ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
--------------
_____LOVE LEADER_____
ํ ํ ํ ํ ํ ํ เชียร์รักให้ลงล็อค ํ ํ ํ ํ ํ ํ
( ลิงค์เพื่อดูรูปหน้าปก : https://www.img.in.th/image/r0sMuj )
( ลิงค์เพื่อดูรูปแนะนำตัวละคร : https://www.img.in.th/image/r0sIRw )
ตอนที่ 1 : เหตุผล
“ขอบคุณมากนะครับ แต่ผมไม่สะดวกเท่าไหร่ ใกล้ช่วงเข้ามหาวิทยาลัยแล้วน่ะครับ” วางสาย ดูคลิปต่อดีกว่า
“นี่ รายที่เท่าไหร่แล้ววะมึง”
“กูไม่ได้นับอ่ะ น่าจะห้ามั้ง หรือหก... ประมาณนี้แหละว่ะ”
“เห้อ..... กูละเสียดายจริงๆ นี่ถ้ามึงเอาเวลาที่มึงมัวมาศึกษาเรื่องเชียร์ลีดเดอร์ ไปเป็นติวเตอร์คณิตศาสตร์ เลือกมาสักสถาบันนึง เขาอุตส่าห์โทรมาทาบทามเด็กอายุสิบแปดอย่างมึงเนีย ป่านนี้มึงก็อาจจะกลายเป็นเถ้าแก่น้อยตามโรงงานสาหร่ายไปแล้วก็ได้ ทำไมกูไม่อัจฉริยะเหมือนมึงบ้างวะ ชิบหาย แค่คูณเลขเกินสองหลักกูก็ลำบากละ”
“นี่ถ้ามึงจะบ่นขนาดนี้ มาเป็นพ่อกูเลยไหม ไอ้เวรต้อม”
“อ้าว ว่าไงละชาเย็นลูกพ่อ” แม่ง เก๊กเสียงใส่กูอีก “ เรื่องเข้ามหาลัยที่ลูกพูดถึงเนีย สรุปว่าเลือกที่ไหนดีหละ”
“ไอ้สัด กูประชด.... แล้วมึงยังจะถามอีก มึงก็ติดที่เดียวกับกูมะ”
“เห้ยยยยย นี่มึงเอาจริงเหรอวะ กูให้มึงติวให้ เพราะกูอยากเรียนที่นี่ ตอนมึงไปสอบด้วย กูก็นึกว่ามึงจะแค่สอบขำๆ มึงมีทางเลือกมากกว่านี้นะเว้ย อาจารย์เกศสิรินทร์เค้าก็เอาทุนเรียนวิชาเลขที่อังกฤษกับญี่ปุ่นมาให้มึงไม่ใช่เหรอวะ กูจำได้ กูก็เข้าใจว่ามึงตอบตกลงเค้าไปแล้ว”
“ไม่อ่ะมึง กูจะเรียนที่มัณฑนานี่แหละ”
“อะไรของมึงวะ กูโคตรไม่เข้าใจเลย”
“ถ้ามึงไม่เข้าใจก็นั่งแดกกาแฟต่อไป กูจะดูคลิปโชว์ลีดเดอร์ในงานสปีริดโชว์ต่อ”
“อีกแล้วเหรอวะ” ยังจะไม่เลิกอีก ไอ้เพื่อนเวร เสือกเรื่องกูตลอด “นี่มึงดูย้อนหลังกี่ปีแล้วเนีย..... เห้ย! เดี๋ยวก่อนนะ กูขอใช้สมองน้อยๆของกูคิดก่อน มึงเอาแต่ดูคลิปผู้นำเชียร์ แล้วมึงก็สอบเข้ามัณฑนากับกู แล้วมหาลัยมัณฑนาเนี่ยนะ ก็โคตรมีชื่อเสียงเรื่องลีดเลย ใครแม่งได้เป็นลีดของมหาลัยนี้นะ เท่ากับเป็นดาราไปครึ่งตัวแล้ว กูเคยได้ยินฉายาของลีดมหาลัยนี้ด้วยนะ 'ผู้นำเชียร์บนหอคอยแห่งเกียรติยศ' สุดยอดไปเลย........ หรือว่า?”
“มึงจะเดาว่ากูอยากเป็นดาราว่างั้น”
“อ้าว แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรอีกวะ”
....เออ มันมีเหตุผลมากกว่านั้นเว้ย
อือหือออออ บทนำเรื่องของผมยาวใช่ไหมหละครับ จริงๆแล้วเรื่องมันยาวกว่านี้มากครับ แต่เอาเป็นว่า ผมจะบอกเท่าที่ผมบอกได้ก็แล้วกัน
อย่างแรกเลย ผมชื่อ ‘ชา’ ครับ ธชานา ธนกฤษ หรือที่แม่ผมเรียกว่า น้องน้ำชา จั๊กจี้สุดๆ
ผมกล้าพูดเต็มปากนะว่าผมเป็นอัจฉริยะด้านคณิตศาสตร์ ก็ไม่รู้ว่าไปถนัดเรื่องนี้ได้ยังไง คงเป็นพรสวรรค์มั้งครับ ผมน่ะ มักจะถูกทาบทามให้ไปเป็นติวเตอร์ในสถาบันกวดวิชาต่างๆตั้งแต่อยู่มอห้าแล้ว ที่ผ่านมาก็มีไปรับงานมาบ้าง แต่ก็ไม่บ่อยครับ เพราะผมมีอย่างอื่นที่สนใจอยากทำอยู่มาก บางทีผมก็สนใจเล่นบาส บางทีผมก็สนใจเรื่องดนตรีกีต้าร์อะไรพวกนี้ด้วยนะ มีออกไปแข่งนั่นแข่งนี้ก็เคย แต่ช่วงหนึ่งปีมานี้ ผมสนใจแค่สองอย่าง
อย่างแรกคือติวหนังสือให้ไอ้ต้อม นอกจากมันจะเป็นเพื่อนสารเลวของผมแล้ว มันยังมีพรสวรรค์อย่างมากในการเรียนให้ตัวเองโง่ แต่เสือกอยากเรียนต่อสถาปัตย์ ผมถึงได้ต้องพยายามอย่างมากเพื่อให้มันสอบติดมหาวิทยาลัยเดียวกับผมให้ได้ ผมไม่อยากไปเรียนคนเดียว แฮ่ๆ แต่ผมสอบติดคณะวิทยาศาสตร์นะ ก็แน่ล่ะ ด้านคณิตศาสตร์ในประเทศเราก็ต้องเป็นคณะวิทย์อยู่แล้ว
แล้วก็อีกเรื่องที่สนใจมากๆก็คือการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ใช่ครับ อ่านไม่ผิดหรอก ผู้ชายแมนๆอย่างผมนี่แหละที่อยากเป็นเชียร์ลีดเดอร์ แล้วก็ต้องเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัยมัณฆนาด้วย ก็ในนั้นมันมี.....
พอแล้ว!
เอาเท่าที่บอกได้ก็พอ ขนาดไอ้ต้อมเพื่อนสนิทของผม ผมยังไม่บอกเลย แล้วผมจะบอกคุณทำไม เดี๋ยวพวกคุณก็เลิกติดตามเรื่องของผมกันพอดี
.................
หลังจากรอมานาน ในที่สุดก็ถึงวันก้าวเข้ามหาลัยสักที
มหาวิทยาลัยมัณฑนา
ก่อนเปิดเทอมหนึ่งอาทิตย์
ช่วงที่ยากที่สุด
“มึงว่าไงนะไอ้ต้อม” ผมโคตรตกใจที่ได้ยินเพื่อนตัวเองพูดอะไรแปลกๆออกมา
“เออ มึงฟังไม่ผิดหรอก กูจะเป็นลีดให้ได้เหมือนกัน”
“นั่นมันความฝันของกู ไม่ใช่ของมึง”
ตอนนี้ผมกับไอ้ต้อมกำลังเปิดประเด็นร้อนหน้าหอพักที่ผมกับมันตัดสินใจมาเช่า ไม่ไกลจากมหาลัย สภาพยอดเยี่ยม และผมใช้เงินตัวเองจ่ายด้วยนะ อ้อ ผมลืมบอกไปอย่างนึงซินะ ผมมีรายได้จากการเขียนวิจารณ์ผลงานวิจัยให้กับนิตสารวิชาการทุกเดือน งานง่ายแต่รายได้ดีโคตร เป็นการใช้ทักษะให้เกิดประโยชน์ด้วย
“ทำไมวะ กูเห็นมึงศึกษาเรื่องนี้ทุกวันๆ กูก็ต้องซึมซับบ้าง แล้วที่สำคัญนะเว้ย ถ้ากูเป็นลีดมหาลัยได้ กูก็อาจจะมีงานในวงการ(บันเทิง) มีรายได้เยอะๆเหมือนมึงบ้าง ไอ้ห่า บังคับกูอยู่หอเดียวกัน แล้วค่าหอโคตรจะแพง ถ้ากูไม่ทำไรสักอย่าง กูจะเอาปัญญาที่ไหนมาเป็นเพื่อนคนขี้เอาแต่ใจอย่างมึงวะ”
“กูเอาแต่ใจตรงไหน พูดดีๆ ไอ้เวร”
เราเถียงกันจนขึ้นมาบนรถไอ้ต้อม และมันก็ขับพาผมเข้ามหาลัย
เอาจริงๆนะ บ้านไอ้ต้อมอ่ะ รวยกว่าผมอีก แต่ที่บ้านมันชอบเลี้ยงลูกแบบฮาร์ดคอร์ ให้ช่วยเหลือตัวเองอะไรอย่างงี้ แล้วหลายๆอย่างผมก็ต้องพึงพามัน เพราะมันเป็นคนที่ดูโตกว่าผมมาก ถึงจะเรียนไม่เก่ง แต่ที่เหลือทั้งหมดก็เก่งมาก เรื่องทักษะชีวิตไม่ต้องพูดถึง เก่งทุกอย่าง ผมว่าบางทีถ้าเอามันไปปล่อยไว้ในป่าเดือนนึง มันอาจจะอยู่รอดสบายๆ เลยก็ได้
ย้อนกลับมามองตัวเอง อนาถสุดๆ ถึงผมจะทำอะไรได้หลายๆอย่าง แต่เพราะภาพลักษณ์ของผมไม่ได้สูง เข้ม หุ่นดี หน้าตาอบอุ่นเหมือนไอ้ต้อมไง ผมเลยมักจะถูกแกล้งตั้งแต่เด็กๆ เคยโดนโหดสุดๆ ถึงขั้นเกือบจมน้ำตายมาแล้ว ผมก็ไม่ได้อ้อนแอ้นนะ แต่ผมเกิดมาหน้าแบบนี้อ่ะ ขาวจนซีด ปากแดงอย่างกับทาลิปสติก ความสูงก็เกือบจะไม่แตะมาตรฐานชายไทย นี่ถ้าเทรนเกาหลีไม่เข้ามาในบ้านเรานะ ผมคงไม่มีสาวๆมาเหลียวแลเลย
“อ่ะมึง ถึงแล้ว” ไอ้ต้อมจอดรถหน้าอาคารหลังใหญ่ จุดนัดพบแรกของนิสิตใหม่ทุกคน.... โดมรวมใจ
“แม่ง คนเยอะชิบหาย” ผมบ่นทันทีที่ลงจากรถ ทั้งเด็กปีหนึ่ง ทั้งรุ่นพี่ ทั้งเจ้าหน้าที่มหาลัย จอแจวุ่นวายไปหมด
อาคารทรงกลมสูงตระหง่าตรงหน้า นั่นคือสถานที่แรกที่เหล่าเด็กปีหนึ่งทุกคนต้องมารวมตัวกัน เพื่อแยกไปตามคณะของตัวเอง และที่นี่ก็มีด่านแรก ด่านสำคัญของผมที่จะเป็นเชียร์ลีดเดอร์ให้ได้ อ่อ..... ไอ้ต้อมด้วย
“กูว่ามึงคงรู้แล้วใช่ไหม” ไอ้ต้อมเอ่ย ขณะที่เราสองคนกำลังเดินเข้าอาคาร
“รู้ไรวะ?”
“ภายในวันนี้ ก่อนที่จะแยกตามคณะต่างๆ ถ้าไม่มีรุ่นพี่ลีด มาปั๊มตราลีดมหาลัยให้ที่ป้ายชื่อ คณะของเราก็ไม่มีสิทธิ์เลือกเราไปเป็นลีดเหมือนกัน”
“ก็ใช่อะดิ เรื่องนี้แหละที่กูกังวล” ผมสารภาพตามตรง “กูไม่สูง หุ่นดีเหมือนมึง กูจะทำได้เปล่าวะ”
“เอาน่ามึง” ไอ้ต้อมตีไหล่ผมเบาๆ “กูอ่านมา เขาบอกว่า เขาเลือกคนที่ ...เสน่ห์... มึงอ่ะ ถึงไม่ได้สูง มาดแมนแฮนซัมบอย แต่ก็ถือว่าหน้าตาจิ้มลิ่ม น่ารัก สายเกาหลี น่าจะได้อยู่นะ เขาคงไม่เข้มงวดขนาดนั้นหรอก”
“จิ้มลิ่ม พ่องงงง” ผมตบเกรียนไอ้ต้อมทันที “ไอ้เวร มึงดูก่อนไหม แต่ละปี มีแต่คนสูงๆ เข้มๆ กู.... กดดันว่ะมึง”
“ไม่ต้องเครียด นี่ถ้ามึงอยากเป็นดารามากนะ เดี๋ยวกูพามึงไปเคสติ้งก็ได้ ไม่ต้องหรอก ไอ้ล่งไอ้ลีดอะไรเนี่ย”
ผมถองข้อศอกใส่มันเบาๆ มึงยังคิดว่ากูอยากเป็นดาราอยู่ใช่ไหม เหตุผลกูยิ่งใหญ่กว่านั้นมากเว้ย.....
“น้องคะๆ ทางนี้ค่ะ” ทันทีที่ถึงหน้าทางเข้าใหญ่ก็มีพี่สาวคนหนึ่งเรียกทันที “คณะอะไรกันคะ”
“วิทยาศาสตร์ครับ” “สถาปัตย์ครับผม”
“ขอชื่อเล่นด้วยค่ะ” พี่สาวดูจะวุ่นวายกับการจัดการงานตรงหน้ามากๆ เธอเอาแต่ก้มหน้ามองป้ายชื่อที่จะแจกให้นิสิตใหม่
“ชาครับ”
“น้ำชาครับพี่ มันชื่อน้ำชา เขียนเลยครับๆ”
“ไอ้เชี่ยต้อม กูบอกไม่ให้เรียกกูแบบนี้ไง” ไอ้เพื่อนเวรเอ้ย ยังไม่ทันเปิดเรียนแม่งเล่นกูซะแล้ว
“อ่ะนี่ค่ะ น้องน้ำชา ป้ายสีชมพูประจำคณะวิทย์นะคะ” เธอยื่นป้ายสีชมพูที่เธอเขียนชื่อเล่นของผม น้ำชา ด้วยปากกาเคมี หวานไปอีกกก ผมนี่เซ็งเลย บอกให้พี่แกเขียนใหม่ดีไหนนะ “แล้วน้องอีกค.....” จู่ๆสาวเจ้าก็ทำตาโตใส่ไอ้ต้อม แล้วก็ตามมาด้วยการยิ้มกริ่มจนหน้าแดง “น้องชื่อเล่นว่าอะไรคะ สถาปัตย์เน๊าะ สีเทาค่ะ นี่ไง พร้อมเขียนชื่อได้เลย ว่าไงคะ ชื่ออะไร พี่ชื่อหงส์นะคะ” มีบอกชื่อตัวเองก่อนด้วย ผมก็ยืนอยู่นี่นะพี่ เห็นผมไหม
“ต้อมครับผม” ไอ้ต้อมตอบ มันลืมเรื่องแกล้งผมไปเลย เพราะงงกับท่าทีของพี่สาวตรงหน้า
เธอเขียนคำว่า ต้อม อย่างบรรจงสุดๆ
“นี่ค่ะน้องต้อม” พี่หงส์ลุกเดินออกมาจากโต๊ะพร้อมเอาเชือกคล้องป้ายห้อยคอให้ไอ้ต้อมเสร็จสับ แหมเจ๊ ถ้าจะชัดขนาดนี้ เจ๊ไม่ให้เบอร์ไปเลยหละ “วันนี้นั่งตรงไหนก็ได้นะคะ ไม่ต้องแยกตามคณะ ฟรีสไตล์เลย ฮ่าๆๆ” เออ มึงหล่อไอ้ต้อม กูยอมก็ได้ แต่ช่วยปฏิเสธเจ๊แกแล้วพากูเข้าข้างในได้แล้วมั้ง แต่ดูท่าจะยากแล้วหละ เหมือนว่าโต๊ะรับลงทะเบียนอื่นๆก็เริ่มให้ความสนใจไอ้ต้อมบางเช่นกัน “เดี๋ยวพี่หงส์เสร็จงานตรงนี้แล้ว จะไปนั่งติดกับโซนทางออกสามนะคะ”
“อ๋อ ครับพี่” ไอ้ต้อมตอบเจื่อนๆ “ว่าแต่ พวกพี่ลีดมหาลัย เขานั่งตรงไหนกันเหรอครับ” เออ.... ไอ้นี่อยู่เป็น ไม่ได้หล่อเฉยๆ แต่อุตส่าห์รู้จักหาข้อมูล ดีมากๆ
“อุ๊ย จะเป็นลีดเหรอ แหมมมมม หน้าตาอย่างน้องต้อมเนีย ยังไงก็ผ่าน พี่คอนเฟิร์มเลย นั่งตรงไหนก็ได้ พวกพี่ลีดเขามองเห็นแน่นอน รัศมีเจิดจรัสแบบนี้ แต่ถ้าอยากให้แน่ใจก็นั่งตรงหน้าเวทีด้านขวาก็ได้จ๊ะ หลังโชว์ลีดเสร็จ พวกพี่เขาก็จะยืนสังเกตการณ์ตรงนั้นเป็นส่วนใหญ่ เห็นกันชัดเจนแน่นอน”
“แล้วเพื่อนผมอ่ะครับ นี่ๆไอ้ชาเย็นอ่ะพี่ ไอ้นี่มันเก่งมากนะพี่” ไอ้ต้อมกอดคอผมกระชับ เป็นการแนะนำตัว จริงๆผมก็อายนะ แต่อีกใจก็ลุ้นเหมือนกันว่าพอจะมีสิทธิ์บ้างไหม
“น้องน้ำชาเหรอ” นี่เป็นครั้งแรกที่พี่หงส์สนใจผมบ้าง แต่สายตาแตกต่างกับไอ้ต้อมสุดๆ “ขาว ผมดำ ปากบาง ก็... น่ารักดีนะ อาจจะน่าสนใจเพราะทุกปีไม่เคยมีแบบนี้ แต่ถ้าน้องต้อมเนีย ร้อยทั้งร้อยนะคะ พี่คอนเฟิร์ม” เป็นคำตอบที่ทำให้รู้สึกวูบมาก
ไอ้ต้อมเขย่าไหล่ให้กำลังใจผม
“ไปนั่งข้างในกันเหอะมึง” ผมชวนเพื่อนเสียงอ่อน
เราเลือกนั่งกันตรงหน้าเวทีด้านขวา ใช่ครับ ยังไงผมก็ต้องมีหวัง ผมต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อเป้าหมายให้ได้
หลังจากรอมาประมาณยี่สิบนาที เด็กปีหนึ่งก็เข้ามาเต็มโดมในชุดไพรเวท การต้อนรับเฟรชชี่ก็เริ่มขึ้น เวทีขนาดใหญ่มีผู้คนวนเวียนขึ้นมาตลอดเวลา เริ่มกันที่เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย รุ่นพี่คณะต่างๆ การโชว์ร้องเพลงประสานเสียงจากชมรมประสานเสียง กฎกติกามากมายและข้อมูลที่ไม่ค่อยมีเด็กคนไหนสนใจฟัง และในที่สุด......
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงกรีดถล่มถลายทั้งจากนิสิตใหม่และรุ่นพี่ที่อยู่ในโดม ต่างพร้อมใจกู่ร้องออกมาแบบมิได้นัดหมาย เมื่อเหล่าเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยมัณฑนาเดินขึ้นสู่เวทีด้วยออร่าที่ยากจะปิดให้มิด ผู้หญิงก็ขาวสวย ผู้ชายก็หล่อเท่ ทุกสายตาที่เคยเพิกเฉยกลับจับจ้องไปที่เวทีอย่างตื่นเต้น
ผมเองก็เช่นกัน ผมค่อนข้างอยู่ใกล้กับเวทีจึงเห็นทุกอย่างชัดเจน เหล่ารุ่นพี่เชียร์ลีดเดอร์ในชุดนิสิตสะอาดเรียบร้อยขึ้นท่าพร้อมเตรียมโชว์การออกลีลา สายตาของผมกวาดไปทีละคนๆ อย่างใจจดใจจ่อ หัวใจเต้นแรงและดังกว่าเสียงเกรียวกราวที่ได้ยิน จนในที่สุดก็เห็นสักที คนที่ผมมองหา.....
ผู้นำเชียร์หนุ่มที่ยืนในตำแหน่งกลางด้านหลัง ตัวสูงโดดเด่นออกมาจากทุกคน และแน่นอนว่าออร่าที่โพยพุ่งส่วนใหญ่ก็มาจากคนนี้นี่แหละ
“มึงๆๆๆ มึงเห็นอย่างที่กูเห็นเปล่าวะ” ไอ้ต้อมสะกิดผมใหญ่ มันแทบจะร้องเสียงหลง ตาโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ “นั่นมัน พี่ตอง ไม่ใช่เหรอวะ คู่แข่งตลอดกาลของมึงไง”
“ใช่ นั่นคือพี่ตอง” ผมตอบ และนั่นแหละคือเหตุผลที่กูต้องเป็นผู้นำเชียร์ให้ได้
นั่นคือเหตุผลทั้งหมดที่ต้องพยายามให้สำเร็จให้ได้......
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
_____LOVE TUTOR_____
สอนรักให้ลงล็อค
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ตอนที่ 1 : ติวเตอร์ [เรื่องซ้อนเรื่อง]
"ฮัลโหล สวัสดีครับ" นี่ให้กูโทรหาใครวะ เดี๋ยวนะไอ้ชาเย็น ถ้าทำให้กูสอบตกนะ กูจะโทรฟ้องแม่มึงแน่
"....."
อ้าว ไม่มีใครพูดเลย นี่ไอ้ชามันให้เบอร์ใครมาวะ กูต้องการคนติวคณิตด่วนนะเฟ้ย "สวัสดีครับ ได้ยินไหมครับ"
"...." ยังไม่มีการตอบตามเคย แต่ได้ยินเหมือนเสียงถอนหายใจ
"คือ ไอ้ชาเย... เอ่อ ชาอะครับ ธชานา ให้เบอร์ของคุณมา บอกว่าสามารถติวเลขให้ผมได้ ไม่ทราบผมโทรมาถูกคนหรือเปล่าครับ"
"...." อะไรวะ ไม่ตอบอีก ไอ้ชาเย็น มึงให้เบอร์มั่วมาเหรอ มึงโดนๆ
"ผมคงโทรผิด แค่นี้นะครับ"
"ผมเองครับ"
ห๊ะๆ อะไรนะ ตอบมาแล้ว "ครับ"
"ผมเองครับที่จะติวให้คุณ" ทำไมฟังเสียงแล้วรู้สึกขนลุกแปลกๆ เหมือนเคยโดนเสียงแบบนี้ด่ามาก่อน
"อ๋อ ครับ ผมชื่อต้อมนะครับ อยู่สถาปัตย์ ปี 1"
"ครับ" ตอบแค่เนี่ย แล้วนี่กูจะรู้ไหมเนียว่าคุยกับใครอยู่
"แล้วจะติวที่ไหนยังไงดีครับ ค... คือเอ่อ ผมพูดตามตรงนะครับ ผมอ่านมาทั้งวันแล้ว ไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่เลย"
"ที่ข้างๆมหาลัย ประตูหก จะมีร้านกาแฟที่ใช้สำหรับติวได้ เจอกันที่นั่นแล้วกัน ในอีกสิบห้านาที"
ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด
เอ้า! ว่างสายเฉยเลย
อะไรวะ ฟังเสียงเหมือนไปหงุดหงิดใครมา แล้วนี่จะสอนยังไงวะ
เออๆๆๆ ช่างมันละกัน ไปลองดูก่อน อ่านเองก็ไม่ได้เรื่องอยู่ดี
"ขออเมริกาโน่ทีนึงครับ" ทันทีที่มาถึงร้านกาแฟ ผมก็สั่งก่อนเลย ดื่มกาแฟเป็นทางของผมอยู่แล้ว
ว่าแต่.... คนไหนวะที่จะมาติวให้ แทบจะไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย
คงไม่ใช่สาวๆพวกนี้นะ มองอย่างกับจะกินกูอยู่แล้ว เห้ย! แต่เสียงผู้ชายนี่หว่า ไม่ใช่อยู่แล้ว
หึ
นั่นไอ้ชาเย็นไม่ใช่เหรอ มานั่งอยู่ในร้านได้ไง ไหนบอกทำงานที่โรงพยาบาล
เพี๊ยะ
"ไอ้สัด" เจอตบเกรียนไปหนึ่งที ไหนมึงบอกอยู่โรงบาลไง
เชี่ยละ
ไม่ใช่ไอ้ชาเย็นเพื่อนรักนี่หว่า นี่มัน
"น้ำขิง"
"อะไรของนายเนี่ย" น้ำขิงโกรธหน้าแดงเลยครับ
ผมจำได้ไอ้ชาเคยบอกว่า น้ำขิงเป็นลูกพี่ลูกน้องที่หน้าตาคล้ายกันกับมัน แต่ต่างกันสุดขั้ว ไอ้ชาคือเพื่อนโคตรเกรียนของผม งั้นคนนี้ก็ต้องเรียบร้อยสุดชีวิต แล้วเมื่อกี๊.... ทั้งตบกะโหลก ทั้งด่า ซวยแล้วกู
"เห้ยๆ เราขอโทษ เราขอโทษ" เดี๋ยวๆดิ น้ำขิงกำลังจากลุกออกจากโต๊ะ "เรานึกว่าเป็นไอ้ชาเย็น"
"นี่ปกติทักทายชาแบบนี้เหรอ" ยังโกรธจัดอยู่เลย แต่ทำไมเป็นคนที่ด่าได้น่าฟังจัง สุภาพโคตรๆ นี่ซินะที่ไอ้ชาบอก "ไม่แปลกใจเลยที่ชามีนิสัยหยาบคายขึ้น เพราะนายนี่เอง" เออ ด่าไรก็ด่า กูผิดนิ "ขอโทษนะ แต่เราติวให้ไม่ได้แล้ว"
ชิบหายละกู "เดี๋ยวดิๆ" ไม่รู้อ่ะคว้ามือไว้ก่อนแล้วกัน
โห ผิวนิ่มจัง ตระกูลไอ้ชานี่ผิวแบบนี้กันทุกคนเลยรึไง
"เราขอโทษ เราขอโทษจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ อ่ะๆๆ ให้ต่อยคืนเลยก็ได้"
"อะไรนะ! เป็นปัญญาชนหรือเปล่าเนี่ย"
อ้าว พูดแบบนี้ก็ไม่ได้
เห้ย เดี๋ยวดิ ผมโดนสบัดมือออก นี่จะไปจริงใช่ไหมเนี่ย
งานนี้กูซวยเลย ติวก็ไม่ได้ติว แถมถ้าน้ำขิงเอาเรื่องนี่ไปฟ้องไอ้ชา กูโดนเฉ่งแน่
"ให้อภัยผมนะครับ"
เอามุกนี้แล้วกันวะ เคยใช้กับสาวๆได้ผล ไม่รู้อะ นึกไรไม่ออกแล้ว คุกเข่าขอร้องซะเลย
"น.... นี่ทำอะไรของนายเนีย คุกเข่าทำไม ค....คนมองกันทั้งร้านแล้ว"
"ก็น้ำขิงไม่ให้อภัยผมอ่ะ" ตะโกนด้วยเลย แบบนี้ขั้นต่อไป เค้าต้องรีบเข้ามาใกล้ชิดเรา
"จะตะโกนทำไมเล่า" นั่นไง ได้ผลจริงด้วย โดนมือเล็กๆนิ่มๆปิดปากไว้ ตัวหอมแหะ
"ไว่วะวัยว้มวายวัง"
"ห๊ะ" เพิ่งจะรู้ตัวว่าปิดปากผมไว้หรือไงครับคุณน้ำขิง
"ให้อภัยผมได้ยัง"
"ไม่"
"ให้อภัยผมได้ยัง"
"ก็ได้" โดนปิดปากอีกรอบ คนมองผมรอบร้านเลย ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นอะ ทำผิดต้องรีบขอโทษก่อน นี่คือคติของผม ไม่ให้อภัยกูตื๊อไม่เลิกแน่นอน
น้ำขิงค่อยๆเอามือออกจากปากของผม กลิ่นหอมของมือยังติดอยู่บนหน้าอยู่เลย
"ห้ามตะโกนอีกนะ ถ้าตะโกนอีก เราออกจากร้านจริงด้วย" น้ำขิงยังคงระแวง เป็นคนที่ขู่ได้น่ารักมากเลย ไม่ได้มีความน่ากลัวซักนิด
"โอเคครับ"
"มีอะไรกันหรือเปล่าคะ" พี่พนักงานร้านเดินเข้ามาถามสถานการณ์ ก็แน่ละ ผมทำวีรกรรมขนาดนี้
"ไม่มีอะไรครับ" น้ำขิงรีบตอบเลย "พี่สาวครับ ห้องติวเตอร์รูมว่าไหมครับ ผมจะขอเช่า"
"อ๋อ ว่างค่ะ เดี๋ยวเชิญทางนี้เลยค่ะ"
คือไรวะ พาไปไหน
อ๋อ..... ร้านกาแฟร้านนี้มีห้องส่วนตัวให้เช่าด้วย อารมณ์คล้ายๆวีไอพี แต่เป็นห้องที่มีกำแพงด้านหนึ่งเป็นกระจกใส สามารถมองทะลุเห็นรถราที่วิ่งบนถนนด้านนอกร้านได้ พร้อมกับโซฟายาวสองตัวกับโต๊ะ แถมกระดานไวท์บอร์ดด้วย รู้แล้วทำไมเรียกติวเตอร์รูท
"เสร็จแล้วไปเช็คบิลที่เค้าเตอร์นะคะ ถ้าจะสั่งอะไรรบกวนที่เค้าเตอร์เหมือนกันค่ะ" พนักงานเดินออกไป
น้ำขิงนั่งบนโซฟา ผมก็นั่งด้วยดิ
"นี่โซฟาของเรา นายไปนั่งฝั่งโน้น" อ้าวโดนไล่เลยกู
"แล้วน้ำขิงจะเขียนยังไงอ่ะ นั่งกันคนละฝั่ง"
"อย่างแรกนะ เราเขียนกลับหัวได้ และอย่างที่สองห้ามเรียกเราว่า น้ำขิง เด็ดขาด"
"ก็น่า...." โอเค มองแรงขนาดนี้ ผมยอมก็ได้ครับ ลุกขึ้นไปนั่งที่ตัวเองอย่างสงบดีกว่ากู
"แล้วน้ำ... เอ่อ ขิงเก่งคณิตเหมือนไอ้ชาเย็นเลยเหรอ"
"ชา ลูกพี่ลูกน้องของเราชื่อ ชา" นี่ก็ดุตลอดเลย นี่มาติวหรือมาเข้าคอสฝึกมารยาทกันแน่ "เราเก่งไม่ได้เท่าชาหรอก หรือไม่คิดว่าเราสอนได้ เราโทรเรียกให้ชามาสอนให้ก็ได้นะ"
"ไม่ใช่อย่างง้านนน เราก็แค่อยากรู้ ทำไมดุจัง ขิงไม่ชอบเราขนาดนั้นเลยเหรอ เราก็เพื่อนไอ้ชานะ"
"....." ไม่ตอบ
"แล้ว..."
"ลองทำนี่ซิ" ห๊ะ อะไรวะ "โจทย์ 10 ข้อ"
"เรามาติวไม่ใช่เหรอ ต้อมยังไม่ได้เรียนเลยนะ จะทำได้ไงกันอ่ะ"
"บอกให้ทำก็ทำซิ" ดุอีกแล้ว ตอนไอ้ชาเย็นสอน ถึงมันจะเกรียนแต่มันก็ไม่เคยดุเลยนะ
โห...แล้วถ้าเก่งจะให้มาติวให้ไหมเนีย จะทำยังไงวะ ตัวเลข แค่เห็นก็จะอ้วกแล้ว
"อันนี้เค้าเรียกว่าทดสอบก่อนเรียน" หึ เปลี่ยนน้ำเสียง สงสัยเห็นกูหน้าโง่มั้ง "ไม่ได้จะบังคับให้ทำขนาดนั้น แต่อยากรู้ว่าพื้นฐานอยู่ที่ระดับไหน เราจะได้เริ่มสอนได้ถูก ที่สำคัญ เราจะได้รู้ด้วยว่ากระบวนการคิดกับวิเคราะห์ของนายเป็นแบบไหน เราไม่ใช่ชานะ ไม่ได้รู้จักหรือเคยสัมผัสนายมาก่อนหน้านี้"
ก็สอนดีนี่หว่า น่าฟังกว่าไอ้ชาเย็นอีก
"เอาซิ ลองทำดู เราไม่มีไม้เรียวอยู่แล้ว ตีใครไม่ได้"
พูดซะน่ารักเชียว
พอเริ่มปรับความเข้าใจกันได้ น้ำขิงก็เริ่มติวให้ผมจริงจัง แต่เค้าก็ยังไม่ทิ้งลายดุนะ อาจจะเป็นเพราะผมคอยกวนเค้าอยู่เรื่อยๆก็ได้ 5555 ก็เค้าน่าแกล้งนี่นา
เอาจริงๆนะ สาเหตุที่ผมสนิทกับไอ้ชาเย็นเพื่อนรักเนีย มีอยู่สองประเด็นด้วยกัน
อย่างแรก มันเก่งเลขมาก ในขณะที่ผมหวยสุดชีวิต ถ้าไม่มีมันช่วย ผมคงต้องไปพับถุงกล้วยแขกขาย แล้วผมก็ดันใฝ่สูงอยากเรียนสถาปัตย์ ก็ผมอยากเรียนอ่ะ เพราะงั้น ไม่คบมันแล้วผมจะไปคบใคร
อีกประเด็นนึง จริงๆก็ไม่ค่อยอยากยอมรับนะ ผมว่าผมแอบชอบไอ้เพื่อนคนนี้นิดๆนะ ก็รู้แหละว่ามันเป็นผู้ชาย แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันหน้าตาน่ารัก ตัวเล็กๆ ผิวนี่ใสเนียนละเอียด น่าทะนุถนอม
แต่.... ผมชอบมันไม่ลงจริงๆ ร้ายก็เท่านั้น เกรียนก็เท่านั้น คอยแต่จะตบหัวผมแล้วก็ทำตัวเป็นนายใหญ่ มันก็รู้ทั้งรู้นะว่าผมกลัวโดนคนด่า แล้วเวลาไอ้นี่ด่าผมที อย่างกับรู้จุดอ่อน ยังๆ ยังไม่หมด วันๆมันก็สนใจแต่เรื่องจะแข่งกับพี่ตอง รุ่นพี่ต่างสถาบัน ลำบากผมตลอด แล้วแบบนี้ผมจะไปชอบมันลงได้ยังไง สุดท้ายก็เลยกลายเป็นเพื่อนรักสุดเกรียนของผมไป
ฮั่นแน่.... ผมรู้นะว่าพวกคุณรู้กันแล้ว ใช่แล้วครับ เหมือนผมเจอไอ้ชาเย็นในอีกมิตินึง
รูปร่าง หน้าตา ก็คล้ายๆกัน ผิวเนียนใสเหมือนกัน เนื้อตัวนิ่มๆเย็นๆ รู้สึกสดชื่นที่ได้สัมผัสเหมือนกัน แต่นิสัยคนละขั้วเลย สุภาพ เรียบร้อย สายตาไม่เอาเรื่องเหมือนไอ้เพื่อนเกรียน ที่สำคัญ ทำไมผมชอบฟังเวลาเค้าดุผมจัง
#เสียงโทรศัพท์
ใครโทรหาขิงวะ ขัดจังหวะเวลาติวชะมัด กำลังจะโดนด่าเลย อดฟินเลยกู
"ครับผม" ผมไม่ได้แอบฟังนะ แต่น้ำขิงพูดดังเอง "อ๋อ จำได้ซิครับ..... วันมะรืนเลยใช่ไหมครับ.... ได้ซิครับ..... ครับๆ ขอบคุณครับ แล้วพบกันครับ"
จะไปพบใครวันมะรืนวะ
"ใครเหรอ"
อ้าว กรรม มองว่าผมเสียมารยาทอะดิ ขอโทษคราบบบ ผมลืมตัว
"เรียนต่อครับเรียนต่อ" ผมรีบแก้ตัวเลย
"อีกข้อหนึ่งนิ ทำให้เสร็จก่อน ค่อยพูดถึงหัวข้อต่อไป"
โอเค ทำก็ทำ
เวลาปกติก็ดุนะ แต่เวลาสอนเนียจริงจังน่าดูเลย เหมือนจะคาดหวังกับการสอนแฮะ สอนคนละแบบกับไอ้ชาเย็น ถึงจะสอนไม่เก่งเท่ามัน แต่ก็ถือได้ว่าน้ำขิงเป็นครูที่ดีในอนาคตได้เลย
"ขิงครับ ถ้าพรุ่งนี้ผมสอบตกขึ้นมา ขิงจะโกรธผมไหม" เริ่มซึมซับมารยาทมาแล้ว
"จะโกรธได้ไง เราต้องโกรธตัวเองต่างหาก การสอบผ่านไม่ผ่านของผู้เรียนก็เป็นตัวชี้วัดของผู้สอนนะ ถ้าทำเต็มที่แล้วยังตกอีก เราก็ต้องคิดหาวิธีแก้ไข"
โอ้โหจริงจังน่าดู นี่ถ้าพูดกับไอ้ชาเย็นแบบนี้ ผมโดนตบเกรียนแตกไปแล้ว
"แต่เราโง่คณิตมากเลยนะ"
"อย่าพูดแบบนี้นะ"
เห้ยอะไรวะ อยู่ดีๆก็ดุ แต่ดุแบบเป็นห่วงนะะ ผมทำไรผิดวะ
"อย่าพูดแบบนี้เด็ดขาด ไม่มีใครโง่ คนเราแค่ถนัดไม่เหมือนกัน เราอาจจะสอบคณิตได้คะแนนน้อย แต่ไม่ได้หมายถึงว่าเราเป็นคนโง่นะ"
"ก็ผม.... เห็นขิงจริงจังเวลาสอน แล้วผมก็ชอบกวนเวลาขิงสอนด้วย คือ... บางที ผมก็รู้ตัวนะ แต่ผมอยู่ในบรรยากาศเครียดนานๆไม่ได้ สมองมันจะตื้อ แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ ขิงดูจริงจังมากเวลาที่สอน ผมหัวไม่ดี ถ้าตกขึ้นมา แล้วจะทำให้คนสอนเสียความรู้สึกหรือเปล่า"
หึ น้ำขิงเอื้อมมือมาจับข้อมือของผมที่กำลังเขียนอยู่
"ไม่ต้องกังวล ถ้าต้อมไม่ผ่าน พรุ่งนี้เราสัญญาว่าจะติวให้อีก เรายังมีเวลาตั้งสามวันในการสอบ เพราะฉะนั้น ห้ามดูถูกตัวเองอีก โอเคไหม"
"ค... ครับ"
แม่เจ้าาาาาา อย่างกับนางฟ้าลงมาโปรด ไอ้ชาเย็น มึงมีญาติแสนดีขนาดนี้เลยเหรอวะ กูอุตส่าแอบชอบมึงนิดๆแต่มึงดันมาเกรียนใส่กู ตอนนี้กูมีของจริงอยู่ตรงหน้าแล้ว
ไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่
ผลการสอบ
นายสิรภพ อาจแผ่นดิน 64.5% ไม่ผ่าน
กูไม่ผ่าน อ้าว แล้วกูจะดีใจทำไมวะ ไม่ผ่านต้องรู้สึกแย่ดิ
55555 จะรู้สึกแย่ได้ไง ในเมื่อจะได้มีเหตุผลไปเจอน้ำขิงอีก
จะว่าไป ลองค้นหาชื่อน้ำขิงดูดีกว่า เอ๊ะ นี่ชื่อไอ้ชาเย็นนี่หว่า ขึ้นมาหัวตารางเลย
นายธชานา ธนกฤษ 100% ผ่าน
ไอ้เพื่อนเวร เก่งเหมือนเดิมนะมึงอะ นี่ขนาดไม่มีเวลาอ่านหนังสือนะ โทรไปบอกมันก่อนดีกว่า
"มีไรวะไอ้ต้อม" ดูมัน ทักทายกูได้สถุนมาก ไม่มีมารยาทเหมือนน้ำขิงเลยไอ้เพื่อนเวร
"มึง ผลคะแนนออกแล้วว่ะ กูขาดไปหนึ่งคะแนน เวรเอ๊ยยยยย"
"เห้ยมึง กูโทษทีนะเว้ยที่กูไม่ได้ติวให้มึงเองอ่ะ มึงไม่น่าตกเลย" กูตั้งใจให้ตกเฟ้ยยยย
"อ.... เอ่ออออ ไม่เป็นไรหรอกมึง พรุ่งนี้กับวันมะรืนยังสอบได้อีกตั้งสองวัน" อย่าซีเรียสเพื่อน อย่าซีเรียส
"เออ เอาอย่างนี้ เดี๋ยวเย็นนี้กูกลับตรงเวลา กูจะไปติวให้มึงเองเลย รับรองพรุ่งนี้มึงผ่านเกณฑ์แบบไม่ต้องเฉียวฉิวเลย" ไอ้เพื่อนเวร จังหวะเป็นห่วงของมึงแย่มาก เอาไงดีวะกู
"เห้ยมึง ลำบากเปล่าๆ งานที่โรงพยาบาลเยอะแยะ ไม่ต้องหรอก" เอาเรื่องงานมันมาอ้างละกัน
"มึงแปลกๆนะวันนี้" แปลกเ-ี้ยไรละ
"......" ตอบไม่ถูกเลยกู
"แล้วมึงจะทำไง อ่านหนังสือเองหรือไง จะผ่านได้เหรอวะ อย่างมึงอ่านเองไม่มีทางทำได้อ่ะ กูรู้จักมึงดี"
"เออ กูจัดการของกูได้... ว่าแต่มึงรู้คะแนนตัวเองหรือยัง" เปลี่ยนเรื่องๆ
"เออ ยังว่ะ ดูที่ไหนวะ"
"เดี๋ยวกูส่งลิงค์ประกาศคะแนนให้ มึงค้นหาชื่อตัวเองได้เลย รวดเร็ว แต่มึงคงไม่ต้องค้นหรอกม้างงงง"
"ทำไมวะ"
"มึงดูเอาเองแล้วกัน..... กูไปละ"
"ไปไหนวะ"
"เสือก" จัดไปหนึ่งดอกก่อนวางสายนะเพื่อน แล้วก็เอาลิงค์สำหรับเช็คคะแนนไป
โอเค เสร็จแล้ว ไหนลองค้นหาชื่อน้ำขิงดิ ชื่อจริงอะไรหว่า ไม่ได้ถามมานี่นา ลองค้นหาเป็นนามสกุลละกัน ธนกฤษ นี่ไงเจอแล้ว
นายคฑาเทพ ธนกฤษ 99% ผ่าน
ตระกูลนี้ มันกินไอสไตร์เข้าไปกันหรือไงวะ
"ฮัลโหลขิง" รีบโทรรายงานเลยดีกว่ากู ต้องทำเสียงเศร้าๆหน่อย "ผมสอบตกอ่ะ ได้แค่ 64.5% เอง"
"จริงเหรอ" อ้าว ชิบหายแล้วกู น้ำเสียงแบบนี้ เศร้าจริงนี่หว่า รู้สึกผิดเลยกู "ทำตรงไหนไม่ได้บ้าง จำได้ไหม" น้ำเสียงยิ่งแย่ไปใหญ่ กูชั่วชิบหายเลยที่ไม่ตั้งใจทำข้อสอบ ทั้งๆที่ก็เรียนรู้เรื่องนะ แต่ดันเอาเหตุผลควายๆมาทำให้คนสอนต้องเสียใจ
"ผมขอโทษ" สำนึกผิดให้ไวเลยกู
"ขอโทษทำไมเล่า มันเป็นความผิดของเราเอง" ความผิดของผมเองงงงงง อย่าโทษตัวเองแบบนั้นเลย แค่นี้ก็รู้สึกผิดจะแย่แล้ว "เอาอย่างนี้แล้วกัน ตอนบ่ายโมงไปเจอกันที่เดิมนะ เราขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บเดียว"
"โอเคครับ"
โคตรรรรรรรรรร รู้สึกผิดเลยกู
ทำให้น้ำขิงทั้งผิดหวัง เสียใจ แถมยังทำท่าเป็นห่วงเป็นไยกูอีก
ไม่ได้แล้ว วันนี้ต้องตั้งใจใหม่ ที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ต้องไม่ทำให้เค้ามาเสียใจเพราะเราอีก
"สรุปว่ารู้ไหมว่าไม่ได้เนื้อหาไหนที่สุด" เปิดประเด็นมาก็ทำเอาผมเศร้าเลย "ไม่ต้องเศร้าน่า พรุ่งนี้สอบใหม่นะ เอางี้ไหม เดี๋ยววันนี้เราจ่ายค่ากาแฟให้"
โอ๊ยยยย ใจดีเกินไปแล้วนะ รู้สึกผิดจะแย่แล้วเนี่ย
"ไม่เป็นไรครับ ขิงมาติวให้ผมแล้วอ่ะ ยังต้องมาจ่ายตังให้อีก แค่นี้ก็รู้สึกผิดจะแย่แล้ว"
เลิกทำหน้ากุ้มใจใส่ผมได้แล้วคราบบบ ผมสัญญาว่าจะตั้งใจทำข้อสอบ เอาให้ทะลุ 70% ไปเลย
"แบบนี้ดีกว่า อืม.... นายจะว่าเราหลอกเด็กไหมอ่ะ ถ้าสมมติเราทำเหมือนตอนเด็ก ถ้าสมมตินายสอบผ่านเราจะให้ของที่นายอยากได้หนึ่งอย่าง เอาไหม"
เห้ยยยยยยยย
นี่มันโอกาสชัดๆ ตอนนี้เริ่มรู้สึกผิดน้อยลงแล้ว ความชั่วเข้ามาแทนที่
"งั้น.... ไม่เอาสอบผ่านดีกว่า" ผมเริ่มคิดแผน "ถ้าผมผ่าน 70% ผมขอให้ขิงเรียกแทนตัวเองว่า น้ำขิง ได้เปล่า"
"......" มองตาปริบๆ นี่กูชั่วไปไหมวะ
"แค่ใช้กับผมคนเดียวก็ได้"
"เอาจริงเหรอ" เหมือนจะได้ผล
#เสียงโทรศัพท์
ใครแม่งขัดจังหวะอีกแล้ววะ นี่ก็ลุกออกไปคุยโทรศัพท์เร็วเหลือเกิน
"ฮัลโหลครับพี่ตอง"
อ่อ พี่ตอง รุ่นพี่โรงเรียนเดียวกัน คุยไรกันวะ ได้ยินไม่ค่อยถนัด ช่างมันเหอะ สนใจเรื่องของกูก่อน
คุยเสร็จ ขิงก็กลับมานั่งที่เดิม
"ว่าไงครับ" ผมทวงข้อเรียกร้อง "ถ้าผมได้ 70%"
"แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับเราด้วยละ ขออย่างอื่นก็ได้นิ"
"ก็ผมอยากได้อันนี้อ่ะ มันช่วยให้ผมมีกำลังใจ" เห้ย กูหยอดได้ผล หน้าแดงซะด้วย
"ไม่รู้ ขอคิดก่อน"
โอเค เร่งรัดไปอาจจะผิดหวังได้ ช้าๆได้พล้าเล่มงาม
เหมือนเคยครับ น้ำขิงยังคงจริงจังกับการสอน แต่วันนี้ผมนี่แหละที่แปลกไป กวนเค้าน้อยลง ตั้งใจมากขึ้น ถ้าต้องทำให้คนตรงหน้าเสียใจอีก ผมไม่โอเคแน่นอน
"เห้อออออ เหนื่อยจังเลย" เป็นเวลาดึกมากครับที่ผมเรียน โชคดีนะที่ร้านนี้มีอาหารทั่วไปขายด้วย แล้วก็เปิดทั้งคืน อยู่กับบทเรียนเกือบสิบชั่วโมง ถ้าไอ้ชาเย็นรู้ มันคงตกใจ แต่กำลังใจผมดีไงวันนี้ ไม่เคยเรียนเลขแล้วรู้สึกดีขนาดนี้มาก่อนนะ เออ อย่าลืมทวงสัญญา "แบบนี้จะสอบผ่านไหมน้าาาา"
"....." เหมือนคนตรงหน้าจะรู้ตัว
"ถ้ามีอะไรมาช่วยให้มีกำลังใจในการสอบก็คง..."
"อืมมมม ก็ได้"
เห้ย จริงดิ
#เสียงโทรศัพท์
อีกแล้ว นี่น้ำขิงธุระเยอะไปไหม จังหวะการโทรเข้านี่ก็นรกสัดๆ แผนกำลังจะสำเร็จแล้วเชียว
"สัญญาแล้วนะว่าถ้าสอบผ่านเกิน 70% จะเรียกแทนตัวเองว่าน้ำขิง" กูตะโกนดื้อๆแม่งเลย อยากคุยโทรศัพท์ตอนช่วงสำคัญดีนัก
"ชูวววววว คุยโทรศัพท์อยู่" ก็ยังเป็นคนที่ดุได้น่าดูเหมือนเดิม
อ้าว แล้วนี่ไปคุยศัพท์มายังไงเนีย ทำไมดูเครียดๆ ตาแดง จมูกแดง อย่างกับจะร้องไห้
"ขิง เป็นไรครับ"
"เปล่า...."
#เสียงโทรศัพท์
อีกแล้วเหรอว่ะ นี่เกิดไรขึ้นเนีย ไอ้คนปลายสายมันเป็นใครวะ
ขิงมองโทรศัพท์กล้าๆกลัวๆอยู่สักพัก แล้วตัดสินใจลุกไปคุยโทรศัพท์อีกรอบ
ตอนนี้คุยเบากว่าปกติอีก มีอะไรวะ
แล้วไม่นานน้ำขิงก็ตัวสั่นเลย ร้องไห้แหงเลยสภาพนี้
"เห้ยขิงเป็นไรอ่ะ ร้องไห้ทำไม"
ผมโดนส่งสัญญาณว่าห้ามรบกวนการสนทนาครับ จะบ้าหรือไงวะ นี่มันเป็นใครวะ ถึงขั้นทำน้ำขิงร้องไห้
ผมเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลา
ร้อนใจจริๆ ค่อยๆเดินไปข้างหลังดีกว่า ชักเป็นห่วงแล้วดิ ดูดิว่าคุยอยู่กับใคร
"....ไม่ได้กำลังอยู่คนเดียวใช่ไหม พี่เป็นห่วง" ผมเดินมาอยู่หลังน้ำขิงแล้ว แต่เค้าคงไม่รู้ตัว และมีเสียงใครคนหนึ่งดังออกมาจากโทรศัพท์จนผมได้ยิน
"เปล่าครับ ขิงอยู่กับ..."
"ต้อมเว้ย กูชื่อต้อม มึงเป็นใครวะมาทำให้ขิงร้องไห้" ผมไม่สนอ่ะว่าจะโดนด่าว่าเสียมารยาทหรือเปล่า แต่มาทำน้ำขิงร้องไห้ ผมไม่ยอมแน่
"จะโวยวายทำไม อายเค้า" น้ำขิงหันมาดุผม ไม่รู้หละ หัวร้อน
"ต้อมยังสอบไม่ผ่านนะพี่ตอง " ห๊ะ พี่ตองเหรอ แล้วก็ถามถึงเราด้วย อะไรวะ เรื่องไรกัน "ชาไม่ว่างมาติวตั้งแต่แรกแล้ว...."
ผมเลิกสนใจฟังแล้ว รู้สึกว่ายิ่งฟังยิ่งเป็นห่วงแฮะ สงบสติอารมณ์ตัวเองก่อน ดูๆแล้วก็คงไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงอะไร
ในที่สุดน้ำขิงก็คุยโทรศัพท์เสร็จ
ดูหน้าเศร้าๆ อย่างกับรู้สึกผิดอะไรสักอย่าง
"วันนี้พอแค่นี้แล้วกันนะ" อ้าว ยังไม่หายเศร้านี่หว่า
น้ำขิงเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับ
เอาไงดีวะกู เป็นห่วงก็เป็นห่วง
น้ำขิงยังน้ำตาไหลอยู่เลย "พรุ่งนี้ก็ทำให้เต็มที่นะ"
ไม่รู้เว้ย ใครจะว่ากูฉวยโอกาสก็ช่าง
ก่อนน้ำขิงจะเดินออกจากห้อง ผมตัดสินใจคว้าตัวเค้ามากอด คนเศร้าขนาดนี้จะให้ผมปล่อยกลับไปได้ไงละ กอดให้แน่นเลย โดนต่อยก็ค่อยว่ากันทีหลัง
"......." น้ำขิงไม่ดุไม่ด่าอะไรผมเลย แต่กลับร้องไห้หนักกว่าเดิมอีก คล้ายว่าเค้าสามารถร้องไห้ได้อย่างปลอดภัยในอ้อมอกของผมแล้ว
แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมอยากปกป้องเค้าได้ยังไงกัน
"ไม่เป็นไรนะ ผมจะปกป้องขิงเอง"