ตอนที่2
เวลาผ่านมาเกือบสิบนาทีที่พวกผมนั่งแช่อยู่ในร้านนี้ มีเสียงของแฟนคลับพ่อค้ามากมายพูดขึ้นมาพร้อมกับความดีอกดีใจเป็นระยะๆ ‘พี่โซลยิ้มให้ฉันด้วยแก เค้าไม่เคยยิ้มให้ใครเลยนะเว้ย’ ‘ พี่แจรับแอดฉันด้วยอ่ะ’ ‘ พี่อินทร์ไลค์โพสต์ฉัน’
นี่แหละครับ ส่วนตัวผมเองก็นั่งอืดๆแอบมองพี่โซลโปรยหน้าหล่อๆจ้องตากับลูกค้าที่เข้าออกร้าน รู้สึกตะหงิดๆใจเหมือนคนอกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่มอ่อย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะผมมันก็แค่เด็กเหนือแดกไส้อั่วไปวันๆ จะเทียบอะไรได้กับนางฟ้าแดกสปาร์เก็ตตี้ คนสวยๆนี่เดินเข้าออกร้านจนผมนึกว่าที่นี่เป็นรังนางฟ้าแล้วล่ะครับ แล้วแต่ละผู้แต่ละคนเดินมาสั่งของที่เคาท์เตอร์ไม่ต่ำกว่าห้ารอบ สงสัยคงกะว่าจะแดกเค้กจนกว่าจะได้แดกพ่อค้าต่อ
“โทษนะครับน้อง”
ในขณะที่ผมกำลังคุยเรื่องสัพเพเหระอยู่กับสองเพื่อนยาก ก็เหมือนมีอีกหนึ่งชีวิตมาสะกิดที่ไหล่ผม พอหันไปก็ใครไม่รู้ไม่เคยเห็นหน้า แต่รู้อยู่อย่างเดียวว่าพี่แกยิ้มโคตรหวาน อย่างกะคิมบอมที่แสดงซีรีย์เรื่องรักฉบับใหม่หัวใจสี่ดวง ว่าแต่พี่แกเรียกผมหรอวะ?
“ครับ?”
“น้องนั่นแหละ”
“ครับๆ”
“อ่อ พี่ขอเฟสน้องหน่อยได้มั้ย พอดีเพื่อนพี่อยากได้” พูดจบอีพี่หน้าหล่อก็ยื่นสมาร์ทโฟนมาให้ผมพร้อมกับหน้าจอที่ปรากฏตรงค้นหารายชื่อพอดี แม่งจะดีใจหรือจะเสียใจดีวะที่ผู้ชายมาขอเฟสแทนที่จะเป็นผู้หญิง ผมลังเลอยู่มากหันมองหน้าไอ้สองตัวนั้นมันก็พยักหน้ากันหงึกๆให้ เอาวะ อ่อยก็อ่อย
..และแล้วผมก็ตัดสินใจพิมพ์ชื่อเฟสตัวเองไป ก่อนจะยื่นกลับให้พี่แก
“ขอบคุณมากนะน้อง” พอได้โทรศัพท์คืนพี่มันก็เดินกลับไปนั่งแหมะลงที่โต๊ะของตัวเอง และตามประสาคนอยากรู้ว่าใครตาบอดมาติดใจผมก็เลยแอบมองตาม มีผู้ชายซักประมาณสี่ถึงห้าคนได้นั่งอยู่ที่โต๊ะนั้น โดยรวมแล้วหน้าตาแม่งดีหมดอย่างกะถูกคัดมาเข้าแก๊งค์ แต่ก็ไม่เห็นมีใครจะมองหรือทำพิรุจใส่ผมซักคน
“บ๊ะ อยู่ๆเพื่อนกูก็จะกลายเป็นเมียเขา ฮิ้ววววววว”
“เมียเหี้ยไรไอ้นิว แมนๆเตะบอลกันเว้ย” เออ ผู้ชายกับผู้ชายคบกันมันก็ไม่ใช่ว่าจะอีกฝ่ายต้องตุ้งติ้งนี่หว่า
“เอ่า แล้วแมนเป็นเมียไม่ได้ไง?” เออว่ะ นี่ก็ถูกของมัน
“วุ๊ ขี้เกียจเถียงกับพวกมึงละ กลับบ้านไปเล่นฟีฟ่าดีกว่ากู” ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ตั้งใจไม่ทิ้งเงินไว้ให้พวกมันแล้วเดินออกมาจากโต๊ะ โดยก่อนจะออกจากร้านก็ไม่ลืมที่จะส่องที่เคาท์เตอร์ด้วย พี่โซลยังคงสนใจลูกค้าอยู่โดยไม่สนใจคนอื่นเลย แต่ช่างมันเถอะ ก็อย่างว่า อยากเห็นหน้าเมื่อไหร่ก็ค่อยมากินก็แล้วกัน อีกอย่างก็มีคนที่สนใจผมแล้วด้วย กลับห้องไปรอดูดีกว่าว่าใครจะแอดเฟสมา
ถึงจะพูดงั้นก็เถอะ ใจจริงก็ยังอยากให้คนที่เดินมาขอเฟสผมเป็นพี่โซลอยู่ดี…
โซล
สวัสดีครับ ผมชื่อโซล เรียนอยู่คณะศึกษาศาสตร์สาขาวิชาคณิตศาสตร์ ผมเป็นพนักงานร้านกาแฟธรรมดาๆคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าคนอื่นๆจะมองว่าผมไม่ธรรมดาก็เถอะ ร้าน Buy Nom คือร้านกาแฟของอาผม ซึ่งพนักงานเก่าของร้านได้ย้ายกลับไปบ้านเกิดที่ต่างจังหวัด ผมก็เลยจ้างวานเพื่อนๆให้มาช่วยกันทำมาหากินเปลี่ยนพนักงานใหม่ยกร้าน มีแค่ผมเท่านั้นที่ไม่มีค่าจ้างเพราะเป็นกิจการของคนในครอบครัวตัวเองอยู่แล้ว เราจะแบ่งเวรกันเป็นวันคู่แล้วก็วันคี่ครับ ผม ไอ้แจ และก็ไอ้อินทร์จะอยู่วันคู่ ส่วนไอ้บีม ไอ้เต้ย แล้วก็ไอ้ทีน จะอยู่วันคี่
ผมชอบอยู่เงียบๆ ไอจีก็ล็อค ทวิตเงียบ เฟสบุ๊คยิ่งแล้วใหญ่ แต่ถึงกระนั้นก็มีคนต้องการทำความรู้จักผมมากมายทั้งชายแล้วก็หญิง ผมคุยกับพวกเค้าปกตินี่แหละ แต่ถ้าคนไหนเลยเถิดลามปามเกินไปผมก็ไม่ลังเลใจที่จะบล็อค
ผมดูเป็นคนนิ่งๆแล้วก็นิ่งจริงๆ บางคนอาจจะมองว่าผมหยิ่ง อันนี้ก็แล้วแต่เขาเพราะผมถือคติที่ว่าใครทักมาผมก็คุยกลับ ใครไม่สนใจมามีเหตุอะไรที่ผมจะต้องไปสนใจ จะคิดยังไงก็คิด เรื่องกิจกรรมผมก็ไม่เคยปฏิเสธ รุ่นพี่ให้ไปเป็นคทากรผมก็ไม่มีอิดออด เว้นเสียแต่ตอนประกวดเดือน อันนี้ผมไม่ชอบจริงๆเลยบอกไปตรงๆว่าเรื่องแบบนี้มันไม่เหมาะกับผม
จากที่พูดมานี่ทุกคนอาจจะมองว่าผมน่ากลัว อย่าคิดอย่างนั้นเลยครับ ผมแค่เป็นคนไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ แต่เห็นอย่างนี้ก็เคยมีแฟนจีบสาวก็เป็นนะ แต่มันจะเกิดขึ้นเฉพาะคนที่ผมคิดว่าดีเท่านั้นแหละ
เหตุการณ์ภายในร้านกาแฟวันนี้ปกติดี แต่มันกลับพิเศษขึ้นมากว่าทุกวันหน่อยเพราะน้องคนนั้น ผมไม่เคยเห็นหน้าน้องเค้ามาก่อน แต่ขอบอกได้เต็มปากเลยว่า แม่งโคตรน่ารัก ท่าทางเงอะๆงะๆเก้ๆกังๆของน้องดึงดูดผมเป็นที่สุด อุส่าห์หลอกให้เขียนเบอร์โทรลงในกระดาษแต่น้องมันกลับไม่สนใจ สุดท้ายเลยตัดสินใจใช้พวกไอ้บีมที่มันแว๊ะมานั่งกินนมในร้านให้ไปขอเฟสน้องเค้าให้
พอเข้าไปส่องเฟสก็ถึงบางอ้อทันที น้องต๊ะสถาปัตถ์ที่ใครๆต่างก็บอกว่าน่ารักนักน่ารักหนา เคยได้ยินชื่อเสียงแต่ไม่เคยเห็นหน้าซักที พอมาวันนี้ก็เขาใจแล้วว่าน้องแม่งน่ารักจริงๆ
“ไอ้สัดโคตรน่ารัก ตอนกูเดินเข้าไปขอเฟสแทบจะกั๊กไว้กินเองแล้ว”
ไอ้บีมซึ่งมันก็นอนแผ่อยู่ในห้องผมตอนนี้พูดขึ้นในขณะที่ผมกำลังเล่นคอมส่องเฟสน้องเค้าอยู่ ส่งสายตาไปหามันแบบนิ่งๆซึ่ง
แน่นอนมันคงรู้ว่าผมหมายถึงอะไร
“พูดงี้อยากเจอตีนหรอ”
“โถ่สัด กูแซวนิดแซวหน่อยไม่ได้” มันทำทำท่าจิ๊จ๊ะแล้วหยิบถั่วลิสงที่พึ่งซื้อจากเซเว่นขึ้นมาแกะกินบนเตียง ซึ่งแม่งก็ไม่ได้ว่าอะไรมันอยู่แล้วแหละ เพราะทุกวันนี้ห้องผมก็เหมือนห้องมัน แปรงสีฟันยังแทบจะใช้ร่วมกัน
“มึงว่าน้องเค้าจะมีคนที่ชอบป่าววะ”
“อืม…ไม่แน่ใจว่ะ แต่กูว่าของอย่างนี้ใครดีคนนั้นได้นะเว้ย” ไอ้บีมชี้นิ้วมาแล้วทำสีหน้าเชื่อมั่น เออ ก็ว่าถูกของมัน ของอย่างนี้มันวัดกันที่ใจ
ผมเลื่อนดูไทม์ไลน์ของน้องเค้าอีกครั้งก่อนที่จะตัดสินใจแอดเพื่อนไป และมันก็หน้าแปลก พอผมแอดไปปุ๊ปน้องเค้าก็รับแอดปั๊ป แต่ก็อย่างว่าแหละน่า แค่รับแอดไวไม่ได้แปลว่ามึงจีบติดแล้วซะหน่อยไอ้โซล(ด่าตัวเอง)
“ทักไปดิๆๆๆๆ” ไอ้บีมรีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาจากเตียงเพราะความขี้เสือกแล้วลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ และในตอนนั้นเองผมก็ตัดสินใจทักน้องเค้าไปอย่างไม่ลังเล
Soul Supawit
*สติ๊กเกอร์ยิ้ม*
ตึกตัก…ตึกตัก… นานแค่ไหนแล้วที่ผมไม่ได้ใจเต้นแรงแล้วก็ตื่นเต้นขนาดนี้ มันเคยเกิดกับแฟนเก่าที่เป็นผู้หญิง แต่สำหรับน้องเค้าคือผู้ชายคนแรก
ติ๊ง!
Ta Thunyakorn
*สติ๊กเกอร์สวัสดี*
Soul Supawit
น้องต๊ะใช่มั้ย
Ta Thunyakorn
ใช่ครับพี่
รู้จักชื่อผมด้วย
Soul Supawit
รู้ดิ
Ta Thunyakorn
555555
พี่โซล ใช่มั้ยครับ
Soul Supawit
รู้ด้วย?
Ta Thunyakorn
โหยพี่ดังจะตาย ใครไม่รู้จักพี่ก็บ้าละ
Soul Supawit
สงสัยพี่บ้าว่ะ
Ta Thunyakorn
หื้อ? พี่ไม่รู้จักตัวเองหรอครับ555
Soul Supawit
อืม
พึ่งมารู้จักตัวเองก็ตอนเจอน้องนี่แหละ
ไม่รู้ว่าน้องเค้าจะเข้าใจหรือเปล่าว่าผมหมายถึง พึ่งมารู้ตัวว่าชอบผู้ชายก็ตอนเจอน้อง แต่ก็ช่างแม่งเหอะ ค่อยๆหยอดไปแล้วกัน
Ta Thunyakorn
*สติ๊กเกอร์งงแดก*
*สติ๊กเกอร์หัวเราะ*
Soul Supawit
แล้วกินข้าวหรือยัง
Ta Thunyakorn
ยังครับ พี่อ่ะ
Soul Supawit
เหมือนกัน
แล้วไม่ไปกินกับแฟนหรอ
Ta Thunyakorn
ถ้ามีก็คงไปแล้วล่ะครับ
5555555
Soul Supawit
ดีว่ะ ไม่มีแฟน
Ta Thunyakorn
ดีตรงไหนพี่
Soul Supawit
ดีตรงนี้แหละ
Ta Thunyakorn
ห้ะ?
*สติ๊กเกอร์หมางง*
Soul Supawit
พี่จะได้อ่อยถนัดๆไง
นี่พี่อ่อยน้องอยู่ ไม่รู้หรอ?
แปดเดือนต่อมา…
“ไอ้ต๊ะ เย็นนี้จะไปเตะบอลกับพวกกูป่าว”
“ต้องดูก่อนว่ะ”
“โห มึงก็งี้อ่ะ วันนี้ทีมเราขาดตั้งสองคนเลยนะเว้ย”
“เออ งั้นเดี๋ยวกูจะลองขอละกัน”
ผมกับไอ้สองเพื่อนยากเดินเลียบออกมาจากตึกเรียน ขอบอกเลยครับตั้งแต่วันที่ผมตกลง ‘คบกับพี่โซล’ หลังจากที่พี่แกตามจีบมาสามเดือนเต็มๆ ผมก็ขึ้นชื่อว่าต๊ะผู้มีผัวโหดที่สุดในย่านนี้ ชีวิตเปรียบเสมือนมีพ่อคนที่สอง ไอ้พี่โซลทั้งขี้หวง ทั้งโหด ทั้งขี้งอน โมโหเมื่อไหร่มีจับผมดูมดาด้าทันที ตอนแรกก็มีขัดขืนบ้างแหละครับเพราะไม่เคยเสียข้างหลังให้ใคร แต่ปัจจุบันนี้ก็สมยอมแล้วเพราะทุกครั้งที่เสร็จภารกิจพี่มันก็ยังไม่ทิ้งผมไปไหน แต่มุมน่ารักแม่งก็มีเยอะ ใครจะไปรู้ว่าคนนิ่งๆพูดจาตรงๆแบบนั้นจะโคตรขี้อ้อน แล้วก็ซื่อสัตย์ ดูแลผมอย่างดีไม่ว่าจะตอนป่วยหรือแข็งแรง
“ให้ได้นะมึง ถ้าไม่ยอมมึงก็แก้ผ้าโชว์ซักครั้งเดี๋ยวใจอ่อนเองอ่ะ” ไอ้เตอร์พูดทีเล่นทีจริง แต่ค่อนไปทางเอาฮามากกว่า
“เออ ถ้าไม่อนุญาตเดี๋ยวคืนนี้กูจะรุกเองแม่งเลย” พูดเสร็จก็หัวเราะอย่างสะใจ โดยไม่รู้ว่าภัยแม่งกำลังจะมาถึงตัว…
“เอาดิ อยากเหมือนกัน”
ขวับ!
จากสำนวนที่ว่าปลาหมอตายเพราะปากฉันท์ใด เอวกูก็จะระบมเพราะปากฉันท์นั้น…
สะเด้ยยยยย!! พี่มันแม่งมายืนทำหน้าหล่ออะไรตรงนี้วะ ลืมไปเลยว่าพี่โซลจะมารับ แล้วกูพูดอะไรไปวะเนี่ยยยยยยย!!
“พี่โซลหวัดดีครับ” สองเพื่อนยากยกมือขึ้นไหว้ทันทีก่อนที่ไอ้เตอร์จะหันมากระซิบผมเบาๆ “ขอให้ได้นะมึง เจอกันที่สนาม”
“พวกกูไปแล้วนะต๊ะ พี่โซลไปละนะพี่” ไอ้นิวตบบ่าผมแล้วหันไปพูดกับพี่โซล พี่แกพยักหน้าให้มันหนึ่งทีก่อนที่ไอ้พวกนั้นจะเดินจากไป
“ว่าไง คืนนี้จะออนท็อปหรอ”
“อะไร พูดเล่นๆกับเพื่อนไปงั้น” ไอ้สัดกูแทบจะอยากกัดลิ้นตัวเองตาย ก็ดูพี่มันแม่งยิ้มน้อยๆแถมยังส่งสายตาหื่นๆมาอีก ผมล่ะเครียดจริงๆว่าจะหลีกหนีพี่มันได้ยังไง จากที่กูเครียดเรื่องขอไปเตะบอลแต่ตอนนี้กลับมาเครียดเพราะเรื่องจะโดนกดซะงั้น
รถของพี่โซลแล่นเข้าจอดที่โรงรถของคอนโดหลังจากไปรับผมที่คณะเหมือนทุกๆวัน ไม่เว้นแม้แต่วันที่พี่แกไม่มีเรียน ผมย้ายมาอยู่กับพี่โซลได้ซักพักแล้วล่ะครับ เพราะถ้าผมไม่มาพี่มันก็ไปอยู่กับผมอยู่ดี แต่เหตุหลักๆเกิดจากปัญหาที่ว่าคอนโดของผมมันอยู่ไกลมหาลัยมาก ถ้าพี่โซลจะไปรับก็ต้องวนไปวนมาอีก เปลืองน้ำมัน บอกว่ามาเองได้แค่ไหนพี่มันก็ดื้อไม่ฟังความอยู่ดี สุดท้ายแล้วก็เลยหอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่ที่นี่ ไปไหนมาไหนจะได้สะดวก
เครื่องยนต์ถูกดับลงในเวลาต่อมาแต่คนตัวสูงก็ไม่ได้มีท่าทีจะปลดล็อคประตูหรือตั้งท่าจะลงจากรถ
“มีอะไรหรอ”
“เปล่า”
“อ้าว แล้วทำไมไม่ลงรถ”
“ยังไม่อยากลงตอนนี้”
“อะไรล่ะ เดี๋ยวมันก็ร้อน”
“แปปเดียว”
“อือ”
“แล้วเย็นนี้จะไปเตะบอลหรอ”
“ใช่ ขอไปได้มั้ย”
“ได้”
“เฮ้ย!จริงดิ” แม่งโคตรดีใจเลย วันนี้มันคงเป็นวันที่โชคเข้าข้างผมแหละครับ พี่โซลพูดง่ายชิบหาย
“จริง จะโกหกทำไม”
“แน่นะ”
“แน่”
“ไม่มีข้อแม้นะ”
“มี”
น่านนนนไง กูว่าละ -__-
“แล้วอะไร”
มีครั้งนี้แหละครับที่ผมรู้สึกว่าคำถามขอตัวเองผิดอย่างมหันต์ ร่างสูงโน้มตัวจากเบาะคนขับแล้วประชิดเข้ากับร่างของผม มือหนาข้างหนึ่งกดไหล่ผมไว้ส่วนอีกข้างก็อ้อมมากดเบาะผมให้ราบลงไป
“เฮ้ย ไม่เอาดิ” ผมขัดขืนโดยชื้อผลักร่างพี่แกออกไปพร้อมกับเบือนหน้าหนีจมูกโด่งๆที่กำลังยุ่งอยู่บริเวณซอกคอและใบหน้าของผมในตอนนี้ แต่แรงคนเรามันมีไม่เท่ากัน ผมตัวเล็กกว่าพี่แกมากแน่นอนว่าต้องเสียเปรียบ ผมต้านแรงของพี่โซลไม่ไหวเลย
“นิดเดียว”
เสียงทุ้มพูดปนกระซิบก่อนจะบดเบียดริมฝีปากทาบทามจูบอย่างอ่อนโยน ร่างกายผมยังคงต่อต้าน เอามือดันแผงอกไว้ แต่สุดท้ายก็ไม่วายโอนอ่อนอยู่ดี จากจูบที่อ่อนโยนก็แปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรงมากขึ้น แล้วมันก็ไล่ลามมาถึงต้นคอแล้วก็วนกลับมาที่บริเวณกกหูอีกครั้ง ผมรู้สึกดีมากจนต้องเงยหน้ารับสัมผัสนั้น มือของพี่โซลลูบหัวผมเบาๆอย่างปลอบประโลม ส่วนอีกข้างก็ค่อยๆลูบหน้าท้องของผมผ่านเสื้อนิสิตตัวบาง ผมหอบหายใจพร้อมกับบิดเร้าเพราะต้านแรงไฟรักในร่างกายไม่ไหว กระดุมเม็ดต่ำสุดของเสื้อถูกปลดออกไปแล้วมือหนาก็ถือโอกาสล้วงเข้าไปลูบหน้าท้องของผม
“ไม่เอา” ผมรั้งมือพี่แกไว้ทันทีก่อนที่มันจะเข้าไปถึงจุดอ่อน คนดื้อไม่ฟังความปลดเข็มขัดของผมออกอย่างไวกดจูบอีกครั้งแล้วลูบบริเวณหน้าท้องของผมทั่วจนเสียวซ่านไปทั้งร่างกาย
“พี่โซล!”
“ครับผม รู้แล้ว” พี่โซลหยุดการกระทำทุกอย่างทันที ผมรู้สึกผิดเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกโล่งใจในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่ว่าให้ไม่ได้นะแต่สถานที่นี้มันเสี่ยงคนเห็นเกินไป
“คืนนี้กลับได้ไม่เกินห้าทุ่มนะ” พี่แกไม่ได้มีท่าทีโกรธหรือเหวี่ยงอะไร ยอมรับในข้อนี้เลยถึงแม้ว่าพี่แกจะอยากแค่ไหนแต่ถ้าผมไม่โอเคก็จะหยุดการกระทำทุกอย่าง
“ไม่เกินหรอก เดี๋ยวให้ไอ้เตอร์มาส่ง”
“หวงมากนะรู้มั้ย”
“รู้แล้ว หวงเหมือนกัน”
“อย่าให้ใครมาขอเบอร์ล่ะ”
“เฟส ไลน์ ทวิต ไอจีได้ใช่ป่ะ”
“ต๊ะ- -”
“โอ๋เอ๋ ล้อเล่นน่า”
“อย่าเล่นงี้ดิ ก็รู้ว่าเป็นคนยังไง”
คราวนี้เป็นผมเองที่รั้งท้ายทอยของพี่โซลเข้ามาแล้วประกบริมปากอีกครั้ง เพียงแต่รอบนี้ไม่เหมือนรอบก่อน มันไม่มีการลุกล้ำเพราะผมเพียงแค่ต้องการจะสื่อว่าทั้งหัวใจผมมีแค่พี่โซลคนเดียว
“…ต๊ะรักพี่โซลนะครับ”
“อืม พี่ก็รักต๊ะเหมือนกัน”