ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับ
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
**********************************************
*ผลงานที่ผ่านมา*
✉ CorrespondencE สื่อรักทางจดหมาย!✉ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45471.0)
◣♥◥ Precinct ►◄ อาณาเขตรักของหัวใจ ◣♥◥ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47133.0)
(http://www.navaraclubthailand.com/images/icon_hot3.gif) ✥ Jurassic Heart ✥ดวงใจ กลายพันธุ์รัก
(http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47401.0)
(http://www.navaraclubthailand.com/images/icon_hot3.gif) ❣Secret heart❣ หัวใจ แอบรัก
(http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50864.msg3262162#msg3262162)
สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของนิยายได้ในเพจนะคะ>>nicedog (https://www.facebook.com/novelistnicedog/)<<
ขอบคุณทุกนที่ติดตามค่ะ
*นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคล สถาบันหรือสถานที่ใดทั้งสิ้น*
สารบัญ
::▪ ▫ปฐมบท▫ ▪ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.0)::•หาคู่• วันที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3312057#msg3312057)::
:: •หาคู่หู• วันที่2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3317292#msg3317292)::•หาคู่• วันที่3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3322344#msg3322344)::
::•* หาคู่*•วันที่4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3327876#msg3327876)::::•* หาคู่*•วันที่5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3331940#msg3331940)::
::•* หาคู่*•วันที่6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3335254#msg3335254)::::•* หาคู่*•วันที่7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3341805#msg3341805)::
::•* หาคู่*•วันที่8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3348177#msg3348177)::::•* หาคู่*•วันที่9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3353071#msg3353071)::
::•* หาคู่*•วันที่10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3358413#msg3358413)::::•* หาคู่*•วันที่11 (http://)::
::•* หาคู่*•วันที่12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3367873#msg3367873)::::•* หาคู่*•วันที่13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3372897#msg3372897)::
::•* หาคู่*•วันที่14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3377232#msg3377232)::::•* หาคู่*•วันที่15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3383760#msg3383760)::
::•* หาคู่*•วันที่16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3392291#msg3392291)::::•* หาคู่*•วันที่17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3402098#msg3402098)::
::•* หาคู่*•วันที่18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3411782#msg3411782)::::•* หาคู่*•วันที่19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3419815#msg3419815)::
::•* หาคู่*•วันที่20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3424944#msg3424944)::::•* หาคู่*•วันที่21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3431347#msg3431347)::
::•* หาคู่*•วันที่22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3434441#msg3434441)::::•* หาคู่*•วันที่23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3440804#msg3440804)::
::•* หาคู่*•วันสุดท้าย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3445646#msg3445646)::::•* หาคู่*•ส่งท้าย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3447153#msg3447153)::
::•* หาคู่*•พิเศษ“ทัวร์เกาะ” (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3547918#msg3547918)::::•* หาคู่*•พิเศษ“ทะเลาะ?” (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51956.msg3683811#msg3683811)::
(http://i154.photobucket.com/albums/s248/nbee_piz/cartoon2/set2/NB142.gif)(http://i154.photobucket.com/albums/s248/nbee_piz/cartoon2/set2/NB142.gif)(http://i154.photobucket.com/albums/s248/nbee_piz/cartoon2/set2/NB142.gif)
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
▪ ▫ปฐมบท▫ ▪
ยุคปัจจุบันนี้ไม่ใช่เพียงยุคของเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าเท่านั้นแต่ยังเป็นยุคของวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้ายิ่งกว่าอีกด้วย...การทดลองที่มีมานานนับศตวรรษถูกทำให้ประสบความสำเร็จได้ในยุคนี้ด้วยฝีมือของบุคคลที่ได้ชื่อว่าบิดาแห่งการคืนชีพ ดร.ฟรานซิส เบนซ์ ฟงเซ่
ชื่อของบุคคลที่ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก...คนที่สามารถชุบชีวิตไดโนเสาร์ที่สูญพันธ์ไปหลายร้อยล้านปีก่อนให้กลับมามีชีวิตได้อีกครั้งหนึ่งด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย...
แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใครๆก็สามารถทำได้ในตอนนี้ขอเพียงแค่มีเงินและความสามารถที่มากพอ
การชุบชีวิตไดโนเสาร์ทำได้ง่ายขึ้นจึงไม่แปลกที่จะมีปัญหาตามมาเป็นทวีคูณเช่นเดียวกัน ซึ่งปัญหาหลักๆก็คือกาหลุดของไดโนเสาร์จากสถานที่ทดลองหรือกักขังทำให้เกิดปัญหาผู้คนล้มตายกันมากมาย
ในอดีตมีการใช้หน่วยควบคุมไดโนเสาร์หรือผู้ที่ถูกฝึกมาโดยเฉพาะแต่ในตอนนี้เมื่อมีไดโนเสาร์หลุดสิ่งที่ผู้คนจะตะโกนเรียกไม่ใช่หน่วยควบคุมแต่เป็น...
‘หน่วยปฏิบัติการพิเศษ’
หน่วยปฏิบัติการพิเศษเป็นหน่วยที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อหลายปีก่อนภายใต้การควบคุมของบุคคลที่มากความสามารถอย่าง ไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่ การมีความสามารถอย่างเดียวไม่สามารถทำให้หน่วยนี้เป็นที่รู้จักได้แต่ด้วยการทำงานเป็นทีมกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าอันตรายที่สุดทำให้หน่วยนี้ถูกกล่าวขานกันในวงกว้างทั้งที่ก่อตั้งมาได้เพียงไม่กี่ปี
ไดโนเสาร์กลายพันธุ์...ชื่อเรียกของไดโนเสาร์ที่มียีนของมนุษย์อยู่ในร่างทำให้สามารถกลายร่างได้ทั้งมนุษย์และไดโนเสาร์ ในยุคแรกของการก่อตั้งไดโนเสาร์กลายพันธุ์ตัวแรกถูกตั้งชื่อว่า ‘ยูทาร์’ เป็นไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเพราะมีความดุร้ายจากยีนไดโนเสาร์นักล่าชั้นนำถึง4ชนิดแต่ด้วยความสามารถของหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษในตอนนี้ได้สร้างความเชื่อใจจนทั้งคู่กลายมาเป็นคู่หูกัน...
ไม่เพียงแค่เป็นคู่หูแต่ยังเป็นคนรักอีกด้วย
เมื่อเห็นว่าไดโนเสาร์กลายพันธุ์สามารถช่วยจัดการกับไดโนเสาร์ได้ทางองค์กรเลยยินยอมที่จะให้สร้างไดโนเสาร์กลายพันธุ์รุ่นต่อๆไปขึ้นมาโดยมีหัวหน้าหน่อยปฏิบัติการพิเศษหรือไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่เป็นคนดูแลและควบคุมควบคู่ไปกับดร.ฟรานซิส เบนซ์ ฟงเซ่ที่เป็นบิดาจนให้กำเนิดเหลาไดโนเสาร์กลายพันธุ์มาหลายต่อหลายรุ่น
ถึงจะมีการให้กำเนิดไดโนเสาร์กลายพันธุ์มามากมายแต่มีเพียงรุ่นที่3เพียงคนเดียวที่แตกต่างออกไปเพราะร่างไดโนเสาร์นั้นออกมามีรูปร่างคล้ายกับมังกรและสามารถบินได้ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษพร้อมด้วยคนรักหรือคู่หูจึงรับเด็กคนนั้นมาเลี้ยงจนเติบใหญ่ด้วยความรักและเอาใจใส่อย่างดีโดยตั้งชื่อให้ว่า ‘อานโน่’
นั่นคือเรื่องราวทั้งหมดก่อนจะกลับมายังปัจจุบันที่ไดโนเสาร์กลายพันธุ์ขนาดใหญ่สยายปีกสีเงินออกกว้างอยู่บนท้องฟ้ายามรุ่งอรุณพร้อมกับเหล่าฝูงนกตัวน้อยใหญ่ด้วยความสงบ...
“อานโน่!!!”
ซะที่ไหน
เสียงเรียกนั้นทำให้ผมซึ่งเป็นเจ้าของชื่ออาคริว เบนซ์ ฟงเซ่หรือชื่อเล่นที่คนด้านล่างตั้งให้ว่าอานโน่ก้มลงไปมองยังพื้นดินด้านล่างที่มีร่างของไดโนเสาร์กลายพันธุ์สูงกว่า9เมตรที่ได้ชื่อว่าพ่อวิ่งตามมาด้วยความเร็วที่สูสีกันพร้อมกับชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าแม่เกาะอยู่ที่ส่วนหัวพร้อมจ้องมาทางนี้เขม็ง
‘อานโน่...รีบลงมาก่อนที่แม่จะโกรธดีกว่านะ’เสียงเตือนของไดโนเสาร์ด้านล่างดังขึ้นพร้อมกับเสียงแม่ที่ตะโกนเรียกไม่หยุด
“อานโน่!...ลงมาเดี๋ยวนี้นะ!”
จากที่ฟังน้ำเสียงก็พอรู้ว่าคงจะเริ่มโกรธแล้วถ้าปล่อยไว้คงไม่ดีแน่ เมื่อคิดได้ผมเลยค่อยๆลดความเร็วในการบินลงพร้อมกับค่อยๆเอาร่างลงสู่ผืนดิน...ไม่นานไดโนเสาร์กลายพันธุ์ตัวใหญ่ก็วิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าก่อนจะกลับร่างมนุษย์ตามเดิม
เส้นผมสีเทาปนส้มที่สยายออกกับใบหน้าหล่อคมนั่นทำให้ผู้หญิงมากมายเห็นเป็นต้องหลงแต่ด้วยความที่พ่อรักเดียวใจเดียวกับแม่เลยไม่มีท่าทีจะสนใจผู้หญิงคนไหนเลย
“อานโน่อย่าออกมาโดยไม่บอกสิ แม่เป็นห่วงนะ”ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าแม่บอกพร้อมเดินมาหาด้วยแววตาโกรธๆ
“...ขอโทษครับแม่”ดวงตาสีเขียวอมฟ้าสีสวยนั่นดูขุ่นเคืองมากจนต้องรีบเอ่ยขอโทษ
“จะไปไหนเหรอ?”เขาถามต่อพรางมองไปยังทิศที่ผมบินไป
“ไม่มีที่ที่อยากไปหรอกครับ...ผมแค่อยากออกกำลังกายเท่านั้นเอง”
“แบบนั้นก็ควรจะบอกก่อนนะ...พอเข้าไปในห้องแล้วไม่เจอลูกรู้ไหมว่าแม่ตกใจแค่ไหน?!”
“ครับ...คราวหน้าไม่ทำแล้ว...ว่าแต่ครั้งนี้กลับเร็วจังเลยนะ”ผมถามทั้งคู่
ถือเป็นเรื่องแปลกมากที่ทำภารกิจเสร็จเร็วขนาดนี้...พวกเขาพึ่งไปเมื่อเย็นวานเองนะ
อ้อ...ผมยังไม่ได้แนะนำพ่อแม่ตัวเองเลยนี่นะ
ขอแนะนำสักหน่อยละกัน...
แม่ของผมเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษขององค์กรดอร์วู ไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่ ชายหนุ่มที่มีทั้งความฉลาดและความสามารถทางด้านการเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ ทันทีที่จบปริญญาเอกก็มาทำงานกับผู้เป็นบิดา ฟรานซิส เบนซ์ ฟงเซ่หรือคุณปู่ผมนั่นเอง
ในตอนแรกที่รู้จักกันแม่ไม่ยอมให้เรียกว่าแม่แต่พอผ่านไปสักพักเขาก็ยอมโดยดีจนตอนนี้แทนตัวเองว่าแม่เวลาพูดกับผมแล้ว
สำหรับพ่อ...เขาเป็นไดโนเสาร์กลายพันธุ์รุ่นทดลองที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้นอกจากแม่ของผม ดูภายนอกอาจเป็นคนเย็นชาและน่ากลัวแต่ในความเป็นจริงพ่อน่ะใจดีกว่าแม่อีก ตามใจผมสารพัดจนโดยบ่นไม่รู้ตั้งเท่าไหร่
อย่างที่บอกไปทั้งคู่นอกจากจะเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษแล้วยังเป็นบุคคลระดับสูงที่แทบไม่มีเวลาอยู่ติดห้อง...อย่างวันก่อนเห็นว่ามีไดโนเสาร์หลุดและเป็นเคสที่ยากจนถึงต้องเรียกทั้งพ่อและแม่ไป
ทั้งที่คิดว่าอีกสักพักกว่าจะกลับแต่ทำไมวันต่อมาก็มาซะแล้วก็ไม่รู้
อุตส่าห์จะบินออกไปไกลๆหน่อยเชียว
“งานที่ไปไม่ได้ยากอย่างที่คิดน่ะเลยเสร็จเร็ว...จริงสิ...พี่ลาเมียเธอบอกกับแม่ว่าลูกไม่ยอมรับคู่หูอีกแล้วใช่ไหม?”อีกเรื่องที่แม่ถามถึงทำให้ผมต้องถอนหายใจอย่างเซงๆ
พี่ลาเมียเป็นฝ่ายบุคคลากรที่มีหน้าที่จัดสรรคู่หู...ไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่ยังไม่มีคู่ก็จะถูกฝ่ายนี้คอยช่วยหาคู่ให้โดยดูจากความสามารถ ไม่ก็ความพอใจของทั้งคู่เป็นหลัก การจะหาคู่หูให้นั้นเป็นงานยากเพราะถ้าเลือกคนที่ไม่สามารถเข้ากันได้ก็จะเป็นปัญหา...สำหรับผมก็ถูกเรียกให้ไปเจอคนที่จะมาเป็นคู่หูหลายรอบแล้วแต่ทุกครั้งผมก็จะปฏิเสธไป
“ใช่ครับ”
“ทำไมล่ะ?...นี่กี่คนแล้วที่ลูกไม่ยอมรับให้พวกเขาเป็นคู่หู”
“...อาจจะ10คนแล้วมั้งครับ”ผมนับใจในก่อนตอบไป
“ไม่ใช่...13คนต่างหาก...คนที่ลูกปฏิเสธน่ะมีหลายคนที่มีความสามารถระดับแนวหน้าเลยนะ...ลูกจะไม่คิดดูใหม่หน่อยเหรอ?”
“...”คำถามของแม่ทำให้ผมก้มหน้าลงเพื่อคิดไตร่ตรองอีกรอบ
การที่ไม่ยอมรับคู่หูคนใหม่ไม่ใช่เพราะไม่อยากได้แต่ผมคิดว่าการที่จะเป็นคู่หูกันได้ก็ต้องมีความเข้ากันได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแต่ทุกคนที่จะมาเป็นคู่หูนั้นกลับดูไม่ใช่เท่าที่ควร ไม่ว่าใครก็ตามที่จะเข้ามาเป็นคู่หูผมมักจะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือต้องการจะขี่หลังผม
ด้วยความที่ร่างไดโนเสาร์นั้นคล้ายคลึงกับมังกรมากทำให้หลายคนต้องการให้ผมเป็นคู่หูเพื่อความอยากเด่นอยากดัง จริงอยู่ที่ระบบการรับคนนั้นคัดเลือกที่ความสามารถแต่นั่นก็เป็นตอนที่แม่เป็นคนดูแลด้วยตัวเองไม่เหมือนกับในตอนนี้ที่ใครๆก็เข้ามาได้ขอแค่ฝ่ายการทดสอบและไดโนเสาร์กลายพันธุ์อย่างพวกเรายอมรับก็พอ
ผมไม่ชอบให้ใครมาขี่หลังและที่ไม่ชอบกว่าคือมนุษย์ที่ชอบเสแสร้งและโกหกกันอยู่ตลอด...เวลาที่มนุษย์โกหกมันดูออกง่ายมากจนน่ากลัวเลยล่ะ
ถ้าแค่เจอหน้าแล้วเริ่มด้วยการโกหกต่อไปมันจะเหลือความจริงใจอะไรล่ะจริงไหม?
นั่นทำให้ผมไม่เลือกใครเป็นคู่หูสักที
เพราะไม่มีคู่หูเลยไม่ได้ออกไปปฏิบัติภารกิจเหมือนคู่อื่นๆ
“...พวกเขาทำให้ผมไว้ใจไม้ได้”นี่คือคำตอบเดียวที่คิดได้
เส้นผมสีเงินแซมน้ำเงินสะบัดไปตามแรงลมทำให้ผมต้องรวบเส้นผมของตัวเองไว้พร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปสบกับดวงตาสีสวยตรงหน้าอย่างจริงจังเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าสิ่งที่พูดออกไปมันคือความจริง
“...เข้าใจแล้ว...ในเมื่อลูกยังไม่เจอใครงั้นแม่มีข้อเสนอ”
“อะไรครับ?”
“ลองไปเรียนที่มหาวิทยาลัยที่แม่จบมาไหม?”
“มหาวิทยาลัย?”หมายสถานที่ที่มีคนอายุน้อยไปศึกษาเล่าเรียนในสาขาที่ตนสนใจน่ะเหรอ?
ก็เคยได้ยินมาบ้างแต่ไม่เคยไปเห็นของจริงสักครั้ง
ตั้งแต่เกิดมาก็อยู่แค่บนเกาะนี้มาตลอด...แม่บอกว่าเมื่อถึงเวลาจะได้ออกไปเอง
“ใช่...ลองไปทำอะไรใหม่ๆและเรียนรู้ที่จะเข้าใจมนุษย์ดู”
“เข้าใจมนุษย์...”
“แม่พอจะรู้เหตุผลที่ลูกไม่ยอมรับคู่หูคนไหน...มนุษย์ทุกคนไม่ได้ดีไปหมดทุกอย่าง...ไม่มีใครที่จะเป็นคนในอุดมคติหรอกแม่เลยอยากให้อานโน่ลองไปพิสูจน์ด้วยตัวเองว่ามนุษย์เป็นยังไงกันแน่”
“แล้วทำไมต้องเป็นมหาวิทยาลัยด้วย?”ถ้าแค่ไปเรียนรู้เกี่ยวกับมนุษย์ไม่เห็นต้องไปที่นั่นเลย
“ที่นั่นปลอดภัยมากพอที่แม่จะให้อานโน่ไปได้...แม่ไม่ไว้ใจที่จะให้ลูกไปไหนคนเดียวนักและพวกเราก็ไม่มีเวลาไปรับส่งลูก...เลยคิดว่าถ้าให้อยู่หอพักในมหาวิทยาลัยคงไม่เป็นไร”แม่อธิบาย
“...อืม...ผมจะลองไปดูก็ได้”ผมใช้เวลาคิดสักพักก่อนจะตอบไป
“จริงเหรอ?”
“ครับ...อยากรู้ว่าในที่ที่แม่เคยอยู่มันจะเป็นยังไง”
“เดี๋ยวแม่จะไปจัดการพวกเอกสารให้นะ”แม่ทำหน้าดีใจมากจนผมต้องยิ้มตามแล้วหันไปมองพ่อที่จ้องมาด้วยรอยยิ้มเหมือนกัน
มนุษย์คนเดียวที่ผมกล้าใช้คำว่าไว้ใจคงมีแต่แม่เท่านั้น...
อาจมีพวกพี่โน่ว่าที่สนิทแต่ก็ไม่ได้ไว้ใจเท่ากับแม่...
ดังนั้นถ้าได้ไปยังสถานที่ที่แม่เคยอยู่ผมอาจจะได้เจอก็ได้นะ...
คู่หูน่ะ
...................................................................................
สวัสดีค่ะ
มาลงบทนำให้ก่อนเป็นการเรียกน้ำย่อย
จากที่อ่านหลายๆคนคงเดากันได้แล้วว่าเรื่องนี้สถานที่หลักจะอยู่ที่ไหน
อย่างที่บอกไปว่าภาคนี้จะให้อารมณ์ที่ต่างจากยูเซอยู่พอสมควร...เรียกว่าเนื้อเรื่องจะเด็กลงมานิดหน่อยค่ะ
ขอฝากนิยายเรื่องใหม่ไว้ในอ้อมกอดของทุกคนด้วยนะคะ
มารอลุ้นกันได้เลยค่ะว่าใครกันหนอจะมาเป็นพระเอกของเรื่อง~
มีใครพอจะเดาเนื้อเรื่องกันออกไหมเอ่ย? 55+
ไว้เจอกันใหม่ในตอนต่อไปค่ะ^^
บ๊ายบายค่ะ
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
แจ้งข่าวเปิดพรีเล็กน้อยค่ะ
รายละเอียดตามภาพเลยน้าา
(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/37055/660687557-member.jpg)
หากสนในสามารถสั่งได้ที่>>https://goo.gl/kG7bde
ฝากผลงานของเราด้วยน้า
...................................................................................
• •* หาคู่*• •ตอนพิเศษ “ทะเลาะ?”
การทำงานภายใต้องค์กร Dinosaur World Organization หรือดอร์วูนั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับไดโนเสาร์กลายพันธุ์อย่างผมที่เจอมาตั้งแต่จำความได้แม้จะมีหลายคนที่บอกว่าเป็นหนึ่งในองค์กรที่วุ่นวายมากซึ่งก็จริงอย่างที่ว่า...
“ม่ายยยยยยย!!”เสียงตะโกนของชายที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งการคืนชีพดร.ฟราซิส เบนซ์ ฟงเซ่พ่วงด้วยตำแหน่งหัวหน้าของฐานหนึ่งดังขึ้นทำเอาเชสที่เดินมาข้างๆถึงกับหันควับไปมองอย่างตกใจ
ตอนนี้ผมกำลังพาเชสมาทัวร์ภายในฐานหนึ่งที่แสนคุ้นเคยจากการวิ่งเล่นมาตั้งแต่เด็กๆ...จำได้ว่ามีครั้งหนึ่งที่ต้องเข้าไปช่วยดร.ฟรานซิสหรือคุณปู่ในห้องวิจัยเนื่องจากโดนจองหนังสือทับจนขยับตัวไปได้ ถือเป็นโชคที่ผมอยู่แถมพอดีเลยเข้าไปช่วยได้ถ้าเป็นมนุษย์ปกติคงไม่ได้ยินเสียงเรียกเบาๆนั่นหรอก
“เรื่องปกติน่ะ”ผมบอกคนข้างกายโดยที่เดินกลับไปหาอีกฝ่ายที่ยืนนิ่งหันไปมองที่มาของต้นเสียงอยู่
“เรื่องปกติ?...เกิดอะไรขึ้น”
“ก็คงมีไม่กี่อย่างหรอก”ถ้าไม่ถูกกองงานวิจัยหรือหนังสือทับก็คง...
“ฉันจะไม่อาบน้ำเด็ดขาด!!”เสียงตะโกนเดิมเพิ่มเติมคือร่างในชุดเสื้อกราวสีขาวหม่นวิ่งมาตามทางเดินอย่างสุดชีวิตราวกับกำลังหนีไดโนเสาร์กินเนื้อก็ไม่ปาน
“คุณปู่”ผมเรียกชายที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งการคืนชีพเสียงเรียบ
อย่างที่คิดเลย...ถ้าไม่ได้ถูกกองหนังสือทับก็มีแค่ถูกบังคับให้อาบน้ำ
ไม่รู้ว่าจะกลัวอะไรนัก
“อานโน่?...โอ้ว...หลานรักช่วยปู่ด้วย”คุณปู่ที่กำลังวิ่งหน้าตั้งเบรกจนรองเท้านั่นเกือบไฟลุกก่อนจะเลี้ยววิ่งตรงเข้ามาหาผมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“คุณปู่เหรออานโน่...แปลว่า...”เหมือนเชสจะไม่แน่ใจว่าคนที่ดูท่าทางไม่เต็มตรงหน้าจะเป็นชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งการคืนชีพ
จะให้เชื่อง่ายๆเลยก็คงไม่ใช่...จากท่าทางที่คุณปู่แสดงออกดูเหมือนจะเพี้ยนๆ ซึ่งก็เพี้ยนจริงแต่ถ้าพูดเรื่องการทำงานหรือการวิจัยเขาจะกลายเป็นคนละคนทันที
ก็จริงอย่างที่มีคนพูดไว้ว่าอัจฉริยะมักไม่เต็ม
หมับ!
“หลานปู่...คิดถึงมากเลย”ปู่กระโดดกอดผมเต็มแรงด้วยความคิดถึง
“...ครับๆ...”ตอนนี้ผมทำได้เพียงเบนหน้าหนีเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดเท่านั้น
กลิ่นเหม็นหืนออกเปรี้ยวๆนี่ทำเอาผมแทบขาดใจตาย
ทำไมไม่มีใครเอาเสื้อกราวนี่ไปซักแล้วเทน้ำยาปรับผ้านุ่มสักสิบลิตรก่อนจะตามด้วยหัวน้ำหอมอีกสักสามขวดกันนะ...กลิ่นขนาดนี้นี่ไม่ไหวจริงๆ รู้สึกจะมากกว่าครั้งสุดท้ายที่เจอกันด้วย
เสื้อกราวนี่ถือเป็นขีปนาวุธได้เลย...ถ้าโยนเข้าไปหาไดโนเสาร์อาจมีสลบก็เป็นได้
“มาหาปู่สินะ”พอปู่กอดผมจนพอใจแล้วก็ถามขึ้นด้วยรอยิ้ม
“...เปล่าครับ”
“...”ปู่ที่ได้ยินถึงกับเบิกตากว้างก่อนจะทำหน้าเศร้าจนผมรู้สึกผิด
“เอ่อ...ปู่ครับ...”
“ไม่ได้มาหาปู่เหรอ...นั่นสินะ...ขนาดลูกชายสุดที่รักยังเอาแต่ไปทำภารกิจจนลืมพ่อตัวเองไปแล้วจะหวังให้หลานมาหาคงจะมากไปสินะ...”
“ปู่ครับ...คือ...”เอาไงล่ะ...เล่นทำหน้าเศร้าแบบนี้จะให้อธิบายยังไงดี
“ไม่เป็นไรปู่เข้าใจ...หลานก็เหมือนแม่ที่มีงานต้องทำ...ไม่มีเวลามาหาคนแก่ๆแบบนี้หรอก”พูดจบก็ทำท่าปาดน้ำตาโดยใช้ชายเสื้อกราวอันแสนสกปก
“ไม่ใช่นะครับ...จริงอยู่ที่แม่ทำงานหนักแต่ก็คิดถึงปู่อยู่เสมอนะ...ผมเองก็คิดถึงปู่เหมือนกัน”
“จริงเหรอ?”
“ครับ...วันนี้ผมพาคู่หูมาเดินดูฐานหนึ่ง...คิดอยู่ว่าขากลับจะพาไปหาปู่เพราะงั้นอย่างเศร้าไปเลยนะครับ”ผมรีบอธิบายต่อเมื่อเห็นว่าปู่มีท่าทีอ่อนลง
ที่พูดไปไม่ได้โกหกสักนิด...ยังไงผมก็ตั้งใจว่าจะพาเชสไปแนะนำให้คุณปู่รู้จักอยู่แล้ว
“งั้นเองเหรอ สมแล้วที่เป็นหลานรักของปู่...อานโน่!!”คุณปู่คว้าตัวผมเข้าไปกอดแน่นอีกครั้งด้วยความดีใจจนน้ำตาลคลอ
แม้จะอายุมากแล้วแต่นิสัยเด็กๆนี่ยังไม่หายสักทีนะ
“ครับๆ...ว่าแต่หนีใครมาครับ?”ผมถามต่อพลางมองไปยังทางเชื่อมที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนหลายคนวิ่งมา
“ก็พวกเจสน่ะสิ...ไม่รู้ทำไมวันนี้ถึงคิดจะลากปู่ไปอาบน้ำทั้งที่พึ่งอาบไปแท้ๆ”ปู่อธิบายด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“พึ่งอาบนี่...เมื่อไหร่ครับ”ผมถามเสียงนิ่งเพราะไม่มีว่าคำว่าพึ่งของคนตรงหน้าจะหมายถึงเมื่อวานเหมือนอย่างมนุษย์ปกติ
“ก็...เมื่อเดือนก่อน”ทันทีที่คำตอบดังขึ้นเชสที่อยู่ข้างๆถึงกับขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
ก็นะ...ขนาดในประเทศฝรั่งเศสอันหนาวเหน็บที่อาบน้ำนานๆครั้งยังไม่นานถึงเดือนเลยแต่ในเขตอบอุ่นออกแนวร้อนแบบนี้การไม่อาบทุกวันถือเป็นเรื่องแปลก
“ปู่ครับ...ผมบอกแล้วนะว่าไม่อาบน้ำได้แต่ไม่ควรเกินสามวัน”ผมพูดพลางชูสามนิ้วขึ้นมา
ตอนเด็กๆที่ถูกฝากไว้กับปู่นั้นมีหลายครั้งที่ผมต้องบังคับให้เขาอาบน้ำ...แน่นอนว่าการทำแบบนั้นมันไม่ง่ายสักนิดกว่าจะยอมอาบแต่ละครั้งผมก็เกือบหมดความอดทนเขวี้ยงปู่ของตัวเองลงน้ำไปหลายรอบ
“...ก็มัน...”
“ไม่ต้องมาก็มันเลย...ไม่ต้องทำหน้าหง๋อยด้วย”ถึงจะทำหน้าแบบนั้นก็ไม่ใจอ่อนหรอกนะ
เหม็นขนาดนี้ผมอาจตายได้ถ้าขืนอยู่ใกล้นานกว่านี้
“แต่...”
“คุณฟรานครับ!”เสียงตะโกนของเหล่าคนที่ตามมาดังขึ้นก่อนจะตีวงล้อมเจ้าของชื่อจนหมดทางหนี
“ไม่ๆๆๆ...ขออีก10วันฉันจะยอมอาบเลย”ปู่พยายามต่อรอง
“ไม่ได้ครับ...แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้ว...รีบไปอาบเดี๋ยวนี้เลย”พี่เจสบอกก่อนจะคว้าแขนปู่มาจับไว้แน่นไม่ให้หนีไปไหน
พี่เจสนี่เป็นหนึ่งในผู้ช่วยวิจัยของปู่...ด้วยความสามารถอันโดดเด่นทำให้ถูกเรียกตัวมาทันทีที่จบปริญญาเอกด้านวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังของอเมริกา
“ม่ายยยย~”
“ปู่ครับ”ผมเดินเข้าไปใกล้คนที่กำลังถูกลากนิ่งๆ
“อานโน่...ช่วยปู่ด้วย”ถึงจะขอแบบนั้นแต่เรื่องนี้เท่านั้นที่ผมช่วยไม่ได้
ขอโทษนะปู่
“ปู่ไม่อยากรู้จักคู่หูผมเหรอ”ผมเปลี่ยนเรื่องเพราะรู้ว่าการที่จะทำให้ปู่อาบน้ำได้โดยสมัครใจคือการหาสิ่งที่ปู่สนใจมาเป็นตัวล่อ
“คู่หู...ของอานโน่? จริงสิ...เซโครก็บอกอยู่ว่าเป็นคนที่มีความสามารถแถมยังมีความรู้หลายด้านไม่ว่าจะเป็นการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์”ใบหน้าที่เริ่มมีความสนใจนั่นทำเอาผมอยากจะร้องเยสออกมาดังๆเลย
ปู่สนใจเรื่องเชสแล้ว
“ใช่ๆ เชสน่ะเก่งมากเลย ปู่ต้องคุยกับเขาถูกคอแน่ๆ...แต่ก่อนหน้านั้นควรจะไปอาบน้ำก่อนนะ”
“ทำไมล่ะ”
“มันเป็นมารยาทนี่...ปู่เคยสอนไม่ใช่เหรอว่าการพบกันครั้งแรกต้องสร้างความประทับใจให้ได้น่ะ”
“...ก็ใช่”
“เนอะ...เดี๋ยวผมไปรออยู่ที่ห้องปู่...เพราะงั้นรีบไปอาบน้ำเถอะ”ผมบอกออกไป
“...ก็ได้”คำตกลงที่ได้ยินเรียกร้อยยิ้มจากรอบข้างได้หมดทุกคน บางคนถึงขั้นน้ำตาคลอเลยก็มี
ผมว่าพวกเขาต้องวิ่งไล่จับมาหลายชั่วโมงแล้วแน่ๆ...ถ้าขืนปล่อยให้วิ่งไล่กันแบบนี้ต่อไปงานของฐานหนึ่งคงไม่เดินพอดี
“ไว้เจอกันนะครับ”ผมยกมือโบกลาปู่ที่ถูกประกบไปห้องน้ำด้วยรอยยิ้ม
“...อานโน่”
“หื้อ?...ทำหน้าซะเครียดเลยนะ”เมื่อหันไปหาเชสก็เห็นว่าอีกฝ่ายยกมือขึ้นมาเสยเส้นผมสีน้ำตาลอย่างเครียด ใบหน้านั่นก็ตึงๆเหมือนพึ่งผ่านการอบรมอันยาวนานกว่า15ชั่วโมงโดยไม่พัก
“นั่นคือพ่อของคุณเซโครจริงๆสินะ”เชสถามย้ำ
“ใช่ ฟรานซิส เบนซ์ ฟงเซ่...บิดาแห่งการคืนชีพคนนั้นแหละ”
“เขาดู...ไม่ค่อยเหมือนคุณเซโครเท่าไหร่”
“คิก...นายเอาปู่ไปรวมกับแม่ไม่ได้หรอกนะ”
“ทำไมล่ะ”เชสถามต่อทันที
“พวกเขามีสิ่งเดียวที่เหมือนกันคือมีความคิดและสมองอันฉานฉลาดแต่นอกนั้นน่ะ...ไม่เหมือนเลยสักนิดเดียว”แม่เป็นคนใจเย็น จะวิเคราะห์สถานการณ์รอบด้านอย่างรอบคอบผิดกับปู่ที่มักไม่คิดให้ดี ยิ่งเวลามีอะไรสนใจก็มักจะเอามารวมกันไปหมดอย่างพ่อที่เป็นไดโนเสาร์กลายพันธุ์รุ่นทดลองหรือแม้แต่ผมเองก็เหมือนกัน
ผมไม่ได้คิดจะว่าปู่แต่ต้องขอบคุณด้วยซ้ำที่ทำให้ผมมีอาวุธที่ไดโนเสาร์กลายพันธุ์คนอื่นไม่มี
“ดูจากที่เห็นก็คงงั้น”
“ฉันจะพาเดินไปรอบๆก่อนแล้วค่อยไปห้องปู่กัน”ผมเปลี่ยนเรื่องก่อนจะเดินนำเชสไปอีกครั้ง
“ได้”
จากนั้นผมก็พาเชสเดินทัวร์ตั้งแต่ชั้นใต้ดิน2ชั้นและชั้น1ที่เป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์กระดูกจนถึงชั้น5ที่เป็นมีไว้สำหรับการทดลองยาไม่ว่าจะเป็นยาสลบ ยาชาหรือยาพิษต่างๆ พวกยาที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษใช้ส่วนมากมาจากที่นี่ทั้งนั้นยกเว้นของแม่ที่ทำยาขึ้นมาด้วยความสามารถของตัวเอง…และจากนี้ก็คงต้องยกเว้นเชสด้วยเพราะจากที่ดูในการต่อสู้ที่ผ่านมาเขาก็ใช้ยาเฉพาะของตัวเองเท่านั้น
“...อานโน่”
“อะไร”ผมถามพลางนั่งลงบนโซฟาตัวยาวที่เต็มไปด้วยขยะ เอ้ย กองเอกสารงาวิจัยภายในห้องของหัวหน้าฐานหนึ่งหรือดร.ฟรานซิสนั่นเอง
“ก็พอรู้ว่าไม่ใช่คนรักสะอาด...แต่นี่ออกจะเกินไปหน่อยมั้ง”เชาบอกก่อนจะหยิบกางเกงขาวยาวสีขาวออกเหลืองที่วางอยู่บนโซฟาขึ้นมาด้วยใบหน้าที่บอกไม่ถูก
“นี่ยังน้อยไป...ส่งมานี่สิ”ผมยื่นมาไปรับกางเกงตัวนั้นพร้อมกับลุกขึ้นโยนมันใส่ตะกร้าที่วางด้านข้างตู้หนังสืออย่างแม่นยำโดยไม่ต้องมองหาสักนิด
รู้สึกว่าจะวางไว้ที่เดิมนะ
ไม่อยากบอกหรอกว่าตะกร้านั่นผมเป็นคนริเริ่มนำมาวางเองเมื่อสี่ปีก่อน ทั้งที่วางตะกร้าไว้ให้ใกล้ขนาดนี้ยังจะเดินมาถอดที่โซฟาอีกเหรอปู่
คิดแล้วก็อดเคืองไม่ได้
“นายเคยอยู่กับคุณฟรานเหรอ?”เชสถามก่อนจะนั่งลงข้างๆ
“อืม...แต่จะพูดว่าเคยก็ไม่ได้นานหรอก ประมาณว่าจะมาอยู่ด้วยเฉพาะตอนที่พ่อกับแม่ออกไปทำภารกิจ”
“อ้อ...นี่มัน...”น้ำเสียงของเชสที่เปลี่ยนไปทำให้ผมหันไปมองอย่างสงสัยก่อนจะเจอกับคู่หูพ่วงตำแหน่งคนรักกำลังหยิบเอกสารงานวิจัยที่วางกองอยู่ข้างโซฟาขึ้นมาอ่านอย่างสนใจ
“เชส?”
“เอกสารนี่เป็นการวิเคราะห์พิษของแมงป่องและสกัดออกมาใช้ประโยชน์ในด้านการรักษา...ไม่อยากเชื่อเลยว่าด้วยพิษของมันสามารถนำมาทำยาแบบนี้ได้”
“เอ่อ...”
“เอกสารนี่ด้วย...ข้อมูลของพืชมีพิษที่อยู่ในป่าลึก ไปหาข้อมูลมาได้ยังไงกัน”เชสตอนนี้เรียกว่าหมดความสนใจในตัวผมอย่างสิ้นเชิง ทั้งสองมือก็หยิบเอกสารงานวิจัยขึ้นมาอ่านเรื่อยๆโดยที่ดวงตาสีน้ำเงินเข้มนั่นก็ไล่อ่านข้อมูลเหล่านั้นด้วยความสนใจ
แกร็ก
“อานโน่...ปู่มาแล้ว!”เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมกับประตูห้อง
กลิ่นแรกที่สัมผัสได้คือความหอมจนผมต้องหันไปมองอย่างไม่เชื่อสายตาว่าชายกลิ่นหอมตรงหน้าจะเป็นปู่ที่ไม่ชอบการอาบน้ำเป็นชีวิตจิตใจ
“ติดกระดุมผิดเม็ดแล้วครับ”พูดจบผมก็ลุกขึ้นไปจัดการติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าให้ใหม่
ดูท่าจะรีบมาคุยกับเชสสินะ
“ขอบใจ...อ๊ะ...เธอใช่ไหมกลาเช่ เฟวรีเย่”ทันทีที่ติดกระดุมเสร็จปู่ก็เดินเข้าไปหาเชสที่ตั้งหน้าตั้งตาอ่านงานวิจัยอยู่
“ครับ...คุณฟรานคือผมมีข้อสงสัยอยู่ ขอถามได้ไหมครับ”
“ได้สิ อะไรล่ะ”
“คือเอกสารนี่บอกไว้ว่าการผสมยีนสองชนิดเข้าด้วยกันจะทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านได้และเมื่อเกิดการต่อต้านยีนทั้งสองชนิดก็จะไม่สามารถนำมาใช้ได้ แต่ตรงนี้มีที่เขียนด้วยลายมือเหมือนจะบอกว่ามีวิธีใช่ลายมือคุณรึเปล่าครับ”
“ใช่ๆ...สนใจเรื่องการผสมยีนด้วยเหรอ”ปู่ถามกลับไป
“ครับ...พอได้อ่านแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจดี”เชสตอบกลับ
“เยี่ยมเลยๆ งั้นฉันจะอธิบายให้ฟังนะ”
“ได้เหรอครับ”ถึงตรงนี้เชสก็ตาลุกวาวด้วยดีใจ
“แน่นอน...เริ่มจากการผสมยีนใช่ไหม”
“ครับ”
“ถ้าจะผสมโดยไม่ให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านเราก็จำเป็นต้องมีตัวเชื่อมยีนทั้งสองเข้าด้วยกันโดยดูความเหมาะสมเป็นหลักอย่าง...”ปู่นั่งลงที่โซฟาข้างเชสก่อนจะเริ่มอธิบายในสิ่งที่ผมเคยได้ฟังมาก่อน ทั้งที่คิดว่าเชสคงจะขมวดคิ้วอยู่แน่แต่เชสกลับไม่ใช่อย่างนั้นเพราะตั้งใจฟังมากแถมยังพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจอีก
ก็รู้ว่าอีกฝ่ายมีความรู้ด้านนี้อยู่พอสมควรแต่ไม่คิดว่าจะมากถึงขนาดฟังสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์อย่างปู่พูดได้ทุกคำ ขนาดผมบางทียังมีไม่เข้าใจในคำพูดพวกนั้นเลย
การสนทนาของทั้งคู่ใช้เวลาไปมากกว่าสองชั่วโมงแต่ก็ยังไม่จบ ผมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยก็เดินดูรอบๆห้องโดยมือข้างหนึ่งก็หยิบกองเสื้อผ้าที่ถอดกองไว้โดยใส่ตะกร้าละอีกมือก็จัดการหยิบหนังสือเล่มหนาจัดเข้าชั้นไปเรื่อยๆ
ห้องอันสกปรกตอนนี้ค่อยๆกลับมาเป็นห้องที่สะอาดขึ้นทีละน้อย ขั้นสุดท้ายของการทำความสะอาดคือการกวาดถูห้องซึ่งก็เสร็จเรียบร้อย
อ่า...กลิ่นอับๆของห้องหายไปแล้ว
ดีจริงๆ
“...แล้วก็นะถ้าเรานำสารที่เป็นตัวเร่งหยดใส่ลงในนั้นละก็...”
“จะเกิดเป็นสารใหม่ที่มีความทนทานสูง”เชสพูดแทรกสิ่งที่ปู่กำลังจะพูด
“ใช่แล้ว...เธอนี่เก่งจริงๆเลยนะ จบวิทยาศาสตร์มาเหรอ”
“เปล่าครับ...ผมจบบริหาร”
“จริง?...เด็กบริหารเก่งวิทยาศาสตร์ขนาดนี้เลย”ปู่ดูตกใจที่เชสไม่ได้จบด้านวิทยาศาสตร์มาอย่างที่คิด
ไม่ว่าใครก็คงตกใจทั้งนั้นแหละ...ด้วยความรู้ที่เชสมีดูยังไงก็ไม่เหมือนคนที่จบบริหาร
“ผมสนใจน่ะครับ...ตอนนี้วิทยาศาสตร์ก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยผมในการปฏิบัติภารกิจ”เชสอธิบายต่อ
“จะว่าไปเห็นว่าเป็นคู่หูที่มีความสามารถระดับแนวหน้าเลยนี่”
“ก็ไม่ขนาดนั้น...ผมยังมีเรื่องต้องเรียนรู้อีกเยอะ”
“ไม่ใช่มั้ง...อานโน่ คู่หูของหลานเป็นยังไงบ้าง?”ปู่หันมาถามผมบ้าง
“เชสเหรอ ว่าไงดีล่ะ...เขาก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแหละ”ผมตอบปู่
“งั้นบอกปู่หน่อย”
“ปู่จะรู้ไปทำไมล่ะ”ไม่จำเป็นต้องรู้สักหน่อย
“ก็อยากรู้นี่...เชสก็อยากรู้เหมือนกันใช่ไหม”ปู่หันไปถามเชสต่อ ดวงตาสีน้ำเงินของเชสหันมามองผมเล็กน้อยเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่...
“ก็อยากรู้อยู่...ฉันมีข้อเสียอะไรอานโน่?”เชสถามต่อ แววตาที่มองมานั่นเต็มไปด้ยความสงสัย
ในเมื่อมีแต่คนอยากรู้ก็มีแต่ต้องสินะ
“บอกก็ได้...เชสเป็นคนที่มีความละเอียดรอบครอบสูง...อย่างการทำภารกิจจับไดโนเสาร์ เชสจะไม่เข้าไปจับไดโนเสาร์ทันทีแต่จะใช้เวลาสักพักเพื่อคิดแผนซึ่งนั่นก็ถือเป็นข้อเสียเพราะระหว่างที่กำลังคิดก็มีหลายครั้งที่ไดโนเสาร์วิ่งไปแล้ว”
“ที่ฉันต้องคิดก่อนก็เพราะไม่อยากให้นายต้องได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ต่างหาก”เชสพูดแทรก
“ฉันรู้น่า...แต่แค่บาดเจ็บนิดหน่อยฉันไม่เป็นไรหรอก”
“ถึงจะแค่นิดหน่อยแต่บางครั้งก็อาจเกิดการติดเชื้อได้...กันไว้ก่อนก็ดีกว่านี่”เชสเถียงกลับ
“ก็ไม่ได้บอกว่าที่นายทำผิดสักหน่อย...คนที่อยากฟังข้อเสียงของตัวเองคือนายนะเชส”ผมบ่นออกไป
“ชิ...”
“ไหนอานโน่ก็บอกข้อดีข้อเสียแล้วเชสลองบอกของอานโน่บ้างสิ”ปู่พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ห๊ะ?...ไม่ต้องก็ได้...”
“ดีเลย”ยังไม่ทันพูดจบอีกฝ่ายก็ทำหน้าพอใจก่อนจะส่งสายตามาบอกประมาณข้อเสียของผมมีสักร้อยข้อได้
เป็นสายตาที่น่าโมโหจนอยากกระโดดเข้าไปกัดคอซะจริงๆ
“อานโน่เป็นไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่มีทั้งไหวพริบและทักษะในการต่อสู้ดีกว่ามนุษย์ทั่วไปอยู่มากเพราะแบบนั้นเลยมักจะประมาทในช่วงก่อนปิดฉากการต่อสู้ทำให้เพี้ยงพร้ำได้ง่ายๆ”
“ไม่ได้ประมาทสักหน่อย...ก็รู้แล้วว่ายังไงก็ชนะไม่เห็นต้องคิดมากเลย”ผมสวนกลับหน้าตรึง
“แล้วถ้าเกิดไม่ชนะขึ้นมาล่ะ”
“ห๊ะ?”
“ถ้าในระหว่างที่นายอ่อนการป้องกันแล้วเกิดมีการพลิกสถานการณ์ขึ้นมาล่ะจะว่าไง”
“ไม่มีทาง...ต่อให้โดนพลิกฉันก็จะพลิกกลับให้ชนะจนได้แหละ”
“ถ้าไม่ประมาณแต่แรกก็คงไม่ต้องมาเสียเวลาพลิกสถานการณ์ไปมาหรอก”
“แล้วทีนายล่ะเชส...ภายนอกก็ดูเหมือนคนใจเย็นแต่เอาเข้าจริงก็ฟิวขาดได้ง่ายๆแถมยังชอบหาเรื่องเสี่ยงเจ็บตัวอีก”ผมไม่ยอมให้มาว่าอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ
“ใครหาเรื่องเจ็บตัวกัน...ทีนายยังใจร้อนมุทะลุแถมเอาแต่ใจจนทำเสียแผนมาเท่าไหร่แล้วล่ะ”
“ว่าไงนะ...นายก็เอาแต่รอจนเสียโอกาสที่จะโจมตีไปตั้งเท่าไหร่”
“นายเองก็เอาแต่พุ่งชนจนบาดเจ็บมาไม่รู่เท่าไหร่เหมือนกันแหละน่า”
“เชส!”
“อานโน่!”
สุดท้ายพวกเราก็ตะโกนใส่กันเสียงดังลั่นพร้อมกับลุกขึ้นยืนจ้องหน้ากันอย่างเอาเป็นเอาตายโดยมีคุณปู่ที่พยายามยกมือขึ้นปรามพวกเราให้สงบลงแต่ด้วยอารมณ์ตอนนี้ไม่สงบง่ายนักหรอก
“จะหาเรื่องกันใช่ไหมเชส”
“นายนั่นแหละที่หาเรื่อง...อานโน่”เชสเองก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
“เอ่อ...อย่าทะเลาะกันเลยนะทั้งสองคน”ปู่บอกด้วยใบหน้าตื่นๆอย่างไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
“คนที่หาเรื่องทะเลาะก่อนก็เชสนั่นแหละ...ที่ฉันใจร้อนบุกเดี่ยวไปจัดการนั่นก็เพราะกลัวว่าถ้าปล่อยให้ไดโนเสาร์หนีไปได้เดี๋ยวเชสก็จะถูกว่าได้”พึ่งเข้ามาทำงานในหน่วยปฏิบัติการพิเศษได้ไม่นานการทำงานพลาดจึงเป็นสิ่งที่ไม่ให้เกิดขึ้นมากที่สุดแต่เจ้าตัวก็เอาแต่นิ่งโดยไม่รู้เลยว่าผมห่วงเขาขนาดไหน
“การที่ฉันใจเย็นก็ไม่ได้ว่าไม่สนใจสักหน่อย...การรีบร้อนทำภารกิจให้เสร็จๆไปมันอาจมีผลดีแต่ก็ทำให้นายต้องเจ็บตัวมากกว่าปกติด้วย เพราะฉันไม่อยากให้นายต้องเจ็บตัวถึงต้องคิดให้รอบครอบและรอโอกาสก่อนจะโจมตีไงเล่า”
“...”เสียงตะโกนในประโยคสุดท้ายทำให้พวกเราทำคู่ถึงกับนิ่งไปเพราะไม่คิดว่าสิ่งที่อีกฝ่ายคิดจะเป็นแบบนี้
ที่เชสทำแบบนั้นไปก็เพราะไม่อยากให้ผมเจ็บ
และที่ผมทำแบบนั้นไปก็เพราะไม่อยากให้เชสโดนว่า
พวกเราต่างคิดในสิ่งที่เหมือนๆกันเพียงแต่ได้ข้อสรุปออกมาคนละอย่างเท่านั้น
“เชส...”
“อานโน่...”เป็นอีกครั้งที่พวกเราต่างเรียกชื่อของกันและกันด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเมื่อครู่มาก
ทันทีดวงตาสีน้ำเงินเข้าที่สบกับดวงตาสีแดงอ่อนของผมนั้นไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใดๆอีก...พวกเราต่างรู้ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายคิดดี
จากใบหน้าที่ตึงๆเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มบางๆก่อนจะเป็นรอยยิ้มกว้างที่มาพร้อมเสียงหัวเราะที่นานๆทีจะได้ยินเชสหัวเราะแบบนี้
“ฮะฮะฮะ...พวกเรานี่ทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระชะมัด”ผมขำไปพูดไป
“หึ...นั่นสิ”
“อ่า...ดีกันแล้วสินะ”ปู่เองก็ยิ้มออกเมื่อเป็นว่าบรรยากาศเครียดเริ่มคลายตัวลง
“...ก็...ครับ”
“ได้คู่หูที่ดีมากเลยนะอานโน่”ปู่หันมาบอกด้วยรอยยิ้ม
“ครับ”ผมตอบกลับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
จากนั้นพวกเราก็อยู่คุยกับปู่กันพักใหญ่ก่อนจะขอตัวกลับไปพักที่ห้อง อาจถือว่าเป็นโชคดีที่ตลอดทั้งวันไม่มีโทรศัพท์เรียกให้ออกไปทำภารกิจ
แสงอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้าหายไปก่อนจะถูกแทนที่ด้วยแสงสว่างของพระจันทร์ที่ส่องสว่างตลอดการเดินกลับของพวกเรา ผมที่เดินตามหลังเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ทำเกือบเต็มดวงด้วยรอยยิ้ม...วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ทะเลาะจริงจังกับเชสแต่ถึงจะเรียกว่าทะเลาะแต่ก็คืนดีกันได้โดยไม่ต้องมีแม้คำขอโทษ
หมับ!
“เชส!”ผมกระโดดกอดคออีกฝ่ายจากด้านหลังก่อนจะเรียกชื่อเสียงดัง
“...เสียงดังน่า”ถึงจะทำเสียงไม่พอใจแต่เขาก็ขยับตัวให้ผมขึ้นไปขี่หลังดีๆ
“ไม่หนักเหรอ?”ผมถามพลางวางคางบนไหล่ของเชส
ตอนนี้เชสกำลังเดินกลับไปบ้านโดยที่มีผมขี่หลังอยู่ ครั้งแรกที่ได้ขี่หลังเชสทำเอารู้สึกใจเต้นแปลกๆเหมือนกัน
“หนัก”
“ลงก็ได้นะ”
“ไม่ต้อง”พอผมทำท่าจะลงอีกฝ่ายก็ส่งเสียงห้ามก่อนจะแกล้งโดยการหมุนไปรอบจนผมที่อยู่บนหลังต้องกอดคอเชสไว้แน่นเพื่อกันไม่ให้ตก
“พอ...พอแล้ว...ไม่ลงแล้ว!”ผมตะโกนบอกเสียงดังพร้อมหลับตาสนิท
“พูดแล้วนะ”
“ขี้แกล้ง”ผมบ่นเสียงเบา พอผมตกลงเชสก็กลับมาเดินตามปกติอีกครั้ง
“แล้วแกล้งไม่ได้?”อีกฝ่ายหันหน้ามาถาม
ดวงตาสีน้ำเข้มที่ถูกแสงจันทร์ส่องมากระทบนั้นยิ่งทำให้ดวงตานั้นดูน่าดึงดูมากกว่าเดิมหลายเท่า เพียงแค่ถูกดวงตานั้นมองหาหัวใจมันก็เต้นเร็วขึ้น...ไม่เพียงแค่นั้นยังขยับหน้าเข้าไปหาอีกฝ่ายราวกับโดนดึงให้เข้าไปหา
“...ยอมให้แกล้งได้คนเดียวแหละ”ผมตอบเสียงเบาโดยที่ดวงตายังประสานกับอีกฝ่ายอยู่
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไรก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ผมยอมให้...
“ลองให้คนอื่นสิ...โดนแน่อานโน่”เชสพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“โดนอะไรล่ะ”ผมถามทั้งที่พอรู้คำตอบ
“หึ...”สิ้นเสียงนั้นริมฝีปากของเชสก็หันมาประกบอย่างเชื่องช้า ไม่มีการลุกล้ำไม่มีแม้แต่การขบเม้มอย่างที่โดนเป็นประจำ
ทั้งที่จูบกันออกปล่อยแต่พอเป็นสัมผัสเบาๆนี่ก็ทำให้ผมแทบหยุดหายใจ
เป็นเหมือนการลงโทษที่แทบขาดใจจริงๆ
เขาก็รู้ว่าสำหรับผมแค่นี้มันไม่พอ...
“เชส...”
“ไม่พอรึไง”
“ก็รู้นี่...”
“ถ้าฉันไม่ทำล่ะ”เชสย้อนพร้อมยกยิ้มขึ้น
“ถ้านายไม่ทำ...ฉันจะทำเอง”พูดจบผมก็จัดการปิดปากเชสด้วยปากของผมเบาๆก่อนจะเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อลิ้นร้อนของเราสัมผัสกัน เชสที่บอกว่าจะไม่ทำตอนนี้กลับรุกเข้ามาอย่างหนักหน่วงจนผมแทบจะลายด้วยความรู้สึกดี
แต่จะให้รู้สึกดีฝ่ายเดียวก็ไม่ยอมหรอก
ผมจะไม่ยอมเป็นคนเดียวที่รู้สึกดี
คิดได้แบบนั้นผมก็รุกเชสกลับจนจูบนี้รุนแรงและร้อนรุ่มกว่าครั้งไหนๆที่เคยเป็น
หัวใจสองดวงเต้นปรานเป็นจังหวะเดียวกันอย่างน่าฟัง
เพียงแค่ได้ยินผมก็รู้ว่าเขาเองก็รู้สึกดีไม่ต่างจากผม
มนุษย์เพียงคนเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกเชื่อใจ
มนุษย์เพียงคนเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกหวั่นไหว
มนุษย์เพียงคนเดียวที่ยอมให้อย่างหมดหัวใจ
....................................................................................
แอบมาอัพตอนพิเศษพร้อมแจ้งข่าวพรีหนังสือเล็กน้อยค่ะ
ตอนพิเศษนี้ไม่มีอยู่ในเล่มค่ะ เราพึ่งแต่งมาสดๆเลย
รู้สึกคิดถึงทั้งคู่อยู่ไม่น้อย
หลังจากเรื่องนี้จบไปก็นานพอดูในที่สุดก็จะออกรวมเล่มแล้วค่ะ
ฝากอุดกนุนผลงานของเราด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า^^
ปล.ภายในปีนี้ภาค3จะมาแน่นอนค่ะ เตรียมรออ่านกันได้เลย!
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪