อยๆข้างนั้น  พร้อมสอดปลายนิ้วทักทายรอยแยกด้านหลังเบาๆ

“อ่า  พอล~”  ไม่ต้องแปลกใจไป  ว่าทำไมคนน่ารักถึงครางเรียกผมเสียงแผ่วหวิว  พร้อมบดเบียดร่างน้อยเสียดสีไปกับร่างกายส่วนหน้าของผม 

ใครจะทนได้เมื่อจุดอ่อนไหวทั้งบนและล่าง  อย่างยอดอก  แก่นกาย  และซอกหลืบอุ่นๆ  ถูกปลุกเร้าไปพร้อมกัน  ทำเอาผมได้ใจลงลิ้นพร้อมขยับมือทั้งคู่ให้เร็วขึ้น  ตั้งใจเร่งส่งคนน่ารักให้ถึงฝั่ง  ด้วยรู้แก่ใจว่าสถานที่ไม่เหมาะเท่าไหร่  อาจจะมีคนเข้ามาได้ทุกเมื่อ 

ยังไม่ทันไรก็มีเสียงเปิดประตูและเสียงคนเดินดังขึ้น  กระต่ายน้อยที่อารมณ์เตลิด  ถึงกลับสะดุ้งและเกร็งร่างหนีสัมผัสผมทันที

“ชู่ๆๆ  ไม่เป็นไร”  ผมยื่นหน้าไปตะล่อมกระต่ายน้อยขี้ตื่นชิดริมฝีปากสีสด  ก่อนจะกดจูบปิดกั้นเสียงที่เตรียมปฏิเสธ  พร้อมเร่งขยับมือกระตุ้นอารมณ์หวิวให้ร่างน้อยอีกครั้ง  สุดท้ายผมก็ได้กลืนกินเสียงครางหวานๆไว้กับตัว 

ผมรอจนแน่ใจว่าไม่มีแขกที่ไม่รับเชิญอีกแล้ว  จึงปล่อยริมฝีปากหวานให้เป็นอิสระ  ก่อนหันมาชิมผิวชื้นๆแถวซอกคอ  และขยับรั้งความอุ่นร้อนในอุ้งมือให้อ่อนตัวลง  เมื่อแน่ใจว่ากระต่ายน้อยเริ่มกลับมาเป็นตัวของตัวเองดีแล้ว  ผมจึงพลิกและผ่อนร่างบางให้นั่งลงบนฝาชักโครก  ก่อนจะเชยคางมนขึ้น  เพื่อส่งสายตาสื่อความนัยใส่ดวงตาหวานเยิ้ม  ที่ยังคงคั่งค้างอารมณ์แห่งความปรารถนา

“ช่วยพอลหน่อยนะครับ”  ผมยกยิ้มกว้างใส่ดวงตาคู่กลมที่มีแววสะท้านและเต็มไปด้วยความเข้าใจ  ก่อนจะรั้งหัวทุยเข้าหากึ่งกลางลำตัว

“อืมมม  ฝูหรงดีมากเลยครับ  อ่าๆ  กระต่ายน้อย~”  ถึงคราวที่ผมต้องครางผะแผ่วบ้างแล้ว  ด้วยความนุ่มนิ่มของเรียวลิ้น  และความอุ่นชื้นของโพรงปากเล็กๆ  แต่ทรงประสิทธิภาพ

แม้ผมอยากจะขยับสอยสะโพกสวนทางโพรงปากอุ่นที่มอบความสุขให้  แต่ผมต้องยับยั้งชั่งใจไว้  ด้วยรู้ว่าขืนผมหักโหมเอาตามแต่ใจ  กระต่ายน้อยที่แสนน่ารักของผมคงได้คอแตกเจ็บตัวได้  จึงได้แต่อดใจและปล่อยให้เจ้าตัวเค้าวาดลวดลายได้เต็มที่  พร้อมซึมซับความสุขสมที่คนรักตั้งใจมอบความสุขให้อย่างเต็มความสามารถ 

เรื่องความเก่งหรือเทคนิคไม่ต้องพูดถึง  เพราะฝูหรงออกจะเงอะงะไปด้วยซ้ำ  แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเพราะเพียงแค่คนน่ารักตามใจและเต็มใจทำให้  ผมก็เต็มตื้นและมีความสุขได้อย่างที่สุดแล้ว  จึงไม่ต้องแปลกที่ผมจะปลดปล่อยออกมาเร็วกว่าที่เคย  แต่ผมก็ยังมีสติพอที่จะรั้งใบหน้าคนรักขึ้น  ก่อนจะคว้ามือนุ่มมาช่วยขยับรั้งความแข็งขืนกลางตัวเพื่อปลดปล่อย  พร้อมก้มจูบริมฝีปากนุ่มเพื่อปิดกลั้นเสียงครางของตัวเอง

“อืมมมม...พอล~”  ผมไล้ปากและจมูกเข้าที่มุมปากเจ่อๆ  ก่อนจะไล่งับมาตามแก้มร้อนๆ  และจบที่หน้าผากมนด้วยการจรดริมฝีปากไว้นิ่งๆ

“ขอบคุณครับที่ตามใจพอล  รักนะครับกระต่ายน้อย”

...................................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

อะไรยังไงนี่คู่นี้  ข้างนอกออกจะมาคุ  แต่ดันหนีมาสวีทวี่วีในนี้   o18
แต่ก็อย่างที่พอลบอกฝูหรงแหละเนอะ  ว่าหลี่ผิงจัดการได้อยู่แล้ว
นายพอลเลยถือโอกาสหื่น  เอ้ย!  หวานนอกสถานที่กับกระต่ายช่างยั่วเสียเลย
เป็นกำไรคุณผู้อ่านไปเนอะ   :laugh:

ตอนหน้าตามอ่านความหวานได้ต่อค่ะ  แต่จะมีตัวป่วนที่2ออกมาแล้ว
ใบ้ให้ว่าเป็นผู้หญิง  จะเป็นใครลองเดาดูน้า
ติดตามพอลและฝูหรงได้ในวันเสาร์ค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.สามารถติดตามเหตุการณ์เดียวกับตอนนี้ในมุมหลี่ผิงได้นะคะ
แปะไว้เผื่อคนที่เคยอ่านแต่ลืมไปแล้ว  และสำหรับคนที่ไม่เคยอ่านแต่สนใจ
 • รักหวานๆของมาเฟียขี้หึง "ประกาศรัก" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38212.msg2475118#msg2475118)

 :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 18-08-2014 13:18:09
หวานกันไม่แคร์สถานการณ์ด้านนอกเลยนะ

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 18-08-2014 13:35:28
ฝูหรงน่ารักจนอดใจไม่ไหวใช่มั๊ยพอล คิคิ >.<
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 18-08-2014 14:05:06
จัดหนักทุกที่ทุกเวลาจริงๆเฮียพอล
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-08-2014 14:13:33
แหม กระต่ายน้อยของพอลก็แอบหื่นเหมือนกันนะเนี่ย เขินนนน~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 18-08-2014 14:16:00
ต้องบอกหื่นนอกสถานที่มากกว่านะ  :z1:   พอลจัดหนักจัดเต็ม
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-08-2014 17:27:47
กระต่ายน้อยก็หื่นเหมือนกันนะ
หัวข้อ: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: THE KOP ที่ 18-08-2014 20:57:58
หวานกันได้ทุกที่จริงๆสำหรับคู่นี้ ก็แน่ล่ะ..กระต่ายน้อยของพอลน่ารักตลอดเวลานี่นา ชอบเวลาที่ฝูหรงอ้อนพอลเวลากลัวพอลโกรธอ่ะ :mew3: :mew3: มันแสดงให้เห็นถึงความรักที่ทั้งคู่มีให้ต่อกัน ไม่น่าเชื่อว่าเลขาผู้เงียบขรึมของหลี่ผิงเวลาอยู่กับคนรักจะขี้อ้อนขนาดนี้ เอาหวานๆแบบนี้เยอะๆน๊าาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 18-08-2014 20:59:32
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 18-08-2014 21:18:58
อื้อหือ!!!!!!! สุดใจไปเลย :hao6:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 18-08-2014 22:06:34
เอร๊ยยยย ><
ขอกรี๊ดพอลก่อนสำนึกผิด...
คือแบบว่า...ไม่ได้เม้นท์นานมากกกก
เค้าขอโทษษษษ ไม่ได้แตะคอมอย่างว่างๆ นานแล้ว
อ่านทุกสิ่งระหว่างเดินทางตลอดเลยอ่ะ เม้นท์ในมือถือไม่ฟินนัก พูดเลย ^^
แต่พอเจอตอนนี้เข้าไป...แทบตะกายมาเปิดคอมเม้นท์ไม่ทัน

คือว่า...จะเปลี่ยนสถานที่ก็ให้มันกว้างหน่อยมั้ยคะ คุณพอล
แต่ก็นะ...ไม่ต้องใช้ความกว้างเท่าไหร่นี่เนอะ ฮ่าๆ
แอบสงสารกระต่ายน้อย ยิ่งขี้เขินอยู่ ^^

เข้ามาส่องความหวานน่ารักแล้วจากไปตามทางเดิม...
ยังอ่านอยู่ทุกตอนนะ แค่ไม่ปรากฏตัวเท่านั้นเอง แหะๆ
ก็เม้นท์จากมือถือมันไม่ไวนี่นา...ป้าเซ็งอ่ะ บ่องตง ^^v
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-08-2014 22:12:40
ถึงใจมากกกกกด :mew1: :hao7: :hao6:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 18-08-2014 22:28:10
กรี๊ดดดดดดดด

ต่ายน้อยยยยย ยั่วมากกกกก

เป็นแล้วอยากฟัดเลยอ่ะ

นาทีนี้ไม่สนสถานที่แล้วสินะ คึคึ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 18-08-2014 22:40:22
ตายแล้ววว หวานและหื่นไม่แคร์สถานที่กันเลย  :-[
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoRin ที่ 18-08-2014 23:20:00
หวานตลอดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 19-08-2014 05:26:21
พอลเนี่ยหาเรื่องฟัดกระต่ายน้อยได้ทุกเวลาเลยนะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 19-08-2014 05:26:52
แอบมาหวานกันนี่เอง
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 19-08-2014 08:35:51
ข้างนอกวุ่นวาย แต่ข้างในหวานฉ่ำ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 19-08-2014 10:27:16
แอบมาสวีทหวานกันสองคนซะงั้น
 :mew3:

ตัวป่วนที่2 ผู้หญิงซะด้วย จะเป็นใครหว่า??
จะเป็นกิ๊กเก่าพอล?
หรือยัยป้ามิสเคอหลานอะไรนั่นนะ ที่ลิสต์นางไว้เป็นตัวอันตรายคนนึงเลยนะนั่นน่ะ

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: grimace ที่ 20-08-2014 14:36:43
มีคนเอาแต่ใจ แต่ก็มีคนตามใจนี่น่าอิจฉาจังเลยน๊า
อยากจะกัดจะงับแก้มกระต่ายแบบพอลบ้างจะได้ไหม
รู้สึกมันเขี้ยวอย่างบอกไม่ถูก :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 20-08-2014 21:41:14
หวานแบบไม่สนใจสถานการณ์เลยคร้าาาาา....คู่นี้ o22 o22 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 20-08-2014 23:59:57
 :z1:
เรียกเลือดเบาๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 21-08-2014 07:34:55
หวาน+  :z1:  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.17 "หวานนอกสถานที่" P.15(18/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 21-08-2014 13:22:50
อะไรคือ นอกสถานที่ ตาพอลลลล หื่น :hao6:

แต่อ้างว่ากระต่ายน้อย ยั่วตลอดๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 23-08-2014 09:46:26
ตอนที่ 18

เจินฝูหรง
   
“ฮึๆ  เสน่ห์แรงนะนายน่ะ”  ผมเหลือบตามองคนพูดนิด  พลางกระตุกข้อมือคืน  แถมด้วยการลงเล็บเข้าที่หลังมือ  แต่ไอ้ลูกครึ่งหน้าคมก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยข้อมือกันง่ายๆ  จนผมเริ่มทำอะไรไม่ถูก  เมื่อสายตาเกือบสิบคู่หันมาให้ความสนใจเรา  ไม่เฉพาะคนที่พอลหยอกเย้าด้วยอย่างนายน้อยหลี่ผิง 

นาทีนี้ผมจึงได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาเหล่านั้น  ด้วยรู้สึกว่าแก้มร้อนฉ่า  และได้แต่ปล่อยเลยตามเลย  ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะฮึฮะเบาๆจากนายน้อย  ผมจึงยิ่งไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง  จนพอลแตะมือเข้าที่หลังเอวส่งสัญญาณให้ผมขยับตัว  เพื่อนั่งลงยังเก้าอี้ตัวที่ว่าง  ขณะเดียวกันนั้นผมต้องหันไปรับแก้วเครื่องดื่มจากพี่อู๋  ที่นำมาเสิร์ฟให้ผมกับพอล  ผมถึงมีโอกาสถอนใจอย่างโล่งอก  เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครส่งสายตาล้อเลียนให้อีกแล้ว 

การกระทำของผมไม่รอดพ้นสายตาของไอ้ลูกครึ่งจอมหื่น  คนที่เพิ่งจับผมฟัดในห้องน้ำมาหมาดๆ  ด้วยพอลส่งสายตารู้เท่าทันมาให้  แรกที่เห็นผมชะงักนิดหน่อยกับแววตากรุ้มกริ่มคู่นั้น  ก่อนจะรีบปรับตัวด้วยการยู่หน้าและถลึงตาปราม   แต่ผมกลับจ้องตาแพรวพราวอยู่ได้ไม่นาน  ต้องเสก้มจิบเครื่องดื่มในมือ  ยามภาพความทรงจำในห้องน้ำเมื่อสิบนาทีก่อน  ลอยเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ 

ผมขอสารภาพเลยว่านาทีนั้น  อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลใดๆ  แม้จะกังวลกลัวใครมารับรู้พฤติกรรมที่แสนน่าอายของเราแค่ไหนก็ตาม  แต่ไอ้ลูกครึ่งจอมหื่นก็ทำเอาผมเคลิ้มยอมตามใจจนสุดทางอยู่ดี  ยามที่ผมมีสติและสามัญสำนึกเต็มร้อยเช่นนี้  ผมจึงเฝ้าตำหนิตัวเองไม่ได้  ที่ดันยอมตามใจคนรักในที่สาธารณะเช่นนั้น  ขืนมีใครมารับรู้เข้า  ผมก็ไม่รู้ว่าจะแบกหน้าออกไปพบเจอใครได้อีก

“ที่กงอินจัดการเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย  ตกลงใครเป็นตัวการ”  ผมหูผึ่งทันทีกับประโยคคำถามของคุณโจเซฟ 

คำถามนี้ถูกส่งให้นายน้อยหลี่ผิงด้วยใบหน้าเคร่งขรึม  บวกปฏิกิริยาของพอลและคุณไรอันที่ตีสีหน้าจริงจังไม่ต่างกันเข้าไปอีก  ทำเอาผมที่กำลังจิบน้ำส้มในมือต้องเกร็งตัวตาม  และพอเดาได้ว่าคงเกิดเรื่องไม่ดีนักกับโรงแรมในกงอินที่สร้างใกล้เสร็จแล้วอย่างแน่นอน  แต่จะเป็นเพราะใครนั้นผมก็สุดรู้ 

ผมจึงพลอยกังวลไปด้วยไม่ได้  เพราะโรงแรมในกงอินนั้นใกล้เสร็จเต็มที  สำคัญที่นายน้อยตั้งใจเตรียมห้องหนึ่งในนั้น  มอบให้คนรักอย่างคุณธันว์ด้วย  ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าหากโรงแรมในกงอินเสียหายหนัก  จนต้องเลื่อนงานเปิดตัวออกไป  ไอ้คนที่เป็นตัวการจะโดนอะไรบ้าง  ด้วยพอเดาได้จากสายตาดุดันของนายน้อยในยามนี้

นายน้อยเองมีเหลือบตาไปมองคุณธันว์นิด  เมื่อเห็นว่าคุณธันว์กำลังคุยอย่างออกรสกับคุณหนูเหมยอิงและเพื่อนอย่างคุณเบสแล้ว  จึงรีบเล่าแบบรวบรัด  ก่อนตัดจบด้วยการหันมาถลึงตาใส่พอลที่เตรียมซอกแซกถามลงในรายละเอียด  ทำเอาผมถึงกับกลั้นขำในท่าทางชะงักค้าง  มีเผยอปากเตรียมส่งคำถามออกมานั่นของพอล  แม้ผมจะยังตกใจกับข่าวคราวที่เพิ่งได้รู้  ว่าโรงแรมในกงอินถูกลอบวางเพลิงก็ตาม  ภาพตรงหน้าเรียกว่าหมดมาดเจ้าพ่อรุ่นใหม่ไฟแรงแห่งวงการอสังหาฯไปเลยทีเดียว 

พอลเองก็ดูเหมือนจะเข้าใจในเจตนาของเพื่อนสนิทที่ไม่อยากให้คนรักไม่สบายใจ  ยอมปิดปากไม่ถามต่อความ  แต่ไอ้ลูกครึ่งจอมหื่นดันแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ผม  ยามหันมาเห็นว่าผมอมยิ้มเหลือบตามองกิริยาเจ้าตัวผ่านปากแก้ว  แต่แล้วผมก็ต้องเป็นฝ่ายไม่สบอารมณ์  เมื่อได้ยินประโยคหยอกเย้ากระซิบชิดใบหู  และทำผมลืมนึกถึงกิริยาใกล้ชิดเกินจำเป็นของเราไปเสียสนิท

“อย่าบอกรักพอลผ่านสายตาแบบนั้นสิครับกระต่ายน้อย”  คนอะไรขี้ตู่เข้าข้างตัวเองเป็นที่สุด 

ผมได้แต่ฮึดฮัดเข้าใส่เจ้าของใบหน้าคมเข้มที่กำลังระบายยิ้ม  แต่ยิ่งผมทำท่าไม่พอใจมากเท่าไหร่  รอยยิ้มที่จุดอยู่ตรงมุมปากกลับขยายกว้างมากขึ้นเท่านั้น  จนผมต้องเป็นฝ่ายหลบตาคู่แพรวพราว  และได้แต่ก้มหน้าหลบตาทั้งๆที่แก้มร้อนฉ่า  บวกเข้ากับยามหันมาเห็นสายตาหยอกเย้าอีกสามคู่ของบรรดาเพื่อนสนิทของพอลเข้า  ไม่ต้องเดาผมก็รู้ว่าผมกับพอลถูกจับตามองจากพวกเขา  ตั้งแต่เราเริ่มสร้างโลกส่วนตัวแบบไม่รู้ตัวเข้าแล้วล่ะ

“ฮึๆ  เห็นมั้ย  เชื่อพอลรึยังกระต่ายน้อยว่าไม่มีเพื่อนคนไหนของพอลจะรังเกียจฝูหรง  ออกจะเอ็นดูกระต่ายน้อยของพอล  มากจนเกินพอดีไปด้วยซ้ำ”  ผมได้แต่ยิ่งกดคางลงที่อก  ยามได้ยินประโยคดังกล่าวของพอล

ทุกคนสนุกไปกับงานอย่างเต็มที่จนเกือบค่อนคืน  ผมก็ได้ระบายยิ้มเต็มหน้าเป็นครั้งแรกของคืน  เพราะรู้สึกชื่นชมและยินดี  ไปกับภาพแห่งความประทับใจของเพื่อนสนิททั้งสาม  ที่ประกอบไปด้วยเจ้าของวันเกิดอย่างคุณนลิน  คุณธันว์และคุณนนช่วยกันเป่าเค้กก้อนเดียวกัน  ท่ามกลางเสียงเพลงอวยพรวันเกิดโดยมีนักร้องวง  Chic  ทั้งสามเป็นต้นเสียง 

แม้ผมจะซาบซึ้งและเต็มตื้นไปกับสายสัมพันธ์ของเพื่อนแท้ทั้งสาม  แต่อดไม่ได้ที่จะสะท้อนใจไปกับชีวิตตัวเอง  ด้วยผมนั้นไม่มีเพื่อนแท้แม้แต่คนเดียว  เพื่อนที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุข  คอยแบ่งปันเสียงหัวเราะและน้ำตาของกันและกันเหมือนกับกลุ่มคนตรงหน้าเลย

หากเป็นช่วงห้าปีที่ผ่านมา  ช่วงที่ผมไม่มีเจ้าของมือใหญ่ผู้ที่กุมมือผมขณะนี้  ถ้าผมได้มาเห็นภาพแห่งความประทับใจของเพื่อนสนิทเช่นยามนี้แล้วล่ะก็  ผมคงรู้สึกแย่และน้อยใจในโชคชะตาไม่น้อย  แต่ยามนี้ผมมีเพียงความอิจฉาเล็กๆเท่านั้น  เพราะความรู้สึกแย่ๆที่น่าจะเกิดกับผม  ถูกความรักความเอาใจใส่ของพอลปัดเป่าไปจนหมด 

ผมที่ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ  เมื่อคนที่อยู่ในความคิดกระซิบชิดริมหู  พร้อมลมอุ่นๆที่เป่ารดแถวข้างแก้มผะแผ่ว

“อยู่เป็นเพื่อนน้องธันว์กับเพื่อนๆตรงนี้นะครับ  พอลกลับไปรอที่โต๊ะนะ”

“อืม”  ผมรับคำแค่ที่ลำคอ  แต่อดใจไม่ไหวที่จะเหลียวหลังกับไปมองแผ่นหลังกว้างผึ่งผายด้วยความภาคภูมิใจ  ทั้งๆที่มือต้องคอยส่งจานเพื่อใส่เค้กชิ้นที่คุณนลินตัดแบ่งแล้ว

“พี่ฝูหรง...พี่ฝูหรงคะ  เฮ้ย!  ฟู่ๆๆ  ดีที่จับไว้ทัน  ฮั่นแน่...แอบมองตามหลังแฟนนี่เอง  คิกๆ  อิจฉาคนมีแฟนจังน้า  แต่น่าจะบอกให้อีกฝ่ายรู้มากกว่า  ไม่ใช่แค่แอบมองแล้วทำตาเยิ้มแบบนี้  ดูท่าจะหลงมากเลยนะเนี่ย  จริงมั้ย  ฮุๆ”  ผมที่ตกใจจนเกือบทำจานเค้กในมือหล่นพื้น  ต้องเปลี่ยนมาเป็นเขินจัดกับถ้อยคำรู้ทัน  และสายตาหยอกล้อของสาวสวยเจ้าของวันเกิด 

แต่ดูท่าประโยคดังกล่าวจะไม่ได้มีผลต่อผมคนเดียวซะแล้วล่ะ  เพราะคนมีแฟนที่มีอาการดังกล่าวยืนอยู่ตรงนี้อีกตั้งสามคน  อย่างคุณเบสหนุ่มมาดเนี้ยบหน้าใสหล่อจัดแบบหาตัวจับยาก  จุดยิ้มมุมปากแก้มขึ้นสีน้อยๆไม่กล้าสบตาใคร  และทำเป็นยุ่งกับการลำเลียงจานเค้กที่ถูกตัดแล้ว  ส่งให้บรรดาเพื่อนคนอื่นๆที่อยู่รอบตัว 

ผิดกับหนุ่มมาดเข้มหล่อคม  ผู้เป็นคนรักที่มีรอยยิ้มกว้างขวางเป็นเอกลักษณ์อย่างคุณนน  ที่นาทีนี้รักษาคุณลักษณะเด่นดังกล่าวอย่างเหนียวแน่น  ด้วยการฉีกยิ้มกว้างและมองคุณเบสด้วยดวงตาระยิบระยับเต็มไปด้วยความรัก  ก่อนจะหันมายักคิ้วให้ผมและคนพูดอย่างไม่หวั่น  ทำเอาคุณนลินถึงกับหัวเราะลั่นถูกใจไม่แพ้กัน  แต่กิริยาดังกล่าวกลับทำให้เพื่อนสนิทอีกคนที่เหลือออกอาการหมั่นไส้  ทั้งๆที่แก้มแดงแจ๋กว่าใครจนน่าหยิกเบาๆด้วยความน่าเอ็นดูนักเชียว

“เหอะ!  รู้ดีไปแล้วนลิน  กูขอให้มึงมีแฟนเร็วๆ  แล้วหลงแฟนจนมีอาการหนักกว่าพวกกู  เพี้ยง!”  ไม่ใช่แค่ผมที่ขำกิ๊กกั๊กกับอาการยกมือท่วมหัวเป่าลมออกจากปาก  ด้วยสีหน้าจริงจังประกอบคำพูดของคุณธันว์เท่านั้น 

เรียกได้ว่าทั้งเพื่อนสนิทและเพื่อนที่มาร่วมงานก็มีอาการเดียวกัน  ไม่เว้นคุณนลินที่ไม่ถึงกับหลุดขำ  แต่ก็ระบายยิ้มกว้างเหล่ตามองเพื่อนอย่างอารมณ์ดี

“ขอบใจสำหรับคำอวยพรของมึงนะเด็กน้อย  รู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าบอกความในใจออกมาให้พวกกูรู้จนหมด  ยอมรับแล้วสิ  ว่าหลงเฮียกูจนถอนตัวไม่ขึ้น  ฮ่าๆ  แต่ไม่มีทางซะล่ะ  อย่างกูนี่มีแต่อีกฝ่ายจะต้องหลงกูสิไม่ว่า  ฮุๆ”  ผมออกจะเห็นด้วยกับคำพูดเธอไม่น้อย  ด้วยหน้าตาสะสวย  นิสัยร่าเริง  และฉลาดเป็นกรดอย่างคุณนลิน  ผมเชื่อหากมีใครมาตกหลุมรักคงได้หลงเธออย่างปากว่า

“ฮึๆ  พูดไป  ธันว์  กูว่าลุ้นให้มันมีแฟนก่อนดีกว่ามั้ย  เพราะผู้ชายรอบตัวที่เคยมองๆไอ้นลิน  ต่างบ่ายหน้านี้ไปหมดแล้ว  ฮ่าๆ”  ประโยคนี้ของคุณนนเรียกเสียงหัวเราะได้ครืนใหญ่  แต่ทำให้เจ้าของวันเกิดหุบยิ้มฉับ

“ไอ้นน!!  หยุดหัวเราะเลยนะ  พวกมึงด้วย  มึงสองคนนี่ยังไง  อ้าว!?  พี่เบสพี่ฝูหรงก็เป็นไปกับมันด้วย  หึ้ย!”  ดูท่าคุณนลินจะงอนเข้าจริงๆแล้วครับ  แต่ก็เป็นไปไม่นานเมื่อสองเพื่อนสนิทต่างเข้าไปง้องอน  แถมยังมีประเด็นร้อนเข้ามาแทรก  ชนิดที่ว่าเรื่องหยอกเย้าระหว่างเพื่อนเลือนหายไปในพริบตา

“เฮ้ย!  เกิดอะไรขึ้นตรงนั้น  ทำไมซีอาร์ทำท่าจะมีเรื่องกับมิสเตอร์หวางด้วยล่ะ  ธันว์  นายเข้าไปดูหน่อยมั้ย”  เป็นประโยคของหนึ่งในเพื่อนร่วมคณะที่คุณนลินเชิญมาร่วมงาน  และคงไม่ต้องมีใครบอกซ้ำ  คุณธันว์ก็ก้าวเข้าหากลุ่มคนดังกล่าวทันที  โดยมีเพื่อนสนิททั้งสองและมีผมกับคุณเบสก้าวตามไปไม่ห่าง

จนกระทั่งมาถึงกลุ่มคนที่ประกอบด้วย  คุณไรอัน  คุณโจเซฟ  และไอ้ลูกครึ่งรูปหล่อของผม  โดยทั้งหมดยืนเยื้องออกมาด้านหลัง  เหมือนเป็นกองหนุนให้นายน้อยและคุณหนูเหมยอิง  ที่กำลังยืนเผชิญหน้ากับนายซีอาร์แห่งวง  Chic  มองผ่านๆเหมือนนายนักร้องหน้าใสจะโดนรุม  พาลให้เรานึกสงสาร  แต่ถ้อยคำที่ได้ยินแว่วๆก่อนหน้า  ทำให้ผมไม่คิดแม้แต่จะเห็นใจ  ด้วยนายนั่นสารภาพว่าชอบนายน้อย  ทั้งๆที่ก็เห็นอยู่ว่านายน้อยมีใครเป็นเจ้าของหัวใจ  นอกจากคนตาบอดใจบอดเท่านั้นที่ไม่เห็นการแสดงออกเปิดเผยของนายน้อยที่มีต่อคุณธันว์

“ไอ้นี่มันหาเรื่องชัดๆ  ไม่รู้อะไรควรไม่ควรซะแล้ว  หึ!  น่าสงสาร”  ผมเงยหน้าผ่านปลายคางเขียวๆ  ขึ้นไปมองสีหน้าแววตาของพอลก็ให้นึกขยาดแทนนายซีอาร์  เพราะผมพอเดาออกว่านายนั่นจะต้องเจอกับอะไรบ้าง  ด้วยคนที่มีรักมั่นคงอย่างนายน้อยคงไม่ปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อ  จนเป็นเหตุให้มาทำร้ายจิตใจคนรักได้หรอก

ผมไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำสีหน้าแบบไหน  ยามที่แปลความหมายในคำพูดของพอลได้  จนกระทั่งพอลก้มหน้าลงมองผมด้วยแววตาประหลาดใจปนตกใจเล็กๆ  ก่อนจะระบายยิ้มบางเบามาให้  พร้อมไล้หลังมือผ่านข้างแก้ม

“หน้าตาตื่นหมดแล้ว  กระต่ายน้อยอย่ากังวล  ปล่อยให้หลี่ผิงมันจัดการเอง  พวกไม่รู้จักคิดก่อนพูดต้องเจอของจริงบ้าง”  ผมได้แต่พยักหน้ารับช้าๆ  ก่อนจะโดนรั้งเอวเข้าประชิดตัวคนพูด 

พอลโอบผมจากด้านหลัง  จนแผ่นหลังสัมผัสกับแผ่นอกกว้าง  และยังไม่ทันตั้งตัวดีนัก  จมูกโด่งก็โฉบลงบนหัวผมแบบผ่านๆอย่างรวดเร็ว  ระหว่างที่ผมได้แต่อมยิ้ม  เพราะรอยอุ่นจางๆที่เกิดขึ้นในอกก็ต้องอึ้ง  กับคำพูดตรงไปตรงมาที่ดังขึ้นของคนที่กำลังได้รับความสนใจจากคนทั้งงาน

“เลิกคิด  เลิกหวังซะ...ดูไว้ซะ  คนนี้คือคนที่ฉันรัก  และความรักของเราก็ไม่ได้เกิดเพียงชั่วข้ามคืน  ถ้าไม่มีคนในอ้อมกอดฉันคนนี้...หวางหลี่ผิงแห่งหวางหย่งกังคงไม่รู้จักคำว่า ‘รัก’ ”  ทันทีที่นายน้อยพูดจบก็เชยคางคนในอ้อมกอดขึ้น 

ผมเองถึงกลับกลั้นลมหายใจ  และเผลอขบริมฝีปากกลั้นเสียงอุทาน  ด้วยนึกรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น  ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่ผมคาดการณ์ไว้  เมื่อนายน้อยก้มหน้าลงหาใบหน้าคุณธันว์อย่างช้าๆ  ก่อนประทับจูบอ่อนโยนบนลงริมฝีปากของคุณธันว์  ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของคนทั้งงาน  โดยเฉพาะนายซีอาร์ที่ยืนตกตะลึงตาค้าง  จ้องภาพคู่รักที่กำลังจูบดูดดื่มไม่วางตา 

นายน้อยประกาศตัวชัดขนาดนี้  หากนายซีอาร์ยังดื้อดึงตื๊อไม่เลิก  มีหวังคงได้รับบทเรียนมากกว่าการทำร้ายจิตใจเหมือนในขณะนี้อย่างแน่นอน  อาจถึงขั้นรักษาชีวิตไว้ไม่ได้ด้วยซ้ำ  เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าสำหรับนายน้อยหลี่ผิงนั้น  คุณธันว์คือคนสำคัญที่สุด  และนายน้อยย่อมยอมทำทุกวิถีทาง  เพื่อรักษาความสุขของคุณธันว์ไว้

“ฮึๆ  สมกับเป็นหลี่ผิง”  เสียงนี้มาจากคุณไรอันที่ดังพอให้พวกเราได้ยิน  ซึ่งเพื่อนสนิททั้งสองอย่างพอลและคุณโจเซฟมีปฏิกิริยาคล้ายกันคือ  หัวเราะอยู่เพียงลำคอและส่งยิ้มให้กันอย่างถูกใจ  บรรยากาศผ่อนคลายลงในพริบตา  เพราะต่างรู้ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นถ้วนหน้า

ส่วนคนอื่นๆในกลุ่มมีปฏิกิริยาต่างๆกันไป  คุณหนูเหมยอิงอมยิ้มน้อยๆมองคู่รักด้วยความประทับใจ  คุณนลินกอดอกฉีกยิ้มกว้าง  แต่มีแสยะยิ้มน่ากลัวใส่กลุ่มนักร้องวง  Chic  ที่มองมา  จนคุณนนที่กลั้วหัวเราะน้อยๆกับคุณเบสอยู่นั้น  ถึงขั้นส่ายหัวให้กับพฤติกรรมห้าวเกินหญิงของเพื่อน  แต่กลับไม่มีใครห้ามใคร  ก่อนทั้งสามคนจะพร้อมใจกันหันไปแสยะยิ้มยักคิ้วเยาะเย้ยใส่นายซีอาร์  ที่กวาดตามองมาทางกลุ่มเราอย่างพาลๆอีกต่างหาก 

จนเพื่อนนักร้องสองคนที่เหลือต้องเข้าประกบและรั้งแขนไว้  ซึ่งนายซีอาร์อะไรนั่นที่ก็คงเกรงใจคุณโจเซฟผู้เป็นนายอยู่บ้าง  จึงยอมยืนอยู่นิ่งๆด้วยใบหน้าบูดสนิทไม่ทำอะไรมากไปกว่านั้น  แต่ขืนคิดไม่ได้และคิดใช้กำลัง  ยังไงซะนายนั่นก็คงเข้าไม่ถึงตัวนายน้อยกับคุณธันว์หรอก  เพราะการ์ดที่คอยระวังอยู่รอบวง  คงถึงตัวนายซีอาร์ก่อนอย่างแน่นอน

ท่ามกลางเสียงฮือฮาของผู้ร่วมงานกับการประกาศบอกรักของมาเฟียใหญ่  และปฏิกิริยาหลากหลายของคนใกล้ตัว  ผมกลับโดนหมุนตัวเข้าหาอกอุ่น  จนใบหน้าฝังไปกับกล้ามเนื้อแน่นๆ  พร้อมกลิ่นหอมสะอาดแสนคุ้นเคยลอยเข้าจมูก  ทำให้ผมเผลอดสูดกลิ่นหอมๆไปจนเต็มปอด  พาลลืมตัวให้พอลกอดอยู่แบบนั้น 

นานเท่าไหร่ไม่รู้มารู้ตัวก็ต่อเมื่อ  มืออุ่นที่เคยลูบขึ้นลงแถวแผ่นหลัง  เปลี่ยนมาลูบหัวอย่างอ่อนโยน  พร้อมเสียงนุ่มๆที่ดังขึ้น

“ฝูหรงครับ  อยากสนุกต่อหรือกลับบ้าน”  ผมที่กำลังมึนๆก็ได้แต่พยักหน้าใส่ตาคู่หวานที่จ้องกันไม่กระพริบคู่นั้น  จนคนถามถึงกลับกลั้วหัวเราะน้อยๆ 

การกระทำนั้นของพอลทำให้ผมเริ่มรู้สึกตัว  ว่าเรากำลังอยู่ที่ไหนและทำอะไรอยู่  ผมอายแทบแทรกแผ่นดิน  ด้วยเพิ่งรู้ตัวว่าสายตาของคนเกือบทั้งงานมองมาที่เราทั้งคู่  จะมีเว้นก็แต่คู่หวานที่สร้างปรากฏการณ์ประกาศรักสะท้านวงการและสามนักร้องนั่นที่ไม่อยู่ในงานแล้ว 

ผมจึงได้แต่ก้มหน้างุดและพึมพำพอให้พอลได้ยินว่าอยากกลับบ้าน  ก็ใครจะกล้าอยู่สนุกต่อในงานท่ามกลางสายตาล้อเลียนกันเล่า

“ไม่เป็นไรค่ะเฮียพอล  เฮียพาพี่ฝูหรงกลับก่อนได้เลย  แค่เฮียกับพี่ฝูหรงมาอวยพรให้นลิน  นลินก็ดีใจและขอบคุณมากแล้วค่ะ  เหตุการณ์เป็นแบบนี้  อีกพักเดียวนลินก็ว่าจะปิดงานอยู่เหมือนกัน  หึ!  นายซีอาร์นั่นกล้ามาก  คอยดูเถอะ  นลินจะเลิกติดตามวงนี้ไปเลย”  หลังจากประโยคนี้ทุกคนรอบตัวก็ได้แต่หัวเราะเจ้าภาพสาวสวยอย่างเอ็นดู  ก่อนพอลจะเอ่ยลากับคนอื่นๆ  ให้ผมทำเพียงแค่ส่งยิ้มเขินๆและเดินตามแรงจูงของมืออุ่น  จนหลุดออกมาจากงาน

“ฝูหรงรู้มั้ย  นับวันทำตัวให้พอลหลงจนไม่มีตาไว้มองใครแล้วนะ”  ผมเงยหน้าพรึ่บและจ้องตาคนพูดอย่างเอาเรื่อง  จนพอลที่กำลังระบายยิ้มหน้าระรื่นมีอันชะงัก  เปลี่ยนมาเป็นมองผมอย่างหวั่นๆแกมไม่เข้าใจ 

‘คนอะไรยังมีหน้ามาทำสีหน้าแววตาแบบนี้อีก’

“อย่าบอกนะ!  ตั้งแต่คบกัน  นายยังมีตาไว้มองคนอื่นอีก!!”  บอกเลยว่าฉุนมาก  ไอ้ลูกครึ่งจอมหื่นมันยังมีตามองคนอื่นนอกจากผมอีกเหรอ  เห็นผมยอมอ่อนข้อให้มากไปใช่มั้ย

“เดี๋ยวๆ  ฝูหรงอย่าเพิ่งเข้าใจพอลผิด  ที่พูดก็แค่เปรียบเปรยเท่านั้น  ตั้งแต่พอลเจอฝูหรงอีกครั้ง  สาบานว่าไม่เคยมองใครเลย...กระต่ายน้อยของพอลก็ขี้หึงเหมือนกันน้า~  ดีใจจัง  ฮึๆ”  ผมกลับเป็นฝ่ายชะงักและอึ้งไปกับสิ่งที่ได้ยิน 

‘ไม่น่าขี้ตื่นคิดมากไปเองเลยให้ตายสิ’  เพิ่งรู้ตัวเหมือนกันว่าตัวเองก็ขี้หึงได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“อะ  เอ่อ...กลับกันเถอะ”  ผมชิ่งออกมาจากสถานการณ์ไม่น่าไว้ใจทันที  ดูตาไอ้ลูกครึ่งจอมหื่นซะก่อนเถอะ  วิบวับอย่างน่ากลัว  ขืนผมยังยืนอยู่ตรงนั้น  คงได้ตกเป็นเป้าสายตาของเหล่านักท่องราตรีรอบตัวเป็นแน่ 

แต่ด้วยความรีบร้อนผสมกับที่ผมไม่ทันมองทาง  ผมก็ชนเข้ากับใครบางคนจนได้

“อ๊ะ!  เอ่อ  ขอโทษครับผมไม่ได้ตั้งใจ  คุณเป็นอะไรรึเปล่า...[เพี้ยะ!]...อ่ะ!”  รอยแดงปรากฏบนหลังมือทันที  ยามที่ผมแตะเข้ายังท่อนแขนเรียว  หวังช่วยประคองตัวคนที่ผมไม่ตั้งใจชนขึ้นจากพื้น

“นี่!  นอกจากจะซุ่มซ่ามแล้ว  ยังคิดจะลวนลามฉันอีกเหรอ”  ข้อกล่าวหาแบบไม่ทันตั้งตัว  ทำให้ผมเริ่มทำตัวไม่ถูก  ด้วยไม่คิดว่าจะถูกเข้าใจผิดขนาดนี้ 

ระหว่างที่ผมตะกุกตะกักเอ่ยขอโทษสาวสวยตรงหน้านั้น  เสียงทุ้มหนักก็ดังขึ้น  พร้อมๆกับที่ร่างผมลอยหวือไปตามมือคู่ใหญ่  แต่สัมผัสและกลิ่นหอมที่คุ้นเคย  ทำให้ผมไม่คิดต่อต้าน  แต่กลับรู้สึกโล่งอกโล่งใจขึ้นอย่างบอกไม่ถูก  ด้วยรู้ว่าผมสามารถพึ่งพาคนๆนี้ได้

“เกิดอะไรขึ้น!  ฝูหรงไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ”  ผมพยักหน้ารับแทบจะทันที  เมื่อเห็นใบหน้าเครียดขึง  พร้อมจะเอาเรื่องใครสักคนของพอลชัดตา  จนเผลอขยุ้มเสื้อด้านหน้าของพอลเป็นหลักยึด

“ไม่เป็นอะไร  ฝูหรงชนเข้ากับผู้หญิงคนนี้  พยายามขอโทษและช่วยพยุงเธอ  แต่ถูกเข้าใจผิด  พอลช่วยพูดหน่อยสิ”  อารมณ์นี้ไม่ฟ้องก็เหมือนฟ้อง  แต่เจตนาของผมแค่ต้องการให้พอลช่วยปรับความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นเท่านั้น 

พอลเองลูบหัวลูบหลังผม  และไล่สายตาสำรวจตัวผมไปจนทั่ว  ไม่ได้สนใจคู่กรณีที่กำลังฟึดฟัด  และพยายามลุกขึ้นมายืนด้วยใบหน้าบูดสนิทด้วยตัวเองสักนิด

“หึ!  มีพวกมาช่วยด้วย  อย่าคิดจะรุมกันก็แล้วกัน  ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย  เอาให้รู้กันไปเลยว่านักร้องดังอย่างฉันโดนผู้ชายทำร้ายก่อน...นี่นาย!...อ่ะ  พอล!!”  เจ้าของเสียงแหลมๆที่โวยวายไม่เลิก  เข้ามากระชากไหล่พอลอย่างแรง  จนตัวผมเองยังลอยติดมือใหญ่ที่กุมข้อมือกันไว้  ทำให้ผมต้องเผชิญหน้ากับคนที่อ้างว่าเป็นนักร้องดัง 

แม้ผมจะรู้สึกคุ้นๆกับใบหน้าสวยจัด  แต่อีกฝ่ายดันทำท่ารู้จักคนของผมเข้าแล้ว  ที่สำคัญพอลเองก็เหมือนจะรู้จักเธอดีด้วย

“มิลลี่!”  ผมมองพอลและนักร้องสาวนามว่ามิลลี่ไปมา  จนเริ่มรู้สึกขัดใจเพราะเริ่มสงสัยอย่างหนัก  เมื่อคนทั้งคู่ต่างเงียบและจ้องตากันไม่กระพริบ  ด้วยสายตาเรียบสนิทติดเย็นชา  ทำให้ผมเดาได้ว่าคู่นี้ต้องมีอดีตร่วมกันมาก่อน  และไม่ว่าอดีตมันจะดีหรือร้าย  จะมีความเป็นมาอย่างไรก็ตาม  แต่พฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความไม่ชอบใจให้แก่ผมอยู่ดี

“พอล!”  ผมกระแทกเสียงเรียกไอ้ลูกครึ่งหน้าหล่อทันทีที่คิดได้  ด้วยไม่อยากให้ทั้งคู่สร้างโลกส่วนตัวที่มีเพียงกันและกันไปนานกว่านี้ 

ผลที่ได้คือพอลละสายตาจากเธอคนนั้น  และก้มลงมามองผมด้วยสายตาติดดุ  จนผมเองถึงกับชะงักพาลให้น้อยใจและคิดไปไกล  ว่าผมไปขัดจังหวะระลึกความหลังของเจ้าตัวเข้า 

การแสดงออกของผมคือปล่อยชายเสื้อในมือ  พร้อมกระตุกมือออกจากการเกาะกุม  และเมินหลบสายตาคู่คมที่ยังจ้องมายังผมอย่างไม่เข้าใจไม่เลิก  ยิ่งเพิ่มความน้อยใจให้ผมเข้ามาอีก  ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆถึงเกิดความรู้สึกอย่างนี้ขึ้น  ด้วยคงเป็นความรู้สึกขัดใจเรื่องราวในอดีตระหว่างคนทั้งคู่ที่ผมไม่รู้ก็เป็นได้

“ผมขอโทษคุณผู้หญิงอีกครั้งครับ  แต่อยากจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ  หากคุณไม่เชื่อผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงแล้ว...ผมขอตัวก่อน”  ผมเลือกที่จะเป็นฝ่ายขอโทษอีกครั้ง  ด้วยไม่อยากอยู่ในสถานการณ์น่าอึดใจนี้อีกต่อไป 

ผมเตรียมที่จะปลีกตัวออกมาก่อน  ตั้งใจไปรอยังรถที่จอดไว้  เพื่อปล่อยให้ทั้งคู่มีโอกาสคุยกันโดยที่ไม่มีผมเป็นก้างขวางคอ  แต่ผมยังไม่ทันก้าวไปได้เกินสองก้าว  พอลก็รั้งข้อศอกผมไว้และดึงให้ไปยืนข้างกัน  แม้ความตั้งใจที่จะปลีกตัวออกห่างจะถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดี  ผมก็เลือกที่จะเบือนหน้าหนีไปยังที่ๆไม่มีภาพคนทั้งคู่อยู่ในสายตา 

ใครจะว่าผมขี้ใจน้อยขี้งอนไม่มีเหตุผลและชอบคิดไปเองก็ช่างสิ  คุณไม่เป็นผมไม่รู้หรอก  ว่าการได้เห็นคนของตัวเองยืนสบตากับสาวสวยจัดนานขนาดนั้น  ความรู้สึกมันแย่แค่ไหน  เหมือนผมไร้ซึ่งตัวตนและไม่สำคัญ  ทั้งๆที่ผมก็ยืนอยู่ตรงนี้

“หึ!  เพราะชอบแบบนี้นี่เอง  คุณถึงทิ้งมิลลี่ไป...พอล  คุณก็แค่เกย์เลวๆที่คบผู้หญิงบังหน้า”

“มิลลี่!!  หยุดโยนความผิดให้คนอื่นซะที  ทั้งๆที่รู้ดีแก่ใจว่าทำอะไรไว้ได้แล้ว”

ผมสะดุ้งตั้งแต่ถ้อยคำเหยียดหยามที่สาวมิลลี่ใช้กับพอลแล้ว  แต่ประโยคนั้นของเธอก็ทำให้ผมรู้ว่าทั้งคู่เคยคบกัน  และประโยคต่อมาของพอลก็ได้บอกผมว่าทั้งคู่เลิกกันแบบไม่ดีนัก  นาทีนี้ความรู้สึกน้อยใจไม่พอใจที่เคยมีหดเหลือเล็กนิดเดียว  แทนที่ด้วยความอยากรู้เรื่องของคนทั้งคู่มากกว่า 

ระหว่างที่ผมตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก  นักร้องสาวสวยที่ชื่อมิลลี่ก็ตวัดสายตามามองผม  ก่อนจะแสยะยิ้มและส่งสายตาดูถูกดูแคลนมาให้  ทำเอาผมขนลุกด้วยนึกหวั่นไปกับสายตาคู่นั้น  จนเผลอขยับตัวชิดร่างหนา  พอลเองก็แสนดีกระชับอ้อมแขนรอบเอวผม  ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา  ก่อนพอลจะกดเสียงเรียกชื่อผู้หญิงตรงหน้าเหมือนปรามไปในที  แต่เธอก็หาได้สนใจด้วยยังคงมองผมไม่กระพริบ

“ระวังตัวไว้เถอะ  นายเองก็จะถูกผู้ชายใจโลเลคนนี้ทิ้งเหมือนฉัน”  มิลลี่ทิ้งระเบิดด้วยคำพูดไว้เสร็จก็สะบัดหน้าใส่ผม  และเดินกระแทกไหล่พอลจากไป

ผมเองได้แต่ยืนอึ้งพูดไม่ออก  เรียกว่ามึนและสับสนไปกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้น  ซึ่งผมมารู้สึกตัวก็ต่อเมื่อฝ่ามืออุ่นๆประกบเข้าที่แก้ม  ก่อนจะช้อนใบหน้าผมขึ้นสบตา  และสายตาคู่คมที่เต็มไปด้วยแววตารักใคร่นี่ต่างหาก  ที่ทำให้สติที่เคยปลิวหายลอยกลับมาเข้าร่างดังเดิม  แต่มันคนละเรื่องกับความคับข้องใจที่ติดอยู่ในใจผมขณะนี้

“กระต่ายน้อย  พอลรู้ว่ามีคำถามมากมายที่ฝูหรงอยากถาม  สัญญาว่าจะเล่าทุกเรื่องให้ฟัง  แต่ขอร้องว่าอย่าเพิ่งคิดอะไรไปก่อน  และให้เชื่อใจว่าพอลไม่มีทางเป็นอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นพูด...ฝูหรงทำให้พอลได้มั้ย”  ทั้งสายตาจริงใจและน้ำเสียงทุ้มนุ่มอย่างน่าฟังของพอล  บวกความอยากรู้ที่อยู่ในใจผม  มันจึงไม่ใช่เรื่องยากหรือเรื่องฝืนใจนักที่ผมจะเอ่ยปากตอบรับตามความต้องการของพอล

“อืม  เราจะคุยกัน  พอลต้องเล่าความจริงระหว่างพอลกับผู้หญิงคนนั้นให้ฝูหรงฟังทั้งหมด”

“ได้ครับกระต่ายน้อย”  พอลระบายยิ้มกว้างพร้อมตอบรับผมอย่างหนักแน่น

แม้ผมจะมีข้อเสียอย่างการขี้ใจน้อยขี้งอนและชอบคิดไปเองก็ตาม  แต่ผมก็เลือกที่จะฟังคนของตัวเองก่อน  ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร  เพราะประสบการณ์ครั้งก่อนมันคอยย้ำเตือน  และผมเลือกที่จะเอาคำพูดของคนที่ผมไม่รู้จักเลย  มาเป็นแค่ส่วนประกอบเล็กๆของการตัดสินใจเท่านั้น  ซึ่งผมก็คงไม่เชื่อไปทั้งหมด  เพราะอย่างน้อยก็ขอให้เกียรติความรู้สึกดีๆของตัวเองที่มีต่อคนที่เรารักเป็นอันดับแรก

......................................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

มาแล้วตัวป่วนที่ 2 อย่างมิลลี่  แม้จะมาเร็วไปเร็วดังพายุ
แต่ไม่รู้ว่าพายุลูกนี้จะทิ้งความเสียหายให้มากแค่ไหนกัน
คงต้องรอติดตามได้ในตอนต่อไปค่ะ

เจอกันอีกทีวันพฤหัสฯนะคะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตาม

 :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 23-08-2014 13:22:25
 :pig4: จะมีใครโผล่มาป่วนความหวานของคู่นี้อีกมั๊ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 23-08-2014 13:25:32
ตัวป่วน 2 มาไวไปไว เล่นเอาทั้งฝูหรงและพอล ไม่ทันตั้งตัว   ฝูหรงทำถูกแล้วที่รอฟังคำพูดจากพอลก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป  เพราะบทเรียนก็มีให้เห็นแล้วว่าการไม่พูดหรือถามอะไรที่ตัวเองติดค้างไว้  มันจะนำมาซึ่งความเข้าใจผิด
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 23-08-2014 13:36:51
เยี่ยมมากเลยฝูหรง รักกันก็ต้องเชื่อใจกันนะ :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 23-08-2014 14:08:37
ก็ทิ้งกันไปแล้ว จะมาทำเป็นมีเยื่อใยกันอีกทำไม

ดีนะที่ฝูหรง ใจเย็นพอ  o18

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 23-08-2014 14:48:53
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-08-2014 15:29:40
มีเรื่องทั้งในงานนอกงานเลย ยัยมิลลี่ไปแล้วไปลับไม่กลับมาอีกใช่ไหม?
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 23-08-2014 17:16:00
ยัยมิลลี่นี่ใส่ร้ายพอลของฝูหรงหรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 23-08-2014 19:39:42
อธิบายมาเดี๋ยวนี้เลยนะพอล~~

 :ling1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: cornpoppie ที่ 24-08-2014 11:02:21
ฝูหรงน่ารักกกกกกก มิลลี่มาป่วนจนได้กำลังหวานกันอยู่เลย ฝูหรงต้องเขื่อใจพอลนะ  :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 24-08-2014 11:23:09
เหมือนฝูหรงจะค่อยๆเก่งขึ้นแล้วน้า ดีมากเลย รักกันต้องเชื่อใจกันน้า o13
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 24-08-2014 12:12:23
คู่น้องธันว์แย่งซีน :o8:
มิลลี่ท่าทางจะแรง
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 24-08-2014 20:24:05
ฝูหรงน่ารัก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 24-08-2014 20:33:42
เอิ่มมมม นางมาทิ้งระเบิดไว้ ตู้มเดียว แล้วนางก็หนีเอาตัวรอดไปซะงั้น
ทีเหลือเป็นหน้าที่พอลในการกู้ระเบิดแล้วอ่ะจ้า
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 24-08-2014 20:55:21
 :3123:
อุปสรรคมากน้อยแค่ไหนก็ต้องผ่านมันไปให้ได้นะ
สู้ๆนะทั้งคู่เลย
 :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 24-08-2014 22:47:55
น่าร๊าก~~~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 24-08-2014 23:43:51
หย่อนระเบิดไว้แบบนี้ พอลต้องเคลียร์ให้ชัดเจนนะ ไม่นั้นมันจะกลายเป็นระเบิดเวลารอวันคืนจะทำลายความสัมพันธ์ได้ในพริบตา
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.18 "ทิ้งระเบิด" P.15(23/8/57)ตัวป่วน2!
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 27-08-2014 21:53:51
อย่างนี้แหละรักแท้ย่อมมีอุปสรรคและมารผจญ
เลยส่งมิลลี่มาทดสอบ ท่าทางจะร้ายใช่เล่นนะเนี่ย
ไม่อย่างนั้นพอลคงไม่เลิกแบบที่แทบไม่มองหน้า
เพราะดูแล้วพอลก็ไม่น่าจะเจ้าชู้เลยนี่นา
แต่ก็นะความจริงเป็นยังไงคงต้องมาฟัง
เอาล่ะ ! ตอนหน้ามาฟังพร้อมกันนะฝูหรง :hao3:
ขอบคุณพี่มาศมากๆค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 28-08-2014 13:58:20
ตอนที่ 19

โจวพอล
   
“มิลลี่เป็นคนที่พอลเคยควงด้วย  แต่เลิกกันไม่ดีเท่าไหร่  พอเจอหน้ากันทีไรผู้หญิงคนนั้นเลยออกอาการเหมือนที่เราเจอวันนี้เกือบทุกครั้ง”  ผมหยุดพูดเพื่อสังเกตอาการของฝูหรง  ซึ่งผมก็สบายใจไปเปาะหนึ่ง 

เมื่อกระต่ายน้อยยังคงจ้องผมด้วยตากลมๆอย่างตั้งใจ  ไม่มีอาการโกรธเคืองอย่างที่นึกกลัว  ไม่เหมือนสองชั่วโมงก่อนที่ทำเอาผมใจหาย  ยามได้เห็นตาคู่เดียวกันนี้ไหววูบ  แสดงออกชัดว่าเจ้าตัวน้อยใจในตัวผมมากมาย  แถมยังมีทีท่าถอดใจง่ายๆเหมือนไม่อยากรับรู้อะไรๆอีกแล้ว  จนพาลคิดว่าหากผมปล่อยกระต่ายน้อยหลุดมือไปนาทีนั้น  ผมคงได้สูญเสียกระต่ายน้อยช่างคิดเยอะไปตลอดกาลอย่างแน่นอน

ผมอาศัยจังหวะที่ฝูหรงไม่ทันระวังตัว  รวบเอวบางและยกร่างน้อยขึ้นมานั่งคร่อมตัก  ก่อนจะล็อคเอวของคนที่ดิ้นขลุกขลักไว้กับตัว  ซึ่งแน่นอนเมื่อกระต่ายน้อยขยับไปไหนไม่ได้  คนน่ารักย่อมโวยวายเป็นธรรมดา  มีลงไม้ลงมือทั้งทุบทั้งหยิกผมเป็นพัลวัน

“โอ๊ย!  ฝูหรงก็อย่าดิ้นสิครับ  นั่งดีๆ  พอลจะได้เริ่มเล่าที่มาที่ไปของมิลลี่ไงครับ  อูย!...อย่าเพิ่งงอนพอลเลยนะครับ”  หากจะเริ่มเล่าผมก็เล่าได้  แต่ที่ยื้อเวลาไว้จนกระต่ายน้อยเริ่มหงุดหงิด  เพราะอยากล็อคตัวฝูหรงไว้ก่อน 

ผมกังวลว่าหากระหว่างที่ผมเล่า  อยู่ๆคนน่ารักไม่พอใจลุกหนีขึ้นมา  จะได้ไม่ต้องเสียเวลาตามจับกระต่าย  ผมยอมเสียเวลาตอนนี้ดีกว่า

“รีบเล่าเรื่องของนายกับผู้หญิงคนนั้นได้แล้ว  ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนกับนาย”  นาทีนี้มาทั้งนายทั้งฉันเลย  ไม่ต้องมีใครบอกผมก็รู้ว่ากระต่ายน้อยโมโหขั้นสุดเข้าแล้ว  ขืนช้าผมคงไม่มีโอกาสอธิบายอีกต่อไป 

แต่ก่อนอื่นผมขอส่งยิ้มละลายใจเป็นทัพหน้า  ให้กระต่ายหน้าบูดได้แก้มแดงเล่นอีกนิดนะครับ  ซึ่งก็ได้ผลเพราะพวงแก้มใสแต้มสีแดงจางๆ  ทั้งที่ใบหน้าถมึงทึงและจ้องผมตาวาววับ  ผมจึงมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย  เลือกที่จะประคองแก้มกลมขึ้น  และกดจมูกลงไปเพียงแค่แตะผ่าน  ก่อนจะโอบร่างน้อยเข้าหาอก  พร้อมลูบแผ่นหลังบางเป็นการปลอบประโลม  หวังให้อารมณ์กรุ่นโกรธของกระต่ายน้อยเบาบางลง 

จากร่างที่ขืนเกร็งในช่วงแรก  ค่อยๆโอนอ่อนซวนซบมากับอกผม  จนผมรู้สึกถึงหัวใจอีกดวงที่เต้นในจังหวะรัวเร็ว  ก่อนจะช้าลงจนอยู่ในจังหวะสม่ำเสมอ  กระทั่งไม่ต่างจากจังหวะหัวใจของผมในขณะนี้นัก  ทำเอาผมหุบยิ้มไม่ลงพาลอยากจะทำอย่างอื่น  มากกว่ามานั่งเล่าอดีตที่ไม่น่าจดจำ  แต่อาจจะเรียกว่าเป็นอดีตที่แทบไม่เหลือในความทรงจำของผมซะมากกว่า  ด้วยมันไม่มีค่าเลยสักนิด

เรื่องราวของผมกับผู้หญิงที่ชื่อมิลลี่ไม่มีอะไรมากไปกว่า  คนที่เคยควงกันช่วงหนึ่ง  จุดเริ่มต้นย่อมมาจากความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย  และต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์จากกันและกัน  หากถามหาเรื่องของความรัก  ผมคงต้องบอกว่าแทบไม่มี  ด้วยต่างเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ระหว่างกันซะมากกว่า  ก่อนจะเลิกกันไปเพราะมีฝ่ายหนึ่งโลภและหวังผลเกินกว่าที่อีกฝ่ายจะให้ได้  จนพาลไปเสาะหาที่หมายใหม่แบบลับๆ  ทั้งๆที่ต่อหน้าทำตัวแสนดีช่างเอาใจไม่ต่างจากเดิม  แต่พอโดนจับได้กลับปฏิเสธหน้าเป็น  และเป็นฝ่ายโยนความผิดพร้อมโยนข้อกล่าวหาลอยๆมาให้ผมแทน  ข้อกล่าวหาที่ว่าคือผมแอบมีคนใหม่ซ่อนไว้จึงหวังสะบัดเธอทิ้ง  จนเห็นแก่ตัวมาใส่ร้ายเธอให้เสียหาย

ผมเริ่มระแคะระคายที่มิลลี่มีคนใหม่  จากพฤติกรรมแปลกๆยามอยู่ด้วยกัน  แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก  ด้วยผมคิดว่าเราต่างพอใจที่จะหยิบยื่นผลประโยชน์  และรับสิ่งตอบแทนจากกันและกัน  แม้ไม่มีเรื่องความรักมาเกี่ยวข้อง  แต่ผมก็ซื่อสัตย์มากพอที่จะไม่ควงใครซ้ำซ้อน  หรือแอบมีใครลับหลังแบบที่เธอทำ  ซ้ำร้ายยังโยนข้อหาดังกล่าวมาให้กันหน้าตาเฉย 

สำหรับมิลลี่เรื่องการคบหา  เธอไม่ได้คิดเช่นเดียวกับผม  ด้วยโตมาในวัฒนธรรมตะวันตกเพียงลำพัง  เพราะเป็นเด็กกำพร้าถูกทอดทิ้ง  ฐานะไม่ค่อยดีนักต้องต่อสู้ดิ้นรนด้วยตัวเองมาตลอด  แต่มีพรสวรรค์เรื่องเสียงเพลง  ก่อนเธอจะย้ายมาอยู่ฮ่องกงช่วงได้เป็นนักร้อง  หลังจับพลัดจับผลูได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง   AJ Record 

การใช้ชีวิตที่ผ่านมาของมิลลี่  จึงมีอิสระไม่มีใครคอยควบคุมพฤติกรรม  ร่วมกับเธอประสบความสำเร็จในช่วงอายุน้อย  ได้เป็นนักร้องสาวสวยรวยเสน่ห์ที่ใครต่อใครก็ชื่นชอบในเวลารวดเร็ว  ผมก็เป็นหนึ่งในบรรดาผู้คนเหล่านั้น  หลงรูปหลงเสียงตามสัญชาติญาณของหนุ่มโสดทั่วไป  แต่ผมดันมีโอกาสทำความรู้จักและตกลงคบหากัน  แม้ไม่เปิดเผยแต่ก็เป็นที่รับรู้ของคนรอบตัว

จนเรื่องมาแดงเมื่อเพื่อนสนิทอย่างโจเซฟที่มีฐานะเป็นเจ้านายโดยตรงของมิลลี่  เอาเรื่องที่เธอแอบคบกับนักร้องใหม่ของค่ายมาบอกผม  ซึ่งโดยปกติบริษัทจะมีสายคอยตามเรื่องส่วนตัวของนักร้องในค่ายอยู่แล้ว  เพื่อป้องกันเรื่องฉาวและรักษาผลประโยชน์ของบริษัท  ซึ่งหากเป็นเรื่องเล็กๆและไม่เสียหายมากนักทางบริษัทจะไม่มายุ่ง  แต่จะแค่มองอย่างห่างๆ  และถ้าคนที่มิลลี่ควงจะไม่ใช่ผม  โจเซฟก็คงไม่เข้ามายุ่ง

ยามที่ผมรู้เรื่องทั้งหมดจากปากโจเซฟ  ผมรู้สึกเสียหน้าและโมโหที่โดนหักหลัง  แต่ก็แค่อารมณ์โมโหเท่านั้นเพราะเรื่องเสียใจนั้นแทบไม่มี  ด้วยผมไม่เคยนึกรักมิลลี่  ที่สำคัญมิลลี่เองเธอก็คงรู้สึกไม่ต่างจากผม  แต่น่าจะรักในชื่อเสียงและเงินทองของผมซะมากกว่า  จึงไม่แปลกที่เธอจะออกอาการโวยวายและไม่ยอมเลิก  พร้อมโยนข้อกล่าวหาที่เธอทำมาให้ผมซะเอง 

เมื่อผมยืนยันตัดความสัมพันธ์  เธอจึงได้แต่โกรธต่อว่าผมมากมาย  แถมยามบังเอิญที่เราเจอกันทุกครั้ง  ผู้หญิงคนนั้นมักจะอาฆาตต่อว่าต่อขานผมเสมอ  ด้วยข้อกล่าวหาที่เธอยกเมฆขึ้นมาเอง  เหมือนอย่างที่พวกคุณรับรู้

“เรื่องทั้งหมดก็มีเท่านี้แหละครับ”  ผมดันไหล่บอบบางออกจากอกช้าๆ  ก่อนจะจ้องเข้าไปในดวงตาคู่กลมที่ไร้ซึ่งแว่นบดบัง  จนสามารถเห็นแววตาครุ่นคิดออกแนวหนักใจชัดตา  จึงตัดสินใจยื่นหน้าประทับจูบลงบนเปลือกตาบางใสทั้งคู่อย่างแผ่วเบา  ก่อนเชยปลายคางมนขึ้น  เพื่อแตะจูบลงบนริมฝีปากสีสดด้วยความนุ่มนวลไม่ต่างกัน

ผมรู้ตัวมาตลอดว่าในใจผมมีเพียงผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าผมคนนี้เท่านั้น  ทำให้ตลอดมาการที่ผมมีใครหรือแม้แต่กรณีของมิลลี่  ผมมักไม่มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้องในความสัมพันธ์เหล่านั้นสักครั้ง  ด้วยในใจลึกๆผมยังคงรอ  รอที่จะได้เจอและกลับมารักกับฝูหรงอีกครั้ง  วันนี้ผมสมหวังในรักที่เฝ้ารอ  ทำให้ไม่นึกแปลกใจนักว่าทำไมตัวเองถึงไม่โกรธ  หรือมีอาการไม่พอใจมากเท่าที่ควรเป็น  ยามที่มิลลี่กระแนะกระแหนใส่ผมทุกครั้งที่เจอกัน 

‘ผมยอมรับว่าใช้เธอฆ่าเวลา  เพื่อรอรักเดียวของผมคืนกลับมาอีกครั้ง’

“ฝูหรงเป็นอะไรครับ  ทำไมเงียบไปเลยล่ะ  หืม  กระต่ายน้อยของพอล”  ตั้งแต่ผมเล่าเรื่องในอดีตจบ  กระต่ายน้อยยังไม่พูดอะไรออกมาสักคำ  ทำเอาผมเริ่มร้อนใจ  สู้ให้โวยวายต่อว่าในพฤติกรรมแย่ๆที่ผ่านมาของผมจะดีซะกว่า  เงียบแบบนี้  ผมไม่รู้ว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่นี่สิ

“พอลใจร้าย”  อยู่ๆเจ้าของดวงตาแป๋วแหววก็ต่อว่าต่อขานกันออกมา  ทำเอาผมใจแป้วไปเลย

“โธ่  กระต่ายน้อยทำไมว่าพอลแบบนั้นล่ะครับ”  ผมใช้เสียงออดอ่อยท้วงเล็กๆออกไป  ก่อนจะแสร้งซบหน้าผากลงกับลาดไหล่บอบบาง  และถอนใจบางเบาใส่ซอกคอขาวๆด้วยความน้อยใจ 

ผมแอบเห็นนะว่าขนอ่อนในระยะสายตาแข่งกันลุกพรึบพรับ  ทำเอาตัวเองกลั้นยิ้มไม่อยู่  แต่ผมทำเพียงคล้องแขนรอบเอวบาง  และรั้งร่างหอมๆเข้าหาตัวอย่างเนียนๆ  ซึ่งกระต่ายน้อยในอ้อมกอดก็ไม่มีทีท่าจะรู้ตัว  ด้วยยังคงนั่งนิ่งๆอยู่บนตัก

“ก็ใจร้ายจริงๆนี่  พฤติกรรมแบบนั้นเท่ากับหลอกใช้เลยนะ  ฝูหรงชักกลัวแล้วสิ...”  ผมถึงกลับผละใบหน้าออกจากความหอมหวาน  เพื่อมาจ้องตากลมๆเลยทีเดียว 

ทั้งคำพูดและน้ำเสียงในประโยคสุดท้ายของฝูหรง  ผมรู้สึกได้ว่ามันมีอะไรมากกว่าการต่อว่าต่อขานธรรมดาเข้าแล้ว  บวกเข้ากับดวงตาจริงจังแฝงแววไม่แน่ใจเข้าอีก  ทำเอาผมต้องประคองดวงหน้าขาวขึ้น  และจ้องลึกเข้าไปในแววตาคู่นั้น  ก่อนจะถามออกไปว่ากระต่ายน้อยกลัวอะไร  ด้วยเสียงนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ฝูหรงกลัวอะไร  ไหนลองบอกพอลสิครับ”  หลังคำถามผมนั้น  ดวงตาฝูหรงไหววูบไปนิด  มีเม้มปากเข้าหากันอีกหน่อย  และผมแทบกลั้นยิ้มไม่อยู่  เมื่อเรียวปากคู่เดียวกันนั้น  จะยู่ยื่นออกมาพร้อมหัวคิ้วที่ขมวดชนกัน

“พอลคงไม่คิดคบกับฝูหรงเล่นๆ  เหมือนอย่างการคบกับมิลลี่หรอกใช่มั้ย  เพราะถ้าใช่  ฝูหรงจะฟ้องปาปาฟู่สือ  ฟ้องมามาอีลิน่า  อ้อ!  จะฟ้องจินนี่ด้วย  ให้มาแหกอกพอลแทนฝูหรงเลย...เอ๊ะ!  หัวเราะทำไมเล่า!”  เจ้าของน้ำเสียงโวยวายทุบกำปั้นลงบนอกผมทันที  ยามที่ผมกลั้นหัวเราะไม่อยู่อีกต่อไป 

ใครจะเก็บกลั้นอารมณ์ยินดีไว้ได้กันล่ะ  คำพูดคำจากระต่ายน้อยน่ารักซะขนาดนั้น  บอกผมหมดเลยว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่  ถ้าไม่ใช่แคร์ผมจับใจ  ไม่ก็หวงมากจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่  ไหนจะคำขู่ที่แสนน่ากลัวนั่นอีก  ยกมาหมดเลยทั้งปาปามามาและยัยจินนี่แม่มดจอมวุ่นวาย  ยิ่งคนหลังนี่บอกเลยว่าทำผมกลั้นหัวเราะไม่อยู่  กระต่ายน้อยช่างรู้ใจว่าผมนั้น  กลัวยัยจินนี่มากกว่าสองคนแรกเสียอีก  ผมกลัวว่าจินนี่จะมาทำให้ผมวุ่นวายจนอยู่ไม่เป็นสุขเสียนี่แหละ

เดี๋ยวนี้ฝูหรงสนิทกับจินนี่มากจนญาติอย่างผมนึกกลัวอยู่เหมือนกัน  ว่ายัยตัวแสบจะมาใส่ความคิดไม่เข้าท่าให้แฟนผม  ดังนั้นคำขู่กระต่ายน้อยถือว่าใช้ได้ผล  ที่สำคัญผมไม่เคยคิดอย่างที่ฝูหรงกลัวสักนิด  สักนิดก็ไม่มี 

ผมเหลือเพียงการคลี่ยิ้มกว้าง  ก่อนจะรวบข้อมือบางทั้งคู่ไว้  และยื่นหน้าเข้าหาดวงหน้าสว่างของคนรัก  ทำเอาฝูหรงหยุดดิ้นหยุดโวยวาย  เปลี่ยนมาจ้องผมด้วยดวงตากลมโตมีแววตื่นตระหนกแทน  และยังเอนตัวหนีด้วย  ยามที่ผมพยายามลดระยะห่างระหว่างใบหน้าของเรา 

จนสุดท้ายร่างน้อยเสียหลักเอนหลังลงบนที่นอน  ผมก็ไม่พลาดที่จะตามประกบ  แถมยังได้ท่าที่แสนเหมาะเจาะ  ด้วยฝูหรงมีผมคร่อมอยู่เหนือร่าง  ได้ตรึงข้อมือบางทั้งคู่ไว้เหนือหัว  ชายเสื้อนอนร่นขึ้นจนหน้าท้องขาวโผล่วับแวม  สำคัญที่กึ่งกลางลำตัวของเราแนบชิดกัน  เพราะร่างผมแทรกอยู่กลางระหว่างขาเรียวที่ยกขึ้นตั้งฉากอย่างเหมาะเจาะ  ทำเอาแก้มใสจุดสีแดงระเรื่อจางๆ  ก่อนจะขึ้นสีแดงก่ำลามไปทั้งใบหน้าและลำคอ  ยามที่เจ้าของความน่ารักช่างยั่วรู้สึกตัวว่าตกอยู่ในท่วงท่าล่อแหลมเข้าให้แล้ว 

ผมเลือกที่จะเกลี่ยแก้มสุกอย่างหยอกเย้า  และบรรจงระบายยิ้มสว่างใส่ตาคู่ไหววูบตรงหน้า  ก่อนจะแก้ไขความเข้าใจผิดของกระต่ายน้อยแสนรัก  ด้วยการจ้องเข้าไปในดวงตากลมๆ  พร้อมพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไป

“ฝูหรงจะพาพอลไปยืนยันต่อหน้าเทพเจ้าองค์ไหนก็ได้  ว่าพอลรักฝูหรง  ไม่เคยคิดจะหลอกลวง  ไม่เคยคิดจะทำเป็นเล่นด้วยเลย  การที่พอลพาฝูหรงเข้าบ้าน  มาแนะนำกับปาปามามาในฐานะคนรัก  เพื่อนสนิทของพอลเองก็รับรู้เรื่องของเรา  เท่ากับยืนยันว่าพอลจริงใจกับฝูหรงแล้วนะครับ...กระต่ายน้อยอย่าได้กลัว  ขอให้มั่นใจว่าพอลรักและจริงใจกับฝูหรงคนเดียว”  ผมต้องยอมปล่อยข้อมือบางทั้งคู่  เมื่อเจ้าของขยับประท้วง  ก่อนผมจะยิ้มได้เต็มหน้า  เมื่อวงแขนเล็กโอบเข้าที่รอบคอและรั้งร่างผมเข้าหา

“พอล~”  เสียงเล็กๆที่มาพร้อมอ้อมกอดอุ่นๆ  ทำเอาหัวใจในอกผมฟูฟ่อง  ฝูหรงไม่ต้องพูดอะไรออกมา  ผมก็รู้ได้ว่าเจ้าตัวรู้สึกอย่างไร  ถ้าไม่ใช่รู้สึกผิดและหลงรักผมหัวปักหัวปำ 

เรานอนกอดกัน  ซึมซับไออุ่นของกันและกันไปพักใหญ่  โดยที่ระหว่างนั้นผมพลิกร่างบางให้ขึ้นมากอดก่ายอยู่บนตัว  และสอดมือเข้าชายเสื้อลูบผิวเนื้อเนียนอย่างเพลินมือ  มีกดปลายจมูกสูดกลิ่นหอมอ่อนๆของเส้นผมนุ่มไปด้วย

“เรื่องมิลลี่  พอลเองก็รู้ตัวว่าผิดที่เหมือนหลอกใช้เธอ  แต่ความจริงคือเราต่างตักตวงผลประโยชน์ระหว่างกัน  พอลก็หวังว่าสักวันเธอเองก็จะคิดได้  เหมือนที่พอลบอกฝูหรงในวันนี้”

“อืม  ฝูหรงสงสารเธอนะ  แต่ยอมรับอยู่อย่างว่า  ตอนนั้นโมโหมากที่เห็นพอลกับมิลลี่มองกันตาไม่กระพริบ  เหมือนว่าทั้งโลกมีแค่สองคนเท่านั้น  จนไม่อยากยืนอยู่ตรงนั้นอีก  มันปวดใจแปลกๆน่ะ  ยิ่งพอมิลลี่ขู่ว่าพอลจะทิ้งฝูหรง  เลยแอบกลัวไม่ได้  แต่เมื่อพอลยืนยันแบบนี้  ฝูหรงก็ดีใจนะ  มีความสุขมากด้วย...ยกหัวใจให้ทั้งดวงแล้วนี่  ถ้าพอลไม่เห็นคุณค่า  ฝูหรงต้องแย่แน่ๆเลย”  กระต่ายน้อยพูดจบมีเงยหน้าขึ้นจากอกผม  และช้อนตาขึ้นมาจ้องตากัน  ด้วยดวงตาแป๋วแหววใสซื่อเป็นการปิดท้าย

นาทีนี้หากกระต่ายน้อยไม่ได้ตั้งใจยั่วก็เหมือนยั่วนั่นแหละครับ  เผยความในใจซะหมดเปลือกขนาดนั้น  แถมสัมผัสแห่งผิวกายของเราก็แนบชิดไปซะทุกสัดส่วนแบบนี้  ผมไม่มีอารมณ์ก็แปลกล่ะ

“ไม่ต้องกลัวไปเลยกระต่ายน้อย  หัวใจดวงนี้ของฝูหรง  พอลสัญญาด้วยชีวิตจะดูแลและรักษาไว้อย่างดี  ให้สมกับที่ฝูหรงยอมยกหัวใจให้พอล”  ผมชะโงกหน้าเข้าหาดวงหน้าแดงซ่านอย่างช้าๆ  ก่อนจะบรรจงประกบปากเข้ากับเรียวปากที่กำลังคลี่ยิ้มบางเบาด้วยความขวยเขิน

หลังจากผมดูดซับความหวานของความนุ่มจนเป็นที่พอใจแล้ว  ริมฝีปากนุ่มก็เปิดรับปลายลิ้นผมทันทีที่ผมแทรกผ่าน  และเป็นฝ่ายส่งลิ้นน้อยยื่นเข้าหาผมก่อน  ผมถึงกับกระตุกยิ้มให้กับกระต่ายน้อยหัวไว  และตอบรับลิ้นน้อยด้วยการเกี่ยวกระหวัด  ก่อนเป็นฝ่ายตั้งรับลิ้นเล็กที่ซอกซอนเข้ามาในโพรงปากของผม 

ผมปล่อยให้กระต่ายน้อยที่แสนกระตือรือร้นได้เรียนรู้  และสำรวจโพรงปากไปจนทั่ว  ไม่เว้นแม้แต่ร่างกายที่มือน้อยๆกวาดสะเปะสะปะไปทั่วแผ่นอก  แถมกระต่ายน้อยที่แสนซุกซนยังทดสอบความอดทนของผม  ด้วยการบดบี้ปลายนิ้วลงบนยอดอก  ก่อนจะลงลิ้นดูดดุนในแบบที่ผมมักทำกับเจ้าตัว 

“ซี้ดดด  อ่า  กระต่ายน้อย~”  ผมถึงกับดิ้นพล่านครางไม่เป็นภาษา  แต่ยังคงปล่อยคนน่ารักได้เล่นกับผิวกายของผมอย่างเต็มที่ 

ทำไมผมต้องห้าม  ในเมื่อผมออกจะสนุกกับความกระตือรือร้นที่ฝูหรงปรนเปรอให้  ไหนจะความเสียวซ่านที่ก่อตัวสูงขึ้นในเวลารวดเร็วนี่อีกล่ะ  บอกเลยว่าผมยอมขายหน้า  หากจะต้องปลอดปล่อยก่อนเวลาคาเรียวปากแดงๆคู่นั้น  ยามที่เจ้าของกำลังก้มๆเงยๆปรนเปรอความแข็งขืนกลางตัวผมอย่างสุดความสามารถ  แม้จะดูเงอะงะไปบ้าง  มีตื่นตระหนกเข้ามาอีกหน่อย  แต่ผมรู้ว่ากระต่ายน้อยแสนรักพยายามทำอย่างดีที่สุดและเต็มใจทำเพื่อผมมาก  เพียงแค่นี้ไม่แปลกที่ผมจะปลดปล่อยเร็วกว่าที่เคยเป็น  ทำเอาคนน่ารักไอคอกแคก  ลุกขึ้นมานั่งสำลักหน้าแดงอย่างน่าเอ็นดู

ผมดึงข้อมือบางออกจากข้างแก้ม  ด้วยฝูหรงกำลังป้ายหลังมือเช็ดคราบเปรอะเปื้อนที่ผมทำเลอะไว้  ก่อนผมจะช้อนก้นกลมที่ขอบกางเกงร่นลงไปครึ่งหนึ่งแล้ว  และได้โชว์เนินเนื้อขาวๆล่อตา  ให้ผมได้ส่งมือไปเคล้าคลึงเล่น  ก่อนจะช้อนใบหน้าแดงซ่านขึ้น  พร้อมส่งยิ้มในแบบที่ผมรู้ว่าจะทำให้กระต่ายน้อยแก้มแดงจัดกว่าที่เป็น 

ฝูหรงที่นั่งคร่อมบนตักผมถึงกลับเบือนสายตาหนี  จับจ้องเพียงลาดไหล่เปลือยเปล่าของผมด้วยแก้มแดงจัด  ทั้งๆที่ข้างแก้มและลำคอเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบขาวขุ่น  แถมด้วยหน้าท้องผมเริ่มรู้สึกถึงความแข็งขืนร้อนจัดที่ผงาดเข้ามาชน 

ผมกลั้นยิ้มไม่อยู่และนึกเอ็นดูกระต่ายน้อยจับใจ  ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปเลียคราบขาวๆผลผลิตจากผมเอง  จากผิวแก้มใส  ไล่ลามมาที่ลำคอระหง  เมื่อแรกฝูหรงมีสะดุ้ง  แต่กลับยอมเปิดทางเอียงคอให้ผมสัมผัสได้มากกว่าเดิม  ผมอดใจไม่ไหวขบเม้มผิวละเอียดที่ซอกคอ  เรียกเสียงครางหวิว  และอาการผวาเอาแขนเข้ามาคล้องรอบคอผมของฝูหรง

“อ่ะ  อืมมม...อ่า~”  ผมกระตุ้นให้เกิดเสียงหวานๆดังขึ้นอีก  ด้วยการสอดปลายนิ้วที่ฉ่ำไปด้วยตัวช่วยเข้าซอกหลืบที่ยังคงปิดสนิท  ทำเอาเจ้าของถึงกับกระถดสะโพกหนี  แต่ก็ทำให้กระต่ายน้อยหัวแข็งกลางตัวเสียดสีไปกับหน้าท้องของผมยิ่งขึ้น  จนเจ้าตัวถึงกับครางอู้อี้ไม่เป็นภาษา

ท่าทางที่เหมือนจะถอยหนี  กลับแปรเปลี่ยนเป็นบดคลึงสะโพกเข้าหาของร้อนกลางตัวผม  ด้วยมันกำลังกรึ่มๆโผล่หัวขึ้นมาทักทายความหยุ่นนุ่ม  ที่เคลื่อนไหวยั่วยวนแบบไม่ตั้งใจ  ก่อนผมจะตัดสินใจยกร่างบางขึ้นจากตัก  และคว่ำร่างน้อยที่กำลังผวาลงกับเตียง  พร้อมจัดการปลดเปลื้องสิ่งกีดขวางทั้งหมด 

จนเห็นแผ่นหลังขาวๆและก้นกลมนวลเด้งสว่างเต็มสองตา  สำคัญที่ร่องรอยยังรอยแยกที่ผมเตรียมพร้อมไว้นั้น  ฉ่ำเยิ้มไปด้วยเนื้อเจลกำลังตอดขมิบคาตา  ผมถึงกลับลำคอแห้งผากสตั๊นไปสามวิ  และความอดทนของผมหมดลง  เมื่อกระต่ายน้อยตากลมเอี้ยวตัวหันกลับมามองกัน  ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา

“พอล~...อ่ะ!  อ๊าๆๆๆ...จะ  เจ็บ  พอล  อึก”  เสียงกรีดร้องดังขึ้นทันทีที่ผมสอดใส่ความแข็งขืนเข้าช่องทางร้อนในคราเดียว  แต่ผมก็มานึกเสียใจเมื่อเสียงเล็กๆประท้วงผะแผ่วพร้อมอาการกลั้นสะอื้น

“อึก  ขอโทษครับ  พอลอดใจไม่ไหว  ซี้ดดด  ฝูหรง~”  ผมกัดปากตัวเองแทบขาด  เมื่อความอุ่นร้อนบีบรัดแก่นกายทุกทิศทุกทาง  แต่พยายามข่มกลั้นความอึดอัดปวดร้าวนั้นไว้  เพื่อจูบประทับแผ่นหลังเนียนไล่ไปยังหลังคอชื้นๆ  และย้ำคำขอโทษข้างใบหูหอม  ก่อนจะขบเม้มแรงสลับเบาจนได้ยินเสียงครางผะแผ่วนั่นแหละ

ผมจึงอ้อมมือไปสาวรูดกระต่ายน้อยกลางตัว  และช้อนใบหน้าแดงเถือกที่กำลังขบเม้มริมฝีปากตัวเองไว้แน่น  เพื่อมอบจูบปลอบประโลมให้ฝูหรงได้ผ่อนคลาย  และเคลิบเคลิ้มไปกับผมอีกครั้ง  จนกระทั่งฝ่ามือน้อยอ้อมมาโอบรอบคอผม  เรียวลิ้นตอบโต้เกี่ยวกระหวัดคืนด้วยความกระหาย  พร้อมสะโพกมนที่บดคลึงส่งสัญญาณให้ผมเดินหน้าต่อ

ความเร็วของการกระแทกกระทั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เพื่อตอบสนองให้ความเสียวซ่านได้ไต่ระดับเพิ่มขึ้น  พร้อมกับเสียงครางของสองเราที่แข่งกันร่ำร้องดังปะปนจนแยกไม่ออก  สุดท้ายเจ้าของแผ่นหลังพราวเหงื่อที่เต็มไปด้วยรอยกุหลาบประปรายก็เกร็งเหยียด  ใบหน้าแหงนหงายกรีดร้องปล่อยเสียงครางหวาน  ให้ผมเร่งขยับมือรูดรั้งความอุ่นร้อนในอุ้งมือ  จวบจนกระทั่งทุกอย่างพังทลายออกมาเต็มหลังมือ  ก่อนร่างบอบบางจะอ่อนแรงซวนซบลงกับเตียง

ผมกัดฟันพลิกร่างฝูหรงขึ้นทั้งๆที่ร่างกายเรายังคงเชื่อมต่อ  และแรงตอดรัดรอบแก่นกายยังคงตอดถี่รัว  ก่อนเจ้าของร่างน้อยจะมองมาที่ผมด้วยแววตาหวานเชื่อมคั่งค้างไปด้วยรอยสุขสม  ผมก้มดูดริมฝีปากบวมเจ่อด้วยความมันเขี้ยว  พร้อมแหวกต้นขาขาวให้เปิดกว้าง  ถอดถอนสะโพกและกระแทกใส่แรงตอดรัวแรงๆ  จนได้ยินเสียงครางอู้อี้คาปาก 

ผมปล่อยริมฝีปากเจ่อบวมเป็นอิสระ  เฝ้ามองร่างน้อยใต้ร่างโกยอากาศเข้าปอด  จนอกบางกระเพื่อมไหวเย้ายวนตา  แต่กระต่ายน้อยแสนรักยังไม่วายจ้องสำรวจร่างกายผมตาไม่กระพริบ  ทำเอาผิวกายทั่วร่างของผมเหมือนมีกระแสไฟแล่นผ่าน  ซาบซ่านฮึกเหิมไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย  ก่อนผมจะเดินเครื่องส่งตัวเองสู่เส้นชัย  ใส่แรงไม่ยั้งจนร่างบอบบางไหวโยกไปตามแรงกระแทก

“ฝูหรง  ซี้ดดด  กระต่ายน้อย  อ๊าๆๆๆๆ”  ผมปลดปล่อยทุกหยาดหยดเข้าสู่ความอุ่นร้อนที่รัดรึง  พร้อมครางลั่นห้องเรียกคนรักเสียงหลง  ก่อนซวนซบเข้าหาวงแขนน้อยที่เปิดรอรับกันอยู่ก่อนแล้ว

ผมรู้สึกถึงฝ่ามือนุ่มลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังและต้นคอ  หูได้ยินเสียงหัวใจดวงน้อยใต้แผ่นอกบางเต้นถี่รัว  สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดเหนือหัว  ตามมาด้วยเสียงหวานๆที่ตอบรับคำรัก  ยามที่ผมกระซิบบอกรักและอ้อนถามอย่างเอาแต่ใจ  หลังจากผมผ่านพ้นความสุขแสนหวาน  จากคนใต้ร่างเป็นผู้มอบให้

“รักสิ  ฝูหรงก็รักพอล”

‘การได้รักใครสักคนอย่างเต็มหัวใจ  ยังไม่ดีเท่าใครคนนั้นที่เรารักมอบความรักตอบ’

‘การมีรักที่มั่นคงคงไม่เพียงพอให้คนรักกัน  อยู่ด้วยกันไปตราบนานเท่าได้  หากไม่มีคำว่าความเข้าใจและการให้อภัยเพราะรัก’

ผมโชคดีชะมัดที่มีคนรักอย่างเจินฝูหรง  ผู้ชายที่เป็นรักแท้และมีรักที่มั่นคง  พร้อมจะเข้าใจและอภัยให้กันได้เช่นนี้

.........................................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

อุต๊ะ!!  :z1: กระต่ายน้อยเร่าร้อนได้ขนาดนี้เลย   :laugh:
พอลนี่โชคดีเหมือนที่เจ้าตัวคิดไว้เลยเนอะ
รักอย่างเดียวอยู่กันไม่ยืดหรอก  คงต้องทั้งรัก  เข้าใจ  และรู้จักให้อภัย

ตอนหน้าเราตามดูกันค่ะว่าแม่มดน้อยจินนี่  จะมาป่วนหรือมาสร้างปัญหาอะไรอีก
แต่ได้ข่าวว่าฝูหรงสนิทกับจินนี่แล้วนี่นะ  จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ติดตามได้วันอังคารค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

 :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 28-08-2014 14:23:04
 :m25: ปรับความเข้าใจกันได้หวานเรียกเลือดตลอด
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 28-08-2014 15:19:21
ตอนนี้ฝูหรงทั้งน่ารักและเร่าร้อนจริงๆพอลโชคดีจังน้า~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 28-08-2014 16:00:24
ขอเลือดสำรองด่วน ไม่ไหวแล้ว ร้อนแรงตลอด

 :m25: :m25: :m25: :m25:

ว่าตอนหน้า จินนี่ จะมาป่วนหรือมาช่วย ฝูหรง กันนะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 28-08-2014 16:15:53
มาตามอ่านเรื่องนี้ด้วยคนจ้า  ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 28-08-2014 16:25:33
ขอบคุณที่กระต่ายน้อยเข้าใจ
กระต่ายน้อยน่ารักมาก
แถมยังร้อนแรงอีก คึคึ
 :hao6:
ตอนหน้ายัยจินนี่มา!!!
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 28-08-2014 16:43:15
ร้อนแรงจริงๆนะฝูหรง =.,=
รักกัน เข้าใจกันอย่างนี้ คงไม่มีอุปสรรคใดมาทำลายความรักได้หรอก
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 28-08-2014 17:33:12
ฝูหรงช่างน่ารักน่าหลงจริงๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 28-08-2014 17:50:59
เลือดท่วมจอแล้วจ้า  :m25:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 28-08-2014 18:25:20
คงต้องบอกว่ายัยมิลลี่ทำตัวเองแท้ๆ    พอเรื่องคลี่คลายตาพอลก็ไม่ปล่อยให้กระต่ายน้อยหลุดมือ  คงต้องการย้ำความหื่นให้ฝูหรงได้แน่ใจว่าตัวเองรักกระต่ายน้อยเพียงคนเดียว   

ตอนนี้ฝูหรงสนิทกับจินนี่มาก  คงเล่าเรื่องยัยมิลลี่ให้จินนี่ฟังแน่ๆ  และงานนี้ฝูหรงก็งไม่ต้องออกโรงเอง  เพราะสำหรับมิลลี่แล้วต้องเจอจินนี่  ถึงจะเป็นมวยถูกคู่ 

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 28-08-2014 21:56:59
 :m25: :m25:

ขอตัวไปซื้อยาฆ่ามดกะไปเติมเลือดแป๊บ

ทั้งหวานทั้ง....ไม่เกรงใจคนไร้คู่มั่งเล๊ยยย

 :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 28-08-2014 22:08:05
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 28-08-2014 22:09:19
คู่นี้ เอะ อะ เลือดสาดตลอด
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 28-08-2014 22:48:48
อะ.....ฮะ.....เฮือกกก

เกือบตายคาสมรภูมิรัก

เลือดหมดตัว เบาหวานขึ้น โรคหัวใจ(ละลาย)กำเริบ

 :pighaun:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 29-08-2014 21:57:08
อธิบายกันบนเตียงเข้าใจกันง่ายดีนะคะ อรั้ยๆๆๆๆ
>///////<

ขอบคุณค่ะ +1 ^^
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 31-08-2014 14:09:32
นับวันยิ่งเร้าร้อนนะกระต่ายน้อย อิอิ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 01-09-2014 13:55:44
อึ้บๆ ดันๆ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.19 "โชคดีที่มีเธอ" P.16 (28/8/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 01-09-2014 20:59:40
กระต่ายน้อยอ้อนมาก  :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.20 "แม่มดน้อย" P.17 (2/9/57) น่าเอ็นดู
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 02-09-2014 12:33:51
ตอนที่ 20

เจินฝูหรง

   “อื้อ  เช้าแล้วเหรอ  หือ  พอล  งื้อ  ไม่เอา  อ๊ะ!  จับอะไร...พอลไม่แกล้ง~”  จากอาการงัวเงียไม่เต็มใจตื่นของผม  แต่เพราะโดนคนนอนข้างๆกวน  ด้วยการซุนจมูกเข้าที่ซอกคอ  และสอดฝ่ามือเข้ามาลูบแถวหน้าท้องเล่นนั้น  ก็ต้องผวาตื่นเต็มตา

ผมพยายามหลบเลี่ยงและปัดป้อง  ด้วยยังไม่อยากลุกจากที่นอนนุ่มๆ  ก่อนจะได้ร้องประท้วงเจ้าของฝ่ามืออุกอาจด้วยน้ำเสียงแผ่วหวิว  ที่จงใจล้วงเข้ามาใต้กางเกงชั้นใน  เพื่อสัมผัสจุดอ่อนไหวกลางตัวของผม  จนผมเผลอเกร็งมือจิกเล็บเข้าที่ข้อมือข้างนั้นด้วย

   “พอลไม่ได้แกล้งสักหน่อย  แค่อยากชื่นใจแฟนตัวเองรับอรุณเท่านั้น  แบบนี้ดีมั้ยกระต่ายน้อย  หรืออยากให้พอลใช้ปากแทนมือ  บอกสิครับ  พอลตามใจฝูหรงเลยนะ”  แม้จะฟังดูเหมือนคนพูดเต็มใจและพร้อมตามใจผม  แต่สิ่งที่ไอ้ลูกครึ่งจอมหื่นทำกับผมยามนี้  ไม่ต่างจากคนเอาแต่ใจสักนิด 

พอลเล้าโลมหลอกล่อจนผมแทบคลั่งไปกับสัมผัสสยิวทั่วตัว  โดยเฉพาะจุดกึ่งกลางลำตัวที่ถูกปลุกเร้าจนแทบปลดปล่อย  บวกความรู้สึกบริเวณสะโพกที่มีของแข็งขนาดใหญ่ทิ่มแทง  ไหนจะจินตนาการที่เกิดจากลมปาก  ชักนำให้ผมเตลิดเข้าไปอีก  ทำเอาลำคอผมแห้งผาก  สมองเบลอ  ขนทั่วตัวลุกซู่  แต่ระดับความต้องการอยากได้สัมผัสที่อ่อนนุ่มกว่าฝ่ามือนั้นกลับมากขึ้นๆ 

ผมลืมอายเบือนหน้ากลับไปรั้งต้นคอหนาเข้าหา  ก่อนแตะจูบเข้าที่ริมฝีปากนุ่มที่ยกยิ้มหล่อร้ายรออยู่แล้วด้วยความมั่นใจ  ว่าอย่างไรซะผมคงต้องเอ่ยปากขออะไรที่มากกว่าฝ่ามือ  ผมขยับปากกระซิบคำขอกับริมฝีปากคู่นั้น  จนริมฝีปากเราทั้งคู่ไล้กันเบาๆตลอดเวลาที่ผมพูดด้วย

“พอล...ใช้ปากให้ฝูหรงหน่อย”  สิ้นคำขอของผมนั้น  พอลระบายยิ้มกระชากใจใส่ตาผม  ก่อนกดจูบดูดกลืนลิ้นและช่วงชิงลมหายใจผมแทบหมดปอด 

หลังจากนั้นคำขอของผมก็ได้รับการตอบสนองสมใจ  แต่คงไม่ใช่แค่สมใจผมคนเดียวหรอก  ไอ้ลูกครึ่งจอมหื่นน่ะตัวดีเลย  หลอกล่อคนเพิ่งตื่นอย่างผมให้เอ่ยขอเรื่องน่าอายแบบนี้ได้

“อ่าๆ  พอล  อื้อออ  เร็วหน่อย  ฝู...หรง  จะไป  อึก  พอลลลล~”  คนอ่อนหัดเรื่องบนเตียงอย่างผมลืมอายเร่งเร้าไปตามอารมณ์  และตอบโต้ริมฝีปากนุ่มๆด้วยการสวนสะโพกใส่  ก่อนยึดเส้นผมดำขลับไว้เต็มกำมือ 

เมื่อสุดปลายทางแห่งอารมณ์หวามหวิว  ผมเสยกระแทกความรุ่มร้อนแทบปริแตกกลางตัว  เข้าหาโพรงปากนุ่มกระชับที่จงใจดูดกลืนตัวตนของผมล้ำลึก  สุดท้ายผมก็ปลดปล่อยหยาดหยดอุ่นร้อนภายในตัว  จนกายสั่นระริก  ผิวหนังทั่วกายซาบซ่านอาบไล้ไปด้วยความสุขสม

ผมนอนระทวยหายใจหอบตัวโยนทั้งๆที่เปลือกตาปิดสนิท  และเหนือร่างยังคงมีร่างหนาคลอเคลียผิวกายไม่ห่าง  ไม่ต้องบอกผมก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้  ท่อนขาผมถูกอ้าออกกว้าง  พร้อมท่อนเนื้อแข็งขนาดใหญ่ที่ร้อนผะผ่าวกำลังถูไถไปมาแถวรอยแยก  ผมถึงกลับเผลอกลั้นใจรอ  ยามที่ปลายนิ้วเย็นๆเตรียมเปิดทาง 

แต่แล้วผมต้องสะดุ้งและเปิดเปลือกตาขึ้นทันที  จากเสียงโทรศัพท์มือถือของพอลที่ดังขึ้นมาขัดจังหวะ  อารมณ์หวามไหวที่ถูกปลุกเร้าไว้พาลปลิวหาย  และทันได้เห็นเจ้าของเครื่องอย่างพอลชักสีหน้าหงุดหงิดคาตา 

ผมที่เตรียมเบี่ยงตัวหลบด้วยการหนีบขาขยับตัวออกห่าง  ก็ต้องถลากลับมานอนท่าเดิม  แต่ที่ร้ายกว่าเดิมคือข้อมือผมถูกยึดไว้เหนือหัว  แถมด้วยต้นขาถูกแยกออกกว้างกว่าเดิม  และหัวเข่าถูกดันชิดอก  จนความร้อนแข็งขืนของพอลจ่อเข้าที่ปากทาง 
เราจ้องตากันท่ามกลางเสียงโทรศัพท์ที่ดังต่อเนื่อง  เพราะไม่มีทีท่าว่าคนโทรจะยอมวางสายง่ายๆนั้น  แววตาของพอลบอกผมหมดว่าเจ้าของมันแทบคลั่งใจตาย  ด้วยอารมณ์ปรารถนาที่คั่งค้าง  แต่เสียงเพลงเรียกเข้าที่ได้ยินก็สำคัญเกินกว่าจะไม่ให้ความสนใจ  ด้วยเราต่างรู้ดีว่าต้องเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของพอลโทรมา 

การที่คนปลายสายโทรมายามเช้าแบบนี้  แสดงว่าคนนั้นย่อมต้องมีธุระสำคัญเร่งด่วนจริงๆ  ผมจึงตัดสินใจบรรจงระบายยิ้มอ่อนหวาน  ทั้งๆที่ริมฝีปากสั่นระริกไม่ต่างจากผิวทั่วกาย  ด้วยลึกๆยังคงคาดหวังในสัมผัสลึกซึ้งที่สามารถก่อเกิดความสุขสมไม่ต่างจากอีกคนนักหรอก

“พอล...รับโทรศัพท์ก่อนเถอะครับ  ฝูหรงไม่หนีไปไหนหรอก”  ผมใช้น้ำเสียงอ่อนๆพยายามหลอกล่อสุดฤทธิ์

พอลจ้องผมเขม็งพร้อมเม้มริมฝีปากไว้แน่นอย่างตัดสินใจ  ก่อนจะถอนใจเฮือกใหญ่และล้มตัวลงนอนข้างกัน  แต่ไม่ลืมที่จะรวบเอวผมเข้าหาและยกร่างผมขึ้นไปทาบทับไว้ทั้งตัว  จนผมได้ยินเสียงหัวใจภายใต้อกแกร่งที่มีขนหน้าอกปกคลุมไปทั่วนั้น  เต้นถี่รัวไม่ต่างจากหัวใจในอกตัวเอง  ก่อนที่พอลจะเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ข้างหัวเตียง  และส่งอีกมือมาตะปบก้นผม  แถมด้วยการลูบไล้สลับขยำไปมา  ทำเอาผมสะดุดลมหายไปหลายรอบ  และเผลอเกร็งตัวไปเหมือนกัน  ยิ่งความแข็งขืนที่แนบไปกับหน้าท้องผมในขณะนี้  ไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนตัวลงง่ายๆด้วย 

ผมจึงได้แต่ซบหน้ากับอกกว้าง  และทำตัวให้นิ่งไร้ซึ่งปากเสียงให้มากที่สุด  ด้วยกลัวใจว่าไอ้ลูกครึ่งจอมหื่นจะจับผมกิน  ระหว่างที่ตัวเองคุยกับเพื่อนปลายสายไปด้วยน่ะสิ  สำหรับพอลเดาใจได้ไม่ยากอยู่แล้ว  ขืนเป็นอย่างที่คิด  ผมคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน 

“ไงไรอัน...ว่าไงนะ!!  เกิดเรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่”  ผมสะดุ้งกับเสียงดังที่เข้าขั้นตะโกนของพอล  ก่อนจะรีบคว้าลำคอหนาไว้แน่น  ยามที่คนใต้ร่างลุกพรวดขึ้นมานั่งแบบทันทีทันใด  หลังได้ฟังข้อความจากเพื่อนสนิท

ผมเงยหน้ามองพอลอย่างกังวล  ด้วยดูท่าจะเกิดเรื่องไม่ปกติและคงเป็นเรื่องใหญ่เข้าแล้ว  เพราะพอลตีหน้าขรึมจริงจังในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน  สายตาก็จับจ้องไปยังหน้าต่างบานใหญ่  ด้วยแววตาเคร่งเครียดเหมือนคนกำลังคิดหนัก  บวกอาการปิดปากเงียบรอฟังข้อความจากปลายสายเข้ามาอีก  ทำเอาผมไม่สบายใจขึ้นมาทันที  จึงส่งมือไปลูบแก้มสากที่เต็มไปด้วยไรหนวดแผ่วเบา  จนเจ้าของสายตาคมเบือนหน้ากลับมาจ้องตากัน 

ผมแทบละลายกองอยู่ตรงนั้น  ยามที่ลูกครึ่งหน้าหล่อคลายหัวคิ้วลง  ก่อนจะยกยิ้มปลอบประโลมขึ้นอย่างช้าๆ  พร้อมขยับปากไร้เสียงว่าไม่มีอะไร  ผมจึงเลือกที่จะกระชับวงแขน  และซ่อนหน้าแดงๆของตัวเองเข้ากับซอกคอแกร่ง  พร้อมเงี่ยหูฟังเสียงที่เล็ดลอดออกมา  ทั้งๆที่ใจยังกังวล  แต่ผมก็เชื่อใจว่าพอลจะจัดการเรื่องยุ่งๆได้ทั้งหมด 

ที่สำคัญผมลืมเรื่องค้างคาเมื่อนาทีก่อนไปสนิทใจ  ด้วยเริ่มเพลินกับฝ่ามืออุ่นๆที่ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเปลือยเปล่าของตัวเอง  และเสียงทุ้มนุ่มข้างหู  ยามที่พอลรับคำคุณไรอันสั้นๆเป็นบางช่วงของบทสนทนา

“...อืม...ได้...ดีที่ทุกอย่างเรียบร้อย...แล้วเจอกัน”  สิ้นเสียงสุดท้าย  ผมยอมรับอย่างไม่อายว่าแทบหลับคาอก  แต่ที่ยังรู้สึกตัวเพราะตัวผมถูกผ่อนร่างลงนอนยังที่นอนตามเดิม 

ส่วนพอลก็ทำท่าจะผละห่าง  ผมจึงเลือกที่จะคว้าข้อมือพอลไว้  และไม่พลาดที่จะส่งคำถามค้างคาใจ

“คุณไรอันโทรมาเรื่องอะไร  แล้วทำไมพอลต้องรีบไปทั้งๆที่ยังไม่เสร็จ...เอ่อ”  ผมเบือนสายตาหนีดวงตาคู่คมที่ฉายแววรู้เท่าทันอย่างเจ้าเล่ห์  และแทบอยากสะบัดข้อมือทิ้ง  พร้อมกัดลิ้นตัวเองให้ขาดนัก 

ผมไม่น่าปากเร็วถามอย่างที่ใจคิดเลย  มันส่อชัดๆว่าผมยังติดใจเรื่องอะไร  แถมจากหางตายังคงเห็นหลักฐานชิ้นใหญ่  ชี้หน้าประจานว่าถูกละเลยเข้าไปอีก

“เป็นห่วงพอลเหรอ  ฮึๆ  กระต่ายน้อยของพอลน่ารักชะมัด  แต่คงต้องเอาไว้ก่อน...ฟอดดด...หลี่ผิงเกิดเรื่อง  พอลต้องรีบไปดู  ไรอันกับโจเซฟนัดให้ไปเจอที่แก๊งหวางหย่งกัง...แต่ไม่ต้องกังวลครับ  เพราะตอนนี้ทุกอย่างคลี่คลายแล้ว  พอลแค่จะไปดูให้แน่ใจเท่านั้น”  เกิดเรื่องที่แก๊งตั้งแต่เมื่อไหร่กัน  ทำไมผมถึงไม่รู้เรื่อง

“ฝูหรงไปด้วย”  คำขอของผมได้คำตอบเป็นการส่ายหน้าทันที 

มีรึที่ผมจะยอมง่ายๆ  แต่ผมที่เตรียมค้านอย่างจริงจัง  กลับถูกปิดปากแบบไม่ให้ตั้งตัว  และเคลิบเคลิ้มไปกับจูบหวานๆจนได้  ซึ่งมารู้ตัวอีกทีผมก็ถูกปล่อยให้นอนอยู่บนเตียงเพียงลำพัง

ส่วนอีกคนหนีเข้าห้องน้ำไปแล้ว  และใช้เวลาไม่นานพอลก็ออกมาพร้อมผ้าขนหนูพันเอวผืนเดียว  ผมที่เตรียมสวนเข้าไปใช้ห้องน้ำต่อ  กลับถูกดึงข้อมือและถูกผลักให้แผ่นหลังแนบไปกับผนัง  โดยมีพอลตามประชิดตัว  ทำให้ลำตัวส่วนหน้าของเราทั้งคู่แนบสนิทไปด้วยกัน  จนผมรู้สึกถึงความชื้นของหยดน้ำและกล้ามเนื้อหน้าอกแน่นๆของพอล  แถมใบหน้าเราก็ห่างเพียงนิด  ซึ่งมีเพียงปลายจมูกเท่านั้นที่สัมผัสโดนกัน

“ฝูหรงรอพอลอยู่ที่บ้านนะครับ  สัญญาว่ากลับมาจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง  เชื่อพอลนะกระต่ายน้อย  แม้เรื่องจะเรียบร้อยแล้ว  แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้  พอลไม่อยากให้ฝูหรงเสี่ยงอันตราย”  แม้พอลจะพูดไม่ดังนัก  เรียกได้ว่าไม่ต่างจากการกระซิบ  แต่น้ำเสียงหนักแน่นและแววตาจริงจังที่ใช้  ทำเอาผมยอมจำนนด้วยการส่งเสียงอืออออยู่เพียงลำคอเท่านั้น

“ว่าง่ายๆแบบนี้สิถึงจะน่ารัก...ส่วนเรื่องนั้น  พอลติดไว้ก่อน  คืนนี้ตามรวบยอดบวกดอกเบี้ยให้ด้วยดีมั้ย  ฮึๆ”  ผมยู่หน้าใส่เจ้าของเสียงหัวเราะเจ้าเล่ห์  ก่อนสะบัดตัวหนีอ้อมแขนที่กักตัวเองไว้

“หึ  คืนนี้อะไรกัน  ไม่รับฝากอะไรทั้งนั้น...พอลต้องระวังตัวดีๆนะ  รีบไปรีบกลับล่ะ  ฝูหรงรออยู่”  อดไม่ได้จริงๆที่จะเอ่ยปากแสดงความเป็นห่วงลูกครึ่งช่างหยอด  แม้จะหมั่นไส้ความนัยของประโยคที่เพิ่งได้ยินก็ตาม 

หากเกี่ยวกับหวางหย่งกัง  ผมพอเดาออกว่าสถานที่ที่พอลต้องไปน่าจะเสี่ยงอันตรายอยู่พอสมควร  และเพราะแบบนี้ไงผมจึงอยากตามเจ้าตัวไปแต่แรก

“ครับ  พอลจะรีบกลับมาหาฝูหรง”

...........................................

“จะยืนตรงนั้นอีกนานมั้ย  พอลไม่ได้ไปออกรบสักหน่อย  ก็แค่ไปเป็นกำลังเสริมให้เพื่อน”  คุณคิดว่าเจ้าของประโยคกระทบกระเทียบพอให้คนฟังเจ็บๆคันๆแบบนี้น่ะของใคร  ถ้าไม่ใช่...

“หนูจินนี่จ๊ะ  ไม่พูดแบบนั้นสิจ๊ะ”  ใช่แล้วครับหนูจินนี่ของมามาอีลิน่านั่นเอง 

แน่ะ!  คนสวยของตระกูลโจวมีส่งค้อนให้ผม  และสะบัดหน้าหมุนตัวเดินกลับเข้าบ้านไปก่อน  ทิ้งผมและมามาอีลิน่าอยู่ที่เดิม

“อย่าถือสาจินนี่เลยนะจ๊ะฝูหรง  ไม่ต้องกังวลเรื่องพอลหรอก  เข้าไปช่วยมามาทำขนมดีกว่านะ”  ผมระบายยิ้มก่อนตอบรับคำมามาคนสวย  และเดินเข้าบ้านพร้อมท่านที่ควงแขนผมด้วยใบหน้าประดับยิ้มละมุน

ความกังวลใจของผมกับเรื่องที่เพิ่งรับรู้มาอย่างคร่าวๆจากคนที่เพิ่งขับรถออกไป  เริ่มบรรเทาเบาบางลง  แม้จะยังไม่หมดไปก็ตาม  อาจจะด้วยบรรยากาศสบายๆของคนรอบตัว  อย่างมามาอีลิน่าและจินนี่ก็เป็นได้  ด้วยคนทั้งคู่ไม่มีความกังวลให้เห็น  แม้จะรับรู้เรื่องราวไปพร้อมกับผม  ยามที่พอลบอกเล่าในช่วงที่พวกเราทานมื้อเช้าร่วมกัน  แถมสีหน้าแววตาและท่าทางของทั้งคู่  เหมือนออกมาส่งพอลไปทำงานตามปกติอีกด้วย  ทั้งๆที่ลูกชายและญาติของเจ้าตัวนั้น  เดินเข้าแก๊งมาเฟียเพื่อไปช่วยเพื่อนเคลียร์ปัญหาระหว่างแก๊งแท้ๆ

คุณฟังไม่ผิดหรอก  และผมก็ไม่ผิดที่ทำตัวกังวลเกินเหตุ  ให้จินนี่พูดหยิกแก้มหยอกอย่างที่ได้ยิน  แม้ผมจะทำงานกับเจ้านายที่เป็นถึงรองหัวหน้าแก๊งหวางหย่งกัง  แก๊งมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกงก็ตาม  แต่ผมก็ทำงานในส่วนของกิจการโรงแรม  ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมของแก๊งแต่อย่างไร 

แม้จะคุ้นชินกับเหล่าบอดี้การ์ดในชุดดำเป็นโขยง  แต่ผมก็ไม่เคยเห็นหรือรับรู้พฤติกรรมรุนแรงหรือโหดร้ายใดๆ  ออกจะสัมผัสได้ถึงความเป็นกันเอง  และความมีน้ำใจของพี่ๆพวกนั้นมากกว่า  ทำให้ผมนึกภาพไม่ออกและพาลจินตนาการไปในทางร้ายๆ  ถึงพวกปืนพวกมีดหรือความรุนแรงอะไรแบบนั้นไม่ได้ 

เรื่องนี้มันสำคัญตรงที่สาเหตุของเรื่องมีดวงใจพญามังกรอย่างคุณธันว์มาเกี่ยวข้องด้วยนี่สิ  จากที่ผมประมวลผลลัพธ์และการตอบกลับคงไม่ธรรมดา  ระดับความรุนแรงที่เกิดอาจจะถึงขั้นบุกทลายแก๊งกันก็ได้  การบาดเจ็บการนองเลือดก็จะตามมา  แล้วไอ้ลูกครึ่งหน้าหล่อของผมมันจะได้รับลูกหลงรึเปล่าก็ไม่รู้

“นี่นายใจลอยไปถึงไหนกัน  แป้งกระจายหมดแล้ว”  ผมสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงแหลมๆที่ดังแหวกความคิดเข้ามา  และต้องหน้าแหยรู้สึกผิดทันที  เมื่อมองผลงานตรงหน้าแล้วเห็นจริงตามที่จินนี่พูด  ด้วยผงแป้งที่จะใช้ทำเค้กกระจายหกรอบชามสแตนเลส  เพราะคนร่อนแป้งอย่างผมใจลอยไปถึงไหนๆ

“ขะ...ขอโทษ  เดี๋ยวผมทำให้ใหม่”  ผมลุกลี้ลุกลนเตรียมเก็บกวาดเศษแป้ง  แต่ต้องชะงักกับปลายนิ้วอุ่นที่แตะเข้าที่หลังมือ 

ผมไล่สายตาจากหลังมือขาวไปตามท่อนแขนเรียว  จนถึงใบหน้าหมดจดสะสวยของจินนี่  ผมก็ต้องแปลกใจ  เพราะดวงตาคู่เรียวที่ผมคุ้นชินกับแววเยาะหยันปนหมั่นไส้มาตลอดนั้น  นาทีนี้แม้จะมีแววหมั่นไส้อยู่จางๆ  แต่กลับฉายแววหนักใจเด่นชัด  ทำให้ผมแปลกตาไม่น้อย

“ไม่ต้อง  เดี๋ยวฉันทำเอง  ใช้ให้ร่อนแป้งแค่นี้ก็ไม่ได้เรื่อง”  ผมละมือและส่งถาดร่อนแป้งให้ตามความต้องการของจินนี่ 

แม้ผมจะอยู่ในอาการสับสนจากคำพูด  แววตา  และพฤติกรรมของจินนี่ที่ขัดกันมากอยู่  แต่ผมก็สัมผัสได้ถึงความหวังดีและความเป็นห่วงของเธอ  ซึ่งคำพูดต่อมาของแม่สาวปากร้าย  ก็เฉลยให้ผมรู้ว่าคนเราไม่ควรตัดสินคนจากคำพูดร้ายๆเพียงอย่างเดียว  คงต้องดูที่เจตนาและความหวังดีของจิตใจในส่วนลึกของคนๆนั้นด้วย

“ขนมจะอร่อยไม่อร่อย  ไม่ใช่เกิดจากเชฟมีทักษะและความรู้เรื่องขนมอย่างเดียวแล้วจะพอหรอกนะ  เพราะความใส่ใจและตั้งใจก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน  นายใจลอยแบบนั้น  เท่ากับดูถูกและไม่ให้เกียรติขนมของนายเอง  เพราะฉะนั้นเลิกใจลอยและเลิกคิดมากได้แล้ว  คิดมากไปก็มีแต่ปวดหัว  เอาสมาธิมาทำสิ่งตรงหน้าให้ดีที่สุดดีกว่า...พอลน่ะไม่ต้องไปห่วงหรอก  เป็นเพื่อนกับมาเฟียใหญ่มานานขนาดนั้น  คงมีดีอยู่พอตัว”

ได้ยินเหมือนผมมั้ย  ว่าจินนี่กำลังให้กำลังใจผมอยู่  และเท่าที่ฟังมานางฟ้าตัวแสบของตระกูลโจว  ฉายาที่พอลแอบเหน็บแนมจินนี่ให้ผมได้ยิน  เธอมีความคิดเป็นผู้ใหญ่เกินตัวไม่น้อยเลยทีเดียว  อาจเป็นไปได้ว่าพฤติกรรมที่ผ่านมาของจินนี่  คงเป็นเพียงภาพที่เธอตั้งใจสร้างขึ้นมาหลอกตาใครต่อใครก็ได้นะครับ 

ผมที่รู้สึกดีต่อเจ้าของคำพูดให้กำลังใจนั้น  ก็ตั้งใจส่งยิ้มแสดงความขอบคุณแทนคำพูดให้จินนี่  แต่สิ่งที่ผมได้รับคืออาการตวัดสายตาค้อนใส่กันซะงั้น  บอกเลยว่าผมเหวอด้วยคาดไม่ถึง  หรือจินนี่จะเป็นคนสองบุคลิกกันแน่ครับ  คือมีทั้งดีและร้ายแบบสุดขั้ว  ผมตามอารมณ์เธอไม่ทันจริงๆ 

จากปลายสายตาผมได้เห็นว่ามามาอีลิน่าที่กำลังตอกไข่และคัดเอาแต่ไข่แดงอยู่นั้น  ระบายยิ้มอ่อนหวานด้วยเอ็นดูให้จินนี่อยู่  ไม่มีทีท่าแปลกใจในพฤติกรรมเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของจินนี่ให้เห็นสักนิด  ซึ่งผมก็มาได้ความกระจ่าง  หลังจากพวกเราช่วยกันทำเค้กเสร็จแล้วนั่นแหละ

“ฝูหรงอย่าถือสาหนูจินนี่เลยนะจ๊ะ  เพราะใจจริงของน้องเป็นเด็กมีน้ำใจ  และออกจะเห็นใจผู้อื่นไม่น้อย  แต่เพราะคนรอบตัวชอบเอาอกเอาใจและตามใจหนูจินนี่มาตลอด  น้องเลยยึดติดการเป็นคนสำคัญของทุกคน  จึงแสดงออกอะไรแปลกๆไปบ้าง  แต่ทั้งหมดก็เพราะรักและหวังดี  กรณีของพอลกับฝูหรงก็เหมือนกันจ๊ะ  หนูจินนี่ก็แค่กลัวพอลโดนหลอก  ไม่ก็คงกลัวพอลเสียรู้คนที่ตัวเองไม่เคยรู้จัก  แต่หารู้ไม่ว่ามีแต่ลูกชายมามานี่แหละ  ที่จะเป็นฝ่ายล่อลวงฝูหรง  จริงมั้ยจ๊ะ  คิกๆ”

นาทีนั้นผมไม่ได้ตอบมามาอีลิน่าหรอกครับ  เพราะท่านน่าจะรู้คำตอบดีแก่ใจ  ไม่เช่นนั้นคงไม่ส่งสายตาล้อเลียนให้ผม  พร้อมหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีเช่นนั้นแน่นอน  แต่เพราะคำพูดของท่านก็ทำให้ผมเข้าใจแม่มดน้อยจินนี่ของทุกคนดีขึ้น  และเลิกถือสาคำพูดเหน็บแนมของเธอไปเลย  แถมยังออกจะถูกใจในความเป็นคนตรงของจินนี่ไม่น้อย  โดยเฉพาะวิธีการพูดให้กำลังใจในแบบฉบับของแม่มดน้อยจินนี่

“เป็นอะไรอีกล่ะ  พอลก็โทรมาบอกแล้วนี่ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี...เขี่ยอยู่นั่น  มิน่าถึงผอมแห้งแบบนี้  กินเข้าไปเลยนะ  ไม่กินระวังเถอะจะเหลือแต่กระดูก  สุดท้ายก็โดนพอลทิ้ง  ชิ!...คุณป้าหัวเราะจินนี่ทำไมคะ”  ในขณะนี้ไม่ใช่แค่มามาอีลิน่าเท่านั้นนะครับที่หัวเราะถูกใจแม่มดน้อย  ผมเองก็เป็นไปด้วย 

คนเรานี่ก็แปลกแค่เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อใครสักคน  คำพูดที่เคยว่าร้ายกลับถูกตีความกลายเป็นความห่วงใยได้อย่างน่าประหลาด  เหมือนที่ผมคิดต่อจินนี่ในขณะนี้  ดังนั้นพฤติกรรมของผมจึงสอดคล้องไปกับความคิด  โดยเฉพาะนาทีนี้ที่ผมโดนแม่มดน้อยค้อนตากลับ  ผมยังมีแก่ใจระบายยิ้มใส่ตาเธอได้อยู่

“ทานแล้วครับ  ขอบคุณจินนี่ที่เป็นห่วงผม”  คุณคิดว่าปฏิกิริยาของแม่มดน้อยมาดเยอะจะเป็นอย่างไร

“ใคร้  ใครห่วงนายกัน  ฉันสงสารอาหารตรงหน้านายต่างหาก”  คนโดนจับไต๋ได้ปฏิเสธเสียงสูงเชียวครับ  แต่อาการของจินนี่ที่ทำให้ผมเอ็นดูเจ้าตัวอย่างห้ามไม่อยู่คือ  แก้มใสขึ้นสีทั้งๆที่ตาคู่เรียวจ้องผมอย่างเอาเรื่อง

“ครับๆ  ไม่ห่วงก็ไม่ห่วง  เราทานต่อกันเถอะครับมามา  จินนี่เองก็ทานเยอะๆนะครับ  ผมเป็นห่วง”

ในที่สุดผมก็รู้วิธีการตอบโต้แม่มดน้อยจอมแสบแล้วครับ  ก็แค่ใช้วิธีแสดงความห่วงใยและหวังดีสวนกระแสใส่คนปากไม่ตรงกับใจก็เท่านั้น  เพราะทันทีที่ผมพูดไปแบบนั้น  จินนี่ถึงกับอึ้งหมดมาดคุณหนูขี้วีนไปเลย  ได้แต่เมินสายตาหนีด้วยแก้มแดงแจ๋  ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินและไม่พูดอะไรออกมาอีกจนกระทั่งจบมื้อเที่ยง

มีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมคาดไม่ถึงในตัวแม่มดน้อยจินนี่คนนี้  ด้วยไม่ว่าเราเห็นหรือเพราะเธอจงใจให้เราเห็น  ว่าเธอเป็นคุณหนูเอาแต่ใจและเห็นตัวเองสำคัญที่สุดแบบนั้น  แต่คุณรู้มั้ยว่าจินนี่เป็นคนที่ละเอียดอ่อนและใส่ใจในเรื่องการทำครัวมากที่สุดคนหนึ่ง 

วันนี้ผมได้รู้ได้เห็นมากับตาตัวเอง  ด้วยจินนี่ในลุคเชฟใหญ่ทำให้ผมทึ่งมาแล้ว  ทั้งอาหารมื้อกลางวันที่ผ่านมาและเบเกอรี่ตรงหน้าผมยามนี้  เป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี  เพราะหากคนทำไม่มีจิตใจที่ดี  มันคงแสดงออกมากับรสชาติของอาหารให้ผมสัมผัสได้แล้วล่ะ  แต่สิ่งที่ผมลิ้มลองขณะนี้  มีเพียงรสชาติที่กลมกล่อมละมุนลิ้นเท่านั้น

“อร่อย  ฝีมือยัยจินนี่ใช่มั้ยครับ”  ผมเหลือบตามองพอลที่กำลังระบายยิ้ม  กับจานเค้กของหวานปิดท้ายมื้อเย็นตรงหน้า  และอดนึกถึงใบหน้าคนทำไม่ได้จริงๆ 

ทั้งผมและพอลหรือแม้แต่ปาปามามาที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วยกันยามนี้  พวกเราคงมีความรู้สึกต่อเจ้าของเค้กตัวจริงไม่ต่างกัน  นั่นคือความ  ‘เอ็นดู’  ต่อแม่มดน้อยตัวแสบของตระกูลโจว

“อืม  จินนี่เป็นคนทำ  อร่อยเนอะ  วันหลังฝูหรงจะลองขอให้จินนี่สอนทำบ้าง  พอลว่าดีมั้ย”

.......................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

อ่ะฮ้าๆๆ  คนเราบางครั้งก็ตัดสินไม่ได้จากคำพูด  คงต้องลองคบหา
และเรียนรู้ตัวตนที่แท้จริงของคนๆนั้น  ถึงจะรู้ว่าแท้จริงมีตัวตนอย่างไร
ไม่ต่างจากแม่มดน้อยจินนี่ในตอนนี้เนอะ...ตรงข้าม  บางคนคบหามานาน
นึกว่ารู้จักตัวตนดีแล้ว  แต่แท้จริงกลับซ่อนด้านดำมืดของจิตใจไว้มาทิ่งแทงเรา
อ้าว!?  ดราม่าซะงั้น  นอกเรื่องอีกต่างหาก   :laugh:

ตอนหน้าบอกเลยว่าฟิน  ห้ามพลาดช๊อตหวานเด็ดขาดค่ะ
ติดตามได้ในวันอาทิตย์ค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.20 "แม่มดน้อย" P.17 (2/9/57) น่าเอ็นดู
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 02-09-2014 13:00:44
 :hao3: คุณหนูจินนี่ปากร้ายใจดีน่ารักกว่าที่คิดอีก
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.20 "แม่มดน้อย" P.17 (2/9/57) น่าเอ็นดู
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 02-09-2014 13:06:25
อ่านเรื่องนี้แล้วเสียวเป็นเบาหวานมากอ่ะ :hao6:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.20 "แม่มดน้อย" P.17 (2/9/57) น่าเอ็นดู
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 02-09-2014 14:12:20
อ่านจินนี่ตอนนี้แล้ว กับก่อนหน้า  นึกว่าจินนี่มีฝาแฝด ที่คนหนึ่งขี้วีน เอาแต่ใจ  แต่อีกคนที่คอยห่วงใย คอยพูดให้กำลังใจ  สมแล้วที่เป็นลูกหลานตระกูลมาเฟีย ที่มีพร้อมทั้งบุ้นและบู๊ 
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.20 "แม่มดน้อย" P.17 (2/9/57) น่าเอ็นดู
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 02-09-2014 15:21:38
แม่มดน้อยใจนางฟ้า เป็นห่วงฝูหรงอ่ะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.20 "แม่มดน้อย" P.17 (2/9/57) น่าเอ็นดู
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 02-09-2014 15:23:55
ไม่รู้ว่าจะเม้นท์อะไร นอกจากคำว่าอิจฉา :ling1:
ที่เอ็นดูกันอยู่แล้วก็ยิ่งรักและเอ็นดูกันเข้าไปใหญ่
แม้แต่จินนี่ที่ไม่ลงรอยกันก็ยังมาญาติดีกันได้เลย
แต่คนมาดเยอะก็มีวิธีพูดและการกระทำของตัวเองอ่ะนะ :laugh:
นี่คงเป็นวิธีรับเข้าเป็นครอบครัวเดียวกันของจินนี่เขาล่ะ
ดีใจกับฝูหรงนะ คราวนี้ก็หายห่วงของจริงแล้วมั้ง
ตอนหน้าคงทำให้เราอิจฉาได้ตลอดอีกแน่ๆ :hao3:
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 02-09-2014 16:07:51
ยัยจินนี่ก็น่ารักในแบบของเธอแหละเนาะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.20 "แม่มดน้อย" P.17 (2/9/57) น่าเอ็นดู
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 02-09-2014 16:29:40
จินนี่ก็น่ารักตามแบบของนางแหละ ปากร้ายใจดีก็งี้
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.20 "แม่มดน้อย" P.17 (2/9/57) น่าเอ็นดู
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 02-09-2014 17:07:11
 :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.20 "แม่มดน้อย" P.17 (2/9/57) น่าเอ็นดู
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 02-09-2014 17:30:18
จินนี่ก็มีดีนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.20 "แม่มดน้อย" P.17 (2/9/57) น่าเอ็นดู
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 03-09-2014 09:44:48
แม่มดน้อยจินนี่ ช่างน่ารัก น่าเอ็นดู
 :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.20 "แม่มดน้อย" P.17 (2/9/57) น่าเอ็นดู
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 03-09-2014 09:52:01
แม่มดจินนี่ก็มีมุมน่ารักนะเนี่ยะ >.<
ขอบคุณค่าาา +1^^
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.20 "แม่มดน้อย" P.17 (2/9/57) น่าเอ็นดู
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 05-09-2014 22:31:06
ฝูหรงโดนขัดจังหวะ :o8:
ได้เห็นมุมน่ารักของจินนี่
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.20 "แม่มดน้อย" P.17 (2/9/57) น่าเอ็นดู
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoRin ที่ 06-09-2014 20:38:03
แม่มดจินนี่จริงๆแล้วก็น่ารักนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.20 "แม่มดน้อย" P.17 (2/9/57) น่าเอ็นดู
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 06-09-2014 23:56:09
แอร๊ยยยยยยยยย  :m3: :m3:

พอล!! ทำไรเนี่ยยย

ให้ป้าเตรียมตัว เตรียมเลือดก่อนสิ ><

จินนี่เป็นคนประเภท ปากร้ายใจดี นี่เอง หุหุ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 07-09-2014 10:31:54
ตอนที่ 21

โจวพอล

“พอล  แกรีบจัดการเรื่องโอนที่เรื่องเงินกับทางนั้นให้เร็วที่สุด  ขืนช้าคงโดนตัดหน้า  ฉันได้ข่าวมาว่าพวกซินจางพยายามหาช่องทางเจรจากับเจ้าของที่อยู่”  ประธานใหญ่แห่ง Joe  F.H.  Estate  ผู้ที่นั่งหัวโต๊ะประชุมเจาะจงพูดกับผมโดยตรง  โดยมีคณะกรรมการบริษัทและบุคคลระดับหัวหน้านั่งขนาบซ้ายขวา

“ได้ครับปาปา  ผมจะจัดการให้เรียบร้อย”  ผมปิดแฟ้มรายละเอียดของพื้นที่ที่ผมได้รับมอบหมายให้จัดการ  ก่อนจะรับปากปาปาผู้ที่ควบตำแหน่งใหญ่ที่สุดในบริษัท 

ส่วนบรรดาคณะกรรมการหรือเรียกง่ายๆว่าหุ้นส่วนของบริษัทนั้น  ก็เป็นเครือญาติในตระกูลโจวแทบทั้งสิ้น  จะมีก็แต่พนักงานระดับหัวหน้าบางคนเท่านั้น  ที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์เครือญาติ  แต่ก็อยู่มานานด้วยความสามารถและสายสัมพันธ์ที่แนบแน่น  จึงไว้ใจได้ไม่ต่างครอบครัวเดียวกัน 

ด้วยวงการอสังหาฯนั้น  บริษัทจะมั่นคงได้นอกจากประธานยันพนักงานต้องเป็นผู้กว้างขวาง  และมีเงินทุนสำรองของบริษัทมากพอแล้ว  เรื่องอิทธิพลและอำนาจหนุนหลังก็มีความสำคัญไม่ต่างกัน  ซึ่ง Joe  F.H.  Estate ของเราดีที่มีตระกูลหวางหย่งกังเกื้อหนุนด้วยดีมาตลอด  ทำให้บริษัทอื่นๆไม่กล้าต่อกรด้วยมากนัก  เพราะรู้กันอยู่ว่าไม่คุ้มหากคิดจะมีเรื่องกับคนตระกูลหวาง 

ที่สำคัญบริษัทเรามั่นคงและยั่งยืนมาจนถึงทุกวันนี้ได้  เป็นเพราะพนักงานทุกระดับมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  ไม่คิดเอาความลับบริษัทไปแพร่งพราย  ด้วยผืนแผ่นดินในฮ่องกงมีมูลค่ามากกว่าทองคำ  การเจรจาซื้อขายแต่ละครั้งจึงต้องอาศัยจังหวะที่เหมาะสมและความรวดเร็ว  เพื่อเป็นเจ้าของแผ่นดินทองนั้นๆ  และหากใครสักคนในบริษัทคิดไม่ซื่อไปบอกบริษัทคู่แข่ง  ที่ผืนนั้นๆคงหลุดมือ  เม็ดเงินที่จะเข้าบริษัทคงหายวับไปกับตา  ดังนั้นสายสัมพันธ์ที่ดีของคนในบริษัทจึงเป็นสิ่งสำคัญ  ยิ่ง Joe  F.H.  Estate มีแต่คนของตระกูลโจวด้วยแล้ว  ปัญหาที่ว่าจึงไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

แต่กรณีของที่ดินในมือผม  ปาปาคงได้กลิ่นไม่ดีนัก  ถึงมอบหมายมันให้ผมได้จัดการด้วยตัวเอง  ซึ่งหากเป็นกรณีปกติในส่วนการโอนที่และจ่ายเงินนั้น  บริษัทเราจะมีคนที่ทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว

หลังจากนั้นฝ่ายสำรวจหรือเรียกง่ายๆว่าเป็นฝ่ายที่คอยเสาะหาผืนแผ่นดินทองคำ  ได้นำเสนอที่ทางผืนใหญ่ที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง  ด้วยเจ้าของเตรียมปล่อยขาย  และถูกตัดสินใจโดยปาปาไว้แล้วขั้นหนึ่ง  ซึ่งในคณะกรรมการทั้งหมดต้องร่วมตัดสินใจอีกที  แต่มติส่วนใหญ่ย่อมไม่เห็นต่างจากผู้ที่เป็นประธานควบตำแหน่งพี่ใหญ่ของตระกูล  ก่อนฝ่ายบัญชีจะแจ้งเรื่องงบต่างๆไม่ว่าจะเป็นงบลงทุนของบริษัท  งบทุนสำรอง  หรือแม้แต่รายได้และเงินปันผลประจำปี  รวมถึงโบนัสที่พนักงานจะได้รับด้วย  ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าตัวเลขดังกล่าวจะทำให้ทุกคนพอใจมากแค่ไหน  สุดท้ายจึงปิดประชุมใหญ่ประจำเดือนของบริษัท Joe  F.H.  Estate

“ว่าไงเรา  ได้ข่าวว่าลูกสาวอาไปทำเรื่องไว้ซะใหญ่โต  อาต้องขอโทษแทนยัยจินนี่ด้วยนะจ๊ะ”  ทันทีที่ในห้องเหลือเพียงบรรดาญาติๆ  เสียงนุ่มติดหวานของผู้หญิงหนึ่งเดียวในห้องก็ดังขึ้น  ซึ่งเจ้าของเสียงนี้คืออาหญิงของผมเอง 

อาหญิงหมิงอี้ซานน้องสาวของปาปาฟู่สือ  และเป็นมามาของยัยจินนี่ญาติสาวตัวแสบของผมเอง  ซึ่งหากตีความในสิ่งที่ท่านพูด  ท่านคงจะรู้เรื่องที่ลูกสาวคนเดียวทำไว้กับผมเมื่อห้าปีก่อนเข้าแล้ว

“อาหญิงไม่ต้องขอโทษแทนจินนี่หรอกครับ  เพราะยัยนั่นขอโทษผมด้วยตัวเองแล้ว  แถมตอนนี้ผมกับฝูหรงก็เข้าใจกันดีแล้วด้วย”  อาหญิงพยักหน้าช้าๆพร้อมคลี่ยิ้มหวานพาให้ห้องทั้งห้องสว่างสดใส  จนบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่อย่างปาปาและอาเจ็กทั้งสองผู้เป็นน้องชายท่านนั้นจุดรอยยิ้มมุมปากไม่ต่างกัน

“คงไม่ใช่แค่เข้าใจมั้ง  ได้ข่าวว่าพาเข้าไปอยู่ในบ้านด้วยแล้วนี่  ใช่มั้ยพอล”  ส่วนคนนี้น่ะญาติสนิทผมเอง  โจวฉิงซูลูกชายคนเดียวของอาโจวฉิงซือ  อาเจ็กผู้เป็นน้องคนที่สามของปาปา  ฉิงซูอายุน้อยกว่าผมไม่กี่เดือน  ทำให้เราสนิทกันยิ่งกว่าเครือญาติ  เปรียบเป็นทั้งพี่น้องและเพื่อนสนิทอีกคนของผมก็ว่าได้

ผมกระตุกยิ้มพร้อมยักคิ้วใส่ฉิงซูอย่างกวนๆแทนการตอบรับ  ซึ่งอีกฝ่ายเองก็อ่านท่าทีตอบรับกลายๆ  ที่ไม่มีแม้แต่การปฏิเสธของผมออก  ถึงกลับชี้หน้าแสยะยิ้มส่งมาให้ด้วยความอิจฉา  แถมยังหันไปบ่นพึมพำเรื่องที่ผมมีอะไรแล้วไม่ยอมบอก  กับญาติสนิทอีกคนของเรา  อย่างโจวหมินไท่ที่อายุน้อยกว่าเราร่วมปี  ซึ่งหมินไท่เองดันเออออโวยวายใส่ผมเช่นกัน  ทำเอาปาปาและอาทั้งสามส่ายหน้าระอาในท่าทางเป็นเด็กไม่รู้จักโตของพวกเรา

“พี่ใหญ่  พวกเรานัดรวมครอบครัวกันสักวันดีมั้ย  ไม่ได้เจอหน้าค่าตากันครบนานแล้วนะครับ  และถือโอกาสเปิดตัวลูกสะใภ้ของพี่ใหญ่ให้พวกเรารู้จักด้วยเลย  เหม่ยซินเองเปรยๆว่าอยากเจอหลานสะใภ้คนโตของตระกูลอยู่เหมือนกัน”  ข้อเสนอของอาเจ็กโจวฝานไท่ผู้เป็นปาปาของหมินไท่  และเป็นน้องชายคนเล็กของปาปาผม  ได้รับการสนับสนุนทันที

“ฮึๆ  ดีเหมือนกัน  จัดซะเสาร์นี้เลย  จะได้รู้จักหน้าค่าตากันไว้”  เสาร์นี้ก็อีกสองวันน่ะสิครับ  ดูท่าปาปาเองก็คงอยากอวดสะใภ้คนแรกของตระกูลอยู่เหมือนกันนะเนี่ย 

“ยิ้มไม่หุบเชียวนะไอ้หลานชาย  ดีใจที่จะได้เปิดตัวคนรักล่ะสิ”  ผมได้แต่กลั้วหัวเราะให้กับคำหยอกเย้าของอาฉิงซือ  ด้วยสิ่งที่อาเจ็กพูดไม่ต่างจากสิ่งที่ผมรู้สึกสักนิด

“ตกลงคนนี้ผ่านหนูจินนี่แล้วใช่มั้ย”  ความแสบซ่าเอาเรื่องของยัยจินนี่เป็นที่รู้ดีของบรรดาผู้ใหญ่ครับ  ว่ายัยเด็กนั่นหวงญาติผู้ชายของตัวเองทุกคน  ไม่เว้นแม้แต่ฉิงซูและหมินไท่ก็เจอฤทธิ์ยัยจินนี่มาแล้วถ้วนหน้า  ซึ่งพอผมรับคำอาเจ็กฝานไท่แล้ว  สองญาติสนิทถึงกลับอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อหูเลยทีเดียว

“จริงดิ!  เป็นไปได้ไง”  เสียงนี้ของฉิงซือที่มาพร้อมสีหน้าแตกตื่น

“เฮ้ย!  ยัยจินนี่การ์ดตกแล้วเหรอ”  ส่วนนี่เป็นของหมินไท่ที่มีสีหน้าแปลกใจปนไม่เชื่อถือ

“ฮึๆ  ถ้าไม่เชื่อ  เสาร์นี้พวกนายก็มาดูกับตาเองแล้วกัน”  ผมกลั้วหัวเราะอย่างอวดๆ  พร้อมส่งคำท้าทายให้ญาติสนิททั้งคู่  ทำเอามันสองคนกลอกตาส่ายหน้าหวือ  ก่อนพร้อมใจกันกระแทกเสียงใส่ด้วยความหมั่นไส้

“เออ!!” 

ในสายตาของผมช่วงนี้จินนี่และฝูหรงไม่ต่างจากเพื่อนสนิท  มีโทรหาและไปมาหาสู่กัน  แม้ตอนอยู่ด้วยกันกระต่ายน้อยของผมจะเป็นฝ่ายเงียบที่จะฟังมากกว่าพูด  ไม่เหมือนยัยแม่มดตัวแสบที่คอยเจื้อยแจ้ว  แกมบงการให้ทำนู่นนี่  แต่พอย้อนกลับมาสังเกตคนของตัวเองก็ให้รู้ว่าฝูหรงไม่ได้มีอาการอึดอัดลำบากใจอะไร  ออกจะสนุกและมีความสุขด้วยซ้ำ  กับกิจกรรมหรือบทสนทนาที่จินนี่เป็นคนเริ่ม  แต่คราวที่กระต่ายน้อยได้พูดได้ขัดสักที  ก็ทำเอายัยตัวแสบอึ้งและได้แต่นิ่งฟัง  ที่น่าแปลกใจคือยัยจินนี่ดันยอมรับคำแนะนำ  หรือการตัดสินใจของฝูหรงอย่างง่ายดาย  ในแบบฉบับที่คนข้างตัวและคนที่รู้จักจินนี่มานานยังทึ่งกับความสามารถนี้ของฝูหรง

หากให้ผมวิเคราะห์คงเกิดจากคนสองคนที่มีความต่างสุดขั้ว  ตั้งแต่การเลี้ยงดู  วิถีชีวิต  หรือแม้แต่มุมมองความคิด  จนทั้งคู่ได้มาเจอกัน  แต่มีสิ่งหนึ่งที่คนทั้งคู่มีเหมือนกัน  คือการโหยหามิตรภาพของเพื่อนสนิท  จึงไม่น่าแปลกใจที่ฝูหรงและจินนี่  จะกลายมาเป็นเพื่อนซี้ต่างขั้วเหมือนในปัจจุบัน

........................................

“ตื่นเต้นเหรอครับฝูหรง”  ผมเข้าไปจับไหล่บอบบางภายใต้เสื้อสเว็ตเตอร์สีชมพูอ่อนของบุคคลที่ลุกลี้ลุกลน  เดินกลับไปกลับมาภายในห้องนอนของเรา  และมีแววตาว้าวุ่นภายในดวงตากลมโตที่ไม่มีแว่นบดบังดังเดิม  ได้เฉลยให้ผมรู้ว่าคนน่ารักของผมไม่เป็นตัวของตัวเองนัก 

ไม่ใช่แค่ท่าทางในยามนี้เท่านั้น  แต่รูปกายภายนอกของฝูหรงก็ดูแปลกตาไปไม่น้อย  ไม่ใช่ไปในทางเลวร้าย  เรียกว่าตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง  ไม่ต่างจากซินเดอเรลล่าที่ถูกแม่มดตัวแสบแปลงกายให้สักนิด  ฟังไม่ผิดหรอกครับที่ผมใช้คำว่าแม่มดแทนคำว่านางฟ้า  และแม่มดคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้  ถ้าไม่ใช่ยัยจินนี่ตัวแสบ  ที่ขโมยคนรักของผมไปปรับลุคมาใหม่ทันที  ยามที่ยัยนั่นรู้ข่าวเรื่องนัดรวมพลคนครอบครัวโจว 

เริ่มตั้งแต่ทรงผมที่เคยยาวระต้นคอของฝูหรงถูกตัดแต่งให้สั้นขึ้น  พร้อมเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลอมทอง  ทำให้ใบหน้าที่ใสอยู่แล้วดูสว่างน่ามองยิ่งขึ้น  และแลดูเด็กลงไปอีก  ไม่เท่านั้นแว่นหนากรอบดำคู่กายของเจ้าตัวก็ถูกยึด  และถูกบังคับให้ใส่คอนแทคเลนส์แทน  เพื่อโชว์ดวงตากลมโตที่ล้อมกรอบด้วยขนตางอนหนาชัดตา  และสิ่งนี้เองเป็นสิ่งที่ทำให้ผมหลงใหลฝูหรงตั้งแต่แรกเจอด้วย  พร้อมกับมหกรรมช้อปกระหน่ำที่หนักไปทางเสื้อผ้ารองเท้า 

คงไม่ต้องบอกว่าใครจ่ายถ้าไม่ใช่ผม  เพราะทันทีที่ผมหายตกตะลึงกับลุคใหม่แสนดูดีของกระต่ายน้อย  บิลค่าใช้จ่ายที่ยาวเหยียดก็ถูกยื่นมาให้  ไม่เท่านั้นท้ายบิลยังมีค่าเซอร์วิสชาร์ตที่ถูกเขียนด้วยลายมือ  ในมูลค่าที่สูงลิ่วไม่ต่างจากการปล้นกันต่อหน้า  แต่นาทีนั้นจนถึงเดี๋ยวนี้ผมไม่นึกเสียดายกับเม็ดเงิน  ที่โดนยัยแม่มดตัวแสบปล้นไปสักนิด  ด้วยมันช่างคุ้มแสนคุ้มกับความน่ารักน่าใคร่ของคนตรงหน้าผมในขณะนี้

ผมระบายยิ้มใส่ดวงตาไม่มั่นใจคู่ตรงหน้า  พร้อมไล้หลังมือไปยังข้างแก้มใส  ก่อนจะโอบร่างบอบบางแสนนุ่มนิ่มเข้าหาอกช้าๆ  และโยกตัวร่างน้อยไปมาเบาๆ  เหมือนการกล่อมเด็กน้อยเสียขวัญให้กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง

“มั่นใจในตัวเองนะครับ  กระต่ายน้อยของพอลออกจะน่ารัก  เชื่อได้เลยว่าทุกคนต้องเอ็นดูไม่ต่างจากมามาปาปาหรอก  เราลงไปข้างล่างกันเถอะ  สะใภ้ใหญ่ต้องลงไปช่วยกันรับแขกน้า”  ผลของการหยอกเย้าทำเอากระต่ายน้อยในอ้อมกอดผมดิ้นเบาๆ  มีลงมือทำร้ายกันนิดหน่อย 

เมื่อผมคลายอ้อมกอด  กระต่ายน้อยก็เงยหน้าขึ้น  แม้ดวงหน้าสดใสจะดูบูดบึ้ง  แต่แววตาที่เคยว้าวุ่นกลับทอประกายสดใส  จนผมยกยิ้มมุมปากได้มากกว่าเดิม  แต่ก่อนที่ผมจะหมุนตัวพาเจ้าของข้อมือน้อยในอุ้งมือออกจากห้อง  ชายเสื้อด้านหน้าผมก็ถูกรั้งไว้  ยามหันกลับมาก็เห็นสีหน้าขัดเขินแกมไม่แน่ใจของกระต่ายน้อย  จนผมนึกแปลกในอาการที่เห็น  แต่ผมยังคงระบายยิ้มและส่งคำถามผ่านแววตา

“ก่อนลงไป  เอ่อ...ขอกำลังใจหน่อยได้มั้ยพอล”  จบประโยคดังกล่าว  แก้มใสขึ้นสีคาตา  ก่อนเปลือกตาบางใสที่ประดับไปด้วยขนตาหนา  จะกระพือปิดแววตาขัดเขินลง  พร้อมกับที่ผมรู้สึกถึงแรงขยุ้มจากฝ่ามือน้อยที่ชายเสื้อ

คำพูดและท่าทางของกระต่ายน้อยแสนรักตรงหน้า  ชวนให้ผมตีความเข้าข้างตัวเอง  จนหัวใจกระแทกแผ่นอกดังตูมตามก่อนจะเต้นถี่รัวชนิดที่ว่า  ผมกลัวว่าหัวใจจะกระดอนออกมาด้านนอกเสียให้ได้  ฝูหรงไม่เคยแสดงออกแบบนี้มาก่อน  เจ้าตัวจะรู้มั้ยว่าทำเอาผมแทบคลั่งใจตาย 

ผมกลั้นลมหายใจไว้อย่างไม่รู้ตัว  ก่อนโน้มใบหน้าเข้าหาดวงหน้าแดงซ่านอย่างช้าๆ  และต้องอมยิ้มให้กับเปลือกตาบางใสที่ขยับไปมา  หัวคิ้วที่มุ่นเข้าหากันน้อยๆ  และริมฝีปากนุ่มสีสดที่เผยอเปิดรออย่างจงใจ  ผมตัดสินใจประทับริมฝีปากลงบนเรียวปากนุ่ม  และสอดลิ้นเข้าหาเรียวลิ้นหวาน  เกี่ยวกระหวัดหยอกเย้าอย่างนุ่มนวล  ปล่อยใจไปกับสัมผัสอ่อนหวาน  ก่อนรีบตัดใจด้วยความเสียดายจับใจ  ด้วยกลัวว่าจะเลยเถิดจนคุมตัวเองไม่อยู่  และประทับจูบลงบนหน้าผากนวลเนียนเนิ่นนาน  จบด้วยการกระซิบแผ่วเบาข้างแก้มใสกลิ่นรัญจวน

“ชื่นใจจังกระต่ายน้อย...ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น  ฝูหรงมีพอลอยู่แล้วทั้งคน  พอลพร้อมจะเป็นทุกอย่างที่ฝูหรงต้องการ  กับแค่กำลังใจทำไมจะให้ไม่ได้  เอาไปทั้งใจเลยดีกว่า....ฮึๆ  ไปครับ”  ผมยืดตัวขึ้น  ตัดใจผละห่างจากกลิ่นกายหอมๆ 

ขืนอยู่นานกว่านั้น  เรื่องงานข้างล่างคงลืมไปได้เลย  เพราะผมคงได้หลงมึนเมามัวแต่มอบกำลังใจให้คนน่ารักอยู่บนนี้อย่างแน่นอน

“เข้าใจเลือกนะเรา...อีลิน่า  ได้เห็นฝูหรงแบบนี้  ทำเอาฉันชักอยากมีลูกชายน่ารักๆแบบนี้อีกสักคนเลย”  ผมก้มหน้าส่งยิ้มใส่ตาคนน่ารักที่เงยขึ้นมาส่งยิ้มให้กันด้วยตายิบหยี  เมื่อเห็นมามาอีลิน่าระบายยิ้มภูมิใจให้เรา  ก่อนท่านจะหันไปทางคู่สะใภ้อย่างอาผู้หญิงเหม่ยซิน  ผู้มีสีหน้าชื่นชมแกมอิจฉาอย่างเห็นได้ชัด

“โธ่มามาครับ  ผมน่ารักสู้ฝูหรงไม่ได้ตรงไหน  หรือจะให้ผมหาสะใภ้เข้าบ้านแบบนี้สักคนดีมั้ย”  หมินไท่เย้าอาผู้หญิงเหม่ยซินผู้เป็นมามายิ้มๆ  จนคนเป็นมามาถึงกลับสะบัดค้อนเข้าใส่  และหยิกหมับเข้าที่เอว  ทำเอาเจ้าตัวถึงกับแกล้งร้องซะลั่น  แต่ไม่มีใครออกอาการสงสารสักคน  มีแต่หัวเราะเยาะให้เท่านั้น

“ฮ่าๆ  นายก็กล้าพูดนะว่าตัวเองน่ารัก  แต่ถ้าเป็นประเด็นหลัง  อย่างการหาแฟนน่ารักๆแบบฝูหรง  ยังพอเข้าท่าให้อาเหม่ยซินยินดีได้หน่อย  จริงมั้ยพอล”  ผมแสยะยิ้มใส่ตาฉิงซูที่กระทุ้งศอกเข้าข้างเอว  แต่ดันส่งสายตาเจ้าชู้ให้คนข้างกายผม 

ฝูหรงเองถึงกลับแก้มแดงก้มหน้างุด  และขยับตัวเข้าหาผมยิ่งขึ้น  ผมจึงได้โอกาสโอบไหล่บอบบาง  และลงมือลูบหัวไหล่เนียนเป็นการปลอบกระต่ายน้อยขี้ตื่น  แม้จะถูกใจในอาการของฝูหรง  แต่จะไม่ให้เอ่ยปรามญาติสนิทก็ใช่ที่  ผมจึงขึงตาเข้าใส่ฉิงซูและหมินไท่  ที่นาทีนี้พวกมันกำลังยิ้มกรุ้มกริ่มให้คนของผมไม่ต่างกัน

“ฉิงซูจริงของนาย  สงสัยฉันต้องรีบหาคนน่ารักๆแบบนี้สักคนแล้วล่ะ  อยากมีแฟนให้คนอื่นอิจฉาแบบนายบ้างว่ะพอล”  ยังครับยังไม่จบ  หมินไท่แซวกระต่ายน้อยของผม  เสียจนเจ้าตัวขยับตัวแทบจะเข้ามาสิงร่างผมแล้ว 

แต่ยังไม่ทันที่ผมจะจัดการอะไร  กลับมีนางฟ้าประจำตัวของกระต่ายน้อยเข้ามาช่วยซะก่อน  และดูท่าการมาของจินนี่จะกลายเป็นการปรากฏกายของแม่มดตัวแสบของสองญาติสนิทแทนเสียได้

“หืม  หมินไท่  ฉิงซู  จะมีแฟนเหรอ  ทำไมจินนี่ไม่รู้เรื่อง”  ถึงคราวที่ผมจะได้เป็นฝ่ายยิ้มเยาะบ้างแล้ว  และไม่ได้มีเพียงผมเท่านั้น  แต่บรรดามามาของพวกเราทั้งหมดที่แต่แรกจับกลุ่มคุยกันเบาๆอยู่ไม่ห่าง  ยังหันมาให้ความสนใจ  ก่อนจะกลั้วหัวเราะน้อยๆ  ยามอาหญิงหมิงอี้ซานที่เดินตามหลังลูกสาวมากระซิบบอก

สองหนุ่มญาติสนิทถึงกลับทำหน้าไม่ถูก  จะยอมรับก็ไม่กล้า  ครั้นจะปฏิเสธก็ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในใจจริงๆ  จึงกลายเป็นอาการอิหลักอิเหลื่อวางตัวไม่ถูก  พาเอาคนอื่นๆหยุดยิ้มไม่ได้  จะมีก็แต่กระต่ายตากลมของผมนี่แหละ  ที่เพิ่งได้โอกาสเงยหน้าขึ้นมองคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างไม่เข้าใจ  ก่อนจะเงยหน้ามาขอคำตอบจากผม  ด้วยตาโตๆและมีอาการเอียงคอนิดหน่อย  ท่าทางน่ารักจับใจจนผมอยากจะฟัดกอดซะตรงนี้  แต่สิ่งที่ผมทำคือก้มหน้ากระซิบคำตอบให้ได้ยินกันสองคน

“อาการของแม่มดน้อยหวงพี่ชายน่ะครับ”  สิ้นเสียงผม  กระต่ายน้อยเบิกตากว้างแววตาระยับ  และลากเสียงยาวตอบรับ  พร้อมหัวเราะน้อยๆอย่างน่าฟัง

“อ๋อๆๆ  คิกๆ...เอ่อ  พอลเอาหน้าออกห่างๆหน่อย”  พอได้อยู่ใกล้ชิดคนน่ารัก  ผมก็ลืมตัวอยู่เรื่อยเผลอสร้างโลกส่วนตัวตลอด 

เมื่อคนน่ารักทักซะขนาดนี้  จึงจำใจต้องผละออก  ก่อนจะส่งยิ้มแจกจ่ายให้เจ้าของสายตาทุกคู่ที่มองมา  จะมีชะงักบ้างก็ต่อเมื่อมีสายตาบางคู่มองมาอย่างขัดใจ  ยัยจินนี่สะบัดค้อนใส่ผมนิด  ก่อนจะเข้ามาฉกตัวคนของผม  ที่ได้กลายร่างจากกระต่ายน้อยขนปุยไปเป็นกุ้งต้มตัวแดงเถือก

“หึ!  ช่วยกันดีนักนะ...ฝูหรงไปกับจินนี่เถอะ”  หลังจากต่อว่าผมอย่างรู้ทันแล้ว  แม่มดตัวร้ายก็ลากฝูหรงออกไป  พร้อมหันไปเอ่ยขอตัวจากบรรดามามาของพวกเรา

“ยินดีด้วยนะพอล  แฟนนายน่ารักจริงๆว่ะ  มีแบบนี้เหลืออีกสักคนให้ฉันมั้ย”  ผมที่มองตามหลังสองร่างที่เดินเข้าหากลุ่มปาปาและอาเขยด้วยความสุขใจนั้น  ต้องหันมาตอบรับประโยคยินดีเปิดเผยของฉิงซู  ก่อนจะส่ายหน้าให้กับความทะเล้นของมัน

“ขอบใจ...คนน่ารักแบบนั้นน่ะมีแค่คนเดียว  อยากได้ก็ต้องเสาะหาเอาเองสิวะ  ที่สำคัญหามาได้แล้ว  ต้องหาให้ผ่านยัยจินนี่ตัวแสบด้วยล่ะ  ฮึๆ”  ฉิงซูถึงกลับถอนใจพรืด  แต่ใบหน้าก็ยังคงอมยิ้ม  และมองไปทางเดียวกับจุดปลายสายตาของผมตอนนี้ 

ผม  ฉิงซู  และหมินไท่คงมีความรู้สึกไม่ต่างกัน  ด้วยไม่ว่ายัยจินนี่จะแสบซ่าสร้างความวุ่นวายให้พวกเรามากแค่ไหน  แต่เธอก็ยังคงเป็นทั้งญาติและน้องสาว  ที่พวกเรารักและเอ็นดูไม่เปลี่ยน

“ฉันเชื่อแล้ว  ว่ายัยจินนี่ยอมรับแฟนนายได้แล้วจริงๆ  เคล็ดลับคืออะไรวะ  บอกกันมั่งสิ”  ผมได้แต่ตบไหล่และกลั้วหัวเราะใส่หมินไท่  แกล้งอมพะนำให้มันยิ่งอยากรู้ 

แต่จริงๆคือผมไม่มีอะไรจะบอก  เพราะกว่าที่ความรักของเราจะมาถึงจุดนี้  ยัยตัวแสบของตระกูลโจวก็เข้ามาปั่นป่วน  จนรักของเราสะบักสะบอมไปไม่น้อย  ด้วยเกิดความเข้าใจผิดและต้องห่างกันไปถึงห้าปี

เมื่ออาหารขึ้นโต๊ะพร้อมแล้ว  มามาอีลิน่าจึงชวนพวกเราเข้าห้องอาหาร  ซึ่งกลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วที่ปาปาฟู่สือจะนั่งหัวโต๊ะ  โดยมีมามานั่งฝั่งซ้ายของท่าน  ตามมาด้วยผมกับฝูหรง  คู่ของอาฉิงซือกับอาสะใภ้และปิดท้ายที่ฉิงซู    ส่วนฝั่งขวาของปาปาคืออาหญิงหมิงอี้ซานที่มีจินนี่นั่งคั่นระหว่างปาปากับมามาของตัวเอง  ตามมาด้วยครอบครัวของอาฝานไท่ซึ่งมีหมินไท่นั่งปิดท้าย
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารของวันรวมครอบครัวตระกูลโจวเป็นไปอย่างอบอุ่นและชื่นมื่น  ไม่ต่างจากทุกครั้งที่เคยมีมา  แต่วันนี้พิเศษตรงสมาชิกใหม่ผู้น่ารักที่ได้รับความเอ็นดูจากทุกคน  ทำให้คนที่ขาดความมั่นใจในการวางตัวแต่แรก  ถึงกับระบายยิ้มเต็มหน้าตลอดเวลา  และมีบางช่วงเวลาที่นั่งก้มหน้าแก้มแดงเป็นกระต่ายน้อยขี้อาย  ยามโดนสองตัวป่วนญาติสนิทของผมแซวเล่น 

เมื่อจบมื้ออาหารที่ยาวนานเป็นพิเศษ  เพราะมีคนพิเศษของผมร่วมโต๊ะนั้น  เป็นธรรมเนียมอีกเหมือนกันที่พวกเราจะเข้ามาจิบไวน์ในห้องรับรอง  ที่ถูกปรับเปลี่ยนให้มีพื้นที่กว้างกลางห้อง  เพื่อทำกิจกรรมบางอย่างที่ช่วยในการย่อยมื้อค่ำได้เป็นอย่างดี  เมื่อทุกอย่างพร้อมและเครื่องดื่มสีสวยไหลเวียนไปทั่วร่าง  ปาปาฟู่สือที่เปรียบเสมือนประมุขตระกูลโจว  จึงเป็นผู้นำเปิดฟลอร์

“อีลิน่า  ให้เกียรติฉันได้มั้ย”  ปาปายื่นมือไปตรงหน้ามามา  พร้อมรอยยิ้มละมุนที่นานๆผมจะได้เห็นสักครั้ง  ก่อนมามาจะตอบรับเสียงหวาน  และวางมือลงบนฝ่ามือของท่าน  พร้อมกับเสียงปรบมือของทุกคนที่เหลือดังขึ้น  ไม่เว้นแม้แต่กระต่ายน้อยที่มีทีท่าสงสัยใคร่รู้  แต่ไม่ได้เอ่ยปากถาม  และได้แต่ทอดมองบุพการีของผมเดินเคียงคู่กัน

เมื่อท่านทั้งคู่เดินไปอยู่กลางห้องและจัดวางท่าพร้อมในการเต้นรำ  เพลงวอลซ์ช่วงจังหวะเนิบนาบสบายหูก็ดังขึ้น  ปาปามามาสืบเท้าตามจังหวะอย่างสวยงาม  ก่อนบรรดาคู่อาๆของผมจะทยอยเดินเข้าฟลอร์  และเต้นรำไปกับคู่ของตัวเองอย่างชื่นมื่น 
หากเป็นครั้งก่อนๆช่วงนาทีนี้ผมจะนั่งจิบไวน์ซะมากกว่า  โดยที่หมินไท่และฉิงซูจะสลับกันไปเป็นคู่เต้นรำให้กับสาวน้อยหนึ่งเดียวของเรา  ซึ่งตอนนี้ฉิงซูและจินนี่ก็ไปอยู่กลางฟลอร์พร้อมคู่ใหญ่ทั้งสี่คู่แล้ว   

ณ วันนี้ทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปแล้ว  เมื่อผมมีคนรักอยู่ข้างกาย  ผมจะนั่งเดียวดายอยู่ทำไมจริงมั้ยครับ  ซึ่งทันทีที่ผมโค้งเชิญคนน่ารักของตัวเองที่มีทีท่าขัดเขินอย่างเห็นได้ชัด  และทำท่าเหมือนจะปฏิเสธอยู่นั้น  หมินไท่ที่นั่งจิบไวน์อยู่ข้างๆก็เปิดปากแซวขึ้นมา

“วันนี้นึกว่านายจะนั่งจิบไวน์เหมือนเคยซะอีก  ฉันก็ว่าจะโค้งฝูหรงเต้นรำแทนนายแล้วนะเนี่ย  ฮึๆ”

“ฝันไปเถอะ  คนนี้น่ะสิทธิ์ขาดของฉันคนเดียว...ให้เกียรติเต้นรำกับพอลหน่อยนะครับฝูหรง” 

สุดท้ายคนน่ารักก็ตกอยู่ในอ้อมกอดของผมจนได้  แต่ก่อนที่เราจะเริ่มเต้นรำด้วยกัน  ฝูหรงเขย่งปลายเท้าและยื่นใบหน้ามากระซิบข้างหูผม  ว่าเจ้าตัวเต้นรำไม่เป็น  หากไม่ใช่เพราะน้ำเสียงแผ่วเบาและสีหน้าขัดเขิน  ผมคงหลุดหัวเราะออกไปให้คนน่ารักได้โมโหแล้ว  แต่สิ่งที่ผมทำคือการก้มหน้าไปกระซิบข้างใบหูหอมๆ  และใช้สองมือประคองข้างเอวบาง

“เต้นไม่เป็นไม่ใช่ปัญหา  แค่ฝูหรงกอดพอลไว้ก็พอแล้ว”  สิ้นเสียงผมยกเอวบางขึ้นนิด  เพื่อให้ฝ่าเท้าทั้งคู่ของฝูหรงวางอยู่บนหลังเท้าของตัวเอง  และเป็นจังหวะพอเหมาะที่วงแขนน้อยคล้องเข้ารอบคอด้วยความตกใจ

“ปล่อยตัวให้สบาย  ปล่อยใจไปกับพอลนะครับ”

ผมใช้หูจับจังหวะเสียงเพลง  และโอบประครองร่างบางไว้กับอก  ก่อนสาวเท้าพาเราทั้งคู่เต้นรำไปพร้อมกัน  ยามก้มมองดวงหน้าสว่างใสก็ให้คลี่ยิ้มตาม  เมื่อริมฝีปากจิ้มลิ้มระบายยิ้มสดใสส่งตรงมาให้ผม  พร้อมกับแววตาตื่นเต้นกับการเต้นรำครั้งแรกของเรา 
ผมเชื่อว่าอีกไม่นานกระต่ายน้อยขี้อายของผม  คงได้กระโดดโลดแล่นไปมาอยู่บนฟลอร์  และเต้นรำเคียงข้างผมด้วยตัวเองได้  แต่หากไม่เป็นอย่างที่คิด  ผมก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายโอบประคองร่างน้อย  และพาเราเต้นรำไปพร้อมกันแบบนี้ตลอดไป

..............................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

งื้อออ  หวานฉ่ำแทบละลายกันถ้วนหน้ามั้ยเอ่ย   :z1:
ตอนนี้เปิดตัวสะใภ้ใหญ่กันไปด้วยความชื่นมื่น  สุขถ้วนหน้า
โดยเฉพาะกับสองหนุ่มคู่หวานของเรา  และคงมีใครอีกหลายคน
อยากมีโมเม้นท์แบบในช่วงท้ายของตอนบ้างล่ะน้า   :laugh:

ตอนหน้ามีตัวยุ่งตัวป่วนมาอีกละ  จะเป็นใครนั้นต้องติดตาม
เจอกันวันศุกร์ค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตาม

ปล.แจ้งรีปริ้นท์นิยายชุด “เสน่ห์รัก” และ “บ่วงรัก” ค่ะ  ตามลิ้งค์ไปได้เลยน้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43497.new#new
ใครที่พลาดในรอบก่อนๆหรืออยากได้หนุ่มๆเก็บไว้  ติดต่อเข้ามานะคะ

ปล.2 ส่วนนิยายชุด Lover ทั้ง 3 เรื่องจะเปิดจองเร็วๆนี้ค่ะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 07-09-2014 13:17:07
จารอตัวป่วน ว่าใครช่างกล้า  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 07-09-2014 15:33:29
อ่านแล้วจะเป็นเบาหวานไหมเนี่ย :hao6:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 07-09-2014 16:01:24
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยย

หวานมว้ากกกกกก

ต่ายน้อยน่ารักเพิ่มขึ้นอีกแล้ววววว

จะให้พวกป้าหลงไปถึงไหนลูกกกกกกก ><
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 07-09-2014 16:06:00
หมั่นไส้พอลนิดๆ 5555
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 07-09-2014 16:37:36
เขินแทนง่าา :-[
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: moobarpalang ที่ 07-09-2014 16:49:37
Petty boy!!!!!!
หน้ารักที่สุด
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 07-09-2014 17:31:46
 :o8: :-[ :impress2:
อ๊ายยยยยยยยยย หวานอะ เล่นเอาน้ำตาลขายไม่ออกกันเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 07-09-2014 18:00:27
ตอนนี้พอลเป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุด และคงเป็นคนที่มีความสุขมากที่สุด  เพราะคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูง ยอมรับและเอ็นดูฝูหรงที่เป็นคนรักของพอลด้วยความเต็มใจ  ต่อให้มีตัวป่วนมาอีกสักกี่คน  รับรองว่าทุกคนพร้อมที่จะคอยกปกป้องความรักของคู่นี้  โดยเฉพาะจินนี่ ที่ตอนนี้เปลี่ยนจากแม่มดน้อย กลายเป็นนางฟ้าน้อยที่น่ารัก
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 07-09-2014 18:05:29
 :impress2: คู่นี้เขาหวานกันให้คนโสดอิจฉาทุกที
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 07-09-2014 18:07:31
อิจฉาฟูหลง พอลจะหวานอะไรขนาดนี้   :hao5:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 07-09-2014 18:16:04
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 07-09-2014 18:24:23
หวานมาก มดขึ้นจอแล้วนะโจวพอลฟูหรง  :hao3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-09-2014 18:31:12
เปิดตัวสะใภ้ใหญ่~ อบอุ่น หวานกันซ้า~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 07-09-2014 19:00:34
หวานไปปปปปปปป  :katai1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 07-09-2014 19:19:48
ตอนนี้คู่พอลกับฝูหรงน่าอิจฉาที่สุด
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 07-09-2014 19:37:17
น่ารักแบบตายไปเลย  :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 08-09-2014 12:08:15
หวานกันจริงๆ เลยนะ

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 08-09-2014 13:07:41
หวานจนน้ำตาลจืดนะ
น่ารัดมากคู่นี้
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 08-09-2014 19:26:50
ก่อนหน้าที่ว่าหวานเจอฉากเต้นรำเข้าไปจืดเลย :-[
น่าอิจฉาทั้งคู่ พอลและฝูหรงต่างโชคดีที่หากันเจอ
คนมันจะคู่กัน ต่อให้ห่างกันแค่ไหนก็กลับมาเจอกัน
มาทำให้คนอื่นอิจฉา แต่ก็ชื่นมื่นกันถ้วนหน้า
แถมฝูหรงยังเป็นที่รักและเอ็นดูของผู้ใหญ่อีกด้วย
พอจะชดเชยช่วงเวลาที่ห่างกันไปได้ล่ะเนาะ :hao3:
เดี๋ยวหาคู่ให้อีกสองหนุ่มดีกว่า จินนี่จะได้ไม่ว่าง
มีแฟนเป็นผู้หญิงมันยากหาแฟนผู้ชายดีกว่า เหมือนพอลไง :laugh:
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ  :กอด1:
+1และเป็ดค่า ~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 08-09-2014 20:51:47
คู่นี้หวานกันมาก :impress2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 10-09-2014 22:23:15
ตอนนี้ความหวานรู้สึกจะเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมนะ

อิจฉาฝูหลงอ่ะ555
หัวข้อ: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.21 "ปล่อยตัวปล่อยใจ" P.17(7/9/57) ฮิปๆ
เริ่มหัวข้อโดย: THE KOP ที่ 12-09-2014 02:38:48
พอลนี่ปากหวานตลอดดดดดดด น่ารักมากๆเลยค่ะ รอดูว่าตอนต่อไปจะมีใครมาขัดขวางความรักของทั้งคู่ แต่ถึงจะยังไงก็ไม่มีทางทำให้ทั้งสองเลิกหวานกันได้หรอก คิคิ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 12-09-2014 19:00:23
ตอนที่ 22

โจวพอล
   
“ขอบใจนายมากที่ไม่เอาเรื่องมัน  และยกให้ฉันจัดการเอง”

“ฉันเองก็ต้องขอโทษและขอบใจนายเหมือนกันว่ะโจเซฟ  ที่เล่นเด็กนายซะอ่วม  แถมยังเป็นการจับแพะอีก”

“อืม  เอาเถอะถือว่าเป็นความซวยของอเล็กซ์  สำหรับซีอาร์...แม้จะไม่ถึงมือตำรวจ  แต่นายสบายใจได้  ว่ามันได้รับบทลงโทษที่เหมาะสมกับความผิดที่ทำกับน้องนลินแล้ว”

ผมจิบเครื่องดื่มในมือพลางเหล่ตามองสองเพื่อนซี้ไปแบบเงียบๆ  ซึ่งอาการผมไม่ต่างจากอาการของไอ้ไรอันนัก  แถมในตอนนี้ผมกับมันดันหันมาสบตากันเอง  ทำเอาต่างฝ่ายต่างสะดุ้ง  ชวนขนลุกแปลกๆ  แต่ก็โล่งใจไปในเวลาเดียวกัน  เพราะเท่าที่ได้ยินบทสนทนาเหมือนว่าเหตุการณ์เครียดๆได้คลี่คลายลงแล้ว 

ด้วยตั้งแต่ไอ้โจเซฟมาถึงร้านเบเกอรี่ชื่อดัง  อยู่ข้างมหาวิทยาลัยเก่าของพวกเรา  ตามนัดที่ไรอันโทรไปชวนนั้น  มันก็นั่งหน้าเครียดไม่พูดไม่จากับใคร  แม้ว่าจะมีผมและไรอันร่วมโต๊ะด้วยก็ตาม  จนกระทั่งฝาแฝดของผู้เป็นเจ้าของร้านมาถึงนั่นแหละ  มันถึงได้โอกาสเงยหน้าขึ้นจากแก้วกาแฟร้อนที่วางอยู่ตรงหน้า 

หลังจากนั้นทั้งหลี่ผิงและโจเซฟนั่งจ้องตากันอยู่นาน  ซึ่งผมและไรอันเองยังไม่กล้าทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นนั้นเลย  ด้วยสัมผัสได้ถึงมวลอากาศหนักๆระหว่างมันสองคน  เรารอจนเวลาผ่านไปพักใหญ่  ทั้งคู่ถึงได้พูดประโยคข้างต้นตอบโต้กันไปมาด้วยสีหน้าจริงจัง 

ผมไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมากมายก็พอจะรู้ว่าเรื่องที่ทั้งคู่คุยกัน  ต้องเป็นเรื่องใหญ่พอดูและคงเกี่ยวกับคนใกล้ตัวมันทั้งคู่ด้วย  แต่เรื่องทั้งหมดก็จบลงแล้ว  แถมมันสองคนเองก็ไม่คิดจะเอ่ยปากเล่ารายละเอียดให้ผมกับไรอันรู้  แสดงว่าคนที่ได้รับผลกระทบหลักคือน้องนลิน  และเรื่องแบบนั้นย่อมสร้างความเสียให้หากเล่าต่อ  ซึ่งผมกับไรอันเองก็เข้าใจจุดนี้  จึงไม่คิดซักถามเอาความ  ก่อนหลี่ผิงจะเป็นคนเปิดประเด็นที่ควรจะเป็นของวันนี้

“ไรอันชีวิตช่วงนี้เป็นไงบ้าง  สบายดีมั้ย  ทำไมวันนี้นายว่างและนัดพวกเรามาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ  ปาปาไม่ว่าเอารึไง...ฮึๆ”  ประโยคนี้ของหลี่ผิงเบรกความเครียดได้ชะงัด  ทำเอาพวกเราอมยิ้มหัวเราะฮึฮะไปตามคนเปิดประเด็น 

มีก็แต่ไรอันเท่านั้นที่แทบสำลักชาร้อน  ส่งเสียงสบถอยู่แค่ลำคอ  ก่อนมันจะใช้ความเจ้าเล่ห์ส่วนตัวแกล้งร้องโอดโอย  เหมือนว่าโดนชาร้อนลวกปากลิ้นพอง  ยามเห็นว่าเหมยอิงเดินไปมาอยู่ในระยะสายตา  ซึ่งก็ทำเอาเจ้าของร้านคนสวยเดินเข้ามาพร้อมแก้วน้ำเย็นส่งให้ไรอัน  และจากไปพร้อมรอยยิ้มหวานหยด 

แม้ไม่มีคำพูดแสดงความห่วงใยสักคำ  แต่เหมยอิงก็แสดงออกชัดว่าใส่ใจและมีไรอันอยู่ในสายตาเสมอ  จนไอ้ลูกครึ่งตาฟ้าถึงกลับฉีกยิ้มหน้าบาน  มองตามหลังคนสวยของมันคอแทบหัก 

ไอ้มาเฟียขี้หวงผู้เป็นพี่ชายถึงกลับหุบยิ้ม  และเมินสายตาหนีไปอีกทาง  พาเอาผมกับไอ้โจเซฟหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน  ยามไรอันหันมายักคิ้วใส่เราทั้งคู่อย่างยียวน  เหมือนว่ามันภูมิใจที่สามารถเอาคืนหลี่ผิงแบบไม่ต้องทำอะไรเลยได้สำเร็จ 

ในเวลาต่อมาเมื่อผมได้ฟังคำตอบของคำถามหลี่ผิงจากไอ้ไรอันแล้ว  ผมก็ได้แต่เห็นใจปนขำ  และนึกทึ่งไปกับบททดสอบว่าที่ลูกเขยของตระกูลมาเฟีย  ซึ่งเรื่องนี้เองที่สร้างความหนักใจให้ไรอัน  ถึงขั้นนัดเพื่อนสนิทมาปรับทุกข์  และนาทีนี้เองที่หลี่ผิงคงถูกใจไม่น้อย  และคงรู้สึกเหมือนได้เอาคืนไรอันแบบไม่ต้องทำอะไรเช่นกัน  เพราะมาเฟียใหญ่ถึงกลับมานั่งหน้าระรื่นจิบกาแฟอย่างสบายใจได้อีกครั้ง  มีแสยะยิ้มให้ไรอันยิ่งทำหน้าหงิกมากขึ้นไปอีก

ไอ้ไรอันเล่าว่าทุกวันนี้  นอกจากที่มันต้องคุมกิจการสถานบันเทิงของตัวเองยามค่ำคืนแล้ว  มันต้องตื่นไปรายงานตัวกับปาปาหลี่จวินในช่วงสายของทุกวัน  และโดนปาปาใช้งานเหมือนเป็นดั่งลูกน้องคนสนิทคนหนึ่ง  ต้องคอยติดตามท่านไปทุกที่  แถมตกบ่ายของทุกวันกลางสัปดาห์ยังต้องไปรายงานตัวกับอากงไป่หลงอีก  เพื่อรายงานความเป็นไปของแก๊งหวางให้อดีตหัวหน้าแก๊งหยางรับรู้ตามที่ปาปาสั่งงานมา 

ทำให้วันๆหนึ่งไรอันมีเวลาส่วนตัวเพื่อพักผ่อนไม่เกินห้าชั่วโมง  แต่เรื่องของหัวใจมันก็ไม่ทิ้ง  เพราะยังคงโทรหาคนที่มันหมายปอง  และเป็นคนเดียวกับคนที่มันทุ่มเททำทั้งหมดเพื่อเธอ  เป็นผมผมก็ยอมเสียเวลาพักผ่อน  วันหนึ่งขอแค่ได้ยินเสียงหวานๆของคนรักก็เปรียบเหมือนได้น้ำทิพย์ชโลมใจ  เป็นกำลังใจเพื่อสู้ต่อแล้ว  ซึ่งสิ่งที่ไรอันทำไปทั้งหมดเริ่มเห็นผล  และผลผลิตที่ว่าก็ทรงคุณค่าไม่น้อย  เห็นได้จากความห่วงใยที่เหมยอิงมีให้มันนั่นเอง

ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมวันนี้ไรอันถึงปลีกตัวมาอยู่ที่นี่กับพวกเราได้นั้น  เป็นเพราะปาปาหลี่จวินมีแผนพามามาเฟิงหวงไปทานกลางวันที่เกาลูน  และต้องการความเป็นส่วนตัว  ไม่ต้องการตัวเกะกะอย่างมันให้เสียบรรยากาศ  ไรอันจึงได้โอกาสนัดเพื่อนสนิทอย่างพวกเราให้ออกมาเจอกันที่นี่  ก่อนจะทอดเสียงออดอ่อยด้วยท่าทางเนือยๆ  ทำเอาผมและโจเซฟหัวเราะลั่น  หลี่ผิงเองยังหลุดเก๊ก  แม้ไม่ได้หัวเราะแต่ก็อมยิ้มหมั่นไส้เช่นกัน 

เห็นแบบนี้อย่าไปสงสารไอ้ลูกครึ่งตาฟ้ามากครับ  มันน่ะเจ้าเล่ห์  พวกเราเพื่อนสนิทรู้ทันมันดี  พอว่างล่ะแทนที่จะเอาเวลาไปพักผ่อน  แต่ดันปรี่มาหาสุดที่รักของมันถึงที่นี่  แถมยังแผนสูงเพื่อไม่ให้โดนผู้ใหญ่ทางฝั่งคนสวยของมันเขม่น  และไม่ให้ดูน่าเกลียดในสายตาคนอื่นมากนัก  การมีว่าที่นายใหญ่ตระกูลหวางร่วมอยู่ในสถานการณ์นี้  ย่อมไม่มีใครต่อว่าได้  ทั้งๆที่ทุกคนน่าจะรู้เหตุผลที่แท้จริงของไรอันเป็นอย่างดี  เหตุผลที่ว่ามันต้องการตามเฝ้าตามดูแลคนสวยของมัน

“ฮ่าๆ  อย่าคิดว่าพวกฉันรู้ไม่ทันนาย  แต่เอาเถอะไรอัน...อดทนไว้เพื่อน  เท่าที่นายเล่ามาทั้งหมด  ฉันว่าเพราะปาปาหลี่จวินและอากงไป่หลงกำลังให้โอกาสนายพิสูจน์ตัวเองอยู่  และยิ่งไปกว่านั้น  ฉันว่าพวกท่านตั้งใจให้นายเรียนรู้  และเข้าใจวิถีชีวิตของแก๊งมาเฟียว่ะ  นายก็น่าจะรู้แก่ใจ  ไม่ใช่ว่าใครจะเดินเข้าเดินออกแก๊งมาเฟียได้ง่ายๆ  ยิ่งคนนอกแก๊งอย่างนายด้วยแล้ว  ถ้าไม่ใช่เหตุผลที่ว่านายได้รับความไว้วางใจจากท่านทั้งคู่  แบบนี้ก็ไม่รู้จะใช้เหตุผลอะไรแล้ว”

สิ้นคำพูดของผม  ทำเอาสามเพื่อนสนิทเงียบกริบ  และมองมาที่ผมแบบไม่เชื่อสายตา  อ่านได้ชัดว่าผมไม่น่าจะสามารถพูดอะไรมีสาระได้เช่นนั้น  ก่อนไอ้โจเซฟจะกระตุกยิ้ม  และชกเข้าที่หัวไหล่ผมเบาๆอย่างถูกใจ

“ฉันเห็นด้วยกับที่นายพูดว่ะพอล  นายล่ะหลี่ผิงคิดว่าไง”  ไอ้ลูกครึ่งหน้าเข้มเคราดกหันไปส่งคำถามให้หลี่ผิง  คนที่น่าจะยืนยันสิ่งที่ผมพูดได้ดีที่สุด 

ไอ้มาเฟียใหญ่เองทำเพียงกระตุกยิ้มมุมปากและไม่ตอบเอาซะดื้อๆ  แต่แค่มันไม่ปฏิเสธก็สร้างความพอใจให้ว่าที่น้องเขยของมันมากแล้ว  ทำเอาไอ้ไรอันถึงกลับฉีกยิ้มปากแทบฉีก  ตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง 

นาทีนี้ผมเองก็ได้แต่เอาใจช่วยมัน  และนึกชื่นชมในความอดทนของไรอัน  ร่วมกับชื่นชมในการเปิดใจยอมรับว่าที่น้องเขยของหลี่ผิงด้วย  การที่มาเฟียใหญ่ขี้หวงยอมลดทิฐิและลดท่าทีกีดกันต่อไรอันลงได้ระดับนี้  มันก็เพียงพอแล้วที่ทำให้ไรอันมีกำลังใจพิสูจน์ตัวเองต่อไป

การรวมตัวครั้งพิเศษในวันนี้  นอกจากเป็นการปรับทุกข์ให้ไรอันแล้ว  ถือว่าเป็นโอกาสดีที่เราได้รู้ความเป็นไปของเพื่อนแต่ละคนในช่วงเวลาที่ผ่านมาด้วย  แม้เราจะเจอกันบ่อย  แต่ก็หาได้ยากที่พวกเราจะมีเวลาสบายๆอย่างนี้  ช่วงเวลาที่มีแต่เพื่อนสนิทจริงๆ  ได้นั่งจิบกาแฟและเล่าความเป็นไปของชีวิต  ‘ไม่ต่างจากแม่บ้านที่หนีสามีมาเจอกัน  ฮึๆ’  ซึ่งหนึ่งในหัวข้อสนทนามากมาย  ย่อมไม่พ้นเรื่องของหัวใจ 

พวกคุณต่างก็รู้ว่าผม  หลี่ผิง  และไรอันนั้น  ชัดเจนในเรื่องนี้อยู่แล้ว  เพราะมีตัวจริงกันถ้วนหน้า  แต่สำหรับไอ้โจเซฟผู้ซึ่งไร้คนข้างกายมานาน  วันนี้ดันยอมรับหน้าตายว่ากำลังเดินหน้าจีบนักร้องสาวคนใหม่ในสังกัด  ยามที่ผมแกล้งสะกิดหวังหยอกเย้า  เพราะได้เห็นปฏิกิริยาของเพื่อนสนิทด้วยตาตัวเองมาแล้ว 

เท่าที่ผมจำได้คนที่มันเอ่ยปากยอมรับว่าเป็นแฟนนั้น  มีอยู่คนเดียวคือสาวรุ่นน้องตอนที่เราเรียนเกรดสิบเอ็ดนั่นแหละ  แต่ทั้งคู่ก็คบกันอยู่แค่ช่วงไฮสคูลแล้วก็เลิกกันไป  หลังจากนั้นผมก็ไม่เห็นโจเซฟคบใครจริงจังอีกเลย  ดังนั้นเรื่องที่มันสนใจใครอย่างจริงจังถึงขั้นออกตัวแรงแบบนี้  จึงเป็นเรื่องน่าตกใจของพวกเรา  ยกเว้นผมที่ก่อนหน้านี้รับรู้มาบ้างแล้ว

“เฮ้ย!  ชักอยากเห็นหน้าผู้หญิงที่ทำให้ฤๅษีเดียวดายตบะแตกซะแล้วว่ะ”  หมดเรื่องทุกข์ใจ  ไอ้ลูกครึ่งตาฟ้าก็ปากดีเลยครับ 

แต่นาทีนี้คนที่ได้รับฉายาฤๅษีเดียวดายไม่มีทีท่าขุ่นใจให้เห็น  นอกจากการยกยิ้มมุมปากตาเป็นประกาย  ไอ้แววตาแบบนี้คุ้นตาผมชะมัด  ด้วยไม่ต่างจากแววตาของสองเพื่อนสนิท  หรือแม้แต่ตัวผมเองยามส่องกระจก  ‘แววตาของชายหนุ่มที่กำลังมีความรัก’ 
หลังจากนั้นโจเซฟรับปากพวกเราว่าจะพาเพื่อนสะใภ้มาเจอพวกเราอย่างเร็วที่สุด  หากสาวคนนั้นยอมตกลงเป็นแฟนด้วย  ก่อนจะได้เวลาแยกย้าย  เมื่อต่างฝ่ายต่างมีภารกิจสำคัญระดับชาติ  อย่างการไปเจอหน้าคนที่เรารัก  ส่วนไอ้ไรอันแม้จะไม่ต้องไปไหน  ด้วยคนๆนั้นอยู่ใกล้ตัว  แต่มันเองก็จะได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่กับเหมยอิง ชดเชยช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นกัน

...............................................

“พอลพาฝูหรงไปสนามบินหน่อยนะ”  ผมละสายตาจากถนนเบื้องหน้า  เพื่อหันมามองกระต่ายน้อยนิวลุคของตัวเองด้วยความแปลกใจ  ซึ่งแววตาของผมคงบอกความรู้สึกทั้งหมดจนฝูหรงรับรู้ได้ 

ฝูหรงส่งยิ้มหวานเฉียบใส่ตาผม  ก่อนจะยื่นมือมาเกาะแขน  มียื่นหน้าเข้าหานิด  และใช้ดวงตาแป๋วแหววจ้องผมไม่กระพริบด้วย  ภาพตรงหน้าทำเอาใจสั่น  แต่ผมก็มองภาพความน่ารักอยู่ได้ไม่นาน  เมื่อต้องหันมาให้ความสนใจการจราจรบนท้องถนน  แต่ภาพความน่ารักก็ยังติดตา  ทำเอาผมยิ้มไม่หุบ 

จนกระทั่งได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักถูกใจ  ตามมาด้วยเสียงเล็กๆที่เรียกชื่อผม  ทำให้ผมเริ่มสะกิดใจว่าการที่ฝูหรงขอผมไปสนามบินครั้งนี้  มันต้องมีอะไรบางอย่างที่พิเศษ  หรือมีคนพิเศษบางคนที่รออยู่ที่นั่น  ซึ่งความคิดนี้ของผมถูกตอกย้ำจากประโยคต่อมาของฝูหรง

“แพทริคมาฮ่องกง  วันนี้ฝูหรงเพิ่งรู้จากข้อความที่แพทริคส่งมา  พอลไปรับแพทริคกับฝูหรงนะครับ”  คิดว่าผมจะตอบคนน่ารักยังไงถ้าไม่ใช่การตอบรับอย่างยินยอม  แม้ในใจจะไม่ยินดีเท่าไหร่ที่จะได้เจอนายแพทริคอะไรนี่ 

ผมรู้ว่าอย่างไรซะวันนี้ก็ต้องมาถึง  วันที่ผมจะได้เห็นหน้าและทำความรู้จักกับญาติต่างสายเลือดของคนรัก

“ฝูหรง  ไอดีใจที่สุดที่ได้เจอยูอีกครั้ง  ‘My cute boy’...[จ๊วบ!]...ยูเปลี่ยนแปลงตัวเอง  รู้มั้ยว่าน่ารักขึ้นกว่าเดิมเป็นกองเลย”  คิดว่าไง  ผมจะอยู่เฉยได้มั้ยที่เห็นคนรักตกอยู่ในอ้อมกอดชายอื่น  แถมด้วยการถูกขโมยจูบแก้มไปฟอดใหญ่

“ฮึ่ม!...ช่วยระวังกิริยาหน่อย  ที่นี่ฮ่องกงไม่ใช่นิวยอร์ก”  หลังจากได้ตัวกระต่ายน้อยกลับคืนมาสู่อ้อมกอดแล้ว  ผมก็หันไปขึงตาใส่พร้อมเตือนนายแพทริคด้วยเสียงเข้มจัด 

แม้เหตุผลที่ยกมาอ้างจะดูไม่เข้าท่านักก็ตาม  ด้วยปัจจุบันนี้ฮ่องกงก็ไม่ต่างจากประเทศทางฝั่งตะวันตกนัก  เพราะการทักทายด้วยการกอดและจูบแก้มสามารถเห็นได้ทั่วไป  แต่จะให้ผมทำใจยอมรับวัฒนธรรมสากลในขณะนี้  ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะรับได้  ซึ่งไอ้ฝรั่งผมทองหน้าจืดเองก็ดูเหมือนจะรู้เท่าทันความคิดของผมเช่นกัน  เพราะมันเอามือล้วงกระเป๋ายกไหล่และเบ้ปากใส่ผมอย่างยียวน  ด้วยท่าทางกวนโมโหในสายตาผมอย่างที่สุด  แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก  ได้แต่กัดฟันอดทนไม่ให้เข้าไปสั่งสอนมันเท่านั้น

“เอ่อ  พอลนี่แพทริคที่เล่าให้ฟัง  แพทริคนี่พอลแฟนฝูหรงเอง...แพทริคมีกระเป๋าเท่านี้ใช่มั้ย...พอล  เราพาแพทริคกลับกันเถอะน้า”  หลังจากการแนะนำตัวที่ทำให้ผมเริ่มอารมณ์ดีขึ้น  และคนในอ้อมกอดผมได้คำตอบด้วยการพยักหน้าจากอีกฝ่าย  ที่กำลังจับมือทักทายกับผมด้วยใบหน้านิ่งสนิทแล้ว  ฝูหรงก็เงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้แก่ผม  พร้อมชวนกันกลับด้วยเสียงอ้อนๆไม่แพ้แววตา  ทำเอาผมใจอ่อนยวบยาบ

แม้ผมจะขัดใจในท่าทางของญาติต่างสายเลือดของฝูหรงไม่น้อย  ผมก็ได้แต่ข่มใจไว้  ด้วยไม่อยากให้คนรักต้องหนักใจมากไปกว่านี้  แต่แล้วความอดทนของผมเกือบหมดลง  เมื่อรถเข็นกระเป๋าถูกเข็นมาตรงหน้า  ตามมาด้วยประโยคธรรมดาแต่ให้ความรู้สึกที่ว่าผมกำลังถูกกวนประสาท

“มันเป็นธรรมเนียมที่แขกน่าจะได้รับการบริการจากเจ้าบ้าน...ผมฝากกระเป๋าด้วย”  ไม่เท่านั้น  ไอ้แพทริคยังอาศัยจังหวะที่ผมมัวแต่จ้องตาเอาเรื่องมัน  หันมาคว้าแขนกระต่ายน้อยที่อยู่กับอกผมออกไป  และกึ่งลากกึ่งจูงพาฝูหรงเดินนำหน้า

ผมเองก็ได้แต่ฟึดฟัดและรีบเข็นรถตามหลังร่างทั้งคู่  แม้ใจจริงอยากจะทิ้งกระเป๋าเน่าๆนี่ระหว่างทางก็ตาม  แต่คำว่าเจ้าบ้านและญาติของคนรักมันค้ำคอ 

ระหว่างที่ผมเดินตามคนทั้งคู่  ผมก็ได้แต่ใช้ความอดทนและจดความแค้นนี้ไว้เพียงในใจ  หมายมั่นว่ามีโอกาสเมื่อไหร่  ผมจะเอาคืนไอ้ลูกครึ่งหน้าจืดนี่ให้สาสมจงได้  แต่ยังดีที่ฝูหรงหันกลับมามอง  พร้อมส่งยิ้มส่งกำลังใจมาให้ผมเป็นระยะ  ชดเชยที่ผมต้องทนเห็นชายอื่นเดินใกล้ชิดกับเมียตัวเอง 

นี่ยังดีที่ไอ้แพทริคยอมปล่อยข้อมือของฝูหรง  ไม่เกาะแกะให้ผมรำคาญตาคันหัวใจไปมากกว่านี้

“พอลขอบคุณน้า  ฝูหรงรู้ว่าพอลอดทนและทำทุกอย่างเพื่อความสุขฝูหรง...[จุ๊บ!]...คืนนี้มีรางวัลให้”  จากที่อารมณ์ผมดิ่งลงเหวขุ่นมัวขนาดหนัก  คำพูดและการกระทำของกระต่ายน้อยช่างอ้อน  กลับทำให้อารมณ์ผมเริ่มกระจ่างขึ้น  และยอมที่จะขับรถเพียงลำพังตามหลังรถแท็กซี่  ที่มีคนรักของตัวเองกับชายอื่นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นญาติกัน  เพื่อเดินทางไปยังคอนโดเดิมที่ฝูหรงเคยพัก

ไม่ใช่ว่าผมอยากจะปล่อยกระต่ายน้อยแสนรักไปกับไอ้ลูกครึ่งหน้าจืดคนนั้น  แต่ก็เป็นไปอย่างจำยอมและจำใจมากกว่า  ด้วยวันนี้ผมขับรถสปอร์ตประจำตัวมา  ย่อมไม่สามารถบรรทุกกระเป๋าใบใหญ่และผู้ชายไซส์ควายป่าเพิ่มได้  แต่พอนึกถึง  ‘รางวัล’  ที่จะได้รับในคืนนี้  ผมจึงพอยิ้มออกได้หน่อย  อย่างน้อยในความรู้สึกของผมการมาฮ่องกงของนายแพทริค  เพื่อเยี่ยมฝูหรงก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียทั้งหมด

“เฮ้อ  เมื่อยชะมัด...อ้าวแล้วทำไมยูยังไม่กลับ  มาส่งเสร็จก็กลับได้แล้วมั้ง”

“แพทริค!”  แม้จะตกใจกับเสียงแหลมๆที่ดังแหวกอากาศเข้ามา  แต่ผมล่ะสะใจกับสีหน้ากระเง้ากระงอดของไอ้แพทริคปากดี  มันทำมาเป็นไล่ผม  สมน้ำหน้าโดนกระต่ายน้อยดุเข้าเลย  ถึงคราวที่ผมได้แสยะยิ้มเยาะเย้ยใส่มันบ้าง

“ไม่เป็นไรฝูหรง  งั้นเรากลับกันดีกว่า  ปาปามามารอทานข้าวอยู่”  ผมระบายยิ้มใส่ตาคู่กลมที่เริ่มมีแววลำบากใจ  ด้วยเจ้าของคงไม่อยากทิ้งแขกคนสำคัญไปเร็วนัก  ก่อนฝูหรงจะหันไปมองแขกหน้าฝรั่งอย่างลังเล

“วันนี้ยูกลับไปกับแฟนยูก่อนเถอะ  แต่พรุ่งนี้ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนไอนะ  ไม่ได้มาฮ่องกงนานแล้ว  ไอคิดถึงอาหารเทรดดิชั่นนอลของที่นี่”  ฟังเหมือนคนพูดเข้าอกเข้าใจและนึกเห็นใจคนของผมหนักหนา  แต่คุณก็ได้ยินถึงความร้ายกาจของไอ้แพทริค 

วันพรุ่งนี้มันคิดจะยึดฝูหรงไปเป็นของตัวเองทั้งวัน  ยิ่งได้เห็นสีหน้าเป็นต่อของมันนาทีนี้ด้วยแล้ว  ผมยิ่งยากอุ้มฝูหรงออกจากคอนโดแห่งนี้กลับบ้านของเราให้เร็วที่สุดนักเชียว

ในความเป็นจริงผมได้แต่ยืนตีหน้าขรึมพร้อมจ้องตา  คนที่นั่งเอกเขนกบนโซฟาอย่างสบายใจ  ด้วยไม่อยากให้อีกฝ่ายได้ใจไปกว่านี้ที่สามารถเอาคืนผมได้สำเร็จ  ส่วนคนกลางอย่างฝูหรงเองคงรับรู้บรรยากาศมาคุได้ไม่ยาก  เพราะคนน่ารักมีทีท่าอึกอักทำอะไรไม่ถูก  คงไม่กล้าตอบรับเพราะกลัวผมไม่พอใจ  และไม่อยากปฏิเสธคำขอของญาติที่ไม่ได้เจอกันนานนั่นเอง  ผมจึงตัดสินใจแทนคนรักซะเลย  ด้วยไม่อยากอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับนายแพทริคนี่นานกว่านี้แล้ว

“ตกลงพรุ่งนี้เจอกัน  กลับกันครับฝูหรง”  ผมฉวยโอกาสที่ฝูหรงมีทีท่าไม่เชื่อหูกับสิ่งที่ผมพูดอยู่นั้น  เข้าคว้าเอวบางก่อนพาเดินออกมาจากห้องพร้อมกัน  โดยไม่คิดแม้แต่จะล่ำลาเจ้าของห้องที่แท้จริง

จนกระทั่งเข้ามาอยู่ในลิฟต์ด้วยกันแล้วนั่นแหละ  กระต่ายน้อยขี้สงสัยจึงเอ่ยปากถาม  ว่าผมนั้นยอมให้เจ้าตัวไปเที่ยวกับแพทริคได้จริงๆเหรอ  ไม่เพียงแต่ผมจะพยักหน้าตอบรับ  เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ฝูหรงแล้ว  ผมยังระบายยิ้มใส่ดวงตากลมโตคู่ที่มีแววไม่เชื่อถือคู่นั้นด้วย  แต่รอยยิ้มของผมคงสื่อถึงความในใจมากไปหน่อย  ว่าผมนั้นได้วางแผนการบางอย่างไว้ดัดหลังไอ้ลูกครึ่งหน้าจืดคนนั้นแล้ว

“พอลคิดจะทำอะไรกันแน่”  สุดท้ายกระต่ายน้อยน่ารักก็เก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่จนได้  ผมจึงตัดสินใจกอบกุมดวงหน้าใสไว้ในอุ้งมือ

“บอกก่อนกระต่ายน้อยก็อดสนุกน่ะสิ  แต่เชื่อใจพอลนะ  ว่าไม่ได้คิดร้ายต่อญาติสนิทของฝูหรงสักนิด  ก็แค่...ฮึๆ”  แค่คิดก็สนุกแล้ว  จนผมเองยังหลุดหัวเราะออกมา

“หึ!  อย่าทำอะไรรุนแรงนะพอล  แพทริคก็ได้ชื่อว่าเป็นญาติพอลเหมือนกัน”  กระต่ายน้อยนี่ช่างคิดช่างพูดชะมัด  โยงนายแพทริคมาเป็นญาติผมจนได้  แต่ก็เป็นความจริง  ในเมื่อนายนั่นมีฐานะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับฝูหรง  ฝูหรงเองก็เป็นคนรักของผม  นายนั่นจึงเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมไม่ต่างกัน 

ความจริงที่ว่านี้ไม่มีผลต่อแผนการที่ผมวางไว้สักนิด  ด้วยมันยังจะต้องมีขึ้นอย่างแน่นอน  ‘หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง’  ญาติตัวร้ายต้องเจอญาติตัวแสบดูสักตั้ง  ดูสิว่าใครจะเหนือกว่าใคร!?

แต่ตอนนี้ผมขอกลับไปทวงรางวัลจากกระต่ายน้อยก่อนนะครับ  ไอ้รางวัลที่ว่าเนี่ยต้องสมน้ำสมเนื้อกับความอดทนของผมด้วย  ไม่งั้นผมไม่ยอม!?

....................................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

แพทริคที่เองเนอะที่เป็นตัวป่วนเบอร์ 3  แต่ดูท่าพอลเองก็ร้ายใช่เล่น
หาทางตอบโต้อย่างสมน้ำสมเนื้อทีเดียว  แต่ผลจะเป็นอย่างไร
คงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ 

ส่วนตอนหน้ามาดูกันว่ากระต่ายจะทำตามสัญญามั้ย
หรือพอลจะมีวิธีทวงสัญญาอย่างไร 
เจอกันในวันพุธนะคะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.แจ้งรีปริ้นท์นิยายชุด “เสน่ห์รัก” และ “บ่วงรัก” ค่ะ  ตามลิ้งค์ไปได้เลยน้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43497.new#new
ใครที่พลาดในรอบก่อนๆหรืออยากได้หนุ่มๆเก็บไว้  ติดต่อเข้ามานะคะ

 :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 12-09-2014 20:06:17
สงสัยคืนนี้ฝูหรงจะไม่ได้นอน ให้รางวัลกันทั้งคืน :z1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 12-09-2014 20:24:16
 :z1:
แอบย่องไปหลบอยู่ในตู้เสื้อผ้าในห้องฝูหรงกะพอล
 :hao6:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 12-09-2014 22:41:17
กระต่ายน้อยจะให้อะไรเป็นรางวัล  :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 12-09-2014 23:35:58
สุดๆอ่ะ  อยากเห็นโจวพอลเอาคืนแพททริกมาก :hao6:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 13-09-2014 00:08:45
 :m25: พรุ่งนี้กระต่ายน้อยลุกไม่ขึ้นแน่โดนทวงรางวัลเนี่ย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 13-09-2014 09:38:00
ญาติตัวร้าย กะ ญาติตัวแสบ ใครจะแสบและร้ายกว่ากัน  แค่นึกภาพก็น่าสนุกแล้ว
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 13-09-2014 12:49:26
กรี้ดดดด!!~~
จินนี่จะได้เจอคู่ปรับสมน้ำสมเนื้อแล้วจ้าาาา

 :katai5:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 13-09-2014 13:12:07
 :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 13-09-2014 13:13:42
 :mew3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 13-09-2014 16:57:45
พอลคงให้จินนี่มารับมือกับแพทริคแน่เลย
เจ้าเล่ห์เหลือเกินสามีของฝูหรงคนนี้
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 13-09-2014 19:52:50
สงายจะส่งแม่มดน้อยมาแน่ๆ
สนุกล่ะงานนี้
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 13-09-2014 20:31:49
อิๆๆๆกระต่ายน้อยน่ารัก
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 13-09-2014 23:06:27
งานนี้ท่าจะมันส์....ใช่ย่อยนะเนี้ยยยย :mc4: :mc4: o13
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-09-2014 11:57:34
พอลมีแผนร้าย!?จะส่งจินนี่ไปไฟท์กับแพททริกใช่ไหม?
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 14-09-2014 12:47:38
รอดูพอลทวงรางวัลจากกระต่ายน้อย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 15-09-2014 09:35:42
สองตัวป่วนมาเจอกันมันจะเป็นยังไง 5555
อย่าบอกนะว่าได้กันเอง อิอิ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: Tun_Bow ที่ 15-09-2014 14:06:32
พอลมีจินนี่เป็นไผ่ตายสินะ คุคุคุ
เอาจินนี่มาสู้แทน
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.22 "การมาเยือน" P.18 (12/9/57) ใคร!?UP
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 16-09-2014 18:21:26
ท่าทางจะมันส์ :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 17-09-2014 11:17:45
ตอนที่ 23

โจวพอล

“ยังไงก็พาญาติเรามาที่นี่ด้วย  มาทำความรู้จักกันไว้  ให้เห็นหน้าค่าตากันหน่อย  ไหนๆเราก็ได้ชื่อว่าเป็นคนของตระกูลโจวแล้ว”  สิ้นเสียงประมุขของบ้านอย่างปาปาฟู่สือ  สมาชิกใหม่คนล่าสุดของตระกูลโจวก็รับปากด้วยท่าทีแข็งขัน  ทั้งๆที่ผิวแก้มระเรื่อกับข้อความสุดท้ายของท่าน

ผมกับมามาได้แต่ส่งยิ้มให้กัน  และปล่อยให้ปาปาได้ซักถามลูกสะใภ้อย่างเต็มที่  พร้อมคอยคีบอาหารให้คนข้างตัวของเรา  เพราะดูท่าปาปากับลูกสะใภ้จะติดลมคุยกันไม่เลิก  จบเรื่องนั้นเปลี่ยนมาเรื่องนี้  ซึ่งส่วนมากก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับฝูหรงแทบทั้งสิ้น  ทำเอาผมยิ้มไม่หุบที่ได้รู้ว่าปาปาเอ็นดู  และมอบความรักให้คนรักของผมไม่น้อย 

ส่วนจุดเริ่มต้นของประเด็นสนทนาที่ได้ยินก่อนหน้านั้น  เกิดมาจากการที่ผมกับฝูหรงมาไม่ทันมื้อเย็นของบ้าน  เพราะต้องไปส่งนายแพทริคนั่นที่คอนโด  ไหนจะเสียเวลาไปกับการต่อปากต่อคำ  และกว่าจะฝ่าการจราจรมาถึงบ้านได้อีก  ทำให้ปาปามามาต้องหิ้วท้องรอ 

ฝูหรงรู้สึกผิดมากที่ทำให้ผู้ใหญ่ต้องลำบาก  ก่อนคนน่ารักจะรีบเข้าไปขอโทษพวกท่านเสียเป็นทางการ  ทำเอาปาปามามาตกใจใหญ่  จึงเป็นที่มาของบทสนทนาดังกล่าว  ด้วยฝูหรงเริ่มบอกเล่าถึงเหตุผลที่ทำให้เรามาช้า  แต่ยังดีที่ได้มามาชักชวนให้เริ่มมื้อเย็น แบบทานไปด้วยคุยไปด้วย  ซึ่งหาได้น้อยครั้งที่มื้ออาหารของบ้านเราจะครื้นเครง  ไปด้วยเสียงพูดคุยแทรกเสียงหัวเราะเป็นบางช่วงเช่นนี้  คงเริ่มเปลี่ยนแปลงตั้งแต่รับสะใภ้ใหม่เข้าบ้านนี่แหละ  จนถึงนาทีนี้มื้อเย็นเพิ่งจบลง

“พอลตามฉันมา”  ปาปาไม่เพียงใช้น้ำเสียงจริงจังกับผมเท่านั้น  แต่แววตาที่ท่านมองมายังผมก็จริงจังไม่ต่างกัน  ท่าทีแบบนี้ของท่านคงไม่พ้นต้องการรู้ความคืบหน้าของ  ‘เรื่องนั้น’ 

ผมรับคำท่าน  แต่ระหว่างที่ผมจะหมุนตัวเดินตามหลังปาปาไปนั้น  มือเล็กๆก็คว้าเข้ามาที่ข้อมือ  ยามหันไปมองก็พบว่าฝูหรงเงยหน้ารอผมอยู่ก่อนแล้ว  แถมดวงตาที่ได้สบก็ฉายชัดถึงความกังวล  กระต่ายน้อยคงกลัวว่าผมจะโดนปาปาต่อว่าเรื่องที่เรามาสาย  ผมจึงส่งยิ้มบางเบาใส่ตากลมๆคู่นั้น  พร้อมลูบผมนุ่มไปด้วย

“ไม่มีอะไรครับ  เดี๋ยวพอลมา”  เจ้าของหัวกลมๆภายใต้ฝ่ามือยอมพยักหน้าให้ผมช้าๆ  แม้แววตายังไม่คลายกังวลไปมากนักก็ตาม  แถมฝูหรงยังไม่ยอมปล่อยข้อมือผมให้เป็นอิสระง่ายๆ  จนมามาที่นั่งอยู่ด้วยต้องเอ่ยปากว่าไม่มีอะไรต้องกังวลนั่นแหละ  กระต่ายน้อยขี้กังวลถึงยอมทิ้งมือลงข้างตัว

ผมจึงตัดสินใจก้มหน้ากดจมูกแช่เข้าที่หน้าผากเนียน  ท่ามกลางสายตาของมามาอีลิน่าที่มองมาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ  พร้อมกระซิบบางเบาขยายความว่า  การที่ปาปาเรียกผมไปนั้นเป็นเรื่องงาน  และได้แต่บอกเจ้าตัวว่าไม่ต้องเป็นห่วง  จนผมได้ยินเสียงอือออตอบรับนั่นแหละ  ถึงจะปลีกตัวเดินตามปาปาเข้าไปยังห้องหนังสือ 

จากหางตาผมเห็นว่าฝูหรงมองตาม  ด้วยทีท่าเป็นห่วงเป็นใยแบบไม่วางตา  ผมพอเข้าใจอาการเหล่านั้นของกระต่ายน้อยได้  ในเมื่อท่าทางของปาปาที่มีต่อเจ้าตัวนั้น  แตกต่างจากท่าทางที่มีต่อผมผู้เป็นลูกชายมากนัก  เปรียบดั่งการพลิกฝ่ามือในเสี้ยววินาทีก็ว่าได้ 

ผมรู้ว่ายามใดที่ปาปาฟู่สือมีท่าทางเงียบขรึมจริงจัง  ยามนั้นมักจะมีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ  เพราะหากเป็นเวลาทั่วไปโจวฟู่สือเจ้าพ่ออสังหาฯมือหนึ่ง  ก็เป็นเพียงหัวหน้าครอบครัวธรรมดาคนหนึ่ง  หรือแม้แต่การเป็นผู้ชายพูดน้อยแสนอบอุ่นและรักจริงสำหรับคู่ชีวิต  และเป็นพ่อที่ใส่ใจพร้อมให้ความรักแก่ลูกอย่างเต็มเปี่ยมเสมอ  แต่ท่านก็มักแสดงออกถึงความรักทางภาษากายมากกว่าคำพูด  บวกกับท่านไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยอยู่แล้ว 

การที่ปาปาจะมาต่อว่าผมด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างที่ฝูหรงกังวลนั้น  ย่อมไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน  และผมก็คิดถูก  ด้วยพอผมปิดประตูห้องสนิทดีแล้ว  ปาปาก็เปิดประเด็นเรื่องงานที่มอบหมายไว้ให้แก่ผมขึ้นมาทันที

“ฉันเห็นสัญญาโอนแล้ว  แต่เหมือนจะมีเรื่องใช่มั้ย  ตกลงเป็นฝีมือใคร”  ปาปาหมุนตัวกลับมามองผมและจ้องเอาคำตอบ

“ครับ  ผมให้คนตามเรื่องมาแล้ว  เป็นบริษัทซินจางกรุ๊ปอยู่เบื้องหลังเรื่องวุ่นๆทั้งหมด”  สิ้นเสียงของผม  ปาปาเงียบไปเลย  ก่อนจะเดินไปนั่งยังโซฟาเดี่ยวข้างหน้าต่าง  และถอนใจเฮือกใหญ่

“ไม่เคยยอมอะไรง่ายๆ  ขอให้ได้ขัดขาก็ยังดีสินะ  แต่คนของเรานี่สิ  ไม่น่าเลย...แกเองก็ระวังตัวหน่อยแล้วกัน  วงการนี้ประมาทไม่ได้  รู้หน้าไม่รู้ใจ...โจวพอล  ถือว่าครั้งนี้แกทำได้ดีมาก”  ผมยิ้มรับคำชมของปาปา  ก่อนจะก้มหัวให้ท่านด้วยความดีใจ  ด้วยน้อยครั้งที่ปาปาจะเอ่ยชมผมตรงๆเช่นนี้  จากอุปนิสัยที่เป็นคนปากหนัก  ถึงขั้นแข็งกร้าวในบางครั้งนั่นเอง 

หลังจากนั้นปาปาให้ผมเล่ารายละเอียดของเรื่องทั้งหมด  หากยังจำกันได้ว่าปาปาได้มอบหมายให้ผมจัดการผืนดินทองคำผืนหนึ่ง  ด้วยท่านเห็นถึงความไม่ปกติของขั้นตอนการติดต่อซื้อขายที่ดินผืนนี้  ซึ่งหลังจากที่ผมได้รับมอบหมายมา  ผมศึกษารายละเอียด  ก่อนลงพื้นที่เข้าเจรจากับเจ้าของที่ดินด้วยตัวเอง  ซึ่งผมก็พบความผิดปกติทันที  ด้วยซินจางกรุ๊ปตัดหน้าเข้าเจรจาและอัพราคาที่ดิน  ก่อนผมจะไปถึงไม่เกินหนึ่งชั่วโมง  โดยทางนั้นให้ราคามากกว่าที่ทางเราเตรียมเสนอไว้  ทั้งๆที่เรื่องนี้ไม่ควรเล็ดลอดออกไป  เดาได้ไม่ยากว่าต้องมีคนในของบริษัทเป็นหนอน 

บริษัทเรายังโชคดีที่ทางเจ้าของที่ดินยังไม่ได้รับเงิน  หรือยังไม่แม้แต่เซ็นโอนที่ให้กับทางซินจาง  เพียงแค่รับข้อเสนอไว้พิจารณาเท่านั้น  ทำให้ผมมีเวลาที่จะโน้มน้าวให้เจ้าของที่ดินขายให้กับ  Joe  F.H.  Estate  และถือว่าโชคเข้าข้างผม  เมื่อเจ้าของที่ดินผู้เป็นหญิงชราม่ายที่เพิ่งสูญเสียลูกชายคนเดียวไป  ซึ่งลูกของเธอมีอายุใกล้เคียงกับผม  ดังนั้นเธอจึงเอ็นดูผมเป็นพิเศษ  ยามที่ผมเทียวไปหาและซื้อบรรดาอาหารกับของบำรุงไปให้  ด้วยเล็งเห็นแล้วว่ากรณีเช่นนี้เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด  ความรักและความใส่ใจอย่างลูกหลานมากกว่าคือสิ่งที่หญิงชราม่ายต้องการ 

ไม่นานหลังจากนั้นเธอตัดสินใจจะขายที่ดินติดทะเลที่เธออาศัยมาทั้งชีวิตให้แก่ผม  แต่การตัดสินใจครั้งนี้กลับส่งผลร้ายกับเธอ  เมื่อทางซินจางกรุ๊ปส่งคนมาข่มขู่  แต่ดีที่มีคนของตระกูลหวางเข้าช่วยไว้ทัน  ด้วยก่อนหน้าผมได้ขอร้องหลี่ผิงให้ช่วยส่งลูกน้องไปช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยให้เธอ  เมื่อผมรู้เรื่องผมรีบไปหาเธอทันที  ก่อนหญิงชราจะตัดสินใจเซ็นโอนที่ดินผืนนั้นให้แก่เรา 
ถึงแม้งานที่ผมได้รับมอบหมายจะบรรลุเป้าหมายอย่างสวยงาม  แต่ผมก็ไม่คิดทิ้งหญิงม่ายผู้น่าสงสาร  ด้วยผมนั้นติดต่อบ้านพักคนชราที่ดีที่สุดไว้  ดูเหมือนผมเป็นคนใจร้าย  แต่ขอให้เชื่อเถอะว่าสถานที่ที่ผมเลือกนั้น  เหมาะสมกับหญิงชราผู้ว้าเหว่แล้ว  เพราะมีคนดูแลที่มีความรู้เกี่ยวกับผู้สูงอายุ  และเป็นสถานที่ที่กว้างขวางร่มรื่นไปด้วยต้นไม้  แถมยังมีเพื่อนในวัยเดียวกันคอยเป็นเพื่อนคุยคลายเหงาได้อีกด้วย 

ดีกว่าที่เธอจะมาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังใหญ่กับคนรับใช้เพียงลำพัง  ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นไปตามความต้องการของเธอด้วย  อย่างช่วงเช้าวันนี้ยามผมไปเยี่ยมเธอ  ผมได้พบกับหญิงชราคนใหม่  ผู้มีรอยยิ้มสดใสพร้อมแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข 
การทำงานครั้งนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย  ที่นอกเหนือคำว่าธุรกิจและผลประโยชน์

“พอล  แกทำได้ดีไอ้ลูกชาย”  คราวนี้ไม่เพียงปาปาจะเอ่ยปากชมผมเท่านั้น  แววตาท่านก็ฉายชัดว่าภูมิใจในตัวลูกชายอย่างผมไม่น้อย  แต่ผมคงตาฝาดที่ได้เห็นแววหม่นเศร้าจางๆในดวงตาของท่าน  เพราะมันฉายอยู่ชั่วแวบก่อนจางหายไปอย่างรวดเร็ว

ส่วนหนอนที่ชอนไชอยู่ในบริษัทนั้น  เป็นพนักงานฝ่ายบัญชีที่มีความสามารถระดับแถวหน้าของบริษัท  แต่ด้วยความโลภเห็นแก่ยอดเงินในบัญชี  และตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นที่ซินจางกรุ๊ปเสนอให้  ทำให้เธอคิดหักหลังบริษัทเราที่อุ้มชูสอนงานและให้รายได้  ตั้งแต่เป็นนักศึกษาจบใหม่เมื่อห้าปีก่อน  ด้วยการเอาความลับไปบอกกับพวกซินจาง  ซึ่งงานนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอลงมือ  เพียงแต่ครั้งนี้เป็นงานใหญ่มีผลตอบแทนสูง  หากซินจางได้เป็นเจ้าของที่ดินแถวชายทะเล 

เธอจึงกล้าเสี่ยงเอายอดเงินที่ผมเตรียมเสนอให้เจ้าของที่ดินไปเปิดเผย  จึงไม่แปลกที่ผมจะสาวถึงตัวคนทำ  ด้วยมีไม่กี่คนที่ทราบยอดตัวเลขที่ผมเตรียมเสนอซื้อ  และฝ่ายบัญชีย่อมถูกเพ่งเล็งก่อนใคร  ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสาวหาตัวการ  และคงไม่ต้องบอกว่า  Joe  F.H.  Estate  จะปล่อยให้คนผิดลอยนวล  เพียงแต่บทลงโทษอย่างการไล่ออก  ไม่ได้ทำให้ผู้ที่มีงานรองรับอยู่แล้ว  คิดจะแยแสในบทลงโทษนี้

“ปล่อยเธอไปเถอะ  เพราะเราไม่ได้เสียหายมากมายอะไร  ถือว่าเป็นการลงทุนกำจัดหนอนบ่อนไส้ที่แฝงตัวอยู่ในบริษัท...ส่วนทางซินจาง  ฉันอยากให้แกจับตาดูทางนั้นไว้  เราไว้ใจพวกมันไม่ได้”

“ครับปาปา”

“เอาล่ะ  นี่ก็ได้เวลาพักผ่อนแล้ว  รีบไปดูแฟนแกไป  ป่านนี้ไม่กังวลแย่แล้วรึ...เด็กอะไร  ขี้กังวลเกินเหตุ”  ปาปาพูดแบบนี้แสดงว่า  อาการของกระต่ายน้อยอยู่ในสายตาท่านตลอด  ดูท่าปาปาฟู่สือจะเอ็นดูฝูหรงไม่น้อยเลยทีเดียว 

งานนี้ผมยอมเป็นลูกชายที่ตกกระป๋อง  และปล่อยให้เมียรักขึ้นแท่นเป็นลูกรักคนใหม่แต่โดยดี

“หืม  เป็นอะไรครับ  ทำไมมองพอลแบบนั้น”  ผมสังเกตมาพักหนึ่งแล้ว  ด้วยเห็นว่าฝูหรงเหลือบมองมาที่ผมเป็นระยะ  ตั้งแต่ผมไปรับเจ้าตัวที่ห้องนั่งเล่น  กระทั่งเราสองคนเดินจนเกือบถึงห้องส่วนตัว

“ปาปาเรียกไปคุยเรื่องอะไร  ทำไมสีหน้าท่านตอนเรียกพอลไป  กับตอนออกมา  แตกต่างกันขนาดนั้นล่ะ”  ใบหน้าเล็กๆที่แสดงออกถึงความกังวล  และแววตาที่ฉายแววแห่งความสงสัยใคร่รู้ของฝูหรงนั้น  แม้ไม่ได้มีเพื่อผม  แต่เชื่อมั้ยว่าผมกลับรู้สึกดีและมีความสุขชะมัด 

เมื่อได้รับรู้ว่าช่วงระยะเวลาไม่นาน  สามารถก่อเกิดสายใยและความรู้สึกผูกพันเหนียวแน่น  ระหว่างปาปาและฝูหรงผู้เป็นพ่อสามีกับลูกสะใภ้ได้เร็วเช่นนี้  ยังไม่รวมถึงความรักความเอ็นดูเต็มเปี่ยมแต่แรกเจอของมามาที่มีให้ลูกสะใภ้นะครับ 

ดังนั้นนาทีนี้ผมจึงได้แต่ฉีกยิ้มกว้างใส่ตากลมๆ  แทนที่จะเป็นการอมยิ้มน้อยๆตามที่เป็นมาตลอดทาง  จนคนตัวเล็กตรงหน้าเริ่มที่จะมีสีหน้าบูดบึ้งไม่ได้ดังใจบ้างแล้ว  ด้วยคงคิดว่าผมตั้งใจกวนอารมณ์ซะมากกว่า  จนผมอดใจไม่ไหวจึงรวบกอดร่างน้อยเต็มแรง  ก่อนจะฟัดแก้มใสด้วยความมันเขี้ยว  และคงไม่ต้องบอกว่ากระต่ายน้อยจะมีปฏิกิริยาอย่างไร  ถ้าไม่ใช่ออกอาการโวยวาย  แต่ก็เป็นอยู่ได้ไม่นาน  เมื่อผมแกล้งงับเข้าที่ผิวอ่อนตรงซอกคอ

“หึ้ย!  ไรเล่า  อ่ะ!...ฮึๆ  ฮ่าๆ  พอล  ไม่เล่น  ฮ่าๆ”  เสียงหัวเราะสดใสกับรอยยิ้มกว้างขวางของฝูหรง  ทำเอาผมเคลิ้มและหยุดหยอกเย้าคนน่ารักอย่างไม่รู้ตัว 

ยิ่งตากลมๆที่ทอประกายสดใสด้วยแล้ว  ยิ่งดึงดูดให้ผมหลงใหล  จนคนโดนมองเริ่มรู้ตัว  กระต่ายน้อยค่อยๆหยุดเสียงหัวเราะลง  เปลี่ยนมามองผมด้วยความระแวงกึ่งขัดเขิน  มีเอนตัวหนีอ้อมกอดผมพร้อมอาการหลบตา  ทั้งๆที่แก้มใสขึ้นสีระเรื่อน้อยๆอย่างน่ามอง

“คิกๆ  หือ...อ่า  จะจ้องอะไรนักหนาเล่า  พอลน่ะชอบแกล้งฝูหรงอยู่เรื่อยเลย...ก็รู้ว่าเขิน  อ๊ะ!  ก้มมาใกล้กันเกินไปแล้ว”  เสียงเล็กๆที่ดังขึ้นเบาๆกับอกมาตลอด  แทบจะสลายหายไปกับอากาศในช่วงประโยคสุดท้าย 

ผมเองที่อยู่ใกล้แสนใกล้ยังแทบไม่ได้ยิน  จึงจงใจโน้มตัวก้มหน้าเข้าหาแหล่งกำเนิดเสียง  ทำให้ริมฝีปากแดงฉ่ำขยับปัดป่ายไปมาแถวข้างแก้ม  ทำเอากระต่ายน้อยขี้เขินถึงกับสะดุ้ง  และเอ่ยต่อว่ากันแบบไม่จริงจังนัก  แต่ก็เป็นไปในแบบที่คนต่อว่าไม่กล้าสบตากัน 

ผมจึงตัดสินใจคลายอ้อมกอด  และจับจูงมือน้อยเพื่อพาเจ้าของให้ออกเดินอีกครั้ง  ตั้งใจทอดเวลาให้ฝูหรงได้มีเวลาหายใจพักแก้มร้อนๆลงบ้าง  แต่เมื่อเราได้มาอยู่ในห้องด้วยกันแล้ว  ผมก็หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับกระต่ายน้อยตาแป๋ว  ที่ก็เหมือนเจ้าตัวรอผมอยู่ก่อนแล้ว  ด้วยฝูหรงเงยหน้ามองผมตาไม่กระพริบ  ผมจึงเชยคางมนขึ้นอีกนิด  และโน้มตัวเข้าหาดวงหน้าสว่างใสอย่างช้าๆ 

“ช่างใส่ร้ายพอลนะกระต่ายน้อย  พอลไม่ได้แกล้ง  แต่พอลไม่เถียงว่าพอลชอบ...ชอบตากลมๆคู่นี้ที่สะท้อนให้เห็นเพียงแค่ใบหน้าพอล”  ผมประทับจูบลงบนเปลือกตาบางใสทั้งคู่  ก่อนผละห่างและรอจนขนตาหนากระพือเปิดให้เห็นตากลมๆที่ผมหลงใหลอีกครั้ง

“พอลชอบจมูกแหลมๆนี้  ที่บ่งบอกนิสัยดื้อรั้นของกระต่ายน้อยขี้งอนของพอล...เพราะชอบที่จะตามง้อตามเอาใจ  แต่ที่ชอบกว่านั้นคือชอบช่วงเวลาที่ฝูหรงยอมใจอ่อนให้กับพอล  เหมือนอย่างตอนนี้ไงครับ”  นอกจากที่ผมจะจงใจส่งยิ้มบาดตาใส่ดวงตากลมๆที่จ้องผมไม่กระพริบแล้ว 

ผมยังยื่นมือไปคีบปลายจมูกแหลมๆเป็นการยืนยันคำพูด  จนคนที่ชักจะขี้งอนบ่อยครั้ง  ถึงกับแสยะยิ้มมีสะบัดค้อนน้อยๆให้ผมที่รู้ทัน  ตามมาด้วยพยายามปัดมือผมออกจากจมูกตัวเอง  ผมจึงเลือกที่จะคว้าฝ่ามือนุ่มข้างนั้นไว้  ก่อนนำมาวางไว้แนบอกซ้าย  โดยมีมือผมวางประกบบนหลังมืออีกที  พร้อมใช้มือข้างที่ว่างจิ้มลงบนแก้มใสที่เริ่มพองลม  เพราะเจ้าของเริ่มมีอาการฮึดฮัดขัดใจที่ทำอะไรผมไม่ได้

“แก้มป่องๆนี่อีก  รู้มั้ยว่าพอลก็ชอบมันมาก  เพราะเวลาที่พอลทำแบบนี้...[ฟอดดดด]...ทีไร  กำลังใจที่เคยหดหาย  มันกลับมาจนเกือบเต็มทุกครั้งเลย”  ไม่ใช่แค่พูดว่าชอบอย่างไร  แต่ผมเลือกที่จะทำให้ฝูหรงรู้ด้วย  ว่าการที่กำลังใจคืนกลับมาได้นั้นผมทำแบบไหน  จนเจ้าของแก้มแดงยู่หน้ายื่นปากเข้าใส่

“ตลอด  หึ!...ขนาดฝูหรงเสียแก้มให้พอล  กำลังใจที่ว่าแค่เกือบเต็มแค่นั้นเองเหรอ”  ผมล่ะเกือบหลุดขำให้กับกระต่ายน้อยแก้มแดง  ที่แกล้งประชดกลบเกลื่อนความเขินของตัวเอง  จึงจัดให้อีกข้างเสียฟอดใหญ่  เสียงดังได้ไม่แพ้ก่อนหน้าเลยทีเดียว  ก่อนจะจับปลายคางแหลมๆเขย่าให้พอหายมันเขี้ยว

“ฮึๆ  เดี๋ยวนี้ประชดเป็นแล้วน้า  แค่แก้มกำลังใจก็แค่เกือบเต็มสิครับ  แต่ปากแดงๆคู่นี้ต่างหาก  ที่พอลชอบที่สุด  เพราะมันสามารถเติมกำลังใจกลับมาให้พอลจนเต็ม”  คงไม่ต้องบอกว่าผมเต็มใจสาธิตการเติมแรงใจด้วยวิธีนี้แค่ไหน  เรียกได้ว่าในเวลาไม่นาน  ร่างน้อยในอ้อมกอดผมอ่อนระทวยจนยืนไม่ไหวเชียวล่ะ

ผมจึงได้โอกาสอุ้มกระต่ายน้อยตาเยิ้มปากฉ่ำวาวไว้กับอก  และตรงไปยังเตียงนอนของเรา  แต่แรงดิ้นน้อยๆของฝูหรง  ทำให้ผมรู้ว่ามนต์จุมพิตที่ร่ายไว้ได้คลายมนต์สะกดเร็วกว่าทุกที

“ไหนว่ามีรางวัลให้พอลไงครับ”  แน่ะ!  กระต่ายน้อยทำงง  จ้องกลับผมตาแป๋ว

ผมจึงขยายความและทวงสัญญาที่ฝูหรงให้ผมไว้  เล่นเอาคนที่ผมผ่อนร่างลงบนเตียงถึงกลับตาโตที่นึกขึ้นได้  และมีอาการเลิ่กลั่กไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

“เออ  อ่า  ตอนนั้นมัน”

“ฝูหรงจะเบี้ยวพอลเหรอครับ  น่าน้อยใจชะมัด  เรารึอุตส่าห์ยอมให้นายนั่นโขกสับ  คนของเราไม่เห็นใจไม่พอ  ยังคิดจะผิดสัญญาอีก”  แสร้งน้อยใจเข้าไว้ครับ  อย่างไรซะคืนนี้ผมต้องได้รางวัลชิ้นโตให้จงได้

“หึ!  ปากก็บอกว่าน้อยใจ  แต่การกระทำนี่สวนทางชัดๆเลยนะพอล  อื้อออ  พอลจะเลียทำไมเล่า”  อ้าวนี่ผมเผลอตัวชิมผิวสวยๆแถวซอกคอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน 

ผมจึงได้แต่ส่งยิ้มอ้อนๆใส่ตาวาวๆที่มองมา  และผมก็แทบเฮเมื่อฝูหรงเอ่ยปากว่าจะให้รางวัลแก่ผม

“ก็ได้  แต่พอลขยับตัวออกไปหน่อยสิ  ทับกันไว้แบบนี้  ฝูหรงจะให้รางวัลถนัดได้ไง”  ผมหรี่ตามองกระต่ายน้อยที่เปลี่ยนท่าทีรวดเร็วชนิดที่ทำผมสงสัย  แต่รอยยิ้มหวานๆ  แววตาหวานฉ่ำ  และสัมผัสนุ่มๆที่แก้มจากฝ่ามือน้อย  ทำให้ผมเลิกใส่ใจกับความสงสัยชั่วแวบ 

ผมยอมที่จะลุกออกมาจากร่างน้อย  และผมก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม  เมื่อฝูหรงลุกตามขึ้นมานั่งคร่อมตักประจันหน้ากัน  พร้อมคล้องแขนไว้รอบลำคอผม

“หลับตาก่อนสิ  จ้องกันขนาดนี้  ใครจะกล้า...หึ!  ไม่ต้องกลัวหรอกน่าว่าจะเบี้ยว”  กระต่ายน้อยฮึดฮัดเชียว  แค่ผมส่ายหน้าปฏิเสธไม่ยอมทำตาม 

เดี๋ยวนี้ดีกรีความเจ้าเล่ห์ของฝูหรงมีน้อยซะที่ไหนกัน  ผมกลัวว่าพอหลับตาแล้ว  กระต่ายน้อยเจ้าเล่ห์จะกระโดดหนี  เบี้ยวรางวัลที่สัญญาไว้น่ะสิครับ  แต่คนน่ารักก็รู้เท่าทันความคิดของผมเข้าจนได้

“ฮึๆ  ครับๆ  ไม่เบี้ยวก็ไม่เบี้ยว...อ่ะ  พอลหลับตาแล้ว  ยอมขนาดนี้ขอแบบจัดหนักเลยน้า...เร็วสิครับกระต่ายน้อย~”  เห็นผมปากดีหยอกเย้าคนน่ารักเล่นแบบนี้  แต่รู้มั้ยว่าหัวใจในอกผมนี่เต้นแรงแค่ไหน  ด้วยอดลุ้นรางวัลใหญ่แบบจัดหนักที่ฝูหรงจะเป็นคนมอบให้ไม่ได้จริงๆ 

รางวัลที่ว่าก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้วด้วย  จากลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดแถวปลายจมูก  จนผมเองถึงกลับกลั้นลมหายใจแบบไม่รู้ตัว  จนกระทั่ง...

“...ฟอดดด!...ฟอดดด!!...จุ๊บ!!!...จุ๊บ!!!!.....พรึ่บ!.....จัดให้แล้วนะรางวัลแบบจัดหนัก  คิกๆๆ...ปึง!”

‘มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันครับเนี่ย!!’  ตอนนี้ผมได้แต่นั่งอึ้งกับรางวัลแบบจัดหนักของกระต่ายน้อยแสนรัก  ผู้ที่มอบรางวัลคอมโบเซตให้ผมเสร็จ  ก็กระโดดลงจากตักและวิ่งฉิวหนีไป  แถมมีเสียงลอยมาให้ได้ยิน  พร้อมเสียงหัวเราะร่วนตอกย้ำให้ผมช้ำใจเล่นอีก  จนเสี้ยววินาทีถัดมาผมจึงได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิดลง  มันน่ามันเขี้ยวชะมัด

ส่วนรางวัลแบบจัดหนักที่ฝูหรงให้ผมคือ  การหอมแก้มผมทั้งซ้ายและขวา  ก่อนจะจูบที่กลางหน้าผาก  และจบด้วยการจูบเข้าที่ปลายคาง  ไอ้ที่ผมหวังไว้มันไม่ใช่แบบนี้  ผมไม่น่าหลงกลกระต่ายน้อยเจ้าเล่ห์เลยให้ตายสิ  ไม่เช่นนั้นป่านนี้ผมคง...

“พอล!!”

“เฮ้ยยยย!!!”  ผมสะดุ้งสุดตัวและร้องสุดเสียง  จากเสียงชื่อผมที่ดังขึ้น  พร้อมมีฝ่ามือเย็นๆประกบเข้าที่ข้างแก้ม

“ฮ่าๆ  ทำหน้าตลกอ่ะ  ฮ่าๆ”  กระต่ายน้อยเดี๋ยวนี้ร้ายนัก  มีกลับมาแกล้งให้ผมตกใจเล่นอีก  กลับมาแบบนี้ก็เข้าทางสิ  จับกินซะให้หมดเรื่อง 

คิดได้ดังนั้น  ผมก็รวบกอดร่างน้อย  และกดลงกับเตียงอีกครั้ง  พร้อมตรึงข้อมือทั้งคู่ไว้เหนือหัว

“ใครน้าที่ว่าพอลชอบแกล้ง  ฝูหรงเองต่างหากที่ชอบแกล้งพอล...ตกใจหมดเลยรู้มั้ย  แล้วเมื่อครู่อะไรครับ  รางวัลแบบจัดหนัก!?”  ผมเลิกคิ้วใส่ตาคู่กลมที่ยังมีแววระยิบระยับไม่เปลี่ยน  และเริ่มแปลกใจกับท่าทางไม่หวั่นของกระต่ายน้อยใต้ร่าง  ทั้งๆที่อยู่ในท่วงท่าที่แสนเสียเปรียบ

“อืม  รางวัลแบบจัดหนักไง...แต่ก็เป็นแค่ออเดิร์ฟ”  ‘หืม!  คุณได้ยินเหมือนผมใช่มั้ย’ 

สิงห์เจ้าป่าแสนเจ้าเล่ห์อย่างผมตกหลุมกระต่ายน้อยเข้าแล้ว  เริ่มจากยั่วให้อยากก่อนจากไปพร้อมความหวัง  และกลับมาทำให้ตกใจด้วยการหยิบยื่นสิ่งที่ผมคิดว่าหลุดมือไปแล้วให้อีกครั้ง

“หมายความว่าไงครับ”  ผมยอมกลายเป็นสิงห์เจ้าป่าที่แสนโง่เขลาในสายตากระต่ายน้อยช่างยั่ว  เพื่อให้แน่ใจในสิ่งที่คิด

“อะไรกัน  มาถึงขนาดนี้แล้วแท้ๆ”  แม้ฝูหรงจะทำใจกล้ายั่วยวนผมด้วยท่าทาง  และเปิดโอกาสให้ผมด้วยคำพูด  แต่ไม่สามารถกลบเกลื่อนความเขินภายในใจได้มิด 

เมื่อดวงตาคู่กลมเริ่มหลบตากัน  ยามผมมองอย่างรู้เท่าทัน  แถมด้วยแก้มใสที่เริ่มแต่งแต้มไปด้วยสีแดงจางๆ  ก่อนจะลามไปทั้งหน้ายามที่เจ้าตัวยื่นหน้าเข้าหาผม

“วันนี้ขอบคุณพอลนะที่เข้าใจฝูหรง  ยอมไม่มีเรื่องกับแพทริค  และไม่สร้างความลำบากใจให้...รักพอลนะ”

“ฮึๆ  รักฝูหรงเหมือนกันครับ  ถ้างั้น...ขอรับรางวัลเลยน้ากระต่ายน้อย”

“อืม.....พอล~”

คงไม่ต้องบรรยายคุณก็น่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  และบอกได้คำเดียวว่าสมกับเป็นรางวัลแบบจัดหนัก  หนักชนิดที่ว่าหากกระต่ายน้อยไม่หลับไปซะก่อน  คงมีต่อยันเช้า  ฮึๆ

..............................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

รางวัลแบบจัดหนักครั้งนี้คงทำให้พอลเปรมปรีดิ์ไปเลยล่ะน้า   o18
เหตุการณ์วุ่นๆระหว่างงานที่พอลเจอ  บอกเลยว่าอาจจะมีลูกติดพันตามมา
แต่จะมาแบบไหนอย่างไรอดใจรอกันก่อนค่ะ

ตอนหน้าเรามาติดตามกันดีกว่า  ว่าระหว่างญาติตัวป่วนกับญาติตัวแสบ
ใครจะแน่กว่ากัน  ในจินนี่ปะทะแพทริค!?
ติดตามได้ในวันจันทร์ค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.แจ้งรีปริ้นท์นิยายชุด “เสน่ห์รัก” และ “บ่วงรัก” ค่ะ  ตามลิ้งค์ไปได้เลยน้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43497.new#new
ใครที่พลาดในรอบก่อนๆหรืออยากได้หนุ่มๆเก็บไว้  ติดต่อเข้ามานะคะ

 :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 17-09-2014 12:08:39
ทำดีก็ต้องได้รางวัลเนอะพอล  :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 17-09-2014 13:30:20
เป็นรางวัลจัดหนักและจัดเต็ม  เพราะความน่ารักของฝูหรง  จึงทำให้ครอบครัวพอลรักและเอ็นดูฝูหรง
 
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 17-09-2014 14:11:53
ฝูหรง นี่น่ารักจริงๆ เลยน้า

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 17-09-2014 14:56:58
ฝูหรงเริ่มซึมซับอะไรๆจากพอลและคนรอบตัวมากขึ้นแล้วสิ
ไม่ใช่กระต่ายตัวน้อยที่แสนขี้อายและไม่พูดเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ
มันเป็นการพัฒนาการที่ดีมาก ทำให้ใครหลายคนต่างหลงไปตามๆกัน
พอลไม่ต้องพูดถึง ถ้าพกใส่กระเป๋าได้คงทำไปแล้วล่ะ :laugh:
ตอนหน้านี่สิน่าดู ไม่รู้ว่าใครจะแสบกว่ากัน ต้องติดตาม
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-09-2014 14:59:46
ฝูหรงจัดหนักให้แล้วนะพอล~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 17-09-2014 15:01:20
ฝูหรงน่ารักมากๆๆๆๆ แย่งมาจากโจวพอลได้มั๊ย :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 17-09-2014 15:56:29
พอลนี่เรียกร้องรางวัลหนักจริงๆน้า
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 17-09-2014 15:58:37
โมเม้นท์มุ้งมิ้ง ~.~

วันจันทร์หน้าแซ่บแน่
ญาติปะทะญาติ อิอิ >.<
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 17-09-2014 16:14:18
ฝูหรง น่ารัก น่าหลงจริงๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 17-09-2014 16:33:40
 :z1: :z1: :z1:
จัดหนักแบบที่ว่าอยากรู้อะว่าจะหนักแค่ไหน
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 17-09-2014 17:13:32
ฝูหรงทำคนอ่านหลงแล้วเนี่ย 55555
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 17-09-2014 17:29:00
รางวัลแบบนี้พอลคงชอบใจมาก
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 17-09-2014 23:05:38
ฝูหรงไหวไหมหนออออ....พอลได้รางวัลแบบจัดเต็มเลยยย :hao5: :hao5:
ตอนหน้า ท่าจะมันส์เนอะ :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 18-09-2014 00:32:54
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ฝูหร๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

มาให้เค้าฟัดแก้มันเขี้ยวทีสองทีเถอะ

น่ารักเกินไปแล้ววววววว

ตอนหน้ามันส์จ้าาาา หึหึหึ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 18-09-2014 07:07:07
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 18-09-2014 09:08:29
กระต่ายน้อยฝูหรงจะน่ารักไปถึงไหนเนี่ยยย
 :mew3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-09-2014 10:56:32
รางวัลที่ได้ ช่างน่างสงสารฝูหรงจัง คงจะเพลีย อิอิ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 18-09-2014 16:36:25
ฝูหรงเจ้าเล่ห์ขึ้น
หัวข้อ: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: THE KOP ที่ 18-09-2014 20:09:40
คนทำดีก็ต้องมีรางวัลให้อ่ะเนาะ แล้วก็เป็นรางวัลที่พอลชอบมากกกกกกกกกกกซะด้วย :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 19-09-2014 02:00:58
สุดๆๆอ่ะคู่นี้
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 20-09-2014 10:41:28
 :mew1:

อัพๆ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.23 "รางวัลแบบจัดหนัก" P.19 (17/9/57)!?
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 20-09-2014 14:25:48
ฝูหรงก็ยั่วเป็นนะนี่ ^^
ตอนหน้าท่าทางจะปะฉะดะนะคะ รออ่านค่า  :katai4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.24 "ป่วนปะทะแสบ" P.19 (22/9/57)ถูกคู่!
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-09-2014 12:23:12
ตอนที่ 24

โจวพอล

“ฮ่องกงเปลี่ยนแปลงไปเร็วมากจริงๆ  ครั้งก่อนโน้นที่มา  ไอจำได้ว่าตรงนี้ยังเป็นส่วนที่พักอาศัย  แต่ดูตอนนี้สิกลายเป็นย่านธุรกิจไปแล้ว  ใช้เวลาไม่ถึงปีเลย”  น้ำเสียงตื่นเต้นแกมชื่นชมที่ลอยมาให้ได้ยินนั้น  ทำเอาผมอดไม่ได้ที่จะละสายตาจากท้องถนนเพื่อหันไปมอง 

ผมจึงได้สบตากับดวงตาคู่เรียวสีเทาเข้ม  ผู้เป็นเจ้าของผิวซีดเซียว  เส้นผมและคิ้วสีน้ำตาลอ่อน  จมูกโด่งที่ปลายงุ้มนิดๆ  และริมฝีปากบางที่กำลังคลี่ยิ้ม  ดูรวมๆแล้วก็เป็นใบหน้าที่แสนจะธรรมดา  สู้ลูกครึ่งฮ่องกงอิตาลีอย่างผมก็ไม่ได้  เพราะหากเอาผมกับนายแพทริคนี่มายืนเปรียบเทียบกัน  คงต้องบอกว่านายนั่นน่ะต้องหลบให้ผม  เพราะทั้งสีผิวสีผมสีตาของผมนั้น  คมเข้มและดูดีกว่ากันเยอะ

“ทำไมยูมองไอแบบนั้น  ไอบอกไว้ก่อนเลยว่ายูน่ะไม่ใช่สเป็ค...เฮ้ย!...ขับรถอะไรของนายเนี่ย”  ไอ้ฝรั่งหน้าจืดพูดทีทำเอาผมใจหายวาบ  เผลอเหยียบเบรกอย่างไม่ตั้งใจ  แต่ยังมีหน้ามาต่อว่ามองผมตาขวางอีก

“ขืนพูดไร้สาระมากกว่านี้  ฉันจะทิ้งนายไว้ตรงนี้แหละ!”  โดนผมตอกกลับไปไม่มีสะทกสะท้าน  ยังมีหน้ามาแสยะยิ้มจ้องตาผมกลับด้วยแววตากวนๆให้อีกแน่ะ  และก่อนที่จะเกิดการต่อปากต่อคำไปมากกว่านี้  เสียงหวานๆก็ดังขึ้นมาจากตอนหลังของรถ  พร้อมกับมีมือนุ่มๆวางลงบนไหล่ผม

“พอลใกล้ถึงบ้านคุณอาหมิงฮุ่ยแล้วนะครับ”  ผมสบตากับฝูหรงผ่านกระจกส่องหลัง  และได้แต่ฝืนยิ้มส่งคืนใส่ดวงตากลมๆที่สะท้อนแววออดอ้อนเล็กๆ  ด้วยฝูหรงคงไม่อยากให้ผมกับญาติตัวดีทะเลาะกัน 

ผมจึงได้แต่ยอมปิดปากด้วยเห็นแก่คนรักตัวน้อย  ก่อนจะคว้ามืออุ่นข้างนั้นขึ้นประทับจูบบนหลังมือ  แต่แล้วกลับมีเสียงพ่นลมหายใจแรงๆจากคนข้างๆดังขึ้น  ผมไม่ต้องหันไปมองก็พอจะรู้ว่าโดนไอ้ฝรั่งหน้าจืดหมั่นไส้เข้าแล้ว  แต่ใครจะสน  ในเมื่อผมมีสิทธิ์ที่จะแสดงความรักต่อคนรักของตัวเองอย่างเปิดเผย  แต่การกระทำของนายแพทริค  ทำให้กระต่ายน้อยแก้มแดงรีบกระตุกมือคืน  และเบือนหน้าหลบตาผมที่จ้องผ่านกระจก  ก่อนจะหันไปแก้เขินด้วยการดุใส่ญาติตัวเองแทน

“อ้าว  คิวท์บอย  ยูดุไอทำไมเนี่ย”  ไอ้ฝรั่งหน้าจืดเหวอไปเลยที่อยู่ๆก็โดนคนน่ารักของผมเหวี่ยงใส่  ทั้งๆที่การกระทำก่อนหน้า  มันตั้งใจประชดใส่ผมแท้ๆ

“ไม่รู้แหละ  แพทริคแซวฝูหรงทำไมล่ะ”  กระต่ายน้อยแสนรักต่อว่าญาติสนิทอย่างงอนๆ  จนคนโดนต่อว่าไปไม่เป็น  แม้นายแพทริคจะน่าเห็นใจอยู่บ้าง  แต่ผมกลับสะใจชะมัดที่ได้เห็นหน้าเจื่อนๆของมัน

ผมจึงได้แต่กลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี  จนคนบนรถที่เหลืออีกสองคนสะบัดหน้ามามองผมอย่างแปลกใจ  ก่อนนายแพทริคจะส่งเสียงฮึฮะออกมาอีกครั้งด้วยความขัดใจ  ส่วนฝูหรงก็ได้แต่ส่งค้อนน้อยๆให้ผม  ก่อนจะเบือนสายตาหนีผมออกไปนอกรถ  ยามที่ผมจ้องคืนด้วยสายตาหยอกเย้า  และผมต้องทำเป็นหูทวนลม  เมื่อได้ยินนายแพทริคกระแทกเสียงใส่เป็นการระบายความขัดใจที่มี

“เหอะ!!  หัวเราะได้หัวเราะไป”  ผมล่ะอยากจะบอกมันนักว่า  วันนี้ผมคงได้หัวเราะมากกว่านี้...อีกเยอะ!

แต่มานาทีนี้ผมก็ชักคิดสงสารนายนี่อยู่เหมือนกัน  เพราะเท่าที่ดูๆแล้วกระต่ายน้อยเข้าข้างผมมากกว่าญาติตัวเอง  แถมวันนี้ยังจะมีแม่มดตัวแสบมาช่วยป่วนอารมณ์  ให้นายแพทริคได้คลั่งใจตายเข้าอีก  แต่มันช่วยไม่ได้ในเมื่อไอ้ฝรั่งหน้าจืดอยากลองของกับผมก่อน

มาถึงตรงนี้คุณพอจะเดาออกแล้วใช่มั้ย  ว่าแผนการเอาคืนนายแพทริคที่มาทำปากดีกับผมตั้งแต่แรกเจอคืออะไร  ถ้าไม่ใช่ผมจะยืมมือแม่มดตัวแสบมาป่วนไอ้ฝรั่งหน้าจืดคนนี้  ซึ่งคู่ประลองฝีมือที่ผมแอบจับคู่ให้อย่างเงียบๆ  ดันฝีมือสูสีอย่างไม่น่าเชื่อ 

ไอ้ที่ผมเห็นบนรถถึงอาการจอดจ๋อยของแพทริคยามโดนฝูหรงต่อว่านั้น  ไม่มีให้เห็นในยามนี้สักนิด  ด้วยเจ้าตัวคงเกรงใจในตัวญาติต่างสายเลือดอยู่ไม่น้อย  แต่กับสาวสวยแปลกหน้าที่มีแววไม่เป็นมิตรตั้งแต่แรกเจอ  ทำให้นายแพทริคไม่คิดเกรง  ออกอาการปากดีใส่ทันทีที่สนทนาด้วย  แต่ก็เป็นไปในแบบหยอกแกมหยิกให้พอเจ็บๆคันๆ  และไม่มีหลุดมาดสุภาพบุรุษที่พึงมีต่อสุภาพสตรีสักคนหนึ่ง  เพราะถ้ามันแสดงกิริยาจาบจ้วงใส่ยัยจินนี่ผมเองก็คงไม่ยอม

“เป็นเจ้าบ้านที่ดีจริงๆน้า  เดินเหมือนจะไปวิ่งมาราธอนที่ไหน...ส่งถุงพวกนั้นมาให้ผมถือดีกว่า  คุณจินนี่จะได้ช้อปปิ้งสะดวกขึ้น”  หลังประโยคนี้ถุงช้อปปิ้งในมือจินนี่  ก็ถูกนายแพทริคดึงไปถือไว้เองทั้งหมด  จนเจ้าของท่วงท่าเชิดๆที่เตรียมต่อปากต่อคำด้วยถึงกลับเหวอ  ได้แต่มองถุงกระดาษในมือถูกเปลี่ยนถ่ายไป 

แต่ฝ่ายที่เพลี่ยงพล้ำก็สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส  ด้วยการกระหน่ำช้อปและปล่อยให้สุภาพบุรุษหน้าเป็นหิ้วถุงตามหลัง  ก่อนจะหันไปควงฝูหรงที่ทำหน้าเหยเกมองญาติตัวเองที่หิ้วของพะรุงพะรังจากไป  ผมเองก็ได้แต่ขำกับท่าทางนั้นของนายแพทริค  และไม่นึกแปลกใจในรอยยิ้มมุมปากชั่วแวบของอีกฝ่าย  ส่วนการประลองฝีมือก็ยังไม่จบเท่านั้น

“บะหมี่ร้านนี้อร่อยมาก  ไอยังจำรสชาติได้ไม่ลืม  ครั้งที่แล้วยูเองก็กินไปสองเลยนี่ฝูหรง  ใช่มั้ย  แต่ร้านมันค่อนข้างคับแคบไปหน่อย  เสียงดังไปนิด  แต่ไอเชื่อว่านายและคุณจินนี่จะต้องติดใจในรสชาติแน่ๆ...คุณจินนี่ทานอะไรดีครับ  อย่ามัวแต่มองรอบร้านแบบนั้นสิ  เห็นมั้ยว่ามีคนยืนรอต่อคิวอีกตั้งเยอะ  เดี๋ยวเจ้าของร้านก็โวยวายใส่หรอกครับ  เร็วเดี๋ยวผมตะโกนสั่งให้”

นาทีนี้ผมทั้งขำทั้งสงสารยัยจินนี่ที่มีท่าทางเลิ่กลั่กด้วยความแปลกที่แปลกทาง  ไหนจะโดนเร่งด้วยน้ำเสียงรื่นเริงเกินเหตุที่เพิ่งได้ยินเข้ามาอีก  ทำให้ญาติสาวคนสวยของผมหมดมาด  ด้วยการชี้นิ้วส่งๆไปที่หนึ่งเมนูบนกระดานข้างผนังทันที  ซึ่งกิริยาท่าทางเช่นนี้ของจินนี่  ไม่ได้หาดูได้ง่ายๆสำหรับผมนัก 

ผมนั้นเข้าใจว่าทำไมจินนี่ถึงมีอาการอย่างที่เป็นอยู่  ในเมื่อพวกเราต้องมาอยู่ในร้านบะหมี่ชื่อดังข้างทางที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย  และอยู่ภายใต้สายตากับความสนใจของคนเกือบทั้งร้าน  เพียงเพราะแขกคนสำคัญของวันนี้อยากกินบะหมี่แสนอร่อยที่ตัวเองติดใจ  ทำให้ภาพของหนุ่มสาวทั้งสี่ที่แม้จะอยู่ในอาภรณ์แสนธรรมดา  ไม่แตกต่างจากการแต่งกายของคนแถวนี้เท่าไหร่นัก  แต่ด้วยหน้าตาและบรรยากาศรอบตัวที่แปลกแยก  บวกเข้ากับถุงช้อปปิ้งกองใหญ่แปะโลโก้สินค้าแบรนด์ดังที่วางข้างทางเดินในร้านเข้ามาอีก  จึงไม่แปลกที่ทุกสายตารอบตัวพวกเรา  ผลัดกันจดจ้องมาที่กลุ่มเราตลอดเวลา 

ผมแน่ใจว่าการเลือกร้านนี้  คือความตั้งใจของนายแพทริคที่จะเอาคืนญาติสาวคนสวยของผม  ที่ใช้ตัวเองให้ถือถุงช้อปปิ้งจำนวนมากมาตลอดทาง  แต่งานนี้จินนี่จะขัดใจนายแพทริคไม่ได้  ในเมื่อมันออกปากแต่แรกแล้วว่าอยากกินอาหารแนวนี้อยู่แล้ว

“จินนี่เปลี่ยนร้านมั้ย  เดี๋ยวให้พอลนั่งเป็นเพื่อนแพทริคก็ได้  ส่วนเราไปหาที่อื่นทานกัน”  กระต่ายน้อยคงสงสารยัยจินนี่เพื่อนซี้คนใหม่ของเจ้าตัวเค้าล่ะ  ถึงเอ่ยปากชวนแบบไม่เกรงใจญาติสนิทขึ้นมา 

ถ้าจินนี่ตกลงไปจริงๆ  ผมไม่มีทางยอมโดนทิ้ง  ให้นั่งกินบะหมี่ที่นี่กับไอ้ฝรั่งหน้าจืดสองต่อสองหรอกครับ  แค่คิดก็ขนลุกแล้ว

“ไม่ต้องหรอกฝูหรง  จินนี่ทานได้  เพียงแค่แปลกที่เท่านั้น  เพราะดูแล้วหน้าตาก็น่าทานดีออก  และถ้าเราไปกันจริงๆ  พอลก็คงไม่ยอมหรอก  ที่สำคัญ...จินนี่ไม่อยากให้ใครมาดูถูกว่าเท้าไม่ติดดิน”  ไอ้ใครที่ว่านั้นก็ได้แต่กอดอกอมยิ้มใส่ตาคนพูด 

ส่วนฝูหรงก็ได้แต่มองคนทั้งคู่ไปมา  ก่อนจะแอบถอนใจยาวเหยียด  ผมจึงยื่นมือไปกุมทับหลังมือนุ่ม  ก่อนจะเอามาวางไว้บนตักตัวเอง  ทำให้ตาคู่กลมเคลื่อนมาจับยังใบหน้าผมแทน  ทำให้ผมเห็นแววตาหนักใจจากตากลมๆคู่นั้น  จึงอดรู้สึกผิดไม่ได้ที่คิดแผนการให้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์และแม่มดตัวแสบมาเจอกัน 

นาทีนี้ผมอยากจะกอดร่างน้อยและจูบประทับลงบนเปลือกตาบางใส  เพื่อปลอบประโลมและเอ่ยขอโทษฝูหรงไปในเวลาเดียวกันนัก  แต่บรรยากาศรอบกายทำให้ผมทำได้เพียงกุมกระชับมือนุ่มให้แน่นขึ้น  พร้อมส่งยิ้มบางเบาใส่ตากลมๆคู่ตรงหน้าเท่านั้น 

ผลก็คือฝูหรงค่อยๆคลี่ยิ้มจนสว่างไสวไปทั้งหน้า  และยื่นมืออีกข้างมาประกบเข้าที่หลังมือของผม  ซึ่งการกระทำเล็กๆน้อยๆนี้ของเรา  กลับทำให้ใครบางคนไม่พอใจขึ้นมา

“เอาไว้ไปหวานกันสองต่อสองดีกว่ามั้ย”  นอกจากคำพูดที่แสนขัดหู  ทั้งใบหน้าและแววตาของนายแพทริคก็แสดงออกชัด  ว่าเหนื่อยหน่ายกับการกระทำของเรา  แต่งานนี้ผมไม่ต้องไฟท์เอง

“อิจฉา!...เอ๋!?  รึว่านายแอบชอบฝูหรงกันแน่  ถึงทนเห็นภาพบาดตาไม่ไหว”  คำพูดของจินนี่ไม่เพียงทำให้นายแพทริคนั่งอึ้งเท่านั้น 

เรียกได้ว่าทั้งผมและฝูหรงก็มีอาการไม่ต่างกัน  จะมีก็แต่คนพูดเท่านั้นที่ยังมีทีท่าปกติ  และจ้องนายแพทริคด้วยแววตาเหนือกว่า  ก่อนจะหันไปสนใจชามบะหมี่ตรงหน้าที่เพิ่งถูกนำมาเสิร์ฟให้

สำหรับฝูหรงคงทั้งตกใจและแปลกใจในสิ่งที่ได้ยิน  แต่คงยังไม่เชื่อหรอกว่าญาติสนิทจะคิดอะไรด้วยแบบนั้น  เพราะใช้เวลาไม่นานเจ้าตัวก็เอ่ยเสียงเข้มกับยัยจินนี่ว่าคิดมากไปและพูดไร้สาระ  จนยัยจินนี่สะบัดค้อนน้อยๆใส่  แต่ก็ยอมปิดปากไม่ต่อคำ 

สำหรับผมคำพูดของจินนี่กลับตอกย้ำความคิดชั่วแวบที่เคยเกิดขึ้น  เพราะเท่าที่ฝูหรงเล่าถึงนายแพทริคนั้น  ความห่วงใยความใส่ใจที่มันมีให้กระต่ายน้อยของผม  ออกจะเกินพอดีไปสักหน่อยสำหรับสถานะของญาติต่างสายเลือดที่มีให้แก่กัน  บวกกับสายตาแน่วแน่ของไอ้ฝรั่งหน้าจืดที่จ้องตาผมในตอนนี้เข้ามาอีก  ผมจึงมั่นใจยิ่งขึ้นว่าไอ้แพทริคแอบชอบฝูหรงจริงๆ

“พอลทานสิ  เดี๋ยวก็เย็นหมด  ไม่อร่อยนะ  อ่ะ...ตะเกียบ  พอลจ้องฝูหรงทำไม”  ผมระบายยิ้มใสตาคู่กลมที่มีแววสงสัยไม่ต่างจากคำพูดที่ได้ยิน  ก่อนจะรับตะเกียบที่ถูกยื่นมาให้  พร้อมความใส่ใจที่ฝูหรงมีให้กัน 

ผมแอบสะใจที่ได้เห็นแววตาเศร้าสร้อยของไอ้แพทริคที่แสดงออกให้เห็นชั่วแวบ  นาทีนี้คงไม่ต้องมีใครมายืนยันความรู้สึกที่แพทริคมีให้ฝูหรงอีกแล้ว

หลังจากนั้นไอ้ฝรั่งที่เจื้อยแจ้วมาตลอดก็เงียบไปผิดหูผิดตา  และบะหมี่ที่เจ้าตัวอยากกินนักหนาก็หายไปเพียงครึ่งชาม  จนกระต่ายน้อยของผมยังทัก  แต่นายนั่นก็ทำเพียงตีหน้าทะเล้นกลบเกลื่อน  และพูดเสียงเบาว่าร้านนี้รสชาติเปลี่ยนไปไม่อร่อยเหมือนที่เคยกิน 

ฝูหรงเองก็มีทีท่าแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ต่อความอะไร  ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องด้วยการถามแขกกิตติมศักดิ์ว่าอยากกินอะไรต่อ  นายนั่นกลับโบ้ยให้แฟนผมเป็นคนพาไปเอง  ความจริงนายแพทริคมันคงกินอะไรไม่ลงแล้วมากกว่า  ผมกับยัยจินนี่หันมาสบตากันโดยบังเอิญ  ซึ่งดวงตาคู่สวยของญาติสนิทบอกผมหมดว่าเจ้าของคิดอะไร 

ยัยจินนี่กำลังบอกผมว่า  ‘เห็นมั้ย  จินนี่คิดถูก  ระดับหมิงอี้ซานซะอย่าง’  ผมจึงได้แต่ยกยิ้มมุมปากให้ยัยแม่มดตัวแสบด้วยความถูกใจ

“พอล  จินนี่  พวกเราพาแพทริคไปกินอะไรเย็นๆหน่อยดีมั้ย”  เสียงเล็กๆข้างตัวที่ดังขึ้นทำให้ผมและยัยจินนี่ที่กำลังสื่อสารผ่านสายตากัน  หันไปมองคนพูด  จึงได้เจอแววตาขอความเห็นของฝูหรงเต็มๆตา 

ผมออกจะเก้อเล็กๆ  จึงได้แต่ส่งคำถามขอความเห็นต่อไปให้จินนี่

“จินนี่ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว  ไปหาอะไรเย็นๆทานหน่อยก็ดีเหมือนกัน  เผื่ออะไรที่กำลังร้อนๆด้วยความอิจฉาจะได้ดีขึ้น...ว่ามั้ยคะมิสเตอร์แพทริค~”  หากผมเป็นนายแพทริคคงจุกพูดไม่ออก  ด้วยโดนความความจริงกระแทกกลางใจ  แต่สำหรับคนที่โดนวาจาเสียดสีของยัยจินนี่กลับไม่เป็นอย่างที่ผมคิด

“ครับคุณจินนี่  ดีเหมือนกัน  ขืนอยู่แถวนี้ต่อ  ผมก็กลัวเมคอัพคุณจะละลายไปซะก่อน  เดี๋ยวคนอื่นจะตกใจแย่  ฮึๆ”  คงไม่ต้องบอกว่าเสียงหัวเราะกวนประสาทและถ้อยคำล้อเลียนนี้  จะทำให้แม่มดตัวแสบของผมหงุดหงิดแค่ไหน

“นี่คุณ!  คนอะไรไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย  พูดอะไรออกมาชอบทำร้ายจิตใจผู้หญิง”

“คุณครับ!  ผมก็แค่เตือน  ไม่ได้พูดหยาบคายซะหน่อย  ก็แค่พูดความจริง”

“ฝูหรงพาสองคนนี้ไปที่รถก่อนครับ  เดี๋ยวพอลจ่ายค่าบะหมี่แล้วจะตามไป”  ผมกระชับมือนุ่มในอุ้งมือ  เพื่อกระตุ้นให้กระต่ายน้อยขี้ตื่นได้ทำตามที่พูด  เพราะขืนปล่อยให้เวลาเนิ่นนานไปกว่านี้  เจ้าของร้านบะหมี่คงร่อนชามมาที่โต๊ะอย่างแน่นอน

ผมถอนใจยาวเหยียดมองตามสามร่างเดินออกนอกร้าน  โดยมีฝูหรงเดินคั่นกลางหนุ่มสาวที่ยังคงต่อปากต่อคำกันไม่เลิก  หลังจากจ่ายค่าบะหมี่เรียบร้อยแล้ว  ผมจึงหอบถุงช้อปปิ้งทั้งหมดเดินตามไป  และต้องรีบค้อมศีรษะให้เจ้าของร้านที่มองมายังผมตาเขียวโทษฐานสร้างความวุ่นวายในร้าน  แถมด้วยการระบายยิ้มแจกจ่ายลูกค้าที่ยืนรอโต๊ะอย่างไม่สบอารมณ์อีกนิดด้วย 

กว่าผมจะพาตัวเองกลับมายังรถที่จอดไว้ได้ก็เล่นเอาเหงื่อตกไปเหมือนกัน  แต่แล้วผมก็ต้องปวดหัว  เมื่อได้รู้ว่าทั้งคู่ยังเถียงกันไม่เลิก  แถมเรื่องที่เถียงกันยังเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นเรื่อง  จนต้องมาเถียงกันหน้าดำหน้าแดงขนาดนี้  จนผมนึกว่าพาเด็กเจ็ดขวบสองคนมาเที่ยวเลยทีเดียว

“ไอศกรีม...เครื่องดื่มเย็นๆ...ฉันบอกว่าอยากกินไอศกรีม...ผมอยากดื่มอะไรเย็นๆนี่...เอ๊ะ!  นายนี่ยังไง  ต้องไอศกรีมเท่านั้น...ยังไงก็ต้องเครื่องดื่มเย็นๆเท่านั้น”  ได้ยินแบบนี้แล้ว  คุณคิดเหมือนผมใช่มั้ยล่ะครับว่าเด็กทั้งคู่

“เฮ้อออ  ทั้งคู่นี่ยังไงเหมือนเด็กเลย  พอลเราจะไปที่ไหนดี  ที่มีทั้งไอศกรีมและเครื่องดื่มล่ะ”  ฝูหรงเงยมองผมด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายแววตาปลดปลง  ซึ่งสิ่งที่ฝูหรงพูดทำให้ผมอมยิ้ม  ด้วยคนน่ารักคิดไม่ต่างกัน 

ผมจึงยกมือลูบหัวทุยเบาๆ  ก่อนรั้งต้นคอขาวเข้าหาอก  และฉกจมูกสูดกลิ่นเส้นผมเร็วๆ  พร้อมยกเอวบางขึ้น  เพื่อให้ร่างน้อยขึ้นไปนั่งบนเบาะรถข้างคนขับ  ด้วยวันนี้ผมขับรถโฟร์วิลคันใหญ่มา  เพราะรถสปอร์ตคันเก่งนั่งได้แค่สองคน 

ฝูหรงเองได้แต่มองมาที่ผมและกระพริบตาปริบๆ  ผมจึงขยิบตาให้  หวังเห็นแก้มใสขึ้นสี  ซึ่งก็สมหวังเมื่อกระต่ายน้อยขี้อายนั่งแก้มแดงหลบตากัน  ก่อนผมจะรีบเดินไปขึ้นฝั่งคนขับ  นาทีนี้สองคนที่เคยยืนเถียงกัน  เริ่มเงียบเสียงลงแล้ว  และมองมาที่ผมอย่างงงๆ

“ตกลงจะกินมั้ยไอศกรีมกับเครื่องดื่มเย็นๆน่ะ  ถ้ากินเชิญสุภาพบุรุษสุภาพสตรีทั้งสองขึ้นรถได้เลยครับ  ขืนช้าราชรถจะไม่รอ”  สิ้นเสียงผมนั้น  จินนี่และแพทริคยังไม่วายหันไปจ้องตากันอย่างเอาเรื่อง  ก่อนจะสะบัดหน้าเมินหนีไปคนละทาง  แต่พอผมแกล้งเร่งเครื่องเท่านั้น  คนทั้งคู่ก็สะดุ้ง  ก่อนจะต่างก้าวเท้าแยกย้ายกันเดินขึ้นรถคนละฝั่ง

“คิกๆ  พอลขี้แกล้ง  คิกๆ”  เสียงหัวเราะคิกคักระรื่นหูกับดวงหน้าใสประดับยิ้มกว้างของฝูหรง  ทำให้ผมต้องยิ้มตามและอดใจไม่อยู่ที่จะคว้าร่างน้อยเข้าหาอก  ก่อนออกแรงกอดด้วยความเอ็นดู  และจูบเข้าที่ปลายจมูกย่นๆอีกที

“ช่างใส่ความ  แต่ขืนไม่จัดการอะไร  คงได้ยืนทะเลาะกันเป็นเด็กไม่เลิก”  ผมแอบสูดกลิ่นหอมหลังใบหูสะอาด  ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาแพรวพราวที่มีแววขบขันไม่เลิก  มีแอบเหล่ไปยังด้านหลังอีกนิด  เมื่อคู่ประเด็นที่เราพูดถึงขึ้นมานั่งบนรถหมดแล้ว

“อืม  พอลปล่อยเถอะ  แพทริคกับจินนี่มองอยู่”  ตากลมๆที่ฉายแววขัดเขินชัดเจนช้อนขึ้นสบตาผม 

นอกจากผมจะไม่ใส่ใจสายตาอีกสองคู่ที่มองมาแล้ว  ผมยังเลือกที่จะไม่สนใจความรู้สึกของหนึ่งในนั้น  ด้วยการประคองแก้มใสขึ้น  ก่อนจะก้มหน้าเข้าหากระต่ายน้อยตากลม  และแนบหน้าผากไว้กับหน้าผากเนียน  พร้อมจ้องแววตาสั่นๆในระยะประชิด 

ผมรู้สึกได้เลยว่าฝูหรงเกร็งตัวขึ้น  มีเม้มริมฝีปากไว้จนแน่น  และดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะกลั้นลมหายใจไว้อีกด้วย  ก่อนพวงแก้มใสจะแตะแต้มไปด้วยสีแดงจางๆ  เพราะความเขินจัดแต่ทำอะไรได้ไม่มาก  นอกจากประท้วงเล็กๆ  ด้วยการกระตุกชายเสื้อผมเบาๆ  ก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อผมด้วยเสียงออดอ้อน  จนคนฟังอย่างผมแทบไม่อยากปล่อย  แถมอยากจะทำมากกว่าการอิงแอบแนบหน้าผากกันไว้แบบนี้ด้วยซ้ำ

“พอล~...ออกรถเถอะ  นะครับ  นะ”  ผมได้แต่กลั้วหัวเราะบางเบา  แต่ก่อนที่ผมจะปล่อยร่างน้อยให้กลับไปนั่งดีๆตามอย่างที่ควรจะเป็น  กลับมีเสียงกระแทกกระทั้นดังขึ้น

“ฝูหรง  ไอจะได้กินอะไรเย็นๆมั้ย  จะไอศกรีมหรือเครื่องดื่มก็ได้...ไม่อยากเรื่องมาก  เดี๋ยวจะหาว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษเข้าอีก”

“เหอะ!  ไม่ทันแล้วมั้ง  และที่ยอมตอนนี้ทั้งๆที่เถียงเอาเป็นเอาตายมาตลอด  เพราะไม่อยากเห็นภาพบาดตาล่ะซิ”

ผมส่ายหน้าและส่งยิ้มเพลียๆใส่ตาคู่กลมที่สะท้อนแววหนักใจให้เห็น  ท่ามกลางเสียงที่ดังโต้เถียงไม่หยุดจากตอนหลังของรถ  ก่อนจะคว้ามือนุ่มขึ้นจรดริมฝีปากบนหลังมือ

“ฝูหรงอยากทานฟรุ๊ตทาร์ตร้านเหมยอิงใช่มั้ย  วันนี้พอลพาไปนะครับ”  คำชวนของผมทำเอาคนอยากกินฟรุ๊ตทาร์ต  ถึงกลับคลี่ยิ้มหวานและพยักหน้าแรงๆจนเส้นผมกระจาย  สร้างความน่าเอ็นดูแก่ผมยิ่งขึ้นไปอีก 

ผมจึงยื่นมือไปบีบปลายจมูกแหลมเบาๆแก้ความมันเขี้ยว  ใจจริงอยากกัดพวงแก้มอมชมพูทั้งคู่มากกว่า  แต่ก็ได้แค่ใช้หลังมือลูบไล้มันเล่นเท่านั้น

สองวันก่อนผมจำได้ว่ากระต่ายน้อยหน้าระรื่นตรงหน้าผมเนี่ย  บ่นอยากกินเจ้าฟรุ๊ตทาร์ตรสชาติหวานอมเปรี้ยวในแป้งทาร์ตรสกลมกล่อมของร้านเหมยอิง  ด้วยสีหน้าเคลิ้มฝันจนผมนึกเอ็นดูไม่คลาย  ซึ่งฝูหรงเล่าว่าที่ตัวเองได้กินเป็นเพราะน้องธันว์หิ้วมาฝาก  ยามเด็กน้อยของมาเฟียติดสอยห้อยตามหลี่ผิงไปที่โรงแรม

วันนี้เป็นโอกาสดีที่ผมจะพาเจ้าตัวไปกินทาร์ตอีกครั้ง  พ่วงด้วยที่ร้านเบเกอรี่ของเหมยอิงนั้นมีทั้งไอศกรีมและเครื่องดื่มทุกชนิด  แถมด้วยเบเกอรี่หลากหลายชนิดให้เลือก  สามารถตอบสนองความต้องการของหนุ่มสาวหลังรถได้  ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่เลิกโต้เถียงกันไปแล้ว  และเปลี่ยนไปนั่งอยู่คนละมุม  พร้อมใจกันหันหน้าออกนอกรถ  ดูเผินๆเหมือนเหมือนเด็กๆงอนใส่กันไม่มีผิด

ความรู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจที่ผมเคยมีให้นายแพทริคเมื่อแรกเจอ  มานาทีนี้คงต้องบอกว่าแทบไม่มีเหลือ  เพราะรับรู้ด้วยใจและเห็นด้วยตามาตลอดทั้งวันแล้ว  ว่านายแพทริคไม่ได้ใกล้เคียงคำว่าคู่แข่งทางความรักของผมได้เลย  แม้การแสดงออกในวันนี้ของแพทริค  จะทำให้ผมมั่นใจขึ้นว่าเจ้าตัวคิดไม่ซื่อต่อญาติต่างสายเลือดอย่างฝูหรงก็ตาม  แต่มันไม่สำคัญอีกต่อไป  ในเมื่อสายตาและท่าทีที่ฝูหรงมีให้นายแพทริคนั้น  สื่อออกมาชัดเจนว่ากระต่ายน้อยของผมให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนเป็นญาติเท่านั้น 

ผมจึงออกจะสบายใจและแอบเห็นใจนายแพทริคอยู่เหมือนกัน  เพราะตลอดครึ่งวันหลังนายแพทริคโดนยัยจินนี่ทำคะแนนทิ้งห่างแทบไม่เห็นฝุ่น  ด้วยการแอบกระทบกระเทียบความรู้สึกที่มันแอบมีต่อฝูหรงเป็นระยะ  จนไอ้ฝรั่งหน้าจืดถึงกับจุกพูดไม่ออก  และได้แต่ส่งสายตาคาดโทษให้แก่แม่มดตัวแสบประจำตระกูลโจว  ที่ก็นั่งตักไอศกรีมโฮมเมดเข้าปากด้วยใบหน้าไม่รู้ไม่ชี้

ส่วนคนน่ารักของผมเหมือนจะไม่ได้รู้เรื่องรอบตัวมากนัก  เพราะได้แต่มีความสุขกับฟรุ๊ตทาร์ตแสนโปรดกับโยเกิร์ตผลไม้รวมตรงหน้า  จนไม่ได้ใส่ใจในบทสนทนาบนโต๊ะเสียเท่าไหร่  นอกจากการเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้กัน  ยามที่ผมยื่นกระดาษซับมุมปากที่เปรอะเปื้อนให้  สำคัญที่ผมเองนั้นคอยกันท่าและชักจูงกระต่ายน้อยด้วยคำพูด  เพื่อให้เราได้อยู่ในโลกส่วนตัวที่มีแค่กันและกันเท่านั้น

................................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ผลแข่งขันนัดนี้ตัวแสบชนะตัวป่วนขาดลอย  คะแนนทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่น
น่าสงสารแพทริคเหมือนกันเนอะ  กับจินนี่น่ะไม่เท่าไหร่  แต่ปฏิกิริยาของฝูหรง
ที่มีแก่แพทริคนี่สิ 

ตอนหน้าใครที่เห็นใจแพทริคต้องตามมาให้กำลังใจค่ะ  เพราะดูท่าจะแย่
สำคัญห้ามพลาดเพราะพอลปลอบฝูหรงท่าไหนไม่รู้  แต่กลับเป็นฝ่ายโดนปลอบเอง!!
เจอกันวันเสาร์นะคะ  พร้อมกระดาษทิชชู่และหมอนสักใบ  555

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.แจ้งรีปริ้นท์นิยายชุด “เสน่ห์รัก” และ “บ่วงรัก” ค่ะ  ตามลิ้งค์ไปได้เลยน้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43497.new#new
ใครที่พลาดในรอบก่อนๆหรืออยากได้หนุ่มๆเก็บไว้  ติดต่อเข้ามานะคะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.24 "ป่วนปะทะแสบ" P.19 (22/9/57)ถูกคู่!
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 22-09-2014 15:36:13
คงต้องบอกให้แพทริคทำใจซะเถอะ  ว่ายังไงฝูหรงก็คิดได้แค่พี่ชายคนหนึ่งเท่านัั้น

งานนี้ไม่เสียชื่อแม่มดตัวแสบ ที่เล่นปล่อยหมัดน๊อกเอาท์จนแพทริคจุกไปเลย  ว่าจะเชียร์ให้ 2 คนนี้คู่กัน ไม่รู้ว่าจะไหวหรือเปล่า แต่ก็ยังอยากให้เป็นแฟนกันอยู่ดี
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.24 "ป่วนปะทะแสบ" P.19 (22/9/57)ถูกคู่!
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 22-09-2014 15:45:24
อยากกินฟรุ๊ตทาร์ต มั่งอะ  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.24 "ป่วนปะทะแสบ" P.19 (22/9/57)ถูกคู่!
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 22-09-2014 16:16:00
สงสารแพทริคนะตอนนี้ ส่วนพอลก็ขยันสร้างโลกส่วนตัวกับฝูหรงจังเลย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.24 "ป่วนปะทะแสบ" P.19 (22/9/57)ถูกคู่!
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 22-09-2014 17:07:15
แรกๆสะใจ
หลังๆไปก็เอ็นดูพ่อปากเปราะ
ลองกลับตัวมาคู่จินนี่หน่อยมะคะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.24 "ป่วนปะทะแสบ" P.19 (22/9/57)ถูกคู่!
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 22-09-2014 20:25:52
จินนี่คะแนนทิ้งห่างลิ่วเลย ดันเปิดจุดอ่อนซะได้นะแพทริค ไม่รอดหรอกงานนี้ :3
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-09-2014 09:49:22
จินนี่ชนะขาดแอบสงสารแพทริคนะเนี่ย~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.24 "ป่วนปะทะแสบ" P.19 (22/9/57)ถูกคู่!
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 24-09-2014 00:29:04
บอก แพทริค ตัดใจซะเถอะ

เพราะยังไงต่ายน้อยก็รักพอลคนเดียว

กลับไปเป็นญาติเหมือนเดิมเถอะเนอะ

รอตอนต่ออออ อยากเห็นคนโดนปลอบบบบ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.24 "ป่วนปะทะแสบ" P.19 (22/9/57)ถูกคู่!
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 24-09-2014 10:25:45
ตอนแรกก็ว่าสูสีอยู่นะคู่นี้ แต่ไหงกลายเป็นแพทริกโดนโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวได้
ก็นะ โดนเล่นจุดอ่อนอย่างต่อเนื่องอย่างนี้ก็คงไปไม่เป็นเหมือนกัน
แม้จะแอบรักอยู่ฝ่ายเดียวแต่แพทริกก็ถือว่าเป็นสุภาพบุรษที่สุดในโลกเหมือนกัน
ไม่สร้างความปั่นป่วนให้คู่รักเขา มีแต่คอยจิกกัดไปตามประสา น่าเห็นใจอยู่
แต่คิดว่าไม่นานคงได้เจอคนที่รักและรักเราในเร็ววัน จินนี่เป็นไง สมกันอยู่นา~ :laugh:
แม้จะมีกี่ตัวป่วนก็ไม่ทำให้รักของพอลและฝูหรงกระทบกระเทือนได้เลย :-[
รอติดตามตอนหน้าว่าจะมีอะไรมาให้เราอิจฉาอีกบ้าง
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.25 "ปลอบใจด้วยกาย" P.20 (27/9/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 27-09-2014 12:53:09
ตอนที่ 25

เจินฝูหรง

‘ทำไมเรื่องต้องเป็นแบบนี้ด้วย  ผมจะทำอย่างไรดี  ไม่อยากให้มีใครเสียใจเพราะผมอีกแล้วแท้ๆ  คราวพอลก็ครั้งหนึ่งแล้ว  ยิ่งเฉพาะกับญาติสนิทผมยิ่งไม่อยากให้เสียใจ’ 

ผมเดินไปเรื่อยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าลงมาจากคอนโดตั้งแต่เมื่อไหร่  เพราะในหัวมีแต่ภาพใบหน้าเศร้าๆ  และคำพูดให้กำลังใจผมของแพทริค  คนที่ผมนับเป็นญาติสนิทแม้จะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน

“ฝูหรง!  ร้องไห้ทำไม  ไอ้แพทริคมันทำอะไร!?...พอลจะไปเอาเรื่องมัน!”  ผมเพิ่งรู้ตัวนี่แหละว่าตัวเองร้องไห้  และตกใจอยู่เหมือนกันว่าตัวเองช่างบ่อน้ำตื้นนัก 

แต่ก็ไม่เท่าตกใจในคำพูดและสีหน้าของพ่อลูกครึ่งรูปหล่อของผม  ที่แสดงออกชัดว่าแทบจะฆ่าใครสักคนได้เลยทีเดียว  นี่ยังไม่นับอาการลูบหัวลูบหลังสำรวจตรวจตราร่างกายผมไปทั่ว  แถมท้ายประโยคพอลยังทำท่าผละเข้าไปในคอนโด  เพื่อทำอย่างที่ปากพูดอีกด้วย  จนผมต้องรีบคว้าเอวพอลไว้  ซึ่งเป็นจังหวะดีที่ผมได้ใช้แผ่นหลังกว้างเป็นที่ซับน้ำตาและแหล่งพักพิง  สำหรับกระต่ายน้อยใจสลายเจ้าน้ำตาแบบผม

“พอล...พอล  ม่ะ...ไม่มีอะไร  ฮึก  แพทริคไม่ได้ทำอะไรฝูหรง  ตะ...แต่  ฝูหรงนี่แหละที่  ฮึก  ทำร้ายจิตใจแพทริค  ฮือออ”  ผมปล่อยน้ำตาออกมาอีกครั้ง  และครั้งนี้มันไม่ได้ไหลเอื่อยๆเหมือนเมื่อครู่  แต่นาทีนี้เหมือนเขื่อนแตก  น้ำตามากมายไหลมาจากไหนไม่รู้  ยิ่งคิดถึงใบหน้าและคำพูดของแพทริคเมื่อสิบนาทีก่อนหน้าร่วมด้วย

‘ใช่...ไอชอบยูมานานแล้ว  แต่ยูไม่ต้องคิดมาก  เพราะไอรู้มาตลอดว่ายูมีใครบางคนซ่อนอยู่ในใจ  ไอถึงไม่เคยบอกความรู้สึกนี้ออกไป...คิวท์บอย  อย่าเศร้าเลย  เพราะยิ่งยูเศร้า  ไอยิ่งรู้สึกผิด  ยิ้มเข้าไว้สิฝูหรง’

แม้ผมจะคาดการณ์ว่าจะต้องได้ยินคำตอบแนวนี้  แต่ใจลึกๆผมแอบหวังไว้ว่าตัวเองจะเข้าใจผิด  และพอได้ยินแพทริคสารภาพรักอย่างชัดเจน  ยามผมส่งคำถามคาใจไปให้  ผมก็อดตกใจและเศร้าใจไม่ได้  ที่ผมไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของผู้ชายดีๆแบบแพทริคได้ 

ต้นเหตุทั้งหมดมาจากคำพูดของจินนี่ในวันนี้แท้ๆครับ  ทำให้ผมเพิ่งสังเกตท่าทางและสายตาของแพทริคที่ใช้กับผม  จนเริ่มเอะใจและไม่สบายใจอย่างมาก  แต่ผมก็แอบซ่อนสิ่งเหล่านี้ไว้ภายใต้ท่าทางไม่รู้เรื่องรู้ราวของตัวเอง  แม้แต่พอลและจินนี่ก็คงคิดว่าผมไม่ใส่ใจในคำพูดของทั้งคู่นัก  ซึ่งความจริงผมเอาสิ่งที่ได้ยินได้เห็นมาคิดตลอด  และตั้งใจมาถามเอาคำตอบจากแพทริคยามที่มาส่งยังคอนโด  โดยที่ผมขอร้องพอลว่าให้รออยู่ที่รถ  แรกขอไอ้ลูกครึ่งรูปหล่อทำท่าไม่ยอม  แต่ด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจังที่นานๆผมจะใช้กับพอล  ทำให้เจ้าตัวยอมอย่างเสียไม่ได้

ร่างใหญ่โตที่ผมกอดไว้ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง  ไม่ถามไม่มีอาการโวยวายอย่างที่เคยเป็น  พอลปล่อยให้ผมร้องไห้ไปพักใหญ่  ทำเพียงกุมทับหลังมือผมที่โอบรอบเอวเจ้าตัวไว้  เมื่อผมเริ่มคลายสะอื้น  พอลจึงหมุนตัวกลับมา  และรั้งร่างผมเข้าหาอ้อมกอดแสนอบอุ่น  พร้อมลูบหัวและแผ่นหลังผมอย่างนุ่มนวล 

จนกระทั่งทุกอย่างเงียบเสียงลง  ไม่มีเสียงสะอื้นของผมอีกแล้วนั่นแหละ  พอลถึงเชยคางผมขึ้น  ก่อนส่งยิ้มละมุนกับแววตาเข้าใจมาให้ผม  แถมยังใช้นิ้วมือไล้เกลี่ยคราบน้ำตาให้ด้วย

“กลับบ้านของเรานะครับ”  ผมตอบรับด้วยการพยักหน้า  และปล่อยให้เจ้าของความอ่อนโยนได้จับจูงไปขึ้นรถ

พอลไม่ถามผมสักคำว่าเกิดอะไรขึ้น  คาดว่าจากคำพูดก่อนผมจะปล่อยโฮ  คงทำให้เจ้าตัวพอเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบนคอนโด

“ฝันดีนะครับกระต่ายน้อยของพอล”  ผมหลับตารับรอยจูบอุ่นๆยังริมฝีปาก  ที่แตะผะแผ่วก่อนผละห่าง  พร้อมซึมซับคำอวยพรให้ฝันดีจากเสียงทุ้มนุ่มที่ดังไม่ต่างจากเสียงกระซิบ  ก่อนร่างผมจะถูกโอบกอดเข้าหาอกแกร่งที่เหมือนเป็นแหล่งพักพิงอันอบอุ่นเช่นทุกค่ำคืนที่ผ่านมา 

คืนนี้ผมต้องยอมรับว่าฝืนหลับตาไม่ลงจริงๆ  แถมยังเผลอถอนใจให้เจ้าของอ้อมกอดที่กกกอดผมไว้ได้รู้ตัว  พอลกระชับกอดผมมากขึ้น  แต่ก็ไม่ได้แน่นจนผมอึดอัด  ก่อนลงมือลูบไล้ศีรษะและแผ่นหลังด้วยความอ่อนโยน  มีกระซิบบอกให้ผมนอนและอย่าคิดมากอีกด้วย  จนผมระบายยิ้มกับอกอุ่นอย่างไม่รู้ตัว  และเป็นฝ่ายขยับตัวเข้าหาร่างหนา  พร้อมรั้งแผ่นหลังกว้างเข้าหาตัวมากขึ้น

“ฝูหรงรู้สึกผิดกับแพทริคจังเลย  ไม่รู้มาก่อนว่าแพทริค...ชอบ  แต่ถึงรู้  ฝูหรงก็คงต้องทำให้แพทริคเสียใจอยู่ดี  ไม่ชอบความรู้สึกนี้เลยพอล  ไม่อยากให้แพทริคเสียใจเพราะฝูหรง  ฝูหรง...” ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดต่อ  กลับมีเสียงลมลอดไรฟันปรามขึ้นมาเบาๆ

“ชู่ว์ๆๆๆ  ไม่ใช่ความผิดของฝูหรง  แม้แต่แพทริคเองก็ไม่ผิด  เรื่องความรักเราห้ามใจใครไม่ได้นี่ครับ  แพทริคชอบฝูหรง  แต่ฝูหรงกับพอลเรารักกัน  เรื่องนี้นายนั่นรู้ดีว่าต้องจัดการตัวเองยังไง  อย่างห่วงเลย  ไม่เช่นนั้นการมาฮ่องกงครั้งนี้ของนายแพทริค  คงไม่สร้างรอยยิ้มและความสุขให้กระน้อยของพอลเหมือนวันนี้หรอก  เสียก็แต่มาน้ำตาตกช่วงค่ำเท่านั้น  ผิดที่พอลเองไม่น่าพาจินนี่ให้มาเจอแพทริคเลย” 

ผมตงิดใจอยู่แล้วเชียวว่าจินนี่ต้องเป็นหมากในเกมส์ของพอลที่จะใช้ป่วนแพทริค  เพราะลำพังผมกับพอลก็สามารถพาแพทริคทัวร์ฮ่องกงได้สบายอยู่แล้ว  แต่พอลกลับชวนจินนี่มาร่วมด้วย  ซึ่งผมนั้นแอบหวั่นแต่แรกแล้วว่าจะเกิดเรื่องวุ่นๆขึ้น  และก็ไม่ผิดจากที่คิดไว้  แต่การกระทำของจินนี่กลับทำให้ผมระแคะระคาย  ถึงความรู้สึกของแพทริคที่มีต่อผม  ซึ่งถูกปกปิดไว้มาหลายปี 

ผมจะเห็นแก่ความเข้าอกเข้าใจที่พอลมีให้  และเห็นแก่คำพูดที่ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นของพอล  บวกกับอ้อมกอดอบอุ่นและริมฝีปากนุ่มที่พรมจูบกระหม่อมผมอย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบประโลม  ผมจึงยอมที่จะไม่เอาเรื่องพ่อคนเจ้าเล่ห์จอมวางแผนในครั้งนี้  แถมผมยังเริ่มคล้อยตามคำพูดที่พอลพยายามโน้มน้าว  แต่ต้องยอมรับว่ายังหลงเหลือความไม่สบายใจอยู่บ้าง  เพราะอย่างไรซะแพทริคก็เป็นหนึ่งในคนที่ผมรักและมีความหวังดีมอบให้  ผมย่อมไม่อยากให้เจ้าตัวต้องเป็นทุกข์

“ถึงกลับต้องถอนใจเลยเหรอ...พอลเข้าใจนะว่าฝูหรงกังวล  เพราะเห็นแก่แพทริคที่เป็นญาติ  และอาการของฝูหรงก็ทำให้พอลเป็นกังวลไปด้วย...แต่พอลก็ไม่ชอบใจนักหรอก  ที่คนรักมาคิดถึงผู้ชายคนอื่นบนเตียงของเรา” 

ผมเพิ่งรู้ตัวนี่แหละว่าเผลอถอนใจออกมา  ก่อนจะแอบรู้สึกผิดตามคำพูดของพอลขึ้นมาไม่ได้  และถ้าไม่ใช่เพราะประโยคสุดท้ายที่ได้ยิน  ผมคงต้องออกแรงง้อเพราะทำให้คนรักกังวลใจตามผม  ด้วยการช้อนตาจากแผ่นอกกว้างขึ้นมองตาคู่คมเข้ม    ก่อนจะเอ่ยขอโทษด้วยเสียงหวานๆ  พร้อมแตะจูบเข้าที่แก้มสากสักทีสองทีเข้าให้แล้ว  แต่ในความเป็นจริงสิ่งที่ผมทำคือ  สะบัดค้อนใส่ตาไอ้ลูกครึ่งช่างคิด  และทุบเบาๆเข้าที่แผ่นหลังกว้างเป็นการสั่งสอน

“พูดอะไรไม่เข้าท่า...อ๊ะ!!”  ยังไม่ทันจบคำต่อว่าดีนัก  ในเสี้ยววินาทีถัดมาร่างผมก็ถูกพลิกและกดลงกับเตียง  โดยมีเจ้าของใบหน้ามู่ทู่คร่อมทับ  พร้อมข้อมือทั้งคู่ของผมถูกรวบไว้เหนือหัว 

สัญญาณเตือนภัยในหัวดังขึ้นทันที  พร้อมกับอาการเสียวแปลบปลาบที่สะโพก  และความทรงจำของบทรักแบบจัดหนักยามค่ำคืนที่ผ่านมา  ก็ลอยฟุ้งขึ้นมาเต็มหัวผมไปหมด  แม้เมื่อคืนผมเต็มใจที่เป็นฝ่ายมอบรางวัลแบบจัดหนักให้แก่พอลด้วยตัวเอง  แต่ก็เป็นเพราะเหตุนั้น  นาทีนี้ผมจึงไม่พร้อมนักที่จะสานต่อความต้องการของเจ้าของแววตาสื่อความนัยบนสีหน้าออดอ้อน  ใบหน้าที่ก่อนหน้านี้ไม่ถึงนาที  ยังบูดบึ้งไม่น่ามองสักนิด

“พอล...ฝูหรง  คือ...”  อาการอึกอักพูดไม่ออกของผมยิ่งออกอาการมากขึ้นกว่าเดิม  เมื่อรู้สึกถึงความแข็งขืนที่ดุนดันแถวต้นขา  บวกแก้มที่ร้อนฉ่าและการไม่กล้าสบตาคู่คมตรงหน้า  พร้อมความพยายามขยับตัวหนีของผม  คงบอกความในใจของผมแก่พอลจนหมด

ระหว่างที่ผมมีอาการว้าวุ่นได้แต่หลบตา  และจ้องไปยังปลายคางเขียวๆของคนเหนือร่าง  ด้วยใจจริงไม่อยากปฏิเสธสิ่งที่คนรักต้องการสักนิด  เพราะต้องยอมรับว่าตัวเองก็มีความสุขไม่น้อยยามที่เราเป็นของกันและกัน  แต่สภาพร่างกายตอนนี้มันไม่เอื้อนัก  ขืนฝืนสุดท้ายผมคงได้เป็นภาระให้อีกฝ่ายดูแล  พอลคงต้องมาลำบากและเสียเวลางานเพราะผมจนได้  ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรแบบนั้น

“กระต่ายน้อยคิดไปถึงไหนแล้วนั่น  ฮึๆ”  เสียงหัวเราะหยอกเย้าอย่างอารมณ์ดี  ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้น 

ภาพใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังยิ้มพราย  ทำเอาผมเผลอจ้องตาค้างอย่างลืมตัว  ยิ่งสีตาดำสนิทที่ระยิบระยับเหมือนดวงดาวบนฟ้ายามค่ำคืนด้วยแล้ว  ผมถึงกลับสะดุดลมหายใจตัวเอง  และไม่รู้ตัวแม้กระทั่งว่าพอลหยุดหัวเราะไปตั้งแต่เมื่อไหร่  จวบจนกระทั่งริมฝีปากหนานุ่มแตะเข้ากับกลีบปากของผม

“อ่ะ!...พอล~”  ผมออกจะแปลกใจที่พอลผละจูบ  และเปลี่ยนมาล้มตัวลงนอนเคียงข้างกัน  ก่อนจะคว้าร่างผมเข้าหาอก  แต่ผมก็ยังคงรู้สึกถึงความร้อนผ่าวแข็งขืน  ที่ทิ่มแทงแถวต้นขาไม่เปลี่ยน

“ถ้ากระต่ายน้อยไม่อยากโดนเจ้าป่าจับกินให้รีบนอนนะครับ”  แม้น้ำเสียงที่ผมได้ยินจะออกแนวหยอกเย้าผสมปลอบโยนอยู่ในตัว  แต่แรงเต้นของหัวใจใต้แผ่นอก  และอาการเครียดเกร็งกล้ามเนื้อของร่างแกร่งที่ผมสัมผัสได้นั้น  บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าไอ้ลูกครึ่งรูปหล่อของผม  ไม่ได้ปกติเหมือนสิ่งที่พยายามแสดงออกมากนัก

พอลคงพยายามข่มใจเพื่อผมอยู่  แล้วผมเล่าจะทำอะไรเพื่อคนที่รักได้บ้าง  อย่างน้อยก็ตอบแทนผู้ชายที่รักผมที่สุด  ซึ่งเป็นคนเดียวกับคนที่เข้าใจ  และนึกถึงความรู้สึกของผมเป็นอันดับแรกเสมอ  แต่ต้องเป็นวิธีที่ไม่ทำให้ตัวเองลำบากจนไปสร้างภาระให้อีกฝ่ายด้วย

“หืม...ฝูหรง  ทำอะไรครับ!”  ไม่แปลกที่พอลจะตกใจจนหน้าตาตื่น  และส่งเสียงแตกตื่นอย่างที่ได้ยิน  ด้วยผมดิ้นออกจากอ้อมกอดอบอุ่น  ก่อนจะลุกไปนั่งทับหน้าท้องแกร่ง  จนสัมผัสได้ถึงท่อนเนื้อขนาดเขื่องแถวร่องสะโพก

“จะหลับลงได้ไงเล่า...ทิ่มขาซะขนาดนั้นนี่”  ผมจงใจเว้นช่วงไว้เองแหละ  ก็ใครจะกล้าพูดเล่าว่าอะไรมันทิ่มขา  แต่คุณคงไม่ต่างจากพอลที่รู้ดีแก่ใจว่าผมหมายถึงอะไร  ไม่เช่นนั้นคนใต้ร่างคงไม่มองผมด้วยแววตาวิบวับถูกใจเช่นนี้หรอก

“กระต่าย  นะ...อืม~”  ผมก้มลงปิดปากที่กำลังเอื้อนเอ่ยฉายาของผมที่เจ้าตัวตั้งให้และชอบนักหนาไว้  ก่อนที่ตัวเองจะหมดความกล้าไปเสียก่อน 

ไหนๆผมก็คิดที่จะมอบความสุข  และเป็นผู้ปลดเปลื้องความทรมานของคนรัก  การเป็นคนคุมเกมส์เองน่าจะดีสำหรับสภาวะร่างกายของผมขณะนี้  มากกว่าที่จะปล่อยให้เจ้าของความแข็งขืนเป็นผู้ชักนำ  ซึ่งผมก็พอใจในผลงานของตัวเองไม่น้อย  เมื่อเจ้าของลิ้นร้อนไล่ตามมารุกไล่ผมถึงในปาก  พร้อมๆกับฝ่ามือใหญ่ที่กดรั้งแถวท้ายทอยไม่ยอมให้ผมผละห่าง  ผมจึงแกล้งกัดริมฝีปากล่างของพอลเบาๆ  พอให้เจ้าของสะดุ้งเล็กๆ  ก่อนจะแตะจูบยังปลายคางเขียว  และไล่ไปตามแก้มสากขึ้นไปยังใบหู  พร้อมๆกับที่พยายามปลดมือที่กำลังลูบไล้ผิวช่วงเอวออก

“พอลอย่าซนนักสิ  นอนนิ่งๆก่อนได้มั้ย  คืนนี้ฝูหรงจะช่วย  แต่ไม่ถึงที่สุดนะ”  แรงขืนจากข้อมือใหญ่ลดลงทันทีที่ผมพูดจบ  ผมจึงสามารถประสานฝ่ามือกับอุ้งมือหนาได้  และหันมายิ้มหวานใส่ตาคู่คมเข้มที่กำลังทอประกายเจิดจ้าปนตื่นเต้น  เพราะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูด

ผมทำปากเก่งไปงั้น  ทั้งๆที่ใจเต้นโครมคราม  รีบหลุบตาหนีสายตาคู่ตรงหน้า  ก่อนจะก้มตัวเข้าหาแก้มสาก  และเริ่มทำตามอย่างที่พอลเคยทำให้ผม  ด้วยการไซ้จมูกไปตามแก้มและซอกคอ  พร้อมกับส่งลิ้นไปชิมตามผิวกาย  แม้จะสากลิ้นไปบ้าง  รสชาติออกเค็มไปหน่อย  แต่เสียงครางเครือที่ดังแผ่วแถวลำคอ  กลับเป็นเหมือนกำลังใจให้ผมตั้งหน้าตั้งตามอบความสุขให้คนใต้ร่างต่อไป  ยิ่งบริเวณยอดอกแข็งเป็นไต  ยามผมลงลิ้นและตวัดเลียเบาๆนั้น  ถึงกลับเรียกเสียงครางแหบพร่าให้ดังขึ้นต่อเนื่อง  ผมจึงยิ่งได้ใจลงลิ้นระรัวสลับไปมา  ก่อนจะลากลิ้นผ่านผิวเรียบตึงไปยังหน้าท้องที่เกร็งจนขึ้นลูก  ด้วยความมันเขี้ยวผมจึงลงแรงกัดเบาๆ

“อืมๆ...ซี้ดดดด  ฝูหรง~”  เจ้าของผิวที่มีรอยฟันถึงกลับสูดปากและเรียกผมเสียงเบาหวิว  แถมยังเสยสะโพกจนส่วนแข็งขืนเสียดสีไปกับรอยแยกด้านหลัง  เล่นเอาผมสะดุ้ง  และกึ่งกลางลำตัวที่กำลังกรึ่มๆของผม  ตั้งแต่ได้ยินเสียงครางของคนรักนั้น  ถึงกลับผงาดทิ่มแทงไปชนหน้าท้องแกร่ง

พอลชะโงกหน้ามาส่งยิ้มรู้เท่าทันให้ผม  แต่ไม่พูดอะไรออกมาให้ผมต้องอายไปกว่าเดิม  จนถึงขั้นล้มเลิกสิ่งที่ตั้งใจไว้  ผมหลุบตาลงต่ำทั้งๆที่แก้มร้อนฉ่า  ก่อนตัดสินใจขยับตัวและถอดกางเกงของพอล  เพื่อปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา  ซึ่งผมถึงกับสะดุดลมหายใจ  เผลอเม้มริมฝีปากไว้แน่น  พร้อมๆกับรู้สึกว่าลำคอแห้งผาก  ยามที่ความใหญ่โตที่แสนร้อนผ่าวมาอยู่ในอุ้งมือ  ยิ่งขยับรูดรั้งของใหญ่ในมือก็ยิ่งขยายจนแทบกำไม่มิด  พาลนึกกังวลว่าที่ผ่านๆมา  ผมสามารถรับสิ่งนี้เข้ามาในตัวได้อย่างไร 

แต่แล้วผมแทบหงายหลัง  เมื่ออยู่ๆเจ้าของเสียงครางแหบห้าวที่ดังต่อเนื่องนั้น  ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง  แต่ยังดีที่มีอ้อมกอดใหญ่โตโอบรั้งผมไว้  ผมที่อยู่ในอาการตกใจทำอะไรไม่ถูก  ต้องหลุดครางเสียเอง  ด้วยฝ่ามือหนากลับสอดผ่านขอบกางเกงยางยืดเข้ามาคว้าจุดอ่อนไหวกลางลำตัว

“อ๊ะ!  อ่าๆๆ”  ผมครางหวิวตัวอ่อนและเป็นฝ่ายตกอยู่ในอ้อมกอดของพอล  พร้อมปล่อยให้ความต้องการของตัวเองถูกรวบไว้กับของอีกฝ่าย  ยิ่งพอลขยับมือชักนำให้ผมขยับตามนั้น  ความเสียวซ่านที่มีก็ไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ  จนผมเผลอขยับสะโพกสวนมือหนา  เพิ่มแรงเสียดสีของแท่งร้อนของเราให้มากขึ้น

ระหว่างนี้ในหัวผมเต็มไปด้วยแสงสีมากมาย  และเตรียมใจรับความสุขสม  แต่ในนาทีถัดมาเหมือนมีใครมาปิดสวิตซ์แสงไฟนั้นลง  ด้วยพอลหยุดขยับมือ  ผมจึงต้องเงยหน้าจากไหล่กว้างที่ชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อ  พอได้สบตาซุกซนที่เต็มไปด้วยแววตื่นเต้น  ไอ้ที่อยากจะพาลต่อว่าต่อขานมีอันล้มเลิก  แถมผมยังต้องใจอ่อนยอมตามใจในสิ่งที่คนรักรูปหล่อต้องการอีก  อย่างการมอบความสุขให้พอลด้วยริมฝีปากและเรียวลิ้น  ในแบบที่พอลเองก็ทำให้ผมในเวลาเดียวกัน 

แม้ความใหญ่โตตรงหน้าจะสร้างความลำบากให้ผมไม่น้อย  แต่เพื่อไม่ให้น้อยหน้า  ผมจึงพยายามกลืนกินมันอย่างเต็มที่  ซึ่งก็รับเข้าไปไม่ถึงครึ่ง  ผิดจากลูกครึ่งรูปหล่อที่ดูดกลืนความแข็งขืนกลางตัวของผมจนหมด  จึงไม่ผิดที่ในเวลาต่อมาผมจะปลดปล่อยสายธารร้อนเข้าสู่โพรงปากอุ่นก่อนอีกฝ่าย

“อ๊าๆๆๆ”  ผมครางลั่นและเผลอปล่อยของร้อนในปาก  จนมันละไปตามแก้มตามคอ  แต่นาทีนี้ผมไม่ได้สนใจมันนัก  ด้วยความสุขที่แผ่ซ่านไปตามผิวกายดึงดูดความสนใจของผมไปจนหมด

“อ่ะ...พอล”  ผมที่กำลังหอบน้อยๆก็ต้องสะดุ้ง  เมื่อถูกพอลพลิกตะแคงข้าง  ก่อนเจ้าตัวจะเข้าประกบที่แผ่นหลัง  จนผมอดเหลียวหลังกลับไปมองไม่ได้  จึงได้พบกับดวงตาคู่คมที่จ้องมายังผมด้วยแววตาร้อนแรง  จนผมแทบหลอมละลาย

“ฝูหรง  รักนะครับกระต่ายน้อย”  ผมพริ้มตาหลับเพื่อรับจูบดูดดื่ม  ก่อนจะหลงวนไปกับความหอมหวานของจูบที่พอลมอบให้  มารู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อมีแรงกระแทกเข้าหาสะโพกเป็นจังหวะ

พอลไม่ได้สอดใส่ความใหญ่โตเข้ามาในตัวผม  แต่เลือกที่จะสอดผ่านมันมาระหว่างต้นขาของผม  มีส่งนิ้วแหวกเข้าร่องสะโพกและลูบเล่นอย่างเพลิดเพลิน  ด้วยท่าทางของพอล  เสียงเนื้อกระทบเนื้อ  และเสียงเสียดสีของผิวกายกับผืนผ้า  โดยเฉพาะเสียงครางอย่างพออกพอใจของพอลนั้น  ทำให้ผิวกายของผมร้อนผะผ่าวไปทั่วร่าง  ร่างกายสั่นเทาอย่างห้ามไม่อยู่  ก่อนความต้องการกลางลำตัวจะผงาดขึ้นมาอีกครั้ง 

ผมส่งมือไปขยับรั้งความแข็งขืนของตัวเอง  ในจังหวะเดียวกับสะโพกแกร่งที่ส่งแรงมาให้  แต่ผมมอบความสุขให้ตัวเองอยู่ได้ไม่นาน  มือใหญ่ก็สอดผ่านเอวมากุมทับหลังมือผม  พร้อมๆกับริมฝีปากร้อนที่กดจูบเข้าที่ลาดไหล่  ก่อนจมูกโด่งจะซุกไซ้เข้าที่หลังคอ  และไล่ตามมายังลำคอทันทียามผมเปิดทางให้ 

พอลงับผิวอ่อนหลังใบหูจนผมสะดุ้ง  และเป็นจังหวะเดียวกับที่สะโพกแกร่งกระแทกมาอย่างแรง  ก่อนจะตามมาด้วยเสียงครางทุ้มข้างหู  พร้อมกับความอุ่นร้อนที่ฉีดพ่นเปรอะต้นขา  แม้พอลจะซบใบหน้าเข้าที่ซอกคอผมและหายใจแรงด้วยความเหน็ดเหนื่อย  แต่ฝ่ามือหนาก็ไม่ละเลยผม  เพราะยังคงขยับรั้งมอบความสุขให้  จึงไม่แปลกที่ผมจะปลดปล่อยตามพอลไปติดๆ
แม้ค่ำคืนนี้บทรักของเราจะแตกต่างไปบ้างจากคืนอื่นๆ  แต่ความสุขและความอบอุ่นใจที่เกิดขึ้นกับผมนั้น  ไม่ได้แตกต่างจากที่ผมเคยรู้สึกสักนิด  เพราะไม่ว่าบทรักจะเป็นรูปแบบไหน  ผมก็มีความสุขไม่ต่างกัน  แต่มีข้อแม้อยู่ข้อเดียว  ขอแค่คนที่แนบชิดผมคือไอ้ลูกครึ่งรูปหล่อคนนี้เท่านั้น  มันจะพาผมไปขึ้นเขาลงห้วยที่ไหนผมก็พร้อมจะไปด้วยเสมอ

“รักพอลนะ”

..............................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

หมอนขาดมั้ย  เลือดสำรองได้ใช้มั้ย  คู่นี้ร้อนแรงพอมั้ยคะ   :impress2:
ก็เตือนแล้วนี่น้า  ว่าหวานๆหื่นๆไปตามประสา  งื้อๆๆๆ
ตอนนี้ใครที่สงสารแพทริค  อย่าลืมตามมาให้กำลังในตอนหน้านะคะ
เพราะดูท่าแพทริคจะไม่เดียวดายแว้ววว  o18
ตอนหน้าเจอกันวันพฤหัสฯหน้าค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.เริ่มนับถอยหลังกันค่ะ  อีก 5 ตอนจบแล้วน้า (แอบใจหายT^T)

ปล2.แจ้งรีปริ้นท์นิยายชุด “เสน่ห์รัก” และ “บ่วงรัก” ค่ะ  ตามลิ้งค์ไปได้เลยน้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43497.new#new

ปล3. แจ้งเปิด & โอนนิยายชุด “Lover”  ตามลิ้งค์ไปได้เช่นกันค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43768.new#new

ใครที่พลาดในรอบก่อนๆหรืออยากได้หนุ่มๆเก็บไว้  ติดต่อเข้ามานะคะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-09-2014 13:54:41
ปลอบใจกันจนคนอ่านเลือดสาดกันเลย~ เขินนนน~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.25 "ปลอบใจด้วยกาย" P.20 (27/9/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 27-09-2014 15:26:42
บอกได้คำเดียวว่า อ๊ากกกกกกกกกกกก  :m25: 


หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.25 "ปลอบใจด้วยกาย" P.20 (27/9/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 27-09-2014 15:51:27
 :katai5: แพทริคจะมีคู่ จะได้ผัวรึได้เมียครับ //กำโทดๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.25 "ปลอบใจด้วยกาย" P.20 (27/9/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 27-09-2014 16:46:54
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.25 "ปลอบใจด้วยกาย" P.20 (27/9/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 27-09-2014 17:51:06
โอ้ ยังร้อนแรงไม่มีเปลี่ยนคู่นี้ เลือดแทบหมดตัว

ว่าแต่ใครจะมาเป็นคู่ให้ แพทริค น้าอยากรู้จัง
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.25 "ปลอบใจด้วยกาย" P.20 (27/9/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 27-09-2014 20:40:46
แอร๊ยยย เลือดจะหมดตัว  :jul1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.25 "ปลอบใจด้วยกาย" P.20 (27/9/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 28-09-2014 00:06:10
แอร๊ยยยยยยยยย

ปลอบใจกันจนเลือดเค้าจางกว่าทรัพท์แล้วจ้าาาาาาาา

รอดูคุ่ของแพทริก อยากให้แพทริกได้สามีจัง

เอิ้กๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.25 "ปลอบใจด้วยกาย" P.20 (27/9/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: THE KOP ที่ 28-09-2014 00:36:23
หวานปนเรียกเลือดตลอดอ่ะคู่นี้ น่ารักดีค่ะ...อยากอ่านเรื่องของแพทริกเหมือนกัน รออ่านตอนหน้านะคะ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.25 "ปลอบใจด้วยกาย" P.20 (27/9/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 28-09-2014 02:31:44
 :jul1:  :jul1:  :jul1:
ขอเลือดกรุ๊ปYด่วนๆ1ถุงจ้า
 :haun4:  :haun4:  :haun4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.25 "ปลอบใจด้วยกาย" P.20 (27/9/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 28-09-2014 07:55:59
:haun4: :haun4: :haun4: กระต่ายน้อยน่ารักไปแล้ว :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.25 "ปลอบใจด้วยกาย" P.20 (27/9/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 28-09-2014 10:57:01
วิธีปลอบคือแบบ... :z1:
รอลุ้นใครน้าาา จะมาดามใจแพททริค ผู้น่าสงสาร คึคึ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.25 "ปลอบใจด้วยกาย" P.20 (27/9/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 28-09-2014 12:14:12
ร้อนแรงจริงๆ  :m25:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.25 "ปลอบใจด้วยกาย" P.20 (27/9/57) >//<
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 02-10-2014 11:06:39
ใครจะมาปลอบใจแพทริคเอ่ย~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.26 "สายสัมพันธ์" P.20 (2/10/57)คู่ใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 02-10-2014 16:41:24
ตอนที่ 26

โจวพอล

“อืมมม...หืม  พอล”  ผมยิ้มใส่ตาปรือๆของคนบนเตียงนิด  ก่อนจะยื่นคาร์เนชั่นกลีบขาวเขี่ยปลายจมูกแหลมๆของคนขี้เซาเล่น 
ผลก็คือฝูหรงยู่หน้าย่นจมูกเข้าใส่ผม  แต่มุมปากกลับยกยิ้มน้อยๆและมองไปยังดอกคาร์เนชั่นไม่วางตา  ท่าทางกระต่ายน้อยเหมือนถูกใจกับคาร์เนชั่นสีขาวที่ผมเตรียมไว้ให้เจ้าตัวอยู่ไม่น้อย

ผมจึงใช้มันแกล้งเขี่ยไปตามแก้มใส  กลีบปากแดง  เปลือกตา  และลามไปทั่วดวงหน้าเนียน  ทำเอากระต่ายน้อยหัวเราะคิกคักตื่นเต็มตา  และเริ่มดิ้นน้อยๆเมื่อผมไม่ได้ใช้ดอกไม้เพียงอย่างเดียว  แต่เพิ่มมือข้างที่ว่างแหย่ไปตามซอกคอและเอวคอด  เรียกเสียงหัวเราะให้ดังขึ้นกว่าเดิม  ตามมาด้วยเสียงขู่เสียงห้ามที่ดังไม่แพ้กัน

“คิกๆ  พอลไม่เล่นนะ  ฮ่าๆ  ไม่เอา  อย่าจี้ซิ  ฮ่าๆ  นี่แน่ะ!  แกล้งดีนัก  ฮ่าๆ  อ๊ะ!...[จุ๊บ]”  หลังจากผมตั้งรับหมอนนุ่ม  ที่เจ้าของเสียงหัวเราะสดใสใช้แทนอาวุธฟาดใส่ผมไม่ยั้งได้แล้ว 

ผมก็ดึงมันออกและโยนมันลงข้างเตียง  ก่อนจะคว้าเอวกระต่ายน้อยจอมเกเรให้ขึ้นมานั่งคร่อมตัก  และแตะจูบลงบนกลีบปากแดงแรงๆไปหนึ่งที  ทำเอาคนที่เคยหัวเราะคิกคักถึงกลับหยุดเสียง  และมองมาที่ผมตาแป๋วอย่างน่าเอ็นดู

“อรุณสวัสดิ์ครับกระต่ายน้อยของพอล...สำหรับฝูหรงครับ”  ผมยื่นคาร์เนชั่นที่กลีบออกจะช้ำไปนิดให้ฝูหรง  พร้อมๆกับคำพูดที่สมควรเอ่ยแต่แรก  แถมด้วยการจ้องตากลมๆนิ่งนาน  จนแก้มปลั่งที่ขึ้นสีอยู่แล้วเพราะออกแรงแต่เช้า  ยิ่งขึ้นสีจัดจนแดงก่ำไปเกือบทั้งดวงหน้า 

สุดท้ายกระต่ายน้อยก็หลบตากัน  และยื่นมือมารับคาร์เนชั่นไป  ก่อนจะโอบวงแขนเข้ารอบคอผม  และสิ่งที่ทำให้ผมยิ้มกว้างกว่าเดิมคือ  เสียงกระซิบขอบคุณพร้อมรอยอุ่นที่ข้างแก้ม

“อรุณสวัสดิ์  ขอบคุณนะพอล”  ผมกระชับร่างน้อยเข้าหาอกอีกนิด  ก่อนพรมจูบไปตามขมับขาวและข้างแก้มแดงๆ  พร้อมโยกร่างน้อยเบาๆเหมือนเห่กล่อม  จนคนในอ้อมกอดเองหลุดหัวเราะแผ่วเบาออกมา

เรานั่งกอดกันอยู่ท่านั้นไปพักใหญ่  ก่อนผมจะตัดใจเป็นฝ่ายขยับตัวออกห่างเสียเอง  จากร่างอุ่นที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆที่ผมเฝ้าสูดดม  ฝูหรงยังคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่และมองไปยังคาร์เนชั่นไม่วางตา  ไม่ว่าผมจะจับให้นั่งตรงไหน  เจ้าตัวก็ไม่มีปฏิเสธ  ดูท่าจะถูกใจดอกไม้ที่ผมหามาให้ไม่น้อยทีเดียว 

วันหลังผมคงต้องเตรียมดอกไม้ไว้ให้คนน่ารักได้อารมณ์ดีทุกเช้าแล้วล่ะครับ  ขอแค่กระต่ายน้อยของผมมีความสุข  ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆแค่ไหน  ผมก็ไม่เบื่อที่จะทำให้  ชดเชยช่วงเวลาห้าปีที่หายไปของเรา  ชดเชยความรู้สึกที่เสียไปของฝูหรง  และเพื่อเสริมสร้างรากฐานความรักของเราให้มั่นคงยิ่งขึ้น

“หืม  ทำไม...กินตรงนี้เลยเหรอ”  คนที่เพิ่งรู้ตัวเงยหน้าเอ่ยถามผม  ทั้งๆที่โดนผมอุ้มพามานั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะริมระเบียงห้อง  โดยมีอาหารเช้าสำหรับเราสองคนถูกจัดไว้พร้อมแล้ว 

ผมส่งยิ้มใส่แววตาที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม  ก่อนจะย่อตัวลงนั่งทับส้นเท้าข้างเก้าอี้ตัวที่ฝูหรงนั่ง  และยื่นมือไปพับชายแขนเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่บนร่างน้อยไปด้วย  พร้อมกับตอบคำถามในสิ่งที่คนน่ารักอยากรู้

“ครับ  เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง  เช้านี้ปาปามามาออกรอบแต่เช้า  พอลเลยอยากทานตรงนี้กับฝูหรงสองต่อสอง”  ผมจบด้วยการแกล้งขยิบตา  และส่งสายตาเจ้าชู้ใส่คนน่ารัก  แถมด้วยการกดจูบบนหลังมือขาว

ฝูหรงเองถึงกลับแก้มแดงซ่านก่อนหลบตากัน  และยกคาร์เนชั่นขึ้นมาดมแก้เขิน  มีเหลือบตามองมาทางผมอีกนิดด้วย  แต่เมื่อเห็นว่าผมยังคงจับจ้องไม่วางตา  คนน่ารักเริ่มทำตัวไม่ถูกออกอาการเลิ่กลั่กเล็กๆ  และพยายามดึงมือข้างนั้นออกจากการเกาะกุมของผม  เมื่อผมไม่คิดจะปล่อยและแกล้งส่งยิ้มหยอกเย้าใส่ตากลมๆ  กระต่ายน้อยจึงเริ่มฮึดฮัดพองแก้มเข้าใส่

“จุ๊บก่อนครับ  แล้วพอลจะปล่อย”  มาดูกันว่ากระต่ายน้อยจะยอมทำตามคำขอของผมมั้ย

ผมคลึงมือนุ่มเล่น  พร้อมเฝ้ามองดวงหน้าเนียนที่แก้มแดงระเรื่อไม่วางตา  อยากจะรู้ว่าฝูหรงจะยอมทำตามที่ผมขอมั้ย  เจ้าของแก้มแดงเม้มปากนิด  เหล่มองผมอีกหน่อย  อย่างคนกำลังตัดสินใจ  ซึ่งผมก็ได้ยกยิ้มขึ้นเต็มหน้า  เมื่อกระต่ายน้อยตากลมมองมาที่ผมแน่วแน่  พร้อมยื่นหน้าลงมาหาผมช้าๆ  แต่ก่อนที่ริมฝีปากนุ่มจะแตะเข้ากับปากผม  คาร์เนชั่นสีขาวกลับถูกยกขึ้นแตะเข้ากลับกลีบปากแดง  และถูกยื่นมาแตะที่ปากผมในตำแหน่งเดียวกับที่เคยสัมผัสกับริมฝีปากนุ่มนั้น

“จุ๊บ!...จุ๊บแล้วนะ  ปล่อยเถอะ  ฝูหรงหิวแล้วเนี่ย  ท้องร้องใหญ่แล้วน้า  คิกๆ”  เจ้าของดวงหน้าแจ่มใสหัวเราะอย่างถูกใจ  เมื่อแกล้งผมได้สำเร็จ  มีโบกคาร์เนชั่นไปมาต่อหน้าผมอย่างหยอกเย้าด้วย 

แม้ไม่ได้สิ่งที่หวังแต่ผมไม่หงุดหงิดสักนิด  ออกจะถูกใจด้วยซ้ำที่ได้เห็นรอยยิ้มสดใส  และได้ยินเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของคนที่ผมรักในขณะนี้

“เจ้าเล่ห์ใหญ่แล้วนะกระต่ายน้อย  มาครับทานมื้อเช้ากันดีกว่า  หืม...[จุ๊บ!]”  ผมที่เตรียมลุกขึ้น  เพื่อไปนั่งยังเก้าอี้ตัวที่ว่างอีกตัว  แต่ข้อมือผมกลับถูกรั้งไว้  และไม่ทันตั้งตัวริมฝีปากนุ่มๆก็แตะเข้ามาที่ปากผมอย่างรวดเร็ว

“ขอบคุณนะที่ทำเพื่อฝูหรง”  รู้ตัวเลยครับว่าตัวเองกำลังฉีกยิ้มจนปากแทบฉีก  ก่อนจะเดินตัวลอยๆกลับไปนั่งเก้าอี้ตัวที่ตั้งใจไว้  โดยที่สายตาไม่ได้ละไปจากวงหน้าเนียนที่ประดับยิ้มเอียงอายมาให้เลยสักนิด

หลังจากนั้นมื้อเช้าที่มีแค่เราสองคน  จากการตระเตรียมทุกอย่างไว้ด้วยความตั้งใจของผมได้ผ่านไปด้วยความชื่นมื่น  และเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขของคนอันเป็นที่รักของผม  ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากให้เรามีบรรยากาศอบอุ่นแสนหวานแบบนี้ทุกเช้า  แต่มันก็จะไม่มีคำว่าพิเศษหากปฏิบัติอยู่เป็นประจำ 

วันนี้พิเศษตรงที่ว่าผมอยากเอาใจและสร้างกำลังใจให้แก่ฝูหรง  ก่อนเจ้าตัวต้องไปเผชิญความจริงที่อาจจะเกิดความลำบากใจอยู่ไม่น้อย  มาถึงตรงนี้ก็พอเดากันได้บ้างใช่มั้ยว่าเรื่องอะไร  ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ฝูหรงเพิ่งมารู้ว่านายแพทริคแอบหลงรักตัวเองถึงห้าปีเข้า

เมื่อวานตอนที่ฝูหรงเดินลงคอนโดมา  ด้วยใบหน้าซีดเซียวน้ำตานองหน้า  ผมโกรธไอ้ฝรั่งหน้าจืดที่อยู่ข้างบนมาก  จนแทบอยากขึ้นไปสั่งสอนมันซะเดี๋ยวนั้น  แต่พอได้รู้ถึงสาเหตุผมก็ได้แต่สงบจิตใจ  และปล่อยให้ฝูหรงได้ร้องไห้ระบายอยู่กับอกให้พอ  ด้วยพอจะเข้าใจความรู้สึกของคนน่ารักอยู่บ้าง 

ฝูหรงคงโทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุทำให้ญาติสนิทนั้นเสียใจ  เพราะไม่อาจตอบรับความรู้สึกของนายแพทริคได้  แต่ความจริงเรื่องนี้ไม่มีคนผิดเหมือนที่ผมได้บอกเจ้าตัวไป  เรื่องของหัวใจไม่มีใครบังคับได้  แต่ต้องพร้อมทำใจและยอมรับได้หากจะต้องผิดหวัง  เพราะมีเพียงหนึ่งที่จะถูกเลือก  ผมจึงรู้สึกเห็นใจนายแพทริคนั่นไม่น้อย  และออกจะนับถือน้ำใจที่นายนั่นไม่ดื้อดึงและอยากครอบครอง  จนสร้างความลำบากใจให้กับฝูหรงมากไปกว่าที่เป็น

วันนี้ผมจึงเต็มใจที่จะพานายแพทริคออกทัวร์ตามโปรแกรมเดิมที่วางไว้  ผิดไปจากเมื่อวานนิดหน่อย  ด้วยอคติในใจที่มีต่อผู้ชายที่มาแอบหลงรักคนรักของตัวเองนั้น  เบาบางลงจนแทบไม่เหลือ  แต่ความรู้สึกหมั่นไส้มันเป็นคนละเรื่องกัน  คุณจะไม่ให้ผมรู้สึกแบบนั้นได้อย่างไร  มาดูพฤติกรรมนายแพทริคยามนี้เสียก่อนเถอะ 

ตั้งแต่ผมไปรับมันที่คอนโด  นายแพทริคแกล้งทำตัวให้ดูน่าสงสารและสร้างบรรยากาศอึมครึมไว้รอบตัว  ผมคงไม่ต้องบอกใช่มั้ยว่ากระต่ายน้อยแสนอ่อนโยนของผมจะปฏิบัติตัวกับนายนี่อย่างไร  ถ้าไม่ใช่คอยเอาใจและตามใจอย่างออกนอกหน้า  จนผมเกือบทนไม่ไหวเตรียมโวยวายใส่แล้ว  ถ้าไม่แอบเห็นแววตาเศร้าสร้อยที่มันใช้มองฝูหรง  ยามที่เจ้าตัวเผลอตัวชั่วแวบเข้า 

ผมจึงได้แต่ข่มใจและทำเป็นไม่รู้สึกรู้สายามเห็นคนรักของตัวเองตามเอาใจผู้ชายอื่น  อย่างน้อยก็เห็นแก่ความหวังดีและความใส่ใจที่นายแพทริคมีให้ฝูหรงตลอดห้าปี  ห้าปีที่ไม่มีผมคอยดูแลอยู่เคียงข้าง  เพราะถ้าไม่มีนายนั่นผมก็ไม่รู้ว่าฝูหรงจะผ่านช่วงเวลาที่แสนโดดเดี่ยวและเศร้าโศก  จากการสูญเสียคุณป้าด้วยตัวคนเดียวได้อย่างไร

“ขอบใจนายมากที่ดูแลฝูหรงมาตลอด”  คนที่ผมเอ่ยด้วยมีสีหน้าแปลกใจไม่น้อย 

นายแพทริคคงไม่คิดว่าอยู่ๆผมจะพูดแบบนี้ขึ้นมา  แต่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าต้องหาจังหวะเอ่ยคำนี้กับนายนี่ให้ได้  ไม่ว่าผมจะหมั่นไส้มันมาตลอดวันมากแค่ไหนก็เถอะ  แต่นายแพทริคควรได้รับคำนี้จากผม  ก่อนดวงตาสีเทาจางๆที่ฉายแววแปลกใจนั้น  จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นความเข้าใจ  ยามที่ผมทอดมองไปยังร่างบอบบางที่ยืนเลือกจี้เครื่องรางนำโชคอยู่ไม่ไกล

“ไม่จำเป็นต้องขอบใจ  ที่ทำไปทั้งหมดไม่ได้ทำเพื่อใคร  แต่เพราะทำด้วยใจ  ขอแค่ฝูหรงมีรอยยิ้ม และไม่ว่ารอยยิ้มนั้นจะมีเพื่อใคร  ฉันก็พอใจแล้ว  ขอแค่ฝูหรงยิ้มได้เท่านั้น”  ผมมองใบหน้าด้านข้างที่กำลังยิ้มเศร้าๆของนายแพทริคนิ่งนาน  พาลคิดไปไกลว่าถ้าผมต้องกลายเป็นคนที่ยืนอยู่ในตำแหน่งเดียวกับนายแพทริค  ผมจะยังยิ้มได้แบบที่นายนั่นยิ้มมั้ย

“แพทริค  จี้นี่สวยมั้ย  ฝูหรงตั้งใจเลือกให้แพทริคเลยนะ  ส่วนนี่ก็สำหรับอังเคิลโลแกน  ดูสิชอบมั้ย”  ฝูหรงโชว์จี้กังหันลมที่ถูกร้อยไว้บนสร้อยสีเงินสองเส้นต่อหน้านายแพทริค  พร้อมรอยยิ้มภูมิใจนักหนาที่สามารถเลือกของฝากถูกใจ  ให้แก่ผู้เป็นญาติสนิททั้งสองได้

“ชอบสิ  ยูเลือกให้ไอทั้งที  ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ชอบ  ไหนๆยูก็ตั้งใจซื้อให้ไอแล้ว  สวมให้ด้วยสิ”  นายแพทริคพูดไปยิ้มไป  ฝูหรงเองก็ยิ้มแก้มแตก  เมื่อสิ่งที่ตัวเองตั้งใจเลือกถูกใจคนรับ  แต่ประโยคสุดท้ายที่เราได้ยิน  ทำเอาเราต่างชะงักไปทั้งคู่

ฝูหรงเลื่อนสายตาขึ้นสบตาผม  ด้วยแววหนักใจอย่างเห็นได้ชัด  ส่วนนายแพทริคยังคงระบายยิ้มไม่เปลี่ยน  ทั้งๆที่ก็น่าจับสังเกตถึงความผิดปกติของเราทั้งคู่ได้  ผมจึงเลือกที่จะกระตุกยิ้มเล็กๆใส่ตากระต่ายน้อย  ก่อนจะพยักหน้าให้เป็นเชิงอนุญาต  และเลือกที่จะเบือนหน้าหนี  ยามที่วงแขนขาวเอื้อมขึ้นไปคล้องสร้อยลงบนคอของคนที่ยืนข้างๆ  ซึ่งในนาทีต่อมาผมต้องหันกลับมาให้ความสนใจคนทั้งคู่อีกครั้ง  เมื่อมีเสียงเล็กๆดังขึ้น

“กังหันแชกงหมิว  เค้าว่าคนที่ได้ครอบครองจะโชคดี  เสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิต  นำพาสิ่งดีๆเข้ามาและพัดพาสิ่งไม่ดีออกไป...ฝูหรงขอให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตแพทริคนะ  ขอบคุณที่ดูแลกันมาตลอด”  สายตาซาบซึ้งจริงใจที่ฝูหรงใช้มองแพทริค  และสายตาอบอุ่นฉายแววรักใคร่ที่นายแพทริคใช้มองกลับนั้น  ทำเอาผมอึดอัดใจอยู่ไม่น้อย  แต่ผมก็มีเหตุผลพอที่จะไม่เอ่ยแทรกบรรยากาศเข้าอกเข้าใจในตอนนี้ 

ผมจึงเลือกที่จะเบือนหน้าหนีไปอีกครั้ง  และตัดสินใจที่จะเดินหนีออกไปรอที่รถ  ไม่ใช่ว่าโกรธหรืองอนคนรัก  เพียงแต่ผมทนมองภาพบาดตาต่อไปไม่ไหวมากกว่า  แต่ระหว่างที่ผมจะก้าวเดิน  ข้อมือผมก็ถูกรั้งไว้ด้วยอุ้งมือเล็กๆที่ยังคงอบอุ่นเช่นเดิม  พร้อมรอยยิ้มเต็มหน้าที่ยังให้ความรู้สึกสดใสไม่เปลี่ยน 

‘รอยยิ้มที่มีไว้สำหรับผม...ของผมคนเดียว’

“ไปพอล  เราไปซื้อของฝากให้แพทริคหิ้วกลับไปให้อังเคิลโลแกนกันเนอะ...แพทริคมาด้วยกันสิ”  เจ้าของดวงตาสีเทาที่ฉายแววอบอุ่นพยักหน้าตอบรับ  และก้าวเข้าหาผมกับฝูหรงอย่างช้าๆ  พร้อมมุมปากที่ยกยิ้มอย่างยอมจำนน

ผมสบตากับนายแพทริคตรงๆเป็นครั้งแรก  และเป็นครั้งแรกที่เราต่างยิ้มให้กันด้วยความจริงใจไม่มีอคติเจือปน  ด้วยรู้และต่างยอมรับความจริงตรงหน้า  ว่าไม่มีทางที่คนกลางอย่างฝูหรงจะตัดขาดคนใดคนหนึ่งออกไปจากชีวิตได้  ผมรู้ว่านายแพทริคเป็นญาติคนสำคัญสำหรับฝูหรง  นายแพทริคเองก็รู้ว่าผมเป็นคนที่ฝูหรงรัก  เพื่อความสุขของฝูหรง  สิ่งที่เราทั้งคู่ทำได้คงมีแต่การหันหน้าเข้าหากัน  และสร้างความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนให้เกิดขึ้นเท่านั้น

ผมก้มลงส่งยิ้มใส่ตาคู่กลมอย่างเข้าใจ  ก่อนกระชับมือนุ่มและนำมาคล้องที่ท่อนแขนพร้อมออกเดิน  โดยมีนายแพทริคเดินล้วงกระเป๋าตามมา  ด้วยท่วงท่าสบายๆยิ้มอ่อนๆอยู่อีกข้างของฝูหรง  คนตัวเล็กเองถึงกลับยิ้มแก้มปริ  ความสุขฉายชัดผ่านแววตา  ให้ผมและนายแพทริคได้อมยิ้มตาม

....................................................

“ไอฝากขอบคุณมิสเตอร์โจวและมิสซิสโจวด้วย  สำหรับของฝากและการต้อนรับที่แสนอบอุ่น  ยูเองก็ดูแลตัวเองดีๆ  ถ้านายพอลทำอะไรไม่ดีให้โทรไปบอกไอนะ  ไอจะรีบมาจัดการให้ด้วยตัวเอง”  จะไปแล้วยังปากดีอยู่ได้  ผมแสยะยิ้มใส่นายแพทริคพร้อมชูกำปั้นเป็นการตอบโต้  ด้วยใจจริงก็ไม่ได้ขัดใจอะไรมากนัก

“อืม  ฝูหรงจะรีบโทรไปฟ้องแพทริคแน่นอน  คิกๆ...พอล!”  นี่ก็อีกคนรับมุกกันดีนักเชียว  พอผมคว้าเจ้าของเอวบางมากอดโชว์เป็นการเอาคืน  แต่ฝูหรงดันเรียกผมเสียงเข้มแก้เขินซะอีก 

ผมเองไม่คิดปล่อยหรอก  ถือเป็นการเอาคืนคนทั้งคู่เสียทีเดียว  ด้วยคราวนี้นายแพทริคเองถึงกลับมองผมด้วยความหมั่นไส้  ด้วยไม่มีสิทธิ์ทำเยี่ยงผมได้  ‘แอบสะใจเล็กๆ’

“นายไม่ต้องห่วงหรอกน่า  ฝูหรงยังมีฉันคอยดูแล  สำคัญที่ฉันจะไม่ยอมให้คนๆนี้เสียใจอีกแล้ว  ที่ผ่านมามันก็มากเกินพอแล้วล่ะ  แต่ถ้ามีจริงๆ  คงไม่ต้องถึงมือนายหรอก  เพราะที่นี่มีแต่คนที่คอยเข้าข้างฝูหรงล่ะไม่ว่า...จริงมั้ยครับ  ‘หนูฝูหรง’ ”  ผมแกล้งยกคำเรียกขานของปาปามามาที่ใช้เรียกเจ้าตัวมาพูด  เพราะอยากจะสื่อว่ากระต่ายน้อยตัวเนี้ยน่ะเป็นที่รักของบุพการีของผม  หากเกิดเรื่องขัดแย้งระหว่างเราคงไม่ต้องถึงมือญาติสนิทหน้าจืดที่ยืนเป็นห่วงตรงหน้านี้หรอก 

นายแพทริคเองก็น่าจะได้รู้ได้เห็นมากับตา  ถึงความรักความเอ็นดูที่ปาปามามามีให้ฝูหรงแล้ว  ในวันที่ผมพานายนี่เข้าไปพบพวกท่านที่บ้านตามคำขอของบุพการี

ระหว่างที่ผมส่งยิ้มหยอกเย้าและโยกร่างเล็กในอ้อมกอดเบาๆเป็นการออดอ้อนนั้น  หางตายังแอบเห็นรอยยิ้มเศร้าสร้อยจางๆจากนายแพทริคอยู่บ้าง  แต่เพียงครู่เดียวรอยยิ้มนั้นก็หายไป  ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นแววตาแห่งความยินดีในเวลาต่อมา  ยามผมสบตาตรงๆกับนายแพทริค

“ฝากฝูหรงด้วย  ฉันเชื่อในคำสัญญาของลูกผู้ชาย  ว่านายจะรักและดูแลคนสำคัญของคอนเนลสันอย่างดี”

“ฉันสัญญา”  ผมยื่นมือไปกระชับกับฝ่ามือที่ถูกยื่นมาตรงหน้า  เพื่อผนึกสัญญาให้อีกฝ่ายมั่นใจ

ท่ามกลางเสียงจอแจในสนามบิน  ผู้ชายสามคนที่ยืนอยู่ในมุมเล็กๆมุมหนึ่ง  ผมเชื่อว่าคงได้รับความสนใจจากคนที่เดินผ่านไปผ่านมาไม่น้อย  ด้วยบรรยากาศอบอุ่นสบายๆรอบตัว  ไม่มีความโศกเศร้าที่จะต้องพรากจาก  ไม่มีความอาลัยรักของคนที่ผูกพัน  ไม่มีความกลัวของการจากลา  มีแต่ความสุขและความไว้ใจกันของคนที่ได้ชื่อว่า  ‘ครอบครัวเดียวกัน’  เท่านั้น  ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาทำลายบรรยากาศดังกล่าว 

แต่คงมีเพียงคนๆเดียวเท่านั้นที่สามารถแทรกแซงสิ่งที่ว่ามาทั้งหมด  แถมสิ่งที่คนๆนี้ทำก็ไม่มีใครกล้าต่อว่าหรือคิดจะถือสาสักนิด  ด้วยต่างรอการมาเยือนของเธอคนนี้...‘จินนี่’

“นึกว่าจะไม่ทันซะแล้ว...อะไรกันเนี่ย  บรรยากาศวิ้งๆอบอุ่นแปลกๆนะ  แต่ช่างเถอะ  อ่ะ...รับไว้สิ  สำหรับนายนะมิสเตอร์คอนเนลสัน”  น้ำเสียงสดใสพร้อมรอยยิ้มหวานเกินพอดีของยัยจินนี่ทำผมเอะใจ  แม้แต่ฝูหรงเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน  เราสบตากันเงียบๆอย่างไม่ไว้ใจยัยตัวแสบประจำตระกูลโจว

ส่วนนายคอนเนลสันเองอยู่ในอาการประหลาดใจแฝงความดีใจอย่างปิดไม่มิด  เอ่ยขอบคุณยัยจินนี่พร้อมรอยยิ้มติดมุมปาก  ก่อนจะก้มลงเปิดถุงกระดาษใบเล็ก  ผมเองเตรียมหลุดปากเตือนด้วยสังหรณ์ใจแปลกๆ  แต่ก็ช้าไป  เมื่อนายคอนเนลสันควักของฝากขึ้นมาจากถุง 

“ยาสมุนไพร  ฟู่...หลิง  ‘ฟู่หลิง’  คืออะไร”  หากนายแพทริคไม่ถาม  ใครเห็นต่างก็รู้ว่านายนี่กำลังงงขั้นสุดกับของฝากในมือ 

ผมได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมๆ  ด้วยรู้ทันในความตั้งใจของญาติสาวคนสนิท  แม้แต่ฝูหรงเองก็หน้าแหยและเงยมองผมด้วยเริ่มทำตัวไม่ถูก  เพราะรู้ในสรรพคุณของยาสมุนไพรในมือของแพทริคดี  ผมจึงได้แต่ส่งยิ้มบางเบา  พร้อมลูบเอวคนน่ารักเป็นการปลอบใจไปด้วย  คงมีแต่นายแพทริคนี่แหละที่มีแววตาสงสัยใคร่รู้  แต่ก็แฝงความไม่ไว้ใจมองต่อตาเจ้าของของฝากในมือ  ยัยจินนี่เองจากที่ยกยิ้มหวานอาบยาพิษ  มานาทีนี้ค่อยๆหุบยิ้มลงจนไม่เหลือ  จะเหลือก็แต่ใบหน้าและแววตาจริงจังเท่านั้น

“ฟู่หลิงช่วยอาการช้ำใน  ฉันคิดว่านายน่าจะต้องการมัน”  แม้ไม่พูดตรงๆ  แต่ผมเชื่อว่าทุกคนที่ยืนตรงนี้เข้าใจในสิ่งที่จินนี่ต้องการสื่อ  ‘อาการช้ำในจากการอกหัก’

“จินนี่!!”  เสียงผมที่หลุดออกมาเข้าขั้นตะคอกเลยครับ  แต่เจ้าของชื่อไม่มีทีท่าสนใจจะหันมามองผมสักนิด  ด้วยยังคงจ้องตากับนายแพทริคไม่วางตา 

นายแพทริคเองก็หน้านิ่งจนเดาไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่  กลัวก็แต่มันจะกระโจนมาบีบคอยัยแม่มดจอมแสบของผมเข้าน่ะซิ  ฝูหรงเองก็ได้แต่ก้มหน้า  ด้วยคงเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาแล้วอย่างแน่นอน  จนผมเริ่มอยากเข้าไปบีบคอสวยๆของจินนี่เสียเอง

“ถึงจะเสียใจจากการอกหัก  แต่มันก็คุ้มที่ได้รักใครจริงๆสักคน...จริงมั้ย”  ประโยคนี้ของจินนี่ทำเอาบรรยากาศอึมครึมที่มีค่อยๆจางหาย  แต่เรามายิ้มได้จริงๆก็ประโยคต่อมาของนายแพทริคนี่แหละครับ

“มันก็จริง  แต่คุณรู้มั้ยว่ามันมีวิธีหนึ่งที่รักษาอาการอกหักได้ผลทันตา  โดยไม่ต้องพึ่งไอ้ยานี่เลย...ในเมื่อเป็นเรื่องของหัวใจ  ก็ควรใช้ใจรักษา...จินนี่  คุณสนใจมั้ยล่ะที่จะช่วยรักษาใจให้ผม”  นายแพทริคมองยัยจินนี่ไม่วางตา  ในแววตาที่ผมเห็นไม่ได้หยาดเยิ้มหรือมีแววหลงใหลได้ปลื้มจินนี่ไปซะทั้งหมด  แต่มันกลับแฝงแววท้าทายจางๆอยู่ในนั้นด้วย

คนโดนขอให้ช่วยรักษาใจที่เจ็บช้ำถึงคราวอึ้งพูดไม่ออกไปชั่วขณะ  ก่อนจินนี่จะตีหน้าขรึมและทำเมินสายตาที่จ้องตัวเองไม่วางตาไปอีกทาง  มีเหลือบมองนายแพทริคด้วยหางตา  ก่อนจะส่งเสียงติดอยู่แค่ลำคอออกมาพอให้ได้ยิน

“ฮึ!  ระดับคุณหนูหมิงอี้ซานมีแต่ผู้ชายเดินเข้ามาให้เลือก  ฉันไม่จำเป็นต้องเป็นตัวสำรองของใคร”  ที่จินนี่พูดไม่ผิดไปจากความเป็นจริงสักนิด  คุณหนูหมิงอี้ซานผู้เพียบพร้อมมีตัวเลือกมากมาย

“ถ้าผมไม่คิดให้คุณเป็นตัวสำรอง  คุณจะยอมรับผมเป็นหนึ่งในตัวเลือกของคุณมั้ย”

“ฝูหรงมานี่เถอะ  ให้เวลาสองคนนี่หน่อย”  คนน่ารักในอ้อมแขนอมยิ้มน้อยๆ  และพยักหน้าให้ผมอย่างเต็มใจ  ก่อนผมจะจูงมือฝูหรงออกมาให้พ้นรัศมีการได้ยินของคนทั้งคู่

ผมแอบภาวนาขอให้จินนี่ยอมรับคำขอของนายแพทริค  เพราะเท่าที่รู้จักและจากประวัติที่ผมสืบมาของแพทริคนั้น  พบว่าผู้ชายคนนี้มีคุณสมบัติภายนอกคู่ควรกับยัยจินนี่ไม่น้อย  ที่สำคัญเรื่องความจริงใจและความมั่นคงของจิตใจแพทริคนั้น  หาได้ยากในผู้ชายยุคปัจจุบันที่มีตัวเลือกมากมาย  แต่กลับยอมเป็นตัวเลือกให้แก่ญาติสาวแสนเอาแต่ใจและขี้โวยวายของผม  ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือญาติผู้ชายทุกคนของตระกูลโจวที่ไม่นับรวมผมผู้มีแฟนแล้ว  จะได้เฮสักทีเพราะไม่มีคนที่มาคอยขัดขวางเรื่องความรักได้อีก  เพราะจินนี่คงต้องวุ่นวายกับความรักของตัวเอง

“พอลถูกใจถึงกับหัวเราะเลยเหรอ”  ผมที่เพิ่งรู้ตัวว่ากำลังหัวเราะได้ก้มมองคนที่ทักขึ้นมาและไม่คิดจะแก้ตัว

“ฮึๆ  เรื่องน่ายินดีนี่ครับ...แต่อดสงสารนายนั่นไม่ได้  ไม่รู้คิดยังไง  ฮึๆ”  ได้ยินผมพูดแบบนี้  แต่ใจจริงผมรักยัยแม่มดตัวแสบของผมไม่น้อยไปกว่าใครเลยนะครับ

“พอล!  พูดอะไรแบบนั้น  จินนี่มาได้ยินจะได้โกรธเอา...แต่คู่นั้นก็เหมาะกันดีเนอะ”

ผมมองตามสายตาของฝูหรงที่กำลังอมยิ้มถูกใจ  และเห็นด้วยแบบไม่คิดแย้ง  แต่เราคงไปกะเกณฑ์ชีวิตรักของใครไม่ได้  ได้แต่คอยดูและเอาใจช่วยอยู่ห่างๆเท่านั้น  แต่ผมก็หวังว่าจะมีคู่รักคู่ใหม่มาเติมสีสันให้โลกใบนี้ได้สดใสขึ้นอีกคู่

............................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

มิตรภาพเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหากเราลดอคติในใจลง
ความสัมพันธ์ก็เช่นกัน  ควรที่จะเปิดใจยอมรับคนใหม่ๆ 
ดีกว่าฝักใฝ่และยึดติดอยู่กับคนที่เป็นไปไม่ได้ 
เอาใจช่วยแพทริคกับจินนี่ด้วยนะคะ (มีคนเดาคู่นี้ถูกด้วย   :laugh: )

ตอนหน้าห้ามพลาดค่ะ  เพราะมีเรื่องคาดไม่ถึงและออกจะตื่นเต้นมากอยู่
เพื่อส่งท้ายเรื่องหวานๆเรื่องนี้  ขอกำลังใจในโค้งสุดท้ายด้วยค่ะ
เจอกันวันอังคารค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.แจ้งรีปริ้นท์นิยายชุด “เสน่ห์รัก” และ “บ่วงรัก” ค่ะ  ตามลิ้งค์ไปได้เลยน้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43497.new#new

ปล2. แจ้งเปิด & โอนนิยายชุด “Lover”  ตามลิ้งค์ไปได้เช่นกันค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43768.new#new

ใครที่พลาดในรอบก่อนๆหรืออยากได้หนุ่มๆเก็บไว้  ติดต่อเข้ามานะคะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.26 "สายสัมพันธ์" P.20 (2/10/57)คู่ใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 02-10-2014 17:09:20
 อิจฉาจินนี่จัง :o8: :-[ :-[
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.26 "สายสัมพันธ์" P.20 (2/10/57)คู่ใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 02-10-2014 17:42:40
ให้จินนี่ตกลงรับคำแพทริคเถอะ จะได้ไม่มากวนใจพอล
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.26 "สายสัมพันธ์" P.20 (2/10/57)คู่ใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 02-10-2014 17:44:19
ดีใจกับคู่ใหม่ด้วย อกหักก็ต้องใช้ใจรักษา และยิ่งขอให้สาวเก่งแสบซนอย่างจินนี่มาช่วยรักษาแล้ว รับรองว่าชีวิตรักของแพทริคคงมีเรื่องให้น่าตื่นเต้นตลอดแน่
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.26 "สายสัมพันธ์" P.20 (2/10/57)คู่ใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 02-10-2014 18:02:23
ในที่สุดก็เข้าใจกันได้ด้วยดีนะ

แพทริค กับ จินนี่ ต้องเป็นคู่ที่น่ารักมากแน่ๆ

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.26 "สายสัมพันธ์" P.20 (2/10/57)คู่ใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 02-10-2014 18:47:23
แพทริคจะได้คนดามใจสุดแสบรับรองไม่มีเวลาเศร้าแน่ๆ  o13
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.26 "สายสัมพันธ์" P.20 (2/10/57)คู่ใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 02-10-2014 21:50:25
555555

เป็นคู่ที่เหมาะจริงๆ

แสบปะทะร้าย

อะไรๆๆๆ จะเกิดอะไรขึ้นอ่าาาาา

อยากรู้ อยากอ่านแล้ววววววว
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.26 "สายสัมพันธ์" P.20 (2/10/57)คู่ใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 02-10-2014 22:05:24
 :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.26 "สายสัมพันธ์" P.20 (2/10/57)คู่ใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 02-10-2014 22:30:04
มีลุ้นเว้ยเฮ้ย! :hao6:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 02-10-2014 22:39:35
แว่วๆว่าจะเกิดคู่รักคู่ใหม่ขึ้นซะแล้ว ใกล้จบแล้วด้วย เฮ้อ~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.26 "สายสัมพันธ์" P.20 (2/10/57)คู่ใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 03-10-2014 09:29:27
หวังว่าแพทริคจะปราบยัยตัวแสบได้นะ
เพื่อความอยู่รอดในความรักของทุกๆคน คึคึ

>>“ถึงจะเสียใจจากการอกหัก  แต่มันก็คุ้มที่ได้รักใครจริงๆสักคน...จริงมั้ย” :กอด1: 
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.26 "สายสัมพันธ์" P.20 (2/10/57)คู่ใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 05-10-2014 11:04:35
 :mew1:


 :pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.27 "จุดเปลี่ยน" P.21 (7/10/57) ระทึก!!
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 07-10-2014 12:04:15
ตอนที่ 27

เจินฝูหรง

“ฝากด้วยนะ”  สมุดปกหนังสีดำไม่ใหญ่นักถูกยื่นมาตรงหน้า  พร้อมรอยยิ้มอบอุ่นเจือแววเอ็นดูของคนที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในแก๊งหวางหย่งกังมีให้แก่ผม

ผมยื่นมือไปรับมันไว้ด้วยความเก้อเขิน  เพราะรู้สึกว่าตัวเองได้รับความเมตตาและความเป็นกันเองจากท่านมากเป็นพิเศษ

“ครับ  เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว”  เมื่อผมเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง  รอยยิ้มดังกล่าวก็ยังไม่เลือนหายไปจากใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มใหญ่ที่ยังคงดูดี  ด้วยความน่ามองของท่านนั้น  ไม่ได้ด้อยไปกว่าชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าท่านคนไหนเลย  เผลอๆท่านหลี่จวินจะดึงดูดสายตาได้มากกว่าหนุ่มๆเหล่านั้นเสียอีก 

นาทีนี้หากดวงตาอบอุ่นคู่นั้น  จะฉายแววกรุ้มกริ่มสักนิด  ผมคงละลายกลายเป็นวุ้นซะตรงนี้กับความดูดีของท่านไปแล้ว  แต่ความเป็นจริงดวงตาคู่คมในยามปกติที่มีแต่ความจริงจังนั้น  กลับฉายแววเอื้อเอ็นดูและมองมายังผมอย่างลูกหลานเสียมากกว่า

“ช่วงนี้คงต้องเหนื่อยหน่อยนะ  รีบไปเถอะเดี๋ยวว่าที่เจ้าบ่าวจะหงุดหงิดไปเสียก่อน”  ผมรับคำท่านพร้อมรอยยิ้มเต็มหน้า  กับความเอื้ออาทรที่ได้รับและประโยคหยอกเย้าที่มีให้แก่คนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ 

‘ว่าที่เจ้าบ่าว’  ผู้ที่เร่งเคลียร์งานหัวปั่น  เพื่อต้องการตามคนรักกลับบ้านเกิด  และถือโอกาสนี้สู่ขอเสียคราวเดียวกัน  ซึ่งว่าที่เจ้าบ่าวนั้นเป็นคนเดียวกับเจ้านายโดยตรงของผม  จะเป็นใครไปไม่ได้  ถ้าไม่ใช่นายน้อยหลี่ผิง  ผู้ที่ต้องเตรียมตัวไปสู่ขอคุณธันว์มาเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูลหวาง  ด้วยคุณธันว์เรียนจบและมีแผนกลับเมืองไทยในอีกไม่ถึงสองอาทิตย์นี้ 

ผมจึงไม่แปลกใจนัก  ยามทราบข่าวว่านายน้อยพร้อมครอบครัวหวาง  และคนตระกูลหยางเตรียมยกโขยงไปไทย  เพื่อไปสู่ขอและจัดงานแต่งที่นั่น  ก่อนจะรับตัวคุณธันว์มาอยู่ฮ่องกงเป็นการถาวร  ด้วยรู้ว่าคนที่รักคนรักมากและแสดงออกชัดเจนว่ารักคุณธันว์อย่างนายน้อย  ไม่มีทางยอมที่จะแยกกันอยู่กับคุณธันว์อย่างแน่นอน  และการแต่งงานก็เป็นเพียงวิธีเดียวที่นายน้อยจะได้ตัวคุณธันว์มาอยู่เคียงข้างตลอดไป 

เมื่อแรกทราบข่าวถึงกำหนดการแต่งงานอย่างเป็นทางการ  ผมและพนักงานในโรงแรมทุกคนต่างยินดีกันถ้วนหน้า  พร้อมที่จะเหนื่อยช่วยนายน้อยเคลียร์งาน  อย่างวันนี้ผมเองต้องนำเอกสารสำคัญเร่งด่วนมาให้นายใหญ่เซ็นถึงอาณาจักรของแก๊งหวางหย่งกังด้วยตัวเอง  ซึ่งนายน้อยเองก็รอเอกสารฉบับนี้จากผมอยู่ที่โรงแรม  ขืนผมยังชักช้าคงได้เป็นไปตามอย่างที่นายใหญ่เอ่ยปากไว้อย่างแน่นอน 

แต่ก่อนที่ผมจะหมุนตัวจากไป  อย่างไม่คาดคิดนายใหญ่กลับเอ่ยแซวขึ้นมา  ทำเอาผมหลบตาแทบไม่ทัน  ก่อนจะรู้สึกว่าผิวแก้มตัวเองค่อยๆเห่อร้อน  ลามไปทั่วผิวหน้าและใบหู

“ฝากบอกเจ้าพอลด้วยล่ะ  ว่าอย่ามัวชักช้าเดี๋ยวจะตามหลี่ผิงไม่ทัน  ฮึๆ”  แม้ไม่มีชื่อผมหลุดมา  แต่เป้าหมายนั้นพุ่งตรงมายังผมชัดๆ

“คะ...ครับ  เอ่อ  ผมขอตัวก่อนครับท่าน”  ผมกอดสมุดปกหนังไว้กับอกจนแน่น  และก้มหัวให้นายใหญ่อย่างเร็ว  ก่อนจะหมุนตัวเดินจากมาจนขาแทบขวิด  ลืมมารยาทของเลขาและลูกน้องที่ดีไปชั่วขณะ  จึงได้แต่หวังว่าท่านจะไม่ถือสาเด็กอย่างผม  ด้วยคงเห็นแก่เพื่อนสนิทของลูกชายท่านอย่างพอล  หรืออย่างน้อยก็น่าจะเอ็นดูผมในฐานะที่พอลพาไปแนะนำกับท่านว่าเป็นคนรักบ้างล่ะน้า

ระหว่างที่ผมกำลังเขินจัดกับถ้อยคำหยอกเย้าของผู้ใหญ่ใจดี  ยามก้าวเข้าลิฟต์จึงไม่ทันระวัง  ทำให้ชนร่างที่เพิ่งก้าวออกมา  จนแฟ้มงานที่อีกฝ่ายหอบมากระจายเต็มพื้นหน้าลิฟต์  ก่อนจะตามมาด้วยเสียงโวยวายที่ได้ยินคราแรกทำเอาผมสะดุ้งและเริ่มรู้สึกผิด  แต่สีหน้าสีตาหงุดหงิดไม่ได้ดังใจของอีกฝ่าย  ซึ่งแสดงออกชัดว่าเป็นความผิดของผมคนเดียวที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น  ทั้งๆที่ตัวเองก็ผิดไม่ต่างกัน  ทำให้ผมเริ่มกรุ่นและยิ่งไม่พอใจมากขึ้น  เมื่อคนตรงหน้าลามปามต่อว่าไปเรื่องอื่น  ที่ไม่เกี่ยวกับความซุ่มซ่ามของเรา

“โอ๊ย!  ฉันล่ะอยากจะกรี๊ด  นายอีกแล้วรึเนี่ย  เดินดูทางบ้างมั้ย  นายนี่เจอกี่ครั้งก็สร้างเรื่องให้ฉันตลอด  ซุ่มซ่ามหรือจงใจแกล้งฉันกันแน่  ไม่รู้ว่าได้ตำแหน่งเลขาของนายน้อยได้ยังไงกัน  ตัวซวยแท้ๆ!...ชิ!”  เสียงแหลมๆของคนตรงหน้าทำให้บอดี้การ์ดคนสนิทของนายใหญ่เดินมาดูเหตุการณ์  ทำให้เธอคนนี้ยิ่งเชิดหน้ามองผมอย่างเหนือกว่า 

ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆพร้อมยืดหลังตรง  และจ้องตาวาวๆกลับแบบไม่นึกเกรง  ทำอย่างไม่เคยทำกับเธอมาก่อน  ด้วยตลอดมาไม่อยากมีเรื่องและยังอยากให้เกียรติเธอ  ที่อยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของนายใหญ่  แต่ครั้งนี้ในเมื่อมิสเคอหลานไม่คิดจะให้เกียรติกัน  แล้วผมจะยังรักษาเกียรติเพื่อเธอทำไม

“มิสเคอหลานที่นี่เป็นสถานที่ทำงานของคุณนะครับ  หากไม่คิดจะให้เกียรติผมด้วยการพูดจาให้ดีกว่านี้  คุณควรจะให้เกียรติสถานที่  และรักษามารยาทให้ดี  ให้สมกับเป็นถึงผู้ช่วยเลขาของนายใหญ่ด้วย”  คนที่โดนผมต่อว่าตรงๆถึงกลับตกตะลึง  ด้วยคงไม่คิดว่าผมจะตอบโต้แบบนี้  เพราะเห็นผมยอมลงให้มาตลอดนั่นเอง 

แต่เมื่อเธอตั้งตัวได้กลับทำท่าจะส่งเสียงกรีดร้อง  ก่อนกระโจนเข้าหาผมอย่างลืมตัว  ดีที่ผมระวังตัวอยู่แล้วจึงพลิกตัวหลบ  ทำให้เสียงกรี๊ดเปลี่ยนเป็นเสียงร้องโอดโอยแทน  จากคนที่ลงไปนั่งกองอยู่บนพื้น  แต่ไม่วายเธอยังไม่หมดฤทธิ์  ด้วยมิสเคอหลานจ้องผมอย่างกินเลือดกินเนื้อ  ผมจึงตั้งใจขยับไปยืนค้ำหัว  ก่อนจะมองเธอด้วยหน้านิ่งสนิท  ตั้งใจไม่คิดเยาะหยันแต่อยากให้เธอสำนึกจากคำพูดมากกว่า

“ผมขอเตือนด้วยความหวังดี  ครั้งหน้าถ้าคุณพูดจาไม่ให้เกียรติผมเหมือนวันนี้อีก  ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาที่คุณภูมิใจนักหนา  และคิดว่าใหญ่ซะเต็มประดา  จนกล้าที่จะดูถูกเหยียดหยามคนอื่นได้  ผมสัญญาเลยว่าจะทำทุกวิถีทางให้คุณหลุดไปจากตำแหน่งนี้อย่างเร็วที่สุด  ในชนิดที่คุณคาดไม่ถึงเชียวล่ะ  อย่าคิดว่าผมขู่  เพราะผมทำจริง...คุณก็น่าจะรู้ว่าตำแหน่งเลขานายน้อยอย่างผม  ยอมมีดีกว่าที่คุณคิด”

ผมกระตุกยิ้มใส่ดวงตาตื่นตระหนกของมิสเคอหลานทันทีที่พูดจบ  จึงยิ่งทำให้ใบหน้าสวยที่ซีดอยู่แล้วแทบไร้สีเลือด  จนน่ากลัวว่าเจ้าของจะเป็นลมไปในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง  นาทีนี้แม้จะเริ่มเห็นใจแต่ผมก็ไม่คิดจะอ่อนให้  ด้วยชะโงกหน้าลงหาเธอ  จนมิสเคอหลานเองถึงกลับผวาถอยกรูดไปกับพื้น  ส่วนเรื่องที่ขู่ไปผมทำแน่  หากอีกฝ่ายไม่คิดรามือไปจากผม 

เมื่อผมเห็นว่ามิสเคอหลานได้บทเรียนที่น่าจดจำแล้ว  จึงเตรียมหมุนตัวและเดินจากไป  แต่ผมต้องชะงักกับสายตาหนึ่งคู่ที่มองมาทางนี้  จากหน้าประตูบานใหญ่สุดทางที่ผมเพิ่งเดินออกมาไม่กี่นาทีก่อนหน้า  ดวงตาคู่นั้นทำให้ผมเริ่มรู้สึกผิดที่มาก่อเรื่องให้ผู้เป็นนายต้องร้อนหูร้อนตาเข้า  แต่ขณะที่ผมเงยหน้าขึ้น  หลังจากโค้งกายแทนคำขอโทษนายใหญ่แล้วนั้น  ผมก็ได้ใจชื้นเมื่อพบรอยยิ้มบางเบาไม่ถือสา  และผมต้องโล่งใจอย่างที่สุด  เมื่อได้เห็นนายใหญ่หมุนตัวเดินกลับเข้าห้องไปอย่างไม่คิดต่อความ

หลังจากนั้นผมก็ได้แต่ก้มหัวให้บรรดาพี่ๆบอดี้การ์ดของนายใหญ่ที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่รอบๆ  โดยไม่มีใครคิดจะเข้ามาขวางในสิ่งที่ผมทำ  ซึ่งก็ไม่มีใครคิดจะถือสา  ด้วยมอบรอยยิ้มติดมุมปากมาให้  ก่อนจะต่างแยกย้ายไปยืนประจำจุด  และผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าต้องรีบกลับ  เพื่อเอาเอกสารสำคัญไปให้นายน้อย  ทำให้ผมยิ่งไม่คิดจะเสียเวลาชายตามองมิสเคอหลานอีก  ว่าเธอทำอะไรอยู่หรือกำลังรู้สึกอย่างไร  จากหางตาผมเห็นว่ามีพี่บอดี้การ์ดของนายคนหนึ่ง  กำลังพยุงตัวเธอขึ้นจากพื้นเท่านั้น

“รีบเลยครับ  ผมเสียเวลาไปมากแล้ว”  ผมเร่งคนขับรถของโรงแรมพร้อมดูนาฬิกาข้อมือไปด้วย  และรู้ตัวว่าตัวเองเสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องไปมาก  จนพาลรู้สึกผิดขึ้นมา  แต่ไม่ได้รู้สึกผิดที่ไปมีเรื่องกับมิสเคอหลานหรอกนะครับ  เพราะเธอสมควรได้รับบทเรียนนั้นแล้ว  ที่ผมกำลังรู้สึกผิดคือการทำให้นายน้อยต้องรอเอกสารในมือนานกว่าที่ควรเป็นต่างหาก 

ระหว่างที่ผมกระวนกระวายใจอยู่นั้น  ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น  เหตุการณ์ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของชีวิต  เหตุการณ์ที่อาจจะเป็นบัญชาจากเทพเจ้า  ด้วยต้องการเตือนสติแก่ผมในบางเรื่องก็เป็นได้

“เอี๊ยดดดด...ระวัง!...เอี๊ยดดดด...โครม!!”

‘อรุณสวัสดิ์ครับฝูหรง  เช้าแล้วนะ  ตื่นไปทำงานได้แล้ว...วันนี้กระต่ายน้อยของพอลน่ารักจนไม่อยากให้ออกไปไหนเลยน้า...ทานอีกนิดนะครับ  แค่นั้นจะไปมีแรงทำงานได้ยังไงกัน...อย่าทำงานจนลืมทานมื้อเที่ยงล่ะรู้มั้ย...ตกลงเย็นนี้เจอกันที่คอนโดนะครับ...พอลรักฝูหรงมากนะ  รักที่สุดเลยรู้มั้ย’

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า  ในเสี้ยวนาทีของคนที่ใกล้ตาย  ก่อนวิญญาณจะหลุดจากร่างนั้น  ภาพความทรงจำของคนที่เรารัก  หรือเหตุการณ์ที่เราประทับใจที่สุด  จะผุดขึ้นมาในหัวอย่างต่อเนื่อง  เหมือนว่าเราได้ย้อนเวลากลับไปอยู่ในเหตุการณ์แสนประทับใจนั้นๆอีกครั้ง 

ผมรู้ซึ้งถึงความจริงในข้อนั้นในนาทีนี้เอง  ทั้งภาพและเสียงของคนที่ผมรัก  ฉายชัดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัว  ภาพของบุคคลอันเป็นที่รักที่แสดงออกให้ผมรับรู้อย่างชัดเจน  ถึงความชื่นชม  ความเอื้อเอ็นดู  ความเป็นห่วงเป็นใยที่มีให้  แถมคนๆเดียวกันนี้ยังแสดงออกชัด  ว่าหลงใหลและรักใคร่ผมนักหนาในเวลาเดียวกัน  อย่างที่ไม่มีใครจะมอบสิ่งเหล่านี้ให้ผมได้มากเท่าคนๆนี้อีกแล้ว  ‘โจว  พอล  วอร์เลนโต้’

“พะ...พอล  เฮือก!...พอล!”  แม้ยังมองเห็นไม่ชัดนักด้วยคราบน้ำตา  แต่เสียงที่ดังขึ้นผมก็จำได้ดีว่าเป็นของใคร

“ฝูหรง  พอลอยู่นี่แล้ว”  น้ำเสียงทุ้มนุ่มมาพร้อมสัมผัสอบอุ่นจากฝ่ามือ  ที่กุมกระชับเข้ายังมือข้างที่ยื่นไขว่คว้าไปในอากาศของผมไว้  ทำเอาผมรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาทันที  ปัดเป่าความกลัวและความอ้างว้างในใจไปเกือบหมด

ผมพรูลมหายใจออกจากปอดช้าๆ  และสูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่  เพื่อบรรเทาอาการเหนื่อยล้าที่ไม่ต่างจากช่วงหลังออกกำลังกายใหม่ๆ  ในขณะเดียวกันผมกุมกระชับมืออุ่นข้างนั้นไว้จนแน่น  ด้วยกลัวว่าเจ้าของมือจะเป็นเพียงภาพฝันที่ผมจินตนาการขึ้นมาเอง  เพราะยังคงติดตากับภาพอุบัติเหตุที่ได้เผชิญ  พร้อมรับรู้ถึงความรู้สึกแห่งการพรากจากแบบไม่มีวันกลับ  ที่ยังคงฝังแน่นในความรู้สึกผมจนถึงขณะนี้

เมื่อผมได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มลูกครึ่งในดวงใจชัดเต็มตา  ผมก็พลิกตัวและซุกใบหน้าเข้าหาอกอุ่น  แต่ภาพของรถที่ตัวเองนั่งส่ายไปมา  หลังจากหักหลบรถที่พุ่งตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด  พร้อมเสียงเบรกดังสนั่นที่เสียดแทงเข้ามาในอก  ก่อนตัวรถจะหมุนคว้างอีกครั้ง  ยามที่คนขับหักหลบคู่แม่ลูกที่กำลังยืนรอข้ามถนน  จนรถไปกระแทกกับรถอีกคันที่จอดข้างทาง  พร้อมสติที่หลุดลอยไปจากร่างของผม 

คิดมาถึงตรงนี้ทำให้ผมตัวสั่นอย่างห้ามไม่อยู่  ซึ่งคนที่กอดผมไว้ก็รับรู้อาการนี้เป็นอย่างดี  พอลกระชับกอดร่างผมเข้าหาอกแน่นกว่าเดิม  และส่งมือไปลูบหัวลูบหลังให้ผมอย่างอ่อนโยน  ตามมาด้วยเสียงกระซิบชวนอบอุ่นใจที่ดังอย่างต่อเนื่องอยู่ข้างหู  สลับกับรอยอุ่นชื้นที่เกิดขึ้นข้างขมับ

“พอลอยู่นี่แล้วครับ  ฝูหรงปลอดภัยแล้ว  ไม่ต้องกลัวนะครับกระต่ายน้อย  ต่อไปนี้พอลสัญญาจะดูแลฝูหรงอย่างดี  ไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้ว  เชื่อพอลนะที่รัก”  ทั้งคำพูดและการกระทำของพอล  ทำให้ผมคลายใจและอบอุ่นใจได้อย่างที่สุด

กระทั่งอาการตัวสั่นเทาอย่างลูกนกค่อยๆบรรเทาเบาบางลง  ริมฝีปากที่เคยขบเม้มไว้ก็คลายออก  ก่อนผ่อนลมหายใจยาวเหยียด  เมื่อผมรู้ตัวว่ากลั้นมันไว้นานเพราะความหวาดหวั่น  สุดท้ายพอได้สบตาที่ฉายชัดถึงความอาทรและความรักใคร่นั้น  ผมสามารถยิ้มได้อีกครั้ง  เพราะมั่นใจในตัวพอลว่าจะสามารถดูแลผมได้ดีอย่างที่พูดไว้  ก่อนผมจะยื่นหน้าแตะจูบเข้าที่ปลายคางเขียวๆเป็นการตอบรับ  และกลับมาซบใบหน้าเข้ากับอกกว้าง  เพื่อซึมซับความอบอุ่นที่วางใจได้อีกครั้ง 

พอลเองถึงกลับกลั้วหัวเราะบางเบาอย่างอารมณ์ดี  และพรมจูบไปทั่วหัวผม  พาลจั๊กจี้จนต้องหัวเราะตาม  แต่แล้วผมเพิ่งนึกขึ้นได้ถึงภารกิจสำคัญที่ได้รับมอบหมายมาก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ

“อืม...อ๊ะ!  เอกสาร!”  ผมถึงกลับตกใจผลักอกกว้างออก  แต่ดวงตาคมเข้มที่มองมาทางผมแกมตำหนินั้น  ทำให้ผมต้องก้มหน้าลงชิดอกอีกครั้งอย่างรู้สึกผิด  ก่อนจะรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นที่ลูบเข้ายังข้างแก้มแผ่วเบา  จนผมต้องเงยหน้าขึ้น 

คราวนี้ดวงตาคู่คมอ่อนแสงลงกว่าเมื่อครู่มากนัก  ทำให้ผมกล้าพอที่จะโอบแขนคล้องคอแกร่งไว้  ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเพราะพอลก็โอบร่างผมเข้าหาอกทันทีเช่นกัน

“เอกสารพวกนั้นถึงมือหลี่ผิงแล้ว...ฝูหรง”  หลังคำตอบที่ผมพอใจนั้น  พอลเรียกชื่อผมอย่างอ่อนโยนและเงียบไป  ก่อนจะดันไหล่ผมออกจากตัว  แต่สีหน้าจริงจังและแววตามุ่งมั่นที่พอลใช้กับผมนั้น  ทำให้ผมต้องตั้งใจฟัง

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้  แรกรู้เรื่องพอลยอมรับเลยว่ากลัวมาก  กลัวที่จะสูญเสียคนที่พอลรักมากอย่างฝูหรงไป  แต่ครั้งนี้ถือว่าฝูหรงโชคดี  ที่ไม่เป็นอะไรมากไปกว่าการมีรอยช้ำพวกนี้  และยังนั่งอยู่ตรงนี้ให้พอลกอดได้  ถ้ามีครั้งหน้าและฝูหรงไม่โชคดีแบบวันนี้  พอลไม่อยากจะคิดว่าจะอยู่ต่อไปได้ยังไงถ้าไม่มีฝูหรง  และคงได้แต่โทษตัวเองที่ดูแลฝูหรงไม่ดี  ทั้งๆที่เราป้องกันได้...ฝูหรงลาออกจากงานได้มั้ย  ลาออกเพื่อให้พอลได้เป็นฝ่ายดูแลฝูหรงอย่างเต็มที่ด้วยตัวเอง”

ผมยอมรับว่าทั้งตกใจและแอบไม่พอใจเล็กๆกับคำขอของพอล  แต่เมื่อจ้องเข้าไปในดวงตาคู่คมเข้มก็ให้ใจอ่อน  ด้วยในแววตาคู่นี้กลับมีแววหวาดหวั่นน้อยๆ  ในแบบที่ผมไม่เคยเห็นจากพอลมาก่อน  และเมื่อทบทวนในสิ่งที่พอลพูด  ผมก็เข้าใจความรู้สึกพอลได้ทันที  บวกเข้ากับความรู้สึกช่วงก่อนหมดสติของผมเข้าไปด้วย  ทำให้คำขอที่ดูไร้น้ำหนักและไร้เหตุผลในยามปกติ  ดูมีน้ำหนักน่าพิจารณาขึ้นมาทันที 

คำว่าอุบัติเหตุนั้น  ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน  หรือผมจะมีตำแหน่งเลขาของนายน้อยตระกูลหวางพ่วงด้วยหรือไม่  อุบัติเหตุก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่อยู่แล้ว 

คำขอของพอลหลังเหตุการณ์นี้  กลับทำให้ผมยอมรับมันอย่างง่ายดาย  ด้วยคิดดีแล้วว่าคงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า  การทำให้คนที่เรารักมีความสุขอีกแล้ว  เพราะผมไม่มีทางรู้อนาคตได้เลยว่า  จะอยู่สร้างความสุขให้พอลได้นานเท่าไหร่  ยิ่งผมผ่านเหตุการณ์เฉียดตายมาด้วย  ผมคิดว่าการไขว่คว้าความสุข  และเป็นผู้มอบความสุขแก่คนรักนั้น  เป็นสิ่งที่ผมควรทำมากที่สุดในปัจจุบัน  เพื่อไม่ให้รู้สึกเสียใจหรือเสียดายในอนาคต  แม้ผมจะแอบกังวลใจเรื่องงานอยู่บ้างก็ตาม

หลังจากที่ลูกครึ่งรูปหล่อได้คำตอบที่น่าพอใจจากผมแล้ว  พอลก็ไม่พลาดที่จะแสดงความถูกใจนี้ให้ผมรู้  ด้วยการมอบจูบอันแสนยาวนาน  จูบที่ถ่ายทอดความอบอุ่นอ่อนหวานแฝงความห่วงหาในที  ก่อนผมจะมีเวลาเริ่มสำรวจเนื้อตัวว่ามีส่วนไหนบุบสลายไปบ้าง  ซึ่งพบเพียงแค่รอยช้ำตามแขนขา  ไม่มีกระดูกส่วนไหนแตกหักให้ต้องรักษาตัวกันนานกว่าที่ตาเห็น  และเริ่มรู้สึกเป็นห่วงผู้ที่ร่วมเผชิญเหตุการณ์ด้วย

“คนขับรถนอนอยู่อีกห้อง  ไม่เป็นอะไรมาก  แต่อาการหนักกว่าฝูหรงนิดหน่อย  แขนหัก  หัวแตก  และมีอาการบอบช้ำจากแรงกระแทก  หมอเลยให้อยู่โรงพยาบาล  ส่วนฝูหรงให้กลับบ้านได้เย็นนี้เลย  แต่พอลอยากให้หมอดูอาการฝูหรงอีกสักคืน”  ผมที่ยิ้มกว้างอย่างดีใจที่จะได้กลับไปนอนบ้าน  ต้องหุบยิ้มทันทีเมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายของพอลเข้า

“ไม่ต้องทำหน้ามุ่ยเลยครับ  นอนโรงพยาบาลเพื่อพอลสักคืนนะ”  ไอ้ที่เตรียมดื้อเตรียมค้านมีอันต้องพับเก็บ  เพราะคำขอด้วยเสียงอ่อนๆและรอยยิ้มละมุน  จากลูกครึ่งรูปหล่อตรงหน้าแท้ๆเชียว 

ในเมื่อผมตัดสินใจจะทำเพื่อความสุขของคนที่รักแล้ว  ก็คงต้องไปกันให้สุดทางล่ะน้า  แม้คำว่าโรงพยาบาลมันจะน่าหวาดหวั่นจากอดีตที่ฝังใจมากแค่ไหนก็ตาม  แต่ความหวาดหวั่นที่ว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายไปกว่า  ความรู้สึกพลัดพรากแบบไม่มีวันกลับ  ที่เกิดขึ้นชั่วขณะในช่วงเกิดเหตุการณ์ก่อนหน้านี้หรอก  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะมีความสุขกับการอยู่โรงพยาบาลนะครับ 

ผมจึงไม่คิดจะปล่อยให้พอลห่างตัวห่างตาสักนิด  ยกเว้นก็แต่ช่วงที่เจ้าตัวเข้าห้องน้ำ  นอกนั้นผมยึดลูกครึ่งรูปหล่อติดตัวตลอด  อาการของผมคงถูกใจอีกฝ่ายไม่น้อย  ด้วยพอลมีรอยยิ้มติดใบหน้าตลอดเวลา  และไม่มีทีท่าอิดออดสักนิดให้เห็น  เมื่อผมขอให้ขึ้นมานอนด้วยกันบนเตียง  ให้ผมกอดไว้เพื่อความอุ่นใจ 

ยามที่รู้สึกว่าร่างกายอ่อนเพลียต้องการพักผ่อน  แต่จิตใจก็ว้าวุ่นเกินกว่าจะฝืนหลับตาลงได้  คงเพราะเพิ่งเผชิญกับเหตุการณ์น่าตกใจ  บวกช่วงเวลาก่อนหน้าผมโหมทำงานหนักด้วย  พอได้อ้อมกอดอบอุ่นที่แสนคุ้นเคย  ซึ่งผมสามารถวางใจเจ้าของอ้อมกอดนี้ได้มากที่สุดแล้ว  ผมจึงเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว  แต่ก็ยังมีโอกาสได้ยินคำรักหวานๆก่อนสติจะหลุดลอย

“รักมากนะครับ  ฝันดีกระต่ายน้อยของพอล  ขอบคุณที่ยังอยู่ข้างกัน”

.................................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

แอบหวั่นใจแทนพอลจริงๆ  ถ้าต้องสูญเสียกระต่ายน้อยไปเพราะอุบัติเหตุ
คงได้แดดิ้นอยู่ต่อไม่ได้แน่ๆ  แต่เหตุการณ์นี้ก็ให้บทเรียนแก่ทั้งคู่เนอะ
โดยเฉพาะฝูหรงที่ยอมเสียสละออกจากงานที่รัก  เพื่อความสุขของพอล
ชีวิตมันสั้น  อะไรที่ทำแล้วมีความสุข  จงทำซะ!!

เหตุการณ์ที่ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ  จะเกิดเพราะอุบัติเหตุหรือความจงใจของใครบางคนกันแน่ 
อยากรู้คำตอบต้องติดตามในวันอาทิตย์
อีก 3 ตอนก็จบแล้ว   :mew2:  ช่วยส่งกำลังใจให้ฝูหรงและพอลด้วยน้า

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.แจ้งรีปริ้นท์นิยายชุด “เสน่ห์รัก” และ “บ่วงรัก” ค่ะ  ตามลิ้งค์ไปได้เลยน้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43497.new#new

ปล2. แจ้งเปิด & โอนนิยายชุด “Lover”  ตามลิ้งค์ไปได้เช่นกันค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43768.new#new

ใครที่พลาดในรอบก่อนๆหรืออยากได้หนุ่มๆเก็บไว้  ติดต่อเข้ามานะคะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.27 "จุดเปลี่ยน" P.21 (7/10/57) ระทึก!!
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 07-10-2014 14:15:49
ตกใจหมดเลย นึกว่ากระต่ายน้อยจะเป็นอะไรไปซะแล้ว ดีมากๆเลยที่ปลอดภัย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.27 "จุดเปลี่ยน" P.21 (7/10/57) ระทึก!!
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 07-10-2014 15:21:31
พอลขอให้เปลี่ยนชีวิตเลยนะเนี่ย กระต่ายน้อยจะตัดสินใจยังไงเนี่ย :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-10-2014 15:54:58
โชคดีที่ฝูหรงไม่เป็นไรมาก เฮ้อ~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.27 "จุดเปลี่ยน" P.21 (7/10/57) ระทึก!!
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 07-10-2014 17:40:02
ดีแล้วที่ฝูหรงไม่เป็นไร คราวนี้คงลาออกตามคำขอของพอลแน่ๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.27 "จุดเปลี่ยน" P.21 (7/10/57) ระทึก!!
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 07-10-2014 17:41:55

ใจหายแว๊บบบเลยอะ นึกว่าฝูหรงจะเป็นอะไรมากซะอีก
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.27 "จุดเปลี่ยน" P.21 (7/10/57) ระทึก!!
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 07-10-2014 17:44:16
โชคดีที่ฝูหรงไม่เป็นอะไรมาก  อุบัติเหตุครั้งนี้คงทำให้ทั้งคู่ได้คิดแล้วว่า ไม่สามารถพรากจากกันได้  ฝูงหงคงยอมลาออกด้วยความเต็มใจ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.27 "จุดเปลี่ยน" P.21 (7/10/57) ระทึก!!
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 07-10-2014 18:53:31
ชีวิตมันสั้น!!!!

แต่ตอนนี้ก็ดูเหมือนมันสั้นๆน้าาาาา ><

ดีแล้วที่ต่ายน้อยไม่เป็นอะไรมาก

โล่งจายยยยยยย

ว่าแต่ถ้ามันไม่ใช่อุบัติเหตุ ไอ้คนที่ทำ...มันไม่ตายดีแน่ หึหึหึหึ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.27 "จุดเปลี่ยน" P.21 (7/10/57) ระทึก!!
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 07-10-2014 20:25:51
เกือบไปแล้วนะ ฝูหรง ดีนะที่ไม่เป็นอะไรมากอ่ะ

โล่งอกไปที ว่าแต่มันคงไม่มีเบื้องหลังเหตุการณ์นี้ใช่มั้ยเนี่ย

ถ้ามีก็ไม่อยากจะคิดว่าคนที่บงการจะเจอกับอะไรบ้างนะ

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.27 "จุดเปลี่ยน" P.21 (7/10/57) ระทึก!!
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 07-10-2014 20:28:49
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.27 "จุดเปลี่ยน" P.21 (7/10/57) ระทึก!!
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 07-10-2014 21:58:39
โชคดีที่ฝูหรงไม่เป็นอะไรมาก  :เฮ้อ:
หัวข้อ: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.27 "จุดเปลี่ยน" P.21 (7/10/57) ระทึก!!
เริ่มหัวข้อโดย: THE KOP ที่ 08-10-2014 02:05:18
จะจบแล้วเหรอเนี้ย ใจหายจัง...ฝูหรงจะได้วางมือซะทีเนาะ อยู่บ้านทำหน้าที่เป็นแม่ศรีเรือนดูแลสามีอย่างพอลอย่างเดียวก็พอ แค่นี้ก็เหนื่อยจะแย่แล้วล่ะ :mew3: :mew3: เป็นกำลังใจให้ต่อไปนะคะ รออ่านว่าที่จริงแล้วมีอะไรอยู่เบื้องหลังเหตุกรณ์ครั้งนี้กันแน่
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.27 "จุดเปลี่ยน" P.21 (7/10/57) ระทึก!!
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 08-10-2014 13:25:53
แอบตกใจเลย ไม่สิ ตกใจมาก ตกใจจริงๆเลย
เฮ้ออออออ เกือบไปแล้วฝูหรง
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.27 "จุดเปลี่ยน" P.21 (7/10/57) ระทึก!!
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 09-10-2014 17:14:15
การเดินทางของทั้งสองคนเกือบมาสุดทางอีกคู่แล้วเหรอเนี่ย
ทุกอย่างก็เข้าที่เข้าทางหมดแล้วนี่เนาะ ทั้งเรื่องรักและเรื่องงาน
คนดูแลเขาอยากดูแลได้อย่างเต็มที่ก็ตามใจเขาหน่อยเถอะฝูหรง
ถ้าหากเกิดอะไรทำนองนี้ขึ้นอีก พอลคงรู้สึกผิดไปตลอดแน่ๆ
เพื่อความสบายใจเราก็อยู่ในสายตาหรือความดูแลของเขาดีกว่าเนาะ
ส่วนเรื่องอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเรื่องหรือเหตุสุดวิสัยก็แล้วแต่
ขออย่าให้มีอะไรร้ายแรงกว่านี้เลย คิดว่าพอลเองก็คิดอย่างนี้อ่ะนะ
อ่านคู่นี้ทีไรรูสึกว่าน้ำตาลจะพุ่งสูงยังไงก็ไม่รู้สิ :o8:
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.27 "จุดเปลี่ยน" P.21 (7/10/57) ระทึก!!
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 10-10-2014 19:01:27
อึ้บๆ ดันๆ

 :mew1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.27 "จุดเปลี่ยน" P.21 (7/10/57) ระทึก!!
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 10-10-2014 22:06:40
เกิดอาการวูบเลยอ่ะ  :hao5:
ดีนะที่ฝูหรง   :mc4: :mc4: ไม่เป็นอะไร  :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.28 "เอาคืน" P.21 (12/10/57) UP UP !!!!
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 12-10-2014 10:17:40
ตอนที่ 28

โจวพอล

“ผมยอมแล้วครับ  ผมยอมแล้ว  อย่าทำอะไรผมเลย...ซินจางส่งผมมาให้ทำยังไงก็ได้  ให้รถคันนั้นเกิดอุบัติเหตุ  ตะ...แต่ผมไม่รู้จริงๆว่าคนที่นั่งอยู่ในนั้นเป็นใคร  ผมทำงานที่ได้รับมอบหมายมาเท่านั้น  อภัยให้ผมด้วยเถอะ  ยกโทษให้ผมด้วย”  เจ้าของประโยคนี้ขอร้องด้วยน้ำตานองหน้า  ไม่มีทีท่ายโสให้เห็นอีกเลย 

หากเป็นไปได้มันคงลงไปนั่งคุกเข่าเกาะขาอ้อนวอนผมแล้ว  ถ้าไม่ติดว่าตัวถูกมัดติดกับเก้าอี้ไว้  แถมสภาพใบหน้าและร่างกายไม่เอื้ออำนวย  ด้วยคราบเลือดเกรอะกรังและบวมช้ำไปทั่วอย่างน่าเวทนา

ผมคาดการณ์ไม่ผิดจริงๆว่ากลุ่มที่อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุครั้งนี้คือพวกซินจาง  ซึ่งสาเหตุของเรื่องนี้คงหนีไม่พ้นการเอาคืน  จากเรื่องที่ดินที่ทางนั้นพลาดหวังเป็นเจ้าของ  ด้วยเจ้าของที่เลือกที่จะขายให้ Joe  F.H.  Estate  พวกซินจางคงแค้นจัด  เพราะเท่ากับผลประโยชน์มหาศาลหลุดมือไปต่อหน้าต่อตา  แต่การลงมือเอาคืนกับคนที่ไม่รู้เรื่องอย่างฝูหรงมันเกินไป  ผมยอมไม่ได้ที่จะให้เรื่องนี้ผ่านไปโดยไม่จัดการอะไรเลย  แม้ฝูหรงจะปลอดภัยแล้วก็ตาม  จึงไม่แปลกที่คนตรงหน้าจะมีสภาพอย่างที่เห็น  ด้วยผ่านการเค้นหาความจริงถึงผู้จ้างวาน  และผลก็เป็นที่น่าพอใจ

หากผลของอุบัติเหตุครั้งนี้ออกมาเป็นไปตามที่พวกซินจางต้องการ  ฝูหรงได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงขั้นเสียชีวิต  ซินจางย่อมรู้ว่าผมต้องเสียใจและเคียดแค้นทางนั้นอย่างที่สุด  ซึ่งพวกซินจางก็คงสะใจกับผลที่เกิดขึ้นไม่น้อยทีเดียว  แต่ในเมื่อผลเกิดตรงกันข้าม  ฝูหรงไม่เป็นอะไรนอกจากได้รอยฟกช้ำเล็กๆน้อยๆ  แถมผมยังตามจับตัวคนขับรถที่ตั้งใจขับตัดหน้ารถของโรงแรมที่ฝูหรงนั่งได้  ซึ่งสามารถใช้เป็นพยานได้ว่าเป็นแผนการของทางซินจางได้อีกด้วย 

ดังนั้นผมไม่มีทางปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ  ผมต้องจัดการกับพวกหมาลอบกัดให้ถึงที่สุด  ซึ่งคงต้องเริ่มจากหมารับใช้ตัวนี้ก่อน  ผมพยักหน้าให้หนึ่งในบรรดาชายชุดดำที่ยืนคุมตัวคนที่นั่งไว้  เพื่อส่งสัญญาณให้ลงมือสั่งสอน

“จะ  จะทำอะไร  ไม่นะ  ไม่  อ๊ากกกก!”  เจ้าของน้ำเสียงสั่นเทาและใบหน้าหวาดกลัวต้องร้องเสียงหลง  เมื่อนิ้วก้อยถูกตัดจนกระเด็นออกนอกโต๊ะ  และเลือดกระเด็นเซ็นซ่านแดงฉานเปรอะไปทั่ว  ซึ่งเจ้าของทำได้เพียงร้องและดิ้นภายใต้การจับกุมเท่านั้น

“ผมฝากส่งให้ถึงมือซินจางกรุ๊ปด้วย”  ผมมองคนที่หมดสติด้วยสายตาว่างเปล่า  พร้อมเอ่ยปากกับชายคนที่ยืนถือมีดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ได้ครับ  คุณพอล”  สิ้นคำตอบรับ  ผมก็หมุนตัวเดินออกมาจากห้องที่ใช้สอบสวนของแก๊งหวางหย่งกัง  ออกมาได้ก็เจอเข้ากับเพื่อนสนิทผู้ที่เป็นถึงรองหัวหน้าแก๊ง

หลี่ผิงสบตาผมนิด  ก่อนจะพยักหน้าให้ผมออกเดินตาม  จนเรามาอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวของหลี่ผิงด้วยกัน  และเป็นหลี่ผิงที่เอ่ยปากก่อน  ถามถึงผลสอบสวนภายในห้อง  และแผนการที่ผมจะตอบโต้กลับไป  งานนี้ถ้าไม่ได้เพื่อนสนิทช่วย  ผมคงไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด

“งานนี้แล้วแต่นาย  ฉันร่วมมือด้วยเต็มที่  เพราะถือว่าพวกซินจางไม่ไว้หน้ากัน  ที่คิดทำร้ายเลขาของฉัน  แถมยังเป็นช่วงเวลาที่ฝูหรงทำงานให้หวางหย่งกังอยู่ด้วย  จึงไม่ต่างจากพวกมันอยากมีเรื่องกับตระกูลหวาง  ถึงสาเหตุจริงๆทางนั้นอยากจะแก้แค้นนายก็ตามเถอะ  และไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่  เรื่องนี้คงมีบทสรุปไม่ต่างไปจากวันนี้เท่าไหร่  เพราะนายคือเพื่อนฉัน  ซินจางไม่ควรลองดี”

ฟังแล้วผมได้แต่ซาบซึ้งในตัวเพื่อนสนิทคนนี้นัก  แม้เหตุผลทั้งหมดจะเป็นตามที่หลี่ผิงพูด  แต่ถ้าหวางหย่งกังจะไม่เข้ามายุ่งเรื่องนี้ก็คงไม่มีใครว่า  เพราะถือว่ามีสาเหตุมาจากเรื่องส่วนตัว  แม้จะเกิดเรื่องในช่วงเวลางานของฝูหรงก็ตามที  แต่เพื่อนก็คือเพื่อนที่ไม่ยอมทนเห็นเพื่อนอย่างผมเดือดร้อน  จนต้องตามมาช่วยจัดการให้  และผลงานก็ดีเกินคาด  ด้วยสามารถจับตัวคนขับรถได้ภายในวันเดียว  จนสามารถระบุเป้าหมายได้  แถมยังให้ความร่วมมือตามแผนที่ผมวางไว้  เพื่อจัดการกับซินจางกรุ๊ปอีกด้วย

“ถ้างั้นฉันฝากในส่วนที่เหลือด้วยเพื่อน...หลี่ผิงขอบใจนายมากจริงๆกับเรื่องนี้  ทั้งๆที่นายเองก็กำลังยุ่งแท้ๆ”

“เพื่อเพื่อนน้อยกว่านี้ได้ยังไง  แต่ถ้าคิดจะตอบแทนกันล่ะก็...ช่วยพาคนของนายไปร่วมแสดงความยินดีกับฉันและน้องธันว์ที่เมืองไทยด้วยแล้วกัน”

“งานนี้ฉันไม่พลาดอยู่แล้วน่า...ยินดีกับนายด้วยจริงๆ”  หลี่ผิงกระชับมือผมที่ยื่นไปให้  พร้อมรอยยิ้มติดมุมปากอย่างอารมณ์ดี 

หากเป็นเรื่องของเด็กน้อยของมันทีไร  บรรยากาศรอบตัวเพื่อนจะดูสดใสขึ้นมาทันตา  ยิ่งการพูดถึงเรื่องงานมงคลที่จะมีขึ้นอีกไม่นานด้วยแล้ว  แววตาเพื่อนผมยิ่งสุกใสดูมีความสุขที่สุด  ก่อนเราจะต่างหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“ฮึๆ  นายเองก็อย่ามัวชักช้า  ไหนๆเจ้าตัวก็ยินดีออกไปเป็นกระต่ายน้อยในกรงทองแล้ว  ขืนยังช้าอีก  คงได้มีคนนินทาได้ว่าโจวพอลอดีตสิงห์เจ้าเสน่ห์  กลายเป็นแค่สิงห์แก่ๆไร้เขี้ยวเล็บ  ไม่มีปัญญาจัดการกระต่ายน้อยได้ล่ะ”  น้อยครั้งนักที่ไอ้มาเฟียใหญ่จะเอ่ยปากแซวกันสักที  แต่ผมไม่คิดถือสา  ด้วยเรื่องที่โดนแซวไม่มีมูลสักนิด  เพราะเรื่องนี้กระต่ายน้อยของผมรู้ดีที่สุด  ว่าผมมีปัญญาหรือไม่มี  ฮึๆ

ผมอยู่คุยกับหลี่ผิงเรื่องแผนการอีกพักใหญ่  ก่อนจะขอตัวกลับมาดูแลกระต่ายน้อยน่ารัก  ที่เพิ่งกลับมาพักผ่อนที่บ้านเมื่อช่วงเช้า  ก่อนผมจะปลีกตัวออกมาจัดการเรื่องยุ่งๆยังแก๊งหวางหย่งกัง  โดยอ้างกับฝูหรงว่าจะออกมาคุยกับหลี่ผิงเรื่องที่เจ้าตัวจะลาออก  เพราะไม่อยากบอกความจริงในเรื่องที่ผมแอบให้หลี่ผิงสืบหาตัวคนขับรถนั่น  ด้วยสังหรณ์ใจแต่แรกว่าไม่ใช่อุบัติเหตุจริงๆ

................................................

“หน้าตาใช้ได้เลย  เหลือก็แต่รสชาติ”  ยัยจินนี่นี่น้าจะชมทั้งทีก็ไม่ชมให้สุด  แต่จากสายตาผมเจ้าของซุปชามใหญ่เองก็ไม่มีทีท่าไม่พอใจแต่อย่างไร  ด้วยฝูหรงยังคงยิ้มอ่อนๆ  พร้อมยื่นถ้วยใบเล็กไปตรงหน้าจินนี่หวังให้ลองชิม

“เป็นไงบ้าง  ไม่ได้เรื่องเลยเหรอ  แต่ฝูหรงทำตามที่จินนี่บอกทุกอย่างเลยนะ”  ขนาดผมแอบมองอยู่ห่างๆยังเห็นสีหน้าแววตาหม่นหมองได้ชัด  จนอยากเข้าไปกอดปลอดกระต่ายน้อย  พร้อมลงมือตักเตือนตัวต้นเหตุที่ทำให้คนรักขาดความมั่นใจในการทำอาหารเลยทีเดียว

“ยังไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย  ซุปนี่รสชาติดีมากต่างหาก...ทีนี้ล่ะยิ้มได้เลยนะ  แต่เลิกสักทีเถอะ  ไอ้นิสัยคิดไปก่อน  ก่อนที่จะได้ฟังอะไรจริงๆเนี่ย  แค่โดนแกล้งปั่นหัวนิดๆหน่อยๆก็เขวละ  ช่วยหนักแน่นกว่านี้หน่อยนะฝูหรง  เพราะต่อไปพอลต้องรับตำแหน่งต่อจากลุงฟู่สือ  ขืนมีแฟนอ่อนไหวไปทุกสถานการณ์ล่ะก็คงน่าสงสารแย่” 

แม้จะฟังไม่ระรื่นหูกับประโยคยาวๆของจินนี่เท่าไหร่  แต่ผมอดยิ้มไม่ได้จริงๆ  ด้วยเจตนาของคนพูดนั้นหวังดีต่อผมและฝูหรงอย่างแท้จริง  ซึ่งฝูหรงเองก็ดูจะเข้าใจในเจตนาของยัยแม่มดตัวแสบดี  ด้วยปรากฏรอยยิ้มบางเบาทันทีที่จินนี่พูดจบ  แถมด้วยการตอบรับด้วยเสียงใสๆ  จนผมนั้นพลอยยิ้มได้กว้างมากขึ้น  และเลือกที่จะแอบดูคนทั้งคู่อยู่ที่เดิม  ก่อนจะมีคนมาสะกิดผมให้ต้องหันไปมอง 

พบว่าเป็นปาปาที่ยืนจ้องผมนิ่งๆ  จากสายตาคมกล้าของท่าน  ผมก็พออ่านออกว่าท่านต้องการสิ่งใดจากผม  ถ้าไม่ใช่เรื่องตัวต้นเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับฝูหรง  เมื่อท่านพยักหน้าและหมุนตัวเดินนำออกไปก่อน  ผมจึงเดินตามไปแบบที่ไม่ต้องให้เรียกซ้ำ

“ทางหวางหย่งกังจะช่วยเข้าแทรกแซงราคาหุ้นของทางนั้น  ปั่นให้สูงเพื่อให้ซินจางได้ใจ  จนคิดหว่านซื้อมาเก็บไว้เองทั้งหมด  ก่อนจะสร้างข่าวทำให้ซินจางกรุ๊ปหมดความน่าเชื่อถือในวงการอสังหา  พร้อมส่งคนไปป่วนโครงการที่กำลังเปิดขายตอนนี้  และป่วนตลาดหุ้นอีกครั้งเพื่อฉุดราคาหุ้นให้ตก  พอเกิดปัญหารุมเร้าทั้งสองด้าน  การเงินหมุนไม่คล่อง  ที่สุดซินจางต้องขายหุ้นออกมาเพื่อพยุงธุรกิจ  ช่วงนี้บริษัทในเครือหวางหย่งกังที่ไม่เป็นที่เปิดเผยว่ามีตระกูลหวางเป็นเจ้าของ  จะกว้านซื้อหุ้นมาไว้ในมือให้มากที่สุด  และบีบซินจางทุกทางให้เทขายหุ้นจนมากกว่าครึ่งของที่มี  ถึงตอนนั้นตระกูลหวางจะถ่ายโอนหุ้นทั้งหมดที่ซื้อมาให้เรา  ก็ไม่ต่างจากที่ Joe  F.H.  Estate เข้าควบรวมกิจการซินจางกรุ๊ปมาไว้ในมือได้สำเร็จ”

สิ้นคำพูดของผมนั้น  ปาปายังคงเงียบและมีสีหน้าครุ่นคิดไม่เปลี่ยน  แต่ผมก็ไม่คิดจะเอ่ยอะไรออกไปอีก  เพื่อรอให้ปาปาพูดออกมาเอง  แต่ผมเชื่อว่าท่านต้องไม่ขัดแผนการครั้งนี้  แม้ท่านอาจจะไม่เห็นด้วยทั้งหมดก็ตาม  ด้วยซินจางทำเกินกว่าเหตุคิดทำร้ายคนของเราถึงขั้นหมายเอาชีวิต  การตอบโต้ครั้งนี้ย่อมต้องทัดเทียม  เอาให้ทางนั้นหมดหนทางกลับมาทำร้ายเราได้อีก  หากทำน้อยกว่านี้  ผมก็ไม่แน่ใจว่าพวกหมาลอบกัดจะคิดกลับมาทำร้ายกันอีกเมื่อไหร่  ซึ่งผมจะไม่ยอมทนอยู่กับความหวาดระแวงนี้แน่นอน

“เอาเถอะ  มาถึงขนาดนี้แล้ว  รอดูแล้วกันว่าซินจางกรุ๊ปจะตกหลุมพรางที่แกวางไว้มั้ย  ถ้าเป็นอย่างที่คิด  ถือว่าทางนั้นได้รับบทเรียนครั้งใหญ่ในสิ่งที่ตัวเองทำก็แล้วกัน”

ผมได้แต่นิ่งฟังปาปาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่แพ้ใบหน้า  แต่ท่าทางที่ดูเหมือนปกติแต่ไม่ปกตินั้น  สะกิดใจผมไม่น้อย  เพราะเสี้ยววินาทีก่อนที่ปาปาจะหลุบตามองมือที่กุมไว้ของตัวท่านเองบนโต๊ะนั้น  ผมเห็นแววตาหดหู่แบบที่ผมไม่เคยเห็นจากท่านมาก่อน  บวกความทรงจำเมื่อยามที่เราได้คุยกัน  ในครั้งที่ซินจางวางแผนป่วนการซื้อที่แถบชายทะเลของเรา  และทางนั้นพลาดไม่ได้ครอบครอง  ซึ่งเป็นสาเหตุเดียวกับการเกิดเรื่องวุ่นๆครั้งนี้ด้วย  ผมจำได้ว่าครั้งนั้นยามปาปารู้เรื่องทั้งหมดจากผม  ท่านก็มีแววตาหม่นๆให้ผมเห็นชั่วแวบ  จนผมคิดว่าตัวเองตาฝาดไปนั่นไงครับ 

‘ระหว่างปาปาและทางซินจาง  มันต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่อย่างแน่นอน’  ผมจะไม่มีวันรู้ความจริงได้เลย  หากไม่ใช่ความต้องการของปาปา  ถึงแม้ผมจะออกปากถามท่านตรงๆตอนนี้ก็ตาม 

ผมจึงเลือกที่จะเงียบและรอให้ท่านเป็นฝ่ายบอกให้รู้ด้วยตัวเอง  ด้วยเพียงเท่านี้ผมก็พอใจแล้วที่ท่านไม่ขัดแผนการที่วางไว้  เพราะนั่นหมายความว่าผมได้ทำในสิ่งที่อยู่ในขอบเขตที่ท่านรับได้

“เหนื่อยมั้ย  วันนี้ฝูหรงไม่น่าเข้าครัวเลย  เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลแท้ๆ”  ผมรวบเก็บปลายผมที่เริ่มยาวเข้าหลังใบหู  พร้อมส่งยิ้มใส่ตากลมๆที่จ้องมายังผมไม่กระพริบไปด้วย  ดูก็รู้แล้วว่าสิ่งที่จะได้ยินต่อไปคืออะไร

“ไม่เหนื่อยหรอก  สนุกสิไม่ว่า  งานนี้ต้องขอบใจจินนี่นะที่มาชวนฝูหรงเข้าครัว  หายเหงาเลยล่ะ  เพราะพอลนั่นแหละหายไปนานเกิน  รู้งี้ไม่น่าให้กินซุปหางวัวเลย”  แม้น้ำเสียงกระเง้ากระงอดสอดคล้องไปกับประโยคต่อว่าท้ายประโยคที่ผมได้ยิน  จะชวนเข้าใจไปว่าคนน่ารักงอนกันเข้าแล้ว  แต่ดวงตาสุกใสที่ผมจับจ้องอยู่นั้นช่างสวนทาง  เพราะดันฉายแววซุกซนได้อย่างน่าดู  ผมจึงยอมเล่นตามบทเป็นฝ่ายง้อกระต่ายน้อยขี้งอน

“กระต่ายน้อยยกโทษให้พอลเถอะน้า  อย่าโกรธเลย  พอลใจหายหมดแล้วรู้มั้ยเนี่ย  แต่เอ๊ะ!!”  ผมแอบยิ้มให้กับสีหน้าแปลกใจปนตกใจของฝูหรง  ด้วยผมเล่นส่งเสียงและตีหน้าตกใจเกินจริงซะขนาดนั้นนี่นะ  แต่ที่ทำไปเพราะอยากเรียกร้องความสนใจของคนน่ารักไว้กับตัวมากหน่อย

“ทำไมหัวใจพอลถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะเนี่ย  พอลหาตั้งนาน  ฝูหรงขโมยมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ...ฮึๆ”  คราวนี้ผมถึงกลับกลั้นหัวเราะไม่อยู่  เผลอกลั้วหัวเราะออกมาทันที 

ยามเห็นฝูหรงเบิกตาโตด้วยความตกใจ เพราะเข้าใจคำพูดแฝงนัยของผม  เมื่อผมจับมือนุ่มวางลงบนหน้าอกของตัวเค้า  ด้วยอยากจะบอกใบ้ว่าเจ้าตัวขโมยหัวใจผมไปอยู่กับตัวตั้งนานแล้วนั่นเอง

“หัวเราะทำไมเล่า  หยุดเลยนะ...ล้อดีนักใช่มั้ย  จำไว้เลย  ชิ!”  ทั้งๆที่ฝูหรงแก้มแดงก่ำ  แต่ดันถลึงตาใส่หวังให้ผมกลัว  แต่ท่าทางน่าเอ็นดูแบบนี้ใครจะกลัวกันครับ 

จากที่เพียงแค่อมยิ้ม  ผมกลับหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้ง  ก่อนฝูหรงเปลี่ยนจากอายกลายเป็นงอนจัด  คาดโทษผมจบก็หมุนตัวเดินหนีผมขึ้นห้องไปเลย

“ฮึๆ...อ้าว  ฝูหรง  รอพอลก่อน  ฮึๆ”  ดูท่าผมจะจิตอ่อนๆ  เห็นคนรักงอนแล้วมีความสุข  แต่ผมก็ไม่คิดจะปล่อยให้กระต่ายน้อยงอนนาน  ต้องรีบง้อครับเดี๋ยวเลยเถิดกลายเป็นโกรธแล้วจะยุ่ง

ส่วนวิธีง้อคงต้องเริ่มจากคำพูด  และคงต้องเป็นคำพูดที่หวานหูสักหน่อย  แต่ถ้าไม่ได้ผลคงต้องยกระดับเปลี่ยนมาง้อด้วยการกระทำแทน  กอดนิดหอมหน่อยให้กระต่ายน้อยใจอ่อนยอมยกโทษให้  ถึงขั้นนี้ผมเชื่อว่าคนน่ารักที่รักผมที่สุดนั้น  ต้องใจอ่อนกับผมอย่างแน่นอน  แต่จะว่าไปอีกใจผมก็อยากให้ฝูหรงงอนต่ออีกหน่อยนะ  เพราะวิธีการง้อขั้นกว่านั้นมันช่างน่าพิสมัยนัก 

จนทำให้นาทีนี้ผมตัดสินใจตีมึน  รวบตัวคนน่ารักที่กำลังแอบอมยิ้มไว้กับอก  ก่อนจะฉวยโอกาสขบเม้มริมฝีปากแดงฉ่ำเบาๆ  และสอดลิ้นผ่านกลีบปากที่เผลอเผยอออกนั้นเข้าไปชิมความหวานภายใน  แต่ยิ่งได้ลิ้มลองก็เหมือนจะยิ่งไม่พอ  ผมเผลอเอาแต่ใจกอบโกย  จนร่างน้อยอ่อนแรงทิ้งน้ำหนักให้ผมรองรับ  ก่อนผมจะปล่อยริมฝีปากฉ่ำหวานให้เป็นอิสระ  และช้อนตัวกระต่ายน้อยขึ้นอุ้มพาไปวางบนเตียง  ขั้นตอนหลังจากนั้นคงไม่ต้องบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น  แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ  เพราะผมไม่คิดจะเอาเปรียบคนรักที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลมากนัก  ด้วยหวังแค่ชื่นใจเล็กๆน้อยๆ  เพื่อทำให้ฝูหรงหลับสบายขึ้นเท่านั้นเอง

“พะ...พอล  ไม่ไหวแล้ว  ฝูหรง  อื้อออ”  ทันทีที่ฝูหรงกรีดร้อง  ผมก็อ้าปากเต็มที่เพื่อรับสายธารอุ่นที่พุ่งเข้าคอ  ก่อนกลืนกินสิ่งที่เป็นของคนรักไว้ทั้งหมด 

เมื่อเจ้าของร่างน้อยทิ้งตัวนอนลงบนเตียง  ด้วยทีท่าเหนื่อยอ่อนและพริ้มตาหลับสนิท  แต่มุมปากดันยกยิ้มน้อยๆเหมือนถูกใจ  ยามผมจูบซับไปตามผิวเนื้ออ่อนที่อมชมพูระเรื่อไปทั่วร่าง  จากหน้าท้องแบนราบที่มีรอยบุ๋มอยู่กลางลำตัว  มายังแผ่นอกบางที่ประดับด้วยเม็ดทับทิมสีสวยหนึ่งคู่  ถึงลำคอระหงที่กรุ่นกลิ่นหอมอ่อนๆติดจมูก  ไล่มาตามหลังใบหู  และจบที่มุมปากหวานๆ  ที่นาทีนี้กำลังคลี่ยิ้มสวยอย่างน่าดู  แต่เปลือกตาบางใสนี่สิที่ยังคงปิดสนิทไม่เปลี่ยน 

ผมจึงจงใจประทับจูบไปทั้งสองข้าง  จนขนตางอนหนาสั่นไหว  แต่ผมยังไม่ทันได้สบตากับดวงตาคู่กลมที่แสนน่าหลงใหล  วงแขนน้อยก็ยื่นมาโอบรั้งต้นคอ  ให้ผมโน้มตัวลงไปนอนเคียงข้าง  ก่อนผมจะยกร่างเปลือยขึ้นมาทาบทับให้นอนบนตัว  การกระทำของผมดันทำให้กระต่ายน้อยเริ่มรู้สึกตัว  ว่ามีเพียงตัวเองเท่านั้นที่เปลือยเปล่า  เพราะผมยังคงสวมเสื้อผ้าครบชุด  ฝูหรงผงกหัวขึ้นจากอกผม  ก่อนจะขมวดคิ้วยู่หน้าเข้าใส่  และทุบลงมาบนอกผมไม่เบานัก

“นี่แน่ะ!  เอาเปรียบกันดีนัก”  ผมรวบข้อมือเล็กทั้งคู่ไว้และรั้งต้นคอขาวลงมา  จนใบหน้ามู่ทู่แนบไปกับแผ่นอกอีกครั้ง  พร้อมกับที่ผมพยายามกลั้นยิ้ม  ด้วยขืนกระต่ายน้อยขี้โมโหเห็นเข้า  มีหวังโวยวายใส่ผมจนเอาไม่อยู่ 

เห็นตัวเล็กแบบนี้แรงเยอะใช่เล่น  ที่สำคัญขืนให้ฝูหรงดิ้นอยู่บนตัวผมมากกว่านี้  ไอ้ที่สงบไปแล้วคงได้ชูคอเรียกร้องความสนใจขึ้นมาอีกครั้งน่ะสิ  และคนที่จะลำบากก็คือคนน่ารักในอ้อมกอดนี่แหละ

“คืนนี้พอลอยากให้ฝูหรงหลับสบายต่างหาก  ไม่คิดเอาเปรียบ  ขอแค่ชื่นใจเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง  แต่ฝูหรงรู้มั้ย  ถ้ายังดิ้นอยู่แบบนี้  พอลคงได้เป็นอย่างที่ฝูหรงว่าพอลแน่ๆ”  สิ้นคำพูดของผมนั้น  ฝูหรงหยุดดิ้นทันที  แต่ยังไม่วายเงยหน้ามาตวัดค้อนวงใหญ่ส่งให้กัน 

ผมอดใจไม่ไหวจึงยื่นหน้าแตะจูบเข้าที่ปลายจมูกเชิดๆนั่น  ก่อนอาศัยจังหวะที่กระต่ายน้อยไม่ทันตั้งตัว  อุ้มร่างบางขึ้นและพาตรงเข้าไปยังห้องน้ำ  พร้อมวางฝูหรงลงในอ่างด้วยความเบามือ

“อาบน้ำหน่อยนะครับ  จะได้หลับสบาย”

“...อืม”  ฝูหรงหลบตาแสดงความห่วงใยที่ผมตั้งใจส่งไปให้  พร้อมตอบรับคำผมด้วยเสียงเบาๆที่ติดอยู่แค่ลำคอ  ก่อนจะนั่งกอดเข่าเพื่อซ่อนเนื้อตัวไปจากสายตาของผม

ผมเองก็ไม่คิดจะทัก  ด้วยอยากดูแลคนรักตัวน้อยอย่างที่ตั้งใจไว้  กระทั่งเนื้อตัวฝูหรงสะอาดหมดจดไปทั้งตัว  ผมจับเจ้าตัวห่อผ้าพาออกนอกห้อง  และแต่งตัวให้ด้วยชุดนอน  จนได้กระต่ายน้อยหน้าใสมายืนเงยหน้ามองผมตาแป๋วนั่นแหละ 

ภาพตรงหน้าทำให้ผมรีบสะกดกลั้นอารมณ์ดิบกลับลงไป  และยกยิ้มอบอุ่นให้ฝูหรง  แม้จะรู้สึกตัวอยู่เหมือนกันว่าตัวเองปากสั่น  เพราะขืนช้าเพียงเสี้ยววินาที  สิ่งที่ทำมาทั้งหมดคงศูนย์เปล่า  ด้วยผมคงเข้าไปขย้ำกระต่ายน้อยน่ารักอย่างแน่นอน

“ฝูหรงนอนก่อนได้เลย  พอลขอไปจัดการตัวเองก่อน”  ยังไม่ทันที่ผมจะหมุนตัว  ริมฝีปากนุ่มก็แตะเข้ามาที่ข้างแก้ม

“กู๊ดไนท์”  เจ้าของคำอวยพรแสนธรรมดาวิ่งปรู๊ดหนีผมทันทีที่พูดจบ

ผมได้แต่อมยิ้มให้กับก้อนกลมๆที่อยู่บนเตียง  และนึกขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย  ที่ไม่พรากคนรักของผมไปก่อนเวลาอันควร  ผมสัญญาว่าจะใช้เวลาที่เหลืออยู่นี้ทุกนาที  มอบความสุขแก่ฝูหรงให้มากที่สุด

.............................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

หวานเนอะๆ  ปลื้มปริ่มในความรักของคู่นี้จริงๆ
ต่างฝ่ายต่างอยากทำให้คนของตัวเองมีความสุข
ส่วนพวกซินจางที่เป็นต้นเหตุของเรื่องยุ่งๆจะได้รับผลอย่างไร
ตอนหน้าได้รู้กัน  และซินจางจะหมดฤทธิ์มั้ยต้องติดตามค่ะ
เจอกันอีกทีวันศุกร์จ้า  อีก 2 ตอนจบแล้วน้า

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.แจ้งรีปริ้นท์นิยายชุด “เสน่ห์รัก” และ “บ่วงรัก” ค่ะ  ตามลิ้งค์ไปได้เลยน้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43497.new#new

ปล2. แจ้งเปิด & โอนนิยายชุด “Lover”  ตามลิ้งค์ไปได้เช่นกันค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43768.new#new

ใครที่พลาดในรอบก่อนๆหรืออยากได้หนุ่มๆเก็บไว้  ติดต่อเข้ามานะคะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.28 "เอาคืน" P.21 (12/10/57) UP UP !!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 12-10-2014 12:50:45
ฝูหรงน่ารักเนาะ :mew1:

ปล จะจบแล้วหรอเนี่ย :mew2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.28 "เอาคืน" P.21 (12/10/57) UP UP !!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 12-10-2014 13:49:44
คู่นี้หวานตลอดเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.28 "เอาคืน" P.21 (12/10/57) UP UP !!!!
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 12-10-2014 15:26:36
พอล นี่ก็หื่นตลอดอ่ะ ฝูหรง ยังไม่หายดีเลยนะ

5555
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.28 "เอาคืน" P.21 (12/10/57) UP UP !!!!
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 12-10-2014 17:09:16
อ่าน 3 ตอนรวดเลยค่าา
จะจบแร้วง่าาาา ~.~
ดีจังที่กระต่ายน้อยออกจากงานมาให้พอลดูแลอย่างใกล้ชิด ^^
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.28 "เอาคืน" P.21 (12/10/57) UP UP !!!!
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 12-10-2014 18:03:50
แล้วก็รู้ว่าอุบัติเหตุที่ฝูหรงโดน เกิดจากซินจางอยู่เบื้องหลัง  มีหวังซินจางเละแน่ๆ ยิ่งได้หลี่ผิงคอยช่วยด้วย

แต่ตอนนี้ที่อยากรู้คือ ปาปาของพอลกับซินจาง มีปัญหาอะไรกัน เดาว่าเคยแข่งกันจีบแม่ของพอลมาก่อน
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-10-2014 18:50:03
หวานกันจริงๆคู่นี้ ใกล้จบแล้วด้วย~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.28 "เอาคืน" P.21 (12/10/57) UP UP !!!!
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 13-10-2014 11:00:05
หวานกันตล๊อดตลอดเลยคู่นี้
อิจฉาๆๆๆ
 :mew3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.28 "เอาคืน" P.21 (12/10/57) UP UP !!!!
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 13-10-2014 12:16:40
ฝูหรงน่ารักเนอะ โชคดีแล้วน้าพอล ที่ไม่เสียกระต่ายน้อยไป คราวนี้ก็ดูแลดีๆ อย่ามัวแต่หื่นล่ะ
ปล. อ่านคำว่าใกล้จบแล้ว ก็ใจหาย  :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.28 "เอาคืน" P.21 (12/10/57) UP UP !!!!
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 13-10-2014 20:40:14
พอลดูแลฝูหรงดีมาก แต่ก็จ้องจะจับกินตลอด  :laugh:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.28 "เอาคืน" P.21 (12/10/57) UP UP !!!!
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 13-10-2014 21:20:05
ต่ายน้อยขุดหลุมลึกอีกแล้วววว

แค่นี้เค้าก็ขึ้นมาไม่ได้แล้วน้าาาาาา งื้ออออ

อยากโดนต่ายน้อยอ้อนบ้างอ่าาาาาาา  :mew3:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.28 "เอาคืน" P.21 (12/10/57) UP UP !!!!
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 15-10-2014 21:41:10
 :mew1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.29 "ยาชูใจ" P.21 (17/10/57) พาใจฟูฟ่อง
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 17-10-2014 10:55:43
ตอนที่ 29

เจินฝูหรง

“ทำไมทำหน้าแบบนั้น  ฮึๆ  เดี๋ยวนี้กระต่ายน้อยของพอลขี้งอนบ่อยจังน้า”  น้ำเสียงและสีหน้าหยอกเย้าของคนข้างๆ  กวนโมโหให้ผมยิ่งยู่หน้ายื่นปากใส่มากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว  จนมีมือหนายื่นมาบีบริมฝีปากผมเบาๆ  พร้อมเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นกว่าเดิมนั่นแหละ  ผมถึงรู้ตัว  ซึ่งก็ทำเอาผมอดใจไม่ไหวฟาดมือใส่ท่อนแขนข้างนั้น  แบบไม่คิดจะออมแรง

“อื้อออ...[เพียะ!]...ชอบแกล้ง!  อ้อ!  ฝูหรงไม่ได้งอน  แค่ไม่พอใจที่พอลไม่ถามความเห็นกันก่อน  อยู่ๆก็รับฝูหรงเข้าไปเป็นเลขาแบบนี้  คงมีแต่คนนินทาว่าฝูหรงใช้เส้น  พอลเองก็จะเสียด้วย  ถ้าวันหนึ่งฝูหรงทำงานผิดพลาดขึ้นมา” 

เมื่อสองวันก่อนหลังจากผมบ่นว่าเบื่อที่ต้องอยู่บ้าน  โดยไม่มีหน้าที่ใดๆต้องรับผิดชอบ  เพราะไม่ได้ทำงาน  ด้วยตัดสินใจลาออกเพื่อความสบายใจของพอลและทุกคนในครอบครัว  จากเหตุการณ์ของอุบัติเหตุสองสัปดาห์ก่อนที่เกือบพรากเราทั้งคู่ให้จากกันตลอดกาล  ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผมรับปากพอลทันทีที่เจ้าตัวขอให้ผมลาออก  ทั้งๆที่ก่อนหน้าผมปฏิเสธเสียงแข็งมาตลอด  ด้วยรักในงานที่ทำอยู่ไม่น้อย 

แต่นาทีนั้นเพื่อความสบายใจและตอบแทนความรักของพอลแล้ว  ผมคิดว่าการลาออกเป็นเรื่องเล็กไม่ใช่เรื่องใหญ่ของผมอีกต่อไปที่ผมจะทำเพื่อพอลได้  และทำเพื่อให้เราได้ใช้เวลาที่ผมก็ไม่รู้ว่าจะเหลืออีกเท่าไหร่  ให้เราได้อยู่ด้วยกันอย่างมีคุณค่าที่สุด  แต่ต้องยอมรับว่าการอยู่เฉยๆมันเป็นเรื่องน่าเบื่ออย่างที่สุด  จนผมต้องบ่นออกไปอย่างที่เล่าให้ฟัง

แต่อยู่ๆเมื่อเช้าขณะที่ผมกำลังจะแต่งตัว  พอลก็บอกให้ผมเลือกเสื้อผ้าให้สมกับที่ต้องไปทำงานเป็นเลขา  แรกรู้ผมยอมรับว่าจับต้นชนปลายไม่ถูก  จนพอลต้องรีบขยายความว่าไม่อยากให้ผมต้องเบื่อ  จึงรับผมเข้าทำงานเป็นเลขาส่วนตัวของตัวเอง  โดยไม่ถามความเห็นของผมสักนิด 

การที่ผมงอน  ‘เอ๊ะ!  เอิ่ม  นั่นแหละยอมรับว่างอนก็ได้’  ไม่ใช่ว่าไม่ดีใจที่ได้กลับไปทำงานอีกครั้ง  แต่การเข้าทำงานโดยความเห็นชอบแค่คนๆเดียวมันไม่ถูกต้อง  แถมยังเป็นการเปิดตำแหน่งนี้เพื่อผมโดยเฉพาะ  ไม่ต่างจากที่ผมเป็นเด็กเส้นได้เข้าทำงานแบบที่ไม่ต้องผ่านการทดสอบใดๆ  ซึ่งผมไม่ชอบใจเลย  ด้วยไม่อยากให้คนอื่นๆในบริษัทคิดกับผม  เหมือนกับที่คนของโรงแรมหวางหย่งกังคิดกับมิสเคอหลาน  และมีสิ่งที่ผมกังวลที่สุดอีกอย่างคือ  หากวันหนึ่งผมทำงานผิดพลาดขึ้นมา  คนที่จะเสียหายที่สุดก็คือผู้ชายที่นั่งกินอาหารเช้าข้างๆผมคนนี้

“ฝูหรงอย่าคิดมากสิครับ  พอลเชื่อนะว่าจะไม่มีวันนั้น  ระดับอดีตเลขาคนเก่งของหวางหลี่ผิงทั้งคนนี่หน่า  และเพราะประวัติงานนี้ของฝูหรงเอง  พอลเชื่อว่าจะไม่มีใครนินทาฝูหรงลับหลังแน่นอน  มีแต่จะยินดีและชื่นชมพอลซะด้วยซ้ำ  ที่สามารถหาเลขาที่ทั้งเก่งและน่ารักมาทำงานด้วยได้”  เรื่องเก่งน่ะผมไม่แย้ง  แต่เรื่องน่ารักที่ได้ยินนี่สิ  ช่างไม่เข้ากับคุณสมบัติของเลขาที่จำเป็นต้องมีสักนิด  แต่คำๆนี้ก็ทำผมอมยิ้มกับชามอาหารตรงหน้าได้ 

คำพูดจริงจังผสมหยอกเย้าของพอลทำให้ผมคลายใจไปได้บ้าง  เพราะสุดท้ายผมเองก็ต้องพิสูจน์ให้คนอื่นๆได้เห็นถึงความสามารถในตำแหน่งเลขาของท่านรองประธานบริษัทอยู่ดี  ดังนั้นพอพอลชวนให้ผมกินโจ๊กปูตรงหน้า  ผมจึงไม่มีอิดออดยอมทำตามอย่างง่ายดาย  ก่อนผมจะได้นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถไปกับเจ้านายคนใหม่เพื่อเข้างานวันแรก  พอลเองก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ฮัมเพลงไปตลอดทาง  จนผมพลอยอารมณ์ดีและคลายความตื่นเต้น  ในการที่จะเริ่มงานใหม่กับสถานที่ทำงานใหม่ไปได้ 

ผมก็ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองซะทั้งหมด  ด้วยผมดันลืมโทรศัพท์ที่หยิบขึ้นมาคุยกับแพทริคที่โทรมาระหว่างทางไปบริษัทไว้ในรถ  จึงต้องเดินกลับมาเอาเอง  เพราะพอลโดนเลขาของปาปาโทรตามตัวให้ขึ้นไปพบท่านด่วน  ซึ่งจากสีหน้าแววตาเคร่งเครียดของพอลนั้น  ทำให้ผมต้องเร่งเจ้าตัวให้รีบไปพบปาปา  และปฏิเสธเสียงแข็งยามที่พอลบอกว่าจะเดินกลับมาที่รถพร้อมผม

เรื่องโทรศัพท์ไม่มีปัญหา  แต่ดันมาติดปัญหาที่ผมไม่สามารถขึ้นไปยังห้องท่านรองประธานได้  เพราะโดนกักตัวไว้ตั้งแต่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของบริษัท  ในเมื่อผมไม่เคยตามพอลมาที่นี่สักครั้ง  ย่อมไม่มีใครรู้จักผมมาก่อน  การที่อยู่ๆผมจะขอเข้าพบพอลโดยไม่มีนัดล่วงหน้า  และไม่ต้องถึงขั้นขึ้นไปเดินเฉิดฉายบนนั้น  โดยไม่แม้แต่มีคนรู้จักผม  มันเป็นเรื่องยากที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย 

ผมรู้ดีแก่ใจว่าตระกูลโจวให้ความสำคัญในเรื่องการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างมาก  เห็นได้ชัดจากระบบรักษาความปลอดภัยของบ้านโจว  เพราะฉะนั้นกับบริษัทจึงน่าจะมีความเข้มงวดเรื่องนี้ไม่ต่างกัน  ดังนั้นผมจึงเข้าใจประชาสัมพันธ์สาวที่ทำหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี 

หลังจากผมตอบรับคำปฏิเสธของคนตรงหน้าพร้อมรอยยิ้ม  จึงคิดจะโทรหาพอลเพื่อให้พูดกับเธอโดยตรง  แต่ผมโทรไปเท่าไหร่เจ้าตัวก็ไม่รับสาย  อาการลุกลี้ลุกลนของผมเริ่มถูกจับตา  โดยที่มือก็ยังคงกดโทรออก  ส่วนปากก็ยกยิ้มเป็นมิตรให้ประชาสัมพันธ์สาวตรงหน้าไปด้วย  เธอเองก็ส่งยิ้มการค้ามาให้และจ้องผมไม่วางตาเช่นกัน  ผมโทรจนแน่ใจแล้วว่าคนปลายสายไม่กดรับแน่ๆ  จึงล้มเลิกความตั้งใจ  ก่อนเดินไปนั่งยังโซฟารับรองมุมห้อง  และได้แต่ภาวนาว่าตัวเองจะไม่โดนไล่ให้ออกนอกบริษัท  เพราะความไม่น่าไว้ใจไปเสียก่อน

ผมได้แต่หวังให้พอลผิดสังเกตว่าทำไมผมถึงไม่ขึ้นไปหาเสียที  และคิดจะโทรตามตัวกัน  ซึ่งตอนนั้นพอลคงได้เห็นสายที่ผมโทรเข้า  ก่อนจะจัดการอะไรสักอย่าง  เพื่อให้ผมรอดพ้นไปจากสายตาจับผิดในขณะนี้  และนาทีนี้หนักข้อถึงขั้นมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมายืนประกบผมใกล้ๆแล้วด้วย  ผมได้แต่ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายที่ต้องเสียเวลาอยู่ตรงนี้โดยเปล่าประโยชน์ 
แต่แล้วเสียงลิฟต์เปิดที่ดังขึ้น  ได้เรียกความสนใจของผมให้หันไปมอง  ในใจก็หวังว่าให้เป็นพอลที่ลงมาตามตัวผมด้วยตัวเอง  ซึ่งผมก็ต้องผิดหวัง  เมื่อกลุ่มคนตรงนั้นที่เดินออกมาไม่คุ้นตาสักคนเดียว  แต่ด้วยใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด  ไม่สมกับหน้าตาอันแสนน่ามองนั้น  ทำให้ผมติดใจมองคนๆนั้นที่เดินนำหน้ากลุ่มคนในชุดดำไม่วางตา 

จากการสังเกตยังแววตาคู่นั้นของผม  พบว่าเขาน่าจะมีอายุเลยวัยกลางคนไปไม่น้อย  เพราะมีดวงตาที่ยากจะหยั่งถึงความนึกคิดภายใน  แต่ใบหน้ากลับอ่อนเยาว์กว่าอายุจริง  และท่าทางก็ดูคล่องแคล่ว  บวกการประเมินจากบรรยากาศรอบตัว  ผมก็พอรู้ว่าเขาไม่ธรรมดา  น่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งเลยล่ะ 

การจับจ้องแบบไม่ละสายตาของผม  ทำให้เขารู้สึกตัวว่ามีคนมองอยู่จนได้  ทันทีที่ดวงตาคมกล้าตวัดสายตามองมาทางนี้  ผมถึงกลับสะดุ้งด้วยไม่ทันตั้งตัว  และรู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ  ยามที่เขาคนนั้นยกยิ้ม  แม้ภายนอกจะดูน่ามอง  แต่แววตาติดนิ่งที่อ่านไม่ออกคู่นั้น  กลับไม่สอดคล้องไปด้วยสักนิด  ยิ่งเขาที่ทำเพียงแค่ยืนนิ่งและส่งยิ้มมาให้ผม  ได้เดินมาทางมุมห้องที่ๆผมนั่งอยู่นั้น  ทำเอาผมไม่สบายใจกับท่าทางเหมือนถูกคุกคามนี้  จนกระทั่งเขามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผมพร้อมรอยยิ้มเดิมๆ

“ตัวจริงน่าเอ็นดูอย่างนี้นี่เอง  มิน่าล่ะ...ตระกูลโจวถึงเป็นเดือดเป็นแค้นขนาดนั้น”  หลังประโยคนี้รอยยิ้มที่เคยมีบนใบหน้าน่ามองก็หายไป  แบบที่ผมจินตนาการไม่ออกว่าเคยมีมันอยู่  และเหลือเพียงแววตาขุ่นๆแฝงความไม่พอใจที่จ้องผมไม่วางตา

เมื่อผมกลายมาเป็นฝ่ายถูกจับจ้องด้วยสายตาที่แสดงออกชัดเจนว่าเขาคนนี้ไม่พอใจผมอยู่  ทำให้ผมเกิดความรู้สึกอึดอัดและไม่เข้าใจ  ว่าทำไมคนที่ผมมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักมาก่อน  ถึงมีทีท่าคุกคามและไม่พอใจผมมากขนาดนี้ด้วย  แต่ที่แน่ๆเขาต้องรู้จักผมผ่านคนในครอบครัวโจวอย่างแน่นอน  ซึ่งจะรู้จักในทางไหนผมก็สุดรู้  ไหนจะท่าทางที่เหมือนว่าเขายืนข่มผมที่นั่งอยู่อีกล่ะ 

ผมจึงเกิดอาการลุกลี้ลุกลนและมองหาตัวช่วย  ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เคยยืนใกล้ๆ  ก็ดันเดินไปคุยกับประชาสัมพันธ์สาวตรงนู้น  ก่อนทั้งคู่จะหันมามองผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด  ผมจึงได้แต่หวังให้พอลลงมาตามตัวกันซะนาทีนี้  ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นยืนประจันหน้า  แม้ใจจะสั่นแต่ผมก็พยายามควบคุมสติให้มากที่สุด

“ขอโทษนะครับ  เราเคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่า”  จากประโยคคำถามที่ผมพยายามใช้น้ำเสียงเป็นมิตรและสุภาพที่สุดจบลง 

เขาตรงหน้าก็ยังคงจ้องมายังผมเช่นเดิม  แม้นาทีนี้จะยกมุมปากขึ้นยิ้มน้อยๆอย่างน่าดู  แต่ความรู้สึกที่ผมจับได้กลับไม่เปลี่ยนไปสักนิด  ด้วยเขายังคงไม่พอใจในตัวผมไม่เปลี่ยน

“เธอคงไม่รู้จักฉัน  แต่ฉันน่ะรู้จักเธออย่างดีเชียวล่ะ  และเพราะเธอคนเดียวที่ทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้!!”  น้ำเสียงราบเรียบค่อยๆดังขึ้น  ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นดุตะคอกในท้ายประโยค  ทำเอาผมสะดุ้งและก้าวถอยหลังแบบไม่รู้ตัว  จนขาชนเข้ากับโซฟา  ก่อนผมจะกลับลงไปนั่งตามเดิม

ความรู้สึกผมตอนนี้บอกเลยว่าเริ่มกลัวผู้ชายตรงหน้าคนนี้ขึ้นมาไม่น้อย  ยิ่งดวงตาที่เคยเคร่งเครียดเปลี่ยนเป็นวาวโรจน์เหมือนโกรธจัดด้วยแล้ว  ผมยิ่งผวาและได้แต่คิดถึงพอล  ซึ่งก่อนที่ผู้ชายชุดดำที่ล้อมตัวผมอยู่จะเข้าถึงตัว  โดยที่เขาคนนั้นยังคงยืนอยู่ที่เดิมนั้น  เสียงที่ผมคุ้นหูก็ดังขึ้น  ยิ่งได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังเครียดขรึมตาวาว  ผมยิ่งดีใจอย่างบอกไม่ถูก  ก่อนจะรีบแหวกกลุ่มคนน่ากลัวเหล่านี้  และวิ่งเข้าหาเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่นที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยไม่เปลี่ยนทันที

“หยุด!  พวกคุณคิดจะทำอะไร!!...ฝูหรงไม่ต้องกลัวนะครับ”  ผมได้แต้พยักหน้าแรงๆกับอกแกร่ง  แต่ยังไม่ทันคิดจะพูดหรือทำอะไร  พอลก็จับไหล่ผมดันออก  ให้ไปซ่อนอยู่เบื้องหลังแผ่นหลังกว้าง  ปิดกั้นผมจากสายตาของเขาคนนั้น  ซึ่งก็ทำให้ผมรับรู้เพียงบทสนทนาที่ตอบโต้กันไปมา

“ฮึๆ  ฉันนี่นะคิดจะทำอะไรเด็กนั่นที่นี่  แค่อยากทักทายทำความรู้จักเท่านั้น...เพราะขนาดแผนที่ถูกวางไว้อย่างดียังไม่สำเร็จ  ขืนทำอย่างที่แกคิด  ฉันคงไม่ต่างจากคนโง่รึคนบ้าน่ะสิ”  เขาพูดถึงแผนอะไร  ผมไม่เข้าใจ  แต่ดูท่าพอลจะถูกใจในคำพูดนี้ไม่น้อย  เพราะเจ้าตัวถึงกลับกลั้วหัวเราะออกมา  แต่ก็เป็นเสียงหัวเราะที่ทำให้ผมขนหัวลุกอย่างบอกไม่ถูก

“ฮึๆ  แต่ผมว่าคุณก็เป็น  ‘คน.....’  ที่ไม่ต่างจากคำพูดตัวเองที่หน่า”  พอลเว้นจังหวะเหมือนจงใจให้คนฟังได้เติมคำปริศนาเอง  แต่มันคำไหนล่ะ  ‘คน’  อะไร  อย่าบอกว่า  ‘คนโง่และคนบ้า’  นะ  ซึ่งนาทีถัดมาผมก็ได้คำตอบ

“ไอ้เด็กสามหาว  แกว่าฉันโง่และบ้าอยู่ใช่มั้ย!”  แค่ได้ยินน้ำเสียงตะคอกใส่  ผมก็พอเดาสีหน้าเขาออกว่าจะมีสีหน้าแบบไหน  ที่แน่ๆคงไม่ได้ยิ้มร่ามีความสุขแน่นอน

“ผมไม่ได้พูด  คุณพูดเองทั้งนั้นนะครับ...และผมขอให้คุณถอนคำพูด  ผมไม่ใช่เด็กสามหาวอย่างที่คุณว่า  แต่ถ้าผมทำให้คุณคิดกับผมแบบนั้น  มันก็มาจากผู้ใหญ่คิดน้อยอย่างคุณนั่นแหละ”  หากผมเป็นเขาคนนั้นคงยิ่งโกรธจัดยามได้ยินประโยคนี้ของพอล  ซึ่งในเสี้ยววินาทีถัดมาทำให้ผมรู้ว่า  คนที่โดนกระทบกระเทียบก็รู้สึกไม่ต่างจากที่ผมคิด

“ไอ้เด็กคนนี้  แก!...จับฉันทำไม  ปล่อย!  ไอ้พวกเลี้ยงเสียข้าวสุก  แค่นี้ก็ปล่อยให้มันจับตัวได้”  ผมอาศัยจังหวะชุลมุนที่คนรอบตัวส่งเสียงโวยวาย  ชะโงกหน้าผ่านข้างตัวพอลไปมอง

ภาพที่เห็นคือเขาและลูกน้องชุดดำถูกหน่วยรักษาความปลอดภัยของบริษัทล็อกตัวไว้ทั้งหมด  สีหน้าแววตาของคนที่นาทีนี้ผมก็ยังไม่รู้จักชื่อนั้น  โกรธเกรี้ยวและตะโกนอย่างหัวเสียดูน่ากลัวมาก  ลดทอนใบหน้าที่แสนน่ามองที่ผมนึกชมแต่แรกไปจนสิ้น  ผมเงยหน้ามองคนที่ยืนกั้นกึ่งปกป้องระหว่างผมกับเขา  พบว่าพอลเองก็จ้องกลุ่มคนตรงหน้าด้วยแววตาโกรธเคืองไม่ต่างกัน  จนผมเผลอกระตุกชายเสื้อสูท  ทำให้ใบหน้าคมเข้มชะงักนิด  ก่อนก้มลงมองสบตาผม 

แม้ในดวงตาคมจะเต็มไปด้วยความแข็งกร้าว  แต่ผมกลับเห็นร่องรอยแห่งความไม่สบายใจแฝงอยู่ในนั้น  หรือพอลกำลังกลัวว่าผมจะโดนคนตรงหน้าทำร้าย  แต่นาทีนี้เขาก็ไม่สามารถทำร้ายผมได้แล้วนี่หน่า  และก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงไปมากกว่านี้  กลับมีเสียงเข้มกังวานแฝงอำนาจดังขึ้น

“เกิดอะไรขึ้น!!”  ปาปาฟู่สือนั่นเองครับ  ท่านเดินอย่างมั่นคงก้าวย่างอย่างเชื่องช้า  เข้ามาเผชิญหน้ากับเขาคนนั้นแทนพอล

คนที่เคยโวยวายกลับหุบปากสนิท  เขาเลิกดิ้นเลิกขัดขืนและจ้องตอบปาปากลับอย่างเอาเรื่อง  แต่ก็เป็นอยู่ได้ไม่นาน  ก่อนจะเบือนหน้าหนี  แต่ผมกลับเห็นเป็นอาการสะบัดค้อนใส่เสียมากกว่า  ซึ่งผมน่าจะตาฝาดหรือเข้าใจผิดไปเอง  เพราะอาการสะบัดค้อนมันน่าจะเป็นกิริยาของคนที่งอนใส่กัน  และคนคู่นั้นต้องดูเป็นมิตรต่อกัน  มากกว่าผู้ใหญ่ทั้งคู่ตรงหน้าผมสิ 

ผมมาได้สติและหลุดออกจากความคิดไม่เข้าท่า  เมื่อรู้สึกว่าโดนพอลโอบไหล่และดึงตัวเข้าไปแนบชิดกับร่างหนา  แถมสายตาปลอบโยนที่จ้องผมอยู่ก่อนแล้ว  ทำให้ผมยิ้มออกเพื่อสื่อว่าผมไม่เป็นอะไร  เจ้าตัวจะรู้มั้ยว่าผมรู้สึกปลอดภัยทุกครั้ง  ยามที่มีพอลอยู่เคียงข้างกันและโอบกอดผมไว้แบบนี้  ซึ่งพอลจะรู้ก่อนนี้หรือไม่ไม่สำคัญ  เพราะแค่นาทีนี้ลูกครึ่งรูปหล่อของผมยิ้มออกผมก็พอใจแล้ว

“ฉิงเจีย...เราน่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ”  น้ำเสียงราบเรียบติดเบื่อหน่ายของปาปาที่ดังขึ้น  ทำให้ผมสามารถละสายตาออกจากวงหน้าหล่อเหลาที่แสนน่าหลงใหลได้ 

ผมเพิ่งรู้ว่าเขาคนนั้นชื่อฉิงเจียและดูท่าน่าจะเป็นเพื่อนกับปาปาเสียด้วย  แต่ผมก็ต้องแปลกใจ  เมื่อเขาที่ปาปาเรียกว่าฉิงเจียได้เม้มปากไว้จนแน่น  และมีอาการที่ผมเรียกว่าสะบัดค้อนใส่ปาปา  พร้อมส่งเสียงไม่พอใจอยู่เพียงลำคอ  ‘ใช่เลย!  คราวนี้ผมดูไม่ผิด’  คุณฉิงเจียค้อนใส่ปาปาฟู่สือ

“เหอะ!  ลูกชายนายไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ก่อน  ฉันโมโหก็ไม่ผิด  สำคัญเรื่องที่เพิ่งคุยไป  ฉันเข้าใจและซาบซึ้งดีทีเดียวล่ะ  ไม่ต้องย้ำ  อ้อ!...เจ้าหนูไม่ต้องกลัวไปหรอก  ตอนนี้ฉันไม่มีปัญญาทำอะไรคนของแกได้หรอก  สู้เอาเวลาไปฟื้นฟูธุรกิจที่เด็กอย่างแกถล่มไว้ดีกว่า  ได้ประโยชน์กว่ากันเยอะ...แต่ก็อย่าเผลอแล้วกัน  ฮึๆ” 

คุณฉิงเจียแค่นหัวเราะปิดท้ายใส่พอล  ก่อนจะหันไปสบตากับปาปาอยู่ครู่หนึ่ง  ซึ่งชั่วแวบผมเห็นแววตัดพ้อจางๆ  ก่อนจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว  และเร็วพอๆกับที่เจ้าของแววตาประหลาดคู่นั้น  จะหมุนตัวเดินนำหน้าลูกน้องตัวเองออกไป 

ระหว่างที่ผมยืนสับสนกับสิ่งที่ได้เห็นนั้น  พอลก็ประคองผมเดินเข้าลิฟต์  ท่ามกลางสายตาพนักงานบริษัทที่ออกมาดูเหตุการณ์ระทึกก่อนหน้า  และปาปาก็พูดขึ้นมาเมื่อพวกเราสามคนมาอยู่ในลิฟต์ตามลำพัง

“แกเลิกกังวลเถอะ  การที่ฉิงเจียมาต่อรองกับเราถึงที่นี่  แสดงให้เห็นว่าพวกซินจางหมดหนทางแล้ว  เพราะคนๆนั้นหยิ่งในศักดิ์ศรีมากกว่าสิ่งใด  ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆไม่มีทางที่จะมาขอร้องเราที่นี่แน่นอน”  ปาปาพูดทั้งๆที่หันหน้าไปยังประตูลิฟต์  โดยที่ผมกับพอลยืนอยู่ด้านหลังท่าน 

ผมจึงไม่รู้ว่าปาปากำลังมีสีหน้าแบบไหน  แต่ที่ผมรู้คือคนข้างตัวนี่ต่างหาก  ด้วยพอลมีสีหน้าขัดใจอย่างเห็นได้ชัด  จนผมต้องเอื้อมมือไปลูบแผ่นหลังกว้างเป็นการปลอบประโลม  โดยที่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี่อยู่ดี  ผมรู้แต่เพียงว่าซินจางคือคู่แข่งสำคัญของตระกูลโจวเท่านั้น

พอลเองเหลือบตาลงมองผมนิดหน่อย  ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย  และพรูลมหายใจออกมาแผ่วเบา  แต่ในดวงตาคู่คมก็ยังเต็มไปด้วยแววดื้อดึง

“ยังไงผมก็ไม่ไว้ใจอยู่ดี  คนๆนั้นตั้งใจขู่ฝูหรง  ทั้งๆที่ฝูหรงไม่รู้เรื่องอะไรด้วยสักนิด”  นั่นสิ  ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย

หลังคำพูดของพอลนั้น  ปาปาเงียบไม่พูดอะไรออกมาอีกเลย  ก่อนท่านจะเดินแยกตัวออกไป  โดยที่พอลจูงผมเดินมาอีกทาง  ให้เดาคงพาผมมายังห้องทำงานที่อยู่อีกฝั่งของชั้นเดียวกัน  ทันทีที่เราอยู่ในห้องทำงานของพอล  ผมก็ไม่คิดจะปล่อยให้ความสงสัยในใจค้างคาอยู่อีกต่อไป  เอ่ยถามทันทีว่าฉิงเจียคือใคร  เกี่ยวข้องอะไรกับซินจาง  ตระกูลโจวมีเรื่องอะไรกับทางนั้น  และทำไมฉิงเจียถึงดูโกรธเคืองผมนัก

พอลจ้องผมอยู่พักหนึ่ง  ซึ่งผมก็ส่งสายตามุ่งมั่นรอคำตอบอย่างไม่คิดจะยอมแพ้  และผมก็สมใจ  เมื่อพอลยกยิ้มเพลียๆพร้อมลูบแก้มผมอย่างอ่อนโยน  ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยการยอมจำนน  แต่ผมก็ต้องแปลกใจ  เมื่อพอลเริ่มประโยคด้วยคำว่าขอโทษ

“ขอโทษนะครับที่พอลทำให้ฝูหรงเสี่ยงอันตราย  ทั้งๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้สักนิด...”  ก่อนผมจะได้คำตอบทั้งหมดจากปากพอล  ผมก็เพิ่งได้รู้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับผมเมื่อเร็วๆนี้  มันไม่ใช่เรื่องสุดวิสัยแต่เป็นความตั้งใจให้เกิดขึ้นของพวกซินจาง  จนผมอดหนาวยะเยือกขึ้นมาไม่ได้  และรู้ซึ้งถึงคำว่าผลประโยชน์อย่างแท้จริง 

แม้จะรู้สึกหวาดหวั่น  แต่ผมไม่แสดงออกไปให้พอลรับรู้  ด้วยท่าทางของคนรักที่ยิ่งเล่าออกมาเยอะเท่าไหร่  ผมยิ่งรู้สึกว่าพอลโทษตัวเองมากขึ้นเท่านั้น  ผมจึงกุมทับหลังมือข้างที่กุมมือผมอยู่ไว้อีกชั้น  ก่อนจะออกแรงบีบกระชับให้พอลได้คลายกังวลขึ้นมาบ้าง  พร้อมยิ้มหวานใส่ตาคู่คมให้พอลรู้สึกสบายใจขึ้น

“ไม่ใช่ความผิดของพอล  อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ  และต่อไปห้ามพูดว่าฝูหรงไม่เกี่ยวอะไรด้วยเด็ดขาด  เราเป็นคนรักกัน  ดังนั้นต้องเกี่ยวข้องกันในทุกๆด้านอยู่แล้ว  ไม่ว่าจะดีจะร้ายฝูหรงก็พร้อมจะเผชิญหน้าไปพร้อมพอล  และให้เชื่อเถอะว่าฝูหรงเข้มแข็งพอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  พอลเลิกกังวลเลิกคิดมากสักทีนะครับ”  ความกังวลในแววตาคมเข้มค่อยๆจางหาย  และส่องประกายวิบวับถูกใจเต็มหน่วยตาทันทีที่ผมพูดจบ 

ผมจึงยื่นหน้ากดปลายจมูกลงบนแก้มสากเบาๆเป็นการเอาใจลูกครึ่งรูปหล่อ

“กระต่ายน้อยทำไมน่ารักแบบนี้  พอลหลงจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว  ฮึๆ”  ไม่พูดเปล่า  พอลกลับรวบกอดผมเสียแน่น  และมีโยกตัวผมไปมาเหมือนกำลังมันเขี้ยวผมนักหนาด้วย  ก่อนจะจบด้วยเสียงหัวเราะทุ้มแผ่วที่ดังไม่พ้นลำคอ

แม้ไม่เห็นหน้าเจ้าของอ้อมกอดอบอุ่น  ผมก็พอเดาได้ว่าพอลคงกำลังระบายยิ้มหล่อ  ชนิดที่ว่าทำให้ผมละลายได้เลยทีเดียวล่ะ  ผมปล่อยให้พอลกอดไปพักหนึ่ง  ก่อนส่งคำถามที่ติดใจออกไป  ซึ่งพอลก็ถอนใจบางเบา  และดันผมออกจากอ้อมกอด  จากการสังเกตเห็นสีหน้าแววตาหนักใจของพอล  ผมรู้ได้ทันทีว่าเจ้าตัวไม่อยากพูดเรื่องนี้นัก  แต่คงทนลูกอ้อนของผมไม่ได้อยู่ดี

“ฝูหรงไม่ได้ตาฝาดหรอกครับ  พอลก็เห็น...ปาปากับฉิงเจียเคยคบกันมาก่อน  แต่ก็เลิกลากันไป  เพราะฉิงเจียเลือกรักษาหน้าตาทางสังคมมากกว่าความรัก  เพื่อไปแต่งงานกับผู้หญิงที่ทางบ้านหาให้”  ยอมรับว่าสิ่งที่ได้ยินทำเอาผมประหลาดใจอย่างที่สุด  แต่ผมก็ยังมีสติพอที่จะฟังในสิ่งที่พอลเล่าต่อ

สรุปได้ว่าปาปากับฉิงเจียเคยคบหากัน  แต่ก็เป็นไปอย่างลับๆ  ด้วยในสมัยนั้นเรื่องการรักเพศเดียวกัน  ยังไม่ถูกยอมรับและเปิดกว้างเท่าปัจจุบัน  ซึ่งฉิงเจียที่เป็นลูกของคนมีหน้ามีตาในสังคม  เขาเลือกที่จะสะบั้นรักปาปาทันทีที่ผู้ใหญ่ทราบเรื่อง  ก่อนทางนั้นจะถูกคลุมถุงชนให้แต่งงาน  ปาปาในตอนนั้นเสียใจไม่น้อย  แต่ก็เข้าใจอดีตคนรักและยอมที่จะหันหลังให้เช่นกัน  ในช่วงที่ปาปาหลบไปรักษาแผลใจที่อิตาลี  ทำให้ท่านได้พบรักกับมามาอีลิน่า  ก่อนทั้งคู่จะพากันมาใช้ชีวิตคู่ที่ฮ่องกง 

เมื่อเวลาผ่านไปปาปามีพอล  แต่ฉิงเจียกลับไร้ซึ่งทายาท  และกลายมาเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่คอยหาเรื่องขัดแข้งขัดขามาตลอดจนถึงปัจจุบัน  แต่เพราะการกระทำที่เราไม่รู้สาเหตุแท้จริงของฉิงเจียที่คอยหาเรื่องตระกูลโจวมาตลอด  บวกเข้ากับเหตุการณ์ล่าสุดที่ทางนั้นคิดจะใช้ผมแก้แค้น  ส่งผลให้ซินจางกรุ๊ปแทบไม่เหลือชื่อในวงการอสังหาฯอีกเลย 

กระทั่งวันนี้ฉิงเจียยอมลดศักดิ์ศรีมาขอร้องปาปาและพอลด้วยตัวเอง  เพื่อให้ยอมขายหุ้นคืนแลกกับทางนั้นจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับเราตลอดกาล  แต่จากคำพูดทิ้งท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่รับปากไว้

ในความเห็นของผม  ฉิงเจียคงแค่ขู่และจงใจให้พอลหัวเสียเล่นเท่านั้น  เพราะจริงๆคงรู้ซึ้งอย่างดีเชียวล่ะ  ว่าหากอยากจะทำธุรกิจอีกครั้งไม่ควรลองดีซ้ำสอง 

จากเรื่องราวทั้งหมดผมได้แง่คิดดีๆข้อหนึ่ง  ว่าผมและพอลโชคดีที่สามารถครองรักกันโดยที่ไม่ถูกขัดขวางจากครอบครัว  และไม่ถูกกีดกันจากสังคมให้รู้สึกแปลกแยกหรือเป็นตัวประหลาด  จนต้องถูกแยกจากกันเหมือนปาปาฟู่สือและฉิงเจีย  ทำให้ต้องทนทุกข์จนไม่อาจลืม  ผมจึงพูดในสิ่งที่คิดออกไปให้พอลได้รับรู้  เพื่อให้เปลี่ยนมามองในมุมบวก  จากเรื่องราววุ่นวายที่เกิดขึ้นแทน

“นั่นสินะครับ  พอลโชคดีที่ได้ฝูหรงกลับคืนมาอีกครั้ง  และเราโชคดีที่ได้ครองรักกัน  ท่ามกลางความเห็นชอบของคนในครอบครัว  ขอบคุณที่อยู่ข้างพอลเสมอนะกระต่ายน้อย”  ใบหน้าหล่อเหลาจ้องผมไม่กระพริบ  พร้อมส่งยิ้มละมุมให้ผมแก้มร้อนผ่าว  แต่คราวนี้ผมไม่คิดหลบตาเหมือนทุกที

“ขอบคุณพอลเหมือนกันที่ยังรอยังรักฝูหรง”  หากพอลตัดใจไปตั้งแต่ห้าปีก่อน  เราคงไม่มีวันนี้  คำขอบคุณที่ผมมีให้  ยังไม่เพียงพอสำหรับพอลเสียด้วยซ้ำไป

“รักกระต่ายน้อยมากนะครับ”

“อืม  รักพอลเหมือนกัน”

ผมไม่เคยเบื่อที่จะได้ยินคำรักของพอล  และไม่เคยอิดออดที่จะเอ่ยคำรักกลับคืน  เพราะผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คือความสุขและยาชูใจของคนที่รักกันได้อย่างดีที่สุด

‘จงทะนุถนอมและเติมเต็มความรักของคุณให้ยั่งยืน  เหมือนที่ผมทำเพื่อความรักของผมนะครับ...ฝูหรงรักพอลที่สุด’

................................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

คงมีคนตกใจบ้างอ่ะนะที่ปาปาเคยคบกับฉิงเจีย
(แอบแผ่รังสีสีม่วงและรังสีวายไปให้รุ่นใหญ่   o18)
ซึ่งต้นเหตุของเรื่องวุ่นๆ  คงเป็นเพราะฉิงเจียยังอยาก
มีตัวตนในสายตาปาปาฟู่สือ  น่าเห็นใจเหมือนกันเนอะ
แต่ก็ทำเรื่องรุนแรงเกินเหตุไป  ยังดีที่ฝูหรงไม่เป็นอะไร

ส่วนคู่หวานก็ยังคงหวานคงเส้นคงวา  และตอนหน้าก็เป็น
ตอนสุดท้ายแล้ว  อยากขอกำลังใจให้คู่นี้ส่งท้ายด้วยค่ะ
เจอกับตอนสุดท้ายในวันพุธนะคะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.แจ้งรีปริ้นท์นิยายชุด “เสน่ห์รัก” และ “บ่วงรัก” ค่ะ  ตามลิ้งค์ไปได้เลยน้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43497.new#new

ปล2. แจ้งเปิด & โอนนิยายชุด “Lover”  ตามลิ้งค์ไปได้เช่นกันค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43768.new#new

ใครที่พลาดในรอบก่อนๆหรืออยากได้หนุ่มๆเก็บไว้  ติดต่อเข้ามานะคะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.29 "ยาชูใจ" P.21 (17/10/57) พาใจฟูฟ่อง
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 17-10-2014 11:24:05
ทำไมถึงต้องยอมให้ฉิงเจียมันง่ายๆจัง มันเล่นเอากระต่ายน้อยของเราเกือบตายเลยนะ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.29 "ยาชูใจ" P.21 (17/10/57) พาใจฟูฟ่อง
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 17-10-2014 11:43:06
 :hao3: พึ่งรู้ปาปามีอดีตแบบนี้ด้วย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.28 "เอาคืน" P.21 (12/10/57) UP UP !!!!
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 17-10-2014 12:01:25
ฝูหรงทำตัวน่ารักอย่างนี้พอลก็ต้องทำหวานใส่สิ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.29 "ยาชูใจ" P.21 (17/10/57) พาใจฟูฟ่อง
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 17-10-2014 13:39:03
ในเมื่อเรื่องที่เกิดก็ผ่านไปได้ด้วยดี

ก็หวังว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.29 "ยาชูใจ" P.21 (17/10/57) พาใจฟูฟ่อง
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 17-10-2014 13:44:40
งื้อออออออออออ

พอลปล่อยให้ต่ายน้อยรอตั้งนาน

พอลรีบแนะนำให้พนักงานในบริษัทรู้เลยนะ

ว่าต่ายน้อยคือเจ้านายคนใหม่ คึคึ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.29 "ยาชูใจ" P.21 (17/10/57) พาใจฟูฟ่อง
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 17-10-2014 13:55:22
รักกระต่ายน้อย  :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.29 "ยาชูใจ" P.21 (17/10/57) พาใจฟูฟ่อง
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 17-10-2014 17:09:34
 o4 ผิดคาด  ปาปากับซินจาง เคยมีอดีตสีม่วงร่วมกันเหรอ 

เกิดเหตุการณ์แบบนี้  พอลเหมือนประกาศออกมาเลยว่า ใครคือคนรักของรองประธาน  เพราะแสดงอาการให้เห็นแบบชัดเจน 555 ป่านนี้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กับคุณ รปภ. คงยืนตัวแข็งไปแล้ว 555
 
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-10-2014 18:31:54
แอบอึ้งกับปาปาฟู่สือเหมือนกันนะเนี่ย ตอนหน้าก็จบแล้ว~
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.29 "ยาชูใจ" P.21 (17/10/57) พาใจฟูฟ่อง
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวสนที ที่ 17-10-2014 20:19:05
หวานไม่แคร์ใครเลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.29 "ยาชูใจ" P.21 (17/10/57) พาใจฟูฟ่อง
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 17-10-2014 22:24:23
ตกใจกะความหลังของปาปาอ่ะ :a5:
แต่ คู่หลักของเรา เค้าหวานไม่แคร์สื่อ แคร์สถานการณ์คร้าาาาาา :ling1: :ling1:

ปล.จะจบแล้วเหรออออ.....เสียใจจัง....อยากได้อะไรหวานๆอีก
      รอติดตามผลงานชิ้นต่อไปนะคร้าาาา :katai5: :katai5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.29 "ยาชูใจ" P.21 (17/10/57) พาใจฟูฟ่อง
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 18-10-2014 03:08:18
 :mew2:
เหลืออีกตอนเดียวหรอ ไม่อยากให้จบเลยอะ
 :mew4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.29 "ยาชูใจ" P.21 (17/10/57) พาใจฟูฟ่อง
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 21-10-2014 13:38:49
เม้นท์รวบยอดเหมือนเดิมนะคะพี่มาศ อ่านในมือถือทีไรลืมเม้นท์ทุกที :serius2:
ตั้งแต่ได้รักกลับมาไม่มีตอนไหนเลยที่คู่นี้จะไม่หวานให้เราอิจฉา
ผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย นาทีชีวิตของฝูหรงก็ได้ผ่านแล้วเช่นกัน
ตอนนี้เอารุ่นใหญ่มาให้เราจิ้นด้วย แต่มันก็เป็นไปไม่ได้แล้วล่ะเนอะ
ถ้าปาปาฟู่สือไม่มีมามาอยู่เคียงข้างก็ว่าจะยุให้รีเทิร์นอยู่เหมือนกัน
แต่การกระทำที่ทำกับฝูหรงนี่ก็ไม่อยากให้อภัยเช่นเดียวกัน :เฮ้อ:
เรื่องร้ายผ่านไปแล้ว ต่อไปคงจะไม่มีอะไรมาทำให้กังวลได้อีก
แต่ถึงมีก็เชื่อว่าพอลจะปกป้องฝูหรงไม่ให้ได้รับอันตรายได้แน่
อีกตอนเดียวเองเหรอ ใจหายนะ (เป็นอย่างนี้กับทุกเรื่องอ่ะ)
ขอบคุณพี่มาศมากค่ะ ชื่นชอบนิยายพี่มาศทุกเรื่องเลยน้า~ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.29 "ยาชูใจ" P.21 (17/10/57) พาใจฟูฟ่อง
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 21-10-2014 15:35:22
พอลไม่ให้กระต่ายน้อยห่างตัวเลย :o8:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.29 "ยาชูใจ" P.21 (17/10/57) พาใจฟูฟ่อง
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 21-10-2014 17:26:18
ปาปาพอลก็ร้ายเหมือนกันนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 22-10-2014 14:52:00
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-10-2014 15:00:19
ตอนที่ 30

โจวพอล

“พอล.....พอลครับ...พอลเช้าแล้วลุกเถอะ  รีบอาบน้ำเร็ว  ไม่อาววว  คิกๆ  ปล่อยยย~...เช้านี้มีนัดสำคัญนะ  อย่ามัวแต่เล่นสิ”  ผมได้แต่อมยิ้มมองตามแผ่นหลังของร่างบอบบางที่ดิ้นจนหลุดจากอ้อมกอดของผม 

ผู้ชายน่ารักที่กำลังเยื้องย่างห่างออกไปจากเตียงหลังที่ผมนอนเอกเขนก  ด้วยยังไม่อยากลุกเพราะความเพลินตาและอยากยืดเวลาแห่งความสุขนี้ออกไปอีกนานแสนนาน  แต่ตาวาวๆและการกระตุกยิ้มน้อยๆของฝูหรง  ยามเจ้าตัวละสายตามาจากเนคไทหลายสีในมือ  แล้วยังเห็นว่าผมยังคงนอนอยู่ที่เดิม  ทำเอาผมสะดุ้งที่เผลอมองคนรักอยู่นาน  จึงรีบสะบัดผ้าห่มออกจากตัว  พร้อมก้าวลงเตียงเพื่อจัดการธุระส่วนตัวอย่างที่คนตัวเล็กต้องการ

การกระทำของผมกลับทำให้คนน่ารักที่ยืนกดดันผ่านสายตามาให้ผมนั้น  ถึงกลับออกอาการตกใจตาโตแก้มแดงก่ำ  และจ้องมายังกึ่งกลางลำตัวผมอย่างตื่นตะลึง  ก่อนสะบัดหน้าหนีและทำทีกลับไปตั้งใจเลือกเนคไท  ให้เหมาะกับสีเสื้อเชิ้ตที่ได้เลือกแขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้าตามเดิม 

ผมก้มมองกึ่งกลางตัวตามสายตาของฝูหรงก็ได้แต่กลั้วหัวเราะ  และเข้าใจท่าทีของคนน่ารักได้ไม่ยาก  เพราะทั้งตัวไม่มีเสื้อผ้าติดกายสักชิ้น  แถมอาวุธร้ายกลางตัวก็กำลังสำแดงเดชตามธรรมชาติยามเช้าเหมือนผู้ชายปกติทั่วไป  การที่ผมอยู่ในสภาพนี้เป็นเพราะเมื่อคืนผมมีกิจกรรมก่อนนอนกับคนขี้อายที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมนี่แหละ  และหลับไปทั้งๆอย่างนั้น  ทันทีที่แน่ใจว่าคนในอ้อมกอดหลับสนิทดีแล้ว 

“อย่าเพิ่งลงไปนะครับ  รอแต่งตัวให้พอลเหมือนทุกวันก่อน...จุ๊บ”  ผมเลือกที่จะไม่พูดถึงอาการเขินอายของฝูหรง  แต่เลือกที่จะพูดอ้อนให้ฝูหรงทำอย่างที่ตัวเองร้องขอ  ยิ่งพอดวงตากลมๆเงยมองผมด้วยแววตาสะเทิ้นอาย  ผมยิ่งถูกใจ

ผมจึงกดริมฝีปากลงไปยังกลีบปากที่ถูกเม้มไว้แน่น  และส่งยิ้มกว้างใส่ตาคู่นั้นเป็นการออดอ้อน  ก่อนจะผิวปากอย่างอารมณ์ดีเดินเข้าห้องน้ำ  เมื่อคนน่ารักหลบตาแต่ยอมที่จะพยักหน้าเป็นการตอบรับให้กัน

ชีวิตของผมในช่วงปีที่ผ่านมา  พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าผมมีความสุขในทุกวันจริงๆ  และคนที่ทำให้ผมรู้สึกแบบนั้น  คงหนีไม่พ้นคนรักตัวน้อยที่แสนน่ารักนามว่าเจินฝูหรงคนนี้นี่แหละครับ  หากเมื่อปีก่อนเราไม่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง  และปรับความเข้าใจกันได้  ผมก็คงดำเนินชีวิตอยู่ได้ไม่มีปัญหา  แต่ความสุขที่มีในชีวิตน่าจะเป็นไปในแบบลุ่มๆดอนๆ  อาจจะมีบ้างที่หลงไปกับความสุขฉาบฉวย  เพราะไม่สามารถเปิดใจรับใครเข้ามาในชีวิต  เพื่อให้ตัวเองได้มีความสุขที่แท้จริงได้  ด้วยยังมีเรื่องในอดีตที่คาใจและยังไม่ได้คำตอบ  ซึ่งหลักๆผมคงได้แต่ทุ่มเททำงานสร้างความมั่นคงให้แก่บริษัทเท่านั้น 

ตั้งแต่ผมมีฝูหรงเคียงข้างความสุขที่เคยต้องแสวงหากลับเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย  แถมยังไม่ใช่ความสุขจอมปลอมแบบที่เคย  เพียงแค่ได้เห็นฝูหรงอยู่ในระยะสายตา  ความสุขที่ว่าก็เกิดขึ้นในใจได้แล้ว  คงไม่ต้องพูดถึงยามเหนื่อยล้าจากงาน  แล้วมีคนไต่ถามและคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง  ความสุขใจเกิดขึ้นอย่างท่วมท้น  กำลังกายและใจที่ถดถอยก็เพิ่มพูนกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง  ฝูหรงจึงเปรียบเป็นขุมพลังแห่งชีวิตของผมก็ว่าได้  ยิ่งอยู่ด้วยกันนานเท่าไหร่  ผมยิ่งรักเจ้าตัวมากขึ้นเท่านั้น  ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตหนึ่งนอกจากผู้ให้กำเนิดแล้ว  ผมจะรักใครสักคนได้มากกว่าตัวเอง

ไม่เพียงแค่ผมเท่านั้นที่หลงรักฝูหรง  ปาปามามาเองก็รักฝูหรงไม่ต่างจากลูกแท้ๆอีกคน  พวกท่านเอ็นดูในความน่ารักและช่างเอาใจใส่ของฝูหรงที่มีต่อพวกท่าน  ด้วยฝูหรงเองปรนนิบัติพวกท่านอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง  เรียกว่าเอาใจใส่ท่านยิ่งกว่าสามีอย่างผมเสียอีก  แต่กรณีนี้ผมไม่นึกขัดใจสักนิด  ออกจะถูกใจมากถึงมากที่สุดด้วยซ้ำ  ด้วยปาปามามาถูกใจและให้ความรักความเอ็นดูในตัวคนที่ผมรัก 

ในชีวิตของลูกคนหนึ่ง  นอกจากทำให้พ่อแม่ภูมิใจในเรื่องเรียนและหน้าที่การงานแล้ว  ก็คงมีเรื่องของคู่ครองนี่แหละที่ลูกจะทำให้พวกท่านสบายใจได้  ว่าผมจะมีคนที่ดีเคียงคู่ดูแลกันและกันไปตลอดชีวิต

“แบบนี้  วนตรงนี้  แล้วก็สอดนี่  อาใช่  อ๊ะ!...ใกล้ไปแล้วนะพอล  ยืดตัวออกไปดีๆสิ  อ่ะ  ผูกเสร็จแล้ว...[ฟอดดด]...พอลอ่ะ  แต่งตัวต่อเองเลย”  กระต่ายน้อยแก้มแดงทำหน้าบูดยื่นปากยู่หน้า  พยายามดันอกผมออก  หลังจากผมขโมยหอมแก้มใสไปฟอดใหญ่ 

ใครจะอดใจไหวกัน  ในเมื่อแก้มหอมๆอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก  ผมรวบเอวบางและยึดฝูหรงไว้กับอก

“พอลหอมแก้มขอบคุณฝูหรงต่างหากที่ผูกเทคไทให้  ถ้าฝูหรงจะทิ้งพอลให้แต่งตัวเอง  พอลจะนั่งอยู่แบบนี้แหละ  เอาให้ไปนัดสายเลยคอยดู”  พูดจบผมกระแทกก้นนั่งลงบนปลายเตียง  โดยรั้งเจ้าของเอวบางให้ลงมานั่งบนตักด้วยกัน

“ไม่ต้องพูดเลย  ตั้งใจเอาเปรียบฝูหรงใช่มั้ยเนี่ย  หน้าตาไม่ได้งอนเหมือนคำพูดเลยนะ  ปล่อยก่อน...มานี่  แล้วยืนเฉยๆล่ะ”  ผมยอมปล่อยเอวบางทันที  ไม่ใช่ยอมเพราะโดนขู่แกมสั่งอย่างรู้ใจหรอกนะครับ  แต่เป็นเพราะตาคู่กลมที่ช้อนสายตาขึ้นสบนั้น  กำลังฉายแววออดอ้อนในทีส่งมากันต่างหากล่ะ 

ผมยอมเดินตามแรงจูงของมือนุ่ม  และยอมยืนเฉยๆตามคำสั่งของเสียงหวาน  เพื่อรอให้ฝูหรงสวมเสื้อสูทตัวนอกให้อย่างเคย  เจ้าของร่างเล็กจับสาบเสื้อกระชับเข้าหากัน  ก่อนจะลูบมือผ่านเนื้อผ้าจากแผ่นอกขึ้นมายังลาดไหล่  ด้วยใบหน้าติดอมยิ้มไว้เพียงมุมปาก  และแววตาที่เปล่งประกายแห่งความชื่นชม  ทำเอาผมที่เห็นอดภูมิใจในตัวเองไม่ได้

ผมเชยคางมนของคนรักตัวเล็กขึ้น  ก่อนเอ่ยขอบคุณความเอาใจใส่ที่ฝูหรงมีให้ผมไม่ขาดเหมือนทุกเช้า  พร้อมก้มลงประทับริมฝีปากยังริมฝีปากนุ่มที่ยังเผยอยิ้มอย่างน่ามองอยู่  เรียวลิ้นน้อยตอบโต้อย่างอ่อนหวาน  ไม่ขัดขืนแต่ก็ไม่ตามใจไปเสียทั้งหมด  เพราะยามผมเผลอไผลในรสจูบ  หวังตักตวงความหวานมากขึ้น  ลิ้นน้อยกลับถดหนีไม่ยอมเคลิ้มอย่างใจคิด  พร้อมกับฝ่ามือนุ่มทั้งคู่ยกขึ้นมาลูบข้างแก้มผมอย่างปลอบประโลม  ก่อนดันใบหน้าผมออกช้าๆ  ผมเองถึงกลับต้องหักห้ามใจ  เมื่อตาคู่กลมฉายแววอ่อนหวานออดอ้อนชัดตา  พร้อมๆกับที่ริมฝีปากบวมเจ่อขยับห้ามปราม

“พอก่อน...นะครับ  เดี๋ยวสาย”  ผมกดจูบยังมุมปากฉ่ำวาวเพื่อสะกดใจ  ก่อนจะยอมเดินตามแรงจูงของคนรักตัวเล็กลงมาด้านล่าง

“อรุณสวัสดิ์ครับปาปามามา  ผมให้เด็กยกอาหารเช้าขึ้นโต๊ะเลยนะครับ”  สุดยอดสะใภ้ตระกูลโจวหันไปทักทายบุพการีของผมทันทีที่พวกท่านเดินเข้ามาในห้อง  และทำหน้าที่ศรีสะใภ้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

“โจ๊กหูฉลามเห็ดหอมของปาปา  สลัดผักสดครีมกีวี่พร้อมเม็ดทานตะวันของโปรดมามาครับ  และนี่เบรกฟาสต์ชุดใหญ่สำหรับลูกครึ่งรูปหล่อของฝูหรง”  เห็นด้วยตาแล้วใช่มั้ยครับ  ว่าฝูหรงเอาใจใส่คนในครอบครัวขนาดไหน  ไม่เพียงแต่เรื่องชนิดอาหารที่แต่ละคนชอบเท่านั้นหรอกนะครับ  ให้คุณลองฟังบทสนทนาต่อจากนี้แล้วกัน

“ปาปาครับ  ผมให้เด็กขนกระเป๋าไม้กอล์ฟชุดใหม่ขึ้นท้ายรถให้แล้วนะครับ  มีรองเท้าคู่เก่งคู่นั้นติดไปด้วย  ผมว่าวันนี้ปาปาต้องทำโฮลอินวันได้แน่ๆ”  ทั้งใส่ใจทั้งรู้จักหยอดคำหวานอย่างนี้  จะเหลือเหรอครับที่พ่อสามีจะไม่เอ็นดู 

ปาปาฟู่สือถึงกลับกลั้วหัวเราะอย่างถูกใจ  แถมด้วยการเอ่ยปากตบรางวัลให้คนน่ารักของผมล่วงหน้าอีกต่างหาก  หากว่าเป็นไปตามที่ฝูหรงว่าไว้  และยังไม่หมดเท่านั้นครับ

“มามาครับ  มิสเคออวี่ให้เด็กเอาชุดมาส่งเมื่อวาน  ผมจัดการส่งร้านซักแห้งให้แล้วนะครับ  กลัวไม่ทันงานพรุ่งนี้  ส่วนรองเท้าที่ใส่เข้าชุด  เห็นว่าทางร้านจะเอามาส่งวันนี้  ถ้าไม่มาผมตามให้อีกทีนะครับ”  มามาไม่เพียงแค่หัวเราะอารมณ์ดีกับความเอาใจใส่ของลูกสะใภ้  แต่ท่านนั้นถึงกลับจับเมียผมหอมแก้มเสียฟอดใหญ่ด้วยความถูกใจ  เล่นเอาฝูหรงถึงกลับอายม้วนแก้มแดง  หยุดเจื้อยแจ้วด้วยเสียงใสๆไปเลย

“ขอบใจหนูฝูหรงนะจ๊ะที่ดูแลปาปามามาตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆถึงเรื่องใหญ่  มามาโชคดีจังที่ได้หนูมาเป็นสะใภ้  ถ้าเหนื่อยก็หยุดบ้างนะลูก”  ไม่แค่พูดชม  แต่มามายื่นมือมาลูบแก้มลูบหัวคนน่ารักของผมด้วย  ฝูหรงเองก็ได้แต่ส่ายหัว

“ผมไม่เหนื่อยเลยครับ  การดูแลปาปามามานอกจากเป็นหน้าที่ที่ผมทำด้วยใจแล้ว  ยังช่วยให้ผมไม่เหงาด้วย”  แม้ฝูหรงจะพูดกับมามา  แต่ท้ายประโยคดันตวัดสายตามาทางผมอย่างเคืองๆ 

ผมก็ได้แต่อมยิ้มส่ายหัวทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับแววตาวิบวับคู่นั้น  ก่อนหันมาสนใจตัดไส้กรอกกับแฮมแบ่งเป็นชิ้นพอดีคำในจานกระต่ายขี้งอน  เพื่อเตรียมพร้อมให้เจ้าของได้จิ้มกินสะดวก  อย่าหาว่าผมอยากเอาใจคนรักออกนอกหน้าเลยครับ  เรียกว่าเป็นไปตามความเคยชินเสียมากกว่า  ด้วยผมก็อยากดูแลคนรักของตัวเอง  ไม่ใช่เป็นฝ่ายถูกดูแลอยู่ฝ่ายเดียว 

ส่วนเรื่องที่ฝูหรงดูเคืองๆผม  เป็นเพราะเจ้าตัวนั้นว่างงานอีกครั้ง  ด้วยออกจากหน้าที่เลขาของผมมาร่วมสามเดือนแล้ว  ซึ่งออกโดยยินยอมพร้อมใจ  แต่ก็เป็นไปในแบบไม่เต็มใจกึ่งเสียดายเสียมากกว่า  ไม่ใช่เพราะผมเอาแต่ใจบังคับให้ฝูหรงออกหรอกนะครับ  มันมีเหตุต่างหาก  และเป็นเหตุผลที่หนักแน่นเพียงพอ  ทำให้คนน่ารักยอมทิ้งงานอันเป็นที่รักมาได้

ปัจจุบันฝูหรงจึงกลายเป็นพ่อบ้านเต็มตัว  รับหน้าที่จากมามาเพื่อดูแลทุกคนในบ้าน  ผมพอจับความรู้สึกของคนรักได้ว่า  ฝูหรงเงียบเหงาลงไม่น้อยตั้งแต่ไม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน  จึงอาจเป็นสาเหตุให้เจ้าตัวทุ่มเวลาส่วนใหญ่ในการดูแลพวกเรา  แม้จะมีมามาคอยชวนทำนู่นทำนี่บ้าง  แต่คนที่เคยเป็นเลขาคอยจัดการงานทุกอย่างแทนเจ้านาย  คงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าตัวเองว่างและไม่ได้ทำประโยชน์อย่างเคย  ผมคิดๆไว้แล้วว่าจะหาอะไรบางอย่างให้ฝูหรงได้ทำฆ่าเวลา

“กลางวันนี้พอลจะกลับมารับไปทานกลางวันด้วยนะครับ  แต่อย่าแต่งตัวน่ารักมากล่ะ...พอลหวง...[จุ๊บ!]”  ผมส่งยิ้มใส่ตาคู่กลมที่สะท้อนแววเขินอาย  และกอดร่างนิ่มเข้าหาอก  พร้อมกดจูบยังขมับหอมเป็นการปิดท้าย  ก่อนหมุนตัวขึ้นรถคู่ใจ  การกระทำเพียงแค่นี้ก็ทำให้ผมอารมณ์ดีและมีแรงทำงานไปทั้งวันแล้ว

ตลอดช่วงเช้าผมไปเจรจาซื้อขายที่ดินแถวชานเมืองที่เต็มไปด้วยคอนโดร้าง  กว่าจะเสร็จก็เกือบเที่ยงพอดี  แต่ก็คุ้มที่การเจรจาครั้งนี้ประสบผลสำเร็จได้ไม่ยากนัก  ซึ่งการซื้อขายจะเกิดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า  ผมออกจะดีใจไม่น้อยกับผลเจรจา  ด้วยหวังไว้มากกับผืนแผ่นดินตรงนี้  แม้ที่ดินจะดูไม่น่าสนใจในสายตานักอสังหาฯคนอื่น  เพราะรอบข้างเป็นโรงงานอุตสาหกรรม  ทั้งเสียงทั้งอากาศจึงไม่เหมาะต่อการพักอาศัย  แต่ผมเล็งเห็นแล้วว่าอีกไม่กี่ปีโรงงานแถวนี้  จะถูกรัฐบาลเข้าควบคุมมาตรฐานการผลิต  และควบคุมมลภาวะที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน  ด้วยเริ่มมีข่าววงในว่ามีคนเรียกร้องให้รัฐบาลจัดหามาตรการในการแก้ไขเข้ามาแล้ว  ดังนั้นเรื่องการปรับปรุงสภาพแวดล้อมและจัดระเบียบต่างๆรอบพื้นที่โรงงานย่อมตามมา 

คอนโดร้างที่ไม่มีใครสนใจในตอนนี้  จะกลายเป็นดั่งทองคำในผืนดินที่แห้งแล้งทันที  ด้วยผมมีแผนปรับปรุงคอนโดดังกล่าว  ให้กลายเป็นคอนโดที่เหมาะแก่การพักอาศัย  และพรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนชนชั้นกลาง  ผมตั้งใจทำสัญญาเช่าอาศัยสำหรับคนที่สนใจในระยะยาว  ไม่ใช่ขายขาดเหมือนหลายๆโครงการที่บริษัททำมาตลอด  ด้วยหวังผลคราวละไม่มากแต่เก็บดอกผลกันยาว 

สำคัญที่งานนี้ได้น้องธันว์วิศวกรหน้าใหม่ไฟแรงมาช่วยดูงานให้ด้วยตัวเองด้วย  แต่ก็ทำเอาผมเกือบโดนหลี่ผิงกินหัวเสียด้วยซ้ำ  ที่แอบติดต่องานกับน้องลับหลังมัน  แต่สุดท้ายมาเฟียใหญ่ที่รักเมียมากอย่างหลี่ผิงก็ต้องยอมลงให้น้องธันว์อยู่ดี  ซึ่งงานนี้ผมไม่คิดเอาเปรียบน้องอยู่แล้ว  ตั้งใจตอบแทนให้อย่างเต็มที่แน่นอน

สรุปกว่าจะเสร็จงานกว่าผมจะมารับกระต่ายน้อยก็ปาไปเที่ยงกว่าๆเลทจนได้  แต่ฝูหรงก็ไม่มีทีท่าว่าจะงอแงใส่  ยังคงยิ้มหวานมาให้ผมใจสั่นได้อยู่  ผมจึงแก้ตัวด้วยการพาไปกินอาหารนานาชาติ  ยังห้องอาหารในโรงแรมของตระกูลหวางที่เจ้าตัวเคยทำงาน  เปิดโอกาสให้คนน่ารักได้พบปะเพื่อนร่วมงานเก่าๆ 

คนน่ารักที่เคยบ่นว่าเหงาและคิดถึงที่ทำงาน  ถึงกลับยิ้มไม่หุบคุยจ้อไม่หยุดเลยทีเดียว  จนผมต้องเตือนเรื่องอาหารเพราะเราเลยเวลามามากแล้ว  นั่นแหละเจ้าตัวถึงยอมหยุดและทานอาหารแต่โดยดี  แต่ก็ยังมีเพื่อนร่วมงานเก่าเข้ามาทักทายประปราย  ผมก็ได้แต่ปล่อยให้คนรักได้ทักทาย  ซึ่งคนที่เข้ามาก็มีมารยาทพอไม่กวนเวลาอยู่นานนัก 

ส่วนเจ้าของสถานที่ตัวจริงกลับไม่อยู่  ด้วยติดสอยห้อยตามเมียรักออกคุมงานสร้างโรงแรมใหม่ในเครือนอกสถานที่ด้วยตัวเอง  ผมกับฝูหรงจึงไม่ได้เจอหลี่ผิงและน้องธันว์  แต่พวกเรากลับได้มาเจอกัน  ยังร้านเบเกอรี่ของเหมยอิง  ด้วยผมตั้งใจพาคนน่ารักมากินของหวานที่นี่อยู่แล้ว  พอลองโทรหาหลี่ผิงดู  เจ้าตัวเสร็จงานพอดีจึงตามมาสมทบ  ไม่เท่านั้นพวกเรายังได้เจอไอ้ไรอันที่กลายมาเป็นพนักงานเสิร์ฟกิตติมศักดิ์  ผู้ที่เป็นถึงคนรักของเจ้าของร้าน 

คุณฟังไม่ผิดหรอกครับที่ผมบอกว่าไรอันเป็นคนรักของเหมยอิง  และเพิ่งประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานนี้เอง  สำคัญที่เป็นความเห็นชอบจากทางตระกูลมาเฟียแล้วด้วย  ผมทั้งยินดีและชื่นชมในความอดทนและจริงใจของไรอันที่มีต่อเหมยอิงเป็นอย่างมาก  เพราะรู้เห็นพฤติกรรมแห่งความพยายามของไรอันมาตลอด  ไรอันทำทุกวิถีทางเพื่อชนะใจบุพการีและญาติสนิทของหลี่ผิงกับเหมยอิง  ซึ่งความตั้งใจแน่วแน่ของมันก็ประสบผลสำเร็จจนได้  ทางตระกูลหวางและตระกูลหยางยอมรับมันในฐานะว่าที่ลูกเขยและหลานเขยในที่สุด  แต่ก็มีข้อแม้ว่าให้ดูๆกันไปก่อน  สองปีถึงค่อยให้มันมาพูดเรื่องแต่งงาน 

ผมยังจำสีหน้าของไอ้ไรอันได้ยามที่เพื่อนเล่ามาถึงตรงนี้  ทำเอานึกขำและเห็นใจไปในเวลาเดียวกัน  ด้วยแม้ปากมันจะยิ้ม  แต่แววตากลับแฝงแววเศร้าสลด  พวกเราเพื่อนสนิททั้งผม  โจเซฟ  รวมถึงหลี่ผิงด้วย  จึงได้แต่ให้กำลังใจทั้งๆที่พยายามกลั้นขำเต็มกำลัง  แต่นาทีนี้พวกเราคงไม่ต้องเป็นห่วงมันแล้วล่ะ  เพราะทั้งสีหน้าแววตาของไรอันบ่งบอกชัด  ว่าเจ้าของนั้นกำลังมีความสุขอย่างที่สุด
.
.
.

(มีต่อด้านล่างค่ะ)  :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-10-2014 15:03:17
ต่อค่ะ^^
.
.
.

“เต็มที่เลยพวก  งานนี้ฉันเป็นเจ้ามือพวกนายเอง  น้องธันว์  ฝูหรง  น้องเอวา  ขาดเหลืออะไรบอกผมได้เลยนะ  เดี๋ยวจัดมาเพิ่มให้ครับ”  ไรอันจบด้วยรอยยิ้มละไมส่งให้คนที่มันเอ่ยชื่อเรียงคน  ทำเอาพวกผมสามคนผู้เป็นเจ้าของถึงกลับคิ้วกระตุกเท้ากระดิก  และเหมือนมีอะไรติดคอพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“อะแฮ่ม!!!...ไรอัน!”  เจ้าของชื่อที่ผมใช้เสียงเข้มๆปรามออกไปนั้น  นอกจากจะไม่สะทกสะท้านแล้ว  ยังมีหน้าหันมาเลิกคิ้วใส่พวกผมสามคน  เหมือนไม่มีเข้าใจและไม่รู้ว่าตัวว่าทำอะไรขัดใจพวกเราไว้

“อะไรกันพวกนาย  ฉันก็แค่แทคแคร์เพื่อนสะใภ้หรอกน่า  ทำเป็นหวงไปได้  ที่สำคัญฉันมีเหมยอิงอยู่แล้วทั้งคน  ไม่ว่าแฟนพวกนายจะน่ารักหรือสวยขนาดไหน  ในสายตาฉันเหมยอิงก็ดูดีและสวยที่สุดอยู่แล้ว  พวกนายเองก็คงไม่เห็นใครดีเท่าแฟนตัวเองเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ  ฮึๆ”  ผมมีโอกาสสบตาหลี่ผิงกับโจเซฟ  ก่อนพวกเราต่างส่งยิ้มให้แก่กัน  ด้วยเข้าใจเจตนาในตัวไรอันดีอยู่แล้ว  ยิ่งประโยคคำถามสุดท้ายของมัน  พวกเราต่างมีคำตอบในใจไม่ต่างกันสักนิด 

พอได้มาเห็นคนรักของตัวเองนั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้  เหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ไรอันพูด  ทั้งๆที่แก้มแดงก่ำออกอาการเขินชัดตาด้วยแล้ว  จากที่แอบหมั่นไส้ไอ้ไรอัน  กลับเปลี่ยนเป็นยกความดีความชอบให้มันแทน  โดยเฉพาะโจเซฟเสือยิ้มยาก  นาทีนี้ถึงกลับฉีกยิ้มตาพราวปล่อยฟีโรโมนฟุ้ง  จนสาวๆในร้านจ้องมันตาไม่กระพริบไปแล้ว  เมื่อแฟนสาวคนสวยขาร็อกลุคมาดมั่นผู้ที่ยิ้มยากไม่ต่างกัน  ถึงขนาดแก้มแดงระเรื่อเสหลบตามันเข้า

ส่วนผมกับหลี่ผิงก็จ้องคนน่ารักของตัวเองไม่วางตาเช่นกัน  เมื่อหนุ่มไซส์มินิของเรานั่งแก้มแดง  แก้เขินด้วยการหาอะไรเข้าปาก  และเคี้ยวจนแก้มตุ่ย  แถมด้วยการแอบมองผมสองคนเป็นระยะ

“น้องธันว์ค่อยๆทานครับ  ดูสิปากเลอะแล้ว  ฮึๆ...เฮียเช็ดให้นะ”  หลี่ผิงเชยคางน้องธันว์ขึ้น  ก่อนบรรจงเช็ดมุมปากที่เลอะครีมทาร์ต  ทำเอาน้องถึงกลับแก้มแดงก่ำกว่าเดิม 

การกระทำของทั้งคู่ไม่พ้นสายตาของคนที่เหลือ  ผมกับโจเซฟได้แต่อมยิ้มและส่ายหัวให้แก่กัน  เพราะชินกับภาพคู่หวานเสียแล้วครับ  แต่สะใภ้กลุ่มคนใหม่อย่างน้องเอวา  ถึงกลับนั่งท้าวคางมองทั้งคู่ไม่วางตาเหมือนถูกใจนักหนา  จนโจเซฟต้องสะกิดให้กลับมาสนใจของหวานตรงหน้าแทน  ด้วยกลัวน้องธันว์หันมาเห็นเข้าแล้วจะพาลเขินหนัก  จนเดือดร้อนไปถึงหลี่ผิงเอาได้  ไอ้ไรอันเองก็แค่ตบไหล่ผมพร้อมส่งยิ้ม  ก่อนจะปลีกตัวไปดูเหมยอิงที่หลังร้าน

ผมจึงได้มีโอกาสหันมาใส่ใจคนของตัวเอง  จึงพบว่ากระต่ายน้อยน่ารักนั้น  นั่งตาแป๋วจ้องไปยังคู่หวานไม่กระพริบ  พร้อมพึมพำอะไรเบาๆคนเดียว  ด้วยแก้มที่แดงก่ำน่าขย้ำอย่างที่สุด  ผมตัดสินใจยื่นหน้าไปกระซิบเรียกฝูหรงข้างหู  จนเจ้าของชื่อสะดุ้งและหันหน้ามาทางผม

“อ๊ะ!...[จุ๊บ!]...พอล!  ละ...เล่นไรเนี่ย”  ผมรวบมือขาวที่ดันใบหน้าผมออก  ด้วยเจ้าของตอนนี้กำลังเขินจัด  จากการกระทำที่เรียกว่าจูบกลางร้านเข้าของเราอย่างไม่ตั้งใจ  แต่เป็นสิ่งที่ผมคาดหวังให้เกิด  ไม่เช่นนั้นคงไม่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนน่ารักเสียแต่แรกหรอกครับ

“ไม่ได้เล่นนะครับ  พอลตั้งใจเรียกฝูหรงต่างหาก  มัวไปจ้องคนอื่นทำไมไม่รู้  ไม่กลัวน้องธันว์เขินเอาเหรอครับ  หืม”  นาทีนี้ในสายตาผมมีแต่กระต่ายแก้มแดงเท่านั้น  ลืมแม้กระทั่งว่าอยู่ท่ามกลางเพื่อนสนิทในร้านขนมชื่อดัง 

ถ้าไม่เพราะเสียงกระแอมเบาๆจากสองเพื่อนสนิท  พวงแก้มแดงๆคงให้ได้ผมพิสูจน์กลิ่นแล้วครับ  ว่ามันยังคงหอมเหมือนยามเช้าที่ผมสูดดมอยู่หรือไม่

ผมได้แต่กระตุกยิ้มใส่ตาสองเพื่อนสนิทที่ฉายแววรู้ทัน  ก่อนคลี่ยิ้มกว้างขึ้นอีกนิดส่งให้สองศรีสะใภ้กลุ่ม  และบรรจงตักมินิเค้กสีสวยให้ทั้งคู่เป็นการไถ่โทษ  ที่ผมทำให้น้องๆเขินจัดในฉากหวานของคู่ผมเมื่อครู่  ทำเอาทั้งคู่ไม่กล้าสบตาผมไปเลย 

ส่วนฝูหรงก็นั่งเงียบไม่ต่างกัน  แก้มงี้แดงแทบระเบิด  ดีที่เหมยอิงเข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศสดใสให้กลับคืน  ด้วยการชวนทั้งสามคนคุย  ไม่นานหลังจากนั้นบนโต๊ะของกลุ่มเรา  เรียกได้ว่ามีแต่เสียงหวานๆ  คละเคล้าไปด้วยเสียงหัวเราะเสนาะหูตลอดเวลาเชียวล่ะ

เมื่อได้เวลาแต่ละคู่ต่างแยกย้ายกันไป  โจเซฟกับน้องเอวาต้องเข้าค่ายเพลง  เพื่อดูการตัดต่อของมิวสิควิดีโอสำหรับซิงเกิลใหม่ของน้องเอวาที่จะเปิดตัวเร็วๆนี้  หลี่ผิงกับน้องธันว์ตั้งใจกลับคฤหาสน์หวาง  เห็นว่าอาตี้หลงจะพาครอบครัวมาเยี่ยม  ซึ่งเหมยอิงกับไรอันเองก็จะตามไปหลังจากเคลียร์ร้านอีกเล็กน้อย  ส่วนผมและฝูหรงยังไม่กลับบ้าน  ด้วยผมยังมีอีกหนึ่งจุดหมายสำคัญที่ต้องการพาคนรักไป  แถมคนที่รออยู่ยังสถานที่นั้นก็น่าจะทำให้ฝูหรงดีใจได้ไม่น้อยเชียวล่ะ

“แพทริค!  มาตั้งแต่เมื่อไหร่  ทำไมฝูหรงไม่รู้เรื่อง  แล้วนี่มันอะไรกัน”  คำถามสุดท้ายนั้นฝูหรงส่งให้ผมโดยเฉพาะ 

ผมระบายยิ้มเอาใจใส่ตาคู่กลมที่เต็มไปด้วยความสงสัย  ก่อนตาคู่เดียวกันนั้นจะกวาดไปทั่วห้องกว้างที่เต็มไปด้วยภาพวาดด้วยความตื่นเต้น  ผมจึงหันไปส่งยิ้มพร้อมก้มหัวให้นายแพทริคอย่างจริงใจ  เพราะถ้าไม่ได้แพทริคของขวัญที่ผมตั้งใจทำให้ฝูหรง  ในวันครบรอบที่เรากลับมาเจอกันอีกครั้งนั้น  คงไม่สมบูรณ์ได้เช่นที่เห็นนี้ 

แกลลอรี่แสดงภาพวาดของศิลปินชื่อดังทั่วโลก  ถูกจัดวางอย่างมีศิลปะอยู่ทั่วทั้งห้อง  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลงานจากคนสำคัญของฝูหรงเสียด้วย  นั่นก็คือของอังเคิลโลแกนที่เป็นศิลปินในด้านนี้  ผู้ที่ฝูหรงทั้งรักและเคารพนั่นเอง  ด้วยท่านฝากผลงานที่รังสรรค์มาให้หลานรักชุดใหญ่โดยเฉพาะเชียวล่ะ  และฝากข้อความอวยพรมาให้ฝูหรงอยู่ในการ์ดที่เจ้าตัวกำลังเปิดอ่านอยู่ขณะนี้

“แด๊ดฝากคำอวยพรให้ยูด้วยนะ  คิวท์บอยยิ้มสิ  ไม่มัวแต่ร้องไห้”  แพทริคพูดกับฝูหรงเสียงนุ่ม  แต่นาทีนี้ผมไม่นึกหึงหวงแล้วครับ

“นั่นสิครับ  ยิ้มก่อน...ฮึๆ  เก่งมากกระต่ายน้อยของพอล  ทั้งหมดนี้พวกเราทำเพื่อฝูหรงนะครับ”

“อืม  ขอบคุณนะแพทริค...พอล  ขอบคุณมากนะที่มอบแกลลอรี่นี้ให้ฝูหรง”  ผมกอดร่างเล็กกลับคืนพร้อมโยกปลอบไปด้วย  ก่อนกระตุกยิ้มคืนให้แก่นายแพทริค  ที่เตรียมหมุนตัวเดินออกจากห้อง

ผมเตรียมของขวัญชิ้นนี้  เพื่อมอบให้คนรักอยู่ร่วมสามเดือน  ตั้งแต่จับสังเกตได้ว่าคนรักเหงาหงอยยามต้องอยู่เฝ้าบ้าน  แม้พยายามจะทำให้ตัวเองยุ่งตลอดเวลาก็ตาม  ซึ่งแกลลอรี่นี้จะไม่สมบูรณ์และเป็นที่ถูกอกถูกใจฝูหรงได้เลย  หากขาดอังเคิลโลแกน  นายแพทริค  และยัยจินนี่แม่มดในตะเกียงตัวแสบ  ด้วยทั้งสามให้ความร่วมมือเต็มที่  ในการก่อตั้งแกลลอรี่แห่งนี้เพื่อมอบมันให้แก่ฝูหรง  คนที่พวกเรารักอย่างจริงใจ  ซึ่งก็สมหวังเมื่อเจ้าของคนใหม่ยังยิ้มไม่หุบจนถึงขณะนี้

“พอลให้ฝูหรงบริหารที่นี่เต็มที่เลยครับ  แต่ต้องแบ่งเวลาให้พอลด้วยนะรู้มั้ย  หากวันไหนฝูหรงละเลยพอล  พอลจะยึดมันคืน”  ต้องขู่ไว้ก่อนครับ  เพราะรู้นิสัยคนรักดีว่าเวลาทุ่มเทกับอะไรแล้ว  มักจะลืมสิ่งรอบข้างเสมอ

“คร้าบ  ฝูหรงไม่มีทางเห็นใครหรืออะไรสำคัญกว่าคนที่ตัวเองรักหรอกน้า  คิกๆ”  ดูท่ากระต่ายน้อยจะอารมณ์ดีจัด  มีหยอดใส่ผมให้ใจกระตุกเล่นอีกแน่ะ

“อ๊ะ!  พอล  อืมมม”  ผมไม่คิดปล่อยคนน่ารักลอยนวลแน่นอน  จึงหมุนตัวคนในอ้อมกอดเข้าหา  และประกบจูบทันที 

จูบครั้งนี้ความหวานไม่เคยจืดจาง  ความตื่นเต้นในอกไม่เคยลดระดับ  ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากจูบแรกของเราสักนิด  หากปล่อยเวลาให้ทอดยาวไปกว่านี้  เชื่อได้ว่าผมคงฉลองแกลลอรี่ใหม่สองต่อสองกับฝูหรงแน่นอน  ยังดีที่ยัยจินนี่เข้ามาขัดจังหวะได้ถูกเวลา  แม้จะแอบเสียดายแต่ผมก็ไม่นึกโกรธเคืองยัยญาติตัวแสบสักนิด  เพราะใจจริงบทรักแสนพิเศษของเราควรจะแสดงในที่ๆเป็นส่วนตัวกว่านี้

“ปล่อยให้อยู่ด้วยกันสองต่อสองไม่ได้เลยนะ”  แม้ความหมายที่ได้ยินจะฟังดูเหมือนชวนหาเรื่อง  แต่ใบหน้าที่มีรอยยิ้มบางเบา  พร้อมแววตาระยิบระยับของยัยจินนี่  แสดงออกชัดว่าตั้งใจหยอกเย้ามากกว่าต่อว่ากัน

ผมน่ะไม่อะไรอยู่แล้ว  แต่คนที่ตัวอ่อนในอ้อมกอดผมนี่ต่างหากล่ะ  ที่เอาแต่ซุกหน้าไว้กับอกผมจนแน่น  โดยไม่คิดจะเงยขึ้นมาทักทายผู้มาใหม่สักนิด  อาการของฝูหรงจึงยิ่งทำให้ยัยจินนี่ได้ใจ  ส่งคำหยอกเย้าให้ฝูหรงได้อายยิ่งขึ้น  จนแทบจะมุดหัวแทรกเข้ามาในอกผมเลยทีเดียว  แม้ผมจะถูกใจในอาการเขินจัดของฝูหรงไม่น้อย  แต่ขืนปล่อยให้จินนี่ล้อไม่เลิก  ผมนี่แหละคงโดนโกรธทีหลังเสียเอง  จึงพยักหน้าส่งสัญญาณให้นายแพทริคทำอะไรสักอย่าง  เพื่อจัดการคนของตัวเองหน่อย 

ฟังไม่ผิดหรอกครับ  ที่ผมบอกว่าจินนี่เป็นคนของนายแพทริค  ด้วยทั้งคู่เลยคำว่าดูๆคุยๆกันไปไกล  แม้ญาติตัวแสบของผมยังปากแข็งว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ตาม  แต่หากไม่มีอะไรจริง  ยัยจินนี่คงไม่ยอมคุยโทรศัพท์ข้ามประเทศกับนายแพทริคเกือบทุกวันหรอก  แล้วไหนจะตามไปวีนนายแพทริคถึงนิวยอร์ก  ยามที่นายนั่นลองใจด้วยการตัดขาดการติดต่อ 

การกระทำมันบอกอะไรๆได้มากกว่าคำพูด  ซึ่งคงอีกไม่นานผมคงได้ข่าวดีจากทั้งคู่  ด้วยนายแพทริคเองได้เข้ามาเจรจากับอาหญิงและอาเขยของผมไว้แล้ว  เหลือก็แต่ผู้หญิงปากแข็งคนเดียวเท่านั้น  แต่ผมเชื่อว่าหัวใจยัยจินนี่โอนอ่อนให้นายแพทริคเกือบหมดแล้วทั้งดวง

“สุขสันต์วันครบรอบของเรานะครับ  สิ่งนี้สำหรับพอล...แทนความรักของฝูหรงนะ”  ยอมรับว่าผมทั้งแปลกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน  เมื่อคนรักจำวันครบรอบของเราได้ 

ผมไม่ได้คาดหวังหรือต้องการอะไรจากฝูหรงในวันนี้จริงๆ  ด้วยผมพร้อมจะเป็นฝ่ายให้เสียเองมากกว่า  และพร้อมที่จะเป็นผู้มอบความสุขกลับคืนให้แก่ผู้ชายน่ารักตรงหน้า  ที่ดูแลและคอยเอาใจใส่ผมอย่างดีมาตลอดปีที่เราอยู่ด้วยกัน  แต่มานาทีนี้ผมถึงกลับตื้นตันพูดไม่ออก  เมื่อฝูหรงไม่ได้มีแค่เพียงคำอวยพร  แต่คนน่ารักยังมีแหวนทองคำเกลี้ยงลักษณะเดียวกันกับวงที่อยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของเจ้าตัวให้ผมด้วย 

ในขณะนี้แหวนวงที่ว่าก็มาอยู่บนนิ้วผมแล้ว  แถมยังเป็นนิ้วเดียวกันกับฝูหรงไม่ผิดเพี้ยน  ‘นิ้วนางข้างซ้าย’  สำหรับสวมแหวนของคนอันเป็นที่รักเท่านั้น

“ขอบคุณนะครับ  กระต่ายน้อยรู้มั้ยพอลดีใจมากนะ”

“ยังไม่เท่าที่ฝูหรงดีใจเลยเหอะ  พอลทำเพื่อฝูหรงมามาก  มากจนฝูหรงไม่รู้ว่าจะตอบแทนได้ยังไงหมด  แหวนวงนี้เทียบไม่ได้เลยกับแกลลอรี่ที่นี่”  แม้คนน่ารักจะแก้มแดง  ดูก็รู้ว่ากำลังเขินสายตาผม  แต่ตากลมๆก็จ้องกลับตาผมไม่ไปไหน   

ผมได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ระบายยิ้มและส่ายหน้าช้าๆ  อย่างไม่เห็นด้วยในคำพูดสุดท้ายนั่น  พร้อมส่งหลังมือไปไล้แก้มเนียน  ก่อนจะพูดในสิ่งที่คิดออกไป

“อย่าเอาแหวนไปเทียบกับแกลลอรี่สิครับ  แหวนวงนี้มีค่าทางใจมากสำหรับพอลเลยนะ  เพราะมันเป็นสิ่งแทนความรักที่ฝูหรงมีให้พอล  แต่ถ้าฝูหรงอยากตอบแทนความรักของพอลจริงๆ  ขอแค่ฝูหรงอยู่เคียงข้างพอลแบบนี้ตลอดไปก็พอแล้ว  เพราะเท่ากับชีวิตพอลถูกโอบล้อมไปด้วยความสุขตลอดเวลาแล้วครับ”

ผมไม่ได้พูดเกินจริง  แต่อาจจะฟังดูหวานเลี่ยนไปสักหน่อย  หากใครมีความรักเฉกเช่นเดียวกับผมแล้วล่ะก็  คงรู้ว่าชีวิตที่ถูกโอบล้อมไปด้วยความสุขตลอดเวลานั้นเป็นเช่นไร 

หากใครยังไม่เคยสัมผัสความรู้สึกแบบนี้  ผมอยากชักชวนให้มีดูสักครั้ง  คุณจะรู้ว่าหนึ่งชีวิตที่เกิดมาช่างมีค่าอย่างแท้จริง  และคุณจะหวงแหนทุกวินาทีที่ได้ใช้ร่วมกับคนที่คุณรัก...เหมือนผมอย่างไรเล่าครับ

“พอลรักฝูหรงนะครับกระต่ายน้อยขี้อายของพอล” 

เราจะมีกันและกันแบบนี้ตลอดไป


......................THE  END.............................



ขอบคุณทุกการติดตามที่มีให้ฝูหรงและพอลนะคะ
เรื่องดำเนินมาถึงจุดที่คิดว่าสมบูรณ์ที่สุดแล้ว
แต่เชื่อว่าทั้งพอลฝูหรงและทุกตัวละครในเรื่อง
จะยังคงโลดแล่นในใจคุณผู้อ่านทุกคน

เป็นอีกเรื่องที่เราภูมิใจที่สามารถเวิ่นเว้อ (555) จนจบได้
และขอฝากผลงานการรวมเล่มแก่คนที่สนใจด้วยนะคะ
ใครที่ต้องการเก็บไว้เป็นความสุขทางใจ  ติดต่อเข้ามาได้เลยค่ะ

แจ้งรีปริ้นท์นิยายชุด “เสน่ห์รัก” และ “บ่วงรัก” ค่ะ  ตามลิ้งค์ไปได้เลยน้า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43497.new#new

แจ้งเปิด & โอนนิยายชุด “Lover”  ตามลิ้งค์ไปได้เช่นกันค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43768.new#new

ส่วนเรื่องใหม่ (ฮ้าๆๆๆ  มีแล้ว!!!) คงอีกไม่นานจะนำมาลงให้อ่านกันค่ะ
แต่ขอต่อสู้กับความรู้สึกกดดันในใจตัวเองนิดหนึ่ง  หากพร้อมเปิดตัวคู่ใหม่
หวังว่าคนอ่านที่ตามกันมาจะตามไปให้กำลังใจเรื่องใหม่ด้วยนะคะ
คุณคือกำลังใจสำคัญที่ทำให้เกิดทุกตัวละครของเราขึ้นมาค่ะ

 :pig4:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 22-10-2014 15:28:30
หวานกันจนหยดสุดท้ายเลยนะ

ขอยคุณ คนเขียน มากค่ะที่เขียนเรื่องราวสนุกๆ ให้ได้อ่าน

จะรออ่านเรื่องใหม่นะค่า

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 22-10-2014 15:52:29
คู่นี้หวานมาก มดจะขึ้นจอ หวานตลอดตั้งแต่ต้นจนจบจริงๆ ขอบคุณค่ะ  :pig4:
ชอบกระต่ายน้อย น่ารักมากๆ ยกป้ายไฟเป็นแฟนคลับเลยค่า
ส่วนพอล ตอนแรกๆแอบขัดใจเล็กๆ แต่มาแก้ตัวได้ที่ทำดีกับฝูหรงล่ะนะ
ปล. จะมีตอนพิเศษมั้ยน้าา  :mew2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 22-10-2014 16:09:37
คู่นี้หวานซึ้งกันจนหยดสุดท้าย
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 22-10-2014 17:42:51
ตั้งแต่พอลกลับมาเจอฝูหรง  ไม่มีตอนไหนที่ไม่หวานเลย เหมาะแล้วที่เป็นของกันและกันตลอดไป หวานตั้งแต่ต้นจนจบ รวมไปถึงคู่เพื่อนในกลุ่ม

รออ่านเรื่องใหม่ต่อไปนะคะ  เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ ค่ะ  :L2:

หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: jessiblossom ที่ 22-10-2014 17:49:18
ติดตามเรื่องใหม่ครับ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: i1_to*pp ที่ 22-10-2014 18:11:13

 :L2:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 22-10-2014 19:26:13
หวานกันจนวินาทีสุดท้าย เราเขินนนนนน
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-10-2014 22:28:45
จบซะแล้ว~ ขอบคุณนะคะ เป็นเรื่องที่หวานตั้งแต่ต้นจนจบเลย น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 23-10-2014 03:03:41
จะมีตอนพิเศษมั้ยครับ จะรอติดตามนะครับบบบบ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 23-10-2014 08:43:20
 :mew1: ขอบคุณค่า
รอติดตามต่อไป
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 23-10-2014 10:01:25
จบแล้ว แอบใจหาย
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ที่แสนหวานและอบอุ่น
หวาน หวานมากจริงๆ
ขอบคุณมากมายค่ะ  :L2:
รอติดตามเรื่องใหม่
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Meen_Emp ที่ 23-10-2014 10:03:56
หวานมาก หวานจนหยดสุดท้าย
น่ารักที่สุด
จบแล้ว ต้องขอขอบคุณผลงานดีๆ ที่มีมาเรื่อยๆนะคะ
จะรอติดตามผลวานต่อไปค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 23-10-2014 16:34:57
จบได้หวานกันทุกคู่ หวานจนหยดสุดท้าย

+1 แทนคำขอบคุณค่ะ
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 23-10-2014 19:30:03
มีคู่อื่นๆมาช่วยกันเพิ่มความหวานตอนสุดท้าย  :-[
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 "กันและกันตลอดไป" P.22 (22/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 24-10-2014 04:46:23
 :-[
หวานมากกกกกกกกก
น่ารักมากกกกกกกกก
จะรอเรื่องใหม่นะคะ
รีบๆมาหล่ะ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 P.22 >> UP ปกแล้วน้า 24/10/57 ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 24-10-2014 20:15:37
(http://i1310.photobucket.com/albums/s648/MiSS-U_novel/3S_zps47b86770.jpg) (http://s1310.photobucket.com/user/MiSS-U_novel/media/3S_zps47b86770.jpg.html)

UP ปก "รักต้องเคลียร์" มาให้ดูกันค่ะ

แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดอีกเล็กน้อยน้า

เพื่อนๆคนไหนสนใจจับจองตามลิ้งค์ไปได้เลยนะคะ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43768.new#new
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 P.22 >> UP ปกแล้วน้า 24/10/57 ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: DarkAki ที่ 24-10-2014 21:59:53
ต่ายน้อยยยยยยยยยยยยยยย

ว่างๆก็มาดูแลพี่สาวบ้างน้าาาาา

พี่สาวขาดคนดูแล แอร๊ยยยย // วิ่งหนีกระสุน

ขอบคุณนะคะที่แต่งนิยายน่ารัก น่าฟัด น่ากอดมาให้อ่าน  :pig4: :L2: :กอด1:

หน้าปกมาแล้วๆๆๆๆ ><

อยากเอามานอนกอดแบ๊วววว
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 P.22 >> UP ปกแล้วน้า 24/10/57 ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: Der Adler ที่ 24-10-2014 22:47:51
ตอนจบ.....คนอ่านเป็นเบาหวาน :katai5: :katai5:
เพราะคู่นี้แหละคร้าาาา :mc4:
หวานตั้งเเต่ต้นจนจบเลยยยย :hao5:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 P.22 >> UP ปกแล้วน้า 24/10/57 ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 25-10-2014 20:09:24
ส่วนเรื่องใหม่ (ฮ้าๆๆๆ  มีแล้ว!!!) ดีดีดี o13 o13 o13
รอรอรอ :mew1: :mew1: :mew1:
 :pig4: :pig4: :pig4: สำหรับคู่ฝูหรงกะพอล
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 P.22 >> UP ปกแล้วน้า 24/10/57 ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 26-10-2014 17:40:16
งานยุ่งๆกว่าจะได้มาอ่านก็นานเลยค่ะ
หวานน้ำตาลยังอายอีกแล้ว ^^
ชอบฝูหรงที่มักจะใส่ใจผู้คนรอบข้างสม่ำเสมอ
มีงานให้ทำอย่างนี้พอลได้คะแนนไปเต็มๆค่ะ
แล้วจะตามไปจองนะคะ ขอบคุณเรื่องน่ารักอบอุ่นนี้ค่ะ  :L1:
หัวข้อ: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 P.22 >> UP ปกแล้วน้า 24/10/57 ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: THE KOP ที่ 29-10-2014 01:58:54
งืออออ จบแล้วเหรอคะ เสียดายจัง...อ่านเรื่องนี้แล้วสบายใจ คืออ่านเรื่อยๆไม่ดราม่า ไม่ซีเรียส เพราะความหวานของคู่นี้เลย น่ารักมากๆเลยค่ะ มาเปิดเรื่องใหม่เร็วๆนะคะ รอติดตามผลงานในเรื่องต่อๆๆๆๆไปน๊าาาาาาา
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 P.22 >> UP ปกแล้วน้า 24/10/57 ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 29-10-2014 09:01:32
 o13
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล CH.30 P.22 >> UP ปกแล้วน้า 24/10/57 ^O^
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 03-11-2014 12:43:49
น่ารักมากจริง ๆ ค่ะ
ประทับใจคู่นี้มาก ๆ
และแล้วเลขาหนุ่มก็มีคู่เป็นหนุ่มหล่อนิสัยดีอย่างพอล
คู่กันแล้ว ไม่แคล้วกันน๊าา

รอเรื่องใหม่นะคะ^^
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล THE END >> เปิดจอง&โอน วันนี้ ถึง 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 11-11-2014 09:34:52
แพททริค มาเจอจินนี่หน่อย ดูซิใครจะเจ๋งกว่ากัน อิอิ
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล THE END >> เปิดจอง&โอน วันนี้ ถึง 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 12-11-2014 15:15:58
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล THE END >> เปิดจอง&โอน วันนี้ ถึง 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 13-11-2014 17:00:41
มาส่งท้ายคู่นี้แบบช้ามากๆ  :m23: เขาแฮปปี้เอ็นดิ้งกันไปเป็นชาติแล้ว
มาช้าแต่ก็มาล่ะเนอะ ในที่สุดคู่นี้ก็ถึงฝั่งอีกคู่ หวานไม่แพ้คู่ไหนๆของพี่มาศเลย
ต้องบอกว่าหวานทุกคู่สินะ แว่วว่าจะมีเรื่องใหม่มาให้เราได้ชื่นชมกันต่อ
แต่ไม่รู้ว่าจะเบาหวานขึ้นเหมือนที่ผ่านๆมาหรือเปล่านะ :hao3:
ต้องขอโทษด้วยค่ะที่ไม่ได้เม้นท์อย่างสม่ำเสมอเหมือนที่ผ่านๆมา งานมันเยอะ :serius2:
รอเรื่องหน้านะคะ ไม่รู้ว่ามาเมื่อไรแต่จะตั้งตารอค่ะ
สุดท้าย ขอบคุณพี่มาศมากๆค่ะ ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆอีกเรื่อง :กอด1:
+1และเป็ดส่งท้ายจ้า
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล THE END >> เปิดจอง&โอน วันนี้ ถึง 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 15-11-2014 12:50:30
หวานมากจริงๆเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล THE END >> เปิดจอง&โอน วันนี้ ถึง 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 17-11-2014 14:39:38
หวานมากจนน้ำตาลจะท่วมจอ >///<
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล THE END >> เปิดจอง&โอน วันนี้ ถึง 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 18-11-2014 17:15:59
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง&พอล THE END >> เปิดจอง&โอน วันนี้ ถึง 1/12/57
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 31-12-2014 09:38:30
น่ารักมากค่ะ   :pig4:    :pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 18-01-2015 22:33:01
ไม่ได้มาตามซะนานจริงๆด้วย มาถึง จบเลย เอิ๊กๆ

แต่คู่นี้นี่นะ หวานแทรดซึมทุดอนูทีเดียวเชียว

ขอบคุณมากนะครับที่เามาลงให้ได้อ่านกัน  :pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 15-02-2015 21:19:14
หวานนนนน หวานมากกกกกก
แต่แอบสงสัยว่าทำไมฝูหลงถึงได้ออกจากงานที่เป็นเลขาได้พอล???!!
รึเราอ่านข้ามตรงไหนไปรึป่าวหว่าาาา?! o22

จะติดตามผลงานต่อๆไปของ MiSS-U แน่นอนค่ะ o13 o13 o13
#แอบอยากได้ตอนพิเศษจัง :hao3:

  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 05-04-2015 19:51:42
ขอบคุณค่ะ สนุกไม่แพ้เรื่องอื่นเลย
รู้สึกหลงรึกฝูหลงมากๆ ^^
หัวข้อ: Re: {รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...THX. MiSS-U
เริ่มหัวข้อโดย: mjpnta ที่ 05-09-2015 11:11:10
ขอบคุณมากๆนะคะ นิยายน่ารักมากเลยยยยยยย
หัวข้อ: Re: **รีปริ้นท์**{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...[ถึง29/2/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 19-02-2016 10:30:53
เปิดจองนิยาย MiSS-U ทุกชุดค่ะ!!!


ติดต่อมาภายใน 29 ก.พ. 59 นี้

นี่อาจจะเป็นการรีปริ้นท์รอบสุดท้าย หรือถ้ามีอีกก็คงจะอีกนานค่ะ
ท่านใดสนใจรีบจองและโอนเลยนะคะกันพลาดน้า

ที่สำคัญ >>> ขอท่านที่สนใจจริงๆและพร้อมโอนค่ะ
เพราะครั้งนี้เราพิมพ์จำนวนน้อย ทำให้ราคาสูงกว่าที่เคยพิมพ์
แต่ถ้ายอดพิมพ์มีจำนวนเยอะกว่าที่คาดไว้ เราจะส่งเงินส่วนต่างคืนให้นะคะ

*****************************

ชุดเสน่ห์รัก

(http://i1310.photobucket.com/albums/s648/MiSS-U_novel/E010E250E480E2D0E0702_zps5c0e024e.jpg)

1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม  >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 400 บาท

2.เสน่ห์มัดใจนายเพลย์บอย 2 เล่ม
   55 ตอน  1 ตอนพิเศษ(มีเฉพาะในเล่ม = ฉลองสระใหม่) >>> มิค+ฟิน
   12 ตอน  >>> แม็ค+นัท
   จำนวน 340 หน้า 2 เล่ม ราคาเล่มละ 340 บาท  รวม 680 บาท

3.เสน่ห์ร้ายพ่ายรัก 2 เล่ม >>> ธี+ภีม
   55 ตอน  3 ตอนพิเศษ(มีเฉพาะในเล่ม = ครอบครัว,รวมพลคนน่ารัก(อ่ะ),คู่พิเศษมนติณห์)
   จำนวน 300 หน้า  2 เล่ม  ราคาเล่มละ 320 บาท  รวม 640 บาท

************************************

ชุดบ่วงรัก

(http://i1310.photobucket.com/albums/s648/MiSS-U_novel/E210E310E070E010E230E410E140E070E2B0E190E490E320_zps6d411a04.jpg)

(http://i1310.photobucket.com/albums/s648/MiSS-U_novel/E400E2A0E370E2D0E020E320E270E2B0E190E490E320_zpsa75369a6.jpg)

(http://i1310.photobucket.com/albums/s648/MiSS-U_novel/E2B0E070E2A0E4C0E190E490E330E400E070E340E190E2B0E190E490E320_zpsd53f6dd8.jpg)

(http://i1310.photobucket.com/albums/s648/MiSS-U_novel/pigmonkey_zpsafc89c10.jpg)


1.บ่วงรักพญามังกร  >>> เฮียธัช+ตี้หลง
   60 ตอน + 7 ตอนพิเศษ (มีทั้งคู่ เฮียธัช+ตี้หลง และ ธี+ภีม)
   จำนวน 900 หน้า ต่อ 2 เล่ม  ราคาเล่มละ 420 บาท 2 เล่ม  840 บาท

2.บ่วงหงส์ >>> เฟิงหวง + หลี่จวิน
   20 ตอน + 2 ตอนพิเศษ
   จำนวน 300 หน้า 1 เล่ม ราคาเล่มละ 300 บาท

3.บ่วงรักรุ่นเล็ก>>> คู่น้องธันว์+หลี่ผิง(ไม่ลงในเวปไหน)
   8 ตอน + 2 ตอนพิเศษ
   จำนวน 140 หน้า 1 เล่ม ราคา 160 บาท

*******************************************

ชุดLover

1.รักหวานๆของมาเฟียขี้หึง  >>> ธันว์+หลี่ผิง
   43 ตอน + 4 ตอนพิเศษ
   จำนวน 600 หน้า ต่อ 2 เล่ม  ราคาเล่มละ 320 บาท 2 เล่ม  640 บาท

2.รักต้องเคลียร์ >>> ภูธิป + ชนนน
   44 ตอน + 8 ตอนพิเศษ
   จำนวน 700 หน้า 2 เล่ม ราคาเล่มละ 360 บาท 2 เล่ม 720 บาท

3.รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ >>> ฝูหรง+โจวพอล
   30 ตอน + 3 ตอนพิเศษ
   จำนวน 440 หน้า 1 เล่ม ราคา 440 บาท

***************************************

“ปาฏิหาริย์รักของลูกหมู”

30 ตอน  13 ตอนพิเศษ
(ไม่ลงในเล้า 10 ตอน) 
จำนวน 2 เล่ม  เล่มละ 300 หน้า  ราคา 640 บาท

*****************************************

ติดต่อสั่งจองทาง PM (ข้อความส่วนตัว)  หรือ  E-mail : miss-u_novel (แอท) hotmail.co.th
มีรายละเอียดดังนี้
*โดยขึ้นหัวข้อว่า  “จองหนังสือ”
*Username ของเล้า(ถ้ามี) หรือ ชื่อ-สกุล  และ  E-mail  ที่ติดต่อได้

สำหรับค่าส่งคิดตามน้ำหนักค่ะ จะเป็นแบบธรรมดา ลงทะเบียน EMS ให้เลือกมานะคะ
เราจะคำนวณค่าส่งให้ค่ะ

 :pig4:  :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: **รีปริ้นท์**{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...[ถึง29/2/59]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 26-07-2016 14:08:17
อื้อหือ น่ารักมาก หวานมาก ๆ เลยครับเรื่องนี้ หวานเข้าไส้เลย

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: *หลุดจอง*{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...[14/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 14-11-2016 14:23:24
ชุด Lover หลุดจอง 2 ชุด (3เรื่อง ขายยกชุด)
ท่านใดสนใจติดต่อเข้ามานะคะ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: *หลุดจอง*{รักยุ่งๆของลูกครึ่งรูปหล่อ} ฝูหรง & พอล...The End...[14/10/59]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-07-2017 02:51:09
 :L2: :L2: สวดยอดจริง ๆ