EP.10 ลุงธีเจอหลานโซ่แล้ว P1
[/size][/color]
Part's กันต์ธีย์ ผมเดินออกมายืนรอพี่ธีที่ด้านหน้าตึก พี่ธีเขาเดินไปขับรถคันหรูมารับผม รถพี่ธีสวยและหรูมากดูท่าจะรถนำเข้าและน่าจะไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ แต่ก็หรูพอพอกับรถของพี่กันตภณนั่นแหละ ต่างแค่ว่าคนล่ะรุ่น ของพี่กันตภณน่ะรุ่นก่อนหน้านี้หลายปีอยู่และดูคลาสสิคกว่า ผมเข้าไปนั่งข้างๆ พี่ธีที่ทำหน้าที่ขับรถเอง
“ขอที่อยู่ด้วยครับน้องบีมพี่จะได้ตั้ง จีพีเอส ไม่อย่างนั้น หลงแน่ๆ “พี่ธีพูด ผมก็ส่งที่อยู่ให้ และพี่ธีก็ตั้งจากหน้าจอทัชสกีนในรถหรูของพี่ธีเขา ผมเงยหน้าขึ้นมามอง ผมเห็นหูพี่ธีเออมันเหมือนหู ไอ้เจ้าลูกโซ่ผมเลย หูกางและจังหวะนั้นพี่ธีหันมาพอดี
“จะว่าพี่หูกางเหรอครับ” พี่ธีพูดพร้อมกับกุมหูหัวเอง ผมรีบสั่นหัวทันที ใครจะกล้าว่าลูกท่านประธานใหญ่ละครับ อาจจะตกงานได้
“ไม่ ไม่ ใช่ครับ แต่ ก็กางนะครับ อุ้ย! พี่ผมขอโทษครับ”
“นี้แหละจุดขายบ้านพี่ หูกางทุกคน “พี่ธีพูดปนหัวเราะ อ้อไม่โกรธค่อยยังชั่วหน่อย เอาจริงๆ พี่เขาก็ไม่ดุเหมือนตอนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมกับท่านประธานใหญ่เลยน่ะ ผมนั่งคุยไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่ง มาถึงอนุสาวรีย์ชัย พี่เขาตรงเข้าไปจอดด้านหลังร้านขายยาแห่งหนึ่ง ร้านใหญ่มาก
“พี่เข้าไปรับแฟนก่อนนะครับ แฟนพี่เป็นเภสัชกรน่ะครับ และนี้ร้านยาแฟนพี่ครับ “พี่ธีบอก ผมพยักหน้าก่อนจะปลดเข็มขัด แฟนเขามาผมก็ต้องไปนั่งหลังซิ ผมรีบขยับตัวออกมาและไปนั่งด้านหลังทันที ไม่นานพี่เขาก็เดินคุยมาด้วยกันผมหันไปเห็นก็ยิ่งมองเพราะว่ามัน ดูน่ารักดี
“อุ้ย!!” แฟนพี่เขาเปิดประตูด้านหลังที่ผมนั่งอยู่ แฟนพี่เขาน่ารักมากเลย สวมเสื้อกาวสีขาว ตรงเหนือกระเป๋าปักไว้ว่า ภก.พิมลวรรณ
“อ้าวไปนั่งด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะบีม” พี่ธีถามผม
“น้องเขากลัวเฮียน่ะซิ เลยกระโดดมานั่งหลังเลย ใช่ไหมคะ เพราะว่าเฮียแกหน้าดุ แต่จริงๆ น่ะ ติ้งต้อง” แฟนคนสวยของพี่ธีพูด ขำ ขำ กับเฮียธีที่ยืนเกาหัวตัวเอง ก่อนจะเอาฝ่ามือแตะที่หัวผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้โกรธแต่เอ็นดู มันน่ารักไปอีกแบบน่ะ
“เฮียไม่โหดน่า จะโหดก็ตอนนั่งกับป๊าอย่างเดียว” พี่ธีพูดตอนที่เข้ามานั่งในรถแล้ว และแฟนพี่เขาก็เข้ามานั่ง เขาก็คุยกันกะหนุงกะหนิง คนเป็นแฟนกันอะนะ และมันก็ดูน่ารักดี
“บีมนี้พี่มิวครับ ว่าที่ภรรยาพี่ครับ พี่กำลังจะแต่งงานกันปลายปีนี้ครับ” พี่ธีบอกผม
“ยินดีที่รู้จักนะคะ ว่าแต่จับพลัดจับผลูยังไงถึงได้มานั่งรถเฮียได้คะเนี๊ยะ”
“เด็กอากันเขา เขาฝากไปส่งบ้าน “พี่ธีพูด แม่เรียกผมว่าเด็กพี่กันตภณอีก
“อากันน่ะฝากผิดคนหรือเปล่า “แฟนพี่เขาแซวพี่ธีทันที
“พี่บอกน้องเขาไปแล้วพี่น่ะเกรงใจว่าที่ภรรยา เพราะว่าดุครับ เห็นพี่โหดแต่พี่เกียมัวน่ะครับ “พี่ธีพูด และพี่มิวหันมาพยักพเยิดให้ผม
“และน้องเขาว่าจะไปเอาของด้วย ใช่ไหมครับ ที่ตรงเพชรบุรีตัดใหม่น่ะครับ” ผมหันมามองพี่ธี พี่เขาเรียกลูกผมว่าของเลยเหรอ
“ผมไปรับลูกน่ะครับพี่ธี” ผมบอกพี่ธี
“เออ พี่ขอโทษที ไปรับลูกเนอะ” พี่ธีรีบขอโทษผมทันที
“ห๊ะ!! มีลูกแล้วเหรอ ดูยังเด็กอยู่เลยอ่ะบีม” แฟนพี่ธีร้องเสียงหลงเลย
“น้องอายุเท่าไหร่แล้วค่ะ” พี่เขาถามถึงผมแน่ๆ เพราะว่าพอผมชี้ตัวเองพี่เขาพยักหน้าหงึกๆ ก่อน
“ผมเพิ่งจบปริญญาตรีครับ ผมยี่สิบเอ็ดย่างยี่สิบสองปีแล้วครับ” ผมบอกพี่มิวแฟนพี่ธี
“เด็กกว่าพี่สามสี่ปีได้ แต่เฮียน่ะคงแก่กว่าครึ้งรอบได้เลยมั้ง”
“หนูว่าเฮียแก่เหรอ เจ็บน่ะคำนี้น่ะ” เฮียธีพูด ผมก็ต้องเหลือบตามอง ทำไมไม่เจอแบบนี้บ้างว่ะน่ารักอ่ะ ผมแอบคิดในใจ แต่ทำไมผมถึงชอบนึกถ้าไอ้พ่อของลูกโซ่มันรู้จักมาง้อผมบ้างก็คงดี แต่ใครจะมาง้อคนที่มีอะไรคืนเดียวแล้วท้องเลยว่ะ
“และนี่ก็ตามน้องเขาไม่ทันแล้วเฮีย” พี่มิวก็หันมาบอกพี่ธี
“ก็บอกให้แต่งตั้งแต่ต้นปีแล้วนี่” พี่ธีพูด
“ก็จะลดน้ำหนักก่อน”
“กินขนมเค้กอีกแล้ว จะลดหรือจะเพิ่มจ๊ะหนู” ผมบอกตามตรงน่ะว่าพี่เขาน่ารักจริงๆ คู่นี้ พี่ธีดูท่าทีเหมือนจะเจ้าชู้แต่ไม่เจ้าชู้เลย ผมนั่งดูเขาสองคนหยอกล้อกันจนรถแล่นมาจนถึงบ้านพี่ฟ้า ผมก็รีบเปิดประตูทันทีเพราะว่าคิดถึงเจ้าลูกโซ่แย่แล้ว
“พี่จะกลับเลยก็ได้นะครับ ผมนั่งแท็กซี่ไปเองได้นะครับพี่ธี”
“ไม่ได้ครับ เพราะว่าอากันเขาฝากพี่ครับ และเราไปนานเหรอครับ” พี่ธีถามผม
“ไม่นานครับแค่ไปรับและก็กลับเลยครับ”
“พี่รอได้ครับบีม ไปเถอะครับ และพี่ว่าช่วยแฟนกินขนมก่อน ให้กินคนเดียว เดี๋ยวชุดแต่งงานต้องตัดใหม่” พี่ธีบอกผมแอบหยอกกันเล่นกับพี่มิวอีกแล้ว ก่อนจะหันไปคุยกะหนุงกะหนิงด้วยกันต่อ ผมเห็นแบบนี้แล้ว อิจฉามาก ตั้งแต่อยู่ในรถแล้ว ทำไมเขาเป็นผู้ชายที่น่ารักขนาดนี้ ผมชอบมองคู่รักที่ทำอะไรให้กันแบบนี้ แล้วผมล่ะจะมีบ้างไหมน่ะ แต่มันแปลกเวลาที่พี่กันตภณทำให้ผม ทำไมผมรู้สึกเหมือนเขาคือญาติผุ้ใหญ่ที่ทำอะไรให้ผมไม่เคยมองในฐานะคนรักที่ทำให้กันแบบพี่ธีกับพี่มิวเลยก็ไม่รู้ หรือว่าในหัวผมคิดแต่เรื่องไอ้คนที่ทำให้ผมท้องกันแน่ ผมเดินเข้ามาก็เปิดประตูเข้าไปทันที ผมเห็นเจ้าลูกโซ่ของผมนั่งรื้อของออกจากกระเป๋าใส่ของใช้เด็กอ่อน รื้อจนเพลินเลยน่ะ
“มัม มัม มัม” ไม่รู้ว่าเรียกหรือว่าแค่บ่นน่ะ ทันทีที่เขาหันมาเจอผม และรีบคลานมาหาผมทันทีเช่นกัน ผมก็ตรงปรี่ไปหาเจ้าลูกโซ่
“บอกว่าให้เรียกมี้ ไม่ใช่มัม มัม มัม” ผมย่อตัวลงบอกเจ้าลูกโซ่ พร้อมกับเอานิ้วจี้จิ้มที่ปลายจมูกโด่งรั้นนี้ โด่งกว่าผมมากมาย ขนาดว่าผมเป็นลูกครึ้งน่ะ ยังโด่งน้อยกว่าเลย แต่แปลกที่ผมกลับเป็นลูกครึ้งที่มีเชื้อไทยมากกว่า แต่ก็ดูรู้แหละว่าไม่ใช่คนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์
“อ้าวบีมมาแล้วเหรอ พี่จับอาบน้ำให้แล้วน่ะ กรี้ดจนแสบแก้วหูเชียวเวลาอาบน้ำน่ะ” พี่ฟ้าพูดปนหัวเราะ ส่วนคนที่ถูกพูดถึงก็เอียงคอมอง รู้เรื่องทันทีเลยน่ะ
“อาบีม” ลูกสาวพี่ฟ้าคนที่สอง สองขวบกว่าแล้ว พูดเก่งแล้วซิและเขาก็วิ่งมากอดผม ผมมาที่บ้านนี้บ่อยเมื่อก่อน เพราะว่าผมสนิทกับฟิล์มมาก นัดกันมาทำรายงานที่บ้านฟิล์มบ่อยๆ
“น้องน่ารัก” น้องเพิร์นบอกผมชมเจ้าลูกโซ่ของผมแต่คนถูกชมกับเงยหน้าขึ้นเม้มปาก จนน้องเฟิร์นต้องหลบหลังผมแทน
“น้องน่ากลัว” อ้าว! ผมเหลียวหลังกลับมามองเฟิร์น เมื่อกี้ยังน่ารักอยู่เลย และผมก็อดกลั้นหัวเราะไม่ได้กับคนที่แอบน้องอยู่ด้านหลังผม
“แล้วนี่เริ่มงานเมื่อไหร่ล่ะบีม และใครจะดูเวลาเราไปทำงานน่ะบีม” พี่ฟ้าถามผม
“ผมเริ่มทำงานพรุ่งนี้ครับ แต่ว่าที่ทำงานผมน่ะ เขาเปิดรับเลี้ยงเด็กเล็กด้วยครับพี่ฟ้า และผมก็ใช้สวัสดิการ เขาให้ฝากดูแลฟรีครับ ในช่วงเวลางานครับพี่ฟ้า”
“ดีจังเลยอ่ะ มีงานดีดีแบบนี้ เอาไว้ให้มั่นเลยน่ะ นี้ไอ้ฟิล์มน่ะได้งานที่ต้องมีกะกลางคืนด้วย มันโคตรเหนื่อยเลย มันบอกเรียนมาก็ยากกว่าจะจบ แต่พอจบมาแล้วได้งานทำ ก็เหนื่อยว่าทำการบ้านอีก มันบ่นกับพี่ทุกวันเลยบีม” พี่ฟ้าพูด ผมก็ยิ้มๆ เพราะว่าผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่างานจะเหนื่อยไหม
“พี่ฟ้า ผมไปก่อนนะครับ”
“และนี่พี่ที่เป็นลูกท่านประธานใหญ่เขามาส่งผมนะครับและเขาก็รอไปส่งผมที่คอนโดอีกที ผมเกรงใจเขานะครับ” ผมบอกพี่ฟ้าก่อนจะคว้าเอาทุกอย่างขึ้นมาสพายกระเป๋าขึ้นบนบ่าก่อนจะหันไปอุ้มเจ้าลูกโซ่ขึ้นมาหนีบเอวผมไว้ พออุ้มขึ้นมาได้ก็คว้าเสื้อผมจะแหวกหาอกแบนๆ ผมอีก
“อือออ” ผมส่ายหน้าว่าไม่ได้ ก็ยังจะแหวกอีก จนพี่ฟ้าหลุดขำผมทันที
“ที่ของพี่ตูมๆ ไม่จับหรอก” พี่ฟ้าพูดปนหัวเราะกับเจ้าโซ่ที่ติดอกแบนๆ ของผมน่าดู
“อาบีมไปก่อนนะครับ น้องเฟิร์น เอาไว้อาพาน้องมาเล่นด้วยใหม่น่ะครับ”
“น้องน่ากลัวแต่เฟิร์นก็ชอบน้องน่ะอาบีม” เฟิร์นกระซิบข้างหูผม
“เอาน่ะน้องฟันกำลังจะขึ้นน่ะ เลยอยากขยำอะไรสักอย่าง “พี่ฟ้าบอกลูกสาว ผมก็คิดว่าน่าจะฟันกำลังขึ้น เห็นโผ่มานิดๆ แล้วด้วย ตอนนี้ก็ทานอาหารบดอยู่ และผมก็รีบกระเตงลูกออกมาอย่างรวดเร็ว เกรงใจคนที่รอ
******
Part’ s เฮียธี พี่ชายคนโตของพระเอก แต่ยังไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังรอน้องสะใภ้อยู่ (ยังไม่รู้ตัวอีกาๆ) ธีกำลังนั่งให้แฟนสาวที่คบหากันมาเกือบแปดปี กำลังป้อนขนมกันอยู่ ธีเขาเหมือนป๊าของเขา รักใครก็รักคนเดียว ไม่ว่อกแว่กและให้เกียรติคนที่ตัวเองคบหาอยู่ ถ้าเลิกกันแล้วจะมีแฟนใหม่ก็ไม่มีใครว่า แต่ว่าคู่ของเขานี้รักและเข้าใจจึงอยู่ด้วยกันนานมาก ธีคบกับแฟนสาวตั้งแต่เธอเรียนเภสัชกรปีหนึ่ง พบรักกันบนรถไฟฟ้าเพราะว่าวันนั้นรถของธีเสีย และเขาก็รีบไปสอบเลยต้องจอดรถทิ้งไว้และขึ้นรถไฟฟ้าไปแทน และนั้นทำให้เขาได้คนที่น่ารักมาอยู่ข้างๆ จนถึงทุกวันนี้
“เฮียว่าอันนี้สวยไหมอ่ะ”
“แล้วแต่เมียเฮียเลยครับ อันไหนเมียชอบเฮียก็ชอบเพราะว่าเฮียเคารพการตัดสินใจเมียเฮีย และไม่คัดค้านการตัดสินใจของเมียด้วย” ธีพูด
“เฮียอ่ะ พูดแบบนี้ ไม่กล้าไปรักคนอื่นเลยน่ะ”
“ก็ดีแล้วไง ถ้าเมียตัดสินใจไปรักคนอืนอันนี้เฮียจะค้านละครับ” ธีพูดหยอกคนรักในรถจนกระทั่ง เขาเห็นบีมหอบกระเป๋าและเด็กน้อยที่หนีบเข้าเอวมาด้วย เขาจึงรีบลงจากรถก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้บีม ธียืนมองเด็กน้อยตัวขาวๆ ที่หนีบเอวบีมมาด้วยความสงสัย ทำไมพอเพ้งมองใกล้ๆ เขาก็ยิ่งเห็นว่าใบหน้าเด็กน้อยนั้นดูคุ้นเคย จะว่าเหมือนอากันตภณเหรอ ไม่น่าจะใช่น่ะแต่นี่มันลูกของน้องบีมเขานิแต่แม่น้องน่ะใครก็ไม่ได้ถามอีก
“สวัสดีครับก่อนซิลูกโซ่ “บีมบอกให้ลูกชายเขาสวัสดีครับ ธีเป็นคนชอบเด็กเขาอยากมีลูกทันทีที่แต่งงาน พอเขาเห็นเด็กน่ารักตาหวานขนาดนี้ เขาจึงยื่นใบหน้าหล่อๆ ของเขาเข้าไปใกล้แต่ผลที่ได้คือ
“โอ๊ยย!!” ธีร้องเสียงหลงทันที เพราะว่าเด็กน้อยบีบปลายจมูกโด่งรั้นของเขาทันควันเช่นกัน
“ลูกโซ่!!!” บีมรีบห้ามปรามลูกชายตัวแสบพร้อมกับพยายามจับมือลูกโซ่ให้ปล่อยปลายจมูกโด่งๆ นั้นให้เป็นอิสระ และทันทีที่เด็กน้อยปล่อยจมูกของธีเป็นอิสระ เขาก็รีบถอยหลังออกและหันมาจับและสำรวจปลายจมูกตัวเอง คนที่เปิดกระจกมองอยู่คือแฟนสาวของเขา
“พี่ธี ผมขอโทษครับ “บีมรีบกล่าวขอโทษธีแทนเจ้าลูกโซ่ทันที ลูกหนอลูกจะทำให้มี้ตกงานน่ะลูกโซ่ ไปทำลูกชายคนโตท่านประธานใหญ่ทำไมลูก
“พี่ธี เป็นอะไรไปน่ะ” มิวแฟนสาวรีบถามแฟนหนุ่มทันที
“เด็กบีบจมูกพี่ ดุน่ะเนี๊ยะ ตัวแค่เนี๊ยะ!” ธีหันไปบอกแฟนสาว ที่นั่งมองเขาและยังขำเขาอีก ส่วนบีมก็ยืนมองด้วยสายตาที่รู้สึกผิดแทนลูกชายจริงๆ
“มองหน้าก็ไม่ได้เหรอครับ ลูกชายบีมน่ะครับ” พี่ธีถามบีมก่อนจะหันมาช่วยหยิบกระเป๋าใส่ไว้ในรถ พร้อมกับสายตาเด็กน้อยที่จับจ้องที่เขาอย่างไม่วางตา
“แสดงว่าน้องเขาไม่ชอบจมูกโด่งๆ ของพี่แน่ๆ เลย เฮียธี “แฟนสาวรีบแซวแฟนหนุ่มทันที และธีก็รอให้บีมเข้าไปนั่งในรถซะก่อน เพื่อจะได้ปิดประตูให้ แอบจับปลายจมูกตัวเองอีกครั้งเมื่อกี้น่าจะเรียกว่าหยิกดีกว่าจับน่ะ เพราะว่ามันเจ็บมาก ธีคิดในใจ ก่อนจะเข้ามานั่งทำหน้าที่คนขับรถและปรับกระจกมองตัวแสบที่นั่งอยู่บนตักของบีม มองไปรอบรถเก๋งคันหรู ราวกับกำลังสำรวจโลกกว้าง สายตาที่มองเหมือนอยากจะหาอะไรทำ ก่อนที่ธีจะออกรถ เด็กน้อยก็หันไปเห็นฟิกเกอร์ของธีที่เขาไปซื้อมาสะสมไว้ ราคาตอนนั้นก็เกือบสองหมื่นบาทต่อชิ้น เพราะว่าทำได้หน้าตาเหมือนตัวแสดงในเรื่องซูเปอร์ฮีโร่ไม่มีผิด แต่ว่าเด็กน้อยหันไปดึกปืดเดียวหลุดมาทันทีทั้งแผง ผมนี้ร้องไม่ออกครับ
“เว้ยย ลูกโซ่”
“มิว ตัวนั้นโทนี่สตาร์ค พี่ซื้อมาหนึ่งหมื่นเก้าพันบาท “ธีพูดกับมิวด้วยน้ำเสียงที่เบามาก และ
“ปึก “หัวไอรอนแมนกระเด็นมาตกที่ด้านหน้าของรถ มันมาแต่หัวด้วย
“มิวคิดว่า ฟิกเกอร์ไอรอนแมนเฮียน่ะ ถึงแก่ชีวิตไปแล้วแหละ” มิวพูดพร้อมกับคีบหัวฟิกเกอร์ที่กระเด็นมาขึ้นมาให้แฟนหนุ่มดู น้ำตาแทบไหลแต่เด็กน้อยก็มองตัวฟิกเกอร์ที่ไร้หัวก่อนจะโยนทิ้งไป
“พี่ธี ผมขอโทษครับพี่ธี “ส่วนบีมก็รีบขอโทษขอโพยทันทีกับผลงานลูกชายตัวแสบ
“ไม่เป็นไรครับบีม พี่ก็ว่าจะถอดออกและเก็บไว้บ้านอยู่แล้วแต่พี่ไม่คิดว่าน้องจะช่วยพี่ถอดแบบ เออ ออกมาเป็นชิ้นๆ แบบนี้ ” ธีหยิบเอาหัวฟิกเกอร์ไอรอนแมนมาดู ก่อนจะมองเด็กน้อยที่ทำหน้าตาอินโนเซ้นท์ ใสซื่อจนเฮียธีโกรธไม่ลง ก่อนจะตัดใจออกรถจะดีกว่า
“บีมนี้ลูกบีมเหรอคะ น่ารักมากเลยอ่ะ หล่อด้วยอ่ะ น้องอายุเท่าไหร่แล้วค่ะ” มิวหันไปถามบีม
“น้องอายุ 6 เดือนครับ แต่ว่าน้องคลอดก่อนกำหนด คลอดตอนอายุครรภ์ที่35สัปดาห์กับอีกหกวันนะครับ” บีมตอบ
“เป็นคุณพ่อที่ใส่ใจมากจริงๆ ค่ะ “แฟนสาวของธีพูดด้วยความประหลาดใจ ส่วนบีมก็มองแฟนสาวของธี
“คือว่าปกติ คนที่เป็นพ่อมาซื้อยาน่ะ ลูกเกิดเมื่อไหร่ยังไม่รู้เลยจำไม่ได้แต่นี่จำได้แม้กระทั่งอายุครรภ์ก่อนจะคลอดเลยอ่ะ เก่งมากเลยบีม” มิวกล่าวชมบีมทันที
“ผม เออ ผม” บีมก็ยิ้มเจือนให้แทนคำขอบคุณ
“น้องน่ารักอ่ะเฮีย” แฟนสาวหันมาอ่อนธีกำลังขับรถออกมาได้สักระยะ
“อยากได้เหรอ นั้นลูกเขาน่ะ ถ้าอยากได้ต้องไปทำเอา”
“อยากได้และอยากได้แบบนี้ด้วยอ่ะ น่ารักแบบนี้อ่ะเฮีย “แฟนสาวของธีพูดก่อนจะหันมามองเด็กน้อยที่นั่งมือไม่สุขตลอด ยุกยิกกับบีมไปด้วยจนบีมต้องจับมือให้อยู่นิ่งๆ และทันทีที่แฟนสาวขอบธีหันมามองเต็ม เขากลับเห็นบางสิ่งที่แปลกและประหลาดใจ จนต้องหันมามองแฟนหนุ่มที่ขับรถอยู่ สลับไปมา จนแฟนหนุ่มหันมาสะกิดแฟนสาวตัวเอง
มีต่อด้านล่างค่ะ
EP.10 ลุงธีเจอหลานโซ่แล้ว P2
[/color][/size]
“เป็นอะไรน่ะมิว”
“เฮีย หนูคิดมากไปไหมอ่ะ หน้าตาเด็กน้อยน่ะ มีส่วนคล้ายเฮียอ่ะ”
“เฮ้ย เฮียมีหนูคนเดียว ไม่เหมือนไอ้ น้องคนเล็กเฮียนี่”
“หนูเห็นอ่ะเฮีย ดูที่คิ้วดิ หนาเหมือนเฮียเลย “แฟนสาวบอกกับแฟนหนุ่ม ทำให้เขาต้องดึงกระจกมามองคิ้วตัวเองระหว่างรอติดไฟแดง เออคิ้วเขาหน้าจริงแต่ไม่ได้หนาอยู่คนเดียวน่ะ หนาทั้งบ้าน จนถึงป๊าของเขาด้วย
“เฮีย ดูจมูกดิ โด่งเหมือนเฮียเลย แต่ว่าพ่อน้อง น้องบีมน่ะเขาจมูกก็โด่งน่ะ แต่ไม่โด่งรั้นเหมือนน้องเลยน่ะ คือโด่งแบบสวยๆ อ่ะ ของน้องบีมน่ะ หรือว่าแม่ของลูกเขาโด่งก็ไม่รู้น่ะเฮีย “แฟนสาวพูดทำให้แฟนหนุ่มมองจมูกตัวเองก่อนจะหันไปมองเด็กน้อย
“เฮีย!!”
“อะไรอีกล่ะหนู! “เฮียมักจะแทนการเรียกแฟนสาวว่าหนู
“ตาอ่ะ เหมือนเฮียน่ะ โตแต่ว่าหางตาชี้ขึ้นนิดๆ”
“ตาแบบนี้ตาเอาเรื่อง อาม่าพี่บอกไว้ ตาไอ้ตัวแสบน้องชายเฮียไง ไอ้ตี๋น้อยอ่ะ ”คนที่ธีพูดถึงคือเธียรวิชย์
“และผมน้องเขาก็หนาเหมือนเฮียเลยอ่ะ”
“เออ ที่หนูพูดมานี้จะให้เขาเป็นลูกเฮียให้ได้ใช่ไหมครับ จะให้ขอน้องเขาไปอยู่กับเฮียเลยไหม ในฐานะที่เกิดมาก๊อบปี้ความหล่อเฮียน่ะ”
“ไม่ใช่ หนูแค่แปลกใจ ทำไมเหมือนกันขนาดนี้ เหมือนแบบนี้มันคนในครอบครัวเอียแล้ว “แฟนสาวของธีหันมาบอกธี ก่อนจะหันไปมองเด็กน้อยอีกที ระหว่างที่บีมกำลังโทรหาเพื่อนให้ลงมารับ เพราะเพื่อนๆ มาหาที่คอนโดกันหมดแล้ว ธีและแฟนก็หันไปมองเด็กน้อยเป็นระยะ ธีก็เห็นเหมือนที่แฟนสาวเห็นเหมือนกันน่ะ
“หูก็กางด้วยน่ะเฮีย” แฟนสาวพูดและสะกิดธี ทำให้แฟนหนุ่มปรับกระจกมองอีกครั้ง
“จริงด้วย “ธีพูดขึ้น จังหวะที่บีมหันมามองพอดี บีมทำหน้าสงสัยทันทีเช่นกัน
“อ้อน้องน่ารักนะคะ”
“พี่เขาบอกว่าน้องโตขึ้นน่าจะหล่อเหมือนพี่แน่นอนน่ะครับ แฟนพี่คอนเฟิร์ม” ธีรีบบอกบีมทันที บีมถึงกลับต้องก้มลงน้องเจ้าลูกโซ่ นอกจากจะไม่ค่อยเหมือนมี้แล้วยังไปเหมือนคนอื่นอีกเหรอ มันยังไงกันว่ะ บีมแอบคิดในใจ
“แหวะ! ใครพูดแบบนั้นล่ะเฮีย หนูไม่ได้พูดว่าน้องจะหล่อเหมือนเฮียแต่หนูบอกว่าน้องน่ะน่าจะหล่อกว่าเฮีย” แฟนสาวของธีพูด
“อ้าวทิ้งกันซะงั้นน่ะหนู หนูมากับเฮีย อย่าทิ้งเฮียแบบนี้ซิ “ธีรีบหันมาบอกแฟนสาวทันที
“พี่ครับเลี้ยวซอยข้างหน้าครับ “บีมลืมชี้ว่าต้องเหลียวแล้ว
“เอี้ยด!!!!” เสียงรถเบรก ธีที่เหยียบเบรกกะทันหัน โชคดีที่ไม่มีรถตามมาในระยะประชิด และบีมก็รีบคว้าลูกมากอดแนบอกไว้ได้ทันโดยไม่หวงตัวเอง มันยิ่งทำให้แฟนสาวของธี หันมามองด้วยความแปลกใจอีกครั้ง พฤติกรรมของบีมมันไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นแค่พ่อแต่เหมือนกับเขาเป็นแม่ซะมากกว่า
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ พี่ขอโทษทีนะครับ บีม” ธีรีบกล่าวขอโทษบีมทันที
“ไม่เป็นไรครับ ผมต่างหากที่ไม่บอกพี่ธีล่วงหน้านะครับ ผมขอโทษครับ” บีมพูดอย่างรู้สึกผิดและรถเก๋งคันหรูก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่ด้านหน้าคอนโด ธีเลือกที่จะไปจอดที่ร่มๆ ให้บีม จังหวะนั้นมะนาวเดินลงมาพอดี เธอสวมชุดยูนิฟอร์มทำงาน เดินตรงมาที่รถที่จอดอยู่
“พี่ธีนี้ใช่แม่เด็กไหมอ่ะ แต่ว่าไม่มีส่วนไหนที่จะบอกว่าใช่เลยอ่ะ “แฟนสาวของธีพูด ก่อนจะลดกระจกลง
“สวัสดีค่ะ” มะนาวกล่าวทักทายแต่ตาน่ะไม่ได้มองมิวสักเท่าไหร่ มองแต่แฟนหนุ่มของเธอ
“สวัสดีค่ะ แม่น้องลูกโซ่เหรอคะ” มิวเอ่ยถามมะนาวทันที
“ห๊ะ!” มะนาวทำสีหน้าตกใจ ก่อนจะตอบไปว่า “ไม่ใช่แม่ค่ะ ยังไม่มีผัวค่ะ” มะนาวรีบตอบทันที
“อ้าวเหรอ ยังไม่มีผัว เฮอะๆ ตรงไปไหมอ่ะเฮีย น้องเขาอ่ะ เฮอๆ” มิวแฟนสาวของธีทวนที่มะนาวพูดก่อนจะยิ้มแหยๆ ไปให้คนข้าง ว่าน้องเขาบอกเฮียอ่ะ มะนาวที่ส่งสายตาที่พรุ้งพริ้งไปให้ธี ส่วนธีรีบสั่นศีรษะบอกให้แฟนสาวรู้ว่าเขา ไม่เอาแบบนี้ (เขาชอบสาวผอมบางตัวเล็ก)
“ช่วยเพื่อนถือของก่อนนะคะ พี่ชายหล่อเนอะ “มะนาวถามแฟนของธีและชี้นิ้วไปที่ธี มิวหันมายิ้มให้แฟนหนุ่ม พี่ชายอืมม แฟนหนุ่มแถมเข้าใจว่าพี่ชายอีกต่างหาก เธอก็ยิ้มแหยๆ มะนาวรีบเข้าไปรับของจากบีมทันที
“ขอบคุณนะครับพี่ธี ขอบคุณนะครับพี่มิว” บีมรีบกล่าวขอบคุณทั้งคู่เป็นการใหญ่ ส่วนเด็กน้อยที่คลานอยู่บนเบาะ จับนั้นล้วงนี้
“ลูกโซ่ ไปได้แล้วลูก “บีมเรียกลูกชายแต่ว่าโซ่แค่หันมามองแต่ไม่ยอมไปจากรถ (คุณลุงที่ยังไม่รู้ตัว)
“โซ่ ไปได้แล้ว” บีมเรียกลูกชายอีกครั้งแต่ก็ไม่ยอมไปอยู่ดี แถมสะบัดแขนจากบีมออกไม่อยากลงจากรถซะงั้น
“ไปเถอะลูกโซ่” บีมดึงลูกชายที่ดึงรั้งเบาะคนขับด้านหลังธีไว้แน่น
“ไม่ธรรมดาน่ะลูก ร้องอยากได้รถหรูตั้งแต่ยังเดินไม่ได้เลย คันนี้ลุงพึ่งจะถอยมาจากโชว์รูมเลยลูก สิบล้านต้นๆ เอง” ธีพูดหันบอกเด็กน้อย บีมรีบหันมายิ้มไม่แพงเลย แพงมาก มี้จะทำงานสักกี่สิบปีล่ะลูกโซ่ ขึ้นไปเล่นรถของเล่นบนห้องโน้น บีมแอบคิดในใจ เด็กน้อยก็ยังไม่ยอมยังหันไปปีนป่ายจนขึ้นที่กล่องใส่ของระหว่างคนขับจนได้ เด็กน้อยหันหน้าไปมองธีพร้อมกับเม้มปากแน่น และพยายามจะจับจมูกของลุงธีอีกครั้ง แน่นอนเขาเพิ่งจะโดนไปรีบเอามือกุมปลายจมูกตัวเองเอาไว้ก่อน
“ฮันแน่! คิดว่าจะได้ทำแบบเดิมเหรอ มุขมันเก่าแล้ว” ธีชี้นิ้ว
“โอ๊ยย!!!” ใช่มุขมันเก่าหลานเลยดึงหูลุงที่กางแทนลุงก็ร้องเสียงหลงไปทันที ” เฮีย!!!” มิวแฟนสาวร้องเสียงหลงเพราะไม่คิดว่าเด็กน้อยจะกล้าดึงหูเฮียธี
“พี่ธี!!” บีมรีบพยายามดึงเจ้าลูกโซ่ ไปทำเขาทำไมลูกโซ่ ส่วนลุงธีเองก็ไม่กล้าขัดขืนดึงหูกลับเพราะเกรงว่าจะเหลือหูไว้แค่ข้างเดียว มีสองหูจะดีกว่าธีคิดในใจ เลยต้องรอให้เด็กน้อยปล่อยเอง เจ็บแต่ต้องไม่ร้องอายเด็กมันครับ และหูที่กางนี้คือเอกลักษณ์ประจำบ้านของเขาเลย ท่านชายหูกางที่เพื่อนๆ ของเขาตั้งให้ แถมกางทั้งบ้านอีกด้วย
“ลูกโซ่!! ปล่อยหูลุงเดี๋ยวนี้น่ะ ไม่งั้นมี้จะตีแล้วน่ะ!!” และนี้ก็ทำให้ทั้งคู่หันมามองบีมกันหมดเพราะว่าเขาแทนตัวเองว่ามี้ และนั้นเด็กน้อยถึงได้ยอมปล่อย แถมทำหน้าเสียใจที่โดนดุอีกต่างหาก และบีมก็ดึงเจ้าลูกโซ่ถอยออกไปจนได้
“บีม บีม ไอ้บีม “มะนาวเห็นว่าทั้งธีและมิวที่อ้าปากหวอเพราะว่ากำลังตกใจที่ได้ยินบีมแทนตัวเองว่ามี้ มะนาวเลยต้องสะกิดเรียกเพื่อนทันที และมะนาวคงเดาได้ว่าทั้งคู่นั้นกำลังคิดอะไรอยู่ (เป็นใครก็คิดเรียกมี้ขนาดนั้น) มะนาวคิดในใจ
“บีมออกมาเถอะ “มะนาวกัดฟันเรียกเพื่อนทันทีและบีมที่พยายามลากเจ้าลูกโซ่ออกไปอย่างทุลักทุเล
“นิกเนมนะคะ มี้ น่ารักดีเนอะ เฮอะๆ “มะนาวรีบแก้ตัวแทนเพื่อนรัก ก่อนจะรีบโบกมือลาและหันไปช่วยเพื่อนรักถือของ เพราะมี้บีมกำลังวุ่นวายอุ้มเจ้าลูกโซ่ จากอาการคือไม่อยากลงจากรถคันหรูของคุณลุงเลยว่างั้น และบีมก็ต้องแบกเจ้าลูกโซ่ขึ้นบ่าแทนและพากันเข้าไปในคอนโดทันที ทิ้งไว้ซึ่งความงงให้กับ คู่รักเป็นอย่างยิ่ง
“เฮีย เฮียได้ยินเหมือนหนูไหมอ่ะ เขาแทนตัวเองว่ามี้กับลูกอ่ะ”
“ได้ยินครับ น่ารักเนอะ!” เฮียธีพูดกับแฟนสาว พร้อมกับทำน้ำเสียงล้อเลียนเพื่อนของบีมด้วย
“ก็น้องคนที่อวบๆ ระยะสุดท้ายนั้นน่ะเขาทำให้พี่ดูอ่ะ และเขาก็บอกว่านิกเนม คงรู้กันแค่เพื่อนๆ น่ะมิว” ธีบอกกับแฟนสาวทันที ก่อนจะดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาด
“ไปกันเถอะเพราะว่าถ้าไปช้า ม๊าพี่บ่นแน่ๆ เพราะม๊าพี่ซีเรียสเรื่องทานอาหารไม่ตรงเวลามิว” ธีหันมาบอกแฟนก่อนจะรีบขับรถออกไปทันที และเขาต้องแวะไปเอาของนั้นคือการ์ดแต่งงานที่สั่งพิมพ์ไว้แล้วเพื่อเอามาตรวจเช็กรายชื่อแขกที่เขาเลือกเชิญมาในงานสำคัญของเขาทั้งคู่
*****
Part’ s เธียรวิชย์ เขาใช้เวลาเดินทางโคตรยาวนานเลย ยาวนานคือรอต่อเครื่องนี้แหละ ทำให้เธียนวิชย์มาถึงเกือบบ่ายสามโมง เธียรวิชย์โทรไปบอกเฮียธันพี่ชายคนที่สามให้มารับหน่อย เพราะเฮียธีไปรับแฟน ส่วนเฮียธาม คนนี้สาวแตกเวลาอยู่นอกบ้าน และด่าเธียรไฟแล๊ป เธียรเลยเลือกพี่ชายคนที่สามจะดีกว่า (เธียรคิดในใจว่าเขาควรเรียกเฮียธามว่าอาเจ๊ซะมากกว่า)
“ไงครับคุณชายเธียรวิชย์ “เสียงทักทายจากพี่ชายคนที่สาม มองน้องชายที่เดินเหมือนคนไม่ได้หลับไม่ได้นอน พร้อมลากกระเป๋าหลุยส์ราคาแสนแพงมาด้วย
“มึงโทรหาเฮียทำไมว่ะ และทำไมไม่โทรไปหาน้องแพรวาล่ะ น้องเขาจะได้จัดขบวนขันหมากมารับมึงกลับบ้าน เธียรวิชย์แค่หันไปมองหน้าพี่ชาย ก่อนจะยักไหล่ว่าไม่มีอารมณ์โต้คารมด้วย และพยักพเยิดให้เปิดหลังรถเพื่อนำกระเป๋าเดินทางใส่ลงไป
“น่าจะให้คนขับรถเอารถโรงเรียนมารีบมึงไอ้เธียร รถกูป๊าเพิ่งซื้อให้ “ธีนหันมาเอ็ดน้องชายตัวดีทันที
“ก็ให้เป็นรอยสักหน่อย และไปงอแงให้ป๊าซื้อคันใหม่ดิเฮีย” เธียรวิชย์พูดอย่างคนหัวเสีย
“ไปกินรังแตนที่ไหนมามึง” ธันเดินมาถามน้องชายคนเล็ก เพราะว่าปกติหยอกแรงๆไม่โกรธแต่นี้โกรธหรืองอนเลยน่ะ
“เฮียธีอะดิ รู้ไหมว่าอีคอนโนมี่คลาสที่ผมนั่งมาน่ะ ผมต้องเจออะไรบ้าง” เธียรวิชย์หันมาพูดกับพี่ชายคนที่สองทันที ก่อนจะยกกระเป๋าขึ้นรถเก๋งคันหรูไป เสื้อผ้าไม่เยอะหรอก ที่เหลือเก็บไว้ที่นั่นเพื่อนกลับไปอีก
“เจออะไรวะ แอร์สวยๆ หรือเปล่าว่ะ”
“เจอเด็กร้องไห้ทั้งคืน แถมนั่งข้างผมด้วย กรีดร้องจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน และมันทำให้ผมหลอนตลอดการเดินทางเฮีย “เธียรวิชย์พูดก่อนจะปิดลงและเดินอ้อมไปนั่งข้างคนขับทันที ส่วนธันก็ยักไหล่ให้น้องชายก่อนจะตามเข้าไปนั่ง ธันยกข้อมือที่คาดนาฬิกาสุดหรูเอาไว้ ขึ้นมาดู นาฬิกาโรเล็กซ์ที่ป๊าซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดและได้กันคนละเรือนแถมรุ่นอัลลิมิเต็ดซะด้วย
“ม๊าบอกว่าอาม่าจะไปทานข้าวด้วยที่บ้าน”
“อืมม” เธียรวิชย์แค่พยักหน้าตอบแค่นั้น
“ทำหน้าตาเหมือนไม่ได้นอนเลยว่ะ ไปทำอะไรก่อนมาว่ะ”
“ไม่ได้ทำอะไรเฮีย ที่ไม่ได้นอนก็เพราะว่าฝันบ้าฝันบออะไรก็ไม่รู้ ฝันเห็นเด็ก “เธียรวิชย์หันมาบอกพี่ชายคนที่สาม ธันถึงกับหันมามองน้องชายก่อนจะกลั้นหัวเราะ
“กูว่ามึงไปทำใครท้องไว้แน่ๆ มึงโดนป๊าด่าแน่ๆ ฮาๆ”
“เฮีย!! สมน้ำหน้ารอเลยเหรอ” เธียรวิชย์หันมาชำเลืองตามองพี่ชาย
“เฮีย เจออากันมั้งไหม”
“อากันเหรอ เจอวันนี้อ่ะ แต่ที่ผ่านมาไม่เจอเลยว่ะ เหมือนอากันจะยุ่งๆ ว่ะ ถามทำไมว่ะ”
“แพรวาบอกผมว่า ที่มหาวิทยาลัยของอากันน่ะ เขาพูดกันว่า อากันไปทำนักศึกษาท้อง เพราะว่าเด็กคนนี้มาคลุกอยู่กับอากันตลอดที่มหา’ลัยน่ะ และนี่น้องเขาคงจะคลอดลูกแล้วมั้ง” เธียรวิชย์เอ่ยถามพี่ชายทันที ธันถึงกับต้องทำท่าคิด
“อ้อ รู้แล้วมีคนโทรมาบอกป๊าเราว่ะ แต่มึงอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกอาม่านะ”
“ทำไมอะเฮีย อาม่าจะเสียใจเหรอ”
“อาม่าน่ะจะเสียใจ อาม่าจะหัวเราะจนฟันปลอมกระเด็นซิไม่ว่า ใครจะไปเชื่อว่าอากันทำใครท้องว่ะเธียร”
“ทำไมอ่ะ” เธียรวิชย์หันมาถามพี่ชายทันที
“อากันน่ะเคยแต่งงานกับผู้หญิงที่อาก๋งหามาให้และอยู่ด้วยกันตั้งห้าปี จนอาก๋งเสียไปนั่นแหละอากันก็ถึงได้ขอหย่ากับภรรยาของเขาอ่ะ อาหลินน่ะ ”
“ผมรู้ว่าหย่ากันแต่ไม่รู้เหตุผลว่ะเฮีย”
“เหตุผลที่งี่เง่าที่สุด คือ เขาตรวจเจอว่าอากันน่ะ เป็นหมัน แถมทำทุกวิถีทางแล้วก็ไม่ท้องซะที อาหลินเลยยอมถอยดีกว่าไง”
“เฮ้ย!!! จริงดิเฮีย”
“ก็จริงอะดิ ฉะนั้น พอมีคนเอาเรื่องนี้มาบอกป๊า ป๊าโบกมือเลย ใครจะไปเชื่อและเด็กนั้นอาจจะท้องไม่มีพอและให้อากันรับผิดชอบก็ได้มั้ง”
“แล้วเด็กคนนั้นคือใครอ่ะเฮีย”
“ไม่รู้ว่ะ เขาไม่ได้บอกละเอียดซะด้วยว่ะ และทางเราก็ไม่ได้สนใจเลย เงียบไปเองมั้ง”
“เออ แล้วแพรวาเขายังแอบไปหามึงที่นั่นไหมว่ะ เธียร”
“ไปมา แต่ว่าพ่อแม่ของเขาตามไปหาที่นั่นพอดี ผมเลยโชคดีไปเฮีย”
“แพรวานี้ มันเอาแต่ใจไม่เลิกนี่มันยี่สิบกว่าแล้วนะมึง”
“ทำไมแพรวามันไม่ร้องอยากได้เฮียบ้างว่ะ” เธียรวิชย์หันมาถามพี่ชายตัวเอง คนพี่ถึงกับหันขวับมามองและโบกมือปฏิเสธ ใช่พี่ๆ เขารู้เห็นพฤติกรรมของแพรวามาตั้งแต่เด็ก และเธอทำให้ทุกคนแสนจะสยองพองขน แถมยิ่งกับเฮียธาม พี่ชายคนสองของเขานี้ จิกกัดเรียกว่า อยู่มุมเดียวกันไม่ได้ เพราะเฮียธามเป็นแรงทั้งต่อหน้าและลับหลัง แต่ยกเว้นต่อหน้าป๊า (เพราะว่าเฮียธามแกไม่แมนครับผม)
“ป๊าบอกว่ามึงต้องเริ่มงานเลยน่ะไอ้เธียร โรงเรียนสาขาXXXXX ป๊าให้มึงไปดูแล เพราะว่าพวกกูน่ะ เหนื่อยนะโว้ย มาช่วยกันเลย” ธันหันมาบอกน้องชายคนเล็ก
“เมื่อไหร่ล่ะ “เธียรวิชย์ถามพี่ชายคนที่สองกลับ
“ก็วันจันทร์นี้เลยว่ะเธียร”
“อยากพักสักเดือนไมได้เหรอ”
“ไม่ได้ พวกกูงานล้นมือ”
“ไม่คุยแล้วน่ะเฮีย นอนแล้วเซ้ง ถึงบ้านปลุกด้วย” เธียรวิชย์ปรับเบาะให้เอนนอนทันที
“อ้าวไอ้นี่ มุขง่วงนอนเมื่อไหร่จะเลิกว่ะ กูเป็นเฮียน่ะไม่ใช่คนขับรถส่วนบุคคล” ตกลงนี้มาถึงให้ทำงานเลยเหรอ เธียรวิชย์คิดในใจ เขาควรจะชวนเพื่อนๆ ไปที่ผับเดิมไหม เพื่อว่าจะเจอนายคนนั้น แต่ถ้าเจอผมจะทำหน้ายังไงวะ ผมเองไม่อยากจะคิดเลย และทั้งหมดนี้เพื่อนผมเองที่ผิด และวันนั้นผมเองก็เพิ่งโดนป๊าด่าไปชุดใหญ่ เขาเลยเสียใจน้อยใจป๊าและหงุดหงิดอีกที่ต้องกระเตงแพรวาไปด้วยคืนนั้น แถมผมยังโดนของดีจากเพื่อนรักที่ใส่ไว้ในแก้วแชมเปญอีกพอได้สติผมก็พบว่าผมมีอะไรกับใครก็ไม่รู้ และด้วยความตกใจผมเลยชิ้งหนีและยังต้องบินกลับไปเรียนต่ออีก น้องเขาคงจะให้อภัยผมน่ะ ถ้าผมไปสารภาพความผิด(เขาคงให้มึงหรอกครับไอ้เธียรวิชย์ครับ)
TBC.....
เป็นไงบ้างคะ หลานกับลุง(ที่ยังไม่รู้ว่าเป็นลุงหลานแท้ๆ) น่ารักเนอะ!!! ตอนหน้าเธียรวิชย์จะเจอกับกันต์ธีย์ เขาจะจำกันต์ธีย์ได้ไหม เรื่องในคืนนั้น ส่วนบีมน่ะจำหน้าเธียรวิชย์ไม่ได้แน่ แต่ถ้าเอาเจ้าลูกโซ่มาเทียบคงจำได้อยู่น่ะ และเธียรวิชย์จะเอะใจอะไรบ้างไหมถ้าได้เจอเจ้าลูกโซ๋