พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้นจบในตอน] Parallel Reality
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: KOKURO ที่ 15-01-2012 21:14:30
-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
-
เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องมาจาก Daylight นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31210.msg1806653#msg1806653
เรื่องนี้ผมได้ไอเดียมาจากเพลง Parallel Reality ของ INORAN ไม่รู้ว่ามีให้ฟังในยูทูบหรือเปล่า ถ้าสนใจก็ลองหาดูนะครับ แต่ผมลงเนื้อเพลงไว้ท้ายเรื่องด้วย
ขอบคุณที่สนใจติดตามนะครับ
...
Parallel Reality
สวัสดี ทาคุโร่
วันเวลามันผ่านไปเร็วนะ นายไม่อยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว...ฉันแทบจะจำไม่ได้ ทั้งที่รู้ว่านายไม่ได้ไปไหน แต่การที่ไม่เห็นตัวนายให้เต็มสองตา มันทำให้ฉันรู้สึกแปลก ๆ เหมือนนายไม่ได้อยู่ที่นี่...ในห้องนี้
เหมือนรอบตัวมันมืดมนลงทุกที ฉันได้แต่ทำงานไปวัน ๆ หายใจทิ้งให้หมดไปวัน ๆ...ไม่รู้หรอกว่าอากาศมันร้อนมันหนาวแค่ไหน ไม่รู้ว่าสีสันรอบตัวมันหายไปไหน ตอนนี้ฉันเห็นแค่โลกสีเทาที่มืดมนลงทุกวันเท่านั้น
ฉันพยายามจะมองหาแสงสว่างจากเงามืดพวกนั้นนะ ฉันพยายามไปไหนมาไหนกับพวกเจ พยายามฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้พวกนั้นเป็นห่วง...นายก็รู้ว่าสุงิจังขี้กังวลแค่ไหน ฉันพยายามมองหน้าพวกนั้นไว้ พยายามมองหาแสงสว่างที่อาจจะมีอยู่ในประกายตาของเทรุบ้าง...แต่ไม่มีเลย ทาคุโร่ ไม่มีที่ไหนมีแสงสว่างที่ฉันมองหาเลย
ฉันกลับมาค้นหาแสงสว่างนั้นในบ้านของเรา แสงสว่างเลือนรางเป็นเงาวอมแวมให้ฉันเห็น ถักทออย่างอ่อนโยนมากับเสียงกีต้าร์ที่นายเล่นกล่อมฉันนอนทุกค่ำคืน...แต่นั่นมันไม่พอ เข้าใจมั้ย ทาคุโร่ แค่นั้นมันไม่พอสำหรับหัวใจของฉันในตอนนี้
ฉันควรจะทำยังไง ควรจะค้นหามันยังไง
อิโนะรัน
17 มกราคม 2011
...
กระดาษเขียนจดหมายสีขาวที่มีร่องรอยไหม้จากขี้บุหรี่เป็นดวงกระจายอยู่ทั่วถูกหยิบออกไปวางข้าง ๆ แล้วกระดาษอีกแผ่นที่มีสภาพไม่ต่างกันนักก็ปรากฏแก่สายตา
...
สวัสดี ทาคุโร่
นายสบายดีหรือเปล่า ฉันไม่สบายเลย รอบตัวมันมืดลงทุกที จนบางทีฉันก็ไม่แน่ใจว่าจากโลกสีเทาที่มองเห็นอยู่ในตอนนี้มันจะมืดสนิทลงเร็ว ๆ นี้หรือเปล่า
ทั้งที่อยู่กับพวกเพื่อน ๆ ทั้งที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันสนุกสนาน แต่ฉันหัวเราะไม่ออก...ยิ้มไม่ได้ ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น กะแค่ยกมุมปากขึ้นนิด ๆ เหมือนทุกครั้งมันยากเย็นตรงไหน แต่ฉันก็ทำไม่ได้ ทาคุโร่ เหมือนหน้าของฉันมันโดนฉาบไปด้วยน้ำแข็ง เยือกเย็น และแข็งเกร็งเหมือนบรรยากาศที่ห่อหุ้มตัวฉันในตอนนี้
สุงิจังเป็นห่วงฉัน เทรุเป็นห่วงฉัน เจก็เป็นห่วงฉัน...แต่ยังไงฉันก็ยิ้มไม่ได้ นายนึกออกไหม การเห็นหน้าเพื่อน ๆ เป็นสีเทาหม่นหมองเหมือนรูปตั้งหน้าศพน่ะ...ฉันจะยิ้มได้ยังไง มันเหมือนกับว่าพวกนั้นที่ยิ้มอยู่ตรงหน้าจะหายไปเมื่อไรก็ได้ เหมือนกับว่ารอยยิ้มนั้นจะกลายเป็นแค่แผ่นกระดาษอาบมันแข็งกระด้างในกรอบไม้...
เหมือนกับนาย
ภาพของนายก็ยิ้ม...และตอนนี้ก็ยังยิ้มอยู่
แล้วตัวนายล่ะ? ตอนนี้นายยังยิ้มให้ฉันอยู่หรือเปล่า? ตอนที่นายเล่นกีต้าร์ไปพร้อมกับฉัน ตอนที่นายนั่งลงข้างเตียงฉัน...นายยังยิ้มให้ฉันอยู่หรือเปล่า?
อิโนะรัน
19 กุมภาพันธ์ 2011
...
ดวงตาคมที่กวาดไล่ไปตามตัวอักษรนั้นหรี่ซึม แล้วกระดาษแผ่นเก่าก็ถูกนำไปวางไว้ข้าง ๆ เพื่อเปิดทางให้กระดาษแผ่นต่อไป
ตัวหนังสือบนกระดาษแผ่นที่สามโย้เย้และสั่นไหว นอกจากจะมีรอยไหม้ของเถ้าบุหรี่แล้วยังมีรอยคราบน้ำสีน้ำตาลเปื้อนอยู่เป็นวงกว้าง
...
ทาคุโร่
ฉันไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะนอนไม่หลับมานานขนาดนี้ สองอาทิตย์แล้วที่ฉันไม่ได้นอนเลย ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไงจนถึงตอนนี้
พวกเพื่อน ๆ เป็นห่วงกันทุกคน แต่ฉันยังไปทำงานได้ ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ...ตามปกติ...ไม่หรอก มันไม่ปกติมานานแล้ว ฉันแค่พยายามใช้ชีวิตต่อไปเท่านั้นเอง เผื่อแทนส่วนของนายด้วย
แต่มันยาก...ทาคุโร่ ฉันไม่รู้ว่าจะทำได้อีกนานแค่ไหน
ฉันสารภาพว่าฉันดื่มหนักทุกวัน แต่ไม่รู้ทำไม...ฉันถึงไม่หลับเลย
ฉันไม่ได้ยินเสียงกีต้าร์ของนายอีกแล้ว
นายยังอยู่กับฉันหรือเปล่า ทาคุโร่?
อิโนะรัน
26 มีนาคม 2011
...
สายลมแรงกระชากกระดาษที่ถูกจับไว้หลวม ๆ ปลิวหลุดจากมือจนต้องไล่ตามคว้ามาวางไว้กับกระดาษแผ่นอื่น ๆ ที่อ่านไปก่อนหน้านี้ แล้ววางทับด้วยแก้วน้ำใบสวย
ที่เหลืออยู่ในมือคือกระดาษแผ่นสุดท้ายที่มีร่องรอยน้ำหยดเป็นดวง ๆ กับลายมือที่แทบจะอ่านไม่ออก
...
ไม่ไหวแล้ว...ทาคุโร่ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นบ้า เหมือนสติมันจะหลุดออกจากร่างเมื่อไรก็ได้ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้น...ฉันจะข้ามเส้นกั้นระหว่างสติกับเป็นบ้าไปหรือเปล่า
ถ้าฉันเป็นบ้าไปแล้วจะเป็นยังไง? ฉันจะยังจำนายได้มั้ย? ฉันจะมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้หรือเปล่า?...ไม่สิ ไม่ว่าอย่างไหนมันก็จะต้องมีความสุขมากกว่าตอนนี้อยู่แล้ว
ฉันทนมานานมากแล้ว ฉันเคยคิดว่าฉันทนได้ เคยคิดว่าฉันมีชีวิตอยู่ได้ เพราะมีนายอยู่ด้วยตรงนี้
แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าการที่สัมผัสตัวตนของนายได้เพียงเลือนราง จะทรมานมากขนาดนี้
ฉันไม่รู้แล้วว่าฉันหลอกตัวเองหรือเปล่า นายอยู่ที่นี่จริงหรือเปล่า? นายได้อ่านจดหมายของฉันหรือเปล่า?
ถ้าได้อ่าน ทำไมนายไม่มาพบฉัน? มาพาฉันไปก็ได้! ขอแค่นายเอ่ยมาคำเดียว ฉันจะตาย!
ทาคุโร่...ขอร้อง พาฉันไปด้วย
ฉันไม่เอาแล้ว...ไม่ไหวแล้ว...
ให้ฉันตาย
ขอแค่นายบอก
ทาคุโร่
...
มือเรียวนำกระดาษแผ่นนั้นไปวางรวมกับกระดาษแผ่นอื่น ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตา
“ไม่ได้ลงวันที่ แต่ก็คงไม่นานนักหลังจากจดหมายก่อนหน้านั้น” เสียงต่ำ ๆ เอ่ยขึ้นจากอีกด้านหนึ่งของโต๊ะอาหาร
“ก็คงตั้งแต่วันที่อิโนะไม่ไปทำงาน” ร่างเพรียวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลแดงยาวประบ่าสูดจมูกน้อย ๆ
“พวกเรารีบมาหาหลังเลิกงาน แต่ก็ไม่ทัน”
“ถ้าเราไหวตัวทันเร็วกว่านี้...”
“อย่าโทษตัวเอง สุงิโซ หมอนั่นเป็นคนเลือกเอง ไม่ใช่พวกเรา”
“แต่ถ้าพวกเรามาถึงเร็วกว่านี้...ถ้ามีใครสักคนอยู่กับอิโนะด้วย จะเป็นฉันหรือนายก็ได้ เจ...ใครก็ได้...” น้ำตาที่ปาดเช็ดไปแล้วหยดไหลลงมาอีก
เจส่ายหน้า “ไม่ว่าใครจะอยู่ ผลลัพธ์มันก็เหมือนเดิม อิโนะไม่มีวันอยู่กับพวกเรา คนเดียวที่หมอนั่นต้องการคือทาคุโร่”
“คนตายไปแล้วเนี่ยนะ!” สุงิโซแหวออกมาด้วยอารมณ์อันสับสน
“คนตายไปแล้ว ที่สำคัญกับอิโนะที่สุดในโลก”
สุงิโซนิ่งอึ้ง ไร้คำโต้แย้ง
“อิโนะอดทนมาตลอด เท่าที่อ่านจากจดหมายพวกนี้ เขาคงอยากตามทาคุโร่ไปนานแล้ว เพียงแต่...มันเป็นความรู้สึกบางอย่างของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ทำให้ฆ่าตัวเองไม่ลง...อาจเพราะอิโนะรู้สึกว่าทาคุโร่ยังอยู่ด้วยเสมอ ถึงไม่กล้าทำเรื่องโหดร้ายอย่างนั้นต่อหน้าทาคุโร่”
“แล้วที่เป็นอยู่ตอนนี้มันไม่โหดร้ายหรือไง?”
“อิโนะเรียกมันว่าความสุข”
“อะไรนะ?”
เจส่งกระดาษอีกพับหนึ่งให้สุงิโซ ลายมือที่ปรากฏอยู่บนนั้นเป็นระเบียบเรียบร้อยผิดกับจดหมายฉบับก่อนหน้านี้ราวกับเป็นคนละคนเขียน
“แผ่นนี้ อิโนะเพิ่งเขียนเมื่อคืนนี้ ตอนที่มีสติ”
“มีสติ? พูดอะไรออกมาน่ะ เจ อิโนะเขา...” หางเสียงถูกกลืนหายลงไปในลำคอ สุงิโซไม่กล้าพอที่จะเอ่ยคำนั้นออกมา
“ลองอ่านดูสิ แล้วนายจะรู้ว่าสิ่งที่ฉันพูดมันไม่เกินจริงเลย”
สุงิโซมองตาเจอย่างไม่อยากจะเชื่อในคำพูดนั้น แต่แล้วก็ตัดสินใจก้มหน้าลงอ่านจดหมายฉบับนั้น
...
-
สวัสดี เจ สุงิจัง และเทรุด้วย
ฉันรู้ว่าพวกนายคงเป็นห่วงฉันมากที่ฉันเป็นแบบนี้ ฉันเองก็รู้ว่าทำตัวแย่มากมาตลอด แต่ตอนนั้นมันไม่ไหวจริง ๆ ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าความรู้สึกที่มีต่อใครสักคนหนึ่งมันจะกดดันให้ฉันเป็นไปได้ขนาดนั้น
ฉันเหมือนคนเข้มแข็ง พวกนายก็เห็น ฉันมักจะทำท่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว ซึ่งบางครั้งฉันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ จนกระทั่งทาคุโร่เดินเข้ามาในชีวิต มันเป็นความรู้สึกแปลกประหลาด เหมือนกับน้ำแข็งที่เกาะคลุมหัวใจของฉันมาตลอดชีวิตได้หลอมละลายลง และฉันไม่อาจกลับไปเป็นฉันคนเดิมได้อีกต่อไป
พวกนายอาจไม่เห็นว่าฉันเปลี่ยนแปลงไปตรงไหน แต่ภายในตัวฉันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้ว ความอบอุ่นของทาคุโร่ทำให้ฉันอ่อนแอลง...ถ้าการที่ใครสักคนจะรู้สึกอ่อนโยนกับใครบางคนจะเรียกว่าความอ่อนแอน่ะนะ...การอยู่กับหมอนั่นทุกวันทำให้ฉันกลายเป็นอีกคนหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็นตัวฉันในอดีตจะต้องปฏิเสธมันแน่ เพราะความอ่อนโยนแบบนั้นทำให้มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ยากเกินไป
แต่ฉันก็ไม่อาจสลัดทิ้งสิ่งที่ทาคุโร่สอนให้ฉันรู้ได้ ฉันกลับไปเป็นตัวตนที่เย็นชาแบบเดิมไม่ได้ แต่ฉันก็ไม่ได้เสียใจหรอกนะที่ฉันกลายเป็นแบบนี้ ฉันมองเห็นสิ่งอื่น ๆ รอบตัวชัดขึ้น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องไกลตัวหรอก แค่พวกนายนี่แหละ ฉันเห็น...ว่าเทรุไม่ทำท่าเกร็งเมื่อเข้าใกล้ฉันอีก เห็นสุงิจังอ้อนฉันมากขึ้น เห็นเจดูสบายใจไม่ทำหน้าเหมือนระวังตัวตลอดเวลาว่าระเบิดเวลาในตัวฉันจะระเบิดขึ้นตอนไหน
และฉันได้สูญเสียทุกอย่างนั้นไปในวันนั้นที่ทาคุโร่จากไป
ฉันพยายามจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างที่ทาคุโร่เคยสอนให้ฉันได้เห็นคุณค่าของชีวิต พยายามที่จะมีชีวิตอยู่เผื่อส่วนของทาคุโร่ด้วย...แต่ฉันก็พบว่ามันยากเกินไป เหมือนกับที่ฉันเคยรู้สึก ความอ่อนโยนทำให้ฉันอยู่บนโลกใบนี้ยากเกินไป ดังนั้น...ตัวตนเดิมของฉันถึงได้พยายามสร้างกำแพงน้ำแข็งขึ้นมาปกป้องตัวเองอีกครั้ง สิ่งที่ฉันอยากจะปิดกั้นมันไว้ภายนอกไม่ใช่อะไรเลย ก็แค่ความเสียใจจากการสูญเสียทาคุโร่ไป...ฉันไม่อยากยอมรับความจริงที่ว่าฉันจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปตามลำพังโดยปราศจากทาคุโร่ ถ้ากลับไปอยู่ใต้กำแพงน้ำแข็งอีกครั้ง ฉันคงอยู่ต่อไปได้โดยไม่ต้องเสียน้ำตาอีก
แต่ความอ่อนโยนที่เคยเป็นทำให้ฉันพยายามปฏิเสธตัวเอง ตัวตนสองส่วนที่แตกแยกกันอย่างสิ้นเชิงทำให้ฉันแย่ ในตอนที่กำแพงน้ำแข็งค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นจนเกือบสมบูรณ์ ฉันก็ทนไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียสีสันและความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อชีวิตไป ฉันไม่อยากกลับไปอยู่ในโลกสีเทา ๆ มืดมนอีกแล้ว ฉันไม่อยากเห็นพวกนายทำหน้าเป็นกังวลกับฉันอีกแล้ว...แต่ทุกอย่างก็ผิดพลาดไปหมด
ฉันค้นพบ...ว่าฉันอยู่ต่อไปไม่ได้ถ้าไม่มีทาคุโร่ ฉันรักษาความอ่อนโยนนี้ไว้ไม่ได้ถ้าไม่มีทาคุโร่ ไม่ว่าจะปฏิเสธกำแพงน้ำแข็งอย่างไร ทุกอย่างก็มีผลลัพธ์เหมือนกัน
ในวันนั้นที่ฉันมาถึงทางตัน ฉันเรียกหาทาคุโร่ แต่เขาไม่ตอบรับ ไม่มีอะไรเลย...ฉันรู้แล้วว่าที่ผ่านมาฉันเพียงแต่หลอกตัวเองมาตลอด แล้วคืนนั้นฉันก็หลับตาทั้งน้ำตา
แต่รู้อะไรไหม...ฉันได้พบทาคุโร่อีกครั้ง
อ้อมกอดที่คุ้นเคยยังคงเหมือนเดิม รอยยิ้มนั้นยังเหมือนเดิม...ทุกอย่าง
ฉันได้ค้นพบแล้วว่าทาคุโร่ยังมีชีวิตอยู่ในตัวฉัน ไม่ใช่ที่โลกภายนอกนั่น ไม่ใช่ภาพเงาเลือนรางในบ้าน ทันทีที่ได้พบทาคุโร่ ทันทีที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของทาคุโร่ ฉันก็รู้ว่าฉันไม่อาจแยกจากทาคุโร่ได้อีก ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่มีทาคุโร่อีก...และฉันไม่ต้องการวันพรุ่งนี้ที่มีแต่ความมืดมนอีกแล้ว
แต่เวลายังคงเดินไป จังหวะชีวิตยังคงดำเนินไป ร่างกายยังต้องเดินตามเวลาและจังหวะนั้น ดังนั้นฉันจึงตื่นขึ้น
ตัวฉันที่ไม่มีสติดูแลยากไหม เจ? ฉันรู้ว่านายอยู่ข้าง ๆ ฉันตลอดเวลาที่ฉันอยู่ในโลกของพวกนาย...โลกสีเทาที่ฉันไม่อาจอยู่ต่อไปได้ ขอบคุณที่อุตส่าห์ลาออกจากงานมาเพื่อดูแลฉันนะ ความจริงนายไม่ควรทำแบบนั้นเลย ถึงมรดกที่คุณย่ายกให้จะทำให้นายอยู่ได้สบาย ๆ ไปตลอดชาติก็เถอะ นายน่าจะพบใครที่พร้อมจะอยู่กับนายมากกว่าฉัน
ที่จริงถ้าฉันรักนายไปซะ อะไร ๆ มันคงง่ายกว่านี้ แต่เราใกล้ชิดกันเกินไป...นายก็รู้ ยังไงซะ ฉันก็รักนายเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเสมอนะ
สุงิจัง ฉันไม่อยากเห็นสุงิจังต้องร้องไห้เพราะฉันนะ สุงิจังเข้มแข็งแต่อ่อนไหวกับเรื่องคนใกล้ตัวอยู่เรื่อย แต่นั่นก็เป็นข้อดี การที่สุงิจังเป็นอย่างนั้นจะทำให้สุงิจังยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องหนีไปใต้กำแพงน้ำแข็งอย่างที่ฉันเคยเป็น
ฉันจะดีใจมากถ้าทุกครั้งที่เจอสุงิจังแล้วสุงิจังยิ้มให้ฉัน แม้ฉันจะทำท่าเหมือนไม่รับรู้อะไร แต่ช่วยยิ้มให้ฉันเถอะนะ ได้ไหม?
เทรุ นายเป็นเพื่อนที่ดีมาตลอด ทาคุโร่ก็พูดแบบนั้นเสมอ ดังนั้น...ช่วยเลิกมองฉันแล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ได้แล้ว แล้วก็เลิกไปโวยวายใส่ทาคุโร่ที่หลุมศพได้แล้ว มีอะไรก็มาโวยใส่ฉันนี่ ทาคุโร่ไม่ผิดหรอก ฉันเป็นอย่างนี้เพราะฉันเลือกของฉันเอง
และฉันมีความสุขนะ
ที่นี่ ตรงนี้ เป็นความจริงของฉัน
ที่นั่น ตรงนั้น คือความจริงของพวกนาย
มันอาจจะไม่บรรจบกัน แต่ก็จะดำเนินคู่กันไปเสมอ พวกนายมองเห็นฉัน และฉันมองเห็นพวกนาย
ไม่มีอะไรต้องเศร้าหรอก ฉันมีความสุขแล้ว
รักพวกนายทุกคนมาก
อิโนะรัน
10 กรกฎาคม 2011
...
มือที่ถือจดหมายฉบับนั้นไว้สั่นระริก และในที่สุดทั้งร่างก็สั่นสะท้าน เจลุกจากที่นั่งมาดึงกระดาษในมือสุงิโซออกแล้วกอดไว้เบา ๆ
“เพราะอย่างนี้...นายถึง...ได้เรียกฉันมาวันนี้...?”
“ใช่ เพราะอิโนะเขียนจดหมายถึงพวกเรา”
สุงิโซค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วปัดมือของเจออกเบา ๆ ซึ่งเจก็ยอมปล่อยแต่โดยดี
ร่างเพรียวเดินโงนเงนนิด ๆ ไปยังร่างที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้โยกข้างหน้าต่าง สุงิโซไปยืนตรงหน้าแล้วเอื้อมมือไปประคองใบหน้านั้นไว้เบา ๆ ดวงตาสีน้ำตาลใสเหมือนลูกแก้วสะท้อนภาพของคนตรงหน้า...หากไร้อารมณ์ใด ๆ ไม่ต่างกับตุ๊กตา
มันยากจะทำใจให้ยอมรับกับสภาพของเพื่อนรักในตอนนี้ แต่ลายมือที่ปรากฏในจดหมายคือลายมือของอิโนะรันจริง...นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง...สุงิโซบอกกับตัวเอง
“นาย...มีความสุขสินะ อิโนะ...” น้ำเสียงขาดห้วงด้วยแรงสะอื้นน้อย ๆ “เดี๋ยวคืนนี้...นายก็จะได้เจอทาคุโร่อีกใช่มั้ย...ได้อยู่ด้วยกัน...”
ไม่มีคำตอบ ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ จากอิโนะรัน
สุงิโซใช้มือเช็ดน้ำตาครั้งแล้วครั้งเล่าแม้มันจะไม่ยอมหยุดไหลง่าย ๆ
“อิโนะ...ถ้านายบอกว่านายมีความสุข...ฉันจะไม่รั้งนายไว้ที่นี่...และ...ฉันจะทำตามที่นายขอ...ฉันจะยิ้มให้นาย...เสมอ”
เรียวปากบางคลี่ออกเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะประทับแนบลงที่หน้าผากมนแผ่วเบาและดึงร่างนั้นมากอดไว้แน่น
“แล้วจากนี้...นายจะทำยังไงต่อไป เจ?” คำถามมุ่งตรงไปยังคนที่ยืนอยู่ไม่ไกล
“ก็ดูแลหมอนี่ต่อไป จนกว่าจะตายจากกันไปข้างนึง” เจตอบราวกับมันเป็นเรื่องปกติที่ต้องเป็น
“พวกเรานี่...รักหมอนี่นะ”
“แต่ไม่มีใครได้หัวใจของหมอนี่นอกจากทาคุโร่”
“อื้ม...”
“แล้ว...เทรุไปไหนล่ะ? นายไม่ได้เรียกมาด้วยเหรอ?”
“เดี๋ยวคงมา ป่านนี้คงแวะไปด่าทาคุโร่ที่สุสานก่อนละมั้ง...ไอ้นั่นก็บ้าบอ อยากให้มันได้อ่านจดหมายนี่เร็ว ๆ จริง ๆ” แม้จะบ่นแต่กลับมีรอยยิ้มบนสีหน้า
“เพราะแบบนั้น ถึงได้สมเป็นเทรุไงล่ะ”
“ก็นั่นสินะ”
เสียงตึงตังดังมาจากหน้าประตูบ้าน
“เจ! สุงิโซ! ฉันมาแล้ว อิโนะเป็นไงบ้าง!?”
เจกับสุงิโซมองหน้ากันแล้วก็หัวเราะออกมา โดยไม่มีใครทันสังเกตรอยยิ้มบางเบาบนใบหน้าของคนที่นั่งนิ่งอยู่เหมือนตุ๊กตาบนเก้าอี้โยก
Parallel Reality
INORAN
Every day is blurry now
All I see is monochrome
I search for light in between the shadows
Those we’ve lost we find once more
Closing our eyes we open a door
Tonight I give you my heart
In dreams we’ll never be apart
Clear as day you smile at me
Brings me back to sanity
Now that I have found you
I won’t be without you
I won’t live without you
Hold on
Now that I have found you
I won’t be without you
I won’t live without you
Fall asleep with tears of sorrow
We’ve no faith in our tomorrows
We’ve awake with tears of gladness
There’s no sadness anymore
You are still a part of me
You’re alive inside of me
This is my reality
Giving me my sanity
You are still a part of me
You exist inside of me
Parallel reality
...
END.
-
:กอด1:แอบเหงาคนเดียว
-
complicated grief >>>>depression>>>>suicide
-
complicated grief >>>>depression>>>>suicide
มะ...ไม่ได้ฆ่าตัวตายคร้าบบบบบบบบ
-
มันเศร้า แบบลึกลับ แบบว่าบอกไม่ถูก
แปลก
-
อ่านแล้วหดหู่เศร้าใจแบบว่ามีอารมณืร่วมสุดๆแม้จะงงนิดหน่อย
แต่ก็สนุกดีนะคะ
-
น้ำตาจะไหล
T^T เขียนดีมากเลยค่ะ
เเต่ว่านะ... เเต่ว่านะ...
ฮือ หน่วงๆในใจยังไงไม่รู้สิ...
-
น้ำตาซึมเลย
:monkeysad: :monkeysad:
-
อิโนะไม่รับรู้อะไรเลยหรอแต่ตอนท้ายก็ยิ้มบางๆนิ
-
มะ...ไม่ได้ฆ่าตัวตายคร้าบบบบบบบบ
เราไม่ค่อยได้อ่านแนวญี่ปุ่นเท่าไหร่ แล้วที่อิโนะเป็นคืออยู่ในโลกของตัวเองเหรอ หรือยังไง
-
อึกกก!!!
ยิ่งกว่าเดย์ไลท์อีกอ่ะะ
สะเทือนใจอ่ะะตอนนี้ ได้อารมณ์อีกแล้วว,,,
Thx a lot !!!!!!!!!!
-
เมื่อกี้ไปอ่านเดย์ไลท์มา น้ำตาพรากๆ
มาอ่านพาราเลล รีลลิตี้ต่อ โอ้ววววว :z3:
เศร้าไม่ไหวแล้ว สะเทือนใจ TT
-
เราไม่ค่อยได้อ่านแนวญี่ปุ่นเท่าไหร่ แล้วที่อิโนะเป็นคืออยู่ในโลกของตัวเองเหรอ หรือยังไง
จะเรียกว่าอยู่ในโลกของตัวเองหรือเป็นบ้าก็ไม่ผิดละครับ
-
ฉันเห็นพวกนายผ่านกระจกบานนี้ แต่พวกนายไม่อาจเห็นฉัน
ฉันมีความสุขที่เห็นพวกนายมีความสุขที่โลกฝั่งโน้น แม้พวกนายไม่อาจรู้
ฉันมีความสุขในโลกแห่งนี้ กับเขาที่พวกนายไม่อาจยอมรับ
ฉัน....พวกนาย...ขอบใจนะ
-
ภาคแรกอบอุ่น
แต่ภาคนี้ ตั้งแต่บรรทัดแรก รู้สึกถึงความหว้าเหว่ ความเดียวดาย
และความเงียบเหงาที่อิโนะเจอ
มันรู้สึกทุกข์ไปพร้อมๆกับอิโนะเลยล่ะ
:z3:
-
:o8: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
-
ทั้งเศร้า ทั้งซึ้งอ่ะฮับ
รู้สึกหน่วงๆ
แต่ผมก็ชอบ
:hao5:
-
เป็นเรื่องที่อ่านเป็นรอบที่สองแล้วก็ยังรู้สึกดีนะ ดีแบบเศร้าๆน่ะ