พิมพ์หน้านี้ - รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: sine ที่ 14-02-2017 13:53:09

หัวข้อ: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 14-02-2017 13:53:09
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*******************************************



รักพอเพียง




หากเราไม่ขวนขวายหา  แค่รู้ค่าในสิ่งที่เรามี  แค่เท่านี้…จะมีความสุขกว่าไหม?






เจ้าของร่างสูงโปร่งขยับฮูดเสื้อคลุมอีกครั้งพลางเหลียวซ้ายแลขวา  เมื่อเห็นว่าเส้นทางปลอดโปร่งจึงค่อยๆย่องไปทางประตูซึ่งปิดสนิท  จังหวะที่จับลูกบิดประตูเปิดมือขาวซีดข้างหนึ่งก็คว้าแขนเขาเอาไว้

“เฮ้ย!”

“ว่าไงคะคุณโกเมน?”  หญิงวัยกลางคนส่งยิ้มหวานหากบีบข้อมือของชายหนุ่มแน่น

“คะ  คุณกิ่งแก้ว  แหม~ ผมกำลังคิดถึงคุณอยู่พอดีเลยครับ”  เจ้าของนามโกเมนฉีกยิ้มหวานที่ดูอย่างไรก็เสแสร้ง  หากคุณกิ่งแก้วแกล้งทำมองไม่เห็นแล้วเอ่ยเสียงหวานต่อ

“แสดงว่าคิดตกแล้วใช่ไหมคะว่าจะรับพิจารณาข้อเสนอของพี่”  มุมปากของชายหนุ่มแข็งค้างกับคำกล่าวนั้น

“มะ  ไม่ครับ  คือผม….”  หญิงวัยกลางคนบีบข้อมือร่างสูงแน่นขึ้นอีก  ดวงตาเจ้าเล่ห์กวาดมองตั้งแต่หัวจรดเท้าขอคนตรงหน้า

“โถ  คุณโกเมนจะคิดอะไรมากนักคะ  เป็นแค่ดาราตกกระป๋องแท้ๆ  เงินจะผ่อนจ่ายค่าห้องยังไม่มีด้วยซ้ำ  ถ้าคุณโกเมนรับข้อเสนอของพี่รับรองเลยว่ามากกว่าห้องเล็กๆนี่พี่ก็ให้คุณโกเมนได้”  หล่อนว่าพลางลากปลายนิ้วขึ้นไปตามท่อนแขนแกร่ง  ริมฝีปากเคลือบลิปสติกฉ่ำวาวขบกัดเบาๆ  พลางส่งสายตายั่วยวนไปให้ชายหนุ่ม   โกเมนนิ่งขึ้งกับคำกล่าวนั้น  หัวใจเต้นรัวเร็ว  ความกรุ่นโกรธปะทุขึ้นทำให้เขาสะบัดแขนออกจากการยั่วเย้าของคนตรงหน้าทันที

“ถึงผมจะเป็นดาราตกกระป๋องยังไงก็คงไม่สิ้นหนทางจนต้องขายตัวหรอกครับคุณกิ่ง!”
จบประโยคร่างสูงก็ไขกุญแจห้อง  ก้าวเข้าไปแล้วปิดประตูเสียงดัง  ทิ้งความขุ่นเคืองไว้กับผู้หญิงคนนั้นนอกห้อง



ต่อให้จนตรอกยังไงเขาก็ไม่มีทางเอาตัวเข้าแลกเงินหรอก!




ว่าแต่…อีกสองวันข้างหน้าเขาจะเอาเงินที่้ไหนมาจ่ายค่าห้องวะ

อยากหยิ่งแต่เงินมันก็สำคัญนะโว้ย! 

ฮือออออ  คนหล่ออยากร้องไห้












โปรดติดตามตอนต่อไป















สวัสดีค่ะ

 วันนี้ทรายมาลงเรื่องใหม่แล้ว ฮี่~~
เดิมทีเรื่องนี้ทรายตั้งใจจะให้เป็นเรื่องสั้นแค่ไม่กี่ตอนจบค่ะ แต่พอแต่งไปแต่งมา การใส่รายละเอียดต่างๆเข้าไปเลยดูเหมือนจะทำให้ยืดออกไปอีกหลายตอน :sad4:
แต่คาดว่าคงไม่ยาวมากนัก  อ่านได้แบบสบายๆเน้นความเบาสมอง ไม่มีดราม่าแน่นอนค่ะ

ปล.ตื่นเต้นจนเหงื่อออกเลยค่ะ เหมือนเป็นครั้งแรกที่ลงนิยายเลย
ปลล. เช่นเคยนะคะ  อ่านให้สนุก มีสิ่งไหนผิดพลาดหรือไม่ถูกต้อง ติติง แนะนำกันได้เสมอนะคะ  ขอให้มีความสุขค่า

โอ๊ะ  วันนี้วันวาเลนไทน์นี่นา  สุขสัน์วันวาเลนไทน์นะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 14-02-2017 14:26:13
 :mc4: รอติดตามดาราตกกระป๋องด้วยคนจ้า
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 14-02-2017 15:33:33
ลงกฏด้วยจ้าเด๋วนิยายโดนลบนะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 14-02-2017 19:26:50
ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: akumapuyy ที่ 14-02-2017 22:03:55
รอติดตามตอนต่อไปพ่อดาราใหญ่จะเป็นยังไงต่อไปน้าาาาา 55555
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : บทนำ
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 15-02-2017 14:36:00


รักพอเพียง : ตอนที่ 1




“พี่ตุ่น  ผมจะทำยังไงดี?”

“อะไรยังไง?”

“ก็ห้องผมไง  เมื่อเช้าเจ้าของตึกบอกว่าถ้าวันนี้ผมไม่จ่ายค่าห้องจะให้ผมย้ายออก  อะไรวะ  จ่ายมาตั้งครึ่งหนึ่งแล้วขอผ่อนผันแค่สามสี่เดือนเอง หยวนๆให้หน่อยก็ไม่ได้!  นี่ยังไง…พี่ให้ผม…”

“ตอนนี้พี่ไม่มีให้นายยืมหรอกนะ”  ชายร่างท้วมจิตใจสาวน้อยเอ่ยตัดกลางประโยคแบบไม่รักษาน้ำใจ  โกเมนอ้าปากค้างพลางกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น ไอ้ที่เอ่ยขอยืมเงินผู้จัดการส่วนตัวนี่ก็เกรงใจอยู่นะเพราะยืมมาหลายปีจนตอนนี้แทบสิ้นเนื้อประดาตัวไปตามๆกันอยู่แล้ว  แต่จะให้ทำยังไงได้เล่าในเมื่อเขากลายเป็นดาราตกกระป๋องมาหลายปีดีดักเงินทองที่เคยใช้จ่ายสรุ่ยสุร่ายก็พลันขาดมือ

สมัยก่อนตอนเข้าวงการใหม่ๆเขาเป็นดาราดาวรุ่งพุ่งแรง  ทั้งละครทั้งอีเว้นท์และโฆษณาต่างๆมีมาแทบไม่ขาด  ปีหนึ่งทำงานแทบไม่ได้หยุดพัก  เดินไปทางไหนมีแต่คนรู้จักและพยายามเข้าหา  ข้าวของเครื่องใช้  รถยนต์  คอนโดก็มีคนเสนอให้เขาฟรีๆทั้งนั้น

พอเล่นละครดังได้สอง-สามเรื่องทางช่องก็เสนอให้ร้องเพลง  ถึงขนาดส่งให้เขาไปเรียนเต้นเรียนร้องเพลงอยู่ต่างแดนตั้งหลายเดือน  ขอโทษเถอะ  เสียงอย่างเขาถ้าไม่เพราะหนังหน้าดีใครจะมาฟัง  อาศัยว่าขายหน้าตาและแฟนคลับเยอะหรอกถึงรอดมาได้

แต่ในที่สุดก็ต้องมีวันโดนโจมตี  แน่ล่ะว่าเริ่มจาก  …ไอ้หมอนี่ทำศัลยกรรมมาแน่ๆ  หนอย~ คนอย่างโกเมน  รัตนนันท์ เนี่ยนะจะเสริมหน้า  คนมันหล่อสวรรค์สร้าง  หน้าตาดีแต่กำเนิดต่างหากเล่าพวกตาถั่ว! ร้องเพลงเสียงเป็ดคิดจะจัดคอนเสิร์ต  สู้อปป้าเกาหลีก็ไม่ได้บ้างล่ะ  ขายบัตรแพงกว่านักร้องเกาหลีบ้างล่ะ  โหยยยยย  นี่ไม่ใช่นักร้องมืออาชีพนะ  ร้องได้เต้นได้ขนาดนี้ก็เทพแล้ว  มีดารากี่คนทำได้อย่างเขาบ้างล่ะ 

โถ  นี่น่ะ  โกเมน  รัตนนันท์  คนหล่อที่สุดในวงการบันเทิงเชียวนะ!

“คิดอะไรอยู่  ทำหน้าประหลาดชะมัด”  ผู้จัดการร่างท้วมเอ่ยขัด  ชายหนุ่มกระแอมไอแก้เก้อขยับคอแกล้งไล่ความเมื่อยขบ  “แต่จะว่าไปเมื่อเช้าเพิ่งมีงานติดต่อมา….”

“รับ!” โกเมนกระเด้งตัวออกจากโซฟารวดเร็ว

“……แน่ใจเหรอ?”

“แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง!”  งานแรกในรอบสี่ปีใครปฏิเสธก็บ้าแล้ว!

จะมีเงินไปจ่ายค่าคอนโดแล้วโว้ยยยยย
.
.






“ซีรี่ส์เกย์?” 

“ใช่  เป็นนิยายวัยรุ่นหยิบมาจากเวปบอร์ดน่ะ  นี่เห็นว่าเรื่องนี้ดังมากนะ  นักอ่านตามกันเป็นพัน”  เจ้าของโปรเจกเอ่ยอธิบายพร้อมรอยยิ้ม  อภินันท์เป็นชายหนุ่มผิวขาวหน้าตาดีพ่วงตำแหน่งลูกชายเจ้าของช่องทีวีเอกชน  ส่วนใหญ่มักเน้นละครออนไลน์

“ผมไม่เล่น!”  โกเมนโยนบทละครในมือทิ้งพลางขยับตัวออกห่างจากอีกฝ่าย

“หืม  แต่คุณโกเมนรับปากแล้ว”  อภินันท์ขมวดคิ้ว

“ก็!” 

“นี่คุณตุ่นไม่ได้เอาบทละครย่อให้คุณโกเมนอ่านหรือครับ?”  อภินันท์หันมาทางผู้จัดการส่วนตัวของชายหนุ่ม  ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววไม่พอใจ  เขาคัดค้านบรรดาพวกคนแก่ๆที่ต้องการดาราวัยรุ่นหน้าใหม่มาแสดงซีรี่ส์เรื่องนี้  เขาเลือกโกเมนเพราะคิดว่าอีกฝ่ายเหมาะกับการแสดงเรื่องนี้มากๆ  อีกทั้งหน้าตาชายหนุ่มก็ตรงกับตัวละครที่สุดในบรรดาตัวเลือกทั้งหมด

“คือ  โกเมนเขา…  นี่!นายบอกว่าจะรับงานนี้แล้วจะมาเปลี่ยนใจได้ยังไง?”  สุดท้ายก็หันมาต่อว่าคนกลับคำ

“พี่ไม่บอกผมว่าเป็นละครเกย์!”

“ตอนนี้ใช่เวลามาเลือกงานไหม? ถ้าไม่เล่นเรื่องนี้จะเอาเงินที่้ไหนไปจ่ายค่าคอนโดยะ!”

“พี่ตุ่นก็รู้ว่าผมเกลียดเกย์!”

“……”  ผู้จัดการร่างใหญ่หน้าซีด  เหลือบสายตาไปทางอภินันท์แล้วหันกลับมาทางโกเมนพลางขยิบตาส่งซิก

“ผมไม่มีงานมาสี่ปีไม่ใช่เพราะไอ้เกย์เฒ่าที่มันพยายามจะปล้ำผมหรือไง!”  ได้ทีโกเมนก็ระบายความอัดอั้นตันใจออกมา  สีหน้าท่าทางไม่พอใจอย่างยิ่ง  “เกลียดพวกเกย์จริงๆ!”

“โกเมน!”

“ถ้าอย่างนั้นเห็นทีผมกับคุณโกเมนคงจะร่วมงานกันไม่ได้แล้วล่ะครับ”  อภินันท์สูดลมหายใจเข้าลึก  ดวงตาลึกล้ำคู่นั้นจ้องมองโกเมนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงจัดเสื้อยับยุ่งให้เข้าที่เข้าทาง

“เอ๊ะ?

“ถ้าคุณรังเกียจเกย์ก็คงแสดงบทนี้แบบเข้าถึงไม่ได้”

“เอ่อ  คือ  จะให้ผมเล่นบทอื่นในเรื่องก็ได้นะครับ”  เหมือนจะรับรู้ว่าเงินก้อนโตกำลังจะหายไปจากตรงหน้าชายหนุ่มเหงื่อตก  ขยับมือถูกันเอ่ยต่อรอง

“คุณโกเมนคงไม่สะดวกใจร่วมงานกับผม”

“ห๊ะ?”

“เพราะผมเป็นเกย์”

“…..”  เหลือเพียงเสียงลมหวีดหวิวจากเครื่องปรับอากาศตัวเขื่อง  โกเมนนั่งนิ่ง  กะพริบตาปริบพยายามวิเคราะห์คำพูดของคนที่เพิ่งเดินออกไปนอกห้อง  “คุณอภินันท์เป็นเกย์?”

“ใช่  และนายเพิ่งพูดคำว่าเกลียดเกย์กับคนที่จะยื่นงานยื่นเงินให้นาย  โกเมน!”

“ผมกลับคำตอนนี้ทันไหม?”

“ไม่ทันแล้วย่ะ!”




**********




คนเราจะโชคร้ายได้มากแค่ไหน จะย่ำแย่ได้มากกี่หนในหนึ่งชีวิต

“นี่ถือว่าฉันใจดีมากแล้วนะคะที่เก็บของใช้ของคุณใส่กล่องไว้ให้  อ้อ  ทีวีกับตู้เย็นนี่ต้องขอไว้เป็นค่าทดแทนการเสียเวลานะคุณโกเมน  แล้วฉันก็เข้าใจว่าตอนนี้คุณคงไม่มีปัญญามาจ่ายค่าห้องที่ค้างมาสี่เดือนด้วยใช่ไหมคะ?”

“ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้า  มองกล่องกระดาษใส่เสื้อผ้าหน้าห้องแล้วอยากจะร้องไห้  ดูอนาถเหลือเกิน

ที่สุดก็ต้องหอบเสื้อผ้าแบกหน้าไปหาที่พึ่งสุดท้าย

“พี่ตุ่นนนนนนน”

“นี่มันอะไรกันยะ?”  ผู้จัดการร่างท้วมอยากจะไล่คนตรงหน้าไปติดที่ว่าตัวเองเป็นคนปั้นเด็กนี่มากับมือ  อีกอย่างนอกจากเรื่องคราวนั้นโกเมนก็แทบไม่เคยหาเรื่องหนักใจมาให้สักครั้ง  แต่เขาจะช่วยเหลืออีกฝ่ายไปทั้งชีวิตคงไม่ได้

“พี่ตุ่น  ผมขอมารบกวนพี่สักสองสามวันได้ไหม”  เจ้าของบ้านกัดริมฝีปาก  ในบ้านนี้มีเด็กปั้นอยู่กับเขาอีกสอง-สามคนเพิ่มโกเมนเข้าอีกคนคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง  พอสบโอกาสเหมาะค่อยปะเลาะให้ชายหนุ่มรับเล่นหนังเล่นละครตามกระแสสักเรื่องแล้วกัน



โกเมนเสยผมอย่างเบื่อหน่ายพลางกดรีโมททีวีเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ  อีกมือคว้าฝรั่งขึ้นกัด  มันฝาดจนต้องเบ้หน้าแล้ววางมันลงในจานตามเดิม  เสียงฝีเท้าจากชั้นสองขยับเข้ามาใกล้  ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองคนที่หยุดยืนข้างโซฟาแล้วฉีกยิ้มกว้าง

“ว่าไง  เจมส์?”  เขาส่งเสียงทักทายรุ่นน้องแบบสนิทชิดเชื้อ  หากฝ่ายนั้นเบ้ปากใส่

“คิดจะอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหนกัน?”  เจมส์กอดอกถาม  ไม่มีความเคารพอีกฝ่ายในฐานะรุ่นพี่สักนิด  โกเมนเป็นเด็กปั้นก่อนหน้าเจมส์หลายปี  แต่ตอนนี้โกเมนเป็นแค่ดาราตกกระป๋องคนหนึ่งเท่านั้นเขาเลยไม่มีความเกรงใจเหมือนสมัยก่อน  อีกอย่างโกเมน ยังมานอนมากินที่บ้านนี้โดยอาศัยเงินที่เขากับคนอื่นๆหามาด้วย

“ไม่เอาน่า  นี่พี่แค่พักงานแปบเดียว  พอได้งานเมื่อไหร่พี่ก็จะย้ายออกแล้วล่ะ”

“แปบเดียวของนายนี่มันผ่านมาสี่ปีแล้วนะ!”  เจมส์มองเหยียด  โกเมนในตอนนี้สวมเสื้อยืดคอย้วยกับกางเกงยีนส์ตัวเก่าซีด  ผิวขาวซีดขาดการบำรุงดูแล  ผมหยักศกยาวระต้นคอไม่เป็นทรง  หนวดเคราล้อมกรอบใบหน้าแต่กระนั้นก็ไม่อาจทำให้ใบหน้าคมสันของอีกฝ่ายหมองลงได้เลย  กลับกันเมื่อมองแล้วทำให้โกเมนดูหล่อเซอร์คมเข้ม  และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เจมส์ไม่พอใจ  ไม่ว่าโกเมนจะอยู่ในสภาพไหนเจมส์ก็ไม่เคยโดดเด่นเหนืออีกฝ่ายได้เลย  เขาก็แค่หล่อขาวเกาหลี

“วันนี้พี่ตุ่นว่าจะหางานให้สักงานสองงานละนะ” โกเมนพยายามไม่สนใจสายตาดูถูกของรุ่นน้องแม้จะรู้สึกโกรธแค่ไหนก็ตาม

“เหอะ  งานสองงานงั้นหรือ  ใครเขาจะจ้างดาราตกกระป๋องอย่างนายกัน”

“นั่นซิ  แล้วมาเกาะคนอื่นกินอย่างนี้คิดว่าดีนักหรือไง  ทำไมพี่ตุ่นยังไม่ไล่ตัวไร้ประโยชน์อย่างนายออกไปสักที  เก็บไว้ทำไมก็ไม่รู้” เสียงที่สามคือดาริกา  นักแสดงสาวที่กำลังมาแรงในตอนนี้  เจ้าหล่อนที่เพิ่งกลับมาจากถ่ายแบบเดินเข้ามาสมทบกับเจมส์  ริมฝีปากแดงฉ่ำเคลือบด้วยลิปสติกเนื้อดีเบ้ใส่โกเมนอย่างไม่ชอบใจ  หล่อนยอมรับว่าเมื่อก่อนโกเมนคือชายในฝัน  เขาหล่อเหลา  โดดเด่นและโด่งดังถึงขีดสุด  แต่ก็นั่นแหละ….ตอนนี้โกเมนเป็นเพียงดาราตกกระป๋อง  ไม่สามารถทำประโยชน์อะไรให้หล่อนได้เลย  จะให้คอยเกรงใจเหมือนก่อนคงไม่ไหวเพราะเงินที่เจียดไปให้ชายหนุ่มใช้หล่อนเป็นคนหามาย่อมหวงแหนแม้จะเป็นแค่เศษเงินก็ตาม



คนโดนด่าว่าไร้ประโยชน์นั่งยองๆมือหนึ่งเด็ดหญ้าใต้ต้นมะม่วงอีกมือล้วงกางเกงเกาก้นพลางถอนหายใจ  หลังจากโดนสองรุมหนึ่งโกเมนก็ระเห็จตัวเองออกจากโซฟามานั่งซึมอยู่ตรงนี้  เขาอยากย้ายออกวันนี้เลยด้วยซ้ำหลังโดนถากถางแต่ติดว่าเขากำลังสวมบทบาทยาจกยากไร้อยู่เลยต้องทนหน้าด้านอยู่ต่อ

“เฮ่อ~”  นี่ถ้าเขาถอนหายใจออกมาเป็นเงินได้ป่านนี้เขาคงรวยไปแล้ว

! เสียงโทรศัพท์มือถือทำให้ยาจกผู้อาภัพสะดุ้งสุดตัว  แอบก่นด่าคนที่โทร.มาขัดการสร้างอารมณ์รันทดของตัวเองหากพอนึกได้ว่าอาจจะมีงานติดต่อเข้ามาเขาก็รีบปรับสีหน้า  วาดรอยยิ้มการค้า

“สวัสดีครับ  โกเมนพูดครับ”

“โกเมน?  ใช่โกเมน  รัตนนันท์หรือเปล่า?”  คำถามจากอีกฝ่ายทำให้โกเมนขมวดคิ้ว

“ใช่ครับ  ไม่ทราบว่าใคร…”

“โกเมนหลานลุงปั้นอ่ะนะ?”

“ลุงปั้นไหน?”

“ลุงปั้นบ้าน….ไง”

“นี่คุณ  ถ้าคิดจะโทร.มาแกล้งกันละก็ผมไม่ว่าง”  ไม่รู้ว่าสองคนในบ้านนั้นจ้างใครโทรศัพท์มาแกล้งเขาหรือเปล่า

“ขอโทษที่รบกวนเวลางานนะ  แต่ลุงปั้นแกเพิ่งเสีย  แกบอกว่าให้ตามหาคุณให้หน่อย”

“ผมไม่รู้จักลุงปั้นอะไรของคุณสักหน่อย  อ้อ  แล้วก็ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปด้วยแล้วกัน” โกเมนเริ่มหงุดหงิด  ถึงเขาจะว่างงานแต่ไม่ได้นิยมคุยกับโรคจิตหรอกนะ

“ขอบคุณ  อ๊ะ  แต่ลุงปั้นแกรู้จักคุณนะ!”

“แหงละ  ก็ผมเป็นดาราดังนี่”  ไม่วายจะยืดอกด้วยความภาคภูมิใจ

“หืม?  ดารา?  ช่องเจ็ดหรือ  รึว่าช่องสาม?  เอาเถอะๆ  จะช่องไหนผมก็ไม่รู้จักคุณอยู่ดี”  อะไรนะ  ไอ้หมอนี่ไม่รู้จักเขางั้นหรือ  นี่เขาคือโกเมนนะ!  โกเมนดาราสุดฮอตเมื่อสี่ปีที่แล้วไงเล่า!

“ไม่รู้จักแต่โทรศัพท์มาหาถูกคนเนี่ยนะ?”

“โอ้  คุณรู้ไหมว่ากว่าจะได้เบอร์คุณมายากยิ่งกว่าขุดดินไถนาอีก”  เปรียบเทียบบ้าอะไรเนี่ย  หมอนี่เป็นวัวหรือไง!

“เอาละ  คุณนักต้มตุ๋น  คุณทำให้ผมคลายเหงาได้ดีมากแต่ถ้าอยากจะหลอกลวงอะไรตอนนี้ผมขอบอกเลยว่าคุณดวงซวยมากที่โทร.มาเจอผม  เพราะตอนนี้ผมไม่มีเงินให้คุณหลอกหรอก”

“ใครเป็นนักต้มตุ๋นกัน  เป็นดารานี่ต้องมโนเก่งทุกคนเลยหรือไง”

“เขาเรียกจินตนาการ!  นี่!  พอแล้วๆ  คุณไม่ใช่นักต้มตุ๋นแล้วโทรศัพท์มาหาผมด้วยธุระอะไรไม่ทราบ”  โกเมนขี้เกียจเถียง  มันเหนื่อย!

“ก็อย่างที่บอกลุงปั้นแกเสียแล้ว  ก่อนเสียแกให้ผมตามหาคุณ”

“ก็บอกแล้วเช่นกันนะคุณนักต้มตุ๋นว่าผมไม่รู้จักลุงปั้นอะไรนั่น”

“แม่คุณชื่อบุษราคัมหรือเปล่าล่ะ?”

“โหย  นี่เล่นถึงแม่เลยเรอะ!”

“ช่วยแปลกใจที่ผมรู้ชื่อแม่คุณหน่อยเถอะ โว๊ะ!”

“เออ  รู้จักแม่เหรอ?”

“ถ้าคุณมีแม่ชื่อบุษราคัม  รัตนนันท์คุณก็เป็นหลานชายลุงปั้นแหละ”

“……”

“ฮัลโหลๆ  ได้ยินไหมคุณ?”

โกเมนขมวดคิ้ว  โอเค  แม่เขาชื่อบุษราคัม  รัตนนันท์ไม่ผิดแน่แต่เขาไม่เคยได้ยินชื่อลุงปั้นอะไรนี่เลย  เท่าที่จำได้คือเขาอยู่กับแม่แค่สองคน  ใครเป็นพ่อเขาไม่คิดจะใส่ใจเพราะยังไงฝ่ายนั้นก็ไม่ต้องการเขาหรอก  เขารู้เพราะแม่พร่ำบ่นกรอกหูเขาตั้งแต่จำความได้  ว่าพ่อเขาเป็นไฮโซเลวชั่วช้าที่หลอกผู้หญิงบ้านนอกอย่างแม่จนตั้งท้องแล้วไม่รับผิดชอบ  แต่ถึงด่ายังไงก็ต้องเงียบหลังได้เงินก้อนโตทุกเดือนจนเมื่อแม่เขาเสียฝ่ายนั้นก็ขาดการติดต่อไปเลย  เขาไม่ใส่ใจตามหาด้วยซ้ำว่าคนที่ทำให้เขาเกิดมาคือใคร  แต่วันนี้อยู่ๆมีคนมาบอกว่าเขายังมีครอบครัวคนอื่นนอกจากแม่อยู่  และครอบครัวคนนั้นก็เพิ่งเสียชีวิตไป

“อย่ามาล้อเล่น”  โกเมนกดเสียงต่ำ

“ไม่ได้ล้อเล่นนะคุณ  ลุงปั้นอ่ะแกเป็นพ่อคุณบุษราคัม  เป็นตาของคุณ”

“แล้วยังไง  จะให้ผมไปงานศพเขาหรือ?”  ชายหนุ่มแค่นเสียงถาม  ถ้าอีกฝ่ายเป็นตาของเขาจริงๆทำไมป่านนี้ถึงเพิ่งมาตามหาเขากันเล่า  จะโม้อะไรให้สมเหตุสมผลหน่อยเถอะ!  หรือหมอนี่มีจุดประสงค์เพื่อเข้าใกล้เขา? โถ  เขานี่ช่างดึงดูดใจผู้คนเสียจริง…

“เปล่าๆ  ศพแกเผาไปนานแล้ว  นี่ผมเพิ่งตามหาคุณเจอตามคำสั่งเสียของลุงแกเท่านั้น”

“อ้อ  เหรอ”

“คือลุงปั้นแกมีที่ดินอยู่ที่นี่  แกบอกว่าจะยกให้คุณ”

“ที่ดิน?”

“ใช่”

“เยอะไหม?”  ชายหนุ่มตาวาวเมื่อได้ยินว่าประโยคนั้น  ลุงปั้นอะไรนี่จะเป็นตาของเขาจริงไหมไม่รู้  เขาสนแค่ที่ดินนั่นเท่านั้นแหละ!

“เยอะนะ  ตั้ง20ไร่แน่ะ”

“20ไร่?”

“ใช่”

“แค่นี้อ่ะนะ?”

“แค่นี้คุณก็ปลูกอะไรได้เยอะแยะแล้วนะ”

“โธ่เอ้ย  ฉันนึกว่าเป็นร้อยๆไร่เสียอีก”

“ลุงปั้นจะเอาไร่เป็นร้อยๆไร่ที่ไหนมาให้คุณ  20ไร่นี่ลุงแกก็ทำคนเดียวไม่ไหวแล้ว”

“เฮอะ!”  โกเมนส่งเสียงดูแคลน

“คุณไม่เอาหรือ  งั้นเดี๋ยวจะจัดการยกให้รัฐ…”

“หยุดเลยนะ!”

“?”

“ลุง  เอ้ย  คุณตาเขายกให้ฉันไม่ใช่หรือไง?”  เป็นตาจริงหรือเปล่าไม่รู้แต่ในเมื่อชิ้นปลามันตกอยู่ในมือเรื่องอะไรเขาจะปล่อยให้หลุดไปเล่า  ทำอย่างนั้นก็เป็นคนโง่ชัดๆ  บังเอิญว่าเขายังฉลาดอยู่อ่ะนะ

“ใช่  ถ้าอย่างนั้นคุณว่างมาจัดการเรื่องที่วันไหน”

“พรุ่งนี้!”

“พรุ่งนี้หรือ?  แต่ผมไม่ว่างไปจัดการให้คุณนะ  ผมต้องเข้าไร่”

“แล้วมีคนอื่นจัดการแทนคุณได้หรือเปล่า?”

“…ไม่มี”  ปลายสายเงียบไปพักหนึ่งกว่าจะตอบกลับมา “วันจันทร์แล้วกัน  ได้ไหม?”

“ได้ๆ  ไม่มีปัญหา”

“งั้นเสาร์-อาทิตย์ผมจะโทร.หาคุณอีกทีแล้วกัน”

“เอาเบอร์โทรศัพท์คุณมาซิ  เดี๋ยวผมติดต่อไปเองก็ได้”

“ผมไม่มีโทรศัพท์”

“……”  บ้านหมอนี่อยู่ดาวอังคารหรือไงถึงไม่มีโทรศัพท์!


วันนั้นโกเมนอารมณ์ดีมาก  แม้เจมส์และดาริกาจะกระแหนะกระแหนยังไงเขาก็ยังส่งยิ้มกว้างให้ทั้งสองคน  ท้องฟ้าดูสดใสในรอบหลายปีแม้เมฆสีเทาจะเกินครึ่งฟ้า
ถ้าเขาได้โฉนดที่ดินมาเขาจะขายแล้วเอาเงินมาตั้งตัวใหม่!
โฮะ โฮะ โฮะ  สวรรค์ช่างเมตตาคนหล่อเหลือเกิน!














โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Grouy ที่ 15-02-2017 15:12:32
รอตอนต่อไปค่ะ...
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 15-02-2017 15:21:53
โถ่ๆโกเมนน้อย เดี๋ยวได้เสียเป็นผัวเมียกับเกย์หนุ่มแล้วจะรุว่าฟินนาจา.....
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 15-02-2017 16:43:33
ย้ายไปทำไร่ทำนากับพ่อหนุ่มที่โทรมาน่าจะมีเปอร์เซ็นต์รอดชีวิตมากกว่านะโกเมน
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 1 [15-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: akumapuyy ที่ 15-02-2017 20:09:08
จะสวรรค์จะนรกนี่ต้องรอดูกันต่อไปนะพี่ดาราดัง รอติดตามตอนต่อไปฮ้าบบบบบบบ

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 1 [15-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: akumapuyy ที่ 21-02-2017 11:30:43
เข้ามาดันค่ะ เรื่องนี้สนุกน่าติดตามนะเออ  :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 1 [15-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 21-02-2017 12:31:18
ได้ไปเกิดเป็นดาวเป็นเดือนอยู่ไร่แน่เลย
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 1 [15-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 28-02-2017 04:36:29
รักพอเพียง : ตอนที่ 2





  โกเมนบิดกายไล่ความเมื่อยขบ  โดยเฉพาะก้นที่ชาจนแทบไร้ความรู้สึกเนื่องจากการนั่งอันยาวนานบนรถทัวร์  เกือบแปดชั่วโมงในที่สุดชายหนุ่มก็ถึงจุดหมายปลายทาง  จังหวัดติดชายแดนทางตะวันตกของประเทศตามที่คนคนนั้นบอกทางโทรศัพท์  อากาศเย็นชื้นของเวลาเช้ามืดทำให้ชายหนุ่มขยับเสื้อคลุมตัวบางเพื่อเพิ่มความอบอุ่น  เขามองหาคนที่บอกว่าจะมารับพลางเอ่ยปฏิเสธเหล่าบรรดารถรับจ้างที่กรูกันเข้ามา  นี่ถ้าเลือกได้เขาอยากจะนั่งเครื่องบินแทนการนั่งรถทัวร์อันแสนลำบากนี้เหลือเกิน  ที่นี่ไม่ได้กันดารมากนักเนื่องจากภาครัฐสนับสนุนการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านทำให้นักลงทุนมาขยายกิจการมากมายตามที่เขาเคยได้ข่าว และยังมีสนามบินขนาดเล็กด้วยซ้ำติดเสียแต่ว่าตอนนี้เขาต้องประหยัดเพราะยืมเงินผู้จัดการมา  โกเมนบอกพี่ตุ่นว่าจะมาดูที่ดินและหากขายได้ราคาดีคงมีเงินไปคืนอีกฝ่าย  พี่ตุ่นยิ้มร่ายัดเงินใส่มือเขาเขามาเกือบสองหมื่นเป็นค่าเดินทางและกินอยู่

โกเมนนั่งปะปนไปกับบรรดาผู้คนที่เขาฟังภาษาไม่ออกแต่เขามั่นใจว่าไม่ใช่ภาษาไทยแน่ๆ  รออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก็มีชายร่างสูงโปร่งลงมาจากรถยนต์กลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่ง  ฝ่ายนั้นเหลียวมองไปรอบๆก่อนจะเดินไปยังโทรศัพท์สาธารณะ  มือถือของโกเมนดังขึ้น  เขากดรับสาย

“คุณมาถึงแล้วหรือยังครับ?”

“นั่งรอจนรากจะงอกอยู่แล้ว!”  โกเมนตอบอีกฝ่ายอย่างหงุดหงิด  เมื่อยก็เมื่อย  หนาวก็หนาว!

“อ้อ  ถ้าอย่างนั้นคุณเดินมาที่รถคันสีน้ำตาลตรงฝั่งขวานะครับ  ผมจะยืนรออยู่ตรงนั้น”
โกเมนลุกขึ้นยืน  เพราะยังเช้ามืดจำนวนรถส่วนตัวที่มาจอดในขนส่งยังมีไม่มากเขาจึงเห็นรถคันดังกล่าวทันที  ส่วนคนที่สั่งให้เขาเดินไปหานั้นเพิ่งเดินมาถึงรถหลังวางสาย

“คุณโกเมน  รัตนนันท์?”  ผู้ชายคนนั้นหันมาถาม  ชายหนุ่มพยักหน้ารับ  ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้ง  “สวัสดีครับ  คุณคงนั่งรถเมื่อยแย่  เดี๋ยวอดทนนั่งต่ออีกสักหน่อยนะครับ”

“ยังต้องนั่งต่ออีกเรอะ!”  โกเมนโอดครวญ

“ครับ  อีกสักเกือบๆชั่วโมง” 

โกเมนร้องโอดโอยแต่ก็ยอมขึ้นรถไปกับอีกฝ่าย  ต่อให้นึกเบื่อหน่ายหรือไม่ชอบใจขนาดไหนเขาก็ได้แต่บอกตัวเองให้อดทนเพราะความหวังเดียวตอนนี้คือที่ดินผืนนั้น

ขอบฟ้าเริ่มมีแสงสีทองสาดฉาย  ดางดาวบนท้องฟ้าจางหายไปทีละดวงๆ  อากาศเย็นชื้นเหมือนจะยิ่งเย็นขึ้นเมื่อรถขับขึ้นไปตามเส้นทางสูงชัน  โกเมนนึกอยากจะหลับแต่กลัวว่าคนขับจะแอบพาเขาไปฆ่าทิ้งหมกป่าเลยได้แต่ฝืนลืมตา  ขยับตัวไล่ความเมื่อยขบบ้าง  สุดท้ายท่ามกลางความเงียบเพราะไม่มีใครเอ่ยปากคุยเขาเลยได้แต่เกยคางกับขอบหน้าต่างรถรับลมเย็น  ละอองน้ำค้างแตะแต้มใบหน้าจนรู้สึกได้ว่าคิ้วเปียกชื้น 

โกเมนสูดลมหายใจเข้าลึก  อากาศที่นี่ชุ่มฉ่ำแบบที่เขาไม่เคยเจอ  เมื่อก่อนตอนไปต่างประเทศมีบ้างที่เจอหิมะหรืออากาศหนาวสุดขั้วแต่ไม่มีที่ไหนเหมือนที่นี่  รายทางมีสีเขียวของต้นไม้  แสงสีทองสาดประกายกระทบทุ่งดอกทานตะวันแปลงเล็กข้างทาง  ทุ่งดอกไม้สีเหลืองที่โกเมนไม่รู้จักกว้างสุดลูกหูลูกตา

“ทุ่งดอกไม้สวยจัง”

“ปอเทืองน่ะครับ”

“ปอ…อะไรนะ?”  เพราะมัวแต่ชื่นชมกับทัศนียภาพเลยไม่ทันตั้งใจฟังว่าอีกฝ่ายพูดอะไร

“ปอเทือง  ปลูกเพื่อปรับสภาพดินน่ะ”

“อ้อ”  ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้  เขาเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนแต่จำไม่ได้เพราะไม่ใส่ใจ  มือแกร่งยกขึ้นลูบแขนตัวเองแล้วกอดอกแน่น  พลางเลื่อนกระจกขึ้น

“หนาวหรือครับ?”  สารถีถามก่อนจะพยายามปลดเสื้อแขนยาวของตัวเองยื่นส่งให้โกเมน

“ขอบคุณ  แต่ไม่เป็นไรครับ”  ชายหนุ่มปฏิเสธเพราะไม่อยากใช้เสื้อผ้าร่วมกับใครโดยเฉพาะคนที่เพิ่งรู้จักกัน  คนหวังดีหรุบสายตามองเสื้อในมือแล้วยักไหล่ก่อนจะหันไปสนใจถนนต่อ

ผ่านไปเกือบชั่วโมงจนรถแล่นเข้าไปจอดหน้าบ้านหลังหนึ่ง  บ้านยกพื้นต่ำหลังกะทัดรัดสีขาวสะอาดตา  ข้างบ้านมีต้นกาสะลองสูงใหญ่ออกดอกสีขาวสะพรั่งส่งกลิ่นหอมระรวยตามแรงลม  มีแค่ทำจากไม้ไผ่ใต้ต้นกาสะลอง  รั้วบ้านทำจากซีกไม้มีแปลงดอกไม้พุ่มเล็กสีสดด้านหน้า  ด้านข้างฝั่งขวาเยื้องไปทางด้านหลังมีแปลงผักยาวออกไปทำเป็นล๊อคแต่ละล็อคไม่กว้างนัก  คล้ายปลูกเพื่อกินมากกว่าจะปลูกขาย  อีกด้านมีบ่อน้ำกว้างพอประมาณเลี้ยงปลาเอาไว้มีกังหันน้ำเล็กๆหมุนอยู่

“เดี๋ยวคุณนอนพักที่นี่ก่อนแล้วกัน  สายๆผมจะพาไปดูที่”

“พักที่นี่?””

“ครับ”

“โรงแรมล่ะ? ผมไม่พักที่นี่หรอกนะ  บ้านใครก็ไม่รู้!”  โกเมนนั่งกอดอกไม่ยอมลงจากรถ

“ที่นี่ไม่มีโรงแรมหรอกครับ  อีกอย่างนี่ก็บ้านผมเอง  คุณคิดเสียว่ามาพักแบบโฮมสเตย์ก็ได้”

“เราไปดูที่ตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ  ผมอยากรีบกลับกรุงเทพฯ”

“กลับกรุงเทพฯ? เอ่อ  ถึงจะไปดูที่ตอนนี้วันนี้คุณก็กลับกรุงเทพฯไม่ได้หรอกครับ”

“ทำไม?”  ความไม่พอใจสุมรวมกองกันจนใหญ่คับอก  โกเมนขมวดคิ้วจ้องมองอีกฝ่ายเขม็ง

“รถไปกรุงเทพฯมีแค่รอบเช้า”

“โอ๊ย  มันอะไรกันนักหนาเนี่ย  บ้านนอกชะมัด!”

“…..”  คนบ้านนอกขบริมฝีปาก  เหลือบสายตามองท่าทางไม่พอใจของร่างสูงพลางพรูลมหายใจ

“งั้นฉันนั่งเครื่องกลับก็ได้”

“ผมว่าอีกเดี๋ยวค่อยคุยกันเถอะครับ  ตอนนี้คุณลงไปพักก่อน  ส่วนผมต้องรีบไปรับคนงาน”  เจ้าของรถลงมาเปิดประตูให้อีกฝ่าย  เดินนำเข้าบ้านไปยังห้องด้านหนึ่ง  “คุณจะนอนหลับก็ได้  ผมคงกลับเข้ามาอีกทีสายๆแล้วจะพาคุณไปดูที่ของลุงปุ้น”  โกเมนพยักหน้ารับอย่างเสียมิได้  เขาโยนกระเป๋าแล้วหันมองรอบห้อง
ห้องนี้เล็กมากเมื่อเทียบกับที่ที่เขาเคยอยู่  น่าจะไม่ถึงสี่คูณสี่เมตรด้วยซ้ำ  หน้าต่างถูกเปิดรับลมเย็นยามเช้ามีโมบายทำจากลูกปัดที่พัดปลิวตามแรงลม  ตู้เสื้อผ้าใบเล็กปิดสนิทอยู่ด้านหนึ่งของห้อง  โกเมนเดินเข้าไปเปิดสำรวจดูเผื่อจะเจอเอกสารอะไรแต่ก็มีเพียงเสื้อผ้า  โต๊ะญี่ปุ่นวางอยู่อีกมุมมีหนังสือวางไว้เป็นระเบียบสามสี่เล่ม  ฟูกนอนขนาดสามฟุตครึ่งถูกปูกับพื้นห้องด้วยผ้าปูสีน้ำเงินเรียบตึง  ดูก็รู้ว่าเป็นผ้าผืนใหม่ที่เจ้าของบ้านคงเพิ่งซื้อมา  หมอนใบใหญ่กับผ้าห่มผืนหนาถูกเตรียมเอาไว้พร้อม  ชายหนุ่มถอนหายใจแล้วล้มตัวลงนอน



**********


 เสียงพูดคุยพร้อมกับกลิ่นอาหารปลุกให้โกเมนตื่นลุกขึ้นนั่ง  แขนขาวยกนาฬิกาขึ้นดูเห็นว่าเขาหลับไปเกือบๆสองชั่วโมงเลยทีเดียว  ชายหนุ่มลุกเดินออกมาหน้าบ้านเหลียวมองหาต้นเสียงที่ปลุกเขา

เด็กชาย-หญิงอายุประมาณสี่ห้าขวบหันไปมองผู้มาใหม่  ดวงตาใสแจ๋วสองคู่เบิกกว้างแล้ววิ่งไปหาคนที่กำลังเดินออกมาจากห้องครัว

“พ่อ!  นั่นใครน่ะ  ทำไมมาอยู่ในบ้านเรา?”  เด็กชายเอ่ยถามมือแย่งจานในมือพ่อมาถือเอง  ส่วนเด็กหญิงท่าทางขลาดอายเกาะแขนพ่อแน่น

“หลานชายตาปั้นไงลูก”

“หลานชายตาปั้นหรือ?  ทำไมตัวใหญ่จัง?”  เด็กหญิงเอ่ยถามเพราะจำได้ว่าตาปั้นตัวเล็กซ้ำหลังยังงอด้วย  แต่คนนี้ตัวสู๊งสูง

“ก็เขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้วไง”

“แล้วฟักจะตัวโตเหมือนพี่เขาไหม?”  เด็กชายถามบ้าง  คนเป็นพ่อเหลือบมองคนตัวโตแล้วยิ้มตอบลูกชาย

“ถ้าฟักกินข้าวเยอะๆ  แล้วออกกำลังกายเดี๋ยวตัวก็โตอย่างคุณอาเขานั่นแหละ”  คนโดนเรียกคุณอาคิ้วกระตุก  นี่เขาแก่ขนาดเป็นคุณอาได้แล้วหรือ?

“งั้นฟักจะกินข้าวเยอะๆ!”

“แฟงด้วย!”  เด็กหญิงวิ่งไปนั่งข้างเด็กชายแล้วคว้าจานข้าววางตรงหน้า

“เดี๋ยวก่อน  ทั้งสองคนน่ะสวัสดีคุณอาหรือยัง?”  เด็กน้อยวางช้อนลง  “นี่คุณอาโกเมน”

“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ”  โกเมนรับไหว้เด็กทั้งสอง

“ทานข้าวก่อนเถอะครับ”  เจ้าของบ้านหันมาชวน  โกเมนทำท่ายึกยักสักพักก็เดินมานั่งบนแคร่ข้างคนชวน

“ผมไม่กินน้ำพริก”  คิ้วเรียวขมวด  มองถ้วยน้ำพริก-ผักต้มตรงหน้า

“งั้นเดี๋ยวผมไปทอดไข่ให้  ทานได้ไหม?”  คนกินยากพยักหน้ารับ  ตอนนี้ท้องเขาหิวเกินกว่าจะเอ่ยปากมากเรื่องมากราวได้  เด็กสองคนกะพริบตาจ้องมองเขาหลังคนเป็นพ่อลุกออกไป

“อาโกเมนกินเผ็ดไม่ได้หรือ?”  เด็กชายเอ่ยถาม

“.....”  โกเมนนั่งกอดออกไปตอบคำถาม

“เป็นผู้ใหญ่แล้วทำไมถึงกินเผ็ดไม่ได้ล่ะ?”  เด็กหญิงฉงนใจ

“สงสัยยังเป็นผู้ใหญ่ไม่เต็มตัวแน่ๆ”  เด็กชายหันไปบอกเด็กหญิง  อีกฝ่ายทำตาโตพยักหน้าหงึกหงัก

“อ่อ  อาโกเมนเป็นผู้ใหญ่ไม่เต็มวัย”

“นี่  ใครสอนให้พูดจาแก่แดดแบบนี้  หึ!”  โกเมนนึกฉุน  ถลึงตามองเด็กสองคนตรงหน้าแล้วนิ่ง  เด็กชาย-หญิงหน้าตาเหมือนกันมาก

“ฟัก-แฟง  พวกลูกแกล้งอะไรคุณอา  หืม?”

“เปล่าครับ/เปล่าค่ะ”  สองพี่น้องพร้อมใจยิ้มแป้นเอ่ยปฏิเสธ  โกเมนมองท่าทางนั้นแล้วถลึงตาใส่

“นี่ครับ”  จานไข่เจียวหอมกรุ่นเรียกน้ำย่อยในท้องโกเมนให้ไหลจนต้องเลิกสนใจเด็กตรงหน้า



“แถวนี้มีร้านกาแฟไหม?”  หลังอาหารมื้อเช้าสิ้นสุดโกเมนถามหาเครื่องดื่มประจำทันที

“ไม่มีหรอก  คุณอยากดื่มกาแฟหรือ? ถ้าอย่างนั้นผมจะออกไปซื้อให้”

“อ้อ  งั้นเอาเอสเปรสโซหวานน้อยนะ  ใส่น้ำแข็งเยอะๆ” โกเมนติดกาแฟ  และต้องใส่น้ำแข็งไม่ว่าอากาศจะหนาวแค่ไหนก็ตาม

“เอสเปรสโซ? ยี่ห้อใหม่หรือ  ชื่อแปลกจัง?”

“เอสเปรสโซ  กาแฟสดไง!”

"?"

“กาแฟสด  ที่เขาเอามาคั่วแล้วก็บด…คุณไม่รู้จักแล้วจะไปซื้อให้ผมได้ยังไงเนี่ย?”  โกเมนเริ่มระแวง  อีกฝ่ายขมวดคิ้วคิดตามคำพูดของเขา

“คือผมจะไปซื้อกาแฟซองมาชงให้คุณ  เอสเปรสโซอะไรนี่ผมไม่รู้จักหรอก  แต่ถ้ากาแฟสดผมมีนะ  ปลุกไว้สอง-สามต้นหลังบ้าน”

“…….เลิกพูดเหอะ  ผมไม่อยากดื่มแล้ว!”  โกเมนละอยากจะร้องตะโกนคนบ้าอะไรไม่รู้จักกาแฟสด ฮึ่ย~

“อ่อ  ครับ”

“ลูกคุณหรือ?”  ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องคุยก่อนจะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้  เขาจ้องมองใบหน้าอ่อนวัยของอีกฝ่าย  นึกไม่ถึงว่าจะมีลูกโตขนาดนี้แล้ว

“ครับ  ฟัก-แฟงเป็นฝาแฝด”

“มิน่าล่ะหน้าตาถึงเหมือนกันมาก  แล้วนี่แม่เด็กไปไหนเสียล่ะ?”

“เอ่อ...  เขา...ไม่อยู่นานแล้ว”

“เสียแล้วหรือ?”  นี่คนบ้านนอกอายุสั้นกันขนาดนี้เลยหรือ?  ลุงปั้น  แล้วยังแม่เด็กแฝดอีก

“เปล่า  คือ  เขา..ไปหา...มีคนใหม่น่ะ”

“.....”  โกเมนยืนนิ่ง   เขากำลังไปแตะประเด็นอ่อนไหวหรือเปล่านะ?

“คุณจะไปดูที่เลยไหม?”  เจ้าบ้านเป็นคนปัดบรรยากาศขมุกขมัวออกไป  โกเมนพยักหน้ารับ  พลางสูดลมหายใจเข้าลึก  เอาเถอะ  ใครจะเป็นอะไรยังไงมันไม่เกี่ยวกับเขา  ถ้าเขาได้ที่มายังไงเขาก็ขายและคงไม่มาเหยียบที่นี่อีก



“ที่ผืนนี้ราคาเท่าไหร่?”

“หืม?”  คนเดินนำหน้าหยุดฝีเท้าหันกลับมามองอีกฝ่าย

“ผมจะขาย”  โกเมนอธิบายเมื่อเห็นท่าทางไม่เข้าใจของคนด้านหน้า

“ขาย?  คุณไม่ได้จะมาอยู่ที่นี่หรือ?”

“อยู่ที่นี่?  คุณจะบ้าเรอะ!  ผมเป็นดารานะผมทำไร่ทำสวนไม่เป็นหรอก!”  โกเมนกอดอกพลางเหยียดยิ้มมุมปากตามความเคยชิน

“แต่ลุงปั้นแก...”

“แล้วไง?  เขายกที่ให้ผมแล้วผมจะขายจะทำอะไรยังไงมันก็เรื่องของผม”

“....ที่ผืนนี้น่ะ”  เขาขบริมฝีปาก  เหลือบสายตามองร่างสูง  “ที่ผืนนี้คงขายได้ไม่ถึงสองแสนหรอก”

“อะไรนะ!”  โกเมนแทบถลันเข้ามาเขย่าคนให้คำตอบ

“ที่ผืนนี้มีแต่หินหนำซ้ำยังไม่มีน้ำผ่าน  คงขายยาก”

“นี่คุณจะบอกว่าตาผมยกที่ไร้ประโยชน์นี่ให้ผมงั้นหรือ?”  โกเมนเริ่มเดือดดาล  เขานั่งรถแปดชั่วโมงจนก้นชาจากกรุงเทพฯมาบ้านนอกติดขอบชายแดนนี่เพื่อที่ดินไร้ประโยชน์ผืนหนึ่งเนี่ยนะ?

“ไม่มีที่ดินผืนไหนไร้ประโยชน์....”

“ก็คุณพูดเองว่าที่ดินมีแต่หิน  ไม่มีน้ำไหลผ่านผืนนี้ขายได้ไม่ถึงสองแสนน่ะ!”

“แต่มันทำอย่างอื่น...”

“ขายไม่ได้ก็คือไร้ประโยชน์!”  โกเมนไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบ   ชายหนุ่มฮึดฮัดเหลียวมองรอบๆแล้วแค่นยิ้ม  “นี่ฉันฝากความหวังไว้กับที่ดินแห้งแล้งผืนนี้เนี่ยนะ?  โง่ชะมัด!”






ท้องฟ้าที่นี่มองเห็นดาวชัดเจน  เขาไม่เคยเห็นท้องฟ้ากว้างขนาดนี้มาก่อน  ทั้งกว้างใหญ่ทั้งสวยงามเพราะไม่มีแสงไฟนีออนมาบดบังแสงดาว...

โกเมนล้มลงนอนหนุนแขนตัวเองบนแค่ใต้ต้นกาสะลองแล้วถอนหายใจดวงตาจับจ้องท้องฟ้าสีหมึกด้านบน  เมื่อกลางวันหลังเขาระเบิดอารมณ์ใส่ฝ่ายนั้นจึงมาส่งเขาที่บ้านแล้วขับรถหายไปทั้งวันกลับมาอีกทีก็ตอนเย็น  เข้าไปทำอาหารพอกินเสร็จก็หายเงียบเข้าไปในห้อง

“ผมจะไปส่งที่ขนส่งแต่เช้ามืด”   ฝ่ายนั้นเอ่ยบอกทั้งๆที่ไม่มองหน้าก่อนบานประตูจะปิดลง

ทั้งๆที่เป็นเวลาหัวค่ำแต่ที่นี่กลับไม่มีเสียงครึกครื้นของโทรทัศน์   ไม่มีแสงไฟหลากสีมีแต่แสงจันทร์ส่องสว่างแข่งกับดาวที่ประกายแสงวับวาม  ไม่มีเสียงเครื่องยนต์มีเพียงเสียงแมลงกลางคืนระงมแข่งกัน  ไม่กลิ่นควันรถหรือหมอกควันดำในอากาศรอบตัวมีแค่กลิ่นดอกไม้หอมเย็นแตะจมูก  ลมเย็นพัดโชยไม่อบอ้าว  ไม่มีเสียงนินทาริษยามีเพียงเสียงหัวเราะและเสียงกระซิบพูดคุยของพ่อลูกเจ้าของบ้าน

โกเมนถอนหายใจ  ที่ของเขาไม่ใช่ที่นี่  คนอย่างเขาต้องยืนอยู่ต่อหน้ากล้อง  เป็นทั้งดาราและนายแบบจรัสแสงส่องประกายอยู่ในเมืองใหญ่  เมืองเล็กๆท่ามกลางขุนเขาติดชายแดนนี่ไม่เหมาะกับเขา

ใช่...ที่นี่ไม่เหมาะกับเขา




ตลอดเส้นทางอีกฝ่ายไม่ปริปากพูดกับเขาสักคำและเขาก็ไม่ชวนคุย  จนเมื่อล้อจอดสนิทเขาจึงลงจากรถหากแต่ยืนนิ่งไม่ขยับจนเจ้าของรถต้องเปิดประตูลงมา

“ลืมอะไรหรือ?”

“ผมลืมถามชื่อคุณ”

“...ไม่ต้องหรอก  ยังไงคุณก็คงไม่มาที่นี่อีก”  โกเมนพยักหน้ารับ  เขามองเปลือกตาของคนตรงหน้าที่หรุบสายตาลง  อีกฝ่ายไม่มองหน้าเขาตั้งแต่เมื่อวาน

“ฝากจัดการขายที่ให้ด้วย  เสร็จแล้วโทร.หาผม”

“ได้”

“....ผมมีความจำเป็น”  โกเมนไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง

“ผมรู้”

“....”

“คุณเหมาะจะเป็นดาวบนท้องฟ้ามากกว่าลงมาเปื้อนดิน”  ในที่สุดเขาก็เงยหน้าขึ้นมองโกเมน
 
“ผม...”

“คุณรีบไปซื้อตั๋วรถเถอะ  ถ้าเต็มแล้วคุณจะต้องรออีกหนึ่งวันเต็มๆ”  โกเมนยืนนิ่งก่อนจะตัดสินใจเดินไปช่องขายตั๋ว  ทีแรกเขาตั้งใจจะซื้อตั๋วรอบแรกสุดหากก็เปลี่ยนใจเลือกรอบที่ช้าลงมาอีกเกือบสองชั่วโมง

“ตั๋วรอบแรกหมดหรือ?”  เขาพยักหน้ารับ  คิ้วได้รูปของอีกฝ่ายขมวดเข้าหา  คงนึกแปลกใจว่ามาส่งเขาเช้าขนาดนี้ยังไม่ทันตั๋วรอบแรก

โกเมนนั่งรอเวลาโดยมีอีกคนนั่งเป็นเพื่อนเงียบๆ  เขาเพิ่งสังเกต  คนข้างๆมีผิวสีน้ำผึ้งเนียนละเอียด  คิ้วเรียวยาว  ดวงตาสีน้ำตาลเข้มหวานซึ้งเป็นประกาย  นี่กระมังที่เขาเรียกกันว่าตาหวาน  ริมปากสีเข้มได้รูป  จมูกโด่งสวย  ซ้ำรูปร่างยังสูงโปร่งมีกล้ามเนื้อเล็กน้อยพอสวยงาม  นี่ถ้าผู้จัดการเขามาเห็นคงมีหวังลากตัวไปเป็นดาราแน่ๆ

โกเมนสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายหันมามอง  ชายหนุ่มกระแอมไอแสร้งทำทีมองไปทางอื่น  จนเมื่อถึงเวลาเขาก็เดินขึ้นรถไปยังที่นั่งของตัวเอง  จัดการเอากระเป๋าเก็บบนชั้นวางแล้วนั่งลง
เป็นเวลาสิบนาทีกว่ารถจะเคลื่อนตัวออก  ระหว่างนั้นโกเมนมองเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลเข้มไม่วางตา  ร่างสูงโปร่งยืนนิ่งมองตอบกลับมา   โกเมนหมุนตัวหันกลับไปมองคนคนนั้นเมื่อรถค่อยๆเคลื่อนห่างออกไป

มองจนสุดสายตา  ...คนคนนั้นก็ยังคงมองมาเช่นเดียวกัน











โปรดติดตามตอนต่อไป




สวัสดีค่าาาา
กลับมาจากอบรมที่ในเมือง พอมีแรงก็รีบมาอัพเลยค่ะ  ถ้ามีอะไรบกพร่อง ผิดพลาด แนะนำ ติติงกันได้เสมอค่ะ  ขอให้สนุกนะคะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 2 [28-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 28-02-2017 19:25:50
โกเมนเป็นดาราที่เก็บอารมณ์ไม่เป็นหรือไงอ่ะ  :z6:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 2 [28-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 28-02-2017 19:41:47
ทำไมถึง (ยึดติด) คิดว่าที่ของตัวเองคือหน้ากล้อง ต้องเจิดจริสอยู่บนฟ้า ทั้งที่ต้องดั้นด้นยืมเงินคนอื่นมาก็เพราะเป็นดาวอับแสงแท้ ๆ นิสัยไม่น่ารักเอาเสียเลย... แต่เราคิดว่าจะต้องมีการพัฒนา (นิสัยให้ดีขึ้น) แน่ รอค่ะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 2 [28-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 28-02-2017 19:51:29
พูดตรงๆ โกเมนนิสัยไม่ดีเลยแฮะ ตกอับขนาดนี้แล้วยังจะเลือกงงานอยู่อีก ที่ไม่มีงานนี่ส่วนนึงเพราะนิสัยส่วนตัวด้วยรึเปล่า แย่จริงๆ คนแบบนี้
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 2 [28-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 28-02-2017 21:50:13
สนุกดีคับ เพิ่งมาอ่าน
  โกเมนต้องโดนดัดนิสัย
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 2 [28-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 01-03-2017 02:29:16
คิดถึง ผู้ไหญ่ลี กับนางมา เลย  โกเมน ต้องฝึกอีกเยอะ ชอบทุกเรื่องที่มีเด็ก ชทำไห้ดูละมุนๆชอบๆ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 2 [28-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-03-2017 13:54:27
โกเมน  ดาราตกกระป๋องมาสี่ปี
แทนที่ได้งานกลับไปด่าเกลียดเกย์
ตกงาน เงินไม่มาค่าเช่าไม่จ่าย ถูกไล่ออกจากคอนโด
ไม่สำนึกตัวเองซะเลย ดารารุ่นน้องยังดูถูก
ก็ยังคิดว่าตัวเองดัง เหมือนอดีต วาจาดูถูกคน
จากมาโดยไม่รู้ชื่อคนที่ช่วยเหลือ
ให้ข้าวให้น้ำ ให้ที่พักนอน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 2 [28-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: yumijung ที่ 12-03-2017 02:02:57
แปะค่ะ...โกเมนจะกลับมามั้ย
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 2 [28-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: Anong2013 ที่ 12-03-2017 03:38:00
สงสารจัง .. ค้ายๆ ละครบ่วงหงส์เนอะ .. นึกถึงแพนเค้กตอนไปเป็นเด็กเสิร์ฟ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 2 [28-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 14-03-2017 04:17:16


รักพอเพียง : ตอนที่ 3



ชายหนุ่มประสานมือเข้าหากันแน่น  เขามองบรรดาช่างแต่งหน้าที่กำลังยุ่งวุ่นวายกับดาราคนอื่นแล้วถอนหายใจก่อนจะขอตัวออกไปสูดอากาศด้านนอก  จนเมื่อใกล้ถึงเวลาแสดงจึงเดินกลับเข้ามาเพื่อให้ช่างแต่งหน้าตรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมอีกที  หากเสียงพูดคุยจากด้านในทำให้เขาชะงักเท้า

“เห็นว่ากลับมาขอโทษคุณอภินันท์ด้วยนิ  อย่างว่าแหละตอนนี้ไม่ว่าจะบทอะไรก็คงต้องรับ”

“นั่นซิ  จะเลือกงานมากเหมือนสมัยดังๆคงไม่ได้  ไม่อย่างนั้นคงอดตาย”

“นี่ก็คงถึงที่สุดแล้วมั้งถึงได้แบกหน้ามา”

โกเมนก้าวถอยหลัง  ถ้อยคำซุบซิบนินทานั่นคงไม่พ้นตัวเขา  ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะเดินไปเข้าฉาก  เขาอ่านบท  พยายามตีความตัวละครให้แตกก่อนจะเริ่มแสดง
.
.




หลังจากซีรี่ส์เริ่มออกอากาศไปได้สองตอนกระแสตอบรับก็ดีมากจนผู้จัดการตกใจ  เขาวิ่งออกไปหาโกเมนที่ตอนนี้จับเสียมพรวนดินอยู่ในสวนหลังบ้าน

“โกเมน!  นายสุดยอดมาก!  รู้ไหมกระแสของนายดีสุดๆ!”  พี่ตุ่นประกบมือเข้าหากันทำท่าทางมีความสุขเหลือล้น

“งั้นหรือครับ?”  ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมอง  ครู่เดียวก็ก้มลงไปพรวนดินต่อ

“แสดงอาการดีใจให้มันมากกว่านี้หน่อยซิยะ!”  ผู้จัดการร่างท้วมแหว

“ว้าว~ ดีใจจัง!”  โกเมนเงยหน้าขึ้นร้องเสียงดัง  ยักไหล่ให้ผู้จัดการดูว่า  ผมทำแล้วนะ

“เดี๋ยวเถอะ! แล้วนี่เป็นบ้าอะไรมาพรวนดินบ้านฉันทุกวันเลยหึ?”

“พี่ตุ่น  พี่ว่าผมพอจะเป็นชาวไร่ชาวสวนได้ไหม?”

“เพ้อเจ้อ!  นี่นายเป็นดารานะยะ  ทำไร่ทำสวนอะไรกัน  มันไม่เหมาะกับนายสักนิด  อีกอย่างนายทำไม่ได้หรอก”

“ทำไมถึงทำไม่ได้?”

“นายไม่เคยทำนะโกเมน  ทิ้งเรื่องที่ดินบ้านนอกไร้ประโยชน์นั่นไปเถอะโลกของนายอยู่ที่นี่ต่างหาก  แล้วรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว  อีกครึ่งชั่วโมงนายต้องไปออกอีเว้นท์อีก”  ผู้จัดการร่างท้วมสะบัดก้นหนี

โกเมนกลับมาจากต่างจังหวัดมือเปล่าผู้จัดการที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้วได้แต่ตบบ่าปลอบใจ  สุดท้ายเขาก็เข้าไปขอโทษอภินันท์  ฝ่ายนั้นตีหน้านิ่งหากก็ยอมรับคำขอโทษของเขาแล้วยื่นบทกลับมา  ...ร่างสูงทอดถอนใจเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า



แสงแฟลชวูบวาบ  ไมค์หลายตัวจ่อริมฝีปากให้เขาตอบคำถามไม่หยุดหย่อน  โกเมนฉีกยิ้มจนเมื่อยปาก  ใบหน้าหล่อเหลา  คิ้วเรียวยาว  ริมฝีปากสีแดงเข้มยังคงมีสเน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนหันมามอง  ร่างสูงสวมกางเกงเข้ารูปสีดำเสื้อสูทสีแดงเข้ากับชื่อของเจ้าตัวตัดกับผิวขาวจัด  เรือนผมหยักศกถูกตัดสั้นขึ้นมาเล็กน้อยด้านหนึ่งถูกปัดไปด้านข้างเผยรูปหน้าคมสัน  กลายเป็นชายหนุ่มผู้มากด้วยแรงดึงดูดแตกต่างกับตัวตนในละครลิบลับ  ในละครที่โกเมนแสดงเป็นนักศึกษาวัยรุ่นหน้าใสผู้เคร่งครึม  ชุดวันนี้ผู้จัดการเขาเลือกมาให้  เป็นชุดคล้ายๆกับที่เขาเคยใส่มางานแถลงข่าวครั้งแรก  ผู้จัดการร่างท้วมบอกว่า  นี่คือการหวนกลับเข้ามาวงการอีกครั้งและครั้งนี้โกเมนจะดังและเด่นยิ่งกว่าเดิม

“ไม่คิดว่าคุณโกเมนจะกลับมารับบทแบบนี้อีก  แล้วตอนนี้คุณดูเหมือนวันนั้นมากเพียงแต่ตอนนั้นคุณเป็นหนุ่มน้อยที่เข้าหาได้ง่ายกว่า”  ผู้สื่อข่าวคนหนึ่งเอ่ยขึ้น  ดวงตาเป็นประกายมองเขาอย่างคาดหวัง  “เหมาะกับคุณจริงๆ”  รูปร่างของโกเมนเปลี่ยนไปมาก  เขาสูงขึ้น  ตัวโตขึ้นเพราะการออกกำลังกาย  มีกล้ามเนื้อและแข็งแรงจนไม่มีใครสามารถกดเขาลงกับเตียงได้อีกแล้ว  อีกทั้งใบหน้าที่เคยน่ารักสดใสก็เปลี่ยนเป็นคมเข้ม  เคร่งขรึมบึกบึนขึ้นตามวัย

“ครับ”  เขาตอบเพียงเท่านั้น 

ใช่ โกเมนเคยรับบทคล้ายๆแบบนี้มาแล้วในละครเรื่องแรก  บทนั้นเขาแสดงเป็นวัยรุ่นผู้สับสนในความรัก  รักทั้งผู้หญิงและผู้ชาย…มีการพิสูจน์ความรู้สึกโดยการกอด จูบ  แน่ละ  ว่าเขาต้องกอดจูบทั้งผู้หญิงและผู้ชาย  สุดท้ายตัวละครนั้นก็เลือกผู้หญิงในท้ายที่สุด  แม้จะรู้สึกดีกับตัวละครชายอีกคนมากแค่ไหนก็ตาม  ละครเรื่องนั้นผลตอบรับดีมาก  แม้เขาจะไม่ใช่พระเอกแต่บทก็โดดเด่นจนเป็นที่จดจำ  โกเมนเคยให้สัมภาษณ์ถึงการแสดงครั้งนั้น  ว่าเขาไม่รังเกียจเรื่องรักร่วมเพศ  ตรงข้าม  เขาพูดว่าความรักในมุมไหนมันก็ยังคงสวยงาม  จะหญิง-ชาย  หญิง-หญิงหรือชาย-ชายเขาก็ไม่รังเกียจ  นั่นเป็นการพูดที่ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนแปลง  บางคนถึงขนาดคิดว่าเขาเป็นเกย์ด้วยซ้ำ  แต่เพราะไม่เห็นเป็นสาระเขาจึงไม่เคยปฏิเสธความเข้าใจผิดนั้น

โกเมนโดดเด่นตั้งแต่นั้นมา  หนุ่มน้อยผู้ร่าเริง  เข้าถึงง่าย  มีรอยยิ้มอยู่เป็นนิจ  เขามีสเน่ห์ดึงดูดมากมายมหาศาลทั้งเพศตรงข้ามและเพศเดียวกัน  เขามีงาน  มีเงิน  มีทุกอย่างรวมถึงคนข้างกาย  จนวันหนึ่งเมื่อสี่ปีก่อนเขาถูกคัดตัวเพื่อร่วมโปรเจ็กหนังฟอร์มยักษ์  แน่นอนว่าเขาดีใจมากและเข้าไปพบผู้สนับสนุนทันที

งานเลี้ยงฉลองกับนักแสดง  ผู้กำกับ  ผู้สนับสนุนครึกครื้นมาก  แต่โกเมนรู้สึกตงิดใจจนอยากขอตัวกลับบ้านหากก็ถูกรั้งไว้จนผ่านไปค่อนคืน  แก้วเหล้าถูกส่งใส่มือเขาไม่ขาด  แม้จะพยายามเลี่ยงแค่ไหนแต่พอโดนคะยั้นคะยอมากเข้าก็ไม่อาจปฏิเสธได้

ความรู้สึกหนาวเย็นรอบกายทำให้โกเมนขดตัวเข้าหากัน  มือควานหาผ้าห่มคลุมกายทั้งที่ตายังปิด  เสียงหัวเราะด้วยความเอ็นดูทำให้เขาตื่น  แสงสลัวอมส้มไม่คุ้นตาและแอลกอฮอล์กำลังทำให้เขามึนหนักกว่าเดิม

“พี่ตุ่นหรือ?”

“ผู้จัดการเธอน่ะฉันไล่เขากลับไปก่อนแล้ว”  เด็กหนุ่มยันกายลุกขึ้นนั่งทันทีที่ได้ยินเสียงอีกฝ่าย

“คุณ!”  โกเมนจ้องผู้สนับสนุนโปรเจ็กที่นั่งอยู่ปลายเตียง  ฝ่ายนั้นยกยิ้มมุมปาก  มือใหญ่แกะกระดุมเสื้อตัวเองออกอย่างใจเย็นในขณะที่ตัวเขานั้นไม่มีเสื้อผ้าติดกายสักชิ้น!  “ทำไมผมมาอยู่ที่นี่?”

“เธอเมามาก”

“งะ  งั้นหรือครับ  ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมขอตัวกลับ…!”  ร่างผอมของโกเมนถูกกดลงกับเตียงทันทีเมื่อเขาเอ่ยประโยคนั้น  “คุณจะทำอะไร!”

“ชู่ว  ไม่เอาน่า  เธอเองก็น่าจะรู้นี่”  มือหยาบกร้านลากหลังมือแตะไล้แก้มเด็กหนุ่มแผ่วเบา  ดวงตาคู่นั้นมีแต่ความหลงใหลจ้องมองคนด้านล่าง

“ปล่อย!”  โกเมนพยายามใจเย็น

“เธอไม่ได้รังเกียจฉันจริงๆหรอก  ใช่ไหม?”  คนด้านบนก้มลงกระซิบริมหูเสียงแหบพร่า  ความร้อนรุ่มแข็งขืนบดเบียดให้เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัว

“ผมบอกว่าให้ปล่อย!”  โกเมนขืนตัวสุดแรง  ผลักให้อีกฝ่ายเซถอยแล้วกระโดดลงจากเตียงคว้ากางเกงมาสวมอย่างรีบร้อน

“ถ้าเธออยากทิ้งโปรเจ็กนี้ก็เปิดประตูออกไปซิ”

“…..”

“หันกลับมาแล้วเดินมาหาฉันเถอะ”

“….”  เด็กหนุ่มหันกลับไปมองคนบนเตียง  ฝ่ายนั้นยกยิ้มชอบใจเมื่อเขาหันกลับไป

“ใช่  เด็กดี  อย่างนั้นละ”

“ไปตายซะ!”  โกเมนชูนิ้วกลางให้อีกฝ่ายแล้วหนีออกมา

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าวันต่อมาเขาจะโดนถอดชื่อออกจากโปรเจ็กยักษ์นั่นทันที  ทุกคนคาดเดาสาเหตุกันไปต่างๆนาๆ  มีเพียงตัวโกเมนและผู้จัดการเท่านั้นที่รู้ว่าความจริงคืออะไร  พี่ตุ่นอยากจะวิ่งไปต่อยผู้สนับสนุนคนนั้นใจแทบขาดเนื่องจากถูกหลอกให้ทิ้งเขาไว้จนเกือบโดนล่วงละเมิด  โกเมนห้ามเอาไว้ได้ทันเพราะไม่อยากมีปัญหา  แต่ใช่ว่าเรื่องจะจบแค่นั้น…เพราะเขาโดนปฏิเสธงานจากทุกๆที่  คนที่รู้จักกันแอบกระซิบว่าผู้สนับสนุนคนนั้นต้องการเล่นงานโกเมนให้ยอมศิโรราบ  และเมื่อเขาไม่ยอม…โกเมนก็ค่อยๆกลายเป็นดาราตกกระป๋อง…


**********


ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศไล่ความร้อนอบอ้าวให้จางลง  มือขาวปลดกระดุมข้อมือพลางเอนหลังพิงพนักโซฟาอย่างหมดแรง  ห้องพักนี้อภินันท์เป็นคนซื้อให้แทนค่าตัวที่จะได้รับ  ตอนแรกฝ่ายนั้นจะหาห้องที่หรูกว่านี้มาให้แต่โกเมนปฏิเสธเพราะเกินราคาค่าตัว  ข้าวเครื่องใช้ก็เป็นของดีมียี่ห้อ  ชายหนุ่มแค่นยิ้ม

นี่เขาเหมือนผู้ชายขายตัวเลยไม่ใช่หรือไง?

เพราะรู้สึกแย่ดังนั้นทุกวันหลังเลิกงานเขาจึงไปขลุกอยู่บ้านผู้จัดการ  จับจอบจับเสียมพรวนดินปลูกดอกไม้ใบหญ้า  นั่งมองสีเขียวของต้นไม้เพื่อผ่อนคลายอารมณ์  บางคืนก็ขอหอบเสื่อไปปูนอนกลางสนาม  ใช่  และคืนนี้โกเมนรู้สึกอยากดูดาวขึ้นมา…

“ทำไมถึงไม่ไปหลับไปนอน?  พรุ่งนี้นายมีงานแต่เช้านะ”  ถึงจะถามอย่างนั้นแต่พี่ตุ่นก็ยังคงลุกออกมาเปิดประตูบ้านให้หลังเขาโทรศัพท์มาบอก

“ผมอยากดูดาว”

“…มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า?”  ผู้จัดการเอ่ยถาม  มองโกเมนกางเต๊นท์กลางสนามหญ้าโดยไม่เข้าไปช่วย

“ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชายขายตัว”

“ไปได้ยินอะไรมาอีกล่ะ?”

“…ข่าวซุบซิบว่าผมเอาตัวเข้าแลก  คุณอภินันท์เลยโยนบทมาให้”

“…..”

“มันก็อาจจะจริงเพราะผมขอคอนโด ของาน….”

“โกเมน  ฟังนะ  นายไม่ได้ขายตัวแต่นายทำงานแลกมาต่างหาก”

“นับวันผมรู้สึกว่าโลกใบนี้มันแย่”

“นี่น่ะมันโลกมายา  โลกที่ทุกคนใส่หน้ากากเข้าหากัน  มันมีแต่คำว่าผลประโยชน์เท่านั้นแหละ”

“ยิ่งฟังพี่พูดยิ่งดูน่ากลัวนะ”

“เหลวไหล!  นายรู้ตั้งแต่วันที่ก้าวเข้ามาในวงการนี้แล้วไม่ใช่หรือไง”

“นั่นซิ  เมื่อก่อนผมทนได้ยังไงกัน”

“นายรักงานนี้ไม่ใช่หรือไง?”

“เมื่อก่อนน่ะใช่  แต่ตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจ”

“อดทนหน่อยเถอะ  เดี๋ยวทุกอย่างก็เข้าที่เข้าทางเหมือนที่เคยเป็นมา”

“ผมหวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”

หลังปิดกล้องอภินันท์ชวนให้โกเมนเข้าสังกัดของทางช่องและไม่ได้บังคับเมื่อเขาขอเวลาตัดสินใจ  งานอีเว้นท์งานถ่ายแบบมีเข้ามาไม่ขาดสาย  เงินที่เคยหยิบยืมจากผู้จัดการและติดค้างค่าคอนโดที่เก่าก็จัดการคืนไปทั้งหมด  ตอนนี้โกเมนเลยแทบไม่มีเงินติดตัวอีกครั้ง
ชายหนุ่มลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าใส่แล้วลงตะกร้า  วันนี้จะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดเขาเลยไม่อยากเกะกะขวางทาง  แต่ไม่รู้ว่าจะไปไหนก็พอดีโทรศัทพ์มือถือดังขึ้น

“สวัสดีครับคุณนันท์”

“วันนี้เธอว่างหรือเปล่า?”

“ว่างจนเหงาเลยล่ะครับ”  ปลายสายหัวเราะเมื่อได้ฟัง

“ถ้าอย่างนั้นก็ออกมากับฉันเผื่อเธอจะหายเหงา”

“เอ๊ะ?”

“ฉันรออยู่ข้างล่างคอนโดนะ”

หลังอาหารมื้อกลางวันท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นโกเมนได้แต่ถอนหายใจหน้ามุ่ย  อภินันท์เลิกคิ้วมองท่าทางนั้นอย่างนึกขัน  ผู้ชายตัวโตยังกับยักษ์ทำท่าเหมือนเด็กตัวน้อยๆ

“ทำท่าอะไรอย่างนั้น?”

“ผมกำลังนึกถึงหน้าข่าวบันเทิงวันพรุ่งนี้”

“ทำไม?”

“ก็คุณจะเดือดร้อนน่ะซิ  ออกมากินข้าวด้วยกันแบบนี้มีหวัง…โดนซิบซุบไปในทางที่ไม่ดีแน่ๆ”

“อะไรทำให้เธอคิดอย่างนั้น”

“เพราะข่าวก่อนหน้านี้คือ ผมเป็นเด็กคุณ”

“อ้อ~”

“แค่นี้หรือ?”

“อะไรแค่นี้?”

“คุณทำเสียงรับรู้ในคอแค่นี้อ่ะนะ?”

“แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง?”

“ก็แสดงอาการโกรธมากกว่านี้หน่อยเซ่!”  โกเมนถลึงตามองอีกฝ่าย  อภินันท์หัวเราะเสียงดัง

“ช่างมันเถอะน่า  ว่าแต่เธออยากไปที่ไหนอีกหรือเปล่า?”

“ท้องฟ้าจำลอง”  คำตอบของโกเมนทำให้อภินันท์แปลกใจ  เขาไม่ค่อยเห็นคนวัยนี้ไปดูท้องฟ้าจำลองสักเท่าไหร่  คนตรงหน้าเขาดูแตกต่างกับคนอื่นๆที่รู้จัก  โกเมนยังคงดูสดใสเหมือนเมื่อสี่ปีก่อนเพียงแต่สุขุมมากขึ้นเท่านั้น  สิ่งที่ต่างออกไปนอกจากกายภาพก็เห็นจะเป็นฝีมือการแสดงที่พัฒนาขึ้นนี่แหละ  อภินันท์ถึงอยากได้ตัวมาอยู่ในสังกัด

“เธอชอบดูดาวหรือ?”  อภินันท์เงยหน้าขึ้นมองตามสายตาร่างสูง

“ก็เพิ่งมานึกชอบเมื่อไม่กี่เดือนก่อนนี้แหละครับ”

“ทำไม?”“เพราะผมเพิ่งรู้ว่าดาวที่ส่องแสงระยิบระยับมันสวยมากแค่ไหน”

“แต่ในเมืองมองไม่ค่อยเห็นดาวหรอก”

“ใช่  เพราะแบบนั้นเวลาอยากดูดาวถึงต้องมาดูที่ท้องฟ้าจำลองนี่”

“เอาไว้เธอไปพักที่รีสอร์ทของฉันซิ  ที่นั่นเธอคงได้ดูดาวจนเบื่อ”

โกเมนแค่นยิ้ม  อภินันท์ที่ไม่ละสายตาจากชายหนุ่มขมวดคิ้ว  เพราะอะไรโกเมนถึงได้ดูเศร้านัก…


หลังกลับเข้ามาโกเมนได้แต่จ้องมองโทรศัพท์ในมือ  หลายเดือนมานี้คนคนนั้นไม่โทรศัพท์มาเลยสักครั้ง  หรือที่ดินผืนนั้นจะขายไม่ออกจริงๆ?  แล้วเขาจะทำยังไงกับมันดีล่ะ  เก็บไว้เฉยๆหรือทำเป็นลืมว่าเคยมีที่ดินผืนนั้น?  หรือจะยกให้หมอนั่นไปเลยดีไหมนะ?  ในเมื่อคิดไม่ตกเขาก็เลยลิกคิด  สุดท้ายก็เดินเข้าห้องนอน

ไหนๆก็ว่างแล้วจัดห้องสักหน่อยแล้วกัน
โกเมนเปิดตู้เสื้อผ้า  มันเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วยฝีมือแม่บ้าน  ห้องน้ำสะอาดเงาวับจนแปรงในมือเป็นหมัน  ต้นไม้ในกระถางตรงระเบียงชุ่มชื้นด้วยหยาดน้ำจนโกเมนได้แต่ยืนมอง  นี่เขาฟุ้งซ่านจนเบลอหรือไงถึงลืมว่าแม่บ้านเพิ่งกลับออกไป!

สุดท้ายเมื่อไม่รู้ว่าจะทำอะไรชายหนุ่มก็ยกกล่องกระดาษในห้องเก็บของออกมา  สิ่งที่อยู่ในนั้นส่วนใหญ่คือจดหมายและของขวัญจากแฟนๆที่ส่งมาให้เขา  โกเมนหยิบไดอารี่ของสาวน้อยคนหนึ่งขึ้นมาอ่าน  ข้อความให้กำลังใจและรูปภาพน่ารักๆทำให้เขายิ้มออก  ผ่านไปครู่ใหญ่จนถึงหน้าสุดท้ายเขาก็ควานหาอย่างอื่นต่อ  ซองจดหมายสีขาวจ่อหน้าซองด้วยลายมือคุ้นตาหากปิดสนิททำให้เขาขมวดคิ้ว  โกเมนพลิกหน้าซองจดหมายขึ้นอ่าน

ถึง  ปิยะ  รัตนนันท์
ลายมือของแม่?  แล้วนี่มันนามสกุลเดียวกับเขาไม่ใช่หรือไง  โกเมนฉีกซองจนหมายรวดเร็วดึงแผ่นกระดาษในนั้นออกคลี่อ่าน  ลายมือบนแผ่นกระดาษนั้นเป็นของมารดาเขาแน่นอนเขาจำได้  แต่นึกไม่ออกว่าจดหมายฉบับนี้มาอยู่ในกล่องได้ยังไง  อาจจะเป็นตอนเขาย้ายบ้านละมั้ง

ถึง  พ่อ

พ่อสบายดีไหม  หนูขอโทษนะที่ไม่ได้กลับไปหา  เพราะว่าหนูละอายใจเกินกว่าจะกลับไป  ถ้าวันนั้นหนูฟังที่พ่อห้ามวันนี้หนูก็คงไม่ต้องเสียใจ   แต่ยังดีที่หนูมีโกเมน  พ่อเห็นแกแล้วใช่ไหมคะหนูว่าเขาหน้าคล้ายคุณตาของเขานะ  ไร่ของเราเป็นยังไงบ้าง  พ่ออย่าลืมดูแลตัวเองนะ  คราวที่แล้วหนูส่งจดหมายไปให้พ่อได้รับไหม?

หนูอยากกลับไปหาพ่อ  กลับไปไร่ของเรา
บุษราคัม







โกเมนพับจดหมายกลับใส่ซองตามเดิม  ที่อยู่บนหน้าซองซีดจางไปตามกาลเวลา  ร่างสูงเปิดหน้าต่างห้องจนสุดบาน  เขาจ้องมองไปบนถนนที่คลาคล่ำไปด้วยรถยนต์  อากาศร้อนอบอ้าวปะทะเข้าใบหน้า  แม้จะค่ำมืดลมที่พัดมาก็ยังไม่มีความเย็นเลยแม้แต่น้อย  เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าก็ไม่เห็นดาวสักดวง…







โปรดติดตามตอนต่อไป


สวัสดีค่ะ  เอาโกเมนคนนิสัยไม่ดีมาส่งค่ะ  อย่าเพิ่งโกรธเคืองนางเลยนะคะ นางเคยโดนสปอยส์มาเยอะจนนิสัยเสีย แบบนี้ต้องจับมาตีก้นค่ะ!
ช่วงนี้เดินทางออกต่างจังหวัดทุกเดือนเลยค่ะเลยยังไม่ได้แต่งเพิ่มเลย  ฮืออออ
ยังไงก็ฝากติชมด้วยนะคะ ถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหนบอกกันได้เสมอค่ะ^^
เช่นเคย  ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคะ

หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 3 [14-3-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 14-03-2017 07:47:45
รู้สึกว่าบทนี้โกเมนจะนิสัยดีขึ้นผิดหูผิดตาเลยนะ แค่การไปรับมรดก (และไปทำนิสัยไม่ดีไว้) เป็นจุดเปลี่ยนขนาดนี้เลยเหรอนี่ แต่นิสัยดีขึ้นก็ดีแล้วละ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 3 [14-3-60]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 14-03-2017 11:50:09
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 3 [14-3-60]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 14-03-2017 14:40:21
 :mew2: รอลุ้นว่าโกเมนจะเป็นยังไงจะร้ายขึ้นปล่าว
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 3 [14-3-60]
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 14-03-2017 20:11:10
ลุ้นอยากอ่านต่อมาไวไวน้า :mew6:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 4 [26-3-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 26-03-2017 17:23:24
รักพอเพียง :ตอนที่ 4


ร่างสูงคว้ากระเป๋าเป้กระโดดลงจากรถโดยสารประจำทางแล้วยืดเส้นยืดสาย  อากาศยามเช้าตรู่เย็นจับใจจนต้องกระชับเสื้อคลุมให้แน่นขึ้น  เขาเหลียวมองรอบบ้านที่เงียบสงบก่อนถือวิสาสะเปิดประตูรั้วเดินเข้าไปข้างใน  เจ้าของบ้านคงจะได้ยินเสียงรถ  ครู่เดียวก็โผล่หน้ามาจากทางด้านข้างของตัวบ้าน

“ไง?”  ชายหนุ่มโบกมือทักทาย  อีกฝ่ายได้แต่อ้าปากค้าง  จ้องมองเขาตาไม่กระพริบ  จอบในมือหล่นลงพื้นทำให้ด้ามจอบฟาดใส่เข่าเจ้าของ  ร่างสูงโปร่งสะดุ้งโหยงร้องโอยได้สติ

“คะ  คุณ! มาได้ไง?”

“ก็นั่งรถมาน่ะซิ”

“อ้อ”

“…..”

“…..”

“นี่ไม่คิดจะชวนผมเข้าบ้านรึไง?”  โกเมนขมวดคิ้วหลังยืนจ้องหน้ากันไป-มาอยู่พักใหญ่

“เอ่อ  คือ…  ถ้างั้นเข้าบ้านก่อน”  เจ้าของบ้านหันซ้ายหันขวา  บ้านเขาไม่มีห้องรับแขก  ไม่มีโต๊ะหรูไว้ต้อนรับเลยไม่รู้ว่าจะให้ร่างสูงไปนั่งรอตรงไหนดี

“เดี๋ยวผมไปนั่งรอที่แคร่ใต้ต้นกาสะลองก็ได้”  โกเมนหัวเราะในคอเดินไปนั่งลงตรงแคร่หน้าบ้าน

“งั้นรอแปบ  ผมจะชงกาแฟมาให้”  เจ้าของบ้านเช็ดมือกับชายเสื้อแล้ววิ่งเข้าบ้าน
โกเมนสูดลมเข้าปอด  อากาศเย็นชื้นกลับทำให้เขารู้สึกสดชื่น  แสงสีทองเริ่มจับขอบฟ้า  เสียงเหล่านกกาเจื้อยแจ้วดังใกล้ๆเพราะต้นไม้รายล้อม  กลิ่นดอกไม้บางอย่างลอยมาตามลมส่งกลิ่นอ่อนๆทั่วบริเวณ  ครู่ใหญ่กลิ่นกาแฟก็แทรกเข้ามาในมวลอากาศ  โกเมนขยับตัวเพื่อให้เจ้าของบ้านนั่งลงข้างกัน

“เดี๋ยวนี้มีกาแฟแล้วหรือ?”  เขาเลิกคิ้วถาม  จ้องมองแก้วกาแฟใบเล็กสีขาวตรงหน้ากับขวดที่บรรจุบางอย่างสีน้ำตาลไหม้ขวดเล็กในมืออีกฝ่าย  “แล้วเป็นกาแฟสดหรือเปล่า?”  ชายหนุ่มแกล้งเย้าก่อนจะรับแก้วมาถือไว้เอง

“ก็ไม่สดนะครับ เพราะผมเด็ดมาตาก  คั่วแล้วก็บดเก็บไว้”

“พรืด!”  โกเมนแทบสำลักกับคำตอบของอีกฝ่าย  “คุณคั่วแล้วก็บดกาแฟเอง?”

“ครับ  พอดีปลูกไว้หลังบ้านสองสามต้นเพราะเจ้าแฟงชอบดอกของมัน แล้วคราวก่อนคุณบอกว่าอยากดื่มกาแฟสดผมเลยลองเอาเมล็ดที่สุกแล้วมาล้าง ตากแดด  คั่วแล้วบดเก็บไว้เผื่อ… เอ่อ บดเก็บเอาไว้ลองชงดื่ม”

“……”  โกเมนจ้องใบหน้าเจ้าของบ้านนิ่งนาน  กาแฟแก้วนี้กลิ่นไม่หอมอย่างที่เขาเคยดื่ม รสชาติก็ไม่ค่อยจะได้เรื่องสักเท่าไหร่เพราะคนชงคงไม่รู้วิธีทำที่ถูกต้องมากนัก แต่มันกลับทำให้เขายิ้ม  “ขอบคุณมาก”  ความรู้สึกอุ่นในอกที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนทำให้โกเมนยกยิ้ม  ไม่ใช่ว่าไม่เคยได้รับการเอาใจ  เมื่อก่อนอยากได้อะไรก็มีคนหาให้  ทุกวันก็ยังมี  เพียงแต่คนที่เก็บสิ่งที่เขาเคยพูดเมื่อนานมาแล้วมาใส่ใจแบบนี้นั้น…ยังไม่เคยเจอ

“นี่น้ำผึ้ง  ถ้าคุณอยากจะเติมหวาน”  เจ้าของบ้านเลื่อนขวดสีน้ำตาลไหม้มาตรงหน้าโกเมน  ชายหนุ่มยกยิ้มมองปลายนิ้วสั่นๆของคนตรงหน้า

“ขอบคุณ  แล้วก็ทีนี้คุณบอกชื่อผมได้แล้วนะ”

“หืม?”

“ตอนนั้นคุณบอกว่า  จะไม่บอกชื่อเพราะผมคงไม่กลับมา”  โกเมนเทน้ำผึ้งใส่ช้อนกาแฟแล้วค่อยๆคน  กลิ่นน้ำผึ้งกับกลิ่นกาแฟผสมกันหอมหวลชวนให้ลิ้มลอง

“พล  รัชพล ว่าแต่คุณจะมาอยู่ที่นี่จริงๆใช่ไหม?”  รัชพลยิ้มกว้างเงยหน้าถามพร้อมสายตาวิบวับ

“ใครบอก?”

“อ้าว  ก็คุณกลับมา…”

“ผมมาพักผ่อนต่างหาก”    คำตอบของโกเมนทำให้อีกคนอ้าปากค้าง  คิ้วเรียวขมวดมุ่น

“คุณโกหกให้ผมบอกชื่อนี่!”

“ผมไม่ได้โกหกนะ  อีกอย่างผมกลับมา  แล้วคุณบอกชื่อก็เป็นไปตามเงื่อนไขของคุณนะ เพียงแต่ผมกลับมาเพื่อพักผ่อนและรอข่าวซาเท่านั้นเอง”

“….”  รัชพลขบริมฝีปากไม่ตอบโต้ก่อนจะลุกออกไปคว้าจอบที่ถูกทิ้งขว้างไปยังหลังบ้าน


จนสายเด็กแฝดก็ออกจากห้องนอน  ทั้งสองคนวิ่งเข้าไปหาโกเมนอย่างตื่นเต้น  จนเมื่อผู้เป็นพ่อเรียกไปกินข้าวจึงละจากร่างสูงออกไป

“พ่อๆ  อาโกเมนจะมาอยู่กับเราหรือ?”  เด็กหญิงถาม

“เปล่า”

“แต่อาโกเมนบอกว่าอย่างนั้นนี่”  เด็กชายค้าน  เอียงคอมองผู้ใหญ่สองคนที่ตอบไม่ตรงกัน

“ผมนอนห้องเก่าที่เคยนอนละกันนะ”

“ถ้าคุณอยากมาพักผ่อนละก็  เชิญในตัวเมืองที่นี่ไม่ใช่โรงแรม”  รัชพลตักข้าวใส่จานให้สองแฝดพลางตอบโดยไม่มองหน้าร่างสูง

“แต่ผมอยากนอนที่นี่” 

“ผมไม่ให้นอน!”  เจ้าของบ้านเชิดหน้าจ้องมองคนขอเป็นแขกเขม็ง

“ผมจะนอน”

“ผมไม่...”

“พ่อ  ให้อาโกเมนนอนที่นี่เถอะ  ฟักอยากให้อาโกเมนสอนว่าทำยังไงตัวถึงจะโตแบบอาโกเมน”  เด็กชายหันมาเขย่าแขนพ่อออดอ้อน

“กินข้าวเยอะๆเดี๋ยวก็ตัวโตเองแหละ”  รัชพลเอ่ยขัด

“แฟงก็อยากให้อาโกเมนนอนที่บ้านเราเหมือนกันค่ะพ่อ”  เด็กหญิงคว้าแขนข้างที่ว่างมาเขย่าอีกแรง

“ฮื่อ!”  คนเป็นพ่อก้มลงมองหน้าลูกสาวพลางขมวดคิ้ว

“ก็อาโกเมนหล่อ  แฟงอยากมองหน้าอาโกเมนนานๆ”

“อยากดูคนหล่อก็มองหน้าพ่อนี่ไง!”

“แต่อาโกเมนหล่อกว่าพ่อนี่นา” 

“โว๊ะ  ยัยเด็กแก่แดด!”  รัชพลฮึดฮัดใส่ลูกสาวพลางสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุม  โกเมนกลั้นขำจนไหล่สั่นเมื่อได้ฟังบทสนทนาของสามพ่อลูก

“เจ้าแฝดอนุญาตแล้ว  งั้นผมเอากระเป๋าไปเก็บในห้องนะ”

“แต่ผมไม่อนุญาต…”

“เออ สรุปที่ดินแปลงนั้นคุณขายไปหรือยัง?”  โกเมนที่กำลังก้าวข้ามประตูบ้านหันมาถาม

“เอ่อ…คือว่า…เรื่องนั้น”  รัชพลชะงัก  ไอ้ท่าทางโมโหเมื่อครู่หายไปเกือบหมด  ดวงตาคมเข้มเหลือบมองร่างสูงแล้วเสหลบ

“เอาเถอะ  คุณกินข้าวก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน”   โกเมนหลุบหายเข้าไปในห้องนอนที่้เขาเคยมาพักครั้งก่อนอย่างถือวิสาสะ

รัชพลถอนหายใจด้วยความหนักใจ  มองประตูห้องที่้ปิดสนิทแล้วนั่งลงข้างลูกสาวลูกชาย  เขาคิดว่าโกเมนคงไม่กลับมาที่นี่อีกแต่จู่ๆก็โผล่มาเสียอย่างนั้น  แล้วทีนี้เขาจะทำอย่างไรดีเล่าในเมื่อเขาไม่ได้ทำตามคำสั่งของอีกฝ่าย

จนสายรัชพลจึงไปส่งสองแฝดที่บ้านตา-ยายเพื่อที่เขาจะได้คุยธุระกับโกเมนให้เสร็จ  แต่เอาเข้าจริงๆเขากลับรู้สึกอยากให้สองแฝดมาชวนอีกฝ่ายคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจอยู่เหมือนกัน

“คุณพล?”

“!”  เจ้าของบ้านสะดุ้งโหยง ไอ้ที่เตรียมใจและหาข้ออ้างต่างๆมากมายกระเด็นหายไปตั้งแต่เสียงทุ้มทักแบบไม่ทันให้ตั้งตัว

“คะ ครับ!”

“?”

“เอ่อ  คุณจะกินข้าวก่อนไหม?” รัชพลชะเง้อมองนาฬิกาแขวนผนังในบ้านแล้วเอ่ยถามร่างสูงที่โงนเงนออกมาจากห้อง

“ไม่ล่ะ  ผมยังไม่หิว”

“งั้น  เอากาแฟอีกสักแก้วไหมครับ?”

“นี่  คุณดูมีพิรุธนะ”  โกเมนขมวดคิ้วกับท่าทางผิดปกติของอีกฝ่าย  ตอนเขามาถึงยังทำท่าดีใจ พอบอกว่าไม่คิดจะทำไร่ทำสวนก็โมโห แต่ตอนถามถึงเรื่องขายที่ดินกลับทำท่าเหมือนกลัวเขาจะเอาเรื่อง

“ก็…”

“เกี่ยวกับที่ดินแห้งแล้งผืนนั้นหรือเปล่า?”

“!”  รัชพลสะดุ้งคำรบสอง  โกเมนเลิกคิ้วกับท่าทางนั้นแล้วยกยิ้มมุมปาก

“คุณไม่ได้ขายที่ตามที่ผมบอกซินะ?”

“เอ่อ  คือว่า…ที่ดินผืนนั้นลุงปั้นแกอยากยกให้คุณ  แกอยากให้คุณกลับมาอยู่ที่นี่  มาสร้างชีวิตบนผืนดินผืนนั้นผมเลย…ผมขายที่ดินผืนนั้นไม่ได้จริงๆ”  ในที่สุดรัชพลก็เงยหน้าขึ้นสบตากับโกเมน  แม้จะดูหวาดหวั่นแต่ความจริงจังในดวงตาคู่นั้นก็ทำให้โกเมนยืนนิ่ง

“ทำไม  ทำไมคุณถึงต้องทำตามที่ลุงปั้นแกบอกด้วย”

“ตา”

“หือ?”

“คุณต้องเรียกลุงปั้นว่าตา”

“…..ผมจะเรียกว่าอะไรก็เรื่องของผมน่า”  โกเมนนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะโต้กลับ

“ลุงปั้นแกมีบุญคุณกับผม  ผมเลยอยากทำคำขอสุดท้ายของแกให้เป็นจริง”

“คือการให้ผมกลับมาอยู่ที่นี่ มาทำไร่ทำสวนเนี่ยนะ?”  รัชพลพยักหน้ารับ

“คุณไม่ต้องห่วงนะ  ถ้าคุณจะกลับมาอยู่ที่นี่แล้วทำไร่ทำสวนจริงๆผมจะช่วยคุณเอง!”

“ผมยังไม่ได้พูดว่าจะมาอยู่ที่นี่สักหน่อย!”  โกเมนกอดอกถลึงตามองอีกฝ่าย  รัชพลเบ้หน้ากับคำพูดนั้นแล้วถอนหายใจ  ก่อนจะคว้าจอบที่วางทิ้งไว้ขึ้นมาถือ  “คุณจะไปไหนน่ะ?”

“ปลูกผัก”  เจ้าของบ้านตอบโดยไม่หันมามอง  โกเมนเลิกคิ้วก่อนจะสวมรองเท้าแล้วเดินตามอีกฝ่ายไปทางหลังบ้าน

พื้นที่ด้านหลังของบ้านหลังน้อยเป็นแปลงผักหลากหลายชนิด  ท้ายสวนมีไม้ยืนต้นที่โกเมนไม่รู้จักชื่อมากมายแต่ที่แน่ๆมีต้นมะพร้าวอย่างน้อยสามสี่ต้นแหละที่ชายหนุ่มรู้จัก  ด้านข้างเป็นเล้าไก่  น่ากลัวว่าไข่เจียวเมื่อคราวก่อนคงจะมาจากแม่ไก่ในเล้านี้  อีกด้านเป็นบ่อปลามีกังหันวิดน้ำเล็กๆอยู่ด้วย

“ในบ่อนั่นเลี้ยงปลาอะไรหรือ?”

“ปลานิล”

“แล้วนี่คุณจะปลูกอะไรน่ะ?”

“กะเพรา”  ไม่พูดพล่ามทำเพลงรัชพลก็ลงมือใช้จอบขุดดินในแปลงโดยไม่สนใจคนที่เดินตามมา  โกเมนหยุดเท้ายืนมองอีกฝ่ายก่อนจะถอยมานั่งใต้ต้นมะละกอ  ชายหนุ่มเหลียวมองไปรอบด้าน จากสายตาคะเนคร่าวๆพื้นที่นี้น่าจะประมาณสองไร่กว่าๆ  และทุกตารางนิ้วไม่ว่างเว้นจากพืชผักสวนครัวเลยสักนิด

“คุณปลูกพวกนี้ขายหรือ?”

“ปลูกกิน  เหลือก็ขาย”

“แล้วถ้าไม่เหลือล่ะ?”

“?”  รัชพลหยุดมือ  หันมามองคนที่นั่งใต้ต้นมะละกอเหมือนมองดูคนโง่ก่อนจะเหลียวมองรอบด้าน  “บ้านเรามีแค่สามคนพ่อลูก  เรากินผักหมดนี่ไม่ไหวหรอก”

“กินไม่หมดแล้วปลูกทำไมเยอะแยะ”

“ก็ถ้าไม่ปลูกแล้วจะปล่อยไว้ทำอะไรล่ะ?”

“….”  โกเมนยักไหล่ไม่รู้ว่าจะตอบอะไร

“เจ้าฟักชอบกินผักบุ้ง  ผมก็ปลูกผักบุ้ง เจ้าแฟงชอบกินแตงกวาผมก็ปลูกแตงกวา”

“แล้วคุณชอบกินอะไร?”

“….ผมกินได้ทุกอย่างนั่นแหละ”

“คุณก็เลยปลูกทุกอย่างงั้นซิ?”

“ใช่”

“ผมชอบกินชาโยเต้”

“ชาโยเต้?”

“อืม  ที่ลูกมันคล้ายๆมะระอ่ะ  แต่สั้นกว่า  ไม่ขมเหมือนมะระ มันหวานๆ เวลาผัดใส่ไข่อร่อยดี”

“อ๋อ  ฟักแม้ว”

“ฟักแม้ว?”

“ใช่  ภาษาบ้านเราเรียกฟักแม้ว มะระแม้ว”

“อื้อ  นั่นแหละๆ  คุณปลูกไว้บ้างหรือเปล่า?”

“….เปล่า”  รัชพลเหลือบมองสายตาวิบวับมีความหวังของคนตัวโตหม่นแสงแล้วให้ใจหาย  “แต่มีที่ว่างเหลืออยู่อีกแปลงผมว่าจะลงอยู่เหมือนกัน”

โกเมนยิ้มกว้างเมื่อได้ฟัง  เขานั่งดูรัชพลขุดดินถางหญ้าจนถึงเที่ยง  เจ้าของบ้านจึงเดินเข้าเล้าไก่หยิบไข่มาสาสี่ฟอง  เดินไปเด็ดยอดชะอมริมรั้ว  หยิบปลานิลในกระจาดที่ตากแดดบนซุ้มแตงกวามาสองตัว  ผักนู่นนี่อีกตามรายทางก่อนจะหายลับเข้าไปในครัว
กลิ่นปลาแดดเดียวทอดหอมฉุย  กลิ่นไข่ทอดชะอมลอยตามมา  เสียงตำน้ำพริกดังอยู่เดี๋ยวเดียวก็เงียบเสียง  ก่อนเจ้าของดวงตาคมเข้มจะโผล่หน้าออกมา

“นี่คุณ!”

“หืม?”

“ไปเด็ดมะนาวมาให้หน่อย”

“มะนาว?”

“ใช่  เดินตรงไปใกล้ๆบ่อปลาน่ะ  เอามาสองสามลูก”  โกเมนพยักหน้ารับแล้วเดินไปทางบ่อปลา  ต้นมะนาวต้นเตี้ยแต่มีลูกดกเต็มต้น  เขามองหาลูกโตๆแล้วยื่นมือคว้าเด็ดมาสองสามลูกตามคำสั่งเจ้าของบ้าน  ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ดตรงแขน  มดแดงตัวโข่งฝังปากแหลมของมันอยู่ในเนื้อ

“เอ้า”  โกเมนยื่นมะนาวให้อีกคน ส่วนมือข้างที่ว่างก็เการอยมดกัดจนแดงไปทั้งแถบ

“เป็นอะไรน่ะ?”

“มดกัด”  ตอบทั้งๆที่มือไม่หยุดเกา  รัชพลมองตุ่มที่ขยายใหญ่ขึ้นบนผิวขาวจัดก่อนจะเงยหน้ามองใบหน้าอีกฝ่าย

“อย่าเกา!”

“ก็มันคันนี่”

“รอแปบนึง”  รัชพลดันร่างสูงให้พ้นทางแล้วเดินออกไปหยุดยืนริมรั้ว  เด็ดใบตำลึงมาหนึ่งกำมือก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านแล้วเอาตำลึงที่เด็ดมาใส่ในครกบดยาใบเล็ก  จัดการบดจนละเอียดแล้วควักออกมาใส่ถ้วยใบกะทัดรัดตามด้วยเหล้าขาว  “มานี่”  เจ้าของบ้านกวักมือเรียกให้คนที่โดนมดกัดเดินมาหา

“อะไรน่ะ  กลิ่นเหมือนเหล้า”

“ก็เหล้าน่ะซิ  ยื่นแขนมา”  ไม่รอให้คนตัวโตยกแขนรัชพลก็คว้าแขนขาวมาพาดตักแล้วแต้มน้ำที่ได้จากการตำตำลึงผสมเหล้าขาวลงบนตุ่มมดกัดให้ร่างสูง  “โดนกัดไม่เยอะ ทาสักสองสามครั้งก็น่าจะหาย”

โกเมนหรุบสายตาจ้องมองใบหน้าอีกฝ่าย  พลันในอกรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก  นี่เป็นรอบที่สองในหนึ่งวันนี้ที่อีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกแปลกๆ  เป็นความรู้สึกอบอุ่นเหมือนที่เขาเคยได้รับจากมารดาเมื่อครั้งยังเด็ก…

ที่เขารู้สึกแบบนี้อาจจะเป็นเพราะเขาอยู่คนเดียวมานานเกินไป

“ขอบคุณ”  โกเมนเอ่ยขอบคุณเสียงเบา  แล้วเดินไปนั่งรอที่แคร่หน้าบ้านตามคำสั่งอีกฝาย
รัชพลกลับออกมาอีกครั้งพร้อมถาดสำรับกับข้าว  มีน้ำพริกกะปิ  ชะอมชุบไข่ทอด ปลาแดดเดียวทอดและข้าวสวยร้อนๆหอมฉุย

“กินได้ไหม?  ได้ไม่ได้ก็ต้องกินแหละ  ถ้าอยากกินดีกว่านี้ก็ต้องไปนอนโรงแรมในเมือง”  ถามเองตอบเองเสร็จสรรพ  โกเมนขมวดคิ้ว

“ยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ  อีกอย่างนี่อุตส่าห์เดินไปเด็ดมะนาวให้มดกัดเรื่องอะไรจะไปกินข้าวที่อื่น ฮึ!”  รัชพลเบ้หน้าหากไม่ต่อปากต่อคำอีก


“นี่  เรื่องที่ดินผืนนั้นน่ะ”  โกเมนเอ่ยขึ้นหลังจัดการอาหารตรงหน้าหมด  เขาโดนเจ้าของบ้านใช้ให้มาล้างจานเพราะถือว่านั่งรอกินอย่างเดียว

“ผมจะพยายามขายให้เร็วที่สุดถ้าคุณต้องการ”  รัชพลเอ่ยขัด

“ไม่ต้อง”

“หืม?”

“ไม่ต้องขายแล้ว”

“…ทำไมล่ะ?”

“ไม่รู้ซิ  บางที…สักวันผมอาจจะมาเป็นชาวไร่ชาวสวนแบบคุณมั้ง”

“ไม่หรอก  คุณเป็นไม่ได้”

“ทำไมถึงคิดว่าผมเป็นไม่ได้?”

“คราวนี้คุณมาที่นี่ทำไม?”

“….”

“คุณแค่หนีอะไรบางอย่างมา  คุณไม่ได้กลับมาหาที่ดินผืนนั้น”  รัชพลเงยหน้ามองอีกฝ่าย  คำพูดแทงใจทำให้โกเมนมองอีกฝ่ายกลับ

“ใช่  คุณพูดถูก  ผมแค่หนีบางอย่างมา  แต่เรื่องขายที่น่ะผมพูดจริง  คุณไม่ต้องหาคนมาซื้อที่ดินผืนนั้นแล้ว”

“….”

“ผมจะเก็บที่ดินของตาเอาไว้  เผื่อสักวัน…ผมจะสามารถทำอะไรบางอย่างกับมันได้”

“อะไรบางอย่างน่ะคืออะไร?”

“ก็อย่างเช่นปลูกผักปลูกหญ้าเหมือนที่คุณปลูก”

“แล้วอะไรอีก?”

“ปลูกชาโยเต้ที่ผมชอบกิน!”  ท่าทางตื่นเต้นของร่างสูงเรียกรอยยิ้มให้รัชพล  เขาหัวเราะท่าทางนั้นของโกเมนก่อนจะพยักหน้า

“ถ้าคุณอยากปลูกเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน  ผมจะช่วย”

โกเมนนิ่งมองรอยยิ้มเจิดจ้าของคนตรงหน้า รัชพลมีใบหน้าได้รูป  คิ้วเรียวยาว  ดวงตาคมเข้มสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งรั้น  ริมฝีปากหยักบาง ผิวสีน้ำผึ้งขับให้เจ้าตัวดูเคร่งขรึมมากขึ้นยามเมื่อไม่ยิ้มแย้ม  หากแต่ตอนนี้เจ้าของใบหน้านิ่งเฉยกลับเผยรอยยิ้มให้เขาเป็นครั้งแรก

“ขอบคุณ”








โปรดติดตามตอนต่อไป
เช่นเคย แนะนำติชมกันได้เสมอนะคะ
ขอบคุณค่ะ^^
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 4 [26-3-60]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 26-03-2017 21:28:46
ชอบอ่ะ น่ารักๆๆๆ
ได้บรรยากาศธรรมชาติชีวิตพอเพียงเลยอ่ะ
มาต่อไวๆๆๆน่ะ รอลุ้นน่ะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 4 [26-3-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 26-03-2017 22:09:57
ทำไมรู้สึกว่าเนื้อเรื่องของแต่ละตอนไม่ต่อกัน มันดูโดด ๆ หรือนี่จะเป็นสไตล์ของคนเขียน
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 4 [26-3-60]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 26-03-2017 22:16:08
พอเพียงจริงๆ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 4 [26-3-60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 26-03-2017 23:28:49
อ่านแล้ว อยากกลับบ้านนอกจังเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 4 [26-3-60]
เริ่มหัวข้อโดย: คุณจัตวา ที่ 29-03-2017 18:27:22
ชอบอะ  รู็สึกอบอุ่น   น้องฟักน้องแฟงน่ารัก  อยากให้มีเด็กน่ารักๆแบบนี้มาอ้อนบ้างจังเลย
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 4 [26-3-60]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 07-04-2017 11:30:46
จะมายังน่ะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 4 [26-3-60]
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 12-04-2017 17:56:46
น่ารักอบอุ่นดี รอจ้ะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 4 [26-3-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 16-04-2017 03:32:01

รักพอเพียง : ตอนที่ 5





   “เออนี่  เดี๋ยวคุณอาบน้ำไปก่อนนะ  ผมจะไปรับเเจ้าแฝดก่อน”
   
“ฮื่อ  จะให้ผมอยู่คนเดียวหรือ? ไม่เอาอ่ะ  ผมไปรับเจ้าแฝดด้วยแล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาอาบ”

   “นี่มันค่ำแล้วนะ  ถ้าคุณไม่รีบอาบเดี๋ยวก็หนาวหรอก”  รัชพลเงยหน้าขึ้นมอง  ท้องฟ้ายามค่ำเริ่มมืดครึ้ม  อีกอย่างบ้านเขาไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นเสียด้วย

   “คุณจะทิ้งให้ผมอยู่บ้านคนเดียวเนี่ยนะ?”

   “อย่าบอกนะว่าคุณกลัว?”

   “ถ้าใช่แล้วจะทำไม?”  โกเมนยืดอกรับชนิดทิ้งความมาดแมนไม่เหลือเค้า  รัชพลอ้าปากค้างก่อนจะตัดสินใจไปรับสองแฝดช้าอีกหน่อย

   “งั้นเดี๋ยวผมรอคุณอาบน้ำเสร็จก่อนก็ได้”

   “ผมไม่อาบน้ำในห้องน้ำได้ไหม?”

   “ห้ะ  อะไรอีกล่ะคุณ”

   “ก็เดี๋ยวคุณแอบหนีไปตอนผมอาบน้ำ”

   “จะบ้าเรอะ!”

   “ไม่รู้แหละ”  คนตัวโตทำท่าสะบัดสะบิ้ง

   สุดท้ายรัชพลเลยจัดการให้โกเมนมาอาบน้ำตรงชานหลังบ้าน  ลมเย็นช่วงหัวค่ำโชยพัดจนต้องห่อไหล่

   “มันหนาวอ่ะ”

   “น้ำในโอ่งนี่ตากแดดมาทั้งวันมันยังอุ่นอยู่  รีบๆอาบเถอะ”  รัชพลโยนผ้าขาวม้าให้อีกฝ่ายใส่อาบน้ำก่อนจะทำท่าหันหลังกลับเข้าบ้าน

   “เฮ้ย คุณ  ยืนเฝ้าด้วยซิ  เกิดมีผีโผล่มาจะทำยังไง”

   “ไม่มีผีหรอกน่า แล้วรีบๆอาบได้แล้ว!”

        “อ้ากกกก!”

        “เกิดอะไรขึ้น?”  รัชพลวิ่งกลับมายังชานหลังบ้านทันทีที่ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของโกเมน

        “มันหนาวอ่ะ”
 
       “……”



   รถเครื่องคันเก่าแล่นไปตามทางลาดยางสายเล็ก  นานๆทีจะมีเสาไฟให้ความสว่างสักต้น  ด้านข้างส่วนใหญ่เป็นต้นไม้สูง  อากาศเย็นยะเยือกพัดมาเป็นระลอก

   “นี่คุณ  มันจะมีผีออกมาไหมอ่ะ?”  คนขี้กลัวเริ่มอยู่ไม่สุข  มือใหญ่ที่ตอนแรกจับท้ายเบาะเปลี่ยนมากำชายเสื้อคนขับแน่น

   “บ้าเรอะ! มันจะออกมาก็ตอนคุณทักเนี่ย!”  รัชพลไม่ใช่คนขี้กลัวแต่มาอยู่กับคนกลัวผีหนำซ้ำยังมาพูดคำว่าผีกรอกหูทุกห้านาทีมันก็อดรู้สึกหวาดๆขึ้นมาไม่ได้

   “นี่  แล้วรถยนต์เมื่อคราวก่อนไปไหนเสียแล้วล่ะ?”

   “นั่นไม่ใช่รถผมหรอก  ผมยืมเขาขับไปรับคุณน่ะ  พอรับคุณเสร็จถึงต้องไปส่งคนงานให้เขาที่ไร่ไง”

   “แล้วคุณมีแต่รถเครื่องแก่ๆคันนี้เนี่ยนะ”

   “ใช่”

   “แล้วนี่จะนั่งกลับกันสี่คนหมดเหรอ?”

   “ก็ผมบอกให้คุณรออยู่ที่บ้านก็ไม่ยอมเองนี่  แล้วนี่ถ้าเกิดซ้อนสี่แล้วยางแบนกลางทางคุณมาเข็นรถเลยนะ”

   “โธ่~”

   รัชพลยกยิ้มมุมปาก  รู้สึกเอ็นดูคนขี้กลัวขึ้นมานิดหน่อย  แต่ส่วนใหญ่คือความหมั่นไส้เสียมากกว่าเขาเลยแกล้งขับให้ช้าลงอีก  แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าตอนขากลับเพราะน้ำหนักที่มากขึ้นเลยได้ขับช้าๆตามที่แกล้งเอาไว้จริงๆ

   เด็กแฝดพอถึงบ้านก็ล้างเท้าแล้ววิ่งเข้าที่นอนทันที  โกเมนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู  มันบอกเวลาสองทุ่มทั้งๆที่ท้องฟ้าข้างนอกมืดสนิทจนเขานึกว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว

   “เด็กๆจะนอนกันแล้วหรือ?”

   “ใช่  พรุ่งนี้วันจันทร์ตา-ยายของสองแสบจะมารับไปโรงเรียน”

   “โรงเรียน?  สองคนนั้นอายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย”

   “หกขวบ”

   “หกขวบก็ให้ไปโรงเรียนแล้วหรือ?”

   “ที่จริงก็ไม่เชิงโรงเรียนหรอก  เป็นศูนย์เด็กเล็กของโรงพยาบาลน่ะ”

   “อ้อ  แล้วนี้เด็กๆต้องเข้านอนแต่หัวค่ำอย่างนี้ทุกวันหรือ?”

   “ก็ถ้าไม่นอนแล้วจะทำอะไรล่ะ?”  รัชพลห่มผ้าให้ลูกสาวลูกชายพลางเหลียวมองร่างสูงที่ยืนพิงกรอบประตูห้อง

   “ดูทีวี ดูละครไง  เออ จะว่าไปบ้านคุณนี่เงียบๆนะ”

   “บ้านเราไม่มีโทรทัศน์หรอก”

   “หือ  อยู่กันได้ยังไงโดยไม่มีทีวีน่ะ”

   “ก็อยู่กันมาได้นี่”  รัชพลเหน็บชายมุ้งเรียบร้อยแล้วลุกขึ้นยืน  “อยากฟังเพลงฟังข่าวก็ใช้วิทยุ  ค่ำมากินข้าวเสร็จก็มานั่งคุยว่าวันนี้ไปทำอะไรมาบ้างได้เจอใครบ้าง  ฟังสองแฝดเล่าถึงวีรกรรมที่โรงเรียนแค่นี้ก็สนุกแล้ว”  รัชพลเอียงคอมองคนที่ทำคิ้วขมวด

   “แต่ผมว่ามันก็ยังเงียบเหงาเกินไปอยู่ดี”

   “มานี่ซิ”  รัชพลเดินนำร่างสูงไปยังแคร่ใต้ต้นกาสะลอง  ตะเกียงจ้าวพายุที่ใช้นำทางถูกหรี่แสงให้จางลงจนรอบด้านแทบมืดสนิท  อากาศเย็นชื้นทำให้โกเมนอดยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองเป็นระยะไม่ได้  เจ้าของบ้านเหลือบมาเห็นก่อนปลดผ้าขาวม้าที่เคียนเอวส่งให้  “เอ้านี่  คลุมไหล่เสียซิ”

   “ขอบคุณ”  โกเมนรับมาถือไว้หากไม่คลี่ออกคลุม  ร่างสูงทรุดนั่งลงบนแคร่ตามอีกคน

   ผ่านไปเกือบสิบนาทีที่ไม่มีบทสนทนา  โกเมนขมวดคิ้วอ้าปากแล้วก็เงียบอยู่หลายหนจนในที่สุดก็ทนไม่ไหว

   “คุณเรียกผมออกมาจะคุยอะไรหรือ?”

   “เปล่านี่”

   “ห้ะ  แล้วเรียกผมออกมาทำไม  หนาวก็หนาว”   รัชพลหันมามองคนบ่น  เหลือบมองผ้าขาวม้าในมือใหญ่แล้วคลี่ออกคลุมไหล่

   “ผมพาคุณออกมาดูดาวต่างหาก”

   “ออกมาดูดาว?”

   “ใช่  ก็คุณถามนี่ว่าค่ำมานอกจากคุยกันแล้วพวกเราทำอะไรกันบ้าง”

   “คุณก็เลยพามาดูดาว?”  ชายหนุ่มถามย้ำ  เจ้าของบ้านพยักหน้าแล้วล้มตัวลงนอนหนุนแขนตัวเอง  ใบหน้าสีผึ้งในเงามืดแหงนมองท้องฟ้าด้านบน  โกเมนที่ไม่รู้จะทำอย่างไรเลยนอนลงบนแคร่เคียงเจ้าของบ้าน

   คืนนี้เป็นคืนเดือนแรม  ท้องฟ้าปลอดโปร่งโล่งไม่มีเมฆเลยสักนิด  เปิดโอกาสให้หมู่ดาวพากันส่องแสงแข่งความสว่างไสว  รัชพลไม่ได้ชวนอีกฝ่ายคุย  โกเมนเองก็ขมวดคิ้วมองดาวบนท้องฟ้าเงียบๆ
   ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่คิ้วยุ่งเหยิงของโกเมนค่อยๆคลายออก  มือขาวยกขึ้นชี้บนท้องฟ้า  เสียงทุ้มอุทานอย่างตื่นเต้นดีใจเมื่อเห็นแสงสว่างวูบผ่านท้องฟ้าสีราตรี

   “นั่นดาวตกนี่!”

   “สวยใช่ไหม?”

   “สวยมาก”  โกเมนยิ้มกว้างหันมามองอีกคนที่มองอยู่ก่อนแล้ว  ดวงตาสีน้ำตาลเข้มวิบไหวท่ามกลางแสงตะเกียงเบาบาง  พลันลมหายใจของเขาติดขัดขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ  ชายหนุ่มกระแอมไอแล้วหันกลับไปจ้องดวงดาว

   “เขาบอกว่าเวลาดาวตกให้อธิฐานขอพร”

   “คุณเคยอธิฐานไหม”

   “เคย  อธิฐานขออยู่สองสามครั้งมั้ง”

   “แล้วเป็นจริงหรือเปล่า?”  หลังจัดการความรู้สึกแปลกให้สงบลงโกเมนก็หันมาพูดคุยกับอีกฝ่ายต่อ

   “อืม  ไม่รู้ซิ  คงต้องรอดูอีกสักระยะ  แล้วเมื่อกี้คุณทันอธิฐานไหม?”

   “ไม่”

   “อ๊ะ  นั่นตกมาอีกดวงแล้ว รีบอธิฐานเร็ว!”  โกเมนยกมือขึ้นประกบหลับตาปี๋ตามสัญชาตญาณทันที  รัชพลหัวเราะเสียงเบา  จ้องมองใบหน้าจริงจังด้านข้างของโกเมนอย่างอารมณ์ดี

   “นี่  ผมขอถามได้ไหมว่าทำไมคราวนี้คุณถึงกลับมาที่นี่อีก”  ถ้าไม่ได้กลับมาตามเรื่องขายที่อย่างที่เจ้าตัวอ้างน่ะนะ

   “ก็อย่างที่บอก  ผมหนีข่าวมา”

   “หนีข่าว?  คุณเมาแล้วขับรถชนคนตายหรือไง?”

   “เฮ้ย  คุณนี่เดาอะไรไปเรื่อย  ผมหนีข่าวคาวมาต่างหาก”

   “ไปทำลูกสาวเขาท้องเหรอ?”

   “คุณเลิกเดาไปเลยนะ  แต่ละอย่างที่พูดมามีแต่เรื่องเสียหาย โว๊ะ!”

   “อ้าว  ก็บอกว่าข่าวคาวนี่นา”

   “จะหยุดให้ผมเล่าหรือจะเดาเองไปเรื่อยๆ?”

   “เล่าเลยจ้า”  โกเมนค้อนตาแทบกลับใส่อีกฝ่าย

   “ผมกำลังจะทำให้คนคนหนึ่งเสียหาย  ผมไม่อยากให้เขามายุ่งยากและเดือดร้อนเพราะผม”

   “….เขาคงสำคัญกับคุณมาก”

   “ก็คงใช่”

   “…….”  รัชพลไม่ได้ถามต่อ  ความรู้สึกวูบโหวงในอกมันแล่นขึ้นมาให้แปลกใจ  หรือเขากำลังป่วยอีกแล้ว?

   “เป็นอะไร?”  โกเมนถามคนที่ทุบอกตัวเองเบาๆด้วยความเป็นห่วง

   “เปล่า”

   โกเมนนิ่งเงียบ  เขานึกถึงเรื่องที่เป็นสาเหตุให้เขาหลบมาอยู่จังหวัดติดตะเข็บชายแดนอย่างที่นี่  เมื่อเดือนก่อนหลังออกงานประกาศรางวัลที่ทางช่องจัดเขาก็ได้รับความสนใจจากสื่อมากมาย  ละครหลายเรื่องต้องการตัว  งานอีเว้นท์ติดต่อมาสายแทบไหม้    หากแต่เขาเลือกรับบางงานเพราะเกรงใจอภินันท์  ถึงเขาจะไม่ได้เซ็นสัญญาเป็นดาราในสังกัดของฝ่ายนั้นแต่ก็แทบจะถือว่าเป็น เพราะอภินันท์เป็นคนหยิบยื่นโอกาสต่างๆมาให้  วันเสาร์อภินันท์เรียกให้เขาไปหาที่บริษัทเนื่องจากมีบทภาพยนต์มาเสนอ  จากนั้นก็พาเขาไปทานอาหารที่โรงแรมหลังตกลงใจว่าจะรับบทที่อีกฝ่ายคัดสรรมาแล้วอย่างดี   พวกเขาดื่มไวน์นิดหน่อยคุยกันจนเกือบเที่ยงคืน  อภินันท์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำกลับมาดื่มต่ออีกเล็กน้อยครู่เดียวก็มีทีท่าเหมือนไม่สบายจนต้องเปิดห้องบนโรงแรม  มีพนักงานสองคนพยุงอภินันท์ขึ้นไป  เขาเดินตามไปส่งที่หน้าประตูห้องเพราะเป็นห่วง  จังหวะที่หันหลังเตรียมตัวกลับเขาก็หมดสติ…

   ตื่นเช้ามาพร้อมหนังสือพิมพ์ที่ถูกโยนใส่หน้าด้วยแรงโมโหของใครสักคนที่ยืนล้อมรอบเตียง  โกเมนขยี้ตา  บรรยากาศเย็นยะเยือกทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมอง  ใบหน้าของเหล่าผู้บริหารในบริษัทของอภินันท์จ้องมองเขาอย่างไม่พอใจ  บางคนยกมือปิดหน้า  โกเมนก้มลงมองร่างเปลือยเปล่าของตัวเองแล้วขมวดคิ้ว  แรงยวบจากด้านข้างยิ่งทำให้เขาตกใจ

   “ทุกคนมาทำอะไรในห้องผม?”  อภินันท์ขยี้ตาเอ่ยถามคนที่ยืนข้างเตียง

   “ห้องแกเหรอตานันท์  แหกตาดูซะบ้างว่าที่นี่มันที่ไหน”  เสียงโกรธเกรี้ยวของผู้เป็นแม่ดังลั่น

   “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!”  อภินันท์สะดุ้งแทบตกเตียงตอนที่หันมาเห็นว่าโกเมนอยู่บนเตียงด้วย  พวกเขาสองคนไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น  หนังสือพิมพ์ฉบับที่สองถูกโยนใส่หน้าอภินันท์  ชายหนุ่มคลี่มันออกอ่านพลันสีหน้าซีดเผือด  ส่วนโกเมนคว้าฉบับบนตักตัวเองมาคลี่ออก

   ภาพของเขากับอภินันท์ซึ่งไร้เสื้อผ้าปกปิดนอนกอดก่ายกันชนิดแทบไม่มีช่องว่างกินพื้นที่หน้าหนึ่งไปเกือบครึ่งหน้า  พร้อมข้อความว่าโกเมนได้กลับเข้ามาวงการอีกครั้งเพราะเป็นคู่ขาของอภินันท์

   “ดูก็รู้ว่านี่มันเป็นการจัดฉาก”  เขาเงยหน้าขึ้นบอกทุกคน

   “นายน่ะหุบปากไปเลยนะ”  หล่อนตะคอกใส่โกเมนก่อนหันไปทางอภินันท์  “พวกเราบอกแล้วใช่ไหมว่าการที่เธอเลือกเขามามีแต่จะสร้างปัญหา”

   “ตอนเขาสร้างชื่อเสียงและซีรี่ส์ได้รับความนิยมพวกแม่ไม่เห็นพูดกันอย่างนี้นี่! และอีกอย่างนี่มันเป็นการจัดฉากอย่างที่โกเมนว่าจริงๆ”  อภินันท์เถียงกลับ

   “แล้วยังไง  จัดฉากหรือไม่จัดฉากภาพในหนังสือพิมพ์มันก็โผล่ไปทั่วประเทศแล้ว!”

   “พวกคุณออกไปก่อน  ผมกับโกเมนขอจัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วจะไปคุยต่อ”  อภินันท์ไล่คนทั้งหมดออกไป  โกเมนเดาะลิ้นพลางเงยหน้ามองเพดาน

   “นี่ผมทำความเดือดร้อนให้คุณแล้วจริงๆ”

   “คุณเองก็เดือดร้อนเหมือนกันนั่นแหละ”

   “…...”

   “คุณพอรู้ไหมว่าฝีมือใคร?”

   “ก็พอเดาได้อยู่”  เสียงมือถือขัดจังหวะการสนทนาของทั้งสองคน  โกเมนกดรับสายเมื่อเห็นว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวโทร.มา  “ข่าวนั้นไม่ใช่เรื่องจริง  พี่ตุ่นหาทางช่วยหน่อยนะครับ  ขอบคุณ”

   “ใครหรือ?”  อภินันท์เงยหน้าขึ้นมองเมื่อโกเมนลุกออกจากเตียงทั้งๆที่ไม่มีผ้าติดตัว  เรือนกายสูงใหญ่มีกล้ามเนื้อสวยงาม  ผิวขาวจัดยิ่งขาวเจิดจ้าเมื่อกระทบแสงแดดยามเช้าที่ลอดเข้ามา  ผมหยกศกยุ่งเหยิงทิ้งตัวเคลียบ่ากว้าง  แผ่นหลังแกร่งได้รูปสวยงาม  สะโพกสอบรับกับเรียวขายาว

   “คนที่ทำให้ผมกลายเป็นดาราตกกระป๋องเมื่อสี่ปีก่อนไง”

   “แน่ใจหรือว่าเป็นเขา?”

   “ก็สักแปดสิบเปอร์เซ็นต์นั่นแหละ  คุณรีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปคุยกับพวกผู้บริหารเถอะ”

   “ผมจะจัดงานแถลงข่าว”

   “คุณคิดว่ามันจะได้ผลหรือ?”

   “ทำไมล่ะ?”

   “เขามีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้ผมตกกระป๋องนะคุณนันท์”

   “…..”

   “ปล่อยให้ทุกอย่างมันค่อยๆเงียบไปน่าจะดีที่สุด”

   “คุณกำลังเดือดร้อนนะโกเมน!”

   “…...”

   “ผมเป็นคนเบื้องหลังปล่อยทิ้งไว้มันไม่เป็นปัญหาหรอก  แต่คุณเป็นดารานะ”

   “จุดประสงค์เขาก็คงต้องการเล่นงานผมนี่แหละ”

   “เราต้องทำอะไรสักอย่าง”

   “ผม...จะหนีไปหลบข่าวสักพัก”

   “โกเมน?”

   “คุณจะหาว่าผมขี้ขลาดหรืออะไรก็ช่างเถอะ  แต่ผมว่าวิธีนี้น่าจะดีที่สุด  ยิ่งเราตอบโต้เขาก็ยิ่งชอบใจและคงหาทางมาทำให้คุณเดือดร้อนไปกับผมเพิ่มอีกแน่ๆ”

   “เรามาช่วยกันแก้ปัญหาก็ได้นี่”

   “...ผมไม่ได้รังเกียจเกย์หรือรักร่วมเพศและไม่ได้รู้สึกแย่กับการที่ต้องเป็นข่าวกับคุณด้วย”  ร่างสูงหยิบกางเกงและเสื้อมาสวมอย่างไม่รีบร้อน  “แต่อย่างที่บอกว่าเป้าหมายครั้งนี้คงเป็นผมมากว่าคุณ”

   “งั้นให้ผมช่วย”


   “คุณนันท์  ผมขอบคุณมาก  คุณเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอตั้งแต่เข้าวงการนี้มาเลย”

   “เพื่อน?”  อภินันท์รู้สึกคล้ายตกจากที่สูง  วูบหนึ่งจึงตั้งสติได้  เขาจ้องมองโกเมนแล้วฝืนยิ้ม

   “ในบอร์ดบริหารเองก็คงมีคนจ้องเล่นงานคุณอยู่เรื่องมันถึงได้แพร่เร็วขนาดนี้”

   “ใบบริษัทน่ะหรือ?”

   “คุณปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาซะ บอกไปว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผม  ผมเคยเป็นดาราตกกระป๋องมาแล้วครั้งหนึ่งจะดับอีกสักครั้งก็คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้ว”

   “หมายความว่ายังไง?”

   “เอาตามนี้แหละ”

   หลังจากนั้นเขาหมกตัวอยู่ที่บ้านพี่ตุ่นไม่ยอมออกไปไหนร่วมสัปดาห์  เมื่อเห็นว่าอภินันท์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาตามที่เขาสั่งจึงถอนหายใจโล่งอก  แล้วสื่อก็หันมาโจมตีเขาอย่างที่คาดไว้  เขาเก็บเสื้อผ้ากระโดดขึ้นรถทัวร์มาที่นี่ด้วยความรู้สึกสงบนิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

  เขาแค่หาข้ออ้างในการกลับมาที่นี่อีกครั้ง



*********

   
เสียงนกเจื้อยแจ้วแข่งกับเสียงไก่ขัน  ต่อให้เขาอยากนอนต่ออีกสักหน่อยก็คงนอนไม่หลับ  โกเมนพลิกซ้ายพลิกขวา  เขาได้ยินเสียงเจ้าของบ้านเดินไปด้านหลังตัวบ้าน  ได้ยินเสียงตักน้ำ  จากนั้นตามด้วยเสียงเรียกสองแฝดเบาๆ  ครู่ใหญ่เสียงตึงตังจนพื้นบ้านสะเทือนก็เคลื่อนมายังห้องที่เขานอน

   “อาโกเมน  อาโกเมน  ตื่นเถอะๆ”  ฟักแฟงแข่งกันตะโกนจนลั่นบ้าน  เขาได้ยินเสียงรัชพลเอ็ดลูกๆมาจากนอกตัวบ้านว่าอย่าเสียงดัง

   “ตื่นแล้วๆ  มีอะไรหรือ?”

   “ไปเก็บไข่กัน”

   “หืม?”

   “ไข่ไง  ไข่ไก่ลูกใหญ่ๆเอามาทอดหอมๆกินกับข้าว  อร่อย”  เด็กหญิงรั้งแขนขวาเด็กชายรั้งแขนซ้ายให้คุณอาตัวใหญ่ลุกจากที่นอน  ลากแขนไปยังเล้าไก่ข้างตัวบ้าน

   “เดินเข้าไปหยิบเลยหรือ  แล้วแม่ไก่ไม่ไล่จิกเอาหรือไง”  เมื่อวานเขาเห็นรัชพลเดินเข้าไปหยิบมาเหมือนกัน  ไม่รู้ว่าโดนจิกมาหรือเปล่า

   “ไม่ๆ  เราต้องรีบมาเก็บตอนเช้าๆแบบนี้เพราะแม่ไก่กำลังออกไปหากิน”

   “อ้าว  แล้วถ้ามันกลับมาไม่เจอลูกมันล่ะ  มันจะทำยังไง”

   “จริงด้วย!  แฟง  ทำยังไงดีล่ะ”

   “แต่...ถ้าเราไม่เอาไข่ไปแล้วเราจะกินอะไรล่ะ?”  เด็กหญิงเริ่มลังเลเพราะอยากกินไข่ทอดมาก  โกเมนเหงื่อตก  นี่เขาสร้างเรื่องลำบากให้เด็กเสียแล้ว  เอาไงดีวะ

   “อ่ะ  นี่เป็นไก่ไข่นี่”  โกเมนเหลือบมองแม่ไก่บางตัวที่ไม่ยอมออกจากรัง

   “ไก่ไข่คืออะไรเหรออาโกเมน”

   “ก็ไก่ที่ออกไข่ทุกวันไง”

   “ไก่ที่ออกไข่ทุกวัน?”

   “ใช่  เพราะงั้นเราก็เก็บไข่ได้ทุกวันโดยแม่ไก่ไม่รู้ไง”

   “ถ้าเราเอาไข่ไปแล้วแม่ไก่มาไม่เจอลูกล่ะ?”

   “ไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวแม่ไก่ก็เบ่งออกมาอีกไง”

   “ว้าววววว”  เด็กแฝดทำตาโตแล้วหยิบไข่ในรังออกมาอีกสามสี่ลูก  โกเมนถอนหายใจโล่งอกแล้วเดินตามเด็กทั้งสองคนไป  รัชพลกวักมือเรียกลูกชายที่ออกวิ่งนำหน้า  ฟักวางไข่ลงในตะกร้าที่พ่อถืออยู่แล้วแหงนหน้ามองลูกตำลึงที่ห้อยโตงเตงละลานตา

   “พ่อ  ฟักอยากกินลูกตำลึงเชื่อม”

   “แฟงด้วย!”  เด็กหญิงยกมือสนับสนุน

   “ได้  ถ้าอย่างนั้นฟักกับแฟงเก็บลูกตำลึงลูกใหญ่ๆไปนะ  เดี๋ยวพ่อเก็บยอด  เช้านี้จะต้มจืดให้กินกัน”

   “ผมไม่ยักรู้ว่าลูกตำลึงกินได้ด้วย  เคยกินแต่ยอดมัน”  โกเมนเท้าเอวมองเด็กสองคนที่ช่วยกันเด็ดลูกตำลึงสนุกสนาน 

   “ทุกอย่างในนี้กินได้หมดแหละ  ผมปลูกไว้กินนี่นา”

   “คุณนี่เก่งจัง”

   “….มันไม่ได้เกี่ยวกับความเก่งอะไรหรอก”  รัชพลหยุดมือหันกลับมามองร่างสูงที่ยืนยิ้มอยู่ด้านข้าง  “นี่น่ะบ้านไหนเขาก็ปลูกกัน  คนสมัยก่อนเขาสอนๆกันมาว่าอะไรทำกินยังไง  แถวนี้ไม่มีร้านขนม  ไม่มีร้านสะดวกซื้อเหมือนอย่างในเมือง  เวลาเด็กๆอยากกินขนมพ่อแม่ก็ต้องหาอะไรอย่างนี้มาทำให้ลูกกิน”

   “ผมก็ยังจะชมว่าคุณเก่งอยู่ดีนั่นแหละ”

   “หืม?”

   “เก่ง  ที่เลี้ยงลูกมาแบบนี้ไง  ไม่มีทีวี  ไม่ร้านสะดวกซื้อ  เด็กๆก็ไม่เห็นเดือดร้อนแถมยังมีความสุขดีเสียด้วย”

   “แล้วคุณล่ะ  เมื่อคืนไม่ได้ดูโทรทัศน์แล้วนอนหลับไหม”

   “หัวถึงหมอนก็หลับเลยแหละ”  โกเมนยักไหล่  เพราะเมื่อคืนเขาได้ระบายความอึดอัดใจให้อีกฝ่ายฟังหรือเปล่าไม่รู้ถึงได้รู้สึกผ่อนคลายแล้วหลับลึกจนถึงเช้า

   “ดีแล้ว  แล้วนี่ไม่หนาวหรือไง?”  รัชพลมองเสื้อนอนผืนบางที่อีกฝ่ายออกมาก็อดเป็นห่วงไม่ได้

   “ตอนลุกออกจากที่นอนก็หนาวอยู่  แต่พอวิ่งตามเจ้าสองแสบตอนนี้กลายเป็นร้อนแล้ว”  รัชพลพยักหน้าก่อนจะหันไปเด็ดยอดตำลังต่อ  “ให้ผมช่วยไหม?”

   “อืม คุณไปเก็บผักบุ้งตรงแปลงนั้นนะ  เดี๋ยวผมจะได้ไปดูหม้อข้าวสักหน่อย”  รัชพลยื่นตะกร้าให้ร่างสูง  ในนั้นมียอดและลูกตำลึงที่เด็กๆช่วยกันเด็ด

   “เอาเยอะไหม?”

   “คุณกินแค่ไหนก็เก็บมาเท่านั้นแหละ”

   อาหารเช้าวันนี้มีต้มจืดตำลึง  ไข่ทอดและผัดผักบุ้งไฟแดง  รัชพลตักแบ่งใส่ปิ่นโตเถาเล็กแยกไว้  มีน้ำขวดเล็ก  ดอกไม้เด็ดจากหน้าบ้านและธูปเทียนเสร็จสรรพ

   “นี่จะไปวัดกันหรือ?”  คนที่ยังอยู่ในชุดนอนถาม

   “เปล่าหรอก  นี่น่ะเตรียมใส่บาตรพระ  นั่นไง  มาพอดี”  รัชพลกวักมือให้ลูกชายลูกสาวก่อนจะหันไปเรียกคนที่ยังยืนนิ่งอยู่ในครัว  “มาเร็ว  มาใส่บาตรกัน”

   “…...”  โกเมนยกยิ้มมุมปาก  ในใจสงบนิ่งอย่างไม่เคยเป็น  เขาเหลือบมองเจ้าของบ้านที่จับมือลูกชายลูกสาวให้วางดอกไม้ธูปเทียนบนฝาบาตร

   “ไปเถอะ  ไปกินข้าวกัน  อ๊ะ  จริงซิ  เดี๋ยวกรวดน้ำก่อนละกันนะ  เจ้าตัวแสบไปเอาน้ำมาให้พ่อกับอาโกเมนหน่อยเร็ว”  ฟักแฟงวิ่งไปหยิบขันน้ำใบเล็กมาให้ผู้เป็นพ่อและโกเมนคนละใบ

   “ผมด้วยหรือ?”

   “อื้ม  กรวดน้ำให้ตาคุณหน่อยเถอะ  พวกเจ้ากรรมนายเวรของคุณด้วยจะได้หมดเคราะห์หมดกรรมเสียทีไง”  โกเมนทำตามอีกฝ่ายเงอะงะเพราะไม่เคยทำมาก่อน

   หลังอาหารมื้อเสร็จสิ้นรัชพลคว้าหมวกสานมาสวมพร้อมเสื้อคลุมแขนยาว  โกเมนรีบลุกขึ้นตาม  โบราณว่าอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย  นี่เขากินข้าวบ้านนี้มาหลายมื้อจะไม่ช่วยงานเลยก็กระไรอยู่

   “คุณจะไปไหนน่ะ?”  เจ้าของบ้านหันมาถาม

   “คุณเข้าไร่ไม่ใช่หรือ  ผมจะไปช่วยไง”

   “เปล่า  ผมไปแค่หลังบ้านนี่เอง”

   “แล้วไร่คุณล่ะ?”  โกเมนชี้มั่วไปทางนอกบ้าน

   “ผมไม่มีไร่สวนอะไรหรอก  มีแค่ที่บ้านเท่าที่คุณเห็นนี่แหละ”

   “หืม?  แล้วคุณอยู่ยังไง  ผมหมายถึงจะเอาอะไรกิน เอาเงินที่ไหนใช้”  โกเมนงงหนัก  ชายหนุ่มเงยหน้ามองรอบบ้านหลังเล็ก  ถึงแม้ว่าพื้นที่โดยรอบจะกินบริเวณกว้างก็เถอะ  แต่เขาเห็นเจ้าของบ้านปลูกผักนู่นนิดนี่หน่อยแล้วมันพอขายหรือไง

   “ก็ขายผักที่ปลูกอยู่นี่ไง”

   “มันจะได้เงินสักเท่าไหร่กันเชียว?”  ชายหนุ่มเท้าเอวถาม

   “งั้นคุณมาลองนับดูไหมว่าแต่ละวันผมขายผักพวกนี้ได้เท่าไหร่?”

   “?”

   “เด็กๆ!”  รัชพลร้องเรียกสองแสบที่เพิ่งช่วยกันล้างจานเสร็จ

   “จ๋าพ่อ/จ๋าพ่อ”

   “วันนี้พวกลูกไล่เด็ดลูกตำลึงนะ  เอามาเยอะๆเลย”

   “เอาเต็มตะกร้านี้เลยไหมคะ?”

   “ให้พูนเลยจ้ะคนสวย”  รัชพลขยิบตาให้สาวน้อย

   “ไปกันเล้ย!”  สองแสบคว้าตะกร้าจากมือพ่อแล้วจูงมือกันวิ่งไปทางริมรั้วด้วยท่าทางสนุกสนาน

   “ผมต้องช่วยอะไรบ้าง?”  โกเมนชี้หน้าตัวเองพร้อมรอยยิ้มกว้าง

   “อยู่เฉยๆ แล้วดูก็พอ”

   “เอ๊ะ?”

   รัชพลใช้ให้โกเมนแบกเข่งหวายใบใหญ่คอยเดินตามเวลาที่เขาไปหยุดตรงแปลงผัก   เพียงแค่ชั่วประเดี๋ยวผักหลากหลายชนิดก็เต็มเข่งไปหมด  โกเมนคงยังคงขมวดคิ้ว  ผักพวกนี้แทบไม่ได้กลิ่นยาฆ่าแมลงเลยสักนิดแต่กลับสดและสวยมาก

   “ผักพวกนี้เราไม่ได้ใช้ยาฆ่าแมลงแต่ใช่น้ำส้มควันไม้แทน”

   “น้ำส้มควันไม้?”

   “ใช่  เป็นน้ำมันที่กลั่นตัวจากการเผาถ่านน่ะ”  โกเมนก้มลงดมผักในเข่งหวายจึงค่อยได้กลิ่นเหมือนควันไม้ไหม้ไฟอย่างที่อีกฝ่ายว่าจริงๆ  พวกแมลงถ้ากลิ่นควันไม้ก็จะไม่มาตอมแทะกินผักเพราะคิดว่ามีไฟ

   “แล้วถ้าเรากินเข้าไปจะไม่เป็นอันตรายหรือ?”

   “ไม่หรอก  พวกนี้น่ะเป็นกลิ่นเฉยๆ  เอาไว้ไล่พวกแมลง  ไม่มีพิษกับมนุษย์”  ชายหนุ่มพยักหน้าเมื่อได้ฟัง  มองอีกฝ่ายใช้มีด ตัดขั้วลูกฟักทองลูกโตมาสามสี่ลูก

   หลังได้ผักเต็มเข่งรัชพลเรียกเด็กแฝดกลับเข้าบ้าน  แก้มของเด็กน้อยแดงกล่ำเรียกสายตาเอ็นดูจากโกเมน  รัชพลสอนให้ชายหนุ่มล้างผัก  แยกตามแต่ละชนิดใส่ตะกร้าไว้  ส่วนตัวเองไปล้างลูกตำลึง  ควักเอาเม็ดในออกออกแล้วแช่น้ำไว้

   “พ่อแช่สารส้มไว้  ตอนบ่ายจะกลับมาเชื่อมให้กินนะ”

   “เย้!”

   “ให้ผมไปด้วยไหม?”

   “ไม่ต้องหรอก  คุณเล่นอยู่กับเด็กๆที่บ้านเถอะ  อีกเดี๋ยวตากับยายเขาคงมารับแล้ว”  รัชพลยกตะกร้าผักใส่รถเข็นแล้วผูกที่จับกับท้ายรถเครื่องให้แน่นก่อนใช้ผ้าบางๆชุบน้ำพอชุ่มคลุมตะกร้าผักไว้  ข้างๆกันมีฟักทองลูกโตที่เพิ่งเด็ดมา

   โกเมนมองรถเครื่องที่ลากรถเข็นผักไปตามทางช้าๆ  ก่อนจะก้มลงมองสองแฝดที่กุมมือเขาคนละข้าง   ชายหนุ่มเดินกลับเข้าไปค้นกระเป๋าหาลูกอมกับช็อคโกแลตที่เตรียมมายื่นให้เด็กๆ

   “จริงซิ  หนูเล่นกันสองคนแค่นี้ไม่เหงาหรือ”

   “ไม่เหงาหรอกค่ะ  บางวันพ่อก็พาไปส่งที่บ้านตายายเล่นกับเด็กคนอื่นๆ”

   “แต่เมื่อก่อนพวกหนูชอบไปเล่นที่บ้านตาปั้น”

   “บ้านตาปั้น?”

   “ตาปั้น  พ่อบอกว่าตาปั้นเป็นตาของอาโกเมน”

   “บ้านตาปั้นอยู่ใกล้ๆนี่หรือ?”

   “ครับ  เดินไปนิดเดียวก็ถึงแล้ว”

   “ถ้าอย่างนั้นฟัก-แฟงพาอาไปดูหน่อยได้ไหม?”

   “ได้ครับ / ได้ค่ะ”

   เด็กแฝดจูงมือเขาเดินออกนอกรั้วบ้านไปทางขวามือ  เดินไปไม่ไกลอย่างที่เด็กๆบอกก็เห็นบ้านทรงสูงหลังหนึ่ง   ขนาดไม่ใหญ่มาก  ที่นี่ก็ดูสะดวกสบายกว่าเพราะเขาเห็นเสาไฟฟ้าและจานรับสัญญาณทีวี  โกเมนขมวดคิ้วมุ่น

   หนอย  หมอนั่นไม่เห็นบอกเขาสักคำว่าบ้านตาเขาอยู่แถวนี้

   “เราเข้าไปดูได้ไหม?”

   “ไม่ได้หรอก  กุญแจอยู่กับพ่อ  ถ้าอาโกเมนอยากเข้าไปดูต้องรอพ่อกลับมาก่อน”

   ได้!  นายรัชพล  ฉันจะย้ายออกจากบ้านนายวันนี้เลย  คอยดู!
   

   


โปรดติดตามตอนต่อไป



สวัสดีค่า หายไปนานเลย แหะๆๆ ช่วงติดนิยายค่ะบวกกับต้องคอยเลี้ยงหลานค่ะ
เช่นเคยนะคะ มีตรงไหนผิดพลาดแนะนำกันได้เสมอค่ะ
   
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 5 [16-4-60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 16-04-2017 04:27:38
ตายล้ะ เหมือนถูกหลอกให้ลำบาก
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 5 [16-4-60]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 16-04-2017 08:51:27
เห็นทางแล้ว แน่ใจจะไปนอนคนเดียว อิอิ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 5 [16-4-60]
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 16-04-2017 13:28:23
อิอิ 
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 5 [16-4-60]
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 16-04-2017 14:01:23
สนุก :mew1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 5 [16-4-60]
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 16-04-2017 14:56:38
พ่อกับแม่เราก็มีที่อยู่บ้านนอก แต่เรา กับพี่ชายไม่อยากไปอยู่
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 5 [16-4-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 16-04-2017 16:49:52
อยู่แบบลำบากก็ไม่ได้แย่นี่โกเมน รู้จักไหม สบายใจกับสบายกายน่ะ ถ้าให้เลือกจะเลือกอะไร
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 5 [16-4-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 29-04-2017 21:20:08


รักพอเพียง : ตอนที่ 6


รัชพลมองท่าทางแปลกๆของโกเมนด้วยความไม่เข้าใจ  ตอนเขาออกจากบ้านฝ่ายนั้นยังมีท่าทียิ้มแย้มอยู่เลย ไหงพอกลับมาถึงได้ทำท่าบึ้งตึงใส่เขาเสียได้

“มีอะไรหรือเปล่า?”  ถามในขณะที่มือก็สาวลูกตำลึงขึ้นจากน้ำสารส้มใส่กะทะใบเขื่องตั้งบนเตาไฟ  เทน้ำพอท่วมแล้วใส่น้ำตาลทรายลงไป

“คุณไม่มีอะไรจะบอกผมหน่อยหรือ?”

“?”

“ก็อย่างเช่น  เรื่องบ้านของคุณตาผมที่อยู่ถัดไปนั่นไง”

“อ้อ  …ก็คุณไม่ได้ถาม”

“ไอ้เรื่องนี้มันต้องรอให้ถามด้วยหรือไงเล่า”

“ถ้าผมบอกแล้วคุณจะขายบ้านหลังนั้นไหม?”

“นี่เห็นผมเป็นคนยังไง!”

“คนเห็นแก่เงิน”

“นี่คุณ!”  โกเมนชักจะเดือด  นอกจากจะพูดจากวนโมโหไม่เข้าหูแล้วยังไม่ยอมมองหน้าเขาอีก

“คุณจะย้ายไปนอนบ้านนู้นก็ได้นะ”

“เออ”  โกเมนโมโห  เขาคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าแล้วเดินดุ่มออกไปด้วยแรงอารมณ์

ถึงปากจะพูดแบบนั้นหากรัชพลก็คอยแต่จะชะเง้อคอมองออกไปนอกบ้านทุกครั้งที่เผลอลืมตัว แม้ตอนนี้จะเป็นเป็นเวลาหกโมงเย็นแต่ท้องฟ้าฤดูหนาวกลับเริ่มดำมืดอย่างรวดเร็ว  แม้เขาจะคอยไปดูแลทำความสะอาดบ้านลุงปั้นเป็นประจำไม่ให้รกสกปรก แต่เพราะลุงแกเสียไปนานแล้วดังนั้นพวกไฟฟ้าหรือน้ำปะปาจึงทุกตัดเนื่องจากไม่ได้ใช้  แล้วโกเมนจะอยู่ได้อย่างไร…

“คุณๆ”

“อ้าว?”  รัชพลกะพริบตาปริบ  มองร่างสูงที่แบกกระเป๋าวิ่งพรวดเข้ามาในรั้วบ้าน

“ร้องงี้หมายความว่าไง?”

“ปะ  เปล่า”  เจ้าของบ้านพยายามกดมุมปากไม่ให้กระตุกขึ้นไปรอยยิ้ม  แสร้งกระแอมไอในลำคอแล้วมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ

“ทำไมคุณไม่บอกผมว่าบ้านนั้นน้ำไฟโดนตัดหมดน่ะ!”

“ก็คุณไม่ได้ถาม”

“ไอ้คำนี้อีกแล้วนะ!”  โกเมนเท้าเอวโวยวาย  เขาเสยผมยุ่งหยิงขึ้นด้วยทาทางหงุดหงิด

“ก็คุณไม่ได้ถามจริงๆนี่”

“ขอเหอะไอ้คำนี้เนี่ย”  ร่างสูงถลึงตาจ้องมองอีกฝ่ายที่พยายามกลั้นขำ
รัชพลรู้ว่าโกเมนขี้กลัว  โดยเฉพาะ ผี เดาได้จากเมื่อวานตอนที่บังคับให้เขาไปยืนเฝ้าอาบน้ำตรงชานหลังบ้านตอนค่ำ

“แล้วคืนนี้จะนอนที่ไหน”  ทั้งๆที่รู้คำตอบแต่รัชพลก็ยังถาม  โกเมนถลึงตาใส่อีกรอบแล้วเดินเอากระเป๋าไปเก็บในห้องที่เคยนอน “อาบน้ำแล้วก็มากินข้าวล่ะ” รัชพลพูดไล่หลัง

“ไปดูบ้านคุณตามาแล้วเป็นยังไงบ้าง”

“อืม”

“อะไรคือ อืม?”  รัชพลละมือจากลูกตำลังเชื่อมที่กำลังตักใส่ถุงแก้วขึ้นมอง  ฟัก-แฟงพยายามหยิบลูกตำลึงในกะละมังมาใส่ปากแต่คนพ่อตีหลังมือไปคนละที  “พ่อตักแบ่งไว้ให้แล้ว  นี่เอาไว้ขาย อย่ามาตักกินแบบนี้”

“น่ากลัวยังกับบ้านร้าง”  ตอบพลางแย่งของหวานมาจากสองแสบใส่ปาก  รสชาติหวานกลางๆและความกรุบกรอบทำให้ชายหนุ่มเลิกคิ้วแล้วหยิบใส่ปากลูกแล้วลูกเล่าด้วยความติดใจ

“ดูพูดเข้า”

“ก็จริงนี่  มืดก็มืด เงียบเชียบน่ากลัว แถมต้นไม้รกครึ้มไปหมด”  บ้านของตาปั้นเป็นเรือนไม้ยกใต้ถุนสูง  มีต้นไม้น้อยใหญ่ล้อมรอบ  มองจากด้านนอกเข้าไปแทบไม่เห็นตัวบ้าน นอกจากบ้านของรัชพลแล้วระแวกนั้นแทบไม่มีบ้านเรือนอื่นอยู่เลย  กลางวันว่าเงียบพลบค่ำกลับวังเวงยิ่งกว่า  ซ้ำไม่มีไฟฟ้าแบบนั้นยิ่งน่ากลัว

โกเมนเห็นเสาไฟฟ้าก็คิดว่ามีโทรทัศน์มีเครื่องทำน้ำอุ่นแน่ๆ  เพียงเท่านี้เขาก็พอใจแล้ว  ที่ไหนได้นอกจากจะไม่มีทั้งสองอย่างแล้ว  แม้แต่น้ำปะปาก็ไม่ไหล  แล้วใครจะไปอยู่ได้เล่า!
เสียงแมลงกลางคืนเริ่มเซ็งแซ่แข่งกัน  เสียงสวบสาบยามเมื่อลมพัดทำให้สะดุ้งหวาดผวาทุกครั้ง  เขาเหลียวซ้ายแลขวาเห็นว่าอยู่ต่อคงไม่ได้การก็ใส่เกียร์หมาวิ่งหน้าตั้งกลับมาบ้านรัชพลทันที  แต่จะให้อีกฝ่ายรู้ไม่ได้ว่าเขาหลุดฟอร์มวิ่งหัวฟูกลับมาเพราะกลัวผี

“ผมไปตัดต้นไม้ให้เมื่อเดือนที่แล้วเอง จะรกครึ้มได้ยังไง”

“นี่คุณไปดูแลบ้านตาผมตลอดเลยหรือ?”  มิน่าเล่าในบ้านถึงฝุ่นน้อยกว่าปกติ ข้าวของไม่มีวางระเกะระกะเลยสักชิ้น  ทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก  ส่วนหนึ่งอาจเพราะในตัวบ้านเองก็แทบไม่มีข้าวของอะไรเหลือไว้มากนัก

“ใช่  ของอะไรที่บริจาควัดได้ก็บริจาคหมด  เว้นเสียแต่ของที่ไม่จำเป็นกับวัดเท่านั้น”  โกเมนแทบจะกลอกตาใส่คนพูด  นี่ไม่คิดจะเหลือสมบัติของตาเอาไว้ให้เขาสักหน่อยหรือไง

“ทำไมคุณถึงต้องมาคอยทำอะไรพวกนี้ให้ตาผมด้วยล่ะ?”  ชายหนุ่มบิดกายไล่ความเมื่อยขบ  ลมเย็นพัดโชยแทรกผ่านบานหน้าต่างที่เปิดอ้าไว้เข้ามาด้านใน  โกเมนกระชับเสื้อแขนยาวเพราะยังไม่คุ้นชินกับความหนาวเย็นของที่นี่

“ลุงแกมีบุญคุญเคยช่วยเหลือผมเอาไว้เยอะ”

“เยอะขนาดไหน?”  คนถามเท้าคางมองมือหยาบกร้านที่กำลังจัดการกับลูกตำลึงเชื่อมถุงสุดท้าย

“ขนาดที่ทำให้เด็กที่ไม่ได้เรื่องได้ราวเป็นผู้เป็นคนได้นี่ไง”  รัชพลยกยิ้มเมื่้อนึกถึงเรื่องราวในอดีต  “ตอนวัยรุ่นผมน่ะเคยนึกอยากไปทำงานในกรุงเทพฯด้วยนะ  นึกฝันว่าถ้าเข้ากรุงคงจะมีโอกาสหาเงินหางานดีๆ ได้ทั้งๆ ที่จบแค่ ม.หก ดีที่ลุงแกห้ามไว้  ไม่งั้น  ป่านนี้คงไปเป็นแรงงานรับจ้างก่อสร้างอยู่แถวไหนก็ไม่รู้”

“แค่นี้เหรอ?”  รัชพลเหลือบตามองคนหน้าขาว  ก่อนจะลุกไปล้างมือแล้วให้สองแฝดแปรงฟันล้างมือเข้านอน

“ลุงแกสอนทำไร่”

“สอนทำไร่?”  โกเมนหัวเราะ  “ทำไร่นี่ต้องสอนด้วยหรือ?  ไม่ใช่ว่าคนบ้านนอ…คนแถวนี้เขาทำเป็นกันทุกคนไม่ใช่หรือไง?”

“ไม่ใช่ว่าทุกบ้านจะต้องทำไร่ทำสวนเสียหน่อย  บางบ้านค้าขาย  บางบ้านมีธุรกิจขนส่ง”  รัชพลไม่ถือสาคำพูดที่เกือบจะหลุดออกมาจากปากของโกเมน  ชายหนุ่มมาจากเมืองกรุง  จะมองคนต่างจังหวัดว่าบ้านนอกก็ไม่แปลกหรอก  “แล้วการทำไร่ก็ใช่ว่าทำได้ดีทุกคนเสียเมื่อไหร่”

“ตาสอนอะไรคุณบ้างล่ะ  ขุดดินหว่านเมล็ดหรือไง?”

“ตาคุณเก่งกว่านั้นเยอะ”

“…..”  โกเมนนิ่งเมื่อเห็นสายตาจริงจังของคนตรงหน้า  ถึงเขาจะไม่เคยรู้จักตาตัวเองแต่ก็ไม่มีสิทธิ์มาพูดคล้ายดูถูกท่านแบบนี้  “ผมขอโทษ”

“ไม่ใช่ผม  และถึงผมอยากจะให้คุณขอโทษตาของคุณมันก็คงไม่มีประโยชน์อะไร  คุณไม่เคยเจอท่านย่อมไม่รู้ว่าท่านทำอะไร สอนอะไรดีๆ ให้กับคนอื่นๆ มากมายแค่ไหน”
เป็นอีกครั้งที่โกเมนไม่กล้าพูดแทรก  เขาเดินตามเจ้าของบ้านไปหยุดยืนตรงโถงกลางบ้าน  พื้นที่ระหว่างห้องที่เขานอนและห้องของสองแฝดกับผู้เป็นพ่อ  เขายึดห้องนอนของรัชพลจนอีกฝ่ายต้องระเห็จไปนอนกับลูก  เจ้าของบ้านเงยหน้าขึ้นมองกรอบรูปบนผนังนิ่งนานก่อนจะเอ่ยถามเขา

“คุณรู้จักคำว่าเศรษฐกิจพอเพียงไหม?”

“ก็เคยได้ยินในหลวงท่านสอน”  ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองกรอบรูปบนผนังตามสายตาอีกฝ่าย

“ผมไม่ได้ถามว่าเคยได้ยินไหม  แต่ผมถามว่าคุณรู้จักหรือเปล่า?”

“ก็ทำไร่อะไรพวกนั้นไม่ใช่หรือไง”

“….แล้วคุณคิดว่าการทำไร่เป็นยังไง?”  รัชพลรุกถามต่อ

“ก็…ไม่รู้ซิ”

“ทำไร่เท่ากับคนจน  คุณคิดอย่างนี้ใช่หรือเปล่า?”  โกเมนไม่ตอบ  รัชพลยกยิ้มขณะหันกลับมามองหน้าเขา  “ตาของคุณเก่งมากนะ  ท่านเข้าใจคำว่าพอเพียง  ศึกษาและทำตามคำสอนของในหลวง  พอเข้าใจก็มาสอนคนในหมู่บ้าน  สอนผมที่เร่าๆ อยากจะวิ่งเข้ากรุงเทพฯในตอนนั้น”

“ถ้าทำไร่ไม่เท่ากับจน  ทำไมตาผมถึงไม่ทิ้งมรดกเป็นเงินก้อนโตไว้ให้ผมล่ะ?”

“ตาคุณไม่รวยแต่ไม่เคยอดอยาก”

“…..”

“มานี่ซิ”  เจ้าของบ้านเรียกโกเมนให้กลับมานั่งลงตรงกลางบ้านอีกครั้งก่อนจะหยิบกระป๋องคุ้กกี้เปล่าใบเขื่องมาแล้วทรุดตัวลงนั่งตรงข้าม  “เมื่อเช้าคุณถามใช่ไหมว่าผมขายผักที่เก็บจะได้เงินสักกี่บาท?”

“?”  เจ้าของมือหยาบกร้านเปิดฝากระป๋องแล้วเทเงินที่อยู่ในนั้นออกมา  มีเงินใบละร้อยบ้าง ห้าสิบบ้าง  มีแม้กระทั่งเหรียญห้าบาทสิบบาท

“นี่เงินที่ขายผักบุ้งกำละสิบบาท  สิบกำก็หนึ่งร้อย  ฟักทองลูกละยี่สิบสามสิบ  สี่ลูกได้เก้าสิบบาท  กระเจี๊ยบกำละสามบาทยี่สิบกำได้หกสิบบาท  กะเพราวันนี้เก็บได้เยอะหน่อยได้สองร้อย  มะละกอยี่สิบโลโลละสิบห้าบาทได้สามร้อย  วันนี้ทั้งวันได้ทั้งหมดเจ็ดร้อยห้าสิบบาท”

“…..”
“ได้เยอะใช่ไหมล่ะ!”  รัชพลยิ้มกว้างเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสดใส

แค่เจ็ดร้อยห้าสิบบาทเนี่ยนะ”

“เทียบกับอาหารของคุณได้แค่จานเดียวเองมั้ง”  รัชพลหัวเราะแล้วเก็บเงินใส่กระป๋องตามเดิม  หยิบสมุดมาจดว่าวันนี้ขายอะไรได้เท่าไหร่และจ่ายค่าอะไรไปบ้าง

“ใช่  เจ็ดร้อยห้าสิบได้อาหารของผมไม่ถึงมื้อด้วยซ้ำ”

“แต่อยู่ที่นี่คุณไม่ต้องจ่ายค่าอาหาร  เพราะฉะนั้นเจ็ดร้อยห้าสิบบาทนี่เหลือเฟือ”

“เอ๊ะ?”

“คุณอยากกินผักอะไรไปเก็บหลังบ้าน  อยากกินไข่ก็ไปหยิบมา  อยากกินปลาก็ไปจับในสระ  เห็นไหมไม่ต้องจ่ายสักบาท”

“…..”  โกเมนอ้าปากค้าง  คิดตามอีกฝ่ายแล้วได้แต่นิ่งอึ้ง  “จริงด้วยแหะ”

“พรุ่งนี้ผมจะเอาลูกตำลึงเชื่อมไปส่งตามร้านอาหารตามสั่ง  จับปลากับเก็บไข่ไปส่งร้าน”

“ลูกตำลึงเชื่อมถุงละกี่บาท?”  โกเมนเริ่มคำนวณ

“ผมส่งให้ร้านถุงละสิบห้าบาท”  ทั้งหมดมียี่สิบถุง

“แล้วปลาล่ะ?” 

“ปลาสักสิบตัวตัวละประมาณหนึ่งกิโล กิโลละห้าสิบบาท”

“ไข่?”

“ไข่สักสองแผงแผงละเก้าสิบบาท”

“พรุ่งนี้คุณก็จะมีรายได้เก้าร้อยแปดสิบบาท?”  โกเมนนับนิ้วรวดเร็ว

“อ้อ  วันมะรืนนี้ครบรอบเก็บดีปรีพอดีเลย  รอบไร่คงจะได้สักห้าหกโล”  รัชพลทำท่าลูบคางครุ่นคิด

“ดีปรี?”

“ใช่  เครื่องเทศน่ะ  เก็บเสร็จตากแดดให้แห้ง  ขายได้กิโลละสี่ร้อยกว่าๆ”

“ห้ากิโลก็สองพัน!”

“ถ้าผมเก็บผักขายไปอย่างนี้เรื่อยๆทุกวัน  คุณว่าผมจะอดตายไหม?”

“….”  รัชพลยกยิ้มเมื่อโกเมนไม่ตอบ

“นี่น่ะผมแค่ยกตัวอย่างให้คุณฟังเฉยๆ  ทำไร่ใช่ว่าจะเท่ากับจนเสมอไป  และคำว่าพอเพียงก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ร่ำรวย  คำว่าพอเพียงคือพอประมาณ  ตนเองไม่เดือดร้อน  คนอื่นไม่เดือดร้อนและที่ทำผมอยู่คือเกษตรทฤษฎีใหม่ตามที่ในหลวงท่านทรงสอน”

“ตาผมก็ทำแบบนี้ด้วยหรือ?”

“ใช่  ตาคุณเป็นคนช่วยให้ผมเข้าใจ  แกชวนชาวบ้านมาทำเกษตรทฤษฎีใหม่  รวมตัวกันก่อตั้งสหกรณ์  แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะมาทำตามที่แกบอกหรอก  ส่วนใหญ่ชาวไร่ที่นี่เขามีเงินกัน”  รัชพลเอ่ยติดตลก

“แล้วคุณคิดจะทำให้มีมากกว่านี้ไหม ตอนนี้คุณอาจจะ ‘พอมีพอกิน’ แล้วคิดจะทำให้กลายเป็น ‘มีอันจะกิน’ บ้างหรือเปล่า?”

“ฮื่อ  นี่ใคร? ผมน่ะ รัชพลศิษย์เอกตาปั้นเชียวนะ!”  เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งทำท่าคุยโว

“หืม?”

“ผมมีรายได้รายวัน  รายได้รายเดือนและรายได้รายปีแล้ว  ค่อยๆรอมันเติบโตผมก็จะเปลี่ยนเป็นคนพอมีพอกินเป็นคนมีอันจะกิน”  ดวงตาสีน้ำตาลระยิบเมื่อเจ้าของยิ้มกว้าง

“แล้วถ้าผมอยากจะเป็นชาวไร่อย่างคุณบ้างล่ะ  ผมพอจะเป็นได้ไหม?”

“ไม่เอาน่า  คุณอย่ามาล้อเล่น”

“ผมพูดจริงนะ”

“?”

“ถ้าผมรับที่ของตามาแล้วอยากจะกลายเป็นชาวไร่ชาวสวนจริง ๆคุณจะว่ายังไง?”

“คุณทำไม่ได้หรอก”  รอยยิ้มสว่างไสวเมื่อครู่หายลับไปจากใบหน้ารัชพล  เขาจ้องมองคนพูดประโยคนั้นอย่างไม่เชื่อถือ

“แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าผมทำไม่ได้ล่ะ?”

“คุณเป็นดารา  คุณเจ้าสำอาง คุณ…”

“งั้นคุณก็สอนผมซิ”

“….”

“เหมือนอย่างที่ตาของผมสอนคุณ”

“มันไม่ง่ายอย่างที่คุณคิด หรือเหมือนที่คุณเคยอ่านเจอตามหน้าหนังสือหรอกนะ”

“แต่ผมคิดว่ามันไม่ยากเกินกว่าจะทำ  คุณทำได้ผมก็ทำผมได้”

“งั้นผมถามหน่อย  ทำไมถึงอยากจะทำไร่ขึ้นมาล่ะ?  คุณคิดว่าจะรวยจากการทำไร่ได้จริงๆ หรือ?”

“ก็…”

“คุณคิดว่าวางแผน  ลงทุน  แปบๆ คุณก็เก็บเกี่ยวแล้วจะได้กำไรงั้นหรือ?  แล้วถ้าสมมุติว่าคุณลงทุนแล้วขาดทุนย่อยยับล่ะ  คุณจะทำยังไง?”

“ให้ผมลองก่อนได้ไหม”

“นี่ไม่ใช่การเล่นขายของนะคุณโกเมน  คิดให้ดีก่อนเถอะ”  โกเมนนิ่งอึ้งไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร 

“แค่ทฤษฎีคุณยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ”  รัชพลถอนหายใจ  มองคิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันของโกเมนแล้วพลันใจอ่อนขึ้นมา  ร่างโปร่งลุกขึ้นไปค้นหนังสือสองสามเล่มออกมาจากชั้นแล้วยื่นส่งให้อีกฝ่าย  “พื้นที่ไร่ที่ตาปั้นยกให้คุณส่วนใหญ่มีหินค่อนข้างเยอะ  ไม่มีน้ำไหลผ่าน  ถ้าต้องใช้น้ำจะต้องต่อท่อค่อนข้างไกลเข้ามาในไร่…”

“…..”  ชายหนุ่มจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลของเจ้าของบ้านก่อนจะก้มลงมองหนังสือในมือ

“อ่านหนังสือสามเล่มนี้ให้จบ  อ่านให้เข้าใจ  แล้วคิด  คิดจนกว่าคุณจะหาคำตอบให้ตัวเองเจอ”

“ผมจะหาคำตอบได้ยังไงในเมื่อผมไม่มีคำถาม…”

“คำถามน่ะมีเสมอแหละ…คำตอบก็เช่นกัน  เพียงแค่คิดให้ได้”

“อืม”

“คืนนี้พอแค่นี้ก่อน  คุณไปนอนเถอะ”  รัชพลตบบ่ากว้างเบาๆแล้วหันหลังเตรียมกลับเข้าห้อง 

“อ้อ  รีบนอนล่ะ  พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”

“หืม?”

“คุณต้องมาช่วยผมเก็บผัก จับปลา  เก็บไข่”

“ผมเนี่ยนะ?”

“ตอนนี้มีผมกับคุณยืนอยู่ด้วยกันสองคนใช่ไหม?”  รัชพลกระซิบถามเสียงเบาพลางหันไปมองรอบบ้านทำเอาโกเมนสะดุ้ง  ชายหนุ่มเหลียวมองตามเจ้าของบ้านอย่างหวาดๆ

“ใช่”

“ถ้างั้นผมก็พูดกับคุณแหละ”  รัชพลเชิดหน้า  ทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่สบอารมณ์

“หา!”

“ผมบอกให้คุณรีบนอนจะได้ตื่นแต่เช้า  ยังจะมาถามกลับ  ผมก็นึกว่านอกจากคุณกับผมยังมีคนอื่นอีก”

“….”

“ผมบอกว่าคุณอยู่ที่นี่ไม่ต้องจ่ายค่าข่าวก็จริงแต่ก็ต้องทำงานตอบแทนล่ะนะ”

“………..”  โกเมนขมวดคิ้ว  ยืนนิ่งคิดตามอีกฝ่ายไม่ทัน

“คิดตามทันแล้วก็ไปนอนนะ”  รัชพลตบไหล่ร่างสูสองสามทีก่อนเดินไปห้องฝาแฝด  “ราตรีสวัสดิ์  แล้วอย่าลืมปิดไฟล่ะคุณ”

ปัง!

เสียงประตูปิดลง  โกเมนที่ยืนกลางบ้านกะพริบตาปริบก่อนนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายสั่งอะไร
ให้เขาเป็นคนปิดไฟเนี่ยนะ?

เฮ้ย!  งี้เขาก็ต้องเดินกลับห้องแบบมืดๆคนเดียวน่ะซิ!










โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 6 [29-4-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 29-04-2017 22:03:00
ทำไมรู้สึกว่าที่จริงรัชพลไม่ได้หงิมเหมือนแรกเจอ ฮา
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 6 [29-4-60]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 30-04-2017 14:56:50
ฮ่าๆๆ ขำโกเมนอ่ะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 6 [29-4-60]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 30-04-2017 19:35:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 6 [29-4-60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 02-05-2017 17:10:44
 :L2: :pig4:

ก็ดีขึ้นแล้วนะโกเมน
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 6 [29-4-60]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 03-05-2017 00:33:03
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 6 [29-4-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 20-05-2017 20:49:08
รักพอเพียง : ตอนที่ 7



“ฮ้าว~”  ร่าวสูงยกมือขึ้นปิดปากหาวชนิดไม่เกรงใจอีกคนที่หันมามอง  ช่วยไม่ได้  เมื่อคืนกว่าจะอ่านหนังสือสามเล่มนั้นจบก็ดึกดื่นค่อนคืนแล้วหนำซ้ำยังต้องตื่นแต่ไก่โห่มาเก็บผักอีก

“คุณล้างผักเป็นแล้วใช่ไหม?”  โกเมนพยักหน้ารับทั้งๆที่ตายังเปิดแค่ครึ่งเดียว  เดินตามหลังรัชพลพร้อมเข่งผักแบบไม่ล้มใส่แปลงผักได้นี่ต้องทรงตัวเก่งแค่ไหน  “งั้นล้างผักไปล่ะ  ผมไปทำกับข้าวก่อน สายๆหลังส่งผักจะพาคุณไปดูที่อีกที”
ตอนสายหลังกลับจากตลาดรัชพลก็ขับรถเครื่องพาโกเมนไปยังไร่ที่ตาปั้นทิ้งไว้ให้ซึ่งห่างจากที่นี่ไปอีกประมาณ 6-7 กิโลเมตร  เจ้าเด็กแฝดที่ลงจากรถได้ก็กระโดดโลดเต้นกันสนุกสนานชนิดไม่กลัวร้อนเลยสักนิด  รัชพลยื่นหมวกสานให้ร่างสูงพลางหรี่ตามองพื้นที่โดยรอบ  แม้จะยังเช้าอยู่หากแดดกลับแผดแรงกล้าจนแสบผิว

“คุณใส่เถอะ  เอามาให้ผมทำไม”

“คุณนั่นแหละใส่ซะ  แดดแรงขนาดนี้เดี๋ยวจะไม่สบาย”

“แล้วคุณล่ะ?”

“ผมชินแล้ว”  รัชพลตอบพลางเดินนำ  “พื้นที่พวกนี้มีหินเป็นส่วนใหญ่  ถ้าคุณอยากทำไร่จริงแล้วคุณจะปลูกอะไรล่ะ?”  โกเมนเดินตามอีกฝ่าย  ยกหมวกที่่ัรัชพลยกให้ขึ้นสวม

“อันดับแรกก็คงต้องปลูกกล้วยก่อน”

“…ทำไมต้องกล้วย?”

“คุณครับ  ผมอ่านหนังสือที่คุณให้พร้อมกับค้นจากอินเตอร์เนตมา เขาแนะนำมาแบบนี้”  และแน่นอนว่าพอเขาเปิดโทรศัพท์ที่ปิดเอาไว้ตั้งแต่ขึ้นรถทัวร์มาที่นี่มันก็เด้งข้อความจากพี่ตุ่น  ผู้จัดการส่วนตัวนับร้อยข้อความและจากอภินันท์ด้วยส่วนหนึ่ง  โกเมนไม่ได้เปิดอ่าน  เขาแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นข้อความเหล่านั้น

“เขาแนะนำมาคุณก็ทำตามเลยหรือ?”

“จะหลอกด่าว่าผมโง่ล่ะซิ”  รัชพลยักไหล่กับคำพูดของโกเมน  “ฝันไปเถอะ”  เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเชิดคางใส่  “ที่ตรงนี้ค่อนข้างแล้งก็ต้องปลูกอะไรเพื่อปรับสภาพดินก่อน”  รัชพลพยักหน้ารับ  “กล้วยเป็นพืชที่อุ้มน้ำได้ดี อาจปลูกสับหว่างกับพวกพืชตระกูลถั่ว  สักระยะหนึ่งถึงค่อยปลูกพืชที่ทนแล้ง”

“แล้วระหว่างรอปรับหน้าดินคุณจะทำยังไง  หารายได้จากไหน  หรือจะกลับไปเป็นดารา?”

“กลับไปเป็นดาราหรือ?”  โกเมนถอนหายใจ  ชายหนุ่มเหม่อมองไกลออกไปอย่างไร้จุดหมาย  เมื่อคืนใช่ว่าเขาจะเอาแต่อ่านหนังสือที่รัชพลยื่นให้  เขานอนคิดมาทั้งคืน  และหลายคืนก่อนหน้านี้แล้ว  วงการมายาที่เขาเคยคิดว่ามันเหมาะสมกับเขานั้นแท้จริงแล้วไม่ได้สวยงามอย่างที่เคยมอง  เขาเคยคิดอยากจะอยู่ในวงการแสดงไปจนกว่าเขาจะเล่นละครไม่ไหว  แต่พอเขาผ่านเลวร้ายมาหลายรอบกลับทำให้เขาเห็นใบหน้าเบื้องหลังหน้ากากของคนรอบตัว  มันทำให้เขาเบื่อหน่ายและอยากหันหลังใส่ก่อนจะวิ่งหนีออกมาให้ไกล

“อาโกเมนนนน”  เด็กแฝดวิ่งกลับมามาหาเขาและรัชพลพร้อมบางอย่างในมือ “นี่ๆ แฟงเจอลูกโทงเทงด้วยล่ะ  อาโกเมนเคยกินไหม?”  เด็กหญิงแบมือยื่นมาตรงหน้าเขา  ลูกกลมๆ เล็กๆ ออกสีเหลืองกลิ้งอยู่ในนั้น

“ไม่เคยครับ  มันกินได้ด้วยหรือ?”

“ได้ครับ  มันก็จะเปรี้ยวๆ หวานๆ หน่อย”  เด็กชายแกะเปลือกลูกโทงเทงในมือตัวเองแล้วยัดใส่ปากให้ดูเป็นตัวอย่างก่อนจะยื่นที่เหลือให้โกเมน  ชายหนุ่มหยิบมาเด็ดเปลือกออกแล้วใส่ปากตาม

“แหวะ  ไม่เห็นอร่อยเลย!”  ร่างสูงอ้าปากบ้วนทิ้งทันทีที่กัดมันแตก

“ฮ่าๆๆๆ อาโกเมนนี่ไม่เก่งเลย  อร่อยออก  แฟงชอบ”  เด็กหญิงหัวเราะชอบใจก่อนจะชวนฝาแฝดวิ่งออกไปหาอีก

“คุณนี่ก็ไม่ยอมห้าม!”  ขายหน้าเด็กเลยพาลมาเสียงดังใส่คนที่ยืนข้างๆ

“อ้าว  ก็นึกว่ากินเป็น”

“ผมเคยกินที่ไหนเล่า!”

“แล้วว่าไง  ที่ผมถามน่ะ  ระหว่างรอปรับสภาพดินคุณจะทำมาหากินอะไร”

“เกาะคุณกินไง”

“ฮื่อ!”   

“ไม่ต้องมาฮื่อ  ก็คุณไม่อยากให้ผมขายที่ผืนนี้คุณต้องมาสอนผมทำไร่แล้วก็ต้องทำมาหาให้ผมกินด้วย  เพราะตอนนี้ผมไม่มีเงินแล้ว”  ยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจที่ตัวเองกลายสภาพเป็นปลิง
รัชพลอ้าปากค้าง  เขาได้แต่มองร่างสูงเดินห่างออกไปตาปริบๆ สุดท้ายจึงได้แต่อือออห่อหมกเพราะโดนมัดมือชกไปแล้ว  หลังเดินดูที่โกเมนบอกว่าจะขุดบ่อน้ำตรงกลางสระ  ให้ลึกพอประมาณจะได้เก็บน้ำเอาไว้ใช้  รัชพลพาเดินไปตามเส้นทางที่จะวางท่อน้ำ  แน่นอนว่าต้องบอกกล่าวเจ้าที่เดิมกันด้วย  ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมให้เขาต่อน้ำแน่ๆ

“หวัดดีพี่พล  มาไงล่ะเนี่ย”  เจ้าของที่หน้าเหี้ยมเอ่ยทัก

“หวัดดีเจ้าชา  พี่พาหลานลุงปั้นมาดูที่น่ะ”  ใบหน้าคล้ำแดด หนวดเฟิ้มชะโงกมาดูโกเมน  พอเห็นร่างสูงโปร่ง  ผิวขาวจัดกับริมฝีปากแดงๆ แล้วเบ้หน้าใส่

“คนนี้น่ะหรือหลานลุงปั้น?”

“ใช่”

“แล้วมาทำไม?”

“เขาจะมาทำไร่ที่นี่?”

“ฮื่อ  จะไหวเร้อ?  หุ่นขี้ก้างหน้าขาวผิวบางอย่างนี้  ขี้ีคร้านเจอแดดสักวันสองวันคงวิ่งกลับเข้ากรุงแทบไม่ทัน”  รัชพลกลั้นยิ้ม  เหลือบมองใบหน้าบึ้งตึงคนโดนพาดพิงแล้วอยากหัวเราะดังๆ

“เอาน่า  ให้เขาลองดูสักหน่อยจะเป็นไรไป  นี่พี่ว่าจะมาขอวางท่อน้ำผ่านไร่เอ็งหน่อยน่ะ”

“ผมน่ะได้อยู่แล้ว  แต่ไอ้พวกต้นน้ำมันจะยอมให้เรอะ”

“เดี๋ยวพี่ไปคุยเอง  อย่างน้อยพวกนั้นน่าจะยังเกรงใจชื่อลุงปั้นแกอยู่บ้างแหละ”
ช่วงบ่ายรัชพลพาเด็กแฝดไปส่งบ้าน  กินข้าวกลางวันเสร็จก็พากันหลับปุ๋ยเพราะเพลียแดด  โกเมนเองที่ใบหน้าแดงก่ำก็แทบหมดแรง  อยากทิ้งตัวลงไปนอนกับเด็กๆ ใจแทบขาด

“ยอมแพ้แล้วเรอะ?”

“ใครบอก!”  ชายหนุ่มกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันทีที่ได้ยินคำสบประมาท  “ว่าแต่  นายชาอะไรนี่อายุน้อยกว่าคุณหรือถึงเรียกคุณว่าพี่”

“ใช่”

“ล้อเล่นน่า  หนวดเคร้าเฟิ้มขนาดนั้น  แถมหน้าตายังแก่กว่าคุณอีก”

“……”

“คุณอายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย”  ในที่สุดโกเมนก็เอ่ยถาม  เขาสงสัยตั้งแต่ตอนนายชาเรียกอีกฝ่ายว่าพี่แล้ว

“34”

“ห้ะ?  โกหกน่า  คุณแก่กว่าผมสิบปีเชียวเรอะ?”
         
            “ใช่”  โอ๊ยย  ไม่น่าเชื่อ!  ถึงเขาจะคิดว่าอีกฝ่ายอายุไม่น้อยกว่าเขาแน่ๆ เพราะมีลูกแฝดอายุหกขวบแล้ว  แต่...สามสิบสี่เนี่ยนะ?  หน้าอ่อนเกินไปแล้ว!  “ทำไม?  หน้าตาผมดูหนุ่มอยู่เหรอถึงต้องตกใจขนาดนั้น”  รัชพลมองท่าทางตกใจของโกเมนแล้วยกยิ้ม 

“ถ้าคุณบอกว่าอายุเท่าผมผมก็เชื่อ”

“!”

“หือ?”  โกเมนขมวดคิ้วเมื่อรัชพลหันหน้าหนี  เขาเลยแกล้งขยับเท้าเพื่อจะมองหน้าอีกฝ่ายให้ชัดๆ แต่ฝ่ายนั้นก็หมุนหนีไปได้อีกรอบ  …เหมือนเขาจะเห็นรัชพลหน้าแดง?


**********


“พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปขุดหน่อกล้วยนะ”

“ขุดหน่อกล้วย?”

“ใช่  ก็คุณจะปลูกกล้วยไม่ใช่หรือไง”

“ก็ใช่  แต่ไม่ใช่ว่าซื้อพันธุ์มาแล้วก็จ้างคนปลูกหรอกหรือ?”

“บอกทีเถอะว่านี่ผมกำลังคุยอยู่กับคุณหนูคุณชายที่ไหนอยู่”

“ก็ผมไม่รู้นี่  อย่ามาประชดประชันจะได้ไหมเล่า”

“เอาเถอะๆ ถ้าจะปลูกกล้วยให้เต็มยี่สิบไร่คงต้องใช้วิธีผ่าหน่อเอา”

“เราขุดหน่อเล็กๆ แล้วมาปลูกเลยไม่ได้หรือ?”

“ก็ได้นะ  แต่คุณจะไปหามาจากไหนมาปลูกให้เต็มไร่?”  โกเมนยักไหล่  เขาจะไปรู้ได้อย่างไรเล่า  “ไปร้านเกษตรก่อนจะค่ำเถอะ”

“ไปทำไม?”

“มีของที่ต้องใช้ตอนคุณขยายหน่อพรุ่งนี้”  รัชพลขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจพาโกเมนไปหอบหิ้วของจากร้านเกษตรในหมู่บ้าน  โชคดีที่ร้านใหญ่พอทำให้ได้ของครบตามที่ต้องการ

เช้าตรู่โกเมนช่วยเจ้าของบ้านเก็บผัก เก็บไข่ส่งตลาด  ปลุกเด็กๆ ให้มาอาบน้ำกินข้าวตามคำสั่งก่อนที่ช่วงสายๆ เขาจะต้องไปผจญกับแดดแรงกล้า

“เดี๋ยวผมขุดให้คุณดูเป็นตัวอย่างนะ”  รัชพลพับแขนเสื้อขึ้นหลังตัดต้นกล้วยเพื่อไม่ให้เกะกะตอนที่จะขุด  ใบตองถูกนำมาวางเรียงกันสวยงามไม่ให้ใบแตกจนเสียราคา  แล้วจับจอบด้วยท่าทางทะมัดทะแมง  มีเสียมอันใหญ่อีกอันวางด้านข้าง  ปากก็คอยอธิบายพร้อมมือที่เริ่มลงแรง  รัชพลขุดดินรอบต้นกล้วยต้นใหญ่ได้ที่จึงใช้เสียมแซะเอาต้นกล้วยออกมา  โกเมนพยายามทำเลียนแบบอีกฝ่ายเก้ๆ กังๆ จนคนสอนทนไม่ไหว  สุดท้ายเลยต้องจับมือขุด
รัชพลเดินไปซ้อนหลังร่างสูง  เอื้อมแขนมาจับจอบโดยที่โกเมนยังไม่ปล่อยมือ  ทาบทับฝ่ามือลงบนหลังมือขาวพลางกระชับแน่น 

“จับให้แน่นแล้วยกซิ  ออกแรงเท่ามดแบบนั้นเมื่อไหร่จะขุดเสร็จ หึ?

“เอ่อ?”

“อะไร?  เอ้า  ยกแบบนี้!”  รัชพลเอ่ยดุเมื่อเห็นว่าคนด้านหน้าไม่ยอมยกจอบขึ้น

“คือ  ผมไม่ถนัด”

“หืม?”

“ศอกผมติดตัวคุณ”

“โอ๊ะ?”  รัชพลปล่อยมือก่อนจะกระเด้งตัวออกด้วยความตกใจ  โกเมนอยากหันไปดูหน้าอีกฝ่ายแต่โดนดุเสียก่อน  “ขุดเข้าไปซิ!”
.
.

“โอ๊ย  คุณ!”

“?”

“ผมไม่ไหวแล้วนะ!”  โกเมนโยนจอบทิ้งหลังจากขุดหน่อกล้วยต้นที่ยี่สิบ  ฝ่ามือทั้งสองข้างแสบร้อนจนแทบกำด้ามจอบไม่ไหว  ใบหน้าและแขนสองข้างแดงก่ำจากการถูกแดดเผา  เหงื่ออาบเสื้อจนเปียกชุ่มแนบลำตัว  ผมหยักศกที่มัดรวบไว้บางส่วนหลุดรุ่ยยุ่งเหยิง  รัชพลเงยหน้ามองท้องฟ้าแล้วละมือจากจอบของตัวเอง

“เข้าบ้านเถอะ”  โกเมนแทบโห่ร้องเมื่อได้ยินประโยคนั้น  ชายหนุ่มวิ่งเข้าบ้านไปเปิดโอ่งตักน้ำขึ้นดื่มด้วยความหิวกระหายก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดแรง

“โอ๊ย!”  จังหวะที่เท้าแขนไปด้านหลังเพื่อผ่อนคลายนั้นโกเมนสะดุ้งโหยงเจ็บแปลบตรงกลางฝ่ามือสองข้างจนต้องเบ้หน้า  ชายหนุ่มยกมือตัวเองขึ้นดูอย่างตกใจ

“อา…”  รัชพลที่เดินตามมาทีหลังเห็นมือของโกเมนแล้วยืนนิ่ง

“เนี่ย  เห็นไหม  เพราะคุณใช้งานผมหนักไงมือเลยเป็นแผลแบบนี้” 

“งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน  คุณกินข้าวแล้วไปพักเถอะ”  โกเมนยิ้มกว้าง
หลังกินข้าวกลางวันเสร็จ  รัชพลหายามาทาให้แล้วพันแผลไว้ด้วยผ้าสะอาด  โกเมนถอนหายใจพลางเอนหลังลงนอนบนพื้นบ้าน  ในหัวจัดตารางว่าวันพรุ่งนี้เขาต้องมาขุดหน่อกล้วยอีกกี่ต้นถึงจะพอปลูกก่อนจะค่อยๆ ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
โกเมนสะดุ้งตื่นเมื่อสองแฝดที่กลับมาจากโรงเรียนพุ่งกระโจนเข้าใส่

“อาโกเมน  พวกเรากลับมาแล้วววว”

“กลับมาจากโรงเรียนแล้วต้องทำยังไงก่อน หืม?”

“สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ”

“เก่งมาก  วันนี้พ่อพลเชื่อมฟักทองไว้ให้แน่ะ  ไปล้างมือแล้วค่อยมากินนะ”  เด็กแฝดวิ่งไปล้างมือแล้วนั่งรออย่างเรียบร้อยเมื่อโกเมนตักฟักทองเชื่อมไปวางให้ตรงหน้า  ชายหนุ่มเหลียวหาผู้ปกครองของสองแฝดก่อนจะเดินไปหลังบ้านเพราะได้ยินเสียงกุกกักแว่วมา

“นี่คุณ  อย่าบอกนะว่าคุณทำหมดนี่คนเดียว?”  โกเมนมองหน่อกล้วยที่ถูกผ่า  ทาน้ำยาเร่งรากถูกกลบด้วยแกลบดำในกะละมังหลายสิบใบตรงหน้ารัชพล

“ใช่”

“ทำไมคุณไม่ปลุกผม?”

“มือคุณเป็นอย่างนั้นจะทำไหวได้ยังไง  พักไปน่ะถูกแล้ว”

“โอเค  มือผมเจ็บผมควรพักแต่แบบนี้มันไม่ถูกต้อง!”

“อะไรคือไม่ถูกต้อง”

“ผมปล่อยให้คุณทำงานพวกนี้คนเดียวในขณะที่ตัวเองนอนหลับสบายใจเฉิบ  คุณคิดว่ามันถูกไหมล่ะ?”

“….”

“ผมไม่เคยทำไร่  ผมทำพวกนี้ไม่เป็น  ถ้าคุณไม่สอนแล้วเมื่อไหร่ผมจะทำเองได้  ผมไม่ได้อวดเก่งที่เจ็บตัวแล้วจะมาฝืนแค่คุณต้องให้เวลาผมหน่อย”

“ผมขอโทษนะ  ผมแค่อยากให้คุณได้ต้นกล้วยเยอะๆ เร็วๆ”

“คุณไม่ต้องขอโทษหรอก คุณไม่ผิด  ที่จริงผมควรจะขอบคุณคุณด้วยซ้ำ”

“อืม”

รัชพลขยับตัวให้ร่างสูงนั่งลงใกล้ๆ เพราะยังเหลือหน่อกล้วยที่ถูกผ่าอีกจำนวนหนึ่งแต่มือโกเมนแค่ขยับก็เจ็บไปทั้งฝ่ามือเลยได้แต่นั่งฟังอีกคนสอนวิธีเพาะเท่านั้น  เพราะความเชี่ยวชาญของคนสอนงานเลยเสร็จโดยใช้เวลาไม่นานนัก
.
.
“นี่คุณ  มือผมเจ็บอ่ะ”

“แล้ว?”

“ป้อนข้าวผมหน่อยดิ”

“ห้ะ?”  รัชพลที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากชะงึกกึก  มองอีกคนชูฝ่ามือเยินๆ มาให้ดู

“นี่คุณ  ใจคอจะให้ผมกินข้าวเปล่าอย่างเดียวเหรอ?”  โกเมนเบ้หน้า  เขากะว่าจะแกล้งรัชพลเสียหน่อยแต่ดูท่าคงคิดผิด  อีกฝ่ายยอมป้อนข้าวเขาจริง  แต่แค่ข้าวเปล่าอ่ะนะ  ไม่กับข้าวผสมเลย..

“ก็คุณขอให้ป้อนข้าว”

“…ใจร้ายจริ๊ง!”  คนมือเจ็บนึกอยากกระชากช้อนมาตักกินเองเสียให้รู้แล้วรู้รอด

“ฮ่ะๆๆ” 


“….”  โกเมนนิ่งอึ้ง  มองใบหน้าสีน้ำผึ้งกระจ่างตาของคนตรงหน้า  ยิ่งเมื่อเจ้าตัวหัวเราะยิ่งขับให้ดวงตาสีน้ำตาลระยิบระยับ  ใบหน้าอ่อนกว่าวัยนั้นชวนมองกว่าตอนไหนๆ เมื่อยามยิ้มแย้ม

“ไม่แกล้งแล้วก็ได้”  รัชพลกัดริมฝีปากกลั้นยิ้ม  ก่อนจะยอมตักกับข้าวมาป้อนให้  โกเมนที่ถูกเอาช้อนจ่อปากยังคงมองคนตรงหน้านิ่ง  แก้มสีน้ำผึ้งจึงร้อนรู้สึกอุ่นๆ ขึ้นมาอย่างน่าปะระหลาด  “นี่  จะกินไม่กิน?”

“อ้อ กินๆ”  ร่างสูงหลุดจากภวังค์แล้วอ้าปากงับช้อนที่รัชพลส่งมาให้

“พ่อๆ ทำไมพ่อต้องป้อนข้าวอาโกเมนด้วยล่ะ?”

“!”  คนเป็นพ่อสะดุ้งโหยง  อื้อหือ  นี่เขาลืมไปเลยว่าลูกๆ ดูอยู่

“อาโกเมนมือเจ็บไงครับ  พ่อพลเลยช่วยป้อนข้าวให้”  โกเมนเป็นฝ่ายตอบ

“แล้วทำไมมืออาโกเมนถึงเจ็บล่ะ?”  เด็กหญิงเอียงคอถามพลางจับมือใหญ่ของโกเมนมาพลิกดู

“โดนใครใช้งานก็ไม่รู้  ดูซิมืออาเจ็บไปหมด”  ได้ทีฟ้องเด็ก  น่าสงสารมาก!  รัชพลเบ้ปากใส่

“จะกินไหมข้าวน่ะ?”

“กินครับกิน!”
มื้อเย็นเป็นอาหารง่ายๆ โกเมนกลืนต้มจืดเมนูซ้ำๆ ตรงหน้าโดยไม่รู้สึกเบื่อแล้วนึกแปลกใจตัวเอง  ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่กินอะไรแบบนี้แน่ๆ  แต่พอมาอยู่ที่นี่เขากลับเป็นคนกินง่ายอยู่ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ  ผักปลูกเอง  ทั้งไก่ทั้งปลาก็เลี้ยงเองหมด  ทุกอย่างที่กินมาจากรอบบ้านหลังนี้  มาคิดดูแล้วก็รู้สึกอุ่นๆ ในอกอย่างไม่เคยเป็น

“วันนี้ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง?”  รัชพลเอ่ยถามลูกๆ ขณะทายาให้โกเมนหลังอาบน้ำ  ขนาดเอาถุงพลาสติกคลุมมือสองข้างไว้แล้ว ไม่รู้ว่าคนตัวโตอาบอีท่าไหนมันถึงเปียกชุ่มไปหมด

“วันนี้ครูไก่ให้เล่นเกมด้วยค่ะ”

“เปิดการ์ตูนให้ดูด้วยครับ!” 

“เมื่อไหร่บ้านเราจะมีโทรทัศน์คะพ่อ”  เด็กหญิงเอ่ยถาม  วันนี้สองแฝดได้ดูการ์ตูนที่ครูไก่เปิดให้ดูแล้วสนุกมาก  เลยอยากให้ที่บ้านมีโทรทัศน์  พวกเขาจะได้ดูการ์ตูนบ่อยๆ

“เอ่อ…”  รัชพลเหลือบสายตามองโกเมนที่มองมาอยู่ก่อนแล้วพลางนึกหาคำตอบให้ลูกๆ

“ก็บ้านเรายังไม่จำเป็นนี่ครับ”  โกเมนเป็นคนตอบสองแฝด

“ไม่จำเป็นคือยังไง?”

“พวกหนูชอบไปเล่นในไร่เก็บลูกโทงเทงไหม?”

“ชอบครับ / ชอบค่ะ”

“เวลาเก็บไข่ล่ะ?”

“เก็บไข่ก็สนุก!”

“แฟงชอบให้อาหารปลาด้วยค่ะ!”

“เห็นไหม  พวกนี้ทำพวกนี้ก็สนุกได้โดยไม่ต้องมีโทรทัศน์”

“จริงด้วย!”  สองแฝดตบมือดังแปะ

“งั้นพรุ่งนี้พ่อจะทำม้าก้านกล้วยให้คนละตัวเอาไว้ขี่ไปเก็บไข่ ขี่ไป ให้อาหารปลา  ดีไหม?”

“เย้!”
รัชพลถอนหายใจหลังพาลูกๆ เข้านอน  เขากลับมานั่งตรงห้องโถง  กางโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กแล้วเปิดสมุด 

“ทำอะไรน่ะ?”

“จดว่าวันนี้ผ่าหน่อกล้วยได้เท่าไหร่  พรุ่งนี้ผมจะติดต่อเฮียตี๋เรื่องขุดสระกลางไร่ให้นะ”

“คุณติดต่อเดี๋ยวผมคุยเอง”

“หืม?”

“คุณแค่สอนก็พอ  เวลาลงมือทำให้ผมทำเอง”

“….ก็ได้  จริงซิ  เมื่อกี้ขอบคุณนะที่ช่วยตอบพวกเด็กๆน่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอก  ผมก็แค่ตอบตามที่คุณเคยสอน”

“เอ๊ะ?”

“คุณสอนให้ผมสนุกกับการดูดาวตอนกลางคืน  สนุกกับการปลูกผักเก็บหญ้าตอนกลางวัน  แค่นี้ก็ไม่มีเวลาไปดูโทรทัศน์แล้วเห็นไหม”  รัชพลยิ้มกับคำตอบของอีกฝ่าย  นึกไม่ถึงว่าโกเมนจะจำที่เขาพูดได้  “เออ  จริงซิ  พรุ่งนี้คุณไม่ต้องชงกาแฟให้ผมนะ”

“ทำไม?”

“มันไม่อร่อย”

“ห้ะ!”

“คุณน่ะเก็บเม็ดสุกมาตากแดด คั่วๆ แล้วก็บดมั่วๆ ใช่ไหมล่ะ?”  รัชพลพยักหน้ารับ  “ไม่อร่อยอย่างแรง”

“…..”  รัชพลหน้าซีด  นี่เขาคิดว่าตัวเองทำดีแล้วนะ

“เดี๋ยวผมจะทำให้คุณดื่มเองก็แล้วกัน”

“…..”

“ราตรีสวัสดิ์นะครับ”

โกเมนเดินเข้าห้องนอนไปแล้ว  หากเขายังคงยืนอยู่ที่เดิม  เมื่อครู่ฝ่ายนั้นบอกว่าจะบดกาแฟแล้วชงให้เขาดื่มเองอย่างนั้นหรือ?  เขาไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม?

อา  ว่าแต่ทำไมอากาศคืนนี้มันร้อนจัง








โปรดติดตามตอนต่อไป

ขอโทษที่มาช้านะคะ^^
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 21-05-2017 01:09:12
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
เริ่มหัวข้อโดย: JARKISREAL ที่ 21-05-2017 01:45:49
 :impress2:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 21-05-2017 07:38:57
โอววว เริ่มอุ่นจนร้อนแล้วอ่ะ ติดตามค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 21-05-2017 08:59:02
ดีต่อหัวใจใช่มะ อิอิ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 23-05-2017 03:58:48
เริ่มมีโมเมนต์เล็กน้อย อิอิ  :impress2:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 23-05-2017 11:51:40
โกเมนทำคุณเขินตลอดดด~~ :o8:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
เริ่มหัวข้อโดย: คุณจัตวา ที่ 23-05-2017 18:57:15
ตกลงใครเมะใครเคะกันอะ   แยกไม่ออกเลย :katai1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 23-05-2017 22:46:20
อ่านรวดเดียวเลยค่า โกเมนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ ดีขึ้น :katai2-1:  ตอนแรกๆ นี่ไม่ชอบนิสัยอย่างแรงเลย :katai1: ส่วนพี่พลนี่เป็นคุณพ่อที่ดีนะ สอนลูกเก่ง เด็กๆก็น่ารักค่ะ  :-[

ปล.ชอบบรรยากาศของเรื่องจัง รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 01-06-2017 17:34:10

รักพอเพียง ตอนที่ 8




   “โอ๊ย! จะไม่ไหวแล้วนะ!” เจ้าของร่างสูงโวยวายก่อนจะโยนจอบในมือทิ้งแล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้นดินอย่างหมดแรง คนที่ยืนอีกฝั่งเลิกคิ้วพลางเดินเข้ามาหา หยิบกระติกน้ำส่งให้ “ทำกันอยู่สองคนแบบนี้ชาติไหนจะเสร็จ!” โกเมนบ่นต่อ ชายหนุ่มคว้ากระติกน้ำแล้วตักขึ้นดื่มด้วยความกระหายปนโมโห น้ำใสกระฉอกเปียกชุ่มอกเสื้อเพราะแรงอารมณ์
   
“เหนื่อยหน่อยนะ” รัชพลที่ไม่รู้ว่าจะพูดปลอบอย่างไรเอ่ยออกมาสั้นๆ
   
“ไม่หน่อยละมั้ง นี่น่ะมันเหนื่อยมากกกกก โว้ย! ไม่เอาแล้ว จะกลับกรุงเทพฯ”
   
“.....” รัชพลเลิกคิ้ว จ้องมองในหน้าขาวจัดที่บัดนี้แดงก่ำและอาบย้อมไปด้วยหยาดเหงื่อ ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงคว้าจอบที่โกเมนโยนทิ้งขึ้นมาแบกบนไหล่ซ้าย ส่วนไหล่ขวาแบกจอบที่เขาใช้จนถึงเมื่อครู่แล้วหันหลังเตรียมเดินออกจากไร่
   
“นั่นคุณจะไปไหน?” โกเมนเอ่ยถาม
   
“ก็คุณบอกว่าจะกลับกรุงเทพฯผมเลยจะไปกลับบ้านไปยืมรถกระบะพี่ชมขับไปส่งคุณที่ขนส่ง”
   
“.....”
   
“ลงไปตอนนี้น่าจะทันรอบสองทุ่ม...”
   
“ประชด! รู้จักคำว่าประชดไหม ห๊า!” โกเมนลุกขึ้นนึกอยากวิ่งไปจับหัวคนตรงหน้าเขย่าๆให้สมองไหลออกจากหู
   
“อ้อ~” รัชพลเพียงพยักหน้ารับ เขาหันไปมองรอบไร่แล้วหันกลับมามองใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้ง “งั้นพรุ่งนี้จ้างคนงานมาช่วยสักสี่ - ห้าคนละกัน”
   
“จ้างคนงาน?”
   
“ใช่ ก็คุณบ่นเหนื่อยไม่ใช่หรือ ถ้าอย่างนั้นจ้างคนงานมาช่วยคุณคงเหนื่อยน้อยลง งานก็เสร็จเร็วขึ้น”
   
“.....”
   
“ไม่เอาหรือ?” รัชพลเอียงคอถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นโกเมนทำหน้าถมึงทึง
   
“ทำไมไม่บอกแต่แรกว่ามีคนงานให้จ้างน่ะ ห๊า!” ถ้าเขาบีบคอคนตรงหน้าตายตอนนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจเลย
   
“ก็คุณไม่ได้ถาม”

“....ไอ้คำนี้อีกแล้วนะ!” ร่างสูงแผดเสียงร้องดังก้องทั่วไร่อันเว้งว้าง.…


********


   โกเมนถอนหายใจ ชายหนุ่มมองคนงานที่กำลังขุดดินท่ามกลางอากาศร้อนแล้วก้มลงมองมือตัวเอง เมื่อเช้านายชาไร่ข้างๆวิ่งมาบอกว่าชาวไทยภูเขาทางต้นน้ำไม่ยอมให้วางท่อดึงน้ำมาที่ไร่ ถ้าไม่มีน้ำแล้วจะทำไร่ได้ยังไงกันเล่า!
   
“กำลังคิดว่าจะกลับกรุงเทพฯดีไหมอยู่อย่างนั้นหรือ?”
   
“เมื่อก่อนมือผมนุ่มมากเลยนะคุณรู้ไหม ยกของหนักสุดก็เห็นจะเป็นกล่องหนังสือตอนย้ายห้อง”
   
“หน่อกล้วยเบากว่ากล่องหนังสือเยอะ”
   
“....” โกเมนกลอกตาเมื่อได้ยินคำพูดของคนข้างๆ
   
“งั้นขุดสระดีไหม?”
   
“ที่ยังงี้ขุดสระแล้วจะมีน้ำมาให้หรือไง?” โกเมนขมวดคิ้ว อากาศร้อนและเรื่องยุ่งยากทำให้เขาอารมณ์เสียหนักขึ้น
   
“ก็ลองขุดดูเผื่อเจอตาน้ำข้างล่างไง”
   
“ถ้าเจอตาน้ำง่ายๆ ไร่ข้างๆ เขาคงขุดกันไปแล้วมั้ง!”
   
“…..” ไม่รู้ว่าจะปลอบใจอย่างไรรัชพลเลยนิ่งเงียบ
   
“อีกอย่างเงินก็ไม่มีไม่มากพอจะมาลองผิดลองถูกได้บ่อยๆ”
   
“อ่า...เข้าใจแล้ว”  คนเสนอความคิดนิ่งไปอีกอึดใจใหญ่  ดวงตาสีน้ำตาลเหลือบมองคนข้างๆแล้วเอ่ยต่อ “เคยได้ยินไหมว่ากำแพงเมืองจีนไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว”
   
“...เคยได้ยินแต่กรุงโรมนะ ไอ้คำกำแพงเมืองจีนนี่เพิ่งได้ยินครั้งแรก”
   
“......”
   
“นี่พูดมั่วใช่ป้ะ?” โกเมนมองใบหน้านิ่งเฉยของรัชพลด้วยสายตาคลางแคลง
   
“จะกรุงโรมหรือกำแพงเมืองจีนก็ไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวเหมือนกันนั่นแหละ”
   
“.....”
   
“กว่าจะเป็นเมืองกว่าจะเป็นกำแพงที่ใหญ่ขนาดนั้นได้ต้องลงแรงขนาดไหนกว่าจะสำเร็จ ...ผมเรียนมาน้อยไม่รู้จักหรอกไอ้กรุงโรมที่คุณว่าน่ะ รู้จักแค่กำแพงเมืองจีนนี่ก็เก่งแล้ว” ท้ายประโยคเบาลงจนแทบไม่ได้ยิน กระนั้นโกเมนก็ยังยิ้มออกมา
   
“ที่พูดมานี่คือการให้กำลังใจผมใช่ไหม?”
   
“เปล่า พูดลอยๆnไปงั้นแหละ”
   
“เหรอ?” โกเมนยกยิ้ม รอยยิ้มนั้นขยายกว้างก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ
   
“อืม”

   
วันรุ่งขึ้นโกเมนที่เตรียมตัวสวมเสื้อแขนยาวพร้อมหมวกปีกกว้างจะเข้าไร่ก็ต้องเปลี่ยนแผนเมื่อเจ้าของบ้านขับรถมอเตอร์ไซค์หายไปไหนไม่รู้ตั้งแต่เช้า เขาก็เลยเดินไปสวนหลังบ้านที่ตอนนี้ผักหลากหลายชนิดแข่งกันงอกงามจนเก็บไปขายแทบไม่ทัน ร่างสูงหยุดยืนตรงซุ้มมองยอดผักคุ้นตาที่กำลังแตกยอดอ่อนจนเต็มซุ้มไม้ไผ่ก่อนจะเลิกคิ้วแปลกใจ
   ชาโยเต้?
   รัชพลปลูกชาโยเต้ให้เขากินจริงๆ หรือ?
   
รอยยิ้มประดับบนใบหน้าหล่อเหลา ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกดีใจมากขนาดนี้ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เคยเคยพูดลอยๆ แต่รัชพลกลับใส่ใจเสมอ ทั้งกาแฟสดทำเอง ที่ไม่ว่าจะรสชาติฝาดเฝื่อนแค่ไหนเขาก็คิดว่ามันอร่อยเมื่อมาจากความใส่ใจของคนทำ ผักที่เขาชอบกินเย็นนี้คงกลายเป็นกับข้าวในมื้อเย็นหรืออาจจะในมื้อใดมื้อหนึ่งเร็วๆนี้
   
เสียงรถยนต์จอดหน้าบ้านพร้อมเสียงสองแฝดทำให้โกเมนเดินออกไปดู รถยนต์กลางเก่ากลางใหม่คันนี้คุ้นตาเพราะเคยไปรับเขาเมื่อมาที่นี่ครั้งแรก
   
“ไปยืมรถเขามาทำไมหรือ? แล้วนี่วันนี้หายไปไหนมาตั้งแต่เช้า ผมรอเข้าไร่จนสายโด่งป่านนี้แล้วนะ” โกเมนเท้าเอวเอ่ยประโยคยืดยาวใส่เจ้าของบ้าน
   
“อาโกเมน วันนี้ไปเที่ยวกัน” เด็กชายกระโดดไปรอบตัวคนเป็นพ่ออย่างดีใจ
   
“ไปเที่ยว?”
   
“ใช่ค่ะ วันนี้พ่อจะพาไปเที่ยวน้ำตก” เด็กหญิงวิ่งไปกอดแขนร่างสูง เงยหน้าขึ้นยิ้มแฉ่ง
   
“แล้วงานในไร่ล่ะ?”
   
“เหลืออีกไม่เยอะแล้ววันนี้คงเสร็จให้คนงานทำไปเถอะ ส่วนคุณน่ะต้องพักผ่อนบ้าง” โกเมนขมวดคิ้วตั้งท่าจะเถียงหากรัชพลยกมือชี้ไปยังเด็กๆ “สองแฝดอยากพาคุณไปดูน้ำตก นอนแช่น้ำพุร้อน ดูปลาแล้วก็ไหว้พระ”
   
“แต่....”
   
“เจ้าตัวแสบนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะตื่นเต้นจะได้ไปเที่ยว”

   “.....”

   “แล้วผมก็ไปยืมรถมาแล้วด้วย”

   “.....”  นี่กะจะไม่ให้เขาปฏิเสธเลยซินะ


   ความเย็นชุ่มฉ่ำและเสียงน้ำกระทบหินแว่วให้ได้ยินตั้งแต่เลี้ยวเข้าเขตอุทยาน ต้นไม้สูงใหญ่บดบังแสงอาทิตย์ยามสายเอาไว้จนส่องแทบไม่ถึงพื้นดิน สองแฝดดูตื่นเต้นมาก พอลงจากรถได้ก็จูงมือโกเมนตรงไปยังแหล่งกำเนิดเสียงที่ได้ตั้งแต่ปากทางเข้า

   ละอองน้ำใสตกกระทบหินกระเซ็นฝอยจนมองเห็นเป็นสีขาวทำให้รอบข้างเปียกชุ่ม ชั้นหินเมื่อเงยหน้ามองขึ้นไปจะเห็นน้ำที่ไหลตกมาจากชั้นที่ลดหลั่นกัน  บ้างก็เตี้ย  บ้างก็สูงหลายช่วง  มองด้วยสายตาคร่าวๆน้ำตกนี้สูงหลายสิบชั้นเลยทีเดียว

   รัชพลหอบเสื่อกับตะกร้าอาหารหลังรถเดินตามมา  เขาเลือกที่นั่งไม่ห่างจากน้ำตกมากนักหากก็ไม่ใกล้จนโดนน้ำกระเด็นใส่ เขามองร่างสูงของโกเมนที่ยืนนิ่งแล้วสาวเท้าไปยืนข้างๆ

   “สวยไหม?”

   “สวย  นานมากแล้วที่ผมไม่ได้มาเที่ยวน้ำตกแบบนี้”

   “ไม่ต้องขอบคุณผมก็ได้นะ” รัชพลยกยิ้ม

   “ผมจะขอบคุณเจ้าสองแสบที่อยากมาเที่ยวแล้วพาผมมาเป็นตัวแถมละกัน”  โกเมนยักไหล่ก่อนจะพับขากางเกงถอดรองเท้าแล้วกระโดดลงไปในแอ่งน้ำตื้นตามเด็กสองคนที่กวักมือเรียกเหย็งๆ

   “อย่าไปตรงกลางมากนักล่ะ  ตรงนั้นน้ำค่อนข้างลึก”

   โกเมนหันมาพยักหน้าแล้วกระโจนเล่นน้ำชนิดโยนอายุทิ้งไว้บนฝั่ง ร่างสูงไล่จับกับเด็ก  กระโดดตีลังกาโชว์ให้เจ้าสองแฝดปรบมือลั่น  เจ้าฟักก๋ากั่นถึงขนาดจะเลียนแบบ ร้อนให้คนต้นคิดปรามเสียงหลงเพราะกลัวเด็กชายจะเอาหัวไปกระแทกหินเสียก่อน   เล่นกันอยู่พักใหญ่ก็หอบกันมานั่งขอบเสื่อ  รัชพลยื่นแก้วน้ำมะตูมส่งให้ทั้งสาม ขนมขบเคี้ยวที่นานๆ ทีจะยอมซื้อให้เด็กๆกินเพราะรัชพลไม่ชอบขนมที่มีผงชูรสเยอะพวกนี้นักแต่พวกเด็ก ๆนั้นชอบกันเหลือเกิน เจ้าสองแฝดช่วยกันเปิดซองมันฝรั่งทอดอย่างดีใจ  หยิบใส่ปากพ่อบ้างใส่ปากอาโกเมนบ้างแล้วหัวเราะชอบใจ พอเติมของลงท้องหายหิวก็กระโดดลงน้ำต่อ  โกเมนเห็นดังนั้นก็แกะกระดุมถอดเสื้อแล้วโยนไปทางรัชพล

   “ฝากหน่อย”

   “….”  รัชพลก้มลงมองเสื้อเปียกชื้นในมือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายที่วิ่งลงน้ำตกตามเด็กๆไป

   ผิวใต้ร่มผ้ายังคงขาวจัดนั้นหากวันนี้กลับมีรอยตัดเป็นสีเข้มคล้ำตามรอยขอบแขนเสื้อเพราะบางวันที่ออกไปไร่โกเมนมักจะลืมสวมเสื้อแขนยาวบ่อยๆ  ถ้าเขาไม่เตรียมไว้ให้วันนั้นแขนของโกเมนแทบจะไหม้เพราะแดดเผา  ร้อนให้รัชพลต้องบังคับเอาทะนาคามาพอกหน้าพอกแขนให้โกเมนก่อนออกจากบ้านทุกวัน เกิดวันหนึ่งอยากกลับไปเป็นดาราจะได้ไม่มาโทษเขาว่าทำให้ฝ่ายนั้นผิวเสีย

   “นี่ เย็นนี้จะผัดชาโยเต้ป้ะ?” โกเมนวิ่งกลับเข้ามาอีกรอบ หยดน้ำกระเด็นทำเอารัชพลขยับถอยหลังแทบไม่ทัน

   “หืม รู้ได้ไง? แล้วใครบอกว่าจะทำ?”

   “ทำเหอะ อยากกิน” ริมฝีปากแดงสดยกยิ้ม ดวงตาคู่สวยระริกคาดหวังแต่รัชพลทำเพียงแค่เลิกคิ้วหากไม่ตอบรับ

   บ่ายคล้อยทั้งหมดก็พากับกลับบ้าน เด็กโข่งหนึ่งคนกับเด็กซนฝาแฝดถูกไล่ไปอาบน้ำล้างตัวที่ชานหลังบ้าน ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวไม่หยุด  มาสงบลงได้หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพากันหลับปุ๋ยอยู่กลางบ้านทั้งสามหน่อ รัชพลยกยิ้ม  มองภาพที่เจ้าฟักนอนทับแขนซ้ายเจ้าแฟงนอนพาดอยู่บนแขนขวาของโกเมน ในหัวใจพลันรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด  ชายหนุ่มเจ้าของบ้านสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านก่อนจะออกไปเด็ดยอดชาโยเต้ตรงซุ้มไม้ไผ่

   ไม่ได้ทำเพราะว่าใครบ่นอยากกินหรอกนะ



********


   โชคดีที่รัชพลแยกหน่อกล้วยได้มากพอให้โกเมนปลูกรอบไร่ตามแนวรั้ว สี่-ห้าเดือนมานี้เล่นเอาเขามือแตกยับกันเลยทีเดียว ส่วนคนขี้บ่นนั้นก็ไม่ต่างกัน ดีหน่อยตรงที่เขาหาถุงมือมาให้ฝ่ายนั้นใส่ฝ่ามือจึงไม่แตกมากเท่าเขา รัชพลจอดรถมอเตอร์ไซค์ก่อนจะเดินมาเรียกให้โกเมนซ้อนท้ายออกไปที่ไร่

   “วันนี้เฮียตี๋ส่งไอ้ทองมาไถที่ให้แล้ว” ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีทั้งสองก็เห็นรถไถคันใหญ่ขับไปจอดด้านข้าง ครู่เดียวคนที่บังคับรถก็กระโดดลงมาพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม

   “หวัดดีพี่พล”

   “เป็นไงบ้าง?”

   “หินเยอะมากเลยพี่ นี่ต้องเปลี่ยนใบจานเลยอ่ะ”

   “เออ โทษทีว่ะเอ็ง เฮียตี๋คงไม่รับงานที่ไร่นี้อีกแน่ถ้าข้าขอ”

   “หินมันเยอะ ไม่คุ้มค่าจานที่พังอ่ะ”

   “อืมๆ นี่คุณโกเมน เจ้าของที่หลานลุงปั้นแก”

   “เฮ้ย หล่อว่ะพี่ ดาราป้ะเนี่ย หน้าคุ้นๆ”

   “สวัสดีครับ” คนโดนชมเอ่ยทักทาย

   “หวัดดีครับ เออ ได้ยินว่าพี่จะขุดสระเหรอ?” นายทองหันมาถามคนแก่กว่า

   “ใช่ ก็ไอ้ที่ตรงนี้แหละ” นายทองหันไปมองด้านหลัง

   “ที่มันมีแต่หิน ผมว่าขุดไปก็คงไม่เจอตาน้ำหรอก” โกเมนตีหน้าเครียดเมื่อได้ฟัง เพราะชาวไทยภูเขาทางต้นน้ำไม่ยอมให้เขาวางท่อ คืนก่อนเขาจึงคุยกับรัชพลว่าจะขุดสระน้ำแทน เผื่อโชคดีเจอตาน้ำจะได้สบายหน่อย ขืนทำไร่ไม่มีน้ำคงมีแต่เจ๊งกับเจ๊งเท่านั้นเอง “แต่ถ้าลองขุดบ่อบาดาลก็ไม่แน่นะพี่”

   “บ่อบาดาลหรือ?” รัชพลยกมือขึ้นแตะคางอย่างครุ่นคิดแล้วเหลือบมองโกเมนคล้ายขอความเห็น 

   “บ่อบาดาลละกัน” โกเมนพยักหน้า รัชพลหันไปคุยกับนายทองต่อเพื่อหาคนมาขุดบ่อบาดาล ร่างสูงเหม่อมองพื้นที่โดยรอบที่มีแต่ความแห้งแล้ง สีเขียวของต้นไม้มีเพียงน้อยนิดต่างจากบริเวณบ้านของรัชพลอย่างมาก อาจจะเพราะแถบนี้เป็นชาวไร่ทั้งหมดจึงต้องตัดต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเพาะปลูกของชาวบ้าน แต่ในความคิดของโกเมน แบบนี้มันไม่ค่อยน่าอยู่เลยสักนิด

   “จริงซิ งั้นวันนี้เข้าไปคุยเรื่องขุดบ่อเลยละกัน ตอนเย็นๆผมต้องไปรับลูกอีก”

   “… ผมมีเรื่องจะปรึกษาหน่อย”

   “?”

   “ผมว่าจะซื้อรถกระบะสักคันเอาไว้ใช้ในไร่ คุณว่าไง?” รัชพลเลิกคิ้ว มองคนที่หันมาปรึกษาเขาอย่างไม่เข้าใจ เงินก็เงินอีกฝ่าย อยากซื้อก็ซื้อไปแล้วมาถามเขาทำไมกัน “ผมอยากให้คุณช่วยบริหารเงิน คุณก็รู้ว่าผมไม่มีเงินมากมายเอามาใช้จ่ายสรุ่ยสุร่าย!” เห็นสายตาอีกฝ่ายแล้วนึกหงุดหงิดโกเมนเลยกอดอกตีหน้าบึ้ง

   “อ้อ”

   “ว่าไง?”

   “ได้ ซื้อซิ แต่...”

   “แต่?”

   “แต่ต้องเป็นรถมือสองนะ”

   “รถมือสองมันจะไปทนได้ยังไง?”

   “ไหนบอกว่ามีเงินไม่เยอะไง?”

   “ก็...”

   “รถใหม่น่ะซื้อมาเดี๋ยวก็ได้เสียดายรถหรอก เอามาใช้แบบนี้  หลุมบ่อเอยหินเอย อีกอย่างประหยัดเงินเอามาลงทุนตรงนี้ดีกว่า”

   “ก็จริงของคุณ”

   “งั้นเดี๋ยวผมพาคุณไปดูรถละกัน มีคนจะขายพอดี”

   “เราไม่ไปดูที่เต๊นท์ขายรถหรือ?”

   “เราต้องดูหลายๆ ที่เลือกที่ดีสุด ราคาดีที่สุดซิคุณ”

   สองคนที่คุยกันสอนกันขยับห่างออกไป นายทองมองแผ่นหลังของพวกเขาก่อนจะส่ายหน้า นายหน้าหล่อเจองานหนักแน่ คิดจะมาทำไร่งั้นหรือ? เอาเถอะ มีพี่พลคอยช่วยอยู่ทั้งคนงานนี้น่าจะรอด
   .
   .

   “นี่รถหรือเศษเหล็ก?” นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังรถเก่าบุโรทั่งสีซีดตรงหน้า

   “ก็รถน่ะซิ” รัชพลดึงมือคนข้างๆลงเมื่อเห็นสายตาเจ้าของรถมองมาแบบไม่พอใจ เขายิ้มกว้างแล้วลากร่างสูง
ออกมา “แต่คงใกล้จะกลายเป็นเศษเหล็กแล้วแหละ” รัชพลกระซิบ โกเมนหัวเราะ

   “ผมนึกว่าคุณจะให้ผมซื้อรถคันนั้นเสียอีก”

   “เฮ้ย ผมไม่ให้คุณซื้อหรอกคันนั้นน่ะอันตรายแย่ เกิดอยู่ดีๆคุณขับไปแล้วล้อหลุด รถเสียหลักลงข้างทาง คุณรถคว่ำตายผมก็แย่น่ะซิ”

   “….” ไอ้ประโยคฟังแล้วชื่นใจดีอยู่หรอก แต่ไอ้ประโยคหลังนี่คืออะไร?

   สุดท้ายโกเมนก็ได้ระกระบะสีดำกลางเก่ากลางใหม่มาหนึ่งคันในราคาเจ็ดหมื่น รัชพลพาเข้าร้านเพื่อตรวจสภาพเครื่องยนต์ ซ่อมบำรุงตัวเครื่องและดูปรับสภาพภายในรถให้ดูดีขึ้น พวกเขาตกลงนัดจ่ายเงินกันอาทิตย์หน้า แต่กว่าจะได้รถจริงก็โน่นเดือนถัดไปนั่นแหละ

   ระหว่างทางที่นั่งซ้อนรถกลับบ้าน โกเมนจ้องมองหลังคอของคนตรงหน้า สำรวจผิวสีน้ำผึ้งบนแขนที่จับแฮนด์รถ รถเครื่องเก่าแก่แรงน้อยนิดที่พวกเขาพากันตะเลงๆไปไร่ทุกวัน ที่โกเมนตัดสินใจซื้อรถเพราะอีกฝ่ายนั่นแหละ

   รัชพลตื่นแต่ไก่โห่ รถน้ำผักในสวนหลังบ้าน ทำอาหาร ไปส่งเขาที่ไร่ กลับออกมาไปส่งเจ้าแฝดที่ศูนย์เด็กเล็กแล้วก็กลับมาเก็บผักในสวนหลังบ้านไปส่งตลาด ขับไปช่วยงานเขาในไร่ มาส่งเขาที่บ้านแล้วไปรับลูกที่ศูนย์เด็กเล็ก กลับมาทำอาหารและงานบ้าน วนเวียนอยู่แบบนี้ทุกวัน...ถ้าเป็นเขาคงเหนื่อยจนขาดใจตายและเพราะไม่อยากเห็นอีกฝ่ายเหนื่อยจนขาดใจตายไปจริงๆ ถึงได้ตัดสินใจซื้อรถ โกเมนไม่อยากให้รัชพลวิ่งไปกลับวันละหลายๆ รอบเพื่อรับส่งเขาบ้าง ลูกบ้าง นอกจากเหนื่อยก็เปลืองน้ำมันรถนี่แหละ เงินทั้งนั้นที่สูญไป


   “คุณ สอนผมทำกับข้าวบ้างซิ”

   “?”

   “ก็แบบว่า เผื่อวันไหนคุณไม่ว่างผมจะได้ไม่อดตายไง” โกเมนยิ้มเขินเมื่อเห็นสายตาของรัชพล

   กว่าจะทำกับข้าวได้สามสี่อย่าง ทอดไข่ไม่ให้ไหม้นั้นยังไม่ยากเท่าก่อไฟเลย! เพราะที่บ้านนี้ใช้เตาถ่าน โกเมนนึกอยากจะต่อรองใช้เตาแก๊ซแต่คิดไปคิดมา เขาจะช่วยหรือเพิ่มภาระให้เจ้าของบ้านกันแน่ สุดท้ายเลยหัดก่อไฟก่อนเป็นอันดับแรก อยู่มาสี่-ห้าเดือนแบบสุขสบายมาตลอด พอมาทำเองแบบนี้ถึงได้รู้ว่ามันไม่ง่ายสักนิด  โกเมนมองเปลวไฟที่ลามเลียเชื้อฟืนในเตาอย่างดีใจเมื่อมันเริ่มติดไปยังก้อนถ่าน ไปยังถ่านอีกก้อนและอีกก้อน

   “วันนี้ก็ผัดผักอีกแล้วเหรอ?” เด็กหญิงเอ่ยถามด้วยหน้าตามู่ทู่ ส่วนเด็กชายเหลือบมองชามไข่ก็เบ้หน้าตามไปด้วยอีกคน

   “ไข่ต้มเหมือนเมื่อวานด้วย”

   “เด็กๆ อาโกเมนทำได้เท่านี้ก็เก่งมากแล้วนะ”  รัชพลยกยิ้มพลางลูบหัวลูกชายหญิงคล้ายปลอบใจ

   “แล้วทำไมพ่อพลไม่ทำเองล่ะ”

   “นั่นซิ ฟักเบื่อไข่ต้มของอาโกเมนแล้ว”  คนที่กำจังจะต้มไข่กรอกตาขึ้นฟ้านึกอยากเขกหัวเจ้าเด็กแก่แดดนี่สักที

   “ก็ตอนนี้อาโกเมนเพิ่งหัดทำกับข้าวนี่นา  ไว้อาโกเมนเก่งเมื่อไหร่ก็คงอร่อยเหมือนที่พ่อทำแน่ๆ อีกอย่างอาโกเมนหัดไว้ทำให้พวกหนูกินเวลาพ่อไม่อยู่ไง”

   “จริงเหรอ อาโกเมนใจดีจัง”  เจ้าฟักเงยหน้ามองอาโกเมนด้วยสายตาวิบวับ

   “หล่อด้วย ฮิฮิฮิ”  เด็กหญิงหัวเราะคิกคักแล้ววิ่งไปกอดขาร่างสูงอย่างเอาใจ  รัชพลเบ้ปากใส่ลูกสาวอย่างหมั่นไส้



**********

   
   
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่7 [20-5-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 01-06-2017 17:34:42
.
.
.


   “เป็นอะไรหน้านิ่วคิ้วขมวดเชียวคุณ”  รัชพลยกชายผ้าขนหนูขึ้นซับน้ำหลังสระผมอาบน้ำชำระร่างกายจนออกมาก็ยังเห็นโกเมนนั่งจิ้มปากกากับเครื่องคิดเลขพร้อมกางสมุดบัญชีไม่เลิก  หลังจากตัดสินใจว่าจะขุดบ่อบาดาลรัชพลก็ให้เจ้าทองหาทีมให้  คนพวกนั้นมาสำรวจและลองเจาะหาแหล่งน้ำดูทั่วไร่  เมื่อเจอก็สามารถขุดได้รัชพลจึงจัดการลำดับต่อมาเพื่อเตรียมความพร้อม

   “วันนี้ผมคุยราคากับคนที่จะมาขุดบ่อบาดาล”

   “แล้ว?”

   “มันแพงมากเลย  เกือบแสนแน่ะคุณ  ผมลองถามนายทองเขาก็บอกว่าราคาประมาณนี้เกือบทุกเจ้า”

   “อืม….”

   “เอารถขนน้ำเข้าไปเป็นรอบๆ ดีไหมคุณ?”

   “มันไม่ยิ่งสิ้นเปลืองกว่าเดิมรึ?  น้ำเราก็ใช้ตลอดปีจะขนเข้าไปทุกวันหรือไง?”

   “แต่...”

   รัชพลถอนหายใจแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง  โกเมนมองตามหลังอีกฝ่ายแล้วก้มหน้าก้มตาจมเข้าไปในสมุดบัญชีอีกครั้ง

   “เอ้านี่”  เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งวางสมุดธนาคารลงตรงหน้าคนกลุ้ม  โกเมนหยิบมาเปิดดู  เมื่อเห็นชื่อเจ้าของสมุดธนาคารนั้นแล้วขมวดคิ้ว  เจ้าของสมุดเล่มนี้คือเขา

   “หมายความว่ายังไง?”

   “ตาคุณเก็บไว้ให้”

   “….”

   “ขอโทษที่ไม่ได้เอามาให้คุณตั้งแต่แรก”

   “….”  โกเมนยังคงนิ่งเงียบ  เขามองจำนวนเงินในหน้าสมุดนั้นแล้วนึกอึ้ง  เงินจำนวนไม่ใช่น้อยๆ มันมากพอที่จะให้เขาลงทุนทำไร่ได้โดยไม่ต้องกังวลอะไรเลย  รัชพลมองใบหน้าหล่อเหลาที่อ่านความรู้สึกไม่ออกพลางถอนหายใจ

   “คุณโกรธใช่ไหม?”

   “ผมอยากจะโกรธแต่พอนึกถึงเหตุผลของคุณแล้วก็พอเข้่าใจ”

   “….”  กลายเป็นรัชพลที่นึกคำพูดไม่ออก

   “ดีแล้วที่คุณไม่เอามาให้ผมตั้งแต่แรก”

   “ผมขอโทษนะที่แอบเก็บไว้”

   “ผมต่างหากที่ต้องพูดขอบคุณ”

   “…..”

   “อีกนานไหม?”

   “หืม?”

   “อีกนานไหมกว่าคุณจะเชื่อใจผม  กว่าคุณจะเชื่อว่าผมจะไม่เอาที่ดินของตาไปขายหรือเชิดเงินก้อนนี้หนีกลับกรุงเทพฯ”

   “ก็คง...อีกไม่นานละมั้ง”  โกเมนยกยิ้มเมื่อได้ฟัง 

   “ผมมีเรื่องอยากขอคุณเรื่องหนึ่ง”

   “…..”

   “คุณช่วยเก็บเงินจำนวนนี้ไว้ให้ผมหน่อยได้ไหม  ถ้าต้องใช้ก็ยกให้คุณจัดการได้เลย”

   “ทำไม?”

   “ตาผมไว้ใจคุณ  ผมเองก็เชื่อว่าคุณไว้ใจได้  ผมอยากให้คุณช่วยบริหารเงินจำนวนนี้ของตา  ใช้มันให้คุ้มค่าที่สุดอย่างที่ตาของผมหวังไว้”

   “ได้”  สายตานิ่งแน่มองสบกับโกเมนอย่างซื่อตรง  ชายหนุ่มยกยิ้ม

   “ขอบคุณ”

   คืนนั้นโกเมนหลับฝันดี  เขานึกขอบคุณรัชพลที่ไม่เอาสมุดธนาคารให้เขาตั้งแต่วันแรกที่มาถึง  ไม่อย่างนั้นป่านนี้เงินก้อนที่ตาทิ้งไว้ให้คงหมดไปนานแล้ว  ทั้งยังนึกชื่นชมอีกฝ่ายเหลือเกินที่มีความซื่อสัตย์กับตาของเขา  ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะหุบที่ดินหรือเงินในบัญชีไปตั้งแต่แรกแล้ว  และถ้าโดนโกงเขาก็คงไม่มีทางรู้ด้วยซ้ำ

    เช้าตรู่ในอีกสองวันถัดมารัชพลพาสองแฝดและโกเมนออกจากบ้านแต่ไก่เริ่มขันเนื่องจากต้องไปซื้อท่อวางน้ำในไร่หลังจากขุดบ่อบาดาลเสร็จ โชคดีที่คราวนี้เขาเจอชั้นดินที่มีน้ำจากการขุดไม่ลึกมากนัก  รัชพลวาดผังการวางท่อน้ำรอบไร่และวางแผนให้เขาสร้างบ่อเก็บน้ำขนาดกลาง และเครื่องสูบน้ำเพื่อจะได้มีน้ำใช้ตลอดปีถ้าบริหารจัดการดีๆ

   “เดี๋ยวผมขับแล้วคุณบอกทางดีกว่า”  โกเมนเอ่ยเมื่อมองที่นั่งข้างคนขับสลับกับสองแฝด ขึ้นให้รัชพลขับแล้วเขานั่งเจ้าสองแฝดจะนั่งเบียดกันเกินไปจึงเปลี่ยนให้คนที่ตัวเล็กว่าเขาไปนั่งแทนพลางนึกเสียดายในใจว่า  รู้อย่างนี้ซื้อรถแคปเสียก็ดีจะได้มีที่ให้เด็กสองคนนั่งแบบไม่เบียดกัน

   โกเมนขับรถมาจอดหน้าปศุสัตว์ตามคำบอกของรัชพล  พวกเขาเข้ามาในเขตเมืองเพื่อซื้อของ  แต่การมาเช้ามืดขนาดนี้ทำให้ชายหนุ่มแปลกใจ

   “ทำไมเราไม่มาช่วงสายๆ หลังรดน้ำแปลงผักหลังบ้านเสร็จ?”

   “ถ้ามาถึงหลังเจ็ดโมงครึ่งของก็หมดอดกินกันพอดี”

   “ของหมด? อดกิน?”

   “ใช่ค่ะ  ตอนนั้นพ่อพาฟักกับแฟงมาถึงตอนแปดโมง  อดกินเลยค่ะ”  หญิงทำหน้ามุ่ยก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างเมื่อเงยหน้าขึ้นมองร้านฝั่งตรงข้ามถนน  รัชพลมองตามสายตาลูกสาวแล้วจูงมือฝาแฝดคนละข้างข้ามถนน  ร่างสูงของโกเมนตามมาด้านหลัง

   ร้านกาแฟยามเช้าที่มีบรรดาชายชาวมุสลิมนั่งอยู่เกือบเต็มและบรรดาชาวพุทธอีกหลายสิบคนนั่งพูดคุยกันอย่างออกรส  ข่าวสารบ้านเมืองถูกแลกเปลี่ยน บ้างแทรกเสียงหัวเราะของบรรดาผู้หญิง มีนักท่องเที่ยวกำลังยกกล้องถ่ายรูปแผ่นแป้งขาวๆตรงหน้าพร้อมแก้วกาแฟ

   “ขอโรตีแปดแผ่น ชาสองแล้วก็โอวันตินสองครับ”  รัชพลสั่งรวดเร็วพร้อมรอยยิ้ม 

   “แฟงขอนมข้นด้วยค่ะ”  เด็กหญิงยกแขนให้คนจดเมนูยกยิ้มเอ็นดู

   “นี่นะเรียกว่าโรตีโอ่ง”  รัชพลหยิบแผ่นแป้งอุ่นจัดวางลงบนจานเล็กๆ ตรงหน้าโกเมน  กลิ่นหอมของแป้งและถ่านลอยแตะจมูก  ชายหนุ่มสูดกลิ่นก่อนจะค่อยๆ ฉีกแผ่นแป้งเหนียวนุ่มเข้าปาก 

   “จิ้มนมซิคะ”  เด็กหญิงสะกิดแขน  โกเมนพยักหน้าแล้วฉีกแผ่นโรตีใหญ่ขึ้น  จิ้มนมข้นหวานแล้วเอาเข้าปากอีกครั้ง

   “เป็นไง?”  คนพามากินเอ่ยถามลุ้นๆ

   “อร่อย  หอมกลิ่นถ่าน  ชานี่ก็หอม”  มือใหญ่ยกแก้วชาขึ้นจิบ  รัชพลยิ้มกว้างเมื่อได้ฟังก่อนจะฉีกแผ่นโรตีใส่ปากตัวเองบ้าง

   “นี่น่ะเป็นร้านโรตีโอ่งเจ้าแรกในไทยเลยนะรู้ไหม  ขายดีมากด้วย บางวันยังไม่ทันถึงแปดโมงก็ขายหมดแล้ว”

   “มีนักท่องเที่ยวด้วย?”  โกเมนเหลียวมองรอบๆ พลางเอ่ยถาม

   “ใช่  เดี๋ยวนี้เขาส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวมากขึ้น มีคนต่างถิ่นมาเที่ยวเยอะ  แต่ส่วนใหญ่คือมาจากการบอกปากต่อปากน่ะ  ไว้วันไหนว่างๆ ผมจะพาคุณไปเที่ยวน้ำตกทีลอซู”

   “น้ำตกทีลอซู?  น้ำตกที่สวยๆนั่นน่ะหรือ?”

   “ใช่  แต่ช่วงนี้เขาปิดน้ำตก  คงต้องรออีกหน่อย”  โกเมนยิ้มกว้างพร้อมสายตาวิบวับ  เขาได้ยินชื่อน้ำตกนี้มานานแต่ไม่เคยมีโอกาสได้ไปสักที

   ทั้งหมดจัดการโรตีและเครื่องดื่มตรงหน้าหมดอย่างรวดเร็ว  ก่อนจะเคลื่อนย้ายออกไปซื้อของตามรายการที่จดมา  ซื้อของใช้จำเป็นในบ้านอีกหน่อย  ช่วงสายๆ ก็กลับบ้าน  รัชพลส่งเด็กๆไว้ที่บ้านตายายแล้วเลยเข้าไร่พร้อมโกเมน

   งานขุดบ่อบาดาลรวดเร็วทันใจและสมใจทั้งโกเมนทั้งรัชพลเมื่อทีมเจาะขุดเจอน้ำจากระดับความลึกไม่มากอย่างที่คิด  รัชพลที่จ้างคนงานมาก่อวงบ่อซีเมนซ์เพื่อเก็บน้ำไว้ก่อนหน้าจัดการให้ทีมเจาะบ่อบาดาลวางท่อต่อไปยังวงบ่อนั้นทันที

   “พรุ่งนี้เรามาวางท่อน้ำหยดกัน  แล้วก็เริ่มลงต้นกล้าที่เราช่วยกันทาบกิ่งได้แล้ว”  รัชพลยิ้มกว้าง

   ระยะเวลากว่าสี่-ห้าเดือนมานี้  นอกจากการแยกหน่อกล้วยน้ำว้าแล้ว  รัชพลยังสอนให้โกเมนติดตาทาบกิ่งพืชยืนต้นหลากหลายชนิด มีติดบ้างตายบ้างคละเคล้ากันไปตามประสามือใหม่  แต่จำนวนที่เหลือรอดก็มากพอให้ชายหนุ่มนำเอามาลงปลูกในไร่ได้หลายแถว  อย่างอะโวคาโด้ก็ทาบกิ่งไว้สี่ถึงห้าสายพันธ์ุเพื่อให้มีผลผลิตตลอดปีเพราะแต่ละพันธ์ุออกผลไม่พร้อมกัน  พืชทนแล้งใช้น้ำน้อยราคาดีอย่างดีปลีก็ลงปลูกตามหลักเสารั้วให้เลื้อยไปรอบไร่นั่นก็มากโขทีเดียวเมื่อถึงคราวเก็บเกี่ยว  กองหินก้อนใหญ่ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ก็ลงแก้วมังกรเอาไว้กินเล่น  กล้วยน้ำว้ารัชพลก็สอนโกเมนให้ขุดหน่อทิ้งทุกสามเดือน  นี่เดือนหน้าก็ครบรอบพอดี  คราวนี้โกเมนก็คอยตัดกล้วยขายทุกสามเดือนแบบไม่ได้หยุดพักแน่ๆ


**********

   
   รัชพลเท้าเอวมองผลงานในไร่สลับกับแผ่นหลังกว้างของโกเมนแล้วยกยิ้ม  ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังยอดอ่อนของกล้าไม้แล้วเลยออกไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา  หลับตาลงสูดลมหายใจเข้าออกด้วยความรู้สึกอุ่นที่อวลไปทั่วทั้งอก

   โกเมนที่เคยผอมแห้งแรงน้อยเริ่มมีกล้ามเนื้อเพราะการใช้แรงงานทุกวี่วัน  ผิวขาวจัดเริ่มคล้ำแดดแม้รัชพลจะบังคับขู่เข็ญให้อีกฝ่ายใส่เสื้อแขนยาวและทาครีมแล้วก็ตามก็ยังไม่สามารถคงความขาวเนียนแบบเดิมของดาราเอาไว้ได้  และไม่คิดเลยว่าโกเมนจะทนอยู่ที่นี่มาได้นานขนาดนี้  ทนลำบากและทำสำเร็จได้ตามที่เคยพูดเอาไว้

   “คุณ!”  รัชพลป้องปากร้องเรียกให้ร่างสูงละสายตาจากคนงานที่กำลังตัดกล้วยหันมามอง 

   “มีอะไร?”  ชายหนุ่มไม่ได้เดินกลับมาหา  เขาเพียงแค่เลิกคิ้วมองว่ารัชพลที่หิ้วปิ่นโตข้าวมาส่งทำไมยังไม่เดินไปพักในร่มอีก

   “เรามาเลี้ยงไส้เดือนกันเถอะ!”

   “ห้ะ?”  โกเมนคิดว่าแดดร้อนยามเที่ยงตรงทำให้เขาหูเพี้ยน

   “เลี้ยงไส้เดือนไง  ที่มันอยู่ในดินอ้ะ”

   “….”

   “มาเลี้ยงกันเถอะ มาเลี้ยงกัน!”

   “บ้าแล้วหรือไง!”  โกเมนตะโกนกลับ  ขนบนท่อนแขนพากันลุกชันเมื่อนึกถึงเจ้าสัตว์ตัวเล็กๆ สีแดงดิ้นแด่วๆ อยู่ในดินจำนวนมหาศาล

   “ฮ่าๆๆๆ  นี่คุณ  ผมพูดจริงนะ  มาเลี้ยงไส้เดือนกัน!”  รัชพลยิ้มร่า  ไม่สนใจเสียงโวยวายค้านหัวชนฝาของโกเมนสักนิด  ถ้าไม่ติดว่ากลัวโกเมนกินข้าวไม่ลงเขาคงคุยเรื่องนี้ต่อในวงข้าวแน่ๆ

   เอาเถอะ  เงินโกเมนอยู่ในมือเขานี่นา  เขาจะช่วยอีกฝ่ายบริหารและเพิ่มพูนเงินในบัญชีให้เอง!












ติดตามตอนต่อไป



สวัสดีค่ะ  มาสายเลย  ขอโทษนะคะ
ตอนหน้าอาจมาช้าหน่อยนะคะ (นี่ยังไม่ช้าอีกเรอะ!!)   แงงงงงง
ไหว้รอบทิศ.....
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่8 [1-6-60]
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 01-06-2017 18:13:10
น่ารัก อบอุ่น อ่านแล้วยิ้ม มันละมุนมากไม่ต้องดราม่า ไม่ต้องหวือหวา แต่มันดีมากเลยคะ เราชอบมาก อ่านแล้วยิ้มตามเลย
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่8 [1-6-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 01-06-2017 18:52:15
อ่านแล้วยิ้มตามเลยล่ะ รู้สึกถึงความหวัง
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่8 [1-6-60]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 01-06-2017 19:25:46
โอ๊ย ลถมุนอบอุ่นหัวใจ :-[
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่8 [1-6-60]
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 01-06-2017 23:24:25
เราว่ารัชพลนี้แหละ จะทำไห้โกเมนเป็นชาวไร่ที่มีอันจะกิน กว่า ดาราแน่ และรัชพลเนี้ยแหละที่เป็นคนเปลี่ยนความคิดของโกเมนในเรื่องของการไช้เงิน และใช้ชีวิต

หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่8 [1-6-60]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 01-06-2017 23:37:27
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่8 [1-6-60]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 02-06-2017 13:17:40
ชอบค่ะ อ่านเพลินอ่านสนุกอ่านง่าย
บทบรรยายการเกษตรก็มองเห็นภาพเหมือนได้ไปยืนทำไร่อยู่ข้างๆ
รออ่านตอนต่ออยู่นะคะ
*แอบชอบความแอบชอบของคุณพลจังค่ะ
ขอบคุณนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่8 [1-6-60]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 03-06-2017 06:08:12
อ่านสนุกและได้ความรู้ด้วย เยี่ยมจริงๆเลย o13
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่8 [1-6-60]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 03-06-2017 10:55:21
น่ารักเสมอ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่8 [1-6-60]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 03-06-2017 20:55:25
 :impress2:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่8 [1-6-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 16-06-2017 09:14:00

รักพอเพียง  ตอนที่ 9

 
สีเขียวชอุ่มใบตองไหวตามแรงลม แซมด้วยสีเหลืองของเครือกล้วยที่สุกคาต้นเพราะเก็บไม่ทัน  ถ้าเก็บได้รัชพลจะเอาไปทำกล้วยตากอบน้ำผึ้งแล้วส่งร้านค้ากับสหกรณ์หมู่บ้าน  มีบางคนแนะนำให้ทำกล้วยกวนอีกอย่างแต่เขาไม่มีแรงคนมาช่วยมากขนาดนั้น  สุดท้ายก็ต้องตัดใจปล่อยให้เสียเปล่าไปบ้างตอนนี้โกเมนเลยกำลังเร่งหาทางขนส่งกล้วยพวกนี้ไปขายในกรุงเทพฯ เห็นว่าในเมืองราคากล้วยไม่ตกเหมือนต่างจังหวัด  แถวนี้ขายหวีละสามบาทยังไม่ไม่มีใครซื้อขณะที่ในเมืองยังคงขายหวีละสามสิบ-สี่สิบบาท

รัชพลหิ้วปิ่นโตข้าวตามหลังลูกสาวลูกชายพลางสอดส่ายตามองหาร่างสูงชะลูดของโกเมน  เห็นอีกฝ่ายเดินเลาะต้นกล้วยเดินเข้าไปด้านใน  กำลังจะเอ่ยปากเรียกเด็กแฝดก็ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวร้องเรียกไปก่อน

“อาโกเมน / อาโกเมน”  สองแฝดวิ่งกระโจนเข้าหา  โกเมนย่อตัวอุ้มเด็กสองคนไว้คนละแขน

“ว่าไงเจ้าตัวยุ่ง  วันนี้ไม่ไปหาคุณตา-คุณยายหรือ?”

“วันนี้ไม่ไปค่ะ  เพราะแฟงคิดถึงอาโกเมน”

“ฟักก็คิดถึงอาโกเมนด้วย!” เด็กชายแย่งพูดพลางกอดคอคนตัวโตแน่น

“หือ?  เมื่อคืนเราเพิ่งเจอกันเองนะ”  โกเมนเลิกคิ้วแปลกใจ  อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ แต่ช่วงนี้ยุ่งๆ เลยแทบไม่ได้เล่นด้วยกันกับฝาแฝดเลย งานไร่สูบแรงเขาไม่น้อยเลยทีเดียว เด็กๆ คงเหงากันน่าดู 

“แหะๆๆ”  สองแสบแลบลิ้นหัวเราะเสียงแห้ง  จะบอกได้อย่างไรว่าพวกเขาแค่กลัวโกเมนรักตัวเองน้อยกว่าอีกคนเลยแย่งกันเรียกร้อง  “อ๊ะ  กล้วยสุกลูกเล็ก!”  นิ้วป้อมของเด็กหญิงชี้ไปยังกล้วยที่สุกคาต้นด้วยดวงตาเป็นประกาย ปกติเจอแต่กล้วยสุกลูกใหญ่แม้จะหวานอร่อยแต่แค่ลูกเดียวก็ทำให้เด็กหญิงอิ่มจนกินขนมอย่างอื่นต่อไม่ได้  ดังนั้นเด็กหญิงจึงชอบกล้วยสุกลูกเล็กๆ แบบนี้มากกว่า

“ฟักก็ชอบ  ลูกเล็กอร่อย!”  คนซ้ายถลึงตาใส่คนขวาก็แลบลิ้นตอบ  โกเมนถอนหายใจวางเด็กทั้งสองคนลงแล้วยื่นแขนปลิดขั้วกล้วยลูกที่สุกขนาดใกล้เคียงกันลงมาสองลูกเพื่อป้องกันการทะเลาะแย่งกัน

“วันนี้แฟงวาดรูป  คุณครูให้คะแนนตั้งห้าดาวค่ะ”

“ฟักก็ได้ห้าดาวเหมือนกัน”  เด็กชายแลบลิ้นใส่ฝาแฝด

“ว้าว  จริงเหรอ  ทั้งสองคนเก่งมากเลย  เดี๋ยวกลับบ้านอย่าลืมเอามาให้อาดูนะครับ”

“ค่ะ / ครับ”

“แล้วนี่พ่อพลอยู่ไหนครับ?”  มือเล็กชี้ไปด้านหลัง  โกเมนเห็นรัชพลกวักมือเรียกจึงจูงมือเด็กแฝดเดินกลับไปยังที่พัก

“เป็นไงบ้าง?”  ปากถามมือก็จัดการเปิดปิ่นโตแล้วตักอาหารใส่จาน

“อีกวัน-สองวันก็น่าจะเสร็จ”  โกเมนตอบพลางทุบบ่าที่ตึงแน่นของตัวเองไปพลาง  คนงานที่หามาช่วยงานค่อนข้างหายากเพราะไม่ค่อยรับงานนอกจากนายจ้างเดิมของตัวเอง  โกเมนทำไร่ได้แค่หนึ่งปีจะหาลูกน้อง-ลูกจ้างประจำนั้นไม่ง่ายนัก  ส่วนใหญ่คือขอความช่วยเหลือจากนายชาไร่ข้างๆคนรู้จักของรัชพล

“เดี๋ยวพรุ่งนี้หลังไปส่งเจ้าแฝดที่โรงเรียนแล้วผมจะมาช่วยแล้วกัน”

“ไม่ต้องหรอก  คุณไปดูโรงเพาะเลี้ยงเถอะ”  โรงเพาะเลี้ยงคือโรงเลี้ยงไส้เดือนที่รัชพลเคยพูดถึง  รัชพลจัดการพื้นที่ข้างบ้านของตาเขาให้กลายเป็นโรงเลี้ยงไส้เดือนขนาดไม่ใหญ่มากนัก  วันๆ ปั่นดิน  เพาะไข่  จับไส้เดือนตากแห้ง  ทำน้ำหมัก  ทำปุ๋ยหมักก็แทบหมดวันแล้ว  เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายเหนื่อยเพิ่ม  ดังนั้นช่วงเช้าโกเมนจึงเป็นคนตัดผัก เก็บไข่ไก่ไปส่งที่ตลาดเช้า  ให้โกเมนทำหน้าที่แค่ไปส่งและรับลูกกับทำอาหาร  ส่วนตอนเย็นหลังกลับจากไร่เขาจะไปรดน้ำผัก จับปลาใส่อ่างทิ้งไว้แล้วตอนเช้าค่อยไปส่งตลาดพร้อมผักรอบใหม่

รัชพลพยักหน้าก่อนจะยื่นจานส่งให้  โกเมนขมวดคิ้วมองเส้นขนมจีนในจานที่หน้าตาแปลกประหลาด  เงยหน้ามองคนทำ

“ยำขนมจีนใส่ปลาทู”

“ยำขนมจีน?”

“ยำขนมจีนอร่อย  แฟงชอบ”

“ฟักก็ชอบ!”  เด็กสองคนไม่มีใครยอมใคร  คนใดเอ่ยประโยคหนึ่งอีกคนก็จะพูดตาม

“เอ้า  ของสองแสบ จานนี้ไม่เผ็ด”  รัชพลจัดการตักแยกให้ลูกสาวลูกชาย 

“เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ  ท่าทางน่าอร่อยนะ”  สีสันในจานของโกเมนจัดจ้านกว่าของเด็กๆ มากนักเพราะรัชพลเพิ่มพริกเข้าไป

“อื้ม  แม่สองแฝดเป็นคนสอนน่ะ”

“......”  โกเมนขมวดคิ้วเมื่อได้ฟัง  ความอยากอาหารเมื่อครู่พลันค่อยๆ หดหาย  ทำไมมันรู้สึกคันยิบๆ ในหัวใจยังไงชอบกล?

“ไม่กินหรือ?”  รัชพลถาม  เห็นอีกฝ่ายขมวดคิ้วมองขนมจีนในมือนิ่ง

“เอาข้าวมาเถอะ  ผมไม่เคยกินแบบนี้”

“?” รัชพลตักข้าวให้โดยไม่เอ่ยถามอะไรอีก  นึกแปลกใจว่าโกเมนถึงจะเป็นคนกินยากแต่หากไม่ใช่อะไรที่แปลกประหลาดเกินไปก็ยังลองกินได้ไม่เคยทิ้ง   หรือยำขนมจีนจานนี้หน้าตามันประหลาดเกินไป?

ก็ไม่นะ  สุดท้ายมีเพียงสามพ่อลูกเท่านั้นที่เอร็ดอร่อยไปกับยำขนมจีนในขณะที่อีกคนหงุดหงิดใจโดยไม่รู้สาเหตุ


“โอ๊ย  ปวดหลังชะมัด”  โกเมนที่อาบน้ำเสร็จแล้วยืนบิดซ้ายบิดขวายืดเส้นยืดสาย  การถางหญ้าในไร่กลางแดดเปรี้ยงติดๆ กันหลายวันทำเอาร่างเขาแทบจะหลุดออกจากกันเป็นชิ้นๆ

“ไหนดูซิ”  รัชพลยกผ้าขึ้นซับน้ำที่ไหลจากศีรษะไล่ลงมาตรงลำคอพร้อมผ้าขาวม้าพันเอวผืนเดียวเดินเข้ามาใกล้  ฝ่ามือหยาบกร้านแตะบ่ากว้างออกแรงบีบ  “โอ้โห  ไหล่แข็งมากอ่ะ”

“คะ  คุณ!”

“หืม?”  รัชพลก้มลงมอง  ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ระดับเดียวกับหน้าท้องเขาพอดีเพราะโกเมนนั่งอยู่บนยกพื้น  ส่วนรัชพลเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำและยืนอยู่บนพื้นที่ต่ำกว่าประมาณหนึ่งขั้นบันได

ผิวสีน้ำผึ้งมีหยดน้ำเกาะพราวนั้นค่อนข้างเนียนละเอียด  กลิ่นอายหอมสดชื่นหลังการอาบน้ำใหม่พาให้หัวใจของโกเมนเต้นผิดจังหวะ  เขาเงยหน้าหมายจะถลึงตาใส่เจ้าของบ้านที่ไม่สำรวมตัวเลยสักนิดคนนี้พลันชะงักค้าง  ดวงตาสีสนิมแวววาวใสซื่อมองสบมา  คิ้วเรียวเลิกขึ้นเป็นคำถามว่าเขาเรียกอีกฝ่ายทำไม

“ปะ  ไป”

“หืม?”

“ไปใส่เสื้อผ้า  แก้ผ้าโทงเทงอยู่กลางบ้านไม่อายลูกหรือไง!” ท้ายเสียงสูงขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมชาติ  โกเมนหลบสายตาเสมองไปทางอื่น

“อ้อ  งั้นเดี๋ยวใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วผมออกมานวดให้นะ”  รัชพลพยักหน้าหงึกหงักสรุปเองเสร็จสรรพ  เงยหน้ามองลูกๆ ที่กำลังนั่งทำการบ้านแล้วเดินเข้าห้องไป  รัชพลเดินกลับออกมาพร้อมหลอดยานวดคลายกล้ามเนื้อ  โกเมนเงยหน้าจากบัญชีรายรับ-รายจ่ายก่อนจะถอดเสื้อแล้วนอนคว่ำหน้า

“โอ้โห รู้งานจริงๆ”  รัชพลหัวเราะ  ทิ้งตัวลงนั่งข้างคนตัวโต  บีบยาลงบนนิ้วก่อนจะค่อยๆ  ทาไปตามบ่ากว้างแล้วแผ่นหลัง  กดลงบนปลายนิ้ว  รีดแรงลงไปตามกล้ามสวยที่ตึงแน่น  เน้นบริเวณบ่ากว้างครู่ใหญ่จนแน่ใจว่ากล้ามเนื้อที่แข็งตึงคลายลงจึงเลื่อนลงมาตรงสะบัก  ไล่ปลายนิ้วลงตามแนวกระดูกสันหลัง

“อืม~”  เสียงทุ้มครางในลำคอแผ่วเบายามเมื่อปลายนิ้วกดสัมผัส  รัชพลชะงักค้างพยายามไม่ใส่ใจเสียงทุ้มแผ่วนั้น  สายตาจ้องแผ่นหลังกว้างอย่างจดจ่อ  หากแต่เพราะผิวขาวเนียนและกล้ามเนื้อได้รูปสวยตรงหน้ากลับทำให้หัวใจเขาเต้นผิดจังหวะมากกว่าเดิมจนลมหายใจสะดุด นึกอยากปล่อยมือจากผิวของอีกฝ่ายมากระชากให้หน้าตัวเองหันไปทางอื่นก็ไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะทำอย่างนั้น  สุดท้ายก็ปล่อยให้สายตาและจังหวะหัวใจจดจ่ออยู่กับแผ่นหลังเปลือยเปล่าของโกเมน

แหมะ!  ฝาแฝดเงยหน้าจากสมุดการบ้านขึ้นมองหนึ่งคนนอนหนึ่งคนนั่งตรงกลางบ้าน  ก่อนจะเบิกตากว้างร้องเสียงหลง

“พ่อ! เลือดกำเดาไหล!”  เสียงสองแฝดตระหนกปล่อยดินสอในมือทิ้งแทบไม่ทัน  โกเมนที่ได้ยินประโยคนั้นพลิกตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว  เห็นหยดเลือดสีแดงไหลออกจากจมูกของรัชพลพลันตกใจ

“คุณพล!”  ร่างสูงลุกขึ้นนั่ง  จับบ่ารัชพลดันไปด้านหลัง  อีกมือเชยคางได้รูปให้ใบหน้าอีกฝ่ายเงยขึ้น  หันไปคว้าเสื้อที่ถอดทิ้งไว้เมื่อครู่มาอุดจมูก

“โอย~”  รัชพลพยายามดึงเสื้อบนดั้งจมูกตัวเองออก  บ้าเอ้ย! นี่โกเมนคิดจะฆ่าเขาหรืออย่างไร  เสื้อตัวนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของอีกฝ่าย  นั่นแหละที่จะทำให้เขาแย่กว่าเดิม!

“อยู่นิ่งๆ!”  คิ้วเข้มขมวดมุ่น  เจ้าของมือใหญ่ดันหน้าผากรัชพลให้แหงนขึ้นอีก

“คุณ  เดี๋ยวคอผมหัก!”  รัชพลปรับจังหวะลมหายใจให้กลับสู่ปกติเอ่ยท้วง  ขืนอีกฝ่ายออกแรงอีกนิดคอเขาจะหักจริงๆ นะเนี่ย

“แล้วทำไมอยู่ดีๆ เลือดกำเดาถึงไหลได้ล่ะ?”

“....”

“อากาศก็ไม่ได้ร้อนมากนี่นา  หรือเมื่อกลางวันคุณตากแดดเยอะ”  มือใหญ่เลื่อนแตะหน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิ  “ไม่มีไข้?”

“เอ่อ...”

 “?”  โกเมนหรี่ตามองหน้าอีกฝ่าย  รัชพลเสมองทางอื่นอย่างไม่เป็นธรรมชาติ

“พ่อแอบดูหนังสือโป๊หรือ?”  เด็กชายเอียงคอมองพ่อตัวเองอย่างสงสัย

“!”  เด็กโง่  พูดอะไรออกมาเนี่ย  รัชพลตื่นตระหนก  ทำไมลูกชายเขาแก่แดดขนาดนี้เนี่ย  แล้วไปเอาประโยคนี้มาจากไหน!

“เจ้าแต๊กลูกลุงไม้บอกว่า  ผู้ชายเวลาอ่านหนังสือโป๊จะเลือดกำเดาไหล”  เด็กชายเอียงคอไปมา  โอ๊ย  คราวหลังเขาจะไม่ให้ลูกไปเล่นบ้านนั้นอีกเด็ดขาด!  รัชพลคิดในใจ

“จริงเหรอคะ?”  เด็กหญิงเอียงคอถาม  มือก็เขย่าแขนพ่อไปด้วย

“สงสัยอากาศมันแห้งน่ะลูก  เส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกเลยแตก”

”จริงเหรอคะอาโกเมน?”

“ใช่ครับ  อากาศแห้งมากๆ จะทำให้เส้นเลือดในโพรงจมูกแตกได้ง่าย”

“แล้วพ่อเจ็บไหมครับ?”  เด็กชายหน้าซีด  เห็นเลือดสีแดงฉานเปื้อนเสื้อของอาโกเมนแล้วอดกลัวขึ้นมาไม่ได้

“ไม่  ไม่เจ็บหรอก”

“ไม่เจ็บจริงเหรอคะ?”  เด็กหญิงถามซ้ำ  ดวงตาคู่สวยเอ่อหยาดน้ำทำท่าจะร้องไห้

“ไม่เจ็บหรอกครับ  นี่ไง เลือดหยุดแล้วเห็นไหม?”  รัชพลเอาเสื้อออกจากดั้งจมูกแล้วก้มหน้ายิ้มให้ลูกชายลูกสาว  ยกมือยีหัวปลอบประโลมให้หายตื่นตระหนก 

“เลือดกำเดาออกไม่เจ็บหรอกครับ  แป๊บเดียวก็หยุดแล้ว”  ดวงตาคู่สวยทอประกายอ่อนโยนยามเมื่อเอ่ยกับฝาแฝด

“แล้วการบ้านพวกลูกเสร็จหรือยัง?”  รัชพลเสเปลี่ยนเรื่อง  โกเมนโอบเด็กสองคนไว้ในวงแขนช่วยปลอบ

“เสร็จแล้วครับ / เสร็จแล้วค่ะ”  สองแฝดตอบพร้อมเพรียง

“งั้นพวกลูกไปนอนได้แล้วนะ  พรุ่งนี้เช้าพ่อจะไปส่งที่โรงเรียน”

โกเมนเป็นคนส่งเด็กๆ เข้านอน  ร่างสูงเดินกลับมานั่งลงข้างๆ เจ้าของบ้าน  จ้องมองใบหน้าสีน้ำผึ้งนั้นอย่างค้นหา  ดวงตาเรียวหรี่ลงอย่างจับผิด  รัชพลร้อนตัวจนต้องนั่งตัวตรงพลางส่งยิ้มให้อีกฝ่าย

“ไม่ได้แอบไปอ่านหนังสือโป๊มาจริงๆ ใช่ไหม?”

“จะบ้าเรอะ! ยุ่งขนาดนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปแอบอ่านหนังสือโป๊ ห้ะ!”  รัชพลถลึงตามอง

“แล้วไป”  โกเมนถอนหายใจโล่งอก  ว่าแต่...เขาจะโล่งอกไปทำไมเล่า?

“ผมไปนอนแล้ว”

“เดี๋ยว”  โกเมนคว้าแขนอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ให้เดินหนี

“....”

“อากาศมันไม่ได้แห้งขนาดจะทำให้เลือดกำเดาคุณไหลเลยนะ”

“โอ๊ย  คุณจะไปรู้อะไร  เส้นเลือดผมเปราะจะตาย!”

“หืม?”  ผ่านหน้าหนาวจนหน้าร้อนจะเข้าหน้าฝนเขายังไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเลือดกำเดาไหลมาก่อนเลยสักครั้ง

“จริงจริ๊ง!”

“ไม่เชื่ออ่ะ”

“....”

“คุณกำเดาไหลเพราะเห็นผมโป๊เหรอ?”

“!”  ผิวสีน้ำผึ้งตรงแก้มสาดสีแดงเรื่อจนไปถึงใบหู  ดวงตาสีสนิมเสมองไปด้านข้างไม่มองสบ

“คุณเลือดกำเดาไหลกับหลังเปลือยของผม?”

“บ้าไปแล้ว!  ใช่ที่ไหน!”  รัชพลโวยวาย  พยายามแกะมือเหนียวบนต้นแขนตัวเองออก  โกเมนยกยิ้มมุมปาก  ไอ้อาการคันยิบๆ ในหัวใจเมื่อตอนกลางวันหายวับเป็นปลิดทิ้ง  ดวงตาสีดำพราวระยับอย่างอารมณ์ดี   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถอดเสื้อเดินไป-มาในบ้าน  แต่การใกล้ชิดและสัมผัสผิวชิดใกล้ขนาดนี้เป็นครั้งแรก  พลันในอกซ้ายของโกเมนก็ระรัวผิดจังหวะขึ้นมาเช่นกัน  ไอ้ท่าทางเขินของรัชพลทำให้เขานึกเอ็นดู

เอ็นดู?

บ้าจริง  อีกฝ่ายไม่ใช่ผู้หญิงเสียหน่อย!

โกเมนปล่อยอีกฝ่ายเป็นอิสระ  เขากระแอมไอแล้วดึงเสื้อจากมืออีกฝ่ายพลางหันซ้ายหันขวา

“เดี๋ยวผมเอาเสื้อไปแช่ก่อน  เกิดแห้งแล้วจะซักไม่ออก”

“อืม”  รัชพลถอนหายใจเมื่อร่างสูงเดินห่างออกไป  ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เขาเริ่มควบคุมความรู้สึกแปลกประหลาดนี้ไว้ไม่ค่อยอยู่

“คุณ  จะไปนอนเลยหรือเปล่า?”  โกเมนเอ่ยถาม  เขาเดินกลับเข้ามายังเห็นรัชพลนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม

“อืม  งั้นผมไปนอนก่อนนะ”

“ฝันดี”

“ฝันดีเช่นกัน”  รัชพลเอ่ยเสียงเบาก่อนจะวิ่งผลุบหายเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็ว

โกเมนมองแผ่นหลังที่ผลุบหายเข้าห้องไปด้วยสายตาสงสัยกับอาการลุกลี้ลุกลนของอีกฝ่ายหากไม่ได้คิดอะไรมากก่อนที่มือขวายกแตะอกซ้ายอย่างเหม่อลอย  ริมฝีปากค่อยๆ ยกยิ้มโดยไม่รู้ตัว

*********
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่8 [1-6-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 16-06-2017 09:16:43


“นี่คุณใส่เสื้อให้เรียบร้อยเลย  ออกไปส่งผักแบบนี้ได้ไง”  รัชพลเท้าเอวมองคนตัวโตที่สวมเพียงเสื้อกล้ามสีขาวกำลังยกเข่งผักใส่หลังรถ  แค่นึกถึงว่าเด็กหมวยร้านขายไข่จะมองกล้ามแขนกับอกล่ำๆ ของโกเมนเขาก็หงุดหงิดขึ้นมา

“รู้แล้วน่า  คุณรีบไปส่งลูกเถอะ”

โกเมนคว้าเสื้อเชิ้ตแขนสั้นมาสวมทับ  อากาศอบอ้าว  ท้องฟ้ามืดครึ้มไม่ค่อยปลอดโปร่งนักเนื่องจากเริ่มเข้าฤดูฝน  เขาเงยหน้ามองท้องฟ้านึกอยากเปลี่ยนใจเป็นคนไปส่งสองแฝดที่โรงเรียนแทนเพราะกลัวฝนตกแล้วเด็กๆ จะเปียก  หากรัชพลขับรถออกไปเสียก่อน  ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะขับรถเข้าไปในตลาด

ส่วนใหญ่ร้านค้าที่ส่งคือร้านเจ้าประจำที่รัชพลพาเขามาดูเมื่อคราวก่อน  ร่างสูงจดจำว่ามีร้านไหนบ้าง  ร้านไหนต้องส่งอะไรจำไม่ได้ก็เปิดสมุดที่จดไว้เอา

“วันนี้พี่โกเมนก็มาส่งด้วยตัวเองหรือจ๊ะ?”  เสียงหวานใสของเด็กสาวเอ่ยอย่างตื่นเต้นดีใจเมื่อเห็นร่างสูงแบกถาดไข่ลงมาจากรถ

“ครับ”  ชายหนุ่มตอบจัดวางลงบนโต๊ะที่ว่าง

“ไข่พี่โกเมนลูกใหญ่ทุกลูกเลยนะจ๊ะ”  เด็กหมวยประกบมือไว้ตรงอก  บิดกายทำท่าขวยเขินเมื่อเอ่ยประโยคกำกวมนี้ออกมา

“เอ่อ  ไข่คุณพลเขาน่ะครับ  ผมมาส่งให้เฉยๆ”

“อันนี้ไข่ของพี่พล  แล้วไข่ชองพี่โกเมนละ?”

“ห้ะ?”  ร่างสูงเขยิบถอยหลัง  มองท่าทางคุกคามของเด็กสาวแล้วเหงื่อตก

“หมวยอยากเห็นไข่....ของพี่โกเมนบ้างจัง”  คำว่าไข่ลากยาวจนโกเมนขนลุกซู่

“ไข่ผม? เอ่อ อ้อ คุณพล ใช่! เหมือนไข่คุณพลไง  ไข่ผมก็เหมือนไข่คุณพลแหละครับ”  ชายหนุ่มยกถาดไข่ไก่ให้เด็กสาวดูพลางยิ้มแหย

“นังหมอ-ออย!”  เสียงดังตวาดมาจากด้านในก่อนร่างท้วมของชายสูงวัยจะก้าวออกมา

“หนูชื่อหมวย  พ่ออย่ามาเรียกแบบนี้นะ!”  เด็กสาวแหวทำท่ากระเง้ากระงอด

“ขืนแร-ดแบบนี้กูจะเปลี่ยนชื่อมึงเป็นหมอ-ออย!”

“พ่ออ่ะ!”  เด็กสาวสะบัดหน้าเดินหนีกลับเข้าบ้านปล่อยให้โกเมนยืนยิ้มแหยกับคนเป็นพ่อ

“ขอโทษนะพ่อโกเมน  ลูกสาวฉันมันก๋ากั่นเกินไป”

“ไม่เป็นไรครับ  ผมไม่ถือ”

“เออ  แล้วนี่ตาพลไม่มาส่งของเองแล้วหรือช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าเลย”

“คุณพลต้องคอยไปส่ง-ไปรับลูกที่โรงเรียน ผมไม่อยากให้เขาเหนื่อยเกินไปเลยออกมาส่งผักส่งไข่แทน  ลุงจักรมีอะไรกับคุณพลหรือเปล่าครับ?”

“เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก  เห็นตาพลมีคนช่วยแบ่งเบาแล้วก็สบายใจ  เมื่อก่อนนะมันวิ่งรอกทำงานเลี้ยงลูกเห็นแล้วเหนื่อยแทน”

“แล้วตา-ยายเขาไม่มาเอาไปช่วยเลี้ยงหรือครับ”  เพราะรู้ดีว่ารัชพลหย่าขาดกับภรรยาจึงเลี้ยงดูสองแฝดเอง  แต่ที่ผ่านมาเขาเห็นรัชพลเอาลูกไปส่งไว้ให้ตา-ยายทุกเสาร์-อาทิตย์ ดังนั้นไม่น่าจะมีความสัมพันธ์ย่ำแย่กับครอบครัวอดีตภรรยา

“ยายกิ่งเคยจะเอาหลานไปเลี้ยงเหมือนกัน  แต่ตาพลไม่ให้  บอกว่าลูกตัวเองเลี้ยงเองได้  ลำบากลำบนอยู่พักใหญ่เลยแหละ  มีคุณมาช่วยแบบนี้ตาพลคงได้พักหายใจหายคอบ้าง”

“...ครับ”

โกเมนส่งผักส่งไข่เสร็จก็ขับรถเข้าไร่  วันนี้ถึงเวลาเก็บดีปลีริมรั้วแล้วจึงแบกตะกร้าสานขึ้นพาดบ่า  รัชพลใช้ตะกร้าสานก้นลึกมาติดสายสะพายเอาไว้ให้โกเมนแบกไปเก็บผักโดยเฉพาะเพื่อความสะดวก  ชายหนุ่มนึกพลางเด็ดดีปลีแก่สีแดงก่ำโยนใส่ตะกร้าด้านหลัง  ขยับหมวกสานปีกกว้างบนหัวค่อยเก็บแบบไม่รีบไม่ร้อน  นึกถึงคำพูดของลุงจักรร้านขายไข่แล้วอดชื่นชมรัชพลไม่ได้  ผู้ชายตัวคนเดียวเลี้ยงลูกสองคนคงลำบากไม่น้อย  แต่อีกฝ่ายก็ยังสอนและเลี้ยงฝาแฝดให้เป็นเด็กดีได้ นับว่าเก่งมากทีเดียว  เจ้าฟัก-เจ้าแฟงก็รู้ความช่วยพ่อทำงานไม่มีบ่น  โกเมนยกยิ้ม  เด็กสองคนนั้นน่ารักมาก  จากการที่อยู่ด้วยกันมาทำให้เห็นว่าเด็กอายุ 6 ขวบสองคนนี้ค่อนข้างโตเกินวัย ทั้งช่วยงานสวนทั้งทำกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเองไม่เคยให้ต้องเข้าไปจ้ำจี้จ้ำไช

ช่วงบ่ายโกเมนเอาปลานิลที่จับไว้เมื่อวานไปส่งตลาด  เหลือบมองนาฬิกาที่บอกเวลา 17.20 ก็ลุกขึ้นไปหุงข้าว  เตรียมผักเตรียมปลาเพื่อผัดและทอดเป็นอาหารเย็น  จนใกล้ 18.00 น.ก็ยังไม่เห็นเจ้าของบ้านกับฝาแฝดเลยยกครกออกมาตำน้ำพริกรอ  รอจนฟ้าสลัวก็ยังไม่เห็นใครโผล่มา  โกเมนลุกพรวดกระวนกระวายใจ  โดยปรกติรัชพลจะไปรับลูกช่วงเวลา 16.00 น.  อาจมีบางวันแวะซื้อของบ้าง  ไปคุยกับตา-ยาของฟัก-แฟงบ้าง  แต่นี่มันนานเกินไปแล้ว!  ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโทรศัพท์มือถือ  รัชพลรู้จักหรือเปล่าโกเมนยังไม่แน่ใจ

สุดท้ายโกเมนเลยขับรถไปบ้านตา-ยายของสองแฝด  ไม่เห็นวี่แววของสามพ่อลูกก็ให้หวาดหวั่น  ตอนนี้ฟ้ามืดแล้วทั้งสามคนยังกลับไม่ถึงบ้านเลย  ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า  ชายหนุ่มถามหาโรงเรียนอนุบาลที่ฟักแฟงไปเรียนก่อนจะขับรถไปตามทางที่ตา-ยายบอก

ด้วยเพราะเป็นชนบท  พอค่ำมาแต่ละคนก็อยู่ในบ้านของตัวเอง  น้อยครั้งจะเห็นมีบางคนออกจากบ้านมาดื่มเหล้าสังสรรค์กับเพื่อนฝูงเนื่องจากเหนื่อยจากงานไร่  กินข้าวอาบน้ำเสร็จก็นอนแทบไม่มีใครมานั่งดูละครหลังข่าว  เส้นทางออกจากหมู่บ้านแม้ถนนจะลาดยางแต่ข้างทางเป็นไร่สวนมืดครึ้มพาให้ในอกโกเมนโหวงเหวง  ความหวาดกลัวผุดขึ้นเป็นระรอก  เมื่อเดือนก่อนมีข่าวว่าคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างถูกฆ่าปาดคอชิงทรัพย์หลังไปส่งผู้โดยสารในไร่เปลี่ยว

“คุณพล  คุณอยู่ไหนนะ?”  โกเมนไม่กล้าเหยียบคันเร่ง  ไม่กล้าขับรถเร็วเพราะกลัวว่าหากอีกฝ่ายเจออุบัติเหตุรถล้มอยู่ข้างทางถ้าเขาขับรถเร็วจะมองหาอีกฝ่ายไม่ทัน  ความหวาดกลัวกระหน่ำในอก  ยิ่งนึกถึงสภาพของคนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างคนนั้นเขายิ่งกลัว  อย่าให้รัชพลกับลูกๆ ต้องเจออะไรแบบนั้นเลย

เหงื่อไหลลงข้างขมับ  คิ้วเรียวขมวดมุ่น  ดวงตาสีดำจ้องเขม็งตามข้างทางเผื่อว่าจะมีอะไรเล็ดลอดสายตาไป  มือใหญ่กำพวงมาลัยรถแน่นจนขึ้นข้อขาวก่อนสายตาจะจับกับเงาร่างหนึ่งสูงสองเตี้ยด้านหน้า  โกเมนเหยียบเบรกรถเปิดประตูวิ่งพรวดออกไปเมื่อแน่ใจว่ากลุ่มคนตรงหน้าคือรัชพลกับสองแฝด

“โกเมน?”

“อาโกเมน/ อาโกเมน!”

“คุณ!”  โกเมนมองรถเครื่องคันเก่าที่ถูกจูงแล้วมองสำรวจสองแฝดรวดเร็ว  ไม่มีบาดแผล  ย้ายสายตาไปยังอีกคนก็ยังไม่คลายคิ้วที่ขมวดออก  เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายปลอดภัยจึงพรูลมหายใจโล่งอก

“คือ...ตอนไปรับเจ้าแฝดเห็นครูประจำชั้นกำลังเก็บของอยู่กลางสนามเลยไปช่วย  กลับออกมายังไม่ถึงครึ่งทางรถก็ดับเสียก่อน”

“.....”  ใบหน้าหล่อเหลาของโกเมนนิ่ง  คิ้วเรียวคลายออกเรียบตึงพาดเฉียง  ริมฝีปากเหยียดตรง  ดวงตาสีดำจ้องเขม็งขณะรอฟังคำอธิบายของรัชพล

“เลยจูงรถมาเรื่อยๆ  มันก็มืด....”

“เอาเศษเหล็กนี่ขึ้นรถ!”

“ครับๆ”  รัชพลจูงรถเข้ามาใกล้  โกเมนช่วยอีกฝ่ายเอารถเครื่องขึ้นหลังกระบะแล้วสั่งให้ทั้งหมดขึ้นรถ

ตลอดทางเหมือนสองแฝดจะเข้าใจว่าโกเมนกำลังอารมณ์ไม่ดีจึงไม่ได้เอ่ยปากพูดคุยเจื้อยแจ้วอย่างทุกที  เด็กสองคนนั่งบนตักพ่อแล้วเหลือบสายตามองกันไปมาอย่างปรึกษาหารือ  จนเมื่อมาถึงบ้านโกเมนเปิดประตูรถรับสองแฝดแล้วคว้ามากอดแน่น  ชายหนุ่มอยู่กับพวกเขามานาน  กับสองแฝดก็ดูแลกันอยู่ทุกวันรู้สึกผูกพันจนเหมือนคนในครอบครัวไปแล้ว  แค่คิดว่าเด็กสองคนนี้จะเจ็บตรงไหนหัวใจก็บีบรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก

“อาโกเมน?”

“โชคดีที่แค่รถเสีย”

“ผม...ขอโทษ”  รัชพลเอ่ยเสียงอ่อย  เหลือบมองชายหนุ่มที่กอดลูกตัวเองไว้แล้วให้รู้สึกผิด

“เรื่องรถเสียมันเป็นเหตุสุดวิสัยคุณไม่ต้องขอโทษหรอก  แต่ผมขอตำหนิหน่อย  ผมบอกตั้งหลายครั้งแล้วว่าให้เอารถยนต์ไปส่งลูกแล้วก็ซื้อโทรศัพท์มือถือเสียที”

“ก็รถยนต์มันเปลืองน้ำมัน  แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมือถือด้วย?”

“รถยนต์มันปลอดภัยกว่า ถ้าเกิดรถเสียอย่างน้อยอยู่ในรถก็ไม่ต้องตากแดดตากฝน  แล้วก็โทรศัพท์มือถือน่ะเอาไว้ใช้เวลาจำเป็น”

“อันนั้นก็พอเข้าใจ  แต่มือถือ....”  จะบอกอย่างไรว่าเขาใช้ไม่เป็นน่ะ!

“ไม่รู้แหละ  พรุ่งนี้เข้าไปซื้อมือถือเลยนะ”  โกเมนถลึงตามอง

“ไม่เอา  เปลืองตังค์”

“เอ๊ะ  คุณนี่!  ผมบอกให้ซื้อไง!”

“ก็บอกว่าไม่เอาๆ”  รัชพลไม่ยอมแพ้  เขาน่ะเก่งทุกเรื่องยกเว้นไอ้เทคโนโลยีล้ำสมัยพวกนี้  เขาไม่ถนัดสักอย่าง! ขืนซื้อมาใช้ก็ได้ขายหน้าน่ะซิ

“คุณไม่ห่วงตัวเองก็ห่วงลูกบ้างเถอะ  ผมไม่ยอมให้คุณเอาลูกไปตุเลงๆ รถเสียอยู่ข้างทางมืดๆ ค่ำๆ แบบนี้บ่อยๆ แน่”

“นี่ลูกผมนะ!”  รัชพลชักโมโห  ตอนแรกก็ว่าจะยอมๆไป แต่โกเมนมาต่อว่าเขาต่อหน้าลูกแบบนี้ได้ไง  เสียฟอร์มหมด

“ผมไม่สน  ลูกคุณผมก็ดูแลจนจะเป็นลูกตัวเองอยู่แล้ว”

“....”

“ใช่ไหมครับฟัก-แฟง  ให้อาโกเมนเป็นพ่อพวกหนูอีกคนด้วยดีกว่าเนอะ?”  เพราะแขนแกร่งที่โอบกอดพวกเขาอยู่และท่าทางตกใจเป็นห่วงพวกเขาเมื่อครู่เกือบทำให้เด็กแฝดพยักหน้ารับอยู่แล้วถ้าไม่เหลือบไปเห็นสายตาวาววับของผู้เป็นพ่อตัวจริงเสียก่อน

“อย่ามาขี้ตู่ลูกคนอื่นนะคุณ!”

“ผมจะตู่  อยู่บ้านเดียวกันก็ถือว่าเป็นคนครอบครัวเดียวกันแล้ว”  คำว่าครอบครัวเดียวทำให้รัชพลยืนนิ่ง  สีแดงวาดผ่านริ้วแก้มสีน้ำผึ้ง  ดวงตาสีน้ำตาลจับจ้องร่างสูงของโกเมนอย่างค้นหา

“มะ ...”  อยากจะอ้าปากปฏิเสธ  แต่บางแห่งในหัวใจเขากลับไม่ยอมให้เอ่ยคำนั้น

“ฟัก-แฟง  พวกหนูไปอาบน้ำแล้วมากินข้าวนะลูก  อาโกเมนทำกับข้าวไว้ให้แล้ว”  เห็นท่าทางของรัชพลแล้วโกเมนถอนหายใจ  เขาทรุดตัวลงนั่ง  กอดปลอบสองแฝด  ลูบไหล่ลูบหลังก่อนจะดันให้เด็กๆ เข้าบ้าน  โกเมนยืดกายเต็มความสูงพลางก้าวเท้ามาหยุดยืนตรงหน้ารัชพล  ชายหนุ่มจ้องคิ้วขมวดกับอาการเม้มริมฝีปากของอีกฝ่าย  พลันความเครียดค่อยคลายลงจนเผลอส่งเสียงหัวเราะแผ่วเบากับท่าทางนั้น

“?”   

“ทำหน้าอะไรอย่างนั้น”

“หน้าแบบไหน?”  รัชพลยกมือจับแก้มตัวเอง

“งอน”

“ห๊ะ?”  คนโดนว่างอนเบิกตากว้างอย่างตกใจ

“งอนที่ผมต่อว่าคุณหรือ?”

“เปล่า”  เขาปฏิเสธรวดเร็ว  นึกตระหนกกับอาการของตัวเอง  ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขามักจะลืมสวมหน้ากากน้ำแข็งเหมือนตอนแรกที่เจอกับโกเมน

“ที่ผมบอกคุณเอารถยนต์ไปรับ-ส่งลูกเพราะผมเป็นห่วง”  โกเมนถอนหายใจ  ชายหนุ่มจ้องหน้ารัชพลนิ่ง  “แล้วที่บอกให้ซื้อโทรศัพท์น่ะเพื่อเอาไว้ติดต่อเวลาฉุกเฉิน  ดูอย่างวันนี้ซิ  ถ้าคุณมีโทรศัพท์อย่างน้อยคุณก็โทร.มาบอกให้ผมไปรับคุณกับลูกได้”

“อืม”  รัชพลพยักหน้ารับแต่ยังไม่เงยหน้ามองอีกฝ่าย

“คุณรู้ไหมว่าผมใจคอไม่ดีเลยตอนที่ฟ้ามืดแล้วยังไม่เห็นคุณกับลูกอยู่ในบ้าน”

“....”  ในที่สุดรัชพลก็เงยหน้าขึ้นมอง  เขามองเข้าไปในดวงตาสีรัตติกาลคู่นั้นของโกเมน  ความหวาดกลัวยังฉายอยู่ในนั้นจริงๆ ตามที่พูด

“ผมกลัวไปหมด  คุณจะเป็นอันตรายหรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับคุณและลูก  พวกคุณจะนอนเจ็บอยู่ตรงไหนของริมถนนไปหล่นไปอยู่ข้างทางในไร่ใครสักคน  ร้ายที่สุดคือคุณเจ็บจนขอความช่วยเหลือใครไม่ได้”

“โกเมน?”

“ยังดี  ดีที่คุณและลูกปลอดภัย”

“ขอโทษนะ”

“อืม”

ทั้งโกเมนและรัชพลยืนอยู่อย่างนั้นอีกพักใหญ่  ความรู้สึกคล้ายกระอักกระอ่วนเมื่อแรกเริ่มค่อยคลายก่อนจะเจือด้วยความอบอุ่นในสายลมยามค่ำ  กลิ่นฝนโชยมาแต่ไกลพาให้สติของรัชพลกลับมา  หน้ากากน้ำแข็งของเขาคงละลายไปกับน้ำฝนเสียแล้ว  ช่างเถอะ

“เข้าบ้านเถอะคุณ”  เขาเอ่ยชวนร่างสูงให้เข้าบ้าน  เหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายแล้วยกยิ้ม  รู้สึกอุ่นในใจอย่างที่ไม่เคยเป็น  “แล้วก็...ขอบคุณนะที่ไปรับ”

“อืม”  โกเมนกดมุมปากคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม  ก่อนจะเดินเข้ามาวางแขนบนไหล่รัชพล  “ไป  ไปกินข้าวกันเถอะ”

เสียงหัวเราะแว่วของเด็กน้อยผสมผสานของผู้ใหญ่อีกสองคนคละเสียงสายฝนที่ค่อยๆ ตกลงมาจากฟากฟ้า  กระไอเย็นฉ่ำและกลิ่นไอดินโชยพัดพาให้หัวใจอิ่มเอม










โปรดติดตามตอนต่อไป



สวัสดีค่ะ  ตั้งใจจะลงตั้งแต่เมื่อวานแต่ไม่มีอินเทอเน๊ตค่ะ  แฮ่  ขอโทษที่มาช้านะคะ

สำหรับเรื่องนี้นั้นทรายพยายามจะไม่ใสเนื้อหาที่เป็นวิชาการมากนักเพราะกลัวเนื้อเรื่องจะหนักไปและจากนิยายจะกลายเป็นหนังสือเรียนไปซะก่อน  แต่ก็อยากจะให้คนอ่านได้เห็นถึงการเริ่มต้นทำไร่ทำสวน  การเริ่มต้นนับหนึ่งของคนที่ไม่เป็นอะไรเลย  เห็นพัฒนาการของผู้ชายคนหนึ่งที่ตัดสินใจทิ้งการเป็นคนกรุงมาเป็นชาวไร่  อยากจะค่อยๆแทรกเข้ามา  ให้ความบันเทิงบ้างความรู้ผสมผสานกันไป อันที่จริงอยากเกริ่นเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่แค่ไม่กี่ตอน  แต่คิดว่ามันคงหนักไปเครียดไปหากยัดอยู่ในจำนวนตอน-สองตอน  แต่งไปก็กลัวเนื้อหาจะหนักหรือเบาเกินไปเหมือนกันค่ะ  หวังว่าจะไม่เบื่อกันไปซะก่อนนะคะ  หลังจากตอนที่ 8 เป็นต้นไปก็คงเน้นเรื่องอารมณ์  ความรู้สึกและความสัมพันธ์ของตัวละมากขึ้นแล้วล่ะค่ะ 
ในเรื่องของเกษตรหากมีตรงไหนผิดพลาดไปก็ขออภัยด้วยนะคะ  ทรายพยายามอ่านและศึกษา  ถามคนที่เขาเริ่มลงมือทำไร่อะไรประมาณนี้มาบ้าง  แม้ไม่ละเอียดนักก็ตาม หวังว่าจะชอบนะคะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 16-06-2017 09:32:03
 :katai5:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 17-06-2017 15:10:37
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 17-06-2017 16:06:06
อ่านแล้วเราชอบมากเลย อยากให้ทุกคนที่มีที่ดินของตัวเองกลับไปพัฒนาบ้านเกิด
ความจริงพ่อแม่เราก็มีที่ทางนะ แต่เราก็ไม่เคยไปอยู่อาศัยนานๆ สักที่
เรื่องขุดบ่อแพงมากจริงๆ ค่ะ ล่าสุดที่เราไปติดต่อให้แม่ 1.3 แสน แพงมากกกกก
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 17-06-2017 16:09:49
 :katai2-1: เริ่มมีอาการ :o8:
:L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 17-06-2017 18:32:07
ปูเสื่อ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: lovenine ที่ 17-06-2017 18:57:55
 o13ขข :รีบมาต่อ เน้อ สนุกๆ รอๆ  ลุ้นๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 18-06-2017 00:51:08
ฟินนน
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 18-06-2017 01:14:31
โกเมนรวบหมดเลย ทั้งพ่อทั้งลูก หึๆ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-06-2017 10:16:06
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 18-06-2017 14:34:39
น่ารัก อมยิ้มเลย
มีเลือดกำเดาไหลด้วยอ่ะ มีงอน มีหวงเบาๆๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 18-06-2017 16:01:05
ชอบมาก ๆ เลยค่ะ เรื่องน่ารักมากเลย บรรยากาศชนบทอย่างนี้อ่านแล้วสบายใจจัง
ได้รับความรู้แทรกด้วย ดีจัง  แรก ๆ หมั่นไส้โกเมนมาก ๆ แล้วก็ชอบความอดทนใจเย็นของพล
ตอนหลัง ๆ นี่ น่ารักมากทั้งคู่ ค่อย ๆ รัก ค่อย ๆ ผูกพันกันไปแบบนี้ อบอุ่นดี
เด็กน้อยฟักแฟง น่ารักน่าฟัดจริง ๆ ชอบเรื่องนี้มาก ๆ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ^ ^
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 18-06-2017 20:46:30
เนื้อเรื่องน่ารักมากๆ >\\\\\\<
โกเมนกำลังพัฒนาไปในทางที่ดี ความรักก้อเช่นกัน
รออ่านต่อจร้าาาาา ^0^
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 18-06-2017 21:10:28
 :pig4: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 18-06-2017 21:22:29
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: junpa ที่ 19-06-2017 09:55:58
พึ่งเข้ามาอ่าน ชอบมากกกกก บรรยากาศแบบสบายๆ มีความสุข อ่านไปยิ้มไป :L1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 22-06-2017 13:23:36
ชอบมากเลยค่ะ ปกติไม่ค่อยชอบแนวบ้านไร่ แต่เรื่องนี้สนุกมาก เห็นพัฒนาการตัวละครชัดเจน เด็กๆก็น่ารัก อ่านแล้วอยากปลูกผักไว้กินบ้าง ได้ความรู้อีก เพิ่งรู้ว่าลูกตำลึงกินได้ และเพิ่งรู้จักโรตีโอ่ง ไว้มีโอกาสจะไปหากินสักครั้ง รอติดตาม เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 30-06-2017 12:10:32
รักพอเพียง  ตอนที่ 10


เสียงฝนกระทบหลังคาสังกะสีกลายเป็นเพลงขับกล่อมให้ง่วงงุนจนแทบไม่อยากลุกจากที่นอน   รัชพลยืดกายลุกขึ้นนั่ง  เหลียวมองลูกชายหญิงที่ยังคงซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาท่ามกลางนิทราและความหนาวเย็นของย่ำรุ่งในฤดูฝน  ชายหนุ่มลุกจากที่นอนตัดสินใจทิ้งความอุ่นของฟูกหนาไว้ด้านหลังแล้วเตรียมตัวไปเก็บผักในแปลงหลังบ้าน

“อ้าวคุณ  ตื่นแล้วเหรอ?”  รัชพลเงยหน้าจากขันน้ำขึ้นมองร่างสูงโย่งของโกเมนแล้วกะพริบตาปริบ

“คุณลุกมาทำอะไรแต่เช้า?”  เขาเหลือบมองสายฝนที่ยังคงกระหน่ำไม่ขาดสายแล้วจึงสังเกตว่าบนตัวอีกฝ่ายสวมเสื้อคลุมกันฝนอยู่

“ก็ลุกมาเก็บผักซิคุณ  ถามแปลก”  โกเมนหัวเราะ  เขาถอดเสื้อกันฝนออกแล้วเดินเข้าห้องครัว  รัชพลเดินตามไป

“เก็บผัก?”

“อือฮึ”

“คุณน่าจะปลุกผม”  รัชพลเกาหัวแกรกก่อนจะเดินเข้าไปแย่งกระทะในมืออีกฝ่าย

“เมื่อวานคุณเหนื่อยมาทั้งวัน  ขืนวันนี้ผมปลุกคุณแต่เช้ามืดก็ใจร้ายเกินไปหน่อยแล้ว”  โกเมนปล่อยให้รัชพลแย่งกระทะในมือไปอย่างง่ายดาย  กับข้าวฝีมือเขาอร่อยสู้อีกคนไม่ได้จึงไม่ดันทุรังแย่งมาทำเอง

“แต่คุณไม่ควรไปตากฝนคนเดียว”  ร่างสูงยืนกอดอกพิงขอบประตู  ริมฝีปากหยักยกยิ้มกับคำพูดของรัชพล

“ผมไม่เป็นไรหรอกน่า  คนกระหม่อมหนาอย่างผมไม่ป่วยง่ายๆ หรอก”  รัชพลเหลือบตามองคนกระหม่อมหนาแล้วถอนหายใจไม่ได้ต่อคำอีก  ก่อนจะลงมือทำกับข้าวเช้าง่ายๆ สอง-สามอย่างใส่ปิ่นโตให้ลูกๆ ไปโรงเรียน

ตั้งแต่มีเรื่องรถเครื่องเสียกลางทางคราวก่อนโกเมนก็ไม่ยอมให้รัชพลขับมันไปส่งสองแฝดที่โรงเรียนอีก  ชายหนุ่มปรับเวลาในการตื่นเช้าให้เร็วขึ้นมาตัดผักเพื่อที่จะได้ออกไปส่งผักและพาเด็กๆ ไปโรงเรียนพร้อมกันทีเดียวแล้วค่อยเข้าไร่สายหน่อย

โกเมนหยิบเสื้อกันฝนขึ้นมาสวมอีกครั้ง  ชายหนุ่มกางร่มคันใหญ่กันฝนให้สองแฝดขึ้นรถทีละคนแล้วขับรถออกไปตลาดและโรงเรียน  รัชพลยื้อแย่งหน้าที่นี้กับอีกฝ่ายมาหลายครั้งแต่ก็แพ้ทุกครั้งเลยได้แต่เป็นฝ่ายรออยู่บ้านแทน
จนปลายสัปดาห์สายฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสายยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด  รัชพลถอนหายใจเพราะเขาไปจัดการโรงเพาะเลี้ยงไส้เดือนไม่ได้  จะตากแห้งไส้เดือนแดดก็ไม่มีมาให้เห็นหลายวันแล้ว  เด็กๆ เองก็หงุดหงิดเพราะได้แต่อุดอู้อยู่ในบ้าน  ทำการบ้านเสร็จเล่นเกมกับรัชพลบ้าง  ฟังนิทานจากโกเมนบ้าง

“พ่อ  ฟักกับแฟงออกไปเล่นน้ำฝนได้ไหม?”  เด็กชายเขย่าแขนถาม

“ไม่ได้เดี๋ยวเป็นหวัด”  คนเป็นพ่อขมวดคิ้ว

“แต่ยายบอกว่านี่ไม่ใช่ฝนแรก  อีกอย่างน้ำฝนไม่เย็น  เล่นได้ไม่เป็นหวัด”  เด็กหญิงเขย่าแขนอีกข้างออดอ้อน

“พ่อบอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ซิ  ถ้าเป็นหวัดขึ้นมาจะทำยังไง?”

“เอาน่าคุณ  ลูกอุดอู้อยู่ในบ้านมาตั้งหลายวันแล้วนะ  เอางี้  เดี๋ยวผมออกไปเล่นด้วย  รับรองว่าจะไม่ให้นานเกินไป”

“คุณก็อย่างนี้ทุกที  ตามใจฝาแฝดเกินไปแล้วนะ  ถ้าลูกถูกตามใจจนนิสัยเสียจะทำยังไง?”  รัชพลเท้าเอวต่อว่าอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ  ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ระหว่างเขาสองคนจะเอ่ยเรียกสองแฝดว่าลูก  ทั้งๆ ที่เขาต่างหากคือพ่อที่แท้จริงของเด็กๆ  แต่โกเมนก็ตู่แย่งลูกไปทุกที

“นะๆๆ น้า  นะคะพ่อ  พวกหนูออกไปเล่นแปบเดียวจริงๆ”  เด็กหญิงแนบแก้มกับแขนผู้เป็นพ่อ  ฟักมองท่าทางนั้นก่อนจะวิ่งเข้าไปยึดแขนอีกข้าง  ออดอ้อนอย่างที่พี่สาวทำ

“ก็ได้  พ่อให้เล่นแปบเดียวนะเดี๋ยวไม่สบาย”  รัชพลถอนหายใจ  ท้ายประโยคเขาส่งสายตาให้โกเมนรับปากว่าจะพาลูกเข้าบ้านให้เร็วที่สุด

เด็กๆ ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอยู่ตรงลานบ้าน  สายฝนไม่ได้เย็นเฉียบเหมือนในช่วงต้นฤดูแต่โกเมนก็ทำตามที่รับปากรัชพลไว้  เขาพาเด็กๆ เข้าบ้านหลังลุยฝนลุยโคลนจนเปียกและเปรอะเปื้อนได้ที่  รัชพลไล่ทั้งเด็กโข่งและเด็กเล็กให้ไปอาบน้ำพร้อมกันทีเดียวทั้งสามคนก่อนจะเข้าครัวชงโอวัลตินร้อนออกมาสามแก้ว
จวบจนวันศุกร์ของสัปดาห์ใหม่เวียนมาอีกครั้งฝนถึงได้ทิ้งช่วงห่างให้ต้นไม้ใบหญ้าได้พักเพื่อผลิดอกแตกยอดอ่อน  วันนี้วันเสาร์ไม่ต้องรีบไปส่งเด็กๆ ที่โรงเรียนโกเมนจึงขอยืดเวลาอยู่บนฟูกนานขึ้นอีกหน่อย  เขาห่อตัวดึงผ้าห่มขึ้นจนชิดคอ  ดูเหมือนวันนี้อากาศจะเย็นกว่าทุกวัน  เขาได้ยินเสียงเปิดประตู  เสียงตักน้ำ  สงสัยว่ารัชพลคงจะตื่นแล้ว  โกเมนถอนหายใจ  รู้สึกคอแห้งจนกลืนน้ำลายแทบไม่ได้  พยายามลืมตากลับรู้สึกปวดกระบอกตาร้าวไปข้างขมับจึงได้แต่นอนนิ่ง
คงไม่ได้ป่วยหรอกใช่ไหม?
ชายหนุ่มถอนหายใจ  ลมร้อนผ่านจนแสบจมูกพาให้คิ้วเข้มขมวดแน่น แล้วเขาก็เผลอหลับไปอีกครั้ง
.
.
“ก็บอกแล้วแท้ๆ ว่าอย่าเล่นน้ำฝนอย่าตากฝน  เป็นไงล่ะ?”  เสียงรัชพลคล้ายดังมาจากที่ไกล  โกเมนขยับเปลือกตาหนักอึ้งขึ้นหรี่มองหาเจ้าของเสียง  เห็นอีกฝ่ายยกชามข้าวเข้ามาในห้อง  ดวงตาสีสนิมเหลือบมองเมื่อเห็นว่าเขาตื่นแล้ว  ดวงตาคู่นั้นสั่นระริกอย่างที่โกเมนไม่เคยเห็นมาก่อน  มันอัดอั้นไปด้วยความเป็นห่วงและอีกหลากหลายความรู้สึกที่เขาไม่ค่อยแน่ใจนักว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่า

“คุณ?”  โกเมนนิ่วหน้า  รู้สึกเจ็บคอหนักกว่าตอนตื่นนอนก่อนหน้านี้

“ว่าไงล่ะพ่อคนกระหม่อมหนา?”  คนบนเตียงอยากยิ้มรับคำกระแหนะกระแหนนั้นอยู่หรอก  แต่เขารู้สึกไม่สบายตัวมากเกินกว่าจะทำอย่างนั้นได้

“อือ~”   รัชพลถอนหายใจ  วางชามข้าวแล้วเข้ามาพยุงให้คนป่วยพิงหัวเตียง  ขยับหมอนใบใหญ่หนุนหลังแล้วเดินกลับไปหยิบชามข้าวต้มมานั่งข้างๆ

“กินข้าวก่อน  เดี๋ยวจะได้กินยา”  กินได้ไม่กี่คำโกเมนก็ผลักชามข้าวต้มออก  เขาเจ็บคอมาก  มากชนิดที่แม้แต่น้ำเปล่าก็ไม่อยากกลืน  รัชพลถอนหายใจ  สุดท้ายเมื่อบังคับให้โกเมนกินข้าวเพิ่มไม่ได้รัชพลเลยกลับออกไปแล้วกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมแก้วน้ำใบโต  กลิ่นฉุนบางอย่างทำให้โกเมนขมวดคิ้ว  “นี่น้ำขิง”

“.....”  โกเมนส่ายหน้าหวือ  พยายามผลักแก้วใบนั้นให้ออกห่างตัว

“อย่าดื้อ!”  คนดูแลชักทนไม่ไหว  แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะหายป่วย!

“....”  โกเมนส่ายหัวอีกครั้ง  เขาเคยลองชิมเมื่อตอนเด็ก เวลาเขาป่วยแม่มักจะทำน้ำขิงให้เขาดื่มแต่เขาก็แอบเอาทิ้งไม่ให้แม่เห็นทุกที  ก็มันทั้งเผ็ดทั้งร้อนไม่เห็นอร่อยเลยนี่นา  รัชพลถอนหายใจลุกออกไปจากห้องแล้วก็กลับเข้ามาอีกรอบ

“คราวนี้ใส่น้ำผึ้งแล้ว  ไม่เผ็ดมากหรอก”  ทั้งปลอบทั้งหลอกล่อ  ถ้าคราวนี้ไม่ยอมดื่มเขาจะจับกรอกปาก!

เห็นสายตาจ้องเขม็งสุดท้ายโกเมนเลยต้องรับแก้วน้ำขิงมาถือไว้  ทำใจอยู่ครู่ใหญ่ถึงค่อยยกขึ้นจิบคำเล็กๆ  กลิ่นหอมของน้ำผึ้งและรสหวานเจือจางความเผ็ดร้อนของขิงแก่ได้มากโข  เมื่อแน่ใจว่าไม่เผ็ดร้อนจนเกินไปนักเขาจึงค่อยจิบอึกใหญ่ขึ้น  พอน้ำขิงผ่านลำคอความแสบร้อนพลันทุเลาลงฉับพลัน  คิ้วเข้มเลิกขึ้น  เขาก้มลงมองน้ำขิงในมือนิ่ง  รัชพลเลิกคิ้วเป็นคำถามเมื่อเห็นท่าทางนั้น

“ไม่คิดว่าน้ำขิงจะอร่อยได้”  เสียงเขาไม่แหบมากนัก  มีแต่อาการเจ็บคอกับไข้

“น้ำผึ้งช่วยให้กินง่ายขึ้น”

“...ขอบคุณนะ”

“คุณนี่กินยากกว่าเจ้าแฝดเสียอีก”  โกเมนถลึงตากับคำพูดนั้น  “ไม่ต้องมาถลึงตาเลยนะ  บอกแล้วไงว่าไม่ให้ตากฝน เตือนไม่รู้จักฟัง”  ด้วยไม่เคยเห็นรัชพลดุแบบนี้มาก่อนสุดท้ายโกเมนเลยได้แต่ก้มหน้าฟังคำบ่นของอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าตอนนี้ฝ่ายนั้นเห็นเขาอายุเท่าเจ้าแฝดหรือเปล่าถึงได้บ่นยังกับเขาเป็นลูก  เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งเหลือบเห็นท่าทางอ่อนเพลียของคนป่วยจึงยอมหยุดปากในที่สุด

“คุณนอนพักเหอะ  เดี๋ยวตอนเย็นผมค่อยมาบ่นใหม่”

“ฮื่อ!”  โกเมนตาเหลือกเมื่อได้ฟัง  นี่ยังจะบ่นต่ออีกหรือ?

รัชพลมองท่าทางหวาดผวาของคนตัวโตแล้วหลุดขำ  ดวงตาคู่สวยพราวระยับ  ก่อนจะหยิบกระติกเก็บความร้อนที่ใส่น้ำขิงผสมน้ำผึ้งเอาไว้เต็มวางลงใกล้ฟูกตรงหัวนอน

“ถ้าไม่อยากให้บ่นต่อก็จงทำตัวเป็นเด็กดีซะ  รู้ไหม?”

“....”  นี่อีกฝ่ายเห็นเขาเป็นเด็กจริงๆ ใช่ไหม  ชายหนุ่มแยกเขี้ยวใส่อีกฝ่าย  หากสุดท้ายก็พยักหน้ารับก่อนล้มตัวลงนอนแล้วหลับไปอีกครั้ง


“อาโกเมนเป็นหวัดเหรอ?”

“ทำไมถึงเป็นหวัดล่ะ?”

ก็เพราะตากฝนไงเล่า!  โกเมนนึกอยากกลอกตาใส่แต่อาการปวดเบ้าตายังอยู่เลยไม่คิดจะฝืนสังขารทำ

“อาโกเมนเป็นเด็กดื้อเลยป่วย”

“พ่อ/พ่อ”  สองแสบวิ่งเข้าไปกอดเอวผู้เป็นพ่อคนละข้าง  ดวงตาใสแจ๋วยังคงมองโกเมนที่นั่งหมดแรงอยู่บนฟูกนอน

“อย่าดุผมต่อหน้าลูกได้ไหม!”  เกิดเขาไม่เท่ในสายตาเด็กๆ จะทำยังไงเล่า   รัชพลยักไหล่ก่อนจะไล่ฝาแฝดออกจากห้องแล้ววางกะละมังน้ำอุ่นเพื่อเช็ดตัวให้คนไข้  “ผมว่าผมไปอาบน้ำดีกว่า”

“ลุกไหวเหรอ  ไม่เมาหัวหรือไง?”

“ก็....”  ก็เมาแหละ  แต่เขาอายนี่นา!

“วันนี้ยังไม่ต้องอาบน้ำหรอก  อดทนเช็ดตัวไปก่อนนะ  เกิดไข้ขึ้นจะแย่เอา”  มือเรียวยื่นปลดกระดุมเสื้อคนป่วย  โกเมนชะงัก  มือใหญ่คว้ามืออีกฝ่ายเอาไว้ไม่ให้ขยับ

“เอ่อ...” 

“?”  รัชพลหยุดมือก่อนจะหรุบสายตาลงมองกระดุมเสื้อที่ถูกเขาปลดไปแล้วสองเม็ด  แผ่นอกขาววับแวมตรงหน้าพาให้แก้มร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงครั้งก่อนตอนที่ตัวเองเลือดกำเดาไหลเพียงแค่ได้สัมผัสแผ่นหลังเปลือยของโกเมน 

“เดี๋ยวผมทำเอง  คุณไปกินข้าวกับลูกเถอะ”

“งะ  งั้นเสร็จแล้วคุณก็เรียกนะ”

“ครับ”

กว่ารัชพลจะทำให้จังหวะหัวใจกลับมาเต้นเป็นปรกติได้ก็ผ่านไปครู่ใหญ่  ดีว่าครั้งนี้เขาไม่เลือดกำเดาไหลต่อหน้าลูก  ไม่งั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะแก้ตัวยังไงดี
ด้วยการดูแลอย่างดีแกมบังคับโกเมนอาการทุเลาลงในวันที่ห้า  ไข้ไม่มีแต่คราวนี้เสียงกลับหายไปแทน  ชายหนุ่มนึกรำคาญเสียงแหบเป็นเป็ดของตัวเองมากอีกทั้งเสมหะในลำคอที่ยังไม่ลดลงเลยได้แต่บอกตัวเองว่า  คราวหน้าจะไม่ยอมเป็นหวัดอีกแล้ว
อ้อ  ดูเหมือนหลังจากหายป่วยโกเมนก็ชอบดื่มน้ำขิงในฤดูฝนและฤดูหนาวไปโดยปริยาย


**********

“คุณ  มากินข้าว”

“แปบนึง  จะเสร็จแล้ว”  โกเมนตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง  มือยังคงขยับจดเลขลงในสมุดบัญชีรวดเร็ว

“ฝาแฝดรออยู่”

“ครับๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละ”
ช่วงนี้นอกจากกล้วยที่ต้องเข้าไปตัดช่วงเช้าในไร่ก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรมาก  ต้นอะโวคาโด้แข็งแรงดีแล้ว  ไม่ต้องการน้ำมากเหมือนช่วงแรก  ต้นดีปลีเพิ่งเก็บฝักไปต้องรีบตากให้แห้งไม่อย่างนั้นจะเกิดเชื้อราได้  ที่ยุ่งจริงๆ คือโรงเพาะไส้เดือน  เนื่องจากหน้าฝนที่ผ่านมาทำให้พวกตัวแดงๆ นั่นเติบโตขยายพันธุ์เร็วมาก  รัชพลเลยต้องเร่งมือเอาพวกมันมาตากแห้งโดยเร็วเพราะทุกอาทิตย์จะมีรถเข้ามารับซื้อถึงบ้าน  แม้ราคาขายออกจะถูกกว่าการส่งให้บางเจ้าแต่รัชพลถือว่า  ดีกว่าเปลืองน้ำมันและเสียเวลาหาร้านซื้อเอง  ดังนั้นขายราคาถูกมาหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร

“เออ คุณ  พรุ่งนี้ไปซื้อขี้วัวกับผมหน่อยนะ”

“หือ  ที่ไหนอ่ะ?”  โกเมนเงยหน้าจากจานข้าวขึ้นถาม  ที่ผ่านมารัชพลจะเป็นคนไปซื้อขี้วัวเองเพราะโกเมนยุ่งอยู่กับไร่อะโวคาโด้  ตอนนี้ปล่อยมือได้แล้วจึงอยากพาอีกฝ่ายไปด้วย

“ฟาร์มวัวที่จังหวัด....น่ะ  ฟาร์มคุณพฤกษ์”

“ฟาร์มคุณพฤกษ์?”

“อืม  ฟาร์มคุณพฤกษ์เป็นฟาร์มวัวนม  สะอาดและถูกหลักอนามัย  ดังนั้นขี้วัวที่ฟาร์มนี้จะคุณภาพดีกว่าที่อื่น”

“แล้ว...คุณไปรู้จักเขาได้ยังไง?”  ไหงมันคันยุบยิบในหัวใจขึ้นมาอีกแล้ว  มันจะไม่อะไรเลยถ้าไอ้ดวงตาสีสนิมของรัชพลมันจะไม่วิบๆ วับๆ น่ะนะ

“ก็งานเกษตรแฟร์เมื่อสอง-สามปีก่อน”

“อ้อ~”

“เอ่อ...”  แล้วทำไมเขาต้องรู้สึกเหมือนพูดอะไรไม่ควรออกไปด้วยนะ  หรือเขาพูดอะไรผิดไป?   รัชพลเหงื่อซึมกับสายตาไม่ใคร่จะพอใจของโกเมน  ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงเหมือนฝาแฝดตอนงอนเขาไม่มีผิด

“กินข้าว!”

“...ครับ”  รัชพลขยับมุมปาก  นึกอยากจะหัวเราะกับท่าทางนั้นแต่ไม่กล้าเลยได้แต่ตักข้าวเข้าปากเพื่อไม่ให้เผลอหัวเราะออกมาจริงๆ

“พี่พล  พี่พล”  เสียงร้องเรียกดังมาจากหน้าบ้าน  รัชพลละจานข้าวลุกออกไป

“ฟัก-แฟง  ออกมานี่เร็ว”  รัชพลเอ่ยเรียกฝาแฝด  สองคนเงยหน้ามองโกเมน  เมื่อเห็นเขาพยักหน้าจึงวางช้อนแล้วลุกออกไป   โกเมนเดินตามหลังออกมาห่างๆ

“ไหว้แม่เขาซิลูก”

“!”  โกเมนเบิกตากว้าง  จ้องมองผู้หญิงที่ยืนตรงหน้ารัชพลเขม็ง  เธอเป็นผู้หญิงผิวขาว รูปร่างสมส่วน  อะไรที่ควรมีก็ใหญ่เกินหน้า  ส่วนเว้าส่วนโค้งสวยงามเรียกสายตาให้มองตามน้ำลายหก  ใบหน้าสวยจากเครื่องประทินโฉม  เสื้อผ้าหรูหรางดงาม  ดูแตกต่างกับรัชพลจนแทบไม่น่าเชื่อว่าสองคนเคยเป็นคู่สามี-ภรรยากันมาก่อน

ฝาแฝดยกมือไหว้หากไม่ได้เข้าไปหา  เด็กทั้งสองคนยืนจับมือผู้เป็นพ่อคนละข้าง  โกเมนถอนหายใจนึกโล่งอกที่เด็กๆ ไม่ได้โผเข้าใส่ผู้หญิงคนนั้น  ว่าแต่...เขาจะโล่งใจทำไม  ฝาแฝดได้เจอหน้าแม่เขาควรจะยินดีซิ

“ฟัก –แฟง  แม่มีของเล่นมาให้พวกหนูด้วยนะ”  ฝาแฝดไม่กล้ารับ  สองคนเงยหน้ามองรัชพล
“ฟัก-แฟง  รับมาซิลูก  แม่เขาอุตส่าห์เอามาให้นะ”  รัชพลไม่ได้เป็นคนพูดประโยคนี้  เขาหันกลับมามองโกเมนที่เดินมาจากด้านหลัง

“ขอบคุณครับ /ขอบคุณค่ะ”  ฝาแฝดรับของเล่นมาถือก่อนจะวิ่งกลับมาหาโกเมนแล้วยื่นของเล่นให้ดู  ของเด็กชายเป็นเครื่องบินบังคับ  ส่วนของเด็กหญิงเป็นชุดตุ๊กตาราคาแพง  “อาโกเมนสอนพวกเราเล่นนะครับ”  เด็กชายรู้ว่าอาโกเมนมาจากกรุงเทพฯ  ของเล่นพวกนี้อาโกเมนต้องรู้จักแน่ๆ  ดังนั้นให้อาโกเมนสอนเล่นน่ะถูกต้องที่สุด

“ได้ครับ”

“เอ่อ  เขาเป็นใครน่ะพี่พล  ทำไมมาอยู่ในบ้านเรา”

“คือ..”  รัชพละกำลังจะเอ่ยตอบ  หากสีหน้าบึ้งตึงของโกเมนทำเอาเขาไม่กล้าขยับปาก ญาติ? คนอาศัย? หรือว่าเพื่อน?  ถ้าบอกว่าโกเมนเป็นเพื่อนอีกฝ่ายจะโกรธไหมนะ?

“บ้านคุณ?  ผมคิดว่านี่เป็นบ้านคุณพะ..  บ้านพี่พลคนเดียวเสียอีก”

“ก็...”  หญิงสาวอึกอักอ้าปากจะเอ่ยตอบ

“เห็นว่าคุณเลิกกับพี่พลแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“เอ่อ  ค่ะ”

“ถ้างั้นเมื่อกี้คุณพูดผิดนะครับ”

“คะ?”

“บ้านของพี่พล  ไม่ใช่บ้านของเรา”

“....”  หญิงสาวนิ่งอึ้งพูดไม่ออก  เธอหันไปมองหน้ารัชพลเพื่อขอคำตอบว่าผู้ชายที่พูดแทรกระหว่างเธอกับอดีตสามีคนนี้เป็นใคร

“นี่คุณโกเมน  หลานชายลุงปั้นบ้านข้างๆ น่ะ  แล้วก็นี่  ฟ้า  แม่ของฝาแฝด”     รัชพลพูดรัวเร็ว  หัวใจเต้นตึกตักกลัวว่าจะพูดไปแล้วทั้งสองคนจะรู้สึกไม่พอใจคำพูดเขาขึ้นมา  หากโกเมนเพียงแค่พยักหน้ารับ

“แล้วเขามาอยู่ที่นี่ทำไม?”  หญิงสาวทำหน้าไม่เข้าใจ

“พอดีบ้านคุณตามันหลังใหญ่ไปน่ะครับ  อยู่คนเดียวมันเหงาผมเลยมาขอเบียดอยู่กับพี่พลดีกว่า”  โกเมนจงใจเน้นคำว่าเบียดพลางยิ้มแย้ม  “นี่กะว่าจะให้พี่พลย้ายมานอนห้องเดียวกับผมด้วยนะครับ  ฝาแฝดโตขึ้นทุกวันที่นอนมันแคบ”

“นี่!”

“นะครับพี่พล  ย้ายมานอนฟูก เอ้ย ห้องเดียวกันดีกว่า”  โกเมนขยิบตา  ก้มลงกระซิบข้างหูรัชพล  เป็นการกระซิบที่ดังพอให้หญิงสาวตรงหน้าได้ยินแบบชัดเจนด้วย   รัชพลหน้าแดง  คิ้วขมวดมองว่าร่างสูงข้างๆ นี่กำลังทำอะไรอยู่กันแน่  หากอีกฝ่ายเอาแต่ยิ้มกว้าง  สายตาพราวระยับจับจ้องเขาไม่วางตา  รัชพลกระแอมไอแสร้งมองไม่เห็น

“แล้วนี่ฟ้ามายังไงน่ะ”  รัชพลเอ่ยถามเพราะไม่เห็นรถจอดอยู่สักคัน

“พี่พงษ์มาส่งน่ะ”

“งั้น  เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ  แล้วนี่จะมาอยู่กี่วัน”

“สอง-สามวันแหละพี่”  หญิงสาวคุยกับรัชพลโดยไม่สนสายตาไม่พอใจของโกเมนที่มองมา

“งั้นตอนเย็นๆ พี่จะพาฟัก-แฟงไปหาที่บ้านแล้วกัน  ตอนนี้เด็กๆ คงยังไม่ค่อยชิน”

“จ้ะ”

“คุณ  เดี๋ยวผมไปส่งแม่ฝาแฝดก่อนนะ”  รัชพลหันมาบอคนข้างๆ หากโกเมนกลับคว้าศอกเขาเอาไว้แน่น  สายตาวิบวับเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวโดยที่โกเมนเองไม่รู้ตัว  ในใจเขารู้สึกแค่ว่าไม่อยากให้รัชพลใกล้ชิดกับเมียเก่าเท่านั้น

“โกเมน?”

“...เอารถผมไป”

“แต่...”

“เอารถยนต์ไป!”  ขืนให้นั่งรถเครื่องมีหวังได้ใกล้ชิดแนบสนิทกันน่ะซิ  เขาไม่ยอมหรอก!

“ก็ได้”

“ห้ามเถลไถล ต้องกลับบ้านภายในยี่สิบนาที”

“ฮื่อ!”  รัชพลไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของอีกฝ่าย

“ไม่มีข้อแม้  ถ้าคุณไม่กลับบ้านภายในยี่สิบนาทีผมจะหอบลูกไปตามคุณถึงที่!”

รัชพลกะพริบตาปริบพยักหน้ารับแบบงงๆ  ขืนให้โกเมนแบกลูกไปตามเขากลับถึงบ้านอดีตพ่อตา-แม่ยายจริงเขาคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน  หนำซ้ำต่อหน้าเมียเก่ากับ...

**********
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่9 [16-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 30-06-2017 12:13:24



ร่างสูงเดินกลับไปกลับมา  สายตาก็จ้องนาฬิกาพลางจับเวลาไปด้วยอย่างหงุดหงิด  ฝาแฝดที่โดนบังคับให้นั่งกินข้าวจนหมดค่อยมานั่งแกะกล่องของเล่นอย่างตื่นเต้น

“อาโกเมนเป็นอะไร?”  เด็กชายละมือจากกล่องเครื่องบินเอ่ยถาม

“เดินไปเดินมาแฟงกับน้องเมาหัวค่ะ”  เด็กหญิงว่าพร้อมทำท่าทางเมาหัวประกอบ  โกเมนหัวเราะ

“ก็พ่อพลของพวกเราน่ะซิ  ไปนานเกินไปแล้วนะ”

“พ่อเพิ่งไปเมื่อกี้เองนะครับ”

“อาโกเมนบอกว่านานก็นานซิ”  เด็กหญิงค้านฝาแฝด  เด็กชายถลึงตามองก่อนจะพยักหน้า

“นานก็นาน”

“งั้นเราไปตามพ่อพลกัน”  โกเมนหันหากุญแจรถเครื่อง

“แต่ว่าพ่อบอกให้รอนี่  พ่อไปแปบเดียว  บอกฟักด้วยว่าให้บอกอาโกเมน”

“หือ?”

“บอกว่าเป็นเด็กดีรออยู่บ้าน  พ่อพลไปแปบเดียวก็กลับ”

“....”

“อาโกเมนเป็นเด็กดีไหม?”  เด็กชายเอียงคอถาม  โกเมนยืนนิ่ง  แก้มขาวขึ้นริ้วสีแดงพาดไปจนถึงใบหูทั้งสองข้าง  เขาถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างฝาแฝด

“หนูเอามาให้อาดูซิ”  โกเมนแบมือขอของเล่น  เขาช่วยเด็กๆ แกะกล่อง และสอนวิธีการเล่น  ทั้งสามสนุกสนานจนลืมเวลา  โกเมนนั่งฟังเด็กชายเอ่ยว่าโตไปจะไปเป็นนักบินเพราะอยากขับเครื่องบินของจริง

“งั้นฟักต้องตั้งใจเรียนเก่งๆ นะ”

“ครับ”

“แฟงก็จะตั้งใจเรียนค่ะ  โตไปแฟงจะเป็นคุณหมอ”

“หืม  แล้วไม่มีใครมาช่วยพ่อพลทำไร่เลยเหรอ?”

“พ่อมีอาโกเมนช่วยแล้วนี่คะ”  เด็กหญิงเลิกคิ้วมอง  ตื่นเช้ามาฝาแฝดก็เห็นอาโกเมนช่วยพ่อทำไร่อยู่ทุกวัน  “อาโกเมนจะกลับกรุงเทพเหรอคะ  ไม่อยู่ช่วยพ่อพลแล้วเหรอ?” เด็กหญิงตาแดงเรื่อ  เด็กชายได้ยินดังนั้นก็ทิ้งเครื่องบินในมือโถมแล้วเข้าหาโกเมน

“อาโกเมนจะไปไหน?”

“ไม่ครับ  อาไม่ได้ไปไหนหรอก  อาแค่ถามดูเล่นๆ น่ะ”  ฝาแฝดสองคนกอดเอวโกเมนไว้แน่น  กลัวอาโกเมนจะหนีกลับกรุงเทพฯไปจริงๆ  “แล้วนี่แม่เขามาหาพวกเราบ่อยไหม?”  ชายหนุ่มเสเปลี่ยนเรื่องเพราะกลัวเด็กๆ ร้องไห้

“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ”

“หืม?”

“ฟักกับแฟงจำไม่ได้หรอก  เหมือนพวกเราเพิ่งจะเจอนี่แหละ  เนอะ”  ท้ายประโยคเด็กชายหันไปถามฝาแฝดเพื่อยืนยัน

 “ช่าย”

“งั้นเหรอ~”  ในใจที่ตึงเครียดของโกเมนผ่อนคลายลง  ริมฝีปากหยักยกยิ้มกว้างโดยไม่รู้ตัว  งั้นหรือ  แม่ของฝาแฝดมาไม่บ่อยซินะ  งั้นก็แสดงว่ารัชพลไม่ค่อยได้เจออีกฝ่ายน่ะซิ  ใช่ไหม?  ไม่ต้องกลัวเรื่องโทรศัพท์หากันด้วยเพราะที่ผ่านมารัชพลไม่มีโทรศัพท์  เดี๋ยวก่อน!  ตอนนี้รัชพลมีโทรศัพท์แล้วนี่นา  อีกฝ่ายจะให้เบอร์โทร.เมียเก่าไปไหมนะ?  ให้หรือไม่ให้?

“อาโกเมนเป็นอะไร  เดี๋ยวก็ยิ้มเดี๋ยวก็หน้าบึ้ง?”  ฝาแฝดเงยหน้าขึ้นมองแล้วสงสัยจึงเอ่ยถามออกมา

เอ๊ะ?

โกเมนนั่งตัวแข็ง

นี่เขาเป็นอะไรไป

เขาไม่พอใจที่เมียเก่าของรัชพลปรากฏตัวแล้วยังมาทำท่าทางสนิทสนมกัน  หนำซ้ำมีของแพงๆ มาให้ฝาแฝดเล่น  แถมหล่อนยังสวยและรูปร่างดีมากอีกต่างหาก  ถ้าเมื่อเช้าเขาไม่ออกไปรัชพลจะชวนหล่อนเข้าบ้านหรือเปล่า  โกเมนสงสัย

ยิ่งเห็นสายตาที่ผู้หญิงคนนั้นมองรัชพลเขายิ่งหงุดหงิด  มันแสดงออกว่าคิดถึง  และนั่นทำให้เขาทนไม่ไหวจนต้องโผล่หัวออกไปเสียมารยาทกับผู้หญิงอย่างที่ไม่เคยทำ  ก็ถ้ารัชพลไม่ยิ้มให้หล่อนเขาคงไม่ทำแบบนั้นหรอก!

ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นยื่นมือมาจะจับมือรัชพลเขาถึงโผล่พรวดเอ่ยขัดจนหล่อนเก็บมือกลับไป  หนำซ้ำเขายังแสดงท่าทางเป็นเจ้าข้าวเจ้าของรัชพลอีก  แบบนี้หล่อนคงเข้าใจไปถึงไหนต่อไหนแล้ว  ...เป็นแบบนั้นก็ดี... โกเมนกดยิ้มมุมปากอย่างสะใจ  เรื่องอะไรจะให้เมียเก่ากลับมาสร้างคะแนน  รัชพลน่ะเป็นของเขาต่างหาก

!

เมื่อกี้เขาคิดอะไรออกไป!

รัชพลเป็นของเขา?  นี่เขากำลังคิดว่ารัชพลเป็นของเขาอย่างนั้นหรือ?

ให้ตายเถอะ  นี่เขากำลัง   ...กำลัง...

กำลังหวงเพื่อนงั้นหรือ?

ใช่แล้ว  เพื่อนนั่นแหละ  รัชพลเป็นเพื่อนของเขา  เขาแค่หวงที่เพื่อนสนใจคนอื่นมากกว่าเท่านั้นเอง
.
.

“นี่พี่พล”

“หืม?”

“คนที่อยู่บ้านพี่น่ะ  เขาเป็นใครกันแน่?”  ฟ้าเอ่ยถามขณะที่มือก็ไม่หยุด  ในครัวมีกลิ่นหอมฟุ้งไปของอาหาร

“ก็หลานลุงปั้นไง”

“หลานลุงปั้นทำไมไปอยู่บ้านพี่”

“อยู่ที่ไหน  เขาแวะมากินข้าว”

“...ตอนหก-เจ็ดโมงเช้าเนี่ยนะ  พี่อย่ามาหลอกฟ้าเลย”

“....”

“เขามาอยู่บ้านพี่ต่างหาก  แล้วก็นะ  ฝาแฝดดูจะชอบเขามากด้วย  เชื่อฟังอย่างกับเป็นพ่อคนที่สองงั้นแหละ”

“!”  รัชพลสะดุ้งกับคำนั้น  เหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นกลางหลัง  เป็นอย่างนั้นจริงหรือ  สายตาคนนอกมองเห็นเป็นแบบนั้นหรือ?  ท่ามกลางความตระหนก  ส่วนลึกในใจรัชพลกลับแอบลอบยินดี

นี่เท่ากับคนนอกมองพวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันใช่หรือเปล่า?

“แล้วก็นะ  เขามองฟ้ายังกับจะกินเลือดกินเนื้อ  ท่าทางจะหวงพี่มาก”

“ไม่ใช่แบบที่ฟ้าคิดหรอก”

“เหรอ?”  หญิงสาวหันกลับมามองอดีตสามี  “พี่อย่าคิดว่าฟ้าไม่รู้นะ”

“รู้อะไร?”  รัชพลสะดุ้ง  ตระหนกขึ้นมาอีกรอบกับคำพูดประโยคนั้น  ฟ้ารู้เรื่องอะไร?

“รูปในหนังสือพี่”

“เอ๊ะ?”

“ฟ้าเคยเห็น  ในหนังสือเกษตรพี่มีรูปใบหนึ่งซ่อนอยู่”

“.....”

“ถึงตอนนี้รูปร่างของคนในรูปจะเปลี่ยนไปจนแทบไม่เหมือนเดิมแต่ฟ้ามั่นใจว่าเป็นเขา”

“คือพี่...”

“คนในรูปคือคนที่จ้องฟ้าแทบจะเลือดกินเนื้อเมื่อเช้านี้”

“....”  รัชพลอับจนคำพูด  ฟ้าตาไวและความจำดีเสมอตั้งแต่เมื่อก่อน 

“ฟ้าไม่บอกใครหรอก”  หญิงสาวถอนหายใจเมื่อเห็นท่าทางห่อเหี่ยวของอดีตสามี

“ฟ้าโกรธพี่หรือเปล่า?”

“เมื่อก่อนยอมรับว่าโกรธ  แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้ว”

“ขอโทษนะ”

“ช่างเถอะๆ  เลิกคุยเรื่องนี้กันดีกว่า  นี่  เอาของพวกนี้ไปให้ฝาแฝดด้วยนะ  บอกด้วยว่าฟ้าตั้งใจทำและคิดถึงพวกเขามาก”

“อืม”
.
.

“กลับช้า!”  โกเมนยืนกอดอก  ใบหน้าหล่อเหลาถมึงทึง จ้องเขม็งไปยังคนที่เปิดประตูรถลงมา

“ขอโทษที  พอดีแม่ฝาแฝดเขาอยากทำอาหารกลางวันให้ลูกๆ น่ะ  ฝาแฝด  พวกหนูมาเอายำขนมจีนนี่ไปเทใส่จานเร็วเข้า”  รัชพลยิ้มแหยให้ร่างสูงก่อนยื่นปิ่นโตอาหารให้เด็กๆ

“อ้อเหรอ?”

“มาเถอะ  มากินด้วยกัน”  รัชพลยิ้มพลางดันหลังให้อีกฝ่ายเดินเข้าครัว

“คุณก็รู้ว่าผมไม่กินยำขนมจีน  ยิ่งเป็นฝีมือเมียเก่าคุณนี่ผมยิ่งไม่กิน”

“หืม?”

“เอ่อ  ผมหมายถึงผมคงไม่ชอบรสมือเมียเก่าคุณหรอก”  โกเมนพูดรัวเร็ว

“งั้นเดี๋ยวผมทำกับข้าวให้คุณใหม่ละกัน”

“อืม”  โกเมนทิ้งตัวลงนั่ง  ชายหนุ่มเท้าคางจ้องมองแผ่นหลังของรัชพลที่กำลังง่วนเตรียมกับข้าวให้เขา  “คุณเคยทำกับข้าวให้เมียเก่า  เอ้ย  คุณฟ้ากินป้ะ?”  จู่ๆเขาก็อยากรู้ขึ้นมาจึงเอ่ยถาม

“เหมือนจะไม่เคยนะเพราะเมื่อก่อนผมทำกับข้าวไม่เป็น  ทำไมเหรอ?”  รัชพลตอบโดยไม่หันหน้ามา  “เพราะฝาแฝดนั่นแหละผมเลยต้องหัดทำ ตอนนี้นอกจากตัวเองก็มีลูกๆ นี่แหละที่ผมทำให้กิน  อ้อ  มีเพิ่มคุณมาอีกคน”  ในอกข้างซ้ายของโกเมนรู้สึกพองฟู  เหมือนเขากำลังได้รับความพิเศษอยู่เลย  รัชพลที่ทำให้เขากลายเป็นคนพิเศษ

“ไม่มีอะไรหรอก  ผมแค่ดีใจ”

“หืม?”  โกเมนเพียงแค่ยิ้มเมื่อรัชพลหันมามองอย่างสงสัย  พอเห็นเขาไม่ตอบอีกฝ่ายก็ส่ายหัวแล้วทำกับข้าวต่อ



“เออ  จริงซิ  ผมซื้อถุงเท้ามาให้คุณสองโหลนะ”

“ถุงเท้า?”

“ใกล้จะหน้าหนาวแล้ว  คุณขี้หนาวผมจำได้  อีกอย่างคู่เก่าก็ขาดหมดแล้วผมเลยเปลี่ยนให้ใหม่ยกชุด  เลือกแบบหนาๆ ผ้านุ่มๆ หน่อยจะได้ทนทานไม่ขาดง่าย”

“.....”

“ส่วนของฝาแฝดน่ะแม่เขาซื้อมาให้”

“หืม?”  โกเมนคิ้วกระตุก  ประโยคแรกทำเอาเขายิ้มจนปากจะฉีกถึงหูแต่ประโยคต่อมากลับทำให้เขาหงุดหงิด  ของของฝาแฝดเขาซื้อให้เองก็ได้!  “แล้วเขาซื้อให้คุณด้วยหรือเปล่า?”

“เปล่า  ไม่ได้ซื้อ  เขาจะซื้อให้ผมทำไม?”

“เหรอ?”  โอ๊ย  โกเมนอยากจะดึงปากตัวเองไม่ให้ยิ้มกว้างกับคำตอบนั้น

“นี่ดีนะที่สามีใหม่ของฟ้าเข้าใจแล้วก็ไม่โกรธที่ฟ้ากลับมาเยี่ยมลูกๆ”

“สามีใหม่?”

“อือฮึ”

“ของคุณฟ้า?”  สรรพนามเปลี่ยนไปโดยอัตโนมัติจนทำให้รัชพลเกือบหลุดหัวเราะ

“ใช่”

“สามีใหม่?  สามีใหม่  สามีใหม่ ฮ่าๆๆๆๆ”  โกเมนหัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุข

“เป็นอะไรของคุณเนี่ย?”  รัชพลมองท่าทางของอีกฝ่ายแล้วส่ายหัว

“ก็ดีใจไง”

“ดีใจเรื่องอะไร?”

“ดีใจที่คุณฟ้าจะไม่มีทางกลับมาหาคุณอีก”

“....”

“ทีนี้คุณก็เหลือแค่ฝาแฝดกับผมแล้วนะ  พี่พล~”  น้ำเสียงทุ้มกระซิบข้างหู  ดวงตาพราวระยับคู่สวยจ้องตรงมาพาให้หัวใจของรัชพลเต้นผิดจังหวะ  ความร้อนแผ่ลามไปทั่วทั้งใบหน้า  ยิ่งท้ายประโยคนั่น...คำว่าพี่พลที่เอ่ยออกมาแผ่วเบาราวกับจะกลั่นแกล้งหัวใจเขา...

คืนนั้นเขานอนไม่หลับ

คำว่า พี่พล  ดังสะท้อนก้องอยู่ในหูวนไปเวียนมาซ้ำอยู่อย่างนั้น  ยิ่งไม่ต้องพูดว่าหัวใจของรัชพลกำลังทำงานหนักแค่ไหน  ไหนจะกล้ามเนื้อบนหน้าอีกเล่า  ริมฝีปากหยักที่เอาแต่ยิ้มคล้ายจะล้อเลียนเขาทำให้รัชพลต้องหลบหน้าเข้าห้องนอนแต่หัววันเพราะทนมองสายตาระยิบระยับเหมือนดวงดาวของโกเมนไม่ไหว

หัวใจเขาอ่อนแอ

อา  ใกล้หน้าหนาวแล้วแท้ๆ แต่คืนนี้อากาศกลับร้อนอบอ้าวเหลือเกิน



โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 30-06-2017 18:11:50
มีหึงมีหวงกันด้วย อาการเริ่มหนักแล้วนะโกเมน :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-06-2017 18:44:13
พี่พลๆๆๆๆๆ  :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 30-06-2017 19:25:47
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

  :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 30-06-2017 19:40:31
งืออออออ ชอบจัง  :o8:  เขาค่อยๆเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกัน  มีความสำคัญต่อกันทีละนิดๆ แบบไม่รู้ตัวจนตอนนี้ห่างกันไม่ได้แล้ว ทั้งหวง ทั้งห่วงกัน อืออออ เขินจัง ^ ^  พี่พลแอบมีรูปโกเมนด้วย .... คืออะไรคะพี่???? แอร๊ยยยย .... อยากอ่านต่อเร็วๆจัง ชอบๆๆๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 30-06-2017 21:46:31
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: swoooaa ที่ 30-06-2017 22:24:28
 ยังไง ยังไงเนี่ย ดูมีอะไรกันมาก่อนน้าาา 555 :hao7:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 01-07-2017 00:01:47
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 01-07-2017 00:48:51
หวังว่าจะไม่หลอกตัวเองนะ ว่าคิดแค่เพื่อน ทั้งที่มันเกินกว่านั้นไปเย้อออ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 01-07-2017 01:57:35
โอ้โห! หวงเพื่อน!! ขนาดนี้แล้ว หลอกตัวเองได้ก็หลอกไป หึๆๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 01-07-2017 06:45:57
วี้ดวิ่วกระตู้วู้มากค่ะตอนนี้ ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 01-07-2017 07:01:41
โอ๊ยยยยย จะเป็นบ้า 555
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 01-07-2017 14:29:56
พี่พลๆๆๆๆๆ จะละลายแล้ว อิอิ
รูปใบนั้น ยังไง อิอิ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-07-2017 17:26:35
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 01-07-2017 20:37:29
ต่างคนต่างหวงกัน แหมมม  :hao7:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: JARKISREAL ที่ 05-07-2017 20:36:45
เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ อาโกเมนน่าร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 06-07-2017 02:56:42
 :o8: :-[
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 06-07-2017 05:41:27
สนุกจังครับ
เนื้อเรื่องพอเพียง แต่คนอ่านไม่พอเพียง อยากอ่านอีก
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 07-07-2017 03:30:41
โอ้ยยยย ชอบเรื่องนี้มากกกก ละมุนแบบบอกไม่ถูก อยากให้รู้ใจกันเร็วๆจังงงงง จะมีดราม่ามั้ยน๊ออ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 07-07-2017 15:03:20
ดีใจที่กดเข้ามาอ่านเรื่องนี้

พี่พลแอบชอบโกเมนมาก่อนใช่ป่ะ
รูปในหนังสือ ฟ้าเคยโกรธ มันบ่งบอกว่างั้น
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 15-07-2017 00:50:45


รักพอเพียง ตอนที่ 11


เสียงขีดเขียนดังขึ้นเป็นระยะ  ครู่หนึ่งก็เงียบอีกสักพักเจ้าของดินสอก็ย้ายร่างมานั่งข้างโกเมน  ดวงหน้าใสของเด็กหญิงยิ้มเผล่โชว์ฟันหลอที่เพิ่งไปถอนเมื่อวันก่อน

“ว่าไงครับ?”

“อาโกเมนสอนเลขข้อนี้หนูหน่อยซิคะ”  ชายหนุ่มรับดินสอมาพลางหยิบกระดาษเปล่ามาสอน  นี่เป็นแบบทดสอบที่โกเมนคิดขึ้นมาเองเพื่อให้เด็กๆ  ฝึกทำในช่วงปิดเทอมแม้วิธีการคิดจะแตกต่างกับที่ครูสอนไปบ้างเพราะการเรียนการสอนสมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแต่หากผลลัพธ์ออกมาถูกต้องโกเมนก็ไม่ค่อยจะเรื่องมากมากนัก  ขอแค่ตอบถูกเป็นอันใช้ได้ 

รัชพลเงยหน้ามองลูกสาวก่อนก้มลงมองอีกคนที่สามารถทำการบ้านได้โดยไม่ต้องให้เขาหรือโกเมนสอนมากนัก  ฟักถนัดวิชาคณิตในขณะที่แฟงจะถนัดพวกภาษามากกว่า  ใครอ่อนวิชาไหนถ้ารัชพลหรือโกเมนสอนได้ก็จะทุ่มเวลาให้ทั้งหมด  แต่เรื่องของอนาคตนั้นพวกเขาไม่คิดบังคับกะเกณฑ์อะไร  เด็กๆ ชอบแบบไหนอยากเรียนอะไร อยากมีอาชีพอะไรตามแต่ที่พวกเขาอยากเป็น ขอแค่เป็นคนดีรัชพลก็พอใจแล้ว

“นี่คุณ  ผมว่าจะซื้อรถใหม่นะ  คราวนี้ว่าจะเอาแบบสี่ประตูแล้วเป็นโฟววิล”  โกเมนยื่นกระดาษที่ทดเลขให้เด็กหญิงก่อนจะเงยหน้าพูดกับอีกคน

“แล้วคันนี้ล่ะ?”

“คันนี้คงขายต่อแหละไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม”  โกเมนวางดินสอในมือเมื่อเด็กหญิงคิดเลขเองได้แล้ว  แฟงขยับไปนั่งชิดฝาแฝดต่างทำการบ้านของตัวเอง

“ทำไมถึงจะซื้อใหม่ล่ะ?”

“คราวก่อนตอนขึ้นเหนือที่ไปซื้อขี้วัวน่ะ  ผมเสียดายที่ไม่ได้พาฝาแฝดไปด้วย  อยากให้พวกเขาได้ไปเที่ยวบ้าง  อีกอย่างฝาแฝดก็โตขึ้นทุกวันรถกว้างๆ น่ะยังไงก็ดีกว่า  ลูกจะได้นั่งไม่เบียดกัน  เวลาไปเที่ยวก็ไปได้ทั้งบ้าน”  อธิบายพลางคิดบัญชีในมือไม่หยุด  เขากำลังคำนวณเรื่องค่าใช้จ่ายหากซื้อรถใหม่  ตอนนี้โกเมนมีเวลาช่วยรัชพลเต็มที่แล้วเนื่องจากต้นอะโวคาโดรอเพียงแค่ออกผลให้เก็บเกี่ยว  ส่วนพืชผลอื่นๆ ก็เก็บส่งตามเวลา

“....”

“หรือคุณว่าไง?”  โกเมนเงยหน้าจากบัญชีเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบ  รัชพลก้มหน้าดูฝาแฝดทำการบ้านไม่ยอมเงยมองคนถาม

“เอาซิ”

“เอาซิคือคุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย?”  ไม่เงยหน้ามองกันแบบนี้เป็นการตอบแบบขอไปทีหรือเปล่า?  โกเมนขมวดคิ้ว

“เห็นด้วย”

“จริงเหรอ?”

“จริง”

“แล้วทำไมคุณไม่เงยหน้ามองผมล่ะ?”  โกเมนยังขมวดคิ้วไม่คลาย ก่อนจะสังเกตเห็นว่าหูสองข้างของรัชพลแดงเรื่อ  เขาขยับตัวรวดเร็วไปนั่งเบียดทันที

“อะไร?”  รัชพลตกใจเมื่อจู่ๆ ก็โดนคนตัวโตเบียด  เขาเซเกือบไปทับลูกเลยทีเดียว

“คุณหูแดงทำไมอ่ะ?”

“อะไร?  หูแดงอะไร  ไม่มี๊!”

“นี่ไง  นี่ๆๆ  หูคุณแดงอยู่นี่”  ไม่ว่าเปล่าโกเมนยกมือแตะใบหูของคนปฏิเสธ  นิ้วเรียวสัมผัสแผ่ว  กระแสบางอย่างแล่นไหลผ่าน  พาให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ  รัชพลย่นคอหนีด้วยใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ  นับวันเขายิ่งควบคุมอาการเหล่านี้ได้ยากขึ้น  ทำไมกันหนอ?

โกเมนยกยิ้ม  ยิ่งเห็นท่าทางหลบหนีของรัชพลเขายิ่งขยับเข้าใกล้  เวลารัชพลแก้มแดงหูแดงมันช่างน่าแกล้งเหลือเกิน  โกเมนคิดว่าอีกฝ่ายกำลังเขิน  เขินเขา?  รัชพลไม่รู้หรือไงนะว่าไอ้ท่าทางแบบนี้มันน่าแกล้งแค่ไหน  ร่างสูงขยับเข้าใกล้มากกว่าเดิม  ไม่รู้ทำไมเขาถึงมีความสุขเวลาเห็นอีกฝ่ายเป็นแบบนี้  ถ้าเป็นกับเขาคนเดียวจะยิ่งดีเข้าไปใหญ่!

“ตกลงว่าซื้อนะ  เดี๋ยวปิดเทอมนี้เราไปเที่ยวกันทั้งครอบครัว”  โกเมนหยุดแกล้งเพราะกลัวหูแดงๆ ของรัชพลจะเลือดออก  เพราะมันแดงก่ำจนเหมือนมะเขือเทศสุกหลังบ้านแล้ว

“อืม!”

“อ้อ  ผมว่าจะซื้อโทรทัศน์ด้วย”  โกเมนขยับตัวกลับมานั่งตำแหน่งเดิม  ชายหนุ่มเกือบหลุดขำเมื่อเห็นว่ารัชพลแอบถอนหายใจ

“โทรทัศน์?”  คิ้วเรียวขมวดมุ่น  เขาเหลือบมองคนเสนออย่างไม่เห็นด้วย

“ใช่”

“แต่...”  โกเมนรู้ว่ารัชพลไม่อยากให้มีโทรทัศน์อยู่ในบ้าน  เพราะไม่อยากสิ้นเปลืองค่าไฟในบ้านแต่ที่สำคัญสุดคือไม่อยากให้ฝาแฝดเสพสื่อหรือติดโทรทัศน์เหมือนเด็กบ้านอื่น  เขาชอบคุยกับลูก  ทำของเล่นไปเล่นด้วยกัน  ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่าให้ลูกไปอยู่กับของพวกนั้น

“ฝาแฝดโตแล้วนะ”  โกเมนถอนหายใจ

“เพิ่ง8-9ขวบเอง”  รัชพลมุ่ยหน้า   โกเมนถอนหายใจอีกครั้ง  สอง-สามปีมานี้เขาใช้ชีวิตแบบชาวไร่ชาวสวนเต็มขั้น  ดูแลเด็กๆ จนบางครั้งเผลอคิดว่าตัวเองเป็นพ่อของพวกเขาไปแล้ว

“มีโทรทัศน์อยู่ในบ้านดีกว่าให้พวกเขาไปดูที่อื่น  ตอนนี้ที่โรงเรียนคงมีสอนพวกคอมพิวเตอร์  คิดดูว่าพวกเขาจะเข้าอินเตอร์เน็ตและรับข่าวสารต่างๆ  โดยที่เราไม่รู้ไม่เห็นแน่ๆ  อยู่ที่บ้านสอนพวกเขาด้วยตัวเองไม่ดีกว่าหรือไง?  อะไรควรไม่ควร อะไรดีไม่ดี  เราสอนพวกเขาด้วยตัวเอง  ดีกว่าเขาไปรับสารโดยเราไม่รู้ยิ่งน่าห่วงกว่า”

“....”  รัชพลนั่งนิ่ง  คิดตามคำพูดของพวกเขาแล้วเหลียวมองลูกๆ ที่ละการบ้านในมือมามองหน้าเขาอย่างมีความหวังเมื่อได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่  “ก็ได้  แต่ต้องมีกฎระเบียบนะ”  เขาพูดกับฝาแฝด  เด็กๆ ส่งสายตาระยิบระยับก่อนจะร้องเย้ลั่นบ้าน  รัชพลยิ้มเมื่อเห็นท่าทางนั้นของลูกๆ  โดยไม่รู้ว่าโกเมนเท้าคางมองเขาพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู

*********

โกเมนขมวดคิ้ว  สาตายังคงจับจ้องไอแพดในมือ  รัชพลมองท่าทางนั้นแล้วนึกหวั่นใจ  เมื่อหลายวันก่อนเขาเห็นอีกฝ่ายเอาไอแพดมาชาร์จแบตเตอรี่หลังทิ้งมันเอาไว้เนิ่นนาน  ตั้งแต่โกเมนตัดสินใจมาทำไร่อยู่ที่นี่รัชพลแทบไม่เคยเห็นอีกฝ่ายแตะพวกมือถือหรืออุปกรณ์พวกนี้มานานแล้ว  คราวนี้ทำไมถึงเอามาดูนะ?

“คุณ”

“หืม?”  รัชพลเงยหน้ารวดเร็วเมื่อได้ยินเสียงเรียก  บางทีเขาก็นึกอยากได้ยินโกเมนเรียกเขาว่า ‘พี่พล’ เหมือนเมื่อคราวก่อนจัง

“คือ...  พวกไส้เดือนนี่เว้นระยะส่งได้ไหม?”

“ก็ได้นะ”  ทำไมจะไม่ได้เล่าในเมื่อเวลาไปต่างจังหวัดเพื่อเอาขี้วัวเขายังทิ้งพวกมันไว้ตั้งหลายวัน  “มีอะไรเหรอ?”

“...เปล่า?”

“งั้นเดี๋ยวผมไปเก็บผักหลังบ้านนะ”  รัชพลไม่ซักไซ้ต่อ  หลายวันมานี้โกเมนเปิดอ่านอีเมล์ในไอแพดแล้วขมวดคิ้วบ่อยมาก  บางครั้งเรียกเขาคล้ายมีเรื่องจะพูดจะปรึกษาหากก็เงียบไปคล้ายยังไม่สามารถตัดสินใจได้  รัชพลถอนหายใจ  เอาไว้อีกฝ่ายพร้อมเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน 

ร่างสูงโปร่งของรัชพลเดินเลาะริมรั้ว  เก็บลูกตำลึงดิบใส่ตะกร้าได้จำนวนหนึ่งแล้วจึงเข้าบ้าน  ชายหนุ่มเอาลูกตำลึงดิบใส่ถุงแล้วทุบให้พอแตก  ล้างน้ำเกลือตามด้วยน้ำสะอาดอีกสี่-ห้าน้ำ  สุดท้ายจึงแช่น้ำปูนใสไว้รอทำอาหารมื้อเย็น  ถ้าโกเมนได้กินอาหารอร่อยๆ คงจะอารมณ์ดีขึ้นแน่ๆ  เสร็จแล้วจึงค่อยตำพริกแกงคอยท่า  ย่างหมูจนเหลืองกรอบเตรียมพร้อมไว้

“นี่อะไรหรือ?”  โกเมนมองอาหารตรงหน้าอย่างไม่เคยเห็น  วันนี้รัชพลเข้าครัวทำอาหารหลายอย่าง  มีทั้งแกงขี้เหล็กใส่ปลาย่าง  ต้มจืดตำลึงใส่หมูสับ  ผัดชาโยเต้และแกงอะไรสักอย่างที่โกเมนไม่คุ้นตา

“แกงคั่วลูกตำลึง”  รัชพลตักข้าวให้เด็กๆ ก่อนจึงค่อยตามด้วยโกเมนและตัวเอง

“ลูกตำลึง?  มันเอามาทำอะไรแบบนี้ด้วยหรือ?  ผมคิดว่ามันเอามาเชื่อมได้อย่างเดียวเสียอีก”  นึกถึงลูกตำลึงเชื่อมกรุบกรอบที่รัชพลทำให้กินแล้วโกเมนนึกอยากขึ้นมา  แต่แกงคั่วตรงหน้าทำให้เขาแปลกใจมากกว่า  คิดไม่ถึงว่าลูกตำลึงจะสามารถทำอะไรได้หลายอย่างขนาดนี้  เขารู้แค่ว่าใบสามารถเอามาทำต้มจืดได้แค่นั้นเอง

“ใช่  นี่เก็บมาได้นิดเดียวเอง  ไม่ทันเจ้าพวกนกมัน  คราวนี้เก็บไม่ทัน  สุกจนแดงให้นกกามันจิกกินจนอิ่มเลยได้มาแค่นี้เอง”  รัชพลพยักหน้าอธิบาย  แค่นี้เองของรัชพลคือเต็มจานใบเขื่อง  ฝาแฝดกับโกเมนกินเผ็ดมากไม่ได้รัชพลจึงตำพริกแกงเองเพื่อควบคุมปริมาณพริกไม่ให้เผ็ดจนเกินไปเพื่อให้ทุกคนสามารถกินได้

“ที่คุณไปเก็บมาเมื่อกลางวัน?”

“ใช่  มันต้องล้างหลายๆ น้ำเพื่อลดความเฝื่อนแล้วก็แช่นำปูนใสเวลาแกงจะได้ไม่เละ  ใส่หมูย่างหั่นบางๆ”  รัชพลอธิบายพลางตักใส่จานลูกๆ และจานชายหนุ่มอย่างเอาใจใส่  “ลองชิมดู”

“อร่อย!”  โกเมนที่ตักเข้าปากถึงกับตาโตเมื่อเคี้ยว  สัมผัสความกรุบกรอบและพริกแกงรสกลางๆ  ดวงตาเรียวก็เปล่งประกายระยิบระยับ  รัชพลยกยิ้มเมื่อเห็นท่าทางนั้น  “ผมเพิ่งเคยกินครั้งแรกนี่แหละ” 

“นานๆ จะได้กินทีเพราะเก็บลูกไม่ทันพวกนก”  รัชพลยิ้มกว้าง  มองโกเมนตักข้าวกินอย่างมีความสุข

“นี่เรียกว่าอะไร?  หน้าตาเหมือนกล้วยบวชชี”  โกเมนชี้ขนมสีขาวที่มีสีเหลืองเป็นชิ้นๆ ในถ้วย  กลิ่นหอมเหมือนขนุนสุก

“บวดขนุน  ไปแบ่งมาจากบ้านพี่พงษ์”  พี่พงษ์ คือรัชพงษ์พี่ชายของรัชพล  โกเมนเห็นหน้าอีกฝ่ายบ่อยมากแต่ไม่รู้ว่าเป็นพี่ชายของรัชพลเนื่องจากฝ่ายนั้นไม่เคยบอก  จนเขาสงสัยจึงเอ่ยปากถามเอาเอง  แน่นอนว่าคำพูดติดปากของรัชพลยังคงเอ่ยออกมาให้ได้ยิน ‘ก็ไม่ได้ถาม’ เขาอยากจะจับตัวอีกฝ่ายมาเขย่าๆ ให้สมองไหลออกจากหู  เรื่องแบบนี้ต้องรอให้เขาถามด้วยหรือ?  บอกเขาเองไม่ได้หรือไง!  จำได้ว่าเขาโกรธรัชพลไปเป็นอาทิตย์กับเรื่องนี้
มื้อเย็นจบด้วยบวดขนุนที่รัชพลปันมาจากบ้านพี่ชายเมื่อตอนกลางวัน  เติมหัวกะทิอีกหน่อยให้หวานมันทุกคนก็มีความสุขจนแทบไม่อยากขยับตัว

“อร่อยมาก!  ผมไม่คิดเลยว่าขนุนเอามาทำเหมือนกล้วยบวชชีได้ด้วย  แล้วไอ้ที่มันๆ นั่นคือเม็ดมันเหรอ?”  โกเมนลูบพุงป่องๆ ของตัวเองพลางหัวเราะร่า  ขนาดว่ากินข้าวอิ่มแล้ว  แต่พอได้กลิ่นขนุนสุกก็พาลอยากกิน  สุดท้ายจึงอิ่มจนจุกอยู่นี่   เขาเท้าแขนอยู่บนแคร่หน้าบ้านใต้ต้นกาสะลองหน้าบ้าน  ส่วนฝาแฝดก็ผลัดกันอาบน้ำหลังอาหารย่อย  รัชพลยกแก้วน้ำผึ้งมะนาวส่งให้อีกฝ่ายดื่มแก้เลี่ยน

“ใช่  เอาเม็ดมันมาต้มแล้วแกะเปลือกออกให้เหลือแต่เนื้อขาวๆ บวดกะทิแล้วใส่เนื้อขนุนสุกลงไป  ทั้งหอมทั้งหวาน  ถ้ามีน้ำแข็งจะชื่นใจมากกว่านี้”  รัชพลยกยิ้มอธิบาย

“คราวหน้าทำให้ผมกินอีกนะ”

“อืม”  รัชพลตอบรับพลางทิ้งตัวลงนั่งข้างอีกฝ่ายเงียบๆ

“คุณ”

“หืม?”

“ปีหน้าต้นอะโวค้าโดก็คงเก็บลูกได้แล้วเนอะ?”

“ใช่”

“ผมลองดูบัญชีล่ะ  หักลบกลบหนี้  ตอนนี้ผมได้ทุนคืนเกือบหมดแล้ว”

“….”

“ปีหน้าก็จะมีเงินเก็บ”

“แล้ว?”

“ผมจะเก็บไว้ให้ฝาแฝด”

“เอ๊ะ?”

“เก็บเงินสัก สี่-ห้าปีรวมกับรายรับจากส่วนอื่นๆ อีกก็มากพอให้ฝาแฝดเรียนจนจบปริญญาแน่ๆ”

“เดี๋ยวก่อน!”  รัชพลวางแก้วในมือก่อนจะคว้าแขนโกเมนให้หันมาทางต้น  “หมายความว่ายังไง?”

“ก็หมายความว่าคุณ...  พี่พลไม่ต้องห่วงเรื่องค่าเล่าเรียนของฝาแฝดนะ  ผมจะรับผิดชอบเอง”

“ไม่ได้!”  รัชพลขมวดคิ้ว  จ้องหน้าคนพูดอย่างไม่พอใจ

“ทำไมถึงไม่ได้?”

“ฝาแฝดเป็นลูกผม”  ยามที่เอ่ยประโยคนี้หัวใจของรัชพลมันเจ็บปวดแปลกๆ  จะทำยังไงกับใจเจ้ากรรมนี้ดี?

“…..”

“คือ….”  เขาจะอธิบายอย่างไรดี   รัชพลไม่กล้ามองหน้าคนด้านข้าง  แต่หากไม่อธิบายเขาก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะเสียใจ

“มีผมคนเดียวหรือไงที่เห็นว่าเราคือครอบครัวเดียวกัน”

“?”

“ผมอยากช่วยพี่ดูแลฝาแฝด  อยากให้พี่กับลูกๆ สุขสบาย”

“แต่...มันมากไป”  ในที่สุดรัชพลก็เงยหน้าขึ้นมองโกเมน  ดวงตาเรียวคู่นั้นดูเว้าวอนอย่างที่เขาไม่เคยเห็น

“ไม่มากไปเลยสักนิดถ้าเทียบกับสิ่งที่พี่ทำ”

“แต่...”

“พี่พล  พี่คือคนที่ให้ชีวิตใหม่กับผม  ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง  ทั้งความคิด  ความหวังและความสุข”

“มันเป็นหน้า...”

“ถ้าบอกว่าพี่ทำไปเพียงเพราะมันเป็นหน้าที่ผมคงเสียใจมาก”  ใบหน้าหล่อเหลาเศร้าสลดก้มหน้าลงมองฝ่ามือตัวเอง  โกเมนขยับเข้าใกล้รัชพลมากขึ้นอีกนิดให้หลังมือแตะชนกัน

“ตะ  แต่...”  เสียงของรัชพลกระท่อนกระแท่น  อยากเอ่ยปฏิเสธแต่เห็นท่าทางของอีกฝ่ายแล้วเขาพูดไม่ออก

“ช่างเถอะๆ  จะเพราะอะไรก็แล้วแต่ผมเชื่อว่าพี่พลหวังดีกับผมอย่างจริงใจ  ใช่ไหม?”

“….”  รัชพลพยักหน้ารับ

“อย่าคิดว่าผมตอบแทนอะไรเลย  คิดแค่เพียงว่าที่ผมทำไปเพราะเราเป็นคนครอบครัวเดียวกันต่างหาก  ลูกของพี่ก็เหมือนลูกของผม  นะ”

“…..”

“ตกลงตามนี้นะ!”  ไม่รอให้เขาตอบรับโกเมนก็คว้ามือชายหนุ่มไปกุมไว้พร้อมรอยยิ้มเจิดจ้า  รัชพลแทบเป็นลมในนาทีนั้น  หัวใจเขาทำงานหนักเกินไป  โกเมนจู่โจมจุดอ่อนเขาเข้าอย่างจัง  รัชพลหรือเฝ้ารออยากได้ยินร่างสูงเรียกเขาว่า ‘พี่พล’ อีกครั้งหลังจากภรรยาเก่าเขามาเยี่ยมคราวนั้น  แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยเรียกอีก  พออย่างนี้ล่ะมาอ้อนเขาด้วยคำว่า ‘พี่พล’  พร้อมสายตาวิบวับกับรอยยิ้มเจิดจ้าแล้วเขาจะทำใจแข็งได้อย่างไร

“ไอ้ที่หน้านิ่วคิ้วขมวดมาหลายวันเพราะคิดเรื่องนี้อยู่หรือไง?”  รัชพลกระแอมไอ  ปล่อยให้โกเมนกุมมือเขาเอาไว้พักใหญ่  รอจนหัวใจเขาเต้นกลับสู่จังหวะปรกติจึงได้ดึงมาออกอย่างอ้อยอิ่งเสียดาย

“ก็เป็นหนึ่งในสองเรื่อง”

“ยังเหลืออีกเรื่องงั้นหรือ?”  รัชพลตาโต  แล้วคราวนี้โกเมนจะทำให้หัวใจเขาวายตายไปก่อนหรือเปล่าหนอ?  ชายหนุ่มเหลือบมองท่าทางคนด้านข้าง  เห็นอีกฝ่ายขมวดคิ้วไม่ได้ขยับเข้ามาใกล้ก็ถอนหายใจเสียดาย  เอ๊ะ  นี่เขาคาดหวังว่าโกเมนจะกุมมือเขาอีกครั้งงั้นหรือ  โธ่~

“พี่ตุ่นติดต่อมา”  รัชพลจำได้ว่านั่นเป็นอดีตผู้จัดการของโกเมน

“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

“พี่ตุ่นบอกว่าทาง...ติดต่อมาตั้งแต่ปีก่อนเรื่องถ่ายแบบแต่พี่เขาติดต่อผมไม่ได้  คุณอภินันท์เองก็ร้อนใจ”

“….”

“ถ้าเป็นงานของคนไทยผมคงไม่รับเพราะรู้เช่นเห็นชาติถึงได้หนีมา  แต่นี่เขาเป็นแบรนด์แรกๆ ที่ให้โอกาสผมเติบโต”

“คุณอยากกลับไปทำงานในวงการงั้นหรือ?”

“ถ้าถามว่าอยากกลับไปไหมผมจะตอบว่าไม่  แต่เพราะคราวนี้คนที่ต้องการตัวผมคือแบรนด์…  ผม...”

“งั้นก็ไปซิ”

“เอ๊ะ?”

“ไปช่วยเขาเสร็จแล้วก็กลับบะ  กลับมาทำไร่ต่อทำสวนต่อ”  รัชพลเกือบหลุดคำว่า ‘กลับบ้าน’ ออกมาแต่เขาไม่รู้ว่าโกเมนจะเห็นว่าที่นี่คือบ้านของอีกฝ่ายหรือเปล่าจึงหยุดคำนั้นเอาไว้กลางคัน

“งั้นคราวนี้ผมคงต้องผิดสัญญากับฝาแฝดแล้ว  เรื่องที่จะพาพวกเขาไปเที่ยวไร่ไพรวัลย์”  โกเมนถอนหายใจ  ไร่ไพรวัลย์คือฟาร์มวัวนมที่รัชพลเคยพาเขาไปซื้อขี้วัวมาเลี้ยงไส้เดือน  ที่นั่นเป็นฟาร์มวัวนมขนาดใหญ่  ข้างๆ เป็นไร่กว้างขวางที่คุณพฤกษ์ผู้เป็นเจ้าของบุกเบิกดูแลเป็นแหล่งท่องเที่ยว  ป่าเขาเขียว  บรรยากาศสวยงามจนเขาอยากให้เด็กๆ ได้ไปลองเปิดหูเปิดตาจึงได้เสนอกับรัชพลเรื่องซื้อรถคันใหม่ขึ้นมา

“ไว้คราวหน้าก็ได้”

“งั้นเอางี้  ให้ฝาแฝดไปกรุงเทพฯ กับผม”

“หือ?”

“ทำงานเสร็จผมจะพาพวกเขาไปเที่ยวทะเลใกล้ๆ”

“แต่มันจะรบกวน...”

“ไม่ๆ  ไม่รบกวนอะไรเลย  ดีเสียอีกถ้ามีฝาแฝดกับพี่พลไปด้วย  ผมจะได้ไม่ต้องคอยเป็นห่วงว่าพวกพี่อยู่ทางนี้จะเป็นยังไง”

“ผมด้วยหรือ?”  รัชพลชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง  คิดว่าเมื่อครู่อาจหูฝาด

“แหงซิ  มีฝาแฝด มีพี่พล  ทำงานเสร็จเราจะได้เที่ยวทั้งครอบครัว”

“…..”

“ตกลงตามนี้นะครับ!”  คนตัวโตมัดมือชก 

โกเมนเข้านอนแต่หัวค่ำ  ในหัววางแผนว่าจะเริ่มทำอะไรก่อน  จะพารัชพลและฝาแฝดไปเที่ยวที่ไหนดี  จะนั่งรถทัวร์ไปหรือรอรถมาก่อนจึงค่อยลงกรุงเทพฯ  ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราโกเมนถอนหายใจ  เอาเถอะ  เพื่อความสุขสบายของรัชพลและฝาแฝด  รอได้รถคันใหม่เมื่อไหร่ค่อยเข้ากรุงเทพฯ แล้วกัน
ส่วนอีกคนยังคงนั่งอยู่ที่เดิม  รัชพลขมวดคิ้วแน่น  ครู่หนึ่งก็คลายออกแล้วขมวดใหม่  ในใจเขาสับสนกับเรื่องที่โกเมนบอก  หากโกเมนกลับไปทำงานในวงการแล้วจะกลับมาไหม?  จะโดนคนในนั้นรังแกอีกหรือเปล่า?  เขาเป็นห่วงไปหมดทุกอย่าง

เอาเถอะ  ถ้าโกเมนตัดสินใจอย่างไรเขาก็คงต้องยอมรับ

เขาไม่ได้เป็นอะไรกับโกเมนเสียหน่อย  จะเอาสิทธิ์อะไรไปห้ามไม่ให้อีกฝ่ายไป

*************



v
v
v
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่10 [30-6-60]P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 15-07-2017 00:51:43



หลังจากนั้นประมาณสามสัปดาห์  บริษัทรถที่โกเมนสั่งซื้อก็ติดต่อมา  โกเมน  รัชพลและฝาแฝดแบกกระเป๋าคนละใบขึ้นรถทัวร์ไปลงนครสวรรค์เพื่อรับรถก่อนจะขับเข้ากรุงเทพฯ

ก่อนมารัชพลตัดฟักแก่มาหลายลูก  ปอกเปลือกหั่นด้วยมีดหยักเป็นชิ้นพอดีคำสวยงามแล้วล้างน้ำ  แช่น้ำปูนใสแล้วล้างจนสะอาด ก่อนจะนำมาเชื่อมด้วยน้ำตาลทรายขาวกับน้ำใบเตยหอม  ทิ้งไว้หนึ่งคืนแล้วเชื่อมอีกรอบ  ฟักเชื่อมสีเขียวใสสวยงามดูน่ารับประทานถูกจัดใส่โหลใบใหญ่เพื่อเอาไปฝากพี่ตุ่นผู้จัดการกับอภินันท์  โกเมนถึงกับนึกเสียดายจนไม่อยากเอาไปฝาก  เขาไม่เคยรู้ว่าฟักสามารถเอามาเชื่อมได้ด้วย  หนำซ้ำยังกรุบกรอบอร่อยจนแทบจะกินจนหมดโหล  ฝาแฝดก็น้ำลายสอจนรัชพลต้องส่ายหน้าแล้วรับปากว่ากลับมาจากกรุงเทพฯ  จะเชื่อมให้พวกเขาสามคนใหม่อีกรอบ  ส่วนสองโหลนี้ต้องเอาไปเป็นของฝาก

บ้านของพี่ตุ่นยังอยู่ที่เดิมไม่ได้ย้ายไปไหน  โกเมนขับมาถึงก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว  ดีว่าเขาติดต่อกับอีกฝ่ายตลอดประตูรั้วจึงไม่ได้ล็อก  เขาบีบแตรรถครู่หนึ่งแล้วขับเข้าไปจอดด้านใน

“พระเจ้าช่วย  ในที่สุดฉันก็ได้เจอหน้าเธอ!”  ผู้จัดการร่างท้วมกระเด้งตัวแล้ววิ่งเข้ามากอดโกเมนแน่น  แก้มกลมอาบไปด้วยน้ำตาจากความดีใจ  “สองปีที่ติดต่อเธอไม่ได้ฉันนึกว่าชาตินี้จะไม่ได้เห็นหน้าเธออีกแล้ว”

“ขอโทษนะครับพี่ตุ่นที่ผมไม่ได้ติดต่อมาเลย”

“ฮึก  ฮืออออออ”

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะครับโกเมน”  เสียงทุ้มนุ่มเรียกให้โกเมนเงยหน้าขึ้นมอง  ร่างสูงโปร่งเจ้าของผิวขาวจัดและใบหน้าหล่อเหลาส่งยิ้มเจิดจ้ามาให้

“คุณนันท์?”

“ได้ยินจากคุณตุ่นว่าคุณจะกลับมาวันนี้  ผมเลยถือวิสาสะมารอเจอคุณด้วย”  อภินันท์ยังคงส่งยิ้มสวย  สายตาจับจ้องโกเมนไม่ลดละ  ความคิดถึงเอ่อล้นจนโกเมนรับรู้ได้  ชายหนุ่มยิ้ม

“ขอบคุณมากนะครับที่คิดถึงกันตลอด”

“คุณใจร้ายมากเลยนะครับ  หายไปสองปีไม่ส่งข่าวอะไรเลย”

“อ่า พอดีว่ามันยุ่งๆ นิดหน่อยน่ะครับ  อ้อ  จริงซิ  พี่พล”  โกเมนแตะศอกให้รัชพลเดินขึ้นมาพร้อมฝาแฝดที่เกาะขาผู้เป็นพ่อไม่ยอมปล่อย  “พี่คุณอภินันท์  คนที่ช่วยผมเมื่อคราวก่อน  แล้วก็นี่พี่ตุ่น  ผู้จัดการผมเอง”  รัชพลยิ้มให้ทั้งสองคน  อภินันท์และผู้จัดการร่างท้วมหันมาสามพ่อลูกราวกับเพิ่งเห็นอีกฝ่าย  “แล้วก็นี่พี่พลครับ  คนที่คอยดูแลช่วยเหลือผมอยู่ตอนนี้”

“สวัสดีครับ”  อภินันท์ตั้งสติได้ก่อน  ชายหนุ่มยิ้มแย้มเอ่ยทักทาย  “แล้วเด็กสองคนนี้?”

“ฝาแฝดไหว้คุณนันท์เขาซิ”  รัชพลสะกิดแขนลูกสาวลูกชาย  เด็กๆ ยกมือไหว้สายตาก็จับจ้องใบหน้าหล่อเหลาของอภินันท์ไม่วางตา

“อ้อ  สองคนนี้เป็นลูกผมเองครับ”  โกเมนยิ้มกว้าง  วาดแขนกอดฝาแฝดข้างละคน

“อะไรนะ?”  พี่ตุ่นตกใจเอ่ยถามเสียงดัง  ก่อนจะเหลือบมองสีหน้าอภินันท์

“นี่!”  รัชพลถลึงตามองคนขี้ตู่  โกเมนหัวเราะลั่นกับปฏิกิริยาของทุกคน

“ล้อเล่นน่า  นี่ฟักกับแฟงลูกๆ ของพี่พล”  ผู้จัดการร่างท้วมถอนหายใจ  เหลือบมองสีหน้าของอภินันท์อีกครั้ง  เห็นฝ่ายนั้นพรูลมหายใจแผ่วเบาแล้วยิ้มแหยส่งให้โกเมน

“แล้วนี่กินข้าวกันมาหรือยัง  ถ้ายังไงออกไปหาอะไรกินข้างนอกไหม?”  พี่ตุ่นเอ่ยถาม

“พวกเราเพิ่งกินก่อนเข้ามานี่เองครับพี่ตุ่นไม่ต้องลำบากหรอก  อีกอย่างเด็กๆ คงเพลียแย่แล้ว  ไม่ออกไปไหนดีกว่า”  โกเมนตัดบท  “แล้วนี่ของฝากครับ”  โกเมนรับโถแก้วใบเขื่องมาจากรัชพลส่งให้อภินันท์และผู้จัดการคนละใบ  “ฟักเชื่อม”

“ฟักเชื่อม?”

“ใช่แล้ว  นี่เป็นฟักที่เก็บมาจากหลังบ้าน  พี่พลทำเองเลยนะครับ”  อภินันท์เหลือบมองรัชพลอย่างอดไม่ได้  น้ำเสียงของโกเมนเวลาพูดชื่อรัชพลจะแสดงออกถึงความชื่นชมจนปิดไม่มิด  มันทำให้ในอกซ้ายของเขาคันยุบยิบ  “พี่ตุ่นกับคุณนันท์ลองชิมดู  อร่อยมาก  นี่ถ้าไม่ติดว่าเอามาฝากพวกคุณล่ะก็ผมจะกินให้หมดไม่ยอมแบ่งใครแน่ๆ”  โกเมนยังคงพูดคุยเสียงดัง  พี่ตุ่นก้มลงมองโหลแก้วในมือก่อนจะชวนทุกคนไปห้องรับ  ตักฟักเชื่อมใส่จานพร้อมน้ำเย็นให้เด็กๆ   ก่อนจะกลับเข้าไปหลังเคาท์เตอร์เพื่อชงกาแฟให้โกเมน  รัชพลและอภินันท์

“อร่อยจริงๆ ด้วย”  อภินันท์กัดฟักเชื่อมสีเขียวสวยก่อนจะเลิกคิ้วแปลกใจ  เขาไม่คิดว่าฟักที่เขามักจะเคยเห็นแม่บ้านเอามาทำต้มจืดจะสามารถเอามาทำของหวานได้ด้วย

“ใช่ไหมละ  พี่พลน่ะทำอะไรก็อร่อย  เนอะ  ฟักแฟง”  โกเมนยิ้มไม่หุบ   ฝาแฝดพยักหน้ารับหงึกหงักตามโกเมน  ตั้งแต่เข้ามาในบ้านนี้พวกเขาก็ไม่พูดไม่จา  เอาแต่นั่งเงียบๆ ตามผู้เป็นพ่อ  ไม่กล้าซุกซนเพราะรัชพลสั่งไว้ตั้งแต่ก่อนลงจากรถ

“แล้วนี่คุณโกเมนจะพักที่ไหนครับ  คอนโดของคุณยังอยู่นะ  ผมเพิ่งให้แม่บ้านไปทำความสะอาดเมื่อกลางวันแต่...ผมไม่ได้สั่งให้เอาเครื่องนอนมาเพิ่มเพราะไม่รู้ว่าคุณจะพาใครมา”  อภินันท์เหลือบมองรัชพลเพียงครู่เดียวแล้วหันมาคุยกับโกเมนต่อ

“อืม  พรุ่งนี้ผมต้องไปพบคุณโจชัวแต่เช้าเสียด้วย”

“งั้นนายนอนที่บ้านพี่แล้วให้คุณพลกับลูกๆ ไปพักที่คอนโดนายก็ได้”  พี่ตุ่นเสนอ  เขายื่นแก้วกาแฟวางตรงหน้าแต่ละคน   รัชพลยกขึ้นมาจิบก่อนจะขมวดคิ้วแล้ววางลง

“อืม~”  โกเมนมองแก้วกาแฟที่รัชพลวางลงแล้วยิ้มกว้าง  “ผมไปชงให้ใหม่เอาไหมครับ?”  พี่ตุ่นขมวดคิ้ว  เขาขึ้นชื่อว่าชงกาแฟอร่อยคนหนึ่งแต่อีกฝ่ายเพียงแค่จิบแล้วก็วาง  นี่จะเอาแต่ใจให้โกเมนไปชงให้หรืออย่างไร?  ผู้จัดการร่างท้วมชักเริ่มไม่พอใจ

“ไม่ต้องหรอก  ผมดื่มแค่น้ำเปล่าก็พอ  ผมขอโทษด้วยนะครับคุณตุ่น  พอดีปรกติผมไม่ค่อยได้ดื่มกาแฟอย่างนี้”

“เอ๊ะ  แล้วปรกติคุณพลดื่มกาแฟอะไรหรือครับ  ถึงไม่ถูกใจที่คุณตุ่นชงให้”

“อ๋อ  ปรกติพี่พลดื่มแต่กาแฟดำใส่น้ำผึ้ง  แก้วนี้คงจะหวานแล้วก็มันเกินไปพี่พลเลยไม่ชิน”

“....”  อภินันท์เลิกคิ้ว  มองใบหน้ายิ้มแย้มของโกเมนสลับกับรัชพล  ในใจคล้ายมีเล็บที่มองไม่เห็นข่วนให้เจ็บแปลบ

“ไว้พรุ่งนี้เช้าผมชงให้ดื่มนะ”  โกเมนที่ไม่เห็นสายตานั้นหันมาพูดคุยกับคนข้างๆ  เพราะรู้ว่ารัชพลคงไม่กล้าพูดหรือเอ่ยขอแน่เขาจึงเสนอตัวทำให้  ไม่อยากให้รัชพลกับเด็กๆ อึดอัดที่เขาพามาที่นี่

“แล้วนี่ตกลงยังไง  นายพักที่นี่แล้วให้คุณพลกับลูกไปพักคอนโดนายนะ”

“ให้พี่พลกับฝาแฝดพักที่นี่ด้วยนะพี่ตุ่น”

“แต่...”  ผู้จัดการร่างท้วมอยากปฏิเสธเนื่องจากแอบเห็นทางหางตาว่าอภินันท์มีสีหน้าเย็นชาขึ้นทุกที  “คือห้องพักมันเหลือแค่ห้องเดียว...”

“คุณ  เดี๋ยวผมกับฝาแฝด...”

“นอนห้องเดียวกันก็ได้นี่”  โกเมนไม่รอให้รัชพลเอ่ยจบก็แทรกขึ้นมา  คิ้วเรียวสวยขมวดฉับไม่พอใจ  รัชพลมากับเขาเขาก็อยากดูแลด้วยตัวเอง

“หะ  ห้องเดียวกัน?  แต่มันจะแคบ...”

“โอ๊ย  สบายมากน่าพี่ตุ่น  เตียงห้องรับแขกพี่ออกจะกว้าง  นอนตามขวางกันสี่คนได้สบายอยู่แล้ว”  โกเมนสรุปรวบรัดไม่ให้ใครปฏิเสธอีก  พี่ตุ่นถอนหายใจไม่คัดค้าน  ครู่ใหญ่อภินันท์ก็ขอตัวกลับ  ก่อนกลับกำชับกับโกเมนว่าพรุ่งนี้เช้าจะส่งรถตู้มารับไปทำงาน

โกเมนช่วยรัชพลขนกระเป๋าขึ้นห้อง  สอนใช้เครื่องทำน้ำอุ่นกับเปิดฝักบัวให้เด็กๆ อาบน้ำก่อนจะออกมาคุยกับผู้จัดการที่ห้องนอนของอีกฝ่าย

“หายไปไหนมาตั้งสองปีห้ะ?  รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงนายมาก”

“ผมขอโทษนะพี่ที่ไม่ได้ติดต่อมา  ตอนนั้นมันตื้อไปหมดไม่รู้จะทำยังไงดี”  พี่ตุ่นพยักหน้ารับ

“แต่ก็ดีแล้วที่นายปลอดภัย”  พี่ตุ่นก้มลงสำรวจพลางหมุนตัวโกเมนดูทุกสัดส่วนว่ามีตรงไหนผิดแปลกไปบ้าง “นี่นายดำขึ้นใช่ไหมเนี่ย ดูผิวซิหยาบกร้านขึ้นตั้งเยอะ  นี่ไม่ได้บำรุงอะไรเลยใช่ไหม ห้ะ?”  ท้ายเสียงเจือความไม่พอใจ  ผิวขาวจัดของโกเมนที่เขาแสนภูมิใจนักหนาบัดนี้ทั้งคล้ำแดดทั้งหยาบกร้าน  โอย  หัวใจเขาจะสลาย

“เอ้า  ก็ทำไร่ทำสวนจะเอาเวลาที่ไหนไปบำรุง  แต่จะว่าไปพี่พลน่ะบ่นทุกวันที่ผมไม่ทาครีมกันแดด”  นี่ขนาดรัชพลบังคับเขาทาครีมกันแดด  บังคับใส่เสื้อแขนยาวทุกวันนะเนี่ย 

“ทำไร่?”  พี่ตุ่นเบิกตากว้าง  “ไม่ใช่ว่านายขายที่ของคุณตาไปแล้วหรอกหรือ?”

“เปล่า  ไม่ได้ขาย”  โกเมนยกยิ้ม  เขานึกดีใจที่ไม่ได้ดึงดันจะขายที่ของคุณตาไปตั้งแต่แรก  ไม่อย่างนั้นตอนนี้เขาคงเสียใจมาก

“ไม่ขายก็เลยผันตัวไปเป็นชาวไร่งั้นซิ”

“ใช่  ไม่คิดเลยว่าจะยากขนาดนี้”

“....นายคงลำบากแย่ซินะ?”

“ก็ลำบากหน่อย  ไม่ซิ  ลำบากมากเลยแหละแต่โชคดีที่มีพี่พลคอยช่วยเหลือผมถึงตั้งตัวได้เร็วขนาดนี้”

“เออ แล้วคุณพลอะไรนั่นน่ะเป็นใคร?”  นิ้วใหญ่ของพี่ตุ่นจับต้นแขนโกเมนแน่นจนแทบจะจิกเนื้อชายหนุ่มอยู่รอมร่อ

“ก็คนที่ติดต่อผมเรื่องที่ดินคุณตาไง”

“คนคนนั้นน่ะนะ?”

“ใช่”

“แล้วไหงถึงมาด้วยกันได้  แล้วนี่มันยังไงกัน  ความสัมพันธ์ของพวกนายน่ะ?”

“ก็เพื่อนไง  พี่พลบ้านเขาอยู่ใกล้ๆ กับคุณตาผม  เขารับฝากที่ดินกับเงินทองมากมายเอาไว้ให้ผมนะพี่”

“เงินด้วยหรือ?  ถ้านายมีเงินก็ไม่ต้องไปทำไร่แล้ว  กลับมาที่นี่เถอะ”  พี่ตุ่นตาเป็นประกาย  หากโกเมนถอนหายใจ

“พี่ตุ่น  ผมมาครั้งนี้เพราะคุณโจชัวนะ”

“.....”

“ผมไม่คิดจะกลับเข้ามาในวงการแสดงอีกแล้ว”

“แต่....”

“ผมทิ้งไร่ของผมไม่ได้หรอก  ผมลงทุนลงแรงไปตั้งเท่าไหร่กว่าพวกมันจะเติบโตแข็งแรงผลิดอกออกผล  พี่พลเองก็ช่วยมาตั้งแต่แรก  เห็นผมทำมาได้ขนาดนี้เขาน่ะดีใจกว่าใคร”  โกเมนยิ้มอ่อนโยน  เขานึกสีเขียวขจีรอบบ้าน  นึกถึงบรรยากาศหลังฝนตก  คิดถึงเสียงหัวเราะของฝาแฝดและ...ยังอยากเห็นรัชพลส่งสายตาห่วงใยมาที่เขา  “พี่พลคอยดูแล  คอยสอนให้ผมทำไร่  สอนการใช้ชีวิตและ...มอบความสงบให้ผมอย่างที่ไม่เคยได้รับจากใคร”

“คุณรัชพลเป็นแค่เพื่อนจริงหรือ?”

“เอ๊ะ?”

“ก็ไอ้ที่นายกำลังพูดถึงเขาอยู่นี่มันไม่ใช่แค่เพื่อนแล้ว”

“....”

“นายไม่เห็นหน้าตัวเองเวลาพูดถึงเขา”  พี่ตุ่นขมวดคิ้วมองโกเมนที่ยกมือแตะหน้าตัวเองอย่างแปลกใจ  “ทั้งแววตาทั้งรอยยิ้ม  เหมือนนายกำลังตกหลุมรัก”

“ตกหลุมรัก?”

“เวลานายพูดมาสิบประโยคจะมีชื่อเขาอยู่เก้าประโยค  นายรู้ตัวบ้างไหม?”

“...งั้นหรือ?”  โกเมนนิ่งขึ้ง  เขาคิดตามคำพูดของพี่ตุ่นพลันดวงตาก็เปล่งประกายวิบวับ  รอยยิ้มวาดประกับริมฝีปากหยัก

“แย่แล้ว  ฉันไม่น่าพูดให้นายรู้ตัวเลย!”   

กว่าโกเมนจะกลับเข้ามาในห้องฝาแฝดก็หลับไปแล้ว  เหลือเพียงรัชพลที่ยังคงนั่งคอยเขา  ในมืออีกฝ่ายมีหนังสือการเกษตรที่เพิ่งแวะซื้อตอนเข้าในเมือง  เพราะกลัวรัชพลและลูกๆ จะเบื่อถ้าต้องมานั่งคอยเขาทำงาน  ชายหนุ่มจึงแวะศูนย์หนังสือให้สามพ่อลูกหาอะไรอ่านเพลินๆ ระหว่างรอเขาพรุ่งนี้  รัชพลหยิบหนังสือเกี่ยวกับเกษตรมาสองสามเล่ม ในขณะที่ฝาแฝดหยิบนิทานคนละเล่มเท่านั้น   

รัชพลละสายตาจากหนังสือขึ้นมองเมื่อเห็นว่าโกเมนยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ  เขาไม่ได้เอ่ยปากถาม  เพียงรอให้โกเมนเป็นคนพูดก่อน  แต่แล้วหัวใจของเขากลับสั่นขึ้นมา...  สายตาของโกเมนที่มองมาทำให้หัวใจเขาเต้นแรง

โกเมนเป็นอะไรไป?

รัชพลก็แค่ผู้ชายหน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง  รูปร่างสูงโปร่ง  ผิวเนียนละเอียดสีน้ำผึ่ง  ริมฝีปากอิ่มได้รูปสีเข้ม  สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือนัยน์ตาหวานคู่นั้น เวลาที่เจ้าตัวยิ้มดวงตาสีสนิมคู่นั้นจะวาวระยับชวนมอง 

โกเมนนึกถึงครั้งแรกที่พบกับอีกฝ่าย  รัชพลมักจะตีหน้านิ่งเย็นชาเป็นน้ำแข็ง  ไม่แสดงอาการไม่มีความรู้สึก  พูดจานับคำได้  ถ้าไม่ถามก็ไม่ตอบ  ถ้าไม่ชวนคุยก็ไม่พูด  เอาแต่นั่งเงียบๆ  หากไม่เคยทิ้งให้เขาอยู่คนเดียวสักครั้ง  ยามหงุดหงิดอึดอัดใจอีกฝ่ายเพียงแค่นั่งอยู่ข้างๆ  นึกถึงกาแฟแก้วแรกที่รัชพลชงให้ในหัวใจเขายิ่งอบอุ่น  นึกถึงตอนมือแตกเป็นแผลและใบหน้าที่ก้มต่ำของรัชพลยามที่ทำแผลให้เขา  ผักที่ปลูกหลังบ้านเพียงแค่เขาเปรยว่าชอบกิน  แค่มดกัดก็ต้องรีบหายามาทาให้  ยามหนาวแม้เสื้อจะมีแค่ตัวเดียวก็ยังสละให้เขา  รัชพลคนปากหนักที่แสนอบอุ่น  รัชพลที่ทำอะไรเพื่อเขามากมายโดยไม่เคยปริปากบ่น  คนที่ดูแลเขามาตั้งแต่ต้น…

ถ้าหากเขาตกหลุมรักอีกฝ่ายจะแปลกอะไร

คนที่หัวใจอบอุ่นขนาดนี้ไม่รักก็คงบ้าไปแล้วแน่ๆ

“?”  รัชพลเลิกคิ้วมองท่าทางแปลกๆ ของโกเมน  ร่างสูงยืนนิ่งไม่ขยับอยู่เป็นนาน  เอาแต่มองหน้าเขาแล้วก็ยิ้มอยู่อย่างนั้น 

“ไม่มีอะไรหรอก  พี่พลพักเถอะ  ผมอาบน้ำแล้วจะรีบเข้านอน”  โกเมนเอ่ยบอก  มองท่าทางขัดๆ เขินๆ ของรัชพลแล้วอารมณ์ดีนักหนา  รัชพลมักจะทำอะไรไม่ถูกเวลาโดนเขาจ้องแบบนี้  แก้มสีน้ำผึ้งจะสาดสีแดงเวลาเขายิ้มใส่ตา  ใบหูจะแดงก่ำเวลาเขาเอ่ยเรียกว่า ‘พี่พล’  ด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

ตอนนี้รู้ตัวว่าหลงรักอีกฝ่ายแล้ว  เพราะฉะนั้นโกเมนก็คิดว่าเขาต้องแสดงออกและทำให้รัชพลรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร  เขาจะไม่คอยปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองเพียงเพราะอีกฝ่ายหรือตัวเขาเป็นผู้ชาย  เรื่องอะไรเขาต้องเสียเวลาไปกับอะไรพรรค์นั้นด้วย  ในเมื่อเขาเจอคนที่แสนดีแล้วจะผลักไสไปทำไม  หัวใจเขาเองเขาย่อมรู้ดี  เรื่องที่จะทำให้มันเจ็บปวดอย่าได้คิด  เขาน่ะรักตัวเองเป็นที่สุด  และเขาคนที่รักตัวเองกำลังแบ่งปันความรักให้ใครอีกคนย่อมต้องทำให้อีกฝ่ายรับรู้  แล้วก็นะ...

โกเมนคิดว่ารัชพลเองก็ต้องชอบเขามากแน่ๆ  เขามั่นใจ!

เพราะอะไรน่ะหรือ?

เพราะจากที่ผ่านไง  มีใครบ้างที่จะดูแลผู้ชายแปลกหน้าอย่างที่รัชพลทำกับเขา

ยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข  ชายหนุ่มฮัมเพลงพลางอาบน้ำด้วยความรู้สึกเป็นเบิกบาน  หัวใจเขาเต้นแรงมาก  นึกถึงว่าวันพรุ่งนี้รัชพลตามไปดูเขาทำงานก็ยิ่งตื่นเต้น  อยากให้รัชพลได้เห็นเขาในมุมที่ต่างออกไป  อยากให้เห็นว่าเขาเองก็มีมุมที่หล่อ  เท่ห์และดูดีมากๆ  อยากให้รัชพลชอบเขาอีกเยอะๆ  ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี

“พี่พล”

“หืม?”  ท่ามกลางความมืด  รัชพลผงกหัวขึ้นมองคนที่เอ่ยเรียก  ฝาแฝดนอนตรงกลาง  เขานอนด้านบนฝั่งหัวเตียงส่วนโกเมนนอนด้านท้ายเตียง  คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จสวมชุดนอนแล้วเอนกายหันหน้ามาทางเขา

“ขอบคุณนะ”

“?”

“นอนเถอะ  ราตรีสวัสดิ์นะครับ  อ้อ  อย่าลืมปลุกผมด้วยนะ”

“เอ๊ะ กี่โมง?”

“ตีห้า”  รัชพลลุกขึ้นควานหาโทรศัพท์มือถือมากดตั้งเวลาปลุก  ปรกติอยู่บ้านแทบไม่ต้องใช้ของพวกนี้ช่วยปลุก  แต่นี่ต่างบ้านต่างที่เขาไม่คุ้นชิน  อีกอย่างเดินทางมาตลอดทั้งวันโกเมนที่เป็นคนขับรถคงจะเพลียมาก  ดังนั้นเขาต้องคอยช่วยดูแลอีกฝ่าย

“ราตรีสวัสดิ์”  รัชพลเอ่ยกับคนท้ายเตียงแล้วล้มตัวลงนอน

ท่ามกลางความมืดโกเมนยังคงยิ้มด้วยหัวใจที่เต้นในจังหวะแปลกไปกว่าเดิม




โปรดติดตามตอนต่อไป



สวัสดีค่ะ 
หวังว่าคนที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้จะมีรอยยิ้มและได้รับความรู้สึกอิ่มเอมใจนะคะ  ตอนที่ทรายคิดจะแต่งเรื่องนี้นั้นเป็นตอนที่ ในหลวง ร.9 ทรงสวรรคตพอดี  ตอนนั้นคิดว่าอยากเอาสิ่งที่ท่านทรงสอนมาบวกกับสิ่งที่เรารักเราชอบ  จึงมีนิยายเรื่องรักพอเพียงขึ้นมาค่ะ  ทรายแต่งด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วย ‘ความหวัง’ คือ  เมื่อมีคนเข้ามาอ่านแล้วรู้สึกมีความหวัง  มีแรงบันดาลใจหรืออะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เรารักและคิดถึงสิ่งที่ท่านทรงสอนเรามา  ถ้าหากนิยายเรื่องนี้ทำให้ทุกคนที่อ่านมีความสุข  สดชื่นและอิ่มเอมใจรวมทั้งได้สาระเล็กๆ น้อยๆ ที่ทรายสอดแทรกเข้าไป  ทรายก็ดีใจแล้วค่ะ
ขอให้ความสุขในการอ่านนะคะ
คิดถึง ^^
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 15-07-2017 01:32:23
อ่านแล้วอบอุ่นมากค่ะ~ :mew3:
พี่พลโดนรุกหนักเเน่เลยยย :hao7:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 15-07-2017 05:08:51
มีความเป็นครอบครัว อบอุ่น ละมุนละไมที่สุด  :mew1:

การบรรยายเกี่ยวกับอาหารหรือขนมที่รัชพลทำจากพืชผลไม้ในสวนแต่ละอย่างดีมากเลยค่ะ เรียบง่าย แต่มีคุณค่า เราชอบมาก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 15-07-2017 05:13:17
โถ รู้ตัวเสียทีนะ อ้ายเราก็นึกว่าโกเมนรู้ตัวอยู่แล้วเสียอีก ขยันหยอดขยันตอดขนาดนั้น ฮา
ดูท่าไปเมืองกรุงคราวนี้คงทำใครบางคนอกหักเสียแล้วนะโกเมน
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 15-07-2017 06:27:26
พี่พลเป็นชาวไร่ที่น่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 15-07-2017 07:29:44
อะไรเนี่ย โกเมนเพิ่งจะรู้สึกตัวเหรอ คิดว่ารู้ตั้งนานแล้วซะอีก ช้าอะไรปานนี้
ตีเนียนเป็นครอบครัวเดียวกับเขาตลอดเลยนะ ลูกอย่างนั้น ลูกอย่างนี้ แหม  :o8:
สงสารคุณนันท์เหมือนกัน ดีกับโกเมนขนาดนี้ ขอคู่ให้คุณนันท์หน่อยค่า
เมื่อโกเมนรู้ตัวแล้ว พี่พลเตรียมตัวเตรียมใจให้ดี โกเมนรุกหนักแน่ค่ะ 555
ชอบเรื่องนี้มาก ๆ ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 15-07-2017 08:33:14
อยากอ่านต่อๆๆๆๆๆๆ >\\\\\\\\\<
พอโกเมนรู้ใจตัวเองแล้ว จะต้องหวานขึ้นอีกแน่นอนเลยอ่ะ!!
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-07-2017 10:23:50
หวังว่าจะไม่มีดราม่านะครับ มันบีบหัวใจ อยากให้พี่พลกับโกเมนอยู่ด้วยกันนานๆ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 15-07-2017 14:45:44
ละมุนตลอด
รู้ใจตัวเองแล้วน่ะโกเมน พี่พลหูแดงตลอด อิอิ
รอโกเมนโชว์ความเท่ห์ ฮ่าๆๆๆๆ

คุณนันท์ไม่ทันแล้ว เดี่ยวก็เจอคู่
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-07-2017 16:08:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-07-2017 19:54:28
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 15-07-2017 21:57:37
รู้ตัวแล้วสินะโกเมน :-[
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: swoooaa ที่ 15-07-2017 22:15:17
อยากเห็นโกเมนรุกเต็มที่จัง   :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 16-07-2017 01:10:06
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 16-07-2017 02:19:35
วั๊ยตัยแล้ว :ling1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 16-07-2017 11:09:17
ฟินค่ะฟิน
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 17-07-2017 03:16:28
หายไปนานคิดถึงงงง
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 19-07-2017 08:56:29
ชอบชีวิตครอบครัวนี้จัง
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 20-07-2017 19:45:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 31-07-2017 01:01:00


รักพอเพียง  ตอนที่ 12



รัชพลเดินลงบันไดตามหลังฝาแฝด  หลังจากปลุกโกเมนฝ่ายนั้นก็คว้าผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำห้องผู้จัดการขณะที่รัชพลก็รีบให้เด็กๆ ล้างหน้าแปรงฟัน  พวกเขาสามพ่อลูกเปลี่ยนเสื้อผ้ารวดเร็วลงมาชั้นล่างก็ยังช้ากว่าโกเมนอยู่ดี

“อรุณสวัสดิ์เด็กๆ  มานั่งเร็ว  วันนี้มีข้าวต้มหมูนะ  โอวันตินกับปาท่องโก๋  แล้วก็นี่กาแฟของพี่พลครับผม”  โกเมนยกอาหารเช้ามาวางบนโต๊ะ  จับเด็กๆ นั่งบนเก้าอี้ตามด้วยจับบ่ารัชพลให้นั่งใกล้เก้าอี้ตัวเอง  ครู่หนึ่งพี่ตุ่นก็ลงมาจากชั้นบน

“หืม  ข้าวต้มหมู  ใครทำน่ะ?”

“ผมเอง”  โกเมนยิ้มแฉ่ง

“นายทำ?”  ผู้จัดการร่างท้วมเบิกตากว้าง  คล้ายไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง  “กินได้ใช่ไหม?”

“กินได้ค่ะ  อาโกเมนทำข้าวต้มหมูอร่อยนะคะ”  เด็กหญิงยู่ปาก  คุณอาคนนี้พูดเหมือนอาโกเมนของเธอทำอะไรไม่เป็นอย่างนั้นแหละ    พี่ตุ่นพยักหน้า  สายตายังคงจับจ้องชามข้าวต้มไม่ละ  โกเมนหัวเราะขำก่อนจะเลื่อนถาดเครื่องปรุงมาให้  ผู้จัดการร่างท้วมชงกาแฟให้ตัวเองก่อนจะหันมาถามโกเมนว่าจะให้ชงให้ด้วยหรือเปล่า  โกเมนสั่นหัว  ชายหนุ่มลุกขึ้นชงของตัวเอง  เป็นกาแฟคั่วบดกับน้ำผึ้งที่ไหว้วานให้แม่บ้านออกไปซื้อมาแต่เช้ามืด  แน่นอนว่าของรัชพลก็เป็นแบบเดียวกัน

“....”  พี่ตุ่นขมวดคิ้วมองแก้วกาแฟของรัชพลนิ่งแล้วก้มลงมองแก้วกาแฟตัวเอง  โกเมนไม่เคยชงกาแฟให้เขาเลยนะ!

“ปรกติอยู่ที่บ้านผมก็ชงแบบนี้แหละ  พี่ตุ่นรู้ไหมพี่พลน่ะปลูกต้นกาแฟด้วยนะ  แต่ผมเป็นคนตากแล้วก็คั่วบดเอง”  โกเมนเห็นสายตาของผู้จัดการแล้วอธิบาย

“?”  พี่ตุ่นขมวดคิ้วแน่นขึ้น  นี่ถึงขนาดกล้าใช้โกเมนของเขาทำงานแบบนี้เลยหรือ?

“ตอนแรกนะพี่พลก็ทำเองแหละ  ขนาดไม่รู้ว่ากาแฟสดทำยังไงยังพยายามทำให้ผมดื่ม  แต่หลังๆ ผมแย่งพี่พลทำเอง  อยากให้พี่พลดื่มกาแฟอร่อยๆ  พี่ตุ่นอยากลองชิมที่ผมทำไหม?”  ประโยคสุดท้ายชายหนุ่มเอ่ยถามเพราะเห็นสายตาตัดพ้อน้อยใจของผู้จัดการ  ไม่อยากให้คนที่เขาเคารพรักเหมือนพี่น้องไม่พอใจรัชพล  ผู้จัดการร่างท้วมพยักหน้า  โกเมนจึงลุกขึ้นไปชงแก้วใหม่มาให้

“ถ้าไม่เติมน้ำผึ้งก็ลองฝานพวกเลม่อนเป็นแผ่นบางๆ ใส่ลงไปก็อร่อยนะครับ”  รัชพลเอ่ยบอก

“หืม?”

“ผมเคยลองทำ  โกเมนบอกว่าอร่อย  อีกอย่างมันจะช่วยลดความขมของกาแฟทำให้ดื่มง่ายขึ้น”  สูตรนี้รัชพลจำมาจากคุณพฤกษ์ตอนไปซื้อขี้วัวที่ฟาร์ม

“ไว้พรุ่งนี้ผมจะชงให้พี่ดื่มนะ  วันนี้เรารีบกินกันเถอะ  อีกเดี๋ยวรถตู้ที่คุณนันท์ส่งมารับคงจะมาถึงแล้ว”


โกเมนลงจากรถก็ฝากให้พี่ตุ่นคอยดูแลรัชพลและฝาแฝด  ส่วนตัวเองก็เข้าไปพบโจชัวผู้เป็นเจ้าของโปรเจกคราวนี้  โจชัวเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้ายี่ห้อดังของต่างประเทศและในไทยเองก็มีชื่อมากเช่นกัน  โกเมนเคยร่วมงานกับอีกฝ่ายตอนที่เข้าวงการใหม่ๆ  ตอนนั้นเขายังเป็นเพียงเด็กน้อยที่เอาแต่ใจ  โจชัวเคยให้เขาเป็นนายแบบเสื้อผ้าตัวเองอยู่หลายปีจนเขามีชื่อติดอันดับในแบรนด์ของฝ่ายนั้นในต่างประเทศและแน่นอนว่ามันทำให้เขามีชื่อที่นี่ด้วย  จากนั้นเขาไม่มีเวลาไปรับงานให้อีกเพราะงานทางฝั่งนี้ล้นมือ

โกเมนเข้าไปคุยคอนเซปงานกับโจชัวไม่นานก็ออกมาพบปะทีมงานซึ่งมีทั้งคนเก่าที่คุ้นหน้าและคนใหม่ที่ไม่คุ้นเคย  หากไม่เป็นอุปสรรคเพราะทั้งหมดเป็นทีมงานที่โจชัวขนมาเอง  มีทีมงานคนไทยไม่กี่คนที่ทางอภินันท์ส่งมา  บางคนเป็นฟรีแลนซ์ที่ถูกจ้างมาโดยเฉพาะ  ส่วนอภินันท์เองตามมาดูงานในช่วงบ่าย

“นี่!  พวกเธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร หึ  ที่นี่ไม่ให้คนนอกเข้ามานะ!”  ช่างแต่งหน้าคนหนึ่งที่มาถึงทีหลังเอ่ยเสียงดุเมื่อจู่ๆ ก็มีคนวิ่งมาชนเขาเต็มแรง  เงยหน้าขึ้นมาจึงเห็นเด็กสองคนที่วิ่งชนเขา

“พวกเราขอโทษค่ะ  แต่ว่าน้องชายหนูปวดฉี่มากเลยจะรีบไปเข้าห้องน้ำ”  เด็กหญิงยกมือไหว้ขอโทษ  ช่างแต่งหน้าคนนั้นพยักหน้ารับ  คิ้วเรียวที่ขมวดค่อยคลายลง  เด็กมารยาทน่ารักขนาดนี้ใครจะโกรธลง

“แล้วนี่พวกหนูเป็นลูกเต้าใครล่ะคะถึงมาเดินแถวนี้?”

“พวกหนูมากับอาโกเมนค่ะ”

“โกเมน  รัตนนันท์น่ะหรือ?”  ช่างแต่งหน้าเบิกตาโต  มองสำรวจเด็กสองคนตรงหน้าอย่างละเอียดทันที  เสื้อผ้าดูธรรมดาหากผมเผ้าหน้าตาสะอาดสะอ้านมาก  หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักทั้งสองคน

“ใช่ค่ะ  วันนี้อาโกเมนมาทำงานแต่พาพวกหนูกับพ่อพลมาด้วยเพราะจะได้มาเที่ยว”

“พ่อพล?”

“พ่อพลเป็นพ่อของพวกหนูค่ะ  ว่าแต่คุณน้าคนสวย  รู้ไหมคะว่าห้องน้ำอยู่ไหน  น้องชายหนูท่าทางจะทนไม่ไหวแล้วค่ะ”  เด็กหญิงทำท่าทางน่ารักหันไปมองน้องชายแล้วเงยหน้ามองช่างแต่งหน้าตาปริบๆ  ท่าทางนั้นทำให้ผู้ใหญ่ใจอ่อนยวบ

“มาทางนี้จ้ะ  น้าจะพาพวกหนูไป”

หลังจากพวกเด็กๆ ไปเข้าห้องน้ำช่างแต่งหน้าคนนั้นก็พาเด็กๆ มาส่ง  ทั้งสามคนคุยอย่างถูกคอ ช่างแต่งหน้าเอ็นดูเด็กหญิงมากเป็นพิเศษเพราะช่างพูด  หนำซ้ำยังปากหวานอีกต่างหาก  มักจะเรียกเขาว่าคุณน้าคนสวยบ้าง  คุณน้าคนเก่งบ้าง

“อาโกเมนของพวกหนูไปทำไร่หรือจ๊ะ?”

“ใช่ค่ะ  อาโกเมนเก่งมากเลยนะคะ”  เด็กหญิงพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด  “พ่อจ๋า!”  ครั้นเมื่อเห็นว่ารัชพลนั่งกระสับกระส่ายอยู่ตรงมุมห้องก็ร้องเรียกก่อนจะวิ่งเข้าไปหา

“ระวัง!”  เด็กหญิงวิ่งที่วิ่งถลาเข้าไปหาผู้เป็นพ่อสะดุดสายไฟถลาไปข้างหน้า  รัชพลวิ่งเข้ามารับลูกสาวหากแต่เขาอยู่ไกลเกินไปจึงวิ่งมาไม่ทัน  กลับกลายเป็นว่าช่างแต่งหน้าที่ตามหลังมาติดๆ คว้าตัวเด็กหญิงเอาไว้ทัน

“ระวังหน่อยซิจ๊ะสาวน้อย”

“ขอบคุณค่ะ  ว้าย!”  สายไฟที่เด็กหญิงสะดุดเป็นสายไฟของโคมไฟตัวใหญ่ที่เอาไว้ส่องตอนถ่ายรูป  มันค่อยๆ ล้มลงมาทางเด็กหญิงและช่างแต่งหน้า  ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ต่างหลับตาปี๋กอดกันแน่น

“เอ๊ะ?”  ช่างแต่งหน้าค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองเมื่อไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด  เห็นมือข้างหนึ่งจับเสาโคมไฟไว้แน่นจนเส้นเลือดปูดโปน

“ไม่เป็นอะไรกันใช่ไหมครับ?”

“คะ  คะ ค่ะ!”  เงยหน้ามองเจ้าของมือแล้วพาให้ใจเต้นตึกตัก  ช่างแต่งหน้าพยุงเด็กหญิงให้ยืนตัวตรงพลางยกมือเกี่ยวผมทัดหูด้วยท่าทางเขินอาย 

“พี่พล!”  เด็กวิ่งเข้าไปกอดขาผู้เป็นพ่อแน่นอย่างตกใจ  ชายหนุ่มก้มลงกอดพลางลูบหลังปลอบ

“คราวหลังอย่าวิ่งอย่างนี้อีกนะรู้ไหม”

“ค่ะ”  เด็กหญิงพยักหน้ารับ  ส่วนเด็กชายที่เดินตามมาทีหลังก็วิ่งเข้าไปเกาะแขนอีกข้างของผู้เป็นพ่อ

“ฟักไม่ได้วิ่งนะ”

“ครับๆ  ดีมาก”

“พ่อพล  น้าคนนั้นเป็นผู้ชายทำไมถึงพูดคะขาล่ะ?”  เด็กชายเอียงคอสงสัยพลางชี้ไปยังช่างแต่งหน้าคนนั้น  เขาเอ่ยถามสิ่งที่สงสัยทันทีที่เห็นหน้าพ่อ

“ฟัก  อย่าเสียมารยาท!”

“แต่...”

“ไม่ว่าร่างกายของคุณน้าคนนี้จะเป็นยังไงแต่จิตใจของเขาคือผู้หญิงคุณน้าคนนี้ก็คือผู้หญิง  และลูกต้องให้เกียรติเขาเหมือนผู้หญิงทุกคน!”

“ครับ”

“ขอโทษคุณน้าซะ”

“ผมขอโทษนะครับคุณน้าคนสวย”

“จ้ะ” 

“ผมขอโทษแทนลูกๆ ของผมด้วยนะครับที่เสียมารยาทกับคุณ  แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยเจ้าแฟงเมื่อครู่นี้”  รัชพลลุกขึ้นเอ่ยขอโทษและกล่าวขอบคุณคนตรงหน้าอย่างจริงใจ

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ  เด็กๆ คงสงสัยเท่านั้นเอง  ฉันชื่อพิงค์ค่ะ  เป็นช่างแต่งหน้าอิสระที่มาทำงานวันนี้”

“ผมรัชพลครับ  เป็นพ่อของฝาแฝด”  ชายหนุ่มยิ้มสวยส่งให้  พิงค์ยิ้มตอบ  เขายืนนิ่งครู่หนึ่งคล้ายรอให้รัชพลพูดต่อ  หากชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”

“ครับ”

พิงค์กัดริมฝีปากหลังจากหันหลังเดินออกมา โธ่เอ๊ย  แล้วรัชพลเป็นอะไรกับโกเมน  รัตนนันท์กันล่ะ! อุตส่าห์รอให้อีกฝ่ายแนะนำตัวเองแต่ฝ่ายนั้นดันไม่พูดต่อเสียได้

โกเมนที่แต่งตัวเสร็จเดินออกมาเข้าฉาก  เสื้อคลุมตัวใหญ่คลุมทับเสื้อตัวในที่ปลดกระดุมแหวกถึงหน้าท้องอวดกล้ามเนื้อลอนเล็กๆ รำไร  เสื้อสีดำตัดกับผิวขาวดูโดดเด่น  เรือนผมหยักศกที่ปรกติเจ้าตัวขี้เกียจตัดตอนนี้ยาวเคลียบ่ากว้าง  เรียวคิ้วเข้มพาดเฉียง  สันจมูกโด่งรับกับริมปากหยักสีแดงสด  ยามที่เจ้าตัวก้มหน้าลงเล็กน้อยพาให้คนที่มองอยู่ใจเต้นไม่เป็นส่ำกับเส้นคมของโครงหน้างดงาม  โกเมนในตอนนี้ให้ความรู้สึกก้ำกึ่งถึงความสวยงามและความหล่อเหลา  สายตาที่ก้มลงมองเบื้องล่างให้ความรู้สึกโศกเศร้าจนอยากเข้าไปกอดปลอบประโลม  ท่าทางปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในแต่ละวินาทีกับแสงแฟลตที่วูบวาบจนลืมตาแทบไม่ขึ้น  วินาทีต่อวินาทีที่ท่วงท่านั้นแสดงออกไป

โกเมนคือนายแบบ

รัชพลเพิ่งตระหนักเดี๋ยวนี้เอง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะละทิ้งงานนี้ไปนานแค่ไหน  แต่ความเป็นนายแบบหรือนักแสดงมันฝังเข้าไปในจิตวิญญาณของโกเมนนานแล้ว

โกเมนในชุดเสื้อโค้ชตัวยาว  หมวกที่ถูกจับไว้ข้างตัวกับร่มหนึ่งคันให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหา  หรือยามอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตผู้หญิงก็ให้ความรู้สึกราวกับอีกฝ่ายเป็นหญิงสาวที่หยิ่งทะนงไม่สนใจใคร  บุคลิกของโกเมนจะเปลี่ยนไปตามเสื้อผ้าที่สวมใส่  คอนเซปการถ่ายแบบคราวนี้คือเสื้อผ้าที่สวมใส่แล้วไม่สามารถแยกแยะเพศ  ยามเมื่อโกเมนใส่เสื้อผ้าผู้ชายก็หล่อเหลา  ใส่เสื้อผ้าผู้หญิงก็สวยงาม  ใส่ชุดวัยรุ่นก็ราวกับเด็กหนุ่มซุกซนคนหนึ่ง  ใส่ชุดทางการก็กลายร่างเป็นคนหยิ่งยโสทว่างดงาม

หัวใจของรัชพลเต้นแรงจนแทบกระดอนออกมานอกอก

เหมือนคราวที่เขาได้เห็นรูปโกเมนครั้งแรก

ครั้งนั้นหัวใจเขาก็เต้นแรงแบบนี้   

สายตาที่มองกล้องสามารถขโมยหัวใจของผู้ที่มองอยู่ได้ในพริบตา

ช่วงพักเบรกโกเมนไม่ได้มาหารัชพลกับฝาแฝดเพราะโดนดึงตัวไว้ให้ดูภาพกับตากล้อง  มีบางภาพที่ยังไม่ถูกใจโจชัวจนต้องเซตติ้งภาพใหม่หลายหน  ส่วนช่วงบ่ายที่แดดกำลังแรงกองจะถูกย้ายไปด้านนอกสตูดิโอเพื่อถ่ายความเป็นธรรมชาติของนายแบบ  จากนั้นจึงค่อยเลือกภาพที่ดีที่สุดออกมา  รัชพลตัดใจไม่อยู่ดูต่อเพราะต้องพาฝาแฝดออกไปกินข้าว

“คุณพล?”

“อ้าว คุณพิงค์?”

“พิงค์ขอนั่งด้วยนะคะ”  ช่างแต่งหน้าถือวิสาสะนั่งข้างเด็กหญิง  พลางล้วงขนมออกมาจากกระเป๋าเสื้อส่งให้ฝาแฝด  “เอ๊ะ  เด็กสองคนนี้หน้าเหมือนกันมากเลย”

“ฟักกับแฟงเป็นฝาแฝดน่ะครับ”

“ว้าย ดีจัง”  พิงค์ยกยิ้ม  “คุณโกเมนหายไปจากวงการนานมาก  พิงค์คิดว่าเขาจะไม่กลับมาแล้วเสียอีก”  ช่างแต่งหน้าคนนี้ไม่เสียเวลาเวิ่นเว้อเอ่ยเข้าเรื่องทันที รัชพลจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง  นึกถึงโกเมนที่ตอนนี้คงกำลังนั่งดูภาพอยู่กับคุณโจชัวแล้วถอนหายใจ

“ถ้าคุณโกเมนไม่โดนใครบางคนกลั่นแกล้งป่านนี้เขาคงกลายเป็นดาราเป็นนายแบบอันดับหนึ่งไปแล้ว”

“โดนกลั่นแกล้ง?”  พิงค์เอียงคอราวกับไม่รู้เรื่องราวของโกเมนก่อนที่อีกฝ่ายจะหายหน้าหายตาไปจากวงการ

“คุณพิงค์น่าจะทันตอนที่คุณโกเมนเข้าวงการใหม่ๆ”

“ใช่ค่ะ  ตอนนั้นคุณโกเมนน่ารักน่ากินมากกกก  อุ๊ย  ขอโทษค่ะ”  พิงค์ยิ้มแหยเมื่อเผลอหลุดความในใจออกมา  รัชพลเพียงขยับมุมปากเป็นรอยยิ้มเบาบาง  ใช่ซิ  ตอนนั้นโกเมนยังเป็นหนุ่มน้อยอยู่เลย  ใบหน้าที่สมบูรณ์แบบ  รอยยิ้มเจิดจ้า  ใครๆ ก็อยากครอบครองเขาทั้งนั้น

“เมื่อสองปีก่อนคุณโกเมนมีข่าวเรื่อง...เอ่อ  กับคุณอภินันท์”

“อ๊ะ  ใช่ๆ”  พิงค์ส่งเสียงตอบรับก่อนจะก้มลงกระซิบ  “เมื่อครู่คุณอภินันท์เพิ่งมาถึงค่ะ  เห็นเข้าไปหาคุณโกเมนกับคุณโจชัวด้วย”

“....ข่าวคราวนั้นคุณโกเมนถูกจัดฉาก”

“อะไรนะ?”  นี่เขาคิดว่าโกเมนกับอภินันท์เป็นอย่างนั้นกันจริงๆ เสียอีก  ก็อภินันท์ไม่เคยแก้ข่าวอะไรเลยนี่นา

“คุณพิงค์จำข่าวว่าคุณโกเมนเคยถูกทาบทามให้เป็นตัวเอกของภาพยนตร์โปรเจกยักษ์ใหญ่ของค่าย...ได้หรือเปล่าครับ”

“จำได้ค่ะ  ครั้งนั้นทุกคนรอคอยที่จะได้เห็นคุณโกเมนบนจอเงินแต่จู่ๆ ตัวเอกก็ถูกเปลี่ยนกะทันหัน  มีข่าวว่าโกเมนเรื่องมากนิสัยเสียทำให้ทีมงานปวดหัวผู้กำกับเลยเปลี่ยนตัว”

“ครามจริงแล้ว  ผู้กำกับคนนั้นเขา...”

“เขา?”  พิงค์ก้มลงจนหน้าแทบชิดกับรัชพล  เพราะฝ่ายนั้นกระซิบเสียงเบาลงเรื่อยๆ

“ผู้กำกับคนนั้นจะปล้ำคุณโกเมน  เห็นว่าถึงขนาดวางยาเลยด้วย  โชคดีที่คุณโกเมนหนีมาได้  ผู้กำกับคนนั้นเจ็บใจเลยปลดคุณโกเมนออก  แค่นั้นไม่พอยังตามระรานจนคุณโกเมนโดนยกเลิกงานอื่นๆ ตามมา  กลายเป็นดาราตกกระป๋องตั้งสี่ปี”

“....”  พิงค์ขมวดคิ้วเมื่อได้ฟัง  เขายืดตัวขึ้นแล้วจ้องมองหน้ารัชพล  “ทำไมคุณพลรู้ดีจัง?”

“คุณพิงค์ก็รู้ว่าเมื่อสองปีก่อนคุณโกเมนจู่ๆ ก็กลับมาโด่งดังเพราะคุณอภินันท์ช่วยไว้”  รัชพลไม่ได้ตอบคำถามของพิงค์  หากเขาค่อยๆ เอ่ยเล่าต่ออย่างใจเย็น  พิงค์ฟังแล้วคิด  “คุณโกเมนที่กลับมาเจิดจรัสและงดงามอีกครั้ง  ทุกอย่างกำลังไปได้สวยแต่กลับมีภาพฉาวหลุดมาจนทำให้คุณโกเมนออกจากวงการไปอีกรอบ”

“ตอนนั้นคุณโกเมนก็น่ากิน  อุ๊ย  ขอโทษค่ะที่คิดดังไปหน่อย”  รัชพลไม่ถือสา เขาพูดประโยคหนึ่งออกมาให้คนฟังตาโต

“ถ้าฉันไม่ได้ก็อย่าหวังว่าคนอื่นจะได้”

“อ๊ะ!”  พิงค์ตบมือแปะ

ไม่ว่าจะเป็นโกเมนตอนเข้าวงการใหม่ๆ  หรือโกเมนเมื่อสองปีก่อน  จะตอนไหนชายหนุ่มก็มีเสน่ห์ล้นเหลือ  จากเด็กหนุ่มเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มทุกช่วงเวลาโกเมนล้วนพาให้ผู้คนหลงใหล  มันก็ไม่แปลกหากจะมีคนที่คลั่งไคล้ชายหนุ่มมากขนาดนั้น  ผู้กำกับคนนั้นพิงค์เองก็ได้ยินข่าวมาไม่น้อยว่ามักจะล่อหลอกเด็กหนุ่มที่เพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ ไปหลายคน  หากหนึ่งในนั้นจะมีโกเมนรวมอยู่ด้วยก็ไม่แปลก  เว้นเสียแต่ว่าโกเมนไม่ใช่ลูกไก่ที่จะยอมง่ายๆ จึงถูกเล่นงานเอา

“เมื่อสองปีก่อนคุณโกเมนหนีไปพักใจที่บ้านคุณตาของเขา  ผมเลยรู้เรื่องพวกนี้  น่าสงสารเขานะครับ  อนาคตที่กำลังรุ่งโรจน์ต้องมาเสียเพราะคนหื่นกามคนหนึ่ง”  รัชพลตีหน้าเศร้า

“นั่นซิน้า~”  พิงค์ถอนหายใจ   

“คุณพลบ้านอยู่ใกล้คุณโกเมนหรือคะ?”

“ใช่ครับ  คุณตาคุณโกเมนเคยช่วยเหลือผมไว้มาก”

“ตอนนี้คุณพลกับคุณโกเมนคงสนิทกันมาก?”

“ก็ระดับหนึ่งครับ”  รัชพลไม่ได้พูดต่อ  เขาเหลือบมองช่างแต่งหน้าแล้วหรุบตาลงต่ำ  เอ่ยขอโทษอีกฝ่ายในใจ  การที่เขาเอาเรื่องที่ไม่ควรบอกใครของโกเมนมาเล่าแบบนี้มันทำให้เขาละอายใจเหลือเกิน  แต่มันจำเป็นถ้าหากว่าโกเมนคิดอยากจะกลับเข้าวงการอีกครั้งโกเมนจะต้องไม่มีคนเลวคนนั้นมาขวางทางอีก  การกระจายข่าวความชั่วร้ายของผู้กำกับคนนั้นต้องขยายวงกว้าง  และการจะกระจายคือต้องอาศัยพิงค์ให้เป็นกระบอกข่าว  เขาเห็นพิงค์เดินออกมาเขาจึงดึงฝาแฝดเดินตามหลังอีกฝ่ายแล้วแสร้งทำเป็นบังเอิญให้ฝ่ายนั้นมาเจอ

สิ่งที่รัชพลวางแผนนั้นประสบความสำเร็จในอีกสองเดือนหลังจากนั้นเมื่อนิตยสารที่โกเมนถ่ายแบบวางแผง  การถ่ายแบบของโจชัวเป็นงานของต่างประเทศที่มาถ่ายที่นี่เท่านั้นเพราะโกเมนไม่สะดวกเดินทางไปต่างประเทศ  ผู้กำกับคนนั้นจึงเข้ามาแทรกแซงได้ลำบาก แน่นอนว่าเมื่อความจริงเปิดเผยโกเมนก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง  แต่ไม่มีใครสามารถติดต่อให้เขากลับมารับงานได้อีก  นั่นเป็นเรื่องหลังจากนี้อีกหลายเดือน


*********


หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่11 [15-7-60]P.4
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 31-07-2017 01:09:16



“อะไรกัน  จะกลับไปแล้วหรือ?”  พี่ตุ่นผุดลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจเมื่อโกเมนบอกว่าพรุ่งนี้จะกลับ

“พอดีผมว่าจะพาฝาแฝดไปเที่ยวทะเลน่ะครับ”

“ถ้าอย่างนั้นให้พวกเราไปด้วยซิครับ”  อภินันท์ยิ้มกว้าง  หลายวันมานี้เขามาหาโกเมนแทบทุกวัน  วันไหนอยู่ดึกได้ก็อยู่  อยู่ไม่ได้ก็โทรศัพท์มาคุย  แม้จะแค่หนึ่งหรือสองนาทีก็ขอให้ได้คุยได้ยินเสียงของโกเมนเป็นพอ

“คุณนันท์  แต่ว่า...”

“ผมมีบ้านพักติดทะเลอยู่  ไปที่นั่นเด็กๆ ก็จะได้เล่นอย่างสนุกสนานคุณเองก็ไม่ต้องคอยหลบสายตานักข่าวกับคนอื่นๆ”

“อีกอย่างฉันยังไม่หายคิดถึงนายเลยนะโกเมน”  ผู้จัดการร่างท้วมน้ำตาคลอ

“แบบนั้นก็ดีนะครับ”  รัชพลเอ่ยพลางยิ้ม  โกเมนมองหน้ารัชพลแล้วขมวดคิ้วก่อนจะถอนหายใจแล้วพยักหน้าให้อภินันท์กับผู้จัดการ 

ทั้งหมดจึงตกลงไปพักบ้านพักของอภินันท์ตามที่เสนอในบ่ายวันนั้น  โกเมนขับรถของตัวเองนั่งไปกับรัชพลและฝาแฝด  ส่วนอภินันท์นั่งคู่ไปกับพี่ตุ่น  อภินันท์โทรศัพท์ให้แม่บ้านจัดเตรียมที่พักกับอาหารทะเลไว้  แม้พวกเขาจะมาถึงค่ำแล้วแต่อาหารและเตากลับถูกเตรียมเอาไว้พร้อมสรรพ

“พี่พล  ทำน้ำจิ้มให้หน่อยซิ”  โกเมนเดินกลับมาหลังเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บในห้องพัก  รัชพลพักกับลูกๆ ห้องหนึ่ง  โกเมนนอนห้องฝั่งตรงข้าม  อภินันท์นอนห้องติดกันกับโกเมน  ส่วนพี่ตุ่นนอนห้องติดกับรัชพล

“มีแม่บ้านเตรียมไว้ให้แล้วนายจะกวนคุณพลทำไม?”  พี่ตุ่นเอ่ยอย่างขัดเคือง  โกเมนน่ะ  อะไรๆ ก็พี่พล  พี่พลอยู่แทบทุกคำทุกประโยค  ทำตัวเหมือนเด็กติดแม่ไม่มีผิด!

“ไม่เป็นไรครับคุณตุ่น  ผมทำได้  ไม่ยากเย็นอะไรแปบเดียวก็เสร็จ”

“เห็นไหม  พี่พลของผมน่ะใจดีที่สุด”  โกเมนหัวเราะร่าพลางยักคิ้วใส่ผู้จัดการ  พี่ตุ่นแยกเขี้ยวใส่ชายหนุ่ม  เหลือบสายตามองรัชพลที่ตอนนี้หูแดงทั้งสองข้างแล้วถอนหายใจ

“งั้นฉันไปเตรียมเครื่องดื่มนะ”

“อาโกเมนๆ พวกเราลงน้ำทะเลได้ไหมครับ?”  ฟักวิ่งเข้ามากอดขาโกเมนพลางเงยหน้าถามด้วยสายตามีความหวัง

“วันนี้คงไม่ได้แล้วครับ  มันมืดแล้ว  เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยเล่นนะ”

“ว้า~”  เด็กชายหน้าม่อย  โกเมนหัวเราะกับท่าทางนั้นก่อนจะก้มลงอุ้มเจ้าตัวเล็ก

“เดี๋ยวพรุ่งนี้อาโกเมนเล่นเป็นเพื่อนนะครับ”

“เย้! แล้วพ่อพลจะเล่นด้วยไหมครับ?”

“พ่อ...”

“พ่อพลก็เล่นครับ”  โกเมนชิงตอบทำเอารัชพลถลึงตามอง  “ถ้าพ่อพลไม่ยอมเล่นอาโกเมนจะอุ้มพ่อพลลงทะเลเอง”  โกเมนว่าพลางส่งสายตาวิบวับคนตั้งท่าปฏิเสธ

“งั้นอาโกเมนอุ้มแฟงด้วย”  เด็กหญิงที่วิ่งเข้ามาได้ยินประโยคท้ายเอ่ยท้วงพร้อมเสียงหัวเราะ

“ได้ๆ  อาโกเมนจะอุ้มทั้งพ่อทั้งลูกเลย”

“คุณ!”  รัชพลนึกอยากจะขว้างมะนาวในมือใส่คนพูด  พูดอะไรออกมาต่อหน้าเด็กๆ แบบนี้!  แล้วมันหมายความว่ายังไงกันถึงจะมาอุ้มเขาเนี่ย!

กุ้งเผาตัวโต  ปลาหมึกย่าง ปูม้าสีสวยค่อยๆ ถูกจัดลงถาด ใครอยากกินอะไรก็เลือกหยิบอย่างนั้น  โกเมนหยิบกุ้งแกะเปลือกวางลงในจานสองแฝดจนพูน  เด็กสองคนส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวดีใจ  มือเล็กกำลังจะหยิบกุ้งเข้าปากหากโกเมนยกจานหนีเสียก่อน

“พี่พล!”

“หืม?”  รัชพลละสายตาจากปลาหมึกบนเตาหันมามอง

“ฝาแฝดแพ้อาหารทะเลหรือเปล่า?”  โกเมนที่เพิ่งนึกได้สบถด่าตัวเองในใจว่าทำไมถึงเพิ่งมานึกได้ตอนนี้

“ไม่แพ้นะ  กินได้”  โกเมนพรูลมหายใจแล้วจึงวางจานกุ้งลง  ฝาแฝดหน้ามุ่ยใส่ชายหนุ่มอย่างพร้อมเพรียง

“ขอโทษๆ  เอ้า  เดี๋ยวอาแกะปูให้เพิ่มละกัน”  โกเมนเอ่ยขอโทษเด็กๆ 

“คุณโกเมนเองก็ทานบ้างเถอะครับ”  อภินันท์แกะกุ้งแกะปูใส่จานโกเมน  คะยั้นคะยอให้ชายหนุ่มกินอะไรบ้าง  ไม่ใช่เอาแต่ดูแลเด็กแบบนั้น

“คุณนันท์ทานเลยครับไม่ต้องห่วงผม”  โกเมนหันมาตอบ  ไม่ได้หยิบอาหารตรงหน้ามากิน  อภินันท์ถอนหายใจ  พี่ตุ่นมองภาพตรงหน้าแล้วละเลียดกุ้งเผาในมือตัวเอง  หมดก็หันไปหยิบหอยมาแกะแล้วครู่หนึ่งก็เหลือบมองรัชพลที่อาสาปิ้งย่างมือเป็นระวิง  เขากำลังจะอ้าปากเรียกให้ฝ่ายนั้นหยุดพักมากินอะไรบ้างร่างสูงของโกเมนก็ลุกพรวด

“พี่พล  พักก่อนเถอะ  เดี๋ยวผมทำต่อเอง”

“ไม่เป็นไร  คุณไปกินเถอะ”

“ไม่เอาอ่ะ  ถ้าพี่ไม่กินผมก็ไม่กิน”  โกเมนแย่งอุปกรณ์ในมือรัชพลมาพลิกอาหารบนเตา  รัชพลถอนหายใจ  จะบอกยังไงดีว่าเขาเกรงใจอภินันท์กับพี่ตุ่นจึงไม่อยากไปร่วมโต๊ะด้วย  ดูก็รู้ว่าทั้งสองคนนั้นไม่ค่อยชอบหน้าเขา  โดยเฉพาะคุณอภินันท์  “พี่ถือหน่อย”  โกเมนยื่นที่คีบคืนรัชพลก่อนจะเดินกลับไปเอาจานตัวเองมาถือไว้  ในจานที่กุ้งและปูที่อภินันท์แกะให้จนเกือบเต็มจาน  โกเมนหยิบกุ้งจิ้มน้ำจิ้มแล้วยื่นจ่อปากรัชพล

“เอ๊ะ?”

“กินซิ”

“นี่คุณนันท์แกะให้คุณนะ”  รัชพลเหลือบมองคนที่แกะกุ้งพวกนี้แล้วรู้สึกเกรงใจ

“งั้น...”  โกเมนวางจานในมือลงแล้วหยิบกุ้งตัวใหม่มาแกะอย่างรวดเร็ว  จิ้มน้ำจิ้มแล้วจ่อปากรัชพลแบบเมื่อครู่

“ผมกินเองดีกว่า”  รัชพลแย่งกุ้งในมืออีกฝ่ายมากินเอง

“ว้า~ อดป้อนเลย”  โกเมนแสร้งทำน้ำเสียงผิดหวังก่อนจะยิ้มกว้างแล้วหันไปหยิบกุ้งตัวใหม่มาแกะ

“วันนี้เป็นอะไรไปเนี่ย?”  รัชพลเลิกมองท่าทางของคนด้านข้าง  อันที่จริงโกเมนท่าทางแปลกๆ มาหลายวันแล้วตั้งแต่เข้ากรุงเทพฯ มา

“เป็นอะไรคืออะไร?”

“ก็มาเอาอกเอาใจเป็นพิเศษ”

“ก็อยากแสดงออกให้รู้ไง”

“รู้อะไร?”

“รู้ว่า...”  โกเมนขยับเข้าหายื่นหน้าเข้าใกล้  รัชพลเบี่ยงตัวหลบโดยอัตโนมัติ

“คุณโกเมน!”

“ครับ?”  ร่างสูงหันไปหาคนเรียก  อภินันท์เบิกตามองมาทางเขาอย่างตกใจ

“คือผม... อยากจะถามว่าคุณจะดื่มเบียร์ไหม?”

“เอ  พี่พลดื่มไหม?”  รัชพลส่ายหน้า  เขาไม่อยากดื่มอะไรพวกนี้ต่อหน้าลูก  “งั้นผมไม่ดื่มดีกว่าครับ”  โกเมนหันมาตอบอภินันท์

“นายก็ดื่มเป็นเพื่อนคุณนันท์หน่อยซิโกเมน  จะทิ้งให้เขาดื่มคนเดียวหรือไง?”  พี่ตุ่นขมวดคิ้ว  พักบ้านเขา  อาหารเขาก็เตรียมให้  ดื่มเป็นเพื่อนเขาแค่นี้ไม่เห็นเป็นอะไรเลย  อีกอย่างคนอยู่เต็มบ้าน  อภินันท์ก็ไว้ใจได้  ไม่ต้องกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยหรอก

“คุณไปดื่มเป็นเพื่อนคุณนันท์เถอะ”

“ก็ได้”  โกเมนถอนหายใจกลับมานั่งที่เดิมแล้วดื่มเป็นเพื่อนอภินันท์

จนเวลาล่วงเข้าวันใหม่ไปเกือบครึ่งชั่วโมง  พี่ตุ่นขอตัวกลับห้องไปได้ครู่ใหญ่แล้ว  ส่วนฝาแฝดถูกรัชพลพาเข้านอนตั้งแต่สี่ทุ่ม  ตอนนี้จึงเหลือเพียงโกเมนและอภินันท์ที่ยังคงนั่งจิบเบียร์ไปเรื่อยๆ

“คุณโกเมน”

“ครับ?”  อภินันท์วางแก้วในมือลง  เขาสังเกตเห็นว่าโกเมนมองเข้าไปในตัวบ้านบ่อยๆ ก็พลันหงุดหงิดขึ้นมา

“ง่วงแล้วหรือครับ?”

“ก็..ยังครับ”

“ผมมีเรื่องอยากจะบอกคุณ”  อภินันท์คว้ามือคนตรงหน้ามากุมไว้  โกเมนนั่งนิ่ง  เขารู้ว่าอภินันท์เป็นเกย์และแน่นอนว่าเขาไม่ได้รังเกียจอีกฝ่ายในเรื่องนี้ แต่เขาไม่อยากถูกกุมมือไว้แบบนี้เสียหน่อย

“ครับ?”  โกเมนพยายามดึงมือให้หลุดจากการเกาะกุมนั้น

“คุณรังเกียจผมเหรอ?”  โกเมนชะงักไม่ได้ดึงมือออกอีก

“เปล่า”

“ถ้าอย่างนั้นคุณชอบผมบ้างไหม?”  ใบหน้าหล่อเหลาขยับเข้าใกล้  ดวงตาคู่สวยของอภินันท์เว้าวอนดูน่าสงสาร

“ผมว่าคุณนันท์เมาแล้ว”

“เบียร์ไม่กี่ขวดไม่ทำให้ผมเมาหรอกโกเมน  แต่ผมไม่อยากรออีกแล้ว”  อภินันท์ดึงมือโกเมนทาบบนอกซ้ายของตัวเอง  “แค่เห็นว่าข้างคุณมีใครบางคนอยู่ด้วยผมก็ไม่อยากทนรอ  ผมคิดว่าคุณรู้ว่าผมรักคุณ”

“....”  โกเมนนั่งนิ่ง  เขาจ้องตากับอภินันท์ไม่หลบหนี

“เป็นผมได้ไหมครับ?  ให้ผมดูแลคุณนะ”  ริมฝีปากบางสีอ่อนขยับเข้าใกล้  โกเมนเบี่ยงหน้าหลบก่อนจะถอนหายใจ

“ขอโทษนะครับคุณนันท์”

“...”  อภินันท์นิ่งค้างไม่ได้ขยับต่อ  หากริมฝีปากกลับวาดรอยยิ้มบิดเบี้ยว  ดวงตาคู่สวยฉายแววเจ็บปวดหรุบลงต่ำ

“ผมหวังว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”

“เพื่อน? อา  เพื่อนซินะ?”  อภินันท์ยิ้มขื่น  เขาขยับกายนั่งตัวตรงปล่อยมือของโกเมนให้เป็นอิสระ  มานั่งนึกดีๆ แล้วเมื่อสองปีก่อนโกเมนก็พูดคำนี้  ทำไมเขาถึงลืมไปได้หนอ?

“ผมไม่ได้รังเกียจคุณ  แต่ผมมีคนที่ผมคิดว่าผมกำลังตกหลุมรักเขาอยู่”

“ก็พอรู้”  อภินันท์อยากจะมองหน้าโกเมนแล้วยิ้มให้จากใจจริง  แต่ว่า...ความเจ็บปวดในอกมันมากเกินไป  เขายังบรรเทาอาการนั้นไม่ทันเลยไม่สามารถทำอย่างที่คิดได้  “ผมว่าผมคงจะเมาอย่างที่คุณพูด  ผมขอตัวไปนอนก่อนนะ” 

อภินันท์ลุกไปแล้ว  หากโกเมนยังคงนั่งอยู่ที่เดิมครู่ใหญ่  ถามว่ารู้สึกไหมกับการที่ต้องปฏิเสธคนดีๆ อย่างอภินันท์  เขารู้สึกผิดแน่นอนแต่เขามั่นใจว่าตัวเองคิดกับอีกฝ่ายแค่เพื่อน  ดังนั้นเขาต้องพูดความจริงออกไป  การให้ความหวังไปเรื่อยๆ  เป็นความใจร้ายอย่างไม่น่าให้อภัย  และเจ็บสั้นดีกว่าเจ็บยาว  เขาไม่อยากเป็นคนทำให้อภินันท์เจ็บมากกว่านี้ 

โกเมนนั่งอยู่อย่างนั้นสักพักจึงค่อยลุกเก็บกวาดโต๊ะอาหาร  เก็บอาหารสดที่เหลือเข้าตู้เย็น  ดับไฟในเตาก่อนจะเข้าห้องอาบน้ำนอน

รัชพลพิงประตูห้องไม่กล้าขยับเขยื้อน  เขาเหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าเลยเที่ยงคืนแล้วจึงออกไปดูว่าข้างนอกเก็บของเรียบร้อยหรือไม่กลับเห็นอภินันท์สารภาพรักโกเมนเสียได้  เขาไม่กล้าอยู่ฟังคำตอบของโกเมนก็วิ่งกลับเข้าห้อง

อา  ในอกมันโหวงๆ แฮะ   เจ็บหน่วงๆ ยังไงก็ไม่รู้

คืนนั้นรัชพลนอนไม่หลับทั้งคืน  เอาแต่ครุ่นคิดว่าโกเมนตอบอภินันท์ไปว่าอย่างไร  นึกๆ แล้วก็อยากเขกหัวตัวเอง  ถ้าอยากรู้ขนาดนี้ทำไมเมื่อคืนไม่แอบฟังเสียให้รู้แล้วรู้รอด


“คุณนันท์ล่ะ?”  ผู้จัดการร่างท้วมยกกาแฟขึ้นจิบเอ่ยถามโกเมนที่เดินหัวยุ่งออกมาจากห้อง

“ทำไมต้องมาถามผมล่ะ?”  โกเมนขมวดคิ้วจ้องหน้าพี่ตุ่นอย่างไม่พอใจ  พี่ตุ่นถามอย่างนี้ทำยังกับว่าเมื่อคืนเขากับอภินันท์นอนด้วยกันอย่างนั้นแหละ อ๊ะ!  ชายหนุ่มตกใจหันไปมองรัชพลที่กำลังทำขนมปังปิ้งตกใจ  พี่ตุ่นเบะปากกับกิริยาของคนตรงหน้า

“ก็เห็นว่านายอยู่ดื่มกับเขาจนดึกดื่น”

“อือ  กลับไปแล้ว”

“กลับไปแล้ว!”  พี่ตุ่นกระเด้งตัวขึ้นจากโซฟาอย่างตกใจ  รัชพลเองก็หันมามองด้วยเช่นกัน

“เขามาเคาะประตูห้องตอนเช้ามืด  บอกว่าจะกลับกรุงเทพฯก่อน  แล้วก็โทรศัพท์ให้คนมารับตั้งแต่เมื่อคืน”

“นะ  นายไปทำอะไรคุณนันท์?”  พี่ตุ่นชี้หน้าโกเมนด้วยสีหน้าตื่นๆ

“จะบ้าหรือไง?  ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นแหละ!”  โกเมนเอาเศษขนมปังปาใส่คนตรงหน้า  “อยากให้ผมกับคุณนันท์ทำอะไรกันหรือไง?”

“ถ้าทำก็ดีไง”  พี่ตุ่นพูดเสียงเบา  หากโกเมนหูดีได้ยินจึงถลึงตามอง

“ฝันไปเถอะ!”

“อาโกเมน / อาโกเมน”  ฝาแฝดที่วิ่งออกมาจากห้องกระโจนเข้าหาชายหนุ่มพร้อมแป้งลายพร้อยเต็มหน้า

“ฮ่ะๆๆ  อะไรกันเนี่ย  ใครทาแป้งให้พวกเรา  หืม?”

“พ่อพล / พ่อพล”  เด็กๆ ได้ทีฟ้อง  ไม่รู้ว่าเมื่อเช้าพ่อพลของพวกเขาเป็นอะไรถึงได้ใจลอย  หยิบเสื้อของฝาแฝดสลับกัน  จับเด็กหญิงหวีผมถักเปียข้างเดียว  หันไปหาเด็กชายจับผมมากระจุกหนึ่งแล้วมัดให้  ตอนนี้สภาพของฝาแฝดจึงตลกสุดๆ

“ไหน  แฟงหันมานี่ซิ  เดี๋ยวอาถักเปียอีกข้างให้”

“เย้~”  เด็กหญิงกระโดดขึ้นนั่งตักให้โกเมนถักเปียข้างที่เหลือให้ 

พี่ตุ่นเลิกคิ้วมองท่าทางนั้น  อดแปลกใจไม่ได้กับการกระทำของโกเมน  ใบหน้าหล่อเหลาประดับรอยยิ้มอ่อนโยน  ครู่หนึ่งก็หันมาคุยกับเด็กชายเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายน้อยใจ  ชายหนุ่มถักเปียให้เด็กหญิงอย่างเชื่องช้าเพราะไม่ค่อยถนัดกระนั้นก็ยังพยายามจนเปียบิดเบี้ยว  สักพักก็จะหันไปมองรัชพลเป็นระยะ

โอ๊ย  พี่ตุ่นรู้สึกว่าภาพตรงหน้ามันขัดใจยังไงชอบกล!

นี่มันครอบครัวสุขสันต์หรืออย่างไร?

“อาโกเมน  พวกเราไปเล่นน้ำทะเลได้หรือยัง?”

“กินข้าวเช้าก่อน  ออกไปเดินเล่นรอให้สายกว่านี้หน่อย  แล้วซื้อของฝากให้คุณตาคุณยาย  ลุงพงษ์กับคุณปู่ก่อน” รัชพลยกหม้อข้าวต้มวางบนโต๊ะเอ่ยขัด

ช่วงสายหลังจากซื้อของฝากเสร็จรัชพลจึงอนุญาตให้เด็กๆ ไปเล่นน้ำทะเลได้โดยมีโกเมนตามประกบไม่ห่าง  ส่วนตัวเองหลังจากจัดกระเป๋า  เก็บของฝากเรียบร้อยจึงออกมานั่งมองดูทั้งสามคน

“ดูแลโกเมนเหนื่อยบ้างไหม?”  ผู้จัดการร่างท้วมเอ่ยถามขณะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ

“ก็ไม่นะครับ”

“นายชอบโกเมนเหรอ?”

“....”  รัชพลหันไปมองคนถาม  ไม่เข้าใจเจตนาของอีกฝ่าย

“คุณนันท์เขาชอบโกเมนมาก  ขนาดฉันยังดูออก  นายว่าโกเมนจะดูรู้ไหม?”

“คงรู้มั้งครับ”  รัชพลหันกลับไปมองร่างสูงของโกเมน  ผิวขาวจัดสะท้อนแดด  ใบหน้าหล่อเหลาแต้มรอยยิ้มสว่างไสว เสียงหัวเราะแว่วให้คนฟังยกยิ้มตาม

“น่าเสียดายนะ”

“ครับ?”

“พี่พล  มาเล่นน้ำกัน”  โกเมนวิ่งเข้ามาหาทั้งสองคนหากเอ่ยปากชวนรัชพลคนเดียว

“นี่  ฉันก็นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ทั้งคนนะยะ!”  พี่ตุ่นแหว

“ผมรู้ว่าพี่ตุ่นไม่เล่นเพราะกลัวดำผมถึงไม่ชวนไง”

“ย่ะ!”  ผู้จัดการร่างท้วมมองค้อนเอ่ยประชดไม่จริงจังนัก

“ไปเล่นน้ำกันเถอะพี่พล”

“ไม่...”  ไม่รอให้รัชพลเอ่ยปากปฏิเสธโกเมนก็ก้มลงแบกอีกฝ่ายขึ้นบ่า  วิ่งตุเลงๆ ลงทะเลเป็นที่เรียบร้อย  ท่ามกลางเสียงร้องเฮของฝาแฝด  พี่ตุ่นส่ายหัว  อดพึมพำกับตัวเองไม่ได้

“น่าเสียดายที่โกเมนเลือกนายน่ะซิ  ถ้าโกเมนเลือกคุณนันท์โกเมนอาจจะยอมกลับเข้าวงการอีกครั้งก็ได้ เฮ่อ~”







โปรดติดตามตอนต่อไป




สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นขอโทษที่มาช้านะคะ  ตั้งใจจะมาลงให้ก่อนหน้านี้หลายวันแล้วค่ะ
แต่...แต่งานหลวงต้องเร่งส่งหัวหน้าค่ะ  กลับมาห้องนี่เหมือนร่างจะพังทุกวันเลยยยย :sad4:

รักพอเพียงนั้น..ตั้งใจให้เป็นเรื่องใสๆ  อบอุ่นๆ แบบครอบครัวและความตั้งใจเดิมสำหรับเรื่องนั้นเป็นเรื่องสั้นค่ะ
แต่มาจนถึงตอนที่ สิบกว่าได้นี่ก็ โอ้โห เหมือนกัน^^  เพราะสิ่งที่อยากใส่และการขยับความสัมพันธ์ของคนสองคนมันต้องค่อยเป็นค่อยไปเนอะ  ดังนั้นหากเรื่องนี้จะจบลงตรงความเข้าใจที่ตรงกัน  ว่า...เรารักกัน  คนอ่านจะงอนเราไหม ฮ่ะๆๆ

แล้วถ้าเรื่องนี้จะจัดเป็นหนังสือล่ะ?
ถ้าได้ทำก็คง...จะให้เขาได้หวานๆ กันละมั้ง

เอาละ  จะพยายามนะคะ

ปล.หวังให้เรื่องนี้จะทำให้หัวใจทุกคนเบิกบาน ^^
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 31-07-2017 01:42:17
ดูเป็นครอบครัวสุขสันต์จริง ๆ
พอโกเมนได้ใช้ชีวิตแบบสงบเรียบง่ายแล้วมีความสุขเนี่ย เอาชื่อเสียงเงินทองมาแลกก็คงไม่ยอมกลับไปมีชีวิตวุ่นวายอีกแล้วมั้งคะพี่ตุ่น
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-07-2017 02:09:46
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 31-07-2017 02:56:27
ตอนก่อนๆหน้ายังไม่ได้อ่านเลย งือออออ แต่อ่านตอนล่าสุดแล้วขอเม้นก่อน 555555 /นิสัย
ชอบความครอบครัว ฮืออ อบอุ่น น่ารักค่ะ อยากให้เขารู้ตัวว่ารักกันไวๆ  :hao6:
น้องโกเมนไม่ต้องเป็นนายแบบแล้วววว เก็บไว้ให้พี่พลดูคนเดียวเต๊อะ /แบ่งเราดูบ้างนิดนุงก็ได้
คุณทรายสู้ๆ น้าาา เขียนไวๆ รออ่าน รอซื้อเล่มด้วยล่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: akumapuyy ที่ 31-07-2017 07:25:06
บางทีก็หมั่นไส้โกเมน อะไรก็พี่พลๆ ชริ~~

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 31-07-2017 07:42:43
พี่พลคิดมากไปถึงไหนเนี่ยย
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 31-07-2017 08:20:11
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 31-07-2017 09:19:48
สงสารคนดีๆอย่างคุณนันท์อยู่นะเ
แต่ดีแล้วที่เลือกบอกโกเมนออกมา
จะได้ตัดใจ เจ็บสั้นๆเอานะคุณนันท์

รัชพลก็คนดีและรักโกเมนมากเหมือนกัน
และโกเมนก็หลงรักรัชพลกับเด็กๆด้วยน่ะซิ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 31-07-2017 10:58:13
เป็นเรื่องดีๆ ที่อ่านแล้วอุ่นในใจ ไม่อยากให้มีดราม่าเลยค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 31-07-2017 13:36:25
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 31-07-2017 16:15:34
คุณนันท์น่าสงสาร มาม่ะ เดี๋ยวปลอบใจ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 31-07-2017 18:42:16
ชัดเจนดีมากค่ะโกเมนนนน o13 o13
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 31-07-2017 18:46:05
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 31-07-2017 21:45:17
ครอบครัวสุขสันต์มาก
ชอบความชัดเจนของโกเมน
ส่วนคุณนันท์คนดี อยากให้มีคนมาดามใจจัง

รอตอนต่อไป รออุดหนุนเล่มค่า
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 01-08-2017 07:22:32
อีกนิดๆโกเมน​ :mew1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 01-08-2017 11:41:56
คุณนันท์ก้อน่าสงสารน๊าาาา แต่ทำไงได้คนไม่ใช่ก้อคือไม่ใช่ล่ะน๊า~~~~!!
โกเมนรุกด่วนๆๆๆๆ พี่พลกำลังจะตกหลุมแล้ว >\\<
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 02-08-2017 19:36:22
รักพอเพียงจริงๆ ค่ะ
นานๆ มาที แต่ดีกับใจสุดๆ ^^

ตามอ่านสิบกว่าตอนรวด...
กำลังรอดูต่อว่า โกเมนจะรุกคุณพ่อต่อยังไง อิอิ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 03-08-2017 09:13:16
 :pig4: :pig4: 
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 03-08-2017 11:08:23
รอโกเมนบอกรักรัชพลๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 06-08-2017 03:18:21
อ่านแล้วอบอุ่นหัวใจมากค่ะ  :hao5: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 06-08-2017 11:45:04
โกเมทชัดเจนมากอ่ะ ดีสุดๆๆๆๆๆ
แต่ตอนนี้พี่พลใจลอยไปแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 06-08-2017 15:08:32
หวังว่าคงไม่มีการเสียสละเกิดขึ้นนะพี่พล คุณผจก.นี่ก็นะเสี้ยมดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: FaiiFay_Elle ที่ 06-08-2017 15:14:19
สนุกจนวางไม่ลงเลยค่ะ อ่านแล้วอบอุ่นหัวใจดี
เนื้อเรื่องดำเนินดี เรื่อย ๆ แต่ไม่เรียบหรือหวือหวาจนเกินไป อ่านแล้วรู้สึกตาม
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 06-08-2017 18:00:05
ชอบๆๆ
ดำเนินเรื่องเรื่อยๆ แต่มันอบอุ่นละมุนดีจัง
กำลีงหวานๆอย่ามาตั้งหม้อตอนนี้นะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 14-08-2017 20:45:31



รักพอเพียง  ตอนที่ 13
   



เสียงเพลงลูกทุ่งจากวิทยุดังเบาๆ ท่ามกลางแดดเปรี้ยงยามเที่ยงวัน   รัชพลเหลือบมองร่างสูงของโกเมนขยับยึกยือตามจังหวะดนตรีแล้วขมวดคิ้ว  อยู่ด้วยกันมาตั้งนานเขาไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเต้นอะไรแบบนี้มาก่อน  สงสัยวันนี้จะอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษ
   
“ฟังรู้เรื่องหรือไง?”  ภาษาในเพลงเป็นภาษาอีสานจังหวะสนุกสนาน  รัชพลเห็นเด็กสาวในหมู่บ้านชอบร้องเวลามีงาน

   “ไม่รู้เรื่องหรอกแต่สนุกดี”  ตอบพลางยักย้ายส่ายเอวกับเพลง ‘ผู้สาวขาเลาะ’ ต่อ

   เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าหลังกางเกงดังขึ้น  โกเมนละมือจากแตงกวาพลางถอดถุงมือกดรับ  ทักทายอีกฝั่งพร้อมเสียงหัวเราะ

   “ว่าไงครับพี่ตุ่น?  อ้อ  ได้ครับ”  หลังจากคุยต่ออีกไม่กี่ประโยคชายหนุ่มก็วางสาย  รัชพลอ้าปากอยากเอ่ยถามแต่สุดท้ายก็เงียบเสียงลง  เขาจะถามโกเมนเรื่องอะไร?  พี่ตุ่นโทร.มาหาทำไม?  โกเมนจะกลับไปทำงานในวงการอีกไหม?  คำถามเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัว  ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็สลัดไม่หลุดเสียที  ตั้งแต่กลับมาจากรุงเทพฯ เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนโน้นโกเมนก็ไม่ได้พูดถึงงานพวกนั้นอีก  แต่กลับมีสายมาจากพี่ตุ่น  ผู้จัดการของโกเมนทุกสอง-สามวัน 

   “ช่วงบ่ายผมจะย้ายเตาเผาถ่านของลุงปั้นเข้าไปไว้ในไร่นะ”  รัชพลหยุดความรู้สึกกังวลในใจทิ้งเอ่ยกับโกเมนที่ฮัมเพลงเก็บแตงต่อ 

   เตาเผาถ่านของลุงปั้นนั้นตั้งอยู่หลังบ้านของลุงปั้นเอง  คราวเมื่อลุงปั้นยังมีชีวิตอยู่ลุงปั้นแกเผาถ่านใช้เอง  น้ำส้มควันไม้แกก็เก็บมาใช้ในสวน  เหลือพอแบ่งปันเพื่อนบ้านไม่มากนัก  และถึงแกจะเป็นแกนนำในเรื่องของการเกษตรก็ใช่ว่ามีคนเห็นดีกับแกไปหมดทุกคน  ยังมีพวกอิจฉาและไม่ชอบหน้าลุงปั้นอยู่กลุ่มหนึ่ง  หลังสร้างเตาเผาถ่านได้ไม่กี่เดือนลุงปั้นก็โดนคนกลุ่มนั้นฟ้องกับทาง อบต.  ว่าเตาเผาถ่านของแกสร้างมลพิษให้บ้านใกล้เรือนเคียง  ฝุ่นละอองจากการเผาทำให้ชาวบ้านแถวนั้นได้รับผลกระทบ  เป็นภูมิแพ้บ้างละ  ละอองควันตกใส่พืชผักคนแถวนั้นบ้างละ  สุดท้ายลุงปั้นแกเลยหยุดเผาถ่าน  ตอนนี้รัชพลเสียดายหากจะปล่อยทิ้งไว้  อีกอย่างน้ำส้มควันไม้ที่เก็บหอมรอมริบมาก็ใกล้จะหมดแล้ว  หากไม่เผาคงไม่มีใช้

   “เดี๋ยวผมเอาปลาไปส่งตลาดแล้วค่อยกลับมาช่วยกันนะ”  โกเมนไม่ได้คัดค้านกับการเผาถ่านเนื่องจากเป็นงานที่ไม่ได้กินแรงมากนัก  นอกจากไส้เดือนในโรงเพาะตอนนี้โกเมนเหมารับผิดชอบงานในไร่และในสวนหลังบ้านเองทั้งหมด  เขาไม่อยากให้รัชพลเหนื่อยเกินไป  ลำพังแค่ดูแลสองแฝดก็ยุ่งทุกวันอยู่แล้ว  อ้อ  เหตุผลหลักอีกข้อคือ...เขาอยากให้รัชพลคอยดูแลเขามากกว่าไปเก็บผักในสวน...


   อาทิตย์ต่อมาช่วงสายมีพัสดุมาส่ง  รัชพลที่กำลังง่วนทำฟักเชื่อมให้ตามที่โกเมนเรียกร้องเป็นคนรับไว้  หน้ากล่องจ่าชื่อของโกเมนทำเอารัชพลแปลกใจ  บนกล่องเป็นชื่อโกเมนแต่ส่งมาบ้านเขาทำไมจึงไม่ส่งไปบ้านลุงปั้น  มีใครรู้ว่าอีกฝ่ายอยู่บ้านเขาด้วยงั้นหรือ?  ภาพผู้จัดการร่างท้วมผุดเข้ามาในหัว  คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน  ในอกปลาบแปลบว่างโหวงขึ้นมา

   “พัสดุของผม?  สงสัยพี่ตุ่นส่งมา”  โกเมนรับกล่องไปแกะเปิดอย่างรวดเร็ว  ในนั้นนอกจากพวกครีมบำรุงก็มีหนังสือสอง-สามเล่ม  ตั้งแต่กลับมาจากกรุงเทพฯ โกเมนก็หันมาดูแลผิวพรรณมากขึ้น  เส้นผมหยักศกที่ปล่อยยาวถูกตัดสั้นเข้าทรง  หนวดเคราก็แทบไม่ปล่อยให้ขึ้นบนใบหน้า

   “หนังสือพวกนี้?”  หนังสือสอง-สามเล่มนั้นเป็นปักษ์เดียวกัน  บนหน้าปกเป็นรูปโกเมนที่ไปถ่ายแบบคราวนั้น

   “คุณโจชัวส่งมาให้น่ะ  หนังสือจะวางแผงอีกสองเดือนนู้นแน่ะ”  โกเมนก้มลงดูครีมในมือจึงไม่เห็นใบหน้าซีดเผือดของคนถาม

   “...เรื่องงานน่ะ”

   “หืม?”

   “คุณอยากกลับไปหรือเปล่า?”

   “กลับไปไหน?”  โกเมนวางกระปุกครีมในมือลง  เขาเงยหน้ามองรัชพล  เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของฝ่ายนั้นแล้วขมวดคิ้ว  ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นย้ายตัวเองไปนั่งลงชิดกับอีกฝ่าย  รัชพลสะดุ้งขยับกายหนีหากโกเมนขยับตามติดจนแขนสัมผัสกัน

   “ก็  ก็  กลับไปทำงานในวงการบันเทิง”

   “พี่พล  พี่ชอบภาพที่ผมไปถ่ายแบบป้ะ?”  โกเมนไม่ตอบหากเป็นฝ่ายถามกลับ

   “…ชอบ”  เสียงนั้นเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน  โกเมนก้มลงเอาหูยื่นใกล้ริมฝีปากรัชพล

   “ว่าไงนะ?”

   “ชอบ”  แก้มรัชพลขึ้นสี  โกเมนแค่ถามถึงภาพแล้วทำไมเขาต้องใจเต้นด้วยเล่า

   “ไว้ผมถ่ายให้พี่ดูบ่อยๆ ดีไหม?”

   “…….”

   “หรือพี่ไม่อยากให้ผมถ่าย?”  รัชพลส่ายหัว  ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้โกเมนถ่ายแบบ  กลับกัน  เขาชอบเวลาที่โกเมนอยู่หน้ากล้อง  เสน่ห์ของโกเมนจะถูกดึงออกมาจนคนมองใจเต้น  ยามที่โกเมนอยู่หน้ากล้องจะเปลี่ยนเป็นคนละคนกับหนุ่มชาวไร่ตอนนี้  โกเมนในภาพถ่ายทำให้เขาใจเต้นแรง  เหมือนเมื่อครั้งแรกที่เขาเคยเห็น…

   “พี่ชอบเวลาผมอยู่หน้ากล้องแต่ก็ไม่อยากให้ผมกลับเข้าวงการบันเทิง  ใช่ไหม?”  โกเมนยิ้มตาพราว  รัชพลเงยหน้ามองคนถามอย่างตกตะลึง  นี่โกเมนดูออกหมดเลยหรือว่าเขาคิดอะไรอยู่

   “มันไม่ได้อยู่ที่ผมชอบหรือไม่ชอบ  แต่มันอยู่ที่คุณว่าจะกลับหรือไม่กลับไปมากกว่า  อีกอย่าง...”

   “อีกอย่างอะไร?”

   “......”  อีกอย่าง  ตอนนี้ทุกคนน่าจะรู้แล้วว่าคุณออกจากวงการเพราะอะไร  หากคุณกลับไปคราวนี้
คงจะโด่งดังและเฉิดฉายยิ่งกว่าเดิม  ต้องฉวยโอกาสตอนนี้เท่านั้น

   “เอาเถอะๆ  ผมจะบอกอะไรให้นะ”

   “?”

   “ผมชอบวงการบันเทิงมากก็จริง”

   “....”

   “แต่ผมชอบที่นี่มากกว่า”

   “เอ๊ะ?”

   “อย่าทำหน้าตาน่าจูบได้ไหมเล่า!”  โกเมนขบฟันแน่น  ดวงตาสีน้ำตาลซื่อๆ ของคนตรงหน้าทำให้หัวใจเขาเต้นรัวแรง   คิ้วเรียวเลิกขึ้นคล้ายไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดยิ่งทำให้อยากคว้าตัวมาฟัดแรงๆ ให้หายหมั่นเขี้ยว

   รัชพลชักจะทำให้เขาใจเต้นแรงขึ้นทุกวัน!

   “นะ  น่าจูบ?”

   “ฮึ่ย~”  โกเมนยีหัวท่าทางงุ่นง่านเดินออกไปทางหน้าบ้านทิ้งให้รัชพลมองตามหลังตาปริบ  และโกเมนไม่ทันเห็นว่า ‘คนทำหน้าตาน่าจูบ’ นั้นหน้าแดงไปถึงไหนต่อไหน

   ถ้าเขาคิดเข้าข้างตัวเองจะได้ไหม  ...ว่าโกเมนอยากจูบเขา

   โอ๊ย  ทำยังไงดี หัวใจจะวายอยู่แล้ว!



**********

   “พี่พล  อาทิตย์หน้าพี่ตุ่นจะเที่ยวที่นี่  ได้ไหม?”  โกเมนบอกเล่า  ครู่หนึ่งก็เอียงคอเปลี่ยนเป็นถามความคิดเห็น

   “คุณตุ่น?  คนเดียวหรือ?”

   “คุณนันท์ด้วย”

   “....”

   “ได้ไหม?  พวกเขามาได้ไหม  พี่พลสะดวกหรือเปล่า”  โกเมนเห็นอีกฝ่ายขมวดคิ้วก็รีบเอ่ยต่อ  “ให้
พวกเขานอนโรงแรมในเมืองแล้วค่อยขึ้นมาเที่ยวแถวบ้านเรา”  คำว่า ‘บ้านเรา’ ทำให้รัชพลเกือบยกยิ้ม  หากพอคิดถึงชื่อของอภินันท์ที่หลุดมาจากปากโกเมนก็ยิ้มไม่ออก

   “ให้พวกเขามานอนที่นี่ก็ได้นี่นา”

   “แต่บ้านเราแคบจะตาย”  โกเมนเลิกคิ้ว

   “นอนที่บ้านลุงปั้นไง  หลังนั้นมีห้องนอนตั้งหลายห้อง  มีเครื่องทำน้ำอุ่นกับทีวีด้วย  เดี๋ยววันนี้ไปทำความสะอาดเตรียมไว้”

   “โอ๊ะ  จริงด้วยแฮะ”  โกเมนดีดนิ้วเปาะเห็นด้วยกับรัชพล  วันพรุ่งนี้ค่อยไปเตรียมพวกอาหารเอาไว้ต้อนรับแล้วกัน


   ปลายสัปดาห์ต่อมาผู้จัดการร่างท้วมและอภินันท์ก็มาถึง  โชคดีที่คนขับรถตู้พอจะรู้เส้นทางอยู่บ้างจึงมาถึงไม่สายจนเกินไปนัก  ร่างสูงของอภินันท์อยู่ในชุดลำลองกางเกงขาสั้นสีขาวสะอาดตา  พี่ตุ่นที่เตรียมร่มมาเพราะกลัวร้อนถึงกับรีบหุบร่มไม่ทัน  เพราะถึงจะมีแดดอย่างไรแต่ก็ไม่ร้อนอย่างในกรุงเทพฯ นั่นเอง

   “ผมเตรียมห้องไว้ให้แล้วนะครับ  แบ่งห้องกันได้ตามสะดวกเลย”  รัชพลช่วยพี่ตุ่นยกกระเป๋าขึ้นบ้านพลางอธิบาย

   “นี่บ้านคุณพลหรือคะ?”

   “บ้านลุงปั้น  เอ่อ  บ้านคุณตาของโกเมนเขาน่ะครับ”

   “ดูร่มรื่นดีนะครับ”  อภินันท์ยกยิ้ม  ชายหนุ่มเหลียวมองรอบตัวบ้านซึ่งล้อมรอบไปด้วยหมู่แมกไม้และต้นไผ่ให้ร่มเงา  โรงเรือนเล็กด้านข้างตั้งอยู่ติดต้นจำปาดะดูปลอดโปร่ง  “นั่นโรงเรือนอะไรหรือครับ?”

   “อ้อ  ไส้เดือนน่ะครับ”

   “ไส้เดือน!”  พี่ตุ่นร้องเสียงดังลั่น  เบิกตาจ้องมองโรงเรือนหลังเล็กแล้วตั้งมั่นในใจว่าจะไม่เข้าไปใกล้ที่นั่นเด็ดขาด

   “ครับ  นี่อีกวันสองวันก็ได้เวลาเก็บมาตากแดดพอดี”

   “ตากแดด?  พวกไส้เดือนนี่เอามาทำอะไรหรือครับ”   อภินันท์ลูบคางเอ่ยถามอย่างสนใจ  ตั้งแต่รถเคลื่อนเข้ามาจอดเขาสังเกตว่ารอบบ้านมีแต่ต้นไม้ที่ให้ผลผลิตแทบทั้งนั้น

   “พวกไส้เดือนตากแห้งพวกนี้ส่งขายเมืองจีนครับ  คนจีนเขาเอาไปผสมพวกยา  ดินที่ใช้เลี้ยงไส้เดือนสามารถเอาไปปลูกผักได้  ดินพวกนี้มีสารอาหารสูงมาก  ขายได้ราคาดี  หรือขี้ไส้เดือนก็เอาไปทำน้ำหมักครับ  เอาไว้รดผัก  ใช้แทนปุ๋ยเคมีได้ดี”

   “ไม่มีส่วนไหนทิ้งเลยซินะ  สุดยอดมากกกก”  อภินันท์ฟังที่รัชพลพูดแล้วถึงกับตาโตลากเสียงยาวอย่างนึกทึ่ง  รัชพลยกยิ้ม  เวลาที่ได้อธิบายเรื่องราวเหล่านี้ให้คนอื่นฟังแล้วพวกเขาเข้าใจ  ชื่นชม  มันทำให้เขารู้สึกดีใจมาก  ทรัพย์ในดินมีค่ามหาศาล  เขาอยากให้ทุกคนรักผืนดินให้มาก  เห็นคุณค่าและดูแลมันให้ดี  เขาจำที่ลุงปั้นสอนได้  ลุงปั้นแกยกตัวอย่างที่ในหลวงท่านทรงทำทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาดินในเหล่าเกษตรกร  ดินดี น้ำดี ป่ามี  ทุกชีวิตก็จะดีและอยู่รอด

   “แล้วโกเมนไปไหนเสียล่ะ?”  พี่ตุ่นที่ฟังรัชพลพูดเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างเอ่ยถาม

   “ไปรับฝาแฝดที่บ้านตา-ยายครับ  โน่น  พูดถึงก็มาพอดี”

   โกเมนเดินยิ้มร่ามาแต่ไกล  เขาหิ้วถุงเนื้อหมูติดมือมาด้วย  ส่วนฟักแฟงก็ช่วยกันถือขนมหวานจำพวกสาเกเชื่อม  กับอะโวคาโด้น้ำกะทิตามหลังมา

   “ผมคิดว่าจะมาถึงแต่เช้ามืดเสียอีก  เตรียมปาท่องโก๋กับกาแฟไว้ให้  จนตอนนี้ลงไปอยู่ในท้องเจ้าฝาแฝดหมดแล้ว”

   “พอดีหลงทางตอนจะเลี้ยวเข้าทางแยกในเมืองน่ะครับ  เลยมาช้า”  อภินันท์รับหม้อขนมมาจากเด็กๆ  ส่วนรัชพลรับถุงเนื้อหมูมาจากโกเมนเดินเข้าครัว

   “หิวกันหรือยังครับเนี่ย  กินข้าวกันก่อนแล้วค่อยเที่ยวนะครับ”

   “ตอนนี้ฉันหิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวอยู่แล้วย่ะ!”  พี่ตุ่นแหวใส่

   “เอ๋?  ช้างกินได้ด้วยหรือครับ?”  เด็กชายเอียงคอถามพลางมองร่างท้วมของพี่ตุ่น  ก่อนจะก้าวไปหลบอยู่หลังพี่สาว  ถ้าคุณอาคนนี้กินช้างได้  เขาต้องน่ากลัวมากแน่ๆ!

   “ต๊าย! อาพูดเปรียบเปรยเฉยๆ ค่ะ!”  ทุกคนหัวเราะครืนอย่างสนุกสนาน

   อาหารยกขึ้นตั้งโต๊ะด้วยฝีมือรัชพล  แกงอ่อมหมูเนื้อนุ่มยุ่ย  ตำขนุนที่ไปเก็บจากหลังบ้านมาเมื่อวาน  น้ำพริกอ่องกับผักสดกรุบกรอบ  ปลานิลทอดตัวใหญ่กับไข่เจียวหอมฟุ้ง  ข้าวสวยร้อนๆ หอมชวนให้ท้องร้อง

   “คุณพลทำเองหมดนี่เลยหรือครับ?”  อภินันท์ตาโต  มองอาหารเรียงรายตรงหน้าอย่างนึกทึ่ง

   “ใช่แล้ว  ฝีมือพี่พลหมดนี่เลยครับ  คุณนันท์รู้ไหม  หมดโต๊ะนี่จ่ายเงินซื้อแค่เนื้อหมูกับข้าวสารเท่านั้นเอง”

   “หืม?”

   “ผัก ปลา  ไข่  พวกเราเก็บมาจากหลังบ้านค่ะ”  เด็กหญิงเงยหน้าบอก  โกเมนลูบผมของแฟงแล้วยิ้ม

   “ใช่ครับ  ดังนั้นมั่นใจได้ว่าผักพวกนี้ปลอดสารพิษแน่นอน  อีกทั้งยังสดใหม่  หวานอร่อยมากด้วย”  โกเมนยิ้มกว้างเชิญชวน  พี่ตุ่นไม่รอให้โกเมนเอ่ยจบก็ตักน้ำพริกอ่องใส่จาน  หยิบผักสดขึ้นกัดคำใหญ่

   “กรอบมากกกกกก”  ผู้จัดการร่างท้วมหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข

   “อันนี้เรียกว่าอะไรหรือครับ?”  อภินันท์มองถ้วยแกงตรงหน้า

   “แกงอ่อมครับ  ผมทำไว้ตั้งแต่เช้ามืด  เคี่ยวทิ้งไว้เนื้อจะได้นุ่มๆ  ไม่รู้ว่ากินเผ็ดกันได้หรือเปล่าผมเลยทำรสกลางๆ ไว้”  รัชพลอธิบาย  เป็นพี่ตุ่นอีกครั้งที่ตักแกงอ่อมตัดหน้าไปใส่จานข้าวตัวเอง  โกเมนหัวเราะ  สุดท้ายเขาเลยตัดสินใจยกช้อนตักกับข้าวใส่จานข้าวอภินันท์  เพราะขืนชักช้า  น่ากลัวว่าพี่ตุ่นคงจะกินจนหมดเสียก่อน

   “แม้แต่ไข่เจียวยังอร่อย!”  พี่ตุ่นลูบท้องป่องๆ ของตัวเองอย่างมีความสุขหลังทุกจานบนโต๊ะว่างเปล่า  แม้แต่น้ำแกงยังไม่มีเหลือ  หากฟักกับแฟงกลับเบ้หน้าจะร้องไห้   ก็พวกเขาโดนคุณอาคนนี้แย่งไข่เจียวกับน้ำพริกอ่องไปหมดเลยนี่นา!

   “พวกเราได้กินนิดเดียวเอง!”  เด็กๆ เริ่มงอแง

   “ก็ใครใช้พ่อพลของพวกหนูทำกับข้าวอร่อยล่ะ  ฮี่ๆๆๆ”  พี่ตุ่นหัวเราะร่า  เริ่มรู้สึกสนิทสนมกับฝาแฝดมากขึ้นหลังศึกแย่งชิงไข่เจียว

   “พ่อพล~~”

   “เอาละๆ เดี๋ยวตอนเย็นพ่อจะทอดให้ใหม่นะ  คราวนี้เอาไข่หลายๆ ฟองเลย”

   “เย้~ งั้นแฟงกับฟักไปเก็บไข่รอนะคะ”  เด็กหญิงกระโดดลงจากเก้าอี้คว้าแขนน้องชาย

   “ตอนเย็นค่อยไปเก็บนะเด็กๆ  เดี๋ยวพวกเราจะพาคุณอานันท์กับอาตุ่นไปเที่ยวกันก่อน”  โกเมนร้องเรียกฝาแฝดไว้

   “คุณพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวนะ  เดี๋ยวผมอยู่เตรียมอาหารเย็นที่บ้านดีกว่า”  รัชพลจัดขนมใส่ตะกร้าเตรียมไว้ให้ฝาแฝด  เตรียมน้ำกระเจี๊ยบใส่ขวดแช่กระติกน้ำแข็งไว้ให้อภินันท์กับพี่ตุ่นและคนขับรถอย่างรวดเร็ว

   “เอ๊ะ  พี่พลไม่ไปด้วยกันหรือ?”

   “คุณไปเถอะ  บ่ายๆ แบบนี้ไปแถวน้ำตกแล้วเลยไปบ่อน้ำพุร้อนก็ได้นะ”

   “แต่...”  โกเมนลังเล  ทำไมรัชพลถึงไม่ไปด้วยกันเล่า

   “ไปกันเถอะ  มัวยุดยื้อประเดี๋ยวก็ไม่ต้องไปไหนกันพอดี”  พี่ตุ่นสะกิดโกเมน  เขาอยากกินกับข้าวอร่อยๆ ฝีมือรัชพลอีก  ไม่รู้ว่าเย็นนี้อีกฝ่ายจะทำอะไรให้กิน  ดูเถอะ  เพิ่งอิ่มแท้ๆ เขาก็ไพล่นึกถึงอาเย็นเสียแล้ว  ฝีมือรัชพลยอดเยี่ยมจริงๆ

   สุดท้ายโกเมนจึงพาฝาแฝดกับอภินันท์และพี่ตุ่นไปเที่ยวน้ำตก  จากนั้นเลยไปแช่เท้าที่บ่อน้ำพุร้อน  อภินันท์และคนขับรถถูกใจที่นี่มากเป็นพิเศษเพราะได้คลายความปวดเมื่อย  น่าเสียดายที่วันนี้พวกเขาขนเสื้อผ้าลงจากรถไปหมดแล้ว  ไม่อย่างนั้นจะนอนแช่น้ำพุร้อนคลายเส้นทั้งตัวเสียเลย

   “เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้ครับ  พรุ่งนี้เช้าผมจะพาไปไหว้หลวงพ่อทันใจ  แล้วบ่ายๆ เรามาแช่น้ำพุกันอีกรอบก็ได้”

   “หลวงพ่อทันใจ?”  พี่ตุ่นหูผึ่งขึ้นมาทันที

   “ครับ”

   “ได้ยินว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ  จริงหรือเปล่าโกเมน?”

   “ไม่รู้ซิครับ  ผมไม่เคยลองขออะไรท่านเลยสักที”  ชายหนุ่มหัวเราะ  อภินันท์มองใบหน้าหล่อเหลาของโกเมนแล้วถอนหายใจ

   “คุณโกเมนว่า  ถ้าผมลองขอหลวงพ่อท่านดูท่านจะให้ไหมครับ?”

   “คุณนันท์จะขอเรื่องอะไรหรือครับ?”  โกเมนยิ้มกว้าง  หันไปทางคนถาม  พี่ตุ่นที่เหมือนจะรู้อะไรๆ รีบลากแขนฝาแฝดให้เขยิบห่างออกไป

   “ถ้าผมขอเรื่องความรัก...”

   “ผมว่าคุณนันท์ขอเรื่องงานดีกว่านะครับ”

   “ทำไม?”  อภินันท์มองริมฝีปากสีแดงเข้มของคนตรงหน้า  ปลายจมูกโด่งสวยได้รูป  คิ้วเรียวยาว  และดวงตาสีดำขลับที่หรุบลงคู่นั้น   หลายเดือนมานี้ถ้าถามว่าเขาทำใจได้หรือยังกับเรื่องของโกเมน  เขาจะตอบว่า  ยัง  แต่ความเจ็บมันทุเลาลงไปจนแทบไม่รู้สึกแล้ว  ไม่ใช่ว่าเลิกรัก  หากแต่เขาเข้าใจและรู้ดีอยู่แล้วต่างหาก...

   รู้ว่า  ถ้าอยากให้โกเมนยังคุยกับเขาอยู่  ต้องเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น

   “เพราะว่าเรื่องของหัวใจ  ไม่ว่าเราจะขอพรจากที่ไหนก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่าตัวของเราเองหรอกครับ”

   “....”

   “เราไม่สามารถขอพรให้ใครมารักเราได้  นอกจากเราจะทำให้เขารักด้วยตัวเราเอง”  โกเมนเงยขึ้นสบตากับอภินันท์ตรงๆ  ความปรารถนาดีและความรู้สึกซื่อตรงยังคงฉายชัดไม่เจือจาง   อภินันท์ยกยิ้มก่อนจะพยักหน้า

   “ใช่แล้วล่ะ  ถึงว่าซิ”

   “ถึงว่าอะไรครับ?”  โกเมนยิ้มตาม

   “ถึงว่าทำไมหัวใจคุณถึงอยู่ที่เขา”

   “เพราะเขาทำให้ผม...อ่า...นั่นแหละครับ!”  โกเมนขัดเขิน  ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำ  อภินันท์หัวเราะกับท่าทางนั้น  เป็นครั้งแรกเลยที่เขาเห็นโกเมนเขินจนตัวจะแตกแบบนี้

   ดีแล้ว  ดีแล้วจริงๆ ที่คนคนนั้นเป็นรัชพล



   “วันนี้ก็ไม่ไปด้วยกันงั้นหรือ?”  โกเมนลุกขึ้นยืน  อภินันท์เงยหน้าจากชามข้าวต้มขึ้นมองดูรัชพลที่วางปาท่องโก๋กับข้าวเหนียวปิ้งไส้ต่างๆ ลงบนโต๊ะ

   “วันนี้ต้องไปส่งผัก  ถ้าไม่รีบเก็บเดี๋ยวก็แก่เกินไปขายไม่ได้อีก”  รัชพลขมวดคิ้ว

   “แต่...”

   “คุณพาเพื่อนไปเที่ยวน่ะถูกแล้ว  ตอนบ่ายไปแช่น้ำพุร้อนอย่างที่คุณนันท์กับพี่ตุ่นอยาก  แล้วตอนเย็นๆ ผมจะพาเดินรอบสวนหลังบ้าน  แบบนี้ดีไหมครับ?”  ท้ายประโยครัชพลหันไปถามอภินันท์  ชายหนุ่มเลิกคิ้ว  เหลือบมองใบหน้าบูดบึ้งของโกเมนแล้วนึกอยากหัวเราะ

   “ผมยังไงก็ได้ครับ  ตั้งใจมาพักผ่อนอยู่แล้ว  ไม่ซีเรียสอะไร”  อภินันท์ตักข้าวต้มใส่ปากเรื่อยๆ  อย่างมีความสุข  โกเมนที่คิ้วขมวดฮึดฮัดไม่พอใจแบบนี้ก็น่าดูไปอีกแบบ   

   “ตามนี้นะ”  รัชพลหันมาย้ำกับเด็กโข่งที่เริ่มทำตัวงอแง  พาเพื่อนไปเที่ยวทำไมต้องให้เขาตามไปทุกที่ด้วยเล่า  เขาน่ะ เป็นคนในพื้นที่อยู่แล้ว  จะไปเมื่อไหร่ตอนไหนก็ได้  นี่เพื่อนของโกเมนอุตส่าห์มาหาทั้งที  โกเมนก็ต้องดูแลคอยต้อนรับซิ  อีกอย่าง...

   อีกอย่างอภินันท์ก็คงไม่อยากให้เขาไปด้วยกันหรอก

   “กาแฟนี่ก็ปลูกเองที่ไร่หรือครับ?”  อภินันท์เอ่ยถาม  หวังเปลี่ยนบรรยากาศให้ดีขึ้น  อันที่จริง  มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก  แต่เขากลัวว่าถ้าโกเมนงอแงมากๆ  ฝาแฝดจะเข้ามาช่วยอ้อนรัชพลอีกสองแรงน่ะซิ  ขืนโดนฝาแฝดอ้อนประเดี๋ยวรัชพลก็ใจอ่อนอีก  เขาแค่อยากอยู่ด้วยกันกับโกเมนโดยที่สายตาของอีกฝ่ายมองมาที่เขาบ้าง  แม้จะเป็นสายตาแบบเพื่อนธรรมดาก็เถอะ  อย่างน้อยก็ไม่แปลบในใจเท่าตอนที่โกเมนเอาแต่จ้องรัชพลหรอก

   “ใช่ครับ  แต่โกเมนเขาเป็นคนกะเทาะเปลือกตาก  คั่วแล้วก็บดเอง  ผมรู้แต่วิธีปลูก  ไม่รู้วิธีทำให้อร่อยหรอกครับ”  รัชพลยิ้ม

   “รสชาติดีมากเลยครับ  หอมน้ำผึ้งด้วย”

   “น้ำผึ้งป่าซื้อเอาจากชาวบ้านคนอื่นๆ เอามาขายน่ะครับ”

   “คุณพลโชคดีจังนะครับที่ได้ดื่มกาแฟที่โกเมนชงให้ทุกเช้า”

   “.....”  รัชพลหรุบสายตาลงเมื่อได้ยินประโยคนั้น   อยากดีใจแต่ก็ดีใจไม่ออกยังไงไม่รู้

   “คนโชคดีน่ะผมต่างหาก  พี่พลคนเก่งปลูกอะไรก็เจริญงอกงามไปทุกอย่าง  คุณนันท์กับพี่ตุ่นถึงได้ดื่มกาแฟที่ผมชงนี่ไง”  โกเมนเชิดหน้า  เห็นท่าทางหงอยๆ ของรัชพลแล้วอดหมั่นไส้อภินันท์ขึ้นมาไม่ได้  อย่ามาแกล้งพี่พลของเขานะ  เขาแกล้งได้คนเดียวเท่านั้น!

   “จ้าๆ  พี่พลของนายน่ะเก่งที่สุด”  พี่ตุ่นอดหมั่นไส้บ้างไม่ได้

   “งั้นก็ไปกันได้แล้วครับ  จะสายแล้ว  อ้อ  ไหว้พระเสร็จลองกินขนมจีนที่วัดดูนะครับ  อร่อยมาก  ถ้ากินไม่เป็นให้โกเมนสอนนะครับ”  รัชพลสรุปเสร็จแล้วดันไหล่กว้างของโกเมนให้ลุกออกไป  ส่วนฝาแฝดที่ได้เที่ยวสองวันติดก็ดีใจไม่หยุด  วิ่งไปกอดขาผู้เป็นพ่อ  เขย่าๆ ให้รัชพลโน้มตัวลงแล้วแบ่งกันหอมแก้มซ้ายขวา

   “ผมด้วยๆ”  โกเมนเริ่มทำตัวงอแง  ยื่นแขนเข้าหารัชพลทำท่าจะหอมแก้มตามฝาแฝด

   “ฮื่อ!”  รัชพลยันใบหน้าหล่อๆ ให้ออกห่างพลางถลึงตาใส่  “อย่าเล่นเป็นเด็กๆ!”  รัชพลเหลือบมองอภินันท์กับพี่ตุ่น  สองคนนั้นแกล้งทำทีเป็นมองเพดานบ้าง  มองฝาผนังบ้าง  มีแต่ลุงคนขับรถนั่นแหละที่ไม่รู้เรื่องราว  จ้องพวกเขาเขม็ง

   “ทำไมพ่อไม่ให้อาโกเมนหอมแก้มบ้างล่ะคะ?”

   ยัยแฝด!!

   “....”  รัชพลถึงกับพูดไม่ออก  ไม่คิดว่าคนที่โจมตีจะกลายเป็นลูกสาวตัวเอง

   “ใช่ๆ  พ่อพลลำเอียงเนอะ  ให้ฝาแฝดหอมแต่ไม่ให้อาโกเมนหอมบ้าง”  ร่างสูงได้ทียิ้มแฉ่ง  พยักเพยิดกับเด็กหญิงเป็นปี่เป็นขลุ่ย

   “อาโกเมนเป็นผู้ชาย  จะมาหอมแก้มพ่อได้ยังไง”  รัชพลดุลูกสาวเสียงเบา  เนื่องจากไม่อยากให้ผู้ใหญ่อีกสามคนได้ยิน

   “ฟักก็เป็นผู้ชายยังหอมได้เลย”  เด็กชายเอียงคอถามบ้าง

   “ใช่ๆ”  โกเมนพยักถี่ๆ

   “พอเลย! ทั้งสามคนนั่นแหละ  ไปกันได้แล้ว!”  รัชพลรุนหลังเด็กโข่งกับเด็กเล็กให้ลงจากบ้านด้วยใบหน้าแดงก่ำ  เขาไม่กล้าเงยหน้ามองอภินันท์  พี่ตุ่นกับลุงคนขับรถแล้ว!

   อภินันท์ยกยิ้มกับท่าทางนั้นก่อนจะเดินลงจากบ้านเป็นคนสุดท้าย  เขาถอนหายใจมองแผ่นหลังกว้างของโกเมน  ก่อนจะขึ้นรถเขาเหลือบมองคนบนบ้านอีกครั้ง     ดีแล้วที่เป็นคนนี้...




หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่12[31-7-60]P.5
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 14-08-2017 20:49:22


หลังไหว้พระเสร็จ  โกเมนก็พาทั้งหมดไปยังโรงทานของทางวัด  ที่นี่จะมีแม่บ้านมาคอยทำน้ำยาขนมจีนไว้ให้กับคนที่มาทำบุญ  มีน้ำยากะทิรสจัดจ้านและน้ำยาที่ทำจากหยวกกล้วย

   “มันเอามาทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ?”

   “แล้วมันจะอร่อยหรือ?”

   สองเสียงที่เอ่ยถามทำเอาโกเมนยกยิ้มก่อนจะตักขนมจีนกับน้ำยาหยวกกล้วยให้เด็กๆ คนละจานเพราะน้ำยากะทิเผ็ดเกินไป  ฝาแฝดเดินไปยังโถเครื่องปรุงแล้วหันมาทางอภินันท์กับพี่ตุ่น

   “อานันท์กับอาตุ่นดูพวกเรานะคะ”  เด็กหญิงตักน้ำมะขามเปียก  กระเทียมเจียวสีเหลืองนวล  พริกแห้งทอดหนึ่งเม็ด  ที่พอหยิบมาแล้วเด็กหญิงจึงนึกขึ้นได้ว่านั่นน่ะพริก  เลยหยิบมาใส่จานโกเมนแทน  โรยผักชี ถั่วฝักยาวกับถั่วทอด  สุดท้ายไปหยิบไข่ต้มที่มีคนเอามาแก้บนใส่จาน  “แบบนี้ก็อร่อยแล้วค่ะ”

   โกเมนหัวเราะกับท่าทางแก่แดดของเด็กหญิง  หากไม่ได้เอ่ยขัดอะไร  เขาพยักหน้าให้อภินันท์กับพี่ตุ่นทำตามฝาแฝด  ก่อนจะเตือนไม่ให้ทั้งสองคนใส่น้ำปลาเยอะ  เพราะน้ำยาอาจจะเค็มอยู่ก่อนแล้ว   อภินันท์และพี่ตุ่นเบิกตากว้าง  แม้รสชาติจะแปลกๆ ในทีแรก  แต่ผ่านไปสักพักกลับรู้สึกอร่อยมาก  สุดท้ายเลยจัดการไปกันละสอง-สามจานก่อนจะหยอดเงินใส่ตู้บริจาคไปหนึ่งพันบาท

ช่วงบ่ายหลังจากกลับจากแช่น้ำพุร้อนกันถ้วนหน้า  ทั้งอภินันท์  ทั้งผู้จัดการร่างท้วม  ฝาแฝดและลุงคนขับรถก็สลบเหมือด  นอนตากพัดลมกันอยู่กลางลานบ้าน

โกเมนมองทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ที่นอนหมดแรงแล้วหรี่ตาลงอย่างมีแผนการ  ร่างสูงเท้าแขนกับระเบียงหน้าบ้าน  มองไปทางบ้านหลังเล็กของรัชพลพลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วแสยะยิ้ม  ตอนนี้บ่ายสามรัชพลส่งผักกับปลาในตลาดเสร็จแล้ว  รัชพลยังคงขับรถเครื่องตากแดดไปส่งผักอยู่เหมือนเดิม  เพราะฉะนั้นหลังทำงานมาทั้งวันเหงื่อจะท่วมตัว  เมื่อส่งของเสร็จก่อนทำอาหารเย็นรัชพลจะต้อง...


เสียงน้ำกระเซ็นกระทบพื้นอยู่อีกฝากประตู  โกเมนหรี่ตาลง  มือยื่นจับลูกบิดประตูแล้วผลักเข้าไปอย่างรวดเร็วไม่ให้คนด้านในตั้งตัว

“เฮ้ย!”  ขันน้ำในมือของคนที่กำลังอาบน้ำยกสาดออกไปอัตโนมัติ

“โอ๊ะ แค่กๆๆ” คนโดนสาดถึงกับสำลักน้ำ

“โกเมน?”  รัชพลยืนนิ่งเมื่อเห็นชัดตาว่าเป็นใคร  “เข้ามาทำไม?”  รัชพลหันซ้ายหันขวายื่นมือจะไปคว้าเช็ดตัวหากโดนอีกคนถลันกายบังเอาไว้  “ถอย!”

“ไม่”

“เล่นอะไรของคุณเนี่ย?”  ในเมื่อยื่นมือไปเอาผ้าเช็ดตัวไม่ได้รัชพลเลยจับขันอาบน้ำครอบจุดยุทธศาสตร์กลางลำตัวเอาไว้

“ไม่ได้เล่นสักหน่อย”

“งั้นเข้ามาทำไม?”  รัชพลทำใจดีสู้เสือ  พยายามกดหัวใจที่เต้นรัวเร็วของตัวเองไม่ให้มันดังจนคนตรงหน้าได้ยิน

“ก็วันนี้พี่ไม่ไปกับผม”

“ผมทำงานนะคุณ  ไปวันอื่นก็ไม่เห็นเป็นไรเลย”

“ไม่รู้แหละ  เมื่อวานพี่ก็ไม่ไปด้วยกัน”

“ก็...”  รัชพลขยับเอนกายหนีเมื่อโกเมนทำท่าโน้มลงมาใกล้

“ผมว่าพี่พลคงจะรู้ว่าคุณนันท์คิดยังไงกับผม?”

“เรื่องนั้น...”  รัชพลเสหลบตา

“แต่พี่ก็ปล่อยให้ผมไปกับเขา”  โกเมนขยับเท้าเดินหน้าเข้าหา  รัชพลขยับถอยจนแผ่นหลังแทบจะชิดกับผนังห้องน้ำ

“มีคุณตุ่นกับฝาแฝดไปด้วยแล้วไง  ลุงคนขับรถอีก”

“ไม่เหมือนกันนี่”  โกเมนเลิกคิ้ว  ยกแขนขึ้นยันผนังกั้นรัชพลเอาไว้ตรงกลาง

“ถะ  ถอยไปหน่อย...”  รัชพลเอ่ยตะกุกตะกักเหงื่อซึมไรผมทั้งๆ ที่เพิ่งอาบน้ำไปเมื่อครู่    ความใกล้ขนาดนี้มันกำลังทำให้เขาหัวใจจะหยุดเต้น

“ไม่”  โกเมนหรุบสายตาลงมองริมฝีปากอิ่มสีเข้มของคนตรงหน้า  แผ่นอกราบเรียบและหน้าท้องได้รูปมีกล้ามเล็กๆ จากการใช้แรงงานอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน  ผิวเนียนสีผึ้งแทบไม่มีตำหนิตัดกับผิวขาวจัดของเขาอย่างชัดเจน  เอวสอบได้รูป  สะโพกเพรียว  ต้นขาแน่นกับขันใบเขื่องตรงกลางลำตัว...

บ้าชะมัด!

รูปร่างของรัชพลทำเอาเขากำเดาแทบพุ่ง!

“มีอะไรเราไปคุยกันข้างนอกเถอะ”  รัชพลไม่กล้าเงยหน้าสบตาของโกเมนเลยสักนิด  และนั่นทำให้โกเมนมองแพขนตาบนหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง  รัชพลเป็นคนตาสวย  ทั้งโศกทั้งหวาน...

“ถ้าไปคุยข้างนอกพี่ก็หนีผมน่ะซิ  คุยในนี้แหละดีแล้ว  พี่จะได้หนีผมไม่ได้”  โกเมนก้มลงกระซิบเสียงแหบพร่า  ความรู้สึกขุมหนึ่งร้อนขึ้นในช่องท้องโดยไม่รู้ตัว

“มะ มะ ไม่ ไม่หนี  ไม่หนีหรอก”  รัชพลหลับตาแน่น  ปากเอ่ยประโยคกระท่อนกระแท่น  หัวใจเต้นรัวเร็วจนแทบทะลุออกมานอกอก

“พี่รู้ใช่ไหมว่าคุณนันท์คิดยังไงกับผม?”  โกเมนไม่สนใจข้อเสนอนั้น  เขาก้มลงกระซิบถามอีกครั้ง  จงใจให้ริมฝีปากแตะใบหูเย็นชื้นของอีกฝ่ายแผ่วเบา

“ระ  รู้!”  คนโดนลวนลามย่นคอหนี  ยังคงไม่กล้าลืมตาขึ้นมอง

“รู้แล้วทำไมปล่อยให้เขาใกล้ชิดผม?”

“ก็...ก็ผม..  เป็นคนนอก”

“ไม่!  พี่ไม่ใช่คนนอก”  โกเมนขบกรามแน่น  มือใหญ่กระชากใบเขื่องในมือโกเมนทิ้งก่อนจะขยับเท้าเข้าประชิด  ความรู้สึกร้อนรุ่มจู่โจม  ท่าทางสั่นน้อยๆ ของรัชพลกระตุ้นเขา!

“ถะ  ถอยไปหน่อย!”  รัชพลตกใจ  เขาเงยหน้าขึ้นเบิกตามองโกเมนอย่างตระหนก

เสื้อยืดสีขาวที่เปียกชื้นเพราะโดนเขาสาดน้ำใส่แนบไปกับลำตัว  สีขาวที่พอโดนน้ำก็ราวกับโปร่งใสจนเห็นทุกสัดส่วน  รัชพลหรุบสายตาลงมองกวาดไปทั่วอย่างเผลอไผลแล้วก็แทบอยากจะให้ตัวเองเป็นลมไปเสียเดี๋ยวนั้น  จะได้ไม่ต้องเห็นสายตาวาววับของโกเมนยามเมื่อจับได้ว่าเขามองรูปร่างของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกอย่างไร

“น้ำลายหกแล้ว”

“!”  รัชพลยกมือขึ้นตะปบปากตัวเองเมื่อได้ยิน  โกเมนหัวเราะพลางเบียดกายเข้าหาจนสัมผัสผิวเย็นชื้นของอีกฝ่ายแล้วคว้าร่างเปลือยเปล่านั้นเข้ามากอด  รัชพลดิ้นหนีทันที

“พี่พล  อย่าขยับ!”

“เอ๊ะ?” 

“ได้โปรด  อยู่นิ่งๆ ที”

“.....”

“พี่พล~”

“กะ กะ โก...”  โกเมนที่เบียดกายเข้าหาก้มลงแนบจมูกและริมฝีปากร้อนผ่าวกับลำคอของคนตรงหน้า  รัชพลยืนตัวแข็งทื่อทันที  ความรู้สึกแปลกประหลาดแล่นจากปลายนิ้วไปยังหนังศีรษะ  ในหูอื้ออึง  ได้ยืนเพียงเสียงหอบหายใจของโกเมนที่ข้างหู

ความรู้สึกร้อนขุมหนึ่งแล่นมวนอยู่ในท้องน้อย  รัชพลอยากจะดันร่างหนาหนักของโกเมนให้ถอยห่าง  อยากจะเอามือมากุมความร้อนผ่าวของตัวเองไว้  อยากให้ความรู้สึกพลุ่งพล่านนี้เจือจางลง  แต่มันกลับไร้เรี่ยวแรง

โกเมนเบียดกายเข้าหา  แนบความขึงขังกึ่งกลางลำตัวภายใต้เนื้อผ้าบดเบียดส่วนเปลือยเปล่าของอีกฝ่าย  ฝ่ามือหยาบกร้านจากการทำงานลูบไล้แผ่นหลังของคนในอ้อมแขน  ไล่ปลายจมูกขึ้นตามแนวคาง  ริมฝีปากร้อนละไล่เพื่อหาจุดหมาย  เมื่อพบเขาก็เข้าครอบครอง

โกเมนแตะแต้มริมฝีปากซ้ำๆ คล้ายขออนุญาต ยามเมื่อรัชพลยินยอมเขาจึงรุกล้ำกวาดต้อนไปทั่ว  เกี่ยวกระหวัดดูดดึงให้ตอบโต้  รัชพลประหม่าจนแทบหายใจไม่ทัน  พอจะถอยหนีโกเมนกลับยิ่งบดริมฝีปากเข้าหา  ฝ่ามือกดท้ายทอยรัชพลไว้ไม่ให้ขยับหนี  รุกเร้าไม่ยอมห่าง  เพียงครู่ที่ผละถอยให้รัชพลได้กอบโกยอากาศหายใจโกเมนก็รุกเข้าหาอีกครั้ง  เขาใช้ร่างกายดันให้รัชพลแนบติดไปกับผนังห้องน้ำ  ขยับกายบดเบียดสะโพกอย่างเร่าร้อนแม้มีกางเกงกางกั้น  ชายหนุ่มครอบครองริมฝีปากสีเข้มคู่นั้นไม่ห่าง

มือใหญ่เลื่อนกอบกุมสะโพกเพรียว  ออกแรงกดปลายนิ้วกับผิวเนื้อให้เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งสะดุ้งเฮือก  ลากสัมผัสแล้วกอบกุม  ขยับมือเร่งจังหวะตามอารมณ์ที่พุ่งสูง  บดเบียดริมฝีปากจนไม่เหลือช่องว่าง

“อืม~”  รัชพลหลับตาแน่น  ในหูอื้ออึงไม่ได้ยินสิ่งใด  ความรู้สึกร้อนแรงท่วมท้นจนแทบสิ้นสติ  เขาจิกปลายนิ้วกับต้นแขนโกเมนแน่น  ผละริมฝีปากออกเพื่อหอบหายใจพลางซบหน้ากับบ่ากว้างอย่างหมดแรง

กรอด~

โกเมนขบกรามแน่น  คิ้วเรียวขมวด  มือข้างที่ว่างจับคางรัชพลให้เงยขึ้นรับจูบอีกครั้ง  เนิ่นนานความเร่าร้อนรุนแรงจึงค่อยบรรเทาลงช้าๆ  รัชพลที่ไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นกับเขาที่เสื้อผ้าครบชุดก็ยังสามารถถึงจุดความสุขสมไปด้วยกัน

“อืม~”

เมื่อริมฝีปากเป็นอิสระ  ต่างคนต่างกอบโกยอากาศหอบหายใจ  ความรู้สึกร้อนแรงยังคงตกค้างแฝงอยู่ในอากาศ  โกเมนไม่ยอมขยับออกห่าง  เขายังคงยืนจ้องมองรัชพลอยู่อย่างนั้น  คนโดนจ้องเหลือบสายตาจ้องตอบ  ครู่เดียวก็เสหลบพร้อมกับแก้มที่สาดสีแดง

“พี่พล”

“....”

“พี่อยากจะถามอะไรหรือเปล่า?  ผมรู้ว่าพี่มีคำถามอยู่เต็มหัว”  โกเมนจูบขมับชื้นเหงื่อของคนตรงหน้าอย่างเอ็นดู

“.........”  รัชพลนิ่งเงียบ  เรื่องคำถามเขามีมากมายอย่างที่อีกฝ่ายพูดนั่นแหละ  เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มจากคำถามไหนก่อนดี

“พี่คงอยากรู้ว่าทำไมผมถึง...ทำเรื่องนี้”  โกเมนหรุบสายมามองกลางลำตัวของรัชพล  เมื่อเห็นสายตานั้นรัชพลเอามือตะปบกุมไว้แน่น  โกเมนหัวเราะกับท่าทางนั้น  อะไรกัน  ?  เมื่อครู่เขาทั้งกำทั้งรูดรั้งมันมาแล้วนะ

“ทำไม?”  รัชพลขมวดคิ้วถาม 

“เพราะผมอยากทำ  เพราะพี่คือคนพิเศษ”

“แล้วคุณนันท์?”  เขาเห็นโกเมนใส่ใจอภินันท์ขนาดนั้น  ในใจคงรู้สึกอะไรบ้างแหละ

“เกี่ยวอะไรกับคุณนันท์?”

“ก็เขาชอบคุณ”

“แต่ผมรักพี่พล”

“........”  รัชพลเอียงคอเมื่อได้ยินประโยคนั้น  “อะไรนะ?”  ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเรียบเรียงประโยคดังกล่าวเข้าใจแล้ว

“ผมรักพี่พล  ได้ยินชัดเจนยัง?”

“....”  รัชพลอ้าปากหวอ

“รักพี่พลคนเดียว  ไม่เกี่ยวกับคนอื่น  เข้าใจสักทีซี่~”  โกเมนหัวเราะ  ชายหนุ่มกดจูบริมฝีปากบวมช้ำคู่นั้นเร็วๆ แล้วผละออก  เขาแนบจมูกกับแก้มแดงๆ ก่อนจะงับแก้มอีกข้างอย่างมันเขี้ยว

“พ่อพลยอมให้อาโกเมนหอมแก้มแล้วนี่”

“!”

รัชพลกับโกเมนตัวแข็งทื่อเมื่อเหลือบไปเห็นฝาแฝดยืนอยู่หน้าห้องน้ำ  เด็กหญิงยิ้มร่า  ส่วนเด็กชายวิ่งเข้ามาในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

“ฟักอาบน้ำด้วยคน!”  เด็กชายนึกว่าผู้เป็นพ่อกับอาโกเมนกำลังอาบน้ำด้วยกันจึงนึกสนุกขอร่วมวง

รัชพลกับโกเมนเหลือบมองกลอนประตูห้องน้ำพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย  โกเมนพลิกเอาตัวบังร่างรัชพลไว้ไม่ให้เด็กหญิงเห็น  เขาเข้ามาจู่โจมรัชพลได้เพราะรู้อยู่แล้วว่ากลอนประตูห้องน้ำมันพัง ส่วนคนอื่นๆ ไม่รู้เพราะเขาไม่ได้บอก  อีกอย่างคนทำพังคือเขาที่อาบน้ำเป็นคนสุดท้ายเมื่อเช้านี้เอง

“แล้วทำไมถึงมาอาบน้ำด้วยกันละคะ  ห้องน้ำบ้านนู้นก็ว่าง”  เด็กหญิงสงสัย

“คือ  อาเดินมาถึงนี่แล้วร้อนเลยขอพ่อพลอาบน้ำด้วย  แบบว่าประหยัดน้ำไง  อุบ!”  รัชพลต่อยท้องคนแก้ตัวน้ำขุ่นๆ  ก่อนจะชะโงกหน้ามาพูดกับลูกสาว

“หนูออกไปก่อนนะ  เดี๋ยวพ่อตามไป  ฟักด้วย หยุดเล่นได้แล้ว”  เด็กชายหน้าม่อยหากแต่ยอมถอยออกไปโดยดี  โกเมนยังคงยืนอยู่ที่เดิมพร้อมรอยยิ้มน่าหมั่นไส้  ร่างสูงเอื้อมหยิบผ้าเช็ดตัวส่งให้รัชพล

“มาซ่อมกลอนประตูด้วย!”  รัชพลกระทืบเท้าโกเมนพร้อมลงแรงบดขยี้ให้ชายหนุ่มเบิกตากว้าง   มือใหญ่ยกขึ้นปิดปากกลั้นเสียงร้องสุดความสามารถเพราะกลัวฝาแฝดได้ยินแล้วจะวิ่งกลับมา

โอ๊ย!  โกเมนยกเท้าขึ้นกุมกระโดดเหยงน้ำตาเล็ด

พี่พลนะพี่พล  คอยดูเถอะ  จะคิดดอกเบี้ย!

.
.
.


อภินันท์มองท่าทางแปลกๆ ของรัชพลแล้วขมวดคิ้ว  ก่อนจะหันไปมองโกเมนที่ดูอารมณ์ดีผิดปกติ  นึกอยากถามอีกฝายว่ามีเรื่องอะไรดีๆ เกิดขึ้นหรือ  แต่คิดไปคิดมาอย่าถามจะดีกว่า  เขากลัวว่าคำตอบจะเป็น...

“นายอารมณ์ดีอะไรนักหนาเนี่ยโกเมน?”  ผู้จัดการร่างท้วมเอ่ยถามอย่างหมั่นไส้  ตั้งแต่เย็นจนค่ำจนดึกดื่นจะเข้านอน  หมอนี่เอาแต่ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู

“พี่พล~”  โกเมนตอบด้วยรอยยิ้มเจิดจ้า  พร้อมสายตาหวานเยิ้ม

นั่นไงล่ะ!  ผิดจากที่คิดเสียที่ไหน!

อภินันท์ถอนหายใจ  อุตส่าห์ไม่ถามเพราะไม่อยากปวดใจ  แต่คนที่อยากรู้เรื่องชาวบ้านกลับไม่อาจสงบปากสงบคำ  สุดท้ายเขาที่ได้ยินคำตอบที่ไม่อยากได้ยินก็เจ็บแปลบอยู่ดี....

เฮ่อ~







โปรดติดตามตอนต่อไป





สวัสดีค่า
มาช้าอีกตามเคย  ฮือออออ  วันไหนได้นอนเกิน5 ชั่วโมงนี่ดีใจจนน้ำตาจะไหลค่ะ ฮือออออ
คาดว่านะคะ  คาดว่าตอนหน้าจะจบล่ะค่ะ........
และยืนยันว่าเรื่องนี้ใสๆ...
ใสจริงๆนะคะ :katai2-1:


มีเรื่องไหนติ-ชมกันได้เสมอนะคะเพื่อการปรับปรุงและพัฒนา
อาจไม่ได้ตอบคอมเม้นท์แต่เข้ามาอ่านตลอดและบ่อยๆ ด้วยค่ะ
พลัง  กำลังใจจากทุกๆคน  ขอบคุณมากนะคะ^^
กอดดดดด
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 14-08-2017 21:08:18
ชอบบรรยากาศที่บรรยายออกมามากเลย อยากไปอยู่แบบนั้นบ้างเลยล่ะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 14-08-2017 21:23:06
ขอบคุณค่ะ  สนุกและน่ารักเช่นเคยค่ะ  รวมเล่มไหมคะ  จะรอซื้อค่ะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 14-08-2017 22:03:33
ได้อ่านเรื่องน่ารักๆๆๆๆก่อนนอน ฝันดีละคืนนี้
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 14-08-2017 22:13:18
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 14-08-2017 22:49:44
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 15-08-2017 03:38:13
อิ่มละมุน
อยากไปเที่ยวบ้านสวนของครอบครัวนี้บ้างจัง
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 15-08-2017 05:51:35
ขำโกเมน 5555
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 15-08-2017 07:25:13
สารภาพรักแล้ววววววว
แถมพี่พลยังหวิดจะเสียตัวไปอีก >\\\\\\<
ชอบความละมุนละไม กับวิถีชีวิตบ้านๆแบบนี้จิงๆ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-08-2017 08:14:18
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 15-08-2017 09:47:21
โกเมนสารภาพรักกับพี่พลแล้ว  :-[
ฟิน แต่ก็สงสารคุณนันท์ อยากให้คุณนันท์มีคู่จัง
รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 15-08-2017 23:05:21
จะจบแล้วเหรอ เสียดายยังอยากเห็นความน่ารักของพี่พลไปอีกนานๆ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 16-08-2017 18:35:48
โอ้ยยยยยยยย เลือดพุ่งงงงงง ชอบฉากในห้องน้ำ งือๆ จะจบแล้วเหรอคะ ไวจังง
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 18-08-2017 16:13:38
โกเมน จัดพี่พลไม่ให้ตั้งตัวเลย แผนสูงด้วยนะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 18-08-2017 18:04:26
เพิ่งจะฟิน จะจบแล้วหรอ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-08-2017 21:12:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-08-2017 21:50:05
หวังว่าพี่พลจะรับรักโกเมนนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 20-08-2017 01:07:12
ละมุนมากกกกกก ชอบบบบ :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 24-08-2017 06:36:00
ชอบบบบ บรรยากาศน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 25-08-2017 16:22:20
มาได้แล้วครับ คิดถึงบรรยากาศบ้านไร่บ้านนาแล้ว
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-08-2017 17:41:46
ยิ่งอ่านยิ่งอยากปลูกผักกินค่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 25-08-2017 21:34:12
 :hao7:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 02-09-2017 14:14:56



รักพอเพียง  ตอนที่14


เขานอนไม่หลับและแน่นอนว่าหลังจากวันนั้นเขาก็หลบหน้าโกเมนมาตลอด  จากเหตุการณ์ชวนให้หัวใจวายในห้องน้ำวันนั้น  วันรุ่งขึ้นพอเขาเตรียมอาหารเช้าให้พวกอภินันท์เสร็จก็เผ่นแผล็วหายไปในกลีบเมฆ  ไม่กล้าเจอหน้าใครทั้งนั้น ในวันต่อมาอภินันท์และพี่ตุ่นก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ  ส่วนรัชพลหนีไปอยู่บ้านพ่อกับแม่แล้วเรียบร้อย

“พ่อพลของพวกหนูไปไหน?”

“พ่อพลบอกว่า  อาทิตย์หน้ามีงานวัดประจำอำเภอ  เลยต้องไปช่วยงานชาวบ้านคนอื่นๆ”  เด็กหญิงเงยหน้าจากกล่องชอกโกแลตที่อภินันท์ทิ้งไว้ให้ขึ้นตอบโกเมน  ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ  รัชพลหลบหน้าเขาอย่างเห็นได้ชัด แล้วนี่ก็ปาเข้าไปวันที่สามแล้วนะ!

“ฝาแฝดไปอยู่บ้านตายายก่อนไหม  อาโกเมนจะเข้าไร่”  ฝาแฝดพยักหน้า  ช่วงนี้ต้นกล้วยน้ำว้าในไร่ต้องถูกโค่นเพราะจะปลูกอย่างอื่นเข้าไปแทนที่  ต้นอะโวคาโดแข็งแรงพอจนไม่ต้องการความชุ่มชื้นจากต้นกล้วยแล้ว  อะโวคาโดพันธุ์กำลังออกดอก  ส่วนพันธุ์พื้นบ้านนั้นลูกกำลังแก่และเก็บเกี่ยวขายพอดี
จนสายล่วงเลยเข้าช่วงบ่าย  โกเมนคิดว่าเวลานี้รัชพลน่าจะกลับเข้ามาบ้าน  เมื่อไม่เห็นฝาแฝดก็ต้องไปรับเด็กๆ กลับมา จากนั้นช่วยกันเก็บผักหลังบ้านไปส่งตลาด  ชายหนุ่มจอดรถไว้ห่างจากตัวบ้านเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขากลับมาแล้ว   แน่นอนว่ารัชพลที่กำลังง่วนอยู่กับการเอาผักขึ้นรถโกเมนก็ตรงดิ่งเข้าลากแขนฝ่ายนั้นเข้าบ้านรวดเร็ว

“เฮ้ย!”

“ผมเอง”

“กะ โกเมน  กะ  กลับไวจัง”

“ถ้าไม่รีบกลับมาจะได้เจอหน้าพี่ไหมล่ะ?”

“คือ...”

“พี่กำลังหลบหน้าผมใช่ไหม?”

“คือแบบว่า...”

“พี่หลบหน้าผมเหรอ?  พี่รังเกียจผมใช่ไหม?”

“ไม่ใช่นะ!”  รัชพลรีบร้อนปฎิเสธ   เขาเงยหน้ามองโกเมน  ครู่เดียวก็ก้มงุดลงไปตามเดิม

“งั้นหลบหน้าทำไม”

“....”

“เงยหน้ามองผมเดี๋ยวนี้นะ!”  โกเมนชักโมโห  เขาอุตส่าห์คิดว่า  หลังจากเหตุการณ์วาบหวิวนั้นเขากับรัชพลจะใจตรงกัน  จากนั้นก็แบบ...ใช้ชีวิตคู่แบบมีความสุข  เขาคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว  หากรัชพลกลับทำตัวตรงกันข้าม  หรือเขามั่นใจในตัวเองเกินไป?

“....”

“ผมคิดไปเองคนเดียวเหรอ  ว่าใจตรงกัน”

“โกเมน?”  รัชพลเงยหน้าในที่สุด  น้ำเสียงเศร้าสร้อยของคนตรงหน้าพาให้หัวใจของเขาสั่นไหว  ดวงตาคู่สวยของโกเมนสั่นระริกเหมือนคนขาดความเชื่อมั่น

โกเมนโน้มใบหน้าลงเข้าใกล้  ใช้ปลายจมูกแตะกับปลายจมูกมนของคนตรงหน้า เขาจ้องเข้าไปในดวงตาคู่โศกของรัชพลแน่วแน่  เขาอยากจูบ  อยากยืนยันความรู้สึกกับคนคนนี้ว่าเขาจริงจัง  ขออย่าได้หลบหน้ากันอีกเลย

“พ่อพล  พวกเราเก็บไข่เสร็จแล้ว”

“!”  รัชพลผลักร่างสูงของโกเมนออกห่างอย่างตกใจก่อนจะผลุนผลันออกไป  ทิ้งให้โกเมนหน้าดำหน้าเขียวอยู่คนเดียวในห้อง


งานวัดที่จัดขึ้นเป็นงานประจำปี  จัดขึ้นห้าวันห้าคืนโดยมีอำเภอใกล้เคียงมาช่วยงานแบ่งกันรับผิดชอบในส่วนต่างๆ  รัชพลช่วยจัดหาต้นไม้และดูแลซุ้มเกษตรของหมู่บ้าน  หมู่บ้านถัดไปดูแลเรื่องนักร้องและเวทีรำวง  พรุ่งนี้จะมีนักร้องสาวลูกทุ่งที่กำลังโด่งดังอย่างลำไย ไหทองคำมาแสดง  นั่นทำเอารัชพลนึกถึงโกเมนขึ้นมา  ไม่รู้ว่าถ้าโกเมนมางานนี้  จะขึ้นไปเต้นเพลง ผู้สาวขาเลาะ หรือเปล่า

แค่นึกถึงนึกโกเมน  หัวใจรัชพลพลันเต้นแรงขึ้นมา

นอกจากนั้นยังรู้สึกว่าแก้มสองข้างมันร้อนๆ แปลกๆ ด้วย  เขาเหลียวหาเจ้าของชื่อที่คิดถึงในหัวมาตลอดหลายวันนี้  ไม่รู้ว่าโกเมนจะมางานหรือเปล่า?  เมื่อเย็นเขาพาฝาแฝดไปส่งบ้านตายาย  พี่พงษ์รับหน้าที่พาพ่อแม่มาเที่ยวและทำบุญ  ส่วนเขาติดงานเลยไม่ได้ไปดูแล   จะว่าไป...หลายวันมานี้ที่ไม่ได้เจอหน้าโกเมน  เขาก็รู้สึก....คิดถึงอยู่เหมือนกัน

“พี่พล?”

“ครับ?”  รัชพลหันไปตามเสียงเรียก  คนที่เรียกเขาคือแหวน  สาวใหญ่หมู่บ้านข้างๆ ที่รับผิดชอบเวทีรำวง   ฝ่ายนั้นส่งยิ้มหวานมาให้

“พี่พลว่างหรือยัง?”

“ก็...”  รัชพลเหลียวมองเพื่อนร่วมซุ้ม  ฝ่ายนั้นยิ้มกรุ้มกริ่มพลางเหลือบมองสาวใหญ่ไปด้วย

“แกไปเหอะ  เดี๋ยวข้าเฝ้าซุ้มเอง”

“ไปไหน?”  รัชพลไม่เข้าใจ

“ไปรำวงกับฉันน่ะซิ”  แหวนว่าพลางเข้ามาดึงแขนให้รัชพลเดินตาม

“เฮ้ย  พี่รำวงไม่เป็น” 

“รำๆ ไปเถอะ  ถือว่าช่วยกัน”  สาวใหญ่ว่า   บนเวทีรำวงครบรอบเพลงต่อไปพอดี  แหวนจึงจ่ายค่าบัตรแล้วลากรัชพลขึ้นไปบนเวที  เพลงลูกทุ่งจังหวะสนุกสนานอย่าง ผู้สาวขาเลาะ  ถูกเล่นซ้ำอีกรอบเนื่องจากสาวๆ ตะโกนขอ  วงดนตรีจึงจัดให้แบบไม่ขัดศรัทธา  รัชพลเผลอหลุดหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว  เพราะพอดนตรีขึ้นเขาก็คิดถึงท่าทางที่โกเมนเต้นยึกยือ

“พี่พลขำอะไร?”

“แค่คิดถึงคนที่บ้าน”

“ฝาแฝดเหรอ?”  แหวนเอ่ยถามพลางเต้นยักย้ายส่ายสะโพกพร้อมรัชพลเวียนไปรอบเวที

“ก็...”

“หืม?”

“ไม่มีอะไร”  รัชพลปฏิเสธ  ชายหนุ่มยิ่งยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงโกเมน  ...อยากให้มาด้วยกันจัง

รัชพลยังคงยิ้ม  โดยไม่รู้ว่าไอ้ภาพยิ้มกว้างอย่างมีความสุข พร้อมสาวใหญ่ข้างกายนั้นกำลังทิ่มแทงนัยน์ตาคนมองแค่ไหน  โกเมนกำหมัดแน่น  เขามางานวัดวันนี้เพราะเมื่อเย็นพี่พงษ์แวะไปหาที่บ้าน  บอกว่ารัชพลต้องไปช่วยงานวัดเลยมารับฝาแฝดไปส่งบ้านตายาย  ส่วนพี่พงษ์จะพาพ่อแม่ไปเที่ยวช่วงหัวค่ำ  รัชพงษ์ชวนให้โกเมนมาเที่ยวงานวัดด้วย  เพราะปีนี้จัดค่อนข้างใหญ่เนื่องจากรวมไว้หลายอำเภอช่วยกันจัดงาน  โกเมนคิดว่า  อย่างน้อยหลังจากนี้เขาคงอยู่ที่นี่ไปชั่วชีวิต  ไปร่วมงานของอำเภอไว้เสียหน่อยก็ดี  แต่ใครเลยจะรู้ว่าเขาจะมาเห็นภาพบาดตาแบบนี้

โกเมนที่ไม่เจอรัชพลมาหลายวัน  โดนหลบหน้าก็ยังพยายามทำใจเย็นเอาไว้  พลางคิดว่าอีกฝ่ายงานยุ่ง  เดี๋ยวเสร็จงานอำเภอแล้วคงได้พูดคุยให้รู้เรื่องเสียที  ที่ไหนได้...รัชพลกำลังหัวร่อต่อกระซิกกับแม่ม่ายสาวหมู่บ้านข้างๆ!

ได้!

จะเอาแบบนี้ใช่ไหม?

โกเมนจัดให้!


**********
   


รัชพลถอนหายใจ  วันนี้เป็นงานวันสุดท้ายแล้วและเขาไม่จำเป็นต้องอยู่เฝ้าซุ้มอีก  แต่ว่า...จะกลับบ้านไปตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมเจอหน้าโกเมนสักเท่าไหร่  ก็แบบว่า...ถ้าเห็นหน้ามันจะเผลอคิดถึง ‘วันนั้น’ ขึ้นมา

   “พ่อพล~”

   “ฮือ  พ่อจ๋า~” 

   เสียงร้องไห้ของฝาแฝดทำให้รัชพลใจเสีย  เขาวางของในมือแล้ววิ่งเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว  ฝาแฝดที่กอดกันร้องไห้พอเห็นผู้เป็นพ่อก็วิ่งโผเข้ามากอดเอวคนละข้างพร้อมน้ำหูน้ำตาน้ำมูกไหลเป็นทาง

   “ฝาแฝด  พวกหนูเป็นอะไร  ร้องไห้ทำไม?”

   “พ่อพล  อาโกเมนไม่อยู่แล้ว”  เด็กหญิงเงยหน้าตอบ

   “อะไรนะ?”

   “อาโกเมนเก็บเสื้อผ้าไปหมดเลย”  ฟักเงยหน้าตอบคนที่สอง  แขนยังไม่ละจากเอวผู้เป็นพ่อ  รัชพลหัวใจร่วงไปอยู่ตาตุ่มเมื่อได้ฟัง  ใบหน้าซีดเซียวมือไม้เย็นเฉียบขึ้นมาทันใด

   เกิดอะไรขึ้น?

   รัชพลวิ่งเข้าไปในห้องนอนของโกเมน  เปิดตู้เสื้อผ้า  ภายในนั้นว่างเปล่า  ข้าวของเครื่องใช้หน้าโต๊ะกระจกก็ไม่มี  แม้แต่แปรงสีฟันในห้องน้ำยังเอาไป!

   “เมื่อไหร่?”  เสียงที่เอ่ยถามลูกเบาหวิว  ร่างสูงโปร่งโงนเงนจนต้องเกาะขอบประตูห้องน้ำเอาไว้  สายตาคู่สวยจ้องมองลูกชายหญิงตรงหน้า  ตอนนี้เขาคิดอะไรไม่ออกเลย  คล้ายความคิดหยุดชะงัก  แม้กระทั่งลมหายใจยังสะดุด

   “พ่อจ๋า?”  ฝาแฝดจับมือพ่อคนละข้าง  ค่อยๆ จูงให้มานั่งบนฟูกนอนของโกเมน

   “อาโกเมนของพวกหนูไปเมื่อไหร่?”

   “เมื่อกี้  ไม่ใช่ๆ เอ่อ  เมื่อเช้า  ใช่ไหม?”  เด็กชายหันมาถามพี่สาว

   “ใช่ๆ  เมื่อเช้า  น่าจะเมื่อเช้า  ตอนลุงพงษ์มาส่งพวกหนูก็ไม่เห็นอาโกเมนอยู่ในบ้านแล้ว  พวกหนูนึกว่าอาโกเมนอยู่ในห้อง  ไปหาก็ไม่เจอ”

   “หลังบ้านก็ไม่มี”  ฟักเอ่ยต่อ

   “พวกหนูรออยู่นาน  ตอนกลางวันกินข้าวที่พ่อพลทำไว้ให้  คิดว่าเดี๋ยวบ่ายๆ อาโกเมนคงกลับมา”

   “แต่ก็ไม่มา”

   “ฮึก  พ่อจ๋า  อาโกเมนไปไหน?”  เด็กหญิงเริ่มร้องไห้อีกครั้ง  รัชพลเจ็บแปลบในอกคว้าฝาแฝดเข้ามากอดไว้แน่น  เขาผิดเอง  เขาเป็นคนผิด..  ถ้าเขายอมคุยกับโกเมน ไม่เอาแต่หลบหน้าตลอดหลายวันที่ผ่านมาอีกฝ่ายคงไม่หนีไปแบบนี้

   โกเมนไปแล้ว?

   หัวใจของรัชพลเจ็บแปลบ  นึกวันแรกที่เขาเจอโกเมน  วันนั้นเขาประหม่ามาก  มือไม้สั่นและเย็นเฉียบ  คนที่เขาเคยเห็นแต่ในภาพถ่ายและจอโทรทัศน์กำลังยืนรอเขาอยู่ในชานชาลา  เจ้าของร่างสูง  ผิวขาวจัด  ใบหน้าหล่อเหลาและริมฝีปากสีแดงสด  เขาตกอยู่ในภวังค์เนิ่นนานกว่าจะเรียกสติตัวเองกลับมาได้  หัวใจพลันเต้นแรงจนหูอื้ออึง  แต่ทุกอย่างถูกซ่อนมิดภายใต้ท่าทางเฉยชา  แน่นอนว่าอีกฝ่ายไม่เห็นเพราะไม่ใส่ใจจะมองมาทางเขาสักนิด  โกเมนหยิ่งผยองคางเชิดตลอดเวลา  พูดเรื่องการขายที่ของลุงปั้นออกมาได้อย่างหน้าตาเฉยเพราะไม่ผูกพัน  เขาคิดว่าโกเมนนั้นช่างเป็นคนนิสัยไม่ดีเอามากๆ  แตกต่างจากจินตนาการของเขาอยู่มากโข  แต่ว่า...ทำไมเขาถึงทำใจวางเฉยกับอีกฝ่ายไม่ได้  ถ้าจะบอกเพราะโกเมนเป็นหลานชายของลุงปั้นนั่นก็แค่ข้ออ้าง  เขารู้ดี...

   ว่าหัวใจของเขาโดนขโมยไปตั้งแต่วันแรกที่เขาเห็นรอยยิ้มในภาพถ่ายของโกเมน

   นั่นเป็นความลับที่รัชพลเก็บซ่อนเอาไว้ลึกสุดหัวใจไม่เคยคิดจะแพร่งพราย  โดยเฉพาะกับเจ้าตัว  แต่หลังจากนั้นกลับเป็นเรื่องยากลำบากเหลือเกิน  ยิ่งใกล้   รัชพลยิ่งห้ามความรู้สึกไม่ได้  นับวันข้อเสียเล็กๆ น้อยๆ ของโกเมนก็ช่างดูน่ารักไปเสียหมด และสุดท้ายก็ได้รู้ว่าเขาไม่นึกเสียดายเลยที่ได้แอบรักโกเมนมานาน

   แต่...ช่วงที่ผ่านมาโกเมนทำเหมือนว่ามีใจ  เขาหวั่นไหวหนักขึ้นหากไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเอง  รัชพลกลัวว่าความสุขที่วิ่งเข้ามาหาจะอยู่แค่เพียงชั่วครู่ชั่วคราว  เขาไม่รู้ว่าหากลืมตาตื่นขึ้นมาในวันหนึ่งความสุขที่อาบล้นนั้นจะกลายเป็นเพียงแค่ความฝันหรือว่าความจริง

   ในวันนั้น...วันที่เผลอสัมผัสแนบชิด

   รัชพลกลัวที่จะเงยหน้ามองโกเมน  กลัวว่าสายตาคู่นั้นจะเปลี่ยนแปลง  จะไม่เหมือนเดิม  คำเรียกขานว่า ‘พี่พล’ จะห่างเหินไปกลายเป็นคนแปลกหน้า  รัชพลหลบหลีก  เลี่ยงหนีจนวันนี้....

   ถ้าหากความรู้สึกของโกเมนเป็นของจริง  เขาคือคนผิด  และเขาทนไม่ได้...

   ทนไม่ได้ถ้าบ้านหลังนี้ไม่มีโกเมน

   “พ่อจะไปตามหาอาโกเมน  พวกหนูไปอยู่กับตายายก่อนนะ”

   “อื้อ!”  ฝาแฝดพยักหน้ารับ  เด็กสองคนมองหน้ากันแล้วยิ้มกว้าง  รัชพลควานหาโทรศัพท์มือถือที่โกเมนซื้อให้  เขาไม่เคยคิดจะหยิบมาใช้  หากโกเมนเป็นคนคอยดูแลชาร์จแบตให้เต็มอยู่เสมอ  พร้อมด้วยคำบ่นที่ว่า  นี่มือถือไม่ใช่มือวาง  ให้เอาติดตัวไว้เผื่อวันไหนมีอะไรเกิดขึ้นเขาจะได้ไปช่วยเหลือทัน  ในโทรศัพท์มีรายชื่อติดต่อแค่ไม่กี่ชื่อ  รัชพลกดค้นหาครู่เดียวก็เจอ  เขากดโทร.ออกพลางรอสายอย่างกระวนกระวายหากไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ กลับมา

   “ถ้าพ่อไม่มารับพวกหนูนอนบ้านตายายไปก่อนนะ  หรือจะให้ลุงพงษ์มารับไปนอนกับปู่ย่าก็ได้  ตามใจ”  รัชพลร้อนใจ  เขามาส่งฝาแฝดแล้วคร่อมรถมอเตอร์ไซค์จะขับออกไป

   “พ่อพล!”  เด็กหญิงวิ่งเข้ามาหา

   “ว่าไง?”

   “ตามอาโกเมนกลับมาให้ได้นะคะ”

   “อื้ม!”

   “ฟักอยากให้อาโกเมนอยู่กับเราตลอดไป”

   “พ่อก็เหมือนกัน”  รัชพลลูบหัวฝาแฝด

   “ว่าแต่...อะโวคาโดกำลังจะเก็บลูกกินได้แล้วแท้ๆ”  เด็กหญิงทำหน้าม่อย  รัชพลส่ายหัว  ยัยแฝดยังจะห่วงกิน!

   รัชพลทั้งโทรศัพท์ถามพี่ตุ่นว่าโกเมนติดต่อไปบ้างไหม  ฝ่ายนั้นปฏิเสธกลับมา  เขานึกอยากจะขอเบอร์ติดต่ออภินันท์เผื่อโกเมนจะไปหาฝ่ายนั้นแต่ก็ไม่กล้า  ทั้งในตลาด  ในวัด  ทุกๆ ที่ที่คิดว่าโกเมนจะไปไม่มีแม้แต่เงา  ตอนนี้โทรศัพท์มือถือก็แบตใกล้หมด  เขาพยายามนึกว่าโกเมนจะติดต่อใครบ้างแล้วโทร.ให้เพื่อนช่วยตามหา

   “ฮัลโหล  ครับ?”  เบอร์ไม่คุ้นโชว์บนหน้าจอ  รัชพลกดรับสายในใจภาวนาขอให้เป็นข่าวดีจากใครสักคนโทร.มาบอกเรื่องโกเมน

   “คุณพล  ผมอภินันท์เองนะครับ”

   “คุณนันท์?”

   “พอดีผมโทร.ไปหาคุณตุ่น  ทราบว่าคุณกำลังตามหาโกเมน  มีเรื่องอะไรกันหรือครับ  โกเมนหายไป?”

   “คือ...ผมกับโกเมน...เรา  จะว่าทะเลาะกัน...ก็ทำนองนั้นแหละครับ”

   “ผมว่าโกเมนคงอยู่แถวๆ นั้นแหละครับ  เขาไม่ไปไหนไกลหรอก”

   “........”

   “ผมเคยชวนเขากลับเข้าวงการ  คุณรู้ไหมว่าเขาตอบว่ายังไง?”

   “......”

   “เขาบอกว่าบ้านเขาอยู่ที่นั่น  เขาลงแรงและหยาดเหงื่อบนผืนดินนั้น  เขาไม่มีทางทิ้งมันมาหรอกครับ”

   รัชพลยืนนิ่งเมื่อได้ฟัง  โกเมนรักที่นี่เขามั่นใจ  อภินันท์พูดถูก  โกเมนไม่มีทางทิ้งสิ่งที่ก่อร่างสร้างมากับมือไปแน่  เขาตามหาอีกฝ่ายจนทั่วแล้วไม่พบตัว  ที่ที่สุดท้ายที่น่าจะเป็นไปได้...



หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่13[14-8-60]P.6
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 02-09-2017 14:22:18
ตะวันกำลังหลบพ้นขอบเขา  ความมืดโรยตัวมาอย่างเชื่องช้า  รถมอเตอร์ไซค์คันเก่าขับไปตามทางลูกรังที่เป็นหลุมเป็นบ่อ  รัชพลจอดรถไว้ใต้ต้นสมอก่อนจะวิ่งเข้าไปในบ้านพัก

   บ้านพักในไร่หลังนี้รัชพลให้คนงานมาสร้างไว้เพื่อพักพิง  แม้ไม่แน่นหนาแต่กันลมกันฝนได้  มีห้องน้ำเล็กๆ เยื้องไปด้านหลัง  ในบ้านมืดมิดเพราะไม่ได้เปิดไฟ  ความมืดนั้นพาให้ใจของชายหนุ่มดิ่งลึก  หรือโกเมนจะไม่ได้อยู่ที่นี่?

   รัชพลยืนนิ่งไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ  เขาจมอยู่ในความคิดจนไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจากนอกบ้าน

   “พี่พล?”

   “โกเมน!”  รัชพลหันขวับไปตามเสียงเรียกก่อนจะโถมเข้าไปหาร่างนั้น  ยื่นมือขึ้นแตะใบหน้าหล่อเหลาคล้ายไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น

   “?”  โกเมนเลิกคิ้วมองใบหน้าซีดขาวของคนตรงหน้า

   “โกเมน?”

   “โอ๊ย!  พี่หยิกผมทำไมเนี่ย!”  โกเมนโวยวาย  ยกมือขึ้นกุมแก้มที่โดนหยิกพร้อมส่งสายตาโกรธเคืองไปให้อีกฝ่าย

   “นายตัวจริงเสียงจริง!”

   “หืม  ก็ผมน่ะซิ”  สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำเอาโกเมนขมวดคิ้ว  ไม่แน่ใจว่าตัวเองหูฝาดไปหรือเปล่า

   “นายไปอยู่ที่ไหนมา?  ทำไมไม่กลับบ้าน?  รู้ไหมว่าฝาแฝดร้องไห้งอแงแค่ไหน?  พวกเขาบอกว่านายจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว?”  รัชพลรัวคำถามเป็นชุด  ทำเอาคนโดนถามเกาหัวแกรกเพราะไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี

   “อืม  ก็ใช่”

   “ก็ใช่อะไร?”  รัชพลขมวดคิ้วฉับ

   “ก็ที่จะไม่อยู่ไง”

   “ฉันไม่ให้นายไป!”  รัชพลแทบตะโกน  เขาถลันตัวเข้ามาจับต้นแขนโกเมนเอาไว้แน่นอย่างร้อนรน  ท่าทางสงบนิ่งและเฉยชาถูกสลัดทิ้งไม่เหลือหลอ  ในใจรู้สึกอย่างไรก็แสดงออกอย่างนั้น  ความห่างเหินและระยะห่างที่เคยพยายามสร้างพังทลายไปตั้งแต่วินาทีที่ได้ยินว่าโกเมนจะจากไป

   “เห้ย  ไม่ได้  ผมต้องไป”  โกเมนมองท่าทางของรัชพลแล้วถอนหายใจ

   “เพราะฉันเหรอ?”  ดวงตาคู่สวยสั่นระริก  รัชพลจ้องหน้าโกเมนด้วยใจสั่นหวิว

   “คือ  ไม่ใช่...”

   “ฉันไม่ให้นายไป!  ฉันแอบรักนายมาตั้งนานหลายปี  นายมาอยู่ใกล้ มาให้ความหวัง  มาทำให้ฉันหลงแล้วจะทิ้งกันไปงั้นเหรอ?”

   “อะไรนะ?  พี่บอกว่าพี่รักผม?”  โกเมนตาโต  ครู่หนึ่งเขาก็ยิ้มกว้างเมื่อเรียบเรียงคำพูดของรัชพล

   “.....”  รัชพลกัดริมฝีปาก  เผลอบอกไปแล้ว  เผลอพูดความในใจออกไปแล้ว!

   “แล้วก็รักมาหลายปีแล้ว?”

   “คือ...โธ่โว้ย! ใช่  ฉันรักนายตั้งแต่หลายปีก่อน  เพราะฉะนั้นนายต้องรับผิดชอบ!”  รัชพลอ้าปากพรูความจริงทั้งหมดออกมา  ถ้าโกเมนจะโกรธเขาก็ไม่สนใจแล้ว  ยังไงเขาก็จะรั้งอีกฝ่ายไว้ที่นี่  ไม่ยอมให้จากไปไหนทั้งนั้น

   “อา...ดีใจชะมัด!”  โกเมนยิ้มกว้างพลางกำหมัดชูขึ้นฟ้าก่อนจะรวบตัวรัชพลเข้าไปกอดเต็มแขน

   “งั้นนายจะไม่ไปแล้วใช่ไหม?”  รัชพลกำลังจะยกยิ้มเอ่ยถามเสียงเบาหวิวอย่างโล่งใจ

   “ไม่ได้  ผมต้องไป”

   “นายบอกว่ารักฉัน  ฉันก็บอกว่ารักนายแล้ว  แล้วทำไมยังจะไปอีกล่ะ?”  รัชพลผลักอกอีกฝ่ายออก  เอ่ยถามคนที่บอกว่าต้องไปอย่างไม่เข้าใจ

   “ไม่ไปไม่ได้หรอก  ถ้าผมไม่ไปกล้วยพวกนั้นต้องเน่าหมดแน่  น่าเสียดายถ้าต้องทิ้งไปเฉยๆ”

   “กล้วย?”

   “ใช่  กล้วยน้ำว้าไง  พอดีพ่อค้าเจ้าประจำที่มาซื้อเขารถเสียเลยขึ้นมารับกล้วยไม่ได้  ผมเลยบอกว่าพรุ่งจะขนไปส่งที่บ้านเขาแทน”

   “ที่ว่าต้องไป  คือไปส่งกล้วย?”

   “ใช่”

   “.....”  แล้วไอ้ที่เขาโวยวายจะเป็นจะตายเมื่อครู่นี้เพื่ออะไรกัน?  อา  น่าขายหน้าชะมัด!  รัชพลยืนนิ่งก่อนจะค่อยๆ หันหลังให้โกเมนแล้วเบ้หน้าเหยเกกับการกระทำของตัวเอง   

   โกเมนมองท่าทางนั้นแล้วยิ้มกว้าง   พี่พลน่ารัก!

   “ถ้าอย่างนั้นนายหอบผ้าหอบผ่อนออกจากบ้านทำไม?”  รัชพลเก็บเศษหน้าที่แตกหันมาเอ่ยถามอย่างข้องใจ

   “?”

   “เก็บหมดแม้กระทั่งแปรงสีฟัน  ไม่เหลืออะไรไว้สักอย่าง  ใครมาเห็นก็ต้องคิดว่านายจะไปแบบไม่กลับมาทั้งนั้นแหละ”  โกเมนเอียงคอ  เขาเก็บผ้ามาหมดตู้อย่างนั้นหรือ?  เขาว่าไม่นะ...  ไม่รอให้โกเมนตอบรัชพลเอ่ยแทรกขึ้นอีก  “ไปส่งกล้วยพรุ่งนี้ไม่ใช่หรือไงแล้วมาอยู่ทำไมที่นี่”

   “ก็...”

   “กลับบ้านกัน!”  รัชพลว่าพลางจับแขนอีกคนให้เดินตาม

   “เดี๋ยวๆ พี่พล”

   “อะไรอีก!”  รัชพลหันมาแหวใส่  หากคนโดนแหวเพียงแค่ยิ้มเอ็นดูกับท่าทางนั้น  รัชพลส่งเสียงดุทั้งที่หูแดงแจ๋แบบนี้ใครเขาจะไปกลัว

   “ผมมานอนเฝ้าอะโวคาโด  พี่ก็รู้ว่าปีนี้เป็นปีแรกที่ออกลูกถ้าไม่เฝ้าไว้เสียหน่อยคงโดนขโมยหมดสวนแน่”  รัชพลขมวดคิ้ว  ใช่  ไร่นี้ห่างบ้านคน  และถึงแม้จะทำรั้วแล้วก็ใช่ว่าจะกันขโมยได้ถ้าไม่เฝ้าคงโดนยกเค้าไปทั้งสวน

   “แล้วนี่จอดรถไว้ตรงไหน?”  รัชพลเสเปลี่ยนเรื่อง

   “จอดไว้กลางสวนนู่น  กลัวว่าจอดไว้ริมทางจะโดนโจรต่อสายไฟขโมยรถไปขายข้ามฝั่ง”

   “อืม  งั้นฉันกลับแล้ว...”

   “พี่พลก็นอนที่นี่ด้วยกันซิ”  โกเมนดึงแขนคนที่ทำท่าจะเดินออกไปเอาไว้

   “เรื่องอะไร!”

   “เถอะน่า  นะ นะพี่พล  ผมนอนคนเดียวก็กลัวเหมือนกันนะ”

   “.......”

   “อีกอย่างเราเพิ่งปรับความเข้าใจกันไม่ใช่เหรอ  ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เราควรจะพูดคุยกันให้เยอะๆ”

   “มะ...”  แบบนี้เขายิ่งไม่กล้าอยู่!  รัชพลหน้าแดง  อ้าปากเตรียมเอ่ยคำปฏิเสธ  หากโกเมนกลับปิดปากเขาไว้อย่างรวดเร็ว  “!”

   “นะครับ?”  เสียงทุ้มกระซิบชิดริมฝีปาก  รัชพลยืนนิ่งพร้อมจังหวะหัวใจที่เต้นรัวเร็ว



   รัชพลไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยนอกจากเสียงลมหายใจของตัวเองและคนตรงหน้า  แผ่นหลังแนบฟูกนอนแผ่นบาง  เสื้อยืดถูกถอดออกไปตอนไหนเขายังไม่รู้ตัว  ริมฝีปากของคนด้านบนไม่ผละห่าง  เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดไม่ให้หลีกหนี  ฝ่ามือร้อนลากไล้ไปตามผิวสีน้ำผึ้งพาให้รัชพลขนลุกเกรียว

   โกเมนละริมฝีปากออกเพียงครู่แล้วโน้มลงแนบจูบใหม่  คลอเคล้ารุกเร้าอ่อนหวาน  เนิ่นนานแล้วค่อยละริมฝีปากลากไล้ไปตามผิวแก้ม  ขบเม้มติ่งหูให้รัชพลสะดุ้งแล้วกลับมาจ้องดวงตาสีตาลสวยของคนโดนแกล้ง  ดวงตาของรัชพลฉ่ำเยิ้มภายใต้เสียงไฟสลัวพาให้หัวใจของโกเมนเต้นแรงกว่าเดิม  เขาพรมจูบทั่วทั้งใบหน้าอีกฝ่าย  เลื่อนแตะจูบปลายคาง  ลำคอและแผ่นอกราบเรียบ  มือใหญ่กำเอาสอบของรัชพลไว้  ปลายลิ้นลากผ่านเคลื่อนต่ำลงสู่เบื้องล่าง  รัชพลถึงเพิ่งรู้ตัวว่ากางเกงเองก็ถูกปลดออกไปจากร่าง

   “โกเมน?”  ร่างสูงยืดกายขึ้นแล้วถอดเสื้อผ้าตัวเองออกอย่างรวดเร็วแล้วกลับเข้ามาแนบชิดอีกครั้ง  เขาเฝ้าจูบจนรัชพลแทบหายใจไม่ทัน  ฝ่ามือร้อนของโกเมนกอบกุมความร้อนผ่าวแล้วค่อยๆ ขยับเนิบช้า  รัชพลพยายามกลั้นเสียงเอาไว้ไม่ให้เล็ดลอดออกมา  กลับกลายเป็นว่ายิ่งกระตุ้นให้โกเมนอยากแกล้ง  เขาเปลี่ยนท่าทาง  ปล่อยมือแล้วให้ส่วนแข็งร้อนของพวกเขาทั้งคู่สัมผัสกัน  รัชพลตกใจจนเบิกตาโต

   โกเมนยกยิ้ม  พาให้หัวใจรัชพลสั่นไหว  ดวงตาพร่าพรายและในหัวมีแต่โกเมนเต็มไปหมด  รอยยิ้มนี้เหมือนรอยยิ้มที่เขาเคยดูละครที่อีกฝ่ายแสดงตอนยังเป็นวัยรุ่น  ริมฝีปากสีแดงสดขยับยกยิ้มชวนหลงใหล  รัชพลยื่นแขนขึ้นโอบกอดคนด้านบนเอาไว้แน่น  ทำให้ร่างกายของพวกแนบสนิทจนแทบไม่เหลือช่องว่าง  โกเมนขยับสะโพกบดเบียดเนิบนาบ  จ้องมองสีหน้าของรัชพลไม่วางตา  ริมฝีปากสีเข้มคู่นั้นบวมช้ำเพราะเขาวนจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า

   เสียงหอบหายใจ  บรรยากาศเร่าร้อนอบอวล  โกเมนขยับสะโพกเร็วขึ้นตามแรงอารมณ์  กอบกุมความร้อนผ่าวของพวกเขาสองคนไว้ในมือ  รัชพลบิดกายคล้ายกำลังจะถึงฝั่งหากโกเมนกลับหยุดขยับ

   “?”

   “พี่พล  ผมรักพี่นะ”  โกเมนยกขาอีกฝ่ายขึ้นพาดบ่า  จดจ่อความแข็งร้อนเปียกชุ่มตรงเบื้องล่างอีกฝ่ายแล้วกดเข้าไปเชื่องช้า

   “โอ๊ย!”  ความเจ็บแล่นปลาบขึ้นจากเบื้องล่าง  รัชพลเกือบยกเท้าขึ้นถีบคนด้านบนหากยังยั้งไว้ทัน  เขาเปลี่ยนมาหุบเข่าทั้งสองข้างเข้าหากันแล้วขยับกายหนีพร้อมสีหน้าเจ็บปวด

   “พี่!”  โกเมนเบิกตาโตแล้วจึงรู้สึกตัว

   “เจ็บ!”

   “ผมขอโทษ!”  โกเมนคว้าตัวอีกฝ่ายมากอด  หากรัชพลที่ยังหวาดๆ กับอาการเจ็บเมื่อครู่ยกมือขึ้นดันอกชายหนุ่มเอาไว้

   “ไม่เป็นไร”  รัชพลถอนหายใจ  เมื่อเห็นว่าโกเมนทำเพียงแค่กอดจึงผ่อนอาการเกร็งแล้วยอมให้กอดแต่โดยดี

   “ผมสะเพร่าเอง  หื่นจนหน้ามืดตามัวโดยลืมไปว่าไม่เตรียมความพร้อมอะไรสักอย่าง  พี่พลเจ็บปากไหม?”  โกเมนผละออกแล้วก้มลงมองส่วนล่างของรัชพล  พลางทำท่าจะไปแหกไอ้ตรงนั้นดู

   “เห้ย! ไม่ต้องๆ”  รัชพลหนีบขาแน่นไม่ยอมให้โกเมนแงะเข่าเขาออกง่ายๆ

   “ผมจะดูไงว่าเลือดออกหรือเปล่า?”  โกเมนขมวดคิ้ว

   “ไม่ออกหรอก!”  รัชพลส่ายหัวปฏิเสธ

   “จริงนะ?”

   “จริง”  เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าไม่มีทีท่าจะมาแหกแข้งแหกขาเขาแล้วรัชพลจึงผ่อนลมหายใจ  หากสายตากลับไปสะดุดส่วนร้อนผ่าวของอีกฝ่ายที่ยังคงแข็งขึงอยู่  ความรู้สึกหวามไหวเกาะกุมหัวใจเขาอีกครั้ง  รัชพลเหลือบสายตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของโกเมนแล้วหรุบลงมองส่วนนั้นอีกครั้ง

   เรื่องอย่างว่าของชายหญิงเขาทำเป็น  แต่ระหว่างชายชายเขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไง  หากไอ้อารมณ์ความรู้สึกที่ไม่ได้ปลดปล่อย  ในฐานะลูกผู้ชายเหมือนกันรัชพลย่อมเข้าใจ  เขาเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะเอ่ยปาก

   “เราทำกันแค่ข้างนอกก็ได้นะ”

   “เอ๊ะ?”  โกเมนที่หันหนีและกำลังขบกรามแน่นเพื่อสกัดความปรารถนาที่คั่งค้างอย่างยากเย็นหันมามองคล้ายฟังที่รัชพลพูดไม่ถนัดหู
   
“ก็...แบบไม่ต้องใส่เข้ามา  โอ๊ะ!”  รัชพลโดนคนตัวโตโถมใส่แบบไม่ทันให้ตั้งตัว  โกเมนจับใบหน้ารัชพลไว้แล้วจูบอย่างเร่าร้อน  บรรยากาศหวามไหวเริ่มปะทุขึ้นอีกครั้ง

   เสียงหอบหายใจดังแผ่วเบาท่ามกลางความมืด




   รุ่งเช้ารัชพลกลับเข้าบ้านมาพร้อมโกเมน  ใต้ดวงตาดำคล้ำอย่างคนอดนอนตรงข้ามกับคนด้านข้างที่ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู  รัชพลหาวหวอดพลางคิดว่า  อีกเดี๋ยวจะอาบน้ำให้ตาแจ้งแล้วค่อยไปส่งผักที่ตลาด  หากโกเมนเร่งฝีเท้าเดินมาดักหน้า

   “พี่อาบน้ำนอนเหอะ  เดี๋ยวผมเก็บผักไปส่งตลาดเอง”

   “ไม่เป็นไร”  รัชพลปฏิเสธ

   “เถอะน่า  เดี๋ยวผมทำเอง  พี่ไปนอนพักเถอะ  ผมกวนพี่มาทั้งคืน”  โกเมนพูดพลางทำสายตากรุ้มกริ่มพาให้คนโดนมองร้อนแก้มทั้งสองข้าง  เขามองท่าทางนั้นแล้วใจเต้นจึงยื่นหน้าเข้าแตะจูบรัชพล

   “พ่อจ๋า/พ่อจ๋า!”  เสียงฝาแฝดดังมาจากหน้าบ้าน  รัชพลรีบผลักโกเมนออก   ร่างสูงขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ 

   “ใครมาส่งพวกหนู?” 

   “ลุงพงษ์ค่ะ”  แฟงตอบเสียงดังฉะฉาน

   “อาโกเมนกลับมาแล้ว!”  ฟักวิ่งเข้าไปกอดขาโกเมนแน่นแล้วยิ้มกว้างอย่างดีใจ

   “เย้ๆ”  เด็กหญิงวิ่งเข้าไปกอดขาอีกข้าง  ฝาแฝดกระตุกชายเสื้อให้โกเมนย่อตัวลง  ชายหนุ่มกอดฝาแฝดไว้ในอ้อมแขนแล้วหอมแก้มไปคนละฟอดสองฟอด

   “เดี๋ยวพ่อไปอาบน้ำแล้วจะทำข้าวเช้าให้นะเด็กๆ”  รัชพลผละออกไป เขาหันมามองโกเมนครู่หนึ่งพลางเดินต่อ  หยิบเสื้อออกมาจากห้องก็มองโกเมน  ก่อนเข้าห้องน้ำก็มองโกเมนอีกครั้งจนชายหนุ่มหัวเราะ

   “ผมไม่หนีไปไหนหรอกน่า”

   “....”

   “รักขนาดนี้แล้วจะให้ทิ้งไปได้ไง”  รัชพลหน้าแดงเถือกเมื่อได้ฟังก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตูดังปัง  ฝาแฝดเมื่อเห็นว่าผู้เป็นพ่อเข้าห้องน้ำไปแล้วก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กันและกัน

   “ยิ้มแบบนี้มีอะไรจะบอกอาไหม?”  โกเมนแสร้งตีหน้าขรึม

   “อาโกเมนกับพ่อพลคืนดีกันแล้วใช่ไหมคะ?”  โกเมนพยักหน้ารับ

   “พ่อไปรับอาโกเมนมาแล้ว  อาโกเมนก็เลิกโกรธพ่อพลนะครับ”  โกเมนพยักหน้าอีกครั้ง

   “แล้วก็อย่ากลับกรุงเทพฯ ด้วย”

   “อยู่กับพวกเรากับพ่อพลตลอดไปนะ”

   “ได้!”  โกเมนพยักหน้าแล้วตอบกลับเสียงหนักแน่น

   “แล้วอย่าบอกพ่อพลนะคะว่าพวกหนูเอาเสื้อผ้าอาโกเมนไปซ่อนหมดตู้”  เด็กหญิงกระซิบเสียงเบา

   “พวกเราร้องไห้จนเจ็บตาไปหมดเลยกว่าพ่อพลจะมา  ตอนพวกเราบอกว่าอาโกเมนจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว  พ่อพลตกใจมากเลยครับ”

   “ใช่ค่ะ  หน้าซีดมากเลย  พวกหนูต้องช่วยกันพาพ่อพลไปนั่ง  ไม่งั้นพ่อพลต้องล้มตึงแน่ๆ”  เด็กหญิงพูดพร้อมทำท่าทางแก่แดด

   “อะไรนะ?”  โกเมนตกใจ  ไม่คิดว่าฝาแฝดจะเล่นแรงจนรัชพลตกใจขนาดนั้น

   “พวกเราแค่อยากให้พ่อพลกับอาโกเมนคืนดีกัน”

   “ตอนอาโกเมนไม่อยู่  พวกหนูเศร้ามาก  พ่อพลก็ท่าทางเหงาๆ  อาโกเมนเองก็อารมณ์ไม่ค่อยดีตอนไม่เจอพ่อพลอยู่บ้าน”  เด็กหญิงก้มหน้าเพราะเห็นโกเมนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินว่ารัชพลตกใจมากแค่ไหน

   “ฝาแฝดฟังอาโกเมนนะครับ”  เด็กสองคนเงยหน้ามองชายหนุ่มตาแป๋ว  “คราวหน้าอย่าทำอะไรแบบนี้อีกนะครับ  พ่อพลจะเสียใจมากถ้ารู้ว่าพวกหนูรวมหัวกันหลอกเขา  ถึงแม้ว่าพวกหนูจะหวังดีก็ตาม”

   “พวกเราแค่บอกว่าอาโกเมนจะไม่อยู่  ไม่ได้บอกว่าจะกลับกรุงเทพฯ”

   “เพราะพ่อพลไม่รู้ถึงได้ตกใจไงล่ะ  ต่อไปถ้ามีอะไรก็พูดกันตรงๆ นะ  อย่าเจ้าแผนการแบบนี้อีก”

   “ได้ครับ/ ได้ค่ะ”

   “เรื่องครั้งนี้จะเป็นความลับระหว่างเรา”  โกเมนขยิบตาให้ฝาแฝดก่อนจะเดินเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า


**********
   


ฤดูกาลเก็บเกี่ยวผ่านไปอย่างรวดเร็ว  โกเมนมองสีเขียวชอุ่มของต้นอะโวคาโดแล้วยกยิ้ม  เขารู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเมื่อนึกถึงรายรับในบัญชีหลังหักค่าใช้จ่ายประจำเดือนแม้ไม่มากมายจนร่ำรวยหากก็พอมีพอกินไม่ขัดสน  ปีหน้า ปีต่อไปและต่อๆ ไปก็จะยิ่งดียิ่งขึ้นกว่าเดิม  และที่เขาดีใจยิ่งกว่าคือการที่ผืนดินแห้งแล้งผืนนี้กลับมามีชีวิตชีวา  มีสีเขียวของต้นไม้  มีความอุดมสมบูรณ์ของผืนดิน  ความอบอุ่นของแสงแดด  ความร่มเย็นของเงาไม้

   อะโวคาโดเป็นไม้ยืนต้น  ชาวบ้านปลูกกันบ้านละต้นสองต้น  ให้ร่มเงาให้ความร่มรื่น  ต้นไม้ที่มีค่าเมื่อพวกเขาไม่ตัดทิ้งก็ไม่แห้งแล้ง  อย่างน้อยก็ยังมีต้นไม้อยู่ทุกบ้าน  บ้านหนึ่งร้อยหลังก็จะมีต้นไม้หนึ่งร้อยต้นนี่เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่ง    เมื่อปลูกอะโวคาโดสามปีจึงออกผลให้เก็บกินอีกทั้งยังมีประโยชน์และขายได้ 

   นี่คือผลไม้พระราชทานจาก ในหลวง ร.9

   โกเมนสูดลมหายใจ  พลางนึกถึงคุณตาที่ล่วงลับ  คุณตามอบมรดกที่มีค่ามหาศาลและคนสำคัญเอาไว้ให้เขา  รัชพลถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้มาจากตาเขาให้เขาอีกที  คุณตาที่รับเอาแนวพระราชดำริของ ในหลวง ร.9 มาใช้และสอนผู้คน  การทำเกษตรแบบผสมผสานและการฟื้นฟูผืนดินตามอย่างพระองค์  การอยู่อย่างพอเพียงทำให้หัวใจของผู้คนเป็นสุข

   ตรงห้องโถงของบ้าน  โกเมนยืนนิ่งตรงหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ก่อนจะพนมมือยกขึ้นจรดหน้าผาก






   ยามเย็นจนค่ำเสียงพูดคุยของคนในบ้านเล็ดลอดแผ่วเบา  ก่อนจะเงียบหายไปกับนิทราของทุกคน  เมื่อยามเช้ามาเยือนและแสงแดดอ่อนกำลังแปรเปลี่ยนเป็นแรงกล้า  เสียงหัวเราะดังแว่วมาจากบ้านหลังเล็กไม่ขาดสาย  วันเวลาที่ผ่านไปความสุขนั้นยังคงอบอวล 



จบ





สวัสดีค่ะ  เอามาลงช้ากว่าเดิมมากกกกกกกกกกกกกก  ขอโทษนะคะ  ฮือออออ
ในที่สุดรักพอเพียงก็เดินทางมาถึงตอนจบแล้ว  ตอนแรกก็กลัวจะห้วนไปเลยค่อนข้างวิตกกังวลไปพักหนึ่งค่ะ
แต่คิดว่าตอนพิเศษที่จะเอามาลงคราวหน้าคงจะทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์ขึ้น แฮ่~
นี่ถึงขนาดขอวันหยุดไว้แล้วค่ะ  กลัวไม่มีเวลาแต่งอย่างคราวนี้อีก TT
หวังว่าเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนที่ได้อ่านอิ่มเอมในใจ  และขอบคุณสำหรับกำลังใจ  คอมเมนต์ต่างๆนะคะ
มีความสุขเสมอที่ได้อ่านข้อความของทุกคน

มีข้อแนะนำ ติ-ชมอะไรบอกกันได้เสมอนะคะ  แม้ไม่ได้มาตอบกลับแต่ทรายจะจำไปปรับปรุงพัฒนาตัวเองต่อไป



ปล. แต่งเสร็จ สดๆร้อนๆเลยค่ะ  เสร็จแล้วก็รีบเอามาลงเพราะมาช้ากว่าปกติมากกกกก 
ถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ


ด้วยรัก
ทราย
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 02-09-2017 15:05:23
ฝาแฝดแสบจริงๆ  :laugh: สนุกมากๆเลยค่ะ อยากให้มีตอนพิเศษอีก  :L2:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: swoooaa ที่ 02-09-2017 15:48:16
ไม่อยากให้จบเลย รอตอนพิเศษน้าาาา :mew1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 02-09-2017 18:05:56
น่ารักมาก กอไก่ล้านตัว ใสใส วัยรุ่นชอบจริงๆค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 02-09-2017 18:38:35
อยากได้ตอนพิเศษอีกหน่อยๆๆ น๊าาาาา *0*
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 02-09-2017 19:36:39
อิ่มเอมใจครับ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 02-09-2017 19:50:56
 :pig4: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 02-09-2017 21:09:46
สนุกมากกกค่ะ ละมุนละไมดี แนวชาวไร่ ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 02-09-2017 21:18:31
ขอบคุณมากค่ะ  เป็นเรื่องที่อ่านแล้วมีความสุขมากเลย
นอกจากสนุก แล้วยังให้ความรู้ ให้ข้อคิดดี ๆ อีกมากมายผ่านตัวละคร
คนเขียนเก่งมาก ๆ เลยค่ะ ขอบคุณที่สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ เรื่องนี้ขึ้นมานะคะ
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 02-09-2017 22:33:12
 :L2: :pig4:


หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 02-09-2017 23:50:05
สุดท้ายพ่อทั้งสองก็ดีกันด้วยฝีมือฝาแฝด

มีตอนพิเศษนะ รออ่านตอนพิเศษ ชอบที่มีอะไรให้คิดตามเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-09-2017 00:25:45
จบแล้ววววววว
ไม่อยากให้จบเลยครับ ฟีลดีมากเลย ชอบเรื่องราว บรรยากาศแบบนี้สุดๆ ^^
...ขอบคุณนักเขียนมากๆ ครับ สำหรับเรื่องราวน่ารักๆ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 03-09-2017 03:16:54
ชอบมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 03-09-2017 06:44:24
จบแบบอบอุ่นมาก น้องแฝดน่ารัก เราชอบนิยายเรื่องนี้มาก ภาษาและการบรรยายดีอ่านแล้วอินไปกับบรรยากาศในเรื่อง และที่สำคัญยังให้แง่คิดดีๆด้วย

ขอบคุณมากๆค่ะที่เขียนนิยายดีๆมาให้อ่าน
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 03-09-2017 10:02:14
หวานละมุนละไมอยู่ในทุกตอน โทนเรื่องอบอุ่นน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 03-09-2017 10:40:32
จบได้น่ารัก ชื่นใจ ในความพอเพียงมากเลยอ่ะ

เกือบจะได้กินพี่พลแล้ว อิอิ ตอนพิเศษอย่าลืมจัดมาน่ะ คิกๆๆๆ

รอออออออออ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 03-09-2017 12:02:11


ละมุนมาก

อยากทำไร่ด้วยเลยขอรับ

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-09-2017 13:41:38
จบได้หวานละมุนละไม อบอุ่น

รักพอเพียง  :mew1: :mew1: :mew1:
ความเป็นอยู่แบบพอเพียงจริงๆ
รายจ่ายน้อย ได้ออกแรงทำงาน
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อยู่กับธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์
ชีวิตไม่ต้องรีบเร่ง เป็นนายของตัวเอง
เป็นชีวิตที่ลงตัว น่าเข้าไปสัมผัส ความร่มรื่น ความสงบเงียบ
โกเมน คิดถูกแล้ว ที่ออกจากวงการบันเทิง
โกเมน รัชพล  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 05-09-2017 14:30:07
ขอบคุณมากๆฮะที่แต่งนิยายดีๆให้อ่าน
อ่านถึงความพอเพียงและสิ่งที่ในหลวง ร.9 ทรงดำริและทำไว้ให้พวกเราแล้วน้ำตารื้นเลย
ถ้ามีโอกาสจะขอน้อมนำไปทำให้เป็นประโยชน์บ้าง
ชอบข้อคิดหลายๆอย่างในเรื่องนี้ โดยเฉพาะเหตุผลของโกเมนที่บอกคุณนันท์เรื่องขอพรความรัก  o13
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 05-09-2017 21:07:31
สนุกมากกกกกกกก ชอบชีวิตแบบนี้ มีความสุขได้ง่ายๆ อยู่แบบพอมีพอกิน อ่านแล้วมีความสุขมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่แต่งนิยายสนุกๆ แบบนี้ให้ได้อ่าน ชอบผลงานของคุณทุกเรื่องเลยค่ะ จะติดตามต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 05-09-2017 22:28:14
จบแล้ว น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 06-09-2017 18:33:09
 o13 o13
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 06-09-2017 22:11:22
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: cookie8009 ที่ 07-09-2017 12:07:21
ตอนท้ายๆพี่พลสาวแตกซะงั้น
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ming88 ที่ 08-09-2017 07:43:57
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วยิ้มตลอดเวลา ขอบคุณมากค่ะ ที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่าน  :o8: :o8: :o8: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: whoami ที่ 12-09-2017 08:50:39
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ สนุกมาก เป็นเรื่องที่อ่านแล้วเป็นแรงบันดาลใจให้เรามากเลย
เราเป็นคนนึงที่ตอนนี้กำลังเริ่มทำสวนเกษตรทั้งที่ไม่มีความรู้อะไรเลย เพิ่งทำมาได้แค่4เดือน จากขุดบ่อ ลงต้นไม้ ถางหญ้า ทำเองหมดทั้งๆที่ก็มีงานประจำอยู่แล้ว ช่วงนี้ยิ่งเหนื่อย เพราะน้ำเยอะเกิน ต้นไม้ที่ลงไว้ก็จมน้ำตายไปบ้าง ร่อแร่อยู่บ้าง ยังไม่มีอะไรเป็นผลตอบกลับมา แถมที่ทำไปก็สูญเปล่าไปซะเยอะ เราเข้าใจว่างานเกษตรเป็นงานที่ต้องรอ ต้องใช้เวลาถึงจะเห็นผล แต่มันก็เหนื่อยและท้อมากทั้งๆที่เพิ่งเริ่มทำมายังไม่ถึงครึ่งปีเลยด้วยซ้ำ พอได้อ่านนิยายเรื่องนี้ มันทำให้เราได้อะไรหลายๆอย่างกลับมา โดยเฉพาะแรงบันดาลใจและกำลังใจให้เราสู้ต่อ ขอบคุณที่แต่งเรื่องนี้ออกมาให้ได้อ่านกันนะคะ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: express_men ที่ 12-09-2017 16:15:12
ขอยกให้เป็นนิยาย น้ำดี แห่งปี
ละมุนไปด้วยความรัก เนื้อหา และข้อคิด
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 14-09-2017 00:43:37
 o13
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 15-09-2017 21:36:50
อบอุ่น และซึ้งมากเรื่องนี้
ผิดคาดสุดๆ เกือบเลิกอ่านเพราะไม่ชอบตัวเอกในตอนแรกแล้ว
ดีใจที่ไม่เลิกอ่านไปก่อน
สนุกมากๆๆ ครับ
ได้ความรู้ ความอุ่นใจ
อีกทั้งได้ระลึกถึงพระคุณในหลวง รัชกาลที่9 ด้วย
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะครับ
ขอบคุณจริงๆ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 16-09-2017 11:58:42
ดีต่อใจจริงๆ ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 17-09-2017 16:01:13
อ่านเพลิดเพลินเลยจ้า ชอบมากกก แต่อยากรู้ว่าพลชอบมาหลายปีนี่ ตั้งแต่ตอนไหน ได้รูปมายังไง อะไรงี้ แหะๆ ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆนะคะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: z9_0 ที่ 27-09-2017 09:01:19
เจ๋งมากคะ ชอบมาก ดีไปหมดทุดอย่าง สู่ๆในเรื่องต่ไปนะึะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 30-09-2017 10:32:02


รักพอเพียง : หัวใจเพียงพอ


   “ไอ้ลูกไม่รักดี! มึงไสหัวไปไหนก็ไปเลยนะ!”  เสียงด่าทอตะโกนไล่ดังลั่น  รัชพงศ์เหลือบมองร่างผอมของน้องชายวิ่งถลาออกจากบ้าน  มีบิดาที่คว้าขันน้ำขว้างตามหลังด้วยแรงโมโห  ก่อนจะหันกลับมาจดบันทึกรายรับรายจ่ายในสมุดต่อ  เขาแก่กว่าน้องชายสี่ปี   หลังจากจบชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่หกก็ไม่ได้ศึกษาต่อเพราะต้องมาช่วยพ่อกับแม่ทำไร่  เลยฝากความหวังไว้กับน้องชายซึ่งจะเรียนจบปีนี้  ฝากความหวังว่าน้องชายจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยแทนเขา  แต่ดูเหมือนน้องชายกำลังทำลายความหวังนั้นทิ้งแบบไม่ใยดี พ่อกับแม่ถึงโมโหมากตอนเจ้านั่นเดินเข้ามาบอกว่าจะไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย  ทั้งๆ ที่สอบเอนทรานซ์ติดแล้วแท้ๆ

   รัชพลวิ่งหนีออกมาจากบ้าน  เขาหันกลับไปมองด้านหลังแล้วสบถหัวเสีย   พลางเดินลัดเลาะไปตามทางมืดมิด  คืนนี้จะไปนอนที่ไหนดี?  บ้านไอ้มิ่ง?  เออ  เพิ่งแยกจากมันเมื่อเย็น ขืนไปพักด้วยพ่อกับแม่มันคงไล่แห่ทั้งสองคน
   
ร่างผอมเก้งก้างของเด็กหนุ่มเดินไปเรื่อยเปื่อยอย่างไร้จุดหมาย  คว้ากิ่งไม้มาไล่ตีพงหญ้าข้างทางไปเรื่อยๆ  เสียงหรีดหริ่งเรไรร้องก้อง  สายลมยามค่ำพัดโชย  แสงไฟจากปลายทางทำให้คิ้วเรียวขมวดมุ่น  เด็กหนุ่มเดินตรงไปเมื่อเห็นเงาร่างโงนเงนของใครบางคนเดินออกมา

   “อ้าว  ลุงปั้น  มืดค่ำป่านนี้แล้วจะไปไหน?”  เด็กหนุ่มเอ่ยทักเมื่อเห็นชัดถนัดตาว่าร่างที่เดินมานั้นคือใคร

   “ก็...”

   “แล้วพี่พลอยไปไหน  ปล่อยให้ลุงมาเดินกลางค่ำกลางคืนแบบนี้?”  เด็กหนุ่มเหลียวหา

   “ข้าจะไปตามหามันนั่นแหละ  เมื่อเย็นมันว่าจะไปบ้านเพื่อน  มืดค่ำแล้วยังไม่กลับ  ข้าเป็นห่วง”

   “เฮ้ย  มืดป่านนี้แล้วเนี่ยนะ  เอางี้  บ้านเพื่อนพี่พลอยอยู่ไหน  เดี๋ยวผมไปตามให้  ลุงปั้นไปรอที่บ้านเถอะ”

   “แต่...”

   “เอาน่า  ผมแรงดีกว่า  เดินๆ ไปแป๊บเดียวก็ถึง” เด็กหนุ่มรุนหลังให้คนสูงวัยหันหลังกลับเมื่อลุงปั้นบอกชื่อเพื่อนของลูกสาวออกมา


   รัชพลยืนนิ่งเมื่อได้ยินคนตรงหน้าเอ่ยบอก  เขาขมวดคิ้วแล้วเดินกลับไปบ้านลุงปั้นพลางขบคิดว่าจะพูดอย่างไรดี  บุษราคัมหรือพี่พลอยที่เขารู้จักนั้นอายุมากกว่าเขาหลายปี  เป็นสาวสวยสะพรั่งและเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ ในหมู่บ้าน  เขาเห็นอีกฝ่ายมานาน  เคยพูดคุยทักทายอยู่บ่อยครั้งหากไม่ได้สนิทสนมมากนัก  กับลุงปั้นเองก็ไม่ได้คุ้นเคยสักเท่าไหร่  รู้ว่าพี่พลอยไปเรียนและทำงานอยู่กรุงเทพฯ หลายปี  เพิ่งกลับมาอยู่บ้านได้สักเดือนสองเดือนนี้เอง

   “เป็นไง  เจอนังพลอยมันไหม?”  ลุงปั้นนั่งรออยู่ตีนบันไดผุดลุกขึ้นเมื่อเห็นรัชพลเดินเข้ามา

   “...พี่พลอยบอกว่าจะนอนค้างบ้านเพื่อน”  เด็กหนุ่มเอ่ยไม่เต็มเสียง

   “หนอย  นังลูกคนนี้  ไปค้างอ้างแรมบ้านเพื่อนทำไมไม่รู้จักบอกพ่อสักคำ  คอยดูนะ  กลับมาจะฟาดให้น่องลาย”  ลุงปั้นบ่นขรม  นึกขัดเคืองความเอาแต่ใจของคนเป็นลูก  “แล้วนี่เอ็งไปไหนมา  มืดค่ำถึงยังไม่กลับบ้าน  รีบกลับซะ  ประเดี๋ยวพ่อกับแม่เอ็งจะเป็นห่วง”  ลุงปั้นหันมาคุยกับเด็กหนุ่ม  เมื่อสักครู่เพราะมัวแต่พะวงกับบุษราคัมจึงไม่ได้เอ่ยพูดคุยกับรัชพลมากนัก  มาตอนนี้ถึงเพิ่งนึกได้ว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าก็กลับบ้านค่ำมืดเหมือนลูกสาวตัวเอง

   “โอ๊ย  พวกเขาไม่เป็นห่วงผมหรอก  ป่านนี้คงดีใจแย่ที่ผมไม่อยู่บ้าน”

   “...ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกหรอกนะโว้ย  ไอ้พล”  ลุงปั้นถอนหายใจ  “แล้วนี้กินข้าวกินปลามารึยัง?”  เด็กหนุ่มส่ายหน้า  ลุงปั้นถอนหายใจอีกครั้ง  แล้วเอ่ยชวนเด็กหนุ่มขึ้นบ้านพลางจัดแจงยกสำรับข้าวออกมาให้พร้อมกระติกน้ำเย็น   รัชพลยกมือไหว้ก่อนจะจัดการอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็ว  เมื่อหมดจึงยกสำรับข้าวเข้าครัวแล้วล้างจานชาม

   รัชพลนอนค้างบ้านลุงปั้น  ตื่นเช้ามาช่วยแกรดน้ำผักข้างบ้าน  เป็นลูกมือทำกับข้าว  หลังอาหารมื้อเช้าผ่านไปบุษราคัมยังไม่กลับมา  ลุงปั้นออกไปยืนชะเง้อคอมองหน้าบ้าน  รัชพลขมวดคิ้วถอนหายใจ

   “ลุงปั้น  พี่พลอยเขามีแฟนป้ะ?”  เด็กหนุ่มมายืนข้างๆ  เอ่ยถามอย่างข้องใจ

   “.........”

   “ลุงปั้น  อันที่จริง....ที่ผมบอกว่าพี่พลอยนอนค้างบ้านเพื่อน”

   “ข้ารู้”

   “เอ๊ะ?”  รัชพลตกใจ  หันมามองลุงปั้นที่มีสีหน้าเจ็บปวดแล้วได้แต่เงียบเสียงไม่กล้าพูดอะไรต่อ  เมื่อคืนเขากลับมาจากบ้านเพื่อนของบุษราคัมแล้วบอกว่า  ฝ่ายนั้นจะนอนค้างบ้านเพื่อน  ความจริงเป็นเรื่องโกหก  เพื่อนพี่พลอยบอกว่า พี่พลอยออกไปกับผู้ชายตั้งแต่เย็น  ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง  ผู้ชายคนนั้นมาจากกรุงเทพฯ เห็นว่าเป็นแฟนของบุษราคัม  ผู้ชายคนนั้นร่ำรวยแต่งตัวดูดี  หน้าตาหล่อเหลา  พวกเขาเจอกันเพราะตั้งแต่สมัยเรียนอยู่กรุงเทพฯ  ผู้ชายทำท่าทางสนใจบุษราคัมมาก  เพื่อนๆ ต่างเอ่ยเตือนบุษราคัม  หากฝ่ายนั้นไม่เชื่อ 

   “ลูกน่ะ  เลี้ยงได้แต่ตัวหัวใจมันเลี้ยงไม่ได้  แต่ข้าไม่เคยห้ามว่ามันจะคบใคร  ทำไมมันไม่พาผู้ชายคนนั้นมาบ้าน  เกิดถูกเขาหลอกจะว่ายังไง?”  ลุงปั้นถอนสะอื้น  รัชพลทำได้เพียงแค่ฟัง  เขาเหม่อมองไปไกล...


   บุษราคัมหายไปแล้วสามเดือน  ลุงปั้นตรอมใจมาก  ตอนไม่รู้ยังคิดว่าลูกสุขสบายมีการงานดีจึงไม่เคยกลับมาบ้าน  หากพอรู้แล้วความห่วงมันกลับเกาะกินใจอยู่ทุกวัน  รัชพลไม่สามารถตัดใจทิ้งอีกฝ่ายแล้วไม่ดูดำดูดีได้  เขาอยู่บ้านลุงปั้นมาสองเดือนแล้ว  หลังจากวันที่เขาไปช่วยลุงปั้นตามหาพี่พลอย  อีกวันเขาก็กลับมาบ้าน  มาขอโทษพ่อกับแม่และพี่ชาย   บอกเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ไปเรียนต่อมหาลัย

   บ้านเราไม่มีเงิน

   พ่อกับแม่ร้องไห้ หากกระนั้นก็ยังไม่หายโกรธเคืองเขา  มีเพียงรัชพงศ์เท่านั้นที่เขามาตบบ่าอย่างเข้าใจ  พี่ชายถอนหายใจพลางเอ่ย

   “เพราะแบบนี้ข้าถึงไม่เรียนต่อ  ยอมเสียสละให้แกได้ไปเรียนไง”

   “.....”

   “ข้าคุยกับพ่อแม่แล้ว  พวกเราเลยฝากความหวังไว้กับแก  แต่แกดันมาทำเสียเรื่อง”  รัชพลน้ำตาซึม  เขาแอบไปร้องไห้เงียบๆ คนเดียว  เขาไม่รู้เรื่องที่พี่พงศ์คุยกับพ่อแม่  ไม่รู้ว่าพวกท่านคาดหวังไว้กับตัวเขามากแค่ไหน  เด็กหนุ่มปาดน้ำตาก่อนจะเดินไปบ้านลุงปั้นเพื่อขอคำปรึกษา

   “ลุงปั้น!”  รัชพลตกใจเมื่อเห็นร่างผ่ายผอมของลุงปั้นนอนฟุบอยู่ตรงชานบันได   เขาแบกอีกฝ่ายขึ้นหลังแล้วพาไปโรงพยาบาล  โชคดีที่ลุงปั้นล้มแต่หัวไม่ได้ฟาดพื้น  ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้มานั่งฟังเขาพูดอยู่อย่างนี้  ลุงปั้นมีอาการเครียดมาก  มีอาการความดันโลหิตสูงหมอจึงให้แกพักอยู่โรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการต่อ  และเพราะแกไม่มีญาติมาเฝ้ารัชพลจึงอาสามาทำหน้าที่แทน



   “ลุงปั้น  ผมจะเข้ากรุงเทพฯ”  ลุงปั้นที่นั่งนิ่งมาตลอดตาเบิกโพลง  เขาหันมามองเด็กหนุ่มข้างเตียง  “ผมอยากไปหางานทำในกรุงเทพฯ  แล้วหาทางเรียนต่อมหาวิทยาลัยด้วย”

   “แกจะไปทำงานอะไร”
   
   “ยังไม่รู้”  เด็กหนุ่มเกาหัวแกรก
   
   “วุฒิแค่ มอ.หก  เขาจะรับแกหรือ?”
   
   “จริงด้วยแหะ”  รัชพลคอตกเมื่อได้ฟัง
   
   “มีหวังได้แต่ทำงานรับจ้างก่อสร้างเสียละมั้ง”  ลุงปั้นขมวดคิ้ว  ตอนแรกรัชพลชวนแกคุยตั้งนานแกเอาแต่นั่งนิ่ง พอบอกว่าจะเข้ากรุงเทพฯ เท่านั้นแหละ  แกมีปฏิกิริยาตอบโต้ทันที  หรือจะเกี่ยวกับพี่พลอย?  “อีกอย่างมัวทำงานเก็บเงิน  แล้วเมื่อไหร่จะได้ไปเรียนอย่างที่แกหวัง?”

   รัชพลนิ่งเงียบ  เขาตัดสินใจพลาดไปแล้วเลยตั้งใจอยากแก้ไข  หากเขาเข้ากรุงเทพฯ  ทำงานเก็บเงิน  อีกหน่อยค่อยไปสอบเพื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยใหม่  เขากลับมาบ้าน  ปรึกษาเรื่องนี้กับรัชพงศ์   ฝ่ายนั้นถอนหายใจแล้วบอกว่า  ถ้าคิดจะทำงานที่กรุงเทพฯ  สู้ทำงานอยู่แถวบ้านเราดีกว่า  อย่างน้อยค่าครองชีพก็ถูกกว่ากันเยอะ  แล้วยังมีเงินเหลือเก็บไปเรียนอย่างที่ตั้งใจด้วย

   สองอาทิตย์ต่อมาลุงปั้นก็ได้ออกจากโรงพยาบาลหากยังมีอาการซึมเศร้าอยู่บ้าง  รัชพลคาดว่าคงเกิดจากพี่พลอยหนีออกจากบ้าน  ข่าวลือลามไปทั่วว่าลูกสาวลุงปั้นหนีตามผู้ชาย  ถ้าแกยังยิ้มแย้มอยู่ได้ก็แปลกแล้ว  รัชพลขออนุญาตพ่อกับแม่มาอยู่เป็นเพื่อนลุงปั้นเพราะเป็นห่วงและกลัวแกคิดสั้น  แน่นอนว่าพ่อกับแม่ซึ่งยังไม่หายโกรธเขาทำเพียงแค่ปรายตามองรับรู้เท่านั้น

   พี่พลอยจากบ้านไปหลายปี  กลับมาคราวนี้ลุงปั้นแกจึงหวังว่าลูกสาวคงมาอยู่ด้วยไม่หายไปไหนอีก  แต่กลับมาหายไปไม่บอกกล่าวทำให้ลุงปั้นเสียใจหนัก  แต่ดูเหมือนลุงปั้นจะรู้ว่าพี่พลอยหายไปอยู่ที่ไหนถึงไม่ไปตามหา  รอลูกสาวเป็นฝ่ายกลับมาเอง  รัชพลมาอยู่เป็นเพื่อนแก  ชวนแกเข้าไร่ ช่วยแกทำนู้นทำนี่หาความรู้เก็บไปปรับปรุงในไร่ตัวเองบ้าง  ลุงปั้นยิ้มแย้มมากขึ้น  แกเห็นท่าทางของรัชพลแล้วนึกชื่นชมอยู่ในใจ  รัชพลหัวไวและความจำดีมาก  น่าเสียดายที่ตัดสินใจพลาดเรื่องไม่ไปเรียนต่อ

   “เอ็งมาทำไร่กับข้าไหม?”

   “หืม?”  รัชพลละมือจากมะละกอหันมามองคนถาม

   “ข้าจะสอนเอ็งเรื่องทำไร่  ให้เอ็งมีเงินเก็บเอาไปเรียนหนังสือไง”  ลุงปั้นยิ้มกว้าง

   “ทำไร่  จะมีเงินเก็บถึงขั้นไปเรียนได้เลยหรือลุง?”  รัชพลเลิกคิ้ว  นี่เขากำลังกลุ้มใจอยู่  ว่าจะไปขอเงินพี่พงศ์สมัครเรียนก็เกรงใจ  พ่อแม่ยังเคืองเขาไม่หายเลยไม่กล้าเอ่ยปาก

   “สามปี”

   “สามปี?”

   “สามปี  ข้าจะสอนเอ็งทำไร่  สามปีเอ็งจะมีเงินไปเรียนหนังสือ  สนใจไหม?”  ลุงปั้นหลอกล่อ  หลายเดือนมานี้แกอ่านหนังสือเยอะมาก  ไปอบรมตามต่างจังหวัดหลายครั้ง  บางครั้งยังพารัชพลไปด้วย  เป็นงานอบรมเชิงเกษตร  บางอันมีเจ้าหน้าที่โครงการหลวงมาให้ความรู้ลุงปั้นก็ลากรัชพลไปไม่ขาด
.
.


   “ข้าจะมาขอที่ที่ติดกับบ้านข้าให้ไอ้พลมัน”

   “?”  พ่อกับแม่ของรัชพลขมวดคิ้ว 

   “ไร่ใหญ่ยี่สิบกว่าไร่ยกให้ไอ้พงศ์มันไป เอาไร่เล็กๆ ไม่กี่งานให้ไอ้พลมันเถอะ โทษฐานมันทำให้พ่อจันแม่เผื่อนเสียใจ”

   “แต่...”  ถึงจะโกรธเคืองอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นลูก  ให้มาแบ่งที่ดินไม่เท่ากันให้ลูกสองคนแบบนี้มันดูลำเอียงเกินไปหรือไม่  พวกเขาตั้งใจให้ลูกสองคนช่วยกันดูแลคนละครึ่งอยู่แล้ว

   “ให้เจ้าพลมันเอามาเป็นต้นทุนชีวิตนะพ่อจัน”  ลุงปั้นเอ่ยต่อ

   “พลเอาที่เล็กๆ ก็พอจ้ะพ่อ”  รัชพลเอ่ยปาก  คนเป็นพ่อกับแม่ถลึงตาใส่ให้เด็กหนุ่มหดหัวกลับไปอยู่หลังลุงปั้นตามเดิม  ถึงจะบอกว่าที่ไม่กี่งาน  อันที่จริงคือประมาณสองไร่เศษ  แค่นี้ลุงปั้นก็ยิ้มหน้าบานแล้ว

   โชคดีที่ผืนดินตรงนี้อุดมสมบูรณ์  ปลูกอะไรก็งดงาม  ลุงปั้นสอนเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่  การทำไร่แบบผสมผสาน  การอยู่อย่างพอเพียง  และการบริหารจัดการต่างๆ ชนิดหมดไส้หมดพุงให้รัชพล  ปลุกปั้นกันอยู่หลายปีกว่ารัชพลจะเข้าใจและทำเป็น  ก่อตั้งสหกรณ์หมู่บ้านโดยมีรัชพลเป็นหัวแรงใหญ่  แม้ช่วงแรกจะไม่ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านสักเท่าไหร่ลุงปั้นและรัชพลก็ไม่ย่อท้อ  ลุงปั้นตั้งใจว่าจะให้ไร่ของรัชพลนั้นเป็นไร่ตัวอย่าง  ให้ชาวบ้านได้เห็นว่าเกษตรแบบผสมผสานนั้นเป็นอย่างไรซ้ำยังพัฒนาไปเรื่อยๆ รัชพลเป็นคนหนุ่มหัวพัฒนา เขาปรับปรุง ส่งเสริมเรียนรู้ได้หลากหลายเอามาใช้กับไร่ของตัวเองและพี่ชาย  ทำให้ความเป็นอยู่ก้าวหน้าขึ้น  ชาวบ้านจึงเริ่มเห็นความสำคัญกับสิ่งที่ลุงปั้นและชายหนุ่มสอน

   เวลาสามปีผ่านไปอย่างรวดเร็วแม้เอาเข้าจริงกว่ารัชพลจะตั้งตัวได้คือเข้าปีที่สี่ เลยกำหนดที่ลุงปั้นสัญญาแต่เขาไม่คิดมาก  สีเขียวขจีรอบไร่และแสงแดดอ่อนยามเช้า  รัชพละกำลังง่วนกับการเก็บผักไปส่งตลาด  ลุงปั้นที่ตื่นเช้าพอกันก็มาหาพร้อมเอกสารในมือ

   “มีมหาวิทยาลัยราชภัฏมาเปิดใกล้บ้านเรา  ข้าเลยเอาเอกสารมาให้เอ็ง  เผื่อเอ็งสนใจ”

   รัชพลตัดสินใจเรียนต่อในระดับปริญญาตรีช่วงเสาร์-อาทิตย์  พ่อกับแม่พอรู้ข่าวเอาแต่ยิ้มหน้าบาน  ความจริงพวกเขาเลิกเคืองรัชพลนานแล้ว  หากลูกได้เรียนต่อพวกเขาก็ดีใจ  อีกอย่าง  ลุงปั้นแกทำได้อย่างที่พูดเอาไว้  สาม-สี่ปี  ไร่ว่างเปล่ากลับสร้างรายได้ให้รัชพลจนมีเงินเก็บจนสามารถมาเรียนหนังสือได้จริงๆ  พวกเขากลัวลูกเหนื่อย  อยากให้เรียนสูงๆ จะได้เป็นเจ้าคนนายคน  แต่กลับลืมไปว่า  ไม่ว่าจะอาชีพไหนล้วนไม่สามารถเอามาตัดสินความสูงต่ำของคุณค่าคนได้

   รัชพลเรียนจบแต่เขาหากไม่ได้เลิกทำไร่  เขาเอาความรู้ที่เรียนมาผสมผสานและยังคงทำไร่ต่อไป  ทุกอย่างมั่นคง  รัชพลเริ่มเอาหลักทฤษฎีไปใช้กับไร่ของพี่ชาย  ขยายไร่สร้างรายได้ให้กับครอบครัวมากขึ้น  หากเขายังคงเลือกอยู่ที่เดิม  บนผืนดินแค่สองไร่เศษกับบ้านหลังเล็กๆ เท่านั้น  แค่เท่านี้รัชพลก็มีความสุขแล้ว  เขาไม่ต้องการอะไรมากมายจนกระทั่ง...

   “ไอ้พลๆ  นังพลอยมันส่งจดหมายมา!”  ลุงปั้นวิ่งกระหืดกระหอบมาหาเขาถึงบ้าน  รัชพลละมือจากไข่ไก่แล้วออกมาหา  ทันรับร่างชราของลุงปั้นที่เกือบจะล้มเพราะความรีบร้อน

   “มีอะไรกันลุงปั้น?”

   “นังพลอยมันเขียนจดหมายมาหาข้า!”  ลุงปั้นพูดพร้อมน้ำตาไหลอาบแก้ม  รัชพลรับกระดาษในมือลุงปั้นมาเปิดอ่าน  บุษราคัมเอ่ยขอโทษที่หนีหายออกจากบ้าน  เธอไม่กล้ากลับมาเพราะมีลูกซ่อนอยู่ที่กรุงเทพฯ  เป็นลูกซึ่งเกิดจากความไม่ตั้งใจสมัยเรียนมหาวิทยาลัย  เธอเก็บลูกไว้เพราะต้องการให้ฝ่ายชายรับผิดชอบและแต่งงาน  สุดท้ายพอเรียนจบจึงทำงานที่นั่นไม่กลับมา  ช่วงที่กลับมาบ้านตอนนั้นเพราะตั้งใจมาบอกพ่อว่ามีลูกและรอให้ผู้ชายคนนั้นมาหาเพื่อมาสู่ขอ  คิดไม่ถึงว่าเธอจะถูกฝ่ายนั้นฉุดกลับกรุงเทพฯ  สุดท้ายยังถูกทอดทิ้งเช่นเดิม  ตอนนี้ลูกชายของเธออายุสิบหกแล้ว  และหวังว่าถ้าลุงปั้นให้อภัยเธออยากพาลูกชายมากราบตาของเธอ  ลุงปั้นกอดรูปใบหนึ่งเอาไว้แนบอกแล้วร้องไห้เสียงดัง  ครู่ใหญ่กว่าแกจะหยุดร้องแล้วยื่นรูปให้รัชพลดู

   “นี่ไง  หลานชายของข้า”

   นับแต่วินาทีนั้น  หัวใจของรัชพลก็ไม่เคยเต้นจังหวะเดิมอีกต่อไป

   ใบหน้าได้รูป  ผิวขาวจัด  จมูกโด่งรั้น  ริมฝีปากบางสีแดงสดแย้มยิ้มกับดวงตายิบหยีเป็นเสี้ยวพระจันทร์  เรือนผมหยักศกเคลียบ่า  ทุกองค์ประกอบดูงดงามราวกับรูปปั้น  เขากำลังตกหลุมรักคนในภาพถ่ายโดยไม่รู้ตัว...

   “หลานชาย?”  รัชพลหยิบรูปใบนั้นขึ้นมาดูด้วยมือสั่นระริก

   “ใช่  หลานชายข้า  ชื่อโกเมน”

   เขาอาจจะเข้าใจผิด  จังหวะหัวใจที่เต้นผิดไปนั้นคงเป็นเพราะคนในรู้หน้าตาดีเกินไปเท่านั้น   

   เท่านั้นเอง...




   ผิวขาวเรียบเนียนใต้ฝ่ามือ  ริมฝีปากสีแดงคู่นั้นแย้มยิ้มให้เขาอย่างยั่วยวน  ดวงตาคู่สวยพราวระยับฉ่ำวาวด้วยแรงปรารถนา  เสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อบางอวดเงาร่างใต้ผืนผ้า  เขาพยายามควบคุมลมหายใจ  หากกระนั้นกลับรู้สึกว่ายากเย็น    เขาลงแรงบนฝ่ามือ  ผิวขาวปรากฏร่องรอยสีแดง  ริมฝีปากบางคู่นั้นขยับยิ้มคล้ายท้าทาย

   ‘เข้ามาสิ’

   เขาโถมกายเข้าหา  แนบริมฝีปากร้อนไปตามผิวขาวจัดนั้น  หน้าผาก  ข้างแก้ม  เรียวคาง  ลำคอ  บ่าแคบ  แผ่นอกราบเรียบ  หน้าท้องเนียน  แม้กระทั่งข้างเอวสอบ  จนเจ้าของร่างสะดุ้ง  ถึงอย่างนั้นกลับไม่มีถ้อยคำเอ่ยห้าม  รัชพลใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็น  รู้สึกว่าคนตรงหน้างดงามเหลือเกิน   เขาอยากครอบครอง  อยากทำให้เป็นของเขาคนเดียว

   รัชพลกกกอด  ฟ้อนเฟ้นร่างผอมบางไม่ผละห่าง  ลูบไล้เรียวขาขาวยกขึ้นพาดบ่าแล้วแทรกกายเข้าหา  ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวเหยเก  ยิ่งยามเขาขยับตัว คนด้านล่างบีบรัดไม่ให้เขาเคลื่อนไหว  ความรู้สึกเร่าร้อนรุนแรง  เขาขบกรามแน่นแล้วเสือกกายไม่ออมแรง  เจ้าของใบหน้าขาวสะบัดแหงนหงาย  เรือนร่างผอมขยับไหวตามแรงโถม  รัชพลก้มลงบดจูบอย่างหลงใหล  กักเสียงหวานไม่ให้ลอดผ่าน   สอดประสานนิ้วเรียวยาวกับเด็กหนุ่มแนบแน่น  ความสุขสมถะถั่งโถมเข้าใส่ราวกับพายุบ้าคลั่ง



   “!”  พรึ่บ!  รัชพลลืมตาตื่น  แสงแดดยามเช้าลอดผ่านหน้าต่างแยงตาปลุกเขาจากความฝันวาบหวาม  หัวใจยังคงเต้นรัวเร็ว  ความรู้สึกวิบไหวยังคงอาบไล้จากในความฝันสู่ความจริง  ชายหนุ่มเลิกผ้าห่มแล้วดึงขอบกางเกงนอนออกดู   หลักฐานความสุขสมปรากฏเด่นชัด   รัชพลขมวดคิ้วทิ้งกายลงบนฟูกนอนก่อนยกแขนก่ายหน้าผาก

   นี่มันแย่...

   แย่มากจริงๆ...



   รัชพลคิดว่า  เรื่องราวนั้นจะจบลง  มันคงเป็นการเก็บกดเพราะหลายปีมานี้เขาเอาแต่ทำงานไม่เคยยุ่งเรื่องชู้สาวเลย  พอมาเห็นรูปโกเมนก็พลันใจเต้น  นั่นอาจเป็นอารมณ์เพียงชั่ววูบไม่นานคงหายไป  แต่เปล่าเลย...

   หลังจากนั้นครึ่งปีโกเมนมีละคร  แม้ไม่ใช่ตัวเอกหากเขากลับโดดเด่น  ใบหน้าหล่อเหลา  ร่างผอมบาง  และรอยยิ้มซึ่งเหมือนกับในฝันของรัชพล   ความฝันลามกกลับมาหาชายหนุ่มอีกครั้งและยิ่งมากขึ้นตามวันเวลาที่ผ่านไป

   “ผมจะแต่งงาน”  วันหนึ่งรัชพลเอ่ยปากกับคนที่บ้าน  รัชพงศ์เลิกคิ้วแปลกใจหากไม่ได้เอ่ยคัดค้าน  พ่อกับแม่เองก็อยากอุ้มหลานเต็มแก่จึงยินดีออกนอกหน้า

   
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่14 [จบ] (2-9-60) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 30-09-2017 10:32:21



งานแต่งงานถูกจัดอย่างเรียบง่ายจากเงินเก็บของรัชพลล้วนๆ  แม้ไม่มากมายหากก็พอที่จะให้พ่อตาแม่ยายวางใจได้ว่าลูกสาวของตัวเองคงไม่ลำบากนัก  รัชพลเป็นคนขยันอีกไม่นานคงร่ำรวย  ดูได้จากการที่เจ้าตัวไปปรับปรุงพัฒนาไร่ของพี่ชายจนกิจการใหญ่โต

   สองปีต่อมาฟ้าคลอดลูกสาวลูกชายฝาแฝด  รัชพลดีใจนักหนา  ชายหนุ่มตระกองกอดเจ้าตัวเล็กไว้ในอ้อมแขน  เขาก้มจูบแก้มแดงๆ อย่างรักใคร่  ฟ้ามองภาพนั้นแล้วถอนหายใจ

   “พี่พล  พี่จะตั้งชื่อลูกว่าอะไร?”  หญิงสาวถาม  หากไม่ได้จะใส่ใจฟังมากนัก

   “โก..  ชื่อฟักกับแฟงก็แล้วกัน  จะได้คล้องกับฟ้าไง”  รัชพลเอ่ยพลางยกยิ้มให้ภรรยา  เมื่อครู่เขาเกือบหลุดชื่อของใครบางคนที่แอบซ่อนอยู่ในส่วนลึกของจิตใจออกมา  เขาแต่งงานแล้ว  หนำซ้ำยังมีลูกตั้งสองคน เขาไม่ควรคิดถึงใครคนอื่นอีก

   “แล้วชื่อจริงล่ะ?”

   “ฟักให้ชื่อไพฑูรย์  แฟงให้ชื่อปัทมราช”

   “....”  หญิงสาวเลิกคิ้ว  ชื่อลูกทั้งสองคนหมายถึงอัญมณีซึ่งมีสีแสดและสีชมพู  เธอไม่คิดว่ารัชพลจะชื่นชอบอัญมณีขนาดนี้
   .
   .

   “พี่  ฉันจะไปทำงานกรุงเทพฯ นะ”  ฟ้าบอกขณะเก็บผ้าใส่กระเป๋า  รัชพลที่เพิ่งกลับมาจากส่งผักในตลาดเลิกคิ้วมองภรรยา

   “แล้วลูกล่ะ?”

   “ยกให้พี่แล้วกัน  หรือพี่จะเอาไปให้ตายายเลี้ยงก็ไม่ว่าหรอก”  ฟ้ารูดซิปกระเป๋าทำท่าจะเดินออกไป

   “เดี๋ยวฟ้า!”  รัชพลเหลือบมองลูกน้อยที่กำลังหลับแล้วพลันสงสาร  “ทำไมต้องไปด้วย  พี่ดูแลฟ้าไม่ดีงั้นหรือ?”

   “พี่ดูแลดี  แต่พี่พลไม่ได้รักฉัน”

   “ฟ้าเอาอะไรมาพูด?”  รัชพลชะงัก  มือใหญ่ไม่กล้าออกแรงรั้งหญิงสาวเอาไว้เมื่อคำพูดนั้นหลุดออกมา

   “เอาความจริงมาพูดไง  คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่าใจพี่อยู่กับคนอื่น!”  หญิงสาวตะโกน  หยาดน้ำคลอหน่วยตา

   “พี่....”

   “สองปีที่แต่งงานกันมาฉันหวังว่าสักวันหนึ่งพี่จะรักฉันจากใจจริงได้  แต่เปล่าเลย!”

   “พี่รักฟ้านะ  รักฝาแฝดด้วย”

   “พี่อย่าโกหก! พี่ถามตัวเองเถอะว่าสองปีที่ผ่านมาพี่กอดฉันกี่ครั้ง  เวลาหลับพี่ละเมอชื่อใคร!”

   “.......”

   “ถ้าพี่ไม่ได้รักฉันก็ปล่อยฉันไปเถอะ”  รัชพลปล่อยมือจากแขนอีกฝ่าย  เขายืนนิ่งอยู่อย่างนั้นไม่ขยับเขยื้อน  จนเมื่อร่างของหญิงสาวจากไปแล้วเขายังคงยืนอยู่ที่เดิม  ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน  เสียงร้องไห้โยเยของฝาแฝดปลุกรัชพลให้หลุดจากภวังค์

   ‘ฝากดูแลลูกด้วยนะพี่’

   ถ้อยคำของฟ้าก่อนเดินจากไปย้อนกลับเข้ามาในความคิด รัชพลยื่นมือคว้าฝาแฝดมากอดไว้  ก้มลงมองหน้าลูกสาวลูกชายแล้วพลันเจ็บยอกในอก   หยาดน้ำตาร่วงหล่นใส่ใบหน้าเล็กๆ ของเด็กน้อย

   “พ่อขอโทษนะลูก  พ่อขอโทษ”

   เขาพยายามไถ่โทษโดยการเลิกคิดถึงใครบางคน  ทุ่มเวลาทั้งหมดในการดูแลฝาแฝด  รัชพลไม่ยอมให้ตายายมาเอาหลานไป  ไม่ว่าลำบากยากเย็นแค่ไหนเขาจะดูแลลูกเอง  ลุงปั้นมาคอยช่วยดูแล  แกรักฝาแฝดเหมือนหลานแท้ๆ ของตัวเองก็ไม่ปาน  บางวันยังเอาจดหมายของพี่พลอยมาอ่านให้ฝาแฝดฟัง  เอารูปหลานชายสุดรักมาให้ฝาแฝดดู  ถ้าถึงช่วงนั้นรัชพลจะทำเป็นไม่สนใจโดยเข้าไร่บ้าง  เข้าตลาดบ้าง

   ฝาแฝดเติบโตมาเป็นเด็กดี  ลุงปั้นเริ่มป่วย  ร่างกายอ่อนแอและจดหมายจากพี่พลอยก็ทิ้งช่วงหายไป  รัชพลพยายามหาทางติดต่อพี่พลอยหากไม่สามารถติดต่อได้  จดหมายที่เขียนไปถูกตีกลับ

   “พล  ข้าฝากดูแลไร่หน่อยนะ”  ลุงปั้นเอ่ยฝากฝัง   แกนอนบนเตียงคนไข้ท่าทางโรยแรง  “เงินในบัญชี  โฉนดที่ดิน  บ้านข้ายกให้โกเมนทั้งหมด  เว้นแต่ของเล็กของน้อย  อันไหนบริจาคได้ก็บริจาคไปเถอะ”

   “ลุง  ลุงรอเอาให้หลานชายลุงเองดีไหม?”  รัชพลพยายามชวนคุยและให้กำลังใจ  ลุงปั้นส่ายหน้า

   “ฝากโกเมนด้วยนะพล”

   “ลุงปั้น?”

   “ตามหาเขาให้หน่อยนะ  มอบสมบัติให้โกเมนไว้หน่อย  เผื่อวันใดจะมีประโยชน์กับเขา”  รัชพลกลั้นน้ำตา  ลุงปั้นสีหน้าเลื่อนลอย  หากริมฝีปากยังคงมีรอยยิ้มบางประดับ  “ดูเหมือนนังพลอยมันจะมารับข้า”

   “ลุง?  ลุงปั้น?  พยาบาลครับ!”  รัชพลร้องเรียกเมื่อเห็นว่าลุงปั้นคล้ายจะหยุดหายใจ

   ลุงปั้นสิ้นลมในวันต่อมา  รัชพลเป็นคนจัดการทุกอย่าง  ในหมู่บ้านต่างรู้ดีว่าลุงปั้นรักรัชพลเหมือนเป็นลูกชายแท้ๆ ของแกอีกคน  และด้วยความที่ลุงปั้นเองก็เป็นที่รักของคนในหมู่บ้าน  แม้จะไม่มีลูกหลานจริงๆ มาแต่งานศพของลุงปั้นกลับมาคนมาร่วมอาลัยล้นเหลือทีเดียว

   งานทำบุญร้อยวันเสร็จสิ้นไปแล้วรัชพลจึงค้นหาเอกสารต่างๆ ซึ่งลุงปั้นมอบหมายให้เขาดูแล  โฉนดที่ดินแห้งแล้งสิบห้าไร่  ที่ดินรอบบ้านหลังนี้อีกยี่สิบไร่  ที่ดินยี่สิบไร่นั้นงดงามและกำลังออกผลผลิตให้เก็บเกี่ยว  รัชพลเพิ่งจ้างคนงานเก็บผลผลิตแล้วเสร็จไปเมื่อวันก่อน  บัญชีธนาคารกับเงินหลายล้านที่ลุงปั้นเก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตถูกใส่ชื่อโกเมนเป็นเจ้าของบัญชี

   รัชพลทำตามคำสั่งเสียสุดท้ายของลุงปั้น  ตามหาโกเมน  รัตนนันท์

   “สวัสดีครับ  โกเมนพูดครับ”

   “โกเมน?  ใช่โกเมน  รัตนนันท์หรือเปล่า?”  รัชพลเอ่ยถามปลายสาย  เขาก้มลงมองรูปในมือพลันหัวใจก็เต้นรัวเร็ว  เหงื่อซึมฝ่ามือจนเปียกชุ่มเกือบทำโทรศัพท์หลุดมืออยู่หลายครั้ง

   “ใช่ครับ  ไม่ทราบว่าใคร…”  น้ำเสียงดูทุ้มพร่ากว่าในจอโทรทัศน์และในจินตนาการของเขาอยู่มากโข  ทั้งๆ ที่ในใจตื่นเต้นหากปากยังคงเอ่ยพูดกับอีกฝ่ายราวกับไม่รู้สึกอะไร และน้ำเสียงหยิ่งผยองนั้นทำให้เขาอยากแกล้งเล่น

   “โกเมนหลานลุงปั้นอ่ะนะ?”

   “ลุงปั้นไหน?”

   “ลุงปั้นบ้าน….ไง”

   “นี่คุณ  ถ้าคิดจะโทร.มาแกล้งกันละก็ผมไม่ว่าง”  น้ำเสียงไม่พอใจนั้นทำให้รัชพลยิ้มกว้าง  ก่อนจะสงบลงเมื่อนึกถึงลุงปั้น

   “ขอโทษที่รบกวนเวลางานนะ  แต่ลุงปั้นแกเพิ่งเสีย  แกบอกว่าให้ตามหาคุณให้หน่อย”

   “ผมไม่รู้จักลุงปั้นอะไรของคุณสักหน่อย  อ้อ  แล้วขอแสดงความเสียใจกับการจากไปด้วยแล้วกัน” ประโยคนั้นของโกเมนทำให้รัชพลขมวดคิ้ว  ทำไมถึงได้ใจร้ายขนาดนี้?

   “ขอบคุณ  อ๊ะ  แต่ลุงปั้นแกรู้จักคุณนะ!”

   “แหงละ  ผมเป็นดาราดังนี่” 

   “หืม?  ดารา?  ช่องเจ็ดหรือ  รึว่าช่องสาม?  เอาเถอะๆ  จะช่องไหนผมก็ไม่รู้จักคุณอยู่ดี”  เพราะถ้อยคำหยิ่งผยองรัชพลจึงยียวนตอบกลับ

   กว่าจะคุยกันรู้เรื่องเล่นเอารัชพลปวดหัว  นึกไม่ถึงว่าครั้งแรกที่ได้คุยกันทำเอาภาพในจินตนาการของรัชพลแตกละเอียด  แต่เป็นแบบนั้นก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง?  ยิ่งตัวจริงแตกต่างกับคนในความฝันลิบลับแบบนี้ยิ่งดี

   เรียวนิ้วหยาบกร้านจากการทำงานลูบไล้รูปในมือแผ่วเบา  ก่อนจะสอดมันไว้ในหนังสือเล่มโปรดแล้วเก็บเข้าชั้น

   แค่นี้แหละดีแล้ว  แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับใจ



   รัชพลตั้งใจจะพาโกเมนไปดูที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ด้วยผลผลิตอันงดงามที่ลุงปั้นทำไว้  อยากให้โกเมนชื่นชอบและหวังว่าอีกฝ่ายจะดูแลสิ่งที่ลุงปั้นลงทุนลงแรงเอาไว้   แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนใจเมื่อเห็นท่าทางของโกเมน   ฝ่ายนั้นไม่ยินดีจะมาที่นี่  ไม่มีความผูกพัน  ไม่รู้จักคุณตาผู้ทุ่มเทและเฝ้ารอคอยเขา  โกเมนตั้งใจจะขายที่ดินของลุงปั้นทิ้ง  ดังนั้นรัชพลจึงเปลี่ยนใจ

   เขาพาโกเมนไปดูผืนดินอีกแห่งแทน  ผืนดินแห้งแล้งซึ่งไม่มีใครอยากซื้อ  ต่อให้โกเมนอยากขายแค่ไหนก็ตาม  เขาสืบเรื่องราวของโกเมนมาบ้างแล้ว  โกเมนกำลังตกอับ   ...รัชพลแค่นยิ้ม  แล้วอย่างไร  เขากำลังดีใจอะไรอยู่  คาดหวังว่าโกเมนตกอับแล้วจะมาอยู่ที่นี่งั้นหรือ  ฝันเฟื่องแท้ๆ  ไหนบอกตัวเองว่าเพียงพอกับความฝันเท่านั้นไง  ทำไมยังวาดหวังลมๆ แล้งๆ อยู่อีก

   เขาถ่วงเวลาอยู่ครึ่งปี   พร้อมกับที่โกเมนกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง 

   รัชพลละสายตาจากจอโทรทัศน์ก่อนจะพาลูกๆ กลับบ้าน  เขาไม่ได้ประกาศขายที่ดินตามความต้องการของโกเมน  เขาทำไม่ลงจริงๆ  ครั้งแรกที่โกเมนมา  รัชพลตั้งใจอยากให้อีกฝ่ายประทับใจจนอยากกลับมาอยู่ที่นี่  แต่เมื่อมันเป็นไปไม่ได้เขาจึงตัดใจ ไม่ยอมบอกแม้กระทั่งชื่อตัวเอง  ไม่ผูกพันน่ะดีที่สุด  กลับกลายว่าหลังจากนั้นโกเมนก็กลับมา...

   โกเมนแบกความเจ็บปวด  ความผิดหวังและความเบื่อหน่ายต่อวงการบันเทิงแล้วกลับมา


*********


รัชพลลืมตา  อาการปวดเมื่อยตามตัวทำให้เขาเบ้หน้า  ก้มลงมองเอวตัวเองที่ถูกแขนใครบางคนก่ายกอดไว้  เขาเหลียวมองคนด้านหลังก่อนจะค่อยๆ  พลิกตัวเพื่อมองหน้าอีกฝ่ายให้ชัดๆ

ไม่น่าเชื่อว่าจะมีวันนี้

รัชพลยกยิ้มกับตัวเอง  เขาเคยบอกตัวเองเอาไว้  ว่าพอเพียงกับการแอบรักโกเมน  ไม่คาดหวัง  ไม่ตั้งความหวังแต่สุดท้าย...เขาก็ยังได้หัวใจของอีกฝ่ายมาครอบครอง  นิ้วเรียวยาวยกขึ้นแตะโครงหน้าได้รูปของคนที่หลับใหล  ความรู้สึกในวันนี้ยังคงเหมือนวันแรกที่เขาเห็นอีกฝ่ายในรูปถ่าย

...รัก...

“จะแอบจูบผมก็รีบๆ ทำสิ”  เจ้าของริมฝีปากบางเอ่ยพูดทั้งที่ยังหลับตา  รัชพลเบิกตากว้างแล้วหัวเราะพลางยื่นหน้าไปจูบริมฝีปากสีแดงสดคู่นั้นแผ่วเบา  โกเมนยกยิ้ม  เขาลืมตาแล้วคว้ารัชพลมากอดแน่นก่อนจะพลิกตัวคร่อมอีกฝ่ายไว้

“เช้าแล้ว  เดี๋ยวไปเก็บผักไม่ทัน”  รัชพลยันแขนดันอีกฝ่ายออก  เมื่อคืนโกเมนทำเขาสลบเหมือดไปแบบไม่รู้ตัว  ตั้งแต่รู้ว่าต้องทำแบบไหนโกเมนก็ฝึกฝนไม่มีวันหยุด  ท่าง่าย  ท่ายาก  ท่าพลิกแพลงโกเมนเอามาใช้กับเขาหมด  อายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆ ทำเอาๆ ไม่นึกถึงสังขารของเขาบ้างว่าไหวหรือเปล่า  หลังสงครามบนเตียงทีไรอีกวันเขาจะเคล็ดขัดยอกจนแทบไม่อยากขยับตัวทำงาน   นี่กะว่าถ้าวันไหนเขาได้เป็นฝ่ายเอาคืนละก็จะเอาให้โกเมนลุกไม่ขึ้นเลยเชียว  นึกถึงความฝันลามกของตัวเองเมื่อหลายปีก่อนหัวใจของรัชพลพลันเต้นแรง  เขาอยากเป็นฝ่ายกอดบ้าง! 

จำได้ว่าครั้งแรกของพวกเขา  รัชพลเจ็บจนยกเท้าถีบโกเมนกระเด็นหงายหลัง  คนตัวโตทำหูลู่หางตกท่าทางน่าสงสารแต่พอเห็นรัชพลเจ็บขนาดนั้นก็ยอมแพ้  โกเมนเสนอตัวให้รัชพลเป็นคนกอด  เขาตาวาวด้วยความดีใจหากพอคิดถึงความเจ็บปวดชนิดที่ทำให้เขาถีบอีกฝ่ายกระเด็นแล้วได้แต่ถอนหายใจ   รัชพลไม่อยากให้โกเมนเจ็บ  เลือกได้เขาขอเป็นคนเจ็บเองดีกว่า  ได้แต่หวังว่า...สักวันหนึ่งที่เขามีประสบการณ์มากพอจะลองขอเป็นฝ่ายรุกดู  เมื่อเวลานั้นมาถึงเขาคงไม่ทำให้โกเมนเจ็บมากนัก  ดังนั้นตอนนี้ค่อยๆ สะสมประสบการณ์ไปก่อนแล้วกัน

 “เมื่อคืนได้แค่สองยกเอง  พี่ดันมาสลบหนีผมไปเสียก่อน”

“ไม่ใช่แค่  แต่เป็นตั้งสองยกต่างหาก! ”  รัชพลถลึงตาใส่  นับวันโกเมนชักจะหื่นขึ้นทุกที  “ไม่รู้แหละ!”  โกเมนไม่พูดเปล่า  เขาตวัดผ้าห่มขึ้นคลุมร่างตัวเองกับรัชพลแล้วปล้ำจูบ

โกเมนเริ่มเรียนรู้ว่าจุดไหนของรัชพลที่จะปลุกเร้า  จุดไหนรัชพลชอบให้ย้ำ  ความรู้สึกหวามไหวถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง  คนต่อต้านจนถึงเมื่อครู่ทำได้เพียงหลับตาแล้วคล้อยตามที่อีกฝ่ายชักนำ

ลมหายใจกระชั้นผสานกัน  ริมฝีปากสีเข้มถูกเจ้าของขบเม้มกลั้นเสียงไม่ให้เล็ดลอดยามเมื่อห้วงอารมณ์ทะยานสูง  รัชพลยื่นแขนและขาเกี่ยวกระหวัดร่างของโกเมนไว้แน่น  ยิ่งโกเมนขยับแรงเท่าใดเขายิ่งขบเม้มริมฝีปากแน่นเท่านั้น  โกเมนขมวดคิ้วยกมือแตะริมฝีปากอีกฝ่าย

“?”

“เดี๋ยวเลือดออกหรอก”

“ก็...มันจะทนไม่ไหว”  เสียงตอบกลับเบาจนแทบไม่ได้ยิน   โกเมนยกยิ้ม  เขากระทั้นกายแรงๆ เข้าไปอีกทีหนึ่งอย่างหมั่นเขี้ยว  รัชพลผวาเฮือกส่งเสียงครางเครือ

“ไม่ไหวก็ไม่ต้องทน  เพราะแสดงว่าผมโคตรเจ๋ง”  รัชพลค้อนประหลับประเหลือกเมื่อได้ฟัง  ก่อนจะถูกพายุอารมณ์โหมกระหน่ำจนหมดเรี่ยวแรง
.
.


“พอก่อน...”  เสียงแหบโหยของรัชพลเอ่ยประท้วง  เขาพยายามพลิกกายหนีหากอีกฝ่ายกลับคว้าเอวเขาไปกอดแล้วรั้งเข้าหา

“อีกรอบ...”

“พ่อจ๋า / อาโกเมนนนนนนนน”  เสียงฝาแฝดตะโกนลั่นบ้าน  รัชพลสะดุ้งยันกายลุกขึ้นนั่งก่อนล้มลงกองกับที่นอน

“โอยยยย”  รัชพลยื่นแขนจับเอวที่เคล็ดขัดยอก  ก่อนจะดันโกเมนให้ออกห่าง  “ออกไปหาลูกก่อน”

“แต่ว่า...” 

“เดี๋ยวลูกเข้ามาเห็น”  รัชพลผลักอีกฝ่ายไม่เลิก  โกเมนถอนหายใจ  กรอกตามองเพดานแล้วลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้ามาสวมแล้วเดินออกไปหาฝาแฝด
   
   ทั้งๆ ที่เมื่อวานอุตส่าห์เอาสองแสบไปฝากบ้านตายายเพื่อที่ว่าวันนี้จะได้ไม่มีจอมจุ้นมากวนใจและก่อกวนช่วงเวลารักใคร่ของเขากับรัชพลแล้วนะ 

   จู่ๆ โกเมนก็รู้สึกว่าฝาแฝดสองคนนี้มักจะเข้ามาได้จังหวะอยู่เสมอ  ไม่รู้จงใจแกล้งเขาหรือว่าหวงพ่อกันแน่




   ส่วนคนที่ยังนอนฟุบอยู่น่ะกำลังหมายมั่นปั้นมือ...ว่าสักวันเขาจะทำตามอย่างในฝันให้ได้!
   ตอนนี้เขาเรียนรู้ทุกกระบวนการผ่านโกเมนเรียบร้อยแล้ว  สักวันโกเมนจะต้องเป็นฝ่ายโดนเขากอด  ฮึ่ย!






จบ




สวัสดีค่ะ  เอาตอนพิเศษที่ช้ามากมาส่งค่ะ  แฮ่~
คราวนี้รู้กันแล้วเนอะว่าพี่พลรักโกเมนนามานแค่ไหน  ก็ตั้งแต่โกเมนเพิ่งเปลี่ยนจาก เด็กชายมาเป็นนายได้แค่ปีเดียวนั้นแหละค่ะ
โกเมนในวัยขบเผาะ กรุบกรอบขโมยหัวใจพี่พลไปตั้งนานแล้ว ^^  เพราะแบบนี้การกระทำทุกอย่างของพี่พลล้วยมาจากหัวใจทั้งนั้น  แหวะ~~~  เน่าเนอะ ฮ่าๆๆๆ
คิดถึงทุกคนนะคะ
ตอนนี้อยู่ในช่วงกำลังคิดตอนพิเศษอยู่  อยากให้ความอิ่มเอมใจคงอยู่กับคนอ่านนานๆค่ะ
หลังจากนี้หากมีข่าวสารเกี่ยวกับรักพอเพียงจะมาคอยแจ้งเป็นระยะนะคะ  หรือตามที่ทวีตกับเพจได้เลยค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านและให้กำลังใจกันเสมอมานะคะ
หลังว่าสุดท้ายนี้  รักพอเพียงจะทำให้ทุกคนมีความสุขค่ะ



ด้วยรัก
ทราย
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: lovewannabe ที่ 30-09-2017 13:18:31
รักเลย :L1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 30-09-2017 14:15:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 30-09-2017 14:46:41
อ่านไปก็แอบคำนวณอายุไป ตกลงว่ารัชพลแก่กว่าโกเมนไปเป็นสิบปีเลยสินะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 30-09-2017 15:55:46
พี่พลกินเด็กอย่างแรง อิอิ น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 30-09-2017 20:02:33
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: whoami ที่ 30-09-2017 22:38:50
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 01-10-2017 00:12:14
ทำไมเราอ่านแล้วน้ำตาคลอ เรื่องราวที่ถ่ายทอดในนิยายเรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกโชคดีมากที่ได้อ่าน เราคิดว่าคนเขียนคงเข้าใจที่เราจะสื่อ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับนิยายดีๆค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: silverrain ที่ 01-10-2017 01:24:34
รอวันที่พี่พลรุกโกเมน
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 01-10-2017 02:12:48
ลุงปั้นดีมากๆ รัก
พลรักโกเมนมานาน สมหวังสักที
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 02-10-2017 00:59:45
ถ้าได้เจอกันตั้งแต่โกเมนสิบห้าสิบหก พี่พลอาจจะได้รุกนะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 02-10-2017 08:27:46
สนุกมากเลยค่ะ เนื้อเรื่องน่ารัก อบอุ่นมาก
อ่านเรื่องนี้แล้วให้ความรู้หลายอย่างเลยค่ะ ทั้งแง่คิดดีๆ
พออ่านเรื่องนี้แล้วทำให้อยากมีที่อยู่ต่างจังหวัดแล้วทำไร่ทำสวนแบบนี้บ้างจัง ปรกติเป็นคนชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้วนะ แต่ไม่มีทีมีทางให้ทำเท่านั้น
ยังก็ขอบคุณนิยายดีๆสนุกๆค่ะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 02-10-2017 11:08:27
 :pig4: :กอด1: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 02-10-2017 14:29:50
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Tikking7 ที่ 03-10-2017 22:18:38
อุ่นวาบ...ไปทั้งใจ มีความรู้ร่วมด้วย  o13
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: absolutepoison ที่ 04-10-2017 04:41:14
รักนิยายเรื่องนี้จัง รักคนเขียนด้วย
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 04-10-2017 10:23:06
พี่พล :-[
สู้ๆนะคะ หนูรอให้พี่กดโกเมนอยู่!!! :hao7:
กดให้จมเตียงไปเลยค่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 08-10-2017 00:21:18
 :katai2-1: o13 :katai2-1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 08-10-2017 11:27:43
 :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 24-11-2017 11:45:43
เป็นอีกเรื่องที่ชอบมาก..รักเลย  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 15-01-2018 13:06:27
พอเพียงก็เพียงพอ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 16-01-2018 18:47:14
ละมุนมากๆๆ
ไม่สนับสนุนไห้พี่พลกอดโกเมนอะ แต่สนับานุนไห้พี่พล ออนท็อป ครึครึ

ละมุนมากคะ ติดตามมาตั้งแดต่แรกๆ ชอบมากๆๆเลย

ว่าแต่จะมีเรื่องของเจ้าแฝดหรือป่าวน้าาาา :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 16-01-2018 21:49:24
เป็นนิยายน้ำดีที่สนุกมากเลยค่ะ ชอบอะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 17-01-2018 23:46:29
 :impress2:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง : ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 01-03-2018 19:23:11
โถ่ววววว พ่อโกเมนน้อย ช่างน่าสงสาร  :laugh:

จะได้เป็นสิ่งที่ตัวเองเกลียดนักเกลียดหนาล่ะเด้อ

เรื่องนี้มีแววว่าสายฮา แต่ก็นะไม่แน่เสมอไปเพราะหลายเรื่อง

เปิดมาฮาแบบนี้เลย แต่พอม่านะ โอ้โหหหห เจ็บใตแต้ๆ

แต่ก็ติดตามละน้า สนุกดี ป.ล. เราตามมาจากกระทู้นิยายแนะนำ^^
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 01-03-2018 23:33:46
ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณมากๆ ฮือ สนุกไม่พอ ยังได้ประโยชน์อีก

อย่างลูกตำลึงที่ไม่เคยรู้ว่ากินได้ ไหนจะฟักเชื่อม

หรือแม้แต่บวดขนุน (อันนี้เราจะทำกินแน่ๆค่ะ)

พออ่านเรื่องนี้ได้อะไรเยอะแยะเลยค่ะ การปลูกพืชผักหลายๆอย่าง

พอถึงตรงนี้แล้วก็คิดถึงในหลวงร.9 เลย แง้

ขอบคุณอีกรอบนะคะ ชอบมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: lnwgreankak ที่ 11-06-2018 01:37:37
เรื่องนี้อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นมากครับ ชอบมาก
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 11-06-2018 19:43:24
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 12-06-2018 17:01:55
อบอุ่นใจมาก เรื่องดีขอบคุณนักเขียนนะ แต่คุณพลจะกลับมารุกได้เหรออายุอานามก็แพ้แล้ว555
หัวข้อ: Re: รักพอเพียง:หัวใจเพียงพอ[ตอนพิเศษ] (30-9-60) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 04-01-2020 23:07:05
จังหวะซิทคอม  พ่อจ๋า  :laugh:

 :pig4: