พิมพ์หน้านี้ - แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 28-02-2007 16:42:28

หัวข้อ: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 28-02-2007 16:42:28
ขอบคุณ คุณ โอนนิมารุ ที่อนุญาตให้นำเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกัน

ขอความกรุณาเพื่อนๆ อย่านำเอาเรื่องราวในเรื่องนี้ไปเผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตจากคุณ โอนนิมารุ ก่อนนะครับ


ขอบคุณครับ

หมูพูห์  :teach:


**********************************************************************************

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขอนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


**********************************************************

"แค่มีนาย"

    เป็นนิยายแต่งเรื่อยๆครับ ตอนนี้เขียนลงอยู่สองเวบครับ แวะมาอ่านๆในนี้ก็เลยอยากเอามาแปะในนี้บ้างนะครับ
    แอบขอโทษไว้ก่อนนะครับถ้าผมจะมาต่อเรื่องช้าไปหน่อย
    ถือเอาว่าอ่านเล่นๆเรื่อยๆละกันนะครับ


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    +++ปฐมบทแห่งการพบกัน+++

  
“ปีหนึ่ง ระเบียบเชียร์ พร้อม”

“พร้อม”


“เอาใหม่ๆ เสียงแผ่วอย่างนี้พวกคุณจะไปทำมาหากินอะไรได้ เสียงน่ะมีไหม” เธออยู่ในชุดนิสิตกลัดกระดุมถึงคอ เดินหลังตรงไปมาหน้าแถวตอนหลายแถวที่มีนิสิตมหาวิทยาลัยปีแรกนับพันคนมาชุมนุมกันตามคำสั่ง “ปีหนึ่ง ระเบียบเชียร์ พร้อม” เธอกล่าวด้วยเสียงอันดังกลบพื้นที่ชุมนุมที่เงียบกริบจนตัวหอบโยนแต่ใบหน้ากลับเรียบเฉย

“พร้อม” นิสิตชั้นปีหนึ่งทุกคนตะโกนตอบรับอย่างพร้อมเพรียงต่อน้ำเสียงดังคาดคั้นเอาพลังจากประธานเชียร์ของคณะ

การซ้อมเชียร์กีฬามหาวิทยาลัยจะมีขึ้นทุกปีทุกสถาบันโดยการควบคุมแบบเข้มจากรุ่นพี่ การสอนผสานไปด้วยระเบียบวินัยซึ่งรุ่นพี่บอกว่า สิ่งนั้นจะทำให้น้องๆเกิดความสามัคคีและรู้จักกันมากขึ้น แต่ในใจของวันชนะกลับมองว่ามันเป็นเกมส์สนองตัณหาของพวกรุ่นพี่มากกว่า

“เอาล่ะ ดิฉันจะให้พวกคุณพักสิบนาที” ประธานเชียร์ยังคงกล่าวด้วยเสียงอันดังและดุมีอำนาจ เธอเดินหลังตรงออกไปข้างนอกสถานที่ชุมนุม สักพักเมื่อมีการเสิร์ฟน้ำและขนม เสียงของบรรดาเด็กเพิ่งผ่านรั้วมัธยมก็ดังขึ้นแซด

นิสิตปีหนึ่งทุกคนนั่งกับพื้น วันชนะยื่นมืออกรับขนมจากรุ่นพี่คนหนึ่งพลันคุกกี้ชิ้นน้อยรูปหัวใจไส้สตรอเบอรี่หล่นจากมือแล้วไปนอนแน่นิ่งบนตักของคนข้างๆ หากแต่เจ้าของตักมัวแต่คุยอยู่กับเพื่อนของเขาหรือไม่ก็เพราะว่าคุกกี้เบาเกินไปเขาจึงไม่สังเกตน้ำหนักที่ตกลงสู่ตัว


“เอ่อ ขอโทษครับ เอ่อ...” วันชนะแตะไหล่เขาเบาๆหมายจะขออนุญาตเอื้อมมือไปจับคุกกี้ของตน
“อะไรครับ” เจ้าของตักและไหล่นั้นหันมาทางวันชนะ รอยยิ้มที่ส่งมาทำให้วันชนะประหม่าเล็กน้อย ฟันขาวเรียงกันเป็นระเบียบ ริมฝีปากสวยได้รูป ประกอบกับคิ้วเข้มยาวบนดวงตาสีดำขลับที่เข้ากันกับจมูกโด่งสวย ทั้งหมดนี้อยู่บนใบหน้าของชายผู้นั่งข้างกายวันชนะมาแต่ตั้ม นึกแล้วเจ็บใจตัวเองที่ไม่ได้สังเกตแต่ตั้มว่าเขานั่งติดกับชายในฝันจะได้แอบมองนานๆ

“อ้อ นี่ครับ หัวใจของนาย” เขาหยิบขึ้นมาดู แล้วยื่นให้วันชนะพลางยิ้ม “อย่าเอาไปให้ใครง่ายๆอีกล่ะ”
วันชนะได้แต่ยิ้มรับมา แก้มขาวมีสีแดงระเรื่อเล็กน้อยคิดในใจว่าเจ้าคุกกี้รูปหัวใจไส้สตรอเบอรี่นี้เขาจะกินมันดีไหมนะ ค่าที่มันตกไปอยู่บนตักชายในฝันคนนี้

แล้วเขาก็หันกลับไปคุยกับเพื่อนกลุ่มของเขาต่อ วันชนะได้แต่เพ่งพินิจเจ้าหัวใจไส้สตรอเบอรี่นั้นแล้วอมยิ้ม ไม่มีปี่มีขลุ่ย เขาหันมาทางวันชนะแล้วเอ่ยถาม

“นาย ชื่อไร?”

คำถามจากหนุ่มหล่อทำให้วันชนะประหม่าอีกแล้ว

“วิน”

ปากตอบไปโดยไม่มองหน้าคนถาม ด้วยเกรงว่าอีกฝ่ายจะรู้ทันความอายและจับได้ถึงความร้อนผ่าวบนแก้มทั้งสอง แล้วจึงรู้สติถึงมารยาทในการพบมิตรจึงได้ถามกลับไป

“นายล่ะ?”

แม้จะยังไม่กล้ามองหน้าเขาตรงๆแต่วันชนะก็พยายามจับโฟกัสไว้ที่กระดุมเม็ดหนึ่งบนเสื้อของเขา

“เราชื่อตั้ม”

เขายิ้มตอบอย่างเป็นมิตร “ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เขายกมือขึ้นจับที่ไหล่ของวันชนะและบีบเบาๆ

พระเจ้า! วันชนะใจเต้นตุบตับ ข้างในคงละลายหมดแล้ว นี่ถ้าทำได้เขาคงจะหอมแก้มผูกมิตรชายผู้ให้สักสองที
“นายอยู่หอในรึเปล่า?” เขาถามวันชนะว่าได้พักอยู่ในหอของมหาวิทยาลัยหรือไม่
“อื้อ เราอยู่ตึกสี่” วันชนะตอบ คราวนี้โฟกัสเปลี่ยนไปอยู่ที่กระดุมเม็ดถัดขึ้นไป
“เฮ้ย จริงดิ เราก็ได้อยู่ตึกสี่ วินอยู่ห้องเบอร์อะไร?” เขาถามต่อ
“609” วันชนะตอบ


ยังไม่ทันได้ไต่ถามเพิ่มเติม เสียงของประธานเชียร์ก็ดังขึ้นทั่วบริเวณ เป็นสัญณาณเริ่มการซ้อม เขาจึงเงียบไป แต่วันชนะกลับได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นอยู่ตลอดเวลา ค่าที่ประหม่าระคนดีใจที่ได้คุยกับชายข้างกาย


...


วันชนะเดินลัดเลาะผ่านอาคารเรียนสองถึงสามอาหารจนมาโผล่ตรงทางเดินข้างๆสนามฟุตบอลในเวลาพลบค่ำ หลังจากเลิกซ้อมเชียร์เขาก็มุ่งหน้ากลับหอพักภายในมหาวิทยาลัยทันที บรรยากาศตอนนี้เหมือนฝนกำลังจะตก เพราะเขามองเห็นเมฆครึ้มดำอยู่ไม่ไกล ลมเย็นพัดค่อนข้างแรงพัดพาเศษใบไม้และฝุ่นผงลอยคลุ้ง แต่กระนั้นบริเวณสนามก็ยังถูกกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งจับจองเล่นฟุตบอลกันอย่างไม่หวั่นต่อสภาพอากาศ


เหล่าผู้ชายวิ่งไล่ลูกบอลกลมๆกลางสนามนั้นดึงดูดสายตาของวันชนะได้อยู่โข ด้วยว่าเขาพึงใจในสรีระของบุรุษมาแต่พื้นเดิม ยิ่งยามนี้ผู้ชายเหล่านั้นต่างเปลือยท่อนบนเหลือเพียงกางเกงขาสั้นเท่านั้น ร่างกำยำอาบด้วยเหงื่อชุ่มโชกยิ่งทำให้รู้สึกใจหวิวๆพิกล แต่แล้วก็เกิดความรู้สึกสวนทาง ความทดท้อปั่นป่วนในความคิดว่าใครกันล่ะจะมาเข้าใจต่อความพึงใจที่แปลกแยกจากคนปกติ ร่างกายภายนอกที่เป็นชายนี้แม้จะดูอ่อนบางต่างจากผู้ชายทั่วไป แต่ยังไงก็คือผู้ชาย


คงยากที่จะสุขสมอย่างใจต้องการ

มาถึงสระน้ำด้านหน้าตึกสี่ น้ำในสระเป็นสีเขียวคล้ำ กลางสระประดับด้วยใบบัวกลุ่มหนึ่งโดยปราศจากดอก ลมแรงยังพัดมาอย่างต่อเนื่อง พุ่มเฟื่องฟ้าสูงเลยหัวข้างหน้าพัดโยกตามแรงกระพือของสายลมจนในหลุดร่วงปลิวขึ้นฟ้า

วันชนะยังคงก้าวเดินต่อไป พอถึงใต้พุ่มเฟื่องฟ้าก็พลันมีสายลมพัดมาอีกวูบหนึ่ง ส่งให้ก้านแข็งๆของมันโยกตามกระแสลมสอดเข้าไปในคอเสื้อแล้วดีดตัวกลับเกี่ยวเอาสร้อยคอเส้นเล็กบางติดไปด้วย วันชนะสะดุ้งโหยงด้วยทีแรกนึกว่ามีคนมากระชากมันไป แต่พอเห็นสร้อยของรักห้อยอยู่กับกิ่งแห้งนั้นก็เบาใจ

สร้อยคอเส้นนี้เป็นของที่คุณแม่ของเขาซื้อให้ตอนสอบเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้ มันอาจจะไม่สูงค่ามากนักเป็นเพียงสร้อยทองคำหนักเพียงสลึง แต่ล็อกเก็ตที่ติดห้อยอยู่นั้นภายในบรรจุสิ่งสำคัญเอาไว้ มันแทนตัวคุณแม่ของเขาซึ่งบัดนี้คงจะเฝ้ามองดูลูกชายคนนี้อยู่บนสรวงสวรรค์

วันชนะเอื้อมมือขึ้นคว้าเอาสายได้พร้อมกับที่สายลมอีกวูบพัดมา เป็นเพียงสายลมเย็นเบาๆแต่ได้พาเอาฝุ่นผงในอากาศปลิวติดเข้านัยน์ตา โดยอัตโนมัติมืออีกข้างรีบยกขึ้นปิดที่ตาขณะที่อีกข้างดึงสร้อยต่างหน้ามารดา

กิ่งเฟื่องฟ้าแห้งนั้นหักในทันที ส่งผลให้ร่างของเขาเสียการทรงตัวหนำซ้ำยังไปเหยียบโดนกิ่งไม้นั้นเข้าจนข้อเท้าพลิก วันชนะร้องขึ้นอย่างเจ็บปวด เขาล้มลงกับพื้น ใบหน้าบิดเบี้ยวเจ็บปวด จะลุกขึ้นก็เจ็บเกินบรรยาย

มือข้างหนึ่งปิดตาเอาไว้ บัดนี้น้ำตาไหลนองเต็มหน้าไปหมดแล้ว ด้วยกลไกของร่างกายที่พยายามกำจัดฝุ่นผงสิ่งแปลกปลอมออกจากนัยน์ตาบวกกับเพราะเจ็บปวดที่ข้อเท้า แต่แล้วร่างบางของเขาก็ถูกยกขึ้น

 
   +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 28-02-2007 16:49:12
นิยาย เรื่องใหม่

ชื่อ นักขัต เท่ส์ เนอะๆ  :loveu: :loveu:


ชื่อ วันชนะ ก็น่ารัก
 :monkeylove2: :monkeylove2:


จะติดตามอ่านนะงับ

 :yeb:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: เก๋าดี ที่ 28-02-2007 17:02:31
มาต่อเลยพี่พูห์

ให้ไว

มาแค่จี๊ดเดียวเอง

 :interest: :interest: :interest: :interest:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 28-02-2007 17:09:07
นิดเดียวเองมาต่ออีกหน่อยนะ :call:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 28-02-2007 17:15:50
ตั้มมาช่วยหรอ...หรือจามาเอาหัวใจนิติไปหว่า.... :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 28-02-2007 17:29:15
มารออ่านตอนต่อไปเหมือนกันค่ะ :yeb:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 28-02-2007 17:30:40
มาลงชื่อไว้ก่อน เด่วมาอ่านพรุ้งนี้นะค้าบบบ ตาพูห์ :undecided:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-02-2007 20:12:11
มาลงชื่ออ่านแระ  :laugh5:  :laugh5:
วันชนะ กับ นักขัต เหรอ ชื่อเท่ห์ดีนิ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 28-02-2007 21:20:00
มารออ่านด้วยคนครับ  :myeye:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 28-02-2007 23:51:31
 :impress2:  ชอบๆ
เลขห้องสวยได้ใจมั่กๆ  เอิ๊กๆ 609  :haun1:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: inimeg ที่ 01-03-2007 04:37:46
ง่ะ แค่นี้เองเหยอ....

ม่ายน้า......

เอาหัวใจต๊อบมาก่อนเรย
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 01-03-2007 08:18:59
“พยายามอย่าขยับเท้านะ” เสียงของคนที่มาช่วยพูดขึ้น
นิติมองไม่เห็นหน้าเขาเพราะน้ำตาที่พรั่งพรูทำให้การมองเห็นลดลง เพียงแต่ว่าเสียงของคนๆนี้ฟังคุ้นหูนัก

ในอ้อมกอดของผู้มาช่วย วูบหนึ่งเขารู้สึกอบอุ่น สัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อ ความแข็งแกร่ง และใจดี

“ขอบคุณครับ” นิติกล่าวขณะตัวลอยอยู่ในอ้อมแขน

ในที่สุดเขาก็วางนิติลงอย่างนุ่มนวลเมื่อมาถึงใต้ถุนตึก “อย่าเพิ่งขยับเท้านะ” เขากล่าว
“ขอบคุณครับ” นิติขอบคุณเขาอีกครั้ง เอามือข้างที่ปิดตาออก พยายามจะลืมตาแต่ยากเหลือเกิน แม้ขยับเปลือกตาหรือกลอกกลิ้งเพียงน้อยก็เจ็บ เขาคนนั้นจึงละจากนิติไปเพียงไม่กี่นาทีและกลับมาพร้อมน้ำขวด

นิติกล่าวขอบคุณอีกครั้ง แล้วนำขวดน้ำมากรอกตาแต่ดูขัดๆเขาคนนั้นจึงแย่งขวดไปบอกให้เขาพยายามลืมตาขึ้นเขาจะถือให้เอง สักพักหนึ่งโลกขุ่นมัวก็กลับมามีสีสันแม้จะเป็นสีดำมืดของกลางคืนและแสงนีออนจากหลอดไฟใต้ตึกเพราะพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ภาพค่อยๆชัดขึ้น สิ่งแรกที่เห็นคือใบหน้าของเขาคนนั้นที่อยู่ใกล้หน้าของนิติมากๆ ดวงตาเขาจ้องเข้าไปนัยน์ตาของนิติราวกับจะมองหาฝุ่นผงตัวการ นิติตกใจเล็กน้อยเพราะไม่เคยมีใครเอาหน้ามาใกล้ขนาดนี้มาก่อน แล้วสองแก้มก็ร้อนผ่าวขึ้นเมื่อรู้ว่าคนที่มาช่วยเขาเป็นใคร

ต้นน้ำนั่นเอง

“อ้าว นายเอง” นิติทักเมื่อมองเห็นเขา
“เรียกต้นสิ” เขาตอบ
“ขอบคุณครับ ต้น” นิติว่าตาม

สอบถามจึงรู้ว่าต้นน้ำเดินตามหลังนิติมาทันที่สนามแล้วก็เร่งฝีเท้าตามมาจนมาทันเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี

“ว่าแต่นายไปหยุดทำอะไรที่ตรงนั้น?” ต้นน้ำถาม
นิติสะดุ้งโหยงอีกครั้งด้วยนึกขึ้นได้ว่า ในมือเขาไม่มีสร้อยเส้นสำคัญนั้นอยู่แล้ว เขาดันตัวลุกขึ้นโดยลืมไปว่าตนเองยังมีอาการอยู่ที่ข้อเท้า แล้วก็ร้องลั่น ใบหน้าซีดลงเมื่อรู้ว่าของรักหายไป

“สร้อย นายเห็นสร้อยไหม” นิติบีบแขนต้นน้ำ “สร้อยที่ที่ล็อกเก็ตห้อยอยู่น่ะ”
“ไม่นี่ เราไม่เห็น” ต้นน้ำตอบ “บางทีอาจจะตกอยู่ตรงนั้นเดี๋ยวเราจะลองไปดูให้นะ” พูดจบเขาก็วิ่งออกไปแต่ด้วยความมืดทำให้ยากที่จะมองเห็นแม้ว่าหลังจากนั้นสิบนาทีต้นน้ำจะไปขอยืมไฟฉายจากเจ้าหน้าที่ดูแลตึกมาส่องดูก็ไม่พบ หาอยู่สักพักเมื่อรู้ว่าไม่เจอแน่แล้วนิติก็ได้แต่ปลงถ้าจะเจอคงเจอไปแล้ว สร้อยทองกระทบแสงไฟมันก็คงสะท้อนแสงเห็นได้ชัดเจน

“พอเถอะ นาย เอ่อ...ต้น ช่างมันเถอะ เราคงไม่ได้คืนแล้วล่ะ” นิติพูดอย่างปลงๆแต่ก็พยายามยิ้มให้กับน้ำใจของต้นน้ำ
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะมาหาให้แต่เช้าอีกนะเผื่อจะเจอ แล้วตอนนี้เท้านายเป็นยังไงบ้างล่ะ”เขาถาม
“ก็ดีขึ้นแล้วล่ะ”นิติยิ้ม ตายังแดงๆ
“งั้นขึ้นไปข้างบนกันก่อนเถอะ เดี๋ยวเราไปส่งนายละกัน ห้อง 609 นะ” ต้นน้ำพูด

พอจะลุกขึ้นเดิน เท่านั้นความเจ็บก็กลับมายึดข้อเท้านิติอีกครั้งจนหน้าบิดเบี้ยว ต้นน้ำจึงอาสาอุ้มเขาอีกครั้ง ตอนแรกนิติปัดแต่นึสภาพตัวเองแล้วก็ได้แต่ยอมให้เขาอุ้มตัวเองขึ้น

กว่าจะมาถึงชั้นหกชั้นบนสุดโดยที่ตึก ไม่มีลิฟต์เพราะว่าเป็นตึกเก่าที่สร้างมาค่อนข้างนานคาดว่าสร้างก่อนสมัยที่ลิฟต์จะเกิด นิติค่อนขอดแบบนี้ประจำด้วยค่าที่เขาต้องขึ้นลงชั้นสูงสุดโดยบันไดทุกวัน
ถึงหน้าห้องนิติเคาะประตูเรียกรูมเมทอยู่สักพัก เห็นว่าไม่มีใครมาเปิดประตูจึงล้วงกุญแจออกมาจากกระเป๋าทั้งที่อยู่ถูกอุ้มอยู่ แล้วต้นน้ำก็พาเขาเข้าไป

คนเจ็บถูกวางบนเตียงอย่างนุ่มนวล นิติกล่าวขอบคุณเขาอีกครั้ง
“นายอยู่นี่ก่อนนะ อย่าเพิ่งลุกไปไหนล่ะ” ต้นน้ำพูดแล้วก็รีบวิ่งออกจากห้องไป


เพียงวินาทีที่ต้นน้ำพ้นประตู ฝนเม็ดใหญ่ก็กระหน่ำจากฟ้า เสียงฟ้าคำรามดังอยู่เหนือตึก เสียงประตูห้องกระทบผนังดังปังด้วยถูกแรงลมตีเข้ามา ละอองเล็กๆลอยเข้ามาภายในห้องพร้อมกับเสียงอื้อหวือของสายลมคำราม หนังสือหลายเล่มที่วางอยู่บนโต๊ะถูกพัดตกลงพื้น

นิติยันกายขึ้นตั้งใจจะตรงไปปิดประตูคงสักห้าก้าวจากเตียงนี้ก็คงจะถึง ก้มมองเท้าตัวเองบัดนี้บวมแดงจนน่ากลัว แต่ก็ยังตัดสินใจค่อยๆลุกขึ้น ไม่เช่นนั้นน้ำคงจะเจิ่งเต็มพื้น ยังไม่พ้นจากเตียงต้นน้ำก็ก้าวเข้ามาในห้อง

“บอกแล้วไงว่าอย่าลุกขึ้นมา” น้ำเสียงคนพูดดุเล็กน้อย
“ก็ฝนมันปลิวเข้ามา” นิติตอบเสียงอ่อย แต่ก็ไม่ยอมความ
“เอ้า กลับลงไปนอนที่เดิมเลย” เขาสั่งพร้อมกับเดินเข้ามาจับที่บ่าทั้งสองข้างของนิติและออกแรงกดเล็กน้อยซึ่งนิติเองก็ไม่ได้ต่อต้านมือเขาเลย
“เดี๋ยวเราไปปิดให้เอง”
โดยไม่สังเกตตั้งแต่ก้าวมาถึงตัวนิติ ชายหนุ่มได้เหยียบยืนบนหนังสือเล่มบางที่ถูกพัดตกลงจากโต๊ะเมื่อก่อนหน้าเขาจะเข้ามา ต้นน้ำบิดตัวจะไปปิดประตูแต่แล้วก็ต้องเสียหลักด้วยว่าปกมันๆของหนังสือเล่มนั้นและพื้นกระเบื้องที่มีละอองฝนเกาะอยู่
ร่างหนาของต้นน้ำล้มลงไปหานิติโดยที่คนร่างบางและเท้าเจ็บไม่มีทางหาเรี่ยวแรงที่ไหนมาค้ำยันตัวเขาไว้ได้เลย จนร่างทั้งสองทับทาบกันสนิท

“นายมีไข้ด้วยเหรอ ตัวร้อนๆนะ” ต้นน้ำพูดขึ้นทั้งที่ยังทับอยู่บนตัวนิติ
นิติไม่ตอบในทันทีเพราะว่ายังคงอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พอรู้สติหลังจากนั้นก็รีบตอบ “ไม่นี่”
“แต่เราว่านายตัวร้อนนะ” ต้นน้ำยกหน้าขึ้น ความร้อนจากแก้มของนิติยังคงติดแก้มเขาไปด้วย
“ว่าแต่เมื่อกี้นายไปเอาอะไรมาเหรอ” นิติเปลี่ยนเรื่อง
“อ๋อ...” ต้นน้ำตอบเพียงเท่านั้น
“...ว่าแต่...นายจะทับเราอีกนานไหม” นิติหันหน้าไปอีกทางก่อนพูดขึ้น...คำถามที่คงไม่ต้องการคำตอบจริงจัง แก้มที่แดงเรื่อๆดูเหมือนจะแดงขึ้นอีก
“โอ้ะ! ขอโทษที” ต้นน้ำรีบยันตัวลุกขึ้น แล้วก็หันไปสนใจกับข้อเท้าของคนเจ็บ

เขาหาผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดเบาๆทำความสะอาดจากนั้นจึงทาครีมบรรเทาปวดกล้ามเนื้อที่เขาวิ่งออกไปเอามา ตามด้วยผ้าก็อตพันเอาไว้
“วันนี้คงต้องแบบนี้ก่อนล่ะนะ เอาไว้พรุ่งนี้นายค่อยไปให้หมอดูอีกทีนะ” เขาพูดขณะที่มือก็พันผ้าก็อต


ฝนก็ยังตกหนัก เสียงอื้ออึงไปหมดอย่างกับพรุ่งนี้ตื่นมาน้ำจะท่วมเอาโลกนี้ให้จมไปเสียให้ได้ นิตินอนอยู่บนเตียง ความเหนื่อยล้า เริ่มมีกำลังเหนือกว่าการยืนหยัดเปิดตา จนต้องค่อยๆยอมให้เปลือกตาเลื่อนลงช้าๆ
...ยังรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ข้อเท้า ครีมที่ต้นน้ำเอามาทาให้ได้ผลดีจริงๆ เพราะเขาเริ่มคลายความเจ็บปวดลงมากแล้ว

ต้นน้ำออกไปแล้ว ก่อนที่ความรู้ตัวจะหมดสิ้นไป นิตินึกถึงตอนที่เขาอยู่ในอ้อมกอดแกร่งแต่ปลอดภัยของต้นน้ำ นึกถึงตอนที่แก้มของทั้งสองแนบสัมผัสตอนล้มลงบนที่นอนนี้ รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นก่อนที่ห้วงนิทราลึกจะครอบครอง...


ท่ามกลางความมืด นิตินั่งอยู่กับพื้น ...ร้องไห้...เหมือนเด็กขี้แย

“แม่ครับ ผมขอโทษ ของที่แม่ให้นิหายไปแล้ว นิขอโทษครับ”
เขายังนั่งร้องไห้อยู่ที่เดิม แล้วเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้น
“อย่าร้องไห้ไปเลยนิ นี่ไง แม่เอามาคืนให้ลูกแล้วนะ” น้ำเสียงอบอุ่นคุ้นเคยนั้นเอ่ย
นิติหันไปตามทางเสียงนั้น คุณแม่ของเขายืนอยู่ตรงนั้นตรงแสงสีขาวจ้านวลตา รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปหา
แสงสว่างจ้านั้นไม่ได้ทำให้เคืองตาเลยสักนิด แล้วตอนนี้เท้าเขาหายเจ็บแล้วหรือ...

ความคิดถึงแม่จับใจทำให้ลืมความคิดสงสัยนั้นไป เขาเห็นสร้อยเส้นนั้น แม่ยื่นให้ นิติวิ่งเข้าไปหาอ้อมกอดอันอบอุ่นนั้น
“ผมคิดถึงแม่ครับ” นิติกล่าว น้ำตาไหลเต็มสองแก้ม “แม่อย่าจากผมไปอีกนะครับ”
“เด็กโง่” คุณแม่กอดเขาตอบอย่างอบอุ่นเต็มไปด้วยรัก พลางลูบที่หัว รอยยิ้มของคุณแม่ไม่มีใครเทียบได้
“ผมรักแม่ครับ” นิติกอดแม่ไม่ยอมปล่อย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 01-03-2007 13:43:43
แค่นี้เองเหรอ... กำลังสนุกเลย
รอตอนต่อไปกั๊บ   :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 01-03-2007 13:49:13
เริ่มทำความคุ้นเคยกันแล้ว.... :yeb:

แต่ไหงมันปนเศร้าๆหว่า... :dont2: :dont2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 01-03-2007 13:53:11
 :monkeysad: :monkeysad:


 ผมรักแม่นะครับ
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 01-03-2007 14:04:54
นักขัต ช่างแมนแท้.....  :-[

รักแม่จัง  :loveu:  :loveu:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 01-03-2007 14:53:15
หวังว่าวันชนะคงไม่ละเมอไปกอดตั้มนะ อิๆ  :fox2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 01-03-2007 16:56:46
ความรัดกำลังก่อตัว :loveu: :loveu: :loveu:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 01-03-2007 17:38:53
วันชนะตกใจ ลืมตาขึ้นมา พลันผมว่าร่างที่เค้ากอดอยุ่นั้นไม่ช่แม่ของตน แต่กลับเป็นชายหนุ่ม ที่แก้มเพิ่งสัมผัสกันไปไม่น้านนน


ว้าววๆๆ เป็นแบบนี้อ่ะป่าว อิอิ :like6:

ชอบจังเลยคับ โรแมนติคดีจัง พระเอกมาช่วยนางเอก หุหุ อุ้มขึ้นมาตั้งหกชั้น มาทายาให้อีก  ต้นน้ำน่ารักอะไรอย่างนี้ :give2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-03-2007 19:15:36
หุหุ สนุก ๆ  ปนเศร้านิดนึง แต่ก็โอเคน่า  :like6:  :like6:
ชื่อเรื่องก็ไม่น่าจบเศร้า  :laugh5:  :laugh5:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 02-03-2007 16:55:53
ดันคร้าบบบ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 02-03-2007 17:25:38

นายเอกน่าจ๋งจ๋าน :เศร้า2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 02-03-2007 17:41:55
กำ ตาโอนมีมาแอบดันเรื่องตัวเองอีก
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 04-03-2007 00:36:33
ตามทันแล้ว

ปูเสื่อรอตอนต่อไป :yeb:

ปล.นักขัตน่ารักจัง :give2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 05-03-2007 09:31:14
เอามาลงต่อเร็วๆนะครับหายไปนานเเล้วอะ อยากอ่านต่อเร็วๆครับ  :monkeycry4:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 05-03-2007 12:04:19
รอคับรอ  : 222222: : 222222:

ตามมาอ่านด้วยคน  :yeb: :yeb:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 06-03-2007 20:45:44
 :เฮ้อ: ยังมะมาต่อเหรอ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 06-03-2007 21:06:25
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:  เศร้าก็เศร้า  ยังมะมาต่ออีกเหรอคับ   :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 07-03-2007 12:03:21
ฟ้าหลังฝนสดใสเสมอ
แปดโมงเช้าของวันใหม่มาเยือน แสงแดดจ้าสาดเป็นสายเข้ามาในห้อง วันชนะขยี้ตาก่อนค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น ที่เท้ายังคงมีผ้าก็อตพันเอาไว้แต่ไม้รู้สึกร้อนแล้ว และต้องแปลกใจที่ตัวเขาอยู่ในชุดใหม่ และมองเห็นชุดนิสิตกลับไปกองอยู่ในตะกร้า หันไปมองบนเตียงพบผ้าขนหนูผืนเล็กยังชุ่มน้ำวางอยู่ใกล้ๆหมอน


“อ้าว ตื่นแล้วเหรอวิน เมื่อคืนเป็นไงบ้าง” เป็นวุฒินั่นเองที่ถามเขาเมื่อออกมาจากห้องน้ำ
“อ๋อ ไม่เป็นไรมากละ เมื่อคืนขอบใจนะ” วันชนะสรุปเอาว่าเมื่อคืนวุฒิกลับมาพบตนกำลังตัวร้อนไข้ขึ้นเป็นแน่จึงได้เอาผ้ามาเช็ดตัวให้
“เออ ไม่เป็นไร” คนตอบทำหน้างงเล็กน้อยแต่ก็โมเมรับคำขอบคุณโดยไม่คิดอะไรมาก แต่ในใจก็คิดเพียงว่า
‘มันขอบใจเรื่องอะไรวะ”

“แล้ววันนี้มีเรียนกี่โมงล่ะวิน?” รูมเมทถามพร้อมกับเอาผ้าเช็ดตัวเช็ดผมที่เปียก
“วันนี้คงยังไปไม่ไหวยังเจ็บเท้าอยู่นิดๆน่ะ ว่าจะหาเรื่องโดดสักวัน” วันชนะตอบ
“อ้าว แล้วนั่นเท้าไปโดนอะไรมาล่ะนั่น” รูมเมทถามอีก

“เอ้ะ! เมื่อคืนนายไม่เห็นหรอกเหรอ ว่าเราพันผ้าก็อตไว้” วันชนะสงสัย
“เปล่า เมื่อวานฝนตกหนักจะตายกลับมาได้ที่ไหนกันล่ะ เมื่อคืนเรานอนห้องพี่ชายเรา เพิ่งกลับมาตอนหกโมงนี่แหล่ะ” ว่าแล้ววุฒิเดินเข้ามาใกล้เขายื่นของสิ่งหนึ่งในมือมาให้วันชนะ “เอ้า ของวิน”

วันชนะดีใจจนลืมเท้าเขารีบดีดตัวขึ้น ในมือของวุฒิเป็นสร้อยเส้นนั้นนั่นเอง “เฮ้ย วุฒิได้มาได้ยังไงน่ะ” เขารีบรับมาลูบๆ กำไว้แน่น
“ไม่รู้สิ วินไม่ได้เอามาวางไว้บนโต๊ะเราหรอกเหรอ” คนตอบทำหน้าไม่รู้เรื่อง


วันชนะได้แต่สงสัยแต่ความดีใจมีมากกว่าจึงลืมคิดต่อไป เขารีบสวมสร้อยเส้นนั้นกลับเข้าที่คอพลางหลับตานึก

“แม่ครับ ขอบคุณครับ”


    หลังจากนั่งปล่อยความคิดเรื่องความฝันเมื่อคืนรวมทั้งเรื่องที่เขาตื่นขึ้นมาอยู่ในชุดใหม่อยู่สักพัก วันชนะให้คำตอบกับตัวเองว่าเขาคงจะรู้สึกเหนียวตัวแล้วลุกขึ้นมาเปลี่ยนชุดเอาเองทั้งที่ยังเบลออยู่ก็เป็นได้

    จากนั้นจึงค่อยเดินเกาะกำแพงและราวบันไดลงไปยังโรงอาหารกลางที่อยู่ไม่ไกลจากตึกสี่เท่าไรนัก
    ภายในโรงอาหารกลางคลาคล่ำไปด้วยนิสิตที่มานั่งรับประทานอาหารเช้า เสียงคุยดังเซ็งแซ่ทั่วบริเวณ

    วันชนะค่อยๆเดินเข้าไปภายในมือหนึ่งถือแก้วน้ำอัดลมอีกมือถือจานข้าวดูเกะกะขณะที่สายตามองหาที่ว่าง จนในที่สุดก็ได้จับจองที่มุมสุดของโต๊ะยาวริมหน้าต่าง

    ทานได้สองคำสายตาที่มองออกนอกหน้าต่างต้องสะดุดกับคนที่หยิบคุ้กกี้ให้เมื่อวานนี้ นักขัตกำลังรอคิวซื้ออาหารอยู่ข้างนอกนั่น เขาจ้องมองนักขัตด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมกับร่างกายกำยำนั้น บุคลิกของนักขัต รอยยิ้มที่มาพร้อมกับดวงตาหรี่ลงที่อยู่ใต้คิ้วเข้มยาวนั้น โดยปกติแล้ววันชนะติดจะเป็นคนขี้อายเล็กๆ เหมือนเมื่อวานเขาเองไม่กล้ามองตรงๆ แต่ตอนนี้เขาแฝงกายอยู่กับคนมากมาย คิดว่าเพียงสายตาคู่เดียวของเขาที่จุดนี้คงจะไม่เป็นที่สังเกตของใคร

    เสียงนกร้องจิ๊บๆบนยอดอินทนินส่งลงมาถึงพื้นฟังแล้วสบายใจ กุหลาบกอหนึ่งข้างนอกนั้นส่งช่อแดงสดชูขึ้นอวดสายตานิสิตที่เดินผ่านไปมาและที่มองเห็นจากภายในโรงอาหารแห่งนี้ ราวกับมันเติบโตมาจากความกราดเกรี้ยวของธรรมชาติเมื่อคืนนี้ ดอกแดงสดนั้นแย่งความสนใจจากสายตาของวันชนะอยู่ครู่หนึ่ง

    แล้วกระพริบตาหนึ่ง สายตาของคนทั้งสองก็ประสานกัน

    โฟกัสของคนทั้งสองถูกพิกัดมายังเจ้ากุหลาบดอกสวยราวกับว่าพวกเขาเป็นผึ้งสองตัวที่บินมาเจอกันเพราะต่างก็ถูกกลิ่นเย้ายวนล่อมา
    วันชนะหน้าร้อนผ่าวอีกครั้งที่เห็นว่าอีกฝ่ายก็จ้องมาทางเขาเช่นกัน แต่ยังคงแข็งคอไม่หันไปมองทางอื่นตามนิสัยที่จะทำเมื่อเวลาอาย เพราะยังมั่นใจอยู่ว่าจุดที่เขาอยู่นี้มีคนเป็นร้อยอยู่ด้วย คิดว่านักขัตคงจะมองละไปยังทางข้างหลังมากกว่า

    แล้วกระพริบตาหนึ่ง ชายที่ทำให้แก้มของวันชนะแดงขึ้นก็หายไปจากตรงนั้น


    วันชนะยิ้มเล็กๆให้กับการพบกันในที่ไกลๆและให้กับตัวเอง
    ทำไมเขาถึงยิ้มให้ตัวเองด้วยนะ...
    อาจยิ้มปลอบกับตัวเองเหมือนรู้ตัวล่ะมั้งว่าตัวคงเอื้อมไม่ถึง เหมือนคนแอบรักเขาข้างเดียว

    แต่เพียงเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

    แล้วอีกกระพริบตาหนึ่ง

    “ไง นั่งด้วยคนสิ”

    เสียงคุ้นหูดังขึ้นอยู่ที่หลังวันชนะ

    เขายิ้ม ไม่ต้องหันไปมองก็รู้

    ว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร

    กังวลแต่ว่า ถ้าเขาหันไปตอนนี้ จะผิดสังเกตไหมนะ เพราะรู้สึกว่าบนแก้มมันจะร้อนผ่าวๆอีกแล้ว




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 07-03-2007 13:07:29
หายไปนานเยยนะจ๊ะพูห์  :give2:




นักขัตของวันชนะมาแย้วว :จ้อบจัง1:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 07-03-2007 13:15:29
เย้ๆๆ มาซะที ขอบคุณพูห์มากครับที่เอามาลงให้  :impress:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 07-03-2007 13:22:34
รอยยิ้มสดใส....กับเสียงที่คุ้นเคย.... :-[

...........แค่นี้ก็ทำหั้ยใครบางคนละลายแล้ว :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 07-03-2007 13:26:51
อ่านละเขิน  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 07-03-2007 14:49:22
 :จ้อบจัง1:  มาต่อแว้ววว  รอตั้งนาน
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 07-03-2007 15:56:41
รักนักขัตจัง :give2:

สงสัยจะเป็นคนไปหาสร้อยมาคืนให้วันชนะล่ะม้างเนี่ย :myeye:

เอ๊ะ . . . รึจะเป็นดวงวิญญาณของแม่วันชนะหว่า :o
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-03-2007 19:46:24
หุหุ หวานจริง ๆ  :-[  :-[
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 08-03-2007 11:38:59
เรื่องนี้น่ารักจังเลยคับ ชอบครับ :impress3:


มาต่อเรื่อยๆนะค้าบพูห์ จุ๊บๆ :interest:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-03-2007 13:38:35
2 : เพื่อนข้างห้อง

“อืม ได้สิ” วันชนะยิ้มให้

“เท้าเป็นยังไงบ้าง” จานข้าวและแก้วน้ำใบใหญ่ที่ใส่น้ำผลไม้ปั่นถูกวางลงข้างๆจานข้าวของวันชนะก่อนเจ้าตัวจะนั่งลงข้างๆ
“ดีขึ้นมากแล้วล่ะ ไม่ต้องถึงกับไปหาหมอ เมื่อวานขอบใจมากนะ” วันชนะตอบ

“ดีแล้วล่ะ ว่าแต่นายอยู่ภาควิชาอะไรเหรอ เราอยู่คอมพิวเตอร์” นักขัตถามต่อพลางตักข้าวใส่ปาก
“เราอยู่พันธุศาสตร์” วันชนะตอบเพื่อนร่วมคณะที่อยู่คนละภาควิชา
นักขัตคิ้วขมวดเล็กๆด้วยว่าไม่ค่อยคุ้นกับชื่อ

“พันธุศาสตร์? เรียนเกี่ยวกับอะไรเหรอ?”
“ก็พวกยีนส์ ดีเอ็นเอ พันธุกรรมไง” วันชนะตอบ

“อ้อ” คนพูดรับคำว่ารู้เรื่องแต่สีหน้าก็ยังแฝงความสงสัย แต่ก็ไม่ถามต่อ
“ว่าแต่นายก็เก่งนะที่เรียนคอมพิวเตอร์ เราใช้เป็นนิดๆหน่อยๆเอง” วันชนะดูดน้ำอัดลมก่อนพูดต่อ “เย็นนี้นายก็ไปซ้อมเชียร์อีกล่ะสิ เราคงไม่ไปนะ ขี้เกียจ เจ็บเท้าด้วย เบื่อพวกรุ่นพี่บ้าอำนาจ”

“อ๋อ เราไม่ต้องเข้าซ้อมแล้วล่ะ เราได้เป็นนักบาสของคณะ” นักขัตตอบ
“จริงดิ” วันชนะมองหน้าอีกฝ่ายอย่างคนปลื้มที่นักขัตนอกจากจะหน้าตาดียังเป็นนักกีฬาอีก ครบสูตรชายในฝัน

เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ทันความคิด นักขัตยักคิ้วกวนๆให้
วันชนะคิดในใจว่านักขัตหลงตัวเองเลยเบ้ปากให้แล้วหันหน้าไปทางอื่นแล้วยิ้มกว้าง ค่าที่ถึงนักขัตยักคิ้วทำหน้ากวนให้ก็ยังน่ารัก


ผู้ชายอะไรเนี่ย น่ารักชะมัดเลย


แล้วก็เป็นอันต้องหุบยิ้มลงทันทีเมื่อนักขัตพูดว่า “วินยิ้มทำไม?”
วันชนะหันหน้ามาทางเขาแกล้งทำหน้าไม่เข้าใจแต่มีแววอายนิดๆ “ยิ้มอะไร เปล่า ไม่ได้ยิ้มสักหน่อย”

“อือ ไม่ยิ้มก็ไม่ยิ้ม” นักขัตยิ้ม
“แล้วนายยิ้มทำไม?” วันชนะทำเสียงกวนๆ

“เราเปล่ายิ้มเสียหน่อย คนนู้นตะหากที่ยิ้ม” นักขัตชี้มือไปทางหน้าต่าง
วันชนะหน้าแดงถึงหูด้วยว่าเห็นคนยิ้มสะท้อนอยู่ในกระจกหน้าต่าง นี่แสดงว่าที่เขายิ้มเมื่อกี้นี้ก็ถูกเห็นจริงๆน่ะสิ
วันชนะจนแต้มได้แต่ยิ้มแหยๆแก้เขิน แต่หน้าก็ยังแดงอยู่ มองเห็นคนในกระจกยักคิ้วให้อีกยิ่งอยากจะตอบโต้แต่ก็มองไม่เห็นทางที่จะต่อกรได้เลย วันชนะจึงเฉไปเรื่องอื่น “เออ สัปดาห์หน้าเราจะซื้อคอมพิวเตอร์น่ะ ตั้มคงรู้เรื่องมากกว่าเรา ยังไงขอปรึกษาหน่อยล่ะกันนะ”


“ได้สิ ไปซื้อวันไหนล่ะให้เราไปดูด้วยก็ได้” นักขัตรับเป็นที่ปรึกษา พูดได้แค่นั้นเขาก็รีบยกมือขึ้นปิดปากแล้วจามติดกันสามทีจนหน้าแดง
“สงสัยมีคนคิดถึงล่ะมั้ง” วันชนะยิ้ม
นักขัตจามอีกสองทีก็พูดกับตัวเองด้วยหน้าอันแดงว่า “เป็นหวัดแล้วมั้งเนี่ยเรา”
“เมื่อวานโดนฝนมาล่ะสิ” วันชนะพูด
“อือ” นักขัตขยี้จมูก


การสนทนาในเช้านี้เพิ่มความสนิทสนมให้กับคนทั้งคู่ได้มากขึ้น ทำให้วันชนะรู้ข้อมูลบางอย่างของเพื่อนใหม่คนนี้เพิ่มขึ้นนอกจากรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาราวเทพบุตรของเขา นักขัตเรียนอยู่ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ และเป็นนักบาสของคณะ เป็นนักเรียนทุนมาจากเชียงใหม่ เขาสอบทุนของมหาวิทยาลัยได้ ที่บ้านทำไร่มะเขือเทศกับฟาร์มวัว นักขัตชอบกินมะเขือเทศ วันชนะคิดว่านี่คงเป็นที่มาของผิวสวยสุขภาพดีของเขา ต่างจากวันชนะที่จะไม่กินมะเขือเทศเลย คุณพ่อของนักขัตเป็นคนไทยแต่คุณแม่เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ถึงกระนั้นนักขัตก็พูดญี่ปุ่นได้เพียงกระท่อนกระแท่นเพราะว่าเกิดและโตที่ประเทศไทย


ก่อนที่นักขัตจะลาไปเรียน บางอย่างถูกยัดเยียดลงบนจานของวันชนะ มันคือมะเขือเทศสองชิ้นเล็กๆ
“อร่อยนะ ทานให้หมดล่ะ” คนตักมะเขือเทศให้กำชับก่อนจะลุกจากไป

วันชนะมองมะเขือเทศสองชิ้นเล็กๆในจานตรงหน้าพลางกลืนน้ำลายลงคอแล้วใช้ซ้อมเขี่ยออกไปไว้ขอบจานอย่างไม่ใยดี แต่ได้ไม่นานปรากฏการณ์มหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นในโรงอาหารเมื่อวันชนะตักมะเขือเทศชิ้นหนึ่งเข้าปากแล้วรีบกลืนอย่างทุลักทุเลตามด้วยน้ำอีกอึกใหญ่ เขาแทบจะไม่ได้เคี้ยวด้วยซ้ำ แล้วชิ้นที่สองก็ตามเข้าไป แล้วคำถามหนึ่งก็ผุดขึ้น

แล้วจะกินทำไมเนี่ย เกลียดก็แสนเกลียด

.......................................................
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 08-03-2007 13:49:53
กินเพราะรักอ่ะคับ............. :5555: :5555:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 08-03-2007 13:53:34
ก็กินเพราะรักไงล่ะจ๊ะ :laugh3:

มะเขือเทศเคล็ดลับผิวสวย ไปหากินบ้างดีกว่าเผื่อไอ้ที่กระดำกระด่างอยู่นี่มันจะดีขึ้นมาบ้าง :interest:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 08-03-2007 13:55:19
กินเพราะอานุภาพของความรักไงครับวันชนะ555 :monkeylike3:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 08-03-2007 13:56:29
โดนน้องน้องถุงตุงปาดหน้าอีกแย้ววว แถมตอบเหมือนกันอีก เซงเยย
 :serius2:  :serius2:  :serius2:

 ตอบใหม่ก้อด้ะ กิงเพราะคนให้....และต่อไปก้อจากิงคนให้มะเขือเทศด้วยย
 :kikkik:

ฮ่วย...กะลังจาโป๊ดใหม่ โดนแดนนี่กะน้องหมีปาดต่ออีก อะไรกันนักกันหนาฟระ
 :เฮ้อ:


หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 08-03-2007 15:03:53
เหอ เหอ ไม่กินมะเขือเทศเหมือนกานนนน  :haun5:

แต่ว่าไม่มีคนน่ารักตักให้กินอ่ะ  :-[ :-[

 :pandalaugh: :pandalaugh: :pandalaugh:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 08-03-2007 15:44:43
เห็นด้วยอย่างแรง

กินเพราะรัก  :-[
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 08-03-2007 17:30:50
กินเพราะรักจริงๆด้วย ไม่สามารถคิดเป็นอื่น อิอิ :-[
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 08-03-2007 17:52:58
ไม่กินมะเขือเทศด้วยคนอะ 

แต่.. กินเพราะรัก... ทึ่งหง่ะ  ทำมะด้ายยยยยยยยยยยยยยยยย :serius2:

รออยู่ ต่อคร๊าบบ  :impress:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-03-2007 20:36:24
คงจะเป็นคำตอบเดียวกันหมดละนะ
"กินเพราะรัก"  :-[  :-[
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: FlukeHub ที่ 08-03-2007 23:59:28
หุหุหุ  น่าร้ากกกกส์   :myeye:
วันชนะก้อน่ารักน่าฟัด  นักขัตก้อเท่แต่ชื่อมะแมนเลย  เฮ้อออ!!~  :-[
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 09-03-2007 00:15:16
สงสัยมะเขือเทศต้องหวานแน่เลย  :fox2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 09-03-2007 03:02:25
รอคับรอ  :give2: :give2: :give2:

... มะเขือเทศสื่อรัก ....  :kikkik: :kikkik:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-03-2007 05:48:18
มารออ่านจ้า :yeb:

ชอบกินเหมือนกันมะเขือเทศ :give2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-03-2007 12:04:50
หลังจากส่งมะเขือเทศลงไปสู่กระเพาะได้นานสักพักวันชนะก็ถอนหายใจยาวจึงได้สังเกตว่ามีกระเป๋าสตางค์ใบเล็กวางอยู่ที่เก้าอี้ตัวที่นักขัตนั่งเมื่อกี้ มองซ้ายขวาไม่มีใครสนใจว่ามีกระเป๋าในนั้นอยู่ ถามผู้หญิงที่นั่งถัดไปก็ได้รับคำตอบว่าไม่ใช่ของตน จึงถือวิสาสะหยิบมาเปิดดู เขาพยายามหาบัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวนิสิตที่มีชื่อเจ้าของให้พอระบุตัวได้ แล้วก็เจอบัตรประชาชน

“นาย นักขัต เทพรักษ์”

ดูรูปในบัตรก็เห็นว่าไม่ผิดตัวแน่ วันชนะรีบลุกขึ้นหวังจะวิ่งตามเอาไปคืนโดยไม่ได้นึกไปถึงว่าตัวเองกำลังเจ็บที่เท้า และในทันทีที่เขาเทน้ำหนักตัวลงไปที่เท้าข้างนั้นถึงได้สะดุ้งเฮือก
เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะเอากระเป๋าไปคืนนักขัตให้ได้ แม้จะรีบเดินแบบขากระเผกๆให้เร็วที่สุดแต่ก็มองไม่เห็นเขาแล้ว


ชั่วโมงต่อมาวันชนะอยู่ในชุดนิสิตเรียบร้อยเดินอย่างคนขาเจ็บจนในที่สุดก็มาถึงอาคารที่ตั้งของภาควิชาคอมพิวเตอร์ นิสิตกลุ่มหนึ่งยืนอออยู่หน้าลิฟต์ แล้วสายตาก็จับอยู่กับนิสิตชายคนหนึ่งจำได้ว่าวันที่ซ้อมเชียร์เขานั่งอยู่ข้างๆนักขัต จึงเดินเข้าไปหา
“ขอโทษครับ นายรู้จักตั้มหรือเปล่าครับ” วันชนะถามอย่างสุภาพ

“ตั้ม?” นิสิตคนนั้นหันมาแล้วทวนชื่อ
“อ๋อ ตั้ม เห็นนั่งอยู่ที่ข้างห้องสมุด” นิสิตคนนั้นรีบพูดเพราะเห็นประตูลิฟต์เปิด แล้วรีบวิ่งเข้าไป
ยังทันที่วันชนะกล่าวขอบใจก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดสนิท


แล้วจึงมุ่งหน้าไปยังห้องสมุด


เดินกระเผกตามทางมา ผ่านโรงอาหารคณะวิทยาศาสตร์ มีนิสิตจับเป็นกลุ่มๆ นั่งทานอาหารบ้าง คุยเล่นกันบ้าง อ่านหนังสือบ้าง ขณะที่ผ่านใต้ถุนตึกภาควิชาฟิสิกส์ ซึ่งจะมีร้านถ่ายเอกสารตั้งอยู่ เสียงทักก็ดังขึ้น

“อ้าว น้องวินไม่ได้เข้าเรียนเจน เคมหรอกเหรอครับวันนี้ เมื่อกี้พี่เห็นกลุ่มน้องๆปีหนึ่งเพิ่งเดินเข้าห้องเลกเชอร์ไป”
วันชนะหันตามเสียง พบว่าเป็นพี่นัทนั่นเอง

พี่นัทเป็นรุ่นพี่อยู่ปีสองเอกภาควิชาเดียวกัน เขาถามถึงวิชา General Chemistry 1 หรือวิชาเคมีทั่วไป 1 อันเป็นการรวบรวมเนื้อหาอันลึกซึ้งของวิชาเคมีที่เรียนมาทั้งหมดในหลักสูตรมัธยมให้ครึ่งหนึ่งมาเหลืออยู่ในวิชานี้ อันเป็นวิชาที่ทรมานสมองของเด็กทุกภาควิชาของคณะวิทยาศาสตร์จะต้องเรียน ไม่เว้นแม้แต่ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ดูไม่ค่อยจะเกี่ยวกันเลย เหตุผลเพราะเรียนอยู่คณะวิทยาศาสตร์ ชั้นปีหนึ่งต้องเรียนวิชาพื้นฐานทุกวิชา

“สวัสดีครับพี่นัท” วันชนะรีบยกมือไหว้ “วินเจ็บเท้าน่ะครับ เลยของดวันหนึ่งครับ เดี๋ยวจะตามเลกเชอร์จากเพื่อนแทน พอดีเพื่อนวินที่หอลืมกระเป๋าตังน่ะครับเลยจะเอามาให้”
อีกฝ่ายพยักหน้ารับแล้วทำหน้าเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ครู่หนึ่ง พอดีกับที่เอกสารที่เขาฝากเอาไว้เสร็จพอดี “รอด้วยสิวิน เดี๋ยวพี่ไปด้วย จะไปทางนั้นพอดี”

“เดินไหวไหม” พี่นัทถามขณะเดินมาถึงทางแยกที่จะต้องข้ามตรงหน้าคณะวิศวฯ
แม้วันชนะจะตอบว่าไหวครับ แต่อีกฝ่ายกลับขยับตัวเข้ามาชิดพร้อมกับเอามือมาโอบหลังพยุงไว้ วันชนะกะจะเอ่ยบอกไม่เป็นไรแต่จังหวะพอดีกับที่รถผ่านไปเปิดโอกาสให้ข้าม มือนั้นก็เลื่อนลงมาที่เอวแล้วออกแรงผลักนิดๆให้วันชนะก้าวไปข้างหน้าพร้อมเขา
ข้ามฝั่งมาได้วันชนะพยายามจะเดินให้เร็วขึ้นเพื่อจะได้หลุดจากการโอบของรุ่นพี่ แต่ว่าเท้าเจ็บก็เลยไม่สามารถทำได้อย่างใจคิดจนมาถึงหน้าหอสมุด

วันชนะรีบหมุนตัว “ถึงละครับพี่ ขอบคุณมากครับที่มาส่ง”
“ไม่เป็นไรๆ” รุ่นพี่ยิ้มตอบ “เดี๋ยวพี่จะเข้าไปข้างในนะ เข้าไปด้วยกันไหม”
วันชนะตอบปฏิเสธไปว่าเพื่อนนั่งอยู่ที่ซุ้มข้างๆไม่ได้อยู่ข้างใน

“อืม งั้น เดี๋ยวพี่เข้าไปก่อนละนะ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ” แล้วรุ่นพี่ก็ยกมือข้างหนึ่งมาแตะที่ไหล่พร้อมกับบีบเบาๆ
“ครับ ขอบคุณครับพี่” วันชนะไหว้ ก่อนจะเดินตามทางไปข้างหนึ่งของหอสมุด นนทรีต้นสูงแผ่ขยายกิ่งก้านให้เกิดร่มเงากันแดดได้เย็นสบาย มีซุ้มอยู่สองซุ้มที่เหลือเป็นชุดโต๊ะหินอ่อน แต่ว่าไม่เห็นว่าจะมีนักขัตอยู่เลย มีเพียงนิสิตนั่งอยู่คนเดียว แต่ว่าไม่ใช่นักขัต แม้วันชนะจะไม่เห็นหน้าตรงๆ เพราะคนที่นั่งแม้จะตัวสูงพอๆกับนักขัตแต่ว่าผิวของเขาเข้มกว่า

มหาวิทยาลัยกว้างขวางเกินกว่าที่จะตามหาใครสักคนในเวลาที่เท้าเจ็บ คิดได้ดังนั้นวันชนะก็เลิกล้มความคิดตามหาเจ้าของกระเป๋าแล้วเดินไปยังร้านขายของเล็กๆอีกด้านของหอสมุด
“โออิชิข้าวญี่ปุ่นขวดครับ” แล้วก็ล้วงแบงค์ยี่สิบออกจากกระเป๋าใบเล็กใบนั้น


ยี่สิบเองนายนักขัต คงไม่ว่ากันนะ


วันชนะยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กๆที่มุมปาก ถือเป็นค่าที่ทำให้เขาต้องเดินตามหาเสียเหนื่อย
แล้วก็ตั้งใจจะกลับไปพักที่ตึก แต่คิดไปคิดมาก็เปลี่ยนใจ ไหนๆก็แต่งตัวออกมาแล้วเข้าเรียนดีกว่า แต่ว่าอีกตั้งชั่วโมงกว่าเลกเชอร์เจน เคมจะจบ เขาจึงคิดจะไปให้คุณหมอที่สถานพยาบาลดูอาการที่เท้าเสียหน่อยแล้วค่อยไปเรียนภาษาอังกฤษที่ตึกคณะมนุษยศาสตร์

สี่โมงเย็นวันชนะถึงเรียนหมดในวันนี้ จากนั้นจึงเดินไปโรงอาหารกลางที่อยู่ใกล้ตึกสี่ของเขาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนที่อยู่ภาควิชาเดียวกันเพื่อทานอาหารเย็น วันชนะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่มากขึ้น จนกระทั่งหกโมงเย็นบรรยากาศเริ่มสลัวๆ ทุกคนจึงแยกกันกลับ

หลังจากเพื่อนๆแยกย้ายกันไปหมดแล้ววันชนะซื้อขนมกับนมมาด้วยเผื่อเอาไว้กินตอนอ่านหนังสือดึกๆแล้วจึงเดินเข้าตึกของตัวเอง เขาเดินได้มั่นคงมากขึ้นคงเพราะได้นั่งเรียนในห้องเรียนมากกว่าที่จะเดินไปไหนต่อไหน ตอนนี้เขาเดินขึ้นมาถึงชั้นสามของตึกแล้ว โดยลืมเรื่องนักขัตไปเสียสนิท


ขึ้นมาถึงชั้นหกของตัวเอง
วันชนะยิ้ม...
เพราะใครคนนั้นที่เขาตามหาเมื่อตอนเช้าได้นั่งอยู่ที่หน้าห้องของเขา


นักขัตหันมาตามเสียงฝีเท้า คิ้วดำเข้มของเขายังดูโดดเด่นภายใต้แสงนีออนสลัวๆ แล้วยิ้มแห้งๆแต่นัยน์ตาแสดงความดีใจที่ได้พบวันชนะ

“ไง”
นักขัตพูดขึ้นด้วยเสียงอ่อย
“ขอยืมตังหน่อยสิ”


วันชนะฝืนตัวเองไม่ให้ยิ้ม “อ้าว เกิดอะไรขึ้น” เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

“ก็ตั้มไม่รู้ทำกระเป๋าไปหายที่ไหนน่ะสิ มารู้ตัวก็บ่ายแล้ว ตอนนั้นก็แยกย้ายจากเพื่อนแล้วด้วย ไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท นี่ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย ทั้งมหา’ลัยก็ไม่รู้จะไปหาใครอีก ก็คิดได้ว่ายังมีวิน”

“อ่ะ กินนี่ก่อนละกัน” วันชนะส่งถุงขนมกับนมให้คนไร้ที่ไปที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“รอดตายแล้วเรา” นักขัตพูดติดตลกด้วยใบหน้าอ่อนเพลียนิดๆ “นี่ตั้มต้องรอรูมเมทกลับมาก่อนด้วยนะ เพราะว่ากุญแจห้องก็อยู่ในกระเป๋าใบนั้น แต่ว่ากว่ามันจะกลับก็คงเป็นพรุ่งนี้เห็นบอกว่าจะไปค้างบ้านเพื่อนทำงานกลุ่ม จะไปขอกุญแจสำรองข้างล่างเดี๋ยวจะโดนพี่ต้อมดุเอาอีก เลยกะว่าจะนอนกับวินด้วยได้มั้ยคืนนี้” นักขัตส่งสายตาปรือๆวิงวอน

วันชนะคงจะไม่ได้สังเกตว่าในกระเป๋าใบนั้นมีกุญแจอยู่ด้วย ในใจคิดอยู่ว่าอยากให้กระเป๋าของนักขัตหายไปเลยจริงๆก็คงดี จะได้ไม่ต้องลังเลว่าจะคืนให้เขาดีหรือเปล่านะ
คิดแล้วหน้าก็แดงระเรื่อ จนวันชนะรู้ตัวว่าพักนี้หน้าจะแดงบ่อยเกินไปแล้ว เห็นทีต้องฝึกควบคุมอารมณ์ให้ดี

ว่าแต่จะคืนกระเป๋าให้เขาดีไหมนะ

จนเมื่อขนมและนมหมดแล้ว วันชนะก็ยื่นสิ่งที่คนตรงหน้าทำหายไปให้
“อ้ะ ของนาย” วันชนะหัวเราะยิ้มๆ
“เฮ้ย” นักขัตตกใจบวกกับดีใจตาโตที่ได้เห็นกระเป๋าของตัวเองอีกครั้ง เขาดึงร่างของวันชนะเข้าไปกอดแรงพลางพูดขอบคุณสองสามที ทำเอาวันชนะหน้าแดงอีกครั้ง ดีที่นักขัตไม่ได้สังเกต

“ขอบใจมากเลยนะวิน ไม่ได้นายเราคงแย่มากแน่ๆ นายเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะเดี๋ยวเราออกไปหาไรกินกัน ขนมตะกี้มันไม่ค่อยอยู่ท้อง” นักขัตยิ้มเห็นฟันพร้อมกับล้วงกุญแจดอกหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในช่องหนึ่งในกระเป๋าใบเล็กนั้นออกมา

นักขัตเข้าห้องไปแล้ว แต่วันชนะยังยืนอยู่กับที่ นึกขำในใจว่าเขาตามหานักขัตไปทั่ว แม้จะรู้ว่าเขาอยู่ตึกเดียวกันแต่ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะอยู่ห้องติดกัน


ห้อง 610

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 09-03-2007 12:11:10
Boy Next Door ....  :laugh5: :laugh5: :laugh5: :laugh5:


 :give2: :give2: :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 09-03-2007 12:14:16
แอบโรแมนติกนะเนี่ย :give2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 09-03-2007 13:30:51
อย่างงี้ก็เข้าทำนอง แอบรักคนข้างห้องดิเนี่ย...  :จ้อบจัง1:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 09-03-2007 13:37:16
แอบรัก...หนุ่มข้างห้อง.... :5555: :5555:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 09-03-2007 14:21:03
โอ้ววว หลงรักหนุ่มข้างห้องนี่เองเหอๆๆ  :fox2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 09-03-2007 15:29:50
โอ้ว หนุ่มข้างห้อง งั้นก้ย่องหาได้ง่ายอ่ะดิ  :haun1:

ว่าแต่คืนกระเป๋าไปแล้ว งั้นคืนนี้นักขัตก็ไม่ได้มานอนด้วยดิ อดเลย แต่เอ บางทีเค้าก็อาจไม่อยากนอนคนเดียวนิ หุหุ :haun4:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-03-2007 16:06:42
แอบรักหนุ่มข้างห้อง :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-03-2007 19:57:46
ชอบชื่อนี้  แอบรักหนุ่มข้างห้อง  :-[  :-[  :-[
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 10-03-2007 10:22:34
3 : รับน้อง


ผ่านจากเปิดเทอมมาครึ่งเดือนแล้วกิจกรรมค่อนข้างเยอะและสับสนมากสำหรับปีหนึ่งโดยมีกิจกรรมหลักคือซ้อมเชียร์กีฬาของมหาวิทยาลัย แม้จะไม่ค่อยชอบนักกับกิจกรรมนี้แต่วันชนะก็เข้าร่วมอยู่ทุกครั้ง ที่สำคัญยังมี General Chemistry 1 และ Calculus 1 ที่ต้องแบ่งเวลาอ่านหนังสือให้ดี เจ้ากิจกรรมซ้อมเชียร์นี่แหล่ะคือฉากหน้าของการการรับน้องหรือการ “ว้ากน้อง” อย่างที่ศัพท์เขาใช้กันในมหาวิทยาลัย บอกว่าเป็นประเพณี

จะว่าไป “รับน้อง” มีแบ่งเป็นของคณะ ของภาควิชา และคืนนี้จะเป็นของ “ชาวตึก” ที่เด็กหอพักไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน

เที่ยงคืนตรงหลายห้องยังมีแสงไฟส่องผ่านหน้าต่างและหลายห้องที่หลับสนิทเงียบงัน ไร้เสียงมาก่อน ทันใดที่ประตูห้องมีเสียงเคาะพร้อมกันหลายห้องราวกับได้สัญญาณ เสียงเคาะดังรัวไม่เกรงว่าดึกสงัดนี้จะไปรบกวนผู้อื่นหรือไม่

วันชนะสะดุ้งตื่นหลังจากที่เพิ่งจะเผลอหลับไปได้เพียงครู่เดียว มองอีกเตียงเห็นว่างเปล่าแต่มีร่องรอยยับย่นของผ้าห่ม วุฒิรู้สึกตัวก่อน เขาใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว ลุกขึ้นไปที่ประตู ท่าทางหัวเสียกับเสียงรบกวน

“ใครวะ มาเล่นอะไรป่านนี้” วันชนะได้ยินเพื่อนร่วมห้องระบาย เขาเดินตามไปหยุดอยู่หลังวุฒิ เสียงรัวเหมือนจะดังขึ้น ทันทีที่เปิดประตูทั้งคู่ก็ตกใจที่มีคนกลุ่มหนึ่งพุ่งพรวดเข้ามาในห้องอย่างเร็ว ไม่ทันได้ตั้งตัวคนกลุ่มนั้นจับพวกเขามัดมือเสียแน่น แต่พอจับเหตุการณ์ได้วันชนะก็หายตกใจได้บ้าง คนกลุ่มนั้นคือพวกรุ่นพี่ตึกนั่นเอง แต่ก็ยังไม่เบาใจเลยทีเดียว ลองเล่นกันถึงขนาดนี้คงจะมีอะไรแปลกๆ ตามมาเป็นแน่ นึกในใจไม่ทันว่าพวกเขาก็โดนเอาผ้าปิดตาเสียสนิท

“เล่นไรกันพี่” วันชนะถามหากแต่ไม่มีเสียงตอบ มือหนึ่งจับที่ไหล่ออกแรงเบาๆบังคับให้หันไปตามทิศ “เดินไป” เจ้าของมือพูดเสียงHereม “แล้วก็เงียบ” หนึ่งในกลุ่มนั้นจับมือวันชนะให้แตะหลังคนที่อยู่ข้างหน้า “ตามเขาไป”

กลางดึกสงัด ขณะที่ชาวเมืองหลับนอนแต่คนกลุ่มหนึ่งเดินเรียงแถวกันมุ่งหน้าไปยังสถานที่หนึ่งภายในมหาวิทยาลัย เหตุการณ์คืนนี้ถ้าผู้ปกครองของนิสิตได้รับรู้คงจะใจหายไม่น้อยที่มันจะเกิดในหมู่ปัญญาชนที่ฝึกฝนตัวเองให้ผ่านการคัดกรองจากเด็กทั่วประเทศเพื่อได้เข้ามาศึกษา

เสียงฝีเท้ามากมายหยุดลง
“นั่ง” คำสั่งเดียวเปี่ยมด้วยพลัง เสียงพรึบดึงขึ้นพร้อมกัน เหมือนทุกคนพอจะรู้ว่าทำไมจึงมาที่นี่


รับน้อง!


ทั่วบริเวณเงียบเชียบจากคำพูดใดๆ มีเพียงเสียงการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มหนึ่งที่เป็นรุ่นพี่ วันชนะถูกแก้ปมผ้าที่มัดปิดตาออกเหมือนกับทุกคน จึงพบว่าตัวเองอยู่ในห้องห้องโถงสักแห่งหนึ่งในมหาวิทยาลัย ไม่มีการเปิดไฟ มีเพียงแสงจันทร์นวลส่องลอดมาทำให้สลัวเท่านั้น พอมองเห็นก็เริ่มมีเสียงขยับไหวร่างกายของพวกที่นั่งอยู่


“เงียบ” เสียงเดิมที่มีพลังสะกดให้ทุกร่างนิ่งงัน วันชนะพยายามมองหาคนรู้จักผ่านความสลัวแต่ก็จำใครไม่ได้เลย
“เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลย” เสียงที่ต่างจากเมื่อกี้พูดขึ้นได้ยินทั้งห้อง น้ำเสียงแหลมสูงสำเนียงบ่งบอกชัดเจนว่าคนพูดไม่ใช่ผู้ชายแท้หากเป็นกระเทย

“ชั้นชื่อเจ๊ใหญ่อยู่ตึกสี่ เป็นกรรมการในการจัดกิจกรรมรับน้องชาวตึกในครั้งนี้” คนพูดหยุดเงียบเพราะมีเสียงหัวเราะฮาดังขึ้นที่มุมหนึ่ง หล่อนรอจนพวกเขาหยุดหัวเราะจึงพูดขึ้นดังทั่วห้อง

“ขำกันนักใช่มั้ย ดี” เจ้าของเสียงหยุด

หากผู้ที่จะกล่าวต่อคือเจ้าของเสียงที่มีอำนาจก่อนหน้า

“ทุกคนลุก”

เขากล่าวด้วยเสียงอันดังราวกับปล่อยความโกรธที่สะสมมาร้อยปีโดยไม่กลัวว่าการกระทำในยามวิกาลนี้จะมีคนมาพบเห็น

“วิดพื้นสามสิบที ปฏิบัติ!” คำพูดเหมือนทหารพร้อมกับพวกรุ่นพี่ที่เดินเข้ามาล้อมวง เงาเลือนรางมองเห็นใบหน้าHereมบอกว่าเอาจริง เทียนสี่เล่มถูกจุดจากสี่มุมเพื่อมองว่าใครขัดคำสั่ง

ทีนี้รู้แล้วว่าเจ๊ใหญ่คนนั้นมีอำนาจอยู่แค่ไหน !

“เอาล่ะ เห็นพิษสงของชั้นรึยัง” หล่อนพูดติดตลกทว่าไม่มีใครกล้าแสดงออกสิ่งใด “ชั้นจะนับหนึ่งถึงสิบให้ทุกคนสลับที่กัน พอนับถึงสิบเมื่อไรให้หยุดแล้วถามสี่คนที่อยู่รอบตัวว่าชื่ออะไร อยู่ตึกไหน ห้องหมายเลขอะไร”

“หนึ่ง! ”

เทียนไขสี่มุมส่องพอมองเห็นได้ว่าขณะนี้ชุลมุนเพียงใด วันชนะเหมือนจะตั้งตัวไม่ทัน เขาไม่รู้จะวิ่งไปทางไหนดี แล้วก็มีมือจากคนหนึ่งที่จู่ๆพุ่งมาจากด้านหลังจับมือเขาไว้ เขาออกวิ่งนำหน้า วันชนะวิ่งตาม...ตอนแรกนึกว่าเป็นวุฒิ แต่ไม่ใช่...

ด้วยว่ามือที่โดนมัดทั้งสองข้างทำให้ทำอะไรก็ไม่สะดวก เวลาวิ่งตัวเขาจึงเอี้ยวเข้าหาวันชนะ ทำให้มองเห็นหน้าได้ แม้จะเลือนราง ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกที่ทำให้คนที่ถูกพาไปอุ่นใจได้ เขาคือเพื่อนข้างห้องของวันชนะนั่นเอง

“สิบ!”

สิ้นเสียงอันดังนั้น ทุกคนหยุดแทบจะพร้อมกัน แล้วรายการถามชื่อและที่อยู่ก็เริ่มขึ้นเซ็งแซ่ ภายใต้แสงสลัวบางคนมีรอยยิ้มสนุกที่ได้ทำความรู้จัก บางคนไม่เต็มใจนึกไม่ชอบกิจกรรมนี้ หากว่าทุกคนยอมทำตาม

ทั้งห้องกลับมาสงบอีกครั้งหลังจากที่เสียงกร้าวบอกให้หยุด แล้วผู้ที่ได้ชื่อว่าเจ๊ใหญ่ก็พูดขึ้น หล่อนเป็นหงส์ที่อยู่เหนือมังกรอย่างนั้นหรือ วันชนะคิดแต่หลายคนคิดว่าหล่อนเป็นห่านมากกว่า


“ไหนลองดูสักสองสามคนซิ” หล่อนเดินฝ่าแถว ไปจนถึงรุ่นน้องคนหนึ่ง “ชื่ออะไร คณะไหน อยู่ตึกอะไร ห้องอะไร?” หล่อนรัวคำถามเป็นชุด รุ่นน้องคนนั้นก็ตอบโดยดี สถานการณ์ดูเหมือนจะลดความตึงเครียดจากตอนแรกเพราะคำพูดและน้ำเสียงเจ๊ใหญ่ติดตลกแต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดสิ่งใดให้หล่อนขัดจิต

“คนด้านหน้านี่ชื่ออะไร คณะอะไร ตึกไหน ห้องเบอร์อะไร” เจ๊ใหญ่ยังรัวคำถามกับรุ่นน้องคนที่สามที่หล่อนเข้าประชิดตัว และเขาตอบไม่ได้ว่าเพื่อนที่อยู่ข้างหน้าชื่อเล่นว่าอะไร

“อะไรกันให้ถามแค่นี้ยังจำไม่ได้ แล้วจะเอาสมองที่ไหนไปร่ำไปเรียน ชั้นจะลงโทษพวกเธอทุกคน จำไว้คนใดคนหนึ่งผิดทุกคนต้องรับโทษเท่ากัน พวกเธอจะได้รู้ถึงคำว่ารุ่นและคำว่าเพื่อน” เธอกล่าวเสียงแหลมดัง รุ่นพี่คนอื่นๆเดินมาล้อมสมทบ เงาทะมึนๆที่ลอบล้อมดูน่าเกรงขาม

“ชั้นจะให้จับคู่กัน” หล่อนหยุดไปสามวินาที “แล้วเดินไปหาพี่ที่อยู่ด้านข้างๆ คนหนึ่งจะถูกแก้มัดแล้วมัดไพล่หลังไว้” เจ๊ใหญ่เงียบไปอีกสองวิ “ให้คู่ของตัวเองถอดกางเกงในของคนที่ถูกมัดไพล่หลังออกแล้วถือไว้ จากนั้นเดินมาโชว์ให้ชั้นดู แล้วเดินออกประตูกลับไปได้ พวกเธอจะได้เรียนรู้ถึงคำว่าเพื่อนและการเสียสละ คิดดูให้ดีล่ะว่าใครจะเป็นคนถอด ใครจะเสียสละโชว์ของดีให้เพื่อนดู” หล่อนหัวเราะเล็กๆ คิกคัก “น่าเสียดายนะในนี้มันมืดไปหน่อย”

เสียงฮือฮาดังขึ้น
“เอ้า! จะเชื่อฟังรุ่นพี่รึเปล่า” หลายเสียงตะโกนดังเหมือนโกรธเคืองเมื่อรุ่นน้องตั้งท่าไม่ยอม
วันชนะมองไม่เห็นใครอื่นนอกจากคนที่อยู่ตรงหน้า

นักขัต!

หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 10-03-2007 10:35:41
เอาล่ะเหวยยย จาได้เหงของดีกันก้อคราวนี้ ว่าแต่จาถอดอย่างเดียวอ๊ะป่าว กลัวจับติดอย่างอื่นมาด้วยจิ  :kikkik: :kikkik: :kikkik:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-03-2007 11:03:31
เอาละหว่า ใครจะได้ถอด  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 10-03-2007 11:12:59
ใครจะเห็นของดีใครหว่า..... :laugh5: :laugh5: :laugh5:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 10-03-2007 12:24:11
 :interest:

กิจกรรมนี้น่าสน ลองเอาไปเล่นบ้างดีกว่า :haun5:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 10-03-2007 12:29:40
 :o เอาจริงอ่ะ ?

แต่ว่า ... มันมืดน๊า  :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 10-03-2007 13:36:37
อืมของดีของใครอิๆๆ :haun1:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 10-03-2007 14:57:44
รอลุ้นด้วยคน :kikkik:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: FlukeHub ที่ 10-03-2007 19:26:20
 :pighaun:  งื้ดๆๆๆ  วินจะถอดให้ตั้มดูหรือตั้มจะถอดให้วินดู

โอ้ววว!!~  ไม่ว่าใครถอดก้อฮาทั้งนั้นล่ะครับพี่น้อง

ต่อด่วนครับ
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 10-03-2007 21:19:28
“เอาล่ะ คงปรึกษากันพอแล้วนะ ชั้นง่วงแล้ว รีบๆหน่อย” เจ๊ใหญ่ยิ้มหยันบอกว่าง่วงแต่ตาโตรอความตื่นเต้น จากนั้นหล่อนก็ให้สัญญาณดับเทียน นับว่ายังปราณี แล้วเดินออกนอกห้องไป

“เอ้า! จะเชื่อฟังรุ่นพี่รึเปล่า มัวยึกยักกันอยู่นั่นแหล่ะ กลัวอะไรผู้ชายเหมือนกัน” เหล่าเงาดำทะมึนตะโกนอีก

ในขณะที่มุมหนึ่งรุ่นพี่สองสามคนทำท่าฉุนเฉียวจับรุ่นน้องสองคนที่อยู่ใกล้แยกออกไปจากวง

“คู่นี้ไปก่อน” หนึ่งในสามคนพูด

วันชนะมองเห็นรุ่นพี่บางคนหลุด แอบหัวเราะคิกคัก จนสองคนนั้นที่โดนจับออกวงไปโผล่อยู่ด้านหน้า ประตูห้องโถงเปิดออกพร้อมๆกับแสงจากหลอดไฟ คนหนึ่งยังโดนมัดมือไว้ด้านหน้าส่วนอีกคนมัดไพล่หลัง คนโดนมัดข้างหน้าหันมายิ้มทำหน้าตลกให้เพื่อนรุ่นเดียวกัน ดูในมือมีกางเกงตัวเล็กสีขาวแล้วเดินออกประตูไป

ก่อนประตูจะปิดสนิททุกคนยังทันได้ยินเสียงเจ๊ใหญ่กรี๊ดชอบใจ รุ่นพี่บางคนพยายามกลั้นหัวเราะ แต่ยังมีคนที่ใจแข็งตะโกนเร่งรัด

วันชนะใจเต้นตึกตัก มองหน้านักขัต อีกฝ่ายก็เหงื่อตกอยู่มิใช่น้อย

“เอาไงดีตั้ม” วันชนะถาม “ระ...เรา เรา...ไม่ได้ใส่...” เขากระซิบที่ข้างหู

วันชนะหน้าแดงนึกภาพนายนักขัตเดินตัวเปล่าแล้วกางเกงบอลของเขาอยู่ในมือวันชนะ แต่ต้องใคร่ครวญเสียใหม่เมื่อนักขัตมองหน้าเขาแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์

“ไม่ ไม่ ไม่เอา” วันชนะรีบปัดมือเมื่อรู้ตัวว่าคนที่จะต้องโดนถอดคือตัวเอง
ตั้งแต่โตเป็นหนุ่มมายังไม่เคยมีใครได้ทำถึงขนาดนั้นนอกจากตัวเขาเอง เขาไม่ใช่คนทะเล้นที่จะเห็นว่าตลกที่จะให้ใครมาถอดกางเกง หนำซ้ำเป็นชั้นในสุด!

“เราถอดไม่ได้นะวิน ” นักขัตทำเสียงออดอ้อน ยกมือวันชนะขึ้นมากุมประกอบการร้องขอ แม้วันชนะจะเย็นนักขัตน่ารักขนาดไหนแต่เรื่องนี้ต้องขอ
“ไม่เอานะตั้ม ไม่...” วันชนะยืนกราน ก็เรื่องอะไรล่ะ ไม่มีใครไม่อายหรอก “ไม่เชื่อเหรอว่าตั้มไม่ได้ใส่มา” ไม่ว่าเปล่านักขัตขยับตัวมาชิดแล้วจับมือวันชนะล้วงลงไปใต้ขอบกางเกงด้านข้างตัวตรงตำแหน่งของกระเป๋าข้าง คนล้วงใจเต้นตึกตักเพราะไม่ทันได้เตรียมตัว คิดในใจว่าผิวเขาเนียนดีจัง

ยังไม่ทันได้สลัดความคิดนอกเรื่อง นักขัตก็ฉุดเขาให้ลุกขึ้นพร้อมกันโดยที่วันชนะยังไม่ทันได้เตรียมใจ เขาก้าวฉับๆตรงไปทางรุ่นพี่หลายคนพร้อมกับชี้มาทางวันชนะบอกว่าเขาจะเป็นคนถอด หันมายิ้มให้วันชนะประหนึ่งเป็นคนเลือกทางให้อีกฝ่ายไปโดยปริยาย

วันชนะยังยืนอึ้ง “เอ้า! น้องคนนี้เร็วเข้าสิ เพื่อนรออยู่นู่นแล้ว” พี่คนหนึ่งดึงแขนวันชนะออกนอกวงไปสมทบกับนักขัตแล้วแก้มัดออกแล้วรวบมือไปมัดไว้ข้างหลังแทน “พี่ไม่ดูหรอกน้อง หาที่มืดตามสบาย มองไม่เห็นหรอก” ว่าแล้วก็กลับไปรวมกลุ่มล้อมพวกน้องๆต่อ
“มาทางนี้เถอะ” นักขัตนำหน้าพาไปที่มืดไกลออกไปจากกลุ่มคน

“เอาล่ะ” นักขัตพูด มือก็จับไปที่ขอบกางเกงขาสั้นของวันชนะ แล้วเริ่มดึงลงแต่วันชนะเด้งตัวหนี เขาตามไปจับเอววันชนะไว้อีกมือจับที่ขอบกางเกงอีกครั้ง วันชนะดิ้นพราด “อยู่นิ่งๆสิวิน” นักขัตยิ่งรัดวงแขนให้แน่นเข้า อีกมือดึงขอบกางเกงให้ยืดเป็นวงกว้างออก


“.........................” ไม่พูดอะไรวันชนะซบหน้าลงบนบ่าอีกฝ่ายแน่น คงบอกความหมายได้มากมาย
“ไม่ต้องอายหรอก ตั้มมองไม่เห็นเสียหน่อย” เหมือนจะส่งถึงใจ แต่กลับไม่ถึง นักขัตจับวันชนะหมุน “หันหลังมาสิ”

...

ประตูเปิดออกพร้อมกับแสงจากด้านนอกวันชนะรีบเดินจ้ำอ้าวออกไปด้วยความอาย นักขัตเดินตามมีกางเกงตัวเล็กสีขาวขอบสีฟ้าอยู่ในมือ ก่อนประตูปิดสนิททิ้งกลุ่มคนไว้ในห้อง เจ๊ใหญ่ก็หัวเราะชอบใจเสียงดัง

“ไหนให้เจ๊ดูหน่อย อืม..ยังโดนมัดอยู่ ต๊าย! สีขาวขอบฟ้า เก๋นะจ้ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” หล่อนมองหน้าเจ้าของกางเกง เพ่งพิศครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “เจ๊ชอบ คู่นี้หล่อทั้งสองคนเลยนะจ้ะ เอ้ะ รึว่าหล่อกับสวยสมกันเหมือนกิ่งทองใบหยกนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
นักขัตยิ้มตามประสาผู้ชาย แต่วันชนะรู้เต็มอกว่าปิดเจ๊ใหญ่ไม่มิด อยากที่เขาว่า ผีมองผีออก

“ไปหลับไปนอนได้แล้วจ้ะน้อง อย่าลืมแก้มัดให้เพื่อนด้วยล่ะ หรือว่าจะไปต่อกันก็ได้นะจ้ะ” แวบแรกเจ๊ใหญ่ยิ้มเอ็นดูรุ่นน้องแต่คล้อยหลังก็มีกัดเล็กๆ แล้วก็หัวเราะร่วน

เดินออกมาตามทางกลับตึกมีเสาไฟเตี้ยๆส่องทางพอมองเห็นช่อดอกราตรีหยดย้อยตามทาง “หอมดีเนอะ” นักขัตพูด “ดอกอะไรนะ ไม่เห็นจะรู้จัก”

“ดอกราตรี…” วันชนะพูด “...เมื่อกี้ขอบใจนะ”
“อื้ม เรื่องเล็กน่า พวกรุ่นพี่ก็ชอบเล่นอะไรแบบนี้แหล่ะ...วินเป็นคนขี้อายเนอะ” นักขัตพูดตามที่เข้าใจ


ในความมืด ไม่มีใครมองเห็น รุ่นพี่ต้องการเพียงดูกางเกงในเท่านั้น แม้จะมีกติกาให้อีกคนถอดให้ แต่ในความมืดใครเล่าจะมองเห็น นักขัตก็แค่แก้มัดวันชนะให้จัดการถอดเอง แล้วเขาก็มัดเชือกเข้าเหมือนเดิม

“ว่าแต่ของนายสวยดีนะ ซื้อที่ไหนเหรอ ชอบตรงขอบสีฟ้าเนี่ย” นักขัตแซว

“เดี๋ยวเหอะๆ เดี๋ยวจะโดน” วันชนะแกล้งพูดเป็นโกรธ นักขัตหัวเราะร่า

ตามทางเดินที่มองเห็น ดอกราตรีส่งกลิ่นต้อนรับ คนทั้งคู่เดินไปด้วยกัน มันเป็นเพียงจุดสตาร์ท พวกเขาคงยังไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะมีสิ่งใด ความมืดมันบดบังอุปสรรครอบทางที่พร้อมจะมากีดขวาง

และเมื่อรุ่งเช้ามาถึง เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่อง...

...หนทางมันไม่ได้สวยอย่างค่ำคืนนี้...

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++=
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 10-03-2007 21:26:22
 :-[ :-[ :-[ อาย  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 10-03-2007 21:37:29
สรุปว่านิติถอดเองเหรอคับ :confuse: :confuse:  แต่มะเปนไร  ได้ซบไหล่ต้นน้ำด้วยอ่ะคับ :fox2: :fox2: :fox2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 10-03-2007 21:40:48
เริ่มมีอุปสรรคเเล้วหรอเนี่ยเฮ้อๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-03-2007 21:49:39
เหอเหอ เริ่มมีลางร้ายมาอีกแล้ว  :serius2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 10-03-2007 22:49:38
 :o   มีลางร้าย ชักจะใจไม่ดีซะแล้วจิ
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 11-03-2007 17:12:18
 :-[  เขินจัง  แหม๋ตอนต้นน้ำจับมือนิติไปล้วงกาลเกง คงใจเต้นน่าดู ดีนะ ไม่ให้จับตรงเป้า เหอๆๆ :รักจัง11:


แล้วตกลงทั้งคูjจะไปต่อกันป่าวอ่า ไม่เชื่อฟังรุ่นพี่อย่างเจUใหญ่เหรอคับ ไม่ดีนา เปนรุ่นน้องต้องเชื่อฟังไปต่อกันซะดีๆ :haun4:


หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: wee ที่ 11-03-2007 23:42:32
นายนิติ กะ นายต้นน้ำ  สงสัยต้องตามติด เอ๊ย ไม่ใช่ ต้องติดตามแล๊วว.... :loveu: :loveu: :loveu:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: FlukeHub ที่ 11-03-2007 23:55:04
555++  โอ๊ะโอ  นิถอดหรอกเหรอ   

ไม่เป็นไรๆถึงเป็นคนถอดก้อยังได้กำไรเพราะว่าต้นถอดให้  แถมยังได้ล้วงเป้าต้นอีก   :give2:

ต่อครับต่อ
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 12-03-2007 05:15:54


ดอกราตรี............ :impress:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-03-2007 09:56:59
4 : ความจริงในคืนฝนตก

สองเดือนนับจากเปิดเทอม กีฬาภายในมหาวิทยาลัยงวดเข้ามาเป็นการเพิ่มความตึงเครียดให้แก่นิสิตหน้าใหม่ได้อย่างยิ่งยวด เพราะไหนจะต้องเรียนและเตรียมตัวสอบกลางภาค ไหนจะต้องซ้อมเชียร์ให้ได้ตามที่รุ่นพี่ต้องการ และคนที่รับหน้าที่เป็นนักกีฬาก็ต้องซ้อมอย่างหนัก

“วันนี้ไปกินข้าวเย็นร้านป้าข้างมหา'ลัยกันมั้ย?” วันชนะเกาะระเบียงด้านหลังห้องคุยผ่านไปยังคนที่อยู่ระเบียงห้องติดกัน
“ขอโทษทีนะ เย็นนี้ตั้มมีซ้อมบาส” คนพูดหันมาตามเสียง แล้วกลับไปสนใจตากผ้าต่อ ไม่มีทีท่าสนใจคนที่อยากคุยด้วย จนวันชนะเบือนหน้าหนีเดินก้มหน้างุดเข้าห้อง

“จะซ้อมอะไรกันนักหนา” คนเดินเข้าห้องบ่น
หากว่าวันชนะยังอยู่ต่อก็จะได้เห็นว่านักขัตไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเขาให้ยืนเหงาเมื่อกี้เลย เพียงแต่พอหันมาอีกทีก็ไม่เห็นวันชนะอยู่ตรงนั้นแล้ว เขาอยากจะบอกว่า “ช่วงนี้ใกล้การแข่งขันแล้ว ต้องซ้อมหนักเย็นนี้คงไม่ได้ แต่ถ้าเป็นพรุ่งนี้คงจะได้” ตั้งใจว่าตอนออกไปเรียนจะเคาะประตูบอก แต่ก็รีบจนไม่ได้ทำอย่างตั้งใจ


ใต้ต้นนนทรีใหญ่ร่มรื่น วันชนะนั่งอยู่ที่นั่น บนโต๊ะมีหนังสือแคลคูลัสวางอยู่ สายลมพัดผ่านเย็นฉ่ำคล้ายหอบเอาไอน้ำมาจากที่ไกล หนังสือเปิดกางไว้แต่คนที่นั่งหน้าหนังสือกลับมองเหม่อ จะว่าเพราะวิชานั้นเข้าใจยากแต่ก็คงมีอิทธิพลเท่าใจไม่นิ่ง เพราะมัวแต่คิดถึงใครอยู่


“ขอโทษครับที่นั่งตรงนี้มีคนนั่งมั้ยครับ?” ใครคนหนึ่งถาม วันชนะส่ายหัวแล้วกลับสู่อาการเหม่อลอย โดยไม่ได้สังเกตว่าผู้มาขอที่นั่งกำลังจ้องมองใบหน้าเขาอย่างตั้งใจพร้อมขมวดคิ้ว

“นาย...” คนพูดลากเสียงยาวเหมือนจะนึกออก
“อ๋อ!” เขานึกออก “เพื่อนของตั้มนี่นา”
เขายิ้ม

วันชนะหลุดจากภวังค์ พูดจบเขาถึงนั่งลง วางกองหนังสือเล่มหนาสองสามเล่มลงข้างๆ จำได้ตอนที่นักขัตลืมกระเป๋าตังแล้วเขาตามเอาไปให้ที่ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์

วันชนะยิ้ม “เราวิน นายชื่ออะไร?”

“เนตร”
สนทนาอีกเล็กน้อยทั้งคู่ก็เงียบไป ต่างเปิดหนังสืออ่าน

เพื่อนใหม่เหลือบเห็นวันชนะนั่งหน้าคิ้วขมวดอยู่นานกับโจทย์แคลคูลัสข้อหนึ่ง คำถามเพียงบรรทัดเดียวแต่ต้องการคำอธิบายและคำตอบครึ่งหน้า
“ทำได้มั้ย” คำถามธรรมดาแสดงว่าอีกฝ่ายกำลังสนใจการกระทำของวันชนะอยู่ โดยไม่ได้จะโอ้อวดเห็นว่าวันชนะทำไม่ได้เพียงแต่เขาอยากช่วยให้เข้าใจ
แต่ที่จริงอาการคิ้วขมวดของวันชนะมาจากการเพ่งสมาธิไปยังโจทย์และต้องการตีให้ออกแต่ว่าภาพใบหน้าของอีกคนมารบกวนสมาธิ เขาต้องต่อสู้สองเรื่องในขณะเดียวกัน
“อ๋อ...ทำได้สิ” วันชนะยิ้ม ภาพใบหน้าหายไป เขาเขียนรวดเร็วบนกระดาษเป็นสมการยืดยาว หากว่าคนที่นั่งตรงข้ามมองปราดเดียวแล้วยิ้มนิดๆ

“เราว่าทำแบบนี้ดีมั้ย” เขาเขียนสมการที่สั้นและเข้าใจง่ายกว่าแบบที่วันชนะตอบ
วันชนะตาโตนึกไม่ถึงระคนดีใจที่ได้เจอคนที่จะอธิบายโจทย์อีกหลายข้อที่ว่างไว้

...
...
...


“โชคดีนะเนี่ยที่เจอเนตร ไม่งั้นคงคิดไม่ออกไปอีกนานเลย” วันชนะชื่นชม
“เราก็พอรู้แหล่ะ” อีกฝ่ายถ่อมตน หากที่แท้เขาเป็นคนเก่งระดับอัจฉริยะ ตอนมัธยมเคยได้เหรียญทองคอมพิวเตอร์โอลิมปิก
“วินกลับทางไหน เดี๋ยวเรากลับบ้านทางประตูด้านหน้ามหา´ลัย”

“เราอยู่หอใน”
“ไปกินข้าวกันมั้ย ข้างมหา´ลัยนี่เอง ตั้มก็ไปด้วยนะ นัดเอาไว้แล้วล่ะ” เขาชวน
“มะ...ไม่ ไม่เป็นไร เราก็นัดเพื่อนไว้แล้ว” วันชนะปฏิเสธ นี่แสดงว่านักขัตโกหกเขาน่ะสิ ไหนว่ามีซ้อมบาส

น้อยใจ...งอน...


เดินลัดเลาะตึกเรียนหลายตึก เดินผ่านคณะวิศวฯ ตะวันโพล้เพล้ทว่ายังมีนิสิตกลุ่มหนึ่งยังเล่นบาสอยู่ที่สนามข้างๆทางเดิน สายตาวันชนะแอบลอบจับจ้องการเคลื่อนไหวของร่างกาย สังเกตการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
“เฮ้ย ไอ้ควาย มึงดูดีๆสิวะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เสียงหนึ่งเด่นออกมาจากเสียงเฮฮาจากสนาม สะกิดวันชนะให้เข้าสิห้วงคิด ‘พวกเขาเป็นผู้ชาย’ เขาเองก็เป็นผู้ชาย

ความคิดเดิม น่าทดท้อ ไม่มีใครมองเห็นตัวจริง...
นักขัตก็เหมือนกับพวกนั้น เป็น ‘ผู้ชาย’
พลันโทษตัวเองว่าไม่มีสิทธิ์ไปกล่าวโทษใคร

...

เดินผ่านสนามฟุตบอล โล่ง วันนี้ไม่ยักมีใครมาเตะ เหงา...


กลับมาถึงที่หน้าห้อง อดไม่ได้ที่จะหันไปมองที่หน้าประตูห้องข้างๆ ห้อง 610 ป่านนี้เจ้าของห้องคงจะทานข้าวเย็นอยู่กระมัง วันชนะเปิดเข้าห้องตัวเองเหมือนคนหมดอาลัย

กวาดตามองทั่วห้อง ทำไมรกอย่างนี้นะ โดยเฉพาะตรงเตียงกับโต๊ะอ่านหนังสือของวุฒิ คิดในใจว่าตานี่ซกมกจริงๆ วันชนะใช้ปากกาค่อยช้อนกางเกงในที่วางอยู่บนเตียงเพื่อนร่วมห้องแล้วโยนไปที่ตะกร้าเจ้าของเตียง ทนไม่ได้หรอกที่จะเห็นห้องรกในสภาพนี้ เขาเลยจัดการเก็บกวาดให้
เสร็จจากอาบน้ำวันชนะไม่มีใจจะไปเปิดหนังสืออ่านเลยนอนเล่นบนเตียงตัวเองที่ติดผนังอีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องของนักขัต แต่เขาไม่เคยได้เข้าไปหรอก ในใจคอยฟังเสียงว่าเมื่อไรคนนั้นจะกลับมา
เงียบ...

...

วันชนะหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ สะดุ้งตื่นอีกทีก็ตอนที่วุฒิเปิดประตูเข้ามา
“อ้าว! ขอโทษที เสียงดังไปหน่อย” ผู้เข้ามากล่าว
“อื้อ ไม่เป็นไร” วันชนะขยี้ตา “กี่โมงแล้วนี่”
“ห้าทุ่มแล้ว”


วันชนะสะดุ้งโหยง นี่เขาหลับไปตั้งแต่เมื่อไรกัน แล้วนักขัตกลับมารึยัง คำถามเกิดในใจอัตโนมัติ แต่ก็คิดได้ว่าจะอยากรู้ไปทำไมกัน
วุฒิเปิดโคมไฟนั่งอ่านหนังสือ วันชนะมองหาหนังสือของตัวเอง แต่ไม่มีใจจะทำสิ่งใด ล้มตัวลงนอน ข่มตาหลับแต่หน้าของคนนั้นก็ยังลอยมา...

.........................................................................
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 12-03-2007 10:12:43

...........ข่มตาหลับก็หลับไม่ลง....เพราะใจมันเพ้อถึงแต่เธอ......... :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 12-03-2007 10:42:53
นิติเศร้าจังตอนนี้  หวังว่าพรุ่งนี้ตื่นมา ต้นน้ำคงจะมาทำให้นิติสดชื่น และหัวใจพองโตนะครับ  :myeye:

 :โหลๆ: มาลงต่อไวๆนะตาพูห์
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 12-03-2007 15:04:02
 :เฮ้อ:ความรัก
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 12-03-2007 15:10:14
เฮ้อเศร้า  :3024:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 12-03-2007 18:11:26
รอวันที่กลับมาเข้าใจกันเหมือนเดิมน้า  :impress:

เป็นกำลังใจให้หมูพูห์จ้า  รออ่านอยู่  :loveu:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-03-2007 20:00:04
ความเอ๋ยความรัก เริ่มประจักษ์ตั้งต้น ณ หนไหน (ไม่รู้จำมาถูกรึเปล่า)  :give2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: FlukeHub ที่ 13-03-2007 00:10:38
อิอิอิ  นิคิดถึงต้นอีกแล้ว รักแรกพบ  หุหุหุ

ต้นก้อนะ  เข้าใจหน่อยครับ
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 13-03-2007 03:04:22
วันนี้ฟ้าหม่นหมองจัง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 14-03-2007 11:21:14
..
..
..
เหมือนนักขัตจะหลบหน้าหนีหายไปจากชีวิตเขาอย่างนั้น...
เมื่อวานได้คุยกันแค่ตรงระเบียง ก่อนหน้านั้นวันชนะไม่ได้เจอนักขัตมาหกวัน เขานับนิ้ว
วันนี้ก็คงเหมือนกัน
หยิบกระเป๋า เปิดตาราง ไปเรียน

ที่โรงอาหารคณะวิทยาศาสตร์ วันชนะหยุดซื้อน้ำผลไม้ปั่น
“สวัสดีวิน” เสียงหนึ่งทัก วันชนะหันหลังขวับ
“สวัสดี เนตร” ยิ้มให้มิตรใหม่
“เดี๋ยวมีเรียนอะไรเหรอ?”
“อ๋อ เดี๋ยววินมีเรียนสถิติน่ะ แวะซื้อน้ำแล้วค่อยไป” วันชนะตอบ
“งั้นเราไปก่อนนะ อีกห้านาทีก็เริ่มเรียนฟิสิกส์แล้วล่ะ” อีกฝ่ายพูดพร้อมกับหันไปหาเพื่อนที่เดินมาด้วยกัน
“ไว้ค่อยเจอกันนะ”




...


“อ้าววิน กลับมาแล้วเหรอ กินข้าวมั้ย วุฒิซื้อมาเผื่อ” เพื่อนร่วมห้องกล่าวทัก
“ขอบใจนะ” วันชนะเดินไปหยิบกล่องข้าว “เส้นใหญ่ผัดขี้เมาไก่” เขาหันไปหาวุฒิ อย่างน้อยเขาก็ยังมีเพื่อนรู้ใจอีกคน วันชนะชอบทานเมนูนี้มากที่สุด

“ก็เห็นชอบสั่ง ก็เลยซื้อมาด้วย”
วันชนะทำตาซึ้งบวกกับอึ้งในความดีเกินคาดของรูมเมท
อีกฝ่ายทำตาซึ้งส่งกลับ แต่ไม่นานก็หลุดขำ “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตลกว่ะวิน” วุฒิหัวเราะเอิ้กอ้าก “เปล่าหรอก มีคนฝากมาให้น่ะ”

“ใคร?”

“ไอ้ตั้มไง ที่อยู่ห้องข้างๆ” วุฒิพูด
“อ้าว! ไปรู้จักเขาได้ไง?”

“ก็เรียนด้วยกัน”
“หืมม? อะไรนะ? วุฒิอยู่วิศวะฯไม่ใช่เหรอ?” วันชนะแปลกใจ
“ก็ใช่ไง ไอ้ตั้มด้วยไง”
“นักขัต เทพรักษ์ ห้อง 610?” วันชนะย้ำ

“เออสิ” คนตอบมีเสียงเริ่มรำคาญ

วันชนะเริ่มสับสนถ้านายนักขัตเรียนอยู่วิศวกรรมแล้วทำไมไปป้วนเปี้ยนอยู่แถวคณะวิทยาศาสตร์ หนำซ้ำยังอาจหาญไปร่วมซ้อมเชียร์ด้วย แต่เนตรที่อยู่วิทยาฯคอมพิวเตอร์ก็บอกว่าเขาเรียนด้วยกันนี่ แล้วตอนนั้นที่กระเป๋าตังเขา วันชนะก็ค้น...จริงสิ! ตอนนั้นเขาดูแต่บัตรประชาชน ไม่ได้ดูบัตรประจำตัวนิสิต

อยู่ดีๆฟ้าก็มืดเอาเสียอย่างนั้น ไม่ใช่มืดเพราะตะวันตกดินแต่อย่างใดหากเพราะเมฆครึ้ม เสียงคำรามดังก้องตามด้วยฝนเม็ดใหญ่เหมือนใครจงใจเทน้ำลงมาจากฟ้าจนเสียงข้างนอกอื้ออึง ทั้งวันชนะกับวุฒิต่างรีบวิ่งไปเก็บของที่ระเบียงแล้วรีบปิดประตู ลมแรงจนรู้สึกเหมือนตึกสั่นคลอน ฟ้าแลบแปรบสะท้อนเส้นทองคำที่คอวันชนะวาบ

“อ้อ แล้วคืนที่ฝนตกหนักๆตั้งแต่ตอนเปิดเทอมใหม่ กะจะบอกวินหลายทีแล้วแต่มันยุ่งๆจนลืมไป ตอนแรกนึกว่าวินเอามาวางที่โต๊ะวุฒิ แต่พอคิดอีกทีน่าจะเป็นไอ้ตั้มมากกว่านะ วุฒิหมายถึงสร้อยที่วินใส่อยู่น่ะ” อยู่ดีๆเขาก็พูดขึ้นเหมือนฝนฟ้า “ตอนนั้นโมเมสนุกๆกะว่าค่อยบอก แบบว่าชอบอำคนน่ะ แฮ่ แฮ่ เลยไม่ได้บอกว่าเห็นไอ้ตั้มมันตัวเปียกๆนั่งอยู่ในห้องด้วย”

ได้เท่านั้นแหล่ะ วางกล่องเส้นใหญ่ผัดขี้เมา แล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูโดยลืมไปเลยว่าข้างนอกฝนตกหนัก เคาะรัวๆทีห้องข้างๆ สักพักคนข้างในก็ค่อยๆแง้มประตูออก

“โตโต้ ตั้มอยู่รึเปล่า” วันชนะถามรูมเมทของนักขัต
“เข้ามาก่อนๆ ลมแรง ฝนปลิวเข้ามา” อีกคนข้างในรีบดึงวันชนะเข้าไป
เป็นครั้งแรกที่วันชนะได้เข้าไปยังห้องของนักขัต กวาดสายตามองรอบๆ ตรงนั้นน่าจะเป็นเตียงของนักขัต เขาสังเกตจากรูปที่บนโต๊ะข้างๆหัวเตียง

“ตั้มคงยังซ้อมบาสอยู่ที่ยิมคณะล่ะมั้งวิน กลับดึกทุกวัน” คนชื่อโตโต้บอก
“ตั้มเค้าอยู่วิศวะฯหรือ?” วันชนะย้ำเพื่อความแน่ใจ
“ใช่”



กลับมายังห้องตัวเองแล้ว สับสนในใจ ทำไมนักขัตหลอกเขามาตลอด แต่ว่า...สร้อยนี้เขาเป็นคนหามาให้? นานเกินไปที่จะรอคำตอบอยู่ตรงนี้
“เฮ้ย! วินจะไปไหน?” เสียงวุฒิกลบหายไปกับเสียงฟ้าคำราม
ร่างสูงโปร่งดูบอบบางแต่ก็ดูมีความเป็นชายอยู่ในทีวิ่งฝ่าลมฝนออกจากห้อง ยังดีที่เขาไม่ลืมคว้าร่มมาด้วยก่อนออกมา

โกรธเรื่องที่เขาโกหกว่าอยู่คณะเดียวกัน?
อยากรู้ความจริงเรื่องสร้อย

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องวิ่งฝ่าฝนมาแบบนี้ รู้ตัวอีกทีก็เมื่อตัวเองยืนอยู่ในยิมแล้ว ตัวเปียกไปหมดเท้าก็เลอะโคลน ร่มที่เอามาด้วยไม่ได้ช่วยอะไรเลย ที่กลางสนามคอนกรีตคนที่เล่นกันอยู่หันมามองวันชนะเป็นจุดเดียว รวมทั้งนักขัตด้วย ลูกบาสกระดอนเบาลงเรื่อยๆจนกลิ้งออกนอกเส้น วันชนะยังตัวแข็งทื่อไม่รู้จะทำยังไงต่อ

คนตัวหนาสูง คิ้วเข้มเรียวเดินเข้ามาหา คนข้างหลังเขาเริ่มจับลูกบาสอีกครั้ง “วิน มาทำไมเนี่ย แล้วนี่ตากฝนมา?”
วันชนะยังเงียบ ในหัวเรียบเรียงว่าควรจะพูดยังไง

“มาทางนี้ก่อนเถอะ” นักขัตจับที่ข้อมือดึงไปทางห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
“เอ้า เช็ดหัวเช็ดตัวก่อน” เขาโยนผ้าเช็ดตัวให้

“วันนั้น สร้อยนี่ นายเก็บมาเหรอ?” วันชนะพูดเป็นครั้งแรกที่มาถึงที่นี่ มือจับสร้อยรักไว้
นักขัตมองมือที่จับสร้อยนั้น “อืม ก็เราลงไปหาอีกรอบเองพอเอาไฟฉายส่องๆมันวูบๆสะท้อนแสงน่ะเลยหาเจอ” สายตาเขามองที่ใบหน้าวันชนะเหมือนงงกับการมาของวันชนะว่าเพราะคำถามนี้หรือ

“...แล้วฝนตกหนักขนาดนั้น...นาย...” วันชนะอึกอัก
“ตั้มเห็นว่ามันเป็นของสำคัญของวินน่ะ ดูหน้าวันชนะนนั้นก็รู้ว่ามันสำคัญมาก เลยอยากหาให้เจอ”
“แล้วคืนนั้น หลังจากเราหลับไปแล้ว เกิดอะไรขึ้นบ้าง” วันชนะจ้องตาอีกฝ่าย

“ตอนที่ตั้มลงไปหาอีกรอบน่ะวินหลับไปแล้วล่ะ พอขึ้นมาก็วางไว้ที่โต๊ะ พอดีวุฒิกลับมาก็เลยกลับห้อง ก็ฝากมันว่าวินขาเจ็บให้ดูแลด้วย แต่วุฒิมาเอาของแล้วก็จะไปค้างบ้านเพื่อนล่ะมั้ง คืนนั้นตั้มเลยไปนั่งอ่านหนังสือในห้องวินเผื่อจะได้ดูวินด้วย” นักขัตอธิบาย “สักสามทุ่มวินไข้ขึ้นเพ้อด้วย ละเมอหาแม่ และ เอ้อ... ตั้มเอาผ้าเช็ดตัวให้ เลยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ด้วยเลย”

หากว่าคนเล่าไม่พูดให้หมดว่าที่จริงแล้วตอนที่คนไข้เพ้อถึงแม่ เขาเข้าไปดูอาการและเอาผ้าเช็ดให้นั้นคนไข้จับตัวเขาได้ก็กอดเสียแน่น และเขาก็ไม่ได้บอกถึงที่ว่าเขาเองก็ได้เอามือลูบผมของวันชนะเพื่อปลอบประโลม เหมือนผู้ใหญ่ที่ชอบลูบหัวเด็กให้ละความกลัว

ความจริงที่มีเงื่อนงำโดยไม่รู้ปมมาก่อนได้คลี่คลาย หากยังเหลืออีกหนึ่งข้อสงสัย
“แล้วตั้มหลอกเราทำไมว่าเรียนอยู่วิทยาศาสตร์” วันชนะถามเสียงคาดคั้นอยู่ในที
“เฮ้ย! ตั้มไม่ได้หลอกนะ”
“ตั้มบอกว่าเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์”
“วิศวะฯคอมพิวเตอร์ต่างหากละ”
“แล้ววันนั้นทำไมไปซ้อมเชียร์ที่คณะวิทยาฯ”
“นึกสนุกตามเพื่อนไป ตั้มมีเพื่อนเรียนวิทยาฯ”
“แล้ว...” วันชนะนึกคำถามไม่ออก ได้แต่อึกอักระคนเจ็บใจที่คนตอบตอบได้หมด
นักขัตยืนกอดอกเหมือนรอคำถามอีก “ไง มีอะไรจะถามอีก”


“ตั้มๆ ว่างอยู่ป่าว ออกมาทางนี้หน่อย” เสียงเพื่อนในทีมเรียก
“เดี๋ยวมา” ว่าแล้วนักขัตก็วิ่งออกไปทิ้งให้วันชนะนั่งทบทวนสิ่งต่างๆ


เมื่อทุกอย่างกระจ่าง คนที่นั่งอยู่ยังสับสนในใจ ทำไมตัวเองต้องทำถึงขนาดนี้
ร่างบางแต่ดูเป็นชายในทีค่อยๆลุกจากที่ เดินอย่างสำนึกไปทางประตูทางออก ฝนซาลงแต่ก็ยังไม่ควรกลับไปตอนนี้หรอก แต่เขาก็เดินออกไป...

เขาน่าจะดีใจสิที่รู้ความจริง แต่ทำไมเจ้าความรู้สึกจี๊ดๆเล็กๆข้างในมันคืออะไร


“วันนี้วินเป็นอะไรไป” เสียงคุ้นเคยดังขึ้น วันชนะแหงนมองร่มกางแผ่อยู่เหนือหัว “เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก” หันไปมองคนที่ตามมากางร่มให้ เขายิ้มเหมือนเคย


“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ” เขาโอบมือมากอดที่ไหล่แบบผู้ชายกอดไหล่เพื่อน วันชนะยิ้มแห้งๆให้
“แล้วกินเส้นใหญ่ผัดขี้เมายัง?”
****************************************************************
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 14-03-2007 12:12:42
ซึ้งมั่กๆคับ :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 14-03-2007 13:31:11
ซึ้งงงง  :impress:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 14-03-2007 13:35:32
...........เห้นมะว่าต้นน้ำเป็นห่วงขนาดไหน.............. :impress3: :impress3:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 14-03-2007 17:44:41
ร่วมซึ้งด้วยคนค่ะ   :impress:

หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 14-03-2007 19:00:38
ซึ่งจัง ทำไมต้นน้ำดีจังเลย :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-03-2007 19:31:43
หุหุ ซึ้งด้วยคน  :-[
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 15-03-2007 10:20:43
ต้นน้ำอ่ะน่ารักจังเลยคับ  ขอให้คู่นี้ลงเอยกันเรวๆนะคับ :call:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 15-03-2007 11:46:32


ใครเอาร่มมากางให้อะ  :give2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 15-03-2007 12:37:21
 :impress:  ต้นน้ำช่างเป็นคนดีอะไรอย่างนี้  :impress3:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-03-2007 13:36:25
5 : คนที่รักเรา คนที่เรารัก

“ช่างมันเถอะ” วันชนะสะบัดเรื่องเก่าๆออกจากหัว ในเมื่อความจริงเขาก็รู้แล้ว นักขัตก็ต้องซ้อมบาสเพราะว่าอีกไม่กี่วันก็จะแข่งแล้ว

“วิน ไปกินมาม่าต้มยำกันที่นิเทศฯไหม?” แจนถามขึ้น เธอคือเพื่อนอีกคนหนึ่งในเอกพันธุศาสตร์ เสียงเรียกช่วยให้ลืมเรื่องที่ยังคาใจอยู่ไปได้แทบจะทันที “เดี๋ยวก้อยกับอาร์ทก็จะไปด้วย”

วันชนะพยักหน้ารับ ยิ่งใกล้กีฬามหาวิทยาลัยเข้าไปทุกวันก็ยิ่งใกล้สอบกลางภาคมากขึ้นเท่านั้น เพราะถ้าการซ้อมเชียร์สิ้นสุดลงเมื่อไรหนึ่งสัปดาห์จากนั้นก็คือการแข่งขันและหลังจากนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์ก็คือการสอบ ช่วงตรงนี้สำคัญมากต้องเตรียมตัวเป็นอย่างดี หากพลาดพลั้งทุ่มเทให้กับกิจกรรมมากเกินไปก็อาจสอบตกได้ยังผลให้ต้องระงับการเรียนแล้วค่อยไปเรียนซ้ำอีกทีในภาคเรียนต่อไปที่เปิดสอน

มาม่าต้มยำร้านที่คณะนิเทศศาสตร์เป็นที่ลือชื่อมากยิ่งพอมาถึงยิ่งตกใจกับแถวที่ยาวเหยียด แต่ด้วยแรงอยากลองชิมสักครั้งของเด็กวิทยาฯกลุ่มนี้จึงอดทนยืนต่อคิว ราวยี่สิบนาทีจึงได้มานั่งพร้อมหน้าพร้อมรับประทาน เพื่อนในเอกเดียวกันมีเพียงยี่สิบสองคนต่างจากภาควิชาอื่นๆซึ่งจะมีเยอะถึงหลักร้อย เพราะว่าพันธุศาสตร์นั้นคะแนนถือว่าสูงลิบลิ่วและจำกัดบุคคลเข้าศึกษาเพราะบุคลากรจำเพาะด้านยังไม่เพียงพอต่อการสอนคนจำนวนมาก

อาร์ท แจน และก้อยกำลังนั่งทานมื้อกลางวันกับวันชนะอยู่ที่ม้านั่งข้างๆทางเดินไปยังด้านหน้าของตึกคณะนิเทศศาสตร์ การสนทนาเป็นไปอย่างออกรส แล้วใครคนหนึ่งก็เดินผ่านมามาใกล้

“อ้าว แอบมากินอยู่ที่นี่เองหรือ?” เจ้าของเสียงเดินมาจับที่ไหล่ของแจน
“หลิน!” แจนเรียกคนที่มายืนอยู่หน้าโต๊ะ น้ำเสียงตกใจเล็กน้อยแล้วก็เป็นกลับเป็นปกติในเวลาอันสั้นปกติ คนที่มาสมทบเป็นสาวสวย รูปร่างสูงโปร่ง ทรวดทรงได้รูป ใบหน้าเกลี้ยงเกลาสดใส เธอไว้ผมยาวเกือบถึงเอว หลินเป็นผู้หญิงสวย เรียกได้ว่าสวยมาก และเธอยังมีหัวสมองอันฉลาดที่สามารถเข้ามาเรียนพันธุศาสตร์ได้

“นั่งด้วยกันสิหลิน” วันชนะเอ่ยปากชวน แต่อีกฝ่ายกลับเหลียวมองหาใครสักคนก่อนจะนั่งลงที่ว่างด้านหน้า
“ขอบใจจ้ะ แต่หลินคงอยู่ได้ไม่นานนะ หลินนัดเพื่อนเอาไว้ที่โรงอาหารกลางน่ะ” หญิงสาวสวยพูดขึ้น รอยยิ้มนั้นถ้าเป็นผู้ชายแท้ๆคงจะติดตรึงใจไปนาน

วันชนะยิ้มตอบแล้วสังเกตปฏิกิริยาของใครคนหนึ่งที่ร่วมโต๊ะด้วย แจนเงียบไป ก้อยยังจ้อตามปกติ อาร์ททำตาเคลิ้มๆจนวันชนะนึกขำไม่ได้ อาร์ทก็คงเป็นผู้ชายปกติที่มักจะเก้อเขินเวลาอยู่ใกล้ผู้หญิงสวยๆ

แต่ที่น่าสนใจคือแจนต่างหาก

ข่าวลือคงเป็นความจริง ที่ว่าแจนกับหลินขัดใจกันเพราะผู้ชาย!

วันชนะได้ยินข่าวนี้มาจากเพื่อนในเอกคนหนึ่งในตอนพลบค่ำของวันหนึ่ง เมื่อการสนทนาเริ่มจะหมด เพื่อนคนนั้นก็เผลอหลุดออกมาว่า แจนกับหลินเป็นเพื่อนสนิทมาจากโรงเรียนเดียวกันมาเรียนต่อด้านเดียวกันอีก แต่แล้ววันดีคืนดีแจนก็เกิดไปชอบผู้ชายคนหนึ่ง แต่ว่าชายผู้นั้นกลับสนใจหลินเสียมากกว่า

วันชนะเองก็พอจะดูออกว่าแจนเป็นรองหลินอยู่มากทั้งรูปร่าง หน้าตาและการเรียน ได้ข่าวว่าตอนอยู่โรงเรียนเก่าทั้งสองคนขับเคี่ยวกันมาตลอดแต่หลินก็เป็นที่หนึ่งเสมอ

นี่แหล่ะนะ ความรักไม่เข้าใครออกใครจริง ไม่มีเหตุผลว่าทำไมต้องเป็นคนนี้ คนที่เรารักกับคนที่รักเรานั้นแตกต่างกัน ครั้นจะบังคับใจกันก็ไม่ได้ หากทำได้ก็คงไม่มีความสุขนักหรอก นั่นคงไม่ใช่รักที่แท้จริง


“อื้ม จริงด้วยหลินรู้หรือยังที่ว่าทางคณะฯจะส่งหลินเข้าประกวดดาวมหาวิทยาลัย?” ก้อยพูดขึ้นก่อนจะม้วนเส้นมาม่าเข้าปาก
“จริงดิ” อาร์ทพูดบ้าง “หลินต้องได้เป็นดาวมหาวิทยาลัยแน่นอน เชื่อเราสิ” คนพูดยิ้มตาหยี เพราะมีชั้นเดียวเหมือนที่คนจีนส่วนใหญ่เป็น

“ขอบใจจ้ะอาร์ท รู้แล้วล่ะ พี่เค้าเพิ่งบอกเมื่อกี้นี้เอง แต่ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกจ้ะคณะอื่นก็มีคนสวยเยอะแยะไปหมด” คนพูดถ่อมตัว

หญิงสาวหันชะเง้อมองไปทางนอกโต๊ะอยู่บ่อยๆ แล้วสักพักหนึ่งก็ขอตัว “หลินไปก่อนนะพวกเรา เพื่อนหลินเดินไปทางนู้นแล้วล่ะ”
เธอลุกขึ้นแล้วโบกมือให้ทุกคนที่ยังนั่งอยู่ “เจอกันคาบแคลคูลัสพรุ่งนี้นะจ้ะ” แล้วก็รีบหอบหนังสือวิ่งออกไป

ทุกคนที่โต๊ะมองตาม วันชนะเห็นเพียงหลังของเพื่อนคนนั้นของหลินไกลๆ รู้สึกคุ้นแต่ก็ไม่ติดใจอะไรมากไปกว่านั้น วันชนะแอบสังเกตแจน เธอไม่หันไปมองเลย ยิ่งเห็นวันชนะยิ่งเกิดอาการหวิวๆเพราะเกิดเปรียบเทียบกับตัวเอง นักขัตที่เคยเจอกันทุกวันดูเหมือนจะห่างออกไปทุกที

...


“วิน วิน”

เสียงเรียกเหมือนลอยมาจากที่ไกลๆ วันชนะค่อยๆลืมตาภาพพร่ามัวเป็นแจ่มชัด แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อสติกลับคืนมา มองไปหน้าห้องเห็นอาจารย์มองลอดแว่นตามาที่เขา สายตาออกตำหนิลูกศิษย์บวกกับทำเครื่องหมายกากบาทไว้บนหน้าเขา แล้วจึงหันไปเก็บตำราที่เอามาสอนให้รวมเป็นกองเดียวกัน

วันชนะไหว้อาจารย์อย่างขลาดๆ เป็นการขอโทษที่นอนหลับในคาบเรียนยิ่งเขานั่งแถวหน้าสุดด้วย
“ไอ้ก้อยทำไมแกไม่ปลุกฉันว่ะ” วันชนะโบ้ยไปให้เพื่อน

“อ้าว! แก ไอ้วิน แกหลับเองจะมาโทษฉันได้ไง เดี๋ยวเหอะ ฉันตั้งใจเรียนของฉัน” เพื่อนสาวเถียง แต่ตาปรือเต็มที่
“เออ หลังกินข้าวเที่ยงทีไรง่วงทุกทีเลย” วันชนะบ่น นึกโทษอาหารกลางวัน

“ฉันก็เหมือนกันแหล่ะ เพียงแต่ฉันนั่งหลับ ยังเรียกว่าสุภาพ แต่แกน่ะ นอนเลย” ก้อยปิดปากหาว
“เกลียดเคมีว่ะ” วันชนะยังบ่น

อาจารย์เดินออกห้องไปแล้ว ประตูห้องเล็กเชอร์ขนาดจุคนได้สามร้อยคนถูกเปิดค้างไว้ เสียงนิสิตพูดคุยเซ็งแซ่ อาร์ทกับแจนบอกลากลับบ้านไปก่อน เหลือแต่วันชนะกับก้อยที่เดินอ้อยอิ่งออกจากห้องเป็นคนท้ายสุด

“กลับกันเถอะ” วันชนะชวน “ก้อยไปทางไหน?”
“ก้อยกลับประตูหลัง ไปด้วยกันได้ วินอยู่หอนี่” เพื่อนสาวของวันชนะชวนกลับด้วยกันเพราะว่าประตูด้านหลังมหาวิทยาลัยอยู่ใกล้กับหอพักของวันชนะ


โรงยิมตั้งอยู่ระหว่างทางกลับด้วย วันชนะกับเพื่อนหญิงเดินอยู่ริมทาง หญิงสาวขยับแว่นตาตัวเองเล็กน้อยพร้อมกับเพ่งไปที่ประตูโรงยิมที่เปิดค้างไว้ เสียงตึงตังของลูกบาสเกตบอลกระทบพื้นยางดังมาถึงตรงที่ทั้งสองคนยืนอยู่

“นั่นหลินนี่” ก้อยชี้มือ วันชนะยังทันเห็นเพื่อนหญิงอีกคนที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัยปีนี้เดินเข้าไปในโรงยิม “พอดีเลยวันก่อนยืมหนังสือหลินมา เมื่อตอนเที่ยงก็ลืมคืน” ว่าแล้วก้อยก็สาวเท้าตรงไปยังโรงยิม วันชนะจึงต้องตามไปด้วย

“หลินๆ” ก้อยตะโกนเรียกตั้งแต่เท้ายังก้าวไม่พ้นประตู เธอเดินตรงเข้าไปหาหลินอย่างไม่รู้ตัวว่าเป็นการเสียมารยาทน้อยๆ เพราะว่าหญิงสาวสวยนั้นกำลังคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง แม้ว่าจะมีคนอยู่ด้วยเกือบสิบคนในโรงยิมแต่คนทั้งคู่ก็เหมือนจะสร้างโลกส่วนตัวขึ้นมาตรงนั้น
วันชนะออกอาการตกใจถึงกับชะงักเมื่อเมื่อชายหนุ่มคู่สนทนาของเพื่อนร่วมภาควิชาละสายตาจากเธอมองมาทางก้อยและเขาที่เดินเข้าไปหา

“อ้าว ก้อย วิน มาได้ไง” หลินทักอย่างแปลกใจ ใบหน้าสดใสประดับด้วยรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา
“ไม่มีอะไร พอดีก้อยเห็นหลินเดินเข้ามาก็เลยจะเอาหนังสือที่ยืมไปเมื่อวันก่อนมาคืนเท่านั้นเองจ้ะ” ก้อยจดจ้องอยู่กับเพื่อนหญิงร่วมภาควิชา กว่าจะรู้ตัวว่ามีคนอื่นอยู่ด้วยก็ยิ้มแหยๆ

หลินเห็นเพื่อนเก้อเลยแนะนำผู้ชายคนนั้นให้รู้จัก “ก้อย วิน นี่ตั้มจ้ะ” ผู้พูดแก้มแดงระเรื่อ เธอหันไปทางผู้ชายตัวสูงคนนั้นแล้วพูด “ตั้ม นี่เพื่อนหลินที่เอกจ้ะ คนนี้ก้อย แล้วก็วิน”

“อุ้ย! สวัสดีค่ะเพื่อนของหลิน หล่อจังนะคะ” ก้อยพูดไปก็ออกอาการม้วนตัวไปมา

“สวัสดีครับ ก้อย ...” หนุ่มร่างสูง คิ้วเข้มคนนั้นหันมาทางวิน เขากำลังจะพูดชื่อวินออกมา แต่ว่าวันชนะชิงพูดสวัสดีก่อน เขาจึงเงียบไป แล้วคนทั้งสี่ก็เงียบไป หลินกับนักขัตยืนอยู่ฝั่งหนึ่งหลังเส้นสีขาวที่ถูกทำไว้บนพื้นแสดงอาณาเขตของสนาม วันชนะรู้สึกเหมือนกับว่าเส้นนั้นจะกั้นแบ่งชายหนุ่มตรงหน้าออกไปจากชีวิตเขาเสียแล้ว

หลินยังคงออกอาการหน้าแดงก่ำเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เพื่อนในภาควิชาได้รู้จักกับเพื่อนชายของเธอ ก้อยออกอาการเขินตามประสาหญิงสาวเจอคนหล่อแต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าชื่นชมคนที่เธอคิดว่าเป็นแฟนของเพื่อน วันชนะก้มหน้ามองพื้น หากเขาสังเกตดูนักขัตบ้างก็คงจะยากที่จะเดาว่าเขาคิดอะไรอยู่เพราะใบหน้านั้นแสดงอารมณ์ปกติ

ฮึ ฮึ! วันชนะหัวเราะเยอะตัวเองในใจ นี่แหล่ะคือโลกของความจริง ที่ผ่านมาเขาคิดไปเองคนเดียว
วันชนะเป็นผู้ชายก็ต้องชอบผู้หญิงเป็นธรรมดา เราสิ! ตัวประหลาด

“แหะ แหะ งั้นเราไปก่อนนะ” ก้อยพูดลาทำลายความเงียบ “ไว้เจอกันคาบแคลคูลัสพรุ่งนี้นะ” พูดจบเธอหันมาแตะที่แขนวันชนะเป็นการบอกว่าออกไปกันเถอะ แฟนเขาจะคุยกัน

วันชนะหันกลับทั้งยังก้มหน้า เหมือนจะซ่อนแววตาเศร้าสร้อยเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น

เดินพ้นออกมาก้อยก็โพล่งออกมาราวกับถูกปลดปล่อยจากความอึดอัด

“แก..” เธอลากเสียง “หล่อมากเลย ฉันจะละลาย”
หากแต่มีเพียงคำว่า “อืม หล่อ” เท่านั้นที่วันชนะตอบกลับมา

“แกรู้เรื่องไหมเนี่ย ฉันได้ยินมา นายตั้มคนนี้น่ะตามไปจีบหลินถึงคณะเราเลยนะ ตั้งแต่สัปดาห์แรกเลย เห็นเขาเล่ากันว่าลงทุนไปนั่งซ้อมเชียร์ด้วยเลยนะ โรแมนติกว่ะแก ถ้าฉันเป็นหลินก็ใจอ่อนเหมือนกัน หน้าตาก็ราวกับเทพบุตรมาโปรด โอ้วว...” ก้อยเป็นคนตลกจึงพูดทำนองตลกเป็นปกติ “แต่ว่า...” เธอเปลี่ยนเป็นเสียงเรียบ “สงสารแจนนะ แจนเขาชอบนายตั้มคนนี้เหมือนกัน ไม่รู้ทำอีท่าไหน ไปรู้จักกันได้ไง และก็เพิ่งเห็นกับตาตัวเองนี่แหล่ะว่าสองคนนั้นนะ ...ลงเอยกัน” เธอเปลี่ยนสีหน้าเหมือนกับนักข่าวที่ได้ข่าวเด็ด


ทั้งสองเดินมาถึงที่ประตูด้านหลังมหาวิทยาลัย

“ไปส่งไหม?” วันชนะถาม

“ไม่เป็นไรจ้ะ พ่อก้อยจอดรถรออยู่แล้ว” เธอชี้มือไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่ “ว่าแต่แกอย่าไปพูดเชียวนะแก มันไม่ดีให้เจ้าตัวเขาพูดเองดีกว่า” เธอพูดทำนองเตือนวันชนะว่า อย่าเม้าท์เพื่อน
“เออ ระวังตัวเองไว้ก่อนเถอะ รูดซิบปากให้สนิทล่ะ” วันชนะล้อ หากว่าทำหน้าฝืนๆ

เพื่อนหญิงขึ้นรถไปแล้ว เหลือแต่วันชนะเดินสวนทางกับนิสิตคนอื่นๆที่กำลังเดินทางกลับ ตะวันโพล้เพล้ช่างเพิ่มความเหงาเข้าจับขั้วหัวใจ

ความจริงอีกข้อหนึ่ง ที่ว่านักขัตอยู่วิศวฯแต่ทำไมวันนั้นถึงไปซ้อมเชียร์ที่คณะของเขาก็ได้กระจ่างแล้ว
ปลีกตัวจากถนนสายหลัก วันชนะเดินตัดเขายังถนนสายเล็ก ข้างทางปลูกต้นชบาเรียงเป็นแถวไปตลอดเส้นทาง มองดูชบาสีคล้ำในยามตะวันใกล้ลับหุบกลีบดูคล้ายมันเหี่ยวเฉา


เหมือนใจของวันชนะในเวลานี้ หุบเอาความสดใส และอารมณ์ชื่นบานทั้งหมดเอาไว้ คงเหลือเพียงความเศร้าเอาไว้ฉาบฉายทางแววตา


.......................................................
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-03-2007 13:37:44
เสียงกลองดังกระหึ่มแข่งกันราวกับว่าถ้าฝ่ายไหนเบากว่าไปเพียงนิดก็จะแพ้กระนั้น

วันชนะนั่งอยู่บนอัฒจรรย์กลมกลืนไปกับผู้คนมากมาย ด้านหน้าเป็นสนามฟุตบอลกว้าง พิธีเปิดงานกีฬาภายในมหาวิทยาลัยได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อสองชั่วโมงก่อน ขบวนป้ายและนักกีฬาของแต่ละคณะเดินผ่านหน้ากองเชียร์แล้วไปรวมอยู่ที่กลางสนาม อธิการบดีกล่าวเปิดงาน จากนั้นจึงมีการแนะนำตัวผู้ลงสมัครดาวและเดือนมหาวิทยาลัยที่จะจัดขึ้นเย็นนี้ เสียงกรีดร้องชื่นชมดังขึ้นเป็นระยะเมื่อตัวแทนของแต่ละคณะขึ้นกล่าวแนะนำตัว

เสียงกรีดร้องชื่นชมเหมือนจะดังกว่าทุกคนที่ผ่านมาเมื่อตัวแทนประกวดดาวจากคณะวิทยาศาสตร์ขึ้นกล่าว วันชนะชื่นชมเธอเหมือนกัน หลินสวยจริงๆ แม้ไม่มีการแข่งขันระหว่างเธอกับเขา วันชนะก็ยอมศิโรราบตั้งแต่ยังไม่ขึ้นสังเวียน คิดได้แค่นั้นก็ส่ายหน้าว่าจะแข่งกันได้อย่างไร เพราะไม่มีเหตุต้องแข่ง ต้องเปรียบเทียบ ทั้งเขาและเธอไม่มีอะไรให้แข่งขันกันเสียหน่อย เสียงโห่ร้องดังขึ้นอีก คราวนี้เป็นเสียงของผู้หญิง ตัวแทนประกวดเดือนจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ขึ้นกล่าวแนะนำตัวบอกว่าชื่อ นักขัต เทพรักษ์

วันชนะมองชายหนุ่มตัวสูงคนนั้นอย่างคุ้นเคย รอยยิ้มที่คุ้นเคย วันชนะเผยรอยยิ้มออกมา ไม่ได้ยิ้มให้เขาคนนั้น เป็นยิ้มให้กับตัวเอง คล้ายจะปลอบใจที่โหวงหวิว

จากสายเลื่อนเป็นเที่ยงและบ่าย อากาศเริ่มร้อนอบอ้าวแม้จะอยู่ใต้เงาหลังคาอัฒจรรย์ ข้างนอกคงจะร้อนกว่ามากเพราะแดดค่อนข้างจัด แต่นักกีฬาที่กำลังวิ่งไล่ลูกบอลอยู่ในสนามคงไม่คำนึงถึงสักเท่าไร ต่างก็เข้าโรมรันเพื่อที่จะแย่งลูกบอลและยิงประตูเพิ่มคะแนนให้ฝ่ายตน เหงื่อชุ่มโชก กระเด็นเป็นหยดสะท้อนแสงแดดเป็นประกาย

เสียงกลองดังกระหึ่มขึ้นเมื่อลูกบอลถูกเลี้ยงเข้าไปใกล้ประตู ด้านหน้ากองเชียร์เพียบพร้อมไปด้วยเหล่าเชียร์ลีดเดอร์ที่แต่งชุดสวยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแต่ละคณะ ต่างคณะต่างร่ายรำท่าเชียร์ได้สวยงามพร้อมเพรียงไม่แพ้กัน ดูตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก สิ่งที่วันชนะรู้สึกก็คือรอบข้างเขาทุกคนล้วนเป็นใจหนึ่งอันเดียวกันทั้งนักกีฬาและกองเชียร์ เพื่อนๆล้วนมีเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม สิ่งนี้คงเป็นผลมาจากการที่รุ่นพี่ได้เคี่ยวเข็ญฝึกซ้อมให้เกิดความสามัคคีและระเบียบวินัย จากที่วันชนะไม่เคยชอบการซ้อมเชียร์และการรับน้องเลย วันนี้เขาได้เห็นแล้วว่าคุณค่าของกิจกรรมเหล่านั้นเป็นอย่างไร รุ่นพี่ที่เคยทำหน้ายักษ์ตะเบงเสียงด่าดุ วันนี้พวกเขาต่างไป รอยยิ้มที่ไร้สิ่งใดอื่นเคลือบแฝง
จวบจนบ่ายสี่โมงกีฬาที่ต้องแข่งตามกำหนดการก็หมดลง กองเชียร์ทยอยกันกลับ รวมทั้งเพื่อนๆในภาควิชาของเขาด้วย ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าขอตัวกลับเพราะเพลียเหลือเกินจนไปต่อที่ไหนไม่ได้

นอกจากหอพักแล้ววันชนะก็ไม่มีที่จะไปไหนอีก อยากอาบน้ำแล้วก็ขอนอนพักแล้วจึงค่อยตื่นมาอ่านหนังสือเตรียมสอบ
ป้ายตัวเลขหน้าห้องยังคงปกติ วันชนะไขกุญแจเขาห้องตัวเองอย่างคุ้นเคย ทำเป็นปกติทุกอย่าง หากแต่ในใจเหมือนมีไฟสุมเมื่อมองเห็นเลข 610 ของห้องข้างๆ

อาบน้ำแล้วก็สดชื่นขึ้น วันชนะหงายหลังลงบนเตียงทั้งที่ผมยังไม่เปียกหมาดๆ เจ็บใจตัวเองที่คิดถึงแต่ใบหน้าของคนๆนั้น ทั้งรูปร่าง รอยยิ้มที่จดจำได้ชัดนั้น พยายามข่มตาหลับแต่ใจกลับพะวงถึง ทั้งที่เขาไม่ได้เจอหน้ากันมาตั้งแต่วันก่อนที่ในโรงยิมกับหลินและก้อย

เสียงโห่ร้องดังกระหึ่มจากกองเชียร์ข้างสนามในโรงยิม ลูกบาสเกตบอลสีน้ำตาลคล้ำถูกโยนไปมาบางครั้งกระดอนพื้นตังตึงและหนักแน่น นักกีฬาบาสเกตบอลตัวสูงทุกคน สองฝ่ายต่างใช้ไหวพริบหลอกล่อและแย่งบอลในมือของอีกฝ่ายอย่างเข้มข้น

วันชนะเดินเข้าในในโรงยิม สายตามองหาใครคนนั้น หาได้ไม่ยาก นักขัตกำลังแข่งอยู่ในสนามและดูเด่นกว่าทุกคน ได้เห็นเพียงแค่นั้นความรู้สึกอิ่มเอิบก็เติมเต็ม หากแต่ไม่เห็นอีกคนหนึ่งวันชนะคงจะคงจะซึมซับความรู้สึกได้ยาวนานกว่านี้ ที่ม้านั่งยาวข้างสนามวันชนะเห็นหลินนั่งอยู่ตรงนั้น พลันความรู้สึกเจ็บจี๊ดแล่นเข้าในอก ยิ่งได้ยินคนข้างๆบอกล่อต่อกระซิบกันว่านักบาสฯคนนั้นกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นตัวเต็งเดือนและดาวมหาวิทยาลัยปีนี้ บอกอีกว่าสมกันดั่งกิ่งทองใบหยก


ไม่อยากฟัง! ปวดใจ ทำไมเขาถึงไม่พ้นจากความรู้สึกนี้เสียที วันชนะบ่ายหน้ากลับไม่อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับคนที่ชื่อนักขัตอีกต่อไปแล้ว น้ำตารื้นจะไหลเสียให้ได้ วันชนะหันตัวกลับหลังอย่างทันที

ก้าวเท้าจะวิ่งหนีไปให้ไกลแต่กลับชนเข้ากับคนที่มาดูการแข่งขันด้วย จึงพลาดท่าเซเสียหลักแต่ว่าคนที่ถูกชนกลับดึงตัวเขาเอาไว้ได้ ไม่เพียงแต่ยั้งร่างเอาไว้ได้หากแต่เขาออกแรงดึงจนวันชนะเข้าไปอยู่ในอ้อมแขน

พี่นัท!

วันชนะทำท่าตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของคนนั้นชดเจน หน้าตาคมเข้มแบบคนไทยหากแต่ตาชั้นเดียวและคิ้วเส้นเล็กบางบอกว่าเขามีเชื้อสายจีน

“ขอโทษครับพี่ วินรีบกลับน่ะครับ” วันชนะทรงตัวเองออกจากวงแขนอีกฝ่าย
“เหรอ อืม พี่ก็กำลังจะไปหาอะไรกินอยู่พอดี ไปด้วยกันไหม? แล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาดูประกวดดาวเดือนมหาลัยกัน” อีกฝ่ายชวน
เสียงลูกบาสกระทบพื้นยางดังตึงตังและรองเท้าเบียดพื้นดังเอี๊ยดอ๊าดหยุดลงเมื่อเสียงนกหวีดเป่าดัง ดึงความสนใจให้หันไปครู่หนึ่ง วันชนะบอกรุ่นพี่ว่า “ได้สิครับพี่ วินก็ว่างๆอยู่พอดี”

ทั้งคู่เดินหันหลังให้คนมากมาย วันชนะหันหลังให้นักขัตกับหลิน เพียงแค่เห็นว่านักขัตรับผ้าจากหลินมาซับเหงื่อ เพียงแค่นั้นก็กัดกินใจเขาเหลือทน





.........................................................................


หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 15-03-2007 13:55:53
เริ่มเข้าโหมดเศร้าแล้วเหรอค่ะ

สงสารนิจัง
 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: wee ที่ 15-03-2007 17:59:20
แค่มีนาย....แต่นาย ไม่มีเรา....เศร้า   :monkeycry4:
นายต้นน้ำ น่ะ นายต้นน้ำ นึกว่าหล่อหรืองัยอ่ะ  :โหลๆ:
 :13223: :13223: :13223:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-03-2007 19:45:23
 :เฮ้อ: สำหรับนิแล้ว แค่มีนาย(ต้นน้ำ) คงจะเพียงพอแล้ว
แต่สำหรับต้นน้ำล่ะ  :impress:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: FlukeHub ที่ 15-03-2007 22:24:28
เหอๆๆ  เรื่องนี้จะจบเศร้ามั๊ยเนี่ย

เริ่มๆก้อชักไม่เข้าท่าแล้ว

นิจะสมหวังป่าวเนี่ย
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 15-03-2007 23:25:26
เริ่มไม่นาน ก็เศร้าซะแระ :เฮ้อ:

 :monkeysad2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-03-2007 23:38:15
เศร้าอีกแล้ว  :dont2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 16-03-2007 10:44:33
นักขัตจับลูกบาสในมือส่งไปมาด้วยความเร็วพอเห็นช่องโหว่ของฝ่ายตรงข้ามจึงกระโดดตัวลอยส่งลูกในมือพุ่งไปยังห่วงบนแป้น แล้วเสียงนกหวีดก็เป่าดังเป็นสัญญาณพัก

นักขัตรับผ้าจากหลินมาซับเหงื่อ สายตามองไปทางใกล้ประตู เมื่อกี้เขาเห็นวันชนะยืนอยู่ตรงนั้นนี่ ไปไหนเสียแล้ว กะว่าจะเข้าไปหาเสียหน่อย พักหลังนี้รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้พบกันสักเท่าไร กะว่าแข่งเสร็จจะชวนไปทานมื้อเย็นด้วย

ที่คิดแบบนั้นได้เพราะว่านักขัตลืมไปเสียสนิทว่าเขาต้องขึ้นประกวดเดือนคณะ เพราะว่านักขัตไม่ได้ใส่ใจเรื่องแบบนี้เท่าไรนัก ลึกๆแล้วไม่ชอบ เพราะเหมือนต้องขึ้นเวทีประกวดนางงาม แต่พอเห็นหน้าหลินก็ฉุกคิดได้ เรื่องที่จะชวนวันชนะไปทานข้าวและการมาของเขาจึงหายไป

สาวสวยกับหนุ่มหล่อเป็นเป้าสายตาของคนแทบจะทั้งโรงยิม ทุกคู่สายตาตัดสินได้ว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน และก็เป็นจริงดังนั้นเสียด้วย
นักขัตชอบหลิน เขาอุตส่าห์ไปเข้าร่วมซ้อมเชียร์ด้วยตั้งแต่สัปดาห์แรกหนำซ้ำยังเป็นของคณะอื่นอีก เพียงแค่เห็นหลินเดินผ่านหน้าเขาไปเท่านั้น ชายหนุ่มไม่รู้ว่ามีคนอื่นอีกที่ชอบเขาอยู่ พอดีกับที่เพื่อนคนหนึ่งในคณะวิศวกรรมของเขารู้จักกับแจน เขาจึงมองเห็นโอกาสใกล้ชิดกับหลิน นักขัตไม่รู้ว่าการที่เขาชอบหลินจะทำร้ายใครสักคนทางอ้อม ทั้งแจนและวันชนะ

วันชนะ ในความคิดของนักขัตเขาเป็นเพื่อน เรียกว่าสนิทเลยก็ได้ รับรู้ได้ถึงมิตรภาพที่เพื่อนคนนี้มีให้เขาและบางอย่างที่นักขัตเองก็อธิบายไม่ถูก อาจเพราะท่าทางของวันชนะที่ดูจะเรียบร้อยๆกระมังที่ทำให้นักขัตอยากจะพูดคุยอยากอยู่ใกล้ด้วย เพียงเท่านั้นจริงๆ


เพียงเท่านั้นจริงๆ


พักหลังนี้นักขัตเองก็รู้สึกว่าวันชนะค่อยๆห่างออกไปเหมือนกัน ทั้งที่อยู่ห้องติดกันกลับไม่พบหน้ากันเลย ครั้นพอตนกลับจากซ้อมก็ดึกมากแล้วไม่กล้าเข้าไปนั่งเล่นในห้องของวันชนะอย่างเคย ก็ได้แต่ถามๆจากวุฒิเอาว่าเพื่อนเขาคนนี้ยังสบายดีอยู่หรือ เอาเถอะผ่านกีฬาไปได้ก็คงกลับมาเจอกันได้เหมือนเดิม


...


ตอนแรกวันชนะคิดว่าณัฐวัฒน์จะพาไปทานอาหารเพียงใกล้ๆบริเวณมหาวิทยาลัย แต่พอออกมาถึงประตูรุ่นพี่เขาก็เรียกแท็กซี่เสียแล้ว
“ไม่ไกลหรอกวิน ร้านนี้อร่อยจริงๆอยากให้วินได้ไปกินด้วยกัน” ณัฐวัฒน์พูด

วันชนะจะพูดอะไรได้อีกนอกจากจะเออออตามไป
“แล้วเรื่องเรียนเป็นยังไงบ้าง” รุ่นพี่เปลี่ยนเรื่อง

ร้านที่เขาพามาเป็นกึ่งร้านอาหารกึ่งบาร์ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขายด้วย เพราะนอกจากกับข้าวปกติแล้วรุ่นพี่ยังสั่งเบียร์มาด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่วันชนะดื่มมันเข้าไปเพราะเสียงคะยั้นคะยอจากณัฐวัฒน์

“ฮ่า ฮ่า เป็นไงบ้างวิน” ณัฐวัฒน์หัวเราะชอบใจ
วันชนะกลั้นใจดื่มพยายามกลืนอย่างยากเย็น พอหมดแก้วแรกแก้วที่สองก็ตั้งอยู่ตรงหน้าแล้ว
กับข้าวแทบจะไม่พร่องแต่ท้องเต็มไปด้วยเบียร์ แต่ถึงอย่างนั้นตรงหน้าก็ยังมีแก้วใหม่มาเริ่อยพร้อมการคะยั้นคะยอ
“พี่นัท วินไม่ไหวแล้วพี่ มึนไปหมดแล้ว” วันชนะพูดด้วยหน้าที่แดงก่ำ
“ฮ่า ฮ่า ได้ ได้ กินข้าวแล้วกัน” เสียงของอีกฝ่ายยังคงเป็นปกติ

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด เพราะข้างนอกร้านมืดแล้ว “พี่..นัท.ท..ไม่ไป...ด..ดูประกวด..เดือนน..ดา..ว..” วันชนะพยายามพูดอย่างยากเย็น เหมือนยิ่งเมามากขึ้น คงเพราะแอลกอฮอล์ออกฤทธิ์เรื่อยๆ “กี่..โม..”

“สามทุ่มกว่าแล้ววิน คงไปไม่ทันแล้วล่ะ กินต่อแล้วกัน”

“กลับ..เถอะ” วันชนะบองความประสงค์ผ่านเสียงสั่นๆ ปากเหมือนจะหนักขึ้นๆ เช่นเดียวกับเปลือกตา


แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปปรากฏอย่างต่อเนื่อง บนเวทีกลางแจ้งข้างๆสนามฟุตบอลที่ถูกทำขึ้นเป็นการชั่วคราวเพื่องานประกวดดาวและเดือนของมหาวิทยาลัย เวลาสองทุ่มครึ่งบรรยากาศเย็นสบายเพราะด้านหลังเวทีเป็นทิวสนพัดตามแรงลมอ่อนๆตลอดเวลา ดวงดาวสุกใสกระจ่างทั่วฟ้าและจันทร์เสี้ยวหนึ่งชวนให้เป็นคืนที่น่าจดจำ

เสียงปรบมือชื่นชมจากคนดูด้านล่างและจากตัวแทนประกวดจากคณะต่างดังขึ้นให้กับสองคนที่อยู่ตรงกลางเวที
“เป็นไปตามคาด เดือนจากวิศวฯ ดาวจากวิทยาศาสตร์ สมกันจริงๆ”

“แจนๆ หลินสวยจังเลยเนอะ อาร์ทว่าแล้วไหมล่ะ” คนพูดดีใจออกนอกหน้าราวกับตัวเองได้รับตำแหน่งเสียเอง แต่พอหันหาเพื่อนที่มาด้วยกันก็กลับไม่อยู่เสียแล้ว

ด้านหลังเวทีหลังจากที่งานเสร็จสิ้นลง ตัวแทนคณะต่างๆต่างก็กล่าวแสดงความยินดีกับคนทั้งสองจนครบคนและทยอยแยกย้ายกันไป แต่ผู้ได้รับรางวัลทั้งสองยังคงยืนรออยู่ รอเพื่อนและรุ่นพี่มารับไปทานอาหารเย็นด้วยกัน

ไม่นานนักกลุ่มคนเกือบสิบคนก็มาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“ร้านแบบนี้จะดีเหรอคะพี่” หลินพูดเมื่อเห็นว่าข้างในร้านมีผู้ใหญ่หลายคนอยู่ในสภาพมึนเมา
“นั่นสิ พี่ก็ไม่แน่ใจ แต่เพื่อนพี่บอกว่ารออยู่ร้านนี้นะ” รุ่นพี่คนหนึ่งบอก
นักขัตมองผ่านกระจกมัวๆเข้าไปในร้านเห็นหลังใครคนหนึ่งดูคุ้นตา เหมือนวันชนะ แต่ก็ไม่ได้สานต่อความคิดเพราะว่าอาจจะเป็นคนอื่นก็ได้

“หิวหรือยังตั้ม มีอะไรหรือเปล่าเห็นทำหน้าเครียดๆ” หญิงสาวผู้ได้รับตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัยถาม
“นิดหน่อยน่ะ” นักขัตตอบ “ไม่มีอะไรหรอก ตั้มคิดถึงการแข่งวันพรุ่งนี้น่ะ รอบสุดท้ายแล้ว”
“โหย ดูก็รู้ว่าทีมของตั้มน่ะเก่งอยู่แล้ว แต่หลินไม่เชียร์หรอกนะ หลินเชียร์คณะของหลิน” หญิงสาวหัวเราะน้อยๆ
“นี่แน่ะ” นักขัตเขกที่ศีรษะดาวมหาวิทยาลัยเบาๆ

“ดาวกะเดือน ร้านนู้นจ้ะ” รุ่นพี่คนเดิมชี้ไปยังฝั่งตรงข้ามถนนซึ่งเป็นร้านอาหารธรรมดา “เพื่อนพี่โทรมาละ อยู่ร้านนั้นจ้ะ”
แล้วคนทั้งกลุ่มก็เดินข้ามถนนไป นักขัตยังหันกลับมามอง เห็นชายคนที่เหมือนวันชนะฟุบไปแล้ว หากว่าอีกคนที่มาด้วยกันไม่คุ้นหน้านักแต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ได้เมาไปด้วย

...

วันชนะยันตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบาก แต่ว่าทรงตัวได้โงนเงน มือจึงวาดออกหาที่ยึด
“จะไปไหนวิน” ณัฐวัฒน์รีบเข้าไปพยุง
“ห..ห้อง..น้า..ม” วันชนะพยายามเพื่อจะพูดให้เป็นคำ
“เดี๋ยวพี่พาไป” คนพูดพยายามประคองร่างของวันชนะเดินออกไปข้างนอกร้าน เพราะห้องน้ำจะแยกออกไปต่างหาก “พี่ไม่น่าให้วินทานเบียร์เลย ไม่รู้ว่าวินจะเมาได้ขนาดนี้”


...


“ตั้มขอตัวไปห้องน้ำหน่อยนะครับ” ว่าแล้วเดือนมหาวิทยาลัยก็ลุกจากโต๊ะเดินไปหลังร้าน ห้องน้ำของร้านมีเพียงหนึ่งห้องแต่ว่ามีคนใช้อยู่ นักขัตจึงยืนรออยู่ด้านหน้า

“อ้าวพี่ จะเข้าห้องน้ำเหรอคะ” พนักงานของร้านคนหนึ่งเดินมาพบเข้า “ไปเข้าร้านตรงข้ามก็ได้ค่ะ”
นักขัตยืนรออีกพักหนึ่งเห็นว่าคนข้างในยังไม่มีท่าทีจะเสร็จภารกิจจึงเดินข้ามถนนไปยังห้องน้ำร้านที่อยู่อีกฝั่งถนน


นั่งอยู่ในห้องน้ำได้สักหนึ่งนาที เสียงประตูใหญ่หน้าห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับเสียงคนเมาและเสียงเท้าลากมากับพื้น
และเสียง กริ้ก เบาๆ คล้ายเสียงล็อคลูกบิดประตู!

นักขัตยังทำธุระของตัวเองปกติ แต่แล้วบทสนทนาของคนที่อยู่ข้างนอกนั้นทำให้เขาแทบจะไม่ขยับตัว
“พะ พี่นัท จะ...จะ ทำ...อะไร?” เสียงหนึ่งพูดขึ้น ชัดเจนว่าเขาเมา

“ไม่เป็นไรน่า นิดหน่อยเอง ไม่สึกหรอหรอก” เสียงอีกคนพูดขึ้น เต็มไปด้วยสติสัมปชัญญะ “อดใจไม่ไหวแล้ว น่าเอาเหลือเกิน”
................................................................
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 16-03-2007 11:24:15
โอยจะเกิดไรขึ้นกับนิบ้างเนี่ยสงสารจัง :serius2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 16-03-2007 11:50:13
ต้นน้ำ ช่วยนิด่วน :angry2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 16-03-2007 14:38:08
 :o

ซะงั้นอ่ะ กำลังกะจะเชียร์นัทเลยเชียว :ฮึ่มม:

ต้นน้ำช่วยด่วนเรย :angry2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 16-03-2007 14:58:56

...............วีรบุรุษขี่ม้าขาวมาแล้ว.......... :laugh5: :laugh5:

........................ช่วยนิหั้ยได้นะ.... :110011: :เชิป2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 16-03-2007 15:43:22
ต้นน้ำจะช่วยนิได้มั้ยนะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 16-03-2007 17:36:13
 :o  ม่ายน้าาาา จะทำอะไรนิ
ต้นน้ำ ช่วยด่วนเลย  :serius2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: FlukeHub ที่ 16-03-2007 21:15:44
อ๊ากกกก+++  ไม่ได้แล้วต้นพังประตูไปช่วยนิเร็ว

ไอ้พี่นัทเนี่ย  เป็นรุ่นพี่แท้ๆ  แย่ๆๆๆ

ต่อครับ  ด่วนเลย  ลุ้นจะแย่แล้ว
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-03-2007 00:11:10
ลุยเลยต้นน้ำ  :laugh5:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 17-03-2007 01:18:01
 :o ม่ายน๊า.....นิ อย่าไปยอมมานนนนนนะ ต้นน้ำรีบตามมาช่วยนิเร๊ววว  :13223:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: LonelyBoiZ ที่ 17-03-2007 01:55:01
ต้นน้าม สู้ๆๆนะคับ

นิติสู้ๆๆๆนะคับบบ  :yeb:   :yeb:  :yeb:  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-03-2007 10:06:51
“พะ พี่นัท จะ...จะ ทำ...อะไร?” เสียงหนึ่งพูดขึ้น ชัดเจนว่าเขาเมา
“ไม่เป็นไรน่า นิดหน่อยเอง ไม่สึกหรอหรอก” เสียงอีกคนพูดขึ้น เต็มไปด้วยสติสัมปชัญญะ “อดใจไม่ไหวแล้ว น่าเอาเหลือเกิน”
เสียงฝีเท้ากระทบพื้นคล้ายจะฉายภาพความทุรนทุรายของคนหนึ่งข้างนอกนั้นขึ้นในมโนของนักขัต แต่ก็ยังไม่กล้าแสดงตัวเอง กลัวจะเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น

“ไม่...” เสียงสั่นนั้นดังแผ่วเบา ตรงข้ามกับเจ้าของที่ตั้งใจตะโกนออกมาสุดเสียง
เสียงต่างๆที่เกิดข้างนอกนั้นเหมือนจะฉายภาพให้คนที่แฝงตัวอยู่ในห้องหนึ่งในนั้นได้รับรู้ด้วย เสียงการต่อสู้เล็กๆ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะแพ้ไป ฝ่ายที่เมามาย

“ข่มขืน?” นักขัตนึกในใจ ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็พร้อมจะออกไปช่วย “แต่ว่านี่มันห้องน้ำชาย แล้วเสียงของสองคนนั้นก็ผู้ชายทั้งคู่” แต่ว่าเสียงหนึ่งนั้นคุ้นหู

“ไม่...”

เสียงสั่นเครือพูดแผ่วเบา แต่ก็พอให้นักขัตได้ยิน คล้ายร้องไห้

“ตั้ม...ช่วย...ด้วย”

เสียงแผ่วเบา เหมือนศรพุ่งแรงจากที่อื่นตรงเข้าสู่โสต ภาพคนที่นักขัตเห็นในร้านเมื่อกี้แล่นเข้ามาทันที

“เฮ้ย!”

เสียงหนึ่งดังขึ้น ณัฐวัฒน์หันหลังขวับ ตกใจเพราะไม่คิดว่าจะมีคนอื่นอยู่ด้วย
ยิ่งได้เห็นภาพตรงหน้ายิ่งทำให้คิ้วเข้มยาวคู่นั้นขมวดเข้าหากันด้วยความโกรธ “มึงจะทำอะไรเพื่อนกู” นักขัตฟาดเท้าออกไปอย่างแรง
ณัฐวัฒน์ที่ยังนั่งยองๆอยู่บนร่างของวันชนะยังไม่ทันได้เตรียมตัวก็หงายหลังไปอีกทาง นักขัตตรงเข้าไปลากตัวคนที่มึนเพราะลูกเตะเมื่อกี้ออกไปจากร่างของวันชนะที่นอนแผ่หลาอยู่บนพื้น


“วิน วิน” นักขัตใช้มือสั่นหน้าของวันชนะเบาๆเรียกสติ สังเกตตามลำคอและหน้าอกมีรอยจ้ำแดงๆหลายที่ เสื้อผ้าหลุดลุ่ย กระดุมหลุดหาย เข็มขัดโดนปลดออกเลยไปถึงซิบที่ถูกรูดออกเหลือแต่ชั้นในที่ยังอยู่ดี

นักขัตเข้าใจแจ่มชัดขึ้นกว่าเดิมว่าเกิดอะไรขึ้น เขารีบรูดซิบกางเกงของวันชนะขึ้นจัดแจงให้วันชนะอยู่ในสภาพเรียบร้อยขึ้นเท่าที่จะทำได้ แล้วพยุงร่างที่บอบช้ำนั้นค่อยๆลุกขึ้น

หันมองอีกคนที่ก่อเรืองยังมึนกับที่โดนเมื่อครู่พยายามทรงกายลุกขึ้น นักขัตให้วันชนะยันกายเอาไว้ ก่อนที่เขาจะโร่เข้าไปหา กำหมัดเอาไว้ แต่พอเงื้อมือ คนข้างหลังก็รีบโซเซมาห้ามเอาไว้ วันชนะจับมือที่แกร่งกำลังกำหมัดนั้น

“อย่า...พอ..” พูดได้เท่านั้นร่างบอบช้ำก็ล้มตัวเข้าหานักขัต สติขาดหายไป

“วิน...วิน” นักขัตเรียกหวังจะให้วันชนะได้สติขึ้นมา แต่คนในอ้อมกอดเขาไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย จึงรีบเปิดประตูออกไป
ไม่มีใครสังเกตเห็นนักขัตอุ้มวันชนะวิ่งออกมาเพราะคนส่วนใหญ่อยู่ในร้าน นักขัตอุ้มวันชนะมาถึงถนน เขาใจร้อนเกินกว่าจะเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆในร้าน อีกอย่างเขาไม่อยากให้ใครเห็นวันชนะในสภาพนี้

แท็กซี่คันหนึ่งผ่านมา
“ไปโรงพยาบาลครับพี่ อะไรก็ได้ที่ใกล้ที่สุด” นักขัตบอกอย่างรวดเร็ว
ตลอดทางนักขัตใจร้อนมากทั้งที่รถก็วิ่งเร็วเต็มที่ เขาเร่งคนขับตลอดเวลา พลางหันไปหาวันชนะที่นอนสลบสไลอยู่ในอ้อมแขน
สิ่งหนึ่งผุดขึ้นในใจ นักขัตไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร เขาเอื้อมมือไปลูบที่ใบหน้าของวันชนะ ที่ผม ขยับเสื้อที่อ้าออกให้กระชับเข้าที่ ยังมองเห็นคราบน้ำตาเกาะอยู่ที่แก้ม


เป็นห่วงคนๆนี้เหลือเกิน


ตาอิดโรยคู่นั้นค่อยๆเปิดขึ้น ภาพของใครบางคนที่สำคัญมากต่อวันชนะอยู่ที่ตรงหน้านั้นรางเลือนในตอนแรก แล้วค่อยๆแจ่มชัดขึ้น
วันชนะยิ้มน้อยๆบนใบหน้าอิดโรย อาการปวดหัวตุบๆเริ่มเบาลงเมื่อเทียบกับเมื่อกี้
“ตั้ม...เราจะไปไหนกัน?”
“โรงพยาบาล อดทนไว้นะวิน อีกนิดเดียว” นักขัตกระชับวงแขนขึ้นอีก
“ไม่เอา...กลับเถอะ ไม่ไป” วันชนะอ้อนวอน “วินไม่เป็นอะไรแล้ว”
นักขัตมองหน้าวันชนะ เขาตามให้สิ่งที่วันชนะขอ “พี่ครับกลับไปที่...ละกันครับ เพื่อนผมไม่เป็นอะไรแล้ว”
แล้ววันชนะก็หลับไป


“ฮัลโหล ไอ้วุฒิเหรอ ช่วยไรกูหน่อย” นักขัตพูดผ่านโทรศัพท์มือถือ

“เออ มีไรว่ามา” อีกฝ่ายตอบ

“มึงลงมาหากูหน่อย ดูด้วยว่าพี่ต้อมอยู่ข้างล่างไหม” นักขัตขอความช่วยเหลือจากรูมเมทของวันชนะและเป็นเพื่อนร่วมคณะของเขา เพราะเกรงว่าหากพาวันชนะเข้าไปในสภาพนี้คงไม่ดีแน่ ทั้งยังกลิ่นบุหรี่และเบียร์อีก

“อ๋อ มึงขึ้นมาได้เลยพี่ต้อมเมาหลับไปแต่หัววันแล้ว” เสียงวุฒิพูดมาตามสาย
นักขัตกดวางสายแล้วรีบอุ้มวันชนะวิ่งเข้าไปในตึกอย่างรวดเร็ว เขาไม่อยากให้ใครเห็นวันชนะในสภาพนี้ แต่วุฒิคงจะไม่เป็นไร มองบันไดค่อนข้างชัน ทั้งที่ปกติเขาไม่เคยสังเกตเลย นักขัตสูดลมหายใจยาวก่อนจะอุ้มร่างนั้นวิ่งอย่างเร็วเพื่อขึ้นไปชั้นหก เพราะร่างกายที่ผ่านการเล่นกีฬามาจึงทำให้นักขัตพอจะอุ้มวันชนะที่หนักห้าสิบแปดกิโลกรัมขึ้นมาได้ แต่ก็ถือว่าเสียพลังงานไปเยอะทีเดียว
โชคดีที่ส่วนใหญ่อยู่แต่ในห้องจึงไม่มีใครสังเกต

“ไอ้วุฒิ เปิดประตูเร็ว” นักขัตเคาะประตูเบาๆตรงข้ามกับน้ำเสียงรีบร้อนเพราะกลัวคนอื่นออกมาดู ทันทีที่ประตูแง้ม คนอยู่ข้างในก็สะดุ้งเพราะนักขัตรีบอุ้มวันชนะพรวดพราดเข้าไป


“เลวจริงๆ ไอ้คนนั้นมันเป็นใครว่ะ?” วุฒิถามนักขัต ส่งผ้าที่เปียกน้ำหมาดๆให้
“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่มึงอย่าพูดเรื่องนี้กับวินอีกนะ กูกลัวว่าวินจะคิดมาก” นักขัตรับผ้ามาเช็ดหน้า เนื้อตัวให้วันชนะ
“สงสารวินว่ะ ช่วงหลังๆนี้ยิ่งดูหงอยๆอยู่ ไม่รู้เป็นอะไร” วุฒิพูด แต่คนฟังไม่รู้ตัวว่าที่วันชนะหงอยไปนั้นเป็นเพราะเขา
“อ่ะ กุญแจ” นักขัตส่งกุญแจให้วุฒิ คนรับไปยังทำหน้างง “ห้องกูไง คืนนี้กูจะนอนเตียงมึง จะอยู่ดูวิน”
“เว่อร์ไปมึง กูดูเองก็ได้ วินก็เพื่อนกู” วุฒิพูดแล้วเงียบไปอึดใจหนึ่ง “เออ มึงเองก็ไปอาบน้ำก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยมา”
นักขัตยิ้มขอบใจ หันไปมองวันชนะนอนกอดหมอนข้างเสียแน่น น้ำตายังซึมออกมาเปื้อนที่แก้มโดยที่เขาไม่รู้ตัว


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: wee ที่ 17-03-2007 12:19:37
ชอบเรื่องนี้จัง  :โหลๆ:  ขออ่านแบบเยอะๆได้ป่ะ   :loveu:
นายต้นน้ำ  กำลัง  รักซึมลึก กะนายนิติแล๊ว..... :yeb:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 17-03-2007 15:04:32
รักกำลังก่อตัวอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ ต้นน้ำโดยที่เจ้าตัวยังไม่เอะใจ :give2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 17-03-2007 18:12:50

................รักกันซักทีเหอะ..... :impress3: :impress3:

............................สงสารนิอ่ะ..... :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 17-03-2007 20:39:10
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: 

 :give2: :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-03-2007 22:46:32
ในความโชคร้ายของนิ ยังมีโชคดีอยู่บ้างที่ต้นน้ำมาช่วยทัน  :เศร้า1:
รู้ใจกันเร็ว ๆ นะ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 17-03-2007 23:22:11
ขอบคุณฟ้าที่ส่งต้นน้ำมาช่วยนิติ :call:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: LonelyBoiZ ที่ 18-03-2007 01:21:55
อยากอ่านต่อ มันจะเปงยังไงเนี่ย สู้ต่อไปต้นน้าม  :yeb: :yeb: :yeb:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 18-03-2007 07:15:53

นู๋นิติของป้า  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 18-03-2007 21:31:48
 :เฮ้อ:  ค่อยยังชั่ว  ดีแล้วที่นิม่ายเป็นอารายยย
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 18-03-2007 22:45:57
ซึ้งจังเนอะ   :เศร้า1:
เมื่อไรต้นน้ำจะรู้ตัวเสียทีนะ ว่าความรู้สึกลึกๆน่ะคือ รัก   :impress:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 19-03-2007 10:39:38
ในที่สุดความรักก็ทำหน้าที่ของมัน :impress3:


ดีใจกับนิติด้วยจริงๆ ต้นน้ำคงจะค่อยๆเข้าใจตัวเองขึ้นเรื่อยๆ ขอให้สมหวังกันนะคับ :call:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 19-03-2007 12:08:38
เฮ้อ ... ในที่สุดพระเอกก็ขี้ม้าขาวมาช่วยได้ทันเวลา

 :give2:

หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-03-2007 15:37:08
6 : Special Scene ครับ ^ ^


รอยจ้ำแดงคล้ำปรากฏอยู่หลายที่ แม้วันชนะจะถูกสวมด้วยเสื้อยืดคอกลมปิดถึงต้นคอก็ยังสามารถมองเห็นได้ชัดห้า-หกที่ คนนอนอยู่บนเตียงยังหลับตาพริ้มหากแต่ในห้วงมโนคล้ายกับครุ่นคิดถึงเรื่องร้ายที่ผ่านมาอยู่ตลอดเวลา อารมณ์จึงถูกฉายออกทางสีหน้าโดยไม่รู้สึกตัว สองมือกระชับหมอนข้างที่กอดเอาไว้เพื่อเพิ่มความอุ่นและเป็นเหมือนหลักทีคอยยึดเกาะ
ดวงไฟในห้องดับลง

แสงจันทร์กระจ่างที่สาดลอดเข้ามาภายในห้องทำให้มองเห็นได้สลัว นักขัตนั่งครึ่งตัวที่ขอบเตียง มือหนึ่งไล้ไปที่รอยจ้ำที่คอวันชนะเบาๆ สัมผัสเนิ่นนานย้ำตรงจุดที่เป็นรอยนั้น ชายหนุ่มไม่เข้าใจความรู้สึกที่เกิดกับตัวเอง...โหวงหวิวในใจ...อยากรู้...และโกรธเกรี้ยว
ทำไมต้องโกรธ?...

ความรู้สึกที่เกิดยากจะเข้าใจได้ในเริ่มต้น จึงไม่ได้ใส่ใจจะตอบตำถามตัวเองจริงจังนัก คงไม่มีอะไรมากไปกว่าความรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน หากแต่นิ้วนั้นยังคงย้ำอยู่ที่เดิม

กลับมานอนที่นอนของตัวเอง เตียงที่ขนานกันติดผนังคนละฝั่ง คนหนึ่งหลับสนิทแต่สีหน้าวิตกตลอดเวลา คนหนึ่งนอนมองเพดานดวงตาเบิกโพลงในความสลัว ครุ่นคิดเสียยิ่งกว่าตัวคนเจอเหตุการณ์เลวร้ายมาเสียอีก

เสียงครางอือๆดังมาจากเตียงนู้น คนนอนบนเตียงท่าทางกระสับกระส่ายพลิกกายไปมาเท้าสองข้างเหยียดเกร็ง เสียงลมหายใจแรงติดขัด นักขัตรีบเด้งตัวแทบกระโดดมาถึงเตียงของวันชนะ

“วิน วิน” มือหนาแต่ว่าสัมผัสแผ่วเบาจับที่แก้มคนละเมอ
สัมผัสที่แก้มเหมือนดึงความรู้สึกทั้งหมดกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง
ท่ามกลางแสงนวลสลัวดวงตาทั้งสองลืมขึ้นแทบจะทันที สิ่งแรกที่เห็นคือเงาร่างของคนตัวใหญ่อยู่บนตัว...กลัวในตอนแรก แต่พอจับความรู้สึกที่มือข้างหนึ่งจับแผ่วเบาบนแก้มก็จำได้

ณ วินาทีนั้นวันชนะไม่สนใจแล้วว่าคนตรงหน้าจะคิดอย่างไร...ว่าผู้ชายด้วยกันจะทำแบบนี้...
ร่างที่นอนราบลุกขึ้นพร้อมสองมือยื่นโอบรอบลำตัวหนาเต็มแน่นด้วยความอบอุ่นนั้นไว้...ขอเพียงตอนนี้เท่านั้น จากนี้ไปหากคนตรงหน้าจะเกลียดเขาก็ยอม...ขอเพียงสักนาทีเดียว...

นักขัตไม่มีอาการขัดขืนต่อวงกอดนั้น กลับเต็มใจส่งพลังทั้งหมดที่ร่างกายเขามีถ่ายทอดให้คนที่โผเข้าหาเขา คงเป็นสัญชาติญาณของฝ่ายปกป้อง แขนหนึ่งของนักขัตเอื้อมไปโอบรอบหลังอีกฝ่ายเช่นกัน อีกข้างหนึ่งลูบที่ศรีษะวันชนะเบาๆ เป็นการปลอบประโลม...ไม่ต้องกลัวนะ...ผมอยู่ที่นี่แล้ว...

เนิ่นนาน...พอที่วันชนะจะรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัยและรู้สึกตัว สองแขนค่อยๆคลายออก ท่าทางขัดเขินดีที่ว่ามองเห็นหน้าเขาไม่ชัดนัก ไม่เช่นนั้นคงจะทำอะไรไม่ถูก

ไม่มีคำพูดใดหลุดจากปากของทั้งสอง...สิ่งที่ทำในวันนี้เป็นสิ่งใหม่ด้วยการกระทำและความรู้สึกในใจของนักขัต และเป็นความกล้าแสดงออกของวันชนะ แม้จะเพียงชั่วประเดี๋ยว

นักขัตลุกขึ้นหันหลังมุ่งหน้ายังที่นอนของเขา วันชนะนอนลงเหมือนเดิม เปลือกตาแข็งค้างอยู่กับที่เหมือนคนดื่มกาแฟมาหลายแก้วหรือคนที่นอนมาเต็มอิ่มสิบชั่วโมง หันไปมองอีกทางเงาสีดำที่นอนบนเตียงนั้นคือนักขัต ในใจคิดไปหลายเรื่อง เขาจะคิดยังไงนะ เรื่องที่โดนพี่นัททำแบบนั้น เรื่องที่เขากอดเมื่อกี้ ... คิดมากจนเริ่มจะปวดหัวขึ้นมาอีก วันชนะเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคงหันหลังให้อีกคน มือเอื้อมหมอนข้างมากอดหลวมๆ สั่งเปลือกตาให้ปิดแต่ใจเปิดและตื่นอยู่ตลอดเวลา...


เสียงฝีเท้าเบาจนใครก็ไม่ได้ยินหยุดอยู่ข้างเตียง วันชนะสะกดตัวเองให้ทุกส่วนอณูของร่างกายหยุดอยู่กับที่และพยายามทำตัวให้สบายที่สุด
ด้านหลังเขาคือนักขัต ...วันชนะไม่เห็นแต่รู้สึกเอาได้

ที่ว่างบนเตียงข้างหลังวันชนะถูกจับจองด้วยร่างใหญ่นั้น แรงทิ้งตัวลงมาทำให้เตียงยุบไปนิดหน่อยพร้อมกับไออุ่นจากร่างกายแผ่ซ่านมาถึงร่างกายของวันชนะ ร่างนั้นนอนห่างจากเขาไม่ไกล เพราะไออุ่นนั้นแผ่มาถึง และร่างนั้นขยับเข้ามาใกล้...จนชิด
นิ่งอยู่ตรงนั้น เหมือนชั่งใจ

นาน...มือคู่หนึ่งสอดมาจากด้านหลังสวมเอาไว้เหนือเอว...กระชับ...
วันชนะยิ้มน้อยๆขัดเขินแต่เสียงตุบตับที่อกเหมือนจะดังออกมานอกตัว ร่างกายสั่นน้อยๆเพราะตื่นเต้นผสมกับอาย ในขณะที่เจ้าของวงกอดทำไปเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำสิ่งใดอยู่...รู้เพียงแต่ว่า เขาอยากจะทำ

ค่ำคืนที่จันทร์กระจ่างฟ้า ผืนฟ้าที่เคยสีดำเหมือนจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม
คนทั้งสองจมดิ่งสู่นิทราด้วยกัน
ภายใต้อ้อมกอดที่อบอุ่น
วันชนะรู้สึกแบบหนึ่ง
นักขัตยังไม่ทันได้รู้สึก...ที่แท้จริง
เพียงค่ำนี้พ้นไป...บางอย่างจะเปลี่ยนไป

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 19-03-2007 15:57:50
 :-[ :-[ :-[

โรแมนติคมาก . . .

คนเขียนเก่งมากเลยอ่ะ อ่านแล้วรู้สึกเคลิ้มตามเลย

รออ่านนะครับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 19-03-2007 16:08:26
งิจะเปลี่ยนไปเช่นไรน้อออ  :confuse:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 19-03-2007 16:46:10
 :give2: :give2: :give2:

 :-[ :-[ :-[

คนเขียนกะคนโพสสู้ๆ นะค้าบบบบบบบบ  :โหลๆ: :โหลๆ:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 19-03-2007 17:31:07
 :-[  อ๋ายยยยย :-[  เอาแล้วไงต้นน้ำ ค่อยๆปลดปล่อยความรุ้สึกในใจออกมาแล้ว

ให้ได้แบบนี้ซิ ปล่อยให้ใจที่บริสุทธิ์นำทางไป แล้วทุกอย่างจะสวยงาม  :impress3:


น่ารักจัง :interest:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 19-03-2007 17:43:02

...........เขียนได้โรแมนติกมากเลยอ่ะ......... :impress3: :impress3:

...................ขอหั้ยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่มีความสุขนะ..... :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 19-03-2007 17:44:08
 :-[ โรแมนติกสุดๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 19-03-2007 18:45:04
 :impress: :impress:ได้แต่หวังว่าจะไม่มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับนิติอีกนะคับ :impress: :impress:

ปล.ตกลงอารายเปลี่ยนไปเหรอคับ :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-03-2007 22:50:57
ซึ้งจัง  :-[  :-[  :-[  :-[
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-03-2007 22:58:31
 :-[ อะไรเปลี่ยนแปลงนะ ขอให้ต้นน้ำรัก นิติด้วย :call:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 20-03-2007 00:52:29
เปลี่ยนไปเป็น.... ความร๊ากกก ....  :laugh5:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 20-03-2007 10:37:25
มาดูคนเปลี่ยนไปครับ :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-03-2007 14:10:01
7 : บางสิ่ง...ที่เปลี่ยนไป


ยอดสนแหลมโยกลู่ด้วยแรงลมเย็นยามเช้า แสงแดดทอผ่านระเบียงผ่านมาถึงในห้องเป็นสัญญาณวันใหม่ เสียงนกร้องจิ๊บๆ ดังอยู่ใกล้ๆ วันชนะตื่นขึ้นด้วยความอิ่มเอิบ มือขยี้ตา นึกถึงเมื่อคืนแล้วหน้าเริ่มแต้มด้วยเลือดฝาดระเรื่อ แต่พอรู้สึกตัวอีกครั้งก็ราวกับว่าเรื่องเมื่อคืนเป็นเพียงฝันไป เพราะมองหาทั่วห้องก็มีเพียงเขาคนเดียว

หรือว่าฝันไป?...แต่สิ่งที่ยืนยันว่าไม่ใช่ฝัน...ความรู้สึกอบอุ่นที่ยังคงกรุ่นกลิ่นอยู่ไม่ห่างกาย...และร่องรอยแต้มคล้ำที่ลำคอ!

ความอัปยศแล่นขึ้นจุกในอก

ขัด! เจ้าของร่างกายมองรอยพวกนั้นดังเสนียดที่เกาะอยู่กับตัว ขัด! ต้องเอามันออกไป!

ความจริงเขาเองก็รู้ว่ายิ่งถูเท่าไรรอยนั้นไม่มีวันจางได้ในนาทีหรือแม้ในหนึ่งวัน

น้ำตาไหลออกมาเองอย่างควบคุมไม่ได้ ในใจมีแต่ความเคียดแค้น...เจ็บใจ...หวาดกลัว
ร่องรอยความสุขเมื่อคืนหายไปแทบจะหมดสิ้น เหลือเพียงแค่เศษธุลีเท่านั้นเมื่อเทียบกับเรื่องราวที่เผชิญมา จริงอยู่ว่ายังไม่มีอะไรที่ต้องเสียไป แต่ภาพในสำนึกยังคงเป็นเหมือนตุ๊กแกน่าขยะแขยงที่มันค่อยๆไต่ตามตัวและสะบัดไม่หลุด
สิ่งที่เกิดไม่มีวันลบออกไปจากใจเขาได้ …

เสียงประตูเปิดออกอืดอาดเพราะค่อยๆแง้มช้าๆตามแรงผลักเบาๆครั้งเดียว คนเปิดยังยืนอยู่ข้างนอกพะรุงพะรังด้วยกระเป๋าสะพาย หนังสือเล่มหนาที่หนีบไว้ข้างตัวและถุงในมืออีกสาม-สี่ถุง ทันทีที่เงยหน้าเข้าไปภายในห้องก็สะดุ้งเล็กน้อย เมื่อมีหน้าลอยอยู่และมือยื่นมาช่วย

“ตกใจหมดเลยวิน มาเงียบๆ” วุฒิคราง

วันชนะเพียงแต่ยิ้มให้ ในใจนึกขอบคุณบวกกับเกรงใจเพื่อน ตลอดสามวันนี้เขาไม่ได้ออกจากห้องไปไหนเลย ยังดีที่ว่าขาดเรียนวันจันทร์วันนี้วันเดียว

“ขอบใจมากนะวุฒิที่คอยช่วยเหลือเรา” วันชนะกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ “พรุ่งนี้ก็ไปเรียนได้แล้วล่ะ” ชายหนุ่มละประโยคที่จะพูดต่อ ว่า...รอยที่คอหายไปหมดแล้ว...

“อืม ดีแล้ว” คนสนทนาด้วยก็ละที่จะพูดถึงเช่นกัน


แววเศร้าในตาเหมือนจะกลายเป็นบุคลิกหนึ่งของวันชนะไปเสียแล้ว ชีวิตเหมือนจะโดนโชคชะตาแกล้งตั้งแต่เสียมารดา...สิ่งหนึ่งที่พอจะทำให้ชุ่มชื่นหัวใจขึ้นมาบ้างก็คงจะเป็นนักขัต

แต่ตอนนี้เล่า...เขาไปอยู่ที่ไหน

เพียงผนังปูนเก่าๆหนาสิบเซ็นฯกั้นเอาไว้...ก็เหมือนไกลกันกว่าครึ่งทวีป
หลังจากคืนนั้น นักขัตไม่เคยมาเยี่ยมวันชนะอีกเลย

วันชนะยิ้มเยาะให้ตัวเองว่าจะมาเรียกร้องอะไรอีก ก็ตอนนั้นเขาขอเองนี่ว่า...เพียงชั่วครานั้นขอให้ตัวมีความสุข จากนั้นแล้วจะเป็นอย่างไรก็ช่าง...ฮึ ฮึ นี่ไงเล่า

“เอ้า วิน มากินข้าวกัน” วุฒินั่งรออยู่แล้วที่กลางห้อง บนโต๊ะขาพับเตี้ยๆมีกล่องโฟมที่ถือมาเมื่อตะกี้วางอยู่สาม-สี่กล่อง วันชนะนั่งลงฝั่งตรงข้าม เปิดกล่องออก ข้าวแกงสองอย่างราดบนข้าวสวย มือจับช้อนที่วางข้างๆ คนตรงหน้าทานเอาๆ หากเพียงคำแรกเหมือนก้อนกินก้อนกรวด ต่อให้อาหารอร่อยเพียงไหน ลิ้นก็คงไม่รับรู้รสถ้าเจ้าตัวยังบอบช้ำ...โดยเฉพาะที่ใจ น้ำตาหยอดเปาะลงบนข้าว วันชนะก้มหน้าลงไปอีก พยายามกลืน “ก้อนดินก้อนกรวด” เหล่านั้นลงไปพร้อมกับกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล


มือหนึ่งแตะที่ไหล่ บีบเบาๆ วุฒิลุกมานั่งใกล้ๆ ความเจ็บปวดของวันชนะมีอยู่มากเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้นัก ไม่มีคำปลอบใดดีกว่าการเงียบ

“ขอบใจนะวุฒิ” วันชนะเอ่ยเสียงสะอื้นอยู่ในลำคอ
ครั้งแรกวุฒิตั้งใจจะเงียบแต่ก็อดไม่ได้ที่จะบอกเพื่อนว่า “เอาอย่างนี้สิวิน คิดเสียว่าครั้งนี้เป็นที่สุดแล้วที่วินจะเสียใจ ต่อไปนี้วินจะไม่ต้องเจอกับอะไรที่มันเลวร้ายยิ่งกว่านี้อีกแล้ว วินจะเอาชนะมันได้ทุกอย่าง”

ฟังแล้วก็เชิดหน้าขึ้นมาเผชิญกับเพื่อนทั้งยังนองหน้า คำพูดเหล่านั้นทำให้คิดได้ ใช่! ต่อไปนี้เขาจะเข้มแข็ง จะลืมทุกอย่าง...ที่มันทรมานใจ

...

อาทิตย์ยังคงทำหน้าที่สาดแสงอยู่เช่นเดิมนับแต่สมัยดำบรรพ์ และจะยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไป ชั่วทั้งชีวิตของคนสักหนึ่งคนคงเกิดแล้วดับ...เกิดแล้วดับ นับครั้งไม่ถ้วนแต่ตะวันก็ยังคงเป็นดวงเดิม...

วันชนะเปิดประตูออก เช้านี้คล้ายจะต่างจากไป...รู้สึกเหมือนเกิดใหม่...เหมือนเปิดออกสู่โลกใบใหม่...ที่ชายหนุ่มรู้สึกเช่นนั้นคงเป็นเพราะว่าตลอดเวลาสามวันเขาไม่ได้ออกไปไหนเลย บวกเข้ากับความตั้งใจที่จะเก็บความทรงจำไม่ดีเอาไว้ใน “กล่องอดีต” ที่ล็อกกุญแจแล้วโยนหายลงสู่ทะเลน้ำตา

แสงอบอุ่นกระทบผิวกายขาวสะอ้านราวกับชำระร่างโปร่งบางนั้น วันชนะอยู่ในชุดนิสิตแขนสั้นสีขาวสะอาดกางเกงขายาวสีดำ สะพายกระเป๋าข้างอันเดิม สูดอากาศเข้าเต็มปอดจนช่วงอกขยายเต็มที่แล้วผ่อนลมมหายใจยาว

เสียงประตูเปิดจากห้องข้างๆดังยาวเอื่อย ร่างสูงและหนากว่าวันชนะก้าวออกมา ไม่มีคำทักทายใดหลุดออกมาจากคนที่เพิ่งเดินพ้นประตู สายตาเหมือนจะค้นหาบางสิ่งจากวันชนะ จนอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นลูบที่ลำคออย่างอดหวั่นมิได้ แต่ไม่หรอกเขาดูหลายรอบแล้วตั้งแต่เมื่อวาน ไม่มีเหลืออยู่อีกแล้ว แล้วความมั่นใจก็ถูกเรียกกลับมาอีกครั้งก่อนจะเอ่ยออกไปว่า

“สวัสดีตั้ม”

หากว่าอีกฝ่ายยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยไม่กล่าวอะไร

ในใจเต้นตึกตัก อาจเพราะตื่นเต้นหรืออะไรก็แล้วแต่ วันชนะไม่เคยละความสำคัญจากนักขัตแม้แต่น้อย แต่ความนี้ชายหนุ่มยิ้มฟันขาวก่อนพูดว่า “เราไปเรียนก่อนล่ะ” แล้วก็ชักหน้ากลับออกจะเร็วและรีบเดินลงบันไดไป

ทันทีที่หันหน้าไปเสียอีกทาง ยิ้มกว้างนั้นก็ราวจะหุบลงอย่างยากเย็น...เพราะยิ้มที่ให้นั้นมันเหมือนฝืนเอาอะไรมาดึงไว้ให้มุมปากเรียวนั้นยกขึ้น ดวงตาที่สดใสเมื่อครู่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นหม่นหมอง

คนที่ถูกทิ้งให้ยินอยู่ข้างหลังได้แต่เงียบ ที่จริงเขาอยากจะทักออกไปเหมือนเคย แต่บางอย่างที่เขาก็ยังไม่สามารถหาคำอธิบายให้ตัวเองได้มันบอกว่า...บางอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว...จึงได้แต่มัวคิดหาคำพูด ไม่ทันได้เอ่ยอะไร

“บางอย่างที่เปลี่ยนไปแล้ว” ของนักขัต...สิ่งที่เขาไม่อาจหาคำอธิบายให้กับตัวเอง...ว่าทำไมเขาถึงไม่อยากไปเยี่ยมวันชนะตลอดสามวันที่ผ่านมา

....ทำไมเขาถึงรู้สึกโหวงหวิวในอกที่มองเห็นรอยคล้ำเลือดนั้นอยู่บนคอของวันชนะ

ทว่าลึกเข้าไปในจิตใจแล้วเหมือนชายหนุ่มจะคว้าเอาคำตอบไว้ได้แล้ว เพียงแต่กลัว...ที่จะเปิดดู ถึงจะเป็นวันชนะก็เถิด...ถึงจะเป็นเขาคนนั้นก็เถิด สัญชาติญาณของเขาคอยขัดขวางเอาไว้...ผู้ชาย...

...ได้แต่มองตามทางที่ร่างโปร่งบางนั้นเดินผ่านไป...


...

มื้อกลางวันวันชนะฝากท้องไว้กับโรงอาหารของคณะ หลังจากอิ่มแล้วก็ต้องเดินไปเรียนอีกตึกหนึ่งระหว่างทางได้เจอกับเด็กเรียนที่เคยช่วยติวแคลคูลัสให้...เนตร วันชนะเลยเดินปลีกตัวห่างๆจากเพื่อนร่วมเอกวิชามาเดินคุยกับเนตร ทั้งหมดกำลังมุ่งหน้าไปเรียนแคลคูลัสที่ตึกเดียวกันแต่ว่าเนตรเรียนคนละหมู่กับวันชนะ

กล่องความทรงจำถูกแง้มสักพักหนึ่งก็มีคนมาสมทบอีกหนึ่ง วันชนะถึงได้นึกได้ว่าเนตรก็มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งที่ชื่อตั้ม ตอนแรกที่เขาเข้าใจผิดไปว่านักขัตเรียนเอกวิชาเดียวกับเนตรและเป็นเพื่อนกัน แต่นักขัตก็บอกความจริงออกมาแล้วว่าเรียนอยู่คณะวิศวกรรมตะหากเล่า ...ช่างบังเอิญเสียจริง

การสนทนาเป็นไปอย่างรื่นเริง แล้ววันชนะก็สะดุดเล็กน้อยเมื่อปลายตาพบนักขัตเดินมาอีกทางกับหลิน แต่ก็แค่วินาทีที่เขาสะดุด เมื่อแรงตั้งใจที่ว่าจะเก็บทุกอย่างเก็บใส่ “กล่องอดีต” กังวานอยู่ในตัวตลอดเวลา...นักขัตก็ด้วย ที่เขาจะเก็บใส่กุญแจ

คนสองคนโคจรเข้ามาใกล้ทุกที หลินกล่าวทักทายเพื่อนกลุ่มใหญ่อย่างสดใส นักขัตมีท่าทีขัดเขินเล็กน้อยเมื่อต้องพบกับเพื่อนๆของแฟน ในขณะที่วันชนะเร่งฝีเท้านำจากกลุ่มไปก่อน คนที่มาด้วยกับหลินลำพังตอนนี้จะเอ่ยทักก็ยังต้องคิดก่อนอยู่แล้ว จึงได้แต่เก็บคำของตัวเองเอาไว้ มองตามคนคู่นั้นที่เดินล่วงหน้าไป

...ความรู้สึกแบบเดิมเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว...


มาถึงตึกเรียน...ศูนย์เรียนรวม เป็นห้องเล็กเชอร์ขนาดใหญ่ กลุ่มนิสิตพันธุศาสตร์แยกเข้าเรียนห้องหนึ่ง นักขัตล่ำลาจากหลินเพื่อเข้าไปเรียนอีกห้องหนึ่งชั้นบน...นิสิตวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ก็ต้องเรียนแคลคูลัสพื้นฐานเหมือนกัน จำได้ว่าคนที่เดินนำหน้าเขาเป็นคนที่เดินไปกับวันชนะเมื่อกี้

“นี่...นาย” เสียงหนึ่งดังขึ้นกลางบันไดเดินขึ้นชั้นบน
คนที่เดินกับวันชนะเมื่อกี้หันมาก็พบกับชายหนุ่มหน้าตาดีหุ่นหนา จ้องมานัยน์ตาเอาเรื่องอยู่ในที...


...


ห้องเล็กเชอร์ขนาดสามร้อยที่นั่ง มีโต๊ะเป็นแถวยาวขนาดนั่งได้สิบห้าคนยาวเรียงไปจนถึงหลังห้อง ทางเดินกลางห้องทำให้แบ่งเป็นสองฟาก วันชนะยังไม่ทันได้นั่งติดเก้าอี้สายตามองทะลุกระจกใสที่บุเป็นประตูเข้า-ออกห้อง ทันเห็นเนตรหยุดกลางบันไดหันมาคุยกับนักขัต
หรือว่าสองคนนั้นรู้จักกัน?

อาจเป็นไปได้...โลกนี้มันกลมเสียเหลือเกิน...
แล้วคนทั้งคู่ก็เดินพ้นกรอบประตูไปพร้อมกับที่อาจารย์เริ่มสอน


...
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 20-03-2007 15:09:09
ช่ายยยยโลกมานกลม  :laugh5:

เนตรกะต้นน้ำน่าจะรู้จักกันด้วย  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 20-03-2007 15:36:43
 :เฮ้อ: .... ไหงมันเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ค่อยจะดีเนี่ย
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 20-03-2007 15:43:00
 :call: มาลุ้นให้ต้นน้ำมองข้ามกำแพงของสังคมที่กั้นไว้ และทำตามที่เสียงหัวใจเรียกร้องอยู่ภายในจริงๆ
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 20-03-2007 18:09:20
เฮ้อ .... สงสารนิจัง

 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 20-03-2007 18:39:35

..............เปิดใจหั้ยนิติหน่อยเถอะ....... :impress3: :impress3: :impress3:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 20-03-2007 19:02:28
 :impress3:

แล้วเมื่อไหร่ถึงจะได้รักกันล่ะเนี่ย รึจะต้องรอให้ถึงวันจาก . . .  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 20-03-2007 19:50:12
 :เฮ้อ: สงสารนิจัง
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 20-03-2007 21:00:28
เมื่อไหร่ต้นจะเข้าใจความรู้สึกตัวเองเนี่ย  :monkeycry4:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-03-2007 21:41:24
ทำไมมันเศร้า ๆ อย่างนี้ล่ะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 20-03-2007 22:32:42
นายเอกชีวิตเเสนรันทดเคราะห์ซํากำซัดอีกตะหาก เเย่เเย่  :dont2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 20-03-2007 22:37:11
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 21-03-2007 11:50:19
เมื่อไหร่ต้นน้ำกับนิติจะกล้าที่จะแสดงออกถึงความในใจซ้าทีคับ :myeye: :myeye: :myeye: :myeye:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-03-2007 15:59:54
“นี่...นาย” เสียงหนึ่งดังขึ้นกลางบันไดเดินขึ้นชั้นบน
คนที่เดินกับวันชนะเมื่อกี้หันมาก็พบกับชายหนุ่มหน้าตาดีหุ่นหนา จ้องมานัยน์ตาเอาเรื่องอยู่ในที...
“ครับ!?” คนหยุดอยู่บนขั้นเหนือกว่ากล่าวโดยอัตโนมัติแต่ก็ยังคงความสุภาพเป็นนิสัย ชายร่างหน้าผุดรอยยิ้มที่มุมปาก
“ครับ!?” เนตรกล่าวซ้ำเมื่ออีกฝ่ายยังไม่แจ้งความประสงค์ที่เรียกตน สายตาคู่นั้นเหมือนจะสำรวจเขาอยู่ในที


...


วันชนะทำได้ดีทีเดียวกับคำสัญญาที่ให้กับตัวเอง ถ้าเป็นเมื่อก่อน ป่านนี้ในหัวเขาคงจะมีแต่นักขัต นักขัต คิดในสับสนไปร้อยแปด...เพียงแค่หลับตา กำหนดลมหายใจเข้าออกสองสามรอบและกำหนดสติขิงตัวเองเอาไว้ว่า...ตั้งใจเรียน...

จนเมื่อเวลาผ่านไปสองชั่วโมง การเรียนก็หมดลง เพื่อนคนอื่นๆแยกย้ายกันกลับแต่วันชนะเลือกที่จะไปห้องสมุด เขาพยายามทำตัวให้ไม่ว่าง...จะได้ไม่ต้องคิดถึงสิ่งอื่น

“วิน ไปห้องสมุด?” เพื่อนร่วมภาควิชาเอ่ยตามหลังจากที่วันชนะเดินออกมาไม่กี่ก้าว กรรณิการ์เดินกึ่งวิ่งตาม

“อืม แจนไปด้วยกันไหม?” วันชนะยิ้มชักชวน

“เดินไปด้วยจ้ะ แจนจะเอาหนังสือไปคืนน่ะ แต่คงไม่นั่งอ่านหรอก วันนี้ที่บ้านให้กลับไว” หญิงสาวแจง “แล้ววินล่ะเป็นยังไงบ้าง ช่วงนี้เห็นวินเครียดๆ อ่านหนังสือถึงไหนแล้วอีกห้าวันก็จะเริ่มสอบตัวแรกแล้วนะ”

“ก็ทบทวนเรื่อยๆน่ะ บางตัวยังไม่ได้ดูเลย แจนล่ะเตรียมตัวถึงไหนแล้ว” วันชนะพูดปนหัวเราะอย่างยอมรับว่าตัวเองยังอ่านหนังสือไม่จบ สอบวิชาแรกจะเริ่มขึ้นในวันเสาร์ที่จะถึง แม้เจ้าตัวจะพูดติดขำแต่ก็มีแววกังวลอยู่ในน้ำเสียงไม่น้อย

ปกติแล้ววันชนะเป็นคนตั้งใจเรียนในชั่วโมงเรียน ความเข้าใจและสงสัยจึงเกิดตั้งแต่ตอนนั้น พอใกล้สอบเพียงทบทวนความเข้าใจนิดหน่อยก็ต่อปะติดปะต่อได้ไม่ยาก การเรียนแบบนี้เป็นประสิทธิผลมากกว่าการเข้าไปนั่งฟังแบบเข้าหูหนึ่งแล้วออกอีกหูตรงข้าม จิตใจไม่ได้เปิดรับสิ่งที่อาจารย์สอน พอใกล้สอบค่อยมาตามอ่าน ซึ่งในเวลาที่จำกัดยิ่งทำให้คนอ่านรู้สึกร้อนๆหนาวๆ ผลคือไปสอบทั้งที่รู้บ้างไม่รู้บ้าง

แต่ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้มีเรื่องหนักๆประเดประดังเข้าหาเขามากเหลือเกิน จนวันชนะเองก็อดหวั่นไม่ได้
จึงตั้งมั่นว่า...เอาเรียนไว้ก่อนนะ

“แจนก็ยังอ่านไม่จบเลย เหลืออีกตั้งเยอะ กลัวก็แต่เจน เคมฯ (General Chemistry I) ยากมากๆเลย” กรรณิการ์โอดครวญ
เดินมาได้ครึ่งทาง หญิงสาวก็หน้าม่อยลง...เป็นอารมณ์ที่แท้จริง...ราวกับรอยยิ้มที่เบิกบานเมื่อสักครู่เป็นเพียงหน้ากากที่เคลือบเอาไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คน เพราะว่าการปรากฏของใครคนหนึ่งใกล้เข้ามาตรงหน้า

“อ้าว...แจน วิน ไปอ่านหนังสือห้องสมุดหรือจ้ะ” สุวรรณาเอ่ยทักทันทีเมื่อเห็นเพื่อนเดินมา
“หลิน” วันชนะทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย เพราะเมื่อกี้ยังเรียนอยู่ห้องเดียวกันแต่ตอนนี้หญิงสาวผู้มีตำแหน่งเป็นดาวมหาวิทยาลัยกลับเดินสวนทางมา

หญิงสาวเหมือนรู้คำถามในใจวันชนะจึงยิ้มน้อยๆแต่สว่างไสวไปทั้งใบหน้าก่อนกล่าวน้ำเสียงไพเราะว่า “ หลินรีบวิ่งลงมาก่อนน่ะ ต้องเอาหนังสือไปคืนห้องสมุดก่อน หลินมีนัดจ้ะ” หล่อนยกหนังสือเล่มบางในมือขึ้นปิดครึ่งหน้าอย่างอายๆ “เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้นะจ้ะ”
เดินต่อมาได้อีกสักพักวันชนะถึงได้สังเกตว่าคนที่เดินมาด้วยกันเงียบไป

...เพราะนายคนนั้นอีกแล้ว...ทำไมนะ วันชนะถึงหนีนักขัตไม่พ้นเสียที รอบตัวมีแต่เงาของเขาแฝงซ่อนอยู่เต็มไปหมด
“แจนเป็นอะไรไป” วันชนะถามอย่างเป็นห่วง ทำเป็นไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดกรรณิการ์ถึงเปื้อนน้ำตา ทั้งที่เข้าใจจิตใจของหล่อนเป็นอย่างดี
กรรณิการ์ไม่ปาดน้ำตาแม้แต่หยด เพราะมันล้นบ่อแล้ว เกินที่จะเก็บเอาไว้ หลายวันที่ต้องข่มใจไม่ให้บอบช้ำมากไปกว่าที่เป็น

ภาพบาดตานั้นอยู่ใกล้ตัวเกินไป...จากเพื่อนของเธอเอง หญิงสาวช้ำใจทุกครั้งที่เห็นสุวรรณามีความสุข แม้ลึกลงไปแล้วไม่ได้มีความเกลียดชิงชังเพื่อนคนนี้อยู่เลย เรื่องที่เธอชอบนักขัตนั้นกรรณิการ์ยังไม่รู้เสียด้วยซ้ำ คงเป็นเพราะความน้อยเนื้อต่ำใจ...ที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนที่ยืนข้างชายคนที่เธอรัก ท่าทางเอียงอายของสุวรรณาเมื่อพูดถึงนัดเมื่อกี้ บอกได้ทันทีว่าคนที่หล่อนนัดด้วยคือใคร

ใต้ร่มศรีตรังข้างทางมีม้านั่งหินอ่อนอยู่ กรรณิการ์เดินข้ามพุ่มไม้เตี้ยที่ปลูกไว้แทนรั้วอย่างไม่ใยดี คงเพราะเธอเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว...วันชนะจึงต้องตามเธอไปด้วยเพราะเป็นห่วง

“แจน...” วันชนะไม่กล้าพูดอะไรมากนัก...เหมือนมองเห็นเงาสะท้อนของตัวเองอยู่ตรงหน้า
“ขอโทษนะวิน...ทั้งที่แจนอดทนมาได้ตลอดแท้ๆ...ทั้งที่ไม่อยากให้ใครรู้” หญิงสาวสะอื้น ก่อนจะพรั่งพรูความอัดอั้นทั้งหมดให้เพื่อนฟัง...คงจะเหลืออดเต็มที หล่อนถึงได้ระบายสิ่งที่เป็นเสี้ยนค้างในอกให้เพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันเพียงไม่กี่เดือนฟัง
ทุกถ้อยคำ ทุกความรู้สึกที่หล่อนกล่าว...ทุกถ้อยคำ ทุกความรู้สึกที่วันชนะกล่าวปลอบ...ทำให้คนที่ “อาการดีกว่า” อดไม่ได้ที่จะอึ้งขึงไปพอกัน


...


“นี่...นาย” น้ำเสียงเอาเรื่อง ความหงุดหงิดทบเป็นทวี เมื่อคนตรงหน้ายืนขวางทางอยู่ ไม่ว่าเขาจะหลีกไปทางซ้ายหรือขวา คนตรงหน้าก็เปลี่ยนตำแหน่งไปยืนยืดอกหนาๆกันทางเอาไว้ เหมือนหาเรื่อง

“เอ้ะ!” คนที่โดนขวางทางโกรธจัด พร้อมท้าสู้ ความโกรธทำให้หูตามืดมัวเป็นเรื่องจริง เขาลืมพิจารณาใบหน้านั้นให้ดี...กว่าที่เค้าโครงใบหน้าหล่อเหลานั้นจะผุดขึ้นมาเป็นความจำได้...หมัดแรกก็แหวกผ่านอากาศ รวดเร็ว ไร้เสียงเตือน

คนหาเรื่องก่อนไม่ได้ตรงเข้าไปซ้ำทันทีตอนอีกฝ่ายเสียหลัก เขารอให้ชายหนุ่มคนนั้นตั้งหลัก แล้วทางแคบๆรกด้วยพุ่มไม้แตกกิ่งก้านสูงไร้ผู้คนสัญจรนั้นก็กลายเป็นสังเวียน ประลองทั้งกำลังและอารมณ์...


...

วันชนะปิดหนังสือลงหลังจากนั่งอ่านได้เพียงไม่นาน...แทบจะไม่ได้อ่านเสียด้วยซ้ำ เพราะตั้งแต่หน้าแรกกางออกก็ยังไม่มีหน้าที่สอง กรรณิการ์อาการดีขึ้นมากก่อนที่หล่อนจะกลับไป...มากกว่าวันชนะเสียอีกในตอนนี้
ยิ่งรวบรวมสมาธิเท่าใดเหมือนจะยิ่งฟุ้งซ่านมากขึ้นเท่านั้นจนวันชนะยอมแพ้ ขอไปตั้งหลักที่ห้องก่อนดีกว่า

ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู วันชนะคิ้วขมวดสงสัยว่าเพียงห้าโมงเศษแต่ตะวันโพล้เพล้เหมือนหกโมงเสียแล้ว
เดินเรื่อยเอื่อยมาจนใกล้ถึงหอพัก ร่างหนึ่งเดินโซเซผ่านหน้าไป เสื้อนิสิตสีขาวเหมือนโดนเอาไปถูกับพื้นมา ทั้งยับทั้งเปื้อนฝุ่น

“เป็นอะไร...” วันชนะถามด้วยความอยากช่วย แต่พอจำได้ว่าเป็นเพื่อนร่วมคณะก็รีบวิ่งเข้าไปพยุงทันที

“เนตร! ไปทำอะไรมา”

คนโซเซพยายามทรงตัวบนขากระเผกๆ “วิน ไม่มีอะไร เราตกบันได โอ้ะ...โอ้ย!” เขายกมือขึ้นจับที่ขอบฝาก ลูบเบาๆเลยไปถึงขมับ รอยเขียวช้ำนูนเด่นขึ้นมาที่มุมปากมีเลือดไหลซิบๆ

“ไปโรงพยาบาลไหม? วินไปเป็นเพื่อน ตอนนี้สถานพยาบาลคงปิดแล้วล่ะ” วันชนะอาสา
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้เพื่อนเนตรไปส่งก็ได้ นัดกันไว้ใกล้ๆนี่เอง”
“แน่ใจ?” วันชนะถาม

“นั่นไงเพื่อนเนตร” เขาชี้ “ไม่น่าซุ่มซ่ามเลย ไปก่อนนะ” น้ำเสียงขำปนสมเพชตัวเอง
วันชนะมองตามอย่างเป็นห่วง ได้แต่หวังว่าเนตรคงจะไม่เป็นอะไรมากจนกระทบการสอบ


...


หน้าห้องเดิม...609 วันชนะล้วงหากุญแจจากกระเป๋าสะพายของตัว
เสียงฝีเท้าเป็นจังหวะคุ้นเคยดังเบาๆ ใกล้เข้ามา มือหนึ่งจับลูกกุญแจสอดค้าง วันชนะตกใจกับภาพที่เห็นจนชะงัก
นักขัตเดินมาตามปกติ แต่...ที่หางคิ้วมีรอยแตกเลือกยังซึม มุมปากคล้ำแดงคล้ำเขียว เสื้อยับย่นเปื้อนไม่แพ้...เนตร

เนตร!
นักขัต!

ภาพเมื่อตอนบ่ายก่อนชั่วโมงเรียนเริ่ม...ทั้งสองหยุดพูดอะไรกันที่บันไดผุดขึ้นมา!
ทำไม!?...เนตรเป็นเด็กเรียน...เรียบร้อย
“นายไปตีกับใครมา?” หางเสียงกร้าว แฝงด้วยความโกรธ
นักขัตมองหน้าวันชนะเรียบเฉย
“นายไปตีกับใครมาใช่ไหม?” วันชนะมองใบหน้าเรียบเฉยนั้นตาไม่กระพริบ...แข็งกร้าว
“ใช่” นักขัตยอมรับแต่เพียงเบาๆ
ใช่แน่แล้ว...ภาพเมื่อตอนบ่ายก่อนชั่วโมงเรียนเริ่ม...ทั้งสองหยุดพูดอะไรกันที่บันไดแจ่มชัด! ทบซ้ำด้วยภาพน้ำตานองหน้าของกรรณิการ์...ทั้งของตัวเอง

“นายมันเลว...อย่ามาให้เห็นหน้าอีกนะ!”
วันชนะบิดข้อมือ ประตูเปิดออก

ประตูห้อง 609 ปิดดังปังสนั่นเหมือนจะหลุดออกไปจากกรอบ
นักขัตยืนนิ่งอยู่ที่เดิม สีหน้าเรียบเฉย...แต่สิ่งที่วันชนะพูดยังดังก้องไม่ยอมหยุด

“นายมันเลว...อย่ามาให้เห็นหน้าอีกนะ”


...
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 21-03-2007 16:21:55
ต่อยกันทำม๊ายยยยยยยยยย :serius2:

รึศึกชิงนายจะเกิดขึ้นน๊อ สงสัยต้นน้ำจะหึงนิติ :monkeysad2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 21-03-2007 16:44:50
ช่ายยยย จะต่อยกันทำมัยเนี่ย

มีไรทำไมไม่คุยกันให้รู้เรื่องก่อน
 :serius2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 21-03-2007 16:50:47

...............“นายมันเลว...อย่ามาให้เห็นหน้าอีกนะ”

......................แล้วนิตินะ...ทำได้รึปล่าว....ที่จะไม่เห็นหน้าเขา... :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: LonelyBoiZ ที่ 21-03-2007 17:05:08
อืมอืม รออ่านต่อไปคับ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 21-03-2007 17:13:40
 :เฮ้อ: เหนื่อยใจ




รออ่านต่อนะ :give2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 21-03-2007 19:39:24
อ้าว  ยังไม่ได้คุยให้รู้เรื่องเลยนะคับ :o  สรุปจะได้คุยกันดีๆมั๊ยครับเนี่ยะ :angry2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 21-03-2007 21:42:54
ถามดูก่อนดีมั๊ย  :serius2:  :serius2: อย่าทะเลาะกันเลย  :dont2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 21-03-2007 22:02:52
 :o ต่อยกันจริงอ่ะ ไปช่วยกันมารึเปล่า ?????

ขอคำอธิบายด่วนนนนนนนนนนนน  :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 22-03-2007 01:55:37
ง่ะ... อารายกานเนี่ย... สับสนเล็กน้อย   เหอๆ..  แล้วจะรักกันได้ยังงาย  :serius2:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 22-03-2007 11:14:26
แล้วนี่มานอารายย งงงงงงงงง  :serius2:


ศึกชิงนายเหรอ  หรือว่าอารายยย แล้วนิติกับต้นน้ำ เมื่อไหร่จะได้ลงเอยกันหล่ะนี่  :pandalaugh:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: wee ที่ 05-04-2007 15:05:35
รอนายนิติ กะ นายต้นน้ำ คร๊าบบบบผม.... :myeye: :myeye: :myeye:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 05-04-2007 23:26:59
อืมม เรื่องนี้ขอคิดแป้บนึง

รู้สึกว่าก่อนเล้าล่มจะถึงตอนประมาณ ต้นน้ำไปรับนิติจากสถานีตำรวจนะคับ

ถ้าจำไม่ผิด  :really2: :really2:

สู้ๆ ร่วมกันกอบกู้เล้าค้าบบบ  :loveu: :loveu:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-04-2007 12:44:15
     “นายมันเลว...อย่ามาให้เห็นหน้าอีกนะ”

    ผ่านมาหลายวันแล้วแต่พอว่างเมื่อไรคำพูดนั้นจะดังขึ้นในหัวตลอดเวลา วันชนะรู้สึกสำนึกอยู่เหมือนกันที่เอ่ยคำแรงออกไป แต่หลายอย่างค่อยๆชัดเจนขึ้น ภาพนักขัตคนเดิมที่เคยนึกถึงแล้วชุ่มชื้นในใจก็ค่อยๆลบเลือนไป...ความสำนึกผิดที่แล่นขึ้นก็พลอยสลายตามไปด้วย

    ทำไมนะ...นายถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้

    คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ ต้องใช้เวลากว่าที่จะเผยตัวตนที่แท้ออกมา...แต่ก็ดีแล้วที่เห็นตัวจริงเขาตอนนี้ ที่รู้จักกันเพียงไม่กี่เดือน เพราะหากรู้เมื่อสายไปคงจะแย่กว่านี้มาก
    วันชนะสลัดเรื่องของคนข้างห้องออกไปก่อนจะสนใจกับหนังสือบนโต๊ะ...ทิ้งแม้กระทั่งเรื่องที่นักขัตเคยช่วยเขาเอาไว้

    ตีสองกว่าของคืนสุดท้ายก่อนที่จะเริ่มการสอบวันแรกพรุ่งนี้...วันชนะนั่งบนโต๊ะประจำในห้อง ขีดๆเขียนๆสูตรต่างๆทบทวนและจดจำ ลองเอาโจทย์ที่เป็นข้อสอบเก่าๆมาลองทำดู จนล่วงเข้าตีสามจึงรู้สึกปวดที่ต้นคอเลยออกไปสูดอากาศเย็นบริสุทธิ์ที่ระเบียง พระจันทร์สุกปลั่งกลมโตเหนือศีรษะทอแสงนวลตา

    ทอดอารมณ์อยู่นานกว่าจะรู้ตัวว่าที่ระเบียงห้องข้างๆห่างออกไปเพียงสองเมตรมีคนยืนอยู่ด้วย เพราะหางตาเห็นการเคลื่อนไปของเงาร่างคน นึกว่าเป็นนักขัตจึงหันหลังกลับ

    “อ้าว จะไปแล้วหรือวิน” น้ำเสียงบอกว่าไม่ใช่บุคคลที่ไม่อยากพบ
    “โตโต้ อยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไรน่ะ” วันชนะหยุดความคิดจะกลับเข้าห้อง เปลี่ยนเป็นยืนเกาะราวระเบียงคุยกับเพื่อนข้างระเบียง
    “สักพักหนึ่งละ ก่อนวินจะออกมานิดเดียว อ่านหนังสืออยู่หรือ นอนดึกเชียว?” คนที่อยู่ระเบียงถัดไปถาม “ตะกี้เห็นวินกำลังดื่มด่ำกับลมเย็นๆเลยไม่กล้าขัดจังหวะ”

    “อืม แวบออกมาพักชมจันทร์บ้าง เดี๋ยวค่อยเข้าไปต่ออีกสักชั่วโมง พรุ่งนี้สอบตั้งบ่ายสอง” วันชนะตอบแล้วจึงถามกลับ “โตโต้ล่ะ”
    “สอบตัวแรกพรุ่งนี้เหมือนกันบ่ายสองครึ่ง ตอนแรกจะเข้าไปอ่านต่ออยู่ แต่ง่วงแล้วล่ะ เห็นตั้มหลับอุตุเลยชักง่วงตาม” คนพูดมองเข้าไปในห้องของตน “พอวินออกมามันก็เดินตรงไปขึ้นเตียงเลย” เขาต้องการสื่อว่านักขัตก็เพิ่งจะเข้าไปนอนได้ไม่นานนี่เอง “หลับไวจริงๆ”

    หากว่าวันชนะเข้าใจไปอีกทาง...ว่าคนที่ถูกกล่าวถึงก็คงไม่อยากเจอเขาเหมือนกัน...พอเขาเดินออกมาก็เลยรีบกลับเข้าไปนอนเสีย
    ฮึ...เชิญเถอะ เราก็ไม่ได้สนใจนายแล้ว...จะทำอะไรก็ช่างนาย

    ****************************************************************************************************************

    สอบวันแรกผ่านไปด้วยดี วันชนะมั่นใจว่าตนทำได้มากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ที่หวั่นคือวันมะรืนนี้ต้องสอบถึงสามวิชา ดังนั้นพอสอบเสร็จจึงรีบกลับห้องไปนอนพักเอาแรงไว้ท่องหนังสือคืนนี้ ก่อนจะถึงที่พักก็แวะซื้อกับข้าวที่โรงอาหารกลาง

    “เอาเส้นใหญ่ผัดขี้เมาอีกหรือเปล่าจ้ะ” เจ้าของร้านถามเสียงเจื้อยแจ้วอย่างคุ้นเคย เพราะเป็นร้านประจำของวันชนะ
    “เอาครับ แต่ไม่ใส่มะเขือเทศนะครับ” วันชนะบอก

    “อ้าว ไม่กินมะเขือเทศแล้วหรือจ้ะ” แม่ค้าถามต่อเพราะที่ผ่านมาก็ใส่มะเขือเทศมาตลอด

    “ทุกทีก็ไม่ได้กินหรอกครับ ขี้เกียจเขี่ยออกแล้ว เลยบอกเอาไว้ดีกว่าครับ” วันชนะหัวเราะแหะ แหะ

    เขาไม่ได้พูดความจริงเลยสักนิด...จากคนเกลียดมะเขือเทศจนสามารถกินได้ปกติ...ก็เพราะค่อยๆเอาไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆค่อยๆกินพร้อมกับเส้นใหญ่และผักคะน้าในสัดส่วนหนึ่งต่อสิบ จนวันหนึ่งก็ทานได้เป็นคำละครึ่งลูก...ก็เพราะมีแรงบันดาลใจ

    ...จะฝืนไปทำไม กลับมาเป็นตัวเองดีกว่า

    “สวัสดีจ้ะน้องรัก” เสียงใสดังขึ้นใกล้ตัวพร้อมกับความรู้สึกว่ามีนิ้วจิ้มที่ไหล่ วันชนะหันไปทางต้นเสียงก็พบกับหญิงสาวตัวเล็กและน่ารักด้วยรอยยิ้มสดใส

    สองมือยกขึ้นไหว้โดยอัตโนมัติ ทั้งที่ยังนึกชื่ออีกฝ่ายไม่ออกด้วยซ้ำ “พี่...เอ่อ...”
    “พี่เชอร์รี่จ้ะ” หล่อนเรียกชื่อตัวเอง “ไม่ค่อยเห็นน้องวินเท่าไรเลย จำพี่ๆได้ครบหมดทุกคนหรือยังจ้ะ” หล่อนถามรุ่นน้องอย่างไม่จริงจังกับคำตอบนัก ใบหน้าคงไว้ซึ่งรอยยิ้มแจ่มใสถึงแววตา

    วันชนะพยายามยิ้มไม่ให้หน้าเจื่อนลงไปเป็นคำตอบ
    การสนทนาเป็นไปอย่างออกรสสำหรับหญิงสาวเพราะความเป็นคนช่างพูดของหล่อน จนเป็นบุคลิกที่ทำให้เข้ากับคนอื่นได้ง่าย คุยอยู่หลายเรื่องก่อนจะแยกย้ายหล่อนก็นึกขึ้นได้

    “เออนี่ ไม่รู้มีใครบอกหรือยัง ว่าหลังสอบเสร็จเรามีนัดไปร้องคาราโอเกะกันนะจ้ะ” หล่อนหมายถึงรุ่นพี่ปีสองกับรุ่นน้องปีหนึ่ง “แล้วเราจะได้จับสลากพี่รหัส น้องรหัสกันด้วย”
    “อ้าวหรือครับ?” วันชนะทำหน้าเพิ่งรู้ “ขอบคุณพี่เชอร์รี่มากครับที่บอก เดี๋ยววินบอกต่อให้ครับ”
    “ดีมาก” หญิงสาวตัวเล็กยิ้มสดใสให้ก่อนแยกไป

    *****************************************************************************************************************


    ห้วงเหวของความมืดมิดค่อยๆคลี่สว่างขึ้น


    ...กระท่อม...? คำถามตั้งอยู่ในใจเมื่อเข้าไปใกล้มากขึ้น กระท่อมซอมซ่อหลังเล็ก ด้านหน้ามีลำคลองไหลเอื่อย ริมฝั่งปักคันเบ็ดอันสั้นสายเอ็นจมหายไปในสายน้ำเบื้องหน้า ทุ่นไม้อันน้อยกระเพื่อมตามคลื่นเล็กๆที่เกิดจากแรงลม

    ข้างๆเป็นแปลงเกษตร มีผักคะน้า ผักกาดกวางตุ้ง กะหล่ำปลีและผักอีกหลายแปลงที่เพิ่งจะแตกยอดอ่อนโผล่พ้นดินขึ้นมา
    มองอีกทางเป็นไร่...พอเข้าไปใกล้จึงเห็นชัดว่าเป็นต้นฝ้าย...แปลกใจ...ที่รู้ว่าเป็นต้นฝ้าย...ทั้งที่ยังไม่เคยได้เห็นของจริงเลยสักครั้ง รูปก็ดูเพียงผ่านๆ ต้นเตี้ยๆนั้นยังเป็นสีเขียว...ไม่มีแม้ฝ้ายสักดอก

    รู้สึกถึงใบสากๆระกายเมื่อเดินฝ่าไร่ฝ้ายหนุ่มนี้เข้าไป...เข้าไปใกล้อีก...ใกล้อีก...ใครสักคนอยู่ที่ตรงนั้น...
    หยุดเดิน...คนข้างหน้าอยู่ในชุดสีครามซีด ใส่หมวกสานใบใหญ่ หน้าตาแดงด้วยแดดเผา ที่รอยต่อระหว่างผิวหนังกับคอเสื้อแบ่งสีชัดเจน

    ใบหน้าคุ้นเคยละจากสำรวจต้นฝ้ายตรงหน้าเงยตรงมา สะดุ้งตกใจเมื่อเห็น เขาละงานในมือทุกอย่างรีบวิ่งเข้ามาประคอง มือแตกกร้านยกขึ้นจับแต่งผมที่ระลงมาปิดบังใบหน้าให้อีกฝ่ายที่เพิ่งเดินเข้ามา สายตาชื่นชมและห่วงใยอย่างจริงจัง

    “ออกมาทำไม... พี่บอกให้อยู่แต่ในบ้าน ข้างนอกแดดมันแรง เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไป” มือกร้านแกร่งประคองกอดร่างบางไปใต้ร่มมะขามสอง-สามต้นที่อยู่ใกล้

    “พี่ก็...จะให้... เอาแต่อยู่ในบ้านได้ยังไง เดี๋ยวเป็นง่อยเอาหรอก” หล่อนพูดมีจริตเล็กๆ “พักดื่มน้ำดื่มท่าเสียก่อนเถิดพี่” เพิ่งรู้ตัวว่าในมือถือขันน้ำเย็นมาด้วย

    ใต้ร่มเงาไม้มีสายลมเย็นๆพัดต้องกายเป็นระยะ ไร่ฝ้ายข้างหน้ากินเนื้อที่ไม่มากนัก แมลงปอฝูงใหญ่บินว่อนเหนือทุ่งหญ้าที่ยังไม่ได้ถกถาง...ฤดูหลังเกี่ยวข้าว เหมาะที่จะปลูกฝ้าย
    ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส...สงบ

    มือกร้านลูบวนอยู่ที่ท้องของเมียรักเบาๆ... เมีย...ความรู้สึกบอกว่าเขาเป็นสามี
    “เห่อไปได้นะนักขัต เพิ่งจะสองเดือนเอง” เมียสุดที่รักเอามือบางหยาบกร้านน้อยๆจับไปบนมือหนา ราวจะถ่ายทอดความรักทั้งหมดที่ตนมี
    “แหม...วินล่ะก็ ลูกเราทั้งคนนะ ไม่ให้เห่อได้ยังไง”

    เจ้าของมือกร้านน้อยค่อยๆมองไปยังใบหน้าของสามี...คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ปากได้รูป...นักขัต! ร่างบางตกใจ

    นักขัต!

    “เป็นอะไรไปวิน” คนตรงหน้าแปลกใจที่อยู่ๆเมียของเขามีกิริยาตกใจและถัดตัวหนี
    นักขัต!

    ...


    วันชนะตาเบิกโพลงสะดุ้งตื่นขึ้นมาในความมืด มือปาดเหงื่อชุ่มบนใบหน้า นี่เขาฝันไปหรอกหรือ
    เอื้อมมือไปหยิบนาฬิกามาดู สองทุ่มเศษแล้ว

    วันชนะยังนอนเหยียดบนเตียงนุ่ม ขี้เกียจลุก ขอต่อเวลาสบายอีกสักห้านาที...รอยยิ้มผุดขึ้นเมื่อนึกถึงความฝันที่จำได้อย่างแม่นยำ
    ดื่มด่ำกับฝันดีได้ไม่เท่าไรภาพนักขัตอีกคนที่วันชนะกล่าวหาว่าเป็นคนเลวก็แล่นขึ้น วันชนะได้แต่ถอนใจก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำเพื่อจะอยู่ท่องหนังสือคืนนี้

    วันชนะหัวเราะในลำคอเบาๆเมื่อเห็นหน้าหนังสือที่กางอยู่เป็นรูปสามี ภรรยาเกษตรกรกับบ้านไร่ที่กำลังช่วยกันเพาะปลูกที่อ่านค้างตั้งแต่เมื่อวาน ภาพประกอบนั้นอยู่ในหนังสือ มนุษย์กับสังคม อันเป็นหนึ่งในวิชาที่ต้องสอบวันมะรืน

    เที่ยงคืน...อดไม่ได้ที่จะหวนนึกถึงกระท่อมอุ่นหลังน้อยกับอ้อมกอดแกร่งของชายในฝัน คิดไปเสียว่าสามีแสนดีคนนั้นไม่ใช่นักขัต...แต่ลึกๆในดวงตาเรียกร้องว่า...ขอให้เป็นนักขัตเถอะ


    ...เพียงผนังกั้นเอาไว้...คนเลวของวันชนะกำลังขะมักเขม้นอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่เหมือนกัน ใบหน้าเครียดนิดๆเมื่อรู้สึกหงุดหงิดที่ใจของตัวเองเหมือนมีตะกอนที่ล่องลอยวนในน้ำเพราะถูกคุ้ยอยู่ตลอดเวลา...ใจไม่สงบ เพราะมัวแต่คิดถึง...เพียงผนังกั้นเอาไว้...

    นักขัตหงุดหงิดตัวเองนักที่ไม่สามารถรวบรวมสมาธิในการอ่านหนังสือตรงหน้า ไม่ง่ายเลยที่จะสลัดภาพใบหน้าผิดหวังและจงเกลียดของวันชนะเมื่อวันก่อนออกไปได้

    นี่เขาทำผิดมากนักเหรอ...? ทำไมวินถึงได้ยังปกป้องมันคนนั้นอยู่อีก...? ตอนนี้จะชังน้ำหน้าเขามากเท่าไรแล้วนะ...?
    จะเข้าไปหา ไปพูดคุยด้วยก็กลัวว่าจะโดนเกลียดเข้าหนักกว่าเดิม
    ...แต่ไอ้คนนั้นมันสมควรโดนแล้ว

    คิดวนไปเวียนมาอยู่อย่างนี้ หนังสือตรงหน้าแม้จะถูกอ่านอย่างละเอียดแต่ไม่ได้บันทึกจดจำลงในหัวเลย...ต่อให้นักขัตจะหัวดีเป็นถึงนักเรียนทุนก็เถิด

    หนักเข้าจึงวางปากกาในมือแล้วเดินออกไปรับลมที่ระเบียง ลมเย็นๆยังมีอยู่แผ่วๆ คงสี่ทุ่มกว่าแล้วกระมัง คืนนี้มองหาพระจันทร์กลับเจอแต่เมฆเทาๆหม่นๆ มองไปยังช่องว่างประตูที่อ้าออกตรงระเบียงห้องข้างๆเห็นแสงไฟฉายทาบเป็นเงาประตูออกมา แสดงว่าวันชนะคงจะคร่ำเคร่งท่องหนังสืออยู่เป็นแน่


    วันชนะ...ชื่อนี้...คนนี้ ทำไมถึงมีอิทธิพลต่อเรามากนักนะ ตั้งแต่วันเกิดเหตุที่ร้านอาหารจิตใจก็เอาแต่ว้าวุ่นอยู่ตลอด
    เกย์...? ไม่อยากจะเชื่อ...เราเป็นเกย์หรือ...? แล้วหลินล่ะ...?


    ****************************************************************************************************************


    “นี่...นาย” น้ำเสียงมันเอาเรื่อง เมื่อนักขัตขวางทางอยู่ ไม่ว่ามันจะหลีกไปทางซ้ายหรือขวา นักขัตก็เปลี่ยนตำแหน่งไปยืนยืดอกหนาๆกันทางเอาไว้ จะหาเรื่อง

    “เอ้ะ!” มันโกรธจัด หน้าแดง ตาชั้นเดียวหรี่ลงอย่างไม่สบอารมณ์ คิ้วเส้นบางขมวดย่น พร้อมท้าสู้ ความโกรธทำให้มันจำนักขัตไม่ได้ มันคงลืมดูใบหน้านี้ให้ดี...

    กว่ามันจะรู้ตัว...นักขัตปล่อยหมัดแรกแหวกผ่านอากาศรวดเร็ว ใส่หน้ามัน...เจ็บมือ เกิดมายังไม่เคยต่อยตีกับใคร
    เร็วสิ...รออยู่แล้ว


    แล้วทางแคบๆรกด้วยพุ่มไม้แตกกิ่งก้านสูงไร้ผู้คนสัญจรนั้นก็กลายเป็นสังเวียน ประลองทั้งกำลังและอารมณ์...
    แค้นนัก...ที่วันนั้นมันทำกับวิน วันนี้เจอมันไวๆเลยตามมา ยิ่งเห็นมันเดินลอยหน้าลอยตาทำตัวปกติเหมือนไม่มีใครเอาความยิ่งเดือดปุดๆ ทนไม่ไหวจริงๆขอดวลกับมันสักครั้งเถอะ...ค่าที่มันทำวินเจ็บ
    ...ที่มันทำรอยอุบาทว์นั้น...

    “มึงตาย!” นักขัตคำราม...

    สมเย็นเอื่อยๆ นักขัตยันเท้าคางที่หลังระเบียง ร่องรอยวีรกรรมหายไปหมดแล้ว มองเห็นแสงไฟลอดมาจากประตูเปิดสู่ระเบียงของห้องข้างๆเลยนึกไปถึงสาเหตุที่โดนคนที่อยู่ข้างๆห้องเกลียด...มันชื่ออะไรนะ ไอ้คนนั้น

    เป็นรุ่นพี่ของวินล่ะสินะ...คุ้นๆว่าชื่อนัท

    ไอ้เลว คิดแล้วบีบกำปั้นแน่น

    แล้วก็ถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ จะปล่อยให้วันชนะเกลียดน้ำหน้าเขาอย่างนี้ต่อไปหรือ ครั้นจะเข้าไปอธิบายก็จะบอกว่าอย่างไรล่ะ ไม่รู้ด้วยว่าจะพูดอะไรดี...สับสนกับตัวเองเป็นทุนเดิม ขอเวลาอีกหน่อยเถอะวิน เราไม่ปล่อยให้เรื่องมันจบแบบนี้หรอก

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-04-2007 12:45:43
8 : ตัวอิจฉา


หลังจากสอบเสร็จ ที่หน้าห้องสอบในวันสุดท้าย เสียงเจื้อยแจ้วของนิสิตที่จับกลุ่มสนทนาถึงข้อสอบที่เพิ่งเจอมา ถามถึงข้อนั้นข้อนี้ว่าได้คำตอบตรงกันไหม แล้วทำอย่างไร หลายคนมีสีหน้าดีใจที่คำตอบเหมือนกับเพื่อนส่วนใหญ่ แต่หลายคนก็หน้าสลด วิตกถึงคะแนนที่จะได้เกรงว่าจะไม่ผ่าน ในขณะที่ยังเหลือบางคนนั่งอยู่ในห้องสอบกับเศษเวลาที่เหลือ

“หมดเวลาแล้วค่ะ ทุกคนวางดินสอ ปากกาให้หมดแล้วลุกเอาข้อสอบมาส่งที่หน้าห้องค่ะ” อาจารย์ที่คุมสอบกล่าวผ่านไมโครโฟน
เป็นจังหวะเดียวกับที่คำตอบข้อสุดท้ายถูกเขียนลงไป วันชนะถอนหายใจโล่งอกที่ทำเสร็จอย่างเฉียดฉิว ก่อนจะลุกขึ้นไปส่งข้อสอบที่หน้าห้องแล้วจึงเดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเองที่กองอยู่รวมกันกับของคนอื่นที่หน้าห้อง

“วิน วิน ว่ายังไงทำได้บ้างไหม” ก้อยถามด้วยความอยากรู้ “ข้อ...ทำได้ไหม” ก้อยหาพวกที่ตอบเหมือนเธอ อย่างน้อยก็อุ่นใจว่าถ้าตอบผิดจะได้มีเพื่อน วันชนะทำท่าคิดนิดหนึ่งแล้วบอกไปตามตรงว่าคำตอบไม่ตรงกัน สังเกตสีหน้าของเพื่อนม่อยลงทันที

“แง ทำไมมีก้อยคนเดียวที่ตอบว่า X = 16 ล่ะ” หล่อนโอดครวญ เพราะว่าคนอื่นๆได้คำตอบเป็น 8

“ลืมหารสองหรือเปล่าก้อย” อาร์ทหาจุดบกพร่อง

“ไม่เป็นไรหรอกก้อย ข้อเดียวเอง ข้อนั้นแค่สองคะแนนเอง” หลินปลอบ

“แต่ว่า...ข้อง่ายๆยังผิดเลย แล้วที่เหลือจะเป็นยังไง” ก้อยทำหน้าเหมือนคนร้องไห้ แต่ไม่ได้ตั้งท่าจะร้องจริงจัง

ถกกันพอสมควร แต่ไม่มีใครสังเกตว่ามีกรรณิการ์ที่เอาแต่ฟังคนอื่นๆ จนคนหนึ่งในกลุ่มเสนอแนะว่าไปคุยกันต่อที่โรงอาหารกลาง ทานข้าวเย็นไปด้วยก่อนกลับ เพราะไหนๆวันนี้ก็เป็นสอบวันสุดท้ายแล้ว ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปจะหยุดเรียนถึงหนึ่งสัปดาห์ กลุ่มจึงค่อยๆเคลื่อนไป
ระหว่างทางสุวรรณาเป็นคนแรกที่สังเกตได้ถึงความมีตัวตนของกรรณิการ์ ใบหน้าของเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมดูเครียดนิดๆ จึงเอ่ยคุยด้วยเพราะไม่อยากให้เพื่อนคิดมาก

“หยุดสัปดาห์หนึ่งแจนจะไปเที่ยวไหนบ้างจ้ะ” สุวรรณาถามอย่างสนิท
“อ้อ ไม่ได้ไปไหนหรอกจ้ะ คงนอนเล่นอยู่ที่บ้านแหละจ้ะ” หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย ใบหน้าเปลี่ยนจากอาการครุ่นคิดเป็นยิ้มแย้มแต่ทุกคนก็ดูออกว่ากลบเกลื่อนอารมณ์ที่แท้จริงเอาไว้

“เอ้อ เราลืมบอกไปเลยว่าวันเสาร์หน้าพี่ปีสองนัดไปร้องคาราโอเกะกันนะ” อาร์ทเปลี่ยนเรื่อง ทำให้บรรยากาศที่ดูตึงเครียดเล็กน้อยกลับสดใสขึ้น

“เราก็ว่าจะบอกทุกคนอยู่พอดี” วันชนะเพิ่งนึกขึ้นได้
“เสาร์หน้าเหรอ อืม...”ก้อยลากเสียงยาวตอนท้าย คิด อยู่ว่าตนจะว่างหรือไม่ “ไม่แน่ใจว่าจะไปได้ไหมนะ”
“เราว่าน่าจะได้นะ พี่บอกว่าหลังสอบคงมีบางคนกลับบ้านต่างจังหวัด เลยนัดวันเสาร์หน้าเพราะวันจันทร์ก็เริ่มเรียนปลายภาคกันแล้ว ป่านนั้นคงกลับมากันหมดแล้ว” อาร์ทบอก

พูดถึงตรงนี้ทุกคนซึ่งเลยหันมาถามวันชนะเพราะเป็นคนเดียวในกลุ่มที่มาจากต่างจังหวัด “แล้ววินจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดหรือเปล่า? จังหวัดอะไรนะ?”

“แพร่ แต่วินยังไม่รู้ว่าจะกลับหรือเปล่านะ” ชายหนุ่มตอบ
“วินมาจากแพร่เหรอ เป็นหนุ่มเหนือนี่เอง มิน่าล่ะถึงได้ผิวขาว” ก้อยแซวเพราะอิจฉาวันชนะอยู่หน่อยที่ตนผิวคล้ำกว่า ไม่พูดเฉยหล่อนยังเอาปลายมือมาลูบๆที่ต้นแขนวันชนะ “เนียนด้วย”

“ไม่ทุกคนหรอกที่ขาว” วันชนะหันไปพูดกับเพื่อนสาว

การสนทนาหลังจากนั้นเป็นไปอย่างครื้นเครงในโรงอาหารกลาง จวบจนบรรยากาศเริ่มสลัวจึงแยกย้ายกันกลับ
วันชนะมุ่งหน้ากลับห้องของตนซึ่งอยู่ไม่ไกล นึกถึงการสอบแล้วก็โล่งเพราะว่าสอบไปหมดแล้ว เขาเองก็กังวลกับผลสอบอยู่เหมือนกันเพราะว่าไม่ค่อยจะมีสมาธิทบทวนเท่าไรนัก ที่ถกกันตอนออกจากห้องสอบก็ดูเหมือนว่าคำตอบจะไม่ตรงกับเพื่อนอยู่หลายข้อ แต่ก็ไม่อยากจะคิดให้รกพื้นที่ในหัวอีก ไหนๆก็ผ่านไปแล้ว แล้วค่อยรอฟังผลเอาละกัน แต่ตอนนี้ขอไปนอนพักเสียหน่อย นอนไม่เต็มคราบมาหลายวันแล้ว


เหมือนทุกครั้งที่เดินขึ้นบันไดมา พอสายตาพ้นขั้นสุดท้ายก็จะเห็นประตูห้องเรียงกันไป วันนี้มีสิ่งหนึ่งแปลกไป ที่หน้าห้องนักขัตมีรองเท้าคู่ที่ไม่คุ้นตาถอดวางอยู่...สภาพบอกการใช้งานมาบ้าง ไม่ใช่คู่ใหม่ของนักขัตหรือโตโต้แน่นอน

ยังไม่ทันจะก้าวพ้นขั้นสุดท้ายนั้น ประตูห้อง 610 ก็เปิดออกพร้อมกับใครคนหนึ่งที่วันชนะไม่เคยรู้จัก
บุคลิกไม่ต่างจากวันชนะเท่าไร ผอมบาง ตัวเล็กกว่าวันชนะหน่อย สะอาดสะอ้าน หน้าตาดูผ่องใสอยู่ในชุดนิสิตแขนสั้น แวบหนึ่งที่สายตาปะทะกัน เขามองวันชนะด้วยหางตาแล้วเหมือนจะสะบัดหน้าเล็กน้อยก่อนหันไปคุยกับคนที่ยังอยู่ข้างใน

เกย์...แสดงออกอย่างเปิดเผยในระดับที่มากพอสมควรและสายตาคมที่มองเหมือนจะเหยียดแบ่งระดับชั้นนั้นบอกได้ทันที วันชนะก็คงไม่สนใจอะไรมากไปกว่านั้น ถ้าคนที่อยู่หลังประตูนั้นไม่ใช่นักขัตแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากเดินทำหน้านิ่งผ่านไปเฉยๆ

คนที่อยู่หลังประตูนั้นดูตกใจเมื่อเห็นการมาของวันชนะจนชะงักไปเล็กน้อย จนคนตัวเล็กบางนั้นสังเกตเห็นแล้วหันมามองสิ่งที่ทำให้นักขัตสะดุด ก่อนพูดด้วยสำเนียงเนิบๆช้าๆ “แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะตั้ม”

ดวงตาคมกริบนั้นเหมือนจะฉายแววนัยอะไรสักอย่างขณะพยายามซุกเท้าเข้าไปในรองเท้าคู่นั้น ส้นรองเท้าหนาพอสมควรนั้นพลิกทำให้เจ้าของต้องโผร่างไปข้างหน้า สวมเข้ากับกอดที่เกิดอย่างอัตโนมัติของเจ้าของห้องได้พอดิบพอดี เจ้าของร่างที่เซไปซุกหน้าเข้าไปเต็มๆกับอกของนักขัต กิริยาที่เกิดดูไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลยในสายตาวันชนะ...เหมือนตั้งใจให้เกิด

แวบหนึ่งคนที่เดินผ่านเห็นเหตุการณ์นั้นได้เห็นรอยยิ้มผุดที่มุมปากเผยความมารยาของคนตัวเล็ก...เป็นยิ้มที่ส่งตรงมาให้วันชนะโดยเฉพาะ...เหมือนประกาศความเป็นเจ้าของ...และท้าทาย

เจอเข้าอย่างนี้วันชนะก็ใจเต้นตึกตักด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกเหมือนกัน มันปั่นป่วนอยู่ข้างใน แม้จะเคยสัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าจะตัดนักขัตออกไปจากความคิดก็ตาม แต่ก็สามารถเก็บซ่อนอารมณ์เอาไว้ได้จึงตอบกลับด้วยรอยยิ้มเหยียดและสายตาสมเพสให้กับพฤติกรรมมารยาสาไถนั้น...และเหมือนจะบอกผ่านรอยยิ้มเย็นนั้นไปด้วยว่า...ชายคนนั้นไม่ได้มีอิทธิพลอะไรต่อวันชนะเลยสักนิดเดียว...

ก่อนสายตาจะละจากคนทั้งสอง คนตัวเล็กพยายามจะรั้งในตัวเองได้อยู่ในวงแขนของนักขัตให้นานขึ้น ในขณะที่วันชนะไม่สังเกตว่านักขัตเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้นจึงรีบผลักร่างเบานั้นออก


เสียงเคาะดังขึ้นที่หน้าประตูหลังจากที่วันชนะกลับเข้าห้องมาได้ราวสิบนาที ในใจคิดว่าวุฒิคงกลับมาแล้วจึงเดินไปเปิดประตูให้อย่างปกติ
“ไง วินเป็นยังไงบ้าง ไม่ได้เจอเสียหลายวัน” กลับเป็นนักขัตอยู่ที่หน้าห้อง

เออเนาะ ยามที่เราต้องการกำลังใจกลับไม่มา ตอนที่เราต้องโดดเดี่ยวกับรอยแผลอยู่คนเดียวเขาไปอยู่ที่ไหน จะมาทำไมเอาป่านนี้ ทั้งๆที่ห้องก็อยู่ติดกัน เดินหากันก็เพียงไม่กี่ก้าว

“สบายดี ตั้มล่ะ” วันชนะทำตัวเป็นปกติ
“เมื่อกี้เพื่อนตั้มที่คณะ เขามาขอยืมเลกเชอร์ส่วนที่เขาไม่ได้เข้าเรียนน่ะ” นักขัตบอก

“เหรอ” จะมาบอกเราทำไมกันนะ ไม่ได้อยากรู้ วันชนะเงียบเหมือนรอฟังเขาว่าจะพูดอะไรต่อ

“เอ่อ...ไปกินข้าวเย็นกันไหม” เขาชวน วันชนะคิดว่าชวนเพราะเขานึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรเสียมากกว่า

“เรากินกับเพื่อนมาแล้ว” วันชนะตอบน้ำเสียงปกติ

“งั้นพรุ่งนี้ล่ะ พรุ่งนี้ตั้มสอบวันสุดท้าย เย็นๆไปหาอะไรกินกันไหม” เขาถาม

“คงจะไม่ได้หรอก พรุ่งนี้วินจะกลับบ้านต่างจังหวัด” ไม่รู้ความคิดนี้ผุดขึ้นมาได้ยังไงที่ทำให้วันชนะพูดออกไปอย่างนั้น ทั้งที่จริงเขายังไม่ได้วางแผนเอาไว้เลย

“อ้าว...หรือ...” หางเสียงแฝงด้วยความผิดหวัง “อืม...อย่างนั้นเอาไว้คราวหน้าก็ได้”

ได้เห็นสีหน้าหม่นลงของคู่สนทนาก็ทำให้ลืมภาพที่เคยจินตนาการว่าเขาโหดร้ายก็อ่อนลง แล้วถามกลับด้วยเสียงอ่อนว่า “แล้ววินไม่กลับเชียงใหม่เหรอ”

เขายิ้มนิดๆก่อนตอบว่า “ตั้มยังไม่กลับหรอก หยุดแค่สัปดาห์เดียวเอง เอาไว้กลับตอนปิดเทอมแรก”

แล้วทั้งคู่ก็เงียบไปราวกับไม่มีเรื่องให้พูดคุยอีก แต่ที่จริงแล้วมีเรื่องตั้งมากมายที่อยากถามไถ่ในช่วงที่ไม่ได้เจอกันก่อนหน้านี้...เพราะต่างก็ปิดความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้

นักขัตเองก็นึกเจ็บใจตัวเอง ทั้งที่รวบรวมความกล้าอยู่นาน เพราะเกรงที่ตัวโดนวันชนะเกลียดถึงขั้นออกปากว่าอย่ามาพบหน้ากันอีก เขาไม่อยากให้วันชนะเข้าใจเมื่อกี้ผิด แต่พออยู่ต่อหน้ากลับพูดอะไรไม่ออก อึกอักติดขัดไปหมด

ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ จากความรู้สึกที่เริ่มอ่อนโยนขึ้นก็กลับตึง เมื่อมีคนเดินออกมาจากด้านหลังของนักขัต
สายตาคมกริบจ้องมาทางวันชนะราวกับจะหมายหัวเอาไว้ คนตัวเล็กบางคนนั้นยังอยู่

คนตัวเล็กท่าทางบอบบางแต่สายตาเชือดเฉือนผิดบุคลิกไม่พูดอะไร แต่มายืนเทียบติดร่างสูงของนักขัตที่หน้าประตูห้องวันชนะ
“อ้าว แซกส์!” นักขัตตกใจที่จู่ๆเพื่อนร่วมคณะก็มาอยู่ข้างๆ

“แซกส์ว่าแซกส์ลืมของเอาไว้นะ เลยกลับมาดูน่ะ” ในหน้าที่แบ่งพวกเมื่อกี้กลายเป็นยิ้มอ่อนหวานสดใสเมื่อหันไปคุยกับนักขัต
“เอ่อ...แล้วนี่...” คนช่างตีสองหน้าถามอย่างเกรงๆ
“อะ อ้อ นี่เพื่อนตั้มเอง ชื่อวิน” นักขัตแนะนำ “วิน นี่แซกส์เพื่อนที่วิศวะฯ”

“งั้นเดี๋ยวตั้มไปดูให้” นักขัตอยากจะอยู่คุยกับวินสองคนมากกว่าจึงรีบกลับเข้าห้องตัวเองไปหาของที่ว่าลืมเอาไว้ คิดว่าหาเจอแล้วเอามาคืนเพื่อนตัวเล็กจะได้คุยกันต่อ ลืมไปว่าปล่อยให้วันชนะเผชิญหน้ากับเพื่อนใหม่ลำพัง


เมื่อตัวกลางปลีกตัวออกไป คนสองหน้าจึงเริ่มถอดหน้ากากออก เปลี่ยนเป็นหน้าที่ใช้กำราบศัตรูของตน สายตาคมนั้นดูเย็นเยือก แต่วันชนะก็แกล้งคุมอารมณ์เอาไว้ บางทีอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด จึงยิ้มให้อย่างเป็นมิตร หากแต่ฝ่ายตรงข้ามยังไม่แสดงทีท่าของมิตรตอบกลับมาแม้สักนิด

“นี่หล่อน อย่าริอาจมายุ่งกับตั้มเป็นอันขาดเชียว” เสียงเนิบช้านั้นแฝงด้วยอารมณ์ที่เหยียดหยัน สายตาของคนตัวเล็กบางมองวันชนะตั้งแต่หัวจรดเท้า


“แซกส์ๆ ลืมอะไรไว้เหรอตั้มหาแล้วไม่เห็นมี” นักขัตโผล่ออกมา
คนสองหน้ารีบถอดหน้ากากมารออกทันทีก่อนหันไปพูดกับนักขัตว่า “อ๋อ ขอโทษทีตั้มเราเอ๋อเองแหละ เจอละ อยู่ในกระเป๋าเราเองล่ะ” คนตัวเล็กหัวเราะร่วนสดใส...ไร้พิษสง

“แซกส์ว่าจะกลับแล้วล่ะ” เขาพูดก่อนจะหันมาทางวันชนะ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับวิน หวังว่าเราคงจะได้เจอกันบ่อยๆนะ” นิสิตวิศวกรรมตัวเล็กกล่าวพร้อมกับยิ้มที่เป็นมิตร
“เช่นกันครับ” วันชนะตอบยิ้ม แววตาเป็นประกายกล้า

ภาพที่เห็นทำให้คนที่เพิ่งออกมาไม่รู้อีโหน่อีเหน่เห็นว่าคนทั้งสองคงจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ เลยยิ้มตาม

ลับหลังคนตัวเล็กไปนักขัตรีบกลับมาที่หน้าห้องวันชนะ แต่เจ้าของห้องกลับปิดประตูเข้าไปแล้ว ตอนแรกกะจะเคาะเรียก แต่คิดอีกทีก็เปลี่ยนใจ

ภาสกรหรือแซกส์ นิสิตวิศวกรรมตัวเล็กได้แต่ระบายออกทางกิริยาที่แสดงออกมาอย่างไม่จำกัด กระทืบเท้าแรงตลอดทางเดินลงมา เจ้าคิดเจ้าแค้น ใบหน้าฉายแววไม่พอใจที่ไม่ได้ตอกกลับ เพราะไม่นึกว่าอีกฝ่ายก็ “แรง” อยู่เหมือนกัน ภาพของนังคนนั้นยังจำติดในใจ...เจ็บใจนัก

“นี่หล่อน อย่าริอาจมายุ่งกับตั้มเป็นอันขาดเชียว” คนตัวเล็กบางนึกย้อนกลับไปตอนเปิดฉาก เห็นอีกฝ่ายผงะไปนิดหนึ่งก็นึกว่ามันจะหงอ มันกลับต่อกลับมา

“ตั้มน่ะหรือ” มันหัวเราะเยาะ ปากมันหยันเหมือนจะเยาะเย้ย “กอดเขาอุ่นดีนะ ถ้าเธออยากได้บ้างก็ลองมาแย่งดูสิ”
มันทำหน้าท้าทาย
คิดถึงประโยคที่โดนตอกกลับแล้วยิ่งร้อนปุดปุดในอก เพราะต้องเป็นฝ่ายหยุดทั้งที่จะต่อปากด้วย เพราะคนที่หมายตาดันออกมาพอดี


หน้าห้องระบุหมายเลข 619 เจ้าของห้องนั่งหันหลังพิงประตูซบหน้าเครียดเข้ากับสองแขนที่วางบนเข้า สับสนเข้ามาครอบงำจิตใจ นี่เขาสร้างศัตรูไปแล้วหรือนี่ ทั้งที่เขาไม่เคยพูดหรือแสดงท่าทางที่มันแสดงออกมากขนาดนั้นมาก่อน...

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-04-2007 12:47:07
9 : ด้วยแรงอธิษฐาน

“เฮ้ย บอมพรุ่งนี้ขอไปอยู่ด้วยสักสี่-ห้าวันสิ” วันชนะพูดผ่านโทรศัพท์ที่อยู่ข้างล่างหอพัก
“เออ มาสิ แล้วไม่กลับบ้านเหรอ ได้ข่าวว่าสอบหมดแล้วนี่” เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่มาเรียนอยู่ในกรุงเทพฯเหมือนกันแต่อยู่ต่างมหาวิทยาลัยกล่าวตอบ

“ยังหรอก กะจะกลับตอนปิดเทอมใหญ่เลย อีกสองเดือนเอง” วันชนะตอบคำถามก่อนค่อยถามเพื่อนสนิท “แล้วแกจะสอบเมื่อไร”
“เริ่มสอบสัปดาห์หน้า”
“อ้าว แล้วแบบนี้ฉันไปอยู่ด้วยจะกวนแกอ่านหนังสือไหมล่ะนั่น” วันชนะกังวล
“ก็อย่ามาชวนคุยตอนฉันอ่านหนังสือเท่านั้นแหละ”
“อืม” วันชนะเข้าใจ อพาร์ทเมนท์ของปริญญามีแบ่งเป็นห้องนอนกับห้องรับแขก เขาก็เคยไปนอนค้างอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อตอนก่อนเปิดเทอม ปริญญามีฟูกหนาปูนอนที่ห้องรับแขกได้


...


เอาล่ะ ทำให้แนบเนียนที่สุด วันชนะเตือนตัวเองขณะพับเสื้อผ้าลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ จากนั้นคงต้องค่อยๆย่องออกไปให้เบาๆ หวังว่าคงจะไม่เจอนักขัตหรอกนะ แต่เจอสิดีจะได้เห็นว่าเรากลับบ้านจริงๆ

เปิดประตู ลากสัมพาระแล้วเหมือนนึกได้ว่าทำเกินไปหรือเปล่า กระเป๋าหนักอึ้ง ยืนลังเลอยู่ครู่ว่าจะเอาเสื้อผ้าออกบ้างดีไหมจะได้เบาขึ้น
“เฮ้ย วินจะกลับบ้านเหรอ” วุฒิเดินขึ้นมาพอดี

“อะ...อืม” นึกขึ้นได้ว่าลืมบอกวุฒิ “เพิ่งสอบเสร็จเหรอ?” สังเกตเห็นสีหน้าอิดโรยของเพื่อนร่วมห้อง
“เออ เหลือมะรืนอีกตัวก็หมดละ” รูมเมทกล่าว “แล้วนี่จะไปยังไงล่ะ?”

“ระ...รถทัวร์” วันชนะตะกุกตะกัก ไม่ได้เตรียมคำถามคำตอบเอาไว้ มัวแต่คิดว่าจะทำให้แนบเนียนที่สุด
“งั้นก็ไปดีมาดีนะ” วุฒิกล่าวอย่างจริงใจเพียงแต่แสดงออกไม่มากนัก
“ขอบใจวุฒิ”

วุฒิเดินอ้อมกระเป๋าใบใหญ่ที่ตั้งนิ่งบนพื้นขวางทางเข้า ใช้มือออกแรงผลักเบาๆหวังให้เคลื่อนออก แค่สัมผัสวุฒิก็รู้ว่าหนักมาก มองวันชนะที่กำลังตั้งท่าจะลากกระเป๋าใบหนักออกไป หนุ่มวิศวะเดินเข้าห้องไป วางกระเป๋าลงแล้วรีบออกมา


“มา วุฒิช่วย” คนพูดแย่งกระเป๋าไปจากมือวันชนะราวกับเบาเหลือเกิน แต่ลำแขนกลับเกร็งจนเส้นเลือดปูดนูนขึ้นมา
“ไม่เป็นไรวุฒิ วินถือไปเองได้” วันชนะเกรงใจ แม้ว่าของจะหนักแต่ก็ไม่เกินกำลังตนเอง

“เถอะน่า วินตัวบางจะแย่ เดี๋ยวเดินไปดีๆตัวหักกลางจะว่าไง” หนุ่มวิศวะพูดติดตลกเพื่อเบี่ยงเบนไม่ให้วันชนะแย่งคืน
รอยยิ้มบางๆมีให้เพื่อนคนนี้ แม้จะรู้จักกันเพียงครึ่งเทอมแต่ก็สนิทกันมากกว่าใคร เพราะที่รู้จักกันจากโรงเรียนเดิมมาเรียนที่นี่ก็มีแต่เขาคนเดียว คนอื่นก็ไปเรียนต่างมหาวิทยาลัย


เดินมาจนถึงประตูทางออกด้านหลังมหาวิทยาลัยวันชนะรอเรียกแท็กซี่ วุฒิยังยืนรอเป็นเพื่อนจนถึงยกกระเป๋าใส่ท้ายรถ
“ไปอโศกครับ” วันชนะบอกคนขับ แล้วขึ้นไปนั่งที่เบาะหลัง

“ขอบใจมากนะวุฒิ แล้วเจอกัน” พูดจบก็ปิดประตู รถค่อยๆออกตัวรอจังหวะเบี่ยงเข้าเส้นทาง
วุฒิเดินกลับ

“เอ้ะ เมื่อกี้วินบอกว่าไปอโศก” ไหนว่ากลับบ้านไม่ใช่หรือ บอกว่ากลับรถทัวร์ น่าจะไปที่สถานีขนส่งที่หมอชิต ได้แต่สงสัย ตลอดทางเดินกลับแต่พอมาถึงห้อง ความเพลียก็ทำให้ชายหนุ่มทิ้งกายลงนอนจิตเข้าสู่ห้วงฝันอย่างสนิท...


“โอ้โห นี่แกจะมาอยู่กี่เดือนเนี่ย!” ปริญญาอุทาน


...

ล่วงเข้าวันที่สี่ที่วันชนะพักอยู่กับปริญญา แม้จะอยู่ที่เดียวกันแต่ว่าเพื่อนสนิทตั้งแต่มัธยมดูจะเครียดอยู่กับการท่องหนังสือเตรียมสอบเสียมากกว่า วันชนะเกรงใจเพื่อนจึงพยายามไม่กวน ทั้งคู่จึงได้เจอกกันเฉพาะตอนออกไปทานข้าวหรือตอนที่ปริญญาออกมาพักสายตาเท่านั้น

...เบื่อ...ออกไปเดินเล่นข้างนอกดีกว่า

“บอม” วันชนะเรียกชื่อเพื่อนที่กำลังเคร่งท่องหนังสืออยู่อีกห้อง “จะออกไปข้างนอก จะเอาไรไหม?”
“ไม่ละ ขอบใจมาก” เสียงตอบดังผ่านประตู


เดินออกมาจากซอยพลางมองหาของกินไปด้วย คนพลุกพล่านเดินสวนทางวุ่นวาย วันชนะคิดถึงบ้านขึ้นมา ที่บ้านสงบไม่วุ่นวายแออัดเหมือนในกรุงเทพฯ ผู้คนก็ดูมีน้ำใจมากกว่าคนกรุงเทพฯ คิดไปคิดมาก็นึกได้ว่าตั้งแต่มาเรียนเขายังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย ชีวิตอยู่แต่มหาวิทยาลัย จากตรงที่เขากำลังยืนรอพ่อค้าย่างไข่ปลาหมึกบนตะแกรงร้อนสามารถมองเห็นป้ายรถเมล์อยู่ไม่ไกล

...ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างดีกว่า...แต่ถ้าเจอนักขัตขึ้นมาจะว่าอย่างไรล่ะ...ใจหนึ่งขัด...คงไม่เจอหรอกกรุงเทพฯออกจะกว้าง
“เสร็จแล้วหนุ่ม สี่สิบบาท” พ่อค้ายื่นถุงไข่ปลาหมึกหอมฟุ้งมาให้

“ขอบคุณครับ” วันชนะจ่ายเงินแล้วเดินอ้อยอิ่งออกมา ไข่ปลาหมึกหมดพอดีเมื่อถึงป้ายรถเมล์
ว่าแต่จะไปไหนดีล่ะ ยังไม่เคยขึ้นรถเมล์เลยสักครั้ง...ลองนั่งไปเรื่อยๆ ขากลับก็นั่งสายเดิมคงไม่หลงไปนอกเส้นทางกระมัง

รถเมล์สายหนึ่งวิ่งมาหยุดที่ตรงหน้า วันชนะตัดสินใจก้าวขาขึ้นไป

ต้นทางรถเมล์สายธรรมดาวิ่งได้ฉิว ไม่มีติดขัด สายลมพัดกระทบใบหน้าร้อนผ่าว แต่ก็ยังดีกว่าตอนที่รถติด เหมือนอยู่ในเตาอบ เพราะตัวรถเป็นเหล็กพอโดนแสงอาทิตย์เพิ่มพลังเข้าไปจึงดูดซับแล้วแผ่รังสีความร้อนออกมา แต่วันชนะมัวแต่มองออกข้างทางตลอด เห็นตึกสูง คนมากมายไหลไปกับถนน เบียดเสียดกันวุ่นวาย ขอทานตัวดำขะมุกขะมอมนักยกมือไหว้คนที่ผ่านไปผ่านมาปะหลกๆ แม้แต่คุณยายที่อายุราวหกสิบกว่าก็ยังมานั่งตากแดดตากลมขอทานเขากิน ควันเขม่ารถยนต์ฟุ้งกระจาย เห็นคลองเต็มไปด้วยขยะ น้ำสีดำคล้ำไม่เหมือนที่บ้านต่างจังหวัดก็น่าใจหาย

มาถึงช่วงหนึ่งถนนแคบมีเพียงสองเลนรถเมล์ที่วันชนะนั่งมาก็ติดแหงก เวลาผ่านไปยาวนานรถขยับไปได้เพียงไม่กี่เมตร สองข้างทางเป็นตึกสองชั้นเก่าๆ ไม่มีอะไรให้ดู อากาศร้อนอบ ตาเริ่มปรือ หัวเริ่มหนักเอน เริ่มกึ่งรู้กึ่งตื่น แต่ตาหลับสนิท...

...รู้สึกตัวอีกทีเมื่อ รถเบรกกะทันหันทำเอาศีรษะกระแทกเบาๆกับขอบเหล็กที่หน้าต่างประตู มองออกไปข้างนอก เจดีย์สูงตระหง่านสะท้อนแสงแดดเป็นสีทองอร่าม...เคยเห็นรูปในหนังสือมาก่อน...ภูเขาทอง...

ก้าวขาเข้าเขตสัตบรรพต...ภูเขาทอง...ก็รู้สึกได้ถึงความสงบเย็นร่มรื่น แหงนหน้ามองเห็นยอดอยู่ลิบๆ ภูเขาทองไม่ได้สูงชันอย่างที่คิด เพียงไม่นานวันชนะก็ขึ้นไปถึงที่สักการะด้านบน ชาวต่างชาติสองสามคนถ่ายรูปวิวกรงเทพที่เห็นได้กว้าง วันชนะบริจาคเงินใส่หีบแล้วหยิบธูปเทียนดอกบัวมาที่สำหรับจุดบูชา แยกทองคำเปลวออกมาต่างหากแล้วจึงจุดเทียน ตั้งเทียนที่แท่นได้ก็จุดธูปจากเทียน สะบัดไฟให้ดับ ควันธูปลอยอ้อยอิ่งหอม หลับตาสวดมนต์ในใจ จากนั้นจึงเดินเข้าไปด้านในเพื่อปิดทอง

ก่อนจะคลี่กระดาษเล็กๆที่ห่อแผ่นทองคำเปลวออก วันชนะพนมมือหลับตาอธิษฐาน...พระบรมสารีริกธาตุเจ้า วันนี้ผมได้มีโอกาสมาสักการะถึงที่นี่แล้ว ขออำนาจบุญส่งให้ครอบครัวมีแต่ความสุขและเจริญ...นึกถึงมารดาที่ล่วงลับแล้วจึงอธิษฐานต่อว่า...ขอให้คุณแม่พบเจอแต่สิ่งสงบร่มเย็น...แล้วก็นึกถึงตัวเองขึ้นมา...ขอ...ขอให้ผมได้พบเจอกับรักที่ดี...สายลมเย็นพัดผ่านวูบหนึ่ง มาพร้อมกับกลิ่นธูปหอม เหมือนเป็นคำอวยพร วันชนะอิ่มเอิบใจก่อนจะลืมตาแล้วปิดทองลงไป...

ไหว้สาพระบรมสารีริกธาตุเสร็จก็ออกไปเกาะหน้าต่างชมทิวทัศน์ของกรุงเทพ ข้างบนนี้ลมโกรกเย็นสบาย มีทางขึ้นเล็กๆที่มุมด้านหนึ่ง วันชนะเดินขึ้นไปก็เจอดาดฟ้า เจดีย์ทองสะท้อนแสงเป็นทองสุกเหลืองอร่าม แม้แดดจะร้อน แต่สายลมดูจะเย็นกว่า
จิตใจสงบ...ปล่อยเรื่องวุ่นวายในชีวิตให้ลอยไปกับสายลม...


เดินออกมาจากภูเขาทอง หันกลับไปมองยังทึ่งในภูมิปัญญาของคนเก่าแก่ไม่ได้ ยังนึกเสียดายที่ไม่มีกล้องถ่ายรูป
ตะวันเริ่มคล้อยทำมุมแหลมกับทิศตะวันตก คงราวสักบ่ายสามโมงกว่า เดินไปตามทางรถมุ่งหน้าไป สักพักก็เจออนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก หยุดชมนิดหนึ่งค่อยเดินต่อ

กำแพงสูงสีขาวเห็นอยู่ไม่ไกล สนามกว้างใหญ่รอบๆปลูกต้นมะขามห่างๆ วันชนะรีบเดินเร็วขึ้นเพิ่งจะเคยเห็นพระราชวังเป็นครั้งแรก จะได้ไปไหว้พระแก้วมรกตด้วย

...อิ่มเอิบใจ ซาบซึ้งอย่างน้อยครั้งหนึ่งก็ได้มาไหว้สาพระพุทธรูปคู่เมือง...เดินชมทั่วๆวัดเลยไปจนถึงพระราชวัง ปราสาทต่างๆจนออกมาก็เริ่มโพล้เพล้ เดินอยู่ข้างสนามหลวงมองข้ามไปยังฝั่งกำแพงโบราณสูงยังตราตรึง เป็นภาพที่สวยงามมาก
เดินๆอยู่ในคอเริ่มเป็นผง รู้สึกแห้งๆ ข้างหน้ามีรถเข็นขายน้ำส้ม น้ำใบบัวบกจึงเดินเข้าไป

“ขอน้ำใบบัวบกครับ”
ยืนรอแม่ค้าตักน้ำสีเขียวมรกตใส่แก้วก็มีคนเดินเซมาชนจนวันชนะเกือบทรงตัวไม่อยู่ ชายแก่ราวห้าสิบ ท่าทางไม่แข็งแรง เนื้อตัวมอมแมมหันมายกมือเป็นเชิงขอโทษขอโพยแล้วเดินโซซัดโซเซต่อไป วันชนะไม่ติดใจเอาความกลับรู้สึกเวทนาเสียด้วยซ้ำ
“สิบบาทจ้ะ” แม่ค้ายื่นแก้วพลาสติกใส่น้ำใบบัวบกมาให้

“ครับ” วันชนะสอดนิ้วไปที่กระเป๋าหลังกางเกงจะล้วงกระเป๋าสตางค์ออกมาจ่าย แต่...ว่างเปล่า...
“เฮ้ย!” วันชนะอุทาน ใจเสีย ก็เขาใส่ไว้ที่กระเป๋ากางเกงด้านหลังนี่ งมหาที่กระเป๋าด้านหน้าก็ไม่พบ มีเพียงเหรียญสิบตกค้างอยู่เหรียญเดียว ฉุกคิดขึ้นได้ต้องเป็นคนที่เดินมาชนเมื่อกี้แน่ๆ รีบกวาดตามองกลับไม่เห็นคนเดินโซเซคนนั้นเสียแล้ว มองดูแม่ค้าเหมือนขอที่พึ่ง ขอคำแนะนำกลับเจอใบหน้าบึ้งตึง ไม่พอใจ

“มีตังค์หรือเปล่าน้อง” น้ำเสียงเหมือนเหยียดหยัน และรอดูท่าที

“เอ่อ...ครับ” วันชนะจำใจให้เหรียญสิบที่มีให้แม่ค้าใจดำไป มิวายที่หล่อนจะบ่นอุบอิบให้พอได้ยินว่า...จะหลอกกินฟรีล่ะสิ ไม่ยอมเสียของหรอก

ทำยังไงดี...วันชนะเริ่มใจสั่น เพิ่งมาเป็นครั้งแรก ตอนก้าวขาขึ้นรถมามั่นใจนักหนาว่ากลับเองได้ มองไปที่ถนนตอนนี้ดูสับสนมึนตึงไปหมด จับทิศทางไม่ถูก

โอย...จะทำยังไงดีนะ ...วันชนะคราง ยืนหันรีหันขวางได้สักพักก็คิดได้ว่านั่งแท็กซี่กลับแล้วค่อยไปขอเงินจากปริญญามาจ่าย แต่ว่าเรียกแท็กซี่หลายต่อหลายคันไม่มีคันไหนยอมไปส่งเมื่อเขาบอกปลายทาง บ้างบอกว่าส่งรถไม่ทัน บ้างก็ขับรถหนีไปเลย

วันชนะมองสภาพจราจรที่ติดแน่นก็พอจะเดาออกว่าแท็กซี่คงจะเลี่ยงเส้นทางที่รถติด คงไม่คุ้มที่จะเสียเวลา จึงเดินคอตกกลับไปนั่งที่ม้านั่งใต้ต้นมะขาม แสงไฟส้มๆจากเสาไฟสูงติดพรึบ โคมไฟสีขาวหม่นก็ติดสลัวๆ...ค่ำแล้ว...ไม่เป็นไรรอให้รถซา ถนนโล่งหน่อยอาจจะมีแท็กซี่ยอมไปส่ง

ผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ ถนนเริ่มจะโล่งขึ้น ผู้คนที่ยืนๆรอรถเมล์ก็บางลงไปเยอะ วันชนะไม่ได้ร้อนใจเหมือนตอนแรกแล้วเพราะรู้วิธีกลับ ใจเย็นขึ้นก็เลยนั่งนึกคิดอะไรไปพลางๆ นึกถึงกระเป๋าที่หายไปก็เสียดาย แต่ยังดีที่ในนั้นมีเงินไม่กี่ร้อย หนักใจก็แต่บัตรสำคัญๆในนั้น จะไปแจ้งตำรวจก็ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนยังไงดี ถ้าแจ้งไปก็คงไม่ได้คืน เขาเองยังจำหน้าตาของคนที่มาชนไม่ได้เลย ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะใช่ เขาอาจจะทำตกไปที่ไหนก็ได้ ยุงเริ่มชุมกว่าตอนเริ่มดึกขึ้นทุกที วันชนะขอนั่งต่ออีกสักห้านาทีก็จะกลับแล้ว


รถหรูใหม่เอี่ยมคันหนึ่งค่อยๆขยับมาเทียบที่ริมถนน กระจกประตูข้างค่อยๆเลื่อนลงครึ่งหนึ่ง สักพักหนึ่งชายร่างสะโอด ท่าทางภูมิฐานด้วยชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวพอดีตัวกางเกงแสลกสีดำจับกลีบด้านหน้าเรียบร้อย เข็มขัดสีดำมันเข้ากับชุดและเนกไทสุภาพ ทว่าชายร่างสูงนั้นกลับใส่แว่นตาสีดำสนิททั้งที่ตอนนี้ไม่มีแดดแล้ว วันชนะไม่ทันได้สังเกตจนกระทั่งร่างนั้นมาหยุดอยู่ตรงหน้า

“เท่าไรครับ” น้ำเสียงทุ้มนุ่ม เอ่ยอย่างสุภาพ
.
.
.
.
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-04-2007 12:48:58
วันชนะเงยขึ้นมองใบหน้าในความสลัวนั้น ดูจากการแต่งกายรู้สึกขัดๆกัน เขาไม่ควรมาอยู่แถวนี้ น่าจะจับชายหุ่นสะองคนนี้ไปวางไว้ในห้างหรูๆมากกว่า

“ครับ?” วันชนะเอ่ยหลังจากมองรอบตัวจนแน่ใจว่าชายหนุ่มตรงหน้าพูดกับตน

ชายหนุ่มมีท่าทีมั่นใจแต่เหมือนดูขัดเขินอยู่ในทีเอ่ยซ้ำว่า “ไปกับผม เท่าไรครับ” น้ำเสียงเริ่มลังเล

วันชนะเข้าใจในทันทีว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้คงคิดว่าเขาเป็น “เด็กขาย” กระมัง ค่ำคืนมานั่งรอแขกเรียก
“ขอโทษครับ ผมไม่ใช่แบบนั้น” วันชนะกล่าวตอบอย่างสุภาพพร้อมกับลุกขึ้นเตรียมปลีกตัว สายตาคอยมองหาคนที่อยู่ใกล้ที่สุดเผื่อว่าตัวเองจะไม่ปลอดภัย

ไม่รอให้อีกฝ่ายพูดอะไรต่อวันชนะก็ผละไป เสียงฝีเท้าวิ่งตามใกล้เข้ามาวันชนะหันไปมองอย่างไม่ไว้ใจ แต่มือของชายหนุ่มคนตะกี้จับที่บ่าทั้งสองของวันชนะเอาไว้

“ผมขอโทษครับ” ชายหนุ่มพูดหอบโยน “ตอนแรกผมนึกว่าคุณเป็น...เอ่อ...” เขาไม่พูดต่อ
“เด็กขายตัว” วันชนะต่อแทน

“ผมขอโทษครับ แต่...ผมชอบคุณจริงๆนะครับ” ใบหน้าจริงจัง

อยู่ตรงจุดที่สว่างก็ทำให้เห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจนขึ้น แว่นตาถูกถอดออกไปแล้ว
หล่อมาก! ...วันชนะหลงไปกับใบหน้าหล่อคมของคนแปลกหน้าคนนี้ไปครู่หนึ่ง พูดอะไรไม่ออก เพิ่งเคยเจอแบบนี้เป็นหนแรกที่มีคนมาบอกชอบตรงๆแบบนี้

“ผมขอเบอร์ได้ไหมครับ”
“อะ...เอ่อ ไม่มีครับ”

“อืม...คุณอาจจะยังไม่ไว้ใจผมสินะครับ” ชายหนุ่มยื่นกระดาษแผ่นเล็กให้ “นามบัตรผมครับ”
มือยื่นไปรับมาโดยอัตโนมัติ

เขาลังเลสักสิบวินาที ก่อนจะแสดงท่าทางเหมือนตัดสินใจได้ “แล้วก็...นี่ครับ” เขาจับมือของวันชนะยกขึ้นแล้ววางของบางอย่างลงไป แล้วจึงกุมมือของคนที่ยังยืนอึ้งอยู่ให้จับของสิ่งนั้นให้ดี

ชายหนุ่มสะโองยิ้มพรายราวกับมีความหวังเล็กๆก่อนเดินจากไป
วันชนะยังยืนนิ่งจนกระทั่งรถหรูคันนั้นขับจากไปจึงได้รู้สึกตัว นามบัตรกับโทรศัพท์มือถือราคาแพงมาอยู่ในมือตนได้อย่างไร
อยากเอาไปคืน ไม่อยากได้ของคนแปลกหน้า แต่สายไปเสียแล้ว

มองเวลาที่โชว์บนหน้าจอมือถือสามทุ่มกว่าแล้ว วันชนะเรียกแท็กซี่ได้แล้ว เข้าไปนั่งที่เบาะหลังแต่กำลังจะเอื้อมมือไปปิดประตูข้างตัว จู่ๆก็มีใครคนหนึ่งโผล่พรวดพราดเข้ามาด้วย วันชนะโวยวาย คนขับรถก็ตกใจ

“ออกรถ ออกรถ ขับไปก่อน” คนที่โผล่พรวดพราดเข้ามาพูดรีบร้อนสั่งให้ออกรถทั้งที่เขายัดตัวเข้ามาได้แค่ครึ่งตัว แต่คนขับไม่ยอมออกรถตามสั่งกลับเปิดประตูรถออกมาอีกทาง แสดงการปกป้องตัวเองว่าเขาไม่เกี่ยวข้องทั้งนั้นถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้น
“นี่ นายจะทำอะไรน่ะ” วันชนะตะโกน

คนที่แทรกตัวเข้าเห็นคนขับลงรถไปแล้วจึงรีบถอยตัวออก เหมือนจะหนีไป ยังไม่ทันเอาหัวพ้นออกไป ชายหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับวันชนะก็ถูกชายสองคนเสียงกร้าวที่ตามมาทันล็อกตัวเอาไว้ ร่างของคนรุ่นเดียวกันโดนยกออกไปราวกับของเบาๆสักชิ้นทั้งที่ขัดขืนดิ้นรน
วันชนะนึกสงสัยปนสงสารแต่ก็โล่งใจ

“อ้าว น้องลงมาก่อนสิครับ” ชายหนึ่งในสองนั้นโผล่หน้าเข้ามา

“อะ...อะไรครับ” วันชนะใจเต้นตึกตัก

“ไปโรงพักกับพี่ก่อนสิน้อง”

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-04-2007 12:54:05
 “อะ...อะไรกันครับพี่” วันชนะปากสั่น มองหาพยานก็เห็นคนขับแท็กซี่ยืนมองเฉยอยู่นอกรถ

“อย่ามาไก๋สิน้อง เมื่อกี้ยังเห็นยืนขายกันอยู่หน้าตาแช่มชื่น ตอนนี้มาทำสั่น หลอกพี่ไม่ได้หรอกน้อง” เขาเอื้อมมือมาคว้าแขนวันชนะ
“ขะ...ขาย ขายอะไร” วันชนะยื้อแขนกลับ ใจคอไม่ดี หวังว่าคงไม่ได้หมายถึงผู้ชายคนที่มาขอซื้อเขาเมื่อกี้หรอกนะ
“จะอะไรเสียอีกล่ะน้อง รู้อยู่แก่ใจ มันกระดากปาก”

“เปล่านะครับ ผมไม่ใช่...” คนถูกกล่าวหาปฏิเสธเลิ่กลั่ก

“จะออกมาดีๆหรืออยากจะเจ็บตัว” ตำรวจนอกเครื่องแบบขู่เสียงกร้าว “เดี๋ยวยัดเยียดความเป็นผัวให้ฟรีเลยนี่”
วันชนะตัวสั่นเทิ้มค่อยๆมุดออกมาตามแรงดึง กลัวที่นายตำรวจนอกเครื่องแบบหนวดเฟิ้มขู่ยัดเยียดความเป็นสามีให้
“ไป!” เขาออกคำสั่ง พาวันชนะไปขึ้นหลังรถกระบะรวมกับพวกที่นั่งรออยู่แล้วสามคน

“ทำไมไม่หางานอื่นทำล่ะน้อง เดี๋ยวพลาดพลั้งติดโรคไปจะเสียอนาคตเปล่าๆเปลี้ยๆ แล้วไม่สงสารพ่อแม่บ้างเหรอ...” วันชนะนั่งฟังนายตำรวจเทศน์เสียยาว

“ผมไม่ใช่นะครับ อยู่ดีๆเขาก็มาขึ้นรถคู่กับผม” วันชนะชี้แจง
“อ้าว!? เอ้ะ!? ยังไง?” นายตำรวจอาวุโสนั่งฝั่งตรงข้ามหันไปมองหน้านายตำรวจนอกเครื่องแบบคนที่ออกไปล่ากลุ่มโสเภณีชายแถวสนามหลวงมา

“อย่าไปเชื่อมันพี่ พวกนี้ก็บอกว่าไม่ใช่ไว้ก่อนล่ะ บัตรประชาชนก็ไม่มี คร้านจะเป็นพวกกะเหรี่ยงหรือพม่าลักลอบเข้ามาอีก” คนถูกจ้องหน้าพูดอย่างที่เคยพบเจอมา

“ไม่ใช่นะครับ ผมโดนล้วงกระเป๋า ผมยังเป็นนิสิตอยู่นะ ไม่เชื่อโทรถามเพื่อนผมได้” วันชนะรีบไขความ นึกขึ้นได้ว่ามีโทรศัพท์มือถือที่หนุ่มหล่อแปลกหน้าให้มาก็รีบคว้ามากดเบอร์ที่ห้องของปริญญา
ไม่แน่ใจว่าจะโทรออกได้ไหม

ได้! มีสัญญาณ...แต่ไม่มีคนรับ

วันชนะกดวาง นึกอีกทีก็ไม่อยากกวนเพื่อนเพราะจะสอบอยู่รอมร่อ จึงตัดสินใจกดอีกเบอร์
นายตำรวจอาวุโสกับตำรวจหนุ่มหนวดเรียงทึบเหนือปากมองหน้ารอดูผล

...เจ้าประคุณ ขอให้มีคนรับทีเถอะ ขออาราธนาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระสังฆราช พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ พระ... วันชนะดีใจที่เสียงรอสายหายไปเป็นเสียงสิ่งแวดล้อมที่ปลายสาย ไม่เช่นนั้นพระอีกหลายองค์คงถูกอัญเชิญมาที่โรงพักแห่งนี้

“ พี่ต้อมเหรอครับ ผมวันชนะนะครับที่อยู่ห้อง 609 พี่ต้อมช่วยพูดกับตำรวจทีสิครับ” วันชนะรีบกรอกเสียงลงไปทันทีที่มีคนรับ
“อ้าววิน นี่ตั้มเอง ตะกี้ว่าไรนะ ตั้มฟังไม่ทัน มีธุระกับพี่ต้อมหรือ พี่ต้อมแกเมาฟุบอยู่ที่โต้ะนู่นแน่ะ” บังเอิญเสียจริงนะ คนรับกลายเป็นนักขัตไปเสียได้ พี่ต้อมบ้า เป็นคนเฝ้าหอพักได้ยังไงนะ เมาได้ทุกวี่วัน

“วินโทรมาจากแพร่เหรอ” ปลายสายถามมา เสียงสดใสดีใจที่ได้พูดคุย
“...แล้วตั้มมารับโทรศัพท์ได้ยังไง” คนเดือดร้อนเผลอนอกเรื่อง เพราะสงสัยในความบังเอิญ

“ลงมาหาอะไรกินน่ะ” คนตอบตอบตามปกติ คนฟังพอหายสงสัยก็รีบขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วยตั้ม...” ปลายเสียงแผ่ว ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร พอเรียบเรียงเหตุการณ์ได้จึงค่อยๆเล่า

“หา! อะไรนะ ขายตัว” นักขัตลืมตัวตะโกนผ่านสายโทรศัพท์จนวันชนะต้องเอามือขยี้หูที่อื้อไปชั่วขณะ
“แล้ววินไปขายตัวทำไม” นักขัตถามอย่างสงสัย

“โธ่! ก็บอกว่าเข้าใจผิด” วันชนะขึ้นเสียงสูง
“เป็นนิสิตแล้วขายตัวไม่ได้หรือ?” คนมีหนวดครึ้มยังเพ้อเจ้อขณะที่วันชนะรอใครมาช่วยอย่างร้อนอกร้อนใจ
นึกอีกทีดึกมากแล้วโทรไปบอกปริญญาเสียหน่อยดีกว่า เดี๋ยวจะเป็นห่วงไปกันใหญ่

“แกหายไปอยู่ไหนวะวิน” ปลายสายถาม “นึกว่าแกเชิดของห้องฉันหนีไปแล้วเสียอีก ดูอีกทีของแกก็ยังอยู่นี่หว่า”
“เออ เชิดมาอยู่ที่สถานีตำรวจนี่ไงเล่า”
“หืม แกว่าไงนะ”

หลังจากเล่าเหตุการณ์ให้เพื่อนฟังปลายสายก็หัวเราะเสียยกใหญ่ “สมน้ำหน้าแก อยู่ดีๆไม่ว่า อยากไปเดินแถวนั้นตอนกลางคืนทำไม ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ยังไม่หยุดหัวเราะ วันชนะชักเคือง

“ต้องให้ฉันไปรับไหมล่ะ” ปริญญาวางตัวเป็นผู้ปกครอง

“ไม่ต้องหรอก ฉันมีผู้ปกครองแล้ว เดี๋ยวคงมา” พูดเชิงขำๆแต่ก็เพื่อให้เพื่อนเบาใจจะได้ไม่ต้องเสียเวลามา

“เออ ขากลับขึ้นแท็กซี่มาก็โทรมาบอกด้วยจะออกไปจ่ายให้” น้ำเสียงจริงจังขึ้น “มีไรก็โทรมา ถ้าเรื่องไม่จบ” ปริญญาพูดแบบนี้เพราะสามารถทำให้จบเรื่องได้ เพราะมีญาติผู้ใหญ่ในกรุงเทพของเขาเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่อยู่หลายคน

“อืม ขอบใจว่ะ”

“วิน!”
เสียงเรียกมาถึงตัวก่อนจะได้ทันมองเห็นเสียอีก วันชนะดีดตัวผลุงดีใจที่มีคนมาช่วยยืนยันความบริสุทธิ์

“ชู่ว์” นักขัตยกนิ้วชี้แตะริมฝีปากเป็นสัญญาณให้วันชนะเงียบไว้

“คุณตำรวจครับ ลูกผมไม่ได้ขายบริการนะครับ วันๆเอาแต่ท่องหนังสือจะเอาเวลาไปทำแบบนั้นได้ยังไง” คนที่ตามมาด้วยพูดเสียงขรึม ท่าทางการวางตัวสุขุมน่าเชื่อถือ

“ละ...ลูก” วันชนะหลุดปาก คิ้วขมวดสงสัย หันไปมองนักขัตส่งสัญญาณให้เงียบจึงได้คอยดูสถานการณ์ต่อไป
“แต่ตำรวจของเราเห็นเขาอยู่ในเหตุการณ์ด้วยนะครับ” คนพูดบ่ายหน้าไปทางคนที่จับตัววันชนะมา

“คุณครับ ลูกผมได้อธิบายไปแล้วมิใช่หรือ ว่าเป็นการเข้าใจผิด” น้ำเสียงยังสุขุม
“เป็นไปไม่ได้ ผมเห็นกับตา” ตำรวจนอกเครื่องแบบคนเดิมยืนพิงตู้เอกสารพูดเสียงราบเรียบมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจับมาไม่ผิดตัว
“เห็นว่าลูกผมขายตัวอย่างนั้นหรือ?”

“ใช่”

“ลูกผมขายตัวยังไง?”

“ก็...เอ่อ...ก็ขายตัวนั่นแหล่ะน่า” เริ่มอึกอัก

“กล่าวหากันลอยๆอย่างนี้ผมฟ้องกลับนะคุณ” ดีมาก วันชนะเริ่มเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์

...
...

ปะทะคารมกันอีกชั่วอึดใจทางฝ่ายตำรวจก็ยอมจำนน สรุปว่าทำเป็นเรื่องแจ้งความประจำวันโดนวิ่งราวและบัตรประชาชนหายแทน
ฝ่ายคนที่ช่วยพูดให้วันชนะยิ้มย่อง “ขอบคุณมากค่ะ” กระแทกเสียงนิดๆประกาศชัยชนะ “เอ้ย ครับ” แก้ตัวเบาๆแก้เขิน ดีที่ทางฝ่ายตำรวจไม่ทันสังเกตคำลงท้ายเสียงที่เปลี่ยนไป กับหนวดปลอมที่หมดยางกาวเด้งปลายออกมา นักขัตเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพาทั้งวันชนะทั้งคนหนวดเด้งจะหลุดก้าวขาลงจากโรงพัก

“แล้ววินกลับมากรุงเทพฯตั้งแต่เมื่อไร” นักขัตถามเมื่อเห็นว่าออกมาจากโรงพักไกลพอสมควร

“อะ อ่อ วันนี้ๆเอง” วันชนะพูดเหมือนสำลักน้ำ ละอายใจที่ต้องโกหกซ้ำ “ว่าแต่นี่...” เขาเปลี่ยนเรื่อง
“ไงจ้ะหนู จำเจ๊ไม่ได้เหรอคะ” น้ำเสียงเริ่มคุ้นหู แต่ยังนึกไม่ออกจนกระทั่งคนถูกจ้องดึงหนวดออกเหลือแต่ใบหน้าเกลี้ยงเกลา “ไงจ้ะ หนูวันชนะ” เขาเรียกชื่อเต็ม

“หา! เจ๊ใหญ่ตึกสี่” วันชนะคาดไม่ถึง

“เจ๊อยู่ชมรมศิลปะการแสดงนะจ้ะ เห็นฝีมือรึยัง” คนพูดทำเสียงภูมิอกภูมิใจ
“แล้วพี่ใหญ่มากับตั้มได้ยังไงครับ” วันชนะสงสัย ยังไงๆก็ไม่น่าจะมาด้วยกันได้เลย

“เจ๊ก็เดินๆหาเหยื่ออยู่ดีๆ ไปตึกนู้นทีตึกนี้ที อยู่ๆผัวหนูก็มาขอให้เจ๊ช่วยยังไงล่ะ เสียเวลาหาชายหมดเลย เห็นว่าผัวหนูหล่อหรอกนะ เจ๊ถึงยอมลากสังขารอันงดงามมาที่นี่” เจ๊ใหญ่อธิบาย

“เจ๊ หนู เอ้ย ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเขานะ เขาไม่ใช่ผัวหนูนะ เอ้ย ผัวผม เอ้ย ไม่ใช่” พูดไปก็งงกับตัวเอง หันไปมองคนที่ถูกเรียกว่าเป็นผัวกำลังหัวเราะคิก จนวันชนะต้องจิกตามองเขาถึงหยุด

“หมดเรื่องแล้ว วินขอบคุณพี่ใหญ่มากเลยนะครับ เดี๋ยววินจะกลับแล้วล่ะ” วันชนะไหว้รุ่นพี่อย่างขอบคุณ
“อ้าว ไม่กลับด้วยกันหรือ” นักขัตรีบพูดก่อนวันชนะจะปลีกตัว

“วันชนะดรถเพื่อนมาน่ะ ข้าวของยังอยู่ที่ห้องเพื่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยกลับตึก ตอนเย็นมีนัดคาราโอเกะกับรุ่นพี่ที่ภาคฯด้วย” ไม่ต้องห่วง กลับแน่

“งั้นคืนนี้ผัวหนู ขอเจ๊นะ” เจ๊ใหญ่กลืนน้ำลายดังเฮือก

“เอาไปเลยเจ๊”

นักขัตเสียววูบกับตาเป็นประกายของเจ๊ใหญ่

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-04-2007 12:54:53
มาต่อให้จนถึงตอนที่เล้าแตกแล้วนะครับ

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

 :yeb:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 06-04-2007 13:17:21

.............โดนจับเข้าโรงพักซะงั้น...... :laugh5: :laugh5:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 06-04-2007 13:49:52
งานนี้ต้นน้ำจะเสร็จเจ๊ใหญ่มั้ยเนี๊ย :kikkik: นินะนิทิ้งต้นได้
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 06-04-2007 21:58:38
[ งั้นคืนนี้ผัวหนู ขอเจ๊นะ” เจ๊ใหญ่กลืนน้ำลายดังเฮือก

“เอาไปเลยเจ๊” ]

ซะงั้นน่ะ :laugh5: :laugh5:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 06-04-2007 22:47:30
 :give2: พระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 07-04-2007 00:09:09
 :laugh5: แล้วจะเสียใจนะนิ ยกผัวหนูไปให้เค้าแบบนั้นอ่ะ  55+  :laugh5:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-04-2007 05:42:04
หุหุ เอาไปเลยเจ๊  :laugh3:  :laugh3: แล้วจาเสียใจ  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-04-2007 13:06:17
10 : เข้าใจผิด

กลับมาถึงที่อพาร์ทเมนท์ของปริญญาก็เกือบเที่ยงคืน เพื่อนผู้มีญาติผู้ใหญ่เป็นนายทหารชั้นสูงอยู่ในกรุงเทพฯลงมาจ่ายเงินค่าแท็กซี่ให้แล้วกลับขึ้นห้องด้วยกัน ทันใดนั้นเสียงเพลงก็ดังขึ้น เดินมาจนถึงที่หน้าห้องเสียงเพลงก็ยังคงได้ยินอยู่

“มือถือแกดังหรือเปล่า?” ปริญญาทัก
“ฉันไม่ได้มีมือถือเสียหน่อย” วันชนะตอบ ไม่ทันคิด “เอ้ะ...” ฉุกคิดได้ก็รู้สึกกระเป๋ากางเกงด้านหลังสั่นๆ ภาพใบหน้าหล่อเหลาของคนขับรถหรูที่สนามหลวงแวบขึ้นมา

วันชนะให้ปริญญาเข้าห้องไปก่อน ตนยืนคุยที่หน้าห้อง
“สวัสดีครับ” วันชนะกรอกเสียงลงไป ไม่รู้ว่าเป็นใครที่โทรมา

“สวัสดีครับ” ปลายสายตอบมา “ผมเองนะครับ” อืม ต่อให้บอกชื่อมาก็ไม่รู้จักหรอก จริงสิ ตอนนั้นให้นามบัตรมาด้วย
“ครับ” พูดใส่มือถือ มือก็ล้วงหานามบัตร

“ขอโทษนะครับถ้าผมโทรมาดึกไป กลัวว่ารอถึงพรุ่งนี้คุณจะลืมผมไปเสียก่อน” น้ำเสียงชวนเคลิ้มฝันบวกกับจินตนาการที่ดีเกินจริงไปอีกของใบหน้าหล่อเหลานั้น

“คุณ...” เจอนามบัตรพอดี ภัทร อัศวธนนพ พิมพ์ด้วยตัวหนาโดดเด่น

“คุณภัทร” นามสกุลหรูจัง แต่หยุดเรียกแค่ชื่อต้น
“ครับ คุณล่ะครับ” ภัทรถาม

“วันชนะครับ เรียกวินก็ได้” สายตาอ่านรายละเอียดในนามบัตร สะดุดตากับตัวหนังสือยาวๆใต้ชื่อ พิมพ์ว่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ที่มุมด้านบนขวามือมีสัญลักษณ์ของนิตยสารแฟชั่นชื่อดังตราอยู่

“ครับวิน วันนี้ผมขอโทษนะครับที่เสียมารยาท เข้าใจผิด” ภัทรกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“อืม ไม่เป็นไรครับ ผมคงเหมือนไปนั่งขายจริงๆนั่นแหล่ะ” ขนาดตำรวจยังจับไปถึงโรงพัก

“เพื่อเป็นการไถ่โทษ ขอให้ผมเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวสักมื้อนะครับ” เกมรุกเริ่มต้นขึ้นแล้ว วันชนะหน้าแดงเรื่อๆ
“ไม่เอาหรอกครับ เกรงใจ ผมยังไม่รู้เลยว่าจะคืนโทรศัพท์คุณยังไง ผมไม่อยากได้หรอกครับ” วันชนะปฏิเสธอย่างนุ่มนวล จะให้ไปทานข้าวกับคนแปลกหน้าได้อย่างไร อันตรายมากมายสมัยนี้ รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ หน้าเทพใจยักษ์มีถมไป

“ผมเข้าใจดีครับ ว่าคุณยังไม่ไว้ใจผม เอาไว้เราคุยกันแบบนี้สักพักก่อนก็ได้ครับ แล้วตอนนั้นคุณค่อยคืนโทรศัพท์ให้ผมก็ได้” ปลายสายผ่อนสายป่าน

“แล้วโทรศัพท์คุณไม่ใช้เหรอ เอามาให้ผมแบบนี้คนอื่นโทรมาจะให้ทำอย่างไร” วันชนะซัก
“ไม่ต้องห่วง เบอร์นี้มีแต่คนในครอบครัวผมที่รู้ ผมบอกทุกคนไปแล้วว่าทำโทรศัพท์หายไป ผมมีเครื่องใหม่แล้วครับ”

ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายจริงๆ คงเที่ยวแจกของแพงให้คนอื่นง่ายๆแบบนี้ประจำ

“อย่าเข้าใจผิดหาว่าผมเที่ยวแจกใครไปทั่วนะครับ” อ้าว รู้อีกตะกี้นึกในใจนะ
“แต่ที่ผมทำไป เพราะ...เอ่อ...ผมชอบคุณจริงๆนะครับ” ท้ายๆข้อความเสียงเบาลง เหมือนกำลังเขินอายที่พูดออกมา คนฟังก็เลือดฝาดแต้มที่แก้มผุดผาด เหมือนจะร้อนไปถึงหู

...เงียบ...

“อ่า...ผมขอตัวก่อนละกันนะครับ ดึกมากแล้ว ถ้ามีโอกาสผมจะคืนของของคุณให้นะ” ชายหนุ่มที่ถูกเข้าใจในตอนแรกว่าเป็นเด็กขายบริการกล่าวทำลายความเงียบ
“ครับ พรุ่งนี้ผมจะโทรหาอีกนะครับ”


วางสายไปนานแล้ว แต่เสียงหัวใจที่ดังออกมานอกตัวยังไม่ยอมหยุด อมยิ้ม มีคนสนใจเขาด้วยหรือนี่
ฉับพลันนั้น ภาพของใครบางคนที่คุ้นเคยก็ผุดขึ้น เหมือนคอยจี้ใจว่ายังมีเขาอยู่อีกคนหนึ่ง อมยิ้มเป็นสุขก็จืดหายไปที่สุด


...
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-04-2007 15:16:40
เอ ทำไมตอนนี้เหมือนสั้น ๆ แฮะ  :call:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 08-04-2007 15:24:08
น่านจิ มันสั้นๆ นะ  :call: :call: :call: :call:

 :kikkik: :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 08-04-2007 16:07:39
สั้นๆจิงด้วย มาต่ออีกนะคร๊าบบบ

ต้นต้องเร่งทำคะแนนนะ มีคู่แข่งแว้ววว...เมื่อไหร่จะเข้าใจความต้องการหัวใจตัวเองนะตันน้ำ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-04-2007 10:07:42
วันชนะยืนอยู่หน้าภัตตาคารตามที่นัดหมาย ข้างในมีแบ่งเป็นห้องคาราโอเกะด้วย หลังจากที่สองชั่วโมงก่อนขนข้าวของกลับไปไว้ที่หอพักของตัวเอง ก็ตรงมาที่นี่ทันที มองดูเวลาที่ข้อมือบอกว่าเขาสายไปสิบนาที ชะเง้อมองหาเพื่อนที่จะออกมารับ ไม่นานนักอาร์ทก็เดินกึ่งวิ่งออกมามองหาวันชนะเช่นกัน

“ทางนี้อาร์ท ขอโทษทีมาสายไปนิด” วันชนะเดินเข้าไปหา
“ไปกันเถอะ” ท่าทางอาร์ทรีบร้อน “เดี๋ยวของกินจะหมด” ที่แท้ก็ห่วงของกิน


ห้องขนาดจุคนได้ราวสี่สิบคนอยู่ โคมไฟเหนือเพดานถูกหรี่ให้เหลือเพียงแสงสลัว บนโต๊ะใหญ่กลางห้องเต็มไปด้วยอาหาร ทั้งรุ่นพี่และรุ่นเดียวกันนั่งรอบโต๊ะ ติดผนังเป็นโซฟาแสงบริเวณนั้นออกจะมืดกว่ากลางห้องแต่ก็พอเห็นเป็นเค้าโครงหน้าได้บ้าง พวกรุ่นพี่ผู้ชายจะนั่งตรงนั้น เสียงเฮต้อนรับดังขึ้นเมื่อวันชนะก้าวเข้าไป

“ก็มาครบกันแล้วนะคะ” พี่เชอร์รี่รับหน้าที่ดำเนินรายการพูดขึ้นเสียงสดใสหลังจากวันชนะหาที่นั่งได้แล้ว “น้องวินต้องถูกทำโทษนะจ้ะ ที่ปล่อยให้เพื่อนๆรอ แต่ตอนนี้พี่จะอุบเอาไว้ก่อนว่าจะทารุณน้องอย่างไร พี่ๆข้างหลังช่วยกันคิดไว้นะคะ”
“หิวไหมแก อ้ะ” ก้อยยกหม้อไฟมีปลาช่อนตัวโตนอนอยู่มาวางไว้ตรงหน้า
“ขอบใจว่ะ” วันชนะยกแก้วน้ำอัดลมมาจิบพอให้หายคอแห้ง

“พี่ว่าน้องๆคงจะรู้จักกันเองหมดแล้วนะคะ รุ่นน้องมีกันแค่สิบแปดคนเอง แต่รุ่นพี่นี่ไม่แน่ใช่ไหมคะ” พิธีกรเงียบเสียงเหมือนหยั่งเชิง “นี่คือจุดประสงค์ที่พี่ๆลงขันขูดเนื้อกันมาจัดเลี้ยงครั้งนี้นะคะ เพื่อที่น้องๆจะได้รู้จักรุ่นพี่และรู้จักกันเองให้ดียิ่งขึ้น”

พิธีกรยังพูดต่อไป วันชนะยกส้อมไปจิ้มกุ้งเผาตัวโตที่อยู่ไกลสุดแขน อีกนิดก็จะได้แล้ว อยู่ในจานที่วางอยู่ตรงหน้าสุวรรณา แต่หญิงสาวผู้มีตำแหน่งเป็นดาวมหาวิทยาลัยกำลังสนใจอยู่ที่การดำเนินรายการของพิธีกรหน้าห้อง
“หลินๆ ขอกุ้งตัวนั้น...” วันชนะชะงัก แสงสลัวทำให้มองไม่ถนัดในตอนแรก

“อ่ะวิน”

กุ้งตัวที่เอื้อมไม่ถึงถูกส่งมาวางที่ในจานของวันชนะด้วยแขนช่วงที่ยาวกว่ายื่นมาวางให้

“ตั้ม! มาด้วยหรือ” แปลกใจนิดหน่อยที่นักขัตมาด้วย แต่ก็ไม่แคลงใจเมื่อเห็นคนที่นั่งติดกัน เพื่อนๆก็รู้กันหมดแล้วนี่ว่านักขัตกับสุวรรณาเป็นแฟนกัน นี่คงเข้าถึงใจพวกเพื่อนๆได้หมดทุกคนแล้วสินะ ถึงได้กล้ามางานที่จัดขึ้นเฉพาะกลุ่มพวกเรา
นักขัตเป็นคนนอกในงานนี้

คนนอกหันไปสนใจที่ด้านหน้าห้องต่อ

วันชนะใช้ช้อนตัดหัวกุ้งจนช้อนกระทบจานดังเคร้ง ไม่รู้ทำไมอารมณ์เดือดดาลไม่พอใจถึงเกิดขึ้นมาได้

“เอาล่ะค่ะ ต่อไปเรามาเล่นเกมกันดีกว่านะคะ พี่จะให้น้องๆจับคู่รุ่นพี่คนไหนก็ได้นะคะหนึ่งคน สอบถามชื่อ ทำอะไร ยังไงมาบ้าง แล้วเราจะมาแนะนำตัวกันที่หน้าห้องนี้ทีละคู่นะคะ” พูดจบพิธีกรก็วางไมโครโฟนลงที่ข้างๆตัวแล้วจึงเดินเข้าไปร่วมกลุ่ม

นักขัตเห็นสมควรว่าควรจะปล่อยให้คนภายในได้เล่นกันตามความเหมาะสม ตนเป็นคนนอก คิดได้ดังนั้นก็เลยค่อยๆหายออกไปจากกลุ่ม ไม่มีใครสังเกตเห็นหลังเขาตอนที่แสงสว่างจากข้างนอกสาดเข้ามาก่อนประตูจะปิดลง ห้องจึงกลับสลัวเหมือนเดิม

บรรยากาศชุลมุนเกิดขึ้นทันที ต่างหันไปหารุ่นพี่ ถามไถ่ วันชนะเองก็มองหาแต่ก็เห็นมีคู่กันหมดแล้ว มองผ่านคู่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็เห็นเงารุ่นพี่ผู้ชายยังนั่งอยู่คนหนึ่งจึงรีบเข้าไปหา ยกมือไหว้ก่อนทำความเคารพ

“สวัสดีครับพี่ ผมวันชนะนะครับ พี่ยังไม่มีคู่ใช่ไหมครับ” วันชนะกล่าว
“นั่งก่อนสิ” รุ่นพี่คนนั้นตบที่เบาะโซฟาข้างตัว วันชนะเข้าไปนั่งข้างๆอย่างว่าง่าย

กำลังจะอ้าปากถามว่าพี่ชื่ออะไร ผู้อาวุโสกว่าก็ยกแขนมาโอบ
“ตรงนี้มืดอยู่ อย่าส่งเสียงล่ะ เดี๋ยวใครได้ยินจะไม่ดี” รุ่นพี่คนนั้นพูดเบาๆที่ข้างหู ริมฝีปากห่างจากใบหูราวสักเซ็นฯหนึ่ง เพราะไอร้อนจากตัวแผ่มาถึง

ที่ตรงนี้ไม่ไกลจากคนอื่นหรอก แต่ไม่มีใครสนใจหันหลังมา เพราะมีแต่วันชนะกับรุ่นพี่ที่กำลังใช้แขนข้างหนึ่งกอดกดเขาอยู่ ราวกับจะตรึงเอาไว้

“พี่นัทไงจ้ะ” พูดเสียงแผ่วๆ แต่วันชนะได้ยินชัดเต็มสองหู คนที่วันชนะไม่อยากจะนับว่าเป็นรุ่นพี่ คนที่วันชนะอยากจะยกไหว้เมื่อกี้กลับคืนจ่อหน้าไปใกล้ที่หน้าวันชนะ ลิ้นเย็นๆแต่ร้อนด้วยไอลมหายใจและไอราคะสัมผัสที่แก้มวันชนะลากขึ้นไปช้าๆจนถึงตีนผมที่ขมับ วันชนะขืนตัวจะลุกแต่มือเพียงข้างเดียวที่โอบไว้นั้นกดเจ็บนัก มืออีกข้างลูบไล้ที่ต้นขา ไล่ไปที่ซิป วันชนะเหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างมาจุกที่ลำคอ หายใจฝืด ดันตัวออกแต่แรงกดยิ่งเพิ่มมาก ขยะแขยง จะตะโกนขอความช่วยเหลือก็ไม่กล้า

ซิปถูกรูดลงไปเรื่อยๆ...อย่างใจเย็น จนสุด
สองสามนิ้วค่อยๆสอดเข้าไปลูบสิ่งที่อยู่ในนั้น
.
.
.
.
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 09-04-2007 18:04:18

.............ต้นน้ำจะมาเป็นวีรบุรุซ้ำสองอีกไหมเนี่ย........ :impress3: :impress3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-04-2007 19:10:23
โอ้ย  :serius2: ต้นน้ำมาช่วยด่วน  :dont2: จัดการไอ้พี่นัทเลย  :angry2:
ว่าแต่จะได้มาช่วยมั๊ยเนี่ย  :call:  :call:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-04-2007 19:25:46
รอต้นน้ำมาเป็นพระเอกอีกรอบ   :-[
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: wee ที่ 09-04-2007 22:35:17
โอ๊ยยย...อ้ายบ้ากาม  ทำไมชอบทำแบบนี้กะน้องนิด้วยฟ่ะ  :13223: :13223: :13223:
อย่างงี้มันต้องลงโทษมันให้สาสมไปเลย  :13223: :13223: :13223:
อ้าว  เร็ว นายต้นน้ำ  ผมขอฝากสักสองสามมัดน่ะ  :13223: :13223: :13223:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 09-04-2007 22:53:04
 :o

ฆ่ามานนนนนนนนนนน  :angry2: :angry2:

ใครก็ได้ ช่วยนิด้วย  :dont2: :dont2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 10-04-2007 10:54:00
 :angry2: :pigangry2: อะไรฟร่ะ คนเยอะแยะยังกล้านะไอ้นี้  กู่ไม่กลับซะแล้วท่าทาง

ต้องเล่นงานให้หนัก ต้นน้ำมาช่วยหัวใจตัวเองโดยด่วนเลย ซัดให้น้วมไปเลย  :13223:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 10-04-2007 14:34:19
.
.
.
ซิปถูกรูดลงไปเรื่อยๆ...อย่างใจเย็น จนสุด
สองสามนิ้วค่อยๆสอดเข้าไปลูบสิ่งที่อยู่ในนั้น

ไม่ไหวแล้ว วันชนะกระทุ้งศอกเข้าที่ท้องคนข้างๆด้วยแรงทั้งหมดที่มี เสียงตุบเดียวสั้นๆ ไม่มีใครทันได้ยิน แขนข้างที่คอยกดเอาไว้คลายแรงลง เห็นจังหวะจึงรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปที่ประตูก่อนจะทำท่าทางให้เป็นปกติแล้วจึงเปิดประตูออกไปโดยเร็ว


หลับหูหลับตาวิ่ง...จะไปทางไหนยังไม่รู้
รู้ตัวอีกทีวันชนะก็อยู่ในสวนของภัตตาคาร ต้นลีลาวดีขึ้นอยู่เต็มบริเวณ ดอกสีขาวตรงกลางแต้มสีเหลืองนวลชูช่อสล้าง ลมพัดเย็นพัดช่อยอดอ่อนของต้นแก้วที่ชูดอกขาวเรียงแถวเป็นแนวกำแพงให้ไหวเอนเป็นระยะ แสงไฟสปอร์ตไลท์ส่องพอดียิ่งทำให้สวนดูสวยในยามค่ำ

ทางตัน! หากแต่ว่าเมื่อหันหลัง ร่างของรุ่นพี่ใจโสมมกลับยืนอยู่ราวกับจะรอขย้ำเหยื่อ

วันชนะวิ่งลงไปในสวน ทางเดินปูด้วยแผ่นปูนและก้อนหินเล็กๆสีขาว เห็นหินก้อนใหญ่วางอยู่ตรงหน้าวันชนะรีบเข้าไปหยิบมาไว้ในมือถือเป็นอาวุธป้องกันตัว

ณัฐวัฒน์หยุดเมื่อเห็นเหยื่อมีอาวุธแต่ก็หันมาเล่นแง่จิตวิทยาเมื่อเห็นรุ่นน้องยืนตัวสั่นอยู่ติดกำแพง
“ก้อนหินแค่นั้นน่ะหรือ” ณัฐวัฒน์หัวเราะข่ม

“ยะ...อย่าเข้ามาพี่นัท” ภาพความโหดร้ายครั้งก่อนวิ่งผ่านสมองแวบเดียวแต่ก็รื้อฟื้นกลับมาทั้งหมด...ตราบาป...
ร่างสั่นเทา ก้อนหิน...อาวุธเดียวหล่นลงไปกองที่เท้า

คนใจโสมมก้าวย่างเข้ามาช้าๆ แน่ใจแล้วว่าเหยื่อคงไม่พ้นกรงเล็บตน

“มึงอยากโดนเหมือนวันนั้นอีกใช่ไหม” เสียงหนึ่งดังขึ้น

ณัฐวัฒน์ชะงักกึก
วันชนะใจเหมือนจะหยุดเต้น...จำได้ว่าเสียงใคร

ร่างหนาสูงกว่าวันชนะยืนบังหน้า หลังเขาช่างกว้างผึ่งผาย เงาร่างของคนที่อยู่ในสวนนี้ก่อนที่ทั้งสองจะมายืดยาวมาบังวันชนะเอาไว้
“มึง” คนใจโสมมจำได้

วันนั้นเดินอยู่ดีๆมันก็มาหาเรื่องต่อย ก็เอาสิไม่ยอมมันหรอก แต่คิดอีกที เอามือไปคลำที่รอยแผลเป็นที่ต้นคอยังเสียวแปลบ
“ถ้าไม่อยากเจอเหมือนวันนั้น มึงจะต่อยกับกูวันนี้อีกก็ได้ กูจะไม่ให้มึงทำร้ายวินอีก” นักขัตยืนจังก้าสองมือกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดนูนเป่ง

บทสนทนานั้นทำให้วันชนะหวนคิดถึงวันนั้น วันที่เจอเนตรเสื้อยับยู่ยี่ เดินขากระเผก เลือดไหลซิบที่หน้าผาก หลังจากนั้นก็เจอนักขัตในสภาพบอกว่าผ่านการชกต่อยมา เพราะภาพสุดท้ายที่เชื่มโยงคือทั้งเนตรและนักขัตหยุดคุยกันที่บันได

เขาเข้าใจผิดมาตลอด
นักขัตชกต่อยกับคนใจทรามคนนี้ตะหาก นักขัตปกป้องเขา
...น้ำตาไหลออกมาเอง...ขอโทษ ตื้นตันใจ เสียใจ ดีใจ อารมณ์ปะปนยุ่งเหยิงไปหมด


...


“นี่...นาย” เสียงหนึ่งดังขึ้นกลางบันไดเดินขึ้นชั้นบน
คนที่เดินกับวันชนะเมื่อกี้หันมาก็พบกับชายหนุ่มหน้าตาดีหุ่นหนา จ้องมานัยน์ตาเอาเรื่องอยู่ในที...
ไม่พอใจ...ทำไมถึงรู้สึกไม่พอใจไม่รู้...เพราะเห็นเจ้าคนนี้เดินกับวันชนะ?
“ครับ!?” คนหยุดอยู่บนขั้นเหนือกว่ากล่าวโดยอัตโนมัติแต่ก็ยังคงความสุภาพเป็นนิสัย ชายร่างหน้าผุดรอยยิ้มที่มุมปาก
“ครับ!?” เนตรกล่าวซ้ำเมื่ออีกฝ่ายยังไม่แจ้งความประสงค์ที่เรียกตน สายตาคู่นั้นเหมือนจะสำรวจเขาอยู่ในที
“นี่ปากกาของนายทำตกเมื่อกี้” นักขัตยื่นให้
“อ้ะ ขอบใจนะ”


...


มันหันหลังกลับ ยอมแพ้ ไม่อย่างมีเรื่องกับนักขัต มันคงเกรงอยู่บ้าง
“ถ้ารู้ว่ามาทำอะไรวินอีก ตามถึงที่แน่ จำไว้” นักขัตขู่

คนรุกรานจากไปแล้ว วันชนะยังยืนเข้าอ่อนติดกำแพง...ยังอยู่ในเขตเงาร่างของนักขัตทาบทับมา เจ้าของเงาก็ยังยืนนิ่ง ยังหันหลังให้ จะดูให้แน่ใจว่ามันไปจริงแล้ว

ค่อยๆหันมา น้ำเสียงดุดันแข็งกร้าวเมื่อกี้หายไปหมดเหลือแต่รอยยิ้มบนใบหน้าอ่อนโยน
วันชนะน้ำตาไหลมากยิ่งขึ้น คนที่มาปกป้องเขาไม่เคยโกรธตนเลย ทั้งที่เขาจะเคยต่อว่าออกไปให้เจ็บช้ำน้ำใจ ทั้งที่แสดงออกตอบอย่างเฉยชา

คนตรงหน้านี้ก็ยังคอยปกป้องเขา
“ขอ...ขอโทษ...” วันชนะพยายามกลั้นไม่ให้สะอื้น ไม่อยากให้ตัวเองดูอ่อนแอไปกว่านี้
ร่างหนากำยำสาวเท้าใกล้ตัววันชนะเอามือลูบหัวลูบผมเบาๆ “ขอโทษเรื่องอะไรวิน ลืมมันไปเสียเถอะ” นักขัตรั้งร่างที่เปื้อนน้ำตามาแนบกาย ไม่ได้รังเกียจเลยที่ทำแบบนี้


“หยุดร้องเสียนะ ไม่มีอะไรแล้ว”
.
.
.
.
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 10-04-2007 14:57:16
ในที่สุด  :impress: :impress:

 :give2: :give2: :give2:


(แอบเสียดายที่คนโรคจิตไม่โดนต่อย  :angry2: :angry2:)
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 10-04-2007 18:59:18
อืมในที่สุดต้นก็มาช่วย พระเอกขี่ม้าขาวจริงๆ อุๆๆ :fox2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 10-04-2007 19:03:51
 :เฮ้อ: ในที่สุดก็.........รู้ซะทีว่าต้นน้ำดีแค่ไหน :give2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-04-2007 19:28:51
และแล้ว ต้นน้ำก็มาช่วยนิติ......อีกครั้ง  :impress:  :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 10-04-2007 20:22:42
พระเอกขี้ม้าขาวมาช่วยได้ทันเวลาเลย

ต้นน้ำได้ใจ FC ไปเต็มๆ

 :give2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 10-04-2007 21:17:31
รอคับรอ  :110011: :เชิป2: :110011: :เชิป2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 11-04-2007 12:24:41
  ทำตัวเป็นปกติ กลับเข้าไปในห้องที่มีทั้งเพื่อนและรุ่นพี่ กำลังครื้นเครงเฮฮา แม้จะเพิ่งเสียขวัญมาไม่กี่นาทีแต่วันชนะก็รู้สึกแช่มชื่นในใจขึ้นมาบ้าง เพราะก่อนหน้านี้ที่ทำไม่ดีต่อนักขัตเพราะนึกว่านักขัตเป็นคนไม่ดี แต่พอความเข้าใจถูกต้อง เขาก็ไม่อยากจะฝืนตัวเองต่อความรู้สึกลึกๆในใจ
เข้าไปนั่งรวมกับเพื่อนๆ นักขัตแยกไปนั่งข้างหลิน
ต่างยิ้มให้กัน...เข้าอกเข้าใจ


วันชนะมองไม่เห็นคนที่นั่งข้างๆวันชนะไปชั่วคราว
ความจริงก็เป็นความจริงวันยังค่ำ หลินมีสิทธิ์ที่ตัวเองมี สิทธิ์ของคนที่เป็นแฟน เธอกุมมือนักขัตเสียแนบแน่น...ดูเหมือนนักขัตเองก็ตอบสนองด้วยอารมณ์แบบเดียวกัน นิ้วโป้งที่เป็นอิสระจากการเกาะกุมลูบไปมาที่หลังมือของหลิน
เจ็บแปลบสะกิดที่ใจ อึ้ง...นิ่งงันไป


“ต่อไปตาน้องวินแล้วค่ะ” พิธีกรเสียงสดใสประกาศเรียก
วันชนะออกไปยืนหน้าห้อง ใบหน้าสดชื่น...ตบตาทุกคน

“ใครเป็นคู่ของน้องวินคะ” พี่เชอร์รี่ถามเพราะเห็นวันชนะออกมาคนเดียว
“พี่นัทครับ” ตอบเสียงเรียบ ไม่แสดงอารมณ์ปน

“เอ้ะ แล้วไหนพี่นัทล่ะคะ พี่นัทคะ” พิธีกรชะเง้อหา พร้อมกับประตูเปิดเข้ามา
“อ้ะ อยู่นี่เองนะคะ พี่นัทมาทางนี้เลยค่ะ” พิธีกรเสียงสดใสจูงคนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาให้มายืนข้างๆคู่ของตัวเอง
“ให้น้องวินแนะนำพี่นัทกับเพื่อนๆได้เลยค่ะ”

“พี่นัทนะครับ ชื่อจริง ณัฐวัฒน์ ทับนรา เป็นคนอุดรครับ” วันชนะนึกเอามั่วๆ “อาหารที่ชอบพี่เขาบอกว่าเขาชอบกินพวกไก่ทอด หรือซี่โครงหมูทอดครับ บอกว่าจะได้แทะกระดูกด้วย วินว่าฟันพี่เขาแข็งแรงดีนะครับ ตะกี้ก็ลืมถามไปว่าพี่เขาใช้ยาสีฟันยี่ห้ออะไรนะ” วันชนะโยนมุขขำแฝงข้อความเจ็บแสบไปยังณัฐวัฒน์

“...” ณัฐวัฒน์ยิ้มแหย กัดกรามดังกรอด

“เพิ่งรู้นะคะว่าพี่นัทชอบแทะกระดูก” พิธีกรแซวตามประสาจนทุกคนในห้องฮาครืน “เอาล่ะๆค่ะ ต่อไปให้พี่นัทแนะนำน้องวินให้พี่ๆน้องๆทุกคนรู้กจักด้วยนะคะ”

“น้องวิน ชื่อจริงว่า วันชนะ จินดามณี น้องเป็นคนเหนือครับ”
“จังหวัดอะไรคะ” พิธีกรแทรก

รุ่นพี่อึกอัก เล่าเรื่องได้ไม่เก่งเหมือนรุ่นน้อง ก่อนหน้านี้รู้เพียงว่าเป็นคนแถวภาคเหนือ แต่จำจังหวัดไม่ได้
“จังหวัดอะไรคะน้องวิน” พิธีกรถาม วันชนะถึงได้ตอบ

“แพร่ครับ”
“คนเหนือเขาว่าพูดเพราะนะครับ ลองให้น้องวินพูดภาษาเหนือให้ฟังสิครับ” คนพูดสื่อความนัยกระทบรุ่นน้อง
“ลองพูดหน่อยสิคะน้องวิน”

“จ้าดง่าว” วินพูดเป็นภาษาเหนือพร้อมแปลความหมาย คนในห้องยังเงียบๆเพราะยังไม่ชินกับภาษา แต่นักขัตหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ส่งแววตาเยาะหยันไปที่คนโดนด่า

“แม้แต่คำด่ายังเพราะเลยเนอะ” พี่เชอร์รี่หันไปพูดกับทุกคน
วันชนะลอยหน้าเดินลงเวที ณัฐวัฒน์มองตามหลังอย่างเคียดแค้น โดนหลอกด่าซ้ำกันสองหน

กิจกรรมต่อมาคือให้รุ่นน้องแต่ละคนจับฉลากคนละใบ บนกระดาษม้วนเล็กๆมีชื่อเพลงอยู่ กติกาคือใครจับได้เพลงไหนต้องร้องให้จบ พอจบโปรแกรมที่มีในเครื่องคาราโอเกะจะคำนวณคะแนนให้ จากนั้นจะเรียงลำดับคะแนนที่สูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งไล่ไปจนถึงคนสุดท้ายจากนั้นจะนำหมายเลขลำดับที่ไปเทียบกับหมายเลขของรุ่นพี่ ก็จะถือว่าเป็นพี่น้องสายรหัสกัน

“เอาล่ะคะ ต่อไปเราจะเนรมิตที่ตรงนี้เป็นเวทีประกวด อคาเดมี่ แฟนเทเชีย กันนะคะ” พิธีกรอธิบายกติกา
เสียงฮือฮาของรุ่นน้องดังขึ้น
“เริ่มคนแรกกันเลยนะคะ”

เพื่อนๆคลอตามเพลง ขอเพียงที่พักใจ ของมาลีวัลย์ ในแบบของก้อย ที่ถูกเชิญให้ร้องเป็นเพลงแรก จบเพลงได้คะแนน 94 เพื่อนๆอดทึ่งในพลังเสียงของก้อยไม่ได้ ต่างปรบมือให้ด้วยความชื่นชม

เสียงเฮลั่นเมื่ออาร์ทจับได้เพลง เลิกแล้วค่ะ ของ อาภาพร เสียงห้าวๆฟังดูแปร่งๆ แต่ก็ยังสามารถร้องไปตามทำนองได้ เพื่อนๆปรบมือเข้าจังหวะจนเจ้าตัวอดอาการไว้ไม่อยู่ เต้นท่าปัดมือที่เอวไปด้วย เรียกเสียงหัวเราะไปได้ตลอดเพลง อาร์ทได้ 55 คะแนน


“กรี๊ดด!” เสียงของพี่เชอร์รี่ดังก้องห้องผ่านไมโครโฟนเมื่อหลินส่งฉลากที่ตนจับได้ให้ดู
“เป็นเพลงคู่ค่ะทุกๆคนขา” พิธีกรยิ้มหน้าบาน “น้องหลินบอกเพื่อนๆทีสิค่ะว่าจับได้เพลงอะไร” พิธีกรเย้า
“หนุ่มนาข้าว สาวนาเกลือค่ะ” พูดพร้อมยิ้มเอียงอาย

“สงสัยเจ้าที่แถวนี้จะมองเห็นนะคะ น้องหลินจะเลือกใครเป็นหนุ่มนาข้าวดีคะ” พี่เชอร์รี่แซวสายตาชำเลืองไปทางนักขัต เป็นที่รู้กันว่าดาวเดือนมหาวิทยาลัยคู่นี้เป็นแฟนกัน

เสียงเพื่อนแทบจะทุกคน ยกเว้นวันชนะ ปรบมือเกรียวเชียร์ให้นักขัตออกไปร่วมแจมด้วย จนในที่สุดคนโดนเชียร์ก็ลุกเดินอ้อมผ่านหลังวันชนะไป

“บ้านของพี่ทำนา ทำนา ปลูกข้าวทุกเมื่อ
น้องเป็นสาวนาเกลือ ขายเกลือนั้นซื้อข้าวกิน
บ้านของพี่อยู่ที่กาฬสินธุ์
ส่วนตัวยุพินอยู่สมุทรสาคร
พี่มาเจอะคนงาม คนงาม บ้านอยู่ดาวคะนอง
นับว่าเป็นบุญของน้อง มาพบพี่ที่ทักน้องก่อน...”


ชายหนุ่มหญิงสาวราวกับร่ายมนต์ให้ทุกคนในห้องเงียบงันตั้งใจฟังทั้งคู่ร้องเพลงรับส่งกันอย่างเข้าจังหวะ บรรยากาศอบอวลด้วยไอรักจนหลายคนอดอิจฉาเสียไม่ได้ หนุ่มหล่อสาวสวยเหมาะสมกันมาก เป็นกิ่งทองใบหยกของจริง


วันชนะไม่ได้หันหน้าหนี ภาพอันหวานซึ้งส่งสายตาให้กันเป็นประกายของคนทั้งคู่ฉายลึกในนัยน์ตาแววหม่นของวันชนะ
หนุ่มนาข้าว สาวนาเกลือได้ไป 98 คะแนน รู้คะแนนคนทั้งคู่ก็โดนแซวยกใหญ่ว่าเป็นด้วยพลังแห่งรัก


“โอ้ จับได้เพลงอินเตอร์เสียด้วยนะคะ” พี่เชอร์รี่กล่าวนำ “น้องวินร้องได้ไหมคะเพลงนี้” พิธีกรถามแต่ไม่ต้องการคำตอบจริงจัง
“แต่ยังไงก็ต้องร้องนะคะ”

…Whenever sang my songs on the stage, on my own
Whenever said my words wishing they would be heard
I saw you smiling at me was it real or just my fantasy?
You'd always be there in the corner of this tiny little bar…

My last night here for you same old songs, just once more
My last night here with you? maybe yes, maybe no
I kind of liked it your way how you shyly placed your eyes on me
Did you ever know that I had mine on you?...


เหมือนจะเป็นดังคำที่พี่เชอร์รี่พูดก่อนนี้ว่า สงสัยเจ้าที่จะรู้เห็น จึงทำให้วันชนะได้ร้องเพลงนี้ แต่สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงคือน้ำเสียงมีพลัง การร้องขึ้นเสียงสูงต่ำไม่ผิดเพี้ยน สะกดคนทั้งห้องให้นิ่งเงียบไปอีกรอบ ทำนองเพลงเศร้าสร้อยราวจะเศร้ากว่าต้นแบบ สีหน้าแสดงอารมณ์เด่นชัด

สายตาทุกคู่จดจ้อง แต่มีเพียงหนึ่งที่วันชนะจดจ่อ
นักขัตเหมือนจะรู้สึกผิดปกติที่ใจตัวเองเหมือนกัน แววตาหม่นลงเหมือนคนร้องเพลงเศร้านั้น...ลำบากใจ


…Darling, so there you are with that look on your face
As if you're never hurt as if you're never down
Shall I be the one for you who pinches you softly but sure
If frown is shown then I will know that you are no dreamer

So let me come to you close as I want to be
Close enough for me to feel your heart beating fast
And stay there as I whisper how I love your peaceful eyes on me
Did you ever know that I had mine on you?

Darling, so share with me your love if you have enough
Your tears if you're holding back or pain if that's what it is
How can I let you know I'm more than the dress and the voice
Just reach me out then you will know that you're not dreaming

Darling, so there you are with that look on your face
As if you're never hurt as if you're never down
Shall I be the one for you who pinches you softly but sure
If frown is shown then I will know that you are no dreamer…

เพลงเศร้าเกินไป...เพราะมีอารมณ์คล้อยไปกับมัน
เพลงจบลงก่อน หากต่ออีกสักครึ่งนาทีน้ำตาคงจะเอ่อล้นแน่นอน วันชนะกระพริบตาถี่ๆสองสามครั้งแล้วโน้มตัวขอบคุณ
รูปตัวการ์ตูนถือป้ายคะแนนปรากฏ
ทุกคนปรบมือให้กับคะแนนยอดเยี่ยมนั้น แม้แต่ณัฐวัฒน์

... 100 เต็ม
.
.
.
.
[wma=300,50]http://001.uploadblaster.com/file_hosting/3c3ff7d0fb5a60748e50739625b729be.wma[/wma]

ขอบคุณหนูบลูสำหรับเพลง eye_on_me คร้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 11-04-2007 12:55:48
เจอเพลงนี้เข้าไป  สงสารนิติจางงงง....eyes on you


ต้นน้ำค้าบบบบ   รู้ใจตัวเองไวๆน๊า :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 11-04-2007 13:07:47
 :impress: :impress:

เศร้าแทนอ่า
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 11-04-2007 13:15:06
รักคนมีเจ้าของมันเศร้าในอุรา  :เศร้า1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 11-04-2007 14:42:17
สงสารนิจังเลย :dont2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 11-04-2007 14:57:41
ส่งความรู้สึกผ่านเพลงแล้วอย่างลืมบอกด้วยปากอีกทีนะคับนิติ :give2: :-[ :give2: :-[
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 11-04-2007 15:10:58

.............คนมาทีหลัง...ก็รู้ตัวเองดี......... :เศร้า1: :เศร้า1:

..........................และฉันไม่บังคับใคร....ได้แค่ไหนก็แค่นั้น..... :impress3: :impress3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: wee ที่ 11-04-2007 17:45:18
ต้นน้ำเหมือนจะรู้สึกผิดปกติที่ใจตัวเองเหมือนกัน แววตาหม่นลงเหมือนคนร้องเพลงเศร้านั้น...ลำบากใจ

นายต้นน้ำเอ่ย...เฮ้ออออ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
บรรยากาศพาไปจริงๆ  เอ็มวี ย่อยๆเลย เสียแต่ว่าไม่มีเพลงจริงประกอบอ่ะ....
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-04-2007 19:58:18
... 100 เต็ม
ลัคกี้อินเกม อันลัคกี้อินเลิฟ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 12-04-2007 00:13:32
รอคับรอ  :yeb:

 :110011: :เชิป2: :110011: :เชิป2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-04-2007 12:39:47
.
.
.
.“อึ้งกันไปเลย อึ้งกันไปเลย” พิธีกรชักทุกคนให้กลับมายังจุดที่อยู่ “น้องวินของเราร้องเพลงได้ยอดเยี่ยมมากๆเลยค่ะ ตะกี้พี่กลั้นน้ำตาไว้เกือบไม่อยู่แน่ะค่ะ”


วันชนะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
ยืนมองดูตัวเองในกระจก...นิ่ง
ใบหน้าเริ่มแต้มอารมณ์ทีละนิดๆ ตาพร่า...น้ำในตาเอ่อท้น
ร้องไห้...เงียบๆ คนเดียว
บอกกับคนในกระจก ตัดใจได้แล้ววิน จากนี้ไปเขาจะเป็นเพื่อนที่ดี...เท่านั้น
ไม่มากกว่านั้น
เราผิดเองที่ไปรักเขา...
เอาล่ะ ล้างหน้าเสีย ยิ้ม แล้วออกไปสนุกกับเพื่อนๆดีกว่า


...ล้างคราบน้ำตาออกไปเสีย...

นักขัต!
หยดน้ำยังเกาะบนใบหน้า ลืมตาขึ้นก็เห็นเขาอยู่ในกระจก
วันชนะหันหลังให้ แต่มองเขาผ่านเงาในกระจก...นี่คงจะสะท้อนโลกแห่งความเป็นจริงสินะ

วันชนะเฝ้าฝันหาแต่ภาพมายาในกระจกเงา โลกที่สะท้อนสิ่งที่ตรงกันข้าม

“วิน...” คนในกระจกเรียก
“ไง ตั้ม” ตอบด้วยเสียงกระปรี้กระเปร่า “วันนี้สนุกไหม”

“...” ไม่มีคำใดหลุดออกมา
คนยืนข้างหลังมองใบหน้าวันชนะผ่านกระจกเช่นกัน “วินร้องไห้?”

“นายว่าอะไร เราจะร้องไห้ทำไมกัน” ปากปฏิเสธแต่ขอบตาสีแดงกลบเกลื่อนความจริงไม่ได้
“ระวังน้ำกระเด็นนะ เราจะล้างหน้า” วันชนะรีบก้มหน้าลงอ่าง เปิดน้ำแรงดังซู่ วิดน้ำใส่หน้า

บ้าจริง! น้ำตาอย่าไหลมาตอนนี้เชียวนะ

แยกไม่ออกแล้วว่าร้องอยู่หรือเปล่า จิตใจมันร้อง ไม่อยากให้เขาเห็น ไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ...อยากจะลืม อยากจะชำระมันไปให้หมด วิดน้ำอีก...ไม่รู้แล้วว่าน้ำตายังปนไปกับสายน้ำ...หรือว่าน้ำตาหยุดไปแล้ว
วักน้ำจนคอเสื้อเปียกชุ่ม กระนั้นมือคู่นั้นก็ยังวักน้ำต่อไป


“...พอเถอะวิน”
มืออุ่นจับที่แขนข้างหนึ่งให้หยุด
วันชนะยังก้มหน้าอยู่กับอ่าง
นักขัตดึงแขนที่จับไว้ออกห่างจากที่สายน้ำยังไหลซู่
ค่อยๆพาวันชนะออกมา...ยังคงหลับตา
หันหน้ามาเผชิญกัน...ยังคงหลับตา
จับเอาไว้ได้ทั้งสองมือ
วันชนะยังคงหลับตา


“เราไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไรนะวิน เราบอกไม่ถูก ลังเลมาตลอด”
นักขัตจ้องที่ใบหน้าชุ่มน้ำของวันชนะ เงียบไปอึดใจ

วันชนะยังคงหลับตา
“เราเจ็บปวดใจที่เห็นโดนรุ่นพี่คนนั้นรังแก เราไม่อยากเห็นรอยนั่น เรามันขี้ขลาดที่สุด ไม่กล้าเผชิญหน้าความจริง ทั้งที่ตอนนั้นเราควรจะไปดูแลวิน แต่เรากลับหนี...”

วันชนะค่อยๆลืมตาขึ้น มองใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มตา...ชัดเจน
ไม่ใช่ในฝัน ไม่ใช่ในกระจก

“ตั้ม...” วันชนะขยับปากจะพูดต่อ แต่ถูกมือของนักขัตหยุดเอาไว้
“เมื่อกี้ ตอนที่วินร้องเพลงนั้น...สิ่งที่เรารับรู้มันมากกว่าความหมายของเพลง แต่เรามองเห็นสิ่งที่วินมีให้เรามาตลอด ที่ผ่านมาเรามัวแต่ลังเล...”

“ตั้ม...” วันชนะรู้สึกราวกับสิ่งที่รอมาตลอดกำลังจะเกิดขึ้น
นักขัตหายใจเข้าลึกก่อนพูดออกมา “เราแน่ใจแล้ววิน”


“เรารักนาย”


มือที่จับแขนวันชนะเอาไว้รั้งไปข้างหลัง อีกข้างโอบร่างที่เปียกน้ำเข้าหาตัว
ใบหน้านั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนอยู่ในระยะใกล้กว่าจะเห็นภาพได้ชัด วันชนะหลับตาลงอีกครั้ง น้ำตาริ้นอีกครั้ง ริมฝีปากเย็นได้รับไออุ่นๆจากริมฝีปากนุ่มของชายที่เขาเฝ้าฝันมาตลอด

...อบอุ่น...เนิ่นนาน...


“เรารักนาย ตั้ม”


สิ่งที่เห็นเกินกว่าที่หญิงสาวจะรับได้ ภาพสะท้อนจากเงากระจกในห้องน้ำชายนั้น
เมื่อกี้อยู่ๆนักขัตก็ลุกพรวดพราดออกมา เลยจะมาตามดูเสียหน่อยว่าเป็นอะไรไปหรือเปล่า
มีเสียงคุยดังจากในห้องน้ำชาย ที่ประตูแง้มเอาไว้ มองจากด้านนอกเห็นกระจกสะท้อนคนสองคน...ทันได้เห็นได้ยินสิ่งที่คนทั้งคู่แบ่งปันให้แก่กัน


ไม่จริง!

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

[wma=300,50]http://001.uploadblaster.com/file_hosting/3c3ff7d0fb5a60748e50739625b729be.wma[/wma]

ขอบคุณหนูบลูสำหรับเพลง eye_on_me คร้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 12-04-2007 12:44:30
มาต่อไวๆนะค๊าบบบ พูห์ เพิ่งอ่านจบ ชอบๆมากมาย เริ่องนี้น่ารักดี

ชอบต้นน้ำจัง เชียร์ขาดดดดดดใจ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 12-04-2007 12:45:27
ในที่สุดก็ยอมรับความจริงซะทีนะคับต้นน้ำ :-[ :-[  ว่าแต่จะทำยังไงกับปัญหาที่นายก่อไว้กับหลินล่ะคับ :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 12-04-2007 12:48:21
 :เฮ้อ: ในที่สุดก็รู้ใจตัวเองซะทีต้นน้ำ แต่ก็สงสารหลินเหมือนกัน  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 12-04-2007 12:48:43
ซวยแล้วมั๊ยล่ะ  :serius2:





เป็นกำลังใจพูห์จ้า... :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 12-04-2007 17:20:08
เฮ้อ เดี๋ยวเป็นเรื่องอีกเเหงๆ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 12-04-2007 20:07:13
 :loveu: ต้นน้ำ กะนิ เข้าใจกันแล้วววว
แต่... หลินจะเข้าใจด้วยมั๊ยล่ะเนี่ย.. :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: wee ที่ 12-04-2007 20:19:56
โห...สามคนสามหัวใจ  เฮ้อ....ความรักหนอความรัก  :110011: :เชิป2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-04-2007 20:56:44
ต้นน้ำกับนิเข้าใจกันแล้ว  :impress:
แต่ก็สงสารหลินจัง  :เฮ้อ: ไม่รู้จะรับได้มั๊ย  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 13-04-2007 12:29:51

11 : ถ้าเธอพร้อม ฉันก็พร้อม...ไปด้วยกัน


“แล้ว...หลิน” วันชนะฉายแววกังวล หนักใจเรื่องที่จะเกิดระหว่างคนรักกับเพื่อน
นักขัตเองก็แสดงความกังวลก่อนจะยกคางวันชนะขึ้นมาสบตากัน ชายหนุ่มมอบความเชื่อมั่นแก่คนรักผ่านรอยยิ้ม

“ให้เวลาตั้มหน่อยนะ” บีบที่ไหล่เบาๆก่อนจะรวบร่างคนรักที่เพิ่งตัดความลังเลไปได้มากอดแน่นอีกครั้ง จูบที่ต้นคอ

“วินรู้สึกไม่ดีเลย”

แม้เคลือบหวานเอาไว้ก็คงเพียงเปลือกนอก ไม่นานพอหมดความหวานสิ่งที่ต้องเผชิญก็คือยาขม หากทนไม่ได้ก็คงต้องบ้วนทิ้งหรือรีบกลืน หากแต่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี่สิ


“วินกลับมาแล้วเหรอจ้ะ ตั้มด้วย ไปไหนมาไม่บอกกันเลยนะ” สุวรรณาทักเป็นปกติเมื่อเห็นเพื่อนและคนรักเปิดประตูเข้ามา
...คนรัก?...คำถามผุดขึ้นในใจ ...ใช่หรือ?...ยังใช่อยู่หรือ? หัวเราะเยาะอยู่ในใจ...ให้คนทั้งคู่ หรือสมน้ำหน้าตัวเองกัน


“พี่เขาจะเฉลยพี่รหัสแล้วนะ” สุวรรณาบอก
“อืม” วันชนะรับคำ สายตาละอายแต่คิดว่าอีกฝ่ายน่าสงสารที่ไม่รู้ความลับระหว่างเขากับนักขัต
สายตาเจ็บแค้น เหยียดหยันดูถูก สายตาที่ถือตนว่าเหนือกว่าโชติขึ้นชั่วแวบก่อนจะถูกกลบด้วยรอยยิ้มสวย

“ตั้มจ้ะ เดี๋ยวเสร็จจากนี้เราไปหาอะไรกินกันอีกไหม แล้วค่อยไปส่งหลินที่บ้านนะ คุณพ่อกับคุณแม่หลินเขาอยากพบตั้มนะ” หล่อนจงใจพูดให้เสียงดังข้ามฝั่ง มือเอื้อมไปจับมือของนักขัต แต่ในใจยังเห็นภาพเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนี้ ที่มือเธอกับคนรักเกาะกุมอบอุ่น
จับมือคราวนี้ไม่มีความอบอุ่นเหลืออยู่แล้ว...ช่างรวดเร็วนัก...

นี่แหล่ะนะ ผู้ชาย

ไม่ใช่สิ! ไม่ใช่

หล่อนจงใจให้เห็นมือที่จับอยู่ เธอแสดงได้เนียนว่าไม่รู้อะไร นักขัตพยายามจะขยับมือออกเพราะรู้ว่าวันชนะเห็น แต่ที่วันชนะเห็นมากไปกว่านั้นคือ สายตาที่มองต่ำส่งมาทางตน

เขาคงวิตกมากไป หลินไม่ใช่คนแบบนั้น มองอีกที นั่นไง หลินผู้น่าสงสาร เราขอโทษนะ
หลุบตาลงต่ำ ละอายแก่ใจที่ทรยศเพื่อน...ไม่อยากเห็นภาพบาดใจ

“เอ่อ วันนี้ตั้มมีธุระ” นักขัตเสียงแผ่ว
“ไม่ได้นะ หลินบอกที่บ้านเอาไว้แล้ว” เธอทำเสียงน้อยใจ
นักขัตมองหน้าวันชนะเหมือนขอคำตัดสิน แต่วันชนะไม่สบมองเขาเลย
ขอโทษนะวิน ให้เวลาเราหน่อยเถอะนะ

งานเลี้ยงเลิกแล้ว รุ่นพี่รุ่นน้องออกมายืนออที่หน้าร้าน
“วิน” สายตาเห็นใจ เข้าใจส่งให้กัน รอก่อนเถอะ

“ไปเถอะ” สายตาที่ส่งมาบอกอย่างนั้น สายตาเชื่อมั่นในกันและกัน
ทั้งคู่ส่งสัญญาณให้กัน คิดว่ามีเพียงสองคนที่รู้กันดีว่าในใจคิดอะไร

“ไปกันเถอะตั้ม” หลินโฉบมา หล่อนตัดสัญญาณทิ้ง แต่ก็ยังเล่นละครได้แนบเนียน “ไปก่อนนะวิน” เธอยิ้มหวาน

แต่สัญชาติญาณหึงหวงแบบผู้หญิงตีวนอยู่ภายใน
หรือฉันควรจะยอม วันชนะก็เป็นเพื่อน

ไม่! ไม่มีทางยอมให้หรอก พวกวิปริต!

“ตั้มไปส่งหลินก่อนนะวิน เดี๋ยวเจอกันที่ตึก...” นักขัตพูดไม่ทันจบดีก็โดนลากไปเสียแล้ว


...


กลับมาถึงห้อง ไม่มีแสงลอดมาจากช่องใต้ประตู วุฒิคงไม่อยู่ วันชนะเลยไม่เคาะเรียก
เปิดประตูเข้ามาในห้องก็ได้ยินเสียงดังหวืดๆที่บนโต๊ะอ่านหนังสือ มือถือเปิดระบบสั่นเอาไว้กำลังมีสายโทรเข้าหน้าจอเรืองแสงวูบวาบ

“สวัสดีครับคุณภัทร” วันชนะกรอกเสียงลงไป
“เรียกพี่ภัทรเฉยๆไม่ต้องเรียกคุณก็ได้” ปลายสายโต้ตอบ

“ครับ พี่ภัทร”
“เป็นไรไปครับวิน เสียงเศร้าๆ” ภัทรสังเกตได้
“เปล่าครับ” วันชนะปฏิเสธ

“ทุกข์ใจเรื่องความรักหรือเปล่า” ปลายสายพูดแกมหัวเราะ แต่ตรงเข้าเป้าเผง
“...” เงียบไปอึดใจ ก่อนพูดตอบไปว่า “ใช่ครับ”

ปลายสายนิ่งงันไปเหมือนกัน ภัทรไม่เคยนึกถึงประเด็นที่ว่าวันชนะจะมีแฟนอยู่แล้วมาก่อนจึงรู้สึกจุกไปเหมือนกัน เรื่องที่เตรียมมาคุย นึกไม่ออกเสียแล้ว

“ผมขอโทษครับ แต่ผมคิดว่าควรจะบอกให้พี่ภัทรรู้ ที่จริงผมกับเขา...” วันชนะเสียงแผ่ว “จะเรียกว่าแฟนกันคงยังไม่ใช่หรอกครับ”
เรื่องราวทั้งหมดพรั่งพรูจากที่สั่งสมเอาไว้ วันชนะเองไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้เล่าเรื่องของเขาให้กับภัทรฟัง เพียงแค่เริ่มเปิดเผยก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก

ภัทรรับฟังวันชนะจนจบ เขาเองยังให้คำแนะนำอะไรมากไม่ได้ เพราะจิตใจตัวเองก็รู้สึกจะชาๆอยู่เหมือนกัน คนที่ตนชอบกลับมีคนที่เขารักอยู่แล้ว ความรู้สึกเล็กๆที่ค่อยๆแทรกซึมคือดีใจที่รับรู้ว่าวันชนะอาการดีขึ้นหลังจากที่ได้ระบายเรื่องทุกข์ใจ อาจเป็นเพราะรู้จักกันได้ไม่นาน พบเจอกันก็เพียงชั่ววูบ ความสัมพันธ์จึงยังไม่หยั่งรากลึก แม้ความหวังจะมีแต่ก็ไม่ลึกเช่นเดียวกัน แต่ก็อดเสียดายไม่ได้

“ไม่เป็นไรนะครับวิน ในเมื่อตั้มเองก็รักวิน ก็ให้เวลาเขาหน่อยเถอะนะ” คนรับปรึกษาให้คำแนะนำ
“ขอบคุณมากครับพี่ภัทร วินดีขึ้นมากเลย” น้ำเสียงยังเศร้าๆแต่น้อยกว่าตอนเริ่มคุย

“เอาน่า อย่าคิดมาก ไหนเล่าหน่อยสิว่าวันนี้ไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อนๆสนุกไหม” ภัทรชวนเปลี่ยนเรื่อง
“สนุกมากเลยครับ อาหารก็อร่อยนะครับ ว่างๆพี่ภัทรลองไปทานดูสิครับ ที่ร้าน...”

“ต้องให้วินพาพี่ไปทานเสียแล้ว” ภัทรหัวเราะก่อนเอ่ยชวนน้ำเสียงสบายๆแต่จริงจังขึ้น “ว่างเมื่อไรล่ะเรา”
เงียบไปสักพัก “เสาร์หน้าดีไหมครับ วินจะได้เอามือถือไปคืนพี่ด้วย” วันชนะหวังผล

“ตกลงตามนี้นะ” วางสายแล้ว ภัทรมีรอยยิ้มผุดขึ้น “เด็กหนอเด็ก”

ห้าทุ่ม วันชนะนอนตาโพลงในความมืด วุฒิคงไม่กลับมาแล้วล่ะ น่าจะไปค้างที่อื่นเหมือนปกติ เพื่อนคนนี้ชอบไปค้างข้างนอกบ่อยๆ
เสียงกริกดังที่ประตูเบาๆ แสงจากข้างนอกส่องสว่างเข้ามาทาบเป็นเงาคน แล้วมืดลง

“กลับมาแล้วเหรอ นึกว่าวันนี้จะไม่กลับเสียอีก” วันชนะนอนพูด
ไม่มีเสียงทักทายตอบกลับ

วันชนะเริ่มผิดสังเกต ทำไมวุฒิไม่กดสวิตซ์เปิดไฟ จึงดันตัวลุกขึ้นนั่ง
“กลับมาสิครับ คนรักของผมอยู่ที่นี่นี่นา” เงาดำสูงเข้ามาประชิด นั่งลงข้างๆสวมกอด กระซิบเบาๆที่ข้างหู
วันชนะตกใจตอนแรกแต่ก็ยิ้มออกมา นักขัตเอาแก้มมาแนบที่แก้มวันชนะ

“เข้ามาได้ยังไง” วันชนะถาม ยิ้มอายในความมืด
“ก็มีกุญแจ” นักขัตตอบ กอดแน่นขึ้น แก้มแนบมากขึ้น

“ได้ไง ?”
“วุฒิทำเผื่อให้นานแล้ว” พูดจบหอมแก้มวันชนะไปที
“บ้าเหรอ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” วันชนะตีแขน

“ใครจะมาเห็นล่ะ อายพระจันทร์เหรอวิน” นักขัตหัวเราะ
“อายพระอาทิตย์มั้ง” วันชนะต่อมุข

นักขัตหอมที่แก้มอีกที
“ช้ำหมดแล้ว” วันชนะยกมือลูบแก้มร้อนผ่าว

คนกอดปล่อยมือมาวางที่บ่าทั้งสองข้างดึงให้คนถูกกอดหันมาเผชิญหน้ากัน พูดเสียงจริงจังขึ้นว่า

“วินครับ ที่ผ่านมาตั้มขอโทษนะ บอกตรงๆว่าแต่แรกตั้มเห็นวินเป็นเพื่อนเท่านั้น แต่นานวันเข้าตั้มก็เริ่มรู้สึกว่าใจมันเต้นจังหวะแปลกๆ ทั้งตอนที่เห็นวินยิ้ม หัวเราะ หรือแม้แต่ตอนที่วินร้องไห้ ตั้มขอโทษที่ตั้มเสียเวลาลังเลอยู่นาน ตั้มมัวแต่กลัวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น” นักขัตมองผ่านความมืดเข้าไปลึกถึงนัยน์ตาของคนตรงหน้า มือข้างหนึ่งเอื้อมขึ้นสัมผัสเบาๆที่แก้มของคนที่กำลังตั้งใจฟัง

“แต่ตอนนี้ ตั้มไม่แคร์อะไรแล้ว ตั้มจะเป็นผู้ชายหรือจะกลายเป็นเกย์ก็ช่าง ทั้งหมดนี้ตั้มทำและจะเป็นเพื่อวินคนเดียวนะ”
น้ำตาเอ่อท้นขึ้นมา ตื้นตันใจ ในที่สุดก็มีวันนี้

“อย่าร้องสิวิน” นักขัตปาดน้ำตาให้
“ดีใจตะหากล่ะ” วันชนะโอบรอบตัวนักขัตไว้แน่น

นักขัตเชยคางวันชนะขึ้นมา หน้าอยู่ห่างกันไม่เกินคืบ หายใจรวยรินรดกัน แต่ไม่รังเกียจกัน วงหน้าค่อยๆเลื่อนใกล้เข้า ทั้งคู่หลับตาลงปล่อยให้ร่างกายดึงดูดเข้าหากัน

ริมฝีปากอบอุ่นสัมผัสกัน ลมหายใจร้อนขึ้นเรื่อยๆ ถี่ขึ้น จากริมฝีปากที่แตะแนบกันเฉยๆ ก็เริ่มขยับโดยธรรมชาติ...ดูดดื่ม กอดกันแน่นขึ้นราวจะรัดให้ตัวหลอมเข้าเป็นคนคนเดียวกัน ลิ้นชอนไชสัมผัสกันและกัน แต่ไม่รังเกียจกัน

ทั้งคู่ค่อยๆพากันโน้มลงนอน...

กล้ามเนื้อเกร็งที่บริเวณช่วงล่าง จูบกันดูดดื่มแต่ต่างไม่กล้าจะสัมผัสจุดสำคัญของกันและกัน วันชนะนั้นอายไม่กล้าเริ่มก่อน นักขัตเองก็ยังมือใหม่ ทั้งคู่เลยได้แต่นอนกอดกัน จูบกัน หอมแก้มกัน จนนานเข้าทั้งนักขัตและวันชนะก็ปล่อยหัวเราะให้กับความมือใหม่ของกันและกัน
...
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-04-2007 13:37:56
มือใหม่หัด(ขับ)ขี่   :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 13-04-2007 13:54:40
อยากไปเปนเทรนเนอร์ให้ทั้งคู่อ่ะคับ :haun4: :laugh5: :haun4:  เค้ารับสมัครกันที่ไหนเหรอคับ :laugh3: :haun5: :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-04-2007 14:09:57
รีบน นี่ประสบการณ์ถึงขั้นเป็นเทรนเนอร์ได้แล้วเหรอ  :laugh3:  :laugh3:
หุหุ ล้อเล่นน้า  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 13-04-2007 14:52:36
หุหุ  อยากเป็นเทรนเนอร์กันใหญ่  แสดงว่าเชียวดิเนี่ยน้อง age  :laugh5:

รออ่านต่อจ้า หื่นๆ มีอีกปะ   :haun4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: wee ที่ 13-04-2007 20:53:44
โห... :haun4:วันนี้หวานเจี๊ยบบบบเล๊ย   :จ้อบจัง1: :รักจัง11: :5555:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 13-04-2007 23:01:09
มะได้โชกโชนด้านปฏิบัติครับทุกคนอย่าเข้าใจผิด  :haun5: :haun5: :haun5:  แต่ด้านทฤษฎีน่ะผมเกิน100นะคับ :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:  ไปเปนเทรนเนอร์มะได้ไปลงมือปฏิบัตินี่นา  :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 14-04-2007 00:36:10
เริ่มมีสยิวๆกันละ แต่จะจัดการกับอุปสรรคใหญ่อย่างยัยสุวรรณนั้นยังไงน้า :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 14-04-2007 22:53:44
อยากไปดูเวลาเทรนเนอร์ เทรนแบบใกล้ชิดติดขอบเตียงด้วยคนจาได้เป็นบุญตา  :pigha2: :pigha2: :pigha2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 15-04-2007 00:21:31
 :-[  วุ้ย.. ทำไมตอนนี้มันช่างหวานซึ้งกันอย่างงี้  :give2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 15-04-2007 18:15:27
 :loveu:  ในที่สุดต้นก็ทำตามหัวใจเองแล้ว

หวังว่าคงจะผ่านและแก้ไขเรื่องของหลินไปได้นะนี่ เอาใจช่วยคร๊าบบบ

ว่าแต่ขำกะความมือใหม่ของทั้งคู่เนอะๆๆ  อิอิ  แล้วก็นึกไปในอดีตของเรา  5555 เขิน :-[
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 17-04-2007 14:17:36

..............ทำตามใจตัวเองไปแล้ว...ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมาล่ะนะ... :impress3:

..........................แต่แอบอิจฉาเล็กน้อย......หวานเชียว..... :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 18-04-2007 14:11:45
.
.
.
ที่ร้านขนมปังนมสดติดรั้วสนามฟุตบอลอีกข้างหนึ่งเป็นคูน้ำยาว ต้นสนเรียงเป็นทิวแถว ชาเย็นตั้งอยู่ข้างมือ จานใส่ขนมปังปิ้งราดนมข้นสลับช็อกโกแลตวางอยู่กลางโต๊ะ

“หลินเข้าใจดีตั้ม อย่างน้อยเราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม” สุวรรณายิ้มให้ เป็นยิ้มอย่างมิตรจะมีให้กัน
“ขอบใจนะหลินที่เข้าใจเรา” นักขัตขอบคุณอย่างจริงใจ เหมือนยกภูเขาออกจากอก หลังจากที่กลั้นใจบอกออกไปอย่างยากเย็น
“ตั้มบอกหมดแบบนี้ ไม่กลัวหลินจะเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นเหรอ” สุวรรณาหยั่งเชิง

“ไม่หรอก เราเชื่อใจหลิน” นักขัตให้สายตาเชื่อมั่นแก่หญิงสาวจนคนที่ถูกบอกเลิกต้องเลี่ยงสายตาไปทางอื่นเสีย...ไม่อยากรับปาก ไม่อยากให้เขามาเชื่อมั่นในตัวเธอ

ชัดแจ้งว่าคนที่หล่อนรักกลับไปรักคนอื่นเสียแล้ว แต่ก็ยังเชื่อใจบอกความลับแก่เธอ แทนคำตอบแน่ชัดสุวรรณายิ้มบางๆให้
“น่าอิจฉาวิน” สุวรรณายิ้มๆ

นักขัตหน้าแดงขึ้น
“หลินต้องไปแล้ว” เธอตัดบท ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที
“ขอบคุณมากนะหลิน” นักขัตกล่าวซ้ำ
รอยยิ้มแทนคำพูด


“อ้าว ตั้ม มาอยู่ที่นี่เอง ถามเพื่อนก็ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ไหน” แซกส์เดินเข้ามานั่งด้วย
“ว่าไง แซกส์” นักขัตยิ้มทัก ปากจิบชาเย็น

“พรุ่งนี้เย็นว่างป่าว? ไปดูหนังกัน” แซกส์ไม่อ้อมค้อม
“พรุ่งนี้เหรอ” นักขัตครุ่นคิด “ไม่ได้หรอก มีนัดแล้ว”

“อืม ไม่เป็นไร” แซกส์หน้างอไปเล็กน้อยแต่นักขัตไม่ได้สังเกต “ไว้คราวหน้าก็ได้”
“อ้ะ ไปก่อนนะ แล้วเจอกัน” นักขัตรีบลุกจากไป สายตามองผ่านแซกส์ไปข้างหลัง

“อืมๆ เจอกัน” แซกส์รีบพูดตามหลัง
นักขัตไม่อยู่แต่ขนมปังราดนมกับช็อกโกแลตยังอยู่ เลยเสร็จเสร็จแซกส์เรียบจาน กินแล้วกำลังจะเดินพ้นบริเวณร้าน

“เฮ้ย! กินแล้วไม่จ่ายเหรอ” เจ้าของร้านร้องแหวกอากาศ

วันชนะเดินหอบตำราเล่มหนาสองสามเล่มเดินเลียบรั้วกั้นสนามฟุตบอลตรงไปยังตึกสี่

“เฮ้ย!” วันชนะสะดุ้งบิดตัวหันกลับอัตโนมัติ เพราะมีคนแกล้งจี้ที่เอวทั้งสองข้าง มือยกหนังสือเตรียมจะทุบ
“จะตีแฟนตัวเองได้ลงคอเหรอ” นักขัตปั้นหน้าทะเล้น

“ทุบให้ตายเลย นี่...นี่” วันชนะยกหนังสือหนาในมือทุบเบาๆ นักขัตยอมให้สองทีแล้วคว้าเอาไปแย่งถือ
“ผลสอบเป็นไงบ้าง” นักขัตถาม

“ยังไม่รู้เลย คงทยอยประกาศพรุ่งนี้” วันชนะมีแววกังวล ตอนช่วงสอบมีเรื่องตั้งมากมายกวนสมาธิ
“เอาใจช่วยนะ” นักขัตส่งยิ้มให้ รอยยิ้มแบบเดิม จากคนๆเดิม แต่มีความหมายมากมายทุกครั้ง

คนตัวสูงกว่าเดินเบียดเข้ามาใกล้ ราวจะเป็นหลักให้พักพิงใจคลายความกลัวในทุกสิ่ง วันชนะหน้าแดงก่ำเมื่อมือของนักขัตค่อยๆสอดประสาน...รู้สึกตัวเบาเหมือนเป็นขนนกลอยอยู่ในอากาศ

“บ้าเหรอ เดี๋ยวคนก็เห็นหมด” วันชนะนึกขึ้นได้รีบสลัดมือ
นักขัตกำไว้แน่น ทำหน้าตาย

“ถ้าวินกลัวตั้มปล่อยก็ได้” นักขัตพูดเสียงขรึม จริงจัง “แต่ปล่อยตอนไปถึงห้องแล้วนะ” หน้าจริงจังเปลี่ยนเป็นหัวเราะร่วน
นิสิตหญิงกลุ่มหนึ่งเดินใกล้เข้ามาตรงหน้า นักขัตก็ยังไม่ปล่อยมือ หันมามองหน้าวันชนะเหมือนจะถามว่าพร้อมไหม ตัดสินใจจะไปกับผมไหม พร้อมที่จะเผชิญโลกนี้กับผมไหม


ไม่มีสักคนในกลุ่มนิสิตหญิงนั้นไม่หันมามองนิสิตชายหน้าตาดีสองคนเดินจับมือกันสวนทางมา


วันชนะยิ้มให้กับการตัดสินใจของตัวเอง ...ถ้าเธอพร้อม ฉันก็พร้อม...


แสงทองแต้มที่ปลายฟ้าอีกด้าน ดวงตะวันกำลังจะลับไป ภายใต้ท้องฟ้าผืนนี้ ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ...คนสองคนรักกัน ...คนสองคนแหวกกฎเกณฑ์สังคม ...ผู้ชายสองคนเดินจับมือไปด้วยกัน


ข้างหลังคนทั้งคู่มีหญิงสาวสวยที่มีตำแหน่งเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัยยืนตาวาวโรจน์

เมื่อกี้เธอไม่น่ายอมอ่อนข้อให้นักขัตง่ายๆเลย ถ้าง้อหน่อย ขอร้องเขาสักนิด...บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจ คิดได้ดังนั้นจึงได้ย้อนกลับมา


...มาทันเห็นภาพนั้นพอดี...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: LonelyBoiZ ที่ 18-04-2007 15:48:27
รออ่านต่อไปนะคับ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 18-04-2007 16:12:20
 :impress3: โลกของนิติและต้นน้ำช่างสดใสจริงๆ หวานแหววมั่กๆๆ  :-[


แต่ท่าเมฆฝนจากจิตฝ่ายร้ายในตัวหลินคงกำลังก่อตัว มาฟาดฟันทั้งคู่แว้ววว  :pighaun:  น่ากลัว


ชะนีเวลาโมโหจะเป็นไงนะ เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 18-04-2007 18:19:02
 :เฮ้อ: แล้วทั้งคู่จะเจออุปสรรคเยอะมั้ยนะ เป็นห่วงจัง   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-04-2007 18:48:47
ถ้าเธอพร้อม ฉันก็พร้อมไปด้วยกัน  :-[  :-[
หวังว่าจะฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายที่มีแววจะเกิดขึ้นอย่างเข้มแข็งน้า  :call:  :call:
ขอ "แค่มีนาย"  :myeye:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 18-04-2007 20:22:09

...............ถ้าเธอพร้อม....ฉันก็พร้อม.....ไปด้วยกัน.....

........................แล้วถ้ามีคนพร้อมจะเดินร่วมทางไปด้วยอีกคนละ......

.....................................เขาทั้งคู่จะยังพร้อมกันอยุ่รึเปล่า........ :impress3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 18-04-2007 21:55:28
 :laugh5: ขำแซกส์อ่า กินแล้วไม่ยอมจ่ายตังค์ ฮ่าฮ่า..

เอาใจช่วย ต้นน้ำกับนิติ  แม้จะมีอุปสรรค(หลิน)ก็ต้องผ่านพ้นไปได้  :โหลๆ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-04-2007 14:05:13
12 เปิดม่านการแสดง


“อ้ะ อย่าปฏิเสธนะจ้ะ” เจ๊ใหญ่ชี้หน้าวันชนะ แต่แตะที่ปากหยักได้รูปของนักขัตพร้อมทำตาหยาดเยิ้ม

“พวกหนูติดหนี้เจ๊หนึ่งครั้งนะ จำไม่ได้เหรอ” เจ๊ใหญ่ทวงบุญคุณตอนที่ไปช่วยวันชนะออกมาจากโรงพัก

“ถ้าไม่ตกลงตามนี้ งั้นเจ๊ขอคืนนึงก็ได้” เจ๊ใหญ่ลูบที่หน้าอกนักขัต คำพูดคล้ายตลกๆนั้นความหมายขู่กลายๆ

เหตุนี้ทั้งนักขัตกับวันชนะจึงต้องยอมเข้าร่วมชมรมศิลปการแสดงของเจ๊ใหญ่ ด้วยแววตาอันคมกริบที่มองปุบเห็นนักขัตอยู่ในชุดองครักษ์มาดขรึมกับวันชนะอยู่ในชุดเจ้าชายสูงศักดิ์อันเป็นพล็อตเรื่องละครเวทีที่ชมรมของเจ๊ใหญ่จะจัดขึ้นเดือนหน้า


“ไม่รู้ว่าจะทำได้ไหมนะตั้ม” วันชนะกังวล

“ต้องทำได้สิ อยากเห็นวินในชุดเจ้าชายเหมือนกัน” นักขัตให้กำลังใจแต่ในแววตาของตัวเองก็กังวลอยู่กับบทองครักษ์เหมือนกัน
“เอาเถอะ ลองดูสักครั้งละกัน” วันชนะพูดให้กำลังใจทั้งสองคน “ต้องไปซ้อมเย็นนี้เลยใช่ไหมนี่”


นักขัตยังนั่งอยู่กับวันชนะใต้ต้นนนทรีเดิม
“อีกยี่สิบนาทีตั้มมีเรียนนี่” วันชนะเตือนนึกว่านักขัตไม่ดูเวลา

“รู้แล้วน่า ก็ตั้มยังไม่อยากไปนี่” นักขัตจ้องหน้าวันชนะ มองลึกเข้าไปในตา “อยากอยู่กับวิน”
“เว่อร์ล่ะๆ” วันชนะหน้าแดง แม้จะคบกันเป็นคนรักแล้วก็ยังอดใจเต้นไม่ได้ทุกครั้งที่ตาคู่นี้มองมา
นั่งอยู่สักพักก็ได้เวลาไปเรียน

“เจอกันตอนเย็นนะ” นักขัตบอกก่อนลุกไป


...

“ทางนี้จ้ะน้องวิน” เจ๊ใหญ่เรียกวันชนะว่าน้องแทนคำว่าหนูที่เคยเรียกอยู่เสมอ เพราะว่ามีคนอยู่หลายคนที่ชมรม
วันชนะยกมือไหว้เจ๊ใหญ่กับรุ่นพี่อีกห้า-หกคนที่ชมรม

“น้องวินจะมาเล่นบทเจ้าชาย” เจ๊ใหญ่พูดกับเพื่อนๆก่อนหันไปถามความเหมาะสม “ทุกคนว่ายังไงบ้าง”
“บุคลิกให้ หน้าตาก็ใช่ หานักแสดงเก่งนะใหญ่” รุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้น
เจ๊ใหญ่ยิ้มภูมิใจ

“ตกลงเราก็ได้ตัวแสดงหลักครบแล้วน้องวินเป็นเจ้าชาย น้องตั้มเป็นองครักษ์ และเจ้าหญิงก็น้องหลิน ส่วนตัวประกอบอื่นๆก็ยังไม่เร่งก็ได้” เจ๊ใหญ่สรุป

“เดี๋ยวครับ พี่ใหญ่...หลินไหน?” วันชนะเริ่มใจสั่น ตั้งแต่เปิดเทอมมายังไม่ได้เจอหน้ากันจังๆเสียที ยังไม่รู้จะทำหน้ายังไงเลยถ้าต้องเผชิญกัน

“น้องหลินดาวมหา’ลัยไงจ้ะ” เจ๊ใหญ่ตอบโดยไม่ได้รู้เรื่องเบื้องหลังด้วยเลย “พูดถึงก็มาพอดี”
ข้างหลังวันชนะ นักขัตกับหลินที่เพิ่งกลับจากเดินออกไปซื้อของกินข้างนอกมา

“วิน” นักขัตยิ้มแย้ม

ขณะที่สุวรรณาเหมือนวางตัวนิ่งๆ “สวัสดี วิน” เสียงหล่อนเรียบๆฟังดูเย็นอย่างประหลาด
วันชนะทำใจดีสู้เสือ พยายามคุมตัวเองให้นิ่ง “หลิน”

“เอาล่ะจ้ะเด็กๆ เจ๊จะแจกบทให้ไปอ่านกันก่อนนะจ้ะ แล้วอีกสามวันเรามาเริ่มซ้อมกัน เนื้อเรื่องคร่าวๆก็คือว่าเจ้าชายเป็นคู่หมั้นกับเจ้าหญิงซึ่งทั้งคู่ไม่เค้ย ไม่เคยเจอกันมาก่อน เพื่อความมั่นคงของอาณาจักรของเจ้าหญิงทางพ่อแม่ก็เลยยกลูกสาวให้เจ้าชายซึ่งเป็นอาณาจักรที่แข็งแกร่งกว่า แต่ว่าเกิดอุบัติเหตุทำให้เจ้าหญิงของเราดั๊นไปตกหลุมรักกับองครักษ์ของเจ้าชาย...”


หลังจากที่บรีฟงานเสร็จเจ๊ใหญ่ก็ปล่อยตัวนักแสดงทั้งสามกลับไปได้ เพราะยังมีงานอีกหลายอย่างต้องทำเช่นว่าวางแผนจัดหาตัวประกอบ การโฆษณา

“ไปหาไรกินกันไหม?” หลินชวน
“อืม” นักขัตทำท่าคิด หันมามองวันชนะขอความเห็น

ใจจริงนักขัตไม่ค่อยอยากไปนักเพราะว่ายังมีอาการ ‘เข้าหน้าไม่ติด’ กับหลิน แต่ดูสถานการณ์แล้วปฏิเสธยากจึงได้เออออห่อหมกไปตามคำชวน นึกในใจว่านักขัตไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือว่าเรื่องมันเพิ่งผ่านมาได้ไม่นานเองนะ ฝ่ายนั้นจะรู้สึกอย่างไร วันชนะเองจะรู้สึกอย่างไร นักขัตช่างทำเป็นไม่รู้ร้อนเอาเสียเลย
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-04-2007 14:14:19
ทะเลสงบแบบนี้น่ากลัวจัง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 19-04-2007 14:43:17
ลุ้นไปกับเรื่องนี้ สนุกเจงๆ
คนเขียนมัวทำไรอยู่หวา
เด่วต้องจับตีก้น
 :pandalaugh:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 19-04-2007 19:15:41

..........คลื่นใต้น้ำ....ถ้าซัดเข้าฝั่งเมื่อไร่ก็มีแต่จะพัง..... :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-04-2007 19:22:20
มากันครบแบบนี้ ไม่นานคงมีเรื่องแน่  :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 19-04-2007 22:17:27
 :เฮ้อ:... เวงกรรม ทำไมยังต้องมาแสดงด้วยกันอีกเนี่ย  :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 19-04-2007 23:03:08
หลินน่ากลัวแฮะ แต่ถ้าร่วมมือกับแซกส์ล่ะก็ . . . บรึ๋ย

เป็นกำลังใจให้พี่พูห์ค๊าบบบ :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 20-04-2007 12:34:09
เค้าลางของเรื่องวุ่นๆกำลังส่อแวววะแร้วววว :serius2:


บอกแล้ว่าชะนีอ่ะน่ากลัว  โดนแย่งของรักซะขนาดนี้ จะปล่อยไปให้มีคาามสุขกันได้ยังไง แถมเสียหน้าด้วย ที่คนแย่งไปดันเป็นผู้ชาย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-04-2007 14:39:45
.
.
.
ที่ร้านอาหารข้างๆมหาวิทยาลัย
“เต้าหู้ทรงเครื่องค่ะ” พนักงานร้านยกมาเสริฟเป็นจานแรก
“ของโปรดของตั้มไง หลินจำได้” หล่อนออกตัวว่าเป็นคนสั่งให้
นักขัตเอ่ยขอบใจ

วันชนะรู้สึกไม่ดีว่าตัวเองไม่เห็นจะรู้เลยว่านักขัตชอบกินอะไร
ไม่นานนักกับข้าวสี่-ห้าอย่างก็วางอยู่บนหน้าสองหนุ่มหนึ่งสาว

“วินเงียบเชียว นี่จ้ะยำนางเอก” หล่อนตักกุ้งตัวใหญ่จากเมนูที่ชื่อว่า ‘ยำนางเอก’ ที่มีกุ้งเป็นตัวเอกในจานวางลงบนจานข้าวของวันชนะ
“ขอบใจ หลิน” วันชนะกล่าวเรียบๆ

“ระวังเปลือกกุ้งติดคอนะจ้ะ” หล่อนยิ้มยั่ว แล้วหันไปตักของชอบของนักขัตเหมือนเอาใจ
นักขัตยิ้มๆ

การสนทนาเป็นไปอย่างลื่นไหล แต่เป็นแต่นักขัตกับหลินเสียมากกว่า
“อุ้ย! ตายจริง” หลินอุทานอย่างดัดจริต “ลืมตัวไปเลย หลินกลายเป็นบุคคลที่สามหรือเปล่าคะนี่” หล่อนพูดเหมือนรู้ตัวหากแต่เป็นการเปิดเกมรุก เมื่อเห็นวันชนะนั่งเงียบๆ “งั้นหลินจะกลับละ” หล่อนกระวีกระวาดหยิบกระเป๋าถือ

“ไม่ใช่จ้ะหลิน” วันชนะพูด แต่แววตามีแวว ‘น้อยใจ’ ที่นักขัตเอาแต่คุยกับคนรักเก่าอย่างเดียว
“หลินไม่ได้เป็นบุคคลที่สามเสียหน่อย” นักขัตพูดเอาใจ เขาไม่ได้หันมามองทางวันชนะเลย
“จริงเหรอตั้ม” หล่อนลากเสียง มองหน้านักขัตเหมือนจะขอการคอนเฟิร์มอีกที

“อืม จริงสิ ตั้มให้หลินเป็นบุคคลที่หนึ่งเลย” นักขัตพูดติดตลกแต่รักษาน้ำใจหญิงสาวที่เคยเป็นคนรักกัน
“โหย หลินไม่กล้าเป็นบุคคลที่หนึ่งหรอกตั้ม โบราณว่าไว้สตรีเพศไม่สมควรเป็นช้างเท้าหน้า” หล่อนเน้นคำว่าสตรีเพศ ความหมายที่พูดดูจะโยนตำแหน่งบุคคลที่สามให้อีกคน

วันชนะเกร็งขึ้นมา อาการงอนกำเริบ

“ไปห้องน้ำหน่อยนะ”

ก่อนลุกมาวันชนะเห็นแววสะใจในตาเพื่อนหญิง
อึดอัดใจ เขาเป็นเพื่อนวันชนะหนำซ้ำยังเป็นคนรักเก่าของนักขัต วันชนะไม่อยากโต้ตอบ ไม่อยากคิดว่าคำพูดเชือดเฉือนนั้นจะหมายความตามนั้นจริงๆ

นักขัตก็น่าหยิกจริงๆ ไม่เห็นจะคุยกับตนบ้าง นั่งอยู่ข้างๆกันแท้ๆ คอยดูเถอะกลับไปจะไม่พูดด้วยเลย ก็ไม่อยากพูดกับเราดีนัก
กลับมานั่งที่โต๊ะ สองคนนั้นก็ยังคุยกันออกท่าออกทางสนิทสนมเหมือนเป็นคนรักกันเช่นนั้นแหล่ะ

“เสร็จธุระแล้วหรือจ้ะวิน เนี่ย หลินปรึกษากับตั้มอยู่ว่าเสาร์นี้เราจะลองไปซ้อมบทกันก่อนแต่ไม่รู้ว่าวินจะว่างไหมนะ” หล่อนจีบปากจีบคอพูด “ตะกี้หลินดูคร่าวๆมีฉากที่ต้องกอดกันด้วยนะ ฉากหวิวๆแบบนี้ต้องซ้อมเยอะๆ วันจริงจะได้ไม่เขิน”

“เสาร์นี้วินมีนัดแล้วล่ะ เชิญสองคนเถอะ” วันชนะพูดเรียบๆแต่ประชดคนข้างตัว
“นัดเหรอ?” นักขัตสงสัย
“อืม” วันชนะไม่ตอบ

หลินเห็นสถานการณ์ตึงๆ เลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้คู่รักกู้ระเบิดที่หล่อนทิ้งไว้อย่างใจเย็น
‘แค่นี้ยังน้อย ต้องทำงานด้วยกันอีกตั้งเดือน เวลามีถมเถือไป’ หล่อนคิดในใจ


หญิงตัวป่วนปลีกตัวไปแล้ว วันชนะยังทำปั้นปึ่ง ตักกับข้าวเข้าปากไม่พูดไม่จา วางช้อนแรงๆ

นักขัตยิ้มๆกับกิริยา ‘งอน’ แฟนตัวเองของวันชนะ ใช่ว่าเขาไม่รู้อะไร เพียงแต่นักขัตเกรงใจคนรักเก่าและคิดได้ว่าหลินเป็นเพียงเพื่อนเท่านั้นที่คุยสนิทสนมก็คิดแค่เพื่อนเท่านั้น ที่ไม่ค่อยคุยกับวันชนะก็เพราะกลัวว่าจะแสดงออกเกินไป ประเดี๋ยวอีกฝ่ายจะดูไม่ดี

“จะงอนอีกนานไหม” นักขัตเริ่ม

“ไม่ได้งอน” วันชนะไม่สนใจ วางช้อนดังเคร้ง “อย่างไหนที่เรียกว่างอน” วันชนะต่อ

“ก็อย่างนี้ล่ะสิ” นักขัตอดขำไม่ได้

“วินจะไปมีสิทธิ์งอนอะไรล่ะ เป็นแค่บุคคลที่สามนี่” คนพูดทำเสียงฮึในลำคอ

“อ๋อ นึกว่าเรื่องไหน” นักขัตยิ้ม

“เส้นใหญ่ผัดขี้เมาไก่มาแล้วค่ะ” พนักงานยกมาเสริฟ

“สั่งให้ตอนวินไปห้องน้ำ” นักขัตบอก
“ขอบใจ” วันชนะกระแทก

“อย่างอนสิครับที่รัก” นักขัตจับมือวันชนะอย่างไม่กลัวคนในร้านจะจ้องมอง

“บุคคลที่สามไม่มีสิทธิ์งอน” วันชนะย้ำว่าตนเป็นบุคคลที่สาม
นักขัตถือเป็นบุคคลที่หนึ่งนั่นรู้ดี เมื่อเขายกหลินเป็นบุคคลที่สอง แล้ววันชนะเองจะเป็นลำดับที่เท่าไรได้

“งอนแล้วไม่น่ารักเลย” นักขัตแหย่ ทั้งๆที่มองว่าวันชนะน่ารักเหมือนเด็กๆตอนงอน “เดี๋ยวจูบเลย”
“ไม่กลัว ไม่อายคนก็เชิญ” วันชนะแขวะ

นักขัตบีบที่มือเบาๆ ขยับหน้าเข้าไปใกล้ที่แก้ม
วันชนะใจเต้นตึกตัก ไม่นึกว่านักขัตจะกล้า แต่พอเข้ามาใกล้อีกเขากลับเลื่อนไปกระซิบที่ข้างหูว่า

“ตั้มกับวินถือเป็นบุคคลคนเดียวกันจ้ะ ที่รัก”


หลินกลับมาเห็นนักขัตอมยิ้ม
“นี่จ้ะหลิน วินตักให้นะ ‘ยำตัวอิจฉา’ จ้ะ เห็นว่าหลินชอบกินปู” วันชนะยิ้มร่า นัยน์ตามีแววเล่นไปตามเรื่อง
ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่ารู้ว่าเพื่อนชอบทานปู

หลินสังเกตแล้วเสียดายที่ทั้งคู่กู้ระเบิดที่หล่อนทิ้งไว้ได้ เพราะวันชนะมีแววตาสดใสขึ้น
“ขอบใจจ้ะ” หญิงสาวกล่าวเสียงแข็งนิดๆ เอาเถอะ เวลาอีกหนึ่งเดือน เราจะได้เห็นกัน


“วันเสาร์มีนัดเหรอวิน” นักขัตถามแฟนตอนเดินกลับมาที่หอด้วยกัน
“อืม เอาของไปคืนน่ะ” วันชนะไม่บอกความจริงกลัวว่านักขัตจะเข้าใจผิด
“แย่จัง แล้วจะกลับกี่โมงล่ะ ตามไปทีหลังได้ไหม” นักขัตอยากให้แฟนไปด้วย

“ยังไม่รู้เหมือนกัน” วันชนะเองก็กะไม่ถูกว่าภัทรจะคุยอะไรยืดยาวหรือเปล่า แต่ตนคงจะไม่อยู่นานนัก “คงไม่นานหรอก”

แยกกันเข้าห้อง วันชนะเห็นแสงวูบวาบที่หน้าจอเลยหยิบมือถือขึ้นมารับ “ครับ พี่ภัทร”

“สวัสดีวิน วันนี้เป็นไงบ้าง” ปลายสายถามสารทุกข์เป็นปกติที่จะถามทุกวัน
“ก็ดีครับพี่” วันชนะตอบพลางถอดเสื้อออก “วันนี้ไปคุยเรื่องบทแสดงละครเวทีมาครับ” วันชนะเล่าให้ฟังเหมือนเคย เขารู้สึกดีที่ได้เล่าเรื่องราวให้กับภัทรฟัง เหมือนน้องชายเล่าเรื่องในโรงเรียนให้พี่ชายฟังตอนเย็น

“จากนั้นก็ไปกินข้าวมาครับ”
“คุยกับใคร” เสียงนักขัตดังข้างหลัง น้ำเสียงดุๆ
วันชนะตกใจรับกดวางสาย
“เพื่อนน่ะ” วันชนะรีบบอก

“มีมือถือไม่เห็นบอกตั้มเลย” นักขัตทำหน้าบูด “แล้วคุยกับเพื่อนคนไหน ดูสนิทสนมกันจริงนะ” นักขัตทำงอนบ้าง
“ก็เพื่อนน่ะ” วันชนะเห็นช่องทางเอาคืน “ทำไมเหรอ” วันชนะอดยิ้มไว้ข้างใน

“จะรีบวางทำไม” นักขัตหน้าบึ้ง

“ก็คุยจบพอดี” วันชนะตอบหน้าตาย “เข้ามาได้ไง”

“อืม งั้นไปละ” นักขัตหันหลังกลับ ไม่ตอบว่าประตูมันเปิดอยู่ นิสัยงอนแบบผู้ชายที่จะทิ้งแล้วเดินหนีสำแดง
วันชนะเห็นท่าไม่ดีเพราะกะจะแหย่เล่นหน่อยเดียว จึงรีบคว้ามือนักขัตเอาไว้

“จะกลับ” น้ำเสียงแข็งแต่ราบเรียบไม่เล่นด้วย
“ตั้ม” วันชนะเรียก น้ำเสียงจริงจัง

“อะไร” นักขัตน้ำยังเสียงแข็ง แต่ถ้าวันชนะเห็นใบหน้าอมยิ้มกลั้นหัวเราะของนักขัตที่หันหน้าเข้าหาประตูคงจะได้หยิกเอา
“มาทางนี้ก่อน” วันชนะลากร่างสูงมาที่เตียง คนโดนลากทำหน้าเรียบเฉยได้ทันจะหันไปเผชิญหน้า

“แหย่หน่อยเดียว โกรธไปได้” วันชนะพูดขำๆแต่พอเห็นหน้าแฟนแล้วขำไม่ออก เลยเล่าเรื่องของภัทรให้ฟังจนหมด
“ฮึ กะจะปิดตั้มไปนานแค่ไหน” นักขัตแสดงต่อ

“ไม่ได้ปิด วินจะเอามือถือไปคืนเขาแล้วก็คงไม่ได้คุยกันอีกแล้ว” วันชนะรีบอธิบาย
นักขัตหน้างอไม่หาย แต่พอสังเกตวันชนะที่ทำหน้าเครียดก็อดปล่อยขำไม่ได้
“แกล้งกันเหรอ” วันชนะยิ้มงอนๆที่รู้ตัวว่าโดนอำ หยิกให้ทีนึง

“โอ้ย เจ็บ” นักขัตร้อง
“อยากมาแกล้งทำไม” วันชนะหยิกซ้ำ
“กลัวแล้วจ้า” นักขัตร้อง แต่มือจี้ที่เอววันชนะเอาคืน “นี่ๆ จะนอกใจผมเหรอ”

วันชนะปฏิเสธทั้งน้ำตาเล็ด มือคอยปัดมือนักขัต “อย่าสิตั้ม ไม่เอ๊า ไม่เอา”

ดิ้นพล่านไปทั่วเตียงจนผ้าปูยับ นักขัตเลยหยุด คว้าตัววันชนะไว้ในอ้อมกอดแน่น หน้าเกือบจะแตะกัน แล้วจึงพูดน้ำเสียงจริงจัง
“ตั้มเชื่อใจวินนะ” จูบไปที่หน้าผากทีหนึ่ง “แต่ก็หึงนะ คราวหลังจะคุยกับใครบอกให้ตั้มรู้ด้วยสิ”

“เชื่อใจวินเถอะ วินรักตั้มคนเดียว”

ยิ้มให้กัน
นักขัตเลื่อนปากเข้าไปใกล้ริมฝีปากวันชนะ จูบดูดดื่ม อารมณ์ร้อนขึ้น พรมจูบที่คอเลื่อนลงมาเรื่อยๆ วันชนะหายใจขัดๆ
กอดแน่นกับร่างหนาของนักขัต

“เฮ้ย! ทำไรกันวะ” เสียงของวุฒิดังขึ้น
ทั้งคู่ถึงกับผงะออกจากกัน

..
..
..
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 20-04-2007 14:58:33
วุฒมาขัดจังหวะได้งัย :angry2:  :seng2ped:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-04-2007 21:43:17
 :ฮึ่มม: วุฒิมาขัดจังหวะ ซะงั้น  :pigangry2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 21-04-2007 00:45:40
จับวุฒิมาร่วมด้วยช่วยกันซะเลย :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-04-2007 20:49:19
.
.
.
 “วุฒิ!” นักขัตกับวันชนะแทบจะพูดพร้อมกัน อารามตกใจทำให้ทั้งคู่ทำอะไรไม่ถูก
“เกรงใจกันบ้างสิ เราก็อยู่ห้องนี้เหมือนกันนะ” วุฒิพูดโดยไม่มองเพื่อนทั้งสองคน เดินไปหยิบของที่โต๊ะฝั่งของตัวเอง

“ขอ...ขอโทษนะวุฒิ” วันชนะตะกุกตะกัก

“วุฒิ...” นักขัตก้าวถึงตัวเพื่อนได้ก็โอบไหล่อย่างเคยทำพาออกห้องไป

ในห้องถัดกัน

“มึงเนี่ยนะรักวิน” วุฒิโพล่งออกมา
“เออ กูเป็นเกย์” นักขัตยอมรับ

วุฒิมองนักขัตอย่างพินิจ คิ้วขมวด “กูไม่เห็นรู้เรื่อง มึงออกจะแมน”
“กูก็เพิ่งเป็นนี่แหล่ะ” นักขัตอ้อมแอ้ม “ตั้งแต่เจอวิน”

“วินน่ะกูดูออก” วุฒิพูดออกมา
วันชนะที่แอบเงี่ยหูฟังอยู่ที่ระเบียงถึงกับหน้าร้อนผ่าว วุฒิรู้มาตลอด
“กูได้ยินวินละเมอเรียกชื่อมึงกลางดึกอยู่บ่อยๆ” วุฒิพูดอีก

วันชนะหน้าแดงแจ๋
“เหรอ” นักขัตยิ้มไม่หุบ
“ก็นึกว่าวินจะรักมึงข้างเดียวเสียอีก เลยเอาแต่เศร้าๆ ...มิน่าล่ะช่วงหลังนี้ดูสดใสขึ้น” วุฒิทวนเหตุการณ์

“มึงรังเกียจกูไหม?” นักขัตถามน้ำเสียงจริงจัง
“กูเฉยๆว่ะ เกย์ก็คน มึงเพื่อนกูนะ วินก็เพื่อนกู” วุฒิพูดน้ำเสียงจริงจังเช่นเดียวกัน

เงียบไปสักพักก่อนเสียงโวยวายของวุฒิจะดังขึ้น
“เฮ้ย ออกไป ไม่ต้องมากอดกู” วุฒิดันตัวออก
“กูซึ้งใจมึงว่ะเพื่อน” นักขัตกระชับวงแขน “กูรักมึง”
“เออ รู้แล้ว ไปกอดวินนู่นไป๊” วุฒิตะกาย


กลับมาที่ห้อง 609
เปิดประตูเข้ามาวันชนะรอท่าอยู่แล้ว โผเข้ากอดคนที่เปิดประตูเข้ามา

“ขอบใจมากนะวุฒิ นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลย” วันชนะหลับตาพริ้ม พอลืมตาก็เห็นวุฒิยืนอยู่ข้างหน้า
“อ้าว วันชนะรีบดันตัวออก” กอดผิดคน
วุฒิยิ้มให้วันชนะอย่างเข้าใจ

“ว่าแต่เมื่อกี้ทำไรกันอยู่น่ะ”


...


“อยู่ตรงไหนนะครับพี่ภัทร วินหาไม่เจอ” วันชนะคุยผ่านมือถือเดินวนอยู่บริเวณจุดที่คิดว่าเป็นสถานที่นัด
“ร้านนี้แหล่ะวิน หันมาสิ” คนในมือถือพูด

วันชนะหันรีหันขวางพักหนึ่งก็พบว่าตนยืนอยู่หน้าร้าน ข้างหน้าตกแต่งเป็นสวนหย่อมเล็ก ปลูกไม้เลื้อยเกาะรอบกระจกบานใหญ่ที่หน้าร้าน ภัทรนั่งอยู่ในนั้น นั่งติดกระจก คงมองเห็นวันชนะนานแล้ว

“สวัสดีครับพี่ภัทร” วันชนะยกมือไหว้
“อืม นั่งก่อนวิน” ผู้อาวุโสกว่าไม่กี่ปีรับไหว้

พอนั่งเรียบร้อยวันชนะถึงได้พบว่าภัทรดูหล่อเหลือเกิน เป็นผู้ชายที่เรียกว่าเพอร์เฟคจริงๆ บุคลิกนิ่งขรึมและสุภาพ จะว่าไปแล้วภาพตอนที่เจอกันครั้งแรกนั้นเลือนรางไปจากความทรงจำของวันชนะนานแล้ว อาจเพราะเจอกันเพียงครั้งเดียวและก็ไม่นาน พอมาเจออีกทีวันนี้คนที่นั่งตรงข้ามก็ทำให้วันชนะใจเต้นได้มากโข ระคนกับความรู้สึกต่างกันราวฟ้ากับดิน

น้ำส้มถูกเสิร์ฟที่หน้าคนมาใหม่

“พี่สั่งกับข้าวไว้ละเดี๋ยวคงมา น้องวินหิวรึยัง ดื่มน้ำส้มไปก่อนนะ” ว่าเสร็จก็หันไปเร่งกับบริกร
“ไม่เป็นไรครับพี่ภัทร เอ่อ...” วันชนะเกรงใจที่จะบอกว่าจะรีบกลับไปซ้อมละคร ใจเขาพะวงอยู่กับนักขัตมากกว่า
“วินอยู่ทานข้าวกับพี่ก่อนนะ” ภัทรพูดเป็นเชิงดึงตัวเอาไว้
“ครับ”

โดยที่คนทั้งสองไม่รู้ตัวว่าถูกแอบมองอยู่จากร้านกาแฟฝั่งตรงข้าม นักขัตที่แอบตามมาใส่หมวกแก๊ปและแว่นตากรอบหนา มองเห็นแต่ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน

ทำไงได้ล่ะ ก็เขาเป็นห่วงวันชนะนี่นา
ตอนแรกก็ลังเลว่าถ้าเขาตามมาจะดีหรือ ถ้าโดนจับได้วันชนะจะโกรธหรือเปล่านะ แต่ที่สุดก็ตัดสินใจ ... เพราะเป็นห่วง ... อยากจะเห็นหน้าคนที่วันชนะคุยด้วย คนที่ชอบวันชนะถึงขั้นให้มือถือราคาแพงมาง่ายดาย

หึง!?

คนนั่งร้านกาแฟคอยจดจ้องร้านอาหารฝั่งตรงข้ามไม่ได้รู้ตัวเองหรอกว่าอาการแบบนี้เรียกว่าอะไร
อาการกังวล ไม่สบายใจ ไม่ชอบใจที่เห็นแฟนตัวเองอยู่กับคนอื่นสองต่อสอง และก็รู้ด้วยว่าคนนั้นชอบแฟนตัวเองอยู่

“นี่ครับพี่ภัทร มือถือของพี่ วินขอคืนให้นะครับ” วันชนะล้วงมาวางที่กลางโต๊ะ
เสียงโทรศัพท์มือถือของภัทรดังขึ้นพอดี เขายกมากดรับคุยเรื่องงานอยู่สักนาทีก่อนจะวางสาย

“วินเก็บไว้เถอะ พี่ให้ เห็นไหมพี่ก็มีเครื่องใหม่แล้ว” ภัทรคะยั้นคะยอให้วันชนะรีบเก็บลงไป พอเห็นท่าทางลังเลเลยลุกขึ้นเอื้อมไปจับมือของวันชนะมาวางทับมือถือนั้นเสียแล้วบีบเบาให้วันชนะกำโทรศัพท์เครื่องนั้น

“จะดีหรือครับพี่” วันชนะลังเล
“ถ้าลำบากใจเอาไว้พี่ค่อยให้วินมาทำงานชดใช้ละกัน” ภัทรหาข้ออ้างให้วันชนะรับไป

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ” วันชนะรู้ตัวว่ามือของภัทรยังวางอยู่บนมือตัวเองเลยชักมือกลับอย่างสุภาพ

พอดีกับอาหารที่สั่งไว้ทยอยมาเสิร์ฟ ทั้งสองจึงเริ่มบทสนทนาเรื่องอื่นๆ ความสนิทสนมไว้ใจเหมือนตอนคุยกันผ่านโทรศัพท์ก็เริ่มต่อติด
บังเอิญว่าประตูร้านเปิดเพราะมีลูกค้าท่านอื่นเข้ามา บังเอิญว่าข้างนอกมีลมแรงพอดิบพอดี และบังเอิญว่าฝุ่นผงเพียงเล็กๆที่ปลิวมาจะพอเหมาะมาลงที่นัยน์ตาของวันชนะ

“อ้ะ ฝุ่นเข้าตา” วันชนะเคืองที่ตา จะเอามือขยี้
“อย่าขยี้สิวิน” ภัทรรีบจับมือห้ามไม่ให้วันชนะขยี้ “ให้พี่ดูหน่อย”

บังเอิญว่าจังหวะที่วันชนะนั่งนิ่งอยู่ให้ภัทรยื่นหน้าไปใกล้ๆเสาะหาเจ้าผงตัวปัญหาและมุมตรงที่พวกเขาอยู่กับตำแหน่งที่นักขัตอยู่ยังฝั่งตรงข้ามนั้นได้บังเกิดเป็น ‘ช็อตเด็ด’ แบบในละครมักใช้มุขนี้เสมอๆพอดี

นักขัตเห็นเป็นว่าภัทรจูบกับวันชนะอย่างไม่อายสายตาใครๆ
วันชนะก็กระไร นั่งนิ่งให้เขาทำ มันคงจะหล่อมากล่ะสิ ดีกว่าเขาล่ะสิ

ลมโมโหพุ่งออกหู ลมน้อยใจ ลมหึงหวงตีป่วน ...สิ่งที่เขาเห็น...มันไม่ได้บังเอิญ!


...
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 21-04-2007 21:25:25
หุหุ ต้นน้ำเจอช๊อตเด็ดพอดี  :o
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 21-04-2007 21:34:05
 :o ดีกันไม่เท่าไหร่

จะได้งอนกันอีกล่ะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 21-04-2007 23:48:06
เดี๋ยวต้นน้ำได้หึงแบบไม่ลืมหู ลืมตาแน่ๆ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 22-04-2007 17:07:12
แย่จางงงง ทั้งเข้าใจผิด เดี๋ยวมีหลินมาอีก คงได้เห็นฉากประชดไปทำดีกะหลินแน่ๆๆเลยย  :seng2ped:

เง้ออ.....อย่านะ ไม่อาววววว
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 23-04-2007 11:01:24
.
.
.
ที่ใต้ถุนตึกคณะวิศวกรรมในวันเสาร์ มีหนึ่งสาวหนึ่งหนุ่มกำลังขมีขมันซ้อมบทละครกันอยู่ วันชนะรู้สึกขัดใจเล็กน้อยที่มาถึงก็เห็นเอากับฉากที่องครักษ์แอบลักลอบพลอดรักกับเจ้าหญิง

“ขอโทษที สายไปหน่อย” วันชนะจงใจวางกระเป๋าลงแรงๆอย่างแสนงอน น้ำเสียงขัดเคืองเหมือนจะเรียกสติให้นักขัตรู้ตัวว่า ‘แฟนนายอยู่นี่’

“อ้อ มาแล้วเหรอ ช้าเสียจริง” นักขัตพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างที่วันชนะจับได้
“ซื้อสเต็กมาฝากด้วย” น้ำเสียงยังแง่งอนห้วนๆ

ขณะที่สุวรรณาเงี่ยหูฟังอย่างสนใจ สองคนนี้โกรธกันหรือ? จับผิดสังเกตได้ก็เริ่มยิ้มในใจมองเห็นทางยุแยง
“ว้าย ตายแล้ววิน” หล่อนทำเสียงกรี๊ดกร๊าด “ไม่รู้เหรอไงจ้ะ ว่าตั้มเขาไม่ทานเนื้อ”

วันชนะเหวอไป “มะ...ไม่รู้” เสียงอ่อยลง
นักขัตเงียบ ตามีแววขุ่นเคือง แต่ก็เลือกจะไม่พูดอะไร

วันชนะมองลึกเข้าไปในตานักขัต ...ดูเย็นชาแปลกไปจากเมื่อวาน หันไปมองหลิน เพื่อนคนนี้ทำท่าว่าตัวเองสูงส่งกว่าตนอีกแล้ว

อ้อ...ถ่านไฟเก่า!


เงียบไปทั้งสามคน
“มาซ้อมกันต่อเถอะ” สุวรรณาทำลายความตึงเครียด ...หล่อนมีแผนอยู่ในใจ “วินดูที่องก์ห้านะจ้ะ ท่องไปก่อนเดี๋ยวหลินมาซ้อมด้วย”
วันชนะรับคำบงการของหล่อนอย่างมึนตึงที่ยังค้างคากับแววตาของนักขัต

นั่งท่องบทไปแต่ใจพะวงไปกับเสียงพูดตามบทละครที่นักขัตกับสุวรรณากำลังซ้อมกันอยู่


“โอ้เอย ท่านหญิงของข้าผู้ต้อยเกียรติ ดูเถิดจันทรา หากขอได้ ใคร่จะขอให้หญิงสูงศักดิ์ผู้นี้กลายเป็นเพียงนรีชาวบ้านธรรมดาสามัญ” นักขัตซ้อมฉากที่โอบกอดพลอดรักกับเจ้าหญิงใต้แสงจันทร์

“พูดไปใยเช่นนั้นท่านองครักษ์กล้า ท่านอยากเห็นข้าเป็นแต่เพียงหญิงสามัญชนกระนั้นหรือ” หญิงสาวพูดมีจริตจะกร้าน
“หามิได้ดอกเจ้าหญิงผู้เลอโฉม ข้าเพียงแต่มิอาจขอจันทร์ให้เสกข้าเป็นเจ้าชายไปได้ มิบังควร...” นักขัตต่อบทอย่างแนบเนียน

“ข้าได้ยินดวงจันทร์ให้พรข้อนั้นแก่เจ้า” สุวรรณายิ้มเอียงอายอย่างอินกับบท “จันทราขึ้นกลางฟ้าคืนพรุ่ง ข้าจะกลายเป็นหญิงต่ำศักดิ์ ...ข้าจะไปกับเจ้า จงรอรับข้าเถิด”

ตามบทเจ้าหญิงจะสละยศและเกียรติเพื่อนหนีตามคนรักซึ่งเป็นเพียงองครักษ์ของเจ้าชายไป
“ในเมื่อเจ้าเลือกจะกลายเป็นนังไพร่คนหนึ่ง ข้าก็จะให้เจ้าสมหวัง” เสียงวันชนะโพล่งขึ้น เขาเก้าเข้าไปร่วมวงด้วย
นักขัตกับหลินรู้ว่าวันชนะลัดไปฉากวันที่ทั้งคู่จะหนีตามกัน

เวทีซ้อมละครดูเหมือนจะกลายเป็นเวทีเชือดเฉือนคารมและจิตวิทยาที่ดูจะเข้ากับบทจริงของคนทั้งสามไปเสียแล้ว
“ข้าเลือกทางสามัญดีกว่าอภิเษกกับท่าน” สุวรรณาต่อบททันที “ข้าทนไม่ได้หรอกที่จะต้องอยู่กับท่านไปตลอดชีวิต ...ท่านมิคู่ควร” หล่อนแกล้งพูดผิดจาก ‘ข้ามิคู่ควร’ เป็น ‘ท่านมิคู่ควร’ สายตามองที่วันชนะแล้วจึงชำเลืองไปยังนักขัต

วันชนะจนด้วยอารมณ์หึงพุ่งทะลุอก สมองจึงคิดไม่ทันว่าจะต่อบทอย่างไร
“ท่านกลับไปเสียเถิดเจ้าชาย บ่าวรู้ตัวว่าทำผิด” นักขัตแทรกตามบท “คนผิดมิควรกล่าวขอสิ่งใด แต่ครั้งนี้บ่าวขอ วันหน้าบ่าวจักกลับมารับคมดาบท่าน”

วันชนะปวดใจ หากแต่ในบทเจ้าชายปวดใจที่เห็นคนทั้งคู่รักกัน วันชนะปวดใจที่นักขัตแทรกมาแม้จะเป็นไปตามบทก็เถอะ
ดูเหมือนนักขัตจะเข้าใจสงครามจิตวิทยานี้ และเขาก็ช่วยหลินรุมตนโดยเอาบทละครมาบังหน้า

งงหนักที่จู่ๆนักขัตเปลี่ยนไป ...แต่ซ้อมละครด้วยกันไม่กี่ชั่วโมงนี่หรือ แค่ห่างจากเขาไปวักแวบนี่หรือ โบราณว่าผู้หญิงเปรียบเหมือนไม้เลื้อย ไม่เคยคิดว่านักขัตจะเป็นไปเช่นคำกล่าวนั้น

วันชนะมองดูนักขัตอย่างโกรธตามบทละครแต่มีอารมณ์นอกบทคุเจือปน

“ได้โปรดเถิดเจ้าชายผู้เปี่ยมด้วยเกียรติ ปล่อยพวกเราไปเถิด” สุวรรณาโผเข้าโอบนักขัต
วันชนะเงียบอึ้ง นักขัตเงียบแต่สายตาจดจ้องวันชนะบอกความเย็นชาระคนขัดข้องหมองใจ

“โอ้โห หลินตื่นเต้นไปหมดแล้วเนี่ย ละครเรื่องนี้ต้องสนุกมากๆแน่เลย” หล่อนสมใจจนหลุดบท คำพูดเหมือนจะทำนายเหตุการณ์
“ขอพักก่อนนะ” วันชนะสะบัดหน้าเดินไปที่นั่งห่างออกไป

“เชิญจ้ะ” สุวรรณายิ้มเจ้าเล่ห์ หางเสียงฟังดูกระแทก แล้วจึงหันไปสนทนากับนักขัต “เรามาต่อตอนที่อยู่ในกระท่อมในป่าร้างกันเถอะตั้ม”
“เชอะ! กระท่อมร้าง” วันชนะนึกหมั่นไส้ในใจ

“โอ้ย!”

“อะไรอีกล่ะ” วันชนะคิดในใจเมื่อไรยินเสียงหลินอุทานปนเจ็บปวด ...จะมาไม้ไหนอีก

มองไปก็เห็นนักขัตพยุงหลินเดินมาทางตน ...อ้อ ขาแพลง
หญิงสาวทำออเซาะ ทำเป็นอ่อนแอ เกาะแขนนักขัตเสียแน่น เดินขากระเผกแบบลงแรงไม่เต็มเท้า ร้องครางโอดโอยแต่พองาม
นักขัตพาหลินมานั่งใกล้กับวันชนะ

จะอะไรกันนักหนาพามานั่งก็พอแล้ว นี่ยังจะทำกระหนุงกระหนิงกันอยู่ได้
อารมณ์หึงชั่ววูบทำให้คนใจเย็นอย่างวันชนะถึงกับหน้าแดงก่ำ ลืมไปว่าสุวรรณาก็เป็นเพื่อนตน

“อ้ะ ขอโทษทีนะ” วันชนะแกล้งทำหนังสือเล่มหนาตกใส่เท้าสุวรรณา “มันหลุดมือ”
สุวรรณาร้องโอดโอยเหมือนจริง

วันชนะยิ้มเยาะเพียงชั่ววินาที
แต่นักขัตรู้! ว่าวันชนะแกล้งทำ นักขัตจ้องมองหน้าวันชนะอย่างกับคนแคลงใจ ...วันชนะคนที่น่ารักของเขาหายไปอยู่ไหนกันแล้วนะ วันชนะคนที่มองโลกในแง่ดี เรียบร้อยคนนั้น...

วันชนะรับรู้ว่านักขัตจ้องมองตนอย่างรู้ทันว่าเขาแกล้งทำ ...กระดากในใจ เป็นคนอื่นเห็นยังรู้สึกว่าหน้าหนาขึ้นมาไม่มากเท่าคนรักตัวเองจับได้

“ขอโทษนะหลิน” วันชนะกลับมาเป็นคนเดิม เสียงขอโทษจริงจังขึ้น
“ไม่เป็นไรจ้ะ” สุวรรณายิ้มให้บางๆ

“เดี๋ยวตั้มไปหายามาทาให้” นักขัตพูดแล้วเดินออกไป ก่อนไปเขายังมองหน้าวันชนะเหมือนค้นหาคำตอบอะไรสักอย่าง
วันชนะกระหวัดถึงวันนั้น...วันที่ลมแรง...วันที่เขาเองก็ขาแพลง...

“นักขัตนี่น่ารักเนอะวิน” หลินเปิดฉาก “ใครได้เป็นแฟนคงโชคดีมาก”
วันชนะยังเศร้าๆ สำนึกผิดจนไม่ทันคิดว่าหล่อนพูดกระทบตน ความหมายแฝงคือ หล่อนก็อยากเป็นแฟนนักขัต วันชนะไม่ควรมาแย่งของหล่อนไป...

“อืม จ้ะ” วันชนะตอบเสียงยังเศร้า ถ้าเป็นเวลาปกติเขาคงรู้สึกภูมิใจ “ตั้มเขาดีมาก”
“น่าเสียดายนะ...” หญิงสาวพูดเหมือนแกล้งหยุดคำได้ทัน ‘...น่าเสียดายที่กลายเป็นผู้ชายไม่เต็ม’
วันชนะรู้ในความหมายนั้น แต่ก็ยิ้มให้

...ถ่านไฟเก่ามันคุขึ้นมาอีกแล้วกระมังนี่ เอาเถอะ ถ้านักขัตเลือกหลินวินก็จะไม่ขวางหรอก กลับไปเดินทางปกติน่ะดีแล้ว...
“วินขอตัวก่อนนะหลิน พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีธุระน่ะ บอกตั้มด้วยละกัน” วันชนะเลี่ยงที่จะเผชิญหน้าเมื่อนักขัตกลับมา
“จ้ะ เดี๋ยวหลินบอกให้” หล่อนรับคำ

วันชนะเลี่ยงไปไม่กี่ก้าวเสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดังจึงเอามากดรับ
นักขัตเดินเข้ามาพอดีทันเห็นหลังวันชนะเดินคุยโทรศัพท์ออกไป
“วินเขามีธุระน่ะตั้ม ขอกลับก่อน” หลินพูด

“อืม” นักขัตรับรู้ ในใจเดือดปุดๆ จะอะไรกันนักนะ เมื่อกี้จูบกันในร้านยังไม่พออีกหรือ


ความรักเป็นเช่นนี้เอง...เปลี่ยนคนเย็นชากลายเป็นเลือดร้อนทันใด เปลี่ยนคนใจร้อนกลายเป็นเยือกเย็น...ก็เปลี่ยนคนสองคนให้หมางใจกันได้เช่นนั้น
.
.
.
[wma=300,50]http://001.uploadblaster.com/file_hosting/3c3ff7d0fb5a60748e50739625b729be.wma[/wma]

ขอบคุณหนูบลูสำหรับเพลง eye_on_me คร้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 23-04-2007 11:35:56
 :เฮ้อ: ชีวิตรักคู่นี้ทำไมอุปสรรคเยอะจัง  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: wee ที่ 23-04-2007 11:42:16
คิดเอง...เออเอง...ของนายนิติกะนายต้นน้ำ น่ะ  :angry2: :angry2:
ทำเอาเรา...คนอ่านน่ะ   ขัดใจจริงๆๆๆๆ  เฮ้ออออ :monkeysad2:
 :110011: :เชิป2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 23-04-2007 13:34:22
 :serius2:  วันนี้เจอแต่เรื่องเศร้า ขัดใจจริงจิงเลย  นี่เรื่องที่สามแระ...  :seng2ped:


แต่ยังดีเรื่องนี้เป็นเรื่อง"เข้าใจผิด".... คุยกัน มไถ่ปรับความเข้าใจกันเร็วๆนะ....


จะจำไว้ว่า ถ้าตัวเองไปเจอฉากจูจุ๊บแบบนี้ในชีวิตจริง ต้องวิ่งไปดูอีกด้านของมุมกล้อง เหอๆๆ จะได้ไม่เข้าใจผิด  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 23-04-2007 19:39:12
เหอ เหอ หึงกันไปหึงกันมา  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 23-04-2007 19:55:23

.............ความรักก็เงี้ย.........

......................ชอบหาเรื่องเข้าใจผิดมาหั้ยอยู่เสมอ......... :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 23-04-2007 20:16:42
คนเรานี่น้า  ปากหนักกันซะจริง 
เด๋วยัยหลินก็สมใจหรอก เฟร็งๆๆๆ

รออ่านต่อจ้าหมูพูห์  เป็นกำลังใจให้นะ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 24-04-2007 12:08:13
.
.
.
 เสียงเคาะที่หน้าห้องทำให้วันชนะลุกไปเปิด

“ไปกินข้าวเย็นกัน” นักขัตพูด เสียงออกจะเย็นชานิดหน่อย
“กินมาแล้ว” วันชนะเล่นแง่
“ก็ต้องไป” นักขัตชักขุ่นดึงมือวันชนะออกมาจากห้องดื้อๆ


ที่มุมหนึ่งของโรงอาหารกลางยามตะวันโพล้เพล้ วันชนะกับนักขัตเลือกนั่งข้างกัน...เพื่อที่จะไม่มองหน้ากัน

“กินสิ” นักขัตเริ่มพูด มือตักกับข้าวเข้าปาก แต่ไม่รับรู้รสชาติ
“บอกว่ากินแล้ว” วันชนะยังบึ้ง

“รึจะให้ป้อน” นักขัตเสียงขุ่น
“ไม่ต้องหรอก” วันชนะค้อน “ไปป้อนให้หลินเถอะ”

“อยากให้ทำอย่างนั้นก็จะทำ” นักขัตตอกกลับ

วันชนะจนคำพูด สิ่งที่คิดเริ่มมองเห็นรูปร่าง ...ถ่านไฟเก่า... ป่วยการจะอยู่ต่อ วันชนะลุกขึ้น

“จะไปไหน” นักขัตแดมือให้วันชนะนั่งลงอย่างเดิม เขาไม่รู้ตัวว่าได้ออกแรงไปเต็มที่จนวันชนะหน้าแหยเพราะเจ็บ
นักขัตหน้าเสีย แต่ก็วางฟอร์มทำหน้านิ่ง “กินหมดแล้วค่อยไป”

วันชนะยอมตักขึ้นมาหนึ่งคำ แต่สีหน้าบอกความผิดหวังเสียใจ
“ทำไมกับข้าวถูกๆที่ตั้มซื้อให้ไม่ถูกปากรึไง” น้ำเสียงเริ่มแสดงชัดถึงคำว่า ‘หึง’ “หรือว่าต้องให้ตั้มจับมือก่อน ต้องจูบด้วยใช่ไหม”

“พูดเรื่องอะไรน่ะ” วันชนะหันขวับ
“เปล่า” นักขัตรีบกลบเกลื่อน
“อ้อ แอบตามวินเหรอ” วันชนะคาด และก็ถูกเผง “นิสัยไม่ดี”

“เออ ตั้มนิสัยไม่ดีหรอก ต้องเป็นไอ้คนนั้นคนเดียวแหล่ะที่ดีเลิศ แอบตามแฟนตัวเองมันผิดตรงไหน” นักขัตระเบิด รู้สึกร้อนๆที่หลังวูบวาบ กะจะพูดต่อแต่วันชนะเงียบไป

หันไปมองคนที่นั่งข้างกัน
วันชนะก้มหน้านิ่ง กัดกรามปูด สะกดสะอื้นเอาไว้
นักขัตเสียใจ ที่อารมณ์ร้อนของตัวเองทำร้ายวันชนะ

วันชนะเสียใจที่นักขัตไม่เคยไว้ใจตน ปะปนกับอารมณ์สงสัยที่โดนใส่ความ เขาได้ไปจูบกับใครเสียเมื่อไร

“เชิญกินไปคนเดียวเถอะ” วันชนะลุกขึ้นทั้งน้ำตา เดินงุดๆออกไป
นักขัตหงุดหงิดตัวเอง รีบวิ่งตาม
พอคนทั้งคู่พ้นไปคนทั้งโรงอาหารกลางที่คอยสังเกตตั้งแต่เริ่มก็ซุบซิบกันระงม


“เปิดประตูนะวิน” นักขัตทุบประตู วันชนะลงกลอนจากด้านในอีกชั้น

เงียบ

นักขัตทุบอีกจนมือแดง
วันชนะใจแข็งไม่ยอมเปิดให้

ข้างนอกห้องวุฒิเดินมาพอดี “เฮ้ย มึงจะพังประตูห้องกูเหรอ”
“เออ” นักขัตไม่แยแส
“เฮ้ยๆ” วุฒิรีบห้าม “มีไรกันวะ”
“วิน เปิดประตู” นักขัตทุบอีก
“เวร ทะเลาะกันอีก จะเข้าไปเอาของได้ไหมวะนี่” วุฒิทำหน้าเซ็งโลก

นักขัตนึกวิธีออกก็รีบวิ่งเข้าห้องตัวเอง
ใจแป้วอยู่บ้างที่ต้องขึ้นไปยืนบนขอบหนาเพียงสิบเซนติเมตรตรงระเบียงหลังห้อง ช่องว่างระหว่างระเบียงของห้องวันชนะกับห้องของเขาห่างกันไม่เยอะแต่ก็ไม่ควรทำอย่างยิ่งในชั่วโมงปกติ

นับหนึ่ง สอง สามในใจแล้วก้าวข้ามไป อย่างที่คิดวันชนะไม่ได้ปิดประตูตรงระเบียง
ค่อยๆเดินเข้าไป

วันชนะนอนคว่ำหน้าอยู่ใต้หมอน

“วิน” นักขัตเรียก น้ำเสียงแฝงสำนึกผิด

วันชนะสะดุ้ง อาการตัวหอบเพราะร้องไห้หยุดกึก แต่ก็ยังซ่อนอยู่ใต้หมอน

ที่ขอบเตียงยุบลงเพราะนักขัตทิ้งตัวนั่งลง “ตั้มขอโทษ”
วันชนะเงียบตั้งใจฟัง

“ตั้มหึง”

วันชนะสงสัย ...จะหึงเรื่องอะไร วันก่อนก็บอกเรื่องพี่ภัทรไปหมดแล้วนี่

“ตั้มทนไม่ได้ที่เห็นวินจับมือกับเขา วินจูบกับเขา”

“จะบ้าเหรอไง” วันชนะแหวใส่ ขว้างหมอนใส่หัวนักขัตจนเซไปนิดหน่อย “จับมือน่ะใช่ อันนั้นเขาจับมือวินเอง แต่จูบนี่มันตอนไหนกัน ...หา?” วันชนะหันมา คราบน้ำตายังมีให้เห็น

“ก็...หลังจากนั้น” นักขัตชักลังเล
วันชนะนึกตามก็ถึงบางอ้อ “ฝุ่นเข้าตาหรอก พี่ภัทรเขาดูให้”

นักขัตยังไม่ปักใจเชื่อ ก็เขาเห็นแบบนั้นจริงๆ

“ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ วินก็พูดได้เท่านี้แหล่ะ” วันชนะงอน ล้มตัวลงนอนตะแคงเบือนหน้าหนี

ใจเริ่มอุ่นๆ ความเชื่อใจกันเริ่มผุดผาดขึ้นมา นักขัตย้อนภาพ...อาจเป็นไปได้ มุมที่เขาอยู่มันทำให้เห็นเป็นแบบนั้น
รู้สึกละอายใจที่ทำตัวไม่ดี ทั้งที่แอบตามไป...เพราะไม่เชื่อใจ แต่จริงๆเขาเป็นห่วง ...ที่พูดไม่ดีกับวันชนะ แต่จริงๆก็เพราะเขาหวง
นักขัตล้มตัวลงนอนข้างหลังวันชนะมือสอดรวบตัวคนหน้างอเข้ามาแนบอกตัวเอง ขายื่นไปล็อกขาวันชนะไว้

“ผมขอโทษนะวิน ...ที่รัก” นักขัตเริ่มบทง้อ
วันชนะเริ่มยิ้มออกแต่ก็ยังแกล้งทำเป็นโกรธ

“ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ ...” นักขัตพรมจูบที่ต้นคอวันชนะสลับกับพูดคำขอโทษ
วันชนะเงียบ ดีใจที่คลี่คลายเข้าใจกันได้แต่ก็ยังงอนอยู่

“ขอโทษ ขอโทษ ...” นักขัตยังจูบต่อ “จะไม่ยกโทษให้ตั้มเลยเหรอ...ที่รัก” มือไม้เริ่มซุกซนล้วงเข้าใต้เสื้อ
ข้างนอกห้อง วุฒิที่เงี่ยหูฟังอยู่ตลอดได้ยินเป็นเพียงพึมพำเบาๆ ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะโวยก็เข้าใจว่าคงคืนดีกันแล้ว จึงได้เคาะที่ประตู
“เฮ้ย ดีกันแล้วเปิดประตูให้ไห้หน่อยสิ จะเอาของ”
.
.
.
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 24-04-2007 12:51:52
 :-[ :laugh3:  ในที่สุดก็ดีกานแว้ววว


ว่าแต่วุนี่รบเคาะถามมาย เค้ากะลังง้อ เข้าด้ายเข้าเข็ม อิอิ :haun1:


นี่ก็เป็นไปตามสูตรเจ้สองอีกแว้วว ทะเลาะ งอน คืนดี แล้วก็....  อะฮุ อะฮุ  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 24-04-2007 13:24:43

...........ดีกันซักที............. :110011: :เชิป2:

..................ต่อตอนอัศจรรย์ด่วน......... :laugh5: :laugh5:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 24-04-2007 18:51:51
ขัดใจวุฒิจิงวุ้ย  :angry2: หลายครั้งแล้วนะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 24-04-2007 19:06:06
ขัดใจวุฒิจิงวุ้ย  :angry2: หลายครั้งแล้วนะ  :serius2:

เห็นด้วยอย่างแรง  :laugh3:


หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: wee ที่ 24-04-2007 20:31:39
ม่ายนึกเล๊ย..ว่าต้นน้ำจะขี้หึงอย่างแรง  :รักจัง11:
ป่านนี้ที่โรงอาหารพูดกันถึงไหนๆแล้วก็ม่ายรู้.....นิติเอ๋ย :โหลๆ: :โหลๆ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 24-04-2007 22:17:04
หุหุ.. บทจะดีกันก็ดีกันง่ายๆวุ้ย
 :kikkik: แต่ก็ดีล่ะ..ดีกว่าทะเลาะกาน
วุฒินี่ก็ขัดจายคนอ่านจริงๆ 55+ :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 25-04-2007 13:57:10
.
.
.
“เฮ้ย ดีกันแล้วเปิดประตูให้ไห้หน่อยสิ จะเอาของ”

นักขัตสะดุด

“เอาอะไร” เสียงลอดออกมา
“แฟ้มสีดำบนโต๊ะ” วุฒิตะโกน
สักพักแฟ้มสีดำก็ถูกยื่นใส่มือ นักขัตแง้มประตูเอาออกมาให้ “อ้ะ”
“เออ ห้องกูนะโว้ย” วุฒิหัวเสียแต่ก็ไม่ได้จริงจัง แล้วจึงเดินลงไป


นักขัตกลับมาที่เตียงอีกครั้ง วันชนะยังนอนตะแคงท่าเดิม
คราวนี้นักขัตจับให้วันชนะนอนหงายมาเผชิญหน้ากัน

“ตั้มขอโทษนะ” เขากล่าวอย่างจริงใจ ก้มลงไปสอดมือช้อนร่างของวันชนะขึ้นมานั่งกอดกัน “จะยกโทษให้ตั้มไหม”
วันชนะโดนหอมเข้าที่แก้มอีกฟอดใหญ่
วันชนะจูบที่ริมฝีปากนักขัตเบาๆแทนคำตอบ

นักขัตสนองตอบจูบที่อบอุ่นอ่อนโยนนั้น...ค่อยๆแรงขึ้น...เนิ่นนาน
ถอนริมฝีปากออก ทั้งคู่มองหน้ากัน วันชนะอมยิ้ม นักขัตลูบเบาๆที่แก้มของวันชนะ

...ไม่มีคำพูดใดอีก...

ค่อยๆออกแรงประคองร่างของวันชนะและตัวเองนอนลง จูบร้อนแรงเริ่มขึ้นอีกครั้ง ลมหายใจเร่งเร้า วันชนะรู้ตัวอีกทีเมื่อเสื้อของเขาถูกถอดออกไปแล้ว นักขัตก็เปลือยท่อนบนเช่นกัน ช่วงอกแกร่งของนักขัตทำให้วันชนะสั่นเคลิ้ม มือค่อยๆลูบแผ่วๆไล้ตั้งแต่หัวไหล่ อก หน้าท้อง วันชนะหยุดอยู่แค่นั้น

นักขัตพรมจูบที่แก้ม ซอกคอ ที่หน้าอก แล้วกลับขึ้นมาจูบที่หน้าผากของวันชนะอย่างเต็มเปี่ยมด้วยความรัก
วันชนะเบือนหน้าไปทางอื่นเสีย แก้มร้อนผะผ่าว เมื่อมือของนักขัตเลื่อนไล้ลงจับอยู่ตรงนั้น

นักขัตก็อาย อาศัยว่าความมืดช่วยทำให้กล้าขึ้น เขาต้องเป็นฝ่ายนำ ไม่เช่นนั้นวันชนะคงไม่กล้าหรอก
เอามือตัวเองจับมือของวันชนะให้เลื่อนไปตรงส่วนเกร็งของตัวเอง

ต่างคนต่างลูบไล้ ต่างขยับ ปากประกบจูบร้อนแรง...นัวเนีย...เพลงรักบรรเลงไปอย่างหอมหวน
วันชนะก้มหน้าลงไปยังท่อนเนื้อแกร่งเกร็ง ไม่นึกรังเกียจ แต่นึกถึงรัก นึกถึงว่าจะทำให้นักขัตมีความสุข

ราวกับทุกอณูในร่างกายจะมีเปลวไปแผ่ออกมายังงั้น วันชนะประทับริมฝีปากให้กับส่วนหัวนั้น ก่อนมันจะหายไปในปากบอบบาง
นักขัตหน้าบิดด้วยความเสียวซ่าน...ครั้งแรกในชีวิต มือขยี้ที่ผมนุ่มของวันชนะ เสียงคราง “อา...” ดังเบาๆ

อยากทำให้คนรักบ้าง นักขัตหมุนตัวอยู่ในท่าเหมือนกับหมายเลขห้องของวันชนะ ไม่มีความลังเลเหลืออยู่แล้ว
เขาจัดการมอบความสุข ความรักให้กับวันชนะเช่นกัน มือลูบไล้ที่หน้าขาเนียนทั้งสองของวันชนะ

ผ่านไปสักพัก แต่ในความรู้สึกของคนรักทั้งสองเหมือนเนิ่นนานเหลือเกิน วันชนะเริ่มรู้สึก เขาเริ่มดันนักขัตให้ถอนปากออก
ธรรมชาติของผู้ชายด้วยกันย่อมรู้ดี...แต่นักขัตก็ยังคงทำต่อไป

วันชนะสุดจะห้ามได้ทัน เพราะนักขัตแกล้งเขาจนถึงที่สุดจริงๆ

ของเหลวอุ่นๆพุ่งชนกระพุ้งแก้มของวันชนะก่อน...สำลัก นักขัตรู้ดีแต่ก็ไม่บอกเขา เช่นเดียวกับที่เขาบอกนักขัตแต่เขายังเฉย
วันชนะรู้ได้ถึงความรักที่เขามี ความเชื่อใจที่คนรักมอบให้และความยอมรับในกันและกัน
จึงไม่อายอีกต่อไปแล้ว


...บทรักร้อนแรงถึงจุดร้อนสุดๆแล้ว...
ทั้งคู่มองหน้ากันอมยิ้มให้กัน กอดกัน แล้วต่างก็รีบวิ่งไปห้องน้ำ


“ไงจ้ะที่รัก” นักขัตกอดวันชนะไม่ปล่อย “เป็นของผมแล้วนะ”
“ตั้มก็เป็นของวินแล้วนะ” วันชนะพูดอายๆ
“ยังอายอีกเหรอ” นักขัตแหย่ “ต้องทำอีกรอบ วินจะได้ไม่อายอีก”
“จะบ้าเหรอ” วันชนะม้วน


คืนนี้ท้องฟ้าเดือนมืด ไม่มีแสงจันทร์ใดๆ แต่ความอบอุ่นจากจุดเล็กๆบนโลกนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเป็นแสงสว่างสำหรับคนสองคน...

ที่นอกห้อง
วุฒิเอาหูแนบประตู ตอนแรกที่กลับมาเพราะว่านักขัตหยิบแฟ้มให้ผิดอัน พอมาถึงก็ได้ยินเสียง ด้วยความอยากรู้จึงไม่เคาะ

“มันทำไรกันอยู่ว่ะ”
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 25-04-2007 14:28:13
 :laugh5: วุฒนี่จริงๆเล้ย แต่ดีนะที่คราวนี้ไม่เคาะประตู  :laugh5:

เป็นของกันและกันแล้ว  :-[
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-04-2007 19:20:22
“มันทำไรกันอยู่ว่ะ”
ไม่รู้ ไม่เห็น  :-[  :-[
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 25-04-2007 19:56:49

“มันทำไรกันอยู่ว่ะ”


.............น่าสงสารวุฒิจัง.....ยังไม่เค้ย...ไม่เคย..... :laugh5: :laugh5:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 26-04-2007 00:59:32
เห็นใจวุฒิจริงๆ

แบบนี้วันหลังต้องร่วมด้วยช่วยกัน 3 คนจะดีกว่านะเนี่ย :haun1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 26-04-2007 15:43:12
 
13 ∞
ผ่านไปสองสัปดาห์ โปสเตอร์โฆษณาละครเวทีของชมรมศิลปการแสดงก็ติดอยู่ทั่วมหาวิทยาลัย

“หือ...!?” แซกส์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้โปสเตอร์ “นักขัต เทพรักษ์...ชื่อตั้มนี่”

เย็นวันเดียวกันนั้นที่ชมรมศิลปการแสดง
“นะครับนะ” ภาสกรเว้าวอนเจ๊ใหญ่ “นะครับ ขอผมเล่นด้วยคนนะครับ”

“ตอนนี้ไม่มีบทเหลือแล้วจ้ะหนู” เจ๊ใหญ่ชักรำคาญ
“นะ นะ” ภาสกรยังใช้ไม้ตื้อ แต่นึกหมั่นไส้ในใจว่า ‘นี่ถ้าตนเป็นชายหล่อล่ำหน่อยละก็ ขี้คร้านจะเพิ่มบทให้ไม่ทัน’

พอดีว่ามีสายโทร.เข้ามาในโทรศัพท์มือถือของภาสกร คนตัวเล็กแววตาเจ้าเล่ห์ยกขึ้นมากดรับ “อืม ไง...” ภาสกรนึกแผนการออกฉับพลัน สายตาชำเลืองมองเจ๊ใหญ่ กรอกเสียงลงมือถือจงใจให้ได้ยิน “อ๋อ หนังน่ะเหรอ...ญี่ปุ่น...หน้าตาดีหลายคนเลยล่ะ เออ แล้วจะไรท์ไปให้”

“หนังอะไรจ้ะ” เจ๊ใหญ่กระซิบกระซาบ
“สนใจไหมเจ๊ หล่อๆทั้งนั้นเลย” แซกส์กระซิบกระซาบตอบกลับ “แต่คงต้องรอหน่อยนะเจ๊ คงเป็นช่วงหลังละครเวทีจบนู่นแหละ แซกส์คิดว่าแซกส์คงไม่ว่างเอามาให้หรอก เจ๊ก็คงจะยุ่งๆกับละครน่ะ”

เจ๊ใหญ่เริ่มสั่นคลอน
“ไม่เป็นไรเจ๊ งั้นหนูไปก่อนละกัน จะรีบไปไรท์หนังให้เพื่อน” ภาสกรหันหลังกลับแต่สายตาลอบชำเลืองดูปฏิกิริยาเจ๊ใหญ่
“มีเหลืออยู่บทนึง” เจ๊ใหญ่พูด สีหน้าครุ่นคิด

ภาสกรยิ้มแวบหนึ่งก่อนหันมาในหน้าปกติ แผนยั่วยุได้ผล ไม่ว่าชาวสีม่วงคนไหนไม่มีใครปฏิเสธหนังโป๊ผู้ชาย
เจ๊ใหญ่พิจารณาความเหมาะสมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของรุ่นน้อง “บทคนสนิทของเจ้าหญิง” ในใจคิดว่าคงเป็นตัวชูโรงได้อยู่หรอก
“ว้าว! น่าจะเป็นบทสำคัญนะเจ๊”

“เจ๊เล็งเห็นว่าหนูคงชอบเพราะจะได้ใส่วิกและแต่งหญิงด้วยนะ รูปร่างก็ตัวเล็กบางๆน่าจะเล่นได้” เจ๊ใหญ่พูดเป็นเชิงเอาใจไว้ก่อน
“ไม่ผิดหวังแน่เจ๊” แซกส์ยิ้มอย่างมีชัย
...


หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 26-04-2007 15:45:52

..............แซกส์จาทำไรเนี่ย.......... :110011: :เชิป2:

......................เบื่อพวกตัวป่วนจังเลย...... :13223: :13223:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-04-2007 19:26:53
เอาละซี ตัวป่วนมาอีกหนึ่ง  :angry2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 26-04-2007 19:38:56
ถ้าแซกส์แทคทีมกะหลิน แล้วนิมิแยเหรอ :เฮ้อ:

เรื่องวุ่นคงกำลังจะเกิดขึ้นแน่เลย :เฮ้อ: :seng2ped:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 27-04-2007 01:30:36
อารายเนี่ยแซกส์นี่วุ่นวายจริงๆ  :13223:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 27-04-2007 11:40:53
.
.
.
“ต่อให้วันนี้ท่านจะกลายเป็นเจ้าชายรูปงามปานใด ยศศักดิ์ล้นฟ้าเพียงไหน...” คนกล่าวจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างชิงชัง ก่อนจะกล่าวต่อไปโดยไม่ละสายตาว่า “หม่อมฉันก็ไม่อาจเปลี่ยนใจไปรักท่านได้หรอก”

บทนี้เป็นตอนที่เจ้าหญิงทรงรู้ว่าแท้จริงแล้วนายพรานใจร้ายที่ยิงศรเข้าสู่สีข้างของกวางน้อยเมื่อเดือนก่อนนั้นที่แท้กลับกลายเป็นเจ้าชายที่ตนจะต้องมาแต่งงานด้วย หลินแสดงได้เก่ง บทพูดไม่มีติดขัด อารมณ์ทางสีหน้าต่อเนื่องแสดงออกเด่นชัด

“เจ้า!” สายตาของเจ้าชายที่มองอย่างดูถูกเจ้าหญิงของเมืองเล็กๆ แสดงออกถึงอารมณ์โกรธ วันชนะแสดงได้เก่งไม่แพ้กัน มือทั้งสองจับที่ไหล่บางของเจ้าหญิงแล้วเขย่าอย่างเคียดแค้น “นึกว่าเจ้าเป็นใครกัน”

เจ้าหญิงตกใจกับอาการก้าวร้าวนั้นจึงได้เงื้อพระหัตถ์แล้วตบเข้าที่แก้มของเจ้าชาย
ทุกคนในห้องเงียบกริบ หลังเสียงมือกระทบแก้มดังฉาด

วันนี้เป็นเพียงการซ้อมเท่านั้น
วันชนะรู้สึกเหมือนมีลาวาไหลอยู่ที่แก้มข้างนั้น ผสมกับความคาดไม่ถึง

นักขัตที่มองดูฉากนี้เงียบก็พลอยตะลึงไปด้วย แต่ก็เป็นคนแรกที่รู้สึกตัว เขารีบวิ่งเข้าไปหาวันชนะ
“วิน เป็นไงบ้าง” นักขัตถามด้วยความห่วงใจ ท่าทางร้อนรน

“อุ้ย ขอโทษนะวิน หลินอินกับบทมากไปหน่อย” สุวรรณารีบพูด รีบยกมือไหว้ขอโทษ แต่กริยานั้นกลับดูไม่จริงจังนัก
“ไม่เป็นไรจ้ะ” วันชนะยิ้มให้
สุวรรณายังมีสีหน้าไม่คลายความผิด วันชนะจึงพูดให้เพื่อนสบายใจว่า “ดีแล้วล่ะหลิน วินก็อินกับบทเหมือนกัน หลินแสดงได้ดีมากเลย”
สีหน้าหล่อนดีขึ้น


“เอาล่ะๆ วินกับหลินพอก่อนละกันนะพรุ่งนี้ค่อยมาซ้อมกันต่อนะ” เจ๊ใหญ่พูด
“เจ็บมากไหมวิน” คนข้างกายโอบไหล่ถามอย่างเป็นห่วง อาการโอบไหล่ของนักขัตทำเหมือนโอบไหล่เพื่อนชายคนหนึ่ง แต่ความรู้สึกลึกซึ้งนั้นรับรู้กันดีเพียงสองคน

“ไม่เป็นไรหรอกตั้ม” วันชนะยิ้มเพื่อให้นักขัตไม่ต้องเป็นห่วง แต่ที่จริงความรู้สึกเหมือนลาวาไหลอาบแก้มยังไม่ได้หมดไปเลยสักนิด มองผ่านหลังนักขัตเห็นหญิงสาวสวยผู้รับบทเจ้าหญิงแคว้นเล็กแต่สำคัญต่อประเทศของเจ้าชายที่เขาสวมบทอยู่ยิ้มเหยียดอย่างมีนัย

มาถึงวันนี้วันชนะรู้ดีแล้วว่าสุวรรณาเกลียดเขาเข้าแล้ว เรื่องไม่ดีต่างๆไม่ได้เกิดจากความบังเอิญ แต่กระนั้นวันชนะก็โกรธเพื่อนไม่ลงจริงๆ

...ก็สาเหตุที่หล่อนโกรธ
...มันมาจากเขาเอง

ขณะที่ตั้งแต่เริ่มจนจบของการซ้อมอยู่ในสายตาของคนตัวเล็กที่เพิ่งจะถูกเพิ่มบทในเรื่อง
ภาสกรยิ้มที่มุมปาก มองไปทางสุวรรณา...ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจ...แซกส์มองเห็นบางสิ่งที่สมใจ...มาซ้อมวันแรกก็เจอเรื่องน่าสนใจเข้าแล้ว

แต่อีกเรื่องที่ดูผิดหูผิดตาก็คือระหว่างนักขัต ชายหนุ่มที่เขาหมายปองกับวันชนะที่ดูเป็นห่วงเป็นใยกันมากเกินเพื่อนนั้นทำให้เหมือนมีเปลวไฟร้อนเต้นระริกอยู่ในอก

...

ท้องฟ้าสีส้มอมแดงที่ปลายสายตา ในมหาวิทยาลัยมีนิสิตบางตาเพราะเป็นเวลาเย็นมากแล้ว นักขัตกับวันชนะเดินกลับหอพักหลังจากซ้อมละครเสร็จ

“บรรยากาศแบบนี้มันเหงาๆเนอะตั้ม” วันชนะพูด ดวงตาหม่นลงเมื่อนึกถึงคุณแม่ที่เสียไปไม่นาน
นักขัตหันไปมองคนที่เดินมาข้างกัน เห็นสีหน้าก็เดาออก “คิดถึงแม่หรือวิน”
“อืม” วันชนะยิ้มเศร้าๆ

“คิดเสียว่าท่านไปสบายแล้วล่ะ” นักขัตปลอบ
วันชนะยิ้มขอบใจ

“วินจำวันนั้นได้ไหม วันที่วินขาแพลงน่ะ” นักขัตยิ้มนึกถึงตอนที่เขาอุ้มวันชนะขึ้นไปถึงชั้นหก “ตั้มเป็นห่วงเลยกลับมาดูวินอีกรอบ ตอนที่วินหลับอยู่น่ะ วินละเมอเรียกหาแม่ใหญ่เลย” นักขัตหันไปสังเกตวันชนะก่อน เห็นวันชนะตั้งใจฟังเลยพูดต่ออายๆว่า “คืนนั้นวินกอดตั้มแน่นเลยรู้มั้ย”

วันชนะหน้าแดงเรื่อๆ นึกถึงวันนั้น เขาฝันว่ากอดแม่แต่ที่จริงกลายเป็นกอดนักขัต
“แล้วไปทำท่าไหนถึงได้โดนกอดล่ะ” วันชนะถาม

“ก็เอามือไปแตะๆหน้าผากดูน่ะนึกว่าเพ้อเพราะพิษไข้ เหมือนในหนังจีน” นักขัตหัวเราะ “ก็เลยโดนดึงไปกอดเฉยเลย”
“แล้วทำไมไม่หนี” วันชนะอยากรู้

“ไม่รู้สิ ตอนนั้นรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจนะ” นักขัตตอบ อมยิ้ม เขาไม่ได้บอกว่าวันนั้นเขาเองก็กอดวันชนะตอบเหมือนกัน “คงเพราะรู้ล่ะมั้งว่าวินจะกลายมาเป็นแฟนตั้ม” นักขัตเย้า
วันชนะได้แต่ยิ้มเขินๆให้

“แล้วที่บ้านของวินทำอะไรนะตั้มยังไม่เคยได้ถามเลย” นักขัตเปลี่ยนเรื่อง
“พ่อวินเป็นครูโรงเรียนประจำจังหวัด” วันชนะตอบ
“อืม มิน่าลูกถึงเรียนเก่ง มีลูกคุณครูนี่เอง” นักขัตแซว

“เอาอะไรมาพูด ยังหวั่นๆคะแนนกลางภาคอยู่เลย” วันชนะนึกขึ้นได้ว่ายังมีกังวลเรื่องคะแนนสอบอยู่อีกเรื่อง
“ไม่เก่งได้ไงล่ะ ก็วินได้คะแนนท็อปแคลคูลัสเลยนะ” นักขัตบอก
“ฮ่า ฮ่า ตลกล่ะ” วันชนะขำ

“เรื่องจริง ไม่เชื่อก็ไปดูกันไหมล่ะ” นักขัตทำหน้าจริงจัง “เมื่อกี้ ก่อนไปซ้อมละคร คะแนนเพิ่งจะแปะบอร์ด จะหาโอกาสบอกอยู่ แต่ลืม”
“จริงๆนะ” วันชนะถาม ยังไม่ค่อยเชื่อที่พูด
“ตั้มเคยโกหกวินซะเมื่อไรล่ะ” นักขัตตอบจริงจัง

“เคย” วันชนะแกล้งพูดเสียงห้วน “เคยโกหกว่าเรียนวิทยาฯคอมฯ”
“วิน” นักขัตเสียงแข็งบ้าง “เรื่องแล้วไปแล้วน่ะ” นักขัตแกล้งงอน
“ทำงอนยังกะเด็กๆ” วันชนะแหย่

นักขัตเขกหัววันชนะไปที “นี่แน่ะ สักทีเถอะ ชอบขัดใจตั้มอยู่เรื่อยเลยนะ ยอมๆอ่อนให้ตั้มบ้างสิ เดี๋ยวลากลงข้างทางเลยนี่”
“กล้าลากก็กล้าให้ลาก” วันชนะต่อท้าทาย

พูดขาดคำเท่านั้นวันชนะก็ถูกนักขัตลากลงข้างทางจริงๆ นักขัตดึงวันชนะกระโจนแหวกทิวพุทธรักษาที่ขึ้นเป็นแนวริมทาง
“เฮ้ย!” วันชนะนึกไม่ถึงว่านักขัตจะกล้าทำจริงๆ “อย่าทำอะไรบ้าๆนะตั้ม รอให้ถึงห้องก่อนดิ”
“ก็เห็นปากดีนักนี่”

“อย่าสิตั้ม” วันชนะละล่ำละลักบอกตัวหวิวๆ

นักขัตจับที่ต้นแขนทั้งสองข้างของวันชนะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แล้วก็ขโมยจูบไปทีหนึ่ง

“ใครจะกล้าทำล่ะวินก็ จะชวนมานั่งเล่นตะหาก” นักขัตชี้ไปที่แผ่นหินสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่ปูเลียบขอบสระน้ำ “ตั้มชอบมานั่งเล่นที่นี่ล่ะ”
พอหายตกใจวันชนะก็ได้เห็นภาพบรรยากาศมุมสวยมุมหนึ่งของมหาวิทยาลัย เขายืนบนพรมหญ้าสีเขียว ตั้มพาไปนั่งบนแผ่นหินที่ปูไว้เหยียบเดิน ข้างหน้าเป็นสระน้ำ แม้จะเต็มไปด้วยจอกแหนแต่บัวกลางสระก็สวย ยามเย็นบัวหุบดอก ต้นนนทรีอีกฝั่งของสระโดดออกมาจากฉากหลังสีส้มแดงของดวงตะวันยามใกล้ดับแสง...สวย...วันชนะจับมือนักขัตอย่างไม่รู้ตัว

“เอาไว้วันหลังไปเที่ยวบ้านตั้มที่เชียงใหม่สิ ตอนอาทิตย์ตกสวยกว่านี้อีกนะ” นักขัตเอ่ย “วินจะเห็นแปลงมะเขือเทศเป็นร้อยแปลงเลยล่ะ”
“อืม เอาไว้ไปด้วยกันนะ” วันชนะยิ้ม

อาจจะด้วยอารมณ์อ่อนไหวที่มีแต่ต้นหรือเพราะบรรยากาศยามเย็นหรือจะเพราะอะไรก็แล้วแต่อยู่ดีๆวันชนะก็พูดออกมาเหมือนคนไม่รู้ตัว
“ตั้มว่าเราจะคบกันไปได้สักเท่าไร”
นักขัตเองก็เงียบงันไป ตั้งแต่แรกเริ่มที่เขาคบกับวันชนะในฐานะคนพิเศษคำถามเหล่านี้ เขาไม่เคยนึกหาคำตอบเอาไว้ล่วงหน้า

เงียบ...
วันชนะเองก็คงไม่ได้ต้องการคำตอบจริงจังนักหรอก
“สวยจังเลยนะ พระอาทิตย์ตกดินในเมืองกรุง” วันชนะเหม่อมองวิวนั้น

...

“วิน” เสียงเรียกดังขึ้น เรียกให้ความสนใจจากภาพสวยนั้นมาอยู่ที่ชายคนรัก
“วินครับ...ที่รักของผม ตั้มไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างระหว่างเรา แต่วันนี้ และจากที่ผ่านมา การที่ตั้มกล้าแสดงออกว่ารักวินนั้น ตั้มเต็มใจทุกอย่าง และตั้มจะตอบสิ่งที่วินถาม...”

“ไม่ต้องก็ได้ตั้ม วินก็พูดไปอย่างนั้นเอง อย่างที่ตั้มพูดน่ะแหล่ะ ไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น” วันชนะพูดพร้อมกับแตะที่หลังมือของนักขัต

“ฟังนะวิน...ที่รัก วันนี้ตั้มรักวิน เมื่อวานก็ใช่ พรุ่งนี้ก็จะรัก” นักขัตยกมือวันชนะขึ้นเอาปลายนิ้วชี้มาแตะปลายนิ้วโป้งสามนิ้วที่เหลือชี้ขึ้น แล้วก็ทำของตัวเองเหมือนกัน นักขัตเอาวงกลมที่เกิดจากนิ้วชี้กับนิ้วโป้งของเขากับของวันชนะมาติดกัน สามนิ้วประสานกัน
วันชนะยิ้มน้ำตาคลอมองลึกเข้าไปนัยน์ตานักขัตอย่างจริงใจ

วงกลมสองวง...เลขแปดแนวนอน...สัญลักษณ์ทางแคลคูลัสนั้นเขารู้จักดี


“infinity (∞) ...ไม่มีสิ้นสุด”

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 27-04-2007 13:36:36

..............รักกันมากมาย........... : 222222: : 222222:

.......................แอบอิจฉาตาร้อน.... :laugh5: :laugh5:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 27-04-2007 14:26:56
“infinity (∞) ...ไม่มีสิ้นสุด”

หวานซะ :-[

นิน่าจะมีพระไพรรีพินาศติดตัวไว้คุ้มครองนะ  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-04-2007 19:50:59
นิน่าจะมีพระไพรรีพินาศติดตัวไว้คุ้มครองนะ  :laugh3:
เห็นด้วย ท่าทางจะแซกส์จะแท็คทีมกับหลิน มาเล่นงานนิหรือเปล่าหว่า  :dont2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 27-04-2007 20:13:33
 :loveu:  หวานกันได้เรื่อยๆเลยวุ้ยคู่นี้..
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 28-04-2007 13:53:47
หวานซ้า  :loveu:  :loveu:  :loveu:

แต่เหมือนจามีเรื่องอะไรต่อนะเนี่ย  ขอให้ต้นกับนิฝ่าฟันอุปสรรคไปได้น้า  :call:

รอหมูพูห์เหมือนเคย  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 30-04-2007 11:16:11

14 บางคนเรียกว่ารัก...บางคนคือการแสดง

“กรี๊ด...!” เจ้าหญิงร้องลั่นเมื่อเห็นเมื่อเห็นวิหคน้อยที่ทรงเลี้ยงนอนจมเลือดอยู่บนพื้นทันทีที่เปิดพระทวารเข้าห้อง เลือดนกสีคล้ำทำให้เจ้าหญิงหน้ามืดจนเซพระวรกาย ดีที่นางรับใช้ประคองได้ทัน

“ทำใจดีๆไว้เพคะองค์หญิง” นางรับใช้คนสนิทปลอบโยน
“ต้องเป็นฝีมือของเจ้าชายเป็นแน่” หลินกล่าวตามบท

“หม่อมฉันก็คิดเช่นนั้นเพคะ” แซกส์พูดเสียงแปร่งๆ จุดนี้เจ๊ใหญ่วางเอาไว้ว่าแซกส์น่าจะเป็นตัวชูโรงได้อย่างมีสีสันทีเดียว วันแสดงจริงแซกส์ต้องแต่งชุดเป็นผู้หญิง...เป็นนางรับใช้คนสนิท


“วินเข้าไปเลยจ้ะ” เจ๊ใหญ่ที่คอยจัดคิวการซ้อมบอกวันชนะที่ยืนเตรียมตัวเข้าฉากข้างๆ
“ฮ่าๆๆ” เจ้าชายหัวเราะอย่างสบอารมณ์เมื่อแรกปรากฏตัวขึ้น ที่อารมณ์ดีเพราะเพิ่งจะดูสตรีร่ายรำมา แต่เมื่อเดินผ่านมาตำหนักของเจ้าหญิงจึงคิดมาเยี่ยม แต่ดูเหมือนจะเป็นการมาที่ผิดเวลา

“ท่านมันโหดนัก ใจยักษ์ใจมาร” หลินพูดใส่อารมณ์ตามบททันทีที่เห็นวันชนะเดินมา
“พูดอะไรของเจ้า” วันชนะพูดอย่างไม่เข้าใจบวกกับอารมณ์บูดขึ้นมาทันควัน ทิฐิที่มีทำให้ปั้นหน้าขึงขังขึ้นมาทันที
“ท่านมันฆาตกร” เจ้าหญิงกราดเกรี้ยว น้ำตานองหน้า

“องค์หญิงเพคะ” แซกส์กล่าวห้ามตามบทที่มีเพียงสองสามประโยคซ้ำไปซ้ำมา
“อ้อ” วันชนะพูดตามบทเมื่อมองเห็นนกน้อยตัวนั้น “ข้าทำเอง เจ้าจะทำไม ก็แค่ชีวิตเล็กๆ แม้แต่คนสักคนเรายังสั่งให้ประหารเสียก็ได้”
“ท่าน!” เจ้าหญิงผู้เลอโฉมสุดจะกลั้นเงื้อหระหัตถ์หมายจะตบด้วยความชิงชัง

“องค์หญิงเพคะ!” แซกส์อุทานตามบท


เพ๊ยะ!
วันชนะหน้าชา

หลินขมวดคิ้วเล็กน้อย...แปลกใจ หันไปมองแซกส์แวบหนึ่งก่อนจะตั้งสติกลับมา
“อ้ะ วิน หลินขอโทษ หลินอินกับบทมากไปอีกแล้ว” หลินกระวีกระวาดขอโทษขณะรีบปรี่เข้ามาดูผลงานของตัวเอง แต่นัยน์ตาราวจะมีประกายเต้นระริกด้วยความสะใจ

นักขัตไม่ทันได้รู้เห็นเหตุการณ์เพราะกำลังคุยกับรุ่นพี่คนหนึ่งแต่พอเห็นการซ้อมหยุดลงก็สงสัยเลยเดินเข้าไปหาวันชนะ
“มีอะไรเหรอวิน” นักขัตถามอย่างคนไม่รู้ความ
“อ้อ เปล่าตั้ม ไม่มีอะไร” วันชนะยิ้มกลบเกลื่อน

หลินยิ้มบางๆ ชั่วแวบหนึ่งในแววตาเกิดความละอาย...แต่ก็เพียงชั่วแวบเท่านั้นจริงๆ
“พักก่อนแล้วกัน ซ้อมมาตั้งนานละ” เจ๊ใหญ่สมทบ หล่อนก็ไม่ทันเห็นเหมือนกัน
นักขัตเดินไปกับวันชนะอีกทาง หลินเดินไปอีกทาง แซกส์เดินตามหลินไป


“เธอนี่แสดงเก่งเนอะ” แซกส์เอ่ยก่อน รอยยิ้มประหลาดผุดที่มุมปาก
“...” หลินไม่พูดอะไรในตอนแรก เพียงแต่มองใบหน้าขาวๆของแซกส์ แล้วหล่อนก็เดาความหมายจากรอยยิ้มนั้นได้ จึงได้พูดตอบ “นาย เอ้ย...เธอ” หล่อนหยั่งท่าทีคนตรงหน้าก่อนจะมั่นใจพูดต่อ “...ก็เล่นละครเก่งนี่”

ทั้งหลินและแซกส์ตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน...รอยยิ้มหยันให้กับคนที่ตนไม่ชอบใจ

เหตุการณ์ตบหน้าวันชนะ ครั้งแรกเมื่อสองวันก่อนหลินตั้งใจ แต่ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุสำหรับหล่อน แต่เป็นความเจตนาของแซกส์
ตามบทจริงๆแล้ว ฉากที่ซ้อมเมื่อกี้เจ้าหญิงต้องตบหน้าเจ้าชายแต่ว่านางรับใช้พยายามจะห้ามอารมณ์วู่วามแต่ก็ห้ามไม่ทัน...เมื่อกี้หลินตั้งใจจะซ้อมเท่านั้น จะตบหลอกๆ แต่ฉากตอนที่นางรับใช้เอื้อมมือมาเพื่อจะห้ามนั้น แซกส์จับข้อมือหล่อนแล้วเพิ่มแรงให้
“เราสองคนน่าจะเป็นเพื่อนกันได้ดี” แซกส์พูด

แซกส์ไม่ได้รู้ตื้นลึกเบื้องหลังของหลิน นักขัตและวันชนะแต่เมื่อสองวันก่อนเขามองออกว่า ผู้หญิงคนนี้มีอะไรสักอย่างที่ทำให้หล่อนไม่ชอบวันชนะแน่ๆ
วันนี้นับว่าคุ้มค่าจริงๆที่เสียเวลามา
ทั้งสองมองไปทางวันชนะที่กำลังยิ้มแย้มพูดจากับนักขัตและรุ่นพี่ ราวกับจะบอกว่า...นี่แค่เริ่มต้น

...
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: wee ที่ 30-04-2007 15:55:44
สงสารนิจังครับ    :dont2:
แก้มสวยๆ ป่านนี้เป็นรอยมือเต็มป่ายหมดแล้วมั้งครับ  :call:
แล้วอย่างงี้ ถ้าจบการแสดง แก้มน้องนิคงช้ำน่าดู  เฮ้อ...เบื่อตัวอิจฉาอ่ะ  :13223:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 30-04-2007 17:39:21
อูยยย หลินจับคู่กะแซกส์อารายมานจาเกิดขึ้นอีกเนี่ย สงสานนิจังเยย  :call:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 30-04-2007 17:53:17
แล้วเมื่อไหร่นิจะได้เอาคืนมั่งอ่ะ สงสารโดนไปสองรอบแล้ว แก้มช้ำหมด :pigangry2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 30-04-2007 17:56:33
 :interest: อย่างนี้มันต้องแก้แค้นให้สาสม 555555+
ต้องนอกบทให้เจ้าชาย จูบองค์หญิงซะเลย 5555+
จะได้รู้กันไป 555+  :haun1: ว่ารสจูบของนิติเป็นไง อิอิอิ :ฮึ่มม: :ฮึ่มม: :ฮึ่มม:  :laugh3: :laugh3: :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 30-04-2007 20:25:18
มะอาวอ่า . . . เสียดายจุ๊บ

ให้เจ้าชายกับองครักษ์ลักลอบได้เสียเป็นคู่ผัวตัวเมียจะเจ๋งกว่านะผมว่า :รักจัง11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 30-04-2007 21:39:27
แค่เริ่มต้น นิยังโดนขนาดนี้  :serius2:
ไม่อยากจะคิดเลย ว่าจะเกิดอะไรต่อไปนี่  :dont2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 01-05-2007 00:40:27
 :serius2: เวงละ สองคนนี้ดันมาเข้าคู่กันซะได้
นิน่าสงสารอ่า  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 01-05-2007 12:13:01

.............นางมารร้ายเพิ่มมาอีกตัวละ.... :13223: :13223:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 01-05-2007 16:42:38
“เฮ้! วิน ทางนี้ๆ คะแนนเจนเคมฯ (general chemistry) ออกแล้วนะ” ตะโกนโหวกเหวกมาจากบอร์ดใต้ตึกเคมี
วันชนะตื่นเต้นวิ่งรี่เข้าไปมุงที่บอร์ด
“เฮ้ย! ได้ไงล่ะ ไอ้วินมันท็อปอีกแล้ว” อาร์ทพูดเสียงดังจนคนที่มุงพากันหันมามองหน้าวันชนะ คนท็อปวิชาเจนเคมฯ
วันชนะก็ไม่เชื่อตัวเองเหมือนกัน ตอนอยู่ในห้องสอบก็พอทำได้แต่ก็ไม่นึกว่าจะได้คะแนนเยอะ...สามสิบเก้าจากคะแนนเต็มสี่สิบ
“อาร์ทก็ได้เยอะนี่ตั้งสามสิบเจ็ด” วันชนะเปลี่ยนประเด็นออกตัว “ก้อยล่ะได้เท่าไร”

“ก้อยได้สามสิบเอง” หญิงสาวหน้าม่อย
“เยอะแล้วๆ” วันชนะปลอบ “มีน (ค่าเฉลี่ย ; mean) อยู่ที่สิบหกเอง”
“ดีใจด้วยนะวิน” กรรณิการ์แสดงความยินดีด้วยเสียงเศร้าๆ วันชนะเห็นเข้าก็เดาออกว่าหล่อนได้คะแนนน้อย
“ขอบใจจ้ะแจน” แทนที่จะถามคะแนนของเพื่อนวันชนะเลี่ยงไปพูดปลอบใจแทน “ไม่เป็นไรแจน ยังเหลือให้เก็บอีกตั้งหกสิบคะแนนแน่ะ”

“อืม ขอบใจจ้ะวิน” กรรณิการ์รับคำ สายตาเศร้าสร้อย
“ดีใจด้วยนะจ้ะวิน” เสียงใสๆของสุวรรณาดังขึ้น
วันชนะรับคำขอบใจด้วยอาการสงบ เพราะไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหนอีก “หลินก็ได้เยอะนะ”
“ไม่เท่าไรหรอกจ้ะน้อยกว่าวินตั้งสามคะแนนแน่ะ” น้ำเสียงเหมือนกระแทกกระทั้น แต่ความหมายที่แท้จริงของหล่อนคือ นายก็แค่ได้เยอะกว่าสามคะแนน

วันชนะไม่เข้าใจความแฝงแต่ก็รู้สึกแปลก แต่ก็ยิ้มเรียบๆให้
แล้วหลินก็สะบัดหน้าเดินจากไป

ก้อยกับอาร์ทไม่ได้สังเกตกิริยาของหลินแต่แจนดูออกพอเดินออกมา จังหวะที่เดินคู่กันสองคนแจนคุยกับวันชนะเบาๆ
“อย่าไปถือเขาเลยนะวิน หลินน่ะเขาเป็นที่หนึ่งมาตลอด” กรรณิการ์พูดขึ้น

วันชนะไม่พูดอะไรแต่พยักหน้ารับรู้
“วินทำของวินให้ดีเถอะนะ ตอนนี้แจนคงไปแข่งอะไรกับหลินเขาเหมือนตอนมัธยมไม่ได้แล้วล่ะ” หญิงสาวถอนใจ
“ไม่หรอกแจน พลาดครั้งเดียวใช่ว่าจะพลาดตลอด” วันชนะปลอบ “คราวหน้าถ้าวินเตรียมตัวไม่ดีวินก็ตกมีนได้เหมือนกัน”
กรรณิการ์ยิ้ม “ขอบใจนะวิน”

วันชนะยิ้มให้ แล้วเรื่องที่แจนชอบนักขัตก็ผุดขึ้นมา
ไม่รู้ว่าถ้าแจนรู้...จะเป็นยังไงนะ
เขาต้องเสียเพื่อนไปอีกคนหรือเปล่า


...


เสียงเคาะที่หน้าห้องทำให้วุฒิลุกไปเปิดประตู
“ไอ้ตั้ม มีไร” วุฒิกวนแต่ประโยคแรก
“ไม่มีไร วันนี้มึงจะไปไหนบ้าง หรือว่าจะอยู่ห้อง กูกำลังจะลงไปซื้อกับข้าว จะมาถามว่าเอาอะไรหรือเปล่า” นักขัตพูดขัดๆ
วุฒิเหล่ตามอง เดาไม่ออกว่านักขัตจะมาไม้ไหน

“ไม่ได้ไปไหน ทำไม” วุฒิตอบเสียงกวนๆ เหล่ตามอง
นักขัตยังยืนอยู่ที่เดิม “ไม่ไปไหนแน่เหรอ” สายตารอคำตอบอย่างวิงวอน
“จะไม่เข้ามาก่อนเหรอ กูรู้มึงไม่ได้ห่วงกูหรอก จะมาจู๋จี๋กับวินล่ะสิ กอดได้ จูบได้กูไม่ถือ กูอนุญาต” วุฒิรู้ทัน
นักขัตเขินขัดๆ “เออ”

“แต่กูไม่ได้ทำอะไรอย่างมึงคิดนะ”
“ทำไรวะ” วุฒิย้อน
นักขัตหน้าแดง

“เฮ้ย หน้ามึงแดงได้ด้วยว่ะตั้ม” วุฒิแหย่
“ไอ้นี่” นักขัตเขินเลยถีบวุฒิติดฝา
“โอ้ย! ไอ้เพื่อนเลว” วุฒิคำราม “ไปก็ได้วะ”

“เออ กูไม่ได้ไล่นะโว้ย”
วันชนะยังไม่กลับ
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น หน้าจอวูบวาบอยู่บนโต๊ะของวันชนะ ...คงจะเป็นภัทร

เสียงยังดังไม่หยุด นักขัตชักเกิดอยากคุยกับคนๆนี้ขึ้นมาเสียแล้ว เขาลังเล...จะเสียมารยาทหรือเปล่า?...แต่เขาน่าจะได้คุยกันสักครั้ง...นักขัตอยากแสดงความเป็นเจ้าของวันชนะ
.
.
.
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 01-05-2007 17:46:08
คุยกันเหรอ  กลัวใจสองคนนี้จริง  ต้นกับนิ เหมือนไม่หนักแน่นอะ  เด๋วเข้าใจกันผิดอีก
ยิ่งมีนังสองมารร้ายนั่นอีก  น่ากัวๆๆๆๆ

รออ่านต่อน้า  หมูพูห์  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-05-2007 19:00:38
 :call: ยังไงก็อย่าให้แจนรู้เลย เดี๋ยวจะกลายเป็นแทคทีมสามคน รุมนิอีก  :call:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 01-05-2007 22:17:27
สงสารนิ จัง   ตัวป่วน  เยอะจิงๆ  เห้อ     มันจะมีความรักของใครไม่มีอุปสรรคบ้างน้า :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 01-05-2007 23:25:26
 :o จะคุยจริงอะต้น  เหอๆ.. หวังว่าจะไม่มีอะไรไม่ดีอีกนะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 01-05-2007 23:43:33
หุหุ อุปสรรคเยอะเจงๆ
 :really2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 02-05-2007 10:19:35
โอ้ย!!! ตื่นเต้น ๆ ๆ ๆ ๆ

จะรับสาย หรือไม่รับหว่า อยากรู้ๆ ๆ ๆ ๆ
(แอบเชียร์ให้รับครับ อิอิอิ)
จะได้รู้กันไปเลย ว่ามีเจ้าของแล้นนนน อิอิ :laugh3: :kikkik: :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 02-05-2007 13:58:16
ใจนึงก้เชียรืให้รับ และบอกให้รู้ว่านิมีเจ้าของแล้ว....

แต่อีกใจก้อยากจะให้เชื่อใจนิ และให้นิเป็นคนพูดเองจะดีกว่า....

เอาไงดีหว่า  หวังว่าคงไม่มีเรื่องไรเพิ่มมานะ

ลำพังนังคุณหลินและนังแซกซื จับมือกันก้จะแย่แล้ววว :pigangry2:


สงสัยโดนตบศะแก้มช้ำหมด ต้องให้ต้นมาหอมแก้อาการฟกช้ำซะแระ  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 02-05-2007 14:10:32
รับเยยๆๆๆ ไม่เสียมารยาทหรอกกก  :laugh5:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 02-05-2007 14:41:43
คุยกันเหรอ  กลัวใจสองคนนี้จริง  ต้นกับนิ เหมือนไม่หนักแน่นอะ  เด๋วเข้าใจกันผิดอีก
ยิ่งมีนังสองมารร้ายนั่นอีก  น่ากัวๆๆๆๆ

.............คิดเหมือนพี่มูมู่เลย......ถ้าใจ 2 คนไม่หนักแน่นพอ.....

.............อุปสรรคมันก็จะเข้ามามากกว่าเดิม......เพราะเขาสองคน

.............จนคน 2 คนเหนื่อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น......แล้วก็ต้องเดินคนละทาง.....ทั้งที่ยังรักกัน... :impress3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 02-05-2007 17:53:42
อุปสรรคเยอะจิงๆ  ถ้าใจ 2 คนยังไม่หนักแน่น พอ  คงผ่านไปได้ยากนะเนี่ย เฮ้อ  ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะค๊าบ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 02-05-2007 23:45:30
ประกาศหน่อยครับ

เนื่องด้วยชื่อตัวละครในเรื่องมีการพาดพิงถึงบุคคลอื่น
เร็วๆนี้จะของ Revise ทั้งชื่อและเนื้อเรื่องบางส่วนครับ


ผู้แต่ง



ปล. รบกวนคุณพูห์ช่วยผม Edit ด้วยนะครับ ขอประทานอภัยครับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 03-05-2007 03:59:40
รับทราบครับ เป็นกำลังใจให้คนเขียนกับคนโพสต์นะครับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 03-05-2007 13:19:51
คร้าบบบบบบบ

ขอบคุณครับ

 :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 03-05-2007 14:57:41

................ใครเปลี่ยนไปใคร...บอกด้วยนะคับ..........

................จะรออ่านต่อ................ :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-05-2007 19:18:37
รับทราบ และรออ่านค่ะ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 04-05-2007 10:58:46
มารออ่านค้าบบบ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 04-05-2007 10:59:44
รับทราบ พร้อมปูเสื่อรออ่านต่อครับ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 05-05-2007 00:59:09
โอเช รับทราบ  :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 11-05-2007 18:14:15
 o11 คุณพูห์ครับ รอนานแล้วนะครับ เมื่อไหร่จะมาต่อล่ะครับ

มาต่อเร็ว ๆ นะครับผม  :o10: :o10: :o10:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-05-2007 12:35:38
เอามาต่อให้ตามคำเรียกร้องครับ

โอนนิคุงเขาให้ลงถึงตอนปัจจุบันนะครับ หลังจากนั้น เขาจะ รีไรท์ เปลี่ยนชื่อตัวละคร แล้วจะเอามาลงใหม่

อาจจะขึ้นเป็นกระทู้ใหม่เลย ยังงัยก็เป็นกำลังใจให้โอนนิคุงด้วยนะครับ

พร้อมหรือยังครับ ถ้าพร้อมแล้ว ไปต่อกันเลยครับ


-----------------------------------------------------------------------------------











































 o3
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 15-05-2007 12:56:27
 :confuse: :confuse:

ม่ะมีอ่า ม่ะมี ม่ะมี ............  :dont2: :dont2:

 :o11: :o11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 15-05-2007 13:09:10
 o22 o22 o22 o22
 :o :o :o :o :o :o :o
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 15-05-2007 13:13:38

เล่นอะไรกันเคอะ  :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 15-05-2007 15:09:02
ไหนง่ะ ครับคุณหมูพูห์

ไม่เห็นจะมีซักตัวอักษรเลย

งง ง่ะครับ  :confuse: o2 :confuse: o2 :confuse: o2   o6
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 15-05-2007 15:45:39
 o22 o22 o22 o22 o22
o2 o2 o2 o2 o2
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 15-05-2007 15:54:29
โดนพูห์ทำทู้ดักป่าวเนี่ย  :angry2:  (ดักให้ตกหลุม...รักพูห์กันเปงแถบๆๆ ฮ่าๆๆๆ   :o8:   )
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-05-2007 19:03:36
อะไรกันนนนนนนนน  o9  o9 มะยอม มะยอม  o9  o9
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: jammy ที่ 15-05-2007 19:37:48
เกิดอารายขื้นนนนนน  o22 :sad3: o22
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: committeedestiny ที่ 15-05-2007 20:10:05
 :sad4:

อ๊ากกก...!!!

ไหนอะ  หมูพูห์  ทำกันได้ 
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 16-05-2007 09:24:57
อ้าวววว เกิดอะไรขึ้น

ทำไมไม่มีใครอ่านได้เหรอ

ว้าาาาาาาาาาา

งั้นเอาไปใหม่นะคร้าบบบบบบบบบบบบ

---------------------------------------------

“สวัสดีครับ”
“สวัสดีวิน” ปลายสายคุยอย่างอารมณ์ดี
“ไม่ใช่ครับ...เอ่อ...ผมเป็นแฟนวิน คุณ...ภัทร...สินะครับ” นักขัตพูดติดๆขัดๆ
“อ้อ...คงจะเป็นน้องตั้มล่ะสิ” ปลายสายเสียงขรึมลง

...

วันชนะกลับมาถึงที่ประตูห้อง ประตูแง้มอยู่จึงได้ยินเสียงนักขัตคุยอยู่ในห้อง ตอนแรกนึกว่าเป็นวุฒิแต่พอมองเห็นนักขัตคุยมือถือก็หยุดกึก ขาก้าวถอยไปแอบอยู่ข้างประตูโดยอัตโนมัติ

คนในโทรศัพท์จะเป็นใครไม่ได้นอกจากพี่ภัทร ก็หมายความว่านักขัตแอบรับสายของเขาน่ะสิ!
เสียมารยาทเสียจริงนักขัตนี่! อารมณ์ปกติของมนุษย์ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวโพล่งขึ้นพร้อมกับอารมณ์อยากรู้ว่านักขัตจะคุยอะไร
“ขอบคุณพี่ภัทรมากนะครับที่เอ็นดูแฟนผม” นักขัตใช้คำว่า ‘แฟน’ แทนชื่อวันชนะ

ฟังจากที่นักขัตพูดภัทรก็เดาได้ว่านักขัตคงรู้เรื่องของเขาบ้างแล้ว เช่นเดียวกับที่วันชนะเล่าเรื่องของนักขัตให้เขาฟัง
“ไม่เป็นไรครับน้องตั้ม ก็น้องวินน่ารักออกอย่างนั้นนี่นา” ภัทรพูดกลางๆออกแนวชื่นชม แต่ก็ไม่ออกตัวว่าไม่ได้ไม่คิดอะไรกับวันชนะ หลังจากที่ภัทรรู้ว่าวันชนะมีนักขัตอยู่แล้วเขาก็พยายามวางตัวเป็นเพื่อนเป็นพี่ชายมาตลอด แต่ที่จริงเขาก็ยังหวังอยู่นั่นเอง

“ใช่ครับ วินน่ารัก ผมถึงได้รักเขาไงล่ะครับ” นักขัตสวน
วันชนะเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ จนนึกอายตัวเองว่าเป็นคนเสียมารยาทเสียเอง
“เห็นทีคงต้องขอตัวก่อนล่ะครับ น้องตั้มก็ดูแลน้องวินให้ดีๆละ” ภัทรไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ธรรมชาติของมนุษย์อีกเช่นกันที่ต้องการแย่งชิงของที่ตนรักมาครอบครองกวนอารมณ์ของเขาให้ขุ่นฟุ้ง เขานึกต่อในใจว่า...ไม่เช่นนั้นเขาจะฉกเอาวันชนะมาครอง
“ผมจะดูแลวินอย่างดีเลยล่ะ” นักขัตกล่าวจริงจัง

ขณะที่วันชนะที่กำลังแอบฟังอยู่กำลังอมยิ้มดีใจ อารมณ์ขุ่นที่เคืองนักขัตว่ารับสายของเขาโดยพลการหมดไปจากความคิด
พอนักขัตกลบเกลื่อนโดยวางมือถือไว้ที่เดิมวันชนะเลยแกล้งทำเสียงกุกกักที่หน้าห้อง
“กลับมาแล้วเหรอวิน” นักขัตทักทาย

วันชนะไม่พูดอะไรแต่โผเข้ากอดเสียแน่น นักขัตแปลกใจนิดหน่อยแต่ก็เอามือลูบผมอย่างอ่อนโยน “เป็นอะไรไปวิน”
“วินรักตั้มจัง” วันชนะซุกหน้าอยู่ในอกของนักขัต

“อ้อนจังเลย” นักขัตลูบผมวันชนะ “จะขออะไรหรือเปล่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า” นักขัตหัวเราะร่วน
“ขอแค่ตั้มไม่ทิ้งวินก็พอ” วันชนะยังซุกหน้าอยู่กับอกอุ่น
“ให้ก็ได้” นักขัตยิ้มมีแผนการ “แต่...ต้องให้ตั้มจูบทีนึง”

วันชนะยังซุกหน้านิ่งอยู่กับอกนักขัต
นักขัตดันตัววันชนะออกช้าๆเห็นวันชนะออกอาการเขินๆก็อมยิ้ม “วินยังไม่ชินกับผมอีกเหรอ”
“หืมม...?” หางเสียงลากยาว แต่นุ่มนวล นักขัตเชยคางวันชนะขึ้นมาสบตา “เลิกเขินผมได้แล้ว”

นักขัตเลื่อนปากเข้าไปใกล้ๆวงหน้าเกลี้ยงเกลา วันชนะหลับตาพริ้มบนหน้ายังมีแววอายๆ
ริมฝีปากสัมผัสนุ่มนวล อ่อนหวาน...เหมือนโลกทั้งใบนี้มีเพียงพวกเขาแค่สองคน

คงจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ถ้าเสียงกระแอมไม่ดังขึ้นเสียก่อน

“เอ่อ...ลืมของว่ะ”

...
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 16-05-2007 10:03:41
โอ้ย หวานซ้า  หัวใจจะละลายยยยย ง่ะ
 :o8: :-[ :give2: :impress2: :like6:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 16-05-2007 10:49:44

..........มีมารขงางความสุขตลอด........... :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 16-05-2007 15:28:32
อ้างถึง
“ใช่ครับ นิน่ารัก ผมถึงได้รักเขาไงล่ะครับ” ต้นน้ำสวน
:impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 16-05-2007 19:28:19
ใครนะกระแอม มันน่านัก  :pigangry2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-05-2007 20:13:34
 :angry2: ไม่บอกก็รู้ ตาวุฒิอีกแล้ว  o12 มารความสุขจริง ๆ  o18
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 17-05-2007 03:47:11
จะเปลี่ยนชื่อตัวละครตามนี้นะครับ

จากนิติ เป็น วันชนะ ชื่อเล่น วิน
จากต้นน้ำ เป็น นักขัต ชื่อเล่น ตั้ม

ที่เหลือเหมือนเดิมนะครับ

ตอนนี้กะลังแก้ไขชื่อทั้งหมดในไฟล์ Word ครับ ได้ 14 หน้า จาก 100  :sad2: :sad4:

รอหน่อยนะครับ แก้เสร็จจะรีบต่อครับ  
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 17-05-2007 03:52:54
วุฒินี่เป็นคนขี้ลืมดีจริง o3

สู้ๆนะครับ ทั้งคนแต่งคนโพสต์ :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 17-05-2007 03:57:26
จะเปลี่ยนชื่อตัวละครตามนี้นะครับ

จากนิติ เป็น วันชนะ ชื่อเล่น วิน
จากต้นน้ำ เป็น นักขัต ชื่อเล่น ตั้ม

 


ง่า..ชื่อจำยากกว่าเดิมอีก  o2

แต่ก็เปงกำลังใจให้คนแต่งแล้วกันนะจ๊ะ ขอให้แก้ชื่อให้เสร็จได้ภายในวันเดียวเยย สาธุ๊  :call:  :call:  :call: 
:โป้ก1:  อ๊ะ...ครายเขวี้ยงรายมาหว่า?? อ่อ.. โอนริโอ้ จาบอกว่ามานเร็วไปช่ายป่าวครายจาแก้ได้ทัน   :laugh:  :laugh3:

คนโป๊ดก็สู้สู้น๊า..  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 17-05-2007 10:23:25
รับทราบการเปลี่ยนชื่อครับ

ขอบคุณคนแต่ง คนโพสต์ครับ

 o15 o15
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 17-05-2007 12:31:25

.........รับทราบแล้วคราบ.........

.........มาต่อเร็วๆนะคับ........สู้ๆ...... o13 o13
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-05-2007 19:15:59
แก้ไขชื่อในไฟล์ word ลองใช้ตัวช่วยสิ
ในเมนูแก้ไข จะมีตัวเลือก "ค้นหา" ให้ค้นหาคำว่า นิติ แล้วแทนที่ด้วย วันชนะ
และค้นหาคำว่า ต้นน้ำ แล้ว แทนที่ด้วย นักขัต ส่วนชื่อเล่นก็แก้เหมือนกัน
น่าจะเร็วกว่านะ ตั้ง 100 กว่าหน้า ขืนแก้ด้วยมือจะปางตายเอานา  :try2:
เอ่อ จะเป็นการสอนจรเข้ให้ว่ายน้ำหรือเปล่านี่
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 21-05-2007 15:32:39
^
^
^
^
แบบที่ข้างบนบอกอ่ะคับ  ไม่ทรายว่าทำไปยัง  กด Ctrl H แล้วแก้คำเดิมกำคำที่จะเปลี่ยนใหม่ แล้วเลือก replace all  มันแก้ให้เองอัตโนมัติเลย

ยังไงก็รอ วินกะตั้งนะคับ  อิอ เด่วค่อยๆปรับให้คุ้นกะชื่อใหม่

ว่าแต่วุฒินี่ชอบมาได้จังหวัดเข้าด้ายเข้าเข็มตลอดเลยนะ อิอิ  :o9:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-05-2007 17:04:42
^
^
^
^
แบบที่ข้างบนบอกอ่ะคับ  ไม่ทรายว่าทำไปยัง  กด Ctrl H แล้วแก้คำเดิมกำคำที่จะเปลี่ยนใหม่ แล้วเลือก replace all  มันแก้ให้เองอัตโนมัติเลย

ยังไงก็รอ วินกะตั้งนะคับ  อิอ เด่วค่อยๆปรับให้คุ้นกะชื่อใหม่

ว่าแต่วุฒินี่ชอบมาได้จังหวัดเข้าด้ายเข้าเข็มตลอดเลยนะ อิอิ  :o9:

ทำแล้วครับ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ถ้ามีคำที่ขึ้นต้นด้วยนิ  เช่น นิยาย มันก็จะเปลี่ยนเป็นวันชนะยาย

อยู่ในระยะพิสูจน์อักษรอยู่ครับ อดใจรออีกนิดหนึ่ง
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-05-2007 17:58:30
เอาอย่างนี้สิพูห์
ตอนแรกนะ ให้ค้นหาคำว่า นิติ แล้วแทนที่ด้วย วันชนะ  แล้วแทนที่ทั้งหมด (คงไม่มีปัญหาเพราะ นิติเป็นชื่อคน)
แล้ว ให้ค้นหาคำว่า ต้นน้ำ แล้ว แทนที่ด้วย นักขัต 
2 ชื่อนี้คงไม่มีปัญหา เพราะเป็นคำ 2 พยางค์ คงไม่มีปัญหาแบบ นิยาย = วันชนะยาย แน่นอน

ที่จะมีปัญหาคือ คำว่า ต้น กับ นิ
ให้ค้นหาคำว่า ต้น แล้วแทนที่ด้วย ตั๊ม แต่อย่ากด แทนที่ทั้งหมด (replace all) แต่ให้กดช่อง แทนที่
มันจะวิ่งไปหาคำว่าต้น ตัวแรกที่เจอ ถ้าเป็นตัวที่เราต้องการแทนที่ ก็กดแทนที่ แต่ถ้าไม่ใช่
เช่น เป็นคำว่า ต้นไม้ ก็กด ค้นหาถัดไป มันจะข้ามคำนั้นไป ไม่แก้ไขให้
แล้วจะค้นหาคำว่า ต้น คำต่อไปให้ ถ้าคำไหนที่ต้องการแก้ ก็กด แทนที่ ถ้าไม่ต้องการแก้ ก็กด ค้นหาถัดไป
วิธีนี้อาจจะคลิกจนเมื่อยมือหน่อย แต่คิดว่าดีกว่า นั่งแก้ทีละตัวนะ
คำว่านิ แทนที่ด้วย วิน ก็ทำแบบเดียวกัน
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 29-05-2007 10:56:31
ขอบคุณครับทิพย์ ลองมาทั้งหมดแล้วครับ แต่มันจะมีบางตัวที่หลุดรอดไปได้ครับ อดใจรอหน่อยแล้วกันนะครับ

ตอนนี้งานยุ่งมากเลยครับ แต่จะพยายามแก้ไขให้ไวที่สุดนะครับ

 :o11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 29-05-2007 14:33:04
แก้ไขชื่อตัวละครเรียบร้อยแล้วนะครับ

พร้อมลงตอนใหม่แล้ว ติดตามกันได้เลยครับ

 :teach:



ลป.

ขออนุญาตไม่แก้ชื่อในเมนท์เพื่อนๆ นะครับ

แบบว่าเริ่มขี้เกียจ

กร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาก

 :laugh:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 29-05-2007 14:34:18

“วิน” นักขัตพูด สายตาเหม่อมองไปยังปลายสนข้างหน้า ทั้งสองยืนรับลมอยู่ที่ระเบียง
“หืม...” วันชนะรับคำ สายตาเหม่อมองที่ปลายสนเหมือนกัน

“เหลือเวลาอีกเดือนหนึ่ง ถ้าถอนตัวตอนนี้ที่ชมรมฯ คงจะหาคนใหม่มาแทนได้ทัน” นักขัตพูดเสียงเอื่อยๆ แต่น้ำเสียงแฝงด้วยความห่วงใย
“ตั้มพูดอะไร” วันชนะขมวดคิ้ว

“ตั้มรู้นะ ว่าเรื่องที่วินเจอที่ชมรมฯน่ะ ...หลินเขาตั้งใจ...” ชายหนุ่มหันมามองคนยืนข้าง “ตั้มไม่รู้จะพูดยังไง ทั้งที่รู้อย่างนั้น แต่ตั้มช่วยอะไรวินไม่ได้เลย แต่ถ้าเราถอนตัว...ตอนนี้ยังทันนะ”

นักขัตฉายแววกังวลในเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด
“ตั้ม” วันชนะจับมือของเขาเบาๆ ปลอบโยนให้คลายกังวล “วินไม่เป็นไรหรอก” วันชนะยิ้มอ่อนโยนก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มร่าปากกว้าง “เดี๋ยวพี่ใหญ่ได้โกรธเอาหรอก”

พอนึกถึงเจ๊ใหญ่นักขัตก็ยิ้มออก

...


เวทีที่จะใช้ในการแสดงที่จะมีขึ้นในวันมะรืนถูกตกแต่งจัดขึ้นอย่างเตรียมพร้อมและสวยงาม

“เอาล่ะๆ เด็กๆ” เจ๊ใหญ่ตบมือเป็นสัญญาณ “วันนี้ซ้อมใหญ่ครั้งสุดท้ายกันแล้ว เต็มที่กันเลยนะจ้ะ”
“วิน ตั้ม หลิน แซกส์” เจ๊ใหญ่เรียกสี่คนนี้ที่จะต้องซ้อมฉากสำคัญตอนที่เจ้าหญิงรู้ว่าจริงๆวันชนะเป็นเจ้าชาย และรู้ว่าคนที่ตนรักกลับเป็นองครักษ์ของเจ้าชาย

“ตอนนี้หลินจะยืนอยู่กลางเวทีนะ แซกส์ก็คอยติดตามรับใช้อยู่ข้างนะ” เจ๊ใหญ่ทำไม้ทำมือบรรยายไปด้วย “พอฉากเปิดตรงนี้สำคัญมากเรื่องอารมณ์สีหน้า” เจ๊ใหญ่เน้นที่หลิน “พอฉากเปิดเจ้าหญิงต้องตะลึง แปลกใจ แล้วก็รู้สึกเหมือนเป็นคนโง่โดนหลอกประมาณนั้นเลยนะจ้ะ”

“ส่วนเจ้าชายกับองครักษ์ก็จะยืนอยู่หลังม่านเตรียมเปิดตัวนะ” เจ๊ใหญ่ทวนซ้ำให้ฟังเป็นรอบที่สิบ “อย่าหาว่าเจ๊ย้ำคิดเลยนะ แต่เจ๊สังหรณ์แปลกๆ มันต้องมีอะไรสักอย่างคาดไม่ถึงแน่ๆ ฉะนั้นทุกคนต้องเป้ะนะ เข้าใจนะ”

ตั้งแต่โดนตบหน้าครั้งที่สองมาจนถึงวันนี้สถานการณ์ราบรื่นมาตลอดสำหรับวันชนะ หลินก็ดูจะเป็นมิตรมากขึ้น แต่ลึกๆแล้ววันชนะก็ยังสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบใจเขาอยู่ดีนั่นแหล่ะ

การซ้อมครั้งสุดท้ายผ่านไปด้วยดี

นักขัตเตรียมตัวจะกลับพร้อมกับวันชนะอยู่ที่หลังเวที อุปกรณ์ประกอบฉากวางอยู่เต็มไปหมดเพราะฉากที่จัดเพิ่งจะเสร็จ ตู้ล็อกเกอร์ตั้งมั่นคงอยู่ติดผนังหลังเวที ลังไม้สองลังที่วางอยู่ด้านบนก็ดูปกติดี
“ตั้มๆ พี่ใหญ่เรียกแน่ะ” หลินเดินผ่านมาบอกข่าวแล้วก็เดินไป

“มีอะไรนะ” นักขัตสงสัย
“ไปเถอะ เดี๋ยววินรอแถวนี้ละกัน” วันชนะยิ้มส่ง
“งั้นเดี๋ยวตั้มมานะ”

วันชนะนั่งรอที่เก้าอี้เก่าๆแถวนั้น แซกส์เดินผ่านมา “ไม่รู้เค้ามองยังไงเนอะถึงได้เล่นบทเจ้าชาย ถ้าเป็นบทโสเภณีชายในสมัยก่อนน่าจะเข้ามากกว่า” แซกส์ทำเป็นพูดเล่นทะเล้นๆ แต่ก็หมายความจริงตามนั้น สายตามองวันชนะเหมือนมองขยะสักชิ้นที่ตกอยู่กับพื้น
วันชนะเบื่อจะต่อล้อต่อเถียงด้วยจึงเงียบเสีย

“ทำเป็นเชิด ชิ” แซกส์เบะปาก ใบหน้าเหยียดหยัน “คิดว่าตัวเองวิเศษนักรึไง”
วันชนะชักเหลืออดจึงควบคุมอารมร์พูดอย่างใจเย็นว่า “เขาคงคิดว่าเราพูดได้หลายประโยคกระมัง เลยไม่เหมาะกับบทที่จะพูดได้แค่ ‘องค์หญิงเพคะ’ ตลอดเรื่อง” วันชนะลอยหน้า

แซกส์ตัวสั่นริกๆ ใจร้อนเหมือนไฟสุม โดนย้อนมาทีหนึ่งมันตอกกลับได้เจ็บแสบ
สายตาคมเจ้าเล่ห์ฉาบขึ้น น้ำเสียงมั่นคงแต่ใจสั่นระริกด้วยความอาฆาต “นั่นสินะ เธออาจจะเหมาะกับบทนี้จริงๆก็ได้” แซกส์เปลี่ยนสีหน้า “ว่าแต่เจ้าชายตัวสูงกว่าคนใช้ จะกรุณาช่วยยกลังไม้ข้างบนนั่นหน่อยได้รึเปล่า” น้ำเสียงขอร้องนั้นฟังดูแข็งๆฝืนๆ
วันชนะงงกับท่าทีที่เปลี่ยนฉับพลันของแซกส์แต่ก็ยอมลุกไปช่วย วันชนะตัวสูงกว่ายื่นสองมือไปถึงลังไม้ลังล่างก็ออกแรงยก ลังหนักเอาการจนแขนวันชนะสั่น

“ท่าทางจะหนักนะ ม่ะ เดี๋ยวช่วย” แซกส์พูดพร้อมกับเอื้อมมือไปพยุงก้นลัง “ได้ละ พ่อเจ้าชายปล่อยมือได้”
วันชนะปล่อยมือตามที่แซกส์บอกเพราะคิดว่าส่งต่อได้แล้ว
แต่แซกส์กลับชักมือออกอย่างเร็วพร้อมๆกับที่วันชนะปล่อยลังไม้สองอันซ้อนกันนั้น
โครม!

เสียงลังไม้ดังกระทบพื้นดังอยู่หลังเวที แต่ก็ไม่ดังพอจะให้คนจำนวนมากมาสนใจ
วันชนะรู้สึกชาเจ็บที่เท้าทันที ลังไม้ตกลงใส่เท้าข้างหนึ่งที่ชักหลับไม่ทัน ในขณะที่แซกส์ปลอดภัย เขากระโดดหลบว่องไวเหมือนเตรียมการณ์ไว้

“อ้ะ ขอโทษ มันเป็นอุบัติเหตุนะ” ถ้อยคำขอโทษแต่น้ำเสียงไม่จริงใจ
“แซกส์ๆ กลับกันเถอะจ้ะ” หลินตะโกนเรียก
“อ้ะ ไปก่อนล่ะนะ เจ้าหญิงเรียกแล้ว” คนตัวเล็กยิ้มเยาะ “ที่ซ้อมๆไปน่ะ วันจริงก็แสดงให้ดีๆล่ะ” แล้วแซกส์ก็ผละไปอย่างสมอารมณ์


วันชนะพยายามยืนเป็นปกติกลับไปนั่งที่เก้าอี้ จะให้ใครรู้เรื่องนี้ไม่ได้เดี๋ยวทุกคนเป็นห่วง ที่สำคัญการแสดงจะมีขึ้นในวันมะรืนนี้หากเขาออกตัวเป็นอะไรไป ละครครั้งนี้ต้องแย่แน่ๆ คิดได้ดังนั้นวันชนะก็ปั้นหน้ายิ้มเป็นปกติเมื่อนักขัตเดินกลับมา
“พี่ใหญ่ก็ไม่เห็นจะได้เรียกตั้มเลยนะ” นักขัตบ่นระคนสงสัย
“ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว กลับกันเถอะ” วันชนะพูดพร้อมกับยืนขึ้น ฝืนตัวเองไม่ให้แสดงอาการเจ็บออกมา
..
..
..
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 29-05-2007 14:45:18

..........ลากมากระทืบทั้งคู่เลยดีมะเนี่ย......... :angry2: :angry2: :angry2:

..........สู้เขานะ..วิน........ o13 o13
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 29-05-2007 16:58:37
แหม มันน่าจะเอาลังไม้ กระแทกใสหน้าตาแซกซ์ซะทีนะ

ไม่ชอบเลยคนชื่อแซกซ์เนี่ยะ

รอมาต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 29-05-2007 19:50:18
ตาแซกส์นี่เกินเยียวยาจริง ๆ  :try2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 30-05-2007 10:01:27
ขอบคุณ พูห์ มากๆครับที่ช่วยแก้ไข  o15
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 30-05-2007 10:11:28
 :angry2:  ไมนังแซกซ์นี่มันร้ายยจิงๆๆ 

เล่นทำร้ายร่างกายกันเลยเหรอนี่  o12


ปล.. กลังทำความคุ้นเคยกะชื่อใหม่  o2  งงนิด มานไม่คุ้น เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 30-05-2007 11:09:01
ขอบคุณ พูห์ มากๆครับที่ช่วยแก้ไข  o15

ขอบคุณโอนิคุงสำหรับเรื่องดีๆ และขอบคุณที่อนุญาตให้เอาเรื่องราวดีๆ มาลงนะครับ

 o14 o15

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 30-05-2007 16:11:17
 นักขัต : เหมือนดั่งพรหมชะตาขีดไว้
วันชนะ : กำหนดใจสองเราให้คู่กันมา
นักขัต : ใจสองใจผูกพันแน่นหนา
วันชนะ : อยู่ไกลลับฟ้า ยังมาพบกัน

นักขัต : แล้วสิ่งใดที่เคยขาดหาย
วันชนะ : ก็กลับกลายสมใจดังว่าเสกสรร
นักขัต : ลอยล่องในภวังค์แห่งฝัน
วันชนะ : ต่อเติมรักนั้นจนเต็มหัวใจ

(พร้อมกัน) ...เธอ เพราะเธอคือคนสำคัญ ที่ใจของฉันจะรักจะคอยห่วงใย
ตราบที่ฟ้าและดินสูญสิ้นมลายลงไป ตราบที่ลมหายใจของเราสิ้นสุด...

นักขัตหอมแก้มวันชนะไปฟอดหนึ่งเมื่อเพลงจบ
“ไม่เห็นบอก ว่าจะซ้อมฉากนี้ด้วย” วันชนะอาย
“ไม่ได้ซ้อมเสียหน่อย” นักขัตทำหน้าทะเล้น “ของวินน่ะ เป็นของจริง”
“ไม่เอาละ ไปอาบน้ำดีกว่า” วันชนะจิ้มแก้มนักขัตจนบุ๋มก่อนลุกไป

นักขัตซ้อมเสียงตัวเองกับวันชนะซึ่งเป็นเพลงคู่ที่ถูกคัดเลือกให้เป็นฉากจบอันโรแมนติกขององครักษ์หนุ่มกับเจ้าหญิงหลังจากที่ผ่านพ้นเหตุการณ์ร้ายๆไปได้ในที่สุด
ด้วยว่าอยู่ในห้องกันสองคน ท่อนของหลิน วันชนะจึงร้องรับให้นักขัตแทน

...

“ตั้ม!” ภาสกรอุทานเมื่อเป็นนักขัตที่เปิดประตูออกมาจากห้องวันชนะ
“อ้าว แซกส์ มาหาวินเหรอ” นักขัตถามงงๆ เมื่อเปิดประตูออกมาเจอเพื่อนร่วมคณะ ปกติภาสกรมาหาเขาเพื่อให้ช่วยติวให้ก็ไปที่ห้องของเขา จึงออกอาการงงเมื่อพบว่าคนที่เคาะประตูห้องวันชนะเป็นภาสกร

“อ่ะ เอ้อ...ชะ ใช่ๆ จะมาทบทวนบทน่ะ” ภาสกรอ้ำอึ้งเล็กน้อยก่อนจะหาเรื่องพูดไปได้
“ใครมาเหรอตั้ม” วันชนะเดินออกมาสมทบ เขาเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จจึงอยู่ในผ้าขนหนูผืนเดียว
แซกส์ชะงักไปเมื่อเห็นวันชนะเดินมาในสภาพนั้น ก่อนจะปั้นหน้ายิ้มแย้มทักทายเหมือนคนสนิทกันมานานนม “วิน ทำอะไรอยู่หรือเปล่า” แซกส์ยิ้มระรื่น “ว่าจะมาซ้อมบทด้วยน่ะ”

นักขัตกับวันชนะทำหน้างง ก็ทั้งเรื่องแทบจะไม่มีบทที่ทั้งสองต้องคุยกับแซกส์โดยตรงเลย
“อ้อ เข้ามาสิๆ” วันชนะเลยตามน้ำ เขาเองก็ไม่อยากให้นักขัตรู้เรื่องบาดหมางระหว่างเขากับแซกส์เหมือนกัน แซกส์ถือว่าเป็นเพื่อนของนักขัตคนหนึ่ง ด้วยข้อนี้วันชนะจึงให้เกียรติแซกส์

ความจริงภาสกรแค่อยากจะมาระบายสิ่งที่จุกอกที่เห็นนักขัตสนิทสนมกับวันชนะมากกว่าปกติที่เห็นครั้งก่อน...สนิทเหมือนคนเป็นแฟนกัน ยิ่งได้มาเห็นกับตาแบบนี้ยิ่งเหมือนตอกสิ่งที่ยังลังเลอยู่ให้แน่ใจลงไปอีกว่าคนทั้งคู่ไม่ได้เป็นเพื่อนธรรมดาแน่นอน...เซ็นส์บางอย่างในตัวมันบอกอย่างนั้น

วันชนะเห็นว่านักขัตไม่ควรอยู่ในสถานการณ์ ภาสกรมาหาเขาถึงห้องคงมีอะไรที่เจาะจงถึงเขาเป็นแน่ ในใจก็หวั่นๆว่าจะโดนระรานอีก แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ

“รอตั้มกลับไปห้องก่อนนะแซกส์ เดี๋ยวเราซ้อมไม่ออก” วันชนะพูดน้ำเสียงกึ่งหัวเราะ
นักขัตทำหน้างงอีก ไม่มีอะไรที่วันชนะต้องซ้อมตามลำพังหรืออายเขาขนาดนั้นเลยนี่ แต่ก็เหมือนมีความเข้าใจบางอย่างในตัววันชนะจึงได้เลี่ยงออกจากห้องไป

แซกส์ยิ้มส่งหน้าแป้น
หลังจากนักขัตคล้อยหลังไป ภาสกรมองหน้าวันชนะอย่างแสดงตัวตนที่แท้จริง วันชนะเองก็จ้องกลับเหมือนกับเตรียมตัวรับมือ
“ว่าไง” วันชนะเว้นวรรคก่อนจะพูดต่อ “คงไม่ได้มาซ้อมจริงๆหรอกนะ”

“ตั้มน่ะ...เสร็จเธอไปแล้วสินะ” แซกส์ถามกลับมา
วันชนะรู้สึกหน้าชาๆ แซกส์พูดเหมือนนักขัตเป็นสิ่งของ เหมือนเขาไปแย่งคนรักของใครมาอย่างนั้น
วันชนะเงียบไปครู่ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ตั้มกับเราเป็นแฟนกัน”
แซกส์ก้มหน้าลง

วันชนะมองเห็นอาการตัวหอบขึ้นลงเร็วๆของแซกส์ วันชนะรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ลูกโป่งลูกใหญ่ที่ถูกสูบลมเข้าไปเรื่อยๆใกล้จะระเบิด
แซกส์เงยหน้าขึ้นมามองปะทะกับวันชนะ โกรธจนหน้าคล้ำ เงื้อมือขึ้นเต็มที่ แต่ก็เงื้อง่าค้างท่าอย่างนั้น เพราะกริ่งเกรงฝ่ายตรงข้าม
วันชนะยกมือกำหมัดตั้งเอาไว้ที่ข้างๆแก้มของตัวเอง

“บนเวทีนายมีโอกาสแกล้งได้...แต่ที่นี่ อย่าหวังเลย”
ทั้งคู่ตั้งท่าค้างอย่างนั้นจนเสียงเคาะที่ประตูดังขึ้น

“วินๆ ตั้มลืมของ”
จึงได้ลดมือลงแต่ก็มองหน้ากันอย่างระแวดระวังภัย จนเมื่อประตูเปิดนักขัตจึงเจอแต่สถานการณ์ที่สดใส
“กลับก่อนล่ะวิน” ภาสกรพูดขึ้น

“อ้าว! ไหนว่ามาซ้อม...?” นักขัตทำหน้างงอีก
“เสร็จละ” ภาสกรพูดจบก็ออกไปเลย
นักขัตยิ่งทำหน้างงหนัก หันมาทางวันชนะก็ได้เจอแต่ยิ้มแห้งๆ

...
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 30-05-2007 16:25:27
เรื่องนี้หนุกหนานมากมาย ลุ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

พูห์ก็เปลี่ยนชื่อตามได้รวดเร็ว อิอิ สุดยอดดดดดดดดดดดด o13
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 30-05-2007 17:04:00

..........น่าจะต่อยไปซักที.........ไม่น่าค้างไว้เลย........ :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 31-05-2007 04:46:23
พวกตัวร้ายนี่น่าเบื่อจัง . . .  o18

ขอบคุณครับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 31-05-2007 10:01:52
หุหุ ดีมากวิน อย่าไปยอมมาก เดี๋ยวนี้เป็นยุคนางเอก 2007 แล้ว  o8
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 01-06-2007 09:43:20
ห้ำหั่นกันสุดฤทธิ์

สู้เขานะวิน
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 01-06-2007 12:42:26
เวลาหกโมงเย็น บรรยากาศหน้าหอประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัยคลาคล่ำไปด้วยนิสิตของมหาวิทยาลัยและที่มาจากที่อื่นๆด้วย ต่างมารอชมละครเวทีประจำปีของชมรมศิลปะการแสดง

“อุ้ย เธอๆ มาดูผู้ชายกลุ่มนั้นสิ หล่อมากเลยล่ะ” นิสิตสาวท่าทางแอดทีฟคนหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสี่ห้าคนเรียกพวกพ้องให้หันไปดูตามมือชี้ หลังจากที่สายตาสอดส่ายไปเจอชายหนุ่มรูปหล่อยกกลุ่มเข้า
“กรี๊ด! น่ารักมากเลยเธอ ดูคนที่ตี๋ๆนั้นสิเธอ จมูกโด่งมากเลยอ่ะ ชั้นจองนะ” หญิงสาวอีกคนรีบพูดก่อนเพื่อนคนอื่นจะจองเอาไปใว้ในใจเสียก่อน
“น้อยๆหน่อยย่ะ” อีกคนในกลุ่มแขวะ “ก็เห็นพร้อมๆกันนั่นแหล่ะ”


“อุ้ยๆ แกๆ” ก้อยเอานิ้วจิ้มอาร์ทที่ยืนชะเง้ออยู่ข้างๆ
“อะไรว่ะ ยัยก้อย” อาร์ทหันมาถาม
“แกดูผู้ชายกลุ่มนั้นสิแก พระเจ้า หล่อโคตรๆ หล่อกว่าแกล้านเท่าเลยว่ะ” ก้อยเพ้อ
“ไหน” อาร์ทมองไปตามนิ้วชี้ของก้อยที่ชี้ลับๆล่อๆ “เออๆ พวกมันหล่อ แล้วไงล่ะ แกกินมันได้หมายยย...” อาร์ทลากเสียงยาว
“อะไรวะ” อาร์ทเกาหัวแกรกทำหน้างงแบบกวนตีนๆ ที่นิสิตหญิงกลุ่มหนึ่งที่ยืนข้างๆ มองเขาตาขวางแล้วก็สะบัดหน้าใส่ หนำซ้ำยังได้ยินพวกหล่อนออกเสียงลอดไรฟัน “ชิ” แล้วมองมาทางตน


“อุ้ย เธอๆ” นิสิตหญิงตาไวคนเดิมกล่าว “ดูสิๆ” หล่อนชี้ไม้ชี้มือไปยังกลุ่มหนุ่มหล่อเซทเดิมที่บังเอิญนั่งเยื้องๆที่นั่งของกลุ่มตนไปด้านหน้าหนึ่งแถว
“อา...หล่อลากดินเลยว่ะ” เพื่อนคนหนึ่งเพ้อ


“อุ้ยๆแกๆ” ก้อยเอานิ้วจิ้มอาร์ท
“อะไรของแกอีก ยัยก้อย” อาร์ทเริ่มรำคาญ เพราะกำลังมองหาสาวๆสวยๆ
“ดูสิๆ” ก้อยซุบซิบชี้มือบุ้ยใบ้ไปยังหนุ่มหล่อกลุ่มเดิมที่นั่งอยู่แถวข้างหลังตัวเอง

อาร์ทหันไปมอง
“เออๆ รู้แล้ว กูมันไม่หล่อ”
“อ้ะ รู้ตัวเหมือนกันนี่” ก้อยแขวะ ก่อนจะหันหน้าไปสนใจที่หน้าเวที


...


เมื่อไฟในหอประชุมที่ถูกดัดแปลงเป็นโรงละครในส่วนของผู้ชมถูกหรี่ไฟลง ไฟที่เวทีก็เข้มขึ้นพร้อมๆกับม่านค่อยๆคลี่ออกเป็นการเริ่มของละคร

ฉากหลังที่ถูกวางไว้คือยอดปราสาทหลายยอด กล่องลังกระดาษถูกนำมาตัดต่อแต่งแต้มจนออกมาเป็นซุ้มๆเล็กๆติดด้วยผ้าขาวบางๆปล่อยชายพลิ้วตามลม อันเป็นสถานที่ประทับขององค์หญิงในยามราตรี ไฟสาม-สี่ดวงกระพริบสม่ำเสมอแทนดาวฤกษ์บนฟ้า
หลินอยู่ในชุดเจ้าหญิงแบบยุโรป เสื้อแขนสั้น กระโปรงยาวฟูสีครีมขลิบด้วยขอบสีทอง ผมถูกรวบไปข้างหลังสายคริสตัลถูกแต่งเข้าไปกับผมรับกับต่างหูระย้าวูบวาบ ทั้งการแต่งหน้า ทำผมและเสื้อผ้า ทั้งบุคลิก ทำให้หลินดูเหมือนกลายเป็นเจ้าหญิงไปจริงๆ เพราะหล่อนสวยมาก

“ข้าอิจฉาดาราบนฟ้าเหล่านั้นเสียจริง พวกมันเป็นอิสระ ไม่มีใครจะไปบังคับให้มันหยุดส่องแสงได้” หลินมองไปยังดวงดาว สีหน้าเศร้าหมอง “เจ้าดูสิ” องค์หญิงชี้มืออย่างสง่างาม

“เพคะองค์หญิง” นางรับใช้ที่นั่งข้างๆรับคำ

“ทำไมนะ” องค์หญิงชักมือกลับเอามากุมที่อก ใบหน้าบิดเบี้ยวราวจะทรงพระกรรแสง “ทำไมเสด็จพ่อต้องบังคับเราให้อภิเษกกับเจ้าชายจากแคว้นเหนือองค์นั้นด้วยนะ” หลินเดินออกมาเล่นอารมณ์กับคนดูที่ขอบเวที โดยมีนางรับใช้ที่ผู้ชมมองออกว่าเป็นผู้ชายที่แต่งตัวเป็นหญิงรีบคลานตามมาทำหน้าเศร้าตามไปด้วย

“องค์หญิงเพคะ” แซกส์ตีบทแตก ยกมือจะปลอบประโลมก็ก็ไม่สามารถแตะต้ององค์ได้ด้วยกฎเกณฑ์ถ้าไม่ได้รับอนุญาต
ขณะที่คนดูเงียบกริบเฝ้าดูการดำเนินไปของเรื่อง

...

“เจ้าเป็นใคร ช่างบังอาจนัก กวางตัวนั้นเป็นของข้า ป่าที่นี่ก็เป็นอาณาบริเวณของข้า” องค์หญิงมีอารมณ์สงสารบวกกับโกรธกริ้วที่กวางน้อยที่เชื่องกับองค์หญิงเมื่อครู่บัดนี้กลายสภาพเป็นนอนจมกองเลือดหายใจรวยริน

นักแสดงตัวประกอบคนหนึ่งที่สวมชุดสีน้ำตาลแสดงเป็นกวางตัวนั้นนอนอยู่กลางเวทีกั้นกลางระหว่างเจ้าหญิงกับเจ้าชายที่ปลอมตัวมา
“อาณาบริเวณนี้เป็นของเจ้าอย่างนั้นหรือ” เจ้าชายยิ้มเยาะ ก่อนจะทำตาแข็งใส่คู่สนทนา “เราก็เป็นแต่นายพราน ถ้าเจ้าว่าอาณาบริเวณนี้เป็นของเจ้า อย่างนั้นสัตว์ป่าเหล่านี้ก็เป็นของข้า”

“เจ้า!” องค์หญิงตวาด
“องค์หญิงเพคะ” นางรับใช้คนสนิทลุกขึ้นมากั้นนายพรานคนนั้นให้ออกห่างจากองค์หญิง

ตรงนี้เองที่เกิดเหตุผิดพลาด แซกส์เหยียบโดนเท้าของวันชนะอย่างจัง แต่ด้วยสปิริต เมื่ออยู่บนเวทีวันชนะต้องข่มความเจ็บเอาไว้ แต่สีหน้าที่หลุดออกมาชั่วแวบก็ไม่พ้นสายตาของเจ๊ใหญ่ที่คอยกำกับคิวกับนักขัตที่อยู่หลังเวทีเตรียมตัวออกฉาก

เจ้าชายยืดอกอย่างอวดดีด้วยทระนงในอำนาจของตนเอง แค่เจ้าหญิงแคว้นเล็กๆนี่...แค่อาณาจักรเล็กๆนี่...เขาจะเด็ดเอาเสียก็ได้
“กลับเถอะ ข้าไม่อยากเสวนากับคนเถื่อน” เจ้าหญิงสะบัดหน้ากลับไปยังทางที่มีทหารองค์รักษ์ของตัวเองอยู่สอง-สามคน ที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ติดตามไปใกล้มากเกินกว่าห้าสิบก้าว เพราะองค์หญิงทรงมิได้คิดระแวดระวังภัย ด้วยนึกว่าเป็นอาณาเขตของตนเอง

“องค์หญิงเพคะ” นางรับใช้ร้องตามหลังก่อนจะเชิดหน้าดูถูกแล้ววิ่งตามไปใกล้ชิดนายเหนือหัว
คนดูเริ่มหัวเราะกับตัวประกอบที่แสดงเป็นนางรับใช้เพราะพูดแต่คำว่า ‘องค์หญิงเพคะ’ และท่าทางที่ดูดัดจริตของนักแสดง
เมื่อเจ้าหญิงกับนางรับใช้ออกไปจากฉากแล้วองค์รักษ์ของเจ้าชายก็ออกมา

“องค์ชาย อย่าทรงออกมาคนเดียวสิพะย่ะคะ” องค์รักษ์มาดขรึมหล่อเหลารีบตามเจ้าชายที่ทรงนึกสนุกออกมาล่าสัตว์พระองค์เดียว “ทรงเป็นอะไรไป หม่อมฉันก็คงจะไม่มีชีวิตไปกราบทูลองค์ราชา” องครักษ์หนุ่มทอดสายตาเป็นห่วง...นักขัตส่งสายตาเป็นห่วงวันชนะ

“เราไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย เจ้าน่ะคิดมาก ทำอย่างกับเราเป็นอิสตรี” วันชนะกล่าวตามบทแต่อิงเรื่องจริง นักขัตเห็นแน่ๆ ตอนที่แซกส์เหยียบเท้าเขา แต่นักขัตยังไม่รู้ว่าตอนนี้ที่เท้าของวันชนะน่ะเจ็บมากๆ ไม่อยากให้นักขัตต้องมากังวลเรื่องเจ็บของตัวเอง คิดเสียว่าอีกแค่ชั่วโมงเดียวเมื่อละครจบ ทุกอย่างจะดีขึ้น

แล้วฉากก็ปิดลงอีกครั้ง วันชนะกับนักขัตเดินเข้าหลังฉากเมื่อม่านปิดสนิท

...

“ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ” วันชนะรีบผละจากนักขัต รีบวิ่งไปทำธุระก่อนที่อีกห้านาทีจะถึงคิวของตัวเองอีกครั้ง
พอถึงห้องน้ำวันชนะหันมองข้างหลังเห็นว่านักขัตไม่ตามมาก็อดไม่ไหวที่จะถอดรองเท้าออก วันชนะไม่ตกใจที่เห็นเท้าข้างที่โดนลังไม้ตกใส่วันก่อน...หนำซ้ำยังโดนเหยียบอีกเมื่อกี้บวมแดงอย่างที่ใครมาเห็นคงเสียวเท้าตัวเองแทน

วันชนะลูบเบาๆเหมือนจะไล่ความเจ็บออกไปก่อนจะพยายามใส่ถุงเท้าแล้วสอดเท้าเข้าไปในรองเท้า
หน้าห้องน้ำไฟค่อนข้างหม่นสลัวเพราะหลอดไฟเก่ามากแล้วไม่มีใครสนใจจะมาเปลี่ยน วันชนะข่มอาการเจ็บก่อนทำหน้าปกติรีบเดินออกไป โดยไม่ได้สังเกตว่านักขัตแอบหลบอยู่ข้างๆประตู


“วินๆ เตรียมตัวเข้าฉากต่อไปได้แล้วจ้ะ เมื่อกี้เป็นไงบ้างเจ้าแซกส์มันเหยียบโดน” เจ๊ใหญ่เคร่งครัดเรื่องคิวแต่ก็ถามอาการที่เจ๊ใหญ่คิดว่าไม่มีอะไรมาก

“ไม่เป็นไรครับเจ๊” วันชนะหยิ้มแหยๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ “อ้ะ เจ๊ วินลืมดาบไว้ที่ห้องน้ำ เดี๋ยวมานะครับ” วันชนะรีบวิ่งกลับไปที่ห้องน้ำ
“รีบๆเลย” เจ๊ใหญ่ทำเสียงดุ


“อยู่นี่เอง” วันชนะยิ้มออกที่กลับมาเจอของ แต่พอหันหลังกลับก็เจอคนรับบทนางรับใช้ยืนอยู่
วันชนะทำหน้าตึงป้องกันตัวเอง แม้ในใจจะไม่อยากมีเรื่อง ก่อนจะเดินผ่านอย่างไม่ใส่ใจ
แซกส์หงุดหงิดที่โดนวันชนะทำเป็นมองไม่เห็นตัวเอง แซกส์คว้ามือวันชนะได้ก็ดึงให้หันมารับการถากถาง

“ไงล่ะ เจ้าชาย” สายตาสาสมใจ “เจ็บไหม เท้าน่ะ”

วันชนะสะบัดมือออก “ไม่เป็นไร นึกเสียว่ามันเป็นอุบัติเหตุ”
“รู้อยู่แก่ใจ ว่ากูทำให้มึงเจ็บเท้า กูปล่อยลัง กูเหยียบเท้ามึง” แซกส์มองหน้าวันชนะ พยายามจะข่มให้ฝ่ายตรงข้ามก้มหัวให้กับความร้ายกาจของตัว “มึงน่าจะเจียมตัวไว้ ว่าอย่ามายุ่งกับตั้ม”

“มึงน่ะ มันตัวมาร เลิกทำตัวสนิทกับตั้มเสียที” แซกส์ตวาด
วันชนะทำตาแข็งมองกลับอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้ ทั้งงที่ใจสั่นเพราะไม่เคยเจอใครที่จะหยาบคายมากไปกว่านี้อีกแล้ว

“วินจะเลิกทำตัวสนิทกับเราได้ยังไงแซกส์” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นข้างหลัง

วันชนะหันไปมอง น้ำตาเหมือนจะริ้นขึ้นมา อยากจะโผเข้าไปซบเพราะทนไม่ไหวที่จะหยืนอยู่ลำพัง ที่จะต่อกรกับแซกส์เพียงลำพัง แต่พอนักขัตก้าวเข้ามาก็เหมือนมีพรรคพวกมาต่อสู้ด้วยกัน

“ก็วินเขาเป็นแฟนตั้ม” นักขัตพูดอย่างไม่ลังเล ไม่กลัวว่ามันจะเป็นความลับ ว่าแล้วก็เข้าไปประคองวันชนะ
แซกส์อึ้งกับสิ่งที่เห็นกับสิ่งที่เพิ่งจะรู้

นักขัตพาวันชนะหันหลังออกจากห้องน้ำไปโดยไม่สนใจอาการตะลึงของแซกส์เลย

..
..
..
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-06-2007 12:55:47
เหอ เหอ ซึ้งเข้าไปถึงใจมั๊ยตาแซกส์   o18
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 01-06-2007 14:47:26

..........นักขัตน่ารักมากมาย........ o13 o13

..........สู้ต่อไป....วันชนะ+นักขัต... :teach: :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 01-06-2007 16:19:46
อึ้งกิมกี่ไปเลยสิ ตาแซกซ์

สมน้ำหน้า เจอของจริงซะบ้าง
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 01-06-2007 22:25:10
พระเอกโพล่มาช่วยนายเอกตัวจริงแล้ววว :impress2:


นังแซกซ์สมควรโดนตอกกลับไปซะแบบนั้น อิอิ  คงกลับไปกริ๊ดเจ็ดวันแปดวันไม่เลิก  :laugh:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 04-06-2007 00:40:30
ดัน  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 04-06-2007 02:24:43
โดนซะมั้ง สม  :angry2:

สงสารนายเอกจัง  :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-06-2007 09:59:15
กำเวง เจ้าของเรื่องมาแอบดัน

กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกก

-------------------------------------------------------

ภาสกรยืนนิ่งเหมือนโดนแช่เอาไว้ ความจริงจากปากนักขัตทำให้เขาช็อก ที่มันบอกว่านักขัตเป็นแฟนมันเมื่อวันก่อนนึกว่ามันพูดเอาให้เจ็บใจเล่น

จากความเสียใจ เสียดายกลายเป็นคุมแค้น ...สายตาเริ่มเปลี่ยนไป...ความเจ้าคิดเจ้าแค้น เอาแต่ใจที่เป็นนิสัยฝังตัวมาตั้งแต่เด็กเริ่มสำแดงออกอย่างไม่มีหน้ากากมาบิดเบือนอีก
“รักกันอย่างนั้นเหรอ” แซกส์พึมพำในลำคออย่างคนอาฆาต “ดี...งั้นจะสงเคราะห์ให้”

“ตั้ม...” วันชนะเอ่ยแผ่วๆ “ขอโทษนะ ที่ไม่เคยบอกอะไรตั้มเลย”
นักขัตหันมามองคนที่เดินมาด้วยกัน “ขอโทษทำไมเราทำไมวิน ตั้มสิต้องขอโทษ วินเจอกับเรื่องอะไรไม่ดีตั้งมากมายก็เพราะตั้ม แต่ตั้มกลับทำอะไรไม่ได้เลย”
“แต่...ตั้มพูดออกไปอย่างนั้น” วันชนะมีสีหน้ากังวล
ไม่มีคำพูดใด แต่มีสัมผัสกระชับที่มือบอกว่า ...ไม่เป็นไร...

...

“เจ้าคนต่างถิ่น วันนี้เป็นโชคดีของเจ้า องค์หญิงทรงชื่นชมในฝีมือดาบของเจ้ามาก ทรงประทานรางวัลมาให้ รับไปสิ” ทหารนายหนึ่งพูดกับองค์รักษ์ของเจ้าชายที่แฝงตัวมาเป็นชนต่างถิ่นมาเดินชมเมือง แต่ที่จริงแล้วการมาครั้งนี้คือการสอดแนมดูลาดเลาต่างๆ ตามคำสั่งของเจ้าชาย

ระหว่างทางได้มีการประลองเพลงดาบอันเป็นกิจกรรมหนึ่งของเมืองนี้ที่องค์รักษ์หนุ่มได้พบ แต่ไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีองค์หญิงของเมืองนี้ทรงทอดพระเนตรอยู่ ครั้นจะสอดสายตามองหาก็ไม่เจอผู้ใดที่พอจะบ่งบอกฐานันดรศักดิ์ได้ว่าเป็นองค์หญิงดังที่นายทหารผู้นั้นบอกมาเลย

ถุงเล็กๆข้างในเป็นทองสองสามก้อนถูกกำอยู่ในมือขององค์รักษ์หนุ่ม
“เพลงดาบของท่านพิสดารมาก” คำชมถูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มของสตรี
องค์รักษ์หนุ่มเงยหน้าขึ้นมองก็ปรากฏสตรีนางหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า ผิวพรรณผุดผาด หน้าตาผ่องแผ้ว

เจ้าหญิงอยู่มิได้อยู่ในชุดที่บ่งบอกยศศักดิ์ว่าสูงกว่าคนธรรมดา หล่อนแต่งองค์อย่างลูกเศรษฐีทั่วไปในนคร
“ขอบใจเจ้ามาก แต่หามิได้หรอก ข้าไม่ได้เก่งกาจขนาดนั้น” องค์รักษ์หนุ่มถ่อมตน
“ข้าต้องไปแล้ว” องค์หญิงในอาภรไร้ยศศักดิ์กล่าวลาเมื่อเห็นนางรับใช้ใกล้เข้ามา หล่อนหันมายิ้มให้องค์รักษ์หนุ่มทีหนึ่ง
องค์รักษ์หนุ่มประทับตรึงในใจกับความงามของบุตรีเศรษฐีนางนั้นเสียแล้ว

...

“ไหวไหมวิน” นักขัตเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรตั้ม” วันชนะยิ้มแย้มให้นักขัตเห็น เพื่อลดความกังวลใจของเขาลง “สู้ๆ สู้ๆตาย”
“อดทนหน่อยนะวิน เดี๋ยวละครก็จบแล้ว” นักขัตให้กำลังใจ

“วิน เป็นอะไรไปจ้ะ สีหน้าไม่ค่อยดีเลย” หลินปราดเข้ามาหาเมื่อพักเวที ที่จริงวันนี้หลินสนุกกับการแสดงจนลืมความคับข้องหมองใจไปแล้ว หล่อนก็คงจะมีสปิริตของนักแสดงอยู่บ้าง พอที่รู้ว่าของจริง วันจริงยังไงก็ต้องเอาเรื่องงานไว้ก่อน
...แต่ถ้าโอกาสเอื้อเมื่อไรหล่อนก็คงจะไม่ปล่อยให้ผ่านไปเปล่าๆหรอก

“เปล่าจ้ะ เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ” วันชนะพยายามไม่ทำตัวตั้งแง่กับหลินต่อหน้านักขัต แต่ก็อดระแวดระวังตัวไม่ได้
ท่าทีของวันชนะทำให้หล่อนอดหมั่นไส้ขึ้นมาเสียเฉยๆไม่ได้ หล่อนรึ อุตส่าห์เป็นห่วง กลับได้รับสายตาไม่ไว้ใจเป็นการตอบแทน
“อะไร แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วหรือ” หลินยิ้มหยัน “อย่าให้งานเสียละกัน” ประชดเสร็จหล่อนก็เชิดหน้าผ่านไปไม่สนใจแม้กระทั่งนักขัต

...

ละครดำเนินต่อไป ผ่านตอนที่องค์รักษ์หนุ่มได้มาเจอองค์หญิงที่เขาคิดว่าเป็นเพียงลูกสาวเศรษฐีเท่านั้นอีกครั้ง ผ่านฉากรักโรแมนติกที่คนทั้งคู่ต่างหลงรักกัน นักขัตกับหลินแสดงได้ดีมาก จนทำให้ผู้ชมเคลิ้มไปทั้งหอประชุม หนุ่มหล่อ สาวสวยต่างก็เป็นที่ชื่นชมของใครๆ
จนมาถึงฉากที่องค์ชายปรากฏตัวทุกคนถึงได้รู้ความจริงว่านายพรานเถื่อนที่องค์หญิงกล่าวหาเป็นใคร และคนต่างถิ่นที่องค์หญิงรักกลับกลายเป็นองค์รักษ์ของเจ้าชายที่ตนต้องเข้าพิธีอภิเษกด้วย

ฝ่ายองครักษ์หนุ่มก็เพิ่งจะประจักษ์ว่าที่แท้สาวคนที่ตนรักเป็นถึงองค์หญิงสูงด้วยศักดิ์ที่เขามิคู่ควร
กลางเวทีมีเพียงวันชนะกับหลินเท่านั้นที่ยืนอย่างสง่าในบทของเจ้าชายและเจ้าหญิง นอกนั้นทุกคนคุกเข่าหมด
องค์หญิงมององค์รักษ์อย่างทอดอาลัย...อย่างคิดไม่ถึง

ไม่มีใครเอะใจว่านางรับใช้คนสนิทขององค์หญิงหายไปไหน อาจด้วยเพราะฉากนี้เรียกว่านักแสดงแทบจะล้นเวที จึงไม่มีใครสังเกตการหายตัวไปของแซกส์

จนเมื่อฉากที่นกขององค์หญิงถูกคนร้ายที่ลักลอบเข้าวังมาหักคอจมกองเลือด และเจ้าชายก็มาผิดจังหวะ
ฉากนี้เองที่แซกส์ปรากฏตัวอีกครั้ง


“กรี๊ด...!” หลินร้องได้อารมณ์สมบทบาท
“องค์หญิงเพคะ” แซกส์พูดตามบทที่ไม่ต้องท่อง
“ต้องเป็นฝีมือของเจ้าชายเป็นแน่”

“หม่อมฉันก็คิดเช่นนั้นเพคะ” นางรับใช้พูด
คนดูหัวเราะครืนหนึ่งที่นางรับใช้ได้พูดประโยคอื่นแล้ว

ถึงฉากที่เจ้าหญิงต้องตบหน้าเจ้าชายด้วยอารมณ์วู่วาม หลินเงื้อมือ ครั้งนี้หล่อนคิดว่าจะเล่นตามบทคือตบหลอกคนดู แต่นางรับใช้ไม่คิดอย่างนั้น...แซกส์จะใช้แผนเดิม...ตามบทคือนางรับใช้ต้องห้ามเอาไว้แต่ก็พลาดไปโดนหน้าเจ้าชายจนได้

วันชนะรู้ทันเพราะคราวที่ซ้อมฉากนี้เขาก็โดนตบหน้ามาทีหนึ่งแล้ว มาครั้งนี้เลยยืดตัวนิดหน่อยให้หน้าหลบพ้นจากการโดนตบจริงแต่ขณะเดียวกันก็ยังหลอกคนดูได้ว่าโดนองค์หญิงตบ

แต่ที่คาดไม่ถึงคือแซกส์ไม่ได้ใช้แผนเดิม เขาฉวยโอกาสนั้นจ้องเล่นงานที่เท้าข้างที่เป็นปัญหาสำหรับวันชนะ โดยคนดูไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตเพราะทุกคนโฟกัสอยู่ที่ใบหน้า การขยับปากและร่างกายช่วงบนของนักแสดงมากกว่าช่วงล่าง
หลินไม่รู้เรื่อง นักขัตที่คอยระวังเผื่อวันชนะอยู่แล้วทันเห็นเข้ารีบเข้ามากันและผลักแซกส์ออกไปจนหงายหลังไป

คนดูไม่ได้รู้บทมาก่อนจึงไม่รู้ว่าการดำเนินเรื่องมันเริ่มผิดไป
ทุกคนชะงักเงียบไป เพราะอยู่นอกบท

นักขัตมองแซกส์ราวกับเป็นตัวอะไรสักอย่างที่น่ารังเกียจ จนวันชนะต้องกระตุกแขนนักขัตเบาๆให้ได้สติ
หลินเป็นคนที่รู้ตัวก่อน

“ท่านมันใจดำนัก หลอกข้ายังไม่พอ นี่ยังมาทำร้ายคนของข้าอีก” หลินใช้ไหวพริบชี้หน้านักขัตพูดออกไปตามบทที่คิดขึ้นเอง แล้วจึงสะบัดหน้าเศร้าวิ่งหนีออกฉากไป
“องค์หญิงเพคะ” แซกส์ตะโกนตามหลังก่อนวิ่งตามออกจากฉากไป
ฝ่ายเวทีเมื่อเห็นท่าไม่ดีเลยชักรอกปิดม่านลง
..
..
..
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 04-06-2007 11:44:33
ฝากไว้ก่อนเถอะตาแซกส์

โดนเอาคืนแน่
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 04-06-2007 13:12:26
นังแวกซ์นี้กัดไม่เลิก  น่าจับไปให้โดนรุมโทรมซะให้เข็ด   :o


ตั้มดูแลวินดีๆนะค้าบบ  :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-06-2007 20:35:47
ตาแซกส์นี่ไม่สำนึกแฮะ  :angry2: อย่างนี้ต้องเจอให้หนักกว่านี้  o12
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 04-06-2007 23:24:54
 o12 o12  น่าจะเอาดาบจิ้มใส่แซกส์ซะเลยนะครับ  จะได้ตัดออกไปจากการแสดงได้อย่างถาวร o17 o17
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 04-06-2007 23:33:51
ดีนะที่ตั้มเห็น ไม่งั้นวินคงเจ็บกว่านี้  o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 05-06-2007 10:18:49

“ไหวไหมวิน” นักขัตยื่นแขนให้เกาะ
“ตั้มไม่น่าทำแบบนั้นนะ” วันชนะหนักใจแต่ก็เกาะแขนแฟนตัวเองโดยดี

“...”

นักขัตเองก็รู้สึกไม่ต่างไปจากวันชนะเท่าไรนัก เมื่อเดินลงเวทีแล้วเขาจะตอบคำถามทุกคนอย่างไรดีนะ
วันชนะรู้สึกหนักอึ้งไปหมด ทั้งเรื่องที่เกิด ทั้งเท้าที่เจ็บ บทที่ต้องเล่นทำให้พอลืมอาการไปได้บ้าง ดังนั้นมาถึงช่วงเวลานี้เหมือนอาการเจ็บจะเกาะไปทั้งเท้าเลยทีเดียว


“มาทางนี้เลย” เจ๊ใหญ่รีบฉุดนักขัตกับวันชนะเข้ามุมอย่างเร็ว จนวันชนะหน้าเบี้ยวอีกครั้งเพราะเจ็บเท้า
เจ๊ใหญ่เห็นอาการจึงผิดสังเกต

“วินเป็นอะไร” เจ๊ใหญ่ถาม “เร็วเข้าเวลามีไม่มาก”

“ไม่มีไรนี่” วันชนะปฏิเสธ
“ถึงขั้นนี้แล้ว วิน” นักขัตพูด

เจ๊ใหญ่มองหน้าวันชนะที มองหน้านักขัตที
“มีไรก็ว่ามา เร็ว ฉากต่อไปจะเริ่มแล้ว” เจ๊ใหญ่อยากรู้

วันชนะลังเลก่อนจะยอมตามนักขัตว่า

“ว๊าย!” เจ๊ใหญ่อุทานเมื่อได้เห็นเท้าที่บวมพองอย่างน่ากลัว


...

ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากวันชนะจะต้องทนแสดงต่อไปจนจบ ท่ามกลางจิตใจที่ระส่ำระสายของทีมงาน
แม้จะเจ็บแต่เขาก็ยิ้มชื่นให้ทุกคนเห็น
นักขัตพยายามจะบอกความจริงให้ทุกคนรู้แต่ก็ถูกวันชนะห้ามไว้ ทั้งที่รู้ว่าแซกส์ยิ่งนึกลำพองแต่ด้วยพื้นของตัวเอง วันชนะก็ไม่อยากจะเอาเรื่องเอาราวอะไรใครอีก เรื่องไม่ดีของแซกส์จึงมีเพียงวันชนะกับนักขัตเท่านั้นที่รู้


...

เวทีถูกสลับเป็นฉากห้องโถงหรูหราในพระราชวัง
เจ้าหญิงเต้นรำอย่างไม่เต็มใจนัก แม้พระวรกายจะอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าชายแต่สายพระเนตรเศร้าสร้อย ทอดไปยังองค์รักษ์ผู้ยืนสงบนิ่งหน้าตรงดั่งถูกแม่มดสาปเป็นหินผาอยู่ข้างๆ

...เจ๊ใหญ่แก้สถานการณ์ให้วันชนะว่าฉากนี้ให้เต้นรำเบาๆอยู่แต่กลางเวทีก็พอ จะได้ไม่ต้องขยับเท้ามาก แต่ดูเหมือนจังหวะเต้นรำกับหลินจะพาออกจากจุดที่ยืนอยู่ทุกทีไป

หลินแสดงละครได้เก่งจริงๆ...ภายใต้ใบหน้าสวยของหล่อนวูบหนึ่งวันชนะคิดไปว่ามันน่าสมเพศเสียมากกว่า ผู้หญิงแบบนี้อันตรายกว่างูพิษเสียอีก อันตรายกว่าเนื้อมะเร็งเสียด้วยซ้ำ
...แต่ความคิดหนึ่งก็แทรกขึ้นมาว่า นี่ก็คงเป็นธรรมชาติของคนนั่นเอง ที่จริงแล้วหลินน่าสงสาร เพราะเขา...หลินจึงได้เสียนักขัตไป...


เพียงนาทีที่ไฟบนเวทีดับลง เมื่อสว่างอีกครั้งเจ้าหญิงกับเจ้าชายก็หายไป เหลือแต่องครักษ์
“ข้าตัดสินใจแล้ว” องค์รักษ์กล่าวปฏิญาณกับตัวเอง “เราจะหนีไปด้วยกัน”


ฉากนี้จะเล่นแบบแสดงอารมณ์และจุดยืนของตัวละครแต่ละตัว โดยเจ้าชาย เจ้าหญิง และองค์รักษ์จะยืนเป็นสามมุม แต่ไฟจะส่องเป็นคนๆไป คนแรกคือองค์รักษ์พอพูดจบ ไฟอีกดวงก็จะส่องไปที่เจ้าหญิง และจากนั้นไฟอีกดวงก็จะส่องไปที่เจ้าชาย จะสื่ออารมณ์ของทั้งสามตัวละครจะแสดงอย่างชัดเจน

แต่...

“ข้าตัดสินใจแล้ว”
“เราจะหนีไปด้วยกัน”


“ข้าพร้อมจะหนีตายไปกับท่าน” เสียงเจ้าหญิงดังออกลำโพง แต่ไฟกลับส่องไปที่เจ้าชาย
..
..
..
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 05-06-2007 11:37:33

...........ง่ะ.........เกิดไรขึ้น.........

...........ต่อด่วน......... o13 o13
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 05-06-2007 13:18:06
เกิดไรขึ้นเหรอ ไมไฟส่องที่เจ้าชายยย :confuse:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 05-06-2007 13:39:24
มาต่อไว ๆ นะครับ


แบบว่า ค้างงงงงง ง่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-06-2007 20:22:24
ไฟส่องไปที่เจ้าชาย หรือว่า...............  o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-06-2007 11:27:38

15 ปิดม่าน

คนดูเริ่มหันไปซุบซิบว่าละครดูผิดปกติไป ต่อให้ไม่รู้ว่าบทจะดำเนินไปอย่างไรแต่ก็คงจะไม่ใช่เจ้าชายหนีไปกับองครักษ์เป็นแน่
วันชนะชะงักไป สุวรรณาก็ตกใจไปเหมือนกันที่ระบบไฟรวนไป แต่ก็ดูแล้วไม่มีท่าทีว่าไฟจะส่องมาที่หล่อนเลย จึงตัดสินไปเดินไปที่ตำแหน่งของวันชนะเพื่อจะเปลี่ยนที่กัน คงจะเป็นการกระทำที่ลดความผิดพลาดให้น้อยลง

หล่อนตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ถูกต้อง หากหล่อนไม่ได้สะดุดชายกระโปรงกรุยกรายนั้น กลับกลายเป็นว่าสุวรรณาเซไปข้างหน้าจนผลักวันชนะกระเด็นไป

สุวรรณาอยู่ในวงแสงไปที่ส่องมาแต่ด้วยอากัปกิริยาที่กึ่งทรงตัวอยู่กึ่งทรงตัวไม่อยู่
เสียงหัวเราะฮาครืนทั้งหอประชุม

ภายใต้ใบหน้าสวย สุวรรณารู้สึกเหมือนมีน้ำมันเดือดเป็นเม็ดๆปุดๆอยู่บนหน้าหล่อน ...อับอายที่โดนหัวเราะ
บนเวทีมีเพียงแสงวงเดียวที่ส่องมา สุวรรณาอยู่ในนั้น

แสงอีกวงหนึ่งส่องไปที่บนเวที เสียงฮือฮาดังอีกคำรบ เมื่อส่องไปที่องครักษ์กำลังประคององค์ชายอย่างแนบชิด สีหน้าขององครักษ์แสดงอารมณ์ที่เกินเลยกว่าจะเป็นข้าห่วงนาย
เสียงคนดูเริ่มซุบซิบกันหนักขึ้น

“กรี๊ดดด! เริ่ด เริ่ดม๊ากมากค่ะ” แสงกรี๊ดแปร่งๆ ดังขึ้นเป็นทำนองเชียร์อย่างสุดตัว
ก้อยหันไปมองตามเสียงก่อนจะทำหน้าเบ้แบบเสียดายมาทางอาร์ท “แกๆ”
“อะไรยัยก้อย” อาร์ทงงกับท่าทางของเพื่อน
“ก็หนุ่มหล่อของฉันน่ะสิ ฮือๆ...” ก้อยชี้มือไปที่กลุ่มหนุ่มหล่อที่หล่อนกรี๊ดกราดตั้งแต่ตอนแรกที่เข้ามาที่นั่งอยู่แถวหลัง
อาร์ทมองตาม

“เป็นไงล่ะ หนุ่มหล่อของแกน่ะ” อาร์ทแขวะ “นั่งอยู่ตรงนี้ ถึงไม่หล่อแต่ก็แมนร้อยเปอร์เซ็นต์นะ” อาร์ทลอยหน้าลอยตา
“แหม ไอ้อาร์ท ถึงทั้งโลกมีแกเป็นผู้ชายคนเดียวชั้นขอเลือกเกย์ดีกว่าย่ะ ชิ” ก้อยสะบัดหน้า
ในขณะเดียวกันหญิงสาวกลุ่มเดิมที่นั่งเยื้องๆไปก็หน้าเหวอไปเหมือนๆกับก้อย

หลังเวที สต๊าฟทุกคนต่างวิ่งพล่าน โดยเฉพาะเจ๊ใหญ่ที่เหงื่อแตกพลั่ก มือหนึ่งเอากระดาษแถวนั้นพัด อีกมือถือยาดมจ่อจมูก
“โอ้ย อกปีแป้นแหลกสลาย” เจ๊ใหญ่ครวญ

ภาสกรออกจากบริเวณควบคุมไฟไปแล้ว พอคนมาดูจึงไม่เห็นใคร
“ดี ให้คนมันรู้กันทั้งมหา’ลัยเลยว่านักขัตเป็นเกย์” ภาสกรยิ้มสะใจ
ระหว่างทางสวนทางกับพี่ชาญคนดูแลระบบไฟ
“ไงแซกส์ เรียบร้อยดีนะ เมื่อวานพี่ไม่น่ากินส้มตำเลยอ่ะ ขอบใจมากนะที่อยู่ดูให้” พี่ชาญเดินกลับไปยังตำแหน่งของตนโดยหารู้ไม่ว่าซึนามิกำลังรออยู่


เสร็จธุระจากเรื่องระบบไฟขัดข้องทางเทคนิค ภาสกรก็ตรงไปที่พี่กรที่ดูแลเรื่องเสียง
ซีดีเพลงถูกบรรจุอยู่ในเครื่องเตรียมพร้อม เพียงแต่กดเอนเทอร์เพลงจะเริ่ม
หึ หึ ภาสกรหัวเราะในลำคอ ...พี่กรมัวแต่วุ่นๆกับเรื่องอื่นเลยหันหลังให้ มือปีศาจของแซกส์เลยเอื้อมไปกดคีย์บอร์ดอย่างง่ายดาย

“เหมือนดั่งพรหมชะตาขีดไว้...” ซีดีอัดเสียงสดของนักขัตถูกกดเพลย์
ท่อนต่อไปเป็นของสุวรรณา หล่อนทำท่าลิบซิงค์เต็มที่ ทั้งท่าทางและสีหน้า แต่เพลงกลับไม่บรรเลงต่อ

หล่อนหน้าแตกอีกรอบ

อารามตกใจทำให้พี่กรรีบกดปิดเพลงเพราะยังไม่ถึงคิว

เสียงหัวเราะฮาครืนดังเป็นระลอกสอง เช่นเดียวกับเจ๊ใหญ่ที่เหมือนจะเป็นลมวูบไปอีกรอบเสียให้ได้
“กรี๊ดดดดด..!!!” เสียงกรี๊ดของสุวรรณาดังออกไมโครโฟนด้วยอารมณ์ที่เกินจะยอมรับสภาพที่ทุกคนมองหล่อนเป็นตัวตลกได้
พี่กรตกใจอีกรอบ เลยกดปิดเสียงไมโครโฟนของสุวรรณาอย่างเร่งด่วน
“โอ๊ย ใครจะตายอีกเนี้ย” เจ๊ใหญ่เบะหน้าจะร้องไห้


แม้ไมโครโฟนของสุวรรณาจะถูกตัดเสียงออก แต่ที่นั่งแถวหน้าสอง-สามแถวยังได้ยินเสียงกรี๊ดดังจนจบ
จากนั้นบนเวทีจึงเงียบ คนดูก็เงียบเพื่อรอดูว่าอะไรจะเกิดต่อไป


ไมโครโฟนของวันชนะกับนักขัตยังใช้ได้อยู่
“เหมือนดั่งพรหมชะตาขีดไว้...” นักขัตร้องเสียงสดออกไมโครโฟนท่ามกลางความเงียบทั้งหอประชุม สายตาจดจ้องที่ใบหน้าของคนในอ้อมแขน

วันชนะเห็นว่าไม่มีทางแก้ไขสถานการณ์ให้เป็นอย่างอื่นไปได้ก็ได้แต่ปลง แอบลอบถอนใจว่าเป็นเพราะความผิดตนที่ร่างกายไม่พร้อมเลยเป็นแบบนี้
แต่สายตาของนักขัตที่จ้องมาทำให้เขาอบอุ่น รู้สึกไม่กลัวต่อสิ่งใด สายตาที่ราวจะกระซิบบอกว่า ...วินไม่ผิดหรอก


“กำหนดใจสองเราให้คู่กันมา” วันชนะร้องเสียงคลอสั่นๆ
“ใจสองใจผูกพันแน่นหนา” นักขัตต่อ
”อยู่ไกลลับฟ้า ยังมาพบกัน”
เสียงเย็นๆเปี่ยมพลังของวันชนะกับเสียงอบอุ่นของนักขัตราวกับมีมนต์สะกดให้คนดูเคลิ้มไป

“นักขัต : แล้วสิ่งใดที่เคยขาดหาย
วันชนะ : ก็กลับกลายสมใจดังว่าเสกสรร
นักขัต : ลอยล่องในภวังค์แห่งฝัน
วันชนะ : ต่อเติมรักนั้นจนเต็มหัวใจ

...เธอ เพราะเธอคือคนสำคัญ ที่ใจของฉันจะรักจะคอยห่วงใย
ตราบที่ฟ้าและดินสูญสิ้นมลายลงไป ตราบที่ลมหายใจของเราสิ้นสุด...”


ทั้งสองผสานมือกันอย่างคนรัก ไม่แคร์คนดูข้างล่าง ไม่แคร์ว่าทีมงานว่าต่อว่า ไม่แคร์อะไรในโลกนี้อีกแล้ว

การแสดงที่ควรจะจบลงในอีกสิบนาทีข้างหน้าพลิกผันมาจนถึงขั้นนี้คงไม่มีทางต่อเหตุการณ์ได้อีก คงมีทางเดียวคือปิดม่านการแสดงเอาไว้เท่านี้
เจ๊ใหญ่แอบเคลิ้มลืมความระทมไปชั่วขณะ พอเพลงจบก็ดันๆนักแสดงตัวประกอบทั้งหลายออกไปหน้าเวทีเพื่อแสดงความขอบคุณ เป็นการกล่าวลาคนดู
นักแสดงทุกคนจบมือกันก้มหัวลง ขณะที่ทั้งหอประชุมเงียบกริบ


เสียงปรบมือค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ เนิ่นนาน คนดูซาบซึ้งกับฉากจบ โดยเฉพาะเซทหนุ่มๆหล่อที่ไม่ใช่ชายแท้ที่ออกหน้าออกตาปรบมืออย่างมีสไตล์

“แกเป็นอะไรไปยัยก้อย” อาร์ทแหย่ “ยังเสียดายหนุ่มพวกนั้นเหรอ”
“ชั้นซึ้ง” ก้อยปาดน้ำตาแต่ก็หันมาทำตาขวางใส่เพื่อน “ชีวิตชั้นจะมีอย่างนั้นมั่งมั้ยนะ”
“อย่าเพ้อ” อาร์ทแหย่อีก
“อ๊าย ไอ้อาร์ท” ก้อยหยิกที่ต้นแขน

...
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 06-06-2007 11:55:16

..........และแล้วก็จบลงด้วยดี.... o8

.........ร้องเพลงคู่กันด้วย..... :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 06-06-2007 13:04:58
นังแซ๊กซือยากจะประจานเหรอ หุหุ  เจอพลังรักของทั้งสองไป คนดูกลับซาบซึ้ง  อิอิ

ผิดคาดหล่ะซิ  55+  สมน้ำหน้ามัน  :laugh:


ตั้มกับวินน่ารักที่สุดเลย หุหุ :impress2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 06-06-2007 17:42:10
แก้สถานการณ์ได้ยอดเยี่ยมกระเทียมดองจริงๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-06-2007 19:04:47
หุหุ พลิกล็อก กลายเป็นซึ้งกันซะงั้น  :like6:  :like6:  :like6:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 06-06-2007 19:46:23
ชอบเรื่องนี้มากๆดุเด็ดเผ็ดมันส์มากๆเลยคับ

อ่านแล้ว ติดจิงๆ ชอบๆๆๆๆๆๆ  o13
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 07-06-2007 15:34:58
ซึ้งจัง  :-[
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-06-2007 11:54:19
..
..
..

“นี่มันอะไรกันคะ เจ๊ใหญ่” หลินตวาดแหวหลังเวที “หลินเป็นนางเอกนะคะ ไม่ใช่ตัวตลก นี่ถ้าบอกก่อนว่าเป็นละครเกย์หลินไม่เอาด้วยหรอก”
“มันเป็นอุบัติเหตุจ้ะหลิน” เจ๊ใหญ่ค่อยๆปลอบอย่างขยาดๆ “เจ๊ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดได้ยังไงเหมือนกัน”
“พูดง่ายนะคะ พูดมาได้ยังไงว่าไม่รู้” แม่เสือตวาดไม่หยุด หลินโมโหจนตาถลนแทบจะหลุดออกมา
“จ้ะๆ เจ๊ผิดเองจ้ะ” เจ๊ใหญ่อับจนหนทางแก้ตัวเลยต้องกล้อมแกล้มยอมรับผิดไปก่อน
เห็นดังนั้นสุวรรณาก็ไม่มีเรื่องจะหาความอีก ขัดใจที่ยังระบายอารมณ์ออกมาไม่หมด สู้ให้เจ๊ใหญ่ปฏิเสธเสียดีกว่า
ยิ่งเห็นหน้าแล้วต่อมกรี๊ดกระตุก
“กรี๊ดดดดด” หลินกรี๊ดแตกใส่หน้าเจ๊ใหญ่แล้วสะบัดออกไป

“โว้ย!” เจ๊ใหญ่เอามั่ง ฮึดฮัดแล้วก็ม่อยลง“ฮือๆๆ”


วันชนะนั่งหน้าเสียอยู่ข้างๆนักขัต
นักขัตบีบมือวันชนะเบาๆ “ไม่ต้องกลัวนะวิน”
วันชนะยิ้มบางๆแต่แววตาครุ่นคิด จากนี้ไปจะเป็นยังไงนะ ใกล้ตัวคือทีมงานจะว่ายังไง ไกลตัว คนทั้งมหาวิทยาลัยจะทำยังไงกับเขานะ

...แต่ก็ช่างเถอะ มาถึงขนาดนี้แล้ว...วันชนะรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน เมือกี้อาการเจ็บเท้าที่ชาๆไปเริ่มกลับมารู้สึกปวดๆอีกแล้ว
“ขอยืมไหล่หน่อยนะที่รัก” ว่าแล้ววันชนะซบลงที่ที่ขอ หลับตาผ่อนคลาย ท่ามกลางสายตาทีมงานที่มองมาที่คนทั้งสอง
นักขัตยิ้มอายๆ


“เออ ดูไปคู่นี้มันก็น่ารักดีนะ” พี่ชาญว่า
“ย่ะ หมั่นไส้ ทำละครฉันพังหมด ต้องเจอตบ” เจ๊ใหญ่เดินอาดๆเข้าไปหา “รักกันให้นานๆนะจ้ะ”
นักขัตยิ้มอาย
“โธ่ เล่นมุขนี่นา” พี่กรว่า
“ไม่ต้องกังวลนะตั้ม วิน พวกเธอทำได้ดีแล้วล่ะ” เจ๊ใหญ่ทำหน้าสวยใส่นักขัต “แล้วก็พาวินไปหาหมอด้วยล่ะ”
“ขอบคุณครับพี่ใหญ่” วันชนะพูดทั้งหลับตา
“ส่วนคนทรยศไว้เป็นหน้าที่เจ๊เอง” เจ๊ใหญ่ดูเป็นผู้ใหญ่ชั่ววูบ ก่อนจะเดินไปหากลุ่มทีมงาน


...


สองสัปดาห์หลังจากละครเวที
“ยังเจ็บเท้าอยู่อีกไหมวิน” นักขัตถามทั้งสีหน้าและสายตาแสดงความเป็นห่วงอย่างจริงใจ
“ไม่เจ็บแล้วล่ะ” วันชนะยิ้มตอบ


วันชนะกับนักขัตนั่งอยู่ที่สถานีขนส่งที่เอกมัย รอเวลาขึ้นรถ
ไม่นานทั้งคู่ก็นั่งอยู่บนรถทัวร์มุ่งหน้าไปบ้านเพ
ที่นั่งคู่แถวหนึ่ง วันชนะม่อยหลับไปเอาศีรษะพิงเบาะเอียงไปทางนักขัต
“วินๆดูนกนั่นดิ สวยดี...” นักขัตหันมาอีกทีก็เห็นแฟนตัวเองหลับไปแล้ว ก็ยิ้มบางๆให้กับใบหน้าน่าเอ็นดูของวันชนะ มือเลยค่อยๆอ้อมไปโอบร่างของคนหลับ ดึงไหล่เข้ามาพิงไหล่ตัวเอง
...อยากให้เป็นแบบนี้ไปตลอด...

...
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 08-06-2007 12:53:08
ง่า  ลงสั้นจางงอ่ะพูห์    แต่คู้นี้น่ารักกันจางงง  :impress2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 08-06-2007 13:02:07
อยากรู้แล้วว่าเจ๊ใหญ่ จะจัดการนังตัวแสบแบบไหนกัน อิอิ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 08-06-2007 15:19:51

..........สั้งจิงๆ.... o3 o3
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 08-06-2007 15:33:05
เพิ่งรู้คุณพูห์ชอบสั้นๆ

แล้วยั่งงี้เมื่อไหร่มันจาถึง........














ตอนจบล่ะ  :haun5:


















หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-06-2007 19:28:08
สั้นจัง...  o22  o22
ตอนหน้าขอหวาน ๆ นา อุตส่าห์ไปไกลถึงระยองทั้งที  o15
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-06-2007 09:44:11
ของดีเขาก็ต้องมาทีละนิดสิครับ

ไม่งั้นจะเรียกของดีเหรอคร้าบบบบบบบบบบบบบ

 :laugh3: :laugh3: :laugh3:

---------------------------------------------------------------------------------------------
..
..
..
หาดทรายขาว น้ำทะเลเขียวใส เสียงคลื่น เสียงลมทำให้นักขัตกับวันชนะสดชื่นขึ้นมากโขหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางมาตั้งแต่เช้า
ไม่นานก็อยู่ในบังกะโลที่จองไว้ จัดแจงเก็บสัมภาระเรียบร้อย ทั้งคู่ก็รี่ลงเล่นน้ำทะเล แล้วก็กลับมานั่งบนหาด

“เสม็ดนี่เกย์เยอะดีเนอะ” วันชนะพูด
“อืม” นักขัตรับคำ
“ไม่สังเกตเหรอว่าคนนั้นเขามองตั้มตั้งนานแล้วนะ” วันชนะปรายตาไปยังหนุ่มหุ่นดี หน้าตาดีคนหนึ่งที่นั่งอยู่ห่างไปสักยี่สิบเมตร
“ไหน” นักขัตมองตาม “อืม”

วันชนะเริ่มหน้างอ
“อย่าหึงสิ เดี๋ยวไม่น่ารักนะ” นักขัตแหย่ “ไม่ดีใจเหรอ มีคนชอบมองแฟนวินน่ะ แสดงว่าแฟนวินน่ารักนะ”
“ไม่ ตั้มต้องเป็นของวินคนเดียว ให้วินมองคนเดียว คนอื่นห้าม” วันชนะขู่ฟ่อ
นักขัตอดขำเอาไว้ “ไปควักตาเขาเลยสิ”
วันชนะไม่ต่อคำแต่หน้างอลุกขึ้นเดินลงทะเลไปคนเดียว


“น้องมากับใครครับ”
วันชนะหันไปก็เจอกับหนุ่มหล่อคนหนึ่งหน้าตาออกตี๋ๆแนวคนจีน
“ครับ?” วันชนะไม่แน่ใจว่าเขาชวนตนคุย
“พักหาดไหนครับ” ชายหนุ่มยิงคำถามอีกเป็นการชวนคุย
“พักหาดทับทิมครับพี่ แฟนผมไปทำไรพี่หรือเปล่าครับ เมื่อกี้เขาอารมณ์ไม่ดี” นักขัตมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
วันชนะหันไปค้อนให้
“ปละ...เปล่าครับ พี่ก็ทักดู นึกว่ามาคนเดียว” ชายหนุ่มรีบปลีกตัว
“วินๆ” นักขัตเรียกตามวันชนะที่เดินอาดๆขึ้นฝั่งไปแล้ว


วันชนะเปิดประตูห้องน้ำออกมาหลังจากอาบน้ำล้างน้ำทะเลออกแล้ว นักขัตรออยู่หน้าประตู
“ไม่น่ารักเลย” นักขัตแหย่
“...” วันชนะไม่พูดอะไร ตรงไปที่ปลายเตียงแล้วลงนอนราบบนพูก งอตัวเอาหมอนมากอดหันหลังให้นักขัต
...งอน...เขายังไม่ได้พูดอะไรกับผู้ชายคนนั้นเสียหน่อย ทำเป็นหึงไปได้
หึง...อารมณ์หึงของเขาเมื่อกี้ค่อยๆหายไปเมื่อเริ่มคิดได้ว่า นักขัตก็คงหึงเขาเหมือนกัน
เดี๋ยวเสียฟอร์ม แกล้งงอนต่อดีกว่า
เสียงนักขัตอาบน้ำในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยและเปิดประตูออกมาดังอยู่ข้างหลัง


เตียงนุ่มยุบลง มือของนักขัตสอดมา ดึงร่างวันชนะไปแนบหน้าอกเขาเบาๆ
“หายงอนยังวิน ตั้มขอโทษ” นักขัตกระซิบ
“...”
“หายโกรธนะ” นักขัตจูบที่ต้นคอ
“...”
วันชนะหลับไปแล้ว
นักขัตชะโงกหน้าขึ้นดูเห็นแฟนตัวเองหลับตาพริ้มเลยดึงร่างกระชับอีกแล้วก็ปิดตาหลับไปด้วย

นักขัตลืมตาขึ้นในความสลัวของห้อง เสียงคลื่นยังดังแว่วมา

“ตื่นแล้วเหรอตั้ม” วันชนะหันมาเข้าหานักขัตตั้งแต่เขายังไม่ตื่น
“กี่ทุ่มแล้ววิน” นักขัตงัวเงีย
“วินขอโทษนะ ที่หันหลังให้” วันชนะพูดอย่างจริงใจ มือลูบไล้ที่ใบหน้าของนักขัต
นักขัตจับมือวันชนะเอามาจูบเบาๆ “ไม่เห็นต้องขอโทษเลย ตั้มรู้ว่าวินรักตั้ม”
วันชนะโผเข้ากอดนักขัตแน่น
นักขัตลูบหัวลูบหลังเบาๆ แล้วบทรักก็เริ่มต้นขึ้น

จูบเบาๆค่อยๆรุนแรงขึ้น ร้อนขึ้น
นักขัตเลื่อนปากพรมจูบที่ซอกคอ
“อา...” วันชนะครางในลำคอ มือค่อยเลื่อนลงไปจับมันเอาไว้
จากนั้นริมฝีปากร้อนแต่นุ่มนวลของวันชนะก็สัมผัสรอบท่อนเนื้อขนาดใหญ่นั้น นักขัตหลับตาพริ้มเป็นสุข
“เป็นของผมนะวิน” นักขัตพูดเสียงกระเส่า
วันชนะจูบเขาแทนคำตอบที่เขาอาย
“ทำเป็นเหรอ” วันชนะมิวายแหย่
“คราวนี้ไม่พลาดจ้ะที่รัก” นักขัตจูบปากดูดดื่มอีกที


“เจ็บ” วันชนะสะดุ้งเมื่อส่วนหนึ่งของนักขัตเข้าไปในร่างของตน มือดันหน้าอกเขาไว้
“งั้นตั้มเอาออกนะ” นักขัตเองก็รู้สึกเจ็บๆ
“ไม่ ไม่เป็นไร” วันชนะรั้งตัวนักขัตเอาไว้ “วินอยากเป็นของตั้ม”
นักขัตค่อยๆดันตัวเองเข้าไปอีก ระหว่างนั้นก็กอดรัดวันชนะริมฝีปากประกบกันร้อนแรง จนเข้าไปสุด
“เพิ่มเจลอีกหน่อยนะ” นักขัตว่า
“อืม” วันชนะหน้าแดงก่ำในความมืดตอบ
ร่างเหมือนจะฉีก ทั้งตัวร้อนไปหมด แสบ แต่วันชนะอดทนไม่พูดออกมา
ร่างสองร่างขยับไปมาจากช้าเนิบเป็นรวดเร็ว
ความร้อนจากตัวนักขัตราวจะหลอมเขาเข้าไปเป็นคนๆเดียวกัน
ร่างกำยำของนักขัตโชกชุ่มไปด้วยเหงื่อเหมือนกับวันชนะ มือโอบกอดหลังเขาไว้แน่นจนเมื่อถึงจุดที่ความรักได้รวมเป็นหนึ่ง นักขัตก็ฟุบลงกอดวันชนะ

“ผมรักวินนะ”
“วินรักตั้มครับ”

คลื่นทะเลยังคงแว่วเสียงมาเหมือนเช่นตอนเริ่มต้น ม่านที่ปิดไม่สนิทเผยดวงดาวเกลื่อนท้องฟ้าระยิบระยับ วันชนะกอดนักขัตแนบแน่น
เซกส์ของพวกเขาคืนนี้มีทั้งคลื่นและทะเลดาวเป็นพยาน


“ผมจะรักคุณตลอดไป”


*****************************************************************************************************
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-06-2007 09:55:18
“ทำเป็นเหรอ” วันชนะมิวายแหย่
“คราวนี้ไม่พลาดจ้ะที่รัก” นักขัตจูบปากดูดดื่มอีกที


 :laugh:   :laugh:   :laugh:
ไม่พลาดหร๊อกกกกกกกก เตรียมพร้อมมาซะ แถมรูมเมทตัวดีก็ไม่อยู่ อิอิ  :laugh3:  :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 09-06-2007 13:42:03
 :impress2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 09-06-2007 15:31:05
น่ารักจัง   เป็นบทอัศจรรย์ที่วิเศษมาก  คนที่เรารัก เค้ารักเรา สถานที่สวยๆ บรรยากาศดีๆ โอ้ววว romance มั่กๆ  :impress2:


อยากไปเสม็ดมั้ง   (เค้าว่าไปเสม็ดเสร็จทุกรายย เอิ๊กๆ) o3
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 10-06-2007 00:12:27
อิอิ ไปเสม็ดเสร็จทุกราย จิงๆด้วย อิอิ  :o9:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 10-06-2007 03:51:22
โอ้วววววว ได้กันอย่างเป็นทางการปะเนี๊ย  :laugh3: :laugh3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 10-06-2007 07:28:55
อานรวดเดียวเลยครับ   สนุกมากๆๆ  o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 10-06-2007 15:33:06
 o7 o7  ในที่สุดก็เปนของกันและกันแล้วนะครับ  หวังว่าเจ๊ใหญ่คงจะจัดการพวกนิสัยไม่ดีให้หนักนะครับ  o17 o17
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 11-06-2007 13:22:16

..........เสม็ดอีกแล้วครับท่าน......

..........ขอหั้ยเสร็จกันทุกค่ำคืน....... :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 11-06-2007 14:19:35
โรแมนติกดีครับ

ว่าไป ก็อยากไปบ้างแฮะ ไอ้เสม็ดนี่
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 12-06-2007 11:32:46
ยังม่ะมาต่อเหรอ  เสม็ดกันถึงไหนหล่ะค้าบบนี่  o18


ว่าแล้วเรามาต้องทริปไปเสม็ด  แบบ ตามรอยตั๊มกับวินดีก่า 555+
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-06-2007 11:46:47
เจ้าของเรื่อง ติดสอบเลื่อนขั้นอยู่ครับ

เลยยังไม่มาต่อ

อดใจรอกันอีกนิดนะครับ

 o13
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 14-06-2007 05:11:45
รับทราบจ๊ะ  :teach:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 14-06-2007 17:49:36
 o19 โอ๊ย ข้อมูลบริษัททำไมมันเยอะอย่างงี้เนี่ย
ไหนจะคืนนี้ทำงาน 4 ทุ่ม - 7 เช้าแล้วไปสอบ 8.30 อีก  :serius2:  :oak:



 :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-06-2007 18:51:19
สู้ ๆ นา คุณ โอนริโอ้  :give2:  :give2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 14-06-2007 23:04:03
อ่านแล้วมีต้องลุ้นอยู่ตลอดเลย

ไงช่วยจัดการแซกส์แล้วก็หลินให้จำซะบ้างนะคับ อิอิ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 15-06-2007 10:33:09
มาให้กำลังใจ คุณ โอนริโอ้    นะค้าบบ  o15
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-06-2007 10:37:55
วันนี้เจ้าของเรื่องไปสอบ

เป็นกำลังใจให้ค้าบบบบบบบบบบบบบบบบ

 :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-06-2007 14:29:47
ขอให้สอบผ่านน๊าาา  :amen:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: prince_halation ที่ 21-06-2007 11:14:25
 :impress: มารอตอนต่อไปเช่นกันคร๊าบบบบบคุณหมูพูห์

ยังไงก็ขอบคุณนะคร๊าบบบที่เอาเรื่องหนุก ๆ มาให้อ่านอีกแล้ว

หมูพูห์น่ารักจัง  :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 25-06-2007 13:21:28
เอารูปมาฝากครับ

เผื่อใครคิดถึง นักขัตกะวันชนะ ที่เสม็ด

คิกคิก

 :m7: :m7: :m7: :m7:

(http://i136.photobucket.com/albums/q162/moopooh/violet/1234-4.jpg)
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 25-06-2007 13:24:30
คิกๆๆ  พูห์เอารู้มาฝากเหรอ   เหอๆๆ กลับเอารูปย้อนไปอ่านตอนนั้นใหม่ แล้วจิ้นต่อดีก่า อิอิ :m10:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 26-06-2007 09:54:54

16 แววตา

โต๊ะหนึ่งในมุมส่วนตัวของภัตตาคารหรูบนดาดฟ้าตึกสูงย่านสีลมถูกจับจองโดยชายหนุ่มรูปหล่อ หุ่นสูงเพรียวแต่ว่าดูแกร่งอยู่ในที กลางโต๊ะมีแก้วน้ำเล็กๆใส่น้ำแค่ครึ่งแก้วลอยด้วยเทียนไขกับกลีบกุหลาบ
ชายหนุ่มอยู่ในชุดทำงาน เสื้อเชิ้ตสีขาวเข้ารูปกับกางเกงชะแล็กสีดำ ไม่ต้องบอกก็ดูรู้ว่าชุดนั้นแพงแค่ไหน เทียนอโรมาที่ลอยในแก้วดับไป ไม่ได้หมายความว่าคนที่กำลังจะมา มาสาย แต่ตรงกันข้าม เขามาเร็วเกินไปเกือบครึ่งชั่วโมง
ยกนาฬิกาข้อมือโรเล็กส์ขึ้นดู โทรไปตอนนี้คงไม่ถือเป็นการเร่งอีกฝ่ายนัก กำลังจะยกมือถือขึ้นมากด ก็มีสายโทรเข้ามาพอดี
ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปาก...อา...ใจตรงกัน
“พี่ภัทร วินอยู่ข้างล่างนะ สักห้านาทีคงถึงนะครับ” ปลายสายพูดผ่านมือถือ
“ไม่ต้องรีบก็ได้วิน มีธุระก็ไปทำก่อน” ภัทรว่า
“ไม่มีนี่ครับ ว่าแต่พี่ภัทรมีอะไรหรือเปล่าครับ นัดมากินเสียแพงเลย วินไม่มีตังจ่ายไม่รู้ด้วยนะ” วันชนะหยอก
“ไม่เป็นไร บอกแล้วไงว่าครั้งนี้พี่เลี้ยง”
“ไม่เอาหรอกครับ เกรงใจ ยังไงวินก็ว่าเอาแบบแฟร์ๆดีกว่าครับ”
ห้านาทีจากนั้นวันชนะก็มาถึงตามที่บอกไว้ บอกชื่อกับพนักงานที่หน้าร้านก็ถูกพามายังโต๊ะที่จองไว้ โดยมีภัทรกล่าวทักทันทีที่เห็นวันชนะมา แล้วภัทรก็หันไปบอกกับบริกรให้ทยอยเอาอาหารที่สั่งออกมาได้
บรรยากาศดีๆโรแมนติกๆดำเนินไปเรื่อยๆ จนเห็นสมควรแก่เวลานิตยสารฉบับหนึ่งก็วางอยู่ตรงหน้าวันชนะ
ตอนแวบแรกวันชนะก็ไม่ได้แปลกใจนัก ชมว่านายแบบที่หน้าปกหล่อดีนะ แต่ตาก็เบิกโพลงเมื่อค่อยๆมองโครงหน้า จมูก ปาก ตา และส่วนประกอบทุกส่วน
“เฮ้ย! พี่! เอาขึ้นปกเลยเรอะ!” จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงก็นั่นมันรูปเขาเอง
ตอนแรกที่ตกลงกันไว้คือวันชนะไปถ่ายแบบให้ลงสอง-สามรูปด้านในนิตยสารของภัทร เพราะทนภัทรตื้อไม่ไหว
“ยังไม่ต้องตกใจหรอกวิน ยังไม่ได้วางแผง” ภัทรเว้นวรรค “ต้องรอพรุ่งนี้ก่อน” ว่าเสร็จภัทรก็หัวเราะหึหึในลำคอ
“อายเขาตาย” วินกลืนน้ำลาย แต่ก็แอบปลื้มกับรูปตัวเองที่หน้าปกไม่ได้ “พี่เก่งเขาเก่งสมชื่อเลยนะ” วันชนะกล่าวถึงพี่สไตลิสที่เป็นคนจัดท่าทางและถ่ายรูปให้
“เอ้า ค่าขนม” ภัทรวางซองสีขาวหนาไว้ข้างหน้าวันชนะ หน้าตายิ้มๆ นัยน์ตาระริกขี้เล่นแต่ดูอบอุ่นเหมือนผู้ใหญ่หยอกเด็กเล็กๆทั้งที่จริงแล้วภัทรก็ห่างจากวินแค่หกปี
วันชนะหยิบขึ้นมาเปิดดู เพราะสงสัย ที่ตกลงกันไว้มันไม่น่าจะทำให้ซองหนาได้ขนาดนั้น
“เอ้ะ พี่ภัทร นี่มันเกินมารึเปล่า” วินว่าไปพร้อมกับคะเนด้วยสายตา จริงๆอยากจะนับให้ละเอียดไปเลยตามประสานักวิทยาศาสตร์แต่คงจะดูน่าเกลียดเกินไป
“งั้นวินก็ไม่เอาหรอกครับ มันเยอะเกินไป” วันชนะปิดซองส่งคืนให้ภัทร
“วิน” หางเสียงเข้มนิดๆ เหมือนจะดุแต่ก็แฝงความเอ็นดู...แบบคนรัก
ภัทรดันกลับ
“งั้นก็เลี้ยงพี่สักมื้อก็แล้วกัน” ภัทรเส
“อะ เอางั้นก็ได้ครับ” วินไม่อยากมากความ เจ็ดปีที่รู้จักภัทรมาเขาพอจะรู้ ภัทรเป็นคนหัวดื้อคนหนึ่ง พูดอย่างไรเป็นอย่างนั้น
ความสัมพันธ์ระหว่างภัทรกับวิน เหมือนเป็นเพื่อนสนิท พี่ที่ให้คำแนะนำ เป็นเพื่อนคุย...หากแต่อีกฝ่ายกลับมองวันชนะลึกซึ้งมากกว่านั้น
วันชนะเองก็เข้าใจดีว่าความรู้สึกที่อีกฝ่ายทุ่มเทให้คืออะไร ลำบากใจแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเอ่ยปากบอกความรู้สึกที่แท้จริงว่าเขาเป็นพี่ชาย
หากว่าภัทรทำเป็นหูทวนลม
เขารู้ดีว่าวินยังไม่ลืมตั้ม
คงมีสักวัน...

ในลิฟต์
“แน่ใจเหรอว่าจะไม่ให้พี่ไปส่ง” ภัทรถามอย่างเป็นห่วง ภาพจินตนาการในสมองคือเขากอดลา แต่ความจริงคงได้แต่สงบอาการถามอย่างจริงใจ
“ไม่เป็นไรครับพี่ วินกลับรถไฟฟ้าสะดวกกว่าครับ” วันชนะพูด “ขับรถดีๆนะพี่”
ประตูลิฟต์เปิดออก วันชนะก้าวออกไป ส่วนภัทรต้องลงไปอีกสามชั้น เขาจอดรถไว้ตรงนั้น
“วิน” เสียงเรียกดังขึ้น
ภัทรตามออกมา
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็ว วันชนะหันมาก็ถูกภัทรกอดเอาไว้เสียแล้ว กอดของเขาแนบแน่น...อบอุ่น
วันชนะค้างไป
ภัทรหอมแก้มเขาทีหนึ่งอย่างรักใคร่ หวงแหน เหมือนคนที่อดทนมานานระเบิดความต้องการออกมา
วูบหนึ่งวันชนะหลับตาพริ้ม...อา...คิดถึงอ้อมกอด...โหยหา...เหงา
แล้วภาพตัวเขาในอ้อมกอดของอีกคนที่ไม่ใช่ภัทรก็ทำให้วันชนะรู้สึกตัว เหมือนกันที่แรงระเบิดของภัทรหมดเชื้อ
ต่างฝ่ายต่างรู้สึกตัวว่าได้ก้าวล้ำเขตที่ทั้งคู่ได้ตกลงกันเอาไว้ด้วยความรู้สึก
ต่างกลับมายืนจุดเดิม...
“พี่ไปก่อนละ ไว้เจอกัน” ภัทรพูดอายๆ สายตาอบอุ่นบอกอารมณ์ดีใจ
“ครับ” วินกล่าวสั้นๆ
สับสน...
..
..
..
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 26-06-2007 10:29:36
นักขัตไปไหนหว่า

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 26-06-2007 10:48:21
ภัทรก็แสนดีจิงๆเลยอ่ะ คิดแล้วหวั่นไหวแทน อิอิ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 26-06-2007 13:27:46

..............อย่าทิ้งนักขัตนะ... :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 26-06-2007 15:43:50
นักขัตหายย

เหมือนว่าเนื้อเรื่องมันจะข้ามเวลามาตอนเรียนจบแล้วป่ะนี่ ...ลงค้างไว้แค่นี้ งง อ่ะพูห์
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 27-06-2007 00:20:00
มาอ่านแล้วคับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 27-06-2007 15:43:37
คุณพูห์ ทำไมเนื้อเรื่องมันไม่ต่อกันล่ะ

มันขาดตอนอะ แล้วตั้มไปไหน เหมือนตั้มเลิกกะวินงั้นแหละ


16 แววตา

“อะ เอางั้นก็ได้ครับ” วินไม่อยากมากความ เจ็ดปีที่รู้จักภัทรมาเขาพอจะรู้ ภัทรเป็นคนหัวดื้อคนหนึ่ง พูดอย่างไรเป็นอย่างนั้น

ข้ามตอนเรียนจบ ไปเลย 
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 27-06-2007 15:53:58
มีคนจับสังเกตได้ด้วย

โอนิคุงเขาเฉลยมาแล้วครับ

อ้างถึง
     เอ่อ ขอโทษครับ -_-''

    เป็นเรื่องราวเจ็ดปีหลังจากนั้นครับ
    มีจุดสังเกตเวลาตอนที่วินจำใจต้องรับเงินจากภัทรน่ะครับ
    ที่บอกว่า

    ...เจ็ดปีที่รู้จักภัทร...

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 27-06-2007 19:23:23
อ้อ แบบนี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-06-2007 19:28:00
เหอ เหอ ข้ามมา 7 ปีเลยเหรอ แล้วช่วงนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง  :m13:
ไม่อยากจะเดาเลย  :m2:  :m2:  :m2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 28-06-2007 15:03:32
โอ๊ะ เกิดไรขึ้น
ทำไมออกมาแบบนี้
หรือว่าตั้มหัวใจวายบนเตียง
 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 28-06-2007 17:34:46
สถานีศาลาแดง แม้จะเป็นเวลาสี่ทุ่ม แต่ก็ยังอัดแน่นไปด้วยผู้คนที่มารอใช้บริการรถไฟฟ้า
วันชนะ ยืนริมประตู เหม่อมองความมืดด้านนอกขบวนรถ ...อยากจะร้องไห้...
คิดถึงเขาเหลือเกิน...

เสียงสัญญาณเตือนประตูกำลังปิดหลังจากที่คนทยอยเดินเข้ามาทำให้วันชนะสะดุ้งจนเผลอทำแมกกาซีนเล่มที่จะออกพรุ่งนี้ตกบนพื้น
หนังสือปกมันเล่มหนาหล่นตุบไปโดนเท้าชองใครบางคน วันชนะรีบก้มเก็บเพราะเกรงว่าคนอื่นจะเห็นรูปของเขาที่หน้าปก
ขณะที่คนที่โดนหนังสือตกใส่ก็คิดว่าเป็นความผิดของตนที่ขยับตัวไปโดน

“ขอโทษครับ”
ต่างฝ่ายต่างกล่าวขอโทษ
ชายคนนั้นชะงักไปมือที่เอื้อมจะคว้าหนังสือที่พื้นค้างไว้
วันชนะหยิบมันขึ้นมา
“ขอโทษครับ” วันชนะยิ้มรอ
ชายคนนั้นค่อยๆยืดตัวตรง ดูเหมือนร่างค่อยๆสูงขึ้น
วันชนะยิ้มค้าง
เขาไม่ได้ฝันไปใช่ไหม...
สองปีที่ไม่ได้เจอกัน เขาไม่เปลี่ยนไปเลย
ต่างคนต่างตะลึงกันไป
วันชนะนึกอยากจะโผเข้าหา ...โหยหาเขาเหลือเกิน หากแต่...
“รู้จักกันเหรอตั้ม” สาวสวยหวานคนหนึ่งที่วันชนะเพิ่งจะสังเกตว่ายืนอยู่ข้างๆกล่าวขึ้น ดูจากท่าทางไม่ได้บอกว่าเป็นแฟน แต่ก็รู้ว่าหล่อนมีใจให้นักขัต
“ถึงแล้ว ไปกันเถอะ” ชายหนุ่มอีกคนพูด


เสียงสัญญาณดังขึ้นว่าประตูกำลังจะปิด
พวกเขาเดินออกไปแล้ว...เขาเดินออกไปแล้ว...ตั้ม
วันชนะยังค้างอยู่อย่างนั้น
น้ำตาอุ่นๆไหลออกมาอย่างควบคุมเสียไม่ได้ รีบหันหน้าออกไปทางประตู ไม่ให้คนบนรถเห็น
คิดถึง...ดีใจ...โหยหา...
ท่าทางเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลย...เว้นแต่สายตานั่น...เย็นชา
จะมีประโยชน์อะไรอีก...หักใจเถอะ...วินพร่ำกับตัวเอง...เราเป็นคนบอกเลิกกับเขาเองไม่ใช่เหรอ...

------------------------------------------------------------------------------------

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 28-06-2007 17:46:56
 :เฮ้อ: ไปบอกเลิกกันตอนไหนหว่า  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-06-2007 18:27:47
เง้อ  :sad5: มานเกิดอะไรขึ้นหว่า  :freeze:
ต่อด่วนเลยจ้าพูห์   o9  o9  o9
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 29-06-2007 15:13:07

.............เกิดไรขึ้นอ่า......... o9 o9 o9

.............สงสารอ่า........เจอหน้า...โหยหา.....แต่ทำไรมะได้...... :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 29-06-2007 19:06:31

17 อดีต

นักขัตป้วนเปี้ยนอยู่ที่ร้านหนังสืออยู่พักใหญ่ก่อนจะจ่ายค่านิตยสารเล่มนั้น นายแบบหน้าปกได้รับความสนใจเพราะเป็นนายแบบหน้าใหม่ สายตาที่มองกล้องดูลึกลับ หยิ่ง แต่ก็แฝงด้วยแววเศร้า
“...วิน...” เสียงแผ่วอาลัยจากนักขัต นิ้วค่อยๆไล้ไปที่หน้าปก คิดถึง...แก้มใสที่เคยหอม ...ปากบางที่เคยจูบ ...ผมนุ่มที่เคยลูบ
ไล้ไปตามอารมณ์ แต่ก็ชะงัก ...ขอโทษนะตั้ม วินรักพี่ภัทร... วินเคยพูดไว้ ...เจ็บวันนี้ไม่เท่าวันก่อน แต่มันก็คือเจ็บ
...
“โอ้โห ไร่มะเขือเทศของตั้มกว้างมากๆ” วันชนะตื่นตาตื่นใจกับภาพไร่มะเขือเทศกว้างขวาง
นักขัตมองวันชนะด้วยสายตาอบอุ่น หลังจากสอบปลายภาคเทอมสุดท้ายของปีสี่ เขาพาวันชนะมาเที่ยวบ้านของเขาตามลำพังอย่างที่เคยคุยกันไว้
“แต่วินเกลียดมะเขือเทศนี่” ตั้มพูดหยั่งๆ
“หลังๆมาก็กินแล้วนะ” แม้ว่าจะเป็นชิ้นเล็กๆก็เถอะ
...
...
“เราเลิกกันเถอะตั้ม” คนพูดหลบสายตา
“...” นักขัตนิ่งงัน ไม่คิดเลยว่าจะได้ยินสิ่งที่คนรักเพิ่งจะพูดออกมา
“ทำไม” หางเสียงแผ่ว...เพราะเจ็บปวด
“เราไปด้วยกันไม่ได้...” วันชนะหลบตาเหมือนเดิม เหมือนคนหลบความผิด...
...
“วิน!” เสียงละเมอเรียกก่อนที่นักขัตจะสะดุ้งตื่น เขาคงเผลอหลับไป เพราะไฟในห้องก็ยังเปิดไว้ ดูเวลาที่ข้างเตียงเป็นเวลาตีสาม
“หึ” นักขัตยิ้มเหยียด สายตาเย็นชาใส่รูปวันชนะที่หน้าปก “เอาตัวเข้าแลกให้ภัทรนี่เอง”
แล้วแมกกาซีนขายดีเล่มนั้นก็เปลี่ยนสถานที่ไปอยู่ในถังขยะ

...
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 29-06-2007 19:13:03
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :sad5: ค้างคาอ่ะ อย่าให้เดาเรื่องไปเองเลยน้า มาต่อเร้วๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 30-06-2007 07:15:00
 :sad5: ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นนนนนนนน  :sad5: ครายก็ได้บอกฉานที  :o7:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 02-07-2007 13:46:41
วินต้องตัดใจบอกเลิกตั้มด้วยความจำเปนแน่ๆเลย  คงหวังจะให้ตั้มคบกะผู้หญิงมั้ง แล้วเอาภัทรมาอ้าง  :confuse:


หุหุ เดาไปใหน่ เรยย อิอิ   มาต่อไวๆนะคาบบ ขี้เกียจเดาแระ  :m14:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 02-07-2007 17:20:44
ไหงเป็นงี้ไปได้อ่ะ

เกิดไรขึ้น อยากรู้ ๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 02-07-2007 20:20:20
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

อะจ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9

สบึมระหึ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

เกิดอะรายขึ้น

รออ่านอย่างใจจดใจจ่อ มาต่อด่วน
 :sad5: :sad5: :sad5:


หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 03-07-2007 03:47:01
เรย์ท่าจะอาการหนัก  o17

คุณพูห์รีบมาต่อด่วนเลยนะ  :m5:  :m5:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 03-07-2007 11:18:40
..
..
..
“โอ้โห ไร่มะเขือเทศของตั้มกว้างมากๆ” วันชนะตื่นตาตื่นใจกับภาพต้นมะเขือเทศเรียงเป็นแถวๆตลอดแปลงยาวเหยียด “อากาศก็สดชื่น”
“แต่วินเกลียดมะเขือเทศนี่” นักขัตพูด
“หลังๆมาก็กินแล้วนะ” วันชนะแก้ต่าง “ยอมกินก็เพราะใคร ฮึ”
“ก็ดีแล้ว” นักขัตพูดแหย่ “อีกหน่อยมาเป็นเจ้าของไร่จะได้ไม่ต้องบ่นว่าต้องกินแต่มะเขือเทศ”
“ใจคอจะให้กินแต่มะเขือเทศรึไง ฟาร์มวัวก็มีนี่” วันชนะงอนแก้เขิน
นักขัตหัวเราะชอบใจ
เดินผ่านถนนที่สองข้างทางปลูกต้นจำปีเรียงเป็นแถวสลับกับแก้ว ประมาณยี่สิบเมตรก็มาถึงบ้านของนักขัต
“มาแล้วเหรอลูก มา เข้าบ้านกันก่อน” ชายวัยกลางคนกับหญิงดูอ่อนวัยกว่า ใบหน้าลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นอย่างที่นักขัตเคยเล่า ท่าทางใจดีออกมาต้อนรับ ทั้งสองมีลักษณะคล้ายนักขัต
“วินนี่พ่อกับแม่ตั้ม” นักขัตแนะนำ
วันชนะไหว้อย่างเคารพ
“สวัสดีลูก” พ่อของนักขัตรับไหว้ “เข้าบ้านกันก่อนเถอะลูก เดี๋ยวจะได้พักผ่อนนะ มากันเหนื่อยๆ”
พูดคุยปราศรัยกันอยู่สักพักนักขัตก็ขอตัวพ่อกับแม่พาวันชนะเอาของไปเก็บที่ห้องของตน ตลอดเวลาที่จากไปเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพสี่ปี เขากลับมาเยี่ยมบ้านไม่บ่อยนัก แต่ห้องของเขาก็ได้รับการปัดกวาดดูแลอย่างดี
“คุณพ่อคุณแม่ของตั้มดูใจดีเนอะ” วันชนะปลื้มพ่อแม่แฟน
“ตะก่อนน่ะแม่ตั้มเป็นคนกรุงเทพน่ะแหล่ะ เป็นเลขาเจ้านายบริษัทใหญ่เลยล่ะ แม่ทำงานเก่ง พูดได้ตั้งสามภาษา ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น พ่อเป็นเกษตรกรธรรมดานี่แหล่ะ” นักขัตเล่าอย่างภูมิใจในบุพการี
“แล้วท่านเจอกันได้อย่างไรเหรอตั้ม” วันชนะอยากรู้
“ก็พ่อตั้มส่งออกมะเขือเทศกับเนื้อวัวให้บริษัทที่แม่ทำงานอยู่ด้วยน่ะ มีอยู่บ้างที่ได้เจอกัน เพราะต้องติดต่อเรื่องงาน พ่อก็เลยปิ๊ง” นักขัตเล่าต่อ “จนท่านทั้งสองตกลงจะแต่งงานกัน และสุดท้ายแม่ก็ยอมทิ้งทุกอย่างมาใช้ชีวิตอยู่กับพ่อที่นี่ เป็นแม่บ้าน อยู่ที่นี่พ่อบอกว่าแม่ไม่ต้องทำงาน พ่อจะเลี้ยงเอง แต่ก็หยุดแม่ได้เสียที่ไหนล่ะ” นักขัตหยุดกลางคัน
“ยังไม่จบใช่ไหม แล้วไงต่อ” วันชนะอยากฟังต่อ “คุณแม่ทำอะไร”
“ก็มาเป็นเลขาพ่อตั้มไง” นักขัตยิ้มร่า “ท่านก็ช่วยดูเรื่องบัญชี กับเอกสารต่างๆ คอยตรวจงานอื่นๆไปด้วย...”
เล่าจนเพลินนักขัตก็เพิ่งสังเกตเห็นสีหน้าของวันชนะเริ่มดูเศร้าๆไปก็คิดได้ว่าวันชนะคงจะคิดถึงคุณแม่เลย
“อ้ะ ตั้มขอโทษ” น้ำเสียงแผ่วลง
วันชนะพยายามกลั้นน้ำตา ยิ้มเจื่อนๆให้ “ไม่เป็นไรหรอก”
นักขัตรู้สึกเห็นใจแฟนตัวเอง “คงคิดถึงแม่มากสินะ” มือจับที่ไหล่ บีบเบาๆเป็นการปลอบ แล้วก็รั้งร่างของวันชนะเข้าไปกอด ลูบหัวลูบผม “ไม่เป็นไรนะวิน วินยังมีตั้มนะ” นักขัตกระซิบข้างหู
ทั้งสองไม่รู้ตัวเลยว่าประตูค่อยแง้มปิดทีละน้อย เหตุการณ์ทั้งหมดไม่ได้พลาดสายตาของคนเป็นแม่ไปได้เลย
คุณแม่ของนักขัตเพียงแต่จะเอาขนมมาให้ พอจะหมุนลูกบิดแต่เพียงแตะประตูก็ค่อยเปิดออกและได้ยินได้เห็นสิ่งที่ลูกของตัวเองเป็น
นางได้แต่อึ้งขึงไป รีบผละจากประตูนั้นมา
..
..
..
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 03-07-2007 13:29:28
แง้วว  แบบนี้นี่เอง วินบอกเลิกตั้มก็เพราะแม่ตั้มมาขอร้องแน่ๆเลย .... รักกันแต่ม่ะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ เศร้าจริงๆ :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 03-07-2007 14:31:38

.............ทางเลือกของชีวิตกับทางเลือกของหัวใจอีกแล้ว........... :m8: :m8:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 03-07-2007 17:09:43
อุปสรรคของความรักแน่ๆ ที่ทำให้ต้องตัดสินใจแบบนั้น
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-07-2007 18:41:35
งานนี้ สงสัยคุณแม่ขอร้อง  :m8:  :m8:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 03-07-2007 18:58:44
 :เฮ้อ: เศร้า
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 05-07-2007 03:15:48
 :m9:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอน$
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 05-07-2007 09:58:33
:m9:

ประกาศจับ นายโอนรีโอ้ ข้อหา ไม่ยอมมาต่อนิยาย

ชิชิ

 :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 05-07-2007 11:44:32
แล้วจะแก้ปัญหาได้ยังไง
ถ้าแม้แต่คนที่เรารัก เรายังไม่คิดจะแก้ปัญหาด้วยกัน
 :m8: :m8: :m8:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 05-07-2007 12:59:25
เอ๋ เดาไม่ออกจิงๆว่าเลิกกันได้ไง ดูแล้วแม่ก็น่าจะหัวสมัยใหม่รับอะไรได้ง่ายๆนี้น่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-07-2007 16:43:40
พ่อ แม่ ตั้มพาวินไปฟาร์มวัวนะ” นักขัตตะโกนบอก
“ไปเถอะลูก” คุณพ่อตะโกนตอบ ก่อนจะหันมาทางภรรยา “แม่ไม่สบายรึเปล่า เห็นหน้าซีดตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”
“ระ...เหรอ ไม่นี่พ่อ ก็ปกติดี” คนเป็นแม่พยายามกลบเกลื่อนสีหน้า
“ป่วยก็บอกพ่อนะ จะพาไปหาหมอ” คนเป็นสามีบอกอย่างเป็นห่วง
“จ้ะ พ่อ” ภรรยารับคำ ฝืนยิ้มสดชื่นให้สามีเห็นจะได้ไม่นึกสงสัยมากไปกว่านั้น

...

“วิน ไปดูทางโน้นกันไหม ลำธารผ่านด้วยนะ” นักขัตชวน
“อื้อ ไปสิ”
แล้วนักขัตก็จูงมือวันชนะไปดูธาร
“โห น้ำใสมากๆ” วันชนะนั่งลงที่ขอนไม้พาดเป็นทางเดินข้าม เอาเท้าจุ่มลงในน้ำ “อา...สบายจัง”
นักขัตนั่งลงตามข้างๆ “เฮ้อ โล่งอก นึกว่าจะไม่ชอบที่นี่เสียแล้ว”
“ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ” วันชนะถามด้วยตาอ่อนโยน
นักขัตยิ้ม “ตั้มคิดเหมือนพ่อนะ ถึงจะไม่ได้เป็นเกษตรกรแต่ตั้มก็ชอบที่จะอยู่กับธรรมชาติมากกว่า ชีวิตในกรุงเทพ”
วันชนะยิ้ม ในใจรู้ว่าตั้มจะพูดอะไรต่อไป
นักขัตยกมือขึ้นหยิกแก้มวันชนะเบาๆ “ตั้มน่ะ คิดถึงว่าจะอยู่ด้วยกันกับวินตลอดไปเลยนะ”
แทนคำพูด วันชนะกุมมือที่ยกขึ้นหยิกแก้มเขาไว้เบาๆ
ที่บ้าน
“พ่อใจเย็นๆก่อนเถอะ มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้” มารดานักขัตรีบพูดเปลี่ยนความคิดของสามี ทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่แน่ใจ
“เห็นจะๆขนาดนี้แล้วนะแม่” คนเป็นพ่อสีหน้าขึงขังไม่หาย หลังจากที่เอากล้องส่องทางไกลมาตรวจดูวัวในฟาร์ม พอดีว่าเห็นลูกชายตัวเองอยู่แถวนั้นด้วยเลยส่องดู
แล้วก็ได้เห็นท่าทางกระหนุงกระหนิงของลูกชายกับเพื่อนผู้ชายด้วยกัน อย่างกับเป็นคนรัก ตอนแรกก็ดูผ่านๆแต่ยิ่งเอ้ะใจกับท่าทางที่แปลกๆของนิสัยผู้ชาย จึงเรียกภรรยามาดูด้วยอีกคน
...
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 06-07-2007 16:51:01
 :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-07-2007 18:55:01
สงสัยบวกคุณพ่อขอร้องเข้าไปอีกคน  :m15:  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 06-07-2007 19:58:36

...........ปัญหาครอบครัว.........ปัญหาโลกแตกอีกแล้ว...... :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 07-07-2007 23:21:43
แบบว่าอ่านตั้งแต่ต้นรวดเดียวเลย แบบว่าบีบหัวใจมากเลยค่ะ ค่อยๆพัฒนาการมาเรื่อยๆได้ครบทุกอารมณ์ รัก โกรธ งอน เหงา และอิจฉา  แต่ก้อนะความรักในแง่มุมนี้ย่อมมีอุปสรรคมากกว่ารักที่ปกติ  น่าสงสารจัง วินน่ะเค้าทำเพื่อตั้มแน่ๆเลย ตั้มจะรู้มั๊ยว่าพ่อกับแม่ของตัวมาขอร้องวินแน่ๆเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 07-07-2007 23:28:35
โหปัญหาแบบนี้อีกแล้วเหรอเนี่ย ปัญหาโลกแตกมากๆเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 07-07-2007 23:53:19
ตอนที่เราเป็นทุกข์ จะมีใครเข้าใจ
 :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-07-2007 15:09:13
..
..
“พรุ่งนี้จะกลับแล้วใช่ไหมลูก” คุณแม่นักขัตถามขึ้น
“ใช่ครับแม่” นักขัตตอบ
“ไปส่งแม่ที่ตลาดหน่อยสิลูก” เธอไม่เรียกวันชนะไปด้วย ใจหนึ่งคัดค้านสามี แต่ก็ต้องยอมให้ตามประสาที่เธอมักจะตามใจสามีอยู่เสมอ
“วินไปตลาดกัน” ตั้มเรียก
“อย่าเลยลูก จะเอาเพื่อนไปเหนื่อยเสียเปล่า” คุณพ่อของนักขัตพูด “แม่เขาคงคิดถึงตอนที่ไปตลาดกับลูกสองคนน่ะ” เขาจงใจพูดไม่ให้คนนอกไปด้วย
“นั่นสิ งั้นตั้มก็ไปกับคุณแม่เถอะ” วันชนะยิ้มๆ รู้สึกว่าเช้านี้มีอะไรแปลกๆ
“อย่างนั้นเดี๋ยวตั้มมานะ” นักขัตร่าเริง “ไปกันเถอะแม่” ว่าแล้วก็ควงแขนคุณแม่ออกไป โดยไม่ทันสังเกตสายตาห่วงใยวันชนะที่มารดาส่งให้

...
“วิน มาทางนี้ก่อนสิลูก” คุณพ่อของนักขัตเรียกแบบเดิม แต่ใบหน้านั้นไม่ได้ดูอ่อนโยนเหมือนตอนแรก บรรยากาศเริ่มแปลกๆ
“ครับ”
คนอาวุโสกว่าอึกอักด้วยไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร แต่ที่สุดก็พูดออกมา
...
...
...
...
วันชนะสะดุ้งตื่นเหงื่อเต็มตัว
“บ้าจริง ฝันนั่น”
เปิดไฟที่หัวเตียง มองดูเวลา ตีสาม
ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ถึงจะข่มตาหลับยังไง...แต่ใจตื่น
ถึงจะพยายามสลัดเรื่องความฝันออกไปยังไง...แต่เยื่อใยยังมี
..
..
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 09-07-2007 15:44:13
คุณพ่อคุณแม่ข้อร้องงงง  ...  :seng2ped:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 09-07-2007 16:10:16

...........ลางบอกเหตุมาแล้วซิ......... :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 09-07-2007 17:31:50
โธ่ เศร้า.... รักแท้ดูแลไม่ได้  :m8:  :m8:

รออ่านต่อ  :m13:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-07-2007 17:33:52
ทำไมอุปสรรคเยอะยังงี้  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 09-07-2007 17:40:49
แอบกิ๊กกัน ใครจะรู้
 :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-07-2007 19:00:57
รีบนคร้าบ หลอกผู้หลักผู้ใหญ่ไม่ดีนา  :m12:  :m12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-07-2007 21:01:11
โอ้ยยยยยยยยยยย ทำไมคุณพ่อคุณแม่ไม่เข้าใจล่ะเนี่ย เซ็ง  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 09-07-2007 21:13:17
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 10-07-2007 12:45:55
เจอแบบนี้เข้า  :seng2ped: ไปเลย
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: theera ที่ 10-07-2007 13:38:30
สงสารจัง :o11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: athens ที่ 10-07-2007 17:14:37
วัยรุ่นเซ็ง(เป็ด)

พ่อไม่เข้าใจตั้มอ่ะ

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 11-07-2007 05:05:20
 :m8:  เจออย่างนี้ยอมยกธงจ้า



ปล. มีคนต่อว่าหาว่าคนเขียนใจร้ายอ่า....  :m15: 



 :o11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 11-07-2007 09:13:14
ใครว่าคนเขียนใจร้าย

ชิส์

 :m14: :m14: :m14:

--------------------------------------------------------

วันชนะหยิบจดหมายขึ้นมา ยังไม่ทันแกะก็มีสายโทรเข้ามือถือ
“วุฒิ ว่าไง” วันชนะพูดหลังจากดูชื่อที่โชว์ขึ้นหน้าจอ
“สบายดีป่าววิน” ปลายสายถามอย่างสนิทสนม
“สบายดี วุฒิล่ะ ได้ยินข่าวลือว่าจะแต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ” วันชนะไต่ถาม
“ช่าย” วุฒิลากเสียงยาว “ส่งการ์ดเชิญไปให้แล้วนะ น่าจะถึงแล้วนะวันนี้ ขอโทษทีนะที่ไม่ได้ไปเชิญด้วยตัวเอง”
“อ้าว เรื่องจริงหรอกเหรอเนี่ย” วันชนะเลยแกะจดหมายนั้นดู แล้วก็ใช่จริงๆ “อ้อ ได้แล้วล่ะ”
“วินจะมาได้หรือเปล่าล่ะ มาได้ก็มานะ มาไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะ คิดว่าคงมีเพื่อนมาไม่เยอะ แต่ละคนอยู่ต่างที่กันหมด” วุฒิพูด
“โห ตั้งราชบุรี” วันชนะทำเสียงเหนื่อย
“อืม” วุฒิทำเสียงอ่อน คิดว่าเพื่อนคงมาไม่ได้อีกคนแล้ว
“แต่ก็ไม่กี่ชั่วโมงเอง” วันชนะทำเสียงร่าเริง “แหม วุฒิแต่งงานทั้งทีไม่ไปได้ไงล่ะ”
ปลายสายดีใจ “ขอบใจมากนะ”
...
ดังนั้นสัปดาห์ต่อมา ตามวันที่ระบุในการ์ดเชิญวันชนะก็มาอยู่ที่ราชบุรี งานแต่งงานจัดที่บ้านไม่ได้จัดในโรงแรม
“วิน” เจ้าบ่าวในชุดสูทสีครีมปรี่เข้ามาต้อนรับ
“ยินดีด้วยนะ” วันชนะยื่นกล่องของขวัญให้ “ยินดีด้วยนะครับ” วันชนะหันไปพูดกับเจ้าสาวบ้าง ที่เดินมาสมทบ
“ขอบใจมากเพื่อน ตามสบายเลยนะ ทางนู้นมีเพื่อนๆวุฒิอยู่ ...เพื่อนเก่าสมัยมหา’ลัยน่ะ มากันสาม-สี่คน วินน่าจะรู้จัก” เขาชี้มือ
“ฮื่อ งั้นเดี๋ยวเราไปนั่งทางนู้นละกันนะ” เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่คนแปลกหน้าและส่วนมากก็ไม่ใช่รุ่นราวคราวเดียวกัน
“เดี๋ยวพี่มานะอร” วุฒิหันบอกเจ้าสาว
“ป่ะ เดี๋ยวเราพาไป” เจ้าบ่าวรีบเดินนำ
ที่โต๊ะมีเพื่อนรุ่นเดียวกันนั่งอยู่เหลือเพียงที่นั่งเดียว วันชนะกวาดสายตาจำได้บ้างเป็นบางคนว่าเคยเห็นหน้า สมัยก่อนเพื่อนวุฒิเคยมาที่ห้อง
วันชนะนั่งลงแล้ววุฒิก็กลับไปทำหน้าที่เจ้าบ่าวต้อนรับแขกเหรื่อต่อ
วันชนะยิ้มให้กับทุกคนในโต๊ะเพื่อผูกมิตร ...ไม่รู้จะคุยอะไรดี ...แต่ก็คงดีกว่าไปนั่งโต๊ะอื่นอยู่คนเดียว
“วิน ...นั่นวินใช่ป่ะ” หนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ย
“ครับ”
“เราเอ็กส์ไง” เขาพยายามรื้อฟื้นความจำให้
วันชนะทำหน้านึกอยู่พักหนึ่งก่อนร้องอ๋อ เอ็กส์เป็นเพื่อนคนหนึ่งของวุฒิที่เคยมาค้างตอนทำรายงานส่งอาจารย์
บรรยากาศจึงไม่ตึงเครียด พอได้คุยคนหนึ่งแล้วคนอื่นๆก็ผสมโรงคุยเฮฮากันไป อาจเป็นเพราะความที่เป็นศิษย์ร่วมสถาบันเดียวกันที่ทำให้สายใยบางๆเชื่อมแน่นขึ้น
“เฮ้ย กี่โมงแล้วว้ะ ไอ้ตั้มว่าจะตามมานี่ ป่านนี้แล้วยังไม่เห็นหัว” คนหนึ่งในกลุ่มถาม
“นู่น มานู่นแล้ว ตายยากจริง” อีกคนว่า มือชี้ไปข้างหลังวันชนะ
วันชนะใจเต้นตูมตามตั้งแต่ได้ยินชื่อตั้ม แต่ก็ภาวนาว่าคงจะไม่ใช่นักขัต วันชนะจึงเอาแต่นั่งตัวเกร็งเหมือนต้นไม้แห้งตาย
“โทษที มาสายนิดหน่อย” คนที่นั่งข้างๆวันชนะหันไปพูดกับคนที่เพิ่งมา “มานั่งนี่ดิ เอาเก้าอี้จากโต๊ะนั้นมาด้วย”
ว่าแล้วเขาก็ขยับเก้าอี้ออกให้พอที่จะมีเก้าอี้อีกตัวมาแทรก
วันชนะนั่งตัวแข็ง หัวใจเหมือนกับจะหลุดออกมาเต้นอยู่ข้างนอก ไม่กล้าหันไป
..
..
..
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 11-07-2007 10:07:06
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ค้างคามากมายเลยอ่ะ :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 11-07-2007 10:26:21
การพบกันครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นอีกครั้งมั๊ยนะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 11-07-2007 11:34:17
เวลาผ่านไป อะไรก็อาจไม่เหมือนเดิม
 :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 11-07-2007 12:09:12
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 11-07-2007 14:00:49
 o12  ไมมาลงค้างๆงี้หล่ะค้าบบบ   o9


มาต่อไวๆนะคับ ลุ้นให้คืนดีกานน
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 11-07-2007 18:53:27
รอลุ้นต่อ  :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-07-2007 19:05:32
ค้าง  o9   o9    o9   o9  จาอ่านต่อ  o9  o9  o9
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 11-07-2007 21:07:35
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ  o9
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-07-2007 17:04:10

..
..
..
นักขัตชะงักไปแวบหนึ่งก่อนจะคุยกับเพื่อนอย่างปกติ
ยกเว้นวันชนะแล้วทั้งโต๊ะคือเพื่อนของวุฒิ ด้วยความที่ไม่เจอกันนานทำให้คน ‘ในกลุ่ม’ คุยกันอย่างออกรส จนคนหนึ่งในกลุ่มสังเกตว่าวันชนะเงียบผิดปกติ
“อ้ะ ลืมไป ตั้ม นี่วิน” เขาเรียกนักขัต ก่อนจะเรียกวันชนะ “วิน นี่ตั้ม เพื่อนวุฒิมันอีกคนตอนเรียนวิศวะ”
“...อะ อืม...” วันชนะครางในลำคอ
“เหรอ ยินดีที่รู้จักนะ” สายตาคมกริบมองมา ...เย็นชา เขาทำเป็นไม่รู้จัก
วันชนะรู้สึกโหวงๆในใจกับสายตาและคำพูดนั้นของนักขัต แต่ก็แกล้งทำหน้าเป็นปกติ “ครับ...”
ตลอดเวลาตั้งแต่นักขัตมาบรรยากาศเฉพาะตัวของวันชนะดูจะตึงเครียดเอามากๆ แม้ว่าจะทำเป็นคุยด้วยอย่างร่าเริง หนำซ้ำยังต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกัน แกล้งคุยกันอย่างคนเพิ่งรู้จัก
ในงานเริ่มคึกคัก คนเริ่มมาเยอะขึ้น รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เสิร์ฟบ่อยขึ้น
เสียงฮาครืนดังเป็นระลอกๆจากมุมต่างๆ รวมถึงโต๊ะของวันชนะด้วย ถึงจะอย่างนั้นก็ดูเหมือนว่าคนที่ดื่มเยอะสุดจะเป็นนักขัต สังเกตจากหน้าที่แดงก่ำของเขา
“พอเถอะ” วันชนะหลุด อดเป็นห่วงไม่ได้ มือไวเอื้อมไปจับแขนนักขัตที่กำลังยกแก้ว
เหมือนนัดแนะ ทุกคนในโต๊ะหยุดอาการต่างๆ หันมามองวันชนะเป็นตาเดียวรวมทั้งนักขัตด้วย
“กะ...กินเยอะเกินไปแล้ว” วันชนะลดมือลง เหมือนกับเสียงอ่อยลง
แค่แวบเดียวสถานการณ์ก็กลับเป็นเหมือนเดิม คือกลับไปเฮฮาเหมือนเดิม
นักขัตดูจะไม่ได้หันมาใส่ใจอะไรกับวันชนะมากนัก มีเพียงสายตาคมกริบที่มองผ่านมาเป็นระยะเท่านั้น แต่เหล้าแก้วนั้นก็ยังคงเต็มอยู่เหมือนเดิม
พอดีกับวุฒิมาร่วมวงด้วย
“เอ้า พวกเราเจ้าบ่าวมาแล้ว มอมมัน” เพื่อนคนหนึ่งพูดเสียงดัง
“เว้ย ไม่ยอมหรอกว่ะ ข้าจะไม่เมาคืนแต่งงานหรอกโว้ย” วุฒิตะโกนเฮฮา แต่ก็ดื่มไปสามแก้ว

จนสี่ทุ่มแขกคนอื่นๆทยอยกลับ
“ข้ากลับก่อนแล้วกันนะวุฒิ” เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้น ทำให้แต่ละคนเริ่มขอตัวกลับบ้าง
“เออ เดินทางดีๆล่ะ ถ้ามึงเมาก็นอนที่นี่ก่อนก็ได้นะ บ้านกูอีกหลังคืนนี้ไม่มีคนนอน” วุฒิบอก
“ไม่เมาว่ะ แหม ข้ารู้น่าว่าต้องขับรถกลับอีก ...เมาไม่ขับโว้ย”
“มึงดูไอ้ตั้มดีกว่า คืนนี้มันคงได้นอนที่นี่แหล่ะวะ” คนพูดชี้มือไปยังนักขัตที่ฟุบไปกับโต๊ะแล้ว
“วินล่ะ ไม่มีรถกลับแล้วล่ะมั้งตอนนี้” วุฒิหันมาเป็นห่วง
“อืม...” ที่จริงก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะว่าต้องลำบากหาที่พัก แต่เพราะอยากมางานของเพื่อนก็ต้องยอมล่ะ
คนอื่นทยอยกลับไปกันหมดแล้ว
“วินไปนอนบ้านวุฒิหลังนั้นแล้วกันนะ วุฒิบอกผู้ใหญ่ไว้แล้ว เอาไว้เผื่อเพื่อนๆมาค้าง บ้านไม่ได้ล็อก ไม่ต้องกลัวโจรนะ ที่นี่ไม่มีโจรหรอก”
“งั้น...ขอตัวไปเข้าหอก่อนนะ” วุฒิทำตากรุ้มกริ่ม
“หึหึ...รีบไปเถอะ” วันชนะขำ

ก่อนจะเดินไปที่บ้านก็มีเสียงของคนเมาดัง “อือ...”
ลืมไปเลย แล้วตั้มล่ะ ...กลัวใจตัวเอง ...ก็คิดเสียว่าเขายังนับเราเป็นเพื่อนคนหนึ่ง
“ตั้ม...” วันชนะเรียก วูบหนึ่งคิดถึงเมื่อในอดีต นี่เขาไม่ได้เรียกชื่อนี้ด้วยความเป็นห่วงมานานเท่าไรแล้วนะ
“ไปนอนเถอะ” วันชนะเขย่าเบาๆ
“อือ...”
ลมเย็บพัดแรงๆเริ่มพัดมา วันชนะได้กลิ่นฝนกำลังใกล้เข้ามา
“รีบลุกเถอะตั้ม ฝนจะมาแล้ว” วันชนะเขย่าแรงขึ้น
“อือ...” นักขัตยกมือขึ้นค้างข้างหนึ่ง ประมาณว่าจะให้พาไปหน่อย
“ตัวหนักมากๆ” วันชนะบ่น แต่ก็กึ่งลากกึ่งพยุงนักขัตไปก่อนที่ฝนจะตก และพอเข้าบ้านปุบฝนก็เทลงมาปับ
วันชนะพาร่างหนักไปวางไว้ที่โซฟาที่กลางห้องแล้วจึงทิ้งตัวลงนั่งข้างและปล่อยหอบออกมา
อากาศชื้นๆทำให้รู้สึกเหนอะหนะไปหมด วันชนะเลยเดินไปสำรวจบ้าน และค้นเสื้อผ้าที่พอจะหามาเปลี่ยนได้ ไม่นานก็ออกมาพร้อมกับเสื้อยืด กางเกงขาสั้นสองชุด ...เผื่อให้นักขัต
ใจอยากจะหาผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดตัวให้ แต่ก็หยุดความคิดนั้นเอาไว้ เพราะสายตาเย็นชาที่เขามองมาเมื่อตอนเย็นและตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน...
จึงวางเสื้อผ้านั้นไว้ที่โต๊ะข้างๆ

“อือ...” นักขัตคราง “อาบ...น้ำ...”
มือไวคว้าหมับที่ข้อมือวันชนะ
“ร้อน...” เขาพูดอย่างคนเมา คอตกพาดไหล่ตัวเอง แล้วก็ไหลลงไปนอนบนโซฟาแต่แขนกลับเหนียวเหมือนกาวดึงวันชนะเซไปด้วย
เพราะไม่ได้ทรงตัวมั่นคง เพราะไม่นึกว่าจะโดนดึงไปด้วย เลยล้มไปทาบทับนักขัตครึ่งตัวจนแก้มแนบแก้ม
จึงรู้ว่าตัวเขาร้อนกว่าปกติ ...คงเพราะฤทธิ์เหล้า
ถ้าพาไปอาบน้ำคิดว่าเขาคงรู้สึกสดชื่นขึ้นบ้างล่ะนะ คิดแล้ววันชนะก็ต้องแบกร่างหนักๆไปห้องน้ำ
“เอ้ะ เช็ดตัวก็พอมั้ง” เพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าถ้าอาบน้ำให้เขาก็ต้องถอดเสื้อผ้าออกหมดน่ะสิ
“งั้นก็เช็ดตัวอย่างเดียวแล้วกัน” วันชนะพูดกับตัวเอง
กระดุมเสื้อเชิ้ตถูกปลดออกจนถึงเม็ดสุดท้าย วันชนะท่องในใจซ้ำไปซ้ำมา ...เช็ดตัวๆ...
ผ้าชุ่มน้ำหมาดๆค่อยๆแตะไปที่อกล่ำ มือสั่น ใจสั่น ...เช็ดตัวๆ...

หลังจากเช็ดตัวให้แล้ววันชนะก็สวมเสื้อยืดที่หามาได้ให้นักขัตแล้วก็แบกร่างหนักนั้นออกมาวางไว้ที่โซฟาที่เดิม
แล้วก็ถึงเวลาอาบน้ำของตัวเอง จนเสร็จก็จะเดินขึ้นไปห้องนอนที่อยู่ชั้นบน
อดว้าวุ่นใจไม่ได้ เป็นห่วง ...ทิ้งไว้ที่นี่...ตั้มจะโดนยุงกัดมั้ยนะ
เฮ้อ...
ไม่ได้สิ จะให้สองปีที่ผ่านมาหมดความหมายไม่ได้
“ฮือ...”
นักขัตคราง มันทำให้วันชนะชะงัก
เฮ้อ...
คงไม่เป็นไรมั้ง ตั้มเมาอยู่
..
..
..
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-07-2007 17:09:46
หุหุ ตามลุ้นอย่างกระชั้นชิด  :m11:   :m11:   :m11:
ต่ออีกนิดสิ พูห์  :impress:  :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 12-07-2007 18:34:05
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: kamejag ที่ 12-07-2007 19:57:08
บางครั้งการพูดความจริงก้อทำให้เรากิดความหวาดกลัวได้หมือนกัน
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 12-07-2007 20:30:26
อ่า....  เหมือนจะเข้าด้ายเข้าเข็ม  :m10:  :m10:

ต่อๆๆๆๆๆ  อยากอ่านแย้ววว  :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 13-07-2007 12:15:29
จะมีถ่านไฟเก่าคุโชนมั้ยเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 13-07-2007 13:28:29
กี๊ซซซซซซซซซซซววว
ลุ้นโคตร สงสัยจะตกหลุมพรางนายตั้มซะแล้ว
 :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 13-07-2007 16:40:08

...........ถ่านไฟเก่ายังครุ....รอวันที่มันจะลุกโชน........ :undecided: :undecided:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 13-07-2007 18:21:29
อาจจะถึงเวลาของความจริงที่จะเปิดเผยก้อได้นะ  ต้องแยกจากกันทั้งที่ยังรักมันทรมานมากนะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 13-07-2007 22:04:48
คราวหน้าลงเยอะๆเลยนะคับ

ยังไม่จุใจเลย

อยากอ่านเยอะๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 14-07-2007 01:09:51
 :m1: :m1: ตามอ่านทันแล้ววววว
ลุ้นโคตรๆ  จะเป็นยังไงต่อไป  จะกลับมารักกันเหมือนเดิมมั๊ย?  :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอน$
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 14-07-2007 12:14:42
..
..
เตียงกว้างพอที่คนสองคนจะนอนได้สบายถูกกั้นกลางด้วยหมอนข้าง วันชนะนอนหันหลังให้หมอนข้าง อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นที่หามาได้ ส่วนนักขัตท่อนบนเป็นเสื้อยืดส่วนด้านล่างเป็นกางเกงยีนตัวเดิม กลิ่นเหล้ายังปนอยู่ในลมหายใจ
เสียงฝนยังกระหน่ำเกรี้ยวกราด แล้วเสียงโทรศัพท์ของวันชนะก็ดังขึ้น
“ครับพี่ ...ไม่เป็นไรครับ ...ฝนตกหนักเลยครับ ...วินกลับเองได้ครับ ...คงเป็นพรุ่งนี้ ...ครับ ...สวัสดีครับ”
วางสายเสร็จ วันชนะก็เอื้อมมือวางโทรศัพท์เอาไว้เหนือหมอน

“ครับ วินกลับเองได้ครับ” เสียงดังจากข้างหลัง น้ำเสียงกระแนะกระแหน
วันชนะสะดุ้ง หันมาก็เจอนักขัตนอนตะแคงเอามือดันหัวไว้
“น่าอิจฉาเสียจริงนะ คนมีความรัก”
“ตื่นตั้งแต่เมื่อไร”
“ทำไม กลัวคนอื่นได้ยินที่คุยกันหรือไง”
“...” วันชนะไม่พูดอะไร หันหลังกลับ
นักขัตขัดใจที่โดนหันหลังให้ผสมกับยังเมาๆอยู่ เลยกระชากตัววันชนะให้หันมาคุยกัน
“โอ้ย!” วันชนะเจ็บ
“ทำไม ไอ้ภัทรมันดีมากนักใช่ม่ะ”
วันชนะเม้มปาก “อย่างน้อยพี่ภัทรก็ไม่เคยใช้กำลัง” วันชนะสะบัดตัวหลุดรีบลุกขึ้นยืน
ได้ยินอย่างนั้นยิ่งฉุนหนัก
“นั่นจะไปไหน” นักขัตพูดเสียงดังราวตวาด
“จะไปนอนข้างนอก” วันชนะพูดทั้งยังหันหลังให้
คนตัวใหญ่กว่าตามมาประชิดตัวแต่ตอนไหนไม่รู้ วงแขนแข็งแรงจับวันชนะโยนไปบนเตียง
วันชนะเม้มปากแน่น คนตรงหน้าเขาไม่ใช่ตั้มที่เคยรู้จัก ...คนที่อบอุ่น
แล้วร่างหนาก็ตามมาทาบทับ
“หยุดนะ” วันชนะพยายามดันเขาออก แต่ร่างนั้นไม่เขยื้อนเลย ริมฝีปากร้อนๆพรมไปทั่วแก้มทั่วซอกคอ
“ยะ...หยุด...” เสียงเริ่มหายไปในลำคอ
เสื้อยืดถูกนักขัตดึงออกอย่างรวดเร็ว รวมถึงกางเกงขาสั้นนั้นด้วย ตอนนี้มันหายไปอยู่ที่ไหนสักแห่งในห้องนี้
“รักไอ้ภัทรมากใช่มั้ย” นักขัตว่าพลางปากดูดที่ใบหูของวันชนะ
“คืนนี้แหล่ะวิน ตั้มจะทบทวนรสชาติเก่าๆให้”
ตัวเย็นๆถูกร่างร้อนๆของนักขัตทาบทับ ผิวหนังทุกส่วนราวจะกลมกลืนสัมผัสกันไปหมด
เรี่ยวแรงที่เคยมีหายไปหมดสิ้น ...อาจเป็นเพราะวันชนะเองก็ต้องการ
ในใจอยากกอดเขาอยู่ตลอดเวลา
ไม่นาน จากที่ดิ้นรนขัดขืน ...สองมือประสานกันแน่น
ร่างกายสุขสมแต่ในใจกลับร้าวราน

ภายในห้องสลัวด้วยแสงไฟจากเสาไฟฟ้าที่ส่องลอดเข้ามา
สองร่างเปลือยเปล่านอนบนเตียง วันชนะหันหลังให้นักขัต น้ำตาไหลเปียกหมอน แต่เขาไม่สะอื้น ...จะให้เขารู้ไม่ได้หรอก ว่าเราร้องไห้
แสงไฟวาบขึ้น กลิ่นบุหรี่โชยมา
นักขัตสูบบุหรี่
วันชนะหันไปมองใครสักคนที่เขาไม่รู้จัก ใบหน้าภายใต้แสงสลัวนั้นเย็นชา สายตาคมกริบที่มองมา ควันบุหรี่ที่พ่นออกมา เคราจางๆบนใบหน้า
...เขาคนนี้ไม่ใช่นักขัตในอดีตเสียแล้ว
“ก็เท่านี้แหล่ะ เป็นไงล่ะ ของตั้มยังโดนใจอยู่รึเปล่า” เขาพูดเย็นชา “คงหลับสบายแล้วล่ะมั้ง ไปอาบน้ำก่อนล่ะ เหนียวตัวไปหมด อุตส่าห์ให้ช่วยอาบให้หน่อย” พูดจบเขาก็ออกจากห้องไป
...เจ็บปวดเหลือเกิน... เขาแกล้งเมา
...

ไม่นานนักเขาก็กลับเข้ามา นักขัตใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น
วันชนะเองก็เอามาใส่แล้วเหมือนกัน
ยังนอนตะแคงหันหลังให้
รู้สึกได้ว่าเตียงยุบลงไป
...
ฟ้าแลบทำให้ในห้องสว่างวาบ...สว่างมาก แล้วฟ้าก็ผ่าแรงมาก วันชนะตัวงอเพราะกลัวเสียงฟ้าผ่า
แสงสว่างวาบเข้ามาอีกครั้ง
วันชนะงอตัวเอามือปิดหู
แล้วหลังก็สัมผัสกับอกอุ่นๆ
“ตั้มขอโทษ” น้ำเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยขึ้นข้างๆหู เพียงเบาๆ แต่กลับกลบเสียงฟ้าฝ่าไปเสียหมด
“คืนนี้ตั้มขอกอดวินอีกสักครั้งได้มั้ย ...ถึงแม้วินจะไม่ได้รักตั้มแล้ว” น้ำเสียงเจ็บปวด
แต่คนฟังเจ็บปวดเสียยิ่งกว่า
วงแขนอบอุ่น ...ที่โหยหากลับมาหาวันชนะอีกครั้ง
อยากเหลือเกิน ...อยากหันไปกอดตอบ
แต่ก็ห้ามตัวเองให้อยู่นิ่งๆเอาไว้
...ผมรักคุณนะตั้ม ผมยังรักคุณ...
วันชนะได้เพียงแต่นึก
…………………………………..

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 14-07-2007 16:55:19
ถึงจะเป็นการกลับมาเริ่มต้นที่ไม่ดีนัก แต่ก็หวังลึกๆว่าทั้งสองคนจะกลับมาเข้าใจจกันอีก

แต่กว่าจะถึงจุดนั้น คงต้องรบรากันอีกเยอะแน่ๆเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-07-2007 03:34:54
รอวันฟ้าหลงฝน  :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 15-07-2007 21:03:19
ทำไมต้องทนเจ็บปวดล่ะวินพอได้แล้วนะ บอกความจริงกับตั้มไปเถอะนะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: theera ที่ 15-07-2007 21:06:35
ขอบคุณคับ :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 16-07-2007 16:43:37
 :serius2:  ขัดใจอย่างแรงง  ลุ่นให้คืนดีกานนน

คุณพ่อคุณแม่จะรู้มั้ยนะ ว่าได้ทำให้ลูกไม่มีความสุขมานานแค่ไหนแล้ว  เฮ้ออออ.... :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 16-07-2007 18:40:40
มีอะไรทำไมไม่ร่วมกันแก้ปัญหาน้อ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
แล้วจะมีคนรักไว้ทำไม
 :seng2ped: :seng2ped:

เอาไปคนละบวกทั้งคนเขียนและคนโพส
เป็นไปอย่างที่ลุ้น
 :m11: :m11: :m11:
คนเขียนไม่ต้องเสียกำลังใจไปครับ
คนคอมเม้นต์ก็แปลว่าเราเขียนดี เขาเลยอิน
แต่ก็อย่าให้มากไปนะครับ
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-07-2007 14:47:54

18 เยื่อใย

เสียงไก่ขันตอนเช้าคงไม่มีให้ได้ยินในกรุงเทพฯ วันชนะรู้สึกตัวก็พบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของนักขัต อากาศเย็นๆยามเช้าหลังพายุฝนเมื่อคืนผ่านไปสดชื่นเข้ามาถึงข้างใน แต่แผ่นหลังเขาปะทะอยู่กับอกอุ่นของนักขัต
ค่อยๆขยับตัวแต่ก็สะเทือนถึงคนข้างหลังจนได้ เพราะวงแขนนั้นกระชับเข้าเบาๆ วันชนะจึงหยุดนิ่ง
“อย่าเพิ่งไปไหนเลยนะ” เสียงงัวเงียดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับแนบแก้มลงมาที่ซอกคอวันชนะ “ขออยู่ต่อแบบนี้อีกสักพักนะ” เขายกขาขึ้นมาเกยที่ต้นขาของวันชนะ
สักพักเสียงถอนหายใจก็ดังที่แถวต้นคอ
“คิดถึงสมัยก่อน...”
วันชนะยังคงเก็บคำพูดที่พร้อมจะพรั่งพรูลงคอไปหมดสิ้น ...ผมรักคุณเสมอ ตั้ม...
เสียงถอนหายใจ...ทดท้อ...ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเขาคลายอ้อมกอดนั้น ปล่อยวันชนะให้เป็นอิสระ
“เมื่อคืน...ขอโทษนะ” เขาพูดเบาๆ “แต่...ตั้มมีความสุขมาก ...กลางคืนน่าจะมีสักห้าสิบชั่วโมงนะ”
วันชนะแทบอยากจะร้องไห้ลงต่อหน้าต่อตาตอนนั้นเลย แต่ก็หักใจกลืนก้อนสะอื้นลงคอไปได้
จนร่างหนานั้นเดินผ่านออกไปน้ำตาจึงล้นออกมา

ใบไม้ชุ่มหยดน้ำค้าง พื้นดินยังเปียกแฉะ แต่ทางเดินที่ลาดซีเมนต์ยังสะอาด วันชนะเดินออกมานอกบ้านเตรียมตัวจะกลับเข้ากรุงเทพฯ
“วินๆ มาใส่บาตรกัน” วุฒิตะโกนเรียกจากหน้าบ้าน
วันชนะรีบตามเข้าไปใกล้ “จะดีเหรอ เจ้าบ่าวเจ้าสาวใส่กันสองคนก็พอล่ะมั้ง”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อรกับพี่วุฒิใส่ไปแล้ว ยังมีเตรียมเหลือไว้อีกนะคะ” ภรรยาของวุฒิพูด
“ตั้ม” วุฒิเรียกคนที่เดินตามมาข้างหลังวันชนะ “ใส่บาตรกัน”
“อืม”
หลังจากพระออกบิณฑบาตต่อ วันชนะก็กล่าวลา
“จะกลับแล้วล่ะวุฒิ”
“ขอโทษทีนะวิน เมื่อวานไม่ค่อยได้ไปอยู่คุยด้วย” วุฒิพูดมือโอบเอวภรรยา
“ไม่เป็นไร แต่งงานก็ต้องอยู่กับเจ้าสาวสิ จะมาอยู่กับเพื่อนได้ไงล่ะ” วันชนะแซว
“ตอนนี้วินยังเรียนป.โท อยู่รึเปล่า” วุฒิถาม นักขัตเองก็เงียบคอยเก็บข้อมูลไปด้วย
“อืม อีกสามเดือนก็คิดว่าจะจบแล้วล่ะ” วันชนะตอบ
“เอาใจช่วยๆ รับปริญญาเรียกด้วยล่ะ” วุฒิพูดจบก็หันไปตบไหล่นักขัต “มึงล่ะ กลับมาจากอังกฤษตั้งแต่เมื่อไร ไม่เห็นบอกกูเลยนะ ถ้าไอ้เอ็กส์ไม่บอกก็ไม่ได้ชวนแล้วนะเนี่ย ขาดเงินสมทบไปหนึ่งซองเลยนะเว้ย”
“ก็เพิ่งกลับมาได้ไม่ถึงเดือนเลย” นักขัตว่า
วันชนะเงียบทำหน้าเฉย แต่ก็คอยเก็บข้อมูลเช่นกัน

บางอย่างที่ไม่เคยรู้ก็ได้ทราบคร่าวๆจากบทสนทนาสั้นก่อนจากนั้น
คงหลังจาก...เลิกกัน...ตอนนั้น เป็นตอนที่เรียนจบพอดี
ตอนนั้นวันชนะเลือกที่จะตัดทุกอย่างที่เป็นนักขัตออกไปทั้งหมด รวมถึงเลือกที่จะไม่รับรู้ข่าวสารใดๆ
นักขัตไปเรียนต่ออังกฤษ
บังเอิญเสียจริง กลับมาก็ได้เจอกันอีก... ใจหนึ่งมีความยินดีเกิดขึ้น แต่เพียงวูบเดียวอีกใจหนึ่งก็หม่นหมองลง
วันนี้ได้พบแล้วอย่างไรล่ะ...? มันไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“แล้ววินจะกลับยังไง” วุฒิถาม
“รถไฟน่ะ” วันชนะตอบ
“เดี๋ยววุฒิเอารถไปส่งที่สถานีนะ” ว่าจบวุฒิก็วิ่งปรู๊ดไปสตาร์ทรถกระบะที่จอดข้างบ้าน
“อ้าว...” วันชนะจะห้ามก็ไม่ทัน
อรเลยได้แต่ยิ้มกับพฤติกรรมสามี “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เอารถไปน่าจะสะดวกกว่านะ พี่ตั้มล่ะคะ จะไปยังไง” หล่อนถาม
“รถไฟครับ” นักขัตตอบ

หลังจากนั่งรถกระบะมาถึงสถานีวันชนะกล่าวขอบใจวุฒิ ร่ำลาเสร็จก็เดินไปซื้อตั๋วก่อนจะมานั่งรอรถไฟที่ม้านั่ง
สักสองนาทีร่างหนาก็ตามมานั่งข้างๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
นมกล่องหนึ่งวางตรงที่ว่างระหว่างคนสองคน “ยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่” นักขัตพูด ทั้งหน้าตรงมองวิวข้างหน้า

วันชนะกับนักขัตนั่งหันหน้าเข้าหากันต่างเหม่อมองท้องฟ้าสีครามกับต้นไม้สีเขียวที่วิ่งผ่านตาไปอย่างรวดเร็ว
...
...
“ที่ผ่านมาสบายดีไหม” แทบจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่เมื่อวานที่วันชนะตั้งใจเอ่ยปากพูดกับเขา
“...”
วันชนะหยุดมองเมฆขาว หันมามองคนตรงหน้า ไหนๆเขาก็อยู่ตรงนี้แล้ว อีกไม่ถึงชั่วโมงเมื่อรถไฟถึงกรุงเทพฯ อาจจะจากกันอีกครั้ง อาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลย... คงไม่เสียหายถ้าจะคุยกันบ้าง
“ไม่” นักขัตว่า น้ำเสียงออกจะห้วนแต่ปนไปด้วยตัดพ้อ
นักขัตเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ดูล่ำขึ้น ใบหน้าดูเข้มขึ้น และสายตาที่ออกจะเย็นชา ที่ดูเหมือนเจ็บปวดตลอดเวลานั้นทำให้วันชนะไม่กล้าสบตาตรงๆ
“คุณพ่อ คุณแม่สบายดีมั้ย” วันชนะหลุบตาถาม
“อืม ท่านสบายดี” นักขัตตอบด้วยสีหน้าเฉยเมย สายตายังเหม่อออกไปข้างนอก
บทสนทนาดูจะหมดลงแต่ไม่นานนักขัตก็เป็นฝ่ายพูดบ้าง
“เรียนป. โท อยู่เหรอ” สายตาชำเลืองมองวันชนะ
“อืม ที่มหา’ลัยเราแหล่ะ” เขาหมายถึงมหาวิทยาลัยที่เคยเรียนด้วยกันตอนปริญญาตรี
“เขา...ชวนไปถ่ายหนังสือเหรอ” หมายถึงภัทร
วันชนะหลุดยิ้มอายๆออกมา “ตอนนั้นว่างๆน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
ยิ้มอายๆของวันชนะคือเขินที่รูปตัวเองไปอยู่บนปกนิตยสารชื่อดัง แต่ยิ้มอายๆนั้นถูกนักขัตตีความหมายไปอีกทาง ...ว่าพอพูดถึงภัทร วันชนะก็ยิ้มออก...
ฮึ...คนถามพลอยหงุดหงิด
“แล้ว...จะกลับไปอยู่เชียงใหม่รึเปล่า” วันชนะถาม
นักขัตชำเลืองมองวันชนะอีกครั้งก่อนพูด “ยังหรอก ว่าจะหาประสบการณ์ หางานทำในกรุงเทพฯสักพัก”
“แล้ว...เรียนจบแล้ว จะทำอะไร” นักขัตถามต่อ
“ยังไม่รู้เลย เอาไว้ผ่านสามเดือนนี้ไปก่อนค่อยคิดกันอีกที”
“อืม”
“รถไฟขบวนนี้น่าจะนานอีกสักหน่อยนะ” นักขัตพูดเหมือนเมื่อเช้าเมื่อรถไฟชะลอเข้าจอดที่ชานชาลา
วันชนะเดินลงรถไฟมาก่อน รอท่าอยู่ที่หน้าประตู เวลาแห่งการจากลามาถึง...อีกครั้ง
หากแต่รออยู่นานเกินปกติก็ไม่เห็นมีนักขัตตามมา

...ท่ามกลางผู้คนขวักไขว่ วันชนะเห็นแต่หลังของร่างสูงใหญ่เดินจากไป...คนละทาง...
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 17-07-2007 16:22:47

............จากนี้ เธอก็คงไปดี ก็ขอให้เธอจงสุขสบาย

             เธอจงเดินไปตามความฝันของเธอที่เธอตั้งใจ

             แม้ฉันต้องเสียใจ แต่ฉันจะรับไว้เอง............... :m8: :m8:
             
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 17-07-2007 19:32:48
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 17-07-2007 19:44:36
วินวิ่งตามไปกอดด้านหลังตั้มเต็มแรง
"อย่า อย่าทิ้งวินไปอีกเลย"
 :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2:

น้ำตาเป็นสายเลือด
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 17-07-2007 19:49:51
ทำไมเรื่องต้องเศร้าอย่างนี้ด้วยนะ พูดคุยกันให้เข้าใจแล้วถ้ารักกันจริง  ๆ
ก็ค่อยปรึกษาหาทางกันมิดีกว่าเหรอ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 17-07-2007 21:12:43
เจ็บปวดมากๆทำไมต้องเป็นแบบนี้
ด้วยเมื่อไหร่ตั้มถึงจะรู้ความ
จริง
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 17-07-2007 22:27:25
 :เฮ้อ: ทำไมเศร้าจังเรย  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 18-07-2007 00:30:52
โห ต่างคนต่างเข้าใจผิดกัน มันเศร้าคับเพื่อนๆ เศร้าจิงๆ :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 18-07-2007 14:54:34
ขัดใจจัง  :serius2:  แต่ก็เข้าในสถานการณ์  :undecided:


คู่กันแล้วยังไงก็ไม่แคล้วกันหรอก  ที่ผ่านมาอาจเป็นเครื่องทดสอบว่าทั้งสองมีใจต่อกันยังไง

พอจากกันไปใช่ว่าต่างจะไปมีคนอื่น แต่กลับยังมีอีกฝ่ายในใจตลอด

รอแค่เวลาที่เหมาะสม เค้าคงลิขิตให้กลับมาคู่กัน  :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 22-07-2007 20:07:46
ดันก่อนอึ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 23-07-2007 14:00:58
^
^
^
รีข้างบนนี่ สองแง่สองง่ามป่ะ เหอๆๆ หรือว่าผมคิดมากไปเอง 555 :m12:+ 
มาดันกระทู้ แล้วจะไปอึ๊บๆๆ  หุหุ คิดไปได้นะเรา เหอๆๆ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 23-07-2007 14:02:43
คุณพูห์ ลืมเรื่องนี้แล้วเหรอ รออยู่นะ  :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 23-07-2007 14:59:21
คุณพูห์ ลืมเรื่องนี้แล้วเหรอ รออยู่นะ  :m11:

ไม่ได้ลืมครับ

แต่เจ้าของเรื่องยังไม่มาต่อคร้าบบบ

รอต่อปายยยยย

 :m7: :m7: :m7: :m7: :m7:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 23-07-2007 15:15:37
 o6  หงิกเลย
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: tor13 ที่ 23-07-2007 16:38:52
 :m15:อ่านแล้วเจ็ดปวดใจ กับความรักของคนทั้งสองมาก :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 23-07-2007 16:48:12
รอ ร๊อ รอค่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 23-07-2007 23:44:04
ว่าจะแต่งต่อแล้วน้า
โดนไข้หวัดหญ่ายเล่นงานอ่า
ไม่แน่อ่ะ หมอเช็กเลือดดูอาจเป็นไข้เลือดออกด้วยอ่ะ
ปวดหัว ตัวร้อน ไอ เสมหะ เจ็บคอ น้ำมูกด้วย
ครบเลย

แง แง T_T
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 24-07-2007 10:34:15
ว่าจะแต่งต่อแล้วน้า
โดนไข้หวัดหญ่ายเล่นงานอ่า
ไม่แน่อ่ะ หมอเช็กเลือดดูอาจเป็นไข้เลือดออกด้วยอ่ะ
ปวดหัว ตัวร้อน ไอ เสมหะ เจ็บคอ น้ำมูกด้วย
ครบเลย

แง แง T_T

แงแง

สงสารคนแต่ง

เป็นกำลังใจให้นะครับ

 :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 24-07-2007 10:40:49
หายไวๆนะคับ รักษาตัวให้หายสนิทก่อนค่อยมาต่อก็ได้นะคับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 24-07-2007 12:07:51

..............หายไวๆนะคับ...........

..............รออยู่น้า........... :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 24-07-2007 13:18:03
หายไวๆนะคร๊าบบบ   รออยุ่น๊า :m13:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 24-07-2007 13:29:57
ขอให้หายป่วยเร็วๆกลับมามีสุขภาพแข็งแรงเหมือนเดิมนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 27-07-2007 12:47:39
ดันค่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: komkom12 ที่ 28-07-2007 22:18:32
ช่วยเขียนต่อให้จบโดยแฮปปี้หน่อยได้ไหมครับ สงสารที่วันชนะถูกนักขัตเข้าใจผิด  และสงสารนักขัติ  ต้องเสียคนก็เสียใจจนเปลี่ยนเป็นละคนละคนและยังรักวันชนะอยู่อย่างมากมาย  เอาประมาณว่านักขัติเสียใจมากกลับไปที่บ้านที่เชียงใหม่  พ่อแม่ไม่สบายใจเห็นเขามีความทุกข์ เลยพูดกันว่าเป็นความผิดของพวกเค้าลูกถึงเป็นแบบนี้ เป็นเพราะไปขอร้องให้วันชนะเลิกกับนักขัติ  นักขัติได้ยินที่พ่อแม่คุยกัน เค้าเสียใจที่เข้าใจวันชนะผิด  น้ำตาลูกผู้ชายใหล  ตอนนี้เค้าคิดถึงวันชนะอย่างที่สุด เค้าสัญญาจะไม่ปล่อยให้วันชนะต้องจากเค้าไปอีก เค้าเปลี่ยนตัวเองเลิกสูบบุรี่ และรักษาตัวเอง  เพื่อวันชนะผู้ชายที่เค้ารักตลอดไป นะครับโปรดเถอะช่วยให้พวกเค้าได้สมหวัง   เกย์ไม่สมควรจะให้ป็นบุคคลที่เสียใจเสมอโดยเฉพาะเกย์ที่มั่นคงในรักอย่างนักขัติกับวันชนะ......................ช่วยพวกเขาด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 29-07-2007 17:13:31
ดันๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 29-07-2007 17:18:45
 :o จากกันทั้งที่ยังรัก  :o12:  :o12:  :o12:
ปล.คนแต่งหายไวไวน้า  :m13:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 31-07-2007 18:23:08
ดันๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Minasan ที่ 31-07-2007 18:41:31



ขอให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย,,


หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 01-08-2007 12:59:11
 :o11: ยังไม่มาต่อ -*-
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 02-08-2007 19:59:39
ยังไม่มาแง้วๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 02-08-2007 21:25:31
อ่านเรื่องทีไรแล้วเศร้าทุกทีเลย

 o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-08-2007 01:49:05
ใกล้คลอดแล้ว

รอคนแต่งอยู่

 :a2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 04-08-2007 02:10:50
เรียบโร้ยแร้ว รีบไปเอามาลงเยย  :a3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 04-08-2007 02:37:11
ช่วยลงหน่อยครับ
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 04-08-2007 03:50:42
รอจนลืมแย้วนะ  :serius2:  :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: bbboy ที่ 04-08-2007 11:47:48
 :m5: :m5: มาต่อไวๆนะครับ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-08-2007 11:29:58
เรียบโร้ยแร้ว รีบไปเอามาลงเยย  :a3:

เจ้าของเรื่องมาเองเลย

ชิส์

------------------------------------

    วิทยานิพนธ์ดึงความเศร้าและความอ้างว้างออกไปจากชีวิตของวันชนะเสียหมดสิ้น กาลเวลาเหมือนจะผันไปเร็วขึ้น เพราะเพียงชั่วแวบเดียววันชนะก็จบทันวันรับปริญญา
    ชีวิตอีกส่วนหนึ่งที่ขะมักเขม้นกับการเรียน ในที่สุดก็สำเร็จ
    ชีวิตที่ราบเรียบ...เหมือนที่มันเคยเป็นมา

    “ครับ” วันชนะรับโทรศัพท์มือถือ
    “ว่าไงว่าที่มหาบัณฑิต ค่าขนมหมดรึยัง” เสียงภัทรลอยมาตามสาย
    “เหวอ ไม่เอาแล้วพี่ ไปไหนมาไหนมีแต่สายตาแปลกๆ” วันชนะทำเสียงขยาด
    “อิ อิ ว่าแต่มีสายเข้ามาหาที่กองบ.ก.เยอะมากๆเลยนะ อยากได้ตัววินไปถ่ายให้หนังสือเขาบ้าง”
    “เหอ เหอ” วันชนะทำเสียงผี
    “แล้วเรารับปริญญาวันไหน”
    “ศุกร์หน้าครับพี่”
    “...ไม่อยากได้ค่าขนมเพิ่มอีกแน่เหรอ”
    เดาได้ไม่ยากว่าวันงานคงมีภัทรคนหนึ่งล่ะ

    แล้ววันงานก็มาถึง วันชนะตื่นตั้งแต่ตีสี่เพื่อเตรียมตัวกับวันสำคัญของตัวเอง...พร้อมรับแสงอาทิตย์ในวันแห่งความสำเร็จ
    “ตื่นแล้วหรือลูก” เสียงทุ้มเรียกขึ้น ผู้เป็นพ่อตื่นก่อนเสียอีก “ไปอาบน้ำเสียก่อนเถอะ”
    “ครับพ่อ” วันชนะขยี้ตาพลางลุกเดินไปห้องน้ำ
    พอออกมาก็เห็นพ่อเตรียมตัวเสร็จแล้ว พ่อนั่งรอวันชนะอยู่กับรูปถ่ายของแม่ที่ปกติจะวางอยู่ที่ข้างเตียง วันชนะยิ้ม...แม่ครับ ลูกจบปริญญาโทแล้วครับ

    หกโมงเช้าผู้คนยังบางตาแต่ก็เริ่มทยอยหนาแน่นขึ้นในหนึ่งชั่วโมงต่อมา ก่อนจะถึงสิบโมงเป็นเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวภาพแห่งความสำเร็จและความทรงจำกับสถานที่ อาจารย์ และผองเพื่อน เสียงร้องเพลงมหาวิทยาลัย เพลงประจำคณะ และเพลงต่างๆ ดังขึ้นอย่างครึกครื้น บัณฑิตบางคนอยู่กลางวงล้อมของนิสิตรุ่นน้องที่ร้องเพลงให้ แล้วก็ต้องควักกระเป๋าจ่ายตามธรรมเนียมเพื่อนนำเข้าสู่กองกลางนำไปพัฒนาภาควิชาตนเอง

    วันชนะถ่ายรูปกับพ่อและญาติๆที่ตามมาด้วยสอง-สามคน แล้วก็ขอปลีกตัวไปถ่ายรูปกับเพื่อนๆมหาบัณฑิตด้วยกัน
    “ฮัลโหล อยู่ไหนกันแล้วเนี่ย” วันชนะผ่านมือถือ
    “ถึงแล้วๆ” ปลายสายตอบกลับมา “เห็นหลังแกแล้วๆ”
    หันหลังไปก็เจอก้อย อาร์ท แจน ยืนอยู่หร้อมช่อดอกไม้คนละหลายช่อ
    “เอ้า ของแก ดีใจด้วยนะ” ก้อยพูดก่อน จากนั้นแจนกับอาร์ทก็ทยอยเอาดอกไม้มาให้
    “ขอบใจมากๆว่ะพวกแก” วันชนะยิ้มปากกว้าง “ตอนเย็นไปกินไรกันด้วยนะ เดี๋ยวเลี้ยงเอง”
    “อ้ะ เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้วจ้ะ ไม่พลาดๆ” ก้อยทำหน้าทะเล้น
    “ว่าแต่แกเหอะ เป็นไงมั่งล่ะ ไปเป็นนักวิทยาศาสตร์ในกรมทหารน่ะ” วันชนะถาม
    “ก็ดีอ่ะแก แต่ฉันคิดไว้ว่าจะเรียนต่อโทเร็วๆนี้แหล่ะ ที่กรมมีทุนมาให้” หลังจากจบปริญญาตรีแล้วก้อยลองไปทำงานดูก่อน
    “อาร์ทล่ะ เป็นไงบ้าง” อาร์ทเอนทรานซ์ใหม่ตอนปีสองจนได้เข้าไปเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งแถวรังสิต “ไม่เจอกันนานเลยนะ”

    “ก็ดีนะ เรียนหนักดี” อาร์ทพูดปนหัวเราะ แต่บุคลิกดูขรึมขึ้นคงเพราะแพทย์เรียนหนักจริงๆ และคงเพราะวัยที่โตขึ้นด้วย
    “แจนล่ะ จบยัง” วันชนะหันไปถามเพื่อนที่หันเหไปเรียนสายบริหาร
    “จ้ะ รับปริญญาต้นปีหน้า วินไปด้วยนะ” กรรณิการ์ถือโอกาสเชิญเพื่อนทุกคนไปในตัว
    เฮฮากันอยู่สักพักทั้งสามคนก็ขอตัวไปมอบช่อดอกไม้ให้เพื่อนคนอื่นๆ ทิ้งวันชนะอยู่คนเดียว แต่ยังไม่ทันจะเดินไปนั่นมานี่ก็มีนิสิตปีหนึ่งมาล้อมวงแล้วก็ร้องเพลงบูมของคณะอย่างไม่กลัวเจ็บคอ


    “congratulations congratulations …” น้องๆร้องเพลงอย่างสนุกสนานแต่วันชนะกลับไม่ได้สนใจเพราะการมาของชายคนหนึ่งกับลิลลี่ช่อใหญ่ที่ยืนยิ้มดูเขาอยู่นอกวง
    “...จบแล้วก็ขอตัง จบแล้วก็ขอตัง...” วันชนะรู้ตัวอีกทีเมื่อรุ่นน้องบีบวงแคบเข้ามาพร้อมแบมือตามท่าเต้นของเพลง
    เพลงจบแล้วน้องๆก็พูดแสดงความยินดี ขณะที่วันชนะพะรุงพะรังควักกระเป๋าตัง
    “มาช่วยถือก่อน” คนเพิ่งมารีบเข้ามาช่วยถือช่อดอกไม้ที่ถืออยู่เต็มมือ
    “ขอบคุณครับพี่” วันชนะกล่าวขอบคุณ
    พอหย่อนธนบัตรลงกล่องที่รุ่นน้องยื่นมาตรงหน้าเสร็จ น้องๆที่ทำหน้าที่หารายได้ก็จากไปล้อมคนอื่นต่อ
    “ยินดีด้วยครับมหาบัณฑิต” ภัทรยื่นช่อลิลลี่สีขาวแซมด้วยกุหลาบสีแดงที่ถูกจัดเข้าช่ออย่างสวยหรูให้วันชนะ
    “ขอบคุณครับ” วันชนะยิ้มรับ
    สายตาหลายคู่จับจ้องมาทางภัทร คงเป็นเรื่องธรรมดาที่ชายหนุ่มหน้าตาท่าทางดีจะเป็นที่สนใจ เพราะเมื่อกี้ตอนเขามาแม้แต่วันชนะเองยังอดชะงักในความหล่อของเขาไม่ได้ แถมยังได้ยินเสียงใจตัวเองเต้นผิดจังหวะทั้งๆที่มีเสียงร้องเพลงดังกลบบริเวณของน้องปีหนึ่งอีกด้วย
    “ถ่ายรูปกันหน่อยไหม” ภัทรเอ่ย
    “ครับ”
    “อ้าว น้องบอยหายไปไหนแล้ว” วันชนะชะเง้อคอมองหารุ่นน้องที่คณะที่ไหว้วานให้มาเป็นตากล้องให้ สงสัยจะแว่บไปถ่ายรูปกับคนอื่น
    “เราถ่ายกันเองก็ได้วิน” ภัทรเอากล้องถ่ายรูปมาด้วย
    “มาใกล้ๆสิ” ภัทรโอบไหล่วันชนะ ดึงร่างมาชิดกัน มืออีกข้างยกกล้องถ่ายรูปหันเข้าหาตัวเอง “เอาหน้ามาใกล้ๆอีกหน่อยสิวิน เดี๋ยวถ่ายได้ครึ่งหน้าไม่รู้นะ” มือที่โอบไหล่ยกขึ้นมาแตะที่ข้างศีรษะดันให้เข้าไปแนบกับแก้มเขา
    “เอ้า ยิ้ม”
    ระหว่างที่ทั้งคู่ยืนหน้าติดกันค้างท่าถ่ายรูป น้องบอยก็กลับมาก็กดชัตเตอร์ไปเรื่อยๆ
    “ขอโทษทีครับพี่วิน บอยไปหาน้ำดื่มมาครับ”
    “ไม่เป็นไรบอย นี่ก็ได้เวลาไปตั้งขบวนแล้วล่ะ” วันชนะพูด แล้วหันไปพูดกับภัทร “งั้นเดี๋ยวเอาดอกไม้ไปฝากไว้ที่พ่อวินก่อนดีกว่านะ”
    “อืม” ภัทรเดินตาม
    หลังจากแนะนำภัทรให้พ่อรู้จัก วันชนะอดกลัวไม่ได้ว่าพ่อจะสงสัยเพราะบุคลิกของภัทรออกจะเป็นผู้ใหญ่กว่าเขามาก แต่ก็บอกพ่อไปว่าเป็นเพื่อนรุ่นพี่ เห็นพ่อทำหน้าปกติก็คิดว่าคงไม่มีอะไรล่ะมั้ง แล้วก็เลยไปตั้งขบวนเข้าไปในหอประชุมที่เป็นสถานที่รับปริญญาบัตร


    จนเสร็จสิ้นพิธีก็ถึงเวลากลับ วันชนะบังเอิญเห็นคู่รักคู่หนึ่งเดินจับมือกันอย่างไม่อายสายตาใคร คงเป็นนิสิตปีสาม-ปีสี่เพราะทั้งคู่อยู่ในชุดนิสิตทั้งคู่
    วันชนะยิ้มเศร้าๆให้ ...อิจฉาคู่รัก อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเราคบกันอยู่นักขัตจะกล้าอย่างน้องคู่นั้นไหมนะ
    หวนคิดไปถึงงานรับปริญญาครั้งตอนป. ตรี เขาได้แต่ยิ้มให้ห่างๆโดยที่นักขัตไม่รู้ตัว เขาคงคิดว่าเราใจดำมากสินะ
    “คิดอะไรอยู่หรือลูก” พ่อถามขณะขับรถกลับ
    “เปล่าครับ วินคิดอยู่ว่าต่อไปจะทำอะไรดี”
    “ไม่ต้องคิดมากนะลูก ยังไม่มีงานก็ไม่เป็นไร หรืออยากเรียนต่อเอกไหมล่ะ”
    “วินอยากลองใช้ชีวิตเป็นคนทำงานดูบ้างน่ะพ่อ จะได้เก็บตังเองด้วย”
    “อยากได้อะไรล่ะ เดี๋ยวพ่อให้เป็นของขวัญที่วินเรียนจบ เอารถหรือคอนโดไหมลูก”
    “โหยพ่อ เอาสองอย่างเลยได้ป่ะครับ” วันชนะหัวเราะ
    “เอาจริงไหมล่ะ” พ่อทำเสียงจริงจัง
    “บ้าน่าพ่อ วินลองหาด้วยตัวเองดูก่อนดีกว่านะ ถ้ามันจำเป็นยังไงวินก็ขอยืมตังพ่อก่อนเท่านั้นล่ะครับ”


    กลับมาถึงอพาร์ทเมนต์หลังจากที่ไปกินเลี้ยงกันมา พ่อกับวันชนะก็ช่วยกันขนของขวัญกับช่อดอกไม้ขึ้นห้องถึงสามรอบกว่าจะหมด นั่งพักสักครู่วันชนะก็ลงมาส่งพ่อข้างล่าง
    “กลับดีๆนะพ่อ ที่จริงไม่เห็นต้องรีบกลับเลยนี่” วันชนะพูด
    “พ่อมีงานด่วนน่ะวิน เอาไว้วันหลังพ่อลงมาหาอีก”
    “ฝากขอบคุณน้าอ้อดด้วยนะพ่อ” วันชนะหมายถึงญาติๆที่กลับไปก่อนตั้งแต่ตอนเที่ยง
    กลับขึ้นห้องมาก็เจอกับกองของขวัญและช่อดอกไม้ ใช่ว่าจะไม่เห็นความสำคัญแต่วันชนะรู้สึกเหนื่อยเอามากๆ เลยปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นก่อน ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงจนเผลอหลับไป

    พอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาทันที ลุกไปเปิดตู้เย็นก็ทำให้คิดได้ว่าน้ำหมด เลยจะลงไปซื้อที่ร้านคุณลุงข้างล่าง
    พอเปิดประตูออกก็เจอกับช่อดอกไม้ที่ถูกจัดสวยงามในแก้วน้ำใสทรงสูงวางอยู่ตรงหน้า ของใครกันนะ แต่คิดดูแล้วเมื่อมันมาวางอยู่หน้าห้องเขาก็คงจะเป็นของใครอื่นไปไม่ได้
    มีกระดาษแผ่นเล็กๆแปะอยู่ข้างๆแก้วใสด้วย วันชนะเลยยกขึ้นมาดู

    “ยินดีด้วยนะ”

    ข้อความสั้นๆ ลายมือที่คุ้นเคย ลายมือที่ไม่มีวันลบเลือนไปจากความทรงจำ
    เขามาที่นี่เหรอ เขารู้ที่อยู่เราได้อย่างไร
    วันชนะเผยรอยยิ้ม แต่มันคงเป็นยิ้มที่ดูเศร้าที่สุดในโลก เมื่อเห็นรอยที่มุมกระดาษ กระดาษนี่มาจากสมุดฉีก เขาคงเขียนมันในแผ่นที่สองหรือสาม แต่เพราะข้อความในแผ่นก่อนหน้านี้คงจะไม่เป็นที่ต้องการคนเขียนเลยฉีกทิ้งไป แต่รอยกดยังปรากฏให้เห็นในแผ่นต่อมา
    ที่มุมกระดาษ มีรอยที่ไม่สังเกตให้ดีจะไม่เห็น

    รอยสัญลักษณ์... ∞


หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 06-08-2007 12:53:47
สุดจะบีบหัวใจทำไมนักขัตไม่ค้นหาความจริงล่ะรู้มั๊ยวันชนะเจ็บปวดคนอ่านก้อเจ็บ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 06-08-2007 13:22:08
อ่านกี่คั้งก็ยังคงเศร้าบีบใจเหลือเกินอ่ะคับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 06-08-2007 16:09:39
เมื่อไหร่จากลับมารักกันดังเดิม  :a6:  :a6:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 06-08-2007 17:03:00
เมื่อไหร่จะได้กลับมาเข้าใจกันนะ  :m21:

ปวดใจแทนจังเลยย
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 06-08-2007 21:36:31
ทำไมถึงต้องให้เจ็บปวดกันขนาดนี้ด้วยนะ :m15:
ไม่ชอบเลยอ่ะ  แต่ก็อดไม่ได้ต้องเปิดมาอ่าน
อยากรู้ว่ามันจะเจ็บถึงขั้นขาดใจมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 07-08-2007 02:19:25
นี่ยังเศร้าไม่ถึง Peak เลยนะ เหอ เหอ  :m19:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 07-08-2007 10:44:22
นี่ยังเศร้าไม่ถึง Peak เลยนะ เหอ เหอ  :m19:

พวกมาโซคี

นิยมความเจ็บปวด

 :m25: :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 07-08-2007 15:49:00
ยังจะเศร้ากว่านี้อีกเหรอ คนเขียนใจร้าย

 :o12:  :o12:  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 07-08-2007 16:45:06
จะมีเศร้ามากกว่านี้อีกเหรอนี่
ระวังคนอ่านที่เป็นโรคหัวใจ (รัก)  มาอ่านแล้วโรคหัวใจกำเริบ (เสิบสาน) นะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 07-08-2007 16:52:07

...........เอาอีก....เอาอีก......บีบหัวใจกันหั้ยตายไปเลย........ o7 o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 07-08-2007 18:52:06
โลกช่างโหดร้ายนัก
 :m17: :m17: :m17:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 10-08-2007 14:17:06
มารอค่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-08-2007 12:30:31
..
..
วันต่อมาวันชนะก็ได้รูปถ่ายวันงานที่น้องบอยเอาไปอัดมาให้
นั่งดูรูปไป ยิ้มไป หัวเราะไป ดูได้ครึ่งเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น วันชนะเลยต้องหันไปหยิบมากดรับ หน้าจอโชว์ชื่อพี่ภัทร
“ครับ”
“ไปหาไรกินกันวิน ค่าที่เมื่อวานพี่อดกินด้วย” เสียงอ้อนนิดๆลอยมาตามสาย
“ครับ ได้ครับ กี่โมงครับพี่” วันชนะตอบพลางหันมาดูรูปที่กองอยู่บนตักต่อ ดูผ่านตาไปเรื่อยๆจนมาหยุดสังเกตอยู่ที่รูปตอนที่พี่ภัทรยกกล้องขึ้นถ่ายรูปเองกับเขาสองคน น้องบอยคงกลับมาตอนนี้สินะ
องค์ประกอบหลักของรูปคือหน้าของพี่ภัทรกับวันชนะนั้นไม่ได้ดึงดูดมากกว่าตัวประกอบเล็กๆที่อยู่ข้างหลัง ตัวประกอบที่หันหลังให้
แต่ช่อดอกไม้ที่โผล่ออกมา...
วันชนะหันไปดูช่อดอกไม้ในแก้วทรงสูงที่ข้างเตียง...มันยังอยู่ดี
ช่อเดียวกัน!
วันชนะได้แต่อึ้งงันไป นักขัตตั้งใจจะมาหาเขา แต่คงเห็นเขาอยู่กับภัทรสินะ
ไม่รู้สินะ ถ้าตอนนี้วันชนะรู้ว่านักขัตอยู่ที่ไหนเขาอยากจะวิ่งไปหาเขา ไปกอดเขา จูบเขาให้มันสมกับที่ห่างเหินกันมานาน สองปีมันนานเหมือนชั่วกัลป์ ไม่อยากจะสนใจใครอีกแล้วใครจะว่าอย่างไรก็ช่างเถิด
...นั่นสินะ...ถ้าตอนนี้เขารู้ว่านักขัตอยู่ที่ไหน เขาอาจจะทำแบบที่ใจคิด
แต่นี่ไม่รู้...
ดีแล้วล่ะ...ให้เป็นแบบนี้ ให้มันเจ็บปวดแบบนี้แหล่ะ ถ้าเราทำแบบนั้นแล้วที่เราทำมาตลอดมันจะมีความหมายอะไรล่ะ
ภาพทรงจำเมื่อสองปีก่อน ตอนที่พ่อของนักขัตคุยด้วยผ่านเข้ามาในสมอง
“วินๆ”
เสียงเรียกที่ปลายสายทำให้วันชนะหลุดจากภวังค์
“คะ ครับ...อ้ะ พี่ภัทร มีสายซ้อนน่ะครับ เอาไว้เจอกันเย็นนี้นะครับ” วันชนะชิงตัดบทโดยไม่ฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรก็กดวางสาย
...ช่อดอกไม้ที่ยังสวยสดกำลังมองดูเจ้าของมันร้องไห้แทบขาดใจ...

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 15-08-2007 16:14:26
ไมมันเศร้าเยี่ยงนี้  :o12:

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 15-08-2007 20:09:04
แง้ๆๆๆๆเศร้าและสั้นอ่ะ  :a6:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 17-08-2007 13:00:08
 :a14: ดัน
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 17-08-2007 13:15:02

..........ก็แค่อยากเจอ........ยังทำไม่ได้...... :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 17-08-2007 13:32:56
อยากให้วันชนะเห็นแก่ตัวบ้าง บอกความจริงกับนักขัตไปเลย ต้องมาทรมานแบบนี้มันไม่ควรเลย ก้อรู้อยู่ที่ทำไปเพราะนักขัต เพราะพ่อแม่นักขัตขอร้อง แต่มันยุติธรรมแล้วเหรอกับตัวเอง
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-08-2007 09:23:26
:a14: ดัน

คนเขียนมาแอบดันซะงั้น

 :a14:

------------------------------------------------------------------------
..
..
..
วันนี้ วันรับปริญญา
นักขัตตื่นตั้งแต่ตีห้า ช่อดอกไม้ที่ซื้อมาแต่เมื่อวานยังสวยสดเพราะแช่น้ำเอาไว้แถมยังเปิดแอร์ในห้องให้เย็นกว่าปกติเพื่อมัน
ลังเล...
ล้มตัวลงนอนต่อ บอกตัวเองว่าวันนี้วันหยุด จะรีบตื่นทำไม
ลุกขึ้นนั่ง...มองช่อดอกไม้
ล้มตัวลงนอน จะไปเพื่ออะไร
ข่มตาหลับ...ทั้งที่ยังเปิดไฟ
โว้ย...นักขัตหงุดหงิดที่อยู่ในภาวะเหมือนต้องเลือกสองทางเดินที่ไม่รู้ว่าปลายทางจะใช่จุดหมายหรือไม่
แล้วเขาก็เลือก...ลุกขึ้นไปอาบน้ำ กอดอกตัวเองแน่นเพราะแอร์หนาวมาก เมื่อคืนเปิดไว้ยี่สิบสององศา
ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะอาบน้ำเสร็จจนถึงแต่งตัวเรียบร้อย ในตัวเหมือนมีแรงหน่วง คอยแต่จะลังเล
ไม่นานจากที่ออกมาจากห้องพร้อมช่อดอกกุหลาบสีขาวล้วนที่อัดแน่นไล่ระดับอย่างสวยงามแต่งรอบช่อด้วยใบไม้ที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเป็นใบอะไรลักษณะเขียวสด รวมแล้วเป็นช่อที่ดูดีมากๆ
ความทรงจำหวนคืนมาเมื่อเก้าเท้าเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย บ้านหลังเดิมที่มีทั้งสุข...และทุกข์
ต้นไม้ต้นเดิม ที่เดิม แต่สูงขึ้น ใหญ่ขึ้น บางต้นผลิดอกออกผล
ผู้คนยังบางตา นักขัตเลยเดินไปแถวๆตึกสี่ หอพักนิสิต ยืนอยู่หน้าตึกสูง กะเอาว่าจุดนั้นของชั้นหกคือห้อง 609 กับห้อง 610
รอยยิ้มผุดขึ้นบางๆ ซึมซับเอาความทรงจำนั้นเอาไว้
ความหวังผุดขึ้นเป็นจุดเล็กๆในใจ ตอนที่เขานอนเตียงเดียวกันกับวินที่ราชบุรี วันนั้นเขาเองก็รู้สึกได้ว่าวินยังมีเยื่อใย
...บางทีเราอาจจะกลับมาเริ่มใหม่ได้อีกครั้ง...
สายลมสดชื่นยามเช้าพัดมาชื่นใจ เป็นลางดี เหมือนได้กลับไปเป็นนิสิตปีหนึ่งอีกครั้ง กระชุ่มกระชวยเหมือนตอนได้กอดวิน
นักขัตรีบเดินไปที่คณะของวันชนะ
กลับมาอีกครั้งคนเริ่มเยอะขึ้นมาก เดินหาจนทั่ว มองซ้ายมองขวา เสียงรุ่นน้องร้องเพลงเสียงดังมาจากทางนู้น เลยไปดู
วินอยู่ในวงล้อมนั้น ยิ้มยินดีด้วย
เดินเข้าไปหา มือกระชับช่อกุหลาบสีขาว ใจเต้นตุบตับ บางทีวันนี้อาจจะเป็นวันที่จะเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง...จะกลับมารักกันอีกครั้ง
ผู้คนขวักไขว่ผ่านหน้าไป วินหลุดจากสายตา
พอเห็นอีกครั้ง
โลกทั้งใบเหี่ยวเฉามืดมนไปหมด
...รวมทั้งกุหลาบขาวนี่ด้วย...
ตัดใจทิ้งไม่ลง
อพาร์ทเมนต์ที่วันชนะอยู่เขารู้มาจากวุฒิ
หาแก้วมาใส่ช่อดอกไม้
ยินดีด้วยนะ เขาจรดปากกาเขียนลงบนกระดาษฉีกแผ่นเล็กๆ ที่มุมล่างขวามือลงสัญลักษณ์ อินฟินิตี้ที่เป็นโค้ดลับระหว่างเขากับวิน
แต่...
ฉีกออก


ยินดีด้วยนะ ...แค่นี้ก็พอ


<แง แง ทำไมมันเศร้าอย่างนี้นะ เขียนไปจะร้องไห้ไป ...อยากต่อว่าฟ้าดิน ที่ให้เราพบกัน แต่ไม่ยอมจับเราคู่กัน [BR>ฟ้าดินจงใจแกล้งเรา เธอว่าหรือเปล่า ทำไมนะต้องห้ามรักกัน ความเหมาะสมนะหรือที่ยืนยาว ทิ้งให้ใจมันค้านสุดท้ายต้องยอมจำนน ก่อนถนนของเราแยกกัน ก่อนความฝันของเราสิ้นลง แค่อยากพบกับเธอสักหน สบตาอีกครั้ง...] คนเขียนอินจัด ดันเปิดเพลงนี้อีก
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 20-08-2007 14:24:45
เศร้าไม่จบไม่สิ้น หือๆๆ  เมื่อไหร่จะได้คืนดีกันนะคู่นี้  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 20-08-2007 14:35:40
 :o12: สุดจะทน
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: [D]a[D]a [T]oo[N] ที่ 20-08-2007 16:50:30
ทำไมถึงเป็นแบบนี้อ่ะ :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 20-08-2007 19:55:34
เศร้า   :m15: เมื่อไหร่จาได้กลับมารักกันดังเดิม  :a6:  :a6:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 20-08-2007 20:17:01
เสียดายเวลาที่สร้างร่วมกันมา
 :m21: :m21: :m21:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-08-2007 20:42:45
 :m15:  :m15:  :m15:  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 20-08-2007 21:30:14
 :serius2: :serius2: ความบังเอิญไม่มีในโลกนี่นา  :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 20-08-2007 23:27:29
ใจร้ายกว่านี้มีอีกมั๊ยอ่ะ เกือบ
จะได้คืนดีกันอยู่แล้วเชียว
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 29-08-2007 15:00:26
โรงเรียนเอกชนชายล้วนคลาคล่ำไปด้วยเด็กวัยรุ่นผิวพรรณดี หน้าตาดี ส่วนใหญ่ออกไปทางขาวตี๋อันเป็นลักษณะของเด็กที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะทางบ้านอยู่ในขั้นร่ำรวย
วันชนะมองเด็กนักเรียนด้วยสายตาเอ็นดู พลางคิดว่าเวลานี่ก็ผ่านไปเร็วดีเหมือนกันนะ สมัยตอนเป็นนักเรียนมัธยมกับตอนนี้จบปริญญาโทแล้วคล้ายว่าผ่านมาแค่เดือนหนึ่งเอง

ที่จริงวันชนะจะไปเป็นนักวิจัยของสถาบันมีชื่อแห่งหนึ่งแต่ว่าโปรเจคที่ทางสถาบันเสนอมาจะเริ่มในอีกหกเดือนข้างหน้า พอดีว่าโรงเรียนเอกชนแห่งนี้ต้องการครูสอนวิทยาศาสตร์ด่วน และพอดีว่าโรงเรียนนี้เป็นของครอบครัวภัทร วันชนะเลยได้มาเป็นอาจารย์สอนชั่วคราว


“อาจารย์เคยถ่ายแบบรึเปล่าครับ ผมคุ้นๆ” นักเรียนคนหนึ่งถามในตอนแนะนำตัว
“นั่นสิอาจารย์ ผมก็คุ้นๆนะ” นักเรียนอีกคนเสริม
“ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีครับ” วันชนะยิ้ม เด็กวัยรุ่นนี่น่ารักจริง
“ฮ้า จริงด้วยเหรอฮะ” เสียงฮือฮาเริ่มดังกว่าเดิม
“แต่ผมมาสอนชีวะวิทยานะครับ”
“โห หล่อแล้วยังเก่งอีก” เสียงนักเรียนคนหนึ่งเอ่ยตามประสาเด็กช่างพูดกล้าแสดงออก
“ถ้าอยากได้ลายเซ็นก็ทำการบ้านมาส่งแล้วกันนะครับ” วันชนะปล่อยมุข
“โธ่ อาจารย์...” เสียงนักเรียนยานตอนท้าย “เจอกันวันแรกก็จะให้การบ้านเลยเหรอครับ”
วันชนะไม่ตอบแต่หัวเราะให้ “เปิดบทที่สองเลยครับ”
“โหย...”


“เป็นยังไงบ้างคะ เด็กห้องสี่” นุชรินทร์ อาจารย์สอนเคมีถามในช่วงพักกลางวัน “ดูพวกแกเฮ้วๆ อย่างนั้นแต่ก็ตั้งใจเรียนนะคะ”
“ก็ดูเป็นเด็กดีทุกคนนะครับ” วันชนะยิ้ม
“ว่าแต่ครูวินจะไปทานกลางวันด้วยกันไหมคะ” นุชชวน
“ปกติทานที่ไหนกันล่ะครับ” วันชนะถามขณะเก็บข้าวของบนโต๊ะให้เข้าที่เข้าทางไปด้วย
“ในห้องพักของอาจารย์ที่โรงอาหารของโรงเรียนแล้วก็มีออกไปทานข้างนอกบ้างค่ะ” นุชกล่าว
“ไม่บ้างแล้วล่ะมั้งนุช” เสียงอาจารย์เอื้องทิพย์แทรกพร้อมทำตาเย้าแหย่
“บ้าน่ะ ทิพย์” นุชหน้าแดง
“มีอะไรกันเหรอครับ” วันชนะถาม
“ก็คงไม่เรียกว่าไปทานนอกโรงเรียนบ้างหรอกนะคะ แต่นุชน่ะไปทุกวันเลยค่ะ” คนพูดยิ้มเจ้าเล่ห์หันไปทางครูสาวที่ถูกพูดถึงที่กำลังหน้าร้อนฉ่า
“โห ร้านไหนครับ อร่อยมากเลยล่ะสินะครับ” วันชนะชักอยากลอง
“กับข้าวน่ะไม่เท่าไรหรอกค่ะ แต่อาหารตานี่ชั้นเลิศเลยล่ะ ฮิ ฮิ”
“บ้า ทิพย์ก็” นุชรินทร์ขวยเขิน “ครูวินถ้าจะไปด้วยกันเดี๋ยวนุชรอข้างนอกนะคะ”
“ครับ” วันชนะยังงงๆ แต่ก็กล่าวรับ
“นุชเค้าแอบชอบพนักงานบริษัทข้างๆโรงเรียนเรานี้คนนึงน่ะคะครูวิน พักเที่ยงก็จะออกไปกินข้าวร้านเดิมค่ะ จะมองเห็นเขากินอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วย”
“ทิพย์ ครูวิน ไปยัง” นุชรินทร์เรียกจากข้างนอก
“จ้า รู้แล้วๆ ช้าหน่อยไม่ได้เลยนะ”


วันชนะเลยเดินออกไปสมทบแต่ก็ปฏิเสธไปว่า “วันนี้ครูนุชกับครูทิพย์ไปกันก่อนเลยนะครับ ผมว่าจะลองเดินสำรวจโรงเรียนดูหน่อยน่ะครับ ว่าจะทานมื้อเที่ยงในโรงเรียนเลยครับ”
“ว้า เสียดายแย่เลยค่ะ แต่เอาไว้วันหลังก็ได้นะ” นุชรินทร์ยิ้ม ใจร้อนเต็มทน “งั้นเราไปก่อนนะคะ” แล้วก็ควงแขนเพื่อนรักจากไป


วันชนะเดินสำรวจตามทางมาเรื่อยๆจนมาถึงที่โรงอาหารที่คลาคล่ำไปด้วยนักเรียนยามพักเที่ยง คงเพราะเขาเพิ่งจะแปลกหน้าของที่นี่ทำให้วันชนะสังเกตเห็นเด็กนักเรียนให้ความสนใจเขาอยู่มาก
“ป้าครับ ขอแกงเขียวหวานกับไข่เจียวครับ” วันชนะสั่งข้าวราดแกงง่ายๆ
“นี่จ้ะ” ป้าเจ้าของร้านส่งจานให้แล้วรับเงินมา
“ขอบคุณครับ”

จากนั้นวันชนะชะเง้อมองหาห้องพักส่วนของอาจารย์ที่ไหนนะ
“อาจารย์ไปกินข้าวกับผมไหมครับ”
วันชนะหันไปก็พบกับเด็กนักเรียนคนหนึ่งหน้าคุ้นๆ ตัวสูงกว่าวันชนะเสียอีก ผิวขาวจนอมชมพู ยืนท่าทางฝืนๆเก้ๆกังๆ แล้วก็นึกออกว่าเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งในห้องที่เพิ่งเจอกันเมื่อเช้านั่นเอง 
วันชนะมีท่าทางลังเล จะเหมาะสมหรือเปล่าล่ะ
“โหย อาจารย์ คิดมากน่า ไม่เป็นไรหรอกครับ ที่นี่อาจารย์กับนักเรียนสนิทกันนะครับ” เด็กคนนั้นว่า “ดูอย่างครูคนนั้นสิครับ” เขาชี้ไปทางโต๊ะหนึ่งที่มีเด็กนักเรียนสาม-สี่คนนั่งทานกับอาจารย์

“ไปกันเถอะครับ” เด็กคนสรุป
วันชนะเลยต้องเดินตามไปจนได้
จนเจอโต๊ะว่างลูกศิษย์กับอาจารย์ก็นั่งลง
“แล้วเพื่อนๆล่ะ ไม่มากินด้วยกันเหรอ” วันชนะถาม
“อ๋อ เพื่อนผมมันกินกันหมดแล้วครับ ’จารย์ พอดีผมไปแก้งานส่งวิชาพุทธศาสนามาน่ะครับ แฮ่ แฮ่” เขาทำหน้าทะเล้น
“ทำไมเหรอ แล้วคนอื่นไม่ต้องแก้เหรอ” วันชนะถามต่อ
“ก็พอดีวันก่อนอาจารย์ให้สอบท่องศีลห้าน่ะครับ แต่ผมท่องผิด แหะ แหะ ศีลข้อสามน่ะ’จารย์ ตอนนั้นมันนึกไม่ออกน่ะ ก็เลยโดนให้คัดศีลห้าห้าสิบจบ กับศีลข้อที่สามอีกห้าสิบ”
“อ่อ สมควรแล้ว อยู่จนม.ห้าแล้วยังท่องไม่ได้ก็สมควร ฮิฮิ” วันชนะอดหยอกไม่ได้
“แล้ว...” วันชนะมองหาชื่อที่อกซ้าย “...ธนวัฒน์ จบม.ปลายแล้วคิดจะเรียนอะไรต่อ”
“’จารย์เรียกชื่อเล่นผมก็ได้นะ ผมชื่อบอส” เขาตักกับข้าวใส่ปากเคี้ยวแก้มตุ่ย “อย่าไปบอกใครนะ’จารย์ ที่จริงผมน่ะอยากเรียนพวกออกแบบภายในไรเงี้ยมากกว่าล่ะ แต่ว่าที่บ้านผมเขาจะให้ผมเรียนหมอ”
“ได้ไงล่ะ ครูว่าบอสอยากเรียนอะไรก็คุยกับที่บ้านน่าจะดีกว่านะ อนาคตของเราไม่ใช่ของที่บ้านเสียหน่อย” วันชนะแนะนำ
“พูดไปก็เท่านั้นแหล่ะ’จารย์ ผมไม่ใช่พี่จะได้...” เด็กหนุ่มถอนหายใจยาว “...ช่างเถอะครับ เหลืออีกตั้งปีนึง เอาไว้ใกล้ๆค่อยว่ากันอีกที”
“แล้ว’จารย์ล่ะครับ” เด็กหนุ่มถาม
“หือ เรื่องไรเหรอ” วันชนะยกแก้วน้ำผลไม้ปั่นขึ้นมาดูด
“’จารย์มีแฟนยังครับ” เด็กหนุ่มสายตาจริงจังขณะที่วันชนะสำลักน้ำปั่นกับคำถามจู่โจมและดูเหมือนเด็กหนุ่มจะเปลี่ยนอารมณ์ในฉับพลัน
“ทะ...ทำไม ถามงั้นล่ะ” วันชนะอึกอัก เริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศแปลกๆ
..


 


หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 29-08-2007 16:05:58
อ๊ากกก โรงเรียนมัธยมมม   เหอๆๆ :m10:

โดนเด็กจีบอีกต่างหาก เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 29-08-2007 17:51:59
รอลุ้นต่อ  :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 29-08-2007 19:32:27
หุหุ เจอเด็กจีบซะแล้ว  :a3:  :a3:  :a3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 29-08-2007 19:46:29
กร๊ากกกกก โดนเด็กจีบ
 :m11: :m11: :m11: :m11:

ชอบๆๆๆ จะเสร็จบอสไหม

เอาไป +1 คิกคิก
 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 30-08-2007 00:53:43
แล้วนักขัตหายไปไหนเนี่ย

โรงเรียนชายล้วนด้วย อิอิ (แอบนึกถึงโรงเรียนตัวเอง อยากกลับไปเรียนอีกจัง)
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 31-08-2007 14:45:01
วันชนะมาสอนวันแรกก้อเจอคำถามเด็ดเลยใช่ม๊า แต่จะไปเจอกับนักขัตได้ที่ไหนนะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: noderrorM ที่ 02-09-2007 20:31:53
 o13 o13 o13เป็นนิยายที่ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าสนุกนะ ไม่เครียด ผมชอบเนื้อหาทุกตอนเลยคับ ชอบมากเลย...ผมคิดว่าสักวันหากคัยเจอรักแบบนี้ มันคงจะเป็นเครื่องพิสูนจ์ได้ว่า เค้าคนนั้นรักเราจริง และผมเชื่อว่า ถึงอุปสรรคมากเพียงใด ยังไงคู่แท้ก็คือคู่แค่วันยังค่ำ....หากว่าชีวิตผมเจอแบบนี้คงดีสิคับ  อยากคุยกับผู้แต่งอ่ะคับ  หากไม่รบกวนเวลามาก อยากให้ช่วยแอดมาหน่อยคับ เพื่อผู้แต่งจะให้คำปรึกษาที่ทำให้ผมรู้ว่า ตอนนี้ผมทำอะไรอยู่ สิ่งที่ผมเจอมันคืออะไร...หากไม่ลำบากมากนักอยากคุยด้วยจริงๆคับ error_live_01อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com o14 o14 o14       
                      ภาพนี้คงเป็นภาพความรักระหว่างตั้มกับวินได้นะคับ o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: light_tao ที่ 03-09-2007 03:09:29
ชอบเรื่องนี้มากๆเลย  ติดตามอยู่นะคะ :a1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 03-09-2007 10:12:59
o13 o13 o13เป็นนิยายที่ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าสนุกนะ ไม่เครียด ผมชอบเนื้อหาทุกตอนเลยคับ ชอบมากเลย...ผมคิดว่าสักวันหากคัยเจอรักแบบนี้ มันคงจะเป็นเครื่องพิสูนจ์ได้ว่า เค้าคนนั้นรักเราจริง และผมเชื่อว่า ถึงอุปสรรคมากเพียงใด ยังไงคู่แท้ก็คือคู่แค่วันยังค่ำ....หากว่าชีวิตผมเจอแบบนี้คงดีสิคับ  อยากคุยกับผู้แต่งอ่ะคับ  หากไม่รบกวนเวลามาก อยากให้ช่วยแอดมาหน่อยคับ เพื่อผู้แต่งจะให้คำปรึกษาที่ทำให้ผมรู้ว่า ตอนนี้ผมทำอะไรอยู่ สิ่งที่ผมเจอมันคืออะไร...หากไม่ลำบากมากนักอยากคุยด้วยจริงๆคับ error_live_01อย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com o14 o14 o14      
                      ภาพนี้คงเป็นภาพความรักระหว่างตั้มกับวินได้นะคับ o7 o7 o7

เรื่องเป็นมายังไงหรือ ลองเล่าเหตุการ์คร่าวๆมาสิเพื่อเพื่อนๆจะช่วยเป็นกำลังใจให้
ว่าสิ่งที่คุณทำมันผ่านการตัดสินใจอย่างดีแล้ว

ไม่ก็เล่าที่บอร์ดพูดคุยทั่วไปก็ได้นะ ถ้ามันยาว อิอิ
 :a4: :a4: :a4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 03-09-2007 17:26:47
แอดมาคุยกันได้นะครับ genity_gอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com ครับ
ผมแอดคุณ light_tao ไปแล้วล่ะคับ  :a10:

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 04-09-2007 14:01:05
,มารอค้าบบบ   :m9:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 05-09-2007 12:54:04

 :m9: :m9: :m9:

โย่วๆ

ตามทันแล้ว กิ๊บกิ้ววววววว

 :m11: :m11:

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 05-09-2007 14:37:04
..
..
“’จารย์มีแฟนยังครับ” เด็กหนุ่มสายตาจริงจังขณะที่วันชนะสำลักน้ำปั่นกับคำถามจู่โจมและดูเหมือนเด็กหนุ่มจะเปลี่ยนอารมณ์ในฉับพลัน
“ทะ...ทำไม ถามงั้นล่ะ” วันชนะอึกอัก เริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศแปลกๆ

กริ๊ง!
เสียงออดบอกเวลาเข้าเรียนดังพอดี
“รีบไปเรียนได้แล้วเราน่ะ”
“’จารย์ตอบผมก่อนดิฮะ” เขาทำท่าจะไม่ยอมไป
“เป็นเด็กเป็นเล็กจะรู้ไปทำไม เอาไว้โตก่อน” วันชนะก็ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ต้องการอะไร ...หรือเขาจะเป็นเกย์
“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ ‘จารย์” เขาลุกขึ้น “ผมไปเรียนก่อนก็ได้ แต่เอาเป็นว่าผมจะต้องรู้เกี่ยวกับอาจารย์มากกว่านี้แน่นอนครับ” เขาทำท่าเหมือนกุมชะตาวันชนะเอาไว้แล้วยิ้มมุมปากอย่างคนเจ้าเล่ห์ก่อนจากไป

อันตรายจริงเด็กคนนี้ อายุสิบเจ็ดจริงเหรอเนี่ย

วันชนะกลับเข้ามาที่ห้องพักอาจารย์ก็ได้ยินเสียงคุยกิ๊กกั๊กของนุชรินทร์กับเอื้องทิพย์
“ครูวิน ตกลงไปทานมื้อเที่ยงที่ไหนมาคะ” เอื้องทิพย์ถาม
“ที่โรงเรียนนี้แหล่ะครับ” วันชนะตอบ “เอ้ะ ดูไรกันอยู่เหรอครับ”
“อิ อิ” เอื้องทิพย์ทำตาเยิ้ม “เรามีรูปของพ่อหนุ่มคนนั้นด้วยล่ะค่ะ”
“ท่าทางเป็นเอามากเลยนะครับนี่” วันชนะหัวเราะเบาๆ
“นี่ค่ะ” เอื้องทิพย์ยึดมือถือจากมือนุชรินทร์มาโชว์ให้ดู
“ยัยทิพย์” นุชรินทร์หน้าแดง แต่ไม่ทันการณ์แล้ว
วันชนะเห็นอยางนั้นเลยถามก่อน “ผมดูได้มั้ยครับครูนุช”
“ได้เลยค่ะ” เอื้องทิพย์ตอบ
“ไหนครับๆ” วันชนะหรี่ตามองหน้าจอมือถือก็เห็นมีตั้งหลายคนในรูป แล้วก็ตัวเล็กๆกันทั้งนั้น
“คนนั้นไงคะ ที่สูงๆ” เอื้องทิพย์พรีเซนต์
วันชนะหรี่ตาแต่ก็เห็นแต่หน้าคนเบลอๆ
“น่าจะชัดกว่านี้อีกนิดนะครับ”
“โหย ได้แค่นี้ยัยนุชคงนอนละเมอไปหลายวันแล้วค่ะ”
“แหม ก็กล้องมือถือรุ่นนี้มันซูมไม่ได้นี่นา” เจ้าของมือถือว่า
“เอางี้ม่ะ พรุ่งนี้เราแอบเอากล้องถ่ายรูปไปเลยนะ”
“บ้าเหรอทิพย์” นุชรินทร์ค้อนแต่ก็แอบคิด
กลุ่มสนทนาจบแค่นั้นเมื่อเอื้องทิพย์ได้เวลาไปสอนคาบของตัวเอง เหลือแต่วันชนะกับนุชรินทร์
“อาจารย์นุชรู้จักเด็กที่ชื่อธนวัฒน์ไหมครับ” วันชนะถาม
“บอสหรือคะ”
“ใช่ครับ”
“ค่ะ”
“ดูภายนอกแกก็เป็นปกตินะคะ บอสเรียนเก่งแม้เวลาเรียนในห้องจะดูเหมือนไม่ค่อยตั้งใจก็ตาม แต่เห็นอย่างนั้นบอสน่ะน่าสงสารนะคะ” นุชรินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“บอสเจอแรงกดดันจากคนที่บ้านน่ะค่ะ เขาต้องสอบเข้าคณะแพทย์ศาสตร์ให้ได้” หญิงสาวถอนหายใจ
“อะไรกัน ไม่น่าทำกับบอสอย่างนั้นเลยนะครับ นี่ผมก็เพิ่งจะได้คุยกัน เห็นบอสบอกว่าอยากเรียนมัณฑนศิลป์มากกว่า” วันชนะอดแสดงความเห็นไม่ได้
“ค่ะ” นุชรินทร์ถอนหายใจ
“ผมจะลองคุยกับที่บ้านของบอสดูครับ” วันชนะตั้งประณิธาน
“อย่าเลยค่ะ ครูวิน” นุชรินทร์ห้าม
“อ้าว ทำไมล่ะครับ”
“ก็...บอส เขาเป็นลูกของเจ้าของโรงเรียนนี้น่ะสิคะ”
ไม่มีใครพูดต่อ แต่ในใจของวันชนะก็นึกว่าเขาจะต้องช่วยบอสให้ได้

“กรี๊ดๆ ยัยนุชๆๆ กรี๊ดดด!” เสียงร้องกรี๊ดเบาของเอื้องทิพย์บอกอาการเนื้อเต้น ถ้าไม่ติดว่าตัวเองเป็นครูแล้วก็อยู่ในโรงเรียนคงจะดังกว่านี้เป็นแน่ “แกจะให้ชั้นเท่าไร”
“อะไรยะ อยู่ดีๆจะมาแบมือขอตัง” นุชรินทร์เบ้ปาก
“อิอิ” เอื้องทิพย์ทำตาเยิ้ม
“อะไรของเธอกันยัยทิพย์”
“อิอิ” หล่อนยังหัวเราะแปลกๆ “เธอต้องจ่ายชั้นให้คุ้มเลยล่ะ” เอื้องทิพย์หยุดหัวเราะแล้วทำทีพูดเหมือนมีความลับสำคัญที่ทั้งสองไม่รู้ “ก็เรื่องหนุ่มคนนั้นไง อิอิ”
“ว้าย มีไร รีบบอกชั้นมานะ” นุชรินทร์ตาลุก

“เขาชื่ออ๊อฟ เป็นวิศวกรเคมีของบริษัทปิโตรเลียมตึกข้างโรงเรียนเรา” เอื้องทิพย์เล่าอย่างตื่นเต้น “อิอิ เอิ้กๆ”
“นี่ อย่าเพิ่งเป็นบ้านะยะ เล่ามาให้หมดก่อน” นุชรินทร์ตาเป็นประกายกับข้อมูลเล็กๆที่เพิ่งจะรู้ “แน่ใจนะ ว่าไม่ผิดตัวน่ะ กรี๊ดด”
“ไม่ผิดแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ชั้นเป็นคนประสานงานเรื่องกิจกรรมทัศนศึกษาสิ่งแวดล้อมสัมพันธ์เดือนหน้านี่ เพิ่งนึกได้เมื่อวานว่าชั้นมีเพื่อนทำงานที่บริษัทปิโตรเลียม เลยโทรไปคุย เพื่อนชั้นเลยให้เข้าไปดูข้อมูลคร่าวๆในเวบไซต์ของบริษัท อิอิ มีรูปเขาคนนั้นด้วยนะ”
“กรี๊ดดด....” เสียงกรี๊ดสองเสียงประสานจนวันชนะต้องอุดหู
“มีไรกันคะ” อาจารย์อาวุโสคนหนึ่งรีบวิ่งมาดู ตามมาด้วยนักเรียนกางเกงน้ำเงินเต็มหน้าประตูห้องพัก
“อาจารย์มีไรครับ” นักเรียนคนหนึ่งสอดส่ายสายตาไปทั่วห้อง
หนึ่งในกลุ่มนั้นมีบอสมองมาด้วย
สายตาที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าทุกคน...แต่เขาไม่ได้พูดอะไร

“เอ่อ...” นุชรินทร์กับเอื้องทิพย์ค้างอยู่ในท่าดีใจ หน้ายังไม่ทันปั้นเป็นปกติ
“นะ...หนูค่ะ หนู แฮ่ๆๆ” เอื้องทิพย์ไหลไปได้
“โหยย...” เสียงโห่ของพวกเด็กนักเรียนดังขึ้น
“อาจารย์ชอบหรือไม่ชอบล่ะครับ กรี๊ดเสียดังเชียวแต่หน้างี้ยิ้มกริ่ม” เสียงหนึ่งลอดมาจากในกลุ่มไม่รู้เสียงใคร
“ช่ายๆ นั่นดิ” เสียงสนับสนุนดังสมทบหลายคน “เจอหนูหรือเจองูกันแน่คร้าบบ”
“นี่ พวกเธอกลับไปห้องเรียนกันได้แล้ว” อาจารย์อาวุโสคนนั้นว่าเสียงดัง “ชั้นให้พวกเธอท่องอวัยวะภายในของปลาไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวชั้นถามใครตอบไม่ได้ล่ะก็ ฮึ่มม”
“คร้าบบ”
“ไม่เป็นไรนะคะ ครูนุช ครูทิพย์ ครูวินด้วยค่ะ เดี๋ยวให้นักการมาดู ว่าแต่ห้องก็ไม่ได้รกอะไรนี่คะ” อาจารย์อาวุโสขยับแว่นตา
“แหะ แหะ” สองสาวยิ้มแหย

..
..
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 05-09-2007 14:48:27

..........ในที่สุดก็ได้อ่านแล้ว........... :m3: :m3:

...........ขอบคุณครับ........ o14 o15
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 06-09-2007 15:27:37
มาต่อน้อยจัง แต่กสนุกคุ้มกับที่เฝ้ารอ  อิอิ o14


อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกกระดี๊กระด๊า กริ๊ดหนุ่มๆ ไปกับอาจารย์สาวสองคนนั้นด้วย  เอิ๊กๆๆ


แต่สรุปว่าหนุ่มออฟนั้นเปนเกย์ พอไปทัศนศึกษา วินไปด้วย ได้เจอกาน ก็มาจีบวิน 555+  จะยิ่งขำ เอิ๊กๆๆ :m20:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: noderrorM ที่ 06-09-2007 17:56:30
 :m4: .....ขอบคุณครับ ที่ช่วยมาลงต่อให้ ผมขอขอบคุณคับนะคับ ที่ทำให้ผมรู้อะไรหลายอย่างเมื่อมาอ่านนิยายเรื่องนี้  บ้างครั้งชีวิตเราไม่ต้องการอะไรไปมากว่าความรัก ความอบอุ่นที่มีให้กัน เรื่องของผม ที่ผมเคยบอกไปว่า"ตอนนี้ผมทำอะไรอยู่ สิ่งที่ผมเจอมันคืออะไร..."ผมคงรู้แล้วแหละคับว่ามันคือ มันคือการที่เรารักคัยสักคนหนึ่ง และเรากลัวว่าเราจะทำให้เค้าคนนั้นผิดหวัง
 :undecided:...ในตอนนี้มีคำถาม คำถามหนึ่งถามผมว่า หากวันหนึ่งคนที่ผมรัก เค้ากลับไปมีคนใหม่ ผมจะทำยัง... :undecided:      ผมคิดว่าผมคงดีใจกับเค้านะคับที่เค้าเจอคนใหม่  เจอคนที่ดีกว่าเรา  ถึงต่อให้เราเสียน้ำตาสักเท่าไร... :undecided:  ขอบคุณคนแต่งมากนะคับ ที่ให้คำปรึกษาที่ดีๆกับผม  ...................หากเราเลือกจะรักคัยสักคน  ไม่ต้องไปคิดว่าอนาคตเป็นเช่นไร.......................
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 06-09-2007 23:04:31
 :m23:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 07-09-2007 00:47:44
กี๊ซซซซซซซซวว ออฟไหนหวา
 :m28: :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 07-09-2007 03:09:41
รอลุ้นต่อ  :m4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 07-09-2007 09:46:52
อย่าหายไปนานๆอีกน่ะคับ คิดถึงเรื่องนี้มากๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 07-09-2007 16:01:55
ต้องเกี่ยวพันกันแน่ๆเลยอ่ะ ต้องมีอะไรซักอย่างสิน่า
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 08-09-2007 02:00:46

แง่มๆ

สั้นจังเลยอ่ะตัวเอ๊งงงงง

สั้นอย่างนี้ต้องถี่ๆ นะ

มาลงให้ถี่ๆ จะได้ไม่ค้างนานๆ

 o17 o17 o17 o17 o17


หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-09-2007 10:25:24
..
..
โรงเรียนตอนห้าโมงเย็นดูโล่งๆไป ยังเหลือก็แต่นักเรียนบางกลุ่มจับกลุ่มเล่นฟุตบอล บาสเกตบอล ไปตามเรื่อง บ้างก็นั่งติวหนังสือกันตามม้านั่ง
วันชนะกำลังเดินไปทางประตูหน้าโรงเรียนเพื่อออกสู่รถไฟฟ้า เสียงแตรรถก็ดังขึ้นจากข้างหลัง
“วิน” ภัทรอยู่บนรถ
“พี่ภัทร มาไงครับ” วันชนะแปลกใจ แต่ก็พอรู้ลึกๆว่าคงตั้งใจมา
“พี่แวะมาแถวๆนี้แหล่ะ ไปหาไรกินกัน” ภัทรเปลี่ยนเรื่องรวดเร็ว
“แต่วินมีงานต้องเคลียร์น่ะครับ กลัวจะไม่ทันพรุ่งนี้” วันชนะบอกตามตรง
“จริงเหรอ ว้า...งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งที่อพาร์ทเมนต์แล้วกัน”
รู้ตัวว่าขัดไปก็ไม่สำเร็จวันชนะเลยเดินอ้อมไปขึ้นรถอีกทาง
รถเคลื่อนได้ไม่เท่าไรก็หยุด

“บอส” ภัทรเลื่อนกระจกข้างคนขับลง
“ยังโต๋เต๋อยู่โรงเรียนอีก ไม่รีบกลับบ้านไปอ่านหนังสือล่ะ เดี๋ยวป๊าก็ดุเอาอีกหรอก”
วันชนะเห็นเด็กคนนั้นนิ่งมองมาในรถ ผิวเขาคล้ำลงเล็กน้อยในตอนเย็น เสื้อหลุดออกนอกกางเกง มีรอยเหงื่อตามตัว คงเพราะไปเล่นกีฬามา แต่มันกลับดูเท่มากเลยทีเดียว
“ก็กำลังจะกลับนี่ไง” เขาทำหน้าเฉยเมย
วันชนะไม่อยากพูดอะไรแทรกระหว่างการสนทนาของสองพี่น้อง ได้แต่สังเกตอยู่เงียบๆ
“ก็อย่ากลับดึกแล้วกัน” ภัทรพูดเสียงออกจะห้วนๆ แล้วเลื่อนกระจกขึ้น
วันชนะยังคงจับสายตาอยู่ที่เด็กคนนั้น สายตาของเขาเหมือนมองผ่านเข้ามาถึงวันชนะด้วย
“เดี๋ยวพี่” เขายื่นมือเข้ามาหยุดกระจกไว้ “ผมกลับด้วยดิ”
“ไม่ได้ พี่จะไปส่งเพื่อน” ภัทรพูดเหมือนตัดบท
“โหย ไม่เห็นเป็นไรเลย จริงไหมครับเพื่อนพี่ภัทร อ้าว!’จารย์วิน” เด็กคนนั้นว่า เขาโน้มตัวสูงลงมา สายตามองลอดเข้ามาข้างใน
วันชนะรู้สึกว่าบอสเห็นและรู้ว่าเป็นเขานะที่นั่งคู่มาด้วย
“ให้บอสไปด้วยคนนะครับอาจารย์” เขาส่งสายตาข้ามหน้าภัทร
วันชนะไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรดี เลยมองหน้าภัทรเป็นเชิงบอกไปในตัวว่าให้บอสกลับด้วยก็ได้
“ขึ้นมาสิ”
“ขอบคุณคร้าบบ คุณพี่”
“อือ แต่เดี๋ยวไปส่งเพื่อนพี่ก่อนนะ”
“คร้าบบ” อยู่ๆเด็กนี่ก็เปลี่ยนเป็นว่าง่ายขึ้นมาเสียอย่างนั้นขัดกับตอนแรก
“นี่ๆ’จารย์ วันหลัง’จารย์ติวให้ผมด้วยนะ เรื่องการสังเคราะห์แสงน่ะผมไม่ค่อยจะเก็ทเลย” เขาชวนคุย
“ได้สิบอส ไม่ยากหรอก เรื่องนี้น่ะถ้าเรียนในมหาวิทยาลัยน่ะ ยากกว่าในหนังสือม.ปลายตั้งเยอะ” วันชนะคุยด้วย
วันชนะมัวแต่คุยกับบอสเสียเพลินจนลืมสังเกตไปว่าภัทรเงียบมาตลอดทาง จนรถมาเบรกแบบใส่อารมณ์คนขับไปด้วยหน่อยๆที่หน้าอพาร์ทแมนต์ของวันชนะถึงได้รู้ตัว
พี่น้องคู่นี้ไม่ค่อยถูกกันแฮะ


ก่อนวันชนะลงจากรถภัทรมือไว้แอบจับมือของวันชนะไว้แน่นกดลงกับพื้น ทำให้วันชนะต้องนั่งแช่อยู่ที่เดิมพักหนึ่ง เพราะถ้าลุกขึ้นแล้วภัทรไม่ยอมปล่อยบอสต้องเห็นเป็นแน่
“ไว้ไปกินข้าวกันนะวิน” ภัทรพูด
“ครับ”
“หวัดดีครับ’จารย์” บอสยกมือไหว้หลังจากลงจากที่นั่งข้างหลัง
“แล้วเจอกันที่โรงเรียน บอส” วันชนะรับไหว้
วันชนะยืนมองส่งจนรถเลี้ยวไปที่หัวมุมถนน

วันรุ่งขึ้นวันชนะมาสอนตามปกติแต่กลับไม่เห็นบอสมาเรียน ไม่สบายหรือ ? แต่เมื่อวานยังเจอกันอยู่เลยนี่ จนถึงเที่ยงวันวันชนะเดินกลับจากห้องสมุดก็เห็นหลังไวๆ
“หยุดเลยนะ บอส”
เขาทำท่าจะวิ่ง แต่เสียงของวันชนะไวกว่า
“นี่โดดเรียนใช่ไหมนี่”
“แหม’จารย์ นิดหน่อยน่า” บอสยกมือไหว้สูงกว่าหัว
“ไม่ต้องเลย คืนนี้กลับไปอ่านมาทั้งบทเลย แล้วพรุ่งนี้มาสอบกับผม” วันชนะวางมาดคุณครู “หรือจะให้บอกพี่ภัทรหือ”
“โหยย...’จารย์อ่ะ ใจร้ายว่ะ เอ้ย ครับ” เขายกมือเกาท้ายทอย
“แล้วนั่นหนังสืออะไร” วันชนะสงสัย เห็นปกหนังสือเป็นมันปลาบ
“อ่ะ ให้ดูก็ได้” เขายื่นให้ดู

วันชนะรับมา เป็นนิตยสารการตกแต่งห้องและสวน หวนคิดไปว่าบอสเคยบอกว่าชอบอะไรพวกนี้มากกว่า
“วางใจได้ ครูไม่บอกพี่ภัทรหรอก” วันชนะกล่าว
“พี่ภัทรรู้” เขาบอก
“แล้วเขาไม่ช่วยพูดให้ที่บ้านเข้าใจนายเหรอ” วันชนะแคลงใจ
“แล้วไงครับ...พูดไปก็เท่านั้น” เขาทำหน้าไม่แยแส “ว่าแต่’จารย์เถอะ ผมขอไรได้ป่าว”
“อะไร”
“ตอนเราอยู่กันสองคน อย่าใช้คำแทนตัวว่าครูได้ป่าวล่ะ”
“มากไปแล้วนะ ผมเป็นครูของคุณนะ นายยังเรียกผมว่า’จารย์เลย” วันชนะชักมีอารมณ์
“น่า...นะ นะ” เค้ากระแซะ “ผมไม่อยากให้สังคมครหาเหมือนเอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่งน่ะ”
“หมายความว่าไง” วันชนะงง
“ก็หมายความตามนั้นแหล่ะ’จารย์” บอสยิ้มกริ่มแล้วชิงปลีกตัวออกไป


“ครูวินคะ เสาร์นี้ไปสำจวจพื้นที่ด้วยกันนะคะ” นุชรินทร์พูดถึงกิจกรรมทัศนศึกษาสิ่งแวดล้อมสัมพันธ์ “คิดว่าคงจะลงตัวแล้วล่ะค่ะ เหลือแต่ไปสำรวจพื้นที่นิดหน่อย นี่ครูทิพย์ยังทำเรื่องประสานงานกับบริษัทเพื่อนของเขาด้วยนะคะ พรุ่งนี้จะมีคนจากทางบริษัทไปด้วยจนถึงวันที่นักเรียนออกค่ายทัศนะศึกษาด้วย”
“ได้สิครับ เสาร์นี้ผมว่างพอดี” วันชนะรับคำ
“ดีจังเลยค่ะ”
“ไม่ให้ดีได้ยังไงล่ะค่ะครูวิน ก็แหม คุณอ๊อฟเค้าไปด้วยนี่” เอื้องทิพย์เดินเข้ามาสมทบ แต่เสียงเธอดังมาก่อนตัวเสียอีก
“อย่างนี้นี่เอง” วันชนะแซวด้วย

จนห้าโมงเย็นวันชนะเดินกลับไปทางรถไฟฟ้าเหมือนปกติ
“’จารย์ ไปหาไรกินกันก่อนม่ะคับ”
ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ จำเสียงกับคำว่า “’จารย์” ได้ คงไม่มีใครเรียกเขาอย่างนั้นอีกนอกจากบอส
แต่ก็แปลกนะ ดูเหมือนเขาไม่ค่อยให้ความเคารพวันชนะในฐานะที่เป็นครูแต่วันชนะก็ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร รู้สึกเอ็นดูมากกว่า
“ใช้ภาษาไทยให้ถูกด้วย ไปหาอะไรกินกันก่อนไหมครับ ไม่ใช่ม่ะคับ” วันชนะพูดโดยไม่หันไปมอง
“คร้าบบ ไปหาอะไรกินกันไหมคร้าบบ” เขาย้อน
“วันนี้รีบกลับน่ะ” วันชนะปัดเพราะรู้สึกง่วง อยากกลับไปนอนสักงีบ
“เหรอ...” เสียงเขาหงอยไป
“อืม...”

เดินต่อมาอีกหน่อยวันชนะก็รู้สึกว่าคนข้างหลังเงียบไป เลยหันไปมองก็เห็นเขาเดินหงอยๆไปอีกทาง
วันชนะรู้สึกแปลกๆ ทำไมต้องรู้สึกหวิวๆด้วยนะ
“เอ้า จะไปไหนล่ะ ไม่กินแล้วเหรอ” วันชนะตะโกน
เป็นภาพซ้อนที่ดูน่ารักดี เพราะทันทีที่พูดจบอาการเซื่องๆหงอยๆของบอสเปลี่ยนเป็นสดชื่นขึ้นมาทันตา เหมือนลูกหมาได้กระดูกจากเจ้านายไปแทะงั้นแหล่ะ นึกแล้ววันชนะก็อมยิ้มอยู่คนเดียว
“ยิ้มไร” บอสวิ่งตามมาเดินตามหลัง
“เปล่านี่ อยากกินไรล่ะ”

สุดท้ายทั้งคู่ก็นั่งอยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยวน้ำตกข้างทาง
“ชอบกินน้ำตกเหรอ” วันชนะถาม
“ก็กินได้หมดแหล่ะ’จารย์ วันก่อนเพื่อนมันมากินแล้วเล่ากันว่าร้านนี้อร่อยขั้นเทพ เลยอยากลองดู อร่อยจริงๆด้วยนะนี่” เขาตักน้ำก้นถ้วยขึ้นสูด
“อะไรขั้นเทพอะไร” วันชนะสงสัย
“โหย...’จารย์อ่ะ ก็อร่อยสุดๆไง ห้าดาวไรเงี้ย” เขาอธิบาย
“อ้อ” วันชนะพยักหน้าหงึก
บางครั้งบอสก็ดูเป็นเด็กน่ารักดีนะ

“’จารย์ครับ” เขาเรียก
“ว่าไง”
“’จารย์ชอบเด็กป่ะ” เขายิงคำถาม
“อืม ก็น่ารักดี”
“เอาจริงๆดิ แบบว่าถ้าจะเป็นแฟนงี้’จารย์ขอบเด็กรึผู้ใหญ่อ่ะ” เขาจ้องตาวันชนะ
“อะ อะไรกันอยู่ดีๆก็ถาม...” พูดไม่ทันจบบอสก็สวน
“ตอบมาสิครับ’จารย์”
“เอ้อ...ผู้ใหญ่” วันชนะพึมพำ
“เหรอ...” สีหน้าเขาหงอยลงไปอีกครั้ง “อย่างผมนี่ ดูเป็นผู้ใหญ่ไหม” น้ำเสียงเขาจริงจังขึ้น
“ดูยังไง นายก็ยังเด็กอยู่นั่นแหล่ะ” วันชนะโกหก เพราะสีหน้าจริงจังของบอสมันดูว่าเขามีความคิดเป็นผู้ใหญ่ได้จริงๆ
และบางครั้งเขาก็ดูโตเป็นผู้ใหญ่ที่ชวนหลงใหลได้เหมือนกัน

“เออ เด็กก็เด็ก เลือกเกิดไม่ได้นี่” เขาหลุดจากบุคลิกจริงจัง “แต่ว่านะ’จารย์...”
“อืม”
“ถ้าผมจบม.ปลายไป ผมจะเป็นผู้ใหญ่ ถึงตอนนั้นผมขอเรียก’จารย์ว่าวินเฉยๆได้ไหม” เขาทำสีหน้าจริงจังอีกครั้ง
วันชนะอึกอัก รู้สึกแปลกๆ มันร้อนๆอยู่ข้างใน ตายแล้วเด็กคนนี้ริจะจีบเขาจริงๆนะนี่ แต่เอ้ะ ทำไมรู้สึกดีนะ
วันชนะเลยได้แต่ยิ้มด้วยความรู้สึกที่แปลกๆให้ บอสคงตีความเอาว่าวันชนะตอบว่า ได้สิ เพราะมองดูตอนนี้เขาทำสายตามุ่งมั่นเอามากๆ

“กลับดีๆนะครับ’จารย์” เขามาส่งถึงรถไฟฟ้าทั้งๆที่เขาต้องกลับอีกทาง บอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่ฟังท่าเดียว
“อืม นายเองก็กลับดีๆล่ะ”
“คร้าบบ” เขาทำท่ากระปรี้กระเปร่า
“แล้วพรุ่งนี้อย่าโดดอีกล่ะ”
“คร้าบบ” เขายิ้มสดชื่นจนสาวๆแถวนั้นเรียกกันดูไปหลายคน
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 08-09-2007 12:37:08

ชอบเด็ก...ชอบเด็ก...ชอบเด็ก...


กินเด็ก...กินเด็ก...กินเด็ก จ๊ากกกกกก :m30: :m30: :m30:

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 08-09-2007 14:34:44
อ๊ากกกกกกกกสสสสสสสจะละลาย
 :m11: :m11: :m11: :m11:
คิดได้ไงเนี่ยะ มุกมังกรหยก2
 :m20: :m20: :m20: :m20:

หลงเสน่ห์บอส อยากเป็นเสียวเล่งนึ่งจัง

 :m3: :m3: :m3: :m3:


ว่าแต่ว่า ผู้ชายที่บอกว่าชอบผู้ใหญ่นี่มันขัดๆเนอะว่าไหม
เหมือนยอมรับกลายๆว่าเป็น..........
 :m26: :m26: :m26: :m26:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 08-09-2007 14:42:55
แล้วนักขัตไปไหนอะ  :m21:  :m21:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 08-09-2007 17:00:24
 :m2: :m2:นักขัต อย่าหายไปนานดิคับ :m3: :m3:

สงสัยรักแท้ แพ้ใกล้ชิดแล้วล่ะมั้ง  o7  o7หากว่าความรักที่คนเรามีให้กันมันสามารถรอเวลาที่จะพบกันอีกครั้งแบบในนิยายก็คงดีอ่ะคับ  การที่เราห่างใครไกล ผมว่าเราทุกคนคงกลัวเหมือนกันแหละคับ  กลัวว่าอีกคนมีคนใหม่ ที่หลายคนบอกว่าความรักเป็นสิ่งเข้าใจอยาก ผมว่ามันอยู่ที่เราอ่ะ จะมองให้มันง่ายหรืออยาก ผมว่าการที่เราคบหาให้สักคนหนึ่ง เราไม่ต้องการอะไรมากว่าความรัก ความคิดถึงที่มีให้กัน  และบ้างครั้งยามที่เราท้อแท้เราก็อยากให้เค้ามาอยู่เคียงข้างเรา อยู่คอยให้คำปรึษาดีดี   :m15: :m15:
         (ผมเปลี่ยนจากerrorMมาเป็นMy name M เพราะลืมรหัสผ่าน 555+)
ผมขออธิบายความรู้สึกคงในกระทู้นี้ได้ป่าวคับ  หากคนอื่นไม่เห็นว่าเป็นสิ่งน่ารำคาญ :m23: :m23: :m23:  ผมชอบเรื่องนี้มากจริงๆ อยากให้เรื่องนี้ได้ตีพิมพ์เป็นหนังสือจัง แล้วอยากให้คนที่ชอบอ่านนิยายทุกคนได้เข้ามาอ่านกัน เพราะเป็นนิยายที่ให้ข้อคิดดีอ่ะ :m4: :m4:


[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-09-2007 21:09:35
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 09-09-2007 00:30:55
อ่านไปยิ้มไปวันชนะเราเสน่ห์แรงอีกแล้ว แต่ว่านักขัตไปไหนอ่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 10-09-2007 00:52:27
นายบอสน่ารักจิงๆ โอ้ยยยยยยยเขินแทนเลย ยิ่งชอบเด็กๆอยู่ด้วยสิคับเนี่ย

อายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยจัง :o8:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 10-09-2007 13:36:40
“น่า...นะ นะ” เค้ากระแซะ “ผมไม่อยากให้สังคมครหาเหมือนเอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่งน่ะ”   <<<  อิอิ  ลูกศิษย์กับอาจารย์  :a2:

รักเด็กๆ รักเด็กๆ

ปล. ผู้ใหญ่ก็รักนะค้าบบ อย่าน้อย ใจ ร้ากทุกคน อิอิ   :m18:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 10-09-2007 15:05:24
บอสน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก 
 :m3:  :m3:  :m3:

รักเดะๆ ด้วยโคนนนนนนน   :m18:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-09-2007 21:28:24
เหอ เหอ ขนาดบอสโผล่มาแค่ไม่กี่ตอนยังกวาดคะแนนนิยมขนาดนี้  :a4:  :a4:  :a4:
แต่ก็ยังเชียร์นักขัติอ่ะ  :a1:  :a1:  :a1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 14-09-2007 19:28:18
 :m2: :m2:รอนะครับ............รอ..............รอ.มาต่อนะครับ :m2: :m2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: bbboy ที่ 14-09-2007 22:40:03
 :m3: ชอบครับ :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 17-09-2007 17:27:07
 :m2: :m2:     รอต่อไป....... :m2: :m2:   เห็นพี่เค้าบอกว่ากำลังเขียนอยู่ครับ    :m2: :m2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-09-2007 17:39:33
วันชนะลมออกหูเมื่อมาสอนในวันต่อมาแล้วบอสยังขาดเรียนอีก คอยดูเถอะเจอนะจะตีให้เจ็บๆเลย เมื่อวานยังรับปากอยู่เลยว่าจะไม่โดดเรียนอีก
แต่จนแล้วจนเล่าตลอดทั้งวันก็ไม่มีวี่แววของบอส ถามเพื่อนนักเรียนห้องเดียวกันก็บอกว่าไม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้ว
หรือว่าจะป่วย ?
ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจจนงานระหว่างวันทำให้ลืมเรื่องของบอสไป
ตกเย็นกลับมาถึงอพาร์ทเมนต์พอเดินเข้าไปใต้ถุนก็ต้องตกใจเพราะใครคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงบันได ร่างสูงนั่งฟุบอยู่กับเข่าตัวเอง แต่วันชนะก็จำได้
“บอส!”
“’จารย์กลับมาแล้วเหรอ” เขายิ้มระโหยให้
“ทำไมมานั่งอยู่นี่เนี่ย โรงเรียนก็ไม่ไป” วันชนะรัวใส่ทันที
แต่เขาไม่ตอบอะไร หน้าใสอมชมพูแดงขึ้นๆ น้ำตาหยดเผาะแล้วไหลเป็นสาย บอสร้องไห้สะอื้นไปทั้งตัวอย่างไม่อาย
“บอสเป็นอะไร” วันชนะรับไม่ทัน
ร่างสูงที่นั่งอยู่บนบันไดไม่ตอบอะไร เอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้น วันชนะเลยเข้าไปนั่งข้างๆเอามือลูบหัวลูบหลังปลอบ วันชนะอยากจะเอ่ยถามว่าทำไม...แต่คิดอีกที อย่าเพิ่งเลยจะดีกว่า
สักพักหนึ่งบอสก็หยุดร้องแต่เขาก็ยังไม่หลุดคำพูดออกมาสักคำ
“ขึ้นไปข้างบนกันก่อน” วันชนะโอบไหล่บอสเอาไว้
พอเข้ามาถึงในห้องวันชนะก็ถูกแรงของเด็กมัธยมจับหมุนตัวเข้าไปกอดเสียแน่น
..
..


--------------------------

หุหุหุหุ

หายคิดถึงกันหรือยังครับ

 :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 17-09-2007 17:50:09

 o7 o7 o7 o7 o7

แกล้งกันป่าวเนี่ย

สั้นมากมายอ่ะ

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-09-2007 18:17:06
สั้นมั่ก ๆ  :m17:  :m17:  :m17:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 17-09-2007 18:28:49
ยังไม่หายคิดถึงเลย  สั้นอะไรจะขนาดนี้เนี่ย   :a6:  :a6:  :a6:

รออยู่น้า  :a2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: hutsepsut ที่ 17-09-2007 21:37:11
 :m15:...ปล่อยให้ค้างซ้าอย่างงั้นอ่ะนะ...มามะมาต่อให้เร็วๆๆน้าครับ.... :m15:

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 17-09-2007 22:26:05
เกิดอะไรขึ้นกะบอสหรือ
 :a10: :a10: :a10:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 17-09-2007 23:25:06
 o9 อะร้ายยยยยยยยยยยยยยยยย มานิดเดียวแล้วก็หนีหายไปอีกแล้ว ค้างคาอ่ะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 18-09-2007 12:48:58
นิดนึงเองอ๋า   o9

ว่าแต่ไอ้ที่ร้องไห้นี่มันมารยาเด็กป่ะนี่ ... เข้าห้องได้ปุ๊บกอดเลย  หหุ :m10:

ปล...
เด็กๆน่ารักๆ มาหลอกแถวนี้บ้างก้ได้นะค้าบบ  จะทำเป็นไม่รุ้ 555+  :m1:  รู้เค้าหลอกแต่เต็มใจให้หลอก
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: antoniorey ที่ 21-09-2007 22:25:14
หุๆๆๆอารายมานจาสั้นขนาดน้านนนนนนนนนน นู๋ไม่ย๊อมมมมมมมม :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 22-09-2007 01:46:20
 :a3:  มีตัวละครใหม่เพิ่มมาอีกแว้ววว

แล้วจะเป็นยังไงต่อไปเนี่ย  วิน นี่ป๊อบเจง ๆ ทั้งเพื่อน ผู้ใหญ่ เด็ก รุมรัก  หุหุ..
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 22-09-2007 03:29:14
สั้นเกินไปอะ ไม่หายคิดถึงเลย  o9  o9  o9
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 22-09-2007 13:57:15
..
..
..
“บอส...” วันชนะไม่รู้จะทำอย่างไรดี จะว่าบอสแกล้งทำเป็นร้องไห้ก็ไม่น่าจะใช่ ดูจากสภาพเขาคงเจอปัญหาอะไรสักอย่างมาแน่ๆ คนอย่างบอสไม่น่าใช่คนที่จะร้องไห้ได้ง่ายๆ
“ขอผมอยู่อย่างนี้สักพักนะวิน” บอสว่า เขาไม่เรียก’จารย์เหมือนเคย
“อืมม...ไม่เป็นไรนะ...ไม่เป็นไร” วันชนะยกมือขึ้นลูบหลัง นานพอดูวันชนะจึงค่อยๆดันเขาออกแต่ก็ไม่ถามอะไร คิดว่ารอให้เขาบอกเองจะดีกว่า
บอสเองคงจะอาการดีขึ้นเมื่อเขาได้ระบายออกไปจนเพียงพอจึงเริ่มมองสำรวจห้องของวันชนะไปรอบๆก่อนหันมาพูดกับวันชนะ “ผมค้างด้วยได้ไหม”
“ที่บ้านไม่ว่าเอาเหรอ” วันชนะท้วง
“...”
เขาไม่ว่าอะไรต่อซึ่งทำให้วันชนะเดาได้ว่าเขาคงมีปัญหามาจากที่บ้านแน่ๆ
“ไม่เป็นไรครับ ผมนั่งอีกเล่นสักพักค่อยไปก็ได้” ตาเขาหม่นลงอีก
“ดอกไม้นั่น” เขาชี้ช่อดอกไม้ในแจกันที่มันแห้งจนกรอบ “ทำไมยังไม่ทิ้งอีก”
“อ๋อ ดอกไม้จากวันรับปริญญาน่ะ” วันชนะตอบขณะกำลังจัดแจงวางสัมพาระให้เข้าที่เข้าทาง
“ไม่ใช่ของพี่ภัทรนี่” บอสว่า
วันชนะหยุดกึก “รู้ได้ไงว่าไม่ใช่ของพี่ภัทร”
“ผมน่ะ เห็นคุณตั้งแต่คุณยังไม่ได้เข้าไปสอนที่โรงเรียนเสียอีก” เขาว่าแต่สายตายังสำรวจห้องไปรอบๆ “เคยเห็นในอัลบัมรูปของพี่ภัทรน่ะ”
“บ้านผมน่ะ มีแต่พี่ภัทรเท่านั้นที่ได้เจอหน้ากันอยู่ทุกวัน ส่วนป๊านานๆทีถึงจะกลับมา” เขาเปลี่ยนเรื่องเอาดื้อๆ “พอดีเมื่อวาน...เขากลับมาเห็นหนังสือแต่งบ้านแล้วผมก็นั่งวาดแปลนอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ เราก็เลยทะเลาะกัน...แต่ผมไม่ได้โกรธเขาหรอกนะ ยังไงเขาก็เป็นพ่อ” เขาพูดเหมือนทำใจได้แล้ว
วันชนะมองหน้าเขาแล้วรู้สึกสงสารจับใจ เทียบกันแล้วในชีวิตเขาไม่เคยถูกพ่อแม้บังคับหรือมาตีกรอบขีดเส้นทางเดินให้เหมือนอย่างเด็กคนนี้
“ผมว่าไม่เป็นไรหรอกเนอะ ถ้าผมจะเป็นหมอที่ชอบออกแบบ...” เขายิ้มแต่วันชนะก็รู้ว่าเขาฝืน
“แล้วบอสจะทนได้เหรอที่จะอยู่กับสิ่งที่บอสไม่ได้ชอบ” วันชนะว่า
เขาเงียบไป
“มานี่สิ” วันชนะเรียกบอสให้เข้ามาหาใกล้ “หลับตา”
เขาทำตามอย่างว่าง่าย
“เอาล่ะ ผ่อนคลายๆ” วันชนะนวดที่ขมับของบอสเบา พักนึงเขาก็หยุดเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มอาการดีขึ้น “ไปหาข้าวเย็นทานกัน”
ข้าวเย็นที่คนต่างวัยไปทานกันก็เป็นร้านอาหารตามสั่งง่ายๆแถวๆอพาร์ทเมนต์ของวันชนะ
“คุณชอบกินผัดขี้เมาเหรอ” บอสถาม เขานั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“อืมม”
“มันเผ็ดนะ” เขาว่า “ไหนลองหน่อยสิ” ว่าแล้วเขาก็เอื้อมมือมาตักไป “โหยย เผ็ด ซาดิสนี่หว่า”
“อะไร เกี่ยวไรกัน” วันชนะบุ้ยปาก
หลังจากทานข้าวเย็นเรียบร้อยทั้งสองคนก็กลับขึ้นมาบนห้อง บอสหยุดยืนอยู่ตรงประตู ที่จริงเขาเดินมาส่งวันชนะ พอถึงห้องแล้วก็หมดหน้าที่ เขายืดตัวสูดลมหายใจลึก
“ขอบคุณนะวิน ผมสบายใจแล้วล่ะ” เขาพูดพลางหันหลังกลับ
“อ้าว แล้วนั่นจะไปไหน” วันชนะเอ่ย
“กลับละ” เขาพูด
“คืนนี้อยู่ที่นี่เถอะบอส” วันชนะจับมือเขาเอาไว้ เพราะว่าไม่อยากปล่อยเขาไปตามลำพังตอนนี้
∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞
เพราะว่าข้างนอกฝนตก ภายใต้ผ้าห่มบางๆจึงมีสองร่างแชร์ความความอบอุ่นอยู่
วันชนะหลับสนิทไปตั้งนานแล้ว แต่บอสยังลืมตาโพลงในความมืด ในหัวคิดอะไรให้วุ่นวายไปหมด ที่นอนอยู่ข้างๆเขาตอนนี้คือวันชนะ คนที่เขาชอบ จะเรียกว่ารักเหรอ อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ เพราะความรู้สึกบอกว่าชอบตั้งแต่แรกเห็นวันชนะตั้งแต่ยังไม่เจอกัน
บอสไม่เคยคิดว่าเขาผิดปกติที่ชอบผู้ชายด้วยกัน อาจเพราะเขาเคยได้รับรู้ความรักรูปแบบนี้มาจากภัทร ดังนั้นเขาเลยมองมันเป็นธรรมดา ความรักสำหรับบอสแล้วมันไม่มีเพศมาขีดทางให้หรอก
วันชนะขยับตัวเข้ามาใกล้ เพราะนอกผ้าห่มมันเย็น หรือเพราะร่างของคนที่นอนข้างๆคือแหล่งความอบอุ่นก็ตาม เขายกขาขึ้นทับพร้อมกับดึงร่างบอสมากอดเหมือนเป็นหมอนข้าง
บอสเองก็รู้สึกดี หัวใจเหมือนมีเสียงกลองเต้นระรัวอยู่ภายใน
เด็กหนุ่มยิ้มเปี่ยมสุขในความมืดแต่แล้วก็หุบยิ้มไปในทันทีเมื่อวันชนะกอดเขาแน่นขึ้น แต่ว่ามีชื่อหนึ่งหลุดออกมา
“ตั้ม”
..
..
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 22-09-2007 14:32:07
 :m2: :m2:..นุกอ่ะ รอตั้งนานกว่าจะมา 555+ มาต่อเร็ว ๆนะคร้าบบบบบ  :m2: :m2:

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-09-2007 14:34:45
 :เฮ้อ: รักแรกฝังใจ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 22-09-2007 14:37:02
หุหุ  ในใจยังคงมีแต่ตั๊ม  :m1:  แล้วเมื่อไหร่จะได้สมหวังหล่ะนี้

ว่าไปพี่ภัทรก็นิสัยดีนะนี่  บอสอีก เด็กๆ น่รัก ดี อิอิ  เลือกไม่ถูก   อ๊ากก :a14:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-09-2007 20:11:05
แหะๆ...ตามมาอ่านต่อจากอีกบอร์ดนึงง่า

แล้วแบบนี้พี่วินด์จะเปงไงต่อไปนะ

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ

ห้ามลืมเยยนะฮะ

จะรอตอนต่อไปนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 22-09-2007 22:19:36
 :m18:



วันนี้ดีใจมากเลยครับ
ได้เจอต้นแบบตัวละครที่ผมจะคิดถึงเขาเมื่อเขียนถึงนักขัต
เป็นรุ่นพี่วิศวะ ม.เกษตร สมัยที่ผมยังเรียนอยู่น่ะ
ไม่รู้จักชื่อเขาหรอกครับ แต่เจอบ่อยๆ เพราะวิทยากับวิศวะอยู่ตรงข้ามกัน

แต่วันนี้เขามากับหญิงอ่ะ คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนนะ เพราะไม่ค่อยสวย เหอ เหอ ไม่แน่อาจจะเป็นแฟนก้อด้ายนะ
แต่ก็ดีใจ

ขากลับ(ไปกินซิสเล่อร์ที่เซ็น ลาด) เจอเด็กอ่ะ สัก 15-17 ได้นะ น่ารักด้วย แอบจับมือกันด้วย อิจฉามากมาย เลยมองเห็นว่าเด็กๆนี่ก็น่ารักดีเนอะ เพราะปกติจะชอบผู้ใหญ่ๆ
ว่าไปแล้วเอาบอสเป็นพระเอกดีมั้ยน้า....


 :a11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 22-09-2007 23:41:15
บอสก็ดี นักขัตก็เริ่ด ไหนจะพี่ภัทรอีก เหมาหมดเลยได้มั้ย อิอิ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 22-09-2007 23:46:50
เลือกยากจริงๆด้วย ระหว่างตั้มกะน้องบอสเนี่ย

ง้านเลือกพี่ภัทร 555 เกี่ยวกานมะเนี่ย  :a3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 24-09-2007 13:44:33
เลือกใครก็ได้ซักคนคับ  ที่เหลือผมขอ  อิอิ  :m3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 24-09-2007 14:14:58
:m18:



วันนี้ดีใจมากเลยครับ
ได้เจอต้นแบบตัวละครที่ผมจะคิดถึงเขาเมื่อเขียนถึงนักขัต
เป็นรุ่นพี่วิศวะ ม.เกษตร สมัยที่ผมยังเรียนอยู่น่ะ
ไม่รู้จักชื่อเขาหรอกครับ แต่เจอบ่อยๆ เพราะวิทยากับวิศวะอยู่ตรงข้ามกัน

แต่วันนี้เขามากับหญิงอ่ะ คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนนะ เพราะไม่ค่อยสวย เหอ เหอ ไม่แน่อาจจะเป็นแฟนก้อด้ายนะ
แต่ก็ดีใจ

ขากลับ(ไปกินซิสเล่อร์ที่เซ็น ลาด) เจอเด็กอ่ะ สัก 15-17 ได้นะ น่ารักด้วย แอบจับมือกันด้วย อิจฉามากมาย เลยมองเห็นว่าเด็กๆนี่ก็น่ารักดีเนอะ เพราะปกติจะชอบผู้ใหญ่ๆ
ว่าไปแล้วเอาบอสเป็นพระเอกดีมั้ยน้า....


 :a11:


ปีนี้โรคเก่ากำเริบนะครับ

โรคฮีส...

กร้ากกกกก

 :m9: :m9: :m9: :m9:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 24-09-2007 14:34:08
สงสารบอสจัง ต้องผิดหวังกันอีกสักกี่ครั้ง
ต้องเจ็บปวดอีกสักกี่วัน
ต้องเหงาอีกสักกี่เดือน
ต้องรอคอยอีกสักที่ปี

ที่จะได้เจอคนที่รอคอย

 :m17: :m17: :m17: :m17: :m17:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-09-2007 17:19:22
หว่า.....ยังไมมาอีกหยอฮะ

ยังไงก้อจะรอมาต่อให้นะฮะ

อย่าลืมมาต่อนะฮะ

ห้ามลืมเลยนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะฮะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: inimeg ที่ 24-09-2007 21:29:39
แง่มๆ เฝ้ารอนานเหมือนกันนะ

อ่านใหม่ สับสนไปหน่อยเพราะตอนแรกตัวละครไม่ได้ชื่อนี้...

กำลังพยายามจำว่า อันเดิมใครชื่อไรมั่ง อิอิอิ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 26-09-2007 12:55:25
รออยู่นะค้าบบบ  :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-09-2007 21:15:30
หว่า...ยังไม่มาต่ออีกหยอฮะ

มาต่อได้แย้วนะฮะ

อยากอ่านมากมายนะฮะ

แล้วจะรอนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 26-09-2007 21:33:09
 :m2: :m2:...สงสัยพี่เค้าคงเหนื่อยมากอ่ะครับ  บ้างคืนเห็นตี 1  2  ยังไม่นอนเลยครับ   ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ครับสู้ครับ  อย่าโหมงานจนเกินไปครับ   o13 o13
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 29-09-2007 22:46:59
 o7 o7...มาต่อนะครับ  ไม่ว่างก็แวะมาก็ได้ครับ  ให้ยังรู้ว่าเราไม่ได้รอโดยไร้ประโยชน์.... :m8: :m8:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 30-09-2007 14:56:46
เจ้าของเรื่องไม่สบายครับ

อีกหลายวันกว่าจะหาย

สู้ๆ นะครับ โอนิคุง

 :a1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 30-09-2007 16:28:49
 :m17: :m17:..เป็นอะไรมากป่าวครับ  เห็นช่วงนี้พี่แกไม่ออนเอ็ม ผมว่าแปลก ๆ  คิดว่าทำงานยุ่ง ที่แท้ก็ไม่สบายนี้เอง  ยังไง ก็ขอให้หายไว้นะครับ  ผมจะรอครับ   อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยครับ  อย่าทำงานมากเกินไป.. :m3: :m3:

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 30-09-2007 21:40:23
และแล้วก้อยังไม่เหงวี่แววเยยง่า

แย้วแบบนี้จะได้อ่านอีกมั้ยฮะ

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ

อยากอ่านมากมายง่าฮะ

อย่าลืมนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สุ้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 01-10-2007 04:28:05
มารอ หายไวไวนะจ๊ะคุณโอนิคุง  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 01-10-2007 13:36:16
หายไวๆนะค้าบบ    :a9:

แฟนคลับรออยู่น๊าาา    :a11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-10-2007 21:29:30
ยังไงก้อมาต่อให้ด้วยนะฮะ

อยากอ่านต่อมากมายนะฮะ

อย่าลืมนะฮะ

จะรอนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สุ้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 06-10-2007 09:08:50
รองับ รอ ได้แต่รอ รอแล้วรออีกก็ยังไม่มา  :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 07-10-2007 18:23:16
มาดัน พร้อมรอตอนต่อไปนะฮะ

อยาก่อานต่อมากมายนะฮะ

ยังไงก้อช่วยมาต่อให้ด้วยนะฮะ

อย่าลืมนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 07-10-2007 18:25:48
 :m11: :m11:.....มาต่อนะครับ  เป็นกำลังใจอยู่ครับ  มาเร็วนะครับ จะได้โว้ตให้ครับ เพราะเค้าจะโว้ตเรื่องที่เราชอบอ่ะครับ... :m19: :m19:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 08-10-2007 12:57:21
ย่องมาดู   :m7:

ปล รูปprofile คุณ nuname ทำเอาใจสั่นเลยย  เหอๆๆ ใช่รูปต้อลป่าวอ่ะนั้นน
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-10-2007 22:14:45
ย่องมาดู   :m7:

ปล รูปprofile คุณ nuname ทำเอาใจสั่นเลยย  เหอๆๆ ใช่รูปต้อลป่าวอ่ะนั้นน

งื้มช่ายฮะ รูปต้อล AF 4 ฮะ

น่ารักมากมาย คุคุ

ชอบมากมายด้วยนะ คุคุ

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ(ผู้ต่อ คุคุ)

ห้ามลืมนะฮะ

อยากอ่านต่อมากมายนะฮะ

ยังไงก้อช่วยมาต่อให้ด้วยนะฮะ

จะรอนะฮะ

เปงกลำงใจให้นะ สุ้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 08-10-2007 23:25:14
ไม่ได้มาอ่านตั้งนานก็มาอ่านแล้วนะคับ ไงมาต่อด้วยนะคับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-10-2007 16:35:37

คนเขียนเรื่องนี้ เกิดวันที่ 3 ตุลา ครับ

Happy Birthday ย้อนหลังนะครับ โอนรีโอ้

มีความสุขมากๆ สุจภาพแข็งแรง นะครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ

 :a13:
 :a13: :a13:
 :a13: :a13: :a13:
 :a13: :a13: :a13: :a13:
 :a13: :a13: :a13: :a13: :a13:
 :a13: :a13: :a13: :a13: :a13:  :a13:
 :a13: :a13: :a13:  :a13: :a13: :a13:
 :a13: :a13: :a13: :a13: :a13:
 :a13: :a13: :a13: :a13:
 :a13: :a13: :a13:
 :a13: :a13:
 :a13:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 09-10-2007 16:43:25
 :m11: :m11:.....มาต่อนะครับ  เป็นกำลังใจอยู่ครับ  มาเร็วนะครับ จะได้โว้ตให้ครับ เพราะเค้าจะโว้ตเรื่องที่เราชอบอ่ะครับ... :m19: :m19:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-10-2007 20:49:36
มารอ ร้อ รออีกเช่นเคยนะฮะ

ยังไงก้ออย่าลืมมาต่อนะฮะ

ห้ามลืมเลยนะฮะ

จะรอต่อไปนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 10-10-2007 20:58:09
มารอนะฮะ

ดันด้วยๆ คุคุ(ดันกระทู้นะไม่ช่ายดัน........หรือว่าเราคิดไปคนเดียวเนี่ย :m23: :m23:)

ยังไงก้อมาต่อให้ด้วยนะฮะ

อย่าลืมนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 10-10-2007 23:35:49
ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ
 :a13: :a13: :a13:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: hutsepsut ที่ 11-10-2007 02:07:56
o9 o9.....มาต่ออีกดิคร้าบ...ยังมะหายคิดถึงเลยอ่ะคร้าบ.... :sad2: o7

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 11-10-2007 12:50:37
 :a13:  HBD ย้อนหลัวค้าบบบ

มีความสุขมากๆนะคับบ

มาลงเรื่องต่อเร้วๆน๊าาา :impress:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-10-2007 20:42:54
หว่า...ยังไม่มาเยยหลอฮะ

มารอต่อนะฮะ

ยังไงก้อมาต่อให้ด้วยนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 12-10-2007 05:57:29



++++++

ไอความชื้นจากข้างนอกเกาะกระจกจนมัวแต่แสงแดดก็ยังส่องผ่านเข้ามาได้จางๆ วันชนะงัวเงียพอรู้สึกตัวเต็มที่ก็พบว่าตัวเองอยู่ในวงกอดของบอสที่นอนเอาหน้าซบหลังเขาอยู่
วันชนะแกะมือนั้นออกพลางยิ้มเอ็นดูแต่มันกลับทำให้บอสรู้สึกตัว มือนั้นเลยยิ่งประสานกันแน่น

“เอ้า ตื่นแล้วก็ปล่อยเสียทีสิ” วันชนะร้อง
“วันนี้วันเสาร์นี่” เขาพูดเสียงอู้อี้
“แล้วไงล่ะ” วันชนะพยายามแกะมือเขาซึ่งมันไม่เป็นผล
“ปกติวันเสาร์น่ะผมตื่นสิบโมง” เขาขยับแก้มที่แนบหลังวันชนะขึ้นลง

ถ้าเป็นปกติวันชนะคงจะโวยไปแล้ว แต่พอนึกถึงสิ่งที่บอสเจอมาเขาก็จะยอมให้สักวัน
“ตั้มนี่ใครเหรอ” อยู่ดีๆเขาก็ถามแต่ยังหลับตาพริ้มหน้าแนบกับหลังวันชนะ “แฟนเก่าเหรอ”
วันชนะเหวอไปแต่ก็ตอบไปว่า

“อืม แฟนเก่าน่ะ”


++++++++











 :m19:   อิอิ แอบเอามาลงตัดหน้า เรียกความกระสันต์ เอ้ย ความกระหายใคร่รู้ตอนต่อไป

แล้วจะรีบต่อครับ   :m23:  เหอ เหอ ได้เท่านั้นมา เดือนนึงแย้ว  :a3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 12-10-2007 10:46:47

 :undecided: :undecided:

มาหลอกให้อยากแค่ไม่กี่ประโยคเองอ่ะ

 o9 o9 o9 o9 o9


หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 12-10-2007 10:54:53
โห เอามาให้อ่านให้อยากแล้วจากไป มานบาปนะครับ ต้องเอามาต่ออีกไวไวน้า  :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 12-10-2007 12:16:32
กำ มัวไปกิ๊กกับใครที่ไหน เดือนหนึ่งแต่งได้แค่เนี๊ยะ
 :m29: :m29: :m29: :m29:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 12-10-2007 12:45:04
อาจจะมีอะไรใหม่ๆเข้ามาให้ป่วนๆในชีวิตก้อได้นะ แต่ไม่ว่ายังงัยก้ออยากให้วันชนะเข้มแข็ง
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-10-2007 13:33:42



++++++

ไอความชื้นจากข้างนอกเกาะกระจกจนมัวแต่แสงแดดก็ยังส่องผ่านเข้ามาได้จางๆ วันชนะงัวเงียพอรู้สึกตัวเต็มที่ก็พบว่าตัวเองอยู่ในวงกอดของบอสที่นอนเอาหน้าซบหลังเขาอยู่
วันชนะแกะมือนั้นออกพลางยิ้มเอ็นดูแต่มันกลับทำให้บอสรู้สึกตัว มือนั้นเลยยิ่งประสานกันแน่น

“เอ้า ตื่นแล้วก็ปล่อยเสียทีสิ” วันชนะร้อง
“วันนี้วันเสาร์นี่” เขาพูดเสียงอู้อี้
“แล้วไงล่ะ” วันชนะพยายามแกะมือเขาซึ่งมันไม่เป็นผล
“ปกติวันเสาร์น่ะผมตื่นสิบโมง” เขาขยับแก้มที่แนบหลังวันชนะขึ้นลง

ถ้าเป็นปกติวันชนะคงจะโวยไปแล้ว แต่พอนึกถึงสิ่งที่บอสเจอมาเขาก็จะยอมให้สักวัน
“ตั้มนี่ใครเหรอ” อยู่ดีๆเขาก็ถามแต่ยังหลับตาพริ้มหน้าแนบกับหลังวันชนะ “แฟนเก่าเหรอ”
วันชนะเหวอไปแต่ก็ตอบไปว่า

“อืม แฟนเก่าน่ะ”


++++++++











 :m19:   อิอิ แอบเอามาลงตัดหน้า เรียกความกระสันต์ เอ้ย ความกระหายใคร่รู้ตอนต่อไป

แล้วจะรีบต่อครับ   :m23:  เหอ เหอ ได้เท่านั้นมา เดือนนึงแย้ว  :a3:


ชิชิ

มีมาสปอย

มาต่อด่วนเลย

ชอบนักนะไปเสม็ดนะ

ไม่เห็นเสร็จสักที

 :m14: :m14: :m14: :m14: :m14: :m14:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 12-10-2007 13:39:37
มาต่อสั้นดั๊วะ  :m5: สาธุขอให้สั่นๆอย่างที่มาต่อ   o17 o17
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 12-10-2007 14:40:12
 o9  มาทำให้อยากแล้วจากปายยย   :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 12-10-2007 14:43:37
โห............ต่อแบบนี้ คนแถวนี้ได้ลงแดงกันเป็นแถบๆแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 12-10-2007 14:53:04

...........ทำไมมาแค่นี้หว่า.......... :m19: :m19:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-10-2007 21:10:32



++++++

ไอความชื้นจากข้างนอกเกาะกระจกจนมัวแต่แสงแดดก็ยังส่องผ่านเข้ามาได้จางๆ วันชนะงัวเงียพอรู้สึกตัวเต็มที่ก็พบว่าตัวเองอยู่ในวงกอดของบอสที่นอนเอาหน้าซบหลังเขาอยู่
วันชนะแกะมือนั้นออกพลางยิ้มเอ็นดูแต่มันกลับทำให้บอสรู้สึกตัว มือนั้นเลยยิ่งประสานกันแน่น

“เอ้า ตื่นแล้วก็ปล่อยเสียทีสิ” วันชนะร้อง
“วันนี้วันเสาร์นี่” เขาพูดเสียงอู้อี้
“แล้วไงล่ะ” วันชนะพยายามแกะมือเขาซึ่งมันไม่เป็นผล
“ปกติวันเสาร์น่ะผมตื่นสิบโมง” เขาขยับแก้มที่แนบหลังวันชนะขึ้นลง

ถ้าเป็นปกติวันชนะคงจะโวยไปแล้ว แต่พอนึกถึงสิ่งที่บอสเจอมาเขาก็จะยอมให้สักวัน
“ตั้มนี่ใครเหรอ” อยู่ดีๆเขาก็ถามแต่ยังหลับตาพริ้มหน้าแนบกับหลังวันชนะ “แฟนเก่าเหรอ”
วันชนะเหวอไปแต่ก็ตอบไปว่า

“อืม แฟนเก่าน่ะ”


++++++++











 :m19:   อิอิ แอบเอามาลงตัดหน้า เรียกความกระสันต์ เอ้ย ความกระหายใคร่รู้ตอนต่อไป

แล้วจะรีบต่อครับ   :m23:  เหอ เหอ ได้เท่านั้นมา เดือนนึงแย้ว  :a3:

ร้ายกาจมากมายเยยง่า

ทามมั้ยมาทามให้อยากแล้วจากไปละฮะ

ไม่ไหวนะฮะ

อยาก่อานต่อมากมายนะฮะ

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ

จะรอนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สุ้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: hutsepsut ที่ 13-10-2007 01:57:41
 o17 :laugh:....อ่ะจ๊ากๆๆๆมาจึ๋งเดียวเองอ่ะ...อย่าว่าแต่หายกระสันเลย...แค่สะกิดต่อมยังไม่รู้สึกว่าโดนเลยอ่ะค้าบ....มาต่อเยอะๆหน่อยจิ... o9 :serius2:

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-10-2007 02:05:48
หลอกให้อยากแล้วจากไปนี่หว่า  :serius2:   :serius2:  :serius2:  :serius2:
 :angry2:  รีบเอามาลงด่วนเลย  :m16:  :m16:

 :a6:  :a6:  :a6:  :a6:  :a6:  :a6:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 13-10-2007 21:15:50
มารอนะฮะ

อยากอ่านต่อมากมายนะฮะ

มาต่อได้แย้วนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สุ้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 15-10-2007 10:08:50
 :m21:  เค้ายังค้างงอยู่น๊าาา   มาทำให้เสร็จๆๆไปดิ  :m23:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 15-10-2007 16:34:53
หว่า...ยังไม่มาเยยหยอ

อยากอ่านต่อมากมายนะฮะ

ยังไงก้อมาต่อให้ด้วยจิ

อยาก่อานต่อจิงๆนะ

จะรอนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 22-10-2007 17:12:23
รออยู่นาน แล้วก้อยังคงรอต่อไป :a3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: nai_nai ที่ 23-10-2007 13:09:26

 :a12:

มา

 :a12:

รอ

 :a12:

ครับ

 :a12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 23-10-2007 18:46:39
หว่า...เราว่าเราหายไปนานเหมือนกานนะเนี่ย

แต่ก้อยังไม่มาเยยง่า

ยังไงก้อขอรอด้วยคนนะฮะ

เปงกำลังใจให้นะ สู้ๆนะ :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอน$
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 26-10-2007 22:50:08
:m21:  เค้ายังค้างงอยู่น๊าาา   มาทำให้เสร็จๆๆไปดิ  :m23:

ค้างอารายจ๊ะหนูปนัท

มา เด่วเค้าช่วยนะตะเอง

 :a3: :a3: :a3:




















ลป.

เรื่องนี้คนแต่งหายสาบสูญครับ

เด่วจะไปแจ้งความคนหาย

ชิส์

 :a14:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-10-2007 13:55:36
หือๆ....ยังไม่มาต่อเยยหยอ :m17: :m17:

อยากอ่านต่อมากมายเยยนะฮะ

มาต่อได้แย้วนะฮะ

จะรอต่อไปนะ

เปงกำลังใจให้นะ สุ้ๆนะ :m17: :m17:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 28-10-2007 19:33:02
 :angry2:...น่าจะโว้ตให้เป็นนิยายดองเค็มแห่งชาติเลยดีกว่า
รู้สึกว่า มีคนมารอกันนานมากกกกกกกกกกกกกก o17 o17
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: hutsepsut ที่ 28-10-2007 20:51:51
:m21: :m29:.....นี่ๆๆๆจามาชิงตำแหน่งนิยายยาดอง(จนเค็ม)อ่ะหรอ...คุณว่างวนอ่ะค้าบ...ถ้าว่างแล้วช่วยมาวนๆลงนิยายให้คนที่รออ่านหน่อยดิค้าบโผม.... :m5: :m22: :m7:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: TaDa ที่ 29-10-2007 22:53:30
 :เฮ้อ:


มาต่อดิครับ :m5:

ว่าง่ายๆ โตเร็วๆ

มาต่อนะครับ :m5:

เอาตั้มผมคืนมาด้วย ไม่เอาบอสอะ ม่ายอ่าววววววววว


 :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 02-11-2007 22:35:41

ขอชี้แจงหน่อยครับ กับการห่างหายไป
เพราะตั้งแต่ 2 เดือนก่อน ผมมีอาการปวดต้นคอ ท้ายทอยอ่ะ เหมือนในเรื่อง shutter อ่ะ ไปหาหมอ บอกว่าเพราะเล่นคอมมากไป ท่านั่งมันตึง มันไม่มีการขยับ
อาจจะจริงอ่ะครับ เพราะทำงานใช้คอม 8 ชม. กลับมาก็เล่นคอมต่ออีกสัก 2 ชม. รวมๆแล้ววันนึงๆ 10 ชม. ได้
ล่าสุด เริ่มปวดตาครับ เมื่อจ้องคอมพิวเตอร์ เลยจะใช้คอมพิวเตอร์นานๆไม่ได้ แต่ที่ทำงานก้ต้องทำงาน เลยแอบแว่บเขียนไม่ค่อยได้ครับ
ช่วงนี้ก็ยังเป็นชัตเตอร์อยู่เลย แต่เหมือนมันชินๆอ่ะครับ เลยพอจะพิมพ์วันละนิดละหน่อยได้
เนี่ย เดี๋ยวอะไรๆลงตัวว่าจะไปหาหมออีกรอบ (หามา 3-4 รอบแล้ว) ไม่รู้เลี้ยงไข้รึเปล่า ว่าจะไปเอกเรย์ดูอ่ะ
เฮ้อ ~

maximum 7 วัน ครับ มาต่อแน่นอน ดองนานไปเดี๋ยวราขึ้น เหอ เหอ



รับแซ่บครับ

เป็นกำลังใจให้

หายเปื่อยไวไวนะครับ

 :yeb:







:m21: :m29:.....นี่ๆๆๆจามาชิงตำแหน่งนิยายยาดอง(จนเค็ม)อ่ะหรอ...คุณว่างวนอ่ะค้าบ...ถ้าว่างแล้วช่วยมาวนๆลงนิยายให้คนที่รออ่านหน่อยดิค้าบโผม.... :m5: :m22: :m7:

ผิดเรื่องแล้วจ้า หนูตงฟาง

คิกคิก

 :m26: :m26: :m26:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 03-11-2007 14:19:21
รับแซ่บบบ  มาเข้า Q รอ -0-
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 03-11-2007 14:26:33
.............ขอมารอต่อด้วยคนนะฮะ

ยังไงก้อจะรอต่อไปนะ  :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: hutsepsut ที่ 04-11-2007 17:26:19
:เฮ้อ:....ยางมะมาต่ออีกหรอค้าบ....อืมๆๆๆ...นั่งหน้าคอมจนปวดต้นคอ...อ้าว...เจ้าข้าเอ๊ยครายเป็นแฟนๆโอนิมารุก็เชิญสมัครเป็นคนดูแลเร๊ว....ผมขอคนแรกน้า.... :m23: :m18:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 05-11-2007 17:10:30
................ขอมารอด้วยคนนะฮะ

อยากอ่านต่อมากมายเยยนะฮะ

ยังไงก้อมาต่อด้วยนะฮะ จะรอนะฮะ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 05-11-2007 20:33:28
ขอให้อาการดีขึ้นๆๆ ไม่เจ็บไม่ปวดนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* update 09 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-11-2007 16:22:39
เพราะว่าข้างนอกฝนตก ภายใต้ผ้าห่มบางๆจึงมีสองร่างแชร์ความความอบอุ่นอยู่
วันชนะหลับสนิทไปตั้งนานแล้ว แต่บอสยังลืมตาโพลงในความมืด ในหัวคิดอะไรให้วุ่นวายไปหมด ที่นอนอยู่ข้างๆเขาตอนนี้คือวันชนะ คนที่เขาชอบ จะเรียกว่ารักเหรอ อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ เพราะความรู้สึกบอกว่าชอบตั้งแต่แรกเห็นวันชนะตั้งแต่ยังไม่เจอกัน
บอสไม่เคยคิดว่าเขาผิดปกติที่ชอบผู้ชายด้วยกัน อาจเพราะเขาเคยได้รับรู้ความรักรูปแบบนี้มาจากภัทร ดังนั้นเขาเลยมองมันเป็นธรรมดา ความรักสำหรับบอสแล้วมันไม่มีเพศมาขีดทางให้หรอก
วันชนะขยับตัวเข้ามาใกล้ เพราะนอกผ้าห่มมันเย็น หรือเพราะร่างของคนที่นอนข้างๆคือแหล่งความอบอุ่นก็ตาม เขายกขาขึ้นทับพร้อมกับดึงร่างบอสมากอดเหมือนเป็นหมอนข้าง
บอสเองก็รู้สึกดี หัวใจเหมือนมีเสียงกลองเต้นระรัวอยู่ภายใน
เด็กหนุ่มยิ้มเปี่ยมสุขในความมืดแต่แล้วก็หุบยิ้มไปในทันทีเมื่อวันชนะกอดเขาแน่นขึ้น แต่ว่ามีชื่อหนึ่งหลุดออกมา
“ตั้ม”
..
..   

∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞


ไอความชื้นจากข้างนอกเกาะกระจกจนมัวแต่แสงแดดก็ยังส่องผ่านเข้ามาได้จางๆ วันชนะงัวเงียพอรู้สึกตัวเต็มที่ก็พบว่าตัวเองอยู่ในวงกอดของบอสที่นอนเอาหน้าซบหลังเขาอยู่
    วันชนะแกะมือนั้นออกพลางยิ้มเอ็นดูแต่มันกลับทำให้บอสรู้สึกตัว มือนั้นเลยยิ่งประสานกันแน่น
    “เอ้า ตื่นแล้วก็ปล่อยเสียทีสิ” วันชนะร้อง
    “วันนี้วันเสาร์นี่” เขาพูดเสียงอู้อี้
    “แล้วไงล่ะ” วันชนะพยายามแกะมือเขาซึ่งมันไม่เป็นผล
    “ปกติวันเสาร์น่ะผมตื่นสิบโมง” เขาขยับแก้มที่แนบหลังวันชนะขึ้นลง
    ถ้าเป็นปกติวันชนะคงจะโวยไปแล้ว แต่พอนึกถึงสิ่งที่บอสเจอมาเขาก็จะยอมให้สักวัน
    “ตั้มนี่ใครเหรอ” อยู่ดีๆเขาก็ถามแต่ยังหลับตาพริ้มหน้าแนบกับหลังวันชนะ “แฟนเก่าเหรอ”
    วันชนะเหวอไปแต่ก็ตอบไปว่า
    “อืม แฟนเก่าน่ะ”


    เสียงโทรศัพท์มือถือของวันชนะดังขึ้นที่โต๊ะข้างๆเตียง เขาดันตัวจะลุกขึ้นแต่ก็โดนบอสออกแรงรั้งเอาไว้
    “อย่าทำตัวเป็นเด็กนะ” วันชนะแกะมือเขาออก
    บอสบุ้ยปาก พึมพำในคอ “คำก็เด็ก สองคำก็เด็ก”
    คุยโทรศัพท์สักพักเขาก็หนีไปเข้าห้องน้ำ ไม่นานวันชนะก็กลับมาที่เตียงพร้อมก็เสื้อผ้าชุดใหม่ “ตื่นๆ” ว่าพลางก็ดึงหมอนที่บอสหนุนออก
    “ฮื่อ ตื่นก็ได้ๆ” เขาทำเสียงงัวเงีย
    “ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวไปหาไรกินกัน” วันชนะยื่นผ้าเช็ดตัวแล้วไล่เขาไปทางห้องน้ำ จากนั้นจึงค้นตู้เสื้อผ้าหาชุดที่บอสพอจะใส่ได้มาวางไว้แถวๆหน้าห้องน้ำ แล้วจึงหันไปจัดการเก็บความเรียบร้อยบนเตียง
    นานเท่าไรไม่รู้ที่วันชนะเผลองีบไประหว่างที่รอบอสออกมาจากห้องน้ำ รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อรู้สึกว่าลมหายใจติดขัดและรอยอุ่นๆประทับที่ริมฝีปาก

    “เฮ้...!” วันชนะตกใจแต่ก็พูดได้เพียงครึ่งคำเมื่อปากอุ่นๆนั้นประทับซ้ำเป็นรอบสอง ร่างกายที่ยังเย็นชุ่มหลังอาบน้ำมาหมาดๆเทน้ำหนักมาที่ตัวของวันชนะ มือที่ตั้งใจจะดันออกเมื่อสัมผัสกับหน้าอกกำยำของเด็กมัธยมห้ากลับต้องแผ่วแรงลง วันชนะเหมือนถูกริมฝีปากอุ่นนั้นดึงเข้าสู่ห้วงภวังค์ สองมือเปลี่ยนเป็นโอบกอด
    “ตั้ม...” เขาหลุดปาก

    ร่างหนาที่ทาบทับอยู่หยุดการเคลื่อนไหว
    สัมปชัญญะที่จมดิ่งกลับคืนสู่สติอีกครั้ง มือที่โอบกอดเปลี่ยนเป็นดันออกแต่ร่างหนาไม่เขยื้อนแม้แต่น้อย
    เด็กวัยรุ่นมัธยมปลายมองหน้าเขานิ่งแววตาผิดหวัง “คุณยังไม่ลืมเขาอีกเหรอ”
    วันชนะไม่ตอบแต่พยายามดิ้นให้หลุด บอสเองก็ไม่ปล่อยให้วันชนะทำได้ง่ายๆเหมือนกัน
    “เขามีอะไรดี” เสียงห้วนๆแต่ปนความรู้สึกน้อยใจ
    “ออกไปนะบอส” วันชนะออกคำสั่ง แต่เขาหูทวนลมกลับเอาหน้าเข้ามาใกล้วันชนะอีกจนลมหายใจอุ่นๆรดจมูก
    สายตาที่คาดคั้นกับใบหน้าหล่อเหลาที่ขยับเข้าใกล้ทีละนิดๆหยุดลงแค่เพียงจมูกสัมผัส เมื่อวันชนะพูด
    “ผมยังรักเขา”
    น้ำตาที่ถูกกักเอาไว้มานานเพราะเรื่องนี้ต้องมีเหตุได้ล้นออกมาอย่างอ้อยอิ่งอีกครั้ง
    “ผมแทนเขาไม่ได้เหรอ” น้ำตาถูกมือของเขาปาดออกเบาๆ
    “...”

    บอสพ่ายแพ้ให้กับความรู้สึกของวันชนะแต่เขาไม่ละความคิดที่จะเปลี่ยนใจวันชนะให้ได้สักวันหนึ่งข้างหน้า
    คราวนี้ร่างหนาเกินวัยถอนออกไปด้วยตัวเอง
    “ชุดที่คุณเตรียมไว้อยู่ตรงนั้นใช่มั้ยครับ” ท่าทีเขาสงบลง

    วันชนะพยักหน้า

    หลังจากที่บอสแต่งตัวเรียบร้อยเขามายืนอยู่ตรงหน้าวันชนะอีกครั้ง
    “จะพาผมไปส่งให้พี่ภัทรเหรอ” เขารู้ว่าโทรศัพท์เมื่อกี้ภัทรต้องโทรมาถามกับวันชนะแน่ๆ
    “อืม” วันชนะตอบอย่างเลี่ยงเสียไม่ได้เพราะท่าทีของบอสเหมือนเขาจะอ่านใจวันชนะออกไปเสียหมดทุกเรื่อง เด็กคนนี้โตกว่าวัยจริงๆ
    เมื่อลงมาข้างล่างอพาร์ทเมนต์วันชนะก็ออกไปเรียกแท็กซี่ซึ่งผ่านมาจอดเทียบแบบไม่เสียเวลาเลย บอกจุดหมายเสร็จเขาก็กวักมือเรียกบอสที่กำลังยืนซึมๆอยู่ใต้ถุนอพาร์ทเมนต์ให้มาขึ้นรถ
    เด็กหนุ่มเหม่อมองดูข้างทางตลอดเวลาด้วยสายตาที่เรื่อยเปื่อยไปกับอาคารและผู้คนที่ผ่านกรอบหน้าต่างรถเข้ามาแล้วก็ผ่านไปจนกระทั่งรถจอดสนิท
    “ลงมาสิบอส” วันชนะเรียก
    เขาลงมาทำหน้าแปลกใจ “ที่ไหนเนี่ย”
    “สวนรถไฟ” วันชนะพูดก่อนเดินนำบอสเข้าไปในสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    “สดชื่นจัง” บอสพูดขณะปั่นจักรยานคู่ไปกับวันชนะ “ไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่ากรุงเทพก็มีที่อย่างนี้ด้วย”
    “พูดอย่างกับนายไม่ใช่คนกรุงเทพอย่างนั้นแหล่ะ” วันชนะเหล่ตา
    “ใช่น่ะมันใช่อยู่หรอก แต่ไม่เคยมานี่นา” เขาหันมาตอบก่อนจะเร่งฝีเท้าปั่นนำไปก่อน
    “เฮ้ รอด้วยสิ” วันชนะรีบปั่นจักรยานตาม
    จนกลับมาปั่นคู่กันอีกครั้งก็มีเสียงตะโกนแหลมๆดังขึ้น

    “หลบคะ หลบไป ว้าย!”

    หญิงสาวกำลังปั่นจักรยานตุปัดตุเป๋มาทางวันชนะ หล่อนกรีดร้องเมื่อไม่สามารถบังคับทิศทางของจักรยานได้และมันกำลังจะชนกับวันชนะ
    จังหวะจวนตัวเกินไปจนทั้งคู่ไม่ทันได้ปัดป้อง จักรยานคันนั้นชนขาด้านข้างวันชนะเข้าเต็มๆจนจักรยานล้มไปโดนคันของบอสอีกที วันชนะรู้สึกว่าก้นตัวเองลอยหลุดจากเบาะนั่ง แต่ก็ถูกรับโดยอกของบอสก่อนจะล้มกลิ้งกันไปสองสามตลบ โดยจักรยานของหญิงคนนั้นหยุดลงได้และหล่อนยืนตะลึงคาจักรยานไปพักหนึ่ง

    “ว้าย ตายแล้วๆ เป็นอะไรกันมากไหมคะ ขอโทษจริงๆค่ะ พอดีว่าตะกี้สะดุดหลุมตรงนั้นมาอ่ะค่ะ” หล่อนรีบลงจากจักรยานแล้วมายกมือไหว้
    “ไม่เป็นไรครับ” บอสเป็นคนบอก
    “คุณเป็นไรมั้ย” บอสถามวันชนะซึ่งตอนนี้อยู่ในวงกอดของเขา
    “ไม่เป็นไร ขอบใจนะ” วันชนะตอบพลางดันตัวออกช้าๆ จึงรู้สึกเจ็บที่ขาแปลบๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก
    “ว้าย!” คนต้นเหตุอุทานเสียงดัง “คุณ เลือดออกนี่คะ ไปโรงพยาบาลกันเถอะค่ะ”
    บอสถึงได้รู้ว่าที่ข้อศอกเขามีเลือดไหลออกมาจริงๆ จากนั้นก็เริ่มรู้สึกแสบๆ แต่พอสำรวจตัวเองแล้วก็พบว่าเป็นแค่รอยถลอกนิดหน่อยเท่านั้นเอง

    “แค่ถลอกนิดเดียวครับไม่มีอะไรมาก” บอสว่า
    “ไปโรงพยาบาลกันเถอะ” วันชนะพูดอีกคน
    “คุณก็ห่วงผมเหรอ” นัยน์ตาบอสดูมีประกายขึ้นมา
    “เออ ก็ต้องห่วงสิ เอาตัวมารับเสียขนาดนี้”
    “ให้ดิฉันไปด้วยนะคะ” หญิงคนนั้นว่า ตาคลอๆ
    “ไม่เป็นไรมากจริงๆครับ” บอสว่าพลางทำสีหน้าท่าทางให้กระปรี้กระเปร่า ราวกับได้ยาดี
    “แต่ดิฉันลำบากใจนี่คะ อย่างน้อยให้ดิฉันดูแลค่ารักษาก็ยังดีนะคะ แฟนดิฉันอยู่ทางนู้นแน่ะค่ะ เดี๋ยวให้เขาขับรถไปส่งนะคะ”
    “ก็ดีครับ” วันชนะตอบแทนคนเจ็บเสร็จสรรพพลางฉุดมือบอสให้ลุกขึ้นโดยมีเสียงครางโอดโอยเบาๆดังอยู่ข้างๆไม่ขาด
    “ไหนว่าไม่เป็นไรมากไง” วันชนะเลิกคิ้ว


    จนชั่วโมงหนึ่งผ่านไปหลังจากล่ำลากับคู่รักต้นเหตุรนจักรยานชน ทั้งคู่ก็ออกมาจากโรงพยาบาลโดยบอสมีผ้าปิดแผลที่ข้อศอกออกมาด้วย
    “โธ่เอ้ย ก็แค่แผลถลอก” วันชนะแกล้งพูด
    “แผลเล็กๆแต่มันก็เจ็บนะคร้าบ” บอสเกาะแขนวันชนะทำกะลิ้มกะเหลี่ย
    “ปล่อยแขนสิ คนมองกันแล้วเห็นไหม” วันชนะพยายามแกะมือเขาออก
    “ไม่เห็นเป็นไรเลยเขาคงคิดว่าน้าเดินมากับหลานน่ะแหล่ะ” เขาเกาะแขนต่อ
    วันชนะคิดตาม อืม ก็จริงนะ เลยปล่อยให้บอสเกาะแขนต่อไปได้แต่แล้วก็ต้องหยุดเมื่อเขากระซิบที่ข้างหูว่า
    “แต่หลานคนนี้รักน้านะครับ”

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ช่วงสายของวันพระอาทิตย์เตรียมตั้งฉากกับศีรษะ แต่ว่าผู้คนก็เริ่มทยอยมาเต็มตลาดนัดสวนจตุจักร
    “นึกไงเนี่ย นัดกะพี่ภัทรที่เจเจเนี่ย ร้อน” บอสพูดออกจะเป็นบ่นเสียด้วยซ้ำ ว่าไปมือก็ทำเป็นพัดๆไป
    “เออน่า ขอแวะซื้อของหน่อย” วันชนะเดินนำ
    เดินดูของเพลินจนลืมดูเวลาจนเกือบๆหกโมงเย็นเมื่อตะวันคล้อย วันชนะก็เดินหาที่นั่งพักเมื่อย
    “เดี๋ยวก็ได้เวลากลับแล้วนะบอส” วันชนะพูดขึ้น
    “อืม” เขาดูดน้ำอัดลมไปด้วย
    “พี่ภัทรไม่ได้มารับหรอกนะ” วันชนะพูดต่อ
    “อืม” เขายังคาบหลอดดูด “โตๆกันแล้ว เขาจะมารับผมทำไม”
    “อืม นั่นสิ” วันชนะพูด นึกไปถึงเมื่อตอนเช้าเขาบอกภัทรไปว่าไม่รู้เรื่องที่บอสออกจากบ้าน แต่คิดว่าถ้าได้ทำให้บอสสบายใจขึ้นเขาก็น่าจะกลับบ้านได้เอง
    “ขอบคุณนะ ที่พาผมมาวันนี้” บอสยิ้ม นัยน์ตาเขาสะท้อนแสงเป็นประกาย “ผมสบายใจขึ้นมากๆเลย”


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    หลังจากแยกกันกับบอสที่รถไฟฟ้าใต้ดินตรงตลาดนัดสวนจตุจักรก็มีสายโทรเข้าโทรศัพท์มือถือของวันชนะ
    “ครับ อาจารย์นุช” วันชนะพูด
    “อาจารย์วินคะ ไม่ต้องเรียกนุชว่าอาจารย์ก็ได้ค่ะ วันนี้วันเสาร์นะคะ” ปลายสายพูดมา
    “อะ ครับ นุช วันนี้วันเสาร์ครับ” วันชนะตอบลงไป
    “ค่ะ วันเสาร์แล้วยังไงคะ” ปลายสายทำเสียงลุ้นๆ
    “แล้วยังไงครับ วันเสาร์ก็ไม่ต้องไปโรงเรียน ก็ไม่ต้องเรียกอาจารย์ไงครับ” วันชนะตอบ
    “ผิดค่ะ” นุชรินทร์ทำเสียงเหมือนเป็นพิธีกรเกมส์โชว์ตอนที่ดารารับเชิญตอบผิด “วันนี้เรามีนัดกันไปเซอร์เวย์สถานที่ที่จะไปทัศนศึกษาจำได้มั้ยคะ” หล่อนยังทำเสียงสูงตอนท้ายเลียนแบบพิธีกรรายการทีวี
    ถึงตรงนี้วันชนะถึงได้สะดุ้งโหยงเพราะเพิ่งนึกออก “เฮ้ย จริงด้วยสิครับ”
    “ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเราจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง วันพรุ่งนี้ค่ะ ฮิ ฮิ” นุชรินทร์ขำตัวเอง ก่อนจะพูดต่อเป็นการเป็นงานขึ้นว่า “นุชก็ลืมค่ะ ทิพย์ก็ลืม เราเลยโทรไปเลื่อนเป็นพรุ่งนี้เรียบร้อยแล้วค่ะ ยังไงพรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้าเจอกันก่อนที่โรงเรียนนะคะ”


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    เจ็ดโมงเช้าวันอาทิตย์วันชนะจึงมาตามนัดที่โรงเรียนโดยมีนุชรินทร์และเอื้องทิพย์ตามมาสมทบ
    “ไปกันเลยไหมครับ” วันชนะพูดเมื่อเห็นทุกคนพร้อม
    “คงยังไม่ได้หรอกค่ะ เราต้องรอคนจากบริษัทที่เราไปขอสปอนเซอร์เขามาอีกถึงคนหนึ่งน่ะค่ะ” นุชรินทร์บอกพลางยกข้อมือดูเวลา
    “อ๋อ บริษัทปิโตรเลียมข้างๆโรงเรียนเราน่ะหรือครับ”

    ยังไม่ทันตอบก็มีเสียงวิ่งมาหยุดข้างหลังวันชนะ

    “พวกคุณจะไปเซอร์เวย์สถานที่ทัศนศึกษากันใช่ไหมครับ” คนมาใหม่ถามขึ้น เสียงนั้นฟังคุ้นๆหูวันชนะ เขาเลยหันไป
    ฝ่ายนั้นก้มหน้าหอบแล้วจึงเงยหน้าขึ้นพูด “ขอโทษครับที่มาสาย คือผม...” เขาค้างไปพอๆกับที่วันชนะรู้สึกว่าเวลาหยุดเดินและทุกสรรพสิ่งในโลกถูกสต๊าฟเอาไว้

    “คะ?” นุชรินทร์ตั้งใจฟังเขาพูด แต่ว่าเห็นชายตรงหน้าพูดค้างไว้เลยต่อให้ “คุณมาจากบริษัทปิโตรเลียม...ใช่ไหมคะ”
    “ครับ” เขาตอบคำเดียว
    นุชรินทร์กับเอื้องทิพย์ทำหน้างง “แล้วคุณอ๊อฟล่ะคะ”
    “อ๊อฟถูกส่งตัวไปเคลียร์งานที่ต่างจังหวัดเดือนหนึ่งครับ ผมเลยมาแทน” เขาพูด แต่สายตาแทบจะไม่ได้มองที่สองสาว
    “ว้า” เอื้องทิพย์หลุดออกมาต่างจากนุชรินทรืที่เก็บอาการได้มิดชิดกว่าแต่สีหน้าก็ดูผิดหวัง
    “ยัยทิพย์” นุชรินทร์กระทุ้งเอวเพื่อนเบาๆ

    “ค่ะๆ ดิฉันนุชรินทร์นะคะ เรียกนุชเฉยๆก็ได้ค่ะ นี่ทิพย์ แล้วก็วินค่ะ” นุชรินทร์แนะนำ
    “ครับ ยินดีที่รู้จักครับ” เขายื่นมือมาจับอย่างเป็นทางการกับสองสาว และสุดท้ายที่วันชนะ
    มือนั้นยกค้างอยู่ตรงหน้ารอวันชนะจับเพื่อทำความรู้จัก

    “อ้อ ว่าแต่คุณชื่ออะไรคะ” เอื้องทิพย์ถามเพราะดูเหมือนชายตรงหน้าจะจับมืออย่างเดียวแต่ลืมแนะนำตัวเอง
    สายตาเขาดูมีประกายวูบวาบ รอยยิ้มที่มุมปากแม้จะเผยเพียงน้อยแต่แสดงเหมือนเขาดีใจสุดจะกลั้น มือยังยกค้างอยู่ตรงหน้าวันชนะ รอให้เขาจับ


    “นักขัตครับ เรียกผมตั้มก็ได้”
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* update 09 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-11-2007 17:32:10
ง่าๆๆ..........มาเจอกานแบบนี้แย้วจะทามยังไงละฮะเนี่ย

พี่วินยิ่งลืมไม่ได้อยุ๋ด้วย

แย้วจะเปงยังไงต่อไปนะฮะ

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ

จะรออ่านต่อไปนะฮะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* update 09 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-11-2007 22:56:09
ว้าวววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว นักขัต กลับมาแล้ว ดีใจ อิอิ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* update 09 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 09-11-2007 23:16:06
 :o12: :o12: :o12:....รอมานานแล้วนะครับบบบบ ดีใจโครตตตตตตต ดีใจมากถึงมากที่สุดครับบบบ  ไปไหนมาอ่ะ   มาต่ออีกนะครับ อย่าหายไปนานนนนนนะครับ  คิดถึง  นึกว่าจะไม่มาต่อแล้วอ่ะ เมื่อกี่เห็นกระทู้ว่ามาลง  เล่นเอาช็อกเหมือนกันนะครับบบ แปปว่เหมือนถูกหวยเลยครับบบ  ชอบบบอ่ะ  คิดถึงงงง....จากที่พิมไปคงรู้ว่าคิดถึงขนาดไหนนะครับบ :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* update 09 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-11-2007 23:25:05
ตั้มมาแล้ว  :m3:  :m3:  :m3:  :m3:  :m3:  :m3:  :m3:  :m3:  :m3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* update 09 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 09-11-2007 23:50:56
ว่าจะไม่เม้นต์แล้วเชียว แต่ดีใจที่เจอตั้ม กรี๊ดดดดดดดดดดดดด :m3: :m3:

ป.ล. เราว่าวินไม่ได้หลอกเด็กหรอก แต่โดนเด็กหลอกต่างหาก :m14:

ป.ล. บอสรุกหนักเชียว ชักหนักใจแทนตั้มแล้วสิ :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* update 09 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 10-11-2007 03:49:47
บอส ตั้ม บอส ตั้ม บอส ตั้ม

ว๊า  เลือกใครดี  หรือจะพี่ภัทรอีกคน ><"

มาต่อไวๆ น๊าครับ

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* update 09 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 10-11-2007 09:11:16
ในที่สุดตั้มก็กลับมาซะที  :m3: :m3: หวังว่าจะลงเอยกันได้ซักทีนะ :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* update 09 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 10-11-2007 19:29:14
มารอต่อไปนะฮะ

ยังไงก้อมาต่อให้ด้วยนะฮะ

จะรอต่อไปเรื่อยๆนะฮะ :m17: :m17:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* update 09 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 10-11-2007 22:40:41
 :m18:  แวะมาขอบคุณแฟนๆแค่มีนายทุกๆคนครับ   :m9:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* update 09 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: hutsepsut ที่ 11-11-2007 00:26:57
:m1:.....ว้าว...ว้าว...ยามเมื่อลมพัดหวน.... :undecided:เฮ้อ...ในที่สุดลมนี้ก็หอบให้พระเอกและนายเอกได้กลับมาพบกัน... :m5: :m5:สาธุสาธุ..ขอให้คืนดีกันด้วยเถิ๊ด..เจ้าประคุ๊น.... :m4: :amen:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* update 09 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 13-11-2007 08:40:18
 o21 o21
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* update 09 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 13-11-2007 08:55:10
โว่ โว โว เย้
และแล้วนักขัตก็กลับมา
 :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* โอนรีโอ้ แถลงข่าว 19 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-11-2007 19:30:04
:m18:  แวะมาขอบคุณแฟนๆแค่มีนายทุกๆคนครับ   :m9:

     ตอนนี้กำลังเจียดเวลาไป revise ตั้งแต่ต้นเรื่องเลยครับให้มันเข้าที
    แหะ แหะ มีหลายจุดเลยที่อ่านแล้วแบบว่า เฮ้ย เขียนไปได้ไงว้า ติ้งต้อง เลี่ยนจิงๆ ประมาณนี้อ่ะครับ
    และบางประโยคก็ทำให้บุคลิกของตัวละครดูผันแปรไม่สมจริง

    แหะๆ แบบว่า คิดๆมันพอดีอ่ะว่า 200 หน้าเรื่องนี้จบแน่นอนเลย ตอนนี้ได้ 141 หน้าละ
    ก็พอดีกับรีไวส์ใหม่ก็จะส่งสำนักพิมพ์อ่ะครับ เผื่อจะได้เห็นหนังสือตัวเองมั่ง

    แหะ แหะ จะทำได้มั้ยน้า


จะรอนะครับ

 :m11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* โอนรีโอ้ แถลงข่าว 19 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 24-11-2007 00:24:48

รอด้วยคนๆ

 :m4: :m4: :m4:

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* โอนรีโอ้ แถลงข่าว 19 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 24-11-2007 15:21:17
จะตีพิมพ์เป็นหนังสือหรองับ  :m17:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* โอนรีโอ้ แถลงข่าว 19 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 29-11-2007 12:57:26
ตั้มกำลังกลับมาแล้ว  :m3:  :m3:  :m3:

แต่.. ต้องรอ revise อีกแล้วเหรอ  แงแง  :m8:
รอก็ได้จ้า  รออยู่เสมอ สู้ๆน้า  :a2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* update 09 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 29-11-2007 14:11:13
เหอ เหอ สวัสดีครับ
มีข่าวดีอ่ะ ว่ายังไม่ได้เขียนต่อเลยครับ เหอ เหอ
เรื่องส่ง สนพ. อ่ะ มันก็เป็คนความฝันของนักเขียนทุกคนแหล่ะครับ แต่จะทำได้รึเปล่านี่ยังไม่รู้นะครับ
เรื่องนี้อาจจะแห้วก็ได้นะฮะ เหอ เหอ ก็ไม่ซีเรียสครับ

รอต่อไปครับ

 :a3: :a3: :a3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* โอนรีโอ้ แถลงข่าว 19 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: hutsepsut ที่ 30-11-2007 02:15:39
:undecided: :เฮ้อ:...อ่ะค้าบ...ยาใฃงมะมาต่ออีกเลยหรอค้าบ..รอนานแร้วน้า.... :m17: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* โอนรีโอ้ แถลงข่าว 19 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: ^AugusZaa^ ที่ 03-12-2007 02:59:16
และแล้ว ก็ยังไม่มาเหมียนเดิม
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* โอนรีโอ้ แถลงข่าว 19 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 03-12-2007 13:58:11
ตามกลิ่นตั๊มกะวินมา   :m3:  ได้เจอกันแล้ววว

ว่าแต่เงียบไปอีกแล้วง่า    :a6:  มาลงต่ออีกนะค้าบบ

ที่ไม่สบายเป็นไงบ้างหายหรือยังค้าบบบ ขอให้หายไวๆน๊าา
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* โอนรีโอ้ แถลงข่าว 19 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: BICHA ที่ 13-12-2007 19:36:21
 :o11:  คู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกันคับ
                 
                                              ขอให้วินกะตั้มกับมาเปงเหมือนเดิมด้วยเถอะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* โอนรีโอ้ แถลงข่าว 19 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 14-12-2007 17:48:44
 :undecided:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* โอนรีโอ้ แถลงข่าว 19 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: hutsepsut ที่ 14-12-2007 18:05:43
o12 :o :เฮ้อ:...หง่ะ...จนป่านนี้ยังมะมาต่อให้อีกเลยอ่ะ...มะรู้ว่าไปหลงอยู่แถวไหนอ่ะ....แงแงแงแง :m15: :m8: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* โอนรีโอ้ แถลงข่าว 19 Nov 2007
เริ่มหัวข้อโดย: TaDa ที่ 14-12-2007 21:46:14
 :m5:

มาต่อสักทีก็ดีนะครับ

 :m5:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-12-2007 16:36:40
บรรยากาศในรถตู้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะคิกคักของสองสาวที่ถามถึงเพื่อนของนักขัตที่ชื่ออ๊อฟ ในขณะที่วันชนะเอาแต่เงียบ จนแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มทุกคนจึงลงมายืดเส้นยืดสาย
   สองสาวเดินไปทางห้องน้ำ
วันชนะจึงแยกไปที่ร้านกาแฟ สั่งเสร็จก็ยืนรอสักพัก พอได้แล้วก็ออกมานั่งโต๊ะเล็กๆข้างนอกร้าน จิบกาแฟได้นิดหนึ่งกลิ่นบุหรี่ก็มาถึงก่อนเจ้าตัวจะมาเสียอีก
นักขัตนั่งลงที่โต๊ะข้างๆ มือคีบบุหรี่ ปากพ่นควันจางๆเป็นสาย
ดูเหมือนนักขัตจะตั้งใจมาเพื่อเผชิญหน้าและไม่มีเหตุผลใดที่วันชนะต้องหลบ
ถึงอย่างนั้นทั้งสองก็ไม่พูดอะไร
จนเมื่อควันจางๆกลิ่นฉุนนั้นลอยมาระหน้าวันชนะ เขาจึงได้พูดขึ้น
“แต่ก่อนไม่เห็นดื่มกาแฟ” สายตานักขัตยังมองเหม่อไปข้างหน้า
“นายก็ติดบุหรี่” วันชนะเลี่ยงประเด็นก่อนจะยอมตอบกลายๆ “...เราไม่ได้ติดกาแฟ”
จากนั้นก็เงียบไปอีกจนกระทั่งได้เวลาขึ้นรถไปต่อ
สองสาวดูเหมือนจะยังไม่รู้สึกถึงอารมณ์ของวันชนะ ทั้งเอื้องทิพย์กับนุชรินทร์เอาแต่จ้อไปตามเรื่อง และดูทั้งสองก็เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยกับนักขัต
“คุณตั้มเป็นวิศวกรของบริษัทหรือคะ” เอื้องทิพย์เป็นคนถาม
“ก็ไม่เชิงครับ ผมอยู่ฝ่ายไอที” นักขัตตอบ
“ท่าทางจะเก่งนะคะนี่ ได้ทำงานในบริษัทใหญ่ขนาดนั้นด้วย” นุชรินทร์ออกปากชม “ขอโทษนะคะ คุณตั้มจบมาจากไหนคะ เผื่อเราจะเป็นศิษย์ร่วมสถาบันกันน่ะค่ะ”
นักขัตบอกชื่อมหาวิทยาลัยที่เรียนจบมาแก่สองสาว
“เอ๊ะ จบที่เดียวกับวินเลยนี่” เอื้องทิพย์ถึงได้หันมาสนใจวันชนะ
นักขัตก็หันมาด้วย เขาทำหน้าตื่นๆประมาณว่าเราเคยเรียนที่เดียวกันจริงเหรอนี่
“มหา’ลัยตั้งกว้าง เราไม่เคยเจอกันหรอกทิพย์” วันชนะโกหก
“นั่นสินะ” เอื้องทิพย์เออออ
แต่นักขัตพูดว่า “แต่ผมดูคุ้นๆหน้าคุณนะครับ”
“จำคนผิดแล้วล่ะ” วันชนะสวน
แวบหนึ่งวันชนะเห็นนัยน์ตาเขาหม่นแสงลงก่อนจะหันไปคุยกับนุชรินทร์ต่อ

∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞

ทัศนศึกษาครั้งนี้เกี่ยวกับระบบนิเวศน์ป่าชายเลนและทะเล ดังนั้นรถจึงมาจอดอยู่ที่ศูนย์ให้ความรู้และพัฒนาป่าชายเลน พอเข้าไปทักทายและแสดงตัวกับทางศูนย์ฯเสร็จเรียบร้อย ทั้งสี่หนุ่มสาวจึงตรงไปยังป่าชายเลนที่มีสะพานไม้ทอดยาวไปตลอดเส้นทางทะลุป่า
นุชรินทร์กับเอื้องทิพย์เดินปลีกตัวนำไปก่อนเพราะมีเรื่องแบบผู้หญิงๆต้องคุยกันตามประสา ทิ้งให้วันชนะเดินห้อยท้ายกับนักขัต
ระหว่างเส้นทางวันชนะก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆโดยไม่พูดไม่จากับคนที่มาด้วยกัน
นักขัตเองก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน
จนมาถึงที่นั่งพักบนสะพานที่อยู่ใต้ร่มโกงกางต้นใหญ่วันชนะถึงได้พัก
คนที่ยืนตรงหน้าไม่พูดอะไร แต่เขาส่งขวดน้ำให้
วันชนะลังเลก่อนจะรับมันไว้
“ขอบใจ...”
นักขัตยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ต่อเมื่อวันชนะเปิดขวดเขาจึงเลี่ยงไปนั่งอีกทาง
พักเหนื่อยได้ครู่หนึ่งวันชนะก็ไปต่อโดยมีนักขัตเดินตามหลัง ได้ยินเสียงสองสาวหัวเราะรื่นดังมาเป็นระยะ
บนเลน วันชนะเห็นปูที่มีลักษณะแปลกออกไปจึงคิดจะถ่ายรูปเอาไว้ เจ้าปูก็เหมือนจะอายกล้อง มันยกก้ามแล้ววิ่งไปแอบหลังโคนต้นไม้ วันชนะจึงต้องตั้งท่าใหม่
เพราะมัวแต่จ้องอยู่บนจอในกล้องดิจิตัลจึงเห็นที่ปลายตาเลือนๆว่ามีกิ่งไม้ให้เกาะ วันชนะจึงวาดมือไปหวังจะจับเอาไว้แล้วโน้มตัวไปข้างหน้าอีกหน่อยเพื่อจะเก็บรูป
มันก็มีกิ่งไม้จริงๆแต่ว่าไม่ได้แข็งแรง
“อ๊ะ!”
ก่อนที่เขาจะร่วงลงไปคลุกเลน วันชนะกูถูกคว้าตัวเอาไว้ได้
“ทำอะไร” นักขัตพูดเสียงเรียบๆ “เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก”
วันชนะไม่ตอบ แต่มองตาเขา...เหมือนตกอยู่ในภวังค์
แต่แล้ว
“ขอบใจนะ” วันชนะรีบพูดก่อนที่นักขัตจะได้ยินเสียงใจเขาเต้น แล้วจึงดันตัวเขาออก
วันชนะเบือนหน้าหนี...เพราะกลัวว่านักขัตจะจับความรู้สึกได้
...ความรู้สึกเหมือนมีประกายไฟแตกเปรี๊ยะๆในกาย
สถานการณ์กลับเป็นอย่างเดิมคือวันชนะเดินถ่ายรูปไปและนักขัตก็เดินตาม
เสียงหัวเราะของสองสาวดังอยู่ข้างหน้าเป็นระยะ
แล้วเขาก็พูดขึ้น
“เรารู้ว่านายเกลียดเรา แต่ก็ไม่จำเป็นที่เราจะต้องไม่คุยกันนี่”
คำพูดนี้วันชนะคิดว่าผิดแล้ว เขาเองตะหากล่ะที่ต้องพูด เพราะ...ในตอนนั้นเขาเป็นคนทำร้ายนักขัตก่อน
“จะให้คุยเรื่องอะไรดีล่ะ”
ที่จริงแล้ววันชนะดีใจอยู่เหมือนกันที่นักขัตยอมพูดอะไรออกมา เพราะการที่ทั้งสองคนเงียบมาตลอดทางมันอึดอัด แต่ก็เพราะเหมือนมีเส้นใยทิฐิบางๆกางกั้นเอาไว้วันชนะจึงเลือกที่จะรอ...รอให้เขาเริ่มก่อน
จะให้คุยเรื่องอะไรดี...นักขัตตีความหมายว่าวันชนะไม่มีธุระที่จะต้องคุยอะไรกัน ทิฐิที่บางๆกับแข็งแกร่งขึ้นอีก
“เรื่องภัทรเป็นไงล่ะ” เขาเริ่ม
วันชนะหันหน้ากลับมาขวับ หน้าเริ่มตึง
จะให้คุยเรื่องอะไรดี...ในความหมายของวันชนะมันไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเรื่องสัพเพเหระ แต่เพราะเขาพูดมาอย่างนั้นจึงตอบกลับไปว่า
“เราก็รักกันดี”
แล้วจึงสะบัดหน้ากลับไป
“นี่!”
ร่างหนาเดินตามมาคว้าแขนวันชนะเอาไว้
“อะไร...” วันชนะพูดได้แค่นั้น
นักขัตดึงวันชนะเข้าไปจูบอย่างรุนแรง
“เจ็บ...” วันชนะโอดในลำคอก่อนจะชกไปที่หน้าของนักขัต “นายจะทำอะไร”
ไม่ฟังคำตอบวันชนะรีบเดินหนีเพื่อนให้ไปถึงที่สองสาวอยู่ให้เร็วที่สุด
มือที่ชาไปค่อยเตือนให้เขารู้สติจึงค่อยหันไปดูก็เห็นเขานั่งยองๆเก็บขวดน้ำสามสี่ขวดที่กระจัดกระจายบนสะพาน มืออีกข้างเช็ดเลือดที่มุมปาก
แปลบที่ใจ
แทนที่วันชนะจะกลับไป เขาเลือกที่จะเดินหน้าต่อไป โดยมีสายตาละห้อยมองตาม

∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞

“ขอบคุณคุณตั้มมากเลยนะคะที่อุตส่าห์มาด้วยกัน” นุชรินทร์เอ่ยเมื่อรถตู้กลับมาถึงที่โรงเรียนในตอนเย็น 
“ฝากขอบคุณกับทางบริษัทด้วยนะคะที่ให้การสนับสนุนโครงการของโรงเรียนเราเป็นอย่างดี ทั้งเป็นสปอนเซอร์ให้ ไหนจะส่งคุณมาประสานงานด้วยทั้งที่จริงไม่ต้องก็ได้นะคะ” เอื้องทิพย์ยิ้มให้อย่างจริงใจ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ช่วงนี้งานของผมก็ซาๆเหมือนกัน อีกอย่างเจ้านายผมเขาเป็นศิษย์เก่าที่นี่ด้วยนะครับ เผื่อขาดอะไรจะได้ประสานงานทันท่วงที แล้วบริษัทกับโรงเรียนก็อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง” นักขัตยิ้ม
“ขอบคุณมากค่ะคุณตั้ม ยังไงหลังเสร็จโครงการแล้วทางเราจะไปขอบคุณถึงที่เลยนะคะ” นุชรินทร์ยิ้มแย้ม “ว่าแต่ครึ่งหลังที่จะไปเขาใหญ่จะเป็นคุณตั้มอีกรึเปล่าคะนี่”
“ยังไม่แน่ใจนักครับ” นักขัตตอบพลางลอบมองสีหน้าของวันชนะ
“ถ้าเป็นไปได้ก็ไปด้วยกันเลยสิค่ะ”เอื้องทิพย์ถือโอกาสชวน
“จะดีหรือครับ เกรงว่าจะนอกเหนือหน้าที่ที่บริษัทให้มาทำน่ะครับ”
“ไปเถอะค่ะครั้งหน้าก็เป็นวันเสาร์อาทิตย์นี่คะ คุณตั้มก็ไปส่วนของคุณตั้มสิคะ แค่เราบังเอิญไปเจอกันที่นู่น อิอิ” เอื้องทิพย์ขำให้กับแผนการของตัวเอง
นักขัตลอบมองหน้าวันชนะอีกครั้งก่อนจะพูดว่า
“เอาไว้ผมคิดดูก่อนนะครับ”
จนเมื่อเขาเดินจากไป วันชนะถึงได้มองตาม

∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 15-12-2007 16:51:19
จะดีใจหรือแอบเศร้าใจดีเนี่ย
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Twister ที่ 15-12-2007 20:13:36
ได้โปรดเถอะ กลับมารักกันอีกทีได้ไหม สงสารตั้มง่ะ......โอยยยย ใจจะขาดด
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-12-2007 20:37:59
 :เฮ้อ: เมื่อไหร่จะชัดเจนกันเสียที  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Otaku ที่ 15-12-2007 22:13:10
เย้ๆ ในที่สุดก็มาต่อซะที

อยากให้กลับมารักกันเหมือนเดิมอ่ะ มันจะไปเป็นไปได้ไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 15-12-2007 23:27:35
 :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:

ใช่ครับ

จะดีใจหรือเศร้าใจดีอ่ะ  ที่มาต่อ

ให้เวลาเยอะอ่ะครับ

ได้กลับมาเท่านี้เอง

แต่ก็รอครับ เพราะอยากอ่านมากกกกกกก

เป็นกำลังใจให้เสมอน่ะครับบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: alulugun ที่ 16-12-2007 09:22:01





สงสารวินนะ เพราะวินน่ะอยู่ในสภาพที่กลืนก็ไม่เข้า คายก็ไม่ออก
เพราะว่าเรื่องพ่อแม่ของตั้ม ใจก็รักตั้มมากมาย แต่ ก็เพราะรักนั้นแหละ
ที่ต้องทำให้วินน่ะ ตีตัวออกห่างตั้มเข้าไว้

ส่วนตั้ม ก็คงไม่รู้เรื่องที่พ่อแม่ของตัวเอง คุยกับวินหรอกมั้ง


สรุป  เป็นคู่ที่น่าสงสารเอาการนะคับ
แต่ยังไง ถ้าคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันหรอกนะ

สมหวังกันไวๆ

 :m5: :m5: :m5: :m5: :m5: :m5:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 16-12-2007 12:59:49
เมื่อไรจะเข้าใจกันซะทีนะ  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 16-12-2007 13:08:24
สงสารตั้มงะ มาดีกันเถอะ
ทำอย่างงี้ก็เจ็บด้วยกันทั้งคู่ o16
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: thanwaruchara ที่ 16-12-2007 14:04:05
ผมติดตามเรื่องนี้มานานแระ
ชอบครับ
รออยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 17-12-2007 18:07:17
 o7   อ่า ยังไม่ได้คุยเปิดอกกันซักที  ทิฐิ นั้น เมื่อไหร่จะหายไป

อยากให้กลับมารักกันเหมือนเดิม   :o11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: hutsepsut ที่ 19-12-2007 19:51:42
. :oni2: :oni1:...นิยายนั้นแต่งยาก....ต้องลำบากแต่งขึ้นมา...อดนอนทนถ่างตา...เพื่อบรรดาแฟนนิยาย...
 :pig4: :m4:...ขอบคุณครับกระผม...ขอชื่นชมไม่ห่างหาย...จะตามอ่านต่อไป...นานแค่ไหนก็จะรอ....
...5555...กลอนอารายมะรู้เนอะ...คริคริคริ :oni3: o2 :bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: BICHA ที่ 19-12-2007 21:03:59
    ทำไม่วินต้องวิ่งหนีความรักด้วยอ่ะ

                                 สงสารตั้มจางเลย อ่ะ   ในเมื่อมีรักทำไม่สู้อ่ะ   

                                        :m15: :m15:
                                   
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 20-12-2007 01:41:09
 :serius2: :serius2:  จะมีใครยอมเปิดใจก่อนมั๊ยเนี่ย คู่นี้

ยังรอเรื่องนี้อยู่เสมอน้าาา
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-12-2007 17:05:33

ล่วงเข้าสองทุ่ม ภัทรยังนั่งอยู่ในออฟฟิศเพื่อตรวจงานที่คั่งค้าง
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เขาเหลือบมองชื่อที่โชว์บนหน้าจอแล้วถอนหายใจยาวก่อนจะกดรับ
“ว่าไง”
“พี่ภัทรอ่ะ ไม่เห็นโทรหามาร์คบ้างเลย ทำอะไรอยู่น่ะครับ เนี่ยตอนนี้มาร์คอยู่ที่ผับแถวทองหล่อ มาสนุกด้วยกันสิครับ” ปลายสายพูดเสียงนุ่ม
“ผมทำงานอยู่ ยังไม่ว่างไปไหน” เขาอ้างงาน
“งั้น ให้มาร์คไปหาดีรึเปล่าครับ” ปลายสายเสนอ
“ไม่ละ เสร็จจากนี้ผมมีนัด” ภัทรยืนยันคำเดิม หางเสียงออกจะรำคาญก่อนจะชิงวางสายโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้พูดอะไรต่อ
วางมือถือได้ไม่นานก็มีสายโทรเข้ามาอีก
“มีอะไรอีก” ภัทรพูดห้วนๆ แต่พอได้ยินปลายสายพูดมาเขาก็เปลี่ยนน้ำเสียง “วินเหรอ”
“ครับพี่ วินมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่หน่อยครับ พี่ภัทรพอจะว่างรึเปล่าครับ” วันชนะพูดมาตามสาย
“ได้สิ พี่ว่างพอดี”

ดังนั้นชั่วโมงต่อมาภัทรกับวันชนะจึงได้นั่งอยู่ในร้านอาหารย่านสีลม
วันชนะชวนคุยอ้อมไปมากว่าจะเข้าประเด็นได้ก็ผ่านไปนานพอดู
“คือว่า...” วันชนะลังเลจนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนจะตัดสินใจเอ่อยออกไปว่า “ที่วินอยากจะคุยคือ...เรื่องของบอส”
“บอส?” ภัทรทวน
“ครับ” วันชนะรับคำด้วยสายตาจริงจัง

“ป๊าน่ะเป็นคนแข็ง...” ภัทรเริ่มเมื่อฟังวันชนะพูดจบ
“ครอบครัวพี่น่ะ มีป๊า ม๊า พี่แล้วก็บอส ม๊าอยากให้ลูกเป็นนักธุรกิจจะได้ดูแลกิจการของครอบครัว ส่วนป๊าอยากเป็นหมอมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่เขาเรียนไม่ได้เพราะว่าป๊าสุขภาพไม่ค่อยดีมาตั้งแต่ยังหนุ่มๆ ป๊ารักม๊ามากพอม๊าขอให้พี่เรียนด้านบริหารป๊าจึงยอมให้ก่อน ความหวังทั้งหมดที่จะให้ลูกเป็นหมอเลยไปตกอยู่กับบอส” 
“อย่างนี้ไม่ถูกนี่...” วันชนะหลุดปาก “...ขอโทษครับ”
“พี่เข้าใจ ใช่ว่าพี่จะไม่เคยคุยกับป๊าเรื่องบอส แต่ป๊าก็ยังยืนยันคำเดิม ป๊าว่าป๊าเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก”
ฟังจบวันชนะถึงกับหน้าเครียดแต่ก็ทำได้เพียงถอนใจแทนบอส เด็กคนหนึ่งต้องอยู่กับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ชอบไปตลอดชีวิตเลยนะ
“บอสก็เหมือนป๊า หัวแข็งพอกัน พี่กับม๊าเลยยืดเวลาออกไปก่อน เผื่อว่าพอถึงเวลาที่บอสต้องเลือกจริงๆ ป๊าอาจจะใจอ่อน...นั่นสินะ เหลือเวลาอีกปีเดียวแล้ว”
เรื่องของบอสจบเพียงแค่นั้นเพราะวันชนะรู้ว่าภัทรไม่อยากพูดต่อ จึงเสเปลี่ยนเรื่องคุยแต่ในใจทั้งสองก็เครียดขึงไปพอๆกัน

∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞

วันจันทร์ วันชนะมาสอนตามปกติ บอสก็มาเรียนตามปกติ แต่วันชนะรู้สึกว่าบอสดูขรึมขึ้น จนเลิกเรียนวันชนะก็เดินกลับทางเดิม
 “ไปหาไรกินกันป่าว” วันชนะเอ่ยโดยไม่หันไปมองข้างหลัง รู้ว่าเขาเดินตาม
“ไปดิ’จารย์” คนข้างหลังรับคำ ในน้ำเสียงเหมือนไม่มีความขี้เล่นเหมือนเคย

“ไม่กินเหรอ’จารย์” บอสพูดเมื่อเห็นวันชนะนั่งเหม่อ “งั้นขอนะ”
ปากว่ามือถึง ลูกชิ้นโดนเขาคีบไปแล้ว แต่วันชนะก็ยังเฉย
“ไม่หร่อยเหรอ” เขาถาม
“เปล่า” วันชนะเหลือบตามาที่บอส
“นายยังอยากจะเรียนมัณฑณศิลป์อยู่หรือเปล่า” วันชนะพูดขึ้น
บอสไม่พูด
แต่วันชนะรู้คำตอบดี

∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞

“กลับดีๆล่ะ” วันชนะกล่าวเมื่อบอสเดินมาเป็นเพื่อนถึงสถานีรถไฟฟ้า 
“อย่าไปฉุดใครเขาล่ะ” เขาทิ้งท้ายกวนๆ
วันชนะแยกเขี้ยวให้ก่อนเดินขึ้นบันไดเลื่อนไป ในหัวคิดถึงวิธีที่จะช่วยบอสอยู่ตลอดเวลาจนตัวเองมายืนอยู่ปากซอยตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ จากนั้นจึงเข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อที่อยู่ตรงนั้น พอเสร็จก็เดินเข้าซอยไป
ผ่านเสาไฟฟ้าที่หลอดไฟใช้การไม่ได้มานานแล้ว โดยไม่ทันตั้งตัว เงาดำหนาๆโผล่ออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับมือเอื้อมมาล็อกที่คอของวันชนะ เขาดินโดยสัญชาติญาณแต่มือนั้นแกร่งกว่า ยิ่งดิ้นยิ่งจุกที่คอ
เป็นโชคร้ายของวันชนะ เพราะท่าทางเหม่อลอยตั้งแต่อยู่ในร้านสะดุดตาคนร้าย พอถึงที่มืดมันเลยสบจังหวะลงมือ
“เอากระเป๋าตังค์กับมือถือมา” เสียงแหบๆของมันพูดที่ข้างหู
อารามตกใจกลัวจนลนลาน วันชนะรีบทำตามที่มันว่า
พลั่ก!
อยู่ดีๆวันชนะก็หลุดจากพันธนาการ
“วิ่ง!” เสียงหนึ่งสั่ง แต่วันชนะยังยืนตะลึงอยู่
“แส่หาเรื่องนะมึง” เสียงมันโมโห
แม้จะเป็นจุดอับแสงแต่มีดที่มันชักออกมานั้นขาวปลาบ มันพุ่งเข้าหาคนที่มาช่วยวันชนะอย่างเร็ว แล้วก็กระเด็นออกมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน
“มึง!” มันคำรามที่ดูเหมือนอีกฝ่ายเหนือกว่า
คราวนี้มันเปลี่ยนเป้าหมายใส่เป้านิ่งอย่างวันชนะ มีดยังกำแน่นอยู่ในมือมัน
ก่อนที่คนร้ายจะถึงตัว ร่างหนึ่งพุ่งมาขวางหน้าไว้ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็ว
แสงไฟหน้ารถยนต์ที่ส่องมาเปิดทางสว่างโร่พร้อมกับแตรรถไล่ มันเห็นท่าไม่ดีเลยรีบวิ่งไป
“คุณเป็นอะไรรึเปล่า” วันชนะรู้ตัวเพราะเสียงแตร จึงรีบพาชายคนนั้นไปที่มีแสงสว่าง
“ไม่เป็นไร” เขาตอบ
“ตั้ม!”
เขามองหน้าวันชนะอึดใจ “...ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” 
“ละ...เลือด!” วันชนะตกใจหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นเสื้อสีขาวของนักขัตชุ่มเลือดที่หน้าอก

∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞

ระหว่างไปโรงพยาบาลกับขึ้นไปดูแผลที่บนห้อง วันชนะเลือกอย่างหลัง เพราะนักขัตบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก
นักขัตนั่งอยู่ที่โต๊ะทานข้าว สายตาเขาสำรวจไปทั่วห้อง รอยยิ้มดีใจฉายออกมาแวบหนึ่งก่อนจะเก็บอาการไว้มิดชิดก่อนที่วันชนะจะเดินเข้ามา
“ถอดเสื้อนะ” วันชนะบอกแล้วจึงค่อยๆแกะกระดุมออก “เจ็บก็บอกนะ”
นักขัตนั่งนิ่ง
วันชนะพยายามควบคุมมือไม่ให้สั่นเพราะใจเขาตอนนี้มันเต้นตูมตามเหลือเกิน ภาพในอดีตประเดประดังเข้ามา สำลีชุบแอลกอฮอล์ค่อยเช็ดคราบเลือดออกจนเห็นแผลชัดเจน
นักขัตไม่ร้องแม้แต่น้อยเพราะแผลไม่ได้ลึกเท่าไร ไม่ถึงกับต้องเย็บ
“แสบรึเปล่า” วันชนะถามเมื่อเห็นนักขัตขยับอกหนีสำลี
“นิดหน่อย” เขาตอบ สายตาคมกริบจ้องวันชนะไม่ละสายตา
“ทำไมถึงทำแบบนั้น” คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบนั้นกล่าวขึ้นเมื่อวันชนะควบคุมมือไม่ให้สั่นไม่ได้ รอยกรีดยาวเกือบห้าเซนติเมตรที่อกซ้ายนั่นทำให้วันชนะมองเห็นว่านักขัตน่าสงสารเพียงไร
“อย่าทำอย่างนี้เพื่อเราอีกเลยนะ...” สิ้นคำหยดน้ำตาก็ร่วงโดนตัวคนที่มีรอยแผล แต่เจ้าของน้ำตาก็ยังปั้นหน้าเรียบเฉย
“วิน...” นักขัตจับมือวันชนะข้างที่ถือสำลีเอาไว้ “...ยังรักผมอยู่ไหม”
วันชนะหลบสายตาคมกริบนั้น ปากเม้มจนเป็นเส้นตรง
...อย่านะ...อย่า...อย่าบอก...
วันชนะไม่ได้ตอบ แต่นักขัตก็อ้าแขนกอดเขาอย่างอ่อนโยน...เหมือนที่เคยกอด

ระหว่างเขาทั้งสองคนการกลับมาเจอกันคราวนี้ทำให้สายใยบางๆเริ่มพันเกลียวหนาขึ้นๆ อดีตที่เจ็บปวดถูกวันเวลาซัดให้ซาไป วัยที่โตขึ้นก็มีส่วนทำให้พวกเขาเข้าใจอะไรมากขึ้น
...ความรักคงไม่ใช่การครอบครอง...


∞∞∞∞∞∞∞∞∞∞
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 20-12-2007 17:53:17
เมื่อไรจะเข้าใจกันซะทีน้า :เฮ้อ:

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 20-12-2007 19:31:59
จะเศร้าไปไหนกันคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 20-12-2007 19:42:26
สงสารจัง  เมื่อไหร่จะสมหวังกันซะทีล่ะ

วินอย่าใจแข็งนักเลย   สงสารตั้มเถอะ

สงสารคนอ่านมั่งซิ ลุ้นจนจะหมดแรงแล้วนะ :m20:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 20-12-2007 20:58:44
นั่นจิ เมื่อไหร่จะดีกันสักทีเนี่ย ลุ้นจนเมื่อยแล้วนา  o12
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-12-2007 21:17:41
คืนดีกันเถอะ  :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Twister ที่ 20-12-2007 21:53:42
ใกล้จะคืนดีกันแล้ว อ่ะๆๆๆๆๆๆๆ  กอดกันด้วย
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: hutsepsut ที่ 21-12-2007 09:47:47
:m4: :m4:.....เย้ๆๆๆ..มาต่อแล้วอ่านแล้ว..ซึ้งในความมั่นคงของความรักของนายตั้มเลยอ่ะ... :m1: :m1:
 :undecided: :เศร้า2:.....เมื่อใดที่ลมพัดหวนกลับมา...เราเชื่อว่ามันจะพาเอาความรัก...ความผูกพันธ์ของคนสองคนกลับมาคืนสู่คนทั้งคู่..... :เศร้า1: :impress3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Otaku ที่ 21-12-2007 10:26:20
ใกล้จะคืนดีกันแล้วใช่ป่ะ

 :mc3: :mc3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 21-12-2007 10:39:11
เข้าใจกันซะทีจิ  :mc2: :mc2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 21-12-2007 17:45:23
พูดกันให้เข้าใจกันไปเลย
 รัก กัน ยังไงก็รักกันวันยังค่ำ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 21-12-2007 18:11:56
คืบหน้าไปหน่อย  กอดกันแล้ววว
 แต่ก็ยังเศร้ากันอยู่ดี  อ๊ากกกก  o2
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 22-12-2007 09:59:13
 :o8: :sad2: :a1:

รักไม่ใช่การครอบครอง.............

อยากให้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก

เศร้า
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: nai_nai ที่ 23-12-2007 13:43:48
คืบหน้าไปหน่อย   :เฮ้อ:

กอดกันแล้ววว   :m4:

 แต่ก็ยังเศร้ากันอยู่ดี  :m15:
 

รักไม่ใช่การครอบครอง.............

อยากให้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก

 :m23: :m23: :m23:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: alulugun ที่ 23-12-2007 13:51:51
 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7

คราวนี้ขอให้เข้าใจกันจริงๆนะคับ

ไม่อยากให้จากกันไปไหนอีกแล้ว สมหวังซะทีเถอะนะ

คุณเป็ดขอร้อง
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: hutsepsut ที่ 23-12-2007 16:07:40
:m21: :m29:....คราวนี้จะมีอะไรเข้ามาขัดขวางความรักของเค้าสองคนอีกไหมน้า.... :undecided: :เศร้า1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 25-12-2007 00:41:02
หนี ห่าว ๆ  :mc3:

 :m23:

แหะๆๆ นี่แค่เริ่มต้นเน้อ ในที่สุดก็ได้กลับมาเจอกันเสียทีนะ
แต่จากนี้ไปยังมีอุปสรรคใหญ่รออยู่อีกนะ  :m15:

 :mc4: แฮปปี้นิวเยียร์คร้าบบ  :mc4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 25-12-2007 14:12:39
 :mc3: Merry Christmas ค้าบบบ  :mc4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 25-12-2007 14:30:43
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
 :mc3: :mc3: :mc3: :mc3: :mc3: :mc3:
 :mc2: :mc2: :mc2: :mc2: :mc2: :mc2:
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
 :mc3: :mc3: :mc3: :mc3: :mc3: :mc3:
 :mc2: :mc2: :mc2: :mc2: :mc2: :mc2:

มีความสุขทั้งคนเขียนและคนอ่านนะคร้าบบบบบ

 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
 :mc3: :mc3: :mc3: :mc3: :mc3: :mc3:
 :mc2: :mc2: :mc2: :mc2: :mc2: :mc2:
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
 :mc3: :mc3: :mc3: :mc3: :mc3: :mc3:
 :mc2: :mc2: :mc2: :mc2: :mc2: :mc2:





หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 26-12-2007 12:33:34
 :d1:  :a11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 27-12-2007 17:34:15
 :mc3: :mc3: :mc3: :mc3: :mc3: :mc3:
 เช่นกันครับบบ

รออ่านน่ะครับ

เป็นกำลังใจให้น่ะครับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: hutsepsut ที่ 27-12-2007 17:56:36
:m12: :m22:...มารอด้วยคนนะคับผม... :m23: :m13:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 09-01-2008 23:20:36
 :เฮ้อ: :m1: :m1: :m1:รออออออออออออออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 10-01-2008 12:20:51
 :oni2:  รออยู่นะค้าบบบ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: first117 ที่ 14-01-2008 16:02:38
 :o8:ชอบเรื่องนี้มากเลยคับ มาต่อเร็วๆน้าคร๊าบ :m4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-01-2008 15:16:07
ขอโทษแฟนนิยายด้วยนะครับ
ช่วงนี้มีเรื่องต้องทำมากมายเลยครับ
บอกตามตรงว่ายังไม่ได้เขียนต่อเลย เหอ เหอ

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 15-01-2008 15:34:58
ขอโทษแฟนนิยายด้วยนะครับ
ช่วงนี้มีเรื่องต้องทำมากมายเลยครับ
บอกตามตรงว่ายังไม่ได้เขียนต่อเลย เหอ เหอ


 :o12: :o12: :o12: :o12:


หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: TaDa ที่ 16-01-2008 17:15:32
ขอเคารพ ด้วยความรักครับ

ไหว้งาม ๆ ด้วยความคิดถึง

มาต่อสักทีเหอะพี่ เริ่มจะได้ทีแหล่ะ


 o12 o12 o12 o12
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 24-01-2008 04:15:37
มาดันไว้ก่อน
เริ่มจะว่างเขียนต่อละ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 24-01-2008 05:10:42
^
^
ไม่มาต่อซักที  จิ้มตูดคนเขียนรอ  :m14:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 24-01-2008 07:44:17
 :oni1: มาดูด้วยความดีใจ

  วิ่งจากไปด้วยน้ำตา   :o12:

  มาต่อเร็ว ๆ นะคะ  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 24-01-2008 09:47:57
มาดันไว้ก่อน
เริ่มจะว่างเขียนต่อละ

 :pig4:

คนแต่งออกจากถ้ำแระ

หุหุหุหุ

 :m14:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 27-01-2008 15:35:51
 :m13: :m13: :m13:

รออยู่ตลอดน่ะครับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนเฆมสีคราม ที่ 28-01-2008 00:20:00
เป็นเรื่องที่อ่านได้ไม่เบื่อเลย มาต่อไวๆนะ :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 02-02-2008 02:10:43
 :m15: แงๆๆๆ มาต่อทีดิ คิดถึงนะงับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: TaDa ที่ 16-02-2008 22:42:59


 :o12: ยังไม่มาอีกหรือครับ มาสักทีดิ รออยู่อ่ะ

ไม่งั้นผมจะเอาหัวโขลกกำแพงตาย

 :a6:

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 19-02-2008 13:40:51
โหห...ยังไม่มาต่ออีกเหรอเนี่ย

เอาหัวโขลกกำแพงตายด้วยคน ฮึ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 20 Dec 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-02-2008 15:32:13
โหห...ยังไม่มาต่ออีกเหรอเนี่ย

เอาหัวโขลกกำแพงตายด้วยคน ฮึ

ช่างกล้าเนอะ

จะรอดูคนโขกกำแพง

 :angry2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 27-02-2008 14:00:17

“ตั้ม” วันชนะเรียกเขาด้วยเสียงที่อ่อนลง “เดี๋ยวเลือดก็ออกอีกหรอก”
“ช่างมัน” นักขัตพูดแทบจะกระซิบพลางกระชับวงแขน
จนอิ่มเอมกับความสุขถึงได้คลายออก วันชนะจึงตั้งท่าจะเอาอุปกรณ์ทำแผลไปเก็บ
“อย่าเพิ่งไปไหนเลยนะ” เขารั้งไว้
วันชนะไม่พูดอะไรแต่ก็ไม่หนีไปไหน ในใจกึ่งกล้ากึ่งสับสน เขาจะตัดสินใจอย่างไรดี
“เราไม่ไปไหนหรอก” วันชนะกล่าวก่อนจะลุกไปแล้วกลับมาพร้อมกับน้ำเย็น
“ขอบใจ” นักขัตรับน้ำแก้วนั้นมาดื่ม
“ตามเรามาเหรอ” วันชนะถามและได้คำตอบเป็นสายตาแน่วนิ่งนั้น
เงียบกันไปอึดใจ จนเมื่อวันชนะพูดขึ้น
“ตั้ม...เราไปด้วยกันไม่ได้หรอกนะ” วันชนะสบตานักขัต แต่แววตานั้นแฝงไปด้วยความอ่อนแออย่างล้นเหลือในหัวใจ
“ทำไม”

(http://i136.photobucket.com/albums/q162/moopooh/model/nititonnam.jpg)

“ทำไม”
นักขัตถามวันชนะด้วยสายตาเลื่อนลอย ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากปากวันชนะ
...เราเลิกกันเถอะ...
“วินรักพี่ภัทร” วันชนะตอบ
นักขัตไม่มีทางได้เห็นสีหน้าเศร้าของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย เพราะวันชนะหันหลังให้ และไม่รู้ด้วยว่าจิตใจของคนที่บอกเลิกก็บอบช้ำไม่น้อยกว่ากัน
วินรักพี่ภัทร...เหตุผลนี้คงไม่ต้องการคำอธิบายยืดยาวอีก
“เล่นตลกอะไรน่ะวิน ตั้มไม่เอาด้วยนะ” เขายังนึกว่าอีกฝ่ายอำเล่น
“วินไม่ได้พูดเล่นนะตั้ม” สองมือบีบกันแน่น วันชนะต้องสะกดอารมณ์ตัวเองให้ได้
“อย่างนั้นก็หันมาสิ มองตาตั้มแล้วพูด”
เนิ่นนานเหลือเกินกว่าที่เขาจะกล้าหันมาเผชิญหน้า
“เรารักพี่ภัทร” วันชนะตาแข็ง “ชัดรึยังตั้ม”
สิ่งที่วันชนะไม่เคยได้เห็นเลยวันนี้กลับได้เห็น นักขัตจ้องหน้าเขานิ่ง แววตาที่อบอุ่นเปลี่ยนไป ใบหน้าหล่อเหลานั้นเรียบเฉยอยู่บนความเศร้าโศก
น้ำตาค่อยๆไหลเป็นทาง
นักขัตร้องไห้...ก่อนจะหันหลังให้แล้วเดินจากไป
คล้อยหลัง ตาแข็งๆคู่นั้นก็ทำนบพังไปเช่นเดียวกัน ก่อนจะปาดน้ำตาออกไปจนแห้งแล้วลากกระเป๋าย้ายออกจากห้อง 609

(http://i136.photobucket.com/albums/q162/moopooh/model/nititonnam.jpg)

“เหตุผลก็ยังเหมือนเดิม” วันชนะเลี่ยงสายตา
นักขัตมองใบหน้านั้นเหมือนค้นหาคำตอบ ถ้าอย่างนั้นช่อดอกไม้แห้งในแจกันนั่นทำไมยังอยู่อีก ถ้าคนรับไม่มีใจ แล้วกอดเมื่อกี้...ความรู้สึกที่เจือด้วยความรักนั่นคืออะไร ถ้าคนโดนกอดไม่มีใจ...
“อย่างนั้นเหรอ...” นักขัตปลายตาไปที่ดอกไม้แห้งๆนั้น
วันชนะรู้ในทันทีว่านักขัตรู้สิ่งที่อยู่ในใจ
แต่ก็ปล่อยให้มันผ่านเลยไป

(http://i136.photobucket.com/albums/q162/moopooh/model/nititonnam.jpg)

“จะกลับตอนนี้จริงๆน่ะเหรอ” วันชนะท้วง
“แล้วเราอยู่ต่อได้เหรอ” เขาพูด น้ำเสียงฟังดูตัดพ้อแต่ก็ประชดอยู่ในที
ร่างสูงเดินห่างออกไปทุกที
ก่อนจะพ้นใต้ถุนอพาร์ทเมนท์
“อยู่เถอะ”
มือหนึ่งคว้าต้นแขนนักขัตเอาไว้ เขาหันมามองตาปริบๆ
“พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ” วันชนะกลัวว่าคนร้ายจะกลับมาซุ่มที่เดิม อย่างน้อยกลับตอนสว่างก็คงจะปลอดภัยกว่า

(http://i136.photobucket.com/albums/q162/moopooh/model/nititonnam.jpg)

“ไม่เจ็บจริงเหรอ” วันชนะมองไปที่แผลบนอกนักขัต
“นิดหน่อย” เขาตอบพลางแขวนเสื้อให้เข้าที่แล้วจึงรับผ้าเช็ดตัวจากวันชนะ
“แล้วจะอาบน้ำได้เหรอ”
“ได้สิ” เขาตอบอย่างไม่มั่นใจนักก่อนจะหันหลังให้
วันชนะลอบถอนหายใจให้กับสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำต่อไป

นักขัตนั่งนิ่งบนเก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าวปล่อยให้วันชนะใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้โดยระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ
“ดูมีกล้ามเยอะขึ้นนะ ไปทำอะไรมา” วันชนะหาเรื่องคุยไปเรื่อยเปื่อย เพราะนักขัตเอาแต่นั่งเงียบ “สมัยก่อนมีไม่เยอะเท่านี้”
“เล่นฟิตเนสน่ะ ที่บริษัทมีให้” เขาตอบพร้อมกับสายตาสำรวจที่ทำให้วันชนะรู้สึกตัวว่าไม่ควรพูดถึงเรื่องนี้เลย “วินก็ดูอวบขึ้นหน่อยนะ”
“จริงดิ” วันชนะยิ้มแหย “จะว่าเราอ้วนล่ะสิ”
“แต่ว่าแบบนี้ดีกว่านะ มันรู้สึกเต็มๆดี...เวลากอด” เขายังนั่งนิ่ง แต่คำพูดนั้นทำให้วันชนะชะงักไป เขาจงใจพูดเพื่อทดสอบปฏิกิริยาของวันชนะหรือเปล่านะ ซึ่งมันก็ได้ผล มือที่ถือผ้าชุ่มน้ำนั้นเริ่มสั่น
ที่จริงวันชนะไม่ต้องเช็ดถึงหน้าของนักขัตหรอก แต่สมาธิดูจะแตกกระเจิงไปไหนต่อไหนแล้ว มือสั่นๆของวันชนะแต้มผ้าข้าวสะอาดชุ่มน้ำเบาๆที่แก้มนักขัต เมื่อสายตาบรรจบก็เหมือนต่างคนต่างเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตในช่วงที่ไม่มีกันของแต่ละคนให้กันฟัง
นักขัตเอื้อมมือไปที่ผมวันชนะขณะที่สายตายังคงประสานกัน วันชนะเองก็เหมือนโดนมนต์สะกดให้นิ่งอยู่อย่างนั้น
“รู้สึกว่าจะมีอะไรติดผมนะ” เขาว่า แต่มือนั้นลูบผมของวันชนะเบาๆ
วันชนะปล่อยให้เขาลูบผม ทั้งที่รู้ว่าไม่มีอะไรติดอยู่หรอก ดวงตาอ่อนโยนแต้เศร้าสร้อยคู่ตรงหน้านั้นทำให้วันชนะอ่อนแอ
แล้วน้ำตาก็ค่อยๆไหลลงอย่างไม่มีข้อแม้
“ตั้ม...เรา...”
พูดได้เท่านั้นเอง นิ้วมือจากนักขัตไล้อยู่ที่เนินแก้มปาดน้ำตาออกไป
“นายคงจะลำบากใจมากเลยสินะ” เจ้าของนิ้วบนแก้มวันชนะพูดแล้วเผยรอยยิ้มเศร้า “พอแล้วล่ะ นายไปอาบน้ำเถอะ จะได้นอนพัก”
ไม่มีคำใดหลุดจากวันชนะอีก จนกระทั่งเขาลุกออกไปอย่างว่าง่าย

(http://i136.photobucket.com/albums/q162/moopooh/model/nititonnam.jpg)

ออกมาจากห้องน้ำก็พบนักขัตนั่งอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว เขากำลังดูรูปในอัลบั้มที่วันชนะตั้งเอาไว้ที่ชั้นข้างๆเตียง รอยยิ้มผุดขึ้นเมื่อเจอรูปสมัยเรียน
เสียงหัวเราะในลำคอดังเบาๆเมื่อเจอรูปตอนเล่นละครเวที คงเป็นเพราะงานนี้ล่ะสินะที่ทำให้คนทั้งมหาวิทยาลัยโจษจันกันไปทั่วว่าเขาเป็นแฟนกับวันชนะ และเขาเองก็ยอมรับ คิดถึงตรงนี้แล้วรอยยิ้มสดใสแย้มขึ้น แต่พอขึ้นเล่มใหม่เจอภาพแรกก็ทำให้ยิ้มนั้นเจื่อนลงทันที
รูปงานรับปริญญาที่มีหน้าของวันชนะกับภัทรติดชิดยิ้มมองกล้อง โดยมีเขาเป็นฉากหลังพร้อมช่อดอกไม้ที่ตอนนี้แห้งกรอบอยู่ในแจกัน
“ดูรูปสมัยก่อนเหรอ” วันชนะนั่งลงอีกข้าง
“อืม” เขาเปิดรูปนั้นค้างไว้
“รูปนี้...” วันชนะหยิบมาจากมือนักขัตราวกับหวงนักหนา โดยมีสายตาเจ็บปวดมองตามรูปใบนั้นไปไม่ละ
ไม่รู้สินะ วันชนะอยากบอกให้เขารู้ว่ารูปนี้พิเศษแค่ไหนถึงได้เก็บเอาไว้ที่หน้าแรก ทั้งที่เป็นรูปที่ถ่ายกับภัทรแต่ความสำคัญกลับอยู่ที่คนข้างหลังนั่นต่างหาก...เพราะเป็นรูปเดียวที่มีนักขัตในงานรับปริญญาของเขา

(http://i136.photobucket.com/albums/q162/moopooh/model/nititonnam.jpg)

นักขัตนอนหงายปกติขณะที่วันชนะนอนตะแคงหันหลังให้พร้อมกับเสียงถอนหายใจที่ไม่สม่ำเสมอ ต่างคนต่างลืมตาในความมืด คงมีเรื่องราวที่จะพูดคุยกันอยู่มาก ถ้าหากว่าใครสักคนจะเริ่มพูด แต่ทั้งคู่เลือกที่จะเงียบจนกระทั่งไม่รู้ตัวว่าหลับกันไปตั้งแต่ตอนไหน แล้วพอตื่นขึ้นมาวันชนะก็พบว่าที่นอนข้างๆนั้นว่างเปล่า กวาดตามองทั่วห้องรู้สึกบางอย่างแปลกไป
ช่อดอกไม้นั่นหายไป!
วันชนะดีดตัวจากเตียงทันที ทำไมนักขัตต้องเอามันไปด้วย ถึงเขาจะเป็นคนให้มาแต่ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอามันไป
ที่ข้างๆแจกันมีโน้ตของนักขัตเขียนเอาไว้ว่า
‘ดอกไม้นี่ขอคืนนะ มันแห้งหมดแล้ว เอาวางไว้ในห้องเดี๋ยวจะเป็นภูมิแพ้’
วันชนะร้อนรนเหมือนโดนลักของสำคัญ จะออกไปตามหาก็ไม่รู้จะไปที่ไหน เบอร์ของนักขัตก็ไม่มี สุดท้ายจึงทรุดลงกับพื้นกอดตัวเองร้องไห้ เหมือนกับว่าต่อไปนี้เขาจะไม่เหลืออะไรเลยชีวิต

(http://i136.photobucket.com/albums/q162/moopooh/model/nititonnam.jpg)
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: BEta-K ที่ 27-02-2008 14:24:26
มาซะที แต่สั้นจังเลย  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 27-02-2008 15:35:59
นักขัตกำลังพิสูจน์ใจวันชนะใช่มั้ย

ปล.มาต่อแล้วอย่าหายไปนานๆๆๆๆๆๆๆๆๆอีกน่ะคับ มันค้างคา
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: alulugun ที่ 27-02-2008 15:43:19
สงสัยลองใจวินหละมั้ง
 :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Eis ที่ 29-02-2008 03:51:11
มาต่อตอนใหม่แล้ววว ดีจังเลยครับ...​แต่เศร้าอ่ะ ..

ว่างๆ แล้วมาต่ออีกนะครับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 29-02-2008 06:11:55
มาต่อแล้ว  o7 o7 o7 o7  ลุ้นให้คืนดีกันไวไวน้า  :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 29-02-2008 06:50:26
 :m15: :m15: เศร้าจังเลย
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 29-02-2008 07:07:54
เมื่อไหร่จะเข้าใจกันซะที  :sad2:

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 29-02-2008 08:45:27
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

มาลงทีไรเรียกน้ำตาได้เกือบทุกครั้ง

เห่อออออ

ไงก็อยากให้มาลงบ่อย ๆ น่ะครับ

คิดถึงงงงงงงงง

โอ้ยยยอยากอ่านต่อครับ

 :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: Otaku ที่ 01-03-2008 16:34:36
 :sad2: :sad2: :sad2:

ในที่สุดก็มาต่อแล้ว แต่ทำไมต้องเศร้าด้วยนะ


เมื่อไรจะเข้าใจกัน

มาบ่อยๆนะ อยากอ่านอีก อิอิ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 01-03-2008 21:28:57
 :m15: :m15: :m15:

ฮือๆ  บีบหัวจายจริงๆเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 01-03-2008 23:56:59
มาต่อแล้ว แต่ต่อแบบนี้ เศร้าเลย :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: first117 ที่ 04-03-2008 15:48:18
 :m15:ขอบคุงมากค๊าบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 07-03-2008 17:14:52
อ่า
มีแต่ลิงจะแขวนคอ  :oni3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-03-2008 09:17:14
เมื่อไหร่จะมาคร้าบบบบบบ   :angry2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 08-03-2008 10:26:23
 :m15: แถมให้อีกตัว เผื่อคนเขียนจะสงสาร

มาต่อเรื่องให้ซะที
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: snowman ที่ 08-03-2008 19:54:43
 :m15:

ขอด้วยๆ ผูกด้วยคน  :m15:




ปล. ขอสารภาพว่าอ่านเรื่องนี้ไม่ค่อยรู้เรื่อง ยัง งงๆ และสับสนชื่อตัวละคร ... เพราะยังติดชื่อเก่าอยู่เลย พอมาอ่านชื่อวินๆ ตั้มๆ นักขัตๆ วันชนๆ แล้วงงๆ  ว่าไอ้พวกนี้มันใครวะ ? 


หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 11-03-2008 02:14:14
 :laugh:

ตอนที่ 35 ออกแล้วจ้า
คนโพสต์ รีบเลยจร้า

 :oni1:

จากนี้จะพยายามจบบริบูรณ์ในเร็ววันครับ
เรื่องนี้เดินทางใกล้ตอนจบทุกทีๆละ
(ถ้าไม่เจอพล็อตที่อยากยืดเรื่องนะ)
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-03-2008 12:52:35
ออกแล้วเหรอ เดี๋ยวไปหาตัวคนโพสตืก่อน พูห์อยู่หนาย  :oni3: :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 27 FEB 2007
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-03-2008 13:19:39
หือๆ............ไม่ได้เข้ามานาน


พอมาอ่านตอนที่ต่อใหม่ก้อคงความความเศร้าไว้เหมือนเดิม


แล้วแบบนี้เมื่อไหร่เค้าสองคนจะมีความสุขกานนะคับ


วันนั่นเมื่อไหร่จะมาถึงนะ


ยังไงก้อมาต่อให้ด้วยนะคับ


อย่าลืมมาต่อนะคับ


เปงกำลังใจให้นะ........................สู้ๆนะคับ :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 12 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-03-2008 15:31:39

ทัศนศึกษาสิ่งแวดล้อมสัมพันธ์ครึ่งแรกผ่านไปอย่างราบรื่น สัปดาห์ต่อมาก็ถึงครึ่งหลังที่ต้องไปเขาใหญ่
เดินทางสามชั่วโมงก็มาถึงจุดหมาย นักเรียนและอาจารย์ลงเดินบนถนนก่อนถึงจุดตั้งแค้มป์ประมาณสองกิโลเมตร เพื่อจะได้สังเกตธรรมชาติไปด้วย และก็ดูเหมือนจะได้ผล นักเรียนชายที่ใช้ชีวิตอยู่แต่รูปทรงเหลี่ยมของตึกรามสูงและมลพิษในเมืองหลวงพอมาเจอรูปทรงธรรมชาติและอากาศเย็นสดชื่นในป่าใหญ่ก็ดูท่าทีที่เคยกระด้างก็อ่อนลง
“’จารย์ๆ จะเป็นตัวขวารึตัวซ้าย” บอสเดินรั้งอยู่ท้ายแถวหันมาคุยด้วย
“อะไร ตัวซ้ายตัวขวา” วันชนะงง
“นั่นไง” เขาชี้ไปที่บนต้นไม้สูง
“หือ” วันชนะมองตาม
นกเงือกเกาะนิ่งอยู่บนนั้น นักเรียนบางคนยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่าย
“ได้ยินเค้าว่านกเงือกมันจะอยู่เป็นคู่นะ” บอสยักคิ้วให้ “เอ้า พูดสิคุณจะเป็นตัวซ้ายรึขวา ส่วนผมเป็นตัวไหนก็ได้นะ” เขายิ้มเผล่
วันชนะส่งสายตาดุ บอสหุบยิ้มแล้วเปลี่ยนเป็นสีหน้าเรียบๆแต่เหล่ตากวนๆมาทางวันชนะ
“ผมเป็นตัวขวาก็แล้วกัน คุณเป็นตัวซ้ายนะ” ว่าแล้วเขาก็รีบวิ่งไปรวมกลุ่มเพื่อนๆ ปล่อยให้วันชนะยิ้มให้กับความน่ารักของบอสอยู่คนเดียว
พอมาถึงจุดตั้งแค้มป์ที่ผากล้วยไม้ทุกคนก็ตกลงกันว่าใครจะอยู่เต็นท์ไหนซึ่งก่อนหน้าที่จะมาถึงมีเจ้าหน้าที่มาเตรียมให้เรียบร้อยแล้ว เอื้องทิพย์กับนุชรินทร์อยู่ร่วมกับอาจารย์ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ส่วนวันชนะเศษอยู่คนเดียวเลยได้อยู่คนเดียว ทีแรกจะให้เอื้องทิพย์หรือนุชรินทร์นอนจะได้สบายกว่า แต่ทั้งคู่ก็ไม่อยากอยู่คนเดียวบอกว่ากลัวผีมุดเต็นท์

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

หลังจากทานข้าวเที่ยงเรียบร้อย นักเรียนทุกคนก็มาเข้าแถวเพื่อรอขึ้นรถไปยังน้ำตกเหวนรกอันเป็นเป้าหมายในวันนี้
จนถึงจุดที่ต้องลงจากรถเพื่อเดินเข้าไปยังน้ำตกด้านใน นักเรียนจึงเดินไปเป็นกลุ่มๆ โดยมีเสียงคอยเตือนว่าอย่าออกนอกเส้นทางเป็นเด็ดขาด ดังนั้นแทนที่จะเพลิดเพลินกับธรรมชาติเหมือนพวกเด็กๆ เหล่าอาจารย์ต้องคอยสำรวจความปลอดภัยในเรื่องนี้ไปในตัวด้วย                                                                                                                                                                                 
ป่าดงพงไพรดูจะเข้ากันได้ดีกับเด็กจากในเมือง เดินชื่นชมธรรมชาติที่เคยเห็นแต่ในหนังสือไปตามทางจนมาถึงน้ำตกเหวสุวัต พักเล่นน้ำสักครู่เดียวก็เดินต่อไปยังน้ำตกใหญ่เป้าหมาย
น้ำตกเหวนรกชั้นแรกสูงเกือบหกสิบเมตรชันเก้าสิบองศา วันชนะต้องคอยระวังนักเรียนเป็นพิเศษเพราะมองลงไปข้างล่างแล้วน่าหวาดเสียว ยังดีที่ช่วงนี้ยังไม่ใช่ฤดูน้ำหลากแต่ก็ยังไม่วางใจนัก เกิดมีใครพลัดตกลงไปคงรับผิดชอบกันไม่ไหวแม้ว่าข้างล่างจะมีน้ำรองรับแต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นพอถ่ายรูปกันเสร็จจึงรีบไล่นักเรียนให้ออกห่างจากจุดอันตราย จนได้เวลากลับนั่นแหละวันชนะจึงได้คลายความกังวลลงไปบ้าง
ขากลับไม่เหนื่อยเหมือนขามา จึงเดินกันแบบสบายๆ จนมาพักเหนื่อยอยู่ที่น้ำตกเล็กๆที่ตอนขามาไม่ได้สนใจเท่าไรนัก
“’จารย์ๆ มาเล่นน้ำด้วยกันดิ” เสียงคุ้นเคยเรียกวันชนะ มองไปก็เห็นเด็กผู้ชายเล่นน้ำกันสนุกสนานจนตัวเปียกหัวเปียก
“มีปลาด้วยนะ’จารย์ เนี่ยมันตอดขาผมด้วย” บอสทำหน้าทะเล้น
“จริงดิ ไหนดูซิ” วันชนะชะโงกหน้าลงไปดูในสายน้ำใส ขณะที่บอสก็เดินเข้ามาใกล้พร้อมถกขากางเกงบอลขึ้นให้วันชนะเห็นชัดๆว่ามีปลาตัวเล็กๆรุมตอดขาเขาอยู่
“เห็นแล้วๆ ไม่ต้องถกขากางเกงก็ได้” วันชนะวิดน้ำใส่
“แหม ‘จารย์ก็ คนอยากจะโชว์อ่ะ” เขาสวนหน้าทะเล้น
“ขนขามันไม่น่ามองหรอกนะ” วันชนะวิดน้ำใส่อีกก่อนจะพับขากางเกงขึ้นแล้วนั่งลงที่ก้อนหินแล้วแช่ขาลงน้ำ
“เย็นดีจัง”
“ว่าแต่เขา ตัวเองก็ขนขาเยอะใช่ย่อย” บอสว่าแล้วผละไปเล่นกับเพื่อนๆ

วันชนะปล่อยอารมณ์ไปกับสายลมเย็นๆที่พัดพา สายน้ำเย็นๆที่ลูบไล้เท้าช่วยให้ผ่อนคลาย ท่ามกลางป่าเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบเขียวขจีและแสงแดดที่ลอดผ่านลงมาเป็นภาพที่น่าดูที่สุด หากในกรุงเทพมีต้นไม้เพิ่มมากขึ้นผู้คนคงจะมีจิตใจอ่อนโยนได้มากขึ้นกระมัง
กลับมาที่แค้มป์ราวห้าโมงเย็น หลังจากนับจำนวนสมาชิกว่าครบแล้วก็ปล่อยนักเรียนกลับเต็นท์ของตัวเองเพื่อให้เวลาไปอาบน้ำและทำธุระส่วนตัวก่อนจะกลับมารวมแถวอีกครั้งตอนหนึ่งทุ่มเพื่อจะรับข้าวกล่องแล้วขึ้นรถส่องดูสัตว์หากินกลางคืน
ยิ่งค่ำอากาศที่ชื้นๆเปลี่ยนเป็นหนาวเย็นขึ้นทันที ทั้งครูและนักเรียนจึงสวมเสื้อกันหนาวกันเพียบพร้อม
เสียงอาจารย์สาวคุยกันดีอกดีใจอะไรสักอย่างดังมาจากเต็นท์ข้างๆ วันชนะจึงเดินเข้าไปหา ยังไม่ทันจะถึงตัวนุชรินทร์กับเอื้องทิพย์ก็หันมาทางคนที่กำลังเดินมาสมทบ
“นั่นไงคะ พูดถึงก็มาพอดี” เอื้องทิพย์ว่า
“เรียกผมเหรอครับ” วันชนะยิ้ม แต่แล้วก็ยิ้มค้างเพราะปั้นหน้าอย่างอื่นไม่ถูกเมื่อเห็นคนที่ยืนคุยอยู่ด้วยในวงนั้นคือนักขัต!
 “ม...มาได้ไง” วันชนะออกอาการแปลกใจมากกว่าตกใจ แล้วเรื่องที่เขาขโมยช่อดอกไม้ไปก็ผุดขึ้นมากวนอารมณ์ให้ขุ่น
“เราชวนเองแหละ” นุชรินทร์ตอบแทน
“ผมอยากมาพักผ่อนน่ะ พอดีที่คุณนุชชวนด้วย ผมก็เลยมา” เขาพูดเสียงเรียบ
วันชนะรับรู้ นุชรินทร์เอ่ยชวนตั้งแต่คราวก่อน แต่ก็ไม่แสดงออกไปมากกว่าอาการเรียบเฉย
นักเรียนตั้งแถวเป๋ๆเพราะเล่นกันไปด้วยพร้อมอยู่แล้ว อาจารย์สาวอีกคนหนึ่งจึงให้สัญญาณเดินไปขึ้นรถกระบะที่มีกรงยกสูงขึ้นมากันตก
“คุณตั้มก็ไปด้วยกันสิคะ” นุชรินทร์เอ่ยชวน โดยมีเอื้องทิพย์สนับสนุน
“จะดีเหรอครับ” เขาพูดเหมือนลังเลแต่ท่าทางเตรียมพร้อมจะไปด้วย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” นุชรินทร์คอนเฟิร์ม

ด้วยเหตุนี้นักขัตจึงเข้าร่วมกิจกรรมไปด้วยที่ตอนหลังรถกระบะคันหนึ่ง โดยที่สองสาวแยกไปอยู่อีกมุมปล่อยให้วันชนะต้องคอยทำหน้าที่เทกแคร์แขกคนนี้ไปโดยปริยายเพราะเป็นผู้ชายสองคนถ้าไม่รวมพวกนักเรียนอีกสี่ห้าคนที่มารถคันเดียวกัน
แต่ว่าการ ‘เทกแคร์’ ของวันชนะคือการเงียบและไม่สนใจ ‘แขก’ ที่ได้รับเชิญ นักขัตเองก็ยอมรับการต้อนรับนั้นด้วยการเงียบเช่นกัน จนรถวนกลับมาที่ผากล้วยไม้อีกครั้งทั้งสองก็ยังไม่ได้คุยกันแม้สักคำ สำรวจว่ากลับมาหมดทุกคนแล้วจึงแยกย้ายกันไปนอน
เต็นท์ของนักเรียนกับอาจารย์ก็อยู่ติดกันไม่ได้แยกออกไป ตลอดทั้งคืนมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานคอยตรวจตราความเรียบร้อยอยู่แล้วจึงไม่น่าห่วงเท่าไร เดินกลับมาที่เต็นท์ของตัวเองทุกคนก็แยกย้ายกันเข้านอนโดยวันชนะไม่ทันสังเกตว่านักขัตที่เดินตามมาด้วยกันหายไปทางไหนแล้วก็ไม่รู้
อากาศข้างนอกหนาวเย็นมาก แม้จะอยู่ในเต็นท์ก็ช่วยได้ไม่เท่าไร วันชนะนอนห่อตัวอยู่ในถุงนอนที่ไม่หนาเท่าไรนัก เสียงนักเรียนหยอกเล่นกันเฮฮาดังแว่วแต่สักพักก็เงียบไป กลางป่าเขายามนี้ได้ยินเพียงเสียงแมลงและเสียงลมหนาวพัดยอดไม้ไหว ความเพลียจากกิจกรรมตลอดวันทำให้เขาหลับสนิทอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว...

...วันชนะพยายามกระดิกตัวหลังจากหลับไปได้ราวสามชั่วโมงเพราะรู้สึกอึดอัด หลังจากพยายามพลิกตัวได้แล้วลืมตาขึ้นในความสลัวก็ต้องตกใจจนเกือบหลุดเสียงเมื่อพบว่ามีอีกคนนอนกอดเขาอยู่

“อืมม...” นักขัตครางในลำคออย่างคนหลับสบายโดนรบกวน
วันชนะพยายามแกะมือนั้นออกเบาๆ เพื่อไม่ให้เขารู้ตัว ในใจนึกโทษเขาไปว่าถ้าเป็นแบบนี้ไปจนเช้าแล้วหากมีคนมาพบเข้าคงไม่ดีแน่
“ฮื่ออ...” เขาครวญอย่างขัดใจพลางขยับมือกอดแน่นขึ้นอีก
วันชนะเลยดิ้นแรงขึ้นหวังจะให้เขารู้ตัว
“อย่าดิ้นสิ” คนหลับตาพริ้มพูดขึ้นเบาๆ
“ทำอย่างนี้ไม่ได้นะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” วันชนะดิ้น พูดแทบกระซิบแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนใจที่วันชนะพูด
“ไม่ได้นะ กลับไปนอนที่เต็นท์ของนายเลยนะ” วันชนะเอ็ดเสียงแข็งขณะที่มือก็ดันเขาให้ออกห่าง
“อย่าผลักไสผมได้มั้ย...หลังจากนี้คงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว” เขาพูดอย่างเอื่อยอ่อย
วันชนะค่อยๆเห็นเขาลืมตาขึ้น สายตานั้นไม่ได้โกหก และเพราะสายตานั้นจึงทำให้คำขอร้องของเขาเป็นผล วันชนะหยุดมือที่ดันเขา ทั้งที่อยากถามว่าทำไมแต่เขาเลือกที่จะปิดปากตัวเอง ปิดหัวใจไม่รับฟัง เขากอดวันชนะอยู่อย่างนั้นจนเมื่อเกือบเช้าเขาก็หอมแก้มวันชนะอย่างนุ่มนวล อย่างแสนรัก ก่อนจะลุกออกไปจากเต็นท์

ไม่รู้สินะ ทุกทีก่อนจากกันวันชนะก็ยังมีความรู้สึกว่าจะต้องได้เจอกับเขาอีก แต่คราวนี้ต่างออกไป
รู้สึกเหมือนว่า ถ้าจากกันคราวนี้ คงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว


(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

“’จารย์ๆ วันนี้มีโปรแกรมไรมั่งอ่ะ” บอสถามขณะที่ปากก็เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ
วันชนะที่ดูเหมือนเอาแต่เหม่อลอยจึงสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อบอสเริ่มสะกิดเพราะถามหลายครั้งวันชนะก็ไม่รู้ตัว
“’จารย์เป็นไรอ่ะ” เขานิ่วหน้า
“เปล่า มีอะไรบอส” วันชนะจึงค่อยหันมา
“วันนี้เค้าทำไรกันมั่งอ่ะ” เด็กหนุ่มทวนอีกครั้ง
“ก็ วันนี้มีเดินป่า” วันชนะตอบอย่างคนเพิ่งเรียกสติกลับมา
“’จารย์แปลกๆไปนะ” บอสว่า
ยังไม่ทันได้คุยกันต่อ นุชรินทร์ก็เดินมาหาวันชนะ...มาพร้อมกับนักขัต
วันชนะรีบเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองทันที จนบอสเห็นความผิดปกติแต่เด็กหนุ่มก็ได้แต่ลอบสังเกตโดยไม่ซักไซ้อะไรออกไป
สักพักเอื้องทิพย์กับอาจารย์ผู้หญิงอีกคนก็เดินมาสมทบ บอสเลยปลีกตัวออกไปแต่เด็กหนุ่มก็พอจะเห็นความผิดปกติที่วันชนะมีต่อผู้ชายแปลกหน้าอีกคน

TBC.
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 12 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 12-03-2008 16:28:44
 :serius2: :serius2:  นักขัตจะไปไหนอีกล่ะคับ  จากกันไปตั้งหลายปีแล้ว  ตอนนี้ยังต้องจากกันไปอีกเหรอคับ  :sad2: :sad2:

ขอบคุณนะครับคุณโอนนิมารุ o7 o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 12 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 12-03-2008 16:37:48
 :เฮ้อ: จะเศร้าไปถึงหนายยยยย  :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 12 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-03-2008 16:41:13
เห้อ.............จะไปไหนอีกเนี่ย


แล้วแบบนี้เมื่อไรห่จะเข้าใจกานละ................


ต่างคนก้อต่างเงียบใส่กานแบบนี้.............


แล้วจะเปงไงต่อไปละเนี่ย...................เหนื่อยแทนเลยจิงๆ :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 12 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 12-03-2008 17:10:23
 :o12:..นักขัต ทนหน่อยน่ะครับ ยังไง วันชนะก็ต้องเปิดใจ

 :o12:วัชนะก้เหมือนกัน ทำตามใจที่เรียกร้องได้มั้ยครับบบบ


 :oni3:..เป็นกำลังลังใจให้คนแต่ง และคนลง ครับ ไงก็จะตั้งตารอครับบ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 12 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: alulugun ที่ 12-03-2008 17:43:35
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:


เ้ง้อ.......เมื่อไหร่จะเข้าใจกันซักที :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 12 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 12-03-2008 17:45:32


อย่าบอกนะว่าจบเศร้าอ่ะ

 o7 o7 o7

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 12 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 12-03-2008 18:27:37
:o12:..นักขัต ทนหน่อยน่ะครับ ยังไง วันชนะก็ต้องเปิดใจ

 :o12:วัชนะก้เหมือนกัน ทำตามใจที่เรียกร้องได้มั้ยครับบบบ


 :oni3:..เป็นกำลังลังใจให้คนแต่ง และคนลง ครับ ไงก็จะตั้งตารอครับบ
และ..ขอเป็นกำลังใจให้คน(คอย)อ่านทุกคน  :a1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 12 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 12-03-2008 18:45:12
นักขัตจะหายไปไหนนนนนนนนนนนนนนนนนนอีกเนี่ย  :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 12 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: jibi ที่ 12-03-2008 18:54:51
โอ้ยยยยยยยยยย  :serius2:

จะหายหน้ากันไปไหนอีก  :angry2:

ดีกันได้แล้ว เด๋วปั๊ดเหนี่ยว  o12
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 12 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-03-2008 20:25:45
อย่าบอกว่าจบเศร้านะ ไม่ยอม  :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 12 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 12-03-2008 22:58:56
อ่านแล้วเศร้าจัง  แต่ก็สนุก

ไม่อยากให้จบแบบเศร้า  สงสารวินกับตั้ม

มีอุปสรรคในความรักตลอด  น่าจะให้เขามีความสุขนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 12 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 12-03-2008 23:26:37
จะไปหน่ายอ่า  o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 12 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 13-03-2008 07:48:00
จะหนีกันไปอีกแล้วเหรอ  :sad2:

เมื่อไรจะคืนดีกันละคู่นี้  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 12 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 13-03-2008 11:52:22
งุงิงุงิ....................มารอตอนต่อไปนะคร๊าฟ


อย่าลืมมาต่อนะคร๊าฟ................รอรอรอรอ :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-03-2008 14:36:54

หลังจากทานอาหารเช้ากันแล้ว นักเรียนก็ถูกแบ่งเป็นสามกลุ่มเพื่อเดินป่าตามเส้นทางที่จะมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานและอาจารย์เดินทางไปด้วย ทั้งสามกลุ่มใช้เส้นทางเดียวกันแต่เวลาออกสตาร์ทต่างกันเพราะนักเรียนจำนวนเยอะเกินไปก็จะดูแลได้ไม่ทั่วถึง
กลุ่มแรกมีเอื้องทิพย์ไปด้วย ส่วนนุชรินทร์นั้นออกตัวขอบายกิจกรรมนี้ตั้งแต่ก่อนมาแล้ว หล่อนจึงขอนั่งปิกนิกชมธรรมชาติบริเวณใกล้ๆแถวที่พัก ทีแรกหล่อนชวนเอื้องทิพย์ให้อยู่ด้วยกัน แต่ด้วยนิสัยลุยๆของเพื่อนหล่อนจึงไม่อาจดึงตัวเอาไว้ได้
กลุ่มที่สองมีวันชนะไปด้วย ทั้งที่จริงเขาต้องไปกับกลุ่มที่สามต่างหาก แต่เพราะทนบอสรบเร้าให้ไปกับกลุ่มของเขาด้วยไม่ไหว เลยจำต้องขอสลับกับอาจารย์ท่านอื่น
“โหย ’จารย์น่ารักที่สุดเลย” ว่าแล้วก็วิ่งไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ปล่อยให้วันชนะถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับความเอาแต่ใจของบอส
คงจะมีใครกล้าขัดหรอก ก็เป็นลูกของเจ้าของโรงเรียนนี่นะ

“ขอโทษครับ ผมยังมาทันอยู่ไหมครับ” นักขัตวิ่งมาสมทบ ทำท่ากระหืดกระหอบ
“ไม่ทันกลุ่มของทิพย์แล้วล่ะค่ะ” นุชรินทร์บอกแล้วจึงเสนอว่า “ไปกับวินสิคะ”
“เหรอครับ” นักขัตหันหน้ามาทางวันชนะ แล้วค่อยหันไปถามนุชรินทร์ “แล้วคุณนุชไม่ไปด้วยหรอกเหรอครับ”
“งานนี้ขอบายค่ะ เดี๋ยวจะไปเป็นภาระให้นักเรียนลากกันออกจากป่าเสียเปล่าๆค่ะ แหะ แหะ” หล่อนยิ้มเจือหัวเราะ
คุยกันไม่นานก็ถึงเวลาที่กลุ่มที่สองต้องออกเดินทาง
“ขอให้สนุกนะคะ” นุชรินทร์อวยพรตามหลัง โดยมีนักขัตหันมาโบกมือให้

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

หัวแถวคือเจ้าหน้าที่ของอุทยานที่คุ้นเส้นทางและเป็นคนบรรยายไปด้วยเมื่อเจออะไรน่าสนใจอย่างเช่นต้นไม้แปลกๆหรือร่องรอยของสัตว์ป่า หนทางบางครั้งเป็นทางเรียบบางครั้งก็ต้องปีนขึ้นที่ชันแต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี จนมาถึงลำธารที่น้ำไหลแค่เข่า มีลำต้นไม้ใหญ่พาดให้ข้ามไปอีกฝั่ง นักเรียนบางคนก็เลือกที่จะกระโดดลงไปเดินลุยน้ำข้างล่าง พลางเล่นกันไปด้วย

“’จารย์ ไม่ลงมาเล่นน้ำเหรอ” บอสพักแช่ขาในน้ำอยู่ข้างล่าง
“ไม่เอาล่ะ เล่นไปเถอะ” วันชนะเดินบนสะพานต้นไม้คุยลงไปหา
แต่เพราะว่าไม่ได้มองทางข้างหน้าไปด้วย เลยเหยียบเท้าพลาด

“อ๊ะ!”

ไม่ใช่แค่วันชนะคนเดียวที่ตกลงไปเล่นน้ำข้างล่าง เพราะถึงแม้คนที่เดินตามหลังมาเงียบๆตลอดทางจะคว้าตัวเอาไว้ได้ แต่ทั้งคู่ก็ไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องเปียกปอน
แม้น้ำจะตื้นแค่เข่าแต่เพราะกอดกันตกลงไป ทั้งนักขัตและวันชนะจึงถึงพื้นด้วยท่านอนและคนที่จมอยู่ข้างล่างคือนักขัต
“อ้าว! ’จารย์” บอสหันมาทำหน้าแบบว่ารับสถานการณ์ไม่ทัน
วันชนะค่อยๆลุกขึ้นก็พบว่ามีสายตาหลายคู่มองมาทางเขาอย่างขำๆ ก็ท่าที่ค้างอยู่มันตลกน้อยเสียเมื่อไรล่ะ งานนี้ได้อายนักเรียนทั้งกลุ่ม
“ไหนบอกไม่อยากเล่นน้ำไง’จารย์” บอสหัวเราะ
วันชนะพูดไม่ออกและก็ไม่อยากเล่นด้วยกับคำพูดของเด็กหนุ่มจึงหันไปหาคนที่โดนทับอยู่ข้างล่าง
“เป็นไรป่าวตั้ม” วันชนะถาม
“ไม่เป็นไร” เขาตอบเสียงเรียบๆ
นักขัตเปียกทั้งตัวแต่วันชนะเปียกแค่บางส่วนเท่านั้น พอลุกขึ้นได้วันชนะก็ยื่นมือให้เขาจับลุกขึ้น โดยมีสายตาสังเกตสังกาของบอสคอยจับจ้องอยู่ตั้งแต่วันชนะเรียกชื่อ ‘ตั้ม’ แล้ว
พอขึ้นจากน้ำทุกคนก็เดินทางต่อ ไม่นานก็มาถึงจุดพักทานอาหารกลางวันซึ่งเป็นทุ่งโล่งและมีหอสังเกตการณ์สูงราวยี่สิบเมตร พอทานเสร็จนักเรียนก็ทยอยกันขึ้นไปเล่นบนหอ ลมเย็นๆก็พอทำให้คลายเหนื่อยล้าไปได้ จากนั้นจึงออกเดินทางต่อ

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

กลับเข้าสู่ป่าอีกครั้ง ทางเดินบางครั้งก็ลื่นเพราะเป็นที่ชันและมีลักษณะเป็นดินที่โดนน้ำค้างตั้งแต่เมื่อคืน จึงไม่แปลกใจเท่าไรที่จะมีนักเรียนลื่นไถลอยู่ตลอดเส้นทาง แต่ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะนิสัยลิงทโมนของเด็กหนุ่มคู่กับการผจญภัยอยู่แล้ว พอมาถึงทางชันที่ต้องเดินลงไปทุกอย่างดูจะราบรื่นถ้าหากว่าวันชนะจะไม่ลื่นหน้าคะมำกับพื้น มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ท้ายแถวที่หันมาสนใจซึ่งก็คือบอสและคนท้ายแถวสุดอย่างนักขัตเท่านั้นเอง

“โอย...” วันชนะโอด

พอเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละ คนที่เข้ามาช่วยก็อดขำแทบไม่ทัน เพราะบัดนี้ใบหน้าของวันชนะเต็มไปด้วยโคลน แต่เป็นนักขัตที่สังเกตเห็นว่ามีสีส้มๆติดอยู่ที่มุมปากของวันชนะด้วยแต่ก็ไม่ได้เอะใจสงสัยอะไร มือคว้าผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าออกมา ถ้าวันชนะไม่เอ่ยขอบใจแล้วรับมาเสียก่อนนักขัตก็คงจะเช็ดให้เองไปแล้ว
“หือ อะไรเนี่ย สีส้มๆ” วันชนะนึกสงสัยสิ่งแปลกปลอมที่ติดมากับผ้าเช็ดหน้า พอก้มไปดูร่องรอยหน้าไถพื้นของตัวเองก็เห็นว่าเป็นเห็ดกลุ่มหนึ่งที่มีสีสันแสบตา
พอเห็นว่ากลุ่มทิ้งห่างออกไปพอสมควรวันชนะก็รีบเดินตามไปสมทบ อย่างหนึ่งก็เพื่อกลบเกลื่อนความเปิ่นของตัวเอง

“ป่ะ บอส” วันชนะดันต้นแขนเด็กหนุ่ม แต่ไม่ได้กล่าวอะไรกับนักขัต เพราะถึงอย่างไรเขาก็เดินรั้งอยู่ท้ายสุดอยู่แล้ว ก็ไม่รู้ว่าที่อยากจะมาด้วยเนี่ยมาเพื่ออะไร คุยอะไรก็ไม่เห็นคุย
ถ้าวันชนะหันมามองคนที่โดนทิ้งเหมือนเป็นคนนอกในตอนนี้เขาก็คงจะเห็นแววตาปวดร้าวไหววูบหนึ่งก่อนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
เดินต่อมาได้สักพักก็ดูเหมือนป่าจะเย็นขึ้นอีก ดูทึบขึ้นอีก แต่หัวแถวเป็นคนชำนาญพื้นที่ก็คงไม่น่าห่วงอะไร และพวกเขาก็เดินตามรอยของคนที่เคยเดินในป่านี้มาก่อน การเดินทางครั้งนี้จึงไม่มีอะไรน่ากลัว...

...ถ้าวันชนะจะไม่ผิดปกติไป เมื่ออยู่ดีๆเขาก็เดินออกนอกเส้นทางไปคนเดียว!

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

แสงวูบวาบมลังมเลืองสีเขียวมรกตปนสีทองที่ไหววูบลับหลังต้นไม้ใหญ่สร้างความแปลกใจและสงสัยให้วันชนะเป็นอย่างมาก บางครั้งรอบตัวเหมือนจะสว่างขึ้น แต่บางครั้งแสงรอบตัวก็หรี่ลงเป็นสลัวๆ เสียงแปลกๆดังอยู่ในหูตลอดเวลาขณะที่เขาก็ยังได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นแรงตลอดเวลา เท้าทั้งสองเหมือนจะไม่ได้ฟังคำสั่งของตัวเอง มันยังคงพาวันชนะเดินหน้าไปเรื่อยๆ...
อย่างตุปัดตุเป๋!

“วินๆๆ!” เสียงเรียกตามหลังนั้นไม่ได้ส่งเข้าไปถึงโสตประสาทแต่อย่างใด


นักขัตพอเห็นว่าวันชนะเดินออกนอกทางไปก็นึกว่าคงจะไปหาสุมทุมพุ่มไปเพื่อถ่ายเบา จึงได้ยืนรออยู่ที่เดิม ส่วนบอสพอหันมาเห็นแต่นักขัตยืนอยู่ก็เดินกลับมาสมทบ
“’จารย์ล่ะครับ” บอสถาม
“คงจะไปฉี่ล่ะมั้ง” นักขัตชำเลืองตาไปทางที่วันชนะเพิ่งเดินหายไป
“ครับ” บอสรับคำ
แล้วทั้งสองก็ไม่ได้คุยกันอีก
นาน...จนนักขัตเริ่มผิดสังเกต จึงเดินเข้าไปใกล้ทางที่วันชนะเดินเข้าไป ปากก็เรียกชื่อแต่ไม่มีการขานรับ เขาจึงเดินตามไปเรื่อยๆ ส่วนบอสก็เริ่มผิดสังเกตขึ้นมาด้วยแต่ก็ลังเลเพราะกลุ่มเดินห่างออกไปไกลมากแล้ว
สุดท้ายเด็กหนุ่มก็มองรอบตัวเพื่อจดจำสภาพแวดล้อมก่อนจะตัดสินใจวิ่งตามนักขัตไป โดยลืมแม้แต่จะร้องเรียกเพื่อนสักคน...

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

เห็ดพิษ ส่วนใหญ่จะมีสีสันฉูดฉาด บางชนิดมีฤทธิ์ร้ายแรงมากจนถึงขั้นเสียชีวิต บางชนิดก็ทำให้แค่เห็นภาพหลอนหรือมึนเมา
ถ้าตอนที่วันชนะหน้าคะมำใส่เห็ดพิษนั้นมีหัวหน้ากลุ่มที่เป็นคนชำนาญพื้นที่อยู่ด้วยเขาอาจจะรู้ตัวเร็วกว่านี้และหาทางแก้ไขได้ก่อน
แต่ว่าไม่เป็นอย่างนั้น
เพราะตอนนี้วันชนะเดินออกนอกเส้นทางไปเรื่อยๆ
เสียงเรียกดังตามหลังแต่ฤทธิ์หลอนประสาทนั้นกลบเสียงของนักขัตไปหมดสิ้น!

กอหวายข้างหน้าขวางทางเดินเอาไว้ แต่ดูเหมือนวันชนะจะไม่เกรงต่อหนามของมันเลยแม้แต่น้อย เขายังคงสืบเท้าเข้าหา
“วินๆ” เสียงเรียกดังอยู่ที่หลัง พร้อมกับมือใหญ่ฉกเข้าจับที่ต้นแขนเอาไว้ได้
   นักขัตจับร่างที่เหมือนคนเมาเหล้าให้หันมาก็พบสภาพตาปรือๆกับหัวโงนเงนไปมาของวันชนะ
   “วินๆ” เขาเขย่าร่างในมือ “เป็นอะไรไป”
   “’จารย์ๆ” บอสตามมาติดๆ
   “เขาเป็นไรไปครับ” เด็กหนุ่มถามอย่างห่วงใย
   นักขัตไม่ตอบ แต่เขากำลังคิดถึงสาเหตุ ตอนแรกนึกถึงอาถรรพ์ของป่า ของสิ่งลี้ลับ แต่ฉับพลันภาพกอเห็ดสีส้มนั้นก็ผุดขึ้นมา เขาถึงกับหน้าถอดสี

   “เห็ดพิษ!”



(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: My name M ที่ 15-03-2008 16:07:00
 :m4: :m4: :m4:

มาต่อแล้วเหรอครับบบบ

ดีใจได้อ่านเร็วกว่าที่คิด

มาต่อแบบนี้เรื่อย ๆ ได้มั้ยครับ

อยากอ่าน

เป็นกำลังใจให้คนแต่ง และคนลงเรียงครับบ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: alulugun ที่ 15-03-2008 17:06:27
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

วินต้องไม่เป็นอะไรไปนะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-03-2008 17:36:51
หุหุ ได้อ่านตอนต่อไปอย่างรวดเร็ว ไม่น่าเชื่อ  :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
แต่มาเศร้าแบบนี้ก็  :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 15-03-2008 19:14:54

กำของเวง
เห็ดพิษ!!!!

 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 15-03-2008 20:36:41
เง้ออารายนี่.............ไงมาโดนเห็ดพิษซะงั้นง่าพี่วิน

แล้วแบบนี้เรื่องเราจะเปงยังไงต่อไปนะนี่................

เดินออกนอกเส้นทางมาแล้วด้วย..................

คงไม่มีอารายร้ายแรงเกิดขึ้นจนเกินไปนะ..........

จะรออ่านต่อไปนะคร๊าฟ................. :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 16-03-2008 14:22:22
ไอ้เราก็นึกว่า .... ที่ไหนได้ .....เห็ดพิษษษษษษษษษษษษษษษษษา :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 16-03-2008 23:13:32
ซวยจิงๆดันล้มไปทับเห็ดพิษซะได้
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 17-03-2008 02:54:17
ไปจิกคนโพสต์ได้เลยจร้า
ตอนใหม่ 37 วางแผงแย้วว


เร็วทันใจดีม้ะ อิอิ  :a2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 15 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-03-2008 11:19:07
เหอเหอ

คนแต่งบ้าพลังไปแย้ววววววว

เอิ๊กๆ

 :o
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 17 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-03-2008 11:34:23

นักขัตพาร่างที่ไร้สติของวันชนะไปนั่งตรงโคนต้นไม้ใหญ่โดยมีเด็กหนุ่มที่ตามมาทีหลังคอยช่วยเหลือ
เท่าที่ดูจากอาการแล้วนักขัตคิดว่าเห็ดนั่นคงทำให้เมามากกว่าอาการร้ายแรงอย่างอื่น แต่ก็ไม่วางใจเสียทีเดียวนัก

“เขาจะเป็นอะไรมากมั้ยครับ” เด็กหนุ่มที่นั่งข้างๆเอ่ยถาม
“ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน” นักขัตตอบด้วยสีหน้าที่ยังไม่คลายกังวล
“ผมว่า...คุณปล่อยเขาก่อนดีมั้ยครับ” บอสว่า เพราะเห็นชายหนุ่มกอดวันชนะไม่ปล่อย “เขาน่าจะอึดอัด”
จบคำของบอสร่างในอ้อมแขนของนักขัตก็ลุกพรวดพร้อมกับอาเจียนออกมา นักขัตล้วงขวดน้ำออกมาจากเป้สะพายขณะที่มืออีกข้างก็ลูบหลังวันชนะไปด้วย จนบอสรู้สึกว่าเขาเหมือนเป็นส่วนเกินยังไงไม่รู้ เพราะโดนนักขัตแย่งทำหมดทุกอย่าง ส่วนวันชนะพออ้วกเสร็จก็หงายหลังกลับมานอนในแขนนักขัตตามเดิมแต่ก็ยังคงสีหน้าบิดเบ้เอาไว้
“ผมว่าเราค่อยๆพาเขากลับไปทางเดิมกันเถอะครับ” บอสเสนอ เพราะความมืดเริ่มจะโรยตัวมาครอบคลุม ว่าพลางหันซ้ายหันขวาแล้วก็งงว่าทางไหนคือทางกลับ เด็กหนุ่มพยายามสำรวจรอบๆตัวว่าร่องรอยตอนมา มาจากทางไหนแต่ก็จนใจเพราะตอนเข้ามาฉุกละหุกมากจนไม่ได้สังเกตอะไร ยิ่งตอนนี้แสงสว่างลดน้อยลงก็ยิ่งยาก ยิ่งดูสัญญาณมือถือที่ไม่เหลือสักขีดก็เริ่มใจหาย   
“ผมว่าตอนนี้ข้างนอกคงจะรู้แล้วล่ะว่าพวกเราหายไปจากกลุ่ม ยิ่งเดินออกจากจุดนี้ไปก็ไม่แน่ว่าเราจะหลงลึกเข้าไปอีกรึเปล่าทางที่ดีเราอยู่ที่เดิมดีกว่านะ” นักขัตพูด
“แต่ว่าที่นี่มัน...” เด็กหนุ่มนึกจะแย้งเพราะป่าเริ่มจะมืดขึ้นทุกที แต่พอนึกตามที่เขาว่าก็เห็นด้วยจึงหยุดความคิดที่จะไปตายเอาดาบหน้า
“ดูเขาทีนะ” นักขัตค่อยๆยกร่างของวันชนะให้เด็กหนุ่มช่วยรับไป จากนั้นจึงลุกออกไปหาเศษไม้เล็กๆกับใบไม้แห้งแถวๆนั้นแล้วจึงกลับมาเคลียร์พื้นที่ให้โล่งเพื่อก่อไฟ
ไฟกองเล็กๆแต่ช่วยให้อุ่นใจได้มาก อย่างน้อยก็คงจะกันพวกแมลงได้ล่ะนะ ถ้าไม่นับพวกเสือสิงห์ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะกลัวไฟกองนี้หรือเปล่า
“ดื่มก่อนสิ” นักขัตยื่นเครื่องดื่มชูกำลังให้เด็กหนุ่มขวดหนึ่ง “ดูท่านายจะเพลียนะ หิวรึเปล่า ผมยังพอมีขนมเหลือสองสามถุง”
บอสรับขวดเครื่องดื่มมาแต่ยังไม่ได้ดื่มในทันที

“คุณเป็นแฟนเก่าเขาเหรอ” คำถามตรงๆนั้นทำให้นักขัตหยุดเอาไม้เขี่ยไฟ
สายตาหม่นๆเหมือนคนไม่มีความสุขในชีวิตค่อยเลื่อนมามองหน้าเด็กหนุ่ม เสียงฟืนแตกดังเปรี๊ยะก่อนที่ชายหนุ่มจะโยนเศษไม้นั้นเข้าไปในกองไฟ
“มันเป็นอดีตไปแล้ว” เขาตอบเรียบๆก่อนจะพ่นลมหายใจยาว “เขาไม่ได้รักผมแล้วล่ะ”
แล้วก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก คงมีแต่เสียงประกายไฟแตกดังเปรี๊ยะ เสียงแมลงดังจากทุกทิศ เสียงสัตว์ป่าดังแว่วๆกับเสียงสายลมพัดผ่านเบาๆ
“ขอโทษฮะ เพียงแต่ผมอยากรู้ว่า...ทำไม...” เด็กหนุ่มเปิดการสนทนาอีกครั้ง
“เขารักคนอื่น” คู่สนทนาตอบอย่างไม่ปิดบัง “อีกคนเขาหล่อกว่า รวยกว่า ดีกว่าผมทุกอย่าง...”
พูดจบเขาก็รู้สึกผิด เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่ควรดูถูกวันชนะอย่างนั้น
“ผมว่าอาจารย์ไม่ใช่คนอย่างนั้นหรอกครับ” บอสนึกไปถึงวันนั้น วันที่เขากอดวันชนะเอาไว้แต่วันชนะกลับเรียกชื่อคนอื่นออกมา มันเป็นชื่อของคนที่กำลังอยู่ตรงหน้าเขานี่เอง เรื่องราวก่อนหน้านี้ของทั้งสองคนเป็นอย่างไรเขาไม่รู้ หากแต่เชื่อเหลือเกินว่าอาจารย์ของเขายังรัก ‘คนรักเก่า’ อยู่

แปลก...ที่เด็กหนุ่มไม่รู้สึกต่อต้านกับนักขัตเลย ไม่รู้ว่าเพราะภาพความสัมพันธ์ตรงหน้านั้นน่าสงสารจับใจหรือเพราะทั้งคู่เหมาะสมกันมากกว่าที่จะแทนที่ด้วยตัวเขาเองหรือคนอื่น หึ...เขาเคยคิดว่าสักวันเมื่อเขาโตขึ้นมากกว่านี้ เขาจะพยายามทำให้วันชนะรักเขาให้ได้ เขาอยากจะเปลี่ยนสรรพนามจาก ‘’จารย์’ หรือ ‘คุณ’ เป็นเรียก ‘วิน’ ได้อย่างเต็มปาก
“พี่ชื่อตั้มใช่รึเปล่าครับ” เด็กหนุ่มถาม หากแต่ก่อนที่จะถามเหมือนเขาได้ตัดสินใจอะไรบางอย่าง เขายอมรับตัวเองว่าไม่มีทางที่จะทำตัวโตเป็นผู้ใหญ่อย่างที่วันชนะชอบไปได้มากกว่าคนที่กำลังคุยอยู่ได้ จึงเรียกนักขัตว่า ‘พี่’

“ใช่ครับ” นักขัตยิ้มเอ็นดู
“อาจารย์ยังรักพี่อยู่นะครับ” พูดจบเด็กหนุ่มก็ถือวิสาสะค่อยๆล้วงสร้อยคอที่วันชนะสวมอยู่เป็นประจำออกมา ล็อกเก็ตเงินสะท้อนแสงไฟวูบวาบราวกับพร้อมจะบอกเล่าเรื่องราว
“สร้อยเส้นนี้ผมเห็นอาจารย์ใส่อยู่ตลอดเวลาคิดว่าคงเป็นของสำคัญ และนี่...” เด็กหนุ่มพลิกด้านหลัง ล็อกเก็ตนั่นออก เผยให้เห็นอักษร ‘T∞W’

“ตัว T คงจะหมายถึงพี่ตั้มนะครับ” พูดจบบอสก็ขยับร่างวันชนะแล้วค่อยๆยกให้นักขัตดูแล
ร่างไร้สติถูกรับมาอยู่ในอ้อมแขนที่โอบรัดแน่นกว่าแต่ก่อน
“พี่ขอบใจนะ น้อง...” นักขัตเพิ่งจะรู้ว่ายังไม่ได้รู้จักชื่อของเด็กหนุ่ม

“บอสครับ”
“บอส...แต่พี่ก็ยังไม่แน่ใจหรอก เพราะว่าถ้าเขารักพี่แล้วทำไม...” นักขัตลูบที่หน้าผากของคนในอ้อมแขน “แต่ก็ช่างเถอะ เพราะอีกไม่กี่วันพี่ก็จะไปทำงานต่างประเทศแล้ว ไม่รู้ด้วยว่าพอกลับมาเราจะยังได้เจอกันอีกหรือเปล่า” เขาเหม่อมองที่เปลวไฟเต้นระริกแล้วพูดต่อ “ถ้าหากว่าวินรักภัทรจริง พี่ก็คงไม่มีสิทธิ์ไปว่าอะไรเขาหรอก ที่จริงพี่ก็ผิดมากพออยู่แล้วที่กลับมายุ่มย่ามกับเขาอีก”
“ภัทร?” เด็กหนุ่มสงสัย ขณะเดียวกับเริ่มมองเห็นเค้ารางความสัมพันธ์
“แฟนใหม่วินน่ะ” นักขัตพูดเมื่อเห็นบอสทำหน้าสงสัย

บอสทบทวน ที่ผ่านมาก็ไม่เห็นว่าวันชนะกับพี่ชายตนจะสนิทสนมกันอย่างคนรักเลยแม้สักครั้ง เป็นแต่ฝ่ายพี่ชายของเขาเองเสียมากกว่าที่ทุ่มใจให้ ทำให้เด็กหนุ่มอยากจะรู้มากขึ้นว่าระหว่างวันชนะกับนักขัตนั้นมีอะไรเกิดขึ้นกันแน่ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ถามเพราะคงไม่เกิดประโยชน์อะไรในเมื่อก็รู้แล้วว่าต่างคนต่างก็ยังรักกัน
“แล้วเขารู้รึยังครับว่าพี่ตั้มจะไป” บอสถาม
“พี่บอกแค่ว่าหลังจากนี้ก็คงไม่เจอกันอีก ส่วนทำไม พี่คิดว่าเขาคงไม่อยากรู้หรอก” นักขัตตอบ
“แล้วทั้งที่รู้ว่าอาจารย์รักคนอื่นพี่ยังจะมายุ่งกับเขาอีกทำไมล่ะครับ” ข้อนี้บอสถามโดยไม่ได้คิดถึงความเหมาะสม
“นั่นสิ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เคยที่จะไม่คิดถึงหน้าเขาแต่ก็ทำไม่ได้เลยสักครั้ง” คนพูดยิ้มเหมือนคนสมเพชตัวเอง
“แล้วบอสล่ะ คงจะสนิทกับวินมากล่ะสิ ถึงได้...”
ไม่ทันที่บอสจะได้ตอบ
“อือ...ตั้ม” วันชนะครวญอย่างคนละเมอ “วินขอโทษนะ...”
แล้ววันชนะก็เงียบลงไปอีกครั้งแต่สีหน้าก็ยังคงแสดงอาการไม่ปกติของร่างกายอยู่เหมือนเดิม เหมือนคนเมา เหมือนคนฝันร้าย


เสียงกรอบแกรบดังใกล้เข้ามา กว่าที่นักขัตกับบอสจะรู้ตัวเสียงนั้นก็อยู่ข้างหลังแล้ว บอสหยิบท่อนไม้มั่นไว้ในมือ ส่วนนักขัตจับได้ฟืนที่ปลายยังมีไฟลุกโชติช่วง เผื่อว่าสัตว์ป่าจะเกรงกลัว...
วูบแรกเห็นจิตใจแทบหล่นอยู่ที่ตาตุ่ม เพราะแสงไฟวูบวาบไปมาในความมืดที่ส่องเห็นหน้าอันดำมืดที่ยืนอยู่ข้างหลังของบอสก็นึกว่าเป็นผีป่าผีไพร จนเมื่อคำพูดหลุดรอดออกมาทั้งสองต่างก็ดีใจจนบอกไม่ถูก
“น้องที่หลงป่าใช่มั้ยครับ” เจ้าหน้าที่คนนั้นว่า
“โอ๊ย! ใจจะวาย ใช่สิครับพี่ ใช่เลยครับผมหลงป่า” บอสดีใจแทบเต้น
พอได้ยินดังนั้นเจ้าหน้าที่คนนั้นก็ส่งสัญญาณให้คนอื่นๆมาสมทบ ที่เขาไม่ตะโกนเรียกเพราะว่าเป็นข้อห้ามของคนเดินป่า ถ้าหากว่าตะโกนเรียกชื่อกันแล้วมีเสียงขานรับ นั่นล่ะผีป่าผีไพรจะหลอกให้หลงทาง
“ข้างนอกวุ่นวายกันใหญ่เลยครับ มีคนเจ็บรึเปล่า” เขาถามเมื่อเห็นวันชนะนอนไร้สติ
นักขัตเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่คนนั้นฟัง ไม่นานนักพรรคพวกทีมค้นหาก็มาถึงทั้งหมดแล้วจึงเดินทางออกจากจุดนั้น
จริงอย่างที่นักขัตคิดเอาไว้ถ้าหลงทางแล้วมั่นใจว่ามีคนรู้และจะมีคนตามหาให้อยู่ที่เดิมจะดีกว่า กองไฟกองเล็กนั่นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด แต่ก็ต้องมั่นใจว่าจะไม่ทำให้เกิดไฟป่าครอกตัวเองไปด้วย
นักเรียนที่เหลือถูกควบคุมให้อยู่ในความสงบ เพราะคืนนี้ยังต้องนอนต่ออีกคืน กำหนดกลับเป็นรุ่งเช้า แต่วันชนะ นักขัตและบอสถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลอย่างด่วนที่สุด

“พี่จะจากไปโดยไม่บอกให้เขารู้เลยเหรอครับ” บอสพูดขึ้นตอนนั่งอยู่ในรถ
“.....”

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

แสงทองวันใหม่มาพร้อมกับอาการกระพริบตาถี่ๆของวันชนะ พอรู้สึกตัวสิ่งแรกที่รู้สึกคือเวียนศีรษะ
“โอย” วันชนะโอด
“เป็นยังไงบ้างวิน!” คนเฝ้ารีบถามอย่างดีใจเมื่อเห็นคนป่วยรู้สึกตัว
“พี่ภัทร” วันชนะยกมือที่มีสายน้ำเกลือขึ้นกุมขมับ “ผมเป็นไรไป”
“วินกินเห็ดพิษเข้าไปตอนที่ไปเดินป่าน่ะ จำได้มั้ย” ภัทรยิ้มแย้มดีใจ
วันชนะค่อยๆนึกเรียบเรียงเหตุการณ์ แต่ก็จำได้รางเลือนเท่านั้น แต่ความรู้สึกบอกว่าตลอดเวลาเขาไม่รู้สึกกลัวอะไรเลย อะไรบางอย่างบอกว่านักขัตก็อยู่ที่นั่นด้วย
“เขาก็อยู่ที่นั่นด้วยใช่มั้ย” วันชนะมองออกไปนอกหน้าต่าง
“อืม” ภัทรตอบ ไม่ต้องเอ่ยชื่อแต่ต่างก็รู้ “บอสด้วย” ภัทรเลี่ยง
“บอสเป็นไงบ้างครับ” วันชนะเกิดเป็นห่วงขึ้นทันที
“ไม่เป็นไรแล้ว นอนหลับไปแล้วตื่นมากินข้าวตั้งเยอะ ตอนนี้ก็หายแล้ว” ภัทรตอบ
“แล้วเขาล่ะ” วันชนะหลับตาลง ดูเหมือนยากเย็นเต็มทีที่จะเอ่ยถามสารทุกข์ของนักขัตต่อภัทร
“เขาไม่เป็นอะไร”

วันชนะไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับนักขัตต่อเมื่อประตูเปิดเข้ามาพร้อมกับเสียงของบอสที่มาพร้อมกับเพื่อนร่วมห้องสามสี่คน

“โหย ’จารย์อ่ะ ทำผมใจแป้วเลยรู้ป่าว” บอสพูดเสียงดัง “เนี่ยนะ ’จารย์ พี่ตั้มนะเท่มากๆ รู้ป่าวว่าตอนที่ ’จารย์ ’หลบไปนะ เอ้ย สลบไปนะ โหย ทั้งเสือทั้งงูยักษ์พุ่งเข้าใส่เลยนะ แต่พี่ตั้มนี่สุดยอด คว้าไฟมาแกว่งไปแกว่งมาจนเสือกับงูมันงงกัดกันเอง แล้วจากนั้นพี่ตั้มก็ขว้างไฟใส่มันทั้งสองตัวหนีกระเจิงไปเลย บอกด้วยนะว่าเนี่ย คนของข้าใครอย่าแตะ”
“เฮ้ย! มึงโม้รึเปล่าวะเนี่ย ฟังเหมือนหนังจีนเลย” เพื่อนคนหนึ่งเบรกการคุยโวของบอส
ขณะที่วันชนะหัวเราะเบาๆ

“งั้นผมกลับก่อนนะวิน” ภัทรเหมือนหัวเสีย “อย่ากลับดึกล่ะบอส เดี๋ยวป๊าตีเอาอีก” ว่าแล้วเขาก็หันหลังเปิดประตูออกไป

หากเพียงประตูปิด อาการร่าเริงของบอสก็หายไปด้วย


(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 17 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 17-03-2008 12:00:11
โอ้ย  :angry2:  ขอร้องหน่อยเฮอะ

เมื่อไหร่จะเข้าใจกันซะที สงสารทุกคนเลยนะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 17 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: Otaku ที่ 17-03-2008 12:23:32
เมื่อไรตัวละครในเรื่องนี้จะมีความสุขสักทีนะ

 :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 17 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: alulugun ที่ 17-03-2008 12:31:31
ทรมานใจคนอ่านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

จบแบบ Happy Ending เดี๋ยวนี้ ขอร้อง
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 17 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 17-03-2008 12:48:02
เห้อ...........ทามัม้ยทุกอย่างมานถึงเศร้าขนาดนี่นะ

มานเกิดอารายขึ้นก่ะคนทุกคนก้อไม่รู้..............

แล้วแบบนี้มานจะเปงยังไงต่อไปละ........

ยังไงก้ออย่าลืมมาต่อนะคับ.........อยากอ่านต่อมากมาย

จะรอนะคับ..............เปงกำลังใจให้นะ สุ้ๆนะคับ :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 17 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-03-2008 12:57:47
จบแบบ happy เถอะนะ  :m15:  :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 17 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 17-03-2008 14:44:37
นี่ เมื่อไหร่มันจะแฮปปี้กันซะที ร้องไห้จนน้ำตาจะหมดตัวแล้วนะเนี่ย  :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 17 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 17-03-2008 15:05:15
สงสัยบอสนี้แหละ ที่จะทำให้สองคนนี้คืนดีกัน
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 17 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 17-03-2008 21:57:06
 :m4: :m4: ปรบมือให้น้องบอสนะครับ  พ่อกามเทพตัวน้อย  :m1: :m1:

ตอนนี้ยังทันที่จะปรับเข้าหากันนะครับ  อย่าจากกันไปนะครับวิน ตั้ม  o7 o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 17 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 17-03-2008 22:12:22
บ้าพลังอีกนะคะคนเขียน   o7

แต่ขอแบบไม่เศร้านะคะ  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 17 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 18-03-2008 18:52:55
 :sad2:

ทำไมเรื่องมันเศร้าจัง

 :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 17 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: BEta-K ที่ 18-03-2008 19:16:52
มาบอกว่า ตอนที่ 38 มาแล้วววววว คนโพส ไปเอาลงด่วน  :oni3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 17 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: uandi ที่ 18-03-2008 22:34:08
 o2 o2  หลงรักน้องบอสเข้าให้แล้วครับ ...

ไงก็ต่อเร็วๆ นะครับ ...  ลอยคอรอคอยอยู่เด้อ....  :o8:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 17 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 18-03-2008 23:54:32
น่าสงสาร o7 เง้อๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 17 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 19-03-2008 17:19:44
อยากอ่านต่อค่ะ ขอให้จบแบบมีความสุขนะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-03-2008 18:06:51

บอสทำทีว่ากลับพร้อมกับเพื่อนๆ หากแต่คล้อยหลังไม่นานเขาก็ปลีกตัวจากกลุ่มกลับมาหาวันชนะอีกครั้ง
เด็กหนุ่มมีเรื่องติดค้างในใจที่ยังอยากรู้

‘พี่คงจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วล่ะ อย่างนั้นพี่ฝากบอสดูแลเขาด้วยนะ’

เมื่อวานนักขัตพูดกับเขาอย่างนั้นแถมยังขยี้ผมเขาทำอย่างกับเขาเป็นเด็กเล็กๆ นั่นทำให้บอสไม่อาจจะปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆ
เพราะสายตานั่น...สายตาที่เหมือนของวันชนะยามที่มองเขา
สายตาที่มีแค่ความเอ็นดู

“อาจารย์ยังรักเขาอยู่ไม่ใช่เหรอครับ” เด็กหนุ่มข้างเตียงเอ่ยขึ้น
เมื่อคนบนเตียงคนป่วยไม่มีคำใดหลุดออกมา หากมีแต่รอยยิ้มที่ดูเหมือนจะปลงกับทุกสิ่งที่ทำให้         บอสแทบอยากจะจับร่างนั้นมาเขย่าๆให้ลุกขึ้นมาเผชิญกับความจริง
“ผมไม่รู้หรอกนะครับอาจารย์ ว่าระหว่างอาจารย์กับพี่ตั้มเคยเกิดอะไรขึ้น แต่ในเมื่อยังรักกันก็น่าจะ...”

“ไม่มีทางเหมือนเดิมแล้วบอส!” น้ำเสียงห้วนๆสวนขึ้นมาทันควัน และเป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มได้สัมผัสอารมณ์นี้ของวันชนะ

“คุณฟังผมนะ!” เด็กหนุ่มก็แรงขึ้นไม่ยอมลดราให้ คราวนี้เขาจับต้นแขนทั้งสองข้างของวันชนะแล้วเขย่าอย่างที่คิด ต่อให้วันนี้จะโดนเกลียดเขาก็ยอม “คุณรักเขา แล้วเขาก็ยังรักคุณ ทำไมต้องยุ่งยากด้วย ทำไมต้องแคร์คนอื่นด้วย ขนาดผมเป็นคนอื่นผมยังไม่กล้าเข้าไปแทรกระหว่างคุณกับเขาเลย แล้วเรื่องอะไรคุณจะปล่อยให้ความรักของคุณมันหลุดลอยไป”

“ออกไปนะ! ไม่ต้องมายุ่ง! นายมันก็แค่เด็กมัธยมจะไปรู้อะไร” วันชนะออกปากไล่อย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่พลางชี้นิ้วไปที่ประตู

“ใช่สิ! ผมมันก็แค่ไอ้เด็กมัธยมคนหนึ่ง ก็แค่เด็กคนหนึ่งที่มันรักคุณยังไงล่ะ” บอสแทบจะตะโกนใส่หน้าวันชนะ เพราะคำว่าเด็กที่เขาไม่ชอบให้ใครมาเรียก โดยเฉพาะกับวันชนะด้วยแล้ว

เสียงเอะอะที่ดังออกไปถึงข้างนอกทำให้นางพยาบาลคนหนึ่งที่เดินผ่านมารีบเข้ามาดู ทั้งคู่จึงได้สงบศึกลง
“น้องคะ ช่วยออกไปก่อนนะคะ” นางพยาบาลคนนั้นพูดกึ่งไล่ “ได้เวลาพักของคนป่วยแล้วค่ะ”
เหตุนี้บอสจึงโดนรุนหลังออกมานอกห้อง
“น้องคะ พี่ไม่รู้หรอกนะว่าทะเลาะอะไรกัน แต่ตอนนี้คนข้างในนั้นคือคนป่วยนะคะ เอาไว้ให้เขาออกจากโรงพยาบาลก่อนค่อยเคลียร์กันดีกว่าไหมคะ” นางพยาบาลคนนั้นพูดอย่างใจดี
“ผมขอโทษครับ” เสียงบอสอ่อนลง

นางพยาบาลใจดีเดินจากไปแล้ว แต่เด็กหนุ่มยังยืนพิงผนังตรงทางเดินอยู่ สักพักเขาก็กลับเข้าไปหาวันชนะอีกรอบ พอเปิดประตูเข้าไปก็พบสายตาเหนื่อยล้าของคนป่วยที่มองมาตั้งแต่ประตูเปิด
“ผมขอโทษ” น้ำเสียงบอสอ่อนลง เขาไม่กล้ามองหน้าวันชนะตรงๆ “เขาเคยบอกคุณใช่มั้ยว่าจะไม่ได้เจอคุณอีก”
คราวนี้ประกายตาของคนป่วยมีแววอยากรู้ขึ้นวูบหนึ่ง หากแต่เขาทำใจแข็งไม่ซักถามหรืออกอาการใดมากไปกว่านั้น
“มะรืนนี้เขาจะไปทำงานต่างประเทศแล้วนะ”
สิ้นเสียงของบอส วันชนะก็ไม่ได้ยินแล้วว่าเด็กหนุ่มพูดอะไรต่อ น้ำตาค่อยๆไหลอาบแก้มอย่างอ้อยอิ่ง
“ผมช่วยคุณได้เท่านี้ล่ะนะ” บอสวางกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆไว้ที่ข้างมือวันชนะ ในนั้นเป็นเบอร์โทรของนักขัตที่วันชนะไม่เคยถาม
น้ำตายังไม่เหือดแห้งเมื่อเด็กหนุ่มเดินหันหลังจากไป วันชนะหยิบโน้ตนั้นขึ้นมาดูแล้วขยำมันทิ้งไปพลางยิ้มอย่างสมเพชตัวเอง

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

นักขัตเดินซื้อข้าวของที่จำเป็นก่อนออกเดินทางที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆกับที่ทำงาน คนที่มาด้วยเป็นสาวสวยมากคนหนึ่ง หล่อนคือเพื่อนร่วมงานที่คอยแอบชอบนักขัตมาตลอด แต่นิสัยเจ้ากี้เจ้าการอย่างมีชั้นเชิงของหล่อนทำให้นักขัตไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรมากเกินกว่าเพื่อน จะว่าไปนักขัตเป็นคนหน้าตาดีมากย่อมเป็นธรรมดาที่จะมีคนมาชอบพอมากมาย ทั้งที่แสดงออกว่าชอบชัดเจนและไม่ชัดเจน หญิงสาวรายนี้ก็เช่นกันเพียงแต่หล่อนรู้จักการวางท่าที การเข้าใกล้ตัวนักขัตได้จึงมีได้มากกว่าคนอื่น แต่เพราะหล่อนไม่เคยเอ่ย นักขัตจึงไม่ได้ปฏิเสธอย่างชัดเจน ดังนั้นเมื่อเลิกเวลางานหล่อนจึงไม่ได้คอยติดสอยห้อยตามเหมือนอย่างในออฟฟิศ แต่วันนี้พอดีบังเอิญสบจังหวะหล่อนก็มาเดินเหมือนกัน
เสียงริงโทนโทรศัพท์มือถือของนักขัตดังขึ้น มองชื่อที่โชว์ที่หน้าจอแล้วเขาจึงกดรับ

“ครับแม่”
นั่นจึงทำให้หญิงสาวเงียบเสียงลง เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดินคู่กันมา
“จะลงมากรุงเทพฯเหรอครับ...ครับ....ได้ครับ” คุยประมาณห้า-หกนาทีถึงได้วางสายไป
“ตั้มคะ...”
หล่อนพูดได้แค่นั้นเพราะมีสายโทรเข้ามาอีก
หน้าจอโชว์เบอร์ที่ไม่ได้บันทึกชื่อแต่เขาก็กดรับ
“ครับ?”
“อยู่ที่ห้าง...”

ถึงนักขัตจะแปลกใจที่สายนั้นโทรเข้ามาถามหนึ่งประโยคแล้วอยู่ดีๆก็วางไปเสียดื้อๆ โดยที่เขาก็ตอบไปแบบงงๆ แต่เขาก็ไม่ได้โทรกลับไปถามให้ประจ่าง เพราะหญิงสาวที่เดินด้วยกันฉุดให้เดินไปดูนั่นดูนี่เสียก่อน
“ผมว่าพลอยซื้อของเยอะกว่าคนที่ต้องเดินทางอย่างผมเสียอีกนะครับเนี่ย” นักขัตบอกเป็นนัยให้หล่อนรู้ว่าเขาพอแล้ว
“แหม มะรืนนี้ตั้มไปแต่เดือนหน้ายังไงพลอยก็ต้องได้ตามไปอยู่ดีแหละคะ ซื้อไว้ตอนนี้ยังไงก็ไม่เสียหลาย” หล่อนไม่รู้ความนัยที่นักขัตบอกจึงยังฉุดแขนเขาเดินดูของไปเรื่อยๆซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าผู้หญิง

“อ๊ะ!” หญิงสาวอุทาน เมื่อเอื้อมมือไปจับเสื้อรูปทรงเก๋ไก๋พร้อมกับอีกมือที่เอื้อมมาจับพร้อมกัน ที่จริงอีกฝ่ายจับได้ก่อน
“ขอโทษค่ะ ดิฉันเลือกก่อนนะคะ” หญิงสาวอีกคนพูด มือยังจับที่เสื้อตัวนั้นไม่ปล่อย
“พูดงี้ได้ไง ฉันจับก่อนนะ” พลอยแหวทันที
“เอ๊ะ!” หญิงสาวอีกคนที่สวยไม่แพ้กันออกเสียงไม่พอใจ โดยมีหนุ่มหล่ออีกคนที่ท่าทางจะเป็นแฟนคอยปรามแต่หญิงสาวคนนั้นก็ไม่ฟังเสียง
“คุณคะ อย่าเถียงกันเลยค่ะ เสื้อตัวนั้นแพงมากเลยนะคะ แล้วก็นี่ค่ะยังมีอีกตัวนะคะเหมือนกันเดี๊ยะเลย” พนักงานร้านเข้ามาห้ามทัพ เพราะกลัวสินค้าจะเสียหาย
“ไม่!” ทั้งสองเสียงพูดแทบจะพร้อมกัน
“ฉันจะเอาตัวนี้เท่านั้น” พลอยเชิดหน้า “แพงเท่าไรฉันก็มีปัญญาจ่าย”
“ฉันก็จะเอาตัวนี้เหมือนกัน แพงเท่าไรฉันยินดีจ่ายให้สองเท่า” อีกฝ่ายไม่ยอม
   นักขัตที่แวะดูที่แผนกเสื้อผ้าบุรุษได้ยินเสียงก็รีบเข้ามา “อะไรกันพลอย”
   “ก็ผู้หญิงคนนี้น่ะสิคะ จะแย่งเสื้อของพลอยน่ะค่ะ พลอยเห็นก่อนนะคะ” หล่อนฟ้องทันที “ดูสิคะเนี่ย ท่าทางไม่น่าไว้ใจ พลอยกลัวจังเลยค่ะตั้ม เนี่ยเกย์เพื่อนสาวมันก็น่ากลัวนะคะ ก้ามปูซะขนาดนั้นตบพลอยทีหัวคงหลุดแน่เลยค่ะ” หล่อนทำท่าตัวสั่นให้เขาเอ็นดู
   “ผมว่าใจเย็นๆ ค่อยๆคุยกันดีกว่านะครับ” ชายหนุ่มที่โดนกล่าวหาว่าเป็นเกย์เพื่อนสาวเอ่ยผ่าวง
   “เงียบไปเลย!” ทั้งสองสาวพูดพร้อมกันอย่างกับนัด
   “ยี้ นังเกย์สาว” พลอยทำท่าขยะแขยงเต็มทน
   “นี่หล่อน เขาเป็นชายทั้งแท่งย่ะ” หญิงสาวคู่กรณีสวนทันควัน
   “อ๊ะ รู้ได้ไงยะ สมัยนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ อยู่กับหล่อนเขาอาจจะเป็นผู้ชายทั้งแท่งแต่พอไปอยู่กับผู้ชายคนอื่นเขาก็อาจจะ...” หล่อนพูดให้อีกฝ่ายตีความด้านลบเอาเอง
   “เอ่อ...คุณคะ จะเถียงกันก็เถียงไปเถอะค่ะ ดิฉันขอเสื้อมาเก็บก่อนนะคะ” พนักงานคนเดิมตัวลีบบอก แล้วก็รีบเอามืออุดหูเมื่อสองสาวหันมากรี๊ดใส่หน้า
   “พลอยพอเถอะ คนมองใหญ่แล้ว” นักขัตดึงแขนหญิงสาวพลางหันไปคุยกับคู่กรณี “คุณด้วยนะครับ ผมขอโทษแทน...”
   “ตั้ม!” หญิงสาวคนนั้นชี้หน้า
   “หลิน!” นักขัตจำได้ในบัดดล

   เมื่อเห็นว่าหญิงสาวอีกคนที่มีเรื่องด้วยเป็นเพื่อนนักขัต สุวรรณาเลยมีท่าทีที่อ่อนลงแต่ก็ยังไว้เชิง หากแต่พลอยยังวางท่าเชิด
   “แฟนตั้มเหรอ” หลินเบาเสียงให้ได้ยินแค่สองคน
   “ใช่” พลอยดันได้ยินอีก หล่อนเลยถือโอกาสแดกดันพลางจับแขนนักขัตอย่างแสดงตัว
   ส่วนนักขัตรู้ว่าพลอยพูดไปด้วยอารมณ์เลยไม่ถือสา
   “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ สบายดีไหม” นักขัตถามไถ่
   “ก็สบายดี แล้วทำไมถึงได้มากับ...” หล่อนหมายถึงนักขัตน่าจะมากับวันชนะ แต่ก็หยุดคำได้ทัน เพราะเวลาหลายปีที่ไม่ได้เจอกันอาจจะมีบางอย่างเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ จึงเปลี่ยนเป็นพูดต่อว่า “...มากับผู้หญิงคนนี้” เป็นการพูดกระแทกกลายๆ
   “ทำไม ฉันทำไม” พลอยเริ่มขึ้นเสียงอีกครั้ง
   “อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่จะบอกว่าผู้หญิงคนนี้สวยม๊ากมาก...” ท้ายประโยคหลินลากเสียงยาวเหยียด
   “เชอะ ฉันรู้ตัวหรอกย่ะ ว่าฉันสวย” พลอยรับสมอ้างถึงรู้ว่าอีกฝ่ายพูดประชดก็เถอะ

   เสียงริงโทนมือถือของนักขัตดังขึ้นอีกครั้ง สองสาวจึงเงียบเสียง
   เบอร์ไม่ได้ถูกบันทึกเบอร์เดิมโทรเข้ามาอีกครั้ง
“ครับ?” สีหน้าของนักขัตยิ่งแปลกใจมากขึ้นกว่าตอนรับสายครั้งแรก “ใครครับ?”

ไม่มีคำตอบผ่านโทรศัพท์
เพราะคำตอบอยู่ตรงหน้าแล้ว!

วันชนะยังถือมือถือแนบกับหู สายตามองไปยังนักขัตที่ยืนอยู่ข้างหน้า เขากรอกเสียงปนกับเสียงหอบฮักจากที่วิ่งมา “เราเอง ตั้ม”
“วิน” นักขัตตอบรับผ่านมือถือ แต่สายตาจับจ้องไปที่คนที่กำลังเดินเข้ามาหา
“ผมรักคุณ ผมยังรักคุณเต็มหัวใจ” สาวเท้าไปข้างหน้าเรื่อยๆ “จะอภัยให้ผมได้มั้ย”
จนวันชนะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้านักขัตโดยไม่สนใจใครรอบข้าง นักขัตจึงได้กรอกเสียงลงไปในมือถือว่า
“ผมไม่อภัยให้วินหรอก” ดวงหน้าหล่อเหลาเริ่มมีรอยยิ้ม “วินไม่เคยผิด ผมไม่มีเรื่องอะไรจะต้องให้อภัย”
พลอยงงที่นักขัตกางแขนออกต่อหน้าคนมาใหม่ ขณะที่หลินยิ้มอย่างยินดีอยู่ข้างหลัง หล่อนไม่รู้หรอกว่าทั้งสองคนนี้มีเรื่องอะไรกันแต่ภาพที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้นหล่อนเคยสัมผัสมาแล้วและก็รู้ว่ามันสวยงามเพียงไร

“เฮ้ย!” พลอยอุทานอย่างลืมตัวเมื่อชายหนุ่มอีกคนที่เดินมาหยุดยืนตรงหน้านักขัตโผเข้าหาอ้อมกอดนั้นและคนทั้งคู่ก็กอดกันแนบแน่นกลางห้างโดยไม่แคร์สายตาใคร
นักขัตกับวันชนะเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งที่มีแต่เขาสองคน หลังจากกอดกันแนบแน่นและเนิ่นนานวันชนะก็เริ่มรู้สึกถึงสายตาหลายคู่และเสียงหัวเราะคิกคักจึงได้ดันตัวนักขัตออกแล้วยืนเก้อๆ
นักขัตเองก็รู้สึกแต่เขาไม่แคร์ นานเหลือเกินที่เขาไม่ได้สัมผัสความรู้สึกอิ่มเอิบแบบนี้

“ตั้ม!นี่ใครคะ” พลอยถามหน้าเหวอแต่เสียงก็กึ่งจะพาล
“วินครับ แฟนผม” นักขัตตอบอย่างเต็มเสียงพร้อมรอยยิ้ม

พอรู้คำตอบ หญิงสาวก็หลุดไปอยู่อีกโลก...คนเดียว

“หึ หล่อนน่ะสวยนะ แต่คงต้องไปเช็คสายตาเสียหน่อย เป็นไปได้ก็ตัดแว่นที่ติดเรดาร์แสกนเกย์ไว้ด้วยนะยะ จะได้ไม่ตาถั่ว” หลินกัดแรงอย่างไม่จริงจังก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับแฟนหนุ่มที่หล่อนบอกว่าเป็นชายแท้ทั้งแท่ง
“ไปกันเถอะค่ะมาริโอ้” เสียงหล่อนดี๊ด๊าที่ชนะศึก

“เราไปหาที่คุยกันเถอะ” นักขัตจูงมือวันชนะเดินฝ่าวงไทยมุงโดยไม่สนใจเสียงกรี๊ดของพลอยที่ดังแผดห้างไปทั้งชั้น
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-03-2008 18:47:36
คืนดีกันแว้วว  o7 o7 o7 o7 แต่ฉากคืนดีไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่แฮะ น่าจะแบบสองต่อสอง  :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: uandi ที่ 19-03-2008 19:43:07
 :m4: :m4:  สะใจดีอ่ะค้าบ ... 

 .... แต่จะเป็นไงต่อเนี่ย ... อยากรู้ อยากรู้ ...

   ^^
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 19-03-2008 20:55:24
555 สะใจจิงๆอึ้งไปเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: Otaku ที่ 19-03-2008 21:03:32
  :mc4: :mc4: :mc4:


ในที่สุดก็คืนดีกันแล้ว

แต่ทำไมไม่ค่อยโรแมนติกเลย
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 19-03-2008 21:22:01
 :m1:  คืนดีกันแล้ว 

มาต่ออีกนะคะ  :oni2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 19-03-2008 21:28:32
คืนดีกันแล้ว กลางห้างเลย สักขีพยานเพียบ สะใจยายพลอยดีพิลึก

อยากรู้จัง ทำไมวินถึงคิดได้อ่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: alulugun ที่ 19-03-2008 21:34:03
 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7

รักกันซะที
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: TaDa ที่ 19-03-2008 21:35:09
 

:m4: :m4: :m4: :m4:

มาต่ออีกครับ มาต่ออีก  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 19-03-2008 21:38:19
 :a6: มาต่อเร็ว ๆ นะคร้าบบบ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 19-03-2008 22:03:26

 :oni2: :oni2: :oni2:

ดีใจๆ คืนดีกันแล้ว

แต่ก็แอบสงสารน้องบอสด้วยอ่ะ o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: tenjoin ที่ 19-03-2008 22:23:34
มันอ่า

มาต่ออีก

เร็วๆน่าคับ

 :a11: :a3: :a11:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 19-03-2008 23:18:16
ดีใจจังคืนดีกันแล้ว

อัพต่อเร็วๆนะ กำลังสนุก
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: Eis ที่ 20-03-2008 13:37:53
อ่อยย... นึกภาพตาม ยืนกอดสองคนแนบแน่น กลางห้าง ... กล้องดอลลี่รอบทั้งคู่เป็นวงกลม เห็นเพื่อนหลินยืนยิ้มแป้น สาวพลอยหน้าเหว๋อ...

กำลังสนุกเลยครับ มาต่อไวๆ นะครับผม
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 20-03-2008 21:54:00
ัyes!!!!  o7ดีกันแล้ว

เห้อ ให้้เราลุ้นซะตั้งนาน
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: toyzaa ที่ 22-03-2008 00:14:43
 :m1:เฮ้ยยยยยยยกว่าจะกลับมารักกัน :m13:
 :oni1:มาต่อเรวๆน่ะครับ  แล้วจะรออ่านน่ะครับ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 22-03-2008 07:57:50
ปล่อยให้ดีใจกันไปก่อน

เพราะ

ตอนต่อไปความเศร้าครั้งใหญ่จะถาโถม


ว้า ฮ่า ฮ่า

 :o
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-03-2008 08:25:17
ไม่อยากจะเดา แต่คุณแม่ขอร้องมาอีกแล้วใช่มั๊ยค่ะ  :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 22-03-2008 14:30:27
ปล่อยให้ดีใจกันไปก่อน

เพราะ

ตอนต่อไปความเศร้าครั้งใหญ่จะถาโถม


ว้า ฮ่า ฮ่า

 :o

ซะงั้น

ชิส์
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 22-03-2008 16:42:32
 :o12: คงต้องเศร้าแน่ ๆ เพราะว่า แม่กะลังจะมา แล้วก็ต้องจากกัน เพราะตั้มต้องไปทำงานอีก

เฮ้อ ยังอุปสรรคไม่พออีกเหรอคู่นี้ เศร้า จริง ๆ เฮ้ออออออออออ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 23-03-2008 16:25:24
เอ สงสัยมานานแล้ว แต่ไม่ได้โพสต์
ที่ว่าคุณแม่ขอร้องเนี่ย ขอชี้แจงว่า
วางบุคคลิกของแม่ของตั้ม (ลงตอนต่อไปมีชื่อว่าอุษา)
เขาไม่ได้เอ่ยคุยกะวินนะครับ
คนที่คุยคือพ่อของตั้ม  (ชื่อว่าสมภพ)
อุษาจะเป็นทำนองหญิงญี่ปุ่นใจดีเก็บอารมณ์ ให้สามีเป็นช้างเท้าหน้า แม้ว่าจะเคยเป็นหญิงสมัยใหม่แบบ working womanมาก่อนน่ะฮะ (แม่ตั้มเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นครับตามที่เคยลงไว้)
ดังนั้นน่าจะเรียกว่า คุณพ่อขอร้องมากกว่านะครับ

หรือว่าเราเขียนให้คนอ่านสับสนหว่า  :serius2:

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-03-2008 15:41:19
เง้อ..............เราควรจะดีใจมั้ยเนี่ย

เค้ากลับมารักกานก้อจิง.............แต่

เด่วแม่พี่ตั้มก้อมาแล้วนะ...............

แล้วเรื่องมานจะเปงยังไงต่อไปละ..................ไม่อยากจะคิดเล๊ยยยยยยยยยยยยยยยย o7 o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: Phoeniz ที่ 24-03-2008 16:09:56
โอ้ว  ดีใจมากเลยคับที่ได้อ่านเรื่องนี้  พึ่งรู้เมื่อวานเองว่ามีเว็บนี้ (โง่ตั้งนาน)
หาในบอดปามตั้งนาน นึกว่าไม่มีต่ออีกแล้ว
ขอบคุงนะคับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 24-03-2008 17:18:43
เอ สงสัยมานานแล้ว แต่ไม่ได้โพสต์
ที่ว่าคุณแม่ขอร้องเนี่ย ขอชี้แจงว่า
วางบุคคลิกของแม่ของตั้ม (ลงตอนต่อไปมีชื่อว่าอุษา)
เขาไม่ได้เอ่ยคุยกะวินนะครับ
คนที่คุยคือพ่อของตั้ม  (ชื่อว่าสมภพ)
อุษาจะเป็นทำนองหญิงญี่ปุ่นใจดีเก็บอารมณ์ ให้สามีเป็นช้างเท้าหน้า แม้ว่าจะเคยเป็นหญิงสมัยใหม่แบบ working womanมาก่อนน่ะฮะ (แม่ตั้มเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นครับตามที่เคยลงไว้)
ดังนั้นน่าจะเรียกว่า คุณพ่อขอร้องมากกว่านะครับ

หรือว่าเราเขียนให้คนอ่านสับสนหว่า  :serius2:



ตอนต่อไปมาหรือยังละพ่อ

รออยู่หนา

 :a5:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: BeePed ที่ 25-03-2008 13:49:51
คนโพสท์ช่วยไปเอาตอนล่าสุดจากบล็อกคนเขียนมาลงด่วนด้วยค่าาาา  :m22:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 MAR 2008 มาไวอย่างแรง
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-03-2008 14:56:10
งุงิงุงิ.................มารอตอนต่อไปคลอดนะคร๊าฟ อิอิ :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 26 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 26-03-2008 19:03:26
ความจริงที่ว่านักขัตต้องไปทำงานต่างประเทศเป็นเวลาหนึ่งปีไม่ได้เป็นตัวลดทอนความสุขของคนทั้งสอง
เพราะพวกเขาเคยห่างเคยจาก เวลาเพียงปีเดียวไม่ได้มีความหมายอะไรอีกแล้ว ต่อเมื่อหัวใจของคนสองคนผูกพัน ถึงแม้จากนี้ไปจะต้องจากกันอีกสิบปีก็ไม่กลัว

“ไม่เห็นเป็นไรเลยตั้ม วินมีเงินเก็บอยู่ ว่างๆบินไปหาก็ได้” วันชนะมองหน้าคนรักอย่างเต็มตา ทดแทนที่ก่อนนี้แม้แต่นึกอยากจะมองยังต้องทำแข็งใจ
“คิดอะไรอยู่” วันชนะยิ้ม “มองหน้าวินอยู่นั่นแหละนะ”
“อยากให้บอกเหรอว่าคิดอะไร” นักขัตยิ้มเจ้าเล่ห์
“ทะลึ่ง” วันชนะทำท่าจะเอาส้อมควักตา

หลังจากที่เขาจูงมือวันชนะเดินไปทั่วห้างแล้วสุดท้ายก็มาจบที่ร้านอาหารที่นี่ หลังจากนี้ก็คงจะไปดูหนังต่อ รวมถึงอีกหลายๆอย่างที่คนรักทำด้วยกัน เพื่อทดแทนเวลาที่หายไปและที่กำลังจะหมดลง
“ตั้ม” วันชนะเอ่ยขึ้น สีหน้าบอกว่าเรื่องที่จะพูดเป็นเรื่องซีเรียส “วินขอตั้มอย่างหนึ่งนะ”
นักขัตเลื่อนมือไปจับมือของวันชนะเอาไว้เสียก่อน
“ถ้าจะขอว่าอย่าถามถึงเรื่องที่ผ่านมาล่ะก็ ตั้มจะไม่พูดถึงมันหรอก วินสบายใจได้ เพราะต่อจากนี้อะไรจะเกิดเราก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไป”
นักขัตกล่าวซึ้งจนวันชนะน้ำตาเริ่มคลอ
“ขอบใจนะ”

ถึงตอนนี้วันชนะก็ยังเลือกที่จะเก็บเอาไว้เรื่องหนึ่ง...สาเหตุที่ทำให้เขาต้องทิ้งนักขัต คงไม่ดีแน่ถ้าจะบอกออกไป
อย่างที่นักขัตว่าต่อจากนี้อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด เขาพร้อมที่จะเผชิญกับมันเพราะไม่ใช่เพียงแค่ตัวเขาเองที่จะต้องเผชิญหากจะมีนักขัตร่วมด้วย แต่ลึกแล้ววันชนะอยากจะให้เขากับนักขัตมีความสัมพันธ์ลับๆอย่างนี้ตลอดไปโดยเฉพาะกับพ่อแม่ของนักขัต

เพียงแต่สิ่งที่วันชนะกลัวที่จะเผชิญนั้นไม่ได้รอให้เขาได้ตั้งตัวรับสถานการณ์นานนัก...

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

วันชนะนอนพิงหลังกับอกหนาของนักขัต โดยมีมือโอบกอดร่างอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับกลัวว่าพอปล่อยวงแขนออกแล้ววันชนะจะหายไปจากโลกนี้อย่างนั้น นานกว่าชั่วโมงที่ไม่มีใครพูดอะไร แต่นั่นก็อธิบายทุกสิ่งทุกอย่างให้กันและกันได้รับรู้เป็นอย่างดี ภาษาร่างกายอบอุ่นและหอมหวานมากกว่าสิ่งใด จูบที่หวนหา สัมผัสร่างกายของกันและกัน บดเบียดจนแทบจะรวมเป็นคนเดียวกัน จดจำทุกสิ่งอย่างที่จะเก็บเอาไว้ได้แม้กระทั่งกลิ่นของเส้นผม

“ตัว T นี่หมายถึงตั้มเหรอ” นักขัตไล้นิ้วที่หลังล็อกเก็ต
“อืม” วันชนะยิ้มรับ
นักขัตรู้ว่าสร้อยนี่เป็นของสำคัญของวันชนะที่คุณแม้ให้มาก่อนที่ท่านจะจากไป
“วินพาตั้มไปไหว้แม่ของวินได้มั้ย” นักขัตจูบที่เส้นผม
“ได้สิ แต่ว่าจะทันเหรอ ตั้มจะบินพรุ่งนี้แล้วนะ” วันชนะเงยหน้าไปข้างหลัง
“นั่นสิ ลืมไปเลย” เขาว่าพลางกอดวันชนะแน่นขึ้นอีก
“แม่ครับได้ยินรึเปล่า คนที่อยู่กับวินตอนนี้เขาอยากคุยด้วยแน่ะครับ” วันชนะแกะฝาล็อกเก็ตออก
นักขัตจึงได้เห็นรูปเล็กๆในนั้น รูปคุณแม่ของวันชนะยิ้มอย่างใจดี จากนั้นวันชนะจึงถอดสร้อยนั้นออกแล้ววางที่มือของนักขัต
“คุณแม่ครับ ผมชื่อตั้มนะครับ ผมขอสัญญาว่าผมจะรักและดูแลลูกของคุณแม่ตลอดไป คุณแม่ไม่ต้องห่วงเขานะครับ” นักขัตพูดด้วยเสียงจริงจังก่อนจะส่งสร้อยคืนให้วันชนะ
ร่างที่นั่งพิงอยู่จึงขยับตัวแล้วหันหน้าเข้าหากันแล้วสวมสร้อยเส้นนั้นที่คอของนักขัต
“แม่ครับ ปกป้องคนที่วินรักด้วยนะครับ”
“จะดีเหรอวิน ของสำคัญของวินนะ” นักขัตจับมือเอาไว้ก่อนที่จะสวมเสร็จ
วันชนะเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้แล้วจูบริมฝีปากหยักอย่างอ่อนโยนแล้วจึงมองนักขัตอย่างเต็มตา “ตอนนี้ตั้มคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับวินแล้วนะ”
นักขัตยกมือขึ้นลูบแก้มวันชนะอย่างอ่อนโยนจากนั้นก็คว้าวันชนะมากอด

“ตั้มจะขอสละสิทธิ์ไปทำงานต่างประเทศ” เขากระซิบข้างหู
วันชนะรีบดันตัวเขาออกแล้วพูดว่า “ไม่ได้นะตั้ม มันคือความก้าวหน้าในการงานของตั้มนะ”
“แต่ตั้มอยากอยู่ที่นี่กับวินมากกว่านะ”
“ไม่ได้นะตั้ม” วันชนะพูดจริงจัง
“แต่...” นักขัตอยากจะบอกว่าลึกๆเขาก็กลัววันชนะจะกลับไปหาภัทร เวลาตั้งหนึ่งปีขณะที่เขาอยู่ไกลแต่ภัทรอยู่ใกล้กว่า แต่เขาก็เลือกที่จะไม่พูด
“เชื่อใจวินเถอะนะ” เหมือนวันชนะจะรู้เลยพูดอย่างนั้น
นักขัตมองวันชนะอีกครั้งเพื่อจารึกคำมั่นที่คนตรงหน้าพูดไว้ จากนั้นจึงดึงร่างนั้นมากอดอีกครั้ง ตามด้วยจูบที่ร้อนแรงเพื่อเริ่มบทรักอีกครั้ง
“จะทำอีกเหรอ” วันชนะถามอย่างเริ่มกังวลถึงสภาพตัวเอง “สามรอบไปแล้วนะ”
“ไม่ไหวแล้วเหรอ” นักขัตเงยหน้าจากต้นคอวันชนะ
“พูดมาได้นะ” วันชนะรู้สึกเขินพิกลที่จะต้องตอบ
“ครั้งแรกสำหรับวินกลับมาหาตั้ม ครั้งที่สองสำหรับความคิดถึงที่ผ่านมา ครั้งที่สามสำหรับความรักของเรา และครั้งนี้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของวิน” นักขัตพูดกว้าง
“โหย...” วันชนะเอาแขนคล้องคอเขาไว้ “อย่างนี้ต้องมีครั้งที่ห้า หก เจ็ดด้วยรึเปล่าเนี่ย”
“ไม่ต้องห่วง ตั้มมีเหตุผลให้จนถึงเช้าเลยล่ะ”

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

จนเมื่อตะวันเลื่อนตั้งฉากกับพื้นนั่นแหละนักขัตถึงได้รู้สึกตัวตื่นเพราะคนในอ้อมแขนดิ้นขลุกขลัก พอลืมตาก็เห็นสีหน้าเหมือนคนหลับฝันดีของวันชนะเบียดหน้าเข้าหาอกของเขา เกรงว่าถ้าเขาขยับหน่อยอาจจะทำลายฝันดีของคนรัก นักขัตจึงทำตัวนิ่งๆเป็นหมอนข้างพลางสังเกตใบหน้าของวันชนะเงียบๆ
“ตื่นนานแล้วเหรอ” ขนตาดำขลับเรียงเป็นแพขยับเล็กน้อยแต่ก็ยังหลับตาอยู่
“จ๊ะ ที่รัก” นักขัตตอบ
“รู้สึกดีจังที่ถูกเรียกว่าที่รัก” วันชนะยิ้มทั้งยังหลับตา
นักขัตลูบที่หัวไหล่วันชนะเล่นไปมา “หิวหรือยังที่รัก คิดว่าน่าจะเที่ยงแล้วนะ”
“นิดหน่อย ตั้มล่ะ” วันชนะลืมตาขึ้น
“เหมือนกัน งั้นเราก็ยังพอมีเวลาอาบน้ำแล้วค่อยไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน” นักขัตว่าพลางดันตัวเองลุกขึ้น “ป่ะ”
“อะไร” วันชนะทำหน้างง
“ไปอาบน้ำกัน” นักขัตยิ้มสัพยอกขณะยื่นมือให้วันชนะพยุงตัวลุกขึ้น

สองชั่วโมงต่อมาทั้งคู่จึงนั่งอยู่ในร้านอาหารค่อนข้างจะหรูแห่งหนึ่ง วันชนะเพลิดเพลินกับสิ่งรอบตัวที่ดูจะเป็นสีชมพูไปเสียหมดโดยไม่ได้สังเกตอาการเหมือนรอคอยนัดของนักขัตจนกระทั่งมีสายโทรเข้ามือถือ
“ครับ” นักขัตยกมือถือขึ้นรับก่อนจะเอามือปิดเอาไว้แล้วหันมากระซิบกับวันชนะ “เดี๋ยวมานะ”
“อืม” วันชนะพยักหน้ารับ ใจเต้นตึกตักอย่างไม่รู้สาเหตุ
แล้ววันชนะจึงได้รู้สาเหตุของอาการนั้น เมื่อนักขัตกลับมาพร้อมกับผู้ให้กำเนิด
“นั่งก่อนครับพ่อ แม่” ลูกชายรีบเลื่อนเก้าอี้ให้บุพการีทั้งสอง

วันชนะใจหล่นไปอยู่ที่ไหนไม่รู้ตั้งแต่ที่เห็นหน้าสมภพกับอุษา กะทันหันเกินไปที่ต้องเผชิญหน้ากันแต่ก็ยกมือไหว้คนทั้งสองด้วยสายตาหลบเลี่ยงอย่างคนทำผิด สมภพกับอุษารับไหว้ตามมารยาท สำหรับอุษาหล่อนรู้สึกคลับคล้ายคลับคลากับเพื่อนของลูกคนนี้จริงๆ จนเมื่อนักขัตพูดว่า

“พ่อครับ แม่ครับ นี่วินไงครับที่เคยไปเที่ยวบ้านเราตอนตั้มอยู่ปีสี่”
เพราะไม่รู้เรื่องราวระหว่างวันชนะกับสมภพและอุษาแม้แต่น้อย นักขัตจึงไม่ได้บอกวันชนะว่าวันนี้พ่อแม่ของเขาจะมาหาก่อนที่เขาจะบินไปทำงานต่างประเทศ เพราะเห็นว่าวันชนะก็เคยพบพวกท่านมาก่อน และก็อยากให้วันชนะเข้าได้กับพ่อแม่ของเขามากขึ้นจึงนัดมาทานข้าวด้วยกันเสียเลย แม้แต่ตอนที่นักขัตพูดจบเขาก็ยังไม่ทันสังเกตสีหน้าที่เปลี่ยนไปของสมภพกับอุษา

“หนู...” อุษารู้สึกเหมือนมีตะกอนอยู่ในใจที่โดนกวนจนขุ่นขึ้นมา
ขณะที่สมภพลดมือที่รับไว้ลงอย่างรวดเร็ว สีหน้าบอกความไม่ชอบใจแต่ก็ควบคุมอารมณ์เอาไว้ สมภพเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะไม่เกรี้ยวกราดใส่ ที่เขาไม่ชอบใจนักคงเป็นเพราะยังเห็นวันชนะวนเวียนในชีวิตลูกชายของเขาอีกทั่งที่เคยคุยกันแล้ว
บรรยากาศที่โต๊ะทานข้าวดูจะเงียบไป ต่างคนต่างพูดเท่าที่จำเป็นยกเว้นนักขัตที่เป็นฝ่ายชวนคุยนั่นนี่อยู่คนเดียว
“แล้ววินล่ะจ๊ะ ที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง” อุษาเอ่ยถามอย่างประหยัดคำ หล่อนอยากผ่อนสถานการณ์ที่ตึงๆนี้ให้หย่อนลงบ้างแต่ก็เกรงสามีตัวเองอยู่ด้วยจึงพูดอะไรมากไม่ได้
“ก็ดีครับ” วันชนะก้มหน้าก้มตาตอบ
“ตอนนี้ทำงานอะไร ที่ไหนจ๊ะ” หล่อนชวนคุยอย่างน้ำเสียงเป็นกันเอง
“วินเป็นครูที่โรงเรียน...ครับ” วันชนะกล้อมแกล้มตอบ
อุษาต้องหยุดบทสนทนาเอาไว้เมื่อสามีตัวเองออกอาการไม่พอใจที่หล่อนชวนวันชนะคุย
“แม่เป็นไรครับ” นักขัตสังเกตได้
“ไม่มีอะไรจ้ะ อาหารคงจะเผ็ดไปหน่อย” หล่อนแกล้งยกน้ำขึ้นจิบ แล้วจึงเสเปลี่ยนเรื่อง “แล้วเราล่ะเก็บข้าวของรึยัง”
“เก็บไปบ้างแล้วครับ” นักขัตตอบพลางตักกับข้าวจานหนึ่งให้วันชนะอย่างเคยมือ
กริยานั้นทำให้สมภพไม่ชอบใจหนักแต่ก็ไม่ได้เปิดเผยออกมา เพียงแต่ลุกขึ้นพรวดพราดบอกว่าจะออกไปสูบบุหรี่ข้างนอก
“แม่ๆ ทะเลาะอะไรกับพ่อรึเปล่าอ่ะ เห็นหน้างอตั้งแต่มาถึงแล้ว” นักขัตทำท่ากระซิบกระซาบ
“เปล่าจ้ะ” อุษาตอบสั้นๆ แต่ในใจเคร่งขึงไม่น้อย
 สิ้นคำของอุษาวันชนะก็ทำช้อนหล่นจากมือจนกับข้าวหกเลอะเสื้อ นักขัตที่นั่งข้างๆหวังดีเลยหยิบทิชชู่มาเช็ดให้ แต่วันชนะกระดากเกินกว่าที่จะปล่อยให้เขาทำแบบนั้นต่อหน้าคนที่เคยห้ามปราม
“เอ่อ...เราไปเข้าห้องน้ำดีกว่านะ” ว่าแล้วก็ลุกออกไป ปล่อยให้นักขัตแปลกใจกับท่าทางลุกลี้ลุกลนนั้น
“ตั้ม...มีอะไรจะบอกแม่รึเปล่า” อุษายิงคำถาม หล่อนยังอยากจะฟังทุกสิ่งที่ลูกพูดแต่ว่าบางส่วนใน จิตใจยังไม่พร้อมที่จะรับรู้

นักขัตเริ่มรู้สึกผิดสังเกตกับคำถามนั้นและหวนนึกถึงตลอดเวลาตั้งแต่เริ่ม “ครับ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เครียดขึ้น “ตั้มมีเรื่องอยากจะบอกพ่อกับแม่...แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอกครับ”
อุษานึกโทษตัวเองที่เลี้ยงลูกมาให้มีอิสระมากเกินไป แต่เพราะความรักลูกมากหล่อนจึงไม่คาดคั้น “เอาเถอะจ้ะ พร้อมตอนไหนก็ค่อยบอกแม่ แต่ก่อนที่ตั้มจะตัดสินใจอะไรคิดให้ดีก่อนนะลูก”

วันชนะมองตัวเองผ่านกระจกในห้องน้ำเหมือนจะเรียกความกล้าออกมา ซึ่งดูเหมือนจะยากเอาการ แล้วสายตาก็แลเลยเงาตรงหน้าไปเมื่อสมภพจ้องเขม็งมาจากประตูทางเข้า เขาถอนหายใจยาวทีหนึ่งเพื่อรวมความกล้าที่จะเผชิญหน้า
“คุณลุงครับ...” วันชนะเอ่ยแทบกลั้นใจ
พอดีกับมีคนอื่นเข้ามาใช้บริการ วันชนะเลยโดนลากตัวออกไปคุยกันข้างนอก

“แต่ก่อนที่ตั้มจะตัดสินใจอะไรคิดให้ดีก่อนนะลูก” คนเป็นแม่เงียบเสียงไปครู่ก่อนตัดสินใจเอ่ยต่อ
“...พ่อเป็นโรคหัวใจ”
   “อะไรนะครับ!” นักขัตแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
   “ที่จริงแม่ก็ยังไม่อยากจะบอกลูกตอนนี้หรอก...” หล่อนละที่จะไม่พูดต่อว่าเพราะสถานการณ์ตอนนี้หมิ่นเหม่เหลือเกินที่ลูกจะทำร้ายพ่อทางอ้อม “พ่อเริ่มมีอาการเมื่อปีก่อน แต่เราตัดสินใจยังไม่บอกลูก...จนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม”
   นักขัตเริ่มเป็นห่วงพ่อขึ้นมาทันที “แต่ก็ยังสูบบุหรี่อยู่น่ะเหรอครับ”
   “แม่ก็คอยเตือนอยู่เหมือนกัน แต่พักหลังนี้ก็เพลาไปมากแล้วล่ะ”
   “งั้นเดี๋ยวตั้มไปดูพ่อหน่อยดีกว่าครับ” เขาเห็นว่าพ่อหายไปนานก็ร้อนใจขึ้นทันที “แม่อยู่คนเดียวไปก่อนนะครับ เดี๋ยววินคงมา”

   นักขัตลุกไปเลยจนคนเป็นแม่ก็ไม่ทันจะรั้งตัวเอาไว้...


TBC.
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 26 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 26-03-2008 19:41:05
What happend ? ไม่เอานะ

อุตสา คืนดีกันแล้ว
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 26 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-03-2008 20:33:57
เห้อ.......................ว่าแล้วเชียว มานต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ

แล้วแบบนี้จะเปงยังไงต่อไปละนั่น...........อย่าลืมมาต่อนะคับ :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 26 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-03-2008 21:19:14
 :เฮ้อ: ความเศร้าครั้งนี้ยังไม่จบ  :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 26 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 26-03-2008 21:47:59
ทำไมอุปสรรคมันไม่หมดซะที

 :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 26 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: TaDa ที่ 27-03-2008 01:36:18


พี่คร๊าบบบบบบบบบบ จะกระชากอารมณ์ ไปถึงไหนนนนนนนนน กลับมาดีกันไม่ทันไร ก็มีเรื่องบุพการีมาเกี่ยวอีกแล้ว   :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 26 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Otaku ที่ 27-03-2008 09:48:25
 :sad2: :sad2: :sad2:

 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 26 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 27-03-2008 14:05:47
ปัญหาครอบครัวกลับมาอีกแล้ววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 26 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 27-03-2008 16:07:39
เอ่อ เดาเอาว่า เดี๋ยวตั้มต้องได้ยินที่พ่อ ไปคุยกะวินแน่ๆเลย
แล้วคง get ว่าตลอดเวลาเกิดอะไรขึ้น ฟันธง!!! :a1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 26 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 27-03-2008 16:46:14

ให้มันได้อย่างนี้สิ
 :a6: :a6: :a6: :a6:

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 26 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 27-03-2008 18:19:33
ต้องออกไปตอน กำลังคุยกะพ่อ 

ตอนเด็ดๆแน่ๆ

เศร้า .... กระชากอารมณ์ - -*
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 26 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 27-03-2008 20:45:03
ความสุขมักมาอยู่กับเราแค่แป๊บเดียว  o7 o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 26 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 27-03-2008 22:39:29
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: ทั้งๆที่นึกว่าพ่อกับแม่ของตั้มจะดีขึ้นกว่านี้   แต่ก็ยังทำอะไรไม่คิดถึงจิตใจของลูกตัวเองเหมือนเมื่อหลายปีก่อนอ่ะคับ  :m15: :m15:

 :sad2: :sad2: ได้แต่สงสารวิน  ที่โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง   :sad2: :sad2:

 :m13:  สู้ๆนะครับตั้มกะวิน   :m13:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 26 MAR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 28-03-2008 23:57:31
ให้ตั้มได้รู้ความจริงไปซักทีเถอะค่ะสงสารวินน่ะที่ต้องทำเพื่อคนที่ตัวเองรัก ได้รู้จะได้ช่วยกันคิดงัยเนอะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 01 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 01-04-2008 19:59:44

40


วันชนะโดนสมภพลากแขนไปที่บันไดหนีไฟที่มีคนเปิดเอาผ้าขี้ริ้ววางกั้นไว้ให้ประตูแง้มอยู่หน่อย
คาดว่าคงเป็นพนักงานทำความสะอาดเพราะพอเข้าไปก็มีรถเข็นคันใหญ่ที่มีอุปกรณ์ทำความสะอาดจอดทิ้งไว้
“หนู...ทำไมยังติดต่อกับตั้มอยู่อีก เราคุยกันแล้วไม่ใช่หรือ” น้ำเสียงนั้นไม่เชิงอ้อนวอนหรือต้องการคำตอบ
“เอ่อ...คุณลุงครับ” วันชนะกลืนอะไรบางอย่างที่เหมือนจะติดอยู่ที่คอลงไปก่อนจะพูดต่อ “ผมกับตั้ม...เราไม่ได้ติดต่อกันมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนะครับ”
“แล้วทำไม?” สมภพซักไซ้
วันชนะหลบสายตาที่ดูจะเหนื่อยต่อเรื่องนี้ของผู้อาวุโสกว่าตรงหน้า

นักขัตรู้สึกแปลกๆอย่างไรไม่รู้ ในใจมันโหวงเหวง เป็นห่วงพ่อ แต่ก็มีใบหน้าของวันชนะแทรกมา พลางคิดถึงวันชนะขึ้นมาอีกคน พอดีเห็นพ่อตัวเองลากต้นแขนวันชนะเข้าไปตรงประตูหนีไฟ ก็เลยเดินตรงไป

เอาเข้าจริงๆเขาก็ไม่กล้าที่จะลุกขึ้นต่อสู้เพื่อหัวใจตัวเองเท่าไรนัก วันชนะรู้สึกปั่นป่วนไปหมดกับสถานการณ์ที่เผชิญ นึกถึงคำพูดที่สมภพเคยพูดเอาไว้สมัยก่อนแล้วจิตใจเริ่มจะอ่อนแอลงทุกที สมภพพูดเอาไว้ถูกต้องทุกอย่าง นักขัตเป็นลูกชายคนเดียว คนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมหวังที่จะเห็นลูกของตนมีอนาคตที่ดี ไม่ออกนอกลู่นอกทาง วิถีที่ผู้ชายจะมีในสังคมนี้คือเรียนจบแล้วมีงานทำ จากนั้นก็หาผู้หญิงดีๆแต่งงานด้วยและมีลูก เป็นพ่อคนแม่คนที่จะต้องดูแลชีวิตที่ให้กำเนิดขึ้นมาเพื่อเติมเต็มคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ ซึ่งนั่นจะทำให้สังคมขับเคลื่อนไปในทางที่ถูกที่ควร

“ผม...”
วันชนะเกือบจะยอมแพ้อีกครั้ง ถ้าไม่มีเสียงริงโทนจากมือถือดังขึ้น หน้าจอโชว์ชื่อบอส
วันชนะไม่ได้กดรับสายนั้น แต่เสียงของบอสที่พูดเมื่อวานดังขึ้นในหัว
 
‘คุณรักเขา แล้วเขาก็ยังรักคุณ ทำไมต้องยุ่งยากด้วย ทำไมต้องแคร์คนอื่นด้วย ขนาดผมเป็นคนอื่นผมยังไม่กล้าเข้าไปแทรกระหว่างคุณกับเขาเลย แล้วเรื่องอะไรคุณจะปล่อยให้ความรักของคุณมันหลุดลอยไป’

ความกล้าเกิดขึ้นได้อย่างประหลาด คนที่คอยแต่ก้มมองพื้นเงยหน้าขึ้นมั่นคง

“คุณลุงครับ...ผมกับตั้ม...เรารักกันครับ” เขามองหน้าสมภพด้วยความกล้าทั้งหมดที่รวบรวมได้
แต่คนตรงข้ามกลับไม่คิดอย่างนั้น มันคือสายตาของคนอวดดี...ลองดี

“แก!”

สมภพพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่โมโหเด็กรุ่นลูก แต่ที่สุดก็อดไว้ไม่ได้ แต่ก่อนที่มือข้างหนึ่งที่เงื้อขึ้นสูงจะได้ทำร้ายคนตรงหน้า สมภพก็รู้สึกเหมือนมีแรงกระแทกที่หน้าอกข้างซ้ายอย่างแรงและรวดเร็วจนต้องเอามืออีกข้างกุมเอาไว้ เข่าก็ทรุดลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง

“พ่อ!” นักขัตเข้ามาก็เจอตอนที่สมภพล้มลงกับพื้นมือกุมอกแน่นจนเสื้อยับย่น ขณะที่วันชนะยืนมองร่างพ่อของตัวเองล้มลงอย่างไม่แยแส ตั้งสติได้เขารีบวิ่งเข้าไปประคองร่างที่เกร็งกับพื้นนั่น
แต่ที่จริงแล้ว วันชนะตกตะลึงจนขยับเขยื้อนตัวไม่ได้
“แก!” สมภพชี้หน้าวันชนะอย่างรังเกียจ
“เกิดอะไรขึ้นวิน” นักขัตมองตามมือที่คนเป็นพ่อชี้หน้าวันชนะ “วินทำอะไรพ่อตั้ม!”
“ปะ...เปล่า...” ร่างตะลึงเอ่ยเสียงผะแผ่วพลางก้าวถอยหลังอย่างคนกลัวความผิด จนหลังชนกับรถเข็นที่จอดไว้ ฉับพลันนั้นล้อก็เลื่อนไปข้างหน้าตามแรงที่มากระทบพาร่างที่เอาหลังพิงพาหนะขนอุปกรณ์ทำความสะอาดนั้นติดลงไปทางบันไดชันด้วย
“วิน!” ด้วยไหวพริบและความไวอย่างที่เคยใช้ในกีฬาบาสเกตบอล และเพราะคนที่กำลังจะร่วงลงไปนั้นคือวันชนะ...คือคนรัก นักขัตถึงกับปล่อยมือที่ประคองร่างผู้ให้กำเนิดไปคว้าตัววันชนะเอาไว้
แต่กลับกัน...ร่างที่หงายหลังตกลงไปคือนักขัต!
“ตั้ม!” สองเสียงตะโกนเรียกพร้อมกัน

สมภพแทบจะกระโดดลงไปให้ถึงตัวลูกให้เร็วที่สุด แต่เพราะลำพังตัวเองก็ยังเอาตัวไม่รอด เลยแทบจะคลานลงไปหาลูกในขณะที่วันชนะหมอบตะลึงอยู่กับที่มองร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่ที่ปลายบันไดข้างล่างนั่น
   กว่าจะรู้สึกตัว วันชนะวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือเหมือนคนคลั่ง จากนั้นจึงมีคนโทรเรียกรถฉุกเฉิน อุษาถึงกับทำอะไรไม่ถูก เมื่อทั้งลูกทั้งสามีต้องกลายเป็นคนป่วยอย่างกะทันหันอย่างนั้น
   
   ที่หน้าห้องฉุกเฉิน
“หนู...เกิดอะไรขึ้น” อุษาพยายามเก็บอารมณ์เต็มที่ แต่ปากของหล่อนสั่นเทาอย่างปิดไม่มิด เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอาการไม่ได้ดีไปกว่าตนหล่อนก็ลูบที่บ่าวันชนะเบา ไม่ใช่เพราะหล่อนนึกเอ็นดูหรือเห็นใจวันชนะหรอก แต่เป็นเพราะพื้นนิสัยใจดีของหล่อนต่างหาก ในขณะที่ลึกลงไปตอนนี้หล่อนนึกเกลียดวันชนะที่เข้ามาปั่นป่วนครอบครัวของหล่อน
   จนเมื่อประตูห้องเปิดออกมาพร้อมกับหมอเจ้าของไข้ อุษาก็ปราดเข้าไปหา
   “คุณหมอคะ อาการพวกเขาเป็นยังไงบ้างคะ” หล่อนละล่ำละลักถาม
   “สามีคุณปลอดภัยแล้วครับ ต่อไปอย่าให้มีเรื่องกระทบจิตใจเขาอีกนะครับ” นายแพทย์กล่าวแล้วก็ทำท่าหนักใจก่อนจะพูดต่อว่า “ส่วนอีกคน...เราต้องรอดูอาการหน่อยนะครับ เพราะสมองของคนไข้ได้รับการกระทบกระเทือน ส่วนแขนที่หักเราเข้าเฝือกให้แล้วครับ”
   สิ้นคำหมอคนนั้นอุษาก็ทรุดลงกับพื้นทันที วันชนะรู้สึกเหมือนมีฟ้าผ่าลงมาที่ตัวจนชาไปหมด ก่อนที่ทั้งสองจะได้รับการปฐมพยาบาลโดยนางพยาบาลที่อยู่ตรงนั้น
“ผมขอโทษครับ” ไม่มีคำไหนดีไปกว่านี้อีกแล้วที่วันชนะจะสรรหามาพูดในเวลานี้ เขายกมือขึ้นพนมก่อนจะก้มลงกราบแทบตักของอุษา
หล่อนไม่ขยับหนีอย่างรังเกียจกริยานั้นของวันชนะ แต่หล่อนหลับตาไม่รับรู้...จะให้หล่อนให้อภัยเขาตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้!

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

เสียงเคาะประตูดังขึ้นตามมาด้วยเสียงเรียก “คุณหนูคะ คุณผู้ชายเรียกค่ะ”
“พี่เล็ก บอกป๊าทีว่าบอสนอนแล้ว” คนในห้องพยายามทำเสียงงัวเงียเต็มที่
“โธ่! คุณหนูคะ เดี๋ยวท่านก็มาตามด้วยตัวเองอีกหรอกค่ะ” หล่อนพูดให้เจ้านายน้อยรู้สึกเห็นในขณะที่ข่มขู่กลายๆ
เด็กหนุ่มถอนหายใจก่อนจะจำใจบอกผ่านประตูไปว่า “เดี๋ยวบอสลงไป”
พี่เลี้ยงที่ชื่อเล็กคนนั้นจึงยิ้มอย่างโล่งอกก่อนลงไปรายงานเจ้าของบ้าน
แต่ก่อนที่เด็กหนุ่มจะทิ้งห้องไป เสียงมือถือของตัวเองที่ดังขึ้น
“ว่าไงคุณ โทรไปไม่เคยรับเลยนะ” บอสพูดประชดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
ปลายสายเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างที่มันดูตะกุกตะกัก ก่อนที่เสียงร้องไห้โฮจะดังผ่านมือถือนั้น
“คุณเป็นอะไรไปน่ะ” บอสกรอกเสียงลงไปอย่างเป็นห่วง “คุณอยู่ไหน”
แล้วเด็กหนุ่มก็วิ่งผ่านหน้าคนที่ต้องการพบตัวออกจากบ้านไป โดยไม่สนใจเสียงเรียก

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

พอบอสมาถึงโรงพยาบาลเขาก็ตรงไปหาวันชนะทันที พอไปถึงก็พบวันชนะนั่งเหมือนคนหมดเรี่ยวแรง...หรือจะเรียกว่าหมดอาลัยตายอยากก็คงไม่ผิดนัก
“คุณไม่เป็นอะไรนะ” บอสปลอบ เห็นนักขัตนอนบนเตียงก็พอจะเข้าใจ “เขาคงไม่เป็นอะไรมากหรอก”
วันชนะไม่อยากมองหน้านักขัตด้วยซ้ำ เพราะมันตอกย้ำความผิดที่เขาทำลงไป
ประตูเปิดเข้ามาพร้อมกับร่างอ่อนระโหยของอุษา หล่อนเดินมาหยุดตรงหน้า
“หนู...วิน...กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมเขาก็ได้” หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงแห้งแล้ง
“แล้วคุณน้าจะไหวเหรอครับ” วันชนะถาม
“สามีน้าดีขึ้นแล้วจ้ะ เดี๋ยวเขาก็คงจะมาอยู่เป็นเพื่อนน้าที่ห้องนี้แหละ” หล่อนพูด แต่พอเห็นสีหน้ายังไม่คลายกังวลของวันชนะหล่อนก็เอ่ยต่อว่า “วิน...น้ารู้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าสักวันวินมีลูก...วินก็จะรู้ว่าพวกเรารู้สึกกันยังไงกับเรื่องที่วินกับตั้มกำลังเป็นอยู่” 
วันชนะรู้สึกว่าตัวเองกำลังพ่ายแพ้อีกแล้ว เขาอยากรู้เหลือเกินว่าคนอื่นๆที่มีความรักนั้น กว่าจะได้มามันยากเข็ญเหมือนความรักของเขาหรือเปล่า             
“ผมก็ว่าคุณกลับไปพักก่อนดีกว่านะ” บอสเห็นด้วยกับคำของอุษา

“ขอโทษนะที่เรียกออกมากลางดึก” วันชนะพูดขณะเดินริมถนนกับบอส พอได้ออกมาสูดอากาศข้างนอกอาการเขาก็ดีขึ้น
“ไม่เป็นไร” บอสว่า “พ่อแม่เขารู้แล้วเหรอ”
“อืม” วันชนะเอ่ยเสียงแผ่ว “ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นโรคหัวใจ...”
บอสไม่ว่าอะไรต่อ แต่เขาเอื้อมมือว่าโอบไหล่วันชนะเอาไว้เป็นการปลอบโยน
“ขอบใจนะบอส” วันชนะหันมามองหน้าเขา “ทั้งคำพูดที่ทำให้ผมได้ทำตามหัวใจเรียกร้องและก็ขอบใจสำหรับตอนนี้...ถึงแม้ผลมันจะออกมาอย่างที่เห็น แต่อย่างน้อยตั้มก็ได้รู้ว่าผมยังรักเขาอยู่”
“งั้นเดี๋ยวผมไปส่งนะ” บอสว่า
“อย่าเลย เลี้ยวตรงมุมข้างหน้านี้ก็บ้านนายแล้วนี่ ไม่ต้องไปส่งหรอก” วันชนะว่า
บอสไม่รบเร้า
“เอางี้แล้วกันเดี๋ยวผมไปส่งบอสดีกว่า เด็กๆกลับบ้านดึกอย่างนี้กลับเข้าไปเดี๋ยวโดนป๊านายดุเอา เผื่อว่ามีผมไปส่งเขาอาจจะไม่ว่า”
“โอ๊ย! ป๊าผมนะ ถ้าจะให้ดุด่าใครล่ะก็ไม่เกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหมหรอก” บอสยักไหล่

จนแล้วจนรอดก็เป็นวันชนะที่มาส่งบอสเสียเอง เพราะบ้านเขาอยู่ใกล้กว่าแล้วในฐานะอาจารย์ของเขาวันชนะก็คิดว่าสมควรมากกว่าที่จะให้เขาเป็นฝ่ายไปส่ง แต่พอไปถึงที่ประตูใหญ่หน้าบ้าน
“คุณหนูอ้อมไปเข้าข้างหลังบ้านเถอะค่ะ” พี่เลี้ยงที่ชื่อเล็กที่ดูเหมือนจะรอการกลับมาของบอสอยู่แล้วแทรกตัวเข้ามากระซิบกระซาบ
เป็นที่รู้กันว่าพี่เลี้ยงหมายความว่ายังไง บอสพยักหน้า
“คุณ ผมไปก่อนนะ ตะกี้ผมออกบ้านมาเลยไม่ได้คุยกับป๊าก่อน เขาคงจะโกรธน่ะ”
“อืม นายไปเถอะ” วันชนะปั้นยิ้มให้เขาเห็นว่าอาการดีขึ้นแล้ว
แต่ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะได้แอบไปทางไหนเสียงแหบๆก็ดังแหวกอากาศมา

“ไอ้บอส! หยุดเลยนะ” 
“ป๊า!”
พูดได้เท่านั้นแหละ บอสหน้าหันตามแรงกำปั้นที่คนเป็นพ่อชกให้ต่อหน้าต่อตาคนแปลกหน้าอย่างวันชนะ
“เมื่อไรลื้อถึงจะเชื่องเสียที” เสียงนั้นตวาดลั่นหน้าบ้าน
วันชนะรีบเข้าไปหาบอสขณะที่พี่เลี้ยงคนเดิมยืนหลับตาไม่กล้ามองอยู่ข้างๆ
“แล้วค่ำมืดดึกดื่นอย่างนี้ลื้อยังจะออกไปไหนอีก” ชายวัยกลางคนหน้าตาเต็มไปด้วยริ้วรอยที่เคยผ่านชีวิตตรากตรำคนนั้นยังกำหมัดตรงเข้ามาทั้งที่วันชนะก็อยู่กันบอสเอาไว้
“เฮ้! คุณ ฟังกันก่อนสิ” วันชนะยืนบังบอสเอาไว้
“ลื้อเป็นใคร เข้ามาในบ้านอั๊วได้ไง มาเกี่ยวอะไรด้วย พ่อจะทำโทษลูกมันไม่เกี่ยวกับคนอื่น หลีกไป!” พ่อของบอสชี้หน้าวันชนะ
“ผมเรียกเขาออกไปเองแหละ ผมเป็นอาจารย์ของเขา” พูดไปหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น
“ลื้อเป็นอาจารย์ของมันอย่างนั้นเหรอ ดี! พรุ่งนี้ลื้อขนข้าวของออกไปจากโรงเรียนได้เลย อั๊วไล่ลื้อออก”
สิ้นเสียงแหบๆนั้นวันชนะก็หมดความอดทน อาจเพราะวันนี้เขาเพิ่งเจอเรื่องร้ายๆมา ความเครียดที่สะสมอยู่มากมายแต่กลับได้ระบายเพียงร้องไห้จึงไม่พอ
“คุณมันบ้าไปแล้ว คุณเป็นพ่อของเขาจริงรึเปล่า แบบนี้เขาไม่ได้เรียกทำโทษหรอกนะ ตีลูกอย่างกับตีนักโทษ ตีหมูหมา เขาเป็นคนนะ!” วันชนะเถียงปากสั่น

 พอดีกับแสงจากไฟหน้ารถส่องเข้ามา พี่เลี้ยงที่ยืนตัวสั่นจึงรีบวิ่งไปเปิดประตู

“มีอะไรกันครับป๊า” ภัทรลงรถมาพร้อมกับหญิงสูงวัยอีกคนที่วันชนะคาดว่าจะเป็นแม่ของบอส
หากแต่พ่อของบอสไม่สนใจกลับตั้งใจต่อปากต่อคำกับวันชนะ
“ลื้อจะไปรู้อะไร มันเป็นความหวังของบ้านนี้ เป็นความหวังของวงศ์ตระกูล ดังนั้นมันจะทำตัวเหลวไหลไม่ได้”
“ไม่เห็นเขาจะเหลวไหลตรงไหน เรียนก็เก่งมาตลอด” วันชนะบีบมือบอสเสียแน่น “คุณเคยรู้ไหมว่าเด็กมันไม่อยากเป็นหมอ คุณก็ยังพยายามจะให้เขาเป็นให้ได้ แบบนี้มันจะดีเหรอ ที่คุณเป็นหมอไม่ได้คุณก็ทุกข์ทรมานไม่ใช่เหรอ แล้วคุณยังจะเคี่ยวเข็ญให้เขาเป็นในสิ่งที่เขาไม่ได้ชอบ คุณจะให้เขาเป็นทุกข์อย่างคุณด้วยใช่มั้ย”
“คุณ...พอเถอะ” บอสบีบมือวันชนะเพื่อเรียกสติ

จากนั้นทุกสิ่งรอบตัวก็เงียบกริบ หญิงสูงวัยที่ลงรถมากับภัทรเดินเข้าไปหาคนที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้าวันชนะ
“กลับเข้าบ้านก่อนเถอะป๊า” ภัทรเดินไปแตะแขนคนเป็นพ่อ ก่อนจะหันมาทางวันชนะ “เล่าให้พี่ฟังได้มั้ยวิน”
จากนั้นวันชนะก็เล่าเรื่องให้ภัทรฟังโดยเริ่มตั้งแต่ตอนที่มาส่งบอสที่หน้าบ้าน แทนที่จะบอกว่าเป็นนักขัตที่เข้าโรงพยาบาล วันชนะกลับบอกเป็นญาติคนหนึ่ง
“วินไม่คิดจะเรียกพี่เหรอ” ภัทรชำเลืองไปที่บอส
บอสยักไหล่
วันชนะไม่ตอบคำถามนั้นของภัทรจนสุดท้ายภัทรก็พูดขึ้นว่า “ยังไงก็ขอบใจแทนบอสนะวิน ป๊าคงได้คิดมากขึ้น คนอย่างป๊าน่ะคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่สุดในครอบครัว คำสั่งของตนเองเป็นเด็ดขาด บางทีอาจจะต้องให้คนอื่นมาชี้ทางสว่างให้เสียบ้าง”
“บอสไปนอนได้แล้ว” ภัทรสั่ง เขาเองก็ติดนิสัยชอบสั่งมาเหมือนกัน
หากคนถูกสั่งยังลอยหน้าลอยตา จนวันชนะส่งสัญญาณให้ทำตามเขาจึงยักไหล่ทีนึงแล้วลุกออกไปจากตรงนั้น
“พี่ภัทรมีอะไรจะคุยกับวินอีกหรือเปล่าครับ” วันชนะเตรียมท่าจะขอตัวกลับ เพราะเสร็จเรื่องแล้วความเหนื่อยล้าก็เริ่มกลับมามีอิทธิพลอีกครั้ง
“ไป พี่ไปส่ง” ภัทรชิงลุกขึ้นก่อน สายตาเขาฉายแววเครียดขึ้น

วันชนะกลับมาถึงอพาร์ทเมนต์อย่างคนสิ้นเรี่ยวแรง ร่างอ่อนระโหยนั้นทิ้งตัวลงที่นอนทันทีที่ไปถึง ก่อนที่สติจะเข้าสู่ห้วงหลับใหล เขายังคิดถึงคำพูดของภัทรตอนที่อยู่บนรถ
“วินบอกพี่ไม่หมด แต่พี่ไม่โกรธหรอกนะ...หวังว่าวินพร้อมเมื่อไรพี่คงจะได้รู้เรื่องทั้งหมด”

...คืนนั้นวันชนะหลับฝันถึงแม่อีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้ฝันถึงมานาน แม่ก็ยังมีรอยยิ้มเหมือนเคย
แต่คราวนี้วันชนะรู้สึกเหมือนมันเป็นยิ้มปลอบใจ...ที่มีให้สำหรับคนสิ้นหวังแล้ว
“แม่ ดูตั้มด้วยนะ” วันชนะพึมพำก่อนจะงัวเงียตื่นขึ้นมาพบว่าเป็นเวลาบ่ายแก่ๆของอีกวัน
ไม่ว่าจะยังไงเขาก็จะต้องไปหานักขัต แม้ว่าพ่อของเขาจะไม่ค่อยชอบใจนักก็ตาม แต่ถ้าหากเข้าไปอย่างมีสัมมาคารวะ...อย่างเด็กเข้าหาผู้ใหญ่ คิดว่าผู้ใหญ่คนนั้นก็คงจะใจอ่อนลงบ้าง คิดได้อย่างนั้นวันชนะก็รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปหากระเช้าของฝากที่มีพวกโสมและของบำรุงร่างกายต่างๆเอาติดมือไปด้วย


...แต่พอเปิดประตูเข้าไปข้างในห้องที่คิดว่าจะเจอนักขัตนอนอยู่ตรงนั้น...

กลับเจอแต่เตียงที่ว่างเปล่า!
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 01 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 01-04-2008 20:09:01
 :a6: อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก เศร้าอีกแล้ว เฮ้อ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 01 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-04-2008 20:32:30
 :o12: :o12: :o12: บีบหัวจายเหลือเกิน  :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 01 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Otaku ที่ 01-04-2008 21:15:28
 :sad2: :sad2: :sad2:

จะเศร้าไปถึงไหนเนี่ย

 :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 01 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 01-04-2008 22:19:04
ทำไมใจร้ายกันแบบนี้ สงสารวินนะ

 :o12: :sad2: :o12: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 01 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 01-04-2008 22:21:30
อาไรนี่ แย่ๆๆๆๆ

เสร้าอย่า
แรงอ่า
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 01 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 01-04-2008 22:30:39
 :a5: :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 01 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 01-04-2008 22:59:35
ดีกันได้ไม่เท่าไหร่ เศร้าอีกแล้ว  :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 01 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 02-04-2008 18:37:08
เมื่อไหร่มันจะดีกันซักทีเนี่ย 
คู่นี้มันเป็นกรรมอะไรนักหนา  แงแง

รออ่านต่อนะ พูห์
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 01 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 02-04-2008 18:56:33
เห้อ.. ยอมแพ้แระ เลิกกันเหอะ
รู้สึกจะทุกข์ มากกว่าสุขเสียอีก
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 01 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 02-04-2008 20:04:40
โห.............................จะทำร้ายจิตใจไปถึงไหนกันเนี่ย
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอน$
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 03-04-2008 01:13:29
เศร้านานขนาดนี้  เลิกกันเหอะ   :sad2:   ฉันเศร้ามาปีกว่าแล้วนะ ตั้งแต่ติดตามความรักของ ต้นน้ำกะนิติ มานี่ (ขอโทษสับสนกับชื่อบ่อยๆ อ่ะ)
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 01 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: TaDa ที่ 03-04-2008 23:16:09


เศร้าได้อีกพี่ เศร้าได้อีกกกกกกกกกกกก

อาร๊ายยยยย มานจะรันทดขนาดดดดดดดดนี้

สุขซะทีดีไหมคร๊าบบบบบบบบบ พี่น้อง

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 01 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 04-04-2008 03:38:11
 :serius2: มันไรนักหนาเนี่ย อุปสรรคเยอะเกินไปแล้วนะ ใจร้ายมากไปแล้วคนแต่ง  :o


เศร้า  :o12: :o12: มากๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 01 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: beboy ที่ 06-04-2008 05:38:33
อุปสรรคทำให้ชีวิตมีรสชาติ  ...  เจ็บบบ..ปวดดดด
ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 01 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-04-2008 16:30:20
เง้อ..............เกิดอารายขึ้นนะ

ทามั้ยมานถึงต้องเปงแบบนี่ด้วยละคับ............ทามั้ยพี่วินต้องเจอแต่เรื่องแบบนี่นะ

ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกนะคับ..........รอต่อไปนะคับ o7 o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 11 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 11-04-2008 12:28:17
41


วันชนะเดินคอตกออกมาจากโรงพยาบาล ความรู้สึกครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกๆครั้ง...ความรู้สึกที่โดนกีดกัน!
พยาบาลที่เคาน์เตอร์บอกว่านักขัตถูกย้ายไปอยู่โรงพยาบาลที่เชียงใหม่แล้วเมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว คงจะเป็นใครไปไม่ได้ที่ทำเรื่องแบบนี้นอกจาก...
คิดแล้วอกุศล วันชนะรีบสะบัดหน้าตัวเอง
คำพูดของแม่ของนักขัตผุดขึ้นในสมอง

‘แต่ถ้าสักวันวินมีลูก...วินก็จะรู้ว่าพวกเรารู้สึกกันยังไงกับเรื่องที่วินกับตั้มกำลังเป็นอยู่’

จะโทษพวกเขาก็ไม่ถูก พ่อแม่ก็ย่อมรักลูกทั้งนั้น

กลับมาตั้งต้นใหม่ที่ห้องของตัวเอง วันชนะเอาแต่เหม่อลอย ลืมแม้กระทั่งว่ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่ตื่นขึ้นมา
และชีวิตดูจะเคว้งคว้างไม่มีจุดหมายอะไรให้เขาทำอีกต่อไป วันหนึ่งๆถ้าไม่มีเหตุจำเป็นเช่นว่าต้องออกไปหาอะไรกินวันชนะก็แทบจะไม่ได้ออกไปไหนเลย โทรศัพท์มือถือเขาก็ปิดเครื่องเอาไว้

จนผ่านไปเกือบสองสัปดาห์ เมื่อวันชนะรู้สึกว่าตัวเองเหงาเหลือเกินที่ต้องอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวัน จึงหยิบมือถือมาเปิดเครื่องในใจหวังว่านักขัตจะติดต่อมา หากแต่ข้อความอัตโนมัติที่จะโชว์เมื่อมีสายโทรเข้ามาแล้วไม่ได้รับหรือแม้แต่แบตเตอรี่หมดที่โชว์มากกว่ายี่สิบข้อความนั้นไม่มีเบอร์ของนักขัตเลย ส่วนใหญ่เป็นเบอร์ของภัทรกับบอส เขาตัดสินใจโทรเข้ามือถือของนักขัตแล้วก็เป็นอย่างที่คิด...ไม่มีสัญญาณติดต่อ
เขาถอนหายใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นลบข้อความขยะเหล่านั้น ไม่ทันที่จะลบข้อความได้หมดก็มีสายโทรเข้ามา

“ครับพ่อ” วันชนะรับสายด้วยเสียงเนือยๆ
“เป็นไรรึเปล่าวิน” ปลายสายถามมาด้วยจับได้ในน้ำเสียง
“เปล่าครับพ่อ” วันชนะปฏิเสธ หากแต่ซาบซึ้งในความเป็นห่วงของพ่อจึงไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ แต่ยิ่งคุยต่อไป ภาพของสมภพกับอุษายิ่งซ้อนทับเข้ามาจนทำให้วันชนะน้ำตาไหล
เขาเข้าใจแล้ว ก็เหมือนที่พ่อห่วงเขาอยู่ตอนนี้
“...” ปลายสายเงียบไป
“พ่อ...พ่อ...ยังอยู่ไหม” คนเป็นลูกพยายามกลั้นสะอื้น
“อยู่...ปัญหาหนักมากหรือวิน” อย่างไรเสียปลายสายก็รู้จนได้
วันชนะเงียบไป มีแต่เสียงถอนหายใจที่ผ่านเข้าไปในมือถือ จนสุดท้ายก็ตัดสินใจพูดออกไป
“พ่อ...” หยุดเพื่อเรียบเรียงคำพูด
“อืม...” ปลายสายรอให้วันชนะพูดออกมา
“พ่อจะยังรักวินอยู่มั้ย...ถ้า...ถ้าวินไม่ได้ปกติเหมือนคนอื่นๆ” วันชนะกลั้นใจพูด
คำว่า ‘ไม่ปกติ’ ของวันชนะตีความหมายได้หลายอย่าง แต่คนเป็นพ่อก็ไม่ได้สนใจจะคาดคั้นว่าหมายถึงอะไร

   เสียงของพ่อลอยมาตามสายว่า “พูดอะไรอย่างนั้นวิน คนเป็นพ่อเป็นแม่นะ ต่อให้ลูกที่เกิดออกมาไม่สมประกอบ ง่อยเปลี้ยเสียขาหรือสติปัญญาไม่สมบูรณ์ พวกเขาก็ยังรักลูกไม่น้อยกว่าพ่อแม่คนไหนหรอก อาจจะมีบ้างที่พ่อแม่บางคนตีลูกแต่นั่นก็เพราะพวกเขาหวังว่าจะให้ลูกของเขาได้ดิบได้ดี”
   วันชนะปล่อยเสียงโฮอย่างไม่อายอีกต่อไปแล้ว...ร้องไห้เหมือนตอนเด็กๆ
   “พ่อ วินเป็นเกย์!” วันชนะสารภาพ จากนี้ไปหากพ่อจะโกรธเขาก็จะไม่โกรธตอบ เพราะเรื่องราวมันถาโถมเหลือเกิน “วินรักผู้ชาย...”
   ปลายสายเงียบเสียงไปอึดใจ ก่อนจะเอ่ยออกมาว่า “วิน พ่อกับแม่เลี้ยงลูกมาตั้งแต่เด็ก มีหรือที่พ่อกับแม่จะไม่รู้”
   “พ่อ...รู้” วันชนะเพิ่งจะรู้ความจริงข้อนี้
   “ฟังพ่อให้ดีนะวิน คนเราเกิดมาพอตายไปจะเอาอะไรติดตัวไปสักชิ้นก็ไม่ได้ แล้วทำไมจะต้องไปยึดติดกับมัน พ่อกับแม่เลี้ยงวินมาก็เพื่อจะให้โตขึ้นมาเป็นคนที่ดี เท่านี้พวกเราก็พอใจแล้ว เราไม่อยากจะไปขีดเส้นทางให้ลูกเดินเพื่อตัวพ่อหรือแม่จะได้พอใจในผลงานของตัวเองหรอก ส่วนวินจะเป็นอะไรนั้นวินต้องเลือกทางของวินที่จะเดินต่อไปเอง เพียงแต่วินต้องใช้สติสัมปชัญญะของตัวเองเข้าพิจารณาเพื่อให้ทางเดินนั้นไม่ไปในทางที่ไม่ดี พ่อกับแม่เพียงแต่คอยดูลาดเลาดูทางที่ไม่ดีเหล่านั้นไม่ให้มาใกล้ลูก จริงอยู่ว่าเรื่องแบบนี้มันใช่เรื่องปกติที่คนส่วนใหญ่จะยอมรับกัน แต่ในเมื่อวินเดินมาทางนี้แล้วพ่อก็ไม่ห้ามวินหรอก เพราะวินโตแล้วนะลูก”
   “พ่อ” วันชนะที่หยุดร้องไห้เพราะอัดอั้นตันใจ หากแต่น้ำตาที่ยังไหลเพราะรักพ่อและตื้นตัน “ผมรักพ่อครับ”
   “ต่อจากนี้ไปมีปัญหาอะไรก็ค่อยๆคิดนะ” เสียงพ่อยังลอยมาตามสาย
   หลังจากคุยกับพ่อแล้ววันชนะก็โล่งใจอย่างประหลาด นี่สินะที่เขาเรียกว่าพรของผู้ให้กำเนิด เขาเข้าใจอะไรได้มากขึ้น เพียงแค่ค่อยๆคิดเขาก็มองเห็นหนทางที่ตัวเองจะต้องทำต่อจากนี้แล้ว


(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)


    “พี่ภัทรว่างรึเปล่าครับ วินจะชวนไปทานข้าวได้มั้ยครับ” วันชนะเป็นฝ่ายโทรไปหาเขาเอง
“ได้สิวิน พี่ว่าง” ปลายสายตอบมา น้ำเสียงไม่ยินดีอย่างเคย อาจเพราะเขารู้ว่าวันชนะพร้อมที่จะคุยเรื่องนั้นแล้ว
เย็นนั้นวันชนะจึงได้รับประทานอาหารกับภัทรที่ร้านอาหารหรู วันชนะเล่าทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น นั่นทำให้ภัทรรู้สึกอิ่มขึ้นมาทันที แต่เพราะชายหนุ่มเตรียมใจไว้ก่อนเขาจึงไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรอย่างอื่นออกมา

“พี่เดาได้” ภัทรถอนหายใจ
“พี่ภัทรรู้?” วันชนะแปลกใจ
“ไม่...พี่ไม่รู้ เพียงแต่มันควรจะเป็นอย่างนั้น วินก็รู้ว่าพี่ชอบวินมาตั้งแต่ตอนที่เราเจอกัน...ถึงตอนที่วินไม่มีใคร วินก็ไม่เคยยอมรับพี่เข้าไปในหัวใจ” สุดท้ายเขาก็หมดหวังแล้วจริงๆ ทั้งที่ใจเย็นคอยมาตลอด แต่ใบหน้าหล่อเหลานั้นก็ยังแต้มด้วยรอยยิ้มบางๆ
“พี่ภัทรคงไม่รังเกียจที่จะมีวินเป็นน้องอีกคนนะครับ” วันชนะพูดเสียงแผ่ว
อึดใจแต่เหมือนนานนับวันที่ภัทรต้องตัดสินใจตอบออกไปว่า “ได้...ได้สิ”
จากนั้นวันชนะก็ขอร้องให้ภัทรพาไปซื้อกระเช้าสำหรับเยี่ยมผู้ใหญ่แล้วจึงตรงกลับบ้านของภัทร

วันชนะยกมือไหว้ป๊าของภัทรอย่างนอบน้อมแล้วจึงวางกระเช้าไว้ตรงหน้า
“ผมขอโทษครับ ที่วันก่อนเสียมารยาทไป”
 หากแต่ชายสูงวัยก็ยังนั่งเฉย สีหน้าก็เรียบเฉย
“ป๊าครับ” ภัทรเรียกเหมือนบอกเป็นนัยให้รับกระเช้านั่นด้วย หากแต่ชายสูงวัยก็ทำเมินเฉย
“เท่านี้ใช่มั้ย ธุระของลื้อ” ป๊าของภัทรชายตามอง
“ครับ ที่มาในวันนี้ก็เพื่อขอโทษแล้วก็อยากให้ท่านคิดถึงเรื่องอนาคตของบอสด้วยครับ” วันชนะเจรจาด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“อั๊วต้องไปทำธุระแล้ว” พูดจบเขาก็ลุกขึ้นเสียอย่างนั้น แต่ก่อนที่จะเดินจากไปเขาก็พูดทั้งที่หันหลังให้ว่า “อั๊วจะลองคิดดู”

นั่นทำให้คนในบ้านรู้ว่าป๊าของเขาเปลี่ยนใจแล้ว เพราะถ้ายังยืนกรานความคิดเดิม ป๊าของเขาจะเถียงหัวชนฝาหรือไม่ก็พูดอะไรที่ยืนยันความคิดตนออกไปแล้ว
“พี่ขอบใจแทนบอสนะ” ภัทรยิ้ม
“เขาก็ยังไม่รับปากนี่ครับ” วันชนะยังเป็นห่วง
“ไม่หรอก” ภัทรยังคงรอยยิ้ม
“จากนี้วินจะทำยังไง” ภัทรเปลี่ยนเรื่อง
วันชนะยิ้ม “วินจะไปเชียงใหม่”
“อืม” ภัทรพยักหน้า แล้วจึงให้สัญญาณก่อนจะบอกว่า “งั้นพี่ไปทำธุระหลังบ้านก่อนนะ”
พอร่างสูงเดินจากไปวันชนะถึงเข้าใจสัญญาณนั้น เมื่อบอสกระโดดมานั่งที่โซฟาแทนที่พี่ชาย
“โหย อะไรอ่ะ น่ากินจัง” บอสดึงกระเช้าของป๊าไปดู พลางแกะพลาสติกที่หุ้มกระเช้าเอาไว้หน้าตาเฉย
“เฮ้ย! นั่นมันของป๊านายนะ” วันชนะดึงกระเช้ากลับ
“น่านะ นิดเดียว” บอสดึงกลับ
“ไม่ได้!” วันชนะดุ
“ก็ป๊าบอกว่ากระเช้านั่นของป๊า แต่ให้บอสกินได้อ่ะ” เด็กหนุ่มดึงกลับ
คราวนี้วันชนะปล่อยให้เขาเอากระเช้าไปเลย รอยยิ้มผุดขึ้น เป็นอย่างที่ภัทรว่าเอาไว้จริงๆ

“คุณจะไปเชียงใหม่จริงๆน่ะเหรอ” บอสถามก่อนที่วันชนะจะกลับ
“อืม” วันชนะพยักหน้า มองหนทางข้างหน้ายังไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรบ้าง
คนเรามักจะกลัวกับสิ่งที่ตนไม่รู้หรือสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ก็เหมือนกับเดินในถ้ำมืดมิดที่ไม่รู้ว่าจะเดินไปเจอหุบเหวหรือเจอสัตว์ร้ายแห่งรัตติกาลเข้าตอนไหน นั่นคือสามัญของมนุษย์ ก็คงเหมือนกับวันชนะตอนนี้ แต่เพราะใจที่ตั้งมั่นแม้รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะต้องเจอเหวลึก

เขาก็จะยอมตกลงไป!
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 11 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 11-04-2008 12:45:54
คนแต่งใจร้ายไปป่าว

สงสารวินจริงๆนะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 11 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-04-2008 12:47:46
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: ยังเศร้าอยู่  :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 11 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 11-04-2008 12:55:42
เศ้ราตอนนี้ แต่สุขตอนหน้า

นะครับผม javascript:void(0);
javascript:void(0);
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 11 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 12-04-2008 15:47:45
ถ้าพ่อแม่นักขัตเข้าใจได้สีกครึ่งแบบพ่อวิน ทุกอย่างก็คงดีกว่านี้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 11 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 12-04-2008 15:56:30
 :o12: :o12: :o12:

เศร้า  :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 11 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 12-04-2008 16:21:59
เอาใจช่วยวิน  :a2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 11 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Otaku ที่ 12-04-2008 22:47:25
 :o12: :o12: :o12:

หวังว่าตอนหน้าคงมีความสุขได้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 11 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 13-04-2008 14:44:09
 :m23: :m23:  ในที่สุดก็ช่วยน้องบอสได้แล้วนะครับ   :m4: :m4:

 :m15: :m15:ต่อไปก็เรื่องของวินกะตั้มแล้วนะครับ  :m15: :m15:  หวังว่าจะไม่ต้องเสียน้ำตามากกว่าที่เคยเปนมานะครับ  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 11 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: VicOSe ที่ 16-04-2008 16:28:40
เฮ้ออออ.....

อะไรมันจะขนาดน้านนนนน

ฮือๆๆๆ  :o12:  :o12:  :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 11 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 18-04-2008 02:50:31
ตอนหน้าก็ยังเศร้าอยู่นะ  :m23:

 :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 11 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Phoeniz ที่ 18-04-2008 15:56:01
ตอนหน้าเศร้าอยู่ก็ไม่เปงรายคับ
มาต่อไวๆ จะได้ถึงตอนมีความสุขไวๆไงคับ คิคิ
ติดตามอยู่ตลอดคับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-04-2008 11:01:41

42


ไม่ง่ายนักที่จะกลับไปสถานที่เดิมที่เคยไปเพียงครั้งเดียวในอดีต แต่สุดท้ายวันชนะก็ฝ่าฟันมาจนได้
ต้นจำปีที่เรียงสองแถวตลอดทางเดินเข้าสู่ตัวบ้านสูงขึ้นมาก แต่กลิ่นก็ยังหอมเหมือนเดิมขณะเดียวกันก็เป็นกลิ่นแห่งความทรงจำที่เลวร้าย...

คือจุดเริ่มต้นของปัญหาที่เรื้อรังมานาน!

วันชนะสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อเรียกความกล้าของตัวเองก่อนจะแบกเป้ขึ้นหลังแล้วเริ่มก้าวเท้าตรงไปตามทางร่มรื่นนั้น พอไปถึงที่หน้าบ้านวันชนะก็หยุดเพราะมีเสียงเรียกดังขึ้นจากที่แปลงมะเขือเทศข้างๆบ้าน

“มาหาใครครับ” เสียงนั้นตะโกนมาขณะที่เจ้าของเสียงก็เดินเข้ามาใกล้เรื่อย
วันชนะไม่ตอบจนกระทั่งเสียงฝีเท้าหยุดที่ข้างหลัง จึงหันไปด้วยใจที่เต้นโครมคราม ก็เขาจำได้ถนัดใจว่านั่นคือเสียงของสมภพ
เพียงเท่านั้นแหละวันชนะก็ลงไปกองกับพื้นดินแห้งๆอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ว๊าย!”

วันชนะจำได้ว่าเป็นเสียงของอุษาที่ดังมาจากบันไดบ้าน หล่อนกำลังลงมาพอดีก็เห็นเหตุการณ์และมาทันห้ามสามีตนเองก่อนที่วันชนะจะโดนชกอีกหมัด

“อย่าภพ!” หล่อนรีบเข้ามากัน
หล่อนไม่ได้อยากจะช่วยวันชนะนักหรอก “เดี๋ยวอาการกำเริบ”
พอเห็นวันชนะชัดตาอุษาก็พูดขึ้นทันทีว่า “มาทำไมอีก” น้ำเสียงนั้นกึ่งกังวลกึ่งขับไล่ แต่พูดได้เท่านั้นหล่อนก็จนด้วยคำพูดเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
วันชนะก้มลงกราบคนทั้งสองกับพื้นดินนั้น ก่อนจะพูดทั้งที่หน้ายังติดดิน

“คุณลุง คุณน้า ผมขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นครับ ที่ผมมาที่นี่ผมไม่ได้หวังอะไรไปมากกว่ามาเยี่ยมเขา...เป็นครั้งสุดท้าย ผมเองก็มีพ่อ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผมรู้ว่าพ่อผมรักผมมากแค่ไหน ก่อนนี้ผมอาจจะยังไม่เข้าใจความรู้สึกของคุณลุงคุณน้า แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันก็คงเหมือนกันกับที่พ่อผมรักผม”

สองสามีภรรยามองหน้ากันก่อนที่คนเป็นสามีจะเดินหัวเสียเข้าไปในบ้าน
“ลุกขึ้นเถอะหนู...วิน” อุษาแตะที่ไหล่ลู่ลงของวันชนะ แล้วจึงเดินนำเข้าไปในบ้าน หล่อนอดเกลียดตัวเองไม่ได้ ทั้งๆทีไม่ได้ชอบหน้าวันชนะสักเท่าไรแต่หล่อนก็ดุด่าเขาไม่ได้
อุษาเดินนำอาคันตุกะรุ่นลูกไปยังห้องรับแขกที่มีเพียงโต๊ะกลางล้อมด้วยโซฟาสามด้าน
“อยู่นี่ก่อนนะ” แล้วหล่อนก็ลุกจากไป จนอึดใจหนึ่งหล่อนก็กลับมาพร้อมกับยาทาแก้ฟกช้ำ สีหน้าของอุษาเคร่งขึงขณะที่หล่อนบรรจงทายาให้อย่างเบามือ
“ตั้มหลับอยู่ข้างบน” หล่อนถอนหายใจ “เดี๋ยวน้าพาไป”
อุษาทำตามคำพูด พอทายาเสร็จแล้วหล่อนก็พาวันชนะขึ้นไปชั้นสองของบ้าน ห้องเดิมที่วันชนะเคยมาเมื่อครั้งก่อน นักขัตหลับอยู่ที่เตียง
น้ำตาเหมือนจะซึมในความรู้สึกครั้งแรกแต่พอรู้สึกตัวอีกทีสองแก้มก็เปียกปอนเป็นสาย
“ผมเข้าไปดูเขาใกล้ๆได้ไหมครับ” วันชนะขออนุญาต และได้รับการพยักหน้าของอุษาเป็นคำตอบ
นักขัตหลับสนิทอยู่บนเตียง ใบหน้าไม่มีวี่แววของความเจ็บปวด แต่เฝือกสีขาวที่เข้าไว้กับแขนข้างขวานั้นเตือนให้ภาพเหตุการณ์วันนั้นผุดขึ้นอีกครั้ง
“ตามสบายนะ น้าจะออกไปก่อน” อุษาปล่อยโอกาสให้
“ขอบคุณครับ” วันชนะเอ่ยเสียงแผ่ว สายตาไม่ได้ละไปจากร่างตรงหน้าเลย
วันชนะไล้มือไปตามใบหน้าของนักขัตอย่างแผ่วเบา ไล่ลงมาจนถึงสร้อยที่เขาได้ให้ไว้

...แม่ครับ คุ้มครองเขาด้วยนะครับ...

“ใคร!”

ร่างที่นอนบนเตียงสะดุ้งตื่นพร้อมกับปัดมือวันชนะออกไปทันที จากนั้นจึงกำล็อกเก็ตนั้นไว้แน่น
วันชนะแปลกใจที่นักขัตเห็นหน้าเขาแล้วพูดว่า ‘ใคร’
ความคิดหนึ่งแล่นวูบขึ้น วันชนะยื่นหน้าเข้าไปใกล้แล้วโบกมือไปมาพลางสังเกตที่ตาของนักขัต

ไม่มีการตอบสนอง!
ไม่จริง!
นักขัตตาบอด!

นั่นยิ่งตอกย้ำให้วันชนะรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก ชีวิตนี้เขาจะชดใช้ให้คนตรงหน้าได้ยังไง
“วิน...” วันชนะเอ่ยเสียงเบาแผ่ว ความรู้สึกผิดแล่นไปทั่วอณูของร่างกาย
“วิน?” นักขัตทวนเสียงสูง ก่อนจะพูดต่อว่า “มาเยี่ยมเราเหรอ”
“อืม” วันชนะตอบเสียงอยู่ในลำคอ
คนนอนบนเตียงขยับตัวด้วยมือข้างที่ยังดีให้เป็นกึ่งนั่งกึ่งนอน “นาย...วิน ช่วยเอาน้ำเย็นให้เราแก้วหนึ่งได้มั้ย” เขาทำท่าคอแห้ง
“ได้ๆ” วันชนะผลุนผลันลุกออกไป สักพักน้ำเย็นที่นักขัตอยากได้ก็มาเสิร์ฟถึงที่
“ขอบใจนะ” เขายิ้มหลังจากที่ดื่มน้ำจนหมดแก้ว
“อาการของตั้มเป็นยังไงบ้าง” วันชนะจับที่ต้นแขนของคนที่ยังกึ่งนอนกึ่งนั่งบนเตียง
“นอกจากแขนนี่แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น” เขาตอบ
วันชนะยิ่งเสียใจหนักที่คนตรงหน้าพูดได้อย่างกับว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ นักขัตคงจะพูดไม่ให้เขารู้สึกผิด ยิ่งเขาเสเปลี่ยนเรื่องว่า “พาเราออกไปสูดอากาศข้างนอกได้มั้ย”
วันชนะลังเล เพราะเกรงว่าพ่อแม่ของนักขัตจะห้ามเอาไว้
“นะ นะ” นักขัตเร่งเร้า
“ได้สิ” วันชนะค่อยๆช่วยพยุงนักขัตขึ้นมาแล้วเดินนำหน้ามือจูงนักขัตไว้พลางหันมามองคนตามหลังเป็นระยะๆ พอมาถึงหน้าบ้านที่มองไปไกลหลายกิโลฯก็เจอแต่แปลงมะเขือเทศ วันชนะก็หยุด เพราะสมภพที่กำลังยืนทำอะไรอยู่ใกล้ๆหยุดมือแล้วเดินเข้ามาหา
“อะ...เอ่อ ตั้มอยากออกมาเดินข้างนอกน่ะครับ ผมก็เห็นว่าดีกว่าที่จะนอนอยู่ในห้องทั้งวันน่ะครับ...” คนพามาชิงพูดก่อนอย่างละล่ำละลัก
สมภพไม่ว่าอะไรเพียงแต่มองหน้าวันชนะอย่างขัดใจก่อนจะเดินหายเข้าไปในบ้าน ลับหลังเขาอุษาก็เดินออกมา
“หนู...” อุษากำลังจะเอ่ยคุยอะไรสักอย่าง แต่ก็จบเพียงเท่านั้นเมื่อนักขัตเรียกเสียก่อน
“แม่ พาตั้มไปทางนู้นหน่อย”
อุษาย่นคิ้วกับอาการของลูกก่อนจะเดินเข้าไปหา
วันชนะคิดว่าจะเข้าไปหาด้วยแต่คิดได้ว่านักขัตเรียกเฉพาะแม่ของเขา ดังนั้นจึงยืนอยู่กับที่
สองแม่ลูกเบาเสียงคุยกันได้ยินเพียงสองคนแม้ระยะที่ยืนจะห่างกันไม่ไกลนักก็ตาม สุดท้ายคนเป็นแม่จึงถอนหายใจครั้งหนึ่งแล้วจึงเดินกลับมาหาวันชนะ
“หนู...วิน คืนนี้หนูจะนอนที่ไหน” หล่อนถาม
“ผมนอนที่โรงแรมในเมืองครับ” วันชนะตอบ
คนฟังมีท่าทางลังเลแต่แล้วก็ตัดสินใจไม่ชวนเพื่อนของลูกให้นอนที่บ้านตามมารยาท แล้วจึงเลี่ยงไปพูดเรื่องอื่นว่า “แล้วมาอย่างนี้ไม่ต้องไปสอนนักเรียนเหรอจ๊ะ”
“ไม่ครับ ผม...ออกแล้ว” วันชนะไม่บอกว่าโดนไล่ออก
ที่จริงภัทรก็บอกแล้วว่าไม่ต้องถือสาคำพูดของป๊าก็ได้ แต่ถึงยังไงวันชนะก็คงต้องหยุดสอนเพื่อมาที่นี่ให้ได้อยู่ดีนั่นแหละ
“อืม” หล่อนไม่ซักไซ้ต่อ
แต่ก่อนที่อุษาจะหันหลังกลับ วันชนะก็เอ่ยขอ
“คุณน้า...พรุ่งนี้ผมมาเยี่ยมเขาอีกได้ไหมครับ”
หล่อนไม่รับคำ เพียงแต่หันหลังกลับ และนั่นก็คือการไม่ปฏิเสธ

“ตอนนี้วินทำอะไรอยู่” นักขัตถามขณะเดินหน้าไปเรื่อยๆระหว่างแปลงผักโดยมีวันชนะคอยพยุงห่างๆ
“ก็...ไม่ได้ทำอะไรแล้ว”
“เหรอ” นักขัตพูดแค่นั้น
จากนั้นก็คุยสัพเพเหระกันไปเรื่อยจนกระทั่งตะวันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มที่เหลี่ยมเขา ทั้งสองจึงพากันกลับ

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

ที่โต๊ะประจำบ้าน สามพ่อแม่ลูกกำลังรับประทานอาหารเย็นเหมือนเช่นทุกวัน หากแต่ในใจต่างคนก็ต่างมีเรื่องที่คอยรบกวนทำให้กับข้าวที่ดูน่ากินตรงหน้าไม่อร่อยไปถนัดใจ

“คิดยังไงน่ะตั้ม ไปหลอกเพื่อนว่าตาบอด” อุษาเปิดบทสนทนา
สมภพหยุดมือทันทีที่ภรรยาพูดถึงคนนอก
นักขัตใช้มือข้างที่ยังดีอยู่ตักกับข้าวมาวางในจานก่อนค่อยตอบว่า “ไม่รู้สิแม่ เขาพูดขึ้นมาเอง ตั้มเลยอยากจะลองดูว่าถ้าเขาคิดว่าตั้มมองไม่เห็น เขาจะทำอะไรบ้าง” คนเป็นลูกยกแก้วน้ำเย็นขึ้นดื่มก่อนพูดต่อว่า “บางทีเขาอาจจะช่วยให้ตั้มจำเรื่องราวที่ขาดหายไปขึ้นมาได้...เพราะรู้สึกว่าตั้มจะคุ้นหน้าเขา แต่ก็นึกไม่ออกอยู่ดี ถ้าพูดออกไปว่าตั้มความจำเสื่อม เขาก็คงจะพยายามยัดเรื่องราวต่างๆเข้ามา มันอาจจะไม่ได้ผลก็ได้ แต่ถ้าตั้มอยู่กับเขาแล้วเริ่มคุ้นทีละน้อยๆด้วยตัวเอง อาจจะเป็นวิธีที่ดีก็ได้”
“แต่...แบบนี้ก็ไม่เป็นไรนี่ ตั้มยังจำตอนก่อนที่จะเข้ามหาวิทยาลัยได้นี่ลูก” สมภพขัดขึ้น
อุษาก็คิดแบบเดียวกับสามี
“พ่อ แม่ มันเป็นเป็นชีวิตส่วนหนึ่งของตั้มนะครับ ตั้มคงรู้สึกเหมือนเป็นคนพิการไปตลอดชีวิตถ้าละทิ้งมันไปโดยไม่พยายามตามหา”

นั่นทำให้คนเป็นบุพพการีไม่มีเหตุผลจะขัดแย้ง
ตอนที่นักขัตผละจากสมภพที่บันไดหนีไฟเพื่อไปรับวันชนะจนตัวเองตกบันไดลงไปแทนนั้นเขาเอาแขนข้างขวาลงก่อนแล้วจึงเป็นศีรษะ นั่นเป็นเหตุของแขนหักและความจำเสื่อม!

สมองของเขาถูกกระทบกระเทือน แต่ความทรงจำไม่ได้หายไปทั้งหมด หากแต่หายไปตั้งแต่ตอนที่เขาเข้ามหาวิทยาลัย นักขัตจึงจำได้ว่าใครคือพ่อแม่เพื่อนบ้านเพื่อนๆสมัยมัธยมและเรื่องราวในตอนนั้นเท่านั้น

สมองของมนุษย์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ เพราะควบคุมความรู้สึกนึกคิด เรื่องราวที่สำคัญต่างๆจะถูกบันทึกจดจำเอาไว้เพื่อระลึกถึงบ่อยครั้งนั่นคือความสุข หากแต่ในช่วงเวลาเหล่านั้นก็ยังมีทุกข์
และสาเหตุของสุขและทุกข์ก็เพราะคนเพียงคนเดียว...คือวันชนะ
เมื่อสมองได้รับความกระทบกระเทือน ระบบที่ซับซ้อนก็ทำการลบข้อมูลทุกอย่างออกไป...แม้กระทั่งช่วงเวลาที่มีความสุข

เขาลืมวันชนะ!

“วินเป็นเพื่อนตั้มใช่ไหมครับ?” นักขัตมองหน้าพ่อแม่เพื่อขอคำตอบสนับสนุนความคิด “แต่ทำไม...ดูเขาเป็นห่วงตั้มมากจังเลย” นักขัตนึกถึงดวงตาที่วันชนะมองเขา ที่มันฉายแววราวกับตัวเองเป็นคนผิด
สองสามีภรรยามองหน้ากันก่อนจะตอบว่า

“ใช่ เขาเป็นเพื่อนเท่านั้น”


(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 19-04-2008 11:23:50
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 19-04-2008 11:47:57
ความจำเสื่อม......................เฮ้อ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Haney ที่ 19-04-2008 14:04:48
ทำม๊ายยยยมันรันทดอย่างนี้ ฮึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Eis ที่ 19-04-2008 16:04:09
คนเขียนใจร้ายยย...  :o12:
.
.
.
มาต่อไวๆ นะครับ กำลังได้ที่เลย  o13
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-04-2008 19:50:34
ตามสบายเลยครับ เศร้ากันทั้งทีให้สุดๆ ไปเลย  :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 19-04-2008 20:12:59
ใจร้ายสุดๆเลยแต่นี่อาจเป็นบท
พิสูจน์ของวินก้อได้
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: poochai ที่ 19-04-2008 22:59:28
 :o12: :o12: :o12: คนอ่านร้องไห้เป็นวักเป็นเวรเลยอ่ะ แงๆๆๆ สงสารทุกคนเลย ฮือๆๆๆๆๆๆๆ :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 19-04-2008 23:23:15
ทำไมมันรันทดแบบนี้

 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 20-04-2008 10:19:16
มันจะรันทดไปปไหมเนี่ย  :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 20-04-2008 23:41:31
 :serius2: :serius2:  ทำไมครอบครัวตั้มเหมือนรวมหัวกันทำร้ายวินอย่างนี้ล่ะครับ   :sad2: :sad2:

หวังว่าจะมีใครมาช่วยตั้มกะวินได้ไวๆนะครับ  o7 o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 21-04-2008 07:10:28
เศร้าๆๆๆๆ อย่างแรง o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 19 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: ^ - ^A s A v I n * o * ที่ 23-04-2008 00:10:40
เหอะๆ เรียนท่านผู้แต่ง กระผมอ่านรวดเดียวจบ แต่งดีมาก

แต่ ขอเหอะๆ ใจร้ายมากมาย อาราย อุปสรรคมันจาเยอะขนาดนี้ เหอะๆ

ยังไงก้อ ขอบคุณนะครับบบบ สำหรับ เรื่องดีๆ รีบๆมาต่อนะ อย่าหายไปนาน ผมจารีบมาติดตาม เลย เดงต้องไปตปท อิอิ นานหน่อย

แต่จารีบมาะครับบบบบบ

ปล สงสารวิน โคตรๆๆๆๆๆ  :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 25-04-2008 10:27:47

43

   อุษายืนเหม่อขณะที่มือก็ล้างจานไปด้วย จนน้ำที่เปิดจากก๊อกคาเอาไว้ล้นอ่าง หล่อนจึงรู้สึกตัว
   “อุ๊ย!”
   หล่อนรีบปิดน้ำ แต่ก็สายไปเพราะกระโปรงหล่อนเปียกไปกว่าครึ่ง
   “ให้ผมช่วยนะครับ” วันชนะรีบยื่นมือเข้ามาโดยไม่ฟังคำตอบ “คุณน้ารีบไปเปลี่ยนชุดเถอะครับ”
อุษาคิดจะปฏิเสธ แต่ดูสภาพตัวเองแล้วก็เอ่ยขอบใจแล้วทิ้งห้องครัวไป พอเปลี่ยนชุดใหม่เสร็จหล่อนก็ไปหานักขัตที่ห้อง จึงพบว่านักขัตกำลังเตรียมตัวออกไปข้างนอก
“จะไปไหนน่ะตั้ม” คนเป็นแม่ยืนพิงกรอบประตูถาม
“ไปตกปลาน่ะแม่” ลูกชายคว้าหมวกมาสวม
“จะไหวเหรอ” อุษามองดูมืออีกข้างที่ยังเดี้ยงอยู่พร้อมกับคิดไปด้วยว่าคนตาบอดนี่จะตกปลายังไง
“ไม่เป็นไรมั้งครับ ตั้มชวนวินไปด้วย” นักขัตตอบตามปกติ
จะบอกว่าสีหน้าของอุษาเบาใจก็คงไม่ถูกนักเพราะมันก้ำกึ่งของอาการหนักใจรวมอยู่ด้วย แต่ก็บอกออกไปว่า “ก็ระวังหน่อยแล้วกัน”
“ครับแม่” ลูกชายที่ตัวสูงกว่าเดินมาหยุดที่ตรงหน้าแล้วโน้มตัวลงมาหอมแก้มแม่อย่างขี้ประจบแล้วก็เดินลงไปข้างล่างเรียกหาชื่อเพื่อนที่มาเยี่ยม
อุษาเก็บกวาดเล็กๆน้อยในห้องของนักขัตเรียบร้อยดีแล้วจึงเดินลงมาก็ยังเห็นว่านักขัตยังนั่งอยู่ตรงโซฟา หล่อนจึงเดินเข้าไปหา “แล้ววินล่ะ”
พูดจบวันชนะก็ออกมาจากในครัว “เรียบร้อยแล้ว” แล้ววันชนะก็พยุงนักขัตออกไป เดินไปทางหลังบ้านราวหนึ่งกิโลเมตรที่นั่นมีลำธาร

วูบหนึ่งอุษามองภาพที่เด็กหนุ่มสองคนนั้นพยุงกันเดินออกไปเป็นภาพทำให้เกิดความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย หากแต่นั่นทำให้หล่อนเบาใจขึ้นมา จากนั้นจึงตรงไปที่ครัว อุษาพบว่าห้องครัวถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น นอกจากจานที่เด็กคนนั้นช่วยล้างแล้วเขายังเช็ดจนแห้งแล้วเก็บเข้าที่อย่างเป็นระเบียบ ผ้าเช็ดจานเขาก็ซักแล้วตากแดดไว้อย่างถูกที่ทาง

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

วันชนะพะวงกับการดูแลนักขัตมากเสียจนละเลยอาการแปลกๆที่คนตาบอดไม่สามารถทำได้ จนกระทั่งมาถึงที่โคนต้นตะแบกใหญ่ราวสองคนโอบ ทั้งคู่จึงวางสัมภาระลงและเริ่มตกปลา
“ตั้มจะตกปลาได้ไง” วันชนะเริ่มคิดได้
“ก็...เราก็จับคันเบ็ดไว้ไง ถ้าปลามันกินเหยื่อก็รู้สึก” คนตอบไหลตามน้ำไปได้
“แล้วจะจับปลายังไง” วันชนะยังติดใจสงสัย
“ก็...ถึงได้พานายมาด้วยไง” นักขัตเกือบหลุด
วันชนะเออออ

แต่นานเป็นชั่วโมงพวกเขาก็ยังตกไม่ได้ปลาสักตัว วันชนะนั่งมองทุ่นไปพลางคิดเรื่องราวที่ผ่านมา แต่แปลกที่มันไม่ได้เครียดอย่างที่ควรจะเป็น อาจเป็นเพราะสายลมเย็นๆที่พัดผ่านร่มไม้ครึ้มนี้รวมทั้งเพราะมีคันเบ็ดปักอยู่ข้างๆแล้วนักขัตก็นอนรอเหยื่อติดเบ็ดอยู่ตรงนั้น...

คนนั่งมองทุ่นหันไปมองคนนอนรอเหยื่อแล้วยิ้มขำ ก็ถ้าเหยื่อติดเบ็ดแล้วเขาจะรู้ได้ยังไงนะ คิดเพลินจนลืมสังเกตว่าคันเบ็ดโน้มเพราะโดนดึงจนทุ่นกระเพื่อมน้ำเป็นวง
แล้วร่างที่นอนพิงโคนต้นตะแบกกลับลุกขึ้นมายกคันเบ็ดหน้าตาเฉยเหมือนมองเห็น

“ฮ้า! ตกได้แล้วๆ” นักขัตออกอาการดีใจ แต่แล้วก็รีบเก็บอาการหันไปทางวันชนะแล้วพูดว่า “ได้ปลาไหม”
“อ้าว ก็เห็นร้องออกเสียงดัง ก็นึกว่ามองเห็นเสียอีก” วันชนะพูดอย่างไม่จริงจังนัก
   และคำพูดนั้นทำให้นักขัตเริ่มระวังตัวมากขึ้น
             
   “รู้มั้ย ตั้มชอบมานั่งตกปลาที่นี่มากๆเลย บางวันก็ไม่ได้เลยสักตัวแต่ก็ได้ความรู้สึกผ่อนคลายกลับไป เราชอบต้นไม้นี่ ชอบลำธารนี่รวมถึงเสียงต้นหญ้าลู่ลมนี่ด้วย” คนพูดยิ้มผ่อนคลายอย่างที่เขาเล่า
   “อืม นั่นสินะ” วันชนะจึงได้สังเกตความงามของธรรมชาติรอบตัวบ้าง “ภาพข้างหน้านี่สวยงามจริงๆ” วันชนะหยุดที่นักขัต คิ้วเริ่มย่นเพราะรู้สึกแปลกใจ ก็ดูเหมือนนักขัตจะมองเห็นจริงๆอย่างนั้น วันชนะยื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้านักขัตเพื่อสังเกตที่ตาของเขา

   นักขัตจึงกลบเกลื่อนด้วยการทำตานิ่งๆ ทำเป็นไม่สนใจหน้าวันชนะที่ยื่นเข้ามา จากนั้นความรู้สึกแปลกๆก็พลุ่งพล่านแล้วจึงตามมาด้วยความรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นที่ศีรษะจนสะดุ้งวูบ
   “อุ๊บ!” นักขัตยกมือข้างที่ใช้การได้ขึ้นกุมศีรษะ
   “ตั้มเป็นอะไร!” วันชนะตกใจ
   “ปวด...ปวดหัว”
   วันชนะหันรีหันขวางไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ปากก็ละล่ำละลักบอกว่า “กะ...กลับบ้านไหวไหม”

   นักขัตไม่ตอบ วันชนะก็ไม่สนใจจะฟัง เขาพยุงร่างที่ดิ้นรนจากความเจ็บปวดนั้นให้ลุกขึ้นแล้วตรงไปทางตัวบ้านที่เหมือนจะอยู่ห่างออกไปไกลกว่าตอนขามา ทุลักทุเลกว่าจะมาถึงครึ่งทางกลางแปลงผัก วันชนะไม่สนใจแล้วว่าจะเหยียบโดนพืชผลที่งอกงามเหล่านั้น จนกระทั่งเห็นทั้งสมภพกับอุษาวิ่งเขามาดึงร่างลูกของตัวเองออกไปจากแขนวันชนะอย่างรวดเร็ว ร่างของสมภพที่เบียดเข้ามาแทนที่อย่างเร่งร้อนกระแทกวันชนะให้ล้มลงกับพื้นจนข้อศอกถลอกได้เลือดซิบโดยที่วันชนะไม่สนใจอาการแสบๆนั้นเลย สายตามองตามสามพ่อแม่ลูกที่วิ่งห่างออกไป สองขาเริ่มช้าวิ่งช้าลงเมื่อเห็นภาพนั้น...เขาเป็นคนนอก

   ขณะที่ ‘คนนอก’ สนใจกับแผลถลอกที่ข้อศอกของตัวเอง สายตาของคนปวดศีรษะเมื่อครู่มองมาไม่กระพริบตา ขณะที่เหมือนมีภาพเป็นพันๆผ่านเข้ามาในหัวนักขัตเพียงวินาที
   ...เหมือนเทน้ำบนพื้นทราย...
   นักขัตยังเหมือนเดิม เขาเพียงแต่คุ้นหน้าวันชนะมากขึ้นเท่านั้น รู้สึกมีเรื่องราวมากมายที่มีวันชนะอยู่ในเหตุการณ์ด้วยแต่ก็ลงรายละเอียดไม่ได้...นั่นทำให้เขาทรมาน
   
   
(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

   พอกลับถึงบ้านอาการของนักขัตก็สงบลง อุษากับสมภพจึงให้เขาทานยาที่หมอจัดไว้ให้ นั่นทำให้นักขัตหลับไปนานกว่าห้าชั่วโมงแล้ว สมภพนั่งทำอะไรไปเรื่อยในห้องของนักขัต อุษาเดินลงมาชั้นล่างของบ้านก็พบวันชนะยังนั่งรออยู่ หล่อนจึงเดินเข้าไปหา
   “หนูกลับไปก่อนเถอะนะ เขาไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ” หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งเย็นเยียบกึ่งเอ็นดู
   วันชนะเงยหน้าขึ้นมองหน้าหล่อนอย่างคนอิดโรย
   “...ครับ” เขาตอบอย่างว่าง่ายก่อนสีหน้าลังเลฉายอยู่ครู่หนึ่ง
   อุษาเข้าใจสายตานั้นดี หล่อนเข้าใจว่าวันชนะคงอยากอยู่เฝ้านักขัตจนถึงเมื่อตอนเขาตื่น แต่นึกถึงสถานการณ์แล้วก็ไม่เหมาะที่จะให้วันชนะอยู่
   เสร็จธุระจากชั้นล่างหล่อนก็ขึ้นมาสมทบกับสามีที่ห้องของนักขัต หล่อนมองลูกก่อนมองใบหน้าด้านข้างของสามี

   “คุณ...” หล่อนลังเล “...เรื่องของเด็กคนนั้น”
   คนเป็นสามีหันมาอย่างสงสัยในตัวภรรยา
   “บางที...เราควรจะ...” หล่อนหยุด เพราะไม่รู้ว่าจะเรียบเรียงคำพูดอย่างไร
   “เราเคยคุยเรื่องนี้กันแล้วนะษา แล้วเราก็คุยกันเด็กคนนั้นแล้วด้วย” เสียงของสมภพไม่ดังมากแต่ก็เฉียบขาด นั่นทำให้อุษาหยุดที่จะแย้งต่อ
   พอทั้งคู่ออกไปจากห้อง นักขัตก็ลืมตาขึ้นในความสลัว เขายิ่งอยากรู้ว่าระหว่างพ่อแม่ของเขากับวันชนะมีอะไรที่เป็นเงื่อนงำกันแน่!
   
   
(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

   ตะกร้าผลไม้ที่ติดมือมาด้วยวันนี้แทบจะหลุดตกพื้น วันชนะต้องการเอามาฝากอุษากับสมภพ แต่พอเข้าบ้านมาได้ก็เจอกับคำถามที่คนพูดไม่ต้องการคำตอบว่า
   “จะมาที่นี่อีกนานเท่าไร” สมภพเป็นคนถาม
   เจอคำถามนี้ วันชนะก็ตอบไม่ได้ว่าเขาต้องการเวลานานแค่ไหนที่จะเป็นอยู่อย่างนี้ ถึงแม้ก่อนที่จะมาที่นี่เขาก็ทำใจเอาไว้แล้วว่าหลังจากนี้เขาอาจจะไม่มีนักขัตมาคอยป้วนเปี้ยนอยู่ในชีวิตเขาอีกเลยก็ตาม
   “ผมขออยู่จนกว่าเขาจะหายได้ไหมครับ” วันชนะรวบรวมความกล้าบอก
   สมภพบอกได้ว่าไม่ค่อยชอบใจนักกับสายตานั้น อาจจะเรียกว่าเกลียดเลยก็ได้...สายตาที่เด็กคราวลูกส่งมาต่อต้านตน...สายตาที่เหมือนกันตอนนั้น ที่บันไดหนีไฟ “ตั้มก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก...ถึงจะเป็น ยังไงเขาก็มีพ่อมีแม่คอยดูแล”
   ก่อนที่เรื่องจะลุกลามไปมากกว่าที่เป็นอยู่ คนที่ดูจะใจสงบมากกว่าสมภพก็เดินเข้ามาจับที่ต้นแขนเอาไว้
   “หนู...มาทางนี้เถอะจ้ะ” อุษาพูดแล้วจึงหันไปทางสามี ส่งสัญญาณว่าเดี๋ยวหล่อนจัดการเอง อย่างหนึ่งคือหล่อนไม่อยากให้อาการโรคหัวใจของสมภพกำเริบ

   เมื่ออยู่สองต่อสองที่แคร่ไม้ใต้ร่มมะปรางสูงเลยหลังคาบ้านที่อยู่หลังห้องครัว อุษาจึงเอ่ยอย่างจริงจังกับเพื่อนของลูกว่า

   “คำถามเดียวกันน่ะจ้ะ แต่น้าคิดว่าให้น้าเป็นคนถามหนูน่าจะดีกว่า” หล่อนหยุดสังเกตท่าทางของวันชนะ ครู่หนึ่งจึงเอ่ยต่อ “เรายังไม่เคยได้คุยกันอย่างจริงจังเสียที วันนี้น้าขอคุยเลยนะ”
   “...ครับ” วันชนะเม้มปาก
   “หนูรู้ใช่มั้ยว่าตอนนี้ตั้มเป็นอย่างไร” อุษามองหน้าวันชนะที่หลบสายตาหล่อนไปทางอื่น
   “ครับ” วันชนะตอบ...เขารู้ว่านักขัตตาบอด
   อุษาก็รู้ว่าวันชนะรู้เพียงนักขัตตาบอดซึ่งนั่นไม่จริง แต่ก็พอจะเป็นมูลเหตุของการดำเนินชีวิตที่ไม่ปกติที่จะนำมาเป็นเหตุในการสนทนาครั้งนี้ได้

   “หนูรู้ใช่มั้ยว่าหนูจะมาที่นี่ตลอดไปไม่ได้” อุษาพูดต่อ “มันไม่มีประโยชน์อะไรที่หนูจะมาเสียเวลากับตั้มตลอดชีวิตหรอกนะจ้ะ ถึงแม้ว่าน้าจะไม่เข้าใจความรักในแบบที่หนูเป็นอยู่ก็ตาม” หล่อนอยากจะพูดต่อว่า...ในเมื่อตอนนี้นักขัตก็ไม่มีความทรงจำในเรื่องนั้นแล้ว...เพื่อตอกย้ำว่าวันชนะไม่ควรจะรื้อฟื้นมันขึ้นมา อุษาจึงได้แต่เก็บคำพูดเหล่านั้นไว้ตามที่ลูกของตัวเองขอไว้ เพื่อรอวันที่วันชนะรู้ความจริง แล้วเมื่อถึงตอนนั้นหล่อนจะพูด...ถึงจะต้องขอร้องเด็กคราวลูก หล่อนก็จะทำ

   วันชนะยิ้มบางๆ เมื่อเห็นสีหน้าเป็นทุกข์ที่เผยออกมาเพียงน้อยนิดที่อุษาเก็บไม่มิด
“คุณน้าครับ ผมเข้าใจความรู้สึกคุณน้าทั้งสองดีครับ คุณน้าทั้งสองคนพูดถูก ผมมาที่นี่ตลอดไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยขอให้ผมได้อยู่ดูเขาจนกว่าเขาจะหายได้ไหมครับ ผมสัญญาว่าเมื่อถึงวันนั้นผมจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับพวกคุณอีก...” วันชนะถอนหายใจยาว “สำหรับผมกับตั้ม...ผมขอโทษที่จะพูดว่าความรักที่ผมมีให้เขามันไม่ได้ต่างไปจากความรักที่คู่รักคู่อื่นๆมีให้กันเลย และผมก็เชื่อว่าไม่ใช่ผมฝ่ายเดียวที่คิดแบบนั้น”

   “หนูจะหาว่าฉันพรากคู่รักจากกันอย่างนั้น...” อุษาพูดเสียงเรียบขึ้น...เย็นขึ้น
   “เปล่าครับคุณน้า ที่ผมพูดอย่างนั้นเพียงแต่ต้องการอธิบายความรู้สึกที่ผมมี และคุณน้าก็ไม่ได้พรากพวกเรานะครับ เพราะผมเป็นฝ่ายถอนตัวออกไปเอง...” วันชนะเหม่อมองปลายใบมะปรางที่สบัดด้วยแรงลม “...ผมเพียงคิดว่า ถ้าสิ่งที่พวกเราเป็นมันลำบากเกินกว่าที่จะฝืนต่อสิ่งรอบตัว...ถ้าผมปล่อยมือเสียคนหนึ่ง ตั้มอาจจะไม่ต้องเจอกับเรื่องยากเหมือนอย่างผม” พูดจบใบหน้านั้นก็ยังแต้มด้วยรอยยิ้มบางๆที่ฉายแววของคนยอมแพ้ต่อชะตากรรม

   สายลมพัดมาวูบหนึ่งพาใบแก่จากลำต้นใหญ่หลุดปลิว อุษาบรรยายความรู้สึกที่เกิดไม่ถูกเมื่อได้ฟังสิ่งที่คนคราวลูกตรงหน้าถ่ายทอดออกมา หล่อนจึงไม่มีอะไรจะพูดต่อ...

   ...แต่สมภพที่บังเอิญได้ยินตั้งแต่เดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อหาน้ำดื่มกลับขยับปากจะพูดแทรกผ่านประตูหน้าต่างห้องครัว แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นไม่พูด...


(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

TBC.
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 25-04-2008 11:45:55
อุษา กับ สมภพ จะเข้าใจขึ้นมั้ยน่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Haney ที่ 25-04-2008 13:39:20
 :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 25-04-2008 13:41:24
เห้อ  อีกนานไหมนิ กว่าจะสมหวังนะ  o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 25-04-2008 15:17:09
so sad  :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 25-04-2008 18:06:15
 :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 25-04-2008 19:47:31
มันยังคงเศร้าได้อีก 

เมื่อไหร่จะยิ้มกันได้ละนี่  โอยยยย  เจ็บอก 

รออ่านต่ออยู่น้า หมูพูห์
ปล  คิดถึงพูห์อะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 25-04-2008 20:31:04
อ่านแล้วเหนื่อยจริงๆ เรื่องนี้  เหนื่อยมาเป็นปีแล้วนะเนี่ย :m15:

ความรักมันจะสมหวังกันมั้ย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 25-04-2008 20:39:24
ขอให้พ่อกะแม่ตั้มใจอ่อนทีเถ้อ  :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Otaku ที่ 25-04-2008 22:10:43
 :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-04-2008 22:26:08
จะเศร้าอีกนานมะ  :o211:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 25-04-2008 23:25:44
ใช่...จะเศร้าอีกนานไหม :dont2: :dont2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 26-04-2008 02:34:33
เศร้าอีกไม่นานหรอกคับ  :m13:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 26-04-2008 02:55:25
 :serius2: เศร้าอีกมะนานแล้วอีกกี่ตอนอะจ๊ะ คุณโอนิ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: BEta-K ที่ 30-04-2008 12:50:46
ตอนใหม่มาตั้งนานแล้ว คนโพส ยังไม่เอามาลงอีก o12 :angry2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 30-04-2008 14:42:16


44

ผ่านไปหนึ่งเดือนกว่า ที่วันชนะไปๆมาๆบ้านของนักขัต ดูเหมือนว่าอาการของเขาจะยังไม่คืบหน้าขึ้นเลย
จนวิตกว่านักขัตจะต้องตาบอดไปตลอดชีวิต แต่พอถามกับอุษาที่ดูไม่ทุกข์ร้อนเท่าไรนัก ก็ได้คำตอบเป็นการที่หล่อนเงียบไปและเปลี่ยนเรื่อง

เฝือกที่แขนถูกถอดออกไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน
วันชนะมาถึงก็เข้าไปหาสมภพกับอุษาก่อน เขาวางตะกร้าผลไม้ที่มีติดมือมาเสมอไว้ที่บนโต๊ะ ก่อนที่วันชนะจะผละออกไปหานักขัตที่นั่งเล่นอยู่หลังบ้านตามที่อุษาบอก เสียงห้าวที่ไม่ค่อยได้พูดกับวันชนะก็ดังขึ้น
“เอาผลไม้ไปใส่ตู้เย็นก่อนสิ” สมภพพูดสั้นๆก่อนจะหันหลังเดินจากไป ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกแต่เป็นเพราะเด็กคนนี้ดูน่าสงสารมากก็เท่านั้น
วันชนะจึงก้มหัวให้อย่างเกรงๆเพื่อหยิบตะกร้าไป

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

ร่างที่คุ้นเคยนอนหลับตาพริ้มอยู่ที่ใต้ร่มเถาพวงครามที่พันรอบโครงไม้ที่ทำขึ้น วันชนะสูดลมหายใจอย่างสบายใจ อากาศที่นี่เย็นสบาย มีร่มไม้หลายจุดไม่วุ่นวายเหมือนในกรุงเทพฯ วันชนะไม่ตั้งใจจะทำให้เกิดเสียงเหยียบใบไม้แห้งดังกรอบแกรบจนทำให้นักขัตรู้ตัว

“อืม...” คนนอนนิ่งทำท่าขยี้ตาเหมือนเพิ่งตื่นนอน
“หลับสบายเลยล่ะสิ” วันชนะเดินเข้าไปนั่งลงใกล้อย่างไม่ผิดสังเกต
“ช่าย...” นักขัตลากเสียงยาว

สายลมเย็นสบายทำให้น่านอนเป็นที่สุด วันชนะสูดเอาอากาศบริสุทธิ์จนเต็มปอดก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ

“ในที่สุด วินก็ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ครั้งนี้อยู่นานเสียด้วยนะ” วันชนะเอ่ยทั้งที่หลับตา...นึกถึงภาพในอดีต ตอนที่มาที่นี่เป็นครั้งแรก
“ชอบที่นี่แล้วสิ” คนนอนข้างๆเอ่ยขึ้นบ้าง
“ชอบสิ ที่นี่ตอนพระอาทิตย์ตกสวยอย่างที่นายเคยพูดเอาไว้” วันชนะนึกถึงตอนที่นั่งมองพระอาทิตย์ตกด้วยกันที่ริมสระของมหาวิทยาลัย
คำพูดจากวันชนะเหมือนลูกศรพรั่งพรูสู่สมองของนักขัต ภาพมากมายปรากฏในเสี้ยววินาที
“อุ๊บ!” นักขัตปวดศีรษะอย่างแรง
“ตั้ม!” วันชนะเด้งตัวขึ้นมาทันที “ปวดหัวเหรอ”
คนกุมหัวไม่ตอบ
วันชนะเอื้อมมือจะจับที่ไหล่ของนักขัต แต่กลับโดนมือที่กุมศีรษะอยู่เปลี่ยนมาปัดมือของเขาออกอย่างแรง!
“ตั้ม...” วันชนะค้างไป
นักขัตไม่พูดอะไร แต่เหมือนอาการปวดจะผ่อนคลายลง สังเกตจากอาการทุรนทุรายที่ลดลง
วันชนะได้แต่มอง...ร่างที่คุ้นตาเดินนำลิ่วไปทางตัวบ้าน

ที่สายลมนั้นเย็นสบายคงเพราะหอบฝนมาด้วยกระมัง เพราะทันทีที่เห็นนักขัตเข้าบ้านไปแล้ว ฝนเม็ดใหญ่ก็เทลงมาจากฟ้าอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
“รีบเข้าบ้านเถอะจ้ะ” อุษาเรียกวันชนะที่เดินเหม่ออยู่ที่ประตู “สงสัยจะเข้าหน้าฝนแล้ว”
“ตั้มล่ะครับ” วันชนะเอ่ยสายตาเลื่อนลอย
“กลับมาถึงก็ขึ้นข้างบนเลยจ้ะ” อุษาสังเกตได้ถึงความผิดปกติ “มีอะไรกันรึเปล่า?”
วันชนะไม่ตอบ เพราะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น “ผมกลับก่อนนะครับ” ไหว้อุษาเสร็จก็หันหลังกลับทันทีโดยไม่คิดว่าสายฝนหนักเม็ดจะเป็นอุปสรรค
อุษามองตามหลังอย่างอาทรระคนอ่อนใจ “จะไปได้ยังไง...คืนนี้หนูนอนที่นี่แหละ”

   
   
(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

   ฝนยังกระหน่ำลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด วันชนะนอนบนฟูกที่อุษาปูให้นอนที่เตียงไม้ที่ใช้นั่งเล่นที่ชั้นล่าง ใจหวิวแปลกๆตั้งแต่เย็น...ตั้งแต่โดนนักขัตปัดมือออก ในความมืดสลัววันชนะไม่อาจหลับลงได้ เพราะในหัวครุ่นคิดอยู่เรื่องเดียวซ้ำไปซ้ำมา
นักขัตขังตัวเองอยู่ในห้องนอนตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน กลางดึกรู้สึกกระหายเลยลงมาหาน้ำดื่มที่ชั้นล่าง เพราะคิดว่าวันชนะกลับไปแล้วจึงไม่ทันสังเกตร่างที่นอนอยู่บนฟูก
เมื่อแสงจากตู้เย็นที่เปิดออกอาบร่างที่กำลังหยิบแก้วน้ำแล้วหยิบขวดน้ำมาเปิดฝาจากนั้นจึงเทน้ำลงแก้วเพื่อดื่ม

แสงสว่างติดพรึบจากหลอดนีออนกลางห้อง วันชนะเป็นคนกดสวิตซ์
“ตั้ม นายมองเห็นทุกอย่าง” เขาคิ้วขมวดอย่างสงสัยทั้งที่แน่ใจในคำตอบที่มีให้แก่ตัวเอง
นักขัตลดแก้วน้ำนั้นลง ความรู้สึกปั่นป่วนไปหมด อธิบายไม่ถูกว่ารู้สึกผิดหรือเป็นความรู้สึกอย่างอื่น
“ตั้ม...หลอกเราทำไม” วันชนะคาดคั้น
หากแต่ไม่มีคำตอบให้จากคนตรงหน้า
ร่างที่ดูบางกว่าหันหลังด้วยความรู้สึกที่พังทลาย ไม่เข้าใจ...ทำไมต้องหลอกกัน...ทำไมถึงปัดมือ...ทำไม...ถึงเปลี่ยนไป
“จะไปไหน” คนข้างหลังเอ่ยเมื่อเห็นวันชนะตรงไปทางประตู
“ไปจากที่นี่” เสียงนั้นไม่โกรธกริ้วหรือแสดงออกด้วยอารมณ์
“ฝนตก” คนข้างหลังบอก
หากแต่วันชนะก็ยังเปิดประตูออกไป แล้วร่างก็ลับหายไปกับฝนฟ้า...

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)
สายของวันต่อมา วันชนะกลับมาอีกครั้ง เขาตรงไปหาอุษากับสมภพอย่างไม่ลังเล เนื้อตัวซีดปากซีดเพราะโดนฝนเมื่อคืน
“ผมมาลาน่ะครับคุณลุงคุณน้า” วันชนะไหว้ คราวนี้เขามาโดยไม่มีกระเช้าผลไม้
ก่อนหน้านี้ทั้งอุษากับสมภพถ้าได้ยินคำนี้คงจะยินดีไม่น้อย แต่แปลกที่ความรู้สึกที่มีในวันนี้กลับผิดไป
“หนู...ทำไม” อุษาไม่รู้จะพูดอะไรดี
“ตั้มไม่ได้เป็นอะไร...ผมก็ควรจะไป...” ท้ายประโยคเสียงแผ่วหาย กล่าวเสร็จก็ไหว้ทั้งสองสามีภรรยาอีกครั้งก่อนจะลุกจากไปอย่างไม่อาลัยอาวรณ์
แต่ก่อนที่วันชนะจะไปไกล
“ตั้มไม่ได้ตาบอดหรอกนะ” ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหล่อนถึงได้บอกออกไป “เขาจำอะไรไม่เลยตะหาก”
วันชนะหยุดเดิน นิ่งอยู่กับที่สักพักก่อนจะพูดว่า
“ตอนนี้เขาหายแล้วล่ะครับ”
แล้วจึงเดินหายออกไปยังทางที่ขนานไปด้วยต้นจำปี...

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

ค่ำคืนที่พระจันทร์ทอแสงนวลผ่านเข้ามาถึงเตียงนอน บรรยากาศก็เย็นสบายโดยไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ หากแต่คนบนเตียงกลับว้าวุ่นจนนอนตาค้างมานานกว่าสามชั่วโมงแล้ว หงุดหงิดเหมือนเห็นภาพวาดทิวทัศน์สวยงามแต่มีจุดสีแต้มจากความผิดพลาด...เหมือนเห็นหน้าของคนๆนั้นอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่าทุกเรื่องในชีวิตของเขาเต็มไปด้วยเงาของวันชนะคอยตามติดอยู่ตลอด
ด้วยเหตุนั้นนักขัตจึงลุกจากเตียงไปนั่งพิงวงกบหน้าต่าง ความรู้สึกเหมือนใจร้าวไปหมด ทรมาน...เหมือนตัดขาดจากคนรัก ทั้งที่ความทรงจำก็กลับคืนมาแล้วแต่เรื่องที่เขารักกับผู้ชายนั้น...รับไม่ได้!
“ทำไมนะ...” เอ่ยกับตัวเอง
เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมต้องรู้สึกโหยหาถึงขนาดนอนไม่หลับ ความทรงจำกลับมาก็จริงแต่ความรู้สึกกลับไม่เหมือนเดิม
บางทีอาจต้องการเวลา...เหมือนคนป่วยเพิ่งฟื้นไข้

วันคืนผันผ่านเป็นสัปดาห์ ทั้งอุษากับสมภพต่างรู้สึกอย่างเดียวกัน นั่นคือความรู้สึกโหวงเหวงเพราะคนที่เคยเห็นอยู่ทุกวันขาดหายไป อีกทั้งลูกของตัวเองก็ไม่สดใส วันๆเอาแต่นั่งเหม่อเป็นคนที่มีเรื่องให้ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา

“กินข้าวได้แล้วตั้ม” อุษาเรียก
“ตั้มยังไม่หิวครับแม่” คนเป็นลูกตอบ สายตายังเหม่อมองไปที่นอกหน้าต่าง
อุษาถอนหายใจ “จะเป็นแบบนี้ไปอีกนานเท่าไรฮึ”
“แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอครับ” นักขัตหันมาสบตา “แม่ก็รู้ใช่ไหมครับว่าผมกับ...วิน...เอ่อ...เป็นอะไรกัน”
“รู้สิ” หล่อนเดินเข้าไปใกล้ วางมือที่บ่าของลูก “พ่อก็รู้”
“ผมขอโทษ” นักขัตหลบสายตาเพราะความละอาย
อุษายิ้มให้กับลูก มองไปข้างนอกหน้าต่าง ที่ทางเดินเรียงด้วยต้นจำปีเหมือนจะเห็นเด็กคนนั้นสะพายเป้เดินเข้ามา...แต่ก็ไม่ได้มีใคร

จะเป็นความเคยชินหรือความผูกพันก็ไม่ทราบแน่ พอไม่มีวันชนะอยู่จึงรู้สึกขาดหาย และมันทำให้หล่อนได้คิดอะไรได้มากขึ้น ได้มองเห็นอีกมุมหนึ่ง ก็คงเหมือนแก้วผลึกที่เมื่อมองใกล้ๆจะเห็นลักษณะที่สวยงามแต่ไม่เห็นรัศมีที่เปล่งประกายเมื่อมองไกลๆ คนเราพอได้เห็นได้เจอกันทุกวันก็ไม่ทันจะได้เห็นคุณค่าของกันและกัน เพียงแต่สักวันที่คนธรรมดาคนนั้นจากไป นั่นแหละจึงได้แลเห็นตัวตน

“ถ้าเป็นแต่ก่อนแม่ก็คงจะรู้สึกดีที่เด็กคนนั้นจากไปเสียได้” หล่อนยิ้มให้กับการตัดสินใจ “แต่พอแม่เห็นตั้มเป็นอย่างนี้แม่ก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่า เด็กคนนั้นต้องมีอะไรสักอย่างที่ดีพอที่ทำให้ตั้มตัดสินใจแบบนั้น ในทางที่ถูกต้องแม่ก็อยากจะให้ตั้มรักกับผู้หญิงเป็นธรรมดา แต่ว่าทุกวันนี้โลกมันเปลี่ยนไปมาก และจริงอยู่ว่าเรื่องแบบนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับเท่าไรนัก แต่เด็กคนนั้น...วินน่ะ เขาทำให้แม่เห็นว่าเขารักตั้มมากจริงๆ”

“เพราะอะไรครับแม่” นักขัตมองลึกถึงนัยน์ตามารดาเพื่อรอฟังคำตอบ
“ความรักทำให้คนเราเห็นแก่ตัว อยากจะเก็บอีกคนไว้กับตัวเอง อยากแม้กระทั่งจำกัดความคิดของคนรักให้มีแต่ตนคนเดียว แต่วินเสียสละสิ่งนี้ เขายอมทิ้งตั้มเพื่อให้ตั้มได้อิสระนั้น โดยที่เขาเองยอมเป็นฝ่ายเจ็บอยู่คนเดียว”
“แม่พูดเรื่องอะไร” นักขัตขมวดคิ้ว
“จำได้มั้ย เมื่อตอนที่ตั้มพาวินมาที่นี่ครั้งแรกน่ะ พ่อกับแม่รู้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว” หล่อนหยุดพัก เพราะรู้สึกเหมือนกำลังจะสารภาพผิดกับสิ่งที่เคยทำ “พ่อกับแม่ขอให้เขาเลิกกับตั้ม”
ถึงตรงนี้ภาพเหตุการณ์ต่างวิ่งผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็ว นักขัตรู้สึกชาไปทั้งตัว
“และเขาก็ทำอย่างที่พวกเราขอร้องจริงๆ” หล่อนหลับตาลง รู้สึกเหมือนผ่อนคลายจากเรื่องที่ทำให้อึดอัดใจมานาน “จนเขากลับมาที่นี่อีกครั้ง เพียงเพื่อจะอยู่ดูตั้มจนหาย แล้วเขาก็จากไป”
“แม่...” นักขัตมองหน้าแม่ได้เลือนราง เพราะม่านน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
“แม่อยากขอโทษเขาเหลือเกิน แม่ทำร้ายความรักของคนๆหนึ่ง...” หล่อนก็พูดได้เท่านั้นเพราะตีบตันไปหมด
นักขัตยกมือขึ้นกุมล็อกเก็ตที่ห้อยอยู่ตลอดที่ก่อนนี้ไม่รู้ถึงที่มาของมัน

คุกกี้รูปหัวใจที่หล่นบนตักที่มากับรอยยิ้มเหงาๆ
เย็นนั้นที่พายุโหมลมแรง ห้อง 609 กับ 610 ที่ติดกันในหอพัก
เส้นใหญ่ผัดขี้เมาไก่
รับน้องกลางดึก
เพลงที่ร้องด้วยกัน
สัญลักษณ์อินฟินิตี้ที่ตั้งเป็นคำสัญญา
ละครเวที
เล่นน้ำที่เสม็ด
หรือแม้แต่ภัทร...
ทุกภาพความทรงจำที่เหมือนเป็นแค่ภาพสองมิติกลับนูนขึ้นมาเป็นตัวตนเป็นมิติที่สาม...มีคุณค่าและมีความรู้สึกผสานอยู่ทุกหยดเม็ด และความรู้สึกพิเศษที่ล้นทะลักขึ้นมาทันที...รัก


(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

“แม่...ตั้มรักเขา...ตั้มรักวิน” นักขัตโผเข้ากอดอุษาแน่น “ตั้มรักผู้ชาย”
“จ้ะ” อุษาลูบหลังลูก “แม่ไม่ว่าอะไรลูกแล้ว”
“ตั้มจะไปหาวิน” นักขัตยิ้มทั้งน้ำตา
“จ้ะ ไปเถอะ” อุษายิ้มให้ลูก
แต่พอผละจากอ้อมกอดของอุษา สมภพก็ก้าวเข้ามาในห้อง
“พ่อ!” นักขัตอุทาน
สมภพไม่ว่าอะไร เพียงแต่มองหน้าคนเป็นลูก
“พ่อ ตั้มมีเรื่องจะบอก” นักขัตมองสบตา ก่อนจะย่อตัวลงกราบที่เท้า
สมภพไม่ตอบรับอะไร นักขัตจึงพูดขึ้นว่า
“ตั้มกับวิน เรารักกันครับ ตั้มขอโทษที่ทำให้พ่อผิดหวัง”
เพียงไม่กี่อึดใจแต่ดูนานเป็นวัน ทั้งห้องเงียบกริบ ได้ยินเพียงเสียงใบไม้โดนลมพัด
“ภพ” อุษาเอ่ยทำลายความเงียบ แต่ก็ถูกสายตาของสามีห้ามการกระทำ
“ไปเถอะ” สมภพเปิดปาก
“พ่อ” นักขัตแปลกใจ ที่สมภพไม่ห้าม
“ลุกขึ้นมาก่อนเถอะ” สมภพลูบหัวนักขัต
“พ่อไม่ว่าตั้มเหรอครับ” นักขัตยังสงสัย
“พ่อก็เตือนตั้มมาทั้งชีวิตแล้ว จากนี้ไปถึงจะผิดพลาดตั้มก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ตั้มตัดสินใจเองแล้วล่ะ” สมภพหวนคิดถึงวันนั้นที่บันไดหนีไฟ นักขัตผละจากตนไปหาวันชนะ นักขัตยอมเจ็บตัวแทนเด็กคนนั้น ยิ่งตอนกลางคืนได้เห็นสีหน้าลูกยามหลับเหมือนคนมีความทุกข์สุมอยู่ตลอดเวลายิ่งแล้ว ถึงเขาจะหัวโบราณยอมรับเรื่องนี้ได้น้อยกว่าอุษา ก็คงไม่อยากเห็นนักขัตเป็นแบบนี้

“แต่ก่อนที่ตั้มจะไป ตอบพ่อแม่กับตัวเองอีกทีว่าตั้มแน่ใจแล้วนะที่ตัดสินใจอย่างนี้”



(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)


TBC.
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 30-04-2008 14:55:31
ไปเลยตั้ม ไปตามหัวใจของตัวเอง  o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 30-04-2008 15:18:57
พ่อแม่เปิดทางให้แล้ว รีบตามไปเลยก่อนที่เค้าจะหนีไปไม่กลับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบมาอีก
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: vunsenpuklug ที่ 02-05-2008 13:03:06

เริ่มอ่านเมื่อวานนี้ วันนี้ก้อมาอ่านจนทันซะที
พี่บรรยายเรื่องได้น่าติดตาม ดูมีหลายเรื่องให้คิด ชอบตรงนี้มากค่ะ

ตอนอ่านอ่านไปถึงตอนที่วินบอกเลิกกับตั้ม เพราะ พ่อแม่ตั้มขอร้อง
ตอนนั้นรู้สึกเศร้ามากเลย ลองคิดดูว่าถ้าตัวเองเป็นวินจะรู้สึกยังงัย
คงจะเจ็บปวดมากมาก ทั้งทั้งที่รักแต่ก็ต้องปล่อยไป ยอมเจ็บคนเดียว

เฮ้อออ ยังงัยก็อย่าให้เรื่องนี้จบเศร้าเลยค่ะ
ตอนนี้ดูท่าว่ากำลังจะไปได้ดีแล้ว พ่อแม่ตั้มก็ยอมให้แล้ว

พี่ก็รีบมาต่อไวไวนะคะ รออ่านอยู่อย่างใจจดใจจ่อเลย

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 02-05-2008 13:32:51
เมฆฝนเริ่มจางหายแล้วว 
ขอแบบแฮปปี้ๆ หน่อยเถอะน้าคนแต่ง  แบบว่าเศร้ามาทั้งเรื่องเลย แงแง
พอจะแฮปปี้เพิ่งด่วนจบเน้อ

รออ่านต่อน้า หมูพูห์  จุ๊บๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: BEta-K ที่ 02-05-2008 14:00:22
ตอนจบมาแล้วววว  หมูพูห์ ไปเอามาลงด่วนนน  :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 02-05-2008 14:40:17
 :o12: ตอนจบ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 02-05-2008 18:00:52
อ่านไปน้ำตาไหลไป (อินจัด)

สงสารวินกันตั้มมากๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Phoeniz ที่ 03-05-2008 03:37:52
ติดตามอยู่เสมอคับ ถึงแม้จะไม่ค่อยได้เม้นก็ตาม
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* ตอนใหม่ 25 APR 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Joobperman ที่ 03-05-2008 11:34:26
 :serius2: :serius2:

 ตอนจบจ้า...ตอนจบ  อยู่ไหนหนอ   :laugh:  :laugh:

 
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 07-05-2008 16:31:55

45
[/color]


สัญญาณโทรศัพท์ที่บอกว่าหมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ดังผ่านหูเป็นร้อยรอบในแต่ละวัน หมายความว่าวันชนะปิดสัญญาณโทรศัพท์

“โว๊ย!” นักขัตหงุดหงิดจนแทบจะขว้างมือถือตัวเองทิ้งให้พังๆไปเสีย ยิ่งพอมาถึงที่อพาร์ทเมนต์ของวันชนะเห็นกุญแจล็อกแน่นหนายิ่งว้าวุ่น เดินวนไปวนมาหน้าห้องอยู่นานจนตัดสินใจเคาะประตูห้องข้างๆ สักพักก็มีคนออกมา

“เอ๊ะ! มาหาใครคะ” คนในห้องแง้มประตูออกมาด้วยท่าทีระวังตัวเมื่อเจอคนแปลกหน้า
“ขอโทษครับ คือว่าผมมาหาคนที่อยู่ห้องนี้น่ะครับ แต่พอดีเขาไม่อยู่ พอจะรู้ไหมครับว่าเขาไปไหน” นักขัตถาม
“ไม่รู้หรอกค่ะว่าเขาไปไหน” เจ้าของห้องตอบออกมา
นักขัตรู้สึกหมดหวังยิ่งขึ้น ยิ่งหญิงคนดังกล่าวพูดต่อว่า
“เห็นแต่ว่าน้องเค้าเอากระเป๋าเดินทางไปด้วยนะคะ”
หนทางยิ่งตีบตัน

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)
 
“อ้าว’จารย์ แบตมือถือหมดเหรอ” บอสยกมือถือขึ้นมาดูเห็นหน้าจอดำมืด
   “อือ ลืมเอาที่ชาร์ตมาน่ะ” วันชนะปัด ที่จริงเขาอยากปิดเอาไว้ ไม่อยากรับรู้อะไร อยากจะขอพักผ่อนให้เต็มที่ แล้วหลังจากนี้เขาจะเปลี่ยนเบอร์...เพื่อลืมทุกสิ่ง
   “เหรอ อืมๆ” บอสเออออ
   “ไปเล่นน้ำกันดีกว่า ป่ะ” ภัทรเอ่ยชวน “น้ำทะเลกำลังใสเลยล่ะ”
   “ครับ” วันชนะรับคำ
   “เดี๋ยวผมตามไปละกัน” บอสว่าพลางหันไปค้นกระเป๋ากุกกัก
   “ตามใจ” ภัทรว่า

   แล้วภัทรกับวันชนะก็ออกจากบังกะโลไป แต่พอไปถึงวันชนะกลับขอนอนเล่นบนทรายขาวๆก่อน แรกๆภัทรก็นอนเป็นเพื่อนด้วยอยู่หรอก แต่พอเห็นหนุ่มหน้าตาดีหุ่นดีเดินผ่านไปพร้อมกับสายตาที่รู้ความนัย เขาก็ลุกตามลงไปในทะเลทิ้งวันชนะเผลอหลับกลางวันไปคนเดียว

   นานเท่าไรไม่รู้ที่หลับไป แต่ที่รู้คือแม้แต่ในฝันก็ยังมีนักขัตตามมาอยู่ดี 
   ตอนที่กลับมาจากเชียงใหม่ วันชนะตัดทุกสิ่งทุกอย่าง และเพื่อที่จะลืมนักขัตเขาจึงอยากจะหาสักที่เพื่อสลัด ‘เงาตามตัว’ ให้หลุดไป สถานที่ที่ผุดในความคิดคือทะเล และพอดีว่ามีสายของบอสโทรเข้ามาพอดี สบจังหวะสองพี่น้องจะไปเที่ยวทะเลจึงขอไปด้วย
   แต่นึกไม่ถึงว่าสองพี่น้องจะมาเสม็ด กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินจะหันรถกลับ
   การมาที่นี่จึงกลับย้ำเตือน
   แต่ก็เอาเถอะ คิดเสียว่าทะเลก็คือทะเล คลื่นขาวจะซัดความเจ็บปวดออกไป

   “’จารย์ๆ ตื่นๆ” บอสเอานิ้วเขี่ยวแก้ม
   “ว่าไงบอส” วันชนะงัวเงีย
   “มัวแต่นอน ไม่ได้เล่นน้ำกันพอดี” เด็กมัธยมว่า “แล้วพี่ภัทรอ่ะ”
   “ไม่รู้ เห็นลงไปเล่นน้ำแล้วนี่” วันชนะขยี้ตา
   “จะเล่นน้ำไหมล่ะ’จารย์” บอสถาม
   “อือ เล่นดิ เล่น” วันชนะพยายามดันตัวลุก “ดึงหน่อยดิ”
   “ไม่ใช่หน้าที่” บอสว่าแล้ววิ่งลงทะเล
   “อะไร เด็กคนนี้” วันชนะนิ่วหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ที่บอสไม่เล่นด้วย

   แต่แล้วก็สะดุ้งที่มีมือฉุดให้ลุกขึ้น
   ร่างนั้นฉุดแขนเขาให้ลุกขึ้นปะทะกับแสงตะวันจ้าทำให้ตาพร่า ไม่ทันได้ถามไถ่ ร่างย้อนแสงนั้นดึงเขาเข้าไปกอดเสียแน่น
   วันชนะดิ้นตามสัญชาตญาณ แต่ร่างนั้นยิ่งกอดแน่น

   “อย่าหนีผมไปอีกนะ”
   เพียงน้ำเสียงก็ทำให้วันชนะนิ่งงัน
   “ตั้ม” เสียงแผ่วแทบจะไม่ลอดออกมา
   ร่างนั้นจึงค่อยๆคลายวงกอดออก
   “มาได้ยังไง” วันชนะครางสงสัย
   นักขัตพยักเพยิดไปทางบอสในทะเล
   “มือถือไม่ได้แบตฯหมดเสียหน่อยนี่” บอสตะโกนมา
   หลังวันชนะออกไปจากบังกะโล บอสหวังดีจะชาร์ตแบตเตอรี่ให้เพราะเป็นมือถือยี่ห้อเดียวกัน แต่พอกดเปิดเครื่องก็พบข้อความอัตโนมัตขึ้นมากมาย แล้วก็มีสายโทรเข้ามาอีกด้วย
   “ใจร้ายจังเลยนะ กะจะตัดตั้มออกไปจากชีวิตเลยเหรอ” นักขัตล็อกไหล่วันชนะเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนีไปไหน
   “ทำไงได้ล่ะ ก็พอนายจำได้นายก็...” วันชนะพูดได้เท่านั้นแหละ เพราะปากโดนประกบด้วยปาก
   วันชนะรู้สึกร้อนๆที่ใบหน้าเพราะอาย ยังมองเห็นคนรอบๆมองมาอย่างสนใจ
   “ตอนนั้นตั้มเพิ่งหายนะ อาจจะยังจำอะไรได้ไม่เต็มที่” นักขัตมองตาวันชนะราวกับว่าสถานที่นั้นมีเพียงเขาสองคน “ให้อภัยตั้มเถอะนะ”
   “ง่ายไปหรือเปล่าตั้ม” วันชนะทำหน้านิ่งก่อนจะจับมือทั้งสองที่ไหล่ให้ปล่อยออก แล้วจึงทิ้งให้นักขัตยืนค้างกับลมทะเล
   “ไหงทำงั้นล่ะ’จารย์” บอสปรี่เข้ามาตั้งแต่วันชนะเดินลงทะเลมา “ผมอุตส่าห์ช่วย”
   “อย่าพูดถึงเขาเลยบอส” วันชนะเดินลอยหน้าเข้าไปที่น้ำลึกเท่าอกแล้วเริ่มว่าย

   ก็แหม ขอเล่นตัวสักหน่อยเถอะ ไหนๆก็มีคนมาง้อทั้งที วันชนะลอบยิ้มในน้ำ แต่พอแอบมองไปที่เดิมก็ไม่เห็นนักขัตอยู่ตรงนั้นแล้ว มองหาที่อื่นก็ไม่เห็น หน้าเลยม่อยลง
   
   หากแต่ได้ไม่นานสีหน้าก็ดีขึ้นเมื่อเห็นนักขัตไปเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้นเดินลงน้ำมา พอเข้ามาใกล้จึงรีบทำสีหน้าให้เรียบเฉย
   “วิน...” นักขัตเรียกเมื่อมาถึงตัว
   วันชนะทำเป็นไม่ได้ยินพลางว่ายออกห่าง
   “วิน...” นักขัตว่ายตาม
   วันชนะยังทำเป็นไม่สนใจจะพูดด้วย
   “โอ๊ย!”
   วันชนะหันขวับกลับมาเห็นนักขัตตะกายน้ำทุลักทุเล
   “ไม่ตลกนะตั้ม”
   แต่นักขัตค่อยๆจมลงๆ มือก็ตะกายคว้าหาที่จับ วันชนะก็ยังมองเฉยๆ จนกระทั่งนักขัตจมหายไป
   “อย่ามาแกล้งกันหน่อยเลย” วันชนะบ่น

   แต่พอเวลาผ่านไปนานเกินปกติ คนแกล้งจมน้ำก็ไม่มีทีท่าจะโผล่ขึ้นมาจากใต้น้ำเสียที สีหน้าเขาจึงได้ร้อนรนขึ้น จึงได้ดำลงไปดูข้างใต้ก็เห็นร่างนั้นลอยแน่นิ่ง
   “ตั้ม!” เขาร้องใต้น้ำ รีบว่ายเข้าไปดึงร่างนั้นให้ลอยพ้นน้ำแล้วลากเข้าฝั่ง โดยมีบอสตามไปด้วย
   “ตั้ม อย่าเล่นอย่างนี้สิ” วันชนะเขย่าตัวนักขัต อารมณ์วิตกจึงทำให้ไม่เห็นคนจมน้ำยักคิ้วให้สัญญาณกับบอสที่ยืนอยู่ข้างๆ

   คนเริ่มเดินมามุงดูเหตุการณ์
   “ผายปอดสิคะคุณ” หญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้น
   “นั่นสิ’จารย์ ต้องผายปอด...” บอสเสริมพลางจะว่าอะไรต่อแต่ก็หยุด เพราะวันชนะก้มลงเป่าปากนักขัตไปเรียบร้อยแล้ว
   “ตั้ม ตั้ม” พอถอนปากออกมาวันชนะก็ละล่ำละลักเรียก
   “อีกรอบสิ’จารย์” บอสว่า
   “ใช่ค่ะ ใช่” ไทยมุงเห็นด้วย
   “ครับ” วันชนะรับคำแล้วทำอีกครั้ง
   “อืม...” เอ้ะ! วันชนะรู้สึกแปลกๆ
   “เฮ้ย!” คนปฐมพยาบาลดีดตัวผลุงเพราะลิ้นที่สอดเข้ามา นิ่วหน้ามองร่างเปียกน้ำที่มีเม็ดทรายเคลือบตัวทีแล้วมองหน้าบอสทีแล้วก็ทำหน้าบึ้งเดินออกไปทางอื่น
   “วิน!” เสียงนักขัตเรียกตาม
   แต่วันชนะไม่สนใจจะหันตามเสียงเรียก   
         
(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)

   ที่โต๊ะของร้านอาหารริมหาดใช้ตะเกียงเจ้าพายุให้แสงบนโต๊ะ วันชนะ ภัทร บอสนั่งทานข้าวเย็นท่ามกลางลมหัวค่ำค่อนข้างแรง
   “เห็นว่าตั้มมานี่ ไปอยู่ไหนแล้วล่ะวิน” ภัทรถาม
   “ไม่รู้เหมือนกันพี่” วันชนะตอบเสียงอ่อน
   “เค้างอนน่ะ” บอสแทรก
   “บอส” วันชนะหันไปทางคนเอ่ยแทรกพร้อมสายตาที่มีนัยน์ว่าพูดมากเดี๋ยวโดน
   “ให้แต่พอดีแล้วกันนะวิน” ภัทรแนะอย่างเป็นผู้ใหญ่กว่า
   “วินยังไม่ทันได้ทำอะไรเขาเลยนะพี่ภัทร” วันชนะเบ้ปาก ก็แค่ทำหน้าเฉยเมยหน่อยเดียว ใครจะคิดเล่าว่าจะน้อยใจหนีไปแล้ว
   “เอาล่ะ อิ่มกันแล้วเราไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเถอะ เดี๋ยวไปผับที่หาดข้างๆกัน” ภัทรว่า
   ทั้งสองจึงลุกตาม
   
        ผับริมชายหาดเปิดโล่งรับลมทะเลและเสียงคลื่น ผู้คนมากมายทั้งไทยและเทศเต้นรำเข้าจังหวะเพลงแดนซ์ทันสมัย
 วันชนะดื่มเหล้าไปนิดหน่อยพอมึนนิดให้เต้นได้สนุก ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงเหล้าที่หยุดดื่มไปแล้วเหมือนจะทำให้มึนมากขึ้น มองเห็นภัทรเริ่มห่างออกไปเพราะผู้ชายหน้าตาดีมากคนหนึ่งที่เต้นเฉียดกันไปมาเมื่อครู่ เหลือแต่บอสที่ยังอยู่ข้างๆ แต่เอ้ะ! พอมองหาบอสอีกทีกลับเปลี่ยนเป็นนักขัตไปได้ไง

   “เมาแล้วรู้มั้ย” เขาว่า
   “รู้” วันชนะลอยหน้า แล้วก็เซไปเกาะบ่าผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ
   “เป็นไรมั้ยครับ” อีกฝ่ายช่วยพยุงแล้วก็ถือโอกาสโอบเอาไว้เลย
   ไม่รู้อะไรดลใจให้วันชนะเล่นแง่กับนักขัตมากขึ้น อาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ทำให้ภาพตอนนักขัตปัดมือมันเด่นชัดขึ้นมา...จึงได้ชนแก้วสนทนากับคนแปลกหน้า
   โดยไม่หันไปหานักขัตอีกเลย

   สักครึ่งชั่วโมง เมื่ออาการเมาเริ่มสร่าง จึงรู้สึกว่าคุยอยู่กับใครก็ไม่รู้และเมื่อรู้สึกว่ามือเขารุ่มร่ามเกินไปจึงได้ตีตัวห่างออกมา
และเพิ่งจะได้นึกถึงนักขัต...แต่หันไปไม่เห็นเขาเสียแล้ว

   “เพื่อนเหรอ’จารย์” บอสเพิ่งกลับจากไปเดินริมหาดมา เห็นว่าวันชนะอยู่กับนักขัตก็อยากจะให้ได้ปรับความเข้าใจกัน แต่เมื่อกี้เห็นนักขัตเดินคอตกผ่านหน้าคนเดียวไปจึงกลับมาดู
   “อืม” วันชนะไม่อยากสาวความ “กลับกันเถอะ”
   “อ้าว” บอสงง “ไม่ต่ออีกหน่อยเหรอ”
   “งั้นไปก่อนละ” พูดจบก็เดินดุ่ยออกมาไม่สนใจว่าจะทิ้งบอสเอาไว้
   “เฮ้! ’จารย์” เสียงตะโกนดังตามหลัง
   
    จนกลับเข้ามาในห้องที่มืดสนิท
   “อ๊ะ!”
เขาสะดุ้งเมื่อมือที่ควานหาสวิทซ์ไฟโดนเข้ากับร่างของใครคนหนึ่ง “ใครน่ะ!”
   ร่างปริศนาไม่ตอบคำถามสั่นๆนั้นแต่กลับตรงเข้ากอดอย่างแน่น นั่นถึงทำให้วันชนะอ่อนลง
   “ตั้มเหรอ” เสียงถามอ่อนลง
   “เดี๋ยวนี้ร้ายจังเลยนะ” เสียงแผ่วที่ข้างหูพร้อมกับจูบที่ข้างแก้ม “วินยกโทษให้ตั้มเถอะนะ ตั้มขอโทษที่ทำไม่ดีกับวินวันนั้น นะครับ” ไม่พูดเปล่าคนขอลุแก่โทษพรมจูบไปด้วย
   “เปิดไฟก่อนสิตั้มอย่างนี้มันแปลกๆ” วันชนะพูดจบก็โดนจูบแบบจู่โจมที่ปาก
   ไฟเปิดสว่าง จากนั้นนักขัตจึงพาร่างในวงกอดไปที่เตียง ค่อยๆนั่งลงด้วยกัน มองหน้ากันอย่างเต็มตา
   “เราสองคนรอวันนี้มานานมากแล้วนะวิน อย่าเสียเวลาอีกเลยนะ” นักขัตจับที่แก้ม
   “แล้วคุณลุงกับคุณน้า...” วันชนะหวนคิดถึงปัญหา
   “พวกเขาไม่ว่าอะไรแล้ว” นักขัตสบตานิ่ง พูดอย่างหนักแน่น
   เท่านั้นแหละ เหมือนคนโดนล่ามโซ่มานานนับปีถูกปลดปล่อย วันชนะโผเข้าหานักขัตโดยทันที
   “ฮือ...”
วันชนะร้องไห้อย่างไม่อาย พูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า “จริงๆนะ วินรักตั้มได้แล้วใช่มั้ย”
   “ต่อจากนี้จะไม่มีใครมาห้ามไม่ให้เรารักกันอีกแล้วล่ะ” นักขัตลูบหลังอย่างทนุถนอม
   นานกว่าชั่วโมงที่กอดกัน จูบกัน หอมกันอย่างแสนรักใคร่
เพลงรักเริ่มอย่างนุ่มนวลเปลี่ยนเป็นร้อนแรงด้วยแรงปรารถนาที่ดึงดูดคนทั้งสองให้เต้นรำไปกับจังหวะของมัน...
   
“หนาวมั้ย” คนกอดถามคนถูกโอบ
   “กอดอยู่อย่างนี้จะหนาวได้ยังไงกันล่ะ” วันชนะเงยหน้าเห็นจมูกโด่งอยู่เหนือศีรษะ
   “ไม่น่าเชื่อเลยรู้มั้ยตั้ม ว่าเราจะมีวันนี้” วันชนะทิ้งน้ำหนักลงกับอกของนักขัตอีกจนสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจ
   “ถ้าก่อนนี้รู้ว่าวินทิ้งตั้มไปเพราะเหตุผลอะไรกันแน่ ตั้มจะไม่ปล่อยให้เราต้องจากกันนานขนาดนี้หรอก จากนี้ไปมีอะไรขอให้วินบอกตั้มเถอะนะ อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว เพราะตั้มจะไม่ปล่อยให้วินต้องสู้เพียงลำพังอีกแล้ว แต่เราจะฟันฝ่ามันไปด้วยกันนะ” นักขัตพูดที่ข้างหู “สัญญากับตั้มนะ”
   “อืม สัญญาครับ” วันชนะยกนิ้วก้อยให้

   นักขัตเกี่ยวนิ้วก้อยที่ยื่นมานั้นด้วยนิ้วก้อยของเขาเอง ความรู้สึกของคนรักสองคนเรียงร้อยเข้าด้วยกัน มันเป็นมากกว่าคำสัญญาใด เพราะเขากับวันชนะจะปฏิษัติต่อกันด้วยหัวใจ คำพูดของพ่อที่เอ่ยเมื่อตอนก่อนออกจากบ้านหวนมาอีกครั้ง...พ่อถามว่าเขาแน่ใจแล้วหรือ...เขากำลังพูดให้วันชนะฟังเหมือนกับที่ตอบคำถามของพ่อ

   “ในชีวิตของตั้มไม่มีสิ่งใดแน่นอนยิ่งกว่าวินอีกแล้ว”


(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-05-2008 16:50:49
จบแบบไม่รู้ตัวจริงด้วย  o7 o7 o7
แต่แฮปปี้แบบนี้ก็โอเคละนะ   :oni1: :oni1: :oni1:

ขอบคุณ คุณโอนิมารุ สำหรับเรื่องราวดีๆ
ขอบคุณ พูห์ที่นำมาลงให้อ่านกัน

ขอบคุณมากๆค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Joobperman ที่ 07-05-2008 16:56:35
  :m1: :m1:
 จบได้อย่างมีความสุข หลังจากวิน ต้องเศร้ามานาน
 เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความรัก ย่อมเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆได้เป็นอย่างดี
 ขอเพียงเราไม่ท้อถอยเท่านั้นเอง

 ขอบคุณนักเขียน และ คนโพส ที่แต่งและนำเรื่องดี ๆ มาให้อ่าน
 ขอมอบ :L2: :L2: 2 ช่อให้ คุณโอนนิมารุ และ คุณ Junrai_Hyper นะคะ
  :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 07-05-2008 17:06:30
จบแล้วจริงๆ ด้วย 
ว่าแล้ว ว่าเศร้ามาตลอดเรื่อง  พอจบแล้วจบเร็วจัง  แงแง 
ยังไม่ทันได้สำลักความสุขเลย 555+
แต่ยังไงก็ชอบเรื่องนี้จ้า  ซาบซึ้งดี

ขอบคุณคุณโอนนิมารุ
ขอบคุณหมูพูห์นะจ๊ะ  อิอิ 

จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 07-05-2008 17:19:40
ถึงจบแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ให้อภัยเพราะจบไม่เศร้า  :m4: :m4:

ขอบคุณหมุพูห์ คุณ โอนนิ มากๆจ้า รอติดตามผลงานต่อนะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 07-05-2008 18:45:32
 o7 o7 สมกับที่เฝ้าอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ  คู่นี้รักกันเจงๆเลยนะครับ  :m12: :m12:

ขอบคุณนะครับทั้งคนแต่งทั้งคนโพสต์เลยครับ  :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 07-05-2008 19:21:24
ดีใจจังที่จบแบบแฮปปี้อย่างนี้ ติดตามเรื่องนี้แบบเศร้าๆ มาเป็นปีเลยในที่สุดความรักก็สมหวัง
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอน$
เริ่มหัวข้อโดย: BEta-K ที่ 07-05-2008 19:56:27
 :serius2:

ขออนุญาตอีดิทนะครับ

สปอยคนอ่านไปนิดหนึ่ง

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: poochai ที่ 07-05-2008 22:22:39
 :oni1: ดีจัยจัง จบแบบแฮปปี๊เอ็นดิ้ง เป็นเรื่องแรกที่อ่านแล้วมีความสุข อ่านอ่านจบ อิอิ :m4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Haney ที่ 07-05-2008 22:28:01
ตกใจ
จบซะแล้ว รู้สึกใจหายเหมือนกันนะเนี่ย
แต่ก็ดีใจที่จบแบบhappy
เฮ้อ สิ้นสุดกันทีชีวิตที่เต็มไปด้วยอุปสรรค :a1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: nanahashi ที่ 07-05-2008 22:55:46
 จบแบบนี้ดีอ่ะ ในที่สุดทั้งคู่ก็มีความสุขซักที หลังจากผ่านอุปสรรคกันมามาก
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 08-05-2008 00:20:38
จบแบบประทับใจมากเลยยยยยยยยยยยยยยยย ติดตามมาตั้งนาน ดีใจจังเลยค้าบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Eis ที่ 08-05-2008 03:11:19
โอยยย..หวาน  :o8:

ขอบคุณมากๆ ครับผม ที่เขียนจบจน ถึงจะกระทันหันแบบไม่ตั้งตัวจริงๆ ก็ตาม.. ทีแรกผมนึกว่าเรื่องนี้จะไม่จบด้วยนะครับ แห่ะ.. สนุกมากนะครับ ไว้มาเขียนตอนพิเศษ หรือไม่ก็เรื่องอื่นให้อ่านอีกนะครับผม ขอบคุณอีกครั้ง  o13
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: โอนริโอ้ ที่ 08-05-2008 11:16:36
คือว่า จริงๆว่าจะจบแบบเศร้าๆนะครับ
แต่ว่าคิดแล้วว่า ชีวิตรักของเกย์มันเศร้าๆอยู่แล้วล่ะนะ
และนิยายส่วนใหญ่ที่เป็นเรื่องเกย์ก็จะจบแบบเศร้าๆดราม่าๆมาตลอด
แล้วทำไมเราจะต้องตอกย้ำเรื่องเศร้าพวกนี้ด้วยนะ
เลยจบแบบมีความสุขดีกว่าเนอะ

 :oni2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-05-2008 11:22:10
คือว่า จริงๆว่าจะจบแบบเศร้าๆนะครับ
แต่ว่าคิดแล้วว่า ชีวิตรักของเกย์มันเศร้าๆอยู่แล้วล่ะนะ
และนิยายส่วนใหญ่ที่เป็นเรื่องเกย์ก็จะจบแบบเศร้าๆดราม่าๆมาตลอด
แล้วทำไมเราจะต้องตอกย้ำเรื่องเศร้าพวกนี้ด้วยนะ
เลยจบแบบมีความสุขดีกว่าเนอะ

 :oni2:

คนแต่งมาเอง

ขอบคุณคร้าบบบบบบ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 08-05-2008 12:01:15
จบซะที   :m4: :m4:  หลังจากรีดน้ำตาจากเราไปได้หลายปี๊บ ? o7 o7

  ในที่สุด ก็ Happy End จนได้นะ   :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Otaku ที่ 08-05-2008 14:33:09
 :m1: :m1: :m1:

เย้ๆ  จบแบบHappy

อยากอ่านตอนพิเศษอ่ะ 
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 08-05-2008 14:48:16
จบได้ประทับใจมาก

จะมีตอนพิเศษไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: berrykiss ที่ 08-05-2008 14:49:17
เอ๋ จบแล้วเหรอ จบแบบกระทันหัน ยังดีที่ไม่เศร้า เพราะเรื่องนี้ทำเราเสียน้ำตาไปหลายหนแล้ว  o13
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 08-05-2008 15:58:55
 :m25: อยากอ่านตอนกุ๊กกิ๊ก ๆ อีกอ่ะ  :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: ^ - ^A s A v I n * o * ที่ 08-05-2008 22:27:01
ง่า  ดีใจมากมาย จบแบบมีความสุข

ขอบคุณทั้งคนแต่ง คนโพส เลยนะครับบบ

สนุกมากมายยยย

ว่าแต่

ไม่มีตอนพิเศษหน่อยเหรอครับ แหะๆ จะรอนะครับบบบบ

คนโพส ขอคนแต่งให้หน่อยจิครับ

แหะๆๆๆ

อยาก่อานๆๆๆๆ  :laugh:

ขอบคุณครับบบ

สำหรับเรื่องดีๆ  o13
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: nai_nai ที่ 08-05-2008 22:41:13
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Khai_1979 ที่ 09-05-2008 02:03:42
ขอบคุณครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ post เลยนะครับ คือแบบว่าก่อนนหน้านี้ post ไม่เป็นอะครับ

ต้องขอโทษนักเขียน และนัก post ทุกคนด้วยนะครับ ที่มาแอบอ่านตลอดเลย

แต่ต่อไปนี้ขอสัญญาครับ ว่าจะ post ขอบคุณบ่อยๆ นะครับ ให้อภยผมเถอะนะครับทุกท่านครับบบบบบบบ :oni3:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: beboy ที่ 09-05-2008 03:16:38
ขอบคุณมากครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: noknoii ที่ 09-05-2008 17:52:05
ขอบคุณครับ
เพิ่งมาอ่านคับ อ่านแรกๆก็ชอบแล้ว น่ารักจริงๆ :o8:


ผมว่าคุ้นๆนะ มหาลัยนี้ สัมผัสได้จากหลายสิ่ง ฮ่าๆๆๆ

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: ~@มาวินฮับ@~ ที่ 10-05-2008 06:54:29
ขอบคุณมากเลยคับตอนนจบทำให้เราร้องเลยชอบมากเลยคับแล้วจะรอเรื่องต่อไปนะฮะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: nooww ที่ 10-05-2008 09:48:04
 :เศร้า2:   กว่าจะจบ :เศร้า1: ร้องไห้ซะ 


น้ำตาเกือบท่้วมห้อง อะ


แต่ก็จบลงไ้้ด้ดี   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: BABY_CHICK ที่ 12-05-2008 00:28:12
 :m4:อ่านรวดเดียวจบเลย ก็เคยอ่านมาหลายบอร์ดแล้ว ล่ะ อ่านทีไร ก็ซึ้งทุกที ชอบที่คนแต่ง แต่งได้ ซาดิสม์ จริงๆ  คนเรา อุปสรรคเย้อ เยอะ แต่สุดท้ายก็ได้รักกัน ชีวิต จริงๆ จะโหดร้ายอย่างนี้หรือเปล่า น้า

 เป็นกำลังใจ ให้คนที่มีความรัก ทุกคนครับ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 12-05-2008 03:41:58
เรื่องนี้เศร้า :sad2:เกือบทั้งเรื่อง

แถมยังมีอุปสรรคอีกมากมาย

อ่านทีน้ำตาไหลตลอด :o12:

ยังดีที่จบแบบแฮปปี้  o13

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 7 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-05-2008 12:56:33


ส่งท้าย
[/color]


“เรียบร้อยรึยังตั้ม เดี๋ยวไม่ทันนะ”
เสียงตะโกนเรียกดังจากชั้นล่างของบ้าน สักพักนักขัตจึงเดินลงบันไดมา ร่างสูงหล่อเหลาอยู่ในชุดทำงาน “อืม”
“วันนี้คงกลับดึกหน่อยนะ” นักขัตไม่บอกเหตุผล จากนั้นก็ตรงออกจากบ้านไปเลย
จนเสียงรถยนต์หายไปกับถนน วันชนะจึงได้นั่งที่โต๊ะแล้วกินเข้าเช้าคนเดียว ต้มข่าไก่ที่อุตส่าห์ลงมือทำเองดูเหมือนจะจืดชืดไปเสียสนิท

แปดเดือนที่ย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ด้วยกัน เจอหน้ากันทุกวัน บอกรักกันทุกวัน อาจทำให้นักขัตเบื่อเขาแล้วก็ได้ เคยเจอมาเยอะเหมือนกัน คู่รักที่เลิกรากันเพราะเบื่อน้ำพริกถ้วยเก่า แต่เขาไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลยสักนิด นับวันยิ่งจะรักนักขัตมากขึ้นๆจนแทบจะทะลักออกมา กลัวเหลือเกินว่ายิ่งนานวันความรักที่นักขัตมีให้จะลดลงจากร้อยไปหาศูนย์ และประเมิณจากสถานการณ์หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ชี้ว่าความสัมพันธ์อยู่ในขั้นวิกฤตเสียแล้ว ยิ่งตอนนอนเขาหลับอย่างรวดเร็ว ไม่สนที่จะจิ๊จ๊ะกันก่อนนอนนั่นยิ่งทำให้วันชนะคิดมาก ระแวงไปสารพัด ความคิดน่ากลัวอย่างหนึ่งคือนักขัตนอกใจ โดยเฉพาะปกติวันเสาร์เขาไม่เคยออกไปทำงานมาก่อน

จนบ่ายสามโมงวันชนะสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ ในบ้านดัง เขาหยิบรีโมทมากดปิดทีวีที่เปิดค้างเอาไว้ก่อนจึงค่อยเดินไปรับสาย

“วินพูดครับ” พูดจบก็ปิดปากหาว
“ตั้มเองนะ ขอโทษทีนะวิน พอดีว่าตั้มลืมแฟ้มงานอันหนึ่งน่ะ วางอยู่ในลิ้นชักที่โต๊ะทำงาน วินช่วยเอามาให้หน่อยได้มั้ย ตั้มปลีกตัวไปจากที่นี่ไม่ได้จริงๆ” เสียงปลายสายฟังดูรีบร้อนมากๆ
“ได้สิตั้ม ชั่วโมงนึงนะ” วันชนะรับคำ

มันน่าน้อยใจไหมล่ะ พอเอามาให้ที่หน้าบริษัท นักขัตออกมาเจอโดยคุยมือถืออยู่ตลอดเวลาปล่อยให้วันชนะยืนเงียบอยู่เป็นสิบนาทีกว่าจะวาง
“ขอบใจมากนะ” นักขัตพูดเท่านั้นก็มีสายเข้ามาอีก “กลับไปได้แล้วล่ะ” เขาไล่วันชนะก่อนจะอมยิ้มมองสายที่โทรเข้ามาแล้วกดรับพร้อมกับเดินหายเข้าไปในบริษัท
อะไรกัน คิดว่าเขาเป็นอะไรกันเนี่ย ไม่ใช่คนรับใช้นะ วันชนะทั้งงอนทั้งน้อยใจ แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไรมากไปกว่านั้นมือถือของตัวเองก็มีสายเข้า
“ว่าไงบอส” วันชนะกดรับ
“ไปดูหนังกันป่าว” ปลายสายชวน “วันเสาร์ทั้งทีนา อย่าจำเจอยู่กับพี่ตั้มทั้งวันเลยนะ”
“จำเจอะไรกัน เขาไม่อยู่บ้านเสียหน่อย” วันชนะกระแทกเสียงใส่
“อ้าว กรรม ทะเลาะกันเหรอ มาระบายใส่ผมถูกมั้ย” บอสพูดด้วยน้ำเสียงกวนสุดๆ
“แค่นี้นะ” ก่อนจะกดวางสายวันชนะยังทันได้ยินเสียงเอะอะของบอสจึงยกมือถือขึ้นมาคุยต่อ
“แหม แซวเล่นหน่อยเดียว โกรธซะมากมาย อ่ะ ไถ่โทษ จะเป็นฝ่ายเลี้ยงหนังละกัน เจอกันที่โรงหนังนะ โอเคนะ” บอสวางสายไปเลยเป็นการมัดมือชก

วันชนะถอนใจให้นิสัยไม่รู้จักโตของบอส เรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งแล้วแท้ๆยังทำตัวเป็นเด็กมัธยม ในเมื่อเห็นประโยชน์มากกว่ากับการไปดูหนังกับบอสเขาก็ตรงไปยังที่นัดหมาย
กว่าหนังจะจบก็เกือบสองชั่วโมง ขากลับรถก็ติดทั้งที่เป็นวันเสาร์แท้ๆ สุดท้ายกว่าจะมาถึงหน้าบ้านก็มืดแล้ว ถอนใจไปหนึ่งเฮือกใหญ่ๆก่อนจะไขกุญแจเข้าบ้าน...เหงาเหลือเกิน

แต่พอเข้าไปในบ้านวันชนะก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ
กลิ่นกุหลาบอบอวลไปหมด มือรีบควานหาสวิทซ์ไฟแล้วกดเปิด
พอได้เห็นน้ำตาแทบจะไหล ดอกกุลาบแดงเต็มบ้านไปหมด!

“ปิดไฟดีกว่านะที่รัก” นักขัตเดินออกมาจากอีกห้อง มือข้างหนึ่งถือเชิงเทียนที่จุดเทียนสว่างนวล อีกมือมีกุหลาบสีขาวสด
วันชนะยังค้างอยู่จนนักขัตเดินเข้ามาใกล้
“ตั้มขอปิดไฟนะ” เขาเลยไปปิดไฟแล้วกลับมาที่ตรงหน้าวัน แล้วจึงพากันไปที่โซฟา เชิงเทียนถูกวางไว้ที่โต๊ะตรงหน้า
“ไปดูหนังกับบอสสนุกมั้ยครับที่รัก” นักขัตจูบริมฝีปากอย่างนุ่มนวล
“อ๋อ วางแวนเอาไว้เหรอ” วันชนะทำท่าฮึดฮัด
“ก็จะได้มีเวลาขนดอกกุหลาบเข้ามายังไงล่ะ” นักขัตตอบ
“วันนี้ไม่ใช่วันเกิดวินสักหน่อยนะ” วันชนะเริ่มยิ้มได้
“ก็ไม่ใช่นี่ วันเกิดวินเดือนหน้า วันนี้วันครบรอบที่เราเจอกันต่างหากล่ะ” นักขัตจูบที่ปากวันชนะอีกครั้งและได้รับการตอบสนองอย่างอ่อนนุ่มเช่นกัน
“นึกว่าจะมีแต่วินจำได้อยู่คนเดียวเสียอีกนะ” ที่จริงวันชนะไม่คิดว่านักขัตจะเห็นความสำคัญของวันนี้ เขาจึงไม่อยากเอามาตั้งเป็นวันพิเศษ โดยเฉพาะที่นักขัตทำเฉยชาใส่ ว่าแล้วก็อยากจะทดลองฟังคำอธบาย “แล้วพักหลังนี่ ดูหมางเมินใส่วินเพราะแผนนี้ด้วยหรือเปล่า”
“คิดว่าตั้มแอบไปมีคนอื่นล่ะสิ” นักขัตรู้ทัน
“ก็ตั้งใจจะให้คิดอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ” วันชนะเริ่มงอนอีกแล้ว
“วิน...ที่รักจ้ะ ตั้มไม่คิดจะมีใครอื่นอีกแล้วล่ะ ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่สิบปีก็ตามตั้มก็จะมีวินคนเดียวนี่แหละครับ เชื่อใจตั้มนะ”
วันชนะยิ้มทั้งยินดีและทั้งเขินปะปน

“และเพื่อพิสูจน์ว่าที่ตั้มทำเฉยใส่เป็นหนึ่งในแผนการเซอร์ไพรส์ครั้งนี้...” นักขัตลากเสียงพร้อมทำตาเจ้าเล่ห์ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงว้อนท์สุดๆว่า

“มานี่เลยวิน ตั้มอดทนมาตั้งเจ็ดวันแน่ะ”





อวสาน
[/color]

(http://www.freewebtown.com/ownni1022/nititonnam.JPG)
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: BABY_CHICK ที่ 12-05-2008 21:07:36
 :m4: :m24:มาช่วยส่งท้ายครับ

 ขอให้ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร

 มีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง นะครับ ตั้ม - วิน อิ อิ

                                                :L2: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: zaphir ที่ 13-05-2008 03:58:19
 :oni1: เย้ๆๆ ดีจัยจังได้อ่านตอนจบแร้ว ตามอ่านมาตั้งแต่ xq28 แร้วววคร้าบบบ ขอบคุณคับ :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 13-05-2008 14:48:28
 :m1: อิ่มอก อิ่มใจจ้ง พอได้อ่านเรื่องนี้จบ ......เต็มอิ่มจัง  :o8:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: tenjoin ที่ 13-05-2008 19:29:08
ง่า จบสะละ

ขอบคุณนะคับที่เอาเรื่องดีๆอย่างนี้มาให้อ่าน

(อ่านไป ร้องไห้ไปคับ)

ซึ้ง จิงๆคับ

 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 13-05-2008 20:09:35
ชอบมากหวานกันดี  ขอให้รักกันมากๆนะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: meawmeaw ที่ 13-05-2008 23:11:56
มาอ่านตอนพิเศษ  :o8:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: sirasyung ที่ 13-05-2008 23:35:54
โอววว..จบซะและ

ไม่เคยอ่านนิยายเรื่องไหนข้ามวันข้ามคืนเลย o2
ซึ้งงงงง..... บ่อน้ำตาแตกไปหลายตอน  o7
ขอบคุณนะคับที่เอานิยายดี ๆ มาลงให้อ่าน o13

แล้วจะติดตามเรื่องต่อ ๆ ไปนะคร๊าบ :oni2:   
:bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 15-05-2008 23:24:58
ho ho ho ห้องนี้มีอะไรดีกว่าที่คิดแฮะ ได้อ่านตอนพิเศษแล้ววววววววววววว  :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: ๐DoNuT๐ ที่ 16-05-2008 21:56:00
โฮซึ้งมากครับบบบ o7
ชอบมากครับที่เรื่องนี้จบแบบไม่เศร้า=w=
แต่แอบสงสารพี่ภัทรนิดนึงนะ 555+
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Otaku ที่ 17-05-2008 06:50:51
 :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Arbutis ที่ 18-05-2008 03:45:27
ตอนจบ
 :m1: :m1:
หวานจนจะเป็นเบาหวานแล้วเนี้ย อิอิ :m1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: zilveria ที่ 26-05-2008 04:04:10
จบได้สวยงามจิง ๆ คับ
ขอบคุณที่เขียนเรื่องดี ๆ ให้อ่านนะคับ
เล่นเอาน้ำตาแตกเลยทีเดียว เหอๆ
 :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: HydrA ที่ 08-06-2008 16:48:39
รักต้องอดทนจริงๆแต่ในที่สุดก้อ
เข้าใจกัน
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 17-06-2008 15:59:52
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

HappY HaPpy

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Ryuse ที่ 18-06-2008 22:58:52
บทพิสูจน์รักแท้ของเรื่องนี้มีเยอะดี ชอบๆ ยิ่งตอนที่วินตามไปดูแลถึงที่บ้าน อ่านแล้วอยากถอดใจแทน

คงต้อง . .  . เร้นกาย ไปฝึกจิตให้เข้มแข็งซะก่อนแล้ว

รับมือกับพ่อแม่ตัวเองเนี่ยแหละ  :a6:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: To_Feel ที่ 19-06-2008 00:25:06
 :L2:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: To_Feel ที่ 22-06-2008 01:04:28
 o13

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: To_Feel ที่ 23-06-2008 08:41:59
 o13 o13 o13

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: To_Feel ที่ 27-06-2008 19:44:03
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Sameejaejung ที่ 20-07-2008 18:10:01
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

 :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:

ในที่สุดก็จบลงด้วยดี

อิอิ

รักตั้มก่าวินที่สุดเลย

แบบว่าไม่อยากจะเอ่อยว่าเราอ่ะไม่ค่อยจะชอบนิยายที่แบบเศร้าๆแบบนี้อ่านะ

แต่ว่าไม่รู้ทำไมพอได้อ่านเรื่องนี้มันทำให้เราติดตามอยากอ่านไปจนจบ

เฮ้อ.....สุดยอดจริงๆ

ทราบซึ้งในความรักของตั้มก่าวิน

แต่แอบเกลียดพ่อแม่ตั้มอ่านะ

ถ้ามีจริงๆเด๋วไปจับตบเลยคอยดู....ฮึ่ย.....

จะว่าไปชักอยากจะเป็นเกย์แล้วซิ

อิอิ

ยังไงขอให้คนแต่งสู้ๆละกันน้า

จะติดตามผลงานเรื่องอื่นต่อไป

ไฟติ้ง!!!!!!

หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 24-07-2008 23:31:16
 o13  o13  o13  o13 นายแน่มาก....
   แล้วจะติดตามผลงานต่อไปคับ.... :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Doodleberry® ที่ 11-08-2008 14:31:55
สนุกมากๆเลยค่า   :m4:

ลุ้นแทบตายแหน่ะ

อิ อิ

ในที่สุดก็  :a2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: echisen ที่ 12-08-2008 21:16:39
อ่านจบแล้วฮับบ เปงเรื่องที่ซึ้งมากๆๆอ่ะ นึกว่าจะจบแบบเศร้าสะแล้วววว สนุกมาเลยฮับ น่ารักด้วย ชอบๆๆๆๆ
เปงอะไรที่ซึ้งมากเลยอ่ะ  o13 o13 รออ่านเรื่องต่อไปอยู๋ฮับ

ปล. อ่านไปลุ้นไป ทำเอาเกือบหัวใจวายแน่ะ อิอิ :bye2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Sameejaejung ที่ 14-08-2008 20:32:59
รักเรื่องนี้มากเลยอ่ะ

ซึ้งสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

ชอบวินก่าตั้มมากมายอ่า

ลุ้นอยู่ตั้งนานในที่สุดก้อรักกันจนด้าย

อิอิ

ว่าแต่มะมีภาคพิเศษต่ออีกหรอเนี่ย
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: To_Feel ที่ 22-08-2008 23:46:44
 o13

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: ByakuyA ที่ 21-10-2008 01:46:59
พึ่งได้เข้ามาอ่านวันนี้เอง

เรยอ่านแบบรวดเดียวจบ

ซึ้งมากมายอ่ะคับ

อยากมีแฟนแบบนี้มั่งจัง
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: bbboy ที่ 25-11-2008 21:33:22
สนุกมากครับ ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ o13
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: hasuzz ที่ 27-11-2008 22:05:00
อยากมาเม้น ...
ให้เป็นหลักฐานว่าเรื่องนีั้ทำเค้าเสียน้ำตา

กาซิก .. กาซิก

เนี่ย ยังไม่ทันจะแห้งเลย


 :L2: :L2:
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 01-12-2008 05:37:11
จบแล้ว ชอบจังเลย
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: kyoshiro ที่ 03-12-2008 20:12:06
อ่านสองวันรวดเลย
อ่านไปอ่านมา บางช่วงก็คล้ายเรื่องของตัวเอง
แต่ช่างแมร่งแล้วคับ คงไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมอีก
ทั้งที่....

แล้วจะแว้ปเข้ามาอีก
ขอบคุณคับ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Sameejaejung ที่ 27-12-2008 18:27:27
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


ซึ้งมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก


ซึ้งที่สูดดดดดดดดดดดดดดดดด


อ่านไปร้องไห้ไป


อารายจะเศร้าขนาดน้านนนนนนนนนนนนนนนนนน


แบบว่ามาอ่านรอบสองก็ยังเศร้า


โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกก :m15: :m15: :m15:


ปล.ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆอีกหนึ่งเรื่องนะคะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: runglovely3 ที่ 28-12-2008 13:27:57
ชอบมากๆๆๆๆๆเรย  ตั้มกะวินน่ารักที่สุด อ่านหลายรอบแล้ว :impress2:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: l3iZal2l2e ที่ 12-01-2009 04:09:29
อ่านรวดเดียวจบเลยย
สนุกมากกกก
ร้องไห้ตลอดเรื่องเลยยย

ซึ้งมากกกก
ชอบตอนที่วินร้องเพลง eyes on me มากๆเลยค่ะ

อ่านๆไปจนจบ นึกถึงเพลง ฉันดีใจที่มีเธอ ตลอดเวลาเลย
ซึ้งงงง

.
.
.

.

ในอุปสรรคที่มากมาย... ในความหวาดหวั่นที่วุ่นวาย ในอนาคต ในปัจจุบัน และอดีต ..
ในความเจ็บปวดที่ต้องเจอ ... ที่ไม่เคยพ้นไปสักที ยังไม่รู้พรุ่งนี้ต้องเจอกับเรื่องใด ...

" แต่ยิ่งชีวิตยิ่งผ่าน ยิ่งได้พบยิ่งเจอ กลับทำให้ฉันยิ่งคิดแน่ใจ "

ฉันดีใจที่มีเธอ ฉันดีใจที่เจอเธอ
เธอคือกำลังใจเดียวที่มี ไม่ว่านาทีไหน ๆ
ฉันดีใจที่มีเธอ แม้จะต้องพบอะไร

ฉันก็รู้และฉันอุ่นใจ ว่าฉันนั้นจะมีเธออยู่...กับฉัน...


ฉันดีใจที่มีเธอ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: nonzkung ที่ 09-04-2009 00:57:02
 :oo1: :oo1: :oo1:

ชอบคับๆๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: am_ma ที่ 19-04-2009 11:27:54
อ่าส์... :pighaun: :pighaun:

สนุกมาก ๆ เลยคะ

ขอบคุณที่มาลงคะ 
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: หอยทาก ที่ 10-08-2009 00:22:48
เรื่องนี้ทำเค้าน้ำตาตกในอ่า แงๆๆ
แง่ว ซึ้งเกิ๊นนนนน
อ๊ากกกก สำหรับผมขอยกเรื่องนี้เป็นนิยายเรียกน้ำตา
ดีเด่นเยยเอ้า แง๊ แงแงแงแง
(ใกล้บ้าละ แบบว่าอารมณ์ค้างนานเกิน)
 :sad4:  :sad4:
แต่อตนพิเศษแอบหื่นนะ เหอๆ
 :o8:
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: Hamura ที่ 17-10-2009 02:10:10
น้ำตาแตกเลย
ยากจะมีคนรักเราได้อย่างนี้จริง ๆ
ยากที่จะให้คนอื่นเข้าใจ
ยากที่จะยอมรับ
ยากที่จะกั้นน้ำตาไม่ให้ไหล

ขอบคุณจริง ๆ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: กฤช ที่ 28-11-2009 23:10:15
อิอิ
กลับมาซึมซาบนิยายของตัวเองอีกครั้ง
นี่เราเขียนนิยายได้ซาบซึ้งสนุกขนาดนี้เรยเหรอเนี่ย
อิอิ

 :-[

กะลังเริ่มเขียนเรื่องใหม่นะคับ
แล้วจาเอามาลงคับ


โอนนิมารุ
โอนริโอ้
กฤช
ไร่เตยสวนกุหลาบ

คนเดียวกันคับ

ปล. เรื่องนี้ผมได้พิมพ์เป็นเล่มแล้วนะฮะ (พิมพ์เองคับ) ออกแบบปกเอง แล้วก้อเรียบเรียงใหม่บางส่วนให้ดีขึ้นนะฮะ อยากได้เป็นของขวัญเพื่อนก้อบอกได้นะฮะ ^_^

เจอกันเรื่องให่เร็วๆนี้นะคับ
อยากได้แบบสนุกๆรึดราม่ารันทดกันดีคับ
55+
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 29-11-2009 19:09:01
 o13 o13 o13

สนุกมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: comprivate ที่ 06-05-2010 21:05:47
สวัสดีครับ...Junrai_Hyper™&โอนริโอ้
              อยากบอกครับว่านิยายของคุณสนุกมากๆนะครับ ผมร้องไห้ด้วยแหละซึ้งมากๆอ่ะ ชีวิตรักของผมจะมีใครที่ดีเหมือนตั้มไหมนะ เอแต่ผมก็ยังไม่มั่นใจเลยนะว่าตัวเองจะเป็นพระเอกหรือนายเอก 55
              ปล. ขอบอกอีกครั้งว่าเรื่องนี้ o13 o13
หัวข้อ: Re: [novel] แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth* เพิ่มตอนพิเศษ 12 MAY 2008
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 14-09-2010 17:42:32
เรื่องนี้ทำเอาเราลุ้นตัวโก่งเลยหละค่ะ

เดี๋ยวก็รัก เดี๋ยวก็ดี  เดี๋ยวก็เลิก 

แต่สุดท้ายก็กลับมารักกันได้ ดีจริงๆเลย

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีแบบนี้นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 15-09-2010 22:27:00
สนุกมากกกก

ครบรสชาติจริงๆๆเรื่องนี้

สุขทุกข์จากลา

โอ๊ํยสนุกอ่าซึ้งดีด้วย
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-09-2010 20:03:00
ยิ้มทั้งน้ำตา
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: momoko_1144 ที่ 05-10-2010 16:53:22
จบน่ารักมากค่ะ แบบว่า สนุกมาก

เป็นเรื่องราวที่ อืมม์

อาจเจอได้ ในชีวิตจริงนะคะเนี่ย ตั้งแต่วัยเรียน วัยทำงาน

มาจนเป็นชีวิตคู่

แต่จะหาได้น้อย ที่เป็น ชาย กับ ชาย

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ แล้วจะติดตามต่อไปค่ะ ^^

 :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: fungfung ที่ 05-10-2010 23:28:45
อ่านแล้วสนุกมากร้องไห้เลยเศร้าจัง
แต่นี้ละชีวิตคนเราไม่สวยหรูโรยด้วยกลีบกุหลาบ
แต่เต็มไปด้วยหนามที่แหลมคมที่ยังไงเราก็ต้องฝันฝ่ามันผ่านไป
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ღiสุดขอบiღ ที่ 05-11-2010 01:09:00
ไม่มีอะไรแน่นอนเท่าวินอีกแล้ว!!!

ประโยคเดียวของตั้ม ได้ใจอิเจ๊ไปทั้งดวงเลยค่ะ อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย  :-[

ชอบคู่นี้มากมาย ตั้มกับวินเนี่ย รักกันเปิดเผยไม่แคร์สื่อจริง นึกจะกอดก็กอด จะจูบ...ก็ ทำมันตรงนั้นแหละ!! ไม่สนใจหน้าอินหน้าพรม กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เข้าใจความรู้สึกน้องบอสเลยแฮะ ไอเรื่องเห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันแล้ว ไม่กล้าเข้าไปแทรกเนี่ย แม้แต่หลินที่ว่าแรงยังต้องตัดใจ พี่ภัทรก็ยังต้องแฉลบสถานะเป็นพี่ชายซะงั้น หึหึ

ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆเรื่องนี้นะคะ ทำอิเจ๊ก้อนสะอื้นจุกคอ จมูกตันไปหลายตอนเลยทีเดียว

ฮิฮิ  :กอด1: คนแต่ง+คนโพสที

ปล.รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้มาอ่านตอนเรื่องนี้จบแล้ว ไม่งั้น คงเห็นอิเจ๊ถึกลงแดง ดึ้นกระแด่วๆ เพราะตอนต่อไปมาไม่ทันใจแน่ๆเลย ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 05-11-2010 14:34:19
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดส์ให้กระทู้แตก คุณโอนริโอ้ทำแบบนี้ได้ยังไงคะ

จบห้วนมาก!

ทำไมถึงจบห้วน? ก็เพราะตอนอวสานมันไม่มีเอ็นซีน่ะสิคะ  :laugh: :laugh: :laugh:

ขอทำตัวหนิทหนมกระแซะสีข้างคุณโอนหน่อยว่า ตอนพิเศษนะคะ ตอนพิเศษ o18 o18

ขอบอกว่าเป็นนิยายที่เป็นนิยายจริงๆ อ่าว งงล่ะสิ อิอิ คือมันมีพล็อต มันมีจุดยืน มันมีจุดมุ่งมั่น มันมีนัยะส่งให้ผู้อ่าน เป็นเรื่องที่ดำเนินได้ดีมาก ถ้าเปรียบกับอาหารก็เหมือนกับเมนูที่มีรสครบทุกรสและใส่เครื่องปรุงหลายอย่างหลากประเภท คือ...อ่านแล้วนอกจากจะมีรัก เศร้า เคล้าน้ำตา แล้วยังมีคอมเมดี้ และเคลือบไว้ด้วย กลิ่นอายของเรื่องสืบสวนสอบสวน ฮ่า ฮ่า ว่าไปนั่น แต่จริงๆนะคะ การเล่าเรื่องดีมาก ค่อยๆปล่อยออกมาทีละนิดทีละหน่อยให้คนอ่านใจหายเล่น และเผลอเข้าใจผิดไปด้วยเลย ประมาณว่าดิฉันอ่านๆไปคิดว่าเรื่องมันจะเลี้ยวซ้าย เรื่องกลับไม่เลี้ยวขวาอย่างเดียวแต่ตีลังกาพร้อมปั่นอีกสิบรอบแล้วมุดดินไปเลย แบบทิ้งให้ดิฉันอ้าปากค้างต้องกลับไปอ่านซ้ำอีกรอบ ถ้าจะให้อธิบายความรู้สึกเป็นภาษาอังกฤษก็จะประมาณว่า...

If you could read my mind, you'd have been like, 'What?' :laugh:

ไม่รู้ว่าคุณโอนริโอ้ต้องการสื่ออะไร แต่อ่านนิยายเรื่องนี้แล้วดิฉันเรียนรู้ว่า ถ้าเชื่อในรัก และได้รักใครสักคนแล้ว จงอย่าถอยหลังหนีจากเขาไป จงเชื่อมั่นในรักนั้น แล้วมรสุมต่างๆก็จะผ่านไป ฮิ้วววววววว และนี่ก็คือเหตุผลที่ดิฉันชอบตัวละครอย่างวินมาก แม้ว่าจะมีอุปสรรคแค่ไหนแต่เขาก็ยังรักตั้มและคอยอยู่ดูแลตั้มจนตั้มหายดี(ซึ่งอีตาตั้มมันหลอกนุ้งวินน่ะนะ เคืองค่ะเคือง เดี๋ยวเชียร์น้องบอสเป็นพระเอก) ตั้มเองก็รักมั่นคงเหมือนกัน แต่พ่อคุณทำเอาดิฉันใจหายใจคว่ำอย่างมาก แต่ก็รักตั้มด้วยแหละค่ะ รักทั้งสองคนเลย

ชอบน้องบอส

ทำไม?? ก็น้องบอสน่ารักอะค่ะ เป็นเด็กที่ปีนเกลียวได้มากที่สุดคนหนึ่ง ชอบมุกที่บอกว่า "ไม่อยากเป็นเอี้ยก้วยกับเซียวเหล่งนึ่ง"  :laugh: โดนค่ะลูก โดน ยังไงทั้งน้องบอสกับพี่ภัทรก็ไม่มีคู่ เจ้อยากเก็บเธอเอาไว้ทั้งสองคน โฮะๆๆ นี่ถ้าวุฒิยังไม่แต่งงานจะเชียร์ให้โดนพี่ภัทรจับกด เอิ๊ก

ชอบวุฒิ

ทำไม?? ฮีตลกไงคะ แบบ..."มันทำอะไรกันวะ" ประมาณว่า โดนแย่งห้องตลอด อิอิ ฮีตลกแบบน่ารักมากๆ อะค่ะ กรี๊ด

ในหลายตอนของเรื่อง ดิฉัน...ตะบี้ตะบันอ่านเกือบสิบชั่วโมง ตาจึงเป็นหมีแพนด้า...รู้สึกสงสารตั้มมาก แต่บางครั้งฮีก็ทำตัวน่าเตะ อย่างตอนโกหกวินว่าตาบอด แหม...มันน่าจะให้ต้องง้อนานกว่านี้หน่อย ชิ...หมั่นใส้ค่ะหมั่นใส้ ซื้อได้ที่ไหนคะตัวเนี้ย ตัวตั้มเนี่ย  :laugh:

รู้มั้ยคะว่าตอนที่รู้ว่านายตั้มความจำเสื่อม ความคิดที่เข้ามาชนปังกับหัวดิฉันก็คือ 'Oh My Gosh! NOT AGAIN!!' คือแบบว่า พอเห็นนิยายที่ชอบเอาเรื่องความจำเสื่อมเข้ามาเป็นจุดเปลี่ยน แต่ให้อภัยได้ค่ะ เพราะมันทำให้เรื่องสนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกส์ อิอิ ปลาบปลื้ม

อ่านๆไป บางตอนดิฉันก็รู้สึกว่า หากรักมันจะลำบากขนาดนี้ ก็อย่ารักมันเลยดีกว่าคือเริ่มแกว่งและเหวี่ยงค่ะ แต่...ต้องมีแต่นะคะ...ถ้าไม่พยายามไขว่คว้าและเอาชนะอุปสรรค ทั้งวินและตั้มจะได้รักกันหรือ คือมันยืนยันความเชื่อที่ว่า รักต้องเชื่อมัน ไม่ว่าจะเป็นในตัวเองหรือในตัวคนที่เรารัก

ต่อไปเป็นการวิจารณ์นะคะ อันนี้ได้โปรดอย่าคิดมากเพราะไม่มีอะไรมากไปกว่าการต้องการให้คนเขียนเก่งขึ้นไปกว่าที่เก่งอยู่แล้ว อิอิ

คือ ลักษณะการเขียนของคุณโอนริโอ้ในเรื่องนี้จะแบ่งออกเป็นได้สองช่วง คือช่วงบทที่หนึ่งจนกระทั่งถึงบทที่สิบห้า กับตั้งแต่บทที่สิบหกถึงตอนจบ คือสังเกตได้ว่าภาษาจะต่างกันไป เหมือนเป็นคนละเรื่องกันเลย ตอนที่ดิฉันอ่านช่วงแรกนั้นรู้สึกภาษาจะยังค่อนข้างสับสนในบางที่ และการดำเนินเรื่องค่อนข้างช้าไปนิดนึง แต่พอเริ่มตอนที่สิบหก ตอนที่วินเลิกกับตั้ม ดิฉันแบบว่า...สนุกมาก!!!! คุณเขียนได้ลื่นไหลมาก!!! คือง่ายๆเลยก็ประมาณว่า อ่านช่วงแรกมันเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง แต่พออ่านช่วงหลังรู้สึกเลยว่าอะไรๆมันก็เหมาะเจาะ เข้าจังหวะจะโคนกันไปหมดทุกฉากทุกตอน จนกระทั่งดิฉันร้องไห้เสียใจกับความทุกข์ของตัวละคร ขนาดนั้นเลยค่ะคู้ณ (ทำเสียงสูงปากยื่นเป็นปากหมูด้วยนะคะ)

ไม่มีอะไรจะติหรอกค่ะ เพราะดีแล้ว

ดีใจค่ะที่ตั้มกับวินรักเดียวใจเดียว เพราะดิฉันก็มีความเชื่อที่ว่าการจะรักใครสักคนนั้น เราก็จะรักได้แค่คนเดียวเท่านั้น และยิ่งรักนั้นมีอุปสรรคมากเท่าไหร่ เมื่อผ่านพ้นมันไป รักที่รอดมาจะเป็นรักที่กลมเกลียวเหนียวแน่นมากกว่าเดิมอีก ฮ้าาาาส์ ความรักช่างงดงามเสียจริงๆ (มันบ้าไปแล้ว)

มีหลายอย่างอยากจะบอกแต่กลัวรีพลายจะยาวเว่อร์และกลัวว่าอาจจะโดนเขม่นและโดนเตะออกจากกระทู้ ฮ่า ฮ่า งั้นขอตัวไปอ่านรอบสองแล้วนะคะ

ปล. เรื่องนี้อ่านจากบอร์ดอีกบอร์ดนึงตั้งสองปีก่อน แต่อ่านไม่จบเพราะมีเรื่องเข้ามาในชีวิตมากมาย แต่ตอนนี้โชคดีที่ได้อ่านจนจบ แต่อยากจะสารภาพว่าชอบชื่อ ต้นน้ำกับนิติมากกว่าแหละ เหอะๆ คงไม่ว่าอะไรกันนะคะ  :กอด1: :กอด1: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: eyerabbit ที่ 10-11-2010 23:50:48
สนุกมากเลย มีทั้งสุข ทั้งเศร้า
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: kaowkong ที่ 11-11-2010 01:21:49
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยาย Y เรื่องแรกในชีวิตที่ผมได้อ่าน..

ได้อ่านตั้งแต่สมัยก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อตัวละครมาเป็นตั้มกับวิน..ชื่อเก่าก้อน่ารักดีนะคับ..

นิยายเรื่องนี้ทำให้ผมติดตามนิยาย Y มาเรื่อยๆ..

อ่านทีไร..มีความสุขทู้กกกกที... :mc4:
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: SE_Lifestyle ที่ 14-11-2010 10:00:36
เย้ อ่านจบเเล้ว  ซึ้ง :monkeysad:
ขอบคุณที่เอาเรื่องดีๆเเบบนี้มาฝากกัน :pig4:

เป็นเรื่องที่สื่ออารมณ์ได้ดีจริง ทำให้เห็นถึงความรัก ความผูกพันธ์ของทั้ง2คน
กว่าจบลงเอกด้วยดีนี่ลุ้นเเทบบ้า อารมณ์ว่าเเอบเตรียมทำใจก่อนอ่าน เพราะดูจากคอมเม้นเเล้วท่าจะซึ้งจัด
เเต่พออ่านเเล้วก็พบว่ามันมีครบทุกอารมณ์จริงๆสำหรับความรัก
เพราะ ถ้าหากไม่มีบทพิสูจน์ความรัก คงไม่เห็นถึงคุณค่าของคำว่ารัก  เเละเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันว่ามันมีค่าขนาดไหน
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: rainy_naja ที่ 25-12-2010 06:19:24
merry★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
•。★Christmas★ 。* 。
° 。 ° ˚* _Π_____*。*˚
˚ ˛ •˛•*/______/~\。˚ ˚ ˛
˚ ˛ •˛• | 田田|門| ˚★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
Jaaaaaaaa \\(^^)//
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 05-04-2011 14:24:59
กว่าจะลงเอยกันได้นะครับ แต่ในที่สุดก็จบแบบสวยงาม

เพิ่งสมัครเข้าเล้ามาเลยมาขอบคุณครับ แฮะๆ
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 12-04-2011 01:18:27
ในทีสุดก้อ่านจบแล้ว

เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจมากๆๆเลยครับ

กว่าจะรักกัน กว่าจะได้ลงเอยกันต้อง

ผ่านอุปสรรคหลายอย่าง ผ่านคราบน้ำมามากมาย

และในที่สุดก้อรักกัน ก้อเข้าใจกัน และก้อได้ ...กัน  :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:

เป็นควารักที่งดงามมากๆๆจริง

ชอบตั้ม กับ วินมากๆๆ เลยครับ

ขอบคุนมากๆๆครับ


หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Paracetamol ที่ 12-04-2011 23:37:59
น้ำตาไหลพรากๆ
ในที่สุดก็อ่านจบ รอบที่ 2 แล้ว ยังซึ้งเหมือนเดิม 555
Happy Ending~
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: mapoon ที่ 13-04-2011 14:07:19
 o13
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: ♫~Eristneth~♪ ที่ 10-05-2011 02:46:15
สนุกมาก  o13 o13 o13

อย่างอิน  :z3: เศร้าไปไหน ชีวิตนายเอก :o12:

ชอบวุฒิ อ่านเเล้วอย่างฮา ขัดตลอด น่ารักดี  :-[

ไอพี่นัท ยัยผู้ติดตามองค์หญิง (จำชื่อไม่ได้) เเละก็ยัยหลิน เดี๋ยวก็จับ  :beat: ซะเลย ตามด้วย  :z6:

เเกล้งวินอย่างนี้ได้ยังไง


ตั้ม น่ารัก มากกกกกก  :impress2:

วิน ก็ น่ารัก นิสัยดีด้วย ร้ายบ้างอะไรบ้าง ตามประสา  :impress2:

เดี๋ยวนี่นายเอกต้องเเร๊ง  :laugh: :laugh:

ส่วนน้องบอท (ความจริงต้องเรียกพี่ เเต่เอาตามเรื่องเเล้วกัน ก๊ากก)

น่ารัก สเปกเลย   :laugh: :laugh: ชอบ(กิน)เด็ก ฮ่าๆๆๆๆ

พี่ภัทร ก็ขอให้เจอเนื้อคู่เร็วๆนะ


ปล. ขอบคุณค่ะ
 
 o13 o13 o13

 :bye2: :bye2: :bye2:


หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 11-05-2011 19:41:28
infinity
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 03-07-2011 01:09:32
คิดถึงตัวละครเรื่องนี้ เลยกลับมาอ่านอีกครั้ง :L2:
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 16-08-2011 22:52:14
รู้สึกประทับใจเรื่องนี้มาก ๆ เคยอ่านครั้งแรกเมื่อหนึ่งปีก่อน แต่อ่านไม่จบเพราะยุ่ง ๆ กับชีวิตมอปลาย
แต่ได้กลับมาอ่านอีกครั้งจนจบรู้สึกขอบคุณคนเขียนมากที่แต่งเรื่องนี้ออกมา
ได้ข้อคิดอะไรมากมายจริง ๆจากเรื่องนี้ มันปนกันทั้งความสุข ความเศร้า และสอนอะไรเราหลาย ๆ อย่าง
เป็นกำลังใจให้กับคนเขียนและเพื่อน ๆ ต่อไปนะครับ ^_________^
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 03-10-2011 15:49:19
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ  สนุกมากกเลยครับบบ 
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: golf7777 ที่ 16-10-2011 21:14:55
สนุกมาเลยคับ
มีทั้งเศร้า ลุ้น
น่ารักทั้งคู่เลย
จบแบบน่ารักดีคับ
 :mc4:
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: PAAPAENG~ ที่ 17-10-2011 04:29:07
อ่านไปแล้วน้ำตาไหลพรากค่ะ
ทั้งเศร้า  ทั้งซึ้ง  ทั้งหมั่นไส้พระนางและตัวร้าย  ฮา~
กว่าจะรักกันได้  กว่าจะอยู่ด้วยกันได้
คนอ่านลุ้นกันฉี่เหนียว!!!
สงสารก็แต่วิน  ผ่านอะไรเจ็บปวดมามากเหลือเกิน
แต่สุดท้ายก็ได้สมหวังตามคำอธิฐานล่ะนะ
ดีใจที่ตั้มเองก็เป็นคนดี  รักจริงหวังแต่งมาตั้งแต่ต้น
แค่เรื่องต้องยกให้บอสเป็นพระเอกตัวจริงของแท้
ไม่ได้ครอบครองแล้วยังจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่อีก
แบบนี้น่าถวายตัวให้จริงๆ  ฮา~


ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่เรียกน้ำตานะคะ  ชอบจริงๆ   :music:
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: mamaUM ที่ 18-10-2011 02:02:38
สนุกมาก ๆ เลยค่ะ 
ซึ้งด้วย ตอนอ่านบทเศร้า ก็อยากร้องไห้ตามเลย แต่พอบทจะหวานก็หวานจนรู้สึก "ล้น" ๆ เต็ม ๆ อยู่ในหัวใจเลยค่ะ
ขอบคุณที่เขียนนิยายสนุก ๆ แบบนี้ให้อ่านนะคะ 
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 14-02-2012 10:10:32
 :bye2: :-[ :o8: เป็นนิยายที่อ่านแล้วรักตัวละครมาก วิน ตั้ม พี่ภัทร แล้วก็บอส น่ารักมาก ซึ้ง แและมีความสุขกันนิยายเรื่องนี้ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะ
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: na-au ที่ 15-11-2012 21:49:23
 :m5: :m5: :m4: :m4:  ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ


 o13 o13 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 13-09-2013 21:28:37
สนุกมากครับ กว่าจะใช้ชีวิตครองคู่รักกันได้
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 24-07-2015 02:25:29
 :z13:
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 26-07-2015 01:43:19
เป็นเรื่องที่แต่งได้ซึ้งมาก
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 27-07-2015 00:32:29
คือ อ่านไปอ่านมา งง แต่สนุกค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: มะปรางเปรี้ยว ที่ 27-07-2015 10:17:58
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 29-07-2015 16:17:09
ร้องไห้ไปกับเรื่องนี้หลายตอยเลยจริงๆ
ขอบคุณคนเขียนและคนโพสต์มากค่ะ
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 29-05-2016 12:29:39
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 16-08-2016 16:40:11
ประทับใจเรื่องนี้มาก แรก ๆ รักกันได้น่ารักดี แต่บทจะดราม่าก็เล่นดราม่าซะขนาด และดราม่ายิงยาวตั้ง 2 ปี แต่สุดท้ายก็ได้กลับมารักกันอีก เนื้อคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกัน แฮปปี้เอนดิ้งวนไป


 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 26-03-2022 03:04:44

นิติมองไม่เห็น

“ขอบคุณครับ” นิติกล่าวขณะตัวลอยอยู่ในอ้อมแขน

ในที่สุดเขาก็วางนิติลงอย่างนุ่มนวล
ตอนแรกชื่อวันชนะ พอล้มลงกลายเป็นชื่อนิติ อืมมมมม แบบนี้ก็ได้เนอะ