พิมพ์หน้านี้ - เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: tianqin ที่ 29-09-2009 21:05:49

หัวข้อ: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 29-09-2009 21:05:49
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

…………………………………………………………………………….



เรื่องนี้เป็นบทประพันธ์ของ “ใบปอ” ซึ่งได้ทำการแต่งจนจบไว้นานแล้วนะคะ อาจจะมีผู้เคยอ่านผ่านตามาบ้างแล้ว  แต่ก็อาจจะมีนักอ่านที่ยังไม่ได้อ่านอีก ข้าพเจ้าจึงได้ทำการขออนุญาต ใบปอ  นำมาโพสให้ทุกท่านได้อ่านกันอีกครั้ง  และได้รับอนุญาตเป็นที่เรียบร้อยแล้วคะ


ข้าพเจ้า เทียนฉิน เป็นแต่เพียงผู้นำมารีโพสใหม่เท่านั้นนะคะ  

.....................

เลห์รัก

แอ๊ด!…กึ้ง!...แม้จะพยายามให้เบาแสนเบาเพียงใด แต่ประตูเจ้ากรรมก็ยังส่งเสียงครวญครางดังลั่นเท็ดแอบสบถเบาๆ เสียงกุกกักจากห้องนอนชั้นบนทำให้เขาหยุดชะงัก  แต่เมื่อรออยู่นานก็ไม่มีเสียงอะไรอีกจึงแอบถอนใจเฮือก  ตาคมกวาดดูรอบตัวเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง  เด็กหนุ่มพยายามย่องลงบันได  แต่ส่วนสูงเกือบ 190 บวกกับน้ำหนัก 84 ก.ก.ก็ทำให้บันไดใกล้เกษียณส่งเสียงครางออดแอดได้ทุกขั้น
         “เท็ด!จะไปไหน?” เสียงใสแจ๋วทักมาจากหน้าต่างชั้น2 เท็ดสะดุ้งเงยขึ้นไปมองก่อนถอนใจเฮือกเมื่อรู้ว่าหลบไม่พ้น หน้าขาวอมยิ้มกริ่มลูกนัยน์ตาเต้นยิบๆอย่างรู้ทัน
         “พี่จะไปหาเพื่อนๆ…อาจจะกลับดึก กายคงไปด้วยไม่ได้”
         “ไม่เอา” กายส่ายหน้าวืด โหนขึ้นบนขอบหน้าต่างแล้วโดดลงมา เท็ดใจหายวาบรีบกางแขนออกรับ
         “กาย!อย่าทำอย่างนี้สิ ถ้าพี่รับไม่ทันจะเจ็บตัวนะ” กายหัวเราะคิกโอบแขนรอบลำคอแข็งแรงดวงตาเป็นประกายสนุก
         “พี่รับได้อยู่แล้ว เท็ดเก่งที่สุด” เท็ดสะท้านไปทั้งหัวใจเมื่อปากสีสดจุมพิตที่แก้มสากเบาๆ ดวงตากลมโตที่สบกับเขาใสแจ๋วราวกับลูกแก้ว เท็ดหลบตาวูบละอายแก่ใจที่ต้องเผลอหวั่นไหวทุกครั้ง เท็ดค่อยๆวางกายลง เด็กชายสูงเพียงหน้าอกเขาเท่านั้น  แขนเล็กยังคงกอดเอวเขาไว้แน่น ด้วยวัยที่ห่างกัน 5 ปี ทำให้เขากับกายสนิทกันมาก
         “ผมอยากไปเล่นน้ำ  เท็ดไปด้วยกันนะ”
         “ไม่ได้ พี่นัดเพื่อนไว้แล้วขืนไม่ไปก็เสียคำพูดสิ”กายแขนออก ถอยไปยืนเม้มปากแน่น ตาโตคลอด้วยน้ำใสๆ
         “งั้นไม่เป็นไร…พี่ไปเถอะ…ขอโทษนะที่ผมทำให้เสียเวลา”กายหันกลับเดินลิ่ว เท็ดนิ่งอึ้งพะว้าพะวงแต่สุดท้ายหัวใจก็เป็นฝ่ายชนะเหตุผล
         “กายเดี๋ยว!” เท็ดวิ่งไปดึงแขนเล็กไว้ ใจหายเมื่อเห็นน้ำตาบนแก้มเนียน
         “…รอพี่เดี๋ยวนะขอพี่โทรบอกเพื่อนก่อนแล้วเราค่อยไปเล่นน้ำกัน” กายเงยขึ้นมา ตาเป็นประกายยินดี แก้มแดงปลั่ง
         “พี่จะไปเล่นน้ำกับผม…จริงๆนะ!..เย้! เท็ดใจดีที่สุด” กายโถมเข้ากอด เท็ดรับร่างเล็กขึ้นหมุนไปรอบๆ จนกายร้องประท้วงจึงหยุด
         “พี่โทรเร็วๆนะ” เท็ดพยักหน้าขยี้ผมนุ่มเบาๆ ก่อนจะโทรไปบอกเพื่อนๆว่าพ่อแม่ไม่อยู่แล้วน้องไม่ค่อยสบายเขาต้องอยู่เป็นเพื่อน เสียงเพื่อนๆ บ่นกันเกรียวกราวที่เท็ดไปไม่ได้ ปิดภาคเรียนทั้งทีแต่เท็ดหายเงียบเพราะกลับมาอยู่บ้านเท็ดได้แต่ขอโทษ รีบวางโทรศัพท์ลงพร้อมกับถอนใจเฮือก  นึกละอายแก่ใจที่โกหกเพื่อนเพราะต้องการอยู่กับกายมากกว่า  แต่เมื่อหันกลับมาความกังวลก็เลือนไปเพราะกายมายืนยิ้มแต้อยู่ข้างหลัง เรือนร่างบอบบางสวมเพียงเสื้อยืดสีขาวและกางเกงขาสั้นแค่เข่า  ในมือถือตระกร้าใบโต เท็ดรีบดึงไปถือไว้เอง น้ำหนักของตะกร้าทำให้ต้องยกขึ้นดู
         “ผมลุกมาช่วยแม่เตรียมตั้งแต่เมื่อเช้า” คำพูดของกายทำให้เท็ดใจหาย นี่ถ้าเขาไปหาเพื่อน กายก็คงเตรียมของเก้อและคงผิดหวังมาก เท็ดดึงไหล่บางมากอดเบาๆ
         “รอเดี๋ยวนะ ขอพี่เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” เท็ดเดินกลับห้องหยิบเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นออกมาเพื่อใส่แทนชุดที่สวม  กายตามเข้ามาในห้องชะโงกดูรูปถ่ายของเขากับเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัย
         “เท็ดคนนี้แฟนพี่เหรอ?” เท็ดเดินมายืนใกล้ๆชะโงกดูตามที่กายชี้ก่อนจะหัวเราะเบาๆ
         “พี่ไม่มีแฟนหรอก…นั่นเจสสิกาแฟนมาร์ค” เท็ดถอดเสื้อเชิ้ตออกแขวน แล้วคว้าเสื้อยืดมาสวมแทน เขินนิดๆกับสายตาจับจ้องชื่นชมของกาย
         “แล้วพี่ไม่คิดจะมีแฟนเหรอ?…อย่างคนสวยๆที่มางานวันเกิดผม”
         “พี่มีกายแล้วไง” เท็ดสวนทันควันแล้วชะงัก อยากตบปากตัวเองที่พูดพล่อยๆแต่เห็นท่างทางพยักเพยิดดีใจของกายก็โล่งอก กายยังเด็กคงไม่เข้าใจ ‘นัย’ คำพูดของเขา
เท็ดกางเต็นท์สีสดหลังเล็กออก เต็นท์นี้เคยเป็นของเขาแต่พอขึ้นมัธยมปลายเขาก็ยกให้กายและกายก็รักมันมาก ชอบหอบหิ้วไปกางรอบบ้านจนขาดก็ร้องไห้ฟูม-ฟาย พ่อซื้อหลังใหม่มาให้ก็ไม่เอา ผลสุดท้ายเท็ดต้องหาผ้าใบสีเดียวกันมาเปลี่ยนถึงได้ยอม
         “เท็ดดด…เร็วๆหน่อย”
         “ขอรับเจ้านาย” เท็ดหัวเราะขนข้าวของที่กายหอบหิ้วมาเข้าเก็บในเต็นท์อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นข้าวของทุกอย่าง ซึ่งถ้าไม่ใช่ของที่เขายกให้ก็เป็นของที่เขาเป็นคนซื้อให้กายทั้งนั้น
         “เท็ด..ดูนี่สิ” เสียงกายดังใกล้ๆทำให้ต้องออกมาจากเต็นท์ กายชูมือทั้งสองขึ้นในอุ้งมือมีปลาตัวเล็กจิ๋วว่ายวนอยู่ในน้ำที่ลดลงเรื่อยๆเพราะไหลลงทางร่องมือ
         “สวยไหม?”
         “สวย…” เท็ดใจแกว่งเมื่อสังเกตเห็นกายถนัด ผมสีน้ำตาลทองเปียกถูกลูบไปข้างหลังเปิดดวงหน้าเนียนใส ดวงตากลมโตหวานระยับ ปากอิ่มเผยอเล็กน้อย ลิ้นสีชมพูแลบออกมาแตะอยู่ที่ฟันบนเท็ดร้อนวาบตลอดหน้าท้อง รู้สึกอยากจูบปากแดงย้อยนี้ สายตาระเรื่อยลงมาสะดุดที่เสื้อยืดสีขาวเปียกแนบตัว ความบางของเนื้อผ้าทำให้เห็นยอดอกสีแดงเม็ดเล็กได้ชัดเจน กางเกงค่อนข้างหลวมเกาะอยู่บนสะโพกบางหมิ่นๆ แสงแดดจับขาเรียวและผิวเนียนเป็นสีชมพูระเรื่อ
         “เฮ้ๆ!อย่าเพิ่งไหลออกหมด…เอาล่ะฉันปล่อยนายแล้วโชคดีนะเจ้าตัวเล็ก” กายวิ่งกลับลงไปในลำธารปล่อยปลาที่อยู่ในมือลงน้ำ เท็ดทรุดลงนั่งที่ก้อนหินมือเขาสั่น
‘บ้าชะมัด เพียงเห็นกายแค่นี้เราก็แข็งชันยังกับท่อนไม้’ เท็ดสูดลมหายใจเข้าปอด พยายามระงับอารมณ์ด้วยการมองไปทางอื่นที่ไม่ใช่ร่างยั่วยวนนั้น
         กายปรายหางตาไปทางคนข้างหลัง ลอบยิ้ม ดวงตาเป็นประกายพราวอย่างยินดี ทำไมเขาจะไม่เห็นว่าเท็ดสะดุดกึก ท่าทางตะลึงนิดๆของเท็ดบอกให้รู้ว่าแผนของเขาใกล้บรรลุเป้าหมายแล้ว กายมั่นใจมากขึ้นว่าในไม่ช้าเท็ดจะไม่มีวันหลุดมือเขาเด็ดขาด
         “เท็ด..มาเร็ว”กายหันไปร้องเรียก เท็ดเดินเหมือนลากขาเข้ามาหา‘อย่างนี้ต้องกระตุ้นกันหน่อย’กายลุยน้ำเข้าไปใกล้แล้วกระโดดโหนคอ  เท็ดรีบคว้าเอวไว้กลัวกายจะหงายหลัง
         “เท็ด พี่ไม่สนุกเหรอ?”
         “เปล่า”
         “งั้นทำไมไม่เล่นน้ำกับผมล่ะ?” เท็ดปล่อยให้กายลากเขาลงน้ำ สลัดความคิดวุ่นวายออกไปปล่อยใจให้สนุกกับการแหวกว่ายและเกมที่กายคิดขึ้น  แต่ยิ่งเล่นเขาก็ยิ่งร้อน กายชอบโถมเข้าหา โอบกอด บางทีก็จูบแก้มถ้าทำอะไรให้ถูกใจ เท็ดรู้ว่ากายทำไปเพราะไร้เดียงสา เขาสิทั้งทรมานทั้งวาบหวามทรมานที่ต้องอดกลั้นความปรารถนาไว้ วาบหวามที่ได้แตะต้องสัมผัสคนที่รัก กายโยนลูกบอลขึ้นสูง เท็ดโดดเข้ารับเป็นจังหวะเดียวกับที่เด็กชายโถมเข้าหา แรงปะทะทำให้กายกระเด็นแล้วจมวูบลงไป เท็ดปล่อยลูกบอลหันไปคว้าร่างเล็กขึ้นมาอย่างตกใจ
         “กาย…เป็นอะไรหรือเปล่า?”
         “แค๊กๆ!..ไม่..ไม่เป็นไรครับ แค่จุกนิดหน่อย อูย!..” กายครางแผ่วพร้อมกับกดมือที่ชายโครงแล้วงอตัวลง เท็ดใจหาย รีบอุ้มกลับไปที่เต็นท์
         “กาย..เป็นไงมั่ง! เจ็บตรงไหน?” เท็ดดึงเสื้อชายเสื้อขึ้นสูงเห็นรอยแดงๆอยู่บริเวณชายโครง ต่ำกว่ายอดอกลงมาเล็กน้อยเท็ดแตะนิ้วคลึงเบาๆแล้วรีบปล่อยเมื่อเห็นอาการสะดุ้ง
         “เจ็บมากเลยเหรอ?…พี่ขอโทษนะ”เท็ดเงยขึ้นสบตากับดวงตากลมโต น้ำใสๆคลออยู่ในดวงตางามทั้งคู่
         “เจ็บ..เท็ดเป่าให้หน่อย” เท็ดชะงักแต่พอเห็นสายตาวิงวอนก็ใจอ่อนยอมก้มลงเป่าให้เบาๆที่รอยแดง กลิ่นหอมอ่อนๆของร่างบางทำให้เขาสะท้าน เนื้อตัวร้อนวูบจนต้องถอยออกห่างแต่กายกลับส่ายหัวทำหน้าเบ้
         “ไม่เอาต้องให้ถึงที่เจ็บด้วยสิ”
         “เอ่อ...พี่...”
         “ทำไมล่ะ? ทุกทีเท็ดก็ทำให้ หรือว่าตัวผมเหม็น” เท็ดส่ายหน้าพูดไม่ออกแต่ก็ยอมก้มลงแตะปากตรงรอยแดงแต่โดยดี กลิ่นกายหอมกรุ่นชวนให้ลุ่มหลงงงงวยเท็ดไล้ปากแผ่วๆไปบนชายโครงแล้วลากสูงจนเกือบแตะถูกยอดเม็ดเล็กสีสด เสียงสั่นๆของกายทำให้เขาใจหายวาบเมื่อรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป
         “เท็ด…ผมหนาวจัง ง่วงด้วย เรานอนสักหน่อยแล้วค่อยออกมาเล่นน้ำกันใหม่นะ” เท็ดพูดไม่ออกได้แต่พยักหน้ามองตามร่างเล็กที่มุดเข้าไปในเต็นท์ เด็กหนุ่มผ่อนลมหายใจเบาๆแล้วก็สะดุ้งเมื่อเสื้อยืดสีขาวถูกเหวี่ยงออกมาจากรอยแหวกของเต็นท์ตามด้วยกางเกงขาสั้น ครู่หนึ่งหน้านวลก็โผล่ออกมา
         “เท็ดพี่เอาเสื้อมาให้ผมหรือเปล่า?”
         “เอามาสิ”
         “งั้นมาหาให้ที ผมง่วงจะแย่อยู่แล้ว”เท็ดอึกอักแต่เห็นตาหรี่ปรือก็อดสงสารไม่ได้ จำต้องมุดเข้าไปในเต็นท์เล็กแคบ รื้อเป้จนทั่วก็ไม่มีเสื้อของกายทั้งที่เขาแน่ใจว่าพับใส่มาแล้ว
         “เอางี้ กายใส่เสื้อพี่ก่อนแล้วกัน”
         “แล้วเท็ดจะใส่อะไร?”
         “เดี๋ยวพี่จะก่อไฟผิงเสื้อของเราให้แห้ง” เท็ดรีบออกมาก่อกองไฟ หากิ่งไม้มาปักพาดเสื้อผ้าแล้วถอดเสื้อตัวที่สวมออกผิงให้แห้ง เสียงกุกกักทำให้ต้องหันไป หัวใจพองโตอิ่มเอิบกับภาพที่กายสวมเสื้อตัวโคร่งของเขาจัดของจากตระกร้าลงในจานง่วน  กายเงยขึ้นมามองดวงตาหวานระยับกับรอยยิ้มแจ่มใสชวนมองทำให้เท็ดอยากหยุดเวลาไว้ เขาจะได้ชื่นชมกายแบบนี้ตลอดไป เท็ดก้าวไปหาอย่างลืมตัว
         “อ้าว!ง่วงไม่ใช่เหรอ?”
         “ฮื่อ…แต่ผมหิวอ่ะ…ท้องร้องจ๊อกๆเลย  พี่ไม่หิวเหรอ?”
         “ก็นิดหน่อย…หอมจังมีอะไรบ้างเนี่ย?” กายส่งไก่ทอดชิ้นใหญ่ให้ เท็ดรับแล้วลงนั่งข้างๆ กลิ่นหอมของแป้งเด็กผสมกับกลิ่นเนื้อนวล หอมอวลอยู่ในอก หอมยิ่งกว่าไก่ที่อยู่ในมือมากนัก เท็ดสะดุ้งเมื่อกายขึ้นมานั่งบนตักแถมพิงศรีษะลงกับอกเขา  เด็กหนุ่มพยายามกลั้นใจแต่ก็ยังได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นรัวเร็ว  กายเงยขึ้นมามองแต่เท็ดแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ นิ้วขาวหยิบมันฝรั่งทอดขึ้นป้อน เท็ดก้มลงกัดแต่ตากลับจ้องหน้านวลอย่างเผลอๆ กายยิ้มหวานหยิบกระดาษซับเนื้อนุ่มมาเช็ดปากให้ เท็ดคว้ามือนุ่มไว้แน่นดวงตาสบกันเนิ่นนาน ก่อนที่กายจะเป็นฝ่ายปรือตาลงซุกหน้ากับอก  
         กายรับรู้ถึงความร้อนระอุใต้สะโพกเป็นอย่างดี เท็ดกำลังร้อนและเขาอยากให้ร้อนมากกว่านี้ กายแกล้งขยับสะโพกถูไถราวกับหามุมให้นั่งสบาย ได้ยินเสียงเท็ดสูดลมหายใจเฮือกใหญ่มือที่กระชับอยู่บริเวณเอวบางชื้นเหงื่อ
         “กาย…ถ้าง่วงเข้าไปนอนในเต็นท์ดีไหม?” เสียงเท็ดค่อนข้างพร่า กายแกล้งขดตัวนิ่งอยู่บนตัก ผ่อนลมหายใจให้สม่ำเสมอ
         “กาย..กาย..อย่าเพิ่งหลับตรงนี้ เข้าไปนอนข้างในนะ”
         “ไม่เอา” กายทำเสียงงัวเงีย สอดแขนขึ้นโอบรอบคอแข็งแรงแน่น ซุกหน้าลงบนซอกคอรู้สึกถึงชีพจรของเท็ดที่เต้นรัวเร็ว อกกว้างที่เบียดชิดร้อนผ่าว เท็ดโอบร่างน้อยไว้แนบอกครู่หนึ่งจึงค่อยอุ้มกลับเข้าเต็นท์ บรรจงวางร่างในอ้อมแขนแผ่วเบา ขยับจะถอยออกแต่กายยังกอดรอบคอเขาแน่น
         “ไม่เอาเท็ดนอนกับผม…นะ”เสียงงัวเงียปนออดอ้อนทำให้เท็ดใจอ่อน เขาล้มตัวลงนอนเคียงข้าง  กายขยับเข้ามากอดก่ายแทบจะนอนอยู่บนอกทั้งตัว  เท็ดกลั้นใจหน้าท้องเกร็งแข็งเมื่อต้นขาขาวพาดทับอยู่บนแก่นกาย  ใจเต้นตึกๆเหงื่อซึมทั้งใบหน้าและแผ่นหลัง เสียงลมหายใจบอกให้รู้ว่ากายหลับไปแล้ว เท็ดนอนตัวแข็งอยู่นานความปรารถนาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่แล้วความอดทนขาดผึง เมื่อกายขยับขาเสียดสีไปมาเบาๆ เท็ดสะท้านเฮือก ตวัดร่างในอ้อมแขนลงทาบทับแนบแน่นปากร้อนสัมผัสไปทั่วแก้มนวล ระเรื่อยลงมาซุกไซ้ที่ซอกคอหอมกรุ่นกลิ่นเนื้อชวนให้ลิ้มลอง  ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาหยุดที่ปากอิ่มนุ่มค่อยๆแตะเลาะเล็มบนกลีบปากแผ่วเบาแล้วก็เน้นหนักขึ้น  ลิ้นร้อนสอดเข้าไปลูบไล้สัมผัสลิ้นนุ่มๆ  ที่ทำให้เสียววาบในช่องท้อง เท็ดตัวสั่นไฟปราถนาลุกโพลง เมื่อลิ้นเล็กเริ่มสอดไล้ตอบโต้  แรงบดเคล้าหนักหน่วงยิ่งขึ้น ปากนุ่มหอมชวนให้สำรวจไม่รู้จบ เสียงครางแผ่วจากร่างเล็กกระตุ้นอารมณ์ให้พุ่งสูงเกินกว่าจะหยุดได้  เท็ดตรึงศีรษะกายไว้แน่นปากบดเข้าหาดูดดื่มหนักหน่วง ฝ่ามืออีกข้างลูบไล้ไปทั่วร่างเนียนนุ่มมือ  สะโพกหนาบดเบียดถูไถกับสะโพกเล็ก
         “เท็ด…อื้อ..หนักจัง” เสียงแผ่วอู้อี้กระชากสติคืนมา  เท็ดเย็นเฉียบไปทั้งตัวสำนึกผิด-ชอบชั่วดีทำให้เขาตกใจ ‘นี่เรากำลังทำบ้าอะไร?!’ เท็ดผวาลุกขึ้น ดวงตากลมโตปรือขึ้นมองเขาง่วงๆก่อนจะซบลงหลับต่อ เท็ดผลุนผลันออกมานอกเต็นท์ หัวใจเต้นระรัวอย่างตื่นตระหนก
         “บ้าที่สุด…นี่มันบ้าชัดๆ!” เท็ดครางออกมาอย่างเจ็บปวด ถ้าเมื่อครู่กายไม่ตื่นขึ้นมาเขาคงข่มขืนกายไปแล้ว เท็ดกัดกรามแน่นร่างกายยังร้อนผ่าว ความปรารถนาเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด เท็ดกระโจนลงน้ำ ดำดิ่งลงใต้แผ่นน้ำเย็นเฉียบ เพื่อบรรเทาความรุ่มร้อน ดำนิ่งจนรู้สึกเหมือนปอดจะฉีกจึงพุ่งขึ้นมาหายใจแล้วดำลงไปใหม่   กายดึงประตูเต็นท์ปิด รอยยิ้มสมหวังผุดขึ้นบนปากอิ่ม แค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเท็ดเป็นของเขา ความรุ่มร้อนทุรนทุรายของเท็ดบอกให้รู้ว่าเท็ดติดอยู่ในบ่วงที่ไม่มีวันดิ้นหลุด เหลือเพียงรอเวลาที่เหมาะสม เท็ดจะกลายเป็นของเขาตลอดไป!
         
...........

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านคะ
 :pig4:

*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: jeaby@_@ ที่ 29-09-2009 21:54:45
สุดยอดค่ะเรื่องนี้
ของเค้าดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 29-09-2009 21:56:42
ปาดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 29-09-2009 22:06:39
มาลงเรื่องแล้ว  :mc4:  :m4:

ไม่นึกว่า กาย จะเจ้าเล่ห์ได้ขนาดนี้ แถมน่ารักแบบนี้นี่เอง เจ้าริช ถึงหลงเสน่ห์
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 29-09-2009 22:17:13
 :mc4:
เรื่องใหม่มาแล้ว
ภาคกายกับเท็ดนี่เอง
กายทั้งร้ายทั้งเสน่ห์แรงแต่เล็กเลยนะเนี่ย
แบบนี้เท็ดไปไหนไม่รอดอยู่แล้ว
รออ่านต่อจ้า ว่ากายจะใช้วิธีไหนอีก
บวก 1 แต้ม ขอบคุณคนโพสต์ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: LoveNineTeen ที่ 29-09-2009 23:09:28
 :mc4: :mc4:

ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

แต่หวังว่ากายคงไม่หลอกให้รัก ให้หลง แล้วก็ทิ้งนะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Donpopper ที่ 29-09-2009 23:57:46
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

กายนี้ร้ายเหอะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 30-09-2009 20:25:48
รอตอนต่อไป  แม้จะไม่เปิดตัวแบบอลังการเหมือนเรื่องถนนสายหัวใจ แต่ถ้าอ่านเอาเรื่อง ก็สนุกดีเหมือนกัน  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: taem2love ที่ 30-09-2009 22:14:43
มาแล้วๆๆๆๆๆๆๆในที่สุดก็ได้อ่านซะที

หลังจากที่รอและเสียน้ำตากับถนนสายหัวใจ

อยากบอกว่าชอบงานของใบปอจัง

ขอบคุณน้องเทียนฉิน(เขียนถูกเปล่าว่ะ)มากๆ

ที่ขาดไม่ได้ก็คือใบปอคนเก่งที่เขียนเรื่องดีๆไห้อ่าน

จะติดตามผลงานนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: archi_10_001 ที่ 30-09-2009 23:00:02
ว้าวๆๆๆ มาแล้วๆ ว่าจะทวงอยู่ ไม่รู้ว่ามีเรื่องนี้ด้วย ฮุๆๆๆ

อ่านกี่รอบก็ชอบเหมือนเดิม เรท....แรง....กระชากอารมณืได้อีก

เอิ๊กๆ....สุดยอดเลยเจ้าค่ะ

ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆ รอเรื่องนี้ต่อไป รีบๆมาลงเด้อ เดี๋ยวลงแดงเสียก่อน
เอิ๊กๆๆ

ขอบคุณเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: pindream24 ที่ 01-10-2009 14:12:17
จะตามมาอ่านเรื่องนี้อีก...เท็ดกับกาย :กอด1:

ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะค่ะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 02-10-2009 11:38:41
วันนี้ต่อมั้ยค่ะ ต่อเถอะวันนี้วันศุกร์นะ์ (เกี่ยวม้ายเนี่ย  :laugh:)
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-10-2009 19:32:52
นั่นจิ มาต่อเถอะนะ ๆๆๆ  :man1: :man1:  วันนี้วันสุข  :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" 03/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 03-10-2009 10:07:38
ขอโทษที่ให้รอนะ เมื่อคืนว่าจะมาต่อแล้วแต่ไปดูละครเวทีที่มีน้องสุดที่รักเล่น เลิกดึกมากเกือบเที่ยงคืน เลยทำให้มาถึงบ้านก็นอนเลย
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ตามอ่านได้เลยคะ

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์นะคะ สำหรับทั้งแฟนเก่าหรือแฟนใหม่ของคุณใบปอ............

ขากลับกายเดินตามเท็ดต้อยๆไม่มีเสียงพูดคุย บรรยากาศดูเคร่งเครียดจนสัมผัสได้ เมื่อถึงบ้านก็เห็นพ่อกับแม่ยืนรออยู่หน้าบ้าน แดนนี่หัวเราะก้องเมื่อกายโถมเข้ากอด แขนแข็งแรงยกกายขึ้นชูราวกับเป็นเด็กเล็กๆ ดาน่าอมยิ้มหันมาคล้องแขนเท็ดแล้วพากันเข้าบ้าน เท็ดฝืนยิ้มพยายามพูดคุยกับแดนนี่อย่างปกติส่วนกายเข้าไปช่วยดาน่าทำอาหาร ท่าทางมีความสุขของแดนนี่ทำให้เท็ดพอจะเดาได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าการส่งออกม้าทำท่าจะไปได้สวย แล้วก็เป็นจริงเมื่อแดนนี่เล่าถึงการประชุมอย่างตื่นเต้น โดยมีดาน่าคอยเสริมเป็นระยะๆ
         “สรุปว่าวันมะรืนนี้พ่อกับแม่ต้องไปประชุมที่นิวยอร์ค2วัน เท็ดคงต้องกลับมาอยู่เป็นเพื่อนน้องหน่อยนะ”  เท็ดอึ้งไปนิดหนึ่งแต่ทุกคนก็พอสังเกตเห็น กายหุบยิ้มหน้าสลด
         “ถ้าเท็ดไม่ว่างก็ไม่เป็นไรครับผมอยู่คนเดียวได้...บางทีจะขอให้ลุงไมค์มาอยู่เป็นเพื่อน” เท็ดมองหน้าเศร้าๆนั้นอย่างร้อนใจ รีบปฏิเสธ
         “ไม่หรอกพี่มาได้อยู่แล้ว...แต่อาจจะต้องมาตอนบ่ายๆเพราะพรุ่งนี้พี่มีเรียนเช้า...พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงนะครับผมดูแลน้องเอง”
         “ขอบใจลูก” ดาน่าเหลือบมองกายเห็นหน้านวลแจ่มใสขึ้นมาทันตา ก็ได้แต่แอบถอนใจ
         “งั้นเท็ดแวะรับผมที่โรงเรียนด้วยนะ”
         “ดีเหมือนกันจะได้แวะไปคุยกับอาจารย์ฮันท์ด้วย ตั้งแต่จบมาพี่แทบไม่ได้ไปหาเลย” เท็ดเรียนจบมัธยมจากโรงเรียนนี้เช่นกัน ส่วนกายเพิ่งย้ายมาจากนิวยอร์คได้ 2 ปี
            
เท็ดเลี้ยวรถเข้าไปจอดแล้วรีบเดินไปที่ตึกเรียน ป่านนี้กายคงรอเขาแย่แล้วเพราะเขาช้าไปเกือบชั่วโมง โรงเรียนค่อนข้างเงียบเพราะเด็กส่วนใหญ่จะกลับกันหมดแล้ว เท็ดเหลียวซ้ายแลขวาอย่างกระวนกระวายที่ไม่เห็นกายรออยู่หน้าอาคารจึงตัดสินใจชึ้นไปตามที่ห้อง ยังไม่ทันจะถึงหน้าห้องก็ได้ยินเสียงโครมครามของโต๊ะและได้ยินเสียงกายเถียงกับใครอยู่ เท็ดพรวดเข้าไปเห็นกายยืนอยู่หน้าห้องมีเด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ยึดข้อมือเล็กไว้แน่น ท่าทียื้อยุดนั้นทำให้เท็ดเลือดขึ้นหน้าเขาปราดเข้าไปกระชากไหล่ของเด็กหนุ่มออก
         “โอ๊ย!อะไรวะ?”หมอนั่นหันขวับมามองอย่างแปลกใจ กายรีบแทรกเข้ามาคั่นกลางเมื่อเห็นเท็ดทำท่าจะกระโจนเข้าใส่หมอนั่น
         “เท็ดอย่าครับ!...ริชนายไปได้แล้ว ฉันยืนยันคำเดิม นายเลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว” ริชยักไหล่ท่าทางยียวนมองกายอย่างมาดหมายก่อนจะหันมาเลิกคิ้วกวนๆใส่เท็ด
         “โฮ่!...มีบอร์ดี้การ์ดมารับซะด้วย เอาเถอะกายแล้วนายก็จะรู้เองแหละว่าฉันจริงจังกับนายแค่ไหน…ฉันกลับล่ะ แล้วเจอกันนะคร้าบ!คุณบอร์ดี้การ์ด!” ประโยคหลังริชหันมาลอยหน้าบอกเท็ด เท็ดกำหมัดแน่นมือข้างหนึ่งยังถูกกายยึดไว้ ดวงตามที่มองริชเกรี้ยวกราด
         “เท็ด...กลับเถอะ” กายเรียกขลาดๆ เท็ดพยักหน้าแต่ตายังวาววับ   โอบร่างเล็กเดินไปด้วยกัน
         “ไอ้หมอนั่นมันจะทำอะไรกาย?” เท็ดถามเสียงขุ่นขณะที่ขับรถกลับบ้าน
         “เปล่าหรอกครับ เขาก็แค่..บอกว่าชอบผม แล้วขอเป็นแฟนด้วย” รถเป๋แทบตกถนนเมื่อได้ยินคำตอบของกาย เท็ดรีบจอดรถก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ หันขวับมามองกายอย่างตกใจ
         “อะไรนะ?!ขอเป็นแฟน!! หมายความว่าไอ้หมอนั่นชอบกายแบบ...?” เท็ดอึ้งไปด้วยความโกรธ กายกอดอกหันไปมองนอกรถนิ่ง ก่อนจะหันกลับจ้องหน้าเท็ด
         “เท็ด..พี่คิดยังไงที่ริชเขาชอบผม?”
         “แล้วกายล่ะคิดยังไง” กายเม้มปากก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว
         “ผมตอบเขาไปแล้วว่าผมไมสนใจเขา แต่เขายืนยันว่าสักวันจะทำให้ผมชอบเขาให้ได้”
         “พี่ว่ากายอยู่ให้ห่างจากหมอนั่นดีกว่า” เท็ดขับรถต่อไปอย่างหงุดหงิด




เท็ดหงุดหงิดจนนอนไม่หลับ จึงลุกออกมานั่งระบายอารมณ์ในสวน
         “พี่ยังไม่นอนอีกเหรอ?”กายเปิดประตูออกมานั่งข้างๆ อากาศในสวนค่อนข้างเย็น เท็ดเห็นอาการห่อไหล่ของกายจึงรวบร่างเล็กมาโอบไว้กับอก ภาพที่ริชยื้อยุดกายยังติดตาความแหนหวงพลุ่งขึ้นมา  ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหจนอยากจะกลับไปตะบันหน้าไอ้หมอนั่น
         “เท็ดกลุ้มใจเรื่องอะไร...”กายดันตัวขึ้นมาจ้องหน้าเท็ด
         “หรือว่ายังโกรธเรื่องริช?”
         “ฮื่อ” เท็ดยอมรับโดยไม่ยอมสบตาด้วย  กายทำตาโตก่อนจะหัวเราะคิก ซบหน้ากับอกกว้างเงียบอยู่นานจนเท็ดนึกว่าหลับ จู่ๆกายก็พูดขึ้นมาลอยๆ
         “ผมเพิ่งเคยเห็นเวลาเท็ดโกรธ พี่เหมือนพ่อจัง...ไม่รู้จะขี้หึงเหมือนพ่อด้วยหรือเปล่า” แม้ประโยคหลังกายจะบ่นพึมพำเบาๆ  แต่คำว่าหึงกระทบใจจนเท็ดนิ่งอึ้ง นี่สินะที่ทำให้เขาทุรนทุรายโกรธจนแทบจะซัดริชให้คว่ำ เพราะเขาหึงกาย!ไม่ใช่หวงน้องแต่เขา‘หึง!’เพราะเขาหลงรักกายต่างหาก  
         กลิ่นหอมของร่างอุ่นนิ่มที่เบียดชิดทำให้เท็ดแอบกลั้นใจ ความโกรธเลือนหายไป แต่อาการร้อนวูบๆในท้องเริ่มมาเยือน บรรยากาศรอบตัวเงียบสงบ พ่อกับแม่ก็ขึ้นนอนแต่หัวค่ำเพราะต้องเตรียมเดินทางพรุ่งนี้
         “กาย...พี่ว่าเราเข้านอนได้แล้วนะ”
         “เดี๋ยวก็ได้น่า มานี่เถอะ” กายผุดลุกขึ้นจูงเท็ดเข้าบ้าน เท็ดปิดประตูตรวจดูล็อคจนแน่ใจ เมื่อหันกลับมาก็เห็นกายกำลังเลือกแผ่นซีดีง่วนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเลือกเพลงหวาน- โรแมนติก แล้วกลับมาลากแขนเท็ดให้เดินตาม
         “เต้นรำกันนะ” เท็ดขมวดคิ้วเมื่อกายเปิดประตูห้องนอนเขาเข้าไป
         “เต้นในห้องพี่ดีกว่า..” เท็ดดึงประตูปิดแต่ไม่สนิท เพื่อให้เสียงเพลงลอดเข้ามาได้ กายเบียดตัวเข้าหา แขนเล็กโอบรอบเอวหนาซบหน้าลงบนอกกว้าง เท็ดขยับไปตามจังหวะมือทั้ง2ข้างแตะอยู่ที่เอวบาง บรรยากาศหวานๆชวนให้เคลิบเคลิ้ม ร่างนุ่มในอ้อมแขนกับเนื้อตัวที่บดเบียดเสียดสีกัน ทำให้ความร้อนกลับมาเยือนเท็ดอีกครั้ง เท็ดเหงื่อซึมหัวใจเต้นระรัว เขาผละออกห่างกายเมื่อทนไม่ไหว เดินออกไปปิดเพลงแล้วทรุดลงนั่งที่โซฟา มือกำเกร็งอยู่บนต้นขา ใบหน้าแดงกล่ำด้วยแรงอารมณ์ กายเดินตามมานั่งข้างๆภายในห้องนั่งเล่นเงียบกริบ
         “เท็ด...พี่เป็นอะไรหรือเปล่า?”กายถามเสียงแผ่ว เท็ดส่ายหน้าไม่กล้าแม้จะสบตากับกาย
         “พี่ง่วงแล้ว  กายก็ไปนอนได้แล้วนะ” พูดจบเท็ดก็เดินลิ่วเข้าห้องไป
         “ผมนอนด้วยนะ” กายวิ่งตามมาแต่เท็ดยืนกั้นไว้ไม่ให้เข้า
         “พี่เหนื่อยขอพี่พักเงียบๆนะกาย” หน้านวลงอง้ำ
         “ไม่เอาอ่ะ...ผมจะนอนด้วย..นะเท็ดนะ”
         “ไม่!” เท็ดดึงประตูปิดกดล็อคทันที
         “เท็ด!...เท็ด!...เปิดประตูสิ...เท็ด!...ฮือ...ถ้าพี่ไม่เปิดผมจะนอนหน้าห้องพี่นะ...เท็ด!” เท็ดยืนพิงประตูนิ่ง หลับตาลง เจ็บปวดกับเสียงสะอึกสะอื้นที่ดังอยู่หน้าห้อง แต่เขาทำไม่ได้ ขืนเขาให้กายเข้ามานอนด้วยเขาอาจจะทำสิ่งเลวร้ายลงไปก็ได้
         “กาย...พี่ขอโทษ”เท็ดเอ่ยเสียงแผ่ว  เสียงเรียกเสียงสะอื้นหน้าห้องค่อยๆเงียบหายไป เท็ดล้มตัวลงนอนหลับตานิ่งๆเนื้อตัวร้อนผ่าว ใบหน้าหวานใสลอยวนเวียนจนนอนไม่หลับ จึงลุกขึ้นหยิบภาพถ่ายที่หัวเตียงมาดู ภาพนี้เขาถ่ายกับกายที่นิวยอร์ค เท็ดล้มตัวลงนอน วางกรอบรูปไว้บนอก ภาพในอดีตหวนกลับมาราวกับดูภาพยนตร์ที่ฉายซ้ำ
         ตอนอายุได้5ขวบ พ่อกับแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เขาไม่มีญาติคนอื่น แดนนี่ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของพ่อจึงรับอุปการะ เขาพาเท็ดมาที่ฟาร์ม ตอนนั้นยังเป็นแค่ฟาร์มเล็กๆ ดาน่าซึ่งกำลังท้องโย้โอบกอดเท็ดไว้แน่น อ้อมแขนอันหอมกรุ่นและอบอุ่นที่เท็ดไม่เคยลืม
         “ต่อไปนี้เท็ดจะมีทั้งพ่อและแม่เหมือนเดิมนะลูก อ้อ!มีน้องด้วย” วันที่กายคลอด เท็ดถูกจูงไปยืนข้างเตียง น้องตัวเล็กนิดเดียว ผิวสีแดงหน้าตายู่ยี่แต่เท็ดก็รักน้องจับใจ ตั้งแต่แม่ออกจากโรงพยาบาลเท็ดก็กลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญในการเลี้ยงน้อง น้องไม่ค่อยแข็งแรงนักพออายุได้6ขวบ พ่อกับแม่ก็พากายไปนิวยอร์คเพราะกายเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ส่วนเท็ดต้องไปอยู่กับป้าแมรี่พี่สาวของแดนนี่ชั่วคราว แม้การผ่าตัดจะได้ผลดีแต่เนื่องจากเกรงจะมีโรคแทรกซ้อนหมอจึงให้รอดูอาการอีกระยะ  แม่ตัดสินใจอยู่กับกายที่นิวยอร์คส่วนพ่อต้องกลับมาดูแลฟาร์ม
เท็ดกลับมาอยู่กับพ่อและช่วยพ่อทำงานทุกอย่างเพราะรู้ว่าพ่อเหนื่อยมาก เนื่องจากพ่อเอาฟาร์มไปจำนองธนาคารเพื่อรักษากาย เท็ดคิดถึงแม่และกายมากแต่ทำได้เพียงเขียนจด-หมายถึงแม่และกายทุกอาทิตย์
         แม้กายจะเข้าโรงเรียนที่นิวยอร์คแต่ก็ยังคงส่งจดหมายหากันตลอด เมื่อฐานะทางบ้านดีขึ้นก็เปลี่ยนเป็นโทรหากันเกือบทุกวัน เท็ดมีโอกาสได้เจอกายอีกครั้งตอนกายอายุ11ปี ตอนนั้นพ่อพาเขาไปงานประกวดม้าและให้เท็ดอยู่ที่นิวยอร์คเกือบเดือน ช่วงเวลานี้เองที่เท็ดรู้สึกว่าเขารู้สึกกับกายไม่เหมือนเดิม กายดูน่ารักน่าทะนุถนอมจนเขาหวั่นไหว แม้ตอนนั้นเท็ดจะอายุ16แล้วแต่เขาไม่ใช่คนเจ้าชู้ เขาเคยคบกับเพื่อนหญิงไม่กี่คนทำให้เขาไม่เข้าใจความรู้สึกที่มีต่อกายนัก  ความทรมานที่ต้องจากกายมามันทำให้เขาทุรนทุรายจนนอนไม่หลับอยู่เป็นเดือน
         ตอนอายุ17เท็ดสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยคะแนนสูงสุด และแน่นอนว่าคนแรกที่เขารีบโทรไปบอกคือกาย    แม้จะรู้สึกได้ว่าเป็นที่จับตามองบรรดาสาวๆแต่ เท็ดกลับไม่สนใจใคร เขาเลือกที่จะทุ่มเทให้กับการเรียน กีฬา กิจกรรมต่างๆของมหาวิทยาลัย ส่วนวันหยุดก็กลับมาช่วยงานในฟาร์ม ด้วยนิสัยรักม้าเขาจึงศึกษาและลองเพาะม้าพันธุ์ใหม่ๆอยู่เสมอ จนม้าที่เขาเพาะพันธุ์ได้รับรางวัลชนะเลิศ ดูเหมือนแดนนี่จะปลื้มมากกว่าใครๆ เพราะรางวัลนี้ช่วยให้ฟาร์มเล็กๆนี้น่าสนใจขึ้นมาทันที ตอนที่แดนนี่ขอสินเชื่อจากธนาคารก็ได้รับความสะดวกทำให้สามารถขยายฟาร์มได้ดังที่แดนนี่ต้องการ ‘ไว้พ่อจะหาของขวัญให้เท็ดสักชิ้น’ ถึงเท็ดจะปฏิเสธแต่แดนนี่ก็ยังยืนยันว่าจะให้  
         4เดือนหลังงานกวดม้าเท็ดก็ได้รับโทรศัพท์ให้กลับบ้านด่วน เขารีบแทบตกถนนเพราะคิดว่าอาจเกิดเรื่องร้ายแรง แต่ทันที่รถเลี้ยวเข้าเขตบ้านก็เห็นร่างโป่รงระหงส์ยืนรออยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน เท็ดหัวใจพองฟูด้วยความดีใจ กระโดดลงจากรถวิ่งเข้าไปอุ้มดาน่าลอยละลิ่ว ดาน่าหัวเราะเสียงใสดูไม่แก่ลงสักนิด เท็ดมองหากายแต่ไม่เห็น แม่บอกว่ากายเหนื่อยนอนพักอยู่ข้างบนเขาจึงค่อยๆย่องเข้าไปในห้อง ภาพที่เห็นทำให้เขาแทบลืมหายใจ ร่างเล็กบอบบางนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง คิ้วเรียวขมวดนิดๆ เปลือกตาปิดสนิทเห็นขนตายาวงอนเป็นแผง ผิวสีชมพูผ่องไปหมดทั้งตัว เท็ดค่อยๆนั่งลงข้างเตียง กายน้องน้อยที่เคยวิ่งตามเขาต้อยๆกลายเป็นหนุ่มน้อยหน้าสวยราวกับเด็กผู้หญิง เท็ดจับมือเล็กขึ้นมากุมไว้ นิ้วเล็กเรียวตึงขาวผิวเรียบราวกับไม่มีข้อ เท็ดคลี่นิ้วเล็กๆขึ้นจุมพิตทีละนิ้ว ลูบไล้อย่างอ่อนโยนทะนุถนอม
         “เท็ด…”เสียงทักแผ่วๆทำให้เท็ดชะงักเงยขึ้นสบตากับดวงตากลมโตหวานระยับ รู้สึกวาบในอกเหมือนหายใจสะดุดจ้องมองกายนิ่งนาน
         “เท็ด!”กายเรียกซ้ำแล้วโผเข้าหา เท็ดกอดร่างบางไว้แน่นใจเต้นระรัวด้วยความยินดี เรือนร่างหอมกรุ่นนุ่มนิ่มให้ความรู้สึกดีจนไม่อยากปล่อย
         “เท็ด...ผมคิดถึงพี่ทุกวัน คิดถึงมาก ผมอยากกลับมาอยู่กับเท็ดแต่แม่บอกว่าต้องรอจนกว่าผมจะหายถึงจะกลับได้ เท็ดรู้ไหม3เดือนก่อนกลับมาผมต้องเข้าโรงพยาบาลตั้งหลายครั้ง ถูกเจาะเลือดถูกฉีดยาสาระพัดเลย”
         เท็ดใจหายเมื่อได้ฟังอย่างนั้นกายตัวเล็กนิดเดียว เด็กอายุ12ที่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นแทนที่จะได้เล่นสนุกกับเพื่อนๆ เท็ดกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นซบใบหน้ากับผมนุ่มหอม
         “ต่อไปนี้กายไม่ต้องถูกเจาะเลือด ถูกฉีดยา ไม่ต้องไปหาหมอบ่อยๆแล้วนะ” เท็ดกระชับอ้อมแขนขึ้นอีก
         “..เท็ด”
         “..หือ..”
         “ผมหายใจไม่ออก”
         “อ้าว!” เท็ดรีบปล่อยร่างในอ้อมแขนอย่างตกใจ กายหัวเราะคิก โอบแขนรอบคอแข็งแรงดึงให้ก้มลงมาชิดกับหน้านวล
         “ผมล้อเล่น พี่นี่ขี้ตกใจจัง” เท็ดหัวเราะหน้าแดงเขินที่ถูกหลอก แก้มนวลตรงหน้าทำให้อดใจไม่ไหวเขาก้มลงหอมฟอดใหญ่ กายอมยิ้มเอียงอีกข้างให้หอม ดวงตาโตกวาดมองเขาทั่วหน้าก่อนจะจ้องเขม็งคาดคั้น
         “เท็ด พี่มีแฟนหรือยัง?” เท็ดหัวเราะกับคำพูดแก่แดดนั้น
         “ยังหรอก ทำไมเหรอ?”
         “อืม...” กายทำท่าครุ่นคิดจนเท็ดนึกขำ
         “แล้วเท็ดเคยจูบไหม?” เท็ดเกือบหัวเราะก๊ากถ้าไม่เห็นสายตาจริงจังแน่วแน่ จึงได้แต่กลั้นหัวเราะ ฝืนปั้นหน้าเคร่งขรึมแล้วตอบเสียงจริงจัง
         “เคยสิ....ก็จูบกายอยู่นี่ไง”กายยิ้มหวานทำท่าเจ้าเล่ห์มือเล็กเลื่อนมาประคองหน้าเท็ดไว้ดวงตาโตจ้องเท็ดเขม็ง
         “งั้นยกเฟริสคิสให้ผมนะ”เท็ดหัวเราะพยักหน้าแล้วสะดุ้งเมื่อกายแนบปากอิ่มบนปากของเขาเนิ่นนานจึงค่อยถอยออก ปากนุ่มก่อให้เกิดความรู้สึกวาบหวาม  
         “เท็ด...พี่ต้องรักผมคนเดียวนะห้ามรักคนอื่น ไม่งั้นผมจะฟ้องพ่อกับแม่” เท็ดหัวเราะเก้อๆ หัวใจยังเต้นระทึกแปลกๆกับความรู้สึกของตัวเอง แต่คำพูดไร้เดียงสาทำให้ลืมเลือนไป

         นับจากวันนั้นเขากับกายก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้น  หากไม่มีกิจกรรมอะไรที่มหา- วิทยาลัย  เท็ดก็จะรีบกลับมาอยู่กับน้อง กายเป็นเด็กขี้อ้อนชอบออเซาะ ชอบกอดรัดพัวพันอยู่กับเท็ดตลอด เวลาที่ไม่ได้ดังใจก็จะทำหน้าเศร้าๆจนเท็ดใจอ่อนต้องยอมกายทุกครั้งไป
         เมื่อขึ้นปี 2 เท็ดตัดสินใจลาออกจากชมรมต่างๆที่เคยทำ เหลือแต่การเล่นรักบี้เท่านั้นเพราะเขาต้องการให้เวลากับกายให้มากที่สุด ทุกครั้งที่ได้อยูกับกายเท็ดจะรู้สึกเหมือนเขายังให้เวลากายน้อยไปทุกที มันเป็นความรู้สึกที่เท็ดไม่เข้าใจ เขาไม่ชอบให้กายสนิทสนมกับใคร เพราะนิสัยขี้อ้อนของกาย เวลาดีใจก็จะชอบกอดชอบหอม มันทำให้เท็ดหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นกายทำอย่างนั้นกับคนอื่น แต่เขาก็แสร้งทำเป็นไม่สนใจความรู้สึกนี้ จนกระทั่งตอนงานวันเกิดกาย เท็ดพาเพื่อนหญิงของเขามางานด้วย กายไม่ยอมรับของขวัญแถมยังอาระวาดที่เท็ดมาช้าจนเท็ดเผลอดุเสียงดัง กายเลยวิ่งหนีไปซ่อน เขาต้องตามหาอยู่นานกว่าจะปลอบให้กายกลับมาร่วมงานก็เล่นเอาเหนื่อย  ครั้นพอไปมหาวิทยาลัยเพื่อนๆก็ยังมาต่อว่าที่เขาทิ้งให้แฟนกลับบ้านกับคนอื่น
         “ถามจริงๆเถอะวะเท็ดทำไมแกต้องแคร์น้องแกนักวะ นี่ถ้าไม่รู้ว่าเป็นน้องฉันคงนึกว่าเป็นแฟนแกนะเนี่ย”
         “พูดบ้าอะไรวะมาร์ค!”
         “อ้าวก็จริงๆอ่ะ  แกน่ะหน้าซีดยังกับไก่ต้มแค่เห็นน้องร้องไห้ บอกตรงๆว่ะว่าฉันนึกไม่ถึงว่าคนแข็งอย่างแกจะอ่อนเป็นขี้ผึ้งเวลาอยู่กับน้อง”
         “กายเขาไม่ค่อยแข็งแรง อะไรที่ฉันทำได้ฉันก็อยากทำให้เขาเท่านั้นแหละ” เท็ดไม่อยากพูดกับมาร์คอีกเพราะเขาเริ่มหวั่นไหวกับคำพูดของมาร์ค
         แองจี้ไปคบหากับเพื่อนชายคนใหม่ มาร์คเห็นก็รีบมาบอกแต่เท็ดรู้สึกเฉยๆ คนที่เป็นฝ่ายทนไม่ได้คือแองจี้
         “เท็ดคุณไม่เคยรักฉันเลยใช่ไหม?คุณรักน้องตัวเอง อย่าเถียงนะว่าไม่จริง ฉันเห็นสายตาที่คุณมองเขา ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยเท็ดว่าคุณจะเป็นพวกโฮโม บ้าที่สุดเลย! คุณทำให้ฉันเสียความรู้สึกมากเลยที่ผู้หญิงอย่างฉันแพ้เด็ก แถมยังเป็นเด็กผู้ชายด้วย”
         “หยุดนะแองจี้! คุณจะด่าว่าอะไรผมก็ได้ แต่อย่าเอากายมาเกี่ยวด้วย”
         “ทำไม? เด็กนั่นน่ะหึงคุณจนออกนอกหน้าอย่างนั้น อย่าบอกนะว่าไม่เคยมีอะไรกัน”
         “คุณ!…” เท็ดสูดลมหายใจลึกพยายามระงับความโกรธ
         “พอทีเถอะแองจี้ อย่าให้เราต้องเกลียดกันชั่วชีวิตด้วยคำพูดพล่อยๆตอนคุณโมโหเลย”
         “ฉันไม่ได้พูดพล่อยๆ คุณแคร์เด็กนั่น คุณทำทุกอย่างเพื่อเด็กคนนั้น ยอมลาออกจากชมรมก็เพื่อเด็กคนนั้น คุณยังจะเถียงอีกเหรอว่าไม่ได้รักเขา คุณมันทุเรศ” แองจี้สะบัดหน้าเดินหนีไป เท็ดยังคงยืนนิ่งความรู้สึกเหมือนถูกตีเข้าที่ศีรษะ บางอย่างที่ค้างคาในหัวใจ ความรู้สึกหวั่นไหวอ่อนหวาน ที่ท่วมท้นในใจทุกครั้งที่เข้าใกล้กายคือความรักอย่างนั้นหรือ?
         เท็ดตัดสินใจย้ายออกมาอยู่อพาร์ทเม้นท์ข้างมหาวิทยาลัย โดยให้เหตุผลว่าเขาอยากเรียนจบภายใน3ปีครึ่ง เท็ดเรียนหนักเพื่อให้ลืมกายแต่ยิ่งห่างก็ยิ่งคิดถึง ยิ่งพยายามลืมก็ยิ่งรักและลุ่มหลงกายมากขึ้น 1ปีที่ย้ายออกจากบ้านมาอยู่ข้างนอก เป็นปีที่ทุกข์ทรมานที่สุด คบกับใครเขาก็ลืมกายไม่ได้ ผู้หญิงมากมายที่เขาคบและเลิกราในเวลาอันสั้น เด็กหนุ่มหน้าสวยที่เขาลองคบก็ไร้ความหมายเขาไม่รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ  ไม่แม้แต่อยากจะแตะต้อง แต่เขาก็ไม่สามารถกลับมาอยู่บ้านได้เพราะกลัวว่าถ้ากายรู้ว่าคิดยังไงกายอาจจะรังเกียจ และคนที่ทนไม่ได้ก็คือเขานี่เอง อีกไม่กี่เดือนเขาก็จะจบแล้ว การเรียนจบเร็วอาจช่วยให้เขาหางานทำได้เร็วขึ้นและคงทำให้เขาห่างจากกายได้มากขึ้นด้วย
         เท็ดผุดลุกขึ้นถอนใจยาว นับวันความปราถนาในตัวกายก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนเขากลัว ถ้าไม่เพราะระยะนี้พ่อกับแม่ต้องไปประชุมที่นิวยอร์คบ่อยๆเขาก็ไม่ต้องคอยกลับมาอยู่เป็นเพื่อนกาย แม้จะมีความสุขที่ได้ใกล้ชิดได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็ทรมานที่ต้องเก็บกดความต้องการไว้  2-3วันมานี้เขาเผลอใจไปหลายครั้ง ภาพที่กายเปียกจนเห็นเรือนร่างและภาพที่เขาจูบกายในเต้นท์ผุดขึ้นมา  เด็กหนุ่มผลุนผลันเข้าไปในห้องน้ำเปิดน้ำเย็นจัดรดศีรษะ อย่างน้อยน้ำก็ช่วยบรรเทาความรุ่มร้อนไปได้บ้าง เท็ดกลับมานอนกระสับกระส่ายจนดึกจึงผลอยหลับไป
..................
 
เท็ดตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ปวดหัวหนึบคงเพราะน้ำเย็นเมื่อคืน เขาดูนาฬิกาเพิ่งจะตี4กว่าๆแต่คอแห้งผากทำให้ตัดสินใจออกไปหาน้ำดื่ม เท็ดเปิดประตูจะก้าวออกไปแต่เท้าสะดุดกับอะไรบางอย่างบนพื้น เท็ดใจหายวูบเมื่อเห็นสิ่งที่เขาสะดุด
         “กาย!”เท็ดอุทานอย่างตกใจ ก้มลงช้อนร่างเล็กกลับเข้าไปวางบนเตียง อาการคู้ตัวหนาวสั่นทำให้ต้องรีบดึงผ้ามาห่มให้ แสงไฟจากหัวเตียงจับหน้านวลเห็นคราบน้ำตาเป็นทางบนแก้ม เท็ดใจหาย…หมายความว่าตั้งแต่หัวค่ำจนป่านนี้กายนั่งร้องไห้อยู่หน้าห้องเขาจนหลับ เขาคิดว่ากายกลับไปนอนแล้วจึงไม่ได้สนใจ เท็ดนั่งลงบนเตียงเช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบาแก้มนิ่มเย็นเฉียบ เปลือกตากว้างขยับครู่หนึ่งก่อนจะลืมตาขึ้นสบตากับเท็ดแล้วหลับลงไปใหม่ แต่แล้วก็ลืมขึ้นอีกครั้ง
         “เท็ด...พี่โกรธอะไรผม?” เสียงแหบแห้งปนสะอื้นของกายทำให้เท็ดเจ็บแปลบ น้ำตาใสๆกลิ้งลงมาจากดวงตาโตเป็นสาย เท็ดช้อนน้องน้อยขึ้นมากอดไว้แน่น กดศีรษะเล็กไว้กับอก เสียงสะอึกสะอื้นของร่างในอ้อมแขนยิ่งทำให้ความรักความสงสารท่วมท้นหัวใจ
         “กายพี่ขอโทษ...พี่ไม่ได้โกรธอะไรกายเลย พี่โกรธตัวเองต่างหาก คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ ถ้าเกิดไม่สบายไปจะทำยังไง” เท็ดกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นอีก
         “เท็ดก็อย่าปิดประตูใส่ผมสิ....เท็ดเคยให้ผมนอนด้วยนี่นาแล้วทำไมคราวนี้เท็ดโกรธล่ะ?”
         “พี่ไม่ได้โกรธ”
         “งั้นผมก็นอนกับเท็ดได้สิ?” เท็ดถอนใจเฮือก ในเมื่อเลี่ยงไม่พ้นก็คงต้องทนทรมานต่อไปแล้วกัน
         “ได้สิ...นี่ก็ยังไม่สว่างเลยกายนอนต่อนะ”
         “พี่จะไปไหน?”
         “พี่จะไปหาน้ำกินหน่อย  กายล่ะเอานมไหม?”
         “ผมอยากกินโกโก้ร้อน”
         “งั้นเดี๋ยวพี่ชงมาให้แล้วกัน” กายพยักหน้าอย่างว่าง่าย แล้วเอนตัวลงนอนต่อไป
...............


ต้องไปก่อนแล้วคะ จะพยายามมาโพสบ่อยๆนะ ขอบคุณมากคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 03/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-10-2009 11:03:45
หุหุ  หนีอะไรก็หนีได้ หนีใจตัวเองได้รึ  :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 03/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 03-10-2009 12:16:21
รออ่านต่อค่ะ มาเร็วๆนะ อยากรู้ว่ากายจะทำให้เท็ดตบะแตกได้ยังไง :z1:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 03/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Donpopper ที่ 03-10-2009 12:48:50
น่าสงสารเท็ดจัง

ต้องพยายามหักห้ามใจตัวเอง
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 03/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 03-10-2009 19:53:20
ท่าทางตบะคงจะใกล้แตกแล้วแน่ๆ แบบนี้
นี่ถ้าพ่อกับแม่ รู้   :z10:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 03/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: hene2526 ที่ 03-10-2009 20:54:17
เข้าข่ายเด็กมันยั่วนะเนี้ยย...

ขอบคุณสำหรับนิยายดีที่เอามาให้อ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 03/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 03-10-2009 20:56:26
เอ๊า มาตามติดเรื่องที่สองต่อไป

เอิ๊กกกกก

มาต่อบ่อย ๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 03/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 04-10-2009 04:33:39
กายหวงเท็ดมากๆ
เท็ดก็หลงรักกายไปแล้วเช่นกัน
รอดูว่ากายจะทำยังไงให้เท็ดกล้าเปิดเผยความรู้สึก
บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 03/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-10-2009 19:33:29
วันนี้มามั๊ยน้า   :m13: :a11: :oni1: : 222222: :impress: อยากอ่านต่ออ่า  o9 o9 o9
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 03/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 05-10-2009 20:43:03
มารอเป็นเพื่อนคุณ THIP ด้วยคน วันนี้มามั้ยๆๆๆ  :sad4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 03/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 06-10-2009 20:53:38
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:



ชอบ มากกมายย
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 03/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 07-10-2009 15:40:51
เข้ามารอค่ะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 03/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-10-2009 18:51:57
วันนี้จะมามั๊ยน้า   :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 07/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 07-10-2009 23:23:58
ขออภัยที่ให้รอนะคะ และใบปอฝากขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์คะ :pig4:

มาอ่านกันต่อเลยดีกว่าคะ.
..............
ริชเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วชะงักกึกเมื่อเห็นร่างเล็กนั่งพิงอยู่ข้างหน้า-ต่างจึงค่อยๆย่องเข้าไปใกล้ ชะโงกมองหน้าเนียนใสที่ซบหลับสนิท ริชยิ้มมาดหมาย ก้มลงไปหมายจะจูบปลุกเจ้าหญิงนิทรา แต่ก็ต้องเบรกกึกเมื่อมีดคมวาวจ่ออยู่ตรงหน้า
         “อยากเสียโฉมเหรอริช?” ริชถอนใจเฮือกยืดตัวขึ้นอย่างหงุดหงิด ไม่ว่าจะใช้เล่ห์เหลี่ยมแค่ไหนก็ไม่เคยมีโอกาสสักครั้ง
         “เมื่อไหร่นายจะยอมฉันบ้างล่ะกาย แค่จูบก็ยังดี?” กายอมยิ้มตาพราวอย่างขบขัน
         “ก็ลองดูสิไม่ได้ห้าม”
         “โธ่!ไม่ได้ห้ามแล้วเอามีดมาจ่อกันทำไม?” ริชเดินไปกระแทกตัวลงนั่ง ร่างสูงค่อนข้างหนาหนักทำให้เก้าอี้ลั่นเอี๊ยด กายเดินตามมานั่งบนโต๊ะตรงหน้ายิ้มหวาน
         “นายก็น่าลองนะ อยากจูบฉันจริงๆก็น่าจะยอมมีแผลสัก2-3แผล” ริชสะบัดหน้าพรืด ตาสีฟ้าขุ่นเคือง ท่าทีแสนงอนราวกับเป็นเด็กทั้งที่แก่กว่ากายถึง2ปี
         “เออไม่ได้ชื่อเท็ดบ้างก็แล้วไป ถามจริงๆเถอะกายหมอนั่นมีอะไรดีนักหนานายถึงหลงรักหัวปักหัวปำ ขนาดต้องใช้ฉันเล่นละครด้วย นี่นายคิดจะยั่วมัน..เอ๊ย!เขาหรือไงฮึ?” กายเลิกคิ้วนิดๆยักไหล่ท่าทีเหมือนจะยอมรับ  ริชถอนใจเฮือก
         “ทำไม?…อย่างนาย..แค่กระดิกนิ้วก็มีคนพร้อมสยบอยู่แทบเท้าแล้ว?”
         “ก็ฉันไม่ได้รักพวกนั้น  ฉันรักเท็ด”
         “ไม่เข้าใจอ่ะ หมอนั่นมีอะไรดีจะว่าหล่อฉันว่าฉันหล่อกว่า หุ่นก็...โอเคนะ จะว่าฉลาดก็แค่เรื่องเรียนละว้า ไม่งั้นจะถูกนายปั่นเอาขนาดนี้เหรอ...เฮ้ย!” ประโยคสุดท้ายอุทานพร้อมกับหงายตึงไปตามแรงยัน เพราะนั่งเก้าอี้บน2ขาหลังก็เลยหงายตึงเอาง่ายๆ
         “กาย...โอ๊ย!เจ็บชิบ...เล่นอะไรวะ?”
         “เคยเตือนแล้วใช่ไหมว่าอย่าพูดถึงเท็ดพล่อยๆ เท็ดน่ะไมโง่หรอกแต่เขารู้จักฉันในแบบที่ฉันอยากให้เขารู้เท่านั้น”
         ริชลุกขึ้นนั่งมือยังลูบหัวป้อย “ตกลงนายเป็นแบบไหนกันแน่วะกาย เทพธิดาหรือปีศาจ...อะๆ..อย่านะ!..ขืนทำร้ายร่างกายอีกคราวนี้พ่อปล้ำจริงๆด้วย ก็ฉันพูดเรื่องจริงอ่ะ ใครๆก็รู้ว่านายน่ะปีศาจหน้าสวยชัดๆ เห็นยิ้มๆ ดันกรีดหน้าไอ้จอร์ชเฉยเลย ป่านนี้ไม่รู้มันหายบ้าหรือยัง”
         กายยักไหล่ “ช่วยไม่ได้ ฉันเตือนมันแล้วว่าอย่ายุ่งกับฉันอยากหาเรื่องเองทำไมล่ะ...ความจริงก็ว่าจะเล่นแค่นิดเดียว แต่เผอิญมีคนเขาฝากให้ช่วยเอาคืนก็เลยต้องเล่นแรงหน่อย”
         “ไม่หน่อยล่ะหมอยังสยองตอนเห็นหน้ามัน”ริชห่อไหล่ท่าทางหวาดเสียว ภาพที่จอร์ช นอนร้องครวญครางยังติดตา ใบหน้าอาบไปด้วยเลือดแก้มสองข้างถูกกรีดเลาะหนังออกเป็นรูปสี่เหลี่ยมกินเนื้อที่เกือบทั้งหน้าทำให้หมอและพยาบาลถึงกับผงะเมื่อเห็น
         “ฉันว่าฉันฝีมือดีพอนะ โรเจอร์ยังชมเลยว่าฉันกรีดได้ปราณีตมาก” ริชกลืนน้ำลายฝืดๆเมื่อนึกถึงโรเจอร์ผู้ชายร่างเล็กเจ้าของผับทิมเบอร์ที่นิวยอร์ค เขาเป็นพ่อทูนหัวของกายและกายก็ชอบไปขลุกอยู่ที่บาร์ของโรเจอร์เกือบทุกวัน ริชไม่รู้ว่าโรเจอร์สอนอะไรให้กาย-บ้าง แต่มันทำให้กายเปลี่ยนไป จากเด็กน้อยไร้เดียงสากลายเป็นไอ้เด็กนรกที่แสบไปทุกเรื่อง แต่เสน่ห์ของกายก็ทำให้ริชต้องยอมย้ายตามมาอยู่โรงเรียนบ้านนอกอย่างนี้
         “กาย...ถามหน่อยเหอะ โรเจอร์สอนอะไรนาย?”
         “ศิลปะ”
         “ศิลป!...ศิลปะอะไร?ทำไมมันถึงได้...” ริชอึกอักไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยาย
         “…โหดแบบนั้น”กายยิ้มนิดๆหน้านวลยังไร้เดียงสาแต่คำตอบเล่นเอาริชหนาว
         “ก็ศิลปะการฆ่าคนน่ะสิ แต่โรเจอร์แค่อยากให้ฉันมีไว้ป้องกันตัวเองเท่านั้นหรอกน่า ไม่ได้คิดจะฆ่าใครจริงๆสักหน่อย” ริชถอนใจเฮือกอย่างอ่อนใจ
         “นี่ถ้าแม่นายรู้มีหวังหัวใจวาย”
         “แม่รู้”
         “อะ..อะไรนะ!แม่นายรู้งั้นเหรอ?”
         “รู้…แม่รู้ทุกอย่างนั่นแหละ”
         “แล้วแม่นายก็ไม่ห้าม?”
         “ไม่...แม่บอกว่าขอแค่ฉันพอใจอะไรก็ไม่สำคัญทั้งนั้นแหละ”
         “อย่าบอกนะว่าแม่นายรู้เรื่องเท็ดด้วย”
         “ฮื่อ”
         “โอ้มายก๊อด!...ถ้าเป็นแม่ฉันมีหวังกรี๊ดบ้านแตก”
         “แม่ฉันรับได้  สำหรับแม่ขอแค่ฉันมีชีวิตอยู่แม่ก็พอใจแล้ว”
         “เออสุดยอดคุณแม่” กายหัวเราะล้วงกระดาษแผ่นเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วยื่นให้
         “อะไรอีกล่ะ!อย่าบอกนะว่ามีบทอะไรให้ฉันเล่นอีก คราวที่แล้วเกือบถูกพี่นายซัดหน้าเอา...เอ๊ะ?!”
         “รางวัลสำหรับคนเก่ง ถือว่าฉันปลอบใจที่นายเกือบถูกเท็ดต่อยแล้วกัน เบอร์โทรศัพท์ของราเชล นายเล็งเขาไว้ไม่ใช่เหรอ?”
         “โอ้!กายที่รัก นายนี่น่ารักจริงๆ ฮ้า!…มีแผนที่บ้านด้วยเหรอ?”
         “เออ! เผื่อนายจะปีนหาจะได้ไม่ผิดหลัง ระวังหน่อยล่ะ บ้านนี้เขาดุใช้ได้เลย”
         “ถ้าเข้าถึงตัวราเชลได้ใครก็ขวางฉันไม่ได้หรอกน่า ขอบคุณนะคร๊าบ! ไว้คราวหน้าเรียกใช้บริการใหม่ได้ แต่มีข้อแม้อยู่ว่าถ้าฉันถูกต่อยจริงๆนายต้องยอมให้ฉันจูบ1ที”
         “ไม่มีวัน!” กายส่ายหน้าหัวเราะเบาๆ ขณะที่ริชหน้าหงิก
         เสียงโห่ฮาเกรียวกราวจากข้างล่างทำให้ริชชะโงกหน้าลงไปมองก่อนจะผลุนผลันออกไป กายเดินไปหยุดข้างหน้าต่างอมยิ้มเมื่อเห็นสาเหตุที่ทำให้ริชลงไป
         ร่างเล็กบอบบางยืนอยู่ท่ามกลางรุ่นพี่ตัวล่ำบึก ท่าทางหวาดหวั่นตื่นตระหนกดูจะยั่วให้คนรอบตัวคึกคะนองมากยิ่งขึ้น
         “ราเชล” เสียงเย็นๆของริชดังลอดขึ้นมา ทุกคนชะงักกึกหันขวับมาทางหน้าอาคาร กายอมยิ้มเมื่อเห็นริชก้าวออกไป มาดเนี้ยบกริบเย็นชาทำให้ทุกคนถอยกรูด สำหรับโรง-เรียนนี้ริชคือผู้ยิ่งใหญ่ อิทธิพลของตระกูลแฮมิลตันทำให้ไม่มีใครกล้าแตะ อีกทั้งรูปลักษณ์ที่น่าเกรงขาม ยิ่งส่งให้ริชกลายเป็น‘หนึ่ง’โดยไม่ต้องแสดงอิทธิพลด้วยซ้ำ รุ่นพี่ถอยกรูดดูท่าจะมีธุระร้อนเพราะรีบเผ่นกันแน่บ  ราเชลก้มหน้างุดไม่กล้าเงยขึ้นสบตาริชด้วยซ้ำ
         “ลีลาร้ายกาจเหมือนเดิมนะริช” กายหัวเราะเสียงแผ่ว ขันท่าทางที่แสนจะ‘พระเอก’ของริช อาการขัดเขินของราเชลทำให้กายต้องส่ายศีรษะ เมื่อรู้ว่าไม่ช้าริชจะได้ในสิ่งที่ต้องการเหมือนเคย
            
         เท็ดบิดตัวไปมาอย่างเมื่อยขบ เหงื่อเหนียวท่วมตัวชวนให้อึดอัด จึงตัดสินใจกลับบ้านซึ่งอยู่ห่างจากฟาร์มพอสมควร ป่านนี้กายคงกลับจากโรงเรียนแล้ว
         กายผละจากหน้าต่างเมื่อเห็นเท็ดเดินมาแต่ไกล วิ่งเข้าไปเปิดน้ำลงอ่างเมื่อน้ำเต็มก็ได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากในครัว กายรีบถอดเสื้อผ้าออกแล้วคว้าเสื้อคลุมผ้าขนหนูมาสวมอย่างรวดเร็ว เสียงประตูเปิดเท็ดเดินเข้ามาถอดเสื้อกางเกงโยนใส่ตะกร้า คว้าผ้าขนหนูมาพันรอบสะโพกหมิ่นๆ แต่เมื่อหันกลับมาก็สะดุ้ง
         “กาย!”
         “เท็ดไปอาบน้ำได้เลย ผมเปิดน้ำไว้เต็มอ่างแล้ว” กายรีบดันหลังกว้างเข้าห้องน้ำ เท็ดก้าวตามแรงดันอย่างงุนงง น้ำในอ่างมีฟองฟูฟ่องทำให้เท็ดอดหัวเราะไม่ได้
         “กายจะให้พี่อาบแบบนี้เหรอ?”
         “ครับ” กายรับคำพร้อมทั้งออกแรงผลัก เท็ดหัวเราะยอมก้าวลงอ่างแต่โดยดี แต่เมื่อจะปลดผ้าขนหนูออกก็ชะงักหันกลับมาหากาย
         “เอ่อ!...กายพี่ว่ากายออกไปก่อนดีไหมพี่จะได้...”เด็กหนุ่มเสียงขาดหายเมื่อกายปลดเสื้อคลุมออก ร่างขาวผ่องเปล่าเปลือยก้าวลงมายืนในอ่างอีกคน แต่เมื่อเห็นอาการตะลึงตะลานของเท็ดกายก็เอื้อมมือมาดึงผ้าขนหนูออกอย่างว่องไว เท็ดสะดุ้งขยับจะคว้าผ้าขนหนู แต่กายโยนไปกองรวมไว้กับเสื้อคลุมก่อนจะหันมาดึงเท็ดให้นั่งลงในอ่าง
         “...พี่ว่า..พี่อาบทีหลังก็ได้”เท็ดหลุดเสียงแหบพร่าออกมาเบาๆ กายนิ่วหน้าดวงตาโตจ้องมองเท็ดอย่างงุนงง
         “ทำไมล่ะ?หรือว่า…เท็ดรำคาญที่ผมมาอาบด้วย”ประโยคหลังเครือ น้ำตาคลอก่อนจะไหลเป็นทาง เท็ดรีบปฏิเสธ
         “เปล่านะเอ่อ..คือตัวพี่สกปรกมากนะ อีกอย่างพี่ก็อยากให้กายอาบสะดวกๆเพราะลงมาสองคนกายจะอาบไม่ถนัดนะ” กายย่นจมูกปล่อยให้เท็ดเช็ดน้ำตาออกจากแก้มแต่โดยดี หันไปคว้าฟองน้ำนุ่มๆมาถือไว้
         “เท็ดหันหลังมาสิ ผมจะถูหลังให้” เท็ดรีบหันหลังให้เพื่อตั้งสติและระงับอารมณ์ แต่เมื่อฟองน้ำนุ่มลูบไล้บนแผ่นหลังแผ่วเบา ความปรารถนาที่เก็บกดไว้พลุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ยิ่งมือนุ่มแตะต้องสัมผัสยิ่งกระพือไฟให้ลุกโพลงยิ่งขึ้น เท็ดผุดลุกขึ้นคว้าฝักบัวมารดล้างฟองออก
         “พี่ขึ้นก่อนนะ...นึกได้ว่าจะรีบไปเอาของในเมือง”
         “เท็ดผมรักพี่!” เท็ดชะงักกึกหันกลับมาอย่างตกใจ
         “กาย!…”
         “ผมรักเท็ด ผมรู้นะว่าพี่ก็รักผม” เท็ดยืนตะลึง
         “...พี่…”
         “อย่าบอกนะว่าพี่ไม่ได้รักผม” กายก้าวออกมาจากอ่างเข้ามายืนจนชิดร่างสูง ดึงมือที่ถือฝักบัวของเท็ดมารดราดบนตัวเอง มืออีกข้างลูบไล้ฟองออกจากตัว เท็ดยืนนิ่งลมหายใจสะดุด ดวงตาจับจ้องร่างบางอย่างลืมตัว ดวงตาโตหวานปานจะหยด ปากอิ่มสีสดเผยอเล็กน้อยเหมือนจะพูดอะไรแล้วก็นิ่งเสีย  เท็ดมองตามมือเล็กที่ลูบล้างฟอง จากลำคอเล็กขาว เรื่อยลงมาที่ทรวงอก ยอดเม็ดสีแดงตึงเขม็ง หน้าท้องเนียนและ... เท็ดรีบเบือนหน้าหนี แต่ปฏิกริยาจากร่างกายที่ไม่อาจควบคุมได้บ่งบอกถึงอารมณ์ได้เป็นอย่างดี
         “เท็ด...ตอบผมสิว่าพี่รักผมหรือเปล่า?”กายกระสิบเสียงแผ่ว
         เท็ดสูดลมหายใจลึกพยายามรวบรวมสติที่กระจัดกระจาย แต่เมื่อสบกับตาโตวาวหวาน ความปรารถนาก็เป็นฝ่ายมีชัยเหนือสติ กายเบียดเข้ามาโอบรอบคอเขาไว้ ผิวนุ่มเบียดชิดทำให้ไฟปราถนาลุกโพลง เลือดร้อนผ่าวแผ่ซ่าน กล้ามเนื้อทุกมัดตึงเขม็ง
เท็ดกำมือแน่นไม่กล้าขยับ กายเป็นฝ่ายรั้งใบหน้าคร้ามลงมาหา ดวงตาโตเว้าวอนยั่วยวนขณะที่ดวงตาคมกลับหวั่นไหวลังเล ปากบางแตะลงบนปากอิ่มช้าๆอย่างเผลอไผล         
         “กาย!...พี่...อา” เท็ดหลุดเสียงคราง ความพยายามที่จะอดทนไว้ขาดผึง เท็ดตวัดแขนรัดร่างบอบบางขึ้นแนบอก ปากร้อนบดเบียดกับปากนุ่ม สอดลิ้นเข้าไปพัวพันเร่าร้อน กายสะท้านเบียดชิดร่างหนามากขึ้น เท็ดอุ้มร่างเล็กเดินลิ่วออกจากห้องน้ำ ก่อนบรรจงวางบนเตียงแต่ปากยังบดเคล้าดูดดื่ม มือร้อนลูบไล้ทั่วร่างเปลือยหนักหน่วง กดคลึงบนอกนุ่ม ขยี้ยอดอกเล็กด้วยปลายนิ้วเบาๆจนตึงเขม็ง ลูบไล้หน้าท้องเนียนระเรื่อยลงมาบนต้นขาเสียงกายครางอยู่ในลำคอ มือเล็กกำผมหยักหนาไว้แน่น เท็ดดูดดื่มความหวานจากกลีบปากนุ่มจนอิ่มเอมแล้วจึงค่อยถอนปากออก จูบไซ้ไปทั่วจนถึงซอกคอขาว ฟันคมกัดย้ำเบาๆจนเป็นจ้ำแดง
         “อะ..อือ…”กายครางปนหอบเมื่อเท็ดครอบครองยอดอกไว้ในปาก ฟันคมขบดูดเม้มทำให้เสียวซ่าน แผ่นหลังบางหยัดขึ้นรับอย่างลืมตัว ขาเล็กตวัดรอบสะโพกแข็งแรง แก่นกายร้อนจี๋ของเท็ดเบียดอยู่กับแก่นกายของร่างเล็ก ทุกครั้งที่ขยับสะโพกปมประสาทจะเสียดสีกันจนเสียววาบไปทั้งช่องท้อง กายจิกเล็บบ่าแข็ง ร่างสูงขยับเลื่อนลงช้าๆ จูบไล้บนหน้าท้องเนียนแต่เว้นแก่นกายของเด็กหนุ่มไว้ ปากร้อนกัดเม้มจากต้นขาลงไปหาเข่า เลียเบาๆที่ขาพับ กายสะท้านวาบหวามกับสัมผัสรุ่มร้อนนั้น เท็ดค่อยๆไซ้ปากลงไปบนน่องเรียวถึงข้อเท้าเล็ก แตะจุมพิตแผ่วเบาบนหลังเท้าอูมสะอาด ก่อนจะดูดนิ้วเท้าเล็กๆทีละนิ้ว เสียงกายหอบกระเส่า
         “เท็ด...ได้โปรด” กายกางแขนออกดวงตาโตคลอด้วยน้ำตาแห่งความทรมาน เท็ดปล่อยเท้าเล็กลง ขยับขึ้นไปหาอ้อมแขนของกาย ปากบดเข้าหากันรุ่มร้อนเร่งเร้า ลิ้นตวัดเกี่ยวพันกันหนักหน่วง ฝ่ามือร้อนลูบไล้บนท้องเนียนก่อนจะกำรอบแก่นกายของร่างเด็กหนุ่มไว้ กายครางฮือเมื่อเท็ดขยับมือเป็นจังหวะเนิบช้าหนักหน่วง มือเล็กลูบไล้แผ่นหลังกว้างเปะปะ เท็ดขยับเบียดปากให้แนบชิดยิ่งขึ้น ปลายลิ้นตวัดเกี่ยวพันขณะที่มือร้อนเร่งจังหวะการขยับให้หนักขึ้นถี่ขึ้น กายจิกเล็บครูดกับบ่ากว้าง  ความซ่านเสียวจากหน้าท้องลามไปทั่วร่าง จนต้องขยับสะโพกตามจังหวะของมือร้อน
         “อือ..อาอาอาาาา...” กายครางกระเส่า เท็ดปล่อยปากนุ่มเป็นอิสระเลื่อนตัวลงไปหาหน้าท้องเนียน ช้อนสะโพกเล็กของกายขึ้นแล้วปากร้อนก็ครอบครองแก่นกายของเด็กหนุ่มแทนมือ
         “เท็ด..อา..”กายร้องกระเส่ามือกำผมเท็ดไว้แน่น  เท้าจิกลงบนเตียงขาเกร็งสั่นระริก แอ่นสะโพกขึ้นหาเท็ดอย่างลืมตัว ยิ่งเท็ดเร่งจังหวะการทำงานของปากมากขึ้นเท่าไหร่ เสียงครางของกายก็ยิ่งถี่รัวขึ้นเท่านั้น
         “เท็ด...อ๊าา...เท็ด!”กายหวีดร้องร่างกายเกร็งสะท้าน อารมณ์ร้อนที่พุ่งขึ้นสูงสุดแตกกระจายออกปลดปล่อยออกมาจนหมด เท็ดไล้เลียหยาดอารมณ์ของกายไว้ตวัดลิ้นทำความสะอาดให้จนหมด กายปล่อยตัวระทวยสิ้นเรี่ยวแรง สะโพกเล็กยังถูกยกลอย ปากของเท็ดซุกไซ้ไล้เลียไปเรื่อยๆ กายกระตุกสะท้านเมื่อลิ้นร้อนลูบไล้รอบหลืบแคบ  ความซ่านเสียวทำให้ต้องเกร็งหน้าท้องแน่น
         “เท็ด...อื้อ..มัน...ไม่ไหว..เท็ด..” กายหอบครวญคราง นิ้วยาวแหวกทางให้ลิ้นร้อนแทรกเข้าออก มือเล็กจิกกำผ้าปูที่นอนแน่น แก่นกายที่ไม่ได้ถูกแตะต้องเหยียดชันร้อนผ่าวขึ้นมาอีก เท็ดถอนปากออกช้าๆก่อนจะสอดนิ้วยาวเข้าออกเป็นจังหวะ ช่องทางแคบยังคงเปียกด้วยน้ำลาย นิ้วยาวจึงไม่สร้างความเจ็บปวดแต่กลับช่วยสานต่อความซ่านเสียวมากขึ้น กายผวาขึ้นเหนี่ยวคอเท็ดเข้ามาแลกจูบเร่าร้อน เท็ดทาบทับอกลงบนอกบางแต่สะโพกยังทอดเคียงข้าง นิ้วยาวขยับเข้าออกเป็นจังหวะแล้วค่อยเพิ่มขึ้นทีละนิ้ว กายครางเครือทั้งที่ปากยังประกบกันอยู่ ขาเล็กกางออกกว้างเพื่อขยายรับนิ้วยาวให้มากขึ้น แรงเสียดสีเร่งเร้าจนเสียวสะท้าน กายดันหน้าเท็ดออก ตาโตสบกับตาคม ใบหน้าเท็ดแดงจัดดวงตาหม่นมัวเพราะความปรารถนา
         “เท็ด...ทำเถอะ”กายกระซิบแผ่วๆ ดวงตาโตจ้องมองเท็ดอย่างเว้าวอนและทรมานเท็ดยังลังเลกลัวจะทำให้กายเจ็บ
         “..เท็ด...ได้โปรด..”เท็ดยกสะโพกเล็กขึ้น ก่อนจะดันแก่นกายเข้าไปช้าๆ ทางเล็กแคบร้อนผ่าวบีบรัดจนแทบเข้าไปไม่ได้
         “กาย...อย่าเกร็ง...ผ่อนคลายสิ…อา..นั่นแหละ..ดีมาก” กายขยับขาออกกว้าง เท็ดยึดสะโพกเล็กไว้มั่น ก่อนจะดันแก่นกายเข้าไปอีก กายหลับตาแน่น น้ำตาไหลพราก ร่างกายเจ็บราวจะแยกออก ความร้อนผ่าวแข็งชันที่แทรกเข้ามามีขนาดผิดกับนิ้วจนทนแทบไม่ไหว
         “กาย...ไม่ไหวใช่ไหม?...พี่หยุดนะ” เท็ดถอดใจเมื่อเห็นอาการทรมานของคนข้างใต้
         “อย่า!..เท็ด..เข้ามาเถอะ...” กายผวาเฮือกเอื้อมมือมายึดสะโพกแข็งไว้ ทั้งที่ขยับแล้วเจ็บแปลบแต่กายก็กัดฟันดันสะโพกเข้าหาเสียเองเมื่อเห็นเท็ดหยุด
         “อู๊ย…” เสียงครางอย่างเจ็บปวดของกายทำให้เท็ดต้องยึดสะโพกเล็กไว้ไม่ให้ขยับต่อ
         “หยุดก่อนกาย เดี๋ยวก่อน” เท็ดปลุกเร้าแก่นกายนุ่มจนร้อนชันขึ้นมาอีกครั้ง  กายหลับตาแน่น ความเจ็บปวดยังคงอยู่แต่ความซ่านเสียวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนต้องจิกกำผ้าปูที่นอนไว้แน่น “อ๊า!” กายหวีดระงมเมื่อไปถึงจุดสูงสุดอีกครั้ง เท็ดลูบไล้หยาดอารมณ์ของกายมาชะโลมแก่นกายของเขาจนทั่ว ก่อนจะลองขยับเข้าไปอีกนิด กายกัดฟันแน่น ผ่อนคลายตัวเองให้มากที่สุดเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด เมื่อมีสิ่งช่วยหล่อลื่น การแทรกเข้าไปก็ทำได้ง่ายขึ้น  เท็ดดันเข้าหาอีกไม่กี่ครั้งก็แนบกันสนิท ช่องทางแคบคับแน่นบีบรัดรุนแรงจนต้องกัดกรามแน่น เท็ดช้อนใบหน้านวลขึ้นจูบซับน้ำตาให้ ปลุกเร้ากายอีกครั้ง ปลายลิ้นพัวพันเร่าร้อน ฝ่ามือโลมลูบทั่วร่างบางกระตุ้นเร้าจนได้ยินเสียงหอบเครือ กายลูบไล้แผ่นอกกว้างเป็นการตอบสนอง สะโพกเล็กขยับอย่างอึดอัด เท็ดค่อยๆถอนกายออกแล้วดันกลับเข้าไปใหม่ จังหวะเนิบช้าหนักแน่นช่วยให้กายปรับตัวได้มากขึ้น ความเจ็บปวดเหมือนใจจะขาดค่อยๆบรรเทาลง แรงเสียดสีเริ่มก่อความซ่านเสียวให้ทวีขึ้นเรื่อยๆ เท็ดขยับแทรกเร่งจังหวะถี่ขึ้นหนักหน่วงขึ้น
"ซี๊ด...เท็ด..อา.." เสียงกายซี๊ดปากลั่น แรงบีบรัดร้อนผ่าวกระตุ้นให้เท็ดโหมจังหวะมากขึ้น กายบิดตัวเร่า ร่างสะเทือนไปตามแรงกระแทกกระทั้น
"เท็ด!...เร็ว...ไม่ไหวแล้ว…เท็ด…เท็ด!.."กายร้องเรียกเท็ดระงม สะโพกขยับรับแรงกระแทกของเท็ดทุกจังหวะ นิ้วเล็กจิกครูดบนหลังกว้างเพื่อระบายความซ่านเสียว เท็ดกัดกรามแน่นความเสียวกระสันต์เพิ่มทวีจนควบคุมไม่ไหว สะโพกกดกระหน่ำเร่งเร้ามือแข็งกระชากสะโพกเล็กเข้าหาหนักหน่วง อารมณ์ร้อนพุ่งถึงขีดสุด แรงบีบรัดรุนแรงพร้อมๆกับเสียงหวีดร้องอย่างสุขสมของกาย ทำให้ปมที่เขม็งเกลียวขาดออก
         “กาย...กาย..อา..” เท็ดกระแทกสะโพกเข้าหาครางระงม ปลดปล่อยความร้อนเข้าไปในร่างเล็กอย่างรุนแรง สะโพกแข็งยังคงกดเข้าหาอีก2-3ครั้งก่อนจะฟุบลงกอดรัดร่างเล็กไว้แน่น ลมหายใจหอบกระเส่าค่อยๆผ่อนลงเท็ดพลิกตัวลงนอนโดยมีร่างเล็กแนบอยู่บนอก แก่นกายยังคงสอดแทรกอยู่ในร่างเล็ก แรงบีบรัดเป็นจังหวะของช่องทางแคบทำให้ความปรารถนายังพลุ่งพล่าน กายหอบฮักอยู่บนแผ่นอกกว้าง น้ำตาแห่งความสุขสมปริบตา กล้ามเนื้อของเท็ดตึงเขม็งความแข็งชันในร่างกายบอกให้รู้ว่าเท็ดยังไม่พอ กายยกศีรษะขึ้นสบตากับเท็ดเห็นความละอายสับสนและความปรารถนาในดวงตาคมได้ชัดเจน ดวงตาสบกันเหมือนสื่อความหมายถึงกันเนิ่นนานโดยไม่มีคำพูด เท็ดลูบไล้บนหลังชุ่มเหงื่อแล้วไปหยุดที่สะโพกเล็ก แต่กายยึดมือใหญ่ไว้แน่นก่อนจะท้าวมือลงบนอกกว้างค่อยๆลุกขึ้นนั่งโดยไม่ยอมให้เท็ดเลื่อนตัวออก
         “อูย” เสียงกายครางแผ่วเมื่อขยับขึ้นนั่งได้สำเร็จ เท็ดกัดกรามแน่นแค่กายขยับเขาก็เสียวจนต้องยึดสะโพกเล็กไว้แน่น  กายขยับจะลุกขึ้นแต่เท็ดเหนี่ยวกลับลงมา  กายสะดุ้งเฮือกแรงเสียดสีร้อนวาบทำให้หน้าท้องเกร็งเขม็ง ช่องทางแคบบีบรัดรุนแรง
         “อาอา..เท็ด” กายขยับตามจังหวะมือเท็ดระรัว ความปรารถนาเดือดพล่านขึ้นอีก แรงเสียดสีทำให้เสียวซ่าน เท็ดผุดลุกขึ้นจูบปากนุ่ม ต่างแลกลิ้นกันดูดดื่ม ขณะที่มือขยับสะโพกเล็กเป็นจังหวะ
         “อือ…เท็ด…”กายครางระงมเมื่อปากเป็นอิสระเท็ดก้มลงดูดยอดอกเล็กหนักๆ มืออีกข้างกอบกุมแก่นกายของร่างเล็กกดให้เบียดกระชับกับหน้าท้องแข็ง กายครางกระเส่าจิกนิ้วบนบ่ากว้าง กล้ามเนื้อใต้ฝ่ามือร้อนผ่าวขณะที่ยอดอกถูกดูดไล้จนตึงเขม็ง ด้านหน้าถูกมือร้อนลูบไล้ขยับเป็นจังหวะสอดประสานกับจังหวะการเสียดสีด้านหลัง ความเสียวกระสันต์ทวียิ่งขึ้น กายขยับรัวเร็วเพื่อไปให้ถึงจุดสว่างรำไร ร่างกายเหมือนลูกโป่งที่ถูกอัดจนสุดแล้วระเบิดออก ร่างเล็กเหยียดเกร็งปลดปล่อยจนหมด แต่แรงแทรกสอดยังคงรุนแรงเร่งเร้า
         “อ๊า...เท็ด...อาาา” กายหวีดระงมเมื่อรู้สึกซ่านเสียวถึงขีดสุดครั้งแล้วครั้งเล่า แรงกระแทกเร่งเร้าหนักหน่วงเสียงครางระรัวของเท็ดสอดประสานก่อนจะกระชากสะโพกเล็กเข้าหากดตรึงแน่น  ปลดปล่อยไอร้อนพุ่งเข้าในร่างเล็กจนหมด
         กายซุกหน้าบนบ่ากว้างหอบหายใจระรัว ตัวยังสั่นระริกเหงื่อเปียกชุ่มทั่วร่าง เท็ดกอดร่างน้อยแน่น ความแหนหวงท่วมท้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาแม้จะรู้ว่ารักเพียงใด แต่ความจริงที่ต้องยอมรับคือสักวันกายต้องแต่งงานใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นๆเขาจึงทำใจไว้แล้ว แต่บัดนี้สถานะการณ์เปลี่ยนไป กายเป็นของเขาแล้วและจะไม่มีวันที่เขาจะยอมยกให้ใคร เท็ดก้มลงมองเส้นผมสีน้ำตาลทองยุ่งเหยิงซุกอยู่กับอก  แขนเล็กโอบรอบตัวเขาหลวมๆ ขาเรียวยังกอดเกี่ยวอยู่รอบเอว ซอกหลืบแคบยังบีบรัดร้อนผ่าว เท็ดค่อยๆช้อนสะโพกเล็กขึ้นจนแยกกันเป็นอิสระ เสียงกายครางฮือ เท็ดประคองหน้านวลขึ้นจูบดูดดื่มเนิ่นนานจนเมื่อเขาถอนปากออก กายก็ปรือตาขึ้นมอง ปากแดงช้ำด้วยรสจูบคลี่ออกเป็นรอยยิ้มก่อนจะซุกหน้าลงกับอก เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบอกให้รู้ว่ากายหลับสนิทแล้ว เท็ดทอดตัวลงนอนโอบประคองร่างเล็กไว้บนอก มือลูบไล้ทั่วร่างบอบบาง สัมผัสนุ่มเนียนชวนให้เคลิบเคลิ้มเหมือนกระแสไฟอ่อนๆวิ่งพล่านทั่วร่างกาย ทำให้เท็ดตัดสินใจวางร่างเล็กบนเตียง คลี่ผ้าออกห่มให้เบามือ จ้องมองดวงหน้าเนียนผ่องไร้เดียงสาอย่างหลงไหล
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 07/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 07-10-2009 23:27:08
...........
‘เท็ด..ผมรักพี่’เสียงบอกรักของกายยังดังก้องอยู่ในหู หัวใจพองฟูอิ่มเอิบ เสียงโทรศัพท์ดังลอดเข้ามาเบาๆ เท็ดรีบคว้ากางเกงมาสวมวิ่งออกไปรับสาย
         “อ้าว!เท็ดเหรอลูก  กายไปไหนล่ะ?”
         “เอ่อ..หลับอยู่ข้างบนครับ” เท็ดหน้าร้อนวาบด้วยความละอายที่โกหก
         “มิน่าแม่โทรมาตั้งหลายครั้ง ไม่มีคนรับสาย”
         “แม่มีอะไรเหรอครับ?”
         “จ้ะคือแม่กับพ่อต้องอยู่ต่ออีก2อาทิตย์นะจ้ะ  เท็ดสะดวกหรือเปล่าถ้าแม่จะฝากให้เท็ดดูแลน้องกับฟาร์มก่อน?”
         “ได้ครับ” เท็ดรับคำเรียบๆทั้งที่หัวใจเต้นระรัวอย่างยินดี
         “พอเสร็จธุระแม่จะรีบกลับเลยจ้ะ”
         “เอ่อ…ถ้ายังไงแม่โทรมาก่อนนะครับ ผมจะได้ไปรับ”
         “จ้ะ! ฝากทางโน้นด้วยนะลูก”
         “ครับ” เท็ดวางโทรศัพท์ลงเบาๆ เสียงคนงานเรียกมาจากหน้าบ้าน
         “คุณเท็ดครับพวกผมกลับก่อนนะครับ”
         “ครับ..อย่าลืมไปเอารถกลับจากสนามบินด้วยล่ะ”
         “ครับ”เท็ดมองตามกลุ่มคนงานไปจนลับตา แสงสีแดงของอาทิตย์ยามเย็นงดงามจนอยากไปเรียกกายมาดูด้วยกัน แต่ตอนนี้กายคงอยากนอนมากกว่า เท็ดอมยิ้มหน้าร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงบทรักเร่าร้อนเมื่อครู่ ตัดสินใจเข้าไปจัดเตรียมอาหารระหว่างที่กายยังไม่ตื่น
         เท็ดเอียงคอดูผลงานของตัวเองอย่างพึงพอใจ โต๊ะถูกจัดให้สวยเป็นพิเศษกลิ่นจัสมินดอกไม้โปรดของกายหอมอบอวล เท็ดจุดเทียนที่วางเรียงไว้จนทั่วห้องแล้วปิดไฟ แสงเทียนกระทบจานช้อนเป็นประกาย เท็ดเดินลิ่วไปที่ห้อง กายยังนอนอยู่ในท่าเดิม เท็ดเดินไปเปิดน้ำอุ่นลงในอ่างจนเต็มจึงกลับมานั่งลงบนเตียง
         “กาย..ลุกไหวไหม?” เท็ดถามเสียงแผ่ว กายปรือตาขึ้นมองก่อนจะส่งยิ้มหวานชวนให้หัวใจกระตุก
         “หิวจังเท็ด”
         “หิวก็ลุกขึ้นสิ”
         “อืม..อูย” กายสูดปากเมื่อขยับจะลุกขึ้นแต่เจ็บแปลบขึ้นมา จนต้องนอนลงไปใหม่
         “กาย เจ็บมากเหรอ?” เท็ดไล้แก้มนวลอย่างเป็นห่วง
         “เท็ดจ๋า...พาผมไปอาบน้ำทีสิ” เท็ดช้อนร่างบางขึ้นอย่างระมัดระวัง เรือนร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนกระตุ้นความปรารถนาให้กลับมาอีก เท็ดสูดลมหายใจลึกระงับความรู้สึกไว้ค่อยๆวางร่างเล็กลงในอ่าง น้ำอุ่นจัดทำให้กายสะดุ้งแต่เมื่อปรับตัวได้ ความร้อนก็ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย เท็ดลูบไล้เกลือหอมทั่วร่างเล็ก ก่อนจะใช้ฟองน้ำนุ่มถูเบาๆ กายขยับตัว นิ่วหน้าเมื่อยังเจ็บแปลบแต่ไม่มากเหมือนตอนแรก
         “ยังเจ็บอยู่ไหม? พี่ขอโทษนะ” กายลูบแก้มระคายเพราะหนวดเบาๆสายตาของ
เท็ดทั้งห่วงใยและกังวล เท็ดดึงมือนุ่มมาจูบ ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ผมอยากขึ้นแล้ว” เท็ดช้อนร่างเล็กขึ้นจากน้ำ กายตวัดแขนรอบคอแข็งแรงให้แน่นขึ้นแม้เท็ดจะวางลงแล้วแต่กายก็ยังโอบรอบคอเท็ดไว้แน่น
         “พี่เสียใจเหรอที่เรามีอะไรกัน?”
         “พี่...พี่ไม่ได้เสียใจที่เรามีอะไรกัน แต่พี่โมโหตัวเองมากกว่าที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้กายต้องเจ็บตัว แล้วถ้าพ่อกับแม่รู้ท่านคงเสียใจมาก....กายล่ะ โกรธพี่หรือเปล่าที่ทำให้กายต้องเป็นแบบนี้?” กายส่ายหน้า
         “ไม่ครับ ผมรักเท็ด ผมจะโกรธพี่ได้ยังไง”   
         “พี่ยังไม่บอกผมเลยว่ารักผมหรือเปล่า?” เท็ดนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะตอบอย่างหนักแน่น
         “พี่รักกาย รักมานาน นานมาก อาจจะตั้งแต่กายเกิดละมั้ง แต่พี่เพิ่งแน่ใจเมื่อไม่นานนี้”           
         “ตอนที่เจอริชเหรอ?”
         “จะชื่ออะไรก็ช่าง อย่ามาแตะกายอีกแล้วกัน” กายขำท่าทางหงุดหงิดนั้น
         “นั่นน่ะทายาทตระกูลแฮมิลตันเชียวนา”กายทำเสียงล้อๆ เท็ดบีบจมูกโด่งแหลมเบาๆ
         “ตระกูลอะไรก็ช่าง ถ้ามาทำทะลึ่งอีกจะอัดให้ร้องไห้หาแม่เลย” กายหัวเราะคิกเบียดร่างเปลือยกับร่างแข็งแรง โน้มใบหน้าคร้ามแดดลงมา เผยอปากรอรับ เท็ดแนบจุมพิตนุ่ม-นวล ปากอิ่มหอมหวานชวนให้ลิ้มลองไม่รู้เบื่อ  ลิ้นแลกลิ้นเกาะเกี่ยวพัวพันกระพือไฟให้ลุกโพลง ความรุ่มร้อนจากหน้าท้องกระจายทั่วร่าง เท็ดตรึงศีรษะเล็กให้แหงนเงยขึ้นรับจุมพิต มืออีกข้างลูบไล้ทั่วหลังเนียนระเรื่อยลงไปบีบคลึงที่สะโพกเล็ก  ขยับยกขึ้นบดเบียดกับหน้าท้อง เสียงกายร้องครางทำให้เท็ดชะงักรีบปล่อยเมื่อนึกขึ้นได้ว่ากายอาจจะยังเจ็บอยู่ แต่เมื่อสบตากันกลับเห็นดวงตาหวานหยาดเยิ้มด้วยความปราถนาเท็ดสูดลมหายใจลึกๆข่มความรู้สึกไว้
         “พี่เตรียมมื้อค่ำของเราไว้แล้ว กายแต่งตัวสิ” กายทำท่าเหมือนจะค้านแต่กลับเปลี่ยนใจ ดวงตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์
         “พี่ไปก่อนเดี๋ยวผมตามไป” เท็ดยอมถอยออกจากห้องแต่โดยดี ขืนอยู่มีหวังเขาคงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แน่ๆ
         เท็ดจุดเทียนบนโต๊ะอาหาร แสงเทียนทำให้บรรยากาศโรแมนติก และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นก็ต้องคลอด้วยเพลงหวานๆ เท็ดเลือกเปิดเพลงรัก ได้ยินเสียงกุกกักก็รีบกลับเข้ามาในครัว ร่างบอบบางก้าวเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าทำให้เท็ดนิ่งอึ้ง
         “กาย...”เท็ดหลุดเสียงครางแผ่วแล้วพูดไม่ออก กายสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเท็ด แขนเสื้อยาวจนเห็นแค่ปลายนิ้ว สาบเสื้อทั้งสองด้านถูกยึดด้วยกระดุมเม็ดกลางเท่านั้น  ชายเสื้อที่ยาวลงมาถึงกลางขาอ่อนจึงแหวกออกทุกครั้งที่ขยับตัวทำให้เห็นเรือนร่างได้รำไร เท็ดมองตามเรียวขาเปล่าเปลือยอย่างลืมตัว กลิ่นหอมของดอกจัสมิน อบอวลไปทั่วห้อง แสงเทียนจับผิวนวลผุดผ่อง  กายวางมือบนบ่ากว้าง เท็ดจับมือนุ่มไว้โดยอัตโนมัติ
         “เต้นรำกันไหมเท็ด?”เท็ดรวบร่างเล็กเข้ามาในอ้อมแขนก้าวตามจังหวะอย่างเคลิบเคลิ้ม บรรยากาศแสนโรแมนติกที่ตั้งใจจะสร้างเพื่อกายกลับมาเซอร์ไพร์เท็ดเสียเอง
         เท็ดยังคงกอดกระชับแม้เพลงจะจบลงแล้ว ร่างนุ่มในอ้อมแขนทำให้ไม่อยากปล่อย  กายช้อนตาขึ้นมองอมยิ้มกับท่าทีหลงใหลของเท็ด
         “…เท็ด..พี่ไม่หิวเหรอ?”
         “หิว..” เท็ดตอบเสียงแผ่วแต่สายตาบอกให้รู้ว่าที่หิวไม่ใช่อาหาร กายดันอกกว้างออกแต่เท็ดกลับเหนี่ยวเอวคอดไว้
         “ผมหิวจะแย่อยู่แล้ว” เท็ดชะงักพยายามตั้งสติ ยอมปล่อยร่างเล็กแต่โดยดี หันไปเลื่อนเก้าอี้ให้ กายเหลือบมองค่อยๆทรุดลงนั่งเบาะนุ่มที่ถูกรองให้หนาเป็นพิเศษแต่กระนั้นก็ยังเจ็บแปลบ เท็ดเดินอ้อมไปนั่งฝั่งตรงข้าม
         “เท็ด...ผมอยากนั่งกับพี่”เท็ดอึ้งแต่เมื่อกายเดินมาหาก็ขยับเปิดทางให้ร่างเล็กขึ้นมานั่งซ้อนบนตัก เท็ดสูดลมหายใจลึก สัมผัสแนบชิดทำให้รู้ว่านอกจากเสื้อเชิ้ตของเขาแล้วกายไม่ได้สวมอะไรอีกเลย กายตัดเนื้อเข้าปากท่าทางเอร็ดอร่อย แต่เท็ดแทบไม่รู้รสเพราะมัวพะวงกับสัมผัสแนบชิดของร่างกาย กายเอี้ยวตัวกลับมาสบตากับเท็ด เห็นอาการจับจ้องจนไม่ได้กินอะไรก็อดยั่วไม่ได้
         “ถ้าผมนั่งด้วยแล้วทำให้พี่กินอะไรไม่ลง...ผมไปนั่งที่เดิมก็ได้นะ”
         “ไม่” เท็ดยึดเอวเล็กไว้มั่น ปฏิเสธข้อเสนอของกายทันควัน กายหัวเราะคิก
         “งั้นพี่ก็กินเสียทีสิ”เท็ดตัดเนื้อเข้าปากอย่างรวดเร็วแทบไม่รู้รส ต้องการเพียงกินให้เสร็จๆไป
         “เท็ด!พี่เป็นอะไรไป กินแบบนั้นเดี๋ยวก็ติดคอหรอก?”
         “โธ่กาย! กายไม่รู้เหรอว่าพี่เป็นอะไร?”เท็ดครางเสียงแผ่วกดสะโพกเล็กให้แนบกระชับกับส่วนร้อนที่เบียดอยู่ข้างล่าง
         “เท็ด…ทะลึ่ง” กายกระซิบหัวเราะเบาๆ แก้มแดงปลั่ง  รีบดันหน้าที่ก้มลงมาใกล้
         “เท็ด..อย่าสิ...กินให้เสร็จก่อน”
         “เสร็จแล้ว”
         “ไม่เอา พี่อิ่มแล้วแต่ผมยังนี่นา”
         เท็ดถอนใจเฮือกยอมปล่อยร่างเล็กแต่โดยดี กายหันไปกินอาหารช้าๆ กลิ่นเนื้อผสมกลิ่นหอมอวลของจัสมินเพิ่มความรุ่มร้อนให้มากขึ้น จนเท็ดต้องก้มลงซุกไซ้ตามซอกคอบ้าง ไหล่บ้าง เพื่อบรรเทาความปรารถนา กายหัวเราะคิกดิ้นหนีลงจากตักไปยืนอยู่ห่างๆ เท็ดถอนใจเฮือกลุกขึ้นเก็บจานไปใส่อ่างแต่โดยดี เมื่อหันกลับมาก็เห็นกายกำลังรินไวน์ลงในแก้ว เท็ดก้าวเข้ามายืนจนชิดรวบร่างเล็กเข้ามากอดจากทางด้านหลัง ซุกไซ้ซอกคอขาว
         “กาย...ไปที่ห้องนะ”
         “ไม่เอา” กายหันกลับมาชูแก้วขึ้นสูง เท็ดก้มลงดื่มไวน์ยังไม่ทันกลืนมือเล็กก็เลื่อนมาแตะที่คางบุ๋ม
         “ป้อนผมหน่อย”เท็ดก้มลงมาหาแนบปากลงกับปากอิ่ม ไวน์ไหลลงในปากนุ่มตามด้วยลิ้นร้อนที่สอดเข้าไปพัวพัน เท็ดละมือจากต้นขาเนียนเลื่อนมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อตัวโคร่งและค่อยๆแหวกเข้าไปลูบไล้เอวบาง กายขยับตัวเข้าเบียดร่างหนา มือสอดเข้าไปในเสื้อยืดของเท็ดไล้บนหน้าท้องแข็งและพยายามดึงเสื้อออก เท็ดผละออกถอดเสื้อเหวี่ยงไปสายตาจับจ้องที่ร่างบาง สาบเสื้อด้านหน้าที่เปิดโล่งเห็นร่างขาวชัดเจน
แสงเทียนจับผิวเนียนให้นวลละออ ปากอิ่มเผยอราวกับรอคอย เท็ดปลดกางเกงออกไปอย่างรวดเร็ว รวบร่างเล็กเข้ามากอดกระชับ ปากร้อนเลื่อนเข้าบดกับปากนุ่มราวกับห่างหายไปนาน กายสอดแขนขึ้นโอบรอบคอแข็งแรง อกนุ่มเบียดเสียดสีกับอกกว้าง มือร้อนยกสะโพกเล็กขึ้นถูไถสร้างความเสียวซ่านเพลิดเพลิน กายตวัดขารัดรอบเอวแข็ง แก่นกายกดแนบกับหน้าท้องแข็งเป็นลอน เท็ดปล่อยปากนุ่มเป็นอิสระ ซุกไซ้ยอดอกเล็กฟันคมกัดคลึงเบาๆ วาบหวามกับเสียงครางกระเส่าของร่างในอ้อมแขน
         “เท็ด...อื้อ...ผม...”
         “ไปที่ห้องกันนะ”
         “ไม่” เท็ดขมวดคิ้วเมื่อกายผละออก แล้วก้าวไปยืนข้างโต๊ะอาหาร ดอกจัสมินถูกดึงออกจากแจกันทุกใบแล้วโปรยไปทั่วโต๊ะ กายหันกลับมาสบตาส่งยิ้มหวานขณะที่ก้าวขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ แสงเทียนจับผิวนวลเรืองรอง กายห่อไหล่นิดๆเสื้อเชิ๊ตที่ถูกปลดค้างอยู่บนไหล่ค่อยๆร่วงลงมากองอยู่ตรงเอว กายชักแขนออกช้าๆ ทุกอิริยาบทเร่าร้อนยั่วยวน เมื่อเสื้อหลุดออกกายก็ยื่นเสื้อให้เท็ด เท็ดก้าวเข้ามารับแล้วโยนไปพาดไว้บนพนักเก้าอี้โดยที่ไม่ได้มองเพราะสายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างยั่วยวนตรงหน้า เท็ดก้มลงดูดยอดอกเล็กแรงๆบดเคล้าไปทั่วอย่างกระหาย กายแอ่นตัวขึ้นหา หลังแอ่นโค้งไปข้างหลัง เท็ดสอดแขนขึ้นรับร่างเล็กไว้ มืออีกข้างลูบไล้ทั่วร่างเนียนก่อนจะกำรอบแก่นกายของเด็กหนุ่มขยับรุกเร้า กายกัดปากแน่นท้องแอ่นเกร็งตามจังหวะของมือร้อน เท็ดผ่อนร่างเล็กลงบนโต๊ะ ดอกจัสมินกระจาย อยู่รอบๆหอมอวล กายเผยอปากลิ้นไล้เลียริมฝีปากอิ่มช้าๆขณะที่มือนุ่มลูบไล้บนอกกว้าง ดวงตาหรี่ปรือเท็ดก้มลงจูบปากอิ่มรุนแรงราวกับจะกลืนร่างเล็กเข้าไป ขณะที่มือก็เร่งจังหวะกอบกุมแรงขึ้น
         “เท็ด...” กายปล่อยมือจากเท็ดมายึดมือแข็งไว้ ดวงตาเว้าวอน
         เท็ดยืดตัวขึ้น เลื่อนร่างเล็กให้เข้ามาชิดขอบโต๊ะ ดึงขาเล็กขึ้นพาดไหล่ก่อนจะสอดนิ้วยาวเข้าไปในทางแคบ กายสะดุ้งเฮือกเพียงแค่นิ้วที่สอดเข้าไปก็ทำให้เจ็บจนต้องนิ่วหน้า
         “เท็ด...เจ็บ!” เท็ดชะงักกึกความปรารถนาท่วมท้น แต่ความรักความสงสารมีมากกว่า เท็ดปลดขาเล็กลงช้อนร่างบางขึ้นกอด
         “เท็ด...ทำไมล่ะ?” กายอุทานอย่างผิดหวังและหงุดหงิดเพราะอารมณ์ถูกปลุกเร้าจนสูงลิ่วแล้ว
         “กายไม่ไหวหรอก...ไว้กายหายแล้วเราค่อย..”
         “ไม่เอา”
         “แล้วจะให้พี่ทำยังไงล่ะ...กายยังเจ็บอยู่นะ?”
         “เท็ด...ได้โปรด” เท็ดนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนจะวางร่างเล็กลงบนโต๊ะอีกครั้ง แล้วก้มลงครอบครองแก่นกายของเด็กหนุ่มไว้ในปาก กายสะดุ้งเฮือกรีบดันศรีษะเท็ดออก เท็ดเงยหน้าขึ้นสบตาอย่างงุนงง
         “ทำไมล่ะ? พี่จะช่วยให้กายหายทรมานไง”
         “ไม่เอา....ผมอยากให้เราไปด้วยกัน”กายกระซิบเสียงแผ่ว เท็ดเป็นฝ่ายเขิน หัวใจอิ่มเอิบอ่อนหวาน แขนแข็งแรงกอดร่างเล็กแทบจมหายไปในอ้อมอกกว้าง
         “งั้นรอพี่เดี๋ยวนะ” เท็ดก้มลงกระซิบที่หูเบาๆ ก่อนจะผละขึ้นไปชั้นบน ครู่เดียวก็กลับลงมาในมือมีกระปุกเล็กๆ ติดมาด้วย
         “อะไรน่ะเท็ด?” เท็ดยิ้มไม่ยอมตอบแต่คว้าร่างเล็กเข้ามากอดจูบหนักหน่วง  มือร้อนโลมลูบและขยับหนักๆ กายครางฮือ มือเล็กป่ายเปะปะไปทั่ว เท็ดคว้ามือนิ่มมากดบนแก่นกายของเขา กายก็กอบกุมไว้แล้วเริ่มขยับเป็นจังหวะ เท็ดสะดุ้งเมื่อปลายนิ้วไถลไปโดนส่วนยอด เด็กหนุ่มอุทานหอบชิดริมหูเล็ก กายเลื่อนมืออีกข้างลงมาช่วยกอบกุมเร่งเร้า จังหวะมือของกายและเท็ดเริ่มสอดประสานเป็นจังหวะเดียวกัน เสียงครางเสียงหอบหายใจเริ่มกระชั้นถี่ เท็ดวางกายลงบนโต๊ะ ปากยังพัวพันกันอยู่นิ้วยาวเลื่อนฝากระปุกออก ตวัดเอาครีมลื่นสอดเข้าทางเล็กแคบเป็นจังหวะๆ เสียงกายครางอู้อยู่ในลำคอมือเล็กกำเกร็งแน่นหยุดเคลื่อนไหว สะโพกขยับตามจังหวะนิ้วยาว
         “กาย...ช่วยพี่ด้วยสิ” เท็ดกระซิบเบาๆ กายเริ่มขยับมือตามที่เท็ดสั่ง ยิ่งเท็ดเพิ่มจำนวนของนิ้วและจังหวะการเคลื่อนไหวมือเล็กก็เร่งตามอย่างลืมตัว
         “เท็ด...เท็ด...เร็วหน่อย...ผม...อื้อ!” เท็ดดึงมือเล็กออก จับขากายขึ้นพาดไหล่ ยกสะโพกกลมให้ตรงตำแหน่งที่ต้องการก่อนแทรกตัวเข้าหา ครีมช่วยให้ผ่านเข้าไปง่ายขึ้น เท็ดดันรวดเดียวแนบสนิทได้ยินเสียงกายหวีดร้องเบาๆ  น้ำตาใสคลออย่างทรมาน เท็ดจูบปากนุ่มดูดดื่ม  กายเผยอปากรับลิ้นที่สอดเข้ามาพัวพันเร่งเร้า นิ้วเล็กสอดเข้าในผมหนานุ่มดึงให้แนบชิดยิ่งขึ้น เท็ดขยับมือปลุกเร้าถี่รัวขณะที่สะโพกกลับกดนิ่งไม่ขยับ กายครางกระสับกระส่าย ร่างกายที่ถูกปลุกเร้าจนร้อนผ่าวปรารถนาที่จะไปให้ถึงจุดสูงสุด กายเลื่อนมือลงบนไหล่กว้างจิกครูดอย่างทรมาน ขณะที่สะโพกเล็กพยายามขยับแต่ไม่ถนัด เท็ดตรึงสะโพกเล็กไว้มั่นถอนปากออก จ้องมองหน้านวลแดงปลั่ง กายกัดปากแน่น
         “เท็ด...ขยับสิ..ผม...ไม่ไหว”เท็ดยังคงเฉยมือลูบไล้แก่นกายของร่างเล็กช้าลง
         “เท็ด...อื้อ...อาาา” กายถอนสะอื้น ร่างกายถูกเร้าจนเกือบถึงขีดสุดอยู่แล้ว แต่สะโพกที่ถูกยึดไว้ทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้ ใบหน้าแดงซ่านสะบัดไปมาอย่างทรมาน เท็ดขยับถอยออกจนเกือบสุดแล้วกระแทกกลับเข้าไปอย่างรุนแรง กายหวีดสุดเสียงร่างกายเกร็งสะท้าน ช่องทางแคบบีบรัดรุนแรงปลดปล่อยออกมาจนหมดทั้งๆที่เท็ดขยับเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ร่างบางอ่อนระทวย แรงบีบรัดทำให้เท็ดต้องขยับเบียดแทรกหนักหน่วงพร้อมกับเหนี่ยวสะโพกเล็กเข้าหา กายกำผ้าปูโต๊ะไว้แน่นขณะที่สะโพกก็ขยับรับจังหวะการกระแทก แรงเสียดสีบีบรัดเสียวซ่าน
เท็ดกระแทกสะโพกแรงขึ้นถี่รัวขึ้นเรื่อยๆ เสียงโต๊ะลั่นเอียดผ้าปูโต๊ะถูกมือเล็กดึงจนจานที่วางอยู่ริมโต๊ะเลื่อนหล่นลงไปแตกกระจาย  แต่ทั้งสองกำลังตกอยู่ในห้วงอารมณ์จึงไม่มีใครสนใจ
         “อือๆๆ..อาาา...เท็ด!..” กายร้องระงมร่างสะท้านไปตามแรงกระแทก เท็ดกดสะโพกระรัวเนื้อตัวร้อนผ่าว ประสาททุกเส้นตึงเขม็งเดือดพล่าน ความรู้สึกทั้งหมดเหมือนไปรวมอยู่ที่แก่นกาย แรงเสียดสีบีบรัดหนักหน่วง เท็ดรู้สึกเหมือนแก้วหูลั่นขณะที่ความเสียวกระสันถึงขีดสุด เนื้อตัวเกร็งสะท้านส่วนที่แทรกอยู่ในช่องทางแคบปลดปล่อยรุนแรง ได้ยินเสียงกายหวีดระงม ไอรักร้อนๆ รินรดหน้าท้องของเขา เท็ดเกร็งค้างอยู่ในท่านั้นเนิ่นนาน อยากสัมผัสความสุขสมนี้ให้นานที่สุดก่อนจะค่อยๆผ่อนลมหายใจให้ช้าลงแล้วฟุบลงกอดรัดร่างเล็กไว้ กลิ่นดอกจัสมินที่ถูกบดขยี้จนแหลกผสมผสานกับดอกที่ยังอยู่ในสภาพดีอบอวลไปทั่ว เท็ดช้อนใบหน้ากายขึ้นจูบเบาๆ ความรักเอ่อท้นอัดแน่นจนพูดไม่ออก ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งปรารถนา ยิ่งได้ก็ยิ่งทะยานอยาก
         “กาย...พี่รักกาย”
         “ผมก็รักพี่” กายกระซิบตอบเบาๆ แม้ดวงตาจะหรี่ปรือเพราะความอ่อนเปลี้ย แต่ร่างกายที่รัดรอบเท็ดยังคงบีบรัดหนักหน่วง เท็ดช้อนร่างกายขึ้นพิงกับอกกว้าง ประคองสะโพกเล็กให้ยังคงแนบสนิท แก่นกายยังแทรกอยู่ในร่างเล็กขณะที่เดินกับห้อง เสียงกายอุทานแผ่ว ทุกจังหวะการเคลื่อนไหวเสียดสีรุนแรงจนต้องกอดไหล่กว้างไว้แน่น เตียงใหญ่ถูกจัดไว้เรียบร้อย เท็ดอมยิ้ม ก้มลงมองหน้านวลที่ซุกแน่นอยู่กับอก ก่อนจะค่อยๆผ่อนร่างเล็กลงบนเตียงแล้ว สะโพกแข็งก็เริ่มขยับหนักหน่วง กายครางเสียงแผ่วทั้งที่เมื่อครู่เหมือนจะปลดปล่อยหมดสิ้นแล้ว แต่เมื่อเท็ดขยับความร้อนรุ่มทรมานก็กลับมาอีก แรงเสียดสีหนักหน่วงถี่เร็วราวกับต่อเนื่องจากเมื่อครู่ทำให้อารมณ์พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว กายกระตุกเกร็งความร้อนพุ่งขึ้นถึงขีดสุดแล้วแตกกระจายออกครั้งแล้วครั้งเล่า รับรู้ถึงหยาดรักร้อนๆ ที่พลุ่งเข้ามาหลายครั้งก่อนที่สติจะดับวูบไป

 :m25:

..................

ขอบคุณคะ   :bye2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 07/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 08-10-2009 04:28:13
 :jul1:
 :m25:
ในที่สุดกายก็ทำสำเร็จ
พ่อแม่รู้เห็นเป็นใจจริงๆ
บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 07/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-10-2009 07:05:30
 :jul1: กายนี่ยั่วเก่งจริงๆ  :haun4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 07/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 08-10-2009 17:00:46
กาย เก่งมากไปฝึกมาจากไหนเนี่ย :m25:
แบบนี้เท็ดไม่กระอักตายคาอกเหรอ  :laugh:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 07/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-10-2009 09:23:57
ดันๆ รอตอนหื่น  :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 07/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 10-10-2009 12:57:30
วันนี้มามั้ยค่ะ มาเหอะ มาเหอะ คิดถึง เท็ด กะ กาย  :m25:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 07/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 10-10-2009 22:04:41
ขอบคุณที่มารอนะคะ
 เผอิญมีการงงในต้นฉบับที่ส่งมาให้นิดหน่อย กลัวไม่ต่อเนื่องหรือกระโดดข้ามไป ขอเวลาถามคุณใบปอก่อนนะ พรุ่งนี้คงจะมาลงต่อให้ได้คะ

รออีกวันนะ :really2:

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 07/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 10-10-2009 22:42:17
^
^
ขอบคุณที่มาส่งข่าวค่ะ
รออ่านต่อนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 07/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 11-10-2009 00:17:26
อืมๆๆ เรื่องนี้เหมือนเคยอ่าน รู้สึกว่าสนุกดีอ่ะ หืนๆๆ ดี :o8: :o8:
แต่ก็จะมะค่อยได้แล้ว แบบว่า นาน มากอ่ะเรืงนี้  :z3:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 07/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 12-10-2009 17:07:51
ขออภัยที่มาข้าไป 1 วันนะคะ
มาอ่านกันต่อเลยคะ

................
         ริชชะเง้อมองประตูทางเข้าโรงเรียนอย่างหงุดหงิด กายขาดเรียนมา 3วันแล้ว ทางบ้านโทรมาแจ้งโรงเรียนว่าป่วย ทำให้ริชอดกังวลใจไม่ได้ แม้การผ่าตัดจะได้ผลดีแต่สภาพร่างกายของกายก็อาจจะยังไม่แข็งแรงนัก
         รถจิ๊ปกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่งเลี้ยวเข้ามาจอด กายก้าวลงมาแล้วชะโงกเข้าไปคุยกับคนขับก่อนที่รถคันนั้นจะถอยออกไป ริชขมวดคิ้วแปลกใจที่เห็นกายยืนมองรถคันนั้นจนลับตาจึงเดินเข้ามา
         “กาย”
         “อ้าว!…ริช มายืนคอยใครล่ะวันนี้?” ริชขมวดคิ้ว มองหน้านวลที่ดูเปล่งปลั่งอย่างแปลกใจ ก็ไหนว่าป่วยแล้วทำไมดูสดชื่นขนาดนี้เลยล่ะ
         “มาคอยนายนั่นแหละ เห็นเพื่อนห้องนายบอกว่านายป่วย แล้ว…ดูนายก็สดชื่นดีนี่นา”
         “ก็หายแล้วนี่” ริชยังคงนิ่วหน้าจ้องกายราวกับจะจับพิรุธ กายอมยิ้มเดินนำเข้าไปที่ตึกเรียน

         “กาย…ตอนเย็นไปแม็คฯกัน” ริชโผล่เเข้ามาในห้อง กายยังก้มหน้าก้มตาเขียนอยู่อย่างเดิม บนโต๊ะมีสมุดหลายเล่มเรียงกันเป็นระเบียบ
         “ทำอะไรน่ะ?” ริชท้าวลงบนโต๊ะ ก้มมองงานแล้วมองหน้ากายอย่างงงๆ
         “งานส่วนที่ขาดเรียนไป 3 วัน”
         “อ้าว! ก็เอาไปทำที่บ้านสิ”
         “ไม่ได้”
         “ทำไมล่ะ?” กายถอนใจเฮือกเงยหน้าขึ้นมองริชอย่างรำคาญ
         “ก็ฉันอยากทำให้เสร็จตอนนี้เลย เลิกเรียนจะรีบกลับบ้าน”
         “แล้วนี่นายไม่ไปกินมื้อเที่ยงหรือ?”
         “ไม่ล่ะฉันฝากเพื่อนซื้อขนมปังแล้ว”ริชทรุดลงนั่งข้างๆ กายรีบเร่งจนน่าแปลกใจ
         “เอ้า!ถ้าว่างนักก็ช่วยทำหน่อยสิ” กายหันมาหยิบสมุดเล่มบนส่งให้ ริชขมวดคิ้วแปลกใจที่กายให้ช่วยทำงาน เพราะเขาเคยอาสาช่วยหลายครั้งแต่กายก็ไม่เคยยอมให้ทำให้สักครั้ง แต่ริชก็รับสมุดมาช่วยทำเงียบๆ
         “เฮ้อ!เสร็จซะที ขอบใจนายมากริช นี่ถ้านายไม่ช่วยกว่าจะเสร็จคงกลับบ้านช้าแหงๆ”
         “ดูเหมือนนายอยากกลับบ้านเร็วเป็นพิเศษนะวันนี้?”
         “ไม่ใช่แค่วันนี้หรอกน่า ฉันก็รีบกลับเหมือนทุกวันแหละ” กายหัวเราะเสียงใส ดวงตาแพรวพราว ริชจับจ้องอย่างประหลาดใจ นี่เขาคงไม่ได้คิดไปเองสินะที่รู้สึกเหมือนกายจะดู..สวยขึ้น…เซ็กส์ซี่มากขึ้น…หรือว่า!
         “กาย!นายเสร็จเท็ดแล้วเหรอ?”กายสะดุ้งหันมามองริชอย่างประหลาดใจ แต่แก้มแดงซ่านนั้นก็เป็นคำตอบได้ดีพอแล้ว
         “โธ่!…ฉันรึอุตสาห์เฝ้านายมาตั้งนาน ลงทุนย้ายตามนายมาอยู่โรงเรียนบ้านนอกขนาดนี้ แต่นายกลับมาเสร็จเท็ดงั้นเหรออุ๊บ!” กายกระโดดปิดปากริชแทบไม่ทันเป็นจังหวะที่เพื่อนโผล่เข้ามาพอดี บิลลี่ชะงักเมื่อเห็นท่าทางสนิทสนมของคนทั้งสอง
         “เอ่อ!…กาย นี่ขนมปังที่ฝากซื้อ”
         “ขอบใจมากบิล”กายรีบปล่อยปากริชรีบมารับขนม บิลลี่เหลือบมองริชอย่างแปลกใจนิดๆ เห็นท่าทางยะโสนั้นก็อดหมั่นไส้ไม่ได้
         “กาย ระวังตัวไว้หน่อยก็ดี หมอนี่ชื่อเสียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเกรด12เขาลือกันว่าไม่ใช่แต่ผู้หญิงนะ…เห็นว่าผู้ชายก็ฟาดด่ะ..”บิลลี่กระซิบเบาๆ กายพยักหน้ายิ้มหวานละลายหัวใจให้ บิลลี่หน้าแดง ท่าทางเงอะงะขัดเขิน
         “เอ่อ!…เราไปนะ”กายอมยิ้มมองบิลลี่ไปจนลับตาเมื่อหันกลับมาก็เห็นริชยืนกอดอกหน้าบึ้งอยู่ที่เดิม
         “นายนี่หว่านเสน่ห์ไปทั่วเลยนะกาย!”
         “พูดยังกับนายหึงฉันงั้นแหละ” กายเดินมานั่งที่เดิมแกะขนมปังออกมาบิเป็น 2 ซีก
         “กินไหม?”
         “ไม่เอา!” ริชผุดลุกขึ้นเดินไปหยุดยืนมองนอกหน้าต่าง กายกินขนมปังอย่างสบายอารมณ์
         “นายยังไม่ได้ตอบฉันเลยว่านายกับเท็ดน่ะ…?”
         “ใช่”
         “มิน่าละ แสดงว่าที่นายขาดเรียนนี่เป็นเพราะหมอนั่นทำให้นายแย่ละสิ”กาย อมยิ้มเฉย
         “ไม่น่าเชื่อแฮะ…ท่าทางก็ดูจืดๆ ไม่น่าจะร้อนแรงได้ขนาดนั้น” กายหน้าแดง คันปากยิบๆ อยากจะพูดให้หมดเปลือกว่าเท็ดน่ะร้ายขนาดไหน ทั้ง ๆ ที่มั่นใจว่าเขาน่ะร้ายพอตัวถึงได้กล้ายั่วเท็ด คิดว่าจะคุมสถานการณ์ได้ แต่กายเพิ่งเข้าใจว่าทฤษฎีที่เขามีมันเทียบกันไม่ได้กับประสบการณ์ของเท็ด เท็ดเป็นฝ่ายควบคุมทุกอย่าง ส่วนกายได้แต่ดิ้นเร่าๆทุกครั้งที่ถูกแตะต้อง ตั่งแต่คืนวันศุกร์จนเมื่อวานกายแทบไม่ได้ลงจากเตียงด้วยซ้ำ ยังดีนะที่ริชกับเท็ดน่ะพวกขั้วเดียวกันไม่งั้นกายคงนอนไม่หลับเพราะกลัวว่า 2 คนนี้ ถ้าเจอกันเข้ามีหวัง….
         “นายอย่าทำตาอย่างนั้นได้ไม๊กาย ฉันขนลุกว่ะ” ริชทำท่าขนลุกขนพองเอาจริงๆ กายหัวเราะคิก ขำความคิดพิเรนของตัวเอง
         “นายล่ะ…เรื่องราเชลไปถึงไหนแล้ว?” ริชยักไหล่ท่าทางหงุดหงิด
         “เข้าถึงตัวที่ไหนล่ะ ตอนนี้ที่บ้านเขาส่งคนมารับมาส่งแทบทุกวัน ในโรงเรียนก็มีไอ้เด็กชมรมมวยคอยตาม แถมยังมีแฝดจอมจุ้นนั่นคอยประกบอีกเซ็งชะมัด” กายอมยิ้มดูท่า3วันที่ผ่านมาริชคงหงุดหงิดไม่น้อย เพราะเป็นรายแรกที่อยากได้แล้วไม่ได้ดังใจ   สงสัยเขาคงต้องช่วยอีกแรงละมั้ง
         “เย็นนี้มีประชุมหัวหน้าชมรมเกรด8-10ราเชลเขาเป็นตัวแทนชมรมศิลปะ ฉันคงได้คุยกับเขา” ริชหน้าชื่นขึ้นมาทันตา
         “พอดีวันนี้ฉันว่าง…ฉันมาคอยนายที่ชมรมนะ”
         “อ้าว! วันนี้นายมีซ้อมยูโดไม่ใช่เหรอ?”
         “ไม่เป็นไรโดดได้…อ้าว!ใกล้เวลาเรียนแล้วฉันไปก่อนละ” ริชทำท่าจะออกเดินแต่กลับหันมาคว้าเอวกายแล้วชะโงกหน้ามาหาอย่างรวดเร็ว กายยกมือขึ้นปิดปากริชได้ทันก่อนจะสัมผัสแค่นิดเดียว พร้อมกับบิดตัวออกจากอกกว้าง
         “โธ่กาย!…ทำไมนายหวงตัวกับฉันนัก  แค่จูบเท่านั้นเอง”
         “เสียใจริช…ฉันไม่อยากให้ใครแตะฉันอีก….นายเข้าใจนะ” ริชถอนใจเฮือก ก็เล่นทำตาแบบนี้จะไม่เข้าใจได้ไง ริชยอมผละไปแต่โดยดี วิ่งตัดกลับที่ตึกเรียนฝั่งตรงข้าม
             
         “ครับ…หวังว่าทุกชมรมคงรีบดำเนินการให้เสร็จก่อนสัปดาห์หน้านะครับ ขอบคุณมากครับ” ประธานกล่าวขอบคุณเป็นการปิดประชุม ตัวแทนจากทุกชมรมเก็บของทะยอยออกจากห้อง
         “ราเชล…ผมมีเรื่องจะปรึกษานิดหน่อยอยู่ก่อนได้ไหม?”
         “ครับ” ราเชลรับคำเบาๆ
         “พวกเราอยู่เป็นเพื่อนราเชลได้ไหมครับ?” สองเพื่อนสนิทราเชลถามพร้อมเพรียงกันราวกับนัด กายยิ้มหวานเล่นเอา 2 หนุ่มหน้าแดงเขินแทบจะมุดไปอยู่ใต้โต๊ะ
         “ผมมีเรื่องจะปรึกษาราเชลหลายเรื่องเลย พอเสร็จธุระแล้วจะโทรให้รถที่บ้านเขามารับนะครับ ไม่ต้องรอก็ได้”
         “ครับ” กายยิ้มขัน2หนุ่มที่ชอบทำอะไรพร้อมกันสมกับที่เป็นคู่แฝด กายรอจนนักเรียนออกจากห้องประชุมไปหมดจึงหันมาหาราเชล
         “ไปที่ชมรมผมแล้วกันนะครับ”
         “ครับ”ราเชลรับคำเดินตามต้อยๆ กายออกจากห้องประชุมชะงักกึกเมื่อเกือบชนกับคนที่พรวดพราดเข้ามา
         “ขอโทษครับคุณพอลลิ่ง เอ่อ…ผมคิดว่าราเชลอยู่คนเดียว” กายยิ้มหวานละลายหัวใจเหมือนเคย ปีเตอร์ยืนตะลึงจ้องหน้าเนียนอย่างลืมตัว หน้าร้อนผ่าวเมื่อนึกได้ว่าตั้งใจจะมารับราเชล แต่พอเจอรอยยิ้มของกายก็อดจะใจสั่นไม่ได้
         “วันนี้ผมขอยืมตัวราเชลสักวันนะครับ…มีเรื่องจะปรึกษานิดหน่อยเกี่ยวกับงานนิทรรศการสัปดาห์หน้า ไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ?”
         “ครับได้ครับ เอ่อ…”ปีเตอร์รับคำอย่างลืมตัว แต่พอนึกขึ้นได้กายก็พาราเชลเดินไปไกลแล้ว ปีเตอร์เกาหัวแกรกแต่กายดูไม่น่าจะอันตรายกับราเชล  ปีเตอร์ตัดสินใจกลับไปชมรมตัวเอง
         “เชิญครับ” กายเปิดประตูเข้าไปข้างใน ราเชลเดินตามต้อยๆเหมือนเดิม เพราะรู้สึกประหม่ายำเกรงทุกครั้งที่ต้องใกล้ชิดกับคนที่ดูมั่นใจในตัวเองเหมือน‘กาย พอลลิ่ง’กายดูมีเสน่ห์ น่าทึ่ง โดดเด่น ใครๆก็พากันหลงไหลจนราเชลรู้สึกอิจฉา ที่สำคัญกายเป็นคนเดียวที่ริช แฮมิลตัน ยอมลงให้ทุกอย่าง ข่าวลือหนาหูว่าริชย้ายมาเรียนที่นี่เพราะตามกายมา
         “…ราเชล…แน่ะใจลอยเชียวครับ” ราเชลสะดุ้งหน้าแดง เขินที่มัวแต่คิดเพลินจนไม่ได้ยินที่กายพูด
         “เอ่อ…คุณพอลลิ่ง มีเรื่องอะไรจะคุยเหรอครับ?”
         “อย่าเรียกนามสกุลเลย เราก็ห่างกันแค่ปีเดียว เรียกกายเฉยๆแล้วกันครับ”
         “ครับ” ราเชลรับคำเขินๆ กายอมยิ้มจ้องมองท่าทางเขินอายนั้นอย่างแปลกใจ ราเชลดูขี้อายมากกว่าที่เขาคิด ดูเด็กกว่าเขามากทั้งที่ก็อายุ13แล้ว เด็กอายุ13ที่กายรู้จักไม่มีใครเหมือนราเชลสักคน
         “อีก3สัปดาห์จะถึงงานฉลองครบรอบ30ปีของโรงเรียน กรรมการที่จะมาช่วยงานฝ่ายกิจกรรมมีไม่พอ ทราบมาว่าชมรมศิลปะงดจัดกิจกรรมใช่ไหมครับ?”
         “ครับสมาชิกปีนี้มีแค่7คน ตอนนี้ก็ป่วยไป2 ที่เหลือก็มีผลงานไม่มากนัก เลยไม่จัดกิจกรรมอะไรครับ”
         “ผมอยากขอให้ราเชลมาช่วยส่วนกลางจะได้ไหมครับ?”
         “ได้ครับ แต่ผมวาดรูปเป็นอย่างเดียวจะช่วยอะไรได้”
         “นั่นแหละครับที่สำคัญ เรามีงานที่จะต้องใช้ป้าย ใช้ตัวหนังสือกับภาพประกอบเยอะเลย แต่หาคนช่วยไม่ค่อยได้ ราเชลพอจะช่วยส่วนนี้ได้รึเปล่าครับ?”
         “ครับถ้าเป็นเรื่องพวกนี้ผมพอจะทำได้”
         “ขอบคุณมากครับ ผมจะเอารายชื่อคนที่จะมาช่วย…” ประตูห้องถูกเปิดพรวดเข้ามา
         “เฮ้!กาย…อ้าว!ยังคุยธุระอยู่เหรอ?” ร่างสูงเกือบเต็มประตูชะงัก ตาคมจับจ้องราเชลเขม็ง ราเชลหน้าแดงก่ำรีบก้มหน้า
         “หวัดดีราเชล”
         “เอ่อ…สะ..สวัสดีครับ” ราเชลยังคงก้มหน้างุดเหมือนเดิม ริชเดินมาทรุดลงนั่งข้างกายหงุดหงิดที่ราเชลไม่ยอมเงยขึ้นสบตา กายหันมาเลิกคิ้วนิดๆ เป็นเชิงถาม ริชส่ายหน้าไม่รู้จะทำยังไง ริชจ้องหน้าราเชลนิ่งนาน ตาคมเป็นประกายเจ้าเล่ห์
         “กาย…พอเสร็จธุระแล้วเราไปดูหนังกันนะ พอดีหนังเรื่องใหม่เข้าวันนี้ด้วยสิ …นะครับ”  ริชทำเสียงหวานออดอ้อน กายมองริชงงๆแต่พอเหลียวกลับมาทาง
ราเชลก็ชะงัก ราเชลรีบก้มหน้างุดเหมือนเดิมแต่แววตาที่กายเห็นเพียงแว่บเดียวทำให้กายประหลาดใจ มันมีทั้งความอิจฉาริษยาและเศร้าสร้อย กายหันมาขยิบตาให้สัญญาณ ริชรีบเดินออกจากห้องไม่มองราเชลสักนิด กายเขยิบเข้าใกล้ราเชลมากขึ้น
         “ถึงไหนแล้วอ้อ!รายชื่อ…ราเชล!เป็นอะไรไปครับ?” ราเชลเช็ดน้ำตาง่วน ปากสั่นระริก หน้าซีดเซียวเห็นได้ชัด
         “ปะ..ปล่าวครับ…คือ ผมปวดหัวนิดหน่อย”
         “อ้าว!งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับรายละเอียดเดี๋ยวผมจะส่งไปให้ทีหลัง”
ราเชลสะพายกระเป๋าเดินตามหลังกายออกมา ริชยังรออยู่หน้าห้อง
         “ริชไปส่งราเชลหน่อยนะเห็นว่าปวดหัว”
         “ไม่ต้องครับ พวกคุณมี…เอ่อ..นัดกันไม่ใช่หรือครับ ผมกลับเองได้”
         “แต่นี่ก็เย็นมากแล้ว ยังไม่ได้โทรบอกให้ที่บ้านมารับเลย ให้ริชไปส่งแหละดีแล้ว”
         “แต่ว่า..”
         “กายอย่าไปบังคับเขาเลย เขาคงไม่อยากไปกับคนชื่อเสียงไม่ดีแบบฉันนักหรอก”
         “เปล่านะครับไม่ใช่อย่างนั้น” ราเชลรีบปฎิเสธท่าทางเดือดร้อนนั้นทำให้กายนึกหมั่นไส้ริชที่ยังยืนเก๊กหน้าขรึม
         “ผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยครับ…แต่ผมเกรงใจ..คือ..”
         “ถ้างั้นให้ริชไปส่งนะครับ” กายรีบรวบรัด
         “แล้วเรื่องนัด…”
         “ไม่เป็นไรครับ อ้าว!พี่ผมมารับพอดีไปนะครับราเชล ไปนะริชพรุ่งนี้เจอกัน”
ริชโบกมือให้ กายรีบวิ่งไปที่รถ เท็ดลงมาเปิดประตูคอยอยู่แล้วพอกายขึ้นไปนั่งเรียบร้อยมือใหญ่ก็เอื้อมมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้อย่างนุ่มนวล กายยิ้มหวานปลื้มกับสายตาที่จ้องมองอย่างรักใคร่อ่อนโยน
         “คิดถึงเท็ดจัง” กายกระซิบเบาๆ เท็ดยิ้มกว้าง ตาคมเป็นประกายวาววาม
         “พี่ก็คิดถึง ถ้าทำได้พี่ไม่อยากให้กายห่างไปไหนด้วยซ้ำ” มือใหญ่ยังอ้อยอิ่งอยู่แถวเอวบาง
         “กลับบ้านเถอะครับ” เท็ดยอมถอยแต่โดยดีปิดประตูแล้วกลับมาขึ้นฝั่งคนขับ ขณะที่รถเคลื่อนออกมา กายอดชะโงกดู2คนข้างหลังไม่ได้ เห็นราเชลเดินตามริช มาที่รถสปอร์ตคันหรู กายพิงตัวกับเบาะถอนใจยาว
         “มีอะไรไม่สบายใจหรือกาย?”
         “ฮะ…ไม่รู้ว่าผมทำถูกหรือเปล่าที่ช่วยเพื่อน” เท็ดขมวดคิ้ว
         “ช่วยเพื่อน…ช่วยอะไร?”
         “เพื่อนผมเขาชอบรุ่นน้องอยู่คนหนึ่ง ผมเลยช่วยให้เขาได้ใกล้ชิดกัน แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นการทำร้ายรุ่นน้องหรือเปล่า เพราะเขาดูไร้เดียงสามากๆ เลย” เท็ดหัวเราะหึๆ
         “เหมือนกาย”
         “ไม่เหมือนหรอกครับ” เท็ดเอื้อมมือมาดึงมือเล็กขึ้นจูบเบาๆ ตายังจ้องมองที่ถนน
         “กาย…ถ้าคิดแล้วไม่สบายใจก็อย่าคิดเลย…พี่ว่าคงไม่มีอะไรเลวร้ายหรอก”
         “ครับ” เท็ดปล่อยมือกายมาจับพวงมาลัยทั้ง2มือ กายขยายสายเข็มขัดนิรภัยออกกว้าง ขยับเข้ามาซบบนไหล่แข็งแรง เท็ดเอื้อมไปเปิดเทปเสียงเพลงรักแผ่วพริ้ว บรรยากาศในรถอบอวลด้วยความรักความเข้าใจ
         
         กลิ่นจัสมินหอมฟุ้งทั่วห้องตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบเข้าไป กายเหลียวมามองคนข้างหลังที่ยืนยิ้มกว้าง เท็ดดันประตูปิดขณะที่กายโถมเข้ากอด แขนแข็งแรงรัดร่างเล็กให้แนบกระชับขณะที่ปากบดเบียดเข้าหากันอย่างรวดเร็ว
         “อืม…เท็ด …ผมคิดถึงพี่ทั้งวัน” กายพึมพำอู้อี้ ปากยังคงพัวพันดูดดื่ม เท็ดปลดเสื้อผ้าออกจากตัวเขาและกายอย่างรวดเร็ว ปากยังคงแนบประกบกันไม่ห่างนอกจากตอนที่ถอดเสื้อออก กว่าจะเดินไปถึงห้องนอนเสื้อผ้าก็ถูกถอดโยนเกลื่อนตลอดทาง เท็ดดันประตูห้องนอนปิดพร้อมๆกับยกร่างเปล่าเปลือยขึ้นถูไถบดเบียด ผิวเปลือยที่สัมผัสกันร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ ขาเล็กเกี่ยวกระหวัดรอบเอวแข็งแขนโอบรอบคอแน่น เท็ดเลื่อนมือมาช้อนสะโพกกายกดให้ถูไถกับแก่นกายร้อนผ่าว ก่อนจะดันร่างเล็กลงบนเตียง กายขยับขาออกกว้างเมื่อเท็ดเบียดลงมาหาก็ตวัดขารัดรอบร่างหนาไว้แน่น เท็ดลูบไล้บนอกตึงเคล้นคลึงหนักหน่วง กายขยับร่างเบาๆลูบไล้ทั่วแผ่นหลังกว้างแล้วเลื่อนลงไปลูบบนสะโพกแกร่ง เพลิดเพลินกับกล้ามเนื้อแข็งใต้ฝ่ามือ เท็ดปล่อยปากนุ่มช้ำเป็นอิสระ เลื่อนปากเลาะเล็มบนลำคอขาวแผ่วเบาไม่กล้าให้ทิ้งร่องรอยแดงไว้ ก่อนจะก้มลงกัดเม้มยอดอกเล็กเบาแล้วหนักขึ้นเรื่อยๆ กายหอบสะท้านแอ่นอกขึ้นหาปากร้อนอย่างลืมตัว เท็ดเลื่อนมือลงกอบกุมแก่นกายของเด็กหนุ่ม ขยับเป็นจังหวะเนิบช้าแล้วเร่งขึ้นเรื่อยๆ
         “อือ…เท็ด..” กายกระซิบเสียงแผ่ว เท็ดเลื่อนมือจากแก่นกาย นิ้วร้อนสอดเข้าหาหลืบแคบช้าๆ แรงตอดรัดรอบนิ้วทำให้เสียวท้องน้อยวูบ มืออีกข้างเอื้อมไปหยิบกระปุกครีมจากหัวเตียง เจลลื่นถูกชะโลมจนชุ่มก่อนจะสอดเข้าไปในซอกแคบใหม่
         “อา..เท็ด..อื้อ..” กายเริ่มครวญครางสะโพกเริ่มขยับไปตามจังหวะของนิ้วยาวที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เท็ดจูบไล่ลงหาหน้าท้องเนียน และครอบครองแก่นกายร้อนผ่าวไว้ กายเกร็งสะท้าน มือจิกกำผ้าปูที่นอนแน่น เท็ดเร่งจังหวะการทำงานของของนิ้วและปาก เสียงกายครางกระเส่า จู่ๆเท็ดก็ถอนปากออก นิ้วยาวยังคงสอดแทรกแต่ผ่อนจังหวะให้ช้าลง กายลืมตาขึ้นมองอย่างงุนงง ดวงตาโตยังคลอด้วยน้ำตา อารมณ์ที่ถูกเร้าจนเกือบถึงขีดสุดชะงักค้าง
         “เท็ด…ทำไมล่ะ…อื้อ” กายอุทานอย่างหงุดหงิดเมื่อนิ้วยาวถูกถอนออก เท็ดเท้ามือ คล่อมร่างบางไว้หน้าคมยิ้มละไม แต่ดวงตาเจ้าเล่ห์
         “กาย…รักพี่รึเปล่า?”
         “บ้า!…เท็ดบ้า!”กายอุทานอย่างขัดใจ โกรธจนต้องดึงหมอนมาปิดหน้า ร่างกายร้อนผ่าวทุรนทุรายต้องการปลดปล่อย เสียงเท็ดหัวเราะหึๆยิ่งทำให้โมโหมากขึ้น กายเหวี่ยงหมอนทิ้งผุดลุกขึ้นทุบอกกว้างอย่างโกรธจัด
         “เท็ดบ้า!…บ้า!…ฮือ! ผมโกรธแล้วนะ”
         “กายโธ่!…พี่ล้อเล่นน่า” เท็ดหัวเราะคว้ากายเข้ามากอด กายร้องไห้อย่างหงุดหงิดน้อยใจที่ถูกแกล้งเล่น เท็ดช้อนหน้านวลขึ้นจูบเบาๆทั่วหน้าก่อนจะแนบปากเข้าหาปากอิ่ม แต่กายเบี่ยงหน้าหนีเม้มปากแน่นพยายามปลดมือใหญ่ออก  เท็ดกระชับมือที่กุมแก้มนวลไว้มั่น ลิ้นร้อนลูบไล้ปากอิ่มเบาๆ ดันกายลงนอนก่อนจะเลื่อนมืออีกข้างลงไปกอบกุมแก่นกายขยับเป็นจังหวะหนักๆ
         “อื้อ..”กายเผลอครางด้วยความเสียวซ่าน ลิ้นร้อนสอดเข้าหาอย่างรวดเร็วเมื่อปากอิ่มเผยอ กายใช้ลิ้นดันลิ้นร้อนออกแต่เท็ดกลับกอดเกี่ยวพัวพัน เป็นสงครามลิ้นที่ยิ่งสู้ก็ยิ่งร้อน เท็ดแทรกเข้าเบียดชิดเมื่อกายเผลอขยับขาออกกว้าง นิ้วยาวสอดเข้าซอกแคบเร่งเร้าถี่เร็ว ได้ยินเสียงกายครางกระเส่าจึงค่อยถอนนิ้วออก
         “อื้อ…อูย!”กายอุทานอย่างขัดใจก่อนจะสะท้านเฮือกเมื่อแก่นกายร้อนผ่าวแข็งแรงสอดเข้ามาแทน ทั้งที่มีเจลช่วยหล่อลื่นแต่ก็ทั้งเจ็บทั้งอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก กายพยายามผ่อนคลายกางขาออกให้กว้างที่สุดเพื่อเปิดทางให้ร่างร้อนสอดเข้ามาได้มากขึ้น เท็ดขยับสะโพกช้าๆจนแนบสนิท โน้มลงจูบปากอิ่มหนักหน่วง ช่องทางแคบบีบรัดร้อนผ่าว เด็กหนุ่มช้อนหลังบางขึ้นเลื่อนปากลงหายอดอก  กัดเม้มจนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำมืออีกข้างโลมลูบแก่นกายนุ่มเป็นจังหวะ
         “เท็ด…อื้อ…ผม..” เท็ดรู้ว่ากายพร้อมแล้วจึงละมือจากแก่นกายมาช้อนสะโพกบางขึ้นขยับเบาๆ แขนเรียวโอบรัดบ่ากว้างแน่นจังหวะการแทรกสอดเริ่มเร่งขึ้นแรงขึ้น กายสะท้านไปตามแรงกระแทก
         “ซี๊ด…เท็ด…อาาาา” กายครางระงมจิกเล็บบนบ่ากว้างขาเรียวตวัดรัดรอบเอวเท็ดเกร็งแน่น
         “เท็ด!…เร็วเข้า…ผมไม่ไหวแล้ว…อื้อ” กายร้องกระเส่าน้ำตาไหลพราก ความซ่านเสียวกระจายไปทั่วร่าง หน้าท้องเนียนเกร็งเขม็ง ร่างกายบิดเร่าก่อนจะปลดปล่อยออกมา เท็ดกัดฟันแน่นแรงบีบรัดรุนแรงทำให้ความอดทนขาดผึง มือใหญ่กระชากสะโพกเล็กเข้าหาหนักหน่วงเสียงกายหวีดร้องครั้งแล้วครั้งเล่า ประสาทที่ตึงเขม็งขาดออก ร่างกายเกร็งสะท้านปลดปล่อยเข้าไปในร่างเล็กจนหมด ก่อนจะฟุบลงกอดรัดกายเอาไว้แน่น
         เท็ดโอบร่างบนอกแน่น ลมหายใจเริ่มผ่อนช้าลง เนื้อตัวยังร้อนผ่าว เหงื่อเปียกชุ่มทั้งเขาและกาย
         “อาบน้ำกันนะ” เขากระซิบเบาๆเห็นกายยังซุกหน้านิ่ง จึงเลื่อนลงจากเตียง มือยังประคองสะโพกไม่ให้แยกออก เสียงกายอุทานเบาเมื่อถูกอุ้มเข้าห้องน้ำทั้งที่ยังประสานกันแน่น เท็ดเปิดน้ำลงในอ่าง ขณะรอน้ำเต็ม ปากก็แทะเล็มไปทั่วแก้มและซอกคอขาว
         “เท็ดบ้า!…ชอบทำแบบนี้เรื่อย” กายต่อว่าอุบอิบหน้าแดงซ่าน
         “ทำอะไร?” เท็ดกระซิบเสียงแผ่ว ปากยังซุกไซ้ไม่หยุดจนกายต้องดันคางบุ๋มออกห่าง
         “ก็ชอบอุ้มผมไปโน่นมานี่ทั้งที่…เอ่อ…เท็ดก็รู้นี่” กายอึกอักหน้าแดงมากขึ้น 
         เท็ดยิ้มพราย ท่าทางขัดเขินของกายน่ารัก จนต้องจูบแก้มนวลแรง ๆ ก่อนจะพิงหน้าผากกับหน้าผากของกาย จมูกโด่งปัดเคลียจมูกเล็กเล่น
         “ทำไมล่ะ…กายไม่ชอบเหรอ?”
         “ก็มัน…ฮื่อ!” กายถอนใจเฮือก หน้าแดงยิ่งกว่าเดิม พูดไม่ออก
         “กายจ๋า…พี่อยากกลืนกายเข้าไปทั้งตัวด้วยซ้ำ อยากรัก อยากกอด อยากอยู่ในตัวกายแบบนี้ตลอดไป”
         “ฮึ…พูดเชยๆอย่างนี้ก็เป็นด้วย” กายซุกหน้าลงกับซอกคอ แก้มร้อนผ่าว หัวใจเต้นระรัวอิ่มเอิบ  เท็ดเปิดน้ำแล้วเลื่อนตัวลงไปในอ่าง ลูบไล้ครีมอาบน้ำทั่วร่างเล็ก ฟองน้ำถูกเบาๆไปทั่วก่อนจะส่งให้กายขัดตัวให้เขาบ้าง  กายขัดตัวให้เท็ดอย่างยากเย็น เพราะร่างสูงเริ่มขยับสะโพกเข้าออกเป็นจังหวะ  แรงเสียดสีเสียวซ่านจนต้องกัดปากไว้
         “เท็ด…จะให้…ผม…ฮื้อ!…เดี๋ยวเท็ด…ผม…ถูตัวให้พี่ไม่ไหวแล้ว”กายเสียงสั่นเนื้อตัวเริ่มร้อนผ่าวเมื่อจังหวะการแทรกสอดเร่งขึ้นจนต้องปล่อยฟองน้ำมายึดบ่ากว้าง ประคองตัวรับจังหวะการเคลื่อนไหว
         เท็ดกัดบนยอดอกเบาๆมือกดสะโพกเล็กลงมาหนักขึ้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ เสียงครางประสานกันลั่นห้องน้ำ ความคับแน่นร้อนผ่าวที่แทรกเข้ามาถี่กระชั้นฉุดความเสียวซ่านขึ้นสูงลิ่วจนทนไม่ไหวอีกต่อไป กายกรีดร้องสุดเสียง ร่างกายเกร็งบีบรัดเป็นจังหวะหนักหน่วง เสียงเท็ดครางลั่นก่อนที่ไอรักร้อนๆ จะพุ่งเข้าในซอกหลืบจนหมด
         เท็ดจูบปากอิ่มดูดดื่ม ประคองสะโพกเล็กขึ้นช้าๆจนร่างกายแยกจากกัน กายถอนใจยาวซบหน้าลงบนบ่ากว้าง ปล่อยให้เท็ดช้อนขึ้นมานั่งซ้อนบนขอบอ่าง เท็ดสอดมือด้านหน้าดึงขาเรียวให้เปิดกว้าง นิ้วชี้และนิ้วนางแหวกช่องทางแคบ ขณะที่นิ้วกลางสอดเข้ามาภายในช้า ๆ มืออีกข้างฉีดน้ำจากสายยางเข้าไปในภายใน กายกัดปากแน่นเหนี่ยวไหล่แข็งด้านหลังไว้ สะโพกเกร็งยกลอยขึ้น เท็ดควานนิ้วไปทั่วช่องทางแคบเพื่อล้างให้สะอาด แรงบีบรัดรอบนิ้วบอกให้รู้ว่ากายเริ่มทนไม่ไหว นิ้วยาวจึงขยับเข้าออกเร็วขึ้น กายพิงศรีษะกับอกกว้าง ใบหน้าสะบัดไปมา จิกนิ้วที่บ่าเท็ดอย่างแรง
         “อะ…อื้อ!…” จำนวนนิ้วที่เพิ่มขึ้นยิ่งทำให้เสียวซ่านมากขึ้น ขาเรียวขยับออกกว้าง ขณะที่สะโพกขยับขึ้นลงรับกับจังหวะการสอดนิ้ว สายน้ำและนิ้วยาวกระตุ้นจนกายถึงขีดสุดอีกครั้ง   เท็ดทำความสะอาดให้แล้วห่อตัวกายด้วยผ้าขนหนูเนื้อนุ่มแล้วจึงอุ้มกายกลับมาวางบนเตียง กายผลอยหลับไปอย่างอ่อนเพลีย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเท็ดกลับมานอนด้วยตอนไหน
            
         เท็ดเปิดกล่องรับจดหมายออกดู ข้างในมีจดหมายเกือบ10ฉบับ เพราะเขาไม่ได้มาตรวจดูหลายวันแล้ว เด็กหนุ่มเดินเข้าบ้านพลางพลิกดูหน้าซองไปทีละซองจนถึงซองสุดท้าย เท้าที่กำลังจะก้าวชะงักกึกเมื่อเห็นตราประทับบนซอง เท็ดรีบกลับเข้าห้องแกะจดหมายออกอ่าน คำตอบรับของมหาวิทยาลัย ทำให้เขาต้องทิ้งตัวลงอย่างอ่อนแรง
         ‘ทำไมไม่มาให้เร็วกว่านี้ ตอนที่เรายังอยากไปจากที่นี่  แต่ตอนนี้…เฮ้อ!’ เด็กหนุ่มถอนใจยาว ยกจดหมายขึ้นดูราวกับจะเพ่งให้ทะลุ ทุนปริญญาโทพิเศษทุนนี้ นอกจากเรียนฟรีและค่าใช้จ่ายทั้งหมดฟรีแล้วยังมีงานจากบริษัทยักษ์ใหญ่รองรับทันทีที่จบ เขาจะถูกส่งไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกเพื่อเป็นตัวแทนตรวจข่ายงานการตลาดจากบริษัทแม่สู่บริษัทสาขา เขาเคยอยากได้ทุนนี้เพื่อหนีความรู้สึกที่เขามีต่อกายและเพื่ออนาคตของเขาเอง แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป กายเป็นของเขาแล้ว ความสัมพันธ์อันแนบแน่นที่ไม่ใช่แค่ทางกายเท่านั้น หากแต่หัวใจที่เปิดเผยต่อกันจนหมดสิ้นต่างหากที่ยึดเขาไว้แน่นเหนียว เขารู้ว่ากายรักเขา อาจจะมีทั้งความรักและความหลงเพราะกายยังเด็ก แต่สำหรับเขาแล้วไม่ใช่แค่ความหลงใหลแน่นอน เท็ดรู้ดีว่าเขากำลังทำอะไร สำหรับเด็กหนุ่มอายุ19ที่ต้องเผชิญกับสถาน-การณ์ที่ต้องคิด ต้องทำด้วยตัวเองมาตลอด ทำให้เขารู้จักตัวเองมากกว่าคนวัยเดียวกัน นอกจากเรื่องเซ็กส์ซึ่งเขาไม่ค่อยจะสนใจเรียนรู้นัก เพราะหัวใจผูกติดอยู่กับกายตลอดมา
         ‘เอาน่า ไว้ค่อยตอบปฏิเสธก็แล้วกัน เฮ้อ!โปรเฟสเซอร์ด่าหูชาแน่ แกอุตส่าห์ลุ้นตัวโก่ง’ เท็ดยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูรีบยัดจดหมายเข้าลิ้นชักโต๊ะ เพราะได้เวลาไปรับกาย พรุ่งนี้พ่อแม่จะกลับแล้ว เขาและกายเหลือเวลาใกล้ชิดกันไม่ถึง20ชั่วโมงด้วยซ้ำ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วนะคะ 12/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 12-10-2009 17:10:51
         “เท็ด…อื้อ..เท็ด ผมเหนื่อย” กายครางเบาๆเมื่อรู้สึกว่าเท็ดเริ่มเล้าโลมเขาใหม่อีกครั้ง ตั้งแต่กลับจากโรงเรียนจนป่านนี้เท็ดยังไม่ถอนตัวออกจากตัวเขาด้วยซ้ำ กายเหลือบมองนาฬิกา เกือบทุ่มหนึ่งแล้วเขายังไม่ได้กินอะไรเลย  4ชั่วโมงที่เกมรักเร่าร้อนดำเนินมาไม่หยุด ตั้งแต่หน้าประตูจนถึงห้องนอน
         “เท็ด..ผมเหนื่อย หิวด้วย” กายรีบยึดมือที่เริ่มปลุกเร้าแก่นกายเขาแน่น เท็ดชะงักเงยขึ้นสบตา เปลวไฟยังไหวระริกในตาคมแต่เท็ดกลับยอมถอนกายออกโดยดี แม้จะอ่อนโยนแค่ไหนกายก็อดสะดุ้งไม่ได้ หยาดรักไหลเลอะต้นขาและที่นอนเต็มไปหมด กายซุกหน้าลงกับบ่ากว้างเมื่อเท็ดอุ้มเขาไปวางลงในอ่างอาบน้ำ
         “ผมอาบเอง พี่ไปเตรียมอาหารเถอะ…นะ” กายรีบอ้อนขืนให้เท็ดอยู่มีหวังไม่ได้กินอะไรแน่ เท็ดอมยิ้มชะโงกมาจูบแก้มเนียนแรงๆ ก่อนจะผละออกไปเตรียมมื้อค่ำ
         กายถอนใจยาวพิงศีรษะกับขอบอ่าง ปล่อยให้น้ำอุ่นจัดผ่อนคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ คืนนี้เท็ดดูแปลกๆ คนที่อ่อนโยนนุ่มนวลบทจะรุนแรงขึ้นมาก็เล่นเอาเขาแทบขาดใจ แม้จะไม่ได้รุนแรงถึงขั้นซาดิสต์แต่ก็ร้อนจนเขารับไม่ไหว กายสะดุ้งเผลอขยับตัวทีไรเป็นเจ็บแปลบทุกที แล้วคืนนี้เขาจะรับมือเท็ดไหวหรือ  ท่าทางเท็ดคงไม่ให้เขานอนง่าย ๆ แน่
         “นี่ใจคอจะหลับในอ่างเลยเหรอ…งั้นก็ไม่หิวแล้วสิ” กายผวาลุกขึ้นแต่ก็ต้องงอตัวลงไปใหม่เพราะเจ็บ เท็ดหัวเราะอุ้มร่างน้อยขึ้นจากน้ำ
         “เท็ด!เช็ดตัวก่อนเถอะ เดี๋ยวที่นอนเปียก”
         “ไม่เป็นไรเราไม่ใช้เตียงอยู่แล้ว” กายอ้าปากค้าง  หมายความว่าไงไม่ใช้เตียง หรือว่าเท็ดจะใช้ห้องรับแขกอีก  เท็ดคว้าผ้าห่มมาห่อตัวกายไว้แทนผ้าขนหนูแล้วอุ้มกายออกจากห้องนอน
         “เราจะไปไหน?” เท็ดไม่ยอมตอบ เขาพากายเดินลัดสนามหญ้าหน้าบ้านลงไปตามทางเดินแคบๆ กายเหลียวมองข้างทางสลับกับมองหน้าคนอุ้ม เท็ดจะพาเขาลงไปที่ลำธารทำไมป่านนี้? กายได้คำตอบเมื่อมาถึงลานกว้างริมลำธาร เต็นท์ขนาดใหญ่ถูกกางไว้เรียบร้อยแล้ว แสงจันทร์สว่างส่องให้เห็นฟืนกองใหญ่ข้างเต็นท์  เท็ดวางกายลงบนผ้านวมข้างใน หันไปหยิบอุปกรณ์และตะกร้าเดินออกไป ครู่เดียวแสงสว่างจากกองไฟก็ลอดเข้ามาพร้อมๆกับที่เขาลอดเข้ามาอีกครั้ง กายแก้มร้อนผ่าวเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าครั้งแรกที่เขาลองยั่วเท็ดก็คือที่นี่
         เท็ดรวบกายเข้าไปกอดไว้ ก้มลงกระซิบเบาข้างหู“กายรู้ไหม พี่อยากทำอย่างนี้ตั้งแต่วันที่เรามาเล่นน้ำด้วยกัน”พูดจบก็สาธิตเรื่องที่อยากทำจนกายครางกระเส่า ปากร้อนดูดเม้มไปทั่วทั้งตัวจนแทบไม่มีส่วนไหนที่ไม่ถูกสัมผัส
         “อ้าาาา..” กายร้องเสียงดังเมื่อนิ้วยาวแหวกทางให้ลิ้นร้อน สอดเข้าในทางแคบเป็นจังหวะ เท็ดสอดลิ้นเข้าไปจนลึกแล้วแช่ทิ้งไว้ ฟันคมขบบนขอบนอกเบาๆ กายสะดุ้งเฮือก ทางแคบบีบรัดลิ้นเขาแรงมาก สะโพกเล็กขยับเหมือนจะถอยหนีจนเท็ดต้องตรึงไว้ ควานลิ้นในโพรงร้อนแน่นไปทั่ว เสียงกายหวีดระงมก้นกลมเกร็งแล้วขยับเป็นจังหวะเดียวกับที่บีบรัดรอบลิ้นของเท็ด ก่อนที่หยาดรักร้อนผ่าวฉีดซ่านออกมาเลอะทั่วหน้าท้องเนียน บางส่วนกระเด็นมาโดนใบหน้าของเท็ด เด็กหนุ่มไล้เลียความเปรอะเปื้อนบนหน้าท้องรวมถึงแก่นกายนิ่ม มือสั่นระริกดันหน้าเขาออก
         “เท็ด…อย่า”เสียงสั่นเครือปนมากับเสียงหอบ เท็ดเงยขึ้นสบตา น้ำตาใสรินลงมาจากตาคู่งาม
         “กายร้องไห้ทำไม” เท็ดเลื่อนตัวขึ้นมาท้าวแขนคล่อมร่างบาง กายประคองหน้าเท็ดไว้เลียสิ่งที่เปรอะเปื้อนออกไป น้ำตายังไหลไม่หยุด
         “เท็ดอย่าทำแบบนี้อีกนะ”
         “ทำไมล่ะ…ก็พี่รักกาย รักทุกอย่างของกาย ไม่เคยรังเกียจอะไรในตัวกายเลยนะ” กายสะท้านความสุขเอ่อท้นจนเหมือนจะทะลักออกมาจากตัว หัวใจพองโตเต้นระรัว ขณะที่คอหอยตีบตันเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้
         “พี่รักกาย…พี่อยู่โดยไม่มีกายไม่ได้ อยู่กับพี่…เป็นของพี่ตลอดไปนะ” เท็ด
กระซิบเบาๆจูบซับน้ำตาไปทั่วแก้มเนียน
         กายกอดรอบคอเขาแน่นตัวสั่นระริก “เท็ด..ผมมีค่าขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
         “ใช่!กายมีค่ามาก มากที่สุด! กายเป็นทุกอย่างในชีวิตพี่นะ  เป็นอนาคต เป็นความหวัง เป็นหลักชัยในชีวิตพี่ด้วย…อย่าหัวเราะสิ รู้น่าว่าพูดอะไรเฉิ่มๆอีกแล้ว”
         “เท็ด อย่าพูดกับใครแบบนี้นะ”
         “มันฟังดูแย่มากเลยเหรอ?” เท็ดหน้าเสียผงกศีรษะขึ้นมาสบตากาย 
         ตาโตหวานระยับอ่อนโยน “ใครบอก มันฟังดูดีจนผมกลัวว่าจะมีคู่แข่งเพิ่มอีกเยอะต่างหาก แค่นี้ผมก็ตามหึงไม่ทันแล้ว”
         เท็ดหัวเราะก้องกอดรัดร่างในอ้อมแขนแรงๆ เสียงท้องร้อง‘จ๊อก’ทำให้เขาชะงัก กายหน้าแดงซุกหน้าลงกับอกกว้างอย่างขัดเขิน
         “ผมหิวจนกินวัวได้ทั้งตัวแล้ว” เท็ดคว้าผ้าห่มมาห่อกายไว้อีกครั้ง อากาศนอกเต็นท์เย็นฉ่ำ กายซุกอกกว้างนิ่งปล่อยให้เท็ดอุ้มออกมานั่งข้างนอก เสื่อทอมือจากบาหลีปูไว้ข้างกองไฟ กลิ่นไก่ย่างหอมกรุ่นทำให้ท้องร้องดังยิ่งขึ้น เท็ดทรุดลงนั่งบนเสื่อหยิบอาหารจากจานโน้นจานนี้มาป้อนคนในอ้อมแขน กายเองก็ป้อนเท็ดตอบ บางทีก็แย่งอาหารจากปากของกันและกันป้อนไปมาจนตัวชักร้อนๆ กายอมยิ้มเมื่อรู้สึกว่าส่วนที่เขานั่งทับอยู่ร้อนและขยับถูไถก้นเบาๆ แม้เท็ดจะสวมยีนส์แต่ก็ไม่ได้หนาอะไรนัก ตัวกายเองก็ไม่ได้สวมเสื้อผ้ามีแค่ผ้าห่มพันตัวไว้เท่านั้น กายดึงไก่ออกจากมือเท็ด เลียนิ้วเปื้อนก่อนคลี่ออกแล้วดูดทีละนิ้ว เท็ดมองปากอิ่มที่ดูดนิ้วเขาจนถึงโคนแล้วรูดขึ้นลงทีละนิ้ว ท้องน้อยเขาเกร็งวูบ รู้สึกอยากให้กายทำแบบนี้แต่ไม่ใช่ที่มือ!
         เท็ดดึงหน้านวลขึ้นปากบดเข้าหากันแลกลิ้นกันดุเดือด ชายหนุ่มดึงมือเล็กมาวางบนกางเกงยีนส์ ความร้อนระอุข้างใต้ขยับราวกับมีชีวิตเมื่อกายลูบเบา ๆ
         “เท็ด…พี่อยากให้ผม…”ไม่มีคำตอบแต่ดวงตาวาววับนั้นก็เป็นบทสรุปได้แล้ว กายเม้มปาก ปลดกระดุมแล้วรูดยีนส์ออกไป ทันทีที่เป็นอิสระแก่นกายของเท็ดก็ผงาดออกมาท้าทายสายตา กายหน้าแดงรู้สึกเขิน แม้จะมีอะไรกันมาหลายครั้งแต่ทุกครั้งที่ต้องทำแบบนี้ก็อดจะอายไม่ได้ มือเล็กสั่นน้อยๆขณะที่เอื้อมไปประคองเท็ดไว้ เท็ดร้อนและแห้งผาก กายเลียปากนิดหนึ่งก่อนจะกอบกุมเท็ดแล้วเริ่มขยับแผ่วเบา
         “อา…” กายเงยขึ้นมอง เท็ดหลับตาใบหน้าแดงซ่าน ดูเท็ดปรารถนาและอ่อนแอ กายไม่เคยเห็นเท็ดเป็นแบบนี้ ยิ่งมือเขาขยับเท่าไหร่ปฏิกริยาตอบสนองก็ยิ่งน่าดูเท่านั้น เท็ดเริ่มหายใจหนักๆคิ้วเข้มขมวดมุ่น กายรู้สึกสนุกปนจั๊กจี้ถ้าเขาทำให้เท็ดแบบที่เท็ดเคยทำให้เขาจะเป็นยังไงนะ กายก้มลงมองส่วนที่อยู่ในมือ ขนาดของมันทำให้เขาเผลอกลืนน้ำลายแต่เท็ดยังทำให้เขาได้นี่นา กายเลื่อนมือลงขณะที่ปากครอบครองส่วนยอดของเท็ดไว้
         “อ๊ะ..กาย…ซี๊ด..”หน้าท้องเท็ดกระตุก มือแทรกเข้ามาประคองศีรษะของกายไว้ สิ่งที่อยู่ในปากดูจะขยายออกไปอีก กายเลื่อนปากออก อ้าปากกว้างกว่าเดิมเพื่อครอบครองให้หมด กายค่อยๆกลืนเข้าไปเรื่อยๆทั้งร้อนและคับจนเขาแทบหายใจไม่ออก แต่อาการสั่นระริกของเท็ดก็ทำให้กายพอใจเกินกว่าที่จะหยุด กายกลืนเท็ดเข้าไปจนรู้สึกว่าเข้าไปไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังครอบครองไม่สุดอยู่ดี กายแช่ปากนิ่งไม่รู้จะทำไงต่อ
         “กาย…ทำแบบที่กายทำกับนิ้วพี่ไง” เสียงเท็ดพร่า กายเม้มปากขณะที่รูดปากขึ้น
         “ซี๊ด…กาย..กาย” เสียงเท็ดครางระรัว กายกดปากขึ้นลงขณะที่มือประคองส่วนโคนไว้และบีบคลึงเบาๆแบบที่เท็ดเคยทำ  กายนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกว่าเขาไม่ได้ขยับคนเดียวแล้ว สะโพกของเท็ดสวนขึ้นมาทุกครั้งจนบางครั้งก็รู้สึกว่ามันลึกมากขึ้น กายสะดุ้งเมื่อช่องทางแคบถูกรุกรานบ้าง นิ้วยาวสอดเข้าออกเป็นจังหวะเดียวกับปากเขา ขณะที่ส่วนหน้าก็ถูกมือใหญ่อีกข้างขยับด้วยเช่นกัน ฟันคมขบเบาบนแผ่นหลังเนียน จังหวะของคนทั้งสองประสานกันและเร่งเร้าขึ้นเรื่อย ๆ
         “กะ…กาย…หยุดก่อน..พอเถอะ” เท็ดเหนี่ยวกายขึ้นจูบ กายโอบรอบคอขณะสะโพกก็ถูกยกสูงแล้วกดลงไปบนแก่นกายของเท็ด ความฉ่ำเยิ้มของน้ำลายและหยาดอารมณ์บางส่วนทำให้การสอดแทรกไม่ติดขัด กายจิกเล็บแน่นเมื่อเท็ดดันรวดเดียวสุด ความคับแน่นทำให้ต้องผ่อนคลายกล้ามเนื้อเพื่อรองรับสิ่งที่จะเกิด
         “กาย…พร้อมนะ”กายพยักหน้า เท็ดยกกายขึ้นจนเกือบสุดแล้วดึงลง น้ำหนักตัวทำกายรู้สึกจุก
         “เท็ด…ไม่ไหว..เจ็บ..อ๊ะ..” เท็ดนอนหงายโดยมีกายซบอยู่บนอก
         “กาย…ท้าวแขนบนอกพี่สิ…แล้ว..ขยับเอง  นั่นแหละ..อา…ดีมาก”  กายท้าวมือบนอกกว้างขณะที่สะโพกขยับขึ้นลง ความรู้สึกเหมือนได้ควบคุมอีกฝ่ายไว้ทำให้เขารู้สึกสนุก แรงเสียดสีเสียวซ่านจนต้องหวีดร้องเบาๆ กายเริ่มควบคุมตัวเองไม่ไหว ยิ่งอีกฝ่ายแสดงความทรมานมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเร่งขึ้นเท่านั้น
         “เท็ด..เท็ด…อ้า…เท็ด!” กายกรีดร้องเรียกเท็ดระงมเมื่อความเสียวกระสันถึงขีดสุด ปลดปล่อยหยาดรักบนอกและท้องของเท็ดแล้วล้มลงบนอกกว้าง เท็ดดึงกายลงนอนขณะเขาผลักดันเข้าหาต่อเนื่อง กายแยกขาออกกว้าง จิกเล็บจนสะโพกแข็งรับรู้จังหวะการเกร็งของกล้ามเนื้อขณะที่ผลักดันเข้ามาในตัว ส่วนที่เสียดสีกันทั้งร้อนและเสียวมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องเกร็งรับโดยไม่รู้ตัว เท็ดกัดฟันแน่นยิ่งกายเกร็งก็ยิ่งบีบรัดแรงขึ้น เด็กหนุ่มกระแทกสะโพกสุดแรง เสียงเนื้อกระทบกันระรัว เขากระชากเอวบางเข้ามาหนักหน่วง ขณะดันตัวเข้าไปลึกขึ้นแรงขึ้นจนถึงขีดสุด รอบแก่นกายเขาบีบรัดรุนแรง เสียงกายกรีดร้องสุดเสียงเช่นเดียวกับ   อารมณ์เขาระเบิดออกเป็นชิ้นๆ เลือดในกายเดือดพล่านวิ่งไปทุกปลายประสาท เขายังกระแทกสะโพกเข้าหาความคับแน่นที่บีบรัด ปลดปล่อยหยาดรักทั้งหมดเข้าสู่ตัวกาย ไอรักพลุ่งจากภายในเอ่อล้นออกมาภายนอก เท็ดฟุบลงกอดกายไว้แต่ก็นึกได้ว่าตัวเขาคงหนักเกินไปจึงพลิกตัวอีกฝ่ายขึ้นไว้บนอกแทน…
         กายสะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกหนาว “อย่าเท็ด…ผมหนาว” ผ้าเย็นๆยังคงถูกเช็ดไปทั่วทั้งตัว
         “เดี๋ยวนะกาย ต้องเช็ดตัวก่อน มันเปื้อนน่ะ” เสียงเท็ดตอบมาแว่วๆ กายถอนใจยอมให้อีกฝ่ายเช็ดตัวเขาจนสะอาด ผ้านวมอุ่นคลี่ออกคลุมเขาไว้เมื่อเท็ดเช็ดตัวเสร็จ
         “เท็ดมานอนด้วยสิ”
         “เดี๋ยวกาย อีกนิดนะ” กายนิ่วหน้าเมื่อรู้ว่ามีบางอย่างแทรกเข้ามาในร่างกาย ขนาดที่ไม่มากนักทำให้ระคายเคือง ของเหลวเย็นๆพลุ่งเข้ามาในร่างกายหลายครั้งก่อนที่ผ้านุ่มๆจะซับให้เขาจนแห้งสบายแล้วเท็ดก็กลับมานอนข้างๆ กายซุกตัวในอ้อมแขนอบอุ่น หลับไหลอย่างวางใจและแสนสุข…

         การส่งออกม้าได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี แดนนี่และดาน่ากลับมาถึงบ้านด้วยรอยยิ้ม งานเลี้ยงฉลองเล็กๆ ในครอบครัวถูกจัดขึ้นที่ฟาร์ม แขกคนเดียวของครอบครัวคือป้าแมรี่พี่สาวของแดนนี่ เท็ดไปรับป้ามาตั้งแต่เช้า เสียงหัวเราะเสียงพูดคุยดังแซดไปหมดราวกับมีงานใหญ่ ทั้งที่มีคนแค่ 5 คนเท่านั้น  ดีว่าฟาร์มแต่ละแห่งตั้งอยู่ห่างกันมาก ไม่งั้นคงถูกเพื่อนบ้านว่าเอาแน่ๆ ยิ่งดึกเสียงก็ยิ่งดังเพราะต่างคนต่างเมา โดยเฉพาะกาย เป็นครั้งแรกที่แดนนี่ยอมให้กายกินไวท์ด้วย เพราะเป็นโอกาสพิเศษ กายหัวเราะคิกคักแก้มแดงปลั่งซบอยู่กับไหล่ของ
แดนนี่ แต่สายตาคอยชำเลืองมองเท็ดอยู่ตลอดเวลา ดาน่าเหลือบมองเท็ด
เด็กหนุ่มดูเงียบกว่าเดิม ปกติเท็ดก็ค่อนข้างเคร่งขรึมอยู่แล้วแต่กลับมาคราวนี้ดูเท็ดเหมือนมีอะไรในใจ
         “กาย…กาย ลุกขึ้นลูก ไป..ขึ้นไปนอนได้แล้ว” แดนนี่ดันไหล่กายให้ลุกขึ้น กายโผไปกอดคอเท็ดไว้ มืออีกข้างที่ถือแก้วง่อนแง่น
         “ม่ายอาว…พรุ่งนี้ม่ายมี..อึ๊ก…เรียน…ซ๊ากหน่อย..ผมจาชาหลอง…ฉลองให้พ่อ…เย้!ชน” เท็ดคว้าแก้วจากมือกายไว้ได้ก่อนหล่นแตก แดนนี่หัวเราะชอบใจหันไปชนแก้วกับป้าแมรี่แล้วดึงดาน่ามาหอมแรงๆ กายหัวเราะคิกๆพิงเอกเท็ดจ้องมองพ่อกับแม่หยอกเย้ากัน
         “โอ้ย!…หวานกันอีกแล้ว อิจฉาจริงจิ๊ง”
         “เท็ดเอากายไปนอนเถอะ  ไอ้ตัวแสบไปนอนได้แล้ว!เมาจนนั่งไม่อยู่ เฮ้อ!คออ่อนชะมัดเลย สมัยพ่อ14-15นะไวท์แค่นี้ไม่สะเทือนหรอก”
         “แดนนี่!!” เสียงแมรี่กับดาน่าแหวพร้อมกัน แดนนี่คอหดนึกขึ้นมาได้
         “สอนอะไรลูกน่ะ แค่ยอมให้กายกินไวท์นี่ก็มากพอแล้วนะ” ดาน่าตาขุ่น
         “ใช่ๆดาน่า เห็นทีเธอต้องอบรมสามีใหม่ซะแล้ว มัวแต่สอนเรื่องกินเหล้ากินเบียร์ มันต้องสอนให้จีบสาวต่างหากเล่า”
         “พี่แมรี่!!” แมรี่หัวเราะคิกขณะที่แดนนี่กับดาน่าหันมาสบตากัน เท็ดอมยิ้มค่อยๆอุ้มร่างปวกเปียกของกายขึ้นไปชั้นบนโดยมีสายตาครุ่นคิดของดาน่ามองตาม
         “เท็ดดดด….”
         “นอนซะเด็กดี”
         “ไม่อาว…เท็ดจ๋า..นอนด้วยกันนะ” กายดึงเสื้อเท็ดไว้ไม่ยอมปล่อย
         “ไม่ได้หรอกกาย พี่ต้องลงไปดูพ่อกับป้า คืนนี้คงเมากลิ้งแน่…กายนอนซะนะ”
         “ไม่เอา..เท็ดอย่าไป” กายเหนี่ยวคอเสื้อเท็ดลงมากอดแล้วจูบปากบางเบาๆ
         “กาย อย่าทำอย่างนี้ พ่อกับแม่อยู่นะ” เท็ดปลดแขนที่โอบรอบคอเขาออก กายบ่นงึมงัมแล้วซุกหลับต่อ เท็ดคลี่ผ้าออกห่มให้ก่อนจะกลับลงมาข้างล่าง
         แดนนี่และแมรี่ฉลองกันจนต้องหิ้วไปนอนทั้งคู่ เท็ดกลับมาช่วยดาน่าเก็บจานชามไปล้างและทำความสะอาดบ้าน แม้ดาน่าจะห้ามปรามก็ไม่ฟัง ดาน่าลอบมองลูกชายคนโต เธอคงไม่ได้คิดไปเองที่รู้สึกว่าเท็ดเปลี่ยนไป ดูเป็นผู้ใหญ่ในเวลาชั่วไม่กี่วัน
         “เท็ด”
         “ครับแม่” เท็ดเหลียวมามอง มือยังคงเช็ดจานกองใหญ่ง่วน
         “ลูกมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
         “เปล่านี่ครับ..ทำไมครับ?”
         “แม่รู้สึกเหมือนเท็ดมีอะไรในใจ  ดูลูกเป็นผู้ใหญ่ขึ้นในเวลาแค่ 2 อาทิตย์”
เท็ดก้มมองจานในมืออยู่นาน “แม่ครับ ระหว่างความฝันของแม่กับความฝันของคนที่แม่รัก แม่จะเลือกทำสิ่งไหนให้เป็นจริงก่อนครับ”
          “แม่เลือกฝันของคนที่แม่รักสิลูก แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งไหนจะเป็นจริงได้มากกว่าด้วยนะจ้ะ”
         เท็ดยังก้มหน้าอย่างเดิม แต่ปากบางเม้มแน่น ดาน่าเดินเข้าไปยืนตรงหน้า วางมือบนไหล่หนา เงยขึ้นมองหน้าลูกชาย
        “เท็ด…แม่รักเท็ดนะลูก  รักมาก ถ้าเท็ดมีปัญหาอะไรก็บอกแม่ได้เสมอนะจ้ะ”
         “ขอบคุณครับแม่”
....................

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วนะคะ 12/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-10-2009 19:01:10
 :haun4: :haun4: เรื่องนี้กะยั่วกันตลอดเรื่องเลยเรอะ  :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วนะคะ 12/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: hene2526 ที่ 12-10-2009 21:02:12
สรุปว่าเลือกทางไหนหล่ะเนี้ย
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วนะคะ 12/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 12-10-2009 21:21:59
 :m25:
เท็ดจะตัดสินใจยังไงดี
สิ่งไหนจะเป็นจริงได้มากกว่า
ยังไงพ่อแม่คงไม่ขัดขวางเรื่องระหว่างกายกับเท็ดแน่ๆเลย
ขอบคุณมากนะคะ บวก 1 แต้มค่ะ

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วนะคะ 12/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 12-10-2009 21:25:09
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ เรื่องนี้เรียกเลือดจริงๆ :m25:
คราวนี้ก็มาลุ้นต่อว่ากายหายไปไหนแน่ :z10:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วนะคะ 12/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 13-10-2009 10:57:02
คู่นี้ ทำเอาหมดแรง  :m25:  :m25:
พ่อแม่กลับมาแล้ว แบบนี้ก็หมดโอกาสอยู่กันแค่ 2 ต่อ 2 แล้วดิ
มาต่อเร็วๆ นะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วนะคะ 12/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-10-2009 19:46:33
ดันๆ รอน้องกาย  :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้วนะคะ 12/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 14-10-2009 22:09:15
วันนี้มาหรือเปล่าค่ะ  คิดถึงๆๆ  :z10:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วววววววว 16/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 16-10-2009 22:16:35
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์นะคะ และคะแนน+
ถ้าสามารถกด + ได้เมื่อไหร่จะกด+ให้แทนคำขอบคุณคะ

ไปอ่านต่อเลย
..........

ดาน่าถอดเสื้อคลุมออกแขวน ความร้อนจากเตาผิงทำให้ห้องอุ่นสบาย บ้านเงียบกริบทั้งที่เท็ดและกายน่าจะอยู่บ้าน ดาน่าเดินไปที่ห้องนอนของเท็ดเคาะประตูเบา ๆ
         “เท็ดอยู่ในห้องหรือเปล่าลูก แม่เข้าไปนะ” ดาน่าเปิดประตูเข้าไป ห้องถูกจัด
ไว้เรียบร้อย ไม่มีใครอยู่ในห้อง ดาน่าขมวดคิ้วก่อนจะปิดประตูห้องลงตามเดิม นึกขึ้นมาได้ว่าช็อคโกแลตของกายอาจจะละลาย เพราะห้องอุ่นกว่าข้างนอกจึงรีบเอาออกจากถุง ตอนแรกตั้งใจว่าเอาใส่ตู้เย็น แต่นึกได้ว่ากายอยู่บ้านจึงเอาขึ้นไปให้บนห้อง
         มือที่ยกจะเคาะชะงักค้าง ประตูห้องปิดไม่สนิททำให้เสียงลอดออกมาให้ได้ยินชัดเจน
         “เท็ด..อา…เท็ด…ซี๊ด…เท็ด…เร็ว” เสียงกายครางกระเส่า เสียงหอบหายใจ เสียงลั่นเอี๊ยดของเตียงดังถี่รัว
         “เท็ด ผมรักพี่…ผมรักพี่..อ๊าาาา”
         “พี่ก็รักกาย..อาาาา” ดาน่ายืนนิ่งขึง ทั้งที่ทำใจไว้แล้ว แต่เมื่อมาเจอสถาน-การณ์จริงเข้าก็อดเจ็บแปลบไม่ได้ ลูกรักทั้งสองของเธอกำลังร่วมรักกัน ดาน่าหลับตานิ่ง ค่อยๆดันประตูปิดให้สนิท คอแห้งผาก กระบอกตาร้อนผ่าว ทั้งๆที่รู้มาตลอดแต่ก็แทบทนไม่ได้ นี่ถ้าแดนนี่รู้เข้าเขาคงช็อคและคงยอมรับไม่ได้ ดาน่าเดินกลับลงมาทรุดลงนั่งที่ห้องรับแขก ห้องอบอุ่นแต่หัวใจของเธอหนาวสะท้าน หากแดนนี่รู้จะเกิดอะไรขึ้น
         ‘โอ…ลูกรักของแม่ แม่จะทำยังไงดี แม่จะปกป้องลูกของแม่ได้ยังไง  หากเท็ดกับกายถูกแยกจากกัน กายจะเจ็บปวดสักแค่ไหน…กาย…กายของแม่  นี่แม่จะทำยังไงดี’ ดาน่าซบหน้ากับฝ่ามือ และอยู่ในท่านั้นเนิ่นนาน
         เสียงเครื่องยนต์แว่วมาทำให้ใจหายวูบ เธอจำได้แม่นยำว่าเป็นเสียงรถของสามี ดาน่าเดินเข้าไปในครัว แกล้งวางจานชามเสียงดัง
         “กาย…ตื่นรึยังลูก  แม่กลับมาแล้วนะ..กาย”
         “ครับ”เสียงกายขานรับแว่วๆ ดาน่าถอนใจเฮือกรินกาแฟลงในแก้วก่อนจะถือออกมานั่งที่เดิม
         เสียงรถเข้ามาจอดในโรงรถพร้อมกับที่กายวิ่งลิ่วลงมาจากชั้นบน
         “แม่”กายโถมเข้ากอด กลิ่นสบู่ผสมกลิ่นแป้งหอมกรุ่นเหมือนทุกครั้ง ดาน่าอยากให้กายไร้เดียงสาเหมือนเดิมแต่เธอก็รู้ว่าไม่มีวันเป็นเช่นนั้นได้อีกแล้ว เป็นความผิดของเธอเองตั้งแต่ต้น กายยิ้มหวาน ดวงตาวาววาม ความสุขเอ่อท้นออกมาจนสัมผัสได้ เสียงย่ำลงบันไดทำให้ดาน่าเงยขึ้นมอง เท็ดเดินลงมาช้าๆใบหน้าคมเรียบเฉยแต่ดวงตาหลุบต่ำไม่ยอมสบตา เท็ดคงกลัวเธอจับพิรุธได้
แดนนี่เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับสายลมเย็นเฉียบ อีกไม่กี่สัปดาห์หิมะคงตก
         “คุณพ่อ!” กายอุทานยินดีวิ่งไปโถมเข้ากอด เสียงแดนนี่หัวเราะชอบใจดังก้อง
         “พ่อครับของฝากผมล่ะ”
         “เอ้อ!..ใจคอจะไม่ให้พ่อพักก่อนรึไง รีบทวงจัง”
         “โธ่!พ่อครับ  ผมรออยู่นานแล้วนี่นา กว่าพ่อจะซื้อให้อ่ะ”
         “เอ้า!…เอาไป ของเท็ดก็มีนะลูก”
         “ขอบคุณครับ” เท็ดไม่ยอมสบตาใคร เดินไปเปิดเพลงแล้วนั่งอยู่ที่โซฟามุมห้องเงียบ ๆ
         กายรื้อกล่องเกมออกมาดู ก่อนจะหอบหิ้วไปวางบนตักเท็ดแล้วนั่งลงที่พรม พิงศีรษะกับขายาว มือก็ชี้ชวนให้เท็ดดูเกมในมือ เท็ดลูบผมนุ่มเบาๆก้มลงซักถามท่าทีอ่อนโยนทะนุถนอมทำให้ดาน่าน้ำตาคลอ ถึงอย่างไรก็วางใจได้ว่ากายจะมีผู้ปกป้องคุ้มครองที่ดีที่สุดเมื่อออกจากอกพ่อแม่
         แดนนี่ชะงักเมื่อหันมาเห็นอาการเหม่อลอยของภรรยา เหลียวไปมองกายกับเท็ดก่อนหันจะมายิ้ม ดึงดาน่ามากอดไว้แน่น
         “ห่วงกายอีกล่ะสิ  ไม่เป็นไรแล้วน่าหมอก็รับรองว่ากายหายดีแล้ว” ดาน่าฝืนยิ้มพยักหน้ารับสามี ไม่กล้าเหลียวไปมองลูกๆอีกเพราะกลัวแดนนี่จะเห็นพิรุธ
แดนนี่เข้าไปร่วมวงกับลูกๆ ห้องนี้ใช้เป็นห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นในตัว
         “ไม่เอาอ่ะขี้โกงนี่นา เล่นรุมทีเดียว2คนเลย  เท็ดผมโกรธแล้วนะพี่เข้าข้างพ่อได้ไง ต้องมาอยู่ฝั่งผมดิ ไม่เอา ผมไม่แพ้นะ” กายโวยวายเมื่อเท็ดกับแดนนี่รวมหัวกันเล่นทำให้กายแพ้ในเกมนั้น เสียงเท็ดกับแดนนี่หัวเราะประสานกันดังลั่น
         ดาน่าหลับตา ครอบครัวแสนสุขของเธออาจพังทลายลงสักวัน เธอได้แต่ภาวนาให้วันนั้นอยู่อีกไกลแสนไกลหรือไม่เกิดขึ้นเลย ขอเพียงเท็ดเรียนจบและกายบรรลุนิติภาวะ ถึงตอนนั้นลูกรักของเธอก็จะสามารถตัดสินชีวิตของตัวเองได้ตามทางที่เขาปรารถนา ขออย่าให้เกิดอะไรขึ้นในตอนนี้เลย ดาน่าสงบสติอารมณ์อยู่นานจนแน่ใจว่าจะไม่มีพิรุธให้ใครเห็นถึงเข้าไปร่วมสนุกกับแดนนี่และลูกๆ เสียงกายหัวเราะดังลั่นที่สามารถเอาชนะหมากล้อมของเท็ดและแดนนี่ได้เพราะดาน่าเป็นแชมป์หมากล้อมมาตลอด เมื่อมีกองหนุนดีมีหรือจะพลาด
         “ใครแพ้ต้องล้างจาน1อาทิตย์!” กายประกาศิต เท็ดกับแดนนี่เหลียวมองตากันหน้าแหย งานนี้ต้องล้างจานทั้งอาทิตย์แน่
      
         แดนนี่ถือเค้กอย่างระมัดระวัง ทางเดินจับด้วยหิมะลื่นปราด  
เพราะดาน่ามือเจ็บ ปีนี้เค้กฉลองวันเกิดของกายจึงต้องสั่งจากทางร้าน โชคดีที่ตรงกับช่วงคริสมาสต์ เลยถือโอกาสฉลอง2งานพร้อมกันทีเดียว
         เมื่อเช้าดาน่ารถเสียเขาจึงต้องไปเอาเค้กเอง แล้วทิ้งรถไว้ให้ดาน่าใช้ ส่วนเขากลับแท็กซี่ รถของเท็ดจอดอยู่ในโรงรถทำให้แดนนี่โล่งอกที่รู้ว่ากายไม่ได้อยู่บ้านคนเดียว เขาและดาน่าเฝ้าระวังอาการของกายมาตลอดแม้หมอจะยืนยันว่ากายปลอดภัยแล้วก็ตาม แดนนี่เข้าทางหลังบ้านเพราะไม่อยากให้กายเห็นเค้กก่อน เสียงกายหัวเราะคิกคักดังมาจากห้องนั่งเล่น แดนนี่ตั้งใจว่าจะผ่านห้องนั่งเล่นขึ้นชั้นบนเลย แต่เมื่อเดินผ่าน ภาพที่เห็นก็ทำให้เขาถึงกับตะลึง  เท็ดนอนอยู่บนโซฟา มีกายนั่งคร่อมอยู่บนอก ปากของทั้งสองพัวพันกันดูดดื่มขณะที่มือของเท็ดลูบไล้บนอกเปลือยของกาย
         “นี่มันบ้าอะไรกัน!!” เสียงตวาดของแดนนี่ทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองสะดุ้งเฮือก เท็ดผุดลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจขณะที่กายเลื่อนลงมากองอยู่บนตัก ทั้งสองหน้าซีดขาว แดนนี่ปราดเข้าไปกระชากกายเหวี่ยงออกแล้วต่อยเท็ดแบบไม่นับ
          “อย่าพ่อ!…อย่าทำเท็ด…อย่า!” กายหวีดร้องตื่นตระหนก ขณะที่เท็ดปล่อยให้แดนนี่เตะต่อยจนเลือดอาบไปทั้งหน้า กายโถมเข้าไปผลักสุดแรงจนแดนนี่เซถลา เมื่อหันกลับมาก็เห็นกายกอดเท็ดแน่น เขาโกรธจนหน้ามืด กระชากผมนิ่มขึ้นมาก่อนจะตบฉาด ใบหน้าเล็กสะบัดไปตามแรงตบ เท็ดผวาลุกขึ้นคว้ามือแดนนี่ไว้ พร้อมกับดึงกายออกไปไว้ด้านหลัง
         “อย่าพ่อ!…อย่าตีกาย”
         “แกยังมีหน้ามาเรียกฉันว่าพ่ออีกเรอะ ไอ้สารเลว! ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะกล้าทำกับฉันอย่างนี้…ฉันจะฆ่าแก!”
         “อย่า!…พ่ออย่า” กายพยายามจะเข้าขวาง แต่เท็ดกระชากเขาออกเมื่อพายุหมัดและเท้าประเคนเข้าใส่ กายสะบัดหลุดแทรกเข้าไปในระหว่างเท็ดและแดนนี่ เป็นจังหวะที่แดนนี่ต่อยลงมาเต็มแรง ร่างเล็กหมุนคว้างก่อนจะล้มลงในอ้อมแขนของเท็ด
         “กาย!!” เท็ดอุทานอย่างตื่นตระหนก แดนนี่ตะลึงชั่วครู่ก่อนจะก้มลงกระชากกายขึ้นมากอดไว้แน่น ดวงตาที่มองเท็ดเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ชิงชัง และเจ็บปวด ใบหน้าแตกยับเลือดอาบนั้นไม่ได้ทำให้เขาลดโทสะลงเลย กลับทำให้ความโกรธท่วมท้นจนอยากฆ่าให้ตายคามือ  
         เสียงเปิดประตูและกรีดร้องอย่างตื่นตระหนกของดาน่าทำให้ทั้งสองหันไปมอง ดาน่าถลาเข้ามากอดเท็ดไว้ เลือดจากบาดแผลหลายแห่งยังไหลไม่หยุด
         “เท็ด!…โธ่ลูก!…แดนนี่ ทำไมทำกับลูกอย่างนี้?” ดาน่าเงยหน้ามองสามี ดวงตาของแดนนี่บ่งบอกถึงความเกลียดชัง เกรี้ยวกราด แต่ร่างเล็กอ่อนพับในอ้อมแขนทำให้เธอตกใจมากกว่า  “กาย…ลูก!” ดาน่าโผเข้ากอดกายไว้แน่น แดนนี่ปล่อยให้ภรรยาดึงกายออกไป แต่พอเห็นเท็ดเอื้อมมือไปหากาย เขาก็กระชากแขนเท็ดออก
         “อย่าเอามือสกปรกมาแตะลูกฉัน! ออกไปให้พ้นจากบ้านนี้ แล้วไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก ไอ้วิปริต ไอ้เนรคุณ ออกไป๊!!”  
         เท็ดยันตัวลุกขึ้น เจ็บแปลบไปทั่วร่างกาย แต่ไม่ได้ครึ่งของความเจ็บปวดที่ใจ สายตาเกลียดชังขยะแขยงของแดนนี่ทำให้เขาเจ็บยิ่งกว่าถูกเตะต่อย  แดนนี่หันไปดึงร่างบอบบางของกายอุ้มลิ่วขึ้นชั้นบน เท็ดกลับเข้าห้องเก็บเสื้อผ้าเท่าที่เห็นใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว ภาพถ่ายครอบครัวและภาพของเขากับกายถูกวางลงในกระเป๋าอย่างบรรจง เขาเหลียวมองรอบห้องอีกครั้ง ใจหายเมื่อคิดว่าจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว
         “เท็ด” ดาน่ายืนอยู่หน้าประตูน้ำตานองหน้า เท็ดยืนนิ่งพูดไม่ออก เสียใจที่ทำให้แม่เจ็บปวด ดาน่าเดินเข้ามาจนชิดดึงเท็ดเข้าไปกอด อ้อมแขนของแม่ยังคงอบอุ่นและหอมกรุ่นเหมือนเมื่อ14ปีที่แล้ว เขากัดฟันตาร้อนผ่าวแต่ไม่มีน้ำตา
         “ไปหาแมรี่นะลูก ไว้พ่อหายโกรธแล้วแม่จะโทรหาลูก”
         “แม่ครับ ผมขอโทษ  ผมผิดเองครับแม่…ผม…”
         “หยุดเถอะลูก เท็ดไม่ผิดหรอก ไปซะก่อนนะลูกนะ แล้วแม่จะโทรไปหาตอนที่พ่อเขาสงบแล้วนะ”
         “แม่ครับ ฝากกายด้วยนะครับ  บอกเขาด้วยว่าผมรักเขามากและขอโทษที่ทำให้เขาเจ็บตัว”
         “โธ่เท็ด!…แม่จะบอกกายเหมือนที่ลูกพูดทุกคำ ไปเถอะลูก” ดาน่าจูบแก้มที่แตกช้ำไปด้วยเลือดเบาๆ เท็ดคลายอ้อมแขนออก เงยหน้ามองห้องของกายก่อนจะก้าวออกไปจากบ้าน
         “แล้วพี่จะกลับมา…รอพี่นะกาย” เท็ดส่งใจขึ้นไปให้คนข้างบนขณะที่ขับรถออกจากบ้าน  ……              
         “กาย…เป็นไงบ้าง เจ็บรึเปล่าลูก?”
         “แม่!…แม่ฮะ!” กายน้ำตาไหลเมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นดาน่า เขาขยับเข้าไปกอดเอวผู้เป็นแม่แน่น  “แม่ครับ เท็ดเป็นยังไงบ้าง…เท็ดเจ็บมากไหม?”
         ดาน่าลูบน้ำตาออกจากแก้มเนียน หน้าอีกซีกยังบวมเป่งและเริ่มเขียวช้ำ ในชีวิตเธอไม่เคยตีลูกสักแปะแต่แดนนี่ทำให้กายเจ็บขนาดนี้
         “แม่ครับ!..เท็ดเป็นอะไรรึเปล่า?”กายเสียงสั่นตัวสั่นอย่างตื่นตระหนก เมื่อคิดว่าแดนนี่อาจทำร้ายเท็ดจนบาดเจ็บสาหัส
         “ไม่ลูก เท็ดไม่เจ็บมากหรอก อย่าลืมนะจ๊ะว่าเท็ดน่ะเป็นนักกีฬา แค่นี้ไม่เป็นอะไรหรอกลูก”
         “แล้วทำไมเท็ดไม่มาหาผม…หรือว่า…พ่อไม่ให้เข้ามา”
         “เท็ดไปอยู่ที่อพาท์เม้นท์แล้วลูก รอให้พ่อใจเย็นๆ กว่านี้ แล้วเราค่อยคุยกัน”
         “แม่ครับ..เราผิดมากใช่ไหมที่รักกัน ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง”
         ดาน่าถอนใจยาวลูบผมนุ่มบนตัก“กาย…ความรักน่ะไม่มีคำว่าถูกหรือผิดหรอกลูก  แม่เชื่อว่าสักวัน พ่อเขาต้องเข้าใจในลูกทั้งสอง ขอแต่ลูกมั่นคงต่อกันก็พอจ๊ะ”
         กายมีสีหน้าดีขึ้น“ป่านนี้เท็ดจะเป็นยังไม่รู้”กายพึมพำเบาๆดาน่าฝืนยิ้มค่อยๆวางศีรษะเล็กลงบนหมอนคลี่ผ้าออกห่มให้ จูบที่แก้มแล้วจึงออกไปจากห้อง

         “โปรเฟสเซอร์ครับ ผมคิดว่าผมจะรับทุน”  มอริสหัวเราะดังลั่น ย้ายร่างอ้วนกลมขึ้นจากเก้าอี้มาตบไหล่ศิษย์คนโปรดดังป๊าบ!! ดีใจที่เขาประวิงเวลาไว้ไม่ยอมตอบปฏิเสธทุนให้เท็ด ในบรรดาศิษย์ที่เขาสอนมาเท็ดเก่งที่สุด จะมีนักวิจัยการตลาดกี่คนที่สามารถทำให้มหาวิทยาลัยเล็กๆมีชื่อเสียงขึ้นมาได้ เพราะรางวัลชนะเลิศจากงานวิจัย3ปีซ้อน แถมเท็ดยังจบก่อนเพื่อนๆอีกเกือบปี ทุนแสนหินนี้จึงได้มาอย่างไม่น่าเชื่อ
         “ฉันจะตอบรับไปวันนี้เลย จะตอบไปที่สำนักงานใหญ่เลยเชียวล่ะไม่ผ่านมหาวิทยาลัยแล้ว ชักช้าน่าเบื่อ”
         เท็ดยิ้มเนือยๆ เขาตัดสินใจรับทุนเพื่ออนาคตของเขาและกาย นี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น เขาคงต้องแอบไปบอกกายที่โรงเรียน เกือบเดือนแล้วที่เขาออกมาจากบ้านแต่ไม่มีการติดต่อจากดาน่าและกายเลย เท็ดคิดว่าพ่อคงสั่งห้ามไม่ให้ทั้งสองติดต่อกับเขา

         กายถอนใจอย่างหงุดหงิด เกือบเดือนแล้วที่เขาไม่ได้ออกจากห้องนี้เลย แดนนี่ล็อคกุญแจขังไว้แถมยังไม่ยอมให้เขาใช้โทรศัพท์ด้วย แม่บอกว่าแดนนี่แจ้งทางโรงเรียนว่าเขาอาการไม่ค่อยดีขอหยุดยาว แม้ริชมาเยี่ยมก็ไม่ได้ขึ้นมา
แดนนี่กับกายก็ไม่พูดกันเลยตั้งแต่วันนั้น

         เท็ดถอนใจเฮือกเมื่อเห็นประตูโรงเรียนปิดอีกครั้ง 5วันแล้วที่เขามาดักเจอกาย แต่ก็ไม่มีวี่แววว่ากายจะมา เท็ดตัดสินใจเขียนจดหมายถึงกาย แล้วเอาไปฝากป้าแมรี่ให้ส่งให้กายด้วย เขาอยากเจอกายอีกสักครั้งก่อนไปเรียนต่อ  แต่ป้าก็กลับมาพร้อมความผิดหวัง เพราะแดนนี่ไม่ยอมให้ป้าเข้าไปหากายในห้องด้วยซ้ำ เท็ดนอนก่ายหน้าผาก พรุ่งนี้เขาต้องไปแล้วแต่เขายังไม่ได้บอกอะไรกายเลยสักอย่าง เขาอยากให้กายรู้ว่าเขารับทุนนี้เพื่อสร้างอนาคตของทั้งคู่ เท็ดพลิกตัวกระสับกระส่ายนอนไม่หลับทั้งคืน

         เสียงไขประตูทำให้กายรีบผุดลุกขึ้น แต่ผู้ที่เข้ามากลับไม่ใช่ดาน่า กายเบือนหน้าหนีเม้มปากแน่น แดนนี่กัดกรามกรอด ทั้งที่กายเป็นคนผิดแต่กลับมาทำท่ายะโสใส่เขา แดนนี่โยนหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นบนเตียง
         “ดูซะสิ! คิดถึงมันนักไม่ใช่เหรอ? จะบอกอะไรให้ มันน่ะตามไปเรียนกับแฟนมันแล้ว”
         กายเหลือบมองหนังสือพิมพ์แล้วทำท่าจะเดินหนี แต่ภาพคุ้นตาทำให้ต้องคว้ามาอ่าน เท็ดถ่ายภาพขณะรับโล่ห์จากนายกเทศมนตรีข้างๆมีสาวสวยผม บลอนส์ ข้างภาพมีข้อความถึงการรับทุนของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเล็กๆ ที่สามารถคว้าทุนจากบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ เนื่องจากผลงานชนะเลิศการวิจัยการตลาดระดับนิสิตนักศึกษาจากทั่วโลก ผู้รับทุนจะได้ไปเรียนปริญญาโทที่บอสตัน 2 ปี และจะได้เดินทางไปทั่วโลก เพื่อเป็นตัวแทนของบริษัท ข้อความตอนท้ายแซวถึงความสนิทสนมของนักศึกษาผู้รับทุนกับลูกสาวนายกเทศมนตรี ซึ่งฝ่ายหญิงย้ายตามไปเรียนที่บอสตันด้วยทุนส่วนตัว
         “มะ…ไม่จริง!…ทำไมเท็ดไม่บอกผม?” กายครางเสียงแผ่ว กระดาษแผ่นหนึ่งถูกร่อนมาตกข้างเท้า
         “มันไม่บอกเพราะมันไม่คิดจะจริงจังกับแกน่ะสิ ดูซะสิมันได้ทุนตั้งแต่เมื่อ3 เดือนที่แล้ว มันบอกแกรึเปล่า?… ไม่สินะ เลิกละเมอเพ้อหามันได้แล้วไอ้รักวิปริตผิดเพศนี่น่ะ ผู้ชายมันจะสู้ผู้หญิงจริงๆได้ไง ก็แค่ของเล่นใกล้ตัวเท่านั้น”
         “หยุดนะ! ออกไป…ไป๊!!” กายกรีดร้องโหยหวน…ตัวสั่นระริก…หน้าซีดขาวเหมือนกระดาษ แดนนี่ชะงักเพิ่งรู้สึกว่าเขาพูดแรงเกิน ความโมโหทำให้เขาทำร้ายลูกมากไปแล้ว แดนนี่ยอมถอยออกมาจากห้อง  กายหยิบหนังสือพิมพ์กับจดหมายขึ้นมาดูอีกครั้งก่อนจะฉีกเป็นชิ้น ๆ
‘ทำไมเท็ดถึงไม่บอกเราเรื่องทุน? ไม่แม้จะเอ่ยถึงว่าขอทุนด้วยซ้ำ ทำไม?..ทำไม?…หรือสิ่งที่พ่อพูดจะเป็นเรื่องจริง ไม่!!…ไม่เชื่อ!! เท็ดรักเราและเราก็รักเท็ด เราไม่เชื่อว่าเท็ดจะเห็นเราเป็นแค่ของเล่น’ กายขดตัวลงบนเตียง น้ำตาไหลพราก คิดจนปวดหัวไปหมด ไม่…เขาต้องถามจากปากเท็ดเท่านั้น ความจริงต้องไม่ใช่แบบนี้  กายผุดลุกขึ้น ได้ยินเสียงดาน่ากับแดนนี่ทะเลาะกัน เขาดึงคัตเตอร์มากรีดผ้าปูที่นอนเป็นชิ้นๆแล้วผูกต่อกันปีนออกมาทางหน้าต่าง เขาจำได้ว่ากุญแจรถอยู่ในห้องทำงานของแดนนี่ กายงัดหน้าต่างบานที่รู้ว่ากลอนเสียเข้าไปในห้อง คว้ากุญแจรถของดาน่า แล้วก็เปลี่ยนใจ หากแดนนี่คิดตามมาคงไม่ใช่เรื่องยากเพราะรถของพ่อใหม่และเร็วกว่ารถแม่ กายจึงคว้ากุญแจรถของพ่อและแม่ออกมาพร้อมกัน ทั้งพ่อและแม่คงต้องวิ่งหารถสักพักกว่าจะตามเขาทัน เพราะรถของดาน่าไม่มีกุญแจสำรอง
         เสียงสตาร์ทรถทำให้แดนนี่และดาน่าชะงัก ต่างวิ่งไปชะโงกดูที่หน้าต่างอย่างตกใจ รถโฟลวิลล์คันใหญ่ของแดนนี่ถูกขับออกไปอย่างรวดเร็ว
         รอบตัวกายมืดลงอย่างรวดเร็ว หิมะตกหนักอีกครั้ง ที่ปัดน้ำฝนทำงานหนักขึ้น เขาเร่งความเร็วขึ้นไปอีก รถส่ายไปมาเพราะความลื่นของถนน หัวใจของกายร้อนเร่าเจ็บปวดเหมือนหายใจไม่ออก โทรศัพท์ในรถดังขึ้น กายหยิบขึ้นมาเห็นเบอร์ก็กดรับสาย แมรี่…ใช่! แมรี่น่าจะรู้ว่าเท็ดอยู่ที่ไหน
         “ป้าครับ”
         “กาย!…เป็นไงบ้างลูก พ่อเขายอมให้ออกจากห้องแล้วเหรอ?”
         “ป้าครับ! ป้ารู้ไหมเท็ดจะไปบอสตันเมื่อไหร่?”
         “เห็นว่าคืนนี้ตอน 2 ทุ่ม ทำไมหรือลูก?”
         “โอ!พระเจ้า!2ทุ่ม…”
         “กาย!  กาย!”
         กายปิดโทรศัพท์ นี่เกือบ2ทุ่มแล้ว เขามีเวลาแค่20นาทีเท่านั้น จากที่นี่ไปสนามบินคงไม่ทันแน่ๆ แต่ที่พักของเท็ดใกล้สนามบินนิดเดียว บางทีเท็ดอาจยังอยู่ในห้อง กายรีบคว้าโทรศัพท์กดหาเท็ด เสียงแบตดังเตือนแล้วดับวูบไป
   “ปัดโธ่โว้ย!ไอ้โทรศัพท์บ้า…โทรศัพท์…ต้องโทรศัพท์หาเท็ดก่อน”  กายเลี้ยวเข้าไปจอดแทบจะชนกับตู้โทรศัพท์สาธารณะ อากาศเย็นเฉียบนอกรถไม่ได้ทำให้ร่างบางที่สวมเพียงชุดนอนรู้สึกรู้สม เขาหยอดเหรียญมือสั่นระริก
         “เท็ด…เท็ด…รับสิ..โธ่!”  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น 1 ครั้งก่อนจะตัดเป็นเสียงจากเครื่องตอบรับ
         “เท็ดครับ…ตอนนี้ผมไม่อยู่  กรุณาฝากข้อความและเบอร์โทรกลับไว้นะครับ”
         “เท็ด…เท็ด…อย่าทิ้งผมไป…พี่บอกว่าพี่รักผมไม่ใช่เหรอ…เท็ด…เรารักกันไม่ใช่รึไง…เท็ด..ได้โปรด…อย่าทิ้งผม…ผมจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีพี่…เท็ด…ฮือ…”  กายทรุดลงคุกเข่ากับพื้น เสียงสัญญาณตัดไปแล้ว อากาศเย็นเฉียบเหมือนกับหัวใจที่หนาวยะเยือก
         ‘ไม่ๆเราจะไม่มีวันยอมให้เท็ดไป เท็ดพี่รอผมนะ’ กายผุดลุกขึ้นวิ่งไปที่รถ สตาร์ทแล้วเหยียบคันเร่งจนมิด รถพุ่งออกจากข้างทางอย่างรวดเร็ว เป็นจังหวะเดียวกันที่รถอีกคันที่ขับตามมาเพิ่งพ้นจากโค้ง ความเร็วของรถบวกกับถนนที่ลื่น ทำให้ไม่สามารถเบรคได้ รถ6ล้อบรรทุกของกระแทกบริเวณท้ายรถโฟลวิลล์จนพุ่งเข้าหาราวเหล็กข้างทาง  กายหมุนพวงมาลัยสุดแรงทำให้รถหมุนคว้างแล้วกระแทกกับราวเหล็กอย่างจังจนราวหักออก กายพุ่งปะทะกระจกหน้ากระเด็นออกมา ทั้งรถและตัวเขาพุ่งลงสู่พื้นเบื้องล่าง เขาเจ็บแปลบไปทั้งศีรษะ รู้ว่ากำลังตกจากที่สูง ภาพเท็ดรับทุนผุดวาบขึ้นมา
         ‘เท็ด…พี่ทิ้งผม..’ แล้วทุกอย่างก็ดับวูบไป…
            
.............
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วววววววว 16/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 16-10-2009 22:19:19
........
         เท็ดก้มลงมองตั๋วเครื่องบินในมือ อีกไม่ถึง10นาทีเขาจะต้องไปจากที่นี่ ทั้งที่มั่นใจว่าวิธีนี้จะช่วยให้สถานการณ์ของครอบครัวดีขึ้น แต่หัวใจก็ยังเร่าร้อนทุรนทุราย เขายังไม่ได้บอกกายสักคำว่าจะไป  กายจะโกรธเขาไหม จะเข้าใจหรือเปล่าว่าเขาทำทุกอย่างเพื่ออนาคตของกายและเขา
         “…เท็ด…” เท็ดสะดุ้ง เหลียวขวับไปข้างหลังแต่ไม่เห็นใคร ทั้งๆที่เขาแน่ใจว่าได้ยินเสียงกายเรียก แม้จะแผ่วเบาและเจือเสียงสะอื้นก็ตาม เด็กหนุ่มเหลียวไปมองรอบสนามบิน หรือว่ากายตามเขามา เท็ดเดินลิ่วไปที่ทางออกเพราะคิดว่าพ่ออาจตามมาเอาตัวกายกลับไป แต่มองจนทั่วก็ไม่เห็น วันนี้คนค่อนข้างจะบางตา น่าจะหากันเจอง่าย ๆ
         “เท็ด!…เท็ด!” เท็ดหันขวับไปหาอย่างยินดี แต่ก็ต้องหุบยิ้มฉับพลันเมื่อเห็นคนที่เรียก
         “เท็ด! เร็วเข้า เร็ว!” เท็ดยืนมองริชอย่างหงุดหงิด ถึงจะเจอกันไม่กี่ครั้งแต่เขาก็เกลียดลูกเศรษฐีขี้เบ่งคนนี้ที่สุด  ริชหน้าซีดขาวท่าทางลุกรี้ลุกลนตรงเข้ามาฉุดมือเขา
         “นายเป็นบ้าอะไร…นี่!ปล่อย!!..จะลากฉันไปไหน?”
         ริชไม่ยอมพูดพยายามจะลากมือเท็ดให้วิ่งตาม  เท็ดกระชากแขนออกขยับจะด่า แต่อีกฝ่ายหันมาตวาดอย่างโกรธจัด
         “โธ่เว้ย!!…ชักช้าอยูได้  เร็ว ๆ สิวะ!”
         “ทำไมฉันจะต้องฟังนาย ฉันกำลังจะขึ้นเครื่อง”
         “ไม่ให้ไปโว้ย!” ริชกระชากคอเสื้อ  เท็ดปัดมืออีกฝ่ายออกทันควัน
         “ก็ลองห้ามดูสิ ใหญ่นักเรอะ ไอ้ตระกูลแฮมิลตัลเนี่ยหา!”
         “เออ..ไม่ไปก็อย่าไป..ดี…ถ้ากายเป็นอะไรไปก็อย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน”
         “อะ..อะไร..พูดบ้าอะไร!…กายเป็นอะไร!!?” เท็ดเป็นฝ่ายกระชากคอเสื้อริชซะเอง
         “แม่นายโทรมาบอกว่ากายขับรถพ่อออกจากบ้านจะมาหานาย”
         “อะไรนะ! ไม่!…กาย…เมื่อไหร่…แม่โทรมาเมื่อไหร่!?”
         “สักพักแล้วพอรู้ฉันก็รีบมาห้ามนายขึ้นเครื่องก่อนนี่แหละ นั่นจะวิ่งไปไหน?”
         “ไปหากาย”
         “ไปกับฉัน  ฉันเอารถมา”เท็ดวิ่งตามริชลิ่ว หัวใจร้อนราวกับไฟจี้
         “กาย…เด็กบ้า บ้าระห่ำอย่างนี้ได้ยังไง เจอก่อนเถอะจะหวดให้นั่งไม่ลงเลย”
         ริชสตาร์ทรถแล้วขับปราดออกจากสนามบินจู่ๆก็เบรกกึก
         “ทำไม!?” เท็ดตะคอกอย่างหงุดหงิด
         “เออน่า…เฉย ๆ เถอะ” ริชกดโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ครู่หนึ่งก็มีเสียงรับสาย
         “คุณอาเหรอครับ ริชครับ…คุณอา ผมมีเรื่องขอให้ช่วยหน่อย ผมถูกจิ๊กรถครับ..ทะเบียน xxx คิดว่าน่าจะใช้เส้นทาง X มาสนามบินครับ คุณอาช่วยให้ตำรวจสกัดไว้ด้วยนะครับ…อ้อ!อย่าใช้กำลังนะครับ เพื่อนผมเองสงสัยจะเมาน่ะครับ ขอบคุณครับคุณอา” ริชหันมายักคิ้วให้แล้วขับรถต่อ  เท็ดหมั่นไส้ปนโล่งใจ เป็นครั้งแรกที่เขาไม่ชังน้ำหน้าที่อีกฝ่ายที่ใช้อิทธิพลจัดการเรื่องนี้ให้ ขณะที่เลี้ยวรถเข้าสู่ถนนออกนอกเมือง เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ริชหยิบแฮนด์ฟรีขึ้นมาใส่หู
         “ริชครับ..คุณอาเหรอครับ…ว่าไงนะครับ! ที่ไหน?.. ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
เท็ดใจหายวาบเมื่อเห็นริชหน้าซีดขาว มือสั่นขณะที่ความเร็วของรถถูกเร่งขึ้นไปอีก
         “อะไรริช..มีอะไร!?”
         “อาบอกว่าเจอรถแล้ว”
         “ที่ไหน!…แล้วกายเป็นไงบ้าง?”
         “โค้งข้างหน้านี้…เกิดอุบัติเหตุ..รถตกเหว” ริชเสียงแห้ง พูดตะกุกตะกัก
         “หา! ไม่จริง…โกหก!..ไม่!…โอ!กาย…กาย!” เท็ดเย็นวาบไปหมดทั้งตัว ทันทีที่เลี้ยวเข้าโค้งก็เห็นไฟของรถตำรวจวูบวาบ เขากระโดดลงจากรถตั้งแต่ยังจอดไม่สนิท วิ่งเข้าไปบริเวณที่รถตำรวจล้อมไว้ เห็นราวเหล็กกั้นถนนหักออกเป็นช่อง
แดนนี่ยืนอยู่ตรงราวที่หัก ส่วนดาน่าคุกเข่ากับพื้นถนน เท็ดถลาเข้าไปบริเวณราวกั้น ชะโงกลงไปมองข้างล่าง รอยไฟไหม้เป็นทางจนถึงข้างล่าง คลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหารถซึ่งโผล่แค่บริเวณท้ายขึ้นมาไม่มากนัก แผ่นป้ายทะเบียนตกค้างอยู่ริมหน้าผาต่ำลงไปประมาณ 2 เมตร
         “ไม่!…กาย!…โอพระเจ้า!…ไม่!…ไม่จริง!..กาย!…ก๊าย!!” เท็ดร้องโหยหวน ตำรวจ4คนพุ่งเข้ารวบตัวเขาไว้เมื่อเห็นเขาทำท่าจะโดดลงไป แต่พละกำลังมหาศาลบวกกับอาการคลุ้มคลั่งทำให้ไม่สามารถยึดร่างสูงไว้ได้ ริชโดดเข้าล๊อคคอเท็ดไว้แน่น แม้ขนาดรูปร่างจะไล่เลี่ยกัน แต่กลับยึดไว้ไม่อยู่
         “ปล่อย!! กาย!…พี่จะไปช่วย!..กาย!”
         “โอ้ย!..เท็ด! หยุดนะ!..โธ่เว้ย!..นี่!!” ริชต่อยเข้าที่ปลายคางสุดแรง เท็ดหน้าสะบัดทรุดลงไปกอง ตำรวจที่ถูกสะบัดกระเด็นตรงเข้ามาช่วยกันลากเขาไปที่รถตำรวจ แล้วล๊อคกุญแจมือติดไว้กับประตูรถเผื่อเท็ดฟื้นแล้วคลั่งอีกจะได้จับทัน
         ดาน่าลุกขึ้นยืน น้ำตายังไหลพรากขณะเดินเข้าไปหาสามี โอบกอดร่างหนาไว้แน่น
         “ดาน่า..ผมขอโทษ…เพราะผม…ผมทำร้ายลูก..”
         ดาน่าร้องกรี๊ดเมื่อแดนนี่ทรุดลงกองกับพื้น ริชวิ่งเข้าไปประคอง ขณะที่บุรุษพยาบาล 2 คนรีบวิ่งเข้ามา แดนนี่ถูกหามไปขึ้นรถพยาบาลโดยมีภรรยาตามไปอยู่ใกล้ๆ
         “ปั๊มหัวใจเร็ว คนไข้ช็อค” ดาน่ายกมืออุดปากน้ำตาไหลพราก แดนนี่หน้าเขียวหยุดหายใจดื้อๆ บุรุษพยาบาลต้องช่วยกันปั๊มหัวใจจึงกลับมาหายใจอีกครั้ง ดาน่าหันมาหาริช
         “ริช ฝากกายด้วย”
         “ครับ” ริชรับคำทั้งที่รู้ว่าหมดหวัง ดาน่าหันไปมองรถตำรวจที่เท็ดถูกลากไปไว้ก่อนจะขึ้นรถพยาบาลไปกับสามี

         เท็ดยืนนิ่งตาแดงกล่ำ ร่างกายหนักอึ้งขณะที่สมองว่างเปล่า ตาจับอยู่ที่คณะเจ้าหน้าที่3คนที่ปีนกลับขึ้นมาหลังจากที่พยายามจะลงไปให้ถึงซากรถ คลื่นลูกใหญ่ที่กระแทกเข้าหาฝั่งปิดทางที่จะเข้าไปถึง ซากรถที่เหลือจากแรงระเบิดยังเห็นได้บางส่วน ไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ จะเหลือรอดได้ในเกลียวคลื่นอันรุนแรงนั้น
         “เท็ดกลับเถอะ” เท็ดส่ายหน้าขยับไปใกล้ขอบผา “เท็ด..นายคงไม่…เอ่อ…”
         “ไม่หรอก  ฉันไม่ทำแบบนั้นแน่ ฉันจะรอกาย…”
          ริชส่ายหน้าถอนใจเฮือก เพราะทุกคนเอาแต่ช็อค เอาแต่เศร้าโศก เขาเลยกลายเป็นคนเดียวที่มีสติที่ดีที่สุด แดนนี่เส้นเลือดฝอยในสมองแตกเพิ่งฟื้นเมื่อเช้านี้ หลังจากสลบไป3วัน แต่ก็ยังอ่อนแอมากดาน่าต้องคอยดูแลใกล้ชิด ริชจึงมาช่วยเรื่องกู้ซากรถ คณะเจ้าหน้าที่พยายามจะดึงรถขึ้นมาให้ได้ ความหวังที่จะเหลือผู้รอดชีวิตไม่ถึง0.1% ริชตัดสินใจเรียกหน่วยกู้ภัยพิเศษซึ่งมีฝีมือเยี่ยมมาช่วยก็ล้มเหลวมาหลายครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ยอมแพ้
         “เท็ด..กลับบ้านเถอะ ฉันจะไปส่ง” เท็ดส่ายหน้าทรุดลงนั่งพิงศีรษะกับราวกั้น ไม่สนใจว่าหิมะจะเกาะจนเสื้อเปียกชื้น สายตาจับจ้องอยู่ที่ซากรถ
         “นายกลับเถอะริช ขอบคุณมากที่ช่วยพวกเราทุกอย่าง”
         “ไม่เห็นต้องขอบคุณเลย กายเป็นเพื่อนฉันนะ”
เท็ดพยักหน้าโดยไม่หันกลับมา “กลับเถอะ  โชคดีนะ”  
         ริชขยับจะพูดแต่ก็นิ่งเสีย ตอนนี้พูดอะไรไปเท็ดก็คงไม่รับรู้ ที่ผ่านมาริชรู้จักเท็ดผ่านคำบอกเล่าของกาย ‘กาย…นายอยู่ที่ไหนนะ นายกำลังจะฆ่าคนที่นายรักให้เขาตายทั้งเป็นนะกาย!’ ริชถอนใจเฮือก กระบอกตาร้อนผ่าว กล้ำกลืนความเจ็บปวดไว้ กลับไปขึ้นรถขับออกไป

         เท็ดยังคงนั่งนิ่ง สายตาจับอยู่กับซากรถ ตะวันค่อยๆลดต่ำลง แสงสุดท้ายสาดส่องทั่วบริเวณเป็นสีแดงราวกับอาบด้วยเลือด
         “กาย..ทำไมไม่รอพี่ล่ะกาย..ทำไมไม่รอ?…” เท็ดกดศีรษะให้แนบกับราวกั้นมากขึ้น น้ำตาไหลเป็นทางโดยไม่มีเสียงสะอื้น เขาอยู่ในท่านั้นเนิ่นนาน ไม่หิว ไม่กระหาย ความรู้สึกทางกายเหมือนจะหมดไปเฉยๆ
         แสงไฟจากหน้ารถส่องสว่าง รถคันเล็กจอดลงใกล้ๆดาน่าก้าวลงมา แล้วอ้อมแขนอบอุ่นก็โอบรอบไหล่ ดึงศีรษะเท็ดให้ซบลงบนอก
         “เท็ด…กลับบ้านเรานะลูก” เท็ดหลับตานิ่ง ก่อนจะถอนใจยาว
         “ขอผมอยู่ที่นี่สักพักเถอะครับแม่ ผมอยากอยู่เป็นเพื่อนกาย”
         “เท็ด..แม่เสียกายไปคนหนึ่งแล้ว ถ้าแม่เสียเท็ดไปอีกแม่คงหัวใจสลาย อย่าทำร้ายแม่เลยนะลูก”  เท็ดกอดร่างผอมบางแน่น  
         “ขอโทษครับแม่  ขอผมกลับไปเอาของที่ห้องก่อนนะครับแล้วผมจะกลับมาหาแม่”
         “จ๊ะ” ดาน่าสอดแขนรอบเอว ดึงเท็ดกลับไปขึ้นรถ

         เท็ดเปิดประตูเข้าไปในห้อง อ่อนล้าจนไม่อยากทำอะไร ร่างสูงทรุดลงนั่งข้างเตียง ฟุบหน้าลง ร่างกายหนักอึ้งเหมือนถ่วงด้วยตะกั่ว
         “…กาย…” เท็ดเรียกเสียงแผ่ว ไม่อยากเชื่อว่ากายจะไปจากเขาแล้ว ไม่มีคำอำลา ไม่มีแม้แต่ศพ ความรู้สึกยังเจ็บปวดเกินกว่าจะกลับไปที่ฟาร์มตอนนี้ ดาน่าจึงพาเขากลับมาที่อพาร์ทเม้นท์  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เท็ดนั่งเฉยจนเสียงจากเครื่องตอบรับจบลง
         “เท็ด..แม่นะจ๊ะ พรุ่งนี้แม่จะไปรับตอน10โมงนะลูก พักซะนะจ๊ะ แม่รักลูกจ้ะ” เท็ดนั่งนิ่งไม่อาจขยับเขยื้อนร่างกาย ปล่อยความคิดล่องลอยไปไกล…
         แสงสว่างลอดเข้ามาตรงรอยแยกของผ้าม่าน เท็ดยังคงฟุบอยู่ที่เดิม เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก สิ้นสัญญาณตอบรับก็ได้ยินเสียงห้าวๆดังขึ้น
         “เท็ด ฉันรู้ว่านายอยู่…มีข่าวดีนะ เรากู้ซากรถขึ้นมาได้แล้ว”
         เท็ดรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาพูด
         “ว่าไงนะ! เอารถขึ้นมาได้แล้วเหรอ แล้วกายล่ะ เจอกายไหม?”
         “..ไม่มี..”
         “หมายความว่ากายไม่ได้ติดลงไปกับรถ  กายยังไม่ตายใช่ไหมริช!?”
เสียงริชถอนใจเฮือกมาตามสาย “ฉันอยากให้นายมาดูเองมากกว่า”
         “ตกลง เดี๋ยวเจอกัน” เท็ดวิ่งเข้าไปอาบน้ำ ความหวังที่กายอาจยังไม่ตายเรืองรองขึ้นอีกครั้ง เขากดฟังข้อความจากเครื่องตอบรับขณะหยิบรองเท้ามาสวม
         ‘คุณมี…3ข้อความ….เท็ดแม่นะลูก…น้องออกไปตามเท็ดนะจ๊ะ เอารถพ่อไป ดึงน้องไว้ก่อนนะลูก…ติ๊ดดด…เท็ด…เท็ด…อย่าทิ้งผมไป…พี่บอกว่าพี่รักผมไม่ใช่เหรอ…เท็ด…เรารักกันไม่ใช่หรือไง…เท็ด…ได้โปรด…อย่าทิ้งผม…ผมจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีพี่…เท็ด…ฮือ….’ เท็ดสะดุ้งสุดตัว วิ่งกลับมาที่เครื่องตอบรับ กดฟังข้อความซ้ำแล้วเล่า เสียงสะอื้นบาดลึกเข้าไปในหัวใจ
         “กาย!กาย!…พี่ไม่ได้ทิ้งกาย…พระเจ้า!นี่เราทำอะไรลงไป โอ!กาย…พี่ทำร้ายกายใช่ไหม?เพราะพี่ กายถึงต้องตาย…กาย…โธ่!กาย” เท็ดฟุบหน้าลงกับพื้น หัวใจแหลกสลาย เสียงร้องไห้ เสียงต่อว่าของกายดังสะท้อนกลับไปกลับมาในหัว เท็ด กอดโทรศัพท์ไว้แน่นน้ำตาไหลริน เสียงของกายบอกถึงความผิดหวัง เจ็บปวด  สิ้นหวัง หากเขาไม่รับทุน กายคงยังไม่ตาย เพราะเขาคิดแต่อนาคตไม่คิดถึงความรู้สึกของกาย เขาเป็นคนฆ่าคนที่เขารักอย่างเลือดเย็น เขาทำร้ายพ่อ ทำร้ายแม่ ทำร้ายกาย แม้แต่ชีวิตของกายก็จบลงเพราะเขา เท็ดนอนขดตัวอยู่กับพื้น โลกทั้งใบของเขาแตกสลาย….
................

 :o12:



 :pig4:แล้วเจอกันคะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วววววววว 16/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 17-10-2009 00:00:15
ถึงจะพอรู้มาจากเรื่องถนนสายหัวใจว่า เท็ด กับ กาย ต้องจากกันไปหลายปี
แต่พอมาอ่านแบบนี้แล้ว เศร้าอะ น่าสงสารชะมัด คู่นี้ระทมมาก  :monkeysad:  :m15:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วววววววว 16/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 17-10-2009 01:09:01
ตอนนี้ทำให้รู้รายละเอียดอุบัติเหตุของกาย
แต่คู่นี้ต้องจากกันนานมาก น่าสงสารจริงๆ
บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วววววววว 16/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-10-2009 06:48:06
บีบหัวใจมากเลยตอนกายหายไปตัวไป  o13 o13
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วววววววว 16/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-10-2009 18:15:15
ดันจ้าดัน  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วววววววว 16/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 19-10-2009 22:34:06
 o9  วันนี้ก็ยังไม่มา  :z3:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วววววววว 16/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 20-10-2009 03:56:45
เศร้าจังเลย
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 20/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 20-10-2009 13:47:52
ขอบคุณทุกคอมเมนท์นะคะ เรื่องนี่สงสารกาย สงสารเท็ด T_T

ตามต่อเลยคะ
..................

เสียงกริ่งประตูดังระรัว เท็ดกลับนอนเฉย สมองมีแต่ภาพและเสียงกายวนเวียนไปมาไม่ได้ยินไม่รับรู้สิ่งใดๆอีก ริชตัดสินใจงัดประตูเข้าไป ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นร่างสูงนอนอยู่ที่พื้น เขาวิ่งเข้าไปหา ตอนแรกคิดว่าเท็ดเป็นลมเพราะไม่กินไม่นอนมาหลายวัน แต่เมื่อเห็นอาการตาลอยคว้าง กอดโทรศัพท์แน่น ปากก็พึมพำบางอย่างเบาๆ เขาก็สรุปได้อย่างเดียวคือ ‘สติแตก’ ริชเขย่าอีกฝ่ายแรง ๆ
         “เท็ด! เท็ด! เฮ้ย!” เท็ดยังคงนอนนิ่ง ริชชะโงกเข้าไปใกล้จนได้ยินเสียงพึมพำนั้นชัดขึ้น
         “กาย…พี่ขอโทษ…กาย….กาย…”
         หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ริชตัดสินใจกระชากเท็ดขึ้นนั่งตบฉาดไปบนหน้าแรงๆ   เท็ดกระพริบตาดวงตาเลื่อนลอยเริ่มมีแววจำได้วูบหนึ่ง แล้วก็เลื่อนลอยเหมือนเดิมริชจึงซัดเข้าปลายคางอีกหมัดอีกฝ่ายคอพับไปทันที เขาลากร่างสูงใหญ่ขึ้นบนเตียง เขาพยายามดึงโทรศัพท์ออกเพื่อโทรตามหมอ แต่เท็ดกอดไว้แน่นทั้งที่หมดสติ ริชหอบแฮ่กกว่าจะงัดโทรศัพท์ออกมาได้
         ‘บางอย่างในเทปนี่อาจเป็นสาเหตุให้เท็ดเป็นอย่างนี้’ ริชย้อนเทปกลับ เปิดฟังแล้วถึงกับสะท้านเมื่อได้ยินเสียงกาย เขากัดปากแน่นน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว เสียงของกายบ่งบอกถึงความเจ็บปวดและทรมานใจ ริชรู้สึกแน่นหน้าอก ความทุกข์ทรมานของกายแทรกเข้ามาทุกอณู ริชย้อนเทปกลับแล้วดึงออกจากเครื่องมาใส่ซองแล้วสอดเข้าไปใต้หมอนของเท็ด มิน่าเล่าเท็ดถึงสติแตกขนาดเขายังสั่นไปหมด ร่างสูงยังนอนนิ่งความทุกข์ทรมานปรากฎทั่วใบหน้าแม้ยามไร้สติสัมปชัญญะ





เท็ดทิ้งตัวลงบนพนักเก้าอี้อย่างหงุดหงิด โยนสัญญาจากบริษัทคู่ค้าลงบนโต๊ะ หากตอนนั้นแดนนี่ไม่หมดหนทางจริงๆสัญญาบ้าๆที่แสนเอาเปรียบนี้คงไม่เกิดขึ้น เพียงเพื่อหาเงินมาผ่าตัดกาย แดนนี่ยอมทำสัญญาทาส 15ปีมานี้ม้าพันธุ์ดีตัวงามถูกจิกไปดื้อๆหน้าตาเฉยโดยสัญญาฉบับนี้บังคับไว้
         “คุณจินนี่ ติดต่อทนายให้ผมพรุ่งนี้ด้วย”
         “ค่ะท่าน เมื่อครู่ร้านจัสมินโทรมาบอกว่าดอกไม้รุ่นใหม่จากประเทศไทยเพิ่งมาถึงค่ะ”
         “อ้าวเหรอ!…บ่ายนี้ผมมีนัดอีกหรือเปล่า?”
         “มีงานเลี้ยงคุณเจสสิกาตอน 1 ทุ่มค่ะ”
         “คุณเอาดอกไม้กับกล่องของขวัญไปให้ด้วยแล้วกัน บอกว่าผมติดธุระ บ่ายนี้ผมคงไม่เข้าแล้วนะ”
         “ค่ะท่าน” จินนี่ บูฮอล์ มองตามชายหนุ่มด้วยความชื่นชมแกมอิจฉานิดๆ ชื่นชมในความรักที่เท็ดมีให้‘คนรัก’ของเขาและอดอิจฉาเล็กๆไม่ได้กับผู้ที่ได้ครอบครองหัวใจของชายหนุ่ม เท็ดไปเลือกดอกไม้ให้คนรักด้วยตัวเองทุกครั้ง แต่จินนี่ก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนั้นสักที  เมื่อแรกที่ได้รู้จักเท็ด พอลลิ่งเข้าไปกู้เงินที่บริษัท ขณะนั้นเธอเป็นเลขาฝ่ายสินเชื่อของบริษัทไฟแนนซ์ยักษ์ใหญ่ จินนี่ลาออกแล้วมาขอทำงานกับเท็ดทันที สร้างความตื่นตะลึงปนงงงันจากเพื่อนร่วมงาน แต่จินนี่รู้ว่าเซนส์ของเธอดีพอที่จะมองเห็นอนาคตอันรุ่งโรจน์จากเด็กหนุ่มอายุ21คนนั้น 5ปีเต็มที่จินนี่ทำหน้าที่เลขาและที่ปรึกษาแก่เท็ดมาโดยตลอด เธอเป็นเลขาที่ทรงประสิทธิภาพ ความพยายามของเท็ดและเธอจึงบังเกิดบริษัท‘กายคอปเปอร์เรชั่น’ขึ้นมา กลายเป็นบริษัทเพาะพันธุ์และส่งออกม้าขนาดใหญ่มีออร์เดอร์จากทั่วโลก แต่ชีวิตส่วนตัวของเท็ดกลับเงียบกริบ และไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องของครอบครัวเขามากนัก เพราะทุกคนอยู่ที่ฟาร์มซึ่งห่างจากบริษัทคนละเมือง …ติ๊ด… “มีอะไรจ๊ะ?”
         “มิสบูฮอล์คะ คุณแฮมิลตันขอสายท่านค่ะ”
         “ต่อเข้ามาเลยจ๊ะ…สวัสดีค่ะคุณริช  จินนี่ค่ะ”
         “สวัสดีครับคุณเลขาคนสวย…‘ท่าน’ขี้เต๊ะของคุณอยู่รึเปล่า?”
         “แหม…คุณริชโทรมาช้าไปนิดเดียวค่ะ‘ท่าน’ของดิฉันเพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้เอง”
         “ว้า! ว่าจะชวนไปเที่ยวกันหน่อย คุณจินนี่สนใจจะไปด้วยกันไหมครับ?”
         “คิก…จินนี่ขอผ่านค่ะ  กลัวสายตาพิฆาตของคุณราเชล”
         “โธ่!…ไม่หรอกครับมาเถอะ  ถ้างานนี้ขาดคุณจินนี่การล่องเรือทริปนี้ก็หมดสนุกพอดี”  จินนี่อมยิ้ม ถึงจะรู้ว่าแค่ลมปากของหนุ่มเจ้าชู้ก็อดปลื้มไม่ได้อยู่ดี
         “ไม่ล่ะค่ะ จินนี่ไปไม่ได้จริงๆ ช่วงนี้ใกล้ปิดงบแล้วต้องเคลียร์งานให้เสร็จ”
         “ถ้าเกิดเบื่อบริษัทเล็กๆนั่นจะมาเป็นเลขาส่วนตัวให้ผมก็ได้นะครับ”
         “ขอคิดดูก่อนนะคะว่าจะคุ้มกับที่จะถูกคุณราเชลเชือดรึเปล่า พรุ่งนี้จะเรียนให้ท่านทราบนะคะว่าคุณริชโทรมา”
         “รีบวางเชียวนะ  งั้นสวัสดีครับ”

         “สวัสดีครับ…อ้าว!คุณเท็ดเชิญด้านนี้เลยครับ นี่ครับจัสมินที่เพิ่งส่งมาใหม่”
เท็ดก้มลงพิจารณาใกล้ ๆ “เอ?…ดอกแบบนี้ผมเพิ่งเคยเห็น”
         “ครับ แบบนี้เขาเรียก‘มลิลา’ครับ ส่วนแบบที่คุณเท็ดเคยเห็นเขาเรียก‘มะลิซ้อน’แบบนั้นจะทนทานกว่า ปลูกง่ายกว่า แล้วก็เป็นที่นิยมเพราะเหี่ยวช้ากว่า แต่ มลิลาจะบอบบางกว่ามาก เลี้ยงยากกว่า แต่กลิ่นจะหอมหวานกว่ามะลิซ้อนครับ”
เท็ดแตะปลายนิ้วบนกลีบบอบบาง  ‘เหมือนกาย…บอบบางแต่หอมหวาน’
         “ผมอยากได้แบบนี้ ถ้าผมจะเอาไปปลูกต้องทำยังไงบ้าง?”
         “อ๋อ!ครับ ผมเตรียมข้อมูลไว้ให้แล้ว คิดว่าคุณคงอยากได้แน่ๆ คราวที่แล้วผมได้มา10กระถาง ดอกร่วงหมด พอมาอยู่ที่นี่ก็ไม่ออกดอกเลยไม่ได้ให้คุณดู  นี่ครับข้อมูล เดี๋ยวผมจะขนไปส่งให้นะครับ”
         “แล้วคุณจัดเข้าช่อไว้บ้างหรือเปล่า?”
         “เดี๋ยวจะจัดให้ครับ เพราะกลีบมันบาง ต้องจัดใหม่ ๆ”
         เท็ดออกจากร้านดอกไม้พร้อมมะลิช่อใหญ่ กลิ่นหอมหวานกระจายทั่วรถ เหมือนค่ำคืนที่แสนหวานจะย้อนกลับมาใหม่ ภาพความทรงจำอันงดงามไหลย้อนกลับชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
         “กาย…จัสมินที่น้องชอบไง หอมใช่ไหม?…ที่ร้านเขาเรียก‘มลิลา’ดูสิกายมันบอบบางเหมือนกายเลย พี่ว่าจะเลี้ยงให้แข็งแรงแล้วจะเอาไปปลูกที่บ้านของเรา…กายรู้ไหม ตอนนี้พ่อนั่งรถเข็นได้แล้วนะ ช่วยตัวเองได้มากจนหายจากโรคซึมเศร้าแล้ว แม่ก็กลายเป็นเศรษฐีนีย่อยๆไปแล้วล่ะเพราะเป็นตัวแทนซื้อเพชรขายเพชรให้เพื่อน เห็นว่าจะหุ้นกับเพื่อนเปิดร้าน ส่วนริชกับราเชลก็เหมือนเดิม หึงกันไปหึงกันมา ยิ่งราเชลมาช่วยงานที่บริษัทริชยิ่งขี้หึงยิ่งกว่าเดิมเพราะมีหนุ่มมาเหล่ราเชลเยอะ สมน้ำหน้าเมื่อก่อนอยากเจ้าชู้ดีนัก ตอนนี้กลายเป็นเสือเขี้ยวหักแล้ว…กายรำคาญพี่หรือยัง…พี่คิดถึงกาย..คิดถึงเหลือเกิน…” เท็ดพิงศีรษะกับราวเหล็กกั้นถนน ความเสียหายจากอุบัติเหตุเมื่อ7ปีก่อน ถูกซ่อมแซมจนไม่เหลือร่องรอยใดๆ แต่สำหรับเขาแล้ว ไม่มีอะไรซ่อมแซมหัวใจที่แหลกสลายได้ วันเวลาช่วยให้เขาตั้งสติได้แต่ไม่ได้ช่วยให้ความเจ็บปวดบรรเทาลง ชายหนุ่มทอดสายตาไป‘ที่นั่น’ ‘ตรงนั้น’เป็นจุดที่ซากรถเคยค้างอยู่ เท็ดนั่งอยู่ตรงนั้นจนพระอาทิตย์ลับไปจากขอบฟ้า อากาศเย็นลงอย่างรวดเร็ว อีกไม่กี่เดือนหิมะจะตก เขาถอนใจก่อนจะกลับไปขึ้นรถขับไปที่ฟาร์ม คืนนี้ป้าแมรี่จะพาลูกชายมาเที่ยว เขาต้องไปรับหน้า‘ญาติ’คนใหม่…
               
         จีนส์แอบเบ้ปากเมื่อได้เห็น‘บ้าน’ในฟาร์มขนาดใหญ่แห่งนี้ นี่นะหรือบ้านของเจ้าของบริษัทกายคอปเปอเรชั่น บ้านหลังเล็กๆแม้จะถูกดูแลอย่างดีแต่ก็ไม่เห็นน่าสนใจ เขาเดือดโมโหนึกอยากจะชวนแม่กลับถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นคนขอให้แมรี่พามาที่นี่เอง  ภายในบ้านตกแต่งเรียบๆบรรยากาศอบอุ่น แม้เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะดูเรียบง่าย แต่คนที่โตมากับความหรูหราอย่างจีนส์มีหรือจะดูไม่ออกว่าเป็นของสั่งทำพิเศษขึ้นทุกชิ้น
         “แมรี่…ดีใจที่พี่มานะจ๊ะ…เอ๊ะ!” ร่างโปร่งบางของผู้ที่ก้าวเข้ามาทักทายแมรี่ชะงักค้างเมื่อหันมาเห็นจีนส์ ดวงตาเบิกกว้างหน้าซีดขาว“กาย!”
         “ดาน่า…นี่จีนส์ลูกชายพี่ไงจ๊ะ เขาอยู่กับพ่อที่ซานฟรานฯเพิ่งกลับมาถึงเมื่อวานนี้ ตอนพี่เห็นเขาพี่ก็ตกใจ เขาเหมือนกายมากเลยนะ”
         “ค่ะ…เหมือน..เหมือนมากเลย…ชื่อจีนส์หรือจ๊ะ ขอแม่…เอ่อ..น้ากอดหน่อยนะลูก”
         จีนส์แอบเบ้ปากอย่างอัดอัด นี่ถ้าเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มกล้ามใหญ่จะปล่อยให้กอดจนขาดใจเชียว
         ดาน่าน้ำตารินหัวใจที่เคยคิดว่าเข้มแข็งแล้วกลับเจ็บปวดเหมือนจะทนไม่ไหวอีกครั้ง เด็กคนนี้เหมือนกายเหลือเกิน‘กาย…กายของแม่’
แมรี่โอบไหล่น้องสะใภ้มากอดเบาๆ เสียงรถเข็นดังขึ้นพร้อมกับเสียงทักทายแจ่มใส
         “ทำอะไรกันอยู่ รอตั้งนานแล้วนะ พี่แมรี่แอบนินทาอะไรผมอีกล่ะสิ อ้าว!
ดาน่า ร้องไห้ทำไม?”
         ดาน่ารีบเข้าไปคุกเข่าข้างรถเข็นสามี“แดนนี่คะ พี่แมรี่พาลูกมาด้วย…ดูสิคะ”
แดนนี่เพิ่งเห็นเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ยืนอยู่ข้างหลังพี่สาว เขาตะลึงตาเบิกกว้าง เลือดในกายเย็นเฉียบ “กาย!…โอ!…กายลูกพ่อ!”
         “แดนนี่คะไม่ใช่ค่ะใจเย็นๆ นั่น‘จีนส์’ลูกพี่แมรี่ไม่ใช่กายของเรา”แดนนี่ยังตัวสั่น หน้าที่ซีดขาวเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ สายตาจับจ้องอยู่กับร่างผอมบางที่ก้าวเข้ามายืนใกล้ ๆ
         “สวัสดีครับอาแดนนี่ผมชื่อจีนส์ครับ” แดนนี่รวบร่างผอมบางเข้าไปกอด
กลิ่นน้ำหอมโชยกรุ่นแปลกจมูก เด็กคนนี้เหมือนกายเหลือเกินต่างกันที่สีผมเข้มกว่าและนัยน์ตาเป็นสีฟ้าเข้มแต่ตาของกายเป็นสีเขียว
         “เอาละจ๊ะ ไปทานของว่างกันดีกว่านะ อีกสักครู่เท็ดคงมาถึง พี่เขาคงดีใจที่ได้เห็นจีนส์”
         จีนส์รู้สึกหงุดหงิด เขาไม่ชอบเป็นตัวแทนของใคร ดูเหมือนเขาจะหน้าเหมือนลูกชายของอาที่ชื่อกาย คงเหมือนมากจนใครๆถึงทำท่าตะลึงกันไปหมด เขายกนาฬิกาขึ้นดูอย่างเบื่อหน่ายที่จะต้องมานั่งคอย นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องทำตัวเป็นเด็กดีในสายตาแม่แล้วล่ะก็  เขาจะลุกออกจากบ้านนี้ไปร่อนในที่ที่อยากไปให้สมอยาก
เมืองเล็กๆนี้ไม่น่าสนใจอย่างที่เขาคิด ก่อนหน้านี้เขาหวังว่าจะได้เห็นหนุ่มหล่อควบม้าไปทั่วไร่ ไม่ใช่โรงเรือนเรียงเป็นแถว แถมยังมีแต่คนแก่คร่ำครึนั่งรำลึกถึงอดีตแบบนี้…แกร็ก!…
         “ขอโทษครับ ผมช้าไปหน่อย”เสียงทุ้มมีอำนาจนั้นทำให้จีนส์ลอบชำเลืองมองแล้วหันขวับไปเต็มตัว ใบหน้าคมคายนั้นสะดุดตา เรือนร่างสูงตระหง่านมองเห็นกล้ามเนื้อแน่นดันเสื้อเชิ๊ตออกมาอย่างชัดเจน  ชายหนุ่มผู้มาใหม่ตรงเข้าไปกอดทักทายแมรี่ด้วยท่าทางอ่อนโยน
“เท็ดดูนั่นสิลูก ลูกป้าแมรี่ไง” แดนนี่แนะนำอย่างตื่นเต้น
เท็ดหันไปมองตามแล้วชะงักค้าง ดวงตาเบิกกว้าง “กาย!”
จีนส์ยิ้มหวานที่สุดเท่าที่จะยิ้มได้ทั้งที่ในใจขุ่นมัวที่ถูกเรียกว่า‘กาย’เด็กหนุ่มก้าวเข้าไปหยุดยืนตรงหน้าแล้วยื่นมือให้ “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
เท็ดกระพริบตาเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว เขายื่นมือจับมือเรียวบีบเบาๆ“ยินดีที่ได้รู้จักจีนส์” เท็ดผ่อนลมหายใจช้าๆวูบแรกที่เห็นเขารู้สึกมึนเหมือนถูกทุบที่ศีรษะ คิดว่ากายมายืนอยู่ตรงหน้า แต่เมื่อได้พิจารณาใกล้ๆเขาถึงรู้ว่านี่ไม่ใช่กายของเขา แต่เป็นเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าละม้ายกับกายมากทีเดียว ใบหน้าคมคายกลับไปเย็นชาดังเดิม จีนส์ยิ้มให้แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่สนใจ เท็ดหันกลับไปสนใจคนบนรถเข็นแทน“พ่อเป็นไงบ้างครับ เห็นแม่บอกว่าเมื่อวานหมอมีข่าวดี”
“ฮื่อ..หมอบอกว่าพ่อทำกายภาพได้ผล ถ้าเป็นอย่างนี้อาจจะเดินได้อีก”
“จริงหรือครับ พรุ่งนี้ผมจะไปคุยรายละเอียดกับหมออีกที เผื่อจะมีอะไรที่เราจะต้องเตรียม”แดนนี่ตบบ่ากว้างเบาๆ เท็ดรักและห่วงใยเขาเสมอ ชายหนุ่มยอมทิ้งอนาคตสดใสหันมาบริหารงานในฟาร์มแทน แก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากเขาและสามารถพัฒนาฟาร์มเล็กๆจนกลายเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์ม้าขนาดใหญ่ แล้วกลายเป็นบริษัทโดยมีริชเป็นหุ้นส่วน เขาไม่เคยคิดว่าคนอายุแค่26จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารได้
เท็ดโอบเอวดาน่าพากันเข้าไปยังห้องครัว อาหารถูกจัดเตรียมไว้อย่างสวยงาม เขาเลื่อนเก้าอี้ให้มารดาและป้าจากนั้นก็เข้ามาช่วยขยับรถเข็นของแดนนี่ให้เข้าที่ก่อนจะกลับไปนั่งที่ แดนนี่สังเกตเห็นสายตาของจีนส์จ้องมองเท็ดตลอดเวลา ท่าทางจีนส์จะสนใจเท็ดมากราวกับหญิงสาวสนใจชายหนุ่ม ถ้าเป็นแบบนั้นจริงครั้งนี้เขาจะช่วยให้เท็ดและจีนส์สมหวัง อย่างน้อยก็เป็นการไถ่โทษที่เคยทำไว้กับเท็ดและกาย
         จีนส์ชวนเท็ดพูดคุยตลอดเวลาพยายามเก็บข้อมูลให้มากที่สุด ยิ่งเห็นเท็ดไม่ค่อยสนใจเขาเท่าที่ควรก็ยิ่งอยากเอาชนะ เมื่อกลับถึงบ้านเขาลองเลียบเคียงถามข้อมูลของเท็ดจากแม่และก็ได้รู้ว่ากายไม่ได้เป็นน้อง แต่เป็นคนรักของเท็ดด้วย ข้อมูลนี้ทำให้จีนส์เนื้อเต้น มิน่าเล่าเท็ดถึงได้ตะลึงเมื่อเห็นเขา อย่างนี้โอกาสที่เขาจะได้ใกล้ชิดสนิทสนมจนถึงเนื้อถึงตัวก็คงไม่ยากนัก เด็กหนุ่มยิ้มอย่างหมายมาด ผู้ชายแบบเท็ดเขาจะไม่ปล่อยให้หลุดมือง่ายๆแน่  อยากรู้นักว่ารามอสจะทำหน้ายังไงถ้าได้เห็นเท็ด จีนส์ทิ้งตัวลงนอน ภาพที่คาดว่าจะได้เห็นรามอสจ้องมองเขาและเท็ดด้วยความริษยานั้นทำให้เขาหัวเราะดังๆอย่างสมใจ คืนนี้จึงเป็นคืนที่แสนสุขของเขา

..................
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 20/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 20-10-2009 13:51:34
         กลิ่นจัสมินหอมตลบ เท็ดเหลียวไปรอบๆอย่างตื่นเต้น รอบกายเขามีแต่สีเขียวและขาวของจัสมินที่แข่งกันออกดอกเต็มทุ่งกว้าง
         “เท็ด…ทางนี้ๆ”ชายหนุ่มหันไปมองเห็นกายโบกมือหยอยๆอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาวิ่งไปหากายโถมเข้ากอด เท็ดรัดร่างบอบบางแน่นก้มลงจูบแก้มเนียนแรงๆ กายหัวเราะคิกคักดิ้นหนีแต่เขาไม่ปล่อยง่ายๆ เท็ดรัดร่างเล็กแนบกระชับเบียดริมฝีปากเข้าหาหนักหน่วง เสียงกายประท้วงอู้อี้ก่อนจะอ่อนระทวยลงในอ้อมแขน เท็ดจูบระเรื่อยไปตามซอกคอขาว ร่างของกายเปลือยเปล่า ผิวผ่องเนียนสวยหอมเหมือนดอกจัสมิน เขากอดจูบฟอนเฟ้นทั่วร่างงามอย่างเร่าร้อน เสียงกายหอบกระเส่า
         “เท็ด…เร็วๆ” เท็ดขยับแทรกเข้าหา เสียงกายหวีดร้องอย่างเจ็บปวดจนเขาสะดุ้ง ใบหน้านวลสะบัดไปมาน้ำตาไหลพราก
         “โอ้ย!…เท็ด พี่ใจร้าย…ผมเจ็บ…พี่ทำผมเจ็บ” เท็ดสั่นไปหมดพยายามจะคว้ากายมากอด แต่เด็กหนุ่มดิ้นหนีห่างไปอย่างรวดเร็ว
         “เท็ดใจร้าย…พี่ทำผมเจ็บ  ผมไม่อยู่กับพี่แล้ว!”
         “กาย…พี่ขอโทษ..อย่าไปเลย กลับมาหาพี่ กายอย่าไป!”เท็ดพยายามวิ่งตาม แต่แขนขาเขาหนักอึ้งแทบเคลื่อนไหวไม่ได้
         กายวิ่งไปหยุดชะงักที่ริมหน้าผา ราวเหล็กหักเป็นช่องขนาดใหญ่ เด็กหนุ่มหันกลับมาน้ำตาไหลอาบแก้ม “เท็ดใจร้าย!…พี่ทิ้งผม!…พี่ทำผมเจ็บ!”
         “เปล่ากาย…พี่ไม่ได้ทิ้งกายนะ พี่รักกาย…อย่าไป!กาย!”
         “พี่โกหก!…พี่ไม่รักผมแล้ว  พี่ทิ้งผม!  ผมเจ็บ..ฮือ…เจ็บตรงนี้” กายยกมือขึ้นชี้ที่อก  เท็ดขยับเข้าไปจนใกล้แต่พอเขาเอื้อมมือไปหาร่างเล็กก็หล่นวูบลงไป
         “กาย!!” เท็ดตะโกนสุดเสียงผวาลุกขึ้นนั่ง เหงื่อเปียกท่วม รอบตัวเขามืดสนิท
ชายหนุ่มพยายามควานหาร่างเล็กในความมืดจนมือไปสะดุดกับสวิตซ์ไฟหัวเตียง แสงไฟสว่างพรึบขึ้น เขาเหลียวมองรอบ ๆ อย่างตกใจ
         “กาย!  กาย! หายไปไหนกาย!!”
         เท็ดชะงักเมื่อตั้งสติได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ‘ฝันอีกแล้วสินะ’ เท็ดคู้ตัวลงบนเตียง คอแห้งผาก น้ำตาซึม หัวใจยังคงเต้นระรัว ร่างกายเกร็งสะท้าน
         “…กาย…โอ!กาย…พี่คิดถึงกายเหลือเกิน” เกือบ7ปีแล้วที่เขายังคงฝันร้าย ฝันที่ขึ้นต้นด้วยความสุขและจบลงด้วยการจากลา เขาวิ่งตามไขว่คว้าแล้วกายก็ตกไปตรงหน้าผานั้นทุกครั้ง เสียงต่อว่ายังก้องอยู่ในหู ไม่เคยที่จะหลับสนิท 3ปีแรกที่สูญเสียกายเขาต้องปรึกษาจิตแพทย์ตลอด ยานอนหลับชนิดแล้วชนิดเล่าที่แพทย์เปลี่ยนให้เขาใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เขาติด จนเท็ดต้องเลิกรักษาพราะรู้ตัวดีว่าไม่มีประโยชน์ เขาผุดลุกขึ้นไปเปิดตู้ หยิบเสื้อเชิ๊ตตัวที่กายเคยใส่ในคืนนั้นออกมากอดไว้แนบอกแล้วจึงหลับไปอย่างอ่อนล้า

         “ท่านคะ เอ่อ..มีแขกมารอพบท่านค่ะ บอกว่าเป็นญาติ” จินนี่มายืนรอหน้าห้องทำหน้าลำบากใจ เท็ดขมวดคิ้วพยักหน้ารับรู้ก่อนเปิดประตูเข้าไปข้างใน ร่างผอมบางยืนเอามือไพล่หลังอยู่ริมผนังกระจก จ้องมองแม่น้ำข้างล่าง
         “อ๋อ!..น้องผมเองจินนี่ คุณไปทำงานเถอะ”
         จีนส์หันกลับมายิ้มหยันเชิดหน้าใส่เลขาของเท็ดก่อนจะหันมายิ้มหวานเอาใจ ชายหนุ่มมองท่าทางราวกับเด็กเอาแต่ใจนั้นอย่างขบขัน
         “มีอะไรรึเปล่าจีนส์ ถึงมาหาพี่ที่นี่”
         “แหม!..ก็พี่หายไปเลย ที่ฟาร์มก็ไม่กลับ ผมก็ต้องมาหาพี่น่ะสิ คุณอาทั้งสองท่านคิดถึงพี่ บ่นถึงพี่ทุกวัน อยากให้พี่กลับบ้านบ้าง”
เท็ดขมวดคิ้ว พ่อกับแม่รู้ดีว่าเขางานยุ่งแค่ไหน แล้วเขาก็เพิ่งกลับมาได้2วันทำไมท่านต้องบ่นให้จีนส์ฟัง นอกจากเด็กหนุ่มจะกุเรื่องขึ้นมา แต่คงไม่เป็นอย่างนั้น จีนส์ไม่น่าจะเป็นเด็กขี้โกหก ท่านอาจเหงาแล้วบ่นให้เด็กหนุ่มฟังก็ได้
         “งานพี่ยุ่งน่ะ จีนส์ล่ะสบายดีหรือเปล่า คุณป้าเป็นไงบ้าง?”
         “แม่ก็เหมือนเดิม แต่ผมสิแย่..”
         “ทำไม?”เท็ดเดินไปทรุดนั่งที่เก้าอี้ แทนที่จีนส์จะนั่งที่โซฟากลับเดินมายืนชิดเก้าอี้เขาแทน
         “ก็ผมเบื่อ…คือ…ผมอยากทำงาน แต่แม่ไม่ยอมให้ผมไปทำงานพิเศษ ผมเลยจะมาขอพี่ฝึกงานที่นี่…นะฮะ” จีนส์ทำเสียงออดอ้อน กอดแขนเขาแน่น เท็ดประหลาดใจนิด ๆ ที่แมรี่ไม่ยอมให้ลูกทำงาน แต่รูปร่างบอบบางขนาดนี้ก็คงทำงานอะไรไม่ไหว อีกอย่างแมรี่ก็ไม่มีโอกาสเลี้ยงลูกเลยตั้งแต่เกิด เพิ่งจะได้ลูกกลับมาตอนโตคงอยากดูแลใกล้ชิด
         “เอาสิ…ถ้าจีนส์อยากทำงานก็มาฝึกงานที่นี่ก็ได้ เดี๋ยวพี่จะให้คุณจินนี่จัดการให้”
         “ขอบคุณฮะ  เท็ดใจดีที่สุด” จีนส์ชะโงกเข้ามาหอมแก้มเท็ดรวดเร็ว เบียดเนื้อตัวแนบแน่นขึ้น
         เท็ดมองท่าทางออดอ้อนนั้นอย่างเอ็นดู ถึงจะรู้สึกขัดตากับท่าทางอ่อนหวานมากไปของจีนส์ แต่ก็คิดว่าอีกฝ่ายยังเด็กคงพยายามประจบเอาใจเขาเพื่อทำงานเท่านั้น เท็ดให้จินนี่จัดเตรียมงานให้จีนส์มาทำในวันรุ่งขึ้นตามความต้องการของเด็กหนุ่ม

         จินนี่ถอนใจอย่างอึดอัด ถึงร่วมงานกันมาแค่3วัน แต่เธอก็พอจะเดาจุดประสงค์ของเด็กหนุ่มได้แล้ว จีนส์ไม่ได้คิดจะฝึกงานสักนิดเขาหยิบหย่งรักสบายและสำรวยเกินกว่าจะทำงานได้ งานทุกชิ้นที่มอบหมายให้สุดท้ายจินนี่ก็ต้องเอากลับมาทำเอง แถมยังต้องวุ่นวายคอยรับใช้อีกฝ่ายอีกหลายอย่าง
         “ไม่สบายหรือเปล่าจินนี่?”จินนี่สะดุ้งไม่รู้ตัวว่าเท็ดมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ สายตาที่มองเธอห่วงใยและอ่อนโยน เพราะมีเจ้านายแบบนี้เธอถึงกัดฟันทนเด็กปากร้ายเอาแต่ใจคนนั้นโดยไม่ปริปากบอก เนื่องจากไม่อยากให้เจ้านายไม่สบายใจในปัญหาจุกจิกนอกจากเครียดเรื่องงานแล้ว ก็ไม่อยากให้ต้องเครียดเรื่องไร้สาระ
         “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เมื่อคืนเล่นเนตดึกไปหน่อย”
         เท็ดยิ้มขัน “เหนื่อยก็พักก่อนได้นะ วันนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วนี่ กลับไปพักดีกว่า”
         “แต่ว่า..”
         “ไปเถอะ ผมดูแลเอง วันนี้ขอควบ2ตำแหน่งเลยแล้วกัน”
         “ค่ะ…ถ้า..”
         “คุณจินนี่! ผมสั่งชาไป 10 นาทีแล้วนะ เมื่อไหร่จะได้ซะที พวกสาวแก่นี่ชักช้าน่ารำคาญ” เสียงแทรกจากอินเตอร์โฟนดังขึ้นมา จินนี่หน้าเสียแต่เท็ดขมวดคิ้ว เขาเหลือบมองเลขาสาวเป็นเชิงถาม จินนี่ยิ้มแหยพยักหน้าตอบ ไม่จำเป็นต้องพูดเขาก็เดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับจินนี่
ชายหนุ่มแตะไหล่บางเบาๆ“ไปพักเถอะ ขอโทษด้วยที่ผมเอาภาระมาโยนให้คุณ”
“ไม่เป็นไรค่ะ งั้นดิฉันกลับก่อนแล้วกันค่ะ..เจ้านายอย่าเครียดนะคะ”
“ครับ เจอกันพรุ่งนี้”
         จินนี่เก็บแฟ้มใส่ตู้แล้วคว้ากระเป๋าออกไป เท็ดนั่งลงที่โต๊ะ หยิบแฟ้มหนังสือสัญญาขึ้นมาตรวจดูแล้วพิมพ์
         “จินนี่! หูแตกรึไง! บอกให้ยกชามา ไม่ได้ยินเรอะ!” เท็ดกดปิดสัญญาณแล้วพิมพ์งานต่อ ประตูห้องเขาเปิดออกทันที
         “กล้าดียังไงกด…เท็ด!”จีนส์หน้าซีดเมื่อเห็นคนที่นั่งพิมพ์งานไม่ใช่จินนี่  สายตาคมปลาบเย็นชาและตำหนิ
         “คุณจินนี่ไม่สบายเธอกลับไปนานแล้ว ถ้ามีอะไรให้รับใช้ก็บอกผมแทนได้”
จีนส์ปากสั่น น้ำเสียงเย็นชานั้นทำให้เขาพูดไม่ออก“เท็ด…มานานแล้วหรือครับ?”
         “นานแล้ว”จีนส์หน้าซีดยิ่งกว่าเดิม หมายความว่าเท็ดรู้ตัวจริงของเขาแล้วสิ เขากัดปากแน่นหาทางออก

         “ถ้าเธอไม่อยากทำงานก็บอก พี่ไม่ได้บังคับเธอนะจีนส์ แต่อย่ามาล่วงเกินคุณจินนี่อย่างนี้อีก คุณจินนี่น่ะร่วมงานกับพี่มานาน พี่ไม่อยากให้เธอระคายใจกับเรื่องไร้สาระ”
         “ขอ…ขอโทษครับ…ผมขอโทษ” เด็กหนุ่มทำหน้าเหมือนจะร้องไห้วิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว เท็ดรีบตามไปยึดร่างบางได้ทันตรงหน้าลิฟต์
         “โอเค!…พี่คงว่าเธอแรงไป วันนี้กลับบ้านเถอะแล้วถ้าอยากมาหาพี่ก็มา แต่เธอคงไม่เหมาะกับงานแบบนี้ เอาเป็นว่าถ้าอยากทำงานแบบไหนก็บอกแล้วกันพี่จะหาให้”
         “ขอบคุณฮะ ฝากขอโทษคุณจินนี่ด้วยที่ผมทำกิริยาเลวๆใส่เธอ” เด็กหนุ่มปั้นหน้าสำนึกผิด
         “อย่าพูดอย่างนั้นสิ เอาเถอะพี่จะบอกให้  ไป…กลับบ้านได้แล้ว”
         “พี่ไปส่งผมหน่อยสิ…นะ” จีนส์เริ่มออดอ้อน
         เท็ดถอนใจแต่ก็ยอมไปส่ง เพราะถึงยังไงอีกฝ่ายก็เป็นลูกของป้าแมรี่ คนสำคัญอีกคนในชีวิตเขา จีนส์ลอบยิ้มสมใจกอดแขนแข็งแรงแน่น เดินเชิดหน้าออกจากบริษัทไปขึ้นรถกับเท็ด

............................

แปลกไหมถ้าคนโพสจะบอกว่าชอบจีนส์ 55555+

ขอบคุณคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 20/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-10-2009 21:06:45
หน้าคล้ายแต่นิสัยคงร้ายกว่าเยอะ  o18
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 20/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 21-10-2009 05:16:30
แต่คนอ่านหมั่นไส้จีนส์แฮะ หุหุ
แล้วอีกเมื่อไรกายกับเท็ดจะได้กลับมาเจอกันหละเนี่ย
ต้องจากกันกี่ปีนะ จำไม่ได้แล้ว
บวก 1 แต้มค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 20/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 21-10-2009 09:43:01
นั่นสิครับเท็ดจะได้เจอกับกายอีกหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 20/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: hene2526 ที่ 21-10-2009 10:25:22
เชื่อว่าเด็กคนนี้คงมีมุมน่ารักอยู่แน่นอน แต่ใจจริงไม่อยากให้ใครเอาใครมาทดแทนกัน มันน่าสงสารนะ โดยเฉพาะคนที่ถูกนำมาเป็นตัวแทน
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 20/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 21-10-2009 21:42:46
จีนส์ แค่ี่คล้าย แต่อย่างไงก็ไม่ใช่ กาย อยู่ดี    o16
แบบนี้ท่าทางคงเป็นตัวป่วนในชีวิตเท็ดไปอีกนาน
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ^____^ 22/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 22-10-2009 11:32:29
..........
ขอบคุณทุกคอมเมนท์คะ อ่านกันต่อเลย

......
         “อ้าว!วันนี้ทำไมกลับเร็วจัง จีนส์เพื่อนลูกมาหาแน่ะ” ร่างที่นั่งอยู่ที่โซฟาลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นคนที่จีนส์คล้องแขนอยู่  เด็กหนุ่มผมสีทองหน้าสวยราวกับเด็กสาวส่งยิ้มหวาน ดวงตาที่มองจีนส์เป็นประกายท้าทาย
         “รามอส!” จีนส์หงุดหงิดไม่พอใจเมื่อเห็นเพื่อน เขากอดแขนของเท็ดแน่นขึ้น เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของให้อีกฝ่ายรับรู้ แม้จะเป็นเพื่อนที่รู้จักกันในวงสังคมชั้นสูงเพราะนิสัยใกล้เคียงกัน แต่ลึกๆแล้วต่างฝ่ายต่างต้องการเอาชนะซึ่งกันและกันในทุกๆด้าน
         “พี่เท็ดครับนี่รามอสเพื่อนผมครับ…รามอสนี่พี่เท็ดของฉันไง” จีนส์เน้นเสียงท้ายประโยคมองเพื่อนอย่างรู้ทันขณะที่แนะนำให้อีกฝ่ายได้รู้จักเท็ด  ท่าทางรามอสสนใจเท็ดมากถึงตามเขามาถึงเมืองเล็กๆนี่ เขาแกล้งโทรไปคุยอวดให้อีกฝ่ายอิจฉาเล่นแต่ไม่คิดว่ารามอสจะตามมาจริงๆ รามอสเดินเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมโชยชาย
         “รามอสครับ”
         “เท็ด พอลลิ่งยินดีที่ได้รู้จักครับ” มือเรียวยื่นให้เท็ดจับและยึดปลายนิ้วอุ่นไว้อ้อยอิ่งไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
         “ได้ยินจีนส์โทรไปเล่าถึงคุณจนผมอยากเห็น เท่ห์ขนาดนี้นี่เองจีนส์ถึงไม่ยอมกลับซานฟรานฯ”
         จีนส์หน้าเผือดด้วยความโกรธ ขณะที่เท็ดขมวดคิ้วนิดๆ เขาไม่แน่ใจท่าทีของเด็กหนุ่ม2คนนี้นัก ดูเหมือนเป็นศัตรูมากกว่าเป็นเพื่อนกัน
         “ผมพาจีนส์มาส่งแล้วคงต้องกลับเลยนะครับ”
         “อ้าว!” สามเสียงอุทานพร้อมกัน แต่คนละความหมาย
         “ทำไมรีบกลับล่ะจ๊ะ ป้านึกว่าเท็ดจะอยู่ทานมื้อค่ำกับป้าซะอีก”
         “ขอโทษครับป้า จินนี่ไม่สบาย ผมเลยให้กลับไปพัก นี่ก็ต้องกลับไปทำงานต่ออีกน่ะครับ”
         “แหม..เสียดายจัง ไม่เป็นไรจ้ะวันหลังมากินมื้อค่ำกับป้าบ้างนะลูก”
         “ครับ”
         “เอ่อ…ไม่ทราบว่าคุณเท็ดผ่านโรงแรมปริ้นอาราเบียนหรือเปล่าครับ?”
รามอสผุดลุกขึ้นมายืนข้างๆ
         “อ๋อ..ผ่านครับ คุณรามอสพักที่นั่นหรือครับ?”
         “ครับถ้าไม่เป็นการรบกวน ผมขอติดรถไปลงที่นั่นด้วยคนนะครับ” รามอสพูดด้วยรอยยิ้มแพรวพราว ขณะที่จีนส์ตาลุกวาบด้วยความโกรธ คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะกล้าขนาดนี้
         “ได้สิครับเชิญเลย ผมไปนะครับป้า ไปนะจีนส์ไว้เจอกัน”
         “ไปนะครับคุณป้า บายจีนส์” รามอสส่งยิ้มหยันให้ จีนส์กำมือแน่นด้วยความเจ็บใจจนพูดไม่ออก

         เท็ดขับรถออกจากห้องพักแต่เช้า วันนี้เขารับปากป้าว่าจะพาจีนส์กับเพื่อนไปเที่ยว เขาแวะรับรามอสก่อนเพราะเป็นทางผ่าน พนักงานต้อนรับบอกว่าเด็กหนุ่มให้เขาขึ้นไปรอที่ห้อง
         “รามอส ผมนะ..เท็ด”
         “เชิญครับประตูไม่ได้ล็อค”
         เท็ดขมวดคิ้วไม่ชอบใจในความประมาทของเด็กหนุ่ม เขาเปิดประตูเข้าไป เสียงน้ำไหลบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายอาบน้ำอยู่ ชายหนุ่มปิดประตูตามเดิมเดินไปยืนริมระเบียง แล้วต้องตกใจเมื่อแขนคู่หนึ่งสวมกอดเขาจากด้านหลัง เนื้อตัวเปียกชื้นเบียดกระชับติดแผ่นหลังได้กลิ่นสบู่โชยมาอ่อนๆ เท็ดได้สติดึงแขนเรียวออกแล้วหันกลับไปเผชิญหน้า
         “รามอส!”
         “เท็ด..ผมชอบคุณนะ” รามอสโผเข้ากอดพร้อมแนบริมฝีปากกับอีกฝ่าย ร่างกายเปลือยขาวโพลนเบียดชิดกับแผ่นอกกว้าง  
         เท็ดเบี่ยงหน้าหนีดันร่างบางออกห่าง“ทำอะไรน่ะ”
         รามอสหัวเราะคิก ทอดมองตาหวานเชื่อมก่อนก้าวเข้ามาด้วยท่าทางยั่วยวน        
         “เท็ด…ไม่รู้เหรอว่าทำอะไร…  กอดผมสิ”
         เท็ดยิ้มเย็น มือที่ดันอยู่เลื่อนลงมาจับที่เอวบางยกขึ้นสูงก่อนโยนร่างเด็กหนุ่มลงบนเตียง  รามอสยิ้มหวานตาวาววับท้าวศอก ลากขาข้างหนึ่งขึ้นด้วยท่าทางเชิญชวน  เท็ดหัวเราะในลำคอเบาๆ
         “ถ้ายังอยากไปเที่ยวก็รีบแต่งตัวซะ ให้เวลา5นาที ถ้าไม่ลงไปถือว่าเธอสละสิทธิ์” พูดจบเขาก็ออกจากห้องไปโดยไม่รอฟังคำตอบของอีกฝ่าย
         “บ้าที่สุดเลย” รามอสตบบนที่นอนอย่างเดือดดาล  
         “ชิ…ยั่วถึงขนาดนี้แล้วยังไม่รู้สึก นายก็หมดหวังเหมือนกันแหละจีนส์ ทุเรศจริงๆบอกมาได้ว่าชอบผู้ชาย อุตส่าห์ลงทุนเดินทางมาตั้งไกลลำบากจะตาย”
เด็กหนุ่มบ่นกระฟัดกระเฟียดล้มตัวลงนอนต่อด้วยความเซ็งในอารมณ์ เมื่อรู้ว่าหมดหวังแล้วก็ขี้เกียจจะไปตากแดดตากลมให้ผิวเสียเปล่าๆ จึงไม่สนใจตามเท็ดไปข้างนอกอีก
         ‘ก๊อกๆ’เสียงเคาะประตูทำให้รามอสผุดลุกขึ้นวิ่งออกมาเปิดประตูด้วยท่าทางยั่วยวนเพราะคิดว่าเท็ดอาจเปลี่ยนใจกลับขึ้นมาง้อ แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเห็นบริกรหนุ่มยืนอยู่หน้าประตู
         “เอ่อ…ขอโทษครับ”บริกรหนุ่มหน้าเจื่อนรีบหันหลังกลับเมื่อเห็นเจ้าของห้องอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย
         “เดี๋ยว!” รามอสเรียกไว้ บริกรหนุ่มชะงักแต่ไม่กล้าหันไปมอง
         “มีอะไร?…ฉันแน่ใจว่ายังไม่ได้สั่งอะไรนี่นา”
         “ครับ คือ…คุณพอลลิ่งฝากให้มาเรียนว่าจะรีบไปครับ”
         “หันมานี่สิ”บริกรหนุ่มกลืนน้ำลายหันกลับมาแต่โดยดี สายตาหลุบมองพื้นแต่ก็ยังเห็นปลายเท้าขาว  รามอสยิ้มดวงตาเป็นประกายระยับรู้สึกถูกใจกับบริกรหนุ่มตรงหน้า นอกจากจะรูปร่างหน้าตาดีแล้วบุคลิกยังดีเกินกว่าจะเป็นพนักงานธรรมดา
         “มานี่สิ  ปิดประตูด้วย” รามอสถอยหลังเข้ามากลางห้อง
         “ครับ”บริกรหนุ่มปิดประตูแล้วก้าวเข้ามา ร่างเปลือยก้าวเข้าไปยืนชิด  ดวงตาหวานระยับทั้งเปิดเผยและเชิญชวน
         “ชื่ออะไร…แจ๊ค…เป็นคนฝรั่งเศสเหรอ?” รามอสแตะป้ายชื่อบนหน้าอกกว้าง แล้วลากนิ้วบนอกไปมา
         “ครับเป็นนักศึกษาฝึกงาน”บริกรหนุ่มกลืนน้ำลายเสียงสั่น ร่างเปลือยตรงหน้าสวยงามไร้ที่ติ
         “เธอเลิกงานกี่โมง?”
         “เลิกแล้วครับกำลังจะกลับ ผมอยู่กะดึก”
         “งั้น…ถ้าฉันจ้างเธอเป็นพิเศษให้ทำอะไรให้หน่อยจะได้ไหม?”
         “ไม่ต้องจ้างครับ หากท่านมีอะไรทางโรงแรมยินดีรับใช้ครับ”
         “ว้าว!เป็นพนักงานที่ดีจริงๆมานี่สิแจ๊ค” รามอสดึงแจ๊คเข้าไปในห้องน้ำ เสียงน้ำไหลถูกกลบด้วยเสียงครางกระเส่าดังลอดออกมาจนพนักงานที่จะมาทำความสะอาดรีบถอยออกไปแทบไม่ทัน

         กริ้งๆๆๆๆเสียงกริ่งระรัวปลุกให้ร่างที่ก่ายเกยกันอยู่บนเตียงสะดุ้งตื่น แจ๊คผุดลุกขึ้นคว้าผ้าขนหนูมาพันตัวอย่างรวดเร็ว
         “ดูสิแจ๊คว่าใครมา”รามอสสั่งง่วงๆ เขากับแจ๊คเพิ่งได้นอนใกล้รุ่งนี่เอง หนุ่มเลือดฝรั่งเศสคนนี้ร้อนแรงจนแทบไม่น่าเชื่อว่าเพิ่งกอดผู้ชายเป็นครั้งแรก
         “รามอส!ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยนะ!”เสียงจีนส์ตวาดแหวรามอสลืมตาขึ้นมองอย่างรำคาญ
         “ทำไม?”
         “เมื่อวานนายทำอะไรลงไป…บ้าที่สุด นายทำแผนฉันพังหมด!” จีนส์กระแทกตัวนั่งบนเตียงด้วยความไม่พอใจ
         รามอสยันตัวขึ้นส่งยิ้มหวานเมื่อแจ๊คถือแก้วไวน์มาส่งให้ มือหนึ่งรับแก้วอีกมือโน้มคอชายหนุ่มลงมาจูบหนักหน่วง ขณะที่แจ๊คมีทีท่าขัดเขินเพราะมีบุคคลที่สามอยู่ด้วย แต่พอถูกลิ้นนุ่มรุกไม่หยุดก็เริ่มลืมอาย
         “นี่รามอส! นายหยุดฟังฉันก่อนได้ไหม!” จีนส์เริ่มโกรธที่อีกฝ่ายไม่สนใจเขา
         “อืม…ก็ได้ อ่ะ..ว่าไป” เด็กหนุ่มขยับขึ้นมานั่งบนตักของคู่ขา ปล่อยให้อีกฝ่ายซุกไซ้ลำคอ
         “เพราะเมื่อวานนายไม่ไปด้วยเท็ดเลยขอเลื่อนพาเที่ยวเลย ฉันก็เลยอดเที่ยวด้วย” จีนส์หน้าบูดสนิท
         “อืม…แล้วไง” รามอสตาปรือยกมือขึ้นลูบแก้มสากที่ซุกซนอยู่ข้างแก้มและใบหู
         “ฉันว่าฉันคงต้องรุกเขาแบบไม่ให้ตั้งตัวแล้วล่ะ…ส่วนนายห้ามยุ่งกับเท็ดอีกเด็ดขาด ไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน!” จีนส์ขู่เพราะเริ่มไม่มั่นใจกับเสน่ห์ของตัวเองว่าจะเอาชนะรามอสได้ แม้เท็ดจะใจแข็งยังไงเขาก็ไม่ไว้ใจในความเจ้าเล่ห์แสนกลของรามอสอยู่ดี  ดูหรือชั่วข้ามคืนยังคว้าหนุ่มหล่อมากกได้อีก
         “อืม…อา…รู้แล้วล่ะน่า อย่างนายคนนั้นน่ะเชื่อเลยว่าจุดไฟยังไงก็ไม่ติด ฉันขี้เกียจตอแยแล้ว เวลาเที่ยวของฉันยิ่งมีน้อยอยู่ด้วยแล้วนาย..จะใช้แผนไหนล่ะ..อ๊ะ..” รามอสสะดุ้งเมื่อฟันคมขบที่ติ่งหูแผ่วเบา และมือร้อนกำลังเลื้อยลงไปที่ต้นขา
         “ฉันสืบจนรู้แล้วว่าคอนโดเขาอยู่ไหน แต่ฉันกำลังคิดว่าจะเดินเข้าไปหาเขาดื้อๆหรือใช้ยาช่วยอีกทางดี” จีนส์เริ่มหงุดหงิดเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ฟังเขาเท่าไหร่เลย  ความที่ชอบเที่ยวเหมือนกัน ทำให้เขากับรามอสมักสังสรรค์กันเป็นกลุ่มบ่อยๆทั้งเรื่องยาเรื่องเซ็กส์ การแสดงออกในเรื่องเหล่านี้จึงถือเป็นเรื่องธรรมดา   
         “ฉันว่า…อ่ะ..นาย..ต้องใช้ยาด้วยมั้ง…อืม…แจ๊ค..เดี๋ยว…นายคนนั้นน่ะไม่ธรรมดาเลยนะ…อ๊ะ” รามอสเริ่มกัดฟันพูดเมื่อมือไม้ของบริกรหนุ่มเกาะกุมส่วนไวต่อความรู้สึกของเขาและไม่หยุดง่าย ๆ
         “โอเคงั้นจะใช้ยาช่วย…ขอบใจนะนายช่วยได้มากจริงๆเลย!” จีนส์ประชดผุดลุกขึ้นโยนหมอนใส่แล้วปิดประตูดังปังใหญ่ ขณะที่เจ้าของห้องกำลังนัวเนียโรมรันกันโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างสักนิด
            
           เท็ดเปิดประตูรับจีนส์  พนักงานข้างล่างโทรขึ้นมาบอกว่าจีนส์มาหา เขาแแปลกใจแต่ก็อนุญาตให้ผ่านขึ้นมา คอนโดแห่งนี้เป็นคอนโดพิเศษแต่ละชั้นจะมีเพียง1ห้องและมีลิฟท์แยกเป็นสัดส่วน ระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวด แม้เจ้าของห้องเองก็ต้องสแกนมือและตาทุกครั้งที่จะขึ้นมา เรื่องราคาไม่ต้องพูดถึง แต่นี่เป็นของขวัญจากริชที่ยัดเยียดให้เท็ดแลกกับบ้านหลังเล็กริมทะเลสาบที่ราเชลชอบ จีนส์ตื่นเต้นนิดๆ แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาคิดจะมอมยาเพื่อรวบหัวรวบหาง แต่เท็ดทำให้เขารู้สึกกลัว
         “หวะ…หวัดดีฮะ”      
         “เข้ามาสิ….มีธุระอะไรรึเปล่า” เท็ดรินน้ำเย็นมาส่งให้  จีนส์รับแก้วแล้วยึดมือใหญ่ไว้แน่น
         “เท็ดครับ ผมกลุ้มใจมากเลย ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี…ผม…ฮึก” จีนส์ก้มหน้าน้ำตาหยดลงบนตัก  เท็ดทรุดลงนั่งข้างๆลูบผมนุ่มอย่างอ่อนโยน จีนส์โผเข้ากอดร้องไห้สะอึกสะอื้น
         “ใจเย็นๆ  มีอะไรค่อยๆเล่าสิจีนส์”
         “ผมเล่าไม่ได้ ผมไม่กล้า”  จีนส์เบียดชิดมากขึ้นจนเท็ดรู้สึกอึดอัด
         “แล้วเธอจะให้พี่ช่วยยังไง…จีนส์หยุดร้องก่อนน่า” เท็ดดันร่างบางออก จีนส์นั่งก้มหน้าอยู่นานกว่าจะหลุดคำพูดออกมา
         “เท็ดครับ ขอผมดื่มเหล้าได้ไหมครับ เขาพูดกันว่าดื่มเหล้าแล้วจะกล้าพูด”
เท็ดถอนใจยาวเขาไม่ชอบให้เด็กดื่มเหล้าแต่จีนส์ก็ไม่ใช่เด็กแล้วอายุ 19-20 ก็ถือว่าโตพอสมควร เท็ดไปรินเหล้ามาส่งให้แต่จีนส์ส่ายหน้า
         “ผมขอทั้งขวดได้ไหมฮะ?…แล้วขอให้เท็ดดื่มเป็นเพื่อนด้วย” เท็ดเดินกลับไปหยิบเหล้าและแก้วแล้วกลับมานั่งตรงข้ามกับจีนส์  รินเหล้าลงในแก้วอีกใบ  จีนส์ยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่มรวดเดียวหมด
         “แค๊กๆๆๆ..โอ๊ย!…ขมมากเลย…แหวะขมๆ” เท็ดยิ้มขำหน้าตาเหยเกของจีนส์
         “ก็ใครเขาใช้ให้กินทีละมากๆอย่างนั้นล่ะ…ค่อยๆจิบสิ”
         “ไม่เอาเดี๋ยวไม่เมาแล้วไม่กล้าพูด…ผมเลิกคบกับรามอสแล้วฮะ”  
         “อ้าว!ทำไมล่ะ?” เท็ดขยับตัวตรงสนใจฟังคนตรงหน้า
         “ผมก็รู้จักเขาได้ไม่นาน รู้ว่าเขาเป็นคนชอบเที่ยวแต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นเด็กใจแตกชอบมั่วยามั่วเซ็กส์”
         “หืม…ทำไมถึงว่าเพื่อนแบบนั้นล่ะ?”
         “ก็เมื่อเช้าผมไปหาเขาที่ห้องเจอเขาอยู่กับคู่ขา เมายากันด้วยนะฮะ” จีนส์ใส่ความหน้าตาเฉย ถึงเมื่อเช้าจะไม่เห็นยาแต่พวกเขาก็ใช้กันเป็นประจำอยู่แล้ว  
         “ใจเย็นๆน่าจีนส์…พี่ว่าเราอาจจะเข้าใจรามอสผิดไปก็ได้นะ”
         “ไม่ผิดแน่ฮะ เขาเลวจริงๆนะฮะ เขาเอ่อ…เขา…ผมพูดไม่ได้” จีนส์ยกเหล้าขึ้นดื่มทั้งขวด  เหล้าไหลเลอะเป็นทางลงมาบนคอและอกจนเปียกชุ่ม  เท็ดรีบดึงขวดออก
         “เอ้า!เดี๋ยวก็ตายกันพอดี เหล้านะจีนส์ไม่ใช่น้ำ  นั่นไง…ว่าแล้ว”
         จีนส์ฟุบลงบนโซฟา ศีรษะตกห้อยลงมาเล็กน้อย เท็ดขยับเข้าไปประคองเห็นแก้มเนียนแดงกล่ำกลิ่นเหล้าโชยฟุ้ง
         “เท็ดช่วยผมด้วย” จีนส์เบียดเข้ามาในอ้อมอกกว้างแต่เท็ดกลับดันเขาออกห่าง
         “มีอะไรจีนส์…เมาขนาดนี้จะคุยรู้เรื่องไหมเนี่ย?”
         “รามอสเขาขู่ผมว่าถ้าผมไม่เลิกกับเท็ด ไม่ยกเท็ดให้เขา…เขาจะเอาผมไปแฉที่มหาวิทยาลัยว่าผมติดยา…คู่ขาเขาก็ขู่ว่าจะทำร้ายผม”
         เท็ดส่ายหน้าเรื่องนี้ดูท่าจะเดือดร้อนถึงแมรี่แน่ แต่คำพูดของจีนส์ก็ดูมีพิรุธหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องที่รามอสให้จีนส์เลิกกับเขา
         “หมายความว่ายังไงที่ว่าให้จีนส์เลิกกับพี่ ก็เราเป็นพี่น้องกันจะให้เลิกเรื่องอะไร” จีนส์อึ้งไปครู่หนึ่งก่อนสะอึกติดๆกันและทำท่าจะอาเจียน เท็ดรีบเข้าไปหยิบถังใส่ขยะใบเล็กออกมาให้แต่จีนส์ก็ไม่อาเจียนกลับนอนเงียบเท็ด กลับเข้าไปเปิดน้ำใส่อ่างใบเล็กกับผ้าขนหนูออกมาคราวนี้จีนส์ลุกขึ้นได้แล้วแถมยังถือแก้วเหล้าไว้ทั้งสองใบ
         “อ้าว!ลุกไหวแล้วเหรอ?…ไปกลับบ้านกัน” จีนส์ส่ายหน้า เท็ดดึงแก้วเหล้าออกส่งผ้าขนหนูให้เช็ดหน้า
         “เท็ดอย่าบอกเรื่องนี้กับแม่นะ”
         “ได้สิ ไป..พี่จะพาไปส่ง”
         “ไม่เอาผมอยากดื่ม…ดื่ม เท็ดดื่ม” จีนส์รินเหล้าเพิ่มให้เขาและตัวเองยกแก้วขึ้นชูให้เท็ด แต่เท็ดส่ายหน้า
         “ไม่ล่ะ พอเถอะ”
         “ไม่เอา…เท็ดน่ะ แค่นี้ก็ไม่ได้…ดื่มกันนะเท็ดนะ”
         “งั้นอีกแก้วเดียวแล้วกลับ”
         “ตกลง…เชียส!”
         เท็ดยกแก้วขึ้นดื่มขณะจับตาดูจีนส์ คราวนี้ไม่มีทีท่าว่าจีนส์จะขมสักนิด  ท่าทางจับแก้วกรีดกรายกับคำชวนดื่มสะดุดหู
         “ไป…ลุกขึ้นเดี๋ยวพี่พาไปส่งบ้าน”
         “ผม…อยาก…เอ่อ…” จีนส์วิ่งเข้าห้องน้ำปิดประตูเงียบ เท็ดถอนใจเฮือก
หยิบเสื้อคลุมเตรียมจะออกไปส่ง
         “จีนส์…เป็นไงบ้าง?”
         “เดี๋ยวครับ”
         “อาเจียรหรือเปล่า?”
         “เปล่าครับ”
         เท็ดกลับมานั่งรอที่โซฟา คิ้วเข้มขมวดเมื่อรู้สึกแปลกๆในท้องร่างกายร้อนผ่าวราวกับจะเป็นไข้ รู้สึกเหมือนผิวเห่อหนาขึ้นมาและเสียวยิบๆบนผิวทั่วร่าง  เหงื่อผุดพราวทั้งตัว
         “…เท็ด…” เท็ดหันกลับไปมองเขาไม่รู้ว่าจีนส์ออกจากห้องน้ำตั่งแต่เมื่อไหร่
         “สงสัย…จีนส์ต้องนั่งแทกซี่กลับไปเองแล้ว…พี่ทำท่าจะ…ไม่สบาย”
         “ผมรู้  ผมจะช่วยให้เท็ดสบายขึ้น”
         “จีนส์!…เดี๋ยว!จะทำอะไรน่ะ!”เท็ดดันร่างที่โถมเข้ากอดออกห่างแต่จีนส์ขืนไว้เด็กหนุ่มคุกเข่าลงบนพื้นรูดซิบกางเกงเท็ดออกอย่างรวดเร็วแต่เท็ดกระชากมือจีนส์ออก ผุดลุกขึ้นไปยืนกลางห้อง
         “ทำไมทำแบบนี้? หรือว่า….เธอวางยาพี่!ทั้งหมดนี่เป็นแผนเธองั้นสิ”
         “เท็ดผมรักเท็ดนะ กอดผมสิ…ผมเหมือนกายไม่ใช่เหรอ?คิดซะว่าผมเป็นกายก็แล้วกัน” จีนส์พุ่งเข้ากอดจูบพัลวัล แต่เท็ดเหวี่ยงร่างบางออกไป  เขาคว้าโทรศัพท์มากดหมายเลขมือสั่น
         “อีฟ…ผมเอง..คุณอยู่ที่ไหน…ผมให้เวลาคุณ10นาทีมาให้ถึงห้องผม แล้วผมจะมีรางวัลให้…ไม่! ถ้าช้ากว่านั้นธุรกิจเราจบ!” เท็ดปิดโทรศัพท์ใบหน้าแดงก่ำ  แต่แววตาที่มองจีนส์แข็งกร้าว
         “บ้าที่สุดเท็ด!พี่เรียกคนอื่นมาทำไม? ผมอยู่ตรงนี้ทั้งคนให้ผมช่วยพี่นะ”
         “กลับไปซะจีนส์  อย่าให้ฉันต้องใช้ความรุนแรงกับเธอ!”  จีนส์ยักไหล่ถอดเสื้อโยนทิ้ง ก้าวเข้ามาหาเท็ดช้าๆ
         “ลองใช้ความรุนแรงดูสิเท็ด…ผมชอบอะไรแรงๆ” จีนส์ก้าวเข้ามาจนชิด เขย่งขึ้นเลียริมฝีปากล่างของเท็ดเบาๆมือลูบไล้แผงอกหนาอย่างยั่วยวน
         “เห็นไหม ตัวพี่กำลังต้องการผม กอดผมสิเท็ดแล้วพี่จะรู้ว่าผมเหนือกว่ากายแค่ไหน…”
         เท็ดยิ้มเย็นช้อนร่างบางขึ้นอุ้ม จีนส์พริ้มตาซุกหน้ากับอกกว้างเสียงเปิดประตูเบาๆแล้วจู่ๆเท็ดก็ปล่อยเขาลง…ตุ๊บ! “โอ๊ย!” จีนส์อุทานอย่างตกใจ  เท็ดดึงประตูห้องปิด  ทิ้งให้จีนส์นอนเปลือยอกอยู่ตรงหน้าลิฟท์ซึ่งกำลังเปิดออก
         “ต๊าย!เล่นอะไรกันจ๊ะ”
 ขายาวเรียวก้าวผ่านจีนส์ไปยืนที่หน้าประตู เคาะเบาๆเป็นสัญญาณ เท็ดเปิดประตูรับ  จีนส์แทรกตามเข้าไปจนหญิงสาวเซ
         “อุ๊ย! เด็กบ้าทำอะไรยะ?”
         “แกต่างหากเข้ามาทำอะไร ไสหัวไปเลยนะ!” จีนส์พยายามผลักผู้หญิงคนนั้นออกไปแต่เท็ดกลับดึงเจ้าหล่อนไว้
         “กลับไปซะจีนส์  ฉันเรียกอีฟเพราะฉันต้องการเขาไม่ใช่เธอ!” อีฟหัวเราะคิกเบียดหน้าอกคู่งามกับอกกว้าง ตาที่มองจีนส์เยาะหยันสะใจ
         “เท็ดจ๋า ใจร้ายไปหรือเปล่าเนี่ย? ดูสิ!จะร้องไห้แล้วนะ”
         จีนส์ปราดเข้าไปกระชากแขนอีฟยกมือขึ้นจะตบ แต่วูบเดียวแขนก็ถูกบิดไพล่หลังจนอกแอ่น
         “โอ๊ย!อีบ้า  ปล่อยนะ! ปล่อยสิโว้ย!”
         “หน้าตาก็ดี แต่พูดจาเหมือนไอ้ตัวชั้นต่ำ!อย่าดูถูกคนอื่นนัก ฉันน่ะยูโดสายดำนะยะ ถ้าจะหักแขนนายละก็สบายมาก ไสหัวไปซะ!” อีฟผลักหัวจีนส์ออกมานอกห้องปิดประตูโครม!จีนส์กรีดร้องโหยหวนอย่างแค้นใจ จู่ๆประตูห้องก็เปิดออก อีฟชะโงกหน้าออกมากรีดนิ้วโยนเสื้อกับกระเป๋าของจีนส์ออกมา แล้วปิดประตูใส่หน้าจีนส์อีกครั้ง
..........


หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ^____^ 22/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 22-10-2009 11:36:47
.........
         กริ๊ง!ๆๆๆๆ  ปัง!ๆๆๆๆเสียงกริ่งเสียงทุบประตูดังระรัว  รามอสถอนใจเฮือกอย่างหงุดหงิด  แจ็คคว้าผ้าขนหนูมาพันเอวลุกออกไปเปิดประตูให้  จีนส์แทรกเข้ามาอย่างรวดเร็ว เหวียงเป้ที่สะพายลงบนพรมไม่สนใจว่าของข้างในจะเสียหาย
         “ไอ้บ้า!ไอ้ทุเรศ!คอยดูนะรามอส ฉันจะทำให้เท็ดคลานมาคุกเข่าอ้อนวอนฉัน  แล้วฉันจะเขี่ยเขาทิ้งเหมือนขยะ!”
         รามอสสบถเบาๆผุดลุกขึ้นอย่างหงุดหงิด “นี่จีนส์!ขอล่ะ นายอย่ามาขัดความสุขฉันนักได้ไหม? อยากทำอะไรก็ไปทำไป๊!ฉันรำคาญนะ”
จีนส์แบะปากดึงบุหรี่มาจุดสูบพ่นควันโขมงแต่แจ็คเดินมาดึงไปดับหน้าตาเฉย
         “อะไร!กล้าดียังไงมาดับบุหรี่ฉัน?จุดมาให้ฉันใหม่เดี๋ยวนี้นะ!”แจ็คยักไหล่ดวงตาเย็นชา  รามอสหัวเราะคิกกวักมือเรียก แจ็ครีบเดินเข้าไปหา
         “หงุดหงิดหรือที่รัก?มานี่สิฉันช่วย” รามอสปลดผ้าขนหนูของแจ็คออก โชว์ความเข้มแข็งของแจ็คให้จีนส์ดู  จีนส์จ้องเขม็งขณะที่แจ็คหน้าแดงเพราะความเขิน  รามอสครอบครองแจ็คไว้ในปาก ชายหนุ่มหลุดเสียงครางแผ่วสะโพกแอ่นเกร็งหน้าแดงก่ำ มือลูบไล้ผมนุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ที่สะโพกเขาเพื่อระบายอารมณ์ 
จู่ๆรามอสก็หยุดเหลียวกลับมามองจีนส์ยิ้ม ๆ “สนใจจะร่วมวงกับเราไหม?”
         “คุณรามอส!” แจ็คอุทานอย่างตกใจ  รามอสเงยขึ้นสบตายิ้มหวาน
         “ทำไมล่ะ?ฉันให้เธอเปลี่ยนรสชาติบ้างไง…ดูสิฉันใจกว้างขนาดไหน”
         “ไม่!ผมทำไม่ได้หรอก เราเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ?แล้วจะให้ผมนอนกับคนอื่น ผมทำไม่ได้!”
         จีนส์ร้องกรี๊ด!คว้าแก้วบนโต๊ะขว้างไปถูกผนังแตกกระจาย
“อย่ามาผยองเลย! ฉันก็ไม่พิศวาสแกหรอก เชอะ!ฉันจะคอยดูว่าแกจะถูกรามอสเขี่ยทิ้งวันไหน แฟน เหรอ…ไอ้ปัญญาอ่อนเอ๊ย!” จีนส์คว้ากระเป๋ากระแทกเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว
         รามอสหัวเราะคิกเหนี่ยวร่างสูงให้นั่งลง“แจ็ค…อย่าโกรธสิ…ไม่เอาน่า ฉันแค่แหย่จีนส์เล่นเท่านั้นนะ…ฉันไม่บ้ายกแฟนตัวเองให้คนอื่นจริงๆหรอก” 
         แจ๊คเม้มปาก หน้าคมคายเครียดเขม็ง มือใหญ่หยาบประคองหน้าเนียนสวยไว้อย่างนุ่มนวล“ผมรักคุณนะรามอส คุณเป็นผู้ชายคนแรกที่ผมกอดแล้วผมก็ไม่คิดจะกอดใครอีก…อย่าพูดว่าจะให้ผมนอนกับใครต่อใครล้อเล่นก็ไม่เอา ผมรับไม่ได้...นะครับ”
         รามอสยิ้มหวานตาวาว สอดแขนเข้าคล้องคอชายหนุ่มไว้
“ตกลง…ไม่ล้อเล่นแบบนี้อีก…ฉันสัญญา”รามอสเผยอปาก  แจ็คเบียดปากแนบประกบ ผ่อนร่างบางลงบนเตียง บทรักดำเนินต่อไปอย่างเร่าร้อน

         “ทุเรศ!หล่อตายล่ะ คนอย่างฉันไม่เห็นต้องง้อพวกแกเลย ไปตายซะ  เท็ด ลงนรกไปเลยไอ้แจ็ค! โธ่โว้ย!ทำไมฉันต้องถูกผู้ชายทุเรศๆปฏิเสธถึง2คนด้วย  บ้าที่สุด!”จีนส์สบถลั่นกระชากรถอออกจากโรงแรมอย่างหงุดหงิด เด็กหนุ่มเบรคเอี๊ยดเมื่อถึงไฟแดง กระแทกตัวกับเบาะเพื่อระบายอารมณ์  รถสปอร์ตคันหนึ่งขับมาจอดใกล้ๆ หลังคารถไม่ได้ปิดเห็นชายหญิงในรถกำลังทุ่มเถียงกัน  จีนส์เหลือบมองแล้วมองซ้ำ คงไม่น่าสนใจถ้านักถ้าผู้ชายคนนั้นไม่หล่อบาดใจขนาดนี้  หล่อกว่าเท็ดหล่อกว่าแจ็ค ตาคมเหลือบมาสบกับจีนส์โดยบังเอิญก่อนที่สัญญาณไฟจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้วรถคันนั้นก็กระชากออกไป จีนส์ถอนใจแผ่วๆอย่างเสียดาย อดไม่ได้ที่จะขับตามรถคันนั้น จู่ๆรถสปอร์ตคันนั้นก็จอด ฝ่ายชายลงจากรถแล้วเดินไปตามฟุตบาทขณะที่ฝ่ายหญิงกระชากรถออกไปอย่างรวดเร็วจีนส์ตาเป็นประกายขับรถเข้าไปเทียบฟุตบาทช้าๆ ร่างที่เดินอยู่ตรงหน้าเพอร์เฟคไปหมด ไหล่กว้าง เอวสอบ สะโพกแคบ ช่วงขายาว จีนส์เลื่อนรถขึ้นไปเทียบ ชายหนุ่มเหลียวมามองก่อนจะเปิดประตูรถขึ้นมานั่ง
         “จะไปไหน?”
         “แล้วแต่คุณ”
จีนส์ยิ้มหวาน“ผมไม่ใช่คนที่นี่”
         “งั้นคุณขับรถตรงไปก่อน พอถึงทางแยกข้างหน้าเลี้ยวซ้าย”จีนส์ขับรถไปตามที่ชายหนุ่มบอก…………….
            
         “ท่านคะ  คุณจีนส์มาขอพบค่ะ”
         “ให้เข้ามาเลยจินนี่” เท็ดวางปากกาเงยขึ้นมองประตูที่เปิดออก จีนส์ก้าวเข้ามาในสภาพที่แปลกตา  เสื้อยืดคับติ้วเอวลอยกับกางเกงหนังรัดรูปเอวต่ำเผยช่วงท้องเนียนแน่น  จีนส์ยิ้มหวานปนหยันๆ
         “แหม!อุตสาห์มาทำงานไหวนะฮะ ผมคิดว่าคุณจะสลบไปแล้วซะอีก อึดเหมือนกันนี่”
เท็ดเอนตัวพิงพนักเก้าอี้  สีหน้าและแววตาเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ         
         “เมื่อคืนเธอไม่ได้กลับบ้าน  แม่เธอเป็นห่วงนะ”
         “ตายจริง!ผมลืมโทรบอกแม่ไป ก็เคย์น่ะสิรั้งผมไว้จนเช้า อ้อ!คุณคงไม่รู้จัก เดี๋ยวนะ” จีนส์ชะโงกออกไปเรียก  ผู้ชายคนหนึ่งก้าวเข้ามา  จีนส์คล้องแขนเขาไว้ยิ้มหยันปนโอ้อวดให้เท็ด
         “นี่เคย์แฟนผม เคย์พี่ชายผมน่ะ”เคย์ยักไหล่ยิ้มกวนๆแต่ไม่เข้ามาทักทาย 
เท็ดเพียงแต่เหลือบมองแล้วกลับมามองจีนส์อีกครั้ง“ขอคุยด้วยหน่อยสิ”
จีนส์ยักไหล่ยิ้มเยาะ“ไม่จำเป็น ผมไม่มีอะไรจะพูด”
         “นายออกไปก่อน ฉันจะคุยกับน้องฉัน” เคย์ชะงักทำท่าไม่พอใจ แต่พอสบตากันก็นิ่งขึง หน้าบึ้งกระทืบเท้าออกไป
         “มีอะไร…ทำไมต้องไล่แฟนผมออกไปด้วย?”
         “แฟนเหรอ? เธอเพิ่งรู้จักเขาเมื่อคืนก็เรียกว่าแฟนได้แล้วเหรอ? นี่จีนส์ฉันไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเธอหรอกนะ แต่ผู้ชายคนนี้ดูไม่น่าไว้ใจ”
         “ถ้าไม่อยากยุ่งก็ไม่ต้องยุ่ง!เรื่องของผม ผมเอาตัวรอดเองได้!”จีนส์สะบัดหน้าออกไปอีกคน  เท็ดถอนใจเฮือกตั้งใจว่าถ้าเจอจีนส์จะอัดสักเปรี้ยงโทษฐานที่วางยาเขา  แต่พอเจอเข้าจริงๆกลับนึกเป็นห่วงพฤติกรรมของเด็กหนุ่ม
         เคย์นั่งหน้าบึ้งไม่ยอมพูดด้วยแม้จีนส์จะพยายามเอาอกเอาใจสารพัด
         “เคย์เมื่อไหร่จะหายโกรธผมล่ะ?”
         “เธอเห็นฉันเป็นอะไร? ถึงได้พาฉันไปให้ไอ้ขี้เก๊ก!นั่นเบ่งทับ มันทำเหมือนฉันเป็นขยะ”
         “เคย์ขอโทษนะ  เอางี้ถ้าทำอะไรแล้วคุณหายโกรธก็บอกมาเลย  ผมยอมทุกอย่าง”
         “จริงนะ?”
         “จริงสิฮะ”เคย์ตาวาวมองจีนส์อย่างมาดหมายก่อนจะกลับไปยังโรงแรมเดียวกับรามอส
         จีนส์อึ้งเมื่อรู้ว่าเคย์จะพาเพื่อนมา‘แจม’กับเขาอีกคน  แต่ช่างเถอะไม่ใช่ว่าจะไม่เคย  เขากับรามอสเคยใช้ผู้ชายร่วมกันบ่อยไป  เสียงกริ่งประตูดังขึ้นขณะที่จีนส์แช่อยู่ในอ่างได้ยินเสียงทักทายกันแว่วๆ ประตูห้องน้ำเปิดออกเคย์ก้าวเข้ามานั่งบนขอบอ่าง  มือใหญ่แต่เรียวสวยวักน้ำขึ้นลูบไล้และบีบหลังให้จีนส์เบาๆ  จีนส์เงยหน้าขึ้นมองงอนๆ
         “ผมไม่เคยยอมใครอย่างนี้เลยนะ”
         “ขอบใจจ้ะที่รัก…อ่ะ…นี่…เพิ่มความสนุกของพวกเรา”
         จีนส์มองยา2เม็ดในมือเคย์ “เอ๊ะ!…ทำไมตั้ง2เม็ดล่ะ แค่เม็ดเดียวคุณก็รับศึกไม่ไหวแล้วน่า” จีนส์หัวเราะคิกคักอย่างมีจริต  เคย์ยิ้มหวานแต่นัยน์ตาเย็นเฉียบ
         “น่า…นะผมก็กิน  รับรองคืนนี้สนุกแน่”
         จีนส์เผยอปากรับแต่เคย์กลับเอายาใส่ปากเขาแล้วแนบประกบลงมา มืออีกข้างจุ่มลงมาในอ่าง ลูบไล้ยอดอกเล็กขยี้เบาๆแล้วลากลงไปกอบกุมแก่นกายของเด็กหนุ่ม  จีนส์ขยับขาออกกว้างสอดแขนขึ้นโอบบ่าเคย์ไว้ปากยังคงบดเบียดกันแนบแน่น  เคย์ช้อนร่างบางขึ้นจากอ่างเข้ามาในห้องนอน  ทั้งคู่ทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยกัน  จีนส์รู้สึกว่าร่างกายช่วงล่างถูกรุกรานด้วยปาก  เด็กหนุ่มขยับขาออกกว้างโดยอัตโนมัติ  อยากเห็นผู้ที่กำลังรุกรานแต่เคย์ก็ประกบจูบไม่ปล่อย  เคย์พลิกร่างจีนส์ขึ้นมาบนอกเขาปากยังคงประกบไว้  จีนส์นิ่วหน้าเมื่อรู้สึกว่าสะโพกถูกยกขึ้นสูง นิ้วแทรกเข้ามาในร่างเขาอย่างรวดเร็ว เจ็บปนเสียวนิดๆแต่พอมีเจลช่วยหล่อลื่นความเจ็บก็หายไปเหลือแต่ความเสียวซ่าน  จีนส์หายใจหอบหนัก ยาเริ่มออกฤทธิ์ เขากำลังต้องการมากกว่านี้  ดูเหมือนเคย์ก็รู้ ชายหนุ่มบีบคลึงยอดอกแรงๆ
         “อือ…อื้ออออ”
 จีนส์ครางอยู่ในลำคอเมื่อความคับแน่นแทรกเข้ามารวดเดียวสุด  ยังไม่ทันตั้งหลักความกำยำนั้นก็ขยับลึกแรงจนสะท้านทั้งตัว  นี่หมายความว่าเขาถูก‘รุม’งั้นหรือ?  สัญชาตญาณบอกให้จีนส์หนี!  แต่ร่างกายกลับตอบรับอย่างเร่าร้อนด้วยฤทธิ์ยา  เคย์ลุกขึ้นนั่งดึงหน้าจีนส์ให้ครอบครองเขา  จีนส์หลับตาแน่นร่างกายรองรับการแทรกสอดทั้งจากปากและช่องทางแคบความเจ็บจางหายเหลือเพียงความปราถนา  อารมณ์ดิบฉุดกระชากเขาขึ้นสูงลิบแล้วตกลงมาได้ยินเสียงครางดังลั่นของเคย์และอีกคน  ของเหลวร้อนๆพุ่งเข้ามาในปากและร่างกาย  เคย์เลื่อนตัวไปด้านหลังขณะที่ผู้ที่ครอบครองเขาอยู่ก่อนถอนตัวออกไป แล้วเคย์ก็ชำแรกลึกเข้ามาแทน  จีนส์ได้ยินเสียงโทรศัพท์ เสียงพูดคุยที่จับใจความไม่ได้และเสียงเปิดประตู  จู่ๆเคย์ก็ใช้ผ้าสีดำคาดตาเด็กหนุ่มไว้แน่น
         “เคย์…อ่ะ…เล่นอะไร…โอว!…เดี๋ยว!เคย์…ผมกลัวนะ…อ๊าา…” จีนส์ห้ามไปครางไปเพราะร่างกายยังรับแรงกระแทกอยู่  เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกว่ามีมือมากมายกำลังสัมผัสเขา         
         “อย่า!…เคย์…อะไรเนี่ย!…ปล่อย!…โอ๊ย!…”   
         “อาาาา!!…..” 
         “โอ๊ววววว!!!….” จีนส์กรีดร้องดังบ้าง เบาบ้าง เขารู้ว่ามีคนไม่ต่ำกว่า3กำลัง กรุ้มรุมเขาอยู่  แต่ฤทธิ์ยาก็ทำให้เขารองรับพวกมันครั้งแล้วครั้งเล่า  ไม่ว่าจะเจ็บปวดสักแค่ไหนความปรารถนาก็พาจีนส์ตะเกียกตะกายไปถึงสวรรค์ทุกครั้ง

         รามอสยืนบิดมืออย่างกระวนกระวาย ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาเมื่อเห็นเท็ดออกมาจากลิฟท์  เท็ดจับไหล่รามอส ดันให้เดินไปด้วยกัน
         “ที่ไหนรามอส?”
         “ที่โรงแรมที่ผมพักนั่นแหละ  เมื่อเช้าพอผมกลับเข้ามาเพื่อนของแจ็คก็รีบมาบอก  เขาเข้าไปยุ่งไม่ได้เลยต้องรอให้ผมกับแจ็คกลับมาก่อน นี่ผมให้แจ็คเฝ้าไว้ กลัวพวกมันพาจีนส์ย้ายที่จะตามไม่ถูก”
         เท็ดขับรถปราดออกจากที่จอดยังไม่ทันจะพ้นลานจอดรถสปอร์ตสีเงินก็เลี้ยวมาดักหน้า
         “เฮ้!…จะไปไหนกัน…เอ๊ะ! เอ๋?”
         “มาพอดีเลยริช ไปด้วยกันหน่อย”
         “ไม่ได้!เดี๋ยวราเชลรู้หักคอฉันแน่ เชิญนาย อะแฮ่ม!…คนเดียวแล้วกัน”
         “ไอ้บ้า!ไม่ใช่โว้ย!น้องฉันมีเรื่อง  นี่เพื่อนเขา”
         “อ้าว!ที่ไหน?”
         “ตามมาสิ!พูดมากอยู่ได้”เท็ดพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วโดยมีรถสปอร์ตสีเงินขับตามไปติดๆ  ‘ตื้ดดดดดดด’เสียงโทรศัพท์มือถือของเท็ดดังขึ้น “ว่าไง?”
         “นายมีอะไร เล่ามาก่อน” น้ำเสียงของริชจริงจังไม่ล้อเล่นอีกต่อไป
         “จีนส์ถูกพวกแกงค์อะไรไม่รู้หลอก  ตอนนี้อยู่ที่โรงแรมปริ้นฯ”
         “ฮ้า! ป่านนี้ไม่….เออเดี๋ยวจัดการให้” ริชวางสายไปดื้อๆ เท็ดดึงหูฟังออก สายตาจับอยู่ที่ถนน

         “อย่า!…พอแล้ว…ไม่ไหวแล้ว…โอ๊ย!…อย่า…ผมเจ็บ…ไม่!…” จีนส์พยายามจะดิ้นหนีแต่ไม่มีแรง ร่างกายยังถูกรุกรานหนักหน่วง  เสียงพูดคุยด้วยภาษาที่เขาฟังไม่ออกเซ็งแซ่  เสียงหัวเราะหยาบหยามดังอยู่ข้างหู  มือหนากร้านขยำขยี้ทั่วร่างจนระบมไปหมดทั้งตัว  จีนส์บ้วนทิ้งเมื่อรู้ว่ายาถูกยัดเข้ามาในปาก  แต่มือแข็งเหมือนคีมกลับบีบขากรรไกรเขาไว้จนต้องอ้าปากเพราะความเจ็บ  ยาถูกดันเขามาในปาก  อีกมือบีบจมูกเขาไว้  จีนส์จำต้องกลืนยาเข้าไปเพื่อให้มีอากาศหายใจ
         “เคย์…พอที…อย่า!…พอแล้ว…”
         “หุบปากน่าจีนส์!เดี๋ยวยาออกฤทธิ์นายก็จะสนุกเองแหละ  ดูเมื่อวานสิ นายเร่าร้อนยังกับไฟ  แค่นี้สบายมากน่า” เสียงหัวเราะดังลั่น  คำพูดหยาบโลนหลายประโยคแปร่งหู จีนส์แน่ใจว่าคนพวกนี้ต้องมีคนต่างชาติปนอยู่ด้วย เด็กหนุ่มน้ำตาไหลพราก  นี่ถ้าเขาเชื่อเท็ดสักนิดเขาคงไม่ต้องตกนรกแบบนี้
         “เท็ด!…ช่วยด้วย!..เท็ด!”
         “หุบปากนะ!ทำไมพวกฉันสนองไม่สะใจหรือไงถึงเรียกหาผัวเก่า ได้!ถ้าทีละคนไม่สะใจก็ลองทีละ 2 ดีไหมจ๊ะที่รัก?”
         “โอ๊ย! อย่า…อย่า!!” จีนส์กรีดร้องก่อนจะถูกอุดปากแน่น  ร่างกายเหมือนจะฉีกออกเป็นเสี่ยงๆเมื่อต้องรองรับคน2คนที่แทรกเข้ามาพร้อมกัน ฤทธิ์ยาทำให้เสียงห้ามเสียงกรีดร้องเปลี่ยนเป็นเสียงคราง พวกมันหัวเราะชอบใจ ขณะที่จีนส์ดิ้นพล่านก่อนจะเกร็งกระตุกปลดปล่อยตัวเองจนหมด  แต่แรงขยับลึกหนักยังคงโหมเข้าใส่  เสียงประตูเปิด  เสียงเอะอ่ะโวยวาย พร้อมๆกับที่จีนส์กรีดร้องเมื่อไปถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง  ในสติจะลางเลือนจีนส์รับรู้ถึงอ้อมแขนอบอุ่นที่ช้อนตัวเขาลอยขึ้นแล้วโลกก็มืดลง

         เท็ดผุดลุกขึ้นพร้อมๆกับรามอสและแจ็ค เมื่อหมอก้าวออกมาจากห้อง 
         “เป็นไงบ้างวะหมอ?”  ริชที่เพิ่งกลับมาจากห้องน้ำเป็นคนถามแทน
         “ไม่ดีเลยว่ะ ไม่เคยเจออะไรอย่างนี้เลย   เอ่อ….นี่…” 
         “ผมเท็ดครับ เป็นพี่ของคนไข้ส่วนนี่ก็เพื่อนๆเขา  อาการเขาเป็นไงบ้าง?”
         “ครับคนไข้ได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง ปากแตกมุมปากฉีก ลิ้นบวม ฟันบางซี่โยก ตามตัวก็มีแต่รอยฟันกับรอยฟกช้ำเต็มไปหมด  ส่วนทวารหนักก็ฉีกขาดค่อนข้างมากแต่เราเย็บตกแต่งให้แล้ว  ที่สำคัญคือมีอาการติดเชื้อด้วย   ผมอยากตรวจเลือดพวกนั้นอย่างละเอียดเกรงว่า…เอ่อ…”
         “ผมจะลากพวกมันมาตรวจทุกคนเลยครับ”
         “คุณแจ้งความหรือยัง ผมว่าพวกมันโดนหนักแน่เพราะพวกมันคงมอมยาด้วย เราตรวจพบสารกระตุ้นในร่างกายเขา ปริมาณสูงมากจนน่ากลัวจะช็อก”   เท็ดเหลือบมองรามอส  เด็กหนุ่มหลบตาวูบ
         “คงไม่แจ้งหรอกครับ” 
         “อ้าว!ทำไมล่ะครับ?” 
         “ยานั่นน้องผมคงกินเข้าไปเอง”  หมออ้าปากค้างแล้วหุบฉับ พยักหน้าหงึกๆ ก้มลงเขียนเอกสารในมือโดยไม่พูดอะไรอีก
         ริชเรียกคนของเขาเข้ามาสั่ง ไม่ถึงชั่วโมงพวกมันทั้ง5คนก็เดินเรียงเข้ามาตรวจเลือดอย่างสงบเสงี่ยม  แม้ทุกคนจะมีผ้าพันแผลตามหัวและแขนขา  แต่ก็ไม่กล้าปริปากใดๆ  เคย์ยืนตัวงอขณะรอเซ็นชื่อ แขนที่หักนั้นเจ็บไม่ได้ครึ่งของกึ่งกลางตัว  ใบหน้าหล่อเหลาแตกยับและเริ่มบวม  พวกมันผงะถอยกรูดจนเกือบล้มเมื่อเห็นริชโผล่เข้ามาใกล้ ๆ
         “อย่าทำอย่างนี้อีกนะ คราวหน้าแกอาจไม่แค่แขนหักแต่เจ้าหนูของแกอาจจะพลอยหักไปด้วยจำใส่กระโหลกไว้!”ริชยิ้มเย็น ชะโงกไปพูดข้างหูเคย์แล้วตบแก้มช้ำด้วยหลังมือเป็นเชิงหยอกล้อ  แต่สายตาเย็นเฉียบที่กวาดมองทำให้พวกมันหลบตาวูบ
         รามอสยืนนิ่งอยู่ข้างเตียง ตัวสั่นระริกจนแจ็คต้องกอดไว้แน่น  สภาพของจีนส์น่ากลัวเกินกว่าที่เขาจะคาดถึง เท็ดเป็นคนอุ้มจีนส์มาส่งโรงพยาบาล เลือดไหลเลอะเต็มต้นขาและเปียกผ้าห่มที่ห่อตัวจนชุ่มไปหมด ตอนที่จีนส์ฟื้นครั้งแรกเขาร้องโหยหวนหวาดกลัวจนต้องให้ยาระงับประสาท  จิตแพทย์ประจำตัวของราเชลมาช่วยดูแลบำบัดจิตให้
         “แจ็ค…ถ้าเราไม่ออกไปค้างคืนข้างนอก เราคงช่วยจีนส์ได้เร็วกว่านี้”  แจ็คกระชับอ้อมแขน เช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
         “ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงอย่างนี้นี่ครับถึงคุณอยู่ก็คงช่วยไม่ได้…คุณรามอสอย่าใช้ยาอีกนะครับ คุณคงเห็นแล้วว่าจีนส์แทบตายนี่ก็เพราะยาบ้าๆนั่น” รามอสพยักหน้าขนลุกเมื่อนึกว่าจีนส์ต้องนอนกับพวกนิโกรและพวกผิวเหลือง ‘พวกชั้นต่ำ’แบบนั้นเขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวด้วย  ถ้าหน้าตาดีๆแบบเคย์ก็ว่าไปอย่าง
         “แจ็ค คืนนี้เรานอนที่ไหนล่ะ?”
         “อ้าว!ก็กลับไปที่ห้องสิครับ”
         “ไม่เอาหรอก…เกิดพวกมันกลับไปแก้แค้นเราล่ะ?”
         “เรามีระบบรักษาความปลอดภัยชั้นดีครับ  แต่เรื่องที่เกิดกับคุณจีนส์มันสุดวิสัยเพราะคุณจีนส์เซ็นอนุญาตให้พวกนั้นขึ้นไปหาบนห้องเอง”
         “อืม…งั้นกลับกันเถอะ ฉันเหนื่อยมากเลย”  แจ็คจูงรามอสออกมาขึ้นรถกลับโรงแรม

         จีนส์ลืมตาขึ้นมองไปรอบๆความทรงจำไหลกลับมาเป็นฉากๆ เด็กหนุ่มตัวสั่น ทั้งขยะแขยงทั้งเจ็บปวดและหวาดกลัว แม้ว่าจิตแพทย์จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นกว่าตอนแรกมากแล้ว  หากแต่น้ำตาก็ยังไหลพราก 
         “จีนส์…เป็นไงบ้าง ดีขึ้นไหม?” จีนส์ร้องไห้โฮเมื่อเห็นผู้ที่เข้ามานั่งข้างๆ 
         “เท็ด…ช่วยผมด้วย เพราะผมไม่เชื่อเท็ด ถึงได้ถูก…ฮือ”
         “ใจเย็นๆจีนส์ ไม่เป็นไรแล้ว  ปลอดภัยแล้วนะ”
         “เท็ด…พวกมันถ่ายวีดีโอด้วย ผมได้ยินแต่ผมช่วยตัวเองไม่ได้”
         “ไม่ต้องห่วงวีดีโอพวกนั้นเราทำลายทิ้งหมดแล้ว  จีนส์ทำใจให้สบายแล้วนอนพักซะ…พรุ่งนี้เมื่อตื่นขึ้นมาก็ลืมเรื่องทุกอย่างให้หมด แล้วมาเริ่มต้นกันใหม่”
         “เท็ด…เท็ดรังเกียจผมแล้วใช่ไหม? ผมสกปรกแล้ว ผมถูกข่มขืน!”
         “ไม่เลยจีนส์…พี่ไม่เคยรังเกียจจีนส์เลยนะ”
         “งั้นถ้าผมออกจากโรงพยาบาลเท็ดคบกับผมได้ไหม?” เท็ดถอนใจยาวเหมือนกำลังตัดสินใจบางอย่าง  ก่อนจะลูบผมนุ่มเบาๆ
         “ไว้จีนส์ออกจากโรงพยาบาลก่อน พี่มีเรื่องจะบอก”จีนส์สบตาเท็ดก่อนจะยิ้มกว้าง หลับลงอย่างเป็นสุขและสมหวัง
..........


เจอกันอีกทีอาทิตย์หน้านะคะ เพระจะไปในที่ๆไม่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้คะ
ขอบคุณคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ^____^ 22/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-10-2009 12:28:19
 :m31: ไม่รู้จะสมน้ำหน้าหรือสงสารจีนส์ดีอ่ะ

 :z3: :z3:

ปล.คิดถึงกายนะ  :z2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ^____^ 22/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 22-10-2009 16:31:13
สมน้ำหน้าจีนส์ อิอิ

เจ้สอง  :bye2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ^____^ 22/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 22-10-2009 23:46:31
โธ่เอ๊ย จีนส์ หาเรื่องใส่ตัวเองแท้ๆๆ โดนซะเละเลย แต่ก็ยังดื้อเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ^____^ 22/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 23-10-2009 03:50:36
สงสารจีนส์เหมือนกันนะ
สิ่งที่เจอมันรุนแรงไปจริงๆ
แล้วเท็ดจะตัดสินใจบอกอะไรจีนส์น่ะ
บวก 1 แต้ม ขอบคุณนะคะ
คนโพสต์ไปไหนเอ่ย เดินทางปลอดภัยนะคะ
จะรออ่านต่อจ้า

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ^____^ 22/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 23-10-2009 15:26:33
เฮ้อ นี่แหละฤทธิของยา น่ากลัวจริงๆ
รอกายอยู่นะ หายไปนานแล้ว  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ^____^ 22/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-10-2009 19:13:48
ดันรอกายกับเท็ด อิอิ  :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ^____^ 22/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-10-2009 12:20:08
วันนี้จะมามั๊ยน้า  :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ^____^ 22/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 27-10-2009 20:09:58
โห เรื่องนี้ทิพลงบ่อยมากกกกก  :laugh: เดี๋ยวลองตามอ่านดีกว่า อิิอิ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ^____^ 22/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 27-10-2009 21:26:28
ทำไมยังไม่มาอีก  :z3:  :z3:
วันนี้มาได้แล้ว นะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" กลับมาต่อแล้วคะ 28/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 28-10-2009 18:29:37
กลับมาต่อแล้วคะ ไปไตหาหัวจาม  แต่ไม่เจอ555+ มาอ่านกันต่อเลยคะ
...........

          “จีนส์จัดกระเป๋าเสร็จหรือยังลูก…อ้าว! ยังร้องไห้อยู่อีกหรือนี่?” 
         “แม่ฮะ!” จีนส์กอดเอวแมรี่แน่นน้ำตาไหลพราก  เขาออกจากโรงพยาบาลได้ 1 สัปดาห์แล้ว  วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล เท็ดเป็นคนไปรับ  เด็กหนุ่มรีบทวงสัญญาที่เท็ดเคยให้เมื่อตอนเขาป่วย  คำตอบของเท็ดทำให้เขาหัวใจสลาย 
         “จีนส์…พี่รักจีนส์เหมือนน้อง แต่ไม่เคยคิดเกินเลยไปกว่านั้น  พี่ไม่เคยรู้สึกอะไรไปในทางชู้สาวกับจีนส์” 
         “พี่จะบอกว่าพี่ไม่ได้รักผู้ชายใช่ไหม?แล้วทีกายล่ะหรือพี่คิดว่ากายเป็นผู้หญิง”
         “พี่รักกายก็เพราะรัก  ไม่ได้แบ่งแยกว่ากายเป็นชายหรือหญิง  แต่รักจนสุดหัวใจและไม่มีใครแทนกายได้…ต่อให้จีนส์เป็นคู่แฝดกับกายพี่ก็รักจีนส์แบบที่รักกายไม่ได้  พี่ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้ยังไง จีนส์ถึงจะเข้าใจ”
         “แต่กายเขาตายไปตั้งนานแล้ว”  จีนส์เสียงสั่น
         “ไม่หรอกจีนส์ กายยังอยู่…อยู่ตรงนี้ อยู่ในหัวใจพี่ อยู่ในอากาศที่พี่หายใจเข้าไป…กายเป็นคนสำคัญ   สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของพี่ซะอีก ทุกวันนี้พี่มีชีวิตอยู่ก็เพื่อดูแลคนที่กายรักแทนกาย สักวันพี่จะได้ไปอยู่เคียงข้างเขาอีกครั้ง” 
         จีนส์ร้องไห้โฮ “แล้วผมล่ะ!ผมก็รักเท็ดนะ ผมคบกับเคย์ก็เพราะผมอยากประชดเท็ด   อยากให้เท็ดหึง เท็ดจะไม่รับรู้ความรู้สึกของผมเลยเหรอ?”
         “พี่ขอโทษจีนส์แต่พี่รักใครไม่ได้อีกแล้ว”
         “งั้นให้ผมอยู่ข้างๆพี่เป็นตัวแทนของกายก็ได้”จีนส์รีบคว้าแขนเท็ดไว้แน่น  เท็ดปลดมือจีนส์ออกอย่างนุ่มนวล
         “อย่าเสียเวลาเลยจีนส์…พี่รู้สึกกับจีนส์เหมือนน้องเท่านั้น  ขอโทษนะ”
หลังจากวันนั้นเท็ดก็ไม่มาอีกเลย จีนส์ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล  แม่ชวนเขาไปเที่ยวรอบโลกกัน2คน จีนส์ตกลงเพราะรู้ว่าอยู่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกต่อไป  แถมยังอับอายญาติๆอีก  รามอสก็แจ้นกลับบ้านไปแล้วเพราะพี่ชายเรียกตัวด่วน ทิ้งให้แจ็คอกหักเป็นบ้าเป็นคลั่งจนริชต้องพาไปอยู่ด้วย
         “แม่ฮะ ผมด้อยกว่ากายตรงไหนทำไมเท็ดไม่รักผม?”
         “จีนส์…เท็ดกับกายเขารักและผูกพันกันมาตั้งแต่เกิด  ใครก็แทรกเข้าไปไม่ได้หรอกลูก”
         “ทำไมฮะแม่?ทำไมถึงไม่มีใครรักผมแบบนั้นบ้าง  กายตายไปตั้งนานแล้วเท็ดก็ยังรักไม่เปลี่ยน  ขนาดคนอย่างรามอสยังทำให้แจ็คแทบฆ่าตัวตายตอนถูกเขาทิ้ง แล้วทำไมไม่มีใครรักผมจริงสักคน”
         “อย่าพูดอย่างนั้นสิลูก  สักวันลูกก็จะได้เจอคนที่รักลูก   และลูกก็รักเขา ถ้าลูกรักด้วยหัวใจลูกก็จะได้หัวใจตอบแทน  แม่เชื่อว่าลูกต้องได้เจอคนๆนั้น….ไม่แน่นะไปเที่ยวคราวนี้ลูกอาจได้เจอคนในฝันของลูกก็ได้นี่จ๊ะ”
         “จริงนะฮะแม่”
         “อืม!น่าจะเป็นอย่างนั้นนะจ๊ะ  ก็จีนส์ของแม่น่ะสวยออก”  จีนส์หัวเราะคิกคักใบหน้าเริ่มสดใส คนอย่างเขาไม่เคยทุกข์ร้อนอะไรนานๆอยู่แล้ว  จีนส์หันไปจัดกระเป๋าอย่างกระตือรือล้น พร้อมทั้งฝันถึง‘คนที่ใช่’ที่กำลังรอเขาอยู่ที่ไหนสักแห่ง
       
         ลังปลาใบสุดท้ายถูกลำเลียงขึ้นรถ  โทนี่ดึงผ้าใบลงมามัดให้แน่นอีกชั้นหนึ่ง
         “เอ้า!รีบไปเรามีเวลาไม่มากนักนะถ้า2ทุ่มยังไม่มาถูกทิ้งไว้ที่นี่แน่ อย่าเสือกไถลอีกล่ะไอ้โทนี่…ซูหลินนี่รายการของ เอ๊ะ!นั่นจะเอาไอ้หัวทองไปด้วยหรือไง”
         “จ้ะเจ็ก ซันเขาพูดฝรั่งเศสคล่องคงช่วยเรื่องต่อรองราคาได้  คราวที่แล้วโดนตาพ่อครัวนั่นตัดราคาไปตั้งเยอะ เห็นว่าเราพูดกับมันไม่รู้เรื่อง คราวนี้จะเอาคืนซะให้เข็ด!” 
         “เออๆรีบไปรีบกลับแล้วกัน ลื้อก็ห้ามไถลนะ ถ้าช้าอั้วก็ทิ้งไว้นี่เหมือนกันแล้วถ้าป๊าลื้อมารับเองคงรู้นะว่าจะโดนอะไร” 
         “โห!เจ็กอย่าขู่สิ หนูจะรีบไปรีบกลับเลย  ไปซันขึ้นรถ”
         เด็กหนุ่มสูดลมหายใจลึก ขนาดรถคันนี้กว้างและใหญ่อย่างนี้เขายังใจหวิวๆ  มือเล็กหยาบกร้านลูบที่แขนเขาเบาๆ
         “ซัน…ไหวนะ”
         “ไม่เป็นไรซูหลิน รีบไปเถอะ”
โทนี่ปรายตามองยิ้มเยาะกระชากรถออกอย่างแรง เสียงซาตะโกนด่าตามหลังลอดเข้ามาในรถ
          “ไอ้โทนี่!กลับไปแกโดนเจ็กด่าเละแน่  เกิดลังหล่นไปจะว่ายังไง”
          “โว้ย!นี่กูอยู่อเมริกานะ  ยุคนี้มันยังมีทาสอยู่อีกหรือไง โอ๊ย!เจ็บนะซูหลิน”
          “หุบปากแล้วขับรถไป…ปัญหาเยอะนักนะ…ขึ้นฝั่งคราวหน้าฉันจะให้ไป่-หลงมาขับแทนแก” โทนี่ทำปากขมุบขมิบแต่ไม่มีเสียง ซูหลินส่ายหน้าอย่างระอาหันกลับมามองคนนั่งริมหน้าต่าง ลมจากหน้าต่างพัดผมสีน้ำตาลทองปลิวไสว เปิดให้เห็นแผลเป็นขนาดใหญ่พาดยาวจากขมับลงมาถึงโหนกแก้ม  แผลที่เกือบคร่าชีวิตของซัน…
         “ซัน…มีอะไรคุ้นตาบ้างไหม?”  หน้าเรียวซีดหันกลับมา ตาโตหม่นเศร้า
         “ไม่มีเลย”
         “ไม่เป็นไร…ถ้าเห็นอะไรคุ้นๆก็บอกฉันได้เลยนะ” ซันพยักหน้าหันกลับไปมองข้างทางเลื่อนลอย
         
         “บอกว่าลดไม่ได้แล้วไงล่ะ…ปลางวดนี้ออกไปจับตั้งไกล แถมช่วงนี้ยังมีมรสุมอีก  เนี่ยฉันเลือกแต่ตัวสวยๆมาให้เลยนะ น่า…ไว้คราวหน้าจะลดให้เป็นพิเศษเลย”
         “จริงนา…คราวที่แล้วเธอก็บอกว่าจะลดๆแล้วก็ไม่ลดให้สักเซน…เอ้า!เอาไปยายเขี้ยว”  ซูหลินหัวเราะคิกรับเงินมานับอย่างคล่องแคล่ว
         “ซูหลิน…คนสวย ๆ ที่มาด้วยนั่นใครน่ะ?”
         “สวยมากไหมจ๊ะ?”
         “สวยมาก…ขนาดผอมๆอกไม่ค่อยมี ยังน่ารักเลยนาหุ่นอย่างนี้น่าไปเป็นนางแบบ”
         “นั่นน่ะซันเพื่อนฉันเอง”
         “ทำไมชื่อยังกับผู้ชาย?”
         “ก็ผู้ชายน่ะสิ”
         “เฮ้ย!โกหก!…ผู้ชายอะไรจะสวยขนาดนั้น?” 
         “ไม่เชื่อเหรองั้นดูนะ ซัน!…มานี่หน่อย”  ร่างผอมบางขยับจากริมกำแพงเดินมาหาช้าๆ  แสงไฟสว่างจับใบหน้าซีกซ้ายซึ่งเจ้าตัวดึงผมที่ปรกไปเหน็บหู ทำให้เห็นรอยแผลเป็นนูนเด่น
         “มีอะไรซูหลิน?”
         “อ๋อ!เพื่อนเขาอยากรู้จักน่ะ  เขาชื่อชาง…ชางนี่ซัน”
         “สวัสดีครับ” ซันทักขึ้นก่อน
         “หวัดดี…เอ่อ..ถ้าเรียบร้อยแล้ว เราไปก่อนนะเดี๋ยวเจ้านายด่า”
         ซูหลินหัวเราะคิกขำท่าทางรีบร้อนของชาง แทบทุกคนที่เห็นซันก็มักจะเป็นอย่างนี้ ตอนแรกก็อยากรู้จักแทบตายแต่พอเห็นรอยแผลเป็นก็เผ่นกันหมด  ซูหลินถอนใจเหลือบมองซันอย่างสงสาร แต่ดวงหน้าเรียวกลับเรียบเฉยเหมือนไม่รู้สึกรู้สมกับปฏิกิริยารังเกียจของคนอื่นๆ 
         “ซันหิวหรือยัง?”
         “หิวนิดหน่อย…ซูหลินเสร็จธุระแล้วเหรอ?” 
ซูหลินก้มลงตรวจรายการส่งปลาในมือจนแน่ใจว่าส่งครบทุกที่
         “เสร็จแล้วอ้อ!ยังสิ ลืมไปว่าต้องไปเอาลูกวัวที่ฟาร์ม  ขืนไม่ไปเอาให้เจ็กซาด่าตายเลย”ซูหลินลากซันไปหาของกินก่อนจะพากันออกมายืนคอยรถซึ่งน่าจะมาจอดรออยู่แล้ว แต่กว่าโทนี่จะมาก็ผิดเวลาไปเกือบ2ชั่วโมง
         “หายไปไหนมาโทนี่  ฉันคอยแกจนขาแข็งแล้ว  เดี๋ยวไปลงเรือไม่ทันก็โดนเจ็กทิ้งกันพอดี  นี่ยังต้องไปเอาลูกวัวให้เจ็กอีก”
         “น่า…ก็แค่แวะไปหาเพื่อนแถวนี้หน่อย  เอ้า!ขึ้นมาสิรีบนักไม่ใช่เหรอ?”
         ซูหลินตาเขียวเพราะรู้ว่าโทนี่จงใจประชดซันที่ยังรีรอไม่ค่อยกล้าขึ้นรถนัก
          รถบรรทุกลังเปล่าขับออกนอกเมืองไปยังเขตทุ่งเลี้ยงสัตว์ที่นี่มีฟาร์มใหญ่ๆหลายแห่ง  จู่ๆรถที่กำลังวิ่งก็เกิดกระตุกแล้วดับดื้อๆ  ซูหลินเหลียวมองหนุ่มหน้าตี๋ชื่อฝรั่งอย่างเดือดดาล 
         “โทนี่! แกไม่ได้เติมน้ำมันอีกแล้วใช่ไหม?…หา!” 
         “เติมแล้ว  บ้าเหรอ  มันอาจจะดับเพราะสาเหตุอื่นหรอก”
         “อย่ามาตอแหล นี่เข็มน้ำมันตกลงไปอย่างนี้ยังจะเถียงอีก”  ซูหลินฟาดหลังโทนี่ดังฉาด โทนี่หลังแอ่นหน้าเบี้ยวโดดลงไปยืนอยู่ข้างรถ
         “เอ้า!นั่งอยู่ได้ลงมาช่วยกันเข็นแอบข้างทางสิวะ”  โทนี่หันมาตะคอกใส่ซัน
         “ซันไม่ต้องลง แกเข็นไปคนเดียวเลย ซันถือพวงมาลัยให้หน่อย”  ซูหลินโดดลงไปช่วยเข็นเพราะขับรถไม่เป็น  ซันหมุนพวงมาลัยเข้าข้างทางเมื่อรถเริ่มขยับ
         “โชคดีนะที่เป็นทางลาดลงไม่อย่างนั้นได้เข็นกันอ้วกแน่  รถบรรทุกนะไม่ใช่-
ซาเล้ง…อ้าว!ซันเป็นอะไรไป…ซัน!ตายแล้วทำไมหน้าซีดอย่างนี้” ซันตัวสั่นหน้าขาวซีด  วูบหนึ่งขณะที่หมุนพวงมาลัย ความรู้สึกหวาดกลัวและเจ็บปวดก็ผุดขึ้นมา
         “มะ…ไม่เป็นไรแล้ว…จู่ๆ ก็หน้ามืดนะ” 
         “เออดีนะ…นั่งหมุนพวงมาลัยอยู่บนรถเสือกหน้ามืด  สงสัยถ้าให้ลงไปเข็นคงขาดใจตายโอ๊ย!”  ซูหลินหันไปกระทืบบนเท้าโทนี่เต็มแรง  โทนี่กระโดดโหยงก้มลงคลำเท้าป้อย 
         “แล้วมันความผิดใครที่ต้องเข็นห๋า! ไปเลยนะไปหาน้ำมันมาเติมเลย”
         “โว้ย!จะไปหาที่ไหนวะ?” 
         “เลยไปอีก2โค้งมีปั๊มน้ำมันเล็กๆฉันเคยเห็นตอนมาเอาวัวรุ่นที่แล้วกับเจ็ก”
         “ไปด้วยกันสิ”
         “จะไปดีๆหรือจะไปทั้งน้ำตา”
         “ก็ได้วะ!”โทนี่เดินสะบัดหัวไปอย่างหงุดหงิด  ซูหลินดึงซันลงมาจากรถ
         “มาสูดอากาศหน่อยเดี๋ยวคงดีขึ้น…เธอจำอะไรได้หรือไงซันถึงได้เป็นอย่างนี้” 
ซันเม้มปากหน้ายังซีดเผือด 
         “อือ!ก็เหมือนจะแว๊บๆขึ้นมา แต่มันน่ากลัวแล้วก็รู้สึกเจ็บไปหมดทั้งตัวเลย…เฮ้อ!…ผมจำได้แค่นี้เองขอโทษนะซูหลิน“
         “บ้า!มาขอโทษทำไม?จำไม่ได้ก็ช่างปะไรยังไงซันก็มีซูหลินนะ เรามันเพื่อนซี้ไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว”ซันยิ้มอ่อนโยน ซูหลินหัวเราะคิกจูงกันเดินเล่นอยู่ข้างทาง  ตะวันลับขอบฟ้าไปแล้วแต่ยังไม่มีทีท่าว่าโทนี่จะกลับมา ซูหลินกระสับกระส่ายมากขึ้นเรื่อยๆ
          “โทนี่มันทำบ้าอะไรอยู่เดี๋ยวก็กลับเรือไม่ทันกันพอดี สงสัยต้องไปตามแล้ว”   ซูหลินโดดลงจากรถซันรีบตามลงมา
          ”ผมไปด้วย”
          “ซันเฝ้ารถเถอะซูหลินไปคนเดียวก็ได้”
         “ไม่ได้!ซูหลินเป็นผู้หญิงเดินคนเดียวมืดๆมันอันตราย ในรถก็ไม่มีอะไรต้องห่วงนี่เราเดินไปด้วยกันดีกว่า”ซูหลินพยักหน้าอดปลื้มไม่ได้ในหมู่บ้านใครๆก็ปฏิบัติกับซูหลินเหมือนซูหลินเป็นผู้ชาย แต่ซันกลับให้เกียรติและอ่อนโยนด้วยเสมอจน
ซูหลินแอบหวังว่าสักวันซันจะมีใจให้เธอบ้าง ทั้งสองพากันเดินห่างรถออกมาเรื่อยๆ  แสงไฟจากหน้ารถผ่านวาบไปด้วยความเร็ว ก่อนจะเบรคเอี๊ยดแล้วค่อยๆถอยกลับมา  ซูหลินเอื้อมมือไปจับมือซันแน่นเมื่อเห็นวัยรุ่นกลุ่มใหญ่นั่งกันเต็มคัน เสียงเอะอะบอกให้รู้ว่ากำลังอยู่ในอาการมึนเมา 
         “ท่าจะไม่ดีแล้วซัน วิ่ง!”  ซูหลินกับซันออกวิ่งทำให้เห็นอาการเขยกขาซ้ายของซันได้ชัดเจน  รถคันนั้นชะลอก่อนถอยพรวดมาดักหน้า  ซูหลินผงะเมื่อพบว่าพวกมันบางส่วนเดินตามมาด้านหลัง  พวกที่อยู่บนรถโดดลงมารายล้อมอย่างรวดเร็ว 
         “ว่าไงจะแม่สาวผิวเหลือง…มาวิ่งเล่นอะไรกันป่านนี้ ให้พี่ไปส่งไหม?”   
ซูหลินถอยกรูดดึงมือซันไว้แน่น  หนึ่งในนั้นขยับเข้ามาใกล้ซันอีกนิด
         “ว้าว!น่ารักเป็นบ้าเลยหุ่นก็ดี ถึงจะไม่อวบเหมือนน้องหมวยก็เถอะ… มานี่ดีกว่าน้องคนสวย” ไม่มีใครสังเกตเห็นหน้าส่วนที่มีแผลเพราะผมยาวปิดไว้
         “ไปให้พ้นนะ!พี่ชายฉันอยู่แถวนี้ ถ้าขืนมาวุ่นวายกับฉันเขาไม่พอใจแน่” 
         “โอ้กลัวจัง!ไหนละพี่ชายเรียกมาคุยกันหน่อยสิ”ซูหลินปัดมือที่เอื้อมมาสัมผัสแก้มออก เจ้าหน้าเสี้ยมกระชากแขนเธอไว้ 
         ปึ้ก!!!ซันถีบเข้าที่ท้องมันเต็มแรง หมอนั่นล้มลงไปกลิ้งอยู่กับพื้นจุกจนลุกไม่ขึ้นพวกที่เหลือชะงักเมื่อรู้ว่าไม่หมูอย่างที่คิด พวกมันให้สัญญาณแล้วรุมเข้ามาพร้อมกัน
         “อย่านะปล่อย!…โอ๊ย!”ซูหลินเตะผ่าหมากไอ้คนแรก แต่ถูกอีกคนชกเข้าที่ลิ้นปี่จุกจนไม่มีแรงขัดขืนจึงถูกพวกมันลากลงไปข้างทาง ซันผวาตามแต่ถูกอีก2คนกระชากไว้  เสื้อเชิ๊ตเนื้อบางที่สวมขาดแล่งตลอดตัว 
         “เฮ้ย!ผู้ชายนี่หว่า อื้ย!..แผลเต็มเลยทุเรศฉิบ” เมื่อไม่ต้องการพวกมันก็รุมทำร้ายซันทันที เด็กหนุ่มขาพิการพยายามสู้แต่ถูกรุมเตะต่อยจนถลาล้มไปบนถนน  แสงไฟจากรถที่เลี้ยวพ้นโค้งมาสาดเข้าจับกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังรุมทำร้ายซัน  พวกมันชะงักเมื่อรถคันนั้นจอดลง  เสียงกรี๊ดของซูหลินทำให้คนบนรถโดดลงมาทันที
         “อย่าแส่นะโว้ย!” เจ้าหัวเกรียนกระชากมีดจากเอว 
         ปัง!!!เสียงปืนดังขึ้นแทนคำตอบรับจากคนที่เข้ามา‘แส่’เล่นเอาเดนมนุษย์ทั้งกลุ่มแตกกระจาย วิ่งกลับไปขึ้นรถแล้วขับหนีไป  ซันพยายามยันตัวลุกขึ้น เด็กหนุ่มห่วงซูหลินมากกว่าจะสนใจความเจ็บปวดของตัวเอง 

...............
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" กลับมาต่อแล้วคะ 28/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 28-10-2009 18:32:06
......

         “ซูหลิน!ซูหลิน!เป็นไงบ้าง” 
         “ฮือ!ซัน…ซัน” ซูหลินโผเข้ามกอดร้องไห้โฮ เสื้อฉีกขาดแต่กางเกงยีนส์คับติ้วทำให้พวกมันถอดไม่ออก
         “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
         “ซัน…ซั๊น!” ซูหลินร้องกรี๊ด เมื่อซันล้มพับต่อหน้าต่อตา  แสงไฟจากหน้ารถไม่สว่างนัก  แต่ก็เห็นเลือดอาบเต็มหน้าและอกของซัน 
         “เป็นไงบ้าง เร็วไปโรงพยาบาลกัน” ร่างสูงใหญ่เข้ามาช้อนซันขึ้นอุ้มอย่างง่ายดาย  ซูหลินวิ่งตามเขาไปที่รถ
         “เปิดประตูหลังเลย…แล้วเธอคอยประคองหัวเขาไว้…ตั้งสติหน่อยอย่าเอาแต่ร้องไห้สิ” ชายคนนั้นวางซันลงบนเบาะอย่างระมัดระวัง แล้วรีบขับพาซันไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว  ซูหลินสะดุ้งเมื่อเสื้อแจ็คเก็ตถูกถอดส่งมาให้จากเบาะหน้า  ความกลัวกับความตกใจทำให้เธอไม่รู้ตัวว่าเสื้อถูกฉีกขาดจนหมด  ซูหลินลนลานรับมาคลุมก้มหน้างุด เอ่ยขอบคุณเบาๆด้วยความอาย  เสียงครางเบาๆของคนบนตักเรียกความสนใจจากคนทั้งสอง
          “ซันเป็นไงบ้าง?”
          “ซูหลิน…ที่ไหน…?”
          “บนรถ…กำลังจะไปโรงพยาบาลกัน”
           “ไม่!…อย่า!…เราจะลง…”  ซันหอบฮักแน่นหน้าอก  รถแคบจนเขาหายใจไม่ออกและกำลังบีบแคบเข้ามาเรื่อยๆ
         “อุ๊บ!”ซันอาเจียรพรวดออกมา หอบหายใจแรงและดิ้นทุรนทุราย 
         “ทนหน่อยกำลังจะถึงโรงพยาบาลแล้ว” เสียงชายที่ขับรถปลอบมาจากตอนหน้า
         “ขอโทษคะ!เดี๋ยวฉันจะล้างรถคุณให้สะอาดเลย ขอโทษนะคะเพื่อนฉันเขานั่งรถเก๋งไม่ได้เขากลัว”ซูหลินละล่ำละลักขอโทษ ยึดร่างทุรนทุรายในอ้อมแขนแน่นขึ้น
         “ไม่ต้องสนใจหรอกเรื่องรถน่ะว่าแต่เพื่อนเธอไหวไหมอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว ทนหน่อยนะ”ชายหนุ่มเลี้ยวรถเข้าไปจอดหน้าตึกวิ่งมาเปิดประตูหลังให้บุรุษพยาบาลที่เข็นเตียงออกมารับ  แต่ซันอาเจียรออกมาอีกและดิ้นจนเกือบหล่นจากเบาะ ชายหนุ่มจึงช้อนตัวออกมาให้พ้นรถ
         “ไม่!ผมกลัว ให้ผมเดิน อย่า!ผมกลัว!” บางอย่างในน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น นั้นคุ้นหู ชายหนุ่มขมวดคิ้วก้มลงพิจารณาใบหน้าเปื้อนเลือดในอ้อมแขน
          “เอ๊ะ!?!!!”
         “คุณวางผู้ป่วยลงได้แล้วครับ” บุรุษพยาบาลยืนงงเมื่อชายหนุ่มอุ้มคนเจ็บเดินลิ่วเข้าไปแทนที่วางลงบนเตียง
         “คุณ!คุณครับ!วางคนเจ็บลงสิครับ” 
บุรุษพยาบาลรีบเข็นเตียงตามและส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่อีก2คนรู้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ญาติคนไข้จะแสดงอาการเช่นนี้  โดยเฉพาะญาติคนไข้จากอุบัติเหตุซึ่งมักจะตกใจจนทำอะไรแปลกๆ เจ้าหน้าที่ทั้ง3คนแทรกเข้ามาดึงคนไข้ออกจากอ้อมแขนของ‘ญาติ’ได้อย่างนุ่มนวล  พยาบาลอีกคนปราดเข้ามารับหน้าที่ต่อ  ชายหนุ่มวิ่งตามเตียงมาจนถึงห้องที่ปิดป้ายห้ามเข้า เขาถูกกันออกมาก่อนที่ประตูจะปิดลง
         ซูหลินวิ่งตามมายืนข้างๆเงยขึ้นมองชายหนุ่มอย่างงุนงง  ใบหน้าคมคายซีดเผือดราวกับตกใจอะไรสักอย่างทั้งที่เมื่อตอนที่เขาไปช่วยเธอกับซันก็ไม่เห็นว่าเขาจะตื่นตระหนกอะไรนัก
          “คุณคะ…มีอะไรหรือเปล่า?”
         “บอกฉันหน่อยเพื่อนเธอชื่ออะไร?”
         “ซันค่ะ” 
         “เขาเป็นอะไรกับเธอ!รู้จักกันเมื่อไหร่?แล้วแผลพวกนั้นมันเกิดจากอะไร  เขามีครอบครัวไหม?” 
         “เดี๋ยวค่ะ!หยุดก่อน ฉันมึนไปหมดแล้ว   คุณเป็นอะไรไป?”
          “เด็กคนนั้น…พระเจ้า!กาย!ใช่กายของพี่หรือเปล่า?บอกฉันทีเถอะเด็กหนุ่ม
นั่นเป็นอะไรกับเธอ” ซูหลินนิ่วหน้าเพราะถูกบีบแขนแน่นจนเจ็บ  ท่าทางลุกลี้ลุกลนของคนตรงหน้าทำให้เธองง ‘จู่ๆทำไมชายคนนี้ถึงต้องมาซักประวัติของซันหรือว่า….เขาจะรู้จักกับซันมาก่อน’ 
         “คุณตอบฉันก่อนได้ไหมคะ  คุณอยากรู้ประวัติซันไปทำไม”
         “เขาเหมือนน้องชายของฉันมาก  น้องฉันประสบอุบัติเหตุหายสาบสูญไป7ปีแล้ว”ซูหลินอ้าปากค้าง ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน‘ซัน…นี่ไงล่ะซันครอบครัวของเธอ ใช่หรือเปล่าหนอ  ขอให้ใช่ด้วยเถิดพระเจ้า’  แต่ประสบการณ์ก็สอนว่าอย่าไว้ใจใครง่ายๆซูหลินเม้มปากนิ่งก่อนจะตั้งคำถามอีก
         “คุณมีหลักฐานอะไรละคะว่าเขาเหมือนน้องชายคุณ  แล้วปล่อยแขนฉันเถอะค่ะฉันเจ็บ!” ชายหนุ่มปล่อยแขนซูหลินแต่โดยดี เขาสูดลมหายใจลึกเพื่อตั้งสติ  ก่อนจะดึงกระเป๋าสตางค์ออกมาเปิดส่งให้ซูหลินดู   ภาพเด็กหนุ่มหน้าสวยที่ยิ้มสดใสอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่มทำให้ซูหลินนิ่งอึ้ง น้ำตาไหลพรากออกมาโดยไม่รู้ตัว  ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์เธอก็แน่ใจว่าซันคือเด็กหนุ่มในภาพนี้  เพียงแต่ซันที่เธอรู้จักไม่เคยมีรอยยิ้มสดใสเช่นนี้ให้เห็นเท่านั้น เธอเคยคิดเสมอว่าอยากเห็นซันยิ้มอย่างเป็นสุขสักครั้งแล้วเธอก็ได้เห็นจริงๆ   ซูหลินหัวเราะทั้งที่น้ำตายังไหลไม่หยุด
         “ซัน…ในสุดพระเจ้าก็ไม่ทิ้งเธอจริงๆพระองค์ส่งเธอถึงฝั่งแล้วนะซัน เธอกำลัง …ฮึ้ก!…จะได้กลับบ้าน” 
         “หมายความว่า…พระเจ้า!กายน้องจริงๆสินะ…โอ!…พระเจ้า”ร่างสูงพรวดไปเกาะกระจกหน้าห้องไหล่กว้างสั่นสะท้าน    ซูหลินเช็ดน้ำตาก่อนจะอ่านรายละเอียดบนบัตรของชายหนุ่ม 
         ‘เท็ด พอลลิ่ง  ประธานบริษัทกายคอปเปอร์เรชั่นจำกัด  ผู้ชายคนนี้เป็นประธานบริษัทเชียวหรือนี่ทั้งๆที่ดูยังหนุ่มอยู่มากไม่น่าจะมีตำแหน่งสูงขนาดนั้น  แต่อาจจะเป็นพวกลูกเศรษฐีก็ได้เลยได้เป็นประธานบริษัทตั้งแต่อายุน้อยๆ’  พยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม
         “คุณเป็นญาติของเด็กหนุ่มที่ถูกทำร้ายร่างกายหรือเปล่าคะ?”
         “ครับ” 
         “งั้นช่วยกรอกประวัติคนไข้ด้วยค่ะ อีกสักครู่สารวัตรเพอร์กิ้นจะมาสอบ ปากคำคุณกับเด็กสาวคนนี้คงต้องรอพบก่อน” 
         “ได้ครับ” ชายหนุ่มรับแฟ้มมากรอกรายละเอียดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตัดสินใจโทรหาริช 
         “ฮัลโหล”  เสียงหงุดหงิดทำให้เท็ดยิ้ม
         “โทษทีริชที่โทรมาตอนนี้”
         “ทำไมนะเท็ด!นายเลือกเวลาโทรได้…เอาเหอะมีอะไรว่ามา?”
         “ฉันเจอกาย”
         “อือ..แล้วไง…ห๊า!เจอกาย เท็ดนายอยู่ที่ไหน? ฉันจะไปหา”
         “ฉันไม่ได้ขาดสติ ไม่ได้เมา ไม่ได้กินยาอะไรทั้งนั้น  ฉันเจอกายแล้วริช  กายจริงๆถึงจะเปลี่ยนไปแค่ไหนฉันก็จำได้”
         “พระเจ้า! เท็ดนายไม่ได้อำฉันเล่นใช่ไหม?  ตอนนี้นายอยู่ที่ไหนเท็ด”
         “โรงพยาบาล”
         “ทำไม  กายเป็นอะไร?”
         “เขาถูกทำร้าย ตอนนี้หมอตรวจอยู่…”
         “ฉันกับราเชลจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
เท็ดปิดโทรศัพท์หันกลับมาพบว่าซูหลินยังมองเขาอย่างพินิจพิจารณา  เด็กสาวส่งกระเป๋าคืนให้พร้อมกับตั้งคำถาม
         “คุณกับซันหน้าไม่เหมือนกันเลยนะคะ”
เท็ดอมยิ้ม ‘เด็กคนนี้ฉลาดช่างสังเกตไม่น้อย’ ดวงตายาวรีนั้นเป็นประกายเหมือนจะประเมินเขาอยู่ตลอดเวลา  ท่าทางราวกับแม่เสือปกป้องลูกก็ไม่ปาน  จะว่าไปกายก็ยังโชคดีที่มีเพื่อนเช่นนี้ เท็ดชี้ไปที่เก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉินแล้วเดินไปนั่งด้วยกัน ก่อนจะตอบคำถามของซูหลิน
         “ผมเป็นลูกบุญธรรม  พ่อผมกับพ่อกายเป็นเพื่อนสนิทกันพอพวกท่านเสียชีวิต
ครอบครัวกายก็รับอุปการะผมแทน” เด็กสาวหน้าพยักหน้าแม้จะรู้สึกผิดที่ทำเหมือนก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของชายหนุ่ม แต่การที่จะให้ไว้ใจจนปล่อยให้ซันไปกับเขาง่ายๆก็ไม่ใช่เรื่องสมควร
         “ที่ผ่านมากายอยู่กับเธอมาตลอดเลยเหรอ?” เท็ดเป็นฝ่ายตั้งคำถามบ้างเมื่อเห็นเด็กสาวเงียบไป ซูหลินเหลือบมองเมื่อรู้สึกถึงน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปของคนตรงหน้าดูเขาพูดจานุ่มนวลขึ้นกว่าตอนที่เจอกัน
         “ค่ะ…ตอนนั้นเป็นช่วงคริสมาสต์  พ่อกับอาขึ้นฝั่งมาส่งปลาขากลับก็แวะซื้อวัวที่ฟาร์มแล้วก็เห็นอุบัติเหตุก็เลยช่วยซันไว้ได้พอดี พ่อพาซันกลับไปรักษาที่เกาะ”
         “ทำไมพ่อเธอถึงไม่ส่งกายไปโรงพยาบาลล่ะ”
         “…เอ่อ…”ท่าทางอึกอักของซูหลินทำให้เท็ดเริ่มเข้าใจบางอย่าง
         “ไม่ต้องห่วงเรื่องที่เราคุยกันจะเป็นความลับและจะไม่กระทบกระเทือนให้พ่อเธอเดือดร้อนเด็ดขาดเพราะพ่อเธอมีบุญคุณกับกาย  เล่าให้ผมฟังเถอะนะ”
         “พ่อกับอาลักลอบเข้าเมือง พ่อกลัวตำรวจเลยไม่กล้าพาซันไปโรงพยาบาล  ต้องพากลับไปที่เกาะ  ที่นั่นเรามีซินแส…หมอแผนโบราณน่ะค่ะ ซินแสรักษาชีวิตซันไว้ได้แต่เขาก็มีแผลเป็นทั้งตัว พอฟื้นขึ้นมาซันกลับจำอะไรไม่ได้  ซินแสบอกว่าศีรษะซันกระทบกระเทือนมากเกือบไม่รอดด้วยซ้ำ”
         “กาย…โอ!พระเจ้า!ขอบคุณที่พระองค์ยังเมตตาเรา…ขอบคุณนะ…เอ่อ…”
         “ซูหลินค่ะ”
         “ขอบคุณมากซูหลิน  ขอบคุณพ่อของเธอ  ขอบคุณซินแสท่านนั้น  ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยได้ขอให้บอกผมยินดีทำให้ทุกอย่างเลย”
         “ไม่เป็นไรหรอกค่ะซันเป็นเพื่อนฉัน เขาสอนหนังสือให้ฉันด้วย ฉันพูดภาษาอังกฤษคล่องก็เพราะซัน ฉันเองก็อยากตอบแทนเขาบ้างเพราะซันชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวนั่งเหม่อดูทะเล เขาสงสัยมาตลอดว่าจะมีใครรอเขาอยู่บ้างไหม เขาจะมีครอบครัวหรือเปล่า เขาว่าเขากลัวจะไม่เหลือใครเลย  พ่อกับอาฉันพยายามตามข่าวของครอบครัวซันแต่ก็ไม่มีข่าวอุบัติเหตุของซันก็ไม่ได้ลงหนังสือพิมพ์  พ่อเองก็ติดตามได้จำกัดเพราะกลัวจะถูกจับ  ซันก็เลยอยู่กับเรามาตลอด ช่วยสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆที่เกาะ เขาเคยขอช่วยงานอย่างอื่น แต่ร่างกายเขาไม่เป็นปกติก็เลยช่วยได้แต่งานเล็กน้อยๆทำงานหนักนักไม่ได้…”
         “เท็ด!…กายเป็นไงบ้าง?” ร่างสูงใหญ่เดินนำหน้าลิ่วเข้ามา มีร่างเพรียวบางวิ่งตามหลัง  ซูหลินจ้องมองเพลิน ผู้หญิงคนนี้สวยยังกับดาราทั้งสวยทั้งน่ารัก
         “ริช  ราเชล…กายอยู่ข้างในหมอยังไม่ออกมาเลย”
 เท็ดผุดลุกขึ้นตอบรับทั้งสอง  ริชเหลือบมองซูหลินก่อนหันกลับไปมองหน้าเท็ด 
         “แล้วนั่น…?”
         “นี่ซูหลินเป็นเพื่อนกาย  ครอบครัวเธอช่วยชีวิตกายไว้”
         “ขอบคุณมากครับ  ผมราเชลนี่ริชเราเป็นเพื่อนคุณกายครับ” 
ร่างบางเป็นฝ่ายเข้ามาจับมือทักทาย เรือนร่างที่เห็นใจระยะใกล้ทำให้ซูหลินอ้าปากค้างก่อนจะเผลอยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าเกือบปล่อยไก่ทั้งเล้า  นี่ก็อีกคนสินะผู้ชายหน้าสวย แต่คนนี้เหมือนผู้หญิงมากกว่าซันซะอีก  ซันถึงจะดูเพรียวๆแต่ก็ดูคมเข้มกว่า  แต่คนที่ชื่อราเชลนี่ดูยังไงก็เหมือนผู้หญิงขนาดเสียงยังเล็กหวานยิ่งกว่าผู้หญิงอีก
         “สวัสดีค่ะ…ฉันซูหลินเป็นเพื่อนซันเหมือนกันค่ะ”
         “ซัน?…”
         “ชื่อของกายตอนอยู่ที่เกาะน่ะ…กายความจำเสื่อมเพราะอุบัติเหตุ”ราเชลทำท่างงๆจนเท็ดต้องรีบชี้แจง
         “เขาจำอะไรไม่ได้ เราเลยเรียกเขาว่า‘ซัน’…ชื่อนี้ฉันเป็นคนตั้งเองแหละค่ะ”
ซูหลินอธิบายท่าทางภูมิใจนิดๆนั้นน่าเอ็นดู  ก่อนที่จะได้พูดคุยกันมากกว่านั้นประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก  นายแพทย์สูงวัยก้าวออกมา เท็ดปราดเข้าไปหาอย่างร้อนใจ
         “หมอครับ  น้องผมเป็นไงบ้าง?”
         “ก็บอบช้ำมากเหมือนกัน  แต่ก็ไม่มีกระดูกแตกหัก อวัยวะภายในไม่เป็นอะไรมาก  แต่ที่หนักเห็นจะเป็นที่สะโพกคงเพราะโดนกระแทกที่รอยแผลเก่า”
         “แล้วตอนนี้เขาเป็นไงบ้างครับ?”
         “เขาปลอดภัยแล้วครับ แต่คงต้องให้อยู่ดูอาการสักคืนถ้าไม่มีอะไรพรุ่งนี้สายๆก็กลับบ้านได้แล้ว”
         “ผมเข้าไปเยี่ยมได้ไหมครับ”
         “เชิญครับ”
         “หมอครับ…” ริชเข้าไปคุยกับหมอ ขณะที่เท็ดผลักประตูเข้าไปอย่างร้อนรน  พยาบาลที่อยู่หน้าเคาเตอร์เงยขึ้นมอง
         “ผมเป็นญาติของคนไข้ที่ถูกทำร้ายร่างกายน่ะครับ”
         “ค่ะ…เตียงริมสุดเลยค่ะ”
         เท็ดเดินไปที่เตียงสุดท้าย พยาบาลที่ปรับสายน้ำเกลือหันมามองก่อนจะถอยออกไปและรูดม่านข้างเตียงให้  เท็ดก้มลงมองร่างบอบบางที่ยังไม่ได้สติ ใบหน้าแตกยับเริ่มบวมแต่ก็ยังดูดีกว่าตอนแรกที่โชกไปด้วยเลือด ชายหนุ่มประคองมือเล็กขึ้นมาจุมพิตมือเขาสั่น ตัวก็สั่นหัวใจเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น 
         ‘กายในที่สุดพี่ก็ได้เจอน้องอีกครั้ง คำอธิฐานต่อพระเจ้าทุกค่ำคืนได้ยินถึงพระองค์จริงๆ  ทรงใจอ่อนยอมให้คนบาปเช่นพี่ได้รับการอภัย ในที่สุดก็ทรงยอมคืนน้องให้แก่พี่  ขอบคุณพระเจ้าขอบคุณในความเมตตาของพระองค์’  มือใหญ่ลูบไล้บนใบหน้าเรียวแผ่วเบา เส้นผมที่เคยนุ่มสลวยแห้งกระด้าง รอยแผลเป็นใหญ่พาดผ่านจากขมับลงมาถึงโหนกแก้ม แดงนูนเด่น ปากบางจุมพิตบนรอยแผลแผ่วเบา  รอยเขียวช้ำที่โหนกแก้มข้างแผลทำให้ชายหนุ่มกัดกรามแน่นดวงตาวาวโรจน์ด้วยความแค้น  เขาจำเลขทะเบียนรถคันนั้นได้ ไม่ช้าหรอกเขาต้องเอาคืนให้สาสมกับที่พวกมันทำ
         ซูหลินยืนมองภาพนั้นน้ำตาคลอไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว เธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนมีท่าทางอ่อนโยนเช่นนี้ การแสดงออกของคนตรงหน้าต่อเพื่อนรักดูทะนุ-ถนอมราวกับซันเป็นแก้วบอบบางที่พร้อมจะแตกหัก  ความรักความห่วงใยที่เขาแสดงออกผ่านภาษากายโดยไม่ต้องเอ่ยเป็นคำพูด ชัดเจนจนแม้แต่พยาบาลยังอดเมียงมองมาไม่ได้  ร่างสูงคุกเข่าอยู่ข้างเตียงเนิ่นนานจนบุรุษพยาบาลที่จะเข้ามาเข็นเตียงต้องกระแอมให้เสียง 
         “เท็ดเราจะย้ายกายไปห้องพิเศษนะ”   ริชเดินตามบุรุษพยาบาลเข้ามาพูดกับเท็ดเบาๆเพราะไม่อยากให้รบกวนผู้ป่วยคนอื่นๆ
         “ขอบใจริช”
         ด้วยการจัดการของริช ซันได้ย้ายจากห้องรวมในห้องฉุกเฉินมาอยู่ห้องพิเศษ ทันทีที่บุรุษพยาบาลออกไปเท็ดก็เข้าไปนั่งกุมมือซันอยู่ข้างเตียง  ริชกับราเชลมองหน้ากันอย่างอ่อนใจก่อนจะหันมามองเพื่อนใหม่ที่จ้องมองเท็ดกับกายนิ่งงัน
         “เอ๊ะ! คุณซูหลินได้รับบาดเจ็บด้วยหรือครับ?”
เสียงอุทานของราเชลทำให้ริชกับเท็ดเหลียวมามองซูหลินพร้อมกัน  เท็ดอึ้งไปอย่างเสียใจที่เขามัวแต่ตกใจจนละเลยซูหลิน  เด็กสาวเพิ่งเจอเรื่องชวนตระหนกมาไม่แพ้กาย แต่ยังไม่ได้ให้หมอตรวจเลยด้วยซ้ำ  ใบหน้ากลมขาวนั้นมีรอยเขียวที่โหนกแก้มกับมุมปาก เนื้อตัวมีรอยฟกช้ำแถมยังใส่เสื้อแจ็คเก๊ตของเขาอยู่เพราะเสื้อของเธอฉีกขาดหมด 
         “ผมขอโทษนะซูหลิน  มัวแต่ตื่นเต้นที่ได้เจอกายเลยไม่ได้ดูแลเธอเลย”
         “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ โธ่!อย่าทำหน้าตกอกตกใจกันอย่างนั้นสิ ฉันน่ะแข็งแรงจะตาย  แค่นี้สบายมากค่ะ”
         “แต่ผมว่าคุณซูหลินให้หมอตรวจสักหน่อยก็ดีนะครับ เผื่อมีอะไรจะได้แก้ไขทัน”
         “โอ๊ย!ไม่เอาเด็ดขาด ขืนตรวจหมอก็ต้องหาเรื่องฉีดยาฉันแน่ๆไม่ตรวจเด็ดขาด  ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ไม่เป็นไรจริงๆ”
         ‘ซูหลินคนเก่งกลัวเข็ม’ ราเชลกับเท็ดสบตากันก่อนจะเหลือบมองริช  นี่ก็อีกคนที่กลัวเข็ม  ริชพยักหน้าหงึกท่าทางเข้าอกเข้าใจกันดี
         “ถ้าเธอว่าไม่เป็นไรก็ไม่ต้องตรวจหรอก  เดี๋ยวไปให้พยาบาลเข้าทำแผลให้ก็ได้  รับรองเขาไม่ฉีดยาแน่”
         “แล้วกัน! แทนที่จะได้ให้หมอตรวจคุณซูหลินดันมาสนับสนุนไม่ให้ตรวจซะอีก  พอเลยริช  ขืนพูดอะไรไม่เข้าท่าอีกผมจะหมอฉีดยาคุณแทนคุณซูหลิน”
ริชหน้าเจือน ปล่อยให้ราเชลพาซูหลินออกไปให้หมอตรวจ  ชายหนุ่มเข้าไปตบไหล่เท็ดเบาๆ   
         “แล้วจะโทรบอกพ่อกับแม่นายเมื่อไหร่?”
         “พรุ่งนี้เช้า…คงต้องดูอาการกายก่อน  รอให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาค่อยบอก  ขืนพ่อรู้ตอนนี้อาจจะช๊อคไปง่ายๆ”
         “นายไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีไหม?”
         “ไม่ล่ะฉันอยากอยู่กับกายอยากรู้ว่าเขาจะจำฉันได้ไหม เขาอาจจำฉันได้นะริช” ริชแอบถอนใจ  หากกายจำได้ก็เป็นเรื่องน่ายินดีแต่ถ้ากายจำเท็ดไม่ได้ เท็ดจะเจ็บปวดขนาดไหน เวลาเกือบ7ปีที่เท็ดทุกข์ทรมานอยู่กับอดีต เฝ้าแต่โทษว่าเป็นความผิดของตัวเองนั้น ใช่ว่าคนรอบข้างจะไม่รู้ แต่เมื่อเท็ดไม่พูดก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึง ต้องปล่อยให้เท็ดใช้ชีวิตขมขื่นตลอดมา เพราะเท็ดไม่เคยเปิดใจยอมรับใครเข้ามาอีกเลย
         “ริช…ร้านเสื้อผ้าผู้หญิง  ร้านไหนยังเปิดอยู่บ้างเนี่ย?”  จู่ๆเท็ดก็ถามขึ้นมาเล่นเอาริชงง
         “อะไรนะ…ร้านเสื้อผ้าผู้หญิงเหรอ…นายจะทำอะไร?”
         “ซูหลินเขาเสื้อขาดหมด  นี่ให้ใส่เสื้อฉันอยู่  ว่าจะหาเสื้อผ้าให้เขาใหม่”
         “เสื้อขาด…มิน่าถึงดูแปลกๆ  นี่มันเกิดอะไรขึ้นบ้างเนี่ย  นายเล่ารายละเอียดมาดีกว่า”เท็ดเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ริชฟัง หนุ่มเลือดร้อนถึงกับตาลุกวาบอย่างเดือดดาล  ราเชลกับซูหลินกลับมาได้ยินเข้า ซูหลินจึงเล่าให้ฟังตั้งแต่ตอนที่รถเสียจนกระทั่งเธอกับซันได้รับการช่วยเหลือจากเท็ด  ทั้งหมดเหลียวไปมองคนบนเตียงอย่างสงสาร  เท็ดดึงมือเรียวขึ้นมาจูบทีละนิ้วในอกหนักอึ้ง หากเขาไปช้ากว่านั้น...หรือหากเขาไม่ไปหาพ่อกับแม่ที่ฟาร์มกายจะเป็นอย่างไร  ริชขอออกไปโทรศัทพ์ข้างนอกครู่เดียวก็กลับเข้ามาเรียกราเชลไปคุยกันเบาๆ 
         “เท็ดเดี๋ยวฉันกับราเชลจะพาซูหลินออกไปซื้อเสื้อแล้วจะหาอะไรกินด้วย  นายเอาอะไรบ้าง?”
         “ไม่ล่ะไปเถอะ ฝากซูหลินด้วยแล้วกัน  ขอโทษนะซูหลินที่ไม่ได้ดูแลเธอเลย”
         “ไม่เป็นไรค่ะ   แต่ว่าฉันไม่อยากไปไหนเลย กลัวซันตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอฉันเขาจะตกใจ”
         “คืนนี้กายนอนยาวแน่ครับ  หมอฉีดยาให้เขาได้พักเต็มที่คิดว่ากว่าจะตื่นก็คงเป็นพรุ่งนี้เช้า”
         “แต่…”
         “ไปเถอะครับคุณซูหลิน  ผมว่าคุณก็ควรได้พักสักหน่อย  คืนนี้จะเปลี่ยนกันเฝ้าคุณกายไงครับ”  ราเชลหันมาคะยั้นคะยอจนซูหลินใจอ่อนยอมไปด้วย  ริชอมยิ้มไม่พูดอะไรเลย  ลองราเชลอ้อนอย่างนี้มีหรือจะไม่สำเร็จ  ขนาดเขายังไม่เคยขัดได้สักครั้ง
         “เดี๋ยวมา”
         “ฮื่อ…ขอบใจริช”
เสียงประตูห้องปิดลง  เท็ดไม่ได้เหลียวไปมอง สายตาจับจ้องแต่ใบหน้าเรียวซีดของคนบนเตียง  กายผอมเหลือเกิน  ผิวที่เคยนวลเนียนแห้งผาก  ปากซีดขาว  แขนขาเรียวเล็กยิ่งกว่าตอนเด็กๆ  เส้นผมสีน้ำตาลทองแห้งหยาบ แม้จะดูสูงขึ้นกว่าเดิมแต่กลับดูซูบเซียว เท็ดคลี่นิ้วยาวผอมออกดู มีรอยด้านบริเวณฝ่ามือกับปลายนิ้ว  รอย-
พรุ่นจุดๆที่ปลายนิ้วเหมือนกายต้องทำงานที่ใช้เข็มหรือของปลายแหลมๆสักอย่าง มีรอยบาดเล็กๆกระจายให้เห็นทั้งที่ฝ่ามือและแขน  สายตาที่ระเรื่อยลงมาบริเวณลำคอชะงักค้าง มือใหญ่ค่อยๆพลิกศีรษะกายไปด้านข้างเบาๆ  ต้นคอด้านหลังตั้งแต่ตีนผมถึงไหล่เป็นรอยแดดเผาจนไหม้เกรียม บางแห่งลอกเป็นขุย นี่กายต้องใช้ชีวิตแบบไหนที่เกาะนั่น  เขารู้ว่ากายคงไม่ได้นั่งเฉยๆรอให้ใครมาหาให้กินแน่  กายคงลำบากไม่น้อย เท็ดยกมือบางขึ้นจุมพิตและแนบไว้ที่แก้ม  ตอนนี้เขาได้กายกลับคืนมาแล้ว  ต่อให้ต้องตายเขาก็จะไม่ยอมพรากจากกายอีก 


.........

กายกลับมาให้หายคิดถึงแล้วนะ
ขอบคุณคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" กลับมาต่อแล้วคะ 28/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: CHOKUN ที่ 28-10-2009 19:21:27
ดีใจจังเลยที่กายไม่ตายอ่ะ อยากให้กายฟื้นแล้วจำได้จัง  รออ่านตอนต่อไป    :impress2: :impress2: :impress2:ห
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" กลับมาต่อแล้วคะ 28/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-10-2009 20:11:47
กายมาแล้ววววว   :impress2: :impress2:   ฟื้นมาจะเป็นไงน้า   :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" กลับมาต่อแล้วคะ 28/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 28-10-2009 21:23:22
กรี๊ดดดดดด เป็นกายจริงๆ ใช่ม้าย  :man1:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" กลับมาต่อแล้วคะ 28/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 28-10-2009 23:26:59
กายกลับมาแล้วยังดีที่ไม่ตายนะ
เอาใจช่วยให้ฟื้นความจำไวๆค่ะ :impress3:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" กลับมาต่อแล้วคะ 28/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: bigbeeboom ที่ 28-10-2009 23:54:54
เจอกันแล้วๆๆ ดีใจจังเลยจ้า

อยากทราบจังตอนหน้าเป้นไงมั่ง กายจะตื่นแล้ว แต่เฮียเท็ดแบบหวานได้ใจมาก รู้สึกถึงความรักของเท็ด ซึ้งจัง  :m15:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" กลับมาต่อแล้วคะ 28/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 29-10-2009 03:30:16
เท็ด กาย ได้เจอกันเสียที
คราวนี้จะเป็นยังไงต่อไปนะ
บวก 1 แต้ม ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" กลับมาต่อแล้วคะ 28/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 30-10-2009 10:28:03
วันนี้จะมาม้ายยยยยยยย  อยากอ่านต่อแล้ว :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" กลับมาต่อแล้วคะ 28/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 31-10-2009 14:34:51
กายกลับมาแล้ว น่าสงสารจังทั้งความจำเสื่อมแล้วยังต้องลำบากอีกไม่รู้ถ้าฟื้นกลับมาแล้วจะเป็นยังไง มารออ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" Up 31/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 31-10-2009 21:41:19
ไม่ได้ไปเที่ยวไหนคืนฮาโลวีน มาอ่านกายกันต่อเถอะ
........

         สารวัตรเพอร์กิ้นมาสอบปากคำเท็ดกับซูหลินไม่นานก็ลากลับ เพราะดึกมากแล้วและเท็ดก็เป็นคนมีชื่อเสียงมากคนหนึ่งของเมืองเล็กๆแห่งนี้  สารวัตรรับปากว่าจะออกตามจับวัยรุ่นกลุ่มนั้นให้ได้เร็วที่สุด 
         ซูหลินบิดตัวอย่างเมื่อยขบ ชั่วระยะเวลาไม่ถึง24ชัวโมงแต่เธอกลับรู้สึกว่ายาวนานราวกับผ่านมาหลายวัน  นับตั้งแต่ที่สารวัตรกลับไปเธอก็ต้องเล่าเรื่องราวของซันให้ทุกคนฟังอย่างละเอียดเท่าที่เธอจะนึกออก ไม่ใช่แค่คำร้องขอของเท็ด  หากแต่สายตาที่เพ่งมองจับจ้องราวกับจะดูดซับทุกถ้อยคำของเธอไว้  ความกระหายใจจดจ่อกับทุกรายละเอียด ที่เขาไม่มีโอกาสได้รับรู้ในช่วงเวลา7ปีนี้  ความรักความห่วงหาอาทรจากสายตายามที่เขาจ้องมองซันเป็นแรงพลักดันให้เด็กสาวอยากถ่ายทอดทุกรายละเอียดให้เขารับรู้    ใบหน้าคมคายนั้นสงบนิ่ง  หากแต่แววตายังคงไหววูบตามแรงอารมณ์ทุกครั้งที่ซูหลินเล่าถึงความเจ็บปวดที่ซันได้รับ  ไม่ว่าจะเกิดจากบาดแผลทางกายหรือเกิดจากการกระทำของคนรอบข้าง  โดยเฉพาะเมื่อเธอเล่าถึงครั้งที่ซันเกือบถูกเพื่อนๆของโทนี่รุมข่มขืน  โชคดีที่ไป่หลงมาช่วยไว้ทัน  บิดาในฐานะผู้ใหญ่บ้านจึงไล่เพื่อนของโทนีออกไปจากเกาะ ทำให้พวกมันถูกจับเพราะเคยก่อคดีไว้แล้วหนีไปหลบตำรวจที่เกาะ  ร่างสูงยังนั่งนิ่งแต่มือที่กุมอยู่กับมือของซันสั่นระริกดวงตาวาววับ  แต่คนที่ทนไม่ได้คือริช  ชายหนุ่มซักถามชื่อนามสกุลของเพื่อนๆโทนี่ก่อนจะลุกออกไปโทรศัพท์ ราเชลหน้าหมองน้ำตาคลอลุกขึ้นไปลูบแขนซันเบาๆก่อนจะตามริชออกไปอีกคนและไม่นานทั้งคู่ก็กลับเข้ามาขอตัวกลับ  เท็ดรู้ว่าริชคงตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างแน่ๆและเขาก็ไม่คิดจะห้ามปราม
         “ซูหลิน…ขอบคุณมากนะที่ช่วยดูแลกายตลอดเวลาแล้วยังคนที่ชื่อไป่หลงนั่นอีก  ฝากขอบคุณเขาด้วยนะ”  ซูหลินอมยิ้ม
         “อย่าฝากเลยค่ะ  แค่ซันเจอครอบครัวนี่ไป่หลงก็แทบบ้าตายแล้วเพราะเขาหลงรักซันอยู่  ตอนที่ไปช่วยซันเขาจับพวกมันหักแขนหักขาซะเกือบตาย  ดีนะที่เจ็กห้ามไว้ทันไม่งั้นพวกนั้นได้ตายก่อนติดคุกแน่ๆ”
         “หืม?ไป่หลงเขา…หลงรักกายงั้นเหรอ?”
         “ค่ะ…หลงหัวปักหัวปำ  ขนาดพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ยังแอบส่งจดหมายรักมาให้ซันเลย…ขำจะตาย ตัวโตยังกับหมีแต่ถือดอกไม้กระมิดกระเมี้ยนมาส่งให้ซัน โอ๊ย!เล่นเอาหัวเราะกันกลิ้ง  ซันก็ขำแต่ก็สงสารเลยไม่กล้าหัวเราะ  กลั้นขำจนหน้าแดง  ไป่หลงเลยเข้าใจว่าซันเขินที่นี่เลยเดินตามทุกวัน ไปรับไปส่งระหว่างบ้านกับโรงเรียนจนซันต้องไล่ให้กลับ  แต่พอเกิดเรื่องเข้าไป่หลงเลยได้ตำแหน่งองค์รักษ์อย่างถาวร”
         “แล้วซันชอบไป่หลงหรือเปล่า?”
         “โอ๊ย!ซันเหรอคะจะชอบใคร วันๆเอาแต่เหม่ออยากจะจำอดีตให้ได้อย่างเดียวแหละค่ะ  นี่ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่าเจอครอบครัวแล้วซันคงดีใจ”
         “นี่ก็ดึกมากแล้ว  ซูหลินนอนเถอะ “
         “ดึกอะไรคะจะสว่างแล้วต่างหาก”
         “นั่นสิ แต่ยังอีกหลายชั่วโมง นอนพักสักหน่อยเผื่อตอนเช้าจะได้ช่วยดูแลกายระหว่างที่ผมไปรับพ่อกับแม่”
         “ก็ได้ค่ะ…ความจริงก็ง่วงเหมือนกัน  ถ้ามีอะไรก็ปลุกได้เลยนะคะ”  ซูหลินนอนเงียบไปครู่ใหญ่จู่ๆก็ได้ยินเสียงพูดปนสะอื้นขึ้นมาเบาๆ
         “ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันกับซันไว้ ขอบคุณมากๆ ถ้าไม่ได้คุณป่านนี้…ฮึก…ขอบคุณค่ะ”
         เท็ดวางมือเรียวลง  ไปคุกเข่าลงข้างเตียงเล็กชิดฝาลูบศรีษะเล็กเบาๆ ได้ยินเสียงสะอื้นลอดออกมาจากใต้ผ้าห่มดังขึ้นกว่าเดิม ซูหลินเองก็คงยังตกใจอยู่ไม่น้อยแต่เพราะมีเรื่องให้ตื่นเต้นมากกว่าเลยลืมๆไปแต่พอหายตื่นเต้นเรื่องซัน อาการช็อค ย้อนหลังก็กลับมา มือเล็กหยาบยื่นออกมานอกผ้าห่ม  เท็ดจับไว้และบีบเบาๆอย่างปลอบโยน  เมื่อเสียงสะอื้นจางลงก็ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอเข้ามาแทน  ร่างสูงจึงค่อยๆวางมือของเด็กสาวลงขยับชายผ้ามาคลุมให้ก่อนจะกลับไปกุมมือคนบนเตียงอย่างเดิม
…………
         “ซัน…เป็นไงบ้าง?”
         “ซูหลิน…นี่ที่ไหน?”
         “โรงพยาบาล…ซัน…เจ็บมากไหม?”
         “ไม่เท่าไหร่หรอก…อย่าร้องไห้สิ”
         “ซัน…เมื่อวาน  คนที่เขามาช่วยเราน่ะ…ซันจำเขาได้ไหม?”
         “คนที่มาช่วย…ไม่รู้สิผมจำไม่ได้  ตอนนั้นมันชุลมุนกันไปหมด”
         “เขาเฝ้าซันตลอดคืนเลยนะ…นี่ออกไปคุยกับหมออยู่…นั่นไง”
         “กาย…ฟื้นแล้วเหรอ…กายเป็นไงบ้าง เจ็บมากไหม?”
         แสงแดดที่ส่องผ่านหน้าต่างจับผมและซีกหน้าด้านข้างของร่างสูงเป็นประกาย  ภาพที่คล้ายๆกันหากแต่ผู้ที่เข้ามาเยาว์วัยกว่าผุดวาบขึ้นมาในหัว  ซันตะลึงตัวแข็งจู่ๆภาพนั้นก็หายวับไป
         “ไม่!อย่าหายไปสิ…อย่าหายไป ผมอยากจำได้…โอ๊ย!”ซันยกมือขึ้นบีบศรีษะแน่น เจ็บแปลบขึ้นมาจนทนไม่ไหว
         “กาย!…กาย!…หมอ!” ซูหลินยืนงง ขณะที่เท็ดช้อนร่างบางขึ้นมากอดแน่น  แถมยังคว้าคอร์เนิสขึ้นมากดเป็นการใหญ่  ซันตัวงอหน้าซีดขาวแต่คนที่กอดก็หน้าซีดไม่แพ้กัน  แพทย์และพยาบาลทยอยเข้ามาในห้อง ซูหลินและเท็ดถูกกันออกมาข้างนอก  ร่างสูงเดินวนเวียนอย่างกระวนกระวาย 
         “อ้าว!…ทำไมออกมาอยู่ข้างนอกกันหมด  หรือว่า…กายเป็นอะไร!”
ริชกับราเชลที่เพิ่งมาถึงหน้าตาตื่นอย่างตกใจ  เท็ดได้แต่ส่ายหน้า หน้าซีดเซียว 
         “เขาคงจำอะไรได้มั้งคะ”
         “หา!…จำอะไรได้…จำได้เหรอกายจำได้เหรอ?” เท็ดกับริชอุทานออกมาพร้อมกัน แทบจะเข้ามาเขย่าซูหลิน
         “เอ่อ…เวลาที่เขาเจออะไรคุ้นๆตา ซันเขาจะมีอาการอย่างนี้แหละค่ะ…อย่างเวลาที่เขาขึ้นรถ  เขาจะกลัวแล้วก็ปวดหัวมาก นอนซมทั้งวันเลย”
         “หมายความว่ากายอาจจำได้  อาจจะหายจากความจำเสื่อมใช่ไหม?”
 เท็ดตาเป็นประกายอย่างยินดี  ซูหลินอึกอักพูดไม่ออก เธอไม่อยากเห็นความผิดหวังของเขาเลยแต่ก็ไม่กล้าโกหก
         “เอ่อ…คือ…ไม่แน่ใจค่ะ  บางทีเขาก็จำได้แวบเดียวแล้วก็หายไปอีก  บางทีก็จำได้เลยอย่างเรื่องว่ายน้ำเขารู้ว่าเขาว่ายน้ำไม่ค่อยเก่งนัก แล้วเขาเกิดจำได้ว่าตอนเด็กๆเขาเคยเกือบจมน้ำตายก็เลยกลัวน้ำ  แต่ก็จำได้แค่นั้น”
         “ใช่…ตอนกายสัก4-5ขวบเขาหัดดำน้ำแล้วเกิดหลงน้ำหาทางขึ้นมาไม่ได้จนเกือบจมน้ำตาย  แต่ตอนหลังพ่อก็จับเขาไปหัดจนหายกลัวไปแล้วนี่นา ทำไมยังกลัวอยู่อีก” เท็ดขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจ ราเชลที่นั่งเงียบมานานเสนอความคิดขึ้นมา
         “ผมว่าเราให้คุณหมอซอเรนมาดูอาการคุณกายจะดีไหมครับ”
         “หมอนั่นเกี่ยวอะไรด้วย กายมีปัญหาที่สมองนะไม่ได้ป่วยทางจิต”  ริชค้าน
         “แต่คุณหมอซอเรนก็มีเพื่อนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสมองหลายคนนี่นา อีกอย่างถ้าได้รักษาควบคู่กันคุณกายอาจจำได้เร็วๆก็ได้”
         “แต่ฉันไม่เห็นด้วย” ริชหน้าบึ้ง ตาขุ่น ราเชลถอนใจเฮือกอย่างอ่อนใจ
         “คุณหมอออกมาแล้วค่ะ”  ซูหลินรีบห้ามทัพ
         “หมอครับ  น้องผมเป็นไงบ้าง?”
         “รู้สึกว่าจะเป็นอาการทางจิตใจมากกว่านะครับ  คงต้องเชิญผู้เชี่ยวชาญมาตรวจ แต่อาการโดยทั่วไปก็ปกติดีแล้ว จะมีบ้างก็เรื่องขาเพราะที่สะโพกมีอาการอักเสบขึ้นมาคงต้องดูแลเป็นพิเศษหน่อย”
         “หมายความว่ากายยังต้องอยู่โรงพยาบาลอีกหลายวันหรือครับ”
         “คงต้องรอดูอาการก่อนนะครับ  หากไม่มีอาการแทรกซ้อน คิดว่าคงให้กลับได้ภายใน2-3วัน หมอขอตัวก่อนนะครับ”
         “ขอบคุณครับ”
แพทย์และพยาบาลพากันออกไปจนหมด  เท็ดเดินลิ่วไปที่เตียง  ร่างบางลุกขึ้นนั่งได้แล้ว  หน้าเรียวนั้นจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างแต่พอได้ยินเสียงฝีเท้าก็หันกลับมา  คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อยขณะที่จ้องมองเท็ด  ดวงตาโตก็ไหววาบแล้วจางหาย  แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นยินดี  เท็ดขยับเข้าไปหาแต่ก็ต้องชะงักเมื่อพบว่าสายตายินดีคู่นั้นไม่ได้มองเขาหากแต่เป็นซูหลิน  เด็กสาววิ่งเข้าไปกอดคนบนเตียง แขนผอมๆโอบรัดร่างกลมขาวเบาๆก่อนจะคลายออก  ภาษาที่ทั้งสองพูดคุยทำให้ที่เหลืออึ้งเพราะฟังไม่ออก  แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงเป็นภาษาจีน  ซูหลินพูดบางอย่างและเด็กหนุ่มก็เหลือบมองมาที่คนทั้ง3ก่อนจะหยุดนิ่งอยู่ที่เท็ด  ชายหนุ่มสาวเท้าเข้าไปชิดเตียง 
         “กาย…จำพี่ได้ไหม?”
         “ขอโทษครับ….ผมจำคุณไม่ได้  แต่ซูหลินบอกว่าคุณเป็นพี่ผม”
         “ใช่!พี่เป็นพี่ของกาย   พี่ชื่อ‘เท็ด’พวกเรานามสกุล‘พอลลิ่ง’คุ้นหูบ้างไหม?”
         “พอลลิ่ง?…ไม่ครับผมนึกไม่ออก แล้วผมเคยชื่อ‘กาย’งั้นเหรอครับ?”
         “น้องชื่อกาย…กาย พอลลิ่ง พ่อชื่อแดนนี่ แม่ชื่อดาน่า…ไม่คุ้นหูเลยหรือกาย?”
         “ผม…ผมจำไม่ได้  แต่…ผมมีครอบครัวใช่ไหม?”  หน้าเรียวซีดเงยขึ้นสบตากับเท็ด ตาโตคลอด้วยน้ำใสๆดูอ้างว้างและหวาดกลัว  เท็ดรวบร่างผอมบางเข้ามากอด  เด็กหนุ่มสะดุ้งพยายามจะดันอ้อมแขนแน่นหนานั้นออก หากแต่สัมผัสที่อบอุ่นนั้นคุ้นเคย จนทำให้ซันเลิกดิ้นรนและเผลออิงแอบกับอกกว้าง เสียงเคาะประตูทำให้เด็กหนุ่มผวา รีบดันตัวออกจากอ้อมแขนของเท็ด  ซึ่งชายหนุ่มก็ยอมปล่อยแต่โดยดี
         “อรุณสวัสดิ์ค่ะเจ้านาย  อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน”
         “อรุณสวัสดิ์ครับคุณจินนี่” ริชรีบส่งเสียงและสายตาแพรวพราวไปทักทาย 
ร่างโปร่งระหงส์ก้าวฉับๆเข้ามาอย่างรวดเร็ว ในอ้อมแขนมีแฟ้มขนาดใหญ่หลายเล่ม  ริชเดินไปรับแฟ้มจากจินนี่มาวางที่โต๊ะรับแขกมุมห้อง 
         “กาย…นี่คุณจินนี่เลขาของพี่…คุณจินนี่ครับน้องชายผมครับ”
         “สวัสดีค่ะ”
         “สวัสดีครับ…เอ่อ….ผมรู้จักคุณมาก่อนหรือเปล่าครับ?”
         “อุ๊ย!มามุขเดียวกับคุณริชเลยนะคะเสียดายจังค่ะที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน”
         “มุขเดียวกัน…สงสัยริชคงใช้บ่อยสินะครับ” เสียงหวานเยือกเย็นดังขึ้นเบื้องหลัง
         “ค่ะ…ชอบทักทายพนักงานสวยๆเข้าใหม่แบบนี้ทุกที…อุ๊ย!คุณราเชลอยู่ด้วยหรือคะ  เอ่อ…ขอโทษนะคะไม่ทราบว่ามาด้วย”จินนี่ทำเสียงเหมือนตกใจ แต่ใบหน้าระรื่นแถมยังแอบมองริชขำๆ ราเชลยิ้มแค้นๆก่อนจะพึมพำขอตัวออกไปสูดอากาศข้างนอก ริชหน้าซีดตาเหลือกรีบตามออกไปแทบไม่ทัน  ได้ยินอธิบายระรัวก่อนที่ประตูระเบียงจะปิด
         “เจ้านายคะ  ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
         “ผมคงไม่เข้าอีกหลายวัน  ฝากด้วยนะคุณจินนี่”
         “ค่ะเจ้านาย   ขอให้หายเร็วๆนะคะคุณกาย แล้วเจอกันค่ะคุณ…”   
         “ซูหลินค่ะ”
         “ค่ะ…แล้วเจอกันนะคะสวัสดีค่ะ”
ร่างเปรียวก้าวออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนขามา  ซูหลินมองตามอย่างชื่นชม
         “เธอไม่รู้จักผม?”
         “ไม่รู้จัก คุณจินนี่มาทำงานกับพี่เมื่อ5ปีมานี่เองแล้วพี่ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไร  บอกแค่น้องถูกทำร้ายร่างกายพี่จะอยู่เฝ้าเลยให้เขาเอางานมาให้ที่นี่”
         “ถ้าคุณมีงานก็ไปทำเถอะครับ  ผมไม่อยากรบกวน”
         “กาย!พูดอะไรอย่างนั้น สำหรับพี่ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากายหรอกนะ”
         “แต่…..”
         “กายนอนพักดีกว่า…หน้ากายซีดจังเป็นอะไรหรือเปล่า?”
         “เอ่อ…นั่งนานๆแล้วมันปวดขาน่ะครับ”
         “อ้าว! ปวดมากหรือเปล่า?ตามหมอดีกว่านะ”
         “ไม่ต้องครับ…ผมเป็นบ่อยๆเดี๋ยวก็หาย”
         “งั้นนอนเถอะนะจะได้ไม่ปวดมาก…หิวไหม?” ซันส่ายหน้า  เท็ดจึงหันไปหา
ซูหลิน
         “ซูหลินล่ะหิวไหม?”
         “ก็…นิดหน่อยค่ะ”
         “เดี๋ยวพี่ให้ที่ร้านเขามาส่งให้  กายอยากกินอะไร…ซูหลินล่ะเอาอะไรดี?”
         “อะไรก็ได้คะ”
         “ผมยังไม่หิว”
         “ไม่หิวก็ต้องกินสักหน่อย  เดี๋ยวนะ”
เท็ดออกไปโทรศัพท์ข้างนอกครู่เดียวอาหารก็มาส่ง  ซันได้ซุบน้ำใส  ส่วนของซูหลินนั้นหลายอย่างมากจนเจ้าตัวตาค้าง 
         “ทำไมสั่งเยอะขนาดนี้คะ”
         “ก็ผมไม่รู้ว่าซูหลินชอบทานอะไร  เลือกเอานะครับ…กายทานซุบก่อนนะ พี่ไปถามคุณหมอมาแล้วเขาขอให้ทานอาหารอ่อนๆก่อน…ซุบร้านที่กายเคยชอบไง”
เท็ดตักซุบป้อนให้ถึงปาก  เด็กหนุ่มหน้าแดงไม่กล้าขัดขืนได้แต่ยอมให้เท็ดป้อนแต่โดยดี  ซูหลินมองเพลินจนซันเหลือบมาเห็น เด็กหนุ่มเขินจนสำลัก เท็ดรีบวางถ้วยลง คว้ากระดาษมาซับให้แต่ซันหลบดึงกระดาษมาเช็ดเองพร้อมกับขอบคุณเบาๆ  เท็ดมองหน้าแดงๆของซันก่อนจะเหลียวมามองซูหลิน เห็นเด็กสาวจ้องตาค้างก็อมยิ้ม
         “ไม่ทานเหรอครับซูหลิน?”
         “คะ…เอ่อค่ะ…กินค่ะ…เอ่อ…ฉันขอออกไปกินข้างนอกดีกว่า”  พูดจบก็ผลุน ผลันออกไป  ซันมองตามอย่างตกใจที่ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังกับเท็ด  เด็กหนุ่มหน้าแหยเมื่อหันมาสบตากันก็หลบตาวูบ  เท็ดขยับเข้าไปจนชิดเตียง ดึงมือเรียวผอมขึ้นมากุมไว้  ซันสะดุ้งทำท่าเหมือนจะดึงมือออกแต่กลับถอนใจยาวแล้วปล่อยให้เท็ดจับมืออยู่อย่างเดิม 
         “กาย…พี่ดีใจเหลือเกินที่ได้เจอกายอีก พี่คิดอยู่เสมอว่ากายยังไม่ตาย น้องต้องอยู่ที่ไหนสักแห่ง แล้วสักวันพี่คงจะได้เจอน้อง  แล้ววันนี้พี่ก็ได้เจอกายจริงๆ”
         “คุณแน่ใจหรือครับว่าผมคือน้องของคุณจริงๆ?”
         “แน่ใจสิต่อให้กายเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนพี่ก็จำได้”
         “ผม…ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี…ผมอยู่คนเดียวมาเกือบ7ปี จู่ๆก็มีครอบครัวขึ้นมาทั้งๆที่ผมหมดหวังไปแล้ว  นี่คือความฝันหรือเปล่า?  ผมอาจจะกำลังฝันแล้วพอตื่นขึ้นมาผมก็ไม่มีใครเหมือนเดิม” หางเสียงของเด็กหนุ่มสั่นเครือ  หน้าเผือดซีดด้วยความกลัว
         “ไม่ใช่ความฝันหรอก…นี่เป็นความจริง  กายมีครอบครัวนะ กายมีพ่อ  มีแม่  และมีพี่ด้วย”
         เด็กหนุ่มก้มหน้ามือกำผ้าห่มแน่นเหมือนจะให้ช่วยถ่ายเทความอัดอั้นในใจ  ก่อนจะเงยขึ้นสบตาเท็ดช้าๆ มีน้ำใสๆคลออยู่ในดวงตาโต ปากซีดเม้มนิ่ง  เท็ดประคองหน้าเรียวไว้ด้วยสองมือ เกลี่ยปลายนิ้วโป้งบนแก้มขาวช้าๆ หยดน้ำใสกลิ้งพรูลงมา  ชายหนุ่มดึงร่างผอมเข้ามาโอบไว้  ซันถอนสะอื้นซบหน้าลงบนบ่ากว้างอย่างยอมจำนน   ไม่มีประโยชน์ที่จะขัดขืน  เขาเหนื่อยเกินกว่าที่จะสู้แล้วตอนนี้เขาอยากเป็น ‘กาย’ แม้ว่าวันพรุ่งนี้ ‘กาย’ ตัวจริงอาจจะกลับมาทวงทุกอย่างคืนไป  แต่เวลานี้ขอเพียงอ้อมแขนอบอุ่นเป็นที่พักพิง  แม้จะเพียงชั่วคืนเขาก็พอใจแล้ว
               
         เสียงเคาะประตูเรียกให้สายตาทุกคู่จับจ้องโดยปริยาย  ซูหลินลุกพรวดเมื่อเห็นผู้ที่ก้าวเข้ามา
         “ป๊า!…ฮือ”เด็กสาวร้องไห้โฮโผเข้าไปกอดผู้เป็นบิดา มือหยาบลูบหลังลูกสาวอย่างอ่อนโยน โทนี่ยืนหลบอยู่นอกห้องห่างๆ ทุกคนในห้องได้แต่นิ่งเงียบรอจนเสียงร้องไห้ของซูหลินเบาลงจึงได้ยินภาษาอังกฤษค่อนข้างชัดจากร่างท้วม
         “เอาล่ะ เงียบได้แล้ว…ลูกจะไม่แนะนำให้พ่อรู้จักคนอื่นๆเลยเหรอ?”
         “จ้ะ!นี่คุณเท็ดจ้ะป๊าเขาเป็นคนช่วยหนูกับซัน  ป๊ารู้ไหม?เขาเป็นพี่ชายซันด้วยนะ  ไม่น่าเชื่อเลยนะป๊าว่าโลกมันจะกลมได้ขนาดนี้….คุณเท็ดคะพ่อซูหลินค่ะ”
         “สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบคุณพ่อของซูหลิน  ขอบคุณมากครับที่ช่วยชีวิตน้องผมไว้”
         “ยินดีที่ได้พบ  ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณที่ช่วยลูกสาวผม….แต่เพิ่งทราบว่าคุณเป็นพี่ซัน”
         แม้จะดูสูงอายุหากแต่แววตาที่สบกับเท็ดกลับดูเฉียบคมสายตาที่มองเหมือนกำลัง‘อ่าน’เขาอยู่ในที เท็ดยิ้มแสดงความจริงใจออกมาทั้งสีหน้าและแววตา  ทำให้ตาคมกล้านั้นดูอ่อนแสงลง  สายตาที่จ้องเขาเขม็งจึงเลื่อนไปมองร่างผอมบนเตียงก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ 
         “ดีใจด้วยนะซัน ในที่สุดลื้อก็เจอครอบครัวของลื้อซะที แน่ใจไหมว่าเขาเป็นพี่ชายลื้อ?”
         “ผม…ผมจำเขาไม่ได้ แต่ผมรู้สึกคุ้นเคยกับเขามาก  ผมคิดว่าเขาคงเป็นพี่ผมจริงๆ”
         “ถ้าลื้อว่าอย่างนั้นอั๊วก็เบาใจ  อั๊วขอให้ลื้อโชคดีและขอให้จำอดีตได้เร็วๆ”
         “ขอบคุณครับ”  ทั้งสองสื่อสารกันด้วยภาษาจีนบอกให้รู้บิดาของซูหลินยังไม่ไว้ใจเขา  เมื่อได้คำตอบเป็นที่พอใจแล้วชายจีนจึงหันกลับมาสบตากับเท็ดอีกครั้ง
         “ผมรู้เรื่องลูกก็รีบมาทันที  หากไม่มีอะไรแล้วผมขอพาลูกสาวกลับเพราะผมเกรงว่าจะหลบตำรวจได้ไม่นาน”  คำพูดเปิดเผยไม่สะทกสะท้านทำให้เท็ดนับถือในความเป็นคนจริงของชายจีนผู้นี้ยิ่งขึ้น 
         “ไม่ต้องห่วงครับ  ผมจะจัดการให้คุณกลับบ้านอย่างเรียบร้อย”
         “งั้นเรากลับบ้านกันเถอะซูหลิน”
         “จ้ะ…ซัน…เรากลับบ้านแล้วนะ…ถ้าซันหาย…ซัน…กลับไปหาเราบ้างนะ”  หางเสียงของเด็กสาวสั่นเครือ
         “ซูหลิน…ผม…”  ซันพูดไม่ออกลำคอตีบตันไปหมด  มือของทั้งสองยื่นมายึดกันแน่น  สายตาประสานกันสื่อถึงความห่วงใยและอาลัยอาวรณ์  มือหยาบใหญ่ดึงบ่าของลูกสาวเบาๆ ซูหลินยอมปล่อยมือซันแต่น้ำตาไหลพรูลงมาแทน 
         “ลาก่อนซัน…เราจะคิดถึงซันทุกวันเลย…ฝากซันด้วยนะคะคุณเท็ด”
         “ครับ…ผมจะดูแลกาย…เอ่อ…ซันด้วยชีวิตผมเลย  ผมสัญญา” ซูหลินยิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะตัดใจจากไป 
         ซันตัวสั่น ใจหายวาบ รู้สึกโดดเดี่ยว ตั่งแต่บัดนี้เป็นต้นไปเขาจะเหลือตัวคนเดียวแล้ว แขนผอมกอดรัดตัวเองด้วยความเคยชิน   อ้อมแขนอุ่นโอบเขาเข้าไปกอดไว้เบาๆดึงศรีษะเขาให้ซุกซบกับอก  เสียงทุ้มอ่อนโยนดังอยู่ข้างหู
         “กาย….อย่ากลัว…อย่ากังวล  กายมีพี่ มีพ่อ มีแม่   มีเพื่อนๆ  ทุกคนรักกายและรอกายมาตลอด  กายไม่ได้โดดเดี่ยวอยู่คนเดียวอีกต่อไป  กายมีครอบครัวแล้วนะ”
         “ผม…ผมไม่แน่ใจ…ถ้าเกิด….ผมไม่ใช่กายตัวจริงล่ะ?”
         “น้องคือกายของพี่แน่นอน”
         “แต่….”
         “พี่จะอยู่ข้างๆกายตลอดเวลาจะไม่ปล่อยให้กายอยู่คนเดียวอีกแล้ว  กายเชื่อใจพี่ได้ไหม?”
         “ผม…”มือใหญ่ประคองหน้าเขาให้เงยขึ้นสบตา ประกายในตาคมทำให้อบอุ่นหัวใจอย่างประหลาด  นิ้วยาวเกลี่ยไรผมออกจากหน้าผาก  ก่อนจะก้มลงมาจุมพิตแผ่วเบา ซันถอนใจซุกตัวในอกกว้างยอมวางทุกอย่างไว้ในอุ้งมือของชายคนนี้ อย่างน้อยอ้อมแขนนี้ก็อบอุ่นคุ้นเคยหากไม่มีสายใยเกี่ยวพันกันเขาคงไม่รู้สึกเช่นนี้ สักวันเขาคงจำทุกอย่างได้ เด็กหนุ่มหลับไหลลงในอ้อมแขนอุ่นอย่างวางใจ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" Up 31/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 31-10-2009 21:45:06
.......
เท็ดประคองร่างผอมบางลงจากรถ  เด็กหนุ่มกลัวรถเก๋งทุกชนิดจนเขาต้องใช้รถบรรทุกของบริษัทมาส่งที่ฟาร์ม  ทันทีที่แพทย์เซ็นอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลชายหนุ่มก็รีบส่งข่าวมาให้ดาน่ารู้  แต่ยังไม่ได้บอกแดนนี่เพราะเกรงว่าแดนนี่จะรออยู่เฉยๆไม่ได้ 
         “กาย…คุ้นตากับที่นี่ไหม?” คิ้วเรียวขมวดมุ่นแล้วก็คลายออก  หน้าเผือดลงกว่าเดิม 
         “ไม่คุ้นเลยครับ…ผมขอโทษ”
         “ขอโทษทำไม  กายไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา…เข้าบ้านกันเถอะป่านนี้พ่อกับแม่คงรอเราอยู่แล้ว…ตื่นเต้นไหม?”คำชวนราวกับเด็กเล่นซนทำให้ซันอดยิ้มไม่ได้ ทั้งที่ใจสั่นระรัวมือก็เย็นเฉียบ  เขากำลังจะได้เจอกับครอบครัวแล้ว  ประตูเปิดออกพร้อมๆกับร่างโปร่งบางก้าวพรวดเข้ามาหา
         “กาย!…กายของแม่”  แขนเรียวหอมกรุ่นกอดรัดแน่นจนซันผวา  เด็กหนุ่มดิ้นหนีอย่างตกใจ
         “ไม่!…ปล่อยผม  ปล่อย!” ดาน่าคลายอ้อมแขนออกอย่างตกใจ ร่างผอมบางถอยกรูดไปอยู่ในอ้อมแขนของเท็ด ดวงตาโตที่มองเธอตื่นตระหนกแต่เมื่อสบตากันและได้เห็นความปวดร้าวในสายตาของดาน่า  เด็กหนุ่มก็หน้าเผือดอย่างเสียใจ
         “ขอ…ขอโทษครับ…ผมตกใจ…ไม่ได้ตั้งใจจะหนีคุณเลยครับ…ผม…”
ซันเงยขึ้นมองเท็ดอย่างขอความช่วยเหลือ น้ำใสคลอเต็มตา สับสนและอัดอั้นที่จำคนในครอบครัวไม่ได้
         “กาย…อย่าเสียใจเลยลูก แม่ต่างหากที่ต้องขอโทษ  แม่ดีใจมากไปเลยโผเข้าไปกอดอย่างนั้นเป็นใครก็คงตกใจ  กายเองก็ต้องการเวลาปรับตัวเหมือนกันใช่ไหมลูก...หรือว่าแม่จะแก่มากไปลูกเลยจำไม่ได้หือเท็ด?” ประโยคหลังทำให้บรรยากาศตึงเครียดคลายลง  เด็กหนุ่มขยับเข้ามาหาดาน่าช้าๆดูลังเลไม่แน่ใจ แต่จู่ๆซันกลับเป็นฝ่ายกอดดาน่า  ความอบอุ่นคุ้นเคยหลั่งไหลเข้ามาท่วมท้น 
‘แม่’ คนคนนี้คือแม่ของเขา  แม่ที่เขาเคยใฝ่ฝันมาตลอดว่าคงมีสักวันที่เขาจะได้เจอ
แขนเรียวกอดกระชับขึ้นอีก  ดาน่ายืนตะลึงเงยขึ้นสบตากับเท็ดก่อนจะยิ้มปากสั่น  กอดตอบร่างผอมแนบแน่น
         “แม่…แม่ครับ”
         “กาย…โอ! กายของแม่…แม่คิดถึงลูกคิดถึงเหลือเกิน  แม่ฝันถึงลูกทุกคืนอยากกอดอยากจูบลูก  แต่พอได้กอดลูกก็กลายเป็นอากาศว่างเปล่าทุกครั้ง  คนดีของแม่  ต่อไปนี้แม่จะไม่ยอมให้ลูกไปไหนอีกแล้ว”   เท็ดยืนนิ่งลำคอตีบตัน  ดาน่าทั้งหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน  ไม่มีความยินดีใดมากไปกว่านี้อีกแล้ว   
นับแต่เท็ดโทรมาบอกเธอก็เฝ้ารอด้วยความหวาดหวั่น กลัวเหลือเกินว่าจะเป็นเพียงความฝัน  แต่ตอนนี้เธอได้กอดลูกอีกครั้งแล้วจริงๆ
         “ดาน่า เสียงรถเท็ดมาไม่ใช่เหรอ  แล้วนี่หายไปไหนกันหมด  ดาน่า…”
เสียงแดนนี่เรียกหาดังมาจากในบ้าน   ดาน่าคลายอ้อมแขนออก  เช็ดน้ำตาบนหน้าเซียวอย่างทะนุถนอม  ยิ้มกว้างอย่างยินดี
         “กาย…ไปลูกไปเซอร์ไพร์สพ่อกัน…ถ้าพ่อรู้ว่ากายยังไม่ตายพ่อต้องดีใจมากแน่ๆเลย  ไปเท็ดเดินบังน้องไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยเปิดตัว” ดาน่ารีบดันไหล่เท็ดนำเข้าไป  อีกมือจูงซันไว้แน่นราวกับกลัวหาย  แดนนี่นั่งอยู่บนรถเข็นหน้าห้องรับแขก เขาเหลียวกลับมาเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู 
         “เท็ด!…ฮะฮะพ่อว่าแล้วเชียวว่าต้องเป็นเสียงรถของเท็ด  แม่นะสิหูเพี้ยนเขาว่าไม่ใช่  อ้าว!แล้วนั่นพาใครมาด้วยล่ะ?”
         “ดูสิคะนี่ใคร” ดาน่าดึงไหล่บางมาข้างหน้าช้าๆ  แดนนี่ขมวดคิ้วจ้องมองเด็กหนุ่มเขม็ง
         “หืม?คุ้นๆนะ…เหมือน…กาย!กายลูก!” แดนนี่ผวาขึ้นจากรถเข็นจนเกือบล้ม  เท็ดกระโดดเข้าไปคว้าไว้ได้ทัน พยายามจะประคองให้แดนนี่นั่งแต่แดนนี่ปัดแขนของเท็ดออกเพื่อจะตะเกียกจะกายมาหาลูก  ซันผงะ ภาพซ้อนทับผุดวาบขึ้นมาในหัว เป็นภาพผู้ชายคนนั้นกำลังกระชากคอเสื้อเท็ดขึ้นมาต่อยเลือดแดงฉานอาบเต็มหน้าเท็ด 
         “ไม่!…อย่านะ!…อย่า!…อย่าทำร้ายเขา!”ร่างบางโผเข้าไปผลักจนแดนนี่ล้มลงอีกมือพยายามลากเท็ดให้ออกห่าง  เท็ดตะลึงพอได้สติก็พยายามจะเข้าไปจับแดนนี่แต่ซันกลับดึงเขาไว้  ดาน่าอ้าปากค้างพอได้สติก็รีบเข้ามาประคองแดนนี่ซึ่งก็ตกใจไม่แพ้กัน
         “ไม่!…อย่าทำร้ายเขานะ…เท็ดหนีไปสิ…ไป!”
         “กาย!กาย!หยุด!ได้ยินไหมกาย?นี่กายผลักพ่อทำไม  กายตั้งสติหน่อยสิ”
เท็ดจับไหล่บางไว้แน่น  ภาพซ้อนทับในหัวหายไปซันยืนนิ่งงัน  นี่เขาทำอะไรลงไป?  เขาผลักคนพิการจนล้ม? ทำไมเขาเห็นผู้ชายคนนี้ทำร้ายเท็ด? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา  หรือว่าเขาวิกลจริตไปแล้ว! 
         “ผม…ผมขอโทษ…ผมไม่ได้ตั้งใจ…ขอ…ขอโทษครับ” ซันผงะถอยหลังกรูด  สายตาตกใจของคนทั้งสามทำให้เขาเสียใจ  ก่อนจะวิ่งหนีออกมาอย่างเสียขวัญ   
         “กาย!เดี๋ยวกาย…อย่าไปกาย!…กายฟังพี่…กาย!” เท็ดวิ่งตามมาทันที่บันไดขั้นล่างสุด   ซันพยายามจะสะบัดมือออกแต่เท็ดรัดร่างผอมมากอดแน่น  เด็กหนุ่มตัวสั่นน้ำตาไหลพราก  ร่างที่ดิ้นรนค่อยๆสงบลงเหลือแต่เสียงสะอื้น
         “ผมขอโทษ…ผมไม่ได้ตั้งใจจะผลักเขา….ผมไม่ได้ตั้งใจ…ไม่รู้เหมือนกันว่าทำอย่างนั้นทำไม…ขอโทษครับ…ขอโทษ…ฮือ”
         “กาย…อย่าร้องไห้คนดี ไม่ต้องกลัวไม่มีใครโกรธน้อง  ทุกคนเข้าใจกายนะ”
         “แต่…แต่ผมผลักเขา…ผมไม่ได้ตั้งใจแต่จู่ๆผมก็เห็นภาพเขาทำร้ายคุณ  ผม…ผมไม่รู้…ไม่รู้ว่าทำไมต้องทำแบบนั้น”
         “เห็นพ่อทำร้ายพี่เหรอ…กาย…พระเจ้า!…น้องจำได้!” เท็ดอุทานอย่างยินดี คลายอ้อมแขนออกเพื่อมองเด็กหนุ่มให้ถนัดขึ้น  ตาโตดูสับสนกังวลและตกใจ
         “ผม…ผมจำได้…จำได้ใช่ไหม…เขาเคยทำร้ายคุณจริงๆเหรอ?”
         “ใช่…แต่มันเป็นความผิดของพี่แล้วพ่อก็แค่โมโหไปชั่ววูบเท่านั้น”
         “แต่ผมเห็นเขาทำร้ายคุณจนเลือดไหล…แล้ว…ไม่!นึกสิ…นึกให้ออก…นึกสิ…โธ่!”  เด็กหนุ่มบีบขมับตัวเองแรงๆพยายามจะนึกให้ออก  เท็ดดึงมือที่กดขมับออกและรวบร่างบางมากอดไว้
         “กาย…อย่าทำอย่างนี้  ช่างมันนึกไม่ออกก็ช่าง  อย่าบังคับตัวเองอย่างนี้มันไม่ดีกับตัวกายเลยนะ”
         “แต่ผมอยากนึกให้ออก…ผม” 
         “เท็ด…กายเป็นไงบ้าง?”ดาน่าตามออกมามองอย่างเป็นห่วง 
         “ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับ…ผมขอโทษ” ซันหน้าสลดด้วยความเสียใจ  ดาน่าเดินมากอดร่างผอมไว้ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยชวนเบาๆ
         “เข้าไปข้างในกันไหมลูก…พ่อเขาอยากเจอกาย”
เด็กหนุ่มเหลียวมองเท็ดก่อนจะพยักหน้าช้าๆ  ดาน่าโอบร่างบางกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง  แดนนี่นั่งอยู่บนรถเข็นเรียบร้อยแล้ว  ใบหน้าอูมแดงกล่ำ  สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดี
         “กาย…กายมาหาพ่อสิลูก” 
         ซันเดินเข้าไปหาช้าๆแต่เมื่อแดนนี่ยื่นมืออกมา  ภาพที่แดนนี่ทำร้ายเท็ดก็ผุดขึ้นมาในหัวอีก  ซันเงยขึ้นสบตา ใบหน้าเย็นชาเกรียวกราดซ้อนทับเข้ามา  เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกถอยหลังกรูดแต่แดนนี่คว้าข้อมือเขาไว้แน่น 
         “ไม่!…อย่า…อย่าจับตัวผม…เท็ด…ช่วยด้วย!” ซันพยายามสะบัดมืออก  แต่ภาพซ้อนทับก็หายไปเหลือเพียงหน้าซีดเผือดที่ดูตกใจและเสียใจของแดนนี่ 
         “ผม…ผมขอโทษ  อึก…” ซันคู้ตัวลงและอาเจียรออกมา  เท็ดช้อนร่างผอมขึ้นมาอุ้มอย่างตกใจ  เด็กหนุ่มกดศรีษะแน่นหน้าซีดขาวและเริ่มดิ้นทุรนทุรายเพราะอาการปวดศรีษะ
         “กาย!..กาย!อย่าเป็นอะไรนะลูก เท็ดช่วยน้องด้วย!” แดนนี่ตัวสั่น ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
         “กาย…กายเป็นไงบ้าง…กายตอบพี่หน่อย”
         “ดาน่าลูกเป็นอะไร?…เท็ดน้องเป็นอะไร?”
         “ผมจะพากายไปโรงพยาบาล…แม่ครับดูพ่อก่อนนะ เดี๋ยวผมโทรมา”
เท็ดช้อนร่างอ่อนพับขึ้นอุ้มวิ่งออกไปที่รถ  แดนนี่พยายามจะเข็นรถตามไปแต่ดาน่ายึดเขาเอาไว้
         “อย่าค่ะ!…เท็ดกำลังจะพากายไปโรงพยาบาลแล้ว”
         “ผมจะไปด้วย…เร็วดาน่าไปโรงพยาบาลกัน  เท็ดรอพ่อก่อน”
         “ไม่คะ!เราไปไม่ได้ ยิ่งเราไปด้วยเท็ดจะยิ่งช้านะคะ ให้เท็ดพากายไปโรง-พยาบาล ก่อนเดี๋ยวเราค่อยเอารถตามไปนะคะ” แดนนี่นั่งนิ่งขึงมองตามรถของเท็ดไปอย่างผิดหวังขณะที่ดาน่าวิ่งไปคว้ากุญแจรถกับเสื้อคลุมของเธอและแดนนี่ แต่เมื่อกลับมาที่ห้องโถงก็เห็นแดนนี่ฟุบอยู่บนรถเข็น
         “คุณคะ!…ตายแล้วหน้าคุณซีดจัง เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
         “ดาน่า…ลูกเกลียดผมคุณเห็นไหมดาน่า…กายเกลียดผม เขาไม่ยอมให้ผมถูกตัวเขาด้วยซ้ำ  เขาทั้งเกลียดทั้งกลัวผม  ผมเป็นปีศาจไปแล้วในสายตาลูก 
ดาน่านี่ผมทำผิดขนาดนี้เชียวหรือนี่?”
         “คุณคะ…แดนนี่!…ตายจริง!…เดี๋ยวค่ะเดี๋ยวใจเย็นๆค่ะ อ้าปากค่ะแดนนี่ อมไว้นะคะ ใจเย็นๆค่ะที่รัก” ดาน่ารีบเอายาให้แดนนี่อม อาการโรคหัวใจของแดนนี่กำเริบอีกแล้ว ดาน่าเข็นรถของสามีกลับไปที่ห้องนอน ค่อยๆประคองให้แดนนี่นอนลงบนเตียง  ครู่ใหญ่อาการของแดนนี่ก็ค่อยทุเลาลง  ดาน่าลูบศรีษะสามีอย่างอ่อนโยน  หัวใจของคนเป็นพ่อกำลังแหลกสลาย  ปฏิกิริยาของกายทำให้แดนนี่ตกใจ 
         “ที่รักคะ…กายความจำเสื่อมน่ะคะเขากลัวคนแปลกหน้าทุกคน เท็ดเองกว่าจะทำให้เขายอมรับได้ก็ตั้งนาน แล้วนี่เราเพิ่งเจอลูกครั้งแรกลูกอาจจะสับสนไปบ้าง  อย่ากังวลเลยค่ะ  เดี๋ยวพอลูกหายตกใจก็จะยอมรับคุณเองแหละค่ะ”
         “คุณก็รู้ว่าไม่จริงดาน่า กายยอมรับคุณ แต่ลูกไม่ยอมรับผม เขาไม่ยอมให้ผมถูกตัวเขาด้วยซ้ำ”แดนนี่เหลียวกลับมาสบตาภรรยา น้ำตาลูกผู้ชายไหลริน  มันเป็นความเจ็บปวดที่แสนสาหัสไม่น้อยกว่าครั้งที่เขาคิดว่ากายตาย   ดาน่าสะอื้นบีบมือสามีแน่น
         “ให้เวลาลูกอีกหน่อยนะคะแดนนี่”
         “แล้วถ้ากายไม่ยอมรับผมตลอดไปล่ะดาน่า…ผม…ผมจะทำยังไง?”
         “ที่รักคะ…อย่าเพิ่งคิดอะไรไปก่อนเลยนะคะ  ไว้ถึงเวลานั้นแล้วเราค่อยมาคิดกันว่าจะทำยังไง” แดนนี่พยักหน้าช้าๆความหวังดูริบหรี่และเลือนลางเหลือเกินสองสามีภรรยากุมมือกันแน่นเหมือนจะช่วยปลุกปลอบกันและกัน
                   
         “หมอครับ   กายเป็นไงบ้าง?”
         “เขาเครียดนะครับ  เครียดมาก  คงพยายามจะนึกให้ออก  บีบคั้นตัวเองจน
ช็อค” จิตแพทย์หนุ่มใหญ่ดูกังวลอย่างเห็นไห้ชัด  อาการของเด็กหนุ่มทำให้เขาวิตก  เท็ดถอนใจยาวหน้าหมอง  ริชเดินมาตบไหล่เพื่อนเบาๆ  ราเชลก็เข้ามายืนข้างๆ  อาการของกายทำให้ต้องตัดสินใจเรียก‘ซอเรน’มาดูแลจนได้
         “ผมจะทำยังไงดีครับหมอ?”
         “ผมว่าคุณน่าจะพาเขาไปพักผ่อนที่ไหนสักแห่ง เป็นที่ๆเขาไม่เคยไปเลยยิ่งดี เพราะหากไปเห็นอะไรที่คุ้นตาเขาต้องพยายามนึกอีกแน่ๆ ผมว่าแทนที่เขาจะจำได้กลับจะทำให้แย่ไปมากกว่านี้”
         “ฉันว่าพาไปที่รีสอร์ทก็ดีนะ  ที่นั่นค่อนข้างเงียบ  คงช่วยให้กายรู้สึกดีขึ้น”
 ริชเสนอความเห็นขึ้นมาเบาๆ เท็ดเองก็เห็นด้วย 
         “ดีเหมือนกัน กายไม่เคยไปที่นั่นคงไม่มีปัญหาเรื่องคุ้นตาจนต้องพยายามนึกให้ออกอีก”
         “งั้นฉันจะให้ทางโน้นเตรียมรอรับ  ว่าแต่นายจะพากายไปเมื่อไหร่?”
เท็ดหันกับมาปรึกษาหมอ เมื่อรู้ว่าสามารถไปได้ทันทีริชก็ออกไปโทรศัพท์สั่งลูกน้องแต่ก็ไม่วายคว้าข้อมือราเชลออกไปด้วยเพราะไม่อยากให้อยู่ใกล้ชิดกับซอเรน นาย-แพทย์หนุ่มมองตามอย่างอาวรณ์  เท็ดเองก็สงสารแต่เรื่องนี้คงไม่มีทางที่จะช่วยให้ซอเรนสมหวังได้ เขาได้แต่ภาวนาให้คนดีอย่างซอเรนได้เจอคนที่เขามีสิทธิ์รักได้เร็วๆ


         “พ่อกับแม่นายว่าไงบ้าง?”  ริชถามขณะที่ช่วยเท็ดขนของขึ้นรถตู้
         “แม่เห็นด้วย ส่วนพ่อตั้งแต่วันที่ถูกกายผลักก็เอาแต่ซึมไม่ยอมกินอะไรเลย  นี่แม่ต้องพาไปบำบัดอีกแล้ว หมอก็ขอให้แม่พาพ่อไปพักผ่อนเสียที  คราวนี้เห็นว่าจะไปหาป้าแมรี่ที่สิงค์โปร์ คงช่วยให้อะไรๆดีขึ้นบ้าง” เท็ดดึงท้ายรถปิดลง  วันนี้เขาจะพากายไปพักผ่อนที่รีสอร์ทบนเกาะส่วนตัวของตระกูลแฮมิลตัน ที่นั่นต้อนรับนักท่องเที่ยวเกรดเดียวคือญาติมิตรและคนในตระกูลแฮมิลตันเท่านั้น  แม้เกาะนี้จะค่อนข้างใหญ่แต่ก็ไม่มีคนภายนอกเข้าไปอยู่ ชาวบ้านที่นั่นคือครอบครัวของพนักงานที่ทำงานให้รีสอร์ทเท่านั้น   ริชจัดการเคลียร์ไม่ให้มีใครเข้าไปพักได้อีกจนกว่าเท็ดกับกายจะกลับเพื่อให้กายได้เป็นส่วนตัวมากที่สุด
         “ทางโน้นเอาเครื่องบินมารอรับที่ท่าเรือแล้ว   โชคดีนะเท็ด….ขอให้นายทำให้กายกลับมาเป็นกายคนเดิมได้สำเร็จ”
         “ขอบใจมากริช”
                         ……………
         “กาย…ดูโน่นสิ…สวยไหม…นั่นแหละเกาะที่เราจะไปพักกัน”
         “สวยจัง…เกาะนั่นของริชหรือครับ?”
         “จะว่าอย่างนั้นก็คงได้  แม้ตอนนี้จะเป็นของตระกูลแฮมิลตันแต่อนาคตก็ต้องเป็นของริชอยู่ดี…กายเตรียมตัวนะเครื่องจะลงแล้ว”
เครื่องบินโดยสารขนาดเล็กร่อนลงจอดบนลานอย่างนุ่มนวลแสดงถึงฝีมือของคนขับ  ร่างสูงโดดลงมาก่อนจะหันไปช้อนร่างผอมบางอุ้มเข้าไปในอาคาร  ซันหน้าแดงพยายามจะลงเดินเองแต่ก็ถึงเสียก่อน  ชายหนุ่มวางเขาลงเบาๆบนเก้าอี้ตัวใหญ่ในห้องรับรอง 
         “สวัสดีครับคุณเท็ด คุณกาย  รีสอร์ทแฮมิลตันยินดีต้อนรับครับ”
         “แจ็ค!นี่นายมาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี่ย?”
         “คุณริชส่งผมมาทำงานที่นี่ครับ  ยินดีที่ได้รับใช้คุณเท็ดอีกครั้งครับ”
         “กาย…นี่แจ็คเพื่อนเก่าของพี่กับริช”
เท็ดก้มลงบอกเด็กหนุ่มเบาๆซันเงยขึ้นยิ้ม แจ็คมองการแสดงออกของเท็ดอย่างเผลอๆ สายตาที่เปี่ยมด้วยความรักความห่วงใยของทั้งสองทำให้เขาเต็มตื้นและเจ็บปวดอยู่ลึกๆเมื่อนึกถึงตัวเอง   
         “โอ้โห!อย่าเรียกว่าเพื่อนเก่าเลยครับ   สวัสดีครับคุณกายยินดีรับใช้ครับผม”
         “ครับ…เอ่อ  ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณแจ็ค”
         “ว้า!อย่าเรียกผมซะหรูอย่างนั้นสิครับเดี๋ยวผมตกงานกันพอดี” 
ซันหน้าแหยแต่แจ็คกับเท็ดหัวเราะชอบใจ  แจ็คนำเท็ดและกายไปยังบ้านพักด้วยรถไฟฟ้าที่ใช้ในสนามกอล์ฟ   รีสอร์ทขนาดใหญ่ประกอบด้วยหมู่อาคารหรูหราและบ้านพักนับสิบหลัง แต่หลังที่ริชเลือกไว้ให้เป็นบ้านพักขนาดเล็กตั้งอยู่ริมน้ำตกค่อนข้างห่างจากบ้านหลังอื่นๆ สวนที่จัดให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติงดงามจนเด็กหนุ่มตะลึง ทางเล็กๆทอดยาวจากตัวบ้านไปจรดชายหาดท่ามกลางดงสนและป่าโปร่งร่มรื่น แสงแดดยามเย็นสาดส่องทั่วบริเวณจนกลายเป็นสีเหลืองทองอ่อนๆ
         ซันเดินสำรวจบ้านอย่างตื่นเต้น  บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้สองชั้นบันไดทางขึ้นอยู่ด้านหน้า ซึ่งเป็นระเบียงกว้างตลอดแนวโปร่งโล่ง  หลังคาระเบียงเป็นวัสดุกันความร้อนสามารถพับเก็บได้  มีไม้สนกั้นเป็นราวรอบ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆนอกจากเก้าอี้นอนปูด้วยเบาะสีสดใสตั้งชิดด้านใน    ห้องนอนสองห้องอยู่ติดกันแต่ด้านหลังมีระเบียงแยกกันเป็นสัดส่วน  กลางห้องตั้งเตียงขนาดใหญ่สี่เสา มีมุ้งโปร่งสีครีมตกแต่งให้สวยมากกว่าจะใช้งานจริง  ด้านที่ติดกับระเบียงหลังเป็นกระจกใสทั้งแถบแต่มีม่านสีอ่อนปิดไว้ หากต้องการความโล่งสบายก็สามารถรูดเก็บได้  ใต้ระเบียงด้านหน้าเป็นสวนสวย  แต่ระเบียงด้านหลังจะติดกับน้ำตกจำลองสูงประมาณ 3-4เมตร น้ำที่ตกลงมาค่อนข้างแรง ยามที่ลมแรงๆจะพัดเอาละอองน้ำมาถึงระเบียงทีเดียว ซันเพิ่งสังเกตว่าแม้จะเป็นสองห้องนอนแต่กลับมีห้องน้ำเพียงห้องเดียว โดยตั้งอยู่ระหว่างสองห้องนอน ยังดีที่มีล็อคอยู่ด้านในทั้งสองประตู
         แม้จะไม่มีคำพูดใดๆแต่สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดีนั้นก็ทำให้เท็ดพอใจแล้ว   แก้มซีดเซียวเริ่มเป็นสีระเรื่อเพราะเด็กหนุ่มเดินไปจนทั่วบริเวณ  ลมแรงที่เริ่มเย็นทำให้เท็ดนึกเป็นห่วง แต่ยังไม่อยากขัดใจ
         “ไปเดินดูหาดได้ไหมครับ?”
         “ลมแรงนะ  จะไปเดินริมทะเลตอนนี้เลยเหรอ?”
         “ครับ…แต่ถ้าคุณเท็ดเหนื่อยค่อยไปพรุ่งนี้ก็ได้”
         “พี่ไม่เหนื่อยหรอก  ถ้ากายอยากเดินเล่นก็ไปกันเลย” 
ซันสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ กลิ่นเค็มที่คุ้นเคยมาตลอด7ปี ลมแรงปะทะหน้าเย็นเยือกจนต้องห่อไหล่นิดๆ ยังไม่ทันขยับเสื้อคลุมตัวใหญ่ก็ถูกสวมให้ราวกับเขาเป็นเด็กเล็กๆ 
         “วันนี้ค่อนข้างเย็นใส่ไว้หน่อยนะจะได้ไม่เป็นหวัด”
หางเสียงที่ทอดอ่อนโยนอบอุ่น    ซันขอบคุณเสียงเบาอย่างเขินๆ ก่อนจะเสมองไปรอบๆถึงจะเป็นเกาะเหมือนกัน แต่ที่นี่กลับให้ความรู้สึกแตกต่างกับที่ๆเขาเคยอยู่  ที่นั่นเต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติที่เข้าไปอยู่เพื่อหลบซ่อนจากสายตาเจ้า-หน้าที่ รอจนได้รับกรีนการ์ดแล้วก็ไป  แต่บางส่วนก็สมัครใจที่จะอยู่ที่นั่นเพราะลงหลักปักฐานไปแล้วหรือไม่ก็ไม่มีที่ไปเพราะเคยมีคดีติดตัว  ส่วนเขาเองก็เหมือนเด็กหลงทางที่ไม่มีปัญญาบอกแม้แต่ชื่อตัวเอง  ซันถอดรองเท้าออกแล้วเดินลุยไปบนทรายนุ่มๆ  หากอยู่ที่เกาะขืนทำแบบนี้เท่ากับฆ่าตัวตายทางอ้อมเพราะที่นั่นเต็มไปด้วยเศษแก้ว ขยะ เปลือกหอย เปลือกปูฯลฯ  หางตาเขายังเห็นปลายรองเท้าผ้าใบก้าวตามมาเงียบๆ  ซันปล่อยอารมณ์ไปกับความเขียวครึ้มของต้นไม้รอบกาย  หาดทรายขาวทอดยาวและไปสิ้นสุดที่ผาหินเตี้ยๆ  นกทะเลโฉบผ่านลงมาใกล้ราวกับไม่กลัวมนุษย์  เด็กหนุ่มเหลียวไปมองคนข้างหลังนิดหนึ่งทำให้เสียจังหวะการเดิน  อาการเจ็บแปลบบริเวณสะโพกเป็นสิ่งยืนยันได้อย่างดี  ขาที่ก้าวได้สบายๆเริ่มขัดๆทำให้ต้องเขยกมากขึ้น  ซันหน้าร้อนผ่าว เป็นครั้งแรกที่นึกอายความพิการของตนเอง  นับแต่ฟื้นจากความตายเขาไม่เคยแยแสต่อสายตาของคนรอบข้าง ไม่สนใจว่าใครจะสมเพชเวทนาแค่ไหน  เพราะการที่ลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่าสมองว่างเปล่า ไม่ใครหรือความทรงจำใดๆนั้นทุกข์ทรมานยิ่งกว่าที่จะมานั่งอับอายกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ  แต่ครั้งนี้เขากลับไม่อยากให้ผู้ชายคนนี้เห็นความพิการของตัวเอง ทางเดียวที่ทำได้คือหยุดเดิน  ซันหันกลับมาเผชิญหน้ากับร่างสูง รอยยิ้มอ่อนโยนรอรับอยู่ก่อนแล้ว
         “เหนื่อยหรือยัง?…เดินมาตั้งไกล พักก่อนนะ”   
ร่างสูงทรุดลงนั่งก่อนจะตบพื้นทรายข้างตัวเบาๆซันค่อยๆหย่อนตัวลงเพราะสะโพกเริ่มตึงและปวดมากขึ้น
         “คุณริชดูสนิทกับคุณมากเลยนะครับ”
         “ไม่รู้ว่าเริ่มญาติดีกันตอนไหน แต่กว่าจะรู้ตัวพี่กับริชก็กลายเป็นเพื่อนซี้กันไปแล้ว  เมื่อก่อนตอนที่เขาสนิทกับกาย….”
         “ทำไมครับ?”
         “เปล่า…แค่จะบอกว่าเขาเคยเป็นคู่หูกับกายมาก่อนนะ”
         “งั้นหรือครับ….ฮะ…ฮัดเช้ย!”
         “เราคงเดินกันนานไปแล้วล่ะ  เข้าบ้านเถอะเดี๋ยวจะไม่สบาย”
         “เอ่อ…นั่งอีกเดี๋ยวได้ไหมครับ…ฮัดเช้ยๆ!”
         “ไม่ไหวแล้วมั้ง  พี่ว่าเรากลับบ้านพักกันดีกว่า”
ซันอึกอักเพราะอาการปวดสะโพกเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนไม่อยากเคลื่อนไหวตอนนี้   ร่างสูงผุดลุกขึ้นพร้อมๆกับดึงเขาลุกขึ้นมาด้วย ปัดทรายที่ติดบนสะโพกและต้นขาออกให้เบาๆก่อนจะช้อนตัวเขาขึ้นอุ้มหน้าตาเฉย  ซันสะดุ้งดิ้นจะลงแต่ก็เจ็บสะโพกจี๊ดขึ้นมาจนต้องหยุด  ได้แต่ปล่อยให้ชายหนุ่มอุ้มเดินลิ่วราวกับตัวเขาไม่มีน้ำหนัก 
อ้อมแขนนี้อบอุ่น..ซันหลับตาซบบนอกกว้าง  กลิ่นหอมอ่อนๆคุ้นเคยเสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอชวนให้เพลิดเพลินอยากให้ทางเดินทอดยาวไกลไปเรื่อยๆไม่มีวันสิ้นสุด…กลิ่นหอมของดอกไม้อบอวล  รอบๆตัวเริ่มอุ่นขึ้น  ไม่มีเสียงลมหวีดหวิวมาปะทะ ซันยังคงหลับตาพริ้มแม้จะรู้สึกว่าจังหวะการก้าวเดินเปลี่ยนไปแต่อ้อมแขนนี้กลับโอบล้อมความคิดของเขาให้หมุนวนอยู่ในนี้เท่านั้น  จู่ๆแผ่นหลังก็สัมผัสกับความนุ่มหยุ่น กลิ่นดอกไม้ผสมกับกลิ่นแดดหอมกรุ่น  ผ้านุ่มๆคลุมลงมาบนอกพร้อมๆกับลมหายใจร้อนแตะเบาๆที่หน้าผาก
         “ฝันดีนะ  คนดีของพี่”
         “อืม…”  แล้วอนุสติก็ลางเลือนไป
……………
“กาย…กาย…ลุกไหวไหม?”
         “อืม…คุณเท็ด…กี่ทุ่มแล้วครับ?”
         “เกือบ5ทุ่มแล้ว…กินซุบสักนิดนะจะได้กินยา” เด็กหนุ่มตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น อาหารถูกยกมาถึงเตียง  รสชาติของซุบถูกใจเด็กหนุ่มมากจนกินหมดอย่างรวดเร็ว 
         “เอาอีกไหม?”
         “พอแล้วครับ  เอ่อ…ที่นี่เขาทำซุบอร่อยจังครับ”  ซันออกตัวเขินๆเมื่อเห็นตาคมเป็นประกายระยับ
         “กายชอบใช่ไหม?”
         “ครับ…มันอร่อยกว่าที่ร้านอีก”
         “ถ้างั้นพรุ่งนี้จะให้มีซุบอีกนะ”
         “ขอบคุณครับ…คุณเท็ดละครับทานอะไรหรือยัง?”
         “เรียบร้อยแล้ว…ถ้าอิ่มแล้วก็นอนต่อนะ”
         “ผมตาสว่างแล้ว…ขอออกไปรับลมที่ระเบียงได้ไหมครับ?”
         “เอาสิ…เดี๋ยวนะ” ชายหนุ่มลุกออกไปที่ระเบียงแล้วกลับเข้ามาหอบผ้าออกไปหลายผืน  ซันนั่งงงไม่เข้าใจว่าเท็ดทำอะไร
         “เอาละเรียบร้อย  มาสิ…”
         “ครับ…ทำไมผ้ามันเยอะอย่างนี้ละครับ?”
         “ก็อากาศค่อนข้างเย็น  กลัวว่ากายจะเป็นหวัดเอานะสิ”
         “ขอบคุณครับ” ร่างผอมแทบจะจมหายลงไปในกองผ้าห่ม  เท็ดทรุดลงนั่งข้างๆ ไอตัวร้อนผะผ่าวจากร่างหนาทำให้เด็กหนุ่มเผลอกลั้นใจ  หัวใจเต้นระรัวขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล   ลมทะเลหอบเอากลิ่นหอมของดอกไม้และไอเย็นจากน้ำตกขึ้นมาถึงบนระเบียง  ซันสูดลมหายใจยาวลึกเพื่อให้หัวใจเต้นช้าลง  เสดึงผ้ามาห่มเพื่อให้เกิดระยะห่างจากร่างสูง  แต่ชายหนุ่มกลับเข้าใจไปอีกทาง
         “หนาวเหรอ…อุ่นขึ้นไหม?”
ซันใจหายวาบเมื่อถูกรวบเข้าไปไว้ในตักกว้าง ปากซีดเผยอเหมือนจะกล่าวคำปฏิเสธแต่กลับไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา  ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ร่างกายกลับเอนซบลงอย่างง่ายดาย  ปากร้อนสัมผัสบนหน้าผากแผ่วเบา  เด็กหนุ่มหลับตาลง แต่กลับเผยอปากเหมือนรอคอยบางอย่าง… ‘รอคอยงั้นเหรอ  นี่เรากำลังรออะไร?’  ซันลืมตาขึ้นแล้วก็รีบหลับลงไปใหม่เพราะเห็นชายหนุ่มกำลังจะก้มลงมา ลมหาย ใจรินรดที่หน้าผากและแก้มจนร้อนผ่าวทั้งหน้า 
         “ถ้าง่วงก็หลับไปเลยนะ”
         ‘เฮ้อ!…ใครจะไปหลับลง ก็เล่นกอดซะแน่นขนาดนี้…จะว่าไปก็อุ่นดีนะ’ เด็ก-หนุ่มเผลอคิดโน่นคิดนี้และผลอยหลับไปด้วยฤทธิ์ยา 
...............


 :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" Up 31/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: hene2526 ที่ 31-10-2009 22:17:06
ขอจิ้มก่อนอ่าน...อิอิ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" Up 31/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 01-11-2009 04:02:50
คงจะค่อยๆดีขึ้นสินะกาย
แต่ว่าจะมีอะไรแทรกเข้ามาอีกหละเนี่ย
บวก 1 แต้ม ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" Up 31/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-11-2009 07:22:02
 :-[ :-[ :-[ หวานมากๆ   นี่แค่เริ่มต้นใช่มะ เดี๋ยวต้องมีอะไรต่ออีกแน่ 

แค่คิดก็สนุกแระ   :impress2: :impress2:

ขอบคุณคนโพสต์จ้า   :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" Up 31/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 01-11-2009 10:57:11
แอร๊ยยยยย คู่นี้ทำเบาหวานกำเริบ น้ำตาลพุ่งพรวด  น่ารักมากกกกก  :o8:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" Up 31/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 02-11-2009 04:29:55
กายคงจะหายดีในไม่ช้านี้นะครับ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" Up 31/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-11-2009 22:25:48
ดันๆ  :z2: :z2: คืนนี้มามั๊ยเอ่ย  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" Up 31/10/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 04-11-2009 12:07:14
เท็ด กะ กาย ไปลอยกระทงหรือเปล่า ทำไมยังไม่มาอีกอะ  :z3:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 04/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 04-11-2009 22:22:14
ลมหนาวมาแล้ว อยากให้หนาวอย่างนี้ไปนานๆจัง

ขอบคุณทุกคอมเมนท์นะคะ อ่านต่อเลยคะ

...........

อากาศยามเช้าค่อนข้างเย็น  ลมทะเลพัดแรงจนร่างผอมแทบเซ  ซันเหลียวมองรอบกายอย่างชื่นชม  ความงดงามลงตัวของการตกแต่งสถานที่ให้เข้ากับธรรมชาติบอกถึงเม็ดเงินมหาศาลที่ถูกทุ่มลงมาที่นี่เพื่อความบันเทิงเล็กๆน้อยๆของตระกูลแฮมิลตัน จากทางเดินที่เชื่อมต่อกับหมู่อาคารเห็นร่างสูงโปร่งวิ่งเหยาะๆขึ้นเนินมาและโบกมือทักทายมาแต่ไกล 
         “อรุณสวัสดิครับคุณกาย” ชายหนุ่มวิ่งมายืนหอบอยู่ตรงหน้า
         “อรุณสวัสดิ์ครับคุณแจ็ค…เมื่อคืนซุบอร่อยมากเลยครับ”
         “ซุบอะไรครับ?”
         “อ้าว!ก็ซุบข้นที่ส่งมาเมื่อคืนไงครับอร่อยมากเลย”
         “แต่เมื่อคืนคุณเท็ดสั่งงดอาหารนี่ครับ เห็นว่าคุณกายหลับตั่งแต่ตอนเย็น  คุณเท็ดบอกว่าจะหาอะไรทานเองไม่ให้ส่งอาหารมาให้”
         “หมายความว่าซุบนั่น…”
         “อรุณสวัสดิ์แจ็ค  มาแต่เช้าเชียว”  ชายหนุ่มโผล่มาทักทายจากระเบียงชั้นบนก่อนจะเดินลงมา  คลุมผ้าที่ถือมาบนไหล่ผอมแล้วดึงมาโอบไว้
         “อรุณสวัสดิ์ครับคุณเท็ด คุณริชสั่งไว้ว่าคุณเท็ดตื่นเช้า ให้มาเร็วหน่อยครับ”
         “งั้นเหรอ  แล้วเวลาริชกับราเชลมาพักละ?”
         “หึๆก็สายหน่อยครับ  บางวันก็บ่ายๆ”
         “นินทาเจ้านายเดี๋ยวฉันจะกลับไปฟ้องริช”
         “อ๊ะ!…อย่านะครับ ขืนไปฟ้องคุณริชต้องบ่นผมตายเลย ว่าเอาเรื่องจริงมาเล่าหึๆ”  แจ็คทำหน้าทะเล้นตาเป็นประกายอย่างเจ้าเล่ห์  ทำให้เท็ดอดหัวเราะตามไม่ได้  แม้แต่ซันก็พลอยอมยิ้ม หน้าเป็นสีระเรื่อขึ้นเล็กน้อย เมื่อนึกว่าทำไมริชกับ ราเชลถึงตื่นสาย
         “ไปเดินเล่นกันไหม?” ชายหนุ่มก้มลงชวนคนในอ้อมแขน ตาโตเป็นประกายอย่างยินดี
         “ไปครับ”
         “งั้นก็ไปเปลี่ยนเป็นชุดที่หนากว่านี้หน่อยดีไหม?”
         “ครับ” เด็กหนุ่มวิ่งขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างกระตือรือร้น
         “แจ็ค…นายดู…สดชื่นขึ้นนะ”
         “ครับ…ที่นี่ช่วยให้ผมดีขึ้น”
         “หมายความว่านายลืมรามอสได้แล้ว”
         “ไม่ครับ…คุณรามอสยังคงอยู่ในใจผม….ทั้งเสียงหัวเราะ… รอยยิ้ม…สิ่งดีๆทุกอย่าง  เหมือนเขายังอยู่กับผมตลอดเวลา”
         “นายไม่โกรธเขาหรือไงที่ทำให้นายเจ็บอย่างนั้น?”
         “ไม่หรอกครับ คุณอาจจะว่าผมโง่ก็ได้ถ้าผมจะบอกว่าผมนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าคุณรามอสเคยทำอะไรไม่ดีกับผม คุณรามอสเป็นคนที่ผมรัก รักมากที่สุด แต่สำ หรับคุณรามอสผมไม่ใช่คนที่คุณรามอสต้องการ  แล้วผมจะยื้อเขาไว้ได้ยังไงครับ”
         “นายไม่ใช่คนโง่หรอกแจ็ค แต่นายเป็นคนดีมากไป  บางทีถ้านายหัดร้ายหัดยื้อแย่งเสียบ้าง  นายอาจจะสมหวังก็ได้”
         “แต่นั่นไม่ใช่ตัวผม ผมคงเป็นพวกน้ำเน่ามั้งครับ ประเภทพระเอกผู้เสียสละอะไรแบบนั้น…หึๆอย่าใส่ใจเลยครับ” เสียงหัวเราะนั้นเฝื่อนปนขมขื่น  เท็ดทำได้เพียงตบไหล่แจ็คเบาๆ หน้าเผือดสีเปลี่ยนเป็นแย้มยิ้มเมื่อร่างผอมบางวิ่งตัวปลิวลงมาจากชั้นบน ท่าทางตื่นเต้น  แก้มซีดๆดูมีน้ำมีนวลขึ้น
         “ไปเดินเล่นด้วยกันไหมครับคุณแจ็ค?”
         “โอ๊ย! ผมเดินทุกวันอยู่แล้วครับ เห็นทีจะต้องขอบาย”แจ็คโบกมือปฏิเสธว่อน
         “งั้นเราไปกันเถอะ”
         “แล้วอาหารเช้าจะให้เขาตั้งโต๊ะกี่โมงดีครับ?”
         “สัก 8 โมงแล้วกันกายเคยกินมื้อเช้าตอนนั้น  อ้อ!ขอเป็นข้าวต้มนะ”
ชายหนุ่มพูดพร้อมกับโอบร่างผอมให้เดินไปด้วยกัน เด็กหนุ่มเงยขึ้นมองอย่างประหลาดใจจนลืมมือที่โอบกระชับอยู่บนไหล่
         “ทราบได้ยังไงครับว่าผมกินมื้อเช้ากี่โมง?”
         “ถามจากซูหลินน่ะ”
         “ถามกระทั่งเรื่องนี้เลยหรือครับ?”
         “ก็…นะ”ชายหนุ่มตอบยิ้มๆตาคมเป็นประกายพราวจนเด็กหนุ่มหน้าร้อนผ่าว  หัวใจไหวระทึกอย่างขัดเขินปนยินดีที่ชายหนุ่มให้ความสนใจแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆที่เขานึกไม่ถึง  มีพนักงานของรีสอร์ทเดินสวนมาเป็นระยะๆ  ส่วนใหญ่เท็ดจะทักทายอย่างสนิทสนม  สายตาทุกคนมักจะจับจ้องมือที่โอบอยู่บนไหล่จนเด็กหนุ่มเขิน  ดูเหมือนเท็ดก็สังเกตเห็นมือจึงเลื่อนจากไหล่มากุมมือเล็กไว้ แล้วเดินเคียงกันลัดเลาะไปเรื่อยๆ บางครั้งก็บันทึกภาพเด็กหนุ่มด้วยกล้องดิจิตอลตัวจิ๋ว  จนบ่ายคล้อยชายหนุ่มจึงให้รถไฟฟ้ามารับกลับที่พัก
         “ป่านนี้แจ็คคงบ่นเราแย่เลยครับ”
         “ทำไมล่ะ?”
         “ก็เขาเตรียมอาหารเช้าไว้แล้ว แต่เราเล่นออกมากินตามร้านชาวบ้านทั้งสองมื้อเลย”
         “เขารู้แล้วล่ะ”
         “อ้าว!ใครบอกละครับ?”
         “ก็ร้านที่เราไปน่ะเป็นคนของรีสอร์ททั้งนั้นแหละ พอเราไปทานเขาโทรบอกแจ็คให้เรียบร้อยแล้ว”
         “หมายความว่าชาวบ้านที่นี่ทั้งหมดเป็นคนที่ทำงานให้กับรีสอร์ทหมดเลยหรือครับ?”
         “ใช่ ทุกคนที่นี่ถือว่าทำงานให้กับบริษัทแฮมิลตัลทั้งนั้น แม้แต่ลูกๆของพนัก งานก็มีสวัสดิการ  มีโรงพยาบาลและมีโรงเรียนให้เรียน  วันหลังพี่จะพาไปดู”
         “ขอบคุณครับ…อยากให้ซูหลินมาด้วยจัง…ถ้าซูหลินมาเห็นที่นี่ต้องตาค้างแน่ๆ”
         “เอาสิวันหลังเราพาซูหลินมาเที่ยวกัน”
         “จริงๆนะครับ?”
         “พี่ไม่เคยโกหกกาย”น้ำเสียงหนักแน่นนั้นแฝงบางอย่างไว้ด้วยแน่นอน ซันเงยขึ้นสบตาเท็ดนิ่ง  สายใยแห่งความรู้สึกถ่ายทอดจากดวงตาคมชัดเจน  ความอบอุ่นแผ่ซ่านทั้งใจและมีความรู้สึกขัดเขินปะปนมาด้วย  เด็กหนุ่มหน้าร้อนผ่าวจนต้องหลบตา  ทุกครั้งที่ต้องใกล้ชิดกันทำไมเขาถึงต้องรู้สึกเช่นนี้ก็ไม่รู้  เมื่อคืนก็เหมือนกัน ‘จริงสิเมื่อคืน’ 
         “เอ่อ…เมื่อคืน…คุณเป็นคนทำซุบเหรอครับ?”
         “พี่ทำเองแหละ”
         “ขอบคุณครับ  อร่อยมากจริงๆ”
         “ก็พี่ทำให้กายกินมาตั้งแต่เด็ก  ไม่ชอบก็เกินไปละ”
         “ผมเคยชอบกินซุบนี่หรือครับ?”
         “เคยสิ…บางครั้งต้องทำให้กินติดๆกันทุกวันจนเบื่อนั่นแหละถึงจะยอมให้เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น”
         “ผม…เกรงใจจริงๆครับที่กลายเป็นภาระให้คุณ”
         “กายไม่เคยเป็นภาระสำหรับพี่นะ กายเป็นคนที่พี่รักมากที่สุดแล้วจะเป็นภาระได้ยังไง  เอ่อ….พี่หมายถึงเป็นน้องที่พี่รักมากน่ะ”  คำอธิบายร้อนรนทำให้หัวใจพองฟูแฟ่บลงทันควัน  ความน้อยใจปนหวาดหวั่นกลับมาเยือนอีกครั้ง
         “ถ้าวันหนึ่งผมเกิดจำได้แล้วผมพบว่าตัวเองไม่ใช่กายละครับ  คุณจะทำยังไงกับผม?”
         “ไม่มีวันนั้นหรอกเพราะน้องคือกายแน่นอน”
         “แต่ผมก็แค่คล้ายๆคนในรูปนะครับ  แล้วมันก็ผ่านมาตั้งเกือบ7ปีแล้ว  ผม…กลัวว่าผมจะไม่ใช่”
         “อย่าคิดอะไรให้มากเลย….แล้ว…เมื่อไหร่กายจะเลิกเรียกพี่ห่างเหินอย่างนั้นซะทีล่ะ”
         “ก็…เอ่อ…ขอโทษครับ” 
         “พี่ไม่ได้บังคับกายหรอกนะ  ถ้ากายยังไม่สนิทใจที่จะเรียก‘พี่’ก็ไม่เป็นไร  แต่ถ้ากายวางใจในตัวพี่เมื่อไหร่พี่ก็อยากได้ยินกายเรียกว่าพี่สักครั้ง”
         “ครับ…พี่…พี่เท็ด” หางเสียงนั้นยังลังเลปนเก้อเขิน
         “กาย…”  ชายหนุ่มรวบร่างเพรียวเข้ามากอดแน่นอย่างตื้นตัน
         “เอ่อ…ผมหายใจไม่ออกแล้วครับ”
         “อะ…ขอโทษนะ  พี่ลืมตัวไปหน่อย….เจ็บหรือเปล่า?”
         “ไม่ครับ…ผมร้อนขอไปอาบน้ำดีก่อนนะครับ” อ้อมแขนร้อนผ่าวคลายออกเด็กหนุ่มก้มหน้างุด  เท็ดอมยิ้มเมื่อหน้าเรียวแดงกล่ำ  ท่าทางขัดเขิน และทำท่าจะหนีขึ้นบ้านดื้อๆ 
         “เล่นน้ำตกกันดีกว่า”
         “แต่ว่าเราไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามานะครับ”
         “โธ่!อยู่ติดบ้านแค่นี้จะเป็นอะไรไปล่ะ”ชายหนุ่มเดินนำไปยังน้ำตกส่วนที่ค่อนข้างลึก  ก่อนจะหันมา กวักมือเรียก  ซันลังเลชั่วขณะก่อนจะถอดรองเท้าออกแล้วค่อยๆลุยน้ำตามลงไป  สายน้ำเย็นเฉียบทำให้รู้สึกสะท้านเมื่อแรกสัมผัส หากแต่ครู่เดียวร่างกายก็เริ่มปรับสภาพได้  แต่สิ่งที่เด็กหนุ่มตื่นตาก็คือฝูงปลาสีสดใส
         “โห! ปลาเยอะจังครับ  ดูสิครับมันเชื่องมากเลย”
ปลาว่ายเข้ามาหาเป็นหมู่ เพราะเป็นปลาเลี้ยงจึงคุ้นกับคนมาก  เด็กหนุ่มเล่นน้ำอย่างสนุกเพราะทุกครั้งที่เขาเซจะมีอ้อมแขนกว้างโอบรับไว้ตลอดจนมั่นใจได้ว่าเท็ดจะคอยดูแลเขาให้ปลอดภัยได้เสมอ  ความห่างเหินระมัดระวังของซันลดลงไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว 
         “พอได้แล้วละ  กายหนาวจนปากเขียวแล้ว”
         “ครับ…พรุ่งนี้เรามาเล่นน้ำอีกได้ไหมครับ?”
         “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ  แต่ตอนนี้ขึ้นจากน้ำด่วนจี๋!”
         “โห!…หนาวๆๆๆ…น้ำอุ่น!  น้ำอุ่น….อ้าว!” เด็กหนุ่มหยุดวิ่งหันกลับไปมองข้างหลัง  เท็ดเดินตามเขามาติดๆในมือถือรองเท้าของเขามาให้ด้วย
         “ขอโทษครับ…ผมถือเองครับ”
         “ไม่เป็นไรหรอก  หนาวไม่ใช่เหรอ รีบขึ้นไปอาบน้ำเร็วเดี๋ยวจะไม่สบายนะ”
         “เอ่อ…ขอบคุณครับ”
เมื่อกลับออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เห็นเงาของชายหนุ่มแล้ว  รอยน้ำที่เขาทำเปื้อนไว้ตามพื้นก็ถูกเช็ดเรียบร้อย  แม้แต่รองเท้าคู่โปรดก็ถูกเช็ดจนสะอาดและวางไว้ให้ที่ชั้น  ซันยืนมองรองเท้านิ่งนาน  แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกหน้าร้อนผ่าว หัวใจยังไหวระทึกและอิ่มเอิบ  นับแต่เจอกันจนบัดนี้ผู้ชายคนนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันเสมอ  เป็นฝันที่เขาไม่อยากจะตื่น  อ้อมแขนอบอุ่นรอยยิ้มอ่อนโยน และดวงตาคมที่ทำให้หน้าร้อนผ่าวทุกครั้ง 
                   ……………
          ‘ที่นี่คือที่ไหน?’ ซันเดินวนเวียนไปมาอย่างงุนงง รอบๆตัวเขาเต็มไปด้วยหมอกหนาทึบ
         ‘เท็ด  คุณอยู่ที่ไหน?’  เด็กหนุ่มสะอื้นเหลียวมองรอบๆอย่างตื่นตระหนก  ชื่อแรกที่เรียกหาคือคนที่เขาคิดคำนึงอยู่ตลอดเวลา
         ‘เท็ด…พี่อยู่ที่ไหน?’
 เสียงสะท้อนกลับมามีเพียงเสียงสะอื้นเท่านั้น  ซันพยายามเดินฝ่าไปเรื่อยๆ เมื่อหมอกจางลงก็เห็นร่างสูงยืนอยู่ไม่ไกล  เด็กหนุ่มโผเข้าไปกอดอย่างยินดี
         ‘เท็ด  พี่หายไปไหนมา ผมตามหาพี่อยู่นะ แล้วที่นี่ที่ไหนเหรอ?’ 
ใบหน้าของชายหนุ่มเย็นชา ดวงตาที่จองมองดูเขาว่างเปล่า 
         ‘เธอเป็นใคร?’
         ‘อะไรนะ!  พี่พูดอะไร  ผมคือน้องของพี่ไม่ใช่เหรอ  ผมคือกายไง’
         ‘ไม่ใช่  เธอไม่ใช่กาย  นี่ไงกายฉันหาเขาเจอแล้ว’
 ร่างหนึ่งก้าวออกมาจากเงามืดด้านหลัง  หนุ่มน้อยหน้าสวยเหมือนในรูปยืนมองเขาเขม็ง  สายตานั้นทั้งเยาะหยันและดูแคลน
         ‘ฉันคือกาย  ฉันกลับมาหาพี่ฉันแล้ว  นายเป็นใคร ทำไมมาแอบอ้างชื่อฉัน’ 
         ‘ผมเปล่า…ผม…เท็ด…ฮึก!…พี่บอกว่าผมคือกายไม่ใช่เหรอ?’ 
หางเสียงเริ่มสั่นเครือและเปลี่ยนเป็นสะอื้น  มือเขาถูกชายหนุ่มปัดทิ้งอย่างไม่ใยดี  สายตาที่มองดูเขาทั้งเยาะหยันและรังเกียจ
         ‘กายเป็นน้องที่ฉันรัก   แต่เธอไม่ใช่  เธอรู้สึกกับฉันแบบไหน  น่าจะละอายบ้างนะ  ฉันเป็นผู้ชายปกติไม่ใช่พวกวิปริตอย่างเธอหรอก  กายไม่ใช่คนแบบเธอ  ออกไปให้พ้นบ้านฉันได้แล้ว  คนน่ารังเกียจ  สกปรก’
         ‘ไม่นะ…เท็ดอย่าทิ้งผม…ไม่…ผมไม่ได้เป็นแบบนั้น…อย่าทิ้งผมเลย…เท็ด…เท็ด…ฮือ!’
         “ไม่!!!!……...”   เด็กหนุ่มผวาลุกขึ้นนั่ง  เหงื่อซึมทั่วตัว  ฝัน…นี่เขาฝันไปเท่านั้นหรือ?  ซันงอเข่าขึ้นมากอดไว้แน่นน้ำตายังไหลไม่หยุด  เขาไม่อยากให้ความฝันนี้เป็นจริงเลย  หากเขาไม่ใช่กายเล่า…หากสักวันกายตัวจริงกลับมาแสดงตัวเขาจะเป็นอย่างไร  เท็ดจะต้องทิ้งเขาไป  เท็ดจะเลิกสนใจใยดีในตัวเขา ความรักความอบอุ่นที่เขาได้รับอยู่ขณะนี้จะกลายเป็นอดีต  และเท็ดอาจโกรธที่เขาเข้ามาสวมรอยแทนน้องที่เท็ดรัก  แล้วยิ่งถ้าเท็ดรู้ว่าเขาคิดอย่างไร…เท็ดก็จะต้องรังเกียจที่เขาเป็นพวกวิปริต  ไม่!เท็ดต้องไม่รู้โดยเด็ดขาด เขาต้องไม่ให้เท็ดรู้  เขาคงทนไม่ได้หากต้องเห็นสายตารังเกียจขยะแขยงจากเท็ด  เด็กหนุ่มปิดปากแน่นกันไม่ให้เสียงสะอื้นลอดออกมา  ทั่วร่างสั่นสะท้านราวกับจับไข้  ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั้งกาย  เวลาเกือบเดือนที่ได้ใกล้ชิดกันทำให้เขาแน่ใจแล้วว่าเขากำลังหลงรักเท็ด  พี่ชายที่แม้จะไม่ได้ร่วมสายโลหิต  หากแต่ความรักความห่วงใยที่เท็ดแสดงออกก็ทำให้เด็กหนุ่มละอายแก่ใจทุกครั้งที่เผลอรู้สึกเกินเลย  รอยยิ้มอ่อนโยนอ้อมแขนอบอุ่นที่ทำให้เขาร้อนเหมือนจะละลาย  ความรู้สึกหวานหวิวทุกคราที่มือร้อนสัมผัส  จุมพิตอ่อนโยนที่อยากให้ลึกซึ้งดื่มด่ำยิ่งกว่านี้  ซันซุกตัวลงใต้ผ้าห่ม ลูบไล้ไปทุกที่ที่อยากให้เท็ดสัมผัส  เนื้อตัวร้อนผ่าวบิดเร่าอย่างทรมาน 
         ‘เท็ด…เท็ด…ผมรักคุณ…ผมจะทำยังไงดี…ผมรักคุณขนาดนี้…รู้สึกกับคุณขนาดนี้…แล้วผมจะเป็นน้องคุณได้ยังไง?ผมรักคุณ…รัก…’
..
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 04/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 04-11-2009 22:24:47
....
         ซันสูดลมหายใจลึก  อากาศเย็นเฉียบยามเช้าช่วยขับไล่ความอ่อน
เพลียไปได้บ้างหากแต่ความทุรนทุรายในใจกลับไม่บรรเทาลง  อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปยังระเบียงห้องนอนข้างๆ  คนห้องโน้นน่าจะตื่นแล้ว อาจจะกำลังอาบน้ำ  เด็กหนุ่มยืดออกไปจนสุดตัวเพื่อมองหน้าต่างห้องข้างๆให้ถนัดขึ้น
         “ระวังตกนะ” ซันสะดุ้งจนเกือบหล่นระเบียงดีที่แขนแข็งแรงรวบเอวไว้ก่อน
         “อะ…พี่เท็ด….เอ่อ…ตื่นนานแล้วเหรอครับ?” เด็กหนุ่มก้มหน้างุด  แก้มนวลแดงกล่ำเพราะเขินที่ถูกจับได้ว่าแอบมอง  เสียงหัวเราะหึๆอยู่ข้างหู  กลิ่นอาฟเตอร์เชฟหอมบางเบา วงแขนอุ่นโอบรัดแน่นหนาจนหลบเลี่ยงไม่ได้
         “แอบดูอะไรหือ?…อย่างนี้ต้องทำโทษ”
         “ทำ…ทำยังไงครับ?”
         “อืม…งั้นบอกอรุณสวัสดิ์ก่อน”
         “อรุณสวัสดิ์ครับ”
         “แค่นี้เหรอ?…ไม่ใช่มั้ง…เวลาพี่ทักกายพี่ทำไง…..ว่าไง…เร็ว”  ซันหน้าแดง แตะปากไปที่คางบุ๋มเบาๆก่อนจะถูกหอมกลับจนสองแก้มแทบช้ำ  เด็กหนุ่มซุกหน้ากับอกกว้างความไม่สบายใจหายไปเกือบหมด มือใหญ่ลูบผมให้เขาเบาๆความรู้สึกอบอุ่นถ่ายทอดถึงกันโดยไม่ต้องมีคำพูด
         “วันนี้พี่ต้องไปบริษัทนะ…บ่ายๆคงกลับ…กายจะเอาอะไรไหม?”
         “ไม่ครับ…เอ่อ…”
         “หืม…มีอะไร?”
         “เปล่าครับ แล้วไม่ทานอาหารเช้าก่อนเหรอครับ?”
         “ไม่ละ พี่มีนัดตอนเก้าโมงต้องรีบไป พี่ให้แจ็คมาคอยอยู่เป็นเพื่อนแล้ว อยากได้อะไรก็บอกแจ็คนะ  เสร็จธุระแล้วพี่จะรีบกลับ”
         “ครับ”  เด็กหนุ่มใจหาย  ความเหงาความว้าเหว่กลับมาเยือนอีกครั้ง  เมื่อครู่เขาเกือบขอตามไปด้วยแล้วด้วยซ้ำแต่ก็เกรงจะเป็นการรบกวนเพราะเท็ดไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยว   
          ซันจ้องมองเครื่องบินเล็กที่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยความอาวรณ์  ก่อนจะรีบหันหลังให้  เพราะซูหลินเคยบอกเขาว่าเวลาไปส่งใครอย่ามองจนลับตา เพราะอาจต้องจากกันตลอดไป  แจ็คมายืนรออยู่ข้างรถแล้ว  ในมือหิ้วถุงใบใหญ่มาด้วย
         “วันนี้คุณกายมีโปรแกรมจะไปไหนหรือเปล่าครับ?”
         “ไม่ละครับ  คุณแจ็คเอาอะไรมาครับเยอะเลย”
         “ก็มีหนังใหม่ๆหลายเรื่อง  มิวสิควีดีโอ  แล้วก็นี่ครับสารคดีชีวิตสัตว์”
         “ขอบคุณครับ งั้นผมกลับบ้านก่อนนะครับ”  ซันหิ้วกล่องซีดีกลับมาบ้านพักด้วย  อาหารเช้าถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย  ทั้งที่กลิ่นหอมน่ากินแต่เขากลับกลืนไม่ลงจนพนักงานที่มาเก็บโต๊ะทำท่าไม่สบายใจ บ้านดูเงียบและวังเวงอย่างประหลาด  เสียงนาฬิกาเดินดังจนน่ารำคาญ  เด็กหนุ่มเปิดโทรทัศน์ดูช่องโน้นทีช่องนี้ที แต่กลับไม่มีรายการน่าดูเลยสักช่องจึงกดรีโมทปิดอย่างหงุดหงิด  ซันคว้าหมอนออกมานอนที่ระเบียง  สายตาจับจ้องอยู่แต่ทิศที่เครื่องบินเล็กไป  จนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าแจ็คขึ้นมาบนบ้านตอนไหน 
         “อ้าว!คุณแจ็ค”
         “ดูหนังที่ผมให้มาหรือยังครับ”
         “ยังเลยครับ…ว่าจะดูพร้อมคุณแจ็ค”
         “มาครับผมเปิดให้” แจ็คเลือกสารคดีที่ซันเคยชอบมาเปิดและชวนคุยไปด้วย  เด็กหนุ่มอือออไปตามเรื่อง  แต่แจ็คก็ดูออกว่าซันดูไม่รู้เรื่อง  สายตาคอยแต่เหลือบมองนาฬิกาเป็นระยะๆสลับกับการลุกออกไปมองข้างนอก เมื่อไม่เห็นมีวี่แววว่าเครื่องบินจะมาก็กลับมานั่งขมวดคิ้วนิ่ง  อีกสักพักก็ลุกไปดูอีก  จนในที่สุดแจ็คก็ปิดโทรทัศน์
         “เบื่อหรือครับ?”
         “ขอโทษครับ…คุณแจ็คคงรำคาญผม”
         “เปล่าครับไม่ได้รำคาญ  แต่กำลังจะชวนคุณกายไปเดินเล่นย่อยอาหารซะหน่อย  เมื่อครู่นี้ทานมากไปชักจะท้องอืด”
         “ก็…ก็ดีนะครับ”
แต่เดินกันได้ครู่เดียวเด็กหนุ่มก็เบื่อ  จึงย้อนกลับมานั่งเล่นที่น้ำตกข้างบ้าน  น้ำเย็นฉ่ำใสจนเห็นปลาแหวกว่ายเป็นหมู่  ซันวักน้ำเล่นเหม่อลอย  บางครั้งก็เผลอถอนใจยาว  แจ็คมองกิริยานั้นอย่างขำๆ  เกือบเดือนที่ทั้งคู่มาอยู่ที่นี่เท็ดไม่เคยห่างจากเด็กหนุ่มเลยสักครั้ง‘กาย’เองก็ดูมีความสุขสดชื่นอยู่เสมอ   แต่พอเท็ดไม่อยู่เขาเลยได้เห็นอีกบุคลิกของกาย  ตาโตดูเศร้าเหงาจนน่าสงสาร  แจ็คจึงหากิจกรรมมาให้เด็กหนุ่มทำเพื่อให้ลืมๆไปบ้าง
         “คุณกายเคยทำเค็กไหมครับ?”
         “ครับ…ขอโทษครับ  คุณแจ็คว่าอะไรนะครับผมไม่ทันฟัง”
         “คุณกายเคยทำเค็กไหมครับ?”
         “ไม่เคยครับ  ผมทำอาหารไม่เก่ง”
         “อยากหัดไหมครับ  ผมรู้มาว่าคุณเท็ดชอบทานเค็กกล้วยหอม” 
         “อยากครับ  อยากหัด”ตาโตเป็นประกาย ท่าทางกระตือรือล้นทำให้ชายหนุ่มพอใจ
         “งั้นไปหาเชพของหวานมือหนึ่งกันดีกว่าครับ”
      
   
         “เป็นไงบ้างครับเชพลูกศิษย์คนนี้?”
         “คะแนนความตั้งใจเอาไปร้อยเปอร์เซนต์เลย…นี่ใช่ลูกเศรษฐีแน่หรือเปล่าแจ็ค?”
         “ทำไมครับ?”
         “คือ…ฉันเห็นมือเขาเป็นรอยแตกด้านเชียว  แล้วยัง…เอ่อ!…รอยแผลที่หน้านั่นอีก”
         “อุบัติเหตุน่ะครับ”
         “น่าสงสาร…ผ่าตัดไม่ได้เหรอ?”
         “คงรอให้แข็งแรงหน่อยมั๊งครับ  คุณกายนะผอมจะแย่”
         “นั่นสิ!อย่างนี้ต้องทำของอร่อยๆให้กินเยอะๆ”
         “เอาเลยครับ  เลี้ยงให้อ้วนปี๋เลยยิ่งดี  เผลอๆจะได้รางวัลจากคุณเท็ดด้วย”
         “เอ่อ!…ขอโทษครับ นี่!…ใช้ได้หรือยังครับ?”เด็กหนุ่มถามอย่างเกรงใจ เกรงจะขัดจังหวะการคุยของทั้งสอง
         “หน้าตาน่ากินมากครับคุณกาย…สนใจจะเป็นเชพของหวานเหมือนผมไหมครับ?”
         “โห!อย่าให้ถึงขนาดนั้นเลยครับ  นี่ก็ไม่รู้ว่าจะทานได้หรือเปล่า”
         “อ๊ะๆ! พูดอย่างนี้ถือว่าดูถูกคนสอนนะครับ”
         “ปะ…เปล่าครับ!…ผมหมายถึงตัวเองจะฝีมือไม่ดีเท่าที่สอนต่างหากครับ”
         “ผมล้อเล่นหรอกน่า…ไหนขอชิมชิ้นที่อบเผื่อเสียดีกว่า  อื้อ!ใช้ได้เลยละ  สมแล้วที่เป็นลูกศิษย์ผม”ทั้งสามหัวเราะขึ้นพร้อมกัน  เสียงเครื่องบินทำให้ซันชะงัก  ตาเป็นประกายอย่างยินดี
         “เท็ดกลับมาแล้ว! คุณแจ็คครับพาผมกลับไปที่บ้านที”
         “อ้าว!ไม่ไปรับที่ลานจอดละครับ?”
         “ผมจะเอาเค็กไปเซอร์ไพร์ทเท็ดน่ะครับ  เชพครับขอบคุณมากครับ”
         “ไม่เป็นไรครับ  วันหลังมาเรียนใหม่นะครับ”
         “ขอบคุณครับ  เร็วครับคุณแจ็ค”
         “ได้เลยครับ”แจ็คอมยิ้ม มองตามร่างบางที่รีบร้อนขึ้นบ้านจนแทบจะไม่ได้กล่าวลาเขาด้วยซ้ำ   
ซันค่อยๆจัดเค็กลงจานอย่างบรรจง  ก่อนจะวิ่งไปชะโงกดูกระจก
         “ว้า!หน้ามันเชียว”  เด็กหนุ่มเปิดน้ำล้างหน้าและเช็ดแรงๆจนแก้มเป็นสีระเรื่อ
‘นี่เราทำยังกับภรรยาที่รอสามีกลับมาเลย’หน้าเรียวแดงกล่ำรีบถอยออกห่างกระจก  เสียงย่ำขึ้นบันไดทำให้หัวใจเต้นระทึกอย่างยินดี
         “กาย…พี่กลับมาแล้ว”เด็กหนุ่มรีบออกมาต้อนรับ รอยยิ้มบนใบหน้าจางหาย  ตาเบิกกว้างเมื่อเห็นผู้ที่ก้าวตามชายหนุ่มขึ้นมาบนบ้าน หน้าเรียวซีดขาวเหมือนกระดาษ เท็ดตกใจรีบเข้ามาประคอง
         “กาย!…กายเป็นอะไรไป…จะเป็นลมหรือเปล่า?”
         “ปะ…เปล่าครับ”
         “สวัสดีครับ”ผู้ที่เข้ามาใหม่ทักทายขึ้นก่อน สายตาที่มองมาดูไม่เป็นมิตรผิดกับหน้าที่ยิ้มหวาน
         “กายนี่จีนส์เป็นลูกป้าแมรี่  เขาขอตามมาที่นี่ด้วย”
         “สวัสดีครับยินดีที่ได้รู้จัก” ซันตอบกลับเสียงแผ่ว 
         “ผมอยากเจอคุณกายมาตั้งนานแล้ว  ดีจังที่คุณยังไม่ตายเลยได้เจอตัวจริง  ใครๆก็บอกนะครับว่าเราหน้าเหมือนกันมาก” มือเรียวขาวยืนมาแตะพอเป็นพิธี  หางตาชำเลืองมองมือที่ค่อนข้างหยาบของซัน               
         วูบแรกที่เห็นซันใจหายวาบเพราะคิดว่าเท็ดเจอกายตัวจริงแล้ว จีนส์หน้าเหมือน‘กาย’ในรูปถ่ายที่เท็ดเคยให้เขาดูมาก  สายตาของจีนส์จ้องเขม็งทำให้เขาต้องเบนหลบไม่อยากให้เห็นรอยแผลเป็นที่หน้าแต่ดูเหมือนจีนส์จะเห็นเข้าแล้ว 
         ‘ใครๆว่าเรากับกายหน้าเหมือนกัน นี่หรือกาย?ทั้งผอมทั้งโทรมแถมมีแผลเป็นน่าเกลียดอีก ขานั่นก็พิการไม่ใช่เหรอ…นี่ถ้าไม่ได้แอบได้ยินน้าดาน่าคุยกับแม่เราคงไม่กล้ามา  ไม่น่าเชื่อว่าเท็ดยังทนรักคนที่พิการได้ แต่…กายเป็นอย่างนี้ เท็ดก็น่าจะเปลี่ยนใจมาหาเราง่ายกว่าที่คิดนะสิ’  จีนส์ลอบยิ้มด้วยความยินดี
         “พี่เท็ดที่นี่สวยมากเลย  ผมอยากเดินเล่นรอบๆพาผมเดินเที่ยวหน่อยสิครับ”
ซันรีบเบือนหน้าหนีเมื่อเห็นท่าทางออดอ้อนเบียดกระแซะของจีนส์กับเท็ด รู้สึกหงุดหงิดที่ได้เห็นคนอื่นสนิทสนมกับเท็ดแบบนี้ 
         “จีนส์!”เสียงหนักเย็นชาทำให้ซันเหลียวมองอย่างแปลกใจ ไม่เคยสักครั้งที่เขาจะได้ยินเท็ดทำเสียงอย่างนี้ จีนส์หน้าเสียรีบปล่อยมือจากแขนและถอยออกห่างอย่างเกรงกลัว  หัวใจที่บอบช้ำของซันค่อยชุ่มชื่นขึ้นเพราะสายตาที่เท็ดมองมาที่เขายังคงอ่อนโยนไม่เปลี่ยนแปลง
         “หน้าซีดๆไปนอนพักหน่อยดีไหม?…ไว้แดดร่มๆพี่จะพาไปเที่ยวที่โรงเรียน  วันนี้มีของมาแจกเด็กๆเยอะเลย” น้ำเสียงปลอบประโลมห่วงใยเหมือนจะเข้าใจความกังวลของซันได้ดี  จีนส์ตาขุ่นเดือดดาลจนอยากจะกรีดร้องออกมา แต่ก็ฝืนทนเพื่อรักษามาดเด็กดีเอาไว้
         “อ้าว!แล้วเท็ดจะไม่พาผมไปเดินเที่ยวหน่อยเหรอ?”
         “ตอนบ่ายๆเราก็จะไปกันอยู่แล้วนี่”
         “แต่ผมอยากไปตอนนี้นี่นา นะครับนะน้าาา”   จีนส์อ้อนเสียงหวานขยับจะเข้ามากอดแต่พอเห็นสายตาของชายหนุ่มก็ชะงัก  เท็ดเดินไปโอบไหล่ผอมบางออกไปนอนบนเก้าอี้ยาวที่ระเบียง  จีนส์หน้างอแต่ก็เดินตามออกไปเงียบๆทั้งที่ความจริงอยากจะวิ่งเข้าไปแทรกระหว่างคนทั้งสอง  ร่างสูงคุกเข่าลงข้างเก้าอี้พร้อมกับคลี่ผ้าห่มคลุมให้ซันจนถึงคอ  นิ้วยาวเกลี่ยเส้นผมที่ปิดหน้าผากออก ก้มลงจุมพิตเบาๆที่รอยแผลเป็น  ซันหน้าแดงหลบตาอย่างเขินๆ  แต่จีนส์คอแข็งด้วยความโกรธ
         “กินยาแล้วใช่ไหม?”
         “ครับ”
         “งั้นก็นอนพักสักหน่อย…วันนี้ไปไหนมาบ้าง?”
         “ไป….ไม่ได้ไปไหนไกลครับ  ก็อยู่แถวๆนี้”
         “เบื่อไหม?”
         “ก็…เหงามากกว่าครับ” ตาคมเป็นประกายวาววับ  ยิ้มกว้างอย่างยินดี ยกมือเล็กขึ้นแนบแก้มขณะที่อีกมือยังประคองอยู่ที่ศรีษะของเด็กหนุ่ม จีนส์มือสั่นใจหายวาบเมื่อเห็นเท็ดปฏิบัติต่อกาย พยายามกล้ำกลืนความขมขื่นไว้สุดความสามารถ
         “เท็ดครับ…ผมอยากไปเดินเล่น  อยากเล่นน้ำด้วย  พาไปหน่อยนะครับ”
ชายหนุ่มเหลียวกลับไปมองข้างหลังอย่างแปลกใจ  เขาลืมจีนส์ไปเลยเพราะมัวแต่ดีใจที่รู้ว่ากายก็คิดถึงเขาเวลาที่เขาไม่อยู่
         “จะไปตอนนี้เลยเหรอ?”
         “ครับอยากไปตอนนี้  คุณกายคงไม่ว่านะครับ ถ้าจะขอยืมตัวพี่เท็ดสัก 2-3 ชั่วโมง”
         “ก็…แล้วแต่พี่เท็ดเถอะครับ”เสียงตอบรับเบา สายตาหลุบต่ำไม่กล้ามองหน้าทำให้จีนส์เดือดดาล
         “งั้นรอเดี๋ยว”  ซันใจหายวาบ  รู้สึกในท้องปวดมวนขึ้นมาทันที
         “ว้าว!พี่เท็ดใจดีจัง ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มลุกกลับเข้าไปในห้อง  จีนส์เหลือบมองซันและส่งยิ้มหวาน  ตาโตเป็นประกายเจิดจ้าและท้าทายอยู่ในที 
         “คุณกายคงเหงาแย่เลยสิครับเวลาพี่เท็ดไม่อยู่”
         “ครับเหงามาก  เพราะปกติพี่เท็ดจะอยู่ข้างๆผมตลอดเวลา  พอเขาไม่อยู่เหมือนกับอวัยวะส่วนหนึ่งในร่างกายหายไปเลย”ซันตอบหน้าซื่อๆแต่จีนส์หน้าแดงกล่ำเผลอเม้มปากแน่น ยังไม่ทันปะทะคารมต่อเท็ดก็ออกมา ในอ้อมแขนมีแฟ้มหลายเล่ม อีกมือก็หิ้วกระเป๋าโน๊ตบุ๊คออกมาด้วย ชายหนุ่มกางโน๊ตบุ๊คลงบนโต๊ะพับตัวเล็ก แล้วดึงแฟ้มออกมาเปิดหลายๆเล่มพร้อมกัน
         “อ้าว!ก็ไหนพี่เท็ดว่าจะพาผมไปเดินเล่นไงครับ?”
         “ก็บอกแล้วว่าเดี๋ยว ไม่เกิน5นาทีน่า”
         “ก็ได้ครับ…คุณกายจะไปเดินเล่นด้วยกันไหมครับ?”
         “เอ่อ…ผม…”
         “จะไปเดินเล่นได้ยังไง หน้าซีดออกนอนพักเถอะ”  ชายหนุ่มพูดแทรกขึ้นโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากแฟ้มจึงไม่เห็นสายตาตัดพ้อของซัน และสายตาแวววาวด้วยความยินดีของจีนส์
         “ครับ…เชิญคุณจีนส์ตามสบายนะครับ”ซันพูดเสียงแห้งอย่างน้อยใจ ขยับลุกขึ้นนั่งเตรียมจะหนีเข้าห้อง
         “อ้าว!แล้วกายจะไปไหน?” ชายหนุ่มเงยขึ้นเมื่อรู้สึกว่าร่างบนเก้าอี้ขยับ   เด็กหนุ่มก้มลงตบหมอนวางคืนที่ไม่ยอมสบตา
         “ผมรู้สึกเพลียๆจะขอไปนอนในห้องครับ”
         “เป็นอะไรมากหรือเปล่า?”  ซันพยายามปรับสีหน้าหันกลับมาสบตาชายหนุ่ม
         “เปล่าครับ…คุณ…พี่เท็ดพาจีนส์ไปเที่ยวเถอะครับผมไม่เป็นอะไรมากหรอก”
         “ไม่เป็นอะไรแน่นะ”สายตาของเท็ดดูกังวลและห่วงใยทำให้ซันต้องฝืนยิ้ม 
         “ครับ”
         “งั้นเราไปกันเถอะครับพี่เท็ด”จีนส์รีบเข้ามานั่งข้างๆแต่ชายหนุ่มกลับลุกไปนั่งจนชิดเก้าอี้นอน หลังมือแตะหน้าผากเล็กอย่างกังวล  จีนส์คอแข็งหน้าร้อนผ่าวด้วยความโกรธ กับเขาเท็ดทั้งดุทั้งผลักไสแต่ทีกายกลับเข้าไปประคับประคองจนแทบอุ้มอยู่แล้ว จีนส์มัวแต่โกรธจนไม่ได้ยินเสียงขึ้นบันไดจึงสะดุ้งเฮือกเมื่อมีเสียงคนพูดจากด้านหลัง
         “เห็นที่ฟร้อนบอกว่าคุณเท็ดให้ผมมาหา”
         “อ้อ!มาพอดี  จีนส์เขาอยากไปเดินเที่ยวรอบๆแล้วก็อยากเล่นน้ำด้วย  แจ็ค ช่วยพาเขาไปทีนะ” จีนส์ผงะหน้าซีดด้วยความตกใจและผิดหวังอย่างรุนแรง ตกใจที่ต้องเจอคนที่รู้เรื่องเลวร้ายในอดีตและผิดหวังเมื่อได้รู้ว่าเท็ดไม่ได้แยแสเขาเลย
         “อ้าว! ก็ไหนพี่เท็ดว่าจะพาผมไปเที่ยวยังไงละครับ?”
         “พี่บอกว่าให้รอหมายถึงรอแจ็คมาพาไป พี่มีงานอีกตั้งเยอะแล้วกายก็ไม่ค่อยสบายอยู่จะออกไปเที่ยวเล่นได้ยังไง  ให้แจ็คพาไปแล้วกันนะ”
         “ไม่เอา!ผมจะให้พี่เท็ดพาไปนี่นา”  จีนส์มองเท็ดอย่างน้อยใจ  ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้  ซันหัวใจพองฟูด้วยความยินดีที่เท็ดให้ความสำคัญกับเขาที่สุด แต่ด้วยมารยาททำให้ต้องฝืนพูดดีทั้งๆที่ไม่เต็มใจ
         “เอ่อ…ผมไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ  พี่เท็ดจะพาคุณจีนส์ไปก็ได้”
         “ไม่ล่ะ เดี๋ยวตอนบ่ายพี่ก็ต้องพากายไปที่โรงเรียนอยู่แล้วขี้เกียจออกไปหลายรอบ…กายนอนพักเถอะนะ…ถ้าไม่หลับตอนบ่ายไม่ให้ไปเที่ยวนะจะบอกให้”
         “โธ่! ขู่ยังกับผมเป็นเด็ก”
         “งั้นสิ…ก็กายน่ะผอมจนตัวเหลือนิดเดียวนี่นา”
         “เท็ด!…ผมไม่ยอมนะ!…ผมไม่ไปกับอะ…กับแจ็คหรอกนะ”  จีนส์กรีดเสียงแทรกขึ้นมาเมื่อเห็นเท็ดหยอกเย้ากายจนลืมเขา  ชายหนุ่มมองจีนส์นิ่งใบหน้าเรียบเฉย
         “ถ้าไม่ไปก็ตามใจ  แจ็คกลับไปทำงานเถอะ  ขอโทษด้วยที่เรียกมา” 
         “ไม่เป็นไรครับ  สำหรับคุณเท็ดและคุณกายผมยินดีรับใช้เสมอ”   พูดจบแจ็คก็หันกลับออกไปดื้อๆ จีนส์ตาลุกวาบ ความโกรธ ความริษยา ความน้อยใจ ที่พยายามอดกลั้นมาตลอดขาดผึง  เสียงเล็กหวีดสูงอย่างเกรี้ยวกราด
         “หมายความว่าไง?…แจ็ค!…ไอ้แจ็ค!หมายความว่าถ้าเป็นฉันแกจะไม่รับใช้งั้นเหรอ นี่หยุดนะ!  กลับมาเดี๋ยวนี้!”
         “จีนส์!…อย่ามาหยาบคายที่นี่ไม่งั้นจะส่งกลับเดี๋ยวนี้  ที่แอบขึ้นเครื่องมานี่พี่
อุตสาห์ไม่เอาเรื่องแล้วนะ  ถ้ายังทำตัวมีปัญหาพี่จะส่งกลับ!”
         “ผม…เอ่อ…ขอ…ขอโทษครับ…ฮือ!”เด็กหนุ่มร้องไห้โฮ  น้ำตาไหลอาบแก้ม  ก่อนจะวิ่งหนีลงไปข้างล่าง  เท็ดถอนใจยาวส่ายหน้าอย่างระอา เอนตัวลงท้าวศอกทั้งสองข้างกับเก้าอี้ที่ซันนั่งอยู่  เด็กหนุ่มมองหน้าคร้ามอย่างเห็นใจ  ความหวั่นไหวหายไปเกือบหมด
         “ไม่ตามไปหรือครับ?”
         “ช่างเถอะ…ปล่อยให้สงบสติอารมณ์ไปก่อน  ทั้งพ่อเขาทั้งป้าแมรี่ตามใจกันจนเสียเด็ก  ถ้าไม่รีบแก้ไขตอนนี้ต่อไปจะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ยังไง”
         “จีนส์เขาแอบขึ้นเครื่องมาหรือครับ?”
         “ใช่…กว่าพี่จะรู้ก็เกือบถึงเกาะอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดว่าน้ำมันมีจำกัดจะให้เขากลับไปส่ง  นี่เลยต้องพามาด้วย ทนรำคาญหน่อยนะกาย” ชายหนุ่มเงยขึ้นมองคนบนเก้าอี้  ประโยคหลังทอดอ่อนอย่างเอาใจ  ซันยิ้มฝืนๆหน้าหมอง
         “ไม่เป็นไรครับ…เขา…สวยนะครับ  หน้าก็เหมือนในรูปถ่ายเลย”
         “แต่เขาไม่ใช่กาย! กายเลิกกังวลเรื่องที่ไม่ใช่ตัวจริงซะทีเถอะนะ  พี่รับรองว่าน้องคือกายของพี่แน่นอน”
         “แต่…ครับผมจะพยายามเลิกคิดเรื่องนี้”
         “ดีมาก  ตอนนี้ก็นอนได้แล้ว  พี่จะทำงานอยู่ตรงนี้แหละ”
         “ทานขนมไหมครับ?”
         “ก็ดีนะ สั่งเผื่อพี่ด้วยแล้วกัน” เด็กหนุ่มอมยิ้มรีบลุกเข้าไปในห้อง ก่อนจะกลับออกมาพร้อมกับจานขนม
         “อ้าว!แล้วกายไม่กินเหรอ?”
         “อันนี้เอามาให้พี่เท็ดโดยเฉพาะครับ”
         “ขอบใจนะ…อืม..อร่อยแฮะไม่หวานมากเหมือนคราวที่แล้ว”
         “พี่เท็ดชอบใช่ไหมครับ?”
         “ชอบสิอร่อยมากเลย  กายไม่ลองหน่อยเหรอ?”
         “ตอนทำก็ชิมจนเหนื่อยแล้วครับ”
         “เหรอ….หือ! กายเป็นคนทำเหรอ?”
         “ครับ…อยู่ว่างๆก็เลยไปลองหัดดู ก็สนุกดี” ซันตอบรับด้วยท่าทางเขินๆ
         “ขอบใจนะที่อุตสาห์ทำให้พี่….อร่อยที่สุดเท่าที่พี่เคยกินเลย”
         “ผมดีใจที่ได้ทำอะไรให้พี่บ้าง…ถึงจะแค่เล็กน้อยก็ยังดี…พี่เท็ดทำอะไรให้ผมเยอะจนผมไม่รู้จะตอบแทนยังไงแล้ว”
         “สิ่งที่กายให้พี่น่ะมากกว่าที่พี่ให้กายอีกนะ”
         “สิ่งที่ผมให้เหรอครับ?…อะไรครับ…ผมจำได้ว่าไม่เคยทำอะไรให้พี่สักอย่าง”
         “แค่ได้กายกลับมา…แค่นี้พี่ก็ดีใจที่สุดแล้ว  พี่ไม่อยากได้อะไรอีก นอกจากขอแค่มีกายอยู่ด้วยพี่ก็พอใจแล้ว  ถึงกายจะจำพี่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่พี่อยากให้กายรู้ว่าน้องเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตพี่นะ…แต่ตอนนี้นอนพักก่อนดีไหม?” ซันหน้าร้อนซู่ รีบล้มตัวลงนอนและดึงหมอนมาปิดหน้า  คำพูดของเท็ดทำให้หัวใจเขาเต้นระรัว   รู้สึกเหมือนถูกสารภาพรัก  คำว่าคนสำคัญสะท้อนกลับไปกลับมาในหัวจนหลับไป   เท็ดเงยหน้าจากแฟ้ม  ความจริงงานก็ไม่ได้รีบอะไรนักหนา แต่เขาอยากมีข้ออ้างที่จะอยู่กับกายโดยไม่ให้จีนส์ต้องเสียใจมากนัก แต่สุดท้ายเขาก็เลี่ยงไม่พ้น ชายหนุ่มจ้องหน้าเรียวเนิ่นนานก่อนจะก้มลงจุมพิตแก้มนวลเบาๆ  ในอกหนักอึ้งด้วยความกังวล  กลัวเหลือเกินว่าจีนส์จะทำให้กายกลับไปซึมเศร้าอีก  เวลาเกือบเดือนที่เข้าเพียรพยายามสร้างความคุ้นเคยกับกายกำลังเป็นไปได้ดี แต่ดูจากวันนี้อาจจะไม่ราบรื่นอย่างที่หวังเสียแล้ว หากจีนส์ยุ่งยากนักเขาอาจจะต้องใจร้ายกับจีนส์อีกก็ได้
 
         จีนส์กัดปากแน่น น้ำตาไหลพรากลงมาโดยไม่ต้องเสแสร้งอีก ภาพที่เห็นทำให้หัวใจเจ็บราวกับถูกฉีกทึ้ง  เขาอุตสาห์วิ่งลงไปนอนซบร้องไห้อยู่ริมหาดตั้งนาน  แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเท็ดจะตามไปจึงย้อนกลับมาที่บ้านแต่กลับต้องมาเห็นภาพบาดใจ  เท็ดไม่ได้ใยดีเขาสักนิด  ตั้งแต่เขาวิ่งหนีลงไปจนป่านนี้ชายหนุ่มคงยังไม่ได้ขยับไปไหนแน่ๆ  มือใหญ่ยังประคองมือกายไว้แนบแก้ม  สายตาจับจ้องราวกับจะกลืนกินกายเข้าไปทั้งตัว
         จีนส์ถอยกรูดก่อนจะวิ่งไปยังน้ำตก โดดลงไปในธารน้ำ เข้าไปยืนกลางสายน้ำเย็นเฉียบที่ตกลงมาค่อนข้างแรง กรีดร้องออกมาจนสุดเสียง ให้สายน้ำพัดพาเอาเสียงและน้ำตาของเขาไป  ความเย็นของน้ำไม่ได้ช่วยบรรเทาความเร่าร้อนของใจได้เลย ภาพระหว่างเท็ดกับกายหมุนเวียนเข้ามาราวกับภาพยนต์ที่ฉายซ้ำๆ จีนส์ทรุดลงในน้ำ สายน้ำยังตกลงบนศรีษะไม่หยุดทำให้ภาพที่มองเห็นพร่าเลือน  เด็กหนุ่มนั่งเหม่อ  แล้วปล่อยให้ตัวเองจมลงไปในน้ำที่ลึกเพียงอกเท่านั้น
         แจ็คทนดูอยู่ไม่ไหว  แม้จะนึกสมน้ำหน้าที่เห็นจีนส์เจ็บซะบ้างแต่พอเห็นท่าทางขาดสติของเด็กหนุ่มเขาก็อดสงสารไม่ได้  เพราะถึงอย่างไรเขาก็รู้ดีว่ารสชาดของรักที่ไม่สมหวังนั้นมันขมขื่นเพียงใด  ชายหนุ่มตรงเข้าไปลากร่างอ่อนปวกเปียกขึ้นมาจากน้ำ  แม้จะแทบไม่มีแรงดิ้นแล้วแต่จีนส์ยังก่นด่าได้หยาบคายเหมือนเดิม  ชายหนุ่มแบกร่างบางขึ้นพาดบ่าพาไปยังเรือนรับรองหลังที่ห่างออกมาพอสมควร  เพราะไม่อยากให้เท็ดเห็นสภาพของจีนส์ตอนนี้  เขาไม่อยากให้เท็ดสงสารจนเผลอทำร้ายความรู้สึกของกายได้  เพราะกว่าเท็ดจะทำให้กายเปิดใจได้ขนาดนี้ชายหนุ่มต้องอดทนเหลือเกิน  หากเขาพาจีนส์ไปตอนนี้ความพยายามทั้งหมดของเท็ดอาจสูญเปล่าก็ได้ 
         แจ็ควางร่างเปียกโชกลงบนเก้าอี้รับรอง  วิ่งไปหยิบผ้าขนหนูมา3-4ผืนแล้วถอดเสื้อผ้าของจีนส์ออกจนหมด ใช้ผ้าขนหนูถูทั้งตัวจนผิวซีดๆเริ่มเป็นสีชมพูระเรื่อ  จึงสวมเสื้อคลุมให้แล้วพาไปนอน  จีนส์ยังสะอื้นแผ่วๆตาลอยคว้างไม่มีจุดหมาย  เลิกดิ้นรนขัดขืนแม้ชายหนุ่มจะเช็ดตัวแรงๆก็ไม่ขยับ  แต่พอแจ็คจะออกไปจากห้องกลับผวามายึดแขนเขาไว้แน่น 
         “อย่าไป…อยู่ก่อน…อยู่กับผมก่อน…อย่าไป….อย่าทิ้งผมเลย….ฮือ” แจ็ค ลังเล แต่พอเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความว้าเหว่ก็อดใจอ่อนไม่ได้  จึงทรุดลงนั่งบนเตียงตามแรงดึง  ชายหนุ่มสะดุ้งเมื่อร่างบางซุกเข้ามาอยู่กับอกและกอดเขาไว้แน่น น้ำตาร้อนๆซึมผ่านเสื้อเขาจนเปียกชุ่ม ชายหนุ่มถอนใจยาวลูบผมนิ่มชื้นอย่างสงสาร ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงโดยมีร่างบางซุกซบอยู่ในอ้อมแขน…….
..........

จีนส์น่าสงสารเหมือนกันนะ :o12:

ขอบคุณคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 04/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-11-2009 22:39:37
จีนส์เหมือนเด็กโหยหาความรักเนอะ    :เฮ้อ: เท็ดต้องรับบทนักนิดนึง  :L2:

ขอบคุณคนโพสต์จ้า  :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 04/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 04-11-2009 23:23:21
ไม่ว่าความจำเ่ก่าหรือใหม่ กายก็รักเท็ดอยู่ดี
ต้องเจออะไรกันอีกบ้างนี่คู่นี้
จีนส์ก็น่าสงสาร รักเท็ดมาตั้งเจ็ดปี ยาวนานมาก
บวก 1 แต้ม ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 04/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 04-11-2009 23:36:38
บอกไม่ถูกไม่รู้ว่า จะเห็นใจหรือจะรำคาญจีนส์ดี  :serius2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 04/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: hene2526 ที่ 05-11-2009 01:37:22
เด็กมันน่าสงสาร...แต่หนูก็ไม่ควรทำตัวอย่างนี้นะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 04/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 05-11-2009 02:09:59
จีนส์น่าสงสารแต่ทำตัวไม่น่ารักเลย
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 04/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-11-2009 20:30:39
วันนี้มามั๊ยเอ่ย  :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 04/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 06-11-2009 21:46:09
นั่นสิ วันนี้มาต่อหรือเปล่า  :z3:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 04/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 06-11-2009 23:28:34
จะติดตามต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 08/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 08-11-2009 19:33:19
ขอบคุณสำหรับทุกข้อความนะคะ มาอ่านกันต่อเลยคะ
..........

         แจ็คบิดตัวอย่างเมื่อยขบ  สะบัดแขนแรงๆเพื่อลดอาการชา  จีนส์ยังหลับสนิท  มีคราบน้ำตาเป็นทางทั่วแก้มเนียน  แจ็คก้มลงมองร่างบนเตียงเงียบๆ  เขาไม่อยากทิ้งไปก่อนที่จีนส์จะตื่น แต่ก็พอจะรู้ว่าตื่นขึ้นมาเห็นเขาจีนส์ก็คงอาระ-วาดจนอารมณ์เสียด้วยกันทั้งสองฝ่ายเป็นแน่  ชายหนุ่มตัดสินใจกลับออกมาก่อน 
         ท้องฟ้าด้านทิศตะวันออกเริ่มเป็นสีระเรื่อ  ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกเพื่อให้สมองโปร่ง  อดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดถึงคนที่เพิ่งจากมา  บางครั้งจีนส์ก็ทำให้เขานึกถึงตัวเอง  คนที่ขาดไปทุกอย่าง ทั้งความรัก ความอบอุ่น ครอบครัว หรือแม้แต่คนรัก  แต่เขาขาดเพราะเป็นลูกกำพร้า ส่วนจีนส์ขาดเพราะต้องการมากเกินไป  เขารู้ว่าเขาไม่ชอบจีนส์ส่วนหนึ่งมาจากอคติส่วนตัว  จีนส์เคยสอดแทรกเข้ามาในช่วงที่เขามีความสุขกับรามอส  การที่จีนส์มาที่นี่ทำให้บาดแผลของเขาเปิดขึ้นมาอีก  และนั่นน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขาตั้งแง่เอากับจีนส์ไปทุกเรื่อง  จะว่ากันตามความจริงจีนส์ก็แค่เด็กมีปัญหาคนหนึ่ง  ไม่ใช่คนเลวร้ายมากมายอย่างที่เขารู้สึก
         “แจ็คเอ้ย!แกมันพาลชัดๆพาลกระทั่งเด็ก เฮ้อ!ก็เด็กกว่าไม่กี่ปีแถมแสบขนาดนี้สงสารไม่ค่อยลงเลยให้ตาย” ชายหนุ่มบ่นกับตัวเองไปตลอดทางโดยไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องจากข้างหลัง
         จีนส์ดึงม่านปิดช้าๆกลับไปทิ้งตัวลงบนเตียง  น้ำตาที่เหือดแห้งไหลออกมาอีก  วูบหนึ่งในช่วงที่ทุกข์ทรมานเขาอยากให้คนที่แจ็ครักเป็นเขาไม่ใช่รามอส  หากเป็นเช่นนั้นเขาคงเลิกรักเท็ดได้ไม่ยาก แต่แจ็คก็ไม่เคยมีสายตาให้เขาเช่นกัน ทำไม?…ทำไมถึงไม่มีใครที่รักเขาจริงๆสักคน? 
         “ทำไมพี่ถึงไม่รักผมล่ะเท็ด?…ทำไม? คอยดูนะกาย!ฉันจะแพ้แค่วันนี้เท่านั้น อีกไม่นานหรอกฉันต้องชนะและเท็ดจะเป็นของฉัน!”

         “กายวันนี้พี่ไปประชุมนะ  เย็นๆพี่กลับจะเอาอะไรหรือเปล่า?”
         “ผม…อยากไปด้วย”ซันหลุดปากออกไปอย่างที่ใจคิด  เท็ดชะงักจ้องมอง
เด็กหนุ่มอย่างประหลาดใจ  ก่อนจะถอนใจอย่างเสียดาย
         “พี่ก็อยากพากายไปนะ แต่พี่ต้องประชุมทั้งวันคงไม่มีเวลาพากายไปไหน  เอาอย่างนี้สิถ้ากายอยากไป  ครั้งหน้าพี่จะพากายเที่ยวให้ทั่วเลย”
         “ไม่เป็นไรครับผมพูดเล่น  พี่เท็ดไปทำงานเถอะครับ”
         “กาย…ไม่โกรธพี่นะ?”
         “โธ่!บอกแล้วไงครับว่าผมพูดเล่น  อย่ากังวลเลยครับ  ไปเถอะครับเดี๋ยวสาย”
         “งั้นพี่ไปนะ  ดูแลตัวเองดีๆล่ะอย่าไปไหนคนเดียว  จะเอาอะไรก็เรียกใช้ได้ทุกคน  วันนี้คงได้เพื่อนคุยเยอะแน่”
         “ทำไมครับ?”
         “วันนี้เป็นวันตัดแต่งสวน  ที่นี่เขาทำพร้อมกันทั้งบริเวณเลย”
         “น่าสนุก  ถ้าผมจะไปดูพี่คงไม่ว่าอะไรนะครับ?”
         “เอาสิ  แต่อย่าเพิ่งไปตอนนี้ล่ะเขากำลังจะใช้พวกเครื่องตัดหญ้า เดี๋ยวจะเป็นอันตราย”
         “รีบไปเถอะครับ…เดี๋ยวเข้าประชุมสาย”   เท็ดโอบไหล่บางให้ขึ้นรถไปที่ลานจอดเครื่องบินด้วยกัน  ซันส่งเอกสารให้เมื่อเห็นนักบินให้สัญญาณ  ชายหนุ่มหันมามองเขาอย่างเป็นห่วง
         “แล้วพี่จะรีบกลับ” เท็ดก้มลงจูบแก้มเนียนเบาๆก่อนจะผละวิ่งไปยังเครื่องบิน  ซันหน้าร้อนวาบเหลียวมองรอบตัวอย่างเขินๆกลัวจะมีคนเห็น  เครื่องบินเริ่มเคลื่อนไปตามรันเวย์  ซันชะเง้อมองตามหัวใจกระตุกวูบเมื่อเห็นจีนส์นั่งเคียงข้างเท็ด
หมายความว่าอย่างไร?ทำไมจีนส์ถึงได้ไปกับเท็ด…เท็ดไม่บอกเขาสักคำว่าจีนส์จะไปด้วย ทีกับเขาเท็ดอ้างว่าไม่มีเวลาพาเที่ยวไม่ยอมให้เขาไปแต่ทำไมถึงให้จีนส์ไป?     
         ‘ไม่!เราจะไม่มีวันยอมเสียเท็ดให้ใคร…ไม่มีวัน…’
         ‘จะทำยังไงดีล่ะ!เด็กคนนั้นหน้าตาเหมือนกับคนในรูป แล้วยังสนใจเท็ดจนออกนอกหน้า’   
         ‘เราต้องไม่แพ้’ 
         ‘แต่…เราเป็นแค่น้องนะ  ถึงเราจะเป็นกายตัวจริงเราก็เป็นแค่น้อง’   ความคิดสองฝ่ายตีกันจนปวดหัว  ซันเดินคิดไปจนไม่รู้ทิศทาง  เสียงทักทำให้เขาสะดุ้ง
         “คุณกายมาทำอะไรที่นี่ครับ?”
         “ผม…เหงาครับ  เลยออกมาเดินเล่น”
         “เหงา…คุณเท็ดไปประชุมสินะครับ”
         “ครับ…คุณแจ็คจะไปไหนครับ?”.
         “อ๋อ!จะเอาอาหารไปส่งที่โรงเรียนนะครับ เราส่งกันอาทิตย์ละครั้ง”
         “ผมไปด้วยนะครับ”
         “อย่าเลยครับผมกลับเย็น  ถ้าคุณเท็ดกลับมาแล้วไม่เจอคุณกายจะโกรธเอา”
         “เท็ดเขาไม่มีเวลามาสนใจหรอกครับเพราะเขาไปพาจีนส์ด้วยคงอีกนานกว่าจะกลับ” ซันก้มหน้าเท้าเขี่ยทรายเล่นอย่างเหงาๆ แจ็คเม้มปากตาเป็นประกายเรืองด้วยความโกรธเมื่อรู้ว่าจีนส์เริ่มคายพิษอีกแล้ว 
         “จีนส์เขาไปกับคุณเท็ดหรือครับ?”
         “ครับ”
         “คงแอบขึ้นเครื่องอีกแล้ว คุณกายอย่าสนใจเลยครับ คุณเท็ดไม่เคยคิดอะไรกับเขาหรอก” น้ำเสียงปลอบประโลมหากแต่หนักแน่นทำให้ซันใจชื้นขึ้น 
         “แต่…เขาสวยมากนะครับ ถึงจะเป็นผู้ชายก็เถอะ…ถ้าพี่เท็ดจะคิดก็คง…”
         “ไม่มีวันครับ…เอาอย่างนี้ไหมครับเรามาพิสูจน์กันว่าคุณเท็ดแคร์ใครมากว่าระหว่างคุณกายกับจีนส์”
         “ยังไงครับ?”
         “เรามาเล่นเกมกันดีกว่า  เรียกว่าเกมวัดใจก็ได้  สนไหมครับ?”
         “ฟังดูน่าสนุกนะครับ”
         “งั้นเริ่มจากคุณกายไปที่โรงเรียนกับผมวันนี้เลย”
         “ผมจะไปโน๊ตบอกพี่เท็ดที่โต๊ะก่อนนะครับ”
         “โอ๊ะ!อย่าเชียวครับ  นี่แหละครับจุดเริ่มต้นของเกม  ว่าไงครับสนใจจะเล่นหรือเลิก?”
         “เอ่อ….ก็….ครับก็ลองดู”
         “งั้นไปครับขึ้นรถเดี๋ยวผมจะเล่าแผนการให้ฟัง”
            …………….
         “กาย!…กาย!…นี่มีใครเห็นคุณกายบ้าง” 
         “……….”  คนงานแต่งสวนเหลียวมองหน้ากันแล้วก้มหน้ากันหมด ชายหนุ่มหน้าเผือดในอกร้อนราวกับไฟสุม  น้ำเสียงเข้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
         “ฉันถามว่ามีใครเห็นคุณกายบ้าง….อะไร!นี่อยู่กันเต็มบ้านแต่ไม่มีใครเห็นคุณกายเลยหรือไง?”
         “คงไปเที่ยวกับแจ็คมั้งครับ  เห็นสนิทกันออกพี่เท็ดอย่าไปสนใจเลย”
         “อย่ามาวุ่นวายตอนนี้จีนส์ไปบ้านพักเธอได้แล้ว” จีนส์โดนดุจนหน้าเจือน ยิ่งมีสายตานับสิบคู่มองมาก็ยิ่งเสียหน้ามากขึ้น เด็กหนุ่มสะบัดหน้าวิ่งหนีออกไป แต่เท็ดไม่แม้แต่จะเหลือบมอง 
         “ฉันถามว่ามีใครเห็นคุณกายบ้าง?…..ว่าไงมีใครเห็นบ้าง…งั้นไปตามคนมาออกหาคุณกายเดี๋ยวนี้เลยเร็ว” คนงานชายค้อมศรีษะรับคำสั่งลนลานออกมา  เป็นจังหวะที่รถไฟฟ้าคันหนึ่งเลี้ยวเข้ามาพอดี
         “อ้าว!นั้นจะรีบไปไหนกันครับ?”
         “แจ็คมาพอดี  นายเห็นกายบ้างหรือเปล่า?”
         “เห็นครับ”หลายคนแอบถอนใจอย่างโล่งอก เท็ดถอนใจเฮือกสีหน้าดีขึ้นทันที
         “ที่ไหน?”
         “เมื่อเช้าคุณกายตามผมไปที่โรงเรียนด้วยครับ  แต่พอชวนกลับ  คุณกายก็ไม่ยอมมาด้วย  เห็นบอกว่าอยากดูพระอาทิตย์ตกคนเดียว  ท่าทางเศร้าๆ”
         “อยู่ที่โรงเรียนใช่ไหม?”
         “ครับ  นี่ผมก็กำลังจะไปตามเพราะนี่ก็ใกล้เวลาน้ำขึ้นแล้วเดี๋ยวกลับไม่ได้กันพอดี”
         “ทำไม?”  ใบหน้าของเท็ดเผือดสีลงอีกครั้ง
         “ก็ผมเห็นเดินไปทางปลายแหลม  พอผมบอกเรื่องน้ำกำลังจะขึ้นก็เห็นบอกว่าจะไปเดินเล่นเดี๋ยวเดียวแล้ว…อ้าว!คุณเท็ดจะไปไหนครับ?”
         “นายลงก่อนแจ็ค  ขอยืมรถหน่อย”
         “ได้ครับ”แจ็คยืนมองตามท้ายรถอย่างขันๆอยากให้กายได้เห็นท่าทางลนลานของเท็ดจะได้รู้ว่าตัวเองสำคัญขนาดไหน
.........

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 08/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 08-11-2009 19:36:28
.....
         “กาย….ทำไมทำแบบนี้จะให้พี่คลั่งตายหรือไง?อย่าเป็นอะไรนะกาย  บ้าชิบ!รถนี่ทำไมมันช้านัก”  ชายหนุ่มเร่งความเร็วจนสุดเท่าที่รถไฟฟ้าจะเร่งได้แต่ก็ยังไม่เร็วเท่าใจที่รุ่มร้อนของเขาต้องการ  หาดด้านเชิงเขาปราศจากผู้คน  เท็ดโดดลงจากรถวิ่งวนไปทั่ว  ในอกเดือดพล่านเมื่อไม่เห็นวี่แววของคนที่เขากำลังตามหา
         “กาย!…กาย!…น้องอยู่ไหนน่ะกาย…กายน้องอยู่ที่ไหน?”
         “เท็ดครับ…ผมอยู่นี่” ร่างบางโบกมือให้ท่าทางดีใจทำท่าจะลงน้ำมาหา  ชายหนุ่มใจหาย ตะโกนห้ามจนเด็กหนุ่มตกใจ
         “อย่า!…กายอย่าข้ามมา!ตรงนั้นน้ำไหลลอดข้างใต้แรงมาก  อยู่นั่นแหละเดี๋ยวพี่ไปหา”
         “แต่ว่า….”
         “อย่าไปไหนนะกาย!อยู่ตรงนั้นเดี๋ยวพี่มา รอเดี๋ยว! อย่าข้ามมาเด็ดขาดเข้าใจไหม!บนนั้นยังปลอดภัยอย่าข้ามนะ”
         “ครับ…เท็ดมาเร็วๆนะ”
         “เดี๋ยวเดียวที่รักเดี๋ยวพี่มา  อย่าข้ามเด็ดขาด!”   เท็ดวิ่งย้อนกลับมาที่รถ  คว้าได้เชือกขดใหญ่กับผ้าพันคอผืนยาว ‘คงจะของแจ็คยืมหน่อยนะ’  ชายหนุ่มรีบย้อนกลับไปที่ชายหาดชี้ให้เด็กหนุ่มดูว่าเขาจะไปหายังไง
         ซันพยักหน้าท่าทางที่เหลียวมองคลื่นแล้วกลับมามองเขานั้นตื่นกลัวจนชายหนุ่มสงสาร  เขาไต่ขึ้นเขาอย่างรวดเร็ว  นี่เป็นทางเดียวที่จะเข้าไปหาซันได้อย่างปลอดภัยที่สุด เพราะบริเวณที่เด็กหนุ่มอยู่น้ำกำลังจะท่วมในไม่ช้า   ทันทีที่เท้าแตะพื้นร่างบางก็โผเข้าหา  เขากอดรัดไว้แน่นด้วยความห่วง  เด็กหนุ่มหน้าซีด  ตาโตตื่นตระหนกเนื้อตัวเปียกปอนและเย็นเฉียบ
         “กาย…พระเจ้า!นี่น้องมาที่นี่ทำไมมันอันตรายมากนะ  แล้วทำไมตัวเปียกอย่างนี้หือ?”
         “ผมไม่ได้ตั้งใจ  ผมเผลอคิดอะไรไปเดี๋ยวเดียว รู้สึกตัวอีกทีก็มาติดอยู่ที่นี่แล้ว  จะข้ามคลื่นก็แรงมาก  กำลังหาอยู่พอดีว่าจะข้ามไปทางนั้นแต่พี่มาถึงซะก่อน”
คำอธิบายของซัน ทำให้เท็ดเย็นวาบตลอดไขสันหลัง หากเขามาช้ากว่านี้อีกนิดเด็กหนุ่มต้องตัดสินใจข้ามทางนั้นแน่
         “ขอบคุณพระเจ้า!…ตรงนั้นน่ะอันตรายที่สุดเพราะมันมีโพรงข้างใต้เต็มไปหมด  ข้างบนน้ำถึงได้หมุนแบบนั้น ข้างล่างน้ำก็แรงมาก  มีคนตายมาเท่าไหร่แล้วรู้ไหม?”   ชายหนุ่มเขย่าร่างในอ้อมแขนอย่างลืมตัว  เด็กหนุ่มปากสั่นหน้าเผือดด้วยความเสียใจ
         “ผม…ขอโทษครับ…ขอโทษที่ทำให้ยุ่งยาก….ขอโทษ”  เท็ดได้สติเมื่อเห็นเด็กหนุ่มร้องไห้ 
         “กาย…อย่าร้องไห้…พี่ไม่ได้ตั้งใจ…อย่าร้อง…ชู่ว!”
         “แต่คุณโกรธ…แล้ว…แล้ว…ผมก็ทำตัวให้คุณลำบาก  ผม…ฮึก”
         “อย่าร้องไห้….คนดีของพี่…อย่าร้องไห้สิ  พี่ขอโทษที่พี่โวยวาย….เพราะพี่ตกใจ  อย่าเสียใจเลยนะ” ชายหนุ่มกอดร่างบางแน่น  เช็ดน้ำตาให้เบาๆก่อนจะช้อนหน้านวลขึ้น สายตาที่สบกันสื่อถึงบางอย่างเหมือนเด็กหนุ่มกำลังจะเปิดใจให้เขา  น้ำกระเซ็นขึ้นมาโดนตัวทำให้ชายหนุ่มได้สติ รีบดึงร่างบางออกมาให้พ้นระยะของคลื่น 
         “เรากลับไปคุยกันที่บ้านนะ”
         “ครับ…แล้วเราจะกลับกันยังไง?”
         “เดี๋ยวเราจะปีนย้อนกลับขึ้นไปด้านนี้แหละ   แต่ตอนนี้เปลี่ยนเสื้อก่อนดีกว่า”
         “พี่เท็ดอย่าถอดให้ผมเลยครับ  มันเริ่มจะหนาวมากแล้วนะครับ  เดี๋ยวจะไม่สบาย”
         “พี่นะไม่เป็นอะไรหรอก  กายนั่นแหละใส่ไว้ก่อน  เอ้าเปลี่ยนเสื้อสิ”
         “ผม…ไม่…ไม่ต้อง” ซันอึกอัก เขาไม่อยากให้ชายหนุ่มเห็นรอยแผลน่าเกลียดบนตัว 
         “ทำไมล่ะ…หรือว่าอาย  งั้นพี่หันหลังให้ก็ได้………..เสร็จหรือยัง?”
         “ครับ”
         “งั้นมานี่เถอะ  เอ้ามาสิ”   ชายหนุ่มหลังให้แล้วย่อตัวลงต่ำ
         “จะ…จะทำอะไรครับ?”
         “ก็ขี่หลังพี่ไง”
         “แต่ให้ผมเดินเองก็ได้”
         “ไม่ได้…กายยังเจ็บขาอยู่ไม่ใช่เหรอแล้วทางที่จะไต่ขึ้นไปน่ะมันลำบาก  เพราะฉะนั้นขึ้นมาซะดีๆ”
         “แต่ผมตัวหนักนะครับ”
         “ตัวแค่นี้นะหนัก  พี่อุ้มอยู่ทุกวันทำไมไม่เห็นหนักเลย  มาน่าเราจะได้รีบกลับ  นี่จะค่ำแล้วด้วย”  เด็กหนุ่มเลิกอิดเอื้อนรีบเข้ามาโอบรอบคอแข็งแรงไว้  เท็ดสอดผ้าที่หยิบมาจากรถพันตัวเด็กหนุ่มให้ติดกับเขากันตก  ดึงขาเรียวให้โอบรอบเอวแล้วค่อยๆลุกขึ้น  ซันซุกหน้ากับซอกคอของชายหนุ่ม หัวใจเต้นระทึกด้วยความตื่นเต้น  เท็ดเริ่มไต่กลับขึ้นทางเดิมช้าๆโดยอาศัยเชือกที่ผูกไว้ข้างบนคอยประคองให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น  ชายหนุ่มอมยิ้มเมื่อรู้สึกว่าน้ำหนักตัวของเด็กหนุ่มพอๆกับเป้ที่เขาเคยใช้เวลาปีนเขา  แต่เป้ใบนี้มีความสำคัญยิ่งกว่าชีวิตเสียอีก 
         “ขอโทษครับ…หนักไหม?”
         “หนัก…หนักกว่ามดนิดหนึ่ง”
         “คงเป็นมดยักษ์เพราะหนักเกือบ50กิโลแล้ว”
         “หึๆๆ…”
         “ขำอะไรครับ?”
         “ขำลูกลิง”
         “ลูกลิง…งั้นเท็ดก็เป็นพ่อลิงแหละ”เสียงหัวเราะเบาๆข้างหูทำให้ชายหนุ่มขนลุก  อารมณ์ที่ไม่น่าจะเกิดในสถานะการณ์อย่างนี้กลับปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว  ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึก  พยายามตั้งสมาธิอยู่กับจังหวะการไต่ขึ้นข้างบน แต่กลิ่นหอมอ่อนๆกับเนื้ออุ่นนิ่มที่แนบชิดอยู่ข้างหลังกลับรบกวนเขามากขึ้นทุกที ชายหนุ่ม
สาวเชือกขึ้นก่อนจะเปลี่ยนมาผูกยังต้นไม้อีกฝากเพราะทางลงก็ชันไม่แพ้กัน  กว่าจะลงมาถึงพื้นเหงื่อก็ซึมทั้งตัวทั้งๆที่อากาศค่อนข้างเย็นจัด เท็ดรีบปลดผ้าที่พันเขากับเด็กหนุ่มออกเพราะเริ่มควบคุมตัวเองลำบากขึ้นทุกที  แรกๆที่ถูกเขากอดกายก็มักจะขัดเขินบ้างแต่ระยะหลังก็เริ่มจะชิน  แต่แปลกที่เขาไม่ได้หวั่นไหวมากขนาดนี้  อาจเป็นเพราะเขามักกอดเด็กหนุ่มด้วยความรัก สงสาร ห่วงใย  แต่วันนี้เนื้อตัวที่บดเบียดเสียดสีกันทำให้เขาเกิดความปรารถนา  เด็กหนุ่มห่อไหล่ด้วยความหนาว  แต่พอเริ่มเดินเท็ดก็สังเกตเห็นอาการเขยกขาได้ชัดเจน  ชายหนุ่มจึงช้อนร่างบางขึ้นอุ้มพาไปที่ยังจุดที่จอดรถซึ่งถนนค่อนข้างห่างจากหาดด้านนี้พอสมควร เด็กหนุ่มตัวแข็งไปครู่หนึ่งท่าทางตกใจเพราะยังไม่ทันตั้งตัวแต่ครู่เดียวก็ยอมซุกซบอยู่กับอกเขาแต่โดยดี  ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกอีกครั้ง  มันเป็นความทรมานที่แสนหวาน ได้กอดคนที่รักไว้กับอกอีกครั้ง แม้จะได้แค่กอดแต่สำหรับเขาแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว  หากเทียบกับเมื่อ 2เดือนที่แล้วนั้นเขากอดกายได้เพียงแค่ในฝันเท่านั้น 
         “พี่เท็ดครับ”
         “หืม?”
         “ถ้าผมตายไปตอนนี้ผมคงมีความสุข”  ชายหนุ่มสะดุ้งใจหายวาบ ก้มลงมองร่างในอ้อมแขนโดยอัตโนมัติ 
         “อย่าพูดอย่างนี้นะ!…ตายอะไรกัน  ไม่เอาพี่อยู่ทั้งคนจะไม่มีใครหรืออะไรมาทำร้ายกายของพี่ได้หรอกน่า”เด็กหนุ่มเงยขึ้นสบตาเขาช้าๆ สายตาที่มองเขาคลอด้วยน้ำใสๆ 
         “ผมแค่สมมุติ  สมมุติว่าผมตายไปตอนนี้ผมคงมีความสุข”
         “ทำไมล่ะ?”
         “ก็ผมจะตายอย่างอบอุ่น มีพี่เท็ดอยู่ข้างๆ  เมื่อก่อนตอนอยู่ที่เกาะผมกลัวเสมอเวลาคิดว่าถ้าผมตายจะไม่มีใครอยู่ข้างๆเลย  มันเจ็บปวดและว้าเหว่มาก”
         ‘กาย…พี่ขอโทษ…พี่ขอโทษที่ทำให้น้องต้องทุกข์ทรมานเพียงลำพังอยู่ตั้ง 7 ปี  ถ้าเลือกได้พี่จะขอรับความทุกข์นั้นไว้เอง  พี่จะไม่มีวันยอมให้น้องต้องเจอเรื่องแบบนี้เด็ดขาด’ ชายหนุ่มค่อยๆวางร่างผอมลงบนเบาะรถแต่ยังกอดไว้แน่น
         แสงสลัวของอาทิตย์ยามเย็นค่อยๆเลื่อนหายไป  ความมืดแผ่ออกปกคลุมทั่วบริเวณอย่างรวดเร็ว  ลมเริ่มแรงยิ่งขึ้นอากาศก็เย็นยะเยือก  ซันซุกหน้ากับอกกว้าง ฟังเสียงหัวใจของชายหนุ่มอย่างเป็นสุข  อากาศเย็นรอบกายแทบจะไม่กระทบผิวเขาเลยเพราะถูกห่อหุ้มไว้ด้วยกำแพงเนื้อ  เสียงหัวใจของเท็ดยังเต้นระรัวกล้ามเนื้อตึงแน่นโอบกระชับ
         “หนาวไหม?”
         “ไม่ครับ  แต่พี่คงหนาว”
         “พี่ไม่เป็นไร  เรากลับกันเถอะลมเริ่มแรงแล้ว” ชายหนุ่มขับรถกลับมายังบ้าน-พัก  ยังไม่ทันถึงก็เจอแจ็คขับรถมาตามกับคนงานอีก4-5คน 
         “เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณเท็ดคุณกาย?”
         “ไม่เป็นไร  นี่จะไปตามเหรอ?”
         “ครับ  ผมเห็นหายไปนานเลยจะพาคนออกไปตาม”
         “ฉันไม่ค่อยชำนาญปีนเขาเท่าไหร่เลยช้านิดหน่อย  แจ็คพรุ่งนี้ฝากเก็บเชือกด้วยนะ  มันทำท่าจะมืดเลยไม่ได้กลับขึ้นไปเอา”
         “ได้ครับ  คุณเท็ดกับคุณกายปลอดภัยแล้วพวกผมก็ขอตัวกลับก่อนนะครับ”
         “ขอบใจมากแจ็ค  ขอบใจนะทุกๆคน”
         “ไม่เป็นไรครับ”ซันเหลือบมอง  เห็นแจ็คแอบหลิวตาให้จึงก้มหน้าเพื่อซ่อนยิ้ม  ทันทีที่รถจอดสนิทร่างบอบบางก็ก้าวเข้ามาหา
         “พี่เท็ดถอดเสื้อทำไมครับหนาวจะแย่ เกิดไม่สบายไปใครจะดูแล  คุณกายรู้ไหมครับใครๆเข้าวุ่นวายกันทั้งรีสอร์ทเพราะทุกคนเขาเป็นห่วงคุณกาย….” 
ซันหน้าเผือดด้วยความโกรธ  แต่เท็ดกลับเข้าใจว่าเด็กหนุ่มเสียใจจึงรีบกันจีนส์ออกห่าง
         “จีนส์กลับไปบ้านเธอได้แล้ว”
         “แต่ผมเป็นห่วงพี่เท็ดนี่ครับ  เป็นห่วงคุณกายด้วยกลัวว่าจะไปติดอยู่ที่ปลายแหลม  เห็นพวกคนงานบอกว่าที่นั่นมีคนตายมาเยอะ  นี่ถ้าพี่เท็ดไม่…”
         “เราสองคนปลอดภัยและสบายดี  กลับได้แล้วพี่จะพากายไปพัก”  ชายหนุ่มอุ้มร่างผอมขึ้นบ้านไปอย่างรวดเร็ว  จีนส์กัดปากแน่นจนได้ลิ้มรสคาวของเลือด  ‘เกลียด…เกลียดมันที่สุด  ทำไมต้องกลับมา  ทำไมไม่ตายๆไปเสีย’
         ซันลอบมองชายหนุ่มเป็นระยะๆ เท็ดหน้าเครียดจัด  ดวงตาหม่น  ตั้งแต่กลับมาจนกระทั่งมื้อค่ำผ่านไปชายหนุ่มแทบจะไม่พูดกับเขาเลย ซันเม้มปากอย่างน้อยใจ  ดูเหมือนเขาจะเป็นภาระให้เท็ดมากเกินไป 
         “ผมง่วงแล้วขอตัวนะครับ”
         “อืม”เท็ดตอบรับสั้นๆสายตาจับจ้องไปที่บ้านพักของจีนส์  ซันรีบเข้าห้องโถม-ตัวลงบนเตียง  ตัวเขาสั่นกระบอกตาร้อนผ่าว  ท่าทางของเท็ดเหมือนไม่สบายใจคงเพราะพูดกับจีนส์แรงไป  ทั้งที่เขาหลงดีใจว่าเท็ดแคร์เขามากกว่าจีนส์เพราะตอนที่ชายหนุ่มไปตามก็ดูห่วงใย  แต่ความจริงเท็ดแคร์จีนส์มากกว่าเขา หูเขาคงแว่วไปเองที่ได้ยินชายหนุ่มเรียกเขาว่า‘ที่รัก’
         ‘เท็ด…ผมไม่อยากเสียพี่ไป…ไม่อยากให้พี่รักใคร…ทำไมผมต้องเป็นน้องพี่ด้วย….ทำไม…พระเจ้าทำไมผมถึงรักเขานัก  ท่านทำให้ผมรักเขาแต่ท่านกลับให้เขารักคนอื่น  ท่านโหดร้ายกับผมเหลือเกิน’
         ลมทะเลเย็นเฉียบบาดเข้าไปถึงกระดูกช่วยบรรเทาความรุ่มร้อนในใจ ชายหนุ่มตัดสินใจกลับบ้านพักเมื่อแน่ใจว่าสามารถควบคุมความปราถนาของตัวเองไว้ได้แล้ว  แค่เพียงสัมผัสผิวเผินก็ทำให้เขาร้อนทั้งตัว จนไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้า   เกรงว่าเด็กหนุ่มจะรู้ว่าเขาคิดไปไกลแค่ไหน 
         ชายหนุ่มยืนนิ่งอยู่หน้าประตู  อยากเข้าไปหา  อยากกอดเหมือนอย่างเคย แต่ขืนทำอย่างนั้นเขาคงควบคุมตัวเองไม่ไหว เท็ดถอนใจยาวเดินกลับมาห้องตัว-เอง  หน้าต่างระเบียงเปิดไว้ตลอดแนวทำให้ห้องเย็นเยือก   มือที่เอื้อมไปจับบานเลื่อนชะงักค้าง  เท็ดขมวดคิ้วพยายามตั้งใจฟังแต่เสียงแผ่วๆนั้นหายไปแล้ว  ชายหนุ่มส่ายหน้านึกขันที่หูแว่ว
         “ฮือ…ช่วยด้วย…ไม่อย่า…อย่า…ผม…โอ๊ย!”
         “กาย!!!” เท็ดกระโจนออกจากห้องแทบไม่ทัน  ใจหายวาบเมื่อพบว่าประตูอีกห้องถูกล็อคแน่น
         “กาย!…กาย!…เปิดประตูให้พี่กาย! กาย! พระเจ้า! กาย!”  ชายหนุ่มตัดสินใจกระแทกสุดแรงแต่ประตูไม้สักกลับไม่สะเทือน ชายหนุ่มวิ่งกลับเข้าไปในห้องและปีนข้ามระหว่างระเบียงโดยไม่กลัวตก  โชคดีที่หน้าต่างระเบียงยังเปิดอยู่  เท็ดลอดเข้าไปอย่างทุลักทุเลเพราะตัวเขาใหญ่กว่าหน้าต่างมาก 
         ชายหนุ่มก้าวพรวดเดียวเข้าไปชิดเตียง  แสงไฟจากระเบียงส่องให้เห็นร่างบนเตียงกำลังดิ้นทุรนทุราย  เท็ดช้อนร่างบางขึ้นกอดไว้แน่น  ซันเกร็งทั้งตัว  เหงื่อซึมทั้งๆที่ตัวเย็นเฉียบ  มือกำแน่น  ใบหน้าบิดเบี้ยวราวกับเจ็บปวด  น้ำตาไหลพรากและหายใจแรงจนหอบ
         “กาย! กายตื่นสิกาย น้องเป็นอะไรไป? กาย!ทำไมเป็นอย่างนี้? กาย! กาย!”
         “อย่า!…ไม่!…อย่า…ผมเจ็บ….โอ๊ย!…เจ็บ…ช่วยด้วย…ผมเจ็บ…หนาว….หนาว….ทุกคนทิ้งผม….ทิ้งกันหมด…เจ็บ….เท็ด…พี่ทิ้งผม!…เจ็บ!”  ชายหนุ่มตัวสั่นกอดร่างในอ้อมแขนแน่น  พยายามเรียก
         “กาย! พี่อยู่นี่แล้ว กายตื่นสิกาย ตื่น! พี่อยู่ตรงนี้ ลืมตาสิกาย มองพี่…พี่อยู่นี่…พี่ไม่ได้ทิ้งน้องนะ…ตื่นสิกาย…พี่อยู่นี่…กายพี่รักกายนะ…พี่รักกาย…พระเจ้า…อย่าทำร้ายกายอีกเลย  หากพระองค์อยากลงโทษโปรดมาลงที่ผม แต่อย่าทำร้ายกายอีกเลยได้โปรด” เด็กหนุ่มยังคงสะอื้นและเพ้อเป็นระยะๆ  แต่อาการเกร็งค่อยๆลดลง  เท็ดใจชื้นเมื่อรู้สึกว่าสัมผัสของเขาทำให้กายดีขึ้น  ชายหนุ่มช้อนร่างบางขึ้นมากอด  พูดปลอบโยนตลอดเวลา  มือก็ลูบไล้ไปทั่วทั้งตัว  ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็หยุดดิ้นรน  แต่น้ำตายังไหลไม่หยุด  เท็ดจูบซับให้จนหน้าเขาชื้นไปด้วย 
         “อย่าทิ้งผม…อย่าไป…เท็ด…ฮือ…อย่าทิ้งผม”
         “กายพี่อยู่นี่ พี่อยู่กับน้อง พี่ไม่ได้ทิ้งไปไหน………กาย!…โอ!พระเจ้า น้องรู้สึกตัวแล้วใช่ไหม? กายตอบพี่หน่อย…กาย”
         “….พี่เท็ด…ผม…เจ็บ…เลือดออกเต็มไปหมด…เจ็บหน้า…เจ็บ…”ตาโตปริ่มด้วยน้ำตา  ความหวาดกลัวยังเต้นระริกอยู่ในดวงตา  ดูเหมือนเด็กหนุ่มยังไม่รู้สึกตัวเต็มที่
         “แค่ความฝันเท่านั้น….กาย…มองพี่…เห็นไหม  พี่อยู่นี่  อยู่กับกาย  น้องแค่ฝันร้ายเท่านั้น…เห็นไหม?…แผลนี่มันหายแล้ว…ไม่เจ็บแล้วใช่ไหม?” ชายหนุ่มจุมพิตบนแผลนูนยาวแผ่วเบา  ร่างในอ้อมแขนถอนสะอื้น  สายตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเขามือสั่นระริกยกขึ้นลูบไล้ทั่วใบหน้า ชายหนุ่มตะแคงหน้าไปจุมพิตที่มือเย็นเฉียบเบาๆ  ปากซีดขยับพูดแต่ไม่มีเสียง  นานช้ากว่าเสียงแหบเบาจะหลุดออกมา 
         “…เท็ด!…” เด็กหนุ่มร้องไห้โฮ  และกอดรอบคอเขาแน่น  เท็ดลูบผมนิ่มชื้นเหงื่อแผ่วเบา  น้ำตาร้อนๆเปียกคอเขาจนชุ่ม  ครู่หนึ่งเสียงลมหายใจก็สม่ำเสมอเท็ดค่อยๆวางร่างในอ้อมแขนลง  แต่อาการผวาสุดตัวทำให้เขาต้องอุ้มกลับขึ้นมาใหม่ 
         “เท็ด…อย่าทิ้งผม…” 
         “ชู่ว!…พี่ไม่ไปไหนหรอก…หลับเสียที่รัก  พี่จะอยู่กับกาย”  ชายหนุ่มนอนลงบนเตียงโดยมีร่างบางซุกซบอยู่ในอ้อมแขน  มือเล็กยังกำเสื้อเขาไว้แน่น ชายหนุ่มจูบทั่วหน้าเนียนโดยเฉพาะแผลเป็นข้างแก้ม  ในอกเขาอัดแน่นและเจ็บปวด  ลำคอตีบตัน  หัวตาร้อนผะผ่าวแต่ไม่มีน้ำ ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนกายคงเกิดจากอุบัติ-เหตุครั้งนั้น  “พี่ขอโทษ…พี่ทำให้น้องเจ็บถึงเพียงนี้…พี่ขอโทษ…กาย…กายของพี่”
.........


ขอบคุณที่ติดตามอ่านคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 08/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 08-11-2009 20:54:46
น่าสงสารทั้งกายและเท็ด
เมื่อไรจะเข้าใจอีกฝ่ายนะเนี่ย
จีนส์ก็ยังไม่เลิกรา งานนี้คงต้องพึ่งแจ็ค
บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 08/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: hene2526 ที่ 08-11-2009 22:36:33
พระเจ้าคงอยากพิสูจนจิตใจของคนทั้งสอง ว่ามีความมั่นคงต่อกันแค่ไหน...เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 08/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: bigbeeboom ที่ 08-11-2009 22:53:04
แม่เจ้า เข้มข้นไปทุกทีๆแล้ว สนุกมากมาย ลุ้นตลอดเวลา

เวลาเท็ด ไม่อยุ่ก็เสียวจีนส์แทนกายเหมือนกันนะ นั่น  :serius2:

สู้ๆๆทั้งคนเขียน คนโพส แล้วก็กายกับเท็ด ด้วยนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 08/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-11-2009 19:22:04
 :monkeysad: ทั้งสับสนกับตัวเอง สับสนกับคนรอบข้าง งานนี้จะงัดเอาลูกยั่วแบบในอดีตมาใช้ก็คงไม่ได้  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 08/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 09-11-2009 23:43:35
สงสารกายอะ ตอนที่เจ็บแถมอยู่ตัวคนเดียวแบบนั้น คงเป็นอะไรที่แย่จนไม่รู้จะเปรียบกับอะไร  :m15:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 08/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 11-11-2009 16:50:58
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอะ วันนี้มาหรือเปล่าค่ะ  :z3:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP 08/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-11-2009 18:40:15
ดูจากสถิติแล้ว น่าจะมาพรุ่งนี้  :monkeysad: แต่อยากอ่านเหมือนกัน  :z3:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้ววววว 11/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 11-11-2009 21:37:29
มาแล้วคะ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์เลยนะคะ
..................

         ซันสูดอากาศยามเช้าอย่างสดชื่น  สายลมเย็นเฉียบบอกถึงฤดูหนาวที่กำลังจะมาเยือนในไม่ช้า  ไหล่บางห่อนิดๆด้วยความหนาว  พระอาทิตย์ดวงโตกำลังพ้นขอบฟ้า  แสงสีทองแต่งแต้มจนขอบฟ้างดงามอย่างน่าพิศวง  
         “ไม่หนาวเหรอ?”   อ้อมแขนอุ่นโอบรัดจากเบื้องหลัง ซันอมยิ้มเอนซบลงบนอกกว้างอย่างเป็นสุข  นี่คือกิจวัตรประจำวันที่เพิ่มขึ้นอีกอย่าง ระหว่างเขากับเท็ด  ชายหนุ่มย้ายมานอนข้างเตียงเขาทุกคืน แล้วออกมาดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกันทุกเช้า  และเขาก็ยินยอมอยู่ในอ้อมอกอุ่นนี้อย่างเต็มใจ  การที่มีจีนส์เข้ามาทำให้เขาตระหนักว่าหากไม่ยึดไว้ให้มั่น เท็ดอาจหลุดมือไปซึ่งเขาจะไม่มีวันยอม  เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าความฝันที่น่ากลัวกลับทำให้เขาโชคดี นับแต่คืนนั้นชายหนุ่มก็ย้ายเข้ามานอนอยู่ข้างเตียงเขาทุกคืน ทั้งๆที่ช่วงเวลานั้นผ่านไปแล้ว แต่ดูเหมือนเท็ดจะเจ็บปวดมากกว่าเขา   ซันลอบยิ้มเมื่อนึกถึงบางคืนที่เขาไม่ได้ฝัน แต่ก็ยังกรีดร้องเพื่อให้ชายหนุ่มกอดปลอบเขาทั้งคืน
         “วันนี้มีประชุมไม่ใช่หรือครับ?”
         “อืม…”
         “พี่เท็ดครับ…วันนี้พี่มีประชุมไม่ใช่เหรอ?”  ซันถามย้ำเมื่อเห็นแขนที่โอบรัดยังแน่นกระชับไม่มีทีท่าว่าชายหนุ่มจะขยับเขยื้อน  น้ำเสียงตอบรับเกียจคร้านราวกับเพิ่งตื่นนอน
         “ก็…นะ  มีประชุมกับบริษัทลูกค้าอีกสองราย”
         “แล้ว…ไม่รีบไปอาบน้ำอีกหรือครับ?”
         “กาย…อยู่คนเดียวได้นะ”
         “โธ่!อยู่คนเดียวที่ไหนครับ….คนก็อยู่กันเต็มรีสอร์ท”
         “พี่ไม่อยากไปเลย…แต่วันนี้เป็นเรื่องสำคัญ”
         “พี่เท็ดอย่าห่วงเลยครับ…ไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวสายนะครับ”
         “พี่ไปเตรียมตัวก่อนแล้วกัน  กายสั่งให้เขาตั้งโต๊ะเลยก็ได้”
         “ครับ”  ปากอุ่นจุมพิตที่ศรีษะเขาเบาๆก่อนจะผละออกไป  ซันกดโทรศัพท์ไปสั่งอาหารแล้วจึงเดินเลาะเรื่อยออกมาที่ระเบียงด้านหน้า  ดอกไม้ในสวนกำลังบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมอวล  แต่บรรยายกาศสดใสกลับจางหายไปเมื่อร่างบอบบางเดินลิ่วมาตามทางเดินระหว่างบ้านพัก  ซันสูดลมหายใจลึกเพื่อปรับสมองและอารมณ์ให้พร้อมเผชิญหน้ากับจีนส์
         “ตื่นเช้าจังครับคุณกาย”
         “ก็เหมือนทุกๆวันแหละครับ  คุณจีนส์ละครับจะไปไหน?”
         “อ๋อ!ก็มาหาพี่เท็ดนั่นแหละครับ  จะมากินอาหารเช้าด้วยเหมือนเคย…เอ่อคุณกายคงไม่ว่าอะไรนะครับเพราะตอนที่คุณกายยังไม่มาผมกับพี่เท็ดเคยทานด้วยกันที่ฟาร์มบ่อยๆ  แทบจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้วละครับ”
         “เหรอครับ…แปลกนะครับเท็ดไม่เคยเล่าเรื่องคุณให้ฟังเลย เล่าแต่เรื่องพ่อแม่  แล้วก็เรื่องสมัยเด็กๆ” จีนส์เม้มปากตาลุกวาบด้วยความโกรธกลับเปลี่ยนเป็นประกายอย่างเจ้าเลห์
         “คุณหมอคงห้ามไว้ เพราะไม่อยากให้คุณกายไม่สบายใจมั้งครับ  เห็นพี่เท็ดบอกว่านอกจากความจำเสื่อมแล้วยังขาพิกะ….เอ่อ…ยังเดินไม่ค่อยถนัดด้วยหรือครับ?”  
         ซันยิ้มเย็นแต่หัวใจร้อนวาบราวกับถูกนาบด้วยเหล็กร้อน  นี่เท็ดเล่าเรื่องของเขาให้เด็กนี่ฟังถึงขนาดนี้เชียวหรือ? เสียงจากประตูด้านหลังแม้จะเบาแสนเบา แต่ก็ทำให้วาจาเผ็ดร้อนถูกกลืนกลับไป ปากอิ่มคลี่เป็นรอยยิ้มหมอง ดวงตาหลุบมองพื้นบดบังประกายกล้าไว้
         “ก็เป็นบ้างครับ เวลาเดินมากๆจะปวดขึ้นมา….ก็อย่างนี้แหละครับ สมองก็เสื่อมขาก็พิการ  ความจริงก็น่าจะตายไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงรอดมาได้ น่าขัน!”  หางเสียงเศร้าสร้อยนั้นทำให้คนที่ยืนอยู่หลังประตูทนไม่ไหว ซันกับจีนส์สะดุ้งพร้อมกันเมื่อชายหนุ่มก้าวพรวดออกมา  คว้าร่างผอมมากอดแน่นดึงศรีษะทุยให้ซุกอยู่กับอก
         “กลับไป..”   น้ำเสียงของเท็ดเรียบเรื่อย  แต่สายตาที่มองจีนส์เย็นเยือกอย่างน่ากลัว
         “อะ…อะไรครับ?”  จีนส์ถามอย่างงุนงง  แต่เมื่อสบตากันก็ถอยกรูด
         “กลับไปบ้านพักเธอซะ  แล้วอย่ามาที่นี่อีก! รู้นะจีนส์ว่าทำไม”
         “พี่เท็ด!” จีนส์อุทานอย่างตกใจ  สายตาของเท็ดเป็นประกายกร้าวและเกรี้ยวกราด  เด็กหนุ่มวิ่งหนีออกมาด้วยความตกใจและเสียใจ  ไม่เข้าใจว่าทำไมเท็ดจึงผลักไสเขาเหลือเกินทั้งๆที่เขาดูดีและเหนือกว่ากายทุกอย่าง  เด็กหนุ่มวิ่งลงมาจนชนกับแจ็คเต็มแรง ดีที่ชายหนุ่มคว้าไว้ทันไม่อย่างนั้นจีนส์คงเจ็บตัว
         “นี่จะซ้อมวิ่งไปโอลิมปิคหรือไง?”จีนส์สะบัดแขนวิ่งหนีไปโดยไม่ตอบโต้  แจ็ค
มองตามอย่างงงๆ  ก่อนจะได้คำตอบเมื่อเห็นร่างที่ยืนกอดกันอยู่ที่ระเบียงบ้านพักบนเนิน  แม้จะไม่ได้ยินเสียงแต่ท่าทางของเท็ดก็บอกอะไรเขาได้มากพอควร  แจ็ค อมยิ้มถอยออกมาก่อนที่ทั้งสองจะเห็นเขา  ชายหนุ่มยอมเสียมารยาทลอบมองคนทั้งคู่อยู่นานจนกระทั่งทั้งสองหายเข้าไปในบ้านจึงกลับไปที่รถ  ยังไม่ทันจะสตาร์ทรถเสียงวิทยุมือถือก็ดังขึ้น  
         “ว่าไง?”
         “คุณเท็ดสั่งยกเลิกอาหารเช้ากับยกเลิกเข้าแผ่นดินใหญ่ครับ”
         “แจ้งนักบินหรือยัง?”
         “ยังครับ”
         “แจ้งนักบินก่อนส่วนฝ่ายอาหารเดี๋ยวฉันจัดการเอง”
         “ครับผม”
         “คุณเท็ดเบี้ยวประชุมละสิท่า  งานนี้ต้องบอกคุณริช”   แจ็ครำพึงอย่างขันๆก่อนจะรีบกลับไปโทรไปบอกกองเชียร์สำคัญของเท็ด เสียงริชบ่นอุบอิบที่ต้องไปประชุมแทนเพราะเท็ดเพิ่งโทรมาขอร้อง  งานนี้คนที่ขาดทุนที่สุดสงสัยจะเป็นจีนส์เพราะนอกจากจะแทรกเข้าไปไม่สำเร็จคงจะถูกเท็ดดุเอาอีกด้วย  
               
         “คุณเท็ดครับ!”พนักงานที่ดูแลบ้านพักของจีนส์วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาขณะที่เท็ดและซันกำลังรับประทานอาหารเช้า
         “มีอะไร?”
         “คุณจีนส์ไม่สบายครับ ท่าทางจะเป็นมาก ผมจะพาไปหาหมอก็ไม่ยอม ใช้ให้ผมมาตามคุณ”
         “งั้นช่วยไปรับหมอให้ทีนะ  เดี๋ยวพี่จะไปดูจีนส์หน่อย กายอยู่คนเดียวได้นะ?”
         “ขอผมไปด้วยสิครับ”  
         “อย่าไปเลย  จีนส์เขาเพิ่งมาจากทางเอเชียป่วยเป็นอะไรเราก็ยังไม่รู้  กายเองก็ยังไม่ค่อยแข็งแรง  ถ้าเกิดติดไข้ขึ้นมามันจะยุ่ง”
         “งั้นฝากบอกจีนส์ด้วยนะครับว่าขอให้หายเร็วๆ”
         “พี่จะบอกให้”  
เมื่อเขามาเดินถึงบ้านจีนส์รถที่ไปรับหมอก็มาถึงเช่นกัน  นายแพทย์หนุ่มลงจากรถอย่างเร่งรีบ  เท็ดเดินนำขึ้นไปบนบ้านพักของจีนส์    
         “พี่เท็ด…พี่เท็ด…ช่วยผมด้วย…หนาว…ปวดหัว…พี่เท็ด”
         “เชิญครับหมอ  ทางนี้เลยครับ”
         “เป็นไงบ้างครับเดี๋ยวขอหมอวัดไข้สักนิดนะครับ”จีนส์ลืมตาขึ้นมอง  หน้านวลแดงกล่ำด้วยพิษไข้
         “ไม่เอา…พี่เท็ด…มาหาผมหน่อย…พี่เท็ด”  แพทย์หนุ่มเหลือบมองเท็ดอย่างแปลกใจ  แม้จะพอรู้มาบ้างว่าชายหนุ่มพาน้องมารักษาตัวที่นี่แต่เพิ่งรู้ว่ามีมาอีกคน  เท็ดถอนใจอย่างอึดอัด  เขาสงสารจีนส์แต่ก็ไม่อยากทำอะไรให้เด็กหนุ่มมีความหวังขึ้นมาอีก  
         “จีนส์อย่างอแงเป็นเด็กไปหน่อยเลย”
         “ไม่เอาผมอยากอยู่กับพี่”
         “ให้หมอตรวจก่อน”
         “วัดไข้หน่อยนะครับ  เจ็บคอไหมครับ  ไอด้วยหรือเปล่า?…อ้าปากหน่อยครับ เอาละครับนอนพักเยอะๆอีกไม่กี่วันก็หาย”
         “เป็นไงครับหมอ?”
         “ก็แค่ไข้หวัดน่ะครับ  เห็นว่าเพิ่งกลับมาจากทางเอเชีย?”
         “ครับ  ไปสิงค์โปร์มา”
         “ร่างกายคงยังปรับตัวไม่ทัน  เพราะที่นี่เริ่มย่างเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว  อากาศก็ค่อนข้างเย็น  เดี๋ยวผมจะฉีดยาให้  แล้วก็จะจัดยาไว้ให้ทานด้วย  เอ…แล้วใครจะมาดูแลคุณจีนส์ละครับ?”
         “ผมเองครับ”  เท็ดเหลียวกลับไปทางต้นเสียง  
         “อ้าว! แจ็คมาได้ไง?”
         “ผมเจอคุณกาย  เห็นว่าคุณจีนส์ไม่สบายผมเลยจะมาดูแลให้ครับ”
         “ไม่เอา!…แค็กๆ…ไปให้พ้น!…เท็ดครับ…ผมไม่ให้คนอื่นมายุ่งกับผมนะ”  ร่างบางยืนพิงกรอบประตูโอนเอนไปมาเหมือนจะล้ม  ดวงตาคลอด้วยน้ำตาเป็นประกายกร้าวอย่างโกรธแค้น  ทำไมจะไม่รู้ว่าแจ็คต้องการกันเขาให้ออกห่างเท็ด
         “จีนส์!ลุกออกมาทำไม?  กลับไปนอนเดี๋ยวนี้เลย”
         “ผมไม่ให้คนอื่นมาดูแลผม…ถ้าพี่เท็ดไม่เต็มใจจะอยู่กับผม  ผมก็จะอยู่คนเดียว  แต่…แค็กๆ…ผมไม่ให้คนอื่นมายุ่งกับผมแน่”  แจ็คทำหน้าเฉยแต่นัยต์ตามีแววไม่พอใจ  
         “แต่…เอ่อ…พี่…”ยิ่งเท็ดทำหน้าอึดอัดจีนส์ก็ยิ่งน้อยใจมากขึ้น
         “ผมอยู่คนเดียวก็ได้……พี่เท็ดไม่ต้องมาสนใจผมหรอก”  จีนส์เสียงสั่น น้ำตาไหลพรู เท็ดถอนใจเฮือกใหญ่  
         “…เอาเถอะพี่จะอยู่ดูแลจีนส์เอง”
         “คุณเท็ด!”  
         “พี่เท็ด! ขอบคุณครับ  ขอบคุณ ผมมีแต่พี่คนเดียว  แม่ก็อยู่ไกลเหลือเกิน”
         “คุณเท็ดแล้วคุณกายละครับ จะทิ้งไว้ที่บ้านคนเดียวได้ยังไง?”แจ็คถามอย่างร้อนรน  ยิ่งเห็นสายตาเย้ยหยันของจีนส์ก็ยิ่งเจ็บใจ
         “ฉัน…เอ่อ!…คงไปๆมาๆแหละนะ”
         “เอ่อ! ขอหมอออกความเห็นหน่อยนะครับ ถ้าคุณไปๆมาๆอาจจะเอาหวัดไปติดคุณกายได้นะครับ  คุณเท็ดร่างกายแข็งแรงถึงรับเชื้อก็อาจจะไม่เป็นอะไร  แต่คุณกายยังอ่อนแออยู่มาก หมอว่ายังไงหาคนไปอยู่เป็นเพื่อนคุณกายดีกว่านะครับ”
         “งั้นนายแหละแจ็คไปอยู่กับกาย”  จีนส์ได้ทีรีบรุกฆาต  แต่พอสบกับตาคมที่มองอย่างรู้ทันก็หน้าแหยแสร้งทำเป็นไอแก้เก้อ
         “พี่ว่าจีนส์ไปนอนจะดีกว่านะ เร็ว!เสียเวลาคุณหมอ…ฝากจีนส์ไว้ก่อนจะครับคุณหมอ”
         “นั่นพี่เท็ดจะไปไหน…ไม่เอานะอย่าไป”
         “พี่จะไปเอาเสื้อผ้า แล้วเลิกโวยวายได้แล้ว  เธอไม่ใช่เด็กแล้วนะจีนส์”
         “แต่ผมไม่อยากฉีดยาอ่ะ”
         “ต้องฉีด  ฝากเดี๋ยวนะครับหมอ”
         “ได้ครับ ไม่ต้องเป็นห่วง”  ชายหนุ่มรีบลงมาเพื่อกลับไปยังบ้านพัก  ทันได้เห็นท้ายรถไฟฟ้าของแจ็ควิ่งขึ้นไปที่บ้านพักโดยไม่รอเขา
         
         “ถ้างั้นผมก็ไปได้สินะครับ”
         “ครับคุณเท็ดคงไม่ว่าอะไร”
เสียงใสทำให้ชายหนุ่มก้าวขึ้นบันไดเร็วขึ้น  ทันได้เห็นกายปล่อยมือจากแขนของ แจ็ค  ทั้งคู่กลับมามองเขาพร้อมกัน
         “คุยอะไรกันอยู่” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว เมื่อเห็นสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสผิดปกติของแจ็คเพราะเมื่อครู่เขาแน่ใจว่าแจ็คโกรธที่เขาจะไปดูแลจีนส์แต่ตอนนี้กลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
         “พี่เท็ด…คุณแจ็คบอกว่าคุณจีนส์ป่วยมาก”
         “ใช่…พี่ต้องไปดูแลถึงยังไงก็เป็นลูกป้าแมรี่”ชายหนุ่มรีบอธิบายเหตุผลเพราะไม่อยากให้กายเข้าใจเขาผิดๆ  
         “ครับ….ผมเข้าใจ”
         “แล้วเมื่อครู่นี้คุยเรื่องอะไรกัน?” ชายหนุ่มทรุดลงนั่งข้างๆกาย แขนพาดไปโอบไหล่แสดงความเป็นเจ้าของ  แจ็คอมยิ้มมองออกไปข้างนอกไม่ยอมสบตาด้วย
         “อ๋อ! คุณแจ็คชวนไปเที่ยวเกาะคู่แฝดคืนนี้ครับ”
         “ทำไมต้องไปตอนกลางคืน?”
         “ที่เกาะคู่แฝดเขาจะมีงานแต่งงานครับ  เจ้าสาวเป็นลูกหัวหน้าเกาะ  ทางเราก็สั่งซื้อของจากทางเกาะนี้ก็ค่อนข้างสนิทสนมกับหัวหน้าพอสมควร  คุณริชให้ผมเอาของขวัญไปให้  เขาจัดแบบชาวเกาะแท้ๆซึ่งหาชมยากมาก  แล้วก็จัดใหญ่ด้วยครับผมเลยว่าจะพาคุณกายไปดู” แจ็คยิ้มหน้าซื่อแต่ตาเป็นประกายแปลกๆ
         “แต่…”
         “นะครับ…ขอผมไปนะครับผมอยากเห็น เคยเห็นคนที่บ้านซูหลินเขาแต่งเหมือนกันแต่เขาจัดแบบประเพณีจีน  แต่แบบชาวเกาะผมยังไม่เคยเห็นเลย  เท็ดให้ผมไปนะครับ”
         “ก็…ก็ได้…แล้วจะไปกันยังไง?”
         “ตอนแรกว่าจะเอาเรือเร็วไป  แต่ถ้าคุณกายไปด้วยคงเอาเฮลิคอปเตอร์ไป”
         “มีเฮลิคอปเตอร์ด้วยเหรอ?”
         “มี 3 ลำครับ  เพิ่งสั่งมาเมื่อ 4-5 เดือนก่อน”
         “เท็ดให้ผมไปนะครับ”เท็ดก้มมองตาโตที่จ้องเขาอย่างมีความหวังด้วยความเอ็นดู
         “ตามใจกายแล้วกัน  ดีเหมือนกันอยู่ที่นี่คนเดียวคงเหงา”
         “ขอบคุณครับ”
         “ฝากด้วยนะแจ็ค”  
         “ครับ…ผมจะดูแลอย่างดีเลย” ชายหนุ่มลุกขึ้นเพื่อไปเตรียมเสื้อผ้าไปค้างเฝ้าจีนส์ แต่ก็ยังเหลือบเห็นท่าทางขยิบตาเหมือนเป็นสัญญาณบางอย่างของกายกับแจ็ค    จะว่าไปกายกับแจ็คก็วัยไล่เรี่ยกันจึงดูสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว
         “อย่าล้ำเส้นแล้วกันแจ็ค ถึงเป็นนายฉันก็ไม่ไว้หน้าหรอกนะ” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองเบาๆ

...........
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้ววววว 11/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 11-11-2009 21:42:48
......
         “เท็ด…เท็ด…พี่เท็ดครับ”
         “หืม…ว่าไงจะเอาอะไรเหรอจีนส์?” 
         “ผมเรียกตั้งนาน…ใจลอยไปถึงไหนครับ หรือว่าห่วงคนไปเที่ยว?” จีนส์ทำเสียงขึ้นจมูกอย่างหงุดหงิด
         “จีนส์จะเอาอะไร?”
         “ผมอิ่มแล้ว”
         “งั้นก็ทานยาหลังอาหารซะ…นอนพักให้มากๆจะได้หายเร็วๆ”  ชายหนุ่มส่งยาให้  จีนส์รับยาและยึดปลายนิ้วเขาไว้  พร้อมกับช้อนตาขึ้นมองเขาอย่างมีความหมาย
         “ผมชักไม่อยากหายเสียแล้ว”
         “ทำไมล่ะ?”  ชายหนุ่มถามทั้งๆที่พอจะรู้คำตอบ
         “ก็ผมจะได้มีเท็ดอยู่ข้างๆแบบนี้ไงครับ…ผมอบอุ่นมากเวลาที่เท็ดอยู่กับผม”  จีนส์โอบรอบเอวแข็งแน่นไม่ยอมปล่อยแม้ว่าชายหนุ่มจะพยายามแกะออก 
         “จีนส์อย่าทำอย่างนี้…ปล่อยพี่ซะ…จีนส์พี่บอกให้ปล่อย!”
         “ไม่เอา!…ทำไมพี่ต้องรังเกียจผมนัก…ทีกับกายพี่ทั้งกอดทั้งจูบ  แต่กับผมพี่ทำเหมือนผมเป็นขยะ  พี่ใจร้ายกับผมที่สุด!”  มือข้างหนึ่งเลื้อยขึ้นโอบรัดรอบคอแต่เท็ดปลดออกอย่างรวดเร็ว
         “อย่าทำอย่างนี้เลยจีนส์….ปล่อยสิพี่ไม่อยากใช้กำลังกับเธอ”
ชายหนุ่มแกะมือที่ยึดเอวเขาออกจนได้  จีนส์น้ำตาคลอเม้มปากแน่น  ทำท่าจะร้องไห้  เท็ดถอนใจยาวลุกออกไปนอกห้อง
         “พี่จะไปไหน?”
         “พี่จะอยู่ข้างนอก  อยากได้อะไรก็เรียกแล้วกัน”  ชายหนุ่มตอบโดยไม่หันกลับมามองหน้า  จีนส์น้ำตาร่วงพรูกรีดเสียงด้วยความคับแค้นใจ
         “ทำไม…ทำไมถึงใจร้ายกับผมนัก…พี่รังเกียจผมที่ผมเคยถูก…ใช่ไหม?”  ชายหนุ่มถอนใจเฮือกหันกลับมาเผชิญหน้า  ไม่มีความรังเกียจ  ชิงชังหรือรำคาญอย่างที่เด็กหนุ่มคาดกลับเห็นเพียงสายตาที่มองมานิ่งๆ
         “พี่บอกแล้วไงว่าพี่ไม่เคยรังเกียจจีนส์ แต่พี่คิดเสมอว่าจีนส์เป็นน้อง”
         “แล้วทำไมกับกายพี่ถึงไม่คิดบ้างล่ะว่าเขาเป็นน้อง  เขาโตมากับพี่แท้ๆ”
         “พี่ก็ไม่รู้…รู้แต่ว่าพี่รักกาย รักมาก”  หางเสียงที่ทอดอ่อนราวกับลำลึกถึงคนที่
เอ่ยถึงทำให้จีนส์แทบกรีดร้องด้วยความคับแค้น  ในท้องปั่นป่วนด้วยความริษยาและชิงชัง
         “แล้วถ้ากายเคยโดนแบบผมล่ะ…ไปติดอยู่ที่เกาะตั้งนานอาจจะเคย…”
         “พี่ไม่สนว่ากายจะเคยเป็นยังไง…แต่พี่อยากให้จีนส์รู้ไว้ว่าถ้าใครแตะกายพี่ทำให้มันเสียใจไปตลอดชีวิต”  ชายหนุ่มพูดสวนขึ้นก่อนที่จีนส์จะพูดจบ  ตาคมเป็นประกายกร้าว แต่น้ำเสียงเย็นชา
         “ทำไมพี่จะฆ่าเขาหรือไง?”
         “บางครั้งความตายก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวที่สุดหรอกจีนส์  ยังมีอีกหลายอย่างที่ทำให้คนเราอยากตายให้พ้นมากกว่าต้องเจอกับสภาพนั้น”ชายหนุ่มยิ้มเย็นแต่จีนส์หนาววาบตลอดสันหลัง 
         “พี่ขู่ผม…พี่คิดว่าผมจะทำร้ายกายเหรอ?”
         “พี่รู้ว่าเธอจะไม่มีวันทำร้ายกาย…เพราะพี่จะไม่ยอมให้มันเกิด  จำไว้นะจีนส์พี่จะไม่อดทนอีกถ้าเธอทำให้กายเดือดร้อน”
         “พี่เท็ด!”  เด็กหนุ่มหน้าซีด ผงะถอยจนชนหัวเตียง  ชายหนุ่มหมุนตัวออกจากห้องเป็นจังหวะเดียวกับที่หัวหน้าบอร์ดี้การ์ดร่างใหญ่วิ่งขึ้นมาหน้าเครียด
         “คุณเท็ดครับ!…คุณเท็ด!”
         “มีอะไรเจฟ?” 
         “คนขับเครื่องบินวิทยุมา  บอกว่าคุณกายกับแจ็คมีเรื่องที่เกาะคู่แฝดครับ”
         “แล้วกายเป็นอะไรหรือเปล่า?”  ชายหนุ่มแทบเขย่าร่างหนาตรงหน้า 
         “ยังไม่ทราบครับเพราะขาดการติดต่อไป  เรากำลังจะไปที่เกาะ”
         “ผมไปด้วยเร็วเข้า”  เท็ดวิ่งนำลงบันได เจฟฟรี่วิ่งตามมาติดๆ 
         “แต่เราต้องไปเรือเร็วนะครับ…คนขับเครื่องบินอีกคนลาหยุด”
         “ไม่เป็นไรผมขับเอง”ร่างบอบบางถลาออกมาเกาะที่ระเบียงร้องเรียกจนเสียงแห้ง“พี่เท็ดครับ…พี่จะทิ้งผมไว้คนเดียวเหรอ?…พี่เท็ด!”
         “นายไปตามพยาบาลมาดูแลคุณจีนส์ด้วย ไปเจฟ”ชายหนุ่มหันไปสั่งพนัก- งานที่ดูแลบ้านพักของจีนส์ก่อนจะวิ่งออกไปขึ้นรถกับเจฟฟรี่เพื่อไปยังลานจอดเครื่องบิน
         “พี่เท็ด!…พี่เท็ด!…อย่าทิ้งผมสิ…พี่เท็ด!” เด็กหนุ่มกรีดร้องไล่หลังไปอย่างคับแค้น  จีนส์กำมือแน่นในใจภาวนาให้เท็ดไปช่วยกายไม่ทัน 
         “ขออวยพรให้แกไปนรก!”
         
         ทันทีที่จอดเครื่องบินเสร็จ  เท็ดก็วิ่งเข้าไปยังลานกว้างที่ใช้จัดงาน  ชาวบ้านยังจับกลุ่มพูดคุยกันเซ็งแซ่ บรรยากาศเคร่งเครียดจนสัมผัสได้ ซันกับแจ็ค นั่งอยู่ในเพิงที่ตกแต่งด้วยดอกไม้  มีคนรายล้อมอยู่รอบๆ
         “เกิดอะไรขึ้น?”
         “พี่เท็ด!!คุณเท็ด!”
         “ฉันถามว่าเกิดอะไรขึ้น…กาย…นี่เลือดนี่…น้องบาดเจ็บที่ไหน?”ชายหนุ่มแตะไปทั่วร่างบางเมื่อเห็นรอยเลือดเป็นหย่อมตามอกและไหล่  มีรอยแตกที่มุมปากและรอยแดงช้ำบริเวณโหนกแก้มข้างขวา
         “เปล่าครับ…ไม่ใช่เลือดผม…นี่เลือดแจ็ค”
         “แจ็คนายบาดเจ็บเหรอ?”ชายหนุ่มหันกลับมาหา  แจ็คนั่งหน้าเซียวบนศรีษะมีผ้าพันไว้มีรอยเลือดซึมออกมาเล็กน้อย  ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ 
         “นิดหน่อยเท่านั้นครับ”
         “ใครทำ!!!”  ชายหนุ่มถามเสียงเย็นทั้งที่ในอกร้อนด้วยความโกรธ
         “ลูกชายฉันเอง…”  เสียง  ‘ดัง’ ‘ห้วน’  เอ่ยขึ้นเบื้องหลัง เท็ดหมุนตัวไปเผชิญหน้า  บุรุษวัยประมาณ50ปีร่างผอมสูงผิวคล้ำ  ยืนเด่นล้ำออกมานอกกลุ่ม  แจ็ครีบลุกขึ้นแนะนำ
         “คุณเท็ดครับนี่ท่านหัวหน้า…ท่านหัวหน้าครับคุณเท็ดเป็นพี่ชายคุณกาย  เป็นเจ้าของคนหนึ่งที่รีสอร์ทแฮมิลตัน”  เสียงคนรอบกายพึมพำขึ้นพร้อมกัน  ทุกคนมีท่าทางไม่สบายใจ
         “ต้องขอโทษด้วย…ขอโทษจริงๆที่เกิดเรื่องขึ้น….ฉันสัญญาไม่เกินเที่ยงพรุ่งนี้เราจะลากตัวมันมาให้ได้  พวกมันต้องได้รับโทษตามกฎของเราแน่นอน”  น้ำเสียงนั้นแม้จะห้วนหากแต่หนักแน่น  ความจริงใจฉายชัดออกมาทั้งสีหน้าและแววตา
         “ผมดีใจที่ได้ยินคำนี้…เพราะไม่อย่างนั้นผมคงต้องจัดการด้วยตัวเอง”
         “หรือเธอจะเป็นคนลงโทษมันก็ได้  ฉันจะให้คนส่งมันไปให้เธอ”
         “ไม่จำเป็นครับ…ผมเชื่อในความยุติธรรมของคุณ”
         “เธอพูดราวกับรู้จักฉันมาก่อน”
         “ผมอาจจะไม่เคยพบคุณอย่างเป็นทางการ  แต่ผมเคยทราบกิตติศัพท์ของคุณจากริช แฮมิลตันมาแล้ว”
         “งั้นฉันคงไม่ต้องพูดอะไรอีก  หวังว่าความสัมพันธ์ของเราทั้งสองเกาะจะยังเหมือนเดิม”
         “แน่นอนครับ…แต่ตอนนี้ผมขอพาน้องกับคนของผมกลับ”
         “เชิญ…ทางเราต้องขอโทษเธอสองคนอีกครั้ง”
         “แค่เรื่องเข้าใจผิดกันอย่าให้กลายเป็นเรื่องใหญ่เลยครับ” ซันพูดขึ้นด้วยเสียงอ่อยๆรู้สึกผิด  เหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นจะมีสาเหตุมาจากเขา
         “ไม่ได้หรอก กฎต้องเป็นกฎ  ไม่อย่างนั้นเราก็ปกครองกันไม่ได้  พรุ่งนี้ฉันจะลงโทษพวกมันอย่างหนัก”
         “ถ้าอย่างนั้นพวกผมขอตัว”
         “แล้วเจอกัน”
         “กายมากับพี่ แจ็คด้วย  เจฟคุณกลับกับนักบิน”
         “ครับ”  แจ็คกับซันแอบสบตากัน  แล้วตามมาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ลำที่เท็ดขับ  ตลอดทางไม่มีใครพูดอะไรเลยบรรยากาศเครียดจนน่าอึดอัด 
         
         “เจ็บมากไหม?”  ชายหนุ่มแตะยาลงบนรอยช้ำแผ่วเบา 
         “ไม่เท่าไหร่หรอกครับ…เอ่อ…”
         “เสร็จแล้ว…อย่าลืมกินยาด้วยล่ะ….แจ็คอย่าเพิ่งกลับ” ชายหนุ่มสั่งโดยไม่หันไปมอง 
         “ครับ”  แจ็ครับคำเสียงหนักแน่น
         “พี่เท็ดครับอย่าลงโทษแจ็คเลยนะครับ…แจ็คเขาเจ็บมากกว่าทุกคนเพราะเขาคอยมาดูแลผม  เขาพยายามปกป้องผมแล้วนะครับแต่พวกมันมีหลายคนผมก็เลยโดนลูกหลงนิดหน่อย…อย่าโกรธแจ็คเลยนะครับ”  ซันหน้าเสีย เหลือบมองแต่แจ็คไม่ยอมเงยขึ้นสบตา  เท็ดหน้าเครียดแต่น้ำเสียงยังอ่อนโยน
         “พี่จะคุยกับแจ็คเอง…กายไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า”
         “แต่…ครับ”  เด็กหนุ่มถอนใจเบาๆแล้วลุกกลับเข้าห้องนอน  เท็ดพยักหน้าให้แจ็คตามลงมาข้างล่าง
         “เล่ามาแจ็คมันเกิดอะไรขึ้น”
         “เราเอาของขวัญไปให้ท่านหัวหน้ากับเจ้าสาว  พวกนั้นจับกลุ่มดื่มเหล้ากันอยู่ในงานพอเราลงมาร่วมงานพวกมันก็เข้ามา พยายามจะดึงคุณกายไปเต้นกับมัน ตอนแรกผมคิดว่ามันเข้าใจผิดว่าคุณกายเป็นผู้หญิง แต่จริงๆแล้วมันรู้ว่าคุณกายเป็นผู้ชาย  มันพยายามจะลากคุณกายออกไป  พอผมขวางเลยเกิดตะลุมบอนกัน    แต่ท่านหัวหน้าให้คนเข้ามาช่วย  พวกมันกลัวความผิดเลยหนีเข้าป่า ท่านหัวหน้าก็ให้คนออกตามครับ  แต่คนขับฮ.คงตกใจเลยวิทยุมาแจ้งทางนี้”
         “แต่กายบาดเจ็บ”  ชายหนุ่มกอดอกทอดสายตาออกไปยังสวนดอกไม้  แจ็คหน้าเผือดลงเพราะรู้สึกผิด
         “ครับ…ผมดูแลไม่ดี  ผมขอรับผิดชอบทุกอย่าง”
         “ดี…งั้นไปดูแลจีนส์จนกว่าจะหาย” 
         “แต่…”
         “ทำไม…ไหนว่ายอมรับผิดทุกอย่างไง?” แจ็คมองแผ่นหลังกว้างอย่างอึดอัด 
         “ครับ”
         “งั้นไปคืนนี้เลยนะ”
         “แล้วถ้าคุณจีนส์ไม่ยอม”
         “บอกเขาว่าถ้าเขาไม่ยอมฉันจะส่งเขาไปนอนที่โรงพยาบาล”
         “ครับ”  ร่างสูงโปร่งเดินตัดไปยังทางเชื่อมกับบ้านพักของจีนส์ เท็ดมองตาม อมยิ้มนิดๆอย่างนึกขันที่หาวิธีลงโทษได้ชนิดที่แจ็คจะเข็ดไปอีกนาน
               
         เจ้าหน้าที่ที่เฝ้าอยู่หน้าจอมอนิเตอร์บิดตัวอย่างเมื่อยขบ  ลุกขึ้นไปชงกาแฟแก้ง่วง ขณะที่ยกกาแฟขึ้นจิบ สายตาก็กวาดไปตามหน้าจอที่เรียงรายกันก่อนจะสะดุดกึกอยู่ที่จอริมสุด  ภาพที่ปรากฏคือท้ายเรือ  ซึ่งถูกดันไปซ่อนไว้ที่ซอกหิน  แต่ขนาดของเรือทำให้ส่วนท้ายโผล่ออกมา  จึงรีบคว้าวิทยุขึ้นมาแจ้งให้เจฟฟรี่ทราบ
         บอร์ดดี้การ์ดที่เดินกันขวักไขว่ทำให้ชายฉกรรจ์5คนที่แอบซุ่มอยู่ไม่ห่างจากโรงจอดเครื่องบินเหลียวมองหน้ากันอย่างตื่นตระหนก  พวกมันเป็นเพียงนักเลงหัวไม้ธรรมดา ที่ตามลูกพี่มาเพราะเงินและเหล้าที่ลูกพี่เอามาล่อให้มาช่วยเผาครื่องบิน  แต่เมื่อมาเจอสภาพที่เหมือนกองทัพย่อยๆอย่างนี้ก็ถอดใจกันหมด  แม้แต่ซูมานเองก็หนาววาบทั้งตัว  มันไม่เคยมาที่นี่  แม้จะรู้ว่าพ่อและชาวเกาะได้อาศัยค้าขายกับที่นี่จนทำให้ชาวบ้านได้มีกินมีใช้แต่มันไม่เคยช่วยพ่อทำมาหากิน  นี่ถ้าไม่เพราะเจ็บใจที่โดนไอ้หนุ่มหน้าอ่อนนั้นทำให้ถูกไล่ออกจากเกาะมันคงไม่ดั้นด้นมาแก้แค้นถึงที่นี่ 
         “ไหนแกว่ามียามแค่ไม่กี่คนไงแล้วนี่ทำไมถึงเดินกันเต็มไปหมด”หนึ่งในห้าถามเสียงสั่นๆอย่างหวาดวิตก 
         “จะไปรู้เรอะ…เอางี้เรากลับไปตั้งหลักกันก่อนดีกว่า”ซูมานตวาดเบาๆก่อนจะเตรียมถอยกลับ  แต่กลับมีเงาคนพรวดเข้ามาหา  เล่นเอาทั้ง5ผวาพร้อมกัน 
         “โธ่โว้ย!เกือบยิงดิ้นแล้ว  ตามมาทำไมแกมีหน้าที่เฝ้าเรือนะ”
         “ลูกพี่มียามมาที่เรือเราเต็มไปหมด” เจ้าคนมาใหม่หอบแฮ่กเพราะเพิ่งเผ่นหน้าตั้งมาเมื่อเห็นยามเกือบสิบคนลงไปยังบริเวณที่จอดเรือ
         “บ้าฉิบ…เอาไงกันดี”  ซูมานหน้าเสียเหลียวมามองคนอื่นๆอย่างตกใจ 
         “ไปทางโรงพยาบาลสิลูกพี่ทางนั้นไม่ค่อยมีคน”
         “แกรู้ได้ไง?”
         “ฉันเคยมาส่งของกับหัวหน้าแล้วก็เคยไปขอรับยาที่นั่นด้วย”
         “งั้นแกนำไป”ร่างหนาล่ำแบบมะขามข้อเดียวนำลิ่วอย่างชำนาญทำให้คนเหลือใจชื้นขึ้น
         
         “ยังเจ็บอยู่หรือเปล่าครับ”ซันหมุนถุงยาในมือเล่นขณะที่เดินเคียงกับแจ็คเพื่อกลับบ้านพัก 
         “ไม่เท่าไหร่หรอกครับ  จริงๆแล้วคุณกายไม่ต้องมากับผมก็ได้”
         “คุณแจ็คเจ็บตัวก็เพราะช่วยผมจะให้ผมอยู่เฉยๆได้ยังไง”  เด็กหนุ่มท้วงเสียงเบา
         “แต่มาหาหมอแค่นี้คุณกายไม่ต้องมาด้วยก็ได้  มืดแล้วด้วยเดี๋ยวคุณเท็ดจะเป็นห่วง”
         “แค่นี้เอง  อีกอย่างผมบอกพี่เท็ดไว้แล้วว่าจะมากับคุณแจ็คไม่เห็นพี่เท็ดว่าอะไรเลย”
         “ครับตามใจก็แล้วกัน  เอ๊ะ…”  แจ็คผงะและเลื่อนขึ้นบังหน้าเด็กหนุ่มเมื่อจู่ๆก็มีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งโผล่พรวดออกมาจากพุ่มไม้ข้างหน้า  พวกมันส่องปืนมาทางพวกเขาอย่างรวดเร็ว
         “หยุดนะอย่าขยับ…ฮะฮ้า..นี่มันไอ้หน้าสวยกับกับไอ้แจ็คนี่หว่า…จุ๊ๆๆเจอโชคจนได้สิน่า”
         “อย่ายุ่งกับคุณกายนะ  มีอะไรก็มาตกลงกับฉัน”  แจ็คใจหายวาบเมื่อเห็นคนที่นำหน้าได้ถนัด   
         “แกนั่นแหละเลิกยุ่งได้แล้ว…ไงจ๊ะคนสวยมาด้วยกันหน่อยสิ”  ตาโปนกลอกกลิ้งไปมาอย่างตื่นเต้น  เมื่อเห็นเด็กหนุ่มถอยหนี  เพื่อนร่วมแก๊งค์เหลียวมองกันอย่างงุนงง
         “แกจะทำอะไรวะซูมาน?”
         “ฉันจะเอาไอ้หน้าสวยนี่ไปด้วย”
         “แกจะบ้าเหรอ…จะเอามันไปทำไมให้เป็นภาระ”
         “ที่ฉันต้องลำบากอย่างนี้ก็เพราะมัน  ยังไงฉันก็ไม่ปล่อยมันแน่”
         “คุณกายวิ่ง!”แจ็คผลักเด็กหนุ่มให้วิ่งหนีขณะที่เขากระโจนเข้าใส่คนที่อยู่ใกล้สุด  ซูมานเดือดโมโหเมื่อเห็นพรรคพวกถูกซัดลงไปกองต่อหน้า
         “เฮ้ย!…แส่นักนะมึงฮึ่ม!” เปรี้ยง!!เสียงปืนแผดขึ้นในระยะกระชั้นชิด  แจ็ค
ทรุดฮวบลงไปโดยไม่มีเสียงร้อง  ซันผวาเข้าไปหาอย่างลืมตัว
         “แจ็ค!….โอ๊ย!”  ซูมานใช้ด้ามปืนฟาดเข้าที่ท้ายทอย  ร่างบางเอนลู่ลงยังไม่ทันถึงพื้นซูมานก็คว้ามาพาดไหล่อย่างรวดเร็ว
         “ซูมานจะบ้าเรอะ”  เจ้าคนเดิมพยายามห้ามปรามแต่ซูมานตาขุ่น อีกฝ่ายจึงได้แต่เงียบพรรคพวกที่เหลือเมินไปทางอื่นไม่มีใครอยากเสี่ยงให้ซูมานหงุดหงิด
         “เอาน่า…รีบไปเถอะ”
         “เฮ้ยนั่นเรือขนยานี่หว่า” หนึ่งในหกตาไวเหลือบไปเห็นเรือที่กำลังเข้าเทียบท่าหน้าโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่สามคนที่ลงมาช่วยขนถ่ายยาและเวชภัณฑ์เหลียวล่อก- แล่กเพราะตกใจเสียงปืน  ต่างพาโดดหนีลงน้ำเมื่อพวกมันสาดกระสุนเข้าใส่  ชายฉกรรจ์ทั้ง 6 รีบโดดลงเรือก่อนจะขับหนีออกไป
         
         “พวกมันไปทางไหน”เท็ดถามอย่างร้อนใจ เจฟฟรี่ยิ้มเหี้ยมเมื่อหน้าจอปรากฏจุดสีแดงแสดงถึงที่ตั้งของเรือ  โชคดีที่มันใช้เรือของรีสอร์ทหนีเพราะเรือที่นี่ทุกลำถูกติดตั้งเรดาห์เพื่อป้องกันการถูกขโมยเพียงแค่คลิกเบาๆแผนที่แสดงที่ตั้งของเกาะแก่งต่างๆก็ซ้อนทับบริเวณที่เรือมุ่งไป
         “เจอแล้วครับรู้สึกว่าจะเป็นเกาะร้าง”
         “ไกลไหม?”
         “ไม่ครับห่างจากเราไปไม่มาก  แต่น้ำค่อนข้างแรงเมื่อก่อนพวกโจรสลัดชอบเข้าไปหลบเจ้าหน้าที่ที่นั่น  เดี๋ยวนี้ไม่มีคนอยู่เพราะไม่มีแหล่งน้ำจืดแล้ว”
         “เจฟฟรี่คุณไปกับผม  ส่วนพวกที่เหลือให้ใช้เรือเร็วตามไป”
         “ครับผม”

         “เสียงเฮลิคอปเตอร์จะทำให้พวกมันรู้ตัวนะครับ”เจฟฟรี่ท้วงเบาๆขณะที่เท็ดสั่งให้ร่อนลงบริเวณหน้าหน้าผาโล่ง
         “รู้ก็ช่าง  ยังไงต้องไปให้ถึงตัวกายเร็วที่สุด” เท็ดตอบเสียงกร้าวก่อนจะโดดลงแล้วก้มตัวต่ำวิ่งนำออกไป  เจฟฟรี่ให้สัญญาณลูกน้องสามคนวิ่งตามเขามาอีกสามอยู่เฝ้าเฮลิคอปเตอร์  เสียงคลื่นที่ค่อนข้างดังทำให้การเคลื่อนไหวของผู้ติดตามทำได้ง่าย  กล้องอินฟราเรดถูกแจกจ่ายไปยังการ์ดทุกคน  การเคลื่อนไหวในความมืดจึงไม่ใช่อุปสรรค  ผิดกับกลุ่มผู้ถูกล่าที่หนีกันหัวซุกหัวซุนในความมืด  อาศัยเพียงความชำนาญของคนนำเท่านั้น
         ซูมานหอบแฮ่กแต่ก็ไม่ยอมวางร่างอ่อนปวกเปียกบนบ่า  อาศัยความชำนาญเร่งรุดขึ้นไปบนเขาอย่างรวดเร็ว  ลูกน้องที่ติดตามอยู่หลังสุดถูกกระชากลงไป  สันมือที่ฟาดเข้าท้ายทอยทำให้มันสลบไปอย่างรวดเร็ว  แขนขาถูกมัดไพล่หลังและถูกโยนซุกไว้ในพงหญ้า  การ์ดแต่ละคนตามเก็บศัตรูได้อย่างว่องไวและเงียบกริบ  แต่ครู่เดียวก็ไม่เห็นวี่แววของซูมานและพรรคพวกที่เหลือ
         “เราคลาดกับมันจนได้…เอาไงดีครับหรือจะปลุกไอ้พวกนี้ขึ้นมาถาม” ลูกน้องคนหนึ่งหันมาหา  เจฟฟรี่เหลือบมองสีหน้าร้อนรนของเท็ดอย่างเข้าใจ 
         “พวกถูกทิ้งให้รั้งท้ายมันคงไม่รู้ทางขึ้นเขาเหมือนกัน  ลองเสียงตามขึ้นไปแล้วกัน  นายสองคนดูทางนี้ไว้  ถ้าพวกที่มาทางเรือตามมาทันให้รีบขึ้นไปฉันจะเปิดสัญญาณไว้”
         “ครับผม”  เจฟฟรี่หันไปพยักหน้า  คนที่ชำนาญการแกะรอยนำขึ้นไปอย่างระมัดระวัง  เท็ดก้าวตามไปอย่างร้อนรน  ทันทีที่เข้าสู่แนวซอกเขาคนนำก็ชะงักและให้สัญญาณ  เจฟฟรี่กับเท็ดหลบเข้าหลังพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว
         “คุณเท็ดครับ…นั่น…”  กล้องจับภาพชายสองคนที่กำลังเดินงุ้มง่ามลงมา  เสียงพวกมันบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิด
         “หายหัวไปไหนกันวะ  ตามมาอยู่ดีๆเสือกหายเงียบกันไปหมด  หลงทางอีกตามเคย”
         “เฮ้ย! หรือว่าถูกไอ้พวกนั้นมันตามเก็บไปแล้ว”
         “ไม่มีทางมืดออกอย่างนี้มันจะตามเราทันได้ไงวะ  พวกมันไม่ใช่คนแถวนี้ไม่มีทางรู้จักเกาะนี้หรอก”
         “แต่พวกมันหายเงียบแบบนี้….”  เสียงคุยชะงักค้างเมื่อรู้สึกเย็นวาบ  เพราะเงาคนที่รายล้อมขึ้นรอบตัว
         “อย่าขยับ!สมองแกกระจายแน่…พวกที่เหลืออยู่ไหน” เจฟฟรี่ถามเสียงเย็นจากด้านหลัง  เจ้าคนตัวอ้วนหมุนตัวกลับพร้อมกับปืน  แต่เจฟฟรี่จับลูกโม่ไว้ แล้วกระชากจนมันถลาเข้ามา หมัดหนักๆกระแทกบริเวณลำคอได้ยินเสียงอึกก่อนที่ร่างอ้วนจะลงไปนอนชักดิ้นชักงอแล้วแน่นิ่งไป  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วพริบตาทำให้อีกคนตะลึงมันรีบชูมือขึ้นสูงตัวสั่นพับๆ  เจฟฟรี่ปราดเข้ามาดึงแขนมันไพล่หลังแล้วใส่กุญแจมืออย่างรวดเร็ว
         “อย่าฆ่าผมเลยครับ ผมแค่ถูกบังคับให้มาช่วย ทั้งหมดเป็นแผนของไอ้ซูมานคนเดียวครับ…อย่าฆ่าผมเลย”
         “บอกมาว่ามันเอาเด็กคนนั้นไปไว้ไหน?แล้วฉันจะไม่ฆ่าแก”เท็ดกดปากกระบอกปืนลงบนแก้มที่เหงื่อแตกพลั่ก
         “ยะ…อยู่ในกระท่อมบนเขาครับ  ซูมานมันเอาไปที่นั่นแล้วไล่ให้พวกผมลงมาตามคนที่เหลือ”
         “แล้วมีใครอยู่อีก?” เจฟฟรี่ถามเพื่อความรอบคอบ
         “ไม่มีแล้วครับ…ซูมานมันกลัวพวกผมขอแบ่งมันเลยไล่พวกผมออกมา”คำว่า ‘ขอแบ่ง’ ทำให้เท็ดเลือดขึ้นหน้า
         “สัตว์นรก! เร็วเจฟ”  ชายหนุ่มวิ่งนำอย่างร้อนใจ 
         “ครับผม…จัดการมันที” เจฟฟรี่รีบรุดตาม  ด้ามปืนของการ์ดถูกฟาดเสยเข้าปลายคางร่างผอมทรุดฮวบโดยไม่มีเสียง  การ์ดที่เหลือรีบตามนายไปทันที
         เท็ดหยุดอยู่ริมกระท่อมอย่างร้อนใจ  เขาเกือบพรวดพราดเข้าไปแต่เจฟฟรี่ห้ามไว้เกรงว่าอาจจะมีพวกมันซ่อนอยู่  กองไฟจากหน้ากระท่อมส่องให้เห็นบริเวณรอบๆได้ลางๆ  ไม่มีวี่แววของคนที่ควรจะเฝ้ายาม  รอบบริเวณเงียบสนิท  เงียบจนเกินไป  เจฟฟรี่ให้สัญญาณลูกน้องก่อนจะกระจายกันโอบล้อมกระท่อมไว้  แล้วค่อยๆคืบคลานเข้าไป  ชายหนุ่มยึดไหล่เท็ดไว้ขณะที่ลูกน้องหันมาพยักหน้าก่อนจะเคลื่อนตัวไปยังด้านข้างกระท่อมด้านที่มืดที่สุด  เจฟฟรี่มองไปรอบๆ ไม่มีพวกมันอยู่ในระยะที่กล้องอินฟราเรดจะจับได้  ชายหนุ่มถอดแว่นติดกล้องออกเก็บก่อนจะหันมาพยักหน้ากับเท็ดเมื่อลูกน้องให้สัญญาณแล้วพุ่งเข้าไปที่กระท่อม  ประตูกระท่อมเปิดออกอย่างง่ายดายผิดคาด  ร่างที่ม้วนไปกับพื้นค่อยๆยันตัวขึ้นหลังที่กำบังจ้องมองดูความเคลื่อนไหวในกระท่อม  เป็นจังหวะเดียวกับที่เท็ดกับเจฟฟรี่วิ่งเข้ามาถึง  เท็ดใจหายวาบเมื่อเห็นเงาคนนอนอยู่ที่พื้นกลิ่นเลือดคาวคลุ้งทำให้เขาสะท้านทั้งตัว
         “กาย…ไม่!”
         “เดี๋ยวครับ”
เจฟฟรี่ยึดไหล่เขาไว้แล้วดึงเอาไฟฉายกำลังสูงออกมา  ทันทีที่ไฟสว่างทั้งหมดก็ชะงักกึก  ร่างที่นอนเหยียดอยู่ที่พื้นนั้นเปลือยเปล่าใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราพับไปด้านข้าง  ลำคอถูกเชือดจนเกือบขาดออกจากร่าง  เลือดสดๆไหลนองเต็มพื้น  คนของเจฟฟรี่รีบก้มลงสำรวจที่ศพ
         “ศพยังอุ่นอยู่เลยครับ  เพิ่งตายไม่ถึงชั่วโมงแน่”
         “แล้วกายล่ะ..กายหายไปไหน?”
         “พวกมันอาจหักหลังกันเองก็ได้ครับ”
         “แต่เมื่อครู่คนที่เราจับได้บอกว่าซูมานไล่พวกมันลงมา…ไอ้คนนี้น่าจะเป็น
ซูมานแต่คุณกายจะหายไปไหนหรือว่ามีพวกอื่น…เอ๊ะ!”เจฟฟรี่ก้มลงดูที่พื้นก่อนจะชี้ให้เท็ดดู  รอยเลือดหยดเป็นทางไปยังหน้ากระท่อมและหายไปในพงหญ้า  ทั้งสามออกตามโดยไม่ต้องบอก  เจฟฟรี่ปล่อยให้ลูกน้องแกะรอยนำทาง  ส่วนเขาร่นลงไปคุ้มกันให้เท็ดด้านหลัง  ทั้งหมดตามรอยเลือดจนมาถึงร่องน้ำแห้งซึ่งเต็มไปด้วยวัชพืชรกเรื้อ  คนแกะรอยยังคงนำบุกเข้าไปเรื่อยๆ  เท็ดก้าวตามกระชั้นชิดหัวใจร้อนราวกับอยู่กลางกองไฟ  ในใจภาวนาเพียงให้กายปลอดภัยเท่านั้น
จู่ๆผู้ที่นำทางก็หยุดชะงัก  แล้วให้สัญญาณ  เท็ดขยับจะตามแต่เจฟฟรี่ดึงแขนเขาไว้  แล้วลากให้ถอยหลัง  คนนำชี้ไปยังพุ่มไม่รกข้างหน้าเจฟฟรี่พยักหน้ารับก่อนจะอ้อมไปด้านข้าง  เสียงกรวดพลิกเบาๆทันใดนั้นร่างหนึ่งก็โถมออกมาด้านที่เท็ดยืนอยู่  ชายหนุ่มเบียงตัวหลบกับกระชากร่างที่พุ่งออกมากดลง  คมมีดที่กรีดผ่านทำให้เจ็บแปลบที่แขน  เขาจับแขนเล็กๆบิดมือจนมีดหล่น  จึงเตะมีดออกห่างเป็นจังหวะเดียวกับที่เจฟฟรี่กับลูกน้องวิ่งมาถึง  แสงจากไฟฉายกราดเข้าจับร่างที่กำลังดิ้นรนได้ถนัด
         “กาย!!”   เท็ดเผลอปล่อยมือที่ยึดออกโดยอัตโนมัติ  เด็กหนุ่มจึงคว้าก้อนหินฟาดเข้าใส่  ชายหนุ่มทำได้เพียงปัดป้องเท่านั้น
         “คุณกาย!!  อย่าครับพวกเราเอง”
         “กาย…อย่ากาย…พี่เอง…กาย”  เจฟฟรี่กับลูกน้องพยายามจะเข้ามาช่วย  แต่ยิ่งคนมากเด็กหนุ่มก็ยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้น   เท็ดแย่งก้อนหินออกได้สำเร็จและรวบแขนทั้งสองข้างไว้ได้   แต่เด็กหนุ่มก็กัดไหล่เขาจนเลือดซึมออกมา  เจฟฟรี่พยายามจะดึงกายออกแต่เท็ดห้ามไว้
         “อย่าเจฟ…ไม่ต้อง…กาย…กายได้ยินพี่ไหม….กาย…พี่เอง…พี่เท็ดไงล่ะกาย….ได้ยินพี่ไหม?…พี่ตามมาช่วยน้องแล้วไงกาย…กาย…พี่เอง”  ชายหนุ่มใช้เสียงปลอบประโลมทั้งที่เจ็บแปลบไปทั้งไหล่  คมเขี้ยวที่ฝังอยู่บนไหล่ดูเหมือนจะชะงักค้าง  ไม่กดหนักเหมือนตอนแรกและค่อยๆคลายออกในที่สุด  เท็ดคลายมือที่ยึดแขนทั้งสองของเด็กหนุ่มออก  เปลี่ยนมากอดร่างบางแนบอก  เด็กหนุ่มเงยขึ้นมองเขาช้าๆแสงไฟจับใบหน้าของชายหนุ่มชัดเจน ร่างในอ้อมแขนสั่นเทิ้มก่อนจะหลุดเสียงสะอื้นแผ่วๆแล้วก็พับลู่ลงไป
         “กาย!…กาย!…น้องเป็นอะไร…กายตื่นสิกาย!”
         “คุณเท็ดครับดูเหมือนคุณกายจะถูกยิงที่ขา”
         “ไหน!…โอ….กาย…เร็วเจฟเราต้องพากายไปหาหมอ”
         “เดี๋ยวครับ…ขอผมห้ามเลือดก่อน…ใจเย็นๆครับคุณเท็ดคุณกายปลอดภัยแน่…เชื่อผมเถอะครับ”
         “กาย…พระเจ้า…ได้โปรดคุ้มครองกายด้วยเถิด…ทำไมเรื่องพวกนี้ถึงเกิดกับน้องไม่หยุด…กายอย่าเป็นอะไรนะกาย”    เท็ดถอดเสื้อออกห่อร่างบางไว้เมื่อเห็นท่อนล่างที่เปลือยเปล่า นอกจากเสื้อขาดๆไม่มีอาภรณ์ใดปกปิดอยู่อีกเลย  ทั้งหมดพากันย้อนกลับมายังกระท่อมก็พบว่า  พวกที่ตามมาทางเรือเร็วมาถึงแล้วเช่นกัน   จึงวิทยุเรียกเฮลิคอปเตอร์ขึ้นมารับเพราะลานหินหน้ากระท่อมกว้างพอที่จะจอดเฮลิคอปเตอร์ได้   เท็ดอุ้มเด็กหนุ่มไปขึ้นเครื่องโดยมีการ์ดคนหนึ่งตามไปด้วย  ส่วนเจฟฟรี่ยังคงอยู่จัดการเคลียร์พื้นที่
.................

พระเจ้า…ได้โปรดคุ้มครองกายด้วยเถิด :serius2:

ขอบคุณคะที่ติดตาม :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้ววววว 11/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: hene2526 ที่ 12-11-2009 00:05:25
จิ้มสำเร็จแล้ว...555
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้ววววว 11/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 12-11-2009 00:41:44
ทำไมต้องเกิดเหตุร้ายๆกับกายมากมายเหลือเกิน  มาติดตามครับ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้ววววว 11/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 12-11-2009 08:25:50
มาติดตาม อย่างใกล้ชิด
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้ววววว 11/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 12-11-2009 12:06:01
กรี๊ดดดดดดดดดด กาย เจ็บตัวอีกแล้ว ไอ้พวกนี้ฆ่ามานนนนนนนน  :angry2:  :fire:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้ววววว 11/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-11-2009 19:39:24
 :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้ววววว 11/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 12-11-2009 19:55:14
สงสารกายจังเลย ต้องเจ็บตัวอีกแล้ว แถมยังต้องสะเืทือนใจซ้ำอีกด้วย
สงสารเ็ท็ดด้วย กายเจ็บ เท็ดก็เจ็บไปด้วย
บวกอีก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้ววววว 11/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-11-2009 22:12:47
ดันค่ะดัน ถ้าวันนี้ไม่มา พรุ่งนี้มาต่อน้า พลีสสสสสสสส   :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาต่อแล้ววววว 11/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 14-11-2009 23:21:17
มาช่วยคุณ THIP ดันและรอ
โอม จงมา จงมา จงมา จงมา จงมา  :z3:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP แล้วคะ 15/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 15-11-2009 18:29:12
ขออภัยที่ให้รอนะคะ มาเอาใจช่วยหนูกายกันต่อเลยคะ

........
เนื่องจากกระสุนไม่ถูกที่สำคัญ  เพียงแต่เสียเลือดมากไปเท่านั้น  กาย
จึงถูกส่งมาพักยังห้องพิเศษในเช้าวันรุ่งขึ้น  ส่วนแจ็คยังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องฉุกเฉินแม้อาการจะอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้วก็ตาม  
         เท็ดกุมมือของเด็กหนุ่มไว้แน่น  แม้จะได้รับการยืนยันว่ากายปลอดภัยแต่เขาก็ยังกลัว   เกรงว่าหากปล่อยมือไปเขาอาจจะไม่ได้กายกลับมาอีกตลอดกาล  ชายหนุ่มไม่สนใจผู้คนรอบข้าง  ไม่กิน  ไม่นอน  ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน  เจฟฟรี่สบตากับแพทย์ก่อนจะถอยออกมาเมื่อไม่มีทีท่าว่าชายหนุ่มจะได้ยินเขาเรียก
         “ขืนปล่อยไว้แบบนี้ฉันเกรงว่าคนที่จะแย่จะเป็นคุณเท็ดมากกว่าคุณกาย”  ศัลย์แพทย์วัยกลางคนเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ
         “จะให้ผมทำยังไงละครับ…เรียกก็แล้วขอร้องก็แล้วก็เอาแต่นั่งเฉย…ตั้งแต่ผมมาถึงก็ถามผมแค่อาการของแจ็คแล้วก็อยู่ในสภาพนั้นตลอดเลย”
         “ฉันว่านายแจ้งให้คุณริชมาดูดีกว่านะ”
         “รออีกสักสองสามวันเถอะครับ…ขอผมเคลียร์ทางนี้ให้เรียบร้อยก่อน  ยังไม่อยากให้คุณริชมาตอนนี้เพราะสถานการณ์ยังไม่ค่อยน่าไว้ใจนัก”
         “เออ!จะทำอะไรก็รีบๆเข้า…บอกตรงๆนะฉันไม่อยากมีคนไข้เพิ่มขึ้นมาอีกหรอก”  หางเสียงสะบัดอย่างหงุดหงิดเพราะความเป็นห่วง
         “ครับผม”  เจฟฟรี่รับคำเอาใจรุ่นพี่ที่เป็นทั้งที่ปรึกษาและอดีตพี่เลี้ยงของริช
ทั้งสองเหลียวกลับไปมองคนที่อยู่ในห้องก่อนจะหันมาสบตาแล้วถอนใจเฮือกใหญ่พร้อมกัน
         แม้เสื้อผ้าเต็มไปด้วยคราบเลือด  เลือดที่แขนและไหล่แห้งกรังแต่เท็ดก็ไม่สนใจจะทำแผล  จนแพทย์ต้องมาขู่ว่าจะไม่ให้เฝ้ากายเพราะตัวเขาสกปรกอาจจะทำให้กายติดเชื้อ  นั่นแหละชายหนุ่มจึงยอมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า  แล้วกลับมานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงอย่างรวดเร็ว  
           
         “กาย!…กาย!…หมอครับไหนว่าเขาปลอดภัยแล้วไง?”
         “ใจเย็นๆครับ…แค่แผลอักเสบทำให้เขามีไข้เท่านั้น” เสียงถกเถียงวุ่นวาย  คนจำนวนมากพยายามยึดแขนขาเขาไว้  เด็กหนุ่มพยายามดิ้นรนเขาจะไม่มีวันยอมให้พวกมันเอาเขากลับไปแน่ ร่างกายเขาหนักและหนืดไปด้วยยางเหนียวคาว  พวกมันมัดเขาไว้ด้วยเชือกที่ทำจากเลือดหรือไง  เมฆหมอกหนาทึบทำให้เขาหายใจไม่ออก  
         “คุณเท็ดครับถอยก่อน…หลีกทางให้หมอก่อนครับ”
         “หมอทำไมกายเป็นอย่างนี้ล่ะ…กาย…กาย…อย่าเป็นอะไรนะ…กาย”
         “หมอช่วยน้องผมด้วย…”
หมอกหนาหนักดึงเขากลับเข้าไปอีกครั้ง  เขากำลังถูกเผาในกองไฟร้อนๆ  พวกมันคงกะเผาเขาให้ตาย‘เท็ด…ช่วยผมด้วย…พี่สัญญาว่าจะอยู่กับผม…ไม่…ไม่…อย่ามา…ถ้าเท็ดมาพวกมันต้องทำร้ายเท็ด…เท็ดพี่รู้ไหมว่าผมรักพี่…ผมรักพี่….’
         “กาย…อย่าเป็นอะไรนะกาย ..ลืมตาสิกายพี่อยู่นี่…กาย…” เสียงกระซิบนั้นคุ้นเคยจนเขาต้องหยุดฟัง‘เสียงเท็ด!พี่เท็ดช่วยด้วย!…ช่วยผมด้วย!’แสงสว่างเลือนลางส่องเข้ามาในหมอกหนาทึบ มือเย็นๆวางบนหน้าผากเขาแล้วลูบไล้แผ่วเบา  ไฟที่เผาเขาดูจะร้อนน้อยลง
         “พี่รักกายนะ…อย่าทิ้งพี่ไปนะที่รัก”เสียงสุดท้ายในอนุสติอันลางเลือนทำให้เขายินดี‘เท็ดรักเรา…รัก!’จุมพิตอ่อนหวานดูดดื่มทำให้เขากลับเข้าสู่ความมืดอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่มียางเหนียวคาวอีกต่อไป  ความเย็นฉ่ำสบายค่อยๆโอบล้อมเขาไว้

         จนเกือบเที่ยงคืนของอีกวันเด็กหนุ่มจึงรู้สึกตัว เปลือกตากว้างขยับเบาๆก่อนจะลืมขึ้นช้าๆเท็ดลุกพรวดขึ้นชะโงกเข้าไปจนชิด ตาโตลอยคว้างครู่หนึ่งจึงค่อยมีแววว่าจำเขาได้  เด็กหนุ่มครางเสียงแหบเบาเหมือนลูกแมว
         “อือ….”
         “กาย…กายน้องฟื้นแล้วใช่ไหม…กายได้ยินไหมพี่เอง…กาย….”เด็กหนุ่มกระ-พริบตาถี่พยายามจะพูดออกมา
         “…น้ำ…” เท็ดหันไปคว้าแก้วน้ำมาหยดลงไปเล็กน้อย  เด็กหนุ่มร้องประท้วงอย่างขัดใจ
         “เดี๋ยวนะต้องจิบทีละนิดก่อน…เป็นไงบ้างเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
         “…ผมเจ็บ…ขา”  แม้เสียงที่ตอบจะแหบแห้งแต่ปฏิกริยาที่ตอบสนองก็บอกให้รู้ว่าเด็กหนุ่มรู้สึกตัวเต็มที่เล้ว  
         “เจ็บมากไหม…พี่เรียกหมอให้เอาไหม?”
         “ไม่มากครับ”
         “อืม…ตัวไม่ร้อนแล้ว…ดีจังไข้ลดแล้ว” ชายหนุ่มอังมือกับหน้าผากชื้นเหงื่อ  ห้องที่ค่อนข้างสลัวทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกกลัว
         “เปิดไฟ…ก่อน…ได้ไหม…ครับ?”
         “เอาสิเดี๋ยวนะ…แสบตาไหม?”
         “ไม่..เป็นไรครับ…เอ๊ะ!…” แสงไฟจับใบหน้ามันเยิ้มของชายหนุ่มได้ชัดเจน  รอยหนวดเป็นปื้นเขียวทั้งคางและแก้ม  โหนกแก้มมีรอยเขียวปนม่วงบางแห่งช้ำจนกลายเป็นสีดำ  ที่คิ้วมีรอยแปะพลาสเตอร์  ดวงตาแดงกล่ำ  ผมที่ค่อนข้างยุ่งเสยไว้ลวกๆ  เสื้อผ้ายับย่น
         “เป็นอะไรหรือเปล่า?”
         “ทำไมพี่เท็ด…ดู…เหมือนไม่ได้นอนเลยครับ”
         “พี่ดูแย่มากเลยเหรอ?”  ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบหน้าเพลียๆ  
         “ผมนอนไปนานแค่ไหนครับ?”
         “ประมาณสองวัน”
         “สองวัน…พี่ไม่ได้นอนเลยงั้นเหรอครับ?”
         “ก็…นอนบ้าง…”  เด็กหนุ่มส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อ  
         “แล้วที่หน้าพี่โดนอะไรมา?”
         “เอ่อ…คงเป็นตอนที่ชุลมุนกันละมั้ง…พี่ก็จำไม่ได้”
         “ชุลมุน…จริงสิแจ็คละครับ…แจ็คเป็นไงบ้าง…ผมเห็นเขาถูกยิง”
         “แจ็คปลอดภัยแล้ว…ไว้แข็งแรงแล้วพี่จะพาไปเยี่ยม”
         “พี่รู้ได้ไงครับว่าผมถูกจับตัวไป”
         “เจฟกับพี่ตามพวกมันไปติดๆ  มาคลาดกันตอนที่มันพากายขึ้นเขา”
         “ขึ้นเขา…ที่ไหนครับ…พวกมันเอาผมไปเผาไม่ใช่เหรอ?”
         “ไม่ใช่หรอกน้องไข้ขึ้นต่างหาก…ว่าแต่ใครเป็นคนยิงกายจำได้ไหม…กาย…เป็นอะไรไป”
         “ผม…ผมจำไม่ได้…แผลนี่ผมถูกยิงเหรอครับ…แล้ว…ทำไมผมจำอะไรไม่ได้เลย…ผมจำได้แต่ถูกพวกมันตีหัว…ผมอยู่ในเรือ…ไม่รู้…ผมจำไม่ได้แล้ว” เด็กหนุ่มตัวสั่นด้วยความกลัว
         “กาย…อย่ากังวลนะ  นอนเถอะจำไม่ได้ก็ช่างเดี๋ยวพี่จะตามหมอให้” เท็ดรีบกอดปลอบเด็กหนุ่มพร้อมทั้งกดสัญญาณที่หัวเตียง ครู่เดียวแพทย์ก็เข้ามาดูอาการของเด็กหนุ่มแล้วฉีดยาให้
         “หมอครับทำไมกายจำอะไรไม่ได้เลยละครับ”  ชายหนุ่มเหลียวกลับไปมองร่างบางที่หลับไหลด้วยฤทธิ์ยาอย่างเป็นห่วง
         “อาจเป็นผลมาจากการถูกฟาดที่ศรีษะหรืออาจจะยังช๊อคอยู่ก็ได้ครับ…ตอนนี้กำลังรอผลการวิเคราะห์สมองอยู่…ถ้าหากไม่เป็นอะไรมากนัก…คุณกายคงเริ่มจำได้เร็วๆนี้”
         “ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็โล่งใจ”
         
         ในม่านหมอกที่หนาทึบเด็กหนุ่มคอยๆเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆจนถึงประตูบานหนึ่งที่แง้มอยู่ มีแสงไฟลอดออกมา  จึงลองเปิดเข้าไป  แสงไฟสว่างวาบจนตาพร่า  ชายร่างบางตาคมเหมือนเหยี่ยวพลิกข้อมือสลับไปมาแทบมองไม่ทัน  ก่อนจะยื่นวัตถุในมือมาให้  มือเล็กๆขาวซีดยื่นออกไปรับมีดมาถืออย่างตื่นเต้น  น่าแปลกที่เด็กหนุ่มรู้สึกว่านั่นเป็นมือของเขา
         ‘กายต้องจำไว้นะ  เรามีกำลังน้อยกว่าอย่าปะทะโดยตรง ตั้งสติให้ดี  ต้องรู้จักประเมินกำลังศัตรู  ปล่อยทำให้มันตายใจว่าเราอ่อนแอและไร้ทางสู้ แล้วอาศัยทีเผลอ ที่สำคัญต้องไม่ลังเล ไม่มีใครช่วยเราได้ตลอดเวลาเราต้องช่วยตัวเราเองก่อนแล้วพระเจ้าจึงจะช่วยเรา’
         ‘ครับ’  
         ‘โรเจอร์…กายน่ะเพิ่งจะสิบขวบเท่านั้นนะทำไมต้องสอนเรื่องพวกนี้ด้วย’ ร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่มุมห้องมีสีหน้ากังวล  โรเจอร์เม้มปากแน่น  ตาเป็นประกายกร้าวอย่างเคียดแค้นและเจ็บปวด
         ‘แต่ตอนที่จีจี้ถูกทำร้ายเธอก็เพิ่งสิบขวบเหมือนกัน…ฉันจะไม่มีวันยอมให้กายต้องเป็นเหมือนจีจี้อีกคน’  
         ‘ผมอยากเรียนครับรอน’ เสียงที่ลอดจากปากเขาเล็กและแหลมเหมือนเสียงเด็ก‘งั้นก็แล้วแต่กายเถอะ…อย่าหักโหมก็แล้วกัน  เราน่ะยังไม่แข็งแรงนะอย่าลืม’  
         ‘ครับผม…มาฝึกกันต่อครับโรเจอร์’
         จู่ๆประตูก็ปิดลง  เด็กหนุ่มรีบเปิดประตูใหม่  แต่คราวนี้กลายเป็นโรงงานเก่าๆรกร้าง…เด็กหนุ่มค่อนข้างผอมหน้าแดงกล่ำด้วยความเมา  กำลังคลายเชือกที่รัดข้อมือเขาออก
         ‘นายน่ารักจริงๆเลย รู้ว่ายอมอย่างนี้ตั้งแต่แรกฉันก็ไม่ต้องใช้กำลังหรอกดูสิหน้าสวยๆช้ำหมด  มานี่มาฉันจะพานายขึ้นสวรรค์เองรับรองนายจะลืมลูกเศรษฐีขี้เบ่งอย่างแฮมิลตันได้สนิทเชียว  นายนี่สวยทั้งตัวเลยโอ๊ะ!….ล้อเล่นน่า  นายชอบแบบรุนแรงเหรอ…วางมีดดีกว่ากาย…ฉะ…ฉันมีเครื่องมือเล่นสนุกกว่านั้นเยอะเลย…อย่า!…กาย…อย่า!…อ๊ากกกกก!!!!….’  มีดคมวาวกรีดลงบนหน้าปรุอย่างชำนาญ  ร่างผอมแห้งพยายามกระเสือกกระสนหนี  แอลกอฮอล์ในเลือดช่วยเร่งให้เลือดไหลมากขึ้น สีแดงฉานสาดกระจายเป็นวงกว้าง  กลุ่มคนที่ตั้งใจจะมาช่วยเขาถึงกับผงะเมื่อเห็นผู้ลักพานอนเกลือกกลิ้งอยู่ในกองเลือด  ส่วนเขานั่งมองผลงานเฉยสายตาทุกคู่มองเขาอย่างประหลาดใจปนสยดสยอง
         ประตูปิลงอีกครั้ง  เด็กหนุ่มลังเลที่จะเปิดแต่ความอยากรู้ทำให้เขาดันประตูที่แง้มอยู่นิดๆออก แสงสว่างจ้าบอกให้รู้ว่าเป็นช่วงเวลากลางวัน  เขากำลังอยู่ในห้องเรียนมีเด็กหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่นั่งอยู่บนขอบหน้าต่างใกล้ๆ
         ‘กาย…ถามหน่อยเถอะโรเจอร์สอนอะไรนาย….’
         ‘ศิลปะ….’
         ‘ศิลป…ศิลปะอะไรทำไมมันถึงได้…โหดแบบนั้น….’  
         เด็กหนุ่มอ้าปากจะตอบแต่ห้องกลับมืดอย่างฉับพลัน…เขาพยายามจะขยับแต่เจ็บไปหมดทั้งตัว  มือหยาบกร้านกำลังลูบไล้ไปมาบนตัวทำให้เขาขยะแขยงจนอยากจะอาเจียร
         ‘แกนี่สวยจริงๆขนาดหน้ามีแผลยังสวยขนาดนี้ถ้าไม่มีแผลจะสวยขนาดไหน…น่ามาสนุกกันดีกว่าอย่าดิ้นไปเลยฉันขี้เกียจทำให้หน้าสวยๆนี่มีแผลเพิ่มขึ้น…ไหนดูหน่อยซิว่าข้างในน่ากินแค่ไหน…’  เสื้อที่เขาสวมถูกกระชากจนกระดุมขาดทั้งแผง  เด็กหนุ่มพยายามรวบไว้  แต่มันกลับเลื่อนมาปลดกระดุมกางเกงยีนส์แล้วกระชากออก  ขอบกางเกงครูดกับสะโพกจนแสบ
         ‘อย่า!!!…’
         ‘อึ๋ยแผลเต็มเลย  แต่ไม่เป็นไรถือว่า สนุกชั่วคราวเดี๋ยวแกก็ได้ไปเกิดใหม่แล้ว  อธิฐานดีๆล่ะเผื่อชาติหน้าจะไม่ต้องมีแผลทุเรศพวกนี้โอ๊ะ!’   เด็กหนุ่มถีบมันออกห่างแล้วรีบตะเกียกตะกายหนี
         ‘…จะหนีไปไหนห๋า!! …พูดดีๆไม่ชอบใช่ไหม…’   เปรี้ยง!!!!  เด็กหนุ่มสะท้านทั้งตัวเจ็บแปลบบริเวณต้นขาจนต้องทรุดลงกองกับพื้น  กลิ่นเนื้อไหม้จากการยิงในระยะเผาขนทำให้เขาขนลุก  ความชิงชังแล่นพล่านไปทั้งสมอง  สายตาที่พร่าเลื่อนปะทะเข้ากับบางอย่าง และคว้าไว้ได้ขณะที่ขาถูกกระชากกลับไปยังที่เดิม  ความเย็นของวัตถุในมือกับความแปลบปลาบที่ปลายนิ้วบ่งบอกถึงความคมกริบของใบมีดเดินป่าเล่มใหญ่  แม้จะไม่ค่อยเหมาะมือนักแต่ก็ใช่ว่าเขาจะใช้ไม่เป็น  เด็กหนุ่มยิ้มเหี้ยมเมื่อมือหยาบพลิกร่างอ่อนปวกเปียกของเขาให้หงายขึ้น  มือด้านหนึ่งดันคางของมันไว้มีดหนาหนักถูกตวัดสวนขึ้นเต็มแรง  เลือดร้อนๆฉีดพรมลงมาบนใบหน้าเขาจนตาพร่า  ใบหน้าของคนที่อยู่ข้างบนยังคงงุนงงและเหลือกลานด้วยความเจ็บปวด  มันไม่มีโอกาสจะรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  วิญญาณก็หลุดออกจากร่างไป ร่างหนาหนักยังเกร็งกระตุก  เด็กหนุ่มใช้แรงเท่าที่มีผลักร่างที่ทาบทับออกไปก่อนจะรีบลุกขึ้น  ความเจ็บปวดบริเวณต้นขาไม่สามารถหยุดเขาไว้ได้  ในสมองของเขาเดือดพล่านด้วยความคั่งแค้น รังเกียจ เขาจะไม่มีวันยอมให้ใครหน้าไหนทำกับเขาได้เด็ดขาด  เด็กหนุ่มมุ่งเข้าหาความรกทึบของต้นไม้  ต้นขาร้อนราวกับถูกเผาไหม้  กลิ่นเลือดคาวคลุ้งชวนให้คลื่นเหียน  เขาล้มลุกคลุกคลานไปตลอดทางแม้จะรู้ดีว่ารอยเลือดอาจนำพวกมันมาถึงตัว  แต่ตอนนี้ไม่มีเวลากลบเกลื่อนร่องรอยแล้ว  ขาสั่นเทาพาเขามาถึงร่องน้ำแห้งที่เต็มไปด้วยวัชพืชรกทึบ  สายตาของเขาเริ่มพร่าเลือน  รู้ว่าเสียเลือดไปมากแต่เขาหยุดไม่ได้  เสียงย่ำสวบสาบทำให้เขารู้สึกขมในปาก  ในที่สุดพวกมันก็ตามาทัน  เด็กหนุ่มกัดฟันลุกขึ้นแล้วพาตัวเองเข้าไปยังความรกทึบของพงหญ้า  ย่ำเข้าไปเรื่อยๆจนกระทั่งไม่สามารถไปได้อีกต่อไป  คงถึงวันสุดท้ายของเขาแล้ว  เด็กหนุ่มกอดมีดแน่นกระชับ  แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า  สุดท้ายเขาก็ต้องตายอย่างโดดเดี่ยวอยู่ดี  อ้อมแขนอุ่นที่คอยคุ้มครองปกป้องก็อยู่ไกลเกินไป  แต่อย่างน้อยเขาก็เคยได้รับ  เด็กหนุ่มสูดลมหายใจลึกยาว  เสียงย่ำตามมาหยุดอยู่ไม่ห่าง  พวกมันมีไม่ต่ำกว่าสองแน่  เอาเถอะขอแค่สักคนที่ไปนรกพร้อมเขาก็พอ    ‘เท็ดผมรักพี่…ลาก่อน’
      
 ...       
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP แล้วคะ 15/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 15-11-2009 18:34:02
.........

         จู่ๆเขาตื่นขึ้นมาราวกับถูกเปิดสวิตส์  ร่างกายยังปวดระบมไปหมด  และยังมีความมึนงงหลงเหลืออยู่  เด็กหนุ่มมองไปรอบๆห้องที่ค่อนข้างสลัวและสะดุดอยู่ที่ข้างตัว  เมื่อพิจารณาดูจึงรู้ว่าเป็นเส้นผมหยักหนาของเท็ด   
         ‘ทำไมเท็ดมานอนอยู่ตรงนี้ แล้วที่นี่มันที่ไหน…โรงพยาบาล…จริงสิโรงพยาบาล…เราถูกลักพาตัวแล้ว…ไม่…เรา…ฆ่าคน…เรา….เราฆ่าคน…พระเจ้า…เราเป็นคนฆ่ามัน…เท็ดรู้หรือเปล่า…ถ้ารู้เขาต้องรังเกียจเราแน่…ไม่นะ…ไม่เอา…เราจะไม่ยอมเสียเท็ดไป…ไม่!…’
         “…ฮึก…”   เด็กหนุ่มหลุดเสียงสะอื้นออกมาเบาๆ  ร่างที่ฟุบอยู่สะดุ้งเฮือกแล้วผุดลุกขึ้นนั่ง  ก่อนจะชะโงกเข้ามาใกล้ 
         “กาย…เป็นอะไรไป…น้องเจ็บตรงไหนพี่จะเรียกหมอให้นะ?”
         “ไม่ๆเท็ด…เท็ด…กอดผมหน่อย…กอดผมที”
เท็ดประคองร่างบางขึ้นมากอดไว้กับอก  เด็กหนุ่มซุกหน้าแน่นน้ำตาร้อนๆเปียกอกกว้างจนชุ่ม
         “กาย…อย่าร้องไห้สิ…กาย”
         “เท็ดเกลียดผมไหม…ผมไม่ได้ตั้งใจ…ผมไม่ได้ตั้งใจ…ผมจะติดคุกไหม…ผม…ผมขอโทษ”
         “กายเป็นอะไรไป…บอกพี่สิน้องเป็นอะไร?”
         “ผม…ผมฆ่าคน….ผมฆ่าคนตายเท็ด…ผมไม่ได้ตั้งใจ…”
         “หมายความว่าน้องเป็นคนฆ่าซูมานงั้นเหรอ?”
         “ผม…ไม่ได้ตั้งใจ…มันจะข่มขืนผม…พอผมหนีมันก็ยิงผม…แล้วผมเจอมีด…ผม…ผมจะถูกประหารไหม…เท็ด…พี่เกลียดผมหรือเปล่า…พี่อย่าเกลียดผมเลยนะ…ผมขอโทษ”
         ชายหนุ่มกัดกรามแน่นด้วยความแค้น  อยากให้ซูมานฟื้นขึ้นมาแล้วแล่เนื้อมันทีละชิ้นให้สาสมกับที่มันทำ  อ้อมแขนแข็งแรงโอบร่างน้อยแน่นขึ้น  อยากลบเอาความทุกข์ทรมานออกไปให้หมดไม่อยากให้กายจำช่วงเลวร้ายนี้ได้เลยแม้แต่น้อย
         “พี่รักกาย…พี่ไม่มีวันเกลียดกาย…อย่าร้องไห้…มันไม่ใช่ความผิดของน้องนะ…สถานการณ์อย่างนั้นเป็นพี่พี่ก็ต้องทำแบบกาย…พี่ดีใจเสียอีกที่กายเก่ง สามารถช่วยตัวเองได้ดีขนาดนั้น…กาย…อย่าร้องไห้คนดี…ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยพี่สัญญา…จะไม่ใครแตะกายได้อีกแล้ว”
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากอก  มือข้างที่มีสายน้ำเกลือยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าเขาแผ่วเบา  ปากแดงสั่นระริกน้ำตายังไหลลงมาเป็นทาง
         “ผม…ผมคิดว่าจะไม่ได้กลับมาหาพี่อีกแล้ว”   
         “ทำไมถึงคิดแบบนั้น?”
         “ผมคิดว่าจะไม่มีโอกาสเจอพี่อีก…ผมคิดว่าคงต้องตายอยู่คนเดียวเสียแล้ว”
         “ไม่…ไม่มีทาง พี่ขอโทษที่คุ้มครองกายไม่ได้…พี่ขอโทษ”  ชายหนุ่มเสียงสั่นคว้ามือเล็กมาจุมพิตซ้ำไปมาด้วยความเสียใจ
         “อย่าขอโทษสิครับ…มันไม่ใช่ความผิดของพี่…ผมหาเรื่องเอง…ถ้าผมไม่ไปโรงพยาบาลผมก็ไม่ต้องเจอพวกมัน…อย่าโทษตัวเองเลย”
         “แต่พี่เคยสัญญาว่าพี่จะดูแลกาย…พี่เคยสัญญาว่าจะปกป้องน้อง…แต่ก็ทำไม่ได้…น้องต้องเจ็บตัวอีกแล้ว…พี่เสียใจ”    ชายหนุ่มกอดร่างในอ้อมแขนแน่นขึ้น  เด็กหนุ่มซุกหน้ากับอกกว้างแต่น้ำร้อนๆที่หยดลงบนต้นคอทำให้เขาตัวสั่น   
เด็กหนุ่มค่อยๆดันตัวออก เมื่อเงยขึ้นก็เห็นชายหนุ่มจ้องมองมาทั้งน้ำตา แม้ปราศ จากเสียงสะอื้น  แต่ความคับแค้นขมขื่นฉายออกมาจากดวงตาทั้งคู่ 
         “ผมไม่อยากได้ยินพี่ขอโทษ…แค่ผมได้เจอพี่อีกครั้ง…มันก็ดีที่สุดแล้ว…อย่าโทษตัวเองอีกเลยนะครับ…ผม…ไม่อยากเห็นพี่เสียใจเพราะผม…ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่ทำให้พี่เป็นอย่างนี้”
         “กาย…พี่สัญญา…ต่อไปนี้พี่จะไม่ห่างกายอีก…พี่จะไม่ให้กายคลาดสายตาอีกแล้ว…พี่ต้องปกป้องกายให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…พี่จะไม่ปล่อยให้กายต้องเจอเรื่องร้ายๆคนเดียวอีกแล้ว…พี่สัญญานะกาย…พี่สัญญา”  เด็กหนุ่มพยักหน้า  เขาร้องไห้อยู่นานจึงค่อยสงบลง  เท็ดเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยนก่อนจะรินน้ำให้ดื่ม  เด็กหนุ่มยึดมือใหญ่ไว้เมื่อสังเกตเห็นรอยแผลและรอยเขียวช้ำทั้งหลังมือและที่ฝ่ามือ
         “พี่โดนอะไรครับ?”
         “ก็ตอนชุลมุนกันนั้นแหละ…กายดีขึ้นแล้วใช่ไหม…งั้นทานอะไรหน่อยนะ…หิวไหม”  ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่อง
         “แสบท้องจังครับ”
         “เดี๋ยวนะพี่จะสั่งซุบมาให้”
ชายหนุ่มโทรไปสั่งอาหาร  ครู่เดียวซุบอุ่นๆก็ถูกจัดมาให้พร้อมกับอาหารค่ำชุดใหญ่  ที่มีจดหมายขู่แนบมาว่าถ้าคนเฝ้าไข้ไม่กินจะสั่งห้ามเยี่ยม  เท็ดหัวเราะแล้วลงมือจัดการกับอาหารมื้อแรกนับแต่เกิดเรื่อง
         “พี่ตามผมเจอได้ยังไง?”  เด็กหนุ่มถามขณะที่เท็ดประคองให้นอนลงหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ
         “พวกมันขโมยเรือของรีสอร์ทหนี  เจฟฟรี่เลยตามได้เพราะเรือมีเรดาห์  พวกมันพากายไปที่เกาะร้างพี่กับเจฟตามด้วยเฮลิคอปเตอร์  ความจริงพี่ก็ตามไปติดๆนะมาคลาดกันตอนขึ้นเขา  แต่ก็ตามกายไปทันที่หนองน้ำนั่นแหละ”
         “คนที่ตามผมไป…เป็นพี่…งั้นแผลพวกนี้…ผมใช่ไหมที่ทำ...ผมทำให้พี่เจ็บใช่ไหมเท็ด?”  เท็ดใจหายเมื่อรู้ว่าพลั้งปากไป
         “เอ่อ…มะ…ไม่ใช่นะ…คือ…”
         “ผมขอโทษ…ผมเสียใจ…ผมไม่รู้ว่าเป็นพี่ผมขอโทษ…ฮือ…เท็ดขอโทษ….ผมเสียใจที่ทำให้พี่เจ็บ…ผม…ผม…เท็ด…ฮือ” เด็กหนุ่มเบิกตากว้าง  น้ำตาไหลพรูลงมา  ก่อนจะสะอื้นจนตัวงอด้วยความเสียใจที่เขาทำร้ายชายหนุ่ม
         “กาย…อย่าร้องไห้…กาย”
         “ผมขอโทษ…ฮือ…ขอโทษ”
         “น้องไม่ได้ตั้งใจ…พี่รู้…”
         “ทั้งๆที่พี่ตามไปช่วย….แต่ผมกลับทำให้พี่เจ็บ…ผมขอโทษ”
         “กายอย่าร้องไห้อีกเลยนะ…พี่ขอร้อง…พี่ไม่อยากเห็นกายร้องไห้อีกแล้ว…”
         “ขอโทษครับ…ขอโทษ”
         “กาย….ฟังพี่นะ…พี่ดีใจที่สุดที่ได้กายคืนมา…เรื่องอื่นมันไม่สำคัญเลย…เราได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว…และพี่สัญญาว่าจะดูแลกายให้ดีที่สุด…จะไม่มีวันที่เรื่องร้ายๆจะเกิดกับกายอีก…พี่สัญญา” เด็กหนุ่มคลายสะอื้นค่อยๆแตะที่รอยช้ำ
         “เจ็บมากไหมครับ?” 
         “ไม่หรอกแค่นี้เอง…สมัยพี่เล่นกีฬาพี่เจ็บยิ่งกว่านี้อีก”   มือบางเหนี่ยวใบหน้าครามลงมาหา  ปากอิ่มแตะบนรอยช้ำแผ่วเบา
         “กาย…”  เท็ดครางเสียงแผ่วเมื่อลิ้นนุ่มเลียที่รอยช้ำบริเวณมุมปากและบนโหนกแก้มให้  เด็กหนุ่มประคองหน้าเท็ดไว้  แต่เมื่อสบตากันจู่ๆก็มีภาพเด็กชายตัวผอมสูงกำลังก้มลงเป่าที่รอยแดงบนมือเล็กผอมซีดของเขา
         ‘ฟู่ๆ…หายแล้วแค่นี้เอง  กายของพี่เก่งที่สุด…ไม่เจ็บแล้วนะ’ 
         ‘เจ็บอ่ะ…ยังเจ็บอยู่เท็ดต้องให้ผมขี่คอด้วยล่ะ’
         ‘ก็ได้…แต่กายต้องสัญญาว่าจะไม่เล่นไฟอีกตกลงไหม?’
         ‘สัญญาฮับ’  ภาพซ้อนทับหายวับไป  เด็กหนุ่มตัวสั่นมือทั้งสองกุมแก้มสากไว้แน่น  จ้องมองตาคมอย่างตื่นตะลึงกับสิ่งที่เพิ่งจำได้ ประตูในความฝันเปิดซ้อนเข้ามาเป็นระรอก 
         ‘กาย…เราคือกายงั้นเหรอ?…เราคือกาย…’ 
 แต่ดูเหมือนเท็ดจะอยู่ในอารมณ์อื่น ตาคมหม่นลงด้วยความปราถนา  ชายหนุ่มเอียงหน้าไปจุมพิตที่มือนิ่มทั้งสองข้างก่อนจะเลื่อนลงมาประกบริมฝีปากกับปากอิ่ม ตอนแรกเพียงแค่การสัมผัสแผ่วๆแล้วค่อยๆเน้นหนักขึ้น  ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในปากนุ่ม  มือเลื่อนมาประคองหน้านวลไม่ให้ถอยหนี  เด็กหนุ่มตัวสั่นหัวใจเต้นระทึก  ลมหายใจเหมือนถูกสูบออกจากร่าง  ในท้องราวกับมีกระแสไฟแล่นผ่านเผลอขยับเบียดอกกว้างแนบชิดยิ่งขึ้น  ร่างของทั้งคู่เอนแนบลงกับเตียงช้าๆมือร้อนลูบไล้จากเส้นผมนุ่มละเอียดระเรื่อยลงมาตามลำคอและแผ่นหลัง  แขนเรียวโอบรัดรอบลำคอเขาแน่น  ไฟปราถนากระพือโหมขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ 
         “เท็ด…”  เด็กหนุ่มหลุดเสียงครางแผ่วเมื่อปากร้อนเผยอออก  ตาคมเป็นประกายวาววาม  ไล้เลียบนริมฝีปากนุ่มอย่างหยอกเย้า  ฟันคมขบเม้มริมฝีปากล่างเบาๆแล้วค่อยเบียดจุมพิตลงมาอีกครั้ง  กายสะอื้นแผ่วเนื้อตัวร้อนผ่าว  รสสัมผัสฉุดคร่าสติสัมปชัญญะสุดท้ายออกจากร่าง  ในสมองว่างเปล่าขาวโพลนรับรู้เพียงปลายลิ้นร้อนที่กวาดไล้เขาขึ้นสูงแล้วดิ่งวูบลงมา  ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชายหนุ่มถอนปากออกตอนไหน  ตราบจนเห็นดวงตาวาววามจับจ้องเขานิ่งนาน  สติที่กลับมาอย่างฉับพลันทำให้เขาหน้าร้อนซู่  ไม่อาจทนสบตาชายหนุ่มได้อีก  เด็กหนุ่มซุกหน้าลงกับอกกว้างแทนการเผชิญหน้าได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบา  ตัวเขายังสั่นระริกหัวใจเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมานอกอก  ความตื่นเต้นที่เกิดจากความทรงจำที่กลับมาอย่างกระทันหันและความในใจที่เปิดเผยออกมา  หลังจากที่เขาเฝ้ารอมาตลอด  เท็ดจูบเขา!ไม่น่าเชื่อว่าเท็ดจะทำอย่างนี้ได้  แน่นอนว่ามันไม่ใช่การจูบราตรีสวัสดิ์เหมือนที่ผ่านมาหรือการจุมพิตปลอบประโลมยามเขาหวาดกลัว   มันแตกต่างจากทุกครั้ง  มันเหมือนกับจูบดื่มด่ำในความฝัน  แต่คราวนี้เขาไม่ได้ฝัน  เท็ดจูบเขาจริงๆ ทั้งที่ดูชายหนุ่มระมัดระวังยามที่ใกล้ชิดกันตลอดมา  แต่วันนี้…….
         “เท็ด…พี่…”
         “พี่รักกาย”  กายนิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่ก่อนจะหลุดเสียงกระซิบแผ่วๆ
         “ผมก็รักพี่”  ชายหนุ่มชะงักก้มลงมองหน้าที่ซุกอยู่ที่อกอย่างตื่นเต้น
         “กายเข้าใจความหมายของพี่หรือเปล่า…พี่รักกาย…ไม่ใช่แบบพี่น้องนะ…เข้าใจหรือเปล่า?”
         “ขะ…เข้าใจครับ”
         “แล้ว…กายก็รักพี่แบบเดียวกัน?”
         “อื้อ…เท็ดอ่ะ…ไม่รู้แล้ว”  กายตอบเสียงสะบัดแต่กลับซุกหน้ากับอกเขาแน่นยิ่งขึ้น  เท็ดรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งตัว  ได้ยินเสียงหัวใจของคนในอ้อมแขนเต้นระทึกไม่แพ้กัน  ค่อยๆช้อนหน้านวลขึ้น  เด็กหนุ่มตัวสั่นแต่ปากอิ่มเผยอรอรับลิ้นร้อนที่แทรกเข้าไปชิมความหวานในปาก  ลมหายใจของทั้งคู่หอบกระชั้น  ทั้งตื่นเต้นและวาบหวามราวกับกำลังร่วมรักทั้งที่ยังไม่ได้แตะต้องกันมากไม่กว่าการจูบเท่านั้น
         “กาย…กาย…พี่รักกาย…กาย” ชายหนุ่มครางเสียงสั่น  เฝ้าวนเวียนจุมพิตทั่วหน้านวลอย่างลุ่มหลง  ทั้งคู่ต่างตกอยู่ในห้วงอารมณ์จนไม่ได้ยินเสียงประตูเปิด   

 จีนส์ผงะถอยกรูดจนเกือบล้ม  ก่อนจะหันหลังวิ่งออกมาราวกับคนบ้า  ไม่!…ทำไมกลายเป็นอย่างนี้  ทั้งๆที่คิดว่าจะได้เห็นกายเจ็บแบบที่เขาเคยเจ็บ  ได้เห็นเท็ดบ้าคลั่งด้วยความแค้นเหมือนที่เขาเคยเป็น  และได้เห็นคนทั้งคู่เลิกร้างกัน  แต่กลับตรงกันข้าม  เท็ดกับกายกอดจูบกันเหมือนกับจะกำลังร่วมรักกันด้วยซ้ำ
         ‘แพศยา…ทุเรศ…แกไม่น่าจะรอดกลับมา…ทำไมแกไม่ตายไปเสีย…ทำไม!’ 
         “อ๊าาาาาาา!!!!!!  ฉันเกลียดแก!!!เกลียดแกที่สุด  ทำไมเท็ด!   ทำไม!!….พี่ไม่เคยรักผม…ไม่เคยเลย…ไม่มีใครรักผมเลย…ทำไม…ฮือ…ทำไม๊!!”
         จีนส์กรีดร้องออกมาสุดเสียงแล้วกระโดดลงไปในทะเล  ร่างสูงที่วิ่งตามมากระโจนตามลงไปคว้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว  จีนส์กรีดร้องและก่นด่าอยู่ตลอดเวลา  แต่ด้วยรูปร่างที่ต่างกันสุดขั้วทำให้เด็กหนุ่มถูกหิ้วกลับไปในโรงพยาบาล  พยาบาลสาวปราดเข้ามาหาขณะที่เจฟฟรี่ล๊อคร่างบางไว้ไม่ให้ดิ้น  เพียงครู่เดียวอาการทุรนทุรายก็ลดลงและเงียบสงบในที่สุดด้วยฤทธิ์ยา  เจฟฟรี่ช้อนร่างเปียกโชก  ขึ้นมาอุ้มแล้วพากลับไปยังห้องพัก โชคของจีนส์ยังดีที่ชายหนุ่มสั่งให้คนจับตาดูความเคลื่อน ไหวของเด็กหนุ่มอยู่ตลอดเวลาทำให้สามารถช่วยไว้ได้ทัน  เพราะกลางดึกอย่างนี้โอกาสที่จะมีคนเห็นจีนส์โดดลงไปในน้ำคงแทบไม่มี
         
         พยาบาลสาวที่เข้ามาจะวัดไข้รีบถอยออกมาแทบไม่ทันแล้วออกมายืนหน้าตาตื่นอยู่ข้างนอกจนหัวหน้าเดินผ่านมาเจอ 
         “เธอมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้…วัดไข้เสร็จแล้วเหรอ?”
         “หัวหน้าคะ…ในห้องน่ะ…เข้าไม่ได้ค่ะ”  พยาบาลสาวกระซิบกระซาบท่าทางมีเลศนัย
         “ทำไม?”
         “ก็…คุณพอลลิ่ง…เอ่อ…อยู่บนเตียงกับคนไข้นะสิคะ”
         “แล้วไง?”
         “ก็แหม…ถ้าเข้าไปเกิดเขากำลัง…แฮ่ม!จะทำไงละคะ?”
         “มันไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องสนใจ…หน้าที่เธอคือเข้าไปดูแลคนไข้…นี่คงเข้าไปโดยไม่เคาะประตูอีกละสิ”
         “ก็…ขอโทษค่ะ”
         “กลับไปทำหน้าที่เธอให้เรียบร้อย”
         “แต่ว่า…”
         “เลือกเอาว่าจะทำงานให้เรียบร้อยหรือจะให้ฉันเขียนรายงานเธอ”
         “ขอโทษค่ะ..จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
พยาบาลสาวสูดลมหายใจลึกพร้อมกับเคาะประตูเบาๆก่อนจะเข้าไป  แต่ร่างสูงยังคงนอนอยู่บนเตียงเธอจึงเปิดไฟดวงเล็กซึ่งแสงสว่างไม่มากนัก  เท็ดสะดุ้งเพิ่งรู้สึกว่ามีคนเข้ามาในห้อง  ชายหนุ่มพึมพำขอโทษแล้วรีบลงจากเตียงเพื่อให้พยาบาลเข้ามาดูน้ำเกลือและเลือดให้กาย
         ‘โธ่เอ๊ย!นึกว่าจะมีฉากเด็ดที่แท้ก็แค่นอนเป็นเพื่อนเฉยๆเหรอเนี่ย…เซ็งเป็นบ้าอุตสาห์ลุ้นแทบตาย’
      
         นอกหน้าต่างหม่นมัวด้วยหมอกยามเช้า แต่หัวใจของกายกลับกระ-
จ่างใสและอบอุ่นด้วยความสุขเมื่อลืมตาขึ้นมาก็ได้สบกับตาคมที่จับจ้องอยู่ก่อนแล้ว
         “อรุณสวัสดิ์  กำลังคิดว่าจะต้องจูบปลุกหรือเปล่า”
         “ผมไม่ใช่เจ้าหญิงนิทราสักหน่อย”  เด็กหนุ่มบ่นอุบอิ่บอย่างเขินๆ
         “นั่นสิ…แต่อยากจูบเฉยๆจะได้ไหม?”
         “……”  กายอ้าปากค้างแล้วหุบฉับหน้าแดงระเรื่อ  ไม่อยากจะเชื่อว่าเท็ดจะพูดจาแบบนี้เป็น  ตาคมแพรวพราวและดูเจ้าเล่ห์
         “ไม่ตอบถือว่าอนุญาต…อรุณสวัสดิ์จ้ะ  ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ…หรือว่า…ฮะฮะฮะ”
         “เท็ดบ้า…หยุดหัวเราะนะ!…หยุดสิ…บ้าๆๆ” เด็กหนุ่มหน้าแดงซ่านด้วยความอาย  เพราะคิดว่าชายหนุ่มจะจูบแบบเมื่อคืนจึงเผลอเผยอปากรอ  แต่เท็ดเพียงแต่จุมพิตเบาๆที่หน้าผากเหมือนทุกครั้งเท่านั้น  ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจ  ปล่อยให้ร่างบางทุบเขาด้วยความอาย  กายดึงผ้าขึ้นมาคลุมศรีษะจนมิดเพราะไม่กล้าสู้หน้า  ขณะที่เท็ดยังหัวเราะไม่หยุด  ทำให้ชายสองคนที่กำลังจะเข้ามาในห้องหยุดชะงักและเหลียวสบตากันอย่างยินดี  ก็อกๆๆ…. 
         “เชิญครับ”
         “อรุณสวัสดิ์ครับคุณเท็ด…คุณกายเป็นอย่างไรบ้างครับ…สีหน้าดูดีมาก…ปวดแผลไหมครับ?”
         “นิดหน่อยครับ…”
         “อืม…ถ้าเป็นอย่างนี้อีกไม่กี่วันก็กลับบ้านได้แล้ว”
         “ดีจัง…ผมอยากกลับเร็วๆ…ผมไม่ค่อยถูกโรคกับโรงพยาบาลสักเท่าไหร่…ถึงมันจะดูเหมือนโรงแรมห้าดาวมากกว่าโรงพยาบาลก็เถอะครับ”กายคุยจ้อยๆโดยไม่ได้สังเกตเห็นสายตาของเจฟ
         “กายคุยกับคุณหมอก่อนนะ”
         “ครับ”
         “มีอะไรเจฟ?”  ชายหนุ่มถามทันที่ปิดประตูสนิท
         “คุณจีนส์โดดทะเลเมื่อคืน”
         “อะไรนะ!!…แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า?”
         “ไม่ครับ  ผมให้คนจับตาดูไว้ตลอดเลยช่วยไว้ทัน”
         “เด็กบ้า!ชอบทำเรื่องบ้าๆอยู่เรื่อยแค่นี้ยังวุ่นวายไม่พอหรือไงก็ไม่รู้”  เท็ดถอนใจเฮือกยกมือขึ้นเสยผมอย่างหงุดหงิด
         “เมื่อคืนคุณจีนส์แอบมาที่ห้องนี้…”
         “มาห้องนี้…ทำไมผมไม่เห็นล่ะ…หรือว่า…”
         “ผมเห็นวิ่งกระเซอะกระเซิงออกไปเลยรีบตาม…คุณจีนส์โดดน้ำที่ท่าเรือหน้าโรงพยาบาลนี่เองครับ”
         “เฮ้อ!…ทำไมเป็นอย่างนี้นะ….ขอบคุณนะเจฟ…คุณช่วยผมไว้ตั้งหลายเรื่อง…ขอบคุณมากๆ”
         “ไม่เป็นไรครับ…แค่นี้ยังไม่ได้ครึ่งที่คุณเคยช่วยน้องผมและช่วยคุณริชกับคุณราเชลด้วยซ้ำ”
         “บ้าน่า…เรื่องริชกับราเชลน่ะถึงผมไม่ช่วยคุณก็ต้องทำให้เขาดีกันได้อยู่แล้ว…ส่วนเรื่องน้องคุณเป็นใครก็ต้องทำแบบผมทั้งนั้น”
         “ไม่มีใครกล้าเสียงตายขนาดนั้นหรอกครับ…ทั้งๆที่ทุกคนหมดหวังแต่คุณกลับลุยเข้าไปเอาเธอออกมาจนตัวเองเจ็บแทบตาย”
         “เอาเป็นว่า…เราต่างคนต่างช่วยกันตกลงไหม…คุณเคยสัญญาแล้วนี่  ว่าเราเป็นจะเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกัน…จำได้ไหม…เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ถือว่าพี่น้องช่วยเหลือกันดีไหมครับ?”
         “ครับผม”
         “แล้วแจ็คเป็นไงบ้างครับ?”
         “เมื่อคืนรู้สึกตัวดีแล้วครับ  สายๆหมอคงให้ย้ายมาห้องพิเศษได้”
         “ผมไม่ได้ไปดูเขาเลย…แย่จริง”
         “คุณจะแยกร่างไปหรือไงครับ…ทั้งคุณกายทั้งแจ็คจะไปดูแลพร้อมกันได้ยังไง อีกอย่างแจ็คก็อยู่ในความดูแลของหมอไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว  แต่คุณกายน่ะไม่ใช่แค่บาดเจ็บทางกายนะครับ  เจอเรื่องแบบนี้คงขวัญหายอีกนาน”
         “ผมอยากขุดมันขึ้นมาสับเป็นชิ้นๆ…”  เท็ดกัดกรามแน่นตาเป็นประกายกร้าว
         “ตกลงว่าเป็นฝีมือ…?”
         “ครับ…ผมก็นึกไม่ถึงว่ากายจะกล้า”
         “ผมดีใจที่คุณกายกล้า…ไม่อย่างนั้นเรื่องคงเลวร้ายกว่านี้”  เท็ดหันไปมองหน้าห้องกายด้วยความเสียใจ
         “แต่มันทำให้กายเจ็บปวด…ผมรู้ว่ากายกลัวแค่ไหนที่ต้องฆ่าคนตาย…ทำไมนะเจฟ…ผมช่วยใครๆได้…แต่ผมกลับช่วยคนที่ผมรักไม่ได้เลยสักครั้ง…ผมมันทุเรศ…ห่วยแตก”
         “คุณเท็ด…คุณไม่ใช่พระเจ้านะครับ…คุณจะควบคุมทุกอย่างในโลกนี้ได้ยังไง…อย่าโทษตัวเองเลยครับ  ตอนนี้คุณกายกำลังอ่อนแอถ้าคุณไม่เข้มแข็งคุณกายจะพลอยแย่ไปด้วย” 
         “ขอบคุณเจฟที่เตือนสติผม”  ชายหนุ่มสลัดศรีษะแรงๆเพื่อลดความเครียดก่อนจะถอนใจเฮือกใหญ่  เจฟตบที่ไหล่เบาๆ
         “เราเข้าไปข้างในกันเถอะครับ  เดี๋ยวคุณกายจะสงสัย”
               
......


คงจะไม่มีเรื่องเลวร้ายกว่านี้อีกนะ แค่นี้กายก็ช้ำพอแล้ว
ขอบคุณคะ แล้วเจอกันใหม่คะ :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP แล้วคะ 15/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 15-11-2009 19:18:51
ความรักความเอาใจใส่จึงจะช่วยกายได้ เท็ดต้องพยายาม
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP แล้วคะ 15/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-11-2009 19:39:46
 :monkeysad: :monkeysad: กายจำได้แล้วดีจังเลย

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP แล้วคะ 15/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 15-11-2009 19:55:30
โอ้...มาตามอาดรวดเดียวตั้งกะเมื่อคืน
ทำไมถึงพลาดเรื่องนี้ไปได้หว่า
ดีใจที่ได้อ่านนะคับ
เขียนดีอ่ะ
...
 o13
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP แล้วคะ 15/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: hene2526 ที่ 16-11-2009 01:19:06
ใครก็ได้ช่วยปลุกคุณน้องจีนส์ขึ้นมาตบให้หายมึนสักที่สิ รู้สึกจะเข้าใจอะไรยากและก็ร้ายขึ้นทุกวันเลยนะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP แล้วคะ 15/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 16-11-2009 12:27:33
ดีใจจัง กาย ดีขึ้นแล้ว แถมไม่โดนทำไรด้วย   :mc4:
แต่ จีนส์ นี่สิกลับน่าเป็นห่วงแทน
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP แล้วคะ 15/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 16-11-2009 13:55:10
ดีใจด้วยที่กายมีอาการดีขึ้น แต่จีนส์นี่สิน่าเป็นห่วง
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP แล้วคะ 15/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 16-11-2009 22:30:15
กายจำได้แล้ว ดีใจจัง
เข้าใจกันไประดับหนึ่งแล้วด้วย
แต่ก็สงสารจีนส์เหมือนกันนะ ไม่ยอมรับความจริงเสียที
บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP แล้วคะ 15/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-11-2009 23:17:05
ดันๆ  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" UP แล้วคะ 15/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 18-11-2009 19:38:37
ลุ้นๆๆๆ วันนี้มามั้ยเอ่ย  :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วคะ 18/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 18-11-2009 21:38:30
คิดถึงกายกันแล้วใช่ไหม มาอ่านต่อกันเลยคะ
..............

         หลังจากกายเข้ารับการรักษาได้2สัปดาห์หมอก็อนุญาตให้กลับบ้านได้  เท็ดเฝ้าประคบประหงมดูแลไม่ห่าง  เวลามีเรื่องสำคัญที่บริษัทก็ได้ริชกับราเชลเข้าไปดูแลให้  แต่ส่วนใหญ่จินนี่จะจัดการได้เรียบร้อย  จีนส์เฝ้ามองคนทั้งสองอย่างขมขื่นและเจ็บปวด  ไม่มีแม้แต่หางตาที่เท็ดจะเหลือบแลมายังเขา  ชายหนุ่มแทบจะไม่ปล่อยกายลงพื้นด้วยซ้ำ  ไปไหนก็อุ้มก็กอดกันตลอดเวลาเด็กหนุ่มร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล…แค้นแสนแค้นแต่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากทนดูภาพบาดตาอยู่อย่างนี้
         “ทำไมมาอยู่ตรงนี้ละครับ…ผมว่าคุณควรเข้าบ้านก่อนที่จะหนาวตายนะ แล้วเหล้านี่ก็ไม่ใช่ของที่เด็กควรดื่มด้วย” เจฟดึงขวดเหล้าออกจากมือเล็ก  จีนส์พยายามขัดขืนแต่ไม่สำเร็จ  ตาโตหวานเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ เหลือบมองเจฟ อย่างยั่วยวน
         “เจฟ…นอนกับผมไหม?”
         “ไม่ครับ”  คำตอบสวนทันควันทำให้จีนส์งง  ก่อนจะเจ็บจี๊ดด้วยความผิดหวัง
         “ทำไม…ฉันไม่ดีตรงไหน…ฉันน่ารังเกียจนักหรือไงใครๆถึงปฏิเสธฉันกันหมด”  เด็กหนุ่มกรีดเสียงโหยหวนแต่เจฟยังยิ้มนิดๆอย่างใจเย็น
         “ผมไม่นอนกับคุณเพราะผมไม่ชอบเด็ก...ผมชอบคนที่พอฟัดพอเหวี่ยงกันมากกว่า”
         “ตาแก่! งั้นฉันไปหาคนอื่นก็ได้”  จีนส์ทำเสียงหยัน  พยายามจะยันตัวลุกขึ้นแต่ไม่สำเร็จ
         “อย่าประชดด้วยวิธีนี้เพราะสุดท้ายคนที่เจ็บก็คือคุณ”
         “อย่ามาแส่…นายไม่ใช่พ่อฉัน…ขนาดพ่อฉันยังไม่เคยห้ามฉันเลย”
         “คุณก็เลยเจ็บปวดที่ไม่มีใครห้ามสินะ?”
         “อย่ามาทำรู้ดีหน่อยเลย”
         “คุณจีนส์ผมขอเตือนอะไรไว้อย่าง…อย่าหาเรื่องอีกเลยแค่นี้คุณก็เจ็บมากแล้ว”
         “แล้วใครล่ะที่ทำให้ฉันเป็นอย่างนี้…เพราะเท็ดคนเดียว…เท็ดทำร้ายฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่เขาไม่เคยสำนึกเลย…ดูสิเขามีความสุข…แต่ฉันทุกข์  ทุกข์จนจะบ้าอยู่แล้ว”  จีนส์ตวาดแหวน้ำตาร่วงพรูลงมาทันที
         “คุณก็รู้ว่ามันไม่จริง” 
         “เรื่องจริงต่างหาก…ฉันรักเขา…ฉันต้องเจ็บตัวก็เพราะเท็ด…แต่เขาไม่สนเลย…อยากรู้นักว่าถ้าฉันตายไปต่อหน้าเขาจะเสียใจไหม” 
         “อย่าโทษคนอื่นสิครับ”
         “โทษเหรอ? อย่ามาเข้าข้างกันหน่อยเลย แน่ละสินายมันก็หมารับใช้ริชนี่ ขี้ข้าที่แสนดี พวกคนดีจอมปลอม!  ชอบเล่นเป็นคนดีแต่จริงๆแล้วก็สารเลวที่สุด เขาหลอกให้ฉันรักแล้วก็สลัดทิ้ง พอได้กายกลับมาเขาก็ทิ้งฉัน  นั่นก็เลวพอกัน…ความจริงกายไม่ควรจะรอด...ไม่ควรกลับมา...ถ้าไม่มีกายป่านนี้เท็ดกับฉันก็มีความสุขด้วยกันแล้ว แต่พอกายมาทุกอย่างก็พังหมด! ฉันไม่เหลืออะไรเลยก็เพราะมัน
…ทำไมคนเลวๆอย่างนี้ถึงรอดมาได้ พระเจ้าไม่มีจริง!ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ต้องเจ็บปวดอย่างนี้หรอก จริงสินะถ้าไม่มีแก ไอ้กาย!ฉันจะฆ่าแก คอยดูนะ ฉันจะทำให้แกไม่มีความสุข ฉันจะทำให้แกเจ็บยิ่งกว่าที่ฉันเจ็บเป็นร้อยเป็นพันเท่า พวกแกทุกคนระวังตัวไว้เถอะ ฉันจะให้พ่อจ้างนักฆ่ามาฆ่าพวกแก ฮือ! แม่ครับ…ช่วยด้วย… ช่วยผมด้วย พวกมันรังแกผม…พวกมันรุมทำร้ายผม…ช่วยด้วย…ฮือ…” จีนส์นอนเกลือกกลิ้งไปมาด้วยความเมา  เจฟส่ายหน้าอย่างเวทนา  ร่างสูงหนาก้าวเข้ามายืนเคียงข้างเจฟ  สายตาที่มองจีนส์ทั้งสงสารและห่วงใย
         “เฮ้อ! เมาจนขาดสติ…พาไปนอนหน่อย…ระวังล่ะ!อย่าให้ออกมาโดดทะเลกลางดึกได้อีกนะ”
         “ครับผม”ชายผิวคล้ำช้อนร่างบอบบางขึ้นอุ้มราวกับอุ้มเด็กพากลับไปยังบ้านพักอย่างรวดเร็ว
ความเย็นของน้ำช่วยให้สติสัมปชัญญะค่อยกลับคืนมา  จีนส์รู้สึกเย็นวาบเมื่อเสื้อถูกถอดออกไป  หน้าดำๆที่ลอยเด่นทำให้เขาผวาอย่างตกใจ
         “นายเป็นใคร? ปล่อยนะ! อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”  เด็กหนุ่มปัดมือที่จับแขนเขาออก
         “เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยนอนนะครับ เสื้อคุณเลอะมาก เมื่อครู่นี้คุณอาเจียนรด”
         “ไม่เอา อ๋อ!นายจะลวนลามฉันละสิ อยากนอนกับฉันก็บอกมาตรงๆสิ”  จีนส์ทำเสียงหยัน  แต่หน้าดำๆนั้นยังคงสงบนิ่งไม่มีวี่แววว่าจะโกรธ  เมื่อได้พิจารณาจึงได้เห็นถึงความคมคาย สีผิวที่ออกแดงไม่ดำสนิทแบบนิโกร  เด็กหนุ่มหมั่นไส้หน้าเรียบเฉยนั้นขึ้นมาทันควัน  เท้าขาวพาดไปบนเป้ากางเกงทหารสีเข้มมือเล็กแหวกสาบเสื้อคลุมออกอย่างจงใจ
         “สวมเสื้อเสียเถอะครับ…คุณจีนส์อย่าทำอย่างนี้”  หางเสียงเรียบเปลี่ยนเป็นปรามเมื่อร่างบางพริ้วลงมาบนตัก  แขนเรียวโอบรัดรอบคอเขาอย่างยั่วยวน
         “ปากแข็ง…นายอยากนอนกับฉันใช่ไหม…ฉันรู้น่า…มาสิ…กอดฉันหน่อย…ฉันเหงา…ฉันไม่มีใครเลย”  หางเสียงว้าเหว่จนคนฟังรู้สึก  มือที่เตรียมผลักไสเลื่อนขึ้นโอบรัดอย่างนุ่มนวล  จีนส์ซบหน้าลงบนแผ่นอกกว้าง  ได้ยินเสียงกระซิบแผ่วข้างหู
         “พรุ่งนี้คุณจะเสียใจที่ทำอย่างนี้”
         “ไม่!ฉันไม่มีวันเสียใจ…เท็ดต่างหากที่ต้องเสียใจ….มาเถอะ…กอดฉันสิ…กอดฉันแน่นๆ…อือ” เด็กหนุ่มครางแผ่วเมื่อฟันคมขบเม้มที่ติ่งหูแล้วไล้ไปหาซอกคอขาว  ร่างบางเบียดรับทุกสัมผัสอย่างเร่าร้อน
         “เท็ด…เท็ด…กอดผมอีก…เท็ด…อาาาา…ซี๊ด…เท็ด…แรงอีก…เท็ด…อือ…อ๊าาาา”  เสียงใสหวีดระงม  ร่างบางบิดเร่าด้วยความทรมาน  ทุกสัมผัสที่ปรนเปรอให้ทั้งเชียวชาญและนุ่มนวลอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัส  จีนส์ผลอยหลับไปอย่างอิ่มเอม  รอยยิ้มยังปรากฎบนปากอิ่ม  แม้เมื่อร่างสูงจะถอยออกก็ผวาตามอย่างตกใจจนชายหนุ่มไม่สามารถทิ้งไปได้
       
          ม่านที่ไม่ได้ปิดทำให้แสงยามเช้าลอดเข้ามาส่องตา  เปลือกตากว้างขยับยุกยิกอย่างรำคาญ  ก่อนจะลืมขึ้นเจอกับแผ่นอกกว้างในเสื้อยืดสีขาว  จีนส์ลูบไล้อย่างยินดีก่อนจะเลื่อนตัวขึ้นจะจูบ  แต่เมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ตนกอดได้ถนัด  ก็ถึงกับผวาลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ 
         “เท็ด…อะ…กะ…แกเป็นใคร!ทำไมเข้ามาอยู่ในห้องฉัน…หรือว่า…ไม่!ไม่จริง!” จีนส์หน้าซีด เมื่อพบว่าทั่วร่างเปลือยของตนมีรอยจ่ำสีแดงเต็มไปหมด
         “เมื่อคืนคุณเมามาก”  ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่ง  ใบหน้าคมเรียบเฉย
         “แกก็เลยฉวยโอกาส! เลวที่สุด! ออกไปนะ…ออกไป๊!”  จีนส์ร้องกรี๊ดปราดเข้าทุบตีและผลักไส
         “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ชายหนุ่มยึดมือเล็กไว้
         “สงบสติอารมณ์แล้วหัดฟังคนอื่นเสียบ้าง…เมื่อคืนผมไม่ได้ล่วงเกินคุณมากไปกว่าการใช้มือกับปากเข้าใจไหม…แล้วไอ้รอยบนตัวคุณน่ะคุณเป็นคนขอให้ผมทำ”
         “หมายความว่า…”  จีนส์หยุดดิ้นสีหน้าดีขึ้นทันที
         “ผมแค่ช่วยกอดไม่ให้คุณเหงาเท่านั้น…ผมแค่เป็นตัวแทนคนที่คุณคิดถึง”
         “ฉะ…ฉันไม่ได้เหงา…พูดบ้าอะไร?”  เด็กหนุ่มปฏิเสธอึกอัก
         “แต่คุณเรียกหาเขาทั้งคืน…หรือว่าจำไม่ได้ผมจะทบทวนให้ฟัง”
         “หยุดนะ! ไปให้พ้น…เดี๋ยว!!เอ่อ…อย่าให้ใครรู้นะว่านายนอนที่นี่”  ประโยคหลังทอดอ่อนเหมือนจะขอร้องมากกว่าสั่งอย่างที่เคยเป็น
         “ผมไม่พูดหรอก…แต่คนอื่นจะพูดหรือเปล่าผมไม่รู้  เพราะเมื่อคืนเสียงคุณดังมาก”
         “บ้า!ทุเรศที่สุด”  จีนส์โวยหน้าแดง  ชายหนุ่มกอดอกมองร่างเปลือยบนเตียงด้วยท่าทางพิจารณา
         “จะว่าผมแส่ก็ได้แต่ผมอยากถามอะไรคุณสักอย่าง…คุณจะต้องตื่นขึ้นมาร้องไห้อีกกี่ครั้งถึงจะเลิกประชดบ้าๆแบบนี้  คนอื่นเขาก็แค่สมเพชคุณเท่านั้น…แต่คุณสิเสียทุกอย่าง…ทำไมคุณไม่หาคนของคุณให้เจอล่ะ”
         “แล้วนายล่ะ?”  จีนส์ทำเสียงพาลๆ
         “ผมเจอแล้ว…แล้วผมก็รักของผมมากด้วย…ผมอยากให้คุณรู้ว่ารสชาติของรักที่แท้จริงนะ  ว่ามันหอมหวานขนาดไหน…อย่าเสียเวลาอยู่กับความฝันอีกเลยเพราะพอตื่นคุณก็ไม่เหลืออะไร”
         “งั้นเหรอ? คนของเราเหรอ…นายชื่ออะไร? อ้าว!ไปไหนแล้วล่ะ…ช่างเถอะ…ขอบใจนะ”  จีนส์มัวแต่ครุ่นคิดจนไม่ได้สังเกตว่าชายหนุ่มออกไปตอนไหน  แต่เมื่อไม่เห็นใครจึงกล้าขอบใจเบาๆโดยไม่รู้ว่าคนฟังยืนยิ้มอยู่หลังประตู

....
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วคะ 18/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 18-11-2009 21:42:13
.......
         กายควานมือไปรอบๆแต่ไม่เจอร่างหนาที่ให้ความอบอุ่นมาทั้งคืน  เด็กหนุ่มพลิกตัวขึ้นมองนาฬิกาอย่างแปลกใจ  เพิ่งจะหกโมง  เท็ดจะรีบร้อนตื่นไปไหนหรือว่าวันนี้มีประชุม  กายคว้าเสื้อคลุมมาสวมแล้วออกมาตามหาเท็ดข้างนอก  เสียงพูดคุยผสมกับเสียงร้องไห้ดังลอดมาจากสวนหน้าบ้าน  เด็กหนุ่มชะงักเมื่อสังเกตเห็นคนที่กำลังสนทนากับเท็ด  ร่างสูงยืนนิ่งขณะที่ร่างบางโผเข้าไปกอด  กายเจ็บจี๊ดในอก  รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัวด้วยความหึงหวง  วูบแรกรู้สึกเพียงอยากจะวิ่งเข้ากระชากร่างบางๆนั้นออกมาต่อยให้สาแก่ใจ  แต่สำนึกถัดมากลับทำให้ต้องหยุดชะงักอยู่แค่นั้น  หากเขาลงไปทำอย่างนั้นคนที่เจ็บปวดอาจเป็นเท็ดเพราะเท็ดคงเสียใจที่เขาทำเหมือนไม่เชื่อใจ  ที่ผ่านมาเขาเองก็รู้ว่าเท็ดพยายามแค่ไหนที่จะแสดงให้เห็นถึงความรักความซื่อสัตย์ที่มีให้  แต่นั่นแหละสิ่งที่ทำให้ยังหวั่นไหวมากที่สุดก็คือสัมพันธภาพของเขาและเท็ด  ที่ไม่คืบหน้าไปกว่าตอนอยู่โรงพยาบาลสักนิด  เท็ดยังคงนอนกอดเขาไว้จนเช้าแต่ไม่เคยมีอะไรมากไปกว่าจูบ  กายเบือนหน้าหนีภาพบาดตากลับเข้าห้องตั้งใจจะอาบน้ำ  มือที่ปลดเสื้อคลุมชะงักเมื่อร่างกายซีกซ้ายปรากฏขึ้นบนกระจก  นิ้วสั่นระริกค่อยๆลูบไปมาบนรอยหยักนูนของแผลเป็นก่อนจะสวมเสื้อไว้อย่างเดิม  แล้วออกไปยืนรับลมเย็นเฉียบที่ระเบียงด้านหลัง  จะแปลกอะไรถ้าเท็ดจะเลือกจีนส์ในเมื่อตัวเขาเองมีสภาพที่น่ารังเกียจขนาดนี้  หากเท็ดได้เห็น…คงกอดไม่ลงแน่ๆ  เด็กหนุ่มยืนคิดว้าวุ้นจนเห็นจีนส์เดินร้องไห้กลับบ้านพักไป  ท่าทางเหมือนคนหัวใจสลายนั้นทำให้กายสะท้าน  รู้สึกเหมือนเห็นเงาสะท้อนของตัวเองจากจีนส์ 
อ้อมแขนแข็งแรงโอบตัวเขาเข้าไปหา   “ทำไมออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะ…ไม่หนาวเหรอ?” 
         “ไม่ครับ  เอ่อ…”  แม้จะเอนซบกับอกอุ่น  แต่ใจยังกระวนกระวายกับภาพของเท็ดกับจีนส์
         “มีอะไร?” เท็ดจูบชิดขมับและกระซิบถามเบาๆ  แม้จะพอเดาได้แต่ก็ยังอยากได้ยินจากปากกายมากกว่า
         “จีนส์เขา…เอ่อ…เปล่าครับไม่มีอะไร”
         “ถามสิกายแล้วพี่จะเล่าให้ฟังทุกอย่าง”เท็ดหมุนร่างเพรียวกลับมาเผชิญหน้า  กายส่ายหน้าแต่ดวงตาดูหมองๆ
         “อย่าเลยครับ…บางที…ผมก็ไม่ควรแทรกเข้าไประหว่างพี่กับจีนส์”
         “ทำไมล่ะ…กายไม่อยากรู้เหรอว่าพี่คุยอะไรกับจีนส์?”  ข้อนิ้วยาวเกลี่ยแก้มนวลเบาๆ  กายกดมือเท็ดให้แน่บชิดกับแก้มมากขึ้นเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง  แต่สายตายังจับเพียงระดับอกไม่กล้าเงยขึ้นสบตา
         “จีนส์เขาคงอยากให้เป็นเรื่องระหว่างพี่กับเขามากกว่า” 
         “กายเปลี่ยนไปนะ”
         “ดีหรือแย่ครับ?” กายเงยหน้าขึ้นมาสบตา
         “เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น…แล้วก็น่ารักขึ้นด้วย”
         มือเล็กเลื่อนขึ้นกอดรอบคอแล้วซุกหน้าอยู่กับอกกว้าง  เท็ดสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงความร้อนบริเวณหน้าอก  ร่างในอ้อมแขนสั่นสะท้านและมีเสียงสะอื้นลอดออกมา
         “กาย!เป็นอะไรไป?”
         “เท็ด…ผมไม่ได้เป็นผู้ใหญ่เลยสักนิด…ตอนแรกผมทั้งหึงทั้งหวงกลัวพี่จะเลือกจีนส์…แต่ตอนที่จีนส์กลับไปผมเห็นเขาร้องไห้  ผมถึงได้คิดว่า…ถ้าวันนี้คนที่เท็ดเลือกเป็นจีนส์  แล้ว….คนที่ต้องไปก็คงจะเป็นผม…เท็ดผมกลัว…กลัวพี่จะไม่รักผม…กลัวว่าพี่จะเจอคนที่ดีกว่าแล้ว…แล้ว…เท็ด…อย่าทิ้งผมเลยนะ…ผมรักพี่…ถ้าไม่มีพี่ผมก็ไม่รู้อยู่ไปทำไม?”
         “ทำไมกายคิดแบบนี้…พี่รักกายนะ…รักมาก  รักมาตลอดและไม่เคยมีใครเลย…กายเชื่อใจพี่เถอะนะ” ชายหนุ่มพยายามจะช้อนหน้านวลขึ้นมา แต่กายเบียงหนีและซุกอยู่กับอกเขาแน่น  เสียงสะอื้นแรงยิ่งขึ้นน้ำตาเปียกเสื้อที่เขาสวมจนชื้น 
         “ผมรู้เท็ดผมรู้…ผม…ผมมันบ้าไปเอง  ที่เอาแต่ระแวงพี่  แต่…ผม…ผมกลัว”
         กายพูดกระท่อนกระแท่นด้วยความทรมานใจ  เท็ดช้อนหน้าที่เปื้อนน้ำตาขึ้นมาจนได้  ความเจ็บปวดและหวาดกลัวของกายฉายชัดออกมาทั้งสีหน้าและแววตา  แววตาที่สะท้อนภาพเดียวกันกับเขาในวันที่คิดว่าจะต้องสูญเสียกายไป   
         “พี่รักกาย  พี่จะพิสูจน์ให้กายได้รู้ว่าพี่รักกายแค่ไหน…อยู่ที่กายแล้วล่ะว่าจะให้โอกาสพี่ไหม?”  เท็ดเช็ดน้ำตาออกให้อย่างนุ่มนวล 
          “พิสูจน์?!!?…จะพิสูจน์ยังไงครับ” 
          “แบบนี้ไง…”
         “เท็ด!!…อื้อ…อย่าครับ!” เด็กหนุ่มหัวเราะคิกดิ้นหนีเมื่อถูกดูดเม้มบริเวณใบหูกับซอกคอ  แต่เท็ดจุมพิตซ้ำอย่างเย้าหยอกมือก็โอบรัดร่างเล็กไว้จนดิ้นไม่หลุด  กายร้องห้ามไปดิ้นไปจนหอบฮัก  แม้จะดันคางบุ๋มไว้แน่นแต่เท็ดก็ยังก้มต่ำลงมาเรื่อยๆ  ความตั้งใจเย้าแหย่ในตอนแรกเปลี่ยนไป  สัมผัสแนบชิดกระตุ้นให้ความ ปรารถนาที่แฝงอยู่เงียบๆปะทุขึ้นโดยไม่ตั้งตัว 
         “เท็ด….”  กายหลุดเสียงครางหวิวออกมา  ยังไม่ทันจะขยับหนีปากร้อนก็ปิดแนบลงมาอย่างรวดเร็ว  กายเกร็งร่างอย่างตกใจในตอนแรกแล้วจึงค่อยผ่อนลง  เพราะสัมผัสจู่โจมนั้นไม่ได้รุนแรง  หากแต่นุ่มนวลและหวานหวามอย่างประหลาด  ลิ้นร้อนกอดเกี่ยวจนสติกระเจิดกระเจิง  เด็กหนุ่มทำได้เพียงกอดร่างหนาไว้ยามที่ถูกอุ้มกลับเขามาในห้อง  แม้เท้าจะสัมผัสพื้นแล้วแต่ขากลับอ่อนเปลี้ยไร้เรียวแรงทรงตัว  หากไม่มีอ้อมแขนของเท็ดโอบรัดไว้เขาคงทรุดลงไปกองกับพื้นแล้ว  มือที่ลูบผ่านลงมาบีบคลึงสะโพก ร้อนผ่าวจนทะลุผ่านเนื้อผ้า  กายหลุดเสียงครางอย่างเผลอตัวแต่เสียงก็ถูกดูดกลืนกลับเข้าไปในปากของเท็ด   
         “กาย…พี่รักกาย…”  ชายหนุ่มถอนปากออกและกระซิบกับหูนิ่มเบาๆ  กายหน้าแดงซ่านแต่ดวงตายังหลับพริ้ม  สัมผัสของมือและปากร้อนปลุกเร้าจนตื่นเตลิด 
         “เท็ด…อื้อ…เท็ด…ผม…”  ปากร้อนประกบแนบแน่นอีกครั้ง  ประโยคที่จะ
พูดถูกกลืนหายไป  มือข้างที่ลูบไล้อยู่บนสะโพกกำลังเลื้อยมาที่ต้นขา  สาบเสื้อคลุมถูกแหวกออก มือร้อนสอดเข้าไปแตะที่เอวบาง  กายสะดุ้งความหวานหวามหายวับเหลือเพียงความตื่นตระหนก  เด็กหนุ่มพยายามจะเบี่ยงกายหนีแต่สายเกินไป  นิ้วยาวสัมผัสเข้ากับผิวปูดโปนขรุขระบริเวณเอวเล็กได้ถนัด  ชายหนุ่มชะงักถอนปากออกก้มลงจะดูรอยที่มือสัมผัส  แต่กายกลับผลักไสเขาออกห่าง
         “อย่า!ไม่นะ! อย่าดู…ฮึก…”  กายดันอกกว้างสุดแขน  แล้วสะอื้นจนตัวงอ   เท็ดเอื้อมมือไปหา  แต่เด็กหนุ่มเบี่ยงหนีมือกำสาบเสื้อคลุมไว้แน่น  ความกลัวท่วม-ท้นจนเขาสั่นไปหมดทั้งตัว 
         “ทำไมล่ะกาย?”
         “…ไม่เอา…มัน…น่าเกลียด…”
         “กาย…พี่รักกายนะ…รักทุกอย่างของกาย”
          “ไม่…ถ้า…เห็นมัน…เท็ด…เท็ดจะรังเกียจ…ผมทนไม่ได้…” เท็ดพยายามเอื้อมมือไปหา แต่กายถอยหนีและปัดมือเขาออกห่าง  น้ำตาไหลพรากอย่างทรมานใจ 
         “พี่รักกาย…พี่ไม่เคยรังเกียจ…พี่อยากเห็นให้พี่ดูนะกาย…”
         “ไม่!…ไม่เอา…อย่าดู”  กายผงะเมื่อถอยไปชนกับเตียง  เด็กหนุ่มพยายามจะวิ่งหนีแต่เท็ดรวบตัวเขามากอดไว้แน่น 
         “ได้โปรด…ถ้ากายไม่ให้พี่ดู…กายก็ยังระแวงพี่อยู่ตลอด…กายไม่รู้ตัวเลยใช่ไหม…เวลาพี่กอด  กายจะสะดุ้ง  จะถอยหนีพี่ทุกครั้ง… พี่สงสัยมาตลอดว่าเพราะอะไร…เพิ่งแน่ใจวันนี้เองว่าเพราะแผลเป็นนั่น…กายให้พี่ดูเถอะ…แผลแค่นี้ไม่ทำให้พี่เปลี่ยนใจหรอก”
         “…แต่…”
         “หรือว่ากายไม่เชื่อว่าพี่รักกาย…ถ้าพี่เป็นแผลแบบนี้กายก็จะรังเกียจพี่  ไม่ยอมให้พี่เข้าใกล้หรือไง…ให้พี่ดูนะ…ได้โปรด…ที่รัก”
         กายกัดปากแน่นแต่ยอมคลายมือที่ยึดเสื้อออก  เท็ดค่อยๆเลื่อนสาบเสื้อคลุมออกช้าๆ  กายเบือนหน้าหนีเมื่อเสื้อคลุมเลื่อนหล่นลงที่พื้น  แต่ชายหนุ่มกลับดึงคางเล็กกลับมาเด็กหนุ่มจำต้องสบตาด้วย สายตาที่ทอดมองมาเต็มเปี่ยมด้วยความรักอ่อนโยน  เท็ดจุมพิตเบาๆที่แผลเป็นและน้ำตาบนแก้มนวลแล้วค่อยไล่ลงมาตามซอกคอ  ทรวงอก  รอยแผลที่สีข้างยาวลงมาที่เอว  บางส่วนของแผลมีขอบกางเกงชั้นในปิดไว้ชายหนุ่มจึงถอดออก    กายสะดุ้งแต่ไม่ขยับหนี  ร่างบางเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น  โดยเฉพาะด้านซ้าย  แผลที่ใหญ่ที่สุดอยู่บริเวณสะโพก  มีขนาดเกือบฝ่ามือ  บางส่วนมีรอยบุ๋มลึกลงไป  เท็ดคุกเข่าลงตรงหน้า  มือของเขาสั่น  ในอกอัดแน่นราวกับจะระเบิดออก  กระบอกตาร้อนจนแสบแต่ไม่มีน้ำตา ชายหนุ่มจุมพิตซ้ำๆบนรอยแผลอย่างแผ่วเบาแล้วแนบใบหน้าลงบนรอยกระสุนที่ต้นขาที่เพิ่งเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม
         “เจ็บมากไหม…ตรงนี้ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า…ตอนนั้น…คง…เจ็บมากสินะ?…” 
         “เท็ด…ฮือ…เท็ด….” เด็กหนุ่มสะอื้นก้มลงกอดศรีษะเขาไว้ ทุกครั้งที่ปากบางสัมผัส  รอยแผลจะร้อนและเจ็บราวกับจะปริแยกออกทั้งที่บาดแผลเหล่านี้หายมานานหลายปีแล้ว  ชายหนุ่มช้อนร่างบางไปวางลงบนเตียง  ปากร้อนจูบไล้ไปที่รอยแผลทุกที่  กายตัวสั่น...ร่างกายเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้งเมื่อสัมผัสปลอบประโลมเริ่มเปลี่ยนไป  ร่างบางผวาเมื่อฟันคมงับบนยอดอกเบาๆแล้วดูดเม้มหนักขึ้น 
         “อือ…” เด็กหนุ่มแอ่นหลังขึ้นโดยไม่รู้ตัว  ปากร้อนดูดเม้มลงมาหาหน้าท้องเนียนแน่นแล้วลากผ่านลงมายังซอกขาขาว  มือเล็กสอดเข้าไปในผมหยักหนา  เท็ดเลื่อนตัวขึ้นไปทาบทับร่างเพรียวอีกครั้ง  ชายหนุ่มลูบไล้หน้าเนียนด้วยข้อนิ้วเบาๆ  กายลืมตาขึ้น  ไฟปราถนาเริงแรงอยู่ในดวงตาของทั้งคู่ เด็กหนุ่มเหนี่ยวใบหน้าเท็ด ลงมาหาช้าๆ  ปากของทั้งคู่สัมผัสกันอย่างเร่าร้อน  ปลายลิ้นกอดเกี่ยวกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ ต่างดูดดื่มความหวานจากกันราวกับกลัวจะถูกใครยื้อแย่งไป เท็ดบดสะโพกของเขาลงบนสะโพกเล็ก  ยีนส์เนื้อบางไม่สามารถกั้นความร้อนของเขาได้  กายแอ่นสะโพกขึ้นเบียดรับ  มือลูบไล้บนหน้าท้องแน่นแข็งอย่างเผลอตัว  เท็ดหลุดเสียงครางแผ่ว  ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าออกอย่างร้อนรนจนกระดุมเสื้อหลายเม็ดขาด  ร่างสูงแน่นด้วยมัดกล้ามเบียดแนบชิดลงบนร่างเพรียว  ความเสียวซ่านแปลบปลาบแล่นผ่านผิวจนทั้งคู่เผลอครางออกมาเบาๆ   
         “กาย…กาย…พี่รอวันนี้มาตลอด…กาย”
ปากที่ผนึกเข้าหากันบดเบียดเร่งเร้า ต่างโลมลูบกันและกันไปทั่ว  เนื้อตัวเสียดสีก่อให้เกิดไอร้อนแผ่ขยาย จากหน้าท้องลุกลามไปทั้งตัว เท็ดดูดหนักๆบนยอดสีสด ขณะที่นิ้วยาวสอดเข้าไปในหลืบแคบตวัดไปมายังจุดอ่อนไหวภายใน 
         “อุ๊ก….อือ…ทะ…เท็ด…”  นิ้วที่สอดลึกขยับเป็นจังหวะจนสะโพกเล็กขยับตาม  กายหอบสะท้าน  มือบีบเกร็งที่ไหล่แข็งเมื่อจำนวนนิ้วเพิ่มเป็นสองและสาม
         “เท็ด….เท็ด…อ๊ะ…”   สะโพกเล็กเกร็งสะท้านเมื่อปากร้อนครอบครองเขาไว้รวดเดียวหมด  ลิ้นสากตวัดรัดและถูไถบนยอด  ขณะที่มืออีกข้างบีบรัดส่วนฐานเป็นจังหวะ  เท็ดเลื่อนริมฝีปากเข้าออก  สายตาก็เหลือบมองหน้านวลที่แดงสร้านด้วยแรงอารมณ์จากฝีมือการปลุกเร้าของเขา  กายผวาขึ้นมาทั้งตัวมือทั้งสองยึดไหล่แข็งไว้แน่น  ยิ่งได้เห็นปากร้อนดูดกลืนเขาลึกแรงเท่าไหร่  ก็ยิ่งเสียวซ่านมากขึ้นเท่านั้น  เด็กหนุ่มร้องเสียงหลงจิกปลายเท้ากับที่นอนแน่นขณะที่สะโพกก็ยกลอยขึ้น  เมื่อความร้อนในร่างกายถึงขีดสุด 
         “อ๊าาาา…ฮ้า…ฮ้า…แฮ่ก…เท็ด…”เด็กหนุ่มน้ำตาซึมขณะที่จ้องมองดูเท็ดกลืนกินหยาดอารมณ์ของตัวเองเขาไปจนหมดร่างบางผวาเมื่อนิ้วยาวถอดถอนออก  เท็ดลุกขึ้นนั่งและดึงร่างอ่อนระทวยมานั่งบนตัก  เด็กหนุ่มตวัดแขนคล้องรอบคอเขาและซุกหน้ากับอก  ลมหายใจหอบกระชั้นค่อยๆผ่อนลง  ชายหนุ่มลูบไล้หลังเนียนที่เปียกชุ่มด้วยเหงื่อ  ปากก็ดูดเม้มที่ใบหูและซอกคอ
          “ให้พี่รักกายนะ”  เด็กหนุ่มไม่ตอบแต่สะโพกเล็กที่บดวนบนแก่นกายของเท็ดเบาๆเป็นคำตอบรับได้ดีกว่า  ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบเจลจากหัวเตียงมาชะโลมลงบนนิ้ว  ค่อยๆสอดนิ้วกลางทั้งสองเข้าไปข้างใน ขณะที่มือก็บีบขย้ำก้นแน่นเป็นจังหวะ 
         “…เท็ด…อา…ไม่…ไม่ไหวแล้ว…” กายร้องครางอู้อี้อยู่กับอกไม่ยอมเงยหน้า  ชายหนุ่มเองก็หมดความอดทนเช่นกัน  เขาถอนนิ้วออก  ค่อยๆแทรกกายเข้าไปในซอกหลืบแคบช้าๆ  ช่องทางที่ร้างราจากการสัมผัสมานานทำให้ปรับตัวไม่ทัน 
เด็กหนุ่มรู้สึกราวกับจะฉีกขาด ปากอิ่มเม้มแน่นพิงศีรษะลงบนอกกว้างพยายามผ่อนคลายเพื่อรองรับชายหนุ่มไว้  สายตาจับจ้องดูร่างของเท็ดที่ผนึกเข้ามาช้าๆจนประสานกันได้สนิท 
         “ฮ้าาาา!….เท็ด…เท็ด”  กายหอบหายใจหลังจากกลั้นมานาน  ความคับแน่นร้อนผ่าวที่แทรกอยู่ภายในทำให้กายรู้สึกเหมือนเขากับเท็ดเป็นหนึ่งเดียว  เด็กหนุ่มน้ำตาไหลด้วยความเต็มตื้น
         “กาย…ที่รัก”   ชายหนุ่มก้มกระซิบแล้วจูบซับน้ำตาออกจากแก้มนวล  แต่สะโพกยังแช่นิ่งไว้รอให้กายคลายอาการเกร็งลง  ความร้อนระอุบีบรัดทำให้เท็ดต้องกัดกรามแน่น มือและปากเริ่มปลุกเร้าร่างบางอย่างนุ่มนวล กายหอบฮักเมื่อชาย-หนุ่มค่อยๆประคองสะโพกเล็กขยับยกขึ้นลงช้าๆเพื่อปรับให้คุ้นเคยก่อน แล้วจึงค่อยจังหวะให้เร็วขึ้นทีละนิด 
         “เท็ด…อื้อ…เท็ด…”
เด็กหนุ่มครางกระเส่าสัมผัสเสียดสีก่อให้เกิดความเสียวซ่านแล่นปลาบทั่วท้อง  เสียงหวานใสกระตุ้นอารมณ์ให้ร้อนยิ่งขึ้น    ชายหนุ่มกดแก่นกายนุ่มให้แน่บกับหน้าท้องของเขาปลายนิ้วขยี้บนส่วนยอดเบาๆเรียกครางจากปากอิ่มให้หวีดดังยิ่งขึ้น   เล็บสั้นจิกแผ่นหลังกว้างเป็นแนวยาว  สะโพกเล็กขยับรับจังหวะได้สอดคล้อง หน้านวลสะบัดไปมาอย่างทรมาน  ร่างในอ้อมแขนเอนไปด้านหลังทำให้ยอดอกสีแดงลอยเด่นชายหนุ่มก้มลงดูดยอดเม็ดเล็กหนักๆ  ช่องทางแคบบีบรัดเขาหนักหน่วง  ยิ่งเขากัดเม้มก็ยิ่งตอดรัดเป็นจังหวะ
         “กาย…อา…กาย”
  เท็ดกระซิบเรียกเด็กหนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า  ขยับสะโพกสวนขึ้นขณะที่กดสะโพกเล็กลงมาหา  เสียงหอบหายใจกับเสียงครางของทั้งสองกระชั้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ  ร่างกายขยับรับกันรัวเร็ว  ความต้องการเร่งเร้าให้ต่างตะเกียกตะกายขึ้นไปให้ถึงจุดสูงสุด  ความร้อนจากกายทั้งคู่เร่งให้เหงื่อหยาดอาบร่างจนเปียกชุ่ม 
         “เท็ด…อ๊าา…ไม่…ไม่ไหวแล้ว…ช่วยผมด้วย…อ๊าาาา” กายหวีดร้องสุดเสียง  ร่างกายบีบรัดเท็ดอย่างรุนแรงก่อนจะแอ่นเกร็งแล้วปลดปล่อยความร้อนออกมาเปรอะเปื้อนหน้าท้องของเท็ดและตัวเอง   เท็ดหอบฮักเพราะฝืนเอาไว้ไม่ยอมให้ตนเองถึงขีดสุด  เขาต้องการยืดเวลาแห่งความสุขนี้ให้ยาวออกไป  ชายหนุ่มค่อยๆผ่อนความเร็วลงแล้วประคองร่างอ่อนปวกเปียกลงบนเตียง  เท็ดหยิบเสื้อเชิ้ตของเขาที่ถอดทิ้งไว้มาซับเหงื่อและคราบเปรอะเปื้อนออกจากร่างบาง  ขณะที่สะโพกก็ยังคงเบียดเข้าหาเป็นจังหวะช้าๆ  กายพยายามลืมตาหนักอึ้งขึ้นมอง  แม้ร่างกายจะอ่อนเปลี้ยแทบไม่มีแรงขยับ  แต่สัมผัสเสียดสีเนิบช้ายังก่อให้เกิดความเสียววูบวาบเป็นจังหวะ ใบหน้าคมหม่นมัวด้วยความปราถนา ตาคมจับจ้องราวกับจะกลืนเขาไว้ในอกเด็กหนุ่มยิ้มหวานลิ้นเล็กไล้เลียบนปากแห้งของตัวเองอย่างยั่วยวน  ได้ยินเสียงเท็ดครางเบาๆ  ก่อนที่ปากร้อนจะแนบประกบลงมา   
         กายหอบฮักกว่าเท็ดจะยอมถอนปากออก  ชายหนุ่มก้มลงดูดที่ยอดอกสีสดแรงๆ  เรียกเสียงครางกระเส่าพร้อมทั้งแรงบีบรัดจากเบื้องล่าง  เท็ดฝืนตัวเองไว้ไม่ไหว  ชายหนุ่มช้อนขาเรียวขึ้นพาดไหล่  ขณะที่สะโพกก็โหมกระหน่ำเข้าหาสะโพกเล็กแรงขึ้น  กายสะเทือนไปทั้งตัว  มือจิกเกร็งบนสะโพกแข็งรับรู้ถึงกล้ามเนื้อตึงแน่นที่กำลังขยับลึกเข้ามาในกายได้ทุกจังหวะ  เสียงครางปนเสียงปะทะของเรือน-ร่างดังประสานกันระรัว 
         “…เท็ด…อ๊าาา…”
         “กาย…กาย….”
         ร่างสูงจะเกร็งกระตุก  หยาดรักร้อนๆฉีดพล่านเข้าในหลืบแคบ  สะโพกหนากระแทกเข้าหาอีกสองสามครั้งเพื่อปลดปล่อยทุกหยาดหยดในร่าง  กายหวีดร้องสุดเสียงเมื่อถึงจุดสูงสุดอีกครั้ง  เท็ดพลิกร่างบางขึ้นข้างบนโดยที่ยังคงอยู่ในตัวของเด็กหนุ่ม  ลมหายใจของทั้งคู่หอบกระชั้นแล้วค่อยๆผ่อนลงในที่สุด 
         เท็ดประคองแก้มเนียนขึ้นมาจูบเบาๆ  แต่กายไม่รับรู้แล้วเพราะหลับไหลไปด้วยความอ่อนเพลีย  ชายหนุ่มค่อยๆวางกายลงบนเตียง  แม้จะไม่รู้ตัวหากแต่เมื่อเขาถอนกายออก  เด็กหนุ่มก็ยังครางฮือ  หยาดรักเปรอะเปื้อนลงบนที่นอนมีเลือดปนมาเล็กน้อย  ชายหนุ่มรีบไปหยิบผ้าขนหนูกับน้ำอุ่นมาเช็ดทำความสะอาดให้แต่ไม่เห็นบาดแผลภายนอก ทั่วร่างบางมีรอยจ่ำสีแดงเล็กๆ กระจายอยู่เต็มไปหมด  เท็ดรู้สึกอยากเขกหัวตัวเอง ทั้งที่เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะค่อยๆทะนุถนอม  แต่ก็เผลอฝากร่องรอยไว้จนได้    มือเล็กๆเลื่อนออกมาควานไปรอบๆ  ชายหนุ่มคว้ามาจูบเบาๆได้ยินเสียงถอนใจแล้วก็เห็นรอยยิ้มนิดๆที่มุมปาก  กายกำลังทำให้เขานึกถึงยามที่กายเป็นทารก  เขาชอบรอยยิ้มในยามหลับแบบนี้ที่สุด  แม่เคยบอกกับเขาว่ามันเป็นธรรมชาติของเด็กทารกไม่ใช่ว่าน้องตั้งใจจะยิ้ม  แต่ตอนนี้เขาแน่ใจว่าน้องยิ้มเพราะน้องมีความสุข  ชายหนุ่มดึงมือเล็กมาแนบแก้มสลับกับจูบเบาๆบนหลังมือ  ก่อนจะตัดใจห่มผ้าให้แล้วกลับไปอาบน้ำเพื่อชำระคราบไคลและอาศัยความเย็นช่วยบรรเทาความรุ่มร้อนที่เริ่มจะก่อตัวขึ้นใหม่
         ชายหนุ่มกลับมาเบียดแทรกเข้าไปในผ้าห่ม  ตั้งใจจะหลับไปพร้อมกัน   แต่ความสุขที่เพิ่งผ่านพ้นกลับทำให้เขาตื่นตัวเกินกว่าจะหลับลง  เท็ดท้าวแขนคล่อมร่างบางไว้  จุมพิตตั้งแต่ผมนิ่ม หน้าผาก ระเรื่อยลงมาจนจรดหลังเท้าอูมสะอาด  รอยแผลเป็นขนาดใหญ่บนร่างขาวเนียนทำให้เขารู้สึกขมในปาก  ในวันที่เกิดอุบัติเหตุเขาไม่อาจรู้ได้ว่ากายเจ็บปวดขนาดไหน  แต่ร่องรอยที่เห็นก็มากพอที่จะคร่าชีวิตกายได้แล้ว  เท็ดกระพริบตาเมื่อเห็นหยดน้ำบนอกของกาย  เขาเพิ่งรู้สึกตัวว่ากำลัง…..ร้องไห้…  “กาย…พี่ขอโทษ”

          สัมผัสอบอุ่นที่เคยเบียดชิดหายไป  กายถอนใจยาวเมื่อควานหาไม่เจอ  เด็กหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างยากเย็น ร่างกายปวดระบมไปหมดทั้งตัว   เมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าในห้องค่อนข้างสลัวม่านยังถูกปิดไว้ทุกด้าน  กายตั้งใจจะลุกขึ้นแต่พอขยับก็ต้องสะดุ้งเพราะเจ็บแปลบ ‘อะไร?…ทำไม?…เมื่อคืน…’ เด็กหนุ่มหน้าแดงซ่านเมื่อนึกเรื่องเมื่อเช้าออก  เพิ่งเข้าใจว่าเหตุใดร่างกายถึงปวดระบมไปหมด กายเหลียวมองหาคนที่ทำให้เขาเจ็บไปทั้งตัวแต่ก็ไม่เห็น เด็กหนุ่มจึงพยายามลุกขึ้นเพื่อเข้าห้องน้ำ
         “อูย…” จู่ๆประตูก็เปิดเข้ามา ร่างสูงเดินลิ่วเข้ามาวางถาดลงบนโต๊ะข้างเตียง  แล้วช้อนตัวเขาขึ้นอุ้มอย่างนุ่มนวล  กายหน้าร้อนผ่าวไม่กล้าสบตาได้แต่ปล่อยให้เท็ดพาเข้าไปในห้องน้ำ  ชายหนุ่มนั่งลงบนขอบอ่างเปิดน้ำร้อนเพิ่มให้เต็มอ่าง เด็ก-หนุ่มก้มหน้างุดพยายามปิดเนื้อตัวให้พ้นสายตาคมให้มากที่สุด  เท็ดทดสอบความร้อนของน้ำก่อนจะค่อยๆหย่อนร่างในอ้อมแขนลงไป  น้ำที่ค่อนข้างร้อนทำให้กายสะดุ้งแต่ก็พยายามปรับตัวเพราะรู้ดีว่าความร้อนจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย  ชายหนุ่มอาบน้ำให้ราวกับกายเป็นเด็กเล็กๆ  ซึ่งเด็กหนุ่มก็ไม่ได้ขัดขืน  จนกระทั่งเท็ดพากลับมาเช็ดตัวและสวมเสื้อคลุมให้กายก็ยังไม่กล้าเงยขึ้นสบตา
         “โกรธที่พี่ทำให้กายเจ็บหรือว่าอาย…” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วๆข้างหูทำให้ขนลุกซู่  กายหน้าแดงมากกว่าเดิมพยายามเบี่ยงตัวหนีแต่เท็ดก็ช้อนหน้านวลขึ้นมามองจนได้  เด็กหนุ่มรีบหลับตาเพราะทนประกายวิบวับในตาคมไม่ไหวได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วๆก่อนที่ปากร้อนจะทาบลงมาจูบดูดดื่ม 
         “ทานซุบสักนิดนะ…หรือว่าอยากกินอะไร?”
         “ซุบนี่แหละครับ…อร่อยที่สุด  ผมชอบ”
         “กายยังไม่ตอบพี่เลยว่าโกรธ…” ชายหนุ่มยังไม่ทันถามจบมือเล็กก็เลื่อนมาปิดปากเขาแน่น  กายหน้าแดงปากสั่น  ท่าทางเขินอายนั้นทำให้ชายหนุ่มนึกสนุกอยากแกล้งขึ้นมา  ลิ้นร้อนแลบออกมาเลียที่อุ้งมือนิ่ม  กายสะดุ้งชักมือหนีทันควัน
         “ที่แท้ก็เขิน กาย…พี่รักกายนะ รักมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนมีแต่ยิ่งรักมากขึ้น”ชายหนุ่มก้มกระซิบที่ริมหูแถมยังเป่าลมร้อนๆเข้าไปเล่นเอาเด็กหนุ่มขนลุก
         “ผมก็รักพี่”  กายตอบเสียงเบาหน้าแดงซ่าน  ตาโตหวานระยับด้วยความสุข  เท็ดช้อนร่างบางขึ้นมานั่งซ้อนบนตักแล้วป้อนซุบไปบ้างบางครั้งก็ป้อนจูบให้แทน  กว่าซุบถ้วยนั้นจะหมดกายก็ปากแดงช้ำ  เนื้อตัวร้อนผ่าว  ชายหนุ่มจึงป้อนอาหารพิเศษด้วยมือและปากจนกายหวีดระงม  ยังดีที่เท็ดเห็นว่ากายยังบอบช้ำอยู่มากจึงไม่รุกรานไปมากกว่านั้น  ไม่อย่างนั้นกายอาจจะต้องกลับไปรักษาตัวใหม่เพราะไข้ขึ้นก็เป็นได้
...........

 :jul1:

แล้วพบกันคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วคะ 18/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-11-2009 21:48:49
 :m25: :m25: :m25:

 :z1: :z1: :z1:

 :jul1: :jul1: :jul1:

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วคะ 18/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: hene2526 ที่ 19-11-2009 00:50:39
คุ้มสุดๆเลย
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วคะ 18/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 19-11-2009 06:12:12
เลือดท่วมเลย
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วคะ 18/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 19-11-2009 07:41:00
 :3123:oh..น่ารักมากคู่นี้ แต่จีนส์ล่ะจะลงเอยยังไง
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วคะ 18/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 19-11-2009 13:23:57
กายเข้าใจเท็ด มั่นใจเท็ดแล้วสินะ
เหลือแต่จีนส์ผู้น่าสงสาร
แล้วหนุ่มคนนั้นคือใครกันเนี่ย
บวก 1 แต้ัม รออ่านต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วคะ 18/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 19-11-2009 20:31:50
รีดเลือด วู้ฮู้วววว  :m25:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วคะ 18/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 19-11-2009 21:07:50
กายดูไม่เร่าร้อนเหมือนเดิม แต่กลับดูใสและน่ารักแบบเด็กๆ มากขึ้น

ผิดกับเท็ดที่ดูเชี่ยวมากขึ้นเยอะเลย  :z1:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วคะ 18/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-11-2009 21:56:28
ดันจ้า รอตอนใหม่  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วคะ 18/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 21-11-2009 16:40:43
 o13  สุดยอดมากกกกกกกกกกก


อ่านรวดเดียวเลย


+1  จัดไปค่ะ


หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" มาแล้วคะ 18/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 21-11-2009 23:17:25
แอบๆ ย่องมาดู  :m22:  :m22:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 22-11-2009 11:33:32
ขอบคุณทุกคอมเมนท์นะคะ อ่านต่อกันเลยคะ
.....
เสียงเครื่องบินทำให้เท้าที่กำลังก้าวออกจากห้องน้ำชะงักเล็กน้อย
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นวิ่งไปที่หน้าต่างเมื่อมองไม่เห็นคนที่ควรจะนอนอยู่บนเตียง  กายตัวสั่นตาจับจ้องเครื่องบินเล็กที่ลับหายไปอย่างเสียใจ  เท็ดไม่บอกสักคำว่าจะออกไปไหน  แม้จะพยายามเข้าใจว่าอาจจะมีเรื่องเร่งด่วนแต่การที่เท็ดไปโดยไม่บอก  ก็ทำอดน้อยใจไม่ได้  กายแต่งตัวโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสื้อที่หยิบมาใส่สีอะไร  เด็กหนุ่มเดินใจลอยออกไปยังโต๊ะอาหาร  ตั้งใจจะสั่งให้เก็บโต๊ะเพราะไม่อยากกินอะไรเลย  แต่พอเดินผ่านห้องนอนของเท็ดก็เหลือบเห็นร่างสูงนั่งทำงานอยู่ในห้อง
         “อ้าว! ผมเห็นเครื่องบินออกไปก็คิดว่าเท็ดไปบริษัทเสียอีก”  กายอุทานอย่างแปลกใจ  ก้าวเข้าไปในห้อง 
         “นี่คงกำลังน้อยใจว่าพี่ไปไหนโดยไม่บอกละสิ”  เท็ดอมยิ้มเมื่อเห็นแก้มนวลแดงซ่านเมื่อถูกจี้ใจดำ
         “เปล่าครับไม่ใช่อย่างนั้น…ความจริง…ก็…เสียใจนิดหน่อย”
         “นิดหน่อยแล้วทำไมตาแดงๆอย่างนี้ล่ะ…มานี่เลย…”  เท็ดคว้าเอวบางชูขึ้นหมุนไปรอบๆราวกับกายเป็นเด็กเล็กๆ
         “เท็ด!….ไม่เอา…อย่านะ….นี่ผมเวียนหัวแล้ว…เท็ดดดด…อื้อ!…”  เสียงโวยวายเงี่ยบกริบเมื่อปากร้อนประกบปิดเนิ่นนานกว่าจะยอมถอนออก
         เด็กหนุ่มหอบฮัก  แก้มแดงปลั่งทั้งเขินทั้งเหนื่อย  ปากอิ่มแดงจนช้ำเพราะรสจูบเนิ่นนานเมื่อครู่  แขนทั้งสองข้างยังคล้องอยู่บนบ่ากว้าง  เท็ดหัวเราะกอดรัดร่างน้อยแน่นขึ้นอีกจนกายต้องดิ้นหนีแรงๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นชายหนุ่มจึงผละไปรับแต่สายตายังคอยมองมาที่กายแบบคาดโทษนิดๆ  กายอมยิ้มแกล้งทำหน้าเชิญชวนแต่ถอยไปอยู่หน้าประตูเพื่อจะได้หนีทัน
         “ว่าไงคุณแฮมิลตัน…แน่นอนสบายดี  สบายมากๆที่นี่อากาศดีจริงๆ  ทรายขาว  ทะเลสวย  แล้วก็อยู่กับคนที่รัก…..หึๆๆเอาน่าแค่นี้ทำเป็นโมโหไปได้  ว่าแต่มีเรื่องอะไรถึงลุกขึ้นมาโทรหาฉันแต่เช้าแบบนี้…ไม่นี่  ทำไม….ใช่ให้แจ็คไปส่งเมื่อครู่นี้…อ้าว!แล้วจะทำไงล่ะ…ตกลง…ขอบใจมากที่จัดการให้…เดี๋ยวนะ  กาย…ราเชลเขาอยากคุยด้วยน่ะ”  เท็ดส่งโทรศัพท์ให้  แต่คว้าเอวบางเข้าไปกอด  จูบไซ้ไปตามซอกคอและแก้มนุ่ม
         “ขอบคุณครับอื้อ…เท็ด…อย่านะผมจะรับโทรศัพท์”  กายรีบปิดกระบอกโทรศัพท์ไว้  พยายามจะถอยออกห่างแต่เท็ดกลับแกล้งกอดแน่นขึ้น 
         “ก็รับไปสิ…ไม่เกี่ยวกับพี่สักหน่อย…” ชายหนุ่มกระซิบเบาๆข้างหู
         “เท็ดดด…อย่า…เท็ดจ๋า…คนดี๊คนดี…ปล่อยผมก่อนนะ…นะ…”
         “ตกลงเดี๋ยวค่อยเอาคืน…”  เท็ดหัวเราะหึๆใส่หูแล้วยอมถอยออกไป
         “ขอบคุณครับ…สวัสดีครับราเชล….สบายดีแล้วครับ  แผลก็หายแล้วแต่ยังมีเจ็บๆบ้างนิดหน่อย  ราเชลละครับสบายดีหรือเปล่า….ครับ…ครับ….ขอบคุณมากครับ”  กายโทรศัพท์ไปก็เหลือบมองคนตัวโตที่แกล้งเดินข่มขวัญอยู่ข้างๆไปด้วย
         “เสร็จแล้วใช่ไหม…งั้นมานี่”  เท็ดตวัดรัดเอวบางเข้าไปกอดและระดมจูบเป็นการใหญ่
         “อย่า…คิก…ไม่เอา…เท็ด….พอแล้ว…ผมหิวแล้ว…”  กายร้องเสียงหลงเมื่อ
รู้สึกว่ามือร้อนรุกรานเข้าไปในเสื้อ
         “พอดีเลยพี่ก็หิวเหมือนกัน…”
         “บ้า…ไม่ใช่หิวแบบนั้น…เท็ดจ๋าผมไส้จะขาดแล้ว…นะ…น้าาา…ไปทานอาหารเช้ากันก่อน”  กายดันอกกว้างออกห่างสีหน้าอ้อนวอนสุดชีวิต
         “เฮ้อ…ก็อ้อนอย่างนี้แล้วใครจะไปใจแข็งได้ลงคอ…ก็ได้แต่ต้องมัดจำก่อน…เร็ว…”  ชายหนุ่มแตะที่แก้มตัวเองเบาๆ  กายมองอย่างเขินๆแต่ก็ยอมชะเง้อขึ้นแตะปากกับแก้มสากเบาๆ  แต่เท็ดกลับหันริมฝีปากมารับแทน
         ”อื้อ……..”
         “เท็ด…อะ…อย่า…เท็ด…อือ…เท็ด”กายครางกระเส่าเมื่อมือร้อนซุกซนไปทั่ว  นิ้วยาวคลึงเคล้าที่ทรวงอกก่อนจะลูบผ่านลงมายังหน้าท้องแบนราบ  กายพยายามดิ้นหนีแต่ลิ้นร้อนในปากก็เบนความสนใจไปจนได้  กระดุมเสื้อและกางเกงยีนส์หลุดออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  แต่กว่ากายจะรู้ตัวก็เมื่อยอดอกถูกดูดเม้มด้วยฟันคมๆจนเสียวซ่าน  เด็กหนุ่มครางฮือเผลอแอ่นอกขึ้นโดยอัตโนมัติ  มือกำผมหยักหนาแน่นขึ้นเมื่อปลายนิ้วยาวกำลังรุกรานเบื้องล่างอย่างหนักหน่วงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง  กายเอนราบไปบนโต๊ะทำงานที่เอกสารต่างๆถูกเจ้าของโต๊ะกวาดทิ้งไปอย่างไม่ใยดี  ปากร้อนเลื่อนกลับขึ้นมาแลกจูบ  แต่มือยังคงปลุกเร้าไม่ยอมหยุด  กายหอบหายใจความร้อนในร่างกายสูงขึ้นจนควบคุมไว้ไม่ไหว  ความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วร่าง  จู่ๆเท็ดก็ถอนจูบลุกขึ้นติดกระดุมเสื้อและจัดกางเกงให้จนเรียบร้อย  เด็กหนุ่มหอบฮักจ้องมองการกระทำนั้นอย่างงุนงง 
         “เอาละไปทานอาหารเช้ากันดีกว่า…กายหิวแล้วนี่”
         “เท็ด…บ้า…ใจร้าย…แกล้งกันชัดๆ…”  กายบ่นอุบอิบ  รีบผุดลุกขึ้นนั่งแต่เมื่อกางเกงสัมผัสจึงรู้สึกเสียววาบจนต้องงอตัวลง
         “อะไรกัน…กายบอกพี่เองนะว่าหิว…ไปน่าป่านนี้เขาตั้งโต๊ะคอยแล้ว”  เท็ดทำหน้าตาเฉยหมุนตัวจะออกจากห้อง
         “เท็ด…แล้ว…ล่ะ…?”กายรีบยึดแขนเสื้อเท็ดไว้  หน้านวลแดงกล่ำท่าทางอึดอัดขัดเขิน  เท็ดทำหน้าซื่อหันมาลากข้อมือเด็กหนุ่มให้เดินตามไป
         “เอ้า!…รีบไปกันเถอะ  เดี๋ยวกายหิวจนเป็นลมพี่จะแย่”
         “เท็ดน่ะ! ไปคนเดียวเลย”  กายทุบบนแผ่นหลังกว้างแรงๆ ก่อนจะสะบัดมือวิ่งหนี
         “อ้าวๆ!…จะไปไหน…มานี่”  เท็ดคว้าเอวบางไว้ทันควันเพราะเตรียมพร้อมอยู่แล้ว  เด็กหนุ่มดิ้นฮึดฮัด  หน้าแดงกล่ำอย่างโกรธปนอาย  อ้อมแขนแข็งแรงโอบรัดร่างเพรียวแนบอก  ชายหนุ่มช้อนหน้านวลขึ้นมามองอย่างขันๆ 
         “จะไปไหน…หืม!…บอกมาซะดีๆ”
         “เรื่องของผม”กายสะบัดหน้าหนีอย่างแสนงอน  แต่ความจริงทนสบตาวิบวับนั้นไม่ไหวมากกว่า
         “พี่ไม่ให้ไป” เท็ดก้มลงกัดเบาๆที่ติ่งหู  กายขนลุกรีบดันหน้าชายหนุ่มออกห่าง
         “เท็ด!”   
         “ครับผม…หึๆๆจะไปห้องน้ำเหรอ…ใช่ไหม?”  ตาคมพราวระยับอย่างรู้ทัน  กายก้มหน้างุดเพื่อซ่อนหน้าร้อนผ่าวพยายามดิ้นหนี
         “บ้า…เท็ด…ปล่อยผมสิ”
         “งั้นพี่พาไปดีกว่า…แต่อย่าไปห้องน้ำเลยเนอะ”  ชายหนุ่มช้อนร่างเพรียวขึ้นมากอด  กายซุกหน้าแดงก่ำกับอกตอบรับเสียงเบาอย่างเขินอาย
         “…ก็…แล้วแต่พี่สิ”
         “อาหารเช้าเลื่อนไปก่อนสินะ”
         “…อื้อ…”
         “แล้วห้องกายหรือห้องพี่ดี?”  เท็ดยังคงแกล้งยั่วต่อ
         “เท็ด!…ปล่อยนะ!…ไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ…ปล่อยผมสิ!”
         “โอ๋ๆๆ…แค่นี้ก็น้อยใจแล้ว…พี่ล้อเล่นน่า…ห้องนี้ดีกว่านะ…”  หางเสียงเปลี่ยนเป็นกระซิบแผ่วๆข้างหูนิ่ม
         “….”  กายโอบรัดรอบคอแข็งแรงแน่นขึ้นปากร้อนเบียดประกบลงมา  เท็ดพาร่างบางไปที่เตียงอย่างเร่งร้อน

         “แจ็คเหรอ…เป็นไงบ้าง? ขอบใจนายมาก…อืม! คืนนี้มากินมื้อค่ำที่นี่นะ”  ชายหนุ่มวางโทรศัพท์ลงกับแป้น  แต่เมื่อหันกลับมาก็เห็นร่างเกือบเปลือยบนเตียงขยับตัวอย่างง่วงงุน
         “ใครโทรมาครับ?”
         “ตื่นแล้วเหรอ…พี่ให้เขาตั้งโต๊ะนะ…หิวไหม?”
         “หิวจนแสบท้องหมดแล้ว…โอย!นี่เที่ยงแล้วเหรอเนี่ย…”  กายอุทานอย่างตกใจเมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกาหัวเตียง
         “ก็ใครน้าที่ไม่ยอมลงไปกินมื้อเช้ากับพี่…แถมยังให้พี่กิน…อุ๊บ!…”  เท็ดแกล้งทำเป็นจุกอย่างล้อเลียนทั้งๆที่กายแค่ปาหมอนเข้าใส่  กายหน้าแดงยกหมอนอีกใบขึ้นขู่
         “อย่าพูดนะ…ก็เพราะใครล่ะ…แกล้งกันชัดๆเลย…อย่ามายิ้มนะ”
         “แน่ะยิ้มก็ไม่ได้…เผด็จการจริงๆ”
         “เผด็จการแล้วจะทำไม?”
         “ก็…ยิ่งรักเข้าไปใหญ่นะสิ”
         “บ๊อง!…ไม่คุยด้วยแล้ว…อะ…อูย”  กายพรวดพราดลุกขึ้นแต่กลับต้องงอตัวลงเพราะเจ็บแปลบ
         “เป็นไงบ้าง…เจ็บมากเลยเหรอ…พี่ให้เขาตั้งโต๊ะบนนี้ดีกว่านะหรือจะให้ยกมาในห้องดี”
         “ไม่เอานะ…ขายหน้าตายเลยถ้าคนเขารู้ว่า…ไม่เอาช่วยพาผมไปห้องน้ำก่อน”  กายค่อยๆย่องเข้าห้องน้ำโดยอาศัยเกาะแขนเท็ดเป็นหลัก
         “ขอโทษนะ…คืนนี้พี่จะระวังให้มากกว่านี้”  เท็ดทำเสียงขรึมๆแต่ตาวาววับอย่างเจ้าเลห์
         “มะ…ไม่มีคืนนี้เด็ดขาด!…เจ็บจะแย่ยังจะมาคืนนี้อีก…ไม่มีทาง”  กายหยุดเดินเงยขึ้นมองเท็ดตาโต  หน้าแดงจัด
         “เจ็บมากเลยเหรอ…ขอโทษนะที่พี่ไม่ระวังให้ดี”
         “ใช่เจ็บมากๆ…เพราะฉะนั้นไม่มีคืนนี้เด็ดขาด…ถ้าเป็นคืนพรุ่งนี้ก็ว่าไปอย่าง”  ประโยคหลังเบาจนแทบกระซิบแต่เท็ดกลับได้ยินชัดแจ๋ว  ชายหนุ่มหัวเราะก้องช้อนร่างที่กำลังกระย่องกระแย่งเข้าห้องน้ำมาอุ้มจนตัวลอย
          
         “เมื่อครู่นี้ใครโทรมาเหรอครับ”  กายถามประโยคที่ยังคาใจอีกครั้ง-
หลังจากมื้อเช้าตอนบ่ายโมงผ่านไป
         “แจ็คน่ะ” เท็ดตอบพร้อมกับส่งองุ่นพวงใหญ่ให้ 
         “อ้าว! ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วเหรอครับ?”  กายขยับตัวแบ่งที่ให้เท็ดนอนลงบนเก้าอี้นอนหน้าระเบียงด้วยกัน
         “ความจริงหมอขอดูอาการอีกสองวันแต่แจ็คเขาขอออกก่อน”  ชายหนุ่มตอบพร้อมกับอุ้มร่างบางขึ้นมานอนซ้อนบนอก
         “ทำไมละครับ?”
         “เขาอยากไปส่งจีนส์ด้วยตัวเอง”
         “ส่ง…ส่งไปไหนครับ?”กายอุทานพลิกตัวกลับมานอนคว่ำบนอกชายหนุ่ม  เท็ดเกลี่ยปอยผมออกไปเหน็บข้างหูให้
         “จีนส์เขากลับไปแล้วล่ะ…คงไปหาป้าแมรี่ที่สิงคโปร์”
         “พี่…ไล่เขาหรือครับ?”
         “ถ้าพี่ทำอย่างนั้นกายจะว่าไง” เท็ดจ้องเข้าไปในตาโต  กายสบตาแล้วตอบตามที่ใจคิด
         “ผมไม่คิดว่าพี่จะทำได้…ถ้าทำจริงๆผมคงไม่สบายใจ…มันโหดร้ายกับเขาเกินไป…พี่คงไม่ได้ทำใช่ไหม?”
         “เปล่าหรอก…วันที่เขามาหาพี่คุยกับจีนส์อย่างเปิดอก…ไม่อยากให้มีอะไรค้างคาอีก…แล้วเขาก็เลือกที่จะไป…ความจริงก็เหมือนไล่กันทางอ้อมนะว่าไหม…กายรู้สึกแย่หรือเปล่าที่พี่ทำอย่างนี้?”
         “หากเป็นความสมัครใจของเขาผมก็ไม่รู้สึกแย่อะไร…จะว่าไปผมก็…แอบดีใจด้วยซ้ำที่ผมจะไม่ต้องคอยระแวงเขาอีก”
         “ดีจัง…ที่กายหึง”
         “ก็…มันน่าหึงไหมละครับ?”  กายถามเสียงอุบอิบหลบตาคม
         “ไม่เอาน่าพี่รักกายคนเดียวนะ  ไม่เชื่อเหรอ…พี่พิสูจน์ให้ดูก็ได้”  หางเสียงกระซิบแผ่วๆอย่างเจ้าเล่ห์
         “อ๊ะ!..อย่าครับ  ห้ามพิสูจน์เด็ดขาด…ผมยังเจ็บอยู่เลย”
         “หึๆ พี่แค่จะหาพยานมายืนยันแค่นั้นเอง แล้ว…เกี่ยวอะไรกับที่กายเจ็บล่ะ?”
         “เท็ดอ่ะ!…ไม่คุยด้วยแล้ว” เท็ดหัวเราะเสียงดังเหนี่ยวร่างที่ดิ้นขลุกขลักเอาไว้ไม่ให้ลุกหนี 
         “มาพี่พากลับห้อง…หรือจะไปเดินเล่นกันดี?”
         “เดินเล่นอะไรครับหนาวขนาดนี้”
         “มีที่ที่อบอุ่นแล้วก็สวยมากๆ  อยากไปไหม?”
         “ไปสิครับอยู่แต่ในห้องมาตั้งนานแล้ว…ว่าแต่เท็ดไม่ทำงานเหรอครับ?”
         “ค่อยกลับมาทำ…พี่ก็เกเรเป็นเหมือนกันนะ”
         “ครับผม…เท็ดครับ”
         ”หืม”
         “ขอบคุณครับ”
         “ขอบคุณ?…เรื่องอะไร”
         “ขอบคุณที่พี่รักผม ขอบคุณที่พี่ทำให้ผมมีความสุข”กายโน้มใบหน้าคมคายลงมาจนแทบชิด ตาโตเป็นประกายระยับด้วยความสุข
         “ทำไมต้องขอบคุณ…เห็นกายมีความสุขพี่ยิ่งมีความสุขมากกว่ากายอีกนะ”
         “…พี่พูดอย่างนี้ผมก็แย่สิ…ผมยิ่งรักพี่เข้าไปใหญ่” 
         “ดีสิ…พี่จะพูดแบบนี้ทุกวันให้กายรักพี่จนถอนตัวไม่ขึ้นเลย”
         “แค่นี้ก็ถอนตัวไม่ได้แล้ว”
         “พี่จะพูดจนกว่ากายจะขาดพี่ไม่ได้เหมือนที่พี่ขาดกายแล้วเหมือนขาดอากาศหายใจไงล่ะ”
         “อี๋!….เลี่ยนแล้วครับ…สำนวนเชยมากๆ”
         “น่า…ออกมาจากใจนะ”
         “ไม่เอาแล้วครับผมอยากไปเที่ยวแล้ว” 
         “ก็ได้…จ่ายค่านำเที่ยวก่อนเร็วๆ” ชายหนุ่มจิ้มที่แก้มตัวเองเหมือนเคยแต่กายกลับส่ายหน้าพยายามจะดันตัวลุกขึ้นแต่เท็ดโอบไว้
         “ไม่เอาเดี๋ยวเลยไม่ได้เที่ยวกันพอดี”
         “ไม่น่าแค่จูบอย่างเดียวพี่สัญญา”
         “ก็ได้…อื้อ…พอแล้วครับ…ไหนว่าจูบเดียว”  กายรีบดันคางบุ๋มออกห่างเมื่อรู้สึกว่าจูบขอบคุณชักจะเลยเถิดไปไกล
         “ตกลง…ไว้กลับมาค่อยคิดต้นทบดอก”
         “คิก…ตกลงครับไปเร็ว”
         “ขอรับเจ้านาย”


            
         เท็ดเดินเช็ดผมเข้ามาในห้องนอน  กายแกล้งนั่งอ่านหนังสือเฉยราวกับกำลังเพลิดเพลิน  แต่หูคอยจับความเคลื่อนไหวของชายหนุ่มอยู่ตลอด   ที่นอนข้างๆยุบลงตามน้ำหนักตัวของชายหนุ่ม  ไฟกลางห้องถูกปิดลงเหลือแต่โคมไฟที่กายอ่านหนังสืออยู่เท่านั้น
         “พี่ชักง่วงแล้วสิ”
         “ก็นอนไปก่อนสิครับ…ผมอยากอ่านหนังสือก่อน”  กายยังนั่งพิงพนักเตียงเฉยแกล้งอ่านหนังสือต่ออย่างตั้งใจ  แม้จะแปลกใจที่เท็ดไม่ออดอ้อนต่อ  จู่ๆหนังสือก็ถูกดึงออก  อ้อมแขนร้อนผ่าวโอบรัดเข้ามาหาพร้อมกับปากร้อนที่บดเบียดเร่าร้อน  กายหลับตาปล่อยกายและใจให้เพริดไปกับสัมผัส  จู่ๆภาพซ้อนทับก็ปรากฏขึ้นมาเป็นเงามัวๆครั้นพอเด็กหนุ่มลืมตาก็หายไป  กายตัวแข็งเบิกตากว้าง  เท็ดชะงักเมื่อรู้สึกถึงความผิดปกตินั้น
         “มีอะไร…หรือว่าพี่ทำให้กายเจ็บ?”
         “เปล่าครับ”  เด็กหนุ่มรีบตอบพร้อมทั้งเป็นฝ่ายเบียดปากอิ่มเข้าหา  บทรักรุ่มร้อนเริ่มบรรเลงต่อ  ภาพซ้อนทับก็ค่อยปรากฏขึ้นอีก  ใบหน้าคมคายแต่อ่อนเยาว์แทรกเข้ามาแทน  ดวงตาที่จับจ้องมาดูลุ่มหลงและหม่นมัวด้วยความปรารถนา  สัมผัสรุ่มร้อนที่ซ้อนทับเข้ามาเป็นระรอกทำให้กายครางกระเส่า ไม่แน่ใจว่าตอนไหนจริงตอนไหนเป็นความทรงจำในอดีต  เด็กหนุ่มงอตัวลงเมื่อทนความเสียวซ่านจากการปลุกเร้าของปากร้อนไม่ไหว  มือเล็กจิกกำผมหยักหนาแน่นขณะที่สะโพกก็ขยับสวนขึ้นอย่างลืมตัว 
         “เท็ด….ฮ๊าาาา!”  เด็กหนุ่มกรีดร้องขณะที่ปลดปล่อยความร้อนในเข้าไปในปากของเท็ด  ชายหนุ่มกลืนกินไว้จนหมด  แต่เมื่อเท็ดเงยหน้าขึ้นภาพซ้อนทับก็กลับมาอีก  กายช้อนหน้าคมขึ้นมาจูบไม่สนใจอีกต่อไปว่าจะเป็นภาพอดีตหรือปัจจุบันเพราะไม่ว่าเมื่อไหร่นี่ก็คือเท็ด  คนที่เขารักสุดหัวใจเช่นเดิม  เด็กหนุ่มถูกพายุอารมณ์พัดโหมจนไหวสะเทือนไปทั้งตัว  ฉากรักในอดีตและปัจจุบันซ้อนทับเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ตราบจนสุดสายป่านของอารมณ์ร่างบางจึงเกร็งทั้งตัวแล้วปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง  ในขณะที่ความรุ่มร้อนก็ฉีดพล่านเข้ามาในกายเขาเช่นกัน  ความเสียวซ่านแล่นผ่านไปจนถึงปลายประสาททั่วตัว  ร่างกายอ่อนเปลี้ยไม่มีแม้แรงขยับนิ้ว  หัวใจเต้นระรัว  ลมหายใจยังหอบกระชั้น  เท็ดยังคงพลิกตัวเขาขึ้นมานอนบนอกและเหมือนทุกครั้งชายหนุ่มยังไม่ยอมถอนตัวออกไป  ความร้อนผ่าวยังแทรกอยู่ในกายของเขาเช่นเดิม  กายอมยิ้มไม่ว่ากี่ปีเท็ดก็ยังชอบทำแบบนี้  เด็กหนุ่มรู้สึกหึงนิดๆเมื่อสัมผัสได้ว่าบทรักของเท็ดเชี่ยวชาญและเร่าร้อนกว่าในอดีต  แต่นั่นแหละมันไม่ใช่ความผิดของเท็ดที่จะมีเซ็กส์กับคนอื่นเพราะทุกคนต่างคิดว่าเขาตายไปแล้ว  กายขมวดคิ้วเมื่อพยายามนึกถึงรายละเอียดเรื่องอื่นๆแต่นึกไม่ออก
         “พี่เท็ด…”  กายนอนหนุนแขนของเท็ด  มือเล็กลูบเล่นอยู่บนอกกว้าง  ศีรษะซุกซบอยู่กับซอกคอแข็งแรง
         “หืม”
         “ผมอยากกลับบ้าน”  มือใหญ่ลูบไล้ไปมาบนหลังชื้นเหงื่อชะงัก  เท็ดพลิกขึ้นท้าวแขนคล่อมร่างบางไว้ จ้องมองหน้านวลอย่างกังวล
         “มีอะไรหรือเปล่า…หรือว่ากายเบื่อที่นี่แล้ว?…เราไปที่อื่นก็ได้นะ”
         “ไม่มีวันที่ผมจะเบื่อที่นี่หรอกครับ…เพราะที่นี่เป็นจุดเริ่มชีวิตใหม่ของผมเลย” กายลูบบนรอยขมวดที่หัวคิ้วหนาให้คลายออก
         “แล้ว…ทำไม?”
         “ผมไม่อยากหนีความจริงอีกต่อไปแล้ว…ผมอยากกลับบ้าน…บางทีคราวนี้ผมอาจจะจำอะไรได้บ้าง”
         “ถ้าเป็นอย่างนั้นพ่อกับแม่คงดีใจมาก”
         “ตั้งแต่เรามาอยู่ที่นี่พี่โทรหาพ่อกับแม่ทุกคืนเลยใช่ไหมครับ?”
         “กายรู้เหรอ?”
         “ครับ…ผมเองก็คิดถึงพวกท่าน  แต่…ผมกลัวที่จะเผชิญหน้ากัน…ผมกลัว…กลัวจะทำให้ท่านเสียใจอีก”
         “พี่ดีใจที่กายกล้าเผชิญหน้ากับความจริง…ถ้ากายจำได้กายจะรู้ว่าพ่อกับแม่รักน้องมากแค่ไหน”
         “งั้นเรากลับกันพรุ่งนี้เลยนะครับ”
         “ตกลง”  เด็กหนุ่มยิ้มกว้างโน้มหน้าคมลงมาจุมพิตเบาๆ  ก่อนจะหลับไปด้วยกัน
...........
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 22-11-2009 11:37:28
         เชฟโรเลตแล่นปราดไปบนถนนค่อนข้างลื่นเนื่องจากหิมะที่กำลังตกหนัก  ยังดีที่ใส่โซ่ล้อเอาไว้แล้ว  แต่ทัศนะวิสัยยังค่อนข้างแย่เนื่องจากท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆฝนทำให้ต้องเปิดไฟหน้าให้รถที่สวนมาเห็น  เท็ดเหลือบมองคนข้างๆบ่อยๆด้วยความเป็นห่วง  แม้กายจะตื่นเต้นกับการได้กลับบ้านแต่อาการหวาดกลัวการนั่งรถแคบๆก็ยังมีให้เห็น
         “สภาพอากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่” เท็ดชวนคุยเพื่อเบี่ยงเบนความวิตกกังวล
         “แล้วจะทำยังไงดีครับ…หรือว่าต้องรอพรุ่งนี้”
         “ไม่เป็นไรน่า…พี่จะพากายกลับบ้านให้ได้วันนี้เลย” 
กายพยักหน้าขยับเข้าไปอิงแก้มกับไหล่หนา  เท็ดเหลือบมองอย่างเอ็นดู
         “หนาวไหม?”
         “ไม่หรอกครับแต่ตื่นเต้นจัง…เท็ดครับดูเหมือนหิมะจะตกหนักขึ้นนะครับ”  ชายหนุ่มเร่งที่ปัดน้ำฝนให้ทำงานเร็วขึ้น 
         “นั่นสิ…สงสัยคงต้องพักรถที่โรงแรมข้างหน้าก่อน  รอให้อากาศดีกว่านี้หน่อยแล้วค่อยไปต่อ”
         “เสียดายจังผมอยากเจอพ่อกับแม่เร็วๆคงต้อง…ระวัง!!!…เท็ด!!!”  กวางตัวใหญ่กระโจนเข้ามาในถนนแล้ววิ่งตัดหน้ารถไป  เท็ดหมุนพวงมาลัยหลบจนรถหมุนเกือบ 360 องศาแล้วจึงหยุดลง  ชายหนุ่มพ่นลมจากปากเบาๆอย่างโล่งอก               
         “เกือบไป…กายเป็นอะไรหรือเปล่า…กาย!!…กายเป็นอะไร…น้องเจ็บตรงไหนบอกพี่สิกายเจ็บตรงไหน?” เท็ดใจหายวาบเมื่อเห็นอาการของคนนั่งข้างๆ   กายตาเบิกกว้าง  มือเท้าเกร็งหน้าซีดจนขาว  ปากก็พร่ำพูดพึมพัมไม่ได้ใจความ
         “เท็ด…ช่วย…ด้วย…เท็ด…ฮือ…เท็ด….เท็ด…อย่าทิ้งผม…ช่วยด้วย”
         “กาย!…น้องเป็นอะไร…หัวกระแทกเหรอ…กายนี่พี่อยู่นี่…พี่อยู่กับน้องนะ…กาย!!”  เท็ดเขย่าร่างในอ้อมแขนแต่กายไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึก  ชายหนุ่มจึงตบที่แก้มเบาๆ  กายกระพริบตาแล้วมองหน้าเขาอยู่ครู่ใหญ่  แล้วน้ำตาก็ไหลพราก 
         “เท็ด…เราตายแล้วเหรอ…เราตายแล้วเหรอเท็ด?” 
         “ชู่วววว…กายพี่อยู่นี่…อย่ากลัวเราปลอดภัยแล้ว…”
         “เท็ด…ฮือ!…เท็ด”
         “อย่ากลัว…พี่อยู่กับน้องเห็นไหม…เราปลอดภัยกาย  เราปลอดภัย…”  ชายหนุ่มกอดร่างสั่นเทาแน่นและโยกตัวไปมาเบาๆเพื่อปลอบประโลม  อาการสั่นสะท้านค่อยๆลดลง เหลือเพียงเสียงสะอื้นแผ่วๆ
         “เป็นไงดีขึ้นไหม?…พี่จะพากายไปพักที่โรงแรมข้างหน้านะ…อีกไม่ไกลแล้ว” แสงไฟจากอาคารที่อยู่ไม่ห่างออกไปมากนักทำให้คลายความกังวลไปได้  กายกระพริบตาถี่ๆเหมือนจะรู้สึกตัวแล้วแต่ยังคงกอดเท็ดไว้แน่น  แต่เมื่อชายหนุ่มสตาร์ทรถ  กายก็หวีดร้องขึ้นมาและพยายามจะเปิดประตูออกไป
         “ไม่…ไม่เอา…อย่าขับรถ…ไม่เอา…ผมกลัวผมไม่นั่งรถแล้ว…ฮือ…ผมกลัว” 
         “กาย…กาย….ชู่ววว…ไม่ขับแล้ว…พี่ไม่ขับแล้ว…เห็นไหม….”  เท็ดรวบตัวกายกลับมากอดไว้แน่น  ชายหนุ่มรีบดับเครื่องแล้วดึงกุญแจมาใส่กระเป๋า
         “ตกลง…ไม่นั่งรถก็ได้…พี่จะพากายไปที่โรงแรมข้างหน้านั่นเห็นไหมอยู่ตรงนั้นเอง…มาเถอะไปหาที่พักกันนะ”  เท็ดรีบสวมเสื้อคลุมให้กายอีกชั้นแล้วจึงประคองกายให้ขึ้นขี่หลัง  เด็กหนุ่มกอดคอเขาแน่น  ตัวยังสั่นและเสียงหัวใจยังเต้นระรัว 
         “เท็ดผมกลัว…ฮือเท็ดอย่าทิ้งผมนะอย่าทิ้ง”
         “พี่ไม่ทิ้งกายหรอก…ไปที่โรงแรมกันก่อนนะ” 
         ชายหนุ่มแบกร่างบางฝ่าหิมะไปจนถึงโรงแรม  ตลอดทางเด็กหนุ่มร้องครางเบาๆและมีท่าทางกระสับกระส่าย  พนักงานรีบเข้ามาช่วยประคองกายลงแต่เท็ดปฏิเสธ เพียงแต่ขอให้ทางโรงแรมส่งพนักงานไปเอารถมาให้เท่านั้น  ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีเพราะไม่มีใครไม่รู้จักหนุ่มนักธุรกิจชื่อดังอย่างเท็ด พอลลิ่ง  ทันทีที่ร่างสูงลับตาไปในลิฟต์  เหล่าพนักงานต้อนรับสาวก็พากันจับกลุ่มเม้าท์ถึงอาการประคับประคองของเท็ดกับเด็กหนุ่มหน้าสวยที่พามาด้วย  แต่แล้วก็พากันถอนหายใจเฮือกอย่างโล่งอก  เมื่อพนักงานที่ขึ้นไปส่งชายหนุ่มบนห้องกลับลงมาพร้อมทั้งรายละเอียดที่ว่า  เด็กหนุ่มที่เท็ด  พอลลิ่งพามาพักเป็นน้องชาย
         
         เปลือกตากว้างขยับอยู่นานจึงลืมตาขึ้นมาช้าๆ  เท็ดลูบผมออกจากแก้มเนียนให้อย่างเบามือแต่ยังคงท้าวแขนคล่อมตัวกายไว้  กายยังตาลอยคว้างอยู่นานกว่าจะจำเขาได้  เด็กหนุ่มสะอื้นเบาๆแล้วกอดรอบคอเท็ดแน่น 
         “เป็นไงบ้าง…หายตกใจหรือยัง?”  เท็ดดึงมือนิ่มมาจูบเบาๆและแนบไว้ที่แก้ม  กายถอนสะอื้นแล้วขยับเข้าซุกกับอกกว้าง
         “ผมเหนื่อยจัง…ผมเหนื่อย…เท็ดอย่าไปไหนนะ…อย่าทิ้งผม” 
         “นอนเสียคนดี…เหนื่อยก็นอนหลับเสียนะ…พี่จะอยู่กับกายตลอดเวลาเลย” เท็ดก้มลงจุมพิตที่หน้าผากชื้นเหงื่อเนินนานราวกับจะถ่ายทอดความอบอุ่นให้  กายถอนหายใจยาวและผลอยหลับไปอีกครั้ง
         “เท็ด!!!!….”  กายหวีดร้องขึ้นสุดเสียง  อ้อมแขนที่กอดไว้หลวมๆจึงขยับแน่นขึ้น  เท็ดจูบซับน้ำตาให้และกระซิบปลอบโยนเบาๆ
         “กายฝันร้ายเท่านั้นเอง…พี่อยู่นี่แล้ว…เห็นไหม?”  กายจ้องมองชายหนุ่มอยู่นานจนแน่ใจว่าเท็ดยังอยู่ด้วย  ความหวาดกลัวจึงค่อยลดลง  เด็กหนุ่มกอดรัดเท็ดแน่นขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าเท็ดยังอยู่ด้วยจริงๆ
         “เท็ด…อย่าไปไหนนะ”
         “ไม่หรอกพี่ไม่ไปไหน…นอนต่อนะยังไม่สว่างเลย”  กายขดตัวเข้าไปในอ้อมแขนเท็ดอีกครั้งคราวนี้เด็กหนุ่มหลับสนิท ไม่แม้แต่จะฝัน
            
         แสงสว่างยามเช้าที่ส่องเข้ามาเนื่องจากม่านไม่ได้ปิดทำให้คนที่หลับสบายมาทั้งคืนตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น  สิ่งแรกที่เห็นคือดวงตาคมปลาบที่ทอดมองมาอย่างห่วงใย
         “กาย…เป็นไงบ้างลุกไหวไหม?”  กายส่งยิ้มหวานให้  แต่เมื่อสังเกตเห็นห้องที่พักก็มีท่าทางแปลกใจ 
         “ที่นี่…”
         “โรงแรมน่ะ…เมื่อวานกายช็อคแล็วก็กลัวมากเราเลยต้องมาพักที่นี่ไง…จำได้ไหม?”
         “ผมช็อค???…ทำไมละครับ”  กายลุกขึ้นมานั่งจ้องหน้าเท็ดอย่างงงๆ
         “เมื่อวานเรากำลังจะกลับบ้าน…ระหว่างทางมีกวางวิ่งตัดหน้ารถจนต้องเบรคกระทันหัน…รถก็เลยเสียหลักนิดหน่อย  แต่เราก็ปลอดภัยนะ”  กายลำดับเหตุการณ์ตามและก็จำได้ทั้งหมด  เด็กหนุ่มขยับเข้าไปกอดเอวเท็ดและซุกหน้ากับอกอุ่น
         “…ครับ…นึกออกแล้ว…แย่จังผมเลยทำให้พี่ลำบากอีกแล้ว…ขอโทษครับ” 
         “พี่ไม่ลำบากสักนิด กายต่างหากเป็นไงบ้าง…ดีขึ้นแล้วหรือยัง?” เท็ดประคองหน้านวลขึ้นจูบเบาๆ
         “ไม่เป็นอะไรแล้วครับ…เรากลับบ้านกันเถอะ”
         “แต่คงต้องรออีกหน่อยนะ”
         “ทำไมละครับ?”
         “พี่จะให้ทางโรงแรมเช่ารถตู้มาให้ก่อน”
         “แล้วรถเราละครับ?” 
         “ก็กายกลัวที่จะนั่งรถคันเล็กๆไม่ใช่เหรอ  พี่จะเช่ารถตู้ให้จะได้ไม่น่ากลัวไง”
         “ผมคิดว่าผมทนได้…ผมเชื่อใจพี่…เราเดินทางกันต่อเถอะครับ”
         “แน่ใจนะ”  เท็ดลูบผมนิ่มเบาๆ  กายยิ้มให้อย่างเชื่อมั่น
         “ครับ”
             
         เพราะหิมะที่ตกหนาทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างล่าช้า  แต่ในที่สุดเวลาแห่งการรอคอยสิ้นสุดลง  กายเบิกตากว้างขึ้นเมื่อรถเลี้ยวเข้าสู่ตัวตัวบ้าน  บ้านที่ยังคงเหมือนเมื่อ7ปีที่แล้ว  สภาพที่ได้รับการดูแลอย่างดีจนแทบจะไม่แตกต่างไปจากเดิม  นอกจากต้นไม้รอบบ้านที่โตขึ้น  กับโรงเรือนหลายหลังที่มองเห็นอยู่ไกลๆ ความทรงจำในสมองเหมือนจิ๊กซอว์ที่ถูกต่อจนเสร็จสมบูรณ์  ไม่มีเงามืดมัวในสมองอีกต่อไป  กายตัวสั่น  ความดีใจ เต็มตื้น  หลั่งไหลเข้ามาจนแทบหมดสติ
         “กาย…เป็นอะไรหรือเปล่า”  เท็ดจ้องมองท่าทางของกายอย่างกังวล  กายกระพริบตาถี่ๆ  สูดลมหายใจลึกยาวเพื่อตั้งสติ ก่อนจะหันมายิ้ม 
         “ไม่ครับ…ผมรู้สึกว่า…ผม…ได้กลับบ้าน” น้ำตาคลออยู่ในดวงตาคู่สวยค่อยๆไหลรินลงมา  มันเป็นน้ำตาแห่งความปิติ
         “กาย!…น้อง…”  เท็ดครางแผ่วอยู่ในลำคอ  ความยินดีแผ่ซ่านขึ้นมาจนตั้งตัวไม่ทัน  กายชะโงกเข้ามาจุมพิตที่แก้มสากแล้วลงไปจากรถ  ดาน่าวิ่งลิ่วออกมาจากบ้านด้วยความดีใจ
         “เท็ด!…กาย!…มากันแล้วเหรอลูก  เมื่อคืนแม่ห่วงแทบแย่…กาย!…”  ดาน่าอุทานอย่างแปลกใจเมื่อถูกสวมกอดแน่นหนา
         “แม่ครับ…ผมคิดถึงแม่…คิดถึงที่สุด!”  กายเสียงสั่น  ดาน่าเองก็พาลจะร้องไห้ไปด้วยทั้งๆที่ยังจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก
         “แม่ก็คิดถึงกาย…เข้าข้างในกันเถอะหิมะเริ่มตกอีกแล้ว” 
ดาน่าโอบเอวบางเข้าบ้านไปด้วยกัน  เท็ดก้าวตามเข้าไปเป็นคนสุดท้าย  แดนนี่ชะเง้อชะแง้มาจากรถเข็นท่าทางตื่นเต้น  กายเข้าไปคุกเข่าใกล้ๆรถเข็น 
         “พ่อครับ…เป็นไงบ้าง?”
         “ดีขึ้นลูก…กาย…ลูกสบายดีไหม?”  มือสั่นที่เอื้อมมาหาชะงักค้างไม่กล้าแตะเพราะเกรงว่าจะทำให้กายกลัวเหมือนครั้งก่อน  กายเจ็บปวดที่ต้องเห็นความทุกข์ของบิดาที่เกิดเพราะเขา  เด็กหนุ่มร้องไห้โฮโผเข้าไปกอดร่างผอมบนรถเข็นแน่น
         “ขอโทษครับพ่อ!…ขอโทษ!” แดนนี่หน้าซีด  ตกใจกับปฏิกิริยาของกาย
         “กาย!…ลูกร้องไห้ทำไม…?”
         “ขอโทษครับ…เพราะผมพ่อถึงต้องเป็นอย่างนี้…แล้วผมยังทำให้พ่อเสียใจซ้ำอีก…ผมขอโทษ”  กายเงยขึ้นยิ้มทั้งน้ำตา  สายตาที่มองแดนนี่เปี่ยมด้วยความรักและเสียใจต่อสิ่งที่ผ่านมา
         “กายนี่ลูก…?”
         “ผมจำได้หมดแล้วครับ!…ผมจำทุกอย่างได้หมดแล้ว”  กายตอบเสียงสั่น 
         “พระเจ้า!…กาย…โอ!…กายของพ่อ…พ่อคิดถึงลูก…พ่อขอโทษที่ทำให้ลูกทุกข์…ลูกรัก!” แดนนี่กอดรัดร่างโปร่งเข้าไปกอดแน่น   น้ำตาไหลพรากด้วยความดีใจ  ดาน่าร้องไห้โฮวิ่งเข้าไปกอดกายด้วยอีกคน  เท็ดยืนมองพ่อแม่และกายด้วยความเต็มตื้น  ไม่มีที่ว่างที่จะให้เขาแทรกเข้าไปในตอนนี้  ชายหนุ่มค่อยๆถอยออกห่างตั้งใจจะออกไปรอข้างนอก  แต่แดนนี่หันกลับมาเห็นเสียก่อน  จึงกวักมือเรียก  ดาน่าหันกลับมายิ้มกว้างและกางแขนอีกข้างออก  เท็ดก้าวเข้าไปหา  กายกอดพ่อและแม่ไว้คนละข้างเช่นเดียวกับเท็ด  ทั้งสี่ต่างหัวเราะให้กันทั้งน้ำตา 
         
         กายเงยขึ้นยิ้มเมื่อเท็ดก้าวออกมาจากห้องน้ำ  คืนนี้กายแอบย่องมานอนกับเท็ดแทนที่จะนอนที่ห้องเดิม
         “กายจำได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”  เท็ดใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมที่ยังชื้นให้กายเบาๆ  เด็กหนุ่มหันกลับมาสวมกอดและซุกหน้ากับอกกว้าง 
         “ผมเริ่มจำได้บ้างตั้งแต่ตอนที่อยู่โรงพยาบาลที่เกาะ…แต่ผมไม่แน่ใจเพราะมันเลือนๆไม่ชัดนัก…จำได้แค่บางเรื่อง…ขอโทษนะครับที่ไม่ได้บอกให้พี่รู้ตั้งแต่แรก”  กายเงยขึ้นยิ้มประจบ  เท็ดบีบปลายจมูกแหลมเบาๆอย่างหยอกเย้า
         “ไม่เป็นไร  พี่ดีใจมากนะที่กายจำทุกอย่างได้”
         “ที่จำได้ส่วนใหญ่คงเพราะอุบัติเหตุเมื่อวาน  พอมาเห็นบ้านเราผมถึงจำทุกอย่างได้หมด”
         “ตอนนั้นกายกลัวมาก”เท็ดกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา
         “ครับ…ผมเห็นตอนที่ผมตกเหวซ้อนเข้ามา…รู้สึกเหมือนตัวเองย้อนกลับไปตอนเกิดอุบัติเหตุ…คิดว่าตัวเองกำลังจะตายและพี่กำลังจะทิ้งผมไป…รู้สึกแม้กระทั่งความเจ็บปวดในตอนนั้น…ทั้งหนาวทั้งกลัว…มันมืด..มืดมากเลย…แต่พอผมรู้สึกตัวอีกครั้งกลับมีพี่อยู่ข้างๆ…ผมถึงได้รู้ว่าผมแค่เห็นอดีตเท่านั้น…เท็ด!!พี่ร้องไห้ทำไม…เท็ดผมขอโทษ…ผมจะไม่พูดเรื่องนี้อีก…อย่าร้องไห้เลยครับ”
         “พี่ขอโทษ…ถ้าวันนั้นพี่ไม่คิดถึงแต่ตัวเองเรื่องทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้…พี่ขอโทษ” เท็ดกระซิบเสียงพร่า  อ้อมแขนโอบรัดกายแน่นหนา  ความรู้สึกผิดและเสียใจพลุ่งพล่านจนข่มไว้ไม่ได้  กายเช็ดน้ำตาให้อย่างนุ่มนวลแต่กลับเป็นฝ่ายร้องไห้แทน  เพราะวันนี้ดาน่าได้เล่าเรื่องราวมากมายระหว่างที่เขาหายไปให้ฟัง  โดยเฉพาะเรื่องของเท็ด  แม้จะรู้ว่าเท็ดรักเขามาก แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะมากมายขนาดนั้น   
         “พี่ชดใช้ในสิ่งที่พี่ไม่ได้ทำมา 7 ปีแล้ว  อย่าขอโทษอีกเลยครับ…ถ้าจะผิดเราคงผิดด้วยกันทุกคน   แต่ตอนนี้เราได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง…เรากลับมาเป็นครอบครัวกันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว…ผมมีความสุขที่สุด”  กายเหนี่ยวใบหน้าคร้ามลงมาหา  เท็ดแนบริมฝีปากกับปากอิ่มด้วยความรู้สึกหลากหลายที่อัดแน่นอยู่ในอก  ทั้งคู่ต่างเล่าเรื่องราวในช่วงเวลา7ปีที่ต้องจากกันสลับกับการแลกจูบจนรุ่งสาง
         
         กายเดินจูงมือเท็ดเข้ามาที่โต๊ะอาหารอย่างเขินๆเมื่อเห็นสายตาของพ่อกับแม่  แดนนี่เป็นฝ่ายเอ่ยแซว แถมยังสนับสนุนจนกายงง  ดาน่าจึงอธิบายให้รู้ว่าแดนนี่เป็นคนสุดโต่งแบบนี้เอง  บทจะไม่ชอบก็ต่อต้านจนพังกันไปข้าง  แต่บทจะรับได้ก็เชียร์จนออกนอกหน้า 
         หลังจากอาหารเช้าแดนนี่เรียกกายและเท็ดไปคุยต่อที่ห้องนั่งเล่น   กายกับเท็ดนั่งบนพรมวางศรีษะไว้บนตักของแดนนี่คนละด้าน
         “พ่อรักลูก…เพราะทิฐิพ่อเกือบต้องเสียลูกไปทั้งสองคน  ตอนนี้พ่อได้ลูกคืนมาแล้ว”มือที่ลูบผมลูกทั้งสองสั่น แดนนี่รีบเช็ดน้ำตาก่อนที่จะหยดลงบนศรีษะลูกๆ  ดาน่าเข้ามาโอบกอดแดนนี่ข้างหลังแต่แดนนี่ดึงแขนภรรยามานั่งเคียงข้าง  กายแทรกเข้าไประหว่างพ่อกับแม่ขณะที่เท็ดยังคงนั่งอยู่ที่เดิม 
         “ถ้าจะหาคนผิดแม่ว่าเราคงผิดด้วยกันทุกคน  เพราะต่างก็ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลเรื่องราวมันถึงได้บานปลายอย่างนี้…แต่ตอนนี้เราได้กลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้งแล้วนี่…ปล่อยให้อดีตเป็นบทเรียนไว้เตือนใจแล้วเราเริ่มต้นกันใหม่ดีไหมลูก…”  เท็ดกับกายหันมาสบตากันก่อนจะเงยขึ้นยิ้มให้พ่อกับแม่
         
         “ผมจะเข้ารับการผ่าตัด…” กายเอ่ยขึ้นมาลอยๆ  เท็ดก้มลงมองหน้า
ที่ซุกกับอกอย่างแปลกใจ
         “กาย!?!” 
         “พี่เคยบอกผมว่าหมอจะทำให้ผมเป็นปกติได้”  กายสบตาด้วยท่าทางมั่นใจ  เท็ดยิ้มกว้างอย่างยินดี
         “หมอยืนยันว่ากายมีโอกาสกลับเป็นปกติแน่นอน”
         “งั้นนัดหมอได้เลยครับ…ผมพร้อม”  เท็ดหัวเราะเบาๆอย่างดีใจ  ทั้งที่ความทรงจำของกายหายเป็นปกติมาหลายเดือนแล้วแต่กลับไม่ยอมเข้ารับการผ่าตัดสะโพก ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไร  แต่กายรู้ดีว่าเหตุผลที่เขาไม่ยอมผ่าตัดเกิดจากความกลัว หากการผ่าตัดล้มเหลวเขาก็จะกลายเป็นคนพิการไปจริงๆ แต่ถ้าทนแบบนี้ไปเรื่อยๆก็ยังหลอกตัวเองไปได้วันๆว่ายังมีหวังที่จะหายเป็นปกติ  แต่ทุกครั้งที่เห็นสายตาเจ็บปวดของเท็ดที่มองมาเวลาที่เขาเดินเขยก  กายเองก็พลอยเจ็บไปด้วย     
         กายขดตัวเข้ามาในอ้อมแขนของเท็ดมากขึ้น  นิ้วเล็กวนไล้บนอกกว้างเล่นอยู่นานจึงค่อยเอ่ยถึงสิ่งที่ยังค้างคาในใจ
         “…ถ้าผมหาย…เรากลับไปที่รีสอร์ทของริชกันอีกนะครับ”
         “ตกลง…พี่ก็อยากพากายไปพักผ่อนที่นั่นเหมือนกัน” กายพลิกขึ้นมาเกยคางบนอกเท็ด
         “พี่ว่าพ่อกับแม่จะไปกับเราไหม?”
         “พี่ว่ายาก  ตอนนี้พ่อกำลังสนุกกับการเป็นอาสาสมัครที่สถานบำบัด  แม่ก็ธุรกิจกำลังรุ่งเห็นเปรยๆกับพี่ว่าจะขยายสาขาอีกร้าน”
         “ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าแม่จะกลายเป็นนักธุรกิจไปได้  แถมยังเก่งมากด้วย”
         “พี่ดีใจที่พ่อกับแม่มีความสุขเสียที  ที่ผ่านมาพี่รู้สึกมาตลอดว่าพี่เป็นต้นเหตุให้พวกท่านเป็นทุกข์”
         “เท็ด…”  กายครางเสียงแผ่วอย่างสะเทือนใจ
         “พี่รู้กายว่าทุกคนไม่คิดอย่างนั้น…แต่ในใจลึกๆพี่รู้สึกแบบนั้นมาตลอด  แต่วันนี้พี่มีความสุขมากที่ทุกอย่างมันลงตัวด้วยดี”
         “ผมก็ดีใจที่มีวันนี้…พี่เข้มแข็งจัง 7ปีเชียวนะครับที่พี่ต้องแบกรับทุกอย่างไว้หมด  พี่ทนได้ไง?”
         “พี่อยู่ได้ด้วยความหวัง หวังว่าสักวันพี่จะได้กายกลับมาแล้วพี่ก็ได้จริงๆ  พระเจ้าย่อมไม่ทอดทิ้งเราหากเราทำแต่ความดี”
         “ผมรักพี่”
         “พี่ก็รักกาย…รักมาก…มากขึ้นทุกวัน”กายอมยิ้มเจ้าเล่ห์  เลื่อนตัวขึ้นมานอนบนเท็ดทั้งตัว
         “หวานซะขนาดนี้…งั้นผมต้องให้รางวัลสิ…”  กายเป็นฝ่ายจูบรุกเร้าแล้วถอยหนียั่วให้ติดตาม  เท็ดกดสะโพกเล็กให้เบียดชิดมากขึ้นขณะที่ปากก็ติดตามไขว่คว้าปากอิ่มไว้ไม่ให้ห่างไป  กายหัวเราะคิกคักอย่างยั่วยวนก่อนจะกลายเป็นเสียงครางหวานในที่สุด
            
จบจ้า
.............

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาโดยตลอดนะคะ

และจะนำตอนพิเศษมาลงในเร็วๆนี้คะ :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Sakana2yunjae ที่ 22-11-2009 11:44:35
 :L2: :L2:

เย้มาอ่านทันตอนจบพี่ดี ขอบคุณมากๆๆคะ

แต่งเรื่องราวแบบนี้ได้ดีจิงๆๆ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 22-11-2009 12:19:45


 :pig4:


แล้วจะรอตอนพิเศษนะค่ะ

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 22-11-2009 13:01:32
ในที่สุดก็มาถึงตอนสุดท้ายแล้ว ขอบคุณนะครับที่นำเรื่องดีๆที่ให้ได้อ่านครับ รอตอนพิเศษครับ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 22-11-2009 13:57:46
happy ending ซะที

งุงิ

ไงจะรอตอนพิเศษนะครับ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 22-11-2009 15:00:38
ดีใจจังที่จบแบบมีความสุข สดชื่นทั้งครอบครัว
ลงตัวทั้งกายและเท็ด แถมพ่อแดนนี่ก็รับได้อย่างดี
แม่ดาน่าก็มีความสุขไปด้วย
ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสต์สำหรับเรื่องสนุกๆนี้นะคะ
บวก 1 แต้ม และรอคอยตอนพิเศษค่ะ  :L2:

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: CHOKUN ที่ 22-11-2009 18:00:15
อ่านจนจบแล้ว อยากบอกว่า รอตอนพิเศษนะ :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 22-11-2009 18:23:52
อ่านถึงตอนนี้แล้วรู้สึกว่ามีความสุขเหมือนกันนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-11-2009 19:15:38
จบแบบ  :-[ :-[ :-[ น่ารักเนอะ  :impress2:

โดยรวมชอบพล็อตเรื่องนี้มากกว่าเรื่องริชกับราเชลอีก  แต่เรื่องโน้นประทับใจสำนวนการเขียนมากกว่า

จริงๆ คุณใบปอบรรยายฉากโหดๆ ได้ดีนะ ชอบมากมาย ไม่รู้ว่ามีนิยายที่แบบว่าฆาตกรต่อเนื่องมะ อยากอ่าน


ขอบคุณคนโพสต์มากค่ะ ขอบคุณคุณใบปอผู้แต่ง

ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้ค่ะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 22-11-2009 20:28:28
 :pig4: ขอบคุณที่เอามาให้อ่านอย่างจุใจค่ะ จะรออ่านตอนพิเศษนะคะ

ปล.ชอบเทดมากกว่าริชล่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 22-11-2009 22:08:44

เข้ามารอตอนพิเศษต่อปายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  o13
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: hene2526 ที่ 23-11-2009 03:18:49
อ่านจบไปอีกหนึ่งเรื่อง...ต้องบอกว่าสนุกสุดๆเลย   :mc4: :mc4:

รอตอนพิเศษด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: PAN@DA ที่ 23-11-2009 08:07:49
เป็นอีกเรื่องที่จบแบบมีความสุข ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสต์   :pig4:

แล้วจะรออ่านตอนพิเศษนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 23-11-2009 15:23:18
ตอนพิเศษจะเป็นเรื่องของใครอะ เป็นเท็ดกะกายหรือเปล่า หรือเป็นตัวอื่นเหมือนเรื่องถนนสายหัวใจ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" จบแล้วคะ 22/11/2009
เริ่มหัวข้อโดย: ΩPRESTOΩ ที่ 25-11-2009 14:37:23
ขอบคุณ ทั้งคนแต่งและคนโพสต์
สำหรับงานเขียนดีๆ
 :pig4:


รออ่านตอนพิเศษคะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" 25/
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 25-11-2009 18:42:08
มาอ่านตอนพิเศษกันคะ แต่เป็นตอนของจีนส์นะคะ
........
เรื่องของจีนส์

สนามบินวันนี้คราคร่ำไปด้วยผู้คน  กลุ่มคนที่มาส่งเพื่อนฝูงหรือคนรักต่างพากันร่ำลา บรรยากาศเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์  เด็กหนุ่มเบือนหน้าหนีภาพนั้นมาเจอคนที่ยืนเงียบๆอยู่ข้างหลัง 
         “ตั๋วครับ”  จีนส์กระชากตั๋วมากำไว้แน่น  ในอกเจ็บแปลบ ทั้งน้อยใจและเสียใจที่ทุกคนทำเหมือนรังเกียจ ต่างพากันผลักไสเขาให้ไปไกลๆ
         “ฮึ!รีบไล่จังนะ  ทำไมกลัวฉันไม่ไปหรือไง!”
         “เปล่าครับ  แต่อีกครึ่งชั่วโมงเครื่องจะออกแล้ว” แจ็คยังคงใช้น้ำเสียงนุ่มนวลไม่เปลี่ยน  ใบหน้าเชิดๆนั้นซีดขาว เปลือกตากลับบวมเป่ง แสดงว่าเจ้าตัวคงร้องไห้อย่างหนัก     
         “ไม่ทันก็ไม่เห็นเป็นอะไร  เดี๋ยวรอซื้อเที่ยวใหม่ก็ได้นี่  ยังไงพวกนายก็อยากให้ฉันไปให้พ้นๆหน้า  ไม่มีทางปล่อยให้ฉันตกเครื่องแน่”
         “คุณจีนส์ครับ…ผมอยากให้เราจากกันด้วยดี…ผมอยากเห็นคุณได้ตั้งต้นใหม่…มีชีวิตใหม่ที่เป็นสุข” 
         “อย่ามาทำเป็นหวังดี!” จีนส์ตวาดแหวอย่างลืมตัว “พวกนายมันหน้าซื่อใจคด! อยากไล่ฉันไปให้พ้นๆแต่แกล้งทำมาสงสาร  เลิกเล่นละครได้แล้ว…”  จีนส์สะดุ้งเมื่อจู่ๆแจ็คก็รวบตัวเข้าไปกอดแน่น  ตอนแรกจีนส์ตั้งใจจะสะบัด  แต่อ้อมกอดนี้อบอุ่นเกินไป อุ่น…จนไม่มีแม้แต่แรงดิ้น 
         แจ็คกดศรีษะเล็กๆแนบอก ลูบผมนุ่มแผ่วเบาด้วยความสงสาร  ถึงอย่างไรจีนส์ก็ยังเป็นเด็ก  เด็กที่โหยหาความรักแต่โชคร้ายที่แสวงหาผิดทาง ชีวิตถึงต้องเจอแต่เรื่องเลวร้ายอยู่ตลอดเวลา 

         “ผมพูดอะไรไปคุณก็คงไม่เชื่อ…แต่ผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่าผมเป็นห่วงคุณจริงๆ…”  แจ็คกระซิบเบาๆ จีนส์กระพริบตาถี่ๆข่มน้ำตาให้ไหลย้อนกลับเข้าไปและกลบเกลื่อนด้วยการผลักแจ็ค ออกห่าง 
         “พอเถอะฉันไม่อยากฟัง…เอาตั๋วมาฉันจะได้ไปให้พ้นๆ” แจ็คยิ้มขันวาจาประชดประชัน
         “ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ…ผมหวังว่าคุณคงเจออีกครึ่งของคุณที่ขาดหายไป”
         “อีกครึ่งบ้าบออะไร! เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว  ฝากบอกเท็ดด้วย ฉันจะจำความเจ็บปวดที่เขามอบให้ไปจนตาย และจะไม่มีวันอภัยให้เขาชั่วชีวิต!” 
         “คุณจีนส์!!” แจ็คครางออกมาอย่างอ่อนใจ   จีนส์หมุนตัวเดินลิ่วไปยังประตูขาออก  น้ำตาที่กลั้นไว้ทะลักออกมาจนนัยตาพร่า 
         “เท็ดพี่ใจร้ายกับผมที่สุด…โอ๊ย!…นี่!เดินดูทางบ้างเซ่!”  ร่างที่ปะทะกับเด็กหนุ่มแค่ผงะเล็กน้อยแต่แรงกระแทกส่งผลให้เอกสารของชายคนนั้นหล่นกระจายไปหมด 
         “ใครกันแน่ไอ้หนูที่เดินไม่ดูทาง  โอ๊ย!!ฉันไม่มีเวลาแล้ว” ชายหนุ่มลนลานเก็บเอกสารที่หล่นแล้วจะรีบวิ่งแต่จีนส์โดดเข้าขวางหน้า
         “นี่จะไม่ขอโทษสักคำหรือไง นายชนฉันนะ?” จีนส์คว้าแขนเสื้อแจ็คเก็ตไว้แน่น  ร่างสูงพยายามจะวิ่งไปแต่ไม่สามารถสลัดเด็กหนุ่มออกได้         
         “เฮ้ย!ปล่อยสิ จะบ้าเหรอฉันกำลังรีบนะ?”  จีนส์ยึดไว้แน่นทั้งๆที่แรงต่างกันมาก  แต่นิสัยชอบเอาชนะบวกกับต้องการระบายความแค้นเล็กๆทำให้แกล้งยื้อไว้ต่อไป
         “ก็ขอโทษฉันก่อนสิ ว่าไง?”
         “นี่!ปล่อยนะ  อ๋อ!จะเอาเงินใช่ไหม  อ่ะ!เอาไปแล้วไสหัวไปให้พ้นเลย!”  ชายคนนั้นดึงเงินออกมาจากกระเป๋าแล้วยัดใส่มือจีนส์ทั้งปึกก่อนจะกระชากแขนเสื้อหลุดจากมือเล็กได้สำเร็จ  เขาวิ่งลิ่วไปยังจุดตรวจเอกสาร  จีนส์เหวี่ยงธนบัตรในมือทิ้งอย่างเจ็บใจ  ไม่สนใจอาการลนลานไล่ตะครุบของคนที่เดินตามมาข้างหลัง
         “แก!ไอ้…คอยดูนะเจอเมื่อไหร่จะเอาคืนให้เจ็บเลย”

         “ปัดโธ่โว้ย!เพราะเด็กบ้านั่นเชียว ตกเครื่องจนได้” ยังดีที่มีเที่ยวบินเวลาใกล้เคียงกัน ถึงแม้จะต้องไปลงสิงคโปร์แล้วค่อยบินไปประเทศไทยทีหลังก็ตาม  ทราวิสฝืนยิ้มให้แอร์โฮสเตสสาวและปฏิเสธที่จะให้พาไปที่นั่งเพราะเห็นเธอกำลังวุ่นวายกับการต้อนเด็ก2-3 คนให้กลับไปนั่งที่  ชายหนุ่มยกตั๋วขึ้นดูใหม่อีกครั้งเมื่อเห็นว่าที่นั่งของเขามีคนนั่งอยู่
         “เท็ด…พี่ใจร้ายที่สุด…พี่ใจร้าย…”
         “ขอโทษครับ คุณนั่งที่ผม…เอ๊ะ!” หน้าที่ซุกแนบกระจกหันขวับมา ทราวิสตาลุกวาบเมื่อได้เห็นหน้าถนัด
         “นาย!!…อีกแล้วเหรอ!”  ทั้งสองอุทานขึ้นพร้อมกัน 
         “ทำไมฉันถึงต้องมาเจอเด็กบ้านี่ด้วย!”
         “แกสิบ้า!ตาแก่บ้า!”
         “ขอโทษค่ะไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่า?” แอร์โฮสเตสรีบเข้ามาดูเมื่อได้ยินเสียงเอะอะ 
         “ไอ้แก่ลามกนี่หาเรื่องผม”  ทราวิสตาลุกวาบด้วยความโมโหเมื่อได้ยินสรรพนามที่จีนเรียกเขา 
         “ไอ้แก่ลามก!  จะมากไปแล้ว”
         “จะทำไม  ฉันไม่กลัวแกหรอกไม่ต้องมาทำตาถลนใส่”
         “เด็กบ้านี่  จะหาเรื่องกันใช่ไหม?”
         “งั้นนายมายุ่งกับฉันทำไมเล่า”
         “นายนั่งที่ฉัน”
         “ไม่จริง!”ต่างตะเบ็งเสียงใส่กันหน้าดำหน้าแดง ผู้โดยสารคนอื่นๆในชั้น
เฟริสคลาสเริ่มหงุดหงิดรำคาญและเริ่มมีเสียงบ่น  แอร์โฮสเตสรีบแทรกไปยืนคั่นกลางเพราะเห็นเรื่องราวจะไปกันใหญ่
         “ใจเย็นๆค่ะ  ขอดูตั๋วหน่อยนะค่ะ เอ่อ…คุณเซนต์ไทม์คะคุณนั่งผิดที่จริงๆค่ะ”
         “แต่ผมถามแอร์โฮสเตสอีกคนเธอบอกให้ผมนั่งตรงนี้ได้นี่นา”
         “คือกรณีที่ที่นั่งไม่เต็มก็สามารถจะเลือกนั่งได้ค่ะ…แต่ตอนนี้ที่ตรงนี้เป็นของคุณรอยเตอร์คุณคงต้องกลับไปนั่งที่เดิมนะคะ”
         “ไม่เอา!ผมไม่นั่งตรงนั้นเด็ดขาด…ผม..”  จีนส์อึกอักเมื่อนึกถึงชายอ้วนหน้าตาลามก  ที่พยายามจะลูบก้นเขา  ตั้งแต่ตอนเจอกันหน้าห้องน้ำที่สนามบิน
         “ทำไมยุ่งนักนะเรา  เป็นเจ้าของสายการบินหรือไง?” 
         “เรื่องของฉัน!” จีนส์หันไปตวาดแหว
         “กรุณากลับไปนั่งที่ก่อนนะคะ”
         “ไม่เอา!”
         “นี่จะกลับเองหรือจะให้ฉันหิ้วเธอไปโยนมานี่!” แอร์โฮสเตสทำหน้าอ่อนใจแล้วก็อ้าปากค้างอย่างตกใจเมื่อทราวิสคว้าตัวจีนส์ขึ้นอุ้มพาดบ่าไม่สนใจว่าเด็กหนุ่มจะดิ้นหรือกรีดร้องแค่ไหน
         “ปล่อยนะ! ไอ้แก่ลามกปล่อยฉัน!”
         “เอาละทีนี้ก็หุบปาก! แล้วนั่งที่เธอซะ!” ทราวิสโยนจีนส์ลงบนเก้าอี้แล้วเดินกลับไป ผู้โดยสารคนอื่นต่างเหลือบมองแต่เมื่อสบกับตาดุๆของทราวิสก็เมินไปทางอื่น
         “ไอ้บ้า!  คอยดูนะฉันต้องเอาคืนให้ได้”
         “ได้เจอกันอีกแล้วคนสวย” จีนส์เบือนหน้ากลับมาเจอกับสายตาหื่นกระหาย
         “อย่ามายุ่งกับฉัน!” เด็กหนุ่มพยายามจะลุกขึ้นผละหนี  แต่ถูกยึดข้อมือไว้
         “นี่!ปล่อยมือฉันนะปล่อยสิ!”
         “โอ๊ะ! ตอนโกรธก็น่ารัก”
แอร์โอสเตสสาวเดินเข้ามาทำให้มันรีบปล่อยมือแล้วแกล้งทำเป็นหลับ
         “กรุณาช่วยอยู่ในความสงบด้วยค่ะ…กรุณานั่งลงแล้วรัดเข็มขัดด้วยนะคะ”
         “ผมไม่นั่งตรงนี้!”
         “คุณคะช่วยรัดเข็มขัดด้วยค่ะเครื่องกำลังจะขึ้นแล้วมันอันตรายนะคะ”
         “ผมไม่นั่ง…”จีนส์ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แอร์โฮสเตสเหลือบมองชายที่แกล้งหลับแล้วหันกลับมาพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ  เสียงประกาศเตือนให้ผู้โดยสารรัดเข็มขัดอีกครั้ง
         “นั่งก่อนค่ะ  แค่เครื่องขึ้นเท่านั้น  ตกลงนะคะ” จีนส์เหลือบมองหมอนั่นอีกครั้งก่อนจะพยักหน้าแกนๆ“ก็ได้”
         
         จีนส์บิดตัวอย่างเมื่อยขบ ที่นั่งของชั้นธรรมดานี่นั่งไม่สบายเลย  ถ้าไม่ติดว่าต้องทนเจอกับผู้ชายลามกน่าขยะแขยงนั่นเขาคงไม่ต้องมาทนลำบากอยู่นี่  จีนส์เหลือบมองทางห้องน้ำเห็นคนต่อคิวกันหลายคนก็แอบเบ้ปาก  ใช้กันเยอะอย่างนี้มีหวังสกปรกแย่  เด็กหนุ่มค่อยๆลัดเลาะไปยังชั้นพิเศษ  ทั้งห้องค่อนข้างสลัว และส่วนใหญ่จะหลับกันเงียบ จีนส์รีบเข้าห้องน้ำ
         “ค่อยยังชั่วหน่อย” จีนส์สะดุ้งเมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาเจอคนยืนอยู่ข้างนอก กลิ่นแอลกอฮอล์โชยฟุ้งเข้ามา ก่อนที่จะเห็นหน้าชายคนนั้นได้ถนัด เด็กหนุ่มตั้งใจจะวิ่งหนีแต่กลับถูกกระชากกลับมากดติดผนัง         
         “อ้าว!จะไปไหนล่ะคนสวย?”
         “อย่ามายุ่งกับฉันนะ…ปล่อยนะไอ้บ้านี่!” จีนส์ตวาดแหวเมื่อเห็นท่าไม่ดี  หน้าฉุๆขยับเข้ามาซุกไซ้ไปตามแก้มและใบหน้า
         “มาน่าฉันรู้ว่าเธอก็อยาก มานี่สิฉันเก่งนะจะบอกให้” จีนส์ดิ้นหนีสุดตัวแต่สู้แรงไม่ไหว เด็กหนุ่มถูกลากเข้าไปในห้องน้ำ
         “ปล่อยนะ! ช่วย…อุ๊ก!…” ร่างเล็กงอคู้ลงเมื่อถูกชกเข้าที่ท้องอย่างแรงจนจุก  มือหยาบกระชากจนกระดุมเสื้อขาดรวดเดียวทั้งแผง
         “พูดดีๆไม่ชอบก็ต้องเจ็บตัวอย่างนี้แหละ มานี่ฉันจะพาแกขึ้นสวรรค์เอง…น่ารักจริงๆ…เนียนแน่นไปหมด ซี๊ด…น่ากินทั้งตัวเลย…โอ๊ะ!”
จีนส์กัดฟันถีบเข้าที่หน้าอก  แต่มันเพียงแค่ผงะไปเท่านั้น กำปั้นหนาฟาดลงมาบนหน้าขา และจิกผมจีนส์ขึ้นมาตบฉาดใหญ่ 
         “เด็กเลวชอบเจ็บๆใช่ไหม เป็นไงอีกทีไหม…จำไว้อย่าแหกปากเด็ดขาดไม่งั้นแกจะเจ็บยิ่งกว่านี้ เอ๊ะ!อะไรกันวะ!เข้ามาทำไมอยากตายหรือไง โอ๊ย!”  หมัดและเท้าที่ประเคนเข้ามาแบบไม่ให้ตั้งตัวทำให้ร่างท้วมหนาถลาลงไปกองเงียบอยู่กับพื้น
         “คนที่จะตายน่ะแก  อ้อ!อาจไม่ตายแต่ติดคุกแน่ๆ”  ร่างสูงเข้ามาประคองจีนส์ให้ลุกขึ้น  “เป็นไงบ้าง…โดนไปเยอะเลยนี่?”
         “อย่า!…ไม่เอา…อย่า!”  จีนส์พยายามจะถอยหนี แต่พอเห็นหน้าคนเข้ามาก็หยุดดิ้นรน  ทราวิสอุ้มร่างบอบช้ำออกมาข้างนอก 
         “ไม่ต้องกลัว เธอปลอดภัยแล้ว” 
         “เกิดอะไรขึ้นคะ!” แอร์โฮสเตสสาวถลาเข้ามาอย่างตกใจ
         “เรียกสจ๊วตมาดีกว่านะ คุณคงแบกไอ้โสโครกข้างในไม่ไหว มันพยายามจะข่มขืนเด็ก”
         “พระเจ้า! เดี๋ยวค่ะ เชิญทางนี้ดีกว่า…นั่งก่อนค่ะดิฉันขอแจ้งกัปตันก่อน…”
         “เป็นไงบ้าง  ไหวไหม?” มือค่อนข้างหยาบแต่อบอุ่นอย่างประหลาดเมื่อช่วยลูบหลังให้เบาๆ  จีนส์ยังพูดไม่ออกเพราะทั้งเจ็บทั้งจุกไปหมด ในปากเค็มและคาวด้วยรสเลือด
         “แค็ก!…โอย…เจ็บ”
         “เดี๋ยวนะ…เอ้า!เช็ดเลือดก่อน เจ็บตรงไหนบ้าง?” ทราวิสดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาส่งให้  จีนส์รับมาแตะตรงมุมปาก  แต่พอเห็นเลือดที่ติดมาก็ไม่กล้าส่งคืน
         “เจ็บ…ขากับ…ท้อง…”
         “เอาละนอนพักก่อน กัปตันมาแล้ว”
         “เป็นอย่างไรบ้างครับ?”
         “ก็โดนไปเยอะ…โดยเฉพาะขากับท้อง ปากแตกด้วย…แล้วหมอนั่น”
         “เมาครับ…ดื่มมากจนขาดสติ…ไม่ทราบว่าแอบเอาเหล้าขึ้นมาได้ยังไง”
         “หึ…ถ้ามีแบบนี้อีกสายการบินคุณโดนฟ้องหมดตัวแน่…นี่ถ้าเด็กคนนี้เอาเรื่องพวกคุณจะเดือดร้อนกันหมด”
         “ขอโทษจริงๆครับ…รับรองครับว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก…กรุณาอย่าเอาเรื่องเลยนะครับไม่ว่าจะให้เรารับผิดชอบอย่างไรทางเรายินดีครับ”
         “ว่าไง…เธอจะให้ชดใช้ยังไง?”  ทราวิสหันมาถามคนเจ็บที่ยังนั่งหน้าซีด
         “ผม…ไม่อยากเอาเรื่อง  แต่ไอ้บ้านั่น…”
         “ไม่ต้องห่วงครับทางเราจะจัดการให้เรียบร้อย…หมอนี่ไม่ได้ขึ้นเครื่องบินอีกชั่วชีวิตแน่ครับ
         “เอาละถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว…หืม!มีอะไร?” ทราวิสชะงักเพราะจีนส์ยึดชายเสื้อเขาไว้แน่น  “ผมกลัว”
         “อ้าว!ก็….ก็ได้ นั่งที่ฉันแล้วกัน” 
         “เอ่อทางเราเปลี่ยนที่นั่งให้คุณเซนต์ไทม์แล้วค่ะ…เชิญทางนี้เลยค่ะ
         “ไม่เป็นไรให้เขานั่งตรงนี้แหละตัวข้างผมยังว่างอยู่
         “แน่ใจนะคะว่าจะไม่ให้เรียกแพทย์มาตรวจ”
         “ไม่เป็นไรฮะ…ผมไม่อยากให้คนรู้เยอะ”  จีนส์ปฏิเสธเสียงแผ่ว
         “ถ้าต้องการอะไรเรียกได้ตลอดเวลาเลยนะคะ”
         “ยังจุกอยู่ไหม?” 
         “ไม่แล้วฮะ แต่เจ็บชะมัด”
         “เธอนี่เวลาพูดดีๆก็ออกน่ารัก…ทำไมชอบทำจมูกเชิดใส่คนอื่น”
         “อย่ากล่าวหานะผมยังไม่ได้ทำใส่ใครเลย”
         “ก็ฉันคนหนึ่งล่ะ…แล้วก็คนที่มาส่งเธอไง?”
         “ก็ผมมีเรื่องอยู่กับคุณ”
         “แล้วคนที่มาส่งล่ะ…หรือว่างอนกับแฟน?”
         “เขาไม่ใช่แฟนผมแล้วก็ไม่มีวันใช่ด้วย…ทำไมถึงคิดว่าเขาเป็นแฟนผมล่ะ?”
         “หรือเธอจะปฏิเสธว่าเธอไม่ใช่….” ทราวิสลังเล แต่จีนส์กลับยอมรับดื้อๆ
         “ใช่ผมเป็นเกย์…แล้วเกี่ยวอะไรกับคนที่มาส่งด้วยล่ะ?”
         “ฉันคงเข้าใจผิด…แต่ดูเขาจะห่วงเธอมากนี่”
         “ห่วงสิ…ห่วงว่าผมจะไม่ยอมไปจากนายเขาต่างหาก   เจ้าเซนเบอร์นาร์ดนั่นมันรักเจ้าของจะตายไป”
         “อ้อ!…มีเรื่องกับเจ้านายเขา” จีนส์ตาขุ่นเพราะรู้ว่าถูกแดกดันว่ามีเรื่องกับเขาไปทั่ว แต่เพระยังมีเรื่องคาใจขืนเถียงกันตอนนี้คงไม่ได้คำตอบแน่
         “ถามหน่อยเถอะ…ผมดูออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอว่าเป็นเกย์?”
         “ไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าเธอน่ะดึงดูดผู้ชายขนาดไหน?”
         “ไม่รู้สิ…เห็นมีแต่คนวิ่งหนีผมทั้งนั้น”  ประโยคหลังพึมพำเบาๆแต่ทราวิส กลับได้ยิน  ชายหนุ่มพินิจใบหน้าที่ค่อนข้างช้ำ  แม้อยู่ในแสงสลัวเด็กคนนี้ก็ยังดู โดดเด่น  ผิวนวล ปากแดงอิ่ม กับดวงตาโตที่ไหวระริก ที่ดึงดูดให้ต้องเหลียวมองซ้ำ
         “คนที่วิ่งหนีเธอคงทนความเอาแต่ใจไม่ไหวละมั้ง” จีนส์สะอึกหน้าแดงก่ำเมื่อถูกจี้ใจดำ  แต่น้ำเสียงที่ไม่มีทีท่าว่าจะเยาะหยันทำให้ไม่กล้าโกรธ
         “คุณกำลังจะไปไหน?”  จีนส์เปลี่ยนเรื่องดื้อๆ  ทราวิสก็รู้ทันแต่ก็ไม่ต่อความ 
         “ที่จริงฉันจะไปประเทศไทย  แต่พลาดเที่ยวบินเลยต้องไปลงสิงค์โปร์ก่อน”
จีนส์ทำหน้าเก้อเพราะพอเดาได้ว่าสาเหตุที่ทำให้คนตรงหน้าพลาดเที่ยวบินคืออะไร
         “คงเป็นเพราะพระเจ้าอยากให้คุณทำความดีไง  ก็ถ้าคุณไม่มาสายการบินนี้คุณก็คงไม่ได้ช่วยผม”  ทราวิสทำหน้างงๆที่เด็กหนุ่มแปรความร้ายกาจของตัวเองให้กลายเป็นเรื่องดีได้หน้าตาเฉย  “ก็…งั้นมั้ง” 
         “พอดีเลยผมว่าจะไปเที่ยวเมืองไทยต่อ  ขอแวะหาแม่นิดเดียวแล้วผมไปเมืองไทยกับคุณ…ผมยังไม่รู้ชื่อคุณเลย?”
         “ทราวิส  รอยเตอร์”
         “จีนส์  เซนต์ไทม์ฮะ  ผมไปเที่ยวเมืองไทยกับคุณนะฮะ” 
         “ฉันจะไปทำงาน  ไม่มีเวลาพาเธอเที่ยวหรอกนะ”
         “แหม! รีบออกตัวจัง  ผมไม่ได้บังคับให้คุณพาเที่ยวสักหน่อย” จีนส์หน้างอทิ้งตัวลงกับเบาะแต่กลับเด้งขึ้นมาใหม่เพราะเจ็บแปลบที่ศรีษะ ทราวิสชะโงกมาดู เห็นรอยปูดโปนขึ้นมา จึงลุกขึ้นไปขอผ้าชุบน้ำอุ่นมากดคลึงให้  จีนส์ขอบคุณเบาๆเพราะพูดไม่ออก  นอกจากแม่ไม่เคยมีใครทำอย่างนี้เลยสักครั้ง!

............
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" 25/
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 25-11-2009 18:44:28
.....

         ที่ท่าอากาศยาน  จีนส์เข็นรถออกมาข้างนอกอย่างหงอยๆ  ทราวิสกำลังไปซื้อตั๋วเพื่อต่อไปยังประเทศไทย  จีนส์อดไม่ได้ที่จะย้อนกลับไปแอบมอง  คิ้วเข้มขมวดจนแทบชิดทำให้รอยย่นที่หัวคิ้วลึกยิ่งขึ้น  ‘เดี๋ยวก็หน้าแก่หรอก…จริงสิยังไม่ได้ขอนามบัตรไว้เลย  เอาไงดีน้า…’  จีนส์หันรีหันขวางเหลือบไปเห็นตู้ขายเครื่องดื่มจึงนึกแผนเด็ดขึ้นมาได้  เด็กหนุ่มไสรถกระเป๋าไปแอบไว้  แล้วรีบวิ่งไปซื้อกาแฟ 
         ทราวิสเกือบสะดุ้งเมื่อเงยขึ้นมาเห็นหน้าเด็กหนุ่ม  เพราะในใจก็กำลังกังวลอยู่ว่าเด็กหนุ่มหน้าสวยนั่นจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกหรือเปล่า 
         “หวัดดีฮะ  ผมเอานี่มาให้”  จีนส์ยื่นแก้วกาแฟให้  ทราวิสมองเฉยไม่ยอมรับ
         “ทำไมยังไม่ไปหาแม่เธออีก อยู่คนเดียวเดี๋ยวก็มีเรื่องอีกหรอก” 
         “อ๋อ! ผมโทรหาแล้ว  อีกสักครู่แม่จะมารับ  คุณทานกาแฟหน่อยสิฮะ”

         “ขอบใจ…แล้วกระเป๋าเธออยู่ไหน?” 
         “อยู่ตรงโน้นฮะ”
         “อ้าว! แล้วฝากใครไว้ล่ะ?”
         “ไม่ได้ฝาก…คือผมเข็นแอบไว้แล้ว”
         “บ้าเหรอ…เดี๋ยวก็ของหายหมดหรอก  ไปเอามาเร็ว”  จีนส์หน้าเสียรีบวิ่งกลับไปที่รถเข็น  แต่มุมที่เขาเข็นรถแอบไว้ว่างเปล่า  เด็กหนุ่มใจหายวาบหันหน้าหันหลังไม่รู้ว่าจะทำยัง 
         “เจอไหม?”  ทราวิสวิ่งตามมาติดๆด้วยความกังวล
         “เมื่อกี้ผมเข็นมาไว้ตรงนี้”
         “เธอนี่มันตัวปัญหาจริงๆ  ก่อเรื่องไม่ได้หยุด”  จีนส์ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
         “เอาเถอะเดี๋ยวแม่เธอคงมารับ  ค่อยแจ้งความแล้วกัน”
         “ผม…ผมยังไม่ได้…โทร…หาแม่…”
         “อะไรนะ!”
         “ผมยังไม่ได้โทร  คิดว่าเดี๋ยวขอนามบัตรคุณแล้วจะโทร”
         “ให้ตายเถอะ  เธอนี่กี่ขวบหา  ทำไมถึงซื่อบื้อขนาดนี้”
         “ผม…ขอโทษ…ฮึก…ขอโทษครับที่ทำให้วุ่นวาย”  จีนส์ปากสั่นน้ำตาไหลพรูลงมา  เด็กหนุ่มเดินเช็ดน้ำตาไปเหลียวหารถใส่กระเป๋าไป  ท่าทางราวกับเด็กหลงทางทำให้คนที่กำลังโมโหใจอ่อนยวบ  ทราวิสตามไปโอบบ่าเล็กกลับมา  จีนส์ร้องไห้โฮซุกหน้ากับอกกว้าง  คนที่ผ่านไปมาเหลียวมามองอย่างสนใจ 
         “ชูววว!…เลิกร้องได้แล้ว  เดี๋ยวคนเขาเข้าใจผิดคิดว่าฉันพรากผู้เยาว์”
         “ผมจะทำไงดีฮะ ของทุกอย่างอยู่ในกระเป๋าหมดเลย…ผมไม่เหลืออะไรเลย” 
         “หนังสือเดินทางล่ะอยู่ที่ไหน?”
         “อยู่ที่กระเป๋าสะพายนี่ฮะ  ผมยังไม่ได้เก็บ”

         “ขอบคุณพระเจ้า  มีหนังสือเดินทางก็ค่อยยังชั่ว  ไม่มีปัญหา  อย่างอื่นค่อยว่ากันใหม่…เธอจะทำยังไง  ติดต่อแม่ไม่ได้สินะ”
         “ฮะ…โทรศัพท์มือถือผมอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้า”
         “ให้มันได้อย่างนี้สิ…ฉันว่า..”  เสียงประกาศเตือนผู้โดยสารให้ไปขึ้นเครื่องทำให้ทราวิสถอนใจเฮือก “ฉันต้องขึ้นเครื่องแล้ว”
         “โชคดีฮะ…ขอบคุณมากที่ช่วย…อะ”  จีนส์พูดไม่ทันจบก็ถูกลากให้วิ่งตามไปที่จุดจำหน่ายตั๋ว  ทราวิสเข้าไปเจรจาอยู่ครู่หนึ่งก็กลับมาคว้าแขนจีนส์ให้วิ่งตามไปยังช่องตรวจเอกสาร 
         “หนังสือเดินทาง” ทราวิสแบมือ  จีนส์ส่งทุกอย่างให้อย่างงงๆ 
         “เอ่อ…นี่เราจะไปไหนกันฮะ?” จีนส์ถามขณะนั่งเคียงข้างทราวิสบนเครื่องบิน     
         “ประเทศไทย”
         “แต่ผมไม่มีวีซ่า”
         “ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว…ส่วนเรื่องกระเป๋าของเธอทางท่าอากาศยานเขารับเรื่องไว้ว่าจะจัดการให้”
         “ผม…ขอบคุณฮะ คุณดีกับผมมาก  ผมไม่รู้จะทำยังไงถึงจะตอบแทนคุณได้”
         “ง่ายๆเลย อย่าสร้างปัญหาอีกก็พอ…โทษทีฉันพูดแรงไป  ฉันหมายถึงให้ระวังมากกว่านี้หน่อย  อย่าเผลอเรออย่างนี้อีก  ตกลงไหม”
         “ฮะ…ผมจะไม่ทำให้คุณหนักใจ” จีนส์ก้มหน้าคางจรดอก  ทราวิสเหลือบมองก่อนจะจับศรีษะเล็กโยกเบาๆ  แต่จีนส์รีบปัดออก  เพราะจะรู้สึกเหมือนเป็นลูกหมาที่น่าเวทนาทุกครั้งมีคนทำอย่างนี้
         “คุณทำงานอะไร?”  จีนส์รีบเบนความสนใจเพราะกลัวชายหนุ่มจะโกรธ
         “เดาสิ” ทราวิสเหลือบมองจีนส์ยิ้มๆ
         “ถ้าให้เดาผมว่า…” จีนส์ยั้งปากไว้ทัน เกือบจะหลุดปากว่าทำงานเหมืองอยู่แล้ว เพราะร่างสูงไหล่กว้างผิวค่อนข้างหยาบและเป็นสีเข้มแบบคนที่อยู่กลางแจ้งเสมอๆ สวมเสื้อแจ็คเก็ต กางเกงยีนส์ เสื้อยืด ดูยังไงก็ไม่มีมาดนักธุรกิจสักนิด
         “คงจะ…เอ่อ…ฟาร์ม อ้า!ใช่ทำฟาร์มอะไรสักอย่าง”  จีนส์พยายามพูดในสิ่งที่คิดว่าเข้าท่าที่สุด  แต่คำตอบของทราวิสเล่นเอาเด็กหนุ่มตาค้าง
         “ฉันเป็นนักออกแบบเสื้อผ้า”
         “อะ…อะไรนะฮะ!”
         “ตกใจขนาดนั้นเชียว”
         “คุณเนี่ยนะดีไซน์เนอร์  ไม่น่าเชื่อ คือ…แบบว่าคุณดู…เอ่อ…”
ทราวิสเลิกคิ้วนิดๆขณะรอคำตอบ  จีนส์อึกอักยกมือวุ่นวายอยู่พักใหญ่ก็ยอมแพ้ ถอนใจเฮือกแล้วยักไหล่  “คุณดูเถื่อนเกินกว่าจะเป็นศิลปิน”
         “ฮะๆๆๆ”  ทราวิสแหงนหน้าหัวเราะลั่น  จีนส์กลอกตาขึ้นฟ้าอยากจะตบปากตัวเองแต่ก็พูดไปแล้ว ไม่รู้ทำไมแต่กับทราวิส เด็กหนุ่มรู้สึกสบายใจกว่าที่จะพูดตรงๆ  แม้แต่ตอนนี้ที่รู้ว่าพูดไปแล้วอาจจะได้ไปหาโรงแรมนอนเองก็ตาม
         “ให้ตายเหอะจีนส์ ฉันคิดว่าเธอจะหาคำตอบหรูๆดูดีมายกยอฉันซะอีก ไม่นึกเลยนะว่าเธอจะกล้าตอบฉันตรงๆขนาดนี้  แต่ดีแฮะ ฉันชอบเธอในแบบนี้มากกว่า”
         “ไม่รู้สิฮะ เวลาอยู่กับคุณ ผมไม่ต้องปั้นหน้าเด็กดี”
         “แปลว่าคนรอบตัวเธอเขาทำให้เธอต้องใส่หน้ากากตลอดเวลางั้นสิ”
         “ฮะ…แบบว่า…ผมอยากเป็นลูกที่ดีในสายตาแม่…แล้วก็อยากเป็นเด็กดีในสายตา…คนที่ผมรัก…แต่เขาไม่เคยแม้แต่จะมองผมด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหนเขาไม่เคยเหลียวกลับมามองผม”
         “มีผู้ชายที่ปฏิเสธเธอด้วยเหรอ?”
         “ก็เพิ่งจะเคยเจอเป็นคนแรก…แต่เขาเป็นคนเดียวที่จริงใจกับผม  ความจริงเขาน่าจะรักผม แต่เพราะ…ช่างเถอะมันผ่านไปแล้วผมขี้เกียจพูดถึง”
ใบหน้าหม่นหมองทำให้ทราวิสไม่อยากซักถามอีก 
               …………….
         ก๊อกๆๆๆ “ทราวิสฮะ…คุณนอนหรือยัง”  ทราวิสส่ายศรีษะอย่างระอาปนขันๆลุกขึ้นมาเปิดประตูให้ จีนส์ยิ้มแป้นรอยเขียวช้ำบนใบหน้ายังดูค่อนข้างชัด ท่อนแขนขาวเขียวช้ำเป็นแนว ตอนมาจีนส์เสื้อแขนยาวชายหนุ่มจึงเพิ่งสังเกตเห็น
         “ไหนดูแขนหน่อยสิ…เจ็บมากไหม?”
         “ถ้าไม่ถูกก็ไม่เจ็บแล้วฮะ…ผมช้ำง่ายอยู่แล้ว”
         “งั้นเหรอ…แล้วนี่เธอมีอะไรหรือเปล่า?”
         “ผมอยากมาขอบคุณ ที่คุณช่วยผมไว้หลายอย่าง”
         “เธอขอบคุณไปแล้วนี่”
         “แหม…มันแค่คำพูด  ผมมีอย่างอื่นให้คุณด้วยหลับตาสิฮะ”
ทราวิสนิ่วหน้าแต่ก็ยอมหลับตาแต่โดยดี  จีนส์ขยับเข้าไปชิดและแนบปากอิ่มไปบนปากบางอย่างรวดเร็ว  ทราวิสชะงักขยับถอยออกแต่ปากนุ่มที่เบียดชิดไม่ห่างดึงดูดใจเกินกว่าจะเฉยอยู่ได้  จีนส์ครางในลำคอเบาๆอย่างพึงใจ  เมื่อลิ้นร้อนฉกเข้ามารุกเร้าบ้าง  มืออุ่นกร้านยกสะโพกเล็กขึ้นเบียดกับหน้าท้องแข็ง  ขาเรียวตวัดรัดรอบเอวหนาไว้แน่น  ทราวิสตวัดร่างเล็กลงบนโซฟา  มือที่ประคองอยู่บนสะโพกเล็กบีบเคล้นเป็นจังหวะ จีนส์ครางฮือแต่ปากของทั้งคู่กลับผนึกเข้าหากันแน่นขึ้น  เนื้อตัวเหมือนมีกระแสไฟวิ่งพล่าน 
ติ๊ดๆๆๆๆ…ทราวิสเกือบสะดุ้งเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น  ชายหนุ่มใจหายวาบรีบผุดลุกขึ้นรับ ทั้งที่ความจริงอยากจะทุบทิ้งมากกว่า  “ฮัลโหล”
         “ผมเองครับท่าน ขออภัยครับที่โทรมารบกวน  แต่ผ้าที่ท่านจะใช้มาถึงแล้วครับ ผมคิดว่าท่านควรมาดู”
         “เอ่อ…งั้นเหรอ…ก็…จัดเก็บให้ดีล่ะ   อีกสัก…ครึ่งชั่วโมงฉันคงไปถึง”
ทราวิสวางโทรศัพท์ลง  สูดลมหายลึกก่อนจะหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า  จีนส์กำลังปลดกระดุมเสื้อลงทีละเม็ด  ดวงตาโตเหมือนแมวไหวระริกด้วยไฟปราถนา 
         “ฉันจะไปทำงานแล้ว  เธออยู่คนเดียวได้นะ”
         “คุณล้อผมเล่นใช่ไหมฮะ  อย่าบอกนะฮะว่าคุณจะปล่อยผมไว้แบบนี้?”
         “โทษทีจีนส์  แต่ฉันต้องไปทำงานแล้ว”
         “สี่ทุ่มเนี่ยนะฮะ?”   
         “งานฉันมันล็อคเวลาไม่ได้หรอกนะ”
         “แต่คุณมีเวลาตั้งครึ่งชั่วโมง…เรามาสานต่อให้จบก่อนก็ยังทันนี่ฮะ”
         “จีนส์…อย่าริอ่านเล่นกับไฟดีกว่า มันจะไหม้มือเธอ…เอาเป็นว่าฉันยกห้องนี้ให้ อาบน้ำแล้วพักเสียให้สบาย พรุ่งนี้จะให้เลขาฉันมาดูแล”
         “ทราวิส…บ้าจริงทิ้งเราไว้แบบนี้เฉยเลย…คอยดูนะจะยั่วให้หัวปั่นเลย” 
จีนส์แลบลิ้นตามหลังแล้วคว้าหมอนปาประตูที่ปิดสนิท  เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงนอนหงายบนเสื่อ  สายตาไล่ไปยังเฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งรอบห้อง  บรรยากาศแบบเถื่อนๆแต่ไม่รู้ทำไม‘มันอบอุ่น’จนเขาผลอยหลับไป
 
         “อรุณสวัสดีครับคุณจีนส์  ผมราม..เป็นเลขาของคุณรอยเตอร์ครับ ท่านให้ผมคอยดูแลคุณระหว่างที่ท่านทำงาน”
         “ทราวิสทำงานที่ไหน?”
         “คุณรอยเตอร์ไปตรวจดูผ้าที่จะนำมาเป็นวัตถุดิบครับ”
         “อย่ามาเล่นสำนวนกับผม  นายคุณเขาให้ผมเรียกเขาอย่างนี้ไม่ใช่ผมอยากจะตีซี้เขาหรอกน่า”
         “มิได้ครับ  ผมทราบครับข้อนั้นแต่ผมแค่เคยเรียกแต่ชื่อสกุลของท่าน ขอโทษด้วยครับที่ทำให้คุณอึดอัด”
จีนส์ส่ายหน้า ระอากับความสุภาพเกินเหตุของราม  ไม่ว่าเลขาหน้าไหนๆก็เหมือนกันหมด สุภาพ เอาใจ แต่ไม่จริงใจ สายตารามเมื่อครู่ก็บอกอยู่แล้วว่าดูถูกเขาขนาดไหน  จีนส์คว้าเป้ขึ้นสะพายเดินลิ่วออกมาจากห้องไม่สนใจว่ารามจะล็อคประตูให้หรือเปล่า  จุดมุ่งหมายของจีนส์อยู่ที่เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ข้างหน้า
         พนักงานสาวสวยเงยขึ้นหวาน “สวัสดีค่ะคุณเซนไทม์ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้รับใช้คะ”
         “คุณรู้จักผม?”
         “เราจำลูกค้าทุกคนได้ค่ะ  ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ดิฉันรับใช้คะ”
         “อยากให้จัดรถไปส่งผมที่โรงแรม…อ๋อ!โรงแรมนี้” จีนส์ยื่นบัตรที่จิกมาจากกระเป๋าทราวิสให้ 
         “ได้ค่ะ…สักครู่นะคะ”
รถมารวดเร็วทันใจ  จีนส์แสยะปากอย่างสะใจเมื่อเหลือบมองทางกระจกส่องหลังเห็นเลขาของทราวิสวิ่งมาหอบลิ้นห้อยอยู่หน้าโรงแรม
      
ทันที่ลงจากรถจีนส์ก็ได้เห็นทราวิส  ชายหนุ่มยืนกอดอกหน้าบึ้งรออยู่แล้ว
         “ไม่ต้องเทศน์  เลขาคุณโทรมาฟ้องแล้วสิ  ก็เขาอยากช้าเองช่วยไม่ได้”
         “แล้วเธอตามฉันมาทำไม  บอกแล้วไงว่าฉันมาทำงานไม่มีเวลาพาเธอไปไหนหรอกนะ”
         “ผมก็มาดูคุณทำงาน”
         “กลายเป็นเจ้านายฉันตั้งแต่เมื่อไหร่…ไปกลับไปที่โรงแรม ฉันสั่งให้รามจัดโปรแกรมเที่ยวให้เธอแล้ว”
         “ไม่ไป ผมอยากทำงานอ่ะ  ให้ผมช่วยงานคุณนะ…น้าาา” จีนส์เข้ามากอดแขนออดอ้อน ทราวิสมองนิ่งๆอยู่นานก่อนจะยิ้มเย็นจนจีนส์หนาวหลังวาบ
         “แน่ใจนะว่าจะช่วยงาน?”
         “เอ่อ…ฮะ  ผมอยากช่วย”
         “ดี…งั้นตามมาเลย  ฉันกำลังอยากได้หุ่น”
จีนส์หน้าหงิกจนยืดไม่ออก  ใครจะนึกว่าหุ่นจะทรมานขนาดนี้  ทราวิสเอาผ้าสีแล้ว สีเล่ามาพาดมาพัน  สั่งหมุนสั่งหันจนเวียนหัวแต่เด็กหนุ่มก็ไม่กล้าบ่น ใครจะกล้าล่ะเพราะแค่ทราวิสได้ดูผ้าทั้งหมด ชายหนุ่มก็อาระวาดเสียกระจายไปทั้งวง  เพราะผ้าที่ส่งไปเป็นตัวอย่างกับผ้าผืนจริงทั้งเนื้อผ้าและลวดลายแตกต่างกันมาก  ไม่รู้ว่าเป็นความสะเพร่าของใคร แต่แบบที่ทราวิสเขียนมาถูกฉีกเป็นชิ้นๆชายหนุ่มออกแบบใหม่ทั้งหมด   ความงดงามของผ้าไทยที่จีนส์เคยได้ยินแต่ไม่เคยสนใจวันนี้เด็กหนุ่มยอมรับว่าตะลึงตะลานกับความงามของเนื้อไหม สีสัน และลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทราวิสเองก็เถอะ  สายตาที่จับจ้องผ้าดูเหมือนจะจมไปสู่โลกส่วนตัวแล้ว  ทราวิสทาบผ้าแล้วร่างแบบอย่างรวดเร็ว  เหมือนจินตนาการของเขาเป็นสายน้ำที่ไหลต่อเนื่องไม่สิ้นสุด ทุกครั้งที่มีคนเข้ามาตามให้ไปรับประทานอาหารจะได้เห็นทราวิสตาเขียวปัดและคนบอกก็หน้าม้านออกไปแทบไม่ทัน 
         “จีนส์พัก5นาที รีบกินมื้อเที่ยงซะ”
         “5นาที! จะบ้าเหรอทราวิส ใครจะไปกินทัน  แล้วนี่บ่ายสองแล้วคุณให้ผมพัก 5นาทีเนี่ยนะ”
         “โอเค!งั้น10นาที ไม่ต้องต่อรองถ้าถึงเวลาไม่เสร็จฉันจะลากเธอมาพร้อมจาน”
         “คุณ!นี่มันมากไปแล้วนะ”
         “เธอเหลือเวลาอีก9นาที55วินาที” จีนส์ตาเหลือกรีบวิ่งออกมาข้างนอก  เจ้าหน้าที่เข้ามาพร้อมกับถาดอาหารกลางวัน  จีนส์รีบกินเร็วที่สุดในชีวิตแล้วแต่ยังไม่ทันตักคำสุดท้ายเข้าปาก ทราวิสก็หิ้วเอวเขากลับเข้าไปในห้องประชุม  ผู้ช่วยอีกคนวิ่งมารับจานไปจากมือจีนส์
         “ ผมยังไม่อิ่ม!”  จีนส์กรีดเสียงด้วยความโมโห  แต่ทุกคนทำหูทวนลม
ทราวิสคว้ากระดาษมาซับปากให้แล้วจับเขาหันหลังทาบผ้าอีกผืน  แล้วหันไปสั่งผู้ช่วยให้วุ่น  จีนส์อยากอาระวาดแต่เหลือบไปเห็นสายตาของรามเข้าเสียก่อน ‘เรื่องอะไรจะยอมให้คนอย่างรามมาดูถูกเอาได้’ให้รู้ไปว่าเขาก็มีความสามารถเหมือนกัน  ดูเหมือนวิธีนี้จะได้ผล  รามหน้าบึ้งมองไปทางอื่น  การได้ยั่วรามทำให้จีนส์ทนยืนตั้งแต่เช้าจรดค่ำได้โดยไม่บ่นอีก
         “เอาละวันนี้พอแค่นี้”  ไม่มีเสียงเฮอย่างที่จีนส์คิด แต่สีหน้าของทุกคนเหมือนเพิ่งหลุดจากนรกไม่มีผิด   จีนส์คิดว่าจะเดินออกไปสูดอากาศข้างนอก แต่ขากลับพับลงไปเฉยๆ  โชคดีที่ทราวิสคว้าตัวเขาไว้ทัน
         “เหนื่อยละสิ  ว่าจะพาไปหาอะไรกินเสียหน่อย สงสัยต้องกลับไปกินที่โรงแรมแล้วละ”  ทราวิสอุ้มจีนส์เดินลิ่วออกมาที่ลิฟต์  ตอนแรกจีนส์ตั้งใจว่าจะขอเดินเอง  แต่พอได้เห็นสายตาเกรี้ยวกราดด้วยความริษยาของรามก็เปลี่ยนใจ  เด็กหนุ่มถอนใจยาวซบหน้าลงกับอกกว้าง
         “ผมหมดแรงแล้ว…” ทั้งๆที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะแค่แกล้งราม แต่เสียงทราวิส กลับดูไกลออกไปทุกที  แล้วโลกก็เงียบที่สุดเท่าที่จีนส์เคยสัมผัส

.......

หวังว่าคงจะชอบจีนส์กันขึ้นมาบ้างนะคะ
ขอบคุณมากคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" 25/
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 25-11-2009 19:41:40
มาสมัครเป็น FC คร้า...

 :z13: จิ้มก่อน  กำลังตามอ่าน

ให้กำลังใจคุณ tainqin คร้า :L2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" 25/
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 25-11-2009 21:24:18
เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากเลย มันต้องยังงี้แหละถึงจะเอาจีนส์อยู่หมัด :impress2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" 25/
เริ่มหัวข้อโดย: hene2526 ที่ 25-11-2009 22:48:42
ก็ไม่เคยเกลียดจีนนะ...สงสารด้วยซ้ำไป

แต่เห็นแบบนี้ก็ดีใจจริงๆๆนะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" 25/
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-11-2009 22:55:12
ยังไม่จบใช่มะ เรื่องของจีนส์ก็สนุก  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" 25/
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 25-11-2009 23:59:44
จีนส์น่าสงสารมากนะ
คงจะได้มีความสุขซะที
บวกอีก 1 แต้ม ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" 25/
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 26-11-2009 09:04:52


รอๆ  มาต่อด่วนค้า


 :call:

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" 25/
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 26-11-2009 09:41:28
เรื่องนี้สุดยอด o13 มีทั้งหมด 3 ภาด สนุกทุกภาค  :L2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" 25/
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 26-11-2009 12:50:39
จีนส์น่าสงสารนะแต่ได้เจอกับทราวิสคงจะมีอะไรทดแทนบ้าง  ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" 25/
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 27-11-2009 18:46:32
เออ หัดทำอะไรซะบ้างดีกว่าฟุ้งซ่านเปล่าประโยชน์นะจีนส์  :laugh:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 28-11-2009 11:21:49
ขอบคุณทุกคอมเมนท์นะคะ มาอ่านกันต่อเลยคะ

.........
         ‘อย่า!…พอแล้ว…ไม่ไหวแล้ว…โอ๊ย!…อย่า…ผมเจ็บ…ไม่!…’
        ‘…พอที…อย่า!…พอแล้ว…’  ………
         ‘หุบปากน่าจีนส์!  เดี๋ยวยาออกฤทธิ์นายก็จะสนุกเองแหละ  ดูเมื่อวานสิ นายเร่าร้อนยังกับไฟ  แค่นี้สบายมากน่า’
          “เท็ด!…ช่วยด้วย!..เท็ด!!!!”
จีนส์ลืมตาโพล่ง  สิ่งแรกที่เห็นคือดวงตาสีน้ำเงินที่จ้องมอง  เด็กหนุ่มกรีดร้องแล้วพยายามจะดิ้นหนี  แต่ปลอกแขนแน่นหนากลับกอดเขาไว้แน่น
         “จีนส์หยุด!  ฉันเอง  ทราวิสไงจีนส์  เธอฝันร้ายเท่านั้น  แค่ความฝัน ชูววว!  เด็กดี  แค่ความฝันเท่านั้น”  อ้อมกอดอบอุ่นกับเสียงปลอบประโลมช่วยให้จีนส์ได้สติ เด็กหนุ่มร้องไห้โฮ  กอดทราวิสไว้แน่น  ครู่ใหญ่กว่าจีนส์จะสงบ เด็กหนุ่มค่อยๆดันตัวออกจากอกทราวิส
         “ผม…ผมไม่เป็นไรแล้ว…คุณเข้ามาทำไม?”
         “ฉันตั้งใจจะมาชวนเธอไปกินมื้อค่ำด้วยกัน  แต่เปิดประตูเข้ามาก็เจอเธอดิ้นแล้วก็ร้องกรี๊ดๆ  ฉันปลุกเธออยู่นานมากเลยนะกว่าจะตื่น”
         “ผมฝันร้าย…ก็เท่านั้น”  ทราวิสไม่เชื่อแน่นอนจีนส์รู้  แต่ชายหนุ่มกลับไม่ถามอะไร  แค่พยักหน้าแล้วชวนไปกินมื้อค่ำที่ค่อนข้างดึกในห้องของทราวิส 
จีนส์หิวจนลืมนึกเรื่องอื่นไปสนิทกระทั่งได้ยินเสียงทราวิสหัวเราะหึๆ จึงเงยขึ้นมอง
         “คุณหัวเราะเยาะผม?”
         “เปล่า…ฉันแค่ดีใจที่เธอเจริญอาหาร”
         “ก็แค่สเต็กสองชิ้น…สเต็ก!พระเจ้า!นี่ผมกินอะไรเข้าไป  ตายแล้ว!น้ำหนักผมต้องขึ้นอีกอย่างน้อยครึ่งกิโล  แล้ว…โอ๊ย! สิวต้องขึ้นแน่ๆเลย  ตายแน่ๆ”
ทราวิสคว้าข้อมือไว้เมื่อเห็นจีนส์ผุดลุกขึ้น
         “นั่นจะไปไหน?”
         “ผมต้องรีบไปล้วงคอออกนะสิ…ปล่อยผมสิเร็วๆ”
         “บ้าเหรอ…ทำอย่างนั้นมันอันตรายนะ”
         “แล้วคุณจะให้ผมปล่อยให้ไอ้สเต็กสองชิ้นนี่ฆ่าผมเหรอ”
         “ฆ่า…สเต็กมันจะฆ่าเธอได้ยังไง?  การที่เธอไปล้วงออกสิฆ่าตัวตายชัดๆ”
         “คุณรู้ไหม  มันจะให้ผมอ้วน  สิวขึ้น  แล้ว…”
         “พอทีจีนส์  วันนี้เธอเหนื่อยมาทั้งวัน  ร่างกายเธอต้องการอาหาร  พรุ่งนี้งานก็ยังรออยู่  ไอ้สเต็กสองชิ้นนั่นคงทำอะไรเธอไม่ได้หรอก” จีนส์หน้าบึ้งทิ้งตัวลงนั่ง   
         “จริงสินะ…งานหนักอย่างกับทาสแบบนั้นกินอีกสิบชิ้นก็ไม่มีเหลือ”
ทราวิสหัวเราะก๊าก  ขยี้จนผมจีนส์ยุ่ง เด็กหนุ่มพยายามเบนหนีแต่กลับถูกล็อคคอไว้  จีนส์เลยหันมาสู้  ทราวิสรวบแขนจีนส์ไว้ได้  จีนส์เดือดจัดพยายามจะเตะแต่ก็ถูกชายหนุ่มล็อคขาไว้อีก  กลายเป็นว่าจีนส์นั่งอยู่บนตักทราวิสแขนขาถูกล็อคไว้แน่น  ใบหน้าที่อยู่ห่างกันแค่คืบกับสายตาของทราวิสทำให้จีนส์ชะงักค้าง ลืมที่จะตอบโต้  ทราวิสก้มลงมาหาช้าๆปากค่อนข้างบางร้อนผ่าว  จีนส์ครางฮือทรมานอย่างประหลาดกับจูบที่เหมือนถูกเผาให้ละลาย  ทราวิสปล่อยมือเล็กเป็นอิสระ  นิ้วยาวสอดเข้าไปในชายเสื้อยืด  ลูบผ่านจากเอวคอดขึ้นสู่ทรวงอกนุ่มลื่นมือ  จีนส์แอ่นหลังขึ้นรับสัมผัส  มือยึดข้อมือทราวิสไว้แน่น  ไม่ใช่การห้ามปรามแต่เร่งให้สัมผัสมากยิ่งขึ้น  ทราวิสตรึงศรีษะจีนส์ไว้แน่น  ลิ้นนุ่มที่ตอบโต้ไม่หยุด กระพือไฟ ปราถนาให้ลุกโพลง    จีนส์เลื่อนมือลงไปยังกางเกงยีนส์ ลูบสะโพกแข็งผ่านเนื้อผ้าระคายเรื่อยขึ้นมาจนถึงหน้าท้องแข็งเป็นลอน  และค่อยๆสอดเข้าไปในขอบกางเกง 
ทราวิสผละออกถอดเสื้อแต่กระดุมเสื้อเชิ้ตดูเหมือนจะมากเกินไป  ชายหนุ่มกระชากทีเดียวขาดทั้งแผง  จีนส์หายใจแรงและไล้เลียริมฝีปากช้าๆ  นิ้วเรียวเล็กช่วยปลดกระดุมยีนส์อย่างว่องไว  ทราวิสก้มมองเลิกคิ้วนิดๆ จีนส์ชะโงกมากระซิบข้างหู
         “ผมเสียดาย  กลัวคุณจะดึงมันขาดหมด”
ทราวิสตาเป็นประกาย  ชายหนุ่มยิ้มเย็นกระชากเสื้อที่จีนส์ใส่จนขาดแล่ง 
         “ทีนี้เราเสมอกัน  ส่วนกางเกงเธอฉันก็จะถอดให้”  ทราวิสเหนี่ยวเอวจีนส์ให้ยืนขึ้นและคุกเข่าลงตรงหน้า  ปากบางแตะลงบนหน้าท้องเนียนเบาๆแล้วค่อยเน้นหนักขึ้น  จีนส์กลั้นหายใจเมื่อฟันคมค่อยๆขบปลดกระดุมออกทีละเม็ด  ทุกครั้งที่ผ้าแยกออกทราวิสจะซุกไซ้เย้าหยอกกับผิวเนียนจนจีนส์เริ่มทนไม่ไหว  เด็กหนุ่มกำผมหนาไว้แน่น 
         “ยังอีกสองเม็ดนะ  ทนไม่ไหวแล้วเหรอ”  จีนส์กัดปากแน่นเพราะปลายลิ้นร้อนตวัดลงไปต่ำ 
         “เร็วเถอะ  ผม…ไม่ไหว”ทราวิสหัวเราะแต่ยังคงปฏิบัติการทรมานจีนส์ต่อไป  ทันทีที่กระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดออก  จีนส์ก็บิดตัวให้กางเกงหลุดลงไปกองอยู่ที่พื้น  ทราวิสโลมลูบด้วยปลายลิ้นผ่านเนื้อผ้าบางๆของกางเกงชั้นใน 
         “อะ…”  จีนส์ตัวงอ  ขาสั่น  พยายามจะปลดกางเกงออกแต่ทราวิสยึดไว้
         “นี่หน้าที่ฉัน  สัญญาแล้วไง” 
         “แต่ผม…ไม่ไหว”  จีนส์ครางเสียงแหบ  ทราวิสอมยิ้มพึงพอใจกับความทรมานของด็กหนุ่ม   ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นช้อนร่างเกือบเปลือยไปวางที่เตียง  แล้วปลดอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายออกจากตัวเอง  จีนส์หน้าแดงเมื่อเห็นทราวิสเต็มตา  ยอมรับว่าทราวิสมีรูปร่างสวย เนื้อตัวเต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นแบบคนออกกำลัง 
ทราวิสท้าวคล่อมจีนส์ไว้  ตาคมกวาดช้าจากปลายเท้าอูมสวยขึ้นมาตามเรือนร่างขาวผ่อง  จีนส์รู้สึกตกใจ  ร่างกายมีปฏิกิริยาประหลาด  มันร้อนวาบไปตามสายตาที่ทราวิสมอง  ไม่เคยสักครั้งที่จะรู้สึกเช่นนี้  แค่มองแทบทนไม่ไหว  นิ้วเรียวค่อนข้างสากไล้ผ่านจากปลายเท้าขึ้นมาบนน่อง หัวเข่า และหยุดวนเล่นบนหน้าขา  ปากร้อนตวัดลงมาจูบอย่างรวดเร็ว  ทั้งเรียกร้องและรุกเร้า  จีนส์ตอบโต้ไม่ยอมแพ้  แขนเรียวตวัดรัดรอบบ่ากว้าง  เหนี่ยวให้แนบชิดยิ่งขึ้น  ทราวิสเลื่อนจากปากนุ่มลงมาซุกไซ้ซอกคอขาว  ทาบทับร่างหนาหนักลงไปบนร่างบาง  จีนส์ยกสะโพกขึ้นถูไถกับหน้าท้องแข็ง  สัมผัสร้อนผ่าวผ่านเนื้อผ้ากระตุ้นให้ทะยานอยาก  ทราวิสลากฟันคมจากซอกคอลงสู่ทรวงอก  ทิ้งรอยแดงเป็นทางทุกที่ที่ลากผ่าน 
         “อืม…ทราวิส”  จีนส์ครางแผ่วหวิว  ฟันคมขบไล้บนยอดเม็ดเล็กและฟ้อนเฟ้นจนเนินทรวงทั้งสองข้างแดงระเรื่อจึงผละลงมาหาหน้าท้องเนียน  ชายหนุ่มงับเบาๆไปตามขอบกางเกงรวมถึงซอกขา  จีนส์บิดตัวอย่างทรมานเมื่อถูกสัมผัสผ่านเนื้อผ้าอีกครั้ง  ทราวิสรูดกางเกงตัวจิ๋วออกด้วยปาก  แก่นกายนุ่มเป็นอิสระได้วูบเดียวก็ถูกครอบครองทันที
         “อื้อ…อะ…”  จีนส์ครางกระเส่าเมื่อถูกครอบครอง ทั้งรุนแรง ผ่อนปรนหรือเร่งกระชั้น  ทุกสัมผัสเรียกเสียงกรีดร้องของจีนส์ให้หวีดดังยิ่งขึ้น 
         “ทราวิส…ทำไม?”  จีนส์ถอนสะอื้นเมื่อจู่ๆทราวิสก็ผละออก  ชายหนุ่มก้มลงจูบที่ปากนุ่มหนักอย่างปลอบประโลม
         “เดี๋ยวมา”  ทราวิสกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเจล  จีนส์แยกเท้าออกกว้างเพื่อเปิดทางให้  แต่สิ่งที่สัมผัสบนสะโพกนุ่มไม่ใช่เจล  ทราวิสแนบจุมพิตแล้วเปลี่ยนเป็นไล้เลียไปทั่ว ทันทีที่ปลายลิ้นแตะโดน ขอบสีระเรื่อก็ขยับบีบรัดแน่นเข้า  นิ้วยาวลองสอดหยั่งเชิงก็ได้รับการบีบรัดหนักหน่วง
         “ให้ตายเถอะจีนส์  ร่างกายเธอสุดยอดเลย” ทราวิสกระซิบแล้วแนบจุมพิตลงมา จีนส์ทั้งจูบตอบและครวญครางในเวลาเดียวกัน  เจลเย็นๆถูกสอดเข้ามาพร้อมกับนิ้วที่สองและสาม  จีนส์ขยับขาระริกรับกับจังหวะของนิ้ว   
         “ทราวิส…อ่ะ…ให้ผม…ไป…”
         “ได้สิที่รัก…” 
นิ้วยาวถอนออกขาเรียวถูกช้อนขึ้นพาดไหล่  ทราวิสแทรกกายเข้าไปในช่องทางแคบร้อนที่บีบรัดไม่หยุด  จีนส์อ้าปากรู้สึกจุก  เรือนร่างที่เบียดแทรกเข้ามาคับแน่นจนแทบรับไม่ไหว  ทราวิสเองก็รู้ ชายหนุ่มช่วยปลุกเร้าด้านหน้ารอจนกล้ามเนื้อที่บีบรัดคลายออกจึงขยับลึกเข้าไป ตราบจนสุดทาง
         “ทะ…ทราวิส…อะ…อือ”  จีนส์หอบฮักรู้สึกแน่นไปหมดจนขยับตัวไม่ได้  แก่นกายร้อนผ่าวที่แทรกอยู่ภายในเต้นตุบ  ต่างรู้สึกถึงชีพจรของกันและกัน 
         ทราวิสก้มลงจูบปากอิ่มหนักๆ  ลิ้นแลกลิ้นรัดพัวพันขณะมือก็ปลุกเร้าจนหน้าท้องขาวเกร็งกระตุก  ทราวิสถอนกายออกแล้วขยับเข้าหาสั้นๆ  จีนส์จิกเล็บบนแผ่นหลังกว้างด้วยความทรมาน  ยิ่งจังหวะการขยับห่างเท่าไหร่ความเสียวซ่านก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น  ทราวิสถอนกายออกเกือบสุดแล้วจึงโจนจ้วงกลับเข้าไปจนมิด  จีนส์ทั้งกรีดร้องและครวญคราง  แรงบีบรัดรอบทราวิสหนักหน่วงรัวเร็วก่อนจะเกร็งกระตุก  ปลดปล่อยออกมาจนเปรอะเปื้อนไปทั้งสองคน 
         “ทิ้งกันซะแล้วเหรอ?…”
         “ขอ…ขอพักหน่อย...อะ…ทราวิส…โอว…ซี๊ด…” จีนส์ร้องเสียงหลงเมื่อ
ทราวิส ทำเหมือนจะถอนตัวออกแต่กลับกระแทกเข้าหารุนแรงและต่อเนื่อง  ทราวิสเหนี่ยวร่างบางขึ้นนั่งบนตักเพื่อแลกจูบกันได้ถนัดยิ่งขึ้น  จีนส์จิกครูดจนหลังกว้างเป็นรอยแดงเต็มไปหมด  ด้านหน้าถูกเสียดสีกับหน้าท้องแข็ง บวกกับความร้อนที่ชำแรกลึกทำให้จีนส์เริ่มไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง  แต่คราวนี้ทราวิสไม่ยอมให้จีนส์ไปคนเดียว   จังหวะเนิบช้าเปลี่ยนเป็นกระแทกกระทั้นรัวเร็ว   จีนส์ร้องลั่นเมื่อแรง
ปะทะทำให้ความเสียวกระสันถึงขีดสุดซ้ำๆหลายครั้ง กว่าที่ไอรักร้อนจะระอุอยู่ภายใน  สองร่างเอนซบลงบนเตียงด้วยกัน  นานช้า…กว่าลมหายใจจะค่อยกลับเป็นปกติ…..
         “คุณมีตีนกาแล้ว”  นิ้วเล็กลากไปตามแนวหางตา  ทราวิสจับมือนุ่มมาจุมพิตเบาๆ “ก็ฉันแก่แล้ว”  จีนส์ยิ้มกว้างปีนขึ้นมานอนอยู่บนตัวทราวิส
         “คุณอายุเท่าไหร่…สัก35ได้ไหม?”
         “ใกล้เคียง  จริงๆแล้ว38”
         “โห! คุณแก่กว่าผมเกือบ 20  ปีแน่ะ  ผม 19 เกือบจะ 20 แล้ว”
         “เป็นพ่อเธอได้สบายนะ  ว่าไหม?” 
         “ไม่เห็นจะดีเลย  ผมอยากให้คุณเป็น…ช่างเถอะ มันคงเป็นไปไม่ได้”
         “เธอยังพูดไม่จบเลยว่าอยากให้ฉันเป็นอะไร?”
         “ก็…อยากให้เป็นฝ่ายรับมั่งไง”  จีนส์หัวเราะคิกทำหน้าทะเล้น  ทราวิสแกล้งคำรามคว้าเอวเล็กขึ้นมาคล่อมบนอก  เสียงจีนส์หัวเราะร้องกรี๊ดกร๊าดก่อนจะกลายเป็นเสียงครวญครางจนเกือบรุ่งสางจึงค่อยเงียบลง 
ในความมืด ทราวิสลุกขึ้นนั่งกุมศรีษะ  ความรู้สึกเหมือนกับหล่นลงไปในบ่อลาวา ไม่อาจต้านทานต่อความยั่วยวนของเด็กหนุ่มรุ่นลูกคนนี้ได้  แค่จูบเดียวเขาก็ฟิวส์ขาด  ทราวิสตัวสั่นเมื่อสำนึกได้ว่าสิ่งที่เขาเผชิญอยู่ตอนนี้คืออะไร!
   
         สายตาของทีมงานทุกคนจับอยู่ที่ทราวิส  ชายหนุ่มทำหน้าเคร่งและยื่นช่อดอกไม้ที่นางแบบนำไปแสดงความยินดีบนเวทีให้จีนส์  ก่อนจะประกาศด้วยเสียงราบเรียบ  “งานครั้งนี้…เยี่ยม!  คืนนี้เราจะไปฉลองกัน”
“เย้!”  เสียงทีมงานเฮกันลั่น  บางคนถึงกับกระโดดชกลมเหย็งๆ  เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้เรียกได้ว่าเลือดตาแทบกระเด็น  หลายคนน้ำตาตกไปหลายยก  แต่ผลงานที่ออกมาก็งดงามสมความเหน็ดเหนื่อย   เสื้อผ้าทุกชุดถูกสั่งจองจนออเดอร์ล้น 
         ทราวิสหันมาคว้าจีนส์เข้าไปจูบท่ามกลางสายตาทีมงานร่วมร้อย แต่ไม่มีใครแปลกใจ เพราะท่าทางของทราวิสที่ปฏิบัติต่อจีนส์ต่อให้คนไม่มีตาก็ดูออกว่าจีนส์พิเศษขนาดไหน  หลายคนแอบสะใจที่ได้เห็นรามตกกระป๋อง  แต่สองสามวันมานี้รามหายหน้าไปทำให้มีคนแอบภาวนาว่าไม่ต้องกลับมาเลยยิ่งดีจะได้ไม่มีคนคอยมาจับผิด แต่ดูเหมือนคำภาวนาจะไม่ได้ผลเพราะรามโผล่เข้ามายืนหน้าเรียบเป็นกระดาษอยู่ข้างๆจีนส์ 
         “คุณจีนส์ครับ มีคนมาขอพบ”
         “ขอพบผมเหรอ  แน่ใจเหรอฮะ?”
         “ไปดูเองดีไหมครับ  ทางนี้ครับ”                 
จีนส์หน้าซีดเผือดเมื่อเห็นคนที่รามพาเข้ามาเต็มตา “เซอร์ไพร์ททท!”
         “เคย์!!” ร่างสูงผอมกว่าครั้งสุดท้ายที่เห็นมาก ใบหน้าหล่อเหลาดูหยาบกร้านและค่อนข้างโทรม
         “ไงจ๊ะที่รัก  คิดถึงผมไหม?”  มือหยาบเอื้อมมาจับแขน  แต่โดนปัดทิ้ง
         “ไม่  อย่ามายุ่งกับฉัน” จีนส์หันกลับไปหาคนช่วยแต่รามหายไปจากห้องแล้ว
         “เดี๋ยวจะไปไหนที่รัก  มีผัวใหม่แล้วคิดจะลืมผัวเก่าง่ายๆแค่นี้เหรอ?”
         “อย่ามายุ่งกับฉัน!” จีนส์ถอยกรูดด้วยความกลัว
         “น่ากลัวจัง…จะทำอะไรผัวจ๊ะที่รัก?”
         “อย่ามาแตะฉัน  ไม่อย่างนั้นแฮมิลตัลจะไม่อยู่เฉยๆแน่!” เคย์ผงะหน้าเผือดสีฉับพลัน  จีนส์รีบวิ่งไปที่ประตู ยังไม่ทันถึงประตูก็เปิดเข้ามาอย่างรวดเร็ว
         “ทราวิส!”  จีนส์โผเข้าไปกอด  ทราวิสลูบผมนุ่มเบาๆสายตาที่มองเคย์เรียบเฉยแต่กลับทำให้เคย์หนาววาบๆ 
         “สวัสดีครับ มีธุระกับจีนส์เหรอ?”
         “ก็…ก็แค่เพื่อนเก่า...เอ่อ…แวะมาทักทายจีนส์นิดหน่อย”
         “ทักเสร็จหรือยังครับ?” น้ำเสียงสุภาพกลับทำให้เคย์ลนลานมากขึ้น
         “เสร็จแล้ว…ทักกันเรียบร้อยแล้ว”
         “งั้นผมกับจีนส์ต้องขอตัวก่อน”  ทราวิสยิ้มแต่เคย์เหงื่อแตกพลั่ก
         “โอ…โอเค…ผมก็มีธุระเหมือนกัน”เคย์ทำเหมือนจะวิ่งออกจากห้อง  แต่กลับจ๊ะเอ๋กับรามที่หน้าประตู 
         “อ้าว!คุณจะกลับแล้วเหรอครับ?” รามถามเสียงดังจนหลายคนเหลียวมามอง
         “รู้สึกว่าคุณเคย์จะมีธุระใช่ไหมครับ?”ทราวิสถามยิ้มๆแต่ตาเย็นเยือก รามเหลือบมองมือคร้ามที่โอบประคองจีนส์ด้วยความขมขื่น พยายามตีหน้าระรื่นเอาไว้
         “แหมเสียดายจังเพื่อนสนิทคุณจีนส์มาทั้งทีแต่ยังไงคืนนี้ต้องมาให้ได้นะครับ”
          “เดี๋ยวราม…ฉันแน่ใจว่าเขาไม่อยู่ในลิสรายชื่อของแขกคืนนี้นะ”
         “จะเป็นอะไรไปครับเขาเป็นเพื่อนคุณจีนส์  ใช่ไหมครับคุณจีนส์?”
         “ว่าไงจีนส์เธออยากให้เพื่อนเธอร่วมงานนี้หรือเปล่า?”
         “มะ…ไม่  ผม…”
         “เอาเป็นว่าตกลงนะครับคุณเคย์  คืนนี้พบกันที่งานเลี้ยงนะครับ”
         “อ่า…ด้วยความยินดีครับ”เคย์ตอบอึกอักแล้วผลุนผลันออกไป
         “ผมจะไปส่งคุณเคย์ที่รถเองครับคุณจีนส์ไม่ต้องห่วง”รามยิ้มกว้างรีบตามเคย์ออกไป 
จีนส์ค่อยๆเหลือบมองทราวิส  หน้าเฉยนั้นดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ 
         “เอาละไปพักผ่อนกันได้แล้ว  เดี๋ยวตอนค่ำมีงานเลี้ยงจะยืนไม่ไหวซะก่อน”
         “ผม…ผมไม่อยากไปงานคืนนี้” 
         “ได้ไง…เธอก็เป็นทีมงานคนหนึ่งจะไม่ไปร่วมงานได้ยังไง”
         “ผมปวดหัว…ผม…ผมไปไม่ไหวหรอก”
         “ไม่ได้…เธอต้องไป  หรือว่ามีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า?”
         “เปล่าๆ…ไม่มีอะไร”
         “แน่ใจนะว่าไม่มีอะไรจริงๆ?” 
         “แน่ใจฮะ   แต่ผมยังไม่มีเสื้อผ้าใส่เลย…ขอผมไปหาซื้อเสื้อผ้าก่อนนะครับ” 
         “เดี๋ยวฉันจะให้คนจัดให้เธอ  รับรองว่าต้องดีและเลิศสมกับรสนิยมของเธอแน่ๆ  ตอนนี้เธอเป็นคนป่วยต้องนอนพักมากๆ คืนนี้จะได้ไปร่วมงานไหว”
         จีนส์มือเท้าเย็นเฉียบ ใจสั่นไม่อยากก้าวขาสักก้าวด้วยซ้ำแต่ก็จำต้องไปงานเพราะทราวิสจัดการทุกอย่างให้หมด  หากไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่น่าหวาดกลัวอย่างนี้ เด็กหนุ่มคงมีอารมณ์ชื่นชมกับสูทสีทรายแบบเก๋ที่ขับผิวผ่องให้ดูนวลเด่น  แต่ดวงหน้าหวานกลับซีดขาวจนทราวิสยังสงสัย 
         “ปวดหัวอยู่เหรอจีนส์?” 
         “ครับปวดมาก  ผมไม่อยากไปงานเลยทราวิส”
         “น่าเด็กน้อย  เธอเป็นคนสำคัญนะ งานนี้จะขาดเธอได้ยังไง”
         “แต่…”
         “ไม่มีแต่…อ้าว!ได้เวลาแล้วรีบไปเถอะเดี๋ยวไม่ทัน” 
...........
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 28-11-2009 11:31:38
..............
ผู้คนมากมายต่างเข้ามาแสดงความยินดีกับทราวิส  จีนส์พยายามจะปลีกตัวออกห่างแต่ทราวิสโอบไหล่เด็กหนุ่มไว้แน่น  “สวัสดีครับคุณรอยเตอร์”
         “สวัสดีครับ” 
         “ยินดีด้วยครับกับความสำเร็จในครั้งนี้” 
         “งานนี้มันยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ” 
         “ขอบคุณครับ” 
         “จะไม่แนะนำหนุ่มน้อยหน้าหวานข้างๆคุณสักหน่อยเหรอครับ”
         “อ๋อ!ครับ  นี่จีนส์ครับเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของผม” 
         “ยินดีที่ได้รู้จักผู้ช่วยที่แสนน่ารัก” หน้าอูมยิ้มตาวาว ทำท่าไม่อยากปล่อยมือนุ่มถ้าไม่ติดที่ทราวิสยืนคุมแจ
         “ยินดีครับ” จีนส์ยิ้มแต่หางตายังเหลือบมองหาเคย์  แต่กลับไม่เห็นแม้เงา
         “ท่านผู้มีเกียรติครับเชิญพบกับทราวิส รอยเตอร์ดีไซน์เนอร์มือทองของเรา”
         ทราวิสก้าวขึ้นไปบนเวทีแสงไฟจับร่างสูงโดดเด่น  ชายหนุ่มค้อมศีรษะรับเสียงปรมมือที่ดังกระหึ่มรอบห้อง  “สวัสดีครับ….”
จีนส์ขาสั่น  ใจหวิวเมื่อเหลือบไปเห็นเคย์ยืนอยู่หน้าประตู  เด็กหนุ่มหันหน้าหันหลังและตัดสินใจจะหลบไปห้องน้ำ 
         “ผู้ช่วยคนสำคัญของผม  จีนส์ เซนต์ไทม์”  แสงไฟสาดมาจับที่เด็กหนุ่ม  จีนส์ยืนตะลึงทำอะไรไม่ถูก  หางตายังเห็นเคย์พยายามแหวกคนเข้ามาหา   จีนส์ขยับจะหนีแต่บ่ากลับถูกโอบไว้ เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก ทราวิสโอบจีนส์ไปยืนเคียงข้าง แนะนำทีมงานและกล่าวขอบคุณผู้ให้การสนับสนุน   ทันทีที่ก้าวลงจากเวทีทราวิสและจีนส์ก็ถูกนักข่าวเข้ามารุมล้อมถ่ายภาพและสัมภาษณ์ กว่าจะหลุดจากทัพนักข่าวได้จีนส์ก็เข่าอ่อน  ดีที่ทราวิสกอดไว้ตลอดไม่อย่างนั้นคงได้ลงไปกองอยู่กับพื้น   
จีนส์ขมวดคิ้วเมื่อทราวิสพาเข้าเดินออกมานอกโรงแรม 
         “เราจะไปไหนฮะทราวิส?” จีนส์ถลาไปตามแรงดึง 
          “พาเธอไปหาอาหารไทยทาน”
         “ว้าว!ดีจังผมนึกว่าคุณลืมแล้วซะอีก”  จีนส์ตาเป็นประกายด้วยความดีใจ
         “ฉันไม่แก่ขนาดนั้นหรอกน่า” ทราวิสหันมายิ้มกว้าง
         “แหม!ก็..เคย์!”จีนส์อุทานอย่างตกใจเมื่อจู่ๆร่างสูงก็โผล่จากพุ่มไม้มาดักหน้า
         “หวัดดีจีนส์  วันนี้สวยจังที่รัก” 
         “นายเมาก็ไปนอนไป  อย่ามาวุ่นวายแถวนี้”  จีนส์ตวาดเสียงสั่น
         “ไปก็ได้ ไปที่รักเราไปนอนกัน” เคย์เข้ามาจับแขน  แต่จีนส์ปัดหนีพัลวัล 
         “ที่รักบ้าบออะไร?” 
         “อารายกันจ๊ะยาหยี  ห่างกันไม่เท่าไหร่ลืมผัวซะแล้ว” 
         “พูดอะไรบ้าๆ”
         “พูดเรื่องจริงไงจ๊ะ  หรือว่าได้ผัวใหม่แล้วจาทิ้งผัวก่าวว”
         “ถ้านายเมาก็กลับนอนดีกว่านะ” ทราวิสเตือนด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
         “อย่าเสือกเรื่องของผัวเมีย เอ๊ะ!หรือว่าสามคนผัวเมีย  ฮะๆๆฉันลืมไปว่านายชอบเซ็กหมู่นี่นาจีนส์  นี่เพื่อนๆฉันเขาคิดถึงนายกันทุกคนเลยนะ  ใครๆก็ถามถึง  บอกตรงๆนะที่รักไม่มีใครสุดยอดไปกว่านายอีก…โอ๊ย!” ร่างสูงถลาลงไปกองอยู่กับพื้น  ทราวิสตามไปยกเท้าเกือบกระทืบซ้ำแต่เมื่อเห็นท่าทางลนลานคลานหนีก็เปลี่ยนใจ  หันกลับคว้าแขนจีนส์จูงไปเรียกแท็กซี่ 
         จีนส์นั่งนิ่งขึง  หัวใจเหมือนถูกกรีดซ้ำแล้วซ้ำเล่า  ทราวิสยังคงเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ‘นั่นสินะ สำหรับทราวิสเรามันแค่คู่นอนที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยสนใจอยู่แล้ว…แล้วยิ่งได้รู้เรื่องนี้เขาคงยิ่งขยะแขยงว่าเราเคย…ไม่…ไม่นะ…ไม่ไหวแล้ว’   จีนส์ทุบเบาะคนขับแรงๆอีกมืออุดปากแน่น คนขับแท็กซี่รีบเบนหัวเข้าข้างทาง  เด็กหนุ่มพุ่งออกจากรถตั้งแต่ยังจอดไม่สนิทด้วยซ้ำ จีนส์อาเจียรจนไม่มีอะไรจะออกอีกแม้แต่น้ำลายและเป็นลมพับอยู่ในอ้อมแขนของทราวิส… 
           จีนส์ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง  ในห้องค่อนข้างสลัวและเขาเปลือยอยู่ในอ้อมแขนของทราวิส  ดวงตาคมปลาบจับจ้องอยู่ก่อนแล้ว 
         “เป็นไงบ้าง…ยังคลื่นไส้อยู่ไหม?”จีนส์ส่ายหน้าแล้วจู่ๆน้ำตาก็ไหลพรูลงมาดื้อๆ  เด็กหนุ่มพยายามจะพูดกับทราวิสแต่กลายเป็นเสียงสะอื้น  ทราวิสดึงศรีษะจีนส์มาซบกับอก   
         “ชูววว!…อย่าร้องไห้  เธอมีฉันทั้งคนนะจีนส์  อย่าร้องไห้  มีอะไรเธอก็พูดกับฉันได้ทุกเรื่องนี่นา” 
         “ทราวิสคุณรังเกียจผมไหม?” 
         “ไม่!ไม่มีทาง” 
         “งั้นจูบผมหน่อย  จูบผม”  ทราวิสก้มลงจูบปากนุ่มแต่จีนส์ไม่หยุดอยู่แค่นั้น เด็กหนุ่มเป็นฝ่ายรุกเร้าจนชายหนุ่มทนไม่ไหว  ทราวิสลืมความตั้งใจที่จะปลอบประโลม  กลายเป็นเล้าโลมกันหนักหน่วง  น้ำในแก้วหัวเตียงกระเพื่อมเป็นวงเมื่อสองร่างปะทะเข้าหากันรุนแรง  จีนส์ทั้งร้องและครางลั่นห้องขณะที่ทราวิสเองก็แทบเมาไปในห้วงพิศวาส เสียงจีนส์หวีดสูงผวาเข้ากอดทราวิสแน่นและปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง  ทราวิสเองก็ถึงขีดสุดเช่นกัน  ลมหายใจของทั้งคู่หอบกระชั้น เป็นการร่วมรักที่รุนแรง เจ็บปวด  แต่ก็สุขสมอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน    ทราวิสค่อยๆถอดถอนออกจากร่างบาง  หยาดรักไหลเลอะเทอะมีเลือดปนมาไม่น้อย  ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นตั้งใจจะทำความสะอาดให้  แต่จีนส์กลับร้องไห้โฮและผวาตามจนทราวิส ต้องกลับมานอนด้วยจึงค่อยสงบ 
         ทราวิสเกลี่ยปอยผมนุ่มออกให้พ้นวงหน้าแดงก่ำ  จีนส์กำลังจะเป็นไข้  ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จีนส์จะไข้ขึ้นเพราะบทรักที่ค่อนข้างรุนแรงเมื่อคืน  ทั้งที่หลับแต่จีนส์ก็ยังละเมอสะอื้นกระซิกตราบจนฟ้าสาง   จีนส์ผวาเข้ามาซุกหน้ากับอกทราวิสทันทีที่ตื่น “ทราวิส รักผมไหม…รังเกียจผมหรือเปล่า?”
         “ฉันไม่เคยรังเกียจเธอ” ทราวิสลูบผมนุ่มแผ่วเบา   
         “คุณไม่รู้นะสิ  ถ้าคุณรู้ความจริงคุณจะรังเกียจผม  คุณจะทิ้งผม”
         “ฉันไม่รังเกียจเธอและไม่เคยคิดจะทิ้งเธอไปไหน”
         “จริงนะฮะ…ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคุณจะไม่ทิ้งผมใช่ไหม?”
         “ฉันจะไม่มีวันทิ้งเธอ…ว่าแต่บอกได้หรือยังว่ามันเกิดอะไรขึ้น”   จีนส์กัดปากแน่น  สีหน้าทรมานและสับสนก่อนจะพรั่งพรูทุกอย่างออกมาด้วยความเจ็บปวด ทราวิสฟังด้วยสีหน้าเรียบสงบ  แต่ดวงตาที่ฉายแววอ่อนโยนทำให้จีนส์อุ่นใจ         
         “เท็ดกับเพื่อนช่วยจัดการพวกมันให้  ผมไม่นึกเลยว่าจะต้องมาเจอมันอีก”
         “นี่สินะฝันร้ายที่ทำให้เธอร้องกรี๊ดๆอยู่ทุกคืน”
         “ผมไม่อยากนึกถึงพวกมันอีก  พวกมันทำให้ชีวิตผมแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี  ทำให้ผมน่ารังเกียจในสายตาของคนที่ผม…รัก”
         “ถ้าคนที่เธอรักมองแค่เปลือกภายนอก รักแค่ร่างกายของเธอ เธอยังจะแคร์เขาอยู่ทำไม”  ทราวิสถามเสียงห้วน  แต่จีนส์กำลังเศร้าจึงไม่ทันสังเกต
         “…เขาไม่เคยรักผมมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว…ไม่แม้แต่จะชอบด้วยซ้ำ  สิ่งเดียวที่ทำให้เขาทนทำดีกับผมเพราะผมเป็นญาติ แค่นั้น…” จีนส์หัวเราะเยาะตัวเอง  พร้อมๆกับที่น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย  ทราวิสโอบร่างบางไว้แน่น  ปล่อยให้จีนส์ใช้อกกว้างซับน้ำตา… 
............

         จีนส์เพิ่งรู้ว่าการทำงานมันสนุกอย่างนี้เอง  สายตาของคนที่อยู่แต่กับแฟชั่นหรูหราเพิ่งจะมีข้อดีก็วันนี้  จีนส์สามารถช่วยทราวิสเลือกหาผ้าให้เข้ากับแบบที่ทราวิสต้องการได้ราวกับมานั่งอยู่กลางใจทราวิส  ทั้งสองเข้าสู่โลกส่วนตัวที่มีแต่ผ้า ผ้า และผ้า  จีนส์กลายเป็นเงาที่ติดตามทราวิสไปทุกที่  จากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่งเพื่อแสดงแบบเสื้อผ้าของทราวิส  เวลาที่ได้ใกล้ชิดกันทำให้ได้เรียนรู้กันและกันมากยิ่งขึ้น  จีนส์ได้คำตอบว่าทำไมคนที่จับแต่ดินสออย่างทราวิสถึงมือด้าน  เพราะทันทีที่เสร็จงานทราวิสจะพักผ่อนด้วยการปีนเขา  ดำน้ำ  หรือไม่ก็เล่นวินเซฟ  แน่นอนว่าทราวิสลากจีนส์ให้เข้าร่วมทุกกิจกรรมที่เขาโปรด    ทำให้จีนส์รู้สึกว่างานที่ทำมันโหดน้อยกว่ากิจกรรมยามพักผ่อนเสียอีก  แต่เด็กหนุ่มก็ยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยน  ตื่นเช้าขึ้นเพราะต้องไปวิ่งกับทราวิส  รอบคอบขึ้นเพราะไม่งั้นอาจตกเขาตายง่ายๆ  รับผิดชอบตัวเองมากขึ้น รู้จักดูแลตัวเองทั้งในเรื่องเสื้อผ้าและอาหารไม่อย่างนั้นก็อดเพราะไม่มีคนทำให้  และในยามค่ำคืนเขาและทราวิสจะมีกันและกันเสมอ  ไม่จำเป็นต้องมีเซ็กส์  เพียงแค่ได้ซุกซบอยู่กับอกทราวิสจีนส์ก็หลับได้อย่างเป็นสุขแล้ว วัยที่ต่างกันไม่เกิดปัญหาใดๆ  ช่วงระยะเวลา3เดือนนี้ช่างแสนสุขจนบางครั้งจีนส์ก็กลัวว่ามันจะอยู่กับเขาไม่นาน
         แล้วตัวปัญหาก็โผล่เข้ามาในเช้าที่แสนสงบ  รถเก๋งหรูหราที่มีแต่โคลนท่วมถึงหลังคาคลานเข้ามาจอดที่ลานข้างบ้านขณะที่จีนส์และทราวิสกำลังป้อนมื้อเช้าให้กันและกัน  รามลงมาจากรถก่อนตามด้วยร่างโปร่งระหงส์  ผิวผ่องกับชุดสูทสีเทาช่างสง่างามไร้ที่ติ  ทราวิสลุกพรวดขึ้นแล้ววิ่งลงไปหา  ร่างโปร่งระหงส์โผเข้ากอดกันกลม  จีนส์ตัวชาใจหายวาบเมื่อได้สบกับตาสีทองเป็นประกายจ้านั้น
         “จีนส์นี่ไนท์นะ  เขาเป็น…”
         “เพื่อนสนิทที่สุดของทราวิส  ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณจีนส์”
         “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”  จีนส์เจ็บแปลบในอก  จู่ๆภาพที่เขาเคยทักทายกายก็ไหลย้อนกลับมา  นี่จะเรียกว่าอะไรดี  สิ่งที่เขาเคยทำกับกายกำลังย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองหรือ  แต่คงไม่เหมือนกันเพราะเท็ดไม่เคยมีใจให้เขา  แต่ทราวิสไม่ใช่  เด็กหนุ่มใจสั่นทำไมจะไม่เห็นว่าทราวิสตื่นเต้นยินดีแค่ไหนที่ได้เจอไนท์  แขนแข็งแรงที่เคยกอดเขาบัดนี้โอบรัดอยู่ที่ไหล่ของไนท์ไม่วาง  รอยยิ้มอ่อนโยนที่จีนส์เคยคิดว่าเป็นของเขา บัดนี้มันกลายเป็นของไนท์  ท่าทางคุ้นเคยบอกให้รู้ว่าไนท์ไม่ได้มาที่นี่เป็นครั้งแรก  จีนส์กลืนน้ำตากลับเข้าไป แม้จะไม่ได้คาดหวังให้เขาเป็นคนแรกที่ทราวิสพามาที่นี่  แต่ก็เจ็บปวดที่รู้ว่าคนที่สำคัญที่สุดของที่นี่ไม่ใช่เขาอยู่ดี
         “มาเหนื่อยๆเข้าไปพักก่อนดีกว่า  เพิ่งทำความสะอาดห้องให้เมื่อวาน  สังหรณ์ใจอยู่เหมือนกันว่าจะมา…”ทราวิสโอบไหล่ไนท์พากันลงบันไดไปยังห้องพักแขกด้านหลัง 
         “สบายดีเหรอครับคุณจีนส์?”  จีนส์เกือบสะดุ้งเมื่อมีเสียงทักทายข้างหลัง  แต่การฝึกตัวเองให้มีสติอยู่เสมอของทราวิสช่วยเขาไว้  เด็กหนุ่มปั้นหน้าให้ดูสดชื่นที่สุดขณะหมุนตัวไปเผชิญหน้ากับราม
         “สบายดีครับ  ที่นี่วิวสวย อากาศดีแล้วก็ยังมีกิจกรรมสนุกๆให้ทำอีกเพียบ  คุณรามละครับเป็นไง  ดูท่าทางเหนื่อยงานที่โน้นหนักหรือครับ”
รามกัดกรามกรอด  หวังว่าจะได้เห็นจีนส์กรีดกราดโวยวายบ้าง แต่กลับต้องเจอกับหน้าเปี่ยมสุขเช่นนี้ 
         “ก็มาเหนื่อยตอนขับรถมานี่แหละครับ  แต่ถ้าคุณรอยเตอร์รู้ว่าคุณไนท์มาแล้วผมยังไม่พามาทันที่มีหวังอาระวาดตายเลย  ท่านรักของท่าน…เอ่อ…คุณจีนส์คงยังไม่ทราบว่าคุณไนท์กับท่านเป็นคนรักกัน  แต่ที่ต้องแยกกันเพราะคุณไนท์ต้องไปตรวจงานที่ต่างประเทศบ่อยๆ”
         “คนรัก…”
         “ครับคนรัก…แต่ไม่ต้องกังวลนะครับ  คุณไนท์ท่านใจกว้างเรื่องที่คุณทราวิส จะมีเพื่อนคลายเหงาบ้างน่ะท่านไม่ถือ  ก็อยู่ด้วยกันมาเกือบสิบปีท่านเข้าใจกันดีครับ”   จีนส์หูอื้อตัวสั่นจนแทบยืนไม่อยู่  ไม่มีความโกรธหรือความอาย  มีแต่ความเจ็บปวดที่เหมือนจะฉีกร่างเป็นชิ้นๆ 

         จีนส์ปิดประตูห้องเบาๆ  เสียงหัวเราะของรามเหมือนจะไล่หลังมาและดังก้องอยู่ในหู  ทั้งๆที่ทราวิสแสนจะอ่อนโยนแต่ไม่เคยสักครั้งที่จะบอกว่ารัก  ในยามที่บทรักเร่าร้อนถึงขีดสุด  เสียงกระซิบกระซาบแผ่วเบานั้นเขาคงฝันไปเอง
         จีนส์ทิ้งตัวลงบนที่นอน  ทั้งที่เจ็บปวดอย่างที่สุดแต่กลับไม่มีน้ำตา  เพราะมันไหลย้อนกลับเข้าไปท่วมหัวใจหมดแล้ว  จีนส์นอนนิ่งๆอยู่นานตราบจนได้ยินเสียงเคาะประตูหนักๆ
         “คุณจีนส์ครับ  ท่านให้เชิญที่ห้องโถงกลาง  วันนี้จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับคุณไนท์  คุณจีนส์ครับ  คุณจีนส์….”
         จีนส์ยังคงนอนเฉย  ไม่ยินดียินร้ายต่อสิ่งใด  รามเรียกอยู่ครู่หนึ่งก็ผละไป  จีนส์ลุกขึ้นค้นยานอนหลับออกมาจากกระเป๋าสะพาย  เทออกมาใส่มือและกลืนลงไปโดยไม่ได้นับว่ากี่เม็ด  เด็กหนุ่มหลับตาลงช้าๆและบอกตัวเองว่านี่คือความฝัน  และเขาฝันร้ายไปเท่านั้น พรุ่งนี้ทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม
         ‘จีนส์  จีนส์  เอารถออกเร็ว’
         ‘บ้าจริงทำอะไรบ้าๆ  ทราวิสทนคบเด็กบ้าๆอย่างนี้ได้ไง’
         ‘จีนส์  อย่าตายนะจีนส์’
         ‘ทราวิสเร็วเข้าอย่าเอาแต่ตกใจสิ’
         ‘จีนส์อย่าทิ้งฉันนะ  ตื่นสิที่รัก  ตื่น…’
         ‘จะบ้าตายทำไมเป็นอย่างนี้นะ  สร้างปัญหาให้คนอื่นจริงๆ’ 
         ‘อาเจียรออกมาแล้วทราวิส…นี่กินเข้าไปกี่เม็ดเนี่ย’
         ‘จีนส์…ทำไมทำแบบนี้…อย่าเป็นอะไรนะจีนส์  ฉันรักเธอนะ  อย่าทิ้งฉันไปนะจีนส์’ 
         ในความมืดกระแสน้ำเย็นฉ่ำกำลังดึงเขาให้ค่อยๆจมลงไป  แม้จะน่ากลัวแต่ก็เย็นสบาย    จีนส์ตั้งใจจะไปยังฝั่งที่มืดมิด  แต่ในความสว่างที่ห่างไกลใบหน้าเปื้อนน้ำตาของแม่ปรากฏให้เห็น  จีนส์โผเข้าไปหาแต่เจ็บปวดเหมือนร่างถูกฉีกเป็นชิ้นๆ  แสงสว่างวาบเข้าตาแล้วทุกอย่างก็ค่อยๆมืดลงอีกครั้ง 


.............



         จีนส์ส่งกระเป๋าให้คนของเจฟฟรี่เอาไปใส่ในรถ  ส่วนตัวเขาจะไปหา ทราวิสที่ห้องทำงาน  บ้านเงียบจนได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาและบอร์ดี้การ์ด
         “ขอผมเข้าไปลาเจ้าของบ้านเขาก่อน  คุณไปรอที่รถก็ได้”
         “ไม่เป็นไรครับผมจะรอหน้าห้อง”  ร่างสูงก้มศรีษะให้และถอยไปยืนตัวตรง
         “ตามใจ” จีนส์เคาะประตูสองครั้งได้ยินเสียงอนุญาตจากภายในจึงเปิดเข้าไป  ทราวิสนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่  ม่านทั้งห้องถูกรูดปิดและเปิดเฉพาะโคมไฟดวงเดียวทำให้มองเห็นทราวิสไม่ชัดนัก 
         “มีอะไร?”   
         “เอ่อ…คนของพี่ชายผมมารับแล้วฮะ” 
         “งั้นเหรอ”  ทราวิสยังนั่งนิ่งไม่ขยับ 
         “ฮะ…ขอบคุณมากนะฮะที่ช่วยชีวิตผมไว้  แล้วก็ขอโทษด้วยที่สร้างแต่ปัญหาให้คุณ  ทำให้คุณกับคุณไนท์ทะเลาะกัน”
         “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร…ฉันกับไนท์  เราทะเลาะกันออกบ่อย เดี๋ยวก็ดีกัน” 
น้ำเสียงนั้นเฉยเมยจนจีนส์น้อยใจ น้ำตาพาลจะไหลออกมาแต่จะอ่อนแอให้ทราวิสเห็นไม่ได้เด็ดขาด  ถึงจะไม่ได้ตั้งใจแต่ผลจากการกินยานอนหลับเกินขนาดของเขาก็ทำให้ทราวิสทะเลาะกับไนท์ใหญ่โต  ถึงขนาดที่ไนท์หายออกไปจากบ้าน  ทราวิส ตามให้วุ่นกว่าจะรู้ว่าไนท์ไปฝรั่งเศสแล้ว รามโวยวายใส่เขาตั้งแต่วันแรกที่รู้สึกตัว จีนส์จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากแฮมิลตันกรุ๊ป 24ชั่วโมงต่อมาเขาถูกย้ายจากโรงพยาบาลเดิมมาที่โรงพยาบาลในเครือของแฮมิลตัล และทราวิสไม่เคยไปเยี่ยมเขาเลย
         วันนี้เขาออกจากโรงพยาบาลได้แล้วและกำลังจะบินกลับซานฟรานซิสโก  จึงมาเก็บของและบอกลาทราวิส  แม้จะรู้ว่าต้องเจ็บปวดอีกแต่จีนส์ก็ยังอยากเห็นหน้าทราวิสเป็นครั้งสุดท้าย
         “ทราวิสฮะ…เอ่อ…” ร่างสูงลุกจากเก้าอี้ไปยืนกอดอกมองผ้าที่พาดอยู่หุ่นโชว์  จีนส์ขยับเข้าไปจนใกล้  ใกล้พอที่จะมองเห็นใบหน้าเรียบเฉยของชายหนุ่ม
         “ขอบคุณฮะสำหรับทุกอย่าง  คุณทำให้ชีวิตผมเปลี่ยน  ทำให้ผมรู้ว่าความรักจริงๆมันเป็นยังไง  ผมสร้างปัญหาให้คนอื่นมามากแล้ว  และผมจะไม่ยอมให้คุณต้องเดือดร้อนเพราะผมอีก  หึ…ผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีหัวด้านแฟชั่น  ผมเจอทางที่ผมจะเดินแล้วฮะ”
         “หมายความว่าเธอจะไป…?”
         “ฮะ…”  จีนส์เขย่งขึ้นจูบปากชืดชา แต่ทราวิสก็ยืนเฉยไม่ขยับ  จีนส์ฝืนยิ้มทั้งที่กระบอกตาร้อนผ่าว  กล้ำกลืนน้ำตาให้ไหลย้อนกลับ
         “ผมรักคุณ  ลาก่อนฮะทราวิส…”  จีนส์หันกลับน้ำตานองหน้า  ประตูห้องทำงานปิดลง  พร้อมกับที่จีนส์รู้สึกเหมือนหัวใจของเขาก็ปิดตายตามไปด้วย 
         “สิบ…เก้า…แปด…เจ็ด…”
         “นายนับถอยหลังทำไม  บ้าหรือเปล่า?”
         “หึๆเดี๋ยวก็รู้ครับ…หก…ห..”  ปัง!ประตูห้องถูกกระแทกอย่างแรง  จีนส์สะดุ้งเฮือกยังไม่ทันขยับก็ถูกกระชากจนลอยลิ่ว
         “อย่ามาดูถูกกันนัก  คิดจะทิ้งก็ทิ้งกันง่ายๆอย่างนี้เชียวเหรอ!” 
         “ทราวิส อื้อ!”  ทราวิสปิดปากจีนส์ไว้แน่น  ร่างเล็กถูกหิ้วกลับไป  คนของเจฟฟรี่ขยับแต่พอสบตากับทราวิสก็หยุดชะงัก
         “บอกนายแก  ถ้าเขาสำคัญก็มาตามกลับไป” ทราวิสคำรามเสียงกร้าว
         “เจ้านายผมแค่ให้มารับถ้าคุณจีนส์อยากกลับ  แต่ถ้าคุณจีนส์เต็มจะอยู่…”
         “จีนส์จะอยู่ที่นี่กับฉันและจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
         “ว่าไงครับคุณจีนส์?”  ทราวิสยอมคลายมือที่ปิดปากออก  จีนส์ก้มมองท่อนแขนแข็งแรงที่รัดรอบเอวแน่น  ก่อนจะเหลือบขึ้นมองหน้าเครียดขึงของทราวิส
         “ผม…ขอคุยกับเขาตามลำพังสักครู่” 
         “ไม่ต้องรอ กลับไปเลยเธอต้องอยู่กับฉัน! ถ้าฉันไม่อนุญาตห้ามไปไหนทั้งสิ้น”
“ทราวิส!”  จีนส์ร้องเสียงหลงขณะถูกลากกลับเข้าไปในห้องและประตูก็ปิดลงดังสนั่น  คนที่ยืนหน้าประตูยักไหล่และหมุนตัวออกมาจากที่นั่น


         แม่ฮะ…ตอนแรกผมตั้งใจจะคุยกับแม่แต่ที่โรงแรมบอกว่าแม่กลับไม่เป็นเวลา ผมเลยต้องส่งเมล์มาแทน ตอนนี้ผมอยู่ที่ไต้หวันฮะ  ทราวิสมีแฟชั่นโชว์ที่นี่  ผมโอนมาเรียนดีไซน์ทางเมล์แทนแล้วฮะ  เพราะต้องช่วยงานทราวิส  แม่คงแปลกใจที่รู้ว่าผมทำงาน แต่ผมทำได้จริงๆนะฮะ ทำได้ดีด้วย  ทราวิสสัญญาว่าถ้าได้พักยาวจะพาผมไปหาแม่ เขาบอกว่าจะไปโชว์ฝีมือทำอาหารอิตาลี่ให้แม่ยายทาน ส่วนเรื่องที่แม่ห่วงเท็ดบอกผมแล้ว ไม่มีอะไรอีกแล้วฮะ ปัญหาทั้งหมดเกิดจากความเข้าใจผิด  ก็เลขาตัวแสบของทราวิสสิฮะ หลอกผมว่าทราวิสกับไนท์เป็นคู่รักกัน จริงๆแล้วไนท์เป็นน้องชายคนละแม่ของทราวิส รามหลอกไนท์ว่าผมเป็นเด็กขายตัวและพยายามจับทราวิส พอผมเข้าโรงพยาบาลพี่น้องเขาเลยทะเลาะกัน  ทราวิสถึงได้รู้ว่าเรื่องวุ่นวายทั้งหมดมาจากราม รวมถึงเรื่องเคย์รามสืบรู้เลยก็ไปจ้างเคย์มา แต่เขาไม่ถูกไล่ออกหรอกนะฮะ ทราวิสบอกว่าเขาทำงานดี แต่วุ่นวายเรื่องส่วนตัวมากไป  เลยส่งไปช่วยงานออฟฟิศที่มาเลเซีย   ตอนนี้ผมมีความสุขมากๆ  ผมเพิ่งรู้ว่าความรักจริงๆมันเป็นยังไง  ผมเข้าใจแล้วครับว่าทำไมเท็ดถึงรอแต่กายคนเดียว  เพราะถ้าผมต้องเสียทราวิสไปผมคงมีชีวิตอยู่ไม่ได้  ทราวิสทำให้ผมรู้ว่าเขารักผมแค่ไหน  เขารู้อดีตผมทุกอย่างแต่เขาไม่รังเกียจผม  แม่ฮะ…แม่ไม่ต้องห่วงผมอีกแล้วนะฮะ  ผมเจอทางของตัวเองแล้ว…โอ๊ย!ทราวิสเร่งใหญ่แล้วผมคงต้องจบแค่นี้ก่อนนะฮะ ไว้วันหลังจะเมล์มาหาแม่ใหม่
                  รักแม่ฮะ…จีนส์
ปล. แม่ใช้โทรศัพท์มือถือเสียทีเถอะครับ  ผมจะได้โทรไปหา  

...............

จบลงไปอีกเรื่องแล้วนะคะ หวังว่าคงสนุกกัน บทประพันธุ์ของคุณ  ใบปอ ยังมีอีกเรื่องที่จะนำมาลง ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวพันหรือมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับสองเรื่องนี้ ตัวละครเอกเรื่องที่สามก็ได้โผล่ออกมาทักทายบ้างแล้ว เดากันถูกไหมคะว่าตัวละครตัวเอกตัวนั้นคือใคร

และได้ทราบว่าคุณใบปอกำลังแต่งอีกสองเรื่องแต่สองเรื่องหลังนี้ไม่รู้ว่าจะแต่งจบเมื่อไหร่ ถ้าคุณใบปอแต่งจบแล้วจะขอนำมาลงที่นี่ต่อคะ

ขอบคุณคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: hene2526 ที่ 28-11-2009 12:34:15
ได้จิ้มอีกแล้ว...555 ดีใจจัง

นั่งปูผ้ารออ่านแล้วครับ  จัดมาเลยอย่าได้ขาดตอน
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 28-11-2009 13:29:18
ขอบคุณคุณใบปอและคุณคนโพสต์มากๆค่ะ สำหรับตอนพิเศษ
ฝีมือของคุณใบปอทำให้รอติดตามได้เรื่อยๆ
เป็นกำลังใจให้สำหรับงานเขียนทุกชิ้นนะคะ
และจะรออ่านเรื่องต่อๆไปค่ะ
บวก 1 แต้ม ขอบคุณอีกครั้งค่ะ  :L2:

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 28-11-2009 13:30:00
+1 ให้คุณ tianqin เอาใจช่วยจีนส์มาตลอด สุดท้ายก็ได้พบอีกครึ่งหนึ่งที่ตามหาและ
รอคอยอยู่ ดีใจกับจีนส์ที่พบเจอคนดี ๆ แบบทราวิส แถมยังได้ค้นพบกับการเรียนและอาชีพ
ที่เหมาะสมกับตัวเองด้วย หลังจากที่ตกอยู่ในความเจ็บปวด ความทุกข์และฝันร้ายมานาน
สุดท้ายก็ได้พบกับความสุขเสียที HAPPY ENDING แบบนี้ คนอ่านพลอยมีความสุขไปด้วย
 :pig4: จะรออ่านตอนพิเศษต่อไปนะคะ ......
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 28-11-2009 14:22:21
ลงเอยกันได้ด้วยดี

จีนนี่
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-11-2009 19:49:19
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: SANDSEAME ที่ 28-11-2009 20:35:17
+1 ให้ึุคุณ เทียนฉินค่ะ  ที่โพสเรื่องดีให้อ่าน
ขอบคุณคุณใบปอ ผู้แต่ง
 :pig4:

เสียดายที่ไม่ได้ตามอ่านแต่ต้น
มาอ่านตอนจบแล้ว
สนุกมากจริงๆค่ะ
มีทุกรสเลย  โดยเฉพาะฉาก NC  บอกได้คำเดียว
 :jul1: :haun4:

จะคอยติดตามเรื่องของคุณใบปอเรื่องต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: shine ที่ 28-11-2009 20:43:47
ขอบคุณ คุณ tianqin ที่เอานิยายสนุกๆมาให้อ่าน ตั้งแต่เรื่องของราเชล ริช เท็ด กาย และก็ตอนพิเศษของจีนส์ด้วย จะรอคุณ tianqin เอานิยายของคุณ ใบปอ เรื่องต่อไปมาลงอีกนะค่ะ

เป็นกำลังใจให้ทั้งคนโพส และคนแต่งเลยนะค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 28-11-2009 23:22:43
ไม่คิดว่าเรื่องจีนส์ จะสนุกมีสีสันไม่แพ้เรื่องหลักขนาดนี้

ขอบคุณนะคะ แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตารอเรื่องต่อไปนะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 29-11-2009 10:48:48
 o13
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 29-11-2009 11:24:36


 o13


แล้วจะรออ่านเรื่องใหม่ค่ะ

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 29-11-2009 16:47:58
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษของจีนส์มีความสุขสักที  จะรอผลงานของคุณปอต่อไปครับขอบคุณคุณtianqin ด้วยครับ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: ┠┨ ¡ Þ Þ ☻ ❣ ╰╰ ที่ 29-11-2009 17:14:19
ขอฝากตัวเปนเเฟนด้วยคนค่ะ...

แต่ยังม่ะดั้ยอ่านน่ะ...แหะๆ...

อ่านจบแล้วจะมา ดัน  ใหม่จร้า....

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 29-11-2009 18:05:10
 ขอบคุณค่ะ รออ่านเรื่องต่อไปนะคะ   : 222222:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 01-12-2009 21:59:56
อ่านแล้วให้บรรยากาศถึงนิยายโรมานซ์  เหมือนอ่านแล้วนึกภาพบรรยากาศแบบนั้นนะ อ่านแล้วชอบนะ แบบว่าไปไวบรรยายจัดเจน จบเคลียร์ สนุก
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: runglovely3 ที่ 06-12-2009 15:11:48
ขอบคุณครับ  สำหรับนิยายดีๆแบบนี้ :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: fin_never ที่ 09-12-2009 17:53:36
ขอบคุณ สำหรับนิยายสนุก
รอเรื่องที่ สาม อยูนะค่ะ
 :bye2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: Alexie333 ที่ 11-12-2009 01:58:01


 :pig4: :pig4: :pig4:




ขอบคุณมากๆนะคัรบ สำหรับเรื่องสนุกๆ


ขอสมัคร เป็นแฟนคลับด้วยคนน่ะครับ


ไว้ว่างๆ ผมจะมาอ่านใหม่น่ะครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 12-12-2009 14:08:41
สนุกจริงๆ ค่ะ จะติดตามผลงานของคุณใบปอตลอดไป ..... อีกเรื่องนี่ของแจ็คผู้อาภัพรักรึเปล่าเอ่ย....
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 12-12-2009 15:17:35
อ่านจบแล้วค่า  สนุกมากเลย ๆ

เอาใจช่วย เท๊ดกับกาย รักต้องห้าม ดีนะแม่ยังเห็นด้วย ส่วนคุณพ่อนี่ สุดโต่งจริง ๆ

ตอนกาย มาเป็นซันก็น่าสงสาร โชคดีที่ไม่โดนทำร้ายร่างกายมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่เท๊ดตะเจ็บตามเท่านั้น คนอ่านก็หัวใจจะสลายตามไปด้วย

ช่วงที่จีนส์ มา แอบคิดจริง ๆ ว่าจีนส์แทนกายจริง ๆ

จีนส์มีชีวิตที่น่าสงสาร โหยหาความรักแบบผิด ๆ นึกว่าจะลงเอยกะแจ๊คซะอีก แต่ อย่างเเจ๊คคงเอาเธอไม่อยู่

รอติดตามผมงานเรื่องดี อย่างนี้ต่อไปค่ะ

ขอบคุณผู้โพสด้วยที่เอาเรื่องดี ๆอย่างนี้ มาแบ่งปันนะค่ะ
 
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 15-12-2009 09:54:45
สุดยอดดดดดด  o13
แบบว่าชอบมากๆเลยทั้งสองเรื่อง   
เรื่องแรกที่อ่านก็ชอบ  แต่ว่าตัวละครแอบเยอะ เลยมึนๆเป็นบางช่วง
แต่เรื่องนี้ทำให้คลี่คลายบางอย่าง ตัวละครทุกๆตัวมีความเกี่ยวพันกัน
ทำให้อยากอ่านเรื่องที่สามมากๆ  จะติดตามต่อนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 16-12-2009 15:32:00
 :o8: แงะตัวเองไม่ออกเลยทีเดียว





ขอบคุณคร่ะ จาตามต่อไป อิอิ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 17-12-2009 00:04:56
น่ารักกกกก โดยเฉพาะตอนพิเศษ ทราวิสเหมาะกับจีนมากเลยยยยย จีนโตขึ้นแยะเลยยยย ดีใจจัง ที่จีนได้เจอคนที่ใช่จริงๆ เฮ้อออออออ อ่านแล้วชื่นใจๆ

เขียนดีจริงๆจ้า
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 24-12-2009 15:43:16
โอ้...........
ปลื้มมากมาย
ในที่สุดหนูจีนส์ก็มีความสุขเสียที  ฮือๆ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 14-01-2010 23:47:33
เอ๋? ที่ทำเป็นหนังสือใช่ไหมคะ??   :confuse:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 28-01-2010 17:24:54
อ่านจบไปอีกเรื่อง
อ่านติดๆ กันแบบนี้เล่นเอามึนเหมือนกัน

อ่านภาคนี้แล้วสงสารกายมากๆๆๆๆ เลย
7 ปีเชียวนะ นานมากๆ
ส่วนจีนส์นี่เป็นตัวละครที่มีการเปลี่ยนแปลงเยอะที่สุด
จากเด็กเอาแต่ใจ นิสัยไม่ดี ปากจัด
ไหงเปลี่ยนไปซะขนาดนี้ จากหลังเท้าเป็นหน้ามือสุดๆ

ขอบคุณคุณเทียนฉินกับคุณใบปอมากๆ แต่เอาเรื่องนี้มาลงให้อ่าน
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 14-02-2010 00:13:40
กรี๊สส
สนุกมากก
ชอบอ่ะ
ทราวิสน่ารักง่ะั
-   -
แอบสงสารจีนส์
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 20-03-2010 13:27:28
พึ่งอ่านจบ สนุกมากเลย มีหลายรส

เล่นเอาไม่หลับไม่นอนอยากอ่านให้จบ

เป็นกำลังใจให้กับผลงานชิ้นต่อไปนะ

(งั้นขอไปอ่านตอนพิเศษก่อนนะ) :bye2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: Hachi_an1234 ที่ 27-03-2010 11:32:43
 :mc4: ติดตามเรื่องที่พี่เขียนเป็นเรื่องที่สองแล้วฮับบบ...
ตามมาจากเรื่องถนนสายหัวใจ... เรื่องของริชกับราเชล น่ารักมากๆๆลยอะ :impress2:
แล้วแบบเรื่องนี้ชอบตอนของกายกับเท็ดมากอะ... แบบ เท็ดเป็นพี่ที่ดีคนรักที่ดีสุดๆๆๆ :o8:
แล้วก็นะแอบบบ :haun4: นิดๆๆๆๆ ฮะๆๆ แต่ชอบตอนที่เท็ดดูแลกายมากมากย :กอด1:

ตอนแรกๆๆๆจีนส์แบบนะ... แต่ตอนเจอกับทราวิสแล้วได้รู้จักความรักแล้วจีนส์น่ารักอะ...  :mc4:
แล้วจะติดตามผลงานของพี่ต่อไปเรื่อยๆๆฮบบบบบ :pig4:
 :bye2: :mc4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: chatori ที่ 12-04-2010 17:36:02
ตามมาจากเรื่องของริชกับราเชล หุหุ
ตาแห้งอีกแล้ว สนุกมากจนหยุดไม่ได้
ชอบทั้งคู่เท็ดกายกับทราวิสจีนส์เลย อิอิ
ตอนแรกหมั่นไส้จีนส์มากมาย แต่อ่าน
ไปได้สักพักก็สงสาร สุดท้ายก็แฮปปี้ซะที
น่ารักมากกกมายยย ~ ขอบคุณนะคะ :D
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 12-04-2010 22:16:39
สนุกมาก ๆ เลยค่ะ ขอบคุณมาก ๆ สำหรับนิยายดี ๆ อีกเรื่องนึงค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: ampritise ที่ 13-04-2010 08:14:49
 o13 o13 o13
หนุกมากเลยครับ
หวานนนนมากกกก
มดเต็มเลย
ขอบคุณที่แต่งให้อ่านครับ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 21-04-2010 16:46:13
 :o8: :o8:

เป็นอีกเรื่องที่น่ารัก ขอบคุณคนแต่ง ขอบคุณคนโพส ด้วยจ้า
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: Hachi_an1234 ที่ 06-05-2010 02:22:55
กลับมาอ่านกี่ทีๆๆๆก็ยังชอบเท็ดกับกายอะ...  รู้สึกถึงความรักของคู่นี้เค้ามากๆๆๆเลยอะ.... :n1: :กอด1:
แต่อยากจะรู้อะฮับพี่...ว่าตอนหลังแล้วกายเป็นยังไงบ้างอะ... มีการศัลยกรรมที่แผลแล้วเรื่องขาเป็นปกติเลยรึป่าวอะ...
สงสารน้องกายอะ.... เข้าใจอยู่ว่าเท็ดรับได้ทุกอย่างเพราะว่ารักกายคนเดียว...
แต่ผึ้งว่ายังไงกายก็คงอยากกลับมาปกติด้วยแหละ... น้องออกจะน่ารักขนาดนี้... :o8: อาๆๆๆๆ
อยากให้ทำภาคพิเศษอะฮํบบบ.... อยากอ่านๆๆมากๆๆเลย....
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: zatannn ที่ 21-06-2010 14:42:02
เย้ ในที่สุดก็ได้อ่านเรื่องของกาย  เรานะ ไปหาหนังสือ สองภาคหลังมาได้ก่อน

แต่หาภาคนี้ไม่ได้  เลยต้องมาอ่านออนบอร์ด  ขอบคุณมากๆนะคะที่มาโพสให้อ่าน

สนุกทุกภาคจริงๆ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: tonight ที่ 02-07-2010 02:42:18
สนุกมากๆเลยคับ ทุกรสชาติ ทุกอารมณ์ คุณใบปอแต่งได้เจ๋งมาก

ขอบคุณคนโพสต์ด้วยนะคับ ส่วนตัวแล้วสงสารจีนส์มากๆๆ แต่ก็เหมาะแล้วที่มาเจอทราวิส ปราบเด็กดื้อ

และช่วยคนเปิ่นๆได้เป็นอย่างดี ส่วนกายกับเท็ดชอบตอนแรกๆก่อนเกิดอุบัติเหตุมากๆคับ

หวานๆ ดี พอตอนหลังดราม่าแล้วเศร้าคับ

ขอบคุณนะคับสำหรับเรื่องดีที่นำมาแบ่งปันกัน
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 02-07-2010 16:22:31
สนุกมากเลยค่ะ....ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 05-07-2010 12:04:02
มาตามอ่านเรื่องของคุณใบปอ
ขอบคุณคนโพสด้วยค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: Hachi_an1234 ที่ 10-07-2010 13:39:39
กลับมาอ่านกี่ทีๆๆก็ชอบอะ.. ฮุๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: honeymic ที่ 21-07-2010 19:00:14
อ่านรอบนี้เป็นรอบที่ 3 แต่เมนท์เป็นรอบแรก
อ่านกี้ครั้ง กี่ครั้ง ก็ยังประทับใจไม่เบื่อ
ของเขาดีจริง ๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 24-07-2010 20:21:08
ขอบคุณค้าบ

มีความสุข แล้วก็แฮปป์ปี่
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: Hachi_an1234 ที่ 10-08-2010 01:35:31
เรื่องนี้อ่านกี่ทีก็ไม่เคยเบื่อ ความรักระหว่างเท็ดและกายคือดี...
แต่อยากรู้ต่อจังว่าหลังจากผ่าตัดแล้ว กายจะแซบขึ้นแค่ไหน  :hao7:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: *4_m3* ที่ 11-08-2010 16:37:25
ขอบคุณค่ะ :กอด1:

อยากรู้เรื่องของกายต่อเหมือนกันอ่ะ

กายจะยั่วเท็ดแบบไหนอีก...แอบดูได้ไหม  :-[
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: barbieBot ที่ 29-08-2010 02:11:13
อ่านจบแล้ว ยังไม่ได้อ่านตอนพิเศษ ทนไม่ไหว ต้องมาเม้นก่อน ว่าชอบมากกกกก ปลาบปลื้มมมมมมม>_< ดราม่าดีสุขเศร้าครบรส :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: fakelove ที่ 29-08-2010 16:29:29
ซึ้งมาก กกๆๆ

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: บอลลูนลอยฟ้า ที่ 29-08-2010 19:46:55
ผมชอบเรื่องแนวๆนี้มากเลยครับ สะเทือนใจดี

อ่านตอนพิเศษแล้ว สุดยอด น้ำตาไหลเกือบทั้งเรื่อง มันบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าเรารู้backgroundของจีนส์มาแล้ว ทำให้รู้สึกอิน และเห็นใจเอาใจช่วยมากๆ ซาบซึ่งจริงๆ คนเขียนเก่งจัง

 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: Rina ที่ 30-08-2010 00:48:53
สนุกมากเลยค่ะ ความรักที่เท็ดรอกายได้สุดยอดเลย
ในที่สุดจีนส์ก็พบคนที่ตัวเองรักซะทีนะคะ
ว่าแต่แจ็คเป็นไงบ้างเนี่ย คิดถึงเหมือนกัน หุๆ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: woodoo ที่ 31-08-2010 20:12:26
สนุกมากมายคร้าบบบบบบบบบบบ  อิอิ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ" ภาคพิเศษ "เรื่องของจีนส์" ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: pidoma ที่ 01-09-2010 02:54:39
สนุกมาก ชอบมากคะ :pig4: o13
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 23-09-2010 22:50:22
เรื่องของจีนส์  นี่สุดยอด


เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ   ขอบคุณคุณใบปอ ที่แต่งเรื่องดีๆ ให้อ่านนะคะ
และ ขอบคุณ tianqin ที่เอาเรื่องนี้มาลงให้อ่านกันนะคะ

+1 เป็นกำลังใจค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: momoko_1144 ที่ 27-09-2010 07:08:21
 :mc4: :mc4:

ตามลุ้น ตามเชียร์ ตามให้กำลังใจกายมานาน นะคะ

แต่ ในที่สุด ก็สมหวังสักที

จริงๆ น่าจะมีสเปจีนส์ เนาะ แอบหวังๆไว้เหมือนกันค่ะ

แต่ แค่นี้ก็โอเคแล้วค่ะ สนุกมากๆเลย เนื้อหาน่าติดตาม

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆๆ o13 o13
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: sa-ma-cha-ya ที่ 02-10-2010 18:04:22
ขอบคุณมากนะครับสำหรับนิยายดี ๆ
ขอให้ผู้เขียน และเพื่อน ๆ นักอ่านทุกท่าน เป็นที่รัก และมีความสุขมาก ๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 02-10-2010 21:36:54
 o13

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 05-10-2010 13:13:51
อ่านกี่ทีก็สุดยอดตลอดอ่ะ     o13
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 23-10-2010 04:58:16
เพิ่งได้อ่านผลงาน คุณใบปอครั้งแรก   

ไม่มีคำบรรยายค่ะ  รู้อย่างเดียว  ตามทุกเรื่องแนๆค่ะ

ปล.เราชอบ  จีน ที่สุดเรยในเรื่องนี้อ่ะ  ดูเป็นตัวละครที่มีมิติ ดี
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 29-10-2010 18:18:42
กลับมาอ่านอีกทีก็ o13
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: ณยฎา ที่ 05-03-2011 04:36:13
อยากอ่านสเปจัง ผ่านอุปสรรคมากมาย แต่จบง่ายไปนิดนะ โดยรวมค่อนข้างชอบ สนุกใช้ได้
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: yaoigirl ที่ 17-03-2011 17:19:13
สนุกมากๆๆ o13 o13


อ่านกี่ทีก็ไม่เบื่อ

โดยเฉพาะ  nc  :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: kazama ที่ 17-03-2011 21:40:06
สนุกมากๆ สงสารกายกับเท๊ดจริงๆ

กว่าจะลงเอยกันได้ ต้องรอตั้ง 7 ปี

ในเรื่องเกลียดจีนส์์มากเลยอ่ะ  คนอะไรนิสัยแย่จริงๆ หน้าตาเหมือนกันก็ใช่ว่ามันจะแทนกันได้หรอกนะ


แต่พอได้อ่านสเป แล้วรู้สึกดีกับจีนส์ขึ้นมาหน่อย

ถ้าไม่ได้มองในมุมที่ไปแย่งคนรักของคนอื่นมา  จีนส์ก็น่ารักดีเหมือนกัน

ดีนะที่เจอคนของตัวเองแล้ว


ขอบคุณมากๆ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: mapoon ที่ 22-04-2011 23:03:13
บอกได้คำเดียวว่า  o13
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: cy55555 ที่ 01-05-2011 12:00:10
เป็นเรื่องที่ร้อนแรงมากค่ะ สนุกๆ
แต่ละคนยั่วกันสุดๆ  ฮ่าๆๆๆ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: jincool ที่ 25-05-2011 01:24:16
อ่านแล้วได้หลากหลายแง่มุมไว้ให้คิดดี

สำนวนโอมากๆๆๆ  และที่แน่ๆ...หึๆๆๆๆ ฉากนั้นเรียกเลือดได้สุดๆ จริงๆ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 26-05-2011 00:14:27
เท็ดผู้ชายที่สมเป็นลูกผู้ชายมาก แน่วแน่ และมั้่นคง กายไม่ว่าเวลาไหนก็มีเสน่ห์น่รัก เสมอ  o13 :pig4: :bye2:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 31-05-2011 18:48:21
กายกับเท็ด ในที่สุดก็มีความสุขกันซักที่

หลังจากกายผ่านเรื่องเจ็บปวดมา
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Newvy_lovely_world ที่ 31-05-2011 19:37:47
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: lastlover ที่ 05-06-2011 20:19:11
อ่านแล้วซึ้งมากมายค่ะ รู้สึกสงสารจีนส์ตั้งแต่แรกแต่บางครั้งก็รู้สึกไม่ชอบขี้หน้าเพราะการกระทำ
กายก็โอเคค่ะ รู้สึกว่าเป็นตัวของตัวเองดี แบบว่าที่ร้ายก็เพราะความจำเป็น
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 06-06-2011 17:00:35
ขอบคุณที่เอาเรื่องดีๆสนุกๆมาลงคะ
อ่านรวดเีดียวจบ ครบทุกรสดีคะ

ประทับใจเท็ดกับกายมาก  มันเป็นนิยามของความรักที่มั่นคง

ปล. ชอบที่แต่งตอนของจีนส์ด้วย แบบว่าถึงยังไงก้อแอบร้ายนิดๆ
สุดท้ายก้อมีคนที่รักกับเค้าจริงซักที
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: ISee ที่ 13-06-2011 11:37:28
พึ่งเข้ามาดูผ่าน ๆ ขอไปอ่านก่อนค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 17-06-2011 22:25:41
เพิ่งเข้ามาอ่าน  เรื่องนี้เรียกเลือดได้มากกกกกก

 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 19-06-2011 13:48:11
เป็นเรื่องนึงที่อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆ :3123:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 22-06-2011 10:46:38
 :o8: สนุกมากๆเลยจร้า มีหลายอัทรส (เขียนยังไงหว่า) มากๆเลยจร้า
ชอบทุกคู่เลย น่าสงสารกายอ่ะ ตั้ง 7 ปีหน่ะ กว่าจะได้เจอกัน เฮ้อออ
โชคดีที่ได้กลับมา และได้มารักกันเหมือนเดิม >-<
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: kongrapee ที่ 22-06-2011 17:34:34
ขอบคุณครับ ชอบมากรวมถึงตอนพิเศษด้วย จะเป็นกำลังใจและคอยติดตามผลงานเรื่อยไปขอบคุณอีกครั้งครับ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 23-06-2011 19:58:07
เนื้อเรื่องน่ารักจังแม้จะ :haun4:ไปซะหน่อยอิอิ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: lovely2min ที่ 25-06-2011 04:54:32
เรื่องนี้อ่านแล้วโชกเลือดมากมายค่ะ

กว่าจะได้รับการยอมรับเฮ้อ

แต่ว่าเรื่องนี้สงสาร จีนส์ มากมาย

อยากให้แจ็ครักกะจีนส์จัง
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 26-06-2011 13:41:27
ชอบมากเลยค่ะ ทั้งน่ารักแล้วก็ซึ้ง

เรื่องๆอื่นของใบปอมีเรื่องอะไรบ้างคะ
ถ้าไม่รบกวนหาลิ๊งให้หน่อยนะ >"<
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 27-06-2011 23:07:47
สนุกมาก พล็อตเรื่องดีมากกกกกกกกกกกกก
อ่านตอนแรกเซ็กซี่ๆ แต่ไหงไปๆมาๆน้ำตาท่วมซะงั้น
แต่งได้ดีมากเลยค่ะ สนุกครบรส เอาไปทำเป็นละครได้เรื่องนึงเลย
ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณทั้งคนเขียนและคนที่นำมารีอัพด้วยนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Anonymus ที่ 28-06-2011 09:55:02
เรื่องเล่าของเราสองคน (เรื่องสั้น)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=18123.0


ถนนสายหัวใจ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=11123.0


กำแพงใจ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=12650.0
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: gummin ที่ 30-06-2011 19:46:42
ชอบค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 06-07-2011 23:43:10
อ่านแล้วให้หลากหลายความรู้สึกมากมาย
ทั้งสุข เศร้า ซึ้ง เสียใจ ครบเลยค่ะ
กายน่าสงสารมากๆ ตอนพิเศษจีนส์ก็น่าสงสารมากๆ เหมือนกัน
ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสที่สร้างสรรค์และนำนิยายดีๆ มาให้อ่านกัน  :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 09-07-2011 16:58:38

ขอบคุณผู้แต่งมากๆ นะคะ  :pig4:  เรื่องนี้มีคนแนะนำให้อ่าน สนุกครบรสจริงๆ
ที่ชอบอย่างหนึ่งก็คือผู้แต่งไม่รีบร้อนในการดำเนินเรื่อง กว่าที่กายจะฟื้นความจำได้นั้นใช้เวลาในระดับที่ทำให้ดูสมจริงมากๆ
หลงรักพี่เท็ดจริงๆ เป็นผู้ชายที่น่ารักและดูอบอุ่นมากๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณผู้แต่งอีกครั้งนะคะ   :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: ppmayuree ที่ 06-08-2011 09:02:01
โอ๊ย.... ทำไมถึงมองข้ามเรื่องนี้ไปได้นะ
พอได้อ่านแล้ว......ไม่สามารถหยุดได้เลย
ขอบคุณค่ะ ชอบมากเลย :3123:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: kolapapaya ที่ 10-08-2011 17:19:09
สงสารกายอะ ตอนแรกนี่กายร้อนแรงมาก มั่นมากกกก  :o8:

พอรถชนแล้วเลยมีปมด้อยเลย หน้าเป็นรอย แต่เท็ดก็รัก  :กอด1:

เท็ดแมนมาก ที่ไม่หวั่นไหวกะจีนส์  o13

แต่ก็สงสารจีนส์นิดๆ น่าจะทำตัวดีๆหน่อย

สนุกมากเลยค่าา ขอบคุณค่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 12-08-2011 02:42:33
เหงา
เศร้า
น้ำตา
หวาน
อารมณ์ดี
หัวเราะ
เถือน
รุนแร

อ่า ครบรส
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 05-09-2011 18:50:37
กลุ้มใจกับความขี้ลืมของตัวเองจริงๆ
เห็นเรื่องนี้มานาน จำได้ด้วยว่าเคยอ่านแล้ว ลงไว้ตั้งแต่ปี2009คิดว่าคงอ่านจบแล้ว
ช่วงนี้ว่างๆอ่านซ้ำอีกรอบแล้วกัน พออ่าานๆไป  :a5:อ่าวเคยอ่านถึงตอนที่กายประสบอุบัติเหตุเอง :sad4:
โชดดีจริงๆที่กลับมาอ่าน ชอบกายที่สุด   :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: J_Dargon ที่ 15-09-2011 23:13:59
อ่านจบแล้ว สนุกมากคร้า
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 07-12-2011 18:28:41
ชอบเท็ดสุดๆ  o13
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: karn49 ที่ 09-12-2011 01:25:08
อยากบอกว่านับถือความรักของเท็ดกับกายมากจริง ๆ : )
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 13-12-2011 17:36:51
อ่านจบสักที  :m19:

ชอบพี่เท็ดกับกายจังเลย ตอนเอ็นซีก็เล่นซะ เลือดกระฉูด (ชอบฉากนี้เป็นพิเศษ) กร้ากกกกกกกกกก  :haun4:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 30-01-2012 18:26:51
จีนส์ก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย  o18
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 31-01-2012 00:31:09
 o13
อ่านแล้ว  ถูกใจสุดๆๆ
หลากหลายอารมณ์ 
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: jujill8 ที่ 17-04-2012 04:04:04
ขอบคุณคร่า ^0^
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 18-04-2012 23:59:17
โชคดีที่เพิ่งเข้ามาแล้วได้อ่านเรื่องดี ๆ ต้องแต่ถนนสายหัวใจ แล้วมาเรื่องนี้....
ขอเม้นที่เดียวเพราะตอนอ่านถนนฯเม้นยังไม่เป็น....มาเม้นเป็นเมื่อไม่นานมานี้...
มีทุกรูปแบบ ทุกรสชาด...สุดยอดทั้ง 2 เรื่อง....แอบลุ้นว่าหนูจีนส์จะเป็นยังไง.....
สุดท้ายก็โล่งอก...แต่ยังสงสารแจ๊คอยู่เลยนะนี่...จะมีใครมาเติมเต็มให้รึเปล่าน๊า?...
เมื่อวานอ่าน นกยูงแดงเพิ่งจบก็สุดยอดมาก ๆ เลยนะทุกท่าน..มาวันนี้อ่านเรื่องนี้อีก...ตาข้าพเจ้าเหลียวไปทางไหน
ก็เจอแต่แสงวิบวับ...แสงแห่งความอิจฉาในความรักของทุกคู่เลย....
ขอบคุณนักแต่งในเล้าทุกท่านที่ขยันแต่งเรื่องดี ๆ มาให้นักอ่านได้มีความสุขในการอ่าน...ขอบคุณอีกครั้งเจ้าค่ะ... :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: nishiauey ที่ 25-05-2012 15:31:01
ขอบคุณค่ะ ชอบมากเลย
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 26-05-2012 13:35:29
 :pighaun: o13
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Kirihara ที่ 27-05-2012 13:31:29
1ในเรื่องโปรดเลยเรื่องนี้ อ่านตั้งกะบอร์ดm-nunjoที่ยิ้มสยาม นานมากกกกกกกกกกกก
มาอ่านอีกรอบก็หนุกเหมือนเดิม
ชอบกายตอนแรกๆมากอะ
ภายนอกน่ารัก บอบบาง ที่ค่อดยั่ววววววว แถมโหดอีกอ้ะ ><
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: candynosugar+ ที่ 28-05-2012 11:12:45
ตอนแรกเกลียดจีนส์เหลือคำบรรยาย
แต่ตอนนี้ เมื่อเธอกลับใจเป็นคนดี เราก็จะกลับใจไปรักเธอ

อั๊ยย๊ะย๊ะย๊ะ  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: ott1212 ที่ 06-06-2012 03:15:14
 o13..สนุกจังมีครบรสจริงๆ...

รัก...โกรธ....กลัว....ริษยา.....

ความมั่นคงในรักของเท็ด...

 :pighaun:........อิจฉากาย....

ไม่ว่ารูปกายจะเป็นอย่างไงก็ยังรัก....

คำสั้นๆ...แต่ทำให้รู้ และเชื่อใจ..ได้ยาก..

รอติดตามผลงานต่อไปจ้า...... :L1:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-06-2012 20:52:17
 :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 21-06-2012 23:38:15
บอกได้คำเดียวว่า "ชอบมาก" ซึ้งกับความรักของเท็ดมากเลยค่ะ รักเดียวใจเดียวจริงๆ T^T ซึ้งง่าาาา  ยินดีกับจีนส์ด้วยนะคะที่ได้คนมาเติมเต็มชีวิตให้แล้ว ^^
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 22-06-2012 23:59:28
ลุยอ่านทั้งวันเลย สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: POPEA ที่ 12-08-2012 14:44:14
ตามมาอ่านนิยายของคุณใบปอ
สนุกทุกเรื่องเลยย ย ~
 o13
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: keem ที่ 13-08-2012 17:02:12
น่ำตาไหลเลยอะชอบมากๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: houkuto ที่ 02-09-2012 20:12:47
เรื่อง เล่ห์รัก สนุกมากนะคะ

แถมเราชอบปกกับรูปเล่มด้วย ( เรียบๆดี )
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Monmoiplai ที่ 31-12-2012 02:46:15
 :impress3:

อยากได้ตอนพิเศษ ของจีนอ่าาาาา


น๊าๆๆๆๆๆๆๆๆ


เราว่าคู่จี้น่ารักดี :o8: :-[ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 31-12-2012 22:43:53
น้องกายทั้งน่ารัก ร้อนแรง เก่งกาจอย่างนี้ พี่เท็ดจะไม่รักไม่หลงได้ยังไง  :-[
สงสารทั้งคู่ ดีใจที่ผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ ทั้งคู่มั่นคงในความรักมากๆ

สนุก และขอบคุณนักเขียนมากๆคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 01-01-2013 18:04:36
 :o8:


มาจุ๊บหน่อยยยยยยย


 :impress2:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: lovely1714 ที่ 01-01-2013 22:10:02
สนุกดีค่ะ ชอบมากเลยโดยเพาะเรื่องของจีนส์
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: venamama ที่ 03-01-2013 22:34:42
ชอบหมดเลยอ่ะ (ความรู้สึกของเรื่องนี้)  :haun4:
บางครั้งก็สะใจดี บางครั้งก็อึดอัด บางครั้งก็หน่วงๆ บางครั้งก็หวาน บางครั้งก็ล้น

:o8: เขียนถึงอะไรอ่ะ. 555

ขอบคุณมากๆเลยที่รังสรรคสิ่งดีมาให้กัน.... o13

ปล.มีความรู้สึกว่าน่าจะต่อได้อีกอ่ะนะ..แล้วแต่คนเขียนแล้วกันอ่ะนะ...


 :กอด1:
 :bye2:

หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: raluf ที่ 20-04-2013 16:37:51
สนุกมากเลยค่ะ ชอบสำนวนมาก เหมือนได้อ่านนิยายแปลเลย
ตอนแรกไม่ชอบจีนส์เลย แต่อ่านไปเรื่อยๆก็สงสาร ดีใจที่จันส์เจอคนที่ตัวเองรัก เหมือนกับเท็ดและกายที่เฝ้ารอกันและกัน
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 20-04-2013 20:58:17
สนุกมากจริงๆค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-04-2013 21:25:41
ชอบของคุนใบปอทุกเรื่องเลยค่ะ o13
เรื่องนี้ชอบกายมากมาย :-[
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 25-04-2013 23:10:10
สนุกจังเลยยยยยยยยยยย อยากอ่านตอนกายหายป่วย 

สวยเหมือนเดิมจังเลย  ดูดิ คนที่เคยรังเกียจจะเป็นยังไง อิ อิ  :z1:

ขอบคุณนะคะ สนุกมาก ๆ เลย  :กอด1:

 เหมือนเราจะอ่านย้อนจากภาคสุดท้ายขึ้นมานะเนี่ย  :o8:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 27-04-2013 16:30:05
ขอบคุณคนโพสต์และคนแต่ง อยากตามอ่านเรื่องอื่น 
มีในกระทู้นักเขียนที่คุณTipsตั้งกระทู้มั้ยคะ
กระทู้ที่ให้นักเขียนบอกลิ้งค์นิยายตัวเองน่ะค่ะ  จะตามแกะรอยค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: BP109 ที่ 28-04-2013 09:57:38
^
^
^

มีค่ะ อยู่ประมาณหน้าที่ 3 ^ ^
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: missmemory ที่ 02-05-2013 02:05:53
สนุกมากกกค่ะ  เริ่มอ่านจากน้องริวพี่ไผ่ก็ประทับใจจนซื้อมาเก็บไว้  พึ่งรู้ว่าผู้แต่งมีแต่งเรื่องนี้ด้วย  ประทับใจมากค่ะ  ถ้ามีการรวมเล่มจะซื้อแน่นอนค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 02-05-2013 23:28:49
อ่านรอบสอง ก็ยังน่ารักอยู่
คนแบบเท็ดนี่มีขายไหม อยากซื้อมาควงจริงๆ คนอาไร้ ทุ่มเทดีจริงๆ
อ่านแล้วรู้สึกได้เลย ว่าเท็ดรักกายมาก
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: babimild1985 ที่ 07-09-2013 12:18:47
ไม่เคยคิดว่าจีนส์จะจริงใจกับใครสักคนได้เลย
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 08-09-2013 03:56:01
สนุกมากเลยค่า o13
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: ปลายด้ามเงิน ที่ 18-10-2013 21:01:11
 :-[ ชอบเรื่องนี้มากมายเลยค่ะ ไม่มีอะไรขัดใจในนิยายเรื่องนี้เลย ทั้งเท็ดที่ทุ่มเท ทั้งกายที่อ่อนนอกแข็งใน เป็นอะไรที่สุดยอด ไม่มีใครสามารถแทนที และไม่มีใครมาแทรกได้เลย  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: miyuujung ที่ 10-11-2013 20:10:23
เป็นอะไรที่ที่สุดอ่ะ นายเอกของเรื่องนี้แต่ละคนน่าสงสารจับจิต ช้ำทั้งใจช้ำทั้งกาย ทั้งนู๋กายนู๋จีนส์ ส่วนพระเอกก็ดีมากทั้งคู่ โดยเฉพาะเท็ด ที่สุดของที่สุดอ่ะ สงสารเท็ดมาก นู๋กายก็เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเหลือเกิน ปวดหัวใจไปพร้อมกับเท็ดเลยจริงๆ

ตอนที่รุ้ว่าเรื่องนี้เป็นของคุณ Anonymus ก็รีบกระโจนเข้ามาอ่านทันทีเลยค่ะ แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ สนุกและลุ้นมากก อยากให้เท็ดเจอกายเร็วๆ แต่พอเจอ นู๋กายก็ดันมีเรื่องเจ็บตัวมาให้พ่อเท็ดเจ็บจิตตาหลอดๆๆ เจ้ก็ลุ้นระทึกๆ หวั่นๆใจแทนตาหลอดๆๆ จนในที่สุดก็แฮปปี้ คู่นู๋จีนส์กะทราวิสด้วย ถึงจะโกรธนู๋จีนส์บ้างแต่ก็อดสงสาร อดเห็นใจไม่ได้ ก็แฮปปี้แล้วล่ะนะ แหะๆ
ขอบคุณคุณ Anonymus{ใบปอ} สำหรับนิยายดีๆมากๆแบบนี้นะคะ จะติดตามอ่านทุกเรื่องเลยค่ะ
ขอบคุณคุณ tianqin สำหรับโพสต์ค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 17-04-2014 20:58:20
สนุกมากมายขอบอก ขอบคุณนักเขียนนะคะ อ่านแล้วอ่านอีกค่ะเลือดสาดกระจายเลย :m25: :m25: :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-04-2014 12:03:13
กลับมาอ่านอีกรอบก็ยังสนุกเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 22-04-2014 23:17:31
 :mew1: สนุกมากค่ะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: PuncH ที่ 22-06-2014 21:34:44
คงรู้สึกเสียดายมากๆถ้าไม่ได้อ่านเรื่องนี้

คนแต่งเขียนได้ดีมากเลยค่ะ ครบทุกรสชาติ

ขอบคุณจริงๆ ^_______^
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 30-08-2014 22:40:48
ในที่สุดน้องจีนส์ก็กลับตัว....
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: sasaka8 ที่ 31-08-2014 10:49:28
ขอบคุณใบปอเจ้าของเรื่อง และขอบคุณคนโพสต์ด้วยค่ะ
เรื่องสนุกหลากอารมณ์มาก อยากให้มีตอนพิเศษอีกค่ะ
 :pig4:  :bye2:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 01-09-2014 23:57:24
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 02-09-2014 02:27:22
แอร๊ยยย เค้าพลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไง

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: rule ที่ 23-03-2015 09:35:14
ชอบอะ รอเรื่องต่อไป
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 23-05-2015 05:37:05
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน ตอนแรกเรานึกว่าจีนส์จะได้คู่กับแจ็คนะเนี่ย
สนุกมากกก ชอบบบ ฉากเอ็นซีนี่แบบ... อื้อหือออ -.,- เลือดหมดตัวครัช
ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสต์ด้วยนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: โซดาหวาน ที่ 10-11-2015 19:42:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 20-11-2015 00:30:12
 :mew1: :mew1: :mew1:สนุกมาก ๆ เลยอ่ะ  :impress3: ช่วงแรกอ่านแล้วกายตาย  :a5: ช็อคมากกกกกกกกกกกกก อ่านแล้วมันซึ้งมาก การกระทำที่ผิดพลาดเพียงนิดเดียวนำพาซึ่งโศกนาฎกรรมอันยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนชีวิตทุกคนไปเลยน่ะ  :katai1: กายที่ไม่อยู่ในภาวะที่มีสติด้วยวัย และคุณพ่อที่มองแต่มุมของตัวเองใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาจนกลายเป็นเรื่องใหญ่  :o12: และส่งผลต่อ ๆ มาเป็นลูกโซ่ไปเลย สงสารกายมากกกกกกกกกกกกก และก้อสงสารเท็ดด้วยน่ะ การกลับมาพบกันอึกครั้งมันช่างซาบซึ้งมาก ๆ ยังอ่านไม่จบน่ะ แต่เรามั่นใจว่าต่อไปทั้งสองคงรักกันอย่างหวานซึ้งแน่ ๆ  :o8: รอเป็นเล่มเลยจ้า :mew1:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 20-11-2015 20:57:10
กลับมาอ่านอีกรอบกยังสนุก ครบทุกอารมณ์
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 21-11-2015 01:06:08
 o13 o13 o13 ยอดเยี่ยมมาก ๆ อ่านจบแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องราวสั้น ๆ จะสุดยอดกระฉับได้ใจความครบทุกรสมาก ๆ อ่านแล้วซาบซึ้งตรึงใจจริง ๆ ตามมาจากเรื่องริวไผ่น่ะจ้ะ อ่านแล้วชอบมาก ๆ เลย จะตามไปอ่านอีกสองเรื่องน่ะจ้ะ ยังไงให้สามเรื่องที่เป็นซีรีส์นี้ตีพิมพ์อีกครั้งน่ะจ้ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 30-11-2015 03:59:58
ขอบคุณค่ะ เรื่องนี้สนุกมากเลย
ขอบคุณใบปอคนแต่ง และเทียนฉินคนโพสค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 07-05-2016 18:23:17
สนุกมาก ๆ เลย ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 17-05-2016 07:26:15
น่ารักมาก ตามเก็บทุกเรื่องเลยค่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 18-05-2016 10:09:13
บอกได้เลยว่า สนุกมากกกกกก หลงเรื่องนี้มากมาย.   :กอด1:
 :L2: :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 12-05-2017 11:49:10
ใบปอเขียนเก่ง
ประทับใจมากค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 19-05-2017 01:52:36
สนุกมากเลยค่ะ ชอบจุดหักมุมหลายๆ ฉากในนิยายมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 07-01-2018 08:46:46
มาอ่านอีกรอบแล้วค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 12-06-2023 21:09:18
คิดถึงๆก็มาอ่านจ้า ^^
หัวข้อ: Re: เรื่อง เลห์รัก บทประพันธ์ของ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 06-03-2024 17:54:46
หมดเขตสมัคร  30  เมษายน  2567
ดีแทค  ระบบเติมเงิน  #ได้ทุกเบอร์
เน็ตไม่อั้น  (เน็ตอย่างเดียว)
เร็ว  12 Mbps(เม็ก)  ราคา  193  บาท  นาน  7  วัน
*104*841*8488034#
เร็ว  12 Mbps(เม็ก)  ราคา  482  บาท  นาน  30  วัน
*104*842*8488034#
#ไม่ลดความเร็ว  #ห้ามใช้โหลดบิท
ร้านสราวุธคอมพิวเตอร์  สตูล
สาขามะนัง 0826499917
ไลน์  sarawutcomputer
เปิดทุกวัน  09.00 – 20.00  น.
ท่านเต็มใจมา  ร้านฯ  เต็มใจบริการ
https://web.facebook.com/photo/?fbid=885661673572866&set=a.496909265781444 (https://web.facebook.com/photo/?fbid=885661673572866&set=a.496909265781444)