พิมพ์หน้านี้ - ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: nekozaa ที่ 03-10-2016 12:42:47

หัวข้อ: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 03-10-2016 12:42:47
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

:pig2:


✖✖✖✖✖✖✖✖
ขอเริ่มต้นใหม่ด้วยเรื่องใหม่นะคะ
ไม่มีคำแก้ตัวใดๆกับเรื่องเก่าที่แต่งไม่จบ T T
แต่จะทำให้ดีที่สุด เพราะเข้าใจนักอ่านที่อ่านเรื่องที่ชอบไม่จบเพราะนักเขียนไม่มาต่อปล่อยให้ค้าง
✖✖✖✖✖✖✖✖

นิยายเรื่องอื่นๆของเนโกะ
ผมชอบมองเป้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49854.msg3225803#msg3225803) (เรื่องสั้น/จบแล้ว)

ขอฝากฝังนิยายเรื่องนี้เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

♀เจ้าสาวมีดุ้น♂


   ปฐมบท (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55931.msg3484314#msg3484314)
   บทที่๑ มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55931.msg3484862#msg3484862)
   บทที่๒ รักจริงหวังเคลม (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55931.msg3485664#msg3485664)
   บทที่๓ เอะอะๆก็จะปล้ำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55931.msg3486575#msg3486575)
   บทที่๔ ริว vs โน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55931.msg3487804#msg3487804)
   บทที่๕ เสียตัว NC (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55931.msg3490108#msg3490108)
   บทที่๖ Will u marry me?(Y,you'll) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55931.msg3491810#msg3491810)
   บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55931.msg3496270#msg3496270)
   บทที่๘ ครั้งแรกเมาครั้งที่สองโดนยา NC (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55931.msg3503448#msg3503448)
   บทที่๙ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55931.msg3507426#msg3507426)
   บทที่๑๐ ทริปเที่ยวทริปฟิน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55931.msg3511791#msg3511791)
   บทที่๑๑ แกล้งรักNC (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55931.msg3513132#msg3513132)
   special : เมื่อฝ่ายรุกรวมหัวกัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55931.msg3515707#msg3515707)
   บทที่๑๒ แต่งงาน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55931.msg3517661#msg3517661)
   บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55931.msg3531304#msg3531304)


✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿

   เพิ่งเปิดกลุ่มค่ะ ติดตามข่าวสารและพูดคุยกันได้ที่นี่เลย FACEBOOK (https://m.facebook.com/groups/814090112027912?ref=bookmarks)และเพจเนโกะPAGE FACEBOOK (https://m.facebook.com/นิยายวาย-Nekozaa-330296670668378/?_rdr)
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖ปฐมบท✖[3/10/2016]
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 03-10-2016 13:21:36
   
ปฐมบท


เจ้าสาว  :L2:

(https://www.img.in.th/images/3a5cf2a8c4de662387a88c684b32b1ec.jpg)

♡Snow White♡

   

   ณ งานเลี้ยงสังสรรค์ของเหล่าดาราเซเลบทั้งหลายที่จัดขึ้นภายในบ้านของผู้กำกับชื่อดัง ฉลองวัยของตนที่อายุได้ 27 และยังเป็นงานฉลองที่ตนประสบความสำเร็จได้ในเวลาอันรวดเร็ว

   เสียงดนตรีบรรเลงเรื่อยๆเอื่อยๆคลอไปกับเสียงพูดคุยของเหล่าคนดัง ทุกคนมีความสุขที่ได้ออกงานและโชว์ของดีของงามที่ตนมี ยกเว้นเสียก็แต่เด็กน้อยหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูในชุดกระโปรงยาวคลุมเข่าสีฟ้าราวกับเจ้าหญิงตัวน้อยกำลังยืนมองพระจันทร์อยู่ที่ระเบียง ในหัวเจ้าตัวมีแต่ความเบื่อหน่ายและขัดใจ

   "หนูน้อย มายืนอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียวคะ"เด็กน้อยสะดุ้งตกใจเมื่อจู่ๆก็มีชายแปลกหน้าเข้ามาทักไม่ให้สุ้มให้เสียง

   "หนูเบื่อค่ะ"

   "อืม นี่มันงานสำหรับผู้ใหญ่นี่นะ ถ้าหนูจะเบื่อก็คงไม่แปลก ทำไมไม่ไปเล่นกับเด็กๆพวกนั้นละ"ชายหนุ่มเจ้าของงานยังคงอยู่เป็นเพื่อนคุยกับเด็กหญิงน่ารักตรงหน้า รู้สึกถูกตาต้องใจ ไม่ใช่ในทางชู้สาวหากเป็นแบบนั้นคงโดนจับเข้าคุกข้อหาพรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 10 ขวบ แต่ที่ถูกใจเด็กคนนี้คงเพราะออร่าในตัวเด็กนี่ หากเข้าวงการบันเทิงคงโด่งดังและประสบความสำเร็จมากล้น

   "หนูไม่อยากเล่นกับเด็กผู้หญิงค่ะ"เด็กน้อยมองไปที่กลุ่มเด็กผู้หญิงที่กำลังเล่นโต๊ะน้ำชา

   "หืม หนูชอบเล่นกับผู้ชายงั้นหรอ"ชายหนุ่มค่อนข้างแปลกใจกับท่าทีของเด็กตรงหน้า เขาเริ่มรู้สึกสนใจเด็กคนนี้เรื่อยๆ

   "หนูบอกไม่ได้"เด็กหญิงหลบตาที่ฉายแววสนใจของชายแปลกหน้า

   "ไม่เป็นไร แล้วหนูชื่ออะไรคะ ลูกเต้าเหล่าใครกัน"เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยทำท่าอึดอัดเขาก็ไม่อยากซักไซ้มากนัก รู้สึกอยากทำความรู้จักเด็กคนนี้มากกว่าเข้าไปในงานเพื่อตอบคำถามของคนนู้นคนนี้

   "สโนว์ค่ะ หนูเป็นลูกของคนที่สวยที่สุดในงาน"

   "ให้พี่เดามั้ย ต้องเป็นดาราหญิงชื่อดัง คุณเมรี"

   "ใช่ครับๆ พี่เก่งจังเลย"

   "ครับ?"ชายหนุ่มชะงักเมื่อเด็กหญิงตรงหน้าใช้หางเสียงผิดแผกไปจากเดิมในตอนแรก

   "แล้วพี่ชื่ออะไรคะ"เหมือนเด็กน้อยจะรู้ตัวเลยเปลี่ยนเรื่องไปเสียดื้อๆ

   "พี่ชื่อธนานนท์ เรียกพี่นนก็ได้ค่ะ"

   เด็กหญิงคุยกับชายหนุ่มท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่อง ทั้งสองคุยกันแทบลืมเวลา เด็กน้อยรู้สึกวางใจกับชายตรงหน้ามากขึ้น เขาเป็นกันเองและคุยดีเสมือนพี่ชายคนหนึ่ง

   "หนูอยากเป็นดาราเหมือนแม่มั้ยคะ"

   "หนูอยากเป็นแบบพี่ณเดชณ์มากกว่าค่ะ ทั้งหล่อ มีซิกแพกส์ พวกผู้หญิงที่โรงเรียนก็ชอบ"

  "ทำไมถึงอยากเป็นแบบณเดชณ์ล่ะคะ แบบญาญ่าไม่ดีกว่าหรอ สโนว์เป็นผู้หญิงนะคะ"นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เขาแปลกใจตั้งแต่ที่สนทนากับเด็กคนนี้มาตลอด เด็กหญิงตัวน้อยของเขามีนิสัยเหมือนเขาตอนยังเด็ก นิสัยแบบที่ผู้ชายเขาเป็นกัน ไม่เหมือนผู้ชายแค่หน้าตา การแต่งตัว น้ำเสียง

   "หนู...หนู"

   "เอาแบบนี้ดีกว่า สโนว์คิดซะว่าพี่เป็นถังขยะนะ มีเรื่องอะไรในใจก็ระบายออกมาแล้วทิ้งลงถังขยะซะ แล้วถังขยะจะปิดฝาไม่บอกใครแน่นอน เพราะคงไม่มีใครกล้าคุ้ยขยะ...ดีมั้ย"

   "ห้ามบอกใครจริงๆนะคะ"เด็กหญิงเข้าใจที่พี่ชายต้องการสื่อแต่ก็แอบลังเลเล็กน้อย อีกใจก็อยากระบายความอัดอั้นอีกใจก็กลัวความลับจะรั่วไหล

   "สัญญาค่ะ"อีกคนเอานิ้วก้อยยื่นมาเกี่ยวกับเด็กหญิงเป็นคำมั่น

   "ที่จริงผมเป็นเด็กผู้ชาย เหมือนพี่..."แล้วเด็กหญิงก็เลิกชายกระโปรงขึ้น ดึงกางเกงในสีขาวลงเผยให้เห็นหนอนน้อยที่นอนสงบอยู่ นนช็อคเล็กน้อยที่สิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่สิ่งที่เขาคิด จากเด็กหญิงกลายเป็นเด็กชายหน้าหวานสวย"พี่นนรังเกียจผมรึปล่า"

   "ไม่หรอกค่ะ พี่แค่ตกใจนิดหน่อย...แล้วทำไม..."

   "แม่อยากได้ลูกสาวครับแต่พอรู้ว่าผมเป็นเด็กผู้ชายก็เลยแอบไปคลอดที่อังกฤษ ผมเลยได้สัญชาติอังกฤษมา เรื่องนี้ที่ผมรู้พราะแม่เป็นคนบอกและแม่ก็เปลี่ยนให้ผมป็นแบบนี้ เป็นผู้หญิงตั้งแต่เด็กๆ ผมอยู่ที่อังกฤษจนกลับมาที่ไทยอาทิตย์ที่แล้วครับ ยังไม่มีใครรู้ว่าผมป็นลูกแม่เมรีเพราะผมขอตัวออกมาก่อนที่ใครจะมาทำความรู้จักกับแม่ ยกเว้นพี่ พี่รู้หมดทุกอย่าง อย่าบอกใครนะครับ"เด็กหญิง...เด็กชายตัวน้อยก้มหน้าก้มตา กลัวว่าพี่ชายที่ตนเพิ่งรู้จักจะรังเกียจตน นนยิ้มกับท่าทางแบบนั้นถึงคำพูดจะดูเป็นผู้ใหญ่แต่ก็อ่อนไหวอย่างเด็กน้อยคนหนึ่งแถมเป็นเด็กฉลาดมากเสียด้วย

   "แล้วสโนว์ชอบที่เป็นแบบนี้รึเปล่า"เมื่อเห็นว่าพี่ชายคนนี้ไม่มีทีท่าว่าจะรังเกียจแถมยังลูบผมสีน้ำตาลยาวของเขาก็โล่งท้อง

   "ผมอยากเป็นเด็กผู้ชายธรรมดา"

   "พี่ว่าถ้าสโนว์ลองบอกสิ่งที่สโนว์อยากเป็นกับแม่ พี่ว่าแม่น่าจะเข้าใจ"

   "ผมลองแล้ว แม่ยอมรับสิ่งที่ผมอยากเป็นแต่แม่ไม่มีความสุขผมอยากให้แม่มีความสุข ผมเลยยอมเป็นแบบนี้...ไม่เป็นไรครับ ถ้าแม่มีความสุขผมก็มีความสุข ขอบคุณครับที่ให้ผมทิ้งขยะที่อยู่ในใจ"

   "คุณธนานนท์คะอยู่นี่เอง ขวัญตามหาแทบแย่ ถึงเวลาแล้วนะคะคุณผู้กำกับหนุ่มไฟแรง"ไม่ทันที่นนจะพูดอะไรต่อพิธีกรก็ออกมาตามเขากลับเข้างาน

   "โอเคขวัญ...สโนว์พี่ไปก่อนนะคะ เราจะได้พบกันอีก แล้วก็เอานี่ให้แม่หนูนะ"

   นามบัตรถูกยื่นไปให้เด็กชายหน้าหวานตัวน้อยรับไว้ นนยีผมนุ่มอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินตามขวัญกลับเข้างานเพื่อกล่าวขอบคุณผู้สนับสนุน แขกเหรื่อ ต่างๆนานา
   
   หลังธนานนท์ไปสักพักแม่ของเด็กชายก็เดินหาเขาจนเจอ แอบโดนดุนิดหน่อยแต่พอยื่นนามบัตรไปให้ผู้หญิงที่สวยดุจนางฟ้าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ เมรีนิ่งเงียบทันทีและเอามือทาบอกอย่างตกใจ เธอมองนามบัตรสลับกับมองหน้าลูกตัวเองแล้วยิ้มกริ่มยินดี

   เช้าวันใหม่เมรีรีบตื่นมาบอกข่าวดีกับลูกรักของตัวเองหลังจากที่เมื่อคืนหลังจบงานแล้วกลับบ้านเธอก็กดเบอร์ไปหาเจ้าของนามบัตร ธนานนท์ผู้กำกับหนุ่มไฟแรงแซงทางโค้ง

   "สโนว์ ลูกกำลังจะได้เป็นดาราผู้โด่งดังเหมือนกับแม่แล้วนะ"

   "แล้วเรื่องที่หนู"...เป็นผู้ชาย

   "ไม่ต้องห่วงจ้ะ ตอนแรกธนานนท์จะให้ลูกเป็นดาราเด็กผู้ชายแต่แม่คุยให้แล้วว่าจะให้ลูกเป็นดาราเด็กผู้หญิง แม่จะพาลูกไปแปลงเพศ ดีมั้ยจ๊ะ"

   "ไม่เอา หนูจะเป็นสิ่งที่แม่อยากให้เป็นแต่ขออย่างเดียวนะคะ อย่าเปลี่ยนหนู"สโนว์น้ำตารื้นอย่างกลัวเกรง เด็กน้อยกอดตัวเองไว้เหมือนหวงแหนร่างกายนี้ เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขายังเป็นเขา

   "ไม่แปลงก็ไม่แปลงจ้ะ แม่ขอโทษนะ แม่มันเห็นแก่ตัว แค่ลูกยอมเป็นเด็กผู้หญิงให้แม่ก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว มานี่มาเจ้าหญิงน้อยของแม่"เมรีอ้าแขนตัวเองออกกว้างพลางยิ้มอ่อนให้ลูกน้อย เห็นดังนั้นสโนว์ก็เข้าไปกอดแม่เต็มรัก

   "แม่คะ หนูมีเรื่องจะขอแม่"สโนว์ผละออกมาจากอ้อมกอดอุ่นแล้วสบตาสวยของแม่ เด็กน้อยเม้มปาก ขมวดคิ้วอย่างคิดหนัก

   "ว่าไงจ้ะ"

   "หนูจะเป็นดาราหญิงให้แม่และหนูก็จะเป็นผู้ชายธรรมดา"เด็กน้อยกำเสื้อตัวเองแน่นเมื่อเห็นแม่ขมวดคิ้วมุ่น"ในจอหนูจะเป็นผู้หญิงค่ะแต่นอกจอหนูขอเป็นผู้ชาย หนูจะปลอมตัวไม่ให้ใครจับได้ ได้มั้ยคะ แล้วหนูจะไม่ขออะไรอีก"

   "แม่..."

   "นะคะแม่"ถึงแม้สโนว์จะพยายามเข้มแข็งแค่ไหนแต่เด็กก็ยังเป็นเด็ก เจ้าตัวน้อยปล่อยโฮออกมาเมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป

   "ก็ได้จ้ะ แม่รู้ว่าหนูเป็นเด็กฉลาด สโนว์ แม่รักลูกนะ"

   "ขอบคุณค่ะแม่ หนูรักแม่"เท่านั้นแหละ สิ่งที่อัดอั้นตันใจสโนว์ก็ทลายออกมาเหมือนยกภูเขาออกจากอก สองแม่ลูกกอดกันกลมจนกระทั่งเด็กชายน่ารักเหมือนเจ้าหญิงหลับลงไปด้วยความเพลีย

   เมรีค่อยๆผละออกมา จับเจ้าหญิงน้อยของเธอให้นอนหนุนหมอนดีๆ คลุมผ้าห่มให้เสร็จสับก็ต่อสายหาผู้กำกับทันที

   "ค่ะ สโนว์จะเป็นผู้หญิงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปแต่ในจอเท่านั้นนะคะ นอกจอสโนว์บอกว่าจะเป็นเด็กผู้ชาย เอาแบบนี้นะคะ สโนว์ที่เป็นดาราจะเป็นลูกของฉัน ส่วนสโนว์ที่เป็นลูกชายจะเป็นลูกบุณธรรม เพราะฉันบอกเพื่อนๆของฉันไปแล้วว่าฉันมีลูกสาว...ค่ะ ขอบคุณที่เข้าใจนะคะคุณธนานนท์"








☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

   Nekozaa :
      ขุ่นแม่ช่างเอาแต่ใจจนโรคจิต แต่ทุกอย่างล้วนมีเหตุผลของมัน (รึเปล่า)

      รู้สึกอยากลงตอนต่อไปแล้วแต่ยังแต่งไม่จบ (ฮา)
      จะมีใครอ่านน้องสโนว์มั้ยนา ยังไงก็ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ
      ติเตียนได้นะคะ หากมีคำผิดตรงไหนบอกกันได้นะคะ คอมเม้นต์ความเห็นว่านิยายมันเป็นยังไง ไม่ดีตรงไหนได้นะคะ จะพยายามปรับปรุง

   ปล.แอบสปรอยตอนหน้าน้องสโนว์จะแต่งงาน?
:pig4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖ปฐมบท✖[3/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-10-2016 13:50:28
พระเอกของสโนว์จะเป็นใครหนอ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖ปฐมบท✖[3/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 03-10-2016 16:24:04
เนื้อเรื่องน่าสนใจมากค่ะ น้องสโนว์จะปิดบังตัวเองได้นานแค่ไหน
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖ปฐมบท✖[3/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 03-10-2016 18:08:01
แปลกดีจ้า แอบตกใจคุณแม่
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑ มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 04-10-2016 10:29:17
   บทที่ ๑

มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก






   "งานแรกของสโนว์ โฆษณาน้ำหอม หนูไม่ต้องทำอะไรมากแค่เล่นเป็นเด็กที่ถือดอกไม้คู่กับเด็กผู้ชายอีกคนเดินตามหลังเจ้าสาว เดี๋ยวพี่จะอธิบายฉากต่อฉากอีกที ตอนนี้ไปแต่งสวยกับคุณแม่ก่อนนะคะ"

   "ค่ะ พี่นน"ผมตอบรับด้วยเสียงหวานใสแบบผู้หญิงอย่างชินชาแล้วเดินดุ่มๆไปหาผู้เป็นแม่ที่คุยกับคนโน้นคนนี้อย่างสนุกปาก

   "ไปจ้ะ ได้เวลาเป็นเจ้าสาวตัวน้อยแล้วนะ"แม่เดินจูงมือผมเข้าไปในห้องแต่งตัวอย่างอารมณ์ดี

   จะไม่ให้อารมณ์ดีได้ยังไงก็ในเมื่อความฝันอย่างที่สองของแม่เป็นจริงแล้วคือการที่ลูกของตัวเองเจริญตามรอยแม่ ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะครับ ผมชื่อสโนว์ อายุ 8 ขวบ ผมเป็นเด็กฉลาดและดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัว ซึ่งนั่นคือสิ่งที่คนอื่นคิดแต่เนื้อแท้แล้วผมก็แค่เด็กธรรมดาคนหนึ่งที่ชอบเตะบอล เล่นเกม คุยเรื่องแมนๆกับผู้ชายด้วยกัน ทำตัวบ้าๆบอๆ ดีที่เด็กอังกฤษไม่ซีเรียสเรื่องผมเป็นผู้หญิง(ปลอม) ผมเลยได้มีช่วงเวลาแบบเด็กผู้ชายอย่างเขาบ้าง พอย้ายมาอยู่ไทยผมก็กำลังจะได้เป็นผู้ชายเต็มตัวเสียทีแต่แค่นอกจอบันเทิงเท่านั้น

   ผมมีแม่ชื่อเมรี เป็นดาราชื่อดังของไทย แด๊ดผมชื่อจิม ไวท์ เป็นนักร้องที่อังกฤษ แม่พบรักกับแด๊ดที่อังกฤษระหว่างเดินแบบ แม่ที่เดินอยู่บนแคทวอล์คได้สบตากับแด๊ดที่นั่งอยู่ข้างล่าง เหมือนเป็นรักแรกพบ จากนั้นแด๊ดก็ตามจีบแม่จนแต่งงานกันและแม่ก็มีผมที่นั่น

   แต่งตัวทำผมเสร็จแม่ก็อุ้มผมให้ยืนอยู่บนเก้าอี้เพื่อให้ผมดูโฉมหน้าตัวเองในกระจกบานใหญ่ยาว เด็กหญิงผมยาวสีน้ำตาล นัยน์ตาสีเทาอ่อน คิ้วเรียวเข้ม จมูกโด่งสัน ปากรูปกระจับจิ้มลิ้มสีแดงธรรมชาติ ใบหน้าเรียวรีเล็ก ผิวพรรณขาวผ่องอย่างกับเจ้าหญิงสโนว์ไวท์สมชื่อ ใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่องคลุมเข่า ที่เอวมีผ้าคาดสีชมพูผูกเป็นโบว์ไว้ข้างหลัง และนี่คือเด็กหญิงในจออย่างผม

   "กรี๊ด น่ารักจังเลยค่ะ"ผมสะดุ้งตกใจเมื่อพี่ๆที่อยู่ในกองถ่ายเข้ามามะรุมมะตุมผม

   "ลูกคุณเมรีน่ารักน่าชังเหมือนตุ๊กตาเลย สวยเหมือนแม่ไม่มีผิดเพี้ยนเลยค่ะ"ทั้งแก้มทั้งผมทั้งจมูกทั้งมือถูกบรรดาผู้ใหญ่จับจูบลูบคลำ จนผมทำท่าเบะปากจะร้องไห้นั่นแหละทุกคนถึงจะหยุดฟัดผม ผู้ใหญ่น่ากลัว

   สถานที่ถ่ายทำก็คือโบสถ์ ที่นี่ถูกจัดให้เป็นงานแต่งที่เหมือนจะเรียบง่ายแต่ก็หรูไปในตัว ดอกไม้ที่เอามาจัดวางตามซุ้ม ตามเสาก็เป็นดอกไอริสตามคอนเซ็ปต์โฆษณาน้ำหอม ที่ผมได้ยินมาโฆษณาตัวนี้ใช้น้ำหอมที่สะกัดมาจากดอกไอริส แต่มันมีที่มามากกว่านั้น

   "แม่คะ หนูขอไปเดินเล่นแถวๆนี้ได้มั้ยคะ"

   "ได้สิจ้ะ แต่อย่าไปไกลมากนะ ระวังตัวด้วยล่ะ"แม่ยิ้มให้ผมก็ยิ้มรับอย่างดีใจแล้วเดินไปตรงนั้นทีตรงนี้ทีโดยพยายามไม่ให้เกะกะสตาฟ แอบโดนคุกคามทางสายตาด้วย บางคนก็เข้ามาเล่นกับผม พูดคุยด้วยแต่ก็ต้องรีบกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง

   ผมพยายามอย่างมากที่จะไม่ทำตัวทะโมนแบบเด็กผู้ชายจนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าซุ้มดอกไอริสที่โชยกลิ่นหอมออกมา ผมเข้าไปใกล้มันเพื่อสูดดม อา...หอมสดชื่น รู้สึกสบายใจขึ้นยามได้สูดดมมัน นี่สินะพลังของธรรมชาติ

   "ดอกไอริส ความหมายของมันตามตำนานกรีกคือความกล้าหาญแต่รู้อะไรมั้ยนอกจากนั้นคนสมัยนี้ยังนิยมใช้ดอกไอริสเพื่อแสดงว่าผู้ให้นั้น มีข่าวสารบางอย่างจากหัวใจที่อยากจะบอกให้ผู้รับได้ล่วงรู้ เช่นประโยคที่จะบอก ในภาษาดอกไม้คือ ฉันมีอะไรจะบอกเธอ โรแมนติกใช่มั้ยล่ะ แต่อีกนัยยะของภาษาดอกไม้ ก็คือ
1. ใช้ในการแอบบอกรักที่หลบซ่อน
2. ดอกไอริสนี้ ยังสามารถมอบให้ แก่คนรักเก่า เพื่อสื่อความว่าต้องการให้ ความรักนั้นปะทุเชื้อไฟขึ้นอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ ดอกไอริส ยังเป็น เครื่องหมายของความรักบริสุทธิ์อีกด้วย...ภาษาดอกไม้นี่มันน่าอัศจรรย์มากเลยเนอะ"เสียงเด็กผู้ชายดังขึ้นข้างๆผม ระหว่างที่เขาอธิบายผมก็มองไปที่ใบหน้าด้านข้างของเขาตลอด บอกเลยว่าหล่อ ถ้าโตขึ้นไปเป็นดารา นายแบบได้สบายเลย

   "สุดยอดไปเลยค่ะ"เมื่อเขาอธิบายจบและหันมาผมก็ยิ้มชื่นชมเขาจากใจจริง เขาดูนิ่งอึ้งไปแถมยังหน้าแดงลามไปถึงหู นี่ผมทำเขาโกรธรึเปล่า

   "เอ่อ เอ่อ...เอ่อ"เด็กผู้ชายที่สูงกว่าผมหน่อยนึงติดอ่างไปแล้ว ทำปากพะงาบๆจนผมเกือบหลุดหัวเราะออกมาให้ดังลั่น แต่ตอนนี้เป็นกุลสตรีอยู่ต้องพับเพียบไว

   "สวัสดีค่ะ หนูชื่อสโนว์ ไวท์ อายุเท่านี้"ผมไหว้เขาตามมารยาทไทยที่แม่สอนไว้ ไม่รู้หรอกว่าใครอายุเท่าไรยังไงแต่ไหว้ไว้ก่อน แล้วก็ชูนิ้วให้ครบ 8 นิ้ว เป็นการบอกอายุ

   "อ่า ผมชื่อริว อายุน้อยกว่าสโนว์ 1 ปี"อายุน้อยกว่าผมหรอกหรอ ดูท่าจะฉลาดกว่าผมอีกแหะ ดูจากตอนพูดถึงดอกไอริส เด็กคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ

   "อายุน้อยกว่าก็ต้องเรียกเราว่าพี่สโนว์สิ น้องริว"ที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้ก็คือหาลูกสมุน เป็นนิสัยที่แก้ไม่ได้ของผมตั้งแต่ยังอยู่อังกฤษนั่นแหละครับ แก่นเซี้ยวจนเป็นหัวโจกเลยแหละ จุ๊ๆ อย่าบอกแม่นะครับ

   "ผมคงเรียกผู้หญิงตัวเล็กๆน่ารัก น่าถนุถนอมอย่างสโนว์ว่าพี่ไม่ได้หรอก"ไม่พูดเปล่า มือป้อมของริวก็เอื้อมมาหยิกแก้มผมอย่างลืมตัว พอรู้ว่าทำอะไรก็รีบชักมือกลับไปเกาหัว

   "นี่!"ไอ้ผู้ชายตรงหน้าก็ทำท่าเขินแต่ผมนี่ยัวะมาก เท้าสั้นๆของผมเตรียมจะยกขึ้นถีบให้กระเด็น

   "ได้เวลาเข้าฉากแล้วจ้าเด็กๆ มาจีบกันตรงนี้ไม่เกรงใจสายตาพี่ๆเลยนะ"เสียงระฆังช่วยชีวิตเจ้าเด็กริว ผมที่ทำท่าถกกระโปรงเตรียมถีบต้องทำเป็นปัดกระโปรงแล้วหันไปยิ้มหวานให้สตาฟ เลยโดนหยิกแก้มโทษฐานน่ารักเกินเหตุ เห้อ

   "...เบ้นซ์จะเดินเข้ามาทางประตูนะแล้วพอเบนซ์เข้ามากล้องจะซูมหน้าเธอ เธอก็ยิ้มแบบว่าความฝันของฉันที่จะได้เป็นเจ้าสาวเป็นจริงแล้วและผู้ชายที่ฉันจะแต่งงานด้วยคือคนที่ฉันรักสุดหัวใจจะอยู่กับเขาไปจนแก่เฒ่า จากนั้นกล้องจะแพลนไปที่ดอน ดอนก็มองเบนซ์อย่างหลงใหลใคร่รักและรู้สึกยินดีที่ได้คนนี้เป็นเจ้าสาว โอเคนะครับ..."เจ้าบ่าวและเจ้าสาวขานรับเข้าใจแล้วพี่นนก็นั่งยองๆตรงหน้าผมกับริว"ส่วนเด็กๆ เดินตามหลังเจ้าสาวนะ เดินจูงมือกันด้วยแล้วสโนว์ หนูก็ถือช่อดอกไอริสไว้ด้วยนะ เด็กๆทั้งสองก็ยิ้มนะ ยิ้มแบบมีความสุข เข้าใจมั้ยครับ"

   "เข้าใจค่ะ/ครับ"ผมกับริวขานรับพร้อมกัน แม่สอนผมแอคติ้งตั้งแต่เด็กแค่นี้ก็กลายเป็นเรื่องกล้วยๆไปเลย

   "เอาล่ะ ประจำที่เลยทุกคน เช็คความพร้อมด้วยนะครับทุกคน"พี่นนเข้าไปนั่งที่หน้าจอ ผม ริว และพี่เจ้าสาวคนสวยก็ออกมายืนอยู่หน้าประตูโบสถ์

   "ไม่ต้องตื่นเต้นนะ หายใจเข้าออกช้าๆ"ผมหันไปมองคนพูดตาขวางประมาณว่ารำคาญ ไม่ต้องมาสอนแต่เด็กริวดันหน้าแดงซะงั้น

   เมื่อช่างมาเซตหน้าเซตผม เอาช่อดอกไอริสมาให้ทั้งผมและเจ้าสาวถือเรียบร้อยก็ออกไปห่างๆ จากนั้นสตาฟก็วอไปบอกข้างในว่าพร้อมแล้ว เสียงของพี่นนสั่งให้เริ่มประตูก็เปิดโดยนักแสดงประกอบ

   เสียงดนตรีบรรเลงเพลงงานแต่งหวานซึ้ง ทุกคนที่เล่นเป็นตัวประกอบนั่งอยู่ที่เก้าอี้สองฝั่งเงียบกริบและหันมามองเจ้าสาวด้วยสายตาชื่นชมในความงาม มือผมถูกเจ้าเด็กริวกอบกุมไว้อย่างแน่นหนา เมื่อฉากแรกผ่านไปได้โดยไม่สะดุดพี่นนก็สั่งคัทและเดินมาพูดเรื่องซีนต่อไป

   "ปล่อยมือเราได้แล้ว"ผมกระตุกมือให้เด็กริวปล่อยสักที จับซะแน่นเชียว

   "โทษทีครับ มือสโนว์นุ่มมาก"เด็กริวยิ้มหล่อพลางปล่อยมือผมอย่างอ้อยอิ่ง ผมกรอกตาขึ้นอย่างเบื่อหน่ายที่มันไม่ยอมเรียกพี่ซะที

   "พอเบนซ์เดินไปถึงแท่นทำพิธีดอนก็เอื้อมมือไปรับเบนซ์นะ แล้วดอนก็คุกเข่าลงแล้วจูบมือเบนซ์ จากนั้นดอนก็บทพูดของดอน ขนาดดอกไม้ที่หอมที่สุดยังสู้ความหอมหวานจากตัวคุณไม่ได้เลย ดอนลุกขึ้นแล้วเบนซ์ก็ยิ้มเขินนะ เด็กๆก็ยืนยิ้มๆเฉยๆไปก่อนนะครับแต่ยังจับมือกันอยู่นะ"

   ซีนที่สองคัทไปสองสามครั้งกว่าจะผ่าน พี่นนนี่ก็แอบโหดเหมือนกันนะครับ

   "เอาล่ะเจ้าตัวเล็ก ฉากของพวกหนูหลังจากนั้นคือริวหยิบดอกไอริสที่อยู่ในช่อในมือของสโนว์ออกมาดอกหนึ่งแล้วแล้วสูดดมดอกไอริส จากนั้นก็เอามาทัดหูสโนว์ข้างซ้ายแล้วบอกว่าหอม แล้วก็ใช้นิ้วชี้ชี้ไปที่สโนว์แล้วบอกเขินๆว่า นี่ก็หอม เข้าใจมั้ยครับเด็กๆ"

   "ค่ะ/ครับ"

   เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณ ริวก็ปล่อยมือที่จับมือผมแล้วก็ดึงดอกไอริสมาดม จากนั้นก็เอามาทัดหูผม

   "หอม...นี่ก็หอม"ริวชี้มาที่ผมแล้วยิ้มละมุนด้วยความรักใคร่ ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่แสดงออกมาจริงๆ ผมก็ยิ้มเขินออกมาจริงๆไม่ได้แสดง รู้สึกได้ถึงบรรยากาศสีชมพูอมม่วงอยู่รอบกาย

   "คัท! ดีมาก น่ารักสุดๆ"พี่นนและสตาฟคนอื่นๆพากันชม รวมถึงแม่ผมด้วยที่กรี๊ดกร๊าดใหญ่

   "ผมว่าสโนว์หอมกว่าดอกไม้อีก"ไม่พูดเปล่าเด็กริวยังเข้ามาใกล้ผม ทำจมูกฟุดฟิดใส่อีกต่างหาก สั่นครับ ตีนสั่นจนอยากเตะเลยครับ

   มาถึงซีนสุดท้ายเป็นซีนที่ผมดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน ดีใจที่ผมจะได้ออกไปจากการแทะโลมของเด็กบ้าริว เสียใจที่เป็นซีนที่เด็กริวต้องหอมแก้มผม ม่ายยยยยย

   และแล้วฉากเด็กชายหอมแก้มเด็กหญิงก็มาถึง ใจผมเต้นสั่นระรัวมันดังยิ่งกว่ากลองตีกันเป็นสิบๆ ปากของเด็กริวใกล้แก้มผมมากขึ้นเรื่อยๆ จน...

   "จุ๊บ"ปากนิ่มๆของเด็กริวจุ๊บกับปากของผม

   ปาก...?

   จุ๊บปาก?

   อะไรนะ!! จุ๊บปาก!!

   ไม่มีเสียงคัทใดๆ มีแต่เสียงหัวใจผมที่เต้นแรงจนแทบทะลุและเสียงกรี๊ดแผ่วๆของเหล่าสตาฟ นักแสดงประกอบ ผมนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้น รู้สึกได้ว่าหน้าร้อนลามไปถึงคอ

   "อีก 10 ปีแต่งงานกันนะครับ"และนั่นเป็นประโยคสุดท้ายของริวก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงคัทของผู้กำกับ

   พี่นนตกลงว่าจะเอาแบบนี้เลยไม่ต้องเปลี่ยน ดีที่เป็นมุมกล้องเลยเห็นเป็นหอมแก้มแต่เรื่องจริงคือผมโดนเด็กบ้าจูบปาก ผมโดนผู้ชายด้วยกันจูบปากและขอแต่งงาน ซึ่งนั่นไม่ใช่พล็อตที่พี่นนวางไว้แต่แรกเลยตัดซีนนั้นออกแต่ว่าก็ยังเก็บซีนนั้นไว้ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือผมโดนผู้ชายจูบปากและขอแต่งงานทั้งๆที่ผม...เป็นตัวผู้

   "แต่ตอนนี้สโนว์เป็นเมียผมแล้วนะ"

   "เมียพ่อง"เท่านั้นแหละผมก็ฟิวส์ขาดต่อยเบ้าตาเด็กเวรไปทีหนึ่งจังๆ

   พวกสตาฟพากันตกใจแล้วเข้าไปห้ามไม่ให้ริวต่อยผม แต่เด็กริวไม่ได้มีทีท่าว่าจะต่อยผมกลับหรอก ต้องห้ามไม่ให้ผมเข้าไปยำตีนเจ้าเด็กริวไม่ใช่หรอ ฮึ่ย

   หลังจากนั้นผมก็แกล้งร้องไห้งอแงบอกว่าริวรังแกผมก่อน ทั้งๆที่ทุกคนก็เห็นว่าผมต่อยริวก่อน แต่ก็นั่นแหละ ผมเป็นเด็กผู้หญิงน่ารักน่าเอ็นดู ทุกคนเลยโอ๋ผมกันหมด จากนั้นแม่ก็พาผมกลับบ้านโดยไม่เอาความเด็กริว(จะเอาความได้ไงละ ต่อยลูกเขาก่อนนิ) แอบเห็นเด็กบ้าริวยิ้มหวานให้ผมด้วย นี่ไม่โกรธเลยเรอะ ช่างเถอะ จากนี้คงไม่ได้พบกันแล้วละ

   แล้วผมก็ไม่ได้พบกับริวอีกจริงๆเพราะเด็กบ้าย้ายไปเรียนที่อเมริกา แต่งงานกันวันเดียวก็โดนผัวทิ้งไปอยู่ต่างประเทศซะแล้ว แอ๊ะ ไม่ใช่สิ ตอนนี้ผมต้องโฟกัสเรื่องทำงานที่โหมเข้ามากับเรื่องเรียน

มีต่อด้านล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 04-10-2016 10:38:46
   12 ปีผ่านไป

   ในที่สุดผมก็โตเป็นสาว...และเป็นหนุ่มในเวลาเดียวกัน ตอนนี้ผมในคราบผู้หญิงเป็นดารา นางแบบชื่อดังอันดับ 1 ของไทย เรียกได้ว่าเจริญตามรอยตีนแม่มาเป๊ะๆ ทุกคนไม่รู้เรื่องที่ผมมีดุ้น คือเป็นผู้ชายนั่นแหละ เอ๊ะ อะไรนะ ผมหยาบคายขึ้น ก็ผมเป็นผู้ชายปกติป่ะละ นั่นแหละมีคนที่รู้ว่าผมมีดุ้นแค่ 5 คนในโลก แด๊ด แม่ ลุงนน(แก่แล้วไม่ต้องเรียกพี่หรอก) ผู้จัดการ และเพื่อนสนิทตั้งแต่ ม.ปลายยันมาอยู่มหา'ลัยด้วยกัน

   ยังไม่มีใครจับได้ว่าผมเป็นผู้ชายเพราะผมเสือกโตมาแล้วสวยหวานซะชะนีแท้ๆยังศิโรราบ สูง 176 ประมาณว่าผู้หญิงสูง สวย หุ่นดี อี๋แหวะ แล้วหุ่นผมก็เสือกคล้ายผู้หญิงตรงที่ขาเรียวไม่มีขนหน้าแข้งให้รำคาญ เซงสัดรัสเซีย แต่ก็เคยเกือบโดนจับได้ว่าเป็นผู้ชายเพราะต้องแต่งนู้ดหน่อยๆถ่ายแบบ ผมเลยไม่รับงานพวกนู้ด เปลือย จนได้ขึ้นชื่อว่าดาราสาวตัวอย่างรักนวลสงวนตัว ฉายาคือ สโนว์เกิลกุลสตรีศรีชาติ มันน่าดีใจมั้ยเนี่ย

   และผมก็ได้เป็นผู้ชายนอกจอ ผู้ชายใส่แว่นโคตรหนา มัดผมมวยแบบหนุ่มเซอร์ มีไฝเสน่ห์(ปลอม)ติดอยู่ที่มุมปาก หน้าสดแต่เสือกยังสวย ดีที่เพิ่มแว่นทำให้ดูเอ๋อๆ แต่งตัวแบบอาร์ตแหลกตามสมัยนิยมผู้ชายเซอร์แต่เห็นแบบนี้ผมเรียนบริหารนะครับ มีความฝันว่าอยากเปิดคาเฟ่ เพราะผมชอบกิน เหตุผลง่ายๆ มีเพื่อนที่รู้เนื้อแท้และเนื้อเทียมอยู่คนหนึ่งเป็นเสือไบ ชื่อไอ้เก้ง ถึงมันจะได้ทั้งชายและหญิงแต่มันไม่เอาผมด้วยเหตุผลว่า เดี๋ยวฟ้าผ่า ผมงงเลยครับ

   ผมคงต้องปิดปากแล้วไปเรียนก่อน ก่อนที่ผมจะสปรอยชีวิตตัวเองไปมากกว่านี้ เอาเป็นว่าผมรู้ว่าคุณชอบผู้ชายลึกลับน่าค้นหา เพราะงั้นถ้าอยากรู้จักผมมากกว่านี้ก็ตามมานะครับ จุ๊บ

   มองตัวเองในกระจกอีกครั้งเพื่อเช็คความเรียบร้อย ใส่แว่นแล้ว เช็ค มวยผมแล้ว เช็ค ติดไฝแล้ว เช็ค ตุ้มหูใส่ครบ 6 รูแล้ว เช็ค ใส่สร้อยรูปกระโหลกกับไม้กางเขงแล้ว เช็ค ใส่แหวนแล้ว เช็ค แมนแล้วเช็ค แมนแบบเอ๋อๆอ่ะครับ โครตฮิปเลยบ่องตรง เมื่อทุกอย่างสมบูรณ์แบบผมก็หยิบกระเป๋าหนังมีแบรนด์ออกจากคอนโดสุดหรูที่อยู่ชั้นบนสุด ความปลอดภัยหนาแน่นรัดตึงไม่ต้องกลัวว่าใครจะล่วงรู้ความลับ

   เดินไม่กี่ก้าวผมก็มาถึงลานจอดรถที่อยู่ในชั้นเดียวกัน เหมือนกับว่ามันสร้างขึ้นมาเพื่อปกปิดความลับไว้โดยเฉพาะงั้นแหละ ผมมองไปที่รถว่าจะเลือกคันไหนดี ไม่ใช่ว่าอวดรวยเพราะมันมีแค่ 2 คัน ทำไม จะว่าผมกวนตีนหรอ ขอบคุณที่ชมครับ หึหึ แน่นอนว่าผมต้องเลือกคันที่ยัยสโนว์ ไวท์ไม่ได้ใช้อยู่ ก็ตัวผมในคราบผู้หญิงเนี่ยแหละ

   "สวัสดีออดี้ลูกรัก"เป็นการทักทายเหมือนทุกวันที่ผมทักเจ้ารถคันแรกที่ผมใช้น้ำพักน้ำแรงซื้อมา

   ระหว่างที่ผมขับรถไปมหา'ลัยผมจะเล่าอะไรบางอย่างให้นิดนึงละกันให้คลายความสงสัย ผมย้ายมาอยู่คอนโดตั้งแต่ผมเข้ามหา'ลัยปีหนึ่งแล้วครับ ส่วนแม่ก็กลับไปอยู่กับแด๊ด มีบ้างที่แด๊ดจะมาเยี่ยมผมที่ไทย แด๊ดไม่ว่าอะไรที่แม่ให้ผมเป็นผู้หญิงเพราะแด๊ดทำใจไว้แล้วตั้งแต่เห็นหน้าผมครั้งแรกตอนเป็นทารก และแด๊ดก็ยินดีที่ผมเป็นผู้ชายเมื่ออยู่นอกจอ แอ๊ะ จะเอายังไง

   เอาล่ะ รถจอดเทียบท่าเรียบร้อย ผมก็ก้าวขาลงจากรถคันงามอย่างอาดๆ พวกนิสิตก็มองมานิดนึงแล้วก็ไม่สนใจเหมือนกับชินไปแล้วที่ผมกับรถโคตรไม่เข้ากัน

   "โย่ว ไอ้เก้ง กวาง บ่าง ชะนี"

   "เมื่อไรมึงจะเลิกเรียกกูแบบนั้นซะทีวะ ไอ้ห่าโน"มันบอกอย่างเบื่อหน่าย ตวัดตามาค้อนผมไม่เข้ากับตัวบึกๆของมันเลย

   สงสัยมั้ยครับว่าทำไมเก้งมันเรียกผมว่าโน ง่ายๆเลยยะครับ ในจอผมคือดาราสาวสวยสโนว์ ไวท์ แต่นอกจอผมคือไอ้หนุ่มมาดเซอร์เอ๋อแดกโน ไวท์ ลูกบุญธรรมของแม่เมรี ซึ่งไม่ค่อยมีใครรู้เพราะผมไม่ค่อยสุงสิงตุ้งติ้งกับใคร

   "วันนี้มีควิซ ไม่อ่านหนังสือรึไง"ผมนั่งลงตรงข้ามไอ้เก้งแล้วคว้าแก้วน้ำแดงมันมาดูดอย่างสบายใจ

   "รอมึงมาติวให้ไงไอ้ฉลาด ไอ้คนไม่ต้องอ่านหนังสือก็สอบได้"อย่าเชื่อมันครับ ไม่มีใครหรอกที่ไม่อ่านหนังสือแล้วจะได้เกรด A ไปครองสบายๆ ผมก็อ่านทบทวนมาก่อน 2 อาทิตย์แล้วครับ เชื่อเถอะว่ามานั่งอ่านวินาทีสุดท้ายคงสงกรานต์(คงไม่ทัน)

   "ติวไปมึงต้องได้ดีแน่นอน"

   "ใช่ ได้ดี"มันยิ้มภาคภูมิใจกับตัวเองแต่ขอโทษทีเถอะไอ้เก้ง กวาง บ่าง ชะนี

   "กูหมายถึง ได้D เกรดD ติดลบ"

   "ไอ้ห่าโน กวนตีนชิบ"

   "ฮ่าๆๆ"ผมขำมันยกใหญ่ การกวนตีนมันทุกวันๆกลายเป็นเรื่องปกติของผมไปซะแล้ว

   เมื่อไม่มีอะไรให้ทำแล้วเพราะไอ้เก้งตั้งอกตั้งใจอ่านหนังสือกอปรงอนผมด้วย ผมเลยมองบรรยากาศรอบตัว ช่วงนี้เป็นช่วงรับน้อง ก็เลยคึกคักเป็นพิเศษ แต่พวกผมสิเปิดมาไม่ทันไรอาจารย์ก็ให้ควิซเฉย ขอกรี๊ดให้สาวแตก

   "เอ่อนี่ คณะนิเทศน์มีหนุ่มมาใหม่ว่ะ ได้ข่าวว่าโคตรพ่อโคตรแม่หล่อเลย เห็นว่าเพิ่งกลับมาจากอเมริกาด้วย กลับมาปุ๊บแม่งก็ได้งานมาต่อคิวเพียบ เป็นที่จับตามองว่าจะได้เป็นเดือนมหา'ลัยของเราด้วยว่ะ ชื่ออะไรนะ เรย์ นิว..."

   "ริว"ผมพูดออกมาอย่างคนคล้ายละเมอเผลอ แล้วใจที่เงียบสงบดั่งคลื่นทะเลก็โหมกระพือขึ้นมาอีก เหมือนคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้าใส่หัวใจจังงัง

   ตายห่า! ผัวกูกลับมาแล้ว แอ๊ะ ไม่ใช่ละ

   "มึงรู้จักมันด้วยหรอวะ เออ ไม่แปลกหรอก ข่าววงในมันก็เร็วมึงคงรู้อยู่แม่ดาราดัง"

   "ชู่วว เบาๆดิ่วะ บอกแล้วไงห้ามพูดถึงยัยสโนว์ที่นี่น่ะ"

   ที่จริงผมก็ไม่รู้หรอกว่าเด็กริวเมื่อ 12 ปีก่อนกลับมาแล้ว เพิ่งรู้จากปากไอ้เก้งเมื่อกี้ แต่จะใช่คนคนเดียวกันจริงๆหรอ ผมไม่ลืมหรอกนะว่ามันขอผมแต่งงานไว้ ได้แต่หวังว่ามันจะพูดล้อเล่นตามประสาเด็ก อีกอย่างผมมั่นใจว่าผมชอบน้ำเนื้อ น้ำนม มากกว่าไข่ของผู้ชาย เห็นแบบนี้ผมเคยมีประสบการณ์อย่างว่ากับผู้หญิงมาแล้วนะครับ

   "คร้าบๆ"ไอ้เก้งยกมือทั้งสองข้างขึ้นยอมแพ้ ผมเลยยักคิ้วให้ทีก่อนจะนั่งเอ่อละเหยลอยชายรอเวลาควิซคลาสแรก

   "โน"ขณะผมที่กำลังนั่งกัดหลอดไอ้เก้งเล่น เสียงที่คุ้นเคยก็เรียกผมพร้อมชีทเรียนของเมื่อวานที่ผมไม่ได้เข้า

   "ขอบคุณ"ผมรับมาแล้วเอ่ยคำประจำที่มักจะบอกไอ้เนิร์ดคนนี้เสมอ

   "เราคิดถึงพี่สโนว์ นายช่วยนัดพี่สโนว์ให้เราหน่อยได้มั้ย"นี่เป็นอีกคนที่รู้แต่รู้ไม่ลึกรู้แค่ว่ามันรู้ว่าผมเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวไวท์ และมันชอบสโนว์ ไวท์ เรียกได้ว่าแฟนคลับเบอร์ 1 เลย รู้ชัด รู้(ไม่)ลึก รู้จริง

   "ช่วงนี้พี่สโนว์ไม่ว่าง งานเยอะ มึงเข้าใจมั้ย สงสารพี่กูหน่อย"ผมพูดอย่างทุกครั้ง นี่ก็ 10 ครั้งในหนึ่งเดือนแล้วมั้งที่มันขอใก้ผมนัดตัวเองให้ไปเจอมัน

   "ถ้างั้นเราก็คงรับรองไม่ได้ว่าจะช่วยตามเก็บชีทให้นายนะโน"

   "ไอ้เนิร์ด!"ชักเริ่มจะมีน้ำโหมากขึ้น ผมกำลังจะลุกไปตัวต่อตัวกับแว่นคลั่งสโนว์แต่เก้งจับไหล่ผมแน่น

   "ใจเย็นโน"เก้งตบไหล่ผมเตือนสติ ผมสูดลมหายใจลึกๆแล้วพ่นออกมา หลับตาสงบสติอารมณ์คุกรุ่น

   "เมื่อไร ที่ไหน"ใครมาเห็นผมตอนนี้คงขำลั่นเพราะผมพยายามฉีกยิ้มที่เหมือนไฮยีน่าแยกเขี้ยวมากกว่า แถมยังกัดฟันพูด

   "พรุ่งนี้ ที่ร้านXL"

   "เออ ไปได้แล้ว รำคาญ"มึงไม่ได้ตายดีแน่ ไอ้ฟอกซ์ ไอ้จิ้งจอกเก้าหาง

   "6 โมงเย็นนะ"ผมไม่ตอบ มันก็ไม่ว่าอะไรต่อ นำพาร่างสูงโปร่งก็ตัวเองเข้าไปในตึก

   ความรู้สึกของผมที่มีต่อไอ้ฟอกซ์ตอนนี้แปลก เหมือนมันมีอะไรบางอย่างภายใต้กรอบแว่นที่หนาพอๆกับผม ผมว่ามันหล่อถ้าถอดแว่นออกมา และรังสีบางอย่างที่แผ่ออกมาเวลาเจอผมที่เป็นสโนว์ แต่ผมคงคิดไปเอง

   หลังจากควิซเสร็จผมก็ร่ำลาไอ้เก้ง คลาสต่อไปก็โดดไปแปลงโฉม ดีที่คลาสต่อไปอาจารย์ไม่เช็คชื่อ ผมขับออดี้กลับไปคอนโด แปลงโฉมให้เป็นสโนว์

   ยัยผู้หญิงผมยาวสีน้ำตาลถึงกลางหลัง ชุดเดรสปิดคอสีเขียวมรกต นัยน์ตาสีเทาถอดแบบแด๊ด ใบหน้าแต่งเครื่องเป็นโทนนู้ด ถ้าผมมีแฟนสาวผมคงแต่งหน้าให้เธอได้ทุกวันเลยนะเนี่ย โปรขนาดนี้ เหอะๆ

   และผมก็เช็คความเรียบร้อยอีกทีเหมือนตอนเช้าก่อนจะใส่รองเท้าส้นสูงเดินไปที่ลานจอดรถอย่างมาดมั่น แอ๊ะ ลืมอะไรบางอย่าง สิ่งที่ผมจะทำเสมอตอนแปลงเป็นสโนว์คือ

   "ฉันเป็นสโนว์ ไวท์ สวยดุจเจ้าหญิง ขาวดุจหิมะ กิริยาอ่อนช้อยละมุนละไม เสียงหว๊านหวาน...อ่ะแฮ่ม ลาล้าลาล้าลา ลาล้าลาล้าลา ลาล้าลาล้าลาาา"เจ้าหญิงสโนว์ไวท์ก็มา เป็นเหมือนการสวมจิตวิญญาณผู้หญิงให้เข้ามาสิงสู่ผมครับ ทำแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ค่อนข้างได้ผลมากทีเดียว

   เอาล่ะ สวมจิตวิญญาณแล้วก็ขับจากัวร์ลูกคนที่สองไปตึกโมเดลลิ่งทันที ต้องรีบเข้าไปคุยกับประธานเจ้าของบริษัทสื่อบันเทิง แอ๊ะ ผมขอตบหัวตัวเองแรงๆสักสิงทีนะครับ ลืมไปได้ไงว่าประธานก็เป็นอีกคนที่ล่วงรู้ความลับผม ไม่งั้นคงเซ็นต์สัญญากันไม่ได้

   น่าแปลก ปกติประธานไม่ค่อยได้เรียกผมไปคุยเรื่องงานระหว่างเรียน นี่คงเป็นเรื่องด่วนมากจริงๆขนาดที่ว่าส่งข้อความนัดแนะมาด้วยตัวเอง

   เมื่อถึงตึกโมเดลลิ่งของประธานที่แยกออกมาอีกที ผมก็รีบเร่งขึ้นไปที่ห้องทำงานของประธาน ผู้จัดการผมนี่ก็โทรจิกจัง

   "ถึงแล้วค่ะพี่คม"

   [เร็วๆเลยมึง] ดุตลอดเลย พอรู้ว่าผมเป็นผู้ชายก็ไม่เคยไว้หน้ากันเลยอ่ะ ยกเว้นก็ตอนที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นก็พอสุภาพขึ้นมาบ้าง

   "คะๆ ไม่ต้องโทรจิกแล้วนะคะ เดี๋ยวร่างกายอันบอบบางของสโนว์จะพรุน"

   [อย่ามาสำออยไอ้ควายตัวเมียมีดุ้น] ติ๊ด ด่าเสร็จสมใจพี่แกก็ตัดสายไปอย่างไร้ความปราณี แมนได้ใจไอ้โนจริงๆ

   ก๊อก ก๊อก ผมเคาะประตูพอเป็นพิธีหลังจากที่เลขาหน้าห้องโทรบอกคนข้างในว่าผมมาถึงแล้ว ผมเปิดประตูเข้าไปและเดินไปใกล้ๆท่านประธานที่นั่งอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ เมื่อท่านเห็นผมผมก็ยกมือไหว้อย่างอ่อนช้อย ไม่ทันเห็นว่ามีใครอีกคนนั่งอยู่ด้วย

   "นั่งลงก่อนสิหนูสโนว์"ผู้สูงอายุผายมือให้ผมนั่ง ผมก็นั่งโซฟาที่ตรงกันข้ามกับชายอีกคนที่ผมยังไม่ได้มองหน้าเพื่อสำรวจ

   "มีอะไรรึเปล่าคะ ถึงเรียกมากระทันหันแบบนี้"

   "มีเยอะแยะเลยล่ะ ฮ่าๆ ก่อนอื่นทำความรู้จักกับลูกชายลุงก่อนสิ ไม่ได้เจอกันนานไม่รู้ว่าหนูยังจำลูกชายลุงได้มั้ย"ลุงประเสริฐชี้ไปที่ชายที่นั่งร่วมห้องอย่ด้วย ผมก็หันสายตาตามไปเพื่อถือวิสาสะสำรวจ

   "สวัสดีครับ ยังจำผมได้มั้ยสามีคุณเมื่อ 12 ปีก่อนไง"

   "ริว"ผัวกูจริงๆด้วย!










☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

Nekozaa  :

     มีความกระแดะตั้งแต่เด็กจริงๆนะอิน้องริว ไม่ทันไรก็จะจับน้องสโนว์ทำเมียซะแล้ว
 
    น้องสโนว์โตมาก็แก่นเซี้ยว กวนบาทาคนเขียนจริงเชียว เดี๋ยวโดนจับฟัดซะนี่ แง่มๆ แก่นไม่พอยังเป็นเด็กตลกโปกฮา ไม่เข้ากับหน้าตาสวยๆเล้ย เศร้าใจๆ ระวังนะล้อเล่นมากๆจะมีผัวจริงๆ หุหุ
 
    ส่วนฟอกซ์ไอ้เนิร์ดท่าทางแปลกมาได้ไงเดี๋ยวนักเขียนบอกตอนนี้เลยค่ะ...พบกันตอนต่อไป ฮิ้วว  :hao6:

    ขอบคุณที่คอมเม้นและบวกเป็ดให้นะคะ แค่นี้ก็เป็นกำลังใจให้คนเขียนได้สู้ต่อไป ฮึบๆ

  รักน้องสโนว์คอมเม้นต์ ชอบน้องริวบวกเป็ด จุ๊บ


ที่มาของดอกไอริส (https://writer.dek-d.com/austravia/story/viewlongc.php?id=667475&chapter=21)

 
:call:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: บูมพอส ที่ 04-10-2016 11:30:28
หูววววว เรื่องใหม่ตามๆๆๆ  :katai4: :katai4: :katai4: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: แกมแก่มแก้มแก๊มแก๋ม ที่ 04-10-2016 11:45:25
อ่านแล้วให้กลิ่นอาย Love Stage!! มากๆ ชอบค่ะ

รอลุ้นว่าริวถ้ารู้ความจริงแล้วจะทำหน้ายังไง  :hao6:

ติดตามอีกคนนะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 04-10-2016 12:01:50
สโนว์เป็นคนตลก
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 04-10-2016 12:18:07
ลงครั้งละ 5 ตอนได้ไหม แบบอยากอ่านรัวๆ  :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 04-10-2016 12:46:25
 :m20:  ชอบๆ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 04-10-2016 12:50:42
อ่านแล้วให้กลิ่นอาย Love Stage!! มากๆ ชอบค่ะ

รอลุ้นว่าริวถ้ารู้ความจริงแล้วจะทำหน้ายังไง  :hao6:

ติดตามอีกคนนะคะ  :hao7:

ช่ายๆๆๆ ความรู้สึกเดียวกันเลย
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 04-10-2016 15:06:14
โอ ลุ้นมากขอบคุณที่มาต่อจ้า  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 04-10-2016 15:32:45
คล้ายๆ Love Stage เลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 04-10-2016 17:32:56
รอหัวเราะริวแรงๆเลยค่ะ  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 04-10-2016 18:30:20
 :hao3: สามีกลับมาแระหนูสโนว์ทำไงต่อ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: zaturday ที่ 04-10-2016 19:56:58
สโนจะฮาไปไหน
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 04-10-2016 21:06:46
ขำโนที่เรียกริวว่าผัว55555
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 04-10-2016 21:46:40
ตลกดี 55
น่ารักด้วย
ริวจะรู้มั้ยว่าคนนี้มีดุ้น :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 04-10-2016 22:19:04
 :hao3:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 04-10-2016 22:28:38
ถ้าริวรู้ความจริงจะรับได้มั้ยหนอออ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑มีผัวตั้งแต่ยังเด็ก✖[4/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 05-10-2016 06:29:03
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๒ รักจริงหวังเคลม✖[5/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 05-10-2016 11:43:38
   บทที่ ๒

รักจริงหวังเคลม

เจ้าบ่าว :oo1:
(https://www.img.in.th/images/efc44a4fc18dd16fcbeab8d6c8c28cab.jpg)
♥Ryo♥





  
   "สวัสดีครับ ยังจำผมได้มั้ยสามีคุณเมื่อ 12 ปีก่อนไง"

   "ริว"ผัวกูจริงๆด้วย!


   "คุณสวยขึ้นมากจริงๆสโนว์ ผมยิ่งตกหลุมรักคุณมากขึ้นไปอีก"ขอบคุณที่ชมแต่กูไม่ต้องการโว้ย ดูไอ้เด็กริวมันทำหน้าดิ่ หวานเยิ้มซะกูขนลุก

   "คุณก็ไม่เปลี่ยนไปเลยนะคะ...น่าขยะแขยงยังไงก็อย่างงั้น"คำหลังผมพูดเบาๆ ถ้าลับหลังคุณประเสริฐผมคงใช้ตีนยันหน้ามันด้วยแต่นี่ต่อหน้าผู้ใหญ่ต้องสำรวมมารยาท   

   "ขยะอะไรนะครับ"สัดหมา เสือกได้ยินอีก ห่างกันเป็นร้อยโยชน์ขนาดนี้ คุณประเสริฐที่นั่งใกล้กว่ายังไม่ได้ยินเลย หูหมาจริงๆไอ้ริว

   "ขยะมีใครเอาไปทิ้งบ้างรึเปล่าคะ ห้องมันเหม็นๆอ่ะค่ะ"แถสีข้างถลอกเลยครับ

   "จริงหรอครับ แย่จริง...ป๊าได้ให้พนักงานมาเก็บขยะบ้างรึเปล่าครับเนี่ย น่าอายจริงๆ"เด็กริวบ่นไม่พอยังเดินไปหยิบสเปรย์ดับกลิ่นฉีดๆพ่นๆไปทั่วห้อง กลิ่นส้มฟุ้งจรุงใจเลยไอ้เด็กห่า ฉีดใส่หน้ามึงดีกว่านะไอ้ขยะเน่า ด่าออกหน้าไม่ได้ก็ด่าในใจมันเนี่ยแหละ

   "พอแล้วริว เล่นใหญ่ตลอด"คุณประเสริฐเอ็ดมันเบาๆ หล่อซะเปล่าทำตัวเท่าเด็กอายุ 5 ขวบ ปัญญาอ่อน

   ที่จริงผมเป็นคนปากตรงกับใจสุดๆถ้าอยู่ในรูปแบบผู้ชาย ยอมรับจากใจว่าไอ้เด็กริวโคตรพ่อโคตรแม่หล่อตามวาจาไอ้เก้ง ผมดกดำรับกับคิ้วเข้ม จมูกโด่งสัน นัยน์ตาสีดำดูลึกลับน่าค้นหาแต่ก็ดูขี้เล่น ปากอิ่มหนากำลังพอดี ผิวไม่ขาวและก็ไม่ดำ รูปร่างสูงโปร่งน่าจะประมาณ 187 ที่ขาดไม่ได้คือภายใต้เสื้อต้องมีซิกแพกส์เรียงตัวกันแน่นขนัดน่ากัดเป็นแน่ พอมองต่ำลงมาหน่อย ซี้ดด คงใหญ่น่าดู น่ากิน แอ๊ะ คิดทุเรศอะไรของกูเนี่ย ต้องเป็นจิตวิญญาณอันแรงกล้าของยัยสโนว์แน่เลย ฮือ

   เดี๋ยวสิ ผมกำลังข้ามสิ่งสำคัญไป ก็รู้นะว่าคุณประเสริฐมีลูกชายที่กำลังเรียนต่อที่อเมริกาแต่ไม่ยักรู้ว่าลูกชายคนนั้นที่จะมาสืบทอดกิจการต่อคือไอ้เด็กริว

   เด็กบ้าริว = ลูกคุณประเสริฐ

   คุณประเสริฐ = รู้ว่าผมเป็นผู้ชาย

   คุณประเสริฐรู้ = ไอ้เด็กบ้ารู้!

   "ได้เวลาคุยกันจริงๆจังๆแล้วล่ะ"เมื่อคุณประเสริฐทำท่าจะเข้าประเด็นผมก็ขอขัดไว้ก่อน

   "เดี๋ยวครับ!...ดะ เดี๋ยวค่ะ"ห่าราก ลืมตัว

   "มีอะไรหรือหนูสโนว์"

   "ริวรู้เรื่องนั้นมั้ยคะ"ผมเอามือป้องปากแล้วกระซิบถามคุณประเสริฐ แกได้ยินแล้วก็ยิ้มอ่อนพลางส่ายหัวเบาๆ แค่นั้นแหละครับ ผมเชื่อว่าแกพูดจริง

   "คุยอะไรบอกผมด้วยสิครับ"ตัวเสือกก็โผล่มา เห้ยแม่ง มานั่งตรงพนักแขนโซฟาที่กูนั่งอยู่ด้วย ตอนไหนวะ ไอ้เด็กห่านี่แม่งเคลมเร็ว

   "ริว เสียมารยาทกับผู้หญิงแบบนั้นได้ไง กลับไปนั่งที่เดิม"คุณประเสริฐดุแต่แกดูไม่ห่วงอะไรมากก็เนื้อแท้ผมเป็นผู้ชายนี่หว่า

   "โถ่ ป๊าครับ ที่เมกาเขาไม่ถือกันสักหน่อย"

   "แต่ที่ไทยถือค่ะ ถ้าคุณจะกลับมาอยู่ที่ไทยกรุณาเอาวัฒนธรรมไทยมาใช้ ให้เกียรติสุภาพสตรีและมีมารยาท จริงมั้ยคะท่านประธาน"ขอสั่งสอนหน่อยเถอะเจ้าเด็กนรก

   "จริงอย่างที่หนูสโนว์ว่านั่นแหละ"

   "ครับๆ"ว่าขนาดนี้แล้วยังไม่มีสลดเลยไอ้เด็กนรก ยิ้มกริ่มจนแก้มจะฉีกแล้วมั่งน่ะ น่าหมั่นไส้ว่ะ อยากเตะเด็กให้พุ่งไปไกลๆ

   "มาๆ เข้าเรื่องเลย เสียเวลามามากแล้ว"เมื่อเด็กนรกกลับไปนั่งที่เดิม ไม่วายส่งยิ้มหวานเชื่อมมาให้ผมเลยโชว์นิ้วกลางไปให้ตอนคุณประเสริฐเผลอ เด็กนั่นเงิบเลย หึหึ

   "ค่ะ"รีบหุบนิ้วลงและตอบรับสั้นๆเมื่อคุณประเสริฐหันมา

   "อย่างแรกเลยนะ ริวจะกลับมาเรียนต่อที่ไทย 4 ปี และระหว่างนั้นก็ดูงานไปด้วย"เกี่ยวไรกับผมอ่ะ"แต่ระหว่างนั้นตาริวต้องการที่จะทำงานร่วมกับหนูสโนว์จนกว่าขะได้ขึ้นเป็นประธานคนต่อไป"

   "ค่ะ...คะ?"What the hell!? นี่มันเรื่องห่าเหวอะไร

   "อย่างที่สอง เมื่อ 12 ปีก่อนที่พวกเธอถ่ายโฆษณาน้ำหอมแล้วฉากสุดท้ายที่ตาริวขอแต่งงานนั่นจำได้มั้ย นั่นแหละ ไอ้นนมันเก็บฉากนั้นไว้เพราะมีลางสังหรณ์ว่าต้องใช้ซึ่งก็ได้ใล้จริงๆ เพราะตอนนี้บริษัทน้ำหอมเจ้าของโฆษณาตัวนั้นต้องการให้เด็กที่เล่นคู่เมื่อ 12 ปีก่อนกลับมาเล่นคู่กันใหม่ด้วยน้ำหอมกลิ่นเดิมแต่รูปแบบใหม่ เอาฉากที่ตาริวขอหนูสโนว์แต่งงานเป็นฉากทีเซอร์ให้ติดตามซึ่งจะปล่อยออกไปในวันพรุ่งนี้...เอาง่ายๆเลยไม่ว่ายังไงทั้งคู่ก็ต้องกลับไปแสดงด้วยกัน ไม่มีทางปฏิเสธแต่ทั้งคู่คงไม่ปฏิเสธแน่นอน ใช่มั้ย"
   
   "ผมไม่มีปัญหาอะไรเลยครับ"

   "แล้วหนูสโนว์ล่ะ"คุณประเสริฐยิ้มแต่เป็นยิ้มมี่คาดคั้นคำตอบมาก ถ้าจะถามความสมัครใจแบบบีบคั้นขนาดนี้ก็ไม่ต้องถามนะครับ จับโยนลงกระทะเลย

   "ไม่มีปัญหาค่ะ"วันนี้เป็นวันเวรกรรมอะไรผมเนี่ย ละเมอชื่อริวมันก็มา โดนบังคับทั้งไอ้ฟอกซ์แล้วก็คุณประเสริฐ

   "ทั้งหมดก็...แค่นี้แหละ"

   "ป๊า ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง"เมื่อผมจะรีบชิ่ง เด็กนรกก็พูดขึ้นมาก่อน

   "ถ้าไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันขอตัวก่อนนะคะ"

   "เกี่ยวครับ เกี่ยวมากด้วย...เรื่องของคุณกับผม"

   "อะไร"แววตาจริงจังของริวทำให้ผมประหม่าจนต้องหลบตา เรื่องอะไรกันมันสำคัญขนาดนั้นเลยหรอ เพื่อแก้อาการประหม่าผมเลยหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบ

   "ผมจะขอคุณหมั้น"

   พรวด

   น้ำที่ยังไม่ทันกลืนลงคอพ่นออกมาเป็นฝอยเมื่อเด็กนรกพูดบอกในสิ่งที่ไม่คาดคิด เข็มขัดโคตรสั้น(คาดไม่ถึงสุดๆ) ทุกอย่างเงียบกริบจนผมรู้ว่าเผลอทำกิริยาไม่งามเข้าให้ ไม่รู้ว่าน้ำเปล่าผสมเอนไซม์ฝอยไปโดนใครบ้าง

   "ขอโทษค่ะ"ผมวางแก้วน้ำลงกับโต๊ะแล้วเช็ดปาก มองคุณประเสริฐกับไอ้เด็กนรกก็ไม่มีใครโดนพิษที่ผมพ่นไปเมื่อกี้ก็โล่งใจ

   "ฮะๆ ไปขอเขาหมั้น เขาสมัครใจรึเปล่า หืม ตาริว"

   "ตอนนี้สโนว์อาจจะยังไม่รักผมแต่อยู่กันไปเดี๋ยวก็รักกันเองแหละครับ"แหม ทีนี้ล่ะรักวัฒนธรรมไทยขึ้นมาเชียวนะมึง โคตรคลุมถุงชนเลย

   "แต่คงไม่มีวันที่ฉันจะรักคุณได้หรอกค่ะ"ก็กูเป็นผู้ชายนี่หว่า ถ้าไม่ติดว่าต้องปิดความลับไว้คงถกกระโปรงโชว์ดุ้นให้มันเบิ่งเนตรแล้ว

   "คุณไม่รักผมก็ไม่เป็นไร แค่ผมรักคุณก็พอ"ไอ้เห็บหมา แม่งหน้าด้านชิบหาย ขอสักทีได้มั้ย คันมือคันตีนยิบๆแล้วเนี่ย โว้ยยย

   "ลุงว่าบอกเรื่องนั้นดีกว่ามั้ย"คุณประเสริฐกระซิบเมื่อเห็นว่าเจ้าลูกชายตัวดีของแกเอาจริงเอาจังมาก

   "ถ้าเขาอยากหมั้น...ก็ได้ค่ะ"ในเมื่อเอาน้ำมาลูบแล้วไม่เย็นก็ใส่น้ำมันให้ร้อนจนตายไปเลยก็แล้วกัน แน่นอนผมยอมแบบนี้ผมมีแผนเด็ดเผ็ดตีน เอาให้ไอ้เด็กริวฝังใจไปจนวันตายเลย หึหึ ฮ่าๆ ก๊ากกกกกก สะใจเว้ย

   "แต่"คุณประเสริฐทำท่าลำบากใจ

   "ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันจัดการได้"ผมขยิบตาให้ลุงแกไปที คุณประเสริฐก็ถอนหายใจแล้วพยักหน้าอย่างปลงๆ

   "จริงหรอ สโนว์พูดจริงนะ อย่าโกหกผมนะ...ผมดีใจมากที่คุณยอมใช้ชีวิตคู่กับผม"ริวรีบข้ามฝากมากุมมือผมไว้แล้วบีบเบาๆอย่างดีใจ เช็คแฮนด์กับมือผมไม่พอยังใช้ปากเช็คแฮนด์ด้วย ผมนี่รีบสะบัดให้หลุดจากการแต๊ะอั๋งของมัน ไอ้นี่ถึงเนื้อถึงตัวจริงๆ

   แต่ที่ผมสงสัยคนแบบนี้ยังมีอยู่บนโลกด้วยหรอวะ ปกติพระเอกจะต้อง เงียบขรึม เป็นผู้ใหญ่ ไม่ก็เจ้าชู้ แบดบอย เท่ห์ เลว ไม่ก็ใจดี อ่อนโยน ไม่ก็โหด ดิบ ซาดิสถ์ หรือกวนตีน ขี้เอา ขี้เหล้า ขี้หลี อะไรทำนองนี้ แต่ไอ้เด็กริวนี่มันเกินจะบรรยาย ผมที่เจอผู้ชายเข้ามาจีบหลายแบบยังเทียบมันไม่ติด คนอื่นผมดูออกว่าใครเป็นไง แต่เด็กนี่ แม่งหลายบุคคลิก ที่รู้ๆเลยคือ ขี้ตื๊อเป็นที่หนึ่ง

   "ถ้างั้นฉันขอตัว ตอนเย็นมีถ่ายละครค่ะ"กำลังจะพ้นประตูแต่ริวก็รั้งข้อมือผมไว้ก่อน เอ๊ะ ตื๊อจริง เดี๋ยวแม่อัดนมปลอมใส่หน้าเสียนี่

   "วันนี้ผมไม่มีอะไรทำ ไปด้วยนะครับ ไปรถผมนะ...ป๊า เดี๋ยวผมคุยเรื่องวันหมั้นกับสโนว์เสร็จแล้วจะมาบอกนะครับ"

   "ฉันรีบนะคะ ไม่อยากพกใครไปเป็นตัวถ่วง"จัดไปหนึ่งดอกพร้อมทำหน้ารำคาญสุดขีด

   "ไปครับเดี๋ยวไม่ทัน ผมขอตารางคุณจากคุณคมแล้ว ถ่ายที่บ้าน...ใช่มั้ยครับ"ไอ้พี่คม คนทรยศ ไว้ใจคนแปลกหน้าเกินไปแล้วนะเฟ้ย

   เหนื่อยครับขี้เกียจเถียงด้วย เด็กริวเป็นคนแรกที่ผมรับมือยาก ขอพักแล้วค่อยเริ่มหาจุดอ่อนของมันแล้วกัน ก้นแตะถึงเบาะรถหรูของริวปุ๊บผมก็พักสายตาและสมองปั๊บ ช่วยเป็นตาแมวให้ผมด้วยนะครับ อย่าให้เด็กนรกแตะตัวผมนะ ตอนนี้ขอรีแลกซ์ตื่นมาจะได้ฉะปะดะรัวๆ Z z z

   "อืม"รู้สึกดีจังนิ่มเหมือนมาชแมลโรเลยขอกินอีก ผมดูดดึงมาชแมลโรเบาๆแล้วกัด เลียให้หนำใจ แล้วอะไรบางอย่างที่เรียวยาวก็แทรกผ่านเข้ามาในโพรงปากผม ถึงมันจะแปลกๆแต่ก็รู้สึกดียามสิ่งนั้นกระหวัดเกี่ยวกับลิ้นผม เหมือนเวลาที่ผมดูดปากกับสาวๆเลย ส่งลิ้นเข้าไปทักทายกับลิ้น รู้สึกแดจาวู

   ลิ้น?

   ลิ้น!!

   ผมเบิกตาโพลง เหมือนภาพเมื่อ 12 ปีไหลย้อนกลับ ต่างกันตรงที่ตอนนั้นเป็นปากแต่ตอนนี้เป็นลิ้น ภาพตรงหน้าคือริวคร่อมผมแล้วกำลังดูดลิ้นผมอย่างเมามันส์ หน้านี่เยิ้มซะเหมือนคนโรคจิต

   "อื้ออ"ไม่ใช่เสียงครางแต่อย่างใดโปรดอย่าเข้าใจผิด มันคือเสียงของการขัดขืนต่างหาก จะต่อยหน้ามันให้หงายก็ไม่ได้ในเมื่อมันรวบมือผมซะแน่นหนา แม่งโคตรดักทาง

   "จ๊วบๆ จุ๊บ"ใครก็ด้วยช่วยหยุดหมาบ้าที ปล้นจูบผมไม่หยุดแถมด้วยเสียงดูดปากอย่างหยาบโลนนั่นอีก หมดกันความแมนของโน

   "อื้ออออ"ปล่อยกู๊ววว

   "จ๊วบๆ อืม"เด็กนรกครางอย่างเคลิบเคลิ้ม ไม่ปล่อยใช่มั้ย ได้ๆ

   กึก

   "โอ๊ย"กัดปากแม่มเลย เป็นไงล่ะมึงได้เลือดเลย สมน้ำหน้ากะลาหัวเจาะ แล้วก็นะพวกคุณไม่ดูแลผมเลยบอกแล้วใช่มั้ยว่าเป็นตาแมวให้ผมด้วย น้อยใจชะมัด โป้งแล้ว

   "น่ารังเกียจที่สุด คุณมันหน้าตัวเมีย ลักหลับฉัน ไม่ให้เกียรติผู้หญิง เลว"คำด่าจำมาจากในละครทั้งนั้นแหละครับ ปกติจะตามด้วยตบแต่กูไม่ครับ กูต่อยเว้ยย

   "อ๊ะ เกือบไป...จุ๊ๆ มุขนี้ใช้ไม่ได้กับผมแล้วนะครับสโนว์"พลาดได้ไง ผมว่าผมเล็งเบ้าตาข้างเดิมของมันแล้วนะ

   "คุณมันทุเรศ อย่ามายุ่งกับฉันอีก ฉันเกลียดคุณ"กล่าวคำผลุสวาทจบก็สะบัดผมใส่แล้วเปิดประตูรถ เดินเข้าบ้านที่ใช้เป็นที่ถ่ายทำด้วยความไวแสง นางเอกไปอีก

   "ว้าย ขุ่นน้อง ปากไปโดนอะไรมาคะ อย่างกับไปฟัดกับหมามาแหนะ"ช่างแต่งหน้าปรี้เข้ามาถึงตัวผมแล้วทำหน้าตกอกตกใจใหญ่ ผมรู้เลยว่าปากคงเลอะเพราะโดนบดขยี้มา

   "ค่ะ ไปฟัดกับหมาบ้ามา"ตอบอย่างเคืองๆแต่เป็นนางเอกก็ต้องเก็บอาการไว้

   "ไม่รอผมเลย ใจร้ายจังนะว่าที่คู่หมั้น"เสียงมาพร้อมกับมือที่โอบเอวผมไว้แนบแน่นจนเบียดเสียดกับตัวมัน ไอ้เด็กนรกขี้ตื๊อ จะตามมาหลอกหลอนกูทำไมวะเนี่ย

   "กรี๊ดดด ขุ่นน้อง นี่ใครคะทำไมไม่เห็นแนะนำให้รู้จักบ้าง"พอเสียงแปดหลอดของกระเทยช่างแต่งหน้าลั่น ทุกคนที่อยู่แถวนี้เลยแห่กันมาเหมือนแห่ขันเสือกงั้นแหละ

มีต่อด้านล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๒ รักจริงหวังเคลม✖[5/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 05-10-2016 11:53:14
   "สวัสดีครับทุกคน ผมริวว่าที่คู่หมั้นของสโนว์ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ"ว่าจบก็ยิ้มหล่อโปรยเสน่ห์จนทุกคนตางี้เป็นรูปหัวใจแต่ของผมเป็นรูปส้นตีน

   "ว้ายตายแล้ว ปากเลอะอะไรคะ แดงๆเหมือนลิปสติก"แล้วพวกพี่จะชงทำไมเล่า ตายห่าน

   "อ๋อ เมื่อกี้ผมกับส...อุ๊บ"จะปล่อยให้มันพ่นใยอยู่ทำไม รีบเอากระเป๋าสะพายติดแบรนด์หลุยห์วิตรองตบปากมันไปอย่างแรงให้หยุดพล่าม

   "ขอตัวไปคุยกับริวก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวสโนว์ตามไปแต่งตัว"ผมลากเด็กนรกให้ตามไปเข้าห้องนอน ห้องน้ำไม่ได้ครับเสียงมันก้อง จะได้ทำข้อตกลงกัน

   "ที่นี่จะดีหรอครับ"

   "เออ ดี"เหวี่ยงใส่อย่างฉุนเฉียว ผมกำลังจะเปิดปากพูดแต่ริวมันเข้ามาชาร์ตตัวผมอย่างรวดเร็ว"เห้ย มึงทำอะไร ปล่อยนะเว้ย"ไม่สงไม่สนแล้วคำว่าสุภาพสตรี

   "ก็คุณพามาที่ห้องนอนก็ต้องทำอย่างว่ากันสิครับ"กรี๊ดดดดด ขอลั่นให้ไส้ติ่งแตก

   "ไม่ใช่โว้ย ไอ้เด็กเวร..."โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า...แล้วคำที่แม่คอยพร่ำสอนผมก็แล่นปราดเข้ามาก่อนที่ผมจะอาละวาด เอาล่ะ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ดั่งดอกไม้บาน" ฉันจะเคลียร์กับคุณเฉยๆ"

   "หรอครับ ผมนึกว่าคุณอยากซะอีก ก็นะผมมันน่ากินเกินห้ามใจ"กินตีนกูไปก่อนมั้ย ไอ้เด็กนรก

   "ถ้าคุณอยากจะหมั้นกับฉันจริงๆ 1 ห้ามล่วงเกินฉัน 2 อย่ายุ่มย่ามกับฉัน 3 ห้ามแตะตัวฉัน 4 คุณต้องเข้าใจคำว่าให้เกียรติผู้หญิง ไม่ใช่มาลักหลับ มันไม่แมน"ไม่ใช่เพราะผมรักนวลสงวนตัวแต่ผมเป็นผู้ชายไง การถูกผู้ชายเกี้ยวพาราสีมันหยะแหยงอ่ะ ถึงจูบตอนนั้นมันจะรู้สึกดีก็เถอะแต่ว่านั่นผมไม่รู้ตัวนะ

   "งั้น ถ้าหมั้นแล้วทั้ง 4 ข้อถือเป็นโมฆะนะ"

   "ได้"ถึงตอนนั้นมึงคงไม่กล้าปล้ำกูแล้วแหละ หึหึ

   ทำข้อตกลงกันแล้วเสร็จผมก็ไปแต่งตัว ละครเรื่องที่ผมแสดงอยู่เป็นแนวเชลยรัก ต้องทนมือทนตีนพระเอก ใช่แล้ว ผมเป็นนางเอกที่ต้องร้องไห้อยู่กับเตียง เจอหน้าพระเอกเป็นโดนขืนใจตลอด เกือบจะไม่รับเรื่องนี้ไปแล้วหากไม่โดนขอร้องมาและจะไม่มีฉากวาบหวิวแน่นอนเพราะผู้กินกับจะสั่งแพลนกล้องไปที่โคมไฟบ้าง เพดานบ้าน ปลายตีนบ้าง

   จากที่อ่านบทมาเมื่อวานเห็นว่าวันนี้มีฉากจูบร้อนแรงด้วยนี่นะ เอ๊ะ สงสัยใช่มั้ยครับว่าในเมื่อผมรังเกียจจูบริวที่เป็นผู้ชายแล้วก็ต้องรังเกียจจูบของนักแสดงชายด้วย ขอตอบว่าคิดผิด เพราะผมจะแยกเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัว ผมนี่สุดยอดนักแสดงเลยใช่มั้ยเรียกได้ว่าตอแหลเก่ง ฮ่าๆ

   แต่งตัวเสร็จผมก็ออกมาจากห้องน้ำให้ขุ่นพี่เนเน่กระเทยร่างใหญ่ช่างแต่งหน้าประจำตัวละเลงสีสันบนหน้า แล้วก็ให้เจ๊จิ๋มกระเทยอีกคนที่เป็นช่างทำผมละเลงหัว ครบองค์ทรงเครื่องผมก็เดินเฉิดฉายไปที่ห้องนอนสำหรับเข้าฉากในวันนี้

   "สวัสดีค่ะทุกคน"ภายในห้องนอนใหญ่เต็มไปด้วยสตาฟ และอุปกรณ์สำหรับถ่ายละครมาครบ ผมทักทุกคนในห้องพร้อมรอยยิ้มหวานพิมพ์ใจให้พี่ๆทุกคนเอ็นดู พี่ๆก็ทักทายกลับมาด้วยความจริงใจเช่นกัน

   อยู่วงการบันเทิงส่วนใหญ่อาจจะต้องใช้มารยาและความตอแหลถึงจะอยู่รอดแต่รอยยิ้มและคำพูดจริงใจอยู่ได้นานกว่าแถมยังได้รับความเอ็นดูอีกด้วย ผมไม่เห็นว่าคนที่แว้งกัดกันคนไหนจะมีความสุข สู่เอาความจริงใจเข้าแลกดีกว่าชาติจะได้เจริญ นางเอกอ่ะสโนว์ หุหุ

   "สวัสดีค่ะ พี่อั้ม"ผมตรงดิ่งเข้าไปทักทายพี่อั้มผู้กำกับละครโดยไม่สนใจคนที่คุยอยู่กับพี่แกก่อนหน้านี้ จะใครซะละ ไอ้เด็กริวนั่นแหละ

   "ดี น้องสโนว์ มีคู่หมั้นเป็นถึงประธานบริษัทคนต่อไปก็ไม่บอกเลยนะเรา"เห้อ นี่มันจะประกาศไปยันนอกโลกเลยมั้ยเนี่ย ไม่ขอหมั้นออกสื่อเลยล่ะพ่อเจ้าประคุณรุนช่อง

   "มาคมายังคะ"คนที่ผมพาดพิงถึงคือพระเอกดาวรุ่งน้องใหม่ที่เป็นที่จับตามองพอๆกับผมเลยเพราะเราห่างกันแค่ 2 ปี

   "นั่นไง หลีสาวอยู่"พี่อั้มพูดทีจริงทีเล่นพลางบุ้ยปากไปทางคนที่กำลังคุยกับสตาฟนางหนึ่ง ผมเลยเดินไปหาเพื่อขอซ้อมก่อนออกกล้อง

   "มาค ไปซ้อมกัน"

   "ครับ...ผู้ชายคนนี้ใครหรอครับ"ผมหันไปตามนิ้วที่ชี้ไปข้างหลังก็พบกับริวยืนซ้อนผมอยู่ ผีตามหัวรึเปล่านิชอบมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง

   "คนโรคจิตน่ะ/ผัวสโนว์"ผมกับริวพูดพร้อมกัน เดาถูกใช่มั้ยครับว่าใครพูดคำไหน

   "อย่าไปสนใจเลย ไปซ้อมกันดีกว่า เราน่ะชอบพลาดซีนจูบทุกที"ถ้าไม่คิดไปเองผมว่าที่มาคชอบพลาดเพราะอยากจูบกับผม

   "ถ้านายชอบพลาด มาซ้อมกับผมมั้ย"เหมือนเป็นการหวังดีแต่ก็ประสงค์ร้ายเมื่อริวเสนอหน้าเป็นตัวช่วย ถ้าให้เดานั่นคงเป็นวิธีหึงผม

   พระเอกปกติทั่วไปเขาจะต้องโวยวายไม่ใช่หรอวะ นี่อะไร จะซ้อมจูบให้ผู้ชายที่บึกพอๆกัน แนวเมะชนเมะหรอ ไม่ได้นะริวของผม แอ๊ะ ผีเจาะปากมาพูด ผมไม่ได้พูด

   "ไม่ดีกว่าครับ รสนิยมผมไม่ต่ำขนาดนั้น"เมื่อริวกัดมามาคก็กัดไป เห้ย ถูกใจพี่สโนว์มากน้องรัก อย่างงี้ต้องส่งชื่อไปชิงรางวัลออสการ์ ดาราชายปากกัดตีนถีบดีเด่น

   "ก็ดีกว่าให้เมียใช้ปากไปดูดก้นหมา ใช่มั้ยครับที่รัก"ไม่พูดเปล่า ริวก็ก้มมาหอมขมับผมไปที

   รู้สึกได้ถึงรังสีมาคุแผ่กระจายอยู่รอบตัว 2 คนนี้ ศึกชิงนาง(นาย)หรอวะ รับรองได้ว่าภายในวันนี้ต้องมีข่าวเกี่ยวกับผมออกมาเยอะแยะแน่ ประมาณว่า

   เจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง(สน.)แอบซุกสามี

   เจ้าหญิงสโนว์ ไวท์ มีข่าวดี จะได้ออกเรือนในเร็วๆนี้

   สโนว์ ไวท์ กุลสตรีศรีชาติแซ่บผู้ถึง 2 คน


   แค่คิดถึงพาดหัวข่าว ตามคอลัมน์ นิตยสารผมก็ปวดเฮด ต้องเป็นอะไรที่พีคจนนมปลอมผมระเบิด ชีวิตวุ่นวายอยู่แล้วก็หนักกว่าเก่า เพราะไอ้เด็กนรกแท้ๆ

   "มาค สโนว์ เข้ากล้อง"ยังไม่ทันได้ซ้อมต่อบทคุณผู้กำกับก็เรียกตัว เพราะศึกชิงนางเลยทำให้ผมอดซ้อมไปโดยปริยาย

   "จูบรอบเดียวพอ เข้าใจมั้ย"ริวกำชับก่อนที่ผมจะไปนอนที่เตียง ฉากแบบตื่นมาก็มีผัวเลย

   "ไม่ค่ะ คุณก็รู้นี่มันเป็นการแสดง"เห็นสีหน้าโกรธเคืองของเด็กนรกแล้วก็สะใจ ผมว่าผมเห็นจุดอ่อนมันแล้วล่ะ

   หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรอีก แค่โดนคัทไป 3-4 รอบ ผมน่ะทำดีแล้วแต่ดูเหมือนมาคจะตั้งใจจนจูบไปหลายๆรอบ แอบเห็นมาคเหล่มองริวด้วย คงจะแกล้งมันสินะ ไม่เป็นไรให้อภัยเพราะผมก็ร่วมมือกับมาคด้วย สะใจโคตร หน้าเด็กนรกงี้หงิกเชียว

   จบซีนที่ถ่ายทำกันวันนี้ก็เลิกกอง เวลานี้เปลี่ยนเป็นวันใหม่ไปแล้ว อา...ทั้งเหนื่อยทั้งง่วง หมดสัญญาเมื่อไรผมจะเลิกเป็นดาราและไปทำคาเฟ่แทน เงินที่เก็บสั่งสมไว้ก็มากพอที่จะเปิดร้านได้หลายสาขา

   "ให้ผมไปส่งมั้ยครับ"มาคเข้ามาหาเมื่อผมออกจากห้องแต่งตัวและกำลังจะกลับ

   "ไปสิ"แรดเนาะ เย็นมากับผู้ชายอีกคน ค่ำก็กลับไปกับผู้ชายอีกคน คงเป็นข่าวฉาวสุดๆ หมดกันภาพลักษณ์กุลสตรีศรีชาติ

   "สโนว์ ป๊าเรียกตัวน่ะ ด่วนๆเลย ไม่ต้องถามเดี๋ยวไม่ทัน"เดินตามมาคไปอยู่ดีๆ ริวก็เข้ามาจับมือผมแล้วลากไปที่รถ ไอ้ผมที่กำลังจะว้ากก็หุบปากฉันทันที

   "คุณประเสริฐเรียกตัวไปเรื่องอะไร"ขึ้นรถมาได้ผมก็เปิดปากถามทันที

   "ไม่มีอะไรแล้ว คอนโดสโนว์อยู่ที่...ใช่มั้ย เดี๋ยวผมไปส่ง"

   "นี่คุณหลอกฉันหรอ"

   "อ่อ พวกเราจะหมั้นกันพรุ่งนี้เลยนะครับ ส่วนเรื่องผู้ใหญ่ ผมโทรไปคุยกับคุณแม่เมรีแล้ว ท่านโอเค เดี๋ยวตอนเช้าผมจะส่งชุดไปให้แล้วให้พี่คมไปรับนะครับ เรื่องแหวนไม่ต้องห่วงผมสั่งทำตอนที่อยู่อเมริกาไว้แล้วพอดีนิ้วคุณแน่นอน"ผมมึนกับสิ่งที่มันพูดออกมาอย่างรวดเร็ว นอกจากจะเคลมเร็วแล้วยังจัดการเร็วเหมือนวางแผนไว้ล่วงหน้างั้นแหละ ผู้ชายคนนี้น่ากลัวกว่าที่คิด

   "อืม"แต่ยังไงซะพอมันรู้ความจริงเดี๋ยวก็เผ่นเองแหละ ตอนนี้ง่วงมากอยากนอน คราวนี้มันคงไม่ลักหลับผมหรอก มั้งนะ








☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

Nekozaa  :

    หลายคนบอกว่าคล้าย Love stage ก็ใช่นะคะ เอาตรงแต่งงานมาค่ะ เพราะอยากแต่งแนวผู้ชายแต่งหญิง แล้วก็อยากให้พระนายได้กันแบบ... ฮ่าๆ แล้วเราก็ชอบมังงะเรื่องนี้นะ แต่อ่านนานมากแล้วก็จำไม่ได้ คือเอามาแค่ตอนที่แสดงด้วยกันตอนเด็กกับตอนโต นอกนั้นมโนล้วนๆค่ะ ฮา

    น้องริวของเรากลับมาปุ๊บก็จะเคลมน้องสโนว์แล้วอ่ะ เร็วมากกกก รุกมากกกก เป็นคนที่ชวนมึนจริงๆนะน้องริว แล้วใครจะอยากเป็นแม่ยกให้เนี่ย ฮ่าๆๆ

    สำหรับแม่ยกน้องสโนว์ไม่ต้องห่วงเวอร์จิ้นลูกสาวนะคะ น้องมีแผนพิชิตอิน้องริวแต่จะสำเร็จเปล่าก็อีกเรื่อง หุหุ

    ปล. ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เป็นคนที่ชอบอ่านคอมเม้นต์นักอ่านมากค่ะ รู้สึกดี พูดคุยได้ทุกเรื่องเกี่ยวกับนิยายนะคะ


 
:mew1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๒ รักจริงหวังเคลม✖[5/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 05-10-2016 12:17:00
มีความ เหนือคำบรรยาย
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๒ รักจริงหวังเคลม✖[5/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 05-10-2016 12:25:55
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๒ รักจริงหวังเคลม✖[5/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-10-2016 12:40:17
อะไรจะสายฟ้าแลบปานนั้น
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๒ รักจริงหวังเคลม✖[5/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 05-10-2016 23:18:09
อะไรจะมาไวเคลมไวปานนั้น  :hao6:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๒ รักจริงหวังเคลม✖[5/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 06-10-2016 00:05:13
น้องโนสู้คนมากค่ะ   :m20:
น้องริวก็รุกเร็วเหลือเกิน รั่วซะไม่มี  :hao7:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๒ รักจริงหวังเคลม✖[5/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 06-10-2016 00:13:52
ม้าเร็ว เคลมเร็วแท้น่อ 55555 :mew4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๒ รักจริงหวังเคลม✖[5/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: donut4top ที่ 06-10-2016 00:24:18
ขำตรงน้องโนบอกว่าพีคจนนมปลอมจะระเบิด5555555
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๒ รักจริงหวังเคลม✖[5/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 06-10-2016 08:57:50
 :pig4: ริวนี่ว่องไวมากรุกทุกทาง
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๓ เอะอะๆก็จะปล้ำ✖[6/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 06-10-2016 15:08:33
บทที่ ๓

เอะอะๆก็จะปล้ำ

เจ้าชู้?
(https://www.img.in.th/images/d5804c5c5c4ef2b2e4a9a5fdbf6f75f3.jpg)
  ♠ฟอกซ์♠





   หัวถึงหมอนผมก็นอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย หลังจากที่ริวมาส่ง ผมก็ให้มันส่งถึงแค่หน้าลิฟต์ มีการจะตามขึ้นไปด้วยเหตุเพราะกลัวผมโดนฉุด มึงสิจะฉุดกูเด็กนรก พอจะแยกกันจริงๆมันก็เอาดอกไม้ดอกหนึ่งยัดเยียดให้ผม ดอกไอริสพร้อมกับคำพูดเลี่ยนๆ

   'ยังจำความหมายมันได้มั้ย...นั่นแหละสิ่งที่ผมจะบอกเจ้าหญิงของผม'

   เมื่อนอนไม่หลับผมก็เอาสมาทโฟนขึ้นมาเช็คข่าว เปิดหน้าจอเจอสายไม่ได้รับเป็นร้อยจากพี่คม สงสัยจะโทรมาบ่นเรื่องงานหมั้นที่จะจัดพรุ่งนี้ ผมไม่เคยเจออะไรที่มันรวบรัดขนาดนี้มาก่อนทำเอาอึ้งกิมกี่เลย

   โอ้โห พระเจ้ากล้วยแขก ทั้งเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม ไลน์ อากู๋ มีข่าวของผมเต็มไปหมด สื่อไปไวจริงอะไรจริง ทั้งภาพที่ผมอยู่ในรถกับริว ภาพผมยืนอยู่ในดงริวมาค ข่าวหมั้นผมกับริวที่จะมีพรุ่งนี้ ข่าวเม้ามอยแย่งผู้หญิง บลาๆๆ สารพัด

   ผมเลื่อนหน้าจอลงไปเรื่อยๆเพื่อดูรูปและรูปที่ผมช็อคที่สุดคือ

   รูปที่ไอ้เด็กบ้าจูบผมในรถ

   หมดกันๆๆๆ ภาพลักษณ์กุลสตรีศรีชาติ...แล้วจะไปสนใจทำไมล่ะ อีก 4 ปีก็หมดสัญญา พอถึงตอนนั้นผมจะเป็นอิสระออกไปสู่โลกกว้างไปใช้ชีวิตอย่างที่ฝัน ยะฮู่ว

   แค่คิดถึงร้านคาเฟ่ที่เจริญงอกงามผมก็สามารถหลับตาลงได้ในที่สุด

   ...

   06 : 02 am.

   ♪I need a gangsta
To love me better
Than all the others do
To always forgive me
Ride or die with me
That's just what gangsters do♪
   

   เสียงริงโทนสายเรียกเข้าที่คุ้นเคยดังขึ้น ฟังเพลงนี้ทีไรนึกถึงฮาลีย์ ควินซ์ตลอดจนตื่น ผมชอบเธอนะถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงแต่แบบเธอแซ่บจนผมอยากเอาเป็นแบบอย่างเลย ในตู้เสื้อผ้าผมยังมีชุดคอสเป็นฮาลีย์ด้วยนะ จะว่าไปถ้าให้ริวแต่งเป็นโจ๊กเกอร์ก็คงหล่อย่ามใจดี แอ๊ะ นี่ผมไปคิดถึงมันทำไมเนี่ย

   พอมองชื่อที่ปรากฎบนหน้าจอผมก็รับสายด้วยความมึนเมาขี้ตา

   [กว่าจะรับสายได้นะไอ้ควาย] เป็นการทักทายยามเช้าที่ฮาร์ดคอมากครับพี่คม

   "มีอะไรพี่มาปลุกผมแต่เช้าเนี่ย วันนี้มีงานสายๆไม่ใช่หรอ"

   [มาเปิดประตูให้กูก่อน]

   "ครับ"ผมก็เดินไปเปิดประตูทั้งสภาพมึนๆนี่แหละ หัวเหอฟู เสื้อนอนตัวใหญ่กับเกงในตัวเดียว จบ

   "เป็นเรื่องแล้วมั้ยล่ะไอ้ควายตัวเมีย เมื่อวานทำไมไม่รับสายมัวแต่เ_ดกับควายตัวผู้อยู่ล่ะสิ แล้วนี่เ_ดกันแค่คืนเดียวก็ได้เสียเป็นผัวเมียจะหมั้นจะดองกัน รู้มั้ยว่า @*#%฿€&$๛๏*%€!"แล้วผมก็หูชาไปเป็นสิบนาที โดนพี่คมแฝกเฉ่งยิ่งกว่าแม่บ่นลูก รู้สึกว่าเขาจ้างพี่คมมาเป็นหมื่นแต่แม่งดูแลผมเกินร้อยล้าน

   "อ้าวเห้ย แล้วจะพาผมไปไหน"เฉ่งจนพอใจพี่แกก็ถูลากถูกังผมไปเข้าห้องน้ำ

   "ล้างคราบน้ำกามซะแล้วแต่งตัว เดี๋ยวกระบือ 2 ตัวจะตามมาสมทบ"ปากร้ายอ่ะ ใครมันช่างสรรหาผู้จัดการคนนี้มาให้วะ ถูกใจป๋ามาก ฮ่าๆ

   "พี่คม อาบให้สโนว์หน่อยสิคะ"อ่อยซะเลย ผมเดินเข้าเบียดเสียดกับตัวพี่คมแล้วใช้นิ้วเขี่ยบนแผงอกแน่นตึงนั่น ดูๆไปแล้วพี่คมก็หล่อแบบคนใต้ดีนะ

   "กูไม่อยากมีลูกเป็นควาย ไปอาบน้ำไป๊ ก่อนที่กูจะยัดตีนใส่เบ้าตามึง"ไม่เคยอ่อยได้สำเร็จเล้ย สงสัยพี่แกชอบทอมละมั้ง หญิงก็ไม่เอาชายก็ยิ่งไม่เอา เหอ

   อาบน้ำเสร็จผมก็จัดการแปะซิลิโคนนมปลอมหัวนมสีชมพู ตอนแรกที่ผมใส่นะแบบว่าบีบนมปลอมมันส์มือเลยล่ะ เหมือนจริงยิ่งกว่า 5D มองตัวเองในกระจกแล้วก็ตลกชิบหาย ข้างบนมีนมแต่ข้างล่างมีไข่ว่าแล้วก็ขอแดนซ์เอาฮาซะหน่อย

   "โรตีแผ่นกลมๆส่ายนม ส่ายไข่ โรตีแผ่นใหญ่ๆส่ายไข่ ส่ายนม~"ร้องไปก็ทำท่าประกอบส่ายนม ส่ายไข่ วู้วๆ

   "เลิกส่ายซิลิโคนส่ายกระโปกมึงแล้วรีบออกมาได้แล้ว ไอ้ห่า"ได้ยินด้วยอ่า ปากดีแล้วยังหูดีเหมือนอะไรนะที่ร้องเอ๋งๆ

   "คร้าบบบ พี่หมา...อุ๊บส์ ขอโทษครับ"

   "€*%*๏#€๚๛"แล้วพี่แกก็บ่นไปอีกระลอก ระหว่างฟังเสียงนกเสียงกาผมก็สวมชุดไทยไปด้วย ผมชอบใส่ชุดไทยนะรู้สึกว่าใส่แล้วเรามีของดีในตัว

   สวยจังคนในกระจกเนี่ย พอใส่ชุดไทยแล้วแบบงามแต้หนอผู้สาวคนนี้ ผมว่าคนทั้งงานต้องตะลึงงันแม้ผมจะเคยใส่ชุดไทยแสดงละครแล้วก็เถอะ เสียงเอะอะช้างนอกทำให้ผมเดินออกมาหลังจากที่ชมตัวเองเสร็จ

   "สวัสดีค่ะ พี่เนเน่ เจ๊จิ๋ม"ผมยกมือไหว้แล้วค้อมศีรษะลงพลางถอนสายบัว เป็นไงล่ะไปประกวดมิสทิฟฟานี่ได้สบายเลยนะเนี่ย ฮ่าๆ

   "อยู่กันสองต่อสองไม่ต้องแหลก็ได้ค่าขุ่นน้อง"ใช่ครับ ผู้ชายร่างใหญ่ใจสาวสองคนนี้รู้ความลับผมเพิ่มมาอีกคนสองคนก็ตั้งนานแล้วแหละ เพราะผมจำเป็นต้องมีคนไว้ใจมาปลูกถ่ายร่างกายให้ เอ่อ หมายถึงแต่งหน้าทำผมครับ น่าจะหมดแล้วคนที่รู้ความลับผม เพราะยิ่งรู้มากยิ่งเสี่ยง แต่คนพวกนี้ไว้ใจได้ครับผมพิสูจน์มาแล้ว

   "อย่าเพิ่งรวมฝูงกันตอนนี้ รีบจัดการควายตัวเมียเร็วๆ"โห รุนแรงอ่ะไม่เคยไว้หน้ากันจริงๆนะพี่คม ปากคมยิ่งกว่ามีด

   "แหม ขุ่นน้องคมเจอกันทีไรก็ปากร้ายตลอดเลยนะคะ แล้วไม่สนใจเลี้ยงควายตัวนี้บ้างหรอเค๊อะ คิคิ"พี่เนเน่เล่นผิดคนแล้วครับ

   "คุณไม่ใช่ควาย คุณคือกระบือ อีกอย่างผมเลี้ยงไว้อยู่แล้วที่บ้าน หึ...ให้เวลา 10 นาที ถ้าไม่เสร็จผมจะเอามีดยัดก้นพวกคุณ ขอตัว"กรี๊ดด ถึงแม้ประโยคสุดท้ายจะชวนเสียวตูดแต่ไอ้หน้าหล่อร้ายที่พูดถึงควายที่บ้านคืออะไรค๊ามีลับลมคมในสุดๆ

   "มาค่ะ น้องสโนว์ พี่จะแปลงโฉมให้หนูเป็นเจ้าหญิงให้คุณริวอึ้งไปเลย"

   "ระหว่างนั้นขุ่นน้องก็ตอบคำถามพี่ด้วยนะคะ"

   แล้วผมก็โดนผงซักฟอกโรยใส่แล้วซักๆๆจนขาวซีด ซักเรื่องเด็กนรกไม่หยุดหย่อนจนคอแห้งกันไปหลายฝ่ายยิ่งกว่าการโต้วาที

   "ว้ายยย สวยมากค่ะสวยจนชะนีชิดซ้ายมิสไทยแลนด์ชิดขวา"

   "ขุ่นน้องเริศมาก พี่ล่ะอิจฉาคุณริวจริงๆได้ผู้ชายสวยไปกิน คิคิ"

   "หึหึ ผมว่ามันคงไม่กล้ากินหรอก สนุกล่ะงานนี้"

   "เสร็จแล้วก็ไปขึ้นคอกควายคอกกระบือได้แล้ว"ลองคิดๆดูทำไมรอบตัวผมมีแต่คนแปลกๆว่ะ

   ระหว่างนั่งรถออกจากคอนโดผมเห็นนักข่าวยืนออกันเต็มหน้าคอนโด ดีนะที่ผมไม่ออกมาทางนั้นไม่งั้นเจ้าสาวก็คงไม่ได้ไปหมั้นแต่โดนไมค์เจาะปากแทน

   ผมถูกพามาที่บ้านหลังใหญ่ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นบ้านของคุณประเสริฐ รถเต็มหน้าบ้านไม่ว่าจะเป็นรถของช่อง 12345678... อย่างเยอะ

   พอผมลงจากรถเท่านั้นแหละ พ่อเจ้าแม่เจ้า นักข่าวเป็นโขยงก็เข้ามารุมตอมผมกันยกใหญ่

   "คุณสโนว์คะ แอบซุกคุณริวไว้ตั้งแต่ตอนไหนคะ"ตื่นมาก็มีผัวเลยค่ะ

   "คุณสโนว์คบกับคุณริวมากี่ปีแล้วครับ"1 วันค่ะ

   "ข่าวที่ว่าคุณสโนว์แซ่บผู้ชายถึง 4 คนจริงรึเปล่าคะ"เป็นร้อยค่ะ

   "ที่หมั้นกันเพราะคุณสโนว์ท้องใช่มั้ยคะ"มีลูก 10 คนแล้วค่ะ

   "ขอทางหน่อยครับ โตกันแล้วก็น่าจะรู้นะครับว่านี่งานมงคลจะทำให้เสียฤกษ์ไม่ได้ หรือพวกคุณอยากทำให้งานเป็นงานอัปมงคล ถ้ามีสมองก็ช่วยคิดนึดหนึ่ง...แล้วก็ช่วยอยู่กันอย่างสงบนะครับ ขอบคุณมาก"ปรบมือให้พี่คมหน่อยค่า พวกแมลงวี่แมลงวันใบ้แดกไปเลย นี่เป็นคำพูดที่เป็นทางการที่สุดแล้วของพี่คมหากไม่เป็นทางการคงร้องไห้จ้ากันไปแล้ว

   พี่คมลากให้ผมอ้อมห้องโถงไปขึ้นลิฟต์(รวยเว่อ)พี่แกอธิบายว่า ครอบครัวนี้อยากให้เปิดตัวแบบเดินลงมาจากบันไดให้สมศักดิ์ศรีว่าที่ลูกสะใภ้มีไข่

   เมื่อพร้อมแล้วก็ค่อยๆเดินลงไปตามขั้นบันไดไปสู่ห้องโถง เสียงคุยจ้อกแจ้กจอแจเงียบลงเมื่อทุกคนเห็นผม สายตาผมกวาดมองไปทั่วเห็น คุณประเสริฐส่งยิ้มมาให้แบบแหยๆ คุณน้าแอนนาภรรยาคุณประเสริฐมองผมด้วยความเอ็นดู นักข่าวที่มองมาด้วยสายตาอันหลากหลายแต่ก็มีแววชื่นชมความงามของผม ริวที่มองผมด้วยความหลงใหลใคร่รัก และครอบครัวผม...ก็มา

   "แด๊ด แม่"ผมพึมพำออกมาเบาๆเมื่อเห็นบุพการีทั้ง 2 ท่านมาร่วมงานหมั้นด้วย คือผมก็รู้นะว่างานสำคัญแบบนี้มันต้องมีผู้ปกครองมา

   เห็นสีหน้าจริงจังของแด๊ดกับแม่แล้วความคิดที่จะทำเป็นเล่นๆของผมก็ดับวูบลง งานนี้มีเคลียร์ยาวๆแน่เลยสโนว์

   "วันนี้คุณสวยยิ่งกว่าวันไหนๆ คุณคือ The best ของผม"เด็กนรกชมผมยกใหญ่ผมก็ยิ้มหวานให้ไปแค่นั้นแล้วให้ความสนใจแด๊ดที่นั่งบึ้งตึงและแม่ที่ยิ้มอย่างตื้นตันใจ

   พิธีหมั้นดำเนินไปอย่างไม่มีอะไรติดขัด เว้นก็เสียแต่แด๊ดที่มีทีท่าไม่พอใจเหมือนกับหวงลูกสาวงั้นแหละ แด๊ดอย่าลืมสิผมเป็นผู้ชายมีกระปู๋นะ

   แอบเสียดายสินสอดเบาๆถ้าผมถอนหมั้นริว สินเป็นร้อยล้านขนาดนี้ ซื้อเกาะใหญ่ได้ทั้งเกาะเลยนะเนี่ย หลังจากทำพิธีเสร็จนักข่าวที่รูดซิบปากและทำตัวสงบเสงียบมานานก็แผลงฤทธิ์แต่ก็โดนพี่คมแฝกแสกหน้ากลับไปเหมือนเดิมแล้วต้อนพวกนักข่าวกลับไปที่ชอบๆ

    และแล้วก็ถึงเวลาส่งตัวเจ้าสาวเข้าหอ เอ๊ะ ลำดับขั้นมันผิดไปรึเปล่ายังไม่ได้แต่งงานกันจริงๆเลยนะ อย่าบอกนะว่าเด็กนรกเป็นคนคิด

   "เดี๋ยว ผมขอคุยกับลูกก่อน"แด๊ดดี้ที่รักช่วยถ่วงเวอจิ้นลูกสาวด้วยการจับบ่าริวแน่นแล้วยิ้มเหี้ยม กรี๊ด เท่ห์มากเลยค่ะแด๊ด

   "ดาร์ลิ้งไปขัดลูกๆทำไมคะ ค่อยคุยตอนเสร็จกิจก็ได้นี่"เดี๋ยวนะครับแม่ ลืมไปแล้วหรอว่าผมเป็นผู้ชาย สนับสนุนให้ลูกมีผัวจริง

   "ฮันนี่ เธอก็รู้ว่าลูกเราเป็น..."

   "เป็นกุลสตรีใช่มั้ยคะ ดาร์ลิ้งก็ห่วงลูกสาวมากเกินไป ลูกเรามีวิธีเผด็จศึกได้อยู่แล้ว...จริงมั้ยสโนว์"ไข่สั่นเลยครับเมื่อกี้แด๊ดเกือบหลุดอยู่แล้วดีนะแม่แก้ทันแต่ไหงสนับสนุนแบบนั้นล่ะผมไม่มีแบบที่ผู้หญิงมีจะเผด็จศึกได้ไง

มีต่อด้านล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๓ เอะอะๆก็จะปล้ำ✖[6/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 06-10-2016 15:23:06
   "ไปกันเถอะคุณภรรยา ผมรอไม่ไหวแล้ว"ริวคว้าข้อมือผมก่อนจะแอบชิ่งไปขึ้นลิฟต์ในขณะที่แด๊ดกำลังเคียงกับแม่ แล้วผมยอมตามมันมาทำไมเนี่ย อยู่ในคราบสโนว์มากๆชักจะกระแดะมากไปแล้วนะ

   "ปล่อยค่ะ เรายังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันคุณก็ไม่มีสิทธิ์ คนไทยเขาถือนะคะ"

   "แต่ผมไม่ถือครับ อีกอย่างคุณสัญญากับผมไว้แล้วว่าหลังจากหมั้นผมแตะต้องตัวคุณได้"

   "ฉันยังไม่พร้อม"ริวเหวี่ยงผมเบาๆให้เขาห้องหอรอรักแล้วปิดประตูล็อคกลอนใส่กุญแจ นี่มันกะจะเคลมผมให้ได้เลยใช่มั้ย

   "ผมรอมาตั้ง 12 ปี ผมจะไม่ทน"กูก็จะไม่ทนถ้ามึงยังหื่นใส่กูไม่เลิก

   "ก็ได้ค่ะ ฉันยอมคุณ"เท่านั้นแหละ ริวก็ปรี่เข้ามาหาผมอย่างหื่นกระหาย"เดี๋ยว! ฉันเหม็นกลิ่นตัวคุณ ไปอาบน้ำก่อนนะคะ"

   "งั้นก็ไปอาบพร้อมกันนะครับ"

   "แบบนั้นก็ไม่น่าตื่นเต้นสิคะ ฉันว่าจะให้คุณเข้าไปอาบน้ำ...พอออกมาคุณก็จะเห็นฉันในชุดวันเกิดนอนอ้าขารอคุณอยู่ที่เตียงไงคะ"ผมพูดเสียงพร่าพร้อมกับใช้นิ้วเขี่ยไปที่แผงอกกว้าง แร๊ดแรดอ่ะ นี่ถ้าไม่ใช่นักแสดงพูดไม่ได้นะเนี่ย

   "คุณนี่มันนางแมวยั่วสวาทจริงๆ เห็นเงียบๆแต่ก็ร้อนแรงใช่เล่น หึหึ...รอผมนะครับคนดี จุ๊บ"ริวจูบปากผมเบาๆก่อนจะรีบเข้าห้องน้ำไป พอลับสายตามันผมก็รีบขยี้ปากตัวเองแรงๆอย่างรังเกียจ เด็กนรกตัณหากลับเอ้ย

   เสียงน้ำกระทบพื้นดังขึ้นเป็นสัญญาณที่ดีที่บอกว่าผมต้องรีบชิ่ง ก็อยากอยู่ต่อให้มันค้นพบความจริงหรอกนะแต่คงไม่ใช่วันนี้เพราะผมรู้สึกผิดที่เล่นๆกับงานมงคล รอให้หายรู้สึกผิดแล้วค่อยกลับมาถกหำให้ริวเบิ่ง

   ตอนนี้สายตาผมกวาดมองไปทั่วเพื้อหาทางหนีทีไล่ ประตูก็ออกไม่ได้ไอ้เด็กริวเอากุญแจมาล็อค ลูกกุญแจก็อยู่ในห้องน้ำกับมัน ทางเดียวคือหน้าต่าง อย่างกับชู้แหนะที่ต้องออกทางหน้าต่าง คนอื่นเขาเข้าตามตรอกออกทางประตูนี่เข้าตามประตูออกทางตรอก

   ก่อนไปเอาอะไรให้มันดูต่างหน้าให้เจ็บใจเล่นดีกว่า...บ๊ายบายนะไอ้หื่น

   ตุ้บ

   โดดลงมาจากชั้น 2 นี่ไม่ใช่ขี้ๆนะครับทำเอาซิลิโคนเขวเลย ถามว่ามีแผลมั้ยตอบเลยว่าไม่ ผมคงไม่โง่โดดมาทั้งๆงั้น ไม่ใช่คนที่ร่างกายต้องการปะทะพื้นดิน ผมเอาพวกหมอนอะไรก็ได้ที่มันนิ่มๆโยนลงมาก่อนให้รองรับร่างกายที่ใช้ทำมาหากินของผม

   "ฮัลโหล พี่คมยังอยู่ที่บ้านคุณประเสริฐใช่มั้ย มารับผมตรงสนามข้างบ้านหน่อย อย่าเพิ่งถามอย่าเพิ่งด่า ด่วนๆเลย"โทรให้พี่คมมารับได้ไม่กี่วินาทีพี่แกก็มาได้ทันใจป๋าเรียกร้อง ฟู่ว ระทึกใจดีแท้หนีผัวไปกับชู้เนี่ย

   "สารภาพบาปมา"ขึ้นรถมายังไม่ทันได้หายใจพี่คมแฝกก็ซักผมทันที

   "ถามจริงชาติที่แล้วพี่เป็นพ่อผมรึเปล่าเนี่ย"แซะพี่มันไปทีบวกกับแถเปลี่ยนเรื่อง ขี้เกียจตอบคำถาม

   "กูไม่เคยมีลูกเป็นควาย"

   "ผมสงสัยมานานละ พี่เป็นอะไรกับควายมากป่ะ"อันนี้สงสัยจริงไม่มีแถ

   "เสือก"เป็นคำด่าที่สั้นที่สุดที่ผมเคยได้ยินมาจากปากพี่แก และนั่นเป็นคำสุดท้ายก่อนที่บรรยากาศทั้งรถจะเงียบไป

   ยังมีเวลาที่ผมจะไปอัดรายการในช่วงสายทัน เลยให้พี่คมไปส่งผมที่สตูดิโอทั้งๆอย่างนั้น พอเข้าบริษัทคนมองกันให้พรึบแบบว่าหนีผัวตามชู้ไม่พอยังหนีมาทำงานอีกแถมของต่างหน้าที่ผมห้อยไว้ตรงหน้าต่างยังเป็น...กางเกงใน แต่ผมไม่ได้โป๊ท่อนล่างนะยังมีบ๊อกเซอร์ให้อุ่นใจอยู่

   อัดรายการเสร็จผมก็ไปถ่ายหนัง ให้สัมภาษณ์นั่นนู่นนี่จนครบรายการตารางงานของวันนี้ก็ไม่เห็นวี่แววของผัวมาตามราวี สงสัยนอนดมเกงในผมแล้วชักขึ้นชักลงไปด้วยแหง

   อ่อ ยังไม่หมดภารกิจ วันนี้ผมต้องไปสะสางกับใครบางคนให้รู้เรื่อง นี่ก็ใกล้เวลานัดแล้วหวังว่าจะไม่เปลี่ยนใจเพราะผมมีผัวแล้วหรอกนะ แอ๊ะ นี่ผมเรียกเด็กริวว่าผัวจนจะติดปากแล้วนะ ถุยๆๆ เปลี่ยน

   --------

   เสียงเพลงจังหวะเนิบนาบคลอเบาๆเพื่อรอคอยแขกเข้ามาเยอะๆก่อนค่อยเปิดเพลงจังหวะเร้าใจ เหล่าผีเสื้อราตรีตกมันต่างพร้อมใจกันหันมามองผม นี่ขนาดใส่แว่นกันแดด แต่งตัวรัดกุมแบ้วนะ ยังอุสาห์มีคนจำผมได้ด้วย เป็นคนดังนี่โคตรจะลำบาก

   "ขอพั้นช์ที่หนึ่งค่ะ"เห็นเป้าหมายนั่งดื่มอยู่เงียบๆที่บาร์ผมก็ตามไปนั่งข้างๆพร้อมสั่งอะไรที่ไม่ทำให้ผมเมากับบาร์เท็นเดอร์หน้าตาดี

   "ไม่ต้องครับ ผมสั่งไว้ให้คุณเขาแล้ว"ไอ้ฟอกซ์ยกมือห้ามบาร์เท็นเดอร์ที่กำลังชงพั้นช์ให้ผมแล้วยื่นแก้วเหล้าให้ผมแทน เห็นสีก็รู้แล้วว่ามันกะจะมอมผม

   "พี่ไม่ดื่มหนักค่ะ...ฟอกซ์มีอะไรก็รีบพูดมาดีกว่า พี่ไม่ได้ว่างทั้งวัน พี่เหนื่อยมาก ทำงานทั้งวันแล้วต้องมาหาฟอกซ์ เอาเวลานี้ไปหลับยังได้ประโยชน์กว่าเยอะเลยค่ะ"เป็นไงล่ะมึงโดนชะนีจิกกัดเงิบเลย สมน้ำหน้าไอ้เนิร์ด

   "ผม ผมแค่คิดถึงพี่อยากเจอพี่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่พี่จะกลายไปเป็นของคนอื่น ดื่มกับผมเป็นครั้งสุดท้ายได้มั้ยครับ"ไอ้ฟอกซ์ทำเสียงเว้าวอนปานควายออกลูก แอ๊ะ นี่ผมติดอะไรควายๆมาจากพี่คมแล้วใช่มั้ยเนี่ย

   "พี่จะดื่มกับฟอกซ์ก็ได้แต่ต้องรับปากว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายและช่วยเก็บชีทให้โนตลอดห้ามขัดห้ามแย้งโนอีก เข้าใจมั้ยคะน้องฟอกซ์"นี่แหละความสัมพันธ์ของผมกับฟอกซ์ ในเมื่อมันหลงใหลผมในคราบสโนว์ ผมก็สนองนี้ดให้มันได้รู้จักกับสโนว์เป็นพิเศษและหลอกใช้มัน ยอมรับแบบลูกผู้ชายเลยว่าผมมันเลว

   "ครับ ครั้งสุดท้าย"ผมคิดไปเองรึเปล่า เห็นแวบๆว่าฟอกซ์กดยิ้มมุมปากเหมือนมีความนัย

   แก้วที่เท่าไรไม่รู้ที่ผมดื่มไป พอเริ่มแก้วแรกแก้วที่สองก็ตามมาจนดื่มเพลินลื่นปื๊ดๆ อา...แต่ผมไม่ได้เมาหรอกนะ ถ้าเมาผมก็ต้องแสดงอาการโคตรแมนออกไป พี่คมเคยบอกผมว่าเวลาอยู่ในคราบสโนว์แล้วเมาผมจะกลายเป็นโนที่สุดหล่อ สุดฮิป สุดตีน สุดแมนแซงพี่บัวขาว แต่พออยู่ในคราบโนมันจะตรงกันข้ามกับความแมน

   "พี่สโนว์ เมายังครับ"ใครวะมาแต๊ะอั๋งกู จับเอวผู้ชายแมนๆอย่างกูได้ไง อ๋อ ไอ้เนิร์ดนี่เอง มาอยู่ใกล้ตีนกูขนาดนี้ก็ดีกำลังหมั่นไว้อยู่เลย

   "เมาห่าอะไร มึงคิดว่ามึงเป็นใคร เป็นพระฟัน(อัล)เลาะห์รึไงถึงมาสั่งกูได้ ห้ะ! ไอ้เนิร์ด"เงิบ เงินสิมึง กูโวยวายแค่นี้ทำเป็นเงิบ พ่อมึงเป็นนักเงิบรึไง

   "พี่คงเมามากแล้ว กลับดีกว่านะครับเดี๋ยวผมไปส่ง"ไอ้เนิร์ดหันรีหันขวาผมก็หันตามไป ก็ไม่มีอะไรนี่หว่าแค่คนในผับในบาร์ชูโทรศัพท์มาเล่นกันทุกคน ถ่ายรูปคนหล่ออย่างผมใช่ม้ายย ว่าแล้วก็หันไปยิ้มให้กล้องนู้นทีกล้องนี้ที

   "ดีจ้า"เซ ฮัลโหลให้โทรศัพท์ด้วย นี่ผมจะฮาไปไหน ฮา ห่า ฮ่า ฮ้า หา

   "พี่สโนว์กลับกันครับ ค่อยไปเล่นกล้องที่ห้องผมก็ได้"ไอ้ฟอกซ์กอดเอวผมให้เดินตามแล้วทำไมต้องก้มมาพูดใกล้หูกูด้วยวะ ลามปามนะมึง

   "ปล่อยเว้ย ไอ้เนี่ยหี้"แบร่ๆ ลิ้นพันกันแล้วกูสงสัยต้องไปนั่งเบิร์นลิ้นกับสาวๆหน่อย

   "เดินดีๆครับ"ยังยังไม่เลิกแต๊ะอั๋งกู ความอดทนคนเรามันมีความสิ้นสุดนะเว้ย ไอ้ห่าน ก๊าบๆ

   "มึงอยากมีลูกใช่มั้ย ด๊ายยยย"เดี๋ยวนะ เหมือนพูดอะไรผิดแต่ช่างมันเถอะ ขอสอยไอ้เปรตนี่ให้ร่วงก่อนค่อยไปเบิร์นกับสาวๆอึ๋มๆแถวนี้ มองพี่จริงระวังโดนพี่สีเหยนะจ้ะ ก๊ากกก

   "ครับ ผมอยากมีลูก"จบคำนั่นแหละผมก็ละทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง ลากมันไปที่ลับตาคนแล้ว...

   ผลัวะ ผลัวะ

   ต่อยกำแพงครับ ดอกจิก กูเจ็บมือต่อยไปได้ยังไงกำแพงหนาๆ คือกูจะต่อยเบ้าตาทั้งสองข้างของไอ้เนิร์ดแต่พลาดเป้าไปหน่อยเดียว นี่ผมว่าผมเล็งแม่นแล้วนะ ไหงต่อยไม่โดนวะ โนๆๆกูไม่ได้เมาครับ โนวววโน๊ววว

   "พี่! เจ็บมั้ยครับ ผมว่าพี่เมามากจริงๆนะ พี่ดูไม่มีสติเลย"ไอ้ฟอกซ์เอามือผมไปจับๆคลำๆแล้วเป่าลมฟู่ปลอบผม

   "กูบอกว่ากูไม่ได้เมา พืด(พูด)ไม่รู้เรื่องหรอ"ผมสะบัดมือออกอย่างแรงจนตัวเซเกือบล้มเพราะไอ้รองเท้าส้นสูงเนี่ยแหละ นี่กูใส่รองเท้าผู้หญิงทำไมเนี่ย งงมาก ช่างมัน เหวี่ยงทิ้งแม่งเลยรำคาญ ผู้หญิงใส่ไปได้ไงวะ ไม่กลัวตกตึกรึไง

   "คืนนี้นอนกับผมก่อนแล้วกันนะครับพี่สโนว์"ใครคือสโนว์ อ๋อ พี่สาวกูเองแต่กูคือโน ไม่ใช่สโนว์ ยูโน๊? โอเค ยูไม่โน ไอโนก็ได้ กูพูดกับตัวเองก็ได้ไม่ง้อมึงหรอก

   "ก้มหน้ามาก่อน"ผมยิ้มกริ่มเมื่อไอ้ฟอกซ์ว่าง่าย ก้มมาถึงช่วงที่กะไว้ผมก็แดกคอมันเลยครับ งั่มๆๆ

   "โอ๊ยยยย พี่สโนว์ผมเจ็บนะ กัดผมทำไมเนี่ย"แง่งๆๆ

   "อูแอ้นอึงอาอานแอ้วไอ้เอี้ยอ๊อก อูอะอัดไอ้อออึงอาดเอย"กูแค้นมึงมานานแล้วไอ้เหี้ยฟอกซ์กูจะกัดให้คอมึงขาดเลย เป็นไงล่ะมีซับให้ด้วย ก๊ากกกกก

   "โอ๊ยยย พะ พี่...ผมขอโทษนะครับ"ไม่รู้ว่าไอ้เนิร์ดมันขอโทษผมเรื่องอะไรทั้งๆที่ผมประทุษร้ายร่างกายมันก่อน รู้สึกแค่ว่าเจ็บที่ท้ายทอยแล้วทุกอย่างก็ปิดสวิตช์ลง

   "อืมม"ปวดหัวชิบหาย ปวดเหมือนมีคนเอาตุ๊กตายางมาทุบ ถามว่าเจ็บมั้ย สุดๆอ่ะแทนที่จะเอามาทุบเอามาทำอย่างอื่นไม่ดีกว่าหรอ นอกเรื่องล่ะๆ

   ผมค่อยๆลืมตาและลุกขึ้นพิงกับหัวเตียง เมื่อปรับสายตาให้คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมได้ผมก็เตรียมจะลุกไปเข้าห้องน้ำตามปกติแต่มันแปลกไป

   "ที่นี่ที่ไหนวะเนี่ย"ไม่ใช่ที่ซุกหัวนอนที่ผมนอนอยู่ทุกวัน ดูไปดูมาห้องนี้ก็หรูใช้ได้เลยนะ ว่าแต่กี่โมงแล้ว"เที่ยงคืน"

   จำได้ว่าทำงานเสร็จก็ไปตามนัดไอ้ฟอกซ์หลังจากนั้นก็ดื่มเพื่อเป็นการเจอกันครั้งสุดท้ายต่อจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้ มันเกิดอะไรขึ้นวะ

   "ตื่นแล้วหรอครับพี่สโนว์"เสียงของไอ้คนที่ผมเกลียดขี้หน้าระดับหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างเปลือยท่อนบน น้ำเกาะพราวตามตัว ใบหน้าไม่มีแว่นหนาเตอะประดับอยู่อย่างทุกทีทำให้ตอนนี้มันหล่อมากกก หล่อกระชากมดลูกกูเลย

   "พากูมาที่นี่ทำไม"

   "พี่แบบหวานๆผมก็ชอบนะครับแต่แบบนี้ก็เร้าใจผมดี"

   "โรคจิตรึไงวะ กูจะไม่ยุ่งกับมึงอีกมึงก็อย่ามายุ่งกับกู"สองขาก้าวลงจากเตียงปุ๊บก็เดินจะออกจากห้อง ขืนอยู่ต่อผมต้องเสร็จไอ้หื่นนี่แน่ก็ว่าแล้วว่ามันมีอะไรแปลกๆ มันต้องการตัวสโนว์ ดีที่มันยังไม่ทำอะไรผมตอนหลับไม่งั้นไอ้จู๋ผมคงเด้งออกมาแสกหน้ามัน

   "จะหนีไปไหนล่ะครับ ผมอุส่าห์รอพี่ตื่นตั้งนาน"ไอ้ฟอกซ์เอามือมาดันประตูที่ผมกำลังจะเปิด แล้วกอดเอวผมไว้แน่นก่อนจะลากไปที่เตียง ชีวิตนี้กูจะโดนลากไปฟันตลอดเลยใช่มั้ยเนี่ย ไม่ยอมหรอกเว้ย

   "กูจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ปล่อย-กู!"

   "ไม่ครับ"

   "กูจะไม่ออมแรงแล้วนะ"แม้จะยังไม่สร่างเมาดีแต่ความเดือดดาลของผมมันก็ประทุขึ้นมาเป็นกำลังทัพ ผมบอกแล้วว่าความอดทนของเรามีที่สิ้นสุด ผมไม่ใช่ผู้หญิงง่อยๆที่จะโดนลากไปข่มขืน

   ผลัวะ

   โนคนนี้เป็นผู้ชายที่ต่อยปากมึงให้แตกได้เว้ยย เป็นไงล่ะไอ้สุนัขจิ้งจอกลอบกัดคราวนี้โดนต่อยจังๆอย่างหลบไม่พ้น เลือดกบปากจนได้

   "ผมไม่อยากใช้ความรุนแรงกับคนที่ผมรักแต่คืนนี้พี่ต้องเป็นของผมก่อนมัน!"

   ไอ้ฟอกซ์ตะโกนใส่อย่างคนอารมณ์รุนแรง ไอ้คนที่ผมว่าเนิร์ดตอนนี้ไม่เหลือเค้าความเจี้ยมเจี๊ยม อารมณ์มันตอนนี้น่ากลัว แววตาที่มองผมมันเหมือนเสือกระหายอยาก เพิ่งจะเน้าใจวันนี้ว่าคนที่เก็บกดมัดจะระเบิดอารมณ์ออกมาได้อย่างน่ากลัว

   "ไม่"มันจับท้ายทอยให้ผมเงยหน้าขึ้นแล้วจะฉกริมฝีปากแต่ผมก็รีบเบือนหน้าหนี

   "ผมรักพี่ พี่เป็นของผม ของผมคนเดียวเท่านั้น"มันผลักผมให้ราบไปกับเตียงแล้วตามขึ้นมาคร่อมตัวผมไว้ ทำไงดี แรงผมสู้แรงมันไม่ได้เลย ขนาดตัวก็ต่างกัน ความแข็งแรงก็ต่างผมที่เป็นผู้ชายยังสู้มันไม่ได้เพราะไม่ได้ออกกำลังหนักอย่างผู้ชาย

   "กู กูไม่ใช่"ถ้าบอกความจริงไปไอ้ฟอกซ์ที่ชอบสโนว์ไม่ใช่โนจะหยุดใช่มั้ย









☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

Nekozaa  :

     หมั้นกันแหล่วๆๆแต่คงจดทะเบียนสมรสกันไม่ได้หรอก ก็น้องสโนว์เป็น นายสโนว์ ฮ่าๆ
     
      งานนี้มีความแด๊ดหวงลูกสาว?แน่นอน ก็ตาริวอยู่ๆก็คาบน้องสโนว์ไปซะงั้น

      น้องสโนว์มีความกวนบาทามาก ขำนางแต่ฟอกซ์กำลังจะคาบน้องสโนว์ไปแล้ว กรี๊ดดด เจ้าบ่าวไปช่วยเจ้าสาวทีรึว่างานนี้จะเปลี่ยนเจ้าบ่าว??? หุหุ

      ถ้าคนอ่านเจอคำผิดตรงไหนบอกคนเขียนได้เลยนะคะ ไม่อยากให้อ่านแล้วสะดุด อยากให้ต่อตอนต่อไปก็เข้ามาเม้นต์รัวๆเลยนะคะ เลิฟๆเลย


:กอด1: 
 
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๓ เอะอะๆก็จะปล้ำ✖[6/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-10-2016 18:54:08
 :katai1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๓ เอะอะๆก็จะปล้ำ✖[6/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 07-10-2016 12:47:06
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๓ เอะอะๆก็จะปล้ำ✖[6/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 07-10-2016 12:59:15
2 เรื่องติด นางเอกกำลังจะโดนปล้ำ :z3:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๓ เอะอะๆก็จะปล้ำ✖[6/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 07-10-2016 18:57:40
เรื่องดำเนินไปเร็วมาก ขอบคุณที่มาต่อจ้า  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๓ เอะอะๆก็จะปล้ำ✖[6/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 07-10-2016 19:28:46
เพิ่งตามมาอ่าน
สนุกดีค่า :mew1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๓ เอะอะๆก็จะปล้ำ✖[6/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 07-10-2016 22:19:05
 :hao4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๔ ริว vs โน✖[8/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 08-10-2016 07:31:36
บทที่๔

ริว vs โน

 




   "กู กูไม่ใช่"

   หมับ

   กรี๊ดดดดดด ไอ้ฟอกซ์มันจับนมปลอมผมแบบเต็มไม้เต็มมือไม่มีออมแรง จับแบบขยี้ขย้ำนอนสต๊อบ และ และมันกำลังจะเขยื้อนไปตามแรงขยี้

   "นมพี่นิ่มแปลกๆ"ไม่ให้นิ่มได้ไงเล่านี่มันนมปลอมไง อย่าๆอย่าขยับมันจะหลุดแหล่วว

   "ปล่อยนมกูวววววว"เสียงร้องลั่นเป็นพันเดซิเบลทำให้มันตกใจแต่สายตาที่มองนมผมมันตกใจยิ่งกว่าพอมองตามสายตาไอ้ฟอกซ์

   นมหลุดไปอยู่ตรงเอว! เหี้ยยยย

   "พี่..."ไอ้ฟอกซ์เลิกลวนลามนมผม มันผงะลุกออกจากเตียงหน้าตามันบอกเลยว่าช็อกสุดขีด

   เมื่อคนตรงหน้ามีช่องโหว่ผมก็ถือโอกาสวิ่งหนีไปจากตัวอันตราย พอจะเปิดประตูออกคนที่อยู่ข้างนอกก็ผลักประตูเข้ามาก่อนที่ผมจะจับลูกบิด

   "สโนว์!"เด็กริวกอดผมแน่นไม่ให้ทันตั้งตัว อ้อมกอดของคนตรงนี้น่าอุ่นใจกว่าไอ้ฟอกซ์มากผมรู้สึกได้ถึงความห่วงใยของริว"ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ คุณโดนมันล่วงเกินรึเปล่าบอกผมมา ผมจะไปจัดการมัน"

   "ฮึกๆ มันล่วงเกินฉัน ฮืออ"แอบขยับลงนมปลอมให้กลับไปอยู่ตำแหน่งเดิมนิดนึงแล้วปล่อยความตอแหลออกมา ผมกอดไอ้ริวแน่นทำตัวสั่นระริกเหมือนลูกนกตัวน้อย

   "มึง!"ริวดันตัวผมออกให้ไปยืนข้างหลังอย่างอ่อนโยนแล้วถลาตัวไปต่อยหน้าไอ้ฟอกซ์ที่ยังคงช็อกซินิม่าอยู่อย่างนั้นึนล้มไปตามแรงปะทะ

   "พี่เป็น..."

   "สโนว์เป็นเมียกู ถ้ามึงมายุ่งกับเมียกูอีกมันจะไม่จบแค่นี้แน่"ฮีโร่กล่าวคำปราศรัยจบก็หันมาคว้าตัวนางเอกเดินออกจากบ้านไป บ้านนี้ก็ใช่ว่าจะเล็กๆ ไอ้ฟอกซ์ก็คงเป็นลูกคนมีฐานะคนหนึ่งแต่โทษทีผัวผมรวยกว่า หุหุ

   "ขอบคุณ"แต่ถ้าจะมาช้าขนาดนี้ก็ไม่ต้องมาก็ได้

   "ขอโทษนะครับเป็นความผิดของผมเอง ผมมัวแต่ไปจัดการธุระเลยไม่ได้ตามประกบตัวคุณไว้"ขึ้นรถมาได้สักพักริวก็หันมาคุยกับผมแล้วลูบแก้มของผมอย่างหวงแหน

   เวลานี้เด็กนรกของผมดูเป็นผู้ใหญ่มาก แววตาที่ฉายออกมาก็มีเสน่ห์ชวนดึงดูดให้ผมเข้าหา หน้าของเราใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนโดนแม่เหล็กที่มองไม่เห็นดูดเข้าหากัน ผมไม่สามารถหลบริมฝีปากที่ใกล้เข้ามากขึ้นเรื่อยๆไม่ได้เลย

   สายตาของเราประสานกันพร้อมกับปากนุ่มบดจูบกันสำหรับริวคงเป็นความรู้สึกดีๆที่มีให้สโนว์แต่สำหรับผม ผมสับสน ตัวตนของผมคือโนไม่ใช่สโนว์แล้วความรู้สึกดีนี่เป็นของใคร ผมควรจะทำยังไง ผม...

   "พอแล้ว ฉันอยากพักพาฉันกลับที"ผมผลักคนตรงหน้าออกไปด้วยความรู้สึกสับสน ริวหอมแก้มผมก่อนจะหันไปสตาทรถแล้วบึ่งไปจากหน้าบ้านของฟอกซ์

   สายตาผมโฟกัสไปนอกหน้าต่างพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยไม่ให้ตวาสรู้สึกสับสนมาก่อกวนให้ผมปวดหัว บางทีนี่อาจจะเป็นความรู้สึกของสโนว์ที่เจอผู้ชายมาช่วยแล้วอ่อนโยนด้วยก็คงหวั่นไหวเป็นเรื่องธรรมดา

   นี่ผมกลายเป็นคน 2 บุคลิกไปตั้งแต่เมื่อไรกัน สโนว์ก็คือผมไม่ใช่หรอวะ อ๊ากกกก ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ไม่เข้าใจเว้ยยย ช่างมันความรู้สึกบ้าบออะไรนั่น กูเป็นผู้ชายเว้ย

   "สโนว์ สโนว์ครับ ตื่นเถอะ"เผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนกัน หวังว่าริวจะไม่ลักหลับผมหรอกนะ พอก้มลงมองว่าไม่มีอะไรสึกหรอก็เบาใจ นมยังอยู่ไม่ตกหล่นไปไหนแค่เคลื่อนไปด้านข้างนิดเดียวขอย้ำนิดเดียว

   "ขอบคุณอีกครั้ง คุณกลับไปได้แล้ว"หมดประโยบน์แล้วก็ไล่ซะเลย ง่วง เพลีย อยากนอน

   "ให้ผมไปส่งคุณเถอะนะ ผมกลัวว่าคุณจะเป็นอะไรไปอีก"

   "คอนโดนี้ระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม มดสักตัวก็เข้าไปไม่ได้หรอก"ผมพูดห้วนๆอย่างอารมณ์เสีย ก็คนมันง่วงนี่หว่าร่างกายต้องการปะทะกับเตียงแล้วเนี่ย

   "งั้นผมไปส่งที่หน้าลิฟต์"ไม่ทันได้เอ่ยปากปฏิเสธ เด็กขี้ตื๊ออย่างริวก็ลงจากรถแล้วอ้อมไปเปิดประตูให้ผม

   "แล้วแต่"ริวหันไปพูดอะไรไม่รู้กับยามแล้วเอากุญแจรถให้แต่ผมไม่สนใจอะไรละ เตียงจ๋าป๋ามาแล้ว

   ผมเข้าลิฟต์ไปทันทีและไม่คิดจะร่ำลา รู้ตัวอีกทีลิฟต์ที่กำลังจะปิดก็ถูกมือปริศนากันไว้อย่างน่าหวาดเสียวว่าจะโดนหนีบ คนคนนั้นแทรกตัวเข้ามาอย่างรวดเร็วและกดปิดลิฟต์

   "เข้ามาทำไม ไหนบอกจะส่งแค่หน้าลิฟต์"

   "หน้าลิฟต์ห้องคุณน่ะครับ"ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย คือคอนโดที่นี่จะขึ้นลงได้ก็ต่อเมื่อมีการ์ดห้องของชั้นนั้นๆ และชั้นผมเป็นชั้นเดียวที่มีแค่ห้องผม

   แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า ยังมีอีกชั้นชั้นบนสุดต่อจากชั้นของผม ได้ข่าวว่าชั้นนั้นเป็นของเจ้าของคอนโดนี้และความสะดวกสบายก็ครบกว่าห้องของผมโข แต่ช่างมันไปก่อนต่อนนี้ปัญหาของผมคือผู้ชายข้างๆ

   "กลับไปได้แล้ว"ผมแตะบัตรให้ไปชั้นล่างให้และออกมาจากลิฟต์ ตรงดิ่งไปที่ห้องอย่างเดียวไม่ทันรู้เลยว่าเด็กขี้ตื๊อก็ยังเป็นเด็กขี้ตื๊อ

   เข้าห้องมาได้ผมก็ยังไม่ได้ปิดประตูเพราะต้องถอดรองเท้าก่อน มันเป็นความเคยชินน่ะครับแต่พอจะก้มลงไปถอดส้นสูง อ้าว นี่กูเดินตีนเปล่ามาตลอดเลยหรอ

   "ห้องสวยเหมือนเจ้าของเลยนะครับ"

   "เห้ย ทำไมยังไม่กลับไป ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ"ผมใช้แรงที่มีผลักริวให้ออกจากห้องผม ไม่งั้นมันรู้ความลับผมที่ผมปิดไว้แน่

   "ขอเข้าไปดื่มน้ำหน่อยสิครับแล้วก็คุยเรื่องวันนี้นิดๆหน่อยๆ"โอ๊ย เวรกงเวรกรรมอะไรของกูนักหนาเนี่ย อยากปะทะเข้าใจมั้ยอยากปะทะกับเตียงนุ่มๆแล้ว

   เมื่อมันเห็นผมไม่ตอบอะไรก็ถือวิสาสะปิดประตูห้องแล้วเดินไปสอดส่ายตาหาอะไรบางอย่าง

   "เช้ามาแล้วก็อยู่เฉยๆไปนั่งโซฟาตัวนั้น เดี๋ยวกูไปหยิบน้ำมาให้"พออยู่ในพื้นที่ส่วนตัวกอปรความง่วงทำให้ผมไม่คัดสรรคำพูดใดๆ พูดออกมาจากตัวตนนี่แหละ

   "คุณ...มีผัวแล้วหรอ"ผมรินน้ำให้ริวแล้วยื่นให้ขณะที่มันคีบบ๊อกเซอร์ของผมขึ้นมาโชว์

   "ผัวเผอที่ไหน ของกู...ของน้องชายกูเอง"เกือบหลุดแล้วมั้ยล่ะโนเอ้ย

   "คุณมีน้องชายด้วยหรอ ผมไม่ยักรู้"ริวกระตุกมือผมให้นั่งข้างๆมันผมก็ยอมเพราะเมื่อยดาก

   "ลูกบุญธรรมน่ะ หลังมึงไปเรียนต่อที่เมกาแม่ก็รับเลี้ยง...โนมา"

   "หืม ชื่อโนหรอ คล้ายๆชื่อคุณเลยนะ สโนว์"แล้วมึงจะถามอะไรเยอะแยะวะเนี่ยจะ ง่วง งี่เง่า งอแงแล้วนะ

   "ไสหัวไปได้แล้ว จะนอน"

   "ผมไม่รีบครับ"

   "สัด"ด่าแม่งเลยแต่ดูมันไม่สะทกสะเทือนเลย แทนที่จะตกใจหน่อยก็ดีกุลสตรีที่ไหนเขามายืนค้ำหัวด่าผู้ชายกัน

   "ตอนเช้าคุณทิ้งความรักเอาไว้นะ ผมล่ะเร้าใจจนต้องเอาดมอย่างกับโรคจิตแหนะ"ว่าแล้วก็หยิบกางเกงในมาให้ผมดู"เลอะคราบน้ำของผมด้วย"

   อ๊ากกกก โรคจิตเรียกพ่อ นี่มันทำสิ่งที่ผมคิดไว้เกินคาดไปอีกอ่ะ ความง่วงที่มีอยู่ก็สร่างไปซะเฉยๆเพราะความหื่นระดับมหากาฬของไอ้ริวเนี่ยแหละ

   "โรคจิตสัด"ไอ้ริวยังไม่พอใจมันเอากางเกงในที่ผมฝากฝังไว้ไปสูดดมให้ผมได้หน้าดำหน้าแดงด้วยความอาย

   "อา...เครื่องชักติดแล้วสิ"

   "หยุดความคิดมึงไว้เลย ไสหำมึงกลับไปได้แล้ว กูจะนอน พรุ่งนี้มีเรียนเช้า"

   "คุณเรียนจบแล้วไม่ใช่หรอ จบไวเพราะต้องทำงาน"ริวเลิกคิ้วด้วยความสงสัย เอ่อจริงว่ะ ในข้อมูลปลอมๆของสโนว์เรียนจบแล้ว

   "คืออ หมายถึงพรุ่งนี้ต้องไปส่งโนไปเรียนแต่เช้า"เจ็บครับ แถสีข้างถลอกจนไปถึงกระดูกดำ

   "น้องคุณเรียนที่ไหน ให้ผมไปส่งมั้ยครับเผื่อเรียนที่เดียวกัน"

   "ไม่ต้อง กูไปส่งเองได้มีมือมีตีน"ขี้ตื๊อว่ะเด็กนี่

   "น้องคุณเข้ามหาลัยกี่โมง"

   "..."ไม่ตอบหรอกเว้ย

   "โอเค 8 โมงเช้าผมจะลงมารับน้องคุณ ผมว่าคุณควรพักผ่อนเยอะๆ ผมเป็นห่วงคุณนะครับสโนว์"

   "ไม่ต..."

   "ฝันดีครับที่รัก จุ๊บ"พอผมจะเปิดปากเถียง ริวก็พูดตัดพลางจูบหน้าผากผมอย่างแผ่วเบา ปากที่กำลังจะพูดก็พะงาบๆเหมือนปลาขาดออกซิเจน

   เด็กนรกออกไปแล้วทิ้งให้ผมจับหน้าผากตัวเองป่อยๆ เดี๋ยวสิมันไม่มีคีย์การ์ดนี่จะไปได้ยังไง

   ผมวิ่งตามมันออกไปปรากฎว่าไม่มีวี่แววของริว นี่มันพักอยู่ที่นี่ด้วยหรอ

   "ช่างเถอะ เตียงจ๋าป๋าจะปะทะด้วยแล้วนะ"ผมวิ่งดุ๊กๆไปที่เตียงแล้วโถมตัวใส่แรงๆให้ร่างกายปะทะกับที่นอนนุ่มๆแล้วก็หลับมันไปทั้งๆอย่างนี้แหละ

   ติ๊ดๆๆ

   "อืออ"รำคาญคนจะนอน ว่าแล้วก็เอื้อมมือไปกดปิดนาฬิกาปลุกแล้วหลับต่อ

   ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่องๆๆๆๆ

   "โว้ยยยยย รำคาญเดี๋ยวโดนพ่อเตะแสกหน้า แม่งเอ๊ย"ผมขยี้หัวตัวเองอย่างหัวเสียแล้วเดินปึงปังไปเปิดประตู ถ้าไม่มีอะไรสำคัญมึงตาย

   "สโนว์ นี่เมื่อคืนคุณยังไม่ได้อาบน้ำหรอ"

   ริว นี่ผมตาฟาดหรือเปล่าที่เห็นมันยืนอยู่ตรงนี้ ขยี้ตาสักพักแล้วเบิ่งใหม่หลายรอบก็ยังเป็นเด็กนรกคนเดิมเพิ่มเติมคือชุดนักศึกษา...ที่เดียวกับผมด้วย

   "ผมมารับน้องชายคุณไปมหาลัยด้วยกัน เขาอยู่ไหนล่ะ"

   "รอข้างนอกเนี่ยแหละ เดี๋ยวไปเรียกให้"ไม่รอให้ริวแทรกตัวเข้ามาผมก็ปิดประตูใส่หน้า

   ไม่ลืมหรอกว่าเมื่อคืนมันบอกจะมารับผมที่เป็นน้องชายสโนว์ แต่มันขึ้นมาได้ยังไง คีย์การ์ดชั้นนี้มีแต่ผมที่ใช้ ผมว่าคงต้องถามมันแล้วแหละ ตอนนี้คงต้องแปลงโฉมเป็นผู้ชายเสียก่อน

   ใช้เวลาไม่เร็วและไม่ช้าแต่งตัวทำผมให้เป็นตัวตนตัวเอง หวังว่าริวจะจำผมไม่ได้เพราะมันเป็นคนฉลาดมากต้องแยกแยะออกแน่เลย

   "อ้าว แล้วสโนว์ล่ะโน"โอเค มันโง่มากโง่หัวทึบเลยล่ะ ผมไม่น่าชมว่ามันฉลาดเลยให้ตายสิ

   "อายุน้อยกว่าก็ต้องเรียกกูว่าพี่โนสิวะ"

   "กูคงเรียกผู้ชายตัวเตี้ยๆอย่างมึงว่าพี่ไม่ได้หรอกนะ หึ"คุ้นๆมั้ยครับ เหมือนเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ที่ไหนมาก่อนแค่คำพูดมันเถื่อนขึ้น

   "ไปเรียกเมียกูมาดิ๊ ไอ้เตี้ย"ก็กูเนี่ยแหละเมียมึงไอ้หน้าโง่

   "พี่สโนว์อาบน้ำอยู่ ฝากบอกมึงว่าเดี๋ยวกูไปเองได้และไสหัวของมึงกลับไปซะ พี่สโนว์จะนอน"

   "สโนว์ ผมไปเรียนแล้วนะ เดี๋ยวตอนเที่ยงจะมารับไปทานข้าวด้วยกัน"ริวตะโกนดังลั่นเพื่อให้คำพูดสื่อไปถึงคนข้างในแต่ผมนี่สิ ขี้หูแทบพากันออกมาเดินเล่น เอาเป็นว่ารับทราบโดยทั่วกันแต่ไม่ปฏิบัติตาม

   ผมผลักมันให้พ้นจากประตูแล้วเดินไปที่ลานจอดรถแต่มีใครบางคนคว้ามือผมไว้ก่อนจะใครซะละน้องริวคนเดิมเพิ่มเติมคือความเหี้ย ทีกับสโนว์ล่ะกระแนะกระแหน งุ้งงิ้ง มุ้งมิ้ง ทีกับโนคนนี้เถื่อน ดิบ ไม่เคารพกันทั้งที่ผมแก่กว่ามัน มันน่าเจ็บใจนัก

   "อะไรอีกล่ะ"

   "ไปกับกู กูรับปากกับสโนว์ไว้แล้วว่าจะไปส่งมึง"

   "ไม่ต้อง กูมีมือมีตีนไปเองได้"

   "มึงนี่...คล้ายๆสโนว์เลยนะ ทั้งรูปร่าง หน้าตา และนิสัย"เวรตะไลแล้วไง เสือกมาจำได้อะไรตอนนี้"แต่สโนว์สวย หวาน น่ารักกว่ามึงเยอะ"

   "บอกไว้เลยว่ากูหวงพี่สาว ข้ามศพกูไปก่อนเถอะถึงจะแอ้มพี่สาวกูได้"

ต่อด้านล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๔ ริว vs โน✖[8/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 08-10-2016 07:41:34
   "กูไม่จำเป็นต้องผ่านศพมึงพี่สาวมึงก็ต้องตกเป็นของกูอยู่แล้ว"เหอะ ถึงเวลานั้นจริงๆแล้วมึงจะยังทำใจเอากูได้ลงอีกรึเปล่าหนอ อยากรู้จัง

   "หลงตัวเองเกินไปแล้วมึงน่ะ พี่สโนว์ไม่มีวันมอบกายมอบใจให้มึงหรอกเด็กน้อย...เร็วสิจะไปเรียนมั้ยหรือต้องดูดนมแม่ก่อน"

   "นมแม่กูไม่ดูดหรอกแต่กูจะดูดนมพี่สาวมึงเนี่ยแหละ"ปากร้ายกว่าที่คิดนะมึง การต่อปากต่อคำกับไอ้ริวในตัวตนของผมและสันดานที่แท้จริงของไอ้ริวนี่สนุกใช่ย่อย

   "ไปต่อกันที่รถดีกว่านะก่อนที่จะสายไปมากกว่านี้"ไปด่ากันต่อนะครับกำลังสนุกปากเชียว

   พอขึ้นรถออกตัวผมก็เปิดปากด่าเสียเทเสียกับมันทันที รู้สึกจิตวิญญาณความเป็นชายของผมมันพลุกพล่านและกระปรี้กระเปร่าอย่างที่ไม่เคยเป็น

   "ถ้าพี่สโนว์รู้ว่ามึงเลวขนาดนี้พี่กูไม่เอามึงหรอก"

   "นั่นมันสมัยไฮสคูล เอากับผู้หญิงก็เป็นเรื่องปกติเปล่าวะ'หรือมึงไม่เคยไอ้ไก่อ่อน"ครับ ตอนนี้เรากำลังว่าด้วยเรื่องเซกส์กันถึงพริกถึงขิงทีเดียว

   "เคยดิวะแต่ไม่ได้เอาไปทั่วมั่วสุมเป็นว่าเล่นแบบมึงหรอก กูจะฟ้องพี่สโนว์"

   "คิดว่าสโนว์จะเชื่อลูกบุญธรรมอย่างมึงหรอ สโนว์ต้องเชื่อกูที่เป็นผัวอยู่แล้ว"

   "คิดเองเออเองนะมึง พี่สโนว์ยังไม่เยกับมึงสักหน่อย อย่ามโนไอ้อ่อน"

   "มึงรู้ได้ไง แอบดูตอนกูเยกับพี่มึงหรอ"

   "พี่กูเป็นคนบอกเองว่ามึงอ่ะกระโปกเล็ก ไร้น้ำยา ไม่มีทางเยด้วยแน่นอน"

   พอถึงมหา'ลัยก็จบด้วยเรื่องดวลเหล้ากันคืนนี้ระหว่างผมกับไอ้ริว ไม่อยากจะบรรยายเลยว่าผมเถียงกับไอ้ริวแบบไม่มีใครยอมใครจนต้องมาดวลเหล้ากันแทนเนี่ย ชีวิตผมไม่น่าเบื่อเซงเคร็งอย่างที่คิด พอโต้วาทีกับริวแล้วชีวิตมีสีสันขึ้นเยอะ

   "คืนนี้ให้มันรู้แพ้รู้ชนะไปเลย ถ้ามึงแพ้กูจะข้ามศพมึงไปอึ๊บพี่สาวมึง"จัญไรจริงไรจริงไอ้เหี้ยริว

   "ถ้ากูชนะมึงต้องออกไปจากชีวิตพี่สาวกู"จะอึ๊บกูหรอไอ้ริว ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก

   "ไงมึง แอบแซ่บเด็กใหม่หรอ"มาถึงโต๊ะประจำไอ้เก้งก็ทักทายยามเช้าด้วยการแซะ

   "แซ่บเหี้ยไร กูนี่โคตรปวดหัวกับไอ้ริว แม่งจับกูคลุมถุงชน"

   "อ้าว กูนึกว่ามันจะรู้แล้วซะอีกว่ามึงมีกระจู๋"

   "มันโง่จะตาย ไม่รู้หรอก"แล้วก็หยิบน้ำแดงของไอ้เก้งมาดื่มแก้กระหายเพราะเสียพลังงานไปกับการเถียงน้ำไหลไฟดับกับริว

   "เมื่อไรมึงจะบอกมันวะ กูล่ะสงสารดันมาจับมึงทำเมียกลายเป็นกินไม้ป่าเดียวอยางไม่รู้ตัว"

   "ก็...ไม่รู้สิ รอดูความโง่ของมันไปเรื่อยๆของสนุกดี...เอ่อ ไอ้ฟอกซ์ได้มาถามหากูเปล่าวะ"

   "ไม่นะ กูยังไม่เห็นมันเลย"

   "เห้อ แล้วไป"ไม่แน่ไอ้ฟอกซ์อาจจะรู้แล้วว่าผมกับสโนว์เป็นคนคนเดียวกันแล้วทำใจไม่ได้จนช็อกตายอยู่ที่บ้าน ผมนี่มันก็ฆาตรกรทางอ้อมดีๆนี่เอง

   "มีเรื่องอะไรรึเปล่าวะ หรือว่ามันข่มขืนมึง"

   "ก็เกือบๆแต่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด"

   "รอดมาได้ไง"อ้าว นี่มึงอยากให้กูมีผัวขนาดนั้นเลยหรอ ปากหมาจริงๆ

   "มันจับนมปลอมกูจนเคลื่อนไปอยู่ตรงเอวแล้วแม่งช็อกไปเลย"

   "จริงดิ่ ฮ่าๆๆ ไอ้สัด กูขำ"

   "มันไม่ใช่เรื่องน่าขำเลยนะเว้ย ถ้าแม่งเอาไปฟ้องกับนักข่าวกูก็ซวยดิ่วะ"

   วันนั้นทั้งวันผมก็เลยโดนไอ้เก้งแซวเรื่องนมปลอมเคลื่อนไปตลอดให้อับอายขายหน้าตัวเอง สาบานเลยว่าทำมันมีเรื่องน่าอายอะไรจะล้อยันเหลนของเหลนมึงบวชเลย

   ตอนเที่ยงไอ้ริวโทรมาถามผมด้วยว่าสโนว์อยู่ไหน ไปรับที่คอนโดก็ไม่อยู่ โทรไปก็ไม่รับสาย ผมเลยบอกไปว่าเสือก จบตัดสายปิดเครื่อง จะถามว่าผมไปแลกเบอร์กับมันตอนไหนก็ตอนที่เถียงกันอยู่ในรถ แล้วเบอร์สโนว์มันก็ไปสืบค้นมาเอง ดีนะที่ผมมีโทรศัพท์ 2 เครื่องไว้กันเหนียว

   และแล้วก็ได้เวลาท้าดวลระหว่างผมกับไอ้ริว ถึงจะดื่มไม่บ่อยแต่รับรองว่าไม่กร่อยแน่นอน งานนี้ผมชนะเด็กนรกชัวๆ ผมให้ไอ้เก้งไปส่งที่คอนโดเพื่อจะไปเปลี่ยนชุดหล่อ เสื้อคอกว้างลายใบไม้อวดไหปลาร้า เอี๊ยมสีเลือดหมูขา 5 ส่วนพับ 2 ทบ รองเท้าไนกี้สีเทา ใส่ตุ้มหูขนนกข้างเดียว ที่เหลือก็ตามอัธยาศัย สร้อยคออีก 3 ชิ้น ไฮไลท์ผมเป็นสีเขียวด้วยสเปรย์ ทาปากสีเลือดหมู กำไลอีกข้างล่ะ 2 หรือ 3 ก็ว่าไป ใส่แว่นหนาๆ ผมมัดเป็นหางม้า ไม่ลืมติดไฝเสน่ห์ไว้ที่เดิม โหย จะฮิปปี้อะไรเบอนี้ไอ้โน

   "ไม่มีใครหล่อได้เท่ากูอีกแล้ว"พูดกับตัวเองหน้ากระจกแล้วก็ออกจากห้องไปขึ้นรถ เปิดเพลงลั่นรถเพื่อเรียกขวัญกำลังใจให้หุกโหม

   08 : 36 p.m.

   จังหวะเพลงที่เปิดในผับหรูดังเร้าใจ ปลุกความต้องการภายในส่วนลึกให้ประทุขึ้นมา เหล่านักท่องเที่ยวราตรีปล่อยกายปล่อยใจไปกับเสียงเพลง ลิ้มรสเหล้า บุหรี่ และนารีที่มาพลีกาย

   ตั้งแต่ที่ผมลงรถมาจวบจนเข้าผับทุกสายตาก็จับจ้องมาที่ผมกันทั้งนั้น ผมรู้ตัวว่าผมหล่อและโดดเด่น เมื่อแสงไฟสปอร์ตไลท์ปะทะเข้ากับร่างกายผม ผมก็เดินอาดๆไปนั่งรอไอ้ริวที่บาร์ สั่งเครื่องดื่มเบาๆมาจิบรอ

   "พี่โคตรตัวพ่อของความฮิปเลยอ่ะ สุดยอดเลยด้วย ผมไม่เคยเห็นใครแต่งแบบพี่เข้าผับมาก่อนเลยนะ พี่ไปเอาความหน้าด้านมาจากไหนเยอะแยะ"บาร์เทนเดอร์หนุ่มชมการแต่งตัวของผมแต่หลังๆนี่จะชมหรือจะด่า

   "คนมันหล่อใส่อะไรก็ดูดี"

   "ถ้าไปสมัครเข้าคณะละครสัตว์ผมว่าพี่น่าจะเหมาะ"

   "พูดให้ดีๆเดี๋ยวเอาตีนยัดปากเลย"เจอแต่คนปากเสียก็ต้องพกตีนมาหลายๆตีนหน่อย ใช้ยัดปากคนจะหมดคอลเล็กชั่นและ

   "มาตินี่แก้วหนึ่ง"ผู้ชายที่มานั่งข้างผมสั่งเครื่องดื่มทำให้บาร์เทนเดอร์หนุ่มที่คุยหยอกล้อกวนเท้าผมอยู่ต้องกลับไปทำหน้าที่

   "ไม่คิดจะทักทายคนคุ้นเคยกันหน่อยหรอ"หันไปกวนตีนผู้ชายข้างๆมันที แค่เสียงก็รู้แล้วว่าเป็นไอ้ริว

   "เห้ย ตัวเหี้ยไรวะ"

   "สัด หยาบคายนะมึง...จะดวลมั้ยถ้าไม่กูจะได้ชนะแล้วเลิกยุ่งกับพี่กูซะ"

   "อ๋อ ไอ้ไก่อ่อนนี่เอง มึงพร้อมจะโดนน็อคในช็อตเดียวแล้วใช่มั้ย หึหึ"พูดจบไอ้ริวก็หยิบขวดที่น่าจะเป็นขวดเครื่องดื่มมึนเมาขึ้นมาตั้ง

   "โหหหหห Spirytus สุดยอดดด พี่เป็นใครวะครับ เขาขายแค่ที่แคนาดากับอเมริกาไม่ใช่หรอครับ แล้วมันเป็นเหล้าที่แรงที่สุดในโลกเลยนะ ได้ข่าวว่าแค่นิดเดียวก็แทบติดไฟเหมือนโดนชกที่ท้อง"บาร์หนุ่มตาลุกเป็นไฟพลางจะยื่นมือมาจับขวดเหล้าแต่ก็ไม่กล้าจับ อะไรจะเบอนั้น ผมก็เคยได้ยินมาผ่านๆหูนะว่าตัวนี้แรงจริง

   ชักอยากลองลิ้มรสซะแล้วสิ มันจะแรงล้มควายได้รึเปล่านะ แค่คิดถึงรสชาติมันก็น้ำลายสอแล้ว

   "เริ่มเลย"วัยรุ่นใจร้อนครับ

   "น้องเอาไปผสมทีสิ ดื่มเพรียวๆเดี๋ยวจอดกันพอดี"ริวยื่นขวดเหล้าให้แต่ผมคว้ามันมากอดไว้ก่อน

   "ไม่ต้อง เพรียวๆเนี่ยแหละ ใก้มันรู้เรื่องรู้ราวไปเลย"

   "แล้วแต่ ถ้ามึงสลบกูจะทิ้งไว้ที่นี่แหละ"

   "ไม่มีทาง"

   ริว vs โน

   เป๊ง ยกที่ 1 เริ่มได้!

   "อึก"เพียงแค่กลิ่นก็ทำให้ผมแทบมึนได้และพอของเหลวร้อนของเหล้าผ่านคอลงท้องก็ทำให้ตัวผมแทบไหม้และความรู้สึกเหมือนมีค้อนมาทุบท้องเกินกว่าคำบรรยายที่บอกว่าเหมือนมีคนมาชกท้อง

   ตึง

   ไม่ต้องมีคำบรรยายอะไรให้ลึกซึ้งจริงๆ ผมวางแก้วอย่างแรงแล้วยิ้มให้ไอ้ริวที่หน้าแดงกรึ่มๆอย่างคนมี่ถือไพ่เหนือกว่าก่อนจะ...สลบสไลไปตามพื้นเยี่ยงหมาหัวเน่า

   เป๊กเดียวดับสนิท!

   "โอ๊ยยยยยย ปวดหัว"สมองตื่นมาไม่ทันไรผมก็ต้องกุมขมับด้วยความปวดหัวเหมือนมีหนอนนับล้านแทะสมองส่วนซีรีบรัมงั้นแหละ"ปวดดด แม่จ๋าช่วยโนด้วย ฮืออ"

   "เป็นไงล่ะ อวดเก่งดีนัก...กินนี่ซะ"

   "มะ มันช่วยได้ใช่มั้ย"ผมปรือตาขึ้นมามองผู้ชายที่หน้าเบลอๆเพราะตาผมพร่าไปด้วยน้ำตา

   "หึ อ้าปาก"ยอมอ้าปากง่ายๆและเข้าไปชิดผู้ชายคนนั้นอย่างออดอ้อน"น้ำ"

   เขายื่นหลอดน้ำมาให้ผมก็ดื่มเข้าไปอึกใหญ่ให้ยาไหลเข้าไปในท้อง ก่อนจะแหงนหลังพิงหมอน ผ่านไปหลายนาทีอากานก็ดีขึ้นแต่ยังปวดตุบๆอยู่

   "กูชนะแล้ว เจอสโนว์เมื่อไรจะจับทำเมียตรงนั้นเลย"

   "ถ้าเป็นมึง กูยอม"ถ้าเขาอยากได้ผมผมก็ต้องให้เขาเป็นการตอบแทนที่ช่วยให้ผมหายปวดหัวระดับรุนแรง ขอมอบร่างกายนี้ให้มึงง ไอ้ใครก็ไม่รู้ คิคิ

   "กูบอกสโนว์ไม่ใช่โน"

   "ก็เค้าไงสโนว์ มาสิ กลืนกินร่างกายกูอย่างที่มึงต้องการ"ผมถอดแว่นที่แสนเกะกะโยนไปไกลๆ

   อา...ร่างกายก็เริ่มจะร้อนๆแล้วสิ ถอด ถอดให้หมด ผมปลดเอี๊ยมตัวเองออกจนเหลือแต่เสื้อและเกงลิง มันก็ยังร้อนอยู่ดีจึงถอดเสื้อแล้วโยนมันลงข้างเตียง สบายขึ้นเยอะเลย

   "มึง...สโนว์? ไม่ใช่..."ผู้ชายตรงหน้าผมดูสับสนแปลกๆแต่ไม่เป็นไร เขาคงไม่เคยผมคงต้องเริ่มเอง

   "มาให้เสือขย้ำซะดีๆ กรร"ผมขู่คำรามในคอแบบแม่เสือสาวแล้วกระโดดเข้าไปนั่งคร่อมตักเขา

   "เห้ย ไอ้เหี้ยโน"เขาลุกผึงจนผมตกจากตัก แหม เล่นตัวซะด้วยอยากวิ่งไล่จับก็ไม่บอก ฮี่ๆ

   "มามะ ไม่กัดหรอก เมี้ยว"

   "อย่าเข้ามานะเว้ย ถึงกูจะได้ทั้งหญิงและชายแต่กูไม่มีทางเอามึงหรอก กูรักสโนว์คนเดียวไม่ใช่มึงไอ้โน หวา"ผมไม่สนคำพูดเขา เขาพูดอะไรหรอไม่เห็นจะรู้เรื่อง คิคิ พ่อกระต่ายตื่นตูมจับได้จะขย้ำขยี้ไม่ให้เหลือซากเลย

   "จับได้แล้ว"ผมกระโจนใส่เขาทั้งตัวจนเราล้มลงไปกลิ้งกลุนๆอยู่กับพื้น กลิ้งไปไม่กี่รอบเขาก็ทับตัวผมไว้เมื่อทำท่าจะลุกออกผมจึงเกี่ยวเอวเขาไว้ เรื่องอะไรจะปล่อยไปง่ายๆล่ะ

   ร่างกายทุกสัดส่วนของเราบดเบียดกันแทบติดไฟได้เพราะมันร้อนมาก ความต้องการของผมมันประทุขึ้นจนของของผมเริ่มผงาด ผมบดเบียดร่างกายเข้าหาผู้ชายข้างบนอย่างต้องการ ดูเหมือนเขาเองก็ตื่นตัวแล้วเหมือนกัน

   "ซี้ดดด อย่ายั่วไอ้โน"ยิ่งเขาห้ามผมยิ่งบดเบียดร่างกายให้รุนแรงรุกเร้ามากขึ้นพลางผงกศีรษะไปเลียริมฝีปากของเขา

   "เข้ามาในตัวผมสิ"ถึงจิตอันด้านดีอันน้อยนิดบอกกับผมว่านี่เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ นี่ไม่ใช่ตัวผมแต่ความต้องการมันเหนือกว่า ปล่อยกายปล่อยใจแล้วจะมีความสุขเอง

   ...และเคยมีคนบอกผมว่าเวลาผม(ในรูปแบบผู้ชาย)เมาผมจะกลายเป็นนายแมวยั่วสวาทมีความต้องการมากกว่าเหตุผล










☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

Nekozaa  :

      เรื่องดำเนินเร็วไปจริงๆค่ะ จะพยายามปานกลางไม่เนิบนาบเกินไปนะคะ คนอ่านหายไปไหนหมดนายังมีคนติดตามเรื่องนี้อยู่มั้ยหนอ

       คนเขียนขอยื่นใบลาไว้ล่วงหน้าสักวันสองวันนะคะ ถ้าว่างจริงๆจะมาต่อให้นะไม่ทิ้งไปไหนแน่นอน
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๔ ริว vs โน✖[8/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: princeofdark ที่ 08-10-2016 08:56:55
โนเมาแล้วยั่วหรอเนี่ย
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๔ ริว vs โน✖[8/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: i_Tipz ที่ 08-10-2016 10:36:53
 :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๔ ริว vs โน✖[8/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 08-10-2016 11:28:24
เอาจริง?
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๔ ริว vs โน✖[8/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Snimsoi ที่ 08-10-2016 14:01:34
โอ้ว โนจะเสร็จริวก่อนสโนวใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๔ ริว vs โน✖[8/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 08-10-2016 15:07:38
นายริวเอ๋ย เอ็งเสร็จ(อีนาง)โนแน่ๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๔ ริว vs โน✖[8/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-10-2016 18:56:52
อ้าวๆๆอีโนแรดไม่รักษาภาพลักษณ์สโนวท์เลย :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๔ ริว vs โน✖[8/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 08-10-2016 23:54:38
อ้าวเห็นทำแมนอยู่ดี ๆ พอเมาแล้วโนกลายเป็นรับไปซะงั้น
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๔ ริว vs โน✖[8/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 09-10-2016 02:45:31
เร่าร้อนขนาดนี้ ใฝจะหลุดไหม??? น้องโนวววววววววววววว :serius2:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๔ ริว vs โน✖[8/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 09-10-2016 05:37:47
 :laugh: เอาแล้วววววววว :hao7:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๔ ริว vs โน✖[8/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 09-10-2016 09:11:48
สนุกค่าาาา
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๔ ริว vs โน✖[8/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 10-10-2016 11:55:36
 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[10/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 11-10-2016 14:23:48
บทที่ ๕

เสียตัว NC

 :oo1:







   ลิ้นเกี่ยวกระหวัดพันกันยุ่งเหยิงระหว่างที่ผมถูกอุ้มกระเตงซึ่งจุดหมายปลายทางคือเตียง ผู้ชายที่ผมกำลังจะมีอะไรด้วยโยนผมลงกับเตียงก่อนที่เขาจะตามมาคร่อมทับตัวผมเบียดเสียดกายไม่ให้ห่างแม้แต่วินาทีเดียว

   ผมช่วยเขาถอดเสื้อผ้าที่เกะกะต่อการแนบเนื้อออกไปให้พ้นทาง เขาถอดเสื้อส่วนผมพยายามงัดแงะแกะเข็มขัดออกทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมากจนเราเปลือยล่อนจ้อนกันทั้งคู่ ผมก้มลงมองความเป็นชายของเขาที่ผงาดเยี่ยงราชันย์ มันใหญ่โต อวบอิ่ม และยาว เห็นดังนั้นผมเลยเผลอเลียริมฝีปากด้วยความกระหายอยาก

   "เหี้ยเอ้ย มึงแม่ง...เซกซี่"

   "นี่ครั้งแรกของกู เบาๆหน่อยนะ...อืม"พูดจบเขาก็บดขยี้ริมฝีปากผมอย่างบ้าคลั่ง ลิ้นร้อนถูกส่งเข้ามาเพื่อแลกเปลี่ยนความต้องการให้แก่กันผมก็ตอบรับเขาไปอย่างร้อนแรงเช่นกัน

   "อย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน"เขาหยุดทุกการกระทำและพูดเหมือนหยั่งเชิง จะให้เสียใจอะไรมีความสุขกันทั้งคู่ วินๆจะตาย

   ผมไม่ตอบแต่ใช้นิ้วเกลี่ยตั้งแต่ซอกคอของเขาลามไปถึงหน้าท้องจนคนข้างบนผมเกร็งด้วยความกระสัน ผมเลื่อนมือต่ำลงไปกว่านั้นและจ๊ะเอ๋กับจ้าวโลกที่มีน้ำปริ่มๆไหลออกมาจากส่วนหัว มือผมก็ทำหน้าที่ได้ดีจับมังกรยักษ์รูดขึ้นรูดลง นั่นแหละคำตอบผม

   "ซี้ดดด มือมึงเหมือนมือ...สโนว์"

   "ก็กูไงสโนว์"เมื่อเห็นคนข้างบนไม่ยอมทำอะไรสักทีก็รู้สึกขัดใจผมจึงต้องพลิกตัวเองให้นั่งคร่อมสะโพกเขา

   "แต่มึงไม่ใช่คนที่กูรัก"

   แปล๊บ ทำไมรู้สึกเจ็บแปลกๆเจ็บจี๊ดไปถึงใจเพราะคำพูดที่บอกว่าเขาไม่ได้รักผม แล้วมันยังไงล่ะผมไม่สนหรอกนะ สโนว์ก็ยังเป็นผมอยู่วันยันค่ำ

   "งั้นมึงกูลืมคนที่มึงรักไปก่อนตอนนี้มึงอยู่กับกูไม่ใช่เขา"พูดพลางขยับบั้นท้ายให้เสียดสีกับมังกรตัวเขื่อง

   คนใต้ร่างผมสูดปากอย่างกระสันใคร่ แววตาที่ดูลังเลในช่วงแรกเปลี่ยนเป็นตัณหากลับ เขาผงกหัวขึ้นมากัดยอดอกผมแล้วดูดดึงอย่างรุนแรง แรกๆรู้สึกคัดหน้าอกแต่ไปมาก็รู้สึกดีจนต้องแอ่นหน้าอกเข้าหาเขาให้เล่นลิ้นกับมันให้มากขึ้น

   "อ๊ะ"ร่างกายผมกระตุกเกร็งเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างแข็งๆเรียวยาวสอดเข้ามาในก้น มันเจ็บจนต้องยกเอวให้หลุดจากความแข็งขืนแต่ผู้ชายใต้ร่างยึดเอวผมไว้แล้วผลักให้นอนลงมาอยู่ใต้อาณัติเขา

   "อยากรู้สึกดีมั้ย"เขากระซิบถามผมข้างหูด้วยเสียงแหบพร่าผมจึงพยักหนารัวเป็นคำตอบ"งั้นก็อมเจ้านี่ซะ"

   เขาเลื่อนตัวนั่งให้มังกรยักษ์จ่อปากผม ถึงแม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่ทำกับผู้ชายแต่ก็เคยเห็นแวบๆในหนังจีวีที่ไอ้เก้งชอบยัดเยียดมาให้ดูว่าต้องทำยังไง คงเป็นการออกรบภาคปฏิบัติของผมเป็นครั้งแรก

   ผมไม่รีรอที่จะกลืนกินความเป็นชายของเขาจนสุดถวามยาวแล้วก็ต้องคายออกมาสำลักเพราะทำเกินตัว เขาหัวเราะหึในลำคอจนผมหน้าแดงด้วยความอาย ไม่เป็นไรเริ่มใหม่ก็ได้จะกินให้แตกคาปากเลยคอยดู

   เริ่มแรกผมก็ไล้เลียมังกรยักษ์ตั้งแต่บอลสองลูกจนสุดปลายหัวถอก ลิ้มรสน้ำเชื่อมที่ติดอยู่ตรงปลายหัวมีรสเค็มปะแล่มๆแต่ก็กระตุ้นอารมณ์ดิบผมได้ดีทีเดียว ผมตวัดเลียส่วนหัวเหมือนกินไอติมและลากไล้ลิ้นไปตามจุดกระสันสุดของผู้ชายซึ่งผมรู้ดี เสียงซี้ดของเขาบ่งบอกได้ว่าผมมาถูกทางแล้ว และผมก็ครอบมังกรยักษ์เข้าไปในปากใหม่ผงกหัวขึ้นลงช้าๆสลับเร็ว เขาก็กระเด้งเอวสวนมาตามจังหวะที่ผมเป็นคนชักนำ

   ระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินกับส่วนกลางลำตัวของผู้ชายคนนั้น เขาก็เอี้ยวตัวลงไปเล่นกับด้านหลังผมแต่ ณ เวลานั้นผมไม่ได้สนใจเท่าไรว่าถูกสอดใส่ไปกี่นิ้วแล้ว

   "ไอ้โน พอก่อน อู๊ยวว ซี้ดดด...พอ กูจะเสร็จ"เขาพยายามผลักหัวผมที่กำลังเร่งจังหวะออกแต่ผมก็ยื้อไว้และดูดจ๊วบไปแรงๆจนน้ำกามของเขาฉีดเข้ามาในปากผม มันเยอะจนล้นปากแต่ผมก็ยังผงกหัวรีดเค้นมันออกมาให้หมดทุกหยาดหยดแล้วกลืนมันลงไป"บอกกูทีว่านี่ใช่ครั้งแรกของมึงจริงๆไอ้โน"

   เขามองผมด้วยแววตาทึ่งระคนสุขสม ผมยิ้มหวานและใช้มือเคล้นคลึงมังกรยักษ์ของเขาให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็ผมยังไม่สุขสมเลยนี่นา

   "มีน้ำยาแค่นี้หรอ ตรงนี้มันตอดรอมึงยิบๆเลยนะ"จบคำสบประมาทผสมยั่วยวนเขาก็กระชากตัวผมอย่างกับสัตว์ร้ายผู้หิวโหยให้อยู่บนตัวเขา

   "ถ้าร่านนัก กูก็จะเอามึงจนฟ้าเหลืองเลยไอ้โน"แอบไม่พอใจกับคำด่าของเขาแต่พอความใหญ่โตจ่อมาที่ปากทางของผมความคิดทุกอย่างก็อันตรธานหายไป

   "โอ๊ยย เจ็บ...อะ อย่า..เพิ่ง...แล้วถุงยาง"ถึงจะต้องการขนาดไหนแต่ผมก็ไม่ลืมเรื่องสำคัญป้องกันการเกิดโรค ผมขืนตัวไว้เมื่อมังกรยักษ์ของเขาเข้ามาได้แค่ส่วนหัว

   "มึงไม่ท้องหรอกน่าถึงกูจะแตกในใส่ไปกี่ครั้ง"

   "ไม่...โอ๊ยยย"เริ่มรู้สึกเสียใจทีหลังเมื่อความใหญ่โตของเขาฝืนจ้วงแทงเข้ามาถึงจะเบิกทางไว้แล้วแต่นิ้วสามสี่นิ้วเทียบไม่ติดเลยกับความเป็นชายของเขา

   "ตั้งแต่กูเอาทั้งชายหญิงมามึงเป็นคนแรกที่ฟิตขนาดนี้ ซี้ดดด สุดยอด"สายตาผมพร่ามัวหนักกว่าเก่า ตัวงอเป็นกุ้งขาดน้ำ ภายในเต้นตุบๆเหมือนมีสิ่งมีชิวิตอยู่ ก็น่าจะมีจริงๆนะมังกรยักษ์ไง

   พั่บๆๆ

   แค่เขาเริ่มขยับก็ทำให้ผมต้องโก่งก้นด้วยความเสียวแล้ว เขาจับสะโพกผมกดลงให้รับแรงกระแทกที่ไม่ออมมือสำหรับครั้งแรกของผมเลยสักนิด สองแขนของผมจับไหล่เขาไว้เป็นที่มั่นและลดความเสียวซ่านที่เริ่มก่อตัวด้วยการจิกข่วน

   "อ๊าาา อ๊ะ อ๊ะ ใหญ่...ชะ ชอบ"ร้อยทั้งร้อยผู้ชายที่ถูกชมเวลาอยู่บนเตียบจะทำให้มีความมั่นใจและหึกเหิมมากขึ้นเท่านั้นอย่างเช่นผู้ชายบนร่างผมตอนนี้

   ขนาดมังกรยักษ์ของเขาพองขึ้นจนคับช่องทางผมไปหมดทำให้เราแนบชิดสนิทสนมมกันมากขึ้น

   "อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ...อ๊า แรงอีก ละ ลึกอีก"ผมร้องขออย่างหน้าไม่อาย เขาก็ตอบรับคำขอผมด้วยการซอยสะโพกไม่ยั้งสลับกับหมุนควงให้แท่งร้อนเข้าไปข้างในผมจนโดนจนกระสัน

   พั่บๆๆ ปึก ปึก พั่บๆ

   เสียงเนื้อแนบเนื้อดังเฉอะแฉะอย่างหยาบโลนผสมกับเสียงครางกระเส่าของผมและเขาดังก้องเข้าไปในโสตประสาท ไฟราคะแทบจะเผามอดไหม้ร่างกายของเราให้เป็นผุยผง ความรู้สึกชั่วดีมลายหายไปหมดสิ้นเหลือแค่เพียงความต้องการที่จะปลดปล่อยความสุขให้เอ่อล้นออกมา

   เขาพลิกตัวผมให้หันหลังในขณะที่ข้างหลังยังเชื่อมต่อกันอยู่เยี่ยงหมาติดเป้งแต่ในสภาพนี้ก็คงไม่ต่างอะไรจากสัตว์เวลาผสมพันธุ์กัน ผมถูกจับให้อยู่ในท่าน้องหมาคลานสี่ขา แล้วเริ่มขยับสอบสะโพกทันทีไม่ให้ขาดช่วง

   "อ๊าาา จะไม่ไหว...แล้ว อ๊ะ อ๊ะ อา แรงอีก"

   "ซี้ดดด กูก็จะเสร็จ...เ_ดมึงนี่มันมันส์ดีจริงๆ ซี้ดดด ฟู่ว"

มีต่อด้านล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[10/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 11-10-2016 14:31:24
   แรงกระแทกที่เข้าส่งมาหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ความใหญาโตของเขาตอกย้ำเข้ามาอย่างรุนแรงถี่ๆคล้ายจะย้ำเตือนว่าตอนนี้ผมกำลังนอนกับใคร แต่ใครล่ะ...?

   ปึกๆๆๆ ป๊าบ

   "อึ๊...อา"ผมสาวน้องชายน้อยของตัวเองถี่รัวเมื่อมันบวมเป่งพร้อมปลดปล่อยก่อนจะฉีดน้ำคาวออกมาพร้อมๆกับใครบางคนที่กำลังขยับเข้าออกข้างในตัวผมเพื่อรีดน้ำให้พ่นเข้ามาในตัวผมแทบทุกหยาดหยด

   แข้งขาผมอ่อนแรงและทรุดลงกับเตียงในที่สุดจนมังกรยักษ์ของเขาหลุดจากช่องทางผม เมื่อได้ระบายความอัดอั้นหนังตาผมก็เริ่มหย่อนลงเรื่อยๆแต่สิ่งแปลกปลอมใหญ่โตก็เข้ามาในกายผมอีกครั้ง

   "ก็บอกแล้วไง กูจะเอามึงจนฟ้าเหลือง"

   "ไม่ไหว ไม่เอาแล้ว...อ๊าา"

   ปึก ปึก ปึก

   เขาถอนแท่งร้อนออกจนสุดแล้วกระแทกกระทั้นเข้ามาใหม่จนตัวผมโยกไหวไปตามแรงส่งที่รุนแรงและสร้างความเสียวกระสันให้น้องชายน้อยผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาทำอย่างนั้นจนกระทั่งแน่ใจว่าผมจะไม่ผล็อยหลับและเริ่มบรรเลงสะโพกให้กระหน่ำแทงผมอย่างเมามันส์อย่างกับฟังเพลงโมสาร์ดที่บรรเลงความรู้สึก อารมณ์ออกมารุนแรง

   "อ๊าาา เสร็จแล้ว"

   "อึกกก ตรงนั้น ตรงนั้น...อ๊า เสียว"

   "ไม่...พะ พอ...อ๊า"

   "อืออ อื้มม...อึก"

   ผมหลับไปก่อนด้วยความเพลียทั้งๆที่ยังไม่เช้าและมังกรหื่นของเขาก็ยังคาอยู่ในตัวผม ขนาดว่าหลับไปแล้วก็ยังรู้สึกว่ามีคนมาเล่นกับร่างกายผมจนน้ำอุ่นๆฉีดเข้ามาก่อนที่ความอึดอัดจะถอนออกไป นั่นแหละผมถึงจะนอนสบายตัวโล๊งโล่ง

   "อึก แค่กๆ"ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงริงโทนที่คุ้นหูดังอยู่หลายรอบแต่ร่างกายมันหนักอึ้งเกินไปคล้ายจะเป็นไข้และที่ชัดเจนมากคือผมเจ็บตรงรูก้นแถมปวดเอวด้วย

   อาการแบบนี้...ไม่จริงใช่มั้ย ผมเสียตูดแล้วงั้นหรอเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นได้ยังไงจำได้ว่าไปดวลเหล้ากับไอ้ริว ดื่มไปเป๊กเดียวก็จอด หลังจากนั้นภาพมันก็ตัดๆเบลอๆ

   พอมองไปรอบห้องก็ปรากฎว่าไม่ใช่ห้องผมแต่รูปแบบสถาปัตยกรรมของที่นี่เหมือนห้องคอนโดผมแค่หรูหรากว่าเป็นร้อยเท่า เพราะห้องนอนที่ผมนอนอยู่รอบด้านเป็นกระจกสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ในยามเช้าได้

   ในยามนี้ถึงจะอยากขยับตัวสำรวจว่าใครเป็นเจ้าของห้องก็ทำไม่ได้ กล้ามเนื้ออ่อนล้าสุดๆ โทรศัพท์อยู่ตรงโต๊ะที่ต้องเดินไปอีกหน่อยจะเดินไปก็คงไม่พ้นล้มลุกคลุกคลานอยู่ที่ขอบเตียง หนังตาก็จะปิดอีกรอบเพราะพิษไข้

   "ตื่นแล้วหรอ"ประตูห้องเปิดออกพร้อมกับเสียงที่ดังอยู่ไกลๆ ผมพยายามฝืนลืมตาขึ้นมาเพื่อมองหน้าเจ้าของห้องและคนที่ทำลายความเป็นชายผมให้ชัดๆ

   ใบหน้าของเขาเข้าใกล้เขามาขึ้นเรื่อยๆจนชัดเจนแจ่มแจ้ง ไม่รู้ว่าจะตกใจหรือเสียใจหรือจะอับอายดีเพราะคนที่ผมเสียเอกราชให้เป็นคนใกล้ตัวมาก...ริว

   "ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะเมีย~"เมียพ่อง อยากด่าออกไปแต่แรงจะขยับปากยังไม่มีเลย ขืนตะคอกออกไปคอพังแน่

   ผมหลับตาลงอย่างไม่ไหวแล้วจริงๆ ขอให้หายไข้ก่อนค่อยแก้แค้นไอ้ริวที่บังอาจมาเสียบตูดผมตอนผมเผลอ สักพักก็รู้สึกว่ามีอะไรเย็นๆมาแปะหัว

   "ตัวร้อนจี๋เลยว่ะ"ได้ยินเสียงบ่นๆเหมือนแมลงวี่แมลงวันลางๆก่อนที่สติผมจะเลือนหายไป

   "โน"ผมปัดมือที่ตบหน้าตัวเองเบาๆออกอย่างโรยแรง"ตื่นขึ้นมากินข้าวกินยาก่อนค่อยนอน"

   "อืมม"ครางตอบไปประมาณว่ารำคาญ คนจะนอนอย่ามายุ่งแต่ดูเหมือนมันจะไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพยายามจะสื่อ ริวสอดมือไว้ใต้แผ่นหลังผมก่อนจะดันให้ผมนั่งพิงกับหัวเตียงทั้งๆที่ยังหลับตาเนี่ยแหละ

   "ฟู่วๆ...อ้าปาก"รู้สึกได้ว่ามีอะไรอุ่นๆมาจ่อที่ปากแถมกลิ่นยังหอมคลุ้งชวนให้ลิ้มรสมาก ท้องก็ร้องจ๊อกๆต้องคนอร์คัพโจ๊กจนผมอ้าปากตามอย่างว่าง่าย โจ๊กไหลลงท้องผมอย่างง่ายดาย ไม่มีความร้อนให้ลวกปากเพราะริวมันเป่าให้เย็นเรียบร้อยแล้ว เด็กบ้านี่ก็น่ารักดีนะ

   กินไปได้ไม่กี่คำผมก็หยุดเพราะมันพะอืดพะอมเกินกว่าจะกลืนลงท้องได้ กำลังจะล้มตัวลงนอนแต่ริวเบรกผมเอาไว้ด้วยการเอายายัดปาก 3-4 เม็ด นี่มันจะฆ่าผมใช่มั้ย

   พรวด

   นี่แนะ พ่นออกมาให้หมดซะเลยแล้วก็จะล้มตัวลงนอนต่อ

   "เลอะเทอะหมดแล้วเนี่ย กินยาดีๆอย่าดื้อ"ไม่ใช่เด็กซะหน่อยที่จะดื้อยา ก็ยัดมาทำไมตั้งเยอะแยะเดี๋ยวติดคอตายไปจะทำยังไง

   ยาถูกยัดเข้ามาในปากผมอีกครั้งแต่เปลี่ยนวิธีใหม่ ริวใช้ลิ้นป้อนยาเข้ามาในปากผมตามด้วยน้ำอีกหลายอึกจนผมแทบสำลัก ป้อนดีๆไม่ได้หรอทำไมต้องใช้ปาก นี่มันเรื่องจริงไม่อิงนิยายนะ(หรอ)

   ไม่อยากจะคิดอะไรอีกแล้ว ไม่อยากจะคิดว่าริวเคยบอกว่าเมื่อก่อนฟันแล้วทิ้งแต่นี่ฟันแล้วมาดูแลมาอ่อนโยนด้วยทำไมหรือเพราะคิดว่าเป็นน้องชายของสโนว์ รับผิดชอบให้หายๆกันไป ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวยิ่งปวดใจ ทำไม...ต้องปวดใจด้วยล่ะ

   "นอนซะ"ริวกระชับผ้าห่มให้คลุมกายผมอย่างอ่อนโยน รู้สึกได้ว่าหางตาผมมีอะไรร้อนๆไหลลงมา นี่ผมไม่สบายจนร้องไห้เลยหรอ"อย่าร้องไห้"

   ริวเกลี่ยน้ำตาให้ผมเบาๆก่อนจะลูบหัวเป็นเชิงปลอบ ความอ่อนโยนของมันทำให้ผมรู้สึกอ่อนแอ ผมรู้สึกแพ้ตัวเองแพ้ใครอีกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของผม ไม่นานความคิดผมก็หยุดลงและเข้าสู่ห้วงนิทราไปในที่สุด

   พิษไข้เริ่มรุมตัวผมอีกครั้ง รู้สึกหนาวจนตัวสั่น ฟันขบกันดังกึกๆอย่างห้ามไม่อยู่ ยิ่งมีอะไรเย็นๆมาเอาตัวยิ่งหนาวสั่นเข้าไปใหญ่ สักพักก็รู้สึกอุ่นขึ้นมานิดเดียวเพราะมีอะไรมาสวมทับร่างกายผม แต่มันก็ยังหนาวอยู่ดีจนอุ่นขึ้นเมื่ออะไรบางอย่างกอดผมไว้ ความหนาวสั่นถูกแทนที่ด้วยความอบอุ่นแล้วผมก็หลับสนิทภายใต้อ้อมกอดนั้น

   "แค่กๆๆ"เมื่อผมลืมตาขึ้นมาสิ่งแรกที่เห็นคือเพดานพอหันไปมองข้างๆก็ไม่เห็นคนที่นอนกอดผมเมื่อคืนแล้ว ผมแค่นยิ้มให้กับตัวเองที่คิดไปว่าไอ้ริวจะมากอดผม อย่ามโนสิไอ้โน ตื่นมารับความจริงได้แล้ว

   แม้อาการผมจะดีขึ้นมาหน่อย ข้างหลังก็ไม่ค่อยเจ็บแล้วแต่ก็ยังตัวรุมๆอยู่ดี ถึงอยากนอนป่วยให้ใครมาดูแลแค่ไหนแต่ก็รู้ตัวว่าไม่ควรปล่อยตัวปล่อยใจไปมากกว่านี้ ก็แค่เมาแล้วโดนเอาจนป่วยไม่เห็นต้องให้ใครมารับผิดชอบ สิ่งที่เกิดขึ้นกับริวและผมก็แค่ one night stand น้ำแตกแล้วแยกทาง อีกอย่างผมไม่ใช่สโนว์ของมันซะหน่อย

   เดี๋ยวนะ แว่นตาผมล่ะ แล้วไฝเสน่ห์ยังอยู่รึเปล่า ริวจะรู้รึยังว่าผมคือสโนว์ ผมถลาลุกออกจากเตียงอย่างรวดเร็วเพื่อเข้าห้องน้ำไปดูสภาพตัวเองแต่ลุกเร็วไปหน่อยเลยหน้ามืดล้มลงไปกองกับพื้น ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้วันที่โดนเอาจนแข้งขาอ่อน หมดกันไอ้โนสาบานเลยว่าต่อไปนี้จะไม่ดื่มจนเมา

   เมื่อหายจากอาการหน้ามืดแข้งขาอ่อนแล้วผมก็ยันตัวลุกขึ้นเดินเกาะสิ่งของไปห้องน้ำ คาดว่างั้นนะเพราะรูปแบบห้องคล้ายห้องผมยังกับเป็นคอนโดเดียวกันงั้นแหละ พอเปิดไปก็ปรากฎว่าเป็นห้องน้ำจริงๆ ผมเดินทุลักทุเลไปที่หน้ากระจก

   เหี้ย! ไฝกูหายไปแล้วครับพี่น้อง สภาพผมตอนนี้เหมือนสโนว์ตอนไม่แต่งหน้ามาก แล้วแบบนี้...ริวก็คงรู้แล้ว มันอาจจะรับไม่ได้และทิ้งผมไว้ที่นี่ หึหึ สมน้ำหน้ามันอยากเห็นสีหน้ามันตอนรู้ว่าผมเป็นสโนว์ชะมัด

   ผมเปิดก๊อกล้างหน้าล้างตาด้วยมือที่สั่นเทาอย่างกับเป็นสันนิบาต หนาวครับแค่เสื้อยืดตัวใหญ่ๆมาคลุมกายไว้เพียงชิ้นเดียวมันไม่ช่วยอะไรเลย ผมยื่นมือไปหยิบผ้าขนหนูใกล้ๆมาเช็ดหน้าแล้วสายตาก็ไปสะดุดกับตราตรงมุมขอบผ้าเช็ดตัว ตราเดียวกับคอนโดที่ผมอาศัยอยู่

   แล้วความจริงหลายๆอย่างก็เข้ามา ริวอยู่คอนโดเดียวกับผมและจากความดูดีหรูหราของห้องบอกได้เลยว่ามันอยู่ห้องบนสุดซึ่งข้างล่างเป็นห้องของผม ห่างกันแค่ชั้นเดียวไม่น่าล่ะมันถึงเข้าออกที่นี่ได้แต่ชั้นของผมมีแค่ 2 คีย์การ์ด ของผมอุนหนึ่งและอันสำรองที่อยู่กับพี่คมที่ไว้ใช้แค่ขึ้นลิฟต์มาได้เท่านั้น พี่คมต้องมีเอี่ยวเรื่องนี้แน่นอน อย่าให้เจอนะผมจะว้ากใส่ให้หูชาเลย

   ผมเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยอารมณ์ที่บ่จอย โทรศัพท์ที่เงียบไปตั้งแต่เมื่อวานก็กลับมาส่งเสียงเรียกร้องอีกครั้ง ผมเดินไปรับสายและกำลังจะต่อว่าผู้จัดการตัวดีแต่แบตดันหมด มันน่าขัดใจจริงๆ ผมมองหากระเป๋าของตัวเองพอเจอก็หยิบมาสะพายไว้แล้วลงไปชั้นล่างกลับห้องตัวเอง

   ผมมองห้องของไอ้ริวเป็นครั้งสุดท้าย คงไม่ได้กลับมาอีกแล้วแหละ เพราะผมจะย้ายกลับไปอยู่บ้านสักพักจนกว่าผมจะลืมเรื่องที่เสียตูดให้ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ผมยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับมันตอนนี้ขอรักษาตัวเองก่อน

   เหมือนว่าไข้จะเริ่มขึ้นอีกแล้ว ผมเอาโทรศัพท์ไปชาตแบตแล้วไปหยิบอีกเครื่องมาโทรหาพี่คม

   [หายไปไหนมาห้ะไอ้ควาย นี่มันกี่วันแล้วรู้มั้ยว่ากูต้องตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้มึงเนี่ย...]

   "ผมขอลาป่วยสักวันสองวันนะครับ"บอกไปด้วยเสียงระโหยโรยแรง เสียงแหบแห้งเหมือนเป็ดขาดน้ำคงทำให้พี่คมรู้ว่าผมไม่สบายขนาดหนัก

   [เออๆ หายเมื่อไรมึงได้ทำงานทบต้นทบดอกแน่]

   ผมไม่คิดจะฟังว่าพี่แกบ่นอะไรอีก วางสายใส่แม่งเลย ตอนนี้ร่างกายต้องการปะทะกับเตียงแต่ท้องก็ร้องประท้วงซะก่อนเลยต้องฝืนร่างกายหาอะไรกินแล้วกรอกยาเข้าปาก ทำอะไรก็ลำบากไปหมดคงต้องหาเมียมาดูแลยามป่วยไข้ได้เจ็บแล้วล่ะครับ

   ใช้เวลา 2 วันเต็มๆในการพักฟื้นร่างกายในที่สุดผมก็หายดีเป็นปลิดทิ้งทั้งร่างกายและจิตใจ จากที่คิดว่าจะกลับไปอยู่บ้านก็ไม่ไปแล้วล่ะครับกอปรแด๊ดอยู่บ้านกับแม่ กลับไปคงโดนซักประวัติกันยาวทีเดียว แค่ไม่รับสายแล้วไม่โทรกลับไปก็คงโดนบ่นจะตายอยู่แล้ว

   ส่วนริวหายเงียบไปเลย คิดไม่ผิดจริงๆคนอย่างมันได้แล้วก็ทิ้งถ้าได้สโนว์ก็คงทิ้งเหมือนกัน เหอะ จะไปตายที่ไหนก็เรื่องของมัน ไปแอ้วสาวให้หายเสนียดก้นหน่อยแล้วกัน








☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

   Nekozaa :

       รีบมาต่อให้อย่างรวดเร็ว ฝนตกและฟ้าร้องหนักมาก คนเขียนกลัวง่า ถ้าผิดพลาดอะไร บอกได้เลยนะคะจะกลับมาอ่านคอมเม้นต์และแก้ไขหลังฟ้าโปร่ง  :sad4:

      คอมเม้นต์ +เป็ดเป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะคะ
:katai4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[10/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-10-2016 14:54:53
คงจะหายไปตามล่าหาความจริงอยู่
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[10/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 11-10-2016 15:39:46
ริวไปไหน
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[10/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 11-10-2016 15:54:25
สนุกจังค่ะ ชอบนายเอกเมาแล้วแรดมากๆ^^โนน่ารัก อยากอ่านต่อแล้วค่ะ รอติดตามอยู่นะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[10/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 11-10-2016 16:34:42
 :katai4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[10/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 11-10-2016 17:27:28
ขอบคุณที่มาต่อจ้า
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[10/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 11-10-2016 19:58:22
 :hao6:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[10/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 11-10-2016 20:15:32
อ้าวริวไปไหนนนนน :z3:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[11/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 11-10-2016 20:44:56
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[11/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 11-10-2016 23:04:08
สนุกมากค่าาาา
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[11/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 11-10-2016 23:47:25
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[11/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-10-2016 05:05:07
อีริวหายไปไหนอะ แล้วจะรู้รึยังนะ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[11/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Snimsoi ที่ 12-10-2016 05:19:57
ริวหายไปไหน หรือหายไปสับสนอยู่ไม่กล้าสู้หน้า?
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[11/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 12-10-2016 08:10:39
เอ่อ มันจะแทนกันได้มั้ยจ๊ะไปแอ้วสาวให้หายเสนียดก้นเนี่ย
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[11/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-10-2016 13:12:00
      ผิวขาวปากแดง          แสดงนางเอก
เล่นหนังแต่เล็ก                ในคราบผู้หญิง
      สโนว์หน้าสวย            สำรวยสวยจริง
ริวเห็นก็ปิ๊ง                      เพริศพริ้งทั้งกาย
      เล่นบทสองแบบ         แอบเป็นหญิงชาย
นอกบทเป็นนาย               ร่างกายมีจู๋
      กลับจากเมกา            ริวหาเนื้อคู่
แม่โนเอ็นดู                     คู่หมั้นไฮโซ
      สโนว์เสร็จริว             ชิวชิวคราบโน
ตื่นมาโอ้โห                     ตูดโนเจ็บจัง
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[11/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 13-10-2016 02:10:12
 o22
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[11/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 13-10-2016 06:18:42
เมาแล้วอ่อยยั่วนะโน เสร็จริวเลย ริวรู้แล้วแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๕ เสียตัว NC✖[11/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 13-10-2016 06:46:02
รอ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๖ Will u marry me?(Y,you'll)✖[13/10/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 13-10-2016 16:06:10
บทที่๖

Will u marry me (Y,you'll)








   ตอนนี้ผมกลับไปทำงานตามปกติและเรียนได้แล้ว อย่างที่พี่คมได้ฝากฝังคำสุดท้ายเอาไว้ว่าจะให้ผมทำงานทบต้นทบดอกก็ได้ทำสมใจกันเลยทีเดียว แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เหนื่อยสายตัวแทบขาด พอไปเรียนก็เหมือนไปหลับมากกว่า

   อ่อ ไอ้ฟอกซ์กลับมาเรียนแล้วแต่มันดูเข้าหน้าผมไม่ติด อยากจะเข้าไปกระชากตัวมันมาถามว่าตกลงรู้รึยังว่ากูเป็นใคร เห็นท่าทางมันแล้วขัดลูกหูลูกตา

   "เห้ย ไอ้เนิร์ด"ผมรีบเรียกมันไว้ก่อนที่จะเดินหายไปเป็นไงเป็นกันล่ะวะ ไอ้ฟอกซ์หยุดเดินแล้วก็เปลี่ยนไปวิ่งแทน"หยุดเดี๋ยวนี้นะเว้ย มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน"

   ขาไอ้เนิร์ดนี่ก็จะยาวไปไหน วิ่งตามแทบจะไม่ทัน แล้วสายตาผมก็ไปจ๊ะเอ๋กับไอ้เก้งที่เดินกำลังจะมาทางนี้ซึ่งเป็นทางที่ไอ้เนิร์ดกำลังวิ่งไป ดีล่ะ

   "ไอ้เก้ง สกัดดาวรุ่งไอ้เนิร์ดให้กูหน่อย!"ผมตะโกนโดยไม่สนว่าจะมีใครมองอยู่แล้วเอาไปนินทาว่าผมวิ่งจับผู้ชาย เพื่อนผมก็รู้งานเข้าขากันดีกับผมสมเป็นคู่หู มันเตะขาสกัดไอ้เนิร์ดเอาไว้จนล้มหน้าทิ่มแว่นตากระเด็นไปไกล ไม่อยากจะขำนะแต่ผมก็วิ่งไปด้วยขำไปด้วย สะใจดีแท้ว่ะ ฮ่าๆ"เห้ย มันจะหนี ไอ้เก้งซิดดาวน์ไอ้เนิร์ดดิ๊"

   "มึงนี่ก็สั่งกูจัง นอนเป็นที่รองรับตูดกูซะดีๆไอ้แว่น...หล่อ"คำหลังเก้งก้มลงไปพูดกับคนที่มันนั่งทับไว้ ประกายตาตอนมันมองหน้าไอ้ฟอกซ์ดูแปลกๆเพื่อนผมสนใจไอ้เนิร์ดนี่หรอ ไม่น่าใช่มั้ง

   "แฮ่กๆ มึงตอบคำถามกูมาไอ้ฟอกซ์"ผมนั่งยองๆตรงหน้ามัน เห็นสีหน้าของมันที่โดนไอ้เก้งทับแล้วเกิดสงสารขึ้นมา"ตอบได้ตรงคำถามก็จะปล่อย"

   "ไปนั่งคุยดีๆได้มั้ย เราร้อนและหนักมากด้วย"

   "สัญญามาก่อนว่าจะไม่หนี"

   "อืม"

   "เก้งจับตาดูมันไว้"

   "จะจับตาดูอย่างดีเลยล่ะ แผล่บ"มึงพูดเฉยๆก็ได้มั้ยเก้ง หน้ามึงแม่งหื่นแถมยังเลียปากซะน่ากลัว กูขนลุกแทนไอ้เนิร์ดเลยเนี่ย

   "เข้าประเด็นเลยนะ มึงรู้อะไรแล้วบ้าง"เมื่อเลือกที่ร่มๆนั่งคุยกันได้แล้วผมก็เปิดปากถามทันที เก้งก็นั่งชิดสนิทสนมกับฟอกซ์ด้วยเหตุผลว่ากลัวมันหนีไม่ใช่อยากแซ่บด้วยเล๊ย(เสียงสูง)

   "คือ..."

   "เร็วๆ ไอ้เหี้ย กูลุ้นฉี่จะรดใส่หัวมึงแล้ว"

   "คือ...เห้ย"ไอ้ฟอกซ์มันร้องตกใจอะไร ผมยังไม่ได้ทำอะไรมันเลยนะ

   "ถ้าไม่พูดกูจะเคล้นของมึงให้ตั้งตรงนี้เลย พูดสิหรือจะไม่พูดก็ได้นะ"โอเค ผมรู้แล้วว่าไอ้ฟอกซ์ร้องทำไม โดนเก้งลวนลามไข่นี่เอง ไอ้ห่านี่ใจไวมือไวจริงๆแต่ก็ต้องขอบใจมัน อะไรๆจะได้ง่ายขึ้น

   "เราคิดว่าพี่นายเป็น..."ไอ้ฟอกซ์ดูลำบากใจที่จะพูดออกมาแต่พอเห็นว่ามือเก้งทำท่าจะเลื้อยไปตรงเป้าก็รีบเฉลยคำตอบแทบไม่ทัน"เป็นกระเทย พี่นายเป็นกระเทยใช่มั้ยโน"

   "อุ๊บส์...ฮ่าๆๆๆ"ผมยืนนิ่งอย่างอึ้งๆกับสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินจากปากไอ้เนิร์ดที่ดูฉลาดหลักแหลมส่วนเพื่อนผมขำก๊ากออกมาด้วยความฮาแต่ผมฮาไม่ออก นี่อุส่าห์คิดว่าฟอกซ์จะรู้แล้วว่าผมเป็นสโนว์

   บางทีโนก็สงสัยนะครับทำไมเรื่องง่ายๆคนเราคิดไม่ได้ ไอ้เรื่องยากๆนี่ขยันคิดได้คิดดีกันจัง ห่วย!หนองลำคลอง

   "เราว่าเราสืบประวัติมาอย่างดีแล้วนะ หรือว่าพี่สโนว์ไปทำนมให้ดูมๆขึ้นมาพอโดนมากๆแล้วมันจะเคลื่อนอะไรอย่างนี้ใช่มั้ย...สรุปพี่สาวนายเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย"

   "นี่มึงแอบจับนมพี่สาวไอ้โนหรอวะ"ไอ้เก้งมึงจะตอกย้ำทำเพื่อ เดี๋ยวเจอกันรอบนอกเดี๋ยวเหอะมึง

   "เราชอบพี่สโนว์มากมากจนต้องการแต่ไม่คิดว่าพี่สโนว์จะ..."

   "พี่สโนว์เป็นผู้หญิงน่ะ อย่างที่มึงคิดพี่สโนว์แอบไปเสริมนมมา มึงอย่าไปบอกใครเขาล่ะ รู้แล้วก็เหยียบให้มิดเข้าใจ๊"

   "งั้นหรอ เราก็กังวลอยู่ตั้งหลายวัน อย่างนี้นี่เอง"ผมคงต้องติดกาวตราช้างตรงยกทรงกับนมปลอมให้แน่นกว่านี้แล้วสิเนี่ย

   "ยังมีอีกเรื่อง มึงจะข่มขืนพี่สาวกู ถ้ามีคราวหน้าอีกกูจะแจ้งตำรวจจับมึง"
 
   "ไม่มีคราวหน้าหรอกไอ้โน เดี๋ยวกูตามประกบให้เอง หึหึ"บางทีเพื่อนผมก็น่ากลัวนะครับ คบกับมันไปได้ไงเนี่ย ชักเสียวดากแล้วสิ

   เคลียร์ไปแล้วเรื่องหนึ่งแต่ไอ้ริวนี่สิ มันหายไปเลยจะร้องไห้ดีมั้ยเนี่ย เริ่มจะเข้าใจหัวอกพวกคู่นอนซะแล้วสิ

  ♪เสร็จแล้วเขาเคยกอดเธอไหม เสร็จแล้วเขาบอกรักเธอไหม
เสร็จแล้วเขาก็หันหลังให้ เจ็บแล้วเธอทำไมไม่จำ
กี่ครั้งที่ต้องโดนแบบนี้ เสร็จแล้วเขาก็ไม่ใยดี
เจ็บซ้ำโดนกระทำย่ำยี ทำเหมือนเธอไม่มีหัวใจ♪

   เสียงริงโทนโทรศัพท์ดัง ผมหันควับไปมองไอ้เก้งทันที ริงโทนมึงจะบิ้วอารมณ์กูไปไหนแล้วเสือกไม่รีบรับให้มันร้องตอกย้ำกูอยู่นั่นแหละ ไอ้เพื่อนเหี้ย

   "เห้ย เดี๋ยวกูรับโทรศัพท์แป๊ปนึงนะ...เดี๋ยวมานะจ๊ะที่รัก"ประโยคหลังเก้งหันไปพูดกับฟอกซ์ตาหวานเยิ้มอย่างออกอาการ อยากจะตะโกนบอกเพื่อนเหี้ยว่าหุบๆรูตูดมึงบ้างเหอะ

   "เมื่อกี้เราเห็นโนสะดุ้งตอนที่เสียงริงโทนนั่นดัง"ไอ้ฟอกซ์หรี่ตามองผมอย่างจับผิด ทีนี้ล่ะเสือกฉลาดขึ้นมา

   "ไม่ใส่แว่นแล้วมึงเห็นได้ไง มั่วแล้วไอ้นี่"แถไปสิครับ

   "เราไม่ได้สายตาสั้นหรอกนะ แต่ที่ใส่เพราะว่าชอบมีคนบอกกลัวตาเรา ตาเราดุ"

   "แล้วยายดุมั้ย"ยิงมุขใส่พวกแม่ง

   "ยายเราใจดีนะ"เหยดด พวกตบมุขให้ด้วย เริ่มจะถูกใจมันแล้วสิ

   "แล้วนี่มึงไม่มีเพื่อนหรอ"

   "ใครจะอยากคบกับไอ้เนิร์ดอย่างเราล่ะ"ขนาดสรรพนามยังเนิร์ด เนิร์ดตัวพ่อยังเรียกพ่อ งงมั้ยครับนั่นแหละ

   "กูไง ไอ้เก้งด้วยมันอยากเป็นเพื่อนกับมึงจะตาย"เพื่อนนอนอ่านะ ฮ่าๆ

   "โนไม่ชอบเราไม่ใช่หรอ"

   "แต่ตอนนี้กูชอบมึงแล้วไง โอเค ต่อไปนี้มึงจะมาเข้าก๊งเดียวกับกู"พูดเองเออเองซะเลย ไอ้ฟอกซ์อ้ำอึ้งๆแต่ก็เห็นมันยิ้มมุมปากอย่างโอนอ่อนตาม พอไม่ใส่แว่นแล้วตามันดุจริงๆด้วยเพิ่งสังเกต หล่อดีแหะ

   "ขอบใจนะ"

   "ก่อนอื่นมึงต้องเปลี่ยนวิธีการพูดซะก่อน แม่งเนิร์ดเกินกูรับไม่ได้"

   แล้วไอ้เก้งก็กลับมาหลังจากคุยโทรศัพท์อยู่นานผมเลยบอกให้มันปิดเสียงเปิดสั่นทันที เดี๋ยวดังเข้าหูสะเทือนใจผมอีก ระหว่างที่รอเข้าคลาสผมกับไอ้เก้งก็สอนวิธีพูดแมนๆคนกันเองให้เพื่อนใหม่ ดูท่าไอ้เก้งจะดีใจจนมดลูกสั่นเลยทีเดียวที่ได้ฟอกซ์มาอยู่ในแก๊งด้วย จนกระทั่งเข้าคลาสเก้งก็ยังดี๋ด๋าเห่อผู้ชายไม่เป็นอันเรียน แรดจริงไรจริงเพื่อนกู

   ถึงเวลาผมก็ไปทำงานถ่ายละครตามปกติ เรื่องเชลยรักนั่นแหละครับอีกไม่กี่เดือนก็จะปิดกล้องเรื่องนี้แล้ว ผมจะได้เป็นไทยไม่ต้องเล่นตบปล้ำๆแล้วนะ เย้ และสถานที่ถ่ายทำวันนี้คือ

   ~โอ้ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส มองเห็นลำไย แล่นอยู่ในทะเล~

   ผมสูดบรรยากาศของทะเลหัวหินเต็มปอด สถานที่ที่ผมชอบที่สุดก็ทะเลเนี่ยแหละครับถึงอากาศที่ลอยมาปะทะร่างกายจะชวนเหนียวตัวก็ตามแต่

   "น้องสโนว์ นี่ชุดที่จะถ่ายทำวันนี้นะจ๊ะ"ระหว่างที่กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบตัวสตาฟนางหนึ่งก็เข้ามาขัดแล้วยื่นชุดให้ ผมขมวดคิ้วมุ่นทันทีเมื่อเห็นชุด

   "บทมันให้ลงเล่นน้ำไม่ใช่หรอคะ ทำไมเสื้อบางขนาดนี้เนี่ยแถมยังสีขาวอีก กระโปรงก็สีขาวบาง ถ้าเปียกคงจะเห็นไปถึงไหนต่อไหน ขอเสื้อสีเข้มหนาๆไม่ได้หรอคะ"ผมบ่นอย่างเอาแต่ใจ ก็ไม่ได้อยากจะเจ้ากี้เจ้าการหรอกแต่ภายใต้เสื้อผ้ามันมีความลับที่คุณก็รู้ว่าคืออะไรซ่อนอยู่

   "แหม น้องคะ ไม่ต้องเลือกมากหรอกค่ะ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าน้องมีผัวแล้วคงไม่ใช่กุลสตรีอะไรนั่นแล้วล่ะค่ะ"ขอตบปากยัยนี่ได้มั้ย ดูพูดเข้าแล้วไหนจะท่าทางกระแนะกระแหนกวนส้นตีนอีก ผู้หญิง(เทียม)ตบผู้หญิงคงไม่มีใครว่าว่าหน้าตัวเมียใช่มั้ยครับ

   "ถึงน้องจะมีผัวแล้วแต่น้องก็ยังรักนวลสงวนตัวนะคะคงไม่อ้าขาไปทั่วให้ผู้ชายคนไหนหรอกค่ะ เนี่ยดูอย่างคุณพี่สิคะ...ขาถ่างเชียว"แรงส์ เอาไปร้อยคะแนนเลยสโนว์

   "นี่เธอ จะมากไปแล้วนะฉันอายุมากกว่าเธอให้ความเคารพกันหน่อย แม่ไม่สั่งสอนรึไง"อ้าว อีป้านี่เล่นถึงบุพการีกู

   "ขอโทษค่ะป้า เอ๊ะ ยุงเกาะแก้มป้านะคะเดี๋ยวน้องเอาออกให้"

   ผัวะ

   โลกสวยด้วยมือเราแต่ตอนนี้หน้าอีป้าสวยด้วยมือกู รอยแดงเป็นรูปนิ้วประดับตกแต่งอย่างสวยงามบนใบหน้าอีป้าปากปีจอนางนิ่งไปแว๊บหนึ่งก่อนจะทำหน้าบิดเบี้ยวแล้วพุ่งเข้ามาจิกหัวผมจนหงายพร้อมกับยกอีกมือหมายจะแก้แค้นกลับ

   "กรี๊ดดดดดด สโนว์เจ็บ อย่าทำร้ายสโนว์ ฮือๆ"ผมเอามือป้องหน้าไว้ก่อนแล้วแหกปากดังลั่นกองถ่ายที่กำลังยุ่งๆจนเหล่าสตาฟหันกันมามอง

   เอาสิอีป้าตบกูให้หน้าแหกเลยแล้วมึงจะได้ตกงานไปขายตัว ผมยุนางในใจแต่จนแล้วจนรอดนางก็ไม่ตบแล้วปล่อยหัวผมแทน ผมก็ทำท่าล้มไปกองกับพื้นอย่างแรงให้เหมือนกับว่านางผลักหัวผม แล้วผมก็กุมใบหน้าซีกขวาพลางบีบน้ำตาประมาณว่าเจ็บหนักหนาทั้งๆที่ยังไม่โดนตบเลย ปีนี้ผมต้องได้รางวัลตุ๊กตาทองแน่เลยว่ะ ฮ่าๆ

   ทุกคนเข้ามารุมตอมบางส่วนรุมด่าอีป้านั่นบางส่วนก็เข้ามาช่วยปลอบขวัญผมโดยไม่มีใครถามอะไรเลยว่าเรื่องมันเป็นมายังไง มนุษย์ก็แบบนี้แหละน้าา คนเลวถึงเจริญรุ่งเรืองไงล่ะ เห็นผิดเป็นชอบเห็นชอบเป็นผิด เหมือนกำลังด่าตัวเองอยู่เลยแหะ

   "อย่าไล่พี่เขาออกเลยนะคะ สโนว์ไม่อยากให้พี่เขาตกงานถึงแม้พี่เขาจะแอบทำร้ายสโนว์หลายครั้งแล้ว"

   "ตอแหล"ขอบคุณที่ชมครับป้า หน้านางตอนนี้ซีดยังกับไก่ต้มสะใจเป็นบ้า

   "ไม่ไล่ออกก็ได้ค่ะน้องสโนว์...แต่ยังไงเธอก็มีความผิดฐานทำร้ายใบหน้าทำมาหากินของนักแสดง ฉันจะย้ายงานเธอไปแผนกอื่น"

   "ไม่ได้นะคะ เจนไม่ได้ทำอะไรผิด นังนี่มันเล่นละครตบตาเจนยังไม่ได้ทำอะไรมัน"อ่อ อีป้านี่ชื่อเจน

   "วันนี้เธอกลับไปซะเจนแล้วพรุ่งนี้เตรียมย้ายงานได้เลย"แล้วนางก็ทำท่าฟึดฟัดจิกตามองผมอย่างเคียดก่อนจะเดินตึงตังจากไป บ๊ายบายนะอีป้าเล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับเจ้าหญิง(ตอแหล)แห่งวงการบันเทิง

   "เจ็บมากมั้ยคะน้องสโนว์ จะถ่ายไหวมั้ยเนี่ย"

   "ไม่เจ็บมากหรอกค่ะ เดี๋ยวสโนว์ไปเปลี่ยนชุดแล้วเริ่มถ่ายได้เลยนะคะ"วันนี้ผมเข้าฉากแค่คนเดียวทั้งๆที่ต้องเข้าฉากกับมาค คงเปลี่ยนบทล่ะมั้ง

   "อ๊ะ น้องสโนว์คะ เปลี่ยนเป็นชุดนี้นะคะ"

   "เอ๊ะ อ่า...ได้ค่ะ"คนเขียนบทนี่ก็แปลก

   ใส่ชุดแต่งงานเล่นน้ำทะเล เทรนด์ใหม่หรือยังไง

   ผมเข้าเต้นท์ไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดแต่งงานสีขาวปาดไหล่ ชายกระโปรงยาวเหนือเข่าฟูฟ่องแบบหน้าสั้นหลังยาว พอออกมาพี่เนเน่กับเจ้จิ๋มก็เข้ามารุมสะกำยำผมให้สวยงามขึ้น

มีต่อด้านล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๖ Will u marry me?(Y,you'll)✖[13/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 13-10-2016 16:18:52
   ตอนนี้ผมเลยกลายเป็นเจ้าสาวเต็มตัวมีผ้าคลุมหน้าสีขาวบางไพล่ไว้ข้างหลัง บนหัวประดับด้วยดอกไอริส ทำไมต้องดอกไอริส?

   "พร้อมจะเป็นเจ้าสาวที่โชคดีที่สุดในโลกยังคะขุ่นน้อง"พี่เนเน่ปิดตาผมไว้แล้วพยักเพยิดให้เดินตามไปทาง

   "เดี๋ยวค่ะ นี่มีในบทด้วยหรอคะ"ชักจะแปลกๆแล้วสิ สรรพสิ่งรอบข้างก็เงียบกว่าปกติได้ยินเพียงเสียงคลื่นกระทบชายฝั่งและเสียงลมวี้ดหวิวผ่านหู

   พรึบ

   จู่ๆพี่เนเน่ก็หยุดเดินแล้วปล่อยมือที่ปิดตาผมไว้ให้เป็นอิสระ วันนี้ไม่ใช่วันเกิดผมนี่นาเซอร์ไพรส์อะไรกัน ผมค่อยๆลืมตาช้าๆและสิ่งที่เห็นทำเอาผมหยุดหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง

   สตาฟนับสิบใส่เสื้อสีชมพูยืนถือลูกโป่งสีชมพูมีตัวอักษรเขียนไว้ในแต่ละลูกเรียงกันเป็นคำว่า

   ⓦⓘⓛⓛ ⓨⓞⓤ ⓜⓐⓡⓡⓨ ⓜⓔ ?

   และคนที่หายหน้าหายตาไปเลยก็มายืนอยู่ตรงหน้าผมตรงหน้าสโนว์พร้อมดอกไอริสช่อใหญ่ ริวคุกเข่าลงกับผืนทรายแล้วยื่นช่อดอกไอริสให้ผม ความรู้สึกของผมมันตีรวนกันไปหมด ที่ริวหายไปเพราะเตรียมเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานสโนว์ในขณะที่มันทิ้งโนให้นอนป่วยซังกะตายอยู่ที่คอนโด ผมรู้ว่าริวยังไม่รู้อยู่ดีว่าผมกับสโนว์เป็นคนๆเดียวกัน แววตามันฟ้องว่าในนั้นมีแต่สโนว์

   "Will you marry me? My snow white princess."

    :3123:

   "N..."

   "Yes! you'll marry me.Thanks for answer my princess"พ่อมึงสิไอ้ริว กูยังไม่ได้ say yes มึงเลย กูจะ say no เว้ยคิดเองเออเองชิบหาย อยากจะบ้าตาย

   "เฮ! วิ้ดวิ้ววว วู้วๆๆ"ทุกคนที่อยู่โดยรอบล้วนเป่าปาก โห่เชียร์กันยกใหญ่พวกผู้หญิงก็ยืนบิดกันตัวเกลียวเหมือนเขินแทนผม พวกผู้ชายก็เฮลั่นเหมือนพวกคนป่า ส่วนผมอยู่ในอารมณ์ที่อึ้ง มึน งง

   ไม่รู้ว่าผมรับดอกไม้มันมาเมื่อไร รู้สึกตัวอีกทีก็ถูกริวอุ้มด้วยท่าเจ้าสาวแล้วเหวี่ยงไปรอบๆอย่างกับอยู่ในละครน้ำเน่า กล้อง 2 ตัวก็จับจ้องอยู่ที่บรรยากาศขอแต่งงานตั้งแต่เริ่ม ทุกๆอย่างถูกเตรียมไว้แล้ว มิน่าล่ะหลายวันที่ริวหายไปเพราะเตรียมเซอร์ไพรส์ขอผมแต่งงาน ไม่ใช่สิ ขอสโนว์ต่างหาก

   แต่ที่ผมเจ็บใจมากที่สุดคือริวยังไม่รู้ว่าผมเป็นคนๆเดียวกับสโนว์ โคตรพ่อโคตรแม่โง่เลยและในความรู้สึกลึกๆของผม น้อยใจ...ที่มันทิ้งผมที่โดนเอาจนไม่สบายไปเตรียมการขอสโนว์แต่งงาน เด็กนรก เด็กเลว เด็กโง่ ฮึ่ย

   แล้วความน้อยใจของผมก็แปรเลี่ยนเป็นความแค้น บังอาจมาทำให้เสียความรู้สึกมันก็ต้องเสียความรู้สึกมากกว่าผมร้อยเท่าพันเท่า ตอนนี้จะยอมตามน้ำตามเนื้อไปด้วยก็ได้ถึงเวลาเมื่อไร มันจะต้องเจ็บจนจุกเลยล่ะ

  "ที่รัก เหม่ออะไรครับ"ผมถูกวางลงให้กลับไปยืนบนผืนทรายดังเดิม ริวจับมือผมเอาไว้แล้วใช้นิ้วโป้งเขี่ยบนหลังมือเบาๆ

   ผมไม่ปฏิเสธเลยว่าเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานของริวถือได้ว่าผู้หญิงร้อยทั้งร้อยถ้าเจอสกิลนี้เข้าไปละลายไปกองกับพื้นทุกรายแต่เผอิญว่าใจผมเป็นชายไง มันเลยแข็งดุจหินผาสมชายชาติทหารไทย

   "..."ผมไม่ตอบอะไรคนตรงหน้าทั้งนั้นเพราะในหัวมีแต่แผนร้ายเต็มไปหมด ไอ้ความรู้สึกอึ้ง มึน งง น้อยใจในตอนแรกหายไปราวกับธาตุอากาศ ผมมันคนเปลี่ยนอารมณ์ไวชนิดที่ผู้หญิงท้องยังซูฮก

   "ทำหน้าแบบนี้อยากให้ผมจูบใช่มั้ย"เข้าหูซ้ายทะลุหูหมาไปโดยปริยาย

   "จูบเลยๆๆๆ"เสียงของทุกคนเริ่มดังเข้าสู่โสตประสาทผม จูบอะไร?

   ไม่ทันที่จะเรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ดีผมก็ถูกคนตรงหน้าเชยคางให้เงยขึ้น กำลังจะอ้าปากห้ามแต่ก็ถูกปากหนาประกบไว้อย่างฉับพลันพร้อมกับลิ้นร้อนชอนไชเข้ามาพัวพันด้วย

   "อื้ม"ยิ่งหลบหนีเรียวลิ้นมากเท่าไรนิวก็ยิ่งไล่ต้อนผมหนักมากเท่านั้น ก่อนที่ผมจะเคลิบเคลิ้มตามริวก็ชะงักหยุดทุกสิ่งที่จะกระทำแล้วถอนริมฝีปากออก

   "รสจูบคุณเหมือน..."

   "อะไร"ผมตะคอกใส่ริวพลางขยี้ปากไปด้วย ไม่ได้รังเกียจหรือรู้สึกขยะแขยงแต่ทำไปเพราะแก้เขิน แอ๊ะ นี่ผมชอบจูบมันหรอ โดนตุ๋ยตูดไปครั้งเดียวก็เป็นขนาดนี้แล้วเรอะโน ไม่นะไม่

   "ไม่มีอะไรครับ ไหนๆเดี๋ยวเราก็จะแต่งงานกันแล้ว ไปฮันนีมูนก่อนแต่งกันครับ"

   "ฉันมีถ่ายละคร"เมื่อมันสบตากับผมอย่างมีความหมายผมก็หลบสายตาของมันไปมองคลื่นทะเลแทน เกือบไขว้เขวแล้วมั้ยล่ะ

   "พี่ๆครับ ขอบคุณสำหรับความร่วมมือนะครับ ผมจัดโรงแรมไว้ให้แล้วมีพร้อมทุกอย่าง ฉลองกันให้เต็มที่เลยนะครับผมขอตัวไปฉลองกับสโนว์กันสองต่อสองก่อน"

   "ขอบใจมากนะจ้ะน้องริว"

   "ไม่เป็นไรครับ"

   "น้องสองคนก็ระวังพวกนักข่าวไว้ให้ดีนะ ยิ่งช่วงนี้ชุกชุม"

   "ขอบคุณครับ"

   "แล้วนี่จะแต่งกันเมื่อไร อย่าลืมชวนข้าด้วยนะเว้ย"ผู้กำกับที่ไม่ค่อยมีบทก็พูดขึ้นมาซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจจนทุกคนเออออห่อหมดตามไปด้วย

   "ก็คงเร็วๆนี้แหละครับ ผมจะชวนทุกๆคนเลยครับ"

   "น้องสโนว์นี่น่าอิจฉานะคะ มีสามีเด็ก หล่อ รวย แถมโรแมนติกอีก ถ้าน้องไม่กินแล้วเจ๊ขอกินต่อได้มั้ยคะ"เจ๊จิ๋มหันมากระซิบกระซาบกับผมอย่างระริกระรี้

   "หนูไม่ได้อยากกินตั้งแต่แรกแล้วล่ะค่ะเจ๊ เจ๊เอาไปแทะได้ตามสบายเลย"ผมก็กระซิบตอบไปให้รู้ๆกันว่าผมเป็นชายไม่กินชาย แต่โดนมันกินไปแล้วเลยพูดไม่ได้เต็มปากเต็มคำนัก

   "ไปครับ ผมมีที่ที่หนึ่งอยากให้คุณไป ตะวันใกล้จะตกดินแล้วด้วย เดี๋ยวไม่ทัน"มือหนากอบกุมมือผมออกแรงดึงเบาๆให้ตามไป จะว่าอะไรได้ล่ะครับตามน้ำตามเนื้อไง

   "ขอให้สนุกนะค่า"พี่ๆสตาฟก็ยังส่งเสียงเชียร์ตามหลังมาเป็นการส่งท้าย"

   หวังว่าที่ที่ริวจะพาไปไม่ใช่เตียงอะไรงี้หรอกใช่มั้ย ไอ้บ้านี่ยิ่งใจไวกายไว แต่สถานที่มันก็ไม่เกี่ยงนี่หว่า จะมีที่ไหนปลอดภัยเมื่ออยู่กับริวสองต่อสองบ้างถามใจดู

   "จะไปไหน"ลองเชิงก่อนดีกว่าใช่ว่าสิ่งที่ผมคิดจะเป็นจริงนะ

   "เดี๋ยวก็รู้ครับ"เกลียดอะไรที่มันเซอร์ไพรส์ชิบหาย พวกผู้หญิงชอบไปได้ไงวะ ถ้ากำลังเต้นจ้ำบ๊ะโป๊เปลือยอยู่หน้ากระจกแล้วแฟนเข้ามาเซอร์ไพรส์ทำไงล่ะทีนี้ยังจะชอบเซอร์ไพรส์อยู่มั้ยครับ

   ตั้งแต่ตอนนั้นจนกระทั่งตอนนี้เราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก ผมเลยนั่งเหม่อมองออกไปนอกรถ รู้สึกตัวเองแปลกๆไปก่อนที่จะเจอไอ้ริวผมยังเป็นเด็กกากเกรียนอยู่เลยไมตอนนี้รู้สึกตัวเองหงอจังวะ ก็นะจะไม่ให้หงอได้ไงช่วงนี้เจอแต่เรื่องที่ไม่คาดคิดแบบสุดติ่งกระดิ่งงูจนเอ๋อแดกไปเลย

   เส้นทางที่ผมเห็นข้างทางเริ่มเต็มไปด้วยป่าไม้มากขึ้น เพราะเป็นทางขึ้นเขา นี่ริวจะไม่พาผมไปฆ่าข่มขืนหมกป่าใช่มั้ยก็ยังดีที่มันยังมีกระจิตกระใจฝังกลบผมกับดิน ถุ้ย ไม่ใช่ละ

   "เอาล่ะ ถึงแล้วแต่เราต้องเดินเข้าไปอีกหน่อย"นี่มันกะจะฆ่าข่มขืนผมจริงๆ ทำแบบนี้กับคนสวยได้ยังไง โอ้ไม่นะ แด๊ดแก้วแม่แก้วช่วยลูกลิงด้วย"อย่ามองผมแบบนั้นสิ ผมแค่จะพาคุณมาสวีทคามประสาข้าวใหม่ต้มยำเท่านั้น"

   "ข้าวใหม่ปลามันเว้ย"แก้ให้ใหม่ไม่คล่องคำเปรียบเปรยไทยแล้วยังจะพูดอีก

   "อ่า นั่นแหละครับ มาๆเดี๋ยวไม่ทันเห็นของสวยๆงามๆนะ"มึงหมายถึงโลกหน้างั้นสิ จะฆ่ากูก็บอกจะได้ชิ่งทัน"เร็วครับ"

   "ไม่ ฉันยังไม่พร้อมฉันยังไม่อยากตาย"ผมพยายามสะบัดแขนที่ถูกลากไปตามทางแมกไม้แต่ก็ไม่ยอมหลุด ลาก่อนแด๊ด ขอโทษนะแม่ที่เป็นลูกสาวให้ไม่ได้ ฮือ

   "คุณพูดอะไร ลืมตาสิที่รัก"เมื่อไม่รู้สึกว่าถูกคุกคามผมก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆกลัวว่าสิ่งที่เห็นเป็นอันดับแรกจะเป็นปืนไม่ก็หลุมฝังศพ

   แต่สิ่งที่คิดกับความเป็นจริงมันไม่ใช่ ภาพที่เห็นตรงหน้าคือผมกำลังยืนอยู่ตรงผาหินใหญ่ ข้างหน้าเป็นท้องฟ้ายามเย็นแสงสีส้มอ่อนๆกับพระอาทิตย์กำลังค่อยๆเคลื่อนตัวลงเชื่องช้า กลิ่นอายเย็นๆสบายๆของธรรมชาติลอยมาปะทะกับจมูกให้ผมได้สูดดมจนชื่นปอด ที่ที่ผมยืนอยู่คงจะเป็นภูเขาสูงระดับหนึ่งมองไปข้างล่างก็จะเห็นแสงไฟของตัวเมืองหัวหินระยิบระยับ

   ไม่รู้ว่ากี่นาทีที่ผมกับริวยืนเงียบๆกันอยู่ตรงนั้นจนท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นมืดบอด ดาวบนท้องฟ้ามีบ้างให้เห็นประปรายและตัวเมืองหัวหินข้างล่างนั่นที่ประดับไปด้วยแสงไฟทำให้ผมอดชื่นชมในความงามมิได้

   ทะเลก็ว่าดีแล้วนะแต่ภูเขาดีงามกว่า ผมหันไปมองคนข้างๆที่หันมามองผมอยู่ก่อนแล้ว ในสายตาริวที่มองมามันมีแต่ความรักที่มอบให้ผม...สโนว์ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงชอบสโนว์ขนาดนี้ ชักจะอิจฉาสโนว์ขึ้นมาแล้วสิ

   "ถ้าสโนว์ชอบผมจะพามาบ่อยๆนะ"

   "คงไม่มีวันนั้นแล้วล่ะค่ะ"ผมพูดออกไปลอยๆอย่างขมขื่น

   "ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะครับ เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปแล้วนะ"

   "ฉันคงเป็นสิ่งที่คุณอยากให้เป็นไม่ได้"เป็นผู้หญิงให้ไม่ได้หรอกนะ

   "คุณไม่ต้องเป็นคนที่ผมอยากให้เป็นหรอกครับ แค่เป็นคุณในตอนนี้ก็พอที่รัก"

   "ฉันไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด"นี่ผมบอกใบ้ขนาดนี้แล้วนะเนี่ย โชว์ความฉลาดให้ดูหน่อยเถอะ

   "ถึงคุณจะเป็นยังไง ผมก็รักคุณนะสโนว์"

  "ถ้าฉันไม่ใช่ผู้หญิงล่ะ...คุณจะยังรักฉันอยู่อีกรึเปล่า"








☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

Nekozaa  :

      หายไปเพราะแบบนี้เองริว แบบนี้จะให้อภัยดีมั้ยเนี่ย สงสารที่น้องสโนว์แอบได้สามีโง่บรม  :heaven

       ดีใจไม่มีใครเดาทางเราถูก โฮะๆๆ ตอนหน้าจะเป็นยังไงนะ~ เจอปืน(กัน)ค่ะ

      ปล. ชอบคอมเม้นต์ที่แต่งเป็นกลอนหรือกาพย์ของคุณ ทฟเืนสรฟ มากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ อ่านแล้วฮา


:pig4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๖ Will u marry me?(Y,you'll)✖[13/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-10-2016 18:19:21
      ริวขอแต่งงาน            สานสายสัมพันธ์
พรินเซสตามฝัน               ผูกพันสโนว์     
      ริวก้มจุมพิต               ชิดปากจูบโชว์
รสจูบคล้ายโน                  ติดในใจริว
      พาสโนว์ขึ้นเขา          เจ้าสาวดูวิว
ภูเขาสูงลิ่ว                      ทะเลแสนงาม
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๖ Will u marry me?(Y,you'll)✖[13/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 13-10-2016 18:24:52
อะเดะ ค้างงงงง ขอบคุณที่มาต่อจ้า
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๖ Will u marry me?(Y,you'll)✖[13/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 13-10-2016 19:48:49
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๖ Will u marry me?(Y,you'll)✖[13/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 13-10-2016 19:53:15
ด้วยสติปัญญาพระเอกแล้ว เราว่าริวต้องคิดว่าสโนว์ล้อเล่นแน่  :katai5:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๖ Will u marry me?(Y,you'll)✖[13/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-10-2016 20:47:49
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๖ Will u marry me?(Y,you'll)✖[13/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-10-2016 23:05:59
ขอบคุณค่ะ รอดูว่าพระเอกฉลาดหรือโง่กันแน่
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๖ Will u marry me?(Y,you'll)✖[13/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 14-10-2016 15:22:27
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๖ Will u marry me?(Y,you'll)✖[13/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 14-10-2016 19:53:05
 :really2:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๖ Will u marry me?(Y,you'll)✖[13/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 15-10-2016 09:46:36
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๖ Will u marry me?(Y,you'll)✖[13/10/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 15-10-2016 21:26:16
เราว่าต้องรู้แหละ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[22/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 22-10-2016 00:07:59
บทที่๗

มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย







   "ถ้าฉันไม่ใช่ผู้หญิงล่ะ...คุณจะยังรักฉันอยู่อีกรึเปล่า"

   ถามออกไปพร้อมรอคำตอบอย่างไม่คาดหวังอะไรมากนัก ริวเงียบไปสักครู่ใหญ่ๆก่อนจะอ้าปากแต่ก็หุบลงแบบนั้นหลายครั้ง ใบ้แดกไปเลยท่านผู้ชม

   "ผมถามอะไรหน่อยสิ"

   "ว่ามา"

   "โน"

   "โนทำไม"เด็กโง่ตรงหน้าจะโชว์อภินิหารแห่งความฉลาดออกมาแล้วหรือเนี่ย ลุ้นจนมดลูกสั่นกันเลยเชียว

   "น้องชายสโนว์เป็นลูกบุญธรรมของคุณจริงๆหรอ เค้าโครงหน้าเหมือนกันมากซะจนคิดว่าเป็นคนๆเดียวกัน"

   "ใครๆก็ว่าแบบนั้นแต่โนเป็นลูกบุญธรรมจริงๆ จบนะ"

   โชว์อภินิหารแห่งความโง่ล่ะสิไม่ว่า ไม่เคยปวดกบาลปวดจิตขนาดนี้มาก่อน เร่เข้ามาเอ้าเร่เข้ามาชมคนโง่ที่สุดในจักรวาลกันครับ เฮๆ

   "น้องชายสโนว์...เอ่อ มีแฟนยังครับแล้วเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย"

   "ทำไมคะ ชอบน้องชายฉันหรอ"ติดใจตูดฟิตๆของกูรึไง ไม่ให้แอ้มเป็นรอบที่สองหรอกเว้ย

   "คนที่ผมชอบพอคือคุณต่างหากที่รัก"ไม่พูดเปล่ามือเจ้าเด็กริวก็ยื่นมากุมมือผมไว้แล้วเคลื่อนไปทาบที่อกของมัน รู้สึกได้ถึงก้อนเนื้อข้างซ้ายที่เต้นตุบๆอย่างตื่นเต้น

   "ฉันว่าเรากลับกันได้แล้ว"ผมดึงมือตัวเองออกจากการกอบกุม มองวิวทิวทัศน์ที่งดงามเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินไปตามทางเดิมที่มา

   "เดี๋ยวสโนว์...ไม่ใช่ทางนั้นครับ"เพล้ง อะไรใครหน้าแตก ไม่มี๊ ไม่มีนั่นมันเสียงนกร้อง เพล้ง เพล้ง

   "ฉันก็แค่เดินมาสำรวจดูเฉยๆ"จริงๆไม่ได้แก้ตัวนะเออ

   "หึหึ ครับๆ"

   "อะไร ขำแบบนี้หมายควายว่ายังไง อยากมีเรื่องหรอ"

   "อยากมีลูกมากกว่าครับ"

   "ไปมีกับหมาไป"เพราะกูมีมดลูกไว้สืบพันธุ์กับมึงไม่ได้เว้ย กูเป็นผู้หญิงมีไข่หรือเรียกอีกอย่างว่า สาวดุ้น ดุ้น ดุ้น ดุ้น ดุ้น(เอคโค่)

   "สนใจมาเป็นหมาให้ผมมั้ยครับ อา...ผมอยากติดเป้งกับคุณจัง"

   "โรคจิต!"ไม่รู้จะสาธยายคำด่าไหนมาด่าไอ้ริว ไอ้โรคจิต วิปริต สมองเสื่อม หน้าด้านหน้าทน คนบ้าอะไรวะอยากติดเป้งเหมือนหมูเหมือนหมา

   ผมเขม้นขบเขี้ยวเคี้ยวฝันอย่างหมั่นไส้ ริวหัวเราะหึในลำคอเหมือนกับว่านี่เป็นเรื่องขบขันนักหนา มันเดินมาทางผมก่อนจะจับมือแล้วลากให้เดินตามไปด้วยกันแต่เรื่องอะไรจะยอมผมก็สะบัดสะดีดสะดิ้งอย่างกับสาววัยแรกแย้มที่กำลังจะโดนข่มขืน ทว่าความพยายามกลับสูญเปล่านอกจากจะไม่หลุดแล้วยังเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ

   "คุณจะนอนก็ได้นะครับ อีก 3 ชั่วโมงกว่าถึงจะถึงกรุงเทพ"ริวเปิดประตูรถให้ผมเข้าไปนั่งดีๆพอมันขึ้นมานั่งที่คนขับก็หันมาพูดกับผม

   "หลับให้มึงลักหลักรึไง"พูดรัวจนลิ้นพันกันแล้วครับวินาทีนี้ โกรธก็โกรธ อายก็อาย แม่งมาโก๊ะอะไรตอนนี้วะกู เสียเซลฟ์ชิบหาย

   "ผมไม่ลักหลักคุณหรอกวางใจได้ หึหึ"มันจงใจตบมุขผมก่อนจะขำอย่างมีมาด พูดแบบนี้มึงเอาง่ามขามาฟาดหัวกูดีกว่านะ ฮือ

   "เชอะ ไม่รู้ไม่ชี้ไม่สนใจแล้วตาบ้า"เล่นเป็นสาวน้อยตาหวานในการ์ตูนญี่ปุ่นซะเลย

   "ฮ่าๆๆ คุ๊...หึหึ คุณนี่...ฮาเป็นบ้า ไม่ยักรู้เลยว่าสโนว์ ไวท์จะมีมุมตลกแบบนี้ ฮ่าๆ"

   "มันน่าตลกตรงไหน ขับรถไปเลย ฮึ่ย"ผมแหวใส่หน้าดำหน้าแดงทั้งโกรธและอายจนต้องหันไปตบหัวริวเพื่อระบายอารมณ์

   "โอ๊ย คุณ...อย่าทำร้ายสามีสิ"

   "มึงนี่...ฮึ่ย"ผมฟึดฟัดไม่พอใจจะพูดอะไรพวกแม่งก็ดักทางตลอด อยากจะดิ้นกระแด่วๆเป็นปลาขาดน้ำให้รู้แล้วรู้รอดแต่ทำอะไรไม่ได้เลยเตะคอนโซลรถไปทีหนึ่ง"โอ๊ยย เจ็บ"

   "ฮ่าๆๆ ขากระตุกหรอคุณ เจ็บมั้ยครับ โอ๋ๆ"

   "FUCK!"สบถคำหยาบพลางโชว์ยิ้วกลางให้มันเต็มๆไปหนึ่งดอก

   ไม่จบแค่นั้นผมกับมันก็ต่อล้อต่อเถียงกันจนในรถแทบลุกเป็นไฟสำหรับผมนะแต่สำหรับไอ้ริวคงจะเป็นคาเฟ่ตลกไปแล้ว ขำเอาๆ อย่าว่าแต่ผมโก๊ะเลยไอ้เด็กบ้านี่ก็โก๊ะเหมือนกัน

   "ขึ้นห้องผมก่อนนะ เดี๋ยวลงไปส่งที่ห้องคุณ"ไม่รอให้ผมได้พูดอะไรไอ้ริวก็เลี้ยวรถขึ้นคอนโดชั้นบนสุด

   นั่นไง ห้องมันอยู่ชั้นบนสุดคอนโดเดียวกับผมจริงๆด้วย งี้ถ้ำที่ผมอาศัยอยู่ก็ไม่ปลอดภัยแล้วสิไม่รู้เสืออีกตัวจะย่องเข้าถ้ำผมตอนไหน

   "อยากแวะเข้าไปนั่งเล่นในห้องผมก่อนมั้ย"เมื่อลงจากรถริวก็เอ่ยปากเชิญชวนผมให้เข้าถ้ำมันทันที

   "ไม่ล่ะ"ผมโบกไม้โบกมือปฏิเสธก่อนจะตรงดิ่งไปที่ลิฟต์

   "เอ่อ น้องชายคุณ...เป็นยังไงบ้าง"ขมวดคิ้วมุ่นทันทีเมื่อริวถามถึงผมที่เป็นผู้ชาย สงสัยคงอยากรู้ว่าตายรึยังโดนเอาจนฟ้าเหลืองขนาดนั้นแถมยังฟันแล้วทิ้งอีก คิดแล้วก็เจ็บใจนัก

   "ทำไม จะเอาทั้งพี่ทั้งน้องเลยรึไง"แขวะกระแนะกระแหนไปแต่ที่ได้กลับมาคือความเงียบเสียจนใจเสีย กะจะเอาทั้งพี่ทั้งน้องจริงๆหรอวะแต่ก็คนๆเดียวกันป่ะ กูขำ

   "อาทิตย์นี้งานสโนว์แน่นเอี๊ยด อาทิตย์หน้าผมจะพาคุณไปดินเนอร์กับครอบครัวผมและครอบครัวคุณ ตกลงนะครับ"เงียบไม่พอยังเปลี่ยนเรื่องไปหน้าตาเฉย ผมไม่ตอบรับคำมันเหมือนกันแล้วกดลิฟต์ลงไปอีกชั้นที่เป็นห้องของตัวเอง ไม่อยากเห็นหน้าคนสองจิตสองใจไอ้เสือไบหน้าสุกี้

   พอริวทำท่าจะเข้าลิฟต์ตามผมมาก็ผลักอกแกร่งมันให้ออกไปอย่างแรงด้วยอารมณ์โมโหที่มีทำให้มันเซแถดๆ เห็นดังนั้นผมก็รีบกดปิดลิฟต์ไม่สนว่าจะหนีบนิ้วหนีบมือไอ้เด็กนรกจกเปรต

   แต่ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่เคลียร์ ผมรีบกดโทรศัพท์โทรผู้จัดการส่วนตัวระหว่างล้วงประเป๋าควานหาคีย์การ์ดห้อง เสียงเพลงรอสายหายไปตามด้วยเสียงทักทายจากคนปลายสายอย่างไม่ทุกข์ร้อน

   "พี่คม ผมว่าจะถามพี่ตั้งนานละแต่ลืมตลอด พี่เอาคีย์การ์ดชั้นของผมให้ไอ้ริวใช่มั้ย"

   [ถ้ากูให้แล้วจะเอาคีย์ที่ไหนขึ้นห้องมึงล่ะไอ้ควาย]

   "ก็...ทำไมไอ้ริวมันมาชั้นผมได้ล่ะ"

   [ใช้ก้นมึงคิดดิ่มาถามกูแล้วกูจะรู้มั้ย เสียเวลาทำมาหากินกูหมด กูจะให้อาหารควายกูอยู่เนี่ย อ่อ พรุ่งนี้ก็ตื่นเร็วๆอย่าให้กูต้องไปจิกหัวถึงที่ บาย]

   ด่าจบอะไรจบพี่แกก็กดตัดสายโดยที่ผมยังอ้าปากค้างจะถามไถ่ต่อแต่ไม่ทัน พี่คมจะเป็นแบบนี้เสมอเวลาที่ได้กลับบ้านเพื่อไปดูแลควายที่ตัวเองเลี้ยงไว้ อะไรจะรักและห่วงควายเบอร์นั้น ว่าแต่พี่แกเป็นอะไรกับควายมากป่ะ ถามในใจรอบที่ล้านแปดและก็ไม่เคยได้คำตอบ

   วันนี้ทั้งวันผมต้องไปออกรายการนู่นนี่นั่นเพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับไอ้ริวและมีบางรายการเชิญผมกับไอ้ริวให้ไปออกด้วยกันแต่ผมปฏิเสธไปทุกงานจนพี่คมด่าจนหูชา เขาบอกว่าเนื้อคู่กันแล้วจะไม่แคล้วกันหรอกก็คงจะจริงแต่เป็นคู่เวรคู่กรรมกันมากกว่า รายการสุดท้ายของวันที่ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้ได้เชิญให้ผมกับริวออกงานสัมภาษณ์คู่กัน

   "พี่คะ นี่มันอะไร"ผมชี้มายังเสื้อสีขาวที่ตัวเองใส่อยู่ ลายของเสื้อสกรีนคำว่า 'เจ้าสาว' เด่นหราเป็นสีชมพู

   "ทาง Couple reality เป็นตรีมแบบนี้อยู่แล้วค่ะ แบบคู่รักคู่แฝด ของน้องเป็นเจ้าสาวส่วนคุณริวก็เจ้าบ่าวค่ะ น่ารักใช่มั้ยคะ...พี่จิ้นคู่น้องอยู่แหละค่ะ ฟินเวอร์"เธอทำหน้าเคลิบเคลิ้มลอยไปไกลผมเลยเดินเลี่ยงออกมาเตรียมตัวและพบกับคู่เวรคู่กรรมของผมยืนคุยระรื่นกับสาวสวยนางหนึ่ง

   หึ ยังไม่ทันแต่งงานก็หนีไปมีชู้ซะละ คนหลายใจ แอ๊ะ เหมือนผมหึงมันเลย ไม่ๆผมจะไปหึงมันทำไมไม่ได้รักใคร่ชอบพอริวซะหน่อย

   "พูดถึงก็มาพอดีเลย เจ้าสาวของเจ้าบ่าว"หล่อนกวักมือเรียกผมให้เข้าไปหาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแต่ผมนี่บึ้งตึงทั้งที่ไม่ได้อยาก อารมณ์มันพาไปเอง

   "ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะที่รัก เป็นอะไรรึเปล่า"เป็นเมียแก่ที่กำลังโดนผัวเฒ่าไปแอบมีชู้ไง

   "ไม่ๆ"ผมสะบัดหัวเพื่อไล่ความคิดแปลกๆไปจนสะดุ้งตัวโยนเพราะมือหนาเชยคางให้เงยขึ้นเพื่อสบตา

   "สีหน้าคุณดูไม่ดีเลยสโนว์ ถ้าไม่ไหวเราค่อยมาถ่ายกันใหม่ก็ได้นะครับ"

   "ไหว...ฉันแค่...ไม่มีอะไร"เม้มปากแน่นพลางเฉหน้าไปทางอื่น เกือบหลุดปากพูดในสิ่งที่คิด"เริ่มอัดรายการกันเลยดีกว่าค่ะ"ผมหันไปบอกสตาฟที่เดินผ่านมา

   "โอเคครับ คุณสโนว์คุณริวเชิญทางนี้ครับ"พี่สตาฟนำทาง ผม ริว และผู้หญิงคนนั้นเดินตามกันไปติดๆ เจ้าหล่อนเดินตามมาทำไมนิ นี่คุมผัวกูยันสตูดิโอเลยเรอะ ป๊าด

   แล้วเพลงหนึ่งก็แว๊บเข้ามาในหัวผมอย่างช่วยไม่ได้

   มีเมีย(ผัว)เด็ก ต้องหมั่นตรวจเช็คใครโทรมา อย่าเอาหูไปนาหรืออย่าเอาตาไปไร่~

   บ้าไปแล้วๆผมนี่เป็นเอามากนะ ยังไม่ทันจะรักก็หึงซะแล้วหรอวะ เห้ย ไม่ได้หึง

   ผมสะบัดหัวไปมาแรงๆให้ความคิดอกุศลกระเด็นออกจากหัวจนมึนเซไปข้างๆแต่มีคนมารับไว้ซะก่อน ไม่ใช่ใครที่ไหน ริวคนเก่าคนเดิม

   "ผมว่าคุณไม่ไหวหรอก เดี๋ยวผมพาไปโรงพยาบาล"เจ้าตัวพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วงซะผมใจสั่น จะมาหวั่นไหวอะไรตอนนี้เนี่ย

   "ก็บอกว่าไหวไง อย่าทำให้เรื่องเล็กๆแค่นี้เป็นเรื่องใหญ่ไปเลยน่า เสียการเสียงานหมด"ผมดันตัวเองออกจากวงแขนแกร่งที่กอดกระชับตัวผมอย่างห่วงแหน ประชาชนรอบตัวก็แห่กันมอง บ้างก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายอัดกันใหญ่

   "สำหรับผม เรื่องเล็กๆของคุณเป็นเรื่องใหญ่ของผม ผมห่วงคุณมากนะสโนว์"เด็กตัวโตทำหน้าเคร่งเครียดคิ้วขมวดกันเป็นปม เพิ่งเคยเห็นมุมนี้แหะ

   "เอ่อ พี่ว่าน้องสโนว์ทำตามที่น้องริวว่าเถอะค่ะ"สาวเจ้าที่ไม่ค่อยมีบทพูดก็โพล่งขึ้นมา จะดูถูกกูหรอว่าไม่มีน้ำยาน่ะ ฝันไปเถอะแม่คุณ

   "รีบไปอัดรายการให้เสร็จ ฉันไม่ได้เป็นอะไร"

   "แต่..."

   "ถ้างั้นฉันสัมภาษณ์คนเดียวก็ได้ อย่ามาเป็นตัวถ่วงงานของฉัน"ผมตะคอกไอ้ริวด้วยความโมโห ก็บอกว่าไม่เป็นอะไรยังจะดื้อด้านน่ารำคาญอีก ฮึ่ม โมโหๆ

   "ครับ"หลังจากนั้นริวก็ไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ยืนยันว่าจะออกสัมภาษณ์คู่กับผม

   ผมเพิ่งรู้ว่าผู้หญิงที่ยืนคุยกับริวเป็นพิธีกรของรายการนี้และอีกอย่างเธออายุ 46 มีลูกมีผัวแล้วผมก็โล่งใจ อารมณ์ที่คุกรุ่นค่อยๆจางหายไปพร้อมกับความรู้สึกผิด ระหว่างสัมภาษณ์ผมลอบแอบมองสีหน้าของริวตลอด ถึงจะดูยิ้มแย้มแต่แววตามันไม่ยิ้มตาม เพราะผมตะคอกใส่มันไปแบบนั้นสินะ

   "ริวชอบน้องสโนว์ตั้งแต่ตอนไหนคะ"ผมสะดุดใจกับคำถามของพิธีกรรุ่นแม่ หูผึ่งรอฟังคำตอบทันทีด้วยความที่อยากรู้เหมือนกัน

   "ก็...ตั้งแต่เด็กๆ สิบกว่าปีที่แล้วครับ ตอนที่ผมไปถ่ายโฆษณาน้ำหอมตัวหนึ่ง ตอนนั้นผมเห็นเด็กผู้หญิงในชุดเดรสสีขาวกำลังยืนมองดอกไอริสผมเลยเข้าไปคุยด้วยและบอกความหมายเกี่ยวกับมัน พอเธอหันมาผมก็ตกหลุมรัก...หลายๆคนอาจไม่เชื่อในรักแรกพบแต่ผมเชื่อนะครับเพราะมันเกิดขึ้นกับตัวผมเอง"น้ำเสียงนุ่มนวลและสายตาที่มองมาทางผมทำให้ต้องหลุบสายตาต่ำและกลั้นยิ้มเอาไว้ ผมคนนี้กำลังเขินมัน เขินมากเสียจนหน้าแทบไหม้

   "แหม พี่ล่ะเขินแทนเจ้าสาวเลยนะคะเนี่ย เอ๊ะ แล้วต่อจากนั้นริวก็ไปเรียนที่อเมริกาไม่ใช่หรอคะ ไปจีบไปคบกันตอนไหนเอ่ย"ประเด็นนี้ผมไม่สงสัยเลยเพราะพอริวกลับมาปุ๊บก็เคลมผมปั๊บทั้งๆที่ผมไม่ได้ตกลงปลงใจด้วยเลย ยิ่งกว่าคลุมถุงชนเสียอีก

   "ผมกับสโนว์เราแอบติดต่อกันอย่างลับๆมาตั้งแต่เด็กๆน่ะครับ พอผมกลับมาก็เลยขอเธอแต่งงาน และอย่างที่พี่เห็นในวิดิโอขอแต่งงานของผม เธอตอบตกลงครับ"ไอ้คิดเองเออเองอะไรนั่นเนี่ยนะเป็นการตอบตกลง ขอมองบนแล้วถอนหายใจแรงๆ เห้อ แถได้แหลชิบผัวใครวะ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[22/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 22-10-2016 00:17:17
   "มาค่ะ เรามาพูดคุยกับเจ้าสาวบ้างดีกว่า...น้องสโนว์หลงรักผู้ชายคนนี้ตอนไหนหรอคะ"เป็นคำถามที่ตอบง่ายๆว่า ไม่ได้รักมันสักนิดเลยเว้ย แต่ขืนตอบแบบนั้นไปงานการผมดิ่งลงเหวแน่แถมคงจะโดนซุบซิบนินทาหลังข่าวให้ขี้หูเต้นระบำ แค่คิดก็รำคาญแล้ว

   "ไม่อยากบอกเลยค่ะ สโนว์เขิน"นี่ไงล่ะคำตอบแบบไม่ขอตอบของดาราผู้มากประสบการณ์

   "บอกเถอะค่ะ ทุกคนอยากรู้ ใช่มั้ยคะ"ขุ่นพี่พิธีกรหน้าเด็กไซโคแขกรับเชิญที่นั่งออกันอยู่ด้านล่าง

   "ใช่!!"ตอบกันพร้อมเพรียงอย่างปรองดอง ทีเรื่องชาวบ้านนี่สนใจ(เสือก)กันจังเรื่องอื่นล่ะทำหูทวนลม

   "ถ้าทุกคนอยากรู้ล่ะก็จะบอกให้ก็ได้ค่ะ...สโนว์ตกหลุมรักริวตอนที่ริวขึ้นไปเต้นสะบัดช่อจ้ำบ๊ะรูดเสาให้ดูเป็นการพิสูจน์รักแท้ค่ะ น่ารักม้ากมาก"มึงแถได้กูก็แถได้ล่ะวะ และคำตอบของผมคงทำให้ใครหลายๆคนนึกภาพออกจนหัวเราะออกมา นี่เป็นรายการถ่ายทอดสดด้วยสิ สมน้ำหน้าเด็กเหลือขอคงเป็นขี้ปากชาวบ้านไปหลายทศวรรษ

   "คิคิ เป็นคู่รักที่คอมเมดี้ดีนะคะ...ค่ะ คำถามต่อไป...ได้ฤกษ์งานแต่งรึยังคะ"

   "ต้นเดือนหน้าครับ"

   "อุ๊ย ไม่ถึงสามอาทิตย์เลยนะคะ อย่างงี้พ่อแม่น้องสโนว์จะยอมยกลูกสาวให้หรอคะ"

   "แน่นอนว่าพ่อแม่ทุกคนอยากฝากชีวิตลูกสาวตัวเองไว้ในมือคนที่จะดูแลเธอได้และผมก็สามารถดูแลภรรยาของตัวเองได้ดีแน่นอน ผมมั่นใจ"

   "แต่ เอ~ ริวยังเรียนไม่จบเลยนี่คะ ได้ข่าวว่าเรียนนิเทศน์ด้วยแล้วอย่างนี้จะไปช่วยบริหารธุรกิจของคุณพ่อได้หรอคะ"

   "ผมว่าพี่ผิดประเด็นแล้วนะครับ ผมอยากให้โฟกัสเรื่องความรักของเรามากกว่า ผมอยากให้คนในโลกรู้ว่าเรารักกันมากขนาดไหน"ขอโถหน่อยครับ จะอ้วก แหวะ

   "ขอโทษค่ะ แหะๆ...อืม พี่ว่าน้องสโนว์สวย ดูดีมากๆแล้วริวคิดยังไงกับน้องสโนว์คะ"

   "เธอเป็นเจ้าหญิงในฝันของผมเลยครับ งดงามทั้งภายในและภายนอก เธอเป็นคนน่ารักและตลก ไม่ยอมใคร เธอกล้าหาญยิ่งกว่าผู้ชายบางคนเสียอีก ฮ่าๆ และผมรักทุกอย่างที่เป็นสโนว์ ไวท์"ก็ดีแต่พูดล่ะหว่า พอเห็นไส้กรอกกูชี้ฟ้าเดี๋ยวพวกแม่งก็ต้องกลับคำแล้วชิ่งหนี

   "แล้วล่ะน้องสโนว์คิดยังไงกับริวคะ"

   "ก็ดีค่ะ...หมายถึงเป็นผู้ชายที่ดีนะคะ"ผมยิ้มไปด้วยพูดไปด้วยแต่ถ้ามองดีๆจะเห็นว่าผมกัดฟันพูด

   "ค่ะ คุณผู้ชมคงได้รู้เรื่องราวความรักของเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่แสนวิเศษคู่นี้แล้วก็ช่วยเชียร์กันต่อไปด้วยนะคะ เพราะทั้งสองเกิดมาเพื่อเป็นเนื้อคู่กันจริงๆค่ะ เหมาะซ้มเหมาะสม สุดท้ายนี้แจนก็ขออวยพรให้ทั้งคู่มีความสุข ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองนะคะ สำหรับวันนี้ Couple reality ขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ"

   พอปิดกล้องทุกคนก็กล่าวขอบคุณผมและริวที่มาให้สัมภาษณ์แพคคู่เป็นรายการแรก พี่แจนพิธีกรหน้าเด็กชวนพวกผมไปทานข้าวแต่ผมโบกมือลาเพราะต้องการพัก เหนื่อยสายตัวแทบขาดแล้วทำงานทั้งวันทั้งคืนเนี่ย เป็นคนดังมันไม่ง่ายเลยครับ

   "ให้ผมไปส่งนะครับ"ริวที่ยังไม่เปลี่ยนชุดทักขึ้นเมื่อผมออกจากห้องแต่งตัว คือเสื้อคู่ทางรายการเขายกให้ทั้งผมและริวก็เลยยังอยู่ในชุดนั้นแหละ ผมขี้เกียจเปลี่ยนเพราะอยากกลับคอนโดเร็วๆแต่ริวนี่ไม่รู้คงชอบล่ะมั้ง

   "ไม่เป็นไร"เสียงผมเปล่งออกไปอย่างเนือยๆ ตาจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่

   "คุณดูเหนื่อยมาก ให้ผมไปส่งเถอะ"

   "ไปรถฉันนะ"ยอมก็ได้วะ ยื้อกันไปมาเดี๋ยวก็ไม่ได้กลับกันพอดี

   "ครับ"ริวฉีดยิ้มแล้วจับมือผมให้เดินไปด้วยกัน ระหว่างทางก็โดนประชาชีแซวกันระนาวก็ทำได้แค่ส่งยิ้มแห้งๆไปให้

   พอก้นถึงเบาะรถผมก็เข้าสู่ห้วงนิทราทันทีไม่สนแล้วว่าจะโดนลักหลับหรือไม่ รู้สึกตัวอีกทีผมก็ลืมตาขึ้นมาในห้องนอนของตัวเอง ด้วยความที่ยังง่วงอยู่จึงไม่สนใจนักว่าตัวเองมาอยู่ในห้องตอนไหนและหนังตาที่หนักอึ้งก็ปิดลงอีกครั้ง

   เมื่อผมตื่นขึ้นมาอีกวันในตอนสายๆก็ถูกแม่โทรปลุกให้เตรียมตัวไปดินเนอร์ที่บ้านของริว อะไรกันนี่ครบอาทิตย์ของการโหมงานแล้วหรอ ทำงานจนไม่รู้วันรู้คืนขนาดนี้เลย สงสัยต้องหาเวลาหยุดพักยาวๆแล้ว เดือนหน้ามีรับน้องนอกสถานที่เสียด้วย รุ่นพี่สันทนาการอย่างผมก็ต้องโผล่หัวไปช่วยบ้าง

   แต่งสวยเสร็จพร้อมรบผมก็เปิดห้องจะไปยังลานจอดรถแต่เสียงลิหต์ที่มาหยุดอยู่ตรงชั้นผมก็หยุดไว้เสียก่อน

   "พอดีเลย ไปครับ"เห็นขี้หน้ามันเกือบทุกวันก็ชักจะเบื่อๆแล้วสิแล้วนี่จะใส่สูทผูกไทค์ให้เวอร์วังอลังการทำไมแค่ไปดินเนอร์กับครอบครัวของเรา ของเราหรอมันแปลกๆ งั้นของผมกับริว

   พอริวเห็นว่าผมไม่หือไม่อือก็ลากตัวไปให้ขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังลานจอดรถส่วนตัวของมัน เอะอะๆเป็นบังคับตลอด

   ผมใช้เวลาที่นั่งในรถทำใจเกี่ยวกับการดินเนอร์ระหว่างครอบครัวในครั้งนี้ ดูไม่ออกเลยว่าจะเป็นแบบไหน ทุกคนรู้ว่าผมเป็นอะไรก็มีแต่ไอ้บื้อริวนั่นแหละ ใบ้เลขหัวเลขท้ายขนาดนั้นก็ยังไม่ตรัสรู้

   ถึงที่หมายริวก็ให้ผมควงแขนเดินเข้าไปในบ้าน ก็ไม่ได้อยากจะควงหรอกนะแต่โดนบังคับด้วยสายตาเลยยอมๆไปก่อน ไม่ได้กลัวจริงจริ๊ง

   "นี่ เมื่อวานฉันเข้าไปนอนในห้องได้ไง"นึกขึ้นได้ผมก็เลยคงถามคนข้างๆทันที

   "ผมอุ้มคุณเข้าไปไง ค้นๆในกระเป๋าก็เจอคีย์ห้องคุณ ถ้าไม่เจอผมคงอุ้มคุณไปนอนกับผมแล้ว น่าเสียดาย"

   "ชอบฉวยโอกาสตลอด"บ่นอุบไม่ให้มันได้ยินแต่พ่อคนหูหมาก็ดันได้ยินไง เจ้าตัวเลยหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ"นี่ เมื่อวานที่ตะคอก...ขอโทษนะ"

   "อะไรนะครับ"ริวดูแปลกใจกับคำพูดของผม ขาที่ก้าวเดินไปทางโต๊ะอาหารก็หยุดกึกจนผมต้องหยุดไปด้วย

   "ของดีมีรอบเดียว"ผมยักไหล่อย่างไม่หยี่ระ พลางกระตุกมือให้ริวเดินเสียที

   เสียงคุยที่ดังอยู่เงียบลงเมื่อพวกเราเดินไปถึงโต๊ะอาหารที่จัดไว้สำหรับดินเนอร์ แสงเทียนกลางโต๊ะดูอบอุ่นและโรแมนติกไปในตัว คุณลุงประเสิรฐผู้อาวุโสที่สุดนั่งอยู่หัวโต๊ะ ขวามือคือน้าแอนนาตรงข้ามคือคุณแม่ของผม ถัดจากคุณแม่คือแด๊ด

   "หนูสโนว์มานั่งข้างๆแม่นะลูก ตาริวก็น่งถัดไปล่ะกัน"

   "ค่ะ"ทุกฝีก้าวทุกกิริยาของผมเหมือนถูกสายตา 2 คู่จับจ้องอยู่ พอสบตากับสายตาของแม่เหมือนกับว่าในนั้นมีคำถามอยู่คือทำไมไม่บอกริวเรื่องที่ผมเป็นผู้ชายถ้าเขารับได้แม่จะพาไปแปลงเพศอะไรเถือกนี้ ส่วนสายตาของแด๊ดประมาณว่านี่ลูกคิดอะไรอยู่ ไหนบอกใจเป็นชายทำไมคิดจะไปมีผัวและสายตาของแด๊ดที่มองริวคือ ลูกข้าใครอย่าแตะ

   ริวเลื่อนเก้าอี้ให้ผมนั่ง หืม ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษได้แล้วหรอ เด็กน้อยวิวัฒนาการดีขึ้นนะเนี่ย แต่ความหื่นขออย่าพัฒนาด้วยเลย

   "เฟื่องฟ้าเอาอาหารมาเสิร์ฟได้"ลุงประเสริฐบอกกับป้าแม่บ้านที่ยืนคอยท่าอยู่ไม่ไกล ป้าแกก็รีบพาผู้ช่วยเข้าครัวไปยกกับข้าวมา

   "คุณแน่ใจหรอว่าจะแต่งงานกับลูกผม"นั่นไง แด๊ดเปิดประเด็นมาเป็นคนแรกเลยครับ แค่ประโยคแรกก็แสบถึงทรวงแล้ว สะอึกตามกันไปเป็นแถวไม่เว้นผม

   "ครับ แน่ใจยิ่งกว่าอะไรในโลก"

   "ทั้งๆที่คุณยังไม่รู้เรื่องของลูกชา...สาวผมดีพอนี่หรอ"เกือบหลุดแล้วมั้ยล่ะแด๊ด ดีที่ริวมันโง่เง่าเต่าตุ่นยกกำลังสิบ

   "อยู่กินกันไปเดี๋ยวก็เรียนรู้กันได้อยู่ดีครับ"แรงไม่แพ้กัน รู้สึกได้ว่ามีสายฟ้าฟาดออกมาจากดวงตาของผู้ชายคู่นี้แหะ

   "มาๆ กับข้าวกับปลามาแล้ว ทานกันก่อนค่อยคุย เดี๋ยวอาหารจะเย็นชืดซะก่อน"ลุงประเสิรฐเรียกสติแด๊ดและริว ผายมือไปยังอาหารมากหน้าหลายตา น่ากินสุดๆเลยเชียว

   ผมหยิบช้อนส้อมขึ้นมาเตรียมโซ้ยเต็มที่แต่พอจะตักซี่โคลงหมูอบน้ำผึ้ง ผู้ชายข้างๆก็ตักเนื้อปลามาวางไว้ในจานผม เลยหันไปเลิกคิ้วถามเชิงว่าอะไร

   "กินสิ อร่อยนะครับ"

   "อันนี้อร่อยกว่านะลูก"แด๊ดตักไข่ตุ๋นหม้อไฟมาวางในช้อนผมอย่างเอาใจแต่ผมว่าเป็นการประกาศศึกกับริวมากกว่า

   "อันนี้ดีกว่าครับ"ริวเขี่ยไข่ตุ๋นออกแล้ววางกุ้งเต้นแช่น้ำปลามาไว้แทน แรงส์อ่า แด๊ดหรี่ตามองลูกเขยตัวดีแทบจะควักตับไตไส้พุงได้

   "อันนั้นมันไม่ดีต่อสุขภาพ แด๊ดว่าทานอันนี้ดีกว่านะ"

   "อันนี้ดีกว่า"

   "อันนี้"

   "ไม่อันนี้"

   "หยุด! พอเลยทั้งคู่นั่นแหละ สโนว์จะตักเอง ใครตักมาให้อีกสโนว์จะกลับ"ผมแหวออกมาอย่างหงุดหงิดที่ผู้ชายตัวโตทั้งสองเล่นอะไรเป็นเด็กๆ ผมไม่ใช่ของเล่นที่จะมานั่งยื้อแย่งกันนะ

   ภายในจานข้าวผมเต็มไปด้วยกับข้าวหลายอย่างที่กองพะเนินจนแทบไม่เห็นข้าว ผมจึงต้องขอเปลี่ยนจานใหม่ ดูท่าทั้งสองจะยังไม่เข็ดเมื่อทำท่าจะตักมาให้ผมอีกแต่พอผมตวัดสายตาเชิงด่าและทำทำท่าจะลุกไปจริงๆ ผู้ใหญ่กับเด็กขี้หวงทั้งสองจึงยอมสงบศึก(ชั่วคราว)

   เมื่อดินเนอร์ผ่านไปอย่างราบรื่น(?)พวกเราก็ย้ายมานั่งที่ห้องรับแขกและมีของหวานมาเสิร์ฟให้นั่งทานเล่นไปด้วยคุยไปด้วย บรรยากาศจะได้ดีขึ้นแต่ผมว่าไม่

   "หนูสโนว์คิดดีแล้วหรอ หนูรักตาริวจริงๆรึเปล่า แม่อยากให้หนูคิดดีๆ ไม่อยากให้ตาริวมานั่งเสียใจ"น้าแอนนาเปิดประเด็นเมื่อทุกอย่างเข้าที่เรียบร้อยแล้ว และเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบแต่อยากให้ผมคิดว่าตอนนี้ผมกำลังทำอะไรอยู่

   ผมรู้ว่าตัวเองต้องการแก้แค้น อยากให้ริวเสียใจเมื่อผมไม่ใช่อย่างที่มันคิดแต่เรื่องแต่งงานมันเป็นเรื่องใหญ่และทุกคนในโลกจะรับรู้ จะให้บอกว่าโดนริวข่มขืนในตอนที่เป็นผู้ชายก็กระไรอยู่เพราะตอนผมเมาผมออกจะสมยอม อันนี้ยอมรับแต่โดยดี ผมต้องหยุดแผนชั่วร้ายไว้แต่เพียงเท่านี้สินะ ถ้าถอยตอนนี้ก็ยังทัน ยังสามารถแก้ไขอะไรๆได้

   ริวคงเห็นว่าผมเงียบไปและทำหน้าเคร่งเครียด คงกลัวว่าผมจะถอนหมั้นซึ่งผมก็กำลังจะทำแบบนั้น ริวคว้ามือผมไว้มาวางบนตักมันและบีบเบาๆเป็นการส่งความห่วงใย

   "อ่ะแฮ่มๆ ค่อกๆแค่กๆ"แด๊ดกระแอมไอเสียดังแล้วเหล่ตามองมายังมือผมที่ถูกริวกอบกุมไว้ อะไรจะหวงลูกชายเบอร์นั้น หวงว่าลูกตัวเองจะตัดสินใจยังไงดีกว่ามั้ง

   "ผมรักสโนว์ถึงแม้ตอนนี้สโนว์จะยังไม่รักผมแต่สักวันผมจะทำให้เธอรักผมจนโงหัวไม่ขึ้น และผมจะไม่เสียใจทีหลังที่เลือกเธอมาเป็นคู่ชีวิต"ซึ้งเลยครับ คำมั่นสัญญาของลูกผู้ชายมันเป็นจั่งซี่นี่เอง ผมที่แต่งเป็นหญิงใจและกายเป็นชายถึงกับหวั่นไหวไปกับประโยคละมุนที่ดีต่อใจของมัน

   "ถ้างั้นก็ตามใจลูกแต่อย่ามาร้องไห้กับแม่ทีหลังแล้วกัน ถ้าเป็นหนูสโนว์แม่ก็สนับสนุนเต็มที่แต่อยู่ที่ลูกแล้วล่ะ"ขุ่นแม่แอนนายกน้ำชาขึ้นมาจิบแล้วยิ้มร้าย เหวยๆ ขุ่นแม่มีมุมนี้ด้วยไม่เคยเห็น เห็นแต่ยิ้มละมุนละไมอ่อนโยนตลอด

   "เขามีแต่เอามะกรูดมาแลกมะนาวเอาลูกสาวมาแลกลูกเขยสินะคะ แต่นี่..."แม่ผมนี่ร้ายยังไงก็ร้าวยังงั้น เมื่อก่อนแสดงเป็นนางเอกอยู่ได้ยังไงเนี่ย นางร้ายเหมาะกว่าเห็นๆ

   "ครับ?"ริวที่ไม่รู้เรื่องอะไรงงเป็นไก่ตาแตกส่วนทุกคนที่รู้ดีก็หัวร่อต่อซิกกันใหญ่ ยกเว้นแด๊ดที่นั่งหน้าบึ้งทะมึนอย่างกับยักษ์ลงแดง

   "หมายถึงมะกรูดและมะนาว ลูก-ชาย แลกลูกเขยน่ะ"
 
   "แด๊ด!/ดาร์ลิ้ง!"สองแม่ลูกอย่างผมกับคุณนายเมรีอุทานออกมาอย่างดังและตกใจ ตายๆยังไม่มันตั้งตัวเลยความจะแตกแล้ว

   "ผมว่าคุณไวท์คงไม่แข็งแรงภาษาไทย ลูกสาวครับไม่ใช่ลูกชาย"

   "เห้อ!!"ทุกคนถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ไม่ใช่โล่งใจแต่ถอนหายใจเพราะความควายของไอ้ริวเนี่ยแหละ

   ผัวกูแม่ง...โง่!!!








☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

Nekozaa  :

      หายไปนานนิสนิดแต่ก็กลับมาแล้วพร้อมกับไข้ขึ้น ฮือออ วันนี้วันเกิดเราแหละ แค่เม้นต์กับบวกเป็ดก็เป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้วล่ะค่ะ
       คิดถึงน้องสโนว์กับน้องริวกันมั้ยคะ เพราะเรื่องกำลังเข้มข้นขึ้นแล้ว มาดูกันว่าเมื่อไรพระเอกของเราจะฉลาดสักที
  :hao7:
:mew1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[22/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 22-10-2016 05:24:53
รอพระเอกฉลาดขึ้น & HBD นะคะ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[22/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 22-10-2016 08:52:49
 :z3:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[22/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 22-10-2016 09:54:44
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[22/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 22-10-2016 18:28:12
ริวโง่ไปอีก ไม่ชอบเลยที่มีอะไรกับน้องเขายังกล้าขอเขาแต่งงานอีก (คิดไว้ก่อนว่าพระเอกโง่ 555)
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[22/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 22-10-2016 19:10:37
บอกเลย....บอกเลย อยากรู้ ริว จะว่าไง
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[22/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 22-10-2016 19:53:58
 :katai4: :katai3:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[22/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-10-2016 21:43:38
จริงๆ โน ยอมรับริว แล้ว
ก็โน เรียกริว ว่า ผัวกูๆ  "ผัวกู โง่จัง"
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[22/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 22-10-2016 22:11:33
ว่าละพระเอกแม่งโง่
ว่าแต่... ถ้ารู้ความจริงจะรับได้ไหม
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[22/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 23-10-2016 12:34:56
โถๆๆๆ ริวโง่จนควายเรียกพี่ ไม่รู้โง่จริงรึแกล้งโง่
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[22/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-10-2016 12:39:51
เอิ่มมม ขอตัวไปเตรียมยาดมยาหม่องให้พระเอกก่อนนะ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[22/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 24-10-2016 10:40:48
เอิ่ม.. อิริว โง่แท้  :z6:
สสวก.ย้อนหลังนะคะ  ^^
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[22/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 24-10-2016 19:59:34
โถถถถถถถถ. พูดไม่ออกกันเลยทีเดียวว
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[25/10/2016] แจ้งข่าว!
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 25-10-2016 20:03:34
***แจ้งข่าว****

   By Nekozaa

     งดอัพนิยาย 1 อาทิตย์เพื่อไปเตรียมสอบค่ะ

      ที่ช่วงนี้ไม่ได้มาอัพถี่ๆอีกเพราะเหตุฉะนี้นั่นเอง คิดถึงนักอ่านแย่เลย

       จะรีบกลับมาต่อหลังเสร็จกิจนะคะ อย่าเพิ่งลืมเรานะะ~

                :z13: :katai4: :L1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[25/10/2016] แจ้งข่าว!
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 25-10-2016 20:23:09
ไม่ใช่ว่าแกล้งโง่หรอกเหรอ แบบรู้อยู่แล้วแต่แกล้งทำเป็นโง่เพื่อให้โนสารภาพออกมาเอง
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๗ มะกรูดแลกมะนาว ลูกชายแลกลูกเขย✖[25/10/2016] แจ้งข่าว!
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 25-10-2016 20:47:36
เอาที่สบายใจนะริว  :hao3:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๘ ครั้งแรกเมาครั้งที่สองโดนยา NC✖[31/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 31-10-2016 21:00:29
บทที่๘

ครั้งแรกเมาครั้งที่สองโดนยา NC









   "จริงสิคะ คุณพี่ เมรีว่าเวลาที่เหลืออยู่อีกไม่กี่อาทิตย์เราพาสโนว์ไปเข้าคอร์สเจ้าสาวดีกว่าค่ะ"

   "จริงด้วย เกือบลืมเรื่องสำคัญไปเลย คอร์สเจ้าสาว แต่จะดีหรอจ๊ะ หนูสโนว์..."ว่าที่แม่ยายพยักหน้าเห็นด้วย ประโยคหลังก็หันหน้ามามองผม ที่ลังเลคงเป็นเพราะผมเป็นผู้ชาย จะไปขัดสีฉวีวรรณความลับเป็นต้องเปิดเผยแน่

   "เรื่องนั้นน้องจัดการแล้วค่ะ น้องจะส่งตัวสโนว์ไปเสริมสวยที่อังกฤษ"

   "อุ๊ย พี่รู้จักคอร์สเจ้าสาวดีๆที่อังกฤษอยู่นะจ๊ะ The best of wedding course เลยล่ะ"

   "จริงหรือคะคุณพี่ งานนี้เพื่อเจ้าสาวที่แสนสวยน้องจ่ายไม่อั้น"

   "ไม่ต้องจ่ายจ้า ลูกพี่ลูกน้องตาริวเป็นหุ่นส่วนใหญ่ที่นั่น ฟรีค่ะฟรี"

   "ว้าย เลิศเลอมากค่ะ"

   แล้วพวกแม่ๆก็คุยกันอย่างดี๊ด๊าโดยไม่ได้ถามความเห็นลูกๆอย่างผมเลยขอถอนหายใจอีกครั้ง เอ้าถอนให้ดังกว่านี้

   "เห้อ"สงสัยผมจะถอนหายใจในใจดังเกินไปทำให้พวกแม่ๆหันมาจ้องเขม็ง

   "มีปัญหาอะไรรึเปล่าคะคุณลูก"คุณนายเมรีส่งยิ้มหวานหยดย้อยแต่สายตาเชือดเฉือนมาให้ บ่งบอกว่าถ้ามีมึงโดนฝ่ามือพระแม่เมรีพิฆาตฟาดใส่

   "มี...มีก็บ้าแล้วค่ะคุณแม่"เป็นลูกที่ดีต้องไม่ขัดใจมารดาผู้บังเกิดเกล้านะครับ

   "ถ้างั้นฮันนี่ก็อยู่เตรียมงานที่ไทยกับแอนนา เดี๋ยวผมจะกลับอังกฤษกับลูก"แด๊ดที่ในตอนแรกหน้าบึ้งเป็นยักษ์ขมูขีก็กลับมาปั้นหน้ายิ้มแย้มยียวน

   "ผมไปด้วย"เจ้าบ่าวผมก็เสนอหน้าอีกคน นี่มันกะจะกัดไม่ปล่อยเลยใช่มั้ย อุส่าห์มีโอกาสจะได้อยู่ห่างๆเจ้าเด็กขี้ตื๊อ

   "ไม่ต้องเลย แกอ่ะอยู่นี่ คอยช่วยแม่ๆเขา"เหมือนสวรรค์จะยังเข้าข้างผม ส่งลุงประเสริฐ(สมชื่อ)มาเป็นมารผจญหนทางไอ้ริว

   "แต่..."

   "ช่วยดูแลคุณแม่ฉันระหว่างที่ฉันและแด๊ดไม่อยู่ด้วยนะคะ ของคุณค่ะ"

   "...ก็ได้ครับ"ถ้าริวมีหูมีหางตอนนี้มันคงลู่ลงอย่างกับหมาหงอย ผมหันไปมองแด๊ดที่ยกนิ้วโป้งให้พลางหัวเราะชอบอกชอบใจ ผมก็เลยทำนิ้ว OK ไปให้แล้วยิ้มกริ่ม

   แด๊ดคงรู้แหละว่าผมไม่ได้รักใคร่ชอบพอริวและไม่เต็มใจที่จะแต่งงานแต่ท่านแค่ไม่รู้เท่านั้นเองว่าผมยอมตามน้ำตามเนื้อเรื่องแต่งงานทำไม ไปอย่ด้วยกันคราวนี้คงมีคุยกันตามประสาพ่อลูก

   "คุณแม่คะ งานแต่งนี้หนูขอจัดแบบไม่เปิดเผยนะคะ เอาแค่ญาติฝั่งเรากับฝั่งริวนิดๆหน่อยๆก็พอค่ะ"เมื่อผมคิดเรื่องอะไรบ้างอย่างที่สำคัญขึ้นมาได้ก็บอกกับคุณนายแม่ทันที ไปบอกทีหลังก็กลัวจะลืม

   "แม่ว่า..."

   "ถ้าแม่ยืนยันจะจัดแบบเปิดเผยหนูจะบอกเรื่องนั้นกับทุกคนนะคะ"ขอโทษที่ผมต้องพูดแบบนี้นะแม่ เรื่องนั้นมันสำคัญมากจริงๆ สิ่งที่ผมคิดจะทำในตอนแต่งงาน

   "นี่ลูกขู่แม่หรอ"

   "หนูพูดจริงไม่ได้ขู่ค่ะ"เราจ้องตาต่อตาฟันต่อฟันกันอยู่พักใหญ่ ในที่สุดแม่ก็เป็นฝ่ายยอม ไม่บ่อยนักที่ผมจะกล้ามีปัญหากับแม่ ท่านก็เลยยอมๆไป

   "ก็ได้ๆ"

   "ขอบคุณค่ะ แม่น่ารักที่สุดเลย"ผมเข้าไปกอดและหอมแก้มแม่ซ้ายทีขวาที เรียกรอยยิ้มด้วยความเอ็นดูจากผู้ใหญ่ทั้งสามและเด็กริวได้อย่างดี

   "นี่ก็ดึกแล้ว จะอยู่พักกันที่นี่มั้ยจ๊ะ"มองนาฬิกาดูก็พบว่าเข็มสั้นชี้ที่เลข 5 สำหรับคนวัยสูงก็คงดึกจริงแต่สำหรับวัยรุ่นวัยเรียนอย่างผมมันเป็นเวลาที่ผีเสื้อจะท่องราตรีเสียมากกว่า

   "ไม่เป็นไรค่ะคุณพี่ ขอบคุณนะคะแต่เดี๋ยวน้องจะกลับไปนอนบ้านกับลูกเพื่อพูดคุยอะไรนิดๆหน่อยๆค่ะ ไม่เจอกันนานนนน คิดถึงแม่แก้วตาดวงใจม้ากมาก"คุณนายเมรียิ้มกว้างแล้วบีบมือผมเบาๆ...เบาที่ไหน บีบแรงจนมือผมกรุบกรอบเป็นขนมข้าวเกรียบเชียว นี่คิดถึงหรือคิดจะฆ่ากันเนี่ย

   "ถ้างั้นพวกเราขอตัวกลับก่อน ยังไงเดี๋ยวผมติดต่อกลับไปอีกทีนะครับ สวัสดีครับคุณประเสริฐ คุณแอนนา"

   "น้องลานะคะ คุณพี่ประเสริฐ คุณพี่แอนนา แม่ไปนะจ๊ะลูกเขย"

   "สวัสดีค่ะ คุณลุง คุณน้า"ผมไปลามาไหว้ตามประเพณี วัฒนธรรมไทยที่ดีงามกับผู้ใหญ่ทั้งสองโดยไม่คิดจะบอกลากับริวเหมือนแด๊ด พ่อลูกนี่คลานตามกันมาจริงๆ ?

   "แล้วผมล่ะ"ในที่สุดเมื่อเห็นว่าผมไม่สนใจและทำท่าจะเดินไปจริงๆ เด็ดน้อยก็เกิดอาการงอแง

   ผมเพียงแค่หันไปมองด้วยหางตาแต่พอสายตาไปเห็นน้าแอนนามองมาทางนี้ด้วยแววตากดดันก็หันกลับไปมองริวใหม่และเอ่ยปากบอกลาอย่างจำยอม

   "บ๊ายบายนะริว เจอกันตอนงานแต่ง"ตบท้ายด้วยการฉีกยิ้มกว้างๆ เบิกบ๊านเบิกบาน

   "เดี๋ยวครับ"ริวลุกพรวดแล้วจ้ำอ้าวมาหาผม ไม่ทันที่อะไรจะเป็นอะไร มันก็ก้มหน้ามาหอมแก้มผมฟอดใหญ่

   "มะ มึง!"ตกใจจนเผลอสบถคำหยาบออกมาต่อหน้าผู้ใหญ่ เมื่อทำอะไรไม่ได้นักก็เลยทำได้แค่ชี้หน้าอย่างคาดโทษที่บังอาจมาลวนลามใส่

   "รักนะครับ"ผมเบ้หน้าใส่แล้วเดินออกไปพลางใช้มือขยี้แก้มแรงๆอย่างขยะขแยง เมื่อพ้นจากห้องรับแขกมือที่อยู่บนแก้มก็เลื่อนลงมาที่อกซ้าย รู้สึกได้ถึงก้อนเนื้อที่เต้นตุบๆเพราะเลือดสูบฉีดมากเกินไปหรือใจเต้นนั่นเอง

   "ก็แค่ใจเต้นเพราะโมโห"บอกกับตัวเองเบาๆแล้วสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆสะบัดหัวหน่อยไล่ความคิดฟุ้งซ่าน เดี๋ยวนี้เป็นอะไรไปแล้วเนี่ยเรา

   เมื่อขึ้นรถไปนั่งเบาะหลัง แด๊ดก็เคลื่อนรถออกจากบ้านหลังใหญ่ ระหว่างทางทั้งแด๊ดและแม่ชวนคุยตลอดแต่ผมก็เอาแต่ตอบแทบนับคำได้เอาแต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็แหม อยากเล่นเอมวีบ้างไรบ้างถึงจะเล่นบ่อยในการแสดงก็เถอะ

   กลับบ้านเรา คำถามรออยู่~ผมเดินเนือยๆมานั่งที่โซฟารับแขกจะเข้าห้องไปอาบน้ำนอนก็ไม่ได้ แด๊ดมีเรื่องจะเคลียร์อีก อา...ว่าแต่ คิดถึงบ้านชะมัด ที่ไหนไม่สุขใจเท่าที่บ้านจริงๆสินะ

   "ฮันนี่ เดี๋ยววันนี้อาบน้ำด้วยกันนะครับ วันนี้จะเอาน้ำแข็งไปถูหลังให้ เตรียมน้ำอุ่นรอไว้ได้เลย"แด๊ดนี่เป็นฝรั่งที่รู้ดีจริงๆเลย ไม่ใช่เพราะอะไร ผมชอบส่งหนังไทยไปให้ดูบ่อยๆไงล่ะ ฮ่าๆ

   "อุ๊ย รีบตามขึ้นมานะคะ ดาร์ลิ้ง"

   "จุ๊บ"

   "จุ๊บ"พ่อแม่ผมนี่เล่นใหญ่ หวานจนมดทิ่มตาลูกแล้วเนี่ยไม่เกรงใจคนโสดเลย

   "Tell me about him"เมื่อร่างอรชรของแม่หายขึ้นไปบนห้องแด๊ดก็เปิดประเด็นทันทีแบบไม่ให้ทันตั้งตัว

   "เรื่องมันยาว เอาเป็นว่ารู้ตัวอีกทีก็โดนรวบหัวรวบหางแล้ว"

   "Damn! He fucked you."

   "ไม่ใช่นะแด๊ด โนหมายถึงอยู่ดีๆไอ้ริวก็จับผมหมั้นหมายจับแต่งงาน"...แต่ก็ใช่ ผมโดนมันเยแล้ว ขืนตอบว่า Yes,he fucked me แด๊ดคงเป็นลมแล้วตามไปกระทืบไอ้ริวน่ะสิ แล้วเรื่องมันจะวุ่นวายขึ้นไปอีก

   "He's asshole.What do you think about him?"

   "ด่าแรงมากอ่ะแด๊ด...โนคิดกับริวยังไง ก็...โนไม่ชอบมันเลยอ่ะแด๊ด ขี้ตื๊อ หน้ามึน ชอบคิดเองเออเอง โรแมนติก น่ารัก ช่างเอาใจ"แอ๊ะ ทำไมหลังๆผมชมมันวะ ความรู้สึกบ้าๆนี่ด้วย ปากก็บอกไม่ชอบแต่ใจก็คิดอีกอย่าง

   "Oh! man,you love him.Nha~"

   "โนไม่ได้รักริว แด๊ด โนแค่จะแก้เผ็ดมันเท่านั้นเอง พอมันรู้ว่าผมเป็นผู้ชาย...เดี๋ยวมันก็หนีไปเอง"ทำไมไม่รู้ รู้สึกสั่นไหวกับประโยคหลังที่พร่ำบอกตัวเองและแด๊ด ผมควรจะมีความสุขสิ เด็กบ้านั่นจะได้หายไปจากชีวิตผม

   "You ok? sure?"แด๊ดยื่นมือมาลูบหัวผมส่งผ่านความรักและความห่วงใยมาให้ ผมยิ้มรับและพยักหน้าแทนคำตอบ

   "แม่รอนานแล้วนะ เดี๋ยวน้ำแข็งจะละลายเอา"ผมกระซิบบอกข้างหู ทำเอาแด๊ดที่กำลังเล่นบทซึ้งยืนขึ้นจากโซฟาตัวตรง

   "Oh! I almost forgot.good night my son"

   "ฝันดีแด๊ด"ยิ้มขำกับท่าทางของแด๊ดที่ดูลนๆและไม่วายที่จะลืมเอาน้ำแข็งขึ้นไปด้วย คนอื่นเขาพูดทีเล่นทีจริงแต่กับแด๊ดไม่มีคำว่าล้อเล่นอยู่เลย

   เดินขึ้นห้องของตัวเองบ้างพลางกดโทรศัพท์เพื่อเช็คสถานการณ์

   'ทายาทบริษัทแห่งวงการบันเทิง ร. ขอนักแสดงหญิงชื่อดัง สน. แต่งงานไม่ทันไร she ก็ขอ say bye วงการบันเทิงสักพักแล้วไปฟักตัวเข้าคอร์สเจ้าสาวที่ England ...เอ ได้ข่าวว่าเจ้าสาวอยากจัดแค่ภายในแล้วจะสวยไปเพื่ออะไรล่ะค่าาา'

   อื้อหืออ ใครเขียนคอลัมน์นี้วะ จิกกัดแบบสุดขีดแต่ก็นะ ข่าวมันก็ใส่สีตีไข่เพื่อเรียกร้องความสนใจอยู่แล้ว อย่างว่าคนสมัยนี้เชื่ออะไรแบบผิดๆมากกว่าถูกๆ และพวกตัวย่อชื่อนี่ ถ้าจะบอกใบ้ขนาดนี้ก็เขียนชื่อเต็มเลยเหอะ

   เดี๋ยวนะ ข่าวไปไวเกินไปมั้ย คอร์สเจ้าสาวเพิ่งคุยกันคืนนี้เองนะ มันหลุดไปได้ยังไง หรือใครเป็นสปายคาบข่าวไปบอก ริวก็น่าสงสัยแต่ผมว่ามันไม่น่าไปบอกใคร...แม่! ใช่ ต้องเป็นแม่แน่เลย สมัยก่อนแม่นี่ฉายา เมรีขาเมาท์น้ำลายฝอยร้อยหยด ตอนแรกว่าจะเข้าคอร์สดีๆแต่ตอนนี้คิดใหม่ละ

   ในที่สุดผมจะได้เป็น โน ในช่วงสองอาทิตย์นี้เต็มๆ คิดได้ดังนั้นผมก็อาบน้ำ ฮัมเพลงอย่างสบายใจเชิบแล้วเข้านอน ในหัวก็เอาแต่คิดว่าจะทำอะไรดีถึงขนาดเก็บไปฝัน
   
   ...

   "ไม่ให้แม่ไปส่งจริงๆหรอ"

   "ไม่ต้องหรอกแม่ โนเป็นห่วง กลัวว่าขากลับจะไม่ปลอดภัย"ขืนให้แม่ตามไปด้วยแผนก็แตกน่ะสิ

   "เอางั้นก็ได้จ้ะ"

   "ผมไปนะ ถึงแล้วเดี๋ยวคอลไปนะฮันนี่"แด๊ดเข้าไปกอด หอมแม่ เห็นภาพนั้นแล้วผมก็อยากมีคู่ชีวิตแบบแด๊ดกับแม่ รักและซื่อสัตย์ต่อกันแม้จะอยู่คนละประเทศ คนละภาษา

   เมื่อร่ำลากันเสร็จเราก็ออกเดินทางไปยังสนามบิน ระหว่างรถติดผมก็คุยกับแด๊ดไปเรื่อยเปื่อยกระทั่งเข้าประเด็น

   "แด๊ด โนไม่ไปได้มั้ย"แทบกลั้นหายใจเมื่อขอพูดขอไปแบบนั้น ผมว่าไม่ได้แหงเลย

   "จะลงตรงไหนล่ะ เดี๋ยวไปส่ง"แด๊ดพูดออกมาหน้าตาเฉย ซะงั้นไป บทจะง่ายก็ง๊ายง่าย

   "ขอบคุณที่เข้าใจนะแด๊ด อย่าบอกแม่นะว่าโนชิ่ง ส่งโนตรงท่ารถก็ได้"

   "ไปสภาพนี้หรอ"

   "จริงด้วย งั้นโนเปลี่ยนเสื้อผ้านะ"ดีที่รถเป็นแบบกั้นระหว่างข้างหน้ากับข้างหลังทำให้คนขับรถที่อยู่ข้างหน้าไม่สามารถมองเห็นหรือได้ยินว่าข้างหลังกำลังทำอะไร

   แด๊ดมองออกไปนอกหน้าต่างให้ผมได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นผู้ชาย ใช้เวลาไม่กี่นาทีผมก็ใส่ชุดเสร็จแล้วล้างเมคอัพออก

   "หล่อเหมือนพ่อเลยนะเรา"คนข้างๆหันหน้ากลับมาแซวผม ผมก็ยักคิ้วหลิ่วตาให้ไปทีเรียกเสียงหัวเราะทุ้มนุ่มได้ดี

   "กลับมาเมื่อไรบอกโนด้วยนะ จะได้กลับบ้านพร้อมกัน เดี๋ยวแผนแตก"เมื่อถึงท่ารถก็สั่งเสียกับแด๊ดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนไป

   "เจ้าเล่ห์นักนะเรา"

   "ได้จากคนแถวนี้นั่นแหละ"ผมแซวแด๊ดกลับแล้วลงจากรถไป หลังจากนี้แด๊ดคงยัดตังค์กับคนขับรถเป็นค่าปิดปากแน่นอน

   รถเคลื่อนตัวออกไปแล้ว ผมยืนมองจนสุดสายตาแล้วโบกมือเรียกแท็กซี่คันหนึ่งมา เป้าหมายปลายทางทางคือคอนโดนั่นแหละ จะกลับไปเปลี่ยนชุดแล้วไปเรียน ก็นี่มันชีวิตโนนี่นา คนอื่นเขาคร้านขี้เกียจจะเรียนแต่กับผมมันไม่ใช่ เหมือนว่าถ้าผมไปเรียนผมก็จะได้เป็นในสิ่งที่ผมเป็น

   สักพักใหญ่ๆกว่าจะถึงคอนโด ผมก็ฮัมเพลงไปเรื่อยตั้งแต่หน้าคอนโดยันอยู่ในห้องตัวเอง ก็คนมันอารมณ์ดี๊ดีนินา สองอาทิตย์นี้ไม่ต้องใส่ชุดผู้หญิง ไม่ต้องแต่งหน้าหนาๆ ไม่ต้องใส่ส้นสูง ไม่ต้องดัดเสียงเล็กเสียงน้อย ไม่ต้องทำกิริยาแบบผู้หญิง ไม่ต้องแสดงละคร

   "นี่แหละ ตัวตนของข้า ว่ะฮ่ะฮ่า"หัวเราะกับตัวเองในกระจกซะเลย ใครไม่เคยคุยหรือเล่นอะไรแปลกๆกับตัวเองในกระจกขอบอกว่าพลาดแรงมาก ฮ่าๆ

   "Mirror mirror who is handsome on the world?"กระจกก็ต้องตอบว่า

   "ก็กูไง กูหล่อแมนแฮนซั่มที่สุดแล้วเว้ยยยย"อะไรๆ คนมันมีความสุข คนมันมีความดิบ ลั้ลลาๆๆ

   ผมเดินไปที่ลานจอดรถแล้วขับลูกรักบึ่งไปมหา'ลัย คืนนี้ต้องพาไอ้เก้ง ไอ้ฟอกซ์เพื่อนใหม่ไปฉลองแล้ว ยะฮู้ว

   "อ้าวเห้ย ไม่เหมือนที่อ่านข่าวไว้นี่หว่า ที่บอกว่ามึงจะไปเมืองนอก ขัดสีฉวีวรรณพับผ่า"

   "อ้าวเห้ย อย่าพูดซี้ซั้วดีกว่า...กูชิ่งเว้ยยย"ต่อไม่จบเพลงครับ สรรหาคำมาร้องไม่ได้แล้ว ไม่ได้เก่งเหมือนไอ้เก้งนี่หว่า อยู่ดีๆก็มีจริตจะก้านแต่งเพลงล้อ

   "กูรู้แล้วนะว่ามึงเป็นสโนว์"อ้าวเห้ย ผมนี่ตกใจไข่ตั้งเลย ไอ้ฟอกซ์พูดออกมาเรียบๆสกิลการพูดก็วัยรุ่ยวัยเกรียนขึ้นเยอะ นี่ผมไม่อยู่แค่ไม่กี่วันมันก็เปลี่ยนไปแถมรู้แล้ว รู้ได้ไง"กูสงสัยมาตั้งนานแล้วว่ะ เพราะหน้ามึงกับสโนว์คล้ายกันมาก กูเลยไปสืบแต่มันข้อมูลมันไม่เปิดเผยทั้งๆที่กูก็โปรนะ คราวนี้กูเลยไปเค้นความลับจากปากไอ้เก้ง หึหึ วิธีไหนก็คิดเอาเองละกัน"

   ผมหันควับไปมองหน้าไอ้เก้ง กวาง บ่าง ชะนี เพื่อนเฮี้ยนทันที สายตาของผมส่งลำแสงเลเซอร์มันแทบจะทะลุกระดูกดำ ไอ้เพื่อนตัวดีก้มหน้าก้มตา เหงื่อไหลไข่ย้อย แต่พอมองดูดีๆ ไอ้นี่มันผ่องขึ้นว่ะ มันก็แมนนะแต่ตอนนี้มันดูน่ารักแปลกๆ อี๋ นี่ผมชมมันหรอวะ ขนลุกเลย

   "กูขอโต๊ด"

   "ถ้าอยากให้กูให้อภัย เลี้ยงเหล้ากูคืนนี้เลย ไอ้ฟอกซ์มึงด้วย...มึงมานั่งเคลียร์กับกูดิ๊ นี่เรื่องซีเรียล โกโก้ครั้นช์"ถุย ซีเรียส

   "กูก็ยังชอบสโนว์อยู่ดีว่ะ"ไอ้ฟอกซ์ยกยิ้มมุมปาก ถึงบอกชอบแต่ตามันนี่เหล่ไปทางคนข้างๆ ไอ้เก้งที่ก้มหน้ายิ่งก้มไปอีก"ชอบมากจนเป็นผู้ชายกูก็เอาได้"

   พรึบ

   สิ้นคำพูดไอ้เก้งก็ลุกขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุยทั้งๆยังก้มหน้าก้มตาอยู่นั่นแหละ

   "ไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวมา"ไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยปากอะไร เก้งก็วิ่งจู๊ดไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๘ ครั้งแรกเมาครั้งที่สองโดนยา NC✖[31/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 31-10-2016 21:08:12

   "ที่จริง กูไม่ได้ชอบสโนว์ตั้งแต่ที่...เอาเป็นว่ากูไม่ได้ชอบมึงแล้วจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร เดี๋ยวกูมา ไปง้อเด็กดื้อก่อน"ไม่ทันที่ผมจะเอ่ยปากเป็นรอบที่สอง ไอ้เนิร์ดที่ดีกรีความเจ้าเล่ห์เลเวลร้อยอัพก็เดินตามไอ้เก้งไป

   สองตัวนี้มีลับลมคมในแบบสุดๆ ระหว่างที่ผมไม่อยู่ มันไปดูใจดูตูดกันตอนไหนวะ คู่ผมที่ว่าเร็วแล้วยังสู่คู่นี้ไม่ได้เลย เห้ย คู่ผมที่ไหนกันล่ะ ไม่ได้รักเด็กบ้านั่นซะหน่อย คิดอกุศลอะไรวะกู ไปๆ ไปเข้าเรียนดีกว่า

   หลังจากนั้นไม่นาน ก็แค่สองชั่วโมงให้หลังไอ้เก้งกับฟอกซ์กลับมาตอนเลิกคลาสพอดี ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไปทำอะไรกันมาเพราะเพื่อนเฮี้ยนของผมเดินขาถ่างซะชนาดนั้น โถๆ เพื่อนผม จะไปแด๊กเขาแต่เขาดันแด๊กมึงซะก่อน กูโคตรสะใจเลย เขามีแต่หวงเพื่อนแต่กูนี่สนับสนุนให้เพื่อนโดน ฮ่าๆ ทำแมนดีนักเป็นไงล่ะโดนเจาะถั่วดำ

   "เอายาฟิตมั้ยมึง ดูท่าจะแหก"ผมพูดขำๆแต่หน้าไอ้เก้งเหมือนจะไม่ขำด้วย มันทำหน้าบึ้งเป็นตูดลิงแล้วค้อนไอ้ฟอกซ์ไปวงใหญ่

   "พูดมากอีกกูจะไม่เลี้ยงเหล้ามึงแล้วนะ"

   "แหมๆ เพื่อนเก้งคนแมน กูก็ล้อเล่นไปงั้นแหละ เจอกันคืนนี้นะ จุ๊บ"ส่งจูบแล้วขยิบตาให้เพื่อนคนแมนแต่ผัวมันทียืนขนาบข้างอยู่นี่ถึงกับคว้าจูบผมแล้วปาไปไหนแล้วก็ไม่รู้ พอได้กันแล้วก็หวงกันจริง ทีริวได้ผมมันยังไม่เห็นหวงงี้มั่ง แอ๊ะ ออกไปจากหัวกูสักทีไอ้ริว ฮือ

   "ระวังเหอะมึง กูขอแช่งให้มึงโดนเสียบบ้าง คืนนี้เลย ไอ้เพื่อนเวร"เก้งตะโกนตามหลังมาอย่างไม่อายฟ้าอายดิน ตอนนี้คนทั้งมหา'ลัยคงรู้กันทั่วแล้วมั้งเนาะ

   "มึงสิจะโดนกูเสียบ"แอบได้ยินไอ้ฟอกซ์มันขู่เพื่อนผมแว่วๆ จัดไปอย่าให้เสีย ฮ่าๆ

   เวลาผ่านไปไวมากในแต่ละวัน เมื่อผมเปลี่ยนชุดเตรียมท่องราตรีเสร็จก็ดิ่งไปยังผับที่นัดเพื่อนๆไว้ วันนี้แต่งเบาๆครับ เพื่อไปอ่อยเหยื่อ เสื้อเชิ้ตสีขาวโชว์ไหปลาร้าและร่องซิกแพกส์ที่มีอยู่น้อยนิด กางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าหนัง ผมปล่อยรุงรังตามประสาหนุ่มเซอร์ อะไรจะดูดีปานเทพบุตร

   3 ทุ่มกำลังดี เสียงเพลงจังหวะหนักหน่วง ผีเสื้อราตรีกำลังสะบัดปีกและดื่มน้ำหวาน ผมมองซ้ายขวาหาเพื่อนเกย์สองตัว ไม่นานก็เห็นคนโบกมือหยอยๆกวักเรียก เป็นไอ้เก้งนั่นเองข้างๆกันก็มีผัวนั่งคุมเชิงอยู่ด้วย

   "แต่งสวยมาเชียวนะมึง"

   "สวยเหี้ยไร ไอ้เก้ง กวาง บ่าง ชะนี"ด่าว่ามันพลางทรุดตัวลงที่โซฟาอีกฝั่งหนึ่ง บนโต๊ะกระจกใสมีเหล้ากับน้ำแข็ง และกับแกล้มวางอยู่แล้วอย่างรู้หน้าที่

   "มึงเรียกอีหนูมาชงเหล้าให้กูดิ๊"

   "พ่อมึงสิ ย่านนี้มีอีหนูที่ไหน จะเอาก็ไปซ่องไอ้ควาย"เจอแล้วญาติพี่คมแฝกที่หายไป ไอ้เก้งนี่เอง ด่าควายเหมือนกันเปี๊ยบ ฮ่าๆ

   "ชงเองก็ได้ จิ๊"ผมจิปากอย่างขัดอกขักใจ เดี๋ยวนั่งนานๆไปก็มีอีหนูมาเองนั่นแหละ

   แก้วแล้วแก้วเล่าที่เข้าปากผม หมายถึงโค้ก 90% กับเหล้าอีก 10% นะครับ ไม่ใช่ป๊อดแต่กลัวเมานี่ ใครที่รู้จักผมเวลาเมาจะรู้ดีว่าเป็นยังไง ยิ่งในสภาพที่ผมเป็นโนแล้วด้วยนะ แม่เจ้าพระคุณรุนช่องเอ๊ย ดาราเอวียังอาย

   "ไม่ต้องดื่มแล้ว เดี๋ยวเมา"

   "ไม่เอา จะดื่มมมม ไปไกลๆกูเลยไอ้เหี้ยฟอกซ์ กูเกลียดมึง"

   "เมาแล้วนะมึง ถ้ายังจะดื่มอีกกูจับจูบปาก"

   "จูบเลย เอาดี้ ไม่กล้าหรอก แบร่...อื้อ"คือ เพื่อนๆที่เคารพรัก กระผมนายโนเพื่อนมึงยังอยู่ตรงนี้นะครับ ทำอะไรหัดเกรงใจกูและประชาชีด้วยครับ มาพลอดรักอะไรตรงนี้ แหนะ ยังไม่หยุดอีก

   "กูไปเต้นนะมึ๊ง"ส่งเสียงไปบ้างเผื่อพวกมันรู้ตัว แต่ดูเหมือนจะเข้าสู่โลกสีม่วงชมพูกันเรียบร้อยแล้วครับฟัก จากที่ไอ้เก้งขัดขืนในตอนแรกกลับสมยอมดูดปากกันต่อซะงั้น เออ กูไปก็ได้วะ ไม่อยู่เป็น กขคง พวกมึงหรอก

   ผมโยกย้ายส่ายสะโพกอยู่ขอบเวทีสักพักก็มีมือปริศนามาจับเอว ทำเอาขนลุกซู่ด้วยความขยะแขยง ผมปัดมือนั่นออกแล้วหันไปหาเรื่องคนจับด้วยความไม่พอใจ

   "เต้นด้วยนะครับ คนสวย"ประโยคเบสิคที่เจอในละครหลายๆเรื่องและผมก็คงตอบกลับแบบนิยายหลายๆเรื่อง

   "ให้กูเ-็ดตูดมึงดิ่ เดี๋ยวเต้นด้วย"มีด้วยหรอที่ตอบแบบนี้แต่ช่างมันเหอะ จะว่าไปกูนี่ก็ตลกดีนะ ท่าจะกรึ่มๆแหะ

   "งั้นกูขอเ-็ดคนสวยก่อนแล้วค่อยสลับ ดีมั้ย"

   "เสียใจด้วย กูไม่ชอบโลกสีม่วง บาย"ก็ไม่เชิงว่าไม่ชอบหรอก แค่แบบมันไม่ใช่ ผมชอบผู้หญิงไม่ได้ชอบผู้ชาย...มั้ง

   เมื่อหมดอารมณ์เต้นและคงกลับไปนั่งที่เดิมไม่ได้ผมเลยย้ายก้นมานั่งที่บาร์แทน ดื่มไปมาก็รู้สึกปวดฉี่เลยฝากแก้วไว้ที่บาร์เทนเดอร์หนุ่มแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปเข้าห้องน้ำ ผมดิ่งไปที่โถข้างๆผู้ชายท่าทางดูดีคนหนึ่งไม่ได้ทันเงยหน้าขึ้นไปเบิ่งหน้าคร่าตาก็ปลดทุกข์ออกมา

   "อา~"โล่งไข่กันเลยทีเดียว

   "ไง คิดถึงผัวมั้ย"!?

   ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร คนที่ผมไม่อยากจะเจอในสภาพนี้ สภาพที่เป็นโนที่เคยโดนมันอัดถั่วขาว ไม่ผิดนะครับ ก้นผมขาวไม่ได้ดำก็เลยเป็นถั่วขาวไง

   "พี่กูไม่อยู่ก็เอาใหญ่เลยนะ ต่อหน้าทำเป็นซื่อสัตย์ ลับหลังก็แค่ผู้ชายหน้าหม้อดีๆนี่เอง"

   "โทษกูไปเถอะ มึงนั่นแหละยั่วกูก่อน มึงเสนอกูก็แค่สนอง"

   "ถ้าคนอื่นเสนอมึงก็ทำแบบที่ทำกับกูสินะ แค่นี้ก็รู้แล้วว่ามึงมันเหี้ย เจ้าชู้ เสียแรงที่กูอุส่าห์ไว้ใจ"ขึ้นเลยครับ ผมนี่ขึ้นเลย กล้าพูดแบบนั้นออกมาได้หน้าตาเฉย

   "มึงพูดว่าอะไรนะ"

   "ถ้าคนอื่นเสนอมึงก็ทำแบบที่ทำกับกูสินะ"

   "หลังจากนั้น"

   "แค่นี้ก็รู้แล้วว่ามึงมันเหี้ย"

   "ไม่ หลังจากนั้นอีก"อะไรของมันวะ

   "เจ้าชู้"

   "หลังจากนั้นอีกดิ่"

   "อืม...ไม่รู้ จำไม่ได้"พยายามนึกแต้ก็นึกไม่ออก คนมันโกรธไอ้คำที่พูดออกไปไม่ได้กลั่นกรองออกมาจากสมองหรอกมาจากความโกรธล้วนๆ

   "เออ ช่างมันแล้วกัน แล้วนี่มาอ่อยเหยื่อรึไง มีผัวคนเดียวไม่พอสินะ"

   "เออ ไม่พอ"เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อะไรของเด็กนี่วะ นอกจากจะไม่เคยเคารพกันแล้วยังเหยียดกันอีก อย่าให้เจอในมหา'ลัยนะ จะทำให้รู้ว่าอย่ามาปีนเกลียวใส่รุ่นพี่

   ผมล้างมือแล้วออกจากห้องน้ำโดยไม่ได้หันไปมองหรือคุยกับริวอีก เจอกันทีไรเป็นต้องปะฉะดะปากหมาปากปีจอตลอด มันนะไม่ใช่ผม

   "อารมณ์เสียหรอ คนสวย"ไอ้ห่านี่ก็อีกตัว จะตื๊ออะไรนักหนา กะจะเยกูให้ได้เลยสินะ

   "อย่ามายุ่ง"ปากผมกระตุกด้วยความหงุดหงิด ไม่ใช่สันนิบาตหรือพากินสัน เวลาผมอารมณ์เสียมากๆเส้นจะกระตุก เผลอๆหมดความอดทน ตีนก็อาจจะกระตุกได้เหมือนกัน"น้อง แก้วที่พี่ฝากไว้อ่ะ เอามาดิ๊"

   "นี่ครับ"บาร์เทนเดอร์ยื่นแก้วเหล้าผสมโค้กให้ ผมก็รับมาดื่มรวดเดียวเพื่อระงับอารมณ์อยากเตะคน

   "คืนนี้เรามาสนุกกันดีกว่านะ"ไอ้คนที่มาจับเอวผมอยู่ข้างเวทีโอบไหล่ผมไว้แล้วบังคับให้เดินตามแต่ผมก็สะบัดตัวออก

   "ไอ้เหี้ยนี่นิ วอนตีนแล้วนะมึง"ด้วยความหงุดหงิดผมเลยตรงเข้าไปหมายจะชกหน้าไอ้เหี้ยนั่นแต่มันดันจับหมัดผมไว้ได้แถมยังดึงเอวผมให้เข้าไปชิดอีก

   ทุกคนเริ่มหันมามองทางผมอย่างสนอกสนใจ ผมดิ้นเร่าให้หลุดออกจากอ้อมแขนที่น่ารังเกียจแต่แรงมันยิ่งกว่าวัวควาย ตัวมันใช่เล็กๆที่ไหนแถมผมยังรู้สึกอ่อนแรงลงเรื่อยๆและความรู้สึกโมโหก็ถูกแทนที่ด้วยความร้อน ไม่ใช่ร้อนเหงื่อแตกแต่แบบร้อนรุ่ม

   "อะไร แฮ่กๆ"อย่าบอกนะว่า...

   "ยาปลุกเซ็กส์ไงคนสวย หึหึ"

   "ไอ้ชะ ชั่ว...อื้อ"พยายามขืนตัวให้ออกห่างจากสัมผัสน่ารังเกียจแต่ไม่สามารถทำได้เลย ทั้งอ่อนแรงและต้องการมากขึ้นและมากขึ้น

   ตอนนี้ผมถูกลากออกมาจากผับไปที่ลานจอดรถ มือสากลูบวนอยู่ที่เอวเบาๆ ทั้งที่ควรจะขยะแขยงแต่กลับรู้สึกดีและอยากได้มากกว่านี้อีก

   ผมกำลังหมดสติ หมดความเป็นตัวของตัวเอง...ใครก็ได้ช่วยที ช่วยด้วย

   "เห้ย นี่ผัวใหม่หรอวะ"คนที่ผมไม่ชอบปรากฎตัวออกมาแต่ ณ เวลานี้ผมกลับรู้สึกอุ่นใจเมื่อเจอไอ้เด็กบ้า

   "ชะ ช่วย...อื้อ"ไอ้ตัวน่ารังเกียจปิดปากผมไว้ไม่ให้เอ่ยคำขอร้องให้ช่วยเหลือออกมา

   "กูผัวมันเองแหละ กำลังจะไปเอากัน รู้แล้วก็ไสหัวไปซะ"มึงไม่ใช่ผัวกู ผัวกูยืนอยู่ตรงนู้นนู่น

   "ไม่ไปจะทำไม กูก็ผัวมันเหมือนกัน เอาตัวมันมา"พระเอกของกู กูรักมึงจัง ฮือ ช่วยกูด้วย จะไม่ไหวอยู่แล้วนะ จะคุมไม่อยู่แล้ว

   "จะมาแย่งของคนอื่นเขาหน้าด้านๆ ง่ายไปหน่อยมั้ย กูไม่ให้ คืนนี้กูจะเอามันมาเป็นเมีย"

   "ถ้างั้นคงต้องใช้กำลัง"พูดจบริวก็ตรงเข้ามาสวนหมัดใส่หน้าไอ้ชิงหมาเกิด(ไม่รู้ชื่อ)แค่มัดเดียวมันก็ล้มลงไปนอนกับพื้น ไม่พอริวยังตามไปกระทืบซ้ำอีก

   ผมไม่ได้มองเหตุการณ์ยำตีนของริวแต่กำลังถอดเสื้อผ้าอยู่ ก็คนมันร้อนแถมรู้สึกเซ็กส์จัดสุดๆ ต้องการมากๆขนาดที่ว่าใครก็ได้กูเอาหมด

   "เห้ย ไอ้โน มึงโดนยาหรอวะ โง่ชิบ"มึงนั่นแหละโง่ เมียอยู่นี่ทั้งคนไม่ดูดำดูดีเลย

   "ไม่ไหวแล้ว ฮึก"ความต้องการมันเอ่อล้นจนกลายเป็นหยาดน้ำตา ภาพตรงหน้ามันเบอลไปหมด ผมกัดปากตัวเองเพื่อยับยั้งตัวเอง ท่อนบนก็เปลือยเปล่าเพราะเขวี้ยงเสื้อทิ้งไปแล้ว

   "ยาคงจะแรงมาก...เดี๋ยวกูไปส่งคอนโดระหว่างนั้นก็ช่วยตัวเองไปก่อนแล้วกัน กลับไปมึงก็ทำเองให้เต็มที่ กูไม่เอามึงซ้ำสองหรอกนะ"

   "อื้อ"อะไรก็ได้หมดแหละตอนนี้ ขอแค่ปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้นอยู่ภายในก็พอ

   รถสีดำสนิทแล่นฉิวไปตามท้องถนนยามราตรีด้วยความว่องไวปานสายฟ้าเหมือนความร้อนรุ่มที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนผมแทบคลั่งตาย นี่ก็ปาเข้าไปสองน้ำแล้วแต่ความอยากใคร่ก็ยังไม่ลดละเลย

   "ไอ้เหี้ยนั่นแม่ง กูน่าจะฆ่ามัน"คนข้างๆผมโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ทำไมต้องโกรธแค้นแทนขนาดนั้นด้วยหรือเพราะเราเคยเอากันหรือผมเป็นน้องสโนว์ ยังไงก็ชั่ง สายตาผมไปหยุดอยู่ที่เป้าตุงๆนั่นมันดันขึ้นมาอย่างชัดเจน แถมน้ำปริ่มจนเลอะกางเกง ผมคงทำให้ริวมีอารมณ์สินะ

   "ช่วย...นะ"ยิ้มตาหวานหยาดเยิ้มใส่แล้วก็เอื้อมมือไปบดขยี้เป้าของริวไม่ให้ทันตั้งตัว

   "หยุด ไม่ต้อง...ซี๊ดด"มันเบ้หน้าด้วยความเสียวกระสัน ผมยกยิ้มด้วยความพึงพอใจพลางปลดซิบกางเกงแล้วควักเจ้ามังกรยักษ์ออกมาหายใจ น้ำคาวไหล่ปริ่มออกมาตรงส่วนหัวไหลลามไปถึงโคน เป็นขนาดนี้แล้วยังจะห้ามอีก

   "หม่ำล่ะนะ"ผมรูดรั้งเจ้าริวน้อยพอเป็นพิธีแล้วก้มลงเลียหัวมังกรแดงก่ำเหมือนกำลังกินไอติม จากนั้นก็เลียบนไปล่างและล่างไปบนอย่างกับว่ามันอร่อยนักหนา ก็...อร่อยนะในตอนที่ผมกำลังเสี่ยนเต็มที่ ริวสูดปากอย่างพอใจจนผมเหลิงเล่นลิ้นขึ้นไปอีกและครอบฝีปากกลืนกินมังกรยักษ์จนสุดลำไปถึงคอหอย

   "อาห์ ดี ดีมาก ลึกสุดยอด"กิริยาตอบรับดีผมจึงดูดมันขึ้นลงอย่างเอร็ดอร่อยดังจ๊วบจ๊าบน่าอาย มือที่ว่างผมก็สาวแก่นกายตัวเองตามไปด้วย รู้สึกได้ว่าช่องทางข้างหลังขมิบยังไงยังงั้นพลางคิดว่าถ้ายัดของริวเข้าไปคงจะถึงใจน่าดู

   ไม่พอ ผมรู้สึกว่าทำแค่ข้างหน้ามันไม่พอ ผมจึงถอดกางเกงออกแล้วใช้มืออีกข้างเอื้อมไปทางข้างหลังแล้วยัดนิ้วตัวเองเข้าไปนิ้วหนึ่ง

   "อึก"เจ็บ แต่ก็ยังชักนิ้วให้เล่นกับข้างหลังต่อไป

   "ทำอะไร...ซี้ดด มึง...ยั่ว"มังกรยักษ์ขยายขึ้นไปอีกจนคับปาก พอหลุบสายตาขึ้นมองก็เห็นสายตาของริวจ้องมาเป็นครั้งคราวพลางขับรถไปด้วย ผมว่าตอนนี้มันก็คงอยากสุดๆถึงขนาดเหยียบคันเร่งซะมิด

   "อึก อึก อื้อ"แล้วผมก็ปล่อยออกมาเป็นรอบที่สามพอดีกับที่รถแล่นมาจอดในคอนโด เด็กนี่ก็อึดจังเลยยังไม่ได้กินสักหยด

   "ถ้าอยากนัก เดี๋ยวกูช่วย"ผมยกยิ้มอย่างไม่หยี่ระ

   หลังจากลงรถผมก็เข้าไปกระชากคอเสื้อไอ้ริวมาจูบอย่างร้อนแรง ไม่สนแล้วว่าจะเป็นยังไง สนแค่ว่าต้องปลดปล่อย

   "ร้อน อยากได้ แฮ่กๆ"ผละริมฝีปากออกมาแล้วซบอกกอดมันเอาไว้ แข้งขาก็อ่อนล้าแทบเดินไม่ไหว เหมือนคนตรงหน้าจะรู้มันยกผมอุ้มขึ้นเป็นท่าลิงอุ้มแตง
   ระหว่างเดินเราก็จูบกันไปทั้งๆอย่างนั้นน้องชายของริวก็ทิ่มก้นผมไปด้วยจนเข้ามาในห้องนอนแล้วทิ้งตัวผมลงบนเตียง หน้าตามันหื่นกามได้อารมณ์สุดๆตอนนี้ ผมก็คุกรุ่นเช่นกัน

    "เข้ามาเลย เร็วๆ"ขาผมอ้ากว้างออกเป็นรูปตัวเอ็มแล้วใช้นิ้วแหกช่องทางออก สภาพผมตอนนี้คงทุเรศและเซ็กซี่น่าดู ริวถึงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ มังกรยักษ์ก็สั่นระริกชี้ฟ้าท้าลม

   "กูจะไม่ทน"พูดจบริวก็ตามมาคล่อมผมแล้วสอดมังกรยักษ์เข้ามาจนสุดด้ามแทบจุก

   ไม่ต้องมีลีลาอะไรริวก็ขยับสะโพกตามอารมณ์ดิบของตัวเองทันที ทุกๆครั้งที่ริวส่งแรงกระแทกมาผมก็เด้งเอวรับตอบกลับไป ซึ่งทำให้มันเข้ามาลึกมากขึ้นไปอีกและนั่นคือสิ่งที่ผมพอใจ

   "อาา อ๊า ซี๊ดดด อ๊ะๆๆๆ อ๊า...ดีจัง...แรงอีก"และทุกๆครั้งที่ผมชม ริวก็จะยิ่งหึกเหิมขึ้นไปอีก อย่างว่าผู้ชายร้อยทั้งร้อยชอบให้คู่นอนชมตอนอยู่บนเตียง

      "กู ชอบ...เสียงมึง ซี๊ดดด ร้องดังๆ"ริวเปลี่ยนจากซอยถี่ยิบเป็นขยับเนิบๆแต่รุนแรง ถอนจนสุดโคนแล้วกระแทกพรวดเข้ามาจนสุดลำโดนจุดกระสันผมเต็ม ทำเอาครางลั่นสมใจอยาก

   "อ๊ะๆๆ เร็วๆ จะเสร็จแล้ว"ผมกอดคอมันแล้วฝังเขี้ยวลงไปบนไหล่เมื่อริวซอยสะโพกถี่ยิบไปโดนจุดนั้นของผมจนผมปลดปล่อยออกมาก ช่องทางข้างหลังก็ยิ่งตอดรัดขมิบถี่

   "อู้วยย ซี๊ดดดดด...อาาา"ริวเร่งเครื่องจนเสร็จตามมาติดๆ ช่องทางอุ่นวาบเมื่อริวฉีดลูกๆเข้าไป

   "เอาอีก"ผมร้องขออย่างน่าไม่อายด้วยความที่ฤทธิ์ยาปลุกยังไม่หมด

   "คราวนี้มึงขึ้นเองเลย"คนข้างบนเปลี่ยนผลัดให้ผมไปคล่อมมันบ้าง ริวนอนเอาหัวหนุนแขนและจับเอวผมรอ

   "ได้...อึก...อื้ออ"มือเลื่อนไปจับมังกรยักษ์ที่ตื่นอยู่ก่อนไม่ต้องเสียเวลาไปปลุกแล้วจ่อไปที่ช่องทาง ผมค่อยๆกดตัวลงช้าๆแต่นั่นคงไม่ทันใจคนใจร้อน มือหนาจับเอวผมไว้มั่นกดลงแล้วกระแทกสะโพกสวนขึ้นมาทำเอาเอวผมเด้งขึ้นไปโดยอัตโนมัติ

   "หึหึ มุมนี้เซ็กซี่ชะมัด"ผมปรือตามองคนใต้ร่างไปด้วยน้ำตาที่คลอหน่วยอยู่อย่างเสียวสะท้าน

   ก่อนจะขยับผมก็นึกสนุกอยากลองยั่วเด็กบ้านี่ดู อยากจะรู้ว่าถ้าทำแบบนั้นแล้วจะเป็นยังไง ถึงแม้ผมอยากจะปลดปล่อยมากก็เถอะแต่เรื่องสนุกต้องมาก่อนเสมอ ว่าแล้วก็มองหาสิ่งที่ต้องใช้สำหรับการเล่นเกมยั่วเด็กนรกครั้งนี้












☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

Nekozaa  :
   
       กลับมาครั้งนี้พร้อมกับความหื่น แล้วก็ตัดฉับแบบไม่ใจร้ายเกินไปเนอะ โฮะๆ
       เสียตัวแต่ละครั้งน่าอนาถเหลือเกินน้องโน แต่ก็ได้แต่ก็โดนพ่อเจ้าพระคุณรุนช่องอย่างพระเอกริวตลอด เจ๊ดีใจ และยกลูกสาวให้แต่โดยดี ซะที่ไหน
       บอกริวเลย หาย-โง่-ก่อน ค่อยยกสินสอดมา...เจอปืนค่ะ
  :mew1: :oo1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๘ ครั้งแรกเมาครั้งที่สองโดนยา NC✖[31/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 31-10-2016 21:56:43
ตามมมมม
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๘ ครั้งแรกเมาครั้งที่สองโดนยา NC✖[31/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 01-11-2016 00:11:21
ริวคะ แม่ยกเพลียค่ะ มีอะไรกันไปแล้ว ก็ยังไม่รู้อีก
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๘ ครั้งแรกเมาครั้งที่สองโดนยา NC✖[31/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-11-2016 06:40:00
แปลกจัง แก้วเครื่องดื่ม มันแพงมากเหรอ
ถึงต้องเอาต้องแก้วใบเดิม เสี่ยงโดนยาแท้ๆ
คราวหลังพกแก้วไปเองเล้ยยยย
ขอแก้วใหม่ผสมใหม่ ปลอดภัยกว่า รสชาติดีกว่า
คิดกันไม่เป็นเลย   :katai1: :katai1: :katai1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๘ ครั้งแรกเมาครั้งที่สองโดนยา NC✖[31/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 01-11-2016 07:21:07
ริวเมิ่อไหร่จะรู้ เมื่อไหร่จะฉลาดซะทีเนี่ย
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๘ ครั้งแรกเมาครั้งที่สองโดนยา NC✖[31/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 04-11-2016 02:00:31
โอย ชีวิตเนอะพระเอกนายเอกเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๘ ครั้งแรกเมาครั้งที่สองโดนยา NC✖[31/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 04-11-2016 12:02:41
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๘ ครั้งแรกเมาครั้งที่สองโดนยา NC✖[31/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 04-11-2016 13:07:44
ริวพ่อคนซื่อ ถถถ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๘ ครั้งแรกเมาครั้งที่สองโดนยา NC✖[31/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 05-11-2016 06:18:03
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๘ ครั้งแรกเมาครั้งที่สองโดนยา NC✖[31/10/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 06-11-2016 05:54:23
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๙ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก✖[6/11/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 06-11-2016 13:24:14
บทที่๙

ความรู้สึกเล็กๆที่เรียกว่ารัก








   แย่...แย่มาก...แย่ที่สุด...ไม่มีอะไรที่แย่ไปมากกว่านี้แล้ว

   เพราะไอ้บ้ากามนั่นใส่ยานรกลงในแก้วของผมแท้ๆ ทำให้ผม...โว้ยย ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นอีกแล้ว พอแล้ว นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก ผมจะไม่ไปไอ้ผับบ้าๆนั่นอีก

   คนข้างตัวผมยังนอนหลับตาพริ้มสบายใจเฉิบไม่รู้เรื่องรู้ราว ถ้าผมจะเอามีดมาจ้วงแทงมันเหมือนที่เมื่อคืนมันฉวยโอกาสแทงผมให้สาสมได้มั้ยนะ แต่พอลองคิดอีกมุมหนึ่งถ้าผมไม่ได้มันช่วยไว้ ป่านนี้ผมคงกลายเป็นของเล่นไอ้หื่นนั่นแทนและผมก็ผิดเองที่ไม่ยับยั้งชั่งใจ

   ผมหันไปมองริวอีกครั้งแล้วนั่งมองอยู่อย่างนั้น ตอนหลับก็น่ารักดีอยู่หรอก ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมเลื่อนมือไปลูบกลุ่มผมนุ่มนิ่มนั่น ผมไม่สามารถละสายตาไปได้เลย หัวใจก็อิ่มเอิบแปลกๆ

   "อืม"เมื่อริวทำท่าจะรู้สึกตัวผมก็ผละมือออกมาแล้วทำเป็นยังหลับอยู่

   คนข้างๆผมคงตื่นเต็มตาแล้ว เพราะแรงเสียดสีของผ้าห่ม ริวคงลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวเตียง ผมเดาว่างั้นนะ ในใจก็ภาวนาอย่าให้มันผลักไสไล่ผมตอนนี้ ผมยังไม่พร้อม

   "ผมน่าจะหยุดตัวเอง ผมขอโทษ...สโนว์"ใจผมเต้นแรงขึ้น หรือว่าริวจะรู้แล้วว่าผมกับสโนว์เป็นคนๆเดียวกัน"ขอโทษที่เกินเลยกับน้องชายคุณ"

   หึ มึงมันโง่เกินเยียวยา ถ้ารักสโนว์มากนักก็เจ็บเพราะรู้ว่ากูเป็นสโนว์ไปซะ

   ยังไม่ทันจะคิดสาปส่งอะไรอีก มือหนาก็ลูบไล้เบาๆที่ใบหน้าผม และสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้รับมันมาจากเด็กคนนี้ ริวฝีปากจุมพิตลงกับหน้าผากผม อบอุ่นอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยได้รับจากใครยกเว้นแด๊ดกับแม่ ทำไมมันต้องทำแบบนี้ แค่นี้ผมก็รู้สึกกับมันไม่รู้เท่าไรแล้ว

   ใช่ ผมรู้สึกตัวแล้วว่าผมรู้สึกยังไงกับริวแต่ผมยังไม่แน่ใจ

   "กูจะเห็นแก่ตัวไปมั้ย ถ้าขอเก็บมึงไว้ข้างๆกู"และนี่คงเป็นอีกสิ่งที่ไม่คาดคิด คำพูดที่ดูเห็นแก่ได้นั้นทำให้ผมใจเขวไปมากทีเดียว ถ้าเป็นคนอื่นคงมองว่าหลายใจแต่กับผมที่รู้ว่าอะไรคืออะไร...มึงแม่งก็หลายใจอยู่ดีว่ะ

   เขาถึงบอกว่าครั้งแรกก็แค่ลองแต่ถ้ามีครั้งที่สองจะติดใจ ผมว่าริวคงติดอกติดใจก้นผมแล้วแหง ฮ่าๆ (ปรับอารมณ์เร็วแท้)

   ตอนนี้ผมควรจะตื่นหรือควรจะแกล้งหลับต่อดี แต่พอริวเลื่อนตัวลงนอนแล้วกอดผมเข้าไปไว้ในอ้อมกอด ความคิดทุกสิ่งอย่างก็มลายหายไป ถ้าผมจะขอจมอยู่ในแขนของริวสักพักก็คงไม่เป็นไรสินะ แค่ตอนนี้เท่านั้นเมื่อตื่นมาผมจะกลับไปเป็นโนคนเกรียนคนเดิม

   ...

   เสียงริงโทนโทรศัพท์ที่คุ้นเคยดังก้องไปทั่วห้องกระทบกับโสตประสาทจนผมตื่นขึ้นมาด้วยความสะลึมสะลือ พลางมองไปที่ที่นอนข้างๆก็ไม่พบคนที่นอนกอดตัวเองอยู่เมื่อเช้าตรู่

   "ไปไหนนะ"พึมพำกับตัวเองเบาๆแล้วควานหาโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าที่อยู่บนหัวเตียง

   [เมื่อคืนหายไปไหน แล้วนี่อยู่ไหน เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมไม่รับโทรศัพท์ ห้ะ] ไม่ใช่ใครที่ไหนเพื่อนเฮี้ยนผมเองนี่แหละ

   "เดี๋ยวไปเล่าที่มอ"มองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้เลยเที่ยงไปหน่อยหนึ่ง คาบเช้าไม่ทันก็บ่ายแล้วกัน ปีนี้จะจบมั้ยเนี่ยหยุดเป็นว่าเล่น เห้อ

   [เออ เร็วๆเลย ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว] ใครว่าไม่เป็นล่ะ ร่างกายแทบพัง

   "เออๆ"วางสายไอ้เก้งไปได้ไม่ทันไร ประตูห้องนอนก็เปิดออกพร้อมคนที่ผมนอนกกด้วยทั้งคืน

   "ตื่นแล้วหรอ ไปอาบน้ำแล้วตามไปที่ห้องครัวนะ" แววตาที่มักจะมองมาด้วยความว่างเปล่าตอนนี้ดูสุกประกายและเต็มไปด้วยความ...ผมคงคิดไปเอง

   "ไปทำไม ห้องครัว"จะพาไปเชือดแขนเชือดขาทิ้งชักโครกรึเปล่าก็ไม่รู้

   "อาบน้ำมั้งถามได้ ก็กินข้าวเที่ยงสิวะ"แต่ยังปากหมาเหมือนเดิม ความเคารพไม่เคยมีอยู่ในมันสมองอันน้อยนิดของไอ้ริวหรอก

   "ไม่กิน จะรีบไปมอ"ผมพูดด้วยใบหน้าบึ้งตึงแล้วก้าวขาลงจากเตียงเพื่อที่จะเข้าห้องน้ำด้วยสภาพที่ไม่มีอะไรปกปิดสักชิ้น จะอายทำไม ของเคยๆกันแล้ว

   "อึก หาอะไรมาปิดบ้างสิวะ หน้าด้าน"อ้าว ไอ้เด็กเหี้ยนี่ แล้วใครมันปอกเปลือกกูล่ะวะ ก็กูเองนี่หว่า ฮ่าๆ

   "ถ้าอายก็ไม่ต้องมอง สัด"

   "อาบเสร็จแล้วไปกินข้าวด้วย อย่าหาว่าไม่เตือน"

   "เออ"รับปากไปงั้นแหละ อาบเสร็จเมื่อไรกูจะชิ่งไปห้องตัวเองทันทีเลย

   ใช้เวลาไม่นานผมก็ล้างตัวเองเสร็จเรียบร้อย แปลกใจอยู่เหมือนกันที่พอล้วงเข้าไปในก้นจะชำระคราบน้ำที่ไอ้ริวมันปล่อยไว้ออกก็ไม่เห็นมี เด็กบ้าคงเอาออกให้แล้ว ก็ดีเหมือนกัน ทำตัวให้เป็นประโยชน์ก็ได้นี่หว่า

   ประตูทางออกต้องผ่านห้องครัว สงสัยต้องใช้วิชานินจาย่องเบาซะแล้ว เรื่องนี้ถนัดอย่าบอกใครเชียว ไอ้เก้งชอบด่าผมเวลาผมจิ๊กของของมันว่า ไอ้ตีนแมว บ่อยๆด้วย

   อ่ะชึบ อ่ะชึบ ชะแว้บ ชะว้าบ

   "อ่ะแฮ่ม จะไปไหน"ชะอุ้ย โดนจับได้แล้ว เกือบถึงประตูทางออกแล้วแต่ดันมีมือในความมืดคว้าไหล่เอาไว้แล้วกระชากตัวออกจากแสงสว่าง

   "อ้าว นึกว่านี่ห้องครัว"ชี้ไปที่ประตูแล้วทำตาปริบๆอย่างคนไม่รู้เรื่องรู้ราว

   "กวนตีนนะมึง จะแอบชิ่งก็บอกมา"เด็กตัวโตยืนเท้าสะเอวพลางจ้องผมอย่างจับผิด

   "เปล๊า"

   "บอกแล้วใช่มั้ยว่าให้ไปกินข้าว อยากโดนดีหรอ"

   "เออ มันทำไมๆ จะทำไม กล้าหรอ เอาดี๊"ด้วยความปากไวกว่าสมองผมก็เผลอเปิดปากท้ามัน อย่างมากก็แค่โดนเตะ อย่างน้อยก็คงโดนต่อย ผู้ชายแมนๆอย่างผมไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว

   "ก็จะทำแบบนี้ไง"พูดจบมันก็ก้มหน้าลงมาพร้อมกับมือที่ง้างขึ้น ผมรีบหลับตาปี๋รอรับความเจ็บปวด

   ฟอด ฟอด

   สิ่งที่ได้กลับมาหาใช่หมัดไม่แต่มันคือจมูกโด่งที่ฝังลงมากับแก้มผมจนยุบทั้งสองข้าง

   "ชื่นใจจริงๆ นี่ไงบทลงโทษ"ผมลืมตาขึ้นมาด้วยอาการของคนใบ้แดก อ้าปากพะงาบๆ ตาโตยิ่งกว่าเห็นผีเป็บร้อย ก่อนจะหน้าร้อนขึ้นเป็นกองเพราะการกระทำผิดผีของริว

   "ทะ ทำบ้าอะไรวะ มึงไม่สบายสินะ เพ้อหนักขนาดนี้ ลืมกินยาเขย่าขวดรึเปล่าหรือว่าสับสนทางเพศ"ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมา คนอย่างไอ้ริวเนี่ยนะ ไม่สิ มันชอบสโนว์ไม่ใช่หรอแล้วมามุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกับผมแบบนี้ได้ไง

   "อ้าว พูดกับผัวงี้ได้ไง เดี๋ยวโดนอีกหรอก ไปๆกินข้าว"ด้วยความที่ยังมึนงงไม่หายผมก็เดินไปตามแรงจูงของริวจนมานั่งแปะอยู่กับโต๊ะกินข้าว"กินสิ เดี๋ยวลงไปรับแล้วไปมอพร้อมกัน"

   "..."ผมยังนั่งจ้องหน้าริวอยู่จนมันคิ้วขมวด

   "อยากโดนหอมอีกรึไง ครั้งนี้ไม่จบแค่หอมหรอกนะแต่จะจบที่เตียง"แค่นั้นแหละ ผมก็จ้วงข้าวเข้าปากโดยไม่ได้พูดอะไรอีกกอปรหิวด้วย

   เมื่อเห็นว่าผมยอมกินข้าวต้มเห็ด ริวก็กินส่วนของมันบ้าง อร่อยดีนะ พอมองไปที่หม้อที่ตั้งอยู่บนเตาก็รู้เลยว่าริวทำเอง ฝีมือถือว่าใช้ได้สำหรับคนที่ทำอาหารเป็นอย่างผม

   ข้าวต้มตรงหน้าพร่องลงไปเรื่อยๆจนหมดชาม ผมก็นั่งเกาพุงอย่างอิ่มหนำสำราญ ไม่ได้ใช้ชีวิตสโลไลฟ์แบบนี้มานานเท่าไรแล้วนะ คงตั้งแต่ตอนที่เริ่มดังในวงการบันเทิง

   "กินยาซะ"แผงยาถูกยื่นมาตรงหน้าผม พอมองไปที่ฉลากก็รู้ว่านี่เป็นยาแก้อักเสบ

   "เอ่อ ขอบใจ"ไม่ต้องซักให้มากความก็รู้ว่าแก้อักเสบอะไร ตอนนี้ผมคงหน้าเห่อแดงมากแน่ๆ ภาพเมื่อวานดันไหลย้อนกลับมาเป็นฉากๆยิ่งกว่าดูหนัง 3D

   "นึกถึงเรื่องเมื่อวานอยู่หรอ ทำหน้าลามกเชียว"คนตรงหน้ากระหยิ่มยิ้มเชิงล้อเลียน ผมเลยเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้

   "หึ คิดซะว่าโดนหมามันเอา"ไม่รอให้ริวได้ทำอะไรกับตัว ผมก็ลุกพรวดวิ่งออกจากห้องครัวไปทางประตู ไม่มีวี่แววว่าริวจะตามมา ผมก็เลย...ยืนรอ

   "ให้เวลาสิบนาทีเปลี่ยนเสื้อผ้า เดี๋ยวลงไปรับ อย่าดื้อ เข้าใจนะ"เหมือนริวจะรู้ว่าผมยังไม่ไปไหนไกลเลยตะโกนออกมาจากห้องครัวและผมก็ได้ยินเสียงล้างจานตามมา

   ผมลงมาข้างล่างที่เป็นห้องของตัวเองรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและนั่งรอคนมากดกริ่งเรียก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมต้องทำตามที่ริวบอก อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกดีๆที่มีให้มันไปบ้าง หรือเพราะผมอยากอยู่ใกล้ๆมันเหมือนกัน

   รู้สึกว่าตัวเองเหมือนหมาพิตบูลจอมดุที่ถูกฝึกให้เชื่องแล้วยังไงยังงั้น

   รอไม่นานคนที่ผมนั่งรอก็กดกริ่งอยู่หน้าประตู ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูแต่ตอนเปิดก็ทำเป็นเหมือนว่าอยู่แถวๆนี้อยู่แล้ว ขืนมันรู้ก็เสียฟอร์มกันพอดี

   "เปิดไวจังนะ หึหึ"ริวอมยิ้มกลั้นหัวเราะ ทำเอาผมหน้าเสียไปนิดแต่ก็แก้สถานการณ์ได้ด้วยการเปลี่ยนเรื่อง

   "เอาคีย์ลิฟต์ชั้นนี้มาจากไหน ว่าจะถามมานานละ"

   "อ๋อ คุณอาเป็นเจ้าของคอนโดนี้น่ะ เลยไปขอเขาปั๊มเพิ่มเผื่อมีอะไรฉุกเฉินจะได้มาช่วยสโนว์ทัน"

   "อืม ถ้างั้นก็มีคีย์ห้องด้วย ทำไมไม่ใช้เขามาล่ะ"

   "เข้าไปโดยที่เจ้าของห้องไม่อนุญาตก็น่าเกลียดแย่เลยสิ"

   "ก็คิดได้นิ"ผมแขวะมันอย่างหมั่นไส้ในท่าทีที่ไม่หยี่ระต่ออะไรเลย

   "ป่ะ"ริวเข้ามาพาดแขนกับคอผมก่อนจะลากไปขึ้นลิฟต์แล้วตรงไปยังลานจอดรถส่วนตัว

   กลิ่นหอมอ่อนๆประจำตัวริวลอยมาปะทะกับจมูก ผมเผลอสูดดมเอาความหอมเข้ามาเต็มปอด เขาว่ากันว่าฟีโรโมนของผู้ชายเมื่อสูดดมแล้วจะทำให้รู้สึกฟิน คลายเครียด กระชุ่มกระชวยอะไรเทือกนั้น ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อแต่ตอนนี้ผมว่าผมเชื่อแล้วล่ะ

   "ทำหน้าเคลิ้มทำไม โรคจิต"ไม่พูดเปล่าริวยังเอามือมาบีบจมูกผมไปมาแล้วทำหน้าหมั่นเขี้ยว ผมเลยผลักหน้าผากมันไปทีให้มันปล่อย

   เราหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วมองหน้ากัน สักพักริวก็ขำพรืดออกมา ไม่รู้หรอกว่าขำอะไรแต่ผมก็ดันบ้าจี้ขำตาม

   "อย่ามาทำมุ้งมุ้งแบบนี้อีกนะสัด กูขนลุก"หลังจากเลิกหัวเราะแล้วผมก็ด่ามันไปหนึ่งดอกเพื่อปัดออร่าสีม่วงชมพูไปให้ไกลๆ

   "ก็มึงหน้าแกล้งเหมือน..."ริวหยุดพูดแล้วยิ้มบางแทน ผมรู้ว่ามันจะพูดว่าเหมือนสโนว์ อีกแล้ว ความรู้สึกบ้าๆนี่อีกแล้ว

   "เร็วๆ คาบนี้จารย์เช็คชื่อ"ผมเปลี่ยนเรื่องแล้วหันหน้าเข้าหาประตูรถฝั่งข้างคนขับเตรียมเปิดประตูเข้าไปนั่ง

   เมื่อเราเข้ามานั่งในรถก็ไม่ได้พูดหรือเล่นอะไรกันอีก ระหว่างขับรถไปมหา'ลัยบรรยากาศรอบข้างเงียบฉี่ชวนอึดอัด สู้ให้ริวมุ้งมิ้งกับผมยังดีกว่าอึมครึมใส่กันเป็นไหนๆ

   "รักพี่สโนว์มากมั้ย"ผมเปรยขึ้นในขณะที่สายตาก็จับจ้องไปนอกหน้าต่าง

   "ถามทำไม"

   "ตอบมาเถอะน่า"

   "รักมากสิ มากแบบไม่มีใครมาแทนที่ได้"ถ้ารักพี่สโนว์ก็อย่ามายุ่งกับกู อยากพูดไปแบบนี้แต่ถ้าบอกไปผมกลัวว่าจะสูญเสียช่วงเวลาที่จะได้อยู่กับริวไป อยากจะยื้อให้นานที่สุดจนกว่าจะถึงเวลาที่ริวจะรู้ความจริงแล้วเกลียดผมที่หลอกมันมาตลอด

   "สัญญาได้มั้ยว่าจะรักพี่สโนว์ตลอดไป จะไม่ทิ้งกู...พี่กู"

   "กูสัญญาแต่ขอเวลาสองอาทิตย์ได้มั้ย ขอให้มึงอยู่ข้างๆกู"

   "มึงมันเห็นแก่ตัว"ผมแค่นยิ้มกับตัวเองในกระจกหน้าต่างรถ ผมต่างหากที่เห็นแก่ตัว ผมต่างหากที่ผิด ผิดที่ไม่บอกผิดที่ปล่อยตัวปล่อยใจไปขนาดนี้ ผิดที่เมื่อถึงเวลาต้องปล่อยกลับคิดที่จะฉุดรั้งเอาไว้

   รถแล่นมาจอดที่ลานจอดรถของมหา'ลัย ผมเปิดประตูแล้งลงจากรถ จะเดินไปโดยไม่พูดกับริวอีกแต่เสียงทุ้มมีเสน่ห์รั้งขาผมเอาไว้เสียก่อน

   "เดี๋ยวตอนเย็นมารับ เป็นเด็กดีอย่าดื้อล่ะ"

   "เออ"ตอบไปแบบส่งๆเหมือนไม่ใส่ใจแต่จริงๆแล้วหัวใจกำลังลิงโลดเต้นเร่าๆอยู่

   ตึกคณะของผมกับของริวอยู่ระหว่างตึกอักษร เราเลยแยกกันไปคนละทาง ยังมีเวลาที่ผมจะเข้าคลาสก่อนอาจารย์ผู้เหี้ยมโหด ผมวิ่งอย่างเร่งรีบเลี้ยวถึงมุมตึกก็ชนเข้ากับคนคนหนึ่งเข้าจนล้มก้นจ้ำเบ้า ทำเอาเจ็บจี๊ดไปถึงกระดูกสันหลัง

   "โอยย"โอดครวญด้วยความรวดร้าว ไม่ได้สำออยแต่อย่างใด ลองโดนเอาตูดหลายๆทีแล้วล้มดูสิครับโคตรนรกเลย

   "เห้ย โทษที ลุกไหวมั้ย"เสียงนี่คุ้นๆแหะ ผมที่กำลังก้มหน้าโอดครวญอยู่ก็เงยขึ้นมามองคนที่ผมชน

   "ขุนพล"เพื่อนเก่าสมัยมัธยมที่ผมไม่ได้เห็นหน้าคร่าตามานาน ความทรงจำเก่าๆไหลย้อนเข้ามาเต็มไปหมด

   "เอ่อ โน...มา กูช่วย"มือของขุนพลทำท่าจะยื่นเข้ามาดึงผมขึ้นแต่ผมปัดมือนั้นออก

   "ไม่เป็นไร"ใช่ว่ารังเกียจแต่เพราะผมกลัว

   ผมกับขุนพลเราเคยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมต้น สนิทกันขนาดที่ว่าไปไหนก็ไปด้วยกัน ชอบอะไรเหมือนๆกัน ถูกคอกันมาก ระหว่างเราเป็นทั้งเพื่อนรู้ใจและพี่น้องคู่กาย ขุนพลเป็นเพื่อนคนแรกที่ผมสนิทด้วยตั้งแต่คบกับเพื่อนคนอื่นมา เราไม่มีความลับกันยกเว้นเรื่องที่ผมเป็นสโนว์ ผมไม่ได้บอกและบอกไม่ได้เพราะขุนพลเกลียดตุ๊ด เกย์ กระเทย ผมกลัวว่าถ้าบอกไปขุนพลจะเข้าใจผิดและเลิกคบ ผมอุส่าห์เก็บความลับมาได้ตั้ง 5 ปี จนมัธยมปลายปีสุดท้าย

   วันนั้นวันเกิดผมแต่ผมต้องเคลียร์งานการแสดงตั้งแต่เช้าให้เสร็จก่อนถึงจะมีเวลาส่วนตัวไปฉลองวันเกิดกับขุนพล ผมกำลังจะใส่ยกทรงเพื่อเปลี่ยนเป็นผู้หญิงแต่จู่ๆ ขุนพลก็พรวดพราดเข้ามาพร้อมเค้กในมือ

   หัวใจผมวูบโหวง เค้กในมือของขุนพลตกลงกับพื้นพร้อมๆกับความเป็นเพื่อนของเรา ผมยังจำคำด่าทอและสายตารังเกียจของขุนพลได้ดีจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ผมเสียเพื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตคนหนึ่งไป

   หลังจากเสร็จงานด้วยดวงใจที่ห่อเหี่ยวผมพยายามไปหาขุนพลและปรับความเข้าใจกัน แต่ยิ่งเข้าใกล้ขุนพลยิ่งแสดงความรังเกียจออกมาอย่างชัดเจนขนาดที่ว่าด่าผมว่าเป็นกระเทยต่อหน้าคนทั้งห้องเรียน

   โดนด่าทอโดนรังเกียจยังไม่เท่ากับที่ขุนพลเหยียบย่ำความเป็นเพื่อนของเรามานาน วันจบการศึกษาผมเอากระถางต้นไม้ที่เราร่วมมือปลูกด้วยกันและห้อยรูปคู่ของเราในที่ต่างๆอิริยาบถต่างๆไว้ไปให้ขุนพลเป็นคำบอกลาแม้ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาขุนพลจะทำร้ายผมชนาดไหน เพื่อนก็ยังเป็นเพื่อน ผมคิดแบบนั้น
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๙ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก✖[6/11/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 06-11-2016 13:33:24
   'ขุนพล ยินดีด้วยนะ อ่ะ...ต้นไม้ที่เราช่วยกันปลูก เราอยากให้ขุนพลดูแลมันต่อนะ'

   'กูไม่อยากได้ของสกปรกๆจากไอ้กระเทยอย่างมึงหรอก ขยะแขยง'

   'รับไว้หน่อยนะ ถือว่าเป็นคำขอร้องสุดท้ายของเรา ฮึก'

   'ได้'

   'ขอบใจนะ'

   เพล้ง

   'ขุนพล! ปล่อยมือจากกระถางทำไม'

   'เป็นของกูแล้วกูก็ทำอะไรกับเศษขี้นี่ก็ได้นิ'

   'ไม่ ขุนพล อย่าทำร้ายต้นไม้...จะทำอะไร'

   'เผามันไง อีกระเทยโง่'

   'ไม่ ฮึก ไม่ อย่า ฮืออๆ'


   ทุกการกระทำของขุนพลที่ทำกับต้นไม้ที่เราช่วยกันปลูกฝังใจผมจนเป็นแผลขนาดใหญ่ ภาพที่ขุนพลทิ้งกระถางให้ตกลงกับพื้น เหยียบดอกและะใบของมันจนติดพื้น เหยียบรูปคู่ของเราขยี้ไปมา และเผาต้นไม้กับรูปอย่างใจจืดใจดำ

   ผมจำความรู้สึกตอนนั้นได้ ผมต้องทนทุกข์อยู่ในห้องเป็นเดือน ไม่ยอมออกไปไหน ไม่กินข้าว ไม่ทำงานจนแม่และแด๊ดเป็นห่วง กระทั่งเข้ามหา'ลัย ผมจำต้องไป ทุกคนล้วนเข้ามาทำความรู้จักกับผม อยากเป็นเพื่อนกับผมแต่ผมขับไล่ไสส่งคนพวกนั้น ผมไม่อยากเจ็บซ้ำๆซากๆอีกแล้ว ผมไม่อยากมีเพื่อนอีกแล้ว ผมกลัว กลัวว่าจะเสียคนสำคัญไปอีก

   แล้วเก้งก็เข้ามา ผมขับไล่ไสส่งมันเหมือนคนที่ผ่านมาแต่เก้งไม่ยอม ยังจะพยายามเข้ามาทำความรู้จักกับผมเรื่อยๆ จนผมตัดสินใจบอกมันไปทุกอย่างให้มันตีตัวออกห่างจากผม แต่แทนที่มันจะชิ่งเหมือนขุนพลมันกลับหัวเราะและบอกว่า

   'กระเทยแล้วไง ตุ๊ดแล้วไง เกย์แล้วไง ยังไงมึงก็เพื่อนกูเปล่าวะ กูจะรังเกียจทำห่าอะไร ถึงมึงจะแทงตูดกูกูก็ยังจะเป็นเพื่อนกับมึง เครป่ะ เพื่อนเลิฟ'

   เท่านั้นแหละ ผมก็ร้องไห้โฮออกมาอย่างอัดอั้นและเล่าว่าเจออะไรจากขุนพลมาบ้าง และบอกว่าความจริงที่ผมต้องแต่งหญิง ไอ้เก้งรับฟังและเข้าใจแถมตั้งแต่วันนั้นมันก็ยิ่งเข้ามาในชีวิตผมมากขึ้นไปอีกทำให้ผมเริ่มเปิดใจรับมันมาเป็นเพื่อน เพื่อนคนสำคัญที่เข้าใจผม

   "ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้มั้ย"ขุนพลแตะที่ไหล่ผมเบาๆแต่ปฏิกิริยาตอบสนองกลับของผมมันรุนแรง ผมผลักขุนพลออกแล้วถอยออกมายืนห่างๆ อยากจะก้าวขาออกไปจากที่ตรงนี้แต่ก็ก้าวไม่ออก มันหนักอึ้งและเจ็บปวดกับความทรงจำเก่าๆ

   "เรา เราไม่อยากคุย"ผมตอบกลับไปด้วยปากสั่นๆ ไม่รู้เลยว่าขุนพลอยู่มหา'ลัยเดียวกับผม ถ้าผมรู้ผมจะไม่อยู่ที่นี่ผมจะหนีไปให้ไกล

   "กูอยากจะคุยด้วย ได้โปรด"

   "เราต้องรีบเข้าคลาส ไปนะ"ผมเดินเลี่ยงไปอีกทาง ไปให้ห่างจากขุนพล น้ำตาก็พาลจะไหลเนืองๆ ผมไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นเลย

   "เดี๋ยวโน กูขอโทษ...ขอโอกาสให้กูได้แก้ไขความผิดได้มั้ย กูขอร้อง"ขุนพลคุกเข่าก้มหัวอยู่กับพื้นเป็นการขอร้อง ผมรู้ว่าคนอย่างขุนพลไม่ยอมก้มหัวให้ใคร แสดงว่าสิ่งที่ขุนพลบอกมันมาจากใจจริงๆและต้องการจะคุยกับผม

   "คุย...ก็ได้แต่เลิกเรียนคลาสนี้ก่อนนะ"

   "จริงหรอ เลิกกี่โมง"

   "บ่ายสาม"

   "ขอบคุณนะโน"

   "อืม"ผมหันหลังและเดินไปห้องเรียน ถึงผมจะกลัวแต่ผมก็ยังมีไอ้เก้งอยู่ ผมจะไม่เป็นอะไร ผมต้องเผชิญหน้ากับความกลัวเพื่อที่จะเข้มแข็ง

   แม่บอกกับผมว่าคนเราทุกคนย่อมมีความกลัวเป็นของตัวเอง และความกลัวนั้นจะเป็นมารขัดขวางความสุขของเรา เราจะต้องสู้กับความกลัวเพื่อที่จะได้พบเจอกับความสุขที่แท้จริง มันก็เหมือนกับการปล่อยวางนั่นแหละ

   ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี ความกลัวที่ผมเก็บงำมาตลอดผมจะสู้กับมัน!

   เข้าคลาสได้ทันเช็คชื่อแบบพอดิบพอดี ผมนั่งข้างๆไอ้เก้งที่มองผมด้วยสายตาที่มีแต่คำถามพอๆกับไอ้ฟอกซ์

   "คืองี้นะ เรื่องเมื่อคืน...กูโดนยาปลุกเซ็กส์..."กระซิบเสียงให้เบาที่สุด ถึงแม้ตรงที่เรานั่งกันอยู่จะไม่มีใคร

   "ห้ะ โดนยาปลุก!"เก้งตะโกนลั่นอย่างคนตกใจทำให้นิสิตที่นั่งเรียนอยู่หันมามองกันให้พรึบ

   "ไอ้เหี้ย มึงจะตะโกนทำหอกอะไร"

   "ถ้าพวกคุณจะคุยก็เชิญออกจากห้องเรียนค่ะ"อาจารย์สาวขยับแว่นตาต่ำลงแล้วส่งสายตาดุๆมาให้ พวกผมเลยนั่งเจี่ยมเจี๊ยมอย่างสำนึกผิด

   "เรื่องมันเป็นมาไง เล่าด่วนๆ"หลังจาก'จารย์หันไปสอนเก้งก็คาดคั้นผมทันที สายตามันบ่งบอกถึงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน

   "ก็..."แล้วผมก็เล่าเหตุการณ์ตั้งแต่พวกมันจูบกันลามไปเรื่องที่เจอเพื่อนเก่าอย่างขุนพล เก้งที่รู้มาก่อนว่าขุนพลเป็นยังไงก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟแทนผมจนลืมเรื่องที่ผมโดนยา ส่วนฟอกซ์หลังจากฟังเรื่องทั้งหมดก็เห็นนั่งเงียบๆเหมือนกำลังคิดอะไร

   "ไอ้ฟอกซ์ มึงคิดอะไรอยู่วะ"นี่เพื่อนๆเป็นห่วงผมกันขนาดคิดหนักขนาดนี้เลย ผมล่ะซึ้งใจ

   "กูกำลังคิดว่าจะแก้โจทย์ข้อนี้ยังไงดีน่ะ"เสลดเป็ด ไอ้เนิร์ดแก่เรียนเป็นยังไงก็เป็นยังงั้นสินะ ไม่คุยกับมันแล้ว คุยกับไอ้เก้งดีกว่า

   "เดี๋ยวนะ มึงกับริวมีซัมทิงรองกันตอนไหน กูพลาดอะไรไปรึเปล่า"

   "เรื่องมันยาวว่ะ"

   "โถ่ พ่อคนแมนอกสามศอก กูว่าอยู่แล้วว่ายังไงมึงก็ต้องมีผัวแทนมีเมีย ลูกกูออกโรงแล้ว กูก็สบายใจ"

   "ออกเรือนมั้ยล่ะ"ผมขำมันทีทำท่าทางเหมือนเป็นแม่ของผม ไหนจะกระแดะเสียงอ่อนเสียงหวานจนไอ้ฟอกซ์เขม่นไปที หวงอะไรเบอร์นั้น

   "ส่วนไอ้ระยำขุนพล กูจะช่วยมึงเอง อยากให้กูซัดมันมั้ย กูจัดให้ได้นะ"

   "ถ้าขุนพลปากไม่ดีอีก กูจะให้มึงซัดได้เต็มที่เลย แต่กูว่ามันมาดีนะ"

   "แต่มันก็ทำมึงเจ็บตั้งหลายครั้ง กูไม่ยกโทษให้มันหรอก"เห็นเก้งจริงจังกับการออกโรงปกป้องผมขนาดนี้แล้วน้ำตาก็พาลจะไหลมาซะดื้อๆ เดี๋ยวนี้อ่อนไหวจังวะ

   "กูรักมึงจังไอ้เก้ง"ว่าแล้วก็เข้าไปกอดมันเต็มรัก

   "คุณไวท์ คุณฤกษ์ดี ถ้าจะพลอดรักกันเชิญไปทำที่ส่วนตัวนะคะ กรุณาออกจากห้องค่ะ"อาจารย์แกเรียกผมกับเก้งด้วยนามสกุลแล้วผายมือไปทางประตู พวกผมก็ขัดอะไรไม่ได้น่ะสิครับ เดินหูตกเรียงแถวออกไปจากห้องท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆที่คงจะสงสัยกับนามสกุลผม

   เดินออกมาจากห้องไม่ถึงเสี้ยวนาที อาจารย์ก็เดินออกมาแล้วส่งสายตาพิฆาตผ่านเลนส์แว่นตาให้ คงจะเลิกคลาสแล้ว นี่ผมเม้าท์ลืมเวลาขนาดนี้เลยหรอ แล้วไอ้ฟอกซ์ก็เดินมาขนาบเก้ง

   "กลับไปมึงเจอดีแน่"ไอ้ฟอกซ์คาดโทษเพื่อนผม อยากจะห้ามไม่ให้มันทำอะไรเก้งเหมือนกันแต่มันเป็นเรื่องของคนสองคน โนจะไม่ยุ่ง นอกเสียจากไอ้เก้งจะมีรอยฟกช้ำจากการทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจผมถึงจะเข้าไปยุ่ง

   พวกเราเดินไปนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนใต้ร่มไม้ประจำ ผมมองนาฬิกาพอดีกับที่ใครบางคนมานั่งข้างๆ เกือบจะดีใจอยู่แล้วถ้าไม่เห็นปลายเสื้อช็อปวิศวะ ผมเขยิบตัวสร้างระยะห่างจากขุนพลพอสมควร

   "โน กูขอโทษ...กูผิดไปแล้ว กูรู้ว่ามันไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก มันอาจฟังดูเหมือนการแก้ตัว ตอนนั้นกูยอมรับว่าตกใจและโกรธที่มึงไม่ยอมบอกความจริงตั้งแต่แรกว่ามึงเป็นอะไร ความโกรธทำให้กูไม่ยอมฟังอะไรเลย กูมันเหี้ยเองที่ทำร้ายมึงทั้งๆที่มึงเป็นเพื่อนที่ดีกับกูมาตลอด ตอนนี้กูเข้าใจแล้ว กูทุกข์ใจเรื่องนี้มาตลอด ทุกข์ใจที่ทำเหี้ยๆกับมึง ให้อภัยกูได้มั้ย"แต่ละคำที่ออกมาจากปากขุนพลผมรับรู้ได้ว่ามาจากใจจริง และดวงตาที่สั่นระริกทอไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจนั่น

   "เราไม่เคยโกรธขุนพล เราเสียใจมากกว่าน่ะที่ขุนพลมองเราผิดแถมยัง..."พอนึกถึงตอนที่กระถางต้นไม้นั้นแตกกระจายอยู่บนพื้น น้ำตาก็พาลจะไหล ผมสูดลมหายใจเข้าแล้วเงยหน้านิดหนึ่งเพื่อกั้นของเหลวที่คลอหน่วยอยู่

   "โน..."

   "หุบปากไปเลยไอ้พล มึงรู้มั้ยว่าโนมันเจ็บปวดขนาดไหนที่โดนมึงย่ำยีหัวใจ โนมันรักมึงเหมือนพี่น้อง ตอนที่กูได้รู้จักโนและรู้ว่ามึงสำคัญกับโนยังไงกูอิจฉามึงมากที่ได้รับความรักจากโนแต่มึงกลับเหยียบความรักภักดีของโนจมพื้น ทำร้ายคนที่อยู่เคียงข้างมึงมาตลอดหลายปีเพราะมึง กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงเกลียดเพศที่สามเพราะอะไร แต่โนมันเป็นเพื่อนมึง สำหรับกูถึงโนจะเป็นยังไงมันก็เพื่อนกู เพื่อนคนสำคัญของกู เพื่อนที่ดีของกู ถ้ามึงทำร้ายโนกูจะต่อยมึงให้จมดินเหมือนที่มึงเหยียบหัวใจโน"

   "เก้ง"น้ำตาที่ผมอุส่าอัดอั้นไว้ไหลออกมาเพียงเพราะคำพูดของเก้ง สายตานั้นมองมาอย่างอ่อนโยนและสื่อถึงความรักที่มีแบบเพื่อนพี่น้อง มือมันกุมมือผมไว้เหมือนเป็นการบอกกลายๆว่ากูอยู่ตรงนี้มึงจะไม่เป็นอะไร

   "...มึงเป็นเพื่อนที่ดีมาก ขอบใจนะที่ดูแลโน กูอยากให้มึงรู้นะโนว่าถึงกูจะทำร้ายมึงยังไงแต่ในใจกูเจ็บกว่าร้อยเท่าพันเท่า กูไม่เคยมีความสุขเลย ชีวิตกูสับสนจนกระทั่งกูรู้ใจตัวเอง กูคิดได้...ที่กูเกลียดเพศที่สาม...เพราะเคยมีกระเทยมาแย่งพ่อไปจากแม่ ทำให้แม่ตรอมใจตาย..."

   ผมมองขุนพลอย่างตกใจทั้งน้ำตา ผมไม่เคยรู้เลยว่าจะเกิดอะไรแบบนั้นขึ้นกับขุนพล มันไม่เคยบอกผมเลย รู้แค่ว่าพ่อกับแม่มันตายแล้ว

   "...แต่กูลืมนึกไปว่าเพศที่สามทุกคนไม่ได้เป็นแบบนั้น ตอนที่กูลำบากเรื่องเงินกูก็ได้เจ้าของบาร์ที่เป็นกระเทยให้ยืมเงิน และ...กูชอบผู้ชาย...กรรมคงตามสนองกูแล้วล่ะ"ขุนพลเอ่ยออกมายิ้มๆด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยเหมือนกับว่าเคยเจอเรื่องอะไรที่หนักหนาสาหัสมาก่อน

   "จะบอกอะไรให้นะ ที่จริงโนไม่ได้เป็นกระเทย แต่แม่มันอยากได้ลูกผู้หญิงต่างหากมันเลยยอมแต่งหญิงไปเป็นดาราให้"

   "ไอ้เก้ง"น้ำตาที่ไหลอยู่หยุดลงดื้อๆเพราะเพื่อนผมดันปากสว่างบอกความลับกับเพื่อนเก่าผมไปง่ายๆ ไอ้เวร กูหายซึ้งเลย

   "เรื่องนั้นไม่สำคัญแล้วล่ะ โนจะเป็นยังไงก็ยังเป็นเพื่อนกู เพื่อนคนสำคัญ"

   "อะไรมึง โนเพื่อนกูหรอก"ผมมองไอ้เก้งที่ทำท่าจะไปหาเรื่องขุนพลแต่ไอ้ฟอกซ์ดึงคอเสื้อไว้ซะก่อน

   "กูให้อภัย"ผมพูดออกมาเปรยๆให้คนข้างๆได้ยิน ไม่รู้สิ พออะไรมันกระจ่างขึ้นความกลัวที่อยู่ในใจผมมาตลอดก็หายไป คงเพราะอดีตอันเลวร้ายของขุนพล คงเพราะความรักเพื่อนของเก้ง และผมสามารถก้าวผ่านความกลัวมาได้ ผมรู้สึกเหมือนถูกปลดแอกออกจากพันธนาการ

   "จริงหรอโน ขอบคุณมากนะ ขอบคุณ"ขุนพลจับมือผมกอบกุมไว้แน่น ผมยิ้มให้มันมันก็ยิ้มให้ผม

   ผลัวะ

   จู่ๆหมัดที่ไหนก็ไม่รู้พุ่งเข้ามาเสยหน้าขุนพลจนหงายหลังเงิบตกเก้าอี้

   "กูไม่อยู่แค่แป๊ปเดียวมึงก็มีชู้แล้วหรอวะห้ะ ไอ้โน"

   "ไอ้ริว! นั่นมันรุ่นพี่มึงนะ ชู้เหี้ยอะไรล่ะ นั่นมันเพื่อนกู ไอ้เด็กเวร ขอโทษขุนพลเดี๋ยวนี้!"ผมลุกขึ้นชี้หน้าด่ามันอย่างเคืองๆ แม่งปีนเกลียวรุ่นพี่

   "ก็มันจับมือมึงแถมยังส่งสายตาหวานเยิ้ม กูหึงนะเว้ย"

   ...หึง? ไม่ทีทาง ผมว่ามันแค่หวงมากกว่า

   "กูบอกให้ขอโทษ ไม่งั้นไม่ต้องมาคุยกันอีก"ผมกอดอกแล้วตีหน้ายักษ์ใส่บ่งบอกว่สเอาจริง

   "แต่...ก็ได้"เมื่อผมทำท่าจะเดินออกไปไม่พูดไม่คุยไม่มองหน้า ริวก็ลดตัวลงแล้วช่วยขุนพลพยุงตัวขึ้นมาอย่างนอบน้อมแถมปัดฝุ่นออกจากเสื้อให้ด้วย จะขำก็ไม่ได้ต้องเก๊กนิ่งไว้ อย่างกับลูกหมาโดนเจ้าของดุ"ขอโทษนะครับรุ่นพี่"

   "คุณต่อยหน้าผมที่เป็นถึงเฮดว้ากวิศวะ คุณรู้ใช่มั้ยว่าถ้าเรื่องนี้ถึงหูรุ่นพี่คณะนิเทศน์จะเกิดอะไรขึ้น"โหว นี่ขุนพลเป็นถึงเฮดว้ากทำไมไม่รู้เรื่องรู้ราวมาก่อนเลย คงจะเป็นเฮดที่ดุน่าดูแต่นิสัยที่อ่อนโยนของมันนี่ไม่เข้ากับอะไรแบบนี้เลยจริงๆนะ ผมว่ามันคงอึดอัดน่าดู

   "ผมรู้ครับ"น่าสงสารเจ้าลูกหมาแต่ เอาเลยขุนพล ยำมันเลย ฮ่าๆ

   "ตามมานี่"ขุนพลเดินนำให้ริวตามไปคุยที่ต้นไม้อีกต้นไม่ใกล้ไม่ไกล ไม่รู้คุยอะไรกันทั้งสองคนถึงทำหน้าเจ้าเล่ห์แบบนั้น คุยเสร็จทั้งสองก็เดินกลับมาที่โต๊ะ

   "กูไปแล้วนะโน..."ขุนพลเหล่ตามองเก้งกับฟอกซ์แล้วหยุดคำพูดไว้แค่นั้นเหมือนจะถามชื่อกลายๆ

   "ฟอกซ์"

   "..."อีกคนไม่ยอมแนะนำตัวเอง เงียบอย่างเดียวแถมทำหน้าบึ้งใส่อีกต่างหาก

   "ไอ้นี่ชื่อเก้งน่ะ"ผมเลยแนะนำให้เอง

   "จะไปบอกมันทำไม"บางทีไอ้เก้งก็ทำนิสัยเหมือนผู้หญิงเลยแหะ คิดเล็กคิดน้อยสมฉายา เก้ง กวาง บ่าง ชะนี

   "แล้วเจอกันนะเพื่อนๆ"ขุนพลพยักหน้าให้ยิ้มๆแต่คำข้างหลังนี่

   "ใครเพื่อนๆมึง ไอ้เวร"เพื่อนผมก็ยังไม่ละความพยายามในการขับไสไล่ส่งขุนพล ดูท่าจะโกรธแค้นแทนผมจริงจัง

   เพื่อนเก่าผมยักไหล่อย่างไม่หยี่ระก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปจนลับสายตา

   "เมื่อกี้คุยอะไรกัน"

   "ไอ้เหี้ยนี่ที่มันจะข่มขืนสโนว์ มาอยู่นี่ได้ไง"ริวไม่ตอบคำถามผมแต่เป็นคนถามแทนพลางชี้ไปที่ฟอกซ์อย่างเสียมารยาท

   "นี่ก็รุ่นพี่มึง อย่าเสียมารยาท"ดุพร้อมกับโบกหัวมันไปทีหนึ่ง เห้อ ปวดหัวๆ ความควายยังไม่หายความวัวมาอีกล่ะ

   "มันจะข่มขืนพี่สาวมึงนะ"

   "ไอ้โง่"ฟอกซ์พึมพำเบาๆแต่ผมได้ยินเต็มสองรูหูและเห็นด้วยกับมัน

   "เอาเป็นว่ามันเป็นเพื่อนกู แล้วเมียมันก็นั่งอยู่นี่ เครป่ะ อย่าถามอย่าสร้างเรื่อง กูปวดหัว"

   "โอเครๆ งั้นก็กลับกัน"

   "กูกลับก่อนนะ ไมเกรนจะแดก บาย"ถอนหายใจแล้วมองบนเบาๆ โบกมือลาเพื่อนๆเสร็จไอ้ริวก็เกาะคอลากไปที่รถ และเมื่อเครียดก็ต้อง...

   ฟืดดดด

   สูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อดมเอากลิ่นตัวของริวเข้ามาให้ชุ่มปอด

   ฟืดดดดด

   อาห์~ ชื่นจิตชื่นใจจนริวมองผมด้วยสายตาแปลกๆ และ...

   "โรคจิต"คำด่าออกมาจากปากมันดั่งใจคิด

 







☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

Nekozaa  :

     ตอนนี้จะเป็นศูนย์รวมของความรักระหว่างเพื่อนและคนรักนะคะ คนเขียนชอบความรักระหว่างเพื่อนจัง มันยิ่งใหญ่ดีนะคะ  :hao5:
      ยังมีคนอ่านตามเรื่องนี้อยู่ ดีใจมากค่า เรื่องมันเอื่อยอาจจะน่าเบื่อ แต่อยากให้อยู่กับน้องสโนว์น้องริวไปนานๆค่ะ ไม่อยากให้รีบจบ  :katai4:
       เจอปืนค่ะ~  :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๙ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก✖[6/11/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-11-2016 13:55:50
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๙ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก✖[6/11/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 06-11-2016 14:10:49
ถ้าริวรู้ความจริงแล้วจะว่ายังไงหนอ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๙ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก✖[6/11/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-11-2016 14:56:15
เราเชื่อในเคมีของคนสองคนค่ะ
ตาเห็นกายสัมผัสก็แค่ส่วนหนึ่งนะ
เชื่อว่าริวรักที่โนตัวจริงที่เป็นผู้ชายค่ะ รอวันแต่งงานจริงๆ
มิตรภาพมันดีเนอะ  :katai2-1: 
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๙ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก✖[6/11/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 07-11-2016 09:46:19
โอ้ยอิริว
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๙ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก✖[6/11/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 07-11-2016 11:19:52
อิริว นี่นายแกล้งโง่หรือโง่จริงๆ เนี่ย ถึงไม่รู้ว่าโนกับสโนว์คือคนๆ เดียวกันเนี่ยน่ะห่ะ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๙ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก✖[6/11/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 07-11-2016 12:42:15
นับวัาๆก็ยิ่งรักโนมากขึ้นเรื่อยๆใช่ไหมริว อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองโค้นนนนนน น น น น น น~~~
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๙ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก✖[6/11/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 07-11-2016 14:39:02
ริวยังไม่รู้จริงๆหรอ เมื่อไหร่จะรู้สักที  :katai1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๙ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก✖[6/11/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 07-11-2016 17:47:16
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๙ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก✖[6/11/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 07-11-2016 21:04:58
ขุนพลกับริวเขาคุยไรกัน โนนิสัยน่ารัก ฟอกซ์คงหึงเก้งน่าดู
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๙ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก✖[6/11/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 07-11-2016 23:35:37
555 ขำตอนท้ายที่สูดกลิ่นฟืดๆ จนริวด่าว่าโรคจิตเนี่ยแหละ ตัลล๊ากกกก  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๙ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก✖[6/11/2016] อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 08-11-2016 00:39:20
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๐ ทริปเที่ยวทริปฟิน✖[12/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 12-11-2016 14:33:00
บทที่๑๐

ทริปเที่ยวทริปฟิน

   






   "ไปเที่ยวกัน"นี่คือคำพูดหลังจากที่ริวมาส่งผมที่คอนโด ผมเลยตอบตกลงไปง่ายๆด้วยความที่อยากไปเปิดหูเปิดตาอยู่แล้ว โดยมีข้อแม้ว่าต้องพาเก้งกับฟอกซ์ไปด้วย แน่นอนว่าริวโอเคแม้จะทำท่าอิดๆออดๆ

   ผมโทรไปชวนเก้งและให้เก้งชวนฟอกซ์ที่อยู่ข้างๆมัน เอ๊ะ หรืออยู่ข้างบน ทำไมถึงรู้น่ะหรอ เพราะเสียงหายใจแปลกๆกับเสียงเอี๊ยดอ๊าดเบาๆไงล่ะ แบบนี้คงไม่เรียกว่าเล่นเป้ายิงฉุบกันหรอกนะ เล่นแบบอื่นกันมากกว่า หึหึ

   หลังจากได้คำตอบว่าไปด้วยเสียงสั่นๆของเก้งผมก็ต้องวางหูแล้วเข้าห้องน้ำไปอย่างเงียบๆ ไม่ต้องอธิบายอะไรต่อผมก็ชักธงเพราะกิจกรรมเข้าจังหวะของสองเพื่อน

   ทริปเที่ยวเราจะไปหัวหินกัน เวลานัดคือพรุ่งนี้เนื่องด้วยเป็นวันหยุดราชการพอดีกับวันมะรืนเป็นวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เดินทางประมาณ 6 โมงเช้า ค้างที่นั่น 3 วัน 2 คืน

   พูดถึงหัวหินถิ่นมีหอยแล้วก็คิดถึง ผมเป็นเด็กหัวหินครับ เกิดและโตที่นั่น ผมกับริวก็เรียนด้วยกันอยู่ที่หัวหินนั่นแหละครับ พอขึ้นมหา'ลัยผมกับแม่ก็ย้ายมามากรุงเทพฯถาวร ผมมีสองบ้านครับ มีที่หัวหินกับกรุงเทพฯเนื่องจากเมื่อก่อนแม่เป็นดาราดังเลยต้องเข้ากรุงบ่อยๆ ถามว่าทำไมแม่ถึงไม่อยู่กรุงเทพฯซะเลยเพราะแม่ชอบหัวหินแถมยังพบรักกับแด๊ดที่นั่นอีก อันนั้นก็ส่วนหนึ่ง เหตุผลต่อมาคือของผมเองก็เหมือนแม่เป๊ะๆที่เป็นดาราดังไม่อยากห่างถิ่น เรียกได้ว่าลูกไม่หล่นไม่ไกลต้น

   พอขึ้นมหา'ลัยผมจำเป็นต้องมาอยู่กรุงเทพฯถาวรเนื่องด้วยงานการที่มากล้นและหนีใครบางคน ใช่ ไอ้ขุนพลนั่นแหละ

   กลับไปหัวหินคราวนี้คงต้องแวะไปเยี่ยมคุณครูที่นั่นบ้างละ นึกแล้วก็อดที่จะคิดถึงปนตื่นเต้นไม่ได้ 2 ปีที่ไม่ได้กลับหัวหินเลยจะเป็นยังไงบ้างนะ อะไรจะเปลี่ยนไปบ้าง อยากจะพาขุนพลไปย้อนวัยด้วยกันแต่พอหัวดันนึกถึงภาพวันวานอันขมขื่นผมก็ปฏิเสธสิ่งที่ใจอยาก ยอมรับว่ายังกลัวๆกับเหตุการณ์ตอนนั้น

   เมื่อคิดไปคิดมานอกจากจะทำให้ตัวเองเครียดไม่พอแล้วยังทำให้ปวดหัวตุบๆอีก ผมจึงพยายามนึกถึงเรื่องอื่นแทนเพื่อให้ตัวเองข่มตานอนหลับ

   แกะตัวที่ 1 2 3 4 5... Zz z

   ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ

   เสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างน่ารำคาญ ผมจึงควานหาด้วยความสะลึมสะลือแล้วกดปิดให้มันหยุดแผดเสียง เกือบจะหลับต่ออยู่แล้วถ้าไม่คิดขึ้นมาได้ก่อนว่าวันนี้วันอะไรจึงกระเด้งตัวลุกออกจากเตียงไปอาบน้ำด้วยความกระตือรือร้น

   อาบเสร็จผมก็ใส่ชุดทันทีแล้วมองตัวเองในกระจกเป็นรอบที่ร้อย ชุดที่ไม่ได้ใส่มานาน จะใส่ได้ไงล่ะ ก็เพราะ...

   กริ๊งงงง

   ไม่ต้องบอกก็รุ้ว่าไผเป็นไผ ผมหยิบกระเป๋าเป้ใบขนาดพอดีกับการไปค้างหัวหิน 3 วัน 2 คืนมาสะพายหลังแล้วตรงไปเปิดประตูด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

   "เห้ย นี่มึงใส่ชุดอะไร"

   "ตาบอดหรอ ก็ชุดนักเรียนไง"ผมมุ่ยหน้าตอบ ยิ่งสีหน้าเหมือนเห็นของแปลกนั่นแล้วยิ่งทำให้ผมหน้าบึ้งจัด โนผู้อยู่ในชุดนักเรียนชายกางเกงน้ำเงินออกจะหล่อดูดีมีสไตล์ ว่าแล้วก็เสยผมที่ปรกหน้าคร่าตาขึ้น

   "ชุดนักเรียนชายก็ดีแต่ถ้าเป็นชุดนักเรียนหญิงคงดีกว่านี้"คนตรงหน้าผมพูดเพ้อๆ มุมปากก็ยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างกับว่าในหัวคิดอะไรแปลกๆอยู่

   "จะไปมั้ยหัวหิน ไม่ไปกูกลับ"

   "กลับไปไหนของมึง"

   "เออ นั่นแหละ"เกาหัวตัวเองด้วยความมึนแล้วผลักไหล่ริวให้หลีกทาง มันมองผมประมาณว่าหาเรื่องหรอผมเลยยักคิ้วกวนๆไป

   เราสองคนเดินลงมาจากคอนโด คงจะไปด้วยรถตู้ ผมก็ไม่ว่าอะไรแต่ระหว่างทางจากชั้นบนลงมาชั้นล่างนี่ไอ้ริวก็อาสาจะถือกระเป๋าเป้ให้ ผมไม่ให้เราเลยฉุดกระชากลากกระเป๋ากันตลอดทางจนผู้คนที่พบเห็นต่างก็อมยิ้มขำ แทนที่จะเห็นประมาณว่าโจรจะขโมยของดันเห็นว่าเรามุ้งมิ้งง้องแง้งกันอีก โถ่ถังกะละมังแตก

   "บอกแล้วไงว่าจะถือให้ เอามา"ยื้อกันไป

   "ไม่ต้อง กูเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง ถือเองได้"ยื้อกันมา

   "ก็บอกให้เอามา มันหนัก"แล้วก็ยื้อกันไป

   "แค่นี้เอง อย่าเวอร์ไอ้สัด"แล้วก็ยื้อกันมา

   ปิ๊นๆ

   ขณะที่ยังฉุดกระเป๋ากันไม่เลิกเสียงบีบแตรก็ดังขึ้น ผมเลยปล่อยกระเป๋าที่ค่อนข้างหนักลงพื้นด้วยความตกใจ

   "โอ๊ย!"สงสัยไม่ได้ตกที่พื้นแต่คงเป็นเท้าไอ้ริวมากกว่า ผมเลยเบะปากสมน้ำหน้ามันไปอยากถือดีนัก เอาไปเลย

   "ขึ้นรถๆ"เสียงที่คุ้นเคยตะโกนขึ้นมา ผมหันไปให้ความสนใจด้วยรอยยิ้มแต่พอเห็นว่าเป็นใครห็หุบลง

   หัวใจผมเต้นตึกตักอย่างรุนแรงจนกลัวว่ามันจะเด้งออกมา ตัวผมสั่นหงึกๆอย่างกับคนเป็นโรคสันนิบาต

   "โน เป็นอะไร"ริวจับแขนผมด้วยคามเป็นห่วง ผมไม่สนใจเดินไปที่รถที่ขุนพลเพื่อนเก่านั่งอยู่โดยมีใครอีกคนนั่งอยู่ข้างคนขับอย่างขุนพล

   "โน กูขอโทษ ที่จริงกูวางแผนจะพามึงไปหัวหิน กูกลัวมึงไม่ไปเลยขอให้ไอ้ริวช่วย กูทำมึงเสียใจอีกแล้วใช่มั้ย กู..."

   "อู๊ยยยยยว สวย สวยมาก อยากด้ายยยย"ผมกรี๊ดลั่นชมสิ่งนั้นไม่หยุดปากพลางลูบไล้ไปด้วย

   "..."

   รถตู้โฟล์คโบราณสีน้ำเงินอ่อน ข้างบนรถมีเหล็กยื่นออกมาเล็กน้อยสำหรับเก็บของ เป็นรถที่ถูกออกแบบมาเพื่อตะลอนไปเที่ยวโดยเฉพาะ ผมรู้สึกหลงรักความวินเทจแบบเก่าๆของมันทันทีทันใด จะว่าผมบ้านนอกก็ได้แต่ผมไม่เคยเห็นรถโฟล์คกับตาตัวเองมาก่อน เคยเห็นแต่ในเน็ตผ่านๆตา บอกได้เลยว่าโนชอบ โนจะเอา ผมค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปใกล้รถหมายจะจูบอย่างดูดดื่มให้สมกับความรักที่ผมให้ไป

   "หยุดเลยมึง รถกู"ขุนพลถึงกับรีบลงจากรถมาจิกหัวผมให้ออกห่างจากรถของผม?

   "ขอรถมึงได้มั้ย อยากได้"บอกตรงๆแบบไม่อ้อมค้อม

   "ไม่"คำเดียวสั้นๆได้ใจความ ผมมองโฟล์คด้วยสายตาละห้อย

   "พี่ๆขึ้นรถกันเถอะครับ ยืนนานๆเดี๋ยวเมื่อยเอานะครับ"ผู้ชายหน้าตาจัดว่าดูดีคนหนึ่งยื่นหน้ามาบอกกับพวกเราด้วยหน้าตาบึ้งตึงสวยทางกับคำพูดหวานจ๋อย

   "ครับๆ ที่รัก"ขุนพลหันไปพูดยิ้มอ้อนๆประจบผู้ชายคนนั้น คงจะเป็นแฟนของมัน ดูท่าจะเลิกอคติกับเพศที่สามแล้วจริงๆ ผมคงไม่ต้องกังวลอะไรแล้วมั้ง

   "ที่รักอะไรกันครับ ผมเขินนะ"น้องพูดจาเขอะเขินแต่ท่าทางนี่อยากจะเข้าไปฆ่าไอ้ขุนพลซะมากกว่า ผมว่าน้องเขาคงเป็นคน 2 บุคลิกนะครับ คำพูดสวนทางกับการกระทำมาก

   ริววิ่งเหยาะๆเอากระเป๋าไปเก็บท้ายรถของผม?(ลืมเพื่อนยากที่จอดแน่นิ่งอยู่บนคอนโดเสียสนิทใจ) ผมเข้าไปนั่ง พอก้นสัมผัสเบาะเท่านั้นความฟินก็บังเกิด

   "เวอร์อะไรเบอร์นั้น"ขุนพลขัดอารมณ์ฟินของผมทันที

   "เสือกป่ะ เดี๋ยวไม่ไปด้วยชิบ"พูดไปงั้นแหละถึงไล่ก็ไม่ลงไปจากรถคันงามหรอก

   "เออๆ กูขอโทษ"ผมยักไหล่ไม่ถือสาแล้วริวก็เข้ามานั่งเบียดกับผมในรถ เบียดชนิดที่ว่าผมจะนั่งตักมันอยู่แล้ว

   "จะเบียดกูทำเหียกอะไร ที่นั่งมีเยอะแยะ"

   "ก็อยากนั่งใกล้ๆ ผิดด้วยหรอ"มันพูดหวานๆพร้อมทำหน้าตาอ้อนส้งติง ผมเลยยกติงไปพาดขามันทั้งสองข้างซะเลย

   "นวดดิ๊ เมื่อย"ไม่พูดเปล่าผมยังยกปลายเท้าขึ้นจนจะทิ่มหน้าไอ้ริวอยู่แล้ว อยากใกล้ชิดนักไอ้โนคนนี้ก็จัดให้ได้

   "เอาลงไปเลยมึง ไม่เอาลงกูเลีย"ริวทำท่าแลบลิ้นหมายจะเลียจริงๆผมก็รีบชักขาลงไปนั่งตัวตรงทันที ไม่ได้กลัวแค่อยากนั่งดีๆขึ้นมา

   "เออ กูว่าจะถามตั้งแต่เห็ยมึงละไอ้โน มึงใว่ชุดนักเรียนทำหมาแมวอะไร"ขุนพลที่ตั้งใจขับรถไปตามเส้นทางที่ผมบอกให้ไปรับเพื่อนๆถามขึ้น

   "อยากย้อนวัยเฉ๊ยเฉย"

   "น่ารักดีนะครับ"คนข้างๆขุนพลชมผมแต่ทำไมมองผมด้วยสายตาระอาใจวะ อ่อ ลืมไป เด็กนี่มันเป็นคน 2 บุคลิก แอ๊ะ หรือว่ามันเป็นคนตอแหล ฮ่าๆ

   "ทั้งเกรียนทั้งบ้าขึ้นเยอะนะมึง"เพื่อนเก่าชมผมบ้าง ถือว่าเป็นคำชมที่ผมชอบมากกก"อ่อ นี่แฟนกูเอง ชื่อเป็นห่วงอยู่มหาลัยเดียวกับพวกเรา ปีหนึ่งคณะเดียวกับกู"

   "ชื่อแปลกว่ะ"

   "ชื่อพี่น่ารักดีนะครับ มาจากคำว่าสโนว์รึเปล่าเอ่ย พี่ขาวเหมือนเจ้าหญิงสโนว์ไวท์เลย"น้องเป็นห่วงกัดฟันพูด เอ่อ ผมจะไม่ถือสาทุกการกระทำยองน้องล่ะกันนะครับ ขุนพลมันคบไปได้ไงวะ

   "สโนว์"ผมสะดุ้งเมื่อคนข้างๆเปรยขึ้นลอยๆ ไอ้หยา ความลับจะแตกตอนนี้ไม่ได้นะ

   "อ่อ พี่ชื่อโนแต่สโนว์นั่นน่ะพี่สาวพี่เอง ฮ่าๆ"แถแล้วก็หัวเราะดังๆกลบเกลื่อน ขุนพลที่รู้เรื่องราวของผมแล้วก็นั่งขับรถไปเงียบๆไม่ได้ย้อนแย้งอะไร

   ริวเงียบไปเลยหลังจากที่น้องเป็นห่วงพูดชื่อสโนว์ออกมา

   "นี่ อยู่กับกูห้ามคิดถึงคนอื่น เดี๋ยวหมดวนุกกันพอดี เข้าใจ๊"ผมใช้สองมือประกบหน้าริวบังคับให้หันมาสบตากับผม เมื่อเห็นวันมันยังเงียบผมเลยเล่นหน้ามันให้ยับยู่ยี่

   "อ่อย โอ อูออมแอ้ว(ปล่อย โน กูยอมแล้ว)"ผมยอมปล่อยมือออกจากหน้าริวแต่มันดันจับมือผมไปกุมไว้กับอกจนได้รู้สึกได้ถึงก้อนเนื้อที่เต้นตุบๆในกายริว

   "กูจะคิดถึงแต่มึง"สายตาที่แน่วแน่กอปรความหล่อ แมน แฮนซั่มของมันทำเอาผมต้องเสตาหลบด้วยความเขินอาย

   "อ่ะแฮ่ม รถพี่พลสนิมขึ้นหมดแล้ว หวานเกรงใจคู่เป็นห่วงบ้างสิครับ"น้องแกก็ยังทำท่าสวนทางกับคำพูดเหมือนเดิมก่อนจะหันไปถอนหายใจแรงๆด้วยความหงุดหงิด สงสัยเมนส์ไม่มา

   "เดี๋ยวคืนนี้พี่จัดหวานให้เป็นห่วงชุดใหญ่เลย น่ารักจริงๆแฟนพี่"ขุนพลเอื้อมมือไปหยิกแก้มน้องเป็นห่วงอย่างหมั่นเขี้ยวแต่น้องแกกลับชักสีหน้าใส่
   
   เห็นคู่นี้แล้วขัดแย้งแปลกๆ เอาเถอะ ไม่ใช่เรื่องของผมสักหน่อย

   สถานีปลายทางที่เรามาจอดคือหน้าบ้านของฟอกซ์ บ้านเดิมกับที่ผมถูกลากมาข่มขืนแต่ไม่สำเร็จนั่นแหละ เห็นเก้งกับริวเดินมาแต่ไกลและเพ่งสายตามองมาที่รถของผม?(อีกละ)ด้วยความแปลกใจ เมื่อเดินเข้าใกล้มาเรื่อยๆผมจึงยื่นหน้าออกจากกน้าต่างรถไปเรียกพวกมัน

   "ไอ้เก้งเมียไอ้ฟอกซ์ ทางนี้เว้ย"ผมตะโกนดังๆแกล้งพวกมันแต่ดูเหมือนการแกล้งของผมจะทำให้ไอ้เก้งขมุบขมิบปากด่าผมส่วนไอ้ฟอกซ์ยิ้มอย่างถูกอกถูกใจ

   "เห้ย ไอ้ขุนพลมาได้ไง มึงลักพาตัวเพื่อนกูหรอ ไอ้เลว"เก้งชี้หน้าด่าขุนพล

   "เพ้อเจ้อนะมึง มาๆขึ้นรถ กูชวนมันไปด้วยเองแหละ"ที่จริงมันวางแผนชวนผมมาแต่จะให้เล่าก็ขี้เกียจสาวความยาวต่อความยืด

   "ถ้ามันไปด้วยกูไม่ไป"เพื่อนผมยื่นคำขาด"เปลี่ยนใจละ กูไปด้วย"

   "แหม กำลังจะบอกว่าแล้วแต่เลย"ผมแซวไปที ก็เก้งไม่ยอมให้ผมโดนขุนพลทำร้ายอีก ผมรู้ว่ามันจะต้องตามไปปกป้องผม

   ขอยืมคำคมพี่คมแฝกมาใช้ในสถาณการณ์นี้ก่อนนะครับ บอกได้เลยว่าควาย 4 ตัวกับเบาะหลังรถคันนิดเดียว อัดกับจนจะเป็นปลากระป๋องอยู่แล้ว ทำยังไงก็นั่งไม่ครบว่ะครับ ข้างหลังก็เต็มไปด้วยสัมภาระ

   "เอาอย่างนี้ดีกว่า โนจะนั่งตักผมเอง"ริวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่ไหงยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์แบบนั้น หวังดีประสงค์ร้ายนี่หว่า

   "เออ ยังไงที่ก็ไม่พออีกอยู่ดี งั้นมึงก็นั่งตักกูเหมือนไอ้โนแล้วกัน"

   "แต่..."พวกเรา(ฝ่ายรับ)ทำท่าจะปฏิเสธ

   "ยิ่งพวกมึงตัดสินช้า ก็จะถึงหัวหินช้าเท่านั้น"

   "ไอ้เก้ง มึงอย่าเรื่องมาก นั่งตักมันไปไม่เสียหายหรอก ผู้ชายด้วยกันทั้งนั้น"ด้วยความที่อยากไปถึงบ้านเกิดเร็วๆผมเลยหันไปโทษไอ้เก้งจนมันหวอกับความง่ายของผม"มึงรีบขึ้นไปนั่งดิวะไอ้ริว"แล้วก็หันไปสั่งคนที่ยืนอมยิ้มอมลมอยู่

   จัดที่นั่งกันได้เรียบร้อยรถโฟล์คคันงามก็เคลื่อนตัวออกไป

   ขอเล่าถึงสภาพของพวกเราสี่หน่อหน่อยนะครับ ริวนั่งก้นติดเบาะในขณะที่ผมนั่งคร่อมหน้าตักหันหน้าเข้าหามันแล้วก้มหน้าซบไหล่มันด้วยความเขินแทบพุ่ง จะนั่งตักดีๆอยู่หรอกแต่เพดานรถมันเตี้ยไปหน่อย ผมเลยนั่งตักแบบดีๆไม่ได้ๆเลยต้องนั่งตักสองแง่สองง่ามแบบนี้พอๆกับเก้ง อย่างกับโรงแรมม่านรูดในรถ

   คนที่ผมนั่งคร่อมอยู่ก็หายใจฟืดฟาดอย่างกับช้างตกมัน ของแข็งบางอย่างดุนดันผ่านเนื้อกางเกงจนเห็นเป็นรูปร่าง

   "อ๊ะ"ผมสะดุ้งตกใจเมื่อลิ้นร้อนๆขบเบาๆที่ติ่งหู ผมหยิกแขนมันแรงๆแก้แค้นและเตือนสติ ไม่ใช่อะไรหรอก ผมก็ชักจะกรึ่มๆขึ้นมาเหมือนกัน

   "ทนอีกนิดนะพวกมึง ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวกูจอดที่ม่านรูดให้ ฮ่าๆ"ไอ้ขุนพลล้อเลียนพวกผมแล้วก็หัวเราะร่า

   "ถ้ามึงยังล้อกูอีกกูจะจับแฟนมึงปล้ำ"ไอ้เก้งพูดออกมาอย่างเดือดดาลแต่คงไปสะกิดต่อมหึงของไอ้ฟอกซ์เข้า

   ฟอกซ์เอื้อมมือไปขยำขยี้ก้นไอ้เก้งแรงๆแล้วตบดังป๊าบ จากนั้นทั้งสองก็งุ้งงิ้งกัน ผมก็ไม่ได้มองพวกมันอีกแต่หันไปสนใจวิวข้างนอกแทน จะเรียกว่าวิวได้มั้ยนะเพราะข้างหน้าสายตาผมคือรถคันหนึ่งที่เปิดกระจกรับควันกรุงเทพฯ มากันเป็นครอบครัวด้วยสิ ด้วยความที่รถโฟล์คหน้าจะเป็นแบบกระจกใสทำให้เด็กๆที่หันมามองนั้นเห็นพวกเราได้เต็มตา เด็กชายที่น่าจะอยู่ชั้นมัธยมตาโตหน้าแดงทันทีผมเลยทำปากขมุบขมิบทักทายว่า

   'สวัสดี'

   แล้วรถก็ออกตัวไป ผมจึงขำเบาๆด้วยความฮาและความกวนตีนของตัวเอง

   "กวนตีนจนกูหมดอารมณ์กับมึงเลย"

   "เดี๋ยวกูปลุกให้ใหม่มั้ยล่ะ"ผมยักคิ้วท้าทาย

   "มึงพูดเองนะ"ผมตกใจรีบดันหน้ามันไว้ก่อนที่จะโดนจูบ ลืมไปว่าอย่าท้าทายคนอย่างมัน

   "กูง่วง ขอนอนหน่อยละกัน ปลุกด้วย"ลิ้นผมพันกันรัวด้วยความรีบก่อนที่ผมจะซุกหน้าซบไหล่มันและสูดดมกลิ่นตัวของริวด้วยความเคยชิน

   "ไอ้โน กูว่าจะถามมึงมานานละ ใส่ชุดนักเรียนทำเตี่ยอะไร คอสเพลย์หรอมึง"เก้งที่กลับมาจากโลกสีม่วงชมพูของมันถามคำถามเดียวกับขุนพล สมแล้วที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนผม

   "ถามขุนพลสิ กูงีบแป๊ปนะ"ผมตอบเสียงอู้อี้อยู่ที่ซอกคอริวเพราะกลิ่นหอมสดชื่นของริวทำให้ผมเคลิ้มจะหลับ ยิ่งอ้อมแขนอุ่นๆกระชับกอดผมไว้เพราะกลัวหงายหลังยิ่งทำให้ผมเคลิ้ม

   ผมหลับตาพริ้มกำลังเข้าสู่ห้วงนิทราก่อนหลับรู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆแตะที่ขมับเบาๆอย่างนุ่มนวล ชอบจัง อยากได้แบบนี้ทุกคืนก่อนนอนเลยจะได้มั้ยนะ แล้วผมก็หลับไปทั้งๆที่ยิ้มอยู่แบบนั้น

   .........

   "สวัสดีหัวหิน โนกลับมาแล้ววว"หลังจากรถโฟล์คที่รักเคลื่อนตัวเข้ามาในตัวเมืองหัวหินผมก็ยื่นหน้าออกไปรับลมนิดหน่อยแล้วตะโกนลั่น

   "พูดอย่างกับไม่เคยมาไปได้"คนใต้อาญัติผมแขวะเบาๆแต่ผมได้ยินไง ผมว่านะขาริวคงชาหนึบจนไม่รู้สึกอะไรแล้วล่ะมั้ง อยู่ในท่านี้มาตั้งแต่ออกจากกรุงเทพฯ ถึงแม้ว่าจะแวะปั๊มบ้างก็เถอะ

   "เคยมาสิแต่ตอนนั้นมาทำงานไง เลยไม่มีเวลาได้คิดถึงที่นี่เท่าไร"

   "ทำงานอะไร?"คำถามของริวทำให้ผมเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรออกไป
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๐ ทริปเที่ยวทริปฟิน✖[12/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 12-11-2016 14:43:27
ดีที่ไม่ได้บอกไปด้วยว่าใครบางคนก็ขอแต่งงานที่นี่ไม่ใช่หรอ

   "คิดถึงโรงเรียนเนอะ ขุนพล...เดี๋ยวไปหาครูที่นั่นหน่อยมั้ย"ไม่ตอบความสงสัยของริวผมเปลี่ยนเรื่องด้วยการหันหน้าไปคุยกับขุนพลแทน

   "คิดงั้นอยู่พอดี...เดี๋ยวเอาของไปเก็บที่รีสอร์ทแล้วไปห้างกันจากนั้นแวะไปที่โรงเรียนเก่าของเรากันเนอะ โน"ขุนพลหันมายิ้มให้ผมแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปขับรถต่อ

   "พี่พลนอกใจผมซะแล้ว"เด็กข้างๆคนขับแสยะยิ้มอย่างน่ากลัวแต่คำพูดที่สื่อออกมาดูจะล้อเล่นล้อเลียนเสียมากกว่า

   "พี่รักใจคนเดียวนะ ถ้างอนเดี๋ยวคืนนี้พี่ง้อขอคืนดีนะครับ ตกลงมั้ย"

   "ได้ครับ"สีหน้าของเป็นใจหวอขึ้นมาเมื่อตัวเองตกลงที่จะให้ความร่วมมือสำหรับคืนนี้ หนังสดก็มาเว้ยเห้ย

   "มึงแน่ใจหรอว่าจะไม่ถูกหลอกอีก"เพื่อนรักผมถามด้วยความเป็นห่วงพร้อมส่งสายตาไม่เชื่อใจให้ขุนพล

   "ไม่ดีหรอ ถ้ามันหลอกกูมึงจะได้กระทืบมันได้เต็มที่ไง"

   "เดี๋ยวกูช่วยยำด้วยอีกคน"เก้งสำทับ

   "โห กูไม่กล้าหลอกมึงแล้วล่ะ ยังไม่อยากนับรอยตีนบนร่างกาย"

   "ฮ่าๆๆ"หลังจากจบประโยคพร้อมหน้าแหยๆของขุนพล ทุกคนในรถก็หัวเราะออกมาดังลั่น

   "ผมช่วยรุมด้วยๆ"

   "เสือก!"ทั้งผม เก้ง ฟอกซ์ และขุนพลต่างร่วมด้วยช่วยกันพูดตอกหน้าคนขี้เสนอหน้าอย่างริว ทำเอามันเบ้หน้าเหมือนจะร้องไห้

   ในที่สุดพวกเราก็มาถึงรีสอร์ทริมหาดที่อาของริวเป็นหุ้นส่วนร่วมอยู่ด้วย 60% เข้ามาถึงก็ถูกพนักงานต้อนรับเป็นอย่างดีและนำทางไปที่ห้องเหมือนกับว่าทุกอย่างเตรียมการมาแล้วล่วงหน้า เมื่อพนักงานสาวทำหน้าที่และแนะนำอะไรๆเสร็จเธอก็จากไป

   ห้องที่พวกเราพักเป็นแบบห้องสวีท 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ นี่กะจะรวบหัวรวบหางให้นอนเป็นคู่ๆสินะ ฝันเถอะไอ้พวกหื่นโดยเฉพาะริว ถึงผมจะชอบมันนิดๆหน่อยๆแต่ผมก็ไม่ยอมหรอกนะ แต่งงานก่อนค่อยว่ากัน ฮ่าๆ

   "เดี๋ยวกูนอนกับเป็นใจ ริวกับโน ฟอกซ์กับเก้ง ตกลงตามนี้"

   "ไม่ กูจะนอนกับเก้ง"คนที่ผมเอามาอ้างสะดุ้งแล้วมองหน้าผมอย่างงงๆ ผมเลยจ้องตามันอย่างคาดคั้น

   "เออๆ กูจะนอนกับโน"

   "ไม่ได้ มึงต้องนอนห้องเดียวกับกู"ผัวไอ้เก้งค้าน

   "ผมขอนอนคนเดียวนะครับ"เป็นใจพูดออกมา เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นว่าครั้งนี้คำพูดกับการกระทำตรงกัน

   "ยังงอนพี่หรอครับใจจ๋า นอนห้องเดียวกันนะๆ ที่รัก"ขุนพลเข้าไปอ้อนจนน้องแกทำหน้าปุเลี่ยนๆ

   "แบ่งเป็นคู่ผัวตัวเมียก็ถูกแล้วนี่โน"ริวเสนอแนะ

   พวกเราเถียงเรื่องห้องกันจนน้ำลายฝอย เถียงไปเถียงมาผมเลยลากเก้งกับเป็นใจมาจับกลุ่มคุยกัน

   "ถ้าคืนนี้มึงไม่อยากโดนไอ้ฟอกซ์เอาจนพวกกูได้ยินก็มานอนกับกูซะ ไม่ใช่ขอร้องแต่เป็นคำสั่ง"

   'ผมไม่อยากนอนห้องเดียวกับไอ้พี่พล ผมไม่ได้ชอบมัน'โทรศัพท์ที่มีข้อความถูกยื่นมาให้ผมอ่าน แอบงงๆว่าทำไมน้องเป็นใจถึงไม่พูดแทนแต่ใช้ข้อความ แถมยังบอกว่าไม่ได้รักทั้งๆที่ออกจะหวานชื่นมื่นกัน เอ๊ะ มันยังไงๆ'ผมคิดว่าถ้าพวกเรานอนห้องเดียวกันจะปลอดภัยนะครับ ให้พวกนั้นเอาไปเลยสองห้อง'

   ทั้งผมและเก้งต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของเป็นใจ ประชุมลับกันอีกนิดหน่อยก็เป็นอันตกลงและเดินไปหาพวกผู้ชาย(ฝ่ายรุก)ที่นั่งจับกลุ่มเหมือนพวกเราบนโซฟาห้องรับแขก เมื่อพวกนั้นเห็นเราก็สลายม็อบทันที

   "พวกเราตกลงกันว่าจะนอนห้องเดียวกัน กู เก้ง เป็นใจ ส่วนพวกมึงพวกกูให้ไปเลยสองห้อง...ไม่มีแต่ ไม่งั้นพวกกูจะกลับกรุงเทพฯ"หัวโจกอย่างผมพูดด้วยท่าทีจริงจัง

   เอาล่ะครับตอนนี้ฝ่ายรุกกำลังจ้องพวกผมด้วยสายขู่ฟ่อแต่ฝ่ายรับอย่างพวกเราก็จ้องกลับไปไม่แพ้กัน สมัยนี้ยุคทองของผู้ชายรุกมันเปลี่ยนไปแล้ว ฝ่ายรับอย่างเราๆก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแทนและแน่นอนว่าผัวก็ต้องกลัวเมีย ผลสรุปคือพวกผมชนะขาดลอย ใสๆ หุหุ

   "ยอมๆ เห้อ...แยกย้ายเอาของไปเก็บแล้วมารวมตัวกันที่นี่อีก 20 นาทีนะ"ขุนพลยกมือเป็นเชิงว่ายอมแพ้ก่อนจะหยิบกระเป๋าเดินคอตกเข้าห้องไปเป็นคนแรก

   ริวมองผมนิ่งๆด้วยสายตาเจ้าเล่ห์แวบหนึ่งแล้วเปลี่ยนเป็นนิ่งๆจากนั้นก็เดินเข้าไปอีกห้องหนึ่ง ส่วนฟอกซ์ไม่ได้เดินเข้าห้องไปไหนแต่ทิ้งตัวนั่งลงกับโซฟา มันนั่งทอดสายไปมองที่วิวข้างนอกไม่พูดไม่จากับใครจนเพื่อนผมที่ยืนอยู่ข้างๆทำหน้าสลด

   "มึงจะนอนนี่?"เมื่อเห็นว่าเก้งเอาแต่อ้าปากพะงาบๆผมที่รู้ใจเพื่อนเป็นอย่างดีก็ถามให้แทน

   "เออ สมใจมึงแล้วนี่ แยกผัวแยกเมียกัน"ผมสะอึกไปกับคำพูดแทงใจของฟอกซ์ พอหันหน้าไปหาเก้งมันก็ส่ายหัวเชิงบอกว่าช่างมัน

   ผมถอนหายใจออกมาดังๆแล้วสะพายกระเป๋าเข้าไปเก็บในห้องนอน สิ่งแรกที่เห็นคือเตียงขนาดคิงส์ไซส์ ขนาดตัวของผม เก้ง เป็นใจ พอดิบพอดีกับเตียงเลยไม่เป็นปัญหา กระเป๋าสะพายใบใหญ่ถูกโยนไปที่ปลายเตียงจนเด้ง ผมจัดการของใช้เสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋า สักพักเก้งกับเป็นใจก็เข้ามาในห้องและจัดการของส่วนตัวของตัวเองเหมือนกัน

   เมื่อจัดของเสร็จเป็นคนแรกผมก็เดินออกจากห้องไปหน้าห้องสวีทที่เป็นพื้นหญ้าและสระว่ายน้ำ มีประตูรั้วกั้นระหว่างหาดทรายสีขาวสะอาดตากับผืนหญ้าสีเขียว สามารถเดินผ่านในรั้วลงไปที่หาดได้เลย ส่วนนี้เหมาะสำหรับจัดปาร์ตี้บาร์บีคิ้วอย่างมาก ซึ่งขุนพลก็ได้ออกความคิดเห็นเรื่องนี้ไว้แล้ว และปาร์ตี้บาร์บีคิวจะจัดขึ้นในคืนพรุ่งนี้

   "ทำไมถึงแยกห้องนอนล่ะ กลัวอะไร"ไม่รู้ว่ากี่นาทีที่ผมยืนเหม่อมองออกไปจนไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีคนมายืนอยู่ข้างหลังได้สักพักแล้ว

   "ไม่รู้สิ...ว่าแต่เรื่องของมึงเหอะ เป็นใจบอกกูว่าไม่ได้รักมึง"แอบสังเกตสีหน้าของขุนพล ผมเห็นมันทำหน้าเศร้าๆระคนสับสน สงสารจังแหะรักคนที่ไม่ได้รักมันเหมือน...ผม

   "ใจน่ะเป็นเด็กที่ชอบพูดขวานผ่าซาก ถ้ามันไม่ได้รักกูก็ถูกแล้ว แต่...กูหลงรักมันตั้งแต่ตอนนั้น...กูตัดสินใจบอกรักมันและขอคบทั้งๆที่กูก็รู้ว่ามันต้องตอบปฏิเสธแน่ๆแต่...มันกลับตอบตกลง...กูก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเปลี่ยนไป พูดจาหวานขึ้น ดีขึ้นแต่การกระทำมันไม่ใช่...กูสับสนว่ะ"ใบหน้าอมทุกข์ของเพื่อนทำให้ผมอดสงสารไม่ได้

   "กูไม่รู้จะพูดอะไรดี แต่...กรรมตามสนองมึงแล้วล่ะ ฮ่าๆ"จะให้ปลอบหรอ ฝันไปเถอะยิ่งคนอย่างโนแล้วไม่มีทาง ฮ่าๆๆ

   "ไอ้เพื่อนเวร"จากสีหน้าอมขี้กลับกลายเป็นยักษ์ขมูขีแยกเขี้ยวใส่ ขุนพลยีผมที่ตรงสวยของผมจนฟู แล้วเราสองคนก็หัวเราะกันด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุขอย่างกับย้อนวัยไปเมื่อสมัยมัธยม

   "ไปกันได้แล้ว"บุคคลที่สามขัดจังหวะการย้อนวัยของผม ริวเอื้อมมือมาโอบเอวผมแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ

   "ไม่ต้องหึงน่า มึงควรขอบคุณกูนะที่ได้มาเที่ยวกับโน"ขุนพลตบไหล่ริวเบาๆแล้วเดินเข้าห้องรับแขกไปจับกลุ่มรอกับคนที่เหลือ

   "คุยอะไรกัน ทำไมถึงดูสนิทเกินเพื่อน ห้ะ"

   "แล้วเราเป็นอะไรกันล่ะ มีสิทธิ์อะไรมาถามอย่างนี้"ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าเป็นอะไร ดูจากสีหน้ากระอักกระอ่วนของริว ก็แค่ความรู้สึกชั่ววูบ

   เมื่อริวเดินตามมาพวกเราก็ออกจากรีสอร์ทนั่งรถโฟล์คคันงามคันเดิมไปห้างทันที บรรยากาศในรถต่างจากขามาหัวหินที่ครึกครื้น ตอนนี้ต่างคนต่างแข่งกันเงียบ ของที่เอาออกไปจากเบาะหลังรถที่ปรับขึ้นลงได้ไม่เกะกะอีกต่อไปทำให้ผมกับเก้งย้ายมานั่งข้างหลังแทน รู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศแบบนี้ชิบ ผมว่าทุกคนก็คงรู้สึกเหมือนกัน นี่ผมทำเรื่องที่ผิดพลาดไปรึเปล่านะ

  ถึงที่หมายพวกเราก็ลงจากรถกันอย่างเงียบๆอย่างกับเล่นสงครามเย็น ต่างคนต่างเดินเข้าห้างแต่ก็ยังจับกลุ่มกันไว้ ไม่ชอบเลยบรรยากาศแบบนี้ ผมควรทำยังไงดีเพื่อให้ความครึกครื้นกลับมา

   โครกกกกครากกก

   ทุกคนพากันหันมาเมื่อได้ยินเสียงท้องร้องดังลั่นกัมปนาท ผมเลยส่งยิ้มแหะๆไปให้ลูบวนท้องเบาๆให้มันสงบ ข้าวเช้าก็ไม่ได้กินนี่นา นี่ก็ 9 โมงครึ่งแล้ว ปกติแล้วผมกินข้าวเช้าตอน 6 โมง ขุนพลเริ่มขำเป็นคนแรกจากนั้นทุกคนก็ขำตามอย่างช่วยไม่ได้ ขำอร่อยกันเลยทีเดียว

   "มีคนประท้วงว่ะ"ขุนพลล้อเลียน

   "ไปหาไรกินกันก่อนแล้วกัน"เก้งเสนอแนะ ทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วยกันยกใหญ่ อย่าว่าแต่ผมพวกมันก็หิวเหมือนกันนั่นแหละ

   หลังจากเกิดเหตุการณ์ท้องร้องบรรยากาศก็ดีขึ้นทันตาเห็น จากที่เดินแยกฝั่งแยกฝ่ายก็กลับมาเดินเป็นคู่ๆโชว์ความหวานให้ประชาชนเห็นแบบไม่แคร์สื่อ

   อ่อ ผมยังเป็นโนที่ใส่แว่นหนาเตอะนะครับ แต่วันนี้ไม่ได้สวมเครื่องประดับระโยงระยางมากมายเพราะผมเป็นเด็กนักเรียนเขาห้ามใส่ครับ หุหุ

   เราตกลงจะกินชาบูกัน ผมกับขุนพลที่รู้ทางก็เดินตีคู่นำทางไปด้วยกันและคุยเรื่องสมัยก่อนกันอย่างสนุกสนานโดยไม่รู้สึกถึงสายตาไม่พอใจของใครบางคนมองมาอยู่เบื้องหลัง

   ดีที่พวกเรามากันเช้าทำให้ไม่ต้องต่อคิวรอและเข้าไปกินได้เลย ผมที่หิวหนักมากเริ่มจ้วงก่อนใครเพื่อน หยิบทุกอย่างที่เห็นบนสายพานกินทุกอย่างที่ขวางหน้า ทุกคนก็เริ่มโซ้ยอาหารตามผมมาติดๆ จานอาหารที่ว่างเปล่าเพิ่มจากหนึ่งเป็นสองจากสองเป็นสามกระทั่งมันพูนขึ้นอย่างน่าหวาดเสียวว่ามันจะเทกระจาดลงมา พนักงานเดินมาเก็บแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว

   หลังจากอิ่มหนำสำราญกันแล้วพวกเราก็พากันไปซื้อของสดสำหรับทำอาหารเที่ยงนี้และปาร์ตี้คืนพรุ่งนี้ เรื่องอาหารมีผมกับเป็นใจเท่านั้นที่ทำอาหารและเลือกของเป็น พวกที่เหลือก็แค่เดินตามและคว้าขนมนมเนยมาใส่รถเข็นกันอย่างมันส์มือ

   เลือกของครบก็เข็นมาจ่ายตังค์ที่เคาท์เตอร์หนึ่ง ระหว่างที่พนักงานคิดตังค์ สามหนุ่มสามมุมก็จับกลุ่มหันหน้าไปทางที่มีตะแกรงเล็กๆตั้งอยู่ใกล้เคาท์เตอร์ที่มีหมากฝรั่ง ขนมชิ้นเล็ก ยาดม ของจิปาถะ และถุงยางอนามัย ถ้าให้เดาผมว่าพวกมันต้องมองสิ่งนั้น

   มองไม่พอขุนพลก็หยิบคอนดอมรสสตอเบอร์รี่มาจ่ายตังค์เป็นคนแรก ต่อมาก็ฟอกซ์ที่หยิบรสช็อกโกแลตมาสองกล่อง ผมนึกว่าไอ้ริวจะเอากับเขาด้วยแต่เปล่าเลยมันไม่ได้หยิบมา ริวรู้ว่าผมมองอยู่จึงหันมายักคิ้วให้แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็ออกมาจากมันแถมยังพูดดังกว่าปกติด้วย

   "แดกสไปร์ทต้องใส่ถุงแต่แดกมึงไม่ต้องใส่หรอก สดๆนี่แหละถึงเนื้อดี"

   "ไอ้เหี้ย!!"ผมด่ามันด้วยความโกรธปนอายแต่อย่างหลังนี่ท่าจะมากกว่า คนอื่นที่อยู่ใกล้ๆก็ได้ยินกันถ้วนหน้า อยากจะกระชากแว่นตาสีดำที่ปกปิดใบหน้านั่นออกแล้วตะโกนบอกชาวบ้านให้รู้ว่าอินี่มันเล่นชู้ให้อับอายขายขี้หน้าไปเลย

   "เขินล่ะสิ หึหึ"ริวล้อเลียนด้วยใบหน้าทะเล้น ผมตบหัวมันฉาดใหญ่แล้วเดินเลี่ยงออกมาจากเคาท์เตอร์ให้ไอ้ฟอกซ์จ่ายเงินเพราะเหตุผลง่ายๆคือมันรวย

   สองขามาหยุดยืนอยู่หน้าร้านเค้กแล้วจ้องมองเข้าไปในร้านพลางนึกถึงเรื่องราวสมัยก่อนที่ผมกับแฟนสาวคนแรกเคยมากินเค้กด้วยกัน แถมเธอยังเป็นคนแรกของผมในเรื่องอย่างว่า แต่หลังจากนั้นเธอก็หายไปจากชีวิตผมหายไปจากโรงเรียน ไม่เคยมีใครได้ยินข่าวจากเธออีกเลย ผมพยายามตามหาเธอ ไปหาเธอที่บ้านแต่ก็ไม่พบวี่แววเพราะครอบครัวเธอย้ายออกไปกันหมดแล้ว ในที่สุดผมก็เลิกพยายาม ถ้าเธอรักผมจริงๆเธอก็ต้องบอกอะไรผมบ้างสิแต่นี่ไม่มีเลย

   "คิดถึงแตงโมหรอ"ไม่รู้ว่าขุนพลเดินมาอยู่ข้างๆผมตอนไหน รู้ตัวอีกทีทุกคนก็มายืนล้อมผมอยู่

   "อืม"ผมตอบอือออในลำคอพลางสังเกตสีหน้าของริวไปด้วย"ไปโรงเรียนกันเถอะ กูไม่อยากโดดเรียนว่ะ ฺฮ่าๆ"ผมเปลี่ยนเรื่องเมื่อบรรยากาศดูท่าจะหมองลงเรื่อยๆ

   ริวทำหน้าที่เข็นของด้วยเหตุผลที่ว่ามันเป็นรุ่นน้องต้องเสียสละให้พี่ แล้วถ้าถามว่าทำไมเป็นใจไม่เข็นล่ะนี่ก็รุ่นน้องเหมือนกัน ก็ดูสิว่าใครแฟนน้องแก เป็นถึงเฮดว้ากวิศวะเชียวนะ ขุนพลดูแลประคบประหงมอย่างดีไม่ต้องออกแรงทำอะไร เดี๋ยวพี่จัดให้อะไรแบบนี้

   เอาของใส่รถเสร็จขุนพลก็เคลื่อนรถออกจากห้างขับไปที่โรงเรียนที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล พอหาที่จอดรถได้พวกเราก็ลงจากรถแบบสโลว์โมชั่น แต่ละคนก็ทำท่าทำทางเก๊กหล่อ เสยผม จัดคอปกเสื้อ ขยับแว่น ก็เกินไปครับนี่ไม่ใช่หนังสักหน่อย

   เวลานี้เป็นเวลาพักเที่ยงของเด็กๆพอดีทำให้ตอนนี้ทุกสายตาจับจ้องมาทางกลุ่มพวกเรา แอบเห็นสาวๆกรี๊ดกร๊าดกันด้วย ส่วนหนุ่มๆก็มองมาแล้วซุบซิบกันประหนึ่งพวกผมจะมายำตีนใคร

   "เด็กที่นี่หน้าตาดีกันทั้งนั้นเลย"เก้งมองคนนั้นทีคนนู้นทีน้ำลายแทบสอ ส่วนใหญ่มองผู้ชายทั้งนั้น เพื่อนใครวะแรดจัง ผัวมันแทบจะจับกระซวกไส้อยู่แล้ว

   "ไปหาครูตากันมึง ต้องเซอร์ไพรส์แน่ๆ"ขุนพลเอ่ยอย่างตื่นเต้นพลางลากคอผมให้ไปด้วยกันแล้วทิ้งคนข้างหลังให้เดินตามโดยไม่สนใจ

   ระหว่างทางก็มีสายตาของนักเรียนและคุณครูบางคนจับจ้องพวกเราตลอดทาง บางทีก็มีแวะคุยกับคนนั้นคนนี้ไปด้วยเพราะรู้จักมักใคร่กันมาก่อน รุ่นน้องส่วนใหญ่ก็เข้ามาสวัสดี ทักทายแถมเหล่ตามองเพื่อนๆผมด้วย คนที่โดนจับตามองมากสุดเห็นจะเป็นริวที่หล่อโดดเด่นสะดุดตา

   จนถึงห้องพักครูผมกับขุนพลเข้าไปกราบสวัสดีครูตาครูประจำชั้นตอน ม.6 และพูดคุยทักทายกันด้วยความคิดถึง ครูแกก็ดีใจที่เห็นผมกับขุนพลคืนดีกันได้ พวกเราขอตัวลาพร้อมอ้อมกอดสุดท้ายที่ให้ครูเพราะอีกไม่กี่วันท่านจะลาออกไปอยู่บ้านนอกกับพ่อแม่และสามี

   "เดี๋ยวค่ะพี่โน"
   พอจะขึ้นรถเพื่อกลับไปพักผ่อนที่รีสอร์ทพวกเราก็ถูกเรียกไว้ด้วยเสียงใสๆของเด็กผู้หญิงน่ารักคนหนึ่ง

   "อ้าว น้องดา น้องภัท มีอะไรรึเปล่า"ผมที่จำเด็กสองคนนี้ได้ก็ทักทายอย่างคนกันเอง

   "คือขอรบกวนเวลาสักนิดนะคะ ดาทำรายงานความสัมพันธ์ของมนุษย์น่ะค่ะ อยากถามอะไรนิดๆหน่อยๆสักข้อสองข้อ"

   "ได้สิ"

   "ถ้างั้นพวกกูนั่งรอที่รถนะ"ฟอกซ์พูดขึ้นและทำท่าจะเข้าไปในรถ

   "ดาขอสัมภาษณ์พี่ๆทุกคนด้วยนะคะ"

   เมื่อเห็นสายตาวิงวอนของเด็กสาวตัวเล็กแล้วก็ปฏิเสธไม่ได้ ทุกคนต่างพยักหน้าเชิงตกลงทำให้เธอยิ้มร่าทันทีแล้วหันไปแท็กมือเพื่อนของเธออย่างดีใจ

   "ข้อแรกพวกพี่มีความสัมพันธ์กันยังไงคะ"น้องภัทถามคำถามขึ้น

   "ตอบได้เลยว่าเพื่อน"ผมตอบและทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย

   "ข้อสองพี่เป็นอะไรกับพี่โนหรอคะ"น้องดาหันไปหาริว และถามอย่างเจาะจงคู่ ถ้าผมไม่รู้มาก่อนว่าน้องดาเป็นสาววายก็คงคิดไปแล้วว่าน้องแกเป็นหมอดู อะไรจะแม่นยำในการจิ้นขนาดนั้น

   "เป็นสามีครับ"พูดแล้วกันหันมายักคิ้วหล่อ ผมก็ได้แต่ทำหน้าเหลอหลา ไม่คิดว่าริวจะตอบตรงๆขนาดนี้

   "แล้วพี่ขุนพลกับพี่คนนี้ล่ะคะ"น้องดายังจับคู่ได้แม่นยำอีกคน ขอรางวัลโนเบลหมอดูหมอจิ้นให้น้องแกหน่อยครับ ซูฮกให้เลย

   "คนรักครับ"ขุนพลตอบยิ้มๆแล้วยีผมเป็นใจจนฟู

   "ใช่ครับ!"เป็นใจตะโกนออกมา ก็รู้นะว่าจะยืนยันคำพูดของขุนพลแต่ทำไมต้องโหวกเหวกด้วยวะครับ

   "แล้วคู่พี่ล่ะคะ"คู่สุดท้ายจะเป็นใครไม่ได้นอกจากฟอกซ์กับเก้ง

   "คู่นอน"ไอ้ฟอกซ์ตอบหน้าตายอย่างคนไม่คิดอะไรแต่เก้งเพื่อนผมนี่เบะปากจะร้องไห้อยู่แล้วน่ะ เห้อ เวรกงเวรกรรมอะไรของเพื่อนผมเนี่ย ได้คนขี้แกล้งมาเป็นผัว

   "คิคิ"สาวน้อยทั้งสองต่างหัวเราะคิกคักกันใหญ่ หน้าเน่อบ่งบอกว่าฟินมาก เจอไม้ป่าเดียวกันเป็นแพ็คขนาดนี้

   "คำถามสุดท้ายค่ะ ตอบทีละคนเลยนะคะ"ดาพูด

   "พี่คิดว่าตัวเองเป็นเกย์มั้ยคะ"คำถามนี้สำหรับคู่อื่นคงตอบได้ง่ายมากแต่สำหรับผมที่ไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนทำเอาไปไม่ถูกกันเลยทีเดียว

   "เป็นตั้งแต่ตอนมัธยมเนี่ยแหละ"เก้งตอบได้อย่างสบายๆพลางแคะเล็บไปด้วย ส่วนฟอกซ์ก็พยักหน้ายิ้มๆแล้วโอบเอวเก้ง สาวๆทั้งสองนี่บิดตัวด้วยความเขินอายแทน

   "เป็นครับ"เป็นใจทึ้งหัวตัวเองหลังจากบอกคำตอบไปแล้ว ผมว่าผมเริ่มยินกับท่าทางแปลกๆของเป็นใจแล้วล่ะ

   "พี่ไม่ได้ชอบผู้ชายหรอกครับ..."คำตอบของขุนพลทำเอาคนที่ทึ้งหัวตัวเองอยู่หยุดชะงัก แววตาที่มองเพื่อนผมนั้นดูสับสน"...แต่พี่ชอบ ไม่สิ พี่รักผู้ชายคนนี้แค่คนเดียว พี่ไม่ได้รู้สึกรักชอบผู้ชายคนไหนมาก่อนและคงจะไม่มีใครทำให้พี่รู้สึกได้เท่าคนนี้"

   เป็นใจเม้มปากแน่นพลางหลุบตาต่ำเหมือนพยายามจะกลั้นยิ้ม เป็นผมเจอคนมาพูดแบบนี้ก็เขินเหมือนกันแหละ ไอ้ขุนพลแม่งหล่อเลย

   "พี่...ไม่แน่ใจ"ถึงทีผมต้องตอบคำถามที่กระทันหัน ผมก็คงตอบได้แค่นี้เพราะผมชอบผู้หญิงมาก่อนที่จะเจอริว ผมไม่แน่ใจ มันสับสน เอาเป็นว่าผมจะลองกลับไปนั่งคิดนอนคิดดูใหม่

   มาถึงคนสุดท้ายท้ายสุดอย่างริว ผมจ้องมันอย่างรอคอยคำตอบ เพราะมันชอบสโนว์แต่มาเล่นจ้ำจี้จ้ำไชกับผมแถมยังแสดงตัวออกมานอกหน้านอกตาว่ามันเป็นผัวผม ผมอยากรู้ว่ามันจะตอบคำถามที่ง่ายแต่ก็ยากนี้ยังไง











☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

Nekozaa  :

        ทำไมเรื่องมันอืดยั่งงี้ๆๆ บ่นตัวเองแป๊ป อยากให้แต่งงานกันสักทีค่ะ 5555 ขออีกนิดสักตอนเดี๋ยวจะให้แต่งงานแล้วนะคะ แม่ยกรอไม่ไหวแล้วค่ะ  :laugh:
         ส่วนใครที่รอให้ริวหายโง่รอก่อนนะคะจะได้รู้ว่าโง่จริงๆหรือแกล้งโง่  :hao3:
         ขอบคุณนะคะที่คอมเม้นต์แล้วก็ติดตามอ่าน น่ารักที่สู้ดด  :mew1:

          เจอปืนค่ะ... :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๐ ทริปเที่ยวทริปฟิน✖[12/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-11-2016 14:45:57
ความลับแตก แตก แตก  :hao6:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๐ ทริปเที่ยวทริปฟิน✖[12/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 12-11-2016 16:31:43
เฮ้ออออ :เฮ้อ: เราว่าริวแม่งแกล้งโง่แน่ๆ เลยอ่ะ แต่ก็ไม่แน่ใจเต็มร้อยนะว่าจะใช่หรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๐ ทริปเที่ยวทริปฟิน✖[12/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 12-11-2016 16:54:39
 :hao4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๐ ทริปเที่ยวทริปฟิน✖[12/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 12-11-2016 21:13:42
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๐ ทริปเที่ยวทริปฟิน✖[12/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-11-2016 00:31:51
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๐ ทริปเที่ยวทริปฟิน✖[12/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 13-11-2016 02:21:24
รอวันริวฉลาดค่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๑ แกล้งรักNC✖[14/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 14-11-2016 09:32:06
บทที่๑๑

แกล้งรัก NC






   กริ๊งงงง

   เสียงออดบ่งบอกว่าได้เวลาเข้าแถวดังขึ้นทำให้ปากที่กำลังอ้าบอกคำตอบหุบฉับลง แววตาฉายความยินดีที่ถูกขัดจังหวะอยู่แวบหนึ่งแต่เผอิญว่าผมเห็น ชัดเจนแล้วคำตอบของริว

   "งั้นคำตอบของพี่...ไว้พูดกับพี่โนแล้วกันนะคะ ขอบคุณนะคะที่ให้สัมภาษณ์ บ๊ายบายค่ะพี่ๆ ว่างๆมาเยี่ยมบ้างนะคะ"น้องดากับน้องภัทยกมือไหว้พวกผมก่อนจะวิ่งไปขึ้นตึกเรียน ผมจึงหันไปมองหน้าริวเผื่อมันจะตอบคำถามที่ค้างคาไว้

   "กลับกันเถอะ"ริวเปลี่ยนเรื่องหน้าด้านๆ ผมที่มีความสุขเพราะได้มาเยี่ยมเยียนโรงเรียนอย่ถึงกับคิ้วกระตุก

   "จะไม่ตอบให้ได้เลยสิ เรื่องของมึงละกัน"ผมตะคอกอย่างหัวเสีย ปาแว่นตาลงกับพื้นแล้วเหยียบขยี้จนมันแตกเป็นเสี่ยงๆด้วยความโกรธจนหน้ามืดตามัว"กูเนี่ยแหละ สะ..."

   ผลัก

   "โอ๊ย"ยังไม่ทันที่ผมจะหลุดบอกความจริงไปก็ถูกถีบกระเด็นไปหาริวจนเราล้มลงไปกองกับพื้นด้วยกันทั้งคู่

   "โทษที ตีนลั่น"เก้งอยู่ในท่าเท้ายกสูง เป็นหลักฐานชั้นดีว่ามันยันโครมผม แต่ความกวนตีนถีบส่งของมันทำให้ผมรู้สึกตัวว่ากำลังจะหลุดบอกอะไรไป ตัวผมที่ไม่ได้เป็นอะไรเพราะนอนทับริวก็ลุกขึ้นยืนไม่สนใจคนที่เจ็บแทน

   "ขอบใจ"สองขาผมก้าวขึ้นรถพลางกระซิบบอกเก้งที่อยู่ใกล้ๆ มันพยักหน้าให้อย่างรู้ทันเท่าทีแล้วขึ้นรถตามมาติดๆ

   เมื่อกลับมาถึงรีสอร์ท พวกเราต่างแยกย้ายกันทำธุระส่วนตัวและนอนพักสัก 3-4 ชม. ส่วนข้าวเที่ยงย้ายมากินตอนเย็นแทน ตั้งแต่ออกมาจากโรงเรียนทุกคนดูปกติดีเว้นเสียแต่คู่ของผม ไม่สิ มีแต่ผมที่ร้อนไปเอง มีแต่ผมที่รู้สึกบ้าบอไปเอง ริวยังทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รู้สึกเสียเซลฟ์ชะมัด

   "เห้อ"ถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่ร้อย ทั้งเก้งและเป็นใจหลับไปด้วยความเพลียกันหมดแล้ว ส่วนผมนอนก่ายหน้าผากเหมือนเจ๊กขาดทุนมากี่ชั่วยามแล้วก็ไม่รู้

   ไม่ได้สิ เรามาเที่ยวหาความสนุกให้ชีวิตในตอนที่เป็นโนได้เต็มที่ไม่ใช่หรอ จะมานั่งทุกข์นอนทุกข์เพราะผู้ชายคนเดียวมันใช้ได้ที่ไหน โนในตอนนี้เหมือนไม่ใช่ผมเลย ริวไม่ได้มีอิทธิพลกับใจผมขนาดนั้นสักหน่อย เอาล่ะโน หลับตาซะนะ พอตื่นมาจงเป็นโนที่สนุกสุดเหวี่ยงกับชีวิตซะ

   "ตื่นนนนนน"ผมตื่นขึ้นมาในอีก 3 ชม.ให้หลัง รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมามาก หลังจากสมองเริ่มทำงานน้ำย่อยก็ลงกระเพาะเรียกร้องว่าได้เวลาให้อาหารแล้ว ผมปลุกเป็นใจเขย่าแล้วเขย่าอีกจนน้องแกมุ่นคิ้วด้วยความรำคาญ

   "ขออีกห้านาทีครับ"เป็นใจพลิกกายไปอีกฝั่งแล้วคลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่ม

   "ไฟไหม้!"ยังไม่ละเลิกความพยายามผมสะบัดผ้าห่มออกแล้วแหกปากอยู่ข้างหูเป็นใจด้วยคำพูดปลุกใจยอดฮิตจนน้องลุกขึ้นพรวดหน้าตาตื่น มองซ้ายมองขวาด้วยความตกใจ ผลพลอยได้อีกอย่างที่น้องตื่นคือเก้งตื่นขึ้นมาด้วย

   "ไฟไหม้ หนีเร็ว ว้ากกก"ปฏิกิริยาของเพื่อนผมทำเอาผมหัวเราะลั่นตัวโยน

   "ฮ่าๆๆๆ"ผมขำจนน้ำตาเล็ดเอามือกุมท้องแล้วทรุดลงกับพื้น

   "ไอ้เหี้ยโน มึงหลอกกูหรอ"

   "อึก ฮึ...อุ๊ก พรืด ฮ่าๆๆ"ผมพยายามหยุดขำแต่พอมองหน้าของคนทั้งสองคนที่หน้าบูดบึ้งอยู่บนเตียงก็ทำเอาหลุดขำออกมาอีกยกจนหน้าท้องเกร็งไปหมด

   "เห้ย พวกมึงเป็นอะไรรึเปล่า แหกปากโวยวายอะไร"เสียงของขุนพลตะโกนมาจากหน้าห้อง ผมจึงเดินไปด้วยขำไปด้วยไปเปิดประตู ไม่รู้ทำไมพอเห็นหน้าไอ้ขุนพลผมยิ่งขำหนักเข้าไปอีก

   "ฮ่าๆๆ ฮึ ช่วย ฮ่าๆ หยุดขำ ฮ่าๆ"

   "มันเป็นอะไร"ฟอกซ์เสนอหน้าเข้ามาถามคนที่ยังหน้าบูดเพราะโดนผมแกล้ง

   "มันบ้า/พี่เขาบ้าไปแล้วครับ"สองเสียงตอบกลับมาพร้อมกัน อารมณ์เดียวกันจนผมที่กำลังหยุดขำขำอีกรอบ

   "อ๊ะ"ขำไปขำมาผมก็เกิดอาการหน้ามืด ร่างกายกำลังจะปะทะกับพื้นแต่มีคนมารับไว้ซะก่อน

   "ระวังหน่อยสิ"ริวพยุงผมขึ้นให้ยืนดีๆแอบได้ยินเสียงแว่วมาว่าสมน้ำหน้าอะไรนี่แหละ กรรมตามสนองล่ะมั้งกู

   "ชอบใจนะคุณสามี"ผมยื่นหน้าไปจุ๊บแก้มมันเบาๆแล้วส่งยิ้มทะเล้นให้ หน้ามันหวอเลยครับ เจอโนเวอร์ชั่นนี้อึ้งกิมกี่ไปเลยสิ"ไม่ต้องตกใจ กูก็ขอบใจแบบนี้กับทุกคนนั่นแหละ"

   จากหน้าที่ตกใจของริวเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับขนมหวานเคลือบยาพิษอย่างผมมันต้องแบบนี้แหละ ผมไม่รู้หรอกนะว่ามันรู้อะไรมาบ้างรึเปล่าแต่มาเล่นกับความรู้สึกผมแบบนี้ให้อภัยไม่ได้ ดีมาดีกลับ ร้ายมาร้ายกลับเป็นสิบเท่าเลย

   "มึงเป็นอะไรอีกละ ห้ะ"ริวตะคอกใส่หน้าผมจนน้ำลายเม็ดเป้งกระเด็นใส่ ผมปาดมันออกอย่างรังเกียจ คือ รังเกียจจริงๆครับ เชื่อว่าไม่มีใครชอบหรอกน้ำลายกระเด็นใส่หน้าเนี่ย

   "หิวเฉ๊ยเฉย...เป็นใจไปทำอาหารกันป่ะ"ผมเดินไปคล้องแขนเป็นใจแล้วลากไปที่ห้องครัวผ่านหน้าริวไปอย่างไม่สนใจ

   ตอนแรกผมคิดว่าผมรักริวแต่จริงๆแต่ผมไม่ได้รักมัน สาเหตุที่ทำให้ผมคิดว่าผมรักริวเพราะตอนที่ผมเป็นสโนว์ ริวตามจีบตามหวานใส่ผมผมจึงหวั่นไหว โดยลืมไปว่านั่นไม่ใช่ตัวตนผมจริงๆ พอลองทบทวนความรู้สึกตัวเองที่ไปหอมแก้มริวถึงได้รู้ว่า ผมรู้สึกเฉยมากๆ ไม่ได้รู้สึกเขิน ตื่นเต้น ผมแค่คิดไปเอง

   ถ้าจะให้รักใครสักคนจริงๆเขาต้องรักผมจากใจจากตัวตนที่แท้จริงของผมไม่ใช่รักสโนว์ ผู้หญิงที่ไม่มีอยู่จริงตั้งแต่แรกแล้ว

   และก็ถึงเวลาที่โนคนเกรียนคนเดิมจะกลับมาแล้ว

   กลับมาปัจจุบันและย้อนไปสักหน่อย....ตอนแรกเป็นใจจะไม่ยอมช่วยผมทำอาหารเพราะโกรธที่แกล้งแบบนั้น ผมเลยขู่ซะเลย

   'ผมไม่ช่วยพี่ทำหรอก'

   'งอนหรอออ'

   'ผมโกรธที่พี่โนแกล้งผมแบบนั้น'

   'จะไม่ช่วยจริงๆใช่ป่ะ'

   'ครับ'

   'งั้นพี่จะแยกไปนอนอีกห้องกับเก้ง คืนนี้นอนคนเดียวระวังมีคนย่องไปทำอะไรต่อมิอะไรนะครับน้องเป็นใจ'

   'ชะ ช่วยก็ได้ครับ'


   อย่าด่าว่าผมเลยที่รังแกเด็ก ให้ทำคนเดียวคงไม่ไหวหรอก ต้องมีลูกมือช่วย ไม่งั้นคงได้เปลี่ยนจากมื้อเย็นเป็นมื้อค่ำแทน

   "เป็นใจไปเรียกพวกนั้นมาช่วยยกกับข้าวหน่อยดิ่"

   "ครับ"น้องเดินหายไปจากห้องครัวสักพักคนอื่นๆก็ตามมาช่วยยกกับข้าวมากหน้าหลายตาไปตั้งโต๊ะ พวกมันชมกันไม่หยุดปากแถมน้ำลายสออีกต่างหาก ยกเว้นริวที่ดูเงียบๆนิ่งๆผิดปกติเหมือนใช้ความคิดอะไรอยู่คนเดียว

   "กินข้าวเสร็จแล้วไปเที่ยวไหนดี"ขุนพลที่เปรียบเสมือนพี่ใหญ่ถามขึ้นหลังจากทุกคนเริ่มทานอาหารที่อยู่ตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย เห็นแล้วก็ปลื้มปิติที่ฝีมือตัวเองยังดีอละต้องซูฮกใก้กับฝีมือของเป็นใจด้วย

   "เล่นน้ำก่อน"เก้งเสนอผมกับเป็นใจจึงพยักหน้าเห็นด้วย เย็นๆกำลังดีเหมาะจะเล่นน้ำเพราะแดดไม่ค่อยมี

   "จากนั้นก็ไปตลาดโต้รุ่ง"ผมเสนออีกคนแล้วก็ยักคิ้วให้ขุนพลพูดต่อจากผม

   "แล้วก็แวะร้านเหล้าข้างทางรถไฟ"

   "วู้วว ยังรู้ใจกูเหมือนเดิม"ผมยื่นมือข้ามฝั่งไปจับมือกับขุนพลเกลอเก่าแบบวัยรุ่นฝรั่งที่เขาชอบทำกัน

   "งามหน้านะมึง"เก้งยู่หน้าจะงอนก็ไม่งอนจะโกรธก็ไม่โกรธ

   "ไม่หึงเค้าสิ เมียจ๋า จุ๊บๆ"ผมยื่นหน้าไปหมายจะหอมแก้มไอ้เก้งให้หายน้อยใจแต่โดนผัวที่แท้จริงของมันดึงเข้าหาตัว

   "เมียกูไอ้สัด"

   "ฮ่าๆๆ"จบคำของคุณสามีขี้หวงพวกเราทุกคนก็หัวเราะกันอย่างเฮฮาปาร์ตี้ แต่มีคนหนึ่งที่ไม่เฮฮาไปด้วยเอาแต่มองหน้าผมอย่างครุ่นคิด คงไม่ใช่ว่ากำลังมองผมซ้อนทับกับสโนว์อยู่หรอกนะ

   เมื่อท้องอิ่มพวกเราก็แยกย้ายกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าลงทะเล ผมใส่กางเกงตัวเดียว เปลือยท่อนบนโชว์หัวนมสีชมพูเข้มน่าขยำขยี้ รวบผมมัดเป็นจุกจะได้ไม่เกะกะตอนเล่นน้ำ แดดยังมีอยู่คงต้องทาครีมกันแดดด้วยสิเนี่ย แล้วจู่ๆผมก็มีความคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาในหัว

   "ริว ทาครีมกันแดดให้หน่อยดิ่"พูดพลางยื่นครีมดันแดด SP 50+ ให้ มันก็รับไปถือไว้นิ่งๆ ผมแอบเหล่มองเจ้าตัวที่สวมแค่กางเกงโชว์ซิกแพกส์น่ากิน ทำไมรู้สึกสยิวแปลกๆ

   "มองขนาดนี้กินเลยมั้ยล่ะ"ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่มือหนาลูบเบาๆที่ไหล่ลามไปยันแขนพร้อมครีมกันแดด สัมผัสที่ดูไม่มีอะไรกึ่งเชิญชวนทำให้ผมรู้นิดนึง ก็แค่นิดนึงเท่านั้น ผมไม่ยอมแพ้หรอกยิ่งท่าทางที่กลับมาปกติของริวทำให้ผมต้องตอบโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้ ผมคว้าขวดครีมกันแดดมาบีบใส่มือแล้วทาให้ริวบ้าง

   "เดี๋ยวทาให้"ผมยิ้มหวานแล้วลูบไหล่แกร่งวนไปมาเลื่อนทาไปทั่วแขนเหมือนกำลังชักอะไรสักอย่างอยู่ ทำแบบนี้ทั้งสองจนได้ยินเสียงกัดฟันของคนตรงหน้า"อึก"

   ดูท่าอีกคนจะยังไม่ยอมแพ้เคลื่อนกายเข้ามาประชิดผมมากขึ้นแล้วทาครีมที่แผ่นหลังผมลากไล้นิ้วจนขนลุกชน นิ้วเรียวยาวไล้ไปตามกระดูกสันหลังจนผมแทบทรุด ภาวนาว่าอย่าให้มันทำอะไรไปมากกว่านี้แต่ก็ไม่สมหวังเมื่อมันออกแรงกดเบาๆที่กลางหลังผม

   "อ๊าาา"ผมแอ่นอกเข้าหาคนข้างหน้าเดียวความเสียวกระสัน ใช่ จุดไวต่อสัมผัสผมอยู่กลางหลังนั่นแหละมีแค่ผมที่รู้ทำไม...ริวถึงรู้ รู้ได้ไง

   "หึหึ จะแพ้แล้วนะ"ริวกระซิบแผ่วเบาข้างหูผม มือเปลี่ยนไปลูบอยู่แถวบั้นท้ายขยำขยี้อย่างหมั่นเขี้ยว ผมตั้งสติแล้วผลักอกแกร่งจนมันเสียหลักผมจึงตวัดขาให้มันล้มลงนอนกับพื้น"โอ๊ย เล่นเหี้ยอะไร"

   เหมือนริวจะหมดอารมณ์หลังโดนประทุษร้าย ไม่เป็นไร ผมปลุกมันกลับมาได้ล่ะน่า ผมนั่งคร่อมหว่างขาโดยเว้นไม่ให้ทับน้องชายมันแล้วบีบครีมลงกับซิกแพกส์ จากที่ปากร้องโอดครวญบ่นผมก็นิ่งเงียบและรอดูว่าผมจะทำอะไรต่อไป

   ผมยิ้มหวานปนยั่วแล้วจงใจทำเป็นขยับเอวเบาๆให้โดนน้องชายมัน มือผมเริ่มอยู่ไม่สุนสาละวนไปกับหน้าท้อง ผมทาครีมไปตามลูกระนาดที่เรียงกันเป็นลอนๆอย่างยั่วยวน วนลูบแถวแอ่งสะดือจนหน้าท้องมันหดเกร็ง ไม่นานเจ้าหนูที่นอนสงบเรียบร้อยก็ดุนดันกางเกงขึ้นมาเป็นรูปร่าง เอวผมก็ยังทำหน้าที่ได้ดีไม่มีตกบกพร่อง

   มือปลาหมึกของริวก็เริ่มอยู่ไม่สุขเหมือนกันเมื่อมันเลื่อนขึ้นมาบีบยอดอกผม ผมปัดมือนั้นออกทันทีเพราะไม่ต้องการมีอารมณ์ร่วม และเลื่อนมือลงใกล้ริวน้อยมากขึ้นเพื่อให้จบแผนที่ตัวเองเป็นคนคิดเร็วๆ

   "โอ๊ะ ทาเสร็จแล้ว ไปเล่นน้ำก่อนนะ"ผมชักมือกลับแล้วรีบลุกขึ้นจากตักริว ไม่รอให้มันได้คว้าผมไปลงโทษสองขาก็วิ่งออกจากห้องรับแขกตรงไปยังทะเลแสนงาม

   ดีที่พวกเพื่อนๆ ลงทะเลกันหมดแล้วทำให้ไม่เปิดประตูมาเจออะไรดีๆที่ผมกับริวกำลังทำ ไม่ใช่สิ นั่นมันแผนยั่วให้สวาทแล้วจากไปของผมหรอก หึหึ กว่าจะลงมาคงต้องไปชักธงให้มันลงก่อนสินะ สมน้ำหน้า

   "แล้วริวล่ะ"เก้งถามแต่ผมไม่ได้ตอบ เปลี่ยนเรื่องด้วยการสาดน้ำใส่หน้ามันแทน"เล่นอย่างงี้ใช่มั้ย ได้"

   แทนที่น้ำจะสาดโดนผมแต่ไปโดนคนข้างๆผมแทน คนโดนสาดอย่างเป็นใจจึงสาดกลับ แล้วสงครามสาดน้ำก็เริ่มขึ้น ต่างคนต่างงัดแงะความสามารถในการโกยน้ำให้มากที่สุด ผมที่กำลังใช้พลังคลื่นเต่าอยู่ก็ถูกกอดจากด้านหลังแล้วยกจนตัวลอย กำลังจะร้องแต่ก็ถูกโยนลงทะเลจนน้ำเค็มเข้าปาก

   "แก้แค้น"เจ้าเวรเจ้ากรรมผมนั่นแหละที่จะทำแบบนี้ได้

   "แค่กๆๆ ค่อกๆ แค่ก"ผมแกล้งสำลักน้ำแรงๆเหมือนคนกำลังจะตาย ริวที่ยิ้มสะใจผมอยู่ถึงกับเข้ามาดูอาการ

   ไวเท่าความคิดผมกระโจนใส่ริวทั้งตัวจนมันหงายหลังจมไปกับน้ำทะเล กำลังจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ถูกมือหนากอดไว้แล้วยืนขึ้นทั้งๆที่ผมยังทับตัวมันอยู่ ด้วยความกลัวตกผมจึงใช้ขาเกี่ยวเอวมันไว้ในท่าล่อแหลม

   "วู้ว เกรงใจกันบ้างเว้ย"เสียงโห่ปากแซวทำให้ผมต้องก้มหน้างุดมุดลงกับไหล่ริวด้วยความเขินอายแบบแกล้งๆ

   "เดี๋ยวผมเอาเพื่อนพวกพี่มาคืนนะครับ ขอเอาคนนิสัยไม่ดีไปทำโทษก่อน"ริวบอกเพื่อนๆแต่ก็ไม่วายแซะผม

   "จะไปไหน"ผมยังเกาะริวอยู่ในท่าเดิม มันก็ตะกรองกอดผมเดินลงทะเล ไม่ว่าจะพาไปกดน้ำหรอกนะ

   "หินใหญ่นั่นไง ไม่มีคนดี"จะบอกว่าเหมาะสำหรับทำอะไรๆงั้นสิ

   "ไม่เอา ปล่อย"เมื่อมาถึงหลังหินใหญ่ ริวก็ยื่นหน้ามาหมายจะจูบแต่ผมเบี่ยงหน้าหลบทำเป็นเล่นตัว"กูไม่อยากมีอะไรกับคนที่ไม่ได้รักกู"เริ่มแผน

   "จำที่กูบอกตอนนั้นได้มั้ยว่ากูขออยู่ข้างๆมึงสองอาทิตย์ที่เหลือนี้ กูไม่อยากอยู่ข้างๆมึงแล้ว"ในที่สุดก็บอกความจริง ก็ว่าอยู่แล้ว

   "แค่นั้นแหละ"

   "แต่กูอยากอยู่กับมึงตลอดไป...ริวรักโนนะครับ"

   "..."ผมเงียบเมื่อประโยคต่อมาของริวจบลง ผมจ้องตากับมันเงียบๆอย่างกับจะวัดใจกัน แววตาที่มองมานั้นอ่อนโยนและเปี่ยมไปด้วยความรักเหมือนมองสโนว์ สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้รักผมจริงๆแค่เห็นว่าผมเป็นสโนว์ เป็นดาราดังคนนั้น เอาผมมาแทนที่ช่วงเวลาที่ขาดหาย

   "แล้วมึงล่ะ รักกูบ้างรึเปล่าสโนว์"ชื่ออีกชื่อของผมถูกเอ่ยออกมาจากคนตรงหน้า ถ้ามันอยากให้ผมเปนตัวแทน ผมจะเป็นให้ก็ได้

   "รักสิ"ผมยิ้มหวานทั้งๆที่ในใจมันเฉาอย่างกับดอกไม้แห้งเหี่ยว

   หลังจากนั้นเราก็แค่กอดจูบกันไท่ได้มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้ ทั้งๆที่กายเร่าร้อนแทบไหม้เป็นจุลแต่ในใจกลับว่างเปล่าเหมือนหุ่นเชิด ริวกับผมตะกรองกอดกันเข้ารีสอร์ทกันอย่างคู่รัก(จอมปลอม)แล้วก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปร่อน

   "มึงกำลังเล่นกับความรู้สึกคน รู้ตัวมั้ย"เพื่อนสนิทผมเตือนสติ เก้งเป็นเพื่อนที่ดูผมออก รู้ว่าผมคิดอะไรหรือกำลังทำอะไรเพราะฉะนั้นคำพูดของมันก็เหมือนจิตใต้สำนึกดีๆนี่เอง

   "กูก็แค่เล่นไปกับมันเท่านั้นเอง เล่นกันไปเล่นกันมา สนุกดีออก"ผมขำในลำคออย่างกับว่าเรื่องนี้มันตลกนักหนา

   "แน่ใจหรอว่าฝ่ายนั้นจะเป็นอย่างที่มึงคิด"คำพูดแทงใจของเก้งทำให้ผมฉุดคิดแต่การกระทำกับคำพูดโลเลนั่นดูออกแน่ชัดอยู่แล้วไม่ใช่หรอว่าริวกำลังเล่นกับความรู้สึกผม

   "ยังไงซะ มันก็ต้องจบอยู่ดี"ผมรู้ อีกไม่นาน เราจะเป็นได้แค่มนุษย์ร่วมโลก เผลอๆริวอาจจะโกรธเกลียดผมด้วยซ้ำไป

   ...เหมือนกับแฟนคนที่สอง

   "เห้อ คิดดีๆนะ อย่าเสียใจทีหลังแล้วกัน ไม่ใช่แค่ฝ่ายนั้นจะเจ็บ มึงก็จะเจ็บด้วย"เก้งตบไหล่ผมสองสามทีแล้วเดินออกจากห้องนอนไปห้องรับแขก

   "ไม่มีวันนั้นหรอก"ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆเป็นเหมือนการปลอบใจ

   ครั้งนี้ผมอาสาขอขับรถโฟล์คที่รักของผมเอง งามหยดงามย้อย เห็นทีไรก็หลงรักทุกที จะขอหมั้นหมายไว้ก่อนแต่พ่อมันหวงห้ามยังกับหวงลูกสาว โนล่ะกลัดกลุ้มใจ

   "ว้าววว"เมื่อมาถึงตลาดโต้รุ่งตอนกลางคืน ไอ้พวกชาวเขาที่ไม่เคยมาก็อ้าปากตะลึงกับสถานที่แห่งนี้

   ตลาดกลางคืนที่ตอนเช้าจะเป็นทางถนนเส้นเล็กรถผ่านแต่พอตกกลางคืนสองข้างทางจะถูกจับจองด้วยร้านค้าอย่างหลากหลายเป็นทางยาว แสงไฟของร้านและเสาเป็นเหมือนเครื่องประดับในยามค่ำคืน ชวนให้หลงไหลไปกับความระยิบระยับ ผู้คนมากมายเอ่อล้นเต็มทางถนน จับจ่ายซื้อของกันอย่างสนุกสนานสำราญใจ เสียงพูดคุย เสียงเฮฮา หลอมรวมกับสถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งเดียวได้อย่างน่าทึ่ง

   ตลาดแห่งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมรักหัวหิน

   "เซลฟี่กันพวกมึง"ผมบอกทุกคนหลังจากหามุมเหมาะๆได้แล้ว
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๐ ทริปเที่ยวทริปฟิน✖[12/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 14-11-2016 09:34:44
   "ให้ไอ้ฟอกซ์ถือดิ่ แขนมึงสั้น"

   "ไอ้เหี้ยพล"ผมด่ามันอย่างไม่จริงจังพลางหัวเราะไปด้วย มือถือรุ่นใหม่ที่ฮิตกันในหมู่วัยรุ่นถูกยื่นไปให้คนแขนยาว ก็ดีเหมือนกัน รูปออกมาผมจะได้ไม่หน้าบานเป็นจานดาวเทียม

   จากนั้นพวกเราก็ลุยกัน ผมกับขุนพลที่มาตลาดบ่อยก็แนะนำสิ่งนั้นสิ่งนี้ โดยเฉพาะร้านไอติมชื่อดังเพื่อนๆผมถึงกับยกนิ้วให้เลยทีเดียว

   "พี่ค่ะ พี่ใช่พี่สโนว์ ไวท์รึเปล่า แล้วนี่พี่ริวใช่มั้ยคะ"เด็กสาววัยรุ่นกลุ่มหนึ่งเข้ามาสะกิดทักผมจากข้างหลัง ทั้งๆที่ผมกับริวใส่แว่นอำพรางตัวแล้วนะ ยังมีคนจำได้ด้วยหรอ ลำบากล่ะสิ

   "ไม่ใช่หรอกครับ พี่เป็นผู้ชายนะ ส่วนเนี่ยไปทำศัลยกรรมมาคงไปหน้าเหมือนคนชื่อริวล่ะมั้ง"เป็นคำพูดที่ดูไม่มีอะไรแต่แขวะคนตัวสูงข้างๆผมจังๆทั้งที่มันไม่ได้ไปศัลยกรรมอะไรก็หล่อได้

     "ใช่ครับ"ริวดัดเสียงหน่อยๆเพื่อไม่ให้โดนจับได้ เด็กกลุ่มนั้นยังทำหน้าสงสัยเคลือบแคลงใจจนผมเหงื่อตก

   "นี่พวกแก อย่าแอ๊บแมนสิยะ เดี๋ยวก็โดนชะนีจีบหรอก ขนลุกแทนเลยเอาะ"เสียงดัดจริตแหลมของเก้งดังแทรกความสงสัยของเด็กผู้หญิงพวกนั้นขึ้น ท่าทางกรีดกรายนั่นเกือบทำให้ผมหัวเราะแต่สายตาที่บอกให้เล่นตามน้ำนั่นก็ทำให้ผมต้องกลั้นไว้ก่อน

   "แหม แกล่ะก็ ฉันอุส่าห์แอ๊บแมนจนมดลูกแทบแตก ทีหลังต้องแต่งสวยมาเที่ยวละ แมนเกิ๊น ใช่มั้ยยะ อีรี่"ผมแทงข้อศอกให้ริวเล่นตามพร้อมเปลี่ยนชื่อให้เสร็จสัพ

   "ใช๊ ใช่ฮ้าา"สมแล้วที่เรียนนิเทศน์ ริวทำท่าบิดตัวเขินอายจนน่าหมั้นไส้

   "เอ่อ ขอโทษค่ะ"ในที่สุดเด็กสาวพวกนั้นก็เดินหนีไปอีกทางจนลับสายตาและผมก็กลั้นไม่ไหวอีกต่อไปพอๆกับคนอื่น เราต่างหัวเราะกันเสียงดังลั่นตลาด แล้วตอนที่ริวแกล้งเป็นกระเทยถึกก็ถูกขุดขึ้นมาเป็นประเด็นล้อยันเดินสุดตลาด

   เมื่อเดินซื้อนู่นกินนี่กันครบทุกซอกพวกเราก็ย้ายที่ไปร้านเหล้าข้างทางรถไฟ

   ร้านเหล้าที่เรามาเป็นร้านที่ผมกับขุนพลมากันนานๆถี่ๆ ตั้งอยู่ข้างทางรถไฟเป็นแบบเปิดให้นั่งกินลมชมวิว มีเสียงดนตรีคลอหนักสลับเบา มีนักร้องเสียงดีมาร้อง ไม่ใช่ร้านแบบผู้หญิงมานั่งดื่มด้วยนะครับแต่เป็นแบบให้วัยรุ่นมานั่งชิลยามดึกมากกว่าได้บรรยากาศสุดๆ

   คนอื่นๆสั่งเหล้ามานั่งจิบเต็มที่ส่วนผมได้แค่ค็อกเทลเท่านั้นเพราะไม่อยากเมาและเป็นใจที่ได้แต่จิบโค้กเพราะโดนผัวคุม น่าสงสารจนผมแอบเอาค็อกเทลให้จิบเล่น

   "โน กูมีไรจะบอก...ความจริงแล้ว"

   ปู๊นนนนๆ ฉึกฉักๆ ปู๊นๆ ฉึกฉัก

   ผมพยายามเงี่ยหูฟังเต็มที่ ริวก็ยังอ้าปากพูดต่อไปแต่เสียงรถไฟทำให้ผมไม่ได้ยินอะไรเลย ข้อเสียของร้านเหล้าข้างทางรถไฟก็คือรถไฟเนี่ยแหละครับ ผมถอนหายใจแล้วมองบนหลังจากที่เสียงรถไฟเงียบลงพอๆกับคำพูดของริวที่จบพอดี

   "อื้มมมมมม"ผมตอบในลำคออย่างประชดประชัน

   "มึงไม่โกรธกูหรอ ดีใจจัง"

   "กูไม่ได้ยินที่มึงพูดเลยต่างหาก มึงพูดอะไรว่ามาใหม่ดิ๊"

   "อ่า ไม่มีอะไรแล้ว"ริวถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงแล้วซดเหล้าอย่างกับซดน้ำลงคออึกใหญ่

   "อะไรวะ"มันต้องมีอะไรแน่ๆ ผมต้องเค้นความจริงออกมาให้ได้

   ดื่มกันพอเป็นพิธีเสร็จพวกเราก็กลังรีสอร์ทต่างคนต่างแยกย้ายกันนอน เก้งเมาหลับไปเป็นคนแรกต่อมาก็ผม ส่วนเป็นใจเห็นออกจากห้องไป คงจะไปกินน้ำล่ะมั้ง ช่างเถอะ วันนี้ใช้พลังงานไปเยอะแล้ว พักก่อนพรุ่งนี้ค่อยสู้รบกับริวใหม่

   ตัวผมเบาหวิวเหมือนลอยอยู่บนอากาศ รู้สึกเหมือนโดนพรากความนุ่มนิ่มของเตียงไปจากกาย กลิ่นหอมอ่อนๆที่คุ้นเคยที่ผมชอบสูดดมส่งกลิ่นฟรุ่งจรุงใจ ผมซุกตัวเข้าหากลิ่นนั้นมากขึ้น

   แล้วความนุ่มนิ่มของเตียงก็กลับมาพร้อมกับสัมผัสแผ่วเบาที่แก้ม ผมเอียงหน้าเข้าใกล้สัมผัสที่อ่อนโยนนั้นแล้วถูไถเบาๆ รู้สึกได้ถึงการยุบตัวของเตียงก่อนที่บางสิ่งที่อุ่นร้อนจะถูไถอยู่ข้างแก้มทั้งสองข้างสลับกันไปมา

   "อือ...ซี้ดด โน...โน"เสียงริว?

   ผมกำลังจะลืมตาแต่ก็ต้องรีบหลับตาปี๋เมื่อลูกๆของริวพุ่งออกมาและเลอะเต็มหน้าผม นี่ถ้าผมหลับตาไม่ทันมีหวังได้เป็นโรคที่ตาแน่ ริวแม่งเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง...เดี๋ยวก่อนนะ

   "เห้ย"ผมมองซ้ายมองขวา ปรากฎว่านี่ไม่ใช่ห้องที่ผมเคยนอนอยู่กับเก้งและเป็นใจ ผมมาที่นี่ได้ยังไง

   "กูอุ้มออกมาเองแหละ ถึงเวลาที่ต้องกลับคืนสู่ธรรมชาติแล้วนะ"

   "กูไม่ใช่สัตว์นะไอ้เหี้ย"

   "ถ้ากูเหี้ยมึงก็เมียเหี้ยอย่างกูนี่แหละ หึหึ"

   "กูจะกลับห้อง"เถียงไปก็เปล่าประโยชน์ ถึงบอกว่ารักกันยังไงพวกเราก็ยังทำตัวเหมือนเดิมอย่างนี้แหละ ไม่ได้มีเค้่ ตะเอง หวานๆอะไรเทือกนั้นหรอก ผมเดินออกจากห้องพลางเช็ดหน้าที่มีแต่น้ำคาวออกไปด้วย

   "อ๊ะๆ...อ๊ะ...อ๊า...ไอ้ฟอกซ์...อ๊ะ...เบาๆ"แล้วเสียงเพื่อนคน(เคย)แมนก็ครางออกมาซะจนทะลุห้องที่ผมเคยนอนอยู่ ถ้าอย่างนั้นอีกห้องก็ต้องเป็นขุนพลกับเป็นใจ พอเอาหูแนบห้องก็รู้ว่าทั้งคู่กำลังมีอะไรกันอย่างเบาๆ แต่เตียงนี่ไม่เบาเลยนะครับ

   ผมหันหน้าไปมองริวแต่สายตาดันไปปะฉะดะกับอวัยวะเบื้องล่างที่ชี้กน้าสะท้านฟ้าอยู่อย่างเปิดเผย พลันหน้าผมก็ร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ มันไม่อายแต่ผมอายนี่หว่า

   "เราก็ไปทำกันบ้างเถอะหรือจะยอมแพ้เป็นไอ้ขี้ขลาดตาขาวก็ได้นะ"พอจะอ้าปากปฏิเสธ ริวก็ขัดขึ้นมาด้วยคำพูดดูถูกอย่างรู้ทัน

   "ให้น้ำเดียวพอ โอเค๊"ผมต่อรองแล้วก็ต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ในประโยคต่อมา

   "กูอ่ะน้ำเดียวแต่มึงอ่ะคงเป็นสิบๆน้ำ"

   ริวกระชากผมเข้ามาในห้องแล้วก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คิด มันกอดผมอย่างหวนแหนแล้วเชยคางให้ผมสบตาก่อนที่ใบหน้านั้นจะใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ไม่สามารถละสายตาที่เต็มตื้นไปด้วยความรักของริวได้เลย ผมเผยอปากเพื่อตอบรับจูบของริว ลิ้นร้อนลุกล้ำเข้ามากวาดต้อนช่วงชิงความเป็นตัวของตัวเองของผมจนหมดสิ้น ตวัดชิมความหวานกันอย่างเนิบนาบ จากความโอนอ่อนค่อยๆปรับเปลี่ยนเป็นร้อนแรงจนกายแทบหลอมละลาย เสียงจูบดังเฉอะแฉะแต่ผมก็ไม่รับรู้อีกแล้ว

   ผมถูกอุ้มขึ้นในขณะที่ปากยังกวัดเกี่ยวกันไม่ห่างจนถึงเตียงและผมนอนราบก็ยังไม่หลุด สมองผมขาวโพลนคิดอะไรไม่ออกเพราะถูกความอ่อนหวานโจมตี

   ไม่รู้ว่าถูกปอกเปลือกจนล่อนจ้อนตั้งองแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มือหนาลูบไล้ผิวกายจนผมสะท้าน มือซุกซนปัดผ่านยอดอกจนผมรู้สึกขัดใจ เหมือนคนข้างบนจะรู้ตัวเลยจัดการบดขยี้เคล้นคลึงตุมไตทั้งสองข้างของผม ริมฝีปากที่สูบวิญญาณผมอยู่ผละออกแล้วก้มลงไปเล่นกับหน้าอกผมแทน ผมครางในลำคออย่างชอบใจจับกลุ่มผมให้แนบชิดกับหน้าอกมากขึ้น

   ใบหน้าหล่อเหลาลากต่ำลงเรื่อยๆพลางจูบทุกพื้นผิวที่ผ่านไปด้วย เรียวลิ้นแหย่เล่นที่แอ่งสะดือจนผมหดเกร็งหน้าท้องเพราะเสียววูบวาบ เมื่อเล่นกับหน้าท้องหนำใจริวก็เคลื่อนหน้าไปสัมผัสกับน้องโนน้อย ริมฝีปากเฉียบครอบลงไปจนแทบมิด ผมครางอือพลางบิดตัวไปมาด้วยความกระสัน ลิ้นร้อนตวัดเลียอย่างช่ำชองจนกายอยู่ไม่สุข ผมแหงนหน้าแอ่นกายรับสัมผัสที่ถูกมอบให้อย่างรัญจวนใจ

   แล้วผมก็รู้สึกอึดอัดที่ช่องทางข้างหลัง พอก้มมองก็เห็นนิ้วเรียวแหย่เข้าออกในก้นของผม นิ้วเพิ่มขึ้นเป็นสองและสามพอๆกับความเร็วของการชักนำผมให้ไปสู่สวงสวรรค์

   "อาา"ผมปลดปล่อยออกมาเต็มปากเต็มคำของริว มันไม่รังเกียจเลยแม้แต่น้อยแถมยังกลืนน้ำคาวของผมลงคอ นั่นทำให้ผมตกใจไม่น้อยเลย

   แต่ความตกใจก็แปรเปลี่ยนเป็นความอึดอัด ช่องทางด้านหลังของผมถูกรุกล้ำด้วยสิ่งแปลกปลอมที่ใหญ่กว่านิ้ว 3 นิ้ว เพราะครั้งนี้ผมมีสติด้วยรึเปล่านะถึงทำให้การมีเซ็กส์กันครั้งนี้ดูน่ากลัวและเจ็บ

   "ผ่อนคลาย อึก อย่ารัดแน่นขนาดนั้นสิ"ริวพูดปลอบประโลมผมแต่ข้างล่างก็ยังพยายามดึงดันที่จะเข้ามา
   
   "กะ...กะ...กลัว"ผมหอบหายใจด้วยความตื่นกลัว รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ก้นอย่างบอกไม่ถูก อย่างนี้มีความสุขได้ยังไงถ้ายังเจ็บอยู่แบบนี้

   ริวก้มหน้าลงมาประกบปาก ผมก็ตอบสนองรสจูบร้อนแรงแต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยนนั่น ผมเริ่มผ่อนคลายขึ้นเพราะจูบของริวทำให้ผมลืมว่ากำลังถูกทำอะไร

   "เฮือก"ผมผวากอดริวแน่นเมื่อริวกระแทกเข้ามารวดเดียวทั้งจุกทั้งเสียว อันก็ไม่ใช่เล็กๆ

   "พร้อมนะ"ริวจับขาผมให้ไปพาดไหล่ ผมไม่ได้พูดอะไรแต่หลับตาเป็นคำตอบแทน

   สะโพกแกร่งสอบเข้าหาช้าๆแต่หนักหน่วง แต่ละครั้งที่กระแทกก็ทำเอาผมหลอมละลาย รู้สึกร้อนที่ช่องทางแถมยังเต้นตุบๆเหมือนกับมีสิ่งมีชีวิตข้างใน

   "ดะ เดี๋ยว อ๊ะ...ถุง...ยาง"เพราะมีสติดีผมจึงห้ามเอาไว้ถึงแม้จะถูกใส่เข้ามาแล้วก็เถอะ

   "ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องใส่"ริวยิ้มหวานอย่างที่ผมแทบไม่เคยเห็น ทำเอาเผลอตอดรัดแก่นกายยิบๆ"อึก อย่ายั่วสิ"

   เหมือนผมจะไปกระตุ้นสัณชาตญาณดิบเถื่อนเข้าให้ สีหน้าของริวหื่นกระหายจนผมต้องหลุบตาด้วยความเขิน เป็นใครโดนจ้องแบบนี้ก็เขินเหมือนกันหมดนั่นแหละ

   "อ๊าา"จู่ๆริวก็เร่งจังหวะจากเนิบนาบถึงเนื้อเป็นกระแทกถี่รัวอย่างเอาแต่ใจ ร่างกายของผมสั่นคลอนถูไถไปกับเตียงนอนจนยับยู่ยี่

   ตับ ตับ ตับๆๆ

   เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องแข่งกับเสียงเตียงลั่นเอี๊ยดอ๊าด ผมกลั้นเสียงครางของตัวเองจนทรมานแต่คนข้างบนก็ยังแกล้งผมไม่หยุดด้วยการกระแทกแก่นกายเน้นย้ำจุดกระสัน

   "ไม่...เสร็จแ...แล้ว อึกก"ผมปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สองโดยไม่ได้แตะต้องข้างหน้า ช่องทางผมตอดถี่ทันทีแต่ริวกลับชักแก่นกายออก

   "ตอดแบบนั้นเดี๋ยวกูก็แตกกันพอดี บอกแล้วไงว่าน้ำเดียวยาวๆ"

   "ฮึ่ม"ผมหยัดตัวขึ้นผลักริวให้นอนราบลงกับเตียงแล้วคร่อมตักทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำถึงขนาดนี้

   มือผมจับริวน้อยที่แข็งปึ๋งจ่อกับช่องทางแล้วค่อยๆกดตัวลงแต่ดูเหมือนจะไม่ทันใจใครบางคน ริวจับเอวผมแล้วกดลงพร้อมๆกับที่เด้งสะโพกสวนขึ้นมา ผมครางลั่นเสียววาบขึ้นคอ ทั้งลึกและจุกแต่ผมกลับชอบ ใครบ้างที่ไม่รู้สึกดีกับเซ็กส์ที่ถึงใจ จริงมั้ยละ

   "ควบเลยที่รัก"ผมมองริวตาเขียวปั๊ดกับคำเรียกที่ไว้ใช้เรียกสโนว์แต่เหมือนคนมีชนักติดหลัง ผมไม่สามารถบอกความจริงอะไรได้ในตอนนี้

   "หุบปาก ครางอย่างเดียวก็พอแล้ว"ที่จริงบทนี้อีกฝ่ายที่รุกจะต้องพูดแต่ช่างเถอะ ตอนนี้ผมก็กำลังรุกอยู่นี่นา ว่าแล้วก็วางมือลงบนแผ่นอกริวเพื่อรองรับน้ำหนัก

   สะโพกผมยกขึ้นจนสุดจนน้องชายริวเกือบหลุดแล้วก็นั่งทับลงมาใหม่ไม่กลัวว่าแท่งจะหักคาก้น ซึ่งท่านี้ถึงจะจุกแต่ก็เสียวใช่เล่นแถมผมยังคุมเกมเองได้ด้วย ผมทำแบบนี้อยู่สักพักบ้างก็ร่อนสะโพกยั่วยวนคนใต้ร่าง เมื่อเห็นว่าริวทำท่าจะเป็นคนคุมเกมเองผมจึงเร่งสะโพกถี่รัวตามแรงอารมณ์

   "อ๊ะ อย่า"มือหนาชักนำน้องชายผมทำเอาจะเสร็จอีกรอบแต่ผมปัดมือมันทิ้งไม่ให้ยุ่มย่ามอีก ไม่งั้นผมไม่เหลือแรงสู้รบตบมือต่อแน่

   "ตอนมีสตินี่ร้อนแรงกว่าเป็นไหนๆนะ ซี้ดดด"

   "กะ ก็บอก...ให้...หุบ อ๊ะ...อ๊า...อ๊ะ...ปะ...ปาก"ริวลุกขึ้นนั่งแล้วยึดเอวผมไว้จากนั้นก็เด้งสะโพกสวนขึ้นมา ผมตัวงอด้วยความเสียวเริ่มผ่อนแรงให้ริวคุมเกม

   "ซี้ดดด รักนะ รัก"ริวเร่งจังหวะขึ้นเหมือนจะทนไม่ไหว ผมกอดคอริวแน่นเพราะจะเสร็จอีกรอบ

   "อ๊า อ๊ะ...รัก...เหมือนกัน อ๊ะๆๆ อ อย่า...เร็วไป"

   ปับ ปับ ปับๆๆๆ

   "โน สโนว์...อึก ซี้ดดด อาา"ผมหลับตาลงแล้วปลดปล่อยตัณหาออกมาจนเหนอะหนะ ริวกระแทกถี่รัวอีกสองสามครั้ง ผมก็รู้สึกอุ่นวาบในช่องทาง มันปล่อยออกมาเยอะมากจนเอ่อล้นออกมาตามน่องขาผม

   เราล้มลงไปนอนกับเตียงด้วยทั้งคู่ ผมนอนหอบหายใจอยู่อย่างนั้นจนรู้สึกว่ามีของแข็งสอดเข้ามากระชับกอดผมไว้ แขนแกร่งที่กางปีกเหมือนกำลังปกป้องผม ทำให้รู้สึกอุ่นใจแต่ก็ว่างเปล่าไปในที

   "พูดจริงหรอ หืม"ริวหอมขมับผมเบาๆอย่างชื่นอกชื่นใจ ผมเพียงแค่พนักหน้าเป็นคำตอบ

   "ไหนบอกจะให้กูเสร็จเป็นสิบน้ำไง"ผมเปลี่ยนเรื่องเพราะไอ้หน้าอกที่มันเต้นตึกตักรุนแรงอยู่ใกล้ๆหูผมเนี่ยแหละ

   "จะเอาอีกหรอ ทะลึ่งนะเรา"ผมส่ายหน้าวืด แค่นี้ก็จะตายแล้ว"ฮ่าๆ...ก็มึงบอกรักกูได้ยั่วยวนขนาดนั้น กูก็เลยทนไม่ไหวอยากแตกในใส่มึงจะแย่"

   "หึ แล้วพี่สโนว์ล่ะ"

   "...กูรักมึงนะ นอนเถอะ"

   "อืม"ดูริวจะแปลกใจที่ผมยอมลงให้ง่ายๆขนาดนี้

   "สักวันมึงจะเข้าใจกูเอง"

   "แต่มึงอาจจะไม่เข้าใจกู"ผมทิ้งปริศนาไว้ให้มันเดาก่อนจะหลับตาลงด้วยความเพลีย








☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

Nekozaa  :

         พลิกล็อคเบาๆ อ่อนหวานซะ ริวจะเอาใจโนใช่มั้ยเนี่ย
         หายไปไหนกันหมดนะคนอ่าน งือออ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๑ แกล้งรักNC✖[14/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 14-11-2016 10:36:31
ติดตามต่อไปค้าาาา  :mew2:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๑ แกล้งรักNC✖[14/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 14-11-2016 11:50:27
เราว่าริวรู้แล้วแน่ๆ แล้วที่พูดแต่ไม่ได้ยินในร้านนี่พูดอะไรเนี่ย บอกความจริงเหรอ ถ้ายังงั้นก็น่าเสียดายนะ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๑ แกล้งรักNC✖[14/11/2016]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-11-2016 19:10:22
  :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๑ แกล้งรักNC✖[14/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 15-11-2016 14:22:37
มีมาม่าในอนาคตแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๑ แกล้งรักNC✖[14/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-11-2016 19:28:19
ดูเหมือนริวจะรู้ว่าโน กับสโนว์ คนเดียวกัน
แต่รู้ได้อย่างไร :katai1: :katai1: :katai1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๑ แกล้งรักNC✖[14/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 15-11-2016 22:26:05
 :z2:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๑ แกล้งรักNC✖[14/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 16-11-2016 06:05:25
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๑ แกล้งรักNC✖[14/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-11-2016 09:10:43
ชอบอะ ริวจะฉลาดแล้วใช่ป่าว
ยั่วมากจ้าหนูโน เลิศๆๆ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๑ แกล้งรักNC✖[14/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 16-11-2016 18:14:08
 อยากให้บอกความจริงแบบตรงๆไปเลย จะได้ไม่มานั่งเศร้าแบบนี้
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๑ แกล้งรักNC✖[14/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 17-11-2016 14:38:06
รอลุ้นคู่นี้ต่อไป
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖special : เมื่อฝ่ายรุกรวมหัวกัน✖[17/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 17-11-2016 18:07:24
special : เมื่อฝ่ายรุกรวมหัวกัน




   "เดี๋ยวกูนอนกับเป็นใจ ริวกับโน ฟอกซ์กับเก้ง ตกลงตามนี้"

   "ไม่ กูจะนอนกับเก้ง"

   "เออๆ กูจะนอนกับโน"

   "ไม่ได้ มึงต้องนอนห้องเดียวกับกู"

   "ผมขอนอนคนเดียวนะครับ"

   "ยังงอนพี่หรอครับใจจ๋า นอนห้องเดียวกันนะๆ ที่รัก"

   "แบ่งเป็นคู่ผัวตัวเมียก็ถูกแล้วนี่โน"

   เมื่อตกลงเรื่องห้องนอนคู่นอนกันไม่ได้ฝ่ายโน เก้ง และเป็นใจก็เคลื่อนตัวไปอีกฝั่งเพื่อปรึกษาหารือกัน เห็นดังนั้นฝ่ายรุกอย่างริว ฟอกซ์ และขุนพลก็รวมหัวกันประชุมทันที

   "เมียมึงก็เอากับเขาด้วยหรอวะ พล"หนุ่มแว่นถามพลางเหล่ตามองไปที่คนรักของตัวเอง

   "เมียงอนว่ะ"ขุนพลถอนหายใจ บางทีคนรักของเขาก็ดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ส่วนใหญ่คำพูดจะสวนทางกับการกระทำจนเขาเองก็สับสน

   "ทั้งๆที่พวกนั้นก็ได้กับเราแล้วทำไมต้องเล่นตัวด้วยวะครับ"ริวร่วมถอนหายใจด้วยอีกคน เรื่องนี้จะไม่เกิดถ้าเจ้าตัวแสบอย่างโนไม่ค้านจะแยกห้องนอนแถมยังเอาเมียคนอื่นเขาไปร่วมวงด้วย

   "ไม่รู้ว่ะ"สองหนุ่มพากันส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ

   "กูมีแผน"เงียบไปกันพักใหญ่ฟอกซ์ก็เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา ขึ้นชื่อว่าเป็นสุนัขจิ้งจอกก็ต้องมีกลเม็ดวิธีแก้ปัญหาได้อย่างเฉียบขาดพอตัว

   "ยังไง"ขุนพลถามอย่างสงสัย จะเอาอะไรไปทำให้พวกเมียๆยอมเปลี่ยนใจได้

   "แผนคือ..."ฟอกซ์เล่าแผนให้สองเกลอฟังด้วยความสั้นกระชับรวดเร็วแต่เข้าถึงแผนเจ้าเล่ห์ของจิ้งจอกเป็นอย่างดี

    แผนแรกคือทำเป็นยอมๆเออออห่อหมกไปก่อน ส่วนตัวหัวโจกที่เป็นฝ่ายคิดจะให้นอนแยกกันก็ตีให้ตายด้วยคำพูด

   "มึงจะนอนนี่?"โนถามเมื่อเห็นว่าฟอกซ์ไม่ได้เอากระเป๋าเข้าไปเก็บในห้องและเพื่อนสนิทเขาก็อยากจะถามไถ่เสียเหลือเกินแต่ก็ไม่กล้า

   "เออ สมใจมึงแล้วนี่ แยกผัวแยกเมียกัน"คำพูดแทงใจที่สื่อตรงออกมาทำให้โนถึงกับสะอึก พูดไม่ออกบอกไม่ถูก เจ้าตัวคงจะสำนึกบ้างตามแผน

   วันหนึ่งผ่านไปจนได้เวลาที่ต่างคนต่างแยกย้ายกันนอน ฝ่ายเมียหลับปุ๋ยแต่ฝ่ายผัวเริ่มดำเนินแผนและเป็นโชคดีของขุนพลที่เป็นใจออกมาหาน้ำกิน
 
   "อ๊ะ พี่ขุนพล...มะ มีอะไรรึเปล่าครับ"

   "มีเยอะแยะเลยล่ะครับ เราไปนอนเล่ากันที่เตียงดีกว่าเนอะ"

   "คะ ครับ"ปากตอบตกลงแต่กายกลับหันหลังให้และวิ่งหนี ขุนพลที่ไวกว่าคว้าเอวเล็กไว้มาประชิดตัวก่อนจะยกขึ้นพาดบ่าแล้วมือหนาก็ฟาดลงที่ก้นนุ่มนิ่ม

   ป๊าบ

   "เด็กดื้อต้องถูกทำโทษนะครับ"

   "อ๊าาาาา"เสร็จไปแล้วรายหนึ่งเหลือสองที่ยังคงนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่

   "เดี๋ยวผมอุ้มโนไปไว้อีกห้อง พี่ใช้ห้องนี้เลยนะครับ"

   "โอเค"สองหนุ่มพยักหน้าแล้วส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กันอย่างรู้ใจ

   ริวอุ้มโนออกไปแล้ว ฟอกซ์ไม่รอช้ารีบเข้าตะครุบเหยื่อที่กำลังหลับใหลสุขสบายทันที

   "ผะ ผีอำ"คนใต้ร่างละเมอออกมาอย่างอึดอัด

   "ผีที่ไหน ผัวต่างหาก"คนเจ้าคิดเจ้าแผนกระซิบที่ข้างหูก่อนจะงับแรงๆให้คนรักของตัวเองตื่นมารับโทษ

   "ว้ากกกก...ง่ะ ฟอกซ์...มึงมาอยู่นี่ได้ไง กูฝันหรอ"เก้งขยี้ตาตัวเองแรงๆสองสามทีแต่คนตรงหน้าก็ยังเป็นฟอกซ์

   "ให้กูแทงเข้าไปตอนนี้เลยมั้ยล่ะ จะได้รู้ว่าฝันหรือไม่ฝัน"

   "มะ ไม่นะ ม่ายยยยยย"เสร็จไปอีกรายส่วนอีกอีกรายไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

   "ถ้าไม่เชื่อฟังพี่อีกจะโดนหนักกว่านี้นะครับ/ขัดใจกูอีกมึงโดนกูเอาจนพรุนแน่"คำสุดท้ายหลังจากเสร็จกิจทำโทษเมียขุนพลกับฟอกซ์ต่างพูดขู่เมียตัวเองส่วนริวน่ะหรอ

   "รักนะครับ"ให้มันได้อย่างนี้สิ แล้วแบบนี้โนจะสำนึกได้ยังไง เห้อ

   งานนี้พวกเมียๆคงเข็ดไปกันอีกพักใหญ่ ควาญช้างหรือจะสู้ช้างเท้าหน้า ผู้นำก็ยังคงเป็นผู้นำอยู่วันยังค่ำอย่าได้คิดหืออีกไม่งั้นจะโดน xxx แล้วก็ xxx

   และเพราะแผนนี้ทำให้สามเกลอกลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปในทันที อย่าให้รวมหัวกันเชียวไม่งั้นจะหนาว บรื๊ออ




+++++++++++++++++++++++++++++

   เอาตอนพิเศษมาลงไว้ก่อนเน่อ ไม่ทิ้งไปไหนแน่นอน

   เกลอ = เพื่อน
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖special : เมื่อฝ่ายรุกรวมหัวกัน✖[17/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-11-2016 18:18:26
อื้อหือ....ฝ่ายรุก มีวางแผนด้วย
อย่างนี้ ฝ่ายรับก็เสร็จสิ
แหม....ฝ่ายรุกสนิทกันเลยละทีนี้
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖special : เมื่อฝ่ายรุกรวมหัวกัน✖[17/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 17-11-2016 18:31:58
เล่นรวมหัวกันแบบนี้ฝ่ายรับก็แย่น่ะซิ ระวังเหอะพวกรับเอาคืนแล้วจะหนาว
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖special : เมื่อฝ่ายรุกรวมหัวกัน✖[17/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-11-2016 19:07:06
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖special : เมื่อฝ่ายรุกรวมหัวกัน✖[17/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-11-2016 10:55:44
 :mew1:  สายรุกอย่าเพิ่งชะล่าใจนะจ๊ะ ยังรู้ฤทธิ์เดชบรรดาเมียๆน้อยไปแล้ว 55555
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖special : เมื่อฝ่ายรุกรวมหัวกัน✖[17/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 19-11-2016 14:40:17
 :man1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๒ แต่งงาน✖[20/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 20-11-2016 18:02:58
บทที่๑๒

แต่งงาน

(https://www.img.in.th/images/4accfd8cafcec889b13921630a9d38a8.jpg)






   ตื่นขึ้นมาอีกวันก็ปาเข้าไปบ่ายกว่า พอๆกับคู่อื่นเพราะเมื่อคืนจัดหนักจัดเต็ม ด้วยความหิวผมจึงฝืนกายไปทำอาหารละลายกรดที่อยู่ในท้อง พอจะนั่งกินเงียบๆอยู่คนเดียว ริวก็สั่งให้ผมทำให้อีกที่ ผมก็ทำ พอจะนั่งกินอีก ไอ้เก้ง ไอ้ฟอกซ์ก็บอกให้ผมทำให้ อ่ะ ผมก็ทำ ส่วนขุนพลที่เพิ่งออกมาจากห้องก็ให้เป็นใจทำให้นั่นแหละ กูหิวเว้ย

   วันนี้ทั้งวันไม่มีใครพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแต่ดูจากสีหน้าของแต่ละคนแล้วก็พอจะเดาออกว่าจัดหนักจัดเต็มกันมา เราเลยตกลงกันทางสายตาว่าวันนี้ของดเที่ยวพักฟื้นร่างกายแล้วตอนค่ำค่อยมาปาร์ตี้บาร์บีคิว

   เมื่อไม่ได้ออกไปไหนผมเลยมานั่งดูซีรีส์เกาหลีในห้องนั่งเล่นกับเป็นใจ ตอนแรกๆก็เหมือนไม่อยากดูแต่ไปๆมาๆก็เอาแต่จ้องโทรทัศน์ตาแป๋ว แต่พอซีรีส์จบก็เลื่อนช่องไปดูสารคดีสัตว์โลกแทน

   "ตัวนี้เหมือนมึงเลย"ริวที่โผล่มาจากไหนไม่รู้มานั่งข้างๆผมแล้วชี้นิ้วไปที่สัตว์ชนิดหนึ่งที่ฉายอยู่บนจอ

   "เออ กูลิงมึงก็ลิงเหมือนกันนั่นแหละ"ผมมองหน้าคนข้างๆอย่างเบื่อหน่ายแล้วก็ทำท่าลิงล้อเลียนมัน

   "ลิงจั๊กๆ...รักจริงๆ"รู้สึกเส้นประสาทบนใบหน้าผมมันกระตุกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้กับมุขที่ไม่ได้กลั่นกรองมาจากสมองของไอ้ริว

   "ไปลิงจั๊กๆไกลๆส้นตีนกูเลยแป่ะ"

   "นี่กูจริงจังนะ"น้ำเสียงของริวจริงจังตามคำพูด

   "เรื่องของมึง"พูดจบก็ลุกออกจากโซฟาเปลี่ยนไปนั่งโซฟาโยกตัวยาวแทนพลางเล่นโทรศัพท์ไปด้วย เช็คข่าวสารเสียหน่อย

  'เตรียมนับถอยหลังเข้าสู่งานวิวาห์ของเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงกับทายาทเจ้าของบริษัทสื่อมวลชน'ต้องเตรียมนับถอยหลังวันเลิกด้วยมั้ย

   'เจน เจนจิรา ดาราหน้าใหม่ ไต่เต้าจากสตาฟกองถ่ายผันตัวขึ้นมาเป็นดาวจรัสฟ้า'โอ๊ะ ข่าวเล็กๆนี้ช่างน่าสนใจ โดยเฉพาะชื่อและใบหน้าของคนที่ผมมีเรื่องด้วยตอนริวขอแต่งงาน ไม่น่าเชื่อว่าภายในเวลาสั้นๆ ยัยเจนนั่นจะใช้เต้าไต่ขึ้นมาเป็นนักแสดง ฝีไม้ลายมือจะเท่าไรกันเชียวแต่ยังไงก็สู้สโนว์ ไวท์ไม่ได้หรอก

   ...

   "โน...โน...ตื่นได้แล้ว"

   "อืม ขออีกห้านาที"ผมพลิกกายไปอีกด้านไม่ให้ใครบางคนที่กำลังปลุกผมอยู่มารบกวนการนอน

   "นอนกินบ้านกินเมืองจริงนะมึง...ตื่นนนนนนน ไฟไหมโว้ยยย"

   "ไฟไหม้! หนีเร็ว"เท่านั้นแหละผมก็ลุกพรวดขึ้นจะวิ่งไปทางบันไดหนีไฟอย่างลืมตัวแต่พอนึกขึ้นได้ว่าเหตุการณ์นี้มันแดจาวูแปลกๆก็หยุดตั้งสติแล้วมองไปรอบๆตัว

   ผมยังอยู่ข้างนอกเหมือนเดิมและไม่มีไฟไหม้อะไรทั้งนั้น

   "ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้า กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตามสนอง"ไอ้เก้งหัวเราะร่าชอบใจเหมือนรู้สึกดีนักหนาที่แกล้งผมกลับได้

   "ฝากไว้ก่อนเหอะมึง"ผมชี้หน้าด่ามันแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา จากนั้นก็เข้าครัวเพื่อเตรียมของไปปิ้งย่าง เห็นขุนพลกับเป็นใจช่วยกันจัดสถานที่อยู่ริมสระ

   "มีอะไรให้ช่วยมั้ย"ผมที่กำลังคือของพะรุงพะรังไปสวนด้านนอกหยุดกึกเพราะถูกริวมายืนขวางหน้าไว้

   "มีสิ ช่วยถือของหน่อย"อันที่จริงก็ไม่หน่อยล่ะนะเพราะผมโยนให้ริวเอาไปถือหมดเลยส่วนผมก็เดินนำหน้าไปอย่างตัวเบา

   เมื่อทุกๆอย่างจัดเตรียมเสร็จเรียบร้อยเราก็เริ่มปาร์ตี้ทัน

   แสงไฟนวลสะลัวตามเสา ท้องฟ้ายามค่ำคืน กับเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆ เป็นบรรยากาศที่ชวนโรแมนติก ผมมองแต่ละคู่ที่กระหนุงกระหนิงกันอยู่ตามจุดต่างๆ...ซะที่ไหน

   "กูจะโดดให้น้ำกระจายเป็นวงกว้างเลย วู้ววว"

   ตู้ม

    ไอ้เก้งในชุดชาวเลวิ่งไปที่สระแล้วกระโดดลงจนน้ำกระเซ็นไปโดนเป็นใจที่ยืนกินน้ำอยู่

   "พี่เก้ง"เป็นใจมองคนที่อยู่ในตาเขียวปั๊ดแล้วมองแก้วน้ำในมือที่กลายเป็นน้ำโงแดงผสมคลอรีน เจ้าตัววางแก้วในมือลงบนโต๊ะก่อนจะกระโจนลงน้ำไปฟัดกับไอ้เก้ง

   "เล่นอะไรเป็นเด็กๆไปได้"ขุนพลยืนบ่นอยู่กับขอบสระหารู้ไม่ว่ามีใครบางคนย่องไปอยู่ข้างหลังและ...

   ผลัก ตู้ม

   เท้างามๆยกขึ้นกลางหลังและถีบคนที่ยืนบ่นให้โบยบินลงน้ำ ฟอกซ์ยืนขำอย่างสะใจ ไอ้เก้งเลยชูนิ้วโป้งให้ผัวตัวเอง ยังไม่ทันที่ฟอกซ์จะระวังตัวก็ถูกคนใต้น้ำฉุดให้ตกลงไปตาม กลายเป็นว่าเปียกกันถ้วนหน้ายกเว้นผมกับริวที่ยืนปิ้งย่างอาหารทะเลกัน

   "ไม่ไปเล่นน้ำกับเขาบ้างหรอ"ผมเปรยถามคนที่ยืนปิ้งกุ้งอยู่หลายตัว สงสัยจะชอบกินกุ้ง

   "อยากกินกุ้งน่ะ"ริวมองกุ้งที่อยู่ในจานหลายตัวแต่ไม่ได้ลงมือแกะกินสักตัว

   "อย่าบอกนะว่าแกะไม่เป็น"

   "อืม"ใบหน้ามันขึ้นสีเล็กน้อยและมองกุ้งตาละห้อยอย่างกับเด็กน้อยที่ทำอะไรไม่เป็น...น่ารักดีแหะ

   "มา เดี๋ยวพี่แกะให้นะน้อง"ผมหยิบจานกุ้งมาแกะให้ ไม่วายแซวเด็กบ้าไปด้วย

   จู่ๆก็คิดถึงตอนที่เจอกันครั้งแรกขึ้นมา เด็กน้อยผู้ที่เข้ามาพร้อมกับบอกความหมายของดอกไอริช

   "ป้อนหน่อย"เมื่อผมแกะให้ครบทุกตัวแล้วริวก็อ้าปากหมายจะให้ผมป้อนให้

   "ได้คืบจะเอาศอกนะมึง"

   "ไม่เอาศอก จะเอากุ้ง"ผมหยีปาก ก็ไอ้ริวออดอ้อนซะผมขนลุก ตัวก็โตแต่ทำท่าทางเหมือนเด็กอายุไม่ถึงสิบขวบ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๒ แต่งงาน✖[20/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 20-11-2016 18:11:04
    ขอมาก็จัดให้ ผมหยิบกุ้งมาสองสามตัวอุดปากไอ้ริวจนมันร้องเสียงอู้อี้จะคายก็ไม่ได้

   "แกล้งกูหรอ"กุ้งถูกย่อยลงท้องริวก็ถามอย่างเอาเรื่อง ผมเลยยักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้

   "หวา"ผมร้องเสียงหลงเมื่อไอ้ริวช้อนตัวผมอุ้มขึ้นพาดบ่าแล้ววิ่งไปที่สระน้ำ

   "โยนเลยๆๆ"พวกเพื่อนๆก็เชียร์กันยกใหญ่ อย่าให้ลงไปได้นะจะจัดการงับคอเรียงตัวเลย

   "ปล่อยกู"

   "ได้ครับ"ผมไม่ได้เอะใจที่ริวยอมตกปากรับคำง่ายๆ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ร่างลอยหวือกลางอากาศและตกลงไปในน้ำจนจมก้นสระ

   ด้วยความคิดที่จะเอาคืนผมเลยแกล้งทำเป็นจมน้ำอยู่ก้นสระไม่ยอมโผล่ขึ้นไป เพื่อนๆผมไม่ได้คิดจะช่วยอะไรเพราะรู้ว่าผมแกล้ง ซึ่งก็จริง

   แต่ไอ้อาการตะคริวกินฉับพลันนี่สิที่ทำเอาผมขยับไม่ได้และอากาศเริ่มจะหมดลมแล้วด้วย เมื่อสติใกล้จะดับเต็มทีก็มีมือมาฉุดผมไว้และลากขึ้นไปบนผิวน้ำ

   "แค่กๆๆ ค่อกๆแค่ก"ผมไขโขลกในขณะที่อีกคนลูบหลังให้อย่างปลอบประโลม

   "ทำไมมึงไม่ลุกขึ้น จะฆ่าตัวตายรึไง ห้ะ"คนที่ลูบหลังให้ผมอยู่ตวาดหนักพลางตบหลังอย่างแรงแทน

   "ตะคริวแดก แค่กๆ กูว่ายขึ้นไปไม่ได้"

   "โถ่เอ้ย ไอ้โนไอ้ควาย...น้ำตื้นเท่าเอวมึง จะว่ายขึ้นทำห่าอะไร ลุกขึ้นนั่งมึงก็เจออากาศบริสุทธิ์แล้ว"ไอ้เก้งอวยพรผมเดี๋ยวเสียงกลั้นขำเต็มทีแต่ก็ยังหลุดออกมา ส่วนผมที่มองต่ำก็เกิดอาการเอ๋อทันที

   ที่กูตกลงมานี่มันสระเด็กนี่หว่า

   หลังจากที่ผมโชว์โง่ไปก็ขึ้นจากสระและไปยืนผิงเตาพลางกินอาหารไปด้วยอย่างมึนๆ นี่ผมทำถึงขนาดนั้นเพื่อเรียกร้องความสนใจจากไอ้ริวหรอวะ แถมยังหน้าแตกยับเยินอีกด้วย

   "มึงจะไปงานแต่งของกูใช่มั้ย"เสียงที่ผมจำได้ดีถามจากข้างหลัง

   "แน่นอน"แต่ในชุดเจ้าสาวนะ...

   ปาร์ตี้เลิกราต่างคนต่างแยกย้ายเข้าห้องของตัวเองเป็นคู่ๆ ส่วนผมออกมานั่งมองท้องฟ้าที่มีดาวเพียงแค่ประปราย เนื่องจากนอนอิ่มไปเมื่อตอนกลางวันแล้วเลยยังไม่ค่อยง่วงเท่าไร

   "นั่งตรงนี้ยุงไม่กัดรึไง"

   "ไม่อ่ะ กูหนังหนา"ผมว่าอย่างขำขัน

   "หนังมึงอาจจะหนาแต่หัวใจมึงอ่ะอาจจะเปราะบางยิ่งกว่าแก้ว...ทำอะไรก็คิดดีๆก่อนนะรู้มั้ย"ขุนพลพูดพลางเหม่อมองออกไปไกลสุดเส้นขอบฟ้า ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ ไม่รู้หรอกนะว่ามันเตือนเรื่องอะไรแต่ทุกอย่างที่ผมทำมันดีที่สุดแล้ว

   เช้าตรู่เราก็ออกเดินทางกลับเมืองหลวงทันที ส่วนริวกลับไปก่อนหน้านั้นแล้วเพราะต้องรีบไปเตรียมเข้างานวิวาห์ของค่ำวันนี้ แล้วผมน่ะหรอทำไมไม่รีบบ้างเพราะแด๊ดยังนั่งอยู่บนเครื่องบินอยู่เลย ขืนไปก่อนความก็แตกกันพอดีว่าไม่ได้ไปเข้าคอร์สเจ้าสาว

  "ไอ้โน"ก่อนที่ผมจะลากสำภาระขึ้นไปเก็บบนคอนโด ขุนพลก็เรียกผมไว้ซะก่อน

   "มีไร"ผมถามมันอย่างเร่งรีบ เดี๋ยวก็ต้องไปรับแด๊ดที่สนามบินอีกด้วย

   "ถ้ามึงกับริวรักกันจริงๆเมื่อไร กูจะยกรถคันนี้ให้"

   "...เจอกันในงานแต่งนะพวก"

   คงไม่มีวันนั้นหรอก ลาก่อนโฟล์คคนสวย พี่โนคนนี้จำต้องตัดใจแล้วจริงๆ

   เมื่อเหวี่ยงกระเป๋าสะพายไปเก็บที่ห้องเสร็จผมก็บึ่งรถออกจากคอนโดไปสนามบิน หลายชั่วโมงกว่าจะถึงเพราะรถติดยิ่งกว่าอะไร

   "Hi! my son.ไปเข้าคอร์สเจ้าสาวมาเป็นไงบ้าง"เจอหน้าปุ๊บแด๊ดก็แซวผมทันทีด้วยใบหน้ายิ้มแย้มผสมกวนเท้า

   "ก็ดีครับ ไปแช่น้ำทะเลมา"ตบมุขกลับพลางทำหน้าเบื่อหน่าย

   "โอ้ ทำไมไม่ชวนแด๊ดบ้างเลย"

   "แด๊ดอยู่ทำหน้าที่เป็นนกต่อที่นั่นแหละถูกแล้ว"ว่าจบผมก็ช่วยลากกระเป๋าแด๊ดไปขึ้นรถ ขืนคุยกันต่อคงยืดยาวสาวไม่จบ

   ขาไปว่ารถติดแล้วขากลับติดยิ่งกว่าเพราะต้องเข้าสู่ตัวเมือง นั่งรถติดอยู่สักพักแม่ก็โทรมาตามว่าถึงไหนแล้ว บอกให้ผมรีบไปเตรียมตัวเป็นเจ้าสาว ผมเลยต้องเบี่ยงซ้าย เบี่ยงขวา ปาดหน้า ปาดหลัง จนคนที่โดนผมทำแบบนั้นบีบแตรด่าและคงจะตะโกนอวยพรผมเป็นวักเป็นเวรอยู่ในรถแน่

   บางทีผมก็รู้สึกว่าเวลามันผ่านไปไวอย่างกับมีใครจับหมุนมันให้เร็วขึ้น ตอนนี้ผมอยู่ในชุดเจ้าสาวครบเครื่องครบครัน

   เกาะอกสีขาวสะอาดตายาวฟูฟ่อง ปลายกระโปรงตกแต่งโดยผ้าซีทรูห้อยระโยงระยาง ถุงมือแบบบางสีขาวยาวถึงข้อมือ ผมสีน้ำตาลยาวสลวยถูกประดับตกแต่งด้วยกุหลาบสีขาวแซมด้วยดอกไอริช ที่เป็นไอเท็มของงาน

   คืองานแต่งของผมก็เป็นเหมือนการถ่ายโฆษณาไปในตัว ยังจำกันได้มั้ยครับที่เด็กผู้หญิงที่เคยเดินขบวนงานแต่งอีกสิบปีต้องมาเล่นเป็นเจ้าสาวเสียเองเพราะเป็นภาคต่อ

   สถานที่แต่งงานก็คือโบสถ์เพราะผมและครอบครัวนับถือศาสนาคริสต์ ภายในงานก็ถูกจัดแต่งอย่างสวยงาม เป็นเซตเดียวกับงานแต่งเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว

   "นี่ลูกได้ไปเข้าคอร์สเจ้าสาวจริงมั้ยเนี่ย ทำไมผิวดูคล้ำๆขึ้นนิดนึง"แม่ถามขณะที่จะเข้างานไปนั่ง จะมาเอะใจอะไรตอนนี้นะแม่นะ

   "โถ่ แม่...ผิวสีแทนนี่เขากำลังเป็นที่นิยมเชียวนะ ไปๆ เข้างานได้แล้ว"ผมผลักหลังแม่เบาๆให้เข้าไปนั่งประจำที่ ส่วนผมก็มายืนรอหน้าประตูกับแด๊ดที่ต้องส่งผมให้ถึงมือเจ้าบ่าว

   คราวนี้ไม่ต้องเล่นตามบทหรือคัทซีนอะไร เพราะเจ้าของโฆษณาต้องการความเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด ซึ่งก็ธรรมชาติสมใจเลยล่ะ งานแต่งจริงๆนี่นา

   ในที่สุดก็ถีงเวลา ประตูแกะสลักสวยงามถูกเปิดออกพร้อมกับเจ้าสาวที่สวยที่สุดในงานกับคุณแด๊ดสุดหล่อเหลาก้าวขาไปตามพรมทางเดิน กลีบกุหลาบและดอกไอริชร่วงโรยมาจากข้างบนตามย่างก้าวที่ผมเดิน เสียงบรรเลงดนตรีเคล้าคลอไปกับเสียงเต้นของหัวใจ ผมเหลือบตาไปมองกล้องที่ติดตั้งไว้หลายจุดหลายมุมเล็กน้อยก่อนจะมองไปที่เจ้าบ่าวของผม

   ไม่รู้ทำไม ณ เวลานี้ผมถึงมองว่าริวหล่อมาก หล่อจนใจผมเต้นแรงมาก รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้แหละ ผัวกู

   ...นี่วิญญาณสโนว์เข้าสิงผมแล้วใช่มั้ยเนี่ย

   จบงานนี้คงต้องไปพบจิตแพทย์ด่วาที่สุดแล้วล่ะ








☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

Nekozaa  :

       ในที่สุดทั้งสองก็ดองกัน ดูแลโนของเราดีๆนะริว (กระซิกๆ)
       ช่วงนี้ต้องเข้าหน้าหนาวได้แล้วแต่ประเทศไทย...ร้อนนนนนน ตับแตกจนคยเขียนไม่มีอารมณ์แต่งนิยายกันเลยทีเดียว แอร์ก็ไม่มี ฮือออ (บ่นๆ)
      เจอปืนค่า ช่วงนี้งานเยอะด้วยคงมาอัพถี่ๆไม่ได้แล้ว (แกก็ไม่ได้มาอัพถี่ๆนายแล้วนี่ยะ)
   :fire: :katai5:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๒ แต่งงาน✖[20/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-11-2016 18:21:54
อขันหมากคึกคักๆได้ไหมคะ อย่าเอาเรื่องงานมาเกี่ยวสิ
แต่งงานกันจริงๆนะโนนะ ถ้าผัวมันโง่นักก้อตบกะโหลกแล้วบอกความจริงไป 555
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๒ แต่งงาน✖[20/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 20-11-2016 18:55:41
ใส่เกาะอกกันนมปลอมนี่ไม่หลุดเหรอ คิดยังไงก็ไม่น่าจะเอาอยู่อ่ะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๒ แต่งงาน✖[20/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-11-2016 19:59:44
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๒ แต่งงาน✖[20/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 20-11-2016 21:05:59
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๒ แต่งงาน✖[20/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 20-11-2016 23:26:34
พอเข้าหอ ริวก็คงจะรู้แล้วล่ะ

ได้เวลากินโรตี แล้วสิน่ะ ริวๆ 5555+
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๒ แต่งงาน✖[20/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-11-2016 06:05:21
ถ้าความแตก 
ริว โกรธโน แน่
แต่น่าจะยิ่งดีใจน   
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๒ แต่งงาน✖[20/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 21-11-2016 09:37:19
คาดว่าถ้ารู้ความจริงอาจจะมีโกรธแต่ก็ดีใจแน่ๆ เลยสำหรับริวนะ ดีไม่ดีอาจรู้แล้วตั้งแต่ต้นก็ได้
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๒ แต่งงาน✖[20/11/2016] ~อัพ~
เริ่มหัวข้อโดย: เมื่อนั้นฝันว่า ที่ 21-11-2016 15:10:30
 :katai1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 10-12-2016 11:41:35
บทที่๑๓

ส่งตัวเข้าหอ






   "คุณจะรับผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยา ร่วมทุกข์ร่วมสุขหรือไม่"

   "รับครับ"

   "แล้วคุณจะรับผู้ชายคนนี้เป็นสามีอยู่เป็นคู่ชีวิตยันแก่เฒ่าหรือไม่"

   "...รับ...ค่ะ"ผมตอบบาทหลวงไปแบบไม่เต็มเสียงผิดกับริวที่มั่นหน้ามั่นใจเหลือเกิน จากนั้นเราก็สลับกันสวมแหวนและขั้นตอนต่อไปเป็นอะไรที่ผมไม่อยากทำนั่นคือ...

   "เจ้าบ่าวจูบเจ้าสาวได้"จบคำพูดของบาทหลวง ริวก็เอื้อมมือมาโอบเอวพลางก้มหน้ามาจุมพิตริมฝีปากผมอย่างเบาบาง

   การจูบนี้เป็นเหมือนสักขีพยานว่าจะไม่มีอะไรมาพรากจาก ทำให้ทุกคนรับรู้ว่าเราเป็นของกันและกัน และยังยืนยันความรักที่มีต่อกัน ซึ่งทุกข้อที่กล่าวมานั้นเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น ทั้งผมและริวต่างก็โกหกตัวเอง แต่งงานกันแล้วไม่ได้แปลว่าจะรักกันตลอดชั่วกับชั่วกัลป์ คู่ที่หย่าร้างกันก็มีถมเถไป

   ทั้งที่ผมกับริวเคยจูบกันมาหลายครั้งแต่ครั้งนี้มันต่างจากครั้งอื่น มันไม่ได้ร้อนแรงแต่ก็ไม่ได้อ่อนหวาน กลับเป็นจูบที่พิเศษกว่าครั้งไหนๆ อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของดอกไม้หรือเพราะสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นที่ที่คู่รักหลายคู่มายืนยันความรักต่อพระเจ้า

   "พอ...แล้ว"ผมเบี่ยงหน้าหลบแล้วกัดฟันพูดยิ้มๆ

   "รอรวบยอดคืนนี้เลยแล้วกันเนอะ"มันกระซิบข้างหูผมก่อนจะกลับไปยืนตัวตรงตามเดิม

   ต่อไปเป็นการโยนดอกไม้ส่งต่อให้คนที่อาจจะได้แต่งงาน...เจ้าคือทายาทคนต่อไป~

   คนที่มายืนอออยู่หน้าเวทีก็ไม่ได้เป็นคนไกลตัว ทั้งญาติที่ผมรู้จักและไม่รู้จัก ทั้งเพื่อนอย่างไอ้เก้งที่ถูกถีบส่งมา และน้องเป็นใจที่ต้องยอมมาร่วมเล่นกับเขาด้วยอย่างขัดไม่ได้

   "หนึ่ง สอง สาม ฮึบ"เมื่อนับถึงสามผมก็โยนช่อกุหลาบแกมไงดอกไอริชไปข้างหลังก่อนจะหน้าไปมองว่าใครจะเป็นผู้โชคร้าย

   แต่งงานไม่เห็นจะโชคดี ไม่มีอิสระแถมยังหลีสาวไม่ได้ด้วย เวลาจะไปสังสรรค์กับเพื่อนก็ต้องคอยตอบคำถามนู่นนั่นนี่เยอะแยะไปหมด กลับเมื่อไร ที่ไหน ไปกับใคร มีผู้หญิงมั้ย ห้ามเมา ห้ามกลับดึก บลาๆ

   ปรากฎว่าผมคงโยนเขวและแรงเกิน ทำให้ช่อดอกไม้ไปตกอยู่บนหน้าตักของคุณทวดที่นั่งสั่นหงึกๆใกล้ม่องอยู่ ทวดแกก็ยังอุส่าห์ทำหน้าดีใจนะ อายุปูนนี้แล้วจะไปแต่งกับใครได้ละครับ โถ่ๆ

ในที่สุดก็ถึงเวลาส่งตัวเจ้าสาวเข้าไปในโรงเชือดหมู ผมนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่กับพื้นข้างริว ส่วนบนเตียงพ่อแม่ของริวก็นั่งให้พร ให้ถือไม้ทองกระบองยอดเพชร แต่ที่จี๊ดสุดๆก็คงประโยคอวยพรของลุงประเสริฐ

   "ขอให้ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองนะลูก ฮ่าๆ"

   "คนแรกเป็นลูกชายหรือลูกสาวดีคะ"ตบมุขกลับเบาๆแล้วส่งยิ้มหวาน ทำเอาน้าแอนนาหัวเราะร่วนชอบอกชอบใจ

   "แม่ขอให้ผ่านคืนนี้ไปได้ด้วยดีนะจ๊ะ"น้าแอนนาพูดเหมือนเป็นนัยว่าด้วยเรื่องผมเป็นเจ้าสาวมีไข่ ไอ้ริวจงทำใจเสียเถอะแล้วนั่งคุยกันดีๆ แต่ผมนี่นึกไปอีกอย่างคือเมื่อริวรู้ว่าผมเป็นผู้ชาย มันอาจจะโกรธมากจนเอาปืนยิงแสกหน้าก็เป็นได้

   ก็เพราะว่าฉันนั้นเป็นผู้หญิงที่ไม่อาจเปิดเผยความจริงข้างใน ที่ต้องเก็บไว้ ที่ต้องซ่อนไว้ข้างใน~

   ไม่ใช่ล่ะ กลับมาสู่ความเป็นจริง ผู้ใหญ่ใจดีทั้งสองท่านออกไปจากห้องหอรอเชือดแล้ว เหลือก็แต่ริวที่ยืนอยู่เงียบๆ และผมที่นั่งนับขนแขนตัวเอง

   "ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เหลือก็แต่จดทะเบียนสมรส"จดตอนนี้เลยก็ได้นะ จะได้เซ็นต์ชื่อนำหน้าว่า นาย ให้ดูเป็นขวัญตาขวัญยาย ฮ่าๆ รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำตัวใจเย็นเกินไป สถานการณ์ตอนนี้ไม่สู้ดีเลย ทั้งเตียงที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบและบรรยากาศที่น่าเป็นใจให้เล่นอะไรที่สามารถออกไปแตะขอบสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

   "ง่วงจัง ขอนอนก่อนนะ หาว~"พูดพร้อมทำตาปรือ พอจบประโยคก็ทำทีปิดปากหาวให้สมจริง ผมลุกขึ้นและเดินไปนอนบนเตียงทั้งๆชุดเจ้าสาว ถามว่าชุดเกาะอกแบบนี้ผู้ชายไม่มีนมอย่างผมจะเกาะได้จริงๆหรอ ขอตอบว่าตอนนี้ทั้งฟองน้ำ ทั้งซิลิโคน ทั้งบราปีกนกอะไรนั่น พ่วงด้วยอะไรหลายๆอย่างที่มากระจุกรวมกันที่หน้าอกแบนๆของผมเป็นอะไรที่เกาะได้เกาะดีอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ถ้าสะบัดนมแรงๆอันนั้นน่าจะมีหลุดกันบ้าง

   "อะไรกัน จะแอบชิ่งรึไง"เจ้าบ่าวของผมทิ้งตัวมานั่งแหมะอยู่ที่ปลายเตียงแล้วปลดเสื้อนอกออกและยังคงปลดออกเรื่อยๆ เสียงไซเรนนี่ดังอยู่ในหัวผมเลยครับ อันตรายสุดๆ

   "เปล่า...ว้ากก"

   "โอ๊ย!"

   ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมาก ก็ไอ้ริวน่ะสิ ผมนอนอยู่ดีๆมันก็เอาหน้ามุดกระโปรงเข้ามา ผมตกใจเลยยันหน้ามันด้วยฝ่าเท้างามๆจนมันกลิ้งตกเตียง ขวัญเอ้ยขวัญมา นึกว่าผีมุดหัว(โปรดอย่าผัน)

   "เล่นบ้าอะไรเนี่ย กูตกใจหมด"ไม่นงไม่นอนมันแล้วครับ ดูท่าคืนนี้จะปล้ำกันยาวๆ อีกคนจะมุดอีกคนก็ไม่ให้มุดไง

   "จะเอาเมีย"ไม่ว่าเปล่ามันยังทำท่าจะเข้ามาถกกระโปรงผมให้ได้ เอาไงดีวะ บอกมันไปเลยมั้ยว่า

   "กะ กูคือโน โนที่เป็นผู้ชาย โนที่ถูกมึงแทงข้างหลังไง"ปากไปไวกว่าความคิดเสมอ ผมโพล่งออกไปแบบหลับหูหลับตา ใจเต้นตึกรุนแรงราวกับตีกลองมโหระทึกก็ไม่ปาน อีกไม่นานคงมีอะไรสักอย่างลอยมาฟาดหน้า

   "อืม กูรู้แล้ว"

   What the hell!? อะไรวะนั่น บอกผมสิว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับริวผู้ดักดานแยกคนไม่ออก คือบทจะรู้ก็รู้ง่ายๆงี้อ่ะหรอ

   "ถ้ามึงไม่เชื่อเดี๋ยวกูถกกระโปรงให้มึงดูเลยอ่ะ"ไม่อยากถกหรอกแต่ในเมื่อมันจำเป็นก็ต้องทำ ถ้าทำแล้วทำให้ริวขี้หื่นเปลี่ยนใจ

   "ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวกูพิสูจน์เอง"ผมทำท่าจะหนีแต่เหมือนมีคนรู้ทันเลยสะกัดไว้ก่อนด้วยการดึงเกาะอก ผมก็ดิ้นๆจนมันล่นลงเรื่อยๆ

   "ปล่อยกู๊"

   พรึบ

   จบคำพร้อมกับที่เกาะอกผมถึงที่สุดแล้วจริงๆ อะไรต่างๆนานาพากันร่วงโรยลงสู้พื้นราวกับถึงฤดูใบไม้ร่วง ผมมองมันตกลงช้าๆอย่างสโลโมชั่น หัวใจนี่หล่นไปอยู่ตาตุ่มก่อนจะเงยหน้ามองไอ้ริวที่ใบ้รับประทานไปเหมือนกัน

   "ระ รู้แล้วใช่มั้ยละว่ากูเป็นผู้ชาย เพราะงั้นขอลาขาดล่ะ"ขืนไม่รีบชิ่งตอนนี้คงไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลกอีกแน่ เผลอๆอาจจะไปนอนนับหนอนเล่นในโรงฝังศพป่าไม่เร็ว(ป่าช้า)

   "เดี๋ยว ยังไม่ได้พิสูจน์ข้างล่างเลย"มึงจะแกล้งอะไรกูอีกไอ้ริว ไอ้เด็กนรก เห็นสายตาที่โลมเลียของมันแล้วก็ต้องรีบปิดนมที่แบนราบของตัวเองด้วยความเสียววูบ ตกลงนี่มันรู้แล้วใช่มั้ยว่าผมกับสโนว์เป็นคนคนเดียวกัน ทำไมมันดูไม่ตกใจเลยวะ

   "เห้ย"ผมร้องด้วยความตกใจเมื่อเหม่ออยู่ดีๆไอ้ริวก็ผลักผมลงเตียงแล้วถกกระโปรงขึ้นจนชายผ้าคลุมหน้าผมซะมองอะไรไม่เห็น

   "ดูซิว่าเราเจออะไร โอ๊ะ...หนอนชาเขียวนี่"
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: nekozaa ที่ 10-12-2016 11:50:51
   "หนอนชาเขียวเตี่ยมึงสิ มังกรโคโมโดต่างหาก"ผมพยายามจะถีบมันให้หงายเงิบแต่พวกแม่งจับขาผมแน่นยิ่งกว่าโซ่ตรวนเป็นสิบ"ปล่อยกูไอ้เหี้ย มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน"

   "หืม ไม่ต้องคุยแล้ว"มันพึมพำเสียงเบาซะจนผมจับใจความแทบไม่ได้แต่คงเลือกที่จะปฏิเสธคำพูดของผม

   "อ๊ะ ทำ...ไร"สะดุ้งแล้วสะดุ้งอีกเมื่อถูกปากของคนใต้กระโปรงงับเข้าที่จุดศูนย์กลางอันอ่อนไหวต่อความเสียว

   "ทำเรื่องที่ผัวเมียเขาทำกัน"

   "อย่า...อึก"โนน้อยของผมถูกรุกล้ำมากขึ้นจนชักกรึ่มๆเริ่มมีอารมณ์แล้วเหมือนกัน

   เอาก่อนค่อยคุยทีหลังแล้วกัน

   "ริว...มึง..อ๊ะ...รู้ ได้ไง"

   ด้วยความอยู่รู้อยากเห็นเกินลิมิต ตอนนี้เราจึงทำกิจกรรมกินตับไปด้วยคุยไปด้วย ลำบากน่าดูเลยล่ะ ถามทีก็ครางที ตอบมาทีก็กระทุ้งกระแทกเข้ามาด้วย

   "ตั้งแต่...อึก...วันขอแต่งงาน"

   "ได้ไง อ่ะ...อา"

   "เสร็จน้ำนี้ก่อน"พูดจบมันก็ขยับสะโพกถี่ขึ้น

   "อย่าแตกใส่...ชุด อ่ะ...นะ"ผมเองก็จะเสร็จแล้วเหมือนกัน มือไม้ควานหาทิชชู่เพื่อเอามาปิดท่อน้ำเชื้อตัวเองไม่ให้พุ่งไปเลอะชุดเจ้าสาว

   "อืม~อยากให้กูแตกในก็บอก"

   "ไม่ใช่ อ๊า...ไอ้..."ปฏิเสธไม่ทันขาดคำมันก็พ่นของเหลวอุ่นร้อนเข้ามาในท้องผมเต็มๆ มือที่คว้าทิชชู่ได้พอดีก็รีบเอามาปิดโนน้อยส่วนหัวไว้ก่อนที่ผมจะเสร็จตามริวไปติดๆ

   ริวทิ้งน้ำหนักตัวลงมานอนทับผม เราสองคนต่างแข่งกันหอบหายใจอยู่ข้างๆหู พักได้แค่ประเดี๋ยวประด๋าวริวก็หยัดตัวขึ้นพร้อมๆกับไอ้ที่ค้างคาอยู่ข้างในเริ่มปึ๋งปั๋งขึ้นมาจนคับรูผม พอจะอ้าปากค้านมันก็พูดตัดหน้าขึ้นมาซะก่อน

   "กูรู้ตั้งแต่ขอมึงแต่งงานแล้ว...โน"มันพูดชื่อผมด้วยเสียงอ่อนเสียงหวานทำเอาใจกระตุกเขวไปหน่อยนึง ปากที่อ้าอยู่ก็รีบเม้มเข้าหากันเพราะกลัวจะเผลอยิ้มเขิน ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวมันได้ใจ

   "ต่อสิ"

   "เมียขอมาผัวก็จัดให้"ยังงงกับคำพูดสองแง่สองง่ามของไอ้ริวไม่ทันไร มันก็ถอนแก่นกายออกจนสุดแล้วกระแทกกลับเข้ามาใหม่

   "อื้อออ~ ไอ้เหี้ยริว...กูไม่ได้บอกให้เอาต่อ กูหมายถึงพูดต่อสิไอ้เวร"

   "งั้นก็มานั่งทับตอแล้วขย่มสิ เดี๋ยวกูบอก"มันยังมีการมาต่อรอง ทั้งๆที่ตอนแรกบอกจบน้ำนั้นแล้วขงจะบอก โคตรได้คืบจะเอาศอก

   "เออ"ก็ยอมมันไปก่อนสิครับ ตอนนี้ความอยากรู้อยู่เหนือกว่าทุกสิ่ง ความเสือกของคนเรานี่มันน่ากลัวนะครับ จริงมั้ย

   ผมจะถอนแท่งร้อนที่อยู่ในตัวออกเพื่อขึ้นควบ แต่ถูกมือไอ้ริวจับสะโพกไม่ให้ขยับไปไหนแถมมันยังสวนเอวเข้ามาอีก ทำเอาทั้งจุกทั้งเสียว

   "ห้ามหลุด"มันบอกพลางยิ้มทะเล้นกวนส้นเท้า

   "ได้คืบจะเอาศอกนะมึง"ผมบ่นแต่ก็ยอมทำตามที่มันบอก ถ้ารู้ในสิ่งที่ควรจะรู้หมดเมื่อไรได้มีวางมวยกันแน่

   อีกอย่างมันไม่สู้ผมหรอก ด้วยเหตุผลหลายประการ หนึ่งอย่างน้อยผมก็เคยอยู่ในฐานะสโนว์แม้ตอนนี้มันคงจะมองผมเป็นผู้ชายแล้วก็เถอะ สองมีคนบอกผมมาว่า บ่าวคือผู้รับใช้ เจ้าบ่าวก็คือคนรับใช้ของเจ้าสาวหรือเมียนั่นแหละ ผมจะเอาไปใช้กับไอ้ริวบ้างถ้ามันยังอยากใช้ชีวิตคู่กับผมอยู่นะ

   ผมย้ายก้นตัวเองอย่างยากลำบากเพราะมีแท่งแข็งๆคาอยู่ในก้น แต่ละวินาทีที่ขยับขึ้นคร่อมไอ้ที่เต้นตุบตับอยู่ข้างในก็หมุนควงพวงสวาท ผมนี่แทบทรุด เพราะอะไรก็คงรู้ๆกันอยู่ ผมคงไม่มีเวลามาบรรยายความสุขที่ได้ขึ้นสวรรค์บ่อยนัก

   "อืม อื้อ บะ...บอกมา"ในระหว่างที่ผมกำลังเริ่มปฏิบัติการควบม้าก็ตีอกทุบแขนมันให้บอกความจริง ไอ้ริวก็กวนซะเหลือเกิน ทำหน้าเคลิบเคลิ้มไม่ยอมบอกอะไรสักที

   "ก็ได้ๆ...คืองี้นะ...อืม แรงกว่านี้หน่อยสิ..."เอวผมขยับขึ้นลงและหมุนควงแรงขึ้นตามคำขอ รู้สึกว่าตัวเองเหมือนหุ่นเชิดยังไงไม่รู้แหะ"รสจูบของสโนว์กับมึงมันเหมือนกันแถมพอสัมผัสตัวสโนว์ความรู้สึกของกูมันก็บอกว่าสโนว์คือคนคนเดียวกับมึง"

   "มึงเชื่อในความรู้สึกตัวเองขนาดนั้นเลย?"ผมหยุดขย่มแล้วจ้องหน้าริวแบบคาดคั้นคำตอบ

   "ถ้ากูไม่มั่นใจ กูไม่แต่งงานกับมึงหรอก โน"นัยน์ตาของริวสื่อถึงความจริงจังไม่ลอกแลกจนผมอดขนลุกขนเกรียวกับความรู้สึกของมันไม่ได้ ทำไมผมถึงมั่นใจกันนะว่าในแววตานั้นมีแต่ผมจริงๆ

   มือใหญ่หนาที่จับสะโพกผมเลื่อนมาจับแก้มผมแทนแล้วใช้นิ้วโป้งเกลี่ยเบาๆที่ผิวเนื้อ ผมหลับตาเอนหัวเพื่อรับสัมผัสอันอ่อนหวาน ถ้าคนอื่นมาทำแบบนี้กับผมผมคงไม่ชอบแต่กับผู้ชายคนนี้ ผมยอมใจ

   "กูรักมึงโน"

   "แล้วสโนว์ล่ะ"

   "กูก็รักสโนว์แต่ทำไงดีวะ...กูรักโนคนนี้มากกว่าว่ะ"

    "ไอ้เด็กบ้า"ผมตีอกชกไหล่มันไปแก้เขิน พอรู้ตัวว่ากำลังทำตัวอ่อนแอ้นก็เก๊กหน้านิ่งทันที อยู่กับมันนานๆไปชักจะแต๋วแตกแล้วสิเรา

   "ถึงกูจะเด็กแต่ของกูไม่เล็กนะครับ"ว่าจบมันก็เป็นฝ่ายขย่มเสียเอง เด้งเอวเสียพริ้วเหมือนติดสปริงที่ร่างกายส่วนล่างงั้นแหละ

   "อ๊ะ อื้อออ อ๊า ไม่ไหว"ผมทรุดตัวลงกับอกมันอย่างหมดเรี่ยวแรง พอเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาก็พบว่าเข็มสั้นชี้เลข 3 แล้ว มีอะไรกันมาตั้งแต่สี่ทุ่มยันตีสาม

   ริวพยักหน้ายิ้มๆเหมือนรู้กัน มันจับผมให้นั่งดีๆแล้วช่วยถอดชุดเจ้าสาวออกก่อนจะโยนทิ้งข้างเตียง มือหนาลูบกายเปลือยเปล่าผมอย่างถนุถนอมแล้วฝากรอยรักไว้หลายจุด ผมก็ปล่อยให้มันทำไปเพราะไม่มีแรงกอปรความง่วงเข้าครอบงำ

   ทุกจุดที่โดนสัมผัสมันร้อนรุ่มอย่างกับโดนไฟแผดเผา ไม่ปฏิเสธเลยว่ารู้สึกดีมากขนาดไหน เมื่อทำรอยจนหนำใจริวก็ช้อนตัวผมให้นอนลงกับเตียงแล้วสอดใส่กายเข้ามา ผมปรือตามองใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่ออย่างหลงใหล สีหน้าที่แสดงถึงความสุขสมของริวยามได้ขยับตัวพริ้วไหวทำให้ผมเผลอเอื้อมมืออันอ่อนแรงไปแตะที่แก้มมันโดยไม่รู้ตัว แขนแกร่งที่เท้ากับเตียงยกขึ้นมากอดผมไว้หลวมๆ

   "กูรักมึง"เสียงทุ้มนุ่มกระซิบข้างหูผมพลางสอบเอวเป็นจังหวะไปด้วย ไม่ได้ร้อนแรงแบบครั้งแรกๆที่มีอะไรกันแต่กลับวาบหวิวไปอีกแบบ

   ผมรู้สึกว่าการมีอะไรกันครั้งนี้มันพิเศษกว่าครั้งไหนๆ คงเพราะเป็นค่ำคืนเข้าหอหลังจากแต่งงานกัน คงเพราะริวรู้ในตัวตนของผมและรักตัวตนผมด้วย คงเพราะผม...รู้ใจตัวเอง

   "รัก...โน"

   "พะ พูดอีกสิ...อาา อือ"

   "กูรักมึง โน อืมม"

   "อื้อ อ๊ะ อ่ะ พูด...อะ อีก"

   "รัก...รัก"

   "กู..."อยากได้ยินคำว่ารักของมันตลอดไป

   ขอบคุณนะที่รักตัวตนของกู

   "รัก"ผมบอกคำที่อยู่ในใจพร้อมๆกับแก่นกายที่แข็งขึงอยู่ในตัวกระตุกสั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนจะฉีดพ่นของเหลวจนอุ่นวาบไปทั่วท้องน้อย

   "โน...มึง..."ผมได้ยินมันบ่นว่าคำพูดของผมทำมันเสร็จก่อนที่สติอันเลื่อนลอยของผมจะค่อยๆดับ"เห้ย มึงตื่นมาคุยกับกูก่อน เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไร กูขอชัดๆ ไอ้โน..."
   
   ผมกำลังฝันถึงตอนที่เจอริวครั้งแรก เป็นฝันที่ดีมากเลยทีเดียวเพราะตอนนั้นยังมีคำพูดที่ผมไม่ได้พูดออกไป

   'ดอกไอริส ความหมายของมันตามตำนานกรีกคือความกล้าหาญแต่รู้อะไรมั้ยนอกจากนั้นคนสมัยนี้ยังนิยมใช้ดอกไอริสเพื่อแสดงว่าผู้ให้นั้น มีข่าวสารบางอย่างจากหัวใจที่อยากจะบอกให้ผู้รับได้ล่วงรู้ เช่นประโยคที่จะบอก ในภาษาดอกไม้คือ ฉันมีอะไรจะบอกเธอ โรแมนติกใช่มั้ยล่ะ แต่อีกนัยยะของภาษาดอกไม้ ก็คือ
1. ใช้ในการแอบบอกรักที่หลบซ่อน
2. ดอกไอริสนี้ ยังสามารถมอบให้ แก่คนรักเก่า เพื่อสื่อความว่าต้องการให้ ความรักนั้นปะทุเชื้อไฟขึ้นอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ ดอกไอริส ยังเป็น เครื่องหมายของความรักบริสุทธิ์อีกด้วย...ภาษาดอกไม้นี่มันน่าอัศจรรย์มากเลยเนอะ'

   'สุดยอดไปเลยค่ะ' 

   'เอ่อ เอ่อ...เอ่อ'

   'สวัสดีค่ะ หนูชื่อสโนว์ ไวท์ อายุเท่านี้'

   'อ่า ผมชื่อริว อายุน้อยกว่าสโนว์ 1 ปี'

   'อายุน้อยกว่าก็ต้องเรียกเราว่าพี่สโนว์สิ น้องริว'

   'ผมคงเรียกผู้หญิงตัวเล็กๆน่ารัก น่าถนุถนอมอย่างสโนว์ว่าพี่ไม่ได้หรอก'

   'นี่!'

   'ปล่อยมือเราได้แล้ว'

   'โทษทีครับ มือสโนว์นุ่มมาก'

   'ผมว่าสโนว์หอมกว่าดอกไม้อีก'

   'จุ๊บ'

   'อีก 10 ปีแต่งงานกันนะครับ'

   ...ตกลง เราจะแต่งงานกับนายนะริว









☞To be continued



  ♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂♀♂

Nekozaa  :

       หายไปครึ่งเดือนแต่โผล่หัวมาแล้วค่า ลืมเรื่องนี้กันยังน้าา  :hao5:
       ทั้งสองใจตรงกันแล้ว.เย้ แต่ความรักย่อมมีอุปสรรคค่ะ คนเขียนไม่ชอบดราม่าเพราะฉะนั้นไม่มาม่าหรอกค่ะ???
        ช่วงนี้หวานๆไปก่อนให้พอได้เตรียมใจนะคะ 55555 รักคนอ่านรักคนคอมเม้นต์นะคะ
  :L1: :3123: :pig4:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: we.jinkyu ที่ 10-12-2016 12:15:44
 :o8: :-[ :impress2: :hao6: :jul1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-12-2016 12:31:04
 :mc4:   เย้ ในที่สุด  จุดพลุฉลอง
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 10-12-2016 13:27:11
ดีใจด้วยที่งานแต่งไม่มีอุปสรรคนะ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 10-12-2016 16:15:47
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 10-12-2016 16:41:08
เย้ๆๆมาต่อแล้ว  :mew2:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-12-2016 17:19:12
โล่ง
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-12-2016 18:43:48
อาาา.....โน โล่งใจ แล้ว :mew1: :mew1: :mew1:
แต่ข้างในไม่โล่ง เต็มไปหมด :ling1: :ling1: :ling1:
ต่างฝ่ายต่างรักกัน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:     
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 10-12-2016 21:54:03
 :L2:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-12-2016 22:01:21
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 10-12-2016 22:53:40
ในที่สุดริวก็ยอมเปิดเผยตัวเสียทีว่าไม่ได้โง่เกินไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 10-12-2016 23:53:09
ดีต่อใจ  :-[
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 11-12-2016 00:21:33
ดีใจกับโน ที่คุณสามีรักที่เป็นตัวเรา เย้ๆ
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: oppapp ที่ 11-12-2016 08:03:32
อ๊ายยยยยย น่ารักที่สุด
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: เมื่อนั้นฝันว่า ที่ 11-12-2016 09:46:04
ในที่สุดก็รู้
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 11-12-2016 10:27:27
ดีกับใจ :-[
หัวข้อ: Re: ♀เจ้าสาวมีดุ้น♂✖บทที่๑๓ ส่งตัวเข้าหอ✖[10/12/2016] ~อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 17-12-2016 14:14:01
มาอัพแล้วดีต่อใจ ดีใจที่เป็นอย่างนี้