ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง
เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเว็บบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง
ของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิต
ที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่า
เรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็ปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมล์ของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผู้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน
ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ
เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ Webmaster , administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเว็ป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเว็บอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็ป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณา
เป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่
หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเว็บไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาตเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก
เมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ)
จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
☁ ☁ ☁ ☁ ☁
ฝากเรื่องสั้นที่เคยลงไว้ค่า
ー Quadruple P ❀ (เรื่องสั้นตอนเดียวจบ) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64617.0;nowap)
:pig4:
☁ ☁ ☁ ☁ ☁
(บทนำก่อน 1st Match)
Let The match begin! ♥
☁
แมตช์ของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นในบ่ายวันหนึ่งของเดือนมิถุนายน กิเบนสายตาจากจอโทรทัศน์หันไปมองประตูห้อง เมื่อได้ยินเสียงเคาะรัวยาวจากด้านนอก เขาจิ๊ปากพร้อมขยี้กลุ่มผมสีดำของตนเองเบาๆ เมื่อโดนขัดจังหวะการดูซีรีส์โปรด
ชายหนุ่มเอียงคอฉงนเล็กน้อย เมื่อสงสัยว่าใครมาเคาะห้องเขาในวันหยุดโดยไม่โทรมาบอกกล่าวก่อนอย่างนี้ หากเป็นช่วงเดือนสองเดือนก่อนคงไม่สงสัยมากนัก เพราะอยู่ในช่วงเร่งปั่นงานและช่วงสอบไฟนอลของเหล่านักศึกษา เพื่อนในสาขาบัญชีของเขาจึงมักพากันยกโขยงมารวมตัวกันทำงานที่นี่ ในห้องคอนโดขนาดกลางติดสถานีรถไฟฟ้าและใกล้มหาวิทยาลัยซึ่งสะดวกต่อการเดินทางมาของทุกคน บางคนมาขออาศัยอยู่เป็นอาทิตย์ด้วยก็มี ห้องของกิจึงเกือบจะเป็นห้องสาธารณะไปเสียแล้ว
ชายหนุ่มอายุ 21 กดหยุดพักซีรีส์ที่กำลังดูเอาไว้ ลุกขึ้นเดินไปส่องตาแมวบนบานประตู ภาพที่มองเห็นจากช่องอันน้อยนิดปรากฏชายหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกำลังยืนหันหลังให้อยู่ แม้จะเห็นเพียงแผ่นหลังกว้าง ไม่เห็นแม้แต่เสี้ยวหน้า แต่เขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนที่มาเยือนในวันนี้คือใคร
กิดึงประตูเปิด ส่งคำถามออกไปทางสายตาทันทีเมื่ออีกคนหันหลังมายิ้มกว้างให้
“แหะ” ฮอน เพื่อนสนิทตั้งแต่มัธยมปลาย คิดว่าจะได้แยกจากกันตั้งแต่จบมอหกแล้ว แต่พวกเขากลับสอบติดมหาวิทยาลัยเดียวกันจนได้ แม้ว่าจะแยกกันเรียนคนละคณะแต่ก็ยังคงไปมาหาสู่และติดต่อกันอยู่สม่ำเสมอ
เพื่อนตัวสูงกว่าส่งยิ้มแหยมาให้เมื่อกิก้มมองลงพื้นแล้วเห็นว่ามีกระเป๋าสะพายใบเขื่องติดมือมาด้วย
“กระเป๋า? จะไปไหนรึไง” เจ้าของห้องเอ่ยถาม ขมวดคิ้วดุ จะมาหาก็ไม่โทรมาบอกก่อน แล้วนี่ดันขนกระเป๋าใบใหญ่เหมือนจะย้ายบ้านมาอีกต่างหาก
“ขออยู่ด้วยหน่อยดิ”
“อะไรนะ” กิหลุดหลุดอุทาน เมื่อไม่มั่นใจว่าอีกฝ่ายพูดหยอกหรือพูดความจริง ดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่เพื่อนตัวสูงกลับพูดออกมาเหมือนกำลังถามสภาพดินฟ้าอากาศในวันนี้เสียอย่างนั้น
“มาขออยู่ด้วย โดนแฮมไล่ออกจากบ้าน” ฮอนพูดติดตลก แฮมคือน้องสาววัยสิบแปดปีของเพื่อนสนิทตรงหน้า ผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเข้าสู่มหา’ลัย กิเคยถูกไหว้วานขอให้ช่วยสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์เพราะน้องคิดว่าเขาเรียนบัญชีคงต้องเก่งวิชานี้มากแน่ๆ เดิมทีเขาไม่มั่นใจว่าตัวเองเก่งมากพอแต่เพราะคิดว่าช่วยน้องนุ่ง จึงยอมตกลงรับปากไป
“แล้วไปทำอะไรถึงโดนไล่มา”
“เชียร์บอลเสียงดัง น้องจะอ่านหนังสือสอบ” ฮอนคงจะหมายถึงบอลโลกที่สี่ปีมีครั้งและกำลังเป็นกระแสพูดถึงมากอยู่ในทุกวันนี้ คอบอลอย่างมันคงไม่พลาดดูสักแมตช์ ไม่วายแหกปากเชียร์เสียงดังจนทำให้โดนน้องตัวเองไล่ออกจากบ้านมาแบบนี้
เจ้าของห้องตัวเล็กเบี่ยงตัวหลบให้เพื่อนสนิทแบกกระเป๋าเข้ามาวางในห้อง ยืนกอดอกมองหน้าคนที่อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นบุคคลไร้บ้านเสียอย่างนั้น
“มึงพูดจริงรึพูดเล่นเนี่ย”
“พูดจริงค่ะ ไม่เชื่อโทรถามแฮมก็ได้นะ” เสียงทุ้มเอ่ยตอบก่อนจะควักโทรศัพท์ยื่นให้
กิส่ายหัวปฏิเสธ “แล้วจะมาอยู่ถึงวันไหน”
“เปิดเทอมเลยมั้ง”
“นานขนาดนั้นเลยดิ” เจ้าของห้องนับเลขอยู่ในใจ ตอนนี้เดือนมิถุนายน เปิดเทอมประมาณสิงหาฯ ก็ตั้งสองสามเดือนแหน่ะ
“อยู่ๆ ไป มันก็แป๊บเดียวเอง”
“เอาเหอะ” กิสะบัดมือไล่สองสามทีแล้วเดินกลับไปที่โซฟา ผู้มาขออาศัยยิ้มเผล่ เมื่อได้รับสัญญาณมือให้เอาของไปเก็บ สีหน้าหน่ายๆ ของเจ้าตัวเป็นคำตอบรับให้เขาอาศัยอยู่ที่นี่ได้แล้ว
หลังจากโยนกระเป๋าทิ้งไว้ในห้องนอนเสร็จสรรพ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งก็เดินออกมาทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆ เพื่อนตัวนุ่มของเขา
“นี่ หนูกิ”
เดิมทีเขามักจะเรียกกิว่าหนูกิ หรือหนูแป้งโกกิในบางเวลาที่เจ้าตัวมักทำตัวน่ารังแก ส่วนเขามีชื่อเล่นว่าฮอนเพียงพยางค์เดียว แต่มักโดนหนูกิจอมดื้อ เรียกว่า ‘ไอ้เหี้ยฮอน’ อยู่บ่อยครั้ง ทุกวันนี้ชื่อเล่นของเขาจึงคล้ายว่ามีสามพยางค์ไปแล้ว
“กินพิซซ่าอีกละ”
“แล้วจะทำไม”
“ป๊าววว”
พาดไหล่ไปบนพนักโซฟา เอ่ยทักคนที่กัดพิซซ่าไปพร้อมดูซีรีส์ไม่วางตา แก้มตุ่ยขึ้นเมื่อเจ้าตัวอมพิซซ่าไว้ข้างกระพุ้งแก้ม กว่าจะหมดแต่ละชิ้น ดูท่าว่าคงต้องใช้เวลาไปร่วมชั่วโมง
“เดี๋ยวก็อ้วน” พูดไปก็เอื้อมมือไปบีบแก้มตุ่ยอย่างมันเขี้ยว
“เดี๋ยวค่อยออกกำลังกาย” กิสะบัดหน้า ส่งเสียงฮึดฮัดอยู่ในลำคอเมื่อโดนก่อกวน
ฮอนพยักหน้าพร้อมส่งเสียงอือออในลำคอหลายครั้งเหมือนต้องการกวนประสาท เขารู้ว่ายังไงหนูแป้งของเขาก็ไม่อ้วนหรอก เจ้าตัวขยันซิทอัพเพื่อเบิร์นไขมันออกทุกเย็นเป็นประจำ ทั้งกินเท่าไหร่ก็ไม่เห็นเคยอ้วน อย่างมากก็แค่ลงพุงกับลงแก้มเท่านั้น
“วันนี้อยู่ดูบอลเป็นเพื่อนหน่อยดิ” ฮอนเอ่ยชักชวน
“ไม่เอา ดูไม่เป็น”
“ก็ฝึกๆ ไว้ไง กูย้ายมาอยู่กับมึงถาวรเดี๋ยวก็ต้องดูด้วยกันบ่อยๆ ละ”
“กูบอกตอนไหนว่าจะให้ย้ายมาอยู่ด้วยฮะ” เจ้าของห้องหันขวับ ทำเสียงดุคนที่ชอบทึกทักไปเองอยู่เรื่อย
“ต้องมีสักวันแหละน่า”
“ไม่มีหรอก” กิเบะปาก ส่ายหัวเบาๆ ยืนยันคำปฏิเสธของตนเอง
“เอาเหอะ แต่วันนี้อยู่ดูบอลเป็นเพื่อนกันก่อน ดูดิ พิซซ่าก็มี โค้กก็พร้อม เดี๋ยวลงไปซื้อเบียร์เพิ่ม เตรียมพร้อมดูบอลได้แล้วเนี่ย”
“ก็บอกว่าไม่ดู เซ้าซี้จังเลยวะ”
“น่า อยู่ดูด้วยกันก่อน ไม่ต้องอยู่ดูเป็นเพื่อนก็ได้ แต่อยู่ดูเป็นแฟนแทนนะ” ฮอนกะพริบตาปริบๆ พยายามลอกเลียนแบบท่าทางของน้องสาวที่มักทำท่าออดอ้อนเวลาหวังผลประโยชน์จากเขามาใช้ในเวลานี้
กิคว้าหมอนอิงข้างตัวเข้าฟาดอีกฝ่ายทันทีที่หยอดมุกเลี่ยนๆ ห้าบาทสิบบาทใส่เขา
“ไอ้เหี้ย” คนตัวเล็กสบถด่า
เป็นอีกครั้งที่เขามักโดนเพื่อนสนิทป้อล้อ ชอบพูดจาหยอกแหย่ ทีเล่นทีจริงอยู่บ่อยครั้ง จากที่ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก แต่มันบ่อยเกินไปจนเริ่มกลายเป็นความเคยชินไปเสียแล้ว
ฮอนหัวเราะร่วนเมื่อเห็นอาการหัวเสียจากเจ้าของห้องตัวเล็ก ทั้งที่ก่อนหน้าจะร้องโอดโอยเพราะโดนหมอนฟาดอยู่ก็ตาม
“ไม่แกล้งหนูแล้วค่ะ งั้นไปซื้อเบียร์ก่อนนะ”
“อือ”
คืนวันนั้นขณะนั่งดูบอลโลก พวกเขาทั้งสองจึงได้จิบเบียร์เย็นๆ พร้อมพิซซ่าร้อนๆ ที่เพิ่งอุ่นออกมาจากไมโครเวฟไปด้วย
กิยังคงละเลียดทานพิซซ่าในมือช้าๆ เหมือนเดิม แก้มตุ่ยๆ ขยับหยุบหยับไปมาเหมือนกระต่ายกำลังเคี้ยวอาหารโปรด บีบซอสมะเขือเทศละเลงบนหน้าพิซซ่าอย่างไม่ยั้งมือ ขณะที่ใช้นิ้วบีบไล่ซอสออกจากซอง ปลายนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ก็เลอะซอสสีแดงเข้าจนได้ ชายหนุ่มหันซ้ายหันขวา ไม่มีทิชชู่ใกล้ตัวให้หยิบใช้ จึงส่งปลายนิ้วเข้าใกล้ริมฝีปาก แลบลิ้นออกมาเลียซอสที่ติดอยู่ปลายนิ้ว ก่อนจะส่งเข้าปากเพื่อดูดออก
กิไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีใครบางคนกำลังจ้องท่าทางแสนยั่วยวนโดยไม่รู้สึกตัวของตนเองอยู่ ฮอนเหล่มองคนข้างๆ ตาไม่กะพริบ แค่คิดว่าถ้าเขาถูกปลายลิ้นสีแดงๆ นั่นเลียบ้างจะรู้สึกสึกดีแค่ไหน ร่างกายก็ขนลุกซู่ กลัวตัวเองต้องลุกไปเข้าห้องน้ำแทนการนั่งดูบอลแมตช์นี้เสียแล้ว
“เปื้อนหมดแล้ว” เสียงทุ้มของคนที่เอาแต่จ้องเพื่อนสนิทไม่วางตาเอ่ยขึ้น พร้อมกับเอื้อมมือไปเช็ดมุมปากที่เลอะคราบซอสมะเขือเทศเป็นจุดๆ ให้
กิหันมามอง ผลุบตามองนิ้วโป้งของคนเช็ดที่ยังยกค้างไว้แบบนั้น เขาจึงเลียแผล็บบนนิ้วอีกฝ่ายเบาๆ
“เชี่ย กิ!” ฮอนอุทาน ใจเขากระตุกวูบ ร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที
เจ้าของห้องเพียงแค่เหลือบตามองเมื่อได้ยินชื่อตนเอง
“ดูบอลดิ” กิพเยิดหน้าไปทางทางจอโทรทัศน์
ส่วนคนที่ถูกปลุกปั่นความรู้สึก ได้แต่สบถกับตัวเองว่าโดนแบบนี้แล้วใครจะมีกะจิตกะใจไปดูบอลวะ
กิไม่ได้สนใจอะไรนัก เขาแค่นึกว่าอีกฝ่ายยื่นมือมาให้เช็ดให้เฉยๆ ไม่มีทิชชู่ ไม่มีผ้า ใช้มือตัวเองเช็ดให้ก็ต้องทำความสะอาดอยู่ดี ผลที่ได้เลยกลายออกมาเป็นแบบนั้น แบบที่เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมา
ฮอนเบือนหน้าหนี กลืนน้ำลายดังเอื้อก ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องอดทนกับเพื่อนตัวเองแบบนี้หรอก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะทำตามใจของตัวเองโดยการดึงอีกฝ่ายมาจูบให้หนำใจได้ทุกครั้งเหมือนกัน
“มึงหยิบถุงเปล่าตรงนั้นมาให้หน่อย จะใส่เศษขยะ” บอลครึ่งแรกจบได้สักพัก เขาก็ถูกสะกิดเรียกใช้จากเจ้าของห้อง
“ช่วยกินหน่อยดิ ครึ่งกัน” กิยังคงนั่งกินพิซซ่าชิ้นเดิมเหมือนกับเมื่อหลายสิบนาทีก่อน ท่าทีชักชวนแบบนี้คงอิ่มจนไม่อยากกินต่อแล้วถึงได้มีน้ำใจเผื่อแผ่มาให้เขาด้วย เพื่อนตัวเล็กยื่นส่วนปลายที่มีชิ้นเบคอนเข้าปากตัวเอง กัดไปนิดเดียวก็ส่งส่วนที่เหลือแต่แป้งมาจ่อใส่ปากเขาแทน
ร่างโปร่งไม่ยอมอ้าปากรับพิซซ่าที่หยิบยื่นไปให้เสียที กิมุ่ยหน้าใส่แล้วดึงมือกลับแต่ถูกคว้าข้อมือเอาไว้ได้ก่อน
“กินยังไงให้ซอสเลอะปากอีกแล้ว” ฮอนบ่นแต่ก็ยกยิ้มที่มุมปาก มองหน้าคุณหนูตัวขาวส่ายหัวตอบไปมา
“เดี๋ยวพี่ฮอนจะช่วยหนูเช็ดเองค่ะ” เขาแสยะยิ้ม โน้มตัวเข้าไปใกล้จนกระทั่งแผ่นหลังของกิชิดพนักโซฟา เข้าก้มหน้าและหยุดนิ่ง จ้องมองดวงตาไหวระริกที่แสดงสีหน้าหวาดหวั่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด
พิซซ่าชิ้นน้อยหล่นตุ้บลงพื้นเมื่อคนถือถูกกลั่นแกล้งจนมือสั่น กิกำแขนเสื้อของคนตรงหน้าแน่น เมื่ออีกฝ่ายกดริมฝีปากย้ำหนักๆ ลงบนมุมปากที่มีซอสเปื้อนอยู่ ก่อนจะเคลื่อนย้ายและสอดลิ้นเข้ามากวาดในโพรงปากของเขาอย่างตะกรุมตะกราม
“สะอาดแล้วค่ะ” ฮอนยกยิ้มเมื่อได้ทำตามใจตัวเองจนได้
กิรู้ดีว่าสีหน้าของตัวเองตอนนี้คงจะแดงแปร๊ดเสียยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศ ใบหน้าร้อนผ่าวเหมือนออกไปยืนกลางแดดยามเที่ยงมาเป็นชั่วโมง ยิ่งพอเห็นยิ้มเจ้าเล่ห์หลังจูบเมื่อกี้ของอีกฝ่าย แก้มของเขายิ่งร้อนขึ้นมากกว่าเก่าเป็นเท่าตัว
คว้ามาหมอนอิงข้างกายมาได้ ก็ฟาดลงใส่แผ่นอกของอีกคนรัวเร็ว
“ไอ้เหี้ยฮอน! อีกแล้วนะ!” เจ้าของห้องตัวเล็กทำหน้าบึ้ง
...โดนฉวยโอกาสตลอดเลย ฮึ่ย!
TBC.
ー #AdaywithWCM
ー เป็นบทนำก่อนเริ่มเข้าสู่แมตช์แรกนะคะ เปิดบทแรกมาด้วยนังฮอนท้าพนันแล้วจัดลูกชั้นเลยก็จะเลวไปหน่อย โดนนังประท้วงมาแต่ลูกชั้นก็โดนแกล้งตั้งแต่บทนำอะ แง โดนน้องประท้วงมาเหมือนกัน ได้แต่ทำหน้าซึนใส่ ( ˘・з・)
ー 12th Match ♥
☁
( https://www.youtube.com/watch?v=Tfws7ZqbnXw (https://www.youtube.com/watch?v=Tfws7ZqbnXw) ー for this match )
bgm ; Feel the same - fcj ft. chevy
จากที่ตั้งใจว่าจะหลับต่อสักงีบหลังกดวางสายจากเต็งหนึ่งไป ทว่านอนคิดอะไรฟุ้งซ่านอยู่ในหัวไปเรื่อย ดวงตากลับไม่ยอมปิดเหมือนเมื่อสิบนาทีก่อนแล้วเสียอย่างนั้น ชันกายขึ้นสำรวจสภาพตัวเองหลังจากเมามายไม่ได้สติ ก็พบว่าชุดออกเที่ยวเมื่อคืนกลายเป็นเสื้อยืดกับกางเกงวอร์มตัวเก่งเสียแล้ว
ลุกขึ้นเดินเหินไปมาเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่าหลังจากสติดับวูบไปเขาไม่ได้โดนทำอะไรล่วงเกินโดยไม่รู้สึกตัว ก้าวเดินไปห้องน้ำไม่รู้สึกถึงแรงระบมบริเวณสะโพกอย่างที่เคยเป็นจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไม่ได้มีอะไรอย่างที่นึกกลัวแต่อย่างใด แต่ในขณะที่วักน้ำลูบใบหน้าให้สดชื่นแล้วเงยหน้าขึ้นมองกระจกทรงกลมถึงได้เห็นสภาพภายนอกของตัวเองชัดๆ เต็มสองตา
รอยแดงเป็นจ้ำๆ สองสามจุดบริเวณคอทำให้กิหน้าขึ้นสี หากแต่ขึ้นสีเพราะความโกรธไม่ใช่อาการเขินอายแต่อย่างใด ชายหนุ่มเริ่มหัวเสีย ดึงคอเสื้อต่ำลงเพื่อสำรวจว่ามีร่องรอยอื่นนอกจากจุดสามจุดนี้รึเปล่า เลิกชายเสื้อตัวเองขึ้นสูงเผยให้เห็นรอยขบเม้มประปรายบนแผ่นอกของตนเอง
เขาสบถคำหยาบกับตัวเองเบาๆ บ้วนน้ำหลังจากแปรงฟันเสร็จก็เดินดุ่มๆ ไปหาพ่อบ้านที่กำลังยืนตีไข่อยู่หน้าชั้นวางในห้องครัวทันที
ปึ่ก!
เจ้าของห้องตัวเล็กทำหน้าถมึงทึง เตะเข้าไปที่ข้อพับขาของอีกคนอย่างแรงโดยไม่บอกไม่กล่าวอะไร
ฮอนยืดตัวขึ้นก่อนจะหันขวับมาหาจอมดื้อที่กำลังทำหน้ามุ่ยแสดงความไม่พอใจอะไรสักอย่าง เมื่อครู่นี้หางตาเหลือบเห็นอีกคนเดินตรงรี่เข้ามาหา กำลังจะออกปากทักว่า ‘ขี้เซาตื่นแล้วเหรอ’ แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวแม้กระทั่งอ้าปาก ก็ถูกเตะเข้ามาที่ข้อพับจนทำให้ขาอ่อนย่อล้มเกือบถึงพื้นไปก่อนเสียแล้ว
“อะไรเนี่ยกิ อยู่ดีๆ ก็มาเตะกู” ถ้าสีหน้าคนเรากลายเป็นสัญลักษณ์ได้ ใบหน้าของพ่อบ้านหนุ่มตอนนี้คงมีเครื่องหมายคำถามอยู่เต็มไปหมด
กิไม่ตอบแต่ง้างหมัดชกกำปั้นขึ้นต่อยแขนอีกทีหนึ่งก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อผู้ขออาศัยเสียงดัง
“ไอ้เหี้ยฮอน”
ร่างสูงได้แต่เกาหัวแกรกๆ มองอีกคนอาละวาดเสร็จแล้วเดินจากไปนอนแผ่ที่โซฟาอย่างงุนงง
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมากลิ่นข้าวต้มก็ลอยฉุยออกมาจากในห้องครัว กิดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟาเมื่อถูกเรียกปลุกให้ลุกขึ้นทานข้าว ขยับตัวลงนั่งบนพื้นพร้อมพิงหลังไปกับเบาะโซฟาจุดนั่งประจำ เหลือบมองนาฬิกาบนผนังบอกแล้วก้มมองถ้วยข้าวต้มหมูกับไข่ตุ๋นสีเหลืองฟูน้ำลายสอเพราะความหิวเนื่องจากเลยเวลาทานข้าวเที่ยงมาสองชั่วโมงแล้ว
ฮอนวางแก้วน้ำพร้อมนั่งลงฝั่งตรงข้าม ยักคิ้วข้างเดียวหยั่งเชิงมองหนูแป้งที่กำลังตักข้าวต้มเข้าปากไปเรื่อยๆ ด้วยใบหน้าคาดหวัง
“เป็นไง”
“ดีกว่าเดิมอยู่” คนฟังพยักหัวตอบ
ฮอนถอนหายใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น ก่อนจะก้มตักข้าวต้มในถ้วยของตนเองบ้าง
“แล้วเป็นไร หน้าบึ้งทำไมฮึ” ตักทานได้ไม่กี่คำก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าอีกคนทำหน้าบูดบึ้งเป็นปลาทูคอหักไม่ยอมพูดจาอะไรแม้แต่คำเดียว ไหนจะก่อนหน้าที่เดินเข้ามาเตะทั้งที่เขายังไม่ได้พูดอะไรนั่นอีก
คนตัวเล็กกว่าเหลือบตาขึ้นมองขณะกลืนน้ำซุปลงคอ “มึงทำอะไรไว้ล่ะ”
ทำท่าฮึดฮัดขัดใจเมื่อถามแล้วอีกฝ่ายเลิกคิ้วท่าทางงุนงง จึงดึงคอเสื้อตัวเองลงแล้วใช้นิ้วจิ้มที่คอตัวเองจึกๆ
“ใครใช้ให้มึงทำรอยฮะ” เขาตวาด
“มึงบอกว่าทำได้ไม่ใช่เหรอ ครั้งก่อนก็เคยทำนี่ ใจเย็นๆ” ผู้กระทำได้แต่ส่งยิ้มแหย ยกสองมือขึ้นปลอบให้หัวร้อนๆ ของคนตัวเล็กเย็นลง
“แต่ไม่เคยบอกให้ทำนอกร่มผ้าแบบนี้นะ แล้วกูจะกล้าไปเรียนได้ยังไงวะเนี่ย”
“เดี๋ยวมันก็จางลงน่า”
“กี่วันล่ะไอ้เหี้ย มีเรียนวันจันทร์เนี่ย ยังไงก็จางไม่ทันปะ”
ฮอนไม่รู้จะหาวิธีแก้เรื่องนี้อย่างไรเลยได้แต่เกาคอแก้เก้อ “ขอโทษ… ก็หวงมึงนี่หว่า ตอนนั้นคิดแค่ว่าทำไว้คนอื่นจะได้เลิกยุ่งกับมึงสักทีไง” ประกบมือเอ่ยขอโทษสลับกับทนฟังเสียงด่าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งคุณหนูตัวขาวของเขาเหนื่อยจะบ่นจึงเริ่มต้นทานข้าวต้มใหม่อีกครั้ง
ฮอนยิ้มเผล่เมื่อดูท่าทางจะไม่โดนด่าอีกต่อไปแล้ว ข้าวมื้อเช้าและมื้อเที่ยงวันนี้จึงดำเนินต่อไปได้ด้วยดี
----------
หลังจากทานเข้าเสร็จได้ไม่นาน ทั้งคู่ก็ออกมานั่งดูซีรีส์สอบสวนเรื่องดังที่ดูค้างไว้ในเน็ตฟลิกซ์ กิหยิบหมอนอิงสีน้ำตาลใบโปรดขึ้นมากอดพร้อมจ้องหน้าจอโทรทัศน์ตาแป๋ว
“ปวดหัวรึเปล่า” ฮอนเอ่ยถามขึ้นมาเพราะเห็นว่าอีกคนยังมีท่าทีอิดโรยประมาณหนึ่ง
“นิดนึง”
“เนี่ย ดื้อไงเมื่อคืนอะ”
“ยุ่ง” เจ้าของห้องมาเบ้หน้าใส่ ไถลตัวลงพิงหัวกับพนักโซฟา ฮอนเห็นดังนั้นจึงตบตักตัวเองปุ๊ๆ
“เอนมานี่มา”
หมายจะให้อีกคนเอนหัวลงมานอนตัก แต่คนดื้อยังไงก็คือคนดื้ออยู่วันยังค่ำ กิปรายตามองแล้วเอนตัวลงนอนตามคำเชิญ แต่เป็นการหนุนหมอนอิงแล้วยืดเหยียดขาไปพาดตักชายหนุ่มผู้ที่อุตส่าห์หวังดีให้เขาได้นอนสบายๆ แทนการล้มหัวลงตามคำเชิญ
ฮอนส่ายหัวระอาเบาๆ ทั้งที่กำลังจะทำตัวโรแมนติกหน่อยแท้ๆ หมดกันวันเสาร์อันแสนสุขในมโนภาพ เขาหันมองซีรีส์ที่กำลังฉายบนหน้าจอโทรทัศน์ เสยผมหน้าที่ตกลงมาปรกตาขึ้นพร้อมบ่นพึมพำกับตัวเอง “รำคาญว่ะ”
กิมองต่ำไปทางปลายเท้า ยกขากระแทกตักอีกฝ่ายเหมือนที่เคยทำบนรถเมื่อคืน
ร่างสูงหันขวับ “ทำร้ายร่างกายกูอีกแล้วทำไมเนี่ย”
“รำคาญอะไร” กิเอ่ยถามเสียงแข็งแต่คนฟังกลับหลุดหัวเราะ
“หมายถึงรำคาญผมเนี่ย มันยาวแล้วปรกหน้าตลอด ขี้เกียจเสย” ฮอนมองคุณหนูตัวดื้อที่จ้องมองมาเขม็ง คงคิดว่าเขาบ่นรำคาญตัวเองล่ะสิท่า
“แล้วตอนย้อมสีผมทำไมไม่ตัดผมไปด้วย”
“ตอนนั้นมันยังพอทนได้นี่หว่า แต่ตอนนี้เริ่มรำคาญแล้วอะ” ร่างสูงหันมาเบะปากท่าทีงอแง แต่กิไม่ได้สนใจอะไรนัก ถอนหายใจด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายแล้วเบือนสายตาไปจดจ่ออยู่กับซีรีส์ตรงหน้าแทน
ผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมง จู่ๆ คนตัวเล็กก็ลุกขึ้นจากโซฟา เดินไปในห้องครัวแล้วกลับออกมาพร้อมกับยางมัดถุงแกงสีแดงเส้นหนึ่ง กิเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนตัวสูงกว่า แม้ว่าเมื่อครู่ใจกำลังจดจ่ออยู่กับฉากหนังบนจอโทรทัศน์แต่ในขณะเดียวกันหางตาก็มองเห็นคนปลายเท้ายกมือเสยผมตัวเองขึ้นทุกห้านาที เขานึกรำคาญสายตา เลยตัดสินใจลุกไปหายางเพื่อมัดผมที่ไม่ยอมไปตัดนั่นให้
กิรวบกลุ่มผมเส้นยาวเข้ามาไว้ในมือ แล้วดึงขึ้นรวบมัดเป็นจุกน้ำพุบนหัว
“เจ็บ” ฮอนช้อนตาขึ้นมองคนแสร้งใจร้าย แม้ปากจะบอกรำคาญแต่ก็ใจดีลุกไปหายางมารัดผมให้
“ทนไม่เป็นเหรอ”
“ยางมันกินผมกูอะ”
“อย่าบ่น ก็มีแต่ยางแบบนี้จะให้ทำยังไง”
“บ่นเฉยๆ ไม่ได้เหรอคะ ก็เจ็บอะ” คนตัวสูงทำเสียงจ๋อย ขณะที่สายตาจ้องมองริมฝีปากสีแดงอมชมพูบนใบหน้าใสของคุณหนูตรงหน้า
“กินมันคืนซะสิ”
“ได้เหรอ” ชายหนุ่มยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเมื่อในหัวคิดแผนการหาเศษหาเลยวันละนิดได้
“เออ”
ฮอนยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อกิตอบรับมาอย่างนั้น คว้ามือที่เพิ่งละออกจากกระจุกผมแล้วดึงร่างคนตัวเล็กกว่าลงมานั่งบนตักอย่างรวดเร็ว ก่อนจะก้มลงฟัดแก้มคนที่กำลังเหวอทันทีไม่ให้ทันได้ตั้งตัว
“ไอ้เหี้ยฮอนนนนน กูไม่เล่น!” กิร้องโวยวายเสียงดังเมื่อโดนดึงล้มแล้วถูกรังแกอีกจนได้
“ก็ไม่ได้เล่นสักหน่อย เรื่องแบบนี้กูจริงจังมาก” ว่าจบก็ใช้ริมฝีปากงับแก้มของคนบนตักอย่างมันเขี้ยว
“โอ๊ยยยย เลิกเล่น! กูบอกให้กัดยาง ไม่ได้หมายถึงให้มึงมากัดกูนะ!” กิส่ายหัวหลบ พยายามดิ้นให้หลุดออกจากวงแขนแกร่ง แม้จะทั้งทุบทั้งตีแต่ก็ไม่เคยหลุดจากมือเหนียวๆ นี่ไปได้สักที
“อ้าวกัดยางหรอกเหรอ พอดีในหัวกูมีแต่มึงเต็มไปหมด เลยกัดมึงแทน” ร่างสูงอมยิ้มมองคุณหนูตัวขาวในอ้อมกอด ก่อนจะยอมปล่อยแขนออกให้เป็นอิสระเมื่อเริ่มเจ็บหลังเพราะแรงทุบไม่ยั้งมือของอีกคน แค่ได้แกล้งนิดแกล้งหน่อยวันละครั้งก็พอใจแล้วล่ะ
พอผู้ถูกกระทำได้รับอิสระ ก็เอื้อมมือไปคว้าหมอนอิงอาวุธคู่กายฟาดเข้าที่ต้นแขนของคนชอบรังแกทันที
ป๊าบ!
“ไอ้บ้านี่!”
“โอ๊ย! ยอมแล้วค่ะ กิพอแล้ววว”
เสียงจากจอโทรทัศน์ผสานกับเสียงร้องโอดโอยและเสียงด่าทอทำให้ห้องนั่งเล่นสีขาวแห่งนี้เริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังจากความเงียบโรยตัวเข้ามาเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน แม้ว่าจะไม่ใช่เสียงหัวเราะมีความสุขอย่างคู่อื่นๆ แต่ทั้งสองคนคงคิดเช่นเดียวกันว่ามันดีกว่าเป็นไหนๆ ถ้าเทียบกับห้องที่เคยเต็มไปด้วยอากาศขมุกขมัวเหมือนในวันวาน
----------
“กิมานี่”
วันหยุดถัดมาก็ยังเป็นอีกวันที่ทำให้ทั้งคู่ได้นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงจนกระทั่งตะวันลอยเด่นขึ้นกลางหัว ทานมื้อเช้าพร้อมมื้อเที่ยงด้วยกันเสร็จ ฮอนก็กวักมือเรียกให้คนตัวเล็กกว่าตามมานั่งบนโซฟา
“กูไปเสิร์ชหาวิธีลบรอยดูดมา เขาบอกให้ใช้เหรียญขูด”
กิเลิกคิ้ว “วิธีอะไรวะเนี่ย จ้อจี้รึเปล่า”
“แต่มันมีคนทำแล้วหายนะ”
“ไร้สาระ” คนตัวเล็กส่ายหัว ถอยเท้าเตรียมละออกจากหน้าโซฟาแต่กลับโดนคว้าข้อมือเอาไว้ได้เสียก่อน
“ลองดูก็ไม่เสียหายนี่” คนตัวสูงหรี่ตามองกับคุณหนูที่เป็นกังวลเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวาน ถึงขนาดไล่เขาออกไปซื้อคอนซีลเลอร์มาไว้ให้ใช้ปกปิดรอยแดงนี้เอาไว้
กิชั่งใจเพราะยังไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็ยอมพยักหน้าแล้วเดินมานั่งข้างๆ ลองดูสักนิดคงไม่มีอะไรเสียหายเท่าไหร่หรอกมั้ง โซฟายวบลงในขณะที่ฮอนขยับตัวเข้ามาใกล้พร้อมกับสัมผัสเย็นๆ ของพื้นผิวเหรียญค่อยๆ แตะลงบนลำคอ ฮอนก้มหน้าใช้เหรียญสิบในมือออกแรงขูดรอยสีกุหลาบเบาๆ
“ออกไหม” กิถาม
“ไม่รู้สิ ต้องทำกี่ครั้งวะ”
“อ้าว แล้วทำไมไม่ค้นมาให้มันรู้ ถามกูแล้วจะรู้ไหมฮะ” เจ้าของห้องเอ็ด
“เฮ้ยยย กูสบถกับตัวเองเฉยๆ นี่ก็ดุจัง” รีบแก้ตัวเมื่อโดนทำน้ำเสียงดุใส่ กิฮึ่มฮั่มอยู่ในลำคอ ปล่อยให้อีกคนลงมือขูดไป
นั่งกันไปได้สักพัก จู่ๆ ฮอนก็เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาเมื่อคิดได้ว่ามีเรื่องที่สงสัยในคืนนั้นอยู่
“กิ มึงจำได้ปะว่าเมื่อคืนก่อนมึงเมาแล้วละเมอพูดอะไรขึ้นมาบ่อยๆ”
กิเอียงคอทำท่าสงสัยก่อนจะกระแอมในลำคอ “จะไปจำได้เหรอ ก็บอกว่าเมาไง”
“มึงเอาแต่พูดคำว่า ‘มึงไม่ตอบ’ หลายครั้งมาก กูพูดอะไรไปมึงก็ทุบกูอั่กๆ แล้วก็ด่าว่าทำไมไม่ตอบ ตอนแรกก็งงๆ เพราะนึกว่ามึงไม่ได้ยินที่กูขานรับตอนมึงเรียก แต่ก็ไม่ใช่ พูดอะไรไปมึงก็เอาแต่หาว่าไม่ตอบ แล้วสรุปจะให้ตอบไรอะ” ฮอนชะงักมือซ้ายที่กำลังขยับไปมาบนคอระหงชั่วครู่ เงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าอีกคนที่เบือนไปอีกทางทันทีที่เขาสบตาด้วย ดูมีพิรุธอย่างไรไม่รู้
“กะ กูเมาไง ไม่เคยได้ยินเหรอ อย่าถือสาคนบ้าอย่าว่าคนเมาอะ จะเอาอะไรกับคนไม่มีสติวะ” กิตอบกระอึกกระอัก แท้จริงแล้วเขาจำได้ดีเชียวล่ะว่าคำถามที่ไม่กล้าพูดออกไปได้แต่ถามเสียงดังอยู่ในใจนั้นคือคำถามอะไรกันแน่ มันคือสิ่งที่เขาอยากได้ยินให้แน่ชัดมาโดยตลอดตั้งแต่สี่ปีก่อน
“จริงเหรอ แล้วจะหลบตาทำไมคะ” ฮอนใช้ปลายนิ้วจับคางอีกฝ่ายให้หันมาสบตาด้วย
คนตัวเล็กเริ่มกระอักกระอ่วน รีบคิดหาทางออกให้ตัวเองเร็วรี่ “ไม่ทำต่อแล้วใช่ปะ” ผินหน้าให้หลุดออกจากมืออีกฝ่ายแล้วรีบลุกขึ้นจากโซฟาเดินเข้าอีกห้องทันที
ฮอนมองตามคุณหนูจอมดื้อของเขาด้วยแววตาสงสัย ยังคงค้างคาอยู่ในใจแต่เพราะไม่ได้คำตอบเลยไม่รู้ว่ากิต้องการถามอะไรกันแน่ ขมวดคิ้วสงสัยนึกขึ้นได้ว่าเขายังมีเพื่อนสุดรักอีกคนหนึ่ง ผู้ที่มักเปรียบเปรยตัวเองว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วคนนั้น มือเลื่อนไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นต่อสายหาทันที
(เออ)
“ห้วนจังวะ”
(แล้ว? ต้องให้กูทักว่าไง สวัสดีครับคุณฮอน คุณสบายดีรึเปล่า ไม่ทราบว่าโทรหาผมทำไมครับ อย่างนี้เหรอ)
“ได้เปล่าล่ะ ถ้าได้แบบนั้นก็ดี” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ
(สัด มีไรรีบพูดมา) เต็งหนึ่งรีบรวบรัด
“เออแค่จะถามว่ากิมันมีอะไรในใจรึเปล่า แบบเป็นเรื่องที่บอกกูไม่ได้แต่บอกมึงได้อะ”
(ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่บอกมึงไม่ได้ แล้วมึงมาถามกูเพื่ออะไรคร้าบ ยังไงกิก็ต้องห้ามบอกมึงอยู่แล้วปะ)
“มึงช่วยใบ้หน่อยไม่ได้เหรอวะ กูค้างคาอยู่ในใจเนี่ย” ฮอนขมวดคิ้วยุ่ง ทำน้ำเสียงจริงจังเพื่อให้รู้ว่าครั้งนี้ต้องการคำตอบมากจริงๆ
(บอกแล้วกูจะได้อะไร จ่ายค่าง้างปากกูไหม)
“แล้วมึงจะเอาอะไร” ถ้ามันช่วยให้ความกระจ่างก็คงยอมเสียไป
(ไม่รู้ดิ ขอกูคิดก่อน)
“ไอ้ห่า งั้นก็บอกมาก่อนว่ามันมีไรกันแน่”
(…ก็น่าจะเป็นเรื่องนิสัยเดิมๆ ของมึงล่ะมั้ง แบบไม่รู้ว่ามึงจะเลิกทำเล่นๆ กับมันได้รึยัง)
“ใช่เหรอวะ” ฮอนขมวดคิ้ว แล้วกิต้องการให้เขาตอบอะไรกันล่ะ
(กูแอบกระซิบมึงหน่อยก็ได้ ตอนนี้ก็ง้อๆ มันได้ละนะ ใจเริ่มเหลวแล้ว)
“ถามจริง? รู้ได้ไง แล้วมึงว่ากิจะใจอ่อนรึยังวะ แบบมันจะไม่ปฏิเสธกูอีกแล้วใช่ปะ” น้ำเสียงเคลือบแคลงเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยเสียงระริกรี้ขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น
(ก็น่าจะดีกว่าแต่ก่อนแล้วแหละ กูอุตส่าห์คิดแผนเพื่อทดสอบมึงอะ อย่างน้อยกิมันต้องได้รับผลที่มันพอใจสักจุดบ้างล่ะวะ)
“อะไรนะ ทดสอบอะไร ผลอะไรนะ” ความสงสัยที่ดูเหมือนจะหายไปกลับแล่นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ฮอนขมวดคิ้วสงสัยทันที
(เชี่ย กูพูดอะไรวะ ไม่ๆ กูไม่ได้พูด) เต็งหนึ่งรู้ว่ายิ่งปฏิเสธมากเท่าไหร่ยิ่งดูพิรุธมากกว่าเดิม เขาตบปากตัวเองไปหนึ่งทีแลกกับความปากพล่อยของตนเอง
“มึงพูดไอ้หนึ่ง ถ้ามึงไม่บอกกูตอนนี้กูจะบุกไปถึงบ้านมึง”
(บุกไปเหอะ กูไม่ได้อยู่บ้าน)
“อ๋อ รึจะให้กูบุกไปห้องแฟนมึง น้องอะไรน้า ตัวนอๆ ติดอยู่ที่ปากเนี่ย” ฮอนขมุบขมิบ ลากเสียงยาวแสร้งทำว่าเหนือกว่าเมื่อบังเอิญไปรู้อะไรบางอย่างเข้า
(เชี่ย! มึงรู้ได้ไงวะ) จากที่เคยเป็นต่อ บัดนี้กลับกลายว่าเต็งหนึ่งโดนขู่เอาความลับที่ยังไม่เปิดให้ใครรู้มาข่มได้เสียก่อน
“กูเป็นผู้หยั่งรู้มั้งไอ้สัด บอกมาได้ละว่ามึงวางแผนไปทำอะไรไว้”
(ถ้ากูเล่าแล้ว มึงช่วยทำเป็นไม่รู้เรื่องนั้นก่อนได้ปะวะ)
“เออ ดีล”
(ฮือ กิจะฆ่ากูไหมวะเนี่ย)
“ยังอีก”
(เฮ้อ คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้…)
----------
กิมองคนที่กำลังผิวปากอารมณ์ดีขณะหยิบกีตาร์โปร่งคู่กายขึ้นมาวางบนตัก อีกฝ่ายอารมณ์ดีเหมือนคนเพิ่งไปโดนยาคึกคักตัวไหนมาสักตัวหนึ่ง
“มึงไปโด๊ปยามาปะเนี่ย” กิก้มมองด้วยความหวาดระแวง
“ฮะ เปล่าสักหน่อย” ร่างสูงหันมายิ้มตอบด้วยใบหน้าที่มักใช้ในการโปรยเสน่ห์ ก่อนจะหันไปผิวปากหวิวอีกรอบขณะปรับสายกีตาร์เพื่อจูนเสียง
กิยังคงมองคนที่นั่งเอนหลังพิงโซฟาด้วยใบหน้าหวาดๆ ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปดูซีรีส์ที่กำลังฉายบนหน้าจอแทนเมื่อคิดได้ว่านั่งมองมันไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา
ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงซีรีส์ที่กำลังดูอยู่ก็จบลง กิจิ๊ปากเมื่อตอนที่เพิ่งจบลงคือตอนสุดท้ายบนเว็บ นั่นคือเขาต้องรอไปอีกอาทิตย์ถึงจะได้ดูตอนต่อไป
“กิ ลงมานี่หน่อย” ขณะที่กำลังเลื่อนหาเรื่องใหม่ดูฆ่าเวลา เขาก็ถูกคว้าข้อมือดึงลงไปนั่งพื้น ฮอนเอื้อมมือไปหยิบรีโมทกดปิดโทรทัศน์ แถมยกกีตาร์มาวางบนตักของเขาแล้วขยับเข้ามาซ้อนหลังแทน
“อะไรของมึง”
“อะแฮ่ม อย่าเพิ่งขัดกูนะตัวดื้อ” ร่างสูงกระแอมในลำคอ
“มึงจะทำอะไร” กิเริ่มหวั่นอยู่ในใจเมื่อรู้สึกถึงการกระทำอันแปลกประหลาด
“กูอะฝันอยากดีดกีตาร์ให้แฟนฟังแบบพระเอกในหนังมานานแล้ว” ชายหนุ่มเก๊กเสียงเข้ม
“พี่แป้งไง มึงไปซื้อกีตาร์มาหัดดีดเพื่อเขานี่” กิอดเอ่ยแซะขึ้นมาไม่ได้ เมื่อได้ยินอีกคนเอ่ยคำพูดที่ทำให้พอจะเดาได้ว่ากำลังคิดทำอะไร
“แหนะ บอกว่าอย่าเพิ่งขัดไงคะ”
ฮอนพรูลมหายใจด้วยความประหม่าเล็กน้อย วางคางลงบนบ่าของคนในวงแขน มือซ้ายยื่นไปจับคอร์ด ส่วนมือขวาก็อ้อมตัวกิไปจับสายกีตาร์ดูเหมือนท่ากอดอยู่กลายๆ
กิขยับตัวยุกยิกคล้ายจะประท้วงว่าท่านี้ทำเขาอึดอัด แต่เมื่อคนข้างหลังเริ่มเกากีตาร์และเมื่อเสียงอินโทรของเพลงอะไรสักอย่างดังขึ้นเขากลับหยุดนิ่ง
“You’ve really caught my eye. I’m usually not this shy but my heart’s gone through some kind of change”
“…”
”We've always been just friends. But lately these feelings for you have gotten in the way”
เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหูเหมือนเสียงกระซิบ แม้ในความเป็นจริงจะไม่ได้เบามากถึงขนาดนั้น แต่กิก็รู้สึกได้ว่ามีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะได้ยินเสียงกระซิบนี้เพียงคนเดียว
“So when the stars all align. I'm gonna make you mine”
เสียงทุ้มหยุดไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะดังขึ้นอีกครั้งพร้อมๆ กับเสียงดีดสายกีตาร์ที่เปลี่ยนไป
“Because you and me, we're like milk and tea. We'll stir it up together and still make something sweet”
“…”
“So don't be afraid and just make my day. Just tell me that your heart can feel the same way”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะลมหายใจที่ระรินบนหลังคอหรือเสียงทุ้มอันคุ้นชินกันแน่ที่ทำให้เขาต้องเม้มปากแน่นอย่างนี้ เสียงกลองตีระรัวอยู่ในอกผสมไปกับจังหวะสบายๆ ของกีตาร์โปร่ง ใบหน้าเริ่มร้อนผะผ่าว กิรู้ตัวว่าตอนนี้ใบหูของเขาคงแดงเถือกและมันจะไล้ลามมาทั้งใบหน้าของเขาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แน่ๆ
“It may be crazy but just give it a chance. Cause what we have is good and I just want this to last”
“…”
“So take my hand and we'll never part. We're meant for each other, this is only the start”
“...”
“รักนะ”
“…”
“คำนี้ใช่ไหมที่อยากได้เป็นคำตอบ”
กิหันขวับมามองหน้าผู้พูดทันทีด้วยความตกใจเมื่อเสียงกีตาร์หยุดลงกะทันหันแล้วแทนด้วยน้ำเสียงจริงจังที่เอ่ยข้างใบหู
“ระ รู้ได้ยังไง” คนตัวเล็กพูดตะกุกตะกัก
ฮอนอมยิ้มตอบกลับ “ก็เคยบอกแล้วไงว่ามึงเป็นของกู คิดอะไรอยู่น่ะรู้หมดแหละ”
หลังจากได้ฟังแผนการในคืนวันศุกร์พร้อมกับความกังวลต่างๆ ของกิที่รู้มาจากเต็งหนึ่ง ฮอนก็พอจะเดาได้ว่าจริงๆ แล้วกิกังวลอะไรมากที่สุด
“กูไม่เคยพูดคำนี้แบบจริงๆ จังๆ เลยใช่รึเปล่า ขอโทษนะ ขอโทษที่ไม่เคยพูดมันออกมาแบบจริงจังสักที ขอโทษที่หลายครั้งทำเป็นหยอกทำเป็นเล่นมาตลอด ขอโทษที่ทำให้มึงฝังใจมาจนถึงขนาดนี้ ขอโทษที่ไม่คิดให้ดีก่อนพูดบ้างเลย”
“…” กิเม้มปากแน่น ก้มหน้างุดไม่ยอมหันไปสบตาด้วย
“ถ้าจะบอกว่าครั้งนี้กูจริงจังและคิดมาดีก่อนพูดแล้ว มึงจะว่ายังไง”
ฮอนผละตัวขึ้นจากลาดบ่า วางกีตาร์ไว้ข้างตัว ก่อนจะขยับตัวเองออกจากหลังให้ได้มองหน้าคนในอ้อมแขนชัดๆ
“เป็นแฟนกันนะ”
น้ำเสียงหนักแน่นทว่าแฝงความเว้าวอนทำให้กิยอมเงยหน้าขึ้นมามองในที่สุด
“กับพี่แป้งน่ะ ไม่เคยเล่นกีตาร์ให้เขาฟังเลยนะ พูดจริงจากใจ สาบานให้ฟ้าผ่าเลยก็ได้ จะมีแค่มึงที่กูนั่งแกะคอร์ด ฝึกเพลงเพื่อมาเล่นให้ฟังแบบนี้ แค่มึงกิ …แค่มึงคนเดียว”
ฮอนมองใบหน้าสีฝาดของคนตรงข้ามแล้วส่งยิ้มบางให้ แต่กิกลับก้มงุดลงจนคางชิดอกตัวเองอีกครั้งทั้งที่เพิ่งสบตากันได้ไม่กี่วินาที
“ฮึ ว่าไง” เขาถามย้ำอีกครั้ง ใจแอบฝ่อลงเล็กน้อยเมื่อกิยังนิ่ง กลัวได้รับคำปฏิเสธตอบมาเหมือนหลายๆ ครั้งก่อน แม้ว่าครั้งนี้เขาจะเทหมดหน้าตักทั้งที่ไม่มีพนันอะไรทั้งนั้นก็ตามเถอะ
มุมปากค่อยๆ เหยียดยิ้มกว้างขึ้นเมื่อศีรษะของคนตรงข้ามผงกไปมาทั้งที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมามองสบตา ร่างสูงคว้าอีกคนเข้ามากอดหมับด้วยความดีใจ ปลายจมูกโด่งหอมฟอดเข้าไปที่กลุ่มผมสีดำทันที
“แล้วรักไหม ขอคำตอบด้วยคนได้รึเปล่า”
“ปล่อยยย” กิร้องโวยวายเมื่อรู้สึกถึงแรงรัดที่แนบแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ
“ตอบก่อนเดี๋ยวปล่อย” ฮอนคลายวงแขนเล็กน้อย ไม่วายหาเศษหาเลยโดยการหอมแก้มคุณหนูจอมเขินในอ้อมกอดไปหลายฟอด
“เร็ว จะตอบไหม” เขาเร่งรัดเอาคำตอบด้วยการพรมจูบลงบนใบหน้าคุณหนูในอ้อมกอดหลายๆ ครั้ง ทั้งหน้าผาก แก้ม และริมฝีปากเพื่อให้คนโดนกระทำรำคาญจนทนไม่ไหว
กิไม่ไหวจะหลบหลีกจึงตะโกนออกมาเสียงดัง “เออ!! ปล่อยได้รึยัง!”
“เอออะไรคะ ไม่รู้เรื่องไม่ผ่านนะ”
“เออรักไงไอ้เหี้ย ปล่อยได้แล้ว!”
ฮอนหลุดขำให้กับคำบอกรักแบบฮาร์ดคอของคนตัวเล็กในอ้อมกอด เผลอคลายวงแขนหละหลวม เปิดโอกาสให้กิฟาดเข้าที่ต้นแขนหนึ่งทีก่อนจะวิ่งหนีเข้าห้องนอนไปจนได้
“หนีอีกแล้วนะ!” ฮอนเอ่ยอย่างไม่จริงจังนัก
เขาฉีกยิ้มกว้างอยู่นานพอกับๆ เสียงหัวใจที่เต้นระรัวดังอยู่ในอกข้างซ้าย สายตายังคงมองไปยังประตูห้องที่ถูกปิดล็อกไว้ทันทีที่หนีเข้าไปได้ อาการขี้อายของจอมเขินคงกำเริบหนัก ตอนนี้กิคงกลายร่างเป็นหนูกิตัวแดงนอนคุดคู้อยู่ในผ้าห่มผืนใหญ่ แล้วก่นด่าเขาทั้งที่ใจเต้นระรัวเหมือนกันอยู่แน่ๆ
จำเป็นต้องบอกอีกครั้งรึเปล่าว่าหนูกิของเขาน่ะ…
…น่ารักที่สุดในโลกเลย :)
TBC.
ㅡ #ADayWithWCM
ㅡ รีบปั่นมากๆ กลัวทุกคนลืมแต่สปีดได้แค่นี้ค่ะ ฮือแม่555555
ขอบคุณเพลงน่ารักๆ Feel the same - fcj w/chevy ขอบคุณทุกความเห็นด้วยค่า
:pig4: :pig4: