พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: ภัคD ที่ 05-05-2009 23:03:51

หัวข้อ: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 05-05-2009 23:03:51
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

******************************

***เขียนเรื่องนี้ลงบอร์ดอินุในเทศกาลวาเลนไทน์ที่ผ่านมา...เนื่องจากไปติดอกกับติดใจ น้องเชิดสิงโตที่งานศาลเจ้าปุงเถ่ากงม่าเชียงใหม่ค่ะ...แบบว่าช่วงนั้นไปเกาะเสาศาลเจ้าทุกคืนๆเลย...***

สิงโตวาเลนไทน์

ผมมองคนที่กำลังถือพัดเต้นไปเต้นมาอยู่ด้านล่าง ใกล้โค่นเสาที่ผมกำลังจะกระโดดข้ามไป มันไม่ใช่ตำแหน่งแห่งที่ๆใครสมควรจะมายืนอยู่เลย เขาเงยหน้าขึ้นยิ้มด้วยใบหน้าของหญิงแก่ราวกับไม่รู้สึกรู้สาถึงความหงุดหงิดที่ก่อตัวขึ้นทีละน้อยในใจของผม  หรือหากจะให้พูดตรงๆล่ะก็...ความหงุดหงิดที่ว่านั้น มันก่อตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้ว หรืออาจจะก่อนหน้านั้นเป็นวัน หรือเป็นเดือนก็ได้...หรือจริงๆก็นับตั้งแต่วันที่เจ้าเด็กหน้าใหม่ที่กำลังสวมหน้ากากหญิงแก่คนนี้ก้าวเท้าเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในคณะเลยก็ว่าได้...

ผมบอกตัวเองให้เลิกคิด ให้ตั้งสมาธิอยู่กับสิ่งที่ตัวผมเองกำลังทำ เพราะการขาดสมาธิแค่เพียงนิด มันก็ทำให้เกิดการผิดพลาดได้ ...ผมบอกตัวเองให้ตั้งสมาธิ หากแต่ภาพพู่ไหมสีชมพูสดที่คนๆนั้นกำลังแกว่งไกวทำทีคล้ายหลอกล่ออยู่นั้น มันกลับทำให้ผมรำคาญตา ผมนึกเห็นภาพใบหน้าที่ซ่อนอยู่หลังหน้ากากของหญิงแก่ที่แหงนเงยจับจ้องมาที่ผมหรือจริงๆน่าจะบอกว่า...จับจ้องมายังคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของผม...

ใบหน้าของหญิงแก่ยิ้มแย้มหยอกเย้าขี้เล่นกำลังซ้อนทับกับเจ้าของใบหน้าภายใต้หน้ากากนั้น...เขากำลังยิ้ม หัวเราะ ส่งสายตามาให้ใครอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังของผม...

“อย่ายืนตรงนั้น!”เสียงตะโกนดังมาจากคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง หากแต่คงมีแค่ผมเท่านั้นที่ได้ยิน เจ้าของหน้ากากหญิงแก่จึงยังคงถือพัดโบกไปมาพร้อมพู่ไหมสีชมพูในมือ  เริงร่าอยู่ในตำแหน่งเดิม ตำแหน่งที่ไม่ควรจะยืน

และเพราะเสียงตะโกนนั้น...ในขณะที่สองเท้าของผมกำลังเต้นขยับรับจังหวะเสียงรัวกลองอยู่บนเสาที่มีหน้ากว้างก็แค่เพียงพอที่จะยืน   สองมือขยับชูหัวสิงโตขึ้นไปจนสุดแขน โดยไม่ทันคิด ผมเหลียวหลังไปมองคนที่กำลังยืนอยู่ด้านหลัง... เจ้าของเสียงตะโกนนั้น มันทำให้ผมสูญเสียจังหวะการทรงตัวไปเล็กน้อยหากแต่ก็ไม่ยากเกินกว่าที่จะควบคุมให้สมดุลกลับมาเป็นเหมือนเก่า

“เป็นไรวะ?”คำถามเสียงขุ่นๆ ดังมาจากด้านหลัง จากคนที่ผมหันไปมอง

“เป็นแฟนมึงไง!”ผมตอบกลับไปเสียงขุ่นไม่แพ้กัน ทั้งที่หัวสิงโตถูเชิดส่งขึ้นไปอีกครั้งในท่าทางการเหลียวหลังและตัวผมก็เอี้ยวกลับไปเช่นกัน หากแต่ครั้งนี้ ผมไม่ยอมมองมันที่ยืนอยู่ข้างหลังในฐานะคนเชิดหางสิงโตแม้แต่น้อย

ผมไม่ได้พูดอะไรกับมันอีก  พยายามไม่มองคนที่ยืนหลอกล่ออยู่ด้านล่าง พยายามก็แต่ตั้งสมาธิและมองไปข้างหน้า

หัวสิงโตถูเชิดยกขึ้นและดึงกลับลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อรอจังหวะของความพร้อม ซึ่งก็นานกว่าที่เคยเป็น เพราะดูจะยากเย็นเหลือเกินกับการบังคับสายตาไม่ให้เพ่งมองไปที่ด้านล่าง และบังคับสมาธิให้จดจ่ออยู่ก็แต่กับสิ่งที่กำลังทำ

เมื่อผมย่อตัวลง เสียงกลองก็ตีกระหน่ำเสียงเร่งเร้าจังหวะขึ้นอีกหนพร้อมกับที่ หัวสิงโตถูกดึงลงมาอีกครั้งก่อนจะถูกชูขึ้นสุดแขนเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อผมย่อตัวลงต่ำที่สุดก่อนจะกระโจนไปข้างหน้า

ก่อนที่เท้าจะทันแตะลงบนเสาต้นที่หมายตาไว้  แสงแฟลชก็สว่างจ้า ...เสาเหล็กที่เมื่อครู่ยังเห็นชัดอยู่ตรงหน้าก็หายวับไปโดยทันทีเหลือก็แต่แสงสีขาวที่ยังเต้นพร่าอยู่ในดวงตาทั้งสอง

เท้าผมแตะลงที่เสา หากแต่ก็แค่หมิ่นเหม่ เสียงคนหวีดร้องพร้อมๆกับที่ผมรู้แล้วว่าตัวเองกำลังหล่นร่วงลงมาจากเสาเหล็กสูงเกือบสามเมตร...

“เฮ้ย! เป็นไง?”หลายเสียงแข่งกันถาม  กับอีกหลายมือที่ช่วยกันรับหัวสิงโตน้ำหนักกว่าสิบกิโลไปจากมือผม

“เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะ?”น้ำเสียงขุ่นๆถามดังขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป

“ทำไมไปยืนตรงนั้น?”คนถามคนเดิม หากแต่น้ำเสียงอ่อนลงและครั้งนี้ ไม่ได้ถามผม

ไม่มีคำตอบดังลอดออกมาจากหน้ากากของหญิงแก่ที่ยังฉีกยิ้มยียวน กวนใจผม

“ไม่เป็นไรก็ลุกขึ้น ขึ้นไปเล่นต่อ!”เสียงครูสั่งเสียงดุ พร้อมปรบมือขัดจังหวะการพูดคุยกันของพวกผม

และผมรู้ คำสั่งนั้นดูจะส่งมาถึงผมโดยตรง เพราะตอนนี้เหลือก็แต่ผมที่ยังนั่งกองอยู่ที่พื้นคนเดียว...หญิงแก่ที่เมื่อกี้ยังล้มกลิ้งอยู่ที่พื้นและมันที่หล่นลงมากองอยู่กับพื้นพร้อมกับผม ขยับลุกเตรียมตัวแสดงต่อกันแล้ว เหลือก็แต่ผมที่ยังนั่งกองอยู่ที่เดิม และเมื่อผมขยับตัวจะลุกขึ้นยืนบ้าง ผมจึงเพิ่งรู้สึกอาการเจ็บแปล๊บที่ข้อเท้าตัวเอง

“เป็นไร?”เสียงครูถาม ถึงยังดุหากแต่ฉายรอยห่วงใย  และมันที่เมื่อครู่ยังตะคอกถามผมโดยไม่สนใจคำตอบก็เพิ่งจะเหลียวหันมามองผมตามเสียงร้องถามของครู

“หล่นลงมายังไง!”มันไม่ใช่คำถามหากแต่เป็นการบ่นกลายๆของครู เพราะการเชิดสิงโตบนเสาเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องเคยพลาดตกลงมาทั้งนั้น ดังนั้นการรักษาร่างกายตัวเองให้ปลอดภัยที่สุดเมื่อการพลาดพลั้งเกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนต้องเรียนรู้

ผมถูกพยุงให้ลุกขึ้นยืน เพื่อหลบออกไปจากพื้นที่ของการแสดง หากแต่ก่อนหลบออกไป ผมก็ต้องถอดกางเกงสิงโตที่สวมอยู่ส่งต่อให้อีกมือที่ต้องรับหน้าที่เชิดหัวสิงแทนผม

ด้วยขาที่เจ็บอยู่ การถอดกางเกงออกจึงไม่ง่ายนัก มันเดินเข้ามาพยามที่จะช่วย แต่ผมขยับตัวหลบ เลือกให้เพื่อนอีกคนช่วยผมแทน

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็เดินออกมาโดยไม่หันไปมองใครรวมทั้งมัน แต่ก็นึกรู้ว่ามันกำลังเดินตามผมออกมาด้วย

เสียงโฆษกประกาศให้คนดูรอสักครู่ เพราะตามธรรมเนียมไม่ว่าจะเชิดสิงโตในการแสดงใด ผู้เชิดต้องทำการไหว้ครูก่อนการแสดงแต่ละรายการ  มันจึงยังเหลือเวลาพอที่จะเดินตามผมออกมา

“ถ่ายรูปได้แต่ขอความกรุณาอย่าใช้แฟลชนะครับ...ถ้าตกลงมาอีกตัว วันนี้ได้ชมเสาดอกเหมยกันเฉยๆแล้วนะครับไม่มีสิงโตแล้วนะครับ”เสียงโฆษกพูดติดตลกเรียกเสียงหัวเราะจากคนดูให้กลับมาอีกครั้ง

“เป็นไงบ้าง?”มันถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้น เมื่อผมถูกพยุงให้นั่งลงไม่ห่างจากพื้นที่แสดงนัก

“เป็นไงบ้าง?”มันถามซ้ำอีกครั้ง เมื่อผมไม่ตอบทั้งยังไม่หันไปมองมันสักนิด และครั้งนี้มันเอื้อมมือมาจะแตะไหล่ผม

“เป็นเหี้ยไง!”ผมตอบพร้อมปัดมือมันออกไปไม่ให้มาแตะถูกตัวผม

ดูมันจะชะงักไปเล็กน้อยกับคำพูดและท่าทีของผม แต่ไม่ทันที่มันจะพูดอะไร ครูก็ส่งสัญญาณเรียกมันเสียก่อน

การแสดงดำเนินต่อไปอีกครั้ง และผมก็ทนนั่งดูอยู่ได้แค่เพียงไม่นานเท่านั้น

“ไปไหน?”เพื่อนร่วมคณะคนหนึ่งร้องถาม เมื่อผมโขยกเขยกพาตัวเองลุกขึ้นจะเดินออกไปจากที่ตรงนั้น

“หาอะไรกิน...กูไปเองได้!”ผมตอบพลางชี้มือไปทางด้านนอกรั้วสีแดง และสำทับเมื่อคนร้องถามทำท่าขยับตัวจะลุกตาม

หากแต่กะเผลกเดินไปได้ไม่กี่ก้าว...เสียงคนที่รายล้อมดูการแสดงอยู่ก็ส่งเสียงร้องขึ้นมาอีก ผมพยายามบังคับตัวเองไม่ให้หันไปมอง พยายามทำทีเป็นไม่สนใจ รอฟังก็แต่เสียงโฆษกรายงานว่าเกิดอะไรขึ้น

ดูเหมือนเกือบจะเกิดการผิดพลาดขึ้นอีกครั้ง แต่ก็แค่เกือบ การแสดงยังคงดำเนินต่อไป...

ผมเดินผ่านออกมานอกบริเวณศาลเจ้า  ที่วันนี้ดูจะเงียบเหงากว่าวันก่อนๆ เพราะวันนี้ไม่มีร้านอาหารตั้งรายเรียงเต็มตลอดริมฝั่งน้ำปิงอย่างวันก่อนหน้า...โต๊ะอาหารที่เคยวางเรียงเต็มถนนก็ถูกเก็บไปหมดแล้ว รถจึงวิ่งกันกวักไกว่...สองข้างของริมถนนเต็มไปด้วยร้านขายดอกไม้ และทุกร้านก็ดูจะพร้อมใจกันมอบบทเด่นให้ดอกกุหลาบสีแดงสด...

ผมใช้เวลานึกอยู่ไม่นาน ก็นึกขึ้นได้ว่า พรุ่งนี้เป็นวันอะไร...วันวาเลนไทน์ วันของคนมีแฟน...ซึ่งไม่ใช่วันของผม เพราะถึงผมจะมีแฟน แต่อาจมีไม่ถึงวันพรุ่งนี้...

ก่อนหน้านี้ จนถึงวินาทีนี้  ผมรู้ก็แต่ว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของงานเฉลิมฉลองศาลเจ้าปุงเถ่ากงที่เชียงใหม่...เมืองที่ผมนับครั้งมาย่างเหยียบได้ในฐานะนักเชิดสิงโต...เมืองที่ต่อไปผมต้องมาใช้ชีวิตอยู่ ในฐานะอะไรก็ไม่รู้แต่คงไม่มีหัวสิงโตให้ผมเชิดอีกต่อไป...

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการแสดงแล้ว...พรุ่งนี้ทั้งคณะจะเดินทางกลับกันแต่เช้า แต่ผมจะยังคงอยู่ที่นี่...

ผมมองดูถนนที่เพิ่งคุ้นตามาแค่เจ็ดวัน...มองดูผู้คนที่เดินเข้าเดินออกจากร้านดอกไม้...สำเนียงเสียงที่ผ่านมาเข้าหูนั้น...ผมฟังพอเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง กับอีกบางคำผมไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียว

ข้างในศาลเจ้ายังฟังดูคึกครื้น ทั้งเสียงกลอง เสียงฉาบ เสียงโฆษกและเสียงปรบมือของคนดู...บรรยากาศที่แค่ได้ยินเสียง ผมก็นึกเห็นภาพ...ผมค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งบนทางเท้าด้านนอกรั้วสีแดงของศาลเจ้า ฟังเสียงที่คุ้นหู และนึกถึงภาพที่แสนจะคุ้นตา ...ภาพที่ผมเคยคุ้นมานานกว่าสิบปี แต่กำลังจะกลายเป็นอดีตไปในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้...

พ่อของผมก็เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกของคณะเชิดสิงโตคณะนี้แต่เสียชีวิตไปเมื่อสองปีก่อน แม่ที่เดิมทีเป็นคนเชียงใหม่และแต่งงานก่อนย้ายตามพ่อไปอยู่ที่นครสวรรคก็เพิ่งตัดสินใจจะย้ายกลับมาอยู่ที่เชียงใหม่เมื่อไม่นานมานี้เอง...และ แน่นอนผมต้องย้ายมาพร้อมกับแม่ด้วย...

การแสดงครั้งนี้จึงเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับผม...พอตอนเช้ามาถึง ผมก็จะถูกทิ้งไว้ที่นี่คนเดียวเท่านั้น...

ทุกอย่างจะกลายเป็นอดีต...ทั้งคณะสิงโต...ทั้งมันที่เป็นแฟนผม...

คณะเชิดสิงโตจะมีนักเชิดหัวสิงโตคนใหม่ เหมือนมันที่ดูท่าเตรียมพร้อมจะมีแฟนคนใหม่แล้วเหมือนกัน...



หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 05-05-2009 23:06:12
ตั้งแต่เด็ก ผมเคยใฝ่ฝัน จะเป็นนักเชิดสิงโตที่ยิ่งใหญ่...

จากวันนั้น จนวันนี้ ผมก็ยังฝันเหมือนเดิม...และยังคงไม่รู้เหมือนเดิมว่า...ที่ว่ายิ่งใหญ่น่ะ...เอาอะไรกันมาเป็นเครื่องวัด...แล้วที่ว่ายิ่งใหญ่น่ะ มันแค่ไหนถึงจะเรียกว่าใหญ่จริง...

มันเหมือนกับการรักหรือถูกใครสักคนรัก...อยากถูกรักมากที่สุด แต่เมื่อไหร่ล่ะ? และจะรู้ได้อย่างไร ว่าเขารักเรามากที่สุดแล้ว...

หากแต่คงง่ายกว่าที่จะรู้แค่ว่า...รักมากกว่าหรือน้อยกว่า...เหมือนที่มันถามผมว่า...เป็นเหี้ยอะไร?...และหันไปถามใครอีกคนด้วยถ้อยคำที่อ่อนโยนกว่า...แค่คำพูด น้ำเสียงและอารมณ์เพียงเท่านั้น ผมก็รู้แล้วว่า...มันรักผมน้อยกว่าที่รักใครอีกคนนั้น...

ผมมองดูผู้ชายที่มายืนเลือกช่อดอกไม้อยู่ที่ร้านดอกไม้ฝั่งตรงข้ามของถนน...ช่อใหญ่หรือช่อเล็ก?...แพงหรือถูก?...เขาตัดสินใจอยู่นาน นานจนแม่ค้าเลือกหันกลับมาชะเง้อตามองข้ามถนนผ่านรั้วศาลเจ้า ดูการแสดงในศาลเจ้าอย่างเดิม...สุดท้ายเขาเลือกเอาช่อขนาดกลางๆไป แปลว่าคงรักแต่กำลังทรัพย์อาจจะไม่พอ?...

สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า สิ่งที่กำลังนั่งมองอยู่ ผู้ชายที่เดินยิ้มเขินๆออกจากร้านดอกไม้ไปพร้อมช่อกุหลาบสีแดงในมือมันไม่เกี่ยวโยงอะไรกับผมสักนิดเดียว...แต่เขาจะรู้หรือเปล่าว่า รอยยิ้มของเขาที่คงกำลังนึกถึงคนรักอยู่นั้น มันทำให้ผมเหงามากยิ่งขึ้น...ยิ่งเขายิ้มเมื่อนึกถึงคนรักของเขามากเท่าไหร่ ผมก็รู้สึกว่าตัวเองถูกคนที่น่าจะเรียกว่าคนรักของตัวเองรักน้อยลงเท่านั้น...

ตั้งแต่เด็ก พ่อและแม่รวมทั้งครูเคยบอกลูกผู้ชายไม่ร้องไห้...โดยเฉพาะนักเชิดสิงโตต้องเข้มแข็งและกล้าหาญ...ผมจึงบอกตัวเองเสมอว่าต้องเข้มแข็ง และไม่ร้องไห้ ถึงจะฝึกและเจ็บตัวแค่ไหน ผมก็ไม่ยอมร้อง... ผมบอกตัวเองเสมอแม้ในเวลานี้ บอกตัวเองพร้อมๆกับที่ยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่ไหลอยู่ตอนนี้...

ไม่ใช่ครั้งแรกที่พลาดท่าตกลงมาจากเสาสูงกว่าสามเมตรนั่น แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่เจ็บที่สุด...ไม่ใช่เพราะความเจ็บปวดที่ข้อเท้า...หากแต่เป็นเพราะคำพูดของคนบางคนเพียงไม่กี่คำเท่านั้น...

การแสดงจบไปแล้ว รู้ได้จากเสียงปรบมือที่ดังมาจากด้านในรั้วของศาลเจ้า และรู้ได้จากบรรดาแม่ค้าขายดอกไม้บนถนนฝั่งตรงกันข้าม ที่หันหน้าหันตากลับไปตั้งอกตั้งใจขายดอกกุหลาบของตัวเองต่อ

“เอ้า!”เสียงที่ดังค้ำอยู่เหนือหัว ไม่ต้องเดา ผมก็รู้ว่าเป็นเสียงใคร เพราะถ้าให้พูดกันตามจริง ผมก็นั่งนับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจ ว่าการแสดงจบลงไปแล้ว แล้วทำไมมันยังไม่โผล่หัวออกมาหาผม ถึงผมจะเพิ่งนับได้ถึงห้าก็เหอะ...

ทุกครั้งเมื่อการแสดงของเราจบลง  ผมซึ่งเป็นผู้เชิดหัวสิงโตยังคงต้องทำหน้าที่ต่อไปในการไปหยอกล้อเล่นกับคนดู  ส่วนมันที่รับภาระหนักกว่าตลอดช่วงเวลาของการแสดงบนเสาดอกเหมยจะเปลี่ยนตัวคนอื่นเข้ามาเชิดหางแทนเพื่อไปพัก

ในครั้งนี้ที่ผมไม่ได้เป็นคนเชิดก็ไม่น่าจะต่างกัน ผมจึงนั่งนับเลขรออยู่ในใจและมันก็ออกมาหาผมเร็วกว่าที่คิดไว้

ผมเงยหน้ามองดูมัน พร้อมๆกับที่มันโยนอะไรบางอย่างมาให้ผม

ดอกไม้พลาสติกสีขาว...ดอกไม้ที่ใช้แทนดอกเหมย ที่จะถูกประดับไว้โค่นเสาให้ผู้ทำหน้าที่เชิดหัวสิงเด็ดขึ้นมาเมื่อถึงเวลาอันสมควรในการแสดง เพียงแต่วันนี้ผมยังไม่ทันได้แตะ เพราะดันร่วงลงมากองอยู่บนพื้นเสียก่อน

“วันนี้มึงไม่ได้เก็บ กูเลยเก็บมาให้...”มันพูดทั้งที่จังหวะหายใจยังไม่สม่ำเสมอนัก เหงื่อยังชุ่มอยู่ตามใบหน้าและลำคอของมัน บ่งบอกให้รู้ว่า พอแสดงเสร็จมันก็คงวิ่งโร่ออกมาหาผมเลย แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังไม่อยากพูดกับมันอยู่ดี

มันหย่อนตัวลงนั่งข้างๆผมก่อนดึงผ้าสีขาวที่ใช้โพกหัวออกมาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก  ริมฝีปากมันแห้งจนผมนึกอยากถามมันว่ามันได้พักกินน้ำบ้างหรือยังก่อนที่จะออกมาหาผม...แต่ผมก็ไม่ได้ถาม เพราะนึกรู้อยู่แก่ใจว่ามันยังไม่ได้กิน

“เป็นไงบ้าง?”มันถามเสียงแหบๆก่อนกระแอมในคอเบาๆ และผมก็ยังไม่ยอมตอบและไม่หันไปมองมัน...มองก็แต่ร้านดอกไม้ที่อีกฝั่งถนน ดูผู้ชายรายใหม่ที่เดินเข้าไปซื้อดอกไม้และเดินออกมาพร้อมดอกไม้แล้วก็รอยยิ้ม...รอยยิ้มของผู้ชายคนนี้ไม่ทำให้ผมรู้สึกเหงาเท่ารอยยิ้มของผู้ชายคนเมื่อกี้แล้ว

มันทำท่าคล้ายจะพูดอะไรอีก หากแต่หลุดออกมาได้แค่ครึ่งคำ มันก็หันไปไอจนหน้าแดง

“ก็ทำไมไม่กินน้ำ?”ผมถามมันด้วยเสียงให้ฟังดูห้วนๆ มันจะได้รู้ว่าผมยังโกรธมันอยู่...แต่จริงๆผมก็ยังโกรธมันอยู่ถึงจะไม่มากมายเท่าก่อนหน้าที่มันจะหย่อนตัวลงนั่งตรงนี้

มันหยุดไอแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ทำก็แค่มองดูผมเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง

...ออกมาช้า เดี๋ยวมึงก็โกรธอีก...ผมรู้มันอยากพูดแบบนี้ หรือถ้าเป็นครั้งอื่นมันคงพูดไปแล้ว แต่ครั้งนี้มันคงรู้ตัวว่าทำผิด มันเลยทำได้แค่อยากพูดเท่านั้น

“งั๊นเดี๋ยวกูมานะ!”ในที่สุด มันก็บอกก่อนลุกขึ้นและวิ่งหนีหายเข้าไปภายในรั้วศาลเจ้า...ผมไม่ได้หันไปมองมัน...ไม่ได้เห็นมันวิ่ง แต่ก็นึกเห็นภาพมันวิ่ง...ชัดเจนเพราะคุ้นเคยมาตลอดหลายๆปี...

แต่ครั้งนี้ เดี๋ยวของมัน นานกว่าที่ผมคิด นานจนมันน่าจะจีบแฟนใหม่ได้อีกคนเลยมั้ง...คิดได้อย่างนั้น ความโกรธมันก็แล่นริ้วขึ้นมาอีกระลอก  ผู้ชายที่ซื้อดอกกุหลาบที่ฝั่งตรงข้ามเดินยิ้มออกมาจากร้านและชะงักยิ้มไปนิดเมื่อบังเอิญเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมเข้าพอดี ผมถึงรู้ตัวว่านั่งมองดูเขาอย่างกับเขาเป็นแฟนใหม่ที่มันหายหัวไปจีบอยู่ ผมเลยรีบหันเสมองไปอีกทางก็พอดีมันโผล่ออกมาพร้อมหัวสิงโตในมือ และเหงื่อยังท่วมหน้าท่วมหัวมันเหมือนเดิม

“ครูให้กูต่อตัวแทนมึง”มันอธิบายถึงเหตุที่ออกมาช้าก่อนนั่งลงที่เดิมข้างๆผม

ผมไม่ได้พยักหน้ารับรู้ ...ไม่สนใจหันไปมองมัน และไม่พูดกับมัน แต่จากหางตาผมเห็นมันหันมามองผมบ่อยครั้งแล้วก็ได้ยินเสียงมันถอนหายใจบ่อยพอกับที่มันหันมามองผม แต่ผมก็ยังไม่ยอมพูดกับมัน...

ผมนั่งมองก็แต่ร้านขายดอกไม้ที่อีกฝั่งถนน...มองดูผู้คนที่กำลังมีความสุขกับภาพคนรักของตัวเองในวันพรุ่งนี้...มองดูพวกเขาโดยไม่รู้ตัวว่าภาพที่มองเห็นนั้นมันพร่าเลือนขึ้นเรื่อยๆ จนมันเอื้อมแขนมา มือแข็งแรงของมันจับที่ต้นคอของผมบังคับให้หันไปมองมัน ผมถึงได้ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของตัวเอง...

“วันนี้มึงออกไปไหนกับมัน?”ในที่สุด ผมก็ถามในสิ่งที่รบกวนใจผมมาทั้งวัน

“ออกไปไหน?...กับใคร?”มันถามด้วยสีหน้างงๆ มือมันยังจับต้นคอของผมและบีบเบาๆ

“ก็เมื่อตอนกลางวัน!”ผมบอกพลางยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ยังไม่ยอมหยุดไหล และปัดมือมันออกจากต้นคอผม เพราะถ้ายอมให้มันจับ เดี๋ยวมันจะคิดว่าผมหายโกรธแล้วและไม่ยอมตอบคำถามผมอีกทั้งผมก็รู้สึกดี เมื่อมันทำท่ายอมอ่อนข้อ คล้ายเอาอกเอาใจผมอยู่อย่างนี้

“ตอนกลางวัน...กูออกไปไหน กับใคร...”มันพูดทวนด้วยสีหน้าครุ่นคิด

“อ๋อ!...ครูใช้กูออกไปซื้อของ แต่กูออกไปคนเดียวนี่!”มันพูดอย่างเพิ่งนึกได้ และผมก็นึกได้พร้อมๆกับมันว่า...มันกับเจ้าเด็กใหม่ของคณะเดินตามกันเข้ามา เจ้าเด็กใหม่คนนั้นที่วันนี้ทำหน้าที่แต่งเป็นซิ้มแก่ถือพู่ไหมหลอกล่อสิงโตนั้น เดินตามกันเข้ามาติดๆ แต่พอเห็นผม เจ้าเด็กใหม่นั่นก็เดินหลบฉากไปอีกทาง...ภาพที่เห็น มันทำให้ผมเข้าใจว่ามันสองคนออกไปด้วยกัน แต่ตอนนี้ผมเพิ่งนึกได้ว่า เจ้าเด็กใหม่คนนั้นเดินหอบกะละมังใบโตเข้ามาด้วย แถมชุดที่ใส่อยู่ก็ไม่น่าจะออกไปเดินที่ไหนได้...ซ้ำมันอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีคนเดินตามไม่อย่างนั้น มันน่าจะช่วยยกกะละมังใบโตนั่น...ผมเพิ่งนึกได้จริงๆ

“ช่างมันเหอะ!”ผมรีบพูดปัด ยังทำน้ำเสียงหงุดหงิด

“อะไร! รู้ตัวว่าตัวเองผิดล่ะซิ!”แต่มันดักถูกทาง

“แล้ววันอื่นอีกล่ะ?”ผมเลยไม่ยอมแพ้  เพราะจริงๆภาพที่เห็นแค่วันนี้ มันคงไม่ทำให้ผมคิดกังวลไปไกลถ้าไม่มีเหตุการณ์ก่อนหน้านี้

“วันไหนอีก?”มันถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามใจเย็นแต่ผมเห็นสีหน้าของมันดูเหนื่อยใจหน่อยๆ

“ก็วันที่มึงไปตลาดกับมันน่ะ กูเห็นนะ!”

“มันไหนอีกล่ะ? มันแกวหรือมันต้ม?”มันย้อนถามจะหลอกให้ผมขำหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ผมไม่ขำเพราะตอนนี้ผมอยากได้คำตอบ และแม้ผมยังไม่ได้ให้คำตอบกับมันว่า...มัน...ที่ผมพูดถึงน่ะมันแกวหรือมันต้ม มันก็คงนึกออกว่ามันไหนที่ผมหมายถึง 

ก็เจ้าเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในคณะ วันเดียวกันพอดิบพอดีกลับวันที่ผมรู้ว่าตัวเองต้องกลายเป็นอดีตของคณะนั่นไง...แถมมันดันมาติดแฟนผมแจจนใครๆก็แซวกัน

“แล้วกูไปกับมันทำไม?”มันกลับย้อนถามก่อนจะนึกได้ว่าควรปฏิเสธข้อร้องถามซะมากกว่า

“กูไม่ได้ไป!”

“ไป...กูเห็น”ผมยืนยันเพราะผมเห็นจริงๆ

“หลายครั้งด้วย ไม่ใช่ครั้งเดียว!”ผมเพิ่มเติมในสิ่งที่เห็นจริง เผื่อมันจะได้ยอมรับ

“หลายครั้งด้วยเหรอ?”มันถาม  ตามันก็จ้องผมเหมือนรู้ทันแต่ไม่กล้าพูด

“ก็...สองครั้ง!”ผมเลยต้องยอมรับ แต่ถึงยังไงในฐานะของแฟนกัน การที่มันไปเดินกับคนอื่น สองครั้งผมก็ถือว่าหลายอยู่...เหมือนที่คนอื่นแซวมันกับเจ้าเด็กใหม่นั่นแหละ...ถึงผมจะได้ยินกับหูแค่ครั้งเดียว และมันโกรธคนแซวหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนไม่มีใครกล้าแซวอีก...แต่ลับหลังผม ก็อาจจะแซวกันมากกว่าครั้งก็ได้ใครจะรู้ และที่สำคัญ ในฐานะของแฟนกัน จะสองครั้งหรือแค่ครั้ง ผมว่าก็มากเกินพอแล้ว...

“ซื้อของมั้ง...”มันตอบก่อนคิด และรีบขยายความ

“ครูใช้ไปซื้อของมั้ง ไม่อย่างนั้นกูจะไปกับมันทำไม?”

“มึงอยู่กูก็ไปกับมึงทุกทีแหละ”มันขยายอีกนิด

“อะไรที่มันไม่สำคัญ กูจะจำทำไมให้รกหัววะ?”คราวนี้มันหยอด แต่ก็ยอมรับล่ะว่าอารมณ์ผมดีขึ้นเพราะคำพูดของมันประโยคนี้ถึงผมจะยังแกล้งทำหน้าตึงอยู่ก็เหอะ แต่อารมณ์ผมก็ดีขึ้นแค่แปล๊บ เพราะมันเกิดบังเอิญทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้ และผมเกือบย้อนถาม...มันสำคัญแล้วหรือไงมึงถึงจำได้!...ก็พอดีมันถามขึ้นเสียก่อนแต่มันถามในสิ่งที่ผมไม่มีคำตอบ

 “แล้วทำไม มึงไม่ถามกูตั้งแต่วันนั้นล่ะ?”มันกลับย้อนถาม และคำถามของมันก็ทำให้ผมเงียบ

“ด่ากู แต่ไปพูดดีกับคนอื่น!”เมื่อตอบไม่ได้ ผมเลยเปลี่ยนไปอีกเรื่อง

“กูพูดดีอะไร?”มันถามหลังสูดหายใจลึก มองผมเหมือนจะบอกว่าผมกำลังพาล

“ด่ากูเหี้ย แต่ทีกับมัน...”ผมไม่ได้พาล แต่เป็นเรื่องจริง และใครบ้างจะไม่น้อยใจถ้าเจออย่างผม

“ก็มันเป็นผู้หญิง!”

“มึงก็ยังพูดกับมัน เพราะกว่าพูดกับกูเลย!”มันแจงเพิ่มเมื่อเห็นผมขยับตัวตั้งท่าจะเถียง

“ก็...มันเป็นผู้หญิง!”ผมให้เหตุผลที่ทำให้มันต้องหันหน้าไปแอบถอนหายใจอีกครั้ง

มันถอนหายใจและก็ส่ายหัวพร้อมๆกับถลกแขนเสื้อขึ้นและถูรอยแผลแดงๆที่แขนของมันเหมือนอยากให้ผมรู้ว่า...ไร้สาระมากที่มันต้องเจ็บตัวด้วยเรื่องแบบนี้...

ใช่แล้ว...ผมยอมรับว่าทุกอย่างที่คิดน่ะไร้สาระ หากแต่ผมก็คงไม่กังวลขนาดนี้ ถ้าวันพรุ่งนี้จะไม่มาถึง...ถ้าพรุ่งนี้ผมจะยังได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมๆ เห็นหน้า พูดคุยอยู่กับมันทุกๆวันเหมือนเก่า...ถ้าเจ้าเด็กใหม่นั่นจะไม่เข้ามาในจังหวะที่ผมจะต้องก้าวออกไปพอดี และยิ่งกว่านั้นจะไม่มาเกาะติดกับมันที่เป็นแฟนผมขนาดนี้...ผมไม่ได้คิดไปเอง เพราะใครๆก็พากันแซวมันสองคน...ถึงจะได้ยินกับหูแค่ครั้งและมันก็ซัดคนแซวจนหน้าหงายไปแล้วก็เหอะ...

“เออ! กูไร้สาระ มึงก็หาแฟนใหม่สิ!”ผมพูด เมื่อมันยังไม่ยอมเลิกถูรอยแดงๆที่แขนสักที

“เกี่ยวไรวะเนี่ย?!”มันพูดแล้วก็ถอนหายใจอีก

“ก็หาแฟนใหม่ไง!...ยังไงพรุ่งนี้กูก็ไม่ได้กลับไปกับมึงแล้ว!”ผมพูด จ้องหน้ามันที่มองจ้องผมอยู่เช่นกัน

“มึงจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวเพราะเรื่องไร้สาระอีก!”ผมพูดและคราวนี้จ้องรอยแดงเป็นทางบนแขนที่มันยังไม่เลิกถู และมันก็ก้มมองตามสายตาผม

“กูร้อน! เหงื่อมันออก...มันแสบ...”มันพูด  ส่ายหัวถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยและดึงแขนเสื้อกลับลงไปเหมือนเก่า

มันถอนหายใจอีกครั้ง แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก

ผมมองหน้ามัน ดูจากหน้าก็รู้ว่ามันหงุดหงิด แต่มันก็ไม่พูดอะไร...

ผมกับมัน ต่างคนต่างนั่งกันเงียบๆ...มันถอนหายใจอีกหลายครั้งและผมก็ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาอีกหลายหน แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรกัน

ในศาลเจ้า...เสียงกลองยังดังกระหึ่มและการแสดงยังไม่จบ...

ที่อีกฝั่งตรงข้ามของถนน...ผู้คนยังถือดอกไม้แล้วก็แย้มรอยยิ้ม...ดูทุกคนจะมีความสุขกับวันพรุ่งนี้ที่กำลังจะมาถึง ยกเว้นก็แต่ผม...และผมไม่รู้ว่า สำหรับมัน...มันรู้สึกยังไง หรืออาจเป็นแค่วันธรรมดาวันหนึ่ง ไม่ต่างจากวันที่ผ่านมา ไม่ต่างไป ไม่ว่าจะมีผมอยู่หรือไม่อยู่ข้างตัวมันในวันพรุ่งนี้...

“ก็บางเรื่องไร้สาระ ไม่สำคัญ กูจะจำทำไมให้รกหัว...”ในที่สุดมันก็พูดอะไรบางอย่างออกมาพร้อมๆกับเอาผ้าโพกหัวเปื้อนเหงื่อของมันเช็ดๆตาให้ผม...ไม่อ่อนโยนสักกะนิด แต่น้ำตาผมก็หยุดไหล

ผมมองดูมันเอี้ยวตัวไปหยิบหัวสิงโตขึ้นมา ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นเดินอ้อมมายืนข้างหลังผม
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 05-05-2009 23:07:23
“มึงลองถามกูสิว่า ทำไมหลังเสร็จงานเจ้าแม่ทับทิมเมื่อสองปีก่อน กูถึงขี่มอเตอร์ไซด์ออกจากบ้านมึงตอนเช้า..”มันพูดก่อนค่อยๆทิ้งตัวลงนั่งด้านหลังผม มือมันก็ค่อยๆหย่อนหัวสิงโตครอบลงบนหัวของผม ขามันขยับยกชันขึ้นโดยมีผมนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างขาทั้งสองของมัน

“กูตอบมึงได้แน่ ทุกสเต็ปเลย!”มันพูดปล่อยมือจากหัวสิงโต เปลี่ยนมาโอบเอวผมไว้แทน คางมันก็วางลงบนไหล่ผม

“จะบอกว่ากูสำคัญ หรือว่ากำลังลามก?”ผมถามมัน เพราะเมื่อมันกอดผมไว้อย่างนี้ ผมก็ไม่โกรธมันแล้ว และก็ไม่อยากแกล้งโกรธอีกต่อไปแล้วด้วย...

ผมปล่อยตัวเองไม่ได้ฝืนตัวไว้เมื่อแขนของมันที่โอบรอบเอวผมไว้จากด้านหลังนั้น กอดกระชับดึงผมให้ขยับถอยจนชิดพิงอยู่กับอกของมัน

ผมไม่กลัวใครเห็น...เพราะคนที่มองก็คงเห็นแค่ผมที่สวมหัวสิงโตอยู่ ส่วนตัวมันถูกซ่อนจนมิดชิด...เว้นก็แต่คนที่มองเราอยู่ตั้งแต่แรกเริ่ม หรืออาจจะคนตาดีที่เห็นว่าสิงโตที่นั่งอยู่ริมถนนนี่ มีหนึ่งหัว สองขาแต่สี่แขน...แต่ผมก็ไม่สนใจ ใครจะเห็นก็ช่าง...ผมอยากให้มันกอดผมอยู่อย่างนี้

“ถ้าทางโรแมนติกนัย...อย่างแรก แต่ถ้าทางความคิด...อย่างหลังว่ะ”มันตอบพร้อมหัวเราะเบาๆในคอก่อนขยับตัวเข้ามาใกล้ผมยิ่งขึ้นเช่นกันและประทับริมฝีปากร้อนๆลงบนต้นคอผมเบาๆ

มันไม่ได้พูดอะไรอีก ทำก็เพียงเอาคางกลับไปวางลงบนไหล่ผมเหมือนเดิม และก็กอดผมไว้อย่างนั้น...

ผมจับแขนของมันที่กำลังโอบรอบเอวผมอยู่...แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง...หากแต่น้ำตาในครั้งนี้มันต่างจากน้ำตาในครั้งก่อนๆนี้...น้ำตาในเวลาที่อยู่ในอ้อมแขนของมันนั้นมีความหมายต่างไปจากน้ำตาเมื่อผมนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว...

ทำไมผมจะจำไม่ได้...ตอนที่เท้าแตะพลาด ร่างกำลังร่วงหล่นลงมา ผมรู้สึกได้ถึงแรงมือของมันที่จับเอวผมไว้จนสุดกำลังแรงแขน จนต่อเมื่อมันรู้ว่าเกินกำลัง มือที่จับเอวผมไว้ก็เปลี่ยนมากระหวัดรัดรอบเอว...ถ้าผมตกลงมากระแทกใส่เจ้าเด็กใหม่นั่น ตัวผมเองนั่นแหละที่จะเจ็บยิ่งกว่านี้ หากแต่มันกลับดึงตัวผมให้พลิก...หล่นกระแทกลงโดยมีตัวของมันเองรองรับผมไว้...แผลที่ขาซึ่งรูดครูดกระแทกกับขอบเสาคือเรื่องเกินกำลังที่มันจะปกป้องผมได้...ทำไมผมจะไม่รู้ ทำไมผมจะจำไม่ได้ เพราะตลอดเวลานับจากแสงแฟลชที่สว่างวาบขึ้น สิ่งเดียวที่สัมผัสและจดจำได้นับจากวินาทีนั้นก็คือแรงมือและแรงแขนของมันที่พยายามโอบกอดและปกป้องผมเอาไว้...

น้ำตาผมยังไหล...ถึงมันจะเช็ดให้หลายต่อหลายครั้ง แต่น้ำตาผมก็ยังไหล เพราะพรุ่งนี้แล้วที่จะไม่มีแขนแข็งแรงของมันโอบกอดผมไว้อย่างนี้

“นครสวรรค์กับเชียงใหม่ นั่งรถไม่กี่ชั่วโมงเอง”มันพูดขึ้นอีกครั้ง

“พอเลิกเรียนวันศุกร์ มึงก็นั่งรถไป เดี๋ยวกูไปคอยรับ แล้วก็ไปนอนบ้านกู เสาร์อาทิตย์ก็ไปฝึกด้วยกันเหมือนเดิม”

มันพูด แขนมันก็กอดผมแน่นขึ้น คล้ายให้ผมมั่นใจว่าสิ่งที่มันพูด ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลยถ้าจะทำให้เกิดขึ้น

“ก็แค่สองวัน!”ผมท้วง

“ก็ดีกว่าไม่มีสักวัน...”มันพูดและกระชับอ้อมแขนของมันอีกครั้ง

อีกครั้งที่ผมกับมันไม่ได้พูดอะไรกันอีก...แต่ความเงียบในครั้งนี้ก็มีความหมายแตกต่างจากความเงียบในครั้งก่อนๆเช่นเดียวกัน...เมื่อมันกอดผมไว้อย่างนี้...ความเงียบไม่ใช่ความหมายของความเมินเฉย หมางเมินหรือโดดเดี่ยวอีกต่อไป หากแต่มันคือความอบอุ่น ความรู้สึกมั่นคง ที่กำลังค่อยๆคืนกลับสู่ใจผมอย่างช้าๆโดยแทบไม่รู้ตัว...

น้ำตาผมหยุดไหลไปแล้ว แต่มันก็ยังกอดผมเอาไว้...

คนมากหน้ายังแวะเวียนมาซื้อดอกไม้และจากไปพร้อมรอยยิ้ม...และครั้งนี้ ผมรู้สึกมีความสุขไปพร้อมๆกับรอยยิ้มของพวกเขา...

“มองอยู่ได้ อยากได้เดี๋ยวกูซื้อให้”แล้วมันก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้ร่าเริงขึ้น...มันพูดพร้อมพยักเพยิดไปที่ร้านดอกไม้ที่ฝั่งตรงข้ามที่ผมนั่งมองอยู่...และเสียงของมันก็ทำลายความเงียบ ผมจึงเพิ่งสังเกตเห็นถึงความเงียบจากภายในศาลเจ้า...ไม่มีเสียงรัวกลองแล้ว...การแสดงคงจบไปแล้ว...

ผมเกือบปฏิเสธคำพูดของมัน แต่ก็ยั้งปากไว้ทัน นึกอยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเกิดอยากได้ขึ้นมาจริงๆ มันจะกล้าเดินเข้าไปซื้อให้ผมจริงหรือเปล่า

“อยากได้หรือเปล่า?”มันถามย้ำ...แต่จริงๆมันไม่ได้อยากได้คำตอบ ผมรู้ มันอยากได้คำปฏิเสธต่างหาก

“อยาก!”แต่ผมตอบรับ

“เดี๋ยวกูซื้อให้”มันอึ้งไปก่อนบอก

ผมไม่อยากให้มันละอ้อมแขนที่กอดผมอยู่เท่าไหร่นัก  แต่ก็อยากเห็นว่ามันจะกล้าอย่างที่ปากมันพูดจริงหรือเปล่า และยิ่งกว่านั้น ถึงจะคบกับมันและเป็นแฟนกันมากว่าสองปี...ถึงจะไม่เคยนึกอยากได้ดอกไม้อะไรจากมัน แต่รอยยิ้มของคนทุกคนที่เดินถือดอกไม้ออกจากร้านไป ก็ทำให้ผมนึกอยากได้ดอกไม้จากมันบ้าง...ผมอยากให้มันนึกถึงผม เหมือนผู้คนเหล่านั้นที่เดินออกจากร้านพร้อมรอยยิ้มด้วยนึกถึงคนรักของตัวเอง...ผมอยากให้มันนึกถึงผมอย่างนั้นบ้าง...

มันลุกเดินออกไป แต่แทนที่จะข้ามถนนไปซื้อดอกไม้ที่ร้านที่ตั้งเรียงรายที่อีกฝากฝั่งถนน มันกลับเดินไปเสียอีกทาง...เดินไปร้านที่อยู่ไกลเกินกว่าสายตาผมจะมองเห็น ผมนึกขำกับการกระทำของมัน...อดยิ้มออกมาไม่ได้กับการนึกภาพมันตอนซื้อดอกไม้ และต้องหัวเราะออกมาจริงๆ เมื่อมันเดินกลับมาพร้อมดอกไม้ในมือ แต่ดอกไม้ที่มันถือกลับไม่ใช่ดอกกุหลาบอย่างที่คนอื่นเขาซื้อกัน แต่เป็นเบญจมาศสีเหลืองดอกโตทั้งกำมือ...

“กูยังไม่ทันพูดอะไรเลย เจ๊แกนึกว่ากูจะซื้อดอกไม้ไปไหว้ปุงเถ่ากงม่า...”มันพูดเมื่อมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม พูดไปมันก็มองหน้าผมที มองดอกไม้ในมือทีและก็ยกมือเกาหัวที

“เจ๊แกชมใหญ่ รู้จักไปลามาไหว้...เจ๊แกว่าเพราะปุเถ่ากงม่าคุ้มครอง การแสดงเลยลุล่วงปลอดภัย...”มันพูดและผมนึกอยากบอกมันว่า จริงๆแล้วเสื้อที่มันใส่กับกางเกงสิงโตที่มันยังสวมอยู่ก็ดูน่าจะเข้ากับเบญจมาศดอกโตเสียยิ่งกว่าดอกกุหลาบ แต่ผมก็ไม่ได้พูดเพราะมัวแต่หัวเราะ...กว่าจะหยุดหัวเราะก็เมื่อมันส่งมือมาให้

“ไหนๆแล้วก็ไปไหว้ปุงเถ่ากงม่ากัน”มันพูด

“กูจะได้บอกท่าน ว่าฝากแฟนไว้คนนึง ฝากท่านดูแล ไว้จะมารับหรือไม่ก็มาดูแลเอง...”มันพูดเมื่อก้มตัวลง จับแขนผมวางพาดที่ไหล่มันและพยุงผมให้ลุกขึ้น...และแขนแข็งแรงของมันก็กลับมาโอบไว้ที่เอวผมอีกครั้ง

“ฝากไว้คนนึง? แปลว่ายังมีอีกคน?”ผมแกล้งถามและได้ผลมันหยุดเท้าดังกึก หันมามองหน้าผม

“นี่แกล้งแหย่กูเล่นใช่เปล่า?”มันถามและไม่เปิดโอกาสให้ผมตอบ

“อย่าหึงเลยนะ เวลามึงหึง กูโครตเหนื่อยเลย!”มันพูด  ถอนหายใจแรงพร้อมส่ายหัวทำหน้าเหนื่อยใจให้ผมดู

“ถ้าไม่รัก กูไม่หึงหรอก!”ผมบอก ทั้งที่ใจจริงอยากถามมันว่า...ผมไปหึงอะไรมากมายอย่างที่มันพูดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...ผมก็แค่หึงหน่อยๆ ก็มันเป็นแฟนผม ไม่ให้หึงมันแล้วผมจะไปหึงใคร?...

“กูไม่หึง กูก็ยังรักเลย”มันพูดพร้อมทำเป็นมองผมและส่ายหัวทำท่าอ่อนใจให้ดูอีกครั้ง ผมเลยนึกอยากแกล้งมันอีก...

“ตกลง มึงไม่ได้ชอบเขาแน่นะ?”ผมแกล้งถามโดยไม่ลืมเก็บรอยยิ้มที่ปากตัวเองแล้วก็ทำตาให้เศร้าหน่อยๆ

“ไม่ได้ชอบ! กูชอบมึงคนเดียว!”มันรีบยืนยัน

“แค่ชอบเองเหรอ?”ผมแกล้งย้อนถามอีก

“รัก!”มันตอบ...มาดมั่นหรือเปล่าผมไม่แน่ใจ เพราะพอถาม...แค่ชอบเองเหรอ?...มันมองหน้าผมก่อนเสหันไปอีกทาง และแม้ไม่ได้ยินเสียงถอนหายใจ แต่ผมว่า ผมรู้นะว่ามันแอบถอนหายใจก่อนหันกลับมาบอกผมว่า...รัก!

ตอนนี้ นครสวรรค์กับเชียงใหม่ก็ไม่ได้ใกล้กันขึ้นสักนิด  แต่ผมก็รู้สึกว่า...มีความสุขจังเลย!

จบ

สิงโตวาเลนไทน์
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: JX ที่ 05-05-2009 23:14:27
เข้ามาทักค่ะ

ปลื้มงานเขียนคุณสุดๆ อ่ะ ให้ตาย!!
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 05-05-2009 23:40:29
น่ารัก  :m1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 06-05-2009 03:55:38
ชอบอีกแล้วครับ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: maggy ที่ 06-05-2009 08:34:57
หง่า ชอบบบบ
อ่านแล้วแบบหวานๆ อบอุ่นๆ
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกสุดๆไปเลยคร้า
น่ารัก น่ารัก น่ารัก  :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-05-2009 08:49:33
หุหุ เรื่องนี้ก็น่ารัก  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: chatori ที่ 06-05-2009 09:17:46
น่ารักมากมาย ~

ขอบคุณค่ะ ^^

 :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: MoPPeT ที่ 06-05-2009 09:39:33
น่ารักมากๆเลยค่า  :-[

ช๊อบบบชอบ :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: archi_10_001 ที่ 06-05-2009 12:07:18
อืมมมม มันแปลบๆตลอดเรื่องเลย เข้าใจอารมณ์ แบบ หึงหงะ อย่าอยู่ใกล้คนอืิ่ื่นให้มากนักดิวะ

ประมาณนั้น

แต่ก็น่ารักนะ

น่ารักมากเลย...พระเอก อบอุ่นกว่าที่คิด เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 06-05-2009 14:43:12
ชอบอ่ะ
ชอบตอนที่เอาหัวสิงโตมาคลุม 2 คนเอาไว้  น่ารักจัง

+1 เลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 06-05-2009 20:11:26
+1 ให้คุณภักD ชอบเรื่องน่ารัก ๆ อย่างนี้ ไม่ sweet หวานอะไรมาก
แต่มีความนัยให้เข้าใจได้เอง
..... :pig4:.....
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 06-05-2009 20:36:08
น่ารัก..... แต่ยังคง Signature ของคุณ ภัคD ไว้ ต้องแอบเจือเศร้านิดๆ

ได้ใจตรงคู่นี้เป็นนักเชิดสิงโต การันตีได้เลยว่าต้อง ล่ำ-ขาว-ตี๋ อิอิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: van ที่ 06-05-2009 20:58:05
น่ารักกกกกกกก.....พระเอกแมนมาก o13 ให้ความรู้สึกว่าหนักแน่นมั่นคง
ไม่ต้องกลัวจะเปลี่ยนไป ... ขอบคุณคุณภัึคDมากค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: TaEnIaE_CoLi ที่ 06-05-2009 21:26:30
ชอบ

ชอบ
 
ชอบ

ชอบ

ชอบที่สุด...คับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 06-05-2009 22:53:15
หึงๆ หวงๆ กุ๊กกิ๊ก ๆ น่ารักจังเลยค่ะ  :o8:

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: SweetSacrifice ที่ 08-05-2009 01:28:24
น่ารักกกกกกกกกก

งานของคุณภัคดียังดีอยู่ตลอดเลยจริงๆ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: HuaTangMo ที่ 08-05-2009 10:20:27
ชอบมากครับ
งานของคุณภัคD ยังดีเหมือนเดิม
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นขึ้นในหัวใจ
ขอบคุณสำหรับงานเขียนดีๆ
ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอ่านครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: panpan ที่ 08-05-2009 10:22:25
สุดยอดเหมือนเคย 
เมื่อไรจะเอาเรื่องยาวมาลงบ้างล่ะ รออยู่นะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 08-05-2009 11:14:28
น่ารักมากๆ

ขอบคุณค่ะ

^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-05-2009 11:59:14
กรี้ดดดดดดดดดดดด

เรื่องนี้น่ารักมากเลยครับ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: unagan ที่ 08-05-2009 12:14:07
เรื่องนี้น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 08-05-2009 14:08:25
แอบซึ้งง่ะ
อยากอ่านเรื่องยาวบ้างอะไรบ้าง แห่ะๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: กิมตี๋หัดขับ ที่ 08-05-2009 19:22:55

ฝีมือสุดๆ เลยคุณภักD  น่ารักมากๆ  :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 08-05-2009 21:51:01
เพิ่งจะเคยอ่านแบบนี้ มีคุณภัคDเขียนเป็นคนแรก

น่ารักดี >.<

ใกล้ไกลแค่ไหนไม่เป็นอุปสรรค์

ถ้าเรารักกันซะอย่าง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 08-05-2009 22:16:00
โอ้ววววว พึ่งเคยอ่านงานเขียนของคุณภัคDค่ะ
แต่แบบว่าติดใจมากมาย
บรรยายได้ลื่นไหลมากๆ

ชอบบุคลิกของพระเอกเรื่องนี้มาก แมนโคตรๆ
นายเอกก็น่ารักอ่ะ มาแบบหึงๆ งอนๆ

ไม่เคยนึกเคยฝันมาก่อนเลยว่าเชิดสิงโตมันจะเข้ากับวาเลนไทน์
แต่คุณภัคDแต่งอกมาได้เข้ากันมากๆเลยค่ะ
บรรยากาศในเรื่องก็ดูหม่นๆ เหมือนกับความเศร้าของนายเอกเลย
ประทับใจมากๆๆๆ

อ่านมาทั้งเรื่องยังไม่รู้เลยว่านายเอกกะพระเอกชื่ออะไร
แต่ก็รู้สึกติดใจในสำนวนการบรรยายเรื่องแบบไม่ต้องบอกชื่อมากๆเลยค่ะ

ชอบๆๆๆ o13 :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: piengtavan ที่ 10-05-2009 21:25:45
น่าร้ากอ้ะ  ชอบ ที่งอน แล้วพอรู้ตัวว่าผิดเลยพาล ไม่น่าหมั่นใส้ แต่มันน่ารัก :-[
หุหุ ...


เพิ่งรู้นะเนี่ย นักเชิดสิงโต งานปู่เถาฯ มันจะเข้ากะวาเลไทน์ ฮิๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 12-05-2009 00:59:15
 :-[ ว่าน่ารัก..มากมาย น่ารัก มากมายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย



 o13 เอาไปโลด +1 อิอิ




 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: Chanta ที่ 13-05-2009 22:30:35

 o13

ไม่ต้องมีคำบรรยายใด...

เเค่เข้าใจกันก้อพอ...

ยะทางห่างกัน แต่ใจสื่อถึงกัน....

 o22
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: meng ที่ 18-05-2009 10:10:42
 o13 o13 o13

เยี่ยมไปเลย

เป็นกำลังให้เสมอนะคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 18-05-2009 15:19:41
น่ารักจังเลยอะครับ อ่านแล้วนึกภาพตาม เห็นบรรยากาศเลย กลิ่นควันประทัดลอยมาติดจมูกเลยด้วย

 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: kuruma ที่ 18-05-2009 15:26:47
น่ารักจังเลยค่า

ปล. ศาลเจ้านี่ ที่อยู่ตรงข้ามกับร้านขายดอกไม้เป็นแถบที่กาดหลวงใช่ไหมเนี่ย?
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-05-2009 16:51:12
น่ารัก น่ารัก น่ารักได้อีกนะเนี่ย

แอบอิจฉาว่ะ

ฮ่าๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ ครับผม
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: kikipanda ที่ 10-06-2009 17:23:24
วันนี้เพิ่งจะได้ยิ้ม เพราะสิงโตฯของคุณภักD นี่แหล่ะค่ะ

น่ารักมากมาย  :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 16-06-2009 15:33:10
เข้ามาตามอ่านผลงานของคุณ ภัก D ด้วยคน
ขอบคุณฮับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: dOrA ที่ 18-06-2009 17:57:11
 o13 สนุกดีค่า สรุปตอนแรกแค่หึงคิดมากไปเองช่ายป่ะ แหมๆๆ ตีตัวไปก่อนไข้เลยน้า แต่ก้อนะกลัวเค้าเปลี่ยนไปเพราะต้องห่างกัน เข้าใจค่า ไงก้อรักกันอย่าให้แพ้ระยะทางน้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: chad69 ที่ 18-06-2009 22:11:07
ชอบคุณครับ เขียนเรื่องได้อบอุ่นดีจัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-06-2009 11:41:06
 :-[
น่ารักเชียว
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: hours ที่ 19-06-2009 16:46:39
มีฉากให้จดจำด้วยอ่ะๆๆๆ

น่ารักมั๊กมากๆๆๆเรยๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 21-06-2009 01:32:48
ผมมีความสุขจังเลย!

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: hiei ที่ 21-06-2009 12:09:29
น่ารัก ๆ ๆ ๆ  :-[
เค้าหึงกัน เค้าง้อกัน น่ารักอ่ะ (พูดเป็นอยู่คำเดียว)
ถ้ารักกัน นครสวรรค์ กับเชียงใหม่ ก็ใกล้นิดเดียว
 :L1:
ไม่รู้ชื่อใครเป็นใคร(รู้แต่กู ๆ มึง ๆ)
ยังแอบหวานกันได้เลย หึหึ

“อย่าหึงเลยนะ เวลามึงหึง กูโครตเหนื่อยเลย!”

มีบ่น ๆ ฮะ ฮ่า ...ชอบ ๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: BABOO ที่ 25-07-2009 00:20:16
อ่านแล้วมีความสุขค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: loveooo ที่ 09-08-2009 21:45:02
หวานได้อีกอ่ะ  คนนึงงอน อีกคนก็อย่างง้อ น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ปล.อยากให้มีตอนพิเศษอ่าค่ะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 07-02-2010 20:49:01
ชอบสำนวนการเขียนของ ภัคD มากมาย

เหมือนจะไม่เศร้าแต่แอบเศร้าไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 13-02-2010 19:52:58
ให้ดิ้นตาย  :z2:

น่าร๊ากกกก แต่หึงจังนะนู๋

เหอๆ คนนึงแรง คนนึงอ่อน(มั่ง)

น่ารักไปอีกแบบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-02-2010 15:31:53
กลับมาอ่านอีกครั้งรับวันวาเลนไทน์
 :L2:

เรื่องนี้อ่านกี่ครั้ง ๆ ก็ชอบอ่ะ
น่ารัก :)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: jincool ที่ 21-05-2010 00:09:16
เรื่องนี้น่ารักจริงๆ

มันทำให้เราคิดได้ว่า

อะไรๆ ที่เห็นก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

และคำพูดบางครั้งก็สำคัญ  และการกระทำก็แทนไม่ได้เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: PsYchopaThic ที่ 16-07-2010 17:48:08
ชอบค่ะ
อ่านเรื่องของคุณภัคดีกี่เรื่องๆ ... เป็นแบบนี้ทุกที
อ่านจบแล้ว.... แต่เหมือนไม่จบอ่ะ ... มันยังอยู่ในความคิด ติดอยู่ในความรู้สึก (เวอร์ แฮะๆๆๆ)

ชอบผู้ชายแบบ.."มัน" จังค่ะ
อยากอ่านเรื่องยาวๆ อีก... รออยู่นะคะ อิๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: Miz ที่ 19-07-2010 20:08:52
ตัวไกลแต่ใจไกล้กัน นิว่ามะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 21-07-2010 17:33:37
ชอบงานเขียนของคุณภัคDมากกกกกกกกกกกก  :L1:
ไม่ต้องบรรยายรูปร่าง ลักษณะของตัวละครมากนัก แต่ทำไมเราสามารถจิ้นออกมาได้ก็ไม่รู้ หุๆๆ
เห็นด้วยกับความเห็นบนๆ
อ่านจบแล้วแต่เหมือนยังไม่จบ
เรื่องราวมันยังค้างๆคาๆในความรู้สึก เหมือนลืมจ่ายค่าน้ำค่าไฟ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: penikayimyam ที่ 25-07-2010 18:37:09
น่ารักสุดๆๆเลยค่ะ

ขอบคุณที่นำเรื่องสนุกๆๆๆมาเขียนให้ได้อ่านนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: papa ที่ 27-07-2010 00:10:29
ชอบมาก ๆ เลยค่ะ น่ารักที่สุดเลย

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 31-08-2010 21:10:47
เพิ่งจะได้อ่าน งานเขียนเก่าๆน่าอ่านหลายเรื่องเลยเน๊อะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: teenza ที่ 12-09-2010 21:23:30
อยู่ๆก้นึกอยากเข้ากระทู้นิยายที่โพสจนจบแล้ว
แล้วก็โชคดีที่เห็นงานเขียนชิ้นนี้ของคุณภัคD
ยังคงยอดเยี่ยมคับ  o13 ทุกตัวหนังสือสะกดผมอยู่จริงๆ
อ่านงานเขียนของคุณแล้ว ไม่มีการอ่านข้าม หรืออ่านแบบผ่านๆเลย
เป็นกำลังใจ และติดตามงานของคุณภัคD ต่อไปคับ

ปล พอดูวันที่ที่โพสแล้ว  :a5: นี่กรูพลาดเรื่องนี้ไปได้ไงเนี่ย :z3
edit มอบบวกที่32 เป็นกำลังใจให้คุณภัคD คับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 24-09-2010 19:45:35
น่าร้ากกกกกกกกกก
น่ารักจิงๆ ><
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 02-10-2010 17:48:55
เนื้อเรื่องน่ารักจังค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: Tun_Bow ที่ 09-10-2010 10:20:16
พระเอกแมน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: Nineน้อย ที่ 09-10-2010 15:08:06
น่ารักดีครับ ขอบคุณครับผม
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: momoko_1144 ที่ 11-10-2010 04:44:51
 :impress2: :impress2:

ใสมากค่ะ  น่ารักสุดๆ

ไม่ต้องมีชื่อตัวละคร ไม่ต้องมีอะไรมาก

ความรู้สึก ล้วนๆ

แต่อ่านแล้ว สนุกมาก อมยิ้มเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้ นะคะ

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 13-10-2010 09:38:15
น่ารักจริงจัง

พ่อสิงโตขี้งอน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 30-10-2010 17:18:44
น่ารัก ^^ อยากให้คุณ ภัคD แต่งเรื่องยาวอีกจังเลยครับ :)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 27-11-2010 00:14:05
น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: Miku ที่ 30-11-2010 03:33:54
คุณภักD ต้องเคยมีความรัก แน่ๆเลย ทำให้คนอ่านยิ้มตามได้ขนาดนี้   :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 01-12-2010 20:28:11
+1ไปเลยคะ
อ่านแล้วมีความสุขจัง!!!
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: prim--prim ที่ 03-07-2011 19:28:31
นายเอกเรื่องนี้ดูขี้งอนๆ พระเอกก็ง้อๆ
น่ารักกันจังเล้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ชอบ :]
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 17-07-2011 23:24:30
 :L1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 18-07-2011 02:31:28
 :-[ น่ารักมากมาย

ทำไมเรื่องสั้นแค่นี้

กินใจมากมายแบบนี้

เฮ้อ อยากมีคนหึง

อยากมีคนให้หึง

อยากมีใครสักคนให้ "คิดถึง" จัง

ขอบคุณครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: bambooiihallo ที่ 18-07-2011 12:07:08
Like !!
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: ZejHaya ที่ 03-08-2011 02:02:28
สังเกตุเห็นว่าเรื่องนี้คุณภัคD โพสเองเลย.... :-[

น่ารักมากเลยค่ะ....ทั้งคู่...
ก็เพราะรักหรอก ถึงได้หึงขนาดนั้น :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 03-08-2011 04:34:06
น่ารักมากก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 03-08-2011 05:17:16
ไม่มีแม้กระทั่งชื่อตัวละคร  แต่สื่ออารมณ์ได้สุดๆ o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: minimonmon ที่ 03-08-2011 19:06:15
 :o8:น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: fayala ที่ 04-08-2011 06:49:11
เรื่องนี้น่ารักอ่ะ ไม่มีอะไร แต่อ่านแล้วอบอุ่นในหัวใจยังไงไม่รู้ >.<

+1 ให้คนเขียนไปเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: NABi ที่ 05-09-2011 23:35:40
อ่านแล้วยิ้มแก้มแตกเลยยยย
แอร๊ยย
ไม่ไหวแล้ววววว
>< >< >< >< >< >< ><
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: makone ที่ 06-09-2011 10:00:21
ชอบค่ะ ^___^
น่ารักมากๆ เลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 05-11-2011 00:05:59
ชอบวิธีการพูดของ 2 คนนี้จัง น่ารักยังไงไม่รู้ บอกไม่ถูก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 05-11-2011 13:26:05
น่ารักจังเลยค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 07-11-2011 21:56:15
ตอนเเรกเศร้า เเม้ดูเหมือนจะทะเลาะกันเเต่มันหวานๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: yunjae123 ที่ 09-11-2011 00:29:44
ตอนแรกที่อ่านแบบ...สงสารอ่ะ
ที่เราเข้าใจคือ จะโดนแฟนทิ้งไปมีคนอื่น
แต่พออ่านไปอ่านมา
คือหึงนั่นเอง แ้ล้วแบบหึงแล้วพาล 5555555555+
ชอบตอนที่นั่งกอดกันแล้วมีหัวสิงโตครอบอยู่อ่ะ
น่ารักดี ><~~~~
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 15-11-2011 13:05:24
ThankS
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 17-11-2011 12:05:52
ว้าว ๆ เรื่องนี้น่ารักปนซึ้ง

 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: chizato ที่ 17-11-2011 20:11:55
หึงกันกระจายเลยอ่ะ :-[
แถมยังเกี่ยวกับจังหวัดเราด้วย
ตอนงานตรุษจีนประทัดดังจนหูดับเลย
 :mc4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: mymicky ที่ 15-12-2011 18:20:11

ตอนเริ่มอ่าน  เหมือนๆจะดราม่า  แต่ไหงอ่าน ยิ้มกริ่มได้..... คุณภัคD ใส่กัญชาลงไปด้วยหรือเปล่าคะ?

มีความสุขจัง   ^_________^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 18-12-2011 16:03:12
เห็นเรื่องนี้นานแล้วแต่ทำไมไม่อ่านไม่รู้ั
อ่านตอนแรกนึกว่าจะมาม่าซะแล้ว พออ่านจบแล้วมีความสุข
น่ารักมากเลย รักกันนานๆ รักกันไปตลอดเลยนะ เชียร์ๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 11-08-2012 03:25:18
ThankS

                       :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 12-08-2012 00:13:46
นึกว่าจะดราม่า สรุปคิดไปเองทั้งนั้น อายไหมล่ะ
ขอบคุณค่ะ เรื่องน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 12-08-2012 10:09:40
น่ารักมากมาย อิอิ
อ่านแล้วอบอุ่นดีฮ๊าฟฟฟฟฟ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ นะฮ๊าฟฟฟ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 14-08-2012 10:45:21
หวานได้ใจ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: chiji ที่ 05-01-2013 21:16:35
เรื่องนี้ก็ชอบอีกแล้ว :mc4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: evz ที่ 03-04-2013 01:48:27
ชอบพระเอกเรื่องนี้ๆๆๆ
ให้อารมณ์แบบว่าเรื่องคนอื่นน่ะฉันไม่รู้ไม่สนไม่ใส่ใจไม่จำ แต่ถ้าเรื่องเธอน่ะฉันจำได้ทุกอย่างงง น่ารักกกกกกกกกกกก
แต่นายเอกคงไม่คิดแบบเรา ๕๕๕
ในสถานการณ์แบบนายเอกนี่คือ อารมณ์อยู่ในช่่วงหวั่นไหวมาก จะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกแล้วอะไรนิดๆหน่อยๆก็กลัวไปหมดระแวงไปหมด ชอบฉากที่ง้อกันในสิงโต ทางโรแมนติกนัยนั้นมันน่ารักจริงๆค่ะ แม้ความจริงพระเอกจะกำลังหื่น ๕๕๕๕
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 03-04-2013 10:21:34
อ่านจบแล้ว  :mew1: ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 03-04-2013 17:02:24
น่าร๊ากก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 05-03-2015 12:07:07
ขี้หึง.ก็เพราะรักเนอะ! น่ารักจังค่ะ. :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 29-04-2015 16:34:52
น่ารัก ...... ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: gwaiplay ที่ 01-05-2015 23:08:23
ฟินไปถึงฟินแลนด์  :mew1: :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 11-03-2016 21:09:08
 :กอด1: น่ารัก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 11-03-2016 21:29:55
น่ารักดีอ่ะ o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 12-03-2016 22:23:30
มันเป็นอะไรที่น่ารักจนคนไร้คู่แทบจะลำสักน้ำตาลตายทีเดียว
อ่านแรกๆดูเศร้าแต่สุดท้ายก็มุ้งมิ้งจนอยากมีแฟนบ้างเลยค่ะ ><
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 13-03-2016 23:03:32
น่ารักตัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: wingzero ที่ 20-07-2016 01:55:13
เฮร้ยยยย  ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 12-12-2016 21:12:45
น่ารักมากๆเลยค่ะ
คือมันออกแนวฮาร์ดคอร์นิดหน่อย ตามประสาผู้ชายแมนๆ
อยากจะขำตามนะที่ถือเบญจมาศมาน่ะ แต่เราว่ามันก็น่ารักไปอีกแบบ

นี่ไม่ได้ดูเชิดสิงโตมานานมากแล้วเหมือนกันนะนี่
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 13-12-2016 00:59:27
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]สิงโตวาเลนไทน์
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-12-2016 18:23:55
แสนงอนจริงๆ
แต่น่ารัก ทั้งคู่
ชอบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: