โปรดหันมาที่ผมสักครั้ง (Please)
ตะวัน : ผมแอบชอบรุ่นน้องอยู่คนนึงครับ แต่ไม่กล้าจีบเพราะน้องเค้ามีแฟนแล้ว ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมันสั่งให้ผมได้แต่มองน้องเค้าอยู่ห่างๆรอให้น้องหันมายิ้มให้ยามเมื่อเจอกันแค่นี้ก็ดีเกินพอแล้ว..
ตุลย์ : ผมแอบชอบรุ่นพี่อยู่คนนึงครับ วันนี้เป็นวันที่พี่เค้ารับปริญญาผมได้แต่มอบของขวัญแสดงความยินดีแต่ของขวัญนั้นมันมีนัยยะความในใจของผมแฝงอยู่เพราะผมไม่กล้าบอกความในใจด้วยความขี้ขลาดของตัวเอง ผมรู้สึกว่าพี่เค้าเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมไปทุกอย่างซึ่งมันสูงเกินเอื้อมสำหรับคนธรรมดาอย่างผม ขอแค่ได้แอบชอบอยู่ตรงนี้และเพียงแค่พี่เค้าหันมาทักผมบ้างแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว..
“หวัดดีครับพี่ตะวัน” ผมมักจะมาร้านกาแฟของพี่ตะวันในทุกๆเย็นหลังเลิกเรียน หรือช่วงไหนไม่มีเรียนก็มักจะมาอ่านหนังสือที่ร้านของพี่ตะวัน ไม่ใช่ผมขยันอะไรหรอก แต่มันคือข้ออ้างที่จะได้เจอกับพี่ตะวัน
ตอนแรกคิดว่าคงจะไม่ได้เจอพี่ตะวันอีกแล้วหลังจากที่พี่ตะวันเรียนจบ ใครจะไปคิดว่าพี่ตะวันจะมาเปิดร้านกาแฟใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยที่เราเรียนอยู่ ถือว่าเป็นโชคดีของผมจริงๆ!!
“หวัดดีครับน้องตุลย์ มาคนเดียวเหรอวันนี้?” พี่ตะวันถามด้วยรอยยิ้มที่แสนอบอุ่น เป็นรอยยิ้มที่ผมมักจะฝันเห็นเป็นประจำ ฝันของผมที่มีพี่ตะวันจะเป็นฝันดีทุกครั้ง..
“มากับกันต์ครับ มันหาที่จอดรถอยู่” แต่เหมือนผมจะเห็นว่ารอยยิ้มของพี่ตะวันกระตุกไปนิดหนึ่งตอนที่ผมบอกว่ามากับไอ้กันต์!!
“เหมือนเดิมนะครับวันนี้”
“ครับ เพิ่มโกโก้เย็นอีกแก้วด้วยนะครับ”
“หวัดดีครับพี่ตะวัน” ไอ้กันต์เข้ามาทักพี่ตะวัน หลังจากที่ผมหาที่นั่งได้แล้ว
“หวัดดีครับน้องกันต์ ตุลย์สั่งให้เราแล้วล่ะ โกโก้เย็นนะ”
“ครับพี่”
“มึงกูเห็นหน้าร้านพี่ตะวันติดป้ายรับสมัครพนักงานพาร์ทไทม์ มึงไม่สนเหรอวะ” ไอ้กันต์ถามด้วยสายตาลุกวาวทันทีเมื่อมันมาถึงที่โต๊ะ
“ไม่อ่ะ กูว่ากูคงทำไม่ได้”
“เฮ้ย โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดพี่เค้ามาถึงทั้งทีนะเว้ย” ใช่ครับ! ไอ้กันต์รู้ว่าผมแอบชอบพี่ตะวัน
“ได้ละครับ อเมริกาโน่เย็น กับโกโก้เย็น” พี่ตะวันเสริฟเครื่องดื่มให้เราด้วยรอยยิ้มซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ผมแอบชอบมาตลอดสองปี!!
“ขอบคุณครับ” ผมกับไอ้กันต์พูดขอบคุณพร้อมกัน
“พี่ตะวันรับสมัครพนักงานพาร์ทไทม์เหรอครับ” อยู่ๆไอ้กันต์ก็ถามขึ้น
“ใช่แล้วล่ะ ลูกค้าตอนนี้เริ่มเยอะขึ้นเลยอยากได้คนมาช่วยช่วงตอนเย็นน่ะ”
“ไอ้ตุลย์อยากทำครับพี่” อยู่ๆไอ้กันต์ก็โพล่งออกมา
“เฮ้ย!!” ผมได้แต่ร้องตกใจ ไม่คิดว่าไอ้กันต์มันจะพูดออกมา
“น้องตุลย์อยากทำจริงเหรอ” พี่ตะวันถามด้วยสายตาที่เป็นประกาย!!
“เออ..คือ” กำลังจะปฏิเสธไอ้กันต์ก็เหยียบเท้าผมใต้โต๊ะก่อนจะชิงพูดตัดหน้า อะไรของมันวะ!!
“ใช่ครับพี่ มันบอกว่าอยากหาประสบการณ์ก่อนที่จะฝึกงาน” กูบอกตอนไหน!!
“งั้นดีเลย น้องตุลย์พร้อมเริ่มงานวันไหน พรุ่งนี้เลยมั้ย?” พี่ตะวันพูดด้วยรอยยิ้มกว้างที่แสนดีใจทำให้ผมไม่สามารถที่จะปฏิเสธรอยยิ้มนั้นได้เลย
“ก็ได้ครับ” ผมตอบตกลงพร้อมกับส่งสายตาคาดโทษไปให้ไอ้เพื่อนจอมจุ้นจ้าน
“งั้นพี่ขอเบอร์ติดหน่อยนะครับ มือถือพี่ชาร์จแบตอยู่พี่ขอยืมมือถือน้องตุลย์หน่อยเดี่ยวพี่กดเบอร์ให้”
“อะ เออ ไม่เป็นไรครับพี่ตะวันบอกเบอร์พี่ตะวันมาเลยครับ เดี๋ยวผมเมมไว้ครับ” จะเอามือถือให้พี่ตะวันได้ไงล่ะก็หน้าจอมันเป็นรูปของพี่ตะวัน!! ไอ้กันต์ได้แต่หัวเราะคิกๆเพราะมันรู้ว่าหน้าจอมือถือของผมเป็นรูปใคร
“งั้นกาแฟกับโกโก้พี่ไม่คิดเงินละกัน ถือว่าพี่เลี้ยงต้อนรับสมาชิกใหม่” มาอีกแล้วรอยยิ้มแบบนี้แล้วผมจะทำงานรอดมั้ยเนี่ย!!
เรานั่งอยู่ในร้านของพี่ตะวันอีกสักพัก ก็กลับหอผมกับไอ้กันต์เป็นรูมเมทกันครับ เราสนิทกันตั้งแต่มัธยมเรียนคณะเดียวกัน เอกเดียวกัน ด้วยความสนิทกันความลับของผมเลยไม่เป็นความลับสำหรับมันไม่ต่างกันความลับของมันผมก็รู้เช่นกัน!!
“อะไรของมึงวะ กูบอกไม่อยากทำไง” ผมโวยมันทันทีที่ออกจากร้านของพี่ตะวัน
“แต่มึงก็รับปากไปแล้วนี่ มึงควรจะขอบคุณกูที่กูทำให้มึงได้ใกล้ชิดกับพี่ตะวัน ตอนที่พี่เค้ารับปริญญามึงก็ป๊อดไม่ยอมสารภาพความในใจกับพี่แก ครั้งนี่โอกาสมาถึงแล้วนะมึงก็ต้องคว้าไว้สิ"
“กูไม่อยากบอก ทำไมต้องบอกด้วยวะถ้าเกิดบอกแล้วพี่เค้าปฏิเสธละ จบเห่กันพอดีแม้แต่ร้านกาแฟกูคงไม่กล้ามา สู้หน้าพี่เค้าไม่ติดแน่ๆ”
“มึงคิดมากไปป่ะ จากสายตาที่พี่ตะวันมองมึงกูเชื่อว่าพี่เค้าก็ชอบมึง!!”
“ตลกครับ!!”
“เชื่อกู ยิ่งเมื่อกี้ตอนที่มึงบอกจะทำงานที่ร้านแก พี่ตะวันยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง มึงก็เห็นหรือมึงตาบอด” โบกเข้าให้ กวนตีนจริงๆ
“ไปกลับหอกันมึง หรือจะนอนนี่” ไอ้กันต์กอดคอผมแล้วแซวอย่างล้อๆ
……………………………………….................
“ไงมึง ไหงทำหน้างั้นวะ ปวดขี้?” ไอ้ป่านเพื่อนของผมพูดทักขึ้น ไอ้นี่ชอบเข้าทางหลังร้านไม่เข้าใจมันเหมือนกันหน้าร้านก็มีแต่ไม่ยอมเข้า!!
“มึงก็ดูนั่นดิ” ผมบอกให้ไอ้ป่านมองไปทางหน้าร้าน ซึ่งเป็นฉากที่คนรักกันเค้ากอดคอคุยกันกระหนุงกระหนิง!!
“ก็เค้าเป็นแฟนกัน มึงก็อย่าไปมองดิ” ก็มันหน้าร้านกู ไม่ให้มองหน้าร้านแล้วจะให้กูไปมองที่ไหน?!
“น้องตุลย์เค้าจะมาทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านกู เริ่มพรุ่งนี้กูตื่นเต้นว่ะ”
“ตื่นเต้นแล้วทำไมทำหน้าบูดวะ เอาน่าไอ้ตะวันอย่างน้อยน้องเค้าก็จะมาทำงานกับมึง มึงก็จะได้มีโอกาสใกล้ชิดน้องเค้ามากขึ้นไง”
“แล้วไงวะ น้องเค้าก็มีแฟนแล้วอยู่ดี”
“อ้าว ไหนมึงบอกพอใจที่ได้แอบชอบอยู่แบบนี้ไง”
“มันก็ใช่ แต่กูก็อดอิจฉาไอ้น้องกันต์มันไม่ได้ ดูดิกอดคอกันออกจากร้านคุยกันดูมีความสุข กูอยากมีโมเม้นแบบนี้กับน้องตุลย์บ้าง”
“อย่าโลภมึง” ไอ้ป่านก็แต่ส่ายหน้ากับความคิดของผม
แล้วเย็นของวันนี้ที่ผมรอคอยก็มาถึง เมื่อคืนโทรไปคุยรายละเอียดเรื่องทำงานโคตรจะตื่นเต้นนี่คือครั้งแรกในรอบสองปีที่ผมได้โทรหาน้องเค้าเสียงแม่งโคตรน่ารัก ผมเวอร์ไปป่ะ!!
ผมแอบชอบน้องตุลย์ได้สองปีกว่าแล้วครับ ชอบตั้งแต่เจอครั้งแรกเลยตอนนั้นรับน้องของคณะผมเป็นพี่สันทนาการ น้องตุลย์ในตอนนั้นมัดจุกผมด้านหน้า แก้มก็ทาแป้งขาวกำลังเต้นไปตามเพลงของพี่ๆสันทนาการใบหน้าก็ยิ้มหัวเราะมีความสุขไปกับเพื่อนๆเวลาที่ต้องร้องเพลงหรือเล่นเกมส์ รอยยิ้มนั้นสดใสมันโดนใจผมทั้งแต่แรกเจอ มารู้อีกทีว่าอยู่เอกเดียวกันยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่
พอดีว่าไอ้ป่านเป็นลุงรหัสของไอ้น้องกันต์ เห็นว่าสนิทกับน้องตุลย์เลยให้ไอ้ป่านเป็นหน่วยกล้าตายไปถามหลานรหัสของมันว่าน้องตุลย์มีแฟนรึยัง คำตอบที่ได้มาคือ..น้องตุลย์มีแฟนแล้วแฟนของน้องคือไอ้น้องกันต์หลานรหัสของไอ้ป่านยังไงล่ะ!! ผมเลยอกหักตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มจีบ!!
“หวัดดีครับพี่ตะวัน”
“หวัดดีครับน้องตุลย์ เดินอ้อมมาทางนี้สิ” ผมบอกให้น้องเดินอ้อมมาด้านข้างเพื่อจะได้เข้ามาอยู่หลังเค้าเตอร์
“นี่ครับผ้ากันเปื้อน น้องตุลย์เสริฟอย่างเดียวนะ หน้าที่ชงกาแฟเดี๋ยวพี่จัดการเอง”
“โอเคครับ”
“เป็นไงไหวมั้ย” ผมถามน้องหลังจากที่ร้านปิดแล้ว
“พอได้ครับพี่ตะวัน พี่ตะวันเก่งนะครับทำเองคนเดียวหมดเลย” น้องตุลย์หันมายิ้มให้ผมด้วยรอยยิ้มที่อ่อนละมุน อย่า..อย่ายิ้มให้พี่แบบนั้นครับ หัวใจพี่กำลังจะทำงานหนักเกินไป!!
“ก่อนหน้านี้ลูกค้าไม่เยอะพี่ก็เลยทำไหว แต่ตอนนี้ต้องมีคนมาช่วยแล้วล่ะขอบคุณนะที่มาช่วยพี่”
“ยินดีครับ แล้วตอนกลางวันมีคนช่วยพี่ตะวันมั้ยครับ”
“ช่วงบ่าย พี่สาวพี่จะเข้ามาช่วยน่ะ ก็เลยสบายหน่อยช่วงนี้”
“ปิดร้านแล้วใช่มั้ยครับ งั้นผมขอตัวกลับ”
“เดี๋ยวพี่ไปส่งแวะกินข้าวด้วย เดี๋ยวพี่เลี้ยง ตามที่เราคุยกันไว้ไง ค่าแรงบวกอาหารเย็นหนึ่งมื้อ” เจ้าเล่ห์มั้ยล่ะผม จะได้ถือโอกาสนี้ได้กินข้าวกับน้องตุลย์ทุกวัน
“โอเคครับ”
“กินไรกันดี” ผมถามกลับอย่างอารมณ์ดี
“แล้วแต่พี่ตะวันเลยครับ ผมกินได้หมด”
“งั้นกินบะหมี่ละกันเนอะง่ายดี”
“ครับ”
..ร้านบะหมี่ข้างทางก่อนถึงหอของน้องตุลย์ ระหว่างที่เรากำลังรอบะหมี่
“ว่าไงมึง เสร็จแล้ว พี่ตะวันมาส่ง กำลังแวะกินบะหมี่อยู่ เออๆรู้แล้วน่า ไม่ต้องห่วงกูหรอกน่า แค่นี่นะ ” น้องตุลย์กำลังคุยโทรศัพท์ไม่บอกก็รู้ว่าคุยกับใคร เป็นห่วงกันดีจัง อิจฉาเว้ยย!!
“น้องกันต์คงรักน้องตุลย์มาก” อดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“ก็คงงั้นมั้งครับ สนิทกันตั้งแต่ม.1” จากเพื่อนสนิทเปลี่ยนมาเป็นแฟน ดีว่ะ!!
“เหนื่อยมั้ย ถ้าไม่ไหวบอกพี่นะ” จริงๆผมก็ไม่อยากให้น้องมาลำบากไหนจะต้องเรียนแล้วตอนเย็นยังต้องมาทำงานช่วยผมอีก เลยอดเป็นห่วงไม่ได้
“ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ครับ ตุลย์ว่าสนุกดีครับ” ตุลย์!! น้องเผลอหลุดเรียกชื่อตัวเองออกมาได้ยินแล้วมันดีชะมัด ผมได้แต่แอบยิ้มในใจ..
“ต่ออีกชามมั้ย?” ผมถามหลังจากที่เราทั้งสองคนโซ้ยบะหมี่กันหมดเกลี้ยงแล้ว เห็นตัวเล็กๆแบบนี้ดูท่าแล้วน้องคงจะกินเก่งเหมือนกัน น้องตุลย์ถือว่าตัวเล็กครับถ้าเทียบกับผม ผมสูง185 ซม. น้องตุลย์น่าจะสูงไม่ถึง175 ซม. ผมน่าจะสูงกว่าสัก10ซม.น่าจะได้ หรือผมจะตัวใหญ่เกินไปนะ!!
“อิ่มละครับ พี่ตะวันไม่อิ่มต่ออีกชามก็ได้นะ ผมรอได้” น้องตุลย์พูดพร้อมกับยิ้มน้อยๆ น่ารักดีแฮะ!!
จะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็น่ารักหมดสำรับผมถ้ามันเป็นรอยยิ้มของน้องตุลย์!!
“พี่อิ่มแล้วครับ ป่ะกลับกันน้องตุลย์จะได้รีบพัก”
“ครับ”
“พรุ่งนี้เจอกันนะ” ผมบอกน้องเมื่อตอนนี้เรามาถึงหน้าหอของน้องตุลย์แล้ว
“ครับ เออ..พี่ตะวันฝันดีนะครับ” น้องพูดจบก็รีบลงจากรถ ไม่รอให้ผมได้พูดอะไร
“...!!” ตึกๆ หัวใจเต้นแรงแบบนี้คืออะไร?! แล้วถ้ามองไม่ผิดน้องหน้าแดง?!
และแล้ววันเสาร์ที่รอคอยก็มาถึงเพราะร้านผมปิดทุกวันอาทิตย์ วันนี้เลยกะว่าจะทำอาการกินเองกับน้องตุลย์สองคน
คงจะโรแมนติกดีไม่น้อย..นี่ก็ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์แล้วที่น้องตุลย์มาทำงานที่ร้านผม ถึงมันจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่อยู่ด้วยกันในแต่ละวันแต่ก็มีความสุขดีครับ การสกินชิพแบบบังเอิญ เช่นการสัมผัสมือกันโดยไม่ได้ตั้งใจเวลาที่น้องรับแก้วกาแฟจากมือผม มันก็เป็นความสุขเล็กๆที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว!!
……………………………………………………...........
“ตะวัน ลาเต้เย็นแก้วนึงจ๊ะ”
“อ้าวจ๋ากลับมาจากอังกฤษตั้งแต่เมื่อไหร่” พี่ตะวันทักพี่จ๋าด้วยความดีใจ พี่จ๋าคือพี่ที่คณะของผม ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันกับพี่ตะวัน และมีหลายคนบอกว่าสองคนนี้กำลังจีบกันอยู่ พี่ทั้งสองคนดูเหมาะสมกันมาก ผมไม่มีทางสู้พี่จ๋าได้เลย..
“พึ่งกลับมาเมื่อวาน คิดถึงเลยรีบมาหาตะวันก่อนเป็นคนแรกเลย” ทำไมรู้สึกเจ็บที่หัวใจแปล๊บๆก็ไม่รู้
“พี่จ๋าหวัดดีครับ”
“อ้าวน้องตุลย์ทำงานที่นี้เหรอจ๊ะ”
“ครับ”
“ดีจัง คนแถวนี้คงมีความสุข เนอะตะวัน” แล้วพี่จ๋าก็หันไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับพี่ตะวัน พี่ตะวันไม่ตอบได้แต่ยิ้มเขินๆ
“...!!” หมายความว่าไง?!
“พรุ่งนี้ร้านปิดนี่ตะวัน คืนนี้ไปแฮงเอ้าท์ที่ไหนรึป่าว”
“ไม่อ่ะ ว่าจะทำกับข้าวกินง่ายๆที่บ้านกับน้องตุลย์”
“จ๋า มากินด้วยคนได้ป่ะ”
“...”
“ฮ่าๆ ดูทำหน้าเข้า ล้อเล่นๆใครเค้าจะอยากมาเป็นกขค.ล่ะ”
“...!!” กขค. คืออะไร ทำไมพี่จ๋าพูดอะไรแปลกๆ และดูมีความสุขที่ได้แซวพี่ตะวัน!!
“พูดมากไปละจ๋า”
“งั้นจ๋ากลับดีกว่า เดี๋ยวจะเผลอพูดอะไรที่ไม่ควรพูด พี่ไปนะน้องตุลย์” พี่จ๋าพูดด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ก่อนจะเดินออกจากร้านไป
“พี่จ๋าเค้าหมายถึงอะไรเหรอครับ แล้วกขค. คืออะไร?” เพราะงงก็เลยถาม
“อย่าไปสนใจคำพูดของคนบ้าเลย น้องตุลย์ช่วยเอานมข้างหลังร้านมาให้พี่หน่อยได้มั้ยครับ”
“ได้ครับ” ไม่ยอมตอบแฮะ แปลกจริงๆนั้นแหละ
หลังจากปิดร้านแล้ว ผมกับพี่ตะวันก็ช่วยกันทำสปาเก็ตตี้กับสลัดผักง่ายๆที่ครัวเล็กๆในบ้านของพี่ตะวัน ซึ่งก็คือชั้นบนของร้านกาแฟพี่ตะวันนั้นเอง
พี่ตะวันมีหน้าที่ทำสปาเก็ตตี้ ส่วนผมทำสลัดผักเพราะง่ายที่สุด ผมทำอาหารไม่เก่งครับ
“พี่ตะวัน มะเขือเทศหั่นแบบนี้ถูกมั้ยครับ”
“ไหนดูสิ” แล้วพี่ตะวันก็เอี้ยวตัวจากเตามาดูผมหั่นมะเขือเทศ ตอนนี้พี่ตะวันยืนอยู่ข้างหลังผมพร้อมกับชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ ใจของผมตอนนี้เต้นแรงแทบจะทะลุออกจากอก!!
“...”
“หั่นทางยาวแบบนี้ครับ” แล้วพี่ตะวันก็จับมือผมทั้งสองข้างให้หั่นมะเขือเทศตามมือของพี่ตะวัน เหมือนจับมือเด็กให้หัดเขียนหนังสือ
“...” หน้าอกของพี่ตะวันชนกับแผ่นหลังของผม เดี๋ยวนะ..หัวใจพี่ตะวันเต้นแรงจัง แรงไม่ต่างกับหัวใจของผมตอนนี้!!
“อื่อ มะเขือเทศพวกนี้หอมดีเนอะ” พี่ตะวันพูดพร้อมกับสูดลมหายใจปลายจมูกแทบจะชนกับแก้มของผม.. ตอนนี้หน้าผมต้องแดงกว่ามะเขือเทศพวกนี้แน่ๆ!!
“ดื่มไวน์มั้ยน้องตุลย์”
“ดื่มได้นิดหน่อยครับ ผมไม่ค่อยถูกกับเครื่องดื่มพวกนี้เท่าไหร่” ง่ายๆคือ คออ่อนครับ!!
เรานั่งกินอาหารเย็นกันอย่างเงียบๆ ด้วยความรู้สึกที่แปลกๆ
“อร่อยมั้ย” แล้วที่ตะวันก็ถามเพื่อทำลายความเงียบที่อยู่ๆก็เกิดขึ้นระหว่างเรา เหมือนต่างฝ่ายต่างตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง
“อร่อยครับ พี่ตะวันทำขายที่ร้านได้เลยนะเนี่ย”
“คงจะทำไม่ไหว แต่ถ้าทำให้น้องตุลย์กินพี่สู้ตาย บอกพี่ได้ทุกเมื่อถ้าน้องอยากกิน” พี่ตะวันพูดพร้อมกับยิ้มกว้างให้ผม
“...” อยู่ๆก็รู้สึกหน้าร้อนกับคำตอบของพี่ตะวัน
“พรุ่งนี้ไปเที่ยวที่ไหนรึป่าว”
“คงไม่อ่ะครับ ขอนอนยาวอยู่ที่ห้องดีกว่า”
“ขอโทษนะที่ทำให้น้องตุลย์ต้องมาเหนื่อยแบบนี้”
“โธ่..ที่ตะวันอย่าคิดแบบนี้สิครับ ผมไม่ได้เหนื่อยฟรีสักหน่อย” ได้ค่าแรงแถมยังได้อยู่ใกล้ๆพี่แบบนี้ดีที่สุดแล้ว
“กินเสร็จแล้วกลับเลยมั้ย หรือจะดูหนังเป็นเพื่อนพี่ พอดีพี่มีแผ่นหนังหลายเรื่องซื้อมานานแล้วยังไม่ได้ดูสักที”
“ดูหนังก่อนก็ได้ครับ วันนี้ไม่รีบเพราะพรุ่งนี้ตื่นสายได้”ผมตอบพร้อมกับยิ้มให้กับพี่ตะวัน
“ต้องโทรบอกน้องกันต์ก่อนมั้ยว่าวันนี้กลับดึก เดี๋ยวน้องเค้าจะเป็นห่วง” ทำไมผมรู้สึกว่าเวลาที่พี่ตะวันพูดถึงไอ้กันต์ทีไรสีหน้าของแกจะดูเศร้าลงทุกที!!
“ผมไลน์บอกแล้วครับว่าอยู่กับพี่ตะวัน มันไม่ห่วงผมหรอกตอนนี้คงอยู่กับสาวๆของมัน”
“อะไรนะ!! อยู่กับสาวๆ?!” พี่ตะวันถามด้วยสีหน้าตกใจ
“ครับ สาวๆในสต็อกของมัน ไอ้นี่มันเนื้อหอมครับ”
“แล้วน้องตุลย์ไม่โกรธเหรอ ที่น้องกันต์ทำตัวแบบนี้เราใจกว้างเกินไปรึป่าว” อยู่ๆพี่ตะวันก็หงุดหงิดขึ้นมาทำไมล่ะ?!
“ทำไมผมต้องโกรธด้วยล่ะ?!” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ
“ก็คนเป็นแฟนกันเค้าไม่ทำกันแบบนี้!!”
“แฟน!!”
“...”
“ฮ่าๆ อย่าบอกนะว่าพี่ตะวันเข้าใจว่าผมกับไอ้กันต์เป็นแฟนกัน!!” อดขำไม่ได้ ผมเนี่ยนะเป็นแฟนกับไอ้กัันต์แค่คิดก็ขนลุก!!
“แล้วไม่ใช่เหรอ?!!”
“ก็ไม่ใช่น่ะสิ ผมกับไอ้กันต์เป็นเพื่อนสนิทกันครับ แต่ก็ไม่แปลกมีหลายคนแล้วที่เข้าใจผิดว่าผมกับมันเป็นแฟนกัน”
“ให้ตาย นี่พี่หลงเข้าใจผิดไปตั้งสองปีเลยเหรอเนี่ย!!”
“สองปี?”
“ใช่สองปี งั้นพี่ขอถามตรงๆว่าตอนนี้น้องตุลย์มีแฟนมั้ย”
“ไม่มีครับ”
“กับน้องกันต์เป็นแค่เพื่อนสนิทกัน?” สีหน้าของพี่ตะวันตอนนี้ดูลุ้นมาก
“ใช่ครับ”
“งั้นพี่ขอพูดอะไรบางอย่าง เพราะพี่ไม่อยากเสียเวลาอีกแล้ว”
“...” พี่ตะวันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับจับมือผมแล้วมองหน้าผมนิ่งด้วยแววตาที่จริงจังก่อนจะพูดว่า..
“พี่ชอบน้องตุลย์ ชอบมานานแล้วตั้งแต่น้องตุลย์อยู่ปี1”
“...!!” นี่ผมฝันไปรึป่าว หรือว่าผมเมาเพราะไวน์แก้วนั้น ชอบผมตั้งแต่ปีหนึ่งงั้นเหรอแสดงว่าตอนนี้มันก็ผ่านมาได้สองปีแล้วล่ะสิ!! ทำไมมันเหมือนกับผมล่ะ!!
“เหตุผลที่พี่ไม่กล้าจีบน้องตุลย์เพราะพี่เข้าใจว่าน้องตุลย์เป็นแฟนกับน้องกันต์”
“...”
“พี่ดีใจมากที่น้องตุลย์มาทำงานที่ร้านพี่ เพราะพี่จะได้อยู่ใกล้ๆกับน้องตุลย์ไม่ต้องคอยแอบมองจากที่ไกลๆเหมือนที่ผ่านๆมา”
“...”
“ดูนี่สิสร้อยคอที่น้องตุลย์ให้เป็นของขวัญวันรับปริญญาพี่ใส่ไว้กับตัวตลอดเลย” พี่ตะวันดึงสร้อยคอเงินเส้นเล็กที่มีจี้เป็นรูปตัวที ออกมาให้ผมดู
“คือ..จริงๆแล้วตัวที นอกจากที่มันจะหมายถึงตัวขึ้นต้นของชื่อพี่ตะวัน มันยังหมายถึงชื่อของตุลย์!!”
“...!!” ถึงตาที่ผมต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆบ้างแล้ว มือของพี่ตะวันที่จับมือผมไว้ก็ยังไม่ได้ปล่อยจากมือผม..ผมจึงกระชับให้มันแน่นขึ้น
“ผมก็ชอบพี่ตะวันเหมือนกันครับ” ผมพูดออกมาด้วยความจริงใจที่สุด
“น้องตุลย์!!”
“ตุลย์ชอบพี่ตะวันครับ ชอบมาตั้งแต่ตุลย์อยู่ปีหนึ่ง แต่ตุลย์ไม่กล้าบอกเพราะพี่ตะวันอยู่ไกลเกินเอื้อมเกินกว่าที่ตุลย์จะคว้าถึง ตุลย์คิดแค่ว่าขอให้พี่ตะวันหันมาทักตุลย์บ้างแค่นี้ก็ดีเกินพอแล้ว” ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในร่างกายในตอนนี้ทำให้ผมกล้าที่จะพูดในสิ่งที่เก็บเป็นความลับมาตลอดสองปีให้คนตรงหน้าได้รับรู้
“โธ่ ตุลย์” แล้วพี่ตะวันก็คว้าตัวผมเข้าไปกอด อ้อมกอดของพี่ตะวันนั้นอุ่นและรู้สึกปลอดภัยเหมือนที่ผมเคยจินตนาการไว้ นี่มันคงไม่ใช่ฝันใช่มั้ย?! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราใจตรงกันมาตั้งนานแล้ว..ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ!!
“ทำไมพี่ตะวันถึงคิดว่าตุลย์เป็นแฟนกับไอ้กันต์ล่ะ”
“พี่ให้ไอ้ป่านไปถามน้องกันต์ว่าน้องตุลย์มีแฟนรึงยัง น้องกันต์บอกว่าเค้าเป็นแฟนกับตุลย์”
“ฮ่าๆ จริงๆเล้ยยย”
“ตงลงว่ากันย์ชอบตุลย์รึป่าว ถึงได้ตอบแบบนั้น แล้วตุลย์กับกันต์ก็เหมือนเป็นแฟนกันซะด้วยสิ”
“ที่ไอ้กันต์มันตอบแบบนั้นเพราะมันคิดว่าพี่ป่านจะมาจีบตุลย์ มันรู้ว่าตุลย์ชอบพี่ตะวันเลยพูดกันท่าให้ ใครจะไปคิดว่าจะทำให้เข้าใจผิดกันตั้งสองปี!!”
“ถ้าเจ้าตัวรู้คงจะตกใจน่าดู ที่ความหวังดีกลายเป็นประสงค์ร้าย!!” นั้นนะสิน่าขำ..แต่ก็ขำไม่ออก ไอ้กันต์นะไอ้กันต์!!
“งั้นเราเป็นแฟนกันนะ!!”อยู่ๆพี่ตะวันก็พูดออกมา ผมทั้งดีใจทั้งตกใจ
“ไม่เร็วไปเหรอพี่ตะวัน”
“ไม่เร็วหรอก เราใจตรงกันมาตั้งสองปีแล้วนะ พี่ไม่อยากเสียเวลาอีกแล้ว ต่อไปเราไม่ต้องรอใครหันมาอีกแล้วไง จากนี้ไปพี่จะหันมามองที่ตุลย์คนเดียว” นั้นน่ะสินะ จะรอต่อไปอีกเพื่ออะไร!!
“ครับ จากนี้ไปตุลย์ก็จะหันมามองที่พี่ตะวันคนเดียวเหมือนกัน”
เราต่างฝ่ายต่างยิ้มให้กันก่อนที่พี่ตะวันจะค่อยๆประทับริมฝีปากลงมาที่เรียวปากของผมอย่างอ่อนโยน
..กลายเป็นว่าคืนนั้นเราไม่ได้ดูหนังกันครับ แต่เรา..อ๊ะๆอย่าคิดลึกครับ เราแค่เล่าเรื่องในระหว่างสองปีที่ผ่านมาว่าเรามีวีธีแอบมองกันยังไง ฟังแล้วก็น่าขำ..แต่เรื่องเข้าใจผิดทั้งหมดทั้งมวลมาจากไอ้กันต์คนเดียวแต่ก็ต้องขอบคุณมันอีกนั้นแหละที่วันนั้นมันยัดเยียดให้ผมทำงานที่ร้านของพี่ตะวัน สุดท้ายก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งสักที..
THE END
________________________________________________________________________________________
ใจตรงกันมาตั้งนานแต่กว่าจะได้รักกันรอตั้งสองปี แต่ก็ดีกว่าไม่ได้รักกันเน๊อะ^^
**ขอบคุณจากใจจริงที่อ่านจนถึงบรรทัดสุดท้ายนะคะ**
Twitter - MA_LEE_01 (https://twitter.com/MA_LEE_01)