พิมพ์หน้านี้ - (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ (จบแล้วค่ะ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: M@nfaNG ที่ 23-09-2010 18:51:41

หัวข้อ: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 23-09-2010 18:51:41
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
*****************************
สวัสดีค่ะ หายไปนานเลยจากเรื่องก่อนๆ เรื่องที่เอามาลงนี้ก็ไม่มีอะไรมากแค่อยากเขียนเรื่องสั้นๆ ดูบ้าง
แต่แรกตั้งใจว่าจะเขียนให้จบก่อนค่อยเอามาลงจะได้ไม่กดดันตัวเอง

 แต่ตอนนี้ก็ยังเขียนยังไม่จบแต่เอามาลง
เพราะอยากกดดันตัวเองให้เขียนจบ  :jul3:
อ่านแล้วคงงง  มันเป็นอะไรมากมั้ย  :laugh:
ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่เพี้ยนไปตามประสา ชื่อเรื่องไม่มีอะไรมากค่ะ แค่ิคิดไม่ออก คิดออกแล้วค่อยเปลี่ยนแล้วกัน
สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ :pig4:
********************************
วันอาทิตย์

วันนี้ตื่นซะสาย ลืมตาขึ้นมาแล้วเขายังไม่อยากจะลุกจากที่นอนอันแสนสุข
นอนกะพริบตามองจ้องฝ้าเพดานอยู่นานราวกับจะขับไล่ความขี้เกียจให้ออกไปจากตัว ก่อนอิดออดบิดตัวขยับกระดูกอยู่นาน
 สะบัดแข้งสะบัดขาแรงๆให้เข้าที่เผื่อจะหายงัวเงียก็ไม่หาย
‘ไม่อยากตื่นแต่ก็จำใจต้องตื่นเพราะมีงานรออยู่เยอะชิ...หาย’  เขาได้แต่บ่นอยู่ในใจ

เขาเริ่มจากเก็บกวาดบ้าน ถูพื้น เอาเสื้อผ้ามาซัก พอเห็นกะละมังแล้วก็ตกใจกับกองผ้าเป็นภูเขาเลากา เอาเท้าเขี่ยๆดู
‘มันอะไรกันมากมายวะ นี่กูหมกกางเกงในไว้ถึงยี่สิบตัวเชียว’
‘เหอๆ  ซกมกเข้าขั้นมืออาชีพแล้วมั้ง มิน่าทำไมหลังๆนี่นอนไม่ค่อยหลับรู้สึกเหมือนว่าห้องมันมีกลิ่นตุๆ อบอวลอยู่’
‘แถมกางเกงในก็ใช้ไปจนหมด วันนี้คงออกไปไหนไม่ได้แล้ว ยังไม่อยากโนบ็อกซ์ กลัวFHMมาติดต่อ ยังไม่อยากโชว์อะไรๆให้ใครที่ไม่รู้จักดูเว้ย’

เขาก้มตัวลงถูบ้านน้องรักก็กวัดแกว่งไกวไปมา เย็นวาบๆ เข้าไปถึงใจ รู้สึกแปลกๆ มันช่างโล่ง เย็น หวิว
 ไร้สภาวะ ล่องลอยอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน  แต่ก็ต้องจำใจไม่ใส่ ก็มันไม่มีอะไรจะให้ใส่จริงๆ

กว่าเขาจะเสร็จงานบ้านแทบตาย เอามือปาดเหงื่อหลายครั้งหลายหน เหนื่อยสายตัวแทบขาด
 ต้องกรีดเหงื่อทิ้งอย่างกับอบซาวน่าไปหลายรอบ รู้อย่างนี้เรียกแม่มาเยี่ยมก็ดี แม่บ่นๆ ตลอดเวลาที่ทำงานบ้าน
 แต่แม่ก็ทำให้ทุกอย่างกริ๊บบบ... เขาก็สบาย  ไม่ต้องทำอะไรเองเลย
 แต่ยังไม่อยากตกนรกด้วยการหลอกใช้แม่ ก็เลย.....กูทำเองก็ด้ายยย...วะ

นี่ถ้าไม่ติดว่าเขาไม่ได้ถูบ้านมาสองเดือนแล้ว หาของอะไรก็ไม่เจอ เขาต้องคุ้ยต้องเขี่ยจนบางทีรู้สึกเหมือนอยู่ในกองขยะ
 เป็นไม่มีคิดที่จะทำ แต่นี่เริ่มทนไม่ไหวจริงๆ จามทั้งวัน แมลงสาบเริ่มจองแปลงกันแล้ว
 อีกหน่อยคงวางดาวน์เลือกทำเลอยู่อาศัยกันได้เลย ต้องรีบทำลายที่ดินจัดสรรของมันก่อนที่มันจะย้ายสำมะโนครัวมาอยู่กันทั้งตระกูล
 แล้วก็นะไอ้เราก็โง่สิ้นดี พอฉีดยาฆ่าแมลงสาบเสร็จแทบจะเป็นลม เหม็นรุนแรงโคตรๆ
 ต้องออกมายืนหวิวสูดอากาศที่ระเบียงเป็นชั่วโมงกว่ากลิ่นยาจะหมด  เขายังไม่อยากเป็นมะเร็งตายตั้งแต่ยังหนุ่มนี่หว่า
 แทนที่จะฆ่าพี่ปีเตอร์กลายมาเป็นดาบนั้นคืนสนอง  ฆ่าตัวเองก่อนซะแล้ว

ตกบ่ายงานพ่อบ้านสมองไวหมด เขาว่างจนไม่มีอะไรจะทำ นอนดูหนังสารคดีชีวิตมนุษย์หรือเรียกภาษาพื้นเมืองว่าหนังโป๊
นอนดูมันทั้งวันจนสันหลังงอก โหลดมามากมายจนดูไม่ทันฮ่าๆ ก็ดันงกไอ้เรื่องนั้นก็น่าดู ไอ้เรื่องนี้ก็น่ารัก เลยโหลดมาเต็มเครื่อง
แถมไอ้วาล์วก็สรรหาเอาแผ่นมาให้เสียเหลือเกินก็บอกไม่เอาๆ (ที่จริงกูมีเยอะกว่ามึงอีก ไม่อยากจะโม้)
มันก็ยัดเยียดอยู่นั่นบอกแต่เด็ดๆๆไม่เซ็นอีกต่างหาก
‘ ไอ้ชิ..หาย ชอบทำให้กูเสียคน’
 ไอ้เขามันก็คนขี้เกรงใจ...กลัวเพื่อนเสียใจอุตส่าห์ให้ของมา จะทำใจดำไม่รับเดี๋ยวเพื่อนจะว่าไม่รัก
 ทำเอาเพลียไปทั้งบ่ายเลย แล้วพรุ่งนี้เขาจะมีแรงไปทำงานมั้ยเนี่ย

วันจันทร์

เซ็งๆ ทำไมวันจันทร์มันมาไวอย่างนี้วะ หลับตาแป๊ปเดียวเช้าตื่นขึ้นมา วันจันทร์มาอีกแล้ว
 เขาต้องปฏิบัติภารกิจแต่เช้าอีกตามเคย ตื่นตั้งแต่เช้ามืด บางทีนึกๆดูเขามีอาชีพเป็นทหารเกณฑ์รึเปล่า ต้องตื่นแต่เช้าได้ทุกวัน
พอนั่งโต๊ะปุ๊ป ไอ้จอยก็มาทำหวานใส่เหมือนที่บ้านเป็นโรงงานน้ำตาล กลัวเค้าไม่รู้รึไงว่าน่ารัก
 แต่ขอโทษ...จะน่ารักมากกว่านี้ถ้าช่วยมาแบ่งเบางานไปมั่ง  รู้หรอก ว่าไม่ควรเอาเปรียบให้ผู้หญิงทำงาน
 แต่ไหนใครว่าชายหญิงสิทธิเท่าเทียมไง ก็เอางานไปทำเยอะๆ สิวะจะได้เท่าเทียมกัน
 ไม่ใช่ดีแต่ปากเรียกร้องสิทธ์แต่พอจะใช้อะไรทีก็บอกเป็นผู้หญิงทำไม่ไหวช่วยหน่อยนะพี่คะ พี่ขา ทำเอาเขาทั้งเคลิ้มทั้งคล้อยตามได้ทุกทีสิน่า

เขาเข้าใจงานใครๆ ก็เยอะทั้งนั้น แต่ของตัวเองก็ท่วมท้นมากมาย นิสัยไอ้จอยน่ารักมันก็จริงทุกครั้งที่งานตัวเองเสร็จมันก็มาช่วยงานเขาบ้าง
 สุดท้ายคราวนี้ถึงมันไม่มาอ้อนเขาก็ต้องทำให้มันอยู่ดี นี่ถ้าไม่ติดว่ามันมีแฟนแล้วเขาจีบแน่ๆ
 ต้องจีบ...เขาไม่มีวันปล่อยให้สาวสวยใจดีแบบนี้หลุดมือไปได้หรอก 

แต่ไอ้พี่ไก่สิ ทุเรศว่ะ จีบลูกน้องไม่เลือกหน้า (แม่มมันจีบหมดทุกคนไม่ดูหน้าตาเล้ย) หลีสาวจนน่าทุเรศ
 แถมมันชอบแต๊ะอั๋งอีก  ไม่ได้การ...ต้องไปเดินโฉบๆให้มันสำนึกบ้าง  ไอ้จอยก็อึกๆ อักๆ ไม่ด่ามันไปวะ
  ปล่อยให้มันทำเป็นหมาหยอกไก่อยู่ได้  ทำเอาเขาต้องกลายเป็นไม้กันหมาอีก  เดินวนไปวนมาจนไอ้พี่ไก่ชักรู้แกวหันมาเหล่
 เลยเป็นไม้กันหมาได้ไม่นาน หมาแว้งมากัดบอกว่า ‘งานเสร็จรึยังจะเอาด่วน’

‘ซวยเลยกู’  คราวนี้เขาเลยเป็นหมาไปแทน ต้องรีบกลับที่นั่งตัวเองมาทำงานเป็นหมาหอบแดกอยู่นี่
ไม่น่าแส่เรื่องชาวบ้านเลย มันน่ามั้ยล่ะตู คืนนี้สงสัยต้องกลับดึกอีกแล้ว

****************
ชอบไม่ชอบบอกกันบ้างนะคะ จะได้ปรับปรุงรวบรัดตัดตอน 555+ :pig4:


หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 23-09-2010 18:53:44
+1 และ  :mc4: ต้อนรับเรื่องใหม่ของคุณฟาง
แค่ชื่อเรื่องก็น่าติดตามแล้วค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 23-09-2010 18:58:33
อิตา"เขา"นี่เป็นผู้ชายขี้บ่นนะเนี่ย เห็นทีแก่ตัวลงจะหัวล้าน
โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

รออ่านตอนต่อไปค่ะ สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :a1:

ปล.เห็นคำว่า "สิทธิ์" ตัวหนึ่ง สระอิ ตรง ธ หายไปนะคะ ลองทวนดูหน่อยนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 23-09-2010 19:51:59
 :z13:เรื่องใหม่
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน
เริ่มหัวข้อโดย: jannie ที่ 23-09-2010 20:31:37
คลิกอ่านทันทีไม่มีลังเล...^^

เหมือนจะคล้ายๆ ไดอารี่ บันทึกของเขา ท่าทางเป็นคนขี้บ่น ^^

รอติดตามต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน
เริ่มหัวข้อโดย: taem2love ที่ 23-09-2010 20:33:35
จิ้มจุ่มเรื่องใหม่
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน
เริ่มหัวข้อโดย: jannie ที่ 23-09-2010 20:35:50
เหมือนจะคล้ายๆ ไดอารี่ บันทึกของเขา ท่าทางเป็นคนขี้บ่น ^^

รอติดตามต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 24-09-2010 16:04:06
รออ่านจ้า

มาอัพต่อได้แล้ววววว



 :z13:

 :z13:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 24-09-2010 19:49:23
น่าติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 25-09-2010 18:03:30
 :pig4: ขอบคุณทุกคลิก ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกันมานะคะ
อาจจะลงวันละนิดละหน่อย อย่าเพิ่งเบื่อกันไปก่อน
ตัวละครขี้บ่นเหรอ  :laugh:
สงสัยจะใช่ เหมือนที่เราชอบคิดในใจเวลาเราทำอะไร หรือเราเจอเรื่องอะไรที่ไม่ชอบ
แต่เราไม่ได้พูดออกมาให้คนอื่นรู้ (อันนี้วัดจากตัวเองนะคะ :jul3:)
*********************************************

วันอังคาร

ตื่นเกือบไม่ไหวเมื่อคืนเอางานกลับไปทำที่บ้าน ไอ้พี่ไก่นะมึง จำไว้ ถ้าไม่เชือดไก่ไม่ใช่กู
 นี่ดีนะที่มันเก่งเลยพอให้อภัย เขาชอบทำงานกับคนเก่งๆ ทำงานกับคนโง่ๆแล้วไม่ไหว จะพลอยโง่ตาม
 เรื่องอะไรๆ ก็ดีไม่น่าเจ้าชู้ขี้หลีเลย เสียของจริงๆ  ต้องทนกันไป งานก็ไม่ได้หาง่ายๆ
 กว่าจะฝ่าด่านอรหันต์สอบสัมภาษณ์เข้ามาได้ต้องใช้ทั้งวิชาการ วิชามารแทบแย่
 ถ้าเป็นสังข์ทองก็คงเรียกได้ว่าเอาชุดพระสังข์มาสวมให้คนเห็นแทนรูปเงาะที่อยู่ข้างใน

ข้างนอกก็ดีโคตรๆ แต่ข้างในแม่ม...เหี้....โคตรๆเหมือนกัน
 ยังแปลกใจที่เค้ารับเข้าไปทำงานได้ยังไง ไม่ใช่ประสิทธิภาพของแผนกบุคคลที่นี่ตาถึง
 ก็แสดงว่ายังไงๆ ตัวกูของกูก็มีของดีอยู่บ้างจนเค้าเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ลึกสุดใจข้างในตัวเราแน่ๆ

วันนี้โชคดีจริงๆได้ออกไปติดต่องานข้างนอกไม่ต้องนั่งทำงานเป็นควายไถนาอยู่กับไอ้จอย 
แต่อากาศก็แปรปรวนเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน หรือว่าโลกมันร้อนอย่างที่เค้าว่าจริงๆ ทำเอาจะเป็นไข้
 ก็เรามันเป็นคนบอบบางนี่  บอบบางจนมีแค่คนแซวว่ามึงจะผอมไปไหน คิดแล้วก็กลุ้ม ผอมก็จริงแต่กูก็แมนเต็มร้อยนะ   
 เจอฝนกระหน่ำเข้าไปต้องไปนั่งหลบฝนอยู่ร้านกาแฟตั้งนาน จนพี่ไก่โทรมาตามว่าทำไมกลับช้า
จะรองานที่เราไปเอามา แล้วจะให้เราทำไงจะให้ฝ่าฝนกลับไปเปียกๆเหรอ
ฝันไปรึเปล่า...กูไม่ใช่คนเสียสละให้องค์กรขนาดนั้น อยากได้แบบนั้นไปหาเอาข้างหน้าเถอะพี่
 กูมันทำงานพอเพียง เงินมาเท่าไหร่งานไปเท่านั้น หึหึ

 นั่งไปนานๆแล้วรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีใครมองอยู่ หันไปดูก็ไม่เห็นมีใคร แต่ทำไมมันรู้สึกเหมือนโดนจับตามอง
 เออ...รู้แล้ว หรือมีแมวมีหมามามองให้เราไปเป็นดารา  คิดแล้วก็กระหยิ่มใจจะดังเอาตอนนี้ละว้า
แอบจัดแต่งเสยผมเล็กน้อยให้พอเซอๆ  เอ..จะเล่นหนังหรือละครดีล่ะ 
แต่ที่จริงเขาชอบร้องเพลงมากกว่า  เสียงก็เพราะไม่แพ้ไอ้พวกเอเอฟที่ร้องโยเยประกวดกัน
 เคยคิดอยากจะไปแข่งกับเค้าบ้างแต่ก็ไม่อยากไปแย่งที่เด็กๆมัน  อีกอย่างไอ้เราก็ไม่แรงส์สสสขนาดน้าน

นั่งฝันว่าจะได้เป็นดาราเพลินๆแป๊ปเดียวอะไรวะบ่ายสองแล้ว รีบกลับดีกว่า ไม่งั้นเจอพี่ไก่ด่าเปิง
 ไม่รีบกลับมีโทรตามมาจิกแน่ๆ
แต่พอกลับเข้าที่ทำงานก็หงุดหงิดได้อีก เฮ้อกรรมของกู...

กองงานมันพอกพูนเพิ่มกว่าเดิมอีก หันหน้าหันหลังไอ้จอยหายหน้าไปไหนอีก
หมู่นี้มันแปลกๆชอบมาๆหายๆมีอะไรหลบซ่อนไม่อยากให้รู้รึเปล่าวะ แล้วเอานิ้วเขี่ยๆดูทำไมมีงานไอ้จอยมาอยู่นี่ด้วย
 ทำไมมันเป็นคนแบบนี้ไปได้ ทีแรกก็มาช่วยงานเราดีๆแต่ไหงสุดท้ายเอางานตัวเองมาหมกให้เราทำแทน 
ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่แฟนจะให้มาทำแทนได้ไง

  ให้เป็นแฟนสิทำแทนเท่าไหร่ไม่มีบ่นเลย


วันพุธ

เช้านี้ตื่นขึ้นมา...เซ็ง..เพิ่งจะวันพุธ กลางอาทิตย์เอง อยากลาหยุดงานจริงๆให้ตายสิ
 เหนื่อยจนจะขาดใจแล้ว งานบ้างานบอมาประดังประเดเอาช่วงนี้หมด 
ทำไมช่วงนี้ไม่มีอะไรมาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจเลย สาวๆในออฟฟิศก็มีแฟนกันหมดทุกคน ไม่รู้จะหยอกใครดี
 ไม่รู้จะจิกใครดี มีแต่ไอ้พี่หนุ่มที่มาหยอกเรื่อย ก็บอกไปแล้วว่าไม่ใช่ๆ ก็ไม่เชื่อ
 หน้าตาจืดๆแบบนี้ไปทำให้มันไขว้เขวได้ไงวะ  ขาวซีดแบบนี้ มีดีก็แค่มักจะยิ้มเรื่อยๆ ถึงแม้ใจจะไม่ยิ้มก็เหอะ

 ก็พ่อกับแม่สั่งสอนเสมอยิ้มได้เื่มื่อภัยมา ยิ้มสยามงามเสมอ ตอนเด็กๆวันๆก็เลยเอาแต่ยิ้มๆๆจนใครๆเค้าก็ว่าบ้า
 แต่เขาไม่แคร์...ไม่สนใจ ก็ชอบยิ้ม...ใครจะทำไม
พอบ่ายกลับมาจากกินข้าวใครไม่รู้เอามะม่วงดองมาวางที่โต๊ะ  รู้อีกแน่ะว่าชอบกินเครื่องดองของเมา...แหะๆ
 ถามใครก็ไม่มีใครรู้ว่าของใครก็กินซะเลยสิ ช่วยไม่ได้ของที่ไม่มีเจ้าของอยู่โต๊ะใครก็ต้องเป็นของคนนั้นสิวะ 
พอกินไปเกือบจะหมดละไอ้พี่หนุ่มเพิ่งจะมาถามว่าอร่อยมั้ย   ถ้าชอบวันหลังจะซื้อมาฝากอีก
 แทบจะอ้วก ขย้อนออกมาคืนเจ้าของให้หมด  หมดอารมณ์เลยกู

แถมไอ้พี่หนุ่มเที่ยวเอาไปคุยอีกว่าเขาชอบของฝากจากแก
 มันเสียมั้ย...ความดีที่พยายามสั่งสมมานาน
 อุตส่าห์ถนอมเนื้อตัวไม่รับของฝากจากใครง่ายๆ หมดกันก็คราวนี้ก็เพราะความตะกละตะกรามนี่เอง
 เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าถ้าไม่แน่ใจว่าของใครก็อย่าไปกิน
 ไม่ได้รังเกียจหน้าพี่หนุ่มนะ หน้าตาก็พอทน พอเดินด้วยกันแล้วหมาไม่เห่า
 แต่เสียงไอ้พี่หนุ่มมันเหมือนควายออกลูกจริงๆ
กูก็รับบ่ได้ รับบ่ได้

วันพฤหััส

 วันนี้ก็ยังกลุ้มใจเรื่องงานอยู่ดี  ทำไมมันมากมายขนาดนี้นะ ทำไปเท่าไหร่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหมดสักที
 ไอ้พี่ไก่ก็เอามาให้เพิ่มอยู่ได้  แล้วไอ้พวกที่นั่งคุยนั่งเล่นกันทำไมไม่เอาไปให้
 ชักจะทนไม่ไหวแล้วนะเว้ย เอาเปรียบกันนี่หว่า
 อยากบอกว่าทำไมต้องเป็นกูที่ทำ(วะ)
ไอ้ที่มันนั่งแชตกับสาว
 ไอ้ที่มันนั่งเล่นเกม
 ไอ้ที่มันนั่งอ่านนิยาย
หรือไอ้พวกที่นั่งเล่นเน็ต
 ไอ้ที่มันนั่งโหลดหนังโป๊

ทำไมไม่ให้มันทำ กูไม่เข้าใจ โลกนี้มันไม่ยุติธรรม...

พอตกเย็นเก็บของจะกลับบ้าน พี่ม้าที่อยู่อีกแผนกก็เอางานตัวเองมาให้ช่วยอีก
 เลยอดกลับ...ต้องอยู่ช่วยต่อจนเกือบสองทุ่ม เหนื่อยสายตัวแทบขาดมันเป็นอย่างนี้นี่เองเหรอ
แล้วก็ซวยสุดๆ พอเดินลงมาปุ๊ปฝนตกปั๊ป ทำให้ต้องวิ่งตากฝนขึ้นรถเมล์อีก ร่มก็ไม่ได้เอามา
อากาศก็แสนจะเลวจริงๆ  ฟ้าหนอฟ้าจะซ้ำเติมชีวิตกูไปถึงไหนวะ....เปียกไปทั้งตัว
ดีที่เป็นคนอึดนะ หวังว่าคงไม่ป่วยง่ายๆไปนะเว้ย

พอมาถึงบ้านเปิดตู้เย็นหาอะไรกิน..เห็นแต่ความว่างเปล่า
 โอว..มายก๊อด โอว..โน
ดั๊นนน.....ลืมไปว่าอาทิตย์ก่อนต้องไปทำโอ เลยไม่มีเวลาไปซื้อของที่ซุปเปอร์ 
แม่มเอ๊ยยย...หิวสุดๆ แล้วจะกินอะไรดีล่ะ จะวิ่งออกไปเซเว่นก็ขี้เกียจ
 ยังดีเกิดพุทธิปัญญาไปรื้อตู้เก็บของเจอหอย...ลายปุ้มปุ้ย
 เอาวะกินไอ้นี่แหละ ประทังชีวิต
พรุ่งนี้ต้องไม่ลืมแวะซุปเปอร์ซื้อของ   ไม่งั้นเป็นได้อดตายคาห้องแน่ๆ หอยคงไม่ช่วยเขาได้บ่อยๆเป็นแน่แท้...

อยากจะนอนแล้วว่ะ  เหนื่อยล้าเมื่อยไปหมดทั้งตัว
 เพิ่งทำงานที่นี่มาสามเดือน เหมือนทำมาหลายปี มันจะให้เขารับผิดชอบอะไรมากมายวะ  เงินเดือนก็เท่านี้
เขาเพิ่งมาทำใหม่นะไม่ได้เป็นมือโปรสักหน่อย
 แต่เอาวะยิ่งทำก็ยิ่งรู้ คิดซะว่าสร้างเสริมประสบการณ์
 อย่างน้อยก็เพื่อเงิน เงินๆๆๆเท่านั้น...วีออส..คอนโด..ไอโฟน.บีบี...ผู้หญิง...
เป้าหมายในชีวิตเขามันช่างมีมากมายเหลือคณานับ  แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรสักอย่าง...เฮ้อ

ง่วงสาดดด...ไปนอนดีกว่าเผื่อออมแรงเอาไว้สู้กับงานวันพรุ่งนี้
 แต่จะทำไงกับพวกเอาเปรียบเนี่ย...เดี๋ยวคิดดูก่อน..ยังไงคนอย่างเขาก็ไม่ยอมให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆหรอก...
   ช่วงแรกที่เข้ามาทำงาน ไม่มีหรอกที่จะมาบ่นบ้าบอแบบนี้
 ตอนนั้นทำเป็นไฟแรง จิตใจแสนซื่อบริสุทธิ์ มองทุกสิ่งอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ ใสๆ แบ๊วๆ ทำไปได้นะกู ไม่น่าเลย เหอะๆ
*******************************
มันบ่นหนักกว่าเดิมอีก :try2:
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ :กอด1:


หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tawada_j ที่ 25-09-2010 18:20:07
พี่ฟางออกมาจากเกมมาได้ไงค่ะ (ล้อเล่นค่ะ)

ขอบคุณค่ะที่กลับมาเขียนเรื่องสนุก ๆ ให้อ่านอีกแล้ว   :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 25-09-2010 18:29:50
โห ตัวละครบ่นได้โดนใจทุกช็อตจริงๆๆ  ยังกะก๊อปปี้ชีวิตกันเป๊ะๆๆๆ   :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 25-09-2010 19:19:12
ดีนะเนี่ยที่ยังคิดในใจ
ไม่ได้พูดพึมพำอยู่คนเดียว
ไม่งั้นจัดได้ว่าบ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 25-09-2010 20:47:49
เพิ่งเคยได้อ่านนิยายจั๊งซี่
ว้าว
สุดยอด  o13


  :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 25-09-2010 21:59:23
เรื่องชื่อสั้นแล้วเป็นเรื่องสั้นด้วยป่าวอะพี่ฟาง
อิอิ

เออ ถ้ามันพูดหมดทุกประโยคที่มันคิด คนได้ยินมีหวังหูชา :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: sodamini ที่ 25-09-2010 22:05:43
แวะมาตามอ่าน แล้วก็เป็นให้กำลังใจพี่ฟางคร่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jannie ที่ 25-09-2010 22:23:20
อ้างถึง
เช้านี้ตื่นขึ้นมา...เซ็ง..เพิ่งจะวันพุธ กลางอาทิตย์เอง อยากลาหยุดงานจริงๆให้ตายสิ
ประโยคนี้โดนมาก
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 26-09-2010 03:07:35
แวะมาอ่านครับ แล้วตกลงเขานี่ยังไม่มีชื่อเหรอครับเห็นลงมาสองตอนแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 26-09-2010 03:16:23
รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 26-09-2010 17:24:42
บรรยายได้เหมือนชีวิตจริงมาก ๆ บางวันอยากลาออกเอาดื้อ ๆ เลย
ค่อยมีกำลังใจหน่อยที่คนอื่นก็คิดเหมือนเรา ได้รับกำลังใจแล้ว
ขอส่งกำลังใจไปให้คนอื่นที่คิดแบบเดียวกันด้วยค่ะ  :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 26-09-2010 18:39:50
 :impress2: ขอบคุณน้องๆหนูๆ เพื่อนๆที่มาให้กำลังใจนะคะ
@tawada_j ที่จริงตอนนี้ยังไม่หลุดจากเกมนะคะ แต่กำลังพยายามทำอย่างอื่นบ้างเพื่อจะดึงตัวเองออกไปจากเกม :laugh:
@dahlia ก๊อปปี้ชีวิตใครมาเหรอ อิอิ ลองตามอ่านต่อไปค่ะว่าจะเป็นไง คนเขียนก็ยังไม่รู้เลย เพราะยังเขียนไม่จบ :pig4:
@yeyong ตัวละครไม่บ้าหรอกค่ะ คนเขียนน่ะบ้ากว่า  :jul3:
@padigree ที่จริงก็ไม่เคยเขียนแบบนี้มาก่อนนะคะ แค่ทดลองดู ไม่รู้จะไปรอดมั้ย
@krappom เรื่องสั้นแน่นอนค่ะ แต่แต่งน้านนาน ไม่เอามาลงชาตินี้คงไม่จบ เลยเอามาลงซะเลย จะได้เขียนให้จบ
@♥โซดาน้อย♥ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ตามอ่านต่อไปนะ ห้ามทิ้งกันด้วยจ๊ะ
@jannie ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากแฟนประจำค่ะ หวังว่าเรื่องนี้จะถูกใจนะคะ  :pig4:
@thaitanoi ตอนนี้รู้ชื่อแล้วค่ะ คิดออกแล้วว่าชื่ออะไรดี
@PandP ติดตามกันต่อเลยค่ะ
@DEMON3132 ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากแฟนประจำอีกคนค่ะ ขอให้อ่านแล้วหายเหนื่อยนะคะ เจอแบบนี้กันทั้งนั้น
เวลาผ่านเรื่องหนักๆมันแทบแย่ แต่ที่สุดแล้วมันก็ผ่านไปได้ทุกที จนเรามีเวลามานั่งลัลลาอ่านนิยายกันอย่างสบายใจแบบนี้

อืมหวังว่าจะตอบครบทุกคนนะคะ ไม่รู้จะขยันตอบไปได้แบบนี้ทุกครั้งรึเปล่า ได้ข่้าวว่างานก็กองอยู่เหมือนตัวละคร ไหนจะงานนอกเก็บผักปลูกผัก เลี้ยงปลาวุ่นวาย :laugh:
ติดตามกันต่อไปนะคะ อ่านกันเล่นๆ ขอให้ชอบกันค่ะ :กอด1:
************************************
วันศุกร์

ถึงที่ทำงานเช้านี้...ไม่มีอะไรใหม่...
แต่... ‘กูว่าเมื่อคืนกูเคลียร์กองเอกสารบนโต๊ะไปหมดแล้วนี่หว่า’
 หันซ้ายหันขวามองหาคนเอางานมาให้ แต่ก็ไม่มีใครยอมสบตา หลบตาเป็นกระสือกันไปหมด รื้อๆ กองดู...
‘เชี่ย.....งานกูที่ไหน จ๊อบเดส...ตอนสมัครมาใหม่ๆไม่มีทุกสิ่งอย่างนี่เลย....แล้วนี่มันงอกมาจากไหนวะ’หันไปถามพี่ม้าที่ซวยๆ เดินผ่านมาพอดี

“พี่ม้าครับ..นี่งานของใคร พี่มาวางที่โต๊๊ะผมทำไม วางจนแทบไม่มีที่จะวางงานของตัวเองแล้ว”
“ไหนค้า มามะ พี่ม้าดูให้”พี่ม้าทำเสียงดัดจริต ทำเป็นเนียนเดินมาพลิกดูงาน
แต่คนฉลาดอย่างเขาดูละครมาเยอะทั้งช่องสามช่องเจ็ด...ร้ายเงียบมันเป็นแบบนี้แหละ
 นังคุณหญิงระย้ามาเองถึงจะไม่มาวางยาพิษก็ต้องแอบเอางานมากองไว้ให้แน่ๆ ตาวิบวับซะขนาดนี้
แล้วดูสิทำตาโตอย่างกับพิสมัยในวนิดา

 “อ๋อ....งานของเราน่ะแหละ..ทำแทนจอย  ไอ้น้องหนูจอยมันออกไปแล้ว..”ฟังน้ำเสียง ดูหน้าตา รอยยิ้มระริกในแววตา...พี่มันยิ้มเยาะกูวะ
“ออกไปแล้ว...” ตะโกนแทบไม่ออกเสียงขลุกๆอยู่ในลำคอ ถึงกับเข่าอ่อนทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรอย่างว่าเล้ย เขาต้องรีบจับโต๊ะไว้
ไอ้จอยน่ะตัวช่วยของเขา...ช่วยมาตั้งแต่ต้น พอใครเอางานมาสุมๆก็มีจอยที่คอยแบ่งไปทำ 
มิน่ามันมาดีแตกเอาหลังๆ ต้องแอบเอาเวลาไปหางานใหม่แน่ๆเลย
‘ทำไมไม่ชวนกันบ้างว้า’

“ทำไมออกไม่บอกกันเลยเนี่ย...ไอ้จอยนะไอ้จอยทิ้งกันได้ลงคอ”เขาทำได้แค่บ่นพึมพำเบาๆ กับตัวเอง
“ก็น่านน่ะสิพี่ล่ะงง...อยู่ดีๆก็บอกไม่ไหวจะออกท่าเดียว เด็กสมัยนี้ไม่ไหว ไม่อดทน ไม่สู้งานกันเลย ดูสิเดือดร้อนต้องหาคนใหม่มาทำ..”
 พี่ม้าทำเป็นบ่น แต่ทำไมบ่นไปยิ้มไป เขาเริ่มสงสัย หรือว่าแกจะบ้า จะดีใจทำแป๊ะอะไรที่เขาต้องมาทำงานคนเดียว

 “แล้วคนใหม่เมื่อไหร่จะมาล่ะพี่ม้า...แค่งานตัวเองผมก็ทำเต็มเวลาจนล้นเวลาแล้วนะ...ทำของจอยอีก..ผมกลัวงานสะดุด”
แต่ในใจน่ะอยากบอกว่า แค่งานกูก็จะตายอ่า..อยู่แล้ว ไปเอางานมาเพิ่มให้กูทำมั้ย เงินเดือนก็ไม่เพิ่ม
พี่ม้าเงยหน้ายิ้มหวาน พยายามส่งรอยยิ้มปลอบประโลมใจให้  แต่ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าพี่แกไม่ได้จริงใจเอาเสียเลย
“ไม่เป็นไรจ๊ะหนูมีอะไร บอกพี่..พี่ช่วยเอง”หึหึ เขาได้แต่นึกในใจ ใช่ ช่วย...แต่จะเป็นช่วยซ้ำเติมสิมากกว่า

“แต่หนูคงต้องรอนานหน่อย กว่าจะรีครูท สอบสัมภาษณ์ อย่างน้อยสองเดือนนะคะ พี่ม้าว่า”
ก็ได้แต่ปลง..เลยโบกมือให้พี่ม้าไปให้พ้นๆหน้า ช่วยก็ไม่ได้ช่วย จะไสหัวไปไหนรีบๆไปเลยเกะกะสายตา
 เขาควรรีบสะสางงานก่อนดีกว่า ไม่อยากคุยแล้ว เสียเวลาเว้ย
“งั้นผมขอตัวทำงานก่อนน่ะพี่  เดี๋ยวไม่เสร็จ”

วันนี้เลยไม่มีเวลามาคิดปัญหาเรื่องเกี่ยงงานเลย แค่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานของจอยกับของตัวเอง ก็จะตายห่าแล้ว
 วันศุกร์ที่เขาโคตะระไม่มีความสุขเลย แต่ยังดีพรุ่งนี้วันเสาร์ได้พักบ้างแล้วโว้ย
 แต่กว่าจะกลับได้ก็เวลาเดิม สองทุ่มอีกแล้ว....เฮ้อเหนื่อย...

ก่อนกลับไปไม่ลืมแวะทอปส์  ซื้อของกินเข้าห้องหน่อย ไม่ได้อยากกินนะอาหารแช่แข็ง
 แต่มันไม่ไหว เหนื่อย หมดแรงทำข้าวกิน เลยซื้อพวกมาม่า อาหารกระป๋องเพิ่มนิดหน่อย
 เออ เกือบลืมซื้อไอสกรีม กับช็อกโกแลต  กระดาษม้วนด้วย ไม่อยากใช้มือล้างก้นอีกแล้ว ขยะแขยง
ผู้ดีมีชาติตระกูลอย่างเขาถ้าไม่ใช่มือคนอื่นมาล้างให้เป็นไม่เอามือตัวเองล้างก้นเด็ดขาด
แต่ก็ดันลืมซื้อกระดาษทิชชู่ซะงั้น เมื่อวานเลยต้องใช้สองมือนี้ที่สร้างโลกช่วยไปก่อน
เหวยยยไม่เอาดีกว่าไม่พูดเรื่องก้นๆ แม่ไม่ปลื้ม.....

กลับมาเรื่องวันนี้ กินข้าวกล่องของเอสแอนด์พีไป กะเพราแบบนี้ก็ทำได้แต่ขี้เกียจ  ก็พอกินได้วะเอาให้รอดไปวันๆก่อน
 กินเพลินจนอ้วนลงพุง คงต้องหาทางไปลดพุงบ้าง  อยากไปวิ่งจริงๆ ไม่ได้ออกกำลังกายมานานแค่ไหนแล้ว..
พรุ่งนี้ตื่นเช้าไปสวนรถไฟดีกว่า ไปวิ่งหาอาหารสายตาด้วย ชีวิตหนุ่มโสดอย่างเรามันแห้งแล้งเกินไปแล้ว
เฮ้อ...นอนดีกว่า

เสาร์

แม่งเอ๊ย...นึกว่าจะตื่นเช้าๆดันตื่นสาย แปดโมงกว่า
 แต่แรงความตั้งใจเยอะ ยังไงวันนี้ต้องวิ่งลดพุงให้สำเร็จ เลยดั้นด้นขึ้นรถเมล์ปุเลงๆไปสวนรถไฟจนได้
กว่าจะไปถึงแดดเริ่มแรงแล้ว แต่เขาจะวิ่ง จะวิ่ง (สะกดจิตตัวเองไว้ก่อน)

วิ่งๆไปเรื่อยๆเริ่มเหนื่อย ขาเริ่มหนักขึ้น หนักขึ้น เอ...แล้วทำไมไอ้รองเท้านี่มันวิ่งแล้วเสียงแปะๆยังไงไม่รู้
เขายกมือขึ้นดูเวลา..ไรวะเพิ่งสิบห้านาที ก็นึกว่านานเป็นชั่วโมง
ไม่ได้ๆ บอกตัวเองให้อดทนวิ่งต่อดีกว่า
 แต่วิ่งไปอีกสักพักแรงกระแทกเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆเริ่มปวดน่อง จนวิ่งไม่ไหว
 กว่าจะรู้ตัว ....สาดดดเอ๊ย.พื้นรองเท้าเสื่อม หลุดออกมาเป็นชิ้นๆ  แล้วจะเดินยังไงส้นรองเท้าไม่เท่ากัน

เลิกๆ ไม่ไหวแล้ว ยิ่งวิ่งยิ่งปวดน่องมากขึ้นเรื่อยๆ  ไม่ได้หยิบเอาไอ้รองเท้านี่มาใช้แค่ปีสองปี ยังใช้ไม่คุ้มเลย
ทำไมมันเสียง่ายยังอย่างนี้วะ ไอ้ยี่ห้อแพงๆไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย เสียดายเงินชิบ....

เขานั่งพักเหนื่อยบนสนามหญ้าดูคนอื่นวิ่ง ดีเหมือนกัน แรงหมดแล้ว
นานๆวิ่งทีำทำไมถึงเหนื่อยง่ายใจจะขาดอย่างนี้วะ  อายุก็แค่ยี่สิบกว่าๆเรี่ยวแรงไม่รู้ไปไหนหมด
อายเด็กเล็กๆ ที่วิ่งกันอยู่เต็มสวน อากาศก็ดีเคลิ้มๆ จะหลับซะให้ได้ 
นั่งตากลมให้ตัวแห้งจากเหงื่อก่อนค่อยกลับบ้านดีกว่า

นั่งไปนั่งมาวิวดีไม่เลวเว้ย น้องคนนั้นน่ารักน่าจีบ หน้าใสกิ๊งยังกับไข่ปอก หมวยๆแบบนี้ชอบนักแล
 แล้วแหมโพสท์ท่าให้ดูอีก เป็นนางแบบรึไงกัน สายตาเหลือบไปเห็นอีกคน
 อ้าวน้องขา ดันมีแฟนแล้วก็ไม่บอก มาทำน่ารักให้คนอื่นหลงได้อีก
แล้วแฟนแม่ง...หล่อแมนขาวไฮโซได้อีก
อยากจะส่องกะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองทำไมเราไม่แมนๆแบบเค้าวะ  จนป่านนี้เลยหาแฟนไม่ได้สักที

 แล้วนี่มันจะสวีทยั่วกูรึยังไงวะ  ไม่ได้สำนึกเลยว่าคนไม่มีแฟนมันเหงาแค่ไหน
อยากตะโกนบอกว่ารู้แล้วๆว่าน้องน่ารักนั่นน่ะเป็นแฟนกับมึงไอ้หน้าหล่อ 
แน่ะ ทำเดินมานั่งข้างๆเราอีก หลบดีกว่าว่ะเหงื่อออกเต็มตัว  ตัวเหม็นยังกับหมาเน่า
 ส่งกลิ่นในรัศมีสิบเมตรกลิ่นแรงนรก เดี๋ยวจะทำบรรยากาศสวีทหวานเค้าล่มไปเปล่าๆ


“พี่คะ  ช่วยถ่ายรูปคู่ให้หน่อยได้มั้ยคะ” ยังไม่ทันคล้อยหลังไป น้องน่ารักก็เรียกให้ช่วยถ่ายรูปให้
 เขาก็อยากหนีแต่เห็นหน้าน้องแล้ว ก็คงต้องทำตามหัวใจสั่งมา
 ชีวิตนี้ปกติเป็นคนไม่เคยแพ้อะไร  แพ้อยู่อย่างเดียวคือคนน่ารัก  เค้าว่ายังไงให้ทำอะไรก็ต้องยอม พยายามดัดเสียงให้เหมือนตู่ภพธร

“ครับ..ด้วยความยินดี ตรงไหนดีครับ” แต่ใจอยากถามแฟนน้องเป็นเห้..อะไร ยิ้มหวานให้กูอยู่ได้
“พี่คะช่วยมาถ่ายตรงนี้ค่ะพี่ ขอหลายๆใบนะคะ” น้องน่ารักกวักมือเรียกเขา
เขาก็ว่าง่ายทำตามสาวสวยยังกับสัตว์เลี้ยง เชื่องจริงๆกู

น้องน่ารักเรียกแฟนมาใกล้ๆ แล้วยิ้มหวานเจี๊ยบส่งไปให้อีก “พี่ตั้ง...มาบอกพี่เค้าหน่อยถ่ายตรงไหนยังไง เร็วๆเข้าสิ”
อ่อแฟนชื่อ ‘ตั้ง’ เดินยิ้มกริ่มมาแต่ไกลเลย  สงสัยเค้าคงส่งยิ้มให้แฟน
ท่าจะรักกันมากจริงๆ หมั่นไส้คนมีแฟนโว้ย
อิจฉาแต่ก็ต้องข่มใจ เออเขาไม่มีแฟนเป็นของตัวเองบ้างให้รู้ไป

“น้องตาม...ไปรบกวนพี่เค้าทำไม เกรงใจ พี่เค้าจะเสียเวลาเปล่าๆ”
 อ๋อน้องน่ารักชื่อ ‘ตาม’ น่ารักสมตัวจริงๆ พี่อยากตามน้องตามไปตลอดชีวิตเลยได้มั้ยจ๊ะ

“ไม่เป็นไรครับ ผมว่างๆอยู่ ถ่ายยังไงครับ ถ้าใช้ยากๆผมๆใช้ไม่เป็น”
 ไอ้ตั้งแม่ม..เดินรี่เข้ามาชิดตัวเราเลย สอนใช้นู่นนี่นั่นใหญ่ ไหนมึงว่าเกรงใจไง
ไอ้เราก็ต้องพยายามเขยิบออก กลัวมันได้กลิ่นเต่า  ขนาดตัวเองยังแทบทนไม่ไหว
 นี่เกือบจะเดินชูจั๊กกะแร้แล้วหมุนๆ เป่าให้แห้งจนกว่าจะกลับแล้วนะ  ไม่น่ามารั้งกันไว้เลย

แล้วนี่เค้าจะสอนหลักสูตรเร่งรัดให้เป็นช่างภาพมืออาชีพภายในหนึ่งวันเลยรึเปล่านี่
 สอนมาเกือบสิบนาทีแล้วนะ  จะจำได้มั้ยพี่น้องงงง 
เขาจำอะไรไม่ได้เลย วันนี้กะมาวิ่งไม่ได้กะมาใช้สมองเลยทิ้งไว้ที่บ้าน
แถมยังกังวลมัวแต่คิดหาทางหนีบแขนไม่ให้เค้าได้กลิ่น เลยฟังที่เค้าบอกรู้มั่งไม่รู้มั่ง 
เข้าหูซ้ายทะลุออกรูจมูกขวาไม่ผ่านก้านสมองเลย

“เอ่อ...จะให้ผมถ่ายลูกเล่นมาก ผมกลัวถ่ายไม่ดีนะครับ” ต้องรีบออกตัวไว้ก่อน
 ไอ้ตั้งเลยเงยหน้าขึ้นมามอง ยิ้มล้อเลียนเขาได้อีก (ท่าทางเหมือนมันกลั้นหายใจไว้ด้วย มันคงเหม็นสุดๆ)
“โทษทีครับ ผมก็สอนเพลินเลย ก็แค่อยากให้ช่วยถ่ายรูปคู่ เล่นๆน่ะครับ พอดีผมพึ่งซื้อกล้องมาใหม่  รบกวนคุณ..เอ่อ..”

อ๋อ คุณจะถามชื่อผมหรือครับ ทำเป็นมารยาทดีนะมึง “ผมชื่อ..เหลิมครับ เฉลิม”

 โคตรเกลียดชื่อตัวเองเลย แต่พ่อแม่ตั้งมาให้เลยเกรงใจไม่ไปเปลี่ยน ชื่อเต็มๆชื่อเฉลิมฉลอง
เพื่่อนบางคนก็เรียกหลอง แต่หลองกับเหลิม เขาว่าทั้งเชยทั้งแก่พอกัน
แค่มีใครมาเรียกชื่อ มีอยู่สองอย่างไม่ร้องยี้ ก็เผลอยกมือไหว้กัน  ยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน

 ร่ำๆจะเปลี่ยนชื่อเป็นลิฟต์ หรือเป็นเลิฟ ก็ไม่เข้ากับหนังหน้า เลยจำใจชื่อเหลิมต่อไป
 เอาให้มันเป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูลตามเจตนารมณ์ของพ่อแม่ไป
ไอ้ตั้งทำหน้าแปลกใจนิดหน่อยพอได้ยินชื่อ  อยากบอกมันอย่ามายุ่งกับชื่อกู  ชื่ออะไรก็ไม่เกี่ยวกับคุณ
 แต่ไอ้ตั้งกลับยิ้มหวานจนนึกว่าน้องตามมายิ้มให้อยู่ตรงหน้า ทำเอาใจอ่อนยวบเป็นไอติมละลาย

“ผมชื่อตั้งนะครับ  ยินดีที่ได้รู้จัก คุณเหลิมถ่ายตามสบายเลยครับ กล้องแบบนี้ถ่ายไม่ดีก็ค่อยไปลบเอาทีหลังได้ ถ่ายเยอะๆเลย”
อยากบอกมันว่า เขาไม่ได้ท้องผูกนี่หว่าจะได้อยากถ่ายเยอะๆ แต่ก็กลัวมันไม่รับมุก ได้แต่รับปากมันไป
 “ครับๆ แล้วค่อยมาดูอีกทีว่าชอบไม่ชอบยังไง”
 แต่เขาก็พอรู้นะว่ากล้องดิจิตอลมันเป็นยังไง ยังไม่เชยขนาดไม่รู้ว่าไอ้รูปพวกนี้มันลบทิ้งได้เรื่อยๆ

หลังจากนั้นก็เริ่มถ่ายไม่ยั้ง ถ่ายกันจนเพลีย คู่นี้ก็นะโพสท์ท่าอย่างกับว่าจ้างเขามาเป็นตากล้องให้
 นี่พวกคุณเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า ไม่ใช่ว่าผมรับจ๊อบจากสตูดิโอเวดดิ้งนะ
 รีเฟลค ไวท์เทนนิ่ง อะไรก็ไม่ได้เอามา  ถ้าหน้าหมองอย่ามาโทษกันนะเว้ย
*****************************8
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 27-09-2010 00:40:20
ชื่อเฉลิม น่ารักดีอ่ะ 555
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 27-09-2010 01:59:18
ตกลงเพ่เหลิมเป็นนายเอกใช่มะเป็นนายเอกที่ชื่อแมนมากกกกกกกก
ชอบพี่ตั้งจังขาวโดนใจ555+
สนุกอ่ะชอบๆมาต่อบ่อยๆน๊าค่าไรท์เตอร์ฮาดี
+1เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์ค่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 27-09-2010 02:12:15
น้องเหลิมผู้น่ารัก ?? 555
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 27-09-2010 12:01:29
555 มันช่างบ่นได้เก่งดีจริงๆ วุ้ย

ปล. นี่ถ้าเหลิมติดเก็บผักด้วยนะ แอร๊ยยยย ชีวิตเราโดนแฉ แต่ยกเว้นเรื่องความซกมกนะ คงไม่เทพขนาดเหลิมอะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 27-09-2010 18:32:58
เอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย

พี่ตั้งกะน้องตามเค้าพี่น้องกันแหงเลยอ้ะพี่เหลิม
แล้วไม่แน่น้าาาาาา น้องพนักงานใหม่น่ะ อาจจะเป็นหนึ่งในพี่น้องตั้งตามก็ได้ คริคริ

สงสัยพี่ตั้งจะถูกตาต้องใจคนตั้งใจมาวิ่งลดพุงแล้วล่ะค่ะ ^o^

ปล.พี่เหลิมตั้งใจเก๊กเสียงเป็นตู่เลยเรอะ ปลื๊มมมมมมมมมมมมมมมปลื้มมมมมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 27-09-2010 21:30:16
เรื่องน่ารักจังเลยค่ะ ชื่อตัวเอกก้อน่ารักด้วย
เฉลิมฉลอง หุหุ
ว่าแต่พี่ตั้ง น้องตามนี่เค้าพี่น้องกันรึป่าวเนี่ย ชื่อคล้องกันเกิ๊นนน

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 27-09-2010 22:27:55
นายเอกชื่อแมนมั๊ก ๆ

จะแมนตามชื่อมั้ยน๊อ อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 28/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 28-09-2010 14:07:49
มาต่อกันเลยค่ะ  :t3:
****************************

ถ่ายจนแสบบบ....หน้าไปหมด
 แสงแดดเริ่มออกฤทธิแรงส่องหนังหน้าที่ขนาดว่าหนาๆ ยังรู้สึกเลยว่าแสบร้อน
 แดดเผาจนสีผิวเปลี่ยนไปแล้วละม้าง  พอเรียกให้ตั้งมาดู กลับมากระแซะซะแทบจะเอาแขนมาเกยที่หน้าอก
 ทีน้องตามไม่เห็นสนใจดูฝีมือพี่เหลิมเลย แอบทำตาปรอยใส่น้อง ชักจะน้อยใจแล้วนะ

“รูปน้องตาม พี่ถ่ายใช้ได้รึเปล่าครับ ถ้าไม่สวยคงต้องให้คุณตั้ง เจ้าของกล้องถ่ายให้ใหม่”
น้องตามเอาแต่ยิ้มหวานแล้วปาดเหงื่อ น้องคงร้อน หน้าแดงระเรื่อเชียว  น่ารักจับใจเป็นที่สุด
“สวยค่ะตามชอบ แต่ตอนนี้ร้อนจัง หิวน้ำด้วย”
น้องตามจับคอเสื้อยกกระพือให้ลมพัดเข้าไปคลายร้อน  พี่แทบสูดน้ำลายคืนไม่ทัน ซิ๊ดส์สสสส...
อย่าทำแบบนี้เลยครับน้องตามพี่ไม่อยากหื่น แค่เผลอชะโงกหน้าไปแอบดูนิดเดียวเอง

“พี่ไปซื้อน้ำให้เองครับน้องตาม” รีบยกมืออาสาไปซื้อให้แล้วก็รีบเอามือลงแทบไม่ทัน ก็กลัวกลิ่นมันโชยสะดวกน่ะสิ
น้องตามโบกไม้โบกมือปฏิเสธพัลวัน “ไม่ต้องค่ะไม่ต้อง ตามไปเองดีกว่า จะไปซื้อขนมมาทานด้วย พี่เหลิม พี่ตั้งรอที่นี่แหละ
 เดี๋ยวตามขี่จักรยานไปแป๊ปเดียวเอง พี่ๆเอาอะไรบ้างมั้ยค่ะ”
น้องตามแบมือขอเงินจากไอ้ตั้ง กริยาท่าทีน่าร๊ากกกกนิ้วมือก็เรี้ยวเรียว
อยากจะคว้าเอามาจูบก็กลัวโดนแฟนน้องกระทืบเอา ได้แต่กลืนน้ำลาย
น้องตามขี่จักรยานออกไปไกลทุกที แต่ไกลแค่ไหนขาเรียวๆขาวๆของน้องก็ยังทิ่มใจพี่ทำเอาใจสั่น
ผู้หญิงสมัยนี้ทำไมชอบทำให้ผู้ชายต้องลืมตัวลืมใจ สะกดกลั้นความหื่นเอาไว้แทบไม่ไหว 
เสื้อก็บาง ขาก็สั้น เว้าก็ลึก โอ๊ยย...เขาแทบหัวใจจะวายวันละหลายๆหน

น้องตามขี่รถไปจนลิบแทบไม่เห็นขาขาวๆแล้ว ตั้งเพึ่งจะตะโกนตามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยว่า
“รีบไปรีบมานะ พี่หิวน้ำ”
 :angry2: เราฟังแล้วอยากกระชากมงกุฎตำแหน่งแฟนของน้องตามทิ้งแล้วไปหยิบมาใส่เอง
ตั้งดูเป็นห่วงน้องมากเลย มากจนไม่น่าจะเป็นแฟนกัน
“นั่งพักรอตามกันก่อนดีกว่าครับ ผมขอเช็กรูปหน่อย”

 ตั้งหยิบกล้องมากดๆนู่นนี่นั่น แล้วก็เรียกให้มาดูรูปที่เพิ่งถ่ายไป เขาเสนอหน้าไปนั่งข้างๆขอดูผลงานตัวเองบ้าง
 รู้สึกเหมือนได้กลิ่นหอมๆออกมาจากตัวตั้ง มีกลิ่นเหงื่อนิดๆ แต่ทำไมไม่เหม็นเหมือนของเขาหว่า 
หรือตั้งคงใช้พวก แบนด์ฟอร์เมน หรือไอ้โรลออนอะไรที่ว่าทำให้หอมๆ 
สงสัยเขาต้องลองใช้บ้างแล้ว  เผื่อสาวจะรักจะหลง  ก็ขนาดเขาเป็นผู้ชายยังอยากสูดความหอมไปนานๆเลย

อืม...มองๆดูพี่ตั้งนี่หน้าตาดีจริงๆ หล่อจนผู้ชายกันเองยังอิจฉา
ดูรูปที่ตัวเองถ่ายก็ไม่เลวนี่หว่าใช้ได้เหมือนกัน ดูไปดูมาชักสนุกกับการถ่ายรูป
“รูปนี้แสงดีนะครับ มุมกล้องก็สวย คุณเหลิมถ่ายรูปเก่งนะ เรียนมาทางนี้หรือเปล่าครับ”
ตั้งมันจะยิ้มหวานให้เราทำไมวะ  หรือว่าหน้าเราตลก
“เปล่าครับผมแค่ชอบดูรูปสวยๆจากเวบ ไม่รู้จะเกี่ยวกันหรือเปล่า อาจจะได้อานิสงส์จำมุมกล้องมาใช้ได้บ้าง”

“ผมขอลองถ่ายรูปคุณเหลิมบ้างได้มั้ยครับ”คุยกันอยู่ดีๆ ตั้งก็มาขอถ่ายรูปเขา
หรือว่าไม่เคยเห็นของแปลกเลยอยากเอารูปกลับไปดูที่บ้านอีกทีเป็นที่ระทึก เอ๊ยระลึก
“ไม่ดีมั้งครับ หน้าตาผมมันแย่ ผมแพ้ปอสี่  อย่าถ่ายเลย”
เขาต้องรีบเอามือปิดหน้าแทบไม่ทัน เค้าอายนะเนี่ย...
แต่ตั้งไม่ยอม ดึงเอามือที่เราปิดบังหน้าลง อยากถามมันว่านี่มึงอยากได้รูปกูขนาดนั้นเลยเหรอ

“ผมอยากลองกล้อง ช่วยเป็นนายแบบจำเป็นหน่อยนะครับ นะครับ”ห้ามยังไงก็ยังยืนยันจะถ่าย แถมด้วยลูกอ้อนอีกแน่ะ
 เลยต้องปล่อยเลยตามเลย ตามใจแล้วกันอยากทำอะไรก็ทำไป ยังไงเขาคงไม่โดนต้มหรือเอาไปรูปไปขายหรอก
 เพราะยังไงคงขายไม่ออก ฮ่าๆๆ หนังหน้าแบบนี้ขายก็คงไม่มีคนเอา   อีกอย่างก็ไม่ได้แอบถ่ายกางเกงในนี่หว่า เล่นตัวมากๆเค้าจะว่าดัดจริต

ในที่สุดเขาต้องกลายมาเป็นนายแบบไปไม่รู้ตัว ค่าจ้างก็ไม่ได้ แต่ทำไมมันสนุกแฮะ ตั้งก็คุยสนุกดี สลับกันถ่ายรูปไปมา
 บางครั้งก็ทำท่าแปลกๆ พอถ่ายแล้วเอามาแลกกันดูก็ขำไปด้วยกัน คุยกันสนุกเพลินจนลืมน้องตามไปเลย
 ชะโงกชะเง้อชะแง้เหลียวหน้าเหลียวหลังดูก็ไม่มีแม้แต่วี่แววว่าน้องจะกลับมา
“เอ...ผมว่าน้องตามหายไปนานแล้วนะครับ คุณตั้งไม่ห่วงเหรอ มีเรื่องอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้”แต่ตั้งกลับหัวเราะ

“โอย...ตามคงกลับไปหาพ่อแม่น่ะครับ ไม่มีอะไรหรอกเดี๋ยวผมโทรเช็กดู”
ตั้งกดๆโทรๆ ก่อนพูดเสียงอ่อนโยน (ตรงไหน)ว่า “แม่เหรอ ตามอยู่กับแม่รึเปล่า....ว่าแล้ว...ก็มันบอกจะไปซื้อน้ำ
...ผมก็ว่าแล้วว่าคงอดกินแน่ๆ..แล้วตามจะมาอีกมั้ย....โอเค...”
“ตาม...ทำไมจะไม่มาแล้วไม่โทรบอกพี่...อ้าวก็ต้องบอกอยู่ดี...
คุณเหลิมเค้าก็ห่วงนึกว่ามีเรื่องอะไร ถึงไม่มาสักที...งั้นน้องกลับไปก่อนก็ได้  เดี๋ยวพี่กลับเอง”

ตั้งยิ้มหวานหยดให้ก่อนบอกว่า “สงสัยผมต้องเดินกลับไปที่รถเองแล้วครับ น้องสาวผมไอ้ตามมันกลับไปกับพ่อแม่ผมแล้ว”
“อ้าว....”เขาพูดได้แค่นี้เอง นึกว่าจะได้เจอหน้าน้องตามอีกสักครั้ง ก็มาหนีพี่เหลิมกลับไปซะแล้วไม่มีมาร่ำลากันเลย ทิ้งไว้แต่พี่ชาย....
เอ๊ะ...พี่ชาย..
ละ...ละแล้วไอ้ตั้งไม่ใช่แฟนน้องตามเหรอ อ้าว...อ้าว...อ้าว...แหะๆๆ
“คุณตั้งไม่ใช่แฟนน้องตามเหรอครับ”โง่แล้วก็ยังตอกย้ำตัวเองเข้าไปอีก
 
ตั้งหัวเราะเสียงดังแล้วส่ายหัว โบกไม้โบกมือประกอบการปฏิเสธ “ไม่ใช่หรอกครับ...ไอ้ตามทั้งดื้อทั้งซนแบบนี้
 ถ้าผมเป็นแฟนมัน ผมคงต้องกินพาราวันละหลายๆหน”
 เค้ากินซาร่ากันแล้วใครเค้าเรียกพารากัน เชยนี่หว่า
นอกเรื่องได้อีก กลับมาเรื่องนี้ก่อน ไอ้เรื่องไม่ใช่แฟนก็พอเข้าใจ แต่ไม่ต้องทำท่าดีใจขำเขาขนาดนั้นก็ได้
 แต่อย่างนี้เขาก็มีความหวังรำไรๆ สิ หุหุ ไม่เลวๆ งั้นก็ต้องตีซี้ไอ้ตั้งไว้ ว่าที่พี่แฟนนี่หว่า

“ผมก็เห็นสนิทกัน หน้าก็ไม่ค่อยเหมือนก็นึกว่าเป็นแฟนกันซะอีก แต่เป็นพี่น้องที่สนิทกันมากๆเลยนะครับ”
“ก็อายุต่างกันหลายปีนะครับแต่เรามีกันแค่สองคนพี่น้อง ก็เลยสนิทกันเป็นพิเศษ”
“น่ารักดีครับ ผมลูกคนเดียวเหงาจะตายไป”
“พี่ตั้งจะเดินกลับไปด้วยกันใช่มั้ยครับ งั้นเราไปกันรึยังครับ”สมอ้างเรียกพี่ซะเลย นี่มันสิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว
วันนี้เขาเลยไม่ได้ทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราวเลย วิ่งก็วิ่งไปนิดเดียวเอง
 พอเริ่มเดินถึงรู้สึกอีกว่าร้องเท้ามันเจ๊ง เดินยากฉิบ...ต้องเดินไปแบบพื้นรองเท้าไม่เท่ากัน
เดินไปเขย่งไปจนพี่ตั้งสงสัยแอบมองท่าทางการเดินของเขา  คงนึกว่าเป็นพวกคนที่ขาไม่เท่ากัน กรรมจริงๆ

ไอ้เราก็ได้แต่เกาหัวอายๆ“แหะๆ พอดีส้นรองเท้าผมหลุดไปข้างหนึ่งน่ะครับเลยเดินไม่ค่อยสะดวก”
“อ้าวเหรอครับ”พี่ตั้งพูดแค่นี้แต่เขายังแอบเห็นว่ากลั้นหัวเราะอยู่ เออ ไม่เจอกับตัวเองบ้างให้มันรู้ไปนะมึง
“ผมขอเบอร์โทรคุณเหลิมได้มั้ยครับ อีเมลล์แอดเดรสด้วย”เขาแอบเหล่ตาดู  ก็สงสัยนี่หว่า มันจะเอาเบอร์กูไปทำไมวะ
 แต่ก็นึกมาได้ว่าก็เราจะจีบน้องสาวเค้าอยู่นี่นา ให้ไปก็คงไม่เป็นไรตีซี้พี่ชายก่อนแล้วค่อยเข้าแทรกซึมเข้าใกล้ชิดน้องสาว

“งั้นพี่ตั้งเบอร์อะไร ผมโทรเข้าไปดีกว่า แล้วพี่ตั้งเลิกเรียกผมว่าคุณนะครับ เรียกชื่อเหลิมเฉยๆก็ได้ ไหนๆผมก็เรียกพี่ว่าพี่แล้ว”
 พี่ตั้งยิ้มตอบมา ก็รู้ทันทีว่าคงไม่รังเกียจที่จะรับเขาเป็นน้อง(เขย) อยากจะตะโกนว่าเยสๆๆ ก็เกรงใจ ได้แต่ถามเบอร์พี่เค้าอีกที

“เบอร์พี่นะครับ 085917****” เขากดเซฟเบอร์พี่ตั้งแล้วโทรหา
 พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีได้ยินเสียงแช๊ะ อ้าว...มาถ่ายรูปกูเพื่อ.....???#!$#%&^%
พี่ตั้งเกาหัวแล้วหัวเราะิ “มือพี่ไปโดนชัตเตอร์เองครับ ไม่มีอะไร”
ไอ้เขาก็เชื่อคนง่าย “อ่อ..ครับ”
เดินคุยกันไปถึงที่จอดรถเลยแยกย้ายกันไป “ไว้ผมจะส่งรูปไปให้ดูครับ เหลิม...”

“ครับขอบคุณครับ..แล้วเจอกันครับ” โบกมือลาเสร็จเราก็หันหลังเดินเขยกกลับบ้าน
แต่เดินมาได้นิดเดียวก็มีคนวิ่งมาดึงรั้งแขนเราไว้ พอหันมาดู “อ้าว..พี่ตั้งลืมอะไรครับ”
“พี่ขออีเมลล์ด้วย...ลืมไปเลย ไม่งั้นพี่จะส่งรูปให้เหลิมได้ไง  หึหึ”
“ผมก็ลืม..อีเมลล์ผมครับ....CaLarmbookอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com” พี่ตั้งหัวเราะอีกครั้งพอเขียนอีเมลล์เราเสร็จ
“แอดเดรสตลกดี  อ่านว่าเฉลิมบุคเหรอครับ” ไอ้เราก็ชักอาย

“อ่านว่าฉลามบุกครับ แหะๆ”พอบอกชื่อเสร็จพี่ตั้งก็หัวเราะอีก ก็ตอนตั้งชื่อคิดอะไรไม่ออกนี่หว่า แล้วก็ใช้เฉพาะกับเพื่อนด้วย
”พี่ไปก่อนนะครับ เหลิมรอดูรูปด้วยแล้วกัน ไว้คืนนี้พี่ส่งให้ ไปละ”
พอแยกย้ายกันกลับถึงบ้านเขาก็แทบหมดแรงเพลียแดด เลยนอนสลบไปจนค่ำ
 ตื่นขึ้นมาอีกทีมืดไปหมดแล้ว  ไปรื้อของในตู้เย็นมาทำข้าวผัดกิน กำลังนั่งกินอยู่เสียงโทรศัพท์ก็ดังระรัวขึ้น

“โหลใครน่ะ...”โทรมากวนตอนคนกินข้าวทำไมวะ
“พี่ตั้งครับ...”ตั้งไหนวะ ตั้งตรงจิต  ตั้งตรงอยู่ ตั้งแต่วันนั้น หรือตั้งแต่เมื่อวาน จั่งซี้มันต้องถาม
“ตั้ง..ไรครับ..อะไรตั้ง” ไม่ตอบเราอีกแน่ะเอาแต่หัวเราะ
“พี่ตั้งครับ..ไม่ได้จะตั้งอะไร...”
“......ตั้ง....” ใครวะ เพิ่งตื่นนอนสมองยังไม่กลับคืนที่
กำลังให้อาหารตัวเองอยู่ โปรตีน วิตะมิน ไขมัน คาโบไฮเดรท ในอาหารยังไม่ดูดซึมช่วยการรับรู้ให้ดีขึ้น...เรารู้จักคนชื่อตั้งด้วยเหรอ

“ที่เราถ่ายรูปด้วยกันวันนี้ไงครับ”อะ...อ๋อเพิ่งรู้จักยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง...เราถึงได้จำได้
“อ๋อ....ครับๆ พี่ตั้งพี่น้องตาม”
“ใช่ครับ..พี่ตั้ง....พี่ชายน้องตาม ที่น่ารักๆ”ถูกต้องที่สุด ว่าที่พี่แฟนนี่เอง
“มีไรครับพี่..”หรือน้องตามให้โทรหาเขา...กริ๊ดดดดดีใจ เสียงเขาดีใจออกนอกหน้าไปแล้ว
“น้องตามให้พี่โทรมาบอกครับ...ว่า...”ว่าคิดถึงล่ะสิ หึหึหึ





“ว่า...ส่งรูปมาให้เหลิมแล้ว ให้ไปเปิดดูด้วยครับ”

 :z3:โธ่เอ๊ย เซ็งว่ะ ปล่อยให้ลุ้นตั้งนานกว่าจะพูดจบ  แล้ว...แค่เนี้ย

“เหรอครับ..เดี๋ยวผมจะเปิดดูเองครับ”น้ำเสียงเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที ผิดหวังเว้ย
 อยากบอกว่า แค่นี้นะ จะกินข้าวต่อ แต่ก็ไม่กล้าพูดตรงๆ ยังเกรงใจน้องตามอยู่
“แล้วนี่เหลิมทำไรอยู่ครับ พี่กวนรึเปล่า”
“อ๋อ..ทานข้าวอยู่ครับ ยังกินไม่เสร็จเลย”จะรู้ตัวบ้างรึเปล่าว่าเป็นมารคอหอยเราอยู่ นี่บอกอย่างสุภาพแล้วนะว่ากวนอยู่
“เหรองั้นทานเสร็จ ดูรูปเสร็จแล้วพี่โทรหานะ แค่นี้นะครับ”
“เอ่อ..มะไม่..แม่มกูยังไม่ทันตอบเลย ว่าไม่ต้องโทรมา เผด็จการนี่หว่า วางหูไปเลย ไอ้พี่เขยนี่”

เขานั่งกินข้าวต่อ คนกำลังหิวมาขัดคอหอยซะได้ เสร็จแล้วถึงไปเปิดรูปดู
หูยทำไมถ่ายไปเยอะขนาดนี้หว่า  รูปที่ส่งมามีแต่รูปกูหล่อๆทั้งน้าน ไม่รู้มันถ่ายเก่งหรือว่าเราหน้าตาดีกันแน่
 สงสัยคงไม่ใช่มือสมัครเล่นอย่างที่บอกแล้วล่ะ ถ่ายคนอย่างเราให้ดูดีขนาดนี้ได้
ดูจนง่วงห้าทุ่มกว่าแล้วพี่เขยก็ไม่โทรมาสักที  จะให้โทรไปคุยก็ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร เขาเลยเข้านอนดีกว่า
กำลังเคลิ้มๆอีกนิดก็จะหลับสนิทก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงโทรศัพท์ ครายวะ “โหล..คราย...”กูจะนอน

“เหลิมเหรอ..ดูแล้วเป็นไงเหลิมถ่ายรูปขึ้นนะดูดีเลยทีเดียว” แน่สิ ก็กูหล่อจะตายแต่ว่า..
“ครายอะ...”
“พี่ตั้งไง เหลิมนอนแล้วเหรอ  พี่กวนรึเปล่า”กวนอะดิ ง่วงจะตาย ไอ้พี่ชายนี่เอง ไม่อยากคุยแล้ว ง่วงงง......
“เหลิมๆๆ..เหลิมฟังอยู่รึเปล่า”ไม่ฟัง เขาต้องนอนหัวค่ำ เป็นหนูน้อยนอนไว จะได้สมองเจริญเติบโต กูจะนอนแล้วววว......
“ฝานดีนะ.....พี่ชาย”
เขาจำได้ว่าพูดไปแค่นี้เองตอนที่เผลอหลับไป
แต่ก่อนที่จะหลับสนิทไปจริงๆยังทันได้ยินเสียงนุ่มปนเสียงหัวเราะเบาๆตอบกลับมาว่า

“ฝันดีครับ..น้องเหลิม”
**********************************
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 28/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 28-09-2010 16:34:43
เอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย เสร็จพี่ตั้งแหงๆน้องเหลิม เดี๋ยวต้องเกิดอาการเผลอใจไปเลิฟยูแหงๆ
พี่ตั้งยิ่งเนียนเทพอยู่ด้วยซิ โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกก  :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 28/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 28-09-2010 17:09:49
โหยชื่อ(ไม่รู้พระเอกหรือนายเอกเนาะ) ย้อนยุคมากเลย
ชื่อเต็มๆก็สุดยอดอลังการ "เฉลิมฉลอง"
แล้วท่าทางก็แอบน่ารักแบบเปิ่นๆนิดๆนะน้องเหลิม
แต่ยังไงๆน้องก็เข้าตาพี่ตั้งเต็มๆเลยล่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 28/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 28-09-2010 19:56:07
พี่ตั้งนี่มาแบบเนียน ๆ นะ แต่เห็นว่าหล่อพอให้อภัยได้ เฉลิมตั้งท่าจะจีบน้องสาว
แต่ดูท่าจะโดนพี่ชายมาจีบแทนซะแล้ว นายเอกเรื่องนี้ดูรั่ว ๆ น่ารักดีนะ
สงสัยจะถูกใจพี่ตั้งแน่เลย พระเอกเราก็ดูดีแถมจะรุกเก่งนะ เจอหน้าก็ตั้งท่า
จะรุกนายเอกจนตั้งตัวแทบไม่ติดแล้ว .....  :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 28/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 28-09-2010 20:13:21
ฮามากกับชื่อน้องเหลิม
และยิ่งฮาอีกกับอีเมล์ของน้อง
ที่ว่าเปลี่ยนเนี่ย
หมายถึงเปลี่ยนจากน้องสาว มาเป็นพี่ชายแทนหรือเปล่า
 :m20:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 28/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 29-09-2010 02:04:15
พี่ตั้งใช้กล้องยี่ห้อไหนหว่า จะซื้อมาใช้มั่ง
เห็นเหลิมบอกว่าถ่ายออกมาแล้วหน้าตาดี 555
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 28/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 29-09-2010 13:26:36
ไม่อยากบอกว่า เราก็อ่านอีเมล์ได้ที่พี่ตั้งแกอ่าน ฮากระจาย  :m20:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 28/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 29-09-2010 20:27:12
 :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 28/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 01-10-2010 00:27:55
แอบฮาน้องเหลิม มีฝันดีพี่เขยด้วย ฮ่าๆๆ
ระวังจะเสียท่าให้พี่เขยละกัน หุหุ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 28/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 01-10-2010 02:08:57
อ่านไป ขำไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 28/9/2010
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 01-10-2010 02:17:09
อ่านไปฮาไป
ไม่ไหวแล้วอ่ะะะ
ก๊ากกก
เฉลิมม  ชื่อแบบบ. ..ได้อีกก
เห็นแล้วนึกถึงเพื่อนสมัยประถม
ก๊ากกกกกกกกกกก
 :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 1/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 01-10-2010 09:29:09
วันอาทิตย์

เมื่อคืนเขานอนหลับสนิท น่าจะเป็นเพราะไปออกกำลังกายมาเลือดลมเลยเดินสะดวก วันนี้จึงตื่นเช้ากว่าปกติ... สิบโมง ฮ่าๆ
 ก็วันอาทิตย์จะแหกขี้ตาตื่นไปทำไม เดี๋ยวพระอาทิตย์ท่านจะตกใจ ท่านบอกไว้เสมอว่าวันนี้วันหยุด

แต่ถึงอย่างไรวันนี้กิจกรรมแน่นแน่ๆ ซักผ้า กวาดบ้าน(กวาดไปแล้วเมื่อวานนี่...โอเค..ข้ามไป) แล้วก็นอนดูหนัง(โป๊(ดีกว่า(จริงเหรอ)))
ดูเสร็จจะได้เอาไปให้เพื่อนดูต่อ ทุกคนบอกเสมอว่าเขาชอบแบ่งปัน มันจะได้เอาของมันมาให้เขาดูบ้าง
โหลดซ้ำอะไรกันหลายๆคนมันเปลืองไฟ เค้ายิ่งรณรงค์ให้ช่วยกันประหยัดไฟลดภาวะโลกร้อนกันอยู่

กำลังเปิดตู้เย็นหาว่าจะกินอะไรตอนเช้า ได้ยินเสียงโทรศัพท์แว่วๆ แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอว่ามันไปกรีดร้องอยู่ที่ไหน
 ในที่สุดหาเจอที่เตียงนอน มิสคอลสิบครั้งแต่เบอร์ที่โชว์ไม่คุ้นเลย
 คนโทรบ้ารึเปล่า ใครกันจะกระหน่ำโทรขนาดนี้ หรือว่าพ่อมีสัมปทานโทรศัพท์วะ
(แต่ได้ข่าวว่าไอ้คนที่เคยมีสัมปทานมันไม่อยู่เมืองไทยแล้วนี่)
 เห็นเบอร์แล้วเขาก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดี ไปทำอะไรกินก่อนดีกว่า ใครอยากคุยก็ให้โทรมาใหม่เอง

กำลังทอดไข่ดาวตั้งใจแน่วแน่ว่าจะกินกับครัวซอง แฮม ชีส แอบหรูหราเป็นฝรั่งกับเค้าบ้างอะไรบ้าง
 เสียงโทรศัพท์ก็ดังก่อกวนอารมณ์ขึ้นมาได้อีก เป็นเบอร์เดิม เขารีบรับๆซะจะได้รู้ว่าใครกันที่อยากคุยกับเขามากขนาดนี้
“ฮาโหล สวัสดีครับ....” วันนี้ขอใช้เสียงเบน ชลาทิศรับสาย

“สวัสดีครับ น้องเหลิมหรือเปล่า...”เสียงคุ้นๆแต่ยังนึกไม่ออกว่าใครกันที่โทรมา
 เบอร์ของเฉลิมฉลองไม่ใช่เหลิมรับสาย แล้วจะเป็นใครล่ะถามมาได้...วุ้ย
“ก็ใช่ครับ...โทษนะครับแต่ไม่ทราบว่าใครที่ผมพูดอยู่ด้วยครับนี่” หวังว่ามันคงไม่ใช่พวกขายประกันนะ  ไม่รู้มันเป็นบ้าอะไรโทรมาบ่อยจริงๆ
 โทรมาจนอยากจะด่าวันละหลายๆหน ต้องตั้งสติพยายามปฏิเสธกันอย่างดีๆไป

“พี่ตั้งครับ...เอ่อ..พี่น้องตาม น้องตามที่น่ารักๆ ไงครับ” ใช้เวลาประมวลผลไม่นานก็จำได้ ภาพน้องตามลอยเด่นขึ้นมาในความคิดทันที
“อ๋อ...พี่ตั้ง...ครับว่าไงครับ”มีธุระอะไรกับกูอีกล่ะ
“วันนี้เหลิมไม่มาวิ่งเหรอ...นี่พี่อยู่ที่สวนนะ”
 เขาเผลอถอนหายใจเบาๆออกมา ไม่อยากจะบอกเลยว่าที่ไปวิ่งเมื่อวานเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้เลยทีเดียว หุหุ
“ไม่ได้ไปครับ วันนี้ตื่นสายแล้วก็ว่าจะทำธุระด้วย...(ที่จริงก็จะซักผ้า แต่ดูหนังนี่ล่ะเรื่องใหญ่)”

“เหรอ...พี่เสียดายจริงๆ พี่อัดรูปมาให้เราด้วยหลายใบ  กะว่าจะเจอกันแล้วพี่จะเอาให้”
จะอัดมาทำไมกันละเนี่ย  เหลิมหล่อ เหลิมก็รู้ตัวดี  แต่เก็บไว้ดูเองก็พอ ไม่ต้องมาอัดแจกหรอกมันเปลือง เฮ้อ..บ้าป่าววะพี่ตั้ง
“ต้องขอโทษจริงๆที่ผมไม่ได้ไป   ที่จริงพี่ไม่ต้องอัดมาผมอัดเองก็ได้ครับ พี่ส่งไฟล์มาให้ผมแล้วนี่”
อีกอย่างเขาไม่รู้จะเอารูปไปทำอะไรนี่หว่า อยากดูก็เดินไปที่กระจกส่องเอาก็ได้ ตื่นมาก็หน้าตาแบบนี้ทุกวัน
 
“แต่พี่อัดมาแล้วนี่ จะเอาไปทิ้งก็เสียดาย” ยัง...ยังบ่นไม่เลิก พี่ตั้งจะทำให้เขารู้สึกผิดไปถึงไหน
“งั้นผมไปเอาก็ได้ พี่รออยู่นั่นนะ แต่ต้องรออีกพักใหญ่เลย ผมยังไม่ได้อาบน้ำ กินข้าว ซักผ้า ถูบ้าน.....เลย”
 เขาร่ายยาวถึงกิจกรรมที่ควรทำ ทั้งที่จะทำจริงและที่ไม่ทำแต่พูดไปงั้นๆให้ดูยุ่งเข้าไว้
คราวนี้ไอ้พี่ตั้งจะได้รู้สึกผิดซะบ้างที่มากวนเวลาส่วนตัวของเรา

พี่ตั้งทำเสียงอ่อย“เหรอ...งั้นไม่เป็นไร” นั่นไง...ว่าแล้วว่าคราวนี้ต้องยอมจำนน คงยอมแพ้แล้วล่ะสิ
 ก็คงเลิกล้มความตั้งใจกันไป...ค่อยว่าง่ายหน่อย
 แต่เราคงรู้จักพี่ตั้งน้อยไป เพราะคำพูดถักมาของพี่ตั้ง “บ้านเหลิมอยู่ไหน..พี่เอาไปให้เอง”
เอาแล้วไง   กูจะงานเข้ามั้ยเนี่ย... ต้องรีบบอกพี่เค้าไปว่า“อย่าดีกว่าพี่...เกรงใจ”
จะมาบ้านเขาทำมั้ยยย...ยังไม่ได้เก็บห้องเลย พี่ไปเปลี่ยนชื่อจากพี่ตั้งเป็นพี่ัดันดีกว่ามั้ย...ไอ้พี่ดัน...ดันทุรัง

“ไม่เป็นไรไม่ลำบากเลย..ก็บ้านเหลิมอยู่ไม่ไกลจากบ้านพี่เท่าไหร่”ตาย...อ่า..ลืมไปว่าเมื่อวานคุยเรื่อยเปื่อยดันไปบอกเค้าอีกว่าบ้านอยู่แถวไหน
 โยกโย้กันไปมาอีกพักใหญ่ ในที่สุดก็ต้องจำยอม จำใจเป็นที่สุดที่ต้องบอกที่อยู่ให้เค้าไป
 ไม่รู้อะไรมาดลใจให้บอกเค้าไปอย่างละเอียดอีกต่างหาก กลัวพี่เค้าจะหลง
“โอเค..พี่รู้ที่แล้ว  อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงเจอกัน”
เวรแล้ว ไอ้พี่ตั้งมันจะมาไวไปมั้ย...ถามกันก่อนดีกว่าว่าพร้อมหรือเปล่า
 เออ ลืมถามเลยว่าน้องตามมาด้วยรึเปล่า จะได้ทำหน้าหล่อๆรอรับ

ช่วงเวลาหลังจากนั้นเราเลยต้องรีบแดกๆๆๆๆ ยัดห่...ทุกสิ่งที่ทำๆไว้เข้าปากจนแทบจะติดคอตาย
  แล้วก็รีบวิ่งเข้าส้วมพยายามจะทำธุระให้เสร็จแต่นั่งเท่าไหร่มันก็ไม่ออกเลยต้องเก็บมันไว้ก่อน
 รอให้ไอ้พี่ชายกลับไปก่อนก็ได้วะ แช่แข็งไว้ในลำไส้ใหญ่ก่อน
แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าลำลองที่ดีที่สุดที่ยังเหลืออยู่ในตู้  เปิดตู้ออกได้แต่เฮ้อ... ว่าแล้วว่าเสื้อหมด
แทบจะหาอะไรดีๆใส่ไม่ได้ ก็หมักเอาไว้ยี่สิบกว่าตัวกะว่าจะมาซักวันนี้ เหลือแต่เสื้อทำงานหนึ่งตัวก็ต้องเก็บเอาไว้ใช้พรุ่งนี้น่ะสิ  

ชุดของเหลิมที่ออกมาก็เลยกลายเป็น เสื้อยืดสีขาวแก่อมเทาแขนกุด เอ๊ย...แขนสั้น
กางเกงขาสั้นเอวต่ำ(อันเนื่องมาจากยางยืดเสื่อม) ปกติต้องขมวดปมเอาไว้กันมันจะเสื่อมโดยไม่แจ้งให้ทราบแล้วหมดอายุการใช้งานไปเลย
 หลุดลงไปเองตามแรงโน้มถ่วงของโลก  
ส่องกระจกแล้วก็ใจหาย...หายนะจริงๆกู ส่องแล้วส่องอีกไม่ว่ามุมไหนมันก็ทุเรศเกินกว่าที่จะเป็นชุดรับแขก
 หรือไปเอาชุดเก่ามาใส่ก่อนดีกว่า  ยังไม่ทันตัดสินใจว่าจะเอายังไงดี ก้าวเท้าซ้ายก้าวเท้าขวา ยึกยักราวกับคนกำลังซ้อมเต้นกิจกรรมเข้าจังหวะอยู่อย่างนั้น

“ติ๊ง..งงง...ต่อง....งงงงง”
“ติง.....ต๊อ.งงงงงง....”สงสัยคงถึงเวลาต้องเปลี่ยนกริ่งบ้านซะที ฟังเสียงแล้วเหมือนมันด่าเจ้าของบ้าน
  ไอ้กริ่งเนรคุณด่าเขาได้ทุกครั้งที่มันโดนกด  
จำใจต้องวิ่งไปเปิดประตูให้พี่ชายพร้อมรอยยิ้มสำเร็จรูปที่ฝึกมานาน  ยิ้มไปปาดเหงื่อไป
พี่มาไวจริงๆในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจริงๆด้วย
“มาไวอย่างกับทำอาชีพเคลมประกันภัยนะพี่นะ”นี่ล่ะคำทักทายแรกพร้อมยิ้มสยามเมื่อเจอกันของเรา เป็นมิตรเสียจริงๆ

พี่ตั้งยิ้มกว้างรับคำทักทายหน้าตาสดชื่นดี  ไม่เห็นรู้สึกรู้สาอะไรที่โดนเขากัดตั้งแต่มาถึง หรือว่าไม่รู้ตัวว่าโดนกัดวะ
 วันนี้พี่ตั้งแต่งตัวดีสวมใส่เสื้อผ้ามีแบรนด์เนม บ่งบอกถึงรสนิยมอันเลิศหรูและฐานะมีอันจะกิน
  “วันนี้หล่อจังพี่ สวัสดีครับ” พูดพร้อมกับยกมือไหว้ไปด้วย แต่พอก้มลงมองสารรูปตัวเองก็ถึงกับหดหู่
ที่เค้าว่ากันว่าช่องว่างระหว่างชนชั้นมันเกิดขึ้นกับเราซะแล้ว ที่นี่ ตรงนี้ ให้เห็นๆกันไปเลยไม่ต้องรอการสืบพยานหลักฐาน
หรือประท้วงให้เสียเวลา แต่ยังไงเราคงไม่ถึงขนาดเป็นไพร่มั้ง แค่เป็นคนรากหญ้าคนหนึ่งเท่านั้น

“ทำไมเหลิมแต่งตัวแปลกๆล่ะ”พี่เค้ามารยาทดีจริงๆ ในใจเค้าคงจะบอกว่าตกลงเอ็งเป็นคนใช้แน่ๆเลย
สงสัยเป็นคนงานทำงานบ้าน แต่ปลอมตัวทำเป็นไฮโซไปวิ่งออกกำลังกาย
“ทำไม  แ่ต่งตัวแบบนี้พี่ไม่คบเหรอครับ”น้ำเสียงแข็งขึ้นไปอีกนิด เริ่มอารมณ์ไม่ดี อย่ามาตอกย้ำเรื่องเสื้อผ้ารับแขกของเขาได้มั้ย
 วันนี้มันมีแค่นี้นี่หว่า พี่ตั้งเริ่มหน้าเสียสงสัยนึกว่าเราโกรธจริง รีบยกมือโบกไม่ใช่ ไม่ใช่เป็นพัลวัน

“เปล่าๆ  เพียงแต่ว่า..มะ...มัน..แปลกไง”อยากจะรู้ความรู้สึกจริงๆของพี่เค้าสักหน่อยว่าคิดยังไงกับชุดนี้กัันแน่
ต้องแกล้งสักหน่อย อยากมาบุกบ้านเราในวันหยุดแบบนี้
“มันแปลกยังไง ไหนพี่พูดออกมาซิ”
เหมือนๆเขาจะเริ่มเป็นนักเลงเข้าไปทุกทีแล้ว เผลอตัวยืนเท้าสะเอวสายตาจิกที่พี่ตั้งรอฟังคำตอบ
 ถ้ามีไม้หน้าสามมาถือก็ใช่เลยจิ๊กโก๋ปากซอย จริงๆก็คือเริ่มจะแสดงสันดานของตัวเอง หรือนิสัยที่แท้จริงออกมาให้พี่ตั้งเห็นมากกว่า

“กะ...ก็ดูเป็นกันเอง เหมือน...ยะ..อยู่บ้านไง”พูดอะไรแปลกๆเสียงที่พูดฟังดูสั่นๆ  แถมยังติดอ่างอีก ท่าทางตื่นเต้นเกินเหตุ
ใช่ พูดอีกก็ถูกอีก ที่นี่มันบ้านเขานี่นา เขาอยู่บ้านจริงๆ
หรือว่าหน้าตาเขาดูน่ากลัวเกินไปจนพี่เค้าตกใจ เห็นหน้าแล้วก็ขำ เลยเผลอหัวเราะออกมาดังๆ พี่ตั้งเลยทำหน้าตาเด๋อด๋า งงๆ
“พี่ตั้ง....นี่มันบ้านผม อยู่ที่บ้านแต่งตัวแบบนี้แล้วมันแปลกได้ยังไงล่ะ”
พี่ตั้งเลยหัวเราะบ้างเกาหัวบ้างแก้เก้อ ทำหน้าตาเขินด้วย “เออ ก็จริง”

พี่ตั้งยื่นรูปปึกใหญ่มาให้ “อะ พี่เอารูปมาให้เหลิมดู”
 เรารับเอามาพลิกๆดู หล่อเกินไปมั้ยวะกู  พอเงยหน้าขึ้นมาปรากฏว่าพี่ตั้งกำลังยิ้มมองดูเขาอยู่
 แน่ะ ทำท่าตกใจด้วยที่เขาเงยหน้าขึ้นมากะทันหัน ทำหน้าเขินๆ แฮะ
 “ที่จริงพี่ไม่ต้องอัดมาหรอก ผมไม่รู้จะเอาไปทำอะไร เปลืองเปล่าๆ”
พี่ตั้งทำหน้าจ๋อยเจื่อน หรือว่าเขาพูดผิดไป  “พี่ก็อยากให้คุณดู พี่ว่าเหลิมถ่ายรูปขึ้นนะ”

ขึ้นอืดล่ะสิไม่ว่า เขาขอเถียงในใจ พี่ตั้งเดินเข้ามาซะใกล้จนจมูกแทบจะมาทิ่มแก้มกันอยู่แล้ว เริ่มเลือกรูปที่อยู่ในมือเรา
“พี่จะบอกว่าพี่ชอบรูปนี้ น่ารักดี” ทำเอาเขาตกใจ
“เฮ้ย....ผู้ชายเค้าไม่ใช้คำว่าน่ารักหรอกพี่ เค้าใช้คำว่าหล่อ ไม่ได้ๆ...ไม่ชอบเลย ไหนๆรูปไหน”
พี่ตั้งหันมายิ้มหล่อให้เขาอีก  ขยับหน้ามาจนชิด เขาไม่เคยอยู่ใกล้ผู้ชายคนไหนขนาดนี้เลยนะให้ตายสิ เขินวุ้ย นี่เผลอทำหน้าแดงรึเปล่าวะ

“คุณต้องเห็น แล้วจะบอกว่าคำชมว่าน่ารักเหมาะที่สุด” พี่ตั้งเข้ามาใกล้ๆแบบนี้จนเขาได้กลิ่นโคโลญจน์ที่พี่เค้าใช้ หอมจริงๆ แล้วพี่ก็เลือกรูปมาให้
“นี่ไง..น่ารัก” พี่ตั้งพูดซะเสียงหวานไอ้ตรงคำว่า ‘น่ารัก’
รูปที่เห็นเป็นตอนที่เขากำลังหัวเราะจนปากกว้าง ตาหยีไปข้างหนึ่ง จำไม่ได้ว่าพี่ตั้งพูดอะไรเลยยิ้มซะหมดหล่อขนาดนั้น
 ในรูปกำลังเอามือดึงตัวเองผมได้อีก อืม...แต่เราก็

“น่ารักนะ”

 เปล่าๆเขาไม่ได้ชมตัวเองบ่อยขนาดนั้น พี่ตั้งก็พูดซ้ำอยู่ไ้ด้ ชมกันมากไปมั้งพี่ พี่มีแผนอะไรกันแน่
“พอๆๆๆเลยพี่..น่ารักอะไร ตลกจะตาย ปากกว้างจนแทบจะงับหัวพี่ไปได้อยู่แล้ว”
พี่ตั้งไม่ตอบเอาแต่ยิ้ม ไม่รู้มีความสุขอะไรมากมาย แล้วหันมาถามเขา “วันนี้ไม่ไปไหนเหรอ”
เขาเลยส่ายหัว “อือฮึ...ไม่ไป” พลางก้มหน้าดูรูปตัวเองต่อดีกว่า
 ก็ถ่ายดีนะเหมือนมืออาชีพเลย ชมไปสักหน่อยคนถ่ายจะได้ดีใจ “พี่ถ่ายเก่ง เหมือนมืออาชีพเลย”

“ก็พี่เรียนมาทางนี้ อื้อ....มีอีกรูปที่พี่ชอบ...นี่ไง” รูปที่พี่ตั้งเลือกให้ดูเป็นรูปที่เขาเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์แล้วพี่ตั้งบอกว่ามือไปโดนชัตเตอร์พอดี
หน้าตาเอ๋อมากใสๆ ซื่อๆ แบ๊วโดยไม่ต้องแอ๊บ แต่ก็.... “น่ารัก”พี่ตั้งมันพูดอีกแล้ว
คราวนี้เราเลยหันหน้าไปมองหน้า พี่มันแกล้งพูดบ่อยๆกวนตีนกูรึเปล่าวะ หรือมันประชด

 “เอ๊ะ...ก็บอกว่าไม่ชอบให้ใช้คำนี้ ไม่ชอบๆ ทำไมพูดไม่รู้เรื่อง” ดุเล่นๆซะบ้าง ต้องแกล้งทำเป็นโกรธ
แต่คราวนี้เสียงเขาคงโหดและแรงไป พี่ตั้งทำหน้าสลดเดินคอตกแล้วทำท่าจะเดินกลับ
ซวยแล้วกู...เล่นจนได้เรื่อง เลยต้องรีบคว้ามือไว้รั้งไว้ก่อน “พี่ตั้ง...ผมล้อเล่น...” แล้วส่งยิ้มปูเลี่ยนๆไปให้ แหะๆ
พี่ตั้งยิ้มตอบซะปากกว้างเลย คนอะไร...ยิ้มสวยได้ใจ
 เขาจะไม่กล้ากวนตีนมากไปกว่านี้ก็เพราะรอยยิ้มแบบนี้ละว้า “พี่ก็ล้อเล่น หึหึ”

แล้วหลังจากนั้นพี่ตั้งก็ขลุกอยู่จนเที่ยง  ไม่รู้อะไรกันนักหนา
 ขนาดบอกไปว่า “ผมไม่ว่างนะพี่ต้องซักผ้า ไม่มีเวลามานั่งคุยกับพี่หรอก” แต่พี่ตั้งก็มิได้สนใจไยดี
“ไม่เป็นไรพี่นั่งรอ”
 เขามองหน้าพี่ตั้งยืนเท้าสะเอวถามตรงว่า “พี่จะรอ...พี่จะรออะไร้..”
พี่ตั้งตอบหน้าตาเฉยเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต“พี่จะรอจนกว่าเหลิมจะทำงานเสร็จสิ”
“แล้ว?....”ตอบไม่ได้ให้ความสว่างกับชีวิตเลย ยังมืดมนในหัวใจอยู่เหมือนเดิม

คราวนี้พี่ตั้งเกาหัวแกรกๆทำหน้าไม่ถูก  ทวนคำพูดของเรา “แล้ว.....”
 คราวนี้ยิ้มเหมือนเด็กที่โดนจับได้ว่าทำผิด“แหะๆ...ไม่รู้สิ รู้แต่ว่าพี่รอได้”
ไอ้พี่ตั้งนี่ท่าจะบ้าไม่ก็ไม่ค่อยเต็ม  ดูหน้าตาก็ดีๆแต่พูดจาไม่รู้เรื่อง เลยต้องมานั่งขัดสมาธิคุยกับพี่เค้าให้เคลียร์ก่อนไม่งั้นมันค้างคาใจ

 “พี่ตั้ง...ผมถามพี่ตรงๆเลย เราเพิ่งรู้จักกันเมื่อวาน แล้วคุยกันไม่ถึงสามชั่วโมงด้วยซ้ำ แล้วพี่จะอะไรกันนักกันหนากับผม พี่ว่ามันไม่มากเกินไปเหรอ”
พี่ตั้งทำหน้าแปลกๆจะยิ้มก็ไม่ใช่จะแหยก็ไม่เชิง “เอ่อ....พี่”
เลยต้องยกมือห้ามไว้ก่อน ความในใจของเขามันแยะ ไม่พูดเดี๋ยวมันระเบิดออกมา ต้องพูดให้หมด เมื่อเช้ายิ่งไม่ทันระบายด้วย
“พี่มาบ้านผม  เอารูปมาให้ ผมก็ขอบใจนะ ทั้งที่ผมก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร” น้ำเสียงเขาช่างโหดจริงวุ้ย
 ฟังดูเหมือน..ฉันไม่แคร์...ไม่ได้ต้องการรูปเลย (แต่ที่จริงก็ชอบของฟรีนะ)

คราวนี้พี่ตั้งคอตก ทำหน้าเป็นหมาหงอย แล้วเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งแววตาหม่นหมอง สีหน้าเศร้าลงไปอย่างเห็นได้ชัด
 เอาแล้วไงกู พูดไม่ได้แรงเลยนะ พูดดีๆเลย ไม่ได้หยาบคายซักกะนิด
“ก็พี่ชอบนิสัยเหลิม คุยกับเหลิมแล้วสนุกดี แล้วเหลิมไม่ได้ชอบตามเหรอ?”
พอพี่ตั้งถามเขาเรื่องน้องตามขึ้นมา แสงสว่างก็เข้ามาสู่จิตใจ ลืมไปเสียสนิท เขาสนใจน้องตามนี่หว่า
แล้วนี่เผลอไปแสดงสันดานแย่ๆใส่พี่ตั้งครั้งแล้วครั้งเล่า
หนทางรักของเขากับน้องตามในภายหน้ามันจะไม่เต็มไปด้วยขวากหนามเหรอนี่....โธ่ นี่เขาพลาดโอกาสสำคัญไปแล้วจริงๆ

เอ่อ...ผม$@&^%*&)(_)+ผม...แหะๆ พูดไม่ถูกเลยกู ไปไม่เป็นเลย เลยได้แต่เฉๆไฉๆ
“เออๆๆ พี่จะอยู่ก็อยู่ อยากกินอะไรก็ไปหยิบในตู้เย็นนะ รอเบื่อแล้วก็กลับไปนะ ผมขอตัว”
 ยังไงก็ต้องรักษาสัมพันธ์เอาไว้ก่อน ต้องสืบเรื่องน้องตามให้ได้มากกว่านี้ก่อน

จับตัวพี่ตั้งมานั่งแล้วก็สอนว่า “พี่นั่งนี่นะ อย่าไปเพ่นพ่านห้องผมล่ะ...เข้าใจใช่มั้ยครับ”
เราขีดวงกลมไว้แล้วให้พี่ตั้งนั่งแค่ห้องรับแขกกับห้องแพนทรี แล้วก็หลบไปซักผ้า
วันนี้อากาศดีๆต้องรีบซักให้เสร็จจะได้ทันแดดตอนเที่ยงๆ ก่อนที่พระพิรุณท่านจะแรนดอมเอาฝนมาลงวันนี้   ให้ชาวบ้านเค้าเปียกปอนเดือดร้อนกัน

ใช้เวลาซักไปสองสามชั่วโมง บิดผ้าจนเหนื่อยเมื่อยล้าแขนไปหมด
 เลยเดินพับแขนไปมาไปดูพี่ตั้งซะหน่อยว่าทำอะไรอยู่  ก็เห็นแต่ชายหนุ่มตัวโตนอนหลับอยู่คาโซฟา
 แก้วน้ำกับขนมที่เอามาให้กินก็ไม่เห็นยุบไปสักเท่าไหร่ “อากาศร้อนจะตาย หลับเข้าไปได้ไงวะ”
แอบเดินไปก้มดูหน้าใกล้ๆพี่ตั้งหน้าเหมือนน้องตามแฮะ เมื่อวานทำไมไม่รู้สึกเลยว่าเหมือน
กำลังพินิจพิจารณาดูอยู่ พี่ตั้งดันลืมตาขึ้นมาพอดี ทำเอาสะดุ้งรีบยืนจัดระเบียบร่างกายให้ดูเป็นธรรมชาติแทบไม่ทัน
 แล้วเนียนๆทำเป็นหันมาเห็นพี่ตั้งพอดี “อ้าว...แหะๆๆ พี่ตื่นแล้วเหรอ นอนนานไปมั้ย นี่บ้านผมนะ”
ตามด้วยคำพูดแดกดันนิดหน่อยพอไม่ให้หลุดคอนเซปท์

พี่ตั้งยิ้มนิดๆทำหน้ากรุ่มกริ่ม แววตาวิบวับ “ทำไมเหลิมหน้าแดง อากาศร้อนเหรอ”
มันก็ร้อนนะแต่เราหน้าแดงทำไมวะ  มันไม่ได้ร้อนขนาดนั้น เผลอตัวเอามือลูบหน้าตาหัวหูตัวเองพัลวันแก้เขิน
“ไม่แด๊ง...แดงที่ไหน....อ๋อใช่ๆ  เพื่อนๆเคยบอกว่าผมเป็นคนสีผิวดำแดง...”
 มาทักกันแบบนี้ทำเอาแทบติดอ่าง ต้องรีบพูดต่อ “ผมทำงานเสร็จแล้ว พี่กลับไปเถอะ ผมเหนื่อย ผมจะนอน”
 นึกว่าพี่ตั้งจะงอแงโอ้เอ้เหมือนเมื่อเช้า  แต่กลับคาดผิด

พี่ตั้งพยักหน้ายิ้มแล้วหาวอีกครั้ง “ครับ...ไว้เจอกันนะเหลิม พี่ไม่กวนแล้ว”
อยากบอกพี่มากเลยว่า  พี่กวนไปแล้วต่างหาก แล้วพี่มานอนทำไมที่บ้านผม
 นอนตื่นแล้วก็กลับบ้านตัวเองไม่เข้าใจวิถีปฏิบัติของพี่เลยจริงๆ มันเพื่ออะไรอยากจะถามอีกครั้ง

พี่ตั้งลุกขึ้นแล้วโบกมือให้อีกครั้งก่อนจะออกไปจากห้อง ทำอย่างกับเราสนิทกันมากมาย
 ตัดสินใจตะโกนถามให้หายคาใจ “พี่ตั้งแล้วพี่มานอนรอเพื่อ....???”
พี่ตั้งหันมาทำตาใสแล้วยักไหล่ “ไม่รู้สิ แค่อยากทำ ไม่มีความหมายอะไร” ตอบแค่นี้ กระจ่างสุดเท่านี้แล้วก็เดินออกไปอย่างลอยนวล
ทิ้งไว้แต่เราที่ยังยืนเกาหัวหู ครุ่นคิดอย่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตกันแน่ตั้งแต่เมื่อวาน
 ไม่ใช่ ตั้งแต่เมื่อวานสิ ตั้งแต่เจอไอ้พี่ตั้งนี่แหละ มันอะไรกันวะ...ชีวิต
*******************************
:pig4: ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 1/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: BossZa ที่ 01-10-2010 09:59:13
  สงสัยพี่ตั้งจะจีบน้องดเหลิมแล้วมั้ง
 
  ชอบชื่องนายเอกจิงๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 1/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 01-10-2010 10:04:42
เรื่องน่ารักดีครับ ฮาๆดี
 ว่าแต่คู่นี้ ตั้งเหลิมหรือเหลิมตั้งดีครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 1/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 01-10-2010 16:34:36
แหม๊... น้องเหลิมแอบโหด แต่พี่ตั้งแอบมึน หุหุ
รับแขกด้วยชุดสุดเซ็กซี่? เดี๋ยวพี่ตั้งก้อมาหาแบบไม่เหตุผลอีกหรอก  :impress2:

เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 1/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 01-10-2010 17:23:03
คริคริ หุหุ
คีย์มันอยู่ที่นี่ค่ะน้องเฉลิมฉลอง

“แหะๆ...ไม่รู้สิ รู้แต่ว่าพี่รอได้”
น้องตามอ้ะ พี่ตั้งใช้เป็นข้ออ้างไปงั้นเอ๊งงงงงง  :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 1/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 01-10-2010 17:59:06
เนื้อเรื่องไหลลื่นไปเรื่อย ๆ แฝงด้วยความน่ารัก น้องเหลิมนี่อินโนเซ้นท์จริง ๆ
พี่ตั้งรุกขนาดนี้ มาถึงบ้าน มานอนรอตั้งสองสามชั่วโมง ยังไม่รู้อะไรเลย
ข้าศึกบุกประชิดประตูเมืองแล้วยังไม่รู้อีกน้องเหลิม เดี๋ยวจะโดนตีกรุงแตก
แบบไม่รู้ตัวนะ +1  :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 1/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 01-10-2010 22:01:53
กรี๊สส ส
พี่ตั้งต้องจีบน้องเหลิมแน่เลยอ่า า า
น้องเหลิมนี่ก็นะ
ช่างไม่รู้อะไรบ้างเล้ยย ย ย ยยย ย
คิคิ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 1/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 03-10-2010 00:04:00
Wow p'Tang is so nice.
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 1/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jaaeyboy ที่ 03-10-2010 00:38:07
ฉลากบุก  เจอพี่ตั้งบุกซะหน่อย

พี่ตั้งน่ารักจัง  สงสัยต้องแอบเห็นน้องเหลิมตอนหลบฝนอ่ะเปล่า

ส่งน้องตามมาล่อ  เหยื่องามๆๆ นามว่าเหลิมให้ติดกับดักหัวใจ 5555  คิดไปนั่นเลยเรา

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 1/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 03-10-2010 12:50:58
พี่ตั้งไม่เห็นต้องเอาน้องมาอ้างเลย ชอบเหลิมก็บอกไปเล้ย อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 3/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 03-10-2010 13:33:45
มาวันละนิดละหน่อย เพราะเรื่องไม่ยาว  :pig4:
***************************

จันทร์

วันนี้พี่ไก่มาบอกข่าวดีว่าที่บริษัทจะมีงานเลี้ยงให้เขาไปกินฟรี อยากจะเหยียดหยามว่ารู้ทันหรอก ตอนนี้ไม่เหลือใครให้ใช้งานแล้วนี่
 ไอ้จอยก็ออกไปแล้ว ที่เหลือแต่ละคนก็ไม่ค่อยยอมช่วยงาน เลยทำเป็นมาเอาอกเอาใจเขา
 “ตกลงเอ็งไปด้วยใช่มะ พี่จะได้บอกจำนวนคนแผนกเราที่จะไป”

ทำท่าครุ่นคิดสักหน่อยจะได้ดูมีคุณค่า คนอย่างเขาไม่ได้เห็นแก่กิน(ฟรี)ไม่ใช่ใครเคาะจานเรียกปุ๊ปจะกระดิกหางวิ่งดุ๊กๆตามไป
  มาชวนแบบนี้เดาน้ำใจกันไม่ถูกเลยทีเดียวว่าอยากให้ไปหรือชวนไปงั้นๆตามมารยาท
“เดี๋ยวดูตารางนัดก่อนนะพี่  แล้วเดี๋ยวจะโทรไปบอก”

ไอ้พี่ไก่ทำหน้ารู้ทัน ยิ้มเยาะส่งให้ ก่อนพูดเสร็จแล้วจากไป“ให้เวลาสิบนาที...ถ้าไม่ไปจะให้น้องฝนไปแทน รีบบอกนะ  นาทีทอง”
ไอ้พี่เวร...รู้ทันไปหมด มิน่ามันเลยเป็นหัวหน้า เขารีบทำเป็นพลิกดูออแกไนเซอร์(ที่ว่างเปล่า—ก็จะให้ไปนัดกับใครได้ แฟนก็ไม่มี)
พี่ไก่เดินไปยังไม่พ้นสามก้าว ต้องรีบตะโกนเรียก ใช้สิทธิก่อนวุ้ย...เดี๋ยวโดนทับสิทธิ
“พี่ไก่ๆ....ไปก็ไป ไปเป็นเพื่อนพี่นะ เดี๋ยวไม่มีคนชงเหล้าให้” ไอ้พี่ไก่มันหันมายิ้ม เดินกลับมาตบไหล่เขาอีก

“ก็แค่นั้น..ลีลาจัดนะเอ็ง แล้วรีบทำงานละ” แล้วพี่ไก่ก็เดินโยกหัวผิวปากลอยชายไป เกลียดจริงๆ ไอ้คนรู้ทัน
ตอนเที่ยงลงไปกินข้าวกลับขึ้นมาเอามือถือมาดู มิสคอลอีกแล้ว
 แต่ตอนนี้จำเบอร์ได้แล้ว เมมชื่อไว้ด้วยว่า ‘พี่ชาย’ นั่นเอง คนเดิมเจ้าเก่า
แต่ได้ข่าวว่าเมื่อวานหมดธุระกันไปแล้วนี่ โทรมาหาอีกทำไมล่ะ จะโทรกลับก็เสียดายค่าโทร
จะไม่โทรกลับก็จะเสียมารยาทมั้ย  แต่ที่จริงก็ไม่เคยมีมารยาทอยู่แล้วไม่น่ากลัวต้องเสียอะไรนี่
 ผลก็คือไม่โทรหรอก อยากคุยอะไรมีธุระอะไรก็โทรมาแล้วกัน จะได้ไม่เปลือง ใช้สูตรเดิมจะคิดให้ซับซ้อนไปทำไม

นั่งทำงานต่อไปอีกพักใหญ่ พี่ตั้งโทรมาอีกครั้งพอรับสายปุ๊ปคำแรกที่พูด “เหลิมๆ..”เรียกทำมั้ย ที่จริงต้องบอก “โหลๆ..”สิ
“ครับ..มีรายพี่...ทำงานอยู่” กวนใจได้ทั้งวันหยุดราชการและวันทำการเลยนะพี่ตั้ง
“พี่ส่งอีเมลล์ไปให้ ดูรึยัง” ก็ทำงานอยู่จะไปรู้ได้ไงว่าส่งเมลล์มา ไม่ได้ว่างๆนั่งเล่นMsnนะเว้ย
“ยังไม่ได้ดู ไม่รู้นี่ว่าส่งมา” เสียงพี่ตั้งหัวเราะมาในสาย ขำอะไรวะ
“ก็กะแล้วว่าคงไม่รู้ ไม่ไดู้ดูแน่ๆ ถึงได้โทรมาบอกไง” นี่อยู่ใกล้ๆมีด่านะ แล้วจะถามว่าดูรึยังเพื่อ????

“ขอบใจพี่..ที่โทรมาบอก..มีธุระอะไรสำคัญอีกมั้ย  ที่โทรมาเนี่ย”พี่จะรู้ตัวรึเปล่าว่าเขากำลังหลอกด่าที่โทรมาพูดไร้สาระ
“ไม่เป็นไร..นิดหน่อยเอง โทรแค่นี้ ไม่มีอะไรหรอก เหลิมทำงานเหรอ”พี่แกคงความจำสั้น ก็บอกไปแล้วว่าทำงานอยู่  แล้ววันนี้ก็วันจันทร์ด้วย
“ใช่พี่..ทำงานอยู่ บอกไปแต่แรกแล้วนะ” จำไม่ได้ล่ะสิ...แก่แล้วก็อย่างนี้
“เออ...ใช่ๆ ฮ่าๆ พี่ลืมไป งั้นพี่วางก่อนดีกว่า ไม่อยากกวนคนขยัน”
นี่ไม่บอกไม่รู้นะว่าไม่อยากกวน ได้ข่าวว่าชวนคุยไม่เป็นเรื่องอะไรเลยปาเข้าไป ห้านาทีสามสิบเอ็ดวินาที  
“โอเค..หวัดดีพี่” แล้วแกก็วางสายไป  

ทำงานไปได้ไม่นาน ตาก็คอยแต่จะเหลือบดูชอทคัท อินเตอร์เน็ต เอ็กพลอเร่อร์
 พี่ตั้งมันส่งอะไรมาให้หว่า อยากดูก็อยากดู งานก็ยังกองเต็มโต๊ะ จะคลิกเข้าฮอทเมลล์เช็กดูดีมั้ยเนี่ย
 คิดแล้วคิดอีก ไม่เอาดีกว่าทำงานก่อน เอ..หรือดู เวียนหัวกับตัวเองจริงๆ

ทำงานต่อไปได้อีกห้านาที ดูก็ดู...อยากรู้มีอะไรนักหนา เหลือบตาซ้ายขวา เหลียวหน้าเหลียวหลังชะโงกดูพี่ไก่
 อืม...ไม่อยู่ที่โต๊ะสงสัยเข้าห้องนาย ทางสะดวกคงอีกนานกว่าจะมา เอาวะทางสะดวก
พอเปิดเข้าฮอทเมลล์ อุแม่เจ้า...พี่แกส่งมายี่สิบเมลล์ คลิกไปดูไปลบไป
กว่า90%เป็นเมลล์ลูกโซ่ ประเภทมนต์ตรา ถ้าท่านรับแล้วส่งต่อไปสิบหรือยี่สิบคน ท่านจะสมหวังกับคำอธิษฐาน
 หรือท่านจะได้รับความรัก ท่านจะโชคดี อะไรประมาณนั้น

กูจะบ้าตาย เมลล์ไร้สาระทั้งนั้น เขาเคยได้มาหลายครั้งไม่เคยส่งต่อให้ใครเลยทำไมเขายังมีชีวิตอยู่ได้ ไม่เห็นเจ็บป่วย
  มีความสุขแฮปปี้ดี๊ด๊ามาตลอด ไอ้พี่ตั้งนี่มันต๊องรึเปล่าวะ ส่งมาได้ เฮ้อ..เสียเวลาทำงานจริงๆ

กลับมาก้มหน้าผลิตงานกันต่อไป วันนี้กินฟรีเว้ย...ต้องขยันกันหน่อย
 แต่พอถึงเวลาเลิกงานพี่ไก่เดินมาบอก “เหลิม...เอ็งไปเองได้รึเปล่า?? รถพี่เต็มแล้ว ต้องพาน้องกิฟ เชอรี่ น้องวาย น้องลำใยไปด้วย”
พี่ไก่หยุดไปนิดหนึ่งหายใจรวบรวมความกล้าก่อนถามเขาอย่างคนที่ตัดสินใจแล้วว่า “เหลิมไปเองแล้วกันนะ ถ้าลำบากไม่ไปก็ได้”

ฟังตั้งแต่คำแรกก็เริ่มนับหนึ่งในใจ นับไปเรื่อยๆ..สอง..ไม่เป็นไร..สาม...เอาน่ารถพี่เค้าเต็ม
แต่อีตรงประโยคสุดท้าย  ‘ถ้าลำบากไม่ไปก็ได้’ เลิกนับเลย อยากกระโดดถีบยอดอกพี่ไก่แทน
แล้วแต่แรกมาชวนกเขาทำไม เพื่ออะไร?? ก็รู้อยู่ว่าไม่มีรถ แทบไม่ได้ให้ทางเลือกเลย
 สรุปว่าสุดท้ายคือจะมาบอกว่าให้ไปเอง เอาวะ...กัดฟันถามพี่ไก่อีกสักครั้ง “แล้วพี่ไปกินที่ไหนกัน”

“ไปคาราโอเกะแถวแยกเกษตร-นวมินทร์ ไม่ไกลหรอก นั่งแท็กซี่ตามไปแล้วกัน”
“มันไม่ไกลเท่าไหร่ แต่มันก็ไกล๊ไกลนะพี่ไก่ แล้วฝ่ายอื่นเค้ามีใครเอารถไปบ้าง ผมไปกับเ้ค้าก็ได้”พยายามเข้าหน่อย จะได้ร้องเพลงฟรีๆสักวัน  
“ฝ่ายอื่นเค้าไปกันก่อนเลิกงานแล้ว เออ...พี่ก็ลืมไป ม้าเค้าก็มาถามนะว่าจะฝากใครไปกับเค้ารึเปล่ารถเค้ายังว่าง
 พี่ก็ดันลืมนึกถึงเอ็งไปเลย เลยบอกเค้าไปว่าไม่มี...” ดูมันตอบ โกหกบ้างก็ได้นะจะได้ไม่ด่าพี่ในใจให้มากไปกว่านี้

กูละเซ็ง...ยังลังเลจะไปหรือไม่ไปดี หมดอารมณ์ทำงาน นั่งแท็กซี่ไปมีหวังร้อยกว่า ขากลับอีก รวมๆมิปาเข้าไปสามร้อย
 กินฟรีจะมีประโยชน์อะไรวะ ไอ้พี่ไก่มีหน้ามาตบไหล่ แปะๆ นี่วันนี้มาตบไหล่เขาหลายทีแล้วนะ มีปัญหาในพฤติกรรมอะไรรึเปล่า
 ชอบมาลวนลามลูกน้อง
“พี่ล่วงหน้าไปก่อนนะ แล้วไงตามไปล่ะ..เหลิม”

งอนมันวะ มาชวนให้อยากแล้วจากไป จะกลับบ้านเลยก็เซ็ง จะทำงานต่อก็ไม่มีอารมณ์  เฮ้อ...จะทำอะไรดีล่ะ ไม่ปงไม่ไปดีกว่า
 เขาคงเป็นเนื้องอกของที่ทำงานจริงๆ ไม่มีใครนึกถึงจิตใจเขาเลย นี่ถ้าไม่แปลงกายเป็นเนื้อร้ายจะคิดที่จะมาสนใจกันบ้างมั้ย
  ทำงานหนักมาทั้งวันมีความหวังว่าจะได้ไปกินฟรีก็มาอดไปอีก เพราะความลำเอียงของพี่ไก่
ทำไมไม่เห็นความดีของเขาที่ทำงานมากกว่าคนอื่น
 แค่ชื่อเค้าน่ารัก น้องกิฟ น้องส้ม น้องกล้วย น้องมะละกอ น้องส้มตำห่าเหว อะไรนั่น
 ก็เห็นดีเห็นงามเอาอกเอาใจกันเข้าไป เออเขาผิดเองที่ไม่ชื่อลิฟต์บ้างให้มันรู้ไป เพราะเขาชื่อเหลิมใช่มั้ย....โอพระเจ้า..ทำไมลำเอียงขนาดนี้

กำลังนั่งเซ็งอยู่ โทรศัพท์ดังมาอีกแล้ว ใครโทรมาอีก “พี่ั้ตั้งโทรมาอีกทำไมวะ เมลล์อันเก่าเพิ่งลบไปหมด”บ่นๆๆๆ
“โหล...ไม..มีไร...”อารมณ์เสีย....อารมณ์เสีย...อารมณ์เสีย...
“ปะ...เปล่า...เหลิมเป็นอะไร”เป็นคนที่อารมณ์เสียน่ะสิ  ฟังแล้วไม่รู้รึไง
“เปล่าแล้วโทรมาทำไม ไม่มีอะไรแล้วโทรมาทำไม รู้มั้ยว่างานที่ต้องทำก็เยอะ  
แล้วเพิ่งรู้จักกันจะมาอยากรู้ทำไมว่าเป็นอะไร โทรมาเพื่ออะไรกันวะ”

 อยู่ๆเขาก็ปริ๊ดแตกขึ้นมาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ เหมือนคนที่อั้นฉี่เอาไว้มากๆ พอทนไม่ไหวมันก็พุ่งออกมาเลอะเทอะไปหมด
 แต่คนที่ซวยกลับเป็นพี่ตั้งที่โชคไม่ดีโทรมาตอนนี้ พูดจบเขาต้องนั่งอัดลมหายใจเข้าปอดไปไวๆ
 พอโมโหแล้วพูดเร็วๆ หายใจไม่ทัน จะเป็นลม พี่ตั้งเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะมีเสียงตอบกลับมา

“เอ่อ...เหลิมว่าไงนะ พี่ฟังไม่ทัน เหลิมพูดเร็ว แล้วพอดีเมื่อกี้น้องตามสายซ้อนเข้ามาพี่เลยสลับสายโทรศัพท์ออก ไม่ได้ฟังเลย เหลิมพูดอีกทีสิ”
เอิกซ์ซซซ.....กูจะบ้า อยากเอามือตบหน้าผาก หมดปัญญาเหวี่ยงใส่อีกรอบ ไอ้แบบฉบับเต็มเขาพูดไปหมดแล้ว
จะมาให้ย่อความพูดใหม่อีกครั้งได้ยังไง กลายเป็นว่าพี่ตั้งไม่ได้รู้เรื่องเลย พี่คงทำบุญมาดีจริงๆ กลายเป็นว่าฉี่ที่พ่นใส่พี่ตั้งหลบทัน
 มันกลับมาเลอะเทอะมือคนที่ไม่ระวังเอง กรรมของเขาจริงๆ

“ไม่พูดแล้ว พูดไปหมดแล้ว...แล้วตกลงพี่มีอะไรอีก” ไม่ชอบพูดอะไรซ้ำๆ..เดี๋ยวไม่เหมือนเดิม
“พี่จะบอกว่า พี่อยู่แถวที่ทำงานเหลิมพอดี  ไปกินข้าวกันมั้ยครับ...พี่เลี้ยงเอง”
ราวกับเห็นสวรรค์ลอยมาอยู่ตรงหน้า  จากพี่ตั้งคนที่น่ารำคาญก็กลายเป็นคนที่น่าค้นหาขึ้นมาทันที
 แต่เมื่อกี้พึ่งด่าพี่เค้าไปชุดใหญ่  จะดีเหรอจะให้พี่เค้ามาเลี้ยง มันไม่ใช่นะ มันไม่ใช่ แต่เดี๋ยวก่อน....เหมือนพี่ตั้งจะรู้ความคิด

“เหลิมไม่ต้องเกรงใจนะ   พี่กำลังหาคนกินข้าวเป็นเพื่อน กว่าจะกลับถึงบ้านคงรอหิวไม่ไหว”
อืม....พี่เค้าพูดถูกนะ ไม่ต้องเกรงใจ พี่ตั้งต้องเป็นฝ่ายขอบคุณเขาสิที่ยอมสละเวลาไปนั่งกินเป็นเพื่อน ไม่เห็นต้องคิดมากเลย
 แล้วเสียงพี่เค้าก็ดูง้าวเหงา ช่างน่าสงสาร

“ก็ได้.ก็ได้...พี่มารับแล้วกัน อยู่ไกลรึเปล่ากว่าจะมาถึง ถ้าอีกนานผมจะทำงานรอ”
สร้างภาพกันเข้าไป กะว่าเดี๋ยวจะเข้าพันทิพย์แล้ว จะไปอ่านข่าวบันเทิงซะหน่อย เดี๋ยวจะเอาท์ฟังสาวๆคุยกันไม่รู้เรื่อง
งงงานไม่ทำแล้วเว้ย...จะไปกินฟรีมั่ง หึหึ...จุ๊กกรู อารมณ์เปลี่ยนขึ้นมาโดยพลัน

“อีกไม่เกินสิบห้านาที เหลิมลงมาเลยนะ พี่จะจอดรอหน้าตึก”
เอาอีกแล้ว...มาไวจริงๆ หรือคิดไว้แล้วว่ายังไงเขาก็ต้องรับคำเชิญไปกินฟรีทันที

 แต่เดี๋ยวก่อน.. “พี่รู้ได้ยังไงว่าผมทำงานที่ตึกไหน พี่ไปรู้มาจากไหน”
***********************************************
 :t3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 3/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 03-10-2010 13:52:56
ว่าจะสงสารน้องเหลิมที่คนที่ทำงานไม่มีใครให้ความสนใจหรือเห็นความสำคัญ แต่เอาเข้าจริงสงสารพี่ตั้งมากกว่า
กลายเป็นที่รองรับอารมณ์น้องเหลิมได้แบบฉับพลันทันเวลาจริง ๆ พี่ตั้งแสดงออกขนาดนี้น้องเหลิมยังไม่รู้สึกอะไร
เลยเหรอเนี่ย ความรู้สึกช้ามาก ๆ แต่พี่ตั้งนี่มาแบบพระเอกตัวจริงเสียงจริงเลย สนุกมากค่ะ รอลุ้นพี่ตั้ง+น้องเหลิม
ตอนต่อไป  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 3/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 03-10-2010 14:25:57
สนุกดีพี่ฟาง ตัวนายด่าแรงตลอด ชอบๆ ตัวพระก็เสือกได้ใจ 555+
+1 จัดไปเลย  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 3/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 03-10-2010 14:52:37
นี่ไงคะน้องเหลิม พี่ตั้งนี่ไงคำตอบของทุกอย่าง
คนที่สนใจ ใส่ใจ เป็นห่วงเป็นใย
และ.....พร้อมจะเลี้ยงข้าวฟรี แถมมารับถึงที่

เอร๊ยยยยยยยยยยยย กระโดดกอดพี่ตั้งใจดี๊ใจดีไว้โลดค่ะ :m1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 3/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 03-10-2010 16:56:25
ขำเฉลิมอ่ะ ออกแนวกวนๆป่วนๆ ว่าแต่พี่ตั้งนี่ยังไงแอบสืบมาจากไหนรึเปล่า  o18
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 3/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 03-10-2010 20:55:01
พี่ตั้งก็ช่างเอาใจซะจริ๊ง 555
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 3/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 03-10-2010 22:59:41
น้องเหลิมผู้น่าสงสาร ถูกนายเมิน
แต่เอาเหอะ ยังไงก้อมีพี่ตั้งคนนึงแหละที่ไม่เมิน แต่มึน ฮ่าๆๆ
พี่ตั้งไฟต์ติ้ง!!!

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 3/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 04-10-2010 01:55:17
เพื่อนที่ทำงานน้องเหลิมนี่ไม่ไหวจะทนจริงจริง
ส่วนพี่ตั้งนี่ก็.. .รุกหนักมากมายอ่ะค่ะพี่
แถมยังทนทาน ไม่หวั่นแม้โดนทำร้ายด้วยคำพูดอันรุนแรง
ฮี่ฮี่
 :man1:

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 3/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 05-10-2010 13:37:09
ตอนแรกนึกว่าพี่ไก่จะชอบเหลิมอีกคนซะอีก 55+
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 3/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 05-10-2010 13:47:18
พี่ตั้งนี่สุดยอด ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 6/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 06-10-2010 17:09:54
ว่าจะมาลงเมื่อวานก็มัววุ่นวาย...กับฟาร์ม :laugh: มาลงต่อแล้วค่ะ  :pig4:
*******************************

พี่ตั้งหัวเราะดังลั่น ท่าจะบ้าไปแล้ว “เหลิมพูดแปลกๆ ก็เหลิมเป็นคนบอกพี่เอง จำไม่ได้เหรอ”
 ไอ้เราก็งงไปบอกตอนไหนวะ ทำไมจำไม่ได้
“วันไหน บอกไปว่าไง ผมจำไม่ได้จริงๆ นะนี่”เริ่มเกาหัวหูอีกตามเคย
เผื่อเส้นสมองจะได้รับการนวดแล้วความจำจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้
“ก็วันที่สวนไง คุยเรื่องอะไรกันนะื อ๋อ เรื่องเค้กอร่อยๆ แล้วเหลิมเองเล่าว่าตึกที่ทำงานมีร้านเค้กอร่อย
  เหลิมอธิบายให้พี่ฟังละเอียดเลยนะว่าอยู่ที่ไหน จนพี่จำได้ดีเลย”

นั่นไง  ทุกครั้งก็เพราะปากตัวเองตลอด เค้าถึงบอกนักบอกหนาว่าจะพูดอะไรให้คิดก่อน พูดไปแล้วคำพูดก็เป็นนายตัวเอง
“อือ..เหลิมพี่คิดว่าอีกห้านาทีพี่คงถึงแล้วล่ะ รถไม่ติดเลย เหลิมลงมาเลยนะ”
เอาแล้วไง มาไวเคลมไว ยังไม่ได้ปิดคอม ยังไม่ได้เซฟงาน ยังไม่ได้เข้าไปฉี่เลย ยังไม่ได้โบ๊ะแป้งด้วย
 เอ๊ย....ไม่ใช่

“งั้นแค่นี้นะพี่ เดี๋ยวเจอกัน ถ้าช้าพี่ก็รอนะ”ตาเหลือกรีบวางสายแล้วทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ว่ามาให้ไวในเวลาห้านาที
 จะบ้าตาย นี่เขาต้องรีบทุกครั้งเลยใช่มั้ยที่พี่ตั้งนัดว่าจะมาหา
วิ่งหน้าเริ่ดลงมาข้างล่างเหงื่อแตกพลั่ก อย่างกับเพิ่งออกมาจากฟิตเนส พระเจ้าทำไมชีวิตมันต้องรีบเร่งขนาดน้าน
พอก้าวเท้าหยุดที่ฟุตบาทหน้าตึกปั๊ปพี่ตั้งก็เลื่อนรถเข้ามาจอดปุ๊ปตรงหน้า ส่งหน้าหล่อๆ พร้อมรอยยิ้มกว้างมาให้
 รถคันหลังบีบแตรปรี๊นๆ  ทำให้ต้องรีบวิ่งขึ้นรถทันที ไม่ต้องใช้สมองตรึกตรองกันเลย

“แฮ่กๆๆ เหนื่อยจังเลยพี่ แอร์เสียเหรอไม่เย็นเลย”ก่อนถือวิสาสะยื่นมือไปเร่งแอร์ในรถพี่ตั้งหน้าตาเฉย เสมือนหนึ่งเป็นรถของตัวเอง
 พี่ตั้งเอามือไปอังที่ช่องแอร์ “ไม่เสียนะ เย็นจนหนาวไปด้วยซ้ำ เหลิมออกมาจากฟิตเนสเหรอ หน้ามีแต่เหงื่อ
ดูสิเหนื่อยมากเหรอ หอบไม่หยุดยังกับหมา..แหะๆ หมาหอบแดก”
พี่ตั้งมองหน้าเราแล้วยิ้มมุมปาก

มัน-ช่าง-กล้า...มาแซวแรงส์สสสสสส อย่างหน้าตาเฉย นี่คนเพิ่งรู้จักเค้าแซวกันแรงอย่างนี้เลยเหรอ
 หันขวับไปมองหน้าก็โกรธไม่ลง อุตส่าห์มารับไปกินข้าวฟรี
 หมามันยังกตัญญูรู้คุณคนให้ข้าวมันเลย แล้วสัตว์ประเสริฐอย่างเขา ถึงแม้จะยังไม่ได้กินข้าวที่พี่เค้าเลี้ยงซักกะติ๊ด
ก็ควรรู้จักถึงบุญคุณพี่เค้า

“แรว๊งงงนะพี่ ว่าผมเป็นหมา แล้วพี่จะให้อาหารอะไรผมล่ะ วันนี้” เขาแกล้งทำลิ้นห้อยแบบหมา
 อยากให้เป็นหมานักก็เลี้ยงไปให้ตลอดนะพี่ตั้ง...
พี่ตั้งหันมามองแล้วอมยิ้ม กลั้นหัวเราะ “แล้วมะ..เหลิม..อยากกินอะไร”
รับมุกทันกันได้อีก ไม่เลวๆ ยังดีที่ยังพอเกรงใจไม่เรียกเราว่าหมา

“อยากกินซีฟู้ดส์...ที่เยาวราช”ที่จริงเขาเป็นคนขี้เกรงใจ นิสัยตรงไปตรงมา  คิดอะไรก็พูดแบบนั้น ซื่อสัตย์มั่นคงแบบหมาๆเลย
  เหลือบไปเห็นพี่ตั้งกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่รึเปล่า? เห็นไม่ชัด พอพูดถึงของกิน พี่ตั้งก็แสดงปฏิกิริยาตอบกลับทางร่างกายเลยนะ หึหึ

“รู้แล้ว...พี่ก็อยากกินเหมือนกันสิ  กลืนน้ำลายเลยนะ ฮ่าๆ”พี่ตั้งสะดุ้งทำหน้าอย่างกับมดกัดฝ่าเท้าแล้วหันหน้ามายิ้มแหยๆ
“ไม่ใช่หรอกเหลิม ที่พี่กลืนน้ำลาย เพราะพี่เอาเงินมานิดเดียวมีแต่บัตรเครดิต สงสัยซีฟู้ดส์คงต้องขอเป็นวันหลัง
 วันนี้เอาแค่ยำทะเล หรือราดหน้าทะเล พี่พอไหวนะ”

ฟังพี่ตั้งพูดแล้วก็เหลียวหน้าเหลียวหลัง รถกำลังแล่นไปเรื่อยๆไม่ติดไฟแดงสักที
ไอ้รึจะกระโดดลงตอนนี้ก็ยังไม่อยากตายอย่างหมาข้างถนน แล้วจะก่อให้เกิดการจราจรติดขัดอีก ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน
 เลยตัดสินใจหันไปบอกพี่ตั้งด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว กึ่งประชดประชัน
 “จะยำทะเล ราดหน้าทะเลอะไรก็พาไปเถอะ หิวจะตายอยู่แล้ว”
 ทำไมมันต้องผิดแผนไปหมดทุกเรื่องวะ วันนี้มันเป็นวันอะไร หรือว่าเมื่อเช้าเขาก้าวเท้าผิดตอนออกจากบ้าน

แต่พี่ตั้งคงเป็นคนจิตใจดี ไม่รู้อีกว่าเราประชด(เอาหัวโขกคอนโซลรถซะดีมั้ย)
 ทำสีหน้า น้ำเสียงดีใจอยากกับถูกหวยรัฐบาลเลขท้ายสองตัว
“ดีๆ พี่มีราดหน้าเจ้าอร่อยอยู่แถวเยาวราชไปกินกันนะ แถวนั้นของกินเพียบเลย มีโจ๊กหมูเจ้าอร่อยด้วย
กระเพาะปลาน้ำแดงเจ้าข้างหน้าก็สุดยอด.....”
เมนูพี่ตั้งช่างมากมายฟังไปนานๆเริ่มเคลิ้ม ฟังยังไม่ทันหมดก็หลับสนิทไปในเวลาไม่กี่นาที

“เหลิมๆ..ถึงแล้ว ลงมากินกันเร็ว” ใครมาเขย่าตัววะ ไม่รู้จักเวล่ำเวลาเลย เสียงดังน่ารำคาญ คนจะนอน...กำลังสบายเลย
“มาถึงแล้ว ลงมาหาอะไรกินกันเถอะ พี่หิวจะแย่แล้ว”
พี่ตั้งเรียกเท่าไหร่เขาก็ยังนั่งมึนๆงงๆ ไม่ยอมลุกง่ายๆ จนพี่ตั้งต้องลากตัวลงจากรถ
 แล้วกึ่งจูงกึ่งลากให้เราเดินตาม อารมณ์เดียวกับหมาง่วง มันไม่อยากไปเดินเล่นก็ลากมันไปอยู่ได้
แต่พอเริ่มเดินไปสักพักกลิ่นอาหารเริ่มหอมยวนใจ ทำเอาหูตาสว่าง ต้องสะบัดมือพี่ตั้งออก
 อยากจะแวะชิมตามรายทางไปซะทุกร้านเลยทีเดียว แต่พี่ตั้งก็ไม่ยอมจะชักชวนพาไปกินราดหน้าทะเลให้ได้

“น่าเหลิม...ไปกินอาหารหลักก่อน ของกินเล่นเดี๋ยวค่อยมาเดินไปชิมไปทีหลัง”
“ก็ถ้าอาหารหลักกินซะอิ่ม พอจะมากินของเล่นก็กินไม่ลงแล้วสิ”เริ่มกระเง้ากระงอดกับพี่ตั้ง (me/มันเป็นอะไรกับเค้าถึงไปงอแงใส่)
พี่ตั้งพยายามหว่านล้อม ชักจูง หลอกลวง ล่อหลอก เขาทุกวิถีทาง แล้วก็สรุปว่า
“เอาอย่างนี้ได้ไหม ถ้าอย่างไหนที่อยากกินมากแต่อิ่มเกินไปยังกินไม่ไหว พี่ซื้อให้เราเอากลับไปกินที่บ้าน
ดีรึเปล่าเหลิม พอดึกๆ หิวค่อยเอามาทาน”

อืม..เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ มากินฟรีแล้วยังคาบกลับบ้านด้วย เอ๊ย...มีของฝากกลับบ้านด้วย
ไม่เลวนะ ไม่รับก็โง่แล้ว พยายามทำหน้ารับข้อเสนอแบบไม่เต็มใจเ่ท่าไหร่ สีหน้าเหยียดๆ
“ก็ได้ๆ เห็นว่าพี่หิวมากนะเลยยอม สัญญานะว่าถ้าผมอยากกินอะไรจะซื้อให้ผมกลับไปกินที่บ้าน”
กลัวพี่ตั้งเบี้ยวน่ะสิ เดี๋ยวไม่ใช่พออิ่มๆ แล้วลืม

พี่ตั้งยิ้มจนปากจะฉีกคงดีใจที่จะได้กินสักที แต่ลึกๆในใจเค้าอาจจะเสียใจอยู่ก็ได้ที่ไปชวนคนเรื่องมากมากินด้วย
 “โอเค  ไปกินกัน”
ยิ่งดึกคนชักเริ่มเยอะ ไอ้ร้านที่จะไปก็ต้องเดินไกลเสียจริง พี่ตั้งเดินนำลิ่วไปข้างหน้า
 เขาก็มัวแต่มองดูของกินข้างทาง กว่าจะรู้ตัว “พี่ตั้งหายไปไหนแล้ววะ”
หันซ้ายหันขวา มองหน้ามองหลัง “หายหัวไปเลย ทำไมต้องเดินไวขนาดนั้น กูละไม่เข้าใจ”

“เหลิมๆ...เหลิมอยู่ไหน”ได้ยินเสียงใครเรียกแว่วๆ
 เรียกดังไปหน่อยนะ บอกแล้วว่าไม่ปลื้มชื่อนี้ สอดสายตามองหา ไหนล่ะเสียงมาจากไหน

“เหลิมๆ..พี่อยู่นี่” พี่ตั้งเดินเข้ามาตบไหล่ เขาเผลอสะดุ้ง พี่โผล่มาแบบไร้ทิศทางจริงๆ
“พี่เดินเร็วมาก....พี่เป็นนักกีฬาเดินไวเหรอ”เริ่มหงุดหงิด หิวไปด้วยอีกคน ร้านก็ไปไม่ถึงสักที
หรือว่าต้องเดินจากเยาวราชไปถึงภูเขาทองเลยวะ

พี่ตั้งหัวเราะ รีบปฏิเสธ “ไม่ใช่...เพียงแต่พี่ชอบเดินเร็วๆ มันให้ความรู้สึกดี”
 มันดียังไง? อยากรู้แต่ไม่อยากถาม กลัวพี่ตอบมายาว เริ่มโมโหหิว
“ถึงร้านแล้วรึยังพี่  เริ่มหิวแล้วนะ”
 พี่ตั้งส่ายหน้า ทำหน้าเศร้า “ยังเลย...พี่ขอโทษนะ หาไม่เจอ ก็เคยมากินนานแล้ว เลยหลงทางเลย จำที่ตั้งร้านไม่ได้”
 เสียงท้องร้องประสานเสียงกันขึ้นมาทันที เหมือนเสียงด่าไอ้คนพาหลงทาง

“กรรมเวร งั้นเจออะไรก็กินแล้วกัน ผ่านมาเป็นร้อยร้านแล้ว หิวนะหิวรู้ไหม” แรงโมโหทำให้เขาดุพี่ตั้งไป
พี่ตั้งพยักหน้าแล้วคว้ามือเขาไปจับไว้  ทำท่าจะลากไปไหนต่ออีกโดยไม่บอกอะไรเลย จนเขาต้องประท้วงดึงมือเอาไว้

“พี่ตั้งไม่ต้องดึงไปก็ได้...เดินตามอยู่”
 พี่ตั้งไม่หันหน้ามายังเดินต่อไป แต่ได้ยินเสียงตอบแค่ว่า  “เดี๋ยวเหลิมหายไปอีก”
ได้แต่อ่อนใจ แล้วก็ใจอ่อน ดึงก็ดึง นึกว่าเขาจะเป็นหมาหลงรึไง

 “ตามใจ...ไปก็ไป”
*************************
ว่าแล้วก็หิวขึ้นมาบ้าง ใครกินเจยกมือขึ้น  :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 6/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 06-10-2010 17:28:44
 :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 6/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 06-10-2010 17:40:12
ชอบทานอาหารเจ แต่ไม่ได้กินเจค่ะ
แบบ กินเป็นมื้อๆ ตามอารมณ์ 555
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 6/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 06-10-2010 17:42:58
ปีนี้กะกินเจเป็นเพื่อนแม่
แต่ไม่รุ้จะได้สักกี่วัน
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 6/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 06-10-2010 17:54:14
แผนพี่ตั้งไม่เนียนเลย หาเรื่องจับมือข้อหาเนี้ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 6/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jannie ที่ 06-10-2010 19:57:18
เหลิมขี้บ่นมากๆ เอาแต่ใจอีก ไม่ชอบไม่มียอมขนาดนี้หรอกนะเหลิมนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 6/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 06-10-2010 23:40:00
น้องเหลิมโมโหหิว ตลกดี
พี่ตั้งก้อนะ มีแผนไรป่ะเนี่ย ไม่ค่อยน่าไว้ใจเลย หุหุ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 6/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 07-10-2010 03:14:51
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 6/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 07-10-2010 12:57:59
คุงพี่ตั้ง น่ารักจังเลย พาข้าพเจ้าไปเลี้ยงข้าวมั้งดิ ไม่เรื่องมาก ไม่วีน ไม่เหวี่ยง เหมือนอิคุงน้องเหลิมหรอกนะ ตัวเอง  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 6/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 07-10-2010 18:53:41
พี่ตั้งนี่เนียนดีจริง จูงมือน้องเหลิมไปหาข้าวกิน จะเนียนแบบนี้อีกนานรึเปล่านะ
มาแบบแปลก ๆ แบบนี้แต่น้องเหลิมยังไม่รู้ตัวอีก ความรู้สึกจะช้าไปไหน....
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 6/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 08-10-2010 08:12:02
พี่ตั้ง น่ารักขึ้นอีกแล้ว มีมาเนียน โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

น้องเฉลิมฉลองจะเผลอตัวเผลอใจติดกับซะในไม่ช้าก็ไม่รู้ :m1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 8/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 08-10-2010 19:31:35
ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร ลืมไปหมด ลืมจ่ายภาษี ลืมจ่ายบัตรเครดิต  :z3: ตรูจะบร้า
 เป็นเพราะงกจัดไม่ถึงดิวไม่ไปจัดการ พอถึงดิวดันลืมไปเลย มานึกได้หนึ่งวันหลังจากนั้น
(เริ่มบ่นเหมือนน้องเหลิม  :laugh: ไม่มีอะไรค่ะแค่รำพันเล็กน้อย ไม่มีอะไรแค่จ่ายค่าปรับไป  :o12: โกรธตัวเองจริงๆ)
********************************************************

*วันอังคาร*

แย่แล้ว...วันนี้เขาตื่นสาย เมื่อคืนกว่าจะกลับถึงบ้านเที่ยงคืน นอนหลับสนิทเพราะมันอิ่มมาก
 อิ่มจนวันนี้กะว่าข้าวเช้า กลางวันไม่ต้อง กินมื้อเดียวแต่อิ่มไปสามมื้อ
 เช้าตื่นแทบไม่ไหว มาสายจนได้กู เก้าโมงครึ่ง  ไอ้พี่ไก่จะเล่นหรือเปล่าวะ

ค่อยเดินย่องเข้าไปที่โต๊ะ ทำไมวันนี้ห้องมันเงียบผิดปกติ  ไม่กล้ามองสบตาใคร ก้มหน้าก้มตาทำงานไปก่อนดีกว่าจะได้เนียนๆ
 แต่นั่งไปตั้งนาน...บรรยากาศมันแปลก เงียบผิดปกติ เงียบอย่างกับไม่มีใครมาทำงานเลย 
พอลุกยืนขึ้นมองไปรอบๆ...เออ..
“ไปไหนกันหมด...แผนกเราไม่มีใครมาเลยจริงๆ”

 ตัดสินใจโทรหาพี่ม้าที่อยู่อีกแผนก “พี่ม้า...ทำไมแผนกผมไม่มีคนมาเลย พี่รู้รึเปล่า”
 คิดเล่นๆว่าโดนหวัด 2009เล่นไปทั้งแผนกแล้วล่ะมั้ง
“อ้าว...ทำไมเหลิมไม่รู้...อ๋อ..เหลิมไม่ได้ไปเมื่อคืน เสียดายมากนะเหลิม สนุกม้ากมาก
ทั้งร้อง ทั้งเต้น ทั้งกิน ทั้งดื่ม จนนายบอกว่าอนุญาตให้มาสายได้วันนี้”

เจ๊แกยังมีหน้ามาพูดทำให้เขาอยากไปได้อีก
 พี่ม้าชวนคุยต่อ “แล้วทำไมเราไม่ไปล่ะ เมื่อคืน พี่ก็ร้อรอนะ เห็นพี่ไก่บอกจะตามไปไม่ใช่เหรอ”
ไม่อยากจะด่าหัวหน้าตัวเองให้คนอื่นฟัง  กลัวน้อตหลุด ระเบิดอารมณ์ขึ้นมา เลยข่มใจตอบพี่ม้ากลับไป

“ผมก็กำลังจะไป... พอดีเพื่อนมันโทรมาขอร้องให้ไปกินอาหารทะเลที่เยาวราชเป็นเพื่อนมันน่ะ   
บอกว่าไม่ว่าง มันก็อ้อนวอน ขอร้องหลายครั้งหลายหน ก็เลยต้องไป”
 แน่ล่ะพี่ตั้งมันเลี้ยงปลาหมึกปิ้ง ยำกุ้งแห้ง แล้วก็ปูอัดไง กินซะอิ่มอ้วกเลย เหอๆ

“มิน่าล่ะ น้องเหลิมไปกินอาหารทะเลเลยทิ้งพวกพี่ไปเลย”พวกพี่ต่างหากที่ทิ้งเขาไปก่อน ไม่อยากจะพูด เชอะ
“นี่ถ้าพี่ม้ามาพาผมไปด้วยตั้งแต่แรก ผมก็ไปแล้วนะ พี่นั่นแหละทิ้งผมก่อน”

“อูย....แหมๆๆ พี่ไม่อยากจะเถียงกับเธอ เป็นอันว่าวันนี้เหลิมก็นั่งทำงานคนเดียวไปแล้วกันนะ คราวนี้ก็โดนทิ้งซะบ้าง เชอะ”
 แล้วพี่ม้าก็วางสายไปอย่างรุนแรง  ก็ยังงงๆว่าเขาทำผิดอะไรกัน“แล้วทำไมต้องมา ‘เชอะ’ใส่ด้วยวะ”
 ราวกับว่าเขาไปจีบเจ๊แล้วทิ้งแกไป

 “นี่กูทำอะไรผิดไปอีกว่ะเนี่ย” แต่เขาบอกกับตัวเองว่าทองดีไม่ต้องกลัวไฟ ในเมื่อเขาไม่ได้ทำอะไรผิด
 แค่ไม่ได้ไปเมาหัวราน้ำ ไม่ได้ไปร้องเพลงยันเช้ากับเพื่อนที่ทำงานแค่ครั้งเดียว ถ้ามันจะผิดมากมายก็ให้มันรู้ไป

แต่ไหนๆก็ไม่มีใครมาทำงานแล้ว งั้นเขาเข้าพันทิพย์ไปลั้ลลาดีกว่าวันนี้จะเข้าเวบอะไรดีนะ
 เข้าไปเฉลิมไทยติดตามข่าวบันเทิงผัวเมียเตียงหัก ตรวจไม่ตรวจDNA 
หรือเข้าเฉลิมกรุงตามข่าวนักร้องAFดี
หรือจะเข้าสยามสแควร์ไปจ๊ะจ๋ากับเด็กๆสักหน่อย

อืม...ไปเช็กเมลล์ก่อนดีกว่า ไปลบเมลล์ที่พี่ตั้งส่งมา เออ...แต่ทำไมวันนี้เงียบๆไปไม่มีเสียงโทรมากวนแฮะ  สงสัยยังไม่ตื่น
เข้าไปเช็กเมลล์ก็แล้ว อ่านเมลล์ก็แล้ว เล่นเกมก็แล้ว ก็ยังไม่มีใครมาทำงาน
 ทำไมเอาเปรียบกันขนาดนี้นะ มันเงียบเกินไป วังเวงเหมือนผีจะหลอก
 หรือว่าเขาควรจะทำงานได้แล้ว ทำก็ได้.....เล่นมานานแล้วนี่ หยิบงานขึ้นมาอย่างไว ตั้งใจ ตั้งสติ ทำใจก่อนทำงาน

ทำงานไปได้ครึ่งชั่วโมง  เริ่มเข้าใจความจริงที่ว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม แล้วเขาก็เป็นมนุษย์
แต่วันนี้ทำไมสังคมของเขากลับหายไปหมด หรือว่าเขาเริ่มไม่เป็นมนุษย์คนอื่นเลยเลิกคบ :laugh:

พยายามเพ่งสมาธิมาที่งานรวบรวมสติทำงานต่อ กำลังทำงานเพลินๆเสียงโทรศัพท์ดังอีกแล้ว  ใครอีกล่ะ
“โหล....” เสียงทุ้มคุ้นเคยตอบกลับมา “ขอสายคุณเฉลิมฉลองครับ”
ตอนแรกยังจำไม่ได้ว่าใครโทรมาได้แต่นึกว่าใครหว่ารู้ชื่อเต็มๆของกู  แต่พอได้ยินเสียงหัวเราะที่ตามมาก็จำได้แล้ว

“เฮ้ย...พี่ตั้งรู้เบอร์ที่ทำงานได้ยังไง  จำได้ว่าไม่ได้บอกนี่”
“ยากอะไร..รู้ชื่อบริษัท...ไปเสิร์ชหาในกูเกิ้ล..หาอะไรก็เจอ” พี่ตั้งทำเสียงฉลาดมาก...โธ่..กะอีเรื่องแค่นี้
 “ก็รู้ว่าลุงเกิ้ลแกเก่ง...แล้วโทรมาไม..มีไร...ยุ่งนะ..ทำงานอยู่”
 ที่จริงคือเพึ่งจะทำ  เพึ่งจะเป็นคนดี เพึ่งจะเป็นพนักงานที่ดี...พี่โทรมาให้ใจแตกอีกละ (โทษพี่ไปเลย)

พี่ตั้งเสียงร่าเริงมาเชียว“ยุ่งแล้วคุยโทรศัพท์ได้ไง...”
นั่นแน่มีย้อน..ก็ “ก็ผมไม่ได้เป็นใบ้นี่...ทำไมจะพูดไม่ได้”
“เหลิม...เหลิม...”เรียกชื่ออีกแล้ว เรียกอยู่ได้ มีอะไรทำไมไม่พูด
“เรียกทำไม...มีอะไร..ก็พูดมาสิ” เริ่มรำคาญแล้วนะ

“มาเยี่ยมพี่หน่อย...นะ” เยี่ยมทำไม
อ๋อนึกแล้ว... “พี่อยู่โรงพักไหน...ไปทำไรมาล่ะ  เมื่อวานเรากินแต่น้ำเก็กฮวยนี่...ฮั่นแน่พี่แอบไปดื่มต่อแหงเลย”
“เมาแล้วไปขับทำไมล่ะพี่” แล้วยังกล้าโทรมาให้ไปเยี่ยมอีก ไม่อายบ้างรึไง

“เหลิมฟังก่อน...พี่ไม่ได้เมาแล้วขับ...แต่พี่ไปเจอคนเมาแล้วขับ...แล้ว...” พูดไม่ชัดเจนแล้วก็ช้าไม่ทันใจ....
“แล้วพี่รู้จักเค้าเหรอ  แล้วเค้าไปโดนจับ พี่เลยโดนติดร่างแหงั้นเหรอ..หรือว่ายังไง..”
“ไม่ใช่...พี่ไม่รู้จัก อย่าเพิ่งพูดสวนมาสิฟังพี่พูดก่อน..”น่านโดนด่าเลย เงียบก็ได้วะอยากพูดช้าทำไมล่ะ

“เค้าขับรถมาชนพี่”อ้าว...ซวยสิ
 “เฮ้ย....แล้วพี่เป็นไรมากรึเปล่า”
“เป็น..พี่ถึงอยากให้เหลิมมาเยี่ยม...นี่พี่อยู่โรงพยาบาล” อ้าว....งานเข้ากูแล้ว

“ฉิ..หาย...แล้วเป็นไร..ขาหัก แขนหัก หัวแตก สมองเสื่อม...หรือไตวาย”
ก็เสียงแกฟังดูก็ปกติธรรมดาไม่เหมือนคนเจ็บป่วยตรงไหน กวนยังไงก็กวนเหมือนเดิม แถมยังหัวเราะได้สบายใจ

“หัวโนนิดหน่อย หน้าอกกระแทกด้วย แต่ตรวจเช็กร่างกายก่อน เหลิมมาหน่อย กำลังเบื่อๆ” บ้าตาย...
“นี่พี่ตั้งผมทำงานอยู่นะ...จะให้โดดงานไปได้ไง  ทำไมพูดง่ายจัง”
พี่ตั้งบ่นเสียงอุบอิบอยู่ในลำคอ “แล้วเหลิมไม่ห่วงพี่บ้างเหรอ..คนอะไรใจดำ”
 ทำเสียงตัดพ้อต่อว่า ทำมาน้อยใจแต่เหมือนๆคำสุดท้ายจะด่าตรูนี่หว่า

“พี่อย่ามาพูดแบบนี้นะ  ดูถูกน้ำใจกันอย่างแรง  ไอ้ห่วงก็ห่วงอยู่”นี่พูดไปก็สงสัยตัวเองทำไมเขาต้องมานั่งอธิบายเหตุผลด้วยหว่า
 “แต่งานผมก็ต้องรับผิดชอบ..เอางี้แล้วกันเลิกงานผมไปหาพี่ พี่อยู่โรงบาลไหน”
 คราวนี้ได้ยินเสียงพี่ตั้งตอบมาอย่างร่าเริงจนเริ่มสงสัยว่าเจ็บจริง ป่วยจริง หรือว่าสะตอกันแน่...
“พี่อยู่โรงพยาบาลพญาทวาย  เหลิมมาไม่ยาก ใกล้บ้านเหลิม มาไวๆนะ”

 น่าน...มาตัดสินความยากง่ายในชีวิตเขาอีกคนแล้ว ตามมาด้วยคำสั่งให้ไปเร็วๆอีก น่าเบื่อจริงๆ
 ตกลงนี่เขาไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตกันและกันของพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ
 เลยรับปากไปส่งๆ “เออๆๆ..เดี๋ยวเลิกงานแล้วไป แค่นี้นะงานเยอะ”

วางสายแล้วก็รีบทำงานต่อ อย่างน้อยตอนเย็นจะได้ออกตามเวลาได้ เริ่มไม่สนใจใครจะมาทำงานไม่มาทำงาน
 เขาทำคนเดียวก็ได้ ไม่ต้องแคร์  แต่จะทำงานสบายๆก็ไม่ได้ ต้องทำตัวเป็นเลขาทั้งวัน
 คอยรับโทรศัพท์เรื่องของทั้งแผนกเดี๋ยวคนนู้นโทรหาคนนี้ คนนั้นโทรหาคนนี้  อูย...ปวดหัว ไม่รู้จะมีธุระอะไรกันนักหนา

จนเย็นก็ไม่มีใครมาทำงาน ให้มันได้อย่างนี้สิฉลองกันคืนเดียว หยุดกันทั้งแผนกองค์กรคงจะเจริญรุ่งเรือง
 แต่พอจะออกจากที่ทำงานตามเวลาเป๊ะ เสียงโทรศัพท์ก็กรีดดังขึ้นเหมือนจะแกล้ง รับสายก็จำเสียงได้ทันที
 “โหล..ใครรับสายน่ะ” มาแล้ว...หัวหน้าไก่ที่เคารพ...โทรมาทำไมตอนนี้..ตอนที่เขาจะกลับ...
“ผมเองพี่”

“ผมน่ะใคร...”เง้อ จะกวนกันใช่ไหม อยากได้ก็จะจัดไปไม่ให้เสีย“กระผม..นายเฉลิมฉลองขอรับ”
พี่ไก่หัวเราะร่วนเชียว สบายจริงนะหยุดงานไปทั้งวันแล้ว...แต่เขาไม่สบายไปด้วย  ทำงานคนเดียงเหงาจะตาย
  “โทรมามีไรพี่ ผมกำลังจะกลับ”
“วันนี้มีใครมาทำงานบ้าง....” แน้..มีหน้ามาถาม เป็นหัวหน้าประเภทไหนทิ้งงานไปทั้งวันแต่โทรมาถามตอนเย็นเพื่อ.......

“มีผมมาคนเดียว...คนอื่นไม่มีใครมาเลย”
 ไอ้พี่ไก่เงียบไปสนิทคงนึกไม่ถึงว่าจะพร้อมใจกันโดดงานกันหมดทุกผู้ทุกคนขนาดนี้ เลยครางเสียงอ่อยๆ
 “อะเหรอ....ตายห่า...นึกว่าจะมากันบ้าง  แล้ว...แล้ว...มีใครโทรมาหาพี่ไหม”
ผมต้องใช้เวลาไปรื้อโน้ตที่จดวันนี้ทั้งวันมาดู “เดี๋ยวนะพี่...มากมาย” ของพี่ไก่เยอะจริงๆครับ ทั้งเรื่องงานเรื่องส่วนตัว

“ที่โทรหาพี่ไก่นะ...น้องจิ๊บ..” พี่ไก่ขานรับ “อืม..”แต่ผมไม่รู้ว่าจดหรือเปล่า “เดี๋ยวพี่ไก่ยังไม่หมด"
“น้องต้อย  พี่แมน พี่ฟอง....เอาอีกป่าวเยอะนะแต่ผมจดๆโน้ตแปะไว้ที่โต๊ะพี่หมดแล้ว พรุ่งนี้มาดูแล้วกัน”
เลิกงานแล้วเขาอยากกลับ ไม่อยากยุ่งเรื่องธุระใครอีก

“เดี๋ยวก่อน..พี่แมนโทรมาด้วยเหรอ พี่แมนบอกว่าไงอ่านให้พี่ฟังหน่อย”เสียงพี่ไก่ตื่นเต้นมาก
หรือว่าพี่แมน...พี่แมนที่...พี่แมนเป็นใครวะ...ไม่รู้จัก   ไหนดูโน้ตก่อนว่าสั่งว่าไง

“แป๊ปนะพี่...พี่แมนบอกว่า...ให้พี่ไก่ไปหา...ที่...ไหนหว่า..ร้าน...คร่อกคร่อก...ร้านอะไรน่ะพี่ชื่อทุเรศมากเลย”
คนดีหรือคนบ้าวะตั้งชื่อร้านคร่อกๆ เสียงพี่ไก่หัวเราะก้าก อารมณ์ดีจริงๆ สงสัยมีคนชวนกินเหล้า
“ร้านเหล้าของเพื่อนพี่เองแนวดีนะ แนวประสาท ฮ่าๆเดี๋ยว....แล้วไอ้แมน เค้านัดวันไหนเหลิม กี่โมง”

“พี่แมนนัด...วัน...นี้...เวลา....เวลานี้ล่ะพี่ แหะๆ..พี่ไปเลยนะ หกโมง ที่พี่แมนนัด”
เสียงพี่ไก่สบถ....ดังลั่น “แล้วทำไมไม่บอกไวๆ..ไอ้เหลิมนี่...พี่ต้องรีบไปแล้ว”
พี่ไก่วางหูไปอย่าง...ไร้ซึ่ง...คำขอบคุณให้ผมสักคำ 
คนเรา มาดึงเค้าไว้ให้พูดเรื่องตัวเองตั้งนาน คำขอบใจสักคำไม่มี ไอ้พี่แล้งน้ำใจ 
แต่ว่า....จะบ่นไปทำไมตัวเขาเองก็มีนัดนี่หว่า  รีบไปดีกว่า

กว่าเขาจะไปถึงโรงพยาบาลก็ทุ่มกว่า หิวข้าวเป็นบ้า....ไม่ใช่เรื่องของเขาเลย ทำไมต้องมาเยี่ยมพี่ตั้งด้วยก็ไม่รู้
  แต่เขายังไม่ลืมซื้อของไปเยี่ยม..ก็กะว่ากินด้วยได้นี่ล่ะ
ครั้นพอไปเห็นหน้าคนป่วยที่แสดงสีหน้าเมื่อเห็นเขา แล้วมีความสุขก็แอบปลื้มใจ  ทักพี่ตั้งไปคำ
“พี่กระดิกหางทำไม...เอ้ย...ยิ้มทำไม?” บ้ารึเปล่าวะยิ้มซะปากฉีก

“ดีใจที่เหลิมมาเยี่ยม...เหนื่อยมั้ย?”พี่ตั้งถามแปลก ทำงานมาทั้งวัน นั่งรถมานี่ก็โคตรติด  บอกไม่เหนื่อยก็โกหกแล้ว
“เหนื่อยสิ...หิวด้วย...พี่กินข้าวยัง?”
พี่ตั้งไม่ตอบมองหน้าเขาแล้วก็ยิ้ม เอ...หัวโขกกระจกจนสติแตก หรือคิดอีกทีอาจเป็นไปได้ที่วันนี้เขาน่ารัก
 ปกตินี่เขาน่ารักมาตลอด วันนี้ก็ไม่แตกต่าง ไม่แปลกตรงไหน

“เอ้า...ยิ้มเข้าไป..ถามก็ไม่ตอบ สมองกระทบกระเทือนเหรอพี่?” กวนตีนคนป่วยนี่จะบาปมั้ย ก็นะ หน้าพี่ตั้ง...เอ๋อน่ากวนจริงๆ
“หิวข้าว..กินข้าวก่อนนะพี่” เดินไปรื้อหาจานช้อนที่โต๊ะ
เสียงพี่ตั้งพูดไปหัวเราะไป เออสติคงเสียจริงๆ “พี่ก็นึกว่าเหลิมซื้อมาเยี่ยมพี่  ตกลงซื้อมากินเองเหรอ”

ชักอายว่ะ...นึกว่าพี่ตั้งไม่ได้สนใจว่าเขาถืออะไรมาด้วย  เลยต้องพูดแก้ตัวอุบอิบ
“ซื้อมาเยี่ยม  แต่เห็นพี่ไม่ตอบว่ากินข้าวรึยัง  ไม่ตอบถือว่ากินแล้ว  ก็กลัวของเสีย นี่ช่วยกินกันเสีย  ผมช่วยพี่แท้ๆเลย”
พี่ตั้งหัวเราะ “โอเคๆ...งั้นช่วยพี่ พี่หิว แต่พี่กินแล้วจริงๆ ถึงแม้จะกินไปนิดเดียวเพราะรอเหลิมอยู่”
*********************
 :-[ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 8/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 08-10-2010 19:38:31
เหลิม กร้ากกกกกกกกกกกกกกกส์
กล้าพูดดดดดด ช่วยกินกันเสียนะเนี่ย คริคริ

งั้นก็แบ่งๆกันกินสิ ช่วยกันกินสลับกันป้อนไรงิ ยังไงซะพี่ตั้งก็กินไปแค่นิดเดียวเพราะรอน้องอยู่แล้วนี่นะ
จะได้หมดเร็วๆ น้องเหลิมจะได้เอนนอนพุงอืดสบายใจไงคะ :m1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 8/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 08-10-2010 20:18:53
เหลิมความรู้สึกช้าขั้นเทพอ่ะ ทำขนาดนี้ ถ้าพี่ตั้งไม่รักไม่ทนนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 8/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 09-10-2010 01:50:56
แหมต้องมีโทรไปบอกให้มาเยี่ยมด้วยนะ 555+
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 8/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-10-2010 13:18:57
 :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 8/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 09-10-2010 18:48:36
เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ

พี่ตั้งแกเนียนมากกกก + ตื้อได้โล่

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 8/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 09-10-2010 19:26:23
พี่ตั้งโคตรน่ารักเลย  น้องเหลิม  วีน  เหวี่ยงก็ไม่แคร์
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 8/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 09-10-2010 22:25:57
พี่ตั้งนี่รุกไวจริงจริงเลย
คิคิ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 11/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 11-10-2010 18:37:47
เมื่อวานเลขสวยลืมมาลง แต่สต็อกเหลือน้อยเต็มที ไม่ได้เขียนเพิ่มอีกต่างหาก :z3:
****************************

ไอ้พี่ตั้งนี่พูดอะไรแปลกๆหิวก็กินไป ทำไมต้องมารอ กระเพาะไม่ได้ผูกกันไว้สักหน่อย
“งั้นพี่ทำอะไรไปก่อนนะ ผมกินก่อน หิ๊วหิว รถก็ติด เฮ้อ เหนื่อยม้าก”
 พี่ตั้งไม่พูดอะไร เขาเลยกินแหลก พอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งพี่ตั้งมันนั่งจ้องเขากินข้าวเลยนี่หว่า เลยถามไปคำ
“พี่อยากกินเหรอ ทำไมไม่บอก ตะกละนี่หว่า กินแล้วยังอยากอีก”

 พี่ตั้งหัวเราะเอามือจับท้องไว้ สงสัยหิวจนปวดท้อง แล้วทำเป็นมาบอกว่ากินแล้ว
“เหลิมฮานะ ตลกมาก คุยกับเหลิมแล้วพี่อารมณ์ดีตลอด”
พี่ตั้งยิ้มปากกว้างจนแทบจะเห็นฟันหมดปาก ทำเอาเขาเขิน
 เอ...คิดไปคิดมาแกชมว่าเป็นคนมีอารมณ์ขันหรือแกว่าเขาต๊องกันแน่
“พี่ชม..หรือพี่ด่า”ผมยักคิ้วเหลือบตามมอง ถามอย่างหาเรื่อง

พี่ตั้งทำหน้าเลิ่กลั่กรีบอธิบายปากคอสั่น “ชมนะชม ใครจะกล้าด่าเหลิม เหลิมปากจัดจะตาย ขืนด่าไป เหลิมสวนกลับสามวันแปดวันพี่หูดับกันพอดี...แถม...”
พี่ตั้งกำลังจะพูดต่อเขาต้องรีบยกมือห้าม “พอเลยพอ  ไม่ต้องพูดแล้ว ยิ่งพูดยิ่งโดน”
ไม่รู้จะทำยังไงกับพี่ตั้งจริงๆ จะโกรธก็โกรธไม่ลง
เขาก้มหน้ากินข้าวไปด้วยความหิว พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นพี่ตั้งแอบดูอยู่ทุกครั้ง
ไม่เข้าใจ พี่ตั้งไม่เคยเห็นคนน่ารักกินข้าวรึไง

“ผมกินข้าวนี่มันน่าดูตรงไหนพี่ เมื่อไหร่จะเลิกมองสักที รำคาญ”
“มองแค่นี้ ไม่ได้แย่งกิน ยังรำคาญอีก”
พี่ตั้งมันกวน เอาแต่ยิ้ม ขนาดเหน็บบ้าง ด่าตรงๆบ้าง ค้อนก็แล้ว ยังไม่มีโกรธ
ชาติก่อนแกคงเป็นกระท้อน ยิ่งทุบยิ่งหวาน

กินข้าวเสร็จเขาขอลากลับ “ดึกแล้ว ไปละนะ หายไวๆล่ะ”
พี่ตั้งมันลุกมาทันที ไหนว่าป่วยไงวะ ทำไมไม่เหมือนคนป่วยเลย “เอ้ย กลับง่ายๆได้ไง ไหนๆก็มาแล้ว อยู่เป็นเพื่อนพี่ก่อนสิ”
เขาส่ายหัวไม่อยากเป็นเพื่อน “ไม่เอา ขี้เกียจ เหนื่อย ง่วงด้วย วันนี้ทำงานทั้งวันเหนื่อยจะตาย ไม่ใช่เพื่อนพี่ด้วย”
 เป็นอะไรกันยังหาสถานะไม่เจอเลย

“น่านะ พี่ไม่มีใครอยู่ด้วยเลย น่าเบื่อ เหลิมง่วงก็นอนนี่แล้วกัน ไม่ต้องกลับหรอก”
“ได้ไง บ้านผมก็มี ถ้าผมอยู่นี่แล้วหลับ พี่ก็ไม่มีเพื่อนคุยอยู่ดี” คนเฝ้าหลับ เค้าเรียกอยู่เป็นเพื่อนได้ไงวะ คิดได้ไง

“ก็มาอยู่เป็นเพื่อน หลับหรือตื่นก็คืออยู่ ไม่ได้เหรอ”
 คราวนี้ไอ้พี่ตั้งมันทำเป็นโมโหหรือเรียกว่างอนก็ได้ มาทำหน้าบูดใส่กันอีก แล้วจะมางอนเขาทำไม
“ผมเป็นอะไรกับพี่  ทำไมผมต้องอยู่ล่ะ”

พอผมพูดจบพี่ตั้งมองผมตาละห้อยเลยครับ มีแววเสียใจเล็กๆ ทำหน้าซึม พูดเสียงอ่อยๆ
“โทษที พี่ลืมไป พี่คงสำคัญตัวเองผิด เหลิมทำงานมาเหนื่อยๆก็ต้องอยากพักผ่อน พี่ขอโทษนะที่กวนใจเธอ”
ดูมันครับ พูดเป็นเพลงเลย เน่าชิ...หาย แต่ที่แย่กว่าคือเขาก็ดันเคลิ้ม
เกรงใจพี่ตั้งมัน สงสารมันด้วย ดูดิ๊อยู่ดีไม่ว่าดีต้องมานอนโรงพยาบาล
 โดดเดี่ยว เปล่าเปลี่ยว หงอยเหงา เศร้าหุ่ย พี่น้องพ่อแม่ไปไหนหมด

ในที่สุดคืนนี้เพราะความใจดีลึกๆ หรือเพราะสมเพชเวทนายังไงก็แล้วแต่ เขาต้องนอนเฝ้าพี่ตั้งจนได้
“แต่บอกก่อน ผมไม่คุยนะ อยากนอน พี่อย่ามาชวนคุยล่ะ อยู่เป็นเพื่อนเฉยๆเท่านั้น”
พี่ตั้งทำสีหน้าดีใจ รื่นเริงเกินไปรึเปล่าพี่ แววตาระยิบระยับ ดีไม่เอาลิ้นมาเลียหน้าเรา
 พี่ไม่ต้องซึ้งใจขนาดนี้ก็ได้ มันมากไป ให้มันพอดีๆหน่อย หลักความพอเพียงน่ะใช้บ้างนะ

“พี่ขอบใจเหลิมมาก อยากให้น้องตามมานอนเป็นเพื่อน แม่ก็บอกเป็นห่วง น้องเป็นผู้หญิง พี่เหงาเลยนึกถึงเหลิมนี่ล่ะ”
พี่ตั้งมันทำหน้าจริงใจมากครับ แววตาใสซื่อ เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามาพิศวาสอะไรกับเขานักหนา
แต่คิดมากไปก็ปวดหัว ไหนๆก็หลวมตัวมาที่นี่แล้ว หลวมตัวรับปากไปแล้วด้วยว่าจะนอนเฝ้า หลวมตลอด
“นอนๆๆ ง่วง เพลีย พี่มีชุดให้ผมยืมมะ ไม่อยากใส่ชุดนี้นอน”

ไอ้พี่ตั้งกระตือรือร้นขึ้นมาทันทีรีบไปรื้อๆตู้เสื้อผ้า ปากก็พูดไม่หยุด
 “มี ตามเอามาทิ้งไว้ให้พี่ใส่ตอนกลับ เหลิมใส่ไปก่อน ไว้พี่ให้ตามเอามาให้ใหม่”
พี่ตั้งยื่นเสื้อผ้ามาให้แล้วยิ้มกว้างบอกอีกครั้งว่า “พี่ดีใจจังที่เหลิมอยู่ด้วย ไปอาบน้ำก่อนจะได้นอนหลับสบายๆ”

เขาพยักหน้าไม่พูดอะไรรับเสื้อผ้ามาแล้วก็ไปอาบน้ำทันที อยู่นี่ก็ดีไม่เปลืองค่าไฟเปิดพัดลมที่บ้าน ฮ่าๆ
 พอออกมาพี่ตั้งนอนดูทีวีอยู่เงียบๆครับ พอเห็นผมพี่ตั้งรีบหรี่เสียงทีวีทันที
“เหลิมจะนอนรึยัง พี่ปิดทีวีก่อนดีกว่า เดี๋ยวเหลิมนอนไม่หลับ”

พี่จะเป็นคนดีไปไหนจะเกรงใจอะไรกันนักหนา “พี่อยากดูก็ดูไปเด๊ เปิดค่อยๆหน่อยแล้วกัน คนจะนอน”
 พี่ตั้งส่ายหน้าดุ๊กดิ๊ก “ได้ยังไง เหลิมอุตส่าห์ตั้งใจมาเฝ้าพี่ พี่ก็ต้องให้ความสะดวกสุดๆ”
พี่เข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า เขาไม่ได้ตั้งใจมาเฝ้าเลย พี่คงลืมว่าพี่เป็นคนมาชวนมาเอง
แต่ก็ดี เอาใจเขาหน่อยแล้วกัน ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมาเฝ้าไข้ใครสักที ทำไม่เป็นด้วย ไม่รู้ว่ามีหน้าที่อะไรบ้าง

เขาเดินไปปิดไฟแล้วมาล้มตัวลงนอน “เฮ้อ...นอนซะที ง้วงง่วง โหววว...”
ขณะที่เขากำลังจะหลับสนิทไปในวินาทีนั้น
“พี่ขอบใจเหลิมมากนะ” ไอ้พี่ตั้งก็พูดขึ้นมา จะพูดทำไม กูจะนอนเว้ยเฮ้ย ขอบคุณมาหลายรอบแล้ว

“อืม...รู้แล้ว” ไอ้เขาก็ง่วง จะนอนนนน พี่ตั้งเงียบไปแล้ว ดีจะได้นอนสักที
“ถ้าไม่ได้เหลิมมาฝะ...”
เขาถึงกับผุดลุกขึ้นมา “นี่พี่ตั้ง...ผมจะนอนแล้วนะ ตกลงให้มานอนเฝ้าหรือให้มาคุยเฝ้า
ถ้านอนเฝ้าพี่ก็เงียบได้แล้ว แต่ถ้าให้มาคุยเฝ้าผมจะได้กลับ เพราะเวลานี้ผมไม่คุย...ผมจะนอนนน”

พี่ตั้งเงียบไปเลยแต่เขาดูสีหน้าไม่ออกเพราะห้องมันมืด หน้าพี่ตั้งเลยมืดไปด้วย แต่พี่ตั้งพูดเสียงอ่อยแกมบ่นขึ้นมาทั้งหน้ามืดๆว่า

“ดุจริงๆ นอนก็นอนสิ นอนแล้วลุกนั่งขึ้นมาทำไม”
เขาเกือบจะสวนด่าไปแล้วว่า 'ลุกมาด่าพี่ไง' แต่พอดีมารยาทยังพอมีเลยไม่ได้บอกพี่ตั้งไป
 พอจะนอนอีกทียังได้ยินเสียงพึมพำๆว่า
“พูดแค่นี้ก็ไม่ได้ ทำไมต้องดุกันด้วย...”

“อะแฮ่ม..แค่กๆๆ” ไม่อยากลุกขึ้นมาโวยอีกรอบ หวังว่าจะจับสัญญาณถูกนะว่า...กูจะนอนเลิกบ่นสักที
พี่ตั้งหันหน้าหนีเขาทันทีแต่พูดมาว่า “เออๆ  รู้แล้วจะนอนก็นอนไปสิ”
ท่าจะงอนเว้ย ฮ่าๆๆ เขาเลยพูดไปว่า “อยากขอบคุณ อยากคุย พรุ่งนี้ค่อยบอก คืนนี้นอนเหอะพี่”
 พอพูดจบพี่ตั้งหันตัวกลับมาทันที ยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวๆโผล่ขึ้นมาในความมืด

“ครับเหลิม พรุ่งนี้นะ” เห็นแค่ฟันขาวๆก็จริง แต่น้ำเสียงพี่เค้าดีใจด้วย... เขารู้สึกแบบนั้น
*****************************
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 11/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 11-10-2010 18:58:37
โอย พี่ตั้งเขาก็หลวมไม่แพ้น้องเหลิมหรอกนะ
ก็หลวมตัวหลวมใจยกให้หมดใจที่มีแล้วไงคะ

(เออวุ้ย เลยพลอยเสี่ยวตามพี่ตั้งเลยข้าพเจ้า โฮะๆๆๆๆๆๆๆ)
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 11/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 11-10-2010 19:09:59
พี่ตั้งเป็นมาโซฯรึเปล่า ดูมีความสุขที่โดนเหลิมดุนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 11/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 11-10-2010 19:37:43
 :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 11/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 11-10-2010 20:31:21
+1 แทนคำขอบคุณ พี่ตั้งน่ารักแถมรุกไม่หยุดหย่อนเลย น้องเหลิมเสร็จแน่ ๆ
แต่น้องเหลิมดุขนาดนี้พี่ตั้งยังไม่กลัวเลย น้องเหลิมทำอะไรก็ดูดีน่ารักในสายตา
พี่ตั้งไปหมด ....(กองเชียร์พี่ตั้งอยู่นี่หนึ่งคนนะ....)  :กอด1: คุณฟางแน่น ๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 11/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 11-10-2010 21:32:23
น้องเหลิมดุไม่มากพอ
นายตั้งเลยไม่กลัว
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 11/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 11-10-2010 23:17:38
น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 11/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 12-10-2010 00:05:15
ทำไมน่ารักเยี่ยงนี้จ๊ะเหลิมจ๋า

แต่สงสารเหลิมตอนที่ทำงานจังเลย

พวกนั้นใจร้ายมาก ไม่คิดถึงใจเหลิมบ้างเลย

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 11/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 12-10-2010 00:20:22
น้องเหลิมมิรู้รึพี่ตั้งเขาจีบ :-[

มีความรู้สึกว่าไม่ชอบอีพี่ไก่เลย :m16:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 11/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: maicy ที่ 12-10-2010 00:22:40
ตามมาอ่านของคุณฟาง...เรื่องนี้น่ารักมาก เหมือนอ่านไดอารี่เลย  รักษาสุขภาพนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 11/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 12-10-2010 02:14:46
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ

เหลิมแมร่ง.....

ตั้งก็....

ห้าๆๆๆ สรุปไม่ออก
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 11/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 12-10-2010 11:44:40
ชักจะสงสารพี่ตั้งแหละ  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 11/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 12-10-2010 12:52:39
พี่ตั้งแกก็หยอดได้หยอดดี พี่เหลิมยังไม่รู้อีกหรอเนี่ยว่าพี่ตั้งเค้าจีบตัวอยู่น้า

ตอนนี้พี่ตั้งน่ารักมากเลย แต่ก็แอบสงสารน้า เมื่อไหร่พี่เหลิมแกจะรู้ตัวสักทีหว่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 11/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: สุขาพาเพลิน ที่ 12-10-2010 18:48:47
ว้าวๆ เรื่องน่ารักมากครับ
ยังไงก็ขอติดตามด้วยคนนะครับ ^ ^*
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 16-10-2010 15:30:17
เหลิม เนี่ย เหวี่ยงได้ใจจริง
ถ้าพี่ตั้งจะริเป็นแฟน ต้องใจเย็นเป็นน้ำแข็งมากๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 16-10-2010 15:45:48
หายไปนานเลย เพราะสมองตัน ฝนก็ตกทั้งวันทั้งคืน(เกี่ยวมั้ยเนี่ย :laugh:) อ่านต่อไปนิดนึงก่อนนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ :pig4:
**************************
 วันพุธ***

“ทำไมพี่ไม่ปลุกผม รู้รึเปล่า ผมจะไปสายแล้วนะ ไม่น่าเลยกูอยู่ดีไม่ว่าดี มานอนผิดที่ผิดทางเลยไม่ตื่นเลยเว้ย”
เขาโวยวายใส่พี่ตั้งที่นอนหน้าเสีย หน้าซีดอยู่บนเตียงเถียงอะไรไม่ออก
พอมานอนผิดที่เขาเลยไม่ตื่น ก็เพราะใครล่ะ ทำให้เขาอุตริมาทำตัวเป็นคนใจดียอมมาเฝ้าชาวบ้านเค้า
 พี่ตั้งทำสีหน้าจืดเจื่อน เมื่อเขาเริ่มบ่นกับตัวเองปล่อยหมาออกจากปากไม่หยุด ก่อนที่พูดเสียงอ่อยๆ
“พี่เห็นเหลิมนอนหลับสบายๆ เลยไม่อยากปลุก อยากให้นอนนานๆ เห็นทำงานมาหนักทั้งวัน”

เขาเงยหน้าขึ้นมาโวยต่อทันที“แล้วนี่มันสิบเอ็ดโมง มันนอนนานเกินไปรึเปล่า พี่คิดได้บ้างมั้ย ผมกินเงินเดือนเค้านะ ไม่ได้ร่ำรวย
อยู่เฉยๆ ก็มีกินแบบพี่”
คราวนี้พี่ตั้งเงียบ เม้มปาก นิ่งไปเลยไม่พูดอะไรอีก กะพริบตาถี่ๆ ทำเอาต้องลุ้นว่าจะร้องไห้รึเปล่า แต่ก็ไม่ยักร้องแฮะ
เขาเลยชี้หน้าไป “พี่อย่าทำหน้าแบบนี้นะ  ถ้างั้นก็ไม่ต้องมาเจอกันอีก”

ได้ผลเว้ยเฮ้ย พี่ตั้งทำปากเม้มต่อไป แต่ไม่ได้ร้องไห้ออกมา เบือนหน้าไปทางอื่น เห็นแล้วเริ่มสงสาร เขาเลยเดินเข้าไปหา
“โอเคๆ ผมไปดีกว่า พี่ไม่ผิดก็ได้ ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น”
พี่ตั้งยังมาทำหน้าเศร้ามองหน้าเขาอีก มองหน้าพี่เค้าแล้วก็ใจอ่อนจนได้
 เขาถอนหายใจ เอามือจับไหล่พี่ตั้ง พลางบอก “ผมขอโทษที่หงุดหงิดใส่”

ก้มลงมองหน้าพี่ตั้งสบตากันอีกที พี่ตั้งยิ้มขึ้นมาจนได้แถมส่งตาหวานให้ เวรล่ะสิ...รีบดึงมือกลับแทบไม่ทัน
 หรือว่าเป็นแผนตีหน้าเศร้าเรียกร้องความเห็นใจ เขาถามตัวเองว่าแค่มองตากันไม่นาน ทำไมมือสั่น ใจเต้นแรงวะ
“ผะ..ผม..ไปทำงานก่อนนะ สายแล้วเนี่ย..เง้อ” รีบกลับหลังหันออกมาจนขาแทบขวิด
“เดี๋ยว...เหลิม” เอาไงดีเขาไม่กล้าหันไปมอง เหมือนหน้าร้อนๆ

“ไรพี่..มีไรอีก สายแล้ว” จะพูดอะไรก็ไม่พูด อ้ำๆอึ้งๆอยู่ได้
 พี่ตั้งทำเสียงอ่อนโยนได้อีก “ขอบคุณนะเหลิม” น้ำเสียงพี่ตั้งฟังดูเขินๆ จนคนอย่างเขาอยากรู้ว่าตอนที่พูดหน้าตาพี่เค้าเป็นไงหว่า
 หันหน้าไปดูแล้วก็หันกลับมากลั้นยิ้ม พี่ตั้งหน้าแดงไปถึงใบหู จะอายอะไรนักหนาวะ แค่พูดแค่นี้
 แต่ก็น่ารักไปอีกแบบ หึหึ แต่เขาก็เขินเหมือนกัน ไปดีกว่า

“อืมๆ ไปแล้วนะ เจอกันพี่”
เขารีบวิ่งออกมาจากห้อง แต่ยังได้ยินเสียงพี่ตั้งบอกว่า “เดี๋ยวพี่โทรหานะเหลิม”

วันนี้เขาทำงานไม่รู้เรื่องเลย มาทำงานก็สาย พอตั้งใจจะทำงานก็นึกถึงแต่หน้าพี่ตั้งตอนอาย
จนตัวเองพลอยหูแดงไปด้วยอย่างกับออสโมซิสจากจินตภาพ บางทีก็อารมณ์ดีนั่งยิ้มอยู่คนเดียว
 ขนาดไอ้พี่ไก่มันทั้งจิก ทั้งกัด ทั้งเขี่ย เรายังชิวๆ เงยหน้ามายิ้มรับ จนพี่ไก่สงสัย บ่นกับคนอื่นให้ได้ยินแล้วเดินจากไป
 “กูว่ามันมาแปลกๆว่ะ อย่างกับคนบ้า ยิ้มแม่มน่ากลัวชิ...หาย”

“หึหึ” เราเหลือบตาหันไปมองพี่ไก่แล้วหัวเราะในคอ
“ดูมันสิ หัวเราะยังน่ากลัวเลย บรื๋อๆๆ” พี่ไก่บ่นอีกครั้งแล้วเดินหนีไป ฮ่าๆ
ถ้ารู้ว่าทำหน้าแบบนี้ ยิ้มแบบนี้แล้วไอ้พี่ไก่มันกลัว เขายิ้มไปตั้งนานแล้ว
ไม่บอกกันก่อนนี่หว่า ว่ารอยยิ้มของเขาพิฆาตหัวหน้าได้ขนาดนี้ หุหุ

สักพักพี่ม้ามาได้อีก เอางานมาวางบนโต๊ะอย่างแรง “น้องเหลิมขา ได้ข่าวว่าวันนี้มาสายนะคะ เอางานของหนูไปเลย
 เมื่อเช้าพี่โดนจิกให้มาทำแทน ไม่ได้เลยนะคะน้องเหลิม ต้องซื้อขนมมาเลี้ยงพี่ด้วย”
 น้องจิ๊บแอบมากระซิบข้างหูพี่ม้า แต่กระซิบเบามาก...ได้ยินทั้งแผนกนี้และแผนกอื่นว่า
“เจ๊ วันนี้พี่เหลิมมันไม่ปกติ เจ๊ระวังมันกัดนะ”
มันพูดแบบนี้แสดงว่าทุกวันเขาปกติ ที่จริงวันนี้เขาก็ปกตินะ ไอ้ที่ว่าไม่ปกติมันเป็นยังไง โอ๊ยคิดเองงงเอง

“จิ๊บ...พี่ฉีดยาแล้ว ไม่กัด เอ๊ยไม่ใช่ พี่ไม่ได้บ้านะ จะได้ไปเที่ยวไล่กัดพี่ม้า” พี่ม้าหัวเราะร่วนสะบัดนิ้วตีแขนน้องจิ๊บเบาๆ
“วุ้ยย...ก็น่านนะสิคะ น้องเหลิมจะมากัดเจ๊ได้ยังไง เจ๊ออกจะน่ารัก โฮะๆๆ” พี่ม้าเอามือปิดปาก ทำสีหน้าท่าทางได้น่าหมั่นไส้มาก
 จนต้องเผลอพึมพำกับตัวเอง “ผมจะไปกัดพี่ทำไม หนังเหนียวขนาดนี้ กัดยังไงคงไม่ขาดหึหึ ยังไงผมก็ต้องเลือกคนที่จะกัดหน่อย”
 แต่มันคงไม่เบาพอ พี่ม้ามีจริตยกมือตีป๊าบมาที่หลัง
นี่ถ้าไม่ติดว่าพี่มีนม  เขาต้องนึกว่าพี่แกเป็นผู้ชายไปแปลงเพศมาแล้วแน่ๆ มือหนักพอๆ กับตีนเลยเว้ย

“น้องเหลิม หนูพูดอะไรคะ พี่จะถือว่าพี่ไม่ได้ยินนะค้า อย่าลืมซื้อขนมมาฝากพี่กลางวันนี้นะคะเป็นการไถ่โทษ พี่ไปเสนอหน้านายก่อน  เดี๋ยวเค้าเรียกหา”
พี่ม้าวิ่งห้อหน้าเริ่ดไปแล้ว น้องจิ๊บก็มาเดินด้อมๆ มองๆ วนเวียนรอบตัวเขาอย่างกับเขาเป็นโบสถ์
 จะวนสามรอบเหมือนวันวิสาขะบูชากันรึไง รำคาญจนต้องถาม
“น้องจิ๊บทำอะไรหล่นเหรอครับ” (หรือสติปัญญาหาย หึหึ))
น้องจิ๊บทำหน้าประหลาด เหมือนได้ยินอะไรที่แปลไม่ออก  ก็พูดภาษาไทยไปนี่หว่า
“เปล่าคะ หนูเดินเล่น”

น้องมันโกหกเหมือนเห็นเขาโง่ เขาโง่ก็จริงนะแต่ปกติถ้าไม่สนิทกันจะไม่ค่อยเปิดเผยให้รู้ ต้องคนสนิทกันจริงๆ ถึงจะบอก
 เขาโบกมือปัดไล่น้องมันไป อย่ามาตอม เอ๊ย...อย่ามายุ่งกะกู
“ไปทำงานไป อย่ามาแอบมองพี่ พี่ไม่มีแฟนก็จริง แต่หนูก็ไม่ใช่เสป็กพี่”
น้องจิ๊บค้อนขวับ สะบัดขน เอ๊ยสะบัดผมไปเลย ปากก็ชมเขาไปตลอดทาง
 “พี่เหลิมปากหมาเหมือนเดิมเลย ใครเค้าไปแอบมอง...ทุเรศ”

แน่ะชมกันค่อยๆก็ไม่ได้ ต้องมาชมดังๆให้ได้ยินด้วย แบบนี้ก็เขินแย่สิ
เขาทำงานต่อก็ยังยิ้มเขินอยู่ จนเริ่มสงสัยตัวเองว่าท่าจะบ้าตามที่เค้าบอกแล้วรึเปล่า
ทำงานไปจนเย็นพี่ตั้งไม่เห็นโทรมา ไหนบอกว่าเดี๋ยวจะโทรมา สมองเริ่มบรรเจิดคิดวุ่นวาย
‘หรือว่าพี่เค้าอาการกำเริบ อาการหนักเลยโทรมาไม่ได้’…แต่ดูอาการเมื่อเช้าก็ปกติดีหว่า
‘พี่แกกลับบ้านไปแล้วแหงเลย คงไม่ต้องให้เราไปเป็นเพื่อนแล้ว’…คนบ้าไรวะ โตจะเป็นควายอยู่แล้วยังต้องให้มีเพื่อนไปนอนด้วย

‘พี่ตั้งหลอกเราแน่เลย อะไรว้า พูดปดมดเท็จ แย่ๆๆๆ’…ดูๆแล้วก็ไม่น่าเป็นคนแบบนั้นนี่หว่า  
คิดวนเวียนไปมาจนเลิกงาน ถึงมาคิดได้ว่าทำไมเขาไม่เป็นฝ่ายโทรไปเองหว่า คว้าโทรศัพท์มากดหา
 เสียงเพลงรอสายดังขึ้น “โปรดส่งใครมารักฉันที...อยู่อย่างนี้มันเปลี่ยวหัวใจ...”
ฟังจนจะเคลิ้ม อินไปตามเสียงเพลง เสียงพี่ตั้งก็ดังขึ้นมาแทนนักร้อง หูย...ขัดใจ คนกำลังฟังมันส์ๆ

“น้องเหลิมเหรอ โทรมามีอะไร?”ทำไมพี่มันถามแบบนั้นล่ะ เซ็งเป็ด คนอุตส่าห์โทรไปหา
แต่ตอนนี้ เอิ่มมม...นั่นสิเขาโทรไปทำไม คิดสิคิด อย่าช้า ให้ไว
“อ้าวตายอ่า..กดผิด ใครน่ะ?” ด้านๆ แก้เก้อไปแบบนี้ก่อนแล้วกันวะ
“พี่ตั้งเองครับ นี่น้องเหลิมเลิกงานแล้วเหรอ”
“ยัง แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เลิกแล้ว” พี่จะให้ไปหารึเปล่าล่ะ พูดสิพูด

“อืม งั้นพี่ไม่กวนแล้ว พี่วางก่อนนะ”
เฮ้ย! ไหงเป็นแบบนี้ล่ะ “เอ่อ...ดะเดี๋ยว พี่เป็นไรป่าว” ทำไมเย็นชากับผมจัง
เขาคันปากอย่างกับคนเป็นเริม อยากจะถามให้รู้ๆไป หรือเขาทำไรผิด พยายามคิดแล้วคิดอีก
 ไม่นะ เขาทำดีมาตลอด ไม่มีพลาดอะไรเลย ดีเพียบพร้อมไปทุกสิ่งอย่างขนาดนี้ จะหมดความสนใจกันไปง่ายๆได้ไง

“ไม่เป็นไร พี่ดีขึ้นแล้ว นี่นอนยาวเลย เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ เพราะเหลิมมานอนด้วย”
หุหุ สงสัยตื่นเต้นมีเขาไปนอนข้างๆ  แล้วพี่ตั้งก็พูดต่อ
“เหลิมนอนกรนเสียงดังมาก ทีแรกพี่นึกว่าข้างโรงพยาบาลมีโรงงาน เสียงกระหึ่มยิ่งกว่าเครื่องเสียงโซนี่อีก”
เอ่อ ท่าทางพี่กำลังด่าผมนะ  จะอารมณ์ดีไปมั้ยพี่ อายก็อายแต่ยังไม่ยอมแพ้เว้ย
“เหรอ...แล้วทำไมผมหลับล่ะ ไม่เห็นได้ยินเลย”

“เออ นั่นสินะ ท่าทางเหลิมหลับสนิท พี่ยังลุกมาดูตั้งหลายครั้ง”
ไอ้พี่ตั้งขอรับ...กูไม่ใช่หลินปิงนะ ไม่ต้องมาดูบ่อยขนาดนั้นก็ได้ อยากจะถามว่าพี่เป็นไงมั่งก็พูดไม่เป็น “วางแล้วนะ ไม่มีอะไรใช่มะ”
“อืม ไม่มีอะไร แล้วเย็นเหลิมอย่าลืมซื้ออะไรมากินเองด้วยล่ะ ที่นี่ไม่มีเลย”
กำลังจะวางสายอยู่แล้วพอพี่ตั้งพูดขึ้นมาก็ทำเอางงเป็นไก่ตาแตกได้อีก “ไหน...ยังไงนะซื้ออะไรไปไหน”
พี่ตั้งพูดเหมือนบ่นกับตัวเอง แต่มีซาวด์เอฟเฟ็กมาเข้าหูเขา “แปลกนะฟังแค่นี้ก็งง” น่าน ด่าเขาโง่อีก

 “เหลิมมาหาพี่เย็นนี้ อยากกินอะไรก็ซื้อมา ตอนมานอนกับพี่ที่โรงพยาบาลไง”
ตกลงเขาต้องรู้เองใช่มั้ยว่าต้องไปนอนเฝ้าพี่ “พี่ไม่เห็นบอกผมว่าต้องไปนอนอีก”อารมณ์กวนๆ กลับมาอีก
“ทำไมต้องบอกล่ะเหลิม เหลิมก็ต้องรู้หน้าที่สิ”
 อีกแล้ว...เขาไปมีหน้าที่นี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ เริ่มคันหัวอย่างกับมีเหากระโดดมาอาศัยอยู่เป็นชุมชน
ทั้งเกาทั้งยีจนจะเป็นทรงแอฟโฟล่อยู่แล้วก็ยังไม่รู้ว่าเขามีหน้าที่ อาราย....วะ ไม่ชอบอะไรที่มัดมือชกแบบนี้เลย

ไอ้นิสัยส่วนตัวรั้นๆ ที่ไม่ค่อยดีอยู่อย่างหนึ่งมันเริ่มกำเริบ ถ้ารู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไร พอมีคนคนมาบอกให้เขาทำอะไรเขาจะไม่อยากทำ
“หน้าที่??? ผมมีหน้าที่อะไรกัน ใครมามอบหน้าที่ให้ผมเมื่อไหร่ ทำไมผมไม่รู้”
เผลอโวยเสียงดังใส่พี่ตั้งไป พอพูดไปแล้วก็ตกใจเสียงตัวเอง
 พี่ตั้งเงียบไปนาน ตามมาด้วยเสียงถอนหายใจยาวของพี่ตั้งเข้ามาในสาย
 น้ำเสียงที่เอ่ยขึ้นมาอ่อนระโหย อย่างกับคนป่วย (เออแต่แกก็ป่วยอยู่โรงพยาบาลนี่หว่า) “ก็หน้าที่ของคำว่าเป็นเพื่อนไง”

พี่ตั้งหยุดพูดไปชั่วขณะก่อนเอ่ยต่อ ไม่รอฟังเขาบ่นอะไรไปอีก “ไม่เป็นไรเหลิม พี่เข้าใจ พี่ขอโทษที่กวนใจเหลิมมาตลอด ลาก่อนนะ”
 ก่อนที่เขาจะรู้ตัว ก่อนการประมวลผลถ้อยคำที่พี่เค้าพูดจะเข้าสู่สมองอันชาญฉลาด
กว่าจะคำนวณเสร็จว่าพี่เค้าคิดยังไง เสียงวางสายตัดไป ตกใจ แต่ทำอะไรไม่ทัน
 รู้แต่ว่าเหมือนเลือดมันเหือดไปจากร่างกาย ใจมันโหวงๆหวิวๆ เหมือนๆ เขาทำอะไรผิดไปอีกแล้ว

 “เฮ้ยยย...ไรว้า เฮ้ยยย ลาก่อนอะไรน่ะ” วูบแรกคือ พี่เค้าน้อยใจอะไรอีกล่ะ ยุ่งชิบ...
พยายามปลอบใจตัวเอง ‘ก็ดี...ดีที่สุดเลยล่ะ จะได้ไม่ต้องชีวิตวุ่นวายกับกูอีก  กูได้อยู่สบายๆ สักที กลับไปทำงานดีกว่า’
 แต่แปลกที่คราวนี้หน้าเขากลับยิ้มไม่ออกแล้วเว้ยเฮ้ย เซ็งชิบ...
*******************************
 :t3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 16-10-2010 16:15:48
หึ ๆ ท่าทางจะเป็นคนประมวลผลช้า จริง ๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-10-2010 18:46:24
 :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 16-10-2010 19:07:58
โถวววววววว เหลิมน้อยๆของพี่ตั้ง
รีบๆเข้าใจตัวเองแล้วก็ไปทำตัวดีเพียบพร้อมให้พี่ตุ้งรื่นเริงบันเทิงใจต่อนะคะ ^o^
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 16-10-2010 19:52:18
ตายละ นังน้องเหลิม
พี่ตั้งเขางอนลพเหนไม๊เนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: kuankao ที่ 16-10-2010 21:21:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 16-10-2010 21:32:39
น้องเหลิม อาการของน้อง ตอนเช้ากะตอนบ่าย ไหงต่างกันแบบนั้นอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 16-10-2010 23:04:08
สงสารพี่ตั้ง โดนตะคอกบ๊อยยยบ่อย :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 17-10-2010 02:44:37
พี่ตั้งคบกับเหลิมไปนานๆ ระวังเป็นมาโซฯนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 17-10-2010 03:19:10
ความผูกผันที่แฝงมากับมิตรภาพ(ออกแนวศัตรู)มันชั่งมีอานุภาพเน๊อะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 17-10-2010 12:23:44
พี่ตั้งงอนแล้ว เหลิมรีบไปง้อพี่ตั้งด่วน  :angry2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 18-10-2010 18:10:52
อ่านแล้วสงสารพี่ตั้ง พยายามต่อไปนะคะ

ตอนนี้พี่ตั้งงอนแล้ว เหลิมไปง้อด้วยน้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 18-10-2010 19:52:52
สมน้ำหน้าจริงๆๆ เหวี่ยงตลอดเลย เหลิมอะ โดนซะมั้ง  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: kunnyppk ที่ 18-10-2010 22:18:08
ดีใจจังคุณฟางแต่งเรื่องใหม่แล้ว
รอลุ้นน้องเหลิมกะพี่ตั้งต่อไป

ปล.ตอนพิเศษของน้องโอมจะพอมีอีกบ้างมั้ยคะ คิดถึงจัง :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 18-10-2010 23:28:36
สนุกมากๆค่ะ พี่ตั้งกับน้องเหลิม
น้องเหลิมเหวี่ยงบ่อยจัง
เห็นพี่ตั้งแบบนี้ก็น้อยใจเป็นนะ เอ๊ะ! หรือว่าเป็นแนวการจีบของพี่ตั้งเขากันแน่

บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ สนุกจริงๆ

ปล รอลุ้นต่อไปว่าอะไร "เปลี่ยน"

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 16/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jannie ที่ 19-10-2010 10:53:08
อ้างถึง
ไอ้นิสัยส่วนตัวรั้นๆ ที่ไม่ค่อยดีอยู่อย่างหนึ่งมันเริ่มกำเริบ ถ้ารู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไร พอมีคนคนมาบอกให้เขาทำอะไรเขาจะไม่อยากทำ
ตรงนี้โดนมากค่ะ เวลาใครบอกให้ทำในสิ่งที่เรารู้ว่าต้องทำ หรือคิดจะทำอยู่แล้ว มันพาลทำให้เราไม่อยากทำไปซะงั้นเลย

ส่วนพี่ตั้งน่าจะทำอะไรให้ชัดเจนกว่านี้ (หรือว่าเหลิมบื้อเอง?)
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 20-10-2010 19:18:00
เกรงใจจัง นานๆมาที :impress2: มัวแต่นอยเรื่องน้ำท่วม
อีกเหตุผลหนึ่งคือไม่ได้เขียนต่อเลย เอาไปอ่านก่อนสั้นๆนะคะ ขอบคุณทุกเสียงตอบรับค่ะ  :pig4:
****************************************


*วันพฤหัส**

นี่เขาเป็นอะไร ตื่นเกือบไม่ไหว กว่าจะนอนได้ก็พลิกตัวไปมาเหมือนกล้วยปิ้งที่ปิ้งเท่าไหร่ก็ไม่สุกสงสัยไฟไม่แรงพอ
 เมื่อคืนนอนไม่หลับเลย เสียงแผ่วเบาของไอ้พี่ตั้งมันคอยมาวนเวียนดังหึ่งๆอยู่ในแก้วหูเหมือนพรายมากระซิบบอกหวย
 ซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้นทั้งคืนทำเอาหลอนไปจนเช้า พยายามตีความว่าเป็นเลขอะไรก็ตีไม่ออก
“ไม่เป็นไรเหลิม พี่เข้าใจ พี่ขอโทษที่กวนใจเหลิมมาตลอด ลาก่อนนะ”

ทำไมมันเหมือนหนังน้ำเน่าที่เขาได้ยินคนในออฟฟิศคุยกันบ่อยๆ
ประเภทไก่ได้พลอย ลิงได้แก้ว หมาหวงก้าง เอ๊ยไม่ใช่แล้ว
แต่พอฟังพี่ตั้งพูดแบบนั้นแล้วหัวอกหัวใจมันไม่ปกติอาการบอกไม่ถูก รู้แต่ว่าเขาใจไม่ดีเลย
 เขารู้ว่าพี่ตั้งคงเสียใจ ป่านนี้จะร้องไ้ห้น้ำตาเปียกหมอนไปแล้วก็ไม่รู้

อ้าปากหาวเหลือบตาดูเวลา ตีห้า แล้วลุกขึ้นนั่งถอนหายใจ เกาหัวที่ไม่ได้สระมาหลายวันแก้คัน
 จำไม่ได้ว่าตั้งแต่เกิดมาเคยตื่นเช้าขนาดนี้ตอนอายุท่าไหร่ เหมือนจะตอนวันเกิดสักสิบขวบที่ยายมานอนด้วย
 แล้วยายชอบตื่นเช้าๆแถมขี้เหงาแกตื่นขึ้นมาคนเดียวคงกลัวผีต้องเรียกทุกคนในบ้านให้ตื่นด้วย
ทำเอาพ่อบ่นกับแม่ว่าอย่าได้ไปพายายมานอนด้วยอีก จะให้พ่อกตัญญูกับแม่ยายก็ทำได้
 แต่ให้ตื่นแต่เช้าเหมือนทหารเกณฑ์พ่อขอเป็นลูกเขยอกตัญญูดีกว่า

ไม่เคยเลยสักครั้งที่ล้มตัวลงนอนแล้วต้องใช้เวลากว่าจะหลับนานขนาดนี้ นี่เขาเป็นอะไรไป
แค่คำพูดของคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเพียงไม่กี่วันทำไมถึงมีอิทธิพลกับใจได้ขนาดนี้

สะบัดหัวแรงๆ จนคอแทบเคล็ดแล้วก็ตัดใจสะบัดผ้าห่มออกจากกาย เดินสะโหลสะเหลเซซังเข้าห้องน้ำ
ถึงให้หลับตานอนต่อก็คงไม่หลับ ไหนๆก็ดันตื่นขึ้นมาแล้วก็ไปทำงานเลยดีกว่า

น้ำเย็นฉ่ำที่รินรดทำให้ความมึนงงจากการนอนน้อยค่อยดีขึ้น แหงนหน้าขึ้นรับสายน้ำที่พร่างพรูออกมาจากฝักบัว
 เปิดตาเปิดกายให้หมดรับรู้ถึงความเยือกเย็นที่กระแทกหน้า กาย และใจ
 แรงโน้มถ่วงของโลกที่ทำให้น้ำที่ตกกระทบลงสู่ในหน้าแรงจนเจ็บนิดๆ
 เขาเกิดความคิดขึ้นมาได้เหมือนน้ำปลุกให้เขาตื่นจากความไม่เข้าใจ สงสัย กังวล ที่มีอยู่ตลอดคืน

น้ำที่ให้ความสดชื่นสบายกายสบายใจทั้งที่อ่อนเพลีย ก็คงเหมือนพี่ตั้งที่ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไป
  ความรู้สึกแบบนี้เขาไม่ค่อยเข้าใจว่ามันคืออะไร รู้แต่ว่ามันไม่เหมือนเดิม
 อารมณ์ความรู้สึกของเขาแตกต่างออกไปจากที่เคย
เขายิ้มกว้างขึ้นมาได้อีกครั้ง เช้าขนาดนี้ลองไปพิสูจน์ใจตัวเองดีกว่า
 ไปขอโทษพี่ตั้งที่พูดไม่ดีด้วย อย่างน้อยเขาก็ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ

หลังจากนั้นเขาก็แต่งตัวไปยิ้มไปเหมือนโดนยาสั่ง สั่งให้ยิ้ม
 เปิดตู้เสื้อผ้าจับเสื้อพลิกไปมาทั้งตู้แล้วก็คิดหนักว่าจะใส่ตัวไหนดีเลือกยากจริงๆ
 ทั้งๆที่ก็มีอยู่...แหะๆสองตัวเพราะช่วงนี้ไม่ได้ซักตามเคย
 ทาบแล้วทาบอีกก็ไม่รู้จะเอาตัวไหนดีระหว่างตัวสีขาวกับตัวสีครีม
 เป็นครั้งแรกที่รู้ว่าใส่เสื้อไม่ใช่เพียงแค่ปกปิดร่างกายไม่ให้อุจาดตา
 เป็นครั้งแรกที่คิดอยากจะดูดีต่อหน้าคนอื่น  เขาคงเปลี่ยนไปแล้ว

หลังจากคิดข้อดีได้ห้าข้อของเสื้อสีครีมที่มีมากกว่าสีขาว ก็รีบแต่งตัวให้เสร็จ
 วันนี้อยากพรมโคโลญจ์นให้ตัวหอมๆ หรือจะฉีดน้ำหอมกลิ่นแมนๆ พยายามหาจนหมดบ้านก็ไม่มี
 จำได้ว่าเคยได้หลอดตัวอย่างมาก็ไม่รู้ว่าโยนไปไว้ที่ไหน
หันซ้ายหันขวาเจอแต่แป้งเย็นตรางูที่เอาไว้โรยตัว ถึงจะทดแทนกันไม่ได้แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย
 
เทแป้งจนฟุ้งไปทั้งห้องปะเข้าไปทั่วตัว ทั้งซอกคอ จักกะแร้ น้องชาย
 หอมกรุ่นเย็นฉ่ำไปทั้งกายจนลมพัดมาทีขนลุกพรึบอย่างพร้อมเพรียงกัน
รีบคว้ากางเกงมาใส่ก็ทุกลักทุเลเพราะพื้นเต็มไปด้วยแป้ง จนซุ่มซ่ามเหยียบชายขากางเกงตัวเอง ล้มก้นจ้ำเบ้าอีก

“อูยยย...เจ็บก้น” เขาค่อยๆดันตัวเองลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล อยากจะโอดโอยให้มากกว่านี้แต่ไม่มีเวลาแล้ว
 เขาต้องรีบไปที่โรงพยาบาลอยากให้พี่ตั้งดีใจที่เห็นหน้าเขาแต่เช้า

เขาไม่เคยรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองอย่างนี้มาก่อน ก้าวขาเดินเข้ามาในโรงพยาบาลอย่างเบลอๆ
จนกลัวขาทั้งสองข้างจะขวิดกันเองพาล้มให้ได้อาย
เขามาหยุดยืนนิ่งหน้าห้องพี่ตั้งอีกครั้ง ยกมือขึ้นดูเวลาเกือบเจ็ดโมงครึ่ง
ยังพอมีเวลาให้พี่ตั้งประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะกระโดดขึ้นรถเสื้อแดง เอ๊ย...เสื้อวินแถวๆนี้ไปที่ทำงานให้ทันแปดโมงครึ่ง พี่ตั้งคงดีใจที่เห็นเขามาหาแต่เช้า

“หวังว่าพี่ตั้งจะตื่นแล้วนะ”
มารยาทที่พ่อแม่ ครูบาอาจารย์พร่ำสอนเรื่องควรเคาะประตูก่อนเข้าห้อง แต่เขาไม่เคยคิดจะทำ  
ไวกว่าความคิดเขาเปิดประตูเข้าไปทันทีตั้งใจจะเซอร์ไพรส์ ตะโกนออกไปพร้อมฉีกยิ้มหวังให้พี่ตั้งให้อภัยเรื่องที่ปากไม่ดีไปเมื่อวาน
“ฮั่ลโล่ววว...กูดม้อนิงส์สส”

เขาก็สมหวังดั่งตั้งใจ คนในห้องประหลาดใจอย่างที่ต้องการแต่ไม่ใช่พี่ตั้งคนเดียว
คนแปลกหน้าที่นั่งอยู่บนเตียงข้างๆ พี่ตั้งหันมายิ้มให้เขาด้วย เขามองออกทันทีว่าสองคนนี้คงกำลังคุยเรื่องที่มีความสุขกัน เพราะพี่ตั้งคนป่วยที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ฉีกยิ้มกว้างไม่แพ้กัน แต่รอยยิ้มนั้นไม่ได้มีให้เขา ซึ่งเป็นคนที่เข้ามาไม่ถูกเวลาไม่ถูกสถานที่ เขาเหลือบตาไปเห็นมือพี่ตั้งอยู่ในมือของชายแปลกหน้าคนนั้น

“เอ่อ ขอโทษครับ ผมไม่นึกว่าพี่จะมีแขก”
 เท้าที่กำลังจะก้าวเข้าไปในห้องกลับก้าวไม่ออก ยืนตัวแข็งเปิดประตูค้างไว้อย่างนั้น

พี่ตั้งค่อยๆหุบยิ้มลงแล้วเมินหน้าหนีเขาเหมือนไม่อยากเห็นหน้า ขาที่จะเดินหน้ากลับต้องถอยหลัง เขากลืนน้ำลาย
 ลดความร่าเริงลง น้ำเสียงอ่อนแรง พูดออกไปอย่างหมดท่า “ผมกลับก่อนดีกว่า นึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้มีงานด่วน”
พยายามพูดให้เป็นธรรมชาติ พยายามยิ้มให้เหมือนที่เคยทำมา แล้วรีบหันหลังออกมา

ถ้าหูไม่ตึงจนเกินไป เขายังได้ยินเสียงตะโกนของพี่ตั้งตามหลังมา “เหลิม เดี๋ยวก่อน!”
แต่ใจเขาไม่อยากจะหันหลังกลับไปอีก ความรู้สึกเจ็บแปลบที่อธิบายไม่ถูก บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไรกันแน่ เขารู้อย่างเดียวเท่านั้นเองคือต้องไปจากที่นี่ก่อน

เขาไม่รู้ว่าพาตัวเองออกจากตรงนั้นได้อย่างไร กว่าจะรู้สึกตัวก็กวักมือเรียกพี่วิน กระโดดขึ้นรถไปอย่างซึมๆ ขอบตาร้อนๆเหมือนฝุ่นเข้า เขาแสบตาจนน้ำตาจะไหล ทำได้แค่กะพริบตาถี่ๆ กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล มิน่าล่ะเค้าว่ากรุงเทพมลพิษมันเยอะ ควันจากรถมันทำร้ายสายตาจนแสบเคืองไปหมด แล้วยังทำร้ายปอดคนใช้ถนนอีก เขาอึดอัดในใจเหมือนหายใจไม่ออกมันแน่นไปหมด

เขาไปถึงที่ทำงานไวกว่าที่คิด เมื่อก้าวเข้าไปในที่ทำงานยังมีคนมาทำงานไม่มาก ยังพอมีเวลาอีกสี่สิบห้านาทีกว่าจะเข้างาน เข้าไปในห้องน้ำยืนมองหน้าตัวเอง สีหน้าซีดเซียว หมองเศร้า คิ้วขมวดมุ่น เขาเอื้อมมือไปจับแก้มตัวเองในกระจก สีหน้าคนในกระจกช่างต่างจากเมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านราวกับเป็นคนละคนกัน

“มึงเป็นเฮี้....อะไร หน้ายังกับแม่ป่วย แม่มึงยังสุขสบายดีอยู่ที่บ้านแท้ๆ มึงจะเศร้าทำไม พ่อแม่มึงไม่ได้ตายสักหน่อย กลัวมากมึงก็ไปซื้อประกันให้เค้าสิวะ ไม่ต้องถงต้องถาม ทำได้ทันที ไม่ต้องตรวจสุขภาพ เจ็บก็จ่าย ป่วยก็จ่าย มึงจะเป็นอะไรนักหนา”
เขาเอามือลูบหน้าคนในกระจกอีกครั้ง สั่งตัวเองอีกครั้ง
“หยุดได้แล้ว กูบอกให้หยุด! เลิกขมวดคิ้วทำหน้าแบบนี้สักที”

แต่ไอ้บ้าในกระจกนั่นกลับทำปากเบะกว่าเดิมแล้วก้มหน้า จนเขาทนดูไม่ไหวต้องกวักน้ำล้างหน้าแรงๆ จนน้ำกระเด็นเปียกเลอะเทอะห้องไปหมด แต่ซวยกว่านั้นป้าน้อมแม่บ้านขี้บ่นเดินเข้ามาพอดี
“ตายแล้ว น้องเหลิม ทำไมแกล้งคนแก่อย่างนี้ ทำเปียกเลอะเทอะหมดเลย ทำไมต้องให้ป้าทำงานสองรอบสามรอบ โตขนาดนี้ยังเล่นอะไรเป็นเด็กๆ มาให้ป้าตีซะดีๆ ไม่งั้นมาช่วยป้าทำความสะอาดด้วย...”

ป้าพูดอะไรต่อไม่รู้ แม้กระทั่งเสียงป้าก็ยังเป็นมลภาวะ ตอนนี้เขาหูอื้อไปหมด ต่อให้ป้าด่าเขามากกว่านี้ เขาก็คงไม่รับรู้ เขามองหน้าป้านิ่งๆ ไม่พูดอะไร ตาเริ่มขวาง พอสบตากันเท่านั้นป้าน้อมที่กำลังยืนฉอดๆต่อว่าเขาอ้าปากค้าง ก่อนค่อยๆหุบปากลงอย่างช้าๆ พูดเสียงเบาลง “มะ...ไม่เป็นไร ป้าทำเองก็ได้”

“ก็แค่นั้น” พูดจบเขาเดินสวนป้าน้อมออกมาจากห้องน้ำ
 ยังได้ยินเสียงป้าบ่นพึมพำ “หมาบ้ากัดมาก็ไม่บอก น่าจะไปฉีดยา มาทำงานทำไมกันนี่”

กลับมาที่โต๊ะทั้งที่เสื้อผ้าหน้าผมเปียกไปหมด เขาเอามือปิดหน้าตัวเองอีกครั้งก่อนนับหนึ่งถึงสิบ สั่งตัวเองว่าเมื่อเปิดมือออกความรู้สึกที่รบกวนใจของเขาจะหายไป เขาหวังไว้อย่างนั้น แต่ยังนับไม่ถึงสิบ
“เหลิม คุณมาทำไมแต่เช้า ผิดปกติกว่าที่เคย”
 เขาเปิดมือออกมองหน้าคนพูด พี่แว่นผู้ช่วยพี่ไก่นั่นเอง เขามองหน้าพี่แว่นนิ่ง กำลังคิดว่าจะตอบว่าอะไรดี แต่พี่แว่นกลับรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นสีหน้าของเขา
“ผะ..ผมไปแล้ว งานเต็มโต๊ะเลย”

จากนั้นก็มีแค่คนแอบมองอยู่ไกลๆ ไม่มีใครกล้ามาทักทายกันอีก แต่ก็ยังได้ยินเสียงลอยตามลมมาว่า “หนูว่าแล้ว ว่าพี่เค้าไม่ปกติ สามวันดี สี่วันร้าย วันนี้ตาขวางอีก”
“อย่าไปยุ่งกับเค้าเลยพี่ เดี๋ยวติดเชื้อ”
 เขาหันหน้ามองคนพูดทันที ไม่มาก ไม่ได้ทำอะไรเลย แค่มองนิ่งๆ ไม่ได้เดินไปกระทืบ หรือตบหัวใครทั้งสิ้น ไม่นานจากนั้น ทั้งแผนกไม่มีใครพูดวิจารณ์เขาอีกเลย ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงาน แม้แต่พี่ไก่ก็ยังแค่แอบเมียงๆมองๆจากที่ไกลๆ ราวๆร้อยเมตร ไม่กล้าเข้ามาระรานหรือใช้งานอะไรอีก
*****************
เหมือนจะดราม่าแล้ว  :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 20-10-2010 19:31:13
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ใครมานั่งระรื่นอยู่กับพี่ตั้งอ้ะคะ?
แล้ว......แล้วเมื่อไหร่พี่ตั้งจะมาหาน้องเหลิม?

ไม่น้าาาาาาาาาา หงิงๆ
สงสารน้องเหลิมเลย T_______T
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-10-2010 20:21:21
 :L1:น้องเหลิม งอลพี่ตั้งซะแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 20-10-2010 20:26:23
ง่าาา สงสารน้องเหลิมล่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 20-10-2010 20:33:50
โฮ้ยยย ... น้องเหลิม :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: panpan ที่ 20-10-2010 21:21:19
น้องเหลิมขนาดนี้แล้ว ยังไม่เข้าใจตัวเองอีก
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 20-10-2010 21:23:38
พี่ตั้งไประรื่นลั้นล้ากะใครล่ะเนี่ย
น้องเหลิมงอนแอนด์หึงขึ้นหน้าแล้ว
รีบมาเคลียร์โดยด่วน  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 21-10-2010 19:30:54
อีพี่ตั้งงงงงงงงงงงงง
รีบมาเคลียด่วนนอ่ะ
 :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 21-10-2010 22:58:52
ตั้งนอกใจน้องเหลิมหรอ!!
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 22-10-2010 00:01:32
มองบวกไปก่อนดีกว่า
การ "เปลี่ยน" ครั้งนี้ อย่างน้อยพี่ไก่และคนอื่นๆก็ไม่กล้ามาระรานเหลิม  :laugh:

แต่ว่า จะมีดราม่าจริงๆหรือนี่  :serius2:

บวก 1 แต้ม ขอบคุณนะคะ แต่ไม่อยากกินมาม่าแล้วค่าาาาาา
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 22-10-2010 10:07:31
ผู้นั้นคือ ไผ ทำเอาน้องเหลิมเสียจริตจิตแตกกันเลยนะนั่น  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-10-2010 11:39:27
เหลิมเหวี่ยงได้น่ากลัวมากอะ  :jul3:
เอาน่า ใจร่มๆ ถ้าไม่มีเยื่อใยต่อกันแล้วพี่ตั้งเค้าจะเรียกเอาไว้ทำไม
แต่ป้อจายคนนั้นเป็นใคร ทำไมต้องมีจับมือถือแขนกันดัวะ :angry2:
ถ้าไม่มาเคลียร์ จะเชียร์เหลิมให้คนอื่นนะพี่ตั้ง อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: kikipanda ที่ 22-10-2010 15:32:22
สงสารปนสมน้ำหน้าน้องเหลิมเล็กน้อย (เหวี่ยงไว้เยอะอ่ะนะน้องนะ ^^")
จะเห็นค่าก็ต่อเมื่อจะเสีย(พี่ตั้ง)ไป แต่ก็หวังว่าพี่ตั้งแกจะยังเหลือเยื่อใย รีบเคลียร์ด้วยนะจ๊ะ


ปล.คิดถึงนิยายคุณฟางมั่กๆๆๆ จนอยากจะเซิ้งต้อนรับเลยทีเดียว >3<

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 22-10-2010 16:52:04
อิพี่ตั้งมาเคลียร์ด่วนนนนนนน  :angry2:

ผู้ชายคนนั้นอ่ะใคร สงสารเหลิม :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 24-10-2010 12:44:35
หมดสต๊อก สมองตัน  :z3:
******************************

วันเวลาในการทำงานผ่านไปอย่างช้าๆ วันนี้เขาทำงานได้มากกว่าเคย แต่ได้เพียงปริมาณ เรื่องคุณภาพต้องรอการพิสูจน์
 เพราะแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำอะไรไปบ้าง มันเบลอ เหนื่อย อ่อนล้าไปหมด

 ถึงเวลาเลิกงานเขาเก็บของบนโต๊ะเสร็จ ยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูจนได้ หน้าจอว่างเปล่าเหมือนแต่ก่อน
 ไม่มีใครโทรมา ไม่มีมิสคอล ไม่มีแม้แต่เทพธิดาพยากรณ์ หรือรายการข่าวด่วนใดๆ วันนี้คงเป็นวันแห่งความโดดเดี่ยวที่แท้จริง
  แต่ก็นั่นแหละพี่ตั้งจะโทรมาทำไม เค้าคงมีเพื่อนที่ถูกใจแล้ว ไม่เหมือนคนปากเสียแบบเขา
 คนหมดประโยชน์ก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องให้โทรหาแล้วนี่

ชีวิตของเขาคงกลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็นมา เขาเดินเอื่อยๆไปหาพี่ไก่ บอกลากลับบ้าน
พี่ไก่เงยหน้าขึ้นมา “เฮ้ยจะ...จะ...กลับ...แล้วเหรอ”
ถ้าเป็นเมื่อก่อน พี่ไก่คงด่าเขาไม่หยุดว่ากลับก่อนหัวหน้าได้ยังไง ต้องทำงานไปด้วยกันเป็นทีมถึงจะถูก
แต่วันนี้พี่ไก่ใจดียอมให้เขากลับก่อนได้ ถึงแม้สีหน้าจะดูขัดกับการกระทำไปหน่อย 
ก็ไม่เลว ยังไงวันนี้ก็ยังมีเรื่องดีๆสำหรับเขาบ้าง เขาพยายามมองหาข้อดีของวันห่วยๆแบบนี้

เดินมารอรถเมล์อยู่นาน ดมควันรถจนอึดอัดไปหมด ยังไม่รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด
ความรู้สึกรุ่มร้อนในใจที่เขากำจัดออกไปไม่ได้ พอสมองไม่ได้คิดเรื่องงาน เรื่องเมื่อเช้าก็เข้ามาวุ่นวายในใจอีกครั้ง
 แต่ก็ตอบตัวเองไม่ได้ว่าอาการที่เป็นอยู่มันเป็นอะไร

ในเมื่อรถให้กลับบ้านไม่มา เขาเลยขึ้นรถคันที่มาก่อน ไม่ได้มองด้วยซ้ำว่าจุดหมายคือไปที่ไหนบ้าง แล้วแต่จะให้มันพาไป
ลองเส้นทางใหม่ๆดูบ้าง อะไรอาจจะดีขึ้น วันเวลาในชีวิตมันไม่แน่นอน อยากจะทำอะไรก็ทำไป

เขานั่งรถไปเรื่อยๆ ลมร้อนอ้าวพัดหน้าเขาจนชา ข้างทางดูแปลกตาไม่คุ้นเคย
แต่จะกลัวอะไรในเมื่อตราบใดที่ยังมีถนน ยังไงเขาก็มีทางกลับบ้าน
ป้ายไหนคนลงเยอะเขาก็ลงตาม อยากจะรู้แค่ว่าทำไมคนถึงลงที่นี่เยอะ

กว่าจะรู้ตัวเขาก็เปลี่ยนรถเมล์ไปถึงสามคัน รถมาจอดที่ตลาดโต้รุ่งแห่งหนึ่ง ผู้คนเดินกันพลุกพล่าน
กลิ่นอาหารจากร้านข้างทางโชยเข้าจมูก ท้องไม่รักดีร้องเสียงดังขึ้นมาเหมือนนาฬิกาปลุก  เสียงดังจนคนที่เดินสวนมาได้ยิน
หญิงสาวคนนั้นถึงกับปิดปากหัวเราะกิ๊ก ทำเอาความอายกลับคืนมาทันทีต้องรีบเดินให้ไวไปจากตรงนั้น

เวลาช่างผ่านไปไว นี่เขาเรื่อยเปื่อยจนหนึ่งทุ่มแล้ว ความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามาเหมือนวันก่อนๆ
แต่วันนี้เขากลับรู้สึกว่าท้องฟ้ามันมืดกว่าเดิม น่าแปลกที่ใจตัวเองมีอิทธิพลมากกว่าสิ่งอื่นใดในโลก
 พอใจมันมืดมนทุกๆอย่างรอบกายก็พลอยมืดไปด้วย

เขาเลือกที่กินมื้อค่ำเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวราดหน้าที่ดูสะอาดสะอ้านข้างทางนั่นเอง ระหว่างนั่งรอเขาอดคิดถึงวันก่อนที่ไปกินข้าวกับพี่ตั้ง
ที่เยาวราชจนได้ ยังจำความรู้สึกตื่นเต้น สนุกสนานในวันนั้นได้ดี ก็แค่ไม่กี่วันเองนี่นะ 
เผลอยิ้มบางๆออกมาอย่างน้อยก็เป็นวันที่ดีในความทรงจำวันหนึ่ง สำนึกในคำที่ว่าเมื่อเราสูญเสียสิ่งที่ดีๆไปถึงจะเห็นคุณค่าของมันก็วันนี้เอง

ดื่มน้ำจนหมดแก้วเรียกคนขายมาเก็บเงิน แล้วก็นั่งงงอยู่พักใหญ่ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เขาคงต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อน
 ถ้าเขายังไม่รู้แม้กระทั่งจุดที่ตัวเองอยู่ แล้วเขาจะหาทางกลับไปให้ถูกได้ยังไง ตัดสินใจหันไปถามคนข้างๆ ดูหน้าตาน่าจะพอมีน้ำใจ
“น้องครับแถวนี้เรียกว่าอะไรครับ พอดีผมจะหาทางกลับแถวลาดพร้าว”

“แถวนี้มันฝั่งธนฯพี่ แต่ผมไม่รู้ว่าจะไปลาดพร้าวยังไงสิ ขอโทษนะพี่ เอ๊ะ...แต่รอแป๊ปนะพี่ เดี๋ยวผมโทรถามเพื่อนให้ บ้านมันอยู่ลาดพร้าวมันอาจจะรู้”
เขาพยักหน้ารับรู้ก่อนบอกขอบใจไป ยังไงเขาก็นั่งแท็กซี่กลับอยู่ดี ก็ออกจะขำตัวเองว่ากูไปถามเขาทำไมกัน
อาจจะเพราะเขาอยากพูดกับใครสักคนมากกว่า ใครก็ได้ คนที่ไม่รู้จักก็ยิ่งดี แล้วมันก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นจริงๆ เมื่อได้รับน้ำใจที่มาจากคนแปลกหน้า

“พี่ครับ พี่ต้องขึ้นรถหลายทอดนะ แต่เพื่อนผมมันแนะนำให้พี่ไปตั้งต้นที่สนามหลวง”พอน้องพูดจบเขาเผลอหัวเราะขำก๊ากขึ้นมา
เพื่อนน้องคงคิดว่าเขาเป็นคนมาจากต่างจังหวัดที่ไม่รู้ทางก็ต้องไปเริ่มต้นที่หมอชิต น้องคนนั้นพลอยหัวเราะไปด้วย
 
“มันบอกว่าถ้าพี่ลงที่อื่น พี่จะงงว่าตอนนี้อยู่ตรงไหน เดี๋ยวผมบอกทางพี่ไปสนามหลวง ต่อเดียวเองพี่
แล้วพี่ค่อยไปหาสายกลับลาดพร้าวมันน่าจะมีรถเมล์หลายสายนะ”
น้องชายคนนั้นบอกรถเขาหลายสาย เขาจำได้บ้างไม่ได้บ้าง แยกย้ายจากกันไปแล้วเขายังยิ้มได้อยู่ดี

บางครั้งเมื่อเราไม่รู้ทางเราอาจจะต้องไปหาที่พัก แล้วตั้งต้นจากจุดเดิมก่อนที่จะค่อยคลำหาทางต่อไป
เส้นทางต่อไปนั้นมันเป็นทางที่เขาต้องใช้ความสามารถของตัวเองบ้าง  เขาเปลี่ยนใจไม่ขึ้นรถแท็กซี่ แต่ขึ้นรถเมล์ตามที่น้องชายคนนั้นบอก
บางทีทุกอย่างอาจต้องใช้เวลาให้มันทอดยาวขึ้น อะไรถ้ามันเร็วเกินไปมันคงไม่มีความหมาย

ความสัมพันธ์ของเขากับพี่ตั้งก็เหมือนกัน แค่ไม่กี่วันที่รู้จักกันมันเร็วเกินไป ทั้งที่มันมีผลกับใจเขาจนนึกไม่ถึง
 เขาไม่รู้ว่าพี่ตั้งคิดยังไงที่เข้ามาใกล้ชิด รู้แต่ว่าวันที่ไม่มีพี่ตั้งยิ้มให้ มันช่างเศร้าเหลือเกิน
 แม้แต่ยิ้มที่พี่ตั้งให้คนอื่นไป เขาก็ยังหวงไม่อยากเสียมันไป

เขาก้าวขึ้นรถเมล์แน่นๆเพื่อมุ่งหน้าไปสนามหลวง ทุกที่นั่งเต็มเหมือนมีใครจองตั๋วนั่งมา
 ไม่มีใครมองใคร ไม่มีใครคุยกับใคร ทุกคนหน้าเหนื่อยหน่ายเหมือนเขา แต่ส่วนใหญ่คงมุ่งหน้าไปสนามหลวงเหมือนกัน
 ไม่ไปไหว้พระวัดพระแก้วก็คงไปหาหมอดู เพราะตอนนี้คงไม่มีใครอยากเล่นว่าวตอนทุ่มกว่า

กว่าเขาจะหาเส้นทางต่อรถจนกลับถึงบ้านได้ก็เกือบสามทุ่ม ทั้งเหนื่อยกายทั้งหนักใจ
แต่ก็ดี อาบน้ำเสร็จจะได้หลับง่ายๆ แต่กลายเป็นว่าอาบน้ำเสร็จเขาก็ยังไม่หลับ

เอามือก่ายหน้าผากแล้วกลับมาคิดเรื่องพี่ตั้งอีกจนได้ คิดขึ้นมาแล้วเจ็บแปลบที่ใจจนต้องเอามือกดไว้ที่หน้าอก
หรือว่าเขาจะเป็นโรคหัวใจ คงต้องไปตรวจร่างกายซะหน่อย ขืนรอเวลาจนกว่าบริษัทให้ไปตรวจ
 หัวใจเขาอาจจะทนไม่ไหวล้มเหลว ไหลตายไปก่อนก็ได้

ยังจำสีหน้าพี่ตั้งตอนที่เมินหน้าหนีได้ดี จำได้แม้กระทั่งแววตามีความสุขที่มองผู้ชายคนนั้น
พอนึกถึงก็แน่นหน้าอกขึ้นมาอีก จนต้องสูดลมหายใจยาวๆ แล้วค่อยผ่อนลมออกมาช้าๆ

ไ่ม่รู้ว่าพี่ตั้งคิดยังไงที่เมื่อเช้าจู่ๆเขาก็รีบผลุนผลันออกมา แต่คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ
 เป็นเขาเองที่ทำลายมิตรภาพดีๆลงไป เป็นเพราะปากตัวเองไม่ใช่เพราะใครหรือเรื่องอะไรหรอก
ถ้าเขาไม่พูดอะไรแย่ๆใส่พี่ตั้ง ตอนนี้เขาคงไม่ต้องนอนไม่หลับสองวันซ้อนแบบนี้ 
เสียใจที่อย่างน้อยก็น่าจะมีสักครั้งที่เขาพูดดีๆกับพี่ตั้ง พยายามคิดว่าเคยบ้างรึเปล่าก็จำไม่ได้ 

พี่ตั้งโชคดีที่ไม่ต้องเจอคนอย่างเขาอีก คงมีคนอื่นที่ดีกว่า คนที่พูดเพราะๆด้วย
 ไม่เหมือนเขาที่ปากเสีย นิสัยแย่ พูดไม่รู้เรื่อง เฮ้อ... ก็ดีสำหรับทุกคนแล้วล่ะ
เขาก็กลับไปมีชีวิตแบบเดิมของตัวเอง แต่ถึงยังไงมันก็สนุกที่มีใครบางคนเข้ามาในชีวิต ถึงแม้จะไม่กี่วันก็ตาม
 
ก่อนจะหลับเขายังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้ง มีแมสเสจส่งมาหนึ่งฉบับ เขาตื่นเต้นลุกขึ้นมาเปิดอ่านมือไม้สั่น แล้วก็พบว่า




 ‘ วันศุกร์นี้ห้างฯมีมิดไนท์เซลส์ อย่าลืมไปช็อปกระหน่ำ’

เขาหัวเราะกับตัวเองอีกครั้ง ก่อนล้มตัวลงนอนบอกตัวเองว่า ‘มึงคิดไร้สาระไปทำไมให้ตับเสื่อม ไปช็อปปิ้งซะหมดเรื่อง หึหึ’
********************************
ถ้าจบแค่นี้จะเป็นยังไงนะ ก็ชื่อเรื่องมันสั้น เนื้อเรื่องก็ต้องสั้นด้วยสิ :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 24-10-2010 13:02:06
สั้นไม่ว่าแต่อย่างค้างอย่างนี้  o22
แบบอารมณ์ไม่จบอ่ะ อึดอัดแทนเหลิม
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 24-10-2010 13:06:09
นายเหลิมปากดีหายไปไหนหว่า แล้วใครเนี่ยหน้าเซ็งโลกขนาดเนียะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 24-10-2010 13:14:26
เหอๆ กลับไปหาพี่ตั้งตอนนี้ก็ยังทันมั้งเหลิม
แต่อย่าสั้นตามชื่อเริ่องได้มั้ยอะคะ แอบค้างเลย :a5:
ขอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าา :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 24-10-2010 13:35:30
อ่านตอนนี้แล้วอึดอัดคับข้องใจเป็นที่สุด แต่แน่ใจว่า วันนี้ที่ทำงานเหลิม คงบรรยากาศมาคุ เงียบเป็นเป่าสากเป็นแน่แท้
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 24-10-2010 19:19:47
ถ้าจบตอนนี้จะตามไปฆ่าคนแต่ง
 :sad4:
จบไม่ได้ ต้องเอาพี่คั้งกลับมาเคลียะน้องเหลิมก่อนน น
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 24-10-2010 19:34:25
บางทีทุกอย่างอาจต้องใช้เวลาให้มันทอดยาวขึ้น อะไรถ้ามันเร็วเกินไปมันคงไม่มีความหมาย

เห็นด้วยอย่างเต็มหัวใจค่ะน้องเฉลิมฉลอง ปล่อยให้เวลาช่วยทำให้ความคิดและความรู้สึกได้ที่และชัดเจน
เหมือนกับเวลาที่เราผสมแป้งเสร็จแล้วก่อนเอาไปอบต้องทิ้งให้แป้งขึ้นก่อนไงคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 24-10-2010 19:46:57
เหลิมไปปรับความเข้าใจกับพี่ตั้งไวๆ นะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 24-10-2010 20:32:35
โถ! น้องเหลิม รู้จักหัวจิตหัวใจตัวเองหรือยังล่ะ
ถ้ารู้แล้ว คงต้องวิ่งไปหาีพี่ตั้งเองบ้างละนะ
เพราะพี่ตั้งก็อาจจะเสียใจ ใจเสีย คิดว่าน้องเหลิมหงุดหงิด รำคาญพี่ตั้ง จนแกไม่กล้าติดต่อมา(ตอนนี้)หรือเปล่า

บวก 1 แต้ม ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: yotsaphat ที่ 24-10-2010 22:01:05
ค้างมากมายครับ รอต่อด่วน  :seng2ped:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 24-10-2010 22:41:21
ง่ะ ทั้งสั้นทั้งค้าง
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 24-10-2010 22:56:11
พี่ตั้งเค้าหายไปไหนนะเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jaaeyboy ที่ 24-10-2010 23:40:31
เค้าผิดปกติหรือเปล่า

อ่านตอนนี้แล้ว ร้องไห้อ่ะ

จิงๆน่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 25-10-2010 13:53:01
ยังคงค้างคาเหมือนเดิม

เมื่อไหร่จะปรับความเข้าใจกันสักที
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 25-10-2010 20:52:42
จบค้างแบบนี้
ชีวิตจะสั้นตามไปด้วยน๊า
คนอ่านตามสาปแช่งไม่รู้ด้วยนะ
 :angry2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: kikipanda ที่ 26-10-2010 00:45:08
สั้น สมชื่อไปมั้ยยยย คุณฟางงงงง:m31:

ตอนนี้เข้าใจอารมณ์น้องเหลิมเลย เรื่องรอโทรศัพท์อ่ะค่ะ แบบสัญญาณดังตู๊ด เราก็รีบฮัลโหลรับปั๊บ แต่ปลายสายมันดันบอกว่า "สวัสดีค้าาาา พวกเรากามิกาxx...บลาๆๆ" เซ็งอารมณ์จริงๆ :m16:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 24/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-10-2010 10:44:44
น้องเหลิมแกกำลังจะเข้าขั้นโคม่าแล้วนะ พี่ตั้งอยู่หนายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 26-10-2010 19:32:51
ล้อเล่นหน่อยเดียวว่าจะจบ คนอ่านโหดจริ๊งงง   :try2:
ยังไม่จบตอนนี้หรอกค่ะ แต่คงอีกไม่นาน :z1:
*****************************

วันศุกร์

วันนี้เขาตื่นแต่เช้า ยิ้มกว้างให้คนในกระจก ให้กำลังใจมันหน่อย จิตตกไปวันเดียวก็พอแล้ว ตกหลายๆวันจะพาลเป็นบ้าไป
 คนในกระจกยิ้มตอบกลับมาเล็กๆ ถึงแม้จะตาโบ๋ไปหน่อยแต่ก็ยังหน้าตาดีพอไปไหนมาไหนได้ไม่โดนรังเกียจ
 
เขาพยายามทำจิตใจให้ร่าเริง ไม่อยากเป็นแบบเมื่อวานแล้ว มันเครียดเกินไปสำหรับคนอย่างเขา
 อะไรที่ผ่านไปแล้วไม่อยากจำ ถ้ามันจะต้องจบมันก็คือจบ จะไปคร่ำครวญเครียดเป็นบ้าเป็นบอก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นมา
 วันนี้จะขยันทำงานให้คนงงเลย เอาพลังมาทำงานดีกว่า

เขาไปถึงที่ทำงานเช้าเหมือนเคย นั่งทำงานไปเรื่อยๆ ไม่ได้สนใจใครจะมาจะไป ไม่มีคนเข้ามาทักเขาเหมือนแต่ก่อน
คงกลัวจะเหมือนเมื่อวาน พอคนเริ่มเข้างานเยอะขึ้น เขาเลยเดินไปหาเพื่อนร่วมงานเอง
“น้องจิ๊บ พี่ฝากเอกสารทำต่อด้วยนะครับ พี่อู๊ดฝ่ายจัดซื้อขอมา พี่ทำเรื่องให้เสร็จแล้ว น้องเสนอพี่ไก่ได้เลย”
 ผมส่งยิ้มให้น้องจิ๊บที่ทำตาค้างมองผมด้วยความตกตะลึงในความหล่อ ผมไม่ว่าอะไรที่น้องจะแอบมองผมบ้าง
 แต่ก็แอบเขินนิดหน่อยเลยหันหลังจะกลับไปที่โต๊ะ แต่น้องจิ๊บกับคว้าหมับที่แขนผมก่อนพูดเสียงน่ารัก
 “พะ...พี่เหลิมสบายดีแล้วเหรอ”

เห็นแววตาจริงใจของน้องที่ส่องประกายผ่านตาตี่ๆ แล้วก็ซึ้งในความห่วงใย ตอบเสียงนุ่มไปว่า “ดีแล้วครับ ดีขึ้นแล้ว”
น้องจิ๊บยิ้มกว้างรับคำตอบของเขา “ดีใจจัง”

เขารู้สึกดีจนต้องอมยิ้มแล้วกลับไปทำงานต่อ ได้ยินเสียงน้องจิ๊บคุยกันเสียงดังกับหมู่เพื่อนสาวแต่เขาไม่ได้สนใจว่าเรื่องอะไร
 สักพักมีแก้วน้ำส้มมาวางแรงๆบนโต๊ะ ใครวะไม่มีมารยาทเลย เขาเงยหน้ามอง พี่ม้ายืนยิ้มหวานหวานอยู่ตรงหน้า
“วันนี้น้องเหลิมหน้าเหี่ยวไปหน่อยนะ พี่เลยจัดวิตะมินซีสดๆมาให้ ดื่มให้หมดนะคะ ไม่งั้นพี่เคือง”
 ผมโกรธที่มาว่าผมหน้าเหี่ยวแต่ก็หัวเราะกับคำพูดของพี่ม้า และอิ่มใจในน้ำใจที่มีให้
“ขอบคุณครับ ผมจะพยายามไม่เหี่ยวแข่งกับพี่ หึหึ”
เขาพยายามกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นดวงตาเขียวเรืองแสงของพี่ม้าที่มองตากลับปะหลับปะเหลือกใส่เขา แล้วแถมด้วยตีแขนเขาเบาๆ

“น้องเหลิมนะน้องเหลิม พี่รึอุตส่าห์เป็นห่วง ยังปากเสียเหมือนเดิม แต่ก็ดีแล้วล่ะที่หัวเราะได้
มีอะไรให้ช่วยบอกนะคะ ทำได้ก็จะทำ ทำไม่ได้ก็ทำเอง อุ๊ยย...พี่ไปแล้ว นายมาไปเสนอหน้าก่อน”
 พี่ม้าวิ่งไปแล้ว เขาดื่มน้ำส้มที่พี่ม้าเอามาให้อย่างชื่นใจ น้ำส้มไม่สดอย่างที่พี่ม้าว่า กลับมีกลิ่นฉุนนิดหน่อย
 แต่ที่ชื่นใจเพราะน้ำใจเพื่อนร่วมงานที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนมากกว่า

เขาสังเกตว่าบรรยากาศในการทำงานวันนี้ดีขึ้น เพื่อนร่วมงานสลับกันมาชวนคุยไม่ให้เขาว่าง
 หลายคนทำท่ากลัวๆกล้าอยากถามว่าเมื่อวานเขาเป็นอะไร ทำไมถึงได้ตาขวางแบบนั้น แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีผู้กล้า
 คงกลัวว่าเขาจะคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีก แต่ทุกคนทำให้เขารู้สึกดีขึ้นจริงๆโดยไม่ต้องฝืน หมดเวลางานเขายังนั่งทำงานต่อจนหนึ่งทุ่ม
 มารู้สึกตัวว่าดึกแล้วก็ตอนที่ท้องร้อง เขาเตรียมตัวเก็บของจะกลับบ้าน

“วันนี้ทำงานเสร็จไวเลยนะ เท่ากับแต่ก่อนที่ทำมาหนึ่งอาทิตย์”น้ำเสียงกวนใจของพี่ไก่มาอยู่ตรงหน้า มานั่งตอนไหนวะหลบไม่ทัน
“ถ้าเหลิมทำงานได้แบบนี้ตลอดพี่คงดีใจ”
เขามองหน้าพี่ไก่ วันนี้เขาใจเย็นพอที่จะรับฟัง อยากรู้ว่าจะชมๆด่าๆว่ายังไงต่อ พี่ไก่เหมือนจะรู้ร่ายยาวต่อ
 “พี่ไม่รู้ว่าคุณมีปัญหาเรื่องอะไร แต่เมื่อวานคุณดูเฟลมาก แล้วพลอยทำให้บรรยากาศของที่ทำงานเฟลไปหมด เมื่อวานทุกคนเครียด”

“ผมขอโทษครับ” เขารู้สึกผิดจริงๆ ฝ่ายของเขาเป็นฝ่ายเล็กๆ เพื่อนร่วมงานไม่มาก แค่คนเพียงคนเดียวมีปัญหาจึงมีผลกระทบไปหมดทุกคน
“ผมจะไม่ถามว่าเรื่องอะไรเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่คุณแก้ปัญหานั้นได้รึยัง” พี่ไก่มองเขายิ้มๆ โดยไม่รอคำตอบ
“ถ้าผมพอช่วยได้บอกผม ผมอาจไม่ใช่คนดีนัก แต่คุณก็เป็นลูกน้องผมมานานพอควร ผมก็อยากช่วย”

เขายกมือไหว้พี่ไก่ ขอโทษ “ผมขอโทษพี่อีกครั้งครับ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว มันจบไปแล้ว ผมจะไม่ทำตัวแบบนั้นอีก”
“อืม ก็ดี คุณโตพอที่จะจัดการเรื่องส่วนตัวได้เองแล้ว ผมก็วางใจ อยากให้คุณรู้เท่านั้น ทุกคนในที่ทำงานเป็นห่วงคุณกันหมด
 คุณไม่ได้อยู่คนเดียวนะเหลิม” พี่ไก่จับไหล่เขาบีบเบาๆแล้วจากไป เขายิ้มสบายใจกว่าเคย เขาคงมีความสุขในการทำงานมากขึ้น
 ทุกคนก็ไม่ใช่จะแย่ไปเสียหมด แค่ว่าเขาไม่เคยเห็นส่วนที่ดีๆนั้นมากกว่า

เดินลงมาข้างล่างหมุนซ้ายหมุนขวาว่าจะไปไหนดี คืนนี้วันศุกร์พรุ่งนี้ก็หยุด มีเวลาว่างทั้งวันที่จะพักหรือทำงานบ้าน
 ทำธุระส่วนตัว เหมือนที่แต่ก่อนเคยทำ แต่ก่อนก็อยู่คนเดียวมาตลอดนี่นะจะมาโหยหาคนอื่นทำไม
 แต่ก่อนยังไม่เคยเป็นอะไรเกิดจะมาเป็นมาตายอะไรกะอีแค่เรื่องเมื่อวาน

 เขายิ้มเป็นกำลังใจให้ตัวเองก่อนนึกถึงแมสเสจเมื่อคืนขึ้นมาได้ 'ไปช็อปปิ้งก็ไม่เลว' เขาตัดสินใจนั่งรถไปห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน
 เดินหาซื้อของเข้าบ้านดีกว่า ปกติวันทำงานเขาไม่มีเวลามาเดินแบบนี้เท่าไหร่
เลือกซื้อของเกือบเสร็จใกล้จะกลับก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยที่ฟังมาทั้งอาทิตย์ดังขึ้นมา
“เราว่าตั้นซื้อคะนอไปหลายๆซองหน่อยเหอะ อาหารที่นู่นมันแพง ยังไงต้องทำเองอยู่แล้ว”

มีแต่เสียงนี้เท่านั้นที่เขาไม่เคยได้ยิน “นายก็รู้เราทำอาหารเป็นที่ไหน ไม่เอาหรอก ทำไม่เป็น ขี้เกียจ”
“เอาไปเถอะน่า เดี๋ยวเราสอนให้เอง เราเคยทำ นายยังว่าอร่อยเลย”
“อื้อ ก็นั่นนายทำ ไม่มีนายทำให้กินจะอร่อยได้ไง”

เขาแทบจะทนฟังไม่ไหวอยากจะอ้วก ใจที่สบายๆทำใจไว้แล้วกลับมาปั่นป่วนอีก หันหลังจะเดินฉากหนีไป
 “เอ๊ะ...นั่นเหลิมนี่ เหลิม
เสียงพี่ตั้งเรียกขึ้นมาไม่ค่อยเลย รู้ก็รู้ว่าไม่ชอบชื่อนี้จะตะโกนให้รู้ทั้งห้างฯเลยใช่ไหม
 เขาจะทำเป็นหูตึงไม่ได้ยินก็กลัวใจ เกิดพี่ตั้งตะโกนเรียกชื่อเต็มๆคงต้องเอาถุงครอบหัวเดินออกจากห้างฯแน่ๆ
 จำใจต้องหันกลับมาตามเสียงเรียก “ครับ อ้าว...พี่ตั้ง” ได้มองหน้าพี่ตั้งชัดๆแล้วเกิดพูดไม่ออกขึ้นมาซะงั้น

“มาซื้อของเหรอ”
 พี่ตั้งทักขึ้นมาอย่างโง่ๆ มาเติมน้ำมันมั้ง ถ้าอยู่สองคนเขาคงตอบไปแบบนี้ แต่นี่มีใครก็ไม่รู้มายืนหล่อยิ้มอยู่ได้
คนอะไรยิ้มให้คนแปลกหน้าก็ได้หน้าไม่อาย เขาเลยทำได้แค่พยักหน้าอย่างสุภาพ
“คนนี้เหรอน้องเหลิม เฉลิมฉลอง ที่ตั้งเล่าให้เราฟัง วันก่อนไม่ทันได้คุยกันนะครับ”

เขาพยักหน้าอีกเหมือนยอมรับว่ากูนี่แหละเฉลิมฉลอง แต่ไม่รู้จักทำไมต้องตอบด้วยล่ะ เขาทำเหมือนคนเป็นใบ้ที่พูดไม่เป็น
 พี่ตั้งก็ไม่พูดเอาแต่ยืนฟังเงียบๆ ทำเอาเขาเซ็งหนักทั้งที่ทำใจมาก่อนแล้วหนึ่งวันว่ามันจะจบ จบทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำไป
“ขอตัวก่อนนะครับ ซื้อของเสร็จแล้ว” เขาทำท่าจะถอยออกมาแต่พี่ตั้งกลับเรียกเขาไว้
“เหลิม...”

เขาหันไปมองพี่ตั้ง ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าตัวเองมองไปแบบไหนแค่ใจอยากบอกพี่ตั้งว่าขอโทษ
 แต่คำพูดติดอยู่ที่ปากไม่กล้าเอ่ยออกมาดังๆ พี่ตั้งมองตอบกลับมาด้วยสายตาอ่อนโยนเหมือนเคย ก่อนที่จะค่อยๆส่งยิ้มใจดีมาให้
พี่ตั้งเดินมายึดแขนเขาไว้ พูดเบาๆแต่กลับดังเข้าไปถึงใจ
 “ไปกินข้าวด้วยกันนะเหลิม ไม่เจอวันเดียว คิดถึงแทบแย่”

เขาแทบจะกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ เท่านี้แหละที่เขาต้องการ น้ำตาแทบไหล ทั้งๆที่ตัดใจไปแล้ว ทำใจไปแล้ว ว่าคงไม่ได้เจอกันอีก
 ต้องขอบคุณแมสเสจนั่นที่ชี้นำให้เขามาซื้อของ เขาดีใจจนพูดอะไรไม่ออก มองหน้าพี่ตั้งแล้วเม้มปากแน่น
 อยากพูดให้เยอะๆแต่สถานที่ไม่อำนวย แถมมีไอ้บ้านั่นยืนกอดอกมองตาแป๋วอยู่
“จะดีเหรอ พี่มากับคนอื่น”

ตอบไปแล้วแทบตบปากตัวเอง เกิดจะมามีมารยาทเอาตอนนี้นะมึง คนเขาเปิดทางโทลล์เวย์ให้ขนาดนี้
 เสือกไปบอกว่าไม่อยากขึ้นเพราะรถติด พอคิดได้ขึ้นมาว่าพูดอะไรออกไปเลยต้องรีบพูดต่อ
ไหนๆก็พูดไปแล้วนี่จะคืนคำก็ดูไม่ดี(ซึ่งไม่เคยมีดีอยู่แล้ว หุหุ)
“เอาไว้พี่กลับแล้วค่อยโทรหาผมดีกว่า”

พี่ตั้งขมวดคิ้วหันไปมองหน้าไอ้บ้าหน้าตาดีที่ยืนกอดอกมองอยู่ข้างๆ “คนอื่น...อ๋อ ไม่ใช่คนอื่นหรอกเพื่อนสนิทพี่เอง 'ตั้น'  ตั้นนี่เหลิมนะ”
ไอ้ 'ตั้น' พยักหน้าให้ในขณะที่เขายกมือไหว้ตามมารยาท(อีกแล้ว)
 “ยินดีที่ได้เจอน้องเหลิมครับ ไม่เห็นเหมือนอย่างที่ตั้งบอกเลย”

คราวนี้เป็นเขาที่ขมวดคิ้วแทน ไปบอกไว้ว่ายังไงล่ะ เขาหันไปมองพี่ตั้งทำตาเขียวใส่แทนเครื่องหมายคำถาม
 พี่ตั้งอมยิ้มรีบตอบคำถามจากสายตาเขาอย่างไว “พี่แค่บอกว่าเหลิมพูดเก่งแค่นั้นเองจริงๆนะ ไม่ได้นินทาอะไรที่ไม่ดีเลย ไม่ได้บอกไปหมดทุกอย่างหรอก”

คำตอบทำให้เหมือนจะดีขึ้นแต่ก็ไม่ใช่ ทำเอาเขาหงุดหงิดอีก เอาเถอะรู้แล้วว่าตานี่เป็นเพื่อน ชื่อตั้น
 (ทำไมต้องชื่อคล้ายๆ กันด้วยนะ พ่อแม่ปรึกษากันก่อนตั้งชื่อรึไงวะ) หน้าตาดีมีสกุล ดูใกล้ๆยิ่งดี อยุ่กับพี่ตั้งยิ่งดีใหญ่ ออร่ากระจายเป็นแพคคู่
 ในขณะที่เขาแสนจะมอมแมมโลโซ  บอดี้สลัม  บ้านๆขนาดนี้

นิสัยเลวกลับมาอีกจนได้ ไม่อยากรู้จักใครไปมากกว่านี้แล้ว ไม่ต้องการใครเพิ่มมาในชีวิตอีก
 “งั้นผมกลับก่อนนะพี่ ไปละ อย่าลืมโทรหาด้วยล่ะ”
“เดี๋ยวสิเหลิม” เขาเพิ่งรู้ว่าพี่ตั้งยังไม่ได้ปล่อยแขนเขาที่ยึดไว้เลย พี่ตั้งบีบแขนเขาแน่น

“ไปกินด้วยกันเถอะ อยากคุยด้วย” แววตาพี่ตั้งทำเอาเขาแทบละลาย ใจอ่อนยวบ อยากไปด้วยใจแทบขาด
 แต่เห็นไอ้พี่ตั้นยืนหน้าหล่ออยู่แล้วหมดอารมณ์ไม่อยากไป
“ไว้วันหลังแล้วกันพี่ พี่ยังซื้อของไม่เสร็จนี่ ว่างแล้วค่อยโทรมา”
เขาจับมือพี่ตั้งไว้นิ่งบีบเบาๆส่งผ่านความรู้สึกที่ยังดีๆอยู่ ก่อนพูดไปอย่างเขินๆ “ขอโทษนะพี่ ไว้คุยกัน”
แค่คุยกันสองคนยังไม่ค่อยรู้เรื่อง ขืนมีคนอื่นอยู่ด้วย ถึงไปก็คงไม่มีประโยชน์ แต่พี่ตั้งก็ถามคำถามที่ทำให้เขาอึ้งสนิท

“ทำไมพี่ต้องโทรหาเหลิมล่ะ”
คุ้นๆคำถามแบบนี้ เหมือนเคยได้ยินคำถามราวๆนี้มาก่อน ในขณะที่กำลังใช้สมองคิดว่ากูจะตอบยังไงดี นั่นสิทำไมต้องเป็นพี่ตั้งโทรหา
“ผมโทรก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าพี่จะเสร็จธุระกับ ‘เพื่อนสนิท’ ตอนไหน”

 เน้นกันนิดนึง เผื่อจะรู้บ้างว่าเขารู้สึกยังไงที่เห็นพี่ตั้งสนิทกับไอ้พี่ตั้นขนาดนี้
แต่พี่ตั้งก็คงเป็นคนเดิมที่ไม่เคยรู้สึกอะไรกับคำเหน็บแนมของผม
“อืม นั่นสินะ พี่ก็ไม่รู้ คงต้องช่วยตั้นซื้อของอีกสักพัก เพื่อนสนิทซะด้วยจะทิ้งไปตอนนี้ก็ไม่ได้ พี่ไม่แน่ใจเหมือนกันอาจจะดึก
ถ้าดึกมากเหลิมไม่ต้องรอก็ได้ เดี๋ยวจะบ่นอีกว่าพี่โทรไปกวนใจ”
 เหมือนจะโดนพี่ตั้งสวนคืน ต้องแอบกลืนน้ำลายรวมถึงกลืนคำพูดที่แย่ๆที่เคยพูด
พี่ตั้งทำจมูกย่นล้อ แต่ทำไมเขาไม่โกรธกลับดูแล้วน่ารักดี นี่เขาเป็นอะไรไปแน่ แต่ที่แน่ๆเขาบอกพี่ตั้งก่อนแยกจากกันว่า


“ไม่เป็นไรพี่ ดึกแค่ไหน ผมก็รอ ผมจะรอพี่โทรมา”
********************************
ค้างมั้ย.... :t2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 26-10-2010 20:00:37
ค้างดิค้างมากด้วยมาต่อด่วนเลยนะ :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 26-10-2010 20:15:17
ไม่ค้่างค่ะ แต่ค้างมากกกก :z3:
แบบว่าใจจะขาด อยากอ่านต่อ
จะว่าไปก็ขี้ใจอ่อนนะเหลิม อย่างเงี้ยแหละ คนมันมีใจ ฮิ้ววว :z1:
ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปเน้อ จุ๊บๆ :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: สุขาพาเพลิน ที่ 26-10-2010 21:05:16
no comment อ่ะครับ แหะๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 26-10-2010 21:29:42
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ค้างอีกหนึ่งคืน
พรุ่งนี้มาต่อด้วยนะจ๊ะ ให้ไว
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 26-10-2010 21:56:36
ไม่ค้างค่ะ :m1:
แล้วก็ เปลี่ยนจริงๆด้วยนะคะ เข้าใจผิดๆถูกๆบวกน้อยใจพี่ตั้งแค่ไม่นาน
ทัศนคติของน้องเหลิมต่อเพื่อนร่วมงานเปลี่ยนไปเยอะเชียว ^o^

พี่ตั้งขราาาาาาาาาาาาาาา จุ๊บุๆค่ะ (พี่ตั้นแกจะไปเมืองฝรั่งชิมิ? พกโลโบ้ไปเยอะๆนะคะ ฮี่ๆๆ)
.......................

เเอบเห็นค่ะคุณฟาง
คุณไม่ได้อยู่คนเดียวนะเหลิม” พี่ต่ายจับไหล่เขาบีบเบาๆแล้วจากไป (พี่ไก่ป้ะคะ?)
เขาจับมือพี่ตั้นไว้นิ่งบีบเบาๆส่งผ่านความรู้สึกที่ยังดีๆอยู่ ก่อนพูดไปอย่างเขินๆ (ส่วนตรงนี้ก็น้องเหลิมจับมือพี่ตั้งเนอะ?)

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 27-10-2010 09:26:23
 :laugh: ตรูท่าจะบร้า เอาตัวละครอีกเรื่องมาไว้อีกเรื่อง
ขอบคุณค่ะที่ช่วยกันดู  :z3:
วันนี้คงไม่มีต่้อค่ะ ยังไม่ได้เขียนเลย  :t3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 27-10-2010 09:47:05

เนี่ยแล้วเราก็ต้องนั่งกับน้องเหลิม เพื่อรอพี่ตั้งโทรมา
เพราะอยากรู้ว่าเค้าจะโทรมาไหม โทรมาตอนไหน แล้วจะพูดว่าไง แล้วน้องเหลิมเราจะมีผลตอบรับอย่างไร
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: gateau ที่ 27-10-2010 10:05:16
สวัสดีจ้า
 :m22:ชะแว้บมาแอบดู
แล้วก็ขอไปตามอ่านก่อนนะจ๊ะ  :m32:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 27-10-2010 13:26:55
ตั้ง

ทำไรสงสารน้องเหลิมหน่อย

อีคิวเหลิมยิ่งน้อยๆอยู่
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 27-10-2010 19:48:53
ค้างอย่างแรงเค่อะ
อยากร้พี่ตั้งจะทำยังไง กับน้องเหลิมเวอชั่นใหม่ ไฉไลกว่าเค้า
คิคิ
 :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: kikipanda ที่ 28-10-2010 12:17:17
ไม่ค้างแต่กระแสเรื่องเปลี่ยนฉับอย่างไม่ทันตั้งตัว

ตอนแรกนึกว่าพี่ตั้งต้องมาเคลียร์ เปลี่ยนเป็นนู๋เหลิมต้องรุกเข้าหาเองบ้างแล้ว

อ่านๆ แล้วชักไม่แน่ใจว่าพี่ตั้งนี่ซื่อจริง หรือมาเหนือเมฆเหมือนกันนะนี่ (แต่เมะขี้แกล้งแบบนี้ป้าก็ชอบ :-[)
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 28-10-2010 12:25:05
คราวนี้เหลิมเริ่มรุกมั่งแล้ว หุหุ

ค้างกว่าเก่าอีกอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 30-10-2010 03:57:27
แล้วนายเหลิมจะรอเก้อมั้ยนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 31-10-2010 05:10:33
เนื้อเรื่องน่ารักทุกตอนเลยชอบอ่ะอ่านแล้วฮาดี
เหลิมนี้กัดเจ็บได้อีกแอบสงสารพี่ตั้งนิดนึงกลัวพี่แกท้อใจไม่จีบเหลิมต่ออ่ะ5555+
ตกลงเรื่องนี้น้องเหลิมนายเอกแน่ใช่ป่ะค่ะเพราะพี่ตั้งแกแบ๊วเหลือเกินอิอิ
รออ่านตอนต่อไปอยู่น๊า
+1เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่า

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 31-10-2010 08:35:02
คิดถึงเหลิมแล้วแหละ :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 06-11-2010 11:39:48
คิดถึงเหลิมมมม :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 06-11-2010 20:48:39
คิดถึงเหลิมกับพี่ตั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 07-11-2010 08:10:58
 :call: :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 08-11-2010 11:12:55
แวะเข้ามารอค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: สุขาพาเพลิน ที่ 08-11-2010 15:35:13
ประกาศ ประกาศ

ไรเตอร์หายครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 26/10/2010
เริ่มหัวข้อโดย: CanonDNattari ที่ 08-11-2010 18:59:12
เข้ามาลงชื่อร่วมอ่าน ตอนแรกนึกว่าเรื่องสั้น เลยผ่านไปก่อน แต่เอ๊ะอ่านมาดู มันไม่สั้น (?) นิ มาติดตามน้องเหลิม  :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 09-11-2010 19:18:03
ขอโทษนะคะที่หายไปนาน ช่วงนี้ยุ่งๆ แถมงานฟาร์มก็เพิ่มมาอีก :laugh: ขอโทษนะคะ เอาไปอ่านสั้นๆ กันพอหายคิดถึงก่อนนะคะ
ขอบคุณที่ยังมีคนตามอ่าน คิดว่าไม่ค่อยมีคนอ่านเลยใจเย็น แหะๆ :try2:
******************************

เขากลับบ้านมาอย่างมึนๆ นี่เขาทำอะไรลงไป ทำไมถึงไม่ตามพี่ตั้งไปด้วย ถึงไม่ไ่ด้คุยกัน ไปสังเกตการณ์ก็ยังดี
ยัดข้าวกล่องสำเร็จรูปเข้าไมโครเวฟ แล้วก็มานั่งหงุดหงิด หาสาเหตุไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่
 เสียงดังจากไมโครเวฟดังตื๊ดอยู่นานจนเงียบไป เขายังนั่งงงกับความรู้สึกของตัวเองทิ้งข้าวไว้อยู่อย่างนั้น
 
ความรู้สึกกังวลว่าพี่ตั้งจะโกรธที่เขาไปพูดไม่ดีใส่วันนั้นหมดไป ดูแล้วพี่ตั้งก็เหมือนเดิม ยังใจดีเหมือนเคย
แต่ความรู้สึกกระวนกระวายนี่มันคืออะไร  เขายกมือปาดเหงื่อที่หน้าผาก
 ร้อนจนต้องลุกไปอาบน้ำให้ความเย็นของน้ำทำให้ร่างกายและใจสดชื่นขึ้น อาบน้ำเสร็จถึงนึกได้ว่าอุ่นข้าวไว้
 เอามากินก็ไม่อร่อยกินไปนิดเดียวต้องเลิก เสียดายเงิน ไม่เห็นได้เรื่องเหมือนที่คุณหรีดบอกไว้เลย

เดินวนไปวนมาไม่รู้จะทำอะไร เปิดทีวีดูก็มีแต่ละครน่าเบื่อกับข่าวน้ำท่วม
 นั่งดูแล้วก็ปลงถ้าเขาต้องเจอน้ำท่วมกะทันหันแบบนั้น เขาคงไม่ทำอะไร ได้แต่ปล่อยให้มันเป็นไป
อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิด สงสารแต่คนที่โดนน้ำท่วมคงลำบากแย่

ปิดทีวีไปหาหนังสืออะไรมาอ่านแต่อ่านได้พักเดียวก็เบื่อ
 เปิดเพลงฟังก็ไม่มีอะไรใหม่ เดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก เดี๋ยวจากเดี๋ยวมา คิดถึงกัน ลืมกัน วนเวียนไปมาอยู่แบบนั้น
แต่ความเงียบมันน่าเบื่อเกินไปเขาเลยเปิดวิทยุทิ้งไว้ ปิดไฟ ล้มตัวลงนอนรอโทรศัพท์
 ตามองสลับไปมาระหว่างนาฬิกากับโทรศัพท์จนตาลาย แต่อาจจะเป็นเพราะเขานอนไม่หลับติดๆกันหลายวัน
 เขาจึงหลับไปทั้งที่ยังไม่มีโทรศัพท์มาจากพี่ตั้งเลย

เขาไม่รู้ว่านอนไปนานแค่ไหน รู้แต่สัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวบนใบหน้า ใครกำลังลูบหน้าเขาอยู่กันแน่
 หรือผีจะอำ อย่ามาอำกันเลยเขายิ่งโง่ๆอยู่อำไปเขาก็ไม่รู้หรอก
 เอ๊ยไม่ใช่สิ ผีอำมันต้องลุกไม่ขึ้น แต่นี่เขายังขยับตัวได้
เขาลืมตาอย่างช้าๆกะพริบตาถี่มองให้เห็นชัดๆ พี่ตั้งนั่นเอง
เขาคว้ามือพี่ตั้งมากำไว้แน่น พูดอย่างลืมตัวด้วยความดีใจ “พี่ตั้ง มาตั้งแต่เมื่อไหร่?..มา”

“เหลิม พี่มาหา เป็นครั้งสุดท้าย” เสียงพี่ตั้งเย็นชาแหบแห้งผิดกับที่เคยเป็นมา
พี่ตั้งกลืนน้ำลายแกคงหิวน้ำก่อนพูดต่อ ไม่ทันให้เขาถามความสงสัยกลับไปว่าพี่หมายความว่ายังไงที่ว่าครั้งสุดท้าย
 
“เหลิมไม่ต้องติดต่อพี่อีกแล้วนะ พี่เบื่อคนที่อารมณ์ไม่คงที่แบบเหลิม พี่คงมองเหลิมผิดไป
 ยังดีที่พี่ไหวตัวทัน คงไม่รบกวนเหลิมอีก ต่อไปพี่จะไม่มากวนใจเหลิมแล้ว”
 พี่ตั้งพูดติดต่อกันเป็นชุด ไม่ยอมให้เขาได้ตั้งตัวว่าโดนไปกี่คดี
จับใจความได้แค่ว่าเขาอารมณ์แปรปรวนผีเข้าผีออก  กู(พี่ตั้ง)รู้ตัวแล้ว อย่ามายุ่งกับกู(พี่ตั้ง)อีก 

พี่ตั้งปลดมือตัวเองออกจากอุ้งมือของเขาที่ยึดไว้แน่น
“ไม่นะพี่ตั้ง ผมขอโทษ ผมจะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว ผมขายหมาในปากไปยกคอกเลย ไม่เหลือสักตัว จริงๆนะพี่”

พี่ตั้งส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้หรอกเหลิม พี่ไม่อยากให้เหลิมต้องทำอะไรเพื่อพี่ เหลิมไม่ต้องเปลี่ยนเพื่อพี่ พี่ไปเอง”
 พี่ตั้งน้ำเน่าต่อได้อีกสงสัยดูทีวีหลายสีมากไปเลยติดมา
พี่ตั้งยังยื้อยุดดึงมือออกแต่เขาก็ไม่ยอม
“ไม่จริง พี่หลอกผม พี่มีคนอื่นแล้วใช่มั้ย พี่ถึงทิ้งผม” เขาก็ไม่น้อยหน้าคงดูทีวีเลขน้อยมากไป เริ่มดราม่าได้อีกนะกู

พี่ตั้งหันมามองเขาแววตาเศร้า “ถึงพี่จะมีคนอื่น ก็ไม่แปลก ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกันนี่เหลิม หรือเหลิมคิดว่าเราเป็นอะไรกัน”
“เป็นสิ” เขาตะโกนไปอย่างลืมตัว
“เราเป็น เป็น...เป็น...” เขาพูดต่อไม่ออก นั่นสิเราเป็นอะไรกันเขายังไม่รู้เลย

พี่ตั้งแกะมือเขาออกจนได้
“เราไม่ได้เป็น ไม่เคยเป็นเลย เพราะเหลิมไม่อยากเป็น เหลิมทำให้พี่รู้มาแต่แรกแล้ว มีแต่พี่ที่เข้าใจผิดไปเอง”

แล้วพี่ตั้งก็เริ่มร้องเพลง ยังดีที่นั่งร้องอยู่กับที่ไม่วิ่งไปรอบๆห้องเหมือนหนังภารตะ ไม่งั้นเขามิต้องวิ่งตามด้วยเหรอ

ยิ่งฝืนก็ยิ่งเจ็บ เขาก็ยิ่งเบื่อ ยอมให้มันเหลือ เท่าที่เหลือก็แล้วกัน

ไม่รักก็ไม่บอก บอกมาก็จบกัน ปล่อยให้ฉันฝันอยู่ข้างเดียว

*กลับมารักตัวเอง กลับมาเป็นเหมือนเก่า อยู่ตามประสาเราที่เคยเป็น

สนุกไปวันๆ อยากเป็นอะไรก็เป็น ขาดเขาไม่เห็นจะเป็นไร

**เมื่อเขาไม่รักเรา ก็อย่าไปรักเขา เขาก็แค่หลอกเราให้หลงดีใจ

   เมื่อเขาไม่รักจริง ก็จงปล่อยเขาไป อย่าฝืนให้มันเหนื่อยใจ

   อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลย

เขาเอามือปิดหู พี่ตั้งร้องเพลงอะไรกันนี่เสียงเพราะยังกับนักร้อง เอ็ม อรรถพล
 เพลงเก่าไปหน่อยนะพี่ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ พี่ตั้งเข้าใจผิด
เสียงเพลงพี่ตั้งดังขึ้นเรื่อยๆจนเขาทนไม่ไหวตะโกนขึ้นมา “พอแล้วพี่ ไม่ใช่นะ ไม่ใช่อย่างนั้น”

เหมือนมีคนมาฉุดให้เขาลุกขึ้น อากาศร้อนจนเหงื่อโทรมกาย เสียงพัดลมยังคงดังหึ่งๆ
มองรอบกายไม่มีพี่ตั้งอยู่อย่างที่คิด หรือพี่ตั้งจะไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงเสียงเพลงในวิทยุที่ทิ้งไว้
เหลียวมองรอบๆข้างนอกมืดมิด มือเขาสั่นไปหมด หรือจะหนาว
แต่มันไม่ใช่ละโทรศัพท์ในมือต่างหากที่ทั้งร้องทั้งเต้น ไม่ใช่พี่ตั้ง นี่เขาฝันไปนี่เอง  ค่อยโล่งอกไปหน่อย
 เรื่องราวในฝันทำเอาเขาจิตตก นึกว่าพี่ตั้งแกเพี้ยนไปแล้ว อยู่ๆก็ร้องเพลงขึ้นมานึกว่าประสาทกลับ
หรือว่าเขาเองต่างหากที่ประสาทกลับฝันอะไรเป็นเรื่องเป็นราวน้ำเน่าจนเห็นเงาจันทร์ขนาดนั้น

ชื่อพี่ชายชัดขึ้นมาในโทรศัพท์ “โหล พี่ตั้ง”
“เหลิมหลับอยู่รึเปล่า? พี่คงไม่กวนเวลานอนมากไปนะ?”
 โทรมาตอนนี้ เขาเหลียวไปดูเวลาเที่ยงคืนครึ่ง ไม่กวนมากหรอก แต่เข้าข่ายมากมายเลยทีเดียว
เขาปิดปากหาว ได้แต่ข่มใจลืมเรื่องกวนเวลานอน เรื่องอื่นสำคัญกว่า

 “พี่ซื้อของกันจนถึงตอนนี้เลยเหรอ?” จะซื้อของไปช่วยคนน้ำท่วมทั่วประเทศรึไงกัน
เสียงพี่ตั้งหัวเราะ ดึกแล้วยังอารมณ์ดีได้อีกนะไม่เหนื่อยมั่งรึไง หรือว่ามีความสุขนักหนา
  “ใครจะบ้าซื้อจนถึงตอนนี้ ห้างเค้าปิดไปหมดแล้ว นั่งคุยกันยาวติดลมไปหน่อยกว่าจะรู้ตัวก็ดึกแล้ว
 นี่พี่กำลังขับรถกลับบ้าน กลัวเหลิมจะรอเลยรีบโทร”

เสียงอารมณ์ดียามเล่าให้เขาฟังกวนใจเขาชะมัดจนอดกวนไม่ได้ “ก็ยังดีที่รู้ว่าผมรอ”
พี่ตั้งหัวเราะหึหึ มาตามสาย “เหลิมนี่ขี้งอนนะ รู้ตัวรึเปล่า”
เขากัดปากแน่นจนเจ็บ “ไม่จริง พี่ต่างหากล่ะที่ขี้งอน” ไม่มียอมอยู่แล้ว
“พี่ขี้งอนตรงไหน พี่ไม่เคยงอนใส่เหลิมสักหน มีแต่เหลิม เอะอะอะไรหนีหน้าพี่ตลอด”

เขากัดปากแน่นไม่อยากจะยอมรับแต่มันก็มีส่วนอยู่บ้าง
 “ผมไม่เคยหนีหน้าพี่ แค่ผมมีงานต้องทำ” เขาหยุดนิ่งไปสักพัก ชั่งใจว่าควรพูดต่อดีรึเปล่า
“พี่ก็มีเพื่อนแล้วด้วย ผมอยู่ก็ช่วยอะไรไม่ได้”

“อืม ก็จริง”
 คำตอบรับสั้นๆ ของพี่ตั้งทำเอาเขาอึ้ง พี่ตั้งไม่แย้งอะไรเลย
ราวกับว่าที่เขาพูดมันคือความจริงที่พี่ตั้งก็คิดอยู่เหมือนกัน
 พี่ตั้นคงเป็นเพื่อนคนสำคัญที่ช่วยอะไรพี่ตั้งได้มากกว่าเขาที่ไม่ได้เรื่องได้ราว
ความรู้สึกน้อยใจพุ่งขึ้นมาอีก จากนั้นแปรรูปพาลเป็นโกรธ เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงประชดประชัน

“พี่มีเพื่อนก็ดีแล้วนี่ ผมจะได้ไม่ต้องวุ่นวายอีก” พูดไปแล้ว เขาพูดคำแย่ๆ ออกไปอีกจนได้
พี่ตั้งเงียบไปนานก่อนจะพูดตอบกลับ
“เหลิมก็เป็นแบบนี้ ทำให้พี่ต้องมาทบทวนตัวเอง ว่าพี่ทำตัวแย่มากกับเหลิม”

มือเขากำโทรศัพท์แน่นเมื่อพี่ตั้งพูดจบ น้ำเสียงพี่ตั้งเย็นเยียบจนเขาหนาว เสียงถอนหายใจของพี่ตั้งดังเข้ามาในสาย
“พี่ไม่กวนเหลิมดีกว่า เหลิมคงหงุดหงิดที่ต้องรอพี่นาน แล้วก็ถูกพี่ปลุกให้ตื่นกลางดึก เอาไว้อารมณ์ดีแล้วเราค่อยคุยกันดีกว่า”
 
  เขาอยากบอกว่าไม่ใช่เพราะเหตุผลที่พี่ตั้งว่ามาทั้งหมด
 แต่เป็นที่ตัวเขาเองปัญหาคือเขาไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไงให้มันพอดีมากกว่า
“พะ...พี่ตั้ง” ก่อนที่พี่ตั้งจะวางสายไป ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่กว่าเดิม เขาตัดสินใจพูดบ้าง
 “ผมไม่รู้ว่าผมพูดอะไรออกไป” ไม่สิ เขารู้ แต่ไม่รู้ว่าพูดไปได้ยังไงมากกว่า
หรือเขาจะสันดานไม่ดี ปากเสียเป็นนิสัย เขาสูดลมหายใจลึกๆก่อนพูดต่อ

“แต่มันไม่ใช่อย่างที่พี่ตั้งพูดนะ เป็นที่ผมเองมากกว่าที่แย่ ไม่ใช่พี่”
 เหมือนเวลาถูกหยุดนิ่ง ลมหายใจแทบขาดเพราะเผลอกลั้นใจรอพี่ตั้งพูดอะไรออกมาบ้าง
“เหลิม...ดึกแล้ว พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ เหลิมนอนเถอะ”
 น้ำเสียงพี่ตั้งอ่อนโยนก็จริง แต่ที่พี่ตั้งยืนยันคำเดิมคือเลิกคุย
เพราะพี่ตั้งคงเบื่อเขาจริงๆ เหมือนอย่างที่เขาฝัน ทีอย่างนี้ล่ะแม่นนักเชียว ทีฝันถึงตัวเลขไม่เห็นแม่นได้แบบนี้

“ครับพี่” เขาห่อเหี่ยวใจจนไม่อยากยื้อไว้อีก วางก็วาง นอนก็ได้ ไม่รู้จะทำอะไรได้ดีกว่านี้แล้วนี่

“ไว้พรุ่งนี้เราค่อยเจอกันครับ ฝันดีนะ”

เขาไม่ค่อยแน่ใจว่าเขาฝันอยู่รึเปล่า เมื่อพี่ตั้งพูดแบบนั้นก่อนวางสายไป
แต่หูเขาก็ยังดีอยู่นี่ ถึงแม้สติจะเสียไปบ้าง ก็ยังพอไหว เขาไม่รู้หรอกว่าพี่ตั้งคิดอะไร
 แต่ที่แน่ๆคืนนี้ในฝันเขาคงไม่เหมือนเดิมอีกแล้วล่ะ  เขายิ้มก่อนล้มตัวลงนอนไปอีกครั้ง
 ยังไงพี่ตั้งก็ไม่ได้ตัดรอนเขาเกินมากไปนี่
*****************
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 09-11-2010 19:26:24
อา........ในที่สุดก็มาแล้ว
งืมๆๆ พี่ตั้งยังใจดีเหมือนเดิม

แต่......น้องเหลิมคะ ฝันได้หลอนมากค่ะ กร้ากกกกกกกกกกกกส์
แต่เห็นด้วยอย่างยิ่งนะคะที่ยังดีที่ในฝันพี่ตั้งนั่งร้องเพลง คริคริ
นึกสภาพพี่ตั้งวิ่งข้ามเขา แล้วเต้นเข้าจังหวะ แถมยักคอด้วย :m20:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 09-11-2010 19:48:04
พี่ตั้งแอบขี้น้อยใจ
ส่วนน้องเหลิมก็ชอบทำร้ายจิตใจ
หวังว่าพี่ตั้งคงทนได้
 :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 09-11-2010 19:59:01
เหลิมเอ้ย ฝันน่ากลัวได้อีก
แอบหวั่นใจเล็กน้อย
ก็เป็นซะอย่างนี้ ประชดไปประชดมาเนี่ยไม่ดีหรอก
บางคนก็ความรู้สึกช้ามาก ไม่ได้รู้อะไรเลย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 09-11-2010 20:15:41
คิดถึงเหลิม ในที่สุดก็มาต่อแล้ว

เหลิมคิดมากจนเก็บไปฝัน แอบฮา ฝันได้หลอนจริงๆ

พี่ตั้งไม่ปล่อยเหลิมไปง่ายๆหรอกใช่ไหมหละ ฮ่าๆ

จะเป็นยังไงต่อไปน้า ลุ้นจริงคู่นี้
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 09-11-2010 20:45:20
ขายหมาไปจิงหรอเหลิม :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 09-11-2010 20:51:00
เหลิมฝันได้ฮามากเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 09-11-2010 22:42:22
จะสงสารเหลิมดีหรือเปล่า
อารมณ์แบบนี้ หึงพี่ตั้งแล้วใช่มั้ย

เปลี่ยน ไม่เปลี่ยน เหลิมตัดสินใจให้ดีๆนะ

บวกอีก 1 แต้ม ขอบคุณนะคะ
เป็นกำลังใจให้กับการทำงานด้วยค่ะ  :3123:

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: wan_sugi ที่ 10-11-2010 11:36:55
 :L2:
เหลิมนี่ช่างประชด ขี้งอน อารมณ์อ่อนไหวน่าดูเลยนะนี่
แล้วพี่ตั้งจะทนไหวไหมนี่????
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 10-11-2010 22:27:16
สนุกดีค่ะ  ชอบๆ
น้องเหลิม อาการเหมือนคนวัยทองเลยนิ
แต่ก็น่ารักดี  :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 10-11-2010 22:38:16
 :pig2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: kikipanda ที่ 15-11-2010 11:54:13
แหม เป็นนายเอกที่สร้างบรรยากาศหลากอารมณ์ให้คนอ่านจริงๆ

ทั้งหมั่นไส้ เหนื่อยใจ ทั้งน่ารัก น่าเตะ(เป็นบางเวลา) รู้สึกสงสารอยุ่แหมบๆ ที่ถูกพี่ตั้งห่างเหิน แต่ก็อดปล่อยก๊ากเพราะความฝันพิศดารของน้องเหลิมไม่ได้

จะรอดอ่านนะค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 15-11-2010 12:04:07
พ่อเหลิมกลับมาแระ มาคราวนี้จะมีอะไรเปลี่ยนบ้างไหม
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 15-11-2010 15:49:44
พี่ตั้ง คุยกับเพื่อนยาวแบบนี้ แอบปรึกษาเรื่องเหลิมหรือเปล่าเอ่ย  :m12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 15-11-2010 19:13:59
คิดถึงเหลิมมากเลยจ้า

มาต่อๆ  :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 9/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: สุขาพาเพลิน ที่ 20-11-2010 00:50:38
แว๊กๆๆๆๆๆๆๆ เรื่องนี้ตกหน้า 3 ได้ยังไง ไม่ยอมๆๆๆๆ ดันครับดัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 20-11-2010 21:25:34
 :pig4: ต้องขอบคุณที่ช่วยดันค่ะ แหะๆ รู้สึกผิดมากมายที่ไม่ได้มาต่อนาน มาแล้วค่ะ ขอโทษอีกทีนะคะที่มาช้า
********************************
วันเสาร์

ตอนเช้าแดดแยงตาจนเขาสะดุ้งตื่นขึ้นมา เหลือบมองเวลาเจ็ดโมงเช้า ‘สายอีกแล้วนะกู’ วิ่งเข้าห้องน้ำรีบอาบน้ำอย่างว่องไวทั้งที่น้ำเย็นกว่าปกติ อากาศแบบนี้ทำท่าจะเข้าฤดูหนาวแล้ว อาบเสร็จความสดชื่นเข้ามาทันทีเขาชอบอาบน้ำเย็นตอนเช้าๆจะได้กระปรี้กระเปร่าทั้งวัน แต่น้ำก็เย็นจัดจนขนลุกซู่ไปหมด

น้ำเย็นปลุกให้จำได้ลางเลือนว่าพี่ตั้งโทรมา แต่ก็ยังเบลอๆ ว่าสุดท้ายแล้วจบแบบศพสวยหรือต้องฌาปนกิจกันไปแล้ว แต่ในความทรงจำอันเบาบางพอจะจำได้ว่าพี่ตั้งบอกว่าพรุ่งนี้เจอกัน เอ๊ะแต่เขาต้องไปทำงานนี่หว่า จะไปเจอกันได้ยังไง หรือพี่ตั้งจะไปหาที่ทำงาน

เขารีบแต่งตัวไปทำงานเจ็ดโมงครึ่งพอดีก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมออกจากบ้าน ดูเหมือนจะสายเกินไปด้วยซ้ำ เขารีบวิ่งเข้าลิฟต์ไปเจอกับเพื่อนบ้านป้าชั้นบน ยืนเงียบกันอยู่สักพัก เขาหันไปสบตากับป้าโดยมิได้นัดหมายถึงกับสะดุ้งไปทั้งสองฝ่าย ป้ายิ้มให้อย่างเอียงอาย ไม่รู้จะอายไปทำไมนะป้ายังไงผมก็ไม่คิดอะไรกับป้าหรอก   แต่ป้าเป็นหญิงจะเอ่ยมาก่อนคงดูไม่ดี

“ป้าตื่นเช้านะครับ”
 ป้ายิ้มเขินแต่ก็ตอบมาอย่างละเอียด “สายแล้วคุณ พี่จะไปตลาด ไปตอนนี้ของสดๆ เหลือไม่มากแล้ว วันนี้พี่ช้าไปหน่อยมัวแต่วิ่งหาของให้คุณๆ ”

คันปากยิบๆ อยากบอกป้าว่าใครถามว่าป้าจะไปไหนหรือสายเพราะอะไร ไม่ได้อยากรู้เลย แต่กลัวจะหาว่ารังแกคนแก่ อดขำไม่ได้ที่แกแทนตัวว่าพี่ ทั้งที่หน้าแกเลยป้าไปเป็นยายแล้วด้วยซ้ำ เรียกป้าก็ฐานกรุณาแล้วนะ เลยยิ้มตอบกลับไป
 “เหรอครับ” ตอบสั้น   ๆจะได้ไม่ต้องคุยต่อ ไม่รู้จะคุยอะไร สวยก็ไม่สวย แก่ก็ปานนั้น จบข่าวกันไป

แต่ป้าแกคงไม่คิดแบบนั้นดูเหมือนอยากสานต่อ “น้องไปทำงานเหรอ ขยันจังนะ วันเสาร์ก็ยังทำ”
เรียกเขาว่าน้องอีกจะตอบยังไงดีล่ะ “วันเสาร์ผมไม่ทำครับ วันเสาร์หยุด ไม่เคยทำเลย”
“อ้าว” ป้าทำหน้าแก่ คิ้วขมวดด้วยความสงสัย “ก็วันนี้วันเสาร์น้องยังแต่งตัวเหมือนไปทำงานเลย”

คราวนี้เป็นเขาที่ทำหน้าเอ๋อแทน วันนี้วันเสาร์เหรอ เออ ใช่นี่หว่าวันนี้วันเสาร์ เอาไงดีจะบอกว่าลืมก็เสียหน้า ทั้งที่หน้าไม่มีจะให้เสีย จะบอกว่าไปทำงานมันก็ขัดแย้งกับที่บอกไปว่าเสาร์ไม่ทำ แต่เขาจะสนใจไปทำไมก็แค่ป้าชั้นบน ก็เลยตอบไปส่งเดชว่า
 “ผมชอบแต่งตัวแบบนี้ครับสุภาพเรียบร้อยดี แต่วันนี้ไม่ได้ไปทำงานครับ”

เดชะบุญที่ลิฟต์ลงมาถึงชั้นหนึ่งพอดี ถ้าเป็นตึกสูงกว่านี้เขาคงถูกป้าซักถามอีกจนเปื่อย ผัวแกคงเคยมีเมียน้อยแกเลยติดนิสัยช่างซักช่างถามทำตัวเป็นนักสืบแบบนี้ แต่ผมไม่ใช่ผัวป้านะแค่คิดยังไม่กล้าเลย ป้ากำลังอ้าปากจะถามอะไรเขาอีก เขารีบเดินออกจากลิฟต์ให้ไวที่สุด ยิ้มเล็กๆให้ป้าเป็นของฝากก่อนไป “ไปก่อนนะครับ”

 ยังได้ยินเสียงป้าตะโกนตามหลังมาว่า “ดีนะจ๊ะ แต่งตัวแบบนี้ป้าชอบ ใส่เสื้อเก่าๆเหมือนตอนที่ซักผ้าไม่หล่อเลย”
เผ่นแทบจะไม่ทัน ไม่คิดว่าจะมีคนเห็นเขาใส่ชุดพ่อบ้านเมื่อวันก่อนด้วย สงสัยแกคงแอบดูจากชั้นบน ไม่รู้ว่าป้าแอบดูเขามานานแค่ไหนแล้ว น่าเบื่อจริงๆที่เกิดมาหน้าตาดี แม้แต่สว.สูงวัย ก็ยังมาแอบมอง แอบชื่นชม ทำตัวลำบากจริงๆ

เขาเลือกเดินไปทางที่ไม่คิดว่าป้าจะตามมา แล้วเริ่มผ่อนฝีเท้าให้ช้าลง หยุดคิดเรื่องป้าไปก่อนเริ่มคิดว่าจะไปไหนดีไม่ต้องไปทำงานนี่หว่าหรือจะกลับไปนอนต่อ ยังไม่ถึงแปดโมงเสียด้วยซ้ำ เขาไม่น่าพลาดเลย หลงวันได้ยังไงเสียเวลานอนจริงๆ ทางเลือกมีไม่มากเพราะเขาไม่ค่อยได้ไปไหนอยู่แล้ว

เอ...หรือจะไปสวนรถไฟเผื่อเจอพี่ตั้ง แต่พี่ตั้งบอกว่า ‘เจอกัน’ แกก็น่าจะมาหาเขาที่บ้านสิ ถ้าออกไปข้างนอกก็คลาดกันพอดีไม่ต้องได้เจอกันแน่ๆ อืมกลับไปรอที่บ้านดีกว่า พี่ตั้งไม่ได้นัดให้ไปที่ไหน แสตนบายทำงานบ้านรอพี่ตั้งดีที่สุด ขณะที่กำลังจะหันหลังกลับเสียงท้องร้องประท้วงขึ้นมาทันที มันคงบ่นเพราะเมื่อคืนเขาก็กินข้าวไปนิดเดียว ยังไงพี่ตั้งคงไม่มาเช้าขนาดนี้หรอก เขาตัดสินใจไปตลาดแถวบ้านหาของกินก่อนดีกว่า ยังไงอิ่มไว้ก่อนจะได้มีพลังในการคิดทำอะไรต่อไป   

กว่าเขาจะกลับเข้าบ้านก็ปาเข้าไปเกือบเก้าโมง เพราะเดินตลาดแล้วเพลินเห็นอะไรก็อยากกินไปหมด เขาเลยซื้อมาหลายถุงเผื่อพี่ตั้งมาหาจะได้มีอะไรกินด้วย เขายิ้มเมื่อนึกถึงพี่ตั้ง ปกติเขาไม่เคยต้องนึกถึงใครเลยนอกจากตัวเอง ‘กูนี่เป็นเอามากเว้ย’

ขณะที่จะขึ้นลิฟต์พี่ยามหน้าประตูก็เรียกเขาไว้แล้วบอกว่ามีจดหมายฝากถึง ทีแรกเขาไม่อยากรับเพราะกลัวจะเป็นป้าเมื่อเช้ามาฝากจดหมายรักไว้ให้ เขาคงไม่ใจดำพอที่จะทิ้งจดหมายต่อหน้ายามให้ป้าแกอาย แต่พอยามบอกว่า
 “มีผู้ชายหล่อๆมาถามหาคุณเหลิมพอผมบอกว่าคุณออกไปทำงานแกก็พยายามโทรศัพท์แต่คงโทรไม่ติด แกเลยฝากจดหมายไว้ให้คุณครับ แล้วทำไมคุณกลับมาจากที่ทำงานไวจังล่ะครับ”

เขาเปิดจดหมายพี่ตั้งมือไม้สั่น ลุงยามก็ยังพูดต่อไปเรื่อยๆ เหมือนคนช่างคุย  “เพื่อนคุณเหลิมคนนี้นิสัยดีนะครับ แกซื้อน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋มาให้คุณเหลิม พอแกรู้ว่าคุณเหลิมไปทำงานแล้วแกยกให้ผมหมดเลย”
 ไม่ได้เห็นแก่กินจริงๆ สาบานก็ได้ แต่เสียดายของที่พี่ตั้งซื้อมาให้ “ไหนล่ะลุง”
“อะไรเหรอครับ ไหนอะไร” ลุงทำหน้าสงสัย
“น้ำเต้าหู้ไง ปาท่องโก๋ด้วย ของฝากของผม” ลุงหน้าซีด คงรู้ตัวว่าพูดมากไป

แกทำหน้าแหย ก่อนยกมือไหว้ “ขอโทษจริงๆครับ ผมกำลังหิว กินหมดไปแล้วครับ อร่อยเสียด้วย” เขาได้แต่กัดฟันกรอด เสียดายแต่ไม่รู้จะทำยังไง
“อืม ช่างมันเถอะลุง หมดแล้วก็แล้วกัน” เขาโบกมือให้ลุงก่อนเดินจากมา ยังได้ยินเสียงลุงพูดต่อ
 “อยากรู้ว่าจริงแกไปซื้อมาจากที่ไหน  น้ำเต้าหู้หอมเข้มข้น ปาท่องโก๋ก็กรอบนอกนุ่มใน เป็นบุญของกูจริงๆ ที่ได้กิน” เขาได้แต่มึน วันนี้มันเป็นวันบ้าอะไรวะ เจอแต่คนพูดมาก กวนประสาท

ลายมือสวยงามเป็นระเบียบของพี่ตั้งทำให้เขาหยุดบ่นเรื่องลุงไป  หน้าตาดีแล้วยังลายมือสวยอีกแฮะ ‘พี่ขอโทษนะ วันนี้ต้องไปธุระด่วนกับตั้น  ยังไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ ไว้พี่จะติดต่อมาอีกที' ลายมือสวยก็จริง แ่ต่เขียนน้อยไป เขียนแค่นี้จะรู้เรื่องได้ยังไง อ่านจบทำเอาเขาหงุดหงิด

พอเข้าห้องเขาโยนจดหมายนั่นทิ้งลงถังขยะ...ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าเศษกระดาษมากกว่า เอาข้าวปลาอาหารที่ซื้อมามากมายวางไว้ส่งเดชบนโต๊ะ บ่นบ้ากับตัวเอง‘ใครจะมาช่วยกูกินล่ะคราวนี้’ ก่อนล้มตัวลงนอนที่โซฟาหลับตาลงอย่างเบื่อหน่าย อารมณ์เสียขึ้นมาจนได้ 

แต่แรกเขาตั้งใจจะกลับมานอนต่อเพราะยังไม่สายมากยังมีเวลาเลื้อยบนที่นอนได้อีกนาน แต่ตอนนี้นอนไม่หลับ ไม่อยากนอนด้วยมันเซ็ง บอกไม่ได้ว่าเซ็งอะไร รู้แต่ว่าเกี่ยวกับพี่ตั้ง ทำไมพี่ตั้งไม่บอกกับเขาตรงๆว่าจะไม่มา ทำไมต้องเขียนจดหมายสั่งเสียด้วย ดูไร้รสนิยมสิ้นดี แทนที่จะใช้ชอทแมสเสจส่งเป็นsms หรือยิงบีบีมาก็ได้ (แต่ถึงยิงมาก็ไม่มีบีบีนี่หว่า แหะๆ)

 เอามือล้วงกระเป๋าไปทั่วตัวโทรศัพท์อยู่ไหนกัน เขาลุกขึ้นเดินแทบจะวิ่งเข้าไปในห้องนอนหาโทรศัพท์อยู่สักพัก มันยังนอนไม่ตื่นอยู่บนพื้นห้องนอนนี่เอง หยิบขึ้นมาดูมือสั่นใจแอบหวังว่าจะเจอมิสคอลเยอะๆ ที่แสดงว่าพี่ตั้งได้พยายามติดต่อเขา แต่ดูแล้วแทบจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งผิดหวังที่มีเพียงหนึ่งมิสคอล ความพยายามต่ำเตี้ยไปรึเปล่าพี่ตั้ง

เขาเผลอถอนหายใจออกมาแรงๆ ทำไมอะไรๆ ระหว่างเขากับพี่ตั้งมันดูไม่ลงตัว ขาดๆเกินๆ อยู่นั่น หรือว่าเขาสมควรจะตัดความสนใจเรื่องพี่ตั้งออกไป เมื่อก่อนเขาไม่เคยรู้สึกทุรนทุรายกับเรื่องอะไรเลย ต่อให้น้ำท่วมมาถึงคอ ไฟดับไปสองวัน ยังไม่ได้กินคริสปี้ครีมเพราะขี้เกียจเข้าคิวซื้อ พี่ไก่ด่าเป็นชั่วโมง พี่ม้าจิกสายตาใส่ เขายังแค่เบื่อๆ แป๊ปเดียวแล้วก็ลืมมันไป แต่นี่มันอะไรกันนักหนากับชีวิต แค่ไม่กี่วันก็ร้อนรนกระวนกระวาย นอนไม่หลับบ้าง ลืมวันลืมคืนบ้าง เป็นบ้าเป็นบอ ผีวิ่งเข้าวิ่งออกอย่างกับวิ่งเปี้ยว มันคืออะไรกัน เขาก็ยังไม่กล้าตอบตัวเอง
 
ลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่า ไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว จะไปไหนไปกับใคร จะมาเช้ามาบ่าย จะมาหรือไม่มา เขาไม่อยากจะใส่ใจอีกต่อไป ก้มหน้าก้มตาทำความสะอาดห้องอย่างที่เคยทำดีกว่า เขาตั้งหน้าตั้งตากวาดบ้านถูบ้านเก็บขยะ เก็บโบรชัวร์เก่าๆที่รับมาแล้วก็โยนทิ้งไปทั่ว เก็บหนังสือพิมพ์เก่าๆเอามัดไว้ มัดไว้ทำไมก็ไม่รู้แต่มัดเอาไว้ก่อน กว่าเขาจะรู้ว่ามันกินเวลาไปแค่ไหนก็ตอนที่ทำเสร็จพอดี เหลือบตามองไปที่นาฬิกาบ่ายสองโมงกว่า

เริ่มหิวข้าวขึ้นมาตงิดๆ ทั้งที่เหงื่อออกท่วมตัว ทั้งร้อนทั้งเหนียวตัวอยากจะอาบน้ำเป็นที่สุด แต่ก็หิวจนจะเป็นลม จำได้ว่าซื้อของกินมาตั้งแต่เช้าหลายอย่าง เขารีบกินข้าวให้เสร็จๆ ไวยิ่งกว่าหมาฉี่ไม่ถึงห้านาที กินหมดทุกสิ่งอย่างที่ซื้อมา ข้าวมันไก่ หมูปิ้ง ผัดหมี่กะทิ ขนมบัวลอย แตงโม ฝรั่งแช่บ๊วย กินไปบ่นไปอย่างกับอดีตผู้ว่าฯ ‘อยากไม่มาดีนัก กินคนเดียวก็ได้วะ กินคนเดียวก็อร่อยได้ ไม่เห็นต้องมีตัวช่วยเลย อร่อยจะตาย คนไม่มีบุญไม่ได้กินของเหลิมหรอก”   กินจนจุกแทบจะอ้วกออกมา แต่ไม่อยากเสียฟอร์มเลยต้องพยายามกลั้นเอาไว้

กินข้าวล้างจานเสร็จยืดเส้นยืดสายนิดหน่อยด้วยการทำงานต่อ เขาเอาผ้าใส่กะละมังแช่น้ำไว้ ก่อนที่จะนอนเอาแรงสักหน่อยกะตื่นมาซักต่อตอนบ่ายแก่ๆ ด้วยความอ่อนเพลียจากการทำงานบ้านอันหนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยทำมา เขาใช้เวลาไม่นานก็หลับสนิท

ตื่นมาอีกทีเกือบสี่โมงเย็น ตาเหลือกรีบไปซักผ้าต่อ ยังดีที่อาทิตย์ก่อนเขาทำไปบ้างแล้ว ใส่ซ้ำบ้างอะไรบ้างใช้เวลาไม่นานก็ซักเสร็จ แล้วเสียงโทรศัพท์ที่เขาลืมไปแล้วว่าใช้งานได้ก็ดังขึ้น โกรธมันที่ร้องกวนเวลาคนขยันเขากำลังทำงานติดพันบิดผ้าเตรียมจะตากอยู่ ได้แต่ด่ามันเหมือนมันจะรู้เรื่อง “ร้องทำไม นึกว่าตายไปแล้วซะอีก เงียบทั้งวันเลยนะแก”
มันยังร้องต่อเหมือนประชด ถ้ามันพูดได้มันคงตอบว่า “ไม่ได้ตาย แค่พักผ่อนอยู่ ก็ไม่มีคนอยากคุยกับคุณเหลิมแล้วจะให้ผมร้องทำไมล่ะ”

เขารีบรับสายก่อนที่มันจะก่นด่าให้เขาปวดใจไปมากกว่านี้ “โหล ใครน่ะ”
ทั้งๆที่รู้ว่าใครโทรมาแต่เขาก็อยากพูดแบบนี้ใครจะทำไม “พี่เอง พี่ตั้ง เหลิมไม่ได้เมมเบอร์พี่ไว้เหรอ” เสียงพี่ตั้งหัวเราะขำๆ แต่เขากลับหมั่นไส้ เราทำงานเหนื่อยแทบตาย พี่ตั้งไปเที่ยวที่ไหนก็ไม่รู้ ยังมาทำเสียงระรื่น
“ไม่ได้เมม ไม่รู้จะเมมทำไม” ไม่ได้มายังโทรมากวนใจอีกนะ พี่ตั้งคงความรู้สึกช้าไม่รู้ว่าเจอเขายียวนเข้าให้ ยังหัวเราะได้อีก คงจะมีความสุขมากล่ะสิท่า

“ก็เมมไว้เวลาพี่โทรมาเหลิมจะได้ไม่ต้องถามอีกไงว่าใครโทรมา หรือเหลิมเมมไม่เป็นเดี๋ยวพี่ทำให้ก็ได้”
“พี่ว่าผมโง่เหรอ ถึงเมมเบอร์ไม่เป็น” พี่ตั้งชอบหลอกด่าเขาเรื่อย อย่าคิดว่าจะตามไม่ทันนะ
“ฮ่าๆ ไม่ได้ว่าเหลิมโง่สักคำ พี่ก็พูดไปอย่างนั้น เหลิมทำเองได้อยู่แล้ว แต่พี่ไม่ได้โทรมาชวนทะเลาะด้วยนะ เหลิมทำอะไรอยู่ กลับมาจากทำงานแล้วเหรอ”
น้ำเสียงพี่ตั้งทำเอาใจอ่อนยวบ ทำไมต้องมาทำเสียงนุ่มใส่ด้วยนะ ไม่รู้รึไงว่าฟังแล้วมันโกรธไม่ลง
“กลับมานานแล้ว ซักผ้าอยู่”

“งั้นเดี่ยวพี่เข้าไปหานะ อีกสักพักก็เสร็จธุระของตั้นเค้าแล้ว ตอนนี้ยังเลือกของอยู่ขาดอีกไม่กี่อย่าง เดี๋ยวต้องไป...” ทำไมต้องมาบอกซะละเอียดด้วยนะ มันไม่ใช่เรื่องของเขาสักหน่อย ยอมเสียมารยาทพูดแทรกขึ้นมา
“พี่จะไปไหนก็ไปเถอะตามสบายไม่ต้องมาบอกผม แต่ที่บ้านผมไม่มีอะไรกินนะ อย่ามาดีกว่า” ไม่ได้ห้ามนะแค่บอกข้อมูลเท่านั้นเองว่าไม่มีอะไรกิน
“อืม พี่รู้ ก็ไม่น่าจะมีอะไรกินหรอก เดี๋ยวพี่ซื้อเข้าไปเอง แต่คงอีกพักใหญ่เลยล่ัะ เหลิมรอพี่แล้วกัน”

ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี “ครับ ผมจะรอ” ตอบไปสั้นๆ แบบนี้คงไม่เป็นไรมั้ง
พี่ตั้งวางสายไปนานแล้ว เขาตากผ้าไปก็ยิ้มไป จนเริ่มรู้สึกตัวเมื่อชักเมื่อยปาก “เป็นบ้าอะไรอีกล่ะกู อยู่ๆก็ยิ้ม ท่าจะบ้าเว้ย”
กว่าจะตากผ้าเสร็จทำเอาเหงื่อตก ยังพอมีเวลาอาบน้ำให้สบายตัวหน่อย วันนี้ทำงานเป็นแจ๋วทั้งวันทั้งเมื่อยทั้งเหนื่อย หยิบผ้าเช็ดตัวมานุ่งกำลังจะเข้าห้องน้ำเีสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น

“ใครมาวะ คนจะอาบน้ำ”เขาไม่ทันคิดอะไรเปิดประตูทันที
“ใครน่ะ” คนที่ยืนยิ้มหวานอยู่หน้าห้องไม่ใช่ใครที่ไหน
“เซอร์ไพรส์!!” พี่ตั้งยิ้มปากกว้างอยู่ต่อหน้า ยกมือโชว์ถุงของกินพะรุงพะรัง เซอร์ไพรส์มากเลยพี่ บอกว่าอีกสักพักใหญ่ถึงจะมา แล้วรีบมาทำไมกันนี่ เขาแต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อยแบบนี้รับแขกคงทุเรศน่าดู รีบยกมือกอดอกตามสัญชาตญานของการรักนวลสงวนตัว อายนะเว้ย
“ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลย ไหนพี่ว่าอีกนานไง”

“ก็เซอร์ไพรส์ไง บอกก็ไม่สนุกสิ  พี่ซื้อของกินมาเพียบเลยนะ มีแต่ที่เหลิมชอบทั้งนั้น” พี่ตั้งคงเพิ่งนึกได้ว่าเขานุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว เลยหยุดพูดมองเขาแล้วยิ้มกริ่ม “แต่พี่ไม่นึกว่าเหลิมจะเซอร์ไพรส์พี่ด้วยชุดนี้ หึหึ”
รอยยิ้มของพี่ตั้งทำเอาเขาพูดไม่ออก หน้าร้อนไปหมดด้วยความอาย ถึงพี่ตั้งจะเป็นผู้ชายด้วยกันเถอะ  เขาเอาแต่ยืนกัดปากหน้าแดงขาแข็งตัวแข็งอยู่ที่ประตู พี่ตั้งถึงกับหัวเราะ

“เอ้า เลยไม่พูดอะไรเลย เอาแต่กอดอกเฉยหนาวรึไง แล้วจะไม่ให้พี่เข้าไปข้างในรึไง เมื่อยแล้วนะ”พี่ตั้งยังคงยิ้มล้อเลียน เขานึกได้เลยถอยหลังพูดเสียงตะกุกตะกัก “พะ...พี่ไม่ต้องมาล้อเลย พี่ไม่บอกกันก่อนนี่ เข้ามาเลยครับ”
พี่ตั้งเดินยิ้มเข้ามาแล้ว เขากำลังจะปิดประูตูแต่กลับมีแรงดันประตูไว้
 “เซอร์ไพรส์!!!” แต่คนพูดเป็นอีกคนไม่ใช่พี่ตั้ง

เขาหันกลับไปมองหน้าพี่ตั้งที่ยืนยิ้มอยู่เหมือนเคย “เซอร์ไพรส์ที่สองครับ ตั้นมันอยากมาด้วย เหลิมคงไม่ว่าอะไรนะ” เขาหันไปมองหน้า ‘เซอร์ไพรส์ที่สอง” ที่ยืนยิ้มอยู่อีกคน
“ขออนุญาตนะครับน้องเหลิม”  สองคนนี้เป็นพรีเซ็นเตอร์ยาสีฟันกันรึไงยิ้มอยู่ได้ มีความสุขอะไรกันหนักหนากับการมาเซอร์ไพรส์คนอย่างเขา 

เขากัดฟันกรอดพยักหน้าให้พี่ตั้นเข้ามา ปิดประตูอย่างเสียไม่ได้ บอกตัวเองว่าคราวหน้าอย่าได้มีใครมาบอกว่าจะเซอร์ไพรส์อีกนะ เป็นได้เห็นดีกัน
*******************
ขอบคุณที่ยังรออ่านนะคะ  :-[ จะพยายามมาต่อไวๆ



หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-11-2010 21:40:53
รู้สึกว่าน้องเหลิมเริ่มเข้าวัยทองป่ะเนี้ยอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายขึ้นๆลงๆ เดี๋ยวให้พี่ตั้งเด่รักษาให้ดิ :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 20-11-2010 22:02:09
เหลิมขี้หึง :m20:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 20-11-2010 22:03:12
กรรม มาสองเลย ยังไงเนี่ย
สองคนนี้เมื่อไหร่จะเลิกขาดๆเกินๆสักทีน้าาาาาาาาาาาา

แต่.....ไอ้ที่รู้สึกว่าขาดๆเกินๆมันน้องเหลิมฝ่ายเดียวรึเปล่าหนอ?
พี่ตั้งเขาอาจจะชอบแบบนี้ พอแล้วกับแบบนี้ก็ได้นะคะน้องเหลิม >//////<
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 20-11-2010 22:09:55
อ่านแล้วฮา เซอร์ไพรส์ แบบนี้น้องเหลิมเค้าไม่อยากได้ :m20:
รีบมาต่อเร็วๆด้วยนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 20-11-2010 22:56:35
เหลิมขี้โวยวายอ่ะ
แต่ก็น่ารักดี
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 21-11-2010 00:31:17
พี่ตั้นเขามาเพื่อแสดงตัวว่า เป็นแค่เพื่อนกับพี่ตั้งใช่มิ
แค่เพื่อนสนิทกันจริงๆไง
น้องเหลิมอย่าคิดมากสิ
รักไปแล้ว เข้าใจตัวเองหน่อย  :laugh:

บวกอีก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 21-11-2010 07:10:22
น้องเหลิมเนี่ยอาการคนวัยทองแหงแซะ
แล้วคุณพี่ตั้งแกคิดอะไรอยู่เนี่ย
ตกลงคุณน้องเหลิมแก คิดไปเองรึเปล่า
พี่ตั้งแกดูไม่ชัดเจน ไม่เคลียร์อะไรซักอย่าง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 22-11-2010 12:08:14
หวัดดีคะ เพิ่งเข้ามาอ่านคะ

แต่ขอบอกว่าสนุกมากมายคะ  o13

เซอร์ไพร์ส แรกนี่  :o8:

เซอร์ไพร์ส ที่สองนี่  :m16: (มันจะตามมาด้วยทำไม)

สนุกคะ รออ่านตอนต่อไปนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 20/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-11-2010 15:57:19
ขอหัวเราะอย่างเดียวกับเหลิม :m20:
เอาน่า พี่ตั้งเค้าพาพี่ตั้นมาด้วย แสดงว่าบริสุทธิ์ใจ (มั้ง?)  :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 22-11-2010 21:10:29
รอบนี้มาไว  :really2:
*****************

วันอาทิตย์

วันนี้เขาตื่นสาย ไม่ใช่เพราะปวดเมื่อยจากการประชดชีวิตเลยหักโหมทำงานบ้านมากเกินไป
 ไม่อยากโทษว่าเป็นเพราะซอร์ไพรส์ของพี่ตั้ง
ไม่ใช่อาหารทั้งหมดที่พี่ตั้งซื้อมายั่วน้ำลายให้เขาสวาปามไปเกือบทั้งหมดอย่างไม่รู้ตัว
 ไม่ใช่ตัวพี่ตั้งที่โผล่มาแบบไม่ให้เตรียมตัวหล่อกันล่วงหน้า
ไม่ใช่เพราะคิดมากที่นุ่งน้อยห่มน้อยโชว์สายตาพี่ตั้งและเพื่อน เพราะอายก็จริงแต่แป๊ปเดียวหลังจากนั้นก็ลืม 

แต่เป็นเซอร์ไพรส์ที่สองที่เขาไม่ได้อยากให้มีเลย 'พี่ตั้น' เราสู้กันไปหลายยกจนเช้านี้เขาแทบไม่มีแรงเพราะใช้พลังงานและสมองไปเยอะจนไม่อยากจะตื่นมากกว่า

มันเริ่มจาก พอพี่ตั้นเข้ามาในห้องก็กวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนเอ่ยประโยคแรกออกมา “ห้องน้องเหลิมเล็กไปนะ ดีที่อยู่คนเดียว ไม่งั้นอึดอัดแย่” เขาได้แต่กัดฟันกรอด 'มันมาวิพากษ์วิจารณ์อะไรห้องกู'
“เรากลับไม่คิดแบบนั้น ห้องขนาดนี้ไม่เล็กหรอก กระทัดรัดดีสำหรับหนุ่มโสด ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล”เหมือนยกนี้พี่ตั้งจะช่วยไว้
“อืม ก็ยังดีที่สะอาด” โชคดีที่เขาทำความสะอาดบ้านไปครึ่งค่อนวันเลยพอรับแขกได้ ไม่อย่างนั้นได้ขายหน้าแน่ๆ
“ใช่ เหลิมเค้าดูแลทำความสะอาดทุกวันหยุด” พี่ตั้งตอบแทนแล้วหันมายิ้มให้กำลังใจ ดีมากพี่ช่วยผมหน่อย อยากพามาดีนัก แก้ปัญหาให้ด้วยแล้วกัน

ยังได้ยินเสียงพี่ตั้นบ่นพึมพำไม่เลิก “ห้องเล็กขนาดนี้จะนั่งกินกันตรงไหน โต๊ะก็เล็กนิดเดียว...”
เขาต้องอดทน อดกลั้นและอดออม “ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับพี่ตั้ง เชิญตามสบาย”วิจารณ์กันให้พอเลยนะ อย่าให้เขาต้องมานั่งฟังอะไรแบบนี้อีก ขอไปตั้งสติก่อนว่าจะรับมือกับสองคนนี้ยังไงดี ท่าทางเสาร์นี้จะไม่ผ่านไปง่ายๆซะแล้ว
กลับออกมาอย่างรวดเร็วปานวิ่งผ่านน้ำ เพราะไม่อยากปล่อยแขกไว้โดยที่เจ้าของบ้านไม่อยู่
ป่านนี้ห้องพักอันแสนรักของเขามิถูกสับเละกลายเป็นรังหมาไปแล้วเหรอ

“เหลิมมาพอดีเลย เหลิมมีเบียร์มั้ย ตั้นเขาอยากดื่ม”
เขาส่ายหน้า “ผมไม่ชอบดื่ม พี่อยากดื่มทำไมไม่ซื้อมาเองล่ะ” พูดไปแล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า พี่ตั้นที่อยากดื่มไม่ใช่พี่ตั้งนี่หว่า ลืมสร้างภาพกับเพื่อนใหม่ แต่พูดกวนไปแล้ว ช่างมันฉันไม่แคร์ เพื่อนพี่ตั้งไม่ใช่เพื่อนเขาไม่จำเป็นต้องรักษาน้ำใจ

พี่ตั้นมองหน้าเขาเฉยแล้วพยักหน้า “จริงของเหลิม ผมอยากดื่มก็ควรต้องซื้อมาเอง เหมือนตั้งอยากมาหาน้อง”
พี่ตั้นหยุดพูดแล้วยิ้มเยาะในหน้าใส่พี่ตั้ง “ก็ต้องซื้อของกินมาเอง มันคงเป็นกฎของน้องเหลิม” เขาฟังแล้วคันปากยิบอยากด่ากลับ แต่ไม่ทันพี่ตั้งที่พูดแทรกขึ้นมา
“ตั้น พอแล้ว เดี๋ยวเราไปซื้อให้นายเอง เลิกกวนซะที” พี่ตั้งลุกขึ้นเตรียมจะออกไปแต่พี่ตั้นดึงมือไว้
“เราก็พูดไปงั้นเดี๋ยวเราไปเอง นายอยู่กับเจ้าของบ้านเถอะ เดี๋ยวเรามา”

พี่ตั้นเดินออกไปโดยไม่ฟังอะไรอีก เดาอารมณ์ไม่ถูกว่าโมโหหรือเปล่า พอพี่ตั้นออกไปแล้วความสงบสุขก็กลับคืนสู่ชาวโลก เอ๊ยไม่ใช่ ความเงียบก็เข้ามาแทนที่ ก่อนที่พี่ตั้งจะเป็นคนหยุดความเงียบนั้นด้วยเสียงถอนหายใจ พี่ตั้งเดินมาหาเขาแล้วจับมือเขาไว้
“พี่ขอโทษนะที่พาเพื่อนมาโดยไม่บอกเหลิมก่อน” เขาเองก็เกือบพูดขอโทษพี่ตั้งไปแล้วที่พูดไม่ดีกับเพื่อนพี่ตั้ง แต่พอพี่ตั้งพูดออกมาก่อน นิสัยเข้าข้างตัวเองก็กลับมาอีก
“ก็ใช่น่ะสิ พี่ชอบทำอะไรตามใจตัวเองเรื่อยเลย ไม่ถามผมบ้างอะไรบ้าง”

“ก็ถ้าพี่ไม่ทำตามใจตัวเอง พี่จะได้รู้จักเหลิมได้ยังไง” ไอ้พี่ตั้งพูดแปลกๆ คนอะไรพูดไปตายิ้มไป เขาดึงมือออกจากมือพี่ตั้ง แกล้งทำเป็นเดินไปดูข้าวปลาอาหารที่พี่ตั้งซื้อมา อย่างกับจะเลี้ยงคนเป็นสิบ
“ซื้ออะไรมามากขนาดนี้  พี่ซื้อประชดผมเหรอ” พี่ตั้งเดินมาซ้อนอยู่ข้างหลังชะโงกหน้ามองตาม ใกล้จนสัมผัสลมหายใจแผ่วที่ต้นคอ
“ไม่ได้ประชด ก็อยากให้เหลิมกินของอร่อยๆ แต่พี่เลือกไม่ถูกมันน่ากินไปหมด”
พี่ตั้งเอาฝ่ามือร้อนมาจับไหล่เขาไว้ทั้งสองข้าง ทำเอาแทบสะดุ้ง พี่ตั้งพูดเบาเหมือนกระซิบที่ข้างหู “ทำไมถึงคิดว่าพี่ประชด”

“ผะ...ผมนึกว่าพี่คิดแบบพี่ตั้นซะอีก” เขาไม่กล้าพูดดัง รู้สึกว่าตัวเองก็ทำไม่ถูกหลายอย่าง ที่มากที่สุดก็คือเอาหมาออกจากปากไม่หมดสักที พูดอะไรก็ดูแย่ ก่อนที่จะรู้ตัวพี่ตั้งจับไหล่เขาให้หันหน้ากลับมาคุยกัน
“บางเรื่องพี่ก็คิด แต่บางเรื่องพี่ไม่คิด ตอนนี้เหลิมรู้มั้ยล่ะว่าพี่คิดอะไร” พี่ตั้งยิ้มมุมปาก แล้วก็ค้างไว้แบบนั้น แต่ตัวเขาเองยิ้มหรือทำหน้าแบบไหนไปก็ไม่รู้ พี่ตั้งคิดอะไรล่ะจะให้ตอบยังไงถึงจะถูกใจ เขาเบี่ยงตัวออกจากความใกล้ชิดเบือนหน้าหลบสายตาร้อนคู่นั้น มันใกล้เกินไปทำให้เขาทำตัวไม่ถูก
“ผมจะไปรู้ได้ยังไง”
 หัวใจเต้นตุ๊บตับ เป็นครั้งแรกที่อยากให้พี่ตั้นรีบกลับมา ขอเวลาตั้งตัวหน่อยเจอทั้งเสียงนุ่ม ทั้งตาวิบวับแบบนี้ใจมันสั่น

“มะ...ไม่รู้ล่ะ แล้วพี่พาพี่ตั้นมาทำไม ผมไม่ได้รู้จักกับเขาสนิมสนมสักหน่อย” แกล้งโวยเปลี่ยนเรื่องไว้ก่อนกลบเกลื่อนความร้อนบนใบหน้า
พี่ตั้งส่ายหน้า “ปกติเหลิมก็เป็นคนตรงนะ แต่พอพี่ถามอะไรแบบนี้ทีไรทำไมชอบเฉไฉเลี่ยงไปมา”
เกลียดคนรู้ทัน แต่ตอนนี้ก็ขอเลี่ยงไปดื้อๆแบบนี้ไว้ก่อน“พี่ตอบผมมาก่อนเดี๋ยวเพื่อนพี่เค้ากลับมา ก็ไม่ต้องรู้เรื่องกันพอดี”

พี่ตั้งหัวเราะ “ก็ได้ๆ เขารู้ว่าพี่นัดกับเหลิมไว้ แต่เขาขอร้องให้พี่ไปเป็นเพื่อนซื้อของแต่เช้า พี่เห็นเหลิมไปทำงานก็เลยกะว่าเดี๋ยวพี่ซื้อของเสร็จเหลิมก็คงเลิกงานพอดีเลยตัดสินใจไปกับตั้น แต่พี่บอกว่ายังไงๆ ตอนเย็นพี่ต้องมาหาเหลิมก่อน ไม่อยากผิดสัญญา เขาก็โอเค แต่อยากมารู้จักเหลิมด้วย ก็แค่นั้น”
พี่ตั้งพูดง่ายๆ  “พี่พูดง่ายเหมือนเค้าขอมาบ้านพี่เลยนะ ไม่ถามผมสักคำว่าพร้อมจะรับแขกรึเปล่า” เหมือนตอนที่พี่ตั้งดื้อจะมาบ้านเขาครั้งแรกไม่มีผิด
“พี่ชอบคิดเองตลอดว่าผมจะไม่ว่าอะไร”

พี่ตั้งพยักหน้า “พี่ยอมรับว่าข้อนี้พี่ผิด พี่ขอโทษนะ แต่พี่ก็อยากให้เหลิมรู้จักเพื่อนพี่ เพราะเรายังต้องคบกันอีกนาน ก็อยากให้รู้จักกันไว้”
เขาก็ยังขัดใจอยู่ดี “ทำไมผมต้องรู้จักเพื่อนพี่ด้วย ผมคบพี่ไม่ได้คบเขานี่” เขาตอบไปอย่างกวนๆ
“เหลิมไม่เคยได้ยินสุภาษิตฝรั่งเหรอ Love me Love my dog” พี่ตั้งยิ้ม
แต่เขาหัวเราะ ‘ดีว่ะไอ้พี่ตั้นกลายเป็นหมาไปแล้ว หึหึ’ แต่พอนึกขึ้นได้ถึงความหมายของคำว่า Love me ทำเอาเขินต้องหยุดหัวเราะ ต้องพูดเรื่องรักหมาแทน “ผมรู้ละ แต่ผมแค่รู้จักนะ ไม่อยากจะเลิฟ ปากเสียก็เท่านั้น กวนด้วย พี่ทนเข้าไปได้ยังไง”

พี่ตั้งจูงมือเขาไปนั่งที่โต๊ะ “ก็ไม่แปลก คบคนก็มีหลายอย่าง บางคนก็คบง่ายดีอะไรๆก็ไม่ว่า สบายๆ บางคนก็แบบตั้น ปากเสีย ขี้บ่น จู้ขี้จุกจิก เอาแต่ใจตัวเอง หึหึ อย่าบอกมันนะว่าพี่นินทามัน”
เขาหัวเราะ ชอบจริงๆมีคนผสมโรงด่าคนที่เขาไม่ถูกขี้หน้า แต่นิสัยแบบนี้คุ้นๆ ว่าเหมือนใครนะ แล้วทำไมพี่ตั้งต้องมองหน้าเขาแล้วยิ้มแปลกๆด้วย
 “ไม่บอกๆ แล้วไงต่อพี่ ทำไมพี่ยังคบเขา”
“เพราะตั้นมันเป็นคนดี มีน้ำใจ จริงใจกับทุกคน คิดยังไงก็พูดออกมาตรงๆ ไม่หน้าอย่างลับหลังอย่าง”

“แค่เนี้ย” ก็ธรรมดาไม่เห็นจะเลิศเลอตรงไหน
“อีกอย่าง เค้ารักพี่อย่างจริงใจ”น้ำเสียงพี่ตั้งเมื่อพูดถึงเพื่อนรักช่างอ่อนโยน จนเขาอิจฉา
“หืม...รักพี่?” เขาอดแปลกใจไม่ได้ พี่ตั้งหมายความว่ายังไง สีหน้าเขาคงบอกว่าอยากให้พี่ตั้งอธิบายเพิ่มเติมหน่อย พี่ตั้งเลยเล่าต่อ
“เราคบกันมาตั้งแต่เด็ก สนิทกันมาก รู้ใจกันทุกเรื่อง” ยิ่งพี่ตั้งเล่าเขาก็ยิ่งอิจฉา เขารู้ว่าคนแบบเขาที่พี่ตั้งเพิ่งรู้จักได้ไม่ถึงอาทิตย์เทีียบไม่ได้เลยกับเพื่อนแบบพี่ตั้นที่รู้จักกันมานาน

พี่ตั้งกำลังจะเล่าต่อแต่เสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้นแสดงว่าพี่ตั้นกลับมาแล้ว พี่ตั้งยิ้มเอื้อมมือมาตบไหล่เขาเบาๆ “ตั้นมาแล้วมั้ง เหลิมก็ทนๆมันหน่อยนะ มันไม่มีอะไรหรอก แค่ปากเสีย แต่ใจไม่มีอะไร” เขาผ่อนลมหายใจฝืนพยักหน้ารับปากพี่ตั้ง เขาคงต้องยึดสุภาษิตที่พี่ตั้งว่า ยังไงก็ลองดูมันไม่มีทางเลือกแล้วนี่

พี่ตั้นเข้ามาในห้องยังไม่ทันนั่ง ก็เริ่มเห่าเอ๊ย...บ่น “บ้านเหลิมห่างไกลความเจริญนะ กว่าผมจะหาร้านเซเว่นเจอต้องออกไปปากซอย ถนนทางเข้าบ้านก็แย่ รถสวนกันไม่ได้ต้องหลบไปมา”  เขาอยากหาสำลีมาอุดหูแต่ก็จะดูเสียมารยาท จำใจข่มอารมณ์อธิบายไปตามสภาพด้วยภาษาสุภาพ
“เขาขุดถนนอยู่ครับ ทำท่อระบายน้ำ ผมก็ไม่ได้ใหญ่โตขนาดจะไปเร่งให้เขาทำเสร็จไวๆได้ ส่วนเซเว่นผมก็ไม่มีปัญญาไปบอกให้เขามาตั้งข้างตึก บังเอิญไอ้ผมก็ไม่ชอบบริโภคอะไรดึกๆดื่นๆ เหล้าเบียร์ก็ไม่ชอบ นานๆก็ไปซื้อของเข้าบ้านที่ซุปเปอร์ที ผมเลยไม่รู้ว่ามันไกล ทำพี่ลำบากขนาดนั้น...”เขากำลังจะพูดต่อว่ายังไงพี่ก็คงได้มาบ้านผมหนเดียว พี่จะบ่นหาเตี่ยไปทำไม(วะ) แ่ต่พี่ตั้งรีบแทรกขึ้นมาก่อน

 “เลิกพูดเถอะ หิวข้าวจะแย่ มากินข้าวก่อน แต่สงสัยต้องอุ่นใหม่อีกรอบ มันเย็นเพราะรอนายไม่มาสักที”
“ก็บอกอยู่นี่ไงว่ามันไกล ยังจะว่ามาช้าอีก”พี่ตั้นเริ่มมีอารมณ์ยังบ่นพึมพำต่อ แต่พี่ตั้งกลับหัวเราะขำ
พี่ตั้นเลยบ่นต่อไม่หยุด “ซื้อมาตั้งเยอะแยะ ใครจะกินเข้าไปหมด แค่มาเหลิมเค้าก็ดีใจแล้ว นายไม่ต้องเอาใจขนาดนี้ก็ได้”

น่าน...มาแขวะเขาอีก จะบ่นก็บ่นไป ทำไมต้องมาลากเขาไปยุ่งด้วยก็ไม่รู้ ทำเอาเขาทนไม่ไหวต้องสวนกลับ
 “อย่างพี่ตั้งเค้าเรียกมีน้ำใจไม่ใช่เอาใจ เค้าจะมาเอาใจผมทำไมเค้าต้องเอาใจพี่สิ ไม่งั้นจะยอมไปกับพี่ตั้นแต่เช้าเหรอ ทั้งที่นัดผมไว้”
พี่ตั้นเงยหน้ามามองเขานิ่งแล้วก้มหน้าจัดอาหารต่อ พูดน้ำเสียงธรรมดาแต่ก็จิกกัดพอแสบๆคันๆ
 “ก็อย่างเหลิมว่า ตั้งมันมีน้ำใจเพื่อนขออะไรไม่มีขัด เค้าก็ไม่ได้เอาใจพี่เหมือนกันขนาดธุระพี่ยังไม่เสร็จ ยังต้องรีบมาหา
เหลิมเลย ไม่ยอมไปกับพี่ต่อ อย่างนี้พี่ก็ต้องนึกว่าเอาใจเหลิมสิ” พี่ตั้งส่ายหน้าคงระอากับเพื่อนตัวเอง  เดินมาดึงเขากับพี่ตั้งให้นั่งลง

“สองคนนี้ ไม่มีใครยอมใครเลยนะ มากินข้าวก่อนเถอะ จะได้ไม่ต้องพูดไปให้เวียนหัว”
พี่ตั้นคงไม่ยอมจบ “นายก็บอกมาสิว่าใครพูดถูกกว่ากัน เหลิมจะได้สบายใจ” ดูมันมาโยนให้เขาอีก ก็ใครเริ่มก่อน ใครกันแน่ที่จุดชนวน  เขาก็อยากรู้ว่าพี่ตั้งคิดยังไง “ใช่พี่ตั้งพูดมาเลยใครถูก”

พี่ตั้งก็คงรำคาญเริ่มพูดเสียงแข็ง “ตั้น เหลิม ไม่มีใครถูกใครผิด เราไม่ได้เอาใจใครทั้งนั้น ไม่ต้องเถียงกัน ทุกอย่างที่ทำก็เอาใจตัวเองเป็นหลัก อย่างไหนทำแล้วมีความสุขก็ทำ เลิกตีรวนกันสักที ถ้าไม่เลิก ไม่กิน ก็กลับ จะเอายังไงเลิกไม่เลิก”
คำตอบของพี่ตั้งทำเอาเงียบกันไปทั้งคู่ เขาเพิ่งเคยเห็นพี่ตั้งในอารมณ์แบบนี้ดุเอาเรื่องแฮะ
 เขากับพี่ตั้นพูดเสียงอ่อยๆแทบจะพร้อมกัน “เลิก”

ก่อนที่จะหันหน้ามามองสบตากันเปรี๊ยะๆ ส่งสัญญาณสงบศึกชั่วคราว  ราตรีนี้อีกยาวไกล เขาตัดสินใจกินก่อนดีกว่า ท้องอิ่มแล้วคิดอะไรก็ปลอดโปร่ง ใครจะพูดมาแบบไหนเขาไม่เคยกลัวอยู่แล้ว ดีนะเนี่ยที่ยังมีหมาเหลืออยู่ในปาก ยังไงก็เก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉินได้ ที่พี่ตั้งจะให้รักหมาของพี่ตั้งด้วยท่าจะยากเสียแล้ว เพราะหมามันมากัดเขาก่อนแล้วจะรักมันลงได้ยังไง
***********************
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  :pig4:

ปล.เริ่มมึนกับชื่อตั้งชื่อตั้น  :laugh: ถ้าเขียนผิดขอโทษนะคะ มึนนนนน


 

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 22-11-2010 21:26:36
คริคริ

ไม่มีค่ะ ไม่มีการสลับชื่อหรือผิดบทแต่อย่างใดในตอนนี้ ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆ
เหลิมเอ๊ย เลิฟพี่ตั้งก็ต้องเลิฟหมาพี่ตั้งด้วยนะคะ :m1:
พี่ตั้งอะ มาทำเป็นเข้ามาใกล้แล้วส่งสายตาวิบวับไรก็มิรู้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 22-11-2010 21:32:36
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-11-2010 22:23:57
ตั้น แอบชอบตั้งหรือเปล่าเอ่ย
แต่ชอบตอนสองคนปะทะฝีปากกันจริงนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 22-11-2010 23:27:49
ชื่อเหมือนกันเล่นเอามึึน
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 23-11-2010 00:21:49
พี่ตั้นรักพี่ตั้งอย่างจริงใจ(แบบเพื่อน)ก็ไม่เป็นไร
แต่ถ้าีพี่ตั้นรักพี่ตั้งเกินเพื่อนละก็ อันนี้มีเฮแน่ๆ

ชักสงสารเหลิมซะแล้ว จะเอาหมาไปกัดกับเขาชนะมั้ยนะ  :laugh:

บวก 1 แต้ม ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 23-11-2010 08:42:25
55+ สนุกดีคะ กับสงครามย่อย ๆ แบบนี้

สงสารก็แต่พี่ตั้ง เป็นกลาง 55+

ขอบคุณคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 23-11-2010 09:26:43
ขี้หึงเหมือนกันนะเนี่ยน้องเหลิม
แอบเซงพี่ตั้นล่ะ หาเรื่องตลอด
เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อป่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 23-11-2010 17:31:57
หวังว่าพี่ตั้นจะรักพี่ตั้งแบบเพื่อนนะคะ

ไม่งั้นได้เป็นเรื่องแน่ ฮ่าๆ

แอบสงสารพี่ตั้งต้องเป็นคนกลาง เวียนหัวน่าดูเลย

ปล. เอาพี่ตั้นไปเก็บที
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 23-11-2010 22:24:38
พี่ตั้นรักพี่ตั้งแบบเพื่อนหรือแฟน

ดูหวงเพื่อนซะเหลือเกิน


ชอบค่ะ ติดตาม ๆ 


 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 25-11-2010 09:31:26
โผล่หัวมารายงานตัวว่ายังไม่ได้อ่าน  :o8:

แต่งานฟาร์มมันหนักหน่วงจิง ๆ นะคะคุณ  :m26:

วันนี้จะเข้ามาบอก  :a13: คนเขียนที่รักค่ะ

คนเขียนก็ ละ ๆ งานที่ฟาร์ม แล้วมาเขียนนิยายให้จบไวๆ นะคะ แฟนๆ ยังรออ่านอยู่ค่า :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 25-11-2010 13:25:53
พี่ตั้งเสน่ห์แรง ไอ้พี่ตั้นมันคิดไรกับพี่เปล่าเนี๊ยะ     o18
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 25-11-2010 18:08:56
รีบมาต่อเร็วๆเลยพึ่งได้อ่านสนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 26-11-2010 20:21:07
มาดัน มารอ คุณฟาง อยากอ่านต่อแล้วคะ

ตอนพิเศษก็ดีนะคะ อย่างตอนลอยกระทง

อยากรู้เหลิมกะพี่ตั้งจะน่ารักขนาดไหน คะ อิ อิ

 :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 27-11-2010 00:53:04
อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 27-11-2010 02:08:48
ใครไปกราบพี่ตั้นให้มาบ้านเหลิม? :z6:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 27-11-2010 13:17:56
คิดถึงเหลิม

มาต่อๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 28-11-2010 23:32:26
ตอนปกติไม่มา มาแต่ตอนพิเศษ อยากมีกับเขาบ้างอะไรบ้าง อิอิ ช้าไปหน่อยแต่ก็มานะคะ
***********************************

“เหลิม วันอาทิตย์นี้มีแผนจะทำอะไร”
 พี่ตั้งมาสะกิดแขน ชะโงกหน้ามาชวนคุยในขณะที่เขากำลังดูทีวีอยู่ หันมองหน้าพี่ตั้งแล้วเขาก็ดูทีวีต่อ ด้วยน้ำเสียงไม่สนใจ “ไม่มีแผน กะว่าจะนอน ตื่นมากิน แล้วก็นอนอีก”

พี่ตั้งเลิกสะกิด คราวนี้เกาะแขนเขาแน่น แถมด้วยบีบแบบที่ให้รู้สึกว่า ‘ถามแกอยู่นะเว้ยสนใจหน่อย’
 เขาเลยยิ่งแกล้งทำเป็นดูรายการในทีวีต่อ ทั้งที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของพี่ตั้งช่างน่าฟัดเหลือเกิน แต่คนอย่างพี่ตั้งไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ ถึงแม้เขาจะไม่ไยดียังไงพี่ตั้งก็ไม่รู้สึกอยู่แล้ว

“เหลิม พี่มีแผนมาเสนอน่าสนใจกว่าการกินแล้วก็นอนเป็นไหนๆ อยากให้เหลิมอนุมัติ”
 เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้ม สงสัยพี่จะดูข่าวมากไป
“ถ้าผมไม่อนุมัติิล่ะ พี่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจผมรึเปล่า” เขายังไม่หันไปมอง อยากรู้ว่าพี่ตั้งจะทำยังไงให้เขายอมแพ้
“เหลิมจะไม่ฟังก่อนเหรอ ว่าเรื่องอะไร ก่อนที่จะตัดสินใจ” ท่าทางวันนี้เขาคงจะดูทีวีไม่รู้เรื่องเป็นแน่

“ฟังสิ ผมต้องใช้ข้อมูลกับเสียงของประชาชนส่วนใหญ่เป็นหลักในการพิจารณา”
“แล้วมันเรื่องของเรา ทำไมต้องฟังเสียงประชาชน” พี่ตั้งเริ่มโมโหแล้วล่ะมั้ง
“ก็ประชาชน เป็นส่วนหนึ่งของสังคมของชีวิตเรา เราก็ต้องฟังสิ” ผมยังไม่ยอมแพ้ ทั้งที่ไม่รู้ว่าพูดเรื่องเดียวกันรึเปล่า

พี่ตั้งปลดแขนออก แล้วกอดอกทำหน้าบึ้ง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่เป็นไร ถ้าเหลิมไม่ อนุมัติ พี่ก็คงต้องหาพันธมิตรใหม่ ที่เขามีความตั้งใจที่จะสานสัมพันธ์กับพี่อย่างจริงใจ”
เอาแล้วสิ มีงอน “หูยยย...พี่ทิ้งกันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไม่อนุมัติ บอกมาก่อนนะครับว่าเรื่องอะไร” สงสัยต้องง้อซะแล้ว

พี่ตั้งหันมามองหน้าเขา ไม่ยักกะยิ้มแฮะ “เลิกดูทีวีแล้วเหรอ ดูอยู่ได้ไอ้อุลตราแมนนั่น พี่เลิกดูตั้งแต่อายุสิบขวบแล้ว”
 พี่ตั้งลุกไปรินน้ำดื่ม เขารีบเดินตามติดแอบสอดแขนเข้าไปกอดจากข้างหลัง เอาหน้าแนบแผ่นหลังกว้าง “บอกมาก่อนสิว่ามีแผนอะไรให้ผมอนุมัติ”
สงสัยพี่ตั้งจะขาดความอบอุ่นเจอเขากอดเข้าไปหน่อยเดียว น้ำเสียงดีขึ้นจนเห็นได้ชัด
“พี่อยากชวนเราไปลอยกระทง”

เขานึกว่าหูฝาดฟังผิดไป เผลอตะโกนขึ้นมา “ในวัยนี้ ลอยกระทงเนี่ยนะ ลอยกระทง” เขาเดินกลับไปนั่งดูทีวีต่อทันที
“ทำไม ลอยกระทงมันผิดตรงไหน” พี่ตั้งกลับมานั่งข้างๆอีก
“มันไม่ผิด แต่ผมเลิกไปลอยกระทงตั้งแต่สิบขวบเหมือนกัน” เขาหันไปบอกพี่ตั้งแล้วดูการ์ตูนต่อ
“ทำไมถึงเลิกไป?” พี่ตั้งยังสงสัย

เขาถอนหายใจพยายามอธิบายให้พี่ตั้งฟัง “ผมไม่ชอบไปเบียดเสียดกับคนเยอะๆ เพื่อเอากระดาษ หรือใบกล้วยไปลอย แล้วเช้าก็ให้คนมาเก็บไปทิ้ง ไร้สาระ”
“เหลิมรู้มั้ยว่าลอยกระทงชื่อเต็มๆมันคืออะไร” พี่ตั้งขมวดคิ้วก่อนอมยิ้มถามปัญหาที่เขาไม่รู้ได้อีก

“มันมีชื่อเต็มชื่อเล่นด้วยเหรอ ชื่อเล่นลอยกระทง หรือชื่อเต็มคือ ลอยพระกระทง ลอยกระทงสวรรค์ ลอยกระทงคงคา โอ๊ย...ครูที่บ้านไม่เคยสอน ไม่รู้”
คราวนี้พี่ตั้งหัวเราะก๊ากออกมาดังๆ “เหลิมคิดมาได้ คนสติดีๆเค้าจะตั้งชื่อแบบนี้มั้ย” ฟังแล้วแปลว่า ‘เขามันคนสติไม่ดีสิ’ พี่ตั้งหลอกด่าอีกแล้ว

“งั้นพี่ก็เฉลยสิ ชื่อเต็มอะไร ไม่เห็นเคยรู้” เขาขมวดคิ้ว ที่จริงถึงเค้าโง่ความจำสั้น แต่ก็จำได้ว่าครูไม่เคยสอนเรื่องนี้จริงๆ
พี่ตั้งหัวเราะ “ชื่อเต็มคือ...ประเพณีลอยกระทง”

เขายังทำหน้าซื่อ กลอกตาไปมา คิดแล้วคิดอีก คิดย้อนไปมา ทวนคำที่พี่ตั้งบอก ก่อนถามออกไปอย่างโง่ๆ “มันต่างกันตรงไหน (วะ)พี่ตั้ง” แล้วพี่ตั้งคิดได้ยังไงว่านี่คือชื่อเต็ม ถ้าเป็นคนอื่นมาเฉลยแบบนี้เป็นได้มีด่ากลับ
พี่ตั้งยิ้มอย่างผู้ชนะ “ต่างตรงที่มีคำว่าประเพณี งั้นพี่ถามเหลิมต่อ ประเพณีแปลว่าอะไร”

เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอาแล้วสิ พี่ตั้งเริ่มเล็กเชอร์ซะแล้ว ครูบาอาจารย์จะด่าเขารึเปล่าถ้าตอบผิด “ประเพณี คือสิ่งที่คนยึดถือปฏิบัติสืบเนื่องติดต่อกันเรื่อยมาในสังคม”
พี่ตั้งฟังแล้วพยักหน้าหงึกๆ “เหลิมก็มีความรู้พอใช้ได้นะ  ถูกต้องเลย” เขาถือว่านี่คือคำชม
“แล้วมันเกี่ยวกันยังไงกัน ผมไม่เข้าใจ พี่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม” ถ้าเขายังไม่เข้าใจพี่ตั้งจะผิดมากไหม

พี่ตั้งยิ้ม เอามือมาลูบหัวเขาอย่างใจดีเหมือนลูบหัวหมา “พี่กำลังจะบอกเหลิมว่า ประเพณีการลอยกระทง ก็คือสิ่งที่ปู่ย่าตายายเราปฏิบัติสืบต่อกันมานาน มีที่มาที่ไป ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ มันเป็นความเชื่่อเรื่องการบูชาธรรมชาติที่ให้คุณประโยชน์แก่เรา เค้าเชื่อกันทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วเหลิมจะมาบอกว่าเป็นเรื่องไร้สาระได้ยังไง มันไม่ดีนะ”

เขาฟังพี่ตั้งแล้วก็อึ้งไป บางทีเขาก็พูดอะไรไม่ค่อยคิด แต่เหตุผลจริงๆที่เขาไม่ไปลอยกระทงก็คือไม่มีคนชวนเขาไปมากกว่า ตอนยังเล็กๆพ่อแม่ก็ไม่มีเวลาและไม่เ็ห็นความสำคัญ พอโตขึ้นก็ไม่มีแฟนให้พาไป เพื่อนก็ไม่ชวนเพราะส่วนใหญ่ไปกับแฟน เลยไม่รู้จะไปลอยทำไม หรือไปกับใคร แต่เหตุผลแบบนี้พูดไปก็เสียฟอร์ม
เขาพยักหน้าให้พี่ตั้ง “ก็ได้ ถือว่าผมพูดผิดไปแล้วกัน ผมขอโทษ”

พี่ตั้งยิ้มกว้าง ก่อนเอ่ยชวนอีกครั้ง “ถ้างั้นเราไปลอยกระทงกันนะ วันอาทิตย์นี้”
เขาไม่รู้จะปฏิเสธยังไง แต่คนอย่างเขาไปง่ายๆก็ไม่ใช่เหลิมสิ ขอเรื่องมากหน่อย “ก็ได้ ไปที่ไหนพี่ ผมไม่ชอบคนเยอะๆ”
“พี่กำลังจะชวนไปท่าพระจันทร์เชียว คนเยอะสิยิ่งสนุก” พี่ตั้งพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แววตาระยิบ

“ไม่อะ คนเยอะ เด็กเยอะ หรือพี่จะไปดูเด็ก ไปดูนางนพมาศรึไง” พี่ตั้งมีแผนแน่ๆเลย เรียนจบมหาวิทยาลัยมาตั้งนานแล้วจะไปทำไมกัน ชักไม่อยากไปแล้วเว้ย
“ไม่ใช่ เหลิมคิดได้ยังไง พี่แค่อยากไปที่ดีๆที่สร้างความประทับใจให้กับลอยกระทงครั้งแรกของเรา”

ฟังแล้วทำเอาเก็บคำพูดที่กำลังจะแดกดันเกือบไม่ทัน พี่ตั้งมาพูดอะไรให้หัวใจมันมีความสุขอีกแล้ว พี่ตั้งดึงมือเขามากุมไว้ ถามต่อ“เหลิมไม่อยากมีวันดีๆแบบนี้กับพี่เหรอ”
เขาหันไปยิ้มให้พี่ตั้งบ้าง “ทุกวันที่อยู่กับพี่ผมก็ประทับใจอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาบรรยากาศ  หรือทำอะไรเพิ่มหรอก”

พี่ตั้งรั้งตัวเขามากอด “พี่ดีใจ” แน่ล่ะสิ ซึ้งใช่มั้ยล่ะ
“ดีใจที่เหลิมพูดดีแบบนี้ ไม่น่าเชื่อเนอะว่าเหลิมก็พูดแบบนี้ได้”
อืม...เหมือนจะชม หรือยังไง ไม่แน่ใจ ชักโมโหพูดแบบที่เคยพูดมันผิดตรงไหน “อ๋อ ตลอดมานี่ผมไม่เคยพูดดีเลยใช่มั้ยในสายตาพี่”
“ใช่ เหลิมไม่รู้ตัวเหรอ” พี่ตั้งถามตาใส จะพูดโกหกเอาใจกันบ้างก็ดีนะพี่ อย่าตรงจนเกินไป

“งั้นพี่มายุ่งกับผมทำไมล่ะ ไม่ไปหาคนพูดดี ปากดี ผมมันคนปากเสีย ก็เป็นแบบนี้ ไปหาคนอื่นเลยไป”
“เอ้ย มางอนพี่ได้ยังไง คุยกันอยู่ดีๆ อย่าพาเรื่องเสียสิ ตกลงงั้นเราไปลอยกระทงที่คลองหลังคอนโดนี่แล้วกัน ไม่ต้องไปไกล ดีมั้ย” พี่ตั้งเปลี่ยนเรื่องเฉยเลย เอากะแกสิ

“ไม่เอาเปลี่ยวจะตาย ไม่มีคนเค้าไปลอยที่นั่นกันหรอกพี่ น้ำก็ดำๆเหม็นด้วย” พี่ตั้งแกชอบคิดอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน (ที่มาคบคนแบบเขาด้วย ไม่รู้อะไรดลใจ)
“เหลิมอย่ากลับไปกลับมา เหลิมบอกเองไม่ชอบคนเยอะๆ บรรยากาศไม่ต้อง แล้วจะเอายังไง”

เขากัดปากตัวเองจริงของพี่ตั้งทุกอย่าง “ก็ได้ๆ ท่าพระจันทร์ก็ได้ ไม่อยากพูดกับพี่แล้ว จะไปไหนก็ไป”
พี่ตั้งหัวเราะเสียงดังหอมแก้มผมแรงๆ “ก็แค่นั้น พูดง่ายแบบนี้แต่แรกก็จบแล้ว หึหึ”

เฮ้อ...เขาจะทำยังไงกับพี่ตั้งดี ทำไมต้องแพ้ทางพี่ตั้งไปซะทุกครั้ง

แต่ยอมก็ได้วะไหนๆก็รักไปแล้วนี่
******************
ขอบคุณค่ะ ภาคปกติรอก่อนนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 28-11-2010 23:45:20
ตอนพิเศษ น่ารักๆๆ
รู้สึกว่าพี่ตั้งแอบร้ายนะเนี่ย เอาน้องเหลิมซะอยู่หมัด  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 28-11-2010 23:46:05
เหลิมปากเสียจริงด้วย :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 28-11-2010 23:50:06
เออปากดีต้องแต่ต้น คงจะดีไปจนจบเรื่องด้วยแน่ๆ 55  :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 28-11-2010 23:50:50
กรรมสนองเหลิม 555 อยู่ในโอวาทจะได้เจริญ ๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 29-11-2010 00:04:16
แต่มีแฟนแบบเหลิมเนี่ย
ใครอยู่ด้วยได้ก็สุดยอดเลย o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 29-11-2010 00:16:35
อ่านตอนนี้แล้วรุ้สึกว่าเหลิม่ารักกว่าทุกตอน
 :-[

สงสัยพี่ตั้งจะเป็นคนแปลกจิงจริง
เพราะดันมาชอบเหลิม
 :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 29-11-2010 06:36:29
ฮ่าๆๆ ดูเหลิมนี่อารมณ์แปรปรวนเหมือนคนท้องเลย ก๊ากกก :laugh:
แต่น่ารักจังเลย มิน่าพี่ตั้งไปไหนไม่รอด แต่เหลิมก็แอบขี้อ้อนนะ :o8:
รอตอนปกติค่า เมื่อไหร่จะมาน้อ :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 29-11-2010 07:30:59
หึๆๆๆน้องเหลิมยอมๆบ้างก็ได้ :3123:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: White ที่ 29-11-2010 07:58:32
^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 29-11-2010 08:31:36
ดื้อแบบน้องเหลิมพี่ตั้งเอาซะอยู่เลย :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 29-11-2010 10:12:17
อย่างน้องเหลิมต้องเจออย่างพี่ตั้ง  :laugh:

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษคะ  น่ารักไปอีกแบบคะ  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 29-11-2010 12:15:22
พี่ตั้งนิเสือซ่อนเล็บ   o18
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 29-11-2010 13:43:02
รอต่อไป

 :กอด1: :กอด1:

น้องเหลิมก็เก็บ ๆ  หมาไว้บ้างอะไรบ้างสิค่ะ

 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 29-11-2010 15:37:59
โอย ชอบน้องเหลิมกับพี่ตั้งมากมาย
คนหนึ่งก็ปากเสีย อีกคนก็ตรงซะ โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

รักกันรักกันไม่ต้องพึ่งบรรยากาศเนอะเหลิมเนอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 29-11-2010 18:15:33
กรี๊ดดดดดด~ น่ารักๆ

ในที่สุดเหลิมก็ยอม ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน ตอนพิเศษตามคำขอ 28/11/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 29-11-2010 22:32:00
ในที่สุดก็ได้ไปลอยกระทงด้วยกันเนอะ

เอาจริงๆแล้ว เหลิมแพ้ทางพี่ตั้งตลอดนะ
นอกจากพี่ตั้งจะชอบของแปลกแล้ว แกยังมีวิธีการปราบเหลิมอยู่หมัดด้ัวย
เหลิมไม่รู้ตัวเลยเหรอ อิอิ

รอลุ้นตอนปกตินะคะ ว่าสองหนุ่มเขาลงเอยกันได้อย่างไร ความตรงของพี่ตั้งกับความปากเสียของเหลิม ใครจะแรงกว่ากัน

บวก 1 แต้มค่ะ ขอบคุณมากๆ  :3123:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 02-12-2010 18:01:00
อากาศเริ่มเย็นรักษาสุขภาพนะคะ :กอด1:
*************************

อะไรๆ น่าจะดีขึ้นเมื่อเราหยุดเถียงกันเพราะต่างก็กลัวพี่ตั้งจะโกรธเลยต่างคนต่างกินกันไปเงียบๆ
พี่ตั้นขมุบขมิบปากบ่นแต่ไม่รู้ว่าบ่นอะไรเพราะไม่มีเสียงอะไรออกมา
แต่บรรยากาศที่ไม่พูดอะไรเลยมันน่าอึดอัดมากจนคนที่ทนไม่ไหวกลับเป็นพี่ตั้งเอง
“เป็นอะไรกัน ทำไมไม่มีใครพูดอะไรเลยล่ะ” พี่ตั้งมองหน้าเขาก่อนที่จะหันไปมองหน้าพี่ตั้นเลิกคิ้วเหมือนถาม

เขาและพี่ตั้นเหลือบตามองหากัน แต่โดยมิได้นัดหมาย
“ไม่มีอะไรอร่อยเลย”
“เผ็ดมาก กินไม่ไหว”
พีตั้งมองหน้าเราสองคนแล้วกลืนน้ำลาย “แล้วทำไมกินเอา กินเอา ทั้งคู่เลยล่ะ”

“ก็พี่ไม่ให้พูด ผมก็กินไปอย่างนั้นแหละ กำลังหิว กินกันตาย”
พอเขาพูดจบ พี่ตั้งหน้าเสีย พูดเสียงอ่อย “พี่ก็เลือกแต่ที่คิดว่าเหลิมจะชอบกินนะ”
พี่ตั้นที่นั่งอยู่ขมวดคิ้วขึ้นมาบ้าง “ทำไมนายซื้อแต่อะไรที่เผ็ดๆ นายก็รู้ว่าเราไม่ชอบกินเผ็ด”
พี่ตั้นกอดอกถามพี่ตั้งเสียงเครียด พี่ตั้งหน้าซีดหนักขึ้นไปอีก “เราบอกคนทำแล้วให้เผ็ดน้อยนะ” ทำเอาเขาเริ่มสงสารพี่ตั้ง

เขาลองเอาส้อมจิ้มยำทะเลมาชิม ก่อนหันไปบอกพี่ตั้น“ก็ไม่เผ็ดนี่ ยำมันก็รสชาติแบบนี้ ถ้าแบบนี้เรียกว่าเผ็ดก็แสดงว่ากินจืดมาก”
เขาเผลอยิ้มหยันขึ้นมา พี่ตั้นหน้าตึงขึ้นมาทันที
“คนไม่กินเผ็ด ไม่ได้แสดงว่ากินจืด แล้วคนกินไม่เผ็ดมันผิดตรงไหน”
เขายักไหล่ “ไม่ได้ว่าผิด ผมไม่ได้พูดสักคำว่าพี่ผิดที่ไม่กินเผ็ด พี่ฟังดีๆหน่อยสิ ผมไม่ใช่คนชอบหาเรื่องนะ”
 เขาหันไปพยักพเยิดกับพี่ตั้งหาพวก “ใช่ปะพี่ตั้ง”

ตาพี่ตั้นร้อนเป็นไฟ ถ้ามันเผาคนได้เขาคงไหม้เป็นจุลไปแล้ว
“ใครบอกว่าเหลิมชอบหาเรื่อง พี่ยังไม่ได้ว่าเหลิมเลย เหลิมคงเข้าใจอะไรยากนะ พูดง่ายๆ ก็ไม่เข้าใจ” พี่ตั้นยิ้มเยาะ
เขากัดฟันแน่นแต่ยังไม่รู้จะตอบโต้ยังไงดียังคิดไม่ทัน พี่ตั้งก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

 “เดี๋ยวก่อน ตกลงสองคนนี้กินอาหารที่ซื้อมาได้รึเปล่า หรือว่าไม่กิน จะได้กลับ”
พี่ตั้งทำท่าจะลุก อาจจะเริ่มโมโหเขาสองคนอีกครั้งที่ปะทะคารมกันตลอด เขารีบคว้ามือพี่ตั้งไว้ก่อนที่พี่ตั้งจะออกไป  
อดสงสัยนิดหน่อยว่าทำไมวันนี้พี่ตั้งหงุดหงิดบ่อยจัง เขาก็เป็นแบบนี้มาตลอดพี่ตั้งน่าจะชิน
 หรือว่าพี่ตั้งรำคาญเพื่อนตัวเองมากกว่า ก็น่าอยู่หรอกเรื่องมากขนาดนั้น (ผู้เขียน:มันยังไม่รู้ตัวว่ามันก็ด้วย...เรื่องมากที่สุด)

“กินสิพี่ ทำไมจะไม่กินล่ะ พี่อุตส่าห์ซื้อมาให้ผมกิน ใครกินไม่ได้ ผมกินได้ก็แล้วกัน” เขากอดแขนพี่ตั้งแน่น หันไปย่นจมูกใส่พี่ตั้น
  ถ้าพี่ตั้งมาคนเดียวไม่มีเนื้องอกมาแบบนี้อะไรๆคงจะราบรื่นกว่านี้แน่
“เราก็กินได้ อย่างอื่นมีตั้งเยอะแยะ นายซื้อของชอบเรามาเยอะเลยนี่”
 พี่ตั้นเดินมาดึงแขนพี่ตั้งให้ไปนั่งข้างๆ เขาต้องจำใจปล่อยพี่ตั้งไปอย่างเสียดาย
แต่พี่ตั้งนั่งตรงข้ามก็ดีเขาจะได้มองหน้าพี่ตั้งชัดๆ หึหึ พี่ตั้งคุยกับพี่ตั้นแต่มองหน้าเขาแล้วหันมายิ้มให้เป็นระยะ แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว

พี่ตั้นชวนพี่ตั้งคุยได้พักหนึ่งก็เริ่มบ่นอีก “ทำไมผักเยอะจัง เหม็นมากเลย”
ไอ้คนเรื่องมาก ในที่สุดก็ทนไม่ไหวล่ะสิ เขาเอาช้อนไปตักกับข้าวมากิน
“ ไหน ผมกินเอง พี่ไม่กินผักอย่างกับเด็กๆแน่ะ หึหึ” ได้ช่องกัดซะที รอจังหวะมานานแล้ว
พี่ตั้นแย้งขึ้นมาอย่างไม่ยอม “ไม่ชอบ ก็คือไม่ชอบ เด็กหรือผู้ใหญ่ ก็มีอะไรที่ชอบและไม่ชอบเหมือนกัน”

“แต่ผู้ใหญ่ รู้เหตุรู้ผลมากกว่าเด็กว่าอะไรดีมีประโยชน์ อะไรไม่ดี เด็กกับผู้ใหญ่เลยไม่เหมือนกัน”
 พี่ตั้นกัดฟันแน่น เถียงไม่ออกล่ะสิ เขาคิดว่ายกนี้อาจจะชนะ แต่พี่ตั้งก็ยังเป็นกรรมการห้ามมวยอยู่ดี
“ไม่ใช่หรอกเหลิม ไอ้เรื่องรู้ไม่รู้ กับชอบหรือไม่ชอบ มันไม่จำเป็นต้องไปด้วยกัน
บางทีรู้แต่ไม่ชอบมันก็เยอะ มันเป็นความชอบส่วนตัวของแต่ละคน เราเอาตัวเรามาตัดสินหมดทุกอย่างไม่ได้หรอก”

เขาฟังแล้วก็ยังคิดตามไม่ทัน แต่รู้สึกเหมือนพี่ตั้งจะเข้าข้างเพื่อน ทำเอาอารมณ์เสียขึ้นมาอีกครั้ง
 “ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ไม่กินก็ไม่กิน ผมกินเอง”
เขายกอาหารจานนั้นมาวางตรงหน้าแล้วเริ่มกินอย่างไม่แบ่งใคร หลังจากนั้นพอพี่ตั้นเริ่มบ่นอาหารจานไหนเขาก็เอามากินเองหมดทุกจาน
  จนในที่สุดตรงหน้าพี่ตั้งกับพี่ตั้นไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย เพราะพี่ตั้นบ่นไปทุกจาน

พี่ตั้งกับพี่ตั้นไม่มีอะไรจะกิน เลยเริ่มคุยกันสองคนไม่สนใจเขา พี่ตั้งลืมไปรึเปล่าวะว่านั่งหัวโด่อยู่นี่อีกคน
  ยิ่งทำให้หงุดหงิดขึ้นไปอีกที่ไม่มีใครคุยด้วย เขากินจนแทบจะอ้วกออกมาแต่ก็ต้องกล้ำกลืนฝืนใจไว้
ไหนๆก็ประชดไปแบบนี้แล้ว จะถอยหลังก็เสียฟอร์มแย่ ได้แต่ฟังเพื่อนรักสองคนคุยกันเก็บข้อมูลไปก่อน

พี่ตั้งถามพี่ตั้น   “นายไปเดือนหน้าวันไหน ยังขาดอะไรอีกบ้าง”
  (พี่ตั้นจะไปไหนล่ะ อยากรู้จริงๆ แต่ไม่อยากถาม เดี๋ยวจะหาว่ายุ่งเรื่องชาวบ้าน แต่ไปไกลๆก็ดี น่ารำคาญ)
“ไปกลางเดือน ก็ขาดเท่าที่บอกนาย นายจะว่างไปเป็นเพื่อนเราซื้ออีกเมื่อไหร่ล่ะ”

 พี่ตั้นตอบแล้วเหลือบมามองหน้าเขา ทั้งที่เขาไม่เกี่ยวด้วยสักหน่อย
 เขาเลยต้องรีบก้มหน้าแกล้งกินอย่างไม่สนใจเรื่องที่พี่สองคนคุยกัน ทั้งที่ฟังทุกอย่าง
สรุปได้จากการแอบฟังว่าพี่ตั้นจะไปที่ไหนสักแห่งกลางเดือน ถ้าพี่ตั้นยังไม่ไปนี่เขาต้องทนไปอีกนาน
 นี่เพิ่งจะต้นเดือนมิลากพี่ตั้งไปนู่นนี่ด้วยตลอดเหรอ

“วันไหนก็ได้ ขอแค่วันเสาร์อาทิตย์ เราไม่ว่าง” พี่ตั้งหันมายิ้มให้เขา เขาเลยยิ้มตอบทั้งที่ไม่รู้เรื่องว่าพี่ตั้งไม่ว่างเรื่องอะไรกัน
พอหันไปมองพี่ตั้นทำหน้าบึ้งได้อีก อยากถามว่าเป็นอะไรมากมายนักหนาพี่ ท้องผูกก็ไปซื้อมะขามแขกกิน
 ถ้ายังไม่ออกอีกก็ไปซื้อที่สวนที่ร้านยาซะอันละไม่ถึงสิบบาท จะมาหน้าบูดสร้างมลพิษทางสายตาให้ชาวบ้านทำไม

“เหลิมไม่ดื่มเบียร์สักหน่อย พี่ไม่คิดเงินหรอก ไม่ต้องกลัว” พี่ตั้นหันมาชวนเขาดื่มเอาดื้อๆ ทำเอาสะดุ้ง
 กำลังคิดนินทาอะไรเพลินๆ แต่จะชวนทั้งทีไม่มีพูดดีๆ ต้องมีเหน็บ มีแหนบให้เจ็บจิ๊ดๆ
“ใครว่าผมกลัว ผมไม่ชอบดื่มมากกว่า”
พี่ตั้นหัวเราะแล้วยักไหล่ เขาโคตรเกลียดคนที่ทำอาการแบบนี้ที่สุด ชาติที่แล้วเป็นหุ่นกระบอกรึไง
 “สงสัยคออ่อน ก็ดีแล้ว ดื่มไม่ได้ก็อย่าทำเป็นเก่ง เดี๋ยวกินแล้วอ้วก เสียของ” ไอ้พูดแบบนี้แถวบ้าน แถวที่ทำงานเรียกว่าดูถูกขั้นร้ายแรง

“พี่ไม่รู้จักผม อย่ามาพูดตัดสินกันง่ายๆแบบนี้ ผมดื่มก็ได้ ถ้าดื่มมากไป อย่ามาเสียดายเบียร์แล้วกัน”
ไม่รู้ว่าผีบ้าในตัวหรือใครกันแน่ที่ทำให้เขาพูดไปแบบนั้น หลังจากที่เขาดื่มไปสามแก้ว ความรู้สึกในการโต้ตอบก็ช้าลง
 สายตาพร่ามัว เสียงพี่ตั้งฟังนุ่มขึ้นเหมือนขยี้ด้วยฟองเบียร์
“เหลิมหน้าแดงมากเลย เมาแล้วเหรอ ดื่มไปนิดเดียวเอง”

เขาเอื้อมมือไปกุมมือพี่ตั้งไว้ อยากจะยิ้ม อยากจะคุยกับพี่ตั้งแค่สองคน
 “ยังไม่เมาครับพี่ตั้ง แค่มึนๆ” อืม แอลกอฮอล์ทำให้อยากพูดเพราะกับพี่ตั้งแฮะ
พี่ตั้งดึงมือออกแล้วลุกมาหามานั่งข้างๆ เขา เอามือมาจับหัวไว้แล้วโยกเบาๆ
 เขาคว้ามือพี่ตั้งมาแนบแก้ม อยากบอกพี่ว่า ‘อย่าโยกจะอ้วกแล้วพี่’
 แต่ปากบอกไปแค่ว่า “อื้อ...พี่ตั้งอย่าแกล้งผม” พี่ตั้งหัวเราะ ลูบหัวเขาอย่างเอ็นดู

“เมาง่ายจริงๆ คออ่อนไม่สมราคาคุยเลย” เสียงใครวะกวนตีนลอยลมมา หันไปมองหน้าคนพูดสักหน่อย
 หึหึ ของแปลกน่าเอาไปออกงานวัด หน้าตาดีแต่ปากเสีย เพื่อนปากหมาของพี่ตั้งนี่เอง
 เขาลืมตัวชี้หน้าพี่ตั้น “พี่อย่าพูดแบบนี้นะ ดูถูกผม ไหนรินมาเล้ย เอามาอีกแก้ว”

เขายื่นมือสะเปะสะปะออกไปที่พี่ตั้น แต่คว้าได้มาแต่ลม
 เสียงพี่ตั้งบ่นพึมพำ “เหลิมเมาแล้วว่ะตั้น นายรอนี่นะเดี๋ยวเราพาเหลิมไปนอนดีกว่า”
เขาไม่ได้ยินเสียงพี่ตั้นตอบว่าอะไร รับรู้แค่แรงเหนี่ยวจากแขนแกร่งของพี่ตั้งที่ดึงตัวเขาลุกขึ้นมาแล้วพยุงกึ่งประคองเขาเดินไปที่ห้องนอน
 “ผมยังไม่อยากนอน” เขาประท้วงไปเบาๆทั้งที่ตากำลังจะปิด เสียงพี่ตั้งหัวเราะเบาๆแผ่วๆอยู่ข้างหู
อยากถามว่าขำอะไรนักหนา เมาแต่ไม่ยอมรับมันผิดตรงไหน

พี่ตั้งพาเขานอนลงบนเตียงอย่างนิ่มนวล มันสบายจริงๆเมื่อได้นอนแผ่หลาบนเตียงของเราเอง
 พยายามเบิกตาที่กำลังจะหลับเพื่อไม่ให้หลับยังอยากคุยกับพี่ตั้งอยู่
 พี่ตั้งนั่งลงข้างเตียงเอามือลูบหน้าเขาอย่างแผ่วเบา เกลี่ยผมที่ปรกใบหน้าออก เราสบตากันนิ่งนาน
 เขาจับมือพี่ตั้งไว้ เรื่องที่ยังคาใจหวนกลับขึ้นมาในความคิดอีกครั้ง
“พี่หายโกรธผมแล้วเหรอ”
พี่ตั้งเลิกคิ้วเหมือนจะถาม “เรื่องไหนล่ะ”

เขาสั่นหัวเบาๆ สั่นแรงไม่ได้เดี๋ยวข้างในมันจะพุ่ง “ม่ายย...รู้ ทุกเรื่องมั้ง ผมทำไปแยะ จำไม่หมดว่าเรื่องไหนบ้าง”
พี่ตั้งยิ้มอย่างใจดี “นั่นสิ พี่ก็จำไม่ได้ ลืมไปหมดแล้ว”
เขายิ้มตอบแต่ตาจะหลับ มันหนักจนแทบจะลืมไม่ไหว
 แต่ปากยังพอขยับได้ พูดแบบหลับตาก็ได้วะ “ขอบคุณพี่นะ พี่อย่าเพิ่งกลับนะ”

“หืม ขอบคุณเรื่องอะไร ง่วงแล้วก็นอนเถอะ ไว้ค่อยพูดวันหลังก็ได้” พี่ตั้งดึงมือออกเอาผ้ามาห่มให้
 หลังจากนั้นเขาก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย ลางเลือนในความรู้สึกว่าแรงกดเบาๆที่แก้มยังอุ่นจนเขาจำได้
 เสียงแผ่วเบาของพี่ตั้งยังลอยอยุ่ในความทรงจำ
 “ฝันดีนะครับเหลิม”
*******************
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 02-12-2010 18:09:30
 :3123:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 02-12-2010 18:09:58
น่ารักจังเลย มาจุ๊บๆแก้มเขาอีก
พี่ตั้งอ้ะ :m1:


พี่ตั้นก็ฮา โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

คุณฟาง รอบนี้มีงงชื่อที่หนึ่งนะคะ
ตรงนี้........พี่ตั้งกับพี่ตั้งไม่มีอะไรจะกิน เลยเริ่มคุยกันสองคนไม่สนใจเขา (พี่ตั้งกับพี่ตั้ง?)
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 02-12-2010 18:11:41
 :o8: :o8: :o8: :o8:ว๊ายๆๆๆแอบจุ๊ฟแก้มเค้า


หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 02-12-2010 18:54:27
หวานอบอุ่นละมุนละไม  โดยมีก้างชื่อพี่ตั้น

ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 02-12-2010 19:12:51
พี่ตั้งแอบหอมแก้มน้องเหลิมด้วย :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 02-12-2010 19:28:13
เหลิมเมาแล้วพูดเพราะ งี้ต้องให้กินบ่อยๆ หุหุ
แต่พี่ตั้งน่ารักดี จุฟๆก่อนนอนด้วยอ่ะ :o8:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 02-12-2010 19:34:43
ตอนนี้จะน่ารักกว่านี้ ถ้าไม่มีอิพี่ตั้น

ลากมันไปเก็บที

ปล. พี่ตั้งรุกเร็วหน่อยจิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 02-12-2010 19:50:54
พี่ตั้งต้องให้เหลิมเติมแอลกอฮอล์บ้าง
เพื่อฝึกฝนการพูดเพราะ เลาะหมาออกจากปาก
บ่อยๆเข้า เหลิมจะได้พูดเพราะๆกับพี่ตั้งได้มากกว่านี้หน่อย

ส่วนพี่ตั้นจะไปตปท.เหรอ หรือไปไหน คงไปไกลๆแน่ๆเลย
ว่าแต่พี่ตั้นเขาตั้งแง่อะไรกับเหลิม หรือต่างฝ่ายจะชะตาไม่ต้องกัน

บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 02-12-2010 20:18:10
ว๊าวๆ มีแอบหวานกันด้วยแน่ะ พี่ตั้นไม่เห็นแต่เราเห็นนะ อิอิ
น่ารักมากมายตอนนี้ เพิ่งเห็นว่ามีตอนพิเศษด้วย พลาดไปได้ยังไงกัน
ตอนต่อไปมาไวๆนะคะ คุคุ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 02-12-2010 21:27:02
ว๊าว ๆ  น่ารักจังเลยคะ ถ้าไม่มีพี่ตั้น ก็น่าจะหวาน หรือว่า... แหะ ๆ

ขอบคุณคะ   :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 02-12-2010 21:35:44
เมื่อไหร่ตั้นจะไปซักที
พี่ตั้งเนี่ยแกเก่งนะ ทนได้ทั้งเหลิมและตั้น
เป็นเราเตะโด่งไปนานแล้ว :angry2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 03-12-2010 09:35:55
แหมๆ แอบจุ๊บแก้มไม่ให้เค้ารู้ตัว    :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 03-12-2010 14:19:10
พี่ตั้งเหมือนเป็นกรรมการห้ามมวยเลยอ่ะ
เหลิมกับตั้นใส่กันไม่มียั้ง
ขนาดเรื่องอาหารยังเอามาเป็นกประเด็นได้
เหลิมตอนเมาเนี่ย น่ารักดีเนาะ  :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 04-12-2010 10:05:49
ฮี่ๆๆ เหลิมน่ารัก :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 05-12-2010 00:45:27
เหลิม   อิจฉาๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 16-12-2010 18:44:21
มารอค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 17-12-2010 20:09:41
รอพี่เหลิมพี่ตั้ง กับคุณฟางคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 17-12-2010 20:30:14
แล้วแบบนี้ เหลิม จะจำได้ไหม ว่า พี่ตั้งแอบทำอะไรไว้  :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 18-12-2010 11:33:10
แวะมาคิดถึงเหลิมกับพี่ตั้งค่ะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ^ - ^A s A v I n * o * ที่ 18-12-2010 14:58:24
อ้ากกกกกก สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

รีบๆมาต่อระครับ คุนฟาง

อ่านๆไปก้อคิดถึงชีวิตตัวเอง เมื่อไรจะเจอพี่ตั้งนะ
 :m15: o18

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 22-12-2010 18:11:37
พี่ตั้งกับน้องเหลิมยังไม่มา
เข้ามารอค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 22-12-2010 19:17:28
แวะมาดัน คิดถึงเหลิมค่ะ

มาต่อๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 25-12-2010 08:56:15
แวะมา กด (ยังไม่ได้ T_T)+ดัน ๆ คะ

Merry X'mas ค๊า :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 25-12-2010 14:08:11
แวะมา

Merry X'mas

ปล. คิดถึงเหลิมค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 01-01-2011 10:38:47
แหะๆ แวะมาสวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้มิตรรักนักอ่าน ให้ร่ำรวยๆ ทั้งความสุขและเงินทอง นะคะ  :L2:




ปล.กราบขออภัยคนอ่านทุกท่านที่มาช้ามากกกที่สุดในชีวิตไม่เคยดองอะไรนานขนาดนี้มาก่อน
สัญญาว่ามาแน่แต่รอหน่อยค่ะ ช่วงนี้งานเข้าทั้งงานที่ทำมาหาเลี้ยงชีพและงานฟาร์ม เอิ้กกกก ไว้เจอกันค่ัะ :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 02-01-2011 08:25:16
สวัสดีปีใหม่ค๊า ขอให้มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะค๊าาา  :L2:

รอๆๆ คะ  o18
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 02-01-2011 08:28:00
แวะมาตีตั๋วรอด้วยคนจร้าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: kihaezzzzzz ที่ 02-01-2011 20:58:45
รีบมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 2/12/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 17-01-2011 11:47:36
คิดถึง เหลิม จังเลยค่ะ  :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 18-01-2011 13:01:07
 :m23: ขอโทษเป็นล้านๆครั้งคงไม่พอ ที่ไม่ได้มาต่อนานเลย อยากเปลี่ยนชื่อจากเรื่องชื่อสั้น เป็นเรื่องคิดสั้น ไม่น่าเอามาลงเลยแต่แรก
 รู้สึกผิดมากมายที่ทำให้คนอ่านต้องมาค้าง จะพยายามมาลงอีกเรื่อยๆนะคะ จะพยายามให้จบในเดือนสองเดือนนี้ค่ะ
 เพราะคงไม่มีเวลาอีกนานเลย ต้องขอโทษอีกครั้งค่ะ o1
**************************

เขาตื่นมาอย่างไม่ค่อยสบาย ผะอืดผะอมอยากจะอาเจียน ปวดหัวตึบๆมองไปรอบกายไม่มีใครอยู่
ไม่รู้เวลาด้วยว่ากี่โมงแล้ว ผลจากการดื่มเมื่อคืนยังทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน เขาทนไม่ไหวต้องล้มตัวลงนอนต่อ
 ปวดท้องจนตัวงอ ต้องนอนนิ่งๆ สักพักจนสุดทน โผเผเข้าห้องน้ำล้วงคออาเจียนออกมา
หลังจากสิ่งที่ยัดทะนานกินเข้าไปอย่างไม่บันยะบันยังออกมา ทำให้ค่อยดีขึ้น
 อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็มานอนเกลือกกลิ้งอย่างหมดแรง

แต่พอคิดถึงแรงกดที่แก้มเมื่อคืนทำเอาอารมณ์ดียิ้มอยู่คนเดียว
เขาลูบแก้มตัวเองซ้ำๆเพื่อเพิ่มไออุ่นให้แก้มอีกครั้ง แล้วก็พบว่า 'ทำไมแก้มกูสากจังวะ ไม่นิ่มเลย'
 สาบานได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่อยากซื้อครีมบ้าบออะไรสักอย่างมาทาหน้า เผื่อความหนาจะได้ลดลงแล้วเปลี่ยนมานุ่มนวลมากขึ้น

ว่าจะนอนต่อสักหน่อยแต่ท้องตัวดีก็ทำท่าจะหิว ออกมานอกห้องตั้งใจจะเก็บกวาดถ้วยชามจากการกินเมื่อคืน
 แต่พี่ตั้งจัดการเสียเรียบร้อยไม่มีร่องรอยของมื้อเมื่อคืนเลย จะเปิดตู้เย็นหาของกินเช้านี้ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาพอดี
“เหลิมเหรอ ตื่นแล้วสิ เป็นไงแฮงค์มั้ย” เสียงทักทายร่าเริงของพี่ตั้งทำให้พลอยร่าเริงไปด้วย ทั้งที่ร่างกายไม่เริงร่าเลย
“ใช้ได้เลยพี่ พี่เก็บจานล้างเหรอ ดีจัง” ชมเสียหน่อย พี่ตั้งเป็นพ่อบ้านดีแฮะ เขาเลยสบาย

พี่ตั้งหัวเราะ “ไม่ใช่พี่ทำ ตั้นมันทำ มันว่าไม่อยากให้เหลิมมาว่าลับหลังมันได้” ผิดคาดไปหน่อยแต่ยังไงก็ดีอยู่ดี
“เหรอ พี่ตั้นยังมีนิสัยดีๆ เหลืออยู่มั่งนี่” พี่ตั้งไม่ตอบเห็นด้วยแต่เสียงหัวเราะเบาๆคงเป็นการยอมรับว่าเขาพูดถูกเหมือนกัน
“วันนี้เราไปไหนดี”
 อยู่ๆ พี่ตั้งถามขึ้นมาเฉยๆ เขาไม่ทันได้เตรียมใจ เผลอโวยสวนกลับไปตามสันดานเดิมคือโวยไว้ก่อน
“ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย จะให้ไปไหนอีก” ไม่อยากไปไหน จะอ้วกอยู่แล้ว ไม่รู้รึไง

พี่ตั้งคงไม่เข้าใจที่เขาพูดถึงตอบกลับมาว่า “ก็กินสิ แล้วอยากไปไหนบอกพี่มา”
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก เรื่องมันมีอยู่ว่า “ไม่อยากไป อยากนอนมากกว่า” ไม่อยากเสแสร้ง ไม่ไหวจริงๆ
“นอนอีกแล้ว ระวังสันหลังยาวกว่านี้นะ” หลอกด่าอีกแล้วพี่ตั้ง
เสียงพี่ตั้งหัวเราะ แต่เขาอยากอ้วกต้องรีบบอกพี่ตั้งไปว่า “แค่นี้นะพี่ ไม่ไหวแล้ว”

เขาโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำอาเจียนออกมาอีกครั้ง แต่ไม่มีอะไรออกมา
ก็แน่ล่ะถ้าออกมาอีกทีคงเป็นลำไส้ทั้งยวง ถ้าจะว่าเมื่อคืนเขาเผลอมองหน้าพี่ตั้งมากไปหน่อยมันก็จริง
 แต่เขาไม่ใช่ปลาทองนี่หว่าจะได้มองหน้าใครแล้วท้องได้้

มัวแต่รับสายพี่ตั้งถึงยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่เช้า เพราะพี่ตั้งคนเดียวที่มาเป็นมารคอหอย
 แต่พออาเจียนแบบนี้ทำเอากินอะไรไม่ลง ก็เพราะแบบนี้เขาถึงไม่อยากดื่ม
ยอมรับกับตัวเองได้คนเดียวว่าเรามันคออ่อนจริงๆ แต่กับคนอื่นใครจะไปยอมรับง่ายๆล่ะ
 เขากลับไปที่เตียงนอนอีกครั้ง หิวก็จริงแต่ไม่มีแรงจะลุก

เขาไม่รู้ว่านอนไปนานแค่ไหน แต่ยังไม่ทันจะหลับไปอีกรอบเสียงโทรของพี่ตั้งก็ดังเข้ามาอีก
 เขารับสายอย่างหงุดหงิด ‘มีอะไรกันนักหนา ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะคุยนะเว้ย’
“มีไรพี่ ผมจะนอน” หงุดหงิด หงุดหงิด
“เปิดประตูให้พี่หน่อย” กำลังจะสวนไปว่า ‘มาทำไม’ แต่พี่ตั้งก็พูดขัดขึ้นมาก่อน “พี่ซื้อโจ๊กใส่ไข่มาให้”

อืมมม..ฟังเมนูแล้วไม่ค่อยอยากกิน โจ๊ก มันเป็นอาหารคนป่วย แหวะ
 “แต่ถ้าเหลิมไม่ชอบ ถ้าจะเอาหนักๆ พี่มีข้าวมันไก่ กระเพาะปลา อ้อ ถ้าอยากได้เบาๆ กว่าโจ๊ก
 พี่มีน้ำเต้าู้หู้เจ้าอร่อยมาเสนอ พร้อมปาท่องโก๋กรอบๆ....”
พี่ตั้งพูดไม่จบเขาก็แล่นไปหน้าประตูแล้ว  ทำไมพี่ตั้งชอบคิดว่าเขาเป็นคนเห็นแก่กินไปได้
ซื้อของมาเยอะขนาดนี้ คอยดูนะเจอหน้าเขาจะ....






ฟาดให้เรียบเลย...อยากท้าทายดีนัก

ชั่วโมงหลังจากนั้นเขาแทบไม่ได้พูดอะไรมากนอกจาก
“อืม...อันนี้อร่อย...อันนี้เลี่ยนไป ไม่ไหว...อันนี้วันหลังซื้อมาอีกนะพี่.....”
พี่ตั้งนั่งยิ้มเอามือเท้าคางมองเขากินเงียบๆ ตอบรับคำพูดของเขาเป็นระยะพอให้รู้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียว
 “เลี่ยนเหรอแต่ทำไมคนเข้าคิวซื้อเยอะล่ะ” แต่พอเขาตาเขียวใส่ พี่ตั้งก็ยิ้ม
 “ อืม...ได้วันหลังไม่ซื้อ”

 พอพี่ตั้งทำท่าจะหยิบปาท่องโก๋ในถุงที่เค้ายังไม่ได้กิน เขาลืมตัวดึงถุงออกมาวางห่างออกไป
 ทำหน้าดุใส่พี่ตั้งไปทั้งที่ข้าวยังเต็มปาก
พี่ตั้งเอื้อมมือมาขอคืนทำตาละห้อย “พี่กินมั่งสิ พี่ก็หิวนะ”
เขาส่ายหน้า “อ้ายไอ้...อ๋มอางไอ้อ้ายอิมเอย”
 พี่ตั้งหัวเราะส่ายหน้าแล้วโยนถุงปาท่องโก๋คืน คงฟังไม่รู้เรื่อง เขารีบกลืนข้าวในปากลงไป
ต้องรีบกินก่อนพี่ตั้งจะมาแย่งกิน กินไปก็ต้องมองไปหน้าพี่ตั้งไป ชักไม่น่าวางใจแฮะ

พอพี่ตั้งหยิบถุงน้ำเต้าหู้ที่วางอยู่ เขารีบวางช้อนมือขวา ส่วนมือซ้ายไม่ว่างกำถุงปาท่องโก๋ไว้
แล้วรีบคว้าถุงน้ำเต้าหู้ที่พี่ตั้งกำลังจะมาแย่งเขากิน...
 แต่พี่ตั้งโจรขโมยน้ำเต้าหู้จับมือเขาไว้แล้วหัวเราะขำ รีบแย่งพูด
“พี่ไม่แย่งกินหรอกน่าเหลิม พี่จะรินใส่ถ้วยให้ เหลิมจะได้กินกับปาท่องโก๋ไง”

เขาไม่อยากจะเชื่อ เผลอขมวดคิ้ว พี่ตั้งพยักหน้าให้ ทำหน้าล้อเลียนก่อนย้ำอีกที
 “จริงๆ ไม่ได้หลอก ทั้งที่หิวมากเลย”พี่ตั้งพยายามทำหน้าให้เขาสงสาร เอามือลูบท้อง แต่เขาไม่ใจอ่อนหรอก
 เมื่อวานก็โดนลุงยามแย่งกินไปที วันนี้ต้องไม่พลาด

เขาตักข้าวมันไก่ที่ไม่ค่อยอร่อยคำสุดท้ายเข้าปาก แล้วรีบกลืนไม่ต้องเคี้ยวให้เสียเวลา
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของน้ำย่อยในกระเพาะมันจัดการเองแล้วกัน แต่มันคงไม่คล่องคอ
 ข้าวแทบจะทุกเม็ดพากันไปอุดอยู่ที่คอหอยทำเอาตาเหลือก
พี่ตั้งที่นั่งมองอยู่แทนที่จะเป็นห่วงกลับนั่งขำเอามือกุมท้องไม่ส่งน้ำมาให้
ต้องให้เขากระเสือกกระสนวิ่งไปรินน้ำเอง แทบจะได้ตายหมดลมหายใจก่อนได้กินน้ำเต้าหู้
 เขาต้องไปนั่งพักหายใจที่โซฟาสูดออกซิเจนเข้าปอดให้ได้มากๆก่อน

“เอิ้กก...ข้าวติดคอ พี่ตั้งไม่ช่วยเลย ขำอยู่นั่น เป็นบ้าเหรอ หัวเราะไม่มีเหตุผล”
ชักโมโหเว้ย คนจะตายเพราะข้าวติดคอยังมีหน้ามาขำไม่เลิกอยู่ได้
พี่ตั้งยังไม่หยุดขำแต่เดินมายืนอยู่ข้างหน้ายื่นน้ำเต้าหู้ให้ เขาส่งตาขวางไปให้พี่ตั้ง
 แต่พี่ตั้งกลับส่งตาหวานกลับมา ทำเอาหวั่นไหวจนต้องเบือนหน้าหลบสายตา
 พี่ตั้งลูบหัวเขาอย่างเอ็นดูหรือเช็ดมือก็ไม่รู้ เขาเหลือบตาขึ้นมาดู ทันเห็นรอยยิ้มใจดี
 “ช่วยทำไม เหลิมจะได้รู้ว่ารีบกินข้าวแบบนี้มันไม่ดี พี่บอกว่าไม่แย่งก็ไม่เชื่อ พี่บอกอะไรก็เชื่อพี่บ้างไม่ได้เหรอ”

น้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้ แววตาอบอุ่นคู่นี้ที่มองหน้าเขาอยู่ เหมือนละลายอารมณ์ตะกละออกไป
 เปลี่ยนมาเป็นโหมดละอาย เอ๊ย...อาย “ก็ผมนึกว่าพี่ล้อเล่น ใครจะไปรู้ล่ะ”
ตอนนี้น้ำเต้าหู้มาอยู่ในมือแล้วแต่... "ไหนปาท่องโก๋ล่ะ”
 เขาเหลือบตามองถุงปาท่องโก๋แล้วมองพี่ตั้งอีกครั้ง ไหนๆ พี่จะใช้เซอร์วิสไมน์แล้วก็บริการเพิ่มอีกนิดแล้วกัน

พี่ตั้งส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนเดินไปหยิบถุงปาท่องโก๋มาให้เขา
พี่ตั้งนั่งลงข้างๆ มองเขากินน้ำเต้าหู้อย่างเอร็ดอร่อย มันหอมเข้มข้น อร่อยเหมือนที่ลุงยามบอกจริงๆด้วย
 เสียดายที่เมื่อวานพลาดไป เขากำลังจะดื่มจนหมดแก้วก็ได้ยินเสียงร้องเสียมารยาทขึ้นมา
 “โครกกกกก....”
 ไม่ใกล้ไม่ไกล เสียงของคนนั่งข้างๆ นี่เอง พี่ตั้งยิ้มอายๆ

นาทีนั้นไม่รู้อะไรดลใจ เขาส่งแก้วน้ำเต้าหู้(ที่เหลือ)ให้พี่ตั้ง แถมด้วยปาท่องโก๋อีกข้าง (ที่เหลือ)
แต่พี่ตั้งเหมือนไม่เข้าถึงน้ำใจของเขา ทำสีหน้าสงสัยใคร่รู้ “อิ่มแล้วเหรอ ทำไมไม่กินให้หมด ”
พี่ตั้งดูถูกกันมากเกินไป เขาเสียสละขนาดนี้ยังไม่ซึ้งใจอีก ไม่ได้ตั้งใจจะให้พี่ไปล้างแก้วให้สักหน่อย
“พี่ไม่รับก็ไม่เป็นไร ผมกินต่อเอง” เขาทำท่าจะดึงมือกลับ

แต่พี่ตั้งก็ฉลาดพอสมควร รีบดึงแก้วในมือเขาไป “เหลิมยกให้พี่  ไม่น่าเชื่อ งั้นเอามาสิ ให้แล้วเอาคืนมะรืนนี้ท้องผูกนะ”
 เขาหัวเราะบ้าง พี่ตั้งตลกดีไม่รู้ไปเอาสำนวนบ้าๆนี่มาจากไหน พออิ่มแล้ว เรื่องบ้าบอ อะไรก็ทำให้เขาก็ยิ้มได้
พี่ตั้งดื่มจนหมด ถ้าเอาแก้วมาบีบให้น้ำเต้าหู้ออกมาได้คงบีบไปแล้ว
 เขาแอบมองพี่ตั้งกินบ้าง ท่าทางแกคงจะหิวจริงๆ กินปาท่องโก๋หมดไปอย่างรวดเร็ว แล้วจู่ๆ พี่ตั้งก็บอกเขาว่า
“อิ่มละ เหลิมไปแต่งตัวสิ ไปข้างนอกกัน”

เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเอง คำพูดชวนแกมสั่งของพี่ตั้งกลับขัดใจเขาขึ้นมา
“พี่บังคับผมเหรอ ก็ผมบอกแล้วว่าวันนี้ไม่อยากไปไหน อยากนอน” ทำไมต้องให้เขาทำอะไรตามใจพี่ตั้งด้วย เขาไม่เข้าใจ
แต่พี่ตั้งก็คงไม่เข้าใจเหมือนกัน “ก็เหลิมอิ่มแล้ว จะมานอนอุดอู้อยู่ทำไม ไปข้างนอกกันเถอะ” น้ำเสียงคนชวนยังมีอารมณ์สนุก

เขาไม่อยากอารมณ์ไม่ดีอีก แต่เขาไม่อยากไป อาการมวนๆในท้องยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่
เขาลุกเดินหนีพี่ตั้งเข้าห้องนอน ก่อนล้มตัวลงนอนอย่างไม่สนใจพี่ตั้งอีก พี่ตั้งเดินตามมาในห้อง
“เหลิม มีเหตุผลหน่อย ไม่อยากไปเพราะอะไร”
ถ้านี่ใครจะเรียกว่าพี่ตั้งเป็นคนมีเหตุผลแต่สำหรับเขามันไม่ใช่ มันก็คือการ ‘เซ้าซี้’ ซึ่งเขาไม่ชอบ

เขาไม่ตอบแต่พลิกตัวนอนหันหลังให้  พี่ตั้งกลับเดินอ้อมเตียงมา แล้วนั่งลง
“เหลิม รังเกียจพี่รึเปล่า” เขาไม่ตอบ ยังอยากอ้วก สงสัยว่าจะกินเร็วเกินไป
 เขาหลับตาลง ข่มใจ ข่มอาการ พี่ตั้งเงียบไปนาน ถอนหายใจยาว
“พี่คงทำอะไรตามใจตัวเองมากไป จนเหลิมมองว่าพี่บังคับ” น้ำเสียงพี่ตั้งไม่สนุกอีกต่อไป จนเขาต้องลืมตามอง

“ถ้าเหลิมบอกว่าไม่ชอบพี่เท่านั้น พี่จะไม่มากวนเหลิมอีก”
 เขาไม่ชินกับน้ำเสียงแบบนี้ สายตาแบบนี้เลย พี่ตั้งคงเข้าใจผิดแล้วล่ะ แต่ตอนนี้เขาตอบไม่ไหว
 ถ้าอ้าปากอีกอาจจะมีอะไรที่ไม่ได้รับเชิญพุ่งออกมา เขาเหงื่อแตกพลั่ก ปวดท้องคลื่นไส้อีกครั้ง
ถ้าดีขึ้นเขาจะตอบพี่ตั้งเองว่า ‘มันไม่ใช่อย่างที่พี่พูด’
มันคงจะนานเกินไป พี่ตั้งลุกไปจนได้ คงรอเขาไม่ไหว

เขาฝืนใจลุกขึ้นตามพี่ตั้งไป เขาน่าจะทำอะไรบ้าง ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก
เขาคว้ามือพี่ตั้งก่อนที่จะออกจากห้องนอนเขาไปได้ทัน “พี่ตั้ง....อ้วกกกกก”
“เหลิม....” เขาไม่รู้ว่าพี่ตั้งจะพูดอะไรต่อ
รู้แต่ว่ากลิ่นข้าวมันไก่ กระเพาะปลา น้ำเต้าหู้ โชยมาปะปนกันอีกครั้ง ผสมด้วยกลิ่นเหม็นเปรี้ยวๆ ตอนนี้เศษอาหารมันเปรอะไปทั้งตัวเขาและพี่ตั้ง
งานเข้าแล้วสิ พี่ตั้งทำตาเหลือกมองหน้าเขาสลับกับมองผลงานของเขาบนตัวเราสองคน
"เอ่อ..."เป็นครั้งแรกที่เขาพูดไม่ออกจริงๆ
*******************
ขอมาสั้นๆก่อนนะคะไว้มาใหม่ รักคนอ่านทุกคน จุฟจุฟ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: BossZa ที่ 18-01-2011 14:42:58


   :z13:

อืม.........พูดไรไม่ออกเลยอ่ะ  o22
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 18-01-2011 15:03:52
555555555555555555555555555555+ ต๊าย เพราะงกจริงๆนะเนี้ย กินไม่ดูตัวเองเลย

ว่าแต่ ปลาทอง มองตากันแล้วท้องได้ด้วยหรอคะ นึกว่ามีแต่ปลากัดเสียอีก
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 18-01-2011 15:27:13
นายเหลิมเนี่ย นอกจากจะไม่ค่อยถนอมน้ำใจพี่ตั้งแล้วยัง อื๋ยยย...จะอ้....กว่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 18-01-2011 15:47:39
ถ้าเป็นเค้าเผ่นหนีตั้งแต่ไม่ยอมแบ่งอะไรให้กินแล้ว แถมยังจะมาอ้วกรดอีก o22
แต่เป็นพี่ตั้งไง เลยแค่พูดไม่ออก (แต่พี่ตั้งคิดใหม่ได้นะ เหลิมตอนนี้แหวะมาก :laugh:)
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 18-01-2011 17:45:15
น้องเหลิมอ้วกใส่พี่ตั้งซะงั้น :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 18-01-2011 18:14:04
น้องเหลิมไปอ้วกใส่พี่ตั้งอีกนั่น  o22

แหวะแทนพี่ตั้ง ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 18-01-2011 20:56:37
เหลิมเอ้ย
แต่ละอย่าง พี่ตั้งจะรับไหวมั้ยละเนี่ย  :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 18-01-2011 21:16:22
เวรกรรม เหลิมเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย

พี่ตั้งคะ....ชอบของแปลกต้องอดทน!!!
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 18-01-2011 21:36:50
 :a5: กินไม่แบ่งไม่ว่า นี้อ้วกใส่เลย
เป็นเค้าอ่ะ ไม่ทนแล้วเหอะ
พี่ตั้งเป็นยอดมนุษย์ 55555
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 18-01-2011 22:48:02
ตายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เหลิมเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย น่าอายจริงๆ  :z3:

ทั้งหวงกิน ทั้งขี้งก (แต่ดีนะยังมีแบ่ง)
ปวดท้อง วิงเวียน เพลียกาย ก็ไม่บอกดีๆไปแต่แรก
แถมกินแบบนั้น เพิ่งออกไปรอบแรก ท้องไส้ยังไม่ปกติ มันเลยตามมาอีกรอบ
คราวนี้เลยมีของแถมให้พี่ตั้งด้วย

ตอนนี้ นึกว่าคุณแม่ปะทะกับลูกชายจอมดื้อ จอมโวยวาย

พี่ตั้งจะว่าไงต่อ เหลิมด้วย จะทำไงดี (ไปล้างเนื้อล้างตัวกันก่อนไป๊!)

บวก 1 แต้ม ขอบคุณนะคะ รอลุ้นตอนหน้าว่าพี่ตั้งจะว่าไงต่อไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 18-01-2011 23:02:48
เอ่อ!!!พี่ตั้งคะ
คิดดีแล้วเหรอเนี่ย
ที่มาจีบเหลิม
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 18-01-2011 23:42:45
 o22 น้องเหลมช่างเปนนายเอกที่แนวมาก (แกนายเอกใช่มั้ยเนี่ยยยยยยยย  :a5:)
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 19-01-2011 13:34:51
เหลิมมมมม เปิ่นมากกกก :m20:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 19-01-2011 15:14:00
เต็มๆ   :m20:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 19-01-2011 17:14:47
โห..................เสียดายข้าวมันไก่ กระเพาะปลา น้ำเต้าหู้...... :m20: :m20: :m20:


พึ่งเข้ามาอ่าน สนุกๆๆๆ นายเอกใด้ใจมากกกก

เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์นะครับบบ

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
 :L2: :L2: :L2:



+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 25-01-2011 18:23:16
เอ่อ...พูดไรไม่ออกจริง ๆ

แล้วที่นี้จะทำไงดี....... :serius2:

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 25-01-2011 19:08:58
แวะมาแอบดู อุอุ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 25-01-2011 20:25:50
แหวะๆ เหลิมโคตรตะกละเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: u-only-one ที่ 25-01-2011 21:33:33
เอิ่ม.....เหลิมกินเข้าไปขนาดนั้น  จะ  :oak: ตามแล้ววว

แต่เหลิมเนี่ยไม่ค่อยรักษาน้ำใจพี่ตั้งเล๊ย สงสารพี่ตั้งจัง เอาใจเหลิมไ่ม่ถูกสักที  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 26-01-2011 18:17:37
แวะมาคิดถึงเหลิมค่ะ

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 18/01/2011
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 01-02-2011 19:07:02
อ่านจบแล้วอยากจะอ้วกตามเหลิมเลยอะ งานนี้พี่ตั้งจะว่าอย่างไงบ้างเนี่ย ทำเขาน้อยใจแล้วยังอ้วกใส่อีก  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 22-02-2011 13:52:05
ไม่นึกไม่ฝันไปดูวันที่มาต่อคราวก่อน เดือนที่แล้ว  o22 นี่ช้านทำอะไรลงไป
ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง  :z3: ขอโทษหลายพันครั้ง
แต่มันก็คงเป็นเช่นนี้นะคะ คือนาน แต่จะพยายามละกัน  :pig4: ที่ยังตามอ่านกันค่ะ
**************************************

เขาทนกลิ่นตัวเองไม่ไหวทำท่าจะหน้ามืด ต้องจับตัวพี่ตั้งไว้ แต่จะเข้าใกล้ก็ไม่ได้เพราะที่ตัวพี่ตั้งก็เหม็นนรกแตกพอๆ กัน
“เหลิมไม่สบายทำไมไม่บอกพี่ แย่เลย ไปๆ ไปถอดเสื้อออกก่อน มีเสื้อให้พี่ยืมมั้ย พี่ก็จะไม่ไหวแล้ว”
พี่ตั้งทำจมูกย่น หน้าตาเหมือนคนอยากอ้วก ประคองเขาไปที่ห้องน้ำ แต่ก็ยังใจดีถามอาการเขา
“แล้วนี่ออกมาหมดรึยัง คลื่นไส้อยู่อีกรึเปล่า”
 หรือพี่ตั้งกลัวว่าเขาจะมีก๊อกสองออกมาให้พี่ตั้งเลอะเทอะอีกก็ไม่รู้ ไม่น่าเลยกู...ฟอร์มตกหมดกันพอดี

เขาส่ายหน้า “ไม่มีแล้วพี่  ออกมาหมดเลย เสียดายจัง มีแต่ของอร่อยๆ”
พี่ตั้งเขกหัวเขาหนึ่งที “เหลิม เป็นขนาดนี้ยังจะงกของกินอีก ทำยังกับปกติไม่ค่อยมีจะกิน”
เขาเหลือบมองพี่ตั้งด้วยหางตา  กำลังคิดว่าจะขอโทษอยู่แล้ว เจอพี่ตั้งดุเข้าไปความโกรธเข้ามาแทน
แต่ไม่มีแรงจะเหวี่ยง เขาไม่พูดอะไรต่อเดินกัดปากตัวเองเข้าห้องน้ำไปเงียบๆ
พี่ตั้งเปิดก๊อกให้ เขาบ้วนปาก ล้างหน้าจนเสร็จ รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย หันไปอีกทีพี่ตั้งกำลังถอดเสื้อ ถึงกับตาเหลือก
“เฮ้ย!! พี่จะทำอะไร” พี่ตั้งสะดุ้งตกใจเสียงตะโกนของเขา

“เหลิมทำไมต้องตะโกน พูดค่อยๆก็ได้ ก็ถอดเสื้อ เห็นอยู่แล้วยังมาถาม”
“ก็นั่นแหละพี่ถอดเสื้อทำไม”
เขาพูดจบพี่ตั้งก็ถอดเสร็จพอดีแต่ไม่ตอบคำถามเขา เดินไปที่ชักโครกเปิดฝาแล้วเอาสายฉีดก้นมาฉีดเสื้อล้างคราบอาหารที่สกปรกออก
ฉีดไปก็หันมามองหน้าเขาแล้วถามกลับ “รู้รึยังว่าพี่ถอดทำไม เหลิมก็เหมือนกัน ถอดออกมา ทนไปได้ยังไง เหม็นจะตาย”

พอพี่ตั้งพูดขึ้นมาเขาเริ่มเหม็นขึ้นมาบ้าง รีบถอดอย่างไม่ลังเลเอานิ้วคีบอย่างรังเกียจยื่นให้พี่ตั้ง “พี่ล้างให้ด้วยสิ”
เขานึกว่าพี่ตั้งจะใจดีล้างให้ไหนๆก็กำลังล้างอยู่ แต่พี่ตั้งกลับส่ายหน้า
“พี่ไม่ให้เหลิมล้างของพี่ก็ดีแค่ไหน มาล้างเองเลย โตแล้วอย่ามาทำเป็นเด็ก”
“ก็ผมไม่ค่อยสบาย ไม่ได้ทำเป็นเด็ก”
 เขาบ่นขมุบขมิบเบาๆ จำใจล้างเสื้อเอง แล้วฉีดล้างให้พี่ตั้งด้วย พอให้เศษอาหารที่ติดอยู่หลุดออกไป
 ล้างเสร็จเขาดึงเสื้อในมือพี่ตั้งมา พี่ตั้งกลับไม่ยอมให้ “จะเอาไปไหน”

“เอามาซักไง เหม็นจะตาย”
เขาดึงกะละมังออกมาเอาเสื้อโยนใส่  ดึงเสื้อในมือพี่ตั้งออกมาจนได้ นั่งลงเตรียมพร้อมซักให้มันจบๆไป
“ผมทำเสื้อพี่เลอะก็ต้องซักให้”
 เริ่มโมโห ไม่รู้ว่าโมโหตัวเองที่ทำเสียหน้าไปอ้วกใส่พี่ตั้ง หรืออาจจะโมโหพี่ตั้งที่เอาแต่ดุไม่เห็นใจดีเหมือนตอนที่เขาไม่ป่วยเลย ทำเอาหงุดหงิด
“เหลิมจะซักตรงนี้ตอนนี้เหรอ”
“???” เขาเงยหน้าไปมองพี่ตั้ง อารมณ์คุกรุ่น “ก็เห็นอยู่ ไม่ซักตอนนี้ก็เน่าพอดี จะทิ้งไว้ได้ยังไง”

“แต่เหลิมไม่สบาย? แล้วพี่กับเหลิมก็ถอดเสื้อผ้ากันแบบนี้ ทำไมเราไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนล่ะ เดี๋ยวค่อยมาซักก็ได้”
เขาหยุดคิดสักพัก ถึงจะดูมากเรื่องแต่มันก็จริงของพี่ตั้ง
ไอ้รึจะยอมง่ายๆ ก็ไม่ใช่นิสัย “งั้นพี่ออกไปก่อน ผมจะรีบซักผ้าแล้วอาบน้ำต่อเลย”
“แล้วเหลิมจะให้พี่ถอดเสื้ออยู่แบบนี้น่ะเหรอ”

บางทีพี่ตั้งก็เข้าใจอะไรยากกว่าที่เขาคิด อยากสวนกลับว่าพี่ไม่ใส่เสื้อแบบนี้มันเสื่อมยังไงตรงไหนหรือทำให้เกียรติศักดิ์มันลดลง
 เขาทำเสียงฟึดฟัดอารมณ์เสีย ลุกขึ้นยืนมองหน้าพี่ตั้งอีกครั้ง
กะว่าจะดันตัวพี่ตั้งออกไปจากห้องน้ำที่เล็กเท่าแมวดิ้นตาย จะได้เลิกซักเลิกถามเสียที
แต่คงลุกไวเกินไปบวกกับอาการเวียนหัวยังไม่หายดี เขาหน้ามืดเซไปหาตัวพี่ตั้งเหมือนกับตั้งใจอ่อยทั้งที่ไม่ได้เจตนาเลยแม้แต่นิดส์เดียว
ฝ่ามือแปะเข้าไปที่อกพี่ตั้งพอดีราวกับจับวาง

“เอ้ยยย...”
พี่ตั้งร้องเสียงหลงทำอย่างกับหวงตัว แต่มือกลับรวบเอวเขาไว้แน่นเพื่อไม่ให้เขาล้มทับ เป็นอีกครั้งที่เขาพูดไม่ออก
ไม่รู้จะพูดว่าอะไรดี เขาพลาดอีกแล้ว ที่สำคัญหน้าเราชิดกันเกินไปแล้ว 'เอิ่ม...ลมหายใจพี่รดหน้าผม'

เหมือนกับแข่งกันว่าใครจะเอ่ยปากพูดก่อนเพราะต่างคนต่างเงียบ เวลาเพียงไม่กี่วินาทีแต่กลับยาวนานเป็นชั่วโมงในความรู้สึก
 พี่ตั้งส่งยิ้มอ่อนๆให้เขามองตานิ่ง พี่จะสื่ออะไรเหรอ อย่ามาจ้องแบบนี้เขาเริ่มทนไม่ได้ หน้าร้อนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ในที่สุดพี่ตั้งก็แพ้เพราะเขาทนเงียบไม่ไหวอีกต่อไป “พี่ออกไปก่อนนะ ผะ...ผมจะได้รีบซักให้เสร็จ”
 ทำไมเขาต้องเสียงสั่นด้วย น่าอายเว้ย ภายใต้ฝ่ามือเย็นเฉียบของเขาเนื้อตัวพี่ตั้งกลับร้อนผ่าว พี่ตั้งเลื่อนมือมากุมมือเขาไว้ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้
พี่ตั้งพูดเสียงนุ่มก่อนยิ้มใจดีเหมือนเคย “พี่ว่าแล้วว่าเหลิมต้องไม่สบาย ไปพักก่อนดีกว่า ไม่ต้องซักหรอก ทิ้งไปเลย เดี๋ยวพี่ซื้อให้ใหม่”

คนรวยเค้าชอบทำกันแบบนี้เหรอ  เอะอะก็ซื้อใหม่ น่าหมั่นไส้ เขาได้แต่บ่นพึมพำคนเดียว “ใครจะบ้าทิ้ง ของยังใช้ได้ บ้ารึป่าว”
แล้วไม่รอคำตอบจากคนที่กำลังเอ๋อๆในอ้อมแขน พี่ตั้งจูงมือเขาออกมาข้างนอกแต่ก่อนที่จะพ้นออกจากห้องกลับหยุกกึกอยู่หน้าประตู
“เอ๊ย...พี่ลืม เราสองคนตัวเลอะขนาดนี้ ยังไงก็ต้องอาบน้ำ เหลิมอาบเองไหวมั้ย” พี่ตั้งถาม
เขายังไม่ทันตอบพี่ตั้งก็พูดเสียงกลั้วหัวเราะมาว่า “ไป...พี่อาบให้ หึหึ” น่ากลัวว่ะ

เขารีบสะบัดมือหลุดทันที “เฮ้ยยย...ไม่ต้อง พี่ไม่ต้องเลย ผมอาบเองได้”
 เหมือนเปิดสวิทช์สติสัมปชัญญะ เขารีบดันตัวพี่ตั้งออกไปนอกห้องแล้วปิดประตู
 เสียงหัวเราะของพี่ตั้งดังขึ้นลอดผ่านประตูมา “อาบเร็วๆนะเหลิม พี่ไม่อยากถอดเสื้ออยู่คนเดียวนานๆมันเหงา หึหึ”

เขารีบอาบอย่างที่พี่ตั้งบอก ไม่ใช่เพราะกลัวพี่ตั้งจะเหงา แต่กลัวตัวเองจะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้
หวังจะให้น้ำช่วยชะล้างความมึนในหัวออกไปให้หมด ใช้เวลาไม่กี่นาทีเขาก็อาบเสร็จเรียบร้อย
 แต่ก็ไม่ลืมที่จะซักเสื้อผ้าให้เสร็จไปด้วยเลยทีเดียว ปล่อยให้หนาวไปเหอะ
ไอ้พี่ตั้งแกนี่ท่าจะเพี้ยน แรกๆก็ว่าแปลกแล้วแต่หลังๆนี่กลับแปลกยิ่งขึ้นไปอีก

เขาคงใช้เวลาซักผ้านานไปหน่อยเพราะมัวคิดอะไรเพลินๆ พี่ตั้งมาเคาะประตูเรียก
“เหลิม แน่ใจว่าอาบน้ำอย่างเดียว ไปแอบทำสปาแช่ดอกกุหลาบ จุดเทียนหอมอยู่รึเปล่า พี่ชอบลาเวนเดอร์นะกุหลาบไม่นิยม ออกมาเถอะ หึหึ”
ความรู้สึกบอกว่า พี่ตั้งมันกวนตีนมากขึ้นไปทุกทีผันแปรตามเวลาที่รู้จักกัน
 เขาบิดผ้าเสร็จเปิดประตูออกมาพี่ตั้งที่ยืนพิงอยู่แทบจะหัวคะมำเข้ามาในห้องน้ำ “เอ๊ย...จะเปิดก็ไม่บอก”

“อ้าว จะยืนพิงอยู่ก็ไม่บอกเหมือนกัน”
 เขามองหน้าพี่ตั้งกวนๆ พออาเจียนออกไปหมดเหมือนอาการจะดีขึ้น ไม่รู้สึกปั่นป่วนในท้องอีกต่อไป พอมีเรี่ยวแรงมาโต้ตอบกับพี่ตั้งได้
“ผมซักเสื้อให้พี่แล้ว พี่ไปอาบน้ำได้”
พี่ตั้งอมยิ้มทำจมูกฟุดฟิดไปตามตัวเขา “อืม ไม่มีกลิ่นกุหลาบ แต่กลิ่นสบู่สะอาดดี พี่ชอบ”

พี่ตั้งนอกจากแปลกแล้วยังชอบยั่ว(โมโห)เขาเรื่อย พี่ตั้งคนที่ใจดีเริ่มหายไป นานๆมาที
มีแต่พี่ตั้งคนที่กรุ้มกริ่มชอบพูดจาให้เขาคิด(มาก) เขาดันตัวพี่ตั้งเข้าไปในห้องน้ำแล้วดึงประตูปิด
“ไม่ต้องพูดมากเลย ไปอาบน้ำได้แล้วพี่”
เขาได้ยินไม่ชัดว่าพี่ตั้งพูดอะไร รู้แค่พี่ตั้งหัวเราะอีกครั้ง เขารีบเดินออกมาตากเสื้อ จะได้แห้งไวๆ ไม่อยากเสียเวลาต่อล้อต่อเถียงกันอีก
 แต่พอตากเสื้อเสร็จกลับไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี เดินวนไปวนมาแล้วก็มานั่งที่โซฟารอพี่ตั้ง จนเขาเผลอหลับไปอีกครั้ง

 นานแค่ไหนหรือแค่ไม่กี่นาทีต่อจากนั้นเขาก็ไม่แน่ใจ ราวกับว่ามีน้ำหยดลงบนใบหน้า
 น้ำอะไรกัน เฮ้ย...ใครเอาอะไรมาถูหน้าเขาเนี่ย เขาลืมตาขึ้นอย่างกลัวๆ ใบหน้าพี่ตั้งอยู่ตรงหน้า
เขาทำอะไรไม่ถูกอ้าปากค้าง พี่ตั้งกดปากลงประกบปากเขาอย่างไม่ให้ตั้งตัว
มันแปลกๆ เขาไม่เคยทำแบบนี้กับใคร ไม่เคยผายปอดให้ใคร
ไม่เคยรู้ด้วยว่าไอ้ที่ชาวบ้านเค้าเรียกกันว่าจูบมันให้ความรู้สึกแบบนี้นี่เอง เคยถามพี่ม้าแกก็เอาแต่ตบแขนเขาผัวะผะ แล้วหน้าแดง
 บอกแต่ว่าเขาต้องลองเอง แต่ไม่ยักบอกว่าลองกับผู้ชายก็ได้ แถมดีซะอีก

“อื้อ...พี่...” อาศัยจังหวะพี่ตั้งขยับตัว เขาขอโวยเบาๆพอไม่ให้เสียคอนเซปท์
พี่ตั้งปล่อยปากเขาจนได้ “อย่าเพิ่ง...อีกนิด”
อะไรอีกนิด พูดไม่รู้เรื่องอีกแล้ว พี่ตั้งไม่ปล่อยให้เขาสงสัยนาน เริ่มจูบต่อ
 ริมฝีปากของพี่ตั้งไม่เย็นชืดอีกต่อไป มันอบอุ่นนุ่มนวลอย่างประหลาด มือพี่ตั้งประคองใบหน้าเขาไว้
 เขากำลังเคลิ้ม แต่ใจมันหวิวๆ เหมือนจะเป็นลม จนต้องขยับมือไปเกาะตัวพี่ตั้งไว้ แต่จากสัมผัสเปียกชื้นบอกเขาว่า พี่ตั้งไม่ได้ใส่เสื้อ

ทำไมไม่ไส่วะ? เขาอยากถามแต่พี่ตั้งปิดโอกาสนั้นหมด
ทำไมพี่ต้องมาจูบผมด้วย? เขาก็อยากถาม
แล้วผมจะตายเพราะจูบของพี่มั้ย? เขาก็อยากถาม
พี่จะเลิกจูบผมเมื่อไหร่ ผมจะเป็นลม เอิ้กก.....

“เหลิมๆๆ เป็นอะไรน่ะ เหลิม....” เสียงพี่ตั้งดังแว่วๆมาไกลๆ หรือว่าเขาจะเป็นลมไปจริงๆ เอิ้กกก.....
************************************
 :bye2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 22-02-2011 14:16:33
ลืมอ่านไปนานเลยๆๆ

น้องเหลิมยังมึนๆบ๊องๆได้ถูกใจเช่นเคย
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 22-02-2011 14:47:35
มาต่อแล้ว :mc4:
คิดถึงน้องเหลิมมากเลย :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 22-02-2011 15:41:29
555555555555+ แค่นี้ทึงกับลมจับเลยหรอจะ สงสัยต้องให้พี่ตั้งฝึกให้บ่อยๆแล้วหละเหลิมเอ้ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 22-02-2011 15:58:33
>//////////<

พี่ตั้งอะ บ้าๆๆๆๆๆ
มาจู่โจมไรเด็กน้อยกำลังไม่สบายเนี่ย ร้ายยยยยยยยย!!!
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 22-02-2011 17:02:34
ตอนนี้ บอกพี่ตั้งได้คำเดียวคะ "หื่น" 555
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 22-02-2011 17:08:23
55+ เหลิมเก็บกดนะสิ งานนี้

จะรอตอนต่อไปนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้$
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 22-02-2011 17:27:20
สลบในจูบเดียว  :a5:
พี่ตั้งแกเก่งหรือเหลิมมันอ่อนกันล่ะเนี่ยยยย :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 22-02-2011 17:51:05
ฮ่าๆๆ เหลิมยังน่ารักเหมือนเดิม
พี่ตั้งรุกซะแล้ว

ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 22-02-2011 17:58:17
เหลิมเริ่มสติแตกหลุดโลก
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-02-2011 18:09:15
นาทีทองของพี่ตั้ง
อดใจไม่ไหวต้องจูบ
จีบเหลิมต้องทำใจหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 22-02-2011 19:49:24
พี่ตั้งอดใจไม่ไหวหละสิ

เพราะเหลิมน่ารัก อิอิ พี่ตั้งมาลุคใหม่ เหลิมเตรียมรับมือดีดีหละ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 22-02-2011 20:56:22
แหะๆ ขอกลับไปอานตอนเก่าก่อนได้ป่ะ
จูบจนลมจับเลยเหรอ เอิ๊กๆ นี่จูบนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 22-02-2011 22:26:37
ต๊ายยยยยยยยยย~ เหลิมนี่ช่าง... ปากร้าย ไร้เดียงสา จริงๆ  คุณพี่ตั้งก็ช่างอดทนเกิ๊นนนนนนนนน

ใครเคะ ใครเมะ กันแน่นะ เหมือนสลับกันไปมา ชักจะดูไม่ออก หึๆๆ

 :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 23-02-2011 01:15:15
 :m20: :m20: :m20:

สงสารก็สงสารนะเหลิม
แต่อารมณ์ฮามีมากกว่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 23-02-2011 03:57:42
 :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:   อาไรอะ ยังไม่ทันทำไรเลยเป็นลมซะเเล้ว   :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :pigha2: :pigha2: :pigha2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: kikipanda ที่ 23-02-2011 14:00:25
พี่ตั้งรุกฆาต!! หรือน้องเหลิมจะหลับฝันไปอีกแล้วเนียะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 23-02-2011 16:03:49
พี่ตั้งกำลังค่อยๆรุกน้องเหลิมแล้วใช่มินั่น

แต่น้องเหลิมยังคงเหมือนเดิมเลย เอ๋อๆ ป่วงๆ ยังไงยังงั้น

บวก 1 แต้มนะคะ
มาช้ายังดีกว่าไม่มาค่่า  :3123:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 27-02-2011 00:32:21
พี่ตั้งเริ่มรุกหนัก
เหลิมนี่ก็ฮาได้อีกอะ
 :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: kihaezzzzzz ที่ 13-03-2011 14:15:12
เหลิมน่ารักอ่ะ นายเอกมึนๆๆเเบบนี้ชอบๆ

อ่านเเล้วตลกอ่ะเรื่องนี้ ไม่ผิดหวังจริงๆ สมกับที่รอคอย

รีบมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 22/02/2011
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 17-03-2011 15:55:39
เขาจูบกันแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววว  :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 21-03-2011 19:28:20
แหะๆเกือบเดือนพอดีเลย เค้าจะย้ายนิยายเราไปห้องไม่จบมั้ยเนี่ย :m23:
มาต่อกันคะ ถ้าไม่สิ้นลมไปก่อน ต้องมาต่อให้จบซิน่า
*************************


ทำไมพี่ต้องมาจูบผมด้วย? เขาก็อยากถาม
แล้วผมจะตายเพราะจูบของพี่มั้ย? เขาก็อยากถาม
พี่จะเลิกจูบผมเมื่อไหร่ ผมจะเป็นลม เอิ้กก.....
“เหลิมๆๆ เป็นอะไรน่ะ เหลิม....” เสียงพี่ตั้งดังแว่วๆมาไกลๆ หรือว่าเขาจะเป็นลมไปจริงๆ เอิ้กกก.....


เขารู้สึกตัวหลังจากนั้นไม่นานนัก กะพริบตาอย่างมึนงง ไม่เห็นมีใครอยู่ในห้องแล้ว หันมองไปรอบๆ เขายังคงนอนอยู่ที่โซฟา
ก้มหน้าดูสภาพตัวเองเสื้อผ้ายังอยู่ครบ ลูบหน้าตาเนื้อตัว ปกติดี
เผลอเป่าลมออกจากปากอย่างโล่งอก 'Safe! ยังปลอดภัยดีเว้ย'

ความคิดแรกที่วิ่งเข้ามาคือ ‘นี่เราเป็นลมไปจริงๆเหรอวะ ให้ตายห่า...กูจะเอาหน้าไปไว้ไหน’
 รีบหลับตาก่อนเว้ย ขอคิดต่อนิดนึง ขอเรียกใจและกายที่ถอดร่างหนีไปกลับมาให้ครบก่อน
ความคิดต่อมา ‘เราควรลืมตา หรือแกล้งหลับต่อดี เอาไงดีวะ ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก’
เหมือนมีเสียงนาฬิกาจับเวลาดังอยู่ข้างหูให้รีบตัดสินใจ แต่เขาไม่แน่ใจว่าคิดนานได้แค่ไหน
 ถึงแม้จะไม่มีใครคอยจับเวลาจริงๆ เขาก็ไม่อยากให้สถานการณ์คาบลูกคาบดอกมันยืดเยื้อไปนานนัก
 ตอนนี้พี่ตั้งพิกัดอยู่ตรงไหน ข้างหน้า ข้างๆ ตัวเขาหรือไกลๆ กันแน่

โอ๊ยย...สับสนชีวิต ไอ้ความรู้สึกเนียนนุ่ม หวานละมุน หยุ่นๆ เหมือนมาชเมลโลเวลาที่พี่ตั้งจูบ มันคืออะไรกันแน่
คิดแล้วเขาก็ร้อนหน้าวูบวาบไปหมด ปากคอแห้งผากจนเผลอเอาลิ้นเลียปากจนได้

“ฟื้นแล้วเหรอเหลิม หึหึ ” ตายอ่า...เสียงพี่ตั้งดังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล นี่เขาต้องทำอะไรสักอย่างแล้วใช่มั้ย เอาไงดี
ใครจะช่วยเขาได้...โว้ยยย...เขารู้ได้เลยว่าพี่ตั้งเดินเข้ามาใกล้แล้วเสียงพื้นเอี๊ยดอ๊าดมันบอก
“เหลิมไม่ต้องแกล้งทำเป็นหลับเลย พี่รู้นะว่าเราตื่นแล้ว” เสียงที่ได้ยินชัดเจน ดังราวกับเจ้าของเสียงมายืนอยู่ต่อหน้า
 แต่พี่ตั้งรู้ได้ไงว่าเขาตื่น จะรู้ดีไปหน่อยละพ่อคุณ

คนที่โดนถามในใจเหมือนจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ พี่ตั้งตอบคำถามเขาได้อย่างแม่นยำ
“ทำไมพี่จะไม่รู้ล่ะ เปลือกตาเรายุกยิกๆ คิ้วก็ขมวด ปากก็เม้ม ให้โง่แค่ไหนก็ดูออก
เหลิมนี่เล่นละครไม่เก่งเลยนะ ใครก็จับไต๋ได้หมด เลิกเหอะไม่รุ่งหรอก”

นอกจากจะตอบคำถามเขาได้หมด ยังจับผิดได้แม่น ยั่วโมโห พูดจาจิกกัดทั้งที่ไม่ใช่ไก่ จนเขาทนไม่ไหวต้องตื่นมาโวย
 “พอเลย มีโอกาสไม่ได้ พี่เป็นต้องผสมโรงกัดผมตลอด ชาติที่แล้วเค้าเลี้ยงพี่ด้วยน้ำตาลรึไง กัดเก่งยังกับหมา อุ๊บส์...”
 เขาเผลอพูดออกไป ถึงแม้ท้ายประโยคเขาจะพูดเบา แล้วรีบปิดปากตัวเองไม่ให้หมากระโดดออกไปอีกได้ทัน
 แต่เท่าที่รู้จักกันมาหนึ่งอาทิตย์ พี่ตั้งไม่ใช่คนหูตึง ต้องได้ยินแน่ๆ เขาเริ่มกลัว พี่ตั้งจะโกรธรึเปล่าว้า
เขาหลับตาปี๋เตรียมใจรับคำดุจากพี่ตั้ง แต่เสียงที่ได้ยืนกลับไม่ใช่เสียงของคนที่โกรธเป็นเสียงหัวเราะดังๆ แทนขึ้นมา

“คงงั้นมั้ง แต่ก็สมกันดีกับปากแอบหมาของเหลิม  ใช่มั้ยล่ะ”
เขาลืมตาแทบไม่ทัน แต่ไม่มีแรงจะลุกไปฉะพี่ตั้งตัวต่อตัว ได้แต่ทำตาเขียวใส่ เดี๋ยวนี้มีย้อนนะพี่ตั้ง
ใครว่าพี่ตั้งเป็นคนใสซื่อเขาขอเถียงหัวชนฝา คนแบบนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ วาจาไม่เข้ากับหน้าตาเลย

จ้องคนยืนยิ้มยั่วนานๆเขาถึงเห็นว่าตอนนี้พี่ตั้งสวมเสื้อยืดเก่าๆของเขา แต่แปลกที่ว่าปกติเขาใส่เสื้อตัวนี้จะกลายเป็นไอ้เหลิมคนทำสวน
แต่พอพี่ตั้งใส่มันกลับกลายเป็นพี่ตั้งที่ดูสบายๆในเสื้อลำลอง คนเรามันผิดกันตรงสง่าราศรีนี่เอง เหอะๆ

พี่ตั้งยิ้มเขินเมื่อเห็นเขาจ้องที่เสื้อ “พี่ขอโทษนะที่ถือวิสาสะเข้าไปเอาเสื้อเหลิมมาใส่ เสื้อพี่ยังไม่แห้ง”
เขาส่ายหน้า ไม่เป็นไร “ใส่ไปแล้วนี่ มาขอโทษทำไม” ทำเป็นมีมารยาท ทีอย่างนี้ทำมาพูดดี
พี่ตั้งไม่ถือสาน้ำเสียงกวนตีนของเขา ยังยิ้มได้ “เหลิมนี่ประหยัดนะ มีเสื้อไม่กี่ตัวเอง แถมแต่ละตัวคงใช้มานาน”

เอิ่ม...พี่ประชดหรือพี่จริงใจ ไม่บอกมาเลยล่ะว่าเสื้อทั้งน้อยทั้งเก่า พูดตรงๆให้มันแทงใจไปเลยดีกว่ามาพูดอ้อมไปมาเป็นงูแบบนี้ ยังไงพี่ก็กัดเขาอยู่ดี
“คนมันไม่มีกะตัง มีเสื้อใส่ไม่ให้อุจาดก็พอแล้ว ใส่เสื้อคนอื่นแล้วยังมาวิจารณ์อีก ไม่พอใจใส่ก็ถอดมา”
 เขากำลังอารมณ์ดีๆ มาทำให้หงุดหงิดอีกจนได้

พี่ตั้งหัวเราะ “เหลิมนี่แปลกนะวันๆนึง หลายอารมณ์จนพี่ตามไม่ถูก เป็นพวกอารมณ์แปรปรวน แต่ไม่เป็นไรพี่รับได้” พี่ตั้งพูดเหมือนปลง
“พี่จะมารับอะไรได้ รับได้ไม่ได้ ผมก็เป็นแบบนี้แหละ จะทำไม” พี่นั่นแหละไม่รู้ตัวว่าเป็นคนมาทำให้เขาอารมณ์แปรปรวนอย่างกับผู้หญิงวัยทอง
เขาทำท่าจะลุกแต่พี่ตั้งกลับดันให้เขานั่งต่อแล้วนั่งลงข้างๆ “เหลิมเป็นอะไรอีก ก่อนหน้านี้ยังดูว่าง่ายอยู่เลย” พี่ตั้งยิ้มกริ่ม

“ผมไปว่าง่ายตรง...” พอนึกออกแล้วว่าพี่ตั้งหมายถึงอะไร เสียงที่กำลังโวยก็ลดเบาลงจนเกือบกระซิบไปเองด้วยความอาย “...ตรงไหนกัน...”
“ก็ตอนที่พี่จู....” ก่อนที่พี่ตั้งจะพูดจบเขารีบเอามืออุดปากพี่ตั้งๆไว้ “ไม่ต้อง  ไม่ต้องแล้ว ไม่ต้องพูด”

เขารีบหันหน้าหนีพี่ตั้ง โกรธด้วยอายด้วย  หรือจะแกล้งเป็นลมไปอีกรอบดีวะ คิดไม่ตก เอาไงดี
 แค่โดนกระทำนิดหน่อยแล้วดันเป็นลมไปซึ่งๆหน้าก็ทำเอาเสียงรังวัดไปหลายขุมแล้ว
 ถ้าเกิดหลุดอาการอะไรออกมาอีกมีหวัง ไม่ต้องผุดต้องเกิดกันอีก

“ทำไมพี่ยังไม่กลับล่ะ ใส่เสื้อผมไปก่อนก็ได้ แล้วค่อยเอามาคืนทีหลัง” เขาไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองหน้าพี่ตั้งเต็มๆตา
 แค่จะพูดด้วยน้ำเสียงปกติก็ยังยาก ฟังแล้วเหมือนไม่ใช่เขาพูดเลย
“คอเหลิมเป็นอะไร คอเคล็ดเหรอ ไหนพี่ดูซิ”  พี่ตั้งไม่รอเขาตอบว่าไม่ได้เป็นอะไรเลย กลับเอามือจับหน้าเขาหันมาจ้องตาพี่ตั้ง
“เฮ้ยยย...” เขาร้องได้แค่นั้นเองเพราะไม่ทันตั้งตัว เลยทำคอแข็งค้างไว้ไม่ทัน

พี่ตั้งยิ้มเมื่อเขารีบหลบตา “คอไม่เคล็ด แต่สงสัยตามีปัญหา หรือว่าตาส่อนมองหน้าพี่ตรงๆไม่ได้ หึหึ”
“พี่ตั้งงงง...” ทำไมยั่วโมโหเขาได้มากขนาดนี้ ถ้าขย้ำพี่ตั้งได้คงทำไปแล้ว
พี่ตั้งหัวเราะ ไม่สนใจน้ำเสียงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันของเขา “ตาดีแล้วนี่ แต่เหลิมปวดฟันเหรอ แยกเขี้ยวทำไม หึหึ”

พี่ตั้งไม่ยอมให้เขาเถียง กลับก้มหน้าลงมาแต่คราวนี้เขาไม่ไว้ใจพี่ตั้งอีกต่อไปรีบเอามือปิดปากตัวเองเอาไว้กัดฟันพูด “อย่านะ”
“เหลิม...เป็นอะไรพี่ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”

พี่ตั้งหัวเราะอีกครั้ง พอยั่วโมโหคนอื่นได้ทำท่าจะอารมณ์ดีเกินไปแล้ว“พี่ไม่ต้องมาพูดเลย ผมไม่ไว้ใจพี่แล้ว”
 เขาพูดเสร็จหันหลังจะรีบเดินหนีไม่อยากพูดอะไรอีก เพราะไม่รู้ด้วยว่าควรหรือไม่ควรพูดอะไรดี ยังคิดอะไรไม่ออกจริงๆ
 นายเฉลิมฉลองที่กล้าคิดกล้าพูดทุกอย่างกลับกลายเป็นคนใบ้ เขาอยากจะหัวเราะเยาะตัวเองดังๆก็ยังหัวเราะไม่ออก

แต่เขาก้าวไปได้ไม่ไกลพี่ตั้งกลับรั้งมือเขาไว้ ก่อนที่จะมาหยุดยืนตรงหน้า ทำหน้าขึงขังถามย้ำเสียงจริงจัง “เหลิมอยากเคลียร์อะไรกับพี่มั้ย”
เขาเบือนหน้าหนีพี่ตั้ง แต่ก็ยังอยากจะตอบ “ไม่อยาก ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ ผมไม่ใช่พลอย แล้วพี่ก็ไม่ใช่โดมด้วย”
มีหน้าไปเล่นมุกอีกนะกู แต่พี่ตั้งไม่ใจเลย กลับตอบมาว่า“หา..อะไรนะ พลอยอะไรโดมอะไร เหลิมพูดอะไรพี่ไม่เข้าใจ”



หมดกันมุกสดๆที่อุตส่าห์คิดได้ เริ่มหงุดหงิดเพราะมุกแป่ก “เออๆ ช่างมันไม่รู้เรื่องก็ช่าง แต่ผมไม่มีอะไรต้องเคลียร์พี่รู้แค่นี้ก็พอ”
เขาแกะมือพี่ตั้งออกจะเดินเข้าห้อง ทำเหมือนไม่สนใจทั้งที่หัวใจเต้นแรงยังกลับเจอพี่ตั้งมาร้องเพลงพี่เบิร์ด
  Love you too much ,so much , very much ให้ฟัง

“เหลิมจะมาทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้ได้ยังไง หรือว่านี่มันเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญอะไรสำหรับเหลิม”
พี่ตั้งคงอยากมีเรื่องเลยมาชวนเขาทะเลาะ มาทำน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจใส่เขา ทั้งที่เขาเป็นผู้ถูกกระทำแท้ๆ
ได้เลย...อยากได้เรื่องเดี๋ยวจัดให้ ชักอารมณ์ขึ้นมาบ้าง
“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไม่สำคัญ แต่เป็นเรื่องที่ผมไม่เข้าใจมากกว่า ว่าพี่มาทำแบบนี้กับผมทำไม ที่ผมไม่พูดก็เพราะผมอยากคิดเองก่อน
พี่อย่ามาเอาความคิดตัวเองมาตัดสินว่าผมจะคิดยังไง พี่จะมารู้ความคิดผมได้ยังไง”

“ถ้างั้นทำไมเหลิมไม่ถามพี่ จะไปคิดเองได้ยังไงว่าพี่คิดยังไงถึงทำแบบนั้น เหลิมจะมารู้ความคิดพี่ได้ด้วยรึไง”
พี่ตั้งมีย้อน ลอกที่เขาพูดมาเลยทั้งดุ้นไม่สร้างสรรค์ด้วยตัวเองบ้าง
พี่ตั้งจับมือเขาขึ้นมาอีกครั้ง สบตาเขานิ่ง น้ำเสียงที่พูดอ่อนแรง  “พี่ก็ยืนอยู่ตรงนี้ทำไมเหลิมไม่ถาม”

น้ำเสียงพี่ตั้งเบาก็จริงแต่มันกลับดังเข้ามาถึงใจเขา นั่นสิ ทำไมเขาไม่ถาม มันไม่ใช่นิสัยเขาเลย
แต่เขาก็ตอบพี่ตั้งไปแทบจะทันที “ก็เพราะผมกลัว”

เขารู้สึกเหมือนโดนกดดัน มันเครียดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว น้ำเสียงของเขาแปลกไปเหมือนไม่ใช่ตัวเอง
 เขาระเบิดความอัดอั้นใจออกไป “ผมกลัวว่าที่พี่คิดมันจะไม่ใช่อย่างที่ผมคิด  แล้วผมก็ไม่รู้ว่าผมจะรับคำตอบจากพี่ตั้งได้รึเปล่า”
“แล้วเหลิมคิดอะไร บอกพี่ได้มั้ย” เสียงพี่ตั้งทำให้เขาสงบขึ้นอย่างประหลาด
 เขาเงยหน้าสบตาพี่ตั้งอีกครั้ง “ผมพูดไม่ได้”

เอามือทุบหน้าอกเบาๆ “มันอยู่ในนี้ ผมบรรยายไม่ได้ว่ามันคืออะไร”
***************************
 :a2: คนญี่ปุ่นสู้ๆ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 21-03-2011 19:35:20
คนอ่านก็กลัวเหมือนกันว่า ไอ้ที่เหลิมจะบรรยายออกมาว่าไอ้ที่อยู่ในอกมันคืออะไรนั้น จะทำให้พี่ตั้งไปไม่ถูกทางมากขึ้นไปอีก
ยิ่งพิลึกๆอยู่ด้วย :m29:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 21-03-2011 19:40:20
 :กอด1:น้องเหลิม
 :กอด1:พี่ตั้ง

มันยากจริงๆแหละ พี่นุ่นเข้าใจ หงิงๆ

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ /l\
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 21-03-2011 19:41:55
บอกออกมาเลยเหลิม
อยากรู้คำตอบน้า :serius2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 21-03-2011 19:52:17
พูดเลยพี่ตั้ง

สารภาพรักกับน้องเหลิมไปโล๊ดดดดดดดดดดดดด


 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 21-03-2011 20:06:13
หายไปน้านนานเนอะพี่ตั้งกับน้องเหลิมเนี่ย
พอกลับมา ก็เล่นเอาอดขำท่าทาง และคำพูดของน้องเหลิมไม่ได้ 555
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: kihaezzzzzz ที่ 21-03-2011 20:19:54
ชอบอ่ะ  ประโยคนี้โดนสุดๆ
“ผมพูดไม่ได้”

 “มันอยู่ในนี้ ผมบรรยายไม่ได้ว่ามันคืออะไร”

เเอร้ อยากจะกรี้ด ไม่อยากจะเชื่อว่าเหลิมจะพูดจาอะไรน่ารักๆอย่างนี้ได้๕๕
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 21-03-2011 20:55:05
“มันอยู่ในนี้ ผมบรรยายไม่ได้ว่ามันคืออะไร”

กรี๊ดไปเลยอ่ะ ประโยคนี้ของน้องเหลิม
แต่ว่า....กลัวปากน้องเหลิมสุดๆ เพราะมันไม่ค่อยตรงกับใจเท่าไหร่เนี่ยสิ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 21-03-2011 21:41:15
 :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: arebaba ที่ 21-03-2011 23:41:45
เหลิมมึนทั้งเรื่องเลยน่ะคะ น่ารักดี อารมณ์วัยทองมาก บ่นๆ

พี่ตั้งน่ารักอ่ะรุกขนาดนี้ เหลิมยังไม่รู้อะไรเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 22-03-2011 00:16:29
แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น้องเหลิมยังน่ารัก พี่ตั้งก็ขี้แกล้งเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 22-03-2011 08:53:46
พี่ตั้งรุก น้องเหลิมตั้งรับแทบไม่ทัน 55+

น่ารักดีคะ   :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 22-03-2011 21:29:29
รู้สึกอย่างไรก็บอกพี่เขาไปสิเหลิม


พี่เขาให้โอกาสพูดแล้วนิ  แต่อย่าให้ไอ้ตัวสี่ขาหลุดออกมาจากปากอีกละ



เดี๋ยวมันจะดูดีไม่ได้อีก
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 23-03-2011 01:35:14
เอาละสิ

น้องเหลิมอึดอัด แต่บรรยายไม่ได้

น้องพูดมาแบบนี้ พี่ตั้งจะตอบยังไงดี จะเข้าใจน้องไหมนะ

มันยังอึนๆ มึนๆ อยู่เลย สงสารเหลิมเหมือนกันแฮะ โดนพี่ตั้งรุกหนักเลย

บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณที่มาต่อค่ะ
เป็นกำลังใจให้ และรอตอนต่อๆไปค่ะ  :3123:

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: aim ที่ 23-03-2011 17:49:36
สนุกมาก ๆ เลยค่ะ แล้วมาต่อเร็ว ๆ นะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: ปี้ปี้ปี้~PalmY ที่ 23-03-2011 18:57:01
ค้างงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 26-03-2011 15:21:30
คนอ่านก้พุดไมได้ เพราะ มันจุกอยุ่ในอก   


ปล ค้างสุดๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 07-04-2011 15:30:48
ถ้าน้องเขาอธิบายไม่ถูก พี่ตั้งช่วยอธิบายความรู้ึสึกตัวเองเป็นตัวอย่างสิค่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 14-04-2011 16:19:48
มาสาดน้ำวันสงกรานต์ค่ะ  :impress2:
 เดือนนี้ไม่รู้จะได้มาลงรึเปล่านะคะ ตอนนี้งานกำลังพีคสุดๆ (เยอะมากๆ ของใหม่ของเก่า ของต้องทำ ของการกุศล นัวเนีย พอกพูน)  :laugh:
จะพยายามมีชีวิตรอดมาเขียนลงให้ได้  ขอบคุณผู้ติดตามอ่านทุกท่านค่ะ
ขอให้มีความสุขมากๆในวันหยุดสงกรานต์นะคะ
me/สาดความรักใส่คนอ่านทุกคนค่ะ แล้ววิ่งหนีกลับไปทำงานต่อ :oni1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 21/03/2011
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 17-04-2011 17:43:16
สวัสดีวันสงกรานต์ค๊า

หุ หุ มาช้าดีกว่าไม่มานะค๊า

รอพี่ตั้งน้องเหลิมต่อไปคะ  :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 15/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 15-06-2011 23:36:32
 :call: ไม่กล้าแก้ตัวเลยค่ะ จะพยายามเขียนให้จบนะ แหะๆ
****************

“แล้วเหลิมคิดอะไร บอกพี่ได้มั้ย” เสียงพี่ตั้งทำให้เขาสงบขึ้นอย่างประหลาด
 เขาเงยหน้าสบตาพี่ตั้งอีกครั้ง “ผมพูดไม่ได้”
เอามือทุบหน้าอกเบาๆ “มันอยู่ในนี้ ผมบรรยายไม่ได้ว่ามันคืออะไร”

ทุบไปแล้วถึงจะเบายังไงมันก็เผลอแรงไปตามอารมณ์ มันต้องแรงบ้างไม่งั้นมันไม่ได้ฟิล สุดท้ายเจ็บตัวเองอยู่ดี พี่ตั้งคว้ามือเขาเอาไว้ ทำตาดุใส่ “ทุบไปทำไม เดี๋ยวเจ็บใจ” 
เขากำลังจะสวนกลับว่า ‘พี่มายุ่งอะไรด้วย นี่มันตัวของผม ใจก็ของผม ถึงเจ็บก็ไม่เกี่ยวกับใคร’
 แต่ยังไม่ทันได้พูด พี่ตั้งก็พูดเจือรอยยิ้มกวนใจเล็กๆ “เดี๋ยวพี่จะเจ็บไปด้วย...เพราะพี่อยู่ในนั้น”

ถึงจะฟังแบบเข้าหูซ้ายออกหูขวาแล้วเอคโคกลับมาหูซ้ายอีกรอบ ผ่านก้านสมองแบบเฉี่ยวๆ
 ใช้สติปัญญาที่มีอยู่เจือจางก็พอเข้าใจลางๆ ว่าไอ้คำพูดน้ำเน่าที่พี่ตั้งกำลังบอกเขาคือ ‘ใจของเขามีพี่ตั้งเดินเล่น นั่งเล่น เผลอๆนอนเล่นอยู่’

เขาอ้าปากค้าง เลือดสูบฉีดจนตัวชาไปทั้งร่าง พูดต่อไปไม่ออก ไม่อยากจะยอมรับกับตัวเองว่าที่พี่ตั้งพูดเป็นนัยมันคือความจริง อายจนคิดคำพูดเถียงกลับไม่เป็น
พี่ตั้งจูงมือเขาไปนั่งที่โซฟา เขาเดินตามไปอย่างว่าง่าย ยังคงไร้คำพูด มีแต่เสียงนุ่มนวลของพี่ตั้งที่ดังอยู่ในหู
 “ถ้ามันพูดยากนัก เหลิมไม่ต้องบรรยายออกมาก็ได้ แค่ยอมรับกับตัวเองเท่านั้น ว่าพี่อยู่ในใจเหลิมบ้างหรือเปล่า”

เขาอยากบอกว่า...มันใช่เลย แต่มันแค่นั้นหรือ แค่พี่มาอยู่ในใจผม แค่นี้ก็ทำให้ผมว้าวุ่นใจขนาดนี้
“แล้วเหลิมค่อยคิดต่อว่า เหลิมมีความสุขดีใช่มั้ย เหลิมยินดีที่มีพี่อยู่ด้วยข้างๆ เหลิมอย่าโกหกใจตัวเองก็แล้วกัน”
อะไรกันคือ...ความสุข ที่พี่ตั้งให้เขาถามใจตัวเอง

ดีใจ...เมื่อเห็นพี่ตั้งมารับแล้วพาไปเลี้ยง
กิน...ของทุกอย่างที่พี่ตั้งซื้อมาจนหมด
 ชอบ...รูปถ่ายฟรีที่พี่ตั้งเอามาให้
หรือว่าชอบ...ที่พี่ตั้งมีน้องสาวสวยน่ารัก

ถ้าทั้งหมดคือความสุขเขาก็ยินดีที่มีพี่ตั้งเข้ามาในชีวิต
มันไม่ใช่เพราะว่าเขาชอบของฟรี  ไม่เลย ไม่ใช่เห็นแก่กิน
 ไม่ใช่ว่าเขาเจ้าชู้

 แต่เขารู้ว่ามันมีมากกว่านั้น ไอ้อาการฉีกปากยิ้มโดยไม่รู้ตัวเมื่อพี่ตั้งโทรมา หัวใจเต้นแปลกๆ เมื่อพี่ตั้งพูดดีด้วย
 หรืออาการเป็นลมเมื่อพี่ตั้งจูบ...นั่นนับเป็นความสุขด้วยรึเปล่า

เขาคงจะอยู่ในโหมดเงียบนานไปหน่อยเพราะกำลังใช้สมองมากกว่าปกติ พี่ตั้งเริ่มสงสัย “เหลิมจะไม่พูดอะไรบ้างเหรอ”
เขาเหลือบตามองพี่ตั้ง ตอบไปอย่างรำคาญที่พี่ตั้งมาขัดจังหวะความคิด “ก็บอกแล้วไงว่าบรรยายไม่ได้ กำลังคิดอยู่”
พี่ตั้งส่ายหน้า “จะคิดอะไรนักหนา รักพี่ไปแล้วก็บอกมาตรงๆ”

เขาหันไปมองหน้าพี่ตั้งอย่างขัดใจ แต่เจ้าตัวกลับยิ้มเผล่ให้  พี่พูดอะไรวะ...มันแทงใจดังฉึก  อยากจะกรีดร้องออกมาดังๆ ก็กลัวพี่ตั้งจะตกใจ เขาเลยร้องได้แค่ “เฮ่ย...”
 คำพูดต่อมาถึงแม้จะโวยวาย ก็ช่างยากเย็นเหมือนคนพูดติดอ่าง น่าสมเพชสิ้นดี
“ทะๆ ทำไม...ทำไมพี่คิดเข้าข้างตัวเอง หลงตัวเองแบบนั้น ผมไปแสดงออกอะไรกับพี่รึไง”

 เขาร้อนทั้งหูและใบหน้า กูจะตายเพราะความดันขึ้นมั้ยนี่ เขาแน่ใจว่าเขาสงวนท่าทีมาตลอด ไม่เคยไปทำตาหวานใส่พี่ตั้งแม้แต่น้อย ถ้าไอ้การที่เขาพูดจาเอะอะโวยวายอยู่เรื่อยๆ คือการแสดงออกว่าเขารักพี่ตั้ง มาตรฐานของพี่ตั้งคงประหลาดที่สุด

พี่ตั้งยิ้มมุมปาก “งั้นทำไมเหลิมต้องเป็นลมด้วย” เอามือมาเขี่ยหัวไหล่เขาเล่น ก่อนพูดต่อด้วยประโยคที่ทำให้เขาต้องกัดปากตัวเองที่ไม่รักดี “ตอนที่พี่จูบเหลิม เป็นลมทำไม”

ทั้งน้ำเสียงยั่วเย้าและแววตาของพี่ตั้งทำให้เขาใจสั่น พี่ตั้งยังคงเขี่ยไหล่เขาต่อ จนเขาต้องปัดมือออก จะเขี่ยทำไมนักหนา
“กะ ก็ผมตกใจ เป็นปฏิกิริยาของมนุษย์เวลาตกใจ ก็แค่นั้น พี่อย่ามามั่ว” ตอนนั้นเขาตกใจจริงๆไม่ได้แก้ตัวเลย
พี่ตั้งถอนหายใจ “เหลิมจะแถไปมาแบบนี้ไม่ได้นะ ทำไมไม่พูดกันตรงๆ”

เขาหน้าง้ำ กัดปาก ไม่ได้แถ แค่ไถลเถลือก พี่ตั้งเองก็ไม่บอกว่ารัก แล้วทำไมเขาต้องบอก พี่ตั้งกำลังขุดหลุมพรางอะไรรึเปล่า ถ้าเขาบอกว่ารักแล้วพี่ตั้งหัวเราะเยาะ หรือบอกว่าล้อเล่นล่ะ เขาจะเอาหน้าไปไว้ไหน แค่เอาไว้บนหัวยังไม่สมควรเลย เขาคิดวนเวียนอยู่ในสมอง จนรู้สึกว่ายิ่งคิดยิ่งโง่ หน้านิ่วคิ้วขมวด ปั่นป่วนในท้อง

เขาได้ยินเสียงพี่ตั้งหัวเราะเบาๆ ก่อนที่พี่ตั้งจะเอามือกดหัวเขามาพิงไหล่ ลูบหัวเขา
 “เหลิมไม่ต้องเครียด ไม่ต้องพูดแล้ว พี่พูดเอง แล้วเหลิม คิดตามด้วยนะ อย่าฟังแล้วผ่านหัว ผ่านหูไป”
 เขาปล่อยลมออกจากปากอย่างโล่งอก อย่างนี้ง่ายกว่าเป็นไหนๆ แต่เหมือนโดนหลอกด่าอีกแล้ว ว่าไม่ค่อยคิด พี่ก็พูดเองเสียแต่แรกก็หมดเรื่อง

“ตั้งแต่วันที่พี่พบกับเหลิมวันแรก พี่ก็หลงรักเหลิมทันที”
 เขาตาโต เงยหน้าขึ้นมองพี่ตั้ง พี่ตั้งยิ้มให้แล้วพูดต่อด้วยเสียงนุ่มนวลเหมือนกำลังอ่านหนังสือให้เขาฟัง ว่าแต่ว่า….ที่พูดมาพี่โกหกรึเปล่า
“พี่ขำท่าทีแปลกๆของเหลิม สนุกกับการที่ได้คุยกับเหลิม” เขาขยับปากอยากถามว่าพี่ตั้งกำลังชม...หรือด่า พี่เห็นผู้ชายครั้งแรกก็ชอบไปแล้ว เป็นพวกใจง่ายนี่ แต่พี่ตั้งเอานิ้วปิดปากเขาไว้เป็นสัญญาณว่าไม่ต้องพูด

“พี่ไม่เคยจีบใครนะ แต่พี่ยอมรับว่าวันนั้นพี่ตัดสินใจที่จะจีบเหลิม  พี่อยากรู้จักเหลิมให้มากกว่านี้
 พี่อยากพิสูจน์ว่าที่พี่ชอบเหลิมมันไม่ใช่เรื่องโง่ๆ ที่พี่คิดผิด”

เขาอยากบอกว่าพี่คิดผิด มันเป็นเรื่องโง่จริงๆ ด้วย แต่ลึกๆ เขากลับดีใจ อย่างน้อยก็มีคนหลงผิดมาชอบเขาล่ะวะ ถึงแม้จะเป็นผู้ชายก็เถอะน่า
“ตอนที่เราอยู่ด้วยกัน พี่สนุกกับการได้ใช้เวลากับเหลิมมากขึ้น ถึงแม้เหลิมจะมีอะไรแปลกๆที่พี่คาดไม่ถึงเสมอ อย่างเช่นเรื่องที่เหลิมยอมไปนอนเฝ้าไข้พี่ ทั้งที่เราเพิ่งรู้จักกันไม่กี่วัน พี่ก็แค่ลองใจนะ แต่เพราะเหลิมเป็นคนมีน้ำใจ ถึงปากกับใจไม่ตรงกันเท่าไหร่”

 พูดจบอยู่ๆพี่ตั้งก็หัวเราะดังๆ ระเบิดขึ้นมา เหมือนขำกับตัวเอง พี่ตั้งหัวเราะจนหน้าแดง ไม่ยอมหยุดจนเขาทนไม่ไหว
“พี่ขำอะไรนักหนา หัวเราะอย่างกับคนบ้า”
พี่ตั้งยังพูดไปหัวเราะไป “ ฮ่าๆ พี่เกือบพูดไปแล้วว่าเหลิมปากหมา แต่ใจไม่หมา แต่ดีที่คิดได้ไม่พูด เลยขำตัวเอง”
เขากัดปากทำตาเขียวโดยอัตโนมัติ กัดฟันพูด ชี้หน้าพี่ตั้ง “พี่พูดไปแล้ว มะกี้”

พี่ตั้งสะดุ้ง “อ้าว เออ ลืม พูดไปแล้วจริงๆด้วย ฮ่าๆๆ ” แล้วพี่ตั้งก็เอามือกดท้อง ขำไม่หยุด นานจนเขาเริ่มโมโห
”ถ้าพี่จะหัวเราะแบบนี้  ก็ไม่ต้องพูดแล้ว จะเอายังไงก็ว่ามา มีช่องทีไรหลอกด่าผมเรื่อย”
พี่ตั้งหยุดหัวเราะทันทีแต่ยังมียิ้มกริ่มที่มุมปาก พูดช้าๆชัดๆ  “ดีมากเลย ที่เหลิมถามแบบนี้”

 พี่ตั้งหยุดพูด จ้องตาเขาเขม็ง ทำเอาเขาแทบหยุดหายใจไปด้วย  “เหลิมเป็นแฟนกับพี่นะ เหลิมก็ชอบพี่นี่”

เขาอึ้งไปกับคำพูดตรง ง่ายๆ ของพี่ตั้ง พี่พูดอย่างกับสั่งก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก ไม่งอก ไม่ตับ แต่สำหรับเขามันไม่ง่ายเลย ทำเอาเงียบไปพักใหญ่ พยายามคิดก่อนพูด ก่อนตอบไป
 “ง่ายๆแบบนี้เลยเหรอพี่ ผมไม่เคยมีแฟน(เป็นผู้ชาย) ไม่เอา มีแฟนไม่เป็น”

“เดี๋ยวก็เป็นเอง พี่สอนให้” พี่ตั้งแค่พูด แต่เขาสิดันไปมองปากพี่ตั้งแล้วก็คิดไปไกล ทำเอาเลือดสูบฉีดแรงจนหน้าร้อนผ่าว
ถ้าพี่ตั้งยังมาคาดคั้น นัวเนีย วนเวียน หว่านเสน่ห์ อยู่ใกล้ๆแบบนี้สติสตังที่ไม่ค่อยมีของเค้าคงคิดอะไรไม่ออก เขาไม่อยากสรุปอะไรตอนนี้ ถึงแม้พี่ตั้งไม่ได้ขอเขาแต่งงานเหมือนคู่รักทั่วไป แต่แค่คบเป็นแฟนกับพี่ตั้งก็นับเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในชีวิต ของคนที่ไม่เคยมีแฟนแบบเขาแล้ว

“ผมขอเวลาหน่อยนะพี่ ผมขอคิดอะไรดูก่อน เรื่องมันไม่ง่ายแบบนั้น”
มันก็ต้องมีลีลาบ้างอะไรบ้าง เขาไม่ใช่คนใจง่ายสักหน่อย เขากลืนน้ำลายรอพี่ตั้งตอบ อดจะกลัวไม่ได้ว่าพี่ตั้งจะถอนสมอเผ่นแน่บไปแล้วไปลับเลยรึเปล่า  ช่วงเวลารอคอยช่างยาวนานจนเขาเหนื่อยทั้งที่ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาที

พี่ตั้งถอนหายใจเบาๆ สีหน้าครุ่นคิด มองหน้าเขานิ่งๆ ก่อนพยักหน้าหงึกหงัก “ก็ได้  พี่ไม่รีบหรอก พี่รู้ว่ายังไง เหลิมก็รักพี่ไปแล้วแน่ๆ รอแค่ว่าเหลิมกล้ายอมรับกับตัวเองเท่านั้นเอง”
พี่ตั้งมั่นใจอะไรขนาดนั้น เขาไปทำสัญญาณอะไรส่งให้พี่ตั้งโดยไม่รู้ตัวรึเปล่า พี่ตั้งลุกขึ้นทันที ทำเอาเขาสะดุ้ง แหงนหน้าถามตาใส เหมือนเสียดาย “พี่จะกลับแล้วเหรอ?”

พี่ตั้งยิ้ม “ก็เหลิมบอกพี่เองว่าขอเวลา พี่ก็เลยจะกลับให้เหลิมได้คิดไง พี่อยู่แล้วเหลิมจะคิดออกเหรอ เดี๋ยวก็เอาแต่มองพี่ สมองทึบคิดอะไรไม่ออกกันพอดี”
เขาหลับตาทำใจ หลอกด่าเขาอีกแล้วนะไอ้พี่ตั้ง พี่ตั้งจับหัวเขาเขย่า “พี่ไปก่อนนะเหลิม” คงคิดว่าจะเขย่าสมองเขาให้เข้าที่เข้าทาง แต่มันยากหน่อยนะพี่ ในหัวเขามันมีแต่น้ำ เนื้อสมองน้อยกว่าปกติเลยชอบคิดอะไรโง่ๆ แบบนั้นล่ะ

เขาเดินตามไปส่งพี่ตั้งที่ประตู นึกดีใจจะได้พักผ่อนเสียที แล้วอยู่ๆ พี่ตั้งก็หยุดเดินหันหน้ามาเมื่อถึงหน้าประตู  เขากำลังคิดอะไรเพลินๆหยุดเท้าที่ก้าวตามไม่ทัน ตัวชนกับพี่ตั้งไปตรงๆ เหมือนส่งตัวเองเข้าไปในอ้อมกอดพี่ตั้งโดยไม่ได้ตั้งใจอ่อย สาบานต่อหน้าประตูได้

พอหายจากตกใจ เขาขยับขาก้าวถอยหลังเพื่อยืนให้มั่นคงขึ้น แต่อ้อมแขนของพี่ตั้งกลับรั้งตัวเขาไว้ มันใกล้เกินไปอีกแล้วนะพี่ เขาก้มหน้างุดมองลอดคอพี่ตั้งไป ไม่กล้ามองหน้าพี่ตั้งตรงๆ เอามือดันหน้าอกพี่ตั้ง  อยากเพิ่มช่องว่างระหว่างกันอีกหน่อย ใกล้กันขนาดนี้เขาคิดอะไรไม่ออกจริงๆ สมองที่มีอยู่น้อยนิดมันกลับเหมือนไม่มี แต่แขนพี่ตั้งแข็งแรงกว่าที่เขาคิด พี่ตั้งไม่พูดอะไรเลย ได้ยินแต่เสียงลมหายใจแผ่วเบาข้างหู
“กอดผมทำไมพี่ ผมไม่ล้มแล้ว ปล่อยได้แล้ว ฮ่าๆ” กัดฟันพูดไป หัวเราะไป ถึงแม้จะไม่ขำ ก็เอาไอ้มุกขำแป๊กนี่ล่ะกลบเกลื่อนไป

แทนที่จะปล่อยอย่างที่เขาขอ แต่แขนพี่ตั้งรั้งตัวเข้ามาชิดขึ้นกว่าเดิมอีก จนเหมือนตัวเราแนบติดกันเป็นปาท่องโก๋
 “พี่ขอกอดเหลิมสักนาทีนะ”
เขาอยากให้นาทีนั้นกับพี่ตั้งแต่ก็ยังสงสัย แอบบ่นกับตัวเองเบาๆ  “กอดทำไมตั้งหนึ่งนาที”
“เหลิมมองหน้าพี่หน่อยสิ อย่าเอาแต่ก้มหน้างุดแบบนั้น พูดอะไรพี่ได้ยินไม่ชัด” พี่ตั้งก็พูดเบา เขาได้ยินไม่ชัดเหมือนกัน หรือว่าเขากำลังฝันไปอีก
“พี่แน่ใจว่าเหลิมก็รักพี่ เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็น แต่เผื่อไอ้หนึ่งเปอร์เซ็นต์นั้นจะเกิดขึ้น พี่ก็ขอเผื่อความเสียใจไว้โดยการกอดเหลิมมัดจำไว้ก่อน”

หัวใจพี่ตั้งใต้ฝ่ามือเขาเต้นแรงจนสัมผัสได้ เขาเองก็สั่นเหมือนกันแต่สั่นสู้ เขาไม่รู้ว่านานแค่ไหนแต่เมื่อเขาดันตัวออกจากอ้อมแขนพี่ตั้งกลับไม่ยอมปล่อย “ยังไม่ครบนาทีเลย จะรีบไปไหน”
 เขาเลยได้แต่ยืนไว้อาลัยตัวเองอย่างสงบเงียบตรงนั้น ไม่มีคำพูดใดๆ อีก แต่ในที่สุดพี่ตั้งก็ปล่อยตัวเขา ก่อนที่พี่ตั้งจะลับสายตาเขาไป พี่ตั้งหันหน้ามามองเขาอีกครั้งก่อนทิ้งคำพูดไว้ให้
“พี่ได้แต่หวังว่าพี่จะได้กอดเหลิมแบบนี้อีกนะ”   

ประตูปิดไปแล้ว เขาได้แต่ยืนทำตาปริบๆ ว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตที่เคยราบเรียบของเขากันแน่ แต่อย่างหนึ่งที่เขาเผลอยอมรับกับตัวเองว่าเขาก็หวังไว้แบบที่พี่ตั้งพูดเหมือนกัน
*************
เจอกันอีกทีเดือนไหนดีหนอ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 15/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 16-06-2011 00:23:45
อีกนิด ใกล้แระพี่ตั้ง :laugh:
เอาใจช่วยพี่ตั้งขอให้น้องเหลิมคน(ปาก)ดี ยอมรับใจตัวเองซะที
เป็นกำลังใจให้นะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 15/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: dadeeda ที่ 16-06-2011 00:42:36
 เดือนไหนก็จะรอค่ะ รอให้พี่ตั้งสมหวังซักที่ :mc4:
ขอบคุณค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 15/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 16-06-2011 19:28:44
พี่ตั้งรุกบ่อยๆเดี๋ยวเหลิมก็ใจอ่อนเองแหละ :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 15/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: u-only-one ที่ 16-06-2011 20:04:22
พี่ตั้งทั้งกวน ทั้งหยอด น้องเหลิมก็เลยไปไม่ถูก  :o8:

ตามอ่านอยู่ค่ะ เหมือนพลาดไปสองตอน เพิ่งจะเห็นว่าอัพเมื่อเดือน 3  :impress3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 15/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 16-06-2011 21:48:33
เกรียนๆแบบเหลิมก็เขินเป็นนนน :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 15/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 16-06-2011 23:36:33
มาต่อแล้ว
น้องเหลิมยังเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 15/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 17-06-2011 01:10:21
อ่านแล้วฮา แต่กลัวใจคนแต่งมากกว่าว่าจะกลับมาให้ฮาเมื่อไร
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 15/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 18-06-2011 21:31:50
"‘พี่มายุ่งอะไรด้วย นี่มันตัวของผม ใจก็ของผม ถึงเจ็บก็ไม่เกี่ยวกับใคร’
 แต่ยังไม่ทันได้พูด พี่ตั้งก็พูดเจือรอยยิ้มกวนใจเล็กๆ “เดี๋ยวพี่จะเจ็บไปด้วย...เพราะพี่อยู่ในนั้น”

กรี๊ดๆๆๆๆ พี่ตั้ง อิ อิ   :impress2:

มาเดือนไหนก็รอคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 15/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: so close ที่ 23-06-2011 19:44:49
ตามมาจากเรื่องพี่ต่ายกับน้องโอมค่ะ ปูเสื่อรอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 25-06-2011 22:02:56
คราวนี้มาไวกว่าเดิมนิดส์นึง กลัวคนอ่านหายหมด :laugh:
***************************

วันจันทร์

วันนี้เขาตื่นแต่เช้าเพราะนอนหลับๆตื่นๆ ตลอดคืน พอรู้สึกตัวตอนเช้าเลยตัดสินใจรีบไปทำงานดีกว่า
 เขาอยากจะเคลียร์งานให้เสร็จไวๆ  จะได้มีเวลาคิดเรื่องพี่ตั้งอย่างจริงจังเสียที
 ที่ทำงานยังมีผู้คนบางตา ซึ่งนั่นกลับดีสำหรับเขา จะได้รวบรวมสมาธิอยู่ที่งาน เขาไม่อยากเอาเรื่องอื่นมากวนใจ
พยายามไม่คิดกังวลอีก
“เหลิมวันนี้มาแต่เช้าเลย ขยันผิดปกติ มีอะไรรึเปล่า" พี่ไก่มาหยุดยืนอยู่หน้าเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เขาเงยหน้ามอง
 พี่ไก่เองดูอารมณ์ดีไม่เหมือนเคย
“ผมไม่มี แต่พี่มีรึเปล่า หน้าตาสดใส เหมือนมีอะไรดีๆในชีวิต" พี่ไก่หลบตาแต่ยังเผลอยิ้ม พูดอุบอิบในลำคอ
"มันก็ต้องมีบ้าง  คนเราก็ต้องแสวงหาความสุขใส่ตัว...ไม่ใช่วันๆ ก้มหน้าก้มตาอยู่กับงาน เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็หกสิบ เกษียณ นอนแก่อยู่กับบ้านคนเดียว"

พี่ไก่ตบไหล่เขาเบาๆ ก่อนเดินฮัมเพลงเข้าห้องทำงานไป เขายิ้มงงๆ กับตัวเอง วันนี้พี่ไก่พูดได้ตรงใจ
นานครั้งพี่ไก่จะพูดอะไรดีๆ มันทำให้การทำงานในวันนี้มีความสุขขึ้นไปได้หน่อย
เขาถึงรู้ว่าเมื่อใครคนหนึ่งมีความสุข สามารถส่งถ่ายความสุขของตัวเองให้คนอื่นได้อีกด้วย
ถ้าคนในสังคมมีแต่ความสุข สังคมนี้คงน่าอยู่เป็นที่สุด

เขาตั้งใจทำงานไปจนเพลิน มีบ้างที่ไม่วายแอบยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูบ่อยๆ พี่ตั้งไม่ได้โทรมา และไม่มีแมสเสจใดๆ 
ความรู้สึกอยากเจอและไม่อยากเจอปะปนกันทั้งสองอย่าง  แต่ในที่สุดเขาทนไม่ไหวยกโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความไปหาพี่ตั้งสั้นๆ
 "ผมยังไม่อยากเจอพี่ ขอเวลาอีกหน่อยครับ"

อีกสิบห้านาทีจะเที่ยง เสียงสาวๆถามกันเซ็งแซ่ว่าจะกินข้าวกันที่ไหน น้องจิ๊บส่งเสียงตะโกนข้ามมาถึงเขาว่า "พี่เหลิม วันนี้หน้าตาดูดี ไปกินข้าวด้วยกันมั้ยคะ  ถ้าไม่หล่อไม่ชวนนะ"
 เขาเผลอยิ้มภูมิใจ วันนี้เขาคงหล่อจริงๆนั่นแหละ มีผู้หญิงมาชวนทั้งทีจะเก็บเนื้อเก็บตัวไปทำไม ออกไปพบปะกับสาวๆบ้างอาจจะทำให้เขาคิดอะไรดีๆได้

“ไปสิ วันนี้ขอควงน้องๆ ไปกินข้าวบ้าง ไปกินคนเดียวบ่อยๆมันเปลี่ยวหัวใจ" ปกติเขาไม่ค่อยไปกับใครเพราะมักจะรำคาญเวลาสาวๆ กินข้าวเสร็จแล้วซื้อของไม่จบไม่สิ้น แต่วันนี้เขาอยากลองเปลี่ยนทำอะไรแปลกๆ ไปบ้าง 

แต่แล้ว เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้นมาในขณะที่เขากำลังจะก้าวตามน้องจิ๊บไปกินกลางวัน หรือจะเป็นสายที่เขาแอบรอคอย
 "จิ๊บลงไปก่อนเดี๋ยวพี่ตามไป ร้านป้าอ้วนนะ"
“ค่า อย่าช้านะพี่วันนี้จิ๊บจะไปช็อปต่อ จะรีบกินไวๆ"
พอน้องจิ๊บและเพื่อนลับหลังไป เขารีบรับโทรศัพท์ แต่เบอร์นี้ไม่คุ้นแฮะ "สวัสดีครับ"

“เซอร์ไพรส์...”
 เสียงคุ้นหูนี้ทำไมเขาจะจำไม่ได้ แต่เขาไม่เคยอยากได้เซอร์ไพรส์จากผู้ชายคนนี้เลย


 ไม่ใช่พี่ตั้ง เสียงที่เขารอแต่กลับเป็นเสียงไอ้พี่ตั้น
“มีไรพี่" น้ำเสียงเขาค่อนข้างห้วน ไม่จำเป็นต้องมีมารยาทอีกต่อไป เพราะเดิมก็ไม่ค่อยมีอยู่แล้ว
“ทานข้าวรึยัง พี่รออยู่ข้างล่างมาเจอกันหน่อยสิ”
เขาไม่แน่ใจว่าเป็นคำชวน หรือเป็นคำสั่ง รู้แต่น้ำเสียงนั้นยังก่อกวนสั่นประสาทเหมือนเคย

“ยังไม่ได้ทาน กำลังจะลงไปทานกับเพื่อน ธุระด่วนรึเปล่า ถ้าไม่ด่วนผมขอตัว” ยอมง่ายๆก็ไม่ใช่เหลิมสิ ให้รู้ซะบ้าง
 พี่ตั้นนึกยังไงอยากเสียเงินมาเลี้ยงเขากันแน่
“ด่วน เพราะพี่จะไปต่างประเทศอีกไม่กี่วันแล้ว ไม่มีเวลาอีก อยากคุยเรื่องตั้ง ลงมานะ พี่รอข้างล่าง”
 พี่ตั้นวางสายไปเลย ไม่ยอมรอคำตอบอีก สรุปว่าเขาต้องทำตามใจเพื่อนพี่ตั้งอีกคน สาบานได้ว่าแค่พี่ตั้งคนเดียวชีวิตเขาก็หมุนไปหมุนมาอย่างไม่เคยแล้ว มาเจอพี่ตั้นอีกคนมันได้มีตีลังกาหัวทิ่มเพิ่มอีก ไอ้นิสัยชอบตัดสินใจแทนให้คนอื่นของพี่ตั้นเหมือนกับพี่ตั้งยังกับฝาแฝด

สุดท้ายเขาต้องโทรไปบอกน้องจิ๊บว่าติดธุระตามไปด้วยไม่ได้ เสียงน้องจิ๊บตัดพ้อต่อว่ามาพอน่ารัก แต่ไม่ยอมหยุดบ่น
เขาเลยต้องตัดบทว่าเขาขอเลี้ยงขนมน้องจิ๊บแทนคำขอโทษ อยากกินอะไรซื้อแล้วมาเอาเงินกับเขาแทน น้องจิ๊บถึงวางสายไปรวดเร็ว

ชายหนุ่มที่ยืนรอสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน พับแขนที่ข้อศอก ยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์เข้ารูปสีน้ำเงินเข้มส่งให้รูปร่างที่สูงอยู่แล้วดูสูงเพรียวขึ้นไปอีก บวกกับหน้าตาสะอาดสะอ้านแล้ว ใครที่เดินผ่านก็อดไม่ได้ที่จะมองซ้ำ พี่ตั้นเป็นคนที่ดูดีจริงๆ ถ้าไม่เอาหมาที่ปากติดตัวมาด้วย คงจะยิ่งดูดีกว่านี้

“สวัสดีครับ ไม่นึกเลยว่าพี่จะมาหาผม” เขาทักพี่ตั้นเมื่อมายืนอยู่ตรงหน้า
“ไม่คิดเหมือนกัน ว่าจะไปเรียนต่ออยู่แล้ว ยังมีเรื่องต้องมาจัดการอีก”
น้ำเสียงพี่ตั้นยังชวนให้เกิดโทสะอยู่ดี เขาข่มใจเก็บปากคำ ทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ๆยังหาบาปมาให้ ความอยากรู้เรื่องที่พี่ตั้นมาวันนี้ยังมีมากกว่า อย่าเพิ่งมาชวนทะเลาะกันตั้งแต่เริ่มเลย

“ไปกินข้าวดีกว่า ผมมีเวลาแค่ชั่วโมงเดียว ยังเป็นลูกจ้างต๊อกต๋อย ไม่ได้มีเงินเหลือเฟือไปเรียนต่อเมืองนอกเหมือนชาวบ้านเค้า”
พี่ตั้งทำตาเขียวขึ้นมาบ้างดูหงุดหงิดแต่ไม่พูดอะไรหันหลังเดินนำเขาไป พี่ตั้นเดินออกจากอาคารที่ทำงานเขา เดินลัดเลาะไปตามแนวถนน ผ่านไปสองช่วงตึกยังไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด ทำอย่างกับจะไปตามควายที่ไหนจนเขาต้องตะโกนถาม
 “พี่จะไปกินที่ไหน ผมบอกแล้วไงว่าไม่มีเวลามาก ร้อนก็ร้อน โอ๊ยอะไรนักหนาวะ”

พี่ตั้นหันมาตอบยิ้มกวนๆ “ถึงแล้ว รับรองว่าไม่นาน อาหารดีเหมาะสำหรับคนมีเงินเหลือเฟือว่าที่นักเรียนนอกแบบพี่” เขานึกขำ คนอะไรกัดตัวเองก็ได้ ทำยังกับหมาเวลามันคันหางแล้วต้องวิ่งไล่งับหางตัวเอง หึหึ

พี่ตั้นพาเขามาร้านอาหารใต้ตึกหรูใกล้ที่ทำงานเขา เขาเคยเดินผ่านร้านนี้หลายรอบแต่ไม่เคยคิดที่จะเยียบย่างเข้ามา
 เพราะดูการตกแต่งแล้วเขาคงไม่มีปัญญาจ่ายแน่ อยู่ห่างๆอย่างอยากๆไว้เป็นดีที่สุด

พี่ตั้นเดินนำเข้าไปก่อน เขาประหม่าเล็กน้อยอาจจะเป็นเพราะเครื่องปรับอากาศที่เปิดเย็นจัดจนหนาว
 พี่ตั้นเลือกมุมที่เป็นส่วนตัวเป็นที่นั่งของเรา เพื่อไม่ให้พี่ตั้นรู้ว่าเขาตื่นเต้นนิดหน่อย เขาชิงนั่งลงก่อนแล้วบอกพี่ตั้นว่า
 “สั่งอาหารให้ผมแล้วกัน ของ่ายและเร็ว แล้วพี่มีอะไรจะพูดก็เริ่มเลย”
สักพักบริกรเดินเข้ามาจดรายการอาหาร พี่ตั้นสั่งให้สำหรับตัวเองและเขา พอบริกรลับสายตาไปพี่ตั้นก็เริ่มพูดทันที คงจะคันปากอยู่เหมือนกัน

“ตั้งมันขอเหลิมเป็นแฟนแล้วใช่มั้ย” น้ำเสียงเคร่งเครียด ถามตรง จริงจัง
“ใช่” ถามตรงเขาก็ตอบตรง
“แล้วเหลิมตอบไปรึยัง ว่าตัดสินใจยังไง”
“ยัง” เขาอยากรู้นักว่าพี่ตั้นมันเดือดร้อนอะไรด้วย หรือว่าพี่ตั้นจะหลงรักพี่ตั้งอีกคน

“แล้วเหลิมจะตอบว่ายังไง” พี่ตั้นคงเริ่มหงุดหงิดที่เขาตอบสั้นไป
“มันเรื่องของผมกับพี่ตั้ง แล้วพี่มาเกี่ยวอะไรด้วย ผมตัดสินใจยังๆงก็ต้องบอกกับพี่ตั้งสิ ถึงจะถูก”
“แต่พี่เป็นเพื่อนตั้ง เพื่อนสนิท” เป็นอีกครั้งที่เขารู้ถึงความจริงใจจากน้ำเสียงหนักแน่นนั้นของพี่ตั้น แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เขายอมรับได้
“เป็นเพื่อนแล้วมีสิทธิอะไร เป็นเพื่อนไม่ใช่เป็นแฟนพี่ตั้งนี่” ลึกๆ เขานึกกลัวว่าพี่ตั้นจะบอกว่าเป็นแฟนควบเป็นเพื่อน  กินตำแหน่งสองอย่าง ถ้าถึงตอนนั้นแล้ว เขาจะโดนตบแบบในละครรึเปล่า ข้อหาแย่งแฟนชาวบ้าน

พี่ตั้งกัดปากแน่นเหมือนคนเก็บกด “พี่ไม่ใช่แฟนแต่ก็มีสิทธิห่วงเพื่อน พี่ว่าเหลิมไม่เหมาะกับตั้ง”
 ไอ้ประโยคแรกพอเข้าใจ แต่ประโยคหลังมันดูถูกกันนี่หว่า ถึงแม้เขาจะยังลังเลแต่พอมีคนมาพูดหยามหน้าแบบนี้เขาเริ่มโมโห
“ไม่เหมาะยังไง พี่เอาอะไรมาวัด เอามาตรฐานตรงไหนมาตัดสิน”
“เหลิมใจร้อน กินเก่ง เอาแต่ใจ ปากไม่ดี”

 พี่ตั้นตอบมาแล้วเขาก็นึกเสียใจว่าไม่น่าไปถามเลย ใช่สิเขามันจน เขามันต้อยต่ำ หน้าตาก็แย่ ปากก็หมา
 แต่ทำไมต้องมาตัดสินกันด้วยศาลเตี้ยแบบนี้ เขาไม่ใช่ผู้ประกวดไทยแลนด์ กอททะเล้นสักหน่อย

เขาถึงกับไปต่อไม่ถูก ที่พี่ตั้นว่ามาทั้งหมดมันก็จริง...บ้าง (แหะๆ ไม่หรอกมันใช่เลย แต่ขอหลอกตัวเองว่าไม่ใช่ทั้งหมดแล้วกัน) แต่เขาก็ไม่ใช่คนเลว ที่ติดเหล้า ติดการพนัน ติดหญิงนี่นา อย่างน้อย
“ผมจริงใจกับพี่ตั้ง แล้วพี่ตั้งเป็นคนเข้ามาหาผมเอง ผมก็เป็นของผมแบบนี้มาตั้งนานแล้ว”

พี่ตั้นเหมือนจะเข้าใจ แต่คงไม่เห็นด้วยอยู่ดี “พี่ไม่แน่ใจว่าอยู่กับเหลิมแล้วตั้งจะมีความสุข”
พี่ตั้นพูดมาแต่ละคำ มันทำให้ความสุขของเขาที่มีอยู่น้อยนิดลดลงไปเรื่อยๆ มันบั่นทอนความมั่นใจในตัวเขาลงไปทีละนิด พูดอะไรเป็นแทงใจฉึก ฉึก

“ผมก็ไม่มั่นใจ แต่ผมก็จะทำให้ดีที่สุด”
ทำอะไรได้แค่ไหนเขาก็ยังไม่รู้ รู้แต่ว่าเขาพูดได้แค่นี้จริงๆ ทั้งที่เขายังไม่ได้ตอบตกลงจะคบกับพี่ตั้งไปด้วยซ้ำ แต่แรงที่อยากเอาชนะทำให้พูดไป
เขาไม่รู้จะเอาอะไรมาการันตี เพราะทุกสิ่งมันไม่แน่นอน บางอย่างเขาก็กำหนดได้ แต่เรื่องบางเรื่องมันก็คงเป็นไปตามชะตาของมัน

บริกรเดินเข้ามาเสริฟอาหารพอดี เขากับพี่ตั้นเลยหยุดการสนทนาลงไปก่อน จนบริกรเดินหันหลังจากไป
 จานอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า สีสันยั่วน้ำลาย ข้าวผัดอะไรสักอย่างดูน่าทาน ผักสลัดสีเขียวสดจัดวางสวยงาม
 น้ำกีวีสีเขียวใส แต่เขากลับทานไม่ลงผิดจากนิสัยของเขา จานของพี่ตั้นเป็นอาหารแบบเดียวกับเขา พี่ตั้นผายมือพยักหน้าให้ เขาลังเลอยู่พักใหญ่ก่อนตักข้าวขึ้นมาช้อนแรกกำลังจะเอาเข้าปาก แต่แล้ว...พี่ตั้นก็พูดทะลุขึ้นมา

“เหลิมอย่าตกลงกับตั้งนะ”
***********************
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ :really2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: nemonoy ที่ 25-06-2011 22:26:51
ไอ้พี่ตั้น มารความรักหรือป่าวเนี่ย! -*-  อยากอ่านต่อจัง งุงิ งุงิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 25-06-2011 22:33:28
มาแบบฆ่ากันเห็นๆ ค้างงงงงงงงงงเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 25-06-2011 22:48:25
มารหัวใจ  แล้วก็มารคอหอยด้วย
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 25-06-2011 23:07:12
ไม่ใช่ว่า พี่แกแอบชอบเหลิมซะเองนะ  :really2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 28-06-2011 21:49:44
อยากอ่านต่อค่ะ
ทำไมตั้นมาพูดแบบนี้ละ :serius2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: so close ที่ 30-06-2011 09:55:20
 :m31:ฆ่ากันให้ตายดีกว่าค่ะ จบค้างแบบนี้ต้องค้างอีกกี่เดือนล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 30-06-2011 15:58:12
ตกลงห่วงหรือหวงกันแน่อ่ะพี่ตั้น   :z6:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 25/6/2011
เริ่มหัวข้อโดย: kong_cup ที่ 01-07-2011 23:53:16
เหมือนถูกผู้แต่ง ตบหน้ากลางสี่แยก

รีบมาต่อเลยนะ555+
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 02/07/2011
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 02-07-2011 18:06:12
 :z3: เขาไม่เคยตบใครกลางสี่แยกเลยนะ เอิ้กกก มาต่อแล้วค่ะ 
**************************

“เหลิมอย่าตกลงกับตั้งนะ”

เขาถอนหายใจเหลือบตามองหน้าพี่ตั้น ไอ้ที่เรียกว่ามารคอหอยหน้าตาเป็นอย่างนี้นี่เอง ทีแรกก็ว่าจะไม่กินแล้วพี่ตั้นก็มาเรียกให้กิน แต่เกิดเปลี่ยนใจมาขัดคอด้วยไอ้ประโยคที่ทำไม่พูดเสียแต่แรก นึกอยากจะด่าก็เกรงใจ

เหลือบตามองข้าวในช้อน ถ้าเขากินเท่ากับติดสินบนพี่ตั้นรึเปล่า ถ้าอย่างนั้นเขายังไม่กินดีที่สุด คิดจะมาซื้อสิทธิ์กันง่ายๆแบบนี้ได้ยังไง
“นี่เป็นทางเลือก คำสั่ง หรือคำขอร้องกันแน่ พี่พูดมาให้ชัดๆ”

พี่ตั้นเงยหน้ามองเหมือนถามว่าโง่รึยังไงแค่นี้ก็ไม่เข้าใจ “ถูกทุกข้อ จะถือว่าเป็นแบบไหนก็ได้ เพราะเลือกข้อไหนก็ถูกหมด”

เขาได้แต่โมโห ที่พี่ตั้นย้อนมาแบบนี้ เขาถือว่าพี่ตั้นกำลังใช้อำนาจสั่งเขา
“พี่อย่าเอาความคิดพี่มาบอกให้ผมทำตาม ผมเองถึงจะไม่ฉลาดนัก แต่ก็มีความคิด ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำตามคำสั่งของใคร ”
พี่ตั้งดูจะอึ้งไปเหมือนกันกับคำพูดของเขา งงล่ะสิ คงไม่คิดว่าคนหน้าตาโง่ๆแบบนี้จะรู้จักพูดจาเฉลียวฉลาดได้ หึหึ

“พี่ไม่ได้บังคับเหลิม แต่ถือว่าพี่ขอร้องได้มั้ย พี่รู้ว่าต่อไปมันคงจบไม่สวยแน่ๆ พี่ไม่อยากให้เพื่อนพี่เสียใจ ตั้งมันเป็นคนดีเกินไป ซื่อเกินไป ไม่เหมาะกับเหลิมหรอก”
ถึงพี่ตั้งจะมาแนวใหม่คืออ้อนวอน ขอร้อง แต่ยิ่งฟังก็ยิ่งโมโห เขามันแย่ มันเลวนักรึไง
 “พี่ตั้งดีเกินไปสำหรับผม แสดงว่าเหมาะกับคนดีๆแบบพี่ตั้นงั้นสิ พี่ตั้นกำลังจะบอกผมแบบนั้นรึเปล่า”เขาเริ่มสงสัยว่าพี่ตั้นมีเจตนาแอบแฝง

พี่ตั้นส่ายหน้า ทำมาเป็นตีหน้าเศร้า “พี่รักตั้งแบบเพื่อนจริงๆ มันเป็นคนเดียวที่ไม่เคยโกรธ ไม่เคยโมโหพี่ มันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่พี่มี”
แหงล่ะก็พี่ขี้ป่วน กวนตีน เอาแต่ใจตัวเองขนาดนั้น พี่ตั้งทนได้ยังไงไม่รู้ เขาพยักหน้าเห็นด้วยในข้อนี้ คงไม่มีใครทนพี่ตั้นได้หรอก
“ถ้าพี่รักพี่ตั้นจริงก็ปล่อยให้พี่ตั้งเค้าตัดสินใจเองดีกว่า ผมรู้ว่าผมไม่ใช่คนดีเด่อะไรนัก ออกจะมีนิสัยแย่มากกว่าส่วนดีๆด้วยซ้ำ ก็นิสัยคล้ายๆพี่แหละ มองพี่ทีไรก็เหมือนเห็นตัวเองอยู่ตรงนั้นลางๆ”
พี่ตั้นส่งตาเขียวใส่เขา ได้ยินเสียงกัดฟันกรอดๆ  เขาต้องรีบพูดต่อก่อนที่พี่ตั้นจะสวนกลับ

“แต่ผมก็ไม่ใช่คนเลว ไม่ได้เกิดมาเพื่อหลอกให้ใครมารัก แล้วเฉดหัวทิ้ง ไม่ได้หวังทรัพย์สมบัติใคร รึอยากให้ใครมาเลี้ยง ผมก็ทำมาหากินเองได้ หิวผมก็วิ่งไปซื้อของกินเองได้ ไม่ใช่หมาใช่แมวที่มันต้องรอคนเอาอาหารมาเลี้ยง” หยุดหายใจหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มหน่อย แล้วพูดต่อ
“ไม่ใช่พวกเสื้อดำที่ชอบเอาเอ็ม79 มาไล่ยิงคน ไม่ได้เป็นพวกชอบความพินาศเอาไฟมาไล่เผาบ้านใครเล่นแก้เบื่อ  ผมไม่ใช่อาชญากรนะพี่” พี่ตั้นได้แต่ฟังเขาตาปริบๆ เพราะจะแทรกก็แทรกไม่ทัน

“ผมก็แค่คนธรรมดาที่อยากใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมีความสุข ถ้าเจอคนดีๆที่เค้าเห็นคุณค่าเรา ผมก็อยากคบไว้ วันหนึ่งพี่ตั้งเกิดเบื่อนิสัยผมขึ้นมา ไม่อยากจะทน ก็ต่างคนต่างไปก็แค่นั้นเอง”
พูดจบไปแล้วก็แปลกใจว่า เขาพูดอะไรยาวๆที่เป็นเรื่องเป็นราวก็ได้ สิ่งที่เขาพูดเหมือนกับบอกตัวเองไปด้วย ว่าถ้าจะมีเหตุผลที่เขาจะคบกับพี่ตั้งหรือไม่มันคืออะไร

“ถ้าพี่ตั้นจะมาห้ามผมไม่ให้คิดแบบนี้ผมคงทำไม่ได้ พี่จะห้ามไม่ให้ผมหรือไม่ให้พี่ตั้งคบใครก็ไม่ได้เหมือนกัน เราต่างโตๆกันแล้ว ผมจะตัดสินใจยังไงมันก็เรื่องของผม”

“แต่พี่ห่วง ตั้งไม่เคยมีแฟน การตัดสินใจของเขาอาจจะไม่ดีพอ” พี่ตั้นที่ดูเป็นคนเชื่อมั่นตัวเอง แต่เมื่อมีเรื่องเพื่อนรักอย่างพี่ตั้ง พี่ตั้นกลับดูกังวลอย่างเห็นได้ชัด พูดซ้ำๆเหมือนซีดีตกร่องอยู่ได้ว่า ‘ห่วง’ คิดๆแล้วเขาก็บาป ทำให้คนเป็นทุกข์ ทั้งๆที่เขาก็สงสัยว่าใครที่จะมาคบกับเขามันน่าห่วงขนาดนั้นเลยหรือ ออกจะสมเพชตัวเองอยู่เหมือนกัน
หนักใจจนต้องถอนหายใจออกมา “ผมช่วยอะไรพี่ไม่ได้จริงๆ ให้พี่ตั้งตัดสินใจดีกว่าว่าจะคบกับผมแบบไหน ต่อไป หรือยังไง ถ้าพี่ตั้งเลือกผมแล้วผิดหวัง อย่างมากพี่ตั้งก็เลือกคนใหม่ พี่ไม่เคยเหรอ เลือกสส.ไปแล้วมันแย่ มันห่วยไม่เหมือนที่มันพูดหาเสียง เราก็แค่ทนๆ ไปช่วงหนึ่ง แล้วพอถึงเวลาเราก็เลือกใหม่แค่นั้นเอง ผมรู้ว่าพี่ตั้งไม่โง่ คงไม่ทนทู่ซี้อยู่กับผมหรอกถ้าผมมันแย่”

พี่ตั้นทอดตัวลงนั่งพิงพนักเก้าอี้อย่างหมดแรง ดูผิดหวังที่ภารกิจนี้ไม่สำเร็จอย่างที่หวัง ทั้งที่ลงทุนลากเขามาเลี้ยงข้าวก็แล้ว แต่เรื่องแบบนี้จะมาบังคับกันได้ยังไง เขาไม่ใช่คนพูดยากถึงจะพูดไม่ค่อยรู้เรื่องก็เถอะ แต่ก็ยังมีความคิดเป็นของตัวเองไม่จำเป็นต้องเชื่อใครง่ายๆ
เขาดูเวลาใกล้เข้างานแล้ว เขาคงต้องรีบไป เหลือบมองข้าวในจานที่ยังไม่ได้กินสักคำ ออกจะเสียดาย เสียงท้องไส้โอดครวญกันกับกระเพาะว่าใครเป็นคนผิดที่ทำให้ไม่ได้กิน แล้วอวัยวะทั้งสองก็ลงความเห็นเหมือนกันว่าพี่ตั้นนั่นแหละที่ผิด

“ผมต้องไปแล้ว ขอบคุณพี่ตั้นที่ชวนมาคุย ขอให้พี่เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ” เขาขยับลุกขึ้นจะหันหลังกลับออกไป แต่พี่ตั้นกลับเรียกไว้เสียงอ่อยๆ
“เหลิมกินข้าวก่อนสิ ไหนๆ สั่งมาแล้ว เสียดาย” น้ำเสียงพี่ตั้นฟังออกว่าเสียดายเงินจริงๆ เขามองหน้าพี่ตั้นแล้วกลับมามามองข้าวอีกครั้ง เหมือนเมล็ดข้างมันตัดพ้อที่เขาตักไปแล้วแต่ไม่ยอมกิน มันกำลังบอกเขาว่าชาวนายากลำบากต้องหลังขดหลังแข็งหลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน แต่เขากลับกินทิ้งกินขว้าง

อืม...กินก็กินวะ คงไม่ถือว่าเขาถูกซื้อสิทธิ์ขายเสียงไป กินด้วยแต่ไม่ทำตามที่บอก เหมือนกับเงินก็เอาแต่กูไม่เลือกจะทำไม อยากให้เองนี่หว่า
“งั้นผมรีบกินรีบไปนะพี่ ขอเสียมารยาท” เขาก้มหน้าก้มตาตักข้าวกินอย่างรวดเร็ว รสชาติเป็นอย่างไรไม่รู้ รู้แต่ว่าหิวมากถึงมากที่สุด มาเอะใจตอนที่มันเงียบผิดปกติ เงยหน้ามาอีกครั้ง พี่ตั้นไม่ได้ทานเลยเอาแต่เขี่ยข้าวในจานเล่น สีหน้าเงียบขรึมหมกมุ่น วุ่นวายใจ

“ทำไมพี่ไม่ทานล่ะ อร่อยพอใช้ได้นะ กินสิ เสียดาย”
พี่ตั้นส่ายหน้า “ขอคิดอะไรอีกหน่อย เหลิมกินเถอะ ไม่ต้องรีบมาก แค่นี้ก็ดูแย่แล้ว คนอื่นเค้าจะนึกว่าตายอดตายอยากมาจากไหน” พี่ตั้นยิ้มเล็กๆ ที่หลอกด่าเขาได้อีก

 ข้าวติดคอ เขาต้องรีบยกน้ำขึ้นดื่มไม่งั้นคงไอสำลักให้ได้อายอีก เขากับพี่ตั้นคงไม่มีใครยอมน้อยหน้าใคร มีโอกาสต้องเอาอีกฝ่ายให้แสบ เขาดูเวลาอีกครั้ง อย่างมากก็วิ่งเข้าสำนักงาน ลดสปีดในการกินหน่อยก็ดีรู้สึกเหนื่อยเหมือนกัน เข้าช้าไปนิดพี่ไก่คงไม่ว่าเพราะเมื่อเช้าแกดูอารมณ์ดี
ใช้เวลาไม่ถึงนาทีเขาก็จัดการอาหารตรงหน้าจนหมด พี่ตั้งยิ้มเนือยๆ ถามเขาว่า “อร่อยมั้ยเหลิมกินเกลี้ยงเลย ของฟรีแบบนี้”

เขายักไหล่ทำท่าไม่แคร์ “ไม่ค่อยอร่อย  พอกินได้ รสชาติงั้นๆ ไม่ต่างกับข้าวราดแกงในซอยข้างออฟฟิศเท่าไหร่ ที่กินเพราะเสียดายนะ ไม่ได้อยาก แค่เห็นว่าพี่เลี้ยง”

 พี่ตั้นพยักหน้า “ขอให้เหลิมอย่าคิดกับตั้งแบบนั้นแล้วกัน เหลิมไปเถอะเดี๋ยวจะสาย ยังไงก็ลองเอาที่พี่พูดไปคิดตามเหตุผลนานๆนะ ก่อนที่เหลิมจะตัดสินใจอะไรลงไป” ทำปัดมือไล่เขาไปเหมือนรำคาญ  ทำราวกับเขาเป็นแมลงวันถึงต้องมาไล่  ก่อนลุกออกมาเขายกมือไหว้พี่ตั้นพอเป็นพิธี อย่างน้อยเขาก็กินข้าวพี่ตั้นไปแล้วนี่

เขาแยกจากพี่ตั้นมานานแล้วก็จริง แต่ยังติดหูติดใจกับคำพูดประโยคสุดท้ายของพี่ตั้น
อะไรที่พี่ตั้นบอกว่า ‘ขอให้เหลิมอย่าคิดกับตั้งแบบนั้นแล้วกัน‘ คิดยังไงเขาก็ยังไม่เข้าใจ  พี่ตั้นกำลังจะบอกอะไรกับเขา เขามัวแต่คิดวนเวียนอยู่แบบนั้น จนกระทั่ง
 “พี่เหลิม จะไปซื้ออะไรเหรอ บ่ายโมงกว่าแล้วนะ” เสียงน้องจิ๊บเรียกสติเขากลับมา น้องจิ๊บยืนทำสีหน้างุนงง สองมือพะรุงพะรังไปด้วยข้าวของและขนมเต็มทั้งสองมือ แต่ปากน้องจิ๊บยังขยับไม่หยุด “พี่จะไปไหน ขนมหนูซื้อมาให้แล้วนะ ไม่พอเหรอ นี่ไง”น้องจิ๊บยกมือให้เขาดูถุงขนม ไม่ใช่ไม่พอ มันเกินพอเสียด้วยซ้ำ

เขาส่ายหน้า “พอแล้ว จะให้พี่กินเป็นสัปดาห์เหรอ เยอะขนาดนี้ พี่กำลังจะเข้าออฟฟิศไง ไม่ได้จะไปไหน”
น้องจิ๊บขมวดคิ้วมุ่น “นี่มันเลยออฟฟิศมาสามสี่ซอยแล้วนะ พี่อย่ามาโกหกเลย จะอู้งานไปไหนแน่ๆ”
เขาหันมองรอบกาย จริงอย่างที่น้องจิ๊บบอก เขาคิดเพลินจนเดินเลยมาไกลพอสมควร อยากจะถอนหายใจออกมาแรงๆ กับอาการเปิ่นของตัวเอง  ได้แต่เกาหัวแกรกๆ ยิ้มกับกลุ่มน้องๆด้วยความอาย
“พี่คิดอะไรเพลินไปหน่อย เผลอเดินเลย แหะๆ” กลุ่มสาวๆส่งเสียงแซวเขาว่าแก่แล้วอย่างสนุกสนาน
น้องจิ๊บหัวเราะยื่นถุงขนมให้เขา “พี่เหลิมนี่เด๋อด๋าเป็นที่สุด เอาขนมของพี่ไป หนักจะตาย”
“เอ๊ยเอามาให้พี่ทำไม ซื้อมาก็ถือเองสิ” น้องจิ๊บทำปากเบะ ก่อนบอกว่า “มือไม่ว่าง รับไปด่วนเลย”

เขารับทั้งขนมทั้งของในมือน้องจิ๊บมาถือปากก็บ่นพึมพำ “ของๆตัวเองก็เอามาให้พี่ถือทำไมกันล่ะนี่ ไหนว่ามือไม่ว่าง ให้พี่มาถือหมดก็ว่างแล้วนี่ เอาของตัวเองคืนไป” แฟนก็ไม่ใช่ เขาไม่ใช่สุภาพบุรุษที่จะมาถือของให้ผู้หญิงที่ไม่ใช่แฟน
น้องจิ๊บยิ้มกว้างก่อนเอามือมาคล้องแขนเขาอย่างถือสนิท “นี่ไงล่ะ ทำให้มือไม่ว่าง ขอควงคุณพี่เล่นๆสักวันสิ”
 เขาได้แต่ส่ายหน้าในความกล้าของผู้หญิงสมัยนี้ ไม่รู้ว่าจิ๊บอยากควงเล่น หรืออยากหลอกใช้ให้้เขาถือของให้กันแน่

ขณะที่เขากำลังเดินคุยกับน้องๆ จะเข้าตึกไป เสียงของพี่ตั้นดังเรียกเขาขึ้นมาอีก
“เหลิม...พี่รอฟังคำตอบอยู่นะ ตัดสินใจยังไงบอกพี่ด้วย” พี่ตั้นยังไม่ไปไหนยืนรอเขาอยู่นั่นเอง
พี่ตั้นยังทำหน้าหยิ่งแต่ก็ผงกหัวให้เขา และเผื่อแผ่รอยยิ้มไปยังสาวน้อยที่เดินตามเขาเป็นพรวนก่อนมาหยุดที่แขนของน้องจิ๊บที่เกี่ยวอยู่กับแขนเขา พี่ตั้นเงยหน้ามองเขาก่อนยิ้มเยาะให้
“พี่อยากให้เหลิมคิดก็เพื่อความสุขของเหลิมเองนะ”

 พวกสาวๆหันมามองหน้าเขาสลับกับพี่ตั้น สายตาเต็มไปด้วยคำถามและความอยากรู้อยากเห็น เขาตัดปัญหาด้วยการตอบรับพี่ตั้นไปส่งเดช “อืม ไว้ผมจะลองคิดดูแล้วกัน ไปก่อนนะพี่ ได้เวลาเข้างานพอดี”
 เขาผละจากพี่ตั้นมาด้วยความหงุดหงิด เขาไม่ชอบสายตาแบบนั้นเลย ทำไมเขาจะเดาความคิดพี่ตั้นไม่ออก พี่ตั้นคงนึกว่าเขาทำตัวเป็นเพลย์บอยแล้วยังมีหน้าจะไปหลอกพี่ตั้งให้รักอีก เฮ้อ...ทำไมคนหน้าตาดีแบบเขายังต้องมีปัญหาอีกนะ
“พี่....เหลิมมมม..” เขาสะดุ้งตกใจกับเสียงน้องอ้อย “อะอะ...อะไร จะตะโกนเพื่อ?...”
“ก็เรียกพี่แล้วพี่ไม่ตอบนี่ นึกว่าแก่ด้วยหูตึงด้วยเลยต้องตะโกน ไอ้จิ๊บมันตาลอยแล้ว พี่ไปรู้จักผู้ชายหล่อๆคนนี้ได้ยังไง”

เสียงน้องๆ อีกหลายคนต่างแย่งกันถามเรื่องพี่ตั้นจนเขาปวดหู เอาแล้วสิ เสน่ห์พี่ตั้นเกินห้ามใจไม่รู้ใช้โคโลญจน์ยี่ห้ออะไร แต่เขาจะบอกได้ยังไงล่ะว่าพี่ตั้นเป็นเพื่อนของผู้ชายที่ตามจีบเขาอยู่ คงจะงามหน้าพิลึก
“เอ่อ...เอ่อ...อ๋อ...เขามาชวนพี่ไปทำงานด้วย แต่พี่ไม่ไปหรอก ก็แค่นั้น เลิกถามได้แล้ว สายแล้ว”
เขารีบเดินจ้ำอ้าวเข้าลิฟต์ไปก่อนแล้วทำท่าจุ๊ปากเพราะผู้บริหารระดับสูงดันอยู่ในนั้นด้วย ทำให้ทุกคนเงียบกริบเพราะตอนนี้เท่ากับเลยเวลามาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ไม่มีใครกล้าเปิดปากถามอะไรอีก ได้แต่หน้าซีด เพราะตอนนี้กลัวจะโดนหมายหัวจากเจ้านายมากกว่า

หลังจากนั้นต่างคนต่างแยกย้ายกันทำงาน ขนมที่น้องจิ๊บซื้อมาเขาไม่มีเวลากินเลยเพราะเจ้านายเดินตรวจงานไปทั่วออฟฟิศก่อนเข้าไปห้องพี่ไก่ นาทีนี้ขยันกันลืมตาย ไม่มีใครกล้าคุยกับใคร ได้ยินแต่เสียงพลิกกระดาษ เสียงรัวแป้นคอมพิวเตอร์ แม้แต่เสียงลมหายใจยังแทบไม่ได้ยิน เขาจึงได้แต่ตั้งใจทำงานไปเงียบๆจนได้เวลาเลิกงานไม่รู้ตัว
“เหลิมเค้ากลับกันหมดแล้ว ทำไมยังอยู่อีก” เสียงของพี่ไก่ทำเขาสะดุ้ง  ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรพี่ไก่ก็ลากเก้าอี้ข้างๆ มานั่ง “ได้ข่าวว่าจะเปลี่ยนงานเหรอ?”
“เฮ้ย ! พี่ไปเอามาจากไหน ใครบอก” ใครปากเสียไปพูดเรื่องแบบนี้
“อ้าว ก็เห็นไอ้จิ๊บมันบอกมีคนมาชวนเปลี่ยนงานไม่ใช่เหรอ” พี่ไก่ทำสีหน้าเรียบนิ่งจนเขาไม่แน่ใจว่าพี่ไก่คิดยังไงกับเรื่องนี้ แต่เรื่องที่เขาพูดไปโดยไม่ได้คิดกลับย้อนมาเป็นเรื่องเสียแล้วสิ
“ก็..มีคนชวนแต่ผมไม่ได้บอกว่าจะไป”

“แต่เท่าที่ฟังเค้าเล่ามา เห็นว่าเค้ายังรอคำตอบของเหลิมอยู่นี่” พี่ไก่คิดอะไรแน่ ถึงไม่ยอมจบ
“ผมไม่เข้าใจว่าพี่อยากให้ผมไปมากรึไง ถึงมาไล่ต้อนผมแบบนี้ พี่ไม่พอใจอะไรผมรึเปล่า” ทำไมช่วงนี้ชีวิตมันวุ่นวายนักหนา หรือจะเป็นเพราะว่าเขาเกิดปีชงแต่ไม่ได้ไปแก้ชงที่วัดจีน
พี่ไก่หัวเราะ “เหลิมหงุดหงิดไปทำไม พี่ก็แค่ถาม ไม่ได้อยากให้เหลิมออก เพียงแต่ช่วงนี้พี่ดูว่าเหลิมเปลี่ยนไป มีหลายอารมณ์ เลยไม่แน่ใจว่าเพราะคิดมากเรื่องเปลี่ยนงานรึเปล่า ไม่ได้คิดจะออกก็แล้วไปสิ ใครจะไปว่าอะไรได้”

ถึงพี่ไก่จะอธิบายแต่เขาก็ยังกรุ่นๆในอารมณ์อยู่ “พี่คิดว่าผมทำงานนี้ไปอย่างงั้นเองเหรอ ผมรักในงานของผม ยังสนุกกับงานของผมอยู่ ไม่ได้คิดทำงานนี้เพราะบังเอิญได้งาน ผม...” เขากำลังจะพล่ามต่อ พี่ไก่รีบยกมือห้ามคงกลัวจะยาว
 “พอแล้วเหลิมพี่รู้แล้ว ไม่ต้องบอกพี่ก็รู้  พี่กลับก่อนดีกว่า เหลิมก็ด้วย กลับซะ พี่ไม่ชอบให้คนทำโอ เจ้านายก็บอกมา เวลางานมาให้ตรงเวลาก็พอแล้วทำให้เต็มที่ ไม่ใช่เข้าเลทแล้วมาทำงานชดเชย หรือพอนายมาก็ทำขยัน ท่านไม่ชอบ”

พี่ไก่เดินออกไปแล้ว แต่ทิ้งระเบิดลูกเล็กๆ เอาไว้ในใจเขา ในสายตาของคนทั่วไปเขาคงเป็นคนที่ทำอะไรไม่จริงจัง ทุกอย่างดูเป็นเล่นไปหมด ทั้งที่เขาตั้งใจทำงานมาตลอด เขาออกจะท้อใจอยู่เล็กๆ ในชั่ววินาทีนั้นเองเขาเกิดความคิดวาบเข้ามาในหัว หรือที่พี่ตั้นพูดเมื่อกลางวันจะมาจากคำพูดของเขาเอง เมื่อเขาพูดถึงรสชาติของข้าวผัดพี่ตั้น

“ไม่ค่อยอร่อย  พอกินได้ รสชาติงั้นๆ ไม่ต่างกับข้าวราดแกงในซอยข้างออฟฟิศเท่าไหร่ ที่กินเพราะเสียดายนะ ไม่ได้อยาก แค่เห็นว่าพี่เลี้ยง”

 พี่ตั้นคงกลัวว่าถ้าเขาจะคบกับพี่ตั้งก็เพราะพี่ตั้งมาจีบเอง แล้วเขาก็คงไม่ได้จริงจังอะไร เห็นพี่ตั้งเป็นเหมือนข้าวผัดฟรีๆ กินเพราะจะทิ้งก็เสียดาย

เขากำมือแน่น ความรู้สึกโกรธพุ่งพล่านอยู่ในกาย เลือดสูบฉีดไปทั่วหน้า โกรธพี่ตั้นที่ดูถูกเขา โกรธพี่ไก่ที่ไม่เคยเชื่อมั่นในตัวลูกน้องเลย โกรธเจ้านายที่ดันเข้าออฟฟิศพร้อมกันกับลูกน้อง โกรธน้องจิ๊บที่พิเรนทร์มาควงแขนเขาตอนที่พี่ตั้นอยู่ โกรธพี่ตั้นที่มาจีบเขาทำไม(วะ)  แล้วที่โกรธที่สุดก็โกรธตัวเอง ทำไมเขาต้องเป็นคนแบบนี้นะ ทำไมและทำไม

เขาจะทำยังไงกับชีวิตของเขาดี เหมือนเขากำลังเดินวนอยู่ในเขาวงกต ที่หาทางออกไม่เจอได้แต่ติดอยู่อย่างนั้น
*********************
พรุ่งนี้อย่าลืมไปเลือกตั้งกันนะคะ เพื่อประเทศชาติของเรา ไม่เลือกคนที่ไม่รัก ไม่รักพรรคที่เราไม่ชอบ  :really2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 02/07/2011
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 02-07-2011 21:00:22
ยอมรับเหอะว่าตัวเองโง่ นายเหลิม

ไม่ทันคนอื่นเขา
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 02/07/2011
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 03-07-2011 08:56:33
พี่ตั้นมาทำให้เหลิมคิดหนักเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 02/07/2011
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 03-07-2011 09:31:01
ตอนนี้ได้ดูผู้ชายเขาปะทะคารม จิกกัด ประชดประชัน
สนุกดีค่ะ เหลิมงานเข้าหลายเรื่อง
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 02/07/2011
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 03-07-2011 17:57:19
เกิดเป็นเหลิมมีแต่เรื่องต้องคิดหนัก  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 02/07/2011
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 08-07-2011 14:48:14
เอายาพารา สักกระปุก สองกระปุก ไหม เหลิม  ดูเหมือนมีแต่เรื่องให้ปวดใจปวดสมอง วิ่งเข้ามาหาแบบไม่หยุดเลยนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 02/07/2011
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 08-07-2011 18:09:24
พยายามหานิยายที่พระเอกหรือนายเอกชื่อตั้งอยู่ ที่แท้ก็เรื่องนี้นิเอง   :กอด1:

นิยายหายากมากเรยย อิอิ

รอตอนต่อไปอยู่ค่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 12/08/2011 สวัสดีวันแม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 12-08-2011 11:15:07
สวัสดีวันแม่ค่ะ วันนี้บอกรักแม่ไปรึยังคะ
 ************
 เอาแล้วไง เขานอนไม่หลับ เขานอนลืมตาโพลงอย่างกับใครมาถ่างตาไว้อย่างนี้มาสองชั่วโมงแล้ว
ทั้งๆที่พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงาน บอกกับตัวเองว่าอย่าเพิ่งไปคิดอะไรให้วุ่นวาย
 ให้ร่างกายดีกว่านี้ สมองปรอดโปร่ง  (ซึ่งไม่รู้จะมีวันนั้นรึเปล่า) แล้วค่อยคิดก็ได้
แต่ใจมันก็ดื้อดึงคอยแต่วนเวียนคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อย เขาตัดสินใจลุกขึ้นมาอีกครั้งเหลือบดูนาฬิกา
แค่เที่ยงคืน...คนที่เขาพอจะปรึกษาได้คงยังไม่ทันนอน

เสียงโทรศัพท์ดังอยู่นาน ปลายสายไม่ยอมรับเสียที หรือว่าจะนอนไปแล้ว  หรือเขาควรจะรีบวางก่อนที่ปลายทางจะรับสาย
  ไม่อย่างนั้นเขาคงถูกด่าแน่ๆ แต่ก่อนจะวางสายไปเสียงที่คุ้นเคยก็ดังลอดแหวกอากาศขึ้นมา
“ไอ้ลูกบ้า โทรมาทำไมดึกๆดื่นๆ อย่าบอกนะว่าท้องอืดท้องเฟ้ออะไรอีก” เขาได้แต่ยิ้มรับคำทักทายนั้นด้วยความดีใจ

เขาไม่ตอบคำถามแม่ เพราะถือว่านั่นคือคำพูดด้วยความรักของแม่ “แม่นอนแล้วเหรอ ทำไมนอนไว”
“นอนแล้วสิ นี่มันเที่ยงคืนแล้วนะไม่ใช่สามสี่ทุ่ม คนดีๆเค้าก็นอนแล้ว ไม่มีนิสัยแย่ลุกขึ้นมาโทรปลุกคนอื่นแบบนี้”
 แม่ยังอารมณ์ดีเหมือนเคย เหมาะที่สุดที่จะกล่อมให้เขานอนหลับด้วยการคุยกับแม่
“ปกติเห็นแม่ชอบซักผ้าจนตีหนึ่งตีสองนี่ ก็นึกว่าซักทุกวัน ไม่นึกว่าวันนี้จะไม่ซัก”
“ไอ้บ้า ฉันไม่ได้ชอบหมักกางเกงในเหมือนแกนี่ ไม่ต้องมาออกนอกเรื่องเลย ตกลงโทรมามีอะไรเร่งด่วนรึไง” แม่คงอยากนอน แต่อย่าได้หวังเลยว่าจะได้นอนง่ายๆ หึหึ

“แม่... มีเรื่องอยากปรึกษา” พูดจบแล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี ได้แต่เงียบไป จะเริ่มตรงไหนดี
“อืม ว่ามา ให้ไว ง่วงมาก” แม่คงเริ่มรำคาญที่เขาอ้ำๆอึ้งๆ
“แม่ มีคนมาจีบ ทำไงดี”  พูดไปแล้วเขาก็เขิน เผลอเกาขาเกาแขน
แม่เงียบไป คงตกใจที่ลูกแม่จะขายออก “ก็ดีแล้วนี่ เห็นปกติมีแต่คนมาด่า ฮ่าๆๆ” แม่ทำให้เขายิ้มได้อีก ถึงแม้มันจะเสียดแทงใจอยู่ลึกๆ

“แม่ อย่านอกเรื่องสิ นี่ซีเรียสนะไม่งั้นไม่โทรมากวนหรอก” ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญจริงๆเขาไม่อยากไปกวนความสงบสุขของแม่
“ไม่จริง คราวก่อนแกท้องอืด แทนที่จะกินน้อยๆหน่อย แล้วไปซื้ออีโนมากินแกยังโทรมาหาฉันเลย ไร้สาระเป็นที่สุด โตขนาดนี้แล้วไม่รู้จักคิดเอง”
ทำเอาไม่รู้จะพูดอะไรดี คิดได้เองจะโทรมามั้ยล่ะ แม่นะแม่

“ผู้หญิงสมัยนี้ดีแฮะ ชอบใครก็ลุกขึ้นมาจีบเลย ไม่ต้องรอพวกผู้ชายความรู้สึกช้ามาบอกว่ารัก แล้วไงแกไม่ชอบเค้าเหรอ” พอแม่เริ่มมาแบบนี้ เขาค่อยสบช่อง
“ชอบ แต่ว่า...เขาไม่ใช่ผู้หญิงสิแม่ ปัญหามันอยู่ตรงนั้น” เข้าเรื่องซะที
“อ้าว แล้วไม่ใช่ผู้หญิงเค้าเป็นกะเทยรึไง ก็สวยดีนะ กะเทยสมัยนี้สวยกว่าผู้หญิง หน้าอกก็ใหญ่ดีด้วยแกไม่ชอบเหรอ” แม่กำลังเล่นตลกรึเปล่านี่ อยากย้ำอีกทีว่าลูกแม่ซีเรียสนะ แต่กลัวแม่ด่ากลับแบบเดิมอีก

“ไม่ใช่กะเทยนะแม่ พี่เค้าไม่มีนมตู้มๆด้วย นมก็แบนๆแบบเหลิมนี่แหละ” แถมพี่ตั้นยังมีซิกแพคน่าจับอีกต่างห่าง หึหึ คิดแล้วหน้าแดงเว้ย
“อ่อ งั้นแสดงว่าไม่ได้ไปฉีดนมมา แกก็ให้เค้าไปฉีดสิ ไม่มีนมแกคงไม่ชอบหรอก ฉันจำได้ว่าแกชอบคนนมใหญ่ๆ” ท่าทางจะคุยกันไม่รู้เรื่องถ้าเขาไม่บอกแม่ให้ชัดๆไปเลย
“พี่ตั้งไม่ได้เป็นกะเทย แล้วเค้าคงไม่อยากไปทำนมหรอกแม่ ผมดูท่าทางแล้วไม่มีแววอยากเป็นผู้หญิงเลย”
“อะพิโถ งั้นแกมิต้องไปทำนมเองเหรอ ไม่ไหวมั้ง แค่คิดฉันก็รับไม่ได้แล้วหน้าแบบแก แต่มีนม น่ากลัว”
แม่พูดจบเขาอยากหัวเราะ แต่ก็ขำไม่ออก เขาเริ่มลังเล กูคิดถูกรึเปล่าวะที่โทรมาปรึกษาแม่ ความคิดแม่ช่างไปไกลจนเขาตามไม่ทัน

“คุณแม่ขอรับ แม่จะพาออกนอกเรื่องไปไหน เอาอย่างนี้นะผมพูดสรุปๆ แม่ฟังดีๆนะ อย่าเพิ่งแทรกขึ้นมา ไม่งั้นผมไม่พูดละ”
“เออๆ ทำมาเป็นงอน ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ เล่ามา”
น้ำเสียงแม่ทำให้เขาใจสงบขึ้น เขาค่อยๆเล่าเรื่องพี่ตั้งให้แม่ฟังตั้งแต่เจอกันครั้งแรก และในวันต่อๆมา ในหนึ่งอาทิตย์ที่เราเจอกัน จนถึงวันนี้ที่พี่ตั้งขอเขาเป็นแฟน แต่เว้นไปนิดเดียวเรื่องที่เราถึงเนื้อถึงตัวกันนิดหน่อย อันนี้ขอเก็บเป็นความลับส่วนตัวดีกว่า ส่วนเรื่องพี่ตั้นเขาก็ไม่อยากเอ่ยถึงเพราะถือว่าเป็นเรื่องรองที่ไม่เกี่ยวกันกับเรื่องนี้ เรื่องพี่ตั้นเป็นเรื่องที่เขาจะต้องจัดการเองมากกว่า แม่ฟังจบแล้วก็เงียบไปพักใหญ่ แม่ไม่ได้แทรกถามอะไรเขาเลยระหว่างที่เขาเล่า แม่คงคิดหนัก

“ปัญหาที่โทรมาวันนี้คืออะไร แกบอกฉันมาก่อน ฉันจะได้ตอบถูก” แม่ถามเขาตรงๆ แต่เขาเริ่มสับสนว่าเขาพูดไม่รู้เรื่องหรือแม่สมองไม่ดี
“ผมไม่แน่ใจว่า ว่า...”
“ว่าอะไร?”
“ว่าผมจะตกลงเป็นแฟนกับพี่เค้าดีมั้ย”
“แกชอบเขาแค่ไหนล่ะ”
“ก็...ชอบ มันรู้สึกดีนะแม่เวลาอยู่กับพี่ตั้ง พี่เค้าอบอุ่น ดูแลผมดี แต่ผมลังเลว่านั่นคือความชอบรึเปล่า”
“แกคิดถึงเขารึเปล่าเวลาแกไม่ได้อยู่กับเขา”
“คิดถึง...” ใช่ เขาคิดถึงพี่ตั้งบ่อยๆทั้งตอนที่หิว และไม่หิว “มากด้วย”
คงไม่มีใครที่เขาจะเปิดใจได้มากขนาดนี้อีกแล้ว ถ้าไม่มีแม่เขาคงอึดอัดใจตาย

“งั้นแกก็คงรักเขา แล้วจะไปลังเลทำไม"น้ำเสียงแม่ไม่ล้อเล่นอีกต่อไป แต่แม่ลืมอะไรไปรึเปล่า
“แม่! แต่พี่ตั้งเป็นผู้ชายนะ จะดีเหรอ" นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้เขาลังเล
“ฮ่าๆ ฉันก็เห็นพวกดาราเค้ามีแฟนเป็นผู้ชายกันเยอะแยะไป แกจะกลัวอะไร"
“แล้วแม่รับได้เหรอ นี่ลูกแม่นะไม่ใช่คนอื่นไม่ใช่ดาราด้วย" เขาไม่เคยตามความคิดแม่ทันเลย ให้ตายเหอะ
“ก็แกเป็นลูกฉันนะสิ ยังไงฉันก็รับได้ ดีซะอีกฉันไม่ต้องไปเสียสินสอดให้แกไปขอเมีย เผลอๆ ฉันจะได้สินสอดมีคนมาขอแกไปเป็นเมียซะด้วยซ้ำ  คนที่ควรจะคิดว่ารับได้หรือไม่คือตัวแกเองต่างหากล่ะ"เสียงแม่หัวเราะเบาๆ ลอดเข้ามาในสาย ไม่รู้แม่คิดไปถึงไหนกัน
“แม่ชอบพูดเล่นเรื่อย นี่ผมจริงจังนะแม่"

เขายังไม่สบายใจอยู่ดี มันเครียดเกินไปสำหรับคนอย่างเขา มันเป็นความขัดแย้งในใจ เกิดมาชาติหนึ่งจนโตเอาป่านนี้ ชิลมาตลอด ทำไมพอได้มีความรักกับเขาบ้าง ทำไมต้องเครียดด้วยวะ เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
“ผมไม่ค่อยแน่ใจ ว่าพี่เค้าจะหลงผิดมาชอบผมได้นานแค่ไหน ไม่รู้เราจะคบกันได้เกินเดือนรึเปล่าด้วย ผมก็นิสัยเลวๆเยอะ กลัวพี่เขาทนไม่ไหว”
“อีกเรื่องที่แม่ต้องคิดนะ แม่จะไม่ได้อุ้มหลาน แล้วผู้สืบสันดานจากผมก็จะไม่มี แม่ทนได้เหรอ แม่จะไม่ได้เป็นย่านะ"

“เออ เรื่องไหนฉันต้องคิดแกไม่ต้องมาบอกหรอก ไม่มีก็ไม่มี มีลูกแบบแกคนเดียวฉันก็จะแย่แล้ว ขืนมีหลานโคลนนิ่งแบบแกมาอีกคน ฉันคงตายก่อนแก่ ไม่ได้เป็นย่าไม่เป็นไร มันก็แค่ตำแหน่ง ฉันไม่ยึดติดหรอก" ราวกับแม่จะพูดกลบเกลื่อนให้เขาสบายใจ แต่ก็เหมือนจะหลงเหลือเส้นใยบางๆ ที่ยังเกาะเกี่ยวความคิดเขาอยู่

“เหลิม ชีวิตคนไม่แน่นอน สนุกกับชีวิตไปดีกว่า คิดอะไรให้มันง่ายขึ้น ไม่ต้องไปเอาความคิดคนอื่นมาเป็นปัญหา ถ้าลูกอยู่กับเค้าแล้วมีความสุข ไม่ตกลงก็โง่แล้ว  จะนานแค่ไหน จะยั่งยืนได้กี่วัน กี่ปี กี่วินาที ถ้าเรามีความสุขมันก็มีค่าแล้ว ถ้าอีกหน่อยเขาทิ้งแก ก็ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตไป”
ฟังแม่พูดท่าจะดี เขารู้สึกมั่นใจขึ้น แต่แล้ว “เรื่องแค่นี้เองใช่ไหม ไม่มีอะไรแล้วนะ ฉันง่วงจะตาย พรุ่งนี้แกก็โทรไปหาแฟนแกซะ บอกโอเคไป ฉันไปนอนแล้วนะ"

ก่อนที่เขาจะทักท้วงอะไร “มะแม่...อะไรวะยังไม่ทันพูดอะไรเลย วางสายไปแล้ว”
เขาวางสายไปอย่างงงๆ แต่คำพูดของแม่ทำให้เขาสงบใจขึ้นได้อย่างประหลาด บางทีคำตอบของแม่ก็คงเป็นคำตอบในใจเขาอยู่แล้ว เพียงแต่อยากหาความมั่นใจจากคนอื่นเท่านั้นเอง เรื่องที่พี่ตั้นพยายามจะให้เขาปฎิเสธพี่ตั้งมันหายไปจากความคิดเขาโดยสิ้นเชิง เขาล้มตัวลงนอนแล้วหลับไปในเวลาไม่กี่นาที
พรุ่งนี้เขามีคำตอบให้พี่ตั้งแล้ว.....

 **********
ขอบคุณที่ยังอ่านค่ะ  :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 12/08/2011 สวัสดีวันแม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: panpan ที่ 12-08-2011 12:11:43
ตามอ่่านตลอดๆๆๆ แต่ไม่กล้าทวง

ขอบคุณที่มาต่อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 12/08/2011 สวัสดีวันแม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 12-08-2011 14:11:55
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 12/08/2011 สวัสดีวันแม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 12-08-2011 18:30:34
แม่จ๊าบจริงๆ
ไม่แปลกใจที่เหลิมเป็นแบบนี้
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 12/08/2011 สวัสดีวันแม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nemonoy ที่ 13-08-2011 22:36:04
รอเหลิมโอเคกับพี่ตั้ง ^^ อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆจังค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 12/08/2011 สวัสดีวันแม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 13-08-2011 23:00:38
เบื่ออีเพื่อนพี่ตั้งจริงๆน่ารำคาญมาก เป็นเราจะตบให้
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 12/08/2011 สวัสดีวันแม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: สมุนไพร ที่ 14-08-2011 00:30:12
จิงของแม่เหลิมนะ o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 12/08/2011 สวัสดีวันแม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: jannie ที่ 14-08-2011 22:32:21
ไล่อ่านตั้งแต่แรกใหม่อีกรอบ แล้วก็รู้สึกเหมือนเดิมว่าทำไมเหลิมปากเสีย เอาแต่ใจตัวเองอย่างงี้เนี่ย ส่วนที่พี่ตั้นมาเตือน...แอบสงสัยว่าพี่ตั้งมีเบื้องหลังอะไรอย่างอื่นบ้างรึเปล่านะ? เพราะที่ผ่านมารับรู้เรื่องราวผ่านเหลิมตลอด ไม่ค่อยรู้เรื่องพี่ตั้งเลย นอกจากเล่นกล้อง มีน้องสาว 1 คน
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 12/08/2011 สวัสดีวันแม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 19-08-2011 20:24:38
อิ อิ ชอบแม่เหลิมจังเลย อยู่ด้วยก็มีความสุข แล้วจะรออะไรอีก ไม่ว่าเขาหรือเธอจะเป็นชายหรือหญิงก็ตาม ความรักมันไม่มีขอบเขตไม่แบ่งเพศ ทำตามเสียงหัวใจสิ...

เป็นกำลังใจให้คุณฟางนะคะ  :L2:

รอต่อไป  :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 12/08/2011 สวัสดีวันแม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 03-09-2011 15:17:44
เพิ่งเห็นว่ามาต่อแล้ว 
แม่เหลิมดีจัง
รับลูกได้ทุกอย่าง
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 12/08/2011 สวัสดีวันแม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 13-11-2011 15:04:44
เข้ามารอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 12/08/2011 สวัสดีวันแม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 14-11-2011 16:46:48
ไม่เข้าใจพี่ตั้นเลย เหอะๆ ตกลงพี่แกแค่ห่วงพี่ัตั้งจริงๆอะ

ว่าแต่ไรท์เตอร์ไม่น่าตั้งชื่อคล้ายกันเลย พิมพ์ผิดตั้งหลายทีแน่ะ อุๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 06-12-2011 11:51:04
 :m23:  ไม่รู้จะขอโทษคนอ่านยังไงดีที่ทิ้งเรื่องนี้ไปนานมากกก แต่ยังไงก็กลับมาต่อให้จบค่ะ อาจจะยาวไปนิดแต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องค้างกันอีกต่อไป ขอบคุณสำหรับคนที่ยังทนรออยู่นะคะ อยากจะขอบคุณเป็นล้านๆครั้งก็คงไม่พอ  :pig4:
*****************************
หลายชั่วโมงแล้วที่เขาไม่ได้คุยกับเหลิม ตั้งแต่นาทีที่ยื่นข้อเสนอให้เหลิมไป จะบอกว่าไม่คาดหวังคำตอบ 'ตกลง' ก็คงเรียกว่าโกหก เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเหลิมพร้อมใจที่จะมาเป็นแฟนของเขา ทั้งที่ตั้นพยายามบอกหลายครั้งหลายหนว่าเหลิมไม่ใช่ 'คนที่ใช่' สำหรับเขา แล้วคนที่ใช่ในความคิดของตั้นมันจำเป็นด้วยหรือที่จะเป็นคนที่ใช่สำหรับเขา
เมื่อคืนตั้นโทรหากลางดึก “วันนี้ไปไหนมาตั้ง”
“ไม่ได้ไปไหน  อยู่กับเหลิมที่บ้าน เหลิมไม่ค่อยสบาย ทำไมเหรอ?” เสียงถอนหายใจของตั้นดังขึ้น เขารู้ว่าเพื่อนไม่ค่อยชอบ
เหลิมเท่าไหร่ แต่จะสำคัญอะไรในเมื่อเขาชอบ
“เราไม่เข้าใจ นายไปหลงใหลอะไรนายนั่น ก่อนหน้านี้เราไม่เคยเห็นนายชอบใคร ทั้งผู้ชายหรือผู้หญิง”
“หึหึ ทำไมล่ะ เราก็มีจิตใจนะ ไม่ได้ตายด้าน จะได้ไม่รู้จักรักใคร แล้วนายไม่มายด์เหรอที่เราชอบผู้ชาย” ตั้นเป็นเพื่อนที่เขาพูดได้ทุกเรื่องอย่างไม่มีกั๊ก ตั้นอาจจะนิสัยแปลกๆ แต่ความเป็นเพื่อนตั้นก็ไม่เป็นรองใคร

“เรื่องนั้นเราไม่แคร์ มันชีวิตของนาย เราไม่มีสิทธิ์ไปบังคับ เราแคร์แค่อยากให้นายได้คนดีๆ  เราให้ความสำคัญตรงนั้นมากกว่า เสียดายที่เรากำลังจะไปแล้ว ไม่มีเวลาเลย” น้ำเสียงตั้นหงุดหงิด เขาก็ไม่รู้ว่าตั้นจะอารมณ์เสียเรื่องอะไร   ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องของตั้นเลย
“พรุ่งนี้เราเจอกันได้มั้ย นายว่างรึเปล่า”
“พรุ่งนี้...ไม่แน่ใจ แต่ถ้านายอยากเจอเราไปหานายก็ได้” ไหนๆเพื่อนก็จะไปอยู่แล้ว มีอะไรที่เขาพอช่วยได้เขาก็อยากทำ
“นายมาหาเราที่คอนโดนะ เก้าโมงแล้วกัน เพราะเที่ยงเรามีธุระ”
“ได้ ไม่มีปัญหา มีอะไรอีกรึเปล่า เราจะได้นอน”
ตั้นเงียบไป ก่อนจะตอบมาแบบหงุดหงิดอีกครั้ง “ที่จริงมี แต่นายคงไม่อยากคุยกับเรา ไว้พรุ่งนี้ก็ได้ เราไม่ชอบคุยทางโทรศัพท์” ฟังคำตอบแล้วเขารู้อารมณ์เพื่อนดีเลยไม่อยากซักถามอะไรอีก
“อืม งั้นเจอกัน”
เขาวางสายไปแล้วยังนั่งกอดหมอนนั่งคิดอะไรอีกพักใหญ่ ออกจะตื่นเต้นกับคำตอบของเหลิม อยากจะโทรกลับไปหาแต่ก็ยั้งใจไว้ เหลิมเป็นคนแปลก ถ้าไปเร่งรัดคำตอบมากไปผลอาจไม่ดีอย่างที่หวังก็ได้ เขาคงได้แค่รอและรอให้เหลิมติดต่อกลับมา

แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องลอดแทรกรอยต่อของผืนผ้าม่านเข้ามาปลุกให้เขาตื่นแต่เช้าจนได้ ทั้งที่เขานอนไปได้ไม่กี่ขั่วโมง  เขายืดเหยียดแขนขาก่อนกระเด้งตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉงเข้าห้องน้ำชำระร่างกาย ความรู้สึกบอกตัวเองว่าวันนี้คงมีอะไรดีๆ หวังว่าจะเป็นข่าวดีจากเหลิม คิดแล้วก็เผลอยิ้มคนเดียว มีความรักมันดีแบบนี้นี่เอง
ใช้เวลาไม่นานนักเขาก็อาบน้ำเสร็จเขายังจำได้ว่าวันนี้มีนัดกับตั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ ขณะที่เขากำลังแต่งตัว ตามด้วยเสียงใสๆที่มาก่อนตัว “พี่ตั้ง วันนี้ไปส่งตามที่มหาลัยหน่อยนะคะ อ้าว...ตามนึกว่าพี่ตั้งยังไม่ตื่นซะอีก” น้องตามเข้ามาเกาะแขนเอียงคอถามทำหน้าตาน่ารักอย่างประจบ
“ทำไมตื่นเช้าจังคะ นอนไม่หลับเหรอ”
เขาเอียงหัวชนกับศีรษะน้องตามเบาๆ “รู้ดีจริงน้องพี่ นอนไม่ค่อยหลับเลย ไม่รู้เป็นอะไร”
น้องตามหัวเราะกิ๊กก่อนยั่วเย้า “คนกำลังมีฟามร้ากก็แบบนี้แหละ“
เขาจับหัวน้องตามโยกเบาๆ “อื้อ ทำเป็นผู้เชี่ยวชาญความรักไปได้ หรือว่ามีแฟนแล้วไม่บอกพี่ ฮึ”

 น้องตามส่ายหน้าจนผมหน้าม้ากระจาย “ถ้าน้องมีน้องบอกพี่ แต่พี่สิไม่บอกน้อง อย่ามาพูดเลย พูดแล้วงอน” น้องตามปล่อยแขนเขา แล้วมารอเขาแต่งตัวนั่งที่เตียง ถามเสียงใส “พี่ตั้งกับพี่เหลิมไปถึงไหนแล้ว ทำไมไม่บอกน้องบ้าง”
เขาไม่ตอบคำถามแต่เดินไปที่ประตูก่อนหันหน้ามาเรียกน้องสาว  “ไป พี่เสร็จแล้ว วันนี้พี่นัดตั้นไว้ด้วยเก้าโมง เดี๋ยวไปหามันไม่ทัน” เขาออกจากห้องไปแล้วแต่น้องตามกลับไม่ยอมเดินตามมา เขาต้องเปิดเข้าห้องไปอีกรอบ น้องตามยังนั่งหน้าง้ำกอดอกอยู่ที่เตียง
“เอ้า ไม่ออกมาล่ะ ไม่ไปรึไง”
น้องตามส่ายหน้า “พี่ตั้งกวนน้อง ทำไมไม่ตอบตามมา ถามแค่นี้เอง หรือว่าพี่หูตึง เคยได้ยินแต่ความรักทำให้คนตาบอด ไม่เคยได้ยินว่าทำให้หูตึงด้วย”
เขาส่ายหน้ากับคารมของน้องสาวตัวดี “ไม่ใช่ไม่ได้ยินแต่พี่รีบ มีอะไรไปคุยในรถ ไป” เขาต้องเดินมาดึงแขนน้องสาวที่ยังไม่ยอมเชื่อ
“จริงๆนะ ต้องเล่ามานะ” น้องตามทำท่าขมวดคิ้วอย่างไม่แน่ใจ
“เออน่า”

กว่าเขาจะมาถึงมหาวิทยาลัย เขาก็โดนน้องตามคาด คั้น เค้นจนแทบไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกต่อไป ก่อนจะลงจากรถน้องสาวตัวแสบยังหันมาบอกเขาทำสีหน้าจริงจังอีกครั้งว่า
“ถ้าพี่เหลิมเขาไม่รับข้อเสนอพี่ตั้ง พี่ตั้งอย่ายอมแพ้นะคะ คนแบบพี่เหลิมท่ามากจะตาย ต้องตื๊อต่อ ตามเอาใจช่วย แล้วยังไงคืนนี้กลับจากมหาลัย ตามจะรอฟังข่าวดีจากพี่ตั้ง ไปนะคะ บ๊ายบาย พี่ชายสุดหล่อของน้อง”

น้องสาวของเขาสดใสร่าเริงเสมอ เป็นกำลังใจช่วยเขามาตลอด ตามรู้มานานแล้วว่าเขาชอบคนแบบไหนเพราะพยายามหลายครั้งหลายคราวที่จะแนะนำเพื่อนๆมาให้เป็นแฟน แต่เขาก็มีข้ออ้างปฎิเสธไปเสียทุกครั้ง จนในที่สุดน้องตามคาดคั้นถามเหตุผล ทำให้เขาได้รู้ใจตัวเองเป็นครั้งแรกว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่เพราะเพื่อนของน้องสาวมีข้อเสียอย่างที่เขาบอก แต่เป็นเพราะเขาไม่เคยสนใจผู้หญิงมาตั้งแต่ต้น แต่แรกน้องตามตกใจไม่พูดอะไรเลย หายกลับเข้าห้องหลบหน้าหลบตาเขาไปหนึ่งคืนกับหนึ่งวันเต็มๆ ทำเอาเขาจิตตกนอนไม่หลับกังวลกับความจริงที่ตัวเองเพิ่งรับรู้
 แต่หลังจากคืนนั้นน้องก็เข้ามาในห้อง เข้ามากอดแล้วพูดประโยคที่เขาไม่มีวันลืม “น้องขอโทษที่ไม่เข้าใจพี่ตั้ง ต่อนี้ไปน้องจะอยู่เคียงข้างพี่ เพราะยังไงพี่ตั้งก็เป็นพี่ชายที่น้องรักมากที่สุด” เขาจำได้ว่าเขากอดน้องน้ำตาไหล และไม่รู้สึกโดดเดี่ยวกับปัญหานี้อีกต่อไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 06-12-2011 11:59:03
เขาหยุดคิดเรื่องน้องตามเพราะมาถึงห้องของตั้นพอดี นี่ก็อีกคนที่เขาไม่เคยแคลงใจในความรักฉันเพื่อน แต่เมื่อเขากำลังจะมีความรักเจ้าเพื่อนตัวดีกลับมาทำอารมณ์เสียใส่จนเขาเริ่มระอา ตั้นมาเปิดประตูรับเขาด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า ไม่มีคำพูดต้อนรับอะไร พื้นที่ภายในห้องยังรกไม่เป็นระเบียบเพราะเจ้าของห้องอยู่ในช่วงเก็บของเตรียมตัวจะไปต่างประเทศ ข้าวของวางกระจัดกระจายเกลื่อนไปหมด ทั้งที่เจ้าของห้องเป็นคนเจ้าระเบียบแท้ๆ
“นี่ถ้าเราไม่รู้ว่านี่เป็นห้องนาย เราต้องนึกว่าเราเข้าห้องผิดแน่ๆ ทำไมมันรกขนาดนี้ล่ะตั้น”
ตั้นไม่พูดอะไรเดินกลับไปนั่งเก็บของลงลังกระดาษไปเงียบๆ ผิดวิสัยที่เคย เขาเดินดูรอบๆว่าพอจะช่วยอะไรได้บ้าง แล้วเริ่มเก็บของลงกล่องบ้างแต่เพราะไม่รู้ว่าความต้องการของเจ้าของคืออะไร ทำให้เขาต้องเหลือบตามองเจ้าของห้องเป็นระยะเหมือนส่งคำถามให้ แต่ตั้นก็ยังเฉย
 “เราแยกของแต่ละประเภทแล้วกันนะตั้น แต่เราจดไว้หมดแล้วว่ากล่องไหนมีอะไรบ้าง นายยังไม่ได้รันหมายเลขใช่มั้ย งั้นเราเริ่มที่ลังที่หนึ่งแล้วกันนะ”

ตั้นเหลือบมามองแล้วพยักหน้าให้เป็นการอนุญาต แต่ยังคงไร้ซึ่งคำพูด ความเงียบเป็นสิ่งเดียวที่ตั้นให้อยู่ในห้องนี้ นานจนเขาลืมไปว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว น่าแปลกที่เขาไม่อึดอัดกับช่วงเวลานี้ก็แค่อย่าไปกังวลสนใจกับตั้น ทำงานของเราไปเขาคิดแค่นั้น จนกระทั่ง “นายจำดินสอแท่งนี้ได้รึเปล่า”
เชาเงยหน้ามองตั้นที่มายืนดูเขาเก็บของอยู่ข้างหลัง เขามองตามสายตาตั้นดินสอในมือเขาเป็นดินสอแบบเก่าลายโดเรมอนที่ต้องใช้กบเหลา มันถูกใช้ไปกว่าครึ่งปลายดินสอไม่แหลมอย่างที่ควร เหมือนเจ้าของไม่ได้เหลามาแรมนาน มันเก่าจนแทบจะทิ้งได้โดยไม่เสียดาย เขาดูยังไงก็นึกไม่ออกว่ามันมีความหมายอะไรให้ต้องจำ ก็แค่ดินสอเก่าๆ ในสายตาเขา
“จำไม่ได้ ไอ้นี่ มันมีประวัติด้วยเหรอ หึหึ”
ตั้นนั่งลงข้างหน้าเขาแล้วหยิบดินสอมาจากมือ หันมายิ้มให้  “มีสิ นี่มันของนายไง”
เขามองอีกครั้งอย่างไม่เชื่อ “ดินสอเนี่ยนะ จำไม่ได้เลย ตั้งแต่เมื่อไหร่”

แววตาของตั้นดูมีความสุขเมื่อพูดถึงมัน “มอหก เรายืมของนายมา พอนายขอคืนเราไม่ให้คืน แต่ขอไว้ นายก็ให้” ตั้นยิ้มอีกครั้ง
“แล้ว...ยังไง” เขาเริ่มสงสัยว่ามันมีที่มายังไงที่เขาลืมไปแล้วรึเปล่า
 ตั้นไม่ตอบ หยิบกรรไกรในกล่องขึ้นมาชูอีกอัน “นี่ก็ของนาย”
ตั้นยื่นสมุดโน้ตเล่มเท่าฝ่ามือสีดำค่อนข้างเก่า “นี่ก็ใช่ ขอนายมาตอนปีหนึ่ง เพราะอยากได้เบอร์โทรศัพท์เพื่อนๆ”
เขาได้แต่มองอย่างประหลาดใจ สมุดเล่มนี้เขาจำได้ดีเพราะมีที่อยู่เบอร์โทรศัพท์เพื่อนมอปลายแทบจะทุกคน แต่เขาจำได้ว่าตั้นยืมไปแต่ไม่คืนมากกว่า “ส่วนไอ้นี่ เทปเพลงรวมฮิตที่นายอัดไว้แล้วเราชอบ เราเลยขอนายมา”
เขาเริ่มหยิบของในกล่องหลายๆชิ้นขึ้นมาดูแปดสิบเปอร์เซ็นต์มันเคยเป็นของเขามาก่อนทั้งนั้นแต่ตั้นได้มาต่างกรรมต่างวาระกันไป ไม่น่าเชื่อว่ามันจะมากมายขนาดนี้ เขามองหน้าตั้นแล้วหัวเราะขำ
“ตั้น เราเพิ่งรู้ว่านายเอาของเราไปมากขนาดนี้ ทำไมเราไม่รู้ตัวเลยล่ะ แล้วเก็บไว้ทำไม อย่างไอ้นี่”
เขาหยิบยางลบรูปตัวทีที่ใช้ไปเกือบหมดแทบจะไม่เป็นตัวอักษรอีกต่อไป แต่เขาจำได้ว่ามันเคยเป็นของเขามาก่อน
 “ทำไมไม่ทิ้งไป มิน่าล่ะของนายเลยเก็บไม่เสร็จสักที เล่นเก็บไม่มีโละเลยนี่ ไอ้งก เก็บกระทั่งของๆ เพื่อน”

ตั้นหัวเราะเอามือชกไหล่เขาเบาๆ “เฮ้ย เราไม่ได้งก นายน่าจะรู้ว่าเราไม่ได้เก็บของ แต่เราเก็บความทรงจำต่างหากล่ะ พอหยิบขึ้นมาดูมันมีเรื่องราวทุกชิ้น ให้ได้ยิ้ม ได้นึกถึงตอนนั้น”
“อย่างไอ้ยางลบอันนี้ เรานั่งเถียงกับนายจนเกือบจะทะเลาะกันว่ามันควรเป็นของเรามากกว่า เพราะเราซื้อมาพร้อมๆกันแล้วของเราหายไป ทั้งๆที่เราก็รู้ว่ามันเป็นของนายแต่พอเราดึงดันว่าไม่ใช่ นายก็ให้เรามาง่ายๆ ” เขาพยักหน้าเขาจำได้ว่าให้ตั้นไปเพราะไม่อยากทะเลาะมันก็แค่ยางลบ ยังไงเพื่อนต้องมาก่อนเสมอ

ตั้นส่ายหน้ายิ้มมุมปากเล็กๆ “นายมันก็ชอบใจอ่อนแบบนี้ ชอบยอมเพื่อนทั้งที่มันไม่ถูก ไม่ไหวว่ะ แต่ก็ไอ้นิสัยแบบนี้ยิ่งทำให้เรายิ่งรักนาย” เขามองตั้นทึ่งๆ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะคิดละเอียดได้ขนาดนี้
“ก็แหงล่ะ เป็นเพื่อนคนอื่นเห็นนายเอาของเขามามากขนาดนี้ คงเลิกคบกันไปแล้ว ใครจะใจดีเหมือนเรา”
ตั้นหัวเราะอีกครั้งและลุกขึ้น  “ถ้าคราวนี้เราจะขอนายอีก นายจะให้เรารึเปล่า”
เขาแทบจะลุกไม่ขึ้นเพราะเหน็บกิน เลยได้แต่นั่งเหยียดขาอยู่กับที่ให้เลือดเดิน “ขออะไรล่ะ ลองขอมาก่อนสิ อย่าขอน้องสาวแล้วกัน คนนั้นต้องไปขอแม่ หึหึ” เขาพูดเล่นเพราะรู้ว่าตั้นรักน้องตามเหมือนน้องสาวอยู่แล้ว ไม่เคยมองเป็นอื่น
แต่ตั้นไม่ขำเดินกลับมานั่งต่อหน้าเขาอีกครั้งยื่นแก้วน้ำมาให้ สีหน้าจริงจังจนเขากลัว เริ่มไม่อยากรู้ว่าตั้นจะขออะไร

“นายรอเรากลับมาก่อนค่อยคบกับเหลิม รอเราได้มั้ย”

เขาคาดไม่ถึงกับคำขอของตั้นน้ำเสียงตั้นไม่ใช่ล้อเล่น เขายังตั้งสติไม่ถูก “นายอธิบายหน่อย เราไม่เข้าใจ เรื่องเหลิมนี่เหรอที่นายจะขอเรา”
“ใช่ เราไม่แน่ใจในตัวเหลิม ถ้าเราไม่อยู่ เวลามีปัญหาใครจะช่วยนายคิด” ท่าจะบ้าไปกันใหญ่ ตั้นมันคิดอะไรของมัน
“เราห่วงนายนะตั้ง นายใจดีเกินไป เจอคนไม่ดีเค้าก็คิดแต่จะเอาเปรียบ อย่างนายไม่ทันเหลิมหรอก”
เขาเริ่มโมโห ถึงตั้นจะเป็นเพื่อนแต่พูดแบบนี้ก็เหมือนดูถูกสติปัญญาเขาด้วย
“ตั้น นายเจอเหลิมไม่กี่ครั้ง อย่าเอาอคติของตัวเองมาตัดสินสิ”
“เราไม่ได้มีอคติกับใครนะ แต่กับเหลิม เราไม่เห็นด้วย นายอย่าไปคบกับเขาเลย เป็นเพื่อนยังไม่ควรด้วยซ้ำ”

“ตั้น นี่มันเรื่องของเรานะ โอเคนายเป็นเพื่อนรักเรานายขออะไรเราก็ให้ แต่เรื่องนี้มันไม่เหมือนกันนะ  เหลิมไม่ใช่สิ่งของที่นายจะมาบอกให้เราทิ้ง หรือให้เก็บไว้ เราขอตัดสินใจเองดีกว่า” เขาพยายามลุกขึ้นทั้งที่ตะคริวยังกินขา เริ่มอารมณ์กรุ่นๆแต่ยังไม่อยากทะเลาะกับเพื่อน
“เรากลับก่อนนะ นายจะไปเมื่อไหร่บอกเรามาอีกที จะไปส่ง” เขาหันมาบอกตั้นอีกครั้งก่อนจะกลับ ถึงยังไงเขาก็รู้ว่าตั้นพูดเพราะหวังดี 
ตั้นเดินมาส่งเขาที่ประตู หน้าตาไม่สบายใจพูดเสียงอ่อยๆ  “นายไม่โกรธเรานะ”
“อืม ไม่โกรธ”   เขาตบบ่าตั้นยิ้มให้ เขาตอบไปอย่างนั้นเพราะเขาไม่โกรธจริงๆ แค่ไม่เข้าใจความคิดตั้นนิดหน่อย แต่เพื่อนก็ยังเป็นเพื่อน
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 06-12-2011 12:03:17
เขาขับรถออกมาจากคอนโดตั้นในขณะที่ใจยังครุ่นคิดเรื่องที่เพื่อนพูดตลอดเวลา กว่าจะรู้ว่าขับไปที่ไหนรถเขาก็มาจอดหน้าที่ทำงานเหลิมโดยไม่รู้ตัว เขานั่งคิดอยู่ครู่ใหญ่ว่าควรจะไปพบเหลิมดีรึเปล่า อีกไม่นานก็จะเที่ยง เขาอยากจะเซอร์ไพรส์เหลิมโดยการมาแบบไม่บอก ถึงแม้จะแหยงๆปากเหลิมอยู่เหมือนกัน แต่ในเมื่อใจอยากพบจะกลัวอะไร เขาตัดสินใจหาร้านอาหารละแวกนั้นนั่งรอฆ่าเวลา เผลอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหลายครั้งก่อนจะวางลง เขาลังเลที่จะโทรหาเหลิมแต่ยังไม่อยากกวนเวลางาน รอให้เที่ยงก่อนดีกว่า แต่แล้วกลับเป็นเหลิมที่ส่งแมสเสจมา ขณะที่เปิดอ่านข้อความเขาตื่นเต้นราวกับกำลังเปิดอ่านจดหมายรัก
"ผมยังไม่อยากเจอพี่ ขอเวลาอีกหน่อยครับ"

อ่านแล้วเขาก็คิดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ ค่อนข้างผิดหวังกับข้อความนั้น เขาไม่อยากคาดเดาว่าที่เหลิมส่งข้อความมาแบบนี้จะเป็นสัญญาณในทางดีหรือร้าย แต่ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรเขาก็รอได้ เขานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยสั่งอาหารเที่ยงมากินเพราะยังไม่มีแผนจะไปไหนต่อ
เขาคิดว่าเหลิมอาจจะกลัว และไม่มั่นใจเพราะช่วงเวลาที่รู้จักกันค่อนข้างสั้น บางทีการที่เขากดดันเหลิมมากไปอาจจะไม่ใช่หนทางทีดี เขาควรจะอดทนและรอคอย ทอดเวลาให้ยาวนานกว่านี้จนกว่าเหลิมจะสบายใจในการคบหากับเขา ไม่มีอะไรจะต้องรีบสำหรับสิ่งดีๆที่จะเข้ามาในชีวิต  คิดได้แบบนั้นแล้วเขาเลยเรียกบริกรมาเก็บเงิน เขาไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ในเมื่อเหลิมขอเวลาเขาก็ต้องให้ เขาไม่เคยรู้เลยว่าหลังจากที่เขาเดินออกจากร้านเพื่อนรักของเขากับผู้ชายที่เขากำลังขอความรักกำลังเข้ามาร้านนี้เช่นกัน


วันศุกร์

วันนี้เขาตื่นแต่เช้า อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลือกสวมใส่เสื้อตัวที่ดีที่สุดที่มีปัญญาซื้อมา บรรจงส่องกระจกหวีผมอย่างตั้งใจ มองหน้าผู้ชายหน้าตาดีที่ส่งยิ้มตอบกลับมา แล้วบอกตัวเองว่า ‘นายหน้าตาไม่เลวนี่ มิน่ามีคนหลงมาชอบ หึหึ’
เขาก้าวไปยืนรอรถเมล์อย่างอารมณ์ดี เช้าๆ แบบนี้คนกรุงเทพฯจำนวนไม่น้อยมายืนออกันเต็มป้ายรถเมล์  ต่างคนต่างไม่สนใจคนที่ยืนอยู่ล้อมรอบ  ราวกับแต่ละคนสร้างเกราะป้องกันตัวไว้ด้วยโลกของตัวเอง ทุกครั้งเขาเองก็ไม่ต่างจากคนเหล่านี้  ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตาไม่เคยมองใคร ทุกวินาทีหมกมุ่นครุ่นคิดแต่เรื่องของตัวเอง
แต่วันนี้เขาอารมณ์ดีเหลียวมองไปรอบๆ กาย  สบตากับผู้ชายยืนข้างๆที่หันมาพอดี เขาส่งยิ้มให้ ชายคนนั้นทำหน้าแปลกๆ ก่อนยิ้มตอบมาอย่างเสียไม่ได้แล้วรีบหันหน้ากลับไปทันที

ชายคนนั้นใส่เสื้อยับเหมือนไม่ได้รีด กลิ่นเหล้าโชยมากับลมหายใจ คงเพราะเมื่อคืนหนักไปหน่อย แต่ที่ยังตื่นเช้าไปทำงานได้แสดงว่ามีความรับผิดชอบงานใช้ได้เลยทีเดียว เขาเผลอยิ้มเพราะอดคิดเข้าข้างตัวเอง ว่ายังไงวันนี้เขาก็ดูดีกว่านายเสื้อยับแน่ๆ  ชายคนนั้นหันมามองเขาอีกครั้งเหมือนจะนึกรู้ว่าเขาแอบนินทา แต่ก็ยังส่งยิ้มเล็กๆ มาให้ก่อนก้าวขั้นรถเมล์ไป  เขาคิดกับตัวเองว่าพรุ่งนี้อาจจะได้คุยกัน ไม่แน่เขาอาจจะได้เพื่อนใหม่อีกคนจากป้ายรถเมล์ก็ได้
อย่างน้อยนี่ก็คือสิ่งแรกที่เขาเปลี่ยนไป ก่อนที่เขาจะรู้จักพี่ตั้ง เขาไม่เคยสนใจใคร ไม่สนใจเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม เขาไม่เคยสนใจด้วยซ้ำว่าจะขึ้นรถเมล์ไปทำงานทั้งที่ขี้ตาติดเต็มสองตา  หรือมีคราบยาสีฟันเลอะที่ข้างแก้ม ไม่เคยอายที่ลืมรูดซิบแล้วมีคนเห็น เพราะเขาถือว่าคนเหล่านี้มารอรถเมล์ร่วมกันชั่วระยะเวลาสั้นๆ มาอยู่ใกล้ ยืนชิดกัน จนลมหายใจแทบจะเป็นลมหายใจเดียวกัน แต่ไม่เคยคิดแม้แต่จะสบตาหรือพูดจากัน พอแยกจากกันไปแล้วหน้าตาเป็นยังไง มีตามีจมูกมีหูครบรึเปล่าก็จำไม่ได้ แล้วทำไมเขาต้องแคร์

เขาคิดเล่นๆ ว่าเมื่อก่อนเขาอาจจะเคยเดินผ่านพี่ตั้งที่สวนรถไฟไปหลายครั้ง แต่เขาไม่เคยสนใจ ทั้งที่พี่ตั้งก็เป็นเพื่อนร่วมโลกคนหนึ่ง มันคงเป็นโชคชะตาที่ทำให้คนสองคนจากหลายล้านคนบนโลกใบนี้มารู้จักกันได้ บางทีพี่ตั้งกับเขาอาจจะเหมือนเขากับนายเสื้อยับ เห็นหน้ากันแล้วก็จากกันไปในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่มีอะไรติดค้างใจกัน
 หรืออาจจะไม่ใช่ พี่ตั้งอาจจะสมัครใจหันมายิ้มตอบให้เขาเมื่อเขาส่งยิ้มให้ ทักทายเขา คุยกันทำความรู้จักกัน จนพัฒนาความสัมพันธ์เป็นอย่างอื่น  แต่ถ้าคุยกันแล้วเบื่อหรือไม่ชอบใจขึ้นมา พี่ตั้งก็อาจจะวิ่งหนีขึ้นรถเมล์ไปก็ได้ เรื่องนี้ไม่มีใครคาดเดาได้ คงต้องเป็นเรื่องของอนาคต

 เขาไม่รู้ว่าพี่ตั้งทำให้เขาเปลี่ยน  หรือเขาเปลี่ยนตัวเองโดยเขาไม่รู้ตัว แต่ไม่ว่าจะมาจากเหตุผลใด เขาชอบใจในความเปลี่ยนแปลงนี้ คนบางคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราแม้เพียงเสี้ยววินาทีเดินผ่าน อาจมีผลกับชีวิตของเราทั้งชีวิตก็ได้ 
ผ่านมาหลายวันแล้วตั้งแต่วันที่เขาคุยกับพี่ตั้ง หลังจากวันนั้นพี่ตั้งก็เงียบหายไป  พี่ตั้งเองก็คงต้องใช้เวลาในการคิดเหมือนกัน เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาบอกไปจะทำให้ความรู้สึกของพี่ตั้งที่มีต่อเขาปลี่ยนไปหรือเปล่า แต่นั่นเป็นคำตอบที่เขาเลือกแล้ว ถ้าพี่ตั้งไม่ชอบใจเขาก็คงทำอะไรไม่ได้ต้องยอมรับกับผลของมัน เขาอาจจะเห็นแก่ตัวเกินไป แต่ใครล่ะไม่เห็นแก่ตัว
รถเมล์ที่เขารออยู่มาพอดี เขาหยุดความคิดเกี่ยวกับพี่ตั้งไว้แค่นั้น ไม่ว่าพี่ตั้งจะตัดสินใจแบบไหน วันนี้เขายังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะ ยังไงชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป
   
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 06-12-2011 12:19:35
วันเสาร์
เขาใช้เวลาตอนเช้าหมดไปกับการทำความสะอาดบ้าน ซักผ้าไปตามที่เคยทำมาตลอด จะเปลี่ยนไปบ้างก็แค่มีบางเวลาที่เขาคิดถึงคนที่เคยมากวนเขาสองอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาสลัดความคิดถึงให้ออกไปจากใจ แต่ใจไม่รักดีก็วนเวียนคิดถึงแต่วันนั้นวันที่เขานัดพี่ตั้งมาที่บ้าน

“พี่ตั้ง มาหาผมที่บ้านคืนนี้นะครับ ผมอยากคุยด้วย”
“ได้ๆๆ เดี๋ยวพี่ไปหานะ ละ เลอะ เหลิมๆๆหวังว่าพี่จะได้ฟังข่าวดีนะเหลิม” น้ำเสียงพี่ตั้งตื่นเต้นดีใจอย่างออกนอกหน้า เขาทั้งขำ ทั้งหมั่นไส้จนเผลอเหน็บไป
“พี่ตั้ง พี่ไม่ต้องดีใจขนาดนั้นก็ได้ บ้าเหรอ อย่างกับคนพูดติดอ่าง”
“ก็พี่ดีใจ พี่รอโทรศัพท์จากเหลิมตั้งนาน ใจดำมากนะปล่อยให้พี่รอ ไม่รู้หรือไงว่าคนเค้าคิดถึง...” พี่ตั้งเริ่มตัดพ้อ แต่แปลกที่กลับทำเขาหน้าร้อนวูบวาบ เขารีบตัดบทก่อนที่จะต้องฟังมากกว่านี้
“ไว้ค่อยมาบ่นเย็นนี้แล้วกันนะพี่ ผมจะรีบทำงาน ไว้ค่อยคุยกัน”เขาวางสายไปก่อน แล้วรีบทำงานให้เสร็จไวๆ  จะได้เตรียมใจตั้งสติให้คำตอบกับพี่ตั้ง
พี่ตั้งมาถึงไวกว่าที่เขาคิด พอมาถึงที่คอนโดปรากฎว่าพี่ตั้งมานั่งรอที่ล็อบบี้นานแล้ว เขามองเห็นจากไกลๆว่าพี่ตั้งลุกขึ้นอย่างยินดีเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา รอยยิ้มคุ้นเคยที่หายไปนานของพี่ตั้งทำเอาเขาใจสั่น พี่ตั้งที่ไม่ได้เจอหลายวันยังดูดีเหมือนเดิม จะไม่เหมือนเดิมตรงที่ไม่ซื้ออะไรติดไม้ติดมือมาเลย เขาหิวจะแย่เลยทำให้พาลขวางหูขวางตาไปหมด “เหลิม...พี่มารอ...”

เขาเดินเชิดไม่ตอบรับคำทักทายผ่านพี่ตั้งที่ยืนยิ้มค้างรอรับ ไม่แม้แต่จะสบตาตรงๆ  มองจากหางตายังเห็นรอยยิ้มของพี่ตั้งที่ค่อยๆหุบลงอย่างน่าสงสาร พี่ตั้งเดินตามหลังเขามาเงียบๆ แต่คนที่ไม่เงียบกลับเป็นเขา
“ทำไมมาไว ผมกลับมาจากที่ทำงานเหนื่อยๆ ว่าจะพักสักหน่อยค่อยคุยกัน” เขาบ่นพร้อมส่งสายตาดุๆไปให้
“พี่ตื่นเต้น แต่ไม่เป็นไรนะพี่รอได้ เหลิมนอนพักก่อนก็ได้ เดี๋ยวพี่นั่งรอ” เหมือนพี่ตั้งจะไม่สนใจรับรู้อารมณ์ของเขา ยังคงส่งรอยยิ้มใจดีมาให้ เขาอ่อนใจกับความใจดีของพี่ตั้งที่มีให้มากมายกับคนแบบเขา
เขาทิ้งพี่ตั้งไว้ข้างนอกเดินเข้ามาในห้องโดยไม่ได้บอกอะไร  หลบมาอาบน้ำทั้งที่ระดับความตื่นเต้นเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ อาบน้ำไปก็คิดฟุ้งซ่านร้อยแปด  พยายามรวบรวมสติเรียบเรียงความคิดว่าจะพูดกับพี่ตั้งว่าอย่างไรดี ร่ำๆจะเปลี่ยนใจไม่ออกจากห้องน้ำ จนพี่ตั้งมาเคาะเรียก
“เหลิม เมาแล้วอ้วกอีกรึเปล่า เป็นอะไรทำไมอาบนานจัง”
เขาฟังแล้วถอนหายใจอย่างหงุดหงิด คนที่มาขอเป็นแฟนมองเขาเป็นคนยังไงกันแน่ ถึงได้ถามแบบนี้
“กำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ เรียกอยู่ได้” เสียงพี่ตั้งเงียบไปแล้ว รออยู่สักนาทีเขาจึงเปิดประตูออกมาพี่ตั้งยืนกอดอกรออยู่ที่ตรงหน้าทำเอาผงะ
 “เฮ้ย...ตกใจ” รีบเอามือปิดเนื้อตัวที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียว
พี่ตั้งหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางของเขา “จะอายอะไรเหลิม คนกันเอง” เขาเขินจนต้องดันตัวพี่ตั้งออกไปนอกห้อง “ไปเลย ไปรอข้างนอก เข้ามาได้ยังไง”
พี่ตั้งยอมเดินออกไปอย่างว่าง่ายแต่ไม่วายหันมายิ้มยั่ว “ โอเค อย่าลืมว่าพี่รออยู่นะครับ เดี๋ยวเจอกัน”
 
ทั้งๆที่รู้ว่าพี่ตั้งรออยู่แต่เขาก็ยังช้าจนได้ เมื่อเขาเดินออกมาพี่ตั้งไม่ได้นั่งอยู่แล้ว เหลียวมองหารอบห้องแล้วบ่นดังๆ
“อะไรวะ รอแค่นี้ก็ไม่ได้ คนอะไร ไม่อดทนซะเลย”
“พี่อยู่นี่เหลิม ไม่ได้ไปไหน” เสียงจากระเบียงดังขึ้นมา เขาเดินออกไปจึงเห็นว่าพี่ตั้งยืนพิงราวระเบียงอยู่ พี่ตั้งกวักมือเรียกเขาไปใกล้ๆ
“เหลิมมานี่สิ วิวสวยจัง”
เขาเดินออกไปโดยไม่ได้คาดหวังอะไรนัก ปกติเขาจะออกมาที่ระเบียงในตอนกลางวันเพื่อมาตากผ้าเท่านั้น ในยามค่ำคืนเขาไม่เคยคิดจะออกมาให้อาหารยุง แสงไฟแวววามจากบ้านเรือน ตึกสูงอาคารระฟ้าที่เห็นอยู่ไกลๆ จากรถที่วิ่งขวักไขว่อยู่บนถนนก็สวยไปอีกแบบหนึ่ง วิวในเวลากลางคืนเช่นนี้สวยจนเขาประหลาดใจ
“ผมไม่เคยออกมาตอนมืดๆ ไม่ยักรู้ว่าสวยดีเหมือนกันเนอะ”
 พี่ตั้งดึงมือเขาให้มายืนข้างกาย ยิ้มให้เขาก่อนเบนสายตากลับมาที่ภาพทิวทัศน์ตรงหน้า
“เหลิมว่ามั้ย มีอะไรอีกมาก ที่อยู่ใกล้ตัวเราแต่เราไม่เคยมองเห็น”
เขาพยักหน้า เห็นด้วยกับที่พี่ตั้งบอก “จริงของพี่”
“ถ้าเราไม่รู้ บางครั้งก็ต้องมีคนบอกเรา”

เขาหันไปมองหน้าพี่ตั้ง เอาไหล่ไปกระแทกพี่ตั้งเบาๆ “ที่พูดมานี่ พี่จะทวงบุญคุณเหรอ ที่บอกให้ผมมาดูวิวบนระเบียงบ้านผม” ผมส่งยิ้มกวนๆให้พี่ตั้งอีกที
พี่ตั้งส่ายหน้าแล้วหัวเราะ “เหลิมคิดได้ยังไง เหลิมรู้อะไรมั้ย ปากเหลิม เป็นตัวทำลายบรรยากาศชั้นยอดเลย หึหึ”
แปลกที่คราวนี้เขาไม่โกรธพี่ตั้ง แต่ขำจนต้องหัวเราะออกมาดังๆ “พี่กำลังบอกให้ผมรู้อีกเรื่องใช่มะ”
คราวนี้เสียงหัวเราะของเราทั้งคู่ดังประสานกัน ก่อนที่พี่ตั้งจะตอบ “ใช่...”
พี่ตั้งมองหน้าเขานิ่งจนเขานึกว่าพี่ตั้งจะไม่พูดต่อ แต่พี่ตั้งก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาพูดแทรก “ แล้วจากนี้ไปพี่ก็อยากเป็นคนที่คอยบอกเรื่องอื่นอีกมากมายให้เหลิม เหลิมให้คำตอบพี่ได้แล้วรึยัง”
เขาสะดุ้ง อุตส่าห์ลืมไปแล้วว่าคืนนี้เขาเรียกพี่ตั้งมาทำไม เวลาที่เขาถ่วงมานานคงจะสิ้นสุดในตอนนี้

“ผมๆ...เฮ้อ”เขาถอนใจออกมาเฮือกใหญ่มองหน้าพี่ตั้งแล้วพูดไม่ออกเพราะพี่ตั้งยืนจ้องหน้าเขาอยู่ พี่ตั้งคว้ามือเขามาบีบเบาๆ
“ค่อยๆ พูดได้เหลิม พี่รอได้”
แต่เขาสิที่ไม่อยากจะรออะไรอีกแล้ว อะไรที่ไม่สุด ไม่จบ ค้าง คา รอคอย ถ่วง ยืดเยื้อ มันทำให้เขาอึดอัดถึงแม้ที่เอ่ยมาทั้งหมดมันเกิดมาจากตัวเขาเอง เพราะอย่างนั้นเขาจะต้องสรุปเสียที
“ผมพูดได้พี่ตั้ง พี่ฟังผมให้จบนะ อย่าเพิ่งขัด ไม่งั้นสติผมที่ไม่ค่อยสมประกอบมันจะขัดขวางไม่ให้ผมพูดจนจบ พี่สัญญาก่อน”
แววตาของพี่ตั้งเหมือนไม่แน่ใจแต่พี่ตั้งก็พยักหน้า “สัญญา” นี่แหละนิสัยพี่ตั้ง เป็นอีกคนหนึ่งที่เชื่อคนง่าย

เขาสงบใจ หลับตาชั่วครู่ ก่อนตั้งสติ เบือนสายตามองออกไปในความมืด พยามยามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น “ผมคิดไปคิดมาหลายครั้งกับเรื่องของเรา คิดย้อนไปตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน นึกถึงเรื่องราวตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาที่ผมได้ใช้เวลากับพี่ จนถึงวันที่พี่ถามผมว่าจะคบกันดีมั้ย” เขาหันหน้ามาหาพี่ตั้ง เขาเริ่มทำใจได้แล้วจนกล้าที่จะมองหน้าพี่ตั้ง
 “พี่ไม่รู้สึกเหรอ ว่าเรารู้จักกันไม่กี่วันเอง ไม่ถึงสองอาทิตย์เสียด้วยซ้ำ” สีหน้าพี่ตั้งไม่ค่อยดี ทำท่าเหมือนจะเอ่ยพูดอะไร แต่ผมเขาขมวดคิ้วใส่เหมือนห้ามแล้วรีบพูดต่อก่อนที่จะลืมว่าตัวเองตั้งใจอะไรไว้
“ผมไม่ใช่คนใจง่ายนะพี่ ที่รักใครได้ง่ายๆ ใครมาชวนเป็นแฟนก็ตกลงยื่นมือซ้ายให้เค้าสวมแหวนเลย” เขาฝืนหัวเราะเบาๆ ราวกับขำสิ่งที่ตัวเองพูดทั้งที่ในใจผมเครียดมาก แต่พี่ตั้งเองก็คงเครียดไม่น้อย
“ผมไม่ปฏิเสธพี่หรอกว่าผมชอบกับการได้อยู่กับพี่ ผมไม่โกหกด้วยว่าผมไม่ตะกละ ผมไม่งก แต่นี่ล่ะตัวผม ปากก็เสีย นิสัยก็แย่ ไม่เห็นมีอะไรดีสักอย่าง ไม่รู้พี่หลงผิดเป็นชอบได้ยังไง”
“ในเมื่อพี่ให้โอกาสผมเป็นแฟน ผมก็ให้โอกาสพี่ในการดูผมให้นานๆ”

เมื่อเขาพูดจบพี่ตั้งเริ่มมีสีหน้าสงสัย ไม่แน่ใจ ยกกำปั้นขึ้นมาที่ปากตัวเองเหมือนอัดอั้นใจ อยากถาม อยากพูดขัดก็กลัวถูกด่า ทำให้เขาเริ่มรู้ตัวว่าพูดไม่รู้เรื่อง ไม่สามารถสื่อสิ่งที่ตั้งใจจะบอกให้พี่ตั้งได้ ถ้าเขายังพูดวกวนขี่ม้าเลียบค่ายไปแบบนี้ เขาพล่ามทั้งคืนไม่ตรงไปตรงมาก็คงไม่จบ จะเป็นยังไงต่อไปก็คงต้องให้มันเป็น
ก่อนที่พี่ตั้งจะเปลี่ยนใจเอากำปั้นมายัดใส่หน้า “พี่อยากถามอะไรผมใช่มั้ย?”พี่ตั้งพยักหน้าสองสามทียืนยันความตั้งใจ
“แต่ผมไม่ให้พี่พูด ผมจะสรุปเดี๋ยวนี้พี่ใจเย็นๆ” เขายกขาขวาเขี่ยน่องขาข้างซ้ายเพราะยุงเริ่มกัด
 บุคคลิกภาพเขากำลังจะแย่ ต้องรีบพูดต่อ ก่อนที่พี่ตั้งจะเบื่อ เขาสูดลมหายใจลึกๆ พยามยามทำสีหน้าให้นิ่ง
“ในตอนนี้ ผมไม่ขอคบในฐานะแฟนของพี่ ขอแค่เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องมีตำแหน่ง ไม่ต้องมีวาระชัดเจน ไม่กำหนดวันหมดอายุ  พี่ทนไม่ไหวเมื่อไหร่พี่ก็จากไป ให้ความสัมพันธ์ของเรามันไม่มีแบบไปอย่างนี้ เป็นไปเองตามที่มันจะเป็น นี่ล่ะคำตอบของผม”

 พี่ตั้งเลียริมฝีปาก เม้มปากแน่น เพิ่มแรงบีบที่มือผมที่ตอนนี้แฉะไปด้วยเหงื่อ ผมเผลอมองริมฝีปากพี่ตั้งจนเกือบลืมขมวดคำพูดสุดท้ายที่ตั้งใจไว้
“คราวนี้เป็นพี่ที่ต้องให้คำตอบผม ว่าพี่รับคำตอบของผมได้รึเปล่า ถ้าได้เราก็คบกันต่อ ถ้าไม่ได้ พี่อยากจะจากไปผมก็ไม่ว่า ถึงแม้จะแอบเสียดายหน่อยๆ ฮ่าๆ”
ผมฝืนหัวเราะเจื่อนๆ ต่อไปอีกสักพักแต่พี่ตั้งไม่หัวเราะด้วย ยังไม่ตอบอะไรนาน นานจนผมนึกได้
“ผมพูดจบแล้ว พี่จะพูดอะไรมั้ย”
พี่ตั้งส่ายหน้า ยิ้มลังเลกลับมา “พี่ยังมึนๆงงๆ ว่าสุดท้ายแล้วเหลิมตอบพี่ว่ายังไง แล้วพี่กลับต้องตอบคำถามของเหลิมเรื่องอะไร เหลิมพูดอีกทีนะ”พี่ตั้งยิ้มประจบเหมือนเด็กอยากได้ขนมเพิ่มหลังจากที่กินไปแล้วหนึ่งถ้วยเต็มๆ

เขาไม่รู้จะพูดยังไง เริ่มโมโห มันยากมากนะเว้ยให้พูดอะไรแบบนี้ พี่ตั้งทำอย่างนี้ได้ยังไง “ผมไม่พูดแล้ว ผมพูดได้ครั้งเดียว พูดอีกทีก็ไม่เหมือนเดิม ไม่รู้แล้ว พี่อยากไม่ตั้งใจฟังเอง อยากจะตอบอะไรก็ตอบ ที่ผมตอบคืออะไรก็ไปคิดเอาเอง”
เขาดึงมือจากพี่ตั้งรีบเดินกลับเข้าไปในห้อง เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป ยุงกัดทั้งสองขาจนเกาไม่ไหว ต้องยกทั้งสองขาสลับไปมาราวกับกำลังเต้นระบำปลายเท้า
พี่ตั้งเดินตามมาเบลอๆ “งั้น  พี่ขอกลับไปคิดก่อนนะเหลิม ขอไปนึกก่อนว่าเหลิมพูดอะไร มันวนๆแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจ”
เขาเงียบไปเพราะไม่คิดว่าพี่ตั้งจะขอเวลาขึ้นมาบ้าง ออกจะใจเสียขึ้นมา แต่เมื่อพูดไปแล้วก็ต้องเป็นไปตามที่พูด “ตามใจพี่ พี่ได้คำตอบเมื่อไหร่บอกผมแล้วกัน วันนี้พี่กลับไปก่อนเถอะ ขอผมอยู่กับตัวเอง”
เขาคันขามากอยากจะนั่งเกาทั้งสองขาให้มันสะใจแบบไม่ต้องรักษามารยาทอีก
 “เหลิมไม่ได้โกรธพี่นะ” พี่ตั้งพูดเสียงอ่อย
เขาส่ายหน้า ”ไม่หรอก ไปเถอะ ผมขอมีเวลาส่วนตัวหน่อย” ก่อนจะออกไปพี่ตั้งเดินเข้ามาหาเขาอีกครั้งดึงตัวเขามากอด  “ขอบคุณนะเหลิมที่ให้เวลากับพี่”

เขายังจำน้ำเสียงและคำพูดสุดท้ายของพี่ตั้งได้ ราวกับมันดังอยู่ข้างหู “ขอบคุณนะเหลิมที่ให้เวลากับพี่”
เขาทำใจไว้แล้ว ไม่ว่าคำตอบของพี่ตั้งจะเป็นอย่างไร พี่ตั้งก็ได้เปลี่ยนชีวิตเขาไปแล้ว และมันก็ไม่มีวันที่จะเหมือนเดิมได้อีก

 เขาถือตะกร้าผ้าที่ซักเสร็จออกมาที่ระเบียงพร้อมตาก คิดถึงคืนนั้นคืนที่เขาโดนยุงกัดจนขาบวมอยู่หลายวัน วางตะกร้าลงพื้นแล้วยืนเหม่อมองภาพเบื้องหน้าอย่างเหม่อลอยยังไงวันนี้ก็ไม่เหมือนคืนนั้น คืนที่มีพี่ตั้งจับมืออยู่เคียงข้าง เขาเผลอถอนหายใจออกมา
“วู้วๆๆ...” แว่วเสียงดังเอะอะจากเบื้องล่างที่ดังแทรกอากาศขึ้นมา
เขาอดคิดไม่ได้ว่าตอนที่พี่ตั้งรอคำตอบจากเขาพี่ตั้งจะทรมานแบบนี้รึเปล่า กรรมคงตามสนองเขาทันตา
“วู้วๆๆ...” เสียงน่ารำคาญยังแหวกอากาศมาให้เขาเสียอารมณ์ เขากำลังใช้ความคิดใครกลับมาส่งเสียงอย่างไม่เกรงใจใคร บั่นทอนบรรยากาศเงียบสงบในวันหยุดแบบนี้ สายตาเขามองลงมาข้างล่างอ้าปากจะตะโกนด่าต้นเหตุแห่งเสียง
ภาพของชายหนุ่มเบื้องล่างที่กำลังยืนโบกมือขวาไหวๆ มือซ้ายยกบรรดาถุงพะรุงพะรังที่คนสายตาดีอย่างเขาพอมองออกว่ามันคือของกิน เสียงท้องที่ซื่อสัตย์ร้องโครกออกมายืนยันทันทีว่าการรับรู้ของสมองเขาไม่ผิดมันคือของกินแน่ๆ
ชายหนุ่มต้นเหตุเสียง “วู้วๆ” เปิดรอยยิ้มกว้างส่งมาให้เขา ส่งสัญญาณมือยกนิ้วชี้ขึ้นว่ากำลังจะขึ้นมาหา เขาผู้เป็นเจ้าของห้องจะอนุญาตรึเปล่า

ไม่ต้องใช้เวลาคิดให้นาน ริมฝีปากเขาส่งยิ้มที่กว้างกว่ากลับไปแล้วพยักหน้าพร้อมทำมือลูบท้องให้เห็นว่าหิวจะแย่ ชายหนุ่มเบื้องล่างหัวเราะในท่าทางของเขา จนเขาเห็นกระทั่งแววตายินดีคู่นั้นที่ยิ้มด้วย
ก่อนที่ชายหนุ่มคนนั้นจะเดินลับเข้ามาใต้ชายคาตึก เขาตะโกนออกไปดังๆอย่างไม่อายใคร
“พี่ตั้ง!!!!!”
ชายหนุ่มหน้าตาดีคนเดิมเดินออกมาทำหน้างงๆปนประหลาดใจ ตะโกนกลับ “จะเอาอะไรอีกเหรอเหลิม!!!”
เขาส่ายหน้าแรงๆ เพราะกลัวปลายทางเห็นไม่ชัด ตะโกนเหมือนไม่มีใครอยู่ใกล้ๆอีกครั้ง

“เปล่า!!! จะบอกแค่ว่า โคตรคิดถึงพี่เลยยยย.....”

เขาเห็นสีหน้าคนข้างล่างชัดเจน ใบหน้าพี่ตั้งเปลี่ยนเป็นสีแดง ยิ้มอายๆ ก่อนส่งจูบลอยลมมาให้เขา พี่ตั้งส่งคำพูดตอบกลับมา แต่ไม่ได้ตะโกนเหมือนเขาเพราะตอนนี้คนเริ่มชะโงกหน้าออกมาดูกันหลายห้อง เขารีบเดินกลับเข้าห้องบ้างเมื่อข้างห้องเดินออกมาดูทำสีหน้าสอดรู้สอดเห็น  เขาเดินไปเปิดประตูให้พี่ตั้งพร้อมมีรอยยิ้มติดอยู่ที่ริมฝีปาก เมื่อนึกถึงคำพูดที่เขาอ่านปากพี่ตั้งได้ว่า
“แต่พี่โคตรรักเหลิมเลยยยย...”
*******************
ถ้าบอกว่าจบแล้ว จะเชื่อรึเปล่า อิอิ แต่ขอจบแบบนี้จริงๆ ค่ะ เรื่องของคนทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่อไปก็คงแล้วแต่วาสนาของเหลิม กับกรรมเก่าของตั้ง

ขอบคุณที่ยังติดตามอ่าน หรือถ้าหลงเข้ามาอ่านแล้วทนอ่านต่อได้จนจบ ก็ขอขอบคุณเช่นกันค่ะ ถ้ามีโอกาสดีๆงามๆ คงได้มีเวลาเขียนเรื่องใหม่มาให้อ่านกันค่ะ :bye2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 10-12-2011 06:43:59
ตามอ่านอยู่ก็อยากรู้ว่าจะจบยังไง

ตอนจบมันก็ยังมึนๆ อยู่ดี เหมือนคำตอบที่เหลิมให้พี่ตั้ง แบบว่า เก็บเอาไปคิดเองเหอะมึง!!!  :m31:

เรื่องพี่ตั้น ก็ยัง งงๆ สรุบแค่เพื่อนรักกันมาก หรือเพื่อนแอบรักเพื่อน เห็นสะสมของขนาดนั้น :เฮ้อ:

ยังไงก็ขอบคุณมากค่ะ ที่ต่อจนจบ  :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 10-12-2011 07:09:27
ขอบคุณที่มาต่อจนจบค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 22-12-2011 22:20:42
จบแล้วหรอเนี่ย

อยากอ่านตอนพิเศษจังค่ะ พี่ตั้งกับเหลิมยังหวานไม่จุใจเลย

อยากได้ตอนหวานๆมั่งจัง ฮ่าๆๆๆ

ขอบคุณนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 26-12-2011 08:08:13
ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ   :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมสัมปันนี ที่ 26-12-2011 09:15:08
ขอบคุณครับสำหรับเรื่องดีๆ แต่อยากได้ตอนหวานๆ จัดให้บ้างดิ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: lervair_y ที่ 29-12-2011 00:41:44
ตอนพิเศษอ่า อยากได้อ่า ค้างอ่าา
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: REDMOON ที่ 29-12-2011 08:28:57
ขอบคุณคะ  :L2:

น่ารักดีนะคะ คู่นี้  :o8:

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 29-12-2011 11:29:08
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารัก ๆ นะฮ๊าฟฟฟ  :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Magistel ที่ 07-03-2012 11:26:53
สนุกดีครับ ภาษาที่ใช้เข้าใจง่ายดีด้วย

เข้าใจความรู้สึกของเหลิมดีเลยครับว่ามันเร็วไปจริงๆ
แล้วก็เป็นเพราะสาเหตุนี้ด้วยสินะที่ตั้นไม่อยากให้เหลิมกับพี่ตั้งคบกัน

หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: yashi ที่ 20-04-2012 07:56:22
เหลิม ดูมื่นๆๆงง หลายหลายอารมณ์วัยทองมากมาย  แต่ดันโดนใจพี่ตั้งผู้แสนดีซะได้ .....สู้ๆๆต่อไปพี่ตั้ง  :man1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 23-04-2012 17:54:32
น่ารักดีนะคะ

ขอบคุณมาก :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 23-04-2012 21:40:37
เหลิม นายฮามาก  พี่ตั้งก็กวนดี 

       :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องชื่อสั้น) เปลี่ยน 06/12/2011 กลับมาแล้วเพื่อต่อให้จบ (จบแล้วค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: AidinEiEi ที่ 25-04-2012 01:06:08
พี่ฟ๊างงงงงงงงงงงงง ในที่สุดหนูก็อ่านจบแล้ว เย้ๆๆๆ  :mc4: :mc4:

อ่านไปขำไป ทำไมนายเอกของพี่แต่ละคน ถ้าไม่ตดใส่ก็อ้วกใส่พระเอกนะ  :laugh:
อิพี่ตั้งนี่ก็ช่างหวานและเน่าได้ใจจริงๆ โอยยยย อ่านไปกัดหมอนไป กรี๊ดอยู่ในใจคนเดียว เน่ากว่าพี่ต่ายอีกอ่ะ ว่าพี่ต่ายเน่าแล้ว(ในบางที) พี่ตั้งเยอะกว่าอีก ถึงว่าสิฉากที่เหลิมจะตอบรับพี่ตั้ง ยุงมันเลยตอมซะตรึม (เกี่ยว?)

เป็นอีกเรื่องที่สนุกค่ะพี่ แต่มันยังรู้สึกแบบไม่สุดอ่ะ มันยังค้างคาในความรู้สึก  :serius2:
แบบว่า....
แบบว่า.....ขอภาคสองได้มั้ยคะ :z1:
ตอนพิเศษก็ได้ มาแบบเรื่อยๆ ถ้าพี่ว่างๆ คิดถึงเรื่องนี้กลับมาแต่งต่อบ้างนะคะ

และสุดท้ายก็ขอบคุณพี่ฟางมากๆค่ะ กับนิยายน่ารักๆเรื่องนี้และทุกเรื่องเลยนะ คะ
 :กอด1: :L2: :กอด1: