เก็บกระทู้ไว้ ------โมดุฯ
--------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
********************************************************************************************************
ปราบดาพิเศษ
(https://www.img.in.th/images/01a3aa097580c3d026187104d2fafc17.jpg)
“นี่มันก็ปี 2019 แล้วนะ กูยังต้องมานั่งทำของใส่ผู้ชายที่กูไม่ได้ชอบอีกหรอวะ”
(https://www.img.in.th/images/ba394c1d28a2309bae5cb965ea6894ba.jpg)(https://www.img.in.th/images/e649a148c71181fb4cd9fa2be361002b.jpg)
introduction (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70011.msg3963137#msg3963137)
ตอนที่ 1 ดาวเรืองดาวโรย (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70011.msg3964088#msg3964088)
ตอนที่ 2 ปราบดา ปีสาม วิศวะเครื่องกล (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70011.msg3965143#msg3965143)
ตอนที่ 3 Prabda and Tavin are now friends. (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70011.msg3965550#msg3965550)
ตอนที่ 4 อยากเหมาชุดบอลทั้งอำเภอให้เธอคนเดียว (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70011.msg3966403#msg3966403)
ตอนที่ 5 ผัดผักบุ้งหน้าแดง (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70011.msg3967421#msg3967421)
ตอนที่ 6 อย่าคราง (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70011.msg3968214#msg3968214)
ตอนที่ 7 ได้เสียเป็นเมียผัว (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70011.msg3968643#msg3968643)
ตอนที่ 8 น้องหน้าโง่ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70011.msg3969434#msg3969434)
ตอนที่ 9 โรคหัวใจกำเริบเลิฟ ละละเลิฟเลิฟเลิฟ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70011.msg3970806#msg3970806)
ตอนที่ 10 บ้านอัศวโยธิน (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70011.msg3975891#msg3975891)
#ปราบดาพิเศษ
twitter @medley0810
ตอนที่ 2
ปราบดา ปีสาม วิศวะเครื่องกล
P added you by QR code.
ผมส่งคิวอาร์โค้ดให้ปุ้ปพ่อปู่ก็แอดไลน์มาทันที สมัยนี้ฤาษีเล่นไลน์ได้ด้วยหรอวะแต่ช่างแม่งก่อนไหนขอดูหน้าพ่อปู่ฤาษีหน่อยซิจะเหมือนในหนังจักรๆวงษ์ๆช่องเจ็ดที่แม่ชอบดูป่าว
ผมกดเข้าไปส่องรูปโปรไฟล์แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะเขาไม่ได้ตั้งรูปอะไร แปลกๆนะครับรูปโปรไฟล์ก็ไม่ตั้ง สรุปกูกำลังดีลงานกับใครอยู่วะเนี่ย แต่ช่างแม่งครับได้เงินก็พอละสำหรับผมตอนนี้
P sent a photo.
P sent a photo.
P: อ่านและทำความเข้าใจดีๆผมเขียนไว้ในนั้นหมดแล้ว
P: สงสัยตรงไหนก็มาถาม
P: โชคดีครับ
ไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆพี่แกก็ส่งรูปที่เป็นรายละเอียดทั้งหมดมาให้ผมทันที
ผมรีบกดเข้าไปอ่านโดยสายตากูพยายามจะโฟกัสหาตัวเลขค่าจ้างรีวิวที่จะได้แล้วก็ต้องตกใจจนตาเหลือก
100,000 บาท
!!!!!!!!!!
เชี่ยยยกูตาฝาดปะเนี่ยไหนลองอ่านอีกที
ค่าจ้าง : ชิ้นละ 100,000 บาท
จำนวน 3 ชิ้น
รวม 300,000 บาท
เชี่ยยยย ตาผมไม่ฝาดว่ะแต่แม่งอำเปล่าวะแค่รีวิวตุ๊กตาหมาปลุกเสกโง่ๆแค่นี้ได้เงินตั้งเป็นแสน ผมไม่รอช้ารีบอ่านรายละเอียดที่แนบมา
สินค้าที่คุณจะต้องรีวิวให้กับทางเรามีอยู่ 3 อย่างด้วยกัน โดยทางเราจะส่งชิ้นแรกให้กับคุณก่อน เมื่อชิ้นแรกคุณทำสำเร็จแล้วจึงจะส่งชิ้นต่อไปให้คุณไปเรื่อยๆจนครบ เพราะเมื่อคุณทำครบทั้ง 3 อย่างแล้วของปลุกเสกถึงจะสัมฤทธิ์ผลอย่างเต็มที่
หมายเหตุ : ต้องใช้เครื่องรางนี้กับเป้าหมายที่เรากำหนดให้เท่านั้น!
โอ้โหทำไมอ่านแล้วดูแปลกๆ เป้าหมายแม่งต้องเจาะจงด้วยหรอผมงง งี้ก็เอาไปใช้กับน้องคิตตี้ดาวบัญชีไม่ได้ดิวะเซ็งเลยกู แล้วสรุปผมต้องรีวิวของตั้งสามอย่าง แค่ของชิ้นแรกยังปัญญาอ่อนขนาดนี้กูอยากรู้ว่าแล้วอะว่าอีกสองอย่างที่จะให้รีวิวคือไรทำไมมันไม่ส่งมาให้ผมทีเดียวเลยวะ
สินค้าที่ต้องรีวิว : ตุ๊กตาหมาปลุกเสกโดยพ่อปู่ฤาษีหนวดยาว 2 ตัว
วิธีใช้ :
1.พกตุ๊กตาหมาตัวนึงติดตัวไว้ตลอดเวลา
2.เอาตุ๊กตาอีกตัวไปให้กับเป้าหมายของคุณ ข้อนี้อาจจะยากหน่อยเพราะคุณต้องทำยังไงก็ได้เขายอมรับเอาไว้และพกติดตัวเหมือนกัน
3.เมื่อทำสำเร็จให้ทักไปบอกกับตัวแทนแล้วทางเราจะส่งของชิ้นถัดไปให้ เงินค่าจ้างจะได้รับเมื่อทำสำเร็จครบ 3 ทั้งอย่าง
เป้าหมาย : ปราบดา ปี 3 วิศวะเครื่องกล
ใครวะปราบดาไม่เห็นจะคุ้นชื่อแม่งเลย แล้วประเด็นคือเขาเป็นผู้ชายปะวะชื่อแมนขนาดนี้อะ แล้วกูก็ผู้ชายเหมือนกัน เราจะรักกันได้ยังไงอะไข่ย้อย ในหัวผมมีแต่เครื่องหมายคำถามจึงรีบทักกลับไปถามทันที
ten38: คุณครับ เป้าหมายเป็นผู้ชายหรอครับ
รอสักพักไม่ถึง 5 นาทีพี่แกก็ตอบกลับมา
P: ตามนั้นครับ สงสัยตรงไหน
ten38: คือ.. ผมก็ผู้ชาย มันจะดีเหรอครับ
ten38: ถ้าเขาไม่ชอบล่ะครับ
คือตัวผมเองอะไม่ได้ติดอะไรเท่าไหร่หรอก ยุคสมัยไหนแล้วผมไม่ได้ซีเรียสเรื่องเพศสภาพอะไรขนาดนั้น แต่พี่ปราบดาอะไรนี่ดิเขาจะคิดเหมือนผมปะเถอะ ถ้าเขาหัวโบราณขึ้นมากูไม่โดนกระทืบกลับมาเหรอวะ
P: ชอบ
ten38: หือ อะไรนะครับ?
P: ผมหมายถึงของมันดี
P: ยังไงเขาก็ชอบครับ
ten38: อ่อครับ
ten38: ให้ผมถ่ายคลิปรีวิวใช่ไหม
P: ไม่ต้อง
P: ห้ามถ่ายคลิป
แปลกๆอีกละ จ้างกูรีวิวแต่ไม่ต้องถ่ายคลิปคือยังไงวะ
ten38: แล้วผมต้องทำยังไงบ้าง
P: ไม่ต้องทำไร
P: ทำให้ชอบก็พอ
ten38: อ่อครับ แล้วของจะส่งมาวันไหนครับ
P: พรุ่งนี้
P: จะมีคนไปส่งที่คอนโด
ten38: รู้จักคอนโดผมด้วยหรอครับ
P is typing...
P: ใครๆก็รู้
P: แค่นี้นะผมมีงานอื่นต้องทำ
นี่คอนโดกูไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้วหรอแฮร์รี่ งงว่ะ นี่กูเกาหัวเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ตั้งแต่คุยมา แต่เอาเป็นว่าก็ตามนี้แหละครับผมมันคนง่ายๆอยู่แล้ว..
ง่ายเพราะกูร้อนเงินไง! เรื่องมากได้ที่ไหนอะ อีกอย่างคือไม่กล้าถามมากครับคุยด้วยละผมรู้สึกแปลกๆเหมือนมีรังสีอำมหิตยังไงไม่รู้ กลัวโดนแคนเซิลไงประเด็น เงินดีขนาดนี้ถ้าหลุดไปผมก็แย่ดิครับจะหาเงินจากไหนทันอะ ให้กูไปปั๊มบัตรจอดรถอีกนี่ไม่เอาแล้วนะ
เช้าวันจันทร์
ก๊อกๆ
z Z Z
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
เสียงใครแม่งมาเคาะประตูแต่เช้าวะ ผมสะลึมสะลือหันไปมองนาฬิกาที่ชี้บอกเวลาว่าพึ่งจะหกโมงมึงบ้าปะเนี่ย ผมคลานลงจากเตียงแล้วรีบเดินไปเปิดประตูทันทีเพราะแม่งเคาะรัวๆไม่หยุดเลย กูกลัวห้องอื่นจะเปิดประตูมาด่าพ่อเอา
พอเปิดประตูมาผมก็เจอกับผู้ชายตัวสูงๆคนนึงลักษณะดูแปลกๆ ไม่แปลกไหวหรอแม่งใส่หมวกใส่แมสปิดมิดชิดเห็นแค่ตาสองข้างพร้อมยื่นกล่องใบนึงมาข้างหน้า
ผมก้มหน้ามองกล่องที่เขียนแปะไว้สั้นๆว่า “เครื่องรางปลุกเสก” เป็นอันรู้กันว่าข้างในคือไอตุ๊กตาหมาอีเกียนั่นแน่นอนเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้
และทันทีที่ผมรับของมาพี่คนส่งของก็รีบวิ่งไปทันที เอ้าพี่ อะไรของพี่วะกูงง สงสัยรีบไปส่งของต่ออีกมั้ง
ผมกลับเข้ามาในห้องแล้วรีบเปิดกล่องดูอย่างไม่รอช้าก็พบว่าเป็นตุ๊กตาหมาอีเกียจริงๆครับ 2 ตัว หน้าตาก็เหมือนกับที่เคยเห็นแต่พิเศษตรงที่ปลุกเสกมาแล้วไงครับ นี่ไงความแตกต่าง ตื่นเต้นเลยกู
ผมหยิบแผ่นกระดาษที่แนบมากับตุ๊กตาขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นรายละเอียดเดียวกันกับที่ผมได้รับเมื่อคืนจึงไม่ได้สนใจอะไร พับเก็บใส่กล่องไว้ตามเดิมแล้วหยิบตุ๊กตาตัวนึงมาใส่ในกระเป๋าไว้ตามข้อปฏิบัติข้อแรกว่าต้องพกไปทุกที่จากนั้นก็ไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปเรียนคาบเช้า เนื่องจากวันนี้ตื่นเช้ากว่าปกติเสื้อผ้าหน้าผมจึงจัดเต็มเพราะไม่มีไรทำ กลิ่นน้ำหอมนี่ฟุ้งเหมือนกูอาบเอาอะ
ตอนเที่ยง
กว่าอาจารย์จะปล่อยเล่นเอาหน้ากูยับเพราะหลับคอพับคาโต๊ะเลคเชอร์ หมดกันที่กูอุตส่าห์จัดเต็มมา พอเลิกเรียนเสร็จแล้วผมกับเดอะแก๊งไอ้กรไอ้เหลิมก็มารวมตัวที่โถงคณะนิเทศศาสตร์พร้อมกับพวกปีหนึ่งคนอื่นๆเพราะโดนรุ่นพี่กักตัวไว้ คาบนี้อาจารย์ดันปล่อยเลทไปเกือบยี่สิบนาที อดกินข้าวก่อนเลยกู
จริงๆวันนี้ผมมีเรียนแค่คาบเช้าครับ ปกติเลิกเรียนกินข้าวเสร็จผมก็กลับคอนโดไปนอนต่อสบายใจเฉิบแล้วแต่ที่ทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะวันนี้พวกพี่ปีสามนัดประชุมเรื่องงานกีฬามหาลัย เห็นว่าจะแบ่งหน้าที่อะไรกันก็ไม่รู้ ปีหนึ่งอย่างผมก็ต้องให้ความร่วมมือเยอะหน่อยเพราะเป็นรุ่นน้องอะครับไม่อยากโดนเหม็นขี้หน้า
“เอ้าเงียบ!!! ทุกคนฟังทางนี้” เด็กปีหนึ่งที่ตอนแรกคุยกันดังลั่นโถงพร้อมใจกันเงียบลงทันที
“รู้กันแล้วใช่มั้ยว่าที่พี่นัดน้องปีหนึ่งมาวันนี้เพราะจะแบ่งหน้าที่ให้ ซึ่งงานกีฬามหาลัยพวกน้องๆจะต้องมีหน้าที่กันทุกคนนะครับ ใครไม่ทำอะไรมึงก็เตรียมไม่ผ่านกิจกรรม” พี่กุ๊กผู้เป็นประธานเชียร์จับโทรโข่งพูดเสียงดังฟังชัด ถึงชื่อจะแบ๊วๆน่ารักๆงี้แต่ขัดกับนิสัยที่โหดชิบหายและหน้าเข้มๆดุๆของพี่เขาอะ หนวดเครานี่ดกดำรุงรังเป็นนายฮ้อยทมิฬ แค่เห็นหน้ากูก็กลัวจนเยี่ยวจะเล็ดละ
“เดี๋ยวผมจะส่งพวกสต๊าฟปีสามไปหาพวกคุณ ใครอยากทำอะไรก็ลงชื่ออันนั้น ถ้าคิดไม่ออกจริงๆก็มาขึ้นแสตนด์ ถือซะว่าช่วยๆกัน ใครลงชื่อเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับได้” หลังจากพี่กุ๊กพูดจบพวกพี่สต๊าฟคนอื่นๆก็กระจายตัวกันมาหาพวกปีหนึ่งที่นั่งแยกกันไปเป็นกลุ่มๆ
“มึงว่าพวกเราจะทำไรกันดีวะ” ผมหันไปถามไอ้กรกับไอ้เหลิมที่นั่งหน้าง่วงอยู่ข้างๆ
“กูสองคนจะลงเตะบอล มึงนั่นแหละจะทำอะไรก็ไปคิดเอา” ไอ้เทพกรเป็นคนตอบ เฮ้ยได้ไงวะทำไรก็ต้องทำด้วยกันดิ
“งั้นกูเตะบอลด้วยคนดิ”
“มึงไปฝึกเดินธรรมดาให้ไม่สะดุดให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาเตะบอลกับพวกกู” ไอ้เหลิมสวนขึ้นมาทันควัน หน็อย ไอ้เวรนี่มึงหยามกูมาก
“น้องเท็น” ขณะกำลังนึกคำด่าไอเหลิมพี่กุ๊กก็เรียกผมพอดีพร้อมกับเดินมานั่งยองๆข้างๆ เสียงหวานมาเชียวรอบนี้ ไม่เข้ากับหน้ามึงเลยพี่
“ครับพี่กุ๊ก”
“พี่มีไรจะวานหน่อย” นั่นไงกูว่าแล้ว “เท็นช่วยลงหลีดให้พี่ได้ปะ แฟนพี่ขอมาว่ะ”
“เอ่อ... ผมเต้นไม่เป็นอะพี่” จริงๆนะครับ เกิดมาเคยเต้นอยู่ครั้งเดียวคืองานโรงเรียนตอนอนุบาล มันไม่ใช่เวย์ของผมเลย
“มันเต้นไม่เป็นหรอกพี่ ดูตัวมันดิ ให้ไปยกแขนยกขาคงหอบตายห่าตั้งแต่ซ้อมวันแรก” ไอ้กรช่วยเสริม ขอบใจมึงมากนะเพื่อนถึงแม้จะแอบหลอกด่ากูก็ตาม
“ได้เหอะถือว่าช่วยกู ไม่งั้นโดนเมียด่าไม่เลิกแน่ เมียกูแม่งรีเควสมาว่าต้องเป็นไอ้เท็นอะดิ อยากให้มาเป็นหน้าเป็นตาคณะ”
“ไม่ได้จริงๆพี่ ให้ผมทำอย่างอื่นเหอะ” อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เต้นอะ ไม่รอดจริงครับเผลอๆไปเป็นตัวถ่วงคนอื่นเขาอีก อีกอย่างเลยคือถ้าผมไปเป็นหลีดก็ต้องซ้อมทุกวันคงไม่มีเวลามาทำภารกิจรีวิวเครื่องรางปลุกเสกซึ่งไม่ดีแน่ๆ ตอนนี้ขอโฟกัสเรื่องงานก่อนครับเพราะมีหนี้ก้อนโตติดตัวอยู่
“เออๆ งั้นมึงไปถือป้ายคณะละกัน ใช้เบ้าหน้าให้เป็นประโยชน์หน่อย ห้ามปฏิเสธอีกนะมึง”
“ได้ครับพี่” เอาวะ ก็ยังดีกว่าเป็นหลีดแหละ แค่ถือป้ายมันไม่ยากป่าว
“โอเคตามนี้เดี๋ยวใกล้ๆวันละกูมาเรียกซ้อมอีกที แล้วพวกมึงอะทำไรกัน” พี่กุ๊กหันไปถามพวกไอ้กรไอ้เหลิมที่นั่งเงียบๆไม่มีบทมาสักพัก
“พวกผมจะลงเตะบอลครับพี่ ปกติเตะกันทุกเย็นอยู่แล้ว” ไอ้กรเป็นคนตอบ เพราะตอนนี้ไอ้เหลิมกำลังหันไปคุยกับแก๊งดาวนิเทศปีสาม หูดำอีกแล้วนะมึงเผลอไม่ได้เลย
“เออดีงั้นก็ตามนี้ ไว้เจอกันพวกมึง” พี่กุ๊กพูดจบก็เดินออกไป ระหว่างรอพี่สต๊าฟมาจดชื่อพวกผมก็กลับเข้าสู่โลกส่วนตัวอีกครั้ง ผมหันไปหาไอ้กรไอ้เหลิมทันทีเพราะลืมไปว่ายังไม่ได้เล่าเรื่องรับรีวิวเครื่องรางปลุกเสกให้พวกมันฟังกันเลย
“พวกมึง สุมหัว” โค้ดลับเวลามีเรื่องต้องเล่ายาวๆ พอพูดจบพวกมันก็กันมาพร้อมกันทันที เรื่องเสือกไม่เข้าใครออกใครแต่เข้าเพื่อนผมไม่ออกไปไหนเลย
“ว่าไง กูพร้อมฟังแล้วรีบๆพูดมา” ไอ้กรพูดพลางขยับหน้าตี๋ๆของมันเข้ามาใกล้กว่าเดิม
“คืองี้...” ผมเล่าย่อๆพอให้จับใจความได้เรื่องงานรับรีวิวเครื่องรางปลุกเสกให้พวกมันฟังว่าคืออะไรและต้องทำอะไรบ้างพร้อมกับค่ารีวิวที่ผมจะได้
“งี้ก็ดีดิวะ ได้ทั้งเงินได้ทั้งสาว โชคสองชั้น” ไอ้เหลิมว่า
“แต่มันมีข้อแม้อยู่ว่ะ คือกูอะต้องทำกับเป้าหมายที่เขากำหนดมาให้เท่านั้น” พวกมันทำหน้าแบบรอฟังผมจึงว่าต่อทันที
“พวกมึงรู้จักพี่ปราบดา ปีสามวิศวะเครื่องกลไรนี่ป่าววะ”
“เฮ้ย!!!” ไอ้กรอุทานออกมาเสียงดัง ว่าแต่กูชอบทำตัวขายขี้หน้าพวกมึงก็ชอบเสียงดังให้กูอายคนเค้าเหมือนกันแหละไอฟาย
“เท็นมึงอำปะเนี่ย” พวกมันสองคนหันไปมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ผมก็งงดิอะไรของพวกมันวะ
“มึงกำลังจะบอกพวกกูว่า เป้าหมายของมึงคือพี่ปราบดาหรอวะ” รอบนี้ไอ้เหลิมเป็นคนถามย้ำ
“ก็เออดิพวกมึงจะตกใจไรกันขนาดนี้อะ ทำหน้าเหมือนพี่ปราบดาไรนี่เขาเป็นผี” รำคาญครับทำหน้าล่กกันอยู่นั่น
“น่ากลัวกว่าผีอีกกูบอกเลย มึงไม่รู้จักพี่ปราบดาได้ไงวะเท็น”
“มึงก็ถามแปลกๆไอ้เหลิม มันจะรู้จักได้ไงอะวันๆมันอยู่มอที่ไหนเรียนเสร็จก็รีบไปอัดคลิป อัดเสร็จก็กลับคอนโด หมกตัวอยู่แค่นั้น”
“แล้วสรุปเขาคือใครวะ” ผมเกาหัวแกร่กๆ
“มานี่ กูจะสาธยายให้มึงฟังเองเพื่อน แต่ก่อนอื่น ไอ้เหลิมมึงไปเอาน้ำมาขวดนึง” พอไอ้กรพูดจบไอ้เหลิมก็ลุกไปขอน้ำกับพี่สต๊าฟฝ่ายสวัสดิการที่ยืนประจำที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแล้วยื่นให้ไอ้กร
ผมมองอย่างงงๆทำไมอยู่ดีๆก็เสือกหิวน้ำขึ้นมา “มึงหิวน้ำหรอกร”
“ก็มึงจะให้กูเล่าเรื่องพี่ปราบดาไม่ใช่หรอ คือมันก็ยาวอะมึง แค่จะพูดถึงความหล่อกูก็คอแห้งรอแล้วไอสัส”
“ขนาดนั้นเลย” ผมเบ้ปาก
“พี่ปราบดาของมึงเนี่ยเป็นคนไม่ธรรมดา..”
“เดี๋ยวๆ ไม่ใช่ของกูดิ” ผมรีบเบรคทันทีโดยไม่รอให้มันพูดจบ
“ตอนนี้ไม่ใช่แต่เดี๋ยวก็ใช่ มึงจะเล่นของใส่เขาไม่ใช่ไง”
“เล่นของเหี้ยไรมึง” คำว่าเล่นของมันฟังดูน่ากลัวไปป่าว “แค่เครื่องรางตุ๊กตาหมาเนี่ย กูพกมาด้วยดูปะ” ผมพูดพลางเปิดซิปกระเป๋าหยิบขึ้นมาโชว์ให้พวกมันดู
“น่ารักเนอะมึงอะ เขาให้พกอะไรก็พก” ไอ้เหลิมพูดพร้อมกับหยิบขึ้นมาดู
“ไอ้เชี่ยเหลิม” ผมรีบแย่งคืนมาเก็บใส่ไว้ในกระเป๋าตามเดิม “ดูแต่ตามืออย่าต้องของจะเสีย” ไม่ได้หวงอะไรหรอกครับแค่กลัวสกปรกเฉยๆ
“กูเล่าต่อได้ยัง” ผมไม่ได้พูดอะไรแต่ทำหน้ารอฟังไอ้กรจึงพูดต่อ
“พี่ปราบดาอะเขาไม่ธรรมดา เอาแค่เรื่องหน้าตาก็หน้าเหมือนเทพเจ้าประทานหน้ามาให้อะ หล่อชิบหาย เหมือนมีประกายวิ้งๆแผ่ออกมาจากหน้าตลอดเวลา หล่อแบบเทวดาลอยมาเรียนอะไอสัส”
“มึงนี่ก็เว่อร์ตลอด”
“เท็น มึงเคยเห็นกูชมใครว่าหล่อด้วยหรอ กูไม่ชมใครพร่ำเพรื่อนะเว้ยแต่คนนี้แม่งของจริงว่ะ” ก็จริงของมัน ตั้งแต่รู้จักกันมาผมไม่เคยเห็นมันชมใครหล่อสักคนยกเว้นตัวมันเองอันนี้มันชมจนกูเอือม แต่ไอ้ที่มันพูดๆอยู่นี่แถวบ้านผมก็ไม่เรียกว่าชมนะ แถวบ้านกูเรียกว่าอวย
“หล่อละไงต่อ” ผมถาม อยากรู้ว่าพี่ปราบดาไรนี่ยังมีข้อดีอะไรอีกไหมนอกจากหน้าตา
“หล่ออะก็ส่วนนึง แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือกูได้ยินมาว่าพี่เขาเป็นคนแปลกๆ”
“แปลกยังไงวะ”
“พี่เขาชอบทำตัวลึกลับว่ะ คือไม่เชิงว่าหยิ่งแต่เขาไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตถ้าไม่ใช่คนสนิทหรือเพื่อนมึงก็อย่าหวังเลยว่าจะเข้าถึงตัวได้ แค่ปกติก็หาตัวยากชิบหายแล้ว”
“ใช่ แต่พวกกูอะเคยเจอเขาอยู่สองสามหนเพราะกูไปเตะบอลกันละเจอพี่เขากับเพื่อนพอดี ตอนนั้นคนขาดเพื่อนเขาก็เรียกพวกกูไปเลยได้เจอ ตัวจริงหล่อชิบหาย คิดภาพตามนะมึง ขาว สูง หุ่นดี ถอดเสื้อเตะบอลซิคแพคแน่นสัด ขนาดกูเป็นผู้ชายแท้ๆยังมองแล้วมองอีก” ไอ้เหลิมช่วยเสริมอีกแรง อวยเป็นวรรคเป็นเวรไม่ต่างจากไอ้กรเท่าไหร่
“มองไมวะ อยากลองเปลี่ยนแนวหรอ”
“ไม่ใช่ไอสัด” มันโบกหัวผมทีนึง เจ็บนะโว้ย
“กูมองด้วยความอิจฉา วันไหนพี่เขามาเตะผู้หญิงแม่งมาส่องกันตรึม เอาน้ำเอาขนมมาให้ข้างสนามวางเรียงกันซะกูนึกว่าโต๊ะไหว้เจ้า แต่เสียดายว่ะพี่เขาดูไม่สนใจใครเลย พวกกูก็ลาภปากเพราะเพื่อนพี่เขาแบ่งให้เอากลับมาแดกคนละอย่างสองอย่าง เป็นกูนี่เปรมละสาวเข้าหาขนาดนั้น”
“อ่อ” ผมหยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
“พูดไปมึงก็ไม่เก็ทเดี๋ยวจะหาว่ากูอวย ถ้าอยากเห็นหน้าพี่เขามึงก็ลองไปส่องดูที่โรงอาหารวิศวะดิ ปกติกลุ่มพี่เขาแดกข้าวกันที่นั่น ถ้าโชคดีมึงก็เจอ โชคไม่ดีก็ไม่ได้เจอ แค่นั้น” ไอ้กรเสนอความคิดเห็นซึ่งทำให้ผมหูตาลุกวาวทันที
“เออ กูก็ชักอยากจะเห็นหน้าแล้วเหมือนกัน ไอ้พี่ปราบดาไรนี่ของพวกมึงอะ มึงสองคนไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ นะ”
“นิเทศกับวิศวะนี่คนละฝั่งเลยสัด มึงอยากเห็นมึงก็ไปเองดิโตแล้วนะมึงไอ้เท็นทำไมต้องให้ตามไปดูแลตลอด พวกกูเป็นพ่อมึงหรอ”
“เอ้าถ้ากูไปคนเดียวกูจะรู้ไหมว่าคนไหน” ไม่มีน้ำใจแล้วยังโง่อีกเพื่อนผม
“นะพวกมึง ช่วยกูหน่อย พากูไปดูหน้าพี่ปราบไรนี่แล้วจะให้กูทำไรก็ยอม” ต้องงัดไม้ตายออกมาใช้ ผมใช้มุกนี้กับพวกมันทีไรได้ผลทุกที
“มึงพูดเองนะ” ไอ้กรยิ้มแบบชั่วร้าย แต่ผมรู้มันทำไปงั้นแหละเพราะผมใช้บ่อยสุดท้ายมันก็ไม่เคยให้ผมทำไรจริงๆหรอก
อ่านต่อด้านล่างค่ะ
ตอนที่ 3
Prabda and Tavin are now friends.
หลังจากที่พี่ปราบลุกออกไปพวกผมก็ขอตัวออกมาแดกข้าวเพราะหิวไส้จะขาด เรากลับมาเอารถของใครของมันที่ลานจอดฝั่งคณะแล้วขับมาเจอกันที่ร้านอาหารตามสั่งในซอยข้างมอโดยมีจิ้มจุ่มติดสอยห้อยตามมาด้วย
พอได้โต๊ะก็ตะบี้ตะบันสั่งกันเหมือนคนอดอยาก ไม่ไหวครับบ่ายกว่าแล้วข้าวยังไม่ตกถึงท้องซักเม็ด พอสั่งอาหารเสร็จตั้งใจจะหยิบมือถือขึ้นมาเล่นรอข้าวมาเสิร์ฟตามปกติแต่ก็ถูกหยุดไว้เพราะความขี้เสือกของเพื่อนผม
“ฮั่นแน่ ยังไงครับน้องเท็น” เป็นไอ้เหลิมที่เปิดก่อน ฮั่นแน่เชี่ยไรมึง
“ยังไงอะไรวะ”
“ไหนมึงบอกไม่รู้จักพี่ปราบดาแล้วมึงไปยืนคุยกับพวกพี่ซันได้ไง บอกพวกกูมาเลยมึงไปสนิทกันตอนไหน”
“สนิทห่าไรล่ะกูก็พึ่งเคยเจอวันนี้นี่แหละ”
“ใช่หรอวะ พึ่งเคยเจอแล้วเขาออกปากชวนมึงไปเตะบอลเนี่ยนะ”
“พึ่งเคยเจอแล้วชวนไม่ได้หรอ ใจแคบนะมึงอะ”
“ถ้าเป็นคนอื่นอะได้ แต่ปกติพวกพี่ซันแม่งไม่ชวนใครง่ายๆไง กูว่าเรื่องนี้แม่งมีเงื่อนงำ”
ผมฟังที่มันสองคนพูดอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จากที่เห็นพวกพี่เขาก็ไม่น่าใช่คนเข้าถึงยากอะไรขนาดนั้นมั้ยวะ ขนาดผมที่ไม่เคยรู้จักกันแม่งยังกวักมือยิกๆเรียกไปนั่งด้วยแถมยังชวนคุยอย่างเป็นกันเองจนกูงง มีแต่ไอ้พี่ปราบดาเนี่ยแหละที่มนุษย์สัมพันธ์ติดลบสัดๆ นอกจากหล่อแล้วแม่งไม่มีตรงไหนที่ดูน่าคบหาเลยไอเหี้ย จะรอดมั้ยวะไอ้ภารกิจปลดหนี้ของกูเนี่ย
“เออ ขนาดพี่ปราบยังคุยกับมึงเลย นอกจากเพื่อนกูไม่เห็นเขาจะอ้าปากพูดกับใคร กับกูสองคนยังไม่เคยพูดด้วยซักคำ อย่างมากก็รับไหว้” เห็นปะแม่งมารยาททรามเกินมนุษย์อะ โตมายังไงวะ
“อะแฮ่ม คือ..จุ่มขอพูดไรหน่อยได้มั้ย” อ้าวพูดได้ด้วยหรอจิ้มจุ่ม กูก็นึกว่าเป็นใบ้เห็นนั่งเงียบอยู่ตั้งนาน
“จุ่มว่ามันก็แปลกจริงๆแหละ ไลน์จุ่มนี่เด้งรัวๆเลยตอนพี่ปราบดาคุยกับเท็นอะ พวกเพื่อนจุ่มมันไลน์มาฝากถามกันใหญ่เลยว่าเท็นกับพี่ปราบดาสนิทกันมากเลยหรอ”
“เฮ้ยเปล่า เรากับพี่ปราบดาไม่รู้จักกันเลยจุ่ม ไม่เห็นหรอพี่เขาด่าเราปาวๆ เอาไรมาสนิทอะ”
“อ้าว ถ้างั้นพี่เขายิ้มทำไมอะ” จิ้มจุ่มถามตาใส ห้ะ เดี๋ยวนะมึง ไอ้พี่ปราบมันยิ้มตอนไหนวะ เห็นเอาแต่นั่งแยกเขี้ยวมองกูตาขวาง ถ้าน้ำลายฟูมปากหน่อยก็ครบเลยครับ ครบคุณสมบัติหมาบ้าอะไอเหี้ย
“จิ้มจุ่มคงตาฝาดแล้วแหละ”
“เฮ้ยไม่ฝาด นี่ไงในเฟสมีคนโพสท์รูปพี่ปราบดาเต็มเลย ทุกคนดูช็อคกันมากอะเพราะปกติพี่เขาไม่ค่อยยิ้ม”
“ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลยว่ะ คนอย่างพี่ปราบดาเนี่ยนะยิ้ม” ไอ้กรหันไปถามจิ้มจุ่ม ทำหน้าเหมือนตกใจมาก
“ใช่ เพื่อนจุ่มนี่กรี๊ดกันสลบเลย พี่ปราบดายิ้มแล้วหล่อมากอะ ทำไมถึงไม่ค่อยยิ้มก็ไม่รู้ ไม่เชื่อก็ดูสิ อะ” จิ้มจุ่มยื่นโทรศัพท์ในมือให้ไอ้กร มันรับมาแล้วแบ่งกันดูกับไอ้เหลิมที่ตอนนี้อึ้งแดกไปแล้ว จากนั้นมันก็ส่งต่อมาให้ผมดูบ้าง
มือถือของจิ้มจุ่มแสดงหน้าเฟสบุคของใครไม่รู้ที่พึ่งโพสท์รูปของไอ้พี่ปราบ ผมเบ้ปากเพราะขนาดในรูปความหล่อแม่งยังทะลุออกมานอกจอเลย หมั่นไส้ชิบหาย ในมือพี่มันถือจานข้าวอยู่ด้วยครับ คงเป็นตอนที่มันด่าผมจนเสียหมาแล้วลุกออกไปเลยนี่แหละ และที่สำคัญพี่มันอมยิ้มอยู่จริงๆ ยิ้มเชี่ยไรครับพี่ สะใจมากมั้งที่ได้ด่ากูอะ ไอ้คนสันดานเสีย
“แปลกเหี้ยๆ ตอนกูไปซื้อข้าวมึงไปพูดไรกับเขาวะ”
“กูยังไม่ได้พูดกับแม่งซักคำ แค่ไปขอนั่งด้วยแต่พี่ปราบมึงอะไล่กูอย่างกับหมูอย่างกับหมา เกลียดขี้หน้าชิบหาย”
“แล้วมึงเอาไงต่อ ยังจะทำต่อไหมไอ้ภารกิจพิชิตเงินแสนของมึงอะ”
“กูมีทางเลือกด้วยหรอ ถึงไม่ชอบแต่ก็ต้องลุยป่าววะ แม่งเล่นเจาะจงมาว่าต้องเป็นพี่ปราบดาเท่านั้นอะ”
พวกมันได้แต่ตบบ่าผมอย่างปลอบใจ จากนั้นข้าวก็มาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะไปหมดพวกผมที่หิวจนหน้ามืดจึงหยุดการสนทนาไว้แค่นั้นแล้วตั้งหน้าตั้งตาแดกแบบไม่สนใจใครทั้งนั้น สาวสวยดีกรีดาวคณะอย่างจิ้มจุ่มถึงกับงงเพราะแดกไม่ทันพวกผม หันไปเติมน้ำแปปเดียวกับข้าวหายไปแล้วครึ่งโต๊ะ น่าสงสารเขานะครับ
แดกกันจนอิ่มหนำสำราญเล่นเอาพวกผมจุกจนลุกไม่ไหวเลยนั่งคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ต่อรอให้อาหารย่อย แต่ไอ้เชี่ยเหลิมมันยังไม่จบง่ายกับเรื่องไอ้พี่ปราบดา แม่งยิงคำถามใส่กูอีกแล้ว
“แล้วมึงคิดแผนไว้ยังว่าจะเอาไงต่อ ขนาดขอนั่งแดกข้าวด้วยเฉยๆเขายังไล่มึงออกมาขนาดนี้ ถ้ายื่นตุ๊กตาหมาหน้าโง่ของมึงให้เขาจะไม่ปาลงพื้นแล้วกระทืบซ้ำเอาหรอวะ”
“เออจริง แค่จะให้พี่เขารับไว้แม่งยังดูเป็นไปได้ยาก เรื่องให้พกติดตัวกูว่ามึงลืมไปได้เลย เจองานหยาบแล้วมึง” ไอ้กรเสริม
“งานอะไม่ได้หยาบหรอกไอ้เหี้ย สันดานแม่งอะหยาบ” พูดแล้วขึ้นเลยครับ อารมณ์ขึ้นหรอป่าวหมายลมในท้อง กูนี่แหละตีขึ้นมาถึงคอ ถ้าไม่ติดว่าจิ้มจุ่มอยู่ด้วยผมคงเรอใส่หน้าพวกแม่งไปละ
“ปวดหัวแทนเลยว่ะ อย่าบอกนะว่าพวกกูต้องตามมึงไปเฝ้าพี่ปราบถึงลานเกียร์ทุกวันอะ กูไม่เอาด้วยแล้วนะโว้ย ข้าวเขิ้วไม่ได้แดกกันพอดี”
อ้าวเพื่อนทำไมพูดงี้ ช่วยแล้วก็ช่วยให้สุดสิวะจะมาทิ้งกูตอนนี้ได้ไง แค่นี้มืดแปดด้านแล้วไอเหี้ย
“ทำไมเท็นไม่ลองแอดเฟสบุ๊คพี่ปราบดาดูล่ะ” จิ้มจุ่มเสนอไอเดีย สรุปว่าจิ้มจุ่มที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเท่าไหร่ยังมีประโยชน์กว่าเพื่อนผมที่เสือกเรื่องผมไปซะทุกเรื่องอีก
“แอดไปแล้วเขาจะรับหรอวะ ขนาดพวกกูแอดไปตั้งแต่เตะบอลด้วยกันครั้งแรกจนป่านนี้ยังไม่รับแอดกูเลย”
“ถึงพี่ปราบดาจะไม่ค่อยรับเพื่อนแต่จุ่มว่าลองกดติดตามไว้เฉยๆก็ไม่เสียหายนะ อย่างน้อยจะได้เห็นโพสท์ที่เพื่อนพี่เขาแท็กมาว่าทำอะไรอยู่ที่ไหน เท็นจะได้ไม่ต้องตามเฝ้าไง”
“เออจริงด้วย” ทำไมแค่นี้กูคิดไม่ได้ จิ้มจุ่มนี่ฉลาดไม่ใช่เล่น สวย ฉลาด กทม.แบบจิ้มจุ่มลดตัวมาเกลือกกลั้วกับคนแบบไอ้เหลิมได้ไงวะ
“ไหนอะมึงเอาเฟสพี่ปราบมาดิ เดี๋ยวกูจัดตอนนี้เลย” คนจริงไม่พูดเยอะครับไม่ใช่ไรกลัวลมตีขึ้นคออีก กินอิ่มมากๆลมแม่งชอบตีแบบนี้เป็นประจำ
ผมโยนโทรศัพท์ส่งให้ไอ้กร มันรับไปพิมพ์ยุกยิกอยู่แปปนึงแล้วยื่นกลับมาให้
“เรียบร้อย กูกดแอดให้ละ นั่งสวดมนต์รอไปนะครับน้องเท็น ไม่รู้ชาตินี้จะมีบุญได้เป็นเพื่อนในเฟสกับพี่เขาป่าว”
ผมรับโทรศัพท์กลับมาดู ไอ้กรมันเปิดหน้าเฟสบุ๊คของผู้ใช้ที่ชื่อ Prabda Asavayothin ค้างไว้ให้ นี่หรอวะเฟสบุ๊คไอ้พี่ปราบ คนเหี้ยไรหล่อยันชื่อเฟส นามสกุลก็ยาวชิบหาย แล้วตัดภาพมาดูชื่อเฟสผมดิ Ten Tavin เอาชื่อเล่นกับชื่อจริงผมมารวมกันยังยาวไม่เท่านามสกุลแม่งเลย หมั่นไส้โว้ย
ผมตั้งใจจะสไลด์หน้าจอส่องหน้าไทม์ไลน์ไอ้พี่ปราบดูว่ามีใครแท็กอะไรมาบ้าง แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรโนติสีแดงก็เด้งขึ้นมาซะก่อนเลยรีบกดดู ใครทักไรกูมาวะ
Prabda Asavayothin accepted your friend request. Write on Prabda’s timeline.
เหยดโด้วววว ไม่มีใครทักอะไรผมมาทั้งนั้นครับ แต่เป็นไอ้พี่ปราบ ไอ้พี่ปราบมันกดรับแอดผมแล้วโว้ย!!!
“พวกมึงดูไรนี่ดิ” ผมหมุนโทรศัพท์ให้พวกมันดู “ไหนมึงบอกว่าพี่เขาไม่ค่อยรับแอดใครไงวะ แม่งรับกูอย่างไวยังไม่ทันได้เสือกชีวิตเขาเลยเนี่ย”
“เฮ้ยมึงอำกูป่าวไอเท็น กูไม่เชื่ออะไหนเอามาดูดิ้” ไอ้เหลิมคว้าโทรศัพท์ไปจากมือผม
“ไอเหี้ยของจริงว่ะ” พวกมันสองคนอึ้งแดก “ตุ๊กตามึงศักดิ์สิทธิ์ชิบหายเลยไอ้เท็น ยังไม่ทันลงมือทำอะไรเป้าหมายมึงก็เริ่มมีอาการแล้วอะ”
“กรี๊ดด! ไหนจุ่มดูหน่อย” จิ้มจุ่มกระดี๊กระด๊าหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาเปิดหน้าเฟสพี่ปราบดูบ้าง มันขึ้นเป็นโพสท์สาธารณะหน้าไทม์ไลน์ว่า
Prabda Asavayothin and Ten Tavin are now friends.
เกลียดเฟสบุ๊คก็ตรงนี้ ทำไมมันต้องมีฟีทเจอร์นี้ด้วยวะ ใครจะเป็นเพื่อนกับใครแล้วมึงยุ่งไรด้วยเนี่ย เวลาแอดสาวแต่ละทีเพื่อนกูนี่เสือกไม่หยุดเลย
“อิจฉาเท็นอ่าาา พี่ปราบมีเพื่อนในเฟสแค่ไม่กี่คนเอง ถ้าพี่ปราบลงรูปอะไรฝากเซฟมาให้จุ่มดูบ้างนะ”
“น้อยๆหน่อยจุ่ม กูนั่งหัวโด่อยู่นี่” ไอ้เหลิมรีบเบรคจิ้มจุ่
ม ฮั่นแน่มีหวงนะมึง ไหนบอกไม่ได้เป็นไรกันไง
“ผัวเมียหยุดตีกันก่อนครับ ไอเท็นมึงรีบเข้าเฟสดิ” อยู่ๆไอ้กรก็แทรกขึ้นมา ผมไม่รอช้าครับรีบเปิดเข้าเฟสตัวเองทันที
Prabda Asavayothin and Ten Tavin are now friends.
- จิ้มจุ่ม ไม่ใส่ผัก and 78 others liked this.
โอโหไอเหี้ย ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีคนแม่งมาจากไหนกันวะ แค่คนเขาจะเป็นเพื่อนกันต้องมากดไลค์กันขนาดนี้เลยหรอ พวกมึงไม่มีไรจะดูกันแล้วใช่มั้ย แล้วจิ้มจุ่มเขาตั้งชื่อเฟสอะไรของเขาเนี่ยกูเครียด อยากแย่งมือถือมาแก้ให้
นอกจากคนกดไลค์แล้วยังมีคอมเม้นอยู่ใต้โพสท์อีกจำนวนหนึ่ง ผมเลยกดเข้าไปอ่านด้วยความอยากรู้อยากเห็น
Miu Miu: เกิดอะไรขึ้น!? พี่ปราบรับแอดใครอะแก @vicky
Vicky Socute: หน้าคุ้นมาก!!! ใช่เท็นที่อยู่นิเทศมั้ย @Miu
Miu Miu: กรี๊ดดดด เท็นกับพี่ปราบรู้จักกันด้วยหรอ อะไรยังไง? ใครรู้บอกที!!!!
ผมว่าเพื่อนผมขี้เสือกแล้วนะ พึ่งรู้ว่าคนในมอนี้ยังมีคนขี้เสือกกว่าเพื่อนผมอีก
Sun Nithi: เหยดดดดด เอาว่ะเพื่อนกู @chee @namhom
Chee Achira: อยากเป็นเพื่อนกับน้องเท็นบ้างอะคร้าบ รับแอดพี่ฉีหน่อยน้า @ten
Namhom Methanon: ไม่เบาจริงๆครับสำหรับเขาคนนี้
ไอสามคนนี่ชื่อคุ้นๆนะครับ ซัน ฉี น้ำหอม... เอ้าไอเหี้ยเพื่อนไอ้พี่ปราบนี่หว่า แต่ละคนปั่นกันเก่งมากครับ พ่องเป็นแชมฟ์ตูเดอฟ้องหรอครับพี่
Yaya Uthaitip: เพื่อนพี่ปราบดามาเม้นด้วยอะ แปลว่าสองคนนี้ต้องมีซัมติง
Boom B: ที่วันนี้น้องเท็นมาโรงอาหารวิศวะอย่าบอกนะว่ามาหาปราบดา ม่ายยยย
Phol pattaraphol: @boom ผมก็เห็นครับ ยืนคุยกันกระหนุงกระหนิง แม่งเอ้ย น้องเท็นของพี่ T_T
เดี๋ยวนะมึง ไอ้คนเม้นมันตาบอดรึเปล่าวะ กูไปกระหนุงกระหนิงกับพี่มันตอนไหน
Phol pattaraphol: *แนบภาพประกอบ*
Miu Miu: กรี๊ดดดด แงพี่ปราบยิ้มด้วยอะ ตามเฟสพี่ปราบมานานไม่เคยเห็นเขายิ้มเลย เขาจีบกันหรอคะ ไม่น้าาา T^T
ต้น รถเป็นไรอะ: ไอเหี้ยยยยมึงจะแนบรูปมาทำไม #ทีมผัวน้องเท็น ใจสลายกันหมดแล้ว
Sun Nithi: @ต้น เท่าที่รู้น้องเท็นยังไม่มีผัวนะครับ
Namhom Methanon: @ต้น ใช่ครับแต่เดี๋ยวก็มี
Chee Achira: อิอิ @Prabda
ยัง ยังไม่หยุดปั่นอีก ไปกันใหญ่แล้วไอเหี้ย กูเนี่ยนะจะมีผัว ขากกกกกกกกกกกก แล้วไอ้พี่ปราบแม่งไม่คิดจะโผล่มาแก้ข่าวหน่อยหรอวะ เฟสมึงโดนถล่มยับแล้วจะนิ่งไปไหนครับพี่ สงสัยต้องถึงมือกูอีกแล้วว่ะ
Ten Tavin: ใจเย็นๆครับ ผมกับพี่ปราบไม่ได้เป็นไรกัน
พิมพ์ไปแบบนี้คนจะได้ไม่เข้าใจผิด พอผมกดคอมเม้นปุปก็มีคนมากดไลค์รัวๆ แต่ที่ผมทำให้อึ้งก็คือเจ้าของเฟสแม่งโผล่มาจากไหนไม่รู้ มาคอมเม้นต่อจากผมทันที
Prabda Asavayothin: ตามนั้น ยังไม่ได้เป็นไรกัน
ทีแบบนี้ล่ะมาไวเชียวนะมึง แปลว่าแม่งส่องอยู่นี่หว่าแล้วทำไมพึ่งจะโผล่มาล่ะวะ
จัดการแก้ข่าวเรียบร้อยผมก็กดล็อกหน้าจอมือถือ เสียเวลามามากพอแล้วครับได้เวลากลับไปนอนซักที ผมยัดโทรศัพท์ใส่ลงในกระเป๋าเสื้อนิสิต ตั้งใจจะเรียกเจ๊มาเก็บตังแต่พอเงยหน้ามาก็พบว่าไอ้เหลิมกับไอ้กรมันทำหน้ากรุ้มกริ่มรอผมอยู่ เป็นส้นตีนไรอีกล่ะ
“มึงคิดเหมือนกูป่าววะบีหนึ่ง” ไอ้เหลิมทำเสียงเล็กเสียงน้อยหันไปถามไอ้กร
“บ้า มึงคิดมากไปปะวะบีสอง” ส่วนไอห่านี่ก็กวนส้นตีนไม่แพ้กัน
“แต่บีสามว่าใช่แน่ๆ ปราบดาเท็นอะมาแน่ๆ จุ่มจะจิ้นคู่นี้!!!!” แม้แต่จุ่มก็เป็นไปด้วยอีกคน จบกันครับภาพลักษณ์ดาวคณะคนสวย ตอนแรกตั้งใจจะด่าไอ้สองคนแต่กลายเป็นว่าจิ้มจุ่มอาการหนักกว่าใครเพื่อน จิ้นเจิ้นเชี่ยไร ถ้าไม่ติดว่าเป็นเด็กไอเหลิมผมด่ายับไปแล้ว
“พอเลยพวกมึงทุกคน ไร้สาระสัด กูกลับละนะ” พูดจบผมก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากร้านไปขึ้นรถตัวเองทันทีไม่รอให้ใครได้ต่อความยาวสาวความยืด
อ่านต่อด้านล่างค่ะ
ตอนที่ 4
อยากเหมาชุดบอลทั้งอำเภอให้เธอคนเดียว
(https://www.img.in.th/images/2e8c2ce2bad3301deb5216c9d69180ae.jpg)
(https://www.img.in.th/images/7211b792726195c8a025146307d2e660.jpg)
(https://www.img.in.th/images/02fa54d9174946cb73e13a52aee340fa.jpg)
เรียนมาเกือบจะครบปีพึ่งรู้วันนี้เนี่ยแหละว่าตอนเย็นคนมาเตะบอลในมอเยอะขนาดนี้
สนามฟุตบอลของมหาลัยผมใหญ่มากครับ ช่วงเทอมแรกพวกเราชาวปีหนึ่งทุกคณะต้องมารวมตัวทำกิจกรรมของมหาลัยที่นี่บ่อยๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมย่างกรายเข้ามาโดยที่ไม่ได้มาทำกิจกรรมของมหาลัย แต่เป็นเพราะมีภารกิจยิ่งใหญ่ต้องมาทำ พอเรียนเสร็จผมกับพรรคพวกก็รีบจัดการเปลี่ยนชุดแล้วมาที่สนามบอลทันทีโดยไม่ลืมที่จะหยิบตุ๊กตาหมาหน้าโง่ปลุกเสก by พ่อปู่ฤาษีหนวดยาวใส่กระเป๋ามาด้วย
สำหรับมิชชั่นในวันนี้บอกเลยว่าไม่ได้มาเล่นๆ เพื่อให้เกียรติสถานที่ผมเตรียมพร้อมมาอย่างดีด้วยการใส่เสื้อบอลมาอย่างเต็มยศ สกรีนว่าวันเฉลิมเบอร์ 8 ทั้งหน้าแหละหลังอย่างเฟี้ยว ใช่ครับยืมเสื้อไอ้เหลิมมันมาใส่ น้ำหน้าอย่างผมมีเสื้อบอลกับเขาที่ไหน ถามว่าผมแต่งตัวจัดเต็มขนาดนี้กะจะลงไปฟาดแข้งกับพวกมันหรอก็ป่าวอะครับ ใส่มาทำเท่เฉยๆ เขาบอกสาวชอบผู้ชายเล่นกีฬาก็เลยใส่มาให้สาวกรี๊ด
ไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือคิดผิด ตอนแรกผมก็คิดว่าขนาดตัวผมกับไอ้เหลิมไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่ แต่พอใส่เสื้อของมันจริงๆเสื้อแม่งหลวมโครกสัสๆ เหมือนกูใส่ผ้าปูที่นอนอะ ขอบใจมึงมากนะเหลิม มึงให้ผ้าปูที่นอนกับด็อบบี้ ด็อบบี้เป็นอิสระ
เวรกรรมชิบเป๋งทำไมตอนเห็นมันใส่แล้วพอดีตัววะ หรือพอใส่บ่อยๆแล้วเสื้อมึงยืดได้เองป่าวเนี่ยเพื่อน
พอเดินจากที่จอดรถมาถึงสนามบอลก็มีแต่คนมองจริงๆครับ พวกผู้หญิงที่นั่งกันพรึ่บพรั่บบนแสตนด์เชียร์นั่นแหละที่มองไอ้กรไอ้เหลิมด้วยสายตาหวานหยดย้อย แต่พอเห็นผมสายตาที่ว่าหวานกลับกลายเป็นขมปี๋ขึ้นมาเฉยๆ อะไรของพวกเธอวะ ผู้หญิงแม่งเข้าใจยาก
พวกผมเดินตรงเข้าไปที่สแตนด์ข้างๆ เป็นจุดที่พี่ซันและผองเพื่อนยืนรวมกลุ่มยืดเส้นยืดสายกันอยู่พอดี นอกจากพวกพี่สามคนที่ผมเจอที่โรงอาหารวิศวะเมื่อวันก่อนก็ยังมีคนที่ผมไม่รู้จักอีกเกือบยี่สิบคน แต่ละคนตัวสูงๆหุ่นฟิตๆกันทั้งนั้น พอก้มมองสภาพตัวเองแล้วละเหี่ยใจ ผมก็ออกกำลังกายเหมือนกันนะครับ ตื่นสายวิ่งตาแตกไปเรียนทุกเช้าทำไมร่างกายกูไม่ฟิตแบบคนอื่นเขาบ้างอะ คิดแล้วก็น้อยใจว่ะไม่มองแม่งละ ผมละสายตาจากคนแปลกหน้ายี่สิบกว่าชีวิตแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆแต่ไม่ยักกะเห็นคนที่ผมกำลังตามหา ไอ้พี่ปราบดาไปไหนวะ
ผมยืนหันซ้ายหันขวาท่าทางหลุกหลิกจนไอ้กรไอ้เหลิมมันคิดว่าผมปวดเยี่ยว มีการจะจูงมือพาไปเข้าห้องน้ำอีกไอ้ชิบหาย นี่พวกมึงเห็นกูเป็นเด็กหลงทางตอนมาทัศนศึกษาหรอ ยืนตบตีกับเพื่อนอยู่ซักพักพวกพี่ซันก็หันมาเห็นพวกผมเข้าพอดี พี่เขารีบทักทายก่อนเลยครับ คงความเฟรนด์ลี่ไม่มีเปลี่ยน
“อ้าว มาแล้วหรอพวกมึง” พี่ซันทักไอ้กรกับไอ้เหลิมที่กำลังวางกระเป๋าก่อนจะหันมาทักผมอีกที “ไงค้าบน้องเท็น มาเตะบอลกับพวกพี่ด้วยหรอเรา” พี่มันเห็นผมเป็นหมาหรอ ทำไมตอนคุยกับผมต้องใช้เสียงสองด้วยวะ
“สวัสดีครับพี่ซัน พี่ฉี พี่น้ำหอม” ผมยกมือไหว้พวกพี่เขาทุกคน สายตาก็มองหาตัวพี่ปราบดาแต่ไม่เจอ
“เตะก็แย่แล้วครับพี่ ผมบอกแล้วมันเตะไม่เป็นหรอก ใส่เสื้อมาทำเท่ไปงั้น” อ้าว มาถึงก็ขายกูเลยหรอไอ้เทพกรเพื่อนรัก
“จริงพี่ ดูมันใส่เสื้อผมดิ จากที่ฟิตๆแม่งใส่แล้วหลวมชิบหาย เหมือนเด็กยืมเสื้อพ่อมาใส่” เสื้อมึงยืดได้เหอะไอ้เหลิม
“ฮ่าๆ เอ็นดูว่ะ น้องเท็นครับแม่ให้กินอะไรทำไมน่ารักจัง” พี่ฉีถามพร้อมส่งยิ้มกว้างมาให้ คือผมต้องตอบยังไง แม่ผมก็ให้กินข้าวตามปกติอะครับพี่
ตึ้ง!
“พวกมึงจะเตะกันมั้ยบอลอะ ชักช้าลีลา” เป็นไอ้พี่ปราบดาเจ้าเก่าครับ ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนแต่คือมึงจะมาแบบเงียบๆไม่ได้เลยสักครั้งเนอะ ต้องแกรนด์โอเพนนิ่งตลอด รอบนี้แม่งก็วางกระเป๋าซะเสียงดัง
“สวัสดีครับพี่ปราบดา” ผมทักทายพร้อมส่งยิ้มไปให้อย่างเป็นมิตร พี่มันมองหน้าผมนิ่งๆแล้วก็วิ่งเข้าสนามไปเลย ยิ้มเก้ออีกแล้วกู สงสัยยังโกรธเรื่องเฟสบุ๊คแน่ๆ
“ไม่ต้องไปใส่ใจหรอกน้องเท็น มันก็บ้าๆงี้แหละ เดี๋ยวก็ชิน” พี่หอมตบไหล่ผมอย่างเข้าใจความรู้สึก
“เดี๋ยวพวกพี่ลงสนามก่อนนะคร้าบ ฝากส่งกำลังใจให้พี่ด้ว.. โอ้ย! เตะบอลเหี้ยไรของมึงเนี่ยไอ้ปราบ” จู่ๆไอ้พี่ปราบก็เตะบอลมาชนหลังพี่ซันเฉยเลยครับ จากที่ฟังเสียงแล้วคงจะเจ็บน่าดู พี่มึงจะโหดไปไหนอะรอนิดรอหน่อยไม่ได้เลย รีบมากทำไมไม่มาตั้งแต่เมื่อวานอะครับพี่
พอพลพรรคนักเตะคนอื่นๆเห็นพี่ซันโดนเตะบอลใส่ดังอั้กก็วิ่งกรูกันลงสนามทันที น่าจะกลัวไอ้คนหน้าหล่อแต่นิสัยเสียจะโมโหแล้วเตะบอลอัดใส่อีก เผด็จการชิบหาย
“พวกกูไปเตะบอลก่อน มึงนั่งรออยู่นี่แหละ พอเขาพักมึงค่อยหาจังหวะเข้าไปคุยแล้วกัน” ไอ้กรพูดจบก็วิ่งลงสนามไป
“เออเดี๋ยวพวกกูมา มึงอย่าซนล่ะ”
“ซนเหี้ยไรล่ะกูไม่ใช่เด็กๆ ไปเลยมึงอะไอ้เหลิม” ผมโบกมือไล่ให้มันรีบไปให้พ้นๆสายตา หน็อยบังอาจมาว่าผมซนเดี๋ยวกูซัดให้หน้าหงาย
หลังจากที่พวกมันไปผมก็นั่งจ๋องอยู่ตรงสแตนด์นี่แหละครับ นั่งหัวเดียวกระเทียมลีบไม่มีไรจะทำก็เลยสำรวจอะไรไปเรื่อย สาวๆที่มานั่งส่งกำลังใจข้างสนามนี่อย่างแจ่ม ถึงว่าทำไมเพื่อนผมแม่งขยันมาเตะทุกอาทิตย์ไม่มีขาด ถ้ารู้ว่ามาหนามบอลกับพวกมันแล้วมีหญิงให้ส่องงี้กูขอตามมาด้วยนานแล้ว พอละสายตาจากพวกผู้หญิงผมก็สังเกตเห็นบริเวณพื้นที่ว่างข้างสนาม มีของกินน้ำดื่มรวมถึงขนมนมเนยต่างๆ วางเรียงรายไว้อลังการล้านแปดอย่างกับกับโต๊ะไหว้เจ้า ขนาดตรุษจีนที่บ้านผมยังไม่ซื้อของไหว้เยอะขนาดนี้เลยเหอะ เอามาเซ่นไหว้ใครกันบ้างวะน่ะ
เพ่งมองไปตรงโพสอิสที่แปะอยู่ผมก็ไม่แปลกใจแล้วครับว่าทำไมของแม่งถึงได้เยอะแยะขนาดนี้ ตามถุงต่างๆมีชื่อไอ้พี่ปราบดาแปะอยู่เพียบ ฮอตชิบหาย ฮอตจนกูหมั่นไส้ แต่จะว่าไปของพี่คนอื่นๆก็มีเหมือนกันครับแค่ไม่เยอะเท่าพี่มันเฉยๆ
ด้วยความที่ไม่มีอะไรทำจริงๆผมจึงใช้สายตาไล่ดูว่าสาวๆเขาเอาอะไรมาให้พี่มันมั่ง เรียกว่าหลากหลายทีเดียวครับ มีทั้งน้ำเปล่า น้ำอัดลม เกลือแร่ เครื่องดื่มชูกำลัง แซนด์วิช ขนมนมเนยต่างๆ บางอย่างก็มาจากร้านหรูเลยครับ เหมือนอย่างถุงเป็ดย่างโฟร์ซีซั่นที่วางเด่นเป็นสง่าท่ามกลางถุงอื่นๆ คือยังไงวะ คนเตะบอลมาเหนื่อยๆเหงื่อซ่กๆให้แดกเป็ดย่างเติมพลังงี้หรอ อยากเห็นหน้าคนซื้อมาให้เลยกู ตอนซื้อคิดอะไรอยู่วะเนี่ย
จะว่าไปผมเองก็ควรมีอะไรติดไม้ติดมือมาให้พี่มันแทนคำขอโทษปะวะ ไม่นับรวมตุ๊กตาหมาตัวสำคัญที่ต้องใช้ในการทำมิชชั่นอะ พอคิดได้ผมจึงลุกออกจากสแตนด์แล้วเดินหาร้านขายน้ำในละแวกนั้น เดินมั่วๆอยู่ไม่นานก็เจอกับร้านชานมไข่มุกร้านนึงเป็นซุ้มเล็กๆ
ผมเดินตรงเข้าไปสั่งเครื่องดื่มทันที ตอนแรกว่าจะซื้อน้ำเปล่าเย็นๆชื่นใจแต่เห็นมีคนเอามาให้แม่งเป็นสิบๆขวดแล้วอะเพราะงั้นพี่มันคงไม่แดกของผมหรอก ไม่ได้ครับเราต้องไม่ซ้ำใคร คนเตะบอลเหนื่อยๆแม่งก็ต้องการน้ำตาลปะวะ คิดได้แล้วก็จัดไปสิครับกับชานมไข่มุก 2 แก้ว แก้วนึงให้พี่ปราบดาส่วนอีกแก้วนึงผมกินเอง รอไม่นานก็ได้ครับ ป้าคนขายแกชงมาให้แบบหวานเจี๊ยบ น้ำตาลนี่ข้นขลักมาเลย ไม่หวานจนตาหยีกูให้เตะเลยอะ
ซื้อเสร็จเรียบร้อยผมก็เดินถือชานมไข่มุกกลับมาที่สแตนด์ตามเดิม จัดแจงวางชานมไข่มุกแก้วที่ซื้อมาให้พี่ปราบไว้ด้านข้างแล้วหันมาสนใจพวกพี่ปราบและผองเพื่อนผมที่กำลังวิ่งไล่ลูกฟุตบอลอย่างเอาเป็นเอาตาย ยิ่งตอนลงสนามเหงื่อโซมกายยิ่งทำให้พวกพี่เขาดูฮอตขึ้นมาอีกหลายเลเวลนัก สาวนี่กรี๊ดร้องเชียร์กันโหวกเหวกเสียงดัง
ผมตัดความรำคาญของมลภาวะทางเสียงด้วยการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา แค่ปลดล็อกหน้าจอยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ต้องประหลาดใจกับแจ้งเตือนในเฟสบุ๊คอีกแล้วครับ ช่วงนี้มีคนแท็กนั่นแท็กนี่ให้ผมทุกวัน พอกดเข้าไปดูก็เห็นใครไม่รู้แม่งแท็กรูปผมมา มีการเขียนแคปชั่นให้เสร็จสรรพ
‘อิจฉาปราบดา มีนางฟ้ามาเฝ้าถึงสนามบอล’ - with Ten Tavin and Prabda Asavayothin
เหี้ยไรอีกเนี่ยยยยยยย กรีดร้องให้กับแคปชั่นและรูปที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอ เป็นรูปของผมกำลังนั่งหน้าโง่อยู่บนสแตนด์ เหงื่อนี่ซ่กจนหน้าแดงเพราะอากาศร้อนชิบหาย รูปพึ่งถูกโพสต์เมื่อยี่สิบนาทีก่อน แปลว่าผู้ร้ายต้องยังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ผมเลิ่กลั่กหันมองซ้ายมองขวาแต่ไม่เจอใครที่ดูมีพิรุธสักคน
ที่โบราณเขาบอกความวัวยังไม่หายความควายเข้ามาแทรกน่าจะหมายถึงสถานการณ์ของผมตอนนี้ ยังไม่ทันจะขอโทษไอ้พี่ปราบเรื่องที่แอดเฟสไปวันก่อนก็เจอใครไม่รู้แอบถ่ายแล้วมาชงงี้อีก พี่มันจะไม่โมโหหนักกว่าเดิมหรอ เซ็งว่ะ อากาศแม่งก็ร้อนชิบหายหลังกูเปียกหมดแล้วเนี่ย
ในขณะที่ผมกำลังเซ็งชีวิตอยู่นั้นก็มีพี่คนนึงที่ผมไม่รู้จักเดินย่างสามขุมเข้ามาหา เขาใส่ชุดเตะบอลเหมือนกัน คิดว่าน่าจะเป็นตัวสำรองที่ยังไม่ได้ลงเตะ หน้านี่วิ้งมาเลย เขาส่งยิ้มทักทายและทิ้งตัวลงข้างๆผม
“ไง ชื่อเท็นใช่มั้ยเรา ตัวจริงตัวเล็กกว่าที่คิดนะเนี่ย”
“ใช่ครับ” ผมยิ้มให้พี่เขา ใครๆก็พูดงี้แหละ เห็นผมทำคลิปรีวิวอาหารเลยคิดว่าผมจะอ้วนไง
“แล้วมานั่งทำไรตรงนี้ไม่ลงไปเล่นหรอ”
“ไม่อะพี่ ผมเตะไม่เป็น”
“อ้าว งั้นมาเฝ้าแฟนหรอ” แฟนเชี่ยไรพี่ ไอ้กรไอ้เหลิมเนี่ยนะ ขากกกกกกก
“เปล่าครับผมมานั่งให้กำลังใจเพื่อน นั่นอะพี่ เพื่อนผมเตะอยู่” ผมชี้ไอ้กรกับไอ้เหลิมที่กำลังหอบแดกในสนามให้พี่เขาดู
จังหวะนั้นผมก็เห็นไอ้พี่ปราบดาวิ่งออกจากสนามมาทางที่ผมนั่งอยู่
“ออกมาทำไมวะไอ้ปราบ มึงไม่เล่นแล้วหรอ” พี่ตัวสำรองที่ผมยังไม่รู้ชื่อถามเมื่อเห็นพี่ปราบมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
“เหนื่อยว่ะ มึงไปลงแทนกูที”
“ไรวะพึ่งเตะกันไปไม่ถึงชั่วโมง ปกติกูเห็นมึงเตะสามชั่วโมงไม่บ่นเหนื่อยซักคำ”
“มึงจะเล่นไม่เล่น ไม่เล่นเดี๋ยวกูลงต่อ” ไอ้พี่ปราบตอบเหวี่ยงๆ โมโหง่ายจังวะพี่
“เฮ้ยๆเล่นดิสัสกูไปละ ไว้คุยกันนะครับน้องเท็น”
“ครับพี่” ผมส่งยิ้มให้อีกรอบ
พี่ปราบดาทิ้งตัวลงข้างๆผมแทนที่พี่ตัวสำรองที่พึ่งจะวิ่งลงสนามไป อะไรของเขาวะ ที่ตั้งกว้างมานั่งพักเหนื่อยข้างผมเนี่ยนะ แต่ก็ได้โอกาสแล้วครับ เห็นเขามานั่งด้วยผมก็ใจชื้นทำใจดีสู้เสือยิ้มให้ไปทีนึง แต่พี่ปราบแม่งไม่พูดไรนอกจากมองหน้าผมนิ่งๆ สัด เอาซะกูเก้อเลย แต่ผมไม่ย่อท้อครับอาศัยความใจกล้าหน้าด้านถามต่อ
“เหนื่อยหรอพี่ กินน้ำก่อนป่าว เนี่ยแฟนคลับพี่ซื้อน้ำกับของกินมาให้เต็มเลย”
“รู้จักหรอ” จู่ๆพี่ปราบดาก็โพล่งขึ้นมาเฉย
“ห้ะ หมายถึงแฟนคลับพี่หรอ ไม่รู้จักหรอกครับเห็นเขาเอามาวางไว้ให้ นี่ไงมีชื่อพี่แปะอยู่ด้วย”
“ไม่ใช่” พี่มันดูหงุดหงิดเล็กน้อย “หมายถึงไอ้บีม รู้จักมันหรอถึงนั่งคุยด้วย” อ๋อ พี่มันคงหมายถึงพี่ตัวสำรองคนเมื่อกี้ ผมส่ายหัว
“ไม่รู้จักแล้วคุยไม่ได้หรอ”
“ยอกย้อน”
“เปล่าครับ” คราวนี้มันมองผมดุๆ มองงี้อีกละ กูทำไรผิดเนี่ย
“แล้ววันนี้มึงมาทำไม”
“ก็เพื่อนพี่ชวนผมมา”
“มึงก็เชื่องดีเนอะใครให้ทำไรก็ทำ”
“ทำไมอะพี่ ผมอยากเตะบอลบ้างไม่ได้หรอ นี่ไงชุดบอลก็ใส่มา” ผมยืดอกให้มันดูเสื้อที่ผมใส่อยู่ วันเฉลิมเบอร์ 8 เท่สัดมั้ยล่ะมึง
“แต่งตัวเหี้ยไรมึงเนี่ย สะเหล่อ” พี่มันไล่สายตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่ปิดบัง โอ้โหแล้วดูแม่งพูดดิครับ
“เอ้าพี่ทำไมพูดงี้ ผมยืมเพื่อนมาอะ ถึงตัวจะใหญ่ไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดปะวะ” เริ่มมีน้ำโหแล้วครับ ปากหมาชิบหาย ด่าซะกูเสียเซลฟ์เลย
พี่มันไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจากมองแก้วชานมไข่มุกในมือผม ในใจแม่งคงคิดว่าผมตะกละอะกินคนเดียวจะซื้อเหี้ยไรตั้ง 2 แก้ว ผมเลยยื่นอีกแก้วไปให้พี่มัน
“อะพี่ ผมซื้อมาเผื่อ” พี่ปราบดาเลิกคิ้วมองผมอย่างงงๆ
“รับไปดิพี่ ออกกำลังกายมาต้องเติมน้ำตาล”
“มึงปัญญาอ่อนหรอ เล่นบอลมาเหนื่อยๆให้กูกินชานมไข่มุก ไหนมึงบอกกูหน่อยว่าใช้อะไรคิด” มันด่าผมฉอดๆแต่ก็ยอมยื่นมือออกมารับไปถือไว้เฉยๆ ไอสัด ละลายหมดแล้วน่ะ
“เออพี่ ผมทักเฟสไปอะไม่เห็นหรอ” สบโอกาสก็เข้าเรื่องเลยครับ แกล้งถามไปงั้นเพราะรู้ว่าแม่งเห็นอยู่แล้ว ขึ้นว่ารี้ดซะเรียบกริ้บจะไม่เห็นแชทผมได้ไง
“เห็น แต่ขี้เกียจตอบ” แม่งตอบหน้าตาเฉยมาก คนแบบนี้ก็มีหรอ มนุษยสัมพันธ์ติดลบเหี้ยๆไม่ต้องแดกแล้วมั้งชานมไข่มุกอะ เอาหนังสือสมบัติผู้ดีไปต้มแดกแทนเหอะ
“เพราะพี่ไม่ตอบนี่ไงผมเลยต้องมาหา ตั้งใจจะมาขอโทษเนี่ย”
“ขอโทษกูทำไม มึงปัญญาอ่อนหรอ” เอ้าไอ้เหี้ยด่ากูอีกแล้ว พูดดีๆไม่เป็นหรอวะ
กำลังจะอ้าปากตอบแต่ไอ้กรไอ้เหลิมกับพวกพี่ซันก็กรูกันเข้ามาหาซะก่อน สงสัยใกล้จะเลิกกันแล้วครับ แต่ละคนสภาพเละเทะเหม็นเหงื่อกันมาเลย พวกพี่ซันมองผมยิ้มๆส่วนไอ้พี่ปราบดาแม่งเดินหายไปไหนแล้วไม่รู้ อะไรของมันอีกวะเนี่ย ปวดเยี่ยวหรอพี่ ให้เพื่อนผมจูงไปเข้าห้องน้ำป่าว
พอพวกพี่ซันเดินแยกไปเก็บของ ไอ้กรกับไอ้เหลิมก็มายืนประจันหน้าผมพร้อมทำหน้าตาสอดรู้สอดเห็นใส่ทันที
“อะไรของพวกมึงอีกอะ” ผมรำคาญสายตาหลุกหลิกของพวกมันเลยเป็นฝ่ายถามก่อน
“กูเห็นมึงนั่งกับพี่ปราบตั้งนาน คุยไรกันวะมุ้งมิ้งเชียว” ไอ้กรถามพลางกระดกน้ำกินอึกใหญ่ๆ มุ้งมิ้งเหี้ยไรของพวกมันอีกอะ กูล่ะเบื่อจริงๆคำนี้
“เออ คนเขามองกันทั้งสนามมึงไม่เห็นหรอ” ไอ้เหลิมช่วยเสริมอีกแรง
“มุ้งมิ้งบ้านป้ามึงดิ ไม่ได้คุยไรโว้ย ตุ๊กตานี่กูก็ยังไม่ทันได้ให้เขาเลยแม่งหายไปไหนอีกแล้วไม่รู้” หายตัวเก่งชิบหายไอ้พี่ปราบดาเนี่ย
อ่านต่อด้านล่างค่ะ
ยอดชายนายซันช่าย
สวัสดีคร้าบ กลับมาที่ผมอีกแล้วกับยอดชายนายซันช่ายแห่งแก๊งเอฟโฟร์
ตอนนี้ผมนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเอง ตอนแรกกูก็กำลังตีดอทกับไอ้ฉีและไอ้หอมอย่างเมามันส์อยู่ดีๆ แต่หลังจากที่ไอ้ปราบส่งลิ้งยูทูบมาให้ในแชทกลุ่มผมก็ต้องพับหน้าจอ งดกิจกรรมทุกอย่างแล้วมานั่งดูคลิปเป็นเพื่อนแม่ง ลำบากเพื่อนฝูงชิบหาย
“สวัสดีคร้าบทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่อง เท็นเทอร์ตี้เอ้ก อี้ เอ้ก เอ้ก ในวันศุกร์สี่ทุ่มหรรษากับผมเท็นคนดีคนเดิมเพิ่มเติมคือความหล่อ ซึ่งจะพาทุกท่านไปชิมร้านอาหารที่ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติเหี้ยมากๆ กับช่วง #ไม่อร่อยอย่าเสือกแดก...”
...เนี่ยไงครับสิ่งที่กูต้องทำเหมือนเป็นกฎประจำกลุ่มของกูไปแล้วว่าพวกเราทุกคนต้องดูคลิปน้องเท็นทุกวันศุกร์ ซึ่งกูจะดูอย่างเดียวก็ไม่ได้นะครับต้องแฝงตัวไปเนียนๆคอมเม้นด้วยเพราะไอ้ปราบสั่งมา เป็นเอามากนะเพื่อนกู
“สำหรับวันนี้นะครับผมจะมารีวิวร้านชานมเปิดใหม่ข้างถนนอังดีรูนัง ไม่ใกล้ไม่ไกลกับมหาลัยอันเป็นที่รักของพวกเรานั่นเอง รอบนี้ขออนุญาตเซ็นเซอร์ชื่อร้านนะครับ แต่กูใบ้ให้ว่าเป็นชานมเสือภูเขาพ่นไฟ แอบกระซิบว่าที่ต้องเซ็นเซอร์ชื่อเพราะล่าสุดกูโดนฟ้องไปแล้วครับพี่น้อง ที่หายไปอาทิตย์ก่อนเพราะเรื่องนี้นี่แหละ”
55555555555555555555555555555555555555555555 ไอ้เหี้ยถึงตรงนี้กูลั่นเลย คนฟ้องน้องเท็นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก พวกกูนี่แหละครับ ทนายวิรุชนี่กูปั้นมาเองกับมือ
“ผมได้ทำการแดกไปแล้วครับหนึ่งหลอด ชานมแม่งรสชาติเป็นยังไงไม่รู้แต่ไข่มุกนี่เดินขบวนพาเหรดเข้าปากกูมาเลย ฟันแทบแตก ไอ้เหี้ยมึงแข็งมากทำไมมึงไม่อ่อนโยน”
แล้วน้องเท็นมันก็ดูดชาต่ออีกปื๊ดนึงครับ รสชาติแม่งคงไม่อร่อยจริงๆนั่นแหละน้องมันถึงได้ดูพะอืดพะอมขนาดนั้น แต่พอทำแล้วหน้าตามันโคตรน่าเอ็นดูเลย ไม่แปลกใจครับว่าทำไมคนถึงชอบน้องมันเยอะขนาดนี้
“ในส่วนของรสชาติชานะครับ ชาจริงๆครับ ลิ้นกูนี่ชาวาบเลย กูไม่ได้รู้สึกถึงความเป็นอะไรเลยนอกจากนมข้นและน้ำตาลทรายแดง โทษครับ ชิบหายแล้วทำไมภาพมันเบลอๆวะ อ๋อ เบาหวานขึ้นตา สำหรับวันนี้ลากันไปก่อนนะครับหมอโทรตามไปเจาะเลือดแล้ว แล้วพบกันใหม่ศุกร์หน้า สวัสดีคร้าบ”
เท็นยิ้มให้กับกล้องโบกไม้โบกมือแล้วภาพก็ตัดไปครับ น่ารักจนใจกูสั่น อยากให้โลกนี้มีน้องเท็นมีสักยี่สิบคน คลิปรอบนี้แม่งสั้นดีว่ะแต่ก็ดีแล้วจะได้ไม่ต้องเสียเวลากูมาก ไหนดูซิคนมาคอมเม้นไรกันบ้างกูจะได้ไม่เม้นซ้ำ
ฟ้า สาลิกาลิ้นทอง: กรี๊ดดดดด พี่เท็นมาแล้ว หายไปทำไรมาค้าทำไมกลับมาแล้วน่ารักกว่าเดิมอีกอ่า>////<
noo_straw_berry: อาม่าหนูพึ่งออกจากโรงบาลค่ะพี่ตอนแรกแกลุกค่อยไม่ค่อยได้แต่พอแจ้งเตือนคลิปพี่ดังแกเดินปร๋อเลยค่าาา
ต้นๆรถเป็นไรอะ: น่ารักโว้ยยยยยยย #ทีมผัวน้องเท็น ใครดูแล้วกดไลค์
( 328 คนถูกใจสิ่งนี้ )
โอ้โหเหยดแหมมมมม ทำไมคนอยากเป็นผัวน้องมันเยอะจังวะ ถ้าให้กูเดานะเดี๋ยวเจ้าตัวต้องออกมาพิมเหี้ยไรน่ารักๆตามประสามันอีกอะ ดูน้องมันจะไม่ชอบใจเท่าไหร่ครับเวลาใครชมมันว่าน่ารัก
ten38: @ต้นๆรถเป็นไรอะ พี่ผมแดกชาจนตาหยีขนาดนี้ยังจะน่ารักอีกหรอ
ต้นๆรถเป็นไรอะ: วี๊ดดดดดดดดด น้องเท็นตอบกู!!!! น่ารักค้าบ แดกอะไรก็น่ารักที่สุดในโลกของพี่ต้น
เห็นปะครับ คนจะไม่ชมมันไหวหรอก็แม่งน่ารักจริงๆอะ ขนาดกูยังเอ็นดูเลย ให้กูเดาอีกรอบนะป่านนี้มีคนหวงจนหน้าเขียวไปแล้วมั้ง ความหวงแม่งน่ากลัวจริงๆ โดยเฉพาะหวงทั้งที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน อุก๊าก
ซักพักไลน์ก็เด้งครับ
[ฟลาวเวอร์ 4 ดอกไม้สีทอง]
ฉี sent a photo.
ไอ้ฉีมันส่งรูปแคปหน้าจอเข้ากลุ่ม เป็นคอมเม้นที่น้องเท็นโต้ตอบกับคนชื่อต้นๆรถเป็นไรอะ
ฉี: ยอมหรอวะ เป็นกูกูไม่ยอมน้าาาาา
ฉี sent a sticker.
งานปั่นไอ้ปราบคืองานถนัดของพวกผม มันเปิดมาแล้วกูก็ต้องตามสิครับรออะไร
ซันช่าย: ไอ้เหี้ยนี่แม่งใครวะ กระทืบแม่งเลยปะ เดี๋ยวพวกกูจัดให้
น้ำหอม: จัดให้หนักๆเลยหรอวะ
ซันช่าย: เหอะ
ซันช่าย: จัดกระเช้าดอกไม้ไปเยี่ยมไอ้ปราบที่โรงบาล
ซันช่าย: ป่านนี้หึงหวงจนวูบ หัวกระแทกโต๊ะคอมเลือดอาบไปแล้วมั้ง
ซันช่าย: @P ตอบดิวะ
ซันช่าย: @P ใจคอไม่ดี
น้ำหอม: 55555555555555555
P: olo
P: สัด
P: ไม่ได้หวง
ฉี: ไม่หวงจริงป่าววววว
ฉี: งั้นเดี๋ยวกูเม้นบ้าง
ฉี: รอดูเลยครับลูกเพี่ย
ผมกลับมามองที่จอคอม อยากรู้ว่าไอ้ฉีแม่งจะเล่นเหี้ยไร มันจะเม้นไรไม่รู้แหละแต่กูขำรอแล้ว
น้ำตาจ่าโท: น้องเท็นน่ารักจังคร้าบบ ดูคลิปน้องเท็นแล้วร่างกายพี่ไม่ปกติ หัวใจมันเต้นเป็นคำว่ารักน้องเท็น รักน้องเท็น ไม่ทราบว่าจะรับผิดชอบยังไงคร้าบบบ
5555555555555555555 น้ำตาจ่าโทนี่ก็ฝีมือพวกผมสมัครเองครับ ไอดีเดียวเสียวทั้งกลุ่ม เอาบ้างดีกว่ากู
น้ำตาจ่าโท: อยากให้น้องเท็นแวะมารีวิวอาหารแถวบ้านพี่ ถึงถนนหน้าบ้านพี่จะเป็นถนนลูกรัง แต่วันนึงมันจะเป็นทางเดินของลูกเรานะครับ
น้ำตาจ่าโท: อัพบ่อยๆนะครับ อยากดูคลิปน้องเท็นทุกวันเลย
จัดไปอีกสองแมตในส่วนของผมและไอ้น้ำหอม พวกกูคอมเม้นกันตามหน้าที่แล้ว แล้วมึงล่ะไอ้ปราบ รอเหี้ยอะไรอยู่เอ่ย ผมรีเฟรชหน้าจอรอสี่ห้าทีมันก็มาครับ มาจริงรอบนี้ กูนี่ยิ้มจนหน้าเบี้ยวเลย
ทนายวิรุช: น่ารัห
ทนายวิรุช: น่ารัก*
ทนายวิรุช: โทษครับพิมพ์ผิด
TALK
มาแล้วจ้า ร้อนๆจากเตา พิมพ์เสร็จลงเลย ขอบคุณทุกคอมเม้นและคนที่สกรีมในแท็กด้วยนะคะ เราอ่านทุกคอมเม้นเลย ฝากเอ็นดูน้องเท็นพี่ปราบและผองเพื่อนด้วยนะคะ
ป.ล. พี่ปราบอัพบ่อยไปไหม
บ่อยไป กด1
บ่อยไป กด2
บ่อยไป กด3
5555555555555555555555555
#ปราบดาพิเศษ
ตอนที่ 6
อย่าคราง..
BGM - คนไม่พิเศษ
“ไอเท็น!!! ลุกเลยมึง อย่าอู้!” ผมสะดุ้งโหยงเพราะเสียงตะคอกของพี่กุ๊กประธานเชียร์หน้าโหดของพวกเราชาวนิเทศศาสตร์ ตอนนี้พี่แกเดินถือโทรโข่งพุ่งมาทางผมที่แอบมานั่งหลบมุมอู้อยู่ข้างอัฒจรรย์ พี่แม่งเห็นกูได้ไงวะ
วันนี้เป็นวันแรกที่พี่กุ๊กนัดผมมาซ้อมเดินถือป้ายคณะสำหรับงานกีฬามหา’ลัยโดยมีเพื่อนในรุ่นอีกสองสามคนมาร่วมซ้อมด้วย จะไม่ให้ผมอู้ยังไงไหวอะ ก็พี่แกเล่นนัดมาซ้อมตั้งแต่สามโมงจนตอนนี้ปาเข้าไปจะห้าโมงแล้วครับ ทั้งๆที่หน้าที่ผมไม่มีไรเลย ก็แค่เดินถือป้ายเฉยๆ ซ้อมจนแขนกูนี่โตเป็นป๊อปอายแล้วไอเหี้ย
“ไม่ไหวแล้วพี่ ขอพักแปปนึงดิ” ผมบอกเสียงอ่อย
“จริงค่ะพี่ ปองก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ขอพวกเราพักสักห้านาทีนะค้า” ปิงปอง เดือนปีหนึ่งที่มาซ้อมเหมือนกันช่วยผมค้านเพราะทนความโหดของพี่กุ๊กไม่ไหว ไอ้นี่มันหล่อมากนะครับ เปิดเทอมมาใหม่ๆมีแต่คนมาถามหาน้องปิงปองปีหนึ่ง ด้วยความฮอตจนฉุดไม่อยู่ของมันรุ่นพี่จึงจับประกวดเดือน แต่ผ่านไปไม่นานจากเดือนแม่งกลายเป็นดาวซะงั้น
“พวกมึงไปพักกี่รอบแล้ว กูเรียกซ้อมแค่อาทิตย์ละครั้งเองนะเว้ย ดูพวกหลีดพวกนักกีฬาดิ เขาซ้อมกันทุกวันเหนื่อยกว่าพวกมึงอีกยังไม่เห็นมีใครบ่น”
“พักก่อนก็ได้มึง ดูหน้าน้องดิ ไม่ไหวแล้วเนี่ย” พี่ต้น พี่ปีสามอีกคนหนึ่งท้วงขึ้นเมื่อหันมาเห็นว่าหน้าผมกับปิงปองเหมือนคนกำลังจะขาดใจตายแล้วจริงๆ ทั้งเมื่อยทั้งเหนียวตัวไปหมดแล้วครับ อากาศแม่งโคตรร้อน ใครมันคิดวะให้พวกผมมาซ้อมเดินถือป้ายกลางสนาม อากาศเย็นสบายมากมั้ง ที่นี่กรุงเทพนะครับไม่ใช่กรุงโซล มึงดูซีรีส์เกาหลีมากไปปะเนี่ย
“เงียบเลยมึง กูเรียกมึงมาช่วยซ้อมไม่ได้ให้มาสปอยล์น้อง อย่าคิดว่ากูไม่เห็นนะว่าก่อนหน้านี้มึงให้มันพักกันไปกี่รอบแล้ว ไอ้เชี่ยต้น”
“แล้วมึงจะโหดไปไหนวะ งานแม่งอีกตั้งนาน นี่พึ่งซ้อมกันวันแรกค่อยเป็นค่อยไปดิ กูสงสารน้องเท็น น้องอุตส่าห์มาช่วยเดินให้เจอมึงโหดใส่เดี๋ยวน้องก็เผ่นกันพอดี” น้ำตารื้นเลยกู พี่ต้น ผมรักพี่ว่ะ ในบรรดาปีสามก็มีแต่พี่คนเดียวที่เข้าใจความรู้สึกผม แม่งเข้าใจถ่องแท้ซะด้วยเพราะกูกะจะเผ่นจริงๆนี่แหละ ใครจะไปทนไหวอะ ให้กูแบกป้ายเป็นกรรมกรเลย ร้าวไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดตีน
Rrrrr r
จังหวะที่กำลังเถียงกันเสียงโทรศัพท์พี่กุ๊กก็ดังขึ้น พี่แกเลยขอตัวออกไปรับสาย
“ไหวมั้ยครับน้องเท็น เดี๋ยวพี่ต้นไปเอาน้ำให้” พี่ต้นทำท่าเหมือนจะลุกไปเอาน้ำให้ผม แต่กูไม่หิวเพราะพี่มันเอาน้ำให้ผมแดกไปแล้วเกือบลัง ไม่ต้องนอนแล้วกูคืนนี้ ลุกเยี่ยวสนุกสนาน
“ไม่เป็นไรครับพี่ เดี๋ยวปวดฉี่”
“ถ้าปวดเดี๋ยวพี่พาไปห้องน้ำก็ได้ ใกล้ๆแค่นี้เอง”
“เฮ้ยพี่ไม่เป็นไรผมโอเค พี่ไปดูปิงปองเหอะ หนักกว่าผมอีก”
ผมชี้ไปทางปิงปองที่นั่งกอดเข่าสภาพไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ พี่ต้นเลยเลิกเจ๊าะแจ๊ะแล้วนั่งเงียบๆ สักพักก็มีผู้หญิงคนนึงเดินถือแก้วชานมดาวตรงเข้ามาทางผม แก้วในมือนี่เหลืองอ๋อยมาเลย
“น้องเท็น มีคนฝากมาให้ สู้ๆนะคะ” พี่เขายิ้มแล้วยื่นแก้วชานมไข่มุกสีเหลืองในมือมาให้ผม
“ใครฝากมาหรอครับ”
“เพื่อนพี่ฝากมาให้ ชื่อพาย อยู่ตรงนู้นอะ” ว่าแล้วก็ชี้ไปทางพี่ผู้หญิงผมยาวประบ่าที่ยืนรออยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล พอหันไปมองแล้วเขินเลยครับ พี่เขาหน้าตาน่ารักใช้ได้เลยแหละ ผมผงกหัวขอบคุณพี่เขาไปทีนึงแล้วยิ้มให้ พอพี่เขาเห็นก็เดินงุดๆหายไปอีกทาง สงสัยจะเขิน งี้แหละครับ ความเท่มันห้ามกันไม่ได้จริงๆ
“เฮ้ยพวกมึง งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อน กูมีธุระว่ะ” พี่ต้นที่พึ่งวางสายเดินหน้านิ่วเข้ามาบอก สบายแล้วกู ในที่สุดก็เป็นอิสระไม่ต้องเดินให้เมื่อยตุ้มแล้วโว้ย
“เย้!”
“น้อยๆหน่อยมึงไอ้เท็น อย่าให้มันออกนอกหน้ามากนัก อาทิตย์หน้ากูนัดซ้อมเวลาเดิมนะ กูไปก่อนล่ะ”
“เฮ้ยมึงกลับไงวะกุ๊ก” พี่ต้นถาม
“รถกูจอดอยู่ข้างๆเนี่ย ทำไมวะ”
“กูขอกลับด้วยคนดิ หอมึงกับหอกูใกล้ๆกันเดี๋ยวกูลงหอมึงแล้วเดินกลับเองก็ได้”
“เอ้าไอ้ต้น รถมึงเป็นไรวะ”
“ไม่รู้ว่ะมึง รถกูเสียสตาร์ทไม่ติดประจำเลยอะ”
ผมนั่งมองพี่กุ๊กกับพี่ต้นยืนคุยกันเรื่องจะขอติดรถกลับ ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกคุ้นชื่อพี่ต้นแปลกๆวะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่สงสัยกูคงคิดมากไปเองอะแหละ คนชื่อต้นแม่งมีเป็นล้าน เอาแค่ตอนปอสามในห้องผมก็มีคนชื่อต้นสี่คนแล้วอะครับ เรียกทีหันกันหมดทั้งต้นเล็ก ต้นใหญ่ ต้นน้อย และคนสุดท้ายนี่อุบาทว์สุดเลย ต้นรูกุ๋ย
“ถ้างั้นผมไปก่อนนะพี่ สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พี่ทั้งสองคนแล้วเดินแยกตัวออกมา หิวชิบหาย ไม่รู้พวกไอ้เหลิมไอ้กรมันจะซ้อมบอลกันเสร็จรึยังป่านนี้ เดินไปดูพวกแม่งหน่อยดีกว่า มันซ้อมกันอยู่อีกฟากของสนามเดียวกันกับผมนี่แหละครับ
พอผมเดินมาถึงฝั่งที่เขาแบ่งไว้สำหรับซ้อมบอลก็เห็นเดอะแก๊งยังวิ่งไล่ลูกฟุตบอลกันอยู่ในสนาม อึดชิบหาย พวกมึงรู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยกันบ้างมั้ยเนี่ย ลำบากกูอีกต้องมานั่งรอพวกมึงที่ไม่รู้ว่าจะเลิกซ้อมกี่โมง หิวก็หิว ตั้งแต่เลิกเรียนยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยครับนอกจากน้ำเปล่าจากพี่ต้น
“อ้าวน้องเท็น มารอเพื่อนอีกแล้วหรอเรา” ผมเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นพี่บีมยืนก้มหน้าลงมาคุยกับผม พอสบตากับพี่บีมผมนี่ตาพร่าเลยครับ โดนออร่าความหล่อแบบผู้ดีของพี่บีมแทงตา สงสัยผมมัวแต่มองหาเดอะแก๊งในสนามเลยไม่รู้ตัวว่าพี่เขามายืนซ้อนอยู่ข้างหลังตอนไหน
“ใช่ครับ” ผมยกมือไหว้ “วิศวะก็มาซ้อมเหมือนกันหรอพี่”
“อือฮึ พวกพี่ซ้อมกันอยู่ตรงนู้น” ผมมองตามมือพี่บีมไปก็เห็นพวกนักบอลวิศวะกำลังซ้อมบอลกันอยู่อีกฝั่งของสนาม นั่นไงครับ ไอ้พี่ปราบ พี่ซัน พี่ฉี และพี่น้ำหอมกำลังตะโกนคุยกันอยู่ ไกลขนาดนี้รังสีความหน้าตาดีแม่งยังแผ่ทะลุมาถึงฝั่งที่ผมนั่งอยู่ พวกพี่มึงใช้ความหล่อกันได้สิ้นเปลืองจริงๆ
“อะ”
“อะไรครับพี่” ผมถามทั้งที่เห็นอยู่แล้วว่าพี่บีมยื่นแก้วชานมไข่มุกมาให้ผม คนมันงงอะครับ ก็ผมถืออยู่ในมือแล้วนี่ไงแก้วนึงไม่เห็นหรอ พึ่งได้มาจากพี่ผู้หญิงผมสั้นน้ำแข็งยังไม่ทันละลายเลยเนี่ย ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไรกินชานมไข่มุกไม่ต่ำกว่าวันละสามแก้ว เยี่ยวทีนี่ต้องรีบกดชักโครกเลยครับ กลัวมดตอมเยี่ยว
“พี่สั่งแกร้บมาให้ เห็นเราชอบกิน ลองกินดูดิ ชานมข่อย พี่เห็นใครๆเขาก็ฮิตกินกัน”
“อ๋อ ขอบคุณครับพี่” ผมรับมาเพราะเกรงใจ พี่บีมอุตส่าห์สั่งมาให้ถ้าไม่รับก็น่าเกลียดแย่เลย
“แล้วพี่บีมรู้ได้ไงอะว่าผมชอบกินชาไข่มุก”
“อ๋อ” พี่บีมหัวเราะ “เมื่อคืนพี่ดูคลิปรีวิวชานมเสือภูเขาพ่นไฟของเรา เห็นเท็นบอกว่าไม่อร่อยก็เลยซื้ออันนี้มาให้ ล้างปากไง” เหยดแหม อบอุ่นเหมือนอยู่บ้านเรา ทั้งหล่อทั้งพูดจาดี ทำไมพี่เขาดีขนาดนี้วะ เกาแก้มเลยครับ ไม่คิดว่าพี่บีมจะมาดูคลิปอันไร้สาระของผมด้วย พอมีคนมาพูดถึงคลิปต่อหน้าแล้วมันเขินเหมือนกันแฮะ
“โห พี่ดูด้วยหรอ ขอบคุณนะครับ ไว้วันหลังพี่บีมแนะนำร้านให้ผมบ้างนะ บางทีก็คิดไม่ออกแล้วเหมือนกันว่าจะไปรีวิวร้านไหนเพราะไปมาเกือบหมดแล้ว พวกร้านแถวมออะ”
“ได้อยู่แล้ว ไว้วันหลังเท็นจะรีวิวร้านไหนชวนพี่ไปเป็นเพื่อนก็ได้นะ พี่อยากดังบ้าง” พี่บีมพูดติดตลก แต่ผมฟังแล้วเกิดไอเดียเลยครับ พี่บีมนี่จัดว่าหล่อไม่ใช่เล่นเหมือนกันถ้าพามาออกรายการของผมยอดวิวน่าจะถล่มทลาย
“พี่บีมใจดีจังครับ ไม่เหมือนไอ้พี่ปราบ รายนั้นหล่ออย่างเดียวแต่นิสัยนี่ไม่ไหว” แล้วกูจะพูดถึงไอ้พี่ปราบมันทำไมวะเนี่ย ถุยๆๆ
“ฮ่าๆๆ อย่าไปรบกวนมันเลย ชวนพี่ก็ได้ ถึงจะไม่หล่อเท่าไอ้ปราบแต่พี่ก็อดีตเดือนวิศวะเหมือนกันนะ” พี่บีมยิ้มก่อนจะขยิบตาให้ผม พอได้ยินว่าพี่บีมเป็นถึงเดือนพี่เขายิ่งดูหล่อว่าเดิมไปอีก แต่หล่อคนละแบบกับพวกพี่ซันครับ พวกนั้นขอใช้คำว่าหล่อแบบสถุนก็แล้วกัน ส่วนพี่บีมนี่เรียกว่าน้องๆสุภาพบุรุษจุฑาเทพ
“งั้นเดี๋ยวไว้พี่แอดเฟสบุคเท็นไปนะ จะได้นัดกันง่ายๆ”
“ครับพี่”
“สวัสดีคร้าบทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่อง เท็นเทอร์ตี้เอ้ก อี้ เอ้ก เอ้ก” เสียงโหวกเหวกของพวกพี่ซันครับ หันไปมองก็เห็นพี่ซันกับพี่ฉีแม่งเดินตีปีกมาเป็นไก่โต้งเลย เป็นเชี่ยไรกันอีกเนี่ย กูอายเค้า ส่วนพี่น้ำหอมกับพี่ปราบดาก็เดินตามมาเงียบๆข้างหลัง ไอ้พี่ปราบหน้าหงิกเป็นตีนตามประสาพี่แกเหมือนเดิม ไม่รู้ไปกินรังแตนที่ไหนมาอีก
“เล่นไรกันเนี่ยพี่ เบาๆดิ คนมองหมดแล้ว”
“ก็คลิปน้องเท็นเทอตี้เอ้กไงคร้าบ พวกพี่ดูแล้วน้าาา กินชานมไข่มุกด้วย น่ารว๊อกกกกอ่ะห์”
“เอ้าพวกพี่ก็ดูเหมือนกันหรอ กดสับตะไคร้ให้ผมยังเนี่ย”
“สับตะไคร้จนเขียงแตกแล้วครับน้องเท็น พี่กดไลค์กดแชร์ตามที่น้องบอกเรียบร้อย ยอดวิวสามแสนเป็นของพวกพี่ไปแล้วสองแสนห้า”
“มึงมาทำไรตรงนี้วะไอ้บีม” เป็นเสียงพี่ปราบถามขึ้นท่ามกลางบทสนทนาไร้สาระของพวกพี่ฉีกับพี่ซัน
“กูเอาน้ำมาให้น้องเท็น จะไปแล้วพอดี งั้นพี่ไปก่อนนะครับน้องเท็น ไว้เดี๋ยวแอดแล้วทักไปนะ” พี่บีมส่งยิ้มให้ผมอีกทีแล้วปลีกตัวออกไปเลย ส่วนไอ้พี่ปราบก็มองหน้าผมแล้วทำหน้าบูดกว่าเดิมอีก เป็นอะไรของพี่มันอีกเนี่ย
“กินชานมสองแก้วเลยหรอน้องเท็น แบ่งพวกพี่บ้างดิ” พอพี่บีมแยกไปพี่ซันก็หันมาถามถึงแก้วชานมในมือผม นั่นแน่ ตลกแดกแบบไอเหลิมอีกคนแล้ว
“แก้วนี้ผมดูดไปแล้วอะพี่ซัน งั้นพี่เอาแก้วนี้ไปแทนละกัน พี่บีมพึ่งซื้อมาให้เมื่อกี้ผมยังไม่ได้กินเลย”
“กูไม่แดก”
“อ่อๆๆ ถ้าไม่ใช่ชานมที่น้องเท็นซื้อมาให้พี่ปราบก็กินไม่ลงใช่มั้ยคร้าบ”
“ฮิ้ววววว” พวกพี่มันแม่งเสียงดังกันอีกแล้วครับ เสียงดังเก่งงี้ไม่ต้องลงหรอกฟุตบงฟุตบอลอะไปขึ้นสแตนด์เชียร์เหอะ เวิร์ค
จังหวะนั้นพวกไอ้กรไอ้เหลิมก็เดินกอดคอกันออกมาจากสนาม เหงื่อท่วมตัวมาเลยนะไอ้พวกสกปรก
“หวัดดีครับพี่” พวกมันยกมือไหว้พี่เขารอบวง
“เออดีมึง นิเทศซ้อมกันเสร็จยังวะ”
“เสร็จแล้วพี่ ว่าจะไปหาไรกินแล้วค่อยกลับไปนอน”
“เออ ผมว่าจะนอนให้ลืมไปเลยว่าพรุ่งนี้มีคลาสบ่าย” ไอ้เหลิมบอกพร้อมหยิบกระเป๋ามาสะพายเตรียมแยกย้าย
“พวกกูก็ว่าจะไปหาไรแดกเหมือนกัน เสร็จแล้วจะไปหาร้านนั่งดูบอลต่อ พวกมึงไปกับกูดิไม่มีเรียนเช้าไม่ใช่หรอ” พี่น้ำหอมเอ่ยชวน
“เอาดิพี่ พวกมึงว่าไง” ผมรีบตอบรับทันทีทั้งๆที่ไม่ได้ชอบดูบอลไรกับเขาหรอก โอกาสในการทำมิชชั่นมาอีกแล้วครับ กูไม่ปล่อยให้หลุดไปง่ายๆแน่รอบนี้
“เออไปก็ไปวะ กูได้หมดอะ อยากแดกเบียร์พอดี”
“งั้นสามทุ่มเจอกันห้องสมุด”
“เอ้าา ไปทำไรห้องสมุดอะพี่ ไหนบอกไปดูบอลไง ให้ไปนั่งรออ่านหนังสือผมไม่ไปนะ”
“ไอ้ควาย” พอพูดจบไอ้เหลิมก็ด่าผมทันที อ้าวกูพูดไรผิดอะ
“ฮ่าๆๆ น้องเท็นแม่งน่ารักว่ะ ห้องสมุดคือชื่อร้านเหล้าคร้าบ ไม่เคยไปหรอเรา” ตั้งแต่มาเรียนที่นี่กูก็พึ่งเคยได้ยินนี่แหละ เจ้าของร้านเป็นเหี้ยไรวะเอาห้องสมุดมาตั้งเป็นชื่อร้านเหล้า
“น่ารักหรอวะ แถวบ้านกูเรียกโง่” ไอ้พี่ปราบอีกแล้ว เหมือนพี่มันเกลียดผมอะ
“กูว่าแยกย้ายเหอะ อยู่ต่อเดี๋ยวมีคนต่อยกันปากแตกก่อน ได้แดกเลือดแทนแดกเบียร์กันพอดี สามทุ่มเจอกันเว้ย”
ห้องสมุด
ผมมาถึงหน้าร้านแล้วครับ วันนี้กูจัดเต็มมาก ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมเรียกได้ว่าเป๊ะทุกอย่างตั้งแต่หัวจรดตีน นานๆทีได้เที่ยวต้องเอาหน่อย ผมสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเก่ง ปลดกระดุมเรียกสาวเบาๆครับสองเม็ดกับกางเกงยีนส์ขาดเข่าซึ่งไม่รู้ว่ากูซักครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ สบู่เดอมาพอนหลบไปก่อนครับเพราะผมอาบน้ำหอมมาเลยวันนี้ กูยืนอยู่ท้ายซอยแต่คนที่อยู่ปากซอยแม่งต้องได้กลิ่นอาร์มานี่โค้ดที่ผมฉีด
“โอ้โหไอ้เท็น มึงจะไปไหนวะ” ไอ้เหลิมที่ใส่เสื้อยืดห่านคู่กับกางเกงบอลและรองเท้าช้างดาวถามผม เหยดแหม่ยังมีหน้ามาถามกูอีกหรือไอ้ทุยเพื่อนยาก มึงนั่นแหละคีบช้างดาวจะไปไหน แต่งตัวไม่ให้เกียรติสถานที่เลยไอ้ซ้าดด มองผ่านๆกูนึกว่าเด็กรับรถ
“มึงคงร้อนมากเนอะเท็น คอเสื้อนี่ลึกมาเลย ก้มทีกูเห็นถึงตีน” ไอ้กรเอ่ยแซวผมอีกคน สงสัยอิจฉาที่วันนี้ผมแต่งตัวหล่อกว่าแน่ๆ
“เลิกแซวกูแล้วเข้าร้านเหอะ กูเริ่มร้อนจริงแล้วเนี่ย อย่าให้กูจักแร้เปียกเลยเดี๋ยวไม่หล่อ”
พวกเราเดินเข้ามาในร้านก็เห็นพวกพี่ปราบนั่งกันอยู่ตรงโต๊ะแถวๆโปรเจคเตอร์ คงกะว่ามาดูบอลกันเต็มที่เพราะทุกคนสวมเสื้อกับกางเกงบอลมาสภาพไม่ต่างจากไอ้เหลิมเท่าไหร่ จะมีก็แต่พี่ปราบที่ดีกว่าหน่อยคือสวมเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์ แต่แค่นี้ก็เด่นจนคนก็มองกันทั้งร้านแล้วครับ
“มึงแต่งตัวเหี้ยไรอีกแล้วเท็น สะเหล่อ” อ้าว มาถึงก็เปรี้ยวตีนเลยนะพี่ปราบ
“กูว่าน่ารักดีออก สะเหล่อตรงไหน น้องเท็นใส่มาบ่อยๆนะคร้าบพวกพี่ชอบดู” ดูไรวะ เสื้อกูมีอะไรให้ดูอะ สงสัยพี่มันเป็นคนตามแฟชั่นว่ะ
พวกผมนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างอยู่โดยไอ้กรดันให้ผมนั่งติดกับพี่ปราบ สงสัยมันอยากให้ผมนั่งใกล้ๆหาโอกาสตีซี้จะได้ทำภารกิจสำเร็จไวๆ แหม่ รอบคอบดีจริงๆเพื่อนรัก รอสักพักแก้วก็ถูกนำมาวางเพิ่มอีกสามใบ ดูจากสภาพโต๊ะตรงหน้าแล้วพวกพี่มันคงแดกนำไปเยอะแล้วเหมือนกัน ที่เขาบอกว่าพวกวิศวะคอทองแดงก็ท่าจะจริงครับเพราะพวกพี่มันยังไม่เมากันเลย
“อะครับน้องเท็น ชนแก้วกับพวกพี่หน่อย” พี่ซันรินเบียร์แล้วยื่นมาตรงหน้าผม
ผมรับแก้วมาพร้อมๆกับพวกไอ้กรไอ้เหลิมแล้วชนแก้วกับพวกพี่ซัน แต่ไม่ได้กินจนหมดแก้วเหมือนคนอื่นครับ จิบไปนิดนึงพอเดี๋ยวกูเมาไว ช่วงนี้ยิ่งไม่ค่อยได้แดกอยู่ เกิดเมาขึ้นมากูโดนไอ้กรบ่นจนหูชาแน่
“ไหนอะพี่บอลเตะไปยัง”
“วันนี้ไม่มีบอลว่ะ สงสัยพี่จำผิดวัน”
“กูว่าไหนๆก็ไม่ได้ดูบอลแล้ว มาแดกเบียร์กับพวกมึงครั้งแรกทั้งทีต้องทำอะไรที่มันตื่นเต้นหน่อย เล่นเกมกันป่าว” พี่ฉีเอ่ยชวนพลางกระดกเบียร์อึกใหญ่
“เกมไรอะพี่ ผมเล่นไม่เป็น”
“ง่ายมากครับน้อง มันเรียกว่าเกมหมุนขวด กติกาคือ พี่จะหมุนขวดเบียร์แล้วถ้าปากขวดไปหยุดที่ใครคนนั้นจะได้ถามคำถามรอบวง ถ้าใครเคยทำอะไรตามที่มันพูดก็แดกหมดแก้ว ง่ายๆแค่นี้คล้ายๆเกมหักไม้อะ”
“มาๆๆๆ กูเริ่มเอง” พี่ซันอาสาพร้อมยกขวดขึ้นมาวางบนโต๊ะแล้วหมุนทันที
ฟรึ่บ
ปาดขวดหมุนไปหยุดอยู่ที่พี่น้ำหอมครับ
“ใครไม่เคยมาร้านห้องสมุด หมดแก้ววว!” อ้าวพี่น้ำหอม คนที่ไว้ใจสุดท้ายร้ายที่สุด ดูทรงแล้วพวกพี่มันน่าจะเป็นขาประจำของที่นี่ครับ ส่วนเดอะแก๊งผมเรียกว่าร้านไหนขายแอลกอฮอล์พวกมันก็ไปมาหมดทั่วทุกเจ็ดย่านน้ำ เป็นผมคนเดียวครับที่กระดกหมดแก้ว คือพี่มันก็รู้อยู่แล้วปะวะว่าผมไม่เคยมาอะ แบบนี้แสดงว่าตั้งใจแกล้งกูนี่หว่าเดี๋ยวรอให้ถึงตากูก่อนเหอะ
พี่น้ำหอมหมุนขวดต่อครับรอบนี้ไปปากขวดหยุดอยู่ที่ไอ้เหลิม
“ใครไม่เคยกินขี้มูกตัวเอง หมดแก้ววว!!”
“ไอเหี้ยเหลิมอุบาทว์สัด กูต้องเคยกินด้วยหรอขี้มูกอะ”
“ตานี้มึงยกแก้วคนเดียวเลยไอ้ชิบหาย ไม่มีใครเขาทุเรศเหมือนมึงหรอก” เห็นไอเหี้ยเหลิมโดนรุมประนามแล้วผมสะใจยังไงไม่รู้ครับ
แม้จะโดนรุมประนามหยามเหยียดจากคนทั้งโต๊ะไอ้เหลิมก็ยังหัวเราะอย่างหน้าด้านๆ พอมันกระดกหมดแก้วแล้วก็หมุนขวดต่อ
ฟรึ่บ
รอบนี้ปากขวดไปหยุดอยู่ตรงที่พี่ปราบดาครับ พี่มันหยุดคิดนิดนึงก่อนจะยิ้มชั่วร้ายออกมา
“ใครพกตุ๊กตาหมาหน้าตาปัญญาอ่อนไว้กับตัว หมดแก้ว”
“ไอเหี้ยปราบ ตั้งใจเล่นหน่อยดิ ใครมันจะไปพกของแบบนั้นวะ”
“เออ ใครแม่งพกของแบบนั้นก็ปัญญาอ่อนแล้ว” หน้าสั่นเลยกู พูดอย่างนี้พี่เอามีดมาปาดคอผมเลยดีกว่า วันนี้กูก็พกมานะน้องหมาปลุกเสกโดยพ่อปู่อะ นอนนุ่มอยู่บนรถกูโน่น
ผมส่งสายตาคาดโทษไปให้พี่ปราบที่กำลังแดกเบียร์อย่างสบายใจเฉิบก่อนจะค่อยๆยกแก้วขึ้นมาแล้วกินจนหมดแก้วอีกครั้ง เริ่มมึนแล้วเหมือนกันนะเนี่ย
“ฮ่าๆๆๆ เอาจริงหรอวะเนี่ย น่ารักจังค้าบน้องเท็น พกตุ๊กตาด้วยหรอเรา”
“มันพกทุกวันแหละพี่ วันนี้มันก็เอามา ใช่ปะมึง” อ้าวไอ้กรเพื่อนรัก ขายกูอีกแล้ว
พี่ปราบดาหมุนขวดต่อครับ รอบนี้ไปตกอยู่ที่ไอ้กร เมื่อไหร่จะถึงตากูวะ เริ่มหนักๆแล้วยังไม่ได้แก้แค้นเลย
“ใครไม่เคยมีแฟน หมดแก้วค้าบ” อ้าวไอสัด เล่นกูอีกแล้ว ไม่เคยมีแฟนแล้วผิดด้วยหรอวะ ผมยกแก้วขึ้นมากระดกทันที ตอนแรกนึกว่าจะมีแค่ผมคนเดียวแต่กลายเป็นว่าพี่ปราบดาก็ยกขึ้นมากินเหมือนกัน มันเริ่มเมาแล้วหรอวะทำไมหน้าดูแดงๆ
“กูถือคติรักไม่ยุ่งมุ่งแต่งาน ใครจะไปเหมือนพวกมึงล่ะ เปลี่ยนสาวจนกูจำชื่อไม่หวาดไม่ไหว”
“แหมเท็นมึงก็ไม่ใช่น้อยๆ คนชอบมึงเยอะจะตายห่า แต่มึงเสือกโง่ไม่รู้ตัวเอง วันก่อนก็มีคนมาขอไลน์ มาวันนี้อย่าคิดว่ากูไม่เห็นนะ ที่เด็กบัญชีเอาชานมมาให้มึงอะ”
“อย่าฮอตให้มันมากดิครับน้องเท็น เดี๋ยวคนที่ชอบจะตายอยู่แล้วมันสู้ไม่ไหว” พูดแบบนี้แปลว่ามีคนชอบกูหรอ หมาที่ไหนจะมาชอบกูครับทุกวันนี้กูแห้งกว่าปลาสลิดบางบ่ออีก แต่พอพี่ซันพูดจบพี่ปราบก็แย่งขวดไปหมุน หมุนแรงมากครับรอบนี้ ขวดแม่งหมุนติ้วๆไม่หยุดเลย
เคร้ง
แล้วปากขวดก็ไปหยุดอยู่ตรงหน้าพี่ซัน พี่มันยิ้มร้ายมาเลยครับไม่รู้รอบนี้จะเล่นอะไรอีก
“ใครที่กำลังแอบชอบรุ่นน้องอยู่ ไม่ต้องหงุดหงิดแล้วนะคร้าบ ตานี้หมดแก้ววววววคร้าบผม”
“ฮิ้วววววว” ทีนี้พวกที่เหลือก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเหมือนคนบ้า ไม่เว้นแม้แต่ไอ้กรกับไอ้เหลิมก็เอากับเขาด้วย แม่งหัวเราะอะไรกันวะ กูงงเป็นไก่ตาแตกเลย อยากขำด้วยอะบอกกูบ้างดิ
ผมมองแล้วไม่มีใครหยิบแก้วขึ้นมาสักคน แต่จู่ๆพี่ปราบมันก็คว้าแก้วขึ้นมาแล้วกระดกทีเดียวจนหมด
“ฮิ้วๆๆๆ”
“เอาว่ะ”
เหย่ดคร่ก พี่ปราบดามันชอบใครวะ เห็นทำตัวปากหมาไปวันๆมึงมีมีโมเม้นท์มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกับเขาด้วยหรอ ชิบหายแล้วกู ถ้าเขามีคนที่ชอบแล้วแบบนี้ภารกิจผมก็จบเห่หมดดิ ไม่ได้นะโว้ย
พอจบตานั้นพวกมันก็เลิกเล่นครับแล้วนั่งกินเบียร์ที่เหลือกันต่อ ผมกินไปได้อีกประมาณสามแก้วก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวแล้วเลยขอตัวออกมาสูดอากาศข้างนอกร้านดีกว่า แต่พอผมลุกขึ้นก็รู้สึกได้ว่าทุกอย่างมันโคลงเคลงไปหมด กว่าจะลากสังขารตัวเองมาถึงหน้าร้านได้เล่นเอากูแทบลิ้นห้อย
“ไหวมั้ย” ผมทรุดตัวลงนั่งอยู่หน้าร้านได้สักพักก็มีเสียงคนถามขึ้น แต่ถ้ากูหันไปมองตอนนี้อ้วกกูพุ่งเป็นสิงโตเมอไลอ้อนแน่ครับเลยไม่ได้สนใจ สักพักก็รู้สึกได้ว่าเขามานั่งยองๆอยู่ข้างๆ ถึงจะไม่เห็นหน้าก็รู้เลยครับว่าเป็นไอ้พี่ปราบแน่ๆ กลิ่นสบู่แบบนี้ผมจำได้
“รู้ตัวว่าไม่ไหวยังจะทำซ่า”
“หวายยยยดิ แล้วพี่ตามผมออกมาทำมายยย” เดี๋ยวนะนี่เสียงกูหรอ ยานยิ่งกว่าตอนกูสอบท่องอาขยานวิชาภาษาไทยอีก
“กูออกมาดูคนเมา”
“หนายยยยยยยอะคนมาววว ม่ายยยยยเห็น ม่ายยยยยมี ม่ายยยรับรู้วว”
“มึงนี่จริงๆเลยนะเท็น” ไม่พูดเปล่าแต่พี่มันยื่นมือมาโยกหัวผม ไอ้เชี่ยอย่าโยกเดี๋ยวอ้วกพุ่ง เอามือออกไปเลยนะมึง
“ตามผมมาทำมายยย มีคนที่ชอบแล้วก็ไปตามคนน้านนของพี่ดิ” แล้วผมจะประชดประชันพี่มันทำไมวะเนี่ย พอเมาแล้วชอบพูดทุกสิ่งที่คิดในใจตลอดเลยกู
“เมาแล้วงอแงจังวะเท็น กลับเหอะเดี๋ยวกูไปส่ง”
“ม่ายยเมา ม่ายยกลับ ม่ายยด้ายยงอแงด้วย” ผมยังดื้อด้าน ก็กูไม่อยากกลับอะ
“เมาแล้วครับ กลับกันนะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” กูเมาจนหูฝาดไปรึเปล่าวะ พี่ปราบดาที่ปากหมานักหนามันพูดเพราะกับผมอะ แล้วทำไมใจกูต้องเต้นแรงด้วยเนี่ย
“ม่ายต้องมายุ่งเลยยย อุตส่าซื้อตุ๊กตามาให้ก็ไม่อาววว พี่แม่งโคตรใจร้ายเลยอ่า”
พี่ปราบดาถอนหายใจแล้วฉุดมือผมให้ลุกขึ้นตาม พอลุกขึ้นได้มันก็ลากผมมาที่รถของผมเอง รู้ตัวอีกทีก็ถูกจับยัดเข้ามาในรถตรงเบาะที่นั่งข้างคนขับแล้วครับ ส่วนพี่มันก็ตามมานั่งประจำตำแหน่งคนขับข้างๆผม ระยะห่างเราสองคนอยู่ใกล้แค่นี้เอง
ผมพยายามที่จะคาดเข็มขัดนิรภัย ต่อให้เมายังไงก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อนครับ แต่ทำไมไอ้เข็มขัดเชี่ยนี่มันใส่ยากใส่เย็นจังวะ ดูเหมือนพี่ปราบจะทนความงุ่นง่านของผมไม่ไหวเลยโน้มตัวมาคาดเข็มขัดให้ผม
“ตัวหอม” เหี้ยยยยยย อยู่ใกล้กันขนาดนี้แล้วมึงจะพูดทำไมเนี่ยพี่ ไม่คิดว่าผมจะเขินบ้างหรอวะ แล้วไอ้หัวใจเวรนี่แม่งก็เต้นแรงอยู่ได้ อีก้อนเนื้อไม่รักดี มึงจะเต้นทำม้ายยยยยย แถมตัวผมห่างกับพี่มันแค่นี้ด้วยเดี๋ยวมันก็ได้ยินหรอก เปลี่ยนเรื่องดีกว่ากู
“พี่ปราบ.. พี่รู้หรอว่าห้องผมอยู่ไหน”
“เมาแล้วก็นอนเงียบๆไปเหอะ” พูดจบมันก็สตาร์ทรถแล้วขับออกมาเลย
“อะไรวะ ทำไมใครๆก็รู้จักห้องผมอะ สงสัยต้องหาห้องใหม่แล้วมั้ง" สวัสดีทวีสุขไม่ปลอดภัยอีกต่อไป ฮือออ
“มึงอยู่นี่แหละดีแล้ว ถึงเวลาค่อยย้าย”
“ย้ายไปไหนอะ นี่ห้องผมไม่ปลอดภัยจริงๆหรอพี่”
พี่ปราบดาไม่ได้พูดอะไรต่อ สายตาของเขาจับจ้องอยู่บนถนนขณะที่รถเคลื่อนตัวบนถนนไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกว่าอุณหภูมิค่อนข้างเย็นเลยยกแขนขึ้นมากอดตัวเองไว้หลวมๆ
“หนาว..”
“หนาวหรอ ปิดแอร์มั้ย” พี่ปราบหันมามองผมแล้วถาม
“อือออออ..”
"เท็น"
"หื้มมม"
“พูดดีๆ อย่าคราง”
พอพี่เขาพูดจบผมก็รู้สึกได้ว่าใบหน้าตัวเองมันเห่อร้อนแปลกๆทั้งที่เมื่อกี้กูยังหนาวจนต้องยกแขนขึ้นมากอดตัวเองอยู่เลย พี่ปราบดาเห็นผมเงียบไปมันก็ยิ้มแล้วเอื้อมมือไปปรับแอร์ให้เบาลง แล้วสักพักเพลงก็ดังขึ้นคลอๆ เปิดเพลงกล่อมกูหรอ
‘มีคนๆหนึ่งที่ไม่ได้ดีพร้อมทุกอย่าง
และยังเป็นคนไม่ค่อยน่าสนใจ
เขาไม่ได้ทำอะไรที่ดูมีความหมาย
เป็นแค่คนหนึ่งคน
หน้าตาก็ธรรมดาค่อนข้างไม่พิเศษ
ไม่ค่อยสวยงามอย่างคนไหน
และยังเป็นคนที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจ
ไม่ๆซักอย่าง’
เคลิ้มเลยกู จะหลับแล้วเนี่ย
“คำถามก็คือเธออยากชอบคนไม่พิเศษ
ไม่ค่อยสวยงามอยู่บ้างไหม”
เสียงพี่ปราบมันร้องเพลงหรอวะ จัดว่าเสียงดีใช้ได้เหมือนกันนะ
“เพราะคนๆหนึ่งที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจ…”
“หลงรักเธอมานานแล้ว...”
ถึงจะอยากรู้ว่าใช่เสียงพี่ปราบร้องเพลงจริงมั้ยหรือผมเมาจนหูเพี้ยนไปเอง แต่ตอนนี้ไม่มีแรงจะลืมตาขึ้นมาดูแล้วครับ หนักไปหมด แล้วทุกๆอย่างก็ค่อยๆกลายเป็นสีดำ
z Z Z
TALK
เขินมากกกกกกกกกกก แต่งเองก็เขินเอง อิพี่ปราบเขาก็มีมุมอบอุ่นเหมือนกันนะ ใครว่าพี่ปราบกากตอนนี้พี่เขามากแล้วนะคะ5555555555555555
ลิงค์เพลงที่พี่ปราบร้องให้น้องเท็นค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=ajItw5tL_ZE (https://www.youtube.com/watch?v=ajItw5tL_ZE)
(https://www.img.in.th/images/ba394c1d28a2309bae5cb965ea6894ba.jpg)
เจอกันตอนหน้าค่า รักๆๆๆๆ
#ปราบดาพิเศษ
@medley0810
ตอนที่ 7
ได้เสียเป็นเมียผัว
(https://www.img.in.th/images/e649a148c71181fb4cd9fa2be361002b.jpg)
ผมตื่นขึ้นมาตอนสิบโมงกับความรู้สึกที่เหมือนตัวเองกำลังนั่งอยู่บนเรือใบโคลงเคลงกลางมหาสมุทรที่มีพายุซัดกระหน่ำ แล้วกูไม่ใช่แค่คนพายเรือธรรมดานะครับเพราะกูเมาเรือด้วยไอ้ชิบไก่ ชีวิตช่างหรรษายิ่งกว่าหนังเรื่อง Life of Pi เพราะนี่มันคือชีวิตจริงครับ Life of Ten แสดงจริงไม่มีแสตนด์อินไม่มีตัวแสดงแทน ทั้งมึนทั้งคลื่นไส้ พูดแล้วก็เดี๋ยวมานะครับ ลุกไปอ้วกแปป
“โอ้กกกกกกกกกกกกก” ผมนั่งกอดโถส้วมแล้วอาเจียนออกมาแบบหมดไส้หมดพุง เหม็นไปหมดไอ้แสรดดดดกลิ่นน้ำหอมที่ฉีดไว้ได้อันตรธานหายไปเพราะตอนนี้กลิ่นตัวกูไม่ต่างอะไรกับกลิ่นของรถขยะเปียก อนาถสภาพตัวเองที่เป็นอยู่เหลือเกินครับจึงตัดสินใจอาบน้ำ
ตอนยืนถอดเสื้อผ้าอยู่หน้ากระจกผมประหลาดใจเพราะเสื้อที่สวมอยู่ไม่ใช่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดิมที่ใส่ออกไปลั้นลาเมื่อคืนแต่กลับเป็นเสื้อยืดโง่ๆลายอันปังแมนที่ผมเอาไว้ใส่นอนเป็นประจำ จำอะไรไม่ค่อยได้เลยว่ะแต่เดาว่าเทพกรเพื่อนรักมันคงแบกผมมาส่งที่หอตามเคย ไว้เดี๋ยวเจอมันที่มอต้องซื้อกาแฟสตาร์บังที่มันชอบไปให้เป็นการขอบคุณซะหน่อย
ผมใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในการอาบน้ำสระผมขจัดกลิ่นละมุดที่ฝังแน่นไปทั่วทุกอณูของร่างกาย ขอบคุณสบู่เหลวเดอมาพอนหอมชื่นใจที่ช่วยกู้วิกฤตให้กูในครั้งนี้ พออาบน้ำเสร็จผมก็หยิบชุดนักศึกษาที่รีดไว้แล้วอย่างดีมาสวมแล้วเดินออกมาเช็คความเรียบร้อยของตัวเองที่หน้ากระจก นายธาวินที่พึ่งฟื้นจากความตายยังหล่อเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือขอบตากูนี่ดำเมี่ยมเหมือนทาสโมคกี้อาย
วันนี้ผมมีเรียนแค่คาบเดียวตอนบ่ายโมง วิชาแลงคอมหรือ Language and Communication ภาษาเพื่อการสื่อสาร โชคดีที่วิชานี้อาจารย์ค่อนข้างชิวครับ แกชอบเน้นให้พวกเราดิสคัสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในห้อง คาบนี้ผมเลยไม่มีงานต้องส่ง
พอทำอะไรเสร็จผมก็หยิบกระเป๋ากับกุญแจรถออกมากดลิฟท์ ในระหว่างที่รอลิฟท์ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลาเพราะลิฟท์คอนโดกูนี่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความสโลว์ไลฟ์ เคยร้องเรียนกับนิติไปหลายรอบแล้วครับ แต่เจ๊นิติแกตอบมาแค่สั้นๆเล่นเอาชาวคอนโดสวัสดีทวีสุขหงายเงิบไปตามๆกัน
‘ถ้ารีบทำไมไม่มากดลิฟท์ตั้งแต่เมื่อวาน’ ครับ ไอสึด
[สามหนุ่มเนื้อทอง]
lnwgorn: ฟื้นยังวะ
lnwgorn: หายไปเลยนะมึง
lnwgorn: @ten38
onechaloem: พวกกูแดกข้าวอยู่อักษร
onechaloem: แต่จะเสร็จละ เจอกันที่ห้องเลย
onechaloem: เดี๋ยวพวกกูจองที่ให้
เห็นข้อความที่เดอะแก๊งส่งมาในไลน์กลุ่มแล้วตื้นตันว่ะ นอกจากจะแบกร่างไร้สติของกูกลับมาส่งถึงเตียงพวกมันยังเป็นห่วงเป็นใยผมขนาดนี้ เกิดมาชีวิตนี้มีเพื่อนอย่างพวกมันกูก็ตายตาหลับแล้วครับ ถึงพวกแม่งจะสติไม่ค่อยดีก็เหอะ กูรักพวกมึงนะเว้ย
ten38: T__T พวกมึงง
ten38: กูรักพวกมึงนะ
หลังจากนั้นผมก็ยัดโทรศัพท์ใส่กางเกงนิสิตไว้ตามเดิม เป็นจังหวะที่ลิฟท์มาพอดี ผมลงลิฟท์มาที่ลานจอดรถก็เห็นรถตัวเองจอดเด่นเป็นสง่า ไอ้กรมันจอดรถภาษาไรของมันวะ เกือบเบียดกับเสาแล้วไอ้ชิบหาย แสดงว่าตอนมันมาส่งแม่งก็คงจะเมาเหมือนกัน ไม่น่าแดกเยอะเลยกู นอกจากภาพจะตัดแล้วภารกิจที่กูตั้งใจจะทำให้สำเร็จแม่งยังค้างเติ่งอยู่ที่เดิมแถมจำอะไรไม่ค่อยได้อีก แต่ที่กูจำขึ้นใจเลยก็คือกูมีหนี้ก้อนใหญ่ราคาสามแสนปักอยู่บนหน้ากูเนี่ย วันนี้กูต้องทำให้สำเร็จให้ได้ไม่งั้นกูโดนฟ้องติดคุกหัวโตแน่
แม้จะเหลือความทรงจำของเมื่อคืนไม่มากแต่ผมยังพอจำได้ว่าเมื่อวานผมเอาตุ๊กตาน้องหมาพ่อปู่ฤาษีหนวดยาวติดใส่รถไปด้วย ผมเลยเปิดประตูตรงที่นั่งด้านหลังคนขับแล้วควานหาน้องหมาเพื่อที่จะเอาใส่กระเป๋าเป้ใบเก่งติดตัวไว้ แต่กูควานหายังไงก็เจอแค่ตัวเดียว ชิบหายน้องหมาหายไปไหนวะ กุ๊กๆๆ ออกมาสิลูก นี่ตุ๊กตามึงมีชีวิตปะเนี่ยพ่อปู่ ไอ้เหี้ยแค่คิดขนทั้งตัวกูนี่ลุกเกรียวเลย ผีจะมาหลอกกูกลางวันแสกๆไม่ได้นะโว้ย
ผมแทบจะรื้อทุกซอกทุกมุมของเบาะหลังเพื่อหาคำตอบว่าน้องหมากูหายไปไหน พอเหลือบไปมองหน้ารถก็พบกับกระดาษโพสอิทสีเขียวสะท้อนแสงแปะอยู่ตรงกลางพวงมาลัย ไอ้กรมันทิ้งดายอิ้งแมสเสจอะไรไว้ให้กูวะ มึงอ่านโคนันมากไปหรอเพื่อน
‘กูเอาตุ๊กตาหน้าโง่ของมึงมาแล้วนะ เลิกว่ากูใจร้ายได้แล้ว รำคาญ
ปล. เสื้อเชิ้ตสีขาวของมึงกูเอาไปทำผ้าเช็ดตีนแล้ว ไม่ต้องใส่แล้วนะ สะเหล่อ’
ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยย!!!! ด่ากูสะเหล่อแบบนี้จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่ไอ้พี่ปราบ!!!!!!! ไอ้เหี้ย ไอ้เหี้ยยยๆๆๆๆ หัวผมแบลงค์ไปหมดแล้วครับตอนนี้คิดอะไรไม่ออกนอกจากคำว่าเหี้ยยยยยยยยยยยยย กูอยากกดลิฟท์ขึ้นไปชั้นบนของดาดฟ้าตึกคณะแล้วตะโกนลงมาดังๆว่าไอ้เหี้ยยยยย
สรุปว่าคนที่แบกร่างผมมาส่งเมื่อคืนไม่ใช่ไอ้กรหรือไอ้เหลิมแต่เป็นพี่ปราบหรอวะ เดี๋ยวนะไอสัดแบบนี้ก็แปลว่าคนที่จัดการเปลี่ยนเสื้อให้ผมก็ต้องเป็นแม่งอะดิ ฮืออออออออออ ไอ้พี่ปราบ ไอ้คนใจหมา มึงทิ้งเสื้อกู ตัวนี้กูซื้อมาตั้งสามพันกว่าบาท พึ่งใส่ไปสองครั้งเองด้วยใจคอมึงทำด้วยอะไรเอาเสื้อกูไปทำผ้าเช็ดตีน แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นหลักครับ ไหนๆมึงจะใจหมาเอาเสื้อกูไปทำผ้าเช็ดตีนแล้วมึงจะเสือกมาใจดีเปลี่ยนเสื้อให้กูทำไมเนี่ย ปล่อยกูนอนจมกลิ่นละมุดต่อไปก็ได้ กูไม่ถือ ไม่ต้องมาหวังดีกับกูหรอก กูอายพุง T_T
ตลอดทางที่ขับรถจากคอนโดไปมหา’ลัยจิตใจผมไม่ได้จดจ่ออยู่กับถนนเลยครับ ในหัวกูนี่คิดฟุ้งซ่านและประสาทแดก จินตนาการไปต่างๆนานาว่าเมื่อคืนแม่งเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่คิดจนหัวแทบแตกกูก็นึกอะไรไม่ออก เอาไว้ถึงมอค่อยไปคาดคั้นเอาจากพวกไอ้กรก็แล้วกัน ไอ้ควาย มึงไม่ต้องแดกแล้วกาแฟสตาร์บังอะ ปล่อยกูกลับมากับไอ้พี่ปราบได้ไง คิดไปคิดมาผมก็พาตัวเองมาถึงลานจอดรถฝั่งคณะ
“น้องเท็นคะ พี่ขอถามอะไรหน่อยสิคะ” ขณะที่ผมกำลังหันไปล็อครถ พี่จอย รุ่นพี่ปีสามในคณะที่ผมไม่เคยคุยด้วยก็เดินเข้ามาทัก ด้วยความที่ผมเป็นคนเฟรนด์ลี่และตอนนี้ก็ยังไม่สายครับ เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงกว่าคลาสจะเริ่ม ผมเลยหันไปยิ้มให้และตอบพี่จอยอย่างเป็นมิตร
“สวัสดีครับพี่จอย มีไรครับพี่”
“คือตอนนี้ทุกคนในคณะเขาพูดถึงแต่น้องเท็นอะ” โอ้โหนี่กูดังขนาดนั้นเลยหรอครับพี่ เขินว่ะ
“พูดว่าไรหรอครับ”
“เขาลือกันไปทั้งมอแล้วว่าน้องเท็นกับปราบดาวิศวะเป็นแฟนกัน ใช่เรื่องจริงรึเปล่าคะน้อง”
“ห้ะ!!!! พี่จอยว่าไงนะครับ”
“ก็เมื่อคืนมีคนเห็นปราบดาไปส่งน้องเท็นที่คอนโด แล้ววันนี้ยังมีคนเห็นปราบดาพกทุกตุ๊กตาหมาอีเกียมาด้วย ตัวเดียวกับที่เราชอบพกนั่นแหละ นี่ไง มีคนโพสต์ลงเฟสบุคเต็มเลย” พี่จอยเปิดเฟสบุคที่มีใครก็ไม่รู้ลงรูปพี่ปราบเดินถือตุ๊กตาหมาหน้าตาเหมือนกับไอ้ตัวที่อยู่ในกระเป๋าผมเปี๊ยบ ดูจากฉากหลังแล้วมันก็คงอยู่แถวคณะวิศวะของมันฝั่งนู้นอะครับ
กูช็อคไปแล้วครับหลังจากที่เห็นภาพในโทรศัพท์ของพี่จอย ผมไม่คิดว่าพี่มันจะเอาตุ๊กตาของผมไปจริงๆแถมแม่งยังพกติดตัวมาที่มอด้วย แม่งเดินถือไปไหนมาไหนแบบหน้าด้านๆเลยไอสัด คิดดูนะครับผู้ชายหน้านิ่งๆตัวใหญ่เท่าควายแต่ในมือถือตุ๊กตาน้องหมา เหมือนจะน่ารักนะครับแต่กูเห็นแล้วอายแทน ขนาดตอนผมจะพกผมยังต้องแอบพกเอาไว้ในกระเป๋าเลยอะ ถึงกูจะชอบลืมรูดซิปก็เหอะ
“ตกลงยังไงคะน้องเท็น ได้โปรดบอกให้พี่จอยชื่นใจทีว่ามันไม่จริง ผู้ชายงานดีสองคนจะกินกันเองไม่ด้ายยยยยย”
“เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วพี่ ผมกับพี่ปราบเนี่ยนะ คือเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันครับ แค่รู้จักกันเฉยๆ ไม่ได้สนิทกันด้วย” ผมปฏิเสธไปตามความจริงก่อนที่พี่จอยจะประสาทแดกไปมากกว่านี้
“แล้วทำไมต้องไปส่งกันด้วยคะ คนไม่สนิทกันเขาหามกันขึ้นคอนโดตอนค่ำมืดดึกดื่นด้วยหรอ ขอคำอธิบายด้วยค่ะ ต่อมเสือกพี่กระตุกไปหมดแล้ว จิตวิญญาณของชาวนิเทศมันร้อนรุ่มในกายพี่”
“เมื่อคืนผมกับเพื่อนเมามากอะครับ ถ้าให้ขับรถกลับเองเกรงว่าน่าจะไม่ถึงห้องหรอก นู่นอะครับป่านนี้ผมไปนอนใส่เฝือกอยู่โรงบาลแล้วมั้ง พี่ปราบดาเห็นผมขับรถไม่ไหวก็เลยอาสาไปส่ง ส่วนเพื่อนเขาก็คงแยกย้ายไปส่งเพื่อนผมเหมือนกัน” ผมตอบไปตามที่สันนิษฐาน ทั้งที่ความจริงมันเป็นยังไงกูก็ไม่รู้เหมือนกัน คือกูก็อยากรู้พอๆกับมึงเนี่ยแหละพี่จอย
“แล้วเรื่องตุ๊กตาล่ะคะ น้องเท็นจะแก้ตัว เอ้ย แก้ข่าวว่ายังไง” พี่จอยยังไม่เลิกราง่ายๆ มือข้างนึงก็ชี้ไปที่น้องหมาที่นอนแน่นิ่งอยู่ในกระเป๋าของผม นี่กูลืมรูดซิปอีกแล้วหรอ ควายแท้
“โห่ นี่มันตุ๊กตาอีเกียปะพี่ ใครๆเขาก็มีกันป่าว ผมเห็นสาวๆชอบถ่ายรูปอัพลงไอจี แค่ตุ๊กตาหมาตัวเดียวพวกพี่คิดกันไปได้ขนาดนี้เลยหรอ แบบนี้ไอ้เหลิมเพื่อนผมมันก็แอบกิ๊กกับชมพู่อารยาอะดิ เพราะแม่งก็ใช้มือถือรุ่นเดียวกันกับเขาอะ”
“ถ้าน้องเท็นพูดขนาดนี้พี่ก็ไม่มีอะไรจะถามแล้วค่ะ เอาเป็นว่าพี่จะพยายามเชื่อนะคะ อุ๊ยตายจริงจะบ่ายโมงแล้วงั้นพี่ไปเรียนก่อนนะคะ ไว้มีเรื่องเสือกแล้วจะมาถามใหม่ บายค่า” พอรัวคำพูดใส่ผมจบพี่จอยก็หันหลังเดินกลับไปหาเพื่อนๆที่นั่งทำหน้าเสือกอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลใต้โถงคณะ เล่นเอากูเหนื่อยตั้งแต่ยังไม่ทันได้เข้าเรียน
ผมใช้เวลาไม่นานก็พาตัวเองมาถึงห้องเรียน พวกไอ้เหลิมมันจองที่ไว้ให้แล้วครับเป็นที่ประจำด้านหลังห้องนั่นเอง พอพวกมันหันมาเห็นผมเดินเข้ามาก็ตาเหลือกแล้วรีบโผมากอดผมแน่นซะจนหายใจแทบไม่ออก เป็นส้นตีนอะไรกันอีกล่ะ
“ไอ้เชี่ยเท็นนนนนนน มึงบอกกูมาว่าพี่เขาทำอะไรมึง” ไอ้เหลิมเขย่าตัวผมแล้วถาม เดี๋ยวนะกูงง มันพูดถึงอะไรวะ
“เท็น มึงพูดมาเลยเขาทำอะไรมึง ต่อให้เป็นรุ่นพี่กูก็ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้นแหละถ้ามาทำเพื่อนกู รู้จักเทพกรน้อยไปซะแล้ว”
“พวกมึงพูดเรื่องเหี้ยไรกันวะ กูงงไปหมดแล้วเนี่ย”
“ก็นี่ไงมึงพิมมาสั่งเสียพวกกูอะ บอกกูมาดิว่าพี่ปราบเขาทำอะไรมึง” แล้วมันก็หมุนหน้าจอโทรศัพท์ที่เปิดหน้าไลน์กลุ่มค้างไว้ เป็นบทสนทนาที่ผมคุยกับพวกมันเมื่อเช้าก่อนออกมาเรียน
ten38: T__T พวกมึงง
ten38: กูรักพวกมึงนะ
lnwgorn: เท็น มึงโอเคมั้ยวะ?
onechaloem: ไอ้เท็น ใครทำไรมึง?????
onechaloem: ตอบพวกกูดิ @ten38
lnwgorn: @ten38
onechaloem: PING!!!
onechaloem: PING!!!
onechaloem: PING!!!
onechaloem: เชี่ยมันไม่ตอบเลยว่ะ
lnwgorn: ไอ้เหี้ยเหลิม มึงปิงไปแล้วเครื่องมันจะสั่นให้มึงไหมล่ะ
lnwgorn: ปิงเป็นบีบีเลยไอ้สัด
lnwgorn: กูปวดหัวกว่าเดิมเพราะมึงเนี่ย
ผมอ่านแชทพวกมันแล้วงงกว่าเดิม ไม่ได้คำอธิบายเหี้ยไรเลยครับนอกจากความไร้สาระของไอ้เชี่ยเหลิม
“อ่านแล้วงงกว่าเดิมอีก พวกมึงซักคนอธิบายให้ฟังหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ก็เมื่อคืนมึงเมาอย่างกับหมา พี่ปราบเห็นมึงเดินเซออกไปหน้าร้านเลยบอกพวกกูว่าจะพามึงกลับแล้ว กูเห็นพี่เขาไม่เมาก็เลยไว้ใจให้เขาเป็นคนไปส่งมึงกลับห้อง แต่ที่ไหนได้แม่งทำลายความเชื่อใจกูพังยับเยินเลยว่ะ บอกกูมาเลยเพื่อนว่าพี่ปราบแม่งปู้ยี้ปู้ยำมึงแล้วใช่มั้ย แม่งเอ๊ย อย่าให้กูเจอนะมึงจะอัดให้เละคาตี...”
โป๊ก!
ไอ้เหลิมยังพูดไม่ทันจบผมก็โบกหัวมันไปแรงๆหนึ่งที หน้าแม่งคว่ำติดโต๊ะเลยครับ กูทนฟังต่อไม่ไหวที่มันคิดเป็นตุเป็นตะไปว่าผมโดนไอ้พี่ปราบปู้ยีปู้ยำเมื่อคืน
พูดออกมาได้ เฮงซวย!!!
“เชี่ยเท็น มึงตบกระโหลกไอ้เหลิมทำไมวะ เดี๋ยวแม่งก็โง่กว่าเดิมหรอก” ไอ้กรตกใจที่เห็นผมฟาดหัวไอ้เหลิมไปเต็มแรง
“ก็แม่งพูดจาไร้สาระอะ พี่ปราบไม่ได้ทำอะไรกูทั้งนั้นแหละโว้ย แค่ไปส่งกูเฉยๆ พวกมึงมันใช้ไม่ได้ไงถึงไม่ยอมไปส่งกู”
“อ้าว!!!!!!! ชิบหายดิครับงานนี้” ไอ้เหลิมเงยหน้าขึ้นมาแล้วตะโกนซะดังลั่นห้อง มึงเอาอีกแล้วนะไอ้เหลิม วันหลังมึงไปนั่งไกลๆกูเลยปะ
“กูเห็นมึงหายเงียบไปทั้งคืน พอตื่นมามึงก็สั่งเสียพวกกูเหมือนมึงจะไปตายอะ กูก็นึกว่าพี่ปราบแม่งทำการปราบดาภิเษกตัวเองขึ้นเป็นผัวมึงทางพฤตินัยไปเรียบร้อยโรงเรียนสวัสดีทวีสุขไปแล้ว”
“พวกกูโมโหจนเลือดขึ้นหน้าเลยรู้ปะ ก็เลยทักไปหาพวกพี่ซันแล้วด่าแทนมึงไปชุดใหญ่”
“เชี่ย พวกมึงคิดกันไปได้ไงวะ แล้วมึงไปด่าเขาว่าอะไรไหนกูดูหน่อย” พอผมพูดจบไอ้สองตัวมันก็มองหน้ากันเลิ่กลั่กแล้วค่อยๆยื่นโทรศัพท์มาวางตรงหน้าผม
[ปาร์ตี้ชะนี โชคดีมีผัว]
lnwgorn: พี่
lnwgorn: ผมมีไรจะบอก
ซันช่าย: เชี่ยๆๆๆ
ซันช่าย: ตื่นเต้น
ซันช่าย: มีไรวะ
ซันช่าย: @ฉี @น้ำหอม แก๊งๆๆๆๆ
ซันช่าย: มีเรื่องให้เสือกแร้วจ้า *เคาะหม้อ*
น้ำหอม: มีไรวะ
ฉี: เล่าๆๆๆ
ฉี: ขี้อยู่ แต่พร้อมเสือก
onechaloem: ไอ้เหี้ยจะพูดไงดีวะ
onechaloem: พวกพี่ทำใจดีๆไว้นะ
onechaloem: คือ
onechaloem: ไอ้เหี้ยกูไม่กล้าพิมพ์ ไอ้กรมึงเล่าดิ
ฉี: olo
ฉี: ถ้ามึงจะไร้สาระกูไปขี้ต่อแล้วนะ
onechaloem: เฮ้ยเดี๋ยวดิพี่อย่าพึ่งไป
onechaloem: ผมจะบอกว่า
onechaloem: พี่ปราบกับไอ้เท็นเพื่อนผมมันได้กันแล้ว!!!!!!!!
ผมไม่รู้ว่าจะโฟกัสที่อะไรก่อนดีเลยครับระหว่างบทสนทนาในแชทกับชื่อไลน์กลุ่มของพวกแม่ง ขนหน้าแข้งนี่ยาวเฟื้อยกันทุกคนมึงก็กล้าตั้งเนอะว่าปาร์ตี้ชะนีโชคดีมีผัว แต่เดี๋ยวก่อนนะไหนมึงบอกว่ามึงโมโหจนต้องเข้าไปด่าพี่ปราบแทนกูไง แต่ที่กูเห็นคือมึงรีบไปป่าวประกาศแบบผิดๆให้พวกพี่เขาเข้าใจว่ากูได้เสียกับพี่ปราบแล้วเนี่ยนะ ไอสัด
“ไหนบอกว่าพวกมึงโมโหจนรีบทักไปด่าไง ไหนมึงชี้ซิไอ้เหลิมว่ามึงด่าเขาประโยคไหน”
“นี่ไง กูพิมพ์คำว่าไอ้เหี้ยไปตั้งหลายคำมึงไม่เห็นหรอ แค่นี้ยังหยาบไม่พออีกหรอวะ” ไอสึดยังจะมีหน้ามาถาม แบบนี้แถวบ้านกูไม่เรียกว่าด่ามั้ยอะ
“มึงไปแก้ข่าวเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้พวกเชี่ย ป่านนี้พวกพี่แม่งคิดกันไปไหนแล้ว”
“เออๆ กูขอโทษ เดี๋ยวกูไปแก้ข่าวให้มึงไม่ต้องห่วง”
“แล้วนี่กรุ๊ปแชทอะไรวะ ทำไมไม่ลากกูเข้าไปด้วยอะ แล้วไอ้พี่ปราบไม่ได้อยู่ในกลุ่มด้วยหรือไงแม่งถึงไม่ออกมาพูดอะไรเลย”
“กลุ่มนี้กูเอาไว้ชวนกันเตะบอล มึงไม่เตะแล้วจะเสนอหน้าเข้ามาทำไม ขนาดพี่ปราบเขายังไม่อยู่ในกลุ่มนี้เลย”
“เออๆ ช่างแม่งเหอะ อย่าลืมไปแก้ข่าวให้กูด้วยแล้วกัน” วันนี้วันอะไรของผมวะ ทำไมใครๆก็เอาเรื่องของผมไปพูดกันผิดๆ เมื่อกี้พี่จอยก็มาหาว่าผมเป็นแฟนกับพี่ปราบ ส่วนไอ้พวกเหี้ยนี่หนักว่าใครเพื่อนเลย มาหาว่ากูกับพี่ปราบได้เสียเป็นเมียผัวกันแล้ว ขากกกกกกกกกกกก
“พักเรื่องนี้ไว้ก่อนเหอะว่ะ กูมีอะไรที่สำคัญกว่านั้นจะบอก” ผมเปลี่ยนเรื่องเพราะนึกขึ้นมาได้ถึงเรื่องภารกิจที่สำเร็จไปแล้วหนึ่งขั้นของผม
“กู-ทำ-สำ-เร็จ-แล้ว-โว้ยยยย!!!!!” รอบนี้กลายเป็นผมที่ลืมตัวตะโกนออกมาซะดังลั่นห้อง อาจารย์ที่ยืนคุยกับนิสิตที่นั่งอยู่แถวหน้าๆถึงกับหันมามองแล้วส่งสายตาคาดโทษมาทางผม ผมผงกหัวขอโทษปะล่กๆแล้วหันมากระซิบต่อ ขนาดอาจารย์มองแล้วกูยังไม่หยุดคุยเลยคิดดู
“กูเอาตุ๊กตาให้พี่ปราบดาไปแล้วนะเว้ย แถมวันนี้พี่เขายังพกมาเรียนด้วย แปลว่านี่กูทำของใส่พี่มันสำเร็จแล้วอะดิ”
“เชี่ย มึงไปทำอีท่าไหนวะเขาถึงยอมรับไอ้ตุ๊กตาปลุกเสกอะไรนั่นของมึงอะ แจ๋วว่ะไอ้เท็น”
“กูไม่ได้ทำอะไร พอตื่นมาแม่งก็เขียนโน้ตแปะไว้ที่พวงมาลัยรถกูว่ามันเอาตุ๊กตากูไปแล้ว เชี่ยยยยย โล่งว่ะ”
“เฮ้ย เป็นไปได้หรอวะ พี่ปราบเนี่ยนะอยากได้ตุ๊กตาหมาหน้าโง่ของมึง จะเอาไปทำไรวะ กูว่ามันแปลกๆอยู่นะ มึงว่าไงวะไอ้เหลิม” ไอ้กรวิเคราะห์เหมือนพวกตำรวจในซีรีส์สืบสวนของพวกฝรั่งแล้วหันไปขอความคิดเห็นจากไอ้เหลิม แต่สภาพไอ้เหลิมนี่กูว่าอย่างเก่งก็เป็นได้แค่ตัวประกอบในละครหกโมงเย็นเพราะหน้ามึงดูไม่ฉลาดเลย
“หรือว่าพี่ปราบจะชอบมึงวะเท็น”
“ไม่ใช่ละ แม่งจะมาชอบกูได้ไง”
“ทำไมอะ คนชอบมึงเยอะจะตายแล้วทำไมพี่ปราบจะชอบมึงบ้างไม่ได้วะ”
“เอ้าก็มึงดูสภาพเพื่อนมึงด้วย กูก็คนธรรมดาๆปะวะ แล้วมึงดูหนังหน้าเขาซะก่อน หล่อทุกกระเบียดนิ้วขนาดนั้นจะเอาอะไรมาชอบกูอะ”
“มึงก็ไม่ได้ขี้เหร่เลยนะเท็นเดี๋ยวกูโบกให้ พูดเหมือนบ้านมึงไม่มีกระจก”
“คือกูก็ไม่ได้แย่ไง แต่พี่ปราบคงหาได้ดีกว่ากูเยอะอะ ที่สำคัญกูก็เป็นผู้ชายป่าววะ พี่ปราบแม่งไม่น่าจะมาชอบกูได้เลย ยังไงก็ไม่ได้ว่ะ”
“หรือว่าจะเป็นเพราะตุ๊กตาตัวนั้นที่มึงให้เขาไป กูว่าใช่แน่ๆ พี่ปราบแม่งโดนของมึงเข้าแล้วไอ้เท็น” ไอ้กรเสนอความคิด
“กูว่าเป็นไปได้ อย่าดูถูกอภินิหารของพ่อปู่ฤาษีหนวดยาวแห่งวัดถ้ำกระบอก กูไปเสิร์ชกูเกิ้ลมาเขาบอกว่าดังใช้ได้” ไอ้เหลิมเสริมทับอีกแรง
หรอวะ… ผมฟังที่พวกมันพูดแล้วก็คิดตาม มันก็ดูจะเป็นไปได้นะครับที่พี่ปราบมันจะโดนของเพราะไอ้ตุ๊กตาตัวนั้นมันถูกปลุกเสกมาแล้วนี่หว่า แสดงว่าที่มันอุตส่าห์เสียเวลาไปส่งผมเมื่อคืนแถมยังใจดีเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แล้วยังพกตุ๊กตามาเรียนด้วยอีก แปลว่ามันโดนของเข้าแล้วจริงๆหรอวะเนี่ย ขนลุกเลยกู
พอคิดได้ผมก็รีบทักไลน์หาพ่อปู่เลยครับ มันตั้งชื่อไลน์ว่าอะไรแล้วนะ ไม่ได้คุยกันตั้งหลายวันกูลืมแล้วเนี่ย
ผมย้อนแชทกลับไปดู เอาจริงๆไม่ค่อยได้คุยกับใครเท่าไหร่หรอกครับนอกจากพวกไอ้เหลิมกับคนที่บ้าน นอกนั้นเป็นพวกไลน์ออฟฟิเชียลที่กูแอดเอาไว้โหลดสติกเกอร์ฟรี คุ้มมั้ยวะเนี่ย สติกเกอร์สะเหล่อเชี่ยไรไม่รู้แลกกับที่ไลน์กูแจ้งเตือนไม่หยุดเพราะโปรโมชั่นลดราคาต่างๆที่กูไม่เคยสนใจ
เจอแล้วครับไลน์พ่อปู่ เขาตั้งแค่ตัว ‘P’ สั้นๆ สงสัยจะย่อมาจากคำว่า Por-Poo ที่อ่านทับศัพท์เป็นคำว่า ‘พ่อปู่’ ทำไมมึงมินิมอลจังวะ จะตั้งให้กูหาเจอง่ายๆหน่อยก็ไม่ได้
ten38 sent a sticker.
ผมกดส่งสติกเกอร์กระต่ายโคนี่ที่โผล่มาจากพื้นธรณีสูบ แม่งน่ารักดีนะครับโผล่หัวออกมาจากหลุมสีดำๆ
ten38: จ๊ะเอ๋พ่อปู่!!!!!
พิมพ์ไปไม่นานพ่อปู่ก็ตอบกลับมาครับ
P: จ๊ะเอ๋เหี้ยไรมึง
อ้าวเชี่ยพ่อปู่ด่ากูทำไมอะ
P is typing..
P: โทษครับผิดแชท
อ่อๆ มันพิมพ์ผิด ตกใจหมดเลยสึด
ten38: พ่อปู่ครับ ผมทำภารกิจแรกสำเร็จแล้ว
ten38: ส่งของชิ้นต่อไปมาได้เลยครับ
ผมจัดการรายงานความคืบหน้าให้กับพ่อปู่ พอข้อความขึ้นว่าถูกอ่านแล้วพ่อปู่ก็ตอบกลับมาทันที
P sent a file.
ผมกดเข้าไปในไฟล์ที่พ่อปู่ส่งมาให้ก็พบว่าเป็นข้อความสามบรรทัดที่กูอ่านแล้วงงจนคิ้วผูกกันเป็นรูปตีน
‘โอ้นั้นมันบักแตงโม
โอ้นั้นมันบักส้มโอ
โอ้นี้คงเป็นบักพร้าวน้ำหอม’
ten38: งง
ten38: พ่อปู่ส่งอะไรมาหรอครับ
ten38: ส่งผิดอีกหรือเปล่าเนี่ย
อะไรคือแตงโมส้มโอมะพร้าววะ หิวหรอพ่อปู่ ไปตลาดก่อนไหมอะค่อยกลับมาคุย ผมไม่รีบ
P: นี่คือบทสวดมหาเสน่ห์ที่จะต้องใช้ในการรีวิวของชิ้นถัดไป
P: ชิ้นนี้จะไม่เหมือนกับชิ้นที่แล้วเพราะเราจะมีแค่บทสวดให้ ซึ่งเอาไว้สำหรับปลุกเสกน้ำมันพราย
เชี่ยยยยยยยยยย น้ำมันพรายมีจริงหรอวะเนี่ย กูเคยได้ยินแต่ชื่อกับเห็นในละครที่เขาฉายในทีวีอะที่ตัวร้ายทำใส่พระเอกแล้วพระเอกก็ตกหลุมรักนางร้ายจนกลายเป็นบ้า เหี้ยกูกลัวอะ ถ้าทำใส่พี่ปราบเขาจะไม่เป็นอันตรายหรอวะ
ten38: มันจะดีหรอครับพ่อปู่
ten38: ฟังดูอันตรายอะ
ten38: ผมกลัวพี่ปราบดาจะกลายเป็นบ้า นั่งตาลอย น้ำลายเยิ้มงี้ก็ไม่ไหวนะพ่อปู่
P: อย่าดูละครให้มันมาก อาการแบบนั้นไม่มีหรอกครับ
P: ที่คุณต้องทำคือให้ปลุกเสกน้ำอะไรก็ได้ด้วยคาถานี้แล้วค่อยเอาไปให้เป้าหมายของคุณดื่ม น้ำที่คุณปลุกเสกจะกลายเป็นน้ำมันพราย เมื่อเป้าหมายดื่มแล้วเขาจะค่อยๆหลงคุณจนหัวปักหัวปำ และคุณต้องทำยังไงก็ได้ให้เขาเอ่ยคำว่าชอบออกมา ภารกิจนี้ถึงจะสิ้นสุด
ten38: ทำไมมันดูน่ากลัวจังครับพ่อปู่
P: ไม่น่ากลัวหรอกครับ ภารกิจนี้มันอาจจะง่ายกว่าที่คุณคิด
P: สู้ๆนะครับ รออยู่
ten38: รออะไรครับ
P: หมายถึงรอแจกภารกิจสุดท้ายอยู่ครับ
P: และเงินสามแสนที่ตกลงกันไว้
P: “พร้อมโอน”
โอ้โหเห็นคำว่าพร้อมโอนแล้วไฟในตากูนี่ลุกพรึ่บ ทำไมพ่อปู่มันรวยจังวะ รู้งี้กูไปบวชเป็นฤาษีบ้างดีกว่าไม่มานั่งเรียนให้เสียเวลาแบบนี้หรอก
ten38: โอเคครับพ่อปู่ ผมจะไม่ทำให้พ่อปู่ผิดหวัง
Talk
ขอบคุณทุกฟีดแบ็กที่ช่วยต่อลมหายใจนะคะ อ่านแล้วฟิตจัดอยากอัพทุกวันเลย
ปล. วาดวันเฉลิมมาฝากค่า ตอนที่แล้วก็วาดน้องเท็นเมามาให้ดู ขออนุญาตอวดน้องเท็นอีกรอบ 55
(https://www.img.in.th/images/ba394c1d28a2309bae5cb965ea6894ba.jpg)
#ปราบดาพิเศษ
medley0810
“ขอบคุณนะครับพี่บีมที่วันนี้อุตส่าห์มาเป็นเพื่อน”
“ไม่เป็นไรครับ” พี่บีมยิ้มโชว์ลักยิ้มบุ๋มบนสองข้างแก้ม “สนุกดี จะกลับเลยมั้ยเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ไม่เป็นไรครับพี่ เดี๋ยวผมไปทำธุระต่อ พี่กลับเลยก็ได้ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” พี่บีมพยักหน้า จากนั้นผมก็ร่ำลาแล้วเดินไปส่งพี่บีมที่รถ พอรถที่บีมเคลื่อนออกไปผมก็เดินข้ามถนนตรงไปยังเซเว่นที่ตั้งตระหง่านอยู่ฝั่งตรงข้าม
พอเดินเข้ามาด้านในแอร์ในเซเว่นค่อยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ร้านก๋วยเตี๋ยวน้ำตกนรกแตกเมื่อกี้แม่งร้อนมากครับ หน้าม้ากูนี่เปียกเป็นเส้น ผมเดินตรงไปยังตู้แช่ด้านในสุดแล้วหยุดคิดว่าควรจะหยิบอะไรใส่ตะกร้าดี
‘น้ำมึงไม่อร่อยเลยว่ะ’
เนี่ยไอสัด ตอนถามก็บอกว่าให้ผมซื้ออะไรมาก็ได้ พอกูซื้อไปให้ก็มาบอกว่าไม่อร่อย แล้วมาบอกดีๆไม่ได้ด้วยนะครับต้องเข้ามาคอมเม้นบอกตอนผมไลฟ์สดอยู่ มึงเอาใจยากจังวะ
ผมกวาดสายตามองเครื่องดื่มหลากสีสันที่วางเรียงรายกันอยู่บนตู้ ไม่รู้มันจะเยอะไปไหนตาลายหมดแล้วเนี่ย ดูไปดูมาแม่งก็คล้ายๆกันหมดสุดท้ายผมก็เลยเลือกหยิบมามั่วๆสามสี่ขวดแล้วเดินไปจ่ายตัง กูซื้อขนาดนี้พี่ปราบมันต้องชอบซักอันแหละวะ
ยอดชายนายซันช่าย
สวัสดีครับกลับมาอีกครั้งกับยอดชายนายซันช่าย
ขณะนี้พวกผมสี่คนมารวมตัวทำโปรเจกต์กันอยู่ที่ห้องของไอ้หอม ณ คอนโดสวัสดีทวีสุข ใช่ครับคอนโดเดียวกับน้องเท็นนั่นแหละแต่ห้องไอ้หอมมันอยู่ชั้นเกือบบนสุดส่วนน้องเท็นมันอยู่ชั้นห้า ผมยังแปลกใจว่าทำไมน้องมันถึงไม่เคยเห็นเพื่อนผมสักครั้งทั้งที่มันอยู่คอนโดเดียวกันมาตั้งนาน วันนั้นที่มีคนเอาพัสดุจากพ่อปู่ไปส่งให้น้องมันที่ห้องก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้หอมเพื่อนผมเอง รับจ๊อบส่งพัสดุเฉพาะกิจ
ปกติเวลาคนมาส่งของตามคอนโดมันต้องทิ้งเอาไว้กับนิติข้างล่างแต่วันนั้นไอ้หอมมันมาเคาะห้องน้องเท็นแต่เช้า น้องมันก็ไม่คิดเอะใจเลยนะครับว่าทำไมคนส่งของถึงขึ้นมาส่งให้มันได้ถึงหน้าห้อง บางทีน้องเท็นมันก็ซื่อจนน่าเป็นห่วงอะ
แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่าตอนนี้ก็คือพวกผมสามคน ผม ไอ้ฉี ไอ้น้ำหอมนั่งกอดหมอนมองตากันเลิ่กลั่กในความเงียบโดยไม่มีใครพูดอะไร งานการที่ค้างอยู่ก็ไม่มีความคืบหน้ามาเกือบชั่วโมงแล้วครับ บรรยากาศมาคุยิ่งกว่าตอนอาจารย์ประกาศคะแนนมิดเทอมอีก ไม่น่าหาเรื่องเปิดไลฟ์น้องเท็นให้ไอ้ปราบดูเลยกู ตั้งแต่มันเห็นน้องเท็นอยู่กับไอ้บีมมันก็หงุดหงิดงุ่นง่านเหมือนแม่กูตอนเมนส์มาไม่ปกติ ส่วนไอ้ตัวการตั้งแต่ดูจบก็นั่งเงียบไม่พูดไม่จา ใครคุยด้วยมันก็ตอบแบบกวนส้นตีน ไม่มีใครเข้าใกล้มันได้ทั้งนั้นนอกจากตุ๊กตาน้องหมาที่อยู่ในมือมันอะ
“เฮ้ยพวกมึง กูหิวว่ะ” กูแทบจะลุกขึ้นปรบมือให้กับความกล้าหาญของไอ้ฉีที่มันอาสาเป็นหน่วยกล้าตายพูดทำลายบรรยากาศตึงเครียดที่อบอวลไปทั้งห้อง
“เออกูก็หิว สั่งไรมาแดกไหม หรือจะพักงานไว้ก่อนแล้วออกไปหาไรแดก”
“สั่งมาเหอะว่ะ ถ้าออกไปแดกกว่าจะได้กลับมาทำต่อคืนนี้ไม่ต้องนอนพอดี จุดที่ต้องแก้แม่งเหลืออีกบาน”
“เออเอาดิ กินไรดีวะ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นใต้คอนโดกูปะเดี๋ยวกูโทรสั่งให้” ไอ้หอมเสนอ
“กูไม่แดก” ไอ้ปราบที่นั่งหน้าหงิกเป็นรูปส้นตีนหมาแย้ง ไอสัดนี่ก็เอาแต่ใจเหลือเกิน
“แล้วมึงจะแดกไรวะไอ้ปราบ มัวแต่นั่งเงียบแล้วกูจะรู้กับมึงไหม”
“แดกไรก็ได้ แต่ไม่แดกก๋วยเตี๋ยว”
“งั้นกูสั่งเลยนะ ข้าวมันไก่สี่ห่อ มีใครเอาไรอีกมั้ย”
“เฮ้ยกูเอาชาไข่มุกด้วย อยากกินไรหวานๆแก้เครียด มึงเอาด้วยปะไอ้ซัน”
“กูไม่แดก มึงไม่ต้องสั่งมาให้กูเห็นเลยนะ”
“เอ้าแต่กูจะแดกอะ มึงไม่แดกมึงก็ไม่ต้องสั่งดิ”
“แต่กูไม่ให้มึงแดก ไอ้หอมมึงจะโทรสั่งข้าวก็โทรไวๆ กูหิวแล้ว”
“เออๆไม่แดกก็ไม่แดก” สุดท้ายก็ต้องตามใจมันครับ อารมณ์มันไม่ค่อยปกติ งานนี้ต้องพึ่งมันเยอะหน่อยเพราะมันเป็นมันสมองของกลุ่ม ไปกวนส้นตีนมันมากเดี๋ยวงานไม่เสร็จกันพอดี
หลังจากที่ไอ้หอมโทรสั่งข้าวไปได้สักพักโทรศัพท์มันก็ดังขึ้นอีกรอบ เฮียร้านข้าวมันไก่โทรมาบอกว่ารออยู่ข้างล่าง อะไรมันจะรวดเร็วทันใจปานนั้น ไอ้หอมมันทำท่าจะลุกลงไปเอาข้าวที่มาส่งแต่ไอ้ปราบมันชิงลุกขึ้นก่อนแล้วบอกว่ามันจะลงไปเอาเอง พอมันลงไปพวกผมค่อยได้หายใจหายคอกันหน่อย ไอห่าอึดอัดมาหลายชั่วโมง
จบพาร์ทยอดชายนายซันช่าย
“อ้าวพี่ มาทำไรอะ” พอประตูลิฟท์เปิดออกผมก็เจอพี่ปราบดาเดินออกมาจากลิฟท์ วันนี้เจอกันสองรอบแล้วนะ มันมาทำอะไรที่คอนโดผมวะ
“พี่ได้ยินผมปะเนี่ย” แม่งทำเป็นหูทวนลมมองเลยหูกูไปทางด้านหลัง ผมเลยก้าวเร็วๆไปดักมันจากข้างหน้า
“มาทำงาน”
“อ้าวพี่ทำงานที่นี่หรอ ทำไรอะพี่ ทำนานยังทำไมผมไม่เคยเห็นพี่เลย” พอพูดจบพี่ปราบก็พรูลมหายใจออกมา เป็นไรวะถามแค่นี้ไม่ได้หรอ
“กูมาทำโปรเจกต์ห้องไอ้หอม มันอยู่คอนโดเดียวกับมึง ไม่ได้มาทำงานรับจ๊อบไรแบบที่มึงคิด หน้าโง่”
“อ่ออออออ” ผมลากเสียงยาว เออว่ะคนรวยๆแบบพี่ปราบมันจะมาทำงานที่คอนโดผมทำไม ถ้าบอกว่าเป็นเจ้าของคอนโดยังดูจะเป็นไปได้กว่าเลย ต้องเป็นเพราะก๋วยเตี๋ยวฟอกไตที่กินไปวันนี้แน่ๆ เค็มจนสมองกลับแล้วกู
“แต่เจอพี่ก็ดีแล้ว เห็นมาบอกในไลฟ์ว่าน้ำมะเขือเทศไม่อร่อยผมเลยซื้อมาให้ใหม่ เอาไปเลยสี่ขวดสี่รสชาติ ผมเอาใจขนาดนี้แล้วมันต้องถูกใจพี่ซักขวดแหละ” ผมชูถุงพลาสติกในมือขึ้นมาให้พี่มันดูน้ำสี่ขวดที่ผมท่องคาถาปลุกเสกมาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่อยู่หน้าเซเว่น พี่ปราบมองอย่างชั่งใจอยู่แปปนึงก่อนจะยื่นมามือรับ แหน่ กูเห็นนะว่าตะกี้พี่มันยิ้มอะ จะเก๊กเพื่อ
“เห็นคอมเม้นกูด้วยหรอ”
“เห็นดิ แต่ยังไม่ทันตอบพี่ก็ชิงออกไปก่อนอะ”
“เหอะ ตกลงเดี๋ยวนี้มึงกับไอ้บีมสนิทกันแล้วหรอ” ถามอีกละ มันจะสงสัยทำไมนักหนาว่าผมจะสนิทกับใคร
“ก็ไม่หนิพี่ ผมชวนพี่เขามาช่วยเรียกยอดวิวเฉยๆ”
“แล้วทำไมไม่มาชวนกู กูหล่อกว่ามันอีก” ประโยคนี้ถ้าเบ้าหน้าไม่ดีจริงพูดไม่ได้นะครับ คันปากอยากด่ามันว่ะแต่ด่าไม่ออกเพราะมันพูดความจริง
“อ้าว ผมไม่รู้ พี่ดุขนาดนี้ใครจะกล้าชวนวะ อีกอย่างผมคิดว่าพี่คงไม่ชอบทำไรแบบนี้อะ”
“อะไรแบบนี้ที่มึงบอกหมายถึงอะไร”
“ก็แบบ ทำตัวให้เป็นจุดสนใจไรเงี้ย”
“อ่อ ถ้าแบบนั้นก็ไม่ชอบหรอก” พี่ปราบเว้นไปแปปนึงแล้วพูดต่อ
“แต่เห็นมึงชอบทำไรแบบนี้ กูก็อยากลองเป็นส่วนนึงของชีวิตมึงดู”
“ห้ะ พี่ว่าไรนะ” ปากผมพูดแต่ตานี่ไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหนเพราะเมื่อกี้ได้ยินชัดแจ๋วทุกคำ อยู่ดีๆก็เขินพี่มันขึ้นมาเฉยเลยว่ะ กูวิ่งหนีเข้าลิฟท์ไปเลยได้ปะ
“หมายถึงกูอยากลองดูว่ามันสนุกยังไง เห็นมึงถ่ายจังเลยไอ้คลิปเนี่ย”
“อ่อ”
“เท็น ทำไมมึงหน้าแดง”
“ผมวิ่งมา มันร้อน”
“ก็ไม่ร้อนหนิ อากาศเย็นสบายดี หรือมึงไม่สบายไหนมาดูหน่อย” ผมก้าวเท้าเข้าไปหาพี่ปราบอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่คงไม่ทันใจไอ้พี่ปราบเท่าไหร่เพราะมันเป็นฝ่ายเดินเข้ามาประชิดตัวผมแล้วยกแขนหนาๆของมันขึ้นมาเอามือแตะหน้าผาก
“ผมสบายดีพี่ ไม่ได้เป็นไร”
“แต่หน้ามึงแดงมาก”
“ไม่เป็นไรจริงๆ ผมขึ้นห้องก่อนนะพี่” ไม่รอให้มันอนุญาตแล้วครับ ผมดันมือพี่มันออกแล้ววิ่งจู๊ดเข้าลิฟท์ไปเลย พักหลังๆอยู่กับพี่ปราบแล้วทำไมจิตใจไม่ปกติเลยวะ คุยด้วยแล้วใจเต้นแรงตลอด พรุ่งนี้ไปหาหมอดีกว่ากู
TALK
มาแล้วจ้า เขินๆจากเตา
#ปราบดาพิเศษ
#ปราบดาพิเศษ
#ปราบดาพิเศษ
medley0810
ตอนที่ 9
โรคหัวใจกำเริบเลิฟ ละละเลิฟเลิฟเลิฟ
“ขอเชิญคุณธาวิน วณิชสกุลที่ห้องตรวจหมายเลขสี่ค่ะ”
เสียงหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้าของคุณพยาบาลแผนกอายุรกรรมเรียกผมให้หลุดออกจากอาการเหม่อลอย ผมปิดปากหาวหวอดสลัดความง่วงงุนก่อนจะเดินไปหยุดยืนหน้าบานประตูสีขาวที่มีป้ายหมายเลขสี่และชื่อนายแพทย์ ‘กวินทร์ วณิชสกุล’ แปะกำกับไว้ก่อนจะผลักเข้าไป หลังประตูบานนั้นคือชายหนุ่มที่ผมคุ้นเคยดีในชุดกาวน์สีขาวสะอาดตาบวกกับกรอบแว่นสีดำยิ่งเพิ่มความภูมิฐานเข้าไปอีก ถ้าไม่รู้จักมาก่อนคงคิดว่านายแพทย์กวินทร์คนนี้แม่งคงเป็นหมอที่เก่งกาจบุคลิคสะอาดสะอ้านน่าชื่นชม แต่เพราะรู้จักมาตั้งแต่เด็กพอเห็นมันนั่งหน้าเข้มตีหน้าขรึมหลังโต๊ะตรงหน้าแล้วอยากจะขากน้ำลายลงพื้น ถุยๆๆ
“สวัสดีครับพี่หมอ”
“ไงมึง ไม่เจอนาน...นมโตขึ้นเยอะเลย”
“ไม่เจอนาน จังไรขึ้นเยอะเลย เชี่ยพี่วิน เป็นหมอทักคนไข้แบบนี้ได้หรอ”
“ไอสัดน้องเท็นอย่าพูดมาก นั่งสิครับคนไข้มึงจะยืนอีกนานมั้ย”
นั่นล่ะครับ พี่หมอหน้าเข้มตรงหน้าผมคือพี่วิน ลูกพี่ลูกน้องผมเอง พี่วินกับผมห่างกันหกปีแต่กินขี้ปี้นอนมาด้วยกันตั้งแต่ตอนผมกับพี่ชายอีกคนยังเป็นเด็กกะโปกอยู่เชียงใหม่ ตอนเด็กๆพวกผมสามคนนี่อย่างซี้ เล่นเป่ากบ เล่นไพ่ยูกิ หนึบการ์ดโปเกม่อนมาด้วยกัน ถามว่ากูเคยชนะพวกพี่มันบ้างมั้ย ไอสัดแม่งรวมหัวกันโกงผมทุกวี่ทุกวันน้ำหน้าอย่างผมจะเอาไรมาชนะอะ นอกจากโดนหลอกแดกไพ่แล้วยังต้องเป็นลิ่วล้อวิ่งซื้อน้ำซื้อขนมให้มันสองคนอีก แค้นฝังหุ่นถึงทุกวันนี้แต่ยังไม่มีโอกาสเอาคืน
แม้ตอนเด็กจะเล่นด้วยกันทุกวันแต่พอโตมาก็ไม่ค่อยได้เจอกันแล้วครับเพราะต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเรียนหนังสือหนังหา พี่วินมันโตสุดพอจบมอหกป้าผมก็ส่งมาเรียนหมอที่กรุงเทพจนมันเรียนจบ ทุนก็ไม่ต้องใช้เลยได้มานั่งกระดิกตีนรักษาคนไข้อยู่โรงบาลเอกชนสบายใจเฉิบแบบนี้ ส่วนพี่แทนพี่ชายผมไม่รู้อินดี้อะไรพอจบมัธยมก็โบกมือลาเชียงใหม่ไปเรียนหมอฟันที่ขอนแก่น ส่วนผมดูแล้วน่าจะแปลกประหลาดกว่าใครเพื่อนเพราะนอกจากจะไม่เรียนไปทางหมอแล้วยังขอแม่มาเรียนที่กรุงเทพตั้งแต่เข้ามัธยมปลายเพราะสอบติดโรงเรียนชื่อดัง ตอนแรกพ่อผมคัดค้านบ้านแทบแตกแต่สุดท้ายก็ใจอ่อนแล้วยังซื้อคอนโดไว้ให้ซุกหัวนอนจนถึงตอนนี้
“สรุปมึงเป็นไรมาครับคนไข้ อาการมันเป็นยังไงไหนบอกหมอซิ” พอผมนั่งลงพี่วินก็เริ่มทำการวินิจฉัย คำพูดคำจามึงนี่เหมือนลืมไปแล้วอะครับว่าการเป็นหมอต้องท่องจำคำว่าจรรยาบรรณแพทย์ให้ขึ้นใจ
“คือผมมีอาการแปลกๆว่ะพี่ เหมือนจะเป็นโรคหัวใจ”
“หรอ อาการที่ว่านี่ยังไงบ้างวะ”
“อาการหรอ ก็มี...”
ผมกำลังนึกว่า ‘อาการแปลกๆ’ ที่ทำให้ผมต้องหอบหิ้วตัวเองมาตรวจถึงโรง’บาลแต่เช้ามีอะไรบ้าง
“...ใจสั่น”
“อืม”
“...หน้าแดง”
“อาฮะ”
“...ใจเต้นแรง”
“ชัดเลยครับ”
“...พูดจาตะกุกตะกัก แถมแขนขาแม่งยังเก้งๆกางๆ”
“ไอสัด ชัดมากครับคนไข้”
“เชี่ยยยย ชัดเลยหรอวะพี่ ตกลงผมเป็นไรอะ ใช่โรคหัวใจป่าว”
“เออ ชัดมาก ว่าแต่อาการที่มึงบอกนี่เกิดขึ้นตลอดเวลาไหม หรือว่ามาๆหายๆ กำเริบเฉพาะเวลาอยู่ต่อหน้าใครบางคน?”
“ก็ไม่ตลอดนะ อาการมาๆหายๆอะ”
อาการที่พูดมา… แม่งชอบเป็นเวลาผมอยู่ต่อหน้าพี่ปราบดา
อาการแบบนี้… เสิร์ชกูเกิ้ลมามันบอกว่ากูเป็นโรคหัวใจ!
“ไอ้เท็น”
“ว่าไงพี่” ใจหล่นไปอยู่ที่ตีนแล้วผม กลัวมันบอกว่าผมกำลังจะตาย
“ไม่เจอกันนานนม มึงโตขึ้นเยอะจริงๆว่ะ”
“ห้ะ?”
“ยินดีด้วยน้องรัก มึงกำลังมีความรัก ไม่ได้ป่วยเป็นอะไรทั้งนั้น ไอ้ควาย”
หลังฟังคำวินิจฉัยจากนายแพทย์กวินทร์เสร็จผมก็เดินหน้ามึนออกมาจากห้องตรวจแล้วมานั่งรอรับยาพร้อมกับจ่ายค่าเสียเวลาที่แผนกการเงิน สรุปว่าผมแหกตาตื่นมาแต่เช้าไปเพื่ออะไรวะในเมื่อสิ่งที่กูพึ่งได้ยินจากพี่หมอวินแม่งไร้สาระสัดๆ มันบอกว่าผมไม่ได้ป่วยแต่กำลังมีความรัก น้ำหน้าอย่างผมเนี่ยนะกำลังมีความรัก ขากกกกกกกก วิเคราะห์โรคมั่วซั่วแบบนี้มึงจบหมอมาได้ไงวะ เสียเวลาชิบหาย คิวรอจ่ายตังก็ยาวจังกูชิ่งเดินออกไปไม่จ่ายได้ปะเนี่ย
ระหว่างนั่งรอเรียกชื่อโทรศัพท์ผมก็ดัง ไม่ไลน์ก็เฟสบุคแชทอะครับเสียงแบบนี้
Prabda Asavayothin
หิวน้ำ
ข้อความที่เด้งขึ้นมาบนล็อกสกรีนทำคิ้วผมขมวดเป็นปม หิวน้ำก็เดินไปซื้อสิวะ เห็นกูเป็นไลน์แมนหรอ แน่นอนว่าผมทำได้แค่คิดสุดท้ายก็ต้องเอาไปให้พี่มันอยู่ดี จิกหัวใช้ผมเป็นเด็กส่งน้ำแบบนี้ก็ดีแล้วครับรู้สึกเหมือนจะเห็นเงินแสนอยู่รำไร
Ten Tavin
พี่อยู่ไหนอะ
Ten Tavin
อยากกินน้ำไร
Ten Tavin
เดี๋ยวเอาไปให้ครับ
ชำระเงินรับยาเสร็จผมก็รีบขับรถออกจากโรงพยาบาล แวะซื้อลาเต้เย็นหวานน้อยจากร้านแถวคณะตามที่พี่ปราบสั่งแล้วจอดรถทิ้งไว้ที่มอ จากนั้นก็โบกวินมอไซค์นั่งมาส่งน้ำที่ผมร่ายคาถาพ่อปู่แล้วให้พี่มันที่สยาม ที่ไม่ขับรถมาจอดที่สยามเลยเพราะกลัวค่าจอดบรมโหดแถมเที่ยงๆช่วงเวลาคนกำลังหิวแบบนี้หาที่จอดยากแน่นอนครับไม่ต้องสืบ
กระโดดลงจากมอไซค์จ่ายตังเสร็จผมก็จ้ำเท้าเดินไปตามทางที่พี่มันบอก พอเงยหน้ามาอีกทีก็เห็นพี่ปราบยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงตีนบันไดทางเชื่อมรถไฟฟ้า วันนี้พี่ปราบดูแปลกตาไปกว่าทุกที คงเป็นเพราะปกติผมเห็นมันใส่แต่เสื้อบอลไม่ก็เสื้อนิสิต ทว่าวันนี้พี่ปราบปรากฏตัวในชุดธรรมดา เสื้อยืดดำกับกางเกงยีนส์ขาดเข่าแต่ความหล่อแม่งไม่ธรรมดาจริงๆ สีดำของเสื้อตัดกับผิวขาวๆของพี่มันดังฉับ คนเดินผ่านนี่หันมองกันตาหวานฉ่ำ
“อะพี่ มันละลายไปแล้วหน่อยนึงนะแต่ยังกินได้อยู่” ผมยื่นแก้วในมือให้พี่ปราบ มันมองปร๊าดนึงแล้วก็บอกกับผมอย่างคนสันดานไม่ดี
“ละลายแล้วกูไม่แดก”
“เอ้าอะไรวะ พึ่งละลายไปนิดเดียวเอง”
“นั่นแหละ ทิ้งไปเลยกูไม่เอา”
“งั้นเดี๋ยวผมไปซื้อให้ใหม่ พี่รอตรงนี้นะเดี๋ยวผมมา”
“ไม่ต้อง รวยนักหรือไงซื้อน้ำให้กูอยู่นั่น” ไอสัดถ้ารวยไม่มานั่งง้อพี่มึงแบบนี้หรอก กูเป็นหนี้เขาอยู่สามแสนเนี่ยไอชิบหาย
“ไม่ได้รวยครับแต่อยากซื้อให้ พี่ก็กินๆไปเหอะอย่าถามมากได้ปะ”
“เท็น”
“ครับ”
“มึงจีบกูหรอ”
อึ้ง
“ตอบดิ มึงจีบกูหรอ”
“ม..ไม่ได้จีบ” ใจสั่น หน้าแดง ใจเต้นแรง พูดจาตะกุกตะกักอีกแล้วกู ไหนพี่วินมันบอกว่าไม่ได้ป่วยไงวะ
“ไม่ได้จีบแต่ซื้อน้ำมาให้กูทุกวัน แบบนี้แถวบ้านกูเรียกว่าชอบ มึงชอบกูไอ้เท็น”
ไม่ได้ป่วยเชี่ยไรล่ะ
ใครก็ได้ส่งรถพยาบาลมารับกูตอนนี้เลย หัวใจจะวายแล้วแม่ย้อย
ยืนเถียงกันหน้าดำหน้าแดงอยู่ซักพักกว่าจะได้ข้อสรุปว่าผม ‘ไม่-ได้-ชอบ’ พี่ปราบดา ไม่รู้มันเข้าใจอย่างที่ผมบอกหรือขี้เกียจเถียงกับผมแล้วกันแน่แต่สุดท้ายมันก็เดินยิ้มๆตามผมมาที่หน้าร้านกาแฟสตาร์บัง พอหันไปมองแม่งก็ยักคิ้วกวนส้นตีนผมอีก ไม่ต้องกินแล้วมั้งสตาร์บังอะเอาสตีนกูไปแทน
“ลาเต้เย็นหวานน้อยเหมือนเดิมใช่ป่าวพี่ ไซส์เล็กสุดได้ปะกลัวตังไม่พอ”
“ก็บอกว่าไม่เอาแล้วไง ดื้อจังวะ”
“เปล่าดื้อ ก็พี่ทักมาหาผมว่าหิวน้ำอะ อ้าวเฮ้ยไปไหนอะ” ผมยังพูดไม่จบแต่พี่ปราบแม่งเดินสะบัดตูดไปแล้ว
“อย่าพึ่งไปดิ ผมขอซื้อกาแฟให้พี่แก้วเดียวเอง เดี๋ยวผมก็กลับแล้วไม่อยู่กวนพี่หรอก”
“ไม่ต้องซื้อแล้ว อยากกินเดี๋ยวกูซื้อเอง”
“พี่แม่งโคตรใจร้าย”
“อยากเลี้ยงน้ำกูขนาดนั้นเลย”
“อือ”
“ก็ได้”
“จริงอะ”
“จริง.. แต่กูมีข้อแม้”
“สวัสดีคร้าบทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่อง เท็นเทอร์ตี้เอ้ก อี้ เอ้ก เอ้ก กับผมเท็นคนดีคนเดิมเพิ่มเติมคือความหล่อกับความถี่ในการมาไลฟ์สด ซึ่งวันนี้ไม่ได้จะพาทุกท่านไปเปรี้ยวตีนที่ร้านอาหารรสชาติหมาไม่แดกที่ไหน แต่เป็นไลฟ์พิเศษที่ห้างใหญ่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับมอของเราพร้อมกับแขกรับเชิญที่พิเศษสุดเซอร์ไพรซ์ ไอ๊ ไอ๊”
เซอร์ไพรซ์จริงๆครับขนาดกูยังพึ่งรู้ตะกี้เหมือนกัน อยู่ดีๆไอ้พี่ปราบแม่งก็บอกให้ผมมาไลฟ์สดแถมบอกภารกิจอันน่าปวดหัวที่ผมต้องทำผ่านไลฟ์ในยูทูบอันเนื่องมาจาก ‘ข้อแม้’ ของพี่มัน ซึ่งก็คือ
‘ทำให้กูอารมณ์ดีก่อนดิ’
สุดท้ายกูก็ต้องมาตามใจพี่มันแบบงงๆ กล้องห่าอะไรก็ไม่ได้เตรียมมาเลยต้องใช้โทรศัพท์แทน แถมยิ่งพอฟังสิ่งที่มันบอกให้ทำกูก็ขายขี้หน้ารอแล้วไอเหี้ย
“เนื่องจากแขกรับเชิญของผมเป็นคนขี้อายจึงไม่ประสงค์จะออกนามและไม่ขอออกหน้ากล้อง ฟังแต่เสียงแล้วไปเดากันเอาเองนะครับว่าเป็นใคร ถามว่าผมมาทำไรในวันนี้ ผมมาทำภารกิจเล่นเกมแต่งตัวครับโดยที่แขกรับเชิญจะเลือกไอเทมมาให้แล้วให้พวกคุณร่วมโหวตเข้ามาว่าอยากให้ผมใส่ชุดไหน ยังไงก็ปราณีกูบ้างแล้วกัน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปเริ่มกันเลยดีกว่า”
ผมเดินตามพี่ปราบที่ถือโทรศัพท์ถ่ายผมเอาไว้เข้ามาด้านในของร้านเสื้อผ้าร้านหนึ่ง พี่มันเดินสำรวจวนไปวนมาอยู่แปปนึงก่อนจะหยิบเสื้อส่งมาให้ผมสามสี่ตัว แค่เริ่มต้นกูก็เห็นความบัดซบแล้วครับ
“ในส่วนของเสื้อนะครับ แขกรับเชิญของเราได้เลือกมาแล้วด้วยกันสี่ตัว ตัวแรกคือเสื้อกั๊กสีเขียวสะท้อนแสงอินสไปเรชั่นจากพนักงานจราจร ตัวที่สองเสื้อยืดลายสักยันต์เก้ายอดนายทองเหม็น ตัวที่สามเกาะอกลายเสือดาวหางเครื่องดาวมยุรี ไอเหี้ยหยิบมาทำไมวะเนี่ย ตัวสุดท้ายบอดี้สูทลายม้าลายสีขาวสลับดำ ใส่แล้วเหยียบกูข้ามถนนไปได้เลยครับรับประกันความปลอดภัยรถไม่ชนแน่นอน แต่ละตัวเรียกว่าความเหี้ยค่อนข้างสูสี ชอบตัวไหนโหวตกันเข้ามาได้เลยครับ”
noo_straw_berry: 3
รักนี้คิตตี้พูห์: 4
lnwgorn: เท็นมึง 555555555 สู้ๆนะเพื่อน กูโหวตเบอร์ 4
Joy Enjoy: 444444
Joy Enjoy: ว่าแต่แขกรับเชิญนี่ใครหรอค้าาาาา อยากเห็นหน้าๆๆๆ
ต้นรถเป็นไรอะ: น้องเท็นจะใส่จริงๆหรอครับ
ต้นรถเป็นไรอะ: 3
ต้นรถเป็นไรอะ: 3
ต้นรถเป็นไรอะ: 3
ต้นรถเป็นไรอะ: ใส่เกาะอกแล้วครางชื่อพี่ต้นหน่อย
onechaloem: 4แล้วกัน กูอยากไปซาฟารีเวิร์ล
น้ำตาจ่าโท: เคาะยากมากระหว่างสามกับสี่
น้ำตาจ่าโท: แต่ขอเลือกเบอร์ 4 เป็นคำตอบสุดท้ายคร้าบๆๆๆ
ไอสัดแค่ตัวแรกก็เล่นกูแล้ว แม้แต่แก๊งสามหนุ่มเนื้อทองเพื่อนรักผมก็ยังมาร่วมโหวตกับเขาด้วย เหมือนกูรักพวกมันอยู่ฝ่ายเดียวอะ ผมอ่านคอมเม้นสลับกับหันไปมองหน้าคนที่ยืนยิ้มชั่วอยู่หลังกล้อง ดูจากรอยยิ้มบนใบหน้าแล้วมันคงสะใจมากอะครับที่แกล้งผมได้
“สรุปว่าเบอร์ 4 บอดี้สูทลายม้าลายเข้ารอบนะครับ งั้นเราไปที่ไอเทมถัดไปกันเลย แขกรับเชิญเลือกหยิบได้เลยครับ”
พี่ปราบหายไปสักครู่ก่อนจะเดินกลับมาพร้อมกับกางเกงในมืออีกสี่ตัว ผมมองสภาพแต่ละตัวที่มันหยิบมาแล้วถึงกับเหงื่อแตก มึงไม่คิดจะไว้หน้ากูเลยใช่ปะเนี่ย
“แขกรับเชิญได้ทำการหยิบมาแล้วนะครับ ตัวแรกเป็นกางเกงอาละดินเป้ายานถึงพื้นสวมใส่แล้วสบายไข่ ตัวถัดไปกางเกงยีนส์ขาสั้นเสมอหมียั่วๆจร้า ตัวที่สามกางเกงหนังรัดเป้าสีดำขลับสวมวันนี้เป็นหมันวันหน้า และตัวสุดท้ายกางเกงขาม้าแต่ลายเสือโคร่งโฮกปี๊บ ชอบตัวไหนโหวตเลยครับ”
ฟ้า สาลิกาลิ้นทอง: 555555555 สงสารพี่เท็น
ฟ้า สาลิกาลิ้นทอง: แต่หนูโหวตเบอร์ 2 ยั่วๆๆๆไปเลยคร้า
noo_straw_berry: เบอร์ 4 ค่า แมตช์กับไอเทมแรก 555555555
ต้นรถเป็นไรอะ: เบอร์ 22222222 เท่านั้น
ต้นรถเป็นไรอะ: แค่คิดก็วูบ พยุงกุทีกุจะเป็นลม
รักนี้คิตตี้พูห์: 4
Joy Enjoy: 4
“เสียงโหวตออกมาเป็นเอกฉันท์แล้วนะครับว่าไอเทมที่กูต้องใส่ได้แก่กางเกงขาม้าลายเสือโคร่งโฮกปี๊บ สวมคู่กับตัวแรกเสร็จบ้านช่องไม่ต้องกลับแล้วครับทางการส่งคนมาจับกูส่งโรงบาลบ้าแน่นอน อะไปที่ไอเทมถัดไปกันเลยดีกว่าให้มันจบๆไปซักที เชิญพี่ปรา..เอ้ยแขกรับเชิญเลือกรองเท้าได้เลยครับ”
ชิบหายแล้วครับเกือบเผลอเรียกชื่อพี่ปราบดาออกสื่อไปแล้ว พี่มันถลึงตามองผมใหญ่ดีนะหุบปากเอาไว้ทัน
Joy Enjoy: กรี๊ดๆๆๆๆเมื่อกี้น้องเท็นหลุดเรียกชื่อปราบดาออกมาปะคะ
Joy Enjoy: ปราบดาครางชื่อจอยหน่อยคร้าาาา จอยคอมอาร์ทรหัส48
ต้นรถเป็นไรอะ: ไม่จริงใช่มั้ยน้องเท็น บอกพี่ต้นมาคำเดียวว่ามันไม่จริงแล้วพี่จะเอารองเท้าไปอุดปากอีจอย
Joy Enjoy: @ต้นรถเป็นไรอะ เอ๊ะมึงใครเนี่ย คนในคณะหรอพรุ่งนี้ตบกับกุใต้โถงคณะเลยดีกว่า
พวกเจ๊จะมาทะเลาะกันในไลฟ์ผมไม่ได้ปะวะ ผมรีบดำเนินรายการต่อทันทีก่อนที่รายการแต่งตัวของผมจะกลายเป็นสนามมวยไทยไฟท์
“ในส่วนของรองเท้านะครับ คู่แรกรองเท้าแตะหนังงูหลามอิมพอร์ตจากป่าดงดิบ คู่ที่สองเป็นถุงก๊อบแก๊บไอสัดให้กูเอามาผูกตีนเดินเหมือนตอนน้ำท่วมหรอ คู่ที่สามรองเท้าบู้ทสีเขียวสะท้อนแสงสูงถึงขาอ่อน แหม่ไม่เลือกมาให้สูงถึงคอกูไปเลยล่ะครับแขกรับเชิญ และคู่สุดท้ายรองเท้าหัวขนมปังดูจากทรงแล้วน่าจะหนักข้างละครึ่งโล โหวตเลยคร้าบ”
รักนี้คิตตี้พูห์: 4 แล้วกันค่ะดูธรรมดาที่สุดแล้ว
ฟ้า สาลิกาลิ้นทอง: แค่ชุดก็เยอะชิบหายแล้วงั้นฟ้าเลือกเบอร์ 4 ค่ะ ซอฟท์ๆ
noo_straw_berry: เบอร์ 4 ค่า
Joy Enjoy: จะเลือกเบอร์ 2 ถ้าน้องเท็นไม่เฉลยว่าแขกรับเชิญคือใคร
ต้นรถเป็นไรอะ: 444444
ต้นรถเป็นไรอะ: ปล. ไม่ต้องเฉลยครับ #ทีมผัวน้องเท็น ไม่อยากรู้
Joy Enjoy: เอ๊ะอีต้นมึงไม่จบใช่มั้ย?????
เลือดนักสู้ในกายอิพี่จอยมันจะพลุ่งพล่านอะไรขนาดนั้น ซิ่วเหอะไม่ต้องเรียนหรอกนิเทศอะย้ายไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์บัวขาวน่าจะรุ่ง
“ขอบคุณทุกคนนะครับที่อุตส่าห์ไว้หน้าผมในนาทีสุดท้าย ผมขอตัวไปเปลี่ยนชุดสักครู่แล้วเดี๋ยวมาดูกันว่าสภาพกูจะอนาถขนาดไหน ระหว่างนี้ทักทายแขกรับเชิญไปพลางๆก่อนนะครับแต่ไม่รู้เขาจะยอมตอบรึเปล่าหยิ่งเหลือเกินเหมือนค่าตัวแพงอะแต่จริงๆผมจ่ายด้วยกาแฟแก้วเดียวอิอิ เดี๋ยวมาคร้าบ”
ผมทิ้งท้ายไว้ให้พี่ปราบมันเฝ้าคนดูไปก่อนจะหอบหิ้วชุดที่เข้าตากรรมการแต่ไม่ถูกใจกูซักนิดเข้าไปเปลี่ยนในห้องลอง เหยดแหม่อีบอดี้สูทลายม้าลายนี่ก็ไม่รู้จะรัดติ้วไปไหน กว่าจะยัดตัวเองลงไปได้เล่นเอากูหอบจนลิ้นห้อย พอผมประกอบทุกอย่างลงมาบนร่างแล้วก็คนบ้าดีๆนี่เอง คนปกติเขาไม่ทำอะไรแบบนี้กันหรอกครับเวรกรรมกูแท้ๆ ไม่ออกไปได้ปะเนี่ยกูอายอะ
ผมค่อยๆย่องออกมาจากห้องลองเสื้อ ไอ้พี่ปราบมันยังยืนถือกล้องอยู่ที่เดิมแถมยังจ้องมาทางผมเหมือนกำลังรอดูอย่างใจจดใจจ่อ พอมันเห็นสารรูปผมเท่านั้นแหละมันก็หัวเราะออกมาดังลั่นอย่างไม่อายฟ้าดิน ไอเหี้ยยยยย ไอ้คนเลววววววววววววว ฮืออออ กูอายยยยยย ไอกรไอเหลิมมึงอยู่ไหนวะช่วยกูด้วยยยย T____T
Joy Enjoy: ปราบดาจริงๆด้วย เสียงหล่อๆแบบนี้จอยจำได้!!
Vicky Socute: ไม่จริงใช่มั้ยคะ ทำไมพี่ปราบถึงไปอยู่กับพี่เท็นได้????
Vicky Socute: แถมยังหัวเราะด้วย พี่ปราบเป็นคนอารมณ์ดีตั้งแต่เมื่อไหร่??????
ต้นรถเป็นไรอะ: อีจอยมึงฆ่ากูเลยเหอะ กูไม่อยากอยู่แล้ว
Joy Enjoy: @ต้นรถเป็นไรอะ คุ้นมาก กูคุ้นมึงมากอีต้น ใช่ใช่มั้ย…
ใครจะคุ้นใครไม่รู้แต่กูเลิกสนใจคอมเม้นในไลฟ์แล้วครับ ในหัวตอนนี้คืออยากรีบทำทุกอย่างให้มันจบๆแล้วกลับไปกอดหมอนนอนร้องไห้กับความอับอายที่ตัวเองเผชิญในวันนี้ ผมทำใจกล้าหน้าด้านโผล่ไปหน้ากล้องโบกมือทักทายทุกคนก่อนจะกล่าวปิดไลฟ์เหมือนอย่างทุกที
“สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปเปลี่ยนชุดก่อนเพราะกูอับอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว ใครชื่นชอบหรือสะใจก็กดไลค์ กดซับตะไคร้เป็นกำลังใจให้เท็น อ่อ แล้วอย่าลืมกดกระดิ่งด้วยนะคร้าบ”
พ้นเคราะห์พ้นโศกสักทีกู ผมเหลือบมองหน้าพี่ปราบก็ถือว่าภารกิจผมสำเร็จลุล่วงแล้วครับเพราะสีหน้าพี่มันบ่งบอกชัดเจนว่าสิ่งที่ผมทำนั้นได้ทำให้พี่ปราบเลยคำว่า ‘อารมณ์ดี’ ไปไกลมากแล้ว
ผมเห็นดังนั้นก็เลยขอตัวไปเปลี่ยนชุดให้กลับมามีสภาพเป็นผู้เป็นคนตามเดิม
“เดี๋ยว จะไปไหน” พี่มันคว้าแขนผมไว้ดังหมับ
“จะไปเปลี่ยนเสื้อไงพี่ อายคนชิบหายแล้วเนี่ย”
“ใครบอกให้มึงเปลี่ยน”
“ต้องมีใครบอกด้วยหรอ ดูสารรูปผมดิพี่ เหมือนพนักงานสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีอะ” เหมือนจริงๆครับตอนยังอยู่เชียงใหม่ผมไปบ่อย พนักงานใส่ชุดแบบนี้แล้วต้อนลูกค้าขึ้นรถ ชิดในเลยจ้ารถจะออกแล้ว ซ้ายมือมียีราฟ ขวามือมีหมีควาย แต่ตอนนี้กูใส่อยู่ในห้างไง ไหวหรอกูอะ
“สารรูปมึงทำไม น่ารักดีออก ตอนมึงไปห้องลองกูจ่ายค่าชุดให้แล้วด้วย ปะมึงกูหิวกาแฟละ ใส่ชุดนี้ไปซื้อกาแฟให้กูหน่อยไม่งั้นกูไม่กิน”
พูดจบพี่มันก็ก้าวขายาวๆเดินออกนอกร้านไปเลย ไอสัด มึงโตมายังไงเนี่ย T__T
แล้วกูเลือกอะไรได้มั้ยเลือกไม่ใส่ชุดนี้ได้รึเปล่า ดูจากสีหน้าพี่ปราบแล้วแน่นอนครับว่าไม่ได้เพราะพี่มันเสือกเป็นคนจริง พูดจริง ทำจริง สรุปก็คือผมต้องหน้าด้านหน้าทนใส่ชุดม้าลายกับกางเกงลายเสือโคร่งโฮกปี๊บไปกินกาแฟกับพี่มันแถมมันยังทำตัวป๋าออกค่ากาแฟให้กูอีก คงอารมณ์ดีมากจริงๆอะต่างจากผมที่อารมณ์เสียและอับอายจนอยากแอบถุยน้ำลายใส่แก้วพี่มันแต่ทำได้แค่แอบท่องคาถาพ่อปู่ตอนพี่ปราบเดินไปขอทิชชู่กับพนักงาน
หลังจากที่ดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟกันเรียบร้อยก็ค่ำพอดีเราสองคนจึงตัดสินใจว่าจะหาอะไรกินกันก่อนกลับ ผมที่ไม่มีอะไรจะเสียแล้วหันไปถามพี่ปราบดาว่าอยากกินอะไร พี่ปราบที่หน้าตาเปี่ยมสุขก็บอกว่าแล้วแต่ผมแถมยังบอกอีกว่าเดี๋ยวมันเลี้ยงเอง ผมที่หน้าตาอมทุกข์สัดๆเลยเลือกร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดูแล้วราคาแพงหูฉี่กะว่าจะแดกให้พี่มันหมดตัวถือซะว่าขอเอาคืนล้างอายหน่อยแล้วกัน
แต่กูคิดผิดเปล่าไม่รู้เพราะนอกจากพี่ปราบจะไม่สะทกสะท้านตอนผมบอกชื่อร้านแล้วห้างนี้แม่งก็กว้างซะเหลือเกิน ร้านที่ผมบอกว่าอยากกินแม่งก็อยู่อีกฟากโน่นเลยต้องเดินไกลหน่อย ระหว่างทางคนที่เดินผ่านก็หันมองมาทางผมบางคนก็สะกิดให้คนข้างๆหันมาดูแล้วทำหน้ากลั้นขำกันใหญ่ แต่ไม่ขำก็แปลกแล้วครับก็กูมาในสภาพชุดเดิมกับที่อยู่ในไลฟ์อะ งอแงจะไปเปลี่ยนพี่มันก็ไม่ให้เปลี่ยน แม่งบอกว่าถ้าผมเปลี่ยนมันจะไม่ยุ่งกับผมอีก แล้วผมเลือกไรได้อะครับก็ต้องทนอยู่ในสภาพพนักงานสวนสัตว์แบบนี้ต่อไปไง
“เป็นไรทำหน้าเหมือนคนอมทุกข์” พี่มันหยุดเดินแล้วหันมาคุยกับผม
“ไม่อมทุกข์ได้ไงอะพี่ดูสภาพผมซะก่อน ก็อายคนเหมือนกันปะวะ พี่เดินอยู่ข้างผมกล้าพูดปะว่าไม่อาย”
“กูไม่อาย บอกแล้วไงว่าน่ารักดี” กำลังจะอ้าปากเถียงก็มีผู้หญิงน่ารักสองคนเดินเข้ามาทางผมพอดี ด้วยความเฟรนด์ลี่ก็หันไปยิ้มรอเลยครับ เดี๋ยวก็คงจะเข้ามาทักแล้วขอเบอร์กูแน่ๆ ชินแล้วครับก็คนมันดัง
“พี่คะ คือ..”
“ขอไลน์หน่อยได้ไหมคะ” เธอพูดพร้อมยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้า
“ได้สิครั..” ผมยื่นมือไปจะรับโทรศัพท์แต่กลายเป็นว่าเธอส่งให้ไอ้พี่ปราบดาที่ยืนอยู่ข้างหลังผมแทน วืดเลยครับ เสียงลมยังวิ้งอยู่ในหู แหมก็ใช่สิครับผมลืมตัวไปเองว่ามากับคนที่หล่อเกินมนุษย์ แถมกูในสภาพตอนนี้ยิ่งดูไม่จืดจะเอาไรไปสู้บารมีพี่เขาได้ล่ะ
ผมหันไปกอดอกยืนมองไอ้พี่ปราบที่กำลังตีหน้ามึนไม่รู้สึกรู้สา
“ขอไลน์พี่หน่อยได้ไหมคะ” เธอถามอีกครั้ง
“ไม่ได้ครับ”
“เอ่อ งั้นขอถ่ายรูปคู่หน่อยได้ไหมคะ” คราวนี้น้องนางอีกคนที่มาด้วยกันเป็นฝ่ายเอ่ยถาม
“ไม่สะดวกครับ”
“มีแฟนแล้วหรอคะ”
“ยังครับ แต่มีคนที่ชอบแล้ว” พูดจบพี่มันก็เดินจูงมือผมออกมาเลย ใจร้ายชิบหาย นอกจากจะไม่ให้ไลน์เขาไม่ให้เขาถ่ายรูปแล้วแม่งยังไปตัดความหวังเขาอีก สรุปพี่มันมีคนที่ชอบแล้วจริงๆหรอวะ ที่เล่นเกมในร้านเหล้าวันนั้นแม่งก็พูดจริงอะดิ
“มองอะไร” สงสัยผมจะจ้องพี่มันนานไปหน่อยจนมันรู้สึกตัว ก็กูสงสัยอะ ถามแม่งเลยดีกว่า
“พี่มีคนที่ชอบแล้วหรอ”
“อืม..มีแล้ว มึงถามทำไม”
“เปล่า แค่อยากรู้เฉยๆอะ แล้วคนที่พี่ชอบเขารู้มั้ยว่าพี่ชอบ”
“ไม่รู้ แม่งโง่ กูทำขนาดนี้แม่งยังไม่เอะใจเลย โง่เหมือนมึงอะเท็น” ยัง ยังอุตส่าห์วกมาด่ากูได้อีก
“แล้วพี่บอกเขายังว่าชอบ”
“ยังไม่ได้บอก กูรอจังหวะอยู่” จังหวะไรวะ จังหวะสามช่ารึเปล่า
เห็นว่าพี่ปราบยังไม่ได้บอกผมก็แอบโล่งใจ เพราะถ้ามันไปบอกชอบเขาอีกฝ่ายคงตอบตกลงแบบไม่ต้องคิดอะครับพี่ปราบแกหล่อขั้นเทพขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นแบบนั้นการทำมิชชั่นผมแม่งต้องยิ่งยากขึ้นไปอีกเพราะผมต้องทำให้พี่มันมาบอกชอบผมนี่ดิ แค่วันนี้ก็เล่นเอากูหอบแล้วอะ จะทำให้มันหันเหมาทางผมได้ไงวะ เครียดเลยกู
“อ่อ ดีแล้ว”
“ดีไรของมึง”
“ก็ดีแล้วไงที่ยังไม่ได้บอก”
“อีกรอบนะเท็น มึงชอบกู”
“เฮ้อถึงซะที หิวว่ะพี่ ไส้จะขาดแล้วเนี่ย” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวอาการโรคหัวใจมันจะกำเริบขึ้นมาอีกรอบ โชคดีที่เดินมาถึงหน้าร้านอาหารพอดี
พอมาถึงหน้าร้านก็พบว่ามีคนที่ยืนรอคิวอยู่ก่อนแล้วสามกลุ่มใหญ่ๆผมจึงรีบไปรับบัตรคิวแล้วลากพี่มันมายืนรออีกมุมเพราะสายตาทั้งหนุ่มและสาวที่ยืนรอคิวอยู่หน้าร้านไม่เว้นแม้แต่พนักงานกำลังมองมาทางผมกับพี่ปราบดาเป็นตาเดียว แน่นอนว่าคงขำสภาพกูและงงว่าทำไมมาอยู่กับคนหล่อปานเทพบุตรอย่างพี่ปราบดาได้
“อีกประมาณสี่คิวอะ พี่รอไหวปะ”
“ก่อนจะถามกูมึงห่วงตัวเองก่อนเหอะ บ่นหิวไส้จะขาดไม่ใช่หรอ ไปร้านอื่นไหม”
“รอไม่นานหรอกมั้ง ขี้เกียจย้ายแล้วอะ ผมอยากกินซุปมิโสะ”
“แค่ซุปมิโสะร้านอาหารญี่ปุ่นร้านอื่นก็มี”
“แต่มันไม่อร่อยเหมือนร้านนี้”
“ตามใจ ขี้เกียจเถียงกับมึงแล้ว” ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไรต่อก็มีผู้หญิงคนนึงใส่ชุดนิสิตติดเข็มของมหา’ลัยผมเดินตรงเข้ามาทางที่พวกเรายืนอยู่ อื้อหือขาว สวย หมวยน่ารักมาเลยครับ จัดว่าอยู่ในระดับหน้าตาดีมาก
“พี่ปราบจริงๆด้วย มาทำอะไรแถวนี้คะ” ไม่พูดเปล่าแต่เธอเดินมาควงแขนไอ้พี่ปราบดาด้วยครับ ส่วนทางนั้นที่ผมคิดว่าจะรีบผลักออกเหมือนปกติแต่กลับยืนนิ่งๆแถมส่งยิ้มหวานกลับไปให้อีกต่างหาก
“พาน้องมาเดินเล่นแถวนี้ครับ นี่ก็มืดแล้วเลยแวะกินข้าวก่อนกลับ เราล่ะมาทำอะไร” โอ้โห การใช้สรรพนามต่างๆถ้าเทียบกับตอนมันคุยกับผมเรียกว่าจากหน้ามือเป็นหลังตีนเลยครับ แล้วเดินเล่นเชี่ยไรล่ะมึงบังคับพากูมาทรมานชัดๆ
“เพลงมาซื้อของกับเพื่อนค่ะแต่กำลังจะกลับแล้ว แล้วนี่..”
“เท็นครับ อยู่ปีหนึ่ง” ผมส่งยิ้มให้แม้ในใจกำลังกรีดร้องด้วยความอับอาย ไม่รู้เขาโตกว่าหรือเท่ากันเลยชิงบอกก่อน
“อ๋อเราชื่อเพลงขวัญนะ ปีหนึ่งเหมือนกัน ยินดีที่ได้รู้จักนะเท็น” เธอส่งยิ้มหวานให้ผมแล้วหันไปคุยกับพี่ปราบดาต่อ ดูสนิทสนมกันดีนะครับสองคนนี้ เป็นจังหวะเดียวกับที่พนักงานเรียกคิวพอดี ผมหันมามองพี่ปราบก็ส่งสัญญาณโบกมือมากลายๆว่าให้ผมเข้าไปก่อน
อ่านต่อด้านล่างค่ะ