พิมพ์หน้านี้ - แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: missredlip ที่ 01-07-2017 20:16:48

หัวข้อ: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 01-07-2017 20:16:48
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************





!!คำเตือน!!
1. นิยายเรื่องนี้มีคำหยาบคายเป็นจำนวนมาก
2. นิยายเรื่องนี้มีฉากทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง
3. มีความไม่สมจริงในเนื้อเรื่องหลายประการ (ที่เรียกสั้นๆ ว่าเว่อร์)
4. นิยายเรื่องนี้เคยเป็นแฟนฟิคชันมาก่อน คนแต่งคนเดียวกัน ไม่ได้ขโมยมานะ


แจ้งเพื่อทราบ
นิยายเรื่องนี้อัพเดททุกวันพุธและเสาร์จ้ะ (หากคุณนายไม่ลืม)
สามารถใช้ Hashtag #แอ๊บรัก เพื่อพูดคุยกันในทวิตภพได้
Twt: @missredlip_ <----- เพิ่งเล่นเลย ฟอลได้นะจ๊ะ ไม่เวิ่นมากหรอก อิอิ


บันทึกการแอ๊บ
เตรียมแอ๊บ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3663879#msg3663879)
แอ๊บที่ 1: พี่แมนเกลียดลิปสติกสีแดง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3663880#msg3663880)
แอ๊บที่ 2: สวิตซ์ปิดเสียงอยู่ตรงไหนนะ? (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3666348#msg3666348)
แอ๊บที่ 3: จูบนั้นคืนสนอง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3668250#msg3668250)
แอ๊บที่ 4: เป็นตุ๊ดก็อย่าโชว์แมนสิ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3671015#msg3671015)
แอ๊บที่ 5: ตุ๊ดขึ้นบ้าน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3672430#msg3672430)
แอ๊บที่ 6: สุรา เป็นเหตุให้เสียพรหมจรรย์ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3674942#msg3674942)
แอ๊บที่ 7: ได้แล้วต้องรับผิดชอบ! (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3676623#msg3676623)
แอ๊บที่ 8: เมียพี่มีชู้ววววว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3680176#msg3680176)
แอ๊บที่ 9: เสียดุลการค้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3682634#msg3682634)
แอ๊บที่ 10: เมียกูอยู่ไหน? (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3684252#msg3684252)
แอ๊บที่ 11: สุรา เป็นเหตุให้พิการได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3687815#msg3687815)
แอ๊บที่ 12: ชุดไทยสไบม่วง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3690012#msg3690012)
แอ๊บที่ 13: รอยด่าง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3694965#msg3694965)
แอ๊บที่ 14: เจอตุ๊ดงอน...ให้รีบง้อ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3668250#msg3668250)
แอ๊บที่ 15: ด้านได้อายอด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3698097#msg3698097)
แอ๊บที่ 16: ขยี้ผ้ายามฟ้ามืด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3700519#msg3700519)
แอ๊บที่ 17: ความลับนี้ต้องเหยียบให้มิด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3705174#msg3705174)
แอ๊บที่ 18: ไม่ได้มีแค่ ท. ทหารที่อดทน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3707553#msg3707553)
แอ๊บที่ 19: ก็อย่ามาจิ๊จ๊ะให้มันมากไป (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3711467#msg3711467)
แอ๊บที่ 20: อย่าลามปามเมียพี่ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3714694#msg3714694)
แอ๊บที่ 21: กระตุกหนวดแกนคณะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3715973#msg3715973)
แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3718382#msg3718382)
แอ๊บที่ 23: น้ำตาคนแมน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3749730#msg3749730)
แอ๊บที่ 24: ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3751358#msg3751358)
แอ๊บที่ 25: ปล่อยให้เป็นหน้าที่พระเอก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3753213#msg3753213)
แอ๊บที่ 26: เฝือก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3754561#msg3754561)
แอ๊บที่ 27: ตกรถ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3758651#msg3758651)
แอ๊บที่ 28: เห็ดท้องถิ่นกินแล้วอร่อย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3779618#msg3779618)
แอ๊บที่ 29: นางร้ายคัมแบ๊ค (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3781289#msg3781289)
แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด!  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60954.msg3782808#msg3782808)



หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ / เตรียมแอ๊บ + แอ๊บที่ 1 p. 1 / (1 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 01-07-2017 20:17:44
เตรียมแอ๊บ



ในนักศึกษาปี 1 จำนวนมหาศาลในรั้วมหาวิทยาลัยอันมีชื่อเสียงนี้ มีชายนามว่า ‘เอกภพ ผลบุญส่ง’ เป็นหนึ่งในนั้น เขาเป็นนักศึกษาคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกดุริยางคศาสตร์สากล เครื่องดนตรีที่ถนัดที่สุดคือ กีตาร์



ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาคมคายทำให้ เอ็ม ตกเป็นที่หมายปองของหญิงสาวรุ่นพี่จำนวนไม่น้อย แต่ด้วยข่าวลือบางประการที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วทำให้ความนิยมที่ควรจะมีตกฮวบฮาบและสาปสูญไปอย่างน่าเสียดาย มูลเหตุแห่งข่าวลือทั้งหลายทั้งปวงนั้น ก็มาจากคู่แฝดสาวประเภทสองรัก-ยมที่นั่งประกบข้างเขาอยู่นั่นเอง



พวกเขาสามคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาล ตอนประถมก็ยังเตะบอลด้วยกันอยู่ดีๆ เผลอตัวอีกทีเพื่อนเขาก็หนีไปโดดยางเสียแล้ว ไอ้ตัวเขาก็เคยชินกับการมีพวกมันสองคนอยู่ใกล้ๆ ไปๆ มาๆ ก็ซึมซับจริตตุ๊ดไปบ้างโดยไม่รู้ตัว



“อีเอ็มมี่ กูว่าเราไปกินโรงกลางเหอะ”



เมเม่ แฝดสาวผู้พี่ผมทองสั้นมัดจุกผูกโบว์กลางกระหม่อมเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก



“จริงด้วยอีเอ็มมี่ เดี๋ยวพี่แมนโผล่มาเห็นเข้าล่ะ พวกเราตายห่ากันแน่ๆ”



มาม่า แฝดสาวผู้น้องที่ทำผมทรงเดียวกันเด๊ะเอ่ยสมทบ แต่อาการร้อนรนของสองตุ๊ดสาวก็มิได้ทำให้หนุ่มศิลปินมีทีท่าเดือดร้อนแต่ประการใด เขายังลงจ้วงข้าวคลุกกะปิเข้าปากคำโตอย่างเป็นสุข



“มึงสองตัวช่วยเอาสมองมารวมกันแล้วประมวลผลทีได้ไหมครับ ว่าเวลาที่เหลืออีก 20 นาทีเนี่ย พวกมึงจะถ่อไปกินถึงโรงกลางแล้วกลับมาเรียนที่นี่ทันไหม?”



“ที่นี่” ที่เอ็มกล่าวถึง คือ อาคารเรียนรวมที่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ใช้เรียนวิชาพื้นฐานร่วมกัน เอ็มและสองเพื่อนซี้ต้องเรียนที่นี่ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพฤหัสทั้งคาบเช้าและคาบบ่าย ส่วนวันศุกร์จะไปเรียนวิชาคณะพื้นฐานที่ตึกคณะของตัวเอง



โรงอาหารของอาคารเรียนรวมอยู่ใกล้ตึกคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ นักศึกษาที่นี่ก็เลยเรียกติดปากกันว่า โรงอาหาร’ถาปัด เหตุผลที่เรียกกันอย่างนั้นเพราะกว่าครึ่งของนักศึกษาที่มาใช้บริการที่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นนักศึกษาหน้าเถื่อนจากคณะสถาปัตย์อันเลื่องชื่อลือชาด้านความปากหมา ซาดิสม์ ติสท์แตก ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น



ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งมีชีวิตที่มีคำจำกัดความว่า ตุ๊ด กะเทย หรือสาวประเภทสอง จะไม่สามารถพบเห็นได้ในบริเวณนี้ เนื่องด้วยเป็นอันรู้กันโดยทั่วไปว่าแกนคณะสถาปัตย์รุ่น 01 มีความแค้นฝังรากลึกกับกะเทยนางหนึ่งที่มีความงามหมดจดจนบรรพบุรุษท่านนั้นเผลอหลงรักโดยไม่รู้เพศดั้งเดิมของนาง ที่ร้ายกาจไปกว่านั้นคือแม้ใจนางจะเป็นหญิง แต่นางก็หลงใหลการ “รุก” มากกว่าจะยอมเจ็บตัว ดังนั้นท่านบรรพบุรุษผู้หลวมตัวตกล่องปล่องชิ้นไปกับนางจึงต้องเป็นฝ่าย “รับ” อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ท่านบรรพบุรุษแห่งสถาปัตย์จึงแค้นเคืองกะเทยนางนั้นเป็นยิ่งนัก และได้ทำพิธีกรรมฝังความจงเกลียดจงชังลงหัวรุ่นน้องจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนานกว่า 47 ปี



โดยเฉพาะไอ้แกนคณะรุ่นที่ 47 นามว่า...เมืองแมน เลิศบุรุษ  หรือไอ้พี่แมนนั่นแหละ แม่งเกลียดตุ๊ดเข้าไส้จนเอ็มนึกว่ามันเคยไปทำกะเทยที่ไหนท้องมารึเปล่า?



“เฮ้ย! ใครปล่อยตุ๊ดหลุดเข้ามาในเขตเราวะ?”



นั่นไง...นึกชื่อมันยังไม่ทันขาดคำเลย ตายยากจริงๆ สิ พับผ่า!



พอได้ยินเสียงดุๆ ของพี่แมน ไอ้สองหน่อเพื่อนเขาก็สะดุ้งหลังตรงแด่ว มือไม้อ่อนทำช้อนหลุดมือดังเคร้ง เสียงฝีเท้าหนักๆ ของกลุ่มคนประมาณ 10 กว่าคนเดินอ้อมจากด้านหลังของพวกเขามาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า แต่ละคนอาวุธครบมือพร้อมรบ มองผ่านๆ อาจเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กช่างกลก็เป็นได้



“กูเคยเตือนมึงแล้วใช่ไหม? ว่าอย่าเสนอหน้ามาแดกข้าวถิ่นกู อีเอ็มมี่!”



เจ้าของนาม “อีเอ็มมี่” เงยหน้ามองใบหน้างามๆ ท่ามกลางเหล่าชายฉกรรจ์ด้วยใบหน้าที่กวนตีนโดยไม่ต้องปั้นแต่ง คุณได้ยินไม่ผิดหรอก...ไอ้พี่แมนมัน “งาม” มาก คำเดียวสื่อได้ตั้งแต่หัวจรดปลายนิ้วก้อยตีน แต่ความงามนั้นไม่อาจลบล้างความเถื่อนและโหดร้ายของมันได้เลยแม้แต่นิดดดดดดเดียว ไม่อย่างนั้นมันจะขึ้นมาเป็นแกนนำไอ้พวกหน้าโจรกว่า 10 คนนี่ได้อย่างไรเล่า? จริงหรือไม่?



“ทำไมผมจะมากินที่นี่ไม่ได้ พ่อพี่เป็นเจ้าของโรงอาหารรึไง?”



ใบหน้างามๆ นั่นฉาบความโมโหในบัดดล สมุนฝ่ายซ้ายที่ได้ยินคำอวดดีของรุ่นน้องหน้าขาวก็ถึงกับขึ้นแทนลูกพี่ใหญ่ ร่างสูงขยับตัวเข้าไปหมายจะเอาบาทาลูบพักตร์คนปากดีเป็นการสั่งสอน แต่แกนคณะรุ่น 47 กลับใช้หลังมือแตะอกล่ำๆ ของลูกน้องไว้อย่างแมนๆ



“พ่อกูไม่ได้เป็นเจ้าของที่นี่หรอก แต่โรงอาหารนี้...ห้ามตุ๊ดเข้า เพราะตุ๊ด...ทำกูแดกข้าวไม่ลง โดยเฉพาะตุ๊ดหน้าโหดๆ อย่างมึง เข้าใจไหมคะ? น้องเอ็มมี่”



“กูไม่ใช่ตุ๊ด”



เสียงที่เข้มขึ้นของรุ่นน้องทำให้คุณรุ่นพี่ชักรู้สึกสนุก แมนเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างกวนประสาท ก่อนจะหันไปพยักหน้ากับลูกสมุนมือขวา



“ไอ้งอก น้องมันบอกไม่ได้เป็นตุ๊ดว่ะ ไหนมึงพิสูจน์ซิ”



“ไอ้งอก” สมุนมือขวาผู้ระเบิดรูหูตัวเองด้วยห่วงขนาดเท่าเหรียญสิบกระดื๊บมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเดฟชนิดรัดติ้วเลือดไม่เดินก่อนจะหยิบตัวอะไรบางอย่างโยนเข้าไปในจานข้าวตรงหน้าชายเอ็มอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว



สัตว์ตัวน้อยสีช็อกโกแลตสบตาคนตรงหน้ามันอย่างน่ารัก หนวดยาวๆ สองเส้นส่ายหวิวไหวไปมา ก่อนที่มันจะแสยะยิ้มหวานส่งให้ผู้ชายหน้าหล่อที่ตอนนี้ตาโตเท่าไข่ไดโนเสาร์



“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”



“แว้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”



วอลุ่มของเด็กศิลป์ดังกลบเสียงสองเพื่อนสาวเสียแทบมิด นายเอกภพกระโดดหวือถอยกรูดไป 1 เมตรอย่างหวาดผวา ยิ่งตอนที่ไอ้พี่แมนใช้ปลายนิ้วคีบหนวดมันขึ้นมาแกว่งไปแกว่งมาเหมือนของเล่น น้องเอ็มมี่ก็ยิ่งรู้สึกขนลุกชันและอยากอาเจียนข้าวที่เพิ่งเขมือบลงไปออกมาให้หมด



“ร้องซะผีหลังป่าช้าสะดุ้ง ผู้ชายเหี้ยไรกลัวแมงสาบ! มึงยังกล้าพูดอีกนะว่ามึงไม่ใช่ตุ๊ด!”



เสียงหัวเราะเซอร์ราวดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงสนับสนุนคำกล่าวลูกพี่อย่างขำขัน ชายเอ็มที่รู้สึกเสียหน้าและอับอายต่อคนทั้งโรงอาหารที่มองมาเป็นสายตาเดียวกำหมัดแน่นจนข้อขาวแล้วจ้องหน้าสวยๆ อย่างท้าทาย



“ผมว่า...หน้าพี่อ่ะ ตุ๊ด กว่าผมอีกนะครับ”



“โอ...อีเอ็มมี่วอนตาย ปมด้อยพี่แมนเขาเลยนะนั่น”



เสียงคอมเมนต์ที่ลอยมาจากฝั่งผู้ชม ได้รับรางวัลตอบแทนเป็นสายตาเพชฌฆาตจากแกนคณะรุ่นที่ 47 แบบที่นานๆ จะได้เห็นสักที ดวงหน้าหวานที่ยามนี้ถูกความโหดกลบเสียมิดค่อยๆ ผินกลับมามองหน้าคนปากดีช้าๆ ชวนให้ใจเต้น เส้นเลือดบนขมับบางที่เต้นตุบๆ เป็นจังหวะนั่นคล้ายเสียงสัญญาณบ่งบอกให้ชายเอ็มทราบว่าวาจาของท่านกำลังจะได้รับการสนองคืนเร็วๆ นี้แล้ว



เรียวปากบางยกยิ้มหวานเชื่อมให้คุณรุ่นน้อง แต่ไม่ว่าดูยังไง๊ยังไงมันก็เป็นการแสยะยิ้มของหมาป่าที่มีให้ลูกแกะตัวน้อยๆ อยู่ดี คนทั้งโรงอาหารแม้แต่ลูกสมุนที่เห็นภาพนั้นถึงกับขนลุกซู่ ทุกคนตระหนักในใจกันดีแล้วว่า เมื่อพี่แมนยิ้มเยี่ยงนี้...



...อีเอ็มมี่ศพไม่สวยแน่ๆ



“สงสัยน้องเอ็มมี่คงอยากโดดคาบบ่ายเป็นเพื่อนพี่แมน ใช่ไหมครับ?”



แม้กระทั่งเสียงก็ยังหวานยะเยือกไปถึงโพรงกระดูก เอกภพยืนตัวแข็งส่ายหน้าดิ๊กๆ แต่กระนั้นคุณรุ่นพี่ก็ไม่อาจปล่อยให้ความแค้นนี้ล่วงเลยไปโดยไม่ได้รับการสะสางได้



“ไอ้งอก ไอ้เงิบ อัญเชิญน้องๆ ไปเข้าคอร์สหลังยิม”



“รับทราบ!”



.

.

.



หลังยิมหลักของมหาวิทยาลัยจะมีพื้นที่ลานโล่งเล็กๆ สำหรับทำกิจกรรมเอนกประสงค์ ข้างๆ ลานนั้นจะมีต้นมะม่วงต้นใหญ่ยักษ์ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงานักศึกษาอยู่เป็นนิตย์ ลานอเนกฯ ในช่วงบ่ายยังคงเงียบเชียบเป็นปกติ แต่ไอ้ที่ไม่ปกติคงเป็นตรงต้นมะม่วงยักษ์นั้นมีสามหน่อเอกดุริยางคศาสตร์สากลถูกจับมัดไว้รอบโคนต้น



เบื้องหน้าพวกเขาคือชายหนุ่มที่มีใบหน้าสวยที่สุดในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ผู้ครองตำแหน่งแกนคณะรุ่น 47 พี่ท่านกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนกระป๋องสีที่ลูกสมุนไปขวนขวายหามาให้ รอบกายของชายหนุ่มยังคงมีเหล่าชายหน้าเหี้ยมนับสิบอยู่เช่นเคย ถัดไปอีกนิดมีไอ้งอกและไอ้เงิบกำลังช่วยกันใช้ตะกร้อทำมือสอยพวงมะม่วงอยู่



คุณเมืองแมนไม่ได้เปรี้ยวปากอยากกินมะม่วงน้ำปลาหวานแต่ประการใด แล้วก็ไม่ได้คิดจะจับมะม่วงเปรี้ยวยัดใส่ปากไอ้รุ่นน้องปากมอมเป็นการลงโทษ แบบนั้นมันอร่อยเกินไป... คุณแมนมีวิธีสร้างเสริมความเป็นบุรุษให้รุ่นน้องที่ดีกว่านั้น



“ไอ้แมน ได้แล้วๆ”



“ดีมาก.......ไอ้เชี่ย! จะยื่นมาใกล้กูทำไมเล่า!”



ไอ้เงิบ สมุนซ้ายรีบย้ายปากตะกร้อให้ห่างไปจากคนสวยทันทีก่อนจะโดนตีนงามๆ ประทับหน้า หัวหน้าแก๊งค์หันไปพยักพเยิดให้ลูกน้องเข้าไปประจำที่ท่ามกลางความหวาดหวั่นของสามหน่อ คุณแมนค่อยๆ เยื้องย่างเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าละมุนละไมคล้ายยมทูตผู้แสนใจดี



“พี่แมน ย..อย่าเล่นอะไรบ้าๆ นะ”



ได้ยินเสียงห้ามอ่อยๆ ของรุ่นน้องแล้ว แมนก็รู้สึกครึ้มอกครึ้มใจอย่างบอกไม่ถูก มือบางเชยคางคนปากดีขึ้นมาพิจารณาหน้าหล่อๆ ระยะประชิดอย่างแสนเสียดายหากจะปล่อยให้กลายพันธุ์เป็นสปีชี่ส์ที่เขารังเกียจ



“จุ๊ๆ ใครจะเล่นอะไรบ้าๆ กับน้องเอ็มมี่ของพี่ได้ล่ะครับ พี่แค่จะเสริมความเป็นชายให้น้องด้วยทรีทเมนต์สูตรพิเศษ D.I.Y by พี่แมนเท่านั้นเอง...เฮ้ย! พวกมึง ถอด!”



สิ้นคำ กะเทยแท้และกะเทยเทียมรวม 3 หน่อก็ถูกจับเปลื้องผ้าเหลือแต่บ๊อกเซอร์บางๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะระรื่นของเหล่าผู้ล่า โดยเฉพาะไอ้หัวหน้าโจกที่ยิ้มแป้นอย่างแสนเป็นสุข



“พี่แมนขา~ อย่าทำอะไรพวกหนูเลยนะคะ”



เมเม่ที่เริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา แล้วส่งเสียงครวญครางอ้อนวอน แต่เธอคงลืมนึกไปว่าชายฉกรรจ์กว่า 10 คนที่ล้อมเธออยู่นี่เกลียดกะเทยเข้าไส้ โดยเฉพาะไอ้เสียงแหลมปรี๊ดสะเทือนแก้วหูนี่ยิ่งแล้วใหญ่



“เฮ้ย! พวกมึงจัดการอีสองตัวนั่นดิ๊ อย่าให้มันกรี๊ดนะ กูรำคาญ!”



“แล้วอีเอ็มมี่ล่ะไอ้แมน”



“พวกมึงห้ามยุ่ง อีเอ็มมี่...เป็นของกู!”



ประกาศตัวแสดงความเป็นเจ้าของเสร็จ คุณหัวโจกก็คว้าถุงก๊อบแก๊บเซเว่นมาสวมมือเซฟตัวเอง ก่อนจะรับกิ่งมะม่วงที่ลูกสมุนอุตส่าห์ไปสอยด้วยใบหน้าอิ่มเอิบ พอพ่อนักดนตรีเห็นของที่อยู่ในมือรุ่นพี่เท่านั้นล่ะ หน้าหล่อๆ ก็ซีดเป็นกระดาษดับเบิ้ลเอ เพราะไอ้พวงเขียวๆ ในมือไอ้พี่แมนนั่นมันคือ...



รังมดแดง!



“เฮ้ย! ไม่เอานะเว้ย! อย่าเอามาใกล้เด้! อย่าเอาเข้าม๊า!”



ผัวะ ผัวะ



เจอเข้าไปสองป้าบกลางอก ทำเอาพ่อหนุ่มมือกีตาร์ใจเต้นแรง มันเริ่มจากคันยุบยิบ ก่อนจะเสียววูบวาบ แล้วก็เจ็บจี๊ดๆ ถ้ามันกัดตัวเดียวล่ะพอทนไหว...แต่พอมันเริ่มสามัคคีกันขึ้นมาเมื่อไร



“ซี้ด~ เหี้ย! แม่งกัดนม!”



เอ็มพยายามสะบัดตัวให้ไอ้ตัวแดงๆ นี่ร่วงจากตัว แต่เพราะถูกมัดไว้จะสะบัดแรงก็ไม่สะดวก ไอ้มดบ้านี่ก็เกาะหนึบจริงๆ มดหรือจิ้งจกวะเนี่ย!



“หึหึหึหึ”



ท่าทางไอ้พี่แมนแม่งจะซาดิสม์ ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอแบบโคตรพออกพอใจแล้วเอ็มก็ยิ่งโมโห โมโหทั้งที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากบิดเกร็งเนื้อตัวที่แดงเพราะความเจ็บปวด แต่เพียงเท่านี้ยังไม่สาแก่ใจคนเป็นรุ่นพี่ มือเล็กเอื้อมไปแตะขอบบ็อกเซอร์บางๆ ของนักศึกษาคณะศิลป์เป็นสัญญาณนัยๆ ให้คุณรุ่นน้องหันขวับมามองหน้าสวยๆ ด้วยดวงตาเบิกโต



“ไม่เอานะเว้ย!”



“น้องเอ็มมี่มีสิทธิเลือกด้วยเหรอครับ?”



แม่งเอ๊ย! รอยยิ้มปีศาจชัดๆ! ใบหน้าหล่อได้แต่ส่ายดิ๊กๆ ไปมา น้ำตาแทบไหล แต่ไม่อาจห้ามนิ้วเรียวที่ค่อยๆ รั้งขอบบ๊อกเซอร์พร้อมกางเกงในรอสโซ่ให้ยืดออกได้



“อื้อหือ~ พ่อให้มาเยอะเหมือนกันนะเนี่ย มา! เป็นอาหารมดซะเถอะมึง”



แคว่ก แคว่ก



คุณเมืองแมนเขย่ารังมดแดงสองสามทีให้อสูรตัวจ้อยร่วงลงไปสู่จุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะถอยออกมาดูใบหน้าสุดบรรยายของรุ่นน้องอย่างโคตรสะใจ หน้าหล่อๆ นั่นเริ่มจากสีขาว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ม่วง และจบท้ายด้วยเขียวได้อย่างงดงามที่สุด พ่อนักกีตาร์เขย่งปลายเท้าหนีบขาท่าเดียวกับไมเคิล แจ็กสันพลางกรีดร้องเป็นสำเนียงประหลาดหูไม่เหลือเค้าคนที่สาวๆ อยากควงไปเชยชมเลยแม้แต่คราบ



“อู้โห๊ววววว โอ่ว ซี้ดดดด อะหึ๊ยยยยย”



“วะฮะฮะฮะฮะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!”



ไอ้หัวโจกหน้าสวยปิดท้ายการลงทัณฑ์รุ่นน้องปากหมาด้วยเสียงหัวเราะดุจพญามารในหนังจีนที่ดังก้องไปทั่วลานเอนกประสงค์ ช่วงเวลาอันสุดแสนสยิวกิ้วและทรมานของสามหน่อดำเนินไปอีกชั่วครู่ใหญ่กว่าไอ้พี่แมนจะยอมปล่อยตัวเหยื่อให้หลุดพ้นจากทัณฑ์ทรมาน รุ่นน้องสามคนที่นั่งกองอยู่กับพื้นแทบเท้าคุณแมนหอบหายใจแรงเนื้อตัวแดงเป็นปื้น



“ไงครับอีเอ็มมี่...กูยังหน้าเหมือนตุ๊ดอยู่รึเปล่าครับ?”



“ไม่เหมือนค่า~ ฮืออ”



“กูไม่ได้ถามพวกมึงครับ อีกุมารแฝด กูถามอีเอ็มมี่ครับ ตอบกูด้วยครับ”



เห็นไอ้จอมซาดิสม์มันลอยหน้าลอยตาคาดคั้นอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องแล้ว เอ็มก็อยากจะซัดหน้าสวยๆ นั่นให้หงายซักหมัด แต่ติดที่ว่าขืนทำอย่างนั้นไปจริงๆ เขาคงได้กลายเป็นเป็นศพหมกท่อหลังมหาลัยเป็นแน่แท้



“ไม่เหมือนครับ”



เมื่อได้ฟังคำตอบที่น่าพึงพอใจ คุณเมืองแมนก็ยิ้มแป้นอย่างหยาดเยิ้ม ก่อนจะผายมืออนุญาตให้คุณรุ่นน้องทั้งสามลุกขึ้นได้ ซึ่งพวกเขาก็ได้แต่หยัดตัวลุกขึ้นยืนโงนเงนเหมือนคนเมา



“อ้อ! แล้วต่อไปอย่าเสนอหน้ามาให้กูเห็นที่โรงอาหารอีกนะครับ พวกมึงไปได้”



เมื่อได้ยินคำอนุญาต เมเม่และมาม่าก็เผ่นแนบทันที เหลือทิ้งไว้แต่เพื่อนหน้าหล่อที่ยังมองหน้าคุณหัวโจกเหมือนมีอะไรอยากจะพูด



“พี่แมนครับ...”



“ครับ”



“หน้าอย่างมึงไม่เหมือนตุ๊ดหรอกครับ...”



ไอ้หน้าหล่อสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่คล้ายรวบรวมความกล้ามาจากทุกรูขุมขน



“ แต่หน้าอย่างมึง...จะได้ผัวเป็นตุ๊ดแน่นอนครับ กูขอแช่งไว้ตรงนี้เลย!”



“อีเอ็มมี่!”



กว่าจะรู้ตัวว่าถูกมันด่าเข้าให้อีกรอบ มันก็ใส่เกียร์หมาเผ่นตามเพื่อนตุ๊ดแฝดไปไกลเกินกว่าจะตามทันได้แล้ว คุณแกนคณะสถาปัตย์เลยได้แต่ยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกระฟัดกระเฟียดพลางคาดโทษไอ้ตุ๊ดหน้ามาเฟียอย่างเคืองแค้น



“อย่าให้กูเจอมึงอีกทีนะ คราวนี้กูจะเล่นแม่งให้อยู่ที่นี่ไม่ได้อีกเลย คอยดู!”
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ / เตรียมแอ๊บ + แอ๊บที่ 1 p. 1 / (1 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 01-07-2017 20:18:48
แอ๊บที่ 1: พี่แมนเกลียดลิปสติกสีแดง



นายเอกภพ ผลบุญส่ง หรือ อีเอ็มมี่ของไอ้พี่แมน ไม่ได้ไปเหยียบโรงอาหารของอาคารเรียนรวมมาหนึ่งสัปดาห์เต็มแล้วครับ



สาเหตุคงไม่ต้องบอก นึกแล้วลูกชายในบ๊อกเซอร์ยังเสียวจี๊ดไม่หาย แถมเขาไปแช่งมันไว้เสียขนาดนั้น เรียกได้ว่าตอนนี้ถ้าเจอหน้านี่มีบาทาลูบพักตร์สถานเดียวล่ะ แล้วน้ำหนักตีนไอ้พี่แมนนี่แปรผกผันกับเอวบางๆ ร่างน้อยๆ ของมันอย่างสุดกู่ครับ ไม่อยากหยอดน้ำข้าวต้มจริงๆ ไม่แนะนำให้ลอง



“กูอยากแดกก๋วยเตี๋ยวโรง’ถาปัดว่ะ”



แฝดตุ๊ด และ เพื่อนที่โดนเหมารวมว่าเป็นตุ๊ดสะบัดหน้ามองมาม่า แฝดผู้น้องอย่างพร้อมเพรียง ฝ่ายสาวเจ้าที่วันนี้ติดกิ๊บรูปเชอร์รี่ไว้บนหัวอย่างกิ๊บเก๋ก็เขี่ยเส้นเล็กต้มยำที่ลอยอืดเต็มชามอย่างรังเกียจ



“มึงติดใจมดแดงใช่ไหมคะ อีม่า?”



มาม่าทำท่าขนลุกขนพองอย่างมีจริตเมื่อถูกพี่สาวตัวเองกระทบกระเทียบ นึกถึงเหตุการณ์ฝันร้ายวันนั้นแล้วสยดสยองอย่างบอกไม่ถูก



“ถึงกูจะชอบแบบเจ็บๆ แต่กูขอชี้เฉพาะพื้นที่นิดนึงนะคะ ใต้ต้นมะม่วงนี่มันก็ประเจิดประเจ้อไปค่ะ”



สาวน้อยลูกเชอร์รี่จีบปากจีบคอพูด



“อีกอย่าง พวกมึงก็รู้ว่าอาหารโรงกลางแม่งไม่เป็นอันจะแดก แถมกว่าจะถ่อไปถ่อกลับกลางแดดร้อนนรกนี่ก็เล่นเอาสายไปสามคาบแล้วนะยะ โดยเฉพาะคาบอีอังเดร...นางบอกวันมินิทเลทเท่ากับแอ๊บเซนท์ค่า หักแอดเทนแดนซ์กูไป 2 คะแนนเหนาะๆ”



ได้ฟังเหตุผลคุณเพื่อนแล้ว หนุ่มนักกีตาร์ก็พยักหน้าหงึกๆ ก็จริงของมันที่อาหารโรง’ถาปัดทั้งถูกและอร่อยกว่า แถมยังไม่ต้องเหนื่อยกับการวิ่งเป็นหมาหอบแดดเพื่อเอาตัวเองไปนั่งเสนอหน้าในห้องให้ทันก่อนเช็คชื่อด้วย



“ทนๆ เอาหน่อยวะ เดี๋ยวพี่แมนแม่งก็เรียนจบละ”



“อีกตั้งสองปี! หน้ากูฝ้าขึ้นพอดีค่ะ อีเอ็มมี่!”



“มึงก็เลือกเอาละกันนะคะอีมาร์ค ว่าอยากให้อะไรขึ้นหน้ามึงมากกว่า ระหว่างฝ้ากับตีนพี่แมน กูไปเยี่ยวก่อนล่ะ”



ด่าจบ อีเอ็มมี่ก็ชิ่งหนีไปปลดทุกข์อย่างปากมันว่า ทิ้งให้น้องมาม่ากรีดร้องด่ายันโคตรตามหลังโทษฐานที่มันกล้าเอ่ยนามลับที่ถูกฝังไปแสนนานแล้วออกมา



เด็กคณะศิลป์เดินออกมานอกโรงกลางเพราะห้องน้ำถูกสร้างไว้ด้านนอก เนื่องจากโรงอาหารกลางไม่เป็นที่นิยมนัก ห้องน้ำก็เลยเงียบเหงาตามไปด้วย ชายเอ็มเลือกโถด้านในสุดสำหรับปลดปล่อยความอัดอั้น



แต่ระหว่างที่กำลังฟังเสียงน้ำกระทบเซรามิคไม่ถึงครึ่งทางนั้นเอง เสียงโวยวายของชนกลุ่มใหญ่ที่แสนคุ้นหูก็ดังมาจากด้านนอกในทิศทางที่มั่นใจได้ว่าเข้ามาในนี้แน่ๆ น้องเฟรชชี่รีบบีบรัดกระเพาะปัสสาวะตนเองอย่างสุดความสามารถก่อนจะสะบัดน้องชายพอหมาดแล้วพุ่งตัวเข้าสู่ห้องน้ำด้านหลังอย่างฉิวเฉียด



“ปวดเข้ว้อย~”



เสียงกวนเบื้องล่างที่เอ็มจำได้ว่าเป็นเสียงไอ้งอก สมุนมือขวาของไอ้พี่แมนดังนำเข้ามาก่อน เสียงเปิดไล่ดูห้องน้ำทีละห้องใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งทำให้คนมีคดีติดตัวใจเต้นรัวเป็นจังหวะสามช่า



“ทำไมสายฉีดตูดมันพังทุกห้องเลยวะ”



“อ้าว...กูนึกว่าปกติมึงไม่ใช้นะเนี่ย”



เสียงหยอกเย้าลูกสมุนของไอ้พี่แมนทำให้เอ็มอุทานคำว่า “ชิปหาย” ดังลั่นอยู่ในใจ เสียงหัวเราะอย่างสรวลเสเฮฮาด้านนอกช่างขัดกับความรู้สึกของผู้ชายโคตรซวยที่กำลังหลับตาปี๋เอาหัวโขกกำแพงห้องน้ำเบาๆ พลางด่าโชคชะตาของตัวเองที่ส่งความวิบัติมาให้เขาตลอด



นี่กูหนีมาไกลถึงโรงกลาง...แล้วพวกมึงมาทำอะไรที่นี่?



“ไอ้งอก...ช่างเขาบอกมอ’ไซค์มึงซ่อมเสร็จเมื่อไหร่วะ?”



“เย็นนี้ก็มารับได้ละสัด เฮียเขาลัดคิวให้กูเว่ย”



ราวกับแก๊งค์เถื่อนแห่งสถาปัตย์รุ่น 47 ด้านนอกจะได้ยินคำถามของเอ็ม ไอ้งอกและไอ้เงิบช่างเปิดประเด็นเรื่องได้จังหวะพอดิบพอดีจนคนหน้าหล่อแทบอยากจะคลานเข่าไปกราบขอบคุณ เสร็จแล้วค่อยไปดักตีหัวไอ้เจ้าของร้านซ่อมที่เสือกมาเลือกทำเลเปิดร้านมันข้างโรงอาหารกลาง!



“เฮ้ย! ไอ้ห้องสุดท้ายอ่ะเสร็จยังวะ? กูจะขมิบไม่ไหวแล้วนะเว่ย!”



ไอ้ห้องสุดท้ายที่ว่าสะดุ้งเฮือก นึกหาวิธีประวิงเวลาให้ได้นานกว่านี้ นักศึกษาวิชาดนตรีเดินไปเดินมาอยู่หน้าประตูห้องน้ำด้านในอย่างกระวนกระวาย หัวใจยิ่งหล่นไปอยู่ตาตุ่มเมื่อไอ้พี่งอกแม่งเคาะประตูเร่งรัวๆ อย่างไม่กลัวเจ็บมือ



 “ไอ้งอก...ถอยออกมา”



สมุนมือขวาชะงักมือที่กำลังจะเคาะเร่งทันควันเมื่อเสียงเข้มของลูกพี่ลอยมา สมุนทั้งหมดมองตามสายตาลูกพี่แมนที่มองต่ำลงไปยังรองเท้าคู่หนึ่งที่โผล่พ้นขอบประตูด้านล่างอย่างไม่เข้าใจ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มแสยะเย็นปรากฏบนใบหน้าหวาน ทั้งหมดก็หนาวเยือกในอกโดยพร้อมเพรียง



เปรี้ยง!



คอนเวิร์สสีเขียวหม่นกระทบวัสดุไม้ที่เรียกว่าประตูเต็มแรงจนตัวล็อกด้านในสั่นสะเทือน อีเอ็มมี่มองกลอนที่เริ่มไม่มั่นคงด้วยตาโตเท่าไข่ห่าน แรงตีนระดับนี้ไอ้พี่แมนเป็นแน่แท้...



เปรี้ยง!



“ใครวะไอ้แมน?”



ไอ้เงิบสอดปากเมื่อเห็นลูกพี่แนบฝ่าเท้าเข้ากับประตูเป็นรอบที่สองด้วยใบหน้าแจ่มใส คนหน้าสวยขัดกับความเถื่อนในตัวหันมายิ้มหวานพร้อมตอบคำถามเพื่อนด้วยโทนเสียงเดียวกัน



“เมียกูเองอ่ะ”



เมียพี่แมนสบถในใจว่า “แม่งรู้ได้ไงวะ?” ดังลั่นเป็นคำรบสอง เอ็มรับสถานะไปโดยปริยาย ลืมตัวไปเสียสิ้นว่าตนควรจะปฏิเสธตำแหน่งที่ถูกสถาปานาขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อครู่นี้เสียมากกว่า



“อีเอ็มมี่ กูรู้นะว่ามึงอยู่ในนั้น กูจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้ามึงไม่ออกมา กูจะเปลี่ยนจากกระทืบประตูเป็นกระทืบมึงแทน”



คนถูกขู่แทบร้องไห้ มองบานประตูห้องน้ำเก่าๆ ที่ตัวล็อกห้อยต่องแต่งหลังจากถูกถีบไป 2 ทีติด ก็เห็นอนาคตรางๆ แล้วว่าหากขัดขืนพี่แมนเธอต่อไป คงได้ถูกลากไปเข้าคอร์สเสริมชายรอบสองแน่



“นับหนึ่ง”



เอาวะ...ยังมีเวลาทำใจอีก 2 วิฯ



“สอง!”



แม่ง...ไอ้พี่แมน มึงนับเร็วจังวะ!



“สาม!”



แกร๊ก!



ประตูบานเก่าเปิดผางออก เป็นเวลาเดียวกับฝ่าเท้าของแกนคณะรุ่นที่ 47 ยกขึ้นในระดับอกของคู่กรณีพอดิบพอดี โชคดีของอีเอ็มมี่ยิ่งนักที่พี่แมนเธอยั้งเท้าไว้ทัน ไม่งั้นได้เห็นตุ๊ดหล่อหงายหลังตกส้วมไปแล้ว



กะเทยเทียมเดินออกมาด้วยท่าทางเจี๋ยมเจี้ยมในขณะที่ไอ้หน้าสวยแต่โหดเถื่อนระดับพระกาฬยืนยิ้มหวานชวนขนลุกต้อนรับ อีเอ็มมี่รีบทำตัวเป็นเด็กหนุ่มมืออ่อนสวัสดีรุ่นพี่โดยไว



“สวัสดีครับพี่แมน”



“มารยาทงามมากครับเมียพี่ น่าส่งประกวดมิสทิฟฟานี่สุดๆ”



หนุ่มหน้าคมแสร้งทำตาแป๋วฉีกยิ้มรับคำชมประหลาดอย่างเนียนๆ



“หมู่นี้พี่ไม่ค่อยเห็นหน้าน้องเอ็มมี่เลยนะครับ”



“ก็พี่แมนบอกว่าไม่อยากเห็นหน้าผมนี่ครับ”



อีเอ็มมี่ทำเสียงเล็กเสียงน้อยได้อย่างน่าตบ



“ยอกย้อนเหรอครับ?”



“ใคร๊? ใครจะกล้ายอกย้อนพี่แมนด๊าย~?”



เยินยอพอให้รู้ว่าตอแหลไม่เนียน ก่อนที่ทั้งคู่จะยิ้มตาปิดให้กันอีกครั้งอย่างสุดแสนน่ารัก



“พี่รู้สึกเหมือนน้องเอ็มมี่หลบหน้าพี่เลยอ่ะ ทำอะไรพี่ไว้แล้วคิดจะไม่รับผิดชอบเหรอครับ?”



ไอ้พี่แมนแอ๊บหน้าเป็นนางเอกถูกฟัน ถามเสียงเครือหวิวพลางม้วนปอยผมตัวเองเล่นอย่างน่ารัก แต่ไม่รู้ทำไม๊~ ทำไมอีเอ็มมี่ถึงได้รู้สึกขนหลังคอมันลุกวูบๆ ชวนหนาวชอบกล



“กล้าพูด...ใครทำใครกันแน่วะ?”



เด็กศิลป์พึมพำเบาๆ แต่ไม่อาจรอดหูทิพย์ของรุ่นพี่ผู้ทรงอิทธิพลได้



“จะพูดอะไรก็ให้มันกล้าๆ หน่อย ใจอย่าตุ๊ด! พี่จับเข้าคอร์สไปรอบหนึ่งแล้วไม่ใช่เหรอครับ? แต่เหมือนในหัวมึงจะไม่มีสมองเลยนะ ถึงได้ไม่รู้จักจดจักจำ แกว่งปากวอนตีนกูอยู่เรื่อย!”



พี่แมนส่งสัญญาณให้สมุนสองนาย พี่งอกและพี่เงิบ ปรี่เข้าไปล็อกแขนเมียรักไว้คนละข้าง คนที่เริ่มรู้ชะตากรรมเหงื่อแตกราวกับออกกำลังกายมาร่วมชั่วโมง



“อันนี้...ตั้งใจจะอ่อยกูรึเปล่าครับ?”



ไอ้สวยโหดขยับเข้ามาใกล้พลางชี้ไปยังจุดยุทธศาสตร์ใต้กุงเกงลิงสีขาวที่ยังปกปิดด้วยกางเกงยีนส์ไม่มิดเนื่องจากความรีบร้อนเมื่อครู่ อีเอ็มมี่หน้าซีดเผือด รสชาติสุดสยิวของมดแดงยังตราตรึงใจมิหาย นี่ไอ้พี่แมนแม่งกะเล่นจุดเดิมอีกแล้วเหรอวะ? มึงติดใจอะไรน้องชายกูหนักหน๊า??!!



“ไม่นะ...พี่แมน ไม่เอานะ”



หนุ่มสายดนตรีส่ายหน้าอ้อนวอน คนหน้าสวยแสร้งตีสีหน้าสงสารแต่ดวงตาฉายชัดถึงความสะใจยามที่เกี่ยวขอบกางเกงในลงและมือบางตั้งท่าพร้อมจะรูดซิปกางเกงยีนส์ขึ้น



“พี่แมน ไม่ๆๆๆๆ ไม่เอ๊า!”



อีเอ็มมี่เบี่ยงสะโพกหนีมือแกนสถาปัตย์ด้วยท่าทางอุบาทว์ลูกตา แต่เมื่อลูกเจี๊ยบตุ๊ดมาอยู่ในมือมารหน้าสวยแล้วมีหรือมันจะรอดพ้นไปได้?



“ไปสู่สุคตินะครับ น้องเอ็มมี่”



ฟืดดด!!



เสียงฟันซิปแนบเข้าหากันด้วยความเร็วสูงสุดบาดใจชายเอ็มเป็นยิ่งนัก แต่เหนือยิ่งไปกว่าความเจ็บที่ใจ...ความเจ็บที่อื่นกำลังพุ่งพล่านแล่นริ้วด้วยสภาพที่ทรมานกว่าโดนมดแดงกัดเป็นสิบเท่า สมุนงอกและเงิบปล่อยเหยื่อให้ค่อยๆ ร่วงผล็อยลงงอตัวเป็นชายน้อยแห่งบ้านทรายทองกับพื้นห้องน้ำอย่างไม่คิดแยแส



“ไอ้เหี้ยยยยยยย...อึก...ไอ้พี่...แมน...แม่ง.... ซิปหนีบ***กู๊!!!



“วะฮะฮะฮะฮะฮะฮ่า!!!!!!”



เสียงหัวเราะสุดแสนโฉดชั่วหลุดออกมาจากริมฝีปากอมชมพูของแกนคณะสถาปัตย์ที่หน้าตางดงามขัดกับนิสัยอย่างสุดขอบเหว และนับจากวันนั้นเป็นต้นมา ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาเหยียบห้องน้ำอาถรรพ์แห่งนี้อีกเลย!!



.

.

.



หลังจากเหตุการณ์ที่ประทับรากฝังลึกในใจของนายเอกภพวันนั้น ก็ทำให้หนุ่มนักดนตรีต้องลาเรียนไปนอนโรงพยาบาลอยู่เกือบอาทิตย์ คุณอาจจะคิดว่าแม่งสำออยเว่อร์ แต่ซิปหนีบ***นะครับ! อยากรู้ว่าเจ็บแค่ไหนคุณก็ลองหนีบของตัวเองเล่นดูเซ่!! พูดแล้วมันช้ำ!



“กูว่า...ไอ้เหี้ยพี่แมนแม่งต้องอิจฉาความใหญ่โตของลูกกูแน่ๆ เจอหน้ากันที่ไรทำร้ายลูกกูตลอด! สงสัยของแม่งจะเล็ก!”



นายเอ็ม หรือ อีเอ็มมี่ เฟรชชี่ปี1 นั่งก่นด่ารุ่นพี่ที่เพิ่งสร้างเรื่องแค้นเคืองกันมาเมื่อสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ลานโต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ โดยมีสาวน้อยเมเม่นั่งคอยรับฟังอยู่เคียงข้างอย่างไร้เงาแฝดผู้น้อง



“ค่า~ อีเจ้าโลก อีมหึมา! มึงไม่ใช้โทรโข่งประกาศตรงนี้เลยล่ะคะ!”



“อีเมฆ!!”



“อย่ามาเรียกชื่อจริงกูค่ะ! อีกอย่าง กูว่าของพี่แมนก็คงไม่ใช่เล็กๆ นะคะ เห็นหน้าสวยฆ่าชะนีตายทั้ง ม. แบบนั้นน่ะ มีเมียแล้วนะคะ! มีมาหลายคนแล้วด้วย! กูยังอยากลองกะเค้าเลยค่ะ!”



“แล้วมึงถามเค้าไหมคะว่าอยากลองกะมึงรึเปล่า?! มึงอาจจะตายคาเตียงเค้าก็ได้นะคะ จุ๊ๆ ไม่ใช่ลีลาพี่เค้าเด็ดนะคะ แต่โดนกระทืบตายเพราะพี่เค้าเกลียดกะเทยค่า!”



น้องมาม่าที่เพิ่งเดินเข้ามารวมกลุ่มบลัฟพี่สาวอย่างเจ็บแสบพร้อมวางกล่องเครื่องสำอางเซ็ทใหม่ล่าสุดที่เพิ่งฝากเพื่อนหิ้วมาจากอเมริกาอันไกลโพ้น



“กรี๊ด~! มาแล้วเหรอมึง!”



“ค่า อีลิ้นจี่มันฝากบอกด้วยว่า...ตอบแทนที่พี่เม่กับพี่ม่าติดต่อหนุ่มฝรั่งคนนั้นให้ ลีลาถึงใจจี่มากค่า~!”



แล้วสองสาวก็กรี๊ดกร๊าดกันอย่างไม่อายใคร พลอยทำให้หนุ่มเอ็มหัวเราะคลอไปกับความสดใสของเพื่อนด้วย ถึงคนอื่นจะมองเขาเหมารวมไปยังไงก็ช่าง อยู่กับพวกมันแล้วเขาสบายใจ เพื่อน...จะเป็นเพศไหนก็เพื่อนอยู่ดี



“เกรงใจมันบ้างไหมเนี่ย พวกมึง?”



“ไม่หรอก อีเอ็มมี่ อีจี่มันไปประเทศไหนก็หิ้วของมาขายประจำอยู่ละ เนี่ยมันไปขายอยู่ตรงตลาดนัดหลังคณะเรานี่ไง”



มาม่าตอบ พร้อมชี้นิ้วไปยังตลาดนัดขนาดใหญ่ที่อยู่อีกฝั่งนึงของตึก เพราะสุดเขตตรงนี้ไปจะเป็นหอนอกของนักศึกษา ตลาดนัดที่นี่จึงมีคนค่อนข้างเยอะและจอแจ เรียกได้ว่าขายอะไรก็ทำมาค้าขึ้น



“ว่าแล้วก็ลองเลยดีกว่า”



สองสาวก็แต่งโน่นละเลงนี่บนใบหน้ากันอย่างมีความสุขโดยมีชายหนุ่มคนเดียวในกลุ่มคอยวิจารณ์และแนะนำแบบขำๆ มองจากสายตาคนนอก ยังไง๊ยังไงมันก็เพื่อนสาวสามคนกำลังเม้าท์เรื่องความสวยความงามโดยแท้



“มึง...กูอยากลองลิปสีนี้”



เมเม่ชูลิปสีแดงสดยี่ห้อดังให้เพื่อนเอ็มดู ซึ่งชายหนุ่มก็พยักหน้าให้โดยไม่ขัดอะไร



“มึงก็ลบสีชมพูออกก่อนแล้วลองทาดูดิ”



“ไม่ๆ คือกูจะลองกับปากมึง อีเอ็มมี่”



เอ็มสะบัดหน้ามองเพื่อนสาวราวกับจะถามว่า “กูฟังผิดใช่ไหม?” แต่เมเม่กลับเหยียดปากพยักหน้าตอกย้ำความเป็นจริงอย่างเริ่ดๆ



“ประสาทหรือเปล่าครับอีเมเม่? กูทาสีนี้นี่กูกลายเป็นปอบทันทีเลยนะครับ”



“ไม่หรอกปากมึงออกจะสวย สีผิวมึงใกล้กูด้วย ลองแทนกันได้”



“มึงอ่านปากกูนะครับอีเม่ ‘ไม่’ ชัดไหมครับอีเม่? ‘กู – ไม่ – ทา’”



เสียงทุ้มกล่าวช้าๆ ชัดๆ จนสาวเจ้าตีหน้าบึ้ง ดวงหน้าขาวผ่องตามฉบับตุ๊ดหมวยเชิ่ดขึ้นขนานพื้นโลกแทบจะ 180 องศา



“ใช่ซี้~ เรื่องแค่นี้เพื่อนกันมันทำให้กันไม่ได้หรอก! ทีตอนน้องมึงโดนซิปหนีบเข้าโรง’บาล กูคอยส่งข้าวส่งน้ำสามเวลาเพราะหมาบางตัวมันบ่นว่ากับข้าวโรง’บาล ไม่เป็นอันจะแดก! กูมันไม่มีความดี ไม่มีเล้ย!!”



เมเม่ตัดพ้อพลางร่ำสะอื้นไห้ด้วยบทโศกที่การันตีด้วยเกรดเอวิชาแอคติ้ง ฝ่ายน้องสาวที่รู้มุขก็รีบถลาเข้ามาลูบหัวลูบหลังปลอบใจอย่างทันท่วงที พอเอ็มเห็นแบบนั้นแล้วก็พูดอะไรไม่ออก ตอนที่เขาป่วยอยู่ นอกจะเมเม่กับมาม่าจะผลัดกันส่งข้าวส่งน้ำตามที่พวกมันบอกแล้ว พวกมันยังคอยส่งใบลา เก็บชีท จดเล็กเชอร์ และทำงานในส่วนของเขาส่งอาจารย์ให้อีกด้วย เรียกได้ว่าคว้ารางวัลเพื่อนดีเด่นแห่งปีไปครองกันได้เลยทีเดียว



“เออๆๆ ลองเสร็จกูลบเลยนะ”



พอได้ยินคำอนุญาตจากปากเพื่อนรัก สองแฝดศรีก็แอบแท็คมือกันอย่างแนบเนียนก่อนจะค่อยๆ ปาดน้ำตาแล้วยิ้มเริงร่ามาแต่งแต้มสีสันบนเรียวปากรูปกระจับของเพื่อนอย่างตั้งใจ



“ว้าย~ สวยว่ะมึง!”



พอทาเสร็จ สองสาวก็วี๊ดว้ายกระตู้วู้กันตามภาษา ฝ่ายชายแท้ก็พยักหน้ารับไปอย่างแกนๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าทิชชู่ของแฝดผู้น้องที่อยู่บนโต๊ะ



“กูลบนะ”



“แปบ ถ่ายรูปอัพ IG ช็อตเดียวมึง ยิ้มหน่อยๆ นะน้า~”



เห็นปากหมาหน้าโหดแบบนี้ แต่ชายเอ็มใจอ่อนเสมอกับสตรีและชะนีข้ามเพศนะครับ อ้อนหน่อยก็ปล่อยผ่านทุกเรื่องแล้ว คนหน้าหล่อที่ถูกแต่งเติมความแรดด้วยลิปสีแดงสดยิ้มใส่กล้องไอโฟนอย่างเขินๆ



“น้องปากแดง...น่ารักจังเลยครับเนี่ย~ เห็นหน้าแล้วอยากอ้วกใส่ขึ้นมาทันทีเลยครับ”



เสียงหวานๆ แต่กวนประสาทขั้นเทพแบบนี้ไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าเสียงใคร พี่ท่านมากันเป็นฝูงเช่นเคยแม้ไอ้พวกลูกกระจ๊อกข้างหลังจะไม่เคยมีบท ของกินที่หอบหิ้วมาเต็มไม้เต็มมือนั่นคงไม่ต้องเดาว่าไอ้แก๊งค์ช่างกลแห่งสถาปัตย์แก๊งค์นี้มันเสนอหน้ามาทำอะไรที่คณะศิลป์ ถ้าไม่ใช่มาเดินหาของกินที่ตลาดนัดหลังตึก



“พี่แมน...สวัสดีค่า”



สองแฝดสาวทักทายหัวหน้าแก๊งค์เสียงอ่อยก่อนจะเฟดตัวเองไปหลบหลังเพื่อนหนุ่มอย่างเกรงกลัวอิทธิพล ชายเอ็มจ้องหน้ารุ่นพี่อย่างไม่สบอารมณ์นักเนื่องจากความเจ็บแค้นสองครั้งติดยังซ่านทรวงอยู่ไม่เจือจาง



“ได้ข่าวว่าป่วยเข้าโรง’บาล หายดีแล้วเหรอครับ?”



คนพูดแสร้งทำทีถามไถ่อย่างเป็นห่วงเสียเต็มประดาพลางทิ้งหางตามองเป้ากางเกงรุ่นน้องอย่างมีนัยยะ



“ลองใช้งานดูรึยังว่าสภาพคงเดิมรึเปล่า? โอ๊ะๆ พี่แมนก็ลืมไปว่าน้องเอ็มมี่ไม่ต้องใช้ข้างหน้า...ใช้แต่ข้างหลัง~”



ลูกน้องแก๊งค์ถาปัตย์ส่งเสียง ฮิ้ววววว โดยพร้อมเพรียง เรียกสายตาคนแถวนั้นให้หันมามองและเริ่มจับกลุ่มซุบซิบนินทากันอย่างสนุกปาก มาม่าบีบไหล่เพื่อนที่อารมณ์เริ่มเดือดให้ใจร่มๆ ลงก่อน



“กูไปก่อนนะครับ อีตุ๊ด!”



พูดจบ ไอ้พี่แมนก็เดินนำสมุนไปอย่างโคตรแมน พอพี่แมนเดินไปได้ไม่ทันพ้น 3 ก้าว อีเอ็มมี่ปากแดงก็หันไปกระซิบกับเพื่อนสาวอย่างสุดทน



“อีเม่ เดี๋ยวกูซื้อแท่งใหม่ให้มึงนะ”



ว่าแล้วก็หมุนลิปขึ้นมาจนสุดแล้วก้าวอาดๆ ไปคว้าตัวไอ้พี่แมนทันที แต่มีหรือแกนนำคณะสถาปัตย์ที่ได้ชื่อว่าโหดที่สุดจะแพ้ทางกลยุทธ์ง่ายๆ แค่นี้ มือขาวคว้าข้อมือที่ใหญ่กว่าของอีกคนไว้ได้ทันก่อนที่ลิปสติกสีแดงสดนั่นจะป้ายมาที่ปากตัวเอง



“มึงจะทำอะไร? อีเอ็มมี่!!”



“ก็จะทำให้พี่กลายเป็นตุ๊ดต่อหน้าคนทั้งลานนี่เหมือนผมไงครับ”



ตุ๊ดเทียมพยายามออกแรงเคลื่อนมือเข้าหาปากบางๆ ของคนเป็นรุ่นพี่ แต่ไอ้พี่แมนแม่งก็แรงเยอะสมคำร่ำลือจริงๆ มือเล็กที่เหมือนบีบทีเดียวจะหักกลับต้านแรงเขาได้อย่างง่ายดาย แมนแสยะยิ้มเป็นต่อในขณะที่เหล่าลูกน้องก็กอดอกมองเฉยๆ อย่างรู้ล่วงหน้าว่าอย่างไรเสียอีเอ็มมี่ก็ไม่มีทางเอาชนะหัวโจกของพวกเขาได้



“คิดน้อยไปนะมึงอ่ะ แรงตุ๊ดอย่างมึงจะสู้กูได้ยังไง๊?”



“สู้แรงไม่ได้ก็ต้องใช้วิธีอื่นล่ะพี่”



จ๊วบ~*



ซาวด์เอฟเฟ็คดังลั่นขนาดที่ว่าทำเอาบรรยากาศรอบด้านชะงักค้างเหมือนมีใครกดปุ่มพอสบนเครื่องเล่นแผ่นดีวีดี อีเอ็มมี่พยายามกดจูบดูดดึงแบบเน้นๆ เอาให้มั่นใจว่าเนื้อลิปสีแดงๆ บนปากตัวเองมันถูกโอนย้ายไปสู่ปากเสียๆ ของไอ้พี่แมนมากพอที่จะทำให้เกิดความอับอายได้



ชายเอ็มผละใบหน้าออกมาดูผลงานที่เป็นลิปเลอะๆ บนปากรุ่นพี่แล้วก็หัวเราะลั่นอย่างสมใจ ก่อนจะค่อยๆ เงียบเสียงลงเมื่อรอบด้านไม่มีใครขำด้วย แถมไอ้พี่แมนก็มองเขาตาค้างเหมือนสติหลุด



โชคร้ายของอีเอ็มมี่ที่แมนสามารถรวบรวมสติได้เร็วพอๆ กับที่มันเพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป หมัดซ้ายเน้นๆ ของหัวหน้าแก๊งค์เลื่องชื่อจึงตรงเข้าที่เบ้าตาอีตุ๊ดอัปรีย์ที่บังอาจปล้ำจูบเขาต่อหน้าธารกำนัลอย่างหลบไม่พ้น นายเอกภพถึงกับหน้าหงายเห็นดาววิ้งๆ และได้ยินเสียงนกจิ๊บๆ โชคดีที่เมเม่และมาม่าคว้าตัวเพื่อนรักไว้ได้ทันก่อนที่มันจะลงไปกองกับพื้นให้พี่แมนกระทืบมันซ้ำ ก่อนจะรีบฉุดแขนเพื่อนคนละข้างวิ่งหนีดงตีนช่างกลสถาปัตย์พร้อมสัมภาระของพวกตนที่สองสาวคว้ามาสะพายบ่าตั้งแต่อีเอ็มมี่มันถือลิปสติกเดินดุ่มๆ ไปหาพี่แมนแล้ว



“อีเอ็มมี่ วิ่งเร็วเซ่! มึงอยากเข้าโรง’บาลอีกรอบรึไง?!”



สองสาวถูลู่ถูกังพาเพื่อนหนุ่มมาโบกแท็กซี่ก่อนจะขึ้นรถหนีกลุ่มชายฉกรรจ์ไปได้อย่างฉิวเฉียด สามซี้หันมองพี่แมนและคณะที่ยืนตีหน้ายักษ์เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันสาปแช่งไล่หลังมาแล้วก็ได้แต่กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก



“อีเหี้ย! มึงอ่ะทำอะไรไม่คิด!”



“เออสิ! ถ้าคิดกูก็คงไม่ทำหรอก!”



น้องมาม่าด่าไปหอบไปพลางตีแขนเพื่อนลงโทษพอให้หายโมโห แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่ชายเอ็มโดนซ้ายตรงของไอ้พี่แมนมา อารามเป็นห่วงก็ทำให้รีบละล่ำละลักถามทันที



“มึง เจ็บมากไหมอ่ะ? เมื่อกี้ดังพลั่กเลยอ่ะ”



อีเอ็มมี่ค่อยๆ หันใบหน้าที่ยังมีลิปสติกสีแดงสดอยู่บนปากมาหาเพื่อนรัก เพื่อโชว์รอยม่วงช้ำที่เบ้าตาอย่างภูมิใจนำเสนอ ก่อนจะดัดเสียงพูดด้วยสำเนียงที่ไม่อาจมีใครแรดได้เกินกว่านี้อีก



“ดูหน้ากูสิ”




โปรดติดตามแอ๊บต่อไป


#แอ๊บรัก
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ / เตรียมแอ๊บ + แอ๊บที่ 1 p. 1 / (1 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 05-07-2017 07:36:52
แอ๊บที่ 2: สวิตซ์ปิดเสียงอยู่ตรงไหนนะ?


“อีลูกเจี๊ยบ~ มาถ่ายรูปอัพอินตาแกมกัน”



“เดี๋ยวนะมึง กูเติมปากแปบ”



สาวลูกเจี๊ยบที่ถูกเพื่อนชวนให้ถ่ายรูปเล่นด้วยรีบควานหาลิปสติกแท่งเก่งในกระเป๋าขึ้นมากะรูดปื๊ดให้ปากสีแจ่มก่อนแชะรูป แต่ยังไม่จะได้ปาดปากให้สมใจอยาก ลิปสติกในมือก็ถูกใครบางคนแย่งไป สาวเจ้าตวัดสายตามองหน้ากะเหวี่ยงเต็มที่ แต่พอเห็นเต็มตาว่าลิปสติกเจ้าปัญหามันไปตกอยู่ในมือใคร เธอก็หน้าถอดสีครางชื่ออีกฝ่ายเสียงแผ่วทันที



“พี่แมน...”



“ต่อไปอย่าให้พี่เห็นใครถือสิปสติกเข้ามาแถวนี้อีก...”



มือบางปล่อยแท่งลิปสติกตกกระทบพื้นแล้วลงเท้ากระทืบทีเดียวแหลกเป็นชิ้นไปทั้งแท่ง



“เข้าใจไหมครับ?”



ปิดท้ายประโยคคำถามที่ไม่มีสิทธิ์เลือกตอบด้วยรอยยิ้มน่ารักฝุดๆ แต่ไม่รู้ทำไมสองสาวที่กำลังอารมณ์ดีอยู่ที่ลานโต๊ะคณะสถาปัตย์เมื่อครู่จึงไม่เห็นแม้แต่สักกะผีกเดียวของความน่ารักที่ว่า กลับรีบคว้ากระเป๋ายี่ห้อดังโกยแนบกันแบบไม่คิดชีวิต



“สงสารน้องเขานะเว่ย ทำไมมึงโมโหอีเอ็มมี่แล้วลงกะคนอื่นล่ะวะไอ้แมน”



“ก็เพราะกูยังหาทางลงกับอีเอ็มมี่ไม่ได้ไงครับคุณเงิบ กูใช้ให้มึงไปสืบว่ามันพักอยู่หอไหน ห้องไหน มึงก็ไม่มีความสามารถพอจะหามันมาให้กูได้ กูภาคภูมิใจในตัวมึงที่สุดเลยครับ”



“ไอ้แมนอ่ะ!”



พี่เงิบตัดพ้อเพื่อนรักเสียงอ่อย ก่อนจะทำปากจู๋สะบัดหน้าหนีไปอย่างงอนๆ ฝ่ายแกนคณะก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างเหลือรับกับท่าทางอุบาทว์ๆ ของลูกน้อง



“อย่ามาทำท่าตุ๊ดใส่กู เดี๋ยวกูถีบไปนู่น!”



“ไอ้แมน!”



คนถูกเรียกหันไปตามเสียง เห็นพี่งอกวิ่งกระย่องกระแย่งมาด้วยท่าทางเหมือนกิ้งก่า เนื่องจากกางเกงสุดเดฟมันรัดติ้วเกินไปจนเคลื่อนไหวลำบาก พี่งอกส่งยิ้มประจบมาก่อนจะเอ่ยบอกข่าวดี



“กูรู้ละนะว่าอีเอ็มมี่พักหอไหน”



“ดี...งั้นมึงไปกะกู”



“เฮ้ย! อีกสิบนาทีเขาจะประชุมเฟรชชี่เกมส์แล้ว มึงเป็นแกน จะไม่อยู่ได้ไง”



“มึงบอกกูมาซิว่าถ้ากูไม่อยู่แล้วใครจะมีปัญหา?”



ไอ้งอกไอ้เงิบและลูกสมุนทั้งหมดพร้อมใจกันเงียบกริบ โถ...ถามมาอย่างนี้ใครจะกล้าตอบล่ะพ่อคุณ? เมื่อเห็นว่าการจะไปทำภารกิจล่าอีเอ็มมี่มาลงทัณฑ์มิได้ขัดเคืองใจผู้ใด พี่แมนก็ฉีกยิ้มกริ่มอย่างพึงใจออกมาทันที



“ไปกันเลยไหมไอ้แมน?”



“ไปเอาของที่ห้องกูก่อน กูเตรียมของเล่นให้อีเอ็มมี่ไว้เซ็ตใหญ่ สมใจมึงแน่ล่ะทีนี้ หึหึ”



ชั่วขณะที่เสียงหัวเราะนั้นดังออกมา เมฆฝนดำครึ้มก็แผ่ปกคลุมพื้นที่คณะสถาปัตย์ ทุกคนในที่นั้นรู้สึกหนาวเยือกประหนึ่งมีใครมาแผ่รังสีอำมหิตอยู่แถวนี้ แกนคณะรุ่นที่ 47 ยิ้มแสยะพลางใช้หลังมือปาดริมฝีปากตัวเองที่ยังมีความรู้สึกน่ารังเกียจประทับตราตรึงอย่างช้าๆ ชาวประชาในทุกพื้นที่มองภาพแสนเขย่าขวัญนั้นแล้วอุทานในใจเป็นเสียงเดียว



ตายไม่เหลือศพแน่มึง...อีเอ็มมี่



.

.

.



“อีเมเม่ ปรับแอร์หน่อยดิ๊ กูหนาวๆ ไงไม่รู้ว่ะ เหมือนจะไม่สบาย”



“โรคสำออยรึเปล่าคะ? อีเอ็มมี่”



เมเม่ว่ากระทั้นแต่ก็ยอมคว้ารีโมทแอร์มาลดอุณหภูมิให้เพื่อนอย่างไม่อิดออด ห้องพักขนาดกลางถูกตกแต่งอย่างน่ารักและเป็นระเบียบ ผนังห้องด้านหนึ่งเป็นที่ตั้งของเตียงขนาดควีนไซส์ของสองแฝด กั้นด้วยโต๊ะหนังสือของเอ็มและตั้งเตียงเดี่ยวของเจ้าตัวไว้ชิดอีกด้านของผนัง



ตอนแรกทั้งสองคนว่าจะแยกห้องพักกัน ให้เอ็มไปอยู่สบายๆ คนเดียวเพราะอัดกันสามคนในห้องแคบๆ แบบนี้ดูจะอึดอัดไปซะหน่อย แต่เพราะตอนมาจองห้องมันเหลือแค่ชั้นบนสุดห้องเดียว เลยต้องอยู่รวมกันไปโดยปริยาย ซึ่งก็ไม่ได้อึดอัดอย่างที่ควรจะเป็น ออกจะสนุกสนานที่ได้เม้าท์กันก่อนนอนทุกคืนด้วยซ้ำ



“มีอะไรอยากทำก็รีบๆ ทำนะพวกมึงอ่ะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าต้องเข้าห้องเชียร์ละ”



มาม่าที่กำลังนอนปั๊กกะป้าบอ่านนิตยสารแฟชั่นอยู่เปรยขึ้นบอกทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมห้อง ฝ่ายเอ็มที่กำลังนั่งเช็ดกีตาร์อยู่บนเตียงก็ครางรับในลำคอแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นหมายจะดื่มน้ำดับกระหาย



“น้ำหมดนี่หว่า เดี๋ยวกูลงไปซื้อก่อนนะ”



“เออ”



พอสองเพื่อนสาวส่งเสียงรับรู้ อีเอ็มมี่ก็กดลิฟท์จากชั้น 15 ลงมายังมินิมาร์ทใต้หอ ระหว่างที่กำลังหอบหิ้วแพ็คน้ำที่จ่ายเงินแล้วกลับขึ้นห้องอยู่นั้นเอง สายตาของนายเอกภพก็เหลือบไปเห็นหน้าสวยๆ ของไอ้พี่แมนพร้อมลูกสมุนสองนายซ้ายขวา วันนี้พี่แมนใส่รองเท้าบู้ทสีเลือดหมูเท่ห์โคตรๆ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น...ประเด็นคือมึงมาที่นี่ทำม๊าย?



“หอเพื่อนหญิง...ชื่อหอยังตุ๊ดเลยอ่ะ”



อีเอ็มมี่รีบพุ่งหลบหลังเสา ถึงแม้จะชื่อหอเพื่อนหญิง...แต่หอนี้ทอมดี้ตุ๊ดเกย์อยู่รวมกันได้หมดนะครับ ว่าแต่...มึงไม่ได้มาหากูใช่ไหมครับ?



“ไปเหอะ ป่านนี้อีเอ็มมี่คิดถึงกูแย่แล้ว”



หนุ่มนักดนตรีตบเข่าฉาด ซื้อหวยไม่ถูกอย่างนี้บ้างวะ? ดีนะที่กูไม่อยู่บนห้อง ถึงมึงขึ้นไปก็ไม่เจอกูหรอกครับ... แต่เหมือนกูลืมอะไรไปนะ?



“อีเมฆ อีมาร์ค!”



ชายหนุ่มรีบตะปบหามือถือแล้วก็พบว่าไม่ได้นำติดตัวลงมาด้วย ชายเอ็มเบ้หน้าจิ๊ปากอย่างหัวเสีย เมื่อวันก่อนเขาทำไอ้พี่แมนแค้นซะขนาดนั้น ขึ้นไปเจออีเม่ อีม่ามันคงไม่ใจดีปล่อยไว้ทำพันธุ์แน่ อีเอ็มมี่ทิ้งแพ็คน้ำไว้หลังเสาอย่างไม่เสียดายก่อนจะค่อยๆ ย่องตามไอ้พี่แมนไปจนเห็นว่าอีกฝ่ายเข้าลิฟต์ไปแล้วจึงเร่งฝีเท้าสับขาขึ้นบันไดที่อยู่ข้างกันไปกดลิฟต์ ชั้น 2 ให้มันเปิดประวิงเวลาและทำอย่างนี้มันไปทุกชั้น



ไอ้สองสามชั้นแรกก็ไม่เท่าไหร่ พอขึ้นชั้น 4 ความเร็วหนุ่มนักดนตรีชักตก แต่เมื่อนึกถึงความปลอดภัยของเพื่อนเปรียบเทียบกับความโหดร้ายของพี่แมนแล้ว ชายเอ็มก็กัดฟันวิ่งสู้ฟัดต่อไปอย่างไม่ท้อถอย



ฝ่ายแมนและพรรคพวกที่ลิฟต์เปิดเองโดยที่ไม่มีคนยืนรอก็ชักรู้สึกแหม่งๆ ไอ้งอกไอ้เงิบมองหน้ากันอย่างขอความเห็นแล้วยักไหล่



“เด็กมากดลิฟต์เล่นมั้งมึง”



เมื่อความเห็นตรงกันเช่นนั้น แมนก็กดปิดลิฟต์อย่างไม่คิดอะไร เพราะใจมันลอยไปอยู่กับอีเอ็มมี่เรียบร้อยแล้ว แหมะ!...คิดไปก็เหมือนจะน้ำเน่า ถ้าไม่ติดว่าไอ้พี่แมนมันไม่หิ้วถุงสารพัดอุปกรณ์ลงทัณฑ์มาด้วยล่ะก็นะ...



ทะยานตัวเองมาถึงชั้นสิบได้ อีเอ็มมี่ก็หายใจแรงเป็นหมาหอบแดด แข้งขาเปลี้ยแทบจะทรงตัวไม่อยู่ นี่ถ้าสาวตัวเองขึ้นไปตามราวบันไดได้คงทำไปแล้ว คนรักเพื่อนกลืนน้ำลายลงลำคอที่แห้งเป็นผงก่อนจะสูดหายใจลึกๆ รวบรวมกำลังสับขาต่อไป พอกดลิฟต์ชั้นสิบได้ เอ็มก็ต้องตกใจที่ไอ้พี่แมนแม่งตามมาเร็วจนน่าตกใจ นี่กูแรงตกหรือลิฟต์มันไม่ได้หยุดกันแน่วะ?



พอมาถึงชั้นสิบ ไอ้พี่งอกกับไอ้พี่เงิบก็มองหน้ากันหวั่นๆ ก็ลิฟต์มันเล่นเปิดเอง 10 ชั้นรวด เด็กเหี้ยอะไรจะเล่นแผลงๆ ได้ขนาดนี้



“แมน...กูว่ากลับเหอะวะ เจ้าที่เจ้าทาง ทะ...ท่านอาจจะไม่ชอบพวกเราก็ได้นะเว้ย”



พี่งอกออกความเห็นเสียงสั่น โดยมีพี่เงิบพยักหน้าเสริมอย่างเห็นด้วยสุดกำลัง แมนกลอกตามองเพดานลิฟต์อย่างเบื่อหน่าย เป็นลูกสมุนแกนคณะรุ่น 47 แท้ๆ ทำไมปอดแหกแบบนี้วะ?



“เกิดมาชาตินี้กูยังไม่เคยเจอผีเลย ดี! กูอยากลองกระทืบผีดูสักทีเหมือนกัน!”



ยิ่งเห็นอาการแสยะยิ้มอย่างมาดร้ายขัดกับความสวย งอกและเงิบก็แทบกอดคอกันร้องไห้ ไอ้แม๊น! มึงจะโหดจะเถื่อนกับมนุษย์ด้วยกันกูก็ไม่เคยว่า แต่มึงเล่นถึงผีสางเทวดานี่กูกลั๊ววววว~!



“หึหึ...เดี๋ยวมึงเจอกูแน่ อีผีตุ๊ด!”



ไอ้พี่แมนพึมพำเบาๆ อย่างชวนขนลุกขนพองให้ตัวเองได้ยินคนเดียวก่อนจะกระชับถุงกระดาษในมือแน่นอย่างเป็นสุข



ด้านอีเอ็มมี่ที่คลานขาลากท่าเดียวกับจูออนขึ้นบันไดมาจนถึงชั้นสิบสี่ได้ก็ค่อยๆ ตะเกียกตะกายกระดึ๊บเข้าหาลิฟต์พลางมองตัวเลขสีแดงๆ ที่เปลี่ยนจากชั้น 13 เป็น 14 ก่อนที่เขาจะสามารถเอื้อมมือสั่นๆ ไปกดเปิดลิฟท์ได้ทันอย่างอาลัยอาวรณ์ถึงเพื่อนรัก



“อีเมเม่ อีมาม่า กูขอโทษ ฮึก! กูจะทำบุญกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้มึงนะ”



อีเอ็มมี่พร่ำบทโศกสะอื้นไห้บีบน้ำตาเป็นนางเอกช่องหลายสี มือหยาบตามประสาคนเล่นกีตาร์ปาดน้ำตาออกป้อยๆ ด้วยท่าทางดัดจริต



*ติ๊ง!*



ครืด~



เอ๊ะ? กูว่ากูไม่ได้กด แล้วลิฟต์มันเปิดได้ไงวะ?



เงาคนสีดำทมิฬเดินออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยมเบื้องหน้าอย่างช้าๆ เสียงรองเท้าบู้ทกระทบกับพื้นดังตึกๆ เข้ามาประชิดตัวกะเทยมิเรอร์เกรด A+ แล้วทรุดเข่าลงข้างเดียวในท่าเจ้าชายพบเจ้าหญิงในการ์ตูนดิสนีย์



“กูนึกแล้วว่ามึงต้องหมดแรงที่ชั้นนี้ นี่กูกดลิฟต์รอรับมึงเลยนะครับ อีเอ็มมี่”



“มึง...มึงรู้ได้ไงว่าเป็นกูครับ?”



เจ้าหญิงเอ็มมี่อึ้งจนอ้าปากค้าง ในขณะที่เจ้าชายแมนยังยิ้ม “กูเหนือ” แบบสบายๆ



“เพราะกูไม่ได้โง่เหมือนมึงไงครับ อีเอ็มมี่”



แหมะ!...มึงจะชมว่าตัวเองฉลาดโดยไม่พาดพิงถึงกูก็ทำได้นะครับไอ้พี่แมน



ร่างกายที่อ่อนปวกเปียกเป็นมะเขือเผาของนักศึกษาวิชาดนตรีถูกลากแถดๆ เข้าลิฟต์ไปอย่างป่าเถื่อน พี่งอกและพี่เงิบช่วยกันพยุงตัวอีเอ็มมี่มาถึงห้องก่อนจะเปิดประตูผางเข้าไปแบบไม่คำนึงถึงมารยาท



“กรี๊ดดดดดดดด พี่แมน!!”



มาม่า และ เมม่กระโดดแผล็วไปยืนกอดกันกลมอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้องทันทีที่เห็นว่ารุ่นพี่สุดโหดมาเหยียบถึงห้องหอ พี่แมนพยักเพยิดหน้าให้ไอ้งอกกับไอ้เงิบลากอีเอ็มมี่ไปขึงพืดล็อกแขนล็อกขาไว้บนเตียงขนาดควีนไซส์ของสองแฝด



“พวกมึงลากอีกุมารแฝดนี่ไปจัดการ กูจะใช้เวลากับเมียกูสองต่อสอง”



ไอ้พี่แมนยักคิ้วใส่คนที่นอนทอดกายรอบนเตียงอย่างแมนๆ ส่วนไอ้งอกไอ้เงิบก็ลากสองแฝดสาวออกไปท่ามกลางเสียงกรีดร้องเรียกชื่อเพื่อนรักอย่างโหยหวน ปิดท้ายด้วยการปิดประตูลงกลอนเป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้มีใครมาขัดเวลาสวีทของพี่แมนกับน้องเอ็มมี่ได้



“มึง...กล้ามากเลยนะ ที่ทำกับกูแบบนั้น”



ไอ้พี่แมนเปิดประเด็นได้ตรงจุด พร้อมกับขยับเข้ามาหาคนบนเตียงด้วยท่วงท่าราวกับพญามัจจุราช มือบางกระชากเสื้อยืดคนบนเตียงดังแคว่กทีเดียว เสื้อก็ขาดออกเป็นสองฝั่งอย่างง่ายดาย อีเอ็มมี่ตาโตเป็นไข่นกกระจอกเทศ และเพิ่มขนาดเป็นไข่ไดโนเสาร์เมื่อมือไอ้พี่แมนเลื่อนต่ำลงไปที่กางเกงบอล



“เฮ้ย! พี่จะทำอะไร?!!”



เสียงทุ้มถามรัวอย่างตื่นตระหนก



“อ้าว? คราวที่แล้วมายั่วพี่ต่อหน้าธารกำนัล คราวนี้พี่ก็มาสานต่อเรื่องวันนั้นให้ไงครับ”



ไอ้พี่แมนรูดพรืดทีเดียว กางเกงบอลย้วยๆ ก็ไปกองอยู่ปลายเท้า อีเอ็มมี่ชักใจเต้น นี่มึงคงไม่คิดจะปล้ำกูจริงๆ ใช่ไหมครับ? และยิ่งใจเต้นแรงขึ้นไปอีกเมื่อพี่แมนแม่งเทอุปกรณ์ที่เตรียมมาให้กระจายอยู่บนเตียง



เหี้ยแล้วกู…



ชายเอ็มอุทานในใจดังลั่นเมื่อเห็นชัดแจ้งว่าสิ่งที่พี่แมนเตรียมมามีทั้งโซ่ แส้ กุญแจมือ เทียนไขและอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย งานนี้จะเสียวไหมกูไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือกูเจ็บแน่ๆ ร้องไห้ขอชีวิตมันตอนนี้ทันไหมวะเนี่ย?



เฟี้ยบ!



“ซี้ด~!”



แนวสีแดงซิปเลือดปรากฏขึ้นทันทีหลังไอ้พี่แมนลงแส้เต็มแรง มันคงจะทรมานมากถ้าต้องกัดฟันทนความเจ็บต่อไปเพียงอย่างเดียว แกนคณะท่านจึงปรานีต่อน้องเอ็มมี่ด้วยการใช้ไม้ขนไก่ขนนุ่มสลวยปัดไปมาบริเวณฝ่าเท้าของน้องเอ็มมี่เบาๆ เพื่อบรรเทาความเจ็บ เสียงที่หลุดรอดออกมาจากปากรูปกระจับที่เคยบดจูบพี่แมนเลยเป็น...



“กร๊ากกก ฮ่าๆ ซี๊ด! กูเจ็บ เอิ๊กๆๆ ไอ้พี่แมน มึงหยุด! โอ๊ย! ซี้ด~~ จั๊กจี๋ว้อย โอ๊ย!”



“ท่าทางมึงมีความสุขดีนะ”



มีความสุขบ้านป้ามึงสิ!



ยิ่งเห็นรอยยิ้มสะใจของไอ้พี่แมน อีเอ็มมี่ยิ่งรู้สึกเจ็บใจ และบังคับตัวเองให้อดทนไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีเอ่ยปากขอโทษอย่างที่คิดว่าจะทำในตอนแรก เพราะถึงขอโทษไปตอนนี้ไอ้พี่แมนแม่งก็คงไม่ยอมรามือง่ายๆ แน่ๆ



ยกแรกผ่านไปจบด้วยเสียงหอบหายใจแรงและหน้าแดงเถือกของฝ่ายรับ พุงแบนๆ ที่มีลอนกล้ามเล็กๆ ถูกแส้กรีดเป็นแนวแดงซิบเลือดจำนวนนับไม่ถ้วน นิ้วเท้าทั้งสิบที่กระดิกหนีไม้ขนไก่อย่างยาวนานก็หงิกไม่เป็นรูปทรง



“มึงพอใจยัง?”



อีเอ็มมี่ถามเสียงหอบ



“ยัง! กูว่าแอร์ห้องมึงหนาวๆ นะ มา! กูช่วยสร้างความอบอุ่นให้”



อีเอ็มมี่มอง “ความอบอุ่น” ในมือพี่แมนอย่างตื่นตะลึง มันคือเทียนไขสีแดงกุหลาบชนิดที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์วาบหวิวระหว่างคู่รักได้เป็นอย่างดี มันสมควรจะเป็นเยี่ยงสรรพคุณที่ว่านั้นถ้าไอ้พี่แมนมันไม่เลือกไซส์เทียนขนาดน้องๆ เทียนพรรษา มือบางๆ ของมันยังกำเทียนไม่รอบเลยดูเสะ!



แชะ!



ไอ้พี่แมนจุดไฟแช็ค



ปู้ด!



อีเอ็มมี่เป่าไฟแช็คให้ดับ



แชะ!



ปู้ด!



แชะ!



ปู้ด~!!



“เป่าอีกที กูจะเอาไฟลนปากมึง อีเอ็มมี่!”



พอได้ยินเสียงขู่เย็นๆ จากรุ่นพี่สุดโหด อีเอ็มมี่ก็เม้มปากแน่น ส่งสายตาหมาโดนดุให้อีกฝ่ายอย่างน่าสงสาร แต่มีหรือพี่แมนเธอจะยอมใจอ่อน ความอับอายท่ามกลางสาธารณะชนเมื่อวันก่อนยังจดจำได้ไม่ลืมเลือน ยิ่งคิด พี่แมนก็ยิ่งแค้น พอแค้นปุ๊บ น้ำตาเทียนก็ถูกสะบัดลงกลางอกเหยื่ออย่างไม่ปรานี



“อ๊าก~! ร้อน~!!!”



อีเอ็มมี่ร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา นี่กูไปทำบาปทำกรรมกับมันไว้แต่ชาติปางไหนวะ! ไอ้พี่แมนยิ้มระรื่นอย่างมีความสุขพลางบรรจงหยดเทียนอย่างตั้งอกตั้งใจ



“เดี๋ยวกูวาดรูปกุหลาบให้”



ทรมานชาวบ้านอยู่มึงยังติสท์ได้อีกเรอะ!!



ไอ้ช่วงกลีบดอกก็ไม่เท่าไร เพราะพี่แมนมันหยดเล็กๆ อย่างต่อเนื่อง ถึงจะมีซี้ดซ้าดกันบ้าง แต่สักพักผิวด้านๆ ของอีเอ็มมี่ก็เริ่มชิน แต่พอลงต่ำไปช่วงก้านดอก ไอ้พี่แมนก็ยิ้มกว้างเป็นสัญญาณให้ชายโชใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม



“เดี๋ยวก่อนพี่...เดี๋ยวๆ...แอ๊ก!!”



“เหอๆๆๆ”



อีเอ็มมี่ดิ้นพล่าน ขัดกับเสียงหัวเราะโรคจิตของคนทรมานอย่างสุดกู่ พี่แมนแม่งเล่นน้องชายขนาดมหึมาของกูอีกแล้ว ถึงจะมีกางเกงในกั้น แต่น้ำตาเทียนมันเป็นของเหลว มันซึมซาบชอนไชไปทุกอณูอย่างร่าเริงด้วยอารมณ์เดียวกับคนหยด



ลูกกูไม่ใช่ไส้กรอกเยอรมันนะมึง ถึงสุกมันก็แดกไม่ได้~!!



“ไอ้เหี้ยพี่แมน! มึงมันซาดิสม์!!”



คนถูกด่าชะงักกึก ดวงตาคู่หวานค่อยๆ เบนมองใบหน้าชุ่มเหงื่อของเมียรักก่อนจะจุ๊ปากอย่างสุดแสนเอ็นดู๊~เอ็นดู



“โถๆๆ...อีเอ็มมี่”



พี่แมนหยุดมือที่กำลังทรมานคนบนเตียง พลางตีสีหน้าอ่อนโยนเข้าหาอีกฝ่าย แต่แทนที่อีเอ็มมี่จะรู้สึกดีขึ้น มันกลับยิ่งรู้สึกถึงอันตรายขั้นกว่าที่ค่อยๆ คืบคลานเข้าหาตัวมากกว่า



“กูเสียใจนะเนี่ย...ที่มึงเพิ่งรู้”



ว่าจบ ไอ้พี่แมนก็เทน้ำตาเทียนที่หล่อไว้เป็นแอ่งขนาดประมาณ 2 ช้อนโต๊ะพรวดลงไปลงบนลูกชายที่อีเอ็มมี่มันสุดแสนจะภาคภูมิใจ คนโดนลวกไข่กรีดร้องเป็นหมาหลงฝูง บิดเอวเร่าๆ อย่างทรมาน พร้อมพยายามผงกหัวขึ้นมาเป่าปากช่วยลูกชาย แต่ดูเหมือนระยะทางจะไกลไปหน่อย ลมเป่าเลยไปไม่ถึง



“หึหึหึหึ กูล่ะสะใจจริงๆ”



คนตัวบางคว้ากล้องถ่ายรูปที่เตรียมมาด้วยถ่ายความอัปยศของรุ่นน้องผิดเพศไปหลายแชะอย่างชอบอกชอบใจ ฝ่ายผู้ถูกกระทำที่นอนแผ่ลงไปอย่างหมดแรงก็ครางเรียกอีกฝ่ายอย่างแผ่วหวิว



“พี่แมน พอยัง? แก้มัดให้หน่อย~”



คนแมนละสายตาจากกล้องไปมองหน้าคนร้อง อีเอ็มมี่น้ำตาไหลเป็นทาง แมนรู้ว่ามันไม่ได้ร้องไห้เพราะไม่มีเสียงสะอื้น แต่มันคงแสบไข่จนน้ำตาไหลออกมาเองมากกว่า เห็นอย่างนั้นแล้วก็ชักสงสารขึ้นมานิดหน่อย ถึงอีเอ็มมี่มันจะเป็นตุ๊ดเกรียนที่ปากหมา แต่เอาจริงๆ มันก็ไม่เคยคิดจะหือกับเขามากเกินไปกว่าที่รุ่นน้องคนหนึ่งพึงทำ วิธีการที่ใช้ก็ไม่ได้เป็นพวกอันธพาลหัวรุนแรง อีกอย่าง...ถึงเขาจะกลั่นแกล้งมันสารพัด มันก็ยังเรียกเขาว่าพี่ทุกคำ (ถึงแม้บางครั้งจะเติมคำคุณศัพท์ที่ไม่ระรื่นหูนำหน้าให้ก็ตาม) อย่างน้อยมันก็เป็นตุ๊ดที่มีสัมมาคารวะล่ะนะ



“เออ คราวหน้าจะทำอะไรกูก็คิดดีๆ ก่อนละกัน”



พี่แมนเอากล้องคล้องข้อมือพลางพูดสั่งสอน แล้วแก้มัดทั้งมือทั้งเท้าให้อีเอ็มมี่ที่ยังคงนอนเอื่อยไม่มีแรงลุก



“กูไปล่ะนะครับ วันหลังอาจจะมาเยี่ยมใหม่”



คนตัวบางหัวเราะปิดท้ายก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้อง แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวไปถึงประตู เอวคอดก็ถูกรวบด้วยสองแขนแล้วลากมากองด้วยกันบนเตียง เอ็มถือโอกาสที่รุ่นพี่ยังไม่ทันตั้งตัวขึ้นคร่อมทับใช้แรงดึงดูดของโลกให้เป็นประโยชน์ก่อนจะแย่งกล้องมาจากมือคนใต้ร่าง แต่อีกฝ่ายก็รั้งไว้อย่างเหนียวแน่น



“อีเอ็มมี่! นี่มึงจะลองดีกะกูอีกแล้วใช่ไหม?!”



“ผมเปล่า! แต่ใครจะยอมให้พี่เอารูปผมไปประจานอ่ะ พี่จะให้ผมเอาปี๊บคลุมหัวไปเรียนรึไง?!!”



“เรื่องของมึงสิ! ปล่อยกู! ไม่งั้นมึงเจ็บตัวแน่!”



แกนคณะสถาปัตย์ดิ้นขลุกขลัก แต่ตำแหน่งที่ถูกโถมกดไว้ก็เสียเปรียบเกินกว่าจะสลัดให้หลุดได้ง่ายๆ มือบางกำกล้องถ่ายรูปไว้แน่นไม่ยอมให้รุ่นน้องตัวแสบแย่งไปได้



“เอามานี่นะพี่แมน!”



“ไม่ให้! ปล่อยสิเว่ย! ถ้ากูหลุดไปได้นะมึง!”



พอได้มองใกล้ๆ แบบนี้ไอ้พี่แมนมันหน้าสวยจริงๆ นะ ขนตายาวแทบจะทิ่มทะลุแก้มเนียนๆ นั่นอยู่แล้ว เสียดาย...พูดจาแต่ละคำแสลงหูชะมัด



“อีเอ็มมี่! มึงจะปล่อยไม่ปล่อย!”



สวิตซ์ปิดเสียงอยู่ตรงไหนวะ?



“อีเอ็ม...อื๊อ~~~~!!”



อยู่นี่เอง~



ไอ้พี่แมนระรัวด่าอีเอ็มมี่ในใจเป็นชุด ด้วยเพราะริมฝีปากที่ถูกประกบด้วยปากของอีกฝ่ายปิดกั้นเสียงของเขาเอาไว้ ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจเมื่อคนด้านบนส่งลิ้นชอนไชเข้ามาแล้วเกี่ยวกระหวัดเล่นในโพรงปากของเขาอย่างหน้าไม่อาย พี่แมนรู้สึกเหมือนจะเป็นลมครั้งแรกในชีวิต มือไม้ตัวเตออ่อนปวกเปียกแทบไม่มีแรงต้าน ได้แต่ปล่อยให้อีตุ๊ดยักษ์มันจาบจ้วงริมฝีปากเขาอยู่นานสองนาน จวบจนบางสิ่งบางอย่างใต้กางเกงในของคู่กรณีมันพองขึ้นมาโดนต้นขาเขานั่นแหละ ไอ้พี่แมนถึงได้รู้สึกตัวออกแรงผลักกะเทยเทียมให้หงายไปอีกฝั่งของเตียงแล้วเด้งตัวหนีมายืนตั้งหลัก



“ไอ้...ไอ้....”



คนหน้าสวยหอบหายใจแรง ชี้หน้าคนที่ลวนลามตัวเองหน้าด้านๆ มือไม้สั่น



“ไอ้ตุ๊ดหื่น!!”



รองเท้าบู้ทสีเลือดหมูคู่ที่อีเอ็มมี่นึกชมว่าเท่ห์หนักหนากระทืบลงตรงเป้าหมายกลางลำตัวของอีกฝ่ายอย่างจัง เด็กศิลป์ถึงกับหน้าเขียวบิดเบี้ยวตัวงอลงกับเตียง ยื่นมือไปจะเรียกรั้งอะไรไว้คอก็เหมือนมีก้อนแข็งๆ พุ่งขึ้นมาอุดจนเค้นเสียงไม่ออก ได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายหนีกลับไปโดยไม่ได้พูดอะไร



“ซี้ด~ เจ็บวุ้ย”



ทั้งที่เจ็บขนาดนั้น อีเอ็มมี่ก็ยังยิ้มออก เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมทั้งที่วันนี้ไม่มีลิปสติกสีแดงหรือผู้คนที่จะสร้างความอับอายให้รุ่นพี่จอมโหดคนนั้นได้สักคน เขาก็ยังตัดสินใจบดจูบลงไป แถม... กะเทยจีนแดงเลียริมฝีปากตัวเองดังแผล็บ



หวานว่ะ...



ยิ่งนึกถึงภาพจอมโหดของมหาวิทยาลัยนอนตัวอ่อนปวกเปียกอยู่ใต้ร่างเขาแล้วมันก็ชวนให้รู้สึก “เหนือ” อย่างบอกไม่ถูก



“แม่ง...น่ารักว้อย~!!”





โปรดติดตามแอ๊บต่อไป



#แอ๊บรัก
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ / แอ๊บที่ 2 / p. 1 / (5 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 05-07-2017 14:16:55
ทำน้องไว้แสบนัก รอวันที่พี่แมนโดนน้องเอมมี่จับทำเมีย คงสะใสน่าดู  :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ / แอ๊บที่ 2 / p. 1 / (5 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 05-07-2017 18:12:02
พี่แมนโหดอ่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ / แอ๊บที่ 2 / p. 1 / (5 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayuYume ที่ 06-07-2017 20:40:25
อยากอ่านแนวนี้มานานแล้วววววว แบบพระเอกตุ๊ดๆหน่อยๆ ที่จรงอยากให้นางเป็นตุ๊ดกระเทยไปเลยแล้วเจอนายเอกเท่ๆขี้กลัวนสัยอะไรก็ได้แต่ไม่อยากดราม่า ฮืออออ  :call: :z1:
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ / แอ๊บที่ 2 / p. 1 / (5 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 07-07-2017 21:45:33
ฮ่าอ่ะ สนุกน่ะ ชอบๆๆๆ
พระเอกเราออกจะแมน ใจดีกับทุกเพศ รักดนตรี
นางเอกเรา โหด เถื่อน แต่สวยน่ารัก
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ / แอ๊บที่ 3: จูบนั้นคืนสนอง / p. 1 / (5 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 08-07-2017 09:22:29
แอ๊บรัก 3: จูบนั้นคืนสนอง




สุดท้ายก็ไม่ได้ลบรูปอุบาทว์ในกล้องพี่แมน




อีเอ็มมี่ลงทุนซื้อปี๊บรอ กะว่ายังไงก็ต้องได้ใช้คลุมหัวไปเรียนแน่ๆ อีเมเม่กับอีมาม่าก็ช่างเป็นเพื่อนที่แสนดี หาโบว์และริบบิ้นสีหวานมาตกแต่งปี๊บจนสวยกิ๊บเก๋



แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีรูปใดๆ หลุดออกมา...



อีเอ็มมี่ขมวดคิ้วนั่งหน้าเครียด ขบคิดปัญหาที่คิดยังไงก็คิดไม่ตก ขนาดอีเมเม่ต้องสะกิดน้องสาวให้ดูเพื่อนรักที่ชักออกอาการเหมือนคนบ้า



หรือไอ้พี่แมนมันจะเก็บไว้ฟินคนเดียว?



คิดได้ดังนั้น กะเทยเสิ่นเจิ้นก็ตบเข่าฉาด



แล่ว แล่ว แล่ว แล่ว แล่ว~~~



หรือไอ้พี่แมนแม่งจะแอบชอบกู?



อีเอ็มมี่หัวเราะคิกคักด้วยเสียงระคายรูหูอย่างชอบอกชอบใจอยู่คนเดียว ตุ๊ดหน้าหล่อยิ้มแก้มแทบปริ จินตนาการไปไกลกว่าดาวอังคารถึงใบหน้าสวยๆ ของไอ้พี่แมนที่มายืนบิดเขินอายสารภาพรักกับเขาเหมือนสาวรุ่น



“อีเอ็มมี่...กูว่ามึงควรจะไปแคสท์บทละครเวทีนะ”



“เรื่องไรวะอีเม่?”



“หลังคาแดง เดอะมิวสิคัล!”



สองแฝดแท็คมือกันฉลองให้ชัยชนะที่หลอกด่าเพื่อนซี้ไปได้หนึ่งดอก ชายเอ็มเบะปากมองเพื่อนร่วมห้องอย่างงอนๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครสนใจ



“คิดอะไรอยู่วะ? เดี๋ยวนี้มีความลับอ๋อ? ไม่บอกพวกกู”



ฝ่ายคนมีความลับที่รู้ตัวว่าอีตุ๊ดแฝดเพื่อนรักมันกำลังจะเปิดประเด็นคาดคั้นก็เดินเนียนๆ ไปเปิดตู้เย็นเทน้ำดื่ม



“หรือว่ามึงมีความรัก?”



อีเมเม่หยั่งเชิง คนโดนจับผิดสะดุ้งนิดๆ แต่ก็ยังรักษาท่าทีไว้ได้อย่างหมดจด



“แต่กูว่าแม่งคิดถึงพี่แมนว่ะ”



ปรู้ดดดดดดดดดด



คนถูกทักตกใจสุดขีด ถึงกับพ่นน้ำไปปากออกมาเป็นเส้นโค้งสวยเหมือนน้ำพุในสวนสวรรค์ ประเด็นคือจุดตกมันดันเป็นใบหน้างามๆ ของกุมารแฝดทั้งสองนางที่กรีดร้องเป็นผีโดนน้ำมนต์



“อีเอ็มมี่! มึงเล่นเหี้ยไรเนี่ย! สกปรก!!”



“โอ๊ย~ หน้ากู ขี้กลากจะขึ้นไหมเนี่ย?”



สองสาวปรี่ไปแย่งกันล้างหน้าในห้องน้ำอย่างวุ่นวาย ฝ่ายอีเอ็มมี่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เพื่อนรักหันไปห่วงความสวยความงามของตัวเองแทนซะได้



.

.

.



“ศิลปัตย์!!”



สองกุมารแฝดแทบร้องไห้เมื่อเห็นประกาศตัวเบ้งที่แปะไว้หน้าคณะ มหาวิทยาลัยของพวกเขามีด้วยกันทั้งสิ้น 12 คณะ แต่โรงยิมมีแสตนด์ให้ไม่พอในงานเฟรชชี่เกมส์ แต่ละปีจึงให้จับคู่คณะรวมเป็นหนึ่งสี มีทั้งหมด 6 สี โดยการจับคู่ก็จะเป็นการจับฉลากวนๆ กันไป



และปีนี้ก็ช่างเป็นบุพเพสันนิวาสเหลือเกิ๊น~ ที่ศิลปกรรมได้มาลงเอยกับสถาปัตย์ รวมกันเป็นศิลปัตย์แห่งสีม่วง ได้สีมงคลมาอีกต่างหาก อีเอ็มมี่แอบซ่อนยิ้มไว้ด้วยความดีใจที่กำลังจะได้เจอรุ่นพี่สุดโหด ตรงข้ามกับสองเพื่อนรักที่กอดกันร้องไห้ไม่หยุด



“ไปได้แล้วมึง พี่เขาเร่งแล้ว”



เฟรชชี่คณะศิลปกรรมถูกโฟลว์ไปยังยิมเล็ก เป็นที่รู้กันดีว่าเวลามีการซ้อมเชียร์ก่อนงานเฟรชชี่เกมส์ สถาปัตย์จะเป็นผู้ครอบครองสถานที่ฝึกซ้อมแห่งนี้ ทำให้ผู้เล่นกีฬาจะย้ายไปใช้ยิมอื่นก่อนชั่วคราวเพราะเสียงกลองอันใหญ่ยักษ์อันเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตย์นั้นรบกวนโสตประสาทได้ดีเหลือเกิน



อีเอ็มมี่ที่เดินเรียงแถวกับเพื่อนๆ มาแอบยิ้มอย่างยินดีเมื่อเห็นหน้ารุ่นพี่สุดโหดกำลังยืนคุยกับแกนปีสี่ของคณะตัวเองอย่างเคร่งเครียด อาจเป็นเพราะต้องดูแลรุ่นน้องให้เตรียมงานออกมาอย่างดีที่สุดก็เป็นได้ คุณพี่แมนถึงได้ไม่มีเวลาไปหาน้องเอ็มมี่เช่นเคย ชายหนุ่มคิดเข้าข้างตัวเองไปได้สักพัก คนหน้าสวยขัดกับนิสัยก็หันมาเห็นคู่อริเข้าจนได้



“ค**!!”



เจอหน้าก็ขยับปากไร้เสียงแจกของรักให้กูเลย สงสัยเขาจะเอ็นดูกูมากจริงๆ นะเนี่ย~



อีเอ็มมี่เดินตามเพื่อนๆ ขึ้นไปนั่งเรียงกับเด็กสถาปัตย์ที่รออยู่บนแสตนด์แล้ว กะเทยเทียมรออยู่ครู่ใหญ่กว่าจะได้สบโอกาสเรียกร้องความสนใจ แต่อ้าปากได้ยังไม่ทันเอ่ยคำก็มีเสียงใครบางคนตัดหน้าไปเสียก่อน



“พี่แมนขา~~~~”



อีเอ็มมี่มองตามชะนีนุ่งสั้นที่วิ่งแถ่ดๆ เข้าไปกอดแขนพี่แมนของมันอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก ที่ไม่พอใจยิ่งกว่าคือการที่คุณพี่เขาหันไปยิ้มหวานจริงใจให้ชะนีนางนั้นอย่างที่ไม่เคยยิ้มให้เขาเลยนี่สิ!



“ปลื้มปริ่มดีใจม๊ากมากค่ะ ที่คณะของเราได้คู่กัน”



ทอแหล!



อีเอ็มมี่ด่ารุ่นพี่ผู้หญิงที่ยังเกาะหนึบพี่แมนไม่ห่างอยู่ในใจ นึกชอกช้ำขึ้นมาในอกอยู่เนืองๆ



ใช่สิ! ได้กูแล้วก็ทิ้งกูไปหาชะนี!



“นั่นพี่ปลื้มปริ่ม ปี 2 เอกการแสดงใช่ป่ะ? ที่เขาว่าแฟนใหม่พี่แมน”



“พี่แมนมีแฟนทำไมมึงไม่บอกกูวะ อีเมเม่?”



“เอ๊า!! แล้วกูจะรู้ไหมคะว่ามึงอยากรู้ อีเอ็มมี่!?”



น้องเมเม่ แฝดผู้พี่สวนกลับอย่างไม่เข้าใจ อีนี่ฮอร์โมนเปลี่ยนรึไง? นับวันกูยิ่งจะเชื่อว่ามึงเป็นสปีชี่ส์เดียวกับกูแล้วนะนี่ ดูมัน...ดูมันทิ้งหางตาใส่พี่แมน



“พี่ปลื้มปริ่มเขาก็เป็นดาวคณะเรา พี่แมนจะจีบนางทำแฟนก็สมควรละอ่ะ”



“สวยสมกันดีเนอะ”



“ไม่เห็นจะสมกันตรงไหน!!”



สองแฝดสาวหันขวับมองคนค้านที่ทำหน้ามุ่ยจ้องสองคนที่คุยกันจุ๋งจิ๋งหนุงหนิงอยู่ข้างล่างอย่างไม่พอใจ อีเอ็มมี่เพื่อนรักดูฮึดฮัดฟึดฟัดอย่างน่าประหลาด



“ประจำเดือนมึงไม่มาเหรอคะ อีเอ็มมี่?”



“อีมาม่า!”



“กูว่ามึงแปลกๆ นะ อย่าบอกนะว่ามึง... หึง!



คนถูกจับไต๋ได้หน้าเปลี่ยนสีเป็นแดงแปร๊ดทันที อีเอ็มมี่ทำหน้าเหรอหราอย่างปิดไม่มิดชนิดที่ว่าถ้าลงคลาสการแสดงมึงแดก F แน่นอนพันเปอร์เซ็นต์!



“กะ...กะ...กะ กูเปล่านะ”



สองแฝดทำตาหรี่แล้วพยักหน้าแบบ “เออ...กูเชื่อ”   อย่างสมเพช



“มึงนี่น้า~ อีเอ็มมี่ หาเรื่องตลอด ชอบใครไม่ชอบ...”



อีเมเม่ส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ



“เสือกชอบแฟนพี่แมน!”



อีเอ็มมี่ทำหน้ามึนไป 3.79 วิ ก่อนจะรีบรับสมอ้างกลบเกลื่อนความผิดปกติ



“อะ...เออ....ใช่ๆ ก็พี่ปุ้มปุ้ยเขาน่ารักดี”



“เขาชื่อปลื้มปริ่ม!”



สองแฝดประสานเสียงแก้ความให้อย่างพร้อมเพรียง



“เออ...นั่นแหละ! ปลื้มปริ่มก็ปลื้มปริ่ม”



คนหน้าหล่อเบือนหน้าหนีสองแฝดที่หรี่ตาลงอย่างจับผิด ก่อนจะลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่แถเอาตัวรอดไปได้อีกหนึ่งครา



.

.

.



จบการซ้อมวันแรกไปอย่างเหน็ดเหนื่อยแทบขาดใจ การจับคู่กับสถาปัตย์ที่มีแต่พวกบ้างานและมีเรี่ยวแรงมหาศาลนี่มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ถึงจะมีหน้าหวานๆ ของไอ้พี่แมนมาเป็นกำลังใจก็เถอะ แต่พอเห็นอีพี่ปลื้มปริ่มเอานมถูแขนพี่แมนทีไรมันก็ปรี๊ดและห่อเหี่ยวใจตามลำดับทุกที



ถ้าพี่แมนชอบตู้มๆ แบบนั้น หรือกูจะไปทำนมดี?



อีเอ็มมี่สลัดความคิดที่แม้แต่ตัวเองยังขนลุกออกไปก่อนจะหอบร่างอ่อนละโหยของตัวเองและเพื่อนๆ กลับหออย่างหมดเรี่ยวหมดแรง แต่ยังไม่ทันได้ถึงหอก็ถูกใครบางคนรั้งคอไว้ก่อน



“เอ็ม!”



“อ้าว! ไง ไอ้โจ”



โจคือเพื่อนจากโรงเรียนมัธยมปลายเดียวกัน มันสอบเข้าวิศวะที่นี่ เขาสองคนสนิทกันพอสมควรเพราะเคยทำงานกลุ่มด้วยกันบ่อยๆ



“กูโทรไปมึงก็ไม่รับเลย วันนี้เลี้ยงห้องเราที่สอบติดที่นี่กัน มึงต้องไปนะ พวกมึงด้วย อีเม่ อีม่า”



จะว่าไปตั้งแต่เปิดเทอมมาก็มัวแต่รบรากับไอ้พี่แมน จะหาเวลาไปปลดปล่อยความสนุกบ้างก็ยังไม่มีโอกาส คิดถึงแสงสีและเครื่องดื่มมึนเมาแล้วอาการอยากทิ้งตัวลงหมอนนอนให้สบายก็มลายหายวับไปทันตา



“อ้าวเหรอ? ที่ไหนอ่ะ กูต้องกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ”



“มึงอยู่หอไหน เดี๋ยวกูขับรถไปรับไอ้แทนแล้วเดี๋ยววนไปรับมึงก็ได้”



“กูอยู่เพื่อนหญิง เดี๋ยวกูรอใต้หออ่ะ ขอสิบนาที”



พอตกลงกันได้ตามนั้นต่างคนก็แยกย้ายกันไปสิบนาทีดังว่า ก่อนที่โจจะโฉบไปรับเอ็มและเพื่อนสาวทั้งสองไปยังผับชื่อดังข้าง ม. การได้เจอเพื่อนร่วมห้อง ได้คุยได้เกทับกันบ้างตามนิสัยผู้ชายพร้อมมองสาวๆ นุ่งสั้นเดินผ่านไปผ่านมาก็ทำให้หายเหนื่อยได้ดีทีเดียว พอเหล้าเข้าปากไปสักสองสามแก้วต่างคนต่างก็เริ่มลุกไปหาคู่แดนซ์กันกลางฟลอร์อย่างเมามัน เหลือแต่เอ็ม โจ และสองแฝดที่ยังสนุกกับการคุยและรินเหล้าเข้าปากอยู่



“แฮะ แฮ่ม!”



ชายเอ็มสะดุ้งจนเหล้ากระฉอกเมื่อมีเสียงปริศนามากระแอมไออยู่ข้างหู พอเงยหน้ามองว่าเป็นใคร อีเอ็มมี่ก็ตาโตเท่าไข่ห่านเมื่อสาวเจ้าในชุดเดรสสีแดงเพลิงสุดเซ็กซี่ที่กำลังจับไหล่เขาอยู่นี่คือ พี่ปลื้มปริ่ม แฟนสาวคนล่าสุดของไอ้พี่แมนนั่นเอง



“ปลื้มปริ่มนั่งด้วยได้ไหมคะ?”



แล้วนางก็ไม่ได้รอคำอนุญาตจากใคร เดินอ้อมมาเบียดตัวลงนั่งบนตักรุ่นน้องหน้าหล่ออย่างอาจหาญ ท่ามกลางความตกตะลึงของทั้งตัวเอ็มเองและเพื่อนร่วมโต๊ะ



“เอ่อ...พี่แมนไม่มาด้วยเหรอครับ?”



เอ็มใช้วิธีอ้างชื่อแฟนสุดโหดของนาง เผื่อนางจะนึกเกรงกลัวแล้วล่าถอยไปจากตัวเขาเสียที แต่อนิจจา...คุณเธอกลับใช้นิ้วที่ประดับด้วยเล็บยาวแหลมเปี๊ยบสีแดงสดมาแตะริมฝีปากเขาไว้ให้หยุดพูด



“พี่แมนเขาคุยงานอ่ะค่ะ ไม่ค่อยมีเวลาให้ปลื้มปริ่มเลย ปลื้มปริ่มเหง๊า~เหงา”



พี่ปลื้มปริ่มทำเสียงออดอ้อนก่อนจะซุกซบมาตรงซอกคอขาวๆ ของชายเอ็มที่ตัวเกร็งเยือก หรุบตามองจากมุมนี้เห็นเนินอกอวบอิ่มที่นางตั้งใจโชว์ได้ถนัดถนี่เหลื๊อเกิน! แหมะ! ไอ้เราก็ผู้ชาย ชอบเล่นกับ Fire! มีผู้ชายคนไหนในโลกนี้ที่ไม่ได้เป็นแบบอีเม่อีม่าแล้วไม่มีปฏิกิริยากับนมบ้างล่ะครับ?



“ในยิมเมื่อกี้ ปลื้มปริ่มเห็นเอ็มมองปลื้มปริ่มตลอดเลยน้า~”



ว่าไม่ว่าเปล่าสาวเจ้าไล้มือบนแผงอกผ่านเสื้อเชิ้ตสีเทาเบาๆ ชวนให้วาบหวิว ฝ่ายเอ็มก็ได้แต่ปฏิเสธในใจว่ากูไม่ได้มองมึงเลยครับพี่...กูมองสามีที่กำลังจะเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นเมียกูต่างหาก!



“พี่ปลื้มปริ่ม...แต่ผมเป็นตุ๊ดนะ”



อีเอ็มมี่งัดไม้เด็ดที่ทำให้ผู้หญิงทั้งมหา’ลัย หมดความสนใจในตัวเขาขึ้นมาอ้าง แต่ปลื้มปริ่มทำเพียงแค่เลิกคิ้วล้อๆ แล้วหัวเราะคิกด้วยเสียงน่ารำคาญ



“ตลกจัง ปลื้มปริ่มผ่านผู้ชายมาเยอะนะ ทำไมปลื้มปริ่มจะแยกไม่ออกว่าใครผู้ชายใครตุ๊ด อย่างเอ็มอ่ะ ยังไงก็ผู้ชายทั้งแท่ง ไม่มีทางเบี่ยงเบนได้หรอก! ปลื้มปริ่มมั่นใจ!”



นี่พ่อแม่เขาสั่งสอนลูกมายังไงให้พูดว่าผ่านผู้ชายมาเยอะด้วยสีหน้าภาคภูมิใจแบบนี้ได้วะเนี่ย?



“แต่ผมว่า...ไม่ดีมั้งครับพี่”



“ยังไม่ได้ลองเลย รู้ได้ไงว่าไม่ดี หื๊ม?”



พูดไปพลาง นางก็เลื่อนจมูกมาชนกับจมูกเขาก่อนจะบดจูบลงมาอย่างไม่อายฟ้าดิน ชายเอ็มอยากจะผลักออกแต่ก็แหม...ของฟรีเนอะ



ไอ้พี่แมนเอ๊ย...สกิลการเลือกแฟนของมึงบกพร่องแล้ว~



เพล้ง!



ใครทำแก้วแตกวะ?!



“อีเอ็มมี่!!”



ชัดเลย!



“กรี๊ดดดด พี่แมน!”



พี่ปลื้มปริ่มเด้งตัวออกจากตักเขาแทบไม่ทัน เมื่อได้ยินเสียงแฟนตัวเองเต็มสองหู หลังจากเพลงในร้านมันเงียบไปตั้งแต่เสียงแก้วแตกละ และไอ้แก้วที่ว่ามันก็คือขวดเหล้าที่พี่แมนแม่งคงฟาดลงกับโต๊ะเมื่อกี้นั่นเอง ปากขวดยังคามือมันอยู่เลย แถมเพิ่มความน่ากลัวยกกำลังสองด้วยพี่เงิบกับพี่งอกที่ประกบข้างทำหน้าโหดเหมือนอยากเชือดคนเล่น



“ปลื้มปริ่ม!! มึงจูบกับอีเอ็มมี่เหรอ?!”



“คือ...คือว่า!”



สาวเอกการแสดงละล่ำละลัก จะบอกว่าเปล่าก็ดูจะเป็นการแก้ตัวที่แถเกินไปหน่อย เพราะลิปสติกสีแดงสดจากปากเธอมันยังอยู่บนปากเอ็มอยู่เลย



“ค่ะ...ก็...แบบ เพื่อนสาวไงคะพี่แมน พี่แมนก็รู้นี่หน่าว่าเอ็มมี่เขาเป็นตุ๊ดอ่ะ!”



แม่ง...เมื่อกี้ใครมันยังมั่นใจกับอะไรแท่งๆ ของกูอยู่เลยวะ?



“อ้อเหรอ?”



ไอ้พี่แมนย้อนถามด้วยโทนเสียงที่ฟังออกในปาดเดียวว่าไม่ได้เชื่อถือในตัวแฟนสาวแม้แต่น้อย



“งั้นมึงคงจูบกับอีเมเม่ อีมาม่าได้เหมือนกันสินะ?”



น้องปลื้มปริ่มอ้าปากค้างช็อกตาตั้งไปแล้ว เช่นเดียวกับสองกุมารแฝด และลามมาถึงพี่งอกพี่เงิบที่คว้าแขนไอ้พี่แมนคนละข้างทันที



“กูว่าไม่ดีมั้ง?!”



สองหนุ่มประสานเสียง ซึ่งก็รังแต่จะทำให้จอมเผด็จการหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้นเอง



“มึงเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรแทนพวกมันเนี่ย? ห๊ะ?!!”



หนุ่มหน้าสวยตวาดใส่ลูกน้องเสียงดังลั่นจนต่างคนต่างผงะหนีไปคนละทาง ฝ่ายสองแฝดที่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปหาพี่งอกพี่เงิบแล้วแต่ไม่เป็นผลก็หันมาอ้อนวอนพี่แมนแทน



“พี่ขา...พวกหนูจูบกับชะนีไม่ได้จริงๆ ค่ะ ผื่นมันจะขึ้น”



“ถ้ามึงจูบแล้วผื่นขึ้นกูจะซื้อคาราไมล์ให้ แต่ถ้ามึงไม่จูบ...กูไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่พวกมึงจะเป็นอะไรไปเพราะกูนะ”



ฟังแล้วซึ้งน้ำตาจะไหล ขอแชร์นะคะกันเลยทีเดียว ด้านน้องปลื้มปริ่มก็เลิ่กลั่กๆ ไม่รู้จะทำยังไง พอเห็นพี่แมนเลิกคิ้วเร่งพร้อมควงปากขวดในมือแล้วก็จำใจ หลับตาปี๋ก้มลงไปจุ๊บปากสองแฝดแบบสายฟ้าแล่บคนละทีก่อนจะหันมาแสร้งยิ้มหวานให้แฟนหนุ่ม



“เห็นไหมคะพี่แมน ปลื้มปริ่มไม่ได้คิดอะไรซักหน่อย แหม~ แค่นี้ก็ต้องหึงกันดั้วะ!”



น้องปลื้มปริ่มถลันเข้ามาเกาะแขนพี่แมนอย่างออดอ้อน ฝ่ายพี่แมนก็ยิ้มหวานหยดเยิ้มตอบให้สาวเจ้าได้ยิ้มกริ่มในใจว่าเกิดเป็นผู้หญิงสวยมันดีเยี่ยงนี้เอง ทำตาแบ๊วพูดเสียงหวานเข้าหน่อย ผู้ชายที่ไหนก็เชื่อหมด!



“ใครหึงมึงครับอีปลื้มปริ่ม? ถ้าจะหึง...กูหึงเมียกูดีกว่าไหมครับ?”



“มะ...เมีย?”



น้องปลื้มปริ่มช็อกตาตั้งรอบสอง เหลือบมองอีเอ็มมี่ที่พยายามเกร็งหน้าเชิ่ดรับตำแหน่งด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ



“ถ้ามึงคิดว่ากูโง่นี่...มึงพลาดแล้วนะครับอีปลื้มปริ่ม มึงคิดว่ากูไม่เห็นเหรอครับ ตอนมึงเลื้อยไปนั่งตักเอานมถูอีเอ็มมี่แล้วกระชากหน้ามันมาจูบปากน่ะ ห๊า?!!”



หญิงสาวยืนตัวสั่นด้วยความกลัว ก็เห็นพี่แมนเสียงหวานๆ ยิ้มใจดี แต่ตวาดทีทำไมกลายร่างเป็นมารร้ายได้ขนาดนี้ล่ะ ยิ่งเห็นแววตาใสๆ ของพี่แมนวาวโรจน์ด้วยความเกรี้ยวกราด ปลื้มปริ่มก็ยกมือไหว้ทั้งน้ำตา



“พี่แมน...หนูขอโทษ”



“กูเกลียดคนไม่ซื่อสัตย์ มึงจะแรดกับใครกูไม่สนใจหรอก ถ้ามึงไม่ใช่แฟนกูนะ เข้าใจไหมคะ ปลื้มปริ่ม?”



“เข้าใจ...ฮึก...ค่ะ”



“ไอ้งอก ไอ้เงิบ มึงพาน้องเขาไปส่งที่หอ พี่ต้องพูดให้ชัดๆ อีกไหมครับ ว่าเราเลิกกันแล้ว?”



“อึก...ค่ะพี่”



พี่งอกกับพี่เงิบพากันประคองน้องปลื้มปริ่มที่น้ำตาไหลพรากออกไป ทิ้งให้พี่แมนยืนจ้องหน้าอีเอ็มมี่อย่างไม่คิดจะปล่อยให้มันหนีความผิดกลับหอไปได้ง่ายๆ



“กูมีเรื่องต้องเคลียร์กับมึง จะตามกูไปดีๆ หรือต้องให้กูเอาขวดเหล้าตีหัวแล้วลากมึงออกไป?”



โหดชิป...



คนโดนขู่ที่ชักจะเริ่มชินคว้าทิชชู่มาเช็ดลิปสติกสีสดบนปากออกลวกๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาที่นั่งอยู่ ทันทีที่ยืน ไอ้พี่แมนก็ทิ้งขวดแตกในมือเปลี่ยนมาคว้าแขนเขาลากแถ่ดๆ ออกไปโดยไม่มีใครกล้าตามไปดูแม้ต่อมเสือกจะเต้นยิกๆ กันก็ตามที



อีเอ็มมี่ยิ้มกริ่ม มองแขนตัวเองที่ถูกลากอย่างหน้าชื่นพร้อมเดินตามแรงดึงมหาศาลนั้นไปอย่างว่าง่ายจนไปถึงที่ลับตาคน นี่พี่แมนเขาคงไม่ได้ล่อลวงกูมาฆ่าหมกป่าใช่ไหม?



ผัวะ!



นึกยังไม่ทันขาดคำ หมัดขวาตรงก็พุ่งมาเข้าเบ้าตาซ้าย นักศึกษาหนุ่มเอกกีตาร์เซถอยไปสองก้าวก่อนจะสะบัดหัวไล่ความมึน



“มึงก็รู้ว่าปลื้มปริ่มเป็นแฟนกูอยู่ มึงทำอย่างนี้ไม่หยามหน้ากูไปหน่อยเหรอวะ?”



“หยามอะไรล่ะพี่ พี่ก็เห็นว่าพี่ปลื้มปริ่มเขาจูบผมก่อนอ่ะ”



“แล้วกูก็เห็นด้วยว่ามึงเคลิ้มแล้วก็จูบตอบมัน!”



ชายเอ็มถึงกับสะอึก แก้ตัวไม่ออก ก็แบบ...ผู้หญิงเขามีประสบการณ์ ก็จูบเก่งง่ะ ก็เคลิ้มจิ... ยิ่งเห็นใบหน้าหวานของรุ่นพี่สุดโหดฉาบไปด้วยความโกรธ อีเอ็มมี่ก็ยิ่งรู้สึกเฟล...ไม่ได้เฟลที่ถูกโกรธ...แต่เฟลที่ถูกโกรธเพราะพี่แมนหึงผู้หญิงคนนั้นต่างหาก



“เมื่อกี้ทำเป็นพูดจาใจร้าย ที่จริงพี่รักเขามากอ่ะดิ่ ถึงได้หึงหน้ามืดแบบนี้อ่ะ!”



อีเอ็มมี่สะบัดเสียงประชดอย่างไม่รู้ตัว ส่วนไอ้พี่แมนก็เหยียดปากอย่างรังเกียจความคิดที่ไม่สร้างสรรค์ของคนเป็นรุ่นน้อง



“ถ้ากูหึงมันจริง มึงตายคาตีนกูไปแล้วอีเอ็มมี่! ปลื้มปริ่มมันเป็นแฟนกู เป็นของของกู กูก็ต้องหวงของเป็นเรื่องธรรมดา คนอื่นเขาจะมองกูยังไงที่ปล่อยให้ของๆ ตัวเองไปนั่งดูดปากกับตุ๊ดอย่างมึง!”



อธิบายจบ พี่แมนก็ทำหน้าเหวอ เพราะแทนที่อีตุ๊ดถึกมันจะสลดเพราะถูกด่า มันกลับยิ้มระรื่นหน้าบานเหมือนหลินปิงได้กินไผ่



“จริงนะ? แค่หวงของจริงๆ นะ ไม่ได้รักเขาใช่ป่ะ?”



“กะ...ก็ใช่สิ มึงจะเขยิบมาทำไม...อื๊อ~~~ ”



โดยที่ไม่ปล่อยให้พี่แมนตั้งตัว น้องเอ็มมี่ปราดเข้าไป มือนึงรวบเอวมือนึงประคองต้นคอไว้แล้วประทับจูบเน้นๆ ดังจ๊วบลงไปอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบผละออก



“อันนี้ของแฟนพี่...ผมคืนให้”



“มึงทำเหี้ยอะ...อื้อ~!!”



ปากบางๆ ถูกประทับจูบอีกรอบ คราวนี้อีเอ็มมี่ส่งลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดในโพรงปากหวานๆ อย่างซุกซน ปลายลิ้นเล็กถูกบังคับให้ตอบสนองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สติทั้งหมดทั้งมวลถูกล้างหายไปจนสมองว่างเปล่า มือขาวๆ ของพี่แมนได้แต่ยันไว้ที่ไหล่หนาสองข้างของรุ่นน้องอย่างระทดระทวย คนถูกปล้ำจูบไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เพราะแรงต้านก็ไม่ค่อยมี เหมือนสมองมันเบลอๆ ไปหมด รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อีกฝ่ายนึกสงสารเขาที่ปากเริ่มบวมช้ำเลยเม้มดูดกลีบปากหนักๆ เป็นการส่งท้ายก่อนจะถอยห่างออกไป



“ส่วนอันนี้ของผม...ช่วยรับไว้ด้วยนะครับ”






โปรดติดตามแอ๊บต่อไป



#แอ๊บรัก


หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ / แอ๊บที่ 3: จูบนั้นคืนสนอง / p. 1 / (8 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 08-07-2017 12:03:12
555555 อีเอ็มมี่ หลอกจูบสามีหรอลูก
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ / แอ๊บที่ 3: จูบนั้นคืนสนอง / p. 1 / (8 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 08-07-2017 12:37:57
หลังจูบอาจโดนตืบได้
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ / แอ๊บที่ 3: จูบนั้นคืนสนอง / p. 1 / (8 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 08-07-2017 13:03:10
เอ็มมี่จับพี่แมนทำเมียเลยค่ะลูกกก  :hao6:
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ / แอ๊บที่ 3: จูบนั้นคืนสนอง / p. 1 / (8 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 08-07-2017 15:47:52
โอ๊ยยยยยยย เอ็มมี่ลูกค่ะ ทำอะไรลงไปละนั่น ได้ใจอ่ะ
พี่แมนระทวยด้วอ่ะ ปลื้มปริ่มค่ะ ฮ่าๆๆๆ น่ารักน่าฟัดมาก อิอิ พรุ่งนี้มาต่ออีกได้มะ

แอบสงสัย พี่งอกพี่เงิบต้องติดใจอะไรกับยอดแฝดกุมารแน่ๆๆๆ ดูเป็นเดือนเป็นร้อน ชัวร์ ต้องใช่แน่ รอลุ้นต่อ อิอิ
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ / แอ๊บที่ 3: จูบนั้นคืนสนอง / p. 1 / (8 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: PAtxxkMxxn ที่ 08-07-2017 15:59:30
กดเลย~~
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ / แอ๊บที่ 3: จูบนั้นคืนสนอง / p. 1 / (8 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 12-07-2017 19:51:06
แอ๊บที่ 4: เป็นตุ๊ดก็อย่าโชว์แมนสิ



Oh baby ฉันรักเธอเท่านั้น
ใต้แสงจันทร์มีเพียงเราสอง
นั่งมองแสงดาวที่พรั่งพราว
บนฟ้าไกลไปด้วยกัน
เปรียบดั่งความฝันในเวลานี้
เมื่อฉันมีเธออยู่แนบชิดกาย
ด้วยสายตาและสัมผัสด้วยรักที่เรามีให้กัน
โอ้ฉันจะจูบเธอ






โครม!!



เสียงเพลงเนื้อหาน่ารักที่ถูกแปลงมาเป็นจังหวะสามช่าด้วยฝีมือพี่งอกพี่เงิบและคณะถูกขัดด้วยการใช้ตีนยันโครมเข้าที่กลางหลังพี่งอกจนกระเด็นไปนอนปั๊กกะป้าบอยู่กลางวง สมุนโดยรอบลุกฮือด้วยความตกใจ ไม้เม้อที่เอามาเคาะโต๊ะเคาะเก้าอี้ประกอบจังหวะเมื่อครู่กระเด็นหายไปคนละทาง



“แมน...มึงถีบกูทำไมเนี่ย?”



พี่งอกถามด้วยหน้าตาเหวอสุดขีดด้วยไม่เข้าใจความผิดของตัวเอง ฝ่ายคนถีบก็หวีดเสียงกลับด้วยความโมโหแบบยั้งไม่อยู่เช่นกัน



“ก็กูไม่ชอบเพลงนี้นี่!! มึงอย่าร้องให้กูได้ยินอีกนะ!”



สั่งอย่างไร้เหตุผลและที่มาที่ไปเสร็จ แกนคณะหน้าสวยก็ก้าวฉับๆ หนีไปท่ามกลางสายตามองตามปริบๆ ของลูกสมุนทั้งกลุ่ม



“สงสัยแม่งจะไม่ชอบเพลงนี้จริงๆ ว่ะ เมื่อกี้แม่งโกรธจนหน้าแดงเลยนะ”



พี่เงิบช่วยพยุงพี่งอกขึ้นจากพื้นแล้วตบไหล่ปลอบเพื่อนที่มีเครื่องหมายปริศนาอยู่บนใบหน้าไม่หายว่ากะอีแค่ร้องเพลงอยู่ดีๆ ทำไมกูโดนถีบร่วงไปกองกับพื้นได้วะ



“ไอ้แมนมันเพิ่งเลิกกับแฟน มึงไปร้องเพลงรักก็ระคายหูมันสิวะ มึงนี่!”



“เออ...จริงด้วยว่ะ!”



.

.

.



“นายเอกภพ ทำไมเธอถึงใส่แว่นกันแดดในคลาสฉันล่ะ?”



เพื่อนในเซควิชาบังคับภาษาอังกฤษจากหลากหลายคณะสะบัดหน้ามองแถวหลังสุดอย่างพร้อมเพรียง เป้าสายตากระตุกมุมปากยิ้มอย่างกวนบาทาก่อนจะเอ่ยตอบอาจารย์มากวัยวุฒิด้วยน้ำเสียงยียวน



“จะใส่หรือจะถอดมันก็เหมือนกันล่ะครับ อาจารย์”



“มันจะเหมือนกันได้ยังไงยะ? ถอดเดี๋ยวนี้!”



เอกภพยักไหล่อย่างเอาไงเอากัน ก่อนจะใช้สองมือจับขาแว่นเรย์แบนทรงเท่ห์แล้วค่อยๆ ถอดออกอย่างช้าๆ  เผยใบหน้าหล่อคมที่ทำเอาคนทั้งห้องอ้าปากค้าง เนื่องจากรอบเบ้าตาทั้งสองข้างของสุดหล่อเอกกีตาร์เป็นวงช้ำขนาดเดียวกับแว่นตาที่ถอดออกเมื่อครู่เป๊ะ! ชายเอ็มยิ้มให้อาจารย์อีกครั้งแทนคำว่า ผมบอกแล้วไงครับว่าเหมือนกัน



“เอ่อ...ใส่ไว้เถอะจ้ะ”



“ขอบคุณครับ”



ทีแรกนายเอกภพว่าจะใส่แว่นคืนแบบปกติ แต่พอเห็นเพื่อนๆ ยังสนใจใบหน้าหล่อๆ ของเขาไม่วางตาก็เลย...



“โอ๊ย!”



“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”



มุขขาแว่นทิ่มตาให้ฮาครืนจึงปรากฏแกสายตาเพื่อนพ้องน้องพี่ในเซคไปให้ได้ผ่อนคลายกัน จะมีก็แต่สองแฝดคนสวยเพื่อนซี้เท่านั้นที่นั่งทำหน้าเหมือนอมบอระเพ็ดมาตั้งแต่เช้า



“อีเอ็มมี่...กูถามจริงๆ นะ”



“ว่าไง?”



คนถูกถามยังคงมีรอยยิ้มพรายบนใบหน้าอยู่ตลอดเวลาจนสองสาวชักแน่ใจในความคิดของตัวเอง



“เมื่อคืนพี่แมนให้มึงพี้กัญชาใช่ไหม?”



“หึหึ เปล่า”



“เปล่าบ้าอะไร! มึงโดนต่อยตาเขียวอมม่วงเป็นหางนกยูงมาแล้วยังยิ้มกริ่มได้ทั้งวันนี่เข้าขั้นบ้าแล้วนะอีเอ็มมี่!!”



“ก็กูมีความสุข กูเลยยิ้มไง”



“โว๊ะ!”



เมื่อเห็นว่าวันนี้คงคุยภาษาเดียวกันไม่รู้เรื่องแน่แล้ว กุมารแฝดทั้งสองจึงหันไปสนใจกับวิชาเรียนต่อ ทิ้งให้เพื่อนชายนั่งยิ้มเพ้ออย่างสุขอันหาที่เปรียบมิได้ของมันต่อไปคนเดียว



หลายคนอาจจะสงสัยว่าอีเอ็มมี่ไปได้อายแชโดว์สีธรรมชาตินี้มาประดับเบ้าตาได้อย่างไร ย้อนไปคืนวันที่ไอ้พี่แมนล่อลวงเขาไปทำมิดีมิร้ายสองต่อสองคืนนั้น หมัดแรกเข้าตาซ้ายสาเหตุมาจากแฟนเขามาจูบผม ส่วนหมัดที่สองสาเหตุคล้ายๆ กันแต่เปลี่ยนตัวละครนิดหน่อย เพราะผมดันไปจูบแฟนของแฟนเขา...พูดให้งงไปงั้นเอง จริงๆ ก็เพราะผมจูบเขานั่นแหละ แต่เหม่...เจ็บตัวแล้วคุ้มก็พร้อมยอมพลีนะครับ



จากนี้...ผมจะเป็นฝ่ายรุกบ้างล่ะนะครับ ไอ้พี่แมน!



.

.

.





การซ้อมเชียร์ดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็นทุกวัน แต่ถึงมันจะเป็นการผลาญเรี่ยวแรงให้เหนื่อยล้าเพียงใด แต่พอได้เห็นสามีที่รักเดินผ่านไปผ่านมาอยู่ด้านหน้า อีเอ็มมี่ก็รู้สึกมีกำลังใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งยามที่ได้แอบขยิบตาให้พี่ท่านยามที่เธอเหลือบมองมา และได้รับการตอบสนองอย่างแสนรักด้วยนิ้วกลางเรียวยาวนั่นก็ยิ่งทำให้กะเทยพันธุ์เทียมอารมณ์ดีเข้าไปใหญ่



อีเอ็มมี่ได้ทีจึงแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองช้าๆ เน้นๆ สะกิดความทรงจำแสนหวานให้พลุ่งพล่าน และดูเหมือนจะได้ผลทันทีเพราะไอ้พี่แมนตาลุกวาวอย่างสามขุมมาหาพร้อมตีหน้ายักษ์



“อีเอ็มมี่ มึง!!”



“เห้ย! อะไรวะไอ้แมน?”



พี่งอกพี่เงิบถลาเข้ามาประกบตัวเพื่อนก่อนที่มันจะยกตีนถีบยอดหน้าอีตุ๊ดคู่อริไปเสียก่อน อย่างไรเสียอีเอ็มมี่มันก็ซ้อมเชียร์อยู่ ถ้าเพื่อนแมนอาละวาดตอนนี้งานได้เสียกันหมด



“ก็มึงดูมันสิ!”



“ก็แล้วมันทำอะไรมึงเล่า?!”



“ก็มัน…!”



ไอ้พี่แมนได้แต่อ้าปากพะงาบๆ อย่างนั้น ไม่มีเสียงใดหลุดออกมา ในขณะที่อีตุ๊ดตัวดีก็ทำหน้าตายั่วเย้าประมาณว่า “แน่จริงพี่ก็พูดสิครับ พูดออกมาเลย!”



“โถ่เว่ย!!”



พี่แมนสบถดังลั่นก่อนจะสลัดแขนเพื่อนเดินดุ่มๆ ออกไปสงบสติอารมณ์นอกโรงยิม ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยรู้สึกโมโหใครแล้วระบายออกไม่ได้แบบนี้มาก่อนเลย คิดแล้วก็หงุดหงิดได้แต่ใช้หลังมือถูปากจนแทบถลอก



“คอยดูนะอีเอ็มมี่ กูจะเอาลิปสติกแช่น้ำกรดแล้วทาปากมึง!”



หัวฟัดหัวเหวี่ยงแช่งชักหักกระดูกอีกะเทยจีนแดงไปได้สักพัก ดวงตากลมโตของรุ่นพี่ปี 4 แห่งสถาปัตย์ก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างบนต้นไม้ ก่อนที่รอยยิ้มร้ายจะผุดที่มุมปากสวย



“กูว่าไม่ต้องพึ่งน้ำกรดแล้วล่ะ อีเอ็มมี่”



ไอ้พี่แมนที่อารมณ์เริ่มดีขึ้นมานิดหน่อยเดินกลับเข้าไปด้านในโรงยิมแล้วกระซิบกระซาบกับลูกน้องให้ไปจัดการตามที่สั่งก่อนหันไปหาคู่กรณีที่ยังยิ้มชื่นมื่นส่งมาให้โดยไม่รู้ว่ากำลังจะถึงคราวซวย พี่แมนเธอเลยยิ้มหวานแบบที่น้ำตาลยังอายส่งกลับไปให้อีเอ็มมี่ผวาเยือกอย่างมีลางสังหรณ์



เอ๊ะ? หรือพี่แมนแม่งจะมีใจ?



อีเอ็มมี่ยิ้มกริ่มหลอกตัวเองทั้งที่ขนคอลุกชันด้วยหวังจะเตือนภัยบางอย่าง แต่กระนั้นกะเทยโง่ก็ยังเลือกที่จะคิดเข้าข้างตัวเองต่อไปอย่างเป็นสุขจวบจนกระทั่งจบสิ้นการซ้อมของวันนี้



“อีเอ็มมี่ มึงอยู่คุยกับกูก่อนนะ”



“พี่แมนมีอะไรเหรอคะ?”



“ไม่ใช่เรื่องของพวกมึงครับ อีกุมาร กลับหอไปได้แล้วไป!!”



สองกุมารแฝดเกาะแขนเพื่อนรักคนละข้างก่อนจะทำใจดีสู้เสือเชิดหน้าใส่พี่แมนอย่างไม่กลัวเกรงเพราะรู้แน่ว่าไอ้พี่แมนมันไม่คิดจะพาอีเอ็มมี่ไปหากิจกรรมดีๆ ทำอย่างแน่นอน



“ไม่ค่ะ! อีเอ็มมี่ต้องกลับไปพร้อมพวกหนู”



เมเม่ต่อปากต่อคำ อนึ่งเพราะตอนนี้เหลือพี่แมนอยู่ในยิมแค่คนเดียว สมุนงอกเงิบและคณะไม่ได้อยู่ข้างกายเช่นทุกที 3 ต่อ 1 ยังไงก็ได้เปรียบล่ะวะ ไอ้พี่แมนไหวไหล่เบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นเกี่ยวม้วนปอยผมด้วยท่าทางสุดแอ๊บ



“ก็ว่าจะหาเวลาคุยเรื่องผัวๆ เมียๆ กันสองต่อสองซะหน่อย”



ปิดท้ายด้วยการทิ้งหางตาอ้อนๆ ใส่อีเอ็มมี่ เท่านั้นแหละ ตุ๊ดโง่ๆ ก็หางกระดิกเป็นหมาเห็นเจ้าของ ยิ้มค้างน้ำลายแทบหยดแหมะๆ พอรวบรวมสติได้อีเอ็มมี่ก็ตีหน้าหล่อหันไปหาเพื่อนสาวทั้งสองทันที



“พวกมึงกลับไปพักผ่อนเถอะ กูดูแลตัวเองได้”



“ห๊ะ? มึงเอาจริง”



“จริง กูว่าพี่แมนคงมีเรื่องอยากคุยกับกูจริงๆ ล่ะ พวกมึงไปเถอะ ไปๆๆ”



ไม่ว่าเปล่า อีเอ็มมี่ยังรุนหลังเพื่อนออกจากโรงยิมก่อนจะโบกมือบ๊ายบายท่ามกลางความเอ๋อของสองกุมารที่จูงมือกันกลับหอไปอย่างงงๆ



“พี่แมนมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ?”



แหมะ! ทำท่าเขินอายแบบนี้จะเป็นอะไรไปได้นอกจากสารภาพรัก? ตอนม.ต้น กูอ่านหมึกจีนทุกวันเว่ย! กูรู้!!



“ไปหาที่เงียบๆ คุยกันดีกว่า”



ไม่ใช่เพียงเสียงหวานๆ แต่พี่แมนเธอยังยิ้มสดใสพร้อมจูงมืออีเอ็มมี่ไปด้วย โอ๊ย~ เคลิ้มว้อย~!! แล่ว แล่ว แล่ว แล่ว...เขาต้องติดใจจูบกูแน่ๆ ใช่แน่ๆ! ไม่ต้องเสียตังค์ทำนมแล้วเว่ย!



อีเอ็มมี่เดินตามพี่แมนมาด้วยความฟินยิ่งนัก แต่ยังไม่ทันฟินจนสุด กะเทยเทียมก็ถูกพี่งอกพี่เงิบประกบซ้ายขวาแล้วรวบตัวไปผูกติดไว้กับต้นไม้เสียก่อน



เอ๊ะ! สถานการณ์คุ้นๆ…



อีเอ็มมี่มองสมุนหนึ่งกองทัพเต็มของไอ้พี่แมนด้วยหน้าตาเหรอหรา ก่อนจะหันขวับไปถามตัวการที่นั่งไขว่ห้างบนกระป๋องสีใบใหญ่อย่างมีมาดเสียงระรัว



“ไหนพี่แมนบอกจะคุยกันสองต่อสองไง?”



คนถูกถามจุ๊ปากช้าๆ อย่างกึ่งเอ็นดูกึ่งสมเพช



“โถๆ...อีสมองกอริล่าปัญญาสมเสร็จ! มึงคิดว่ากูจะพิศวาสอะไรมึงนัก? หื๊มม์~!!”



“พี่หลอกผมมาทำไม? พี่จะทำอะไรผม?”



“ไอ้เงิบ จัดการเด๊ะ!”



พี่เงิบย่างสามขุมเข้าหาเหยื่อพร้อมด้วยขวดน้ำผึ้งในมือก่อนจะใช้ของเหลวหนืดเหนียวดังกล่าวชโลมบนปากสวยๆ อมชมพูของอีเอ็มมี่อย่างประณีตงดงาม ฝ่ายคนโดนราดก็ร้องอู้อี้ไปอย่างไม่เป็นศัพท์



“ไอ้งอก มึงพร้อมนะ?”



พี่แมนตะโกนถามสมุนที่ปีนอยู่บนบันไดลิงที่พาดไว้กับต้นไม้ พี่งอกแกว่งไม้หน้าสามในมือโชว์สกิลดรัมเมเยอร์เก่าก่อนจะส่งสัญญาณโอเคให้ลูกพี่แล้วง้างไม้



“เฮ้ย! เดี๋ยว!!”



อีเอ็มมี่ถอนใจโล่งเมื่อไอ้พี่แมนส่งเสียงห้ามการกระทำของพี่งอกได้ทัน เค้าต้องเมตตาสงสารกูเป็นแน่แท้~



“ให้กูหนีก่อนดิ่”



พูดแล้วพี่แมนก็วิ่งดุ๊กๆ ไปตั้งหลักห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตรก่อนจะส่งสัญญาณให้ไอ้พี่งอกเหวี่ยงไม้ดังใจ ฝ่ายอีเอ็มมี่ก็ได้แต่ส่งสายตาเว้าวอนไปหา แล้วกูล่ะครับพี่?



ผัวะ!!



“เหี้ย!”



พี่งอกสบถก่อนกระโดดลงมาจากบันไดแล้ววิ่งหนีอุตลุตไปทางเดียวกับเพื่อนด้วยความไวแสง หลังจากใช้ไม้หน้าสามทลายรังผึ้งหลวงรังใหญ่ให้แตกกระเจิงได้ ไอ้คนที่มีขาวิ่งเร็วมันก็พอหนีรอด แต่ไอ้คนที่ถูกผูกติดกับต้นไม้แถมราดน้ำผึ้งล่อไว้อีกนี่น่าสงสารเกินทน



ที่สำคัญคือกูอยากจะด่าผัวรักที่แม่งยืนขำน้ำตาไหลกับความเจ็บปวดของกูเป็นอย่างมาก แต่เข้าใจไหมว่าอ้าปากไม่ได้? ต่อยปากก็พอว่า แต่งถ้าแม่งบินเข้ามาต่อยลิ้นชาตินี้ก็ไม่ต้องแดกอะไรกันละ!



“หึหึหึ ดูซิว่ามึงยังจะกล้าจูบกูอยู่อีกไหม?”



ปิดท้ายความสยดสยองของค่ำคืนนี้ด้วยเสียงของมารร้ายที่ไม่มีใครได้ยิน หึหึ!



.

.

.



“เอ็มมี่...ไม่สบายเหรอจ๊ะ?”



สุดหล่อประจำคณะศิลปกรรมศาสตร์หันไปพยักหน้าให้เพื่อนผู้หญิงที่เข้ามาถามไถ่อาการอย่างรู้สึกขอบคุณ เธอใช้มือตบไหล่เพื่อนร่วมคณะเบาๆ เมื่อเห็นว่าเอ็มมี่คงเจ็บคอมากจนตอบรับเธอด้วยเสียงไม่ได้ ดูจากผ้าปิดปากที่ใส่มาแล้วก็เดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นหวัด



“หายเร็วๆ ละกันนะ”



อวยพรจบเธอก็เดินจากไปกับกลุ่มเพื่อนๆ ทิ้งให้เอ็มนั่งตรอมตรมช้ำชอกอยู่ข้างสองแฝดที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำมื้อเย็นอย่างไม่คิดสงสารคนกินอะไรไม่ได้



“ไม่ต้องมามองกูอย่างนั้นเลย พวกกูเตือนมึงแล้วนี่ เชื่อกันไหมล่ะ? นี่ถ้าไม่โง่จริงไม่โดนพี่แมนหลอกได้นะคะ กูจะบอก”



เอ็มฟังเพื่อนทับถมแล้วก็ได้แต่ทำหน้าเป็นตูดเพราะเถียงอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งท้องร้องมองเพื่อนสวาปามของโปรดจนหมดก่อนจะเก็บข้าวเก็บของเดินทางไปยังโรงยิมเพื่อซ้อมเชียร์กันตามกิจวัตร



วันนี้โรงยิมดูคึกคักกว่าปกติเพราะมีการเอาไม้แผ่นมาตั้งพิงเรียงกับผนังหลายแผ่นเพื่อเริ่มร่างคัทเอาท์ อีกฝั่งหนึ่งของโรงยิมไอ้พวกพี่งอกและคณะที่ไร้งานทำก็เอาวอลเลย์มาเล่นลิงชิงบอลอย่างสนุกสนาน อย่างที่รู้กันว่าอีสองคณะนี้ก็หัวศิลป์กันทั้งคู่ แสตนด์แม่งต้องออกมาไม่ธรรมดาฟอร์ชัวร์ ไอ้พี่แมนก็ยืนคุมรุ่นน้องชี้นู่นชี้นี่ให้รุ่นน้องที่กำลังวาดๆ แก้ไปตามประสาเฮดใหญ่ พอมันหันมามอง อีเอ็มมี่ก็สะบัดหน้าเชิ่ดให้รู้กันไปเลยว่า กูงอนนะ กูงอนมาก กูเป็นเมียมึงนะมึงทำกับกูอย่างนี้ได้ไง? ฝ่ายไอ้พี่แมนพอเห็นผ้าปิดปากพาดมาครึ่งหน้าหล่อๆ ก็อมยิ้มกวักมือเรียกไปหาหยอยๆ



กูไม่ได้ใจง่ายอะไรนะ แต่ขาแม่งพาเดินไปหาเขาอย่างว่าง่าย ก็เขายิ้มน่ารักนี่หว่า...คิดแล้วแซด นิสัยแม่งนรกขัดกับใบหน้าจริงๆ



“เปิดหน้าให้ดูหน่อยดิ”



อีเอ็มมี่ส่ายหัวหงึก ซึ่งไอ้พี่แมนก็หน้าหงิกทันที



“เปิดดิ่!!”



พอเขาเสียงแข็งเข้าหน่อย อีเอ็มมี่ก็หันหลังให้เพื่อนบนแสตนด์อย่างอายๆ ก่อนจะค่อยๆ ถอดผ้าปิดปากออกเผยให้เห็นริมฝีปากบวมโป่งที่ขยายขนาดขึ้นมากกว่าปกติถึงสิบเท่า เป่งขนาดที่ว่านึกว่าใครเอาที่สูบลมจักรยานมาเสียบเข้าไป



“อะคึคึคึคึคึคึ”



มึงขำเปิดเผย กูยังเจ็บปวดน้อยกว่านี้อีกครับ ไอ้พี่แมน



อีเอ็มมี่ทำหน้าเซ็งกับการกลั้นขำน้ำตาเล็ดของรุ่นพี่ ดูแม่งจะมีความสุขมากจริงๆ เวลาเห็นกูเจ็บปวดทุกข์ทรมานเนี่ย!



“อะอกอ้ากอ๋อ? (ตลกมากหรอ?)”



“มาก!”



ไอ้พี่แมนตอบเสียงมั่นใจ ใส่สีหน้าการันตี พาลทำให้อีเอ็มมี่เฟลยิ่งกว่าเดิม



“อึงแอ้งเอี้ย (มึงแม่งเหี้ย)”



“เหี้ยกับมึงคนเดียวแหละ”



มันเป็นคำบอกรักภาษาสถาปัตย์ใช่ไหมครับ? ใครก็ได้บอกกูที...



“ทีหลังอย่าจูบกูโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก ใจป่ะ?”



“แออ้า”



“แฟซ่า?”



“แออ้า!! (แปลว่า!!)



เอ็มรีบแก้คำพลางนำประโยคก่อนหน้าของรุ่นพี่มาวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว...เร็วเท่าที่สมองน้อยๆ ของมันจะทำได้



“อ้าอี้อะอุ๊อ้าด อ๋มอูบไอ้ไอ้อ่ะ? (ถ้าพี่อนุญาต ผมจูบได้ใช่ป่ะ?)”



“แล้วมึงคิดว่ากูจะอนุญาต?”



พี่แมนเธอรีบดับอณูความฟินของอีเอ็มมี่ที่เริ่มก่อตัวโดยพลัน ใบหน้างามๆ เบ้เบาๆ แล้วส่ายหน้าประหนึ่งอ้าปากด่าว่า มึงคิดได้?



“ไอ้แอ้อ่ะ (ไม่แน่อ่ะ)”



ไอ้พี่แมนหัวเราะ ก่อนจะยกมือที่กอดอกอยู่เมื่อครู่ตบแก้มอีเอ็มมี่เบาๆ อย่างเอ็นดู



“มึงอยากเป็นเมียกูจริงๆ ดิ?”



แหมะ! อันที่จริงก็ไม่ใช่แบบนั้น แต่ขนาดเขาเข้าใจว่ากูอยากเป็นเมียเขา ปากกูยังบวมอย่างกับใช้โฟโต้ชอปขนาดนี้ ถ้ากูพูดความในใจไปว่าอยากได้เขาเป็นเมียมากกว่านี่คาดว่าอีเม่อีม่าคงจองวัดให้กูได้เลย



เอ็มจึงเลือกที่จะพยักหน้ารับคำไป ให้มันตามน้ำไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปแก้ไขทีหลัง



“จริงจัง?”



กะเทยมิเรอร์พยักหน้ายืนยันอีกครั้ง



“ทั้งที่รู้ว่ากูเกลียดตุ๊ดอ่ะนะ?”



ก็จริงๆ กูไม่ใช่ตุ๊ดไง... นี่บอกที่บ้านว่ามันเป็นการแสดงนะเนี่ย!



“อีเอ็มมี่ มึงฟังกูนะ กูชอบผู้หญิง และกูก็คงไม่มีวันชอบตุ๊ดอย่างมึงหรอก ถ้ามึงไม่ได้ล้อกูเล่นอยู่เนี่ยนะ มึงก็ตัดใจซะเหอะ”



คนถูกปฏิเสธซึ่งหน้าสลดลงเล็กน้อยก่อนจะมองจ้องเข้าไปในดวงตาใสๆ ของพี่แมนด้วยความซื่อตรงที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะมอบให้คนที่ชอบได้



“อ้ออ้อบไอแอ๊วอิงอิงอี้... (ก็ชอบไปแล้วจริงๆ นี่...)”



พอเห็นภาพหมาถูกเจ้าของไม่ให้เข้าบ้านตรงหน้าแล้ว พี่แมนก็รู้สึกเก้อเขินอย่างบอกไม่ถูก มันชวนให้ทำอะไรสักอย่าง ให้ต้องสนใจ ให้ทิ้งไปไม่ได้ ถ้ามันเป็นหมาที่ขอเจ้าของเข้าบ้านจริงๆ อีกไม่นานเจ้าของมันต้องมาเปิดประตูให้แน่ๆ แต่นี่มันเป็นตุ๊ดที่มาขอเป็นเมียกู... แล้วไงล่ะเนี่ย?



“เฮ้ย! ไอ้แมน ระวัง!!”



เป็นเพราะกำลังสับสนกับความคิดเรื่องหมาๆ คนๆ อยู่ พี่แมนจึงตอบสนองต่อเสียงเตือนช้ากว่าปกติ กว่าจะรู้ตัวลูกวอลเลย์ของพวกไอ้งอกไอ้เงิบก็กระทบฉากไม้ให้เอียงทับลงมาแล้ว ไอ้พี่แมนยกมือป้องหัว หลับตา และล้มลงหลังกระแทกพื้นตามแรงทับหนักอึ้งของไม้ ดวงตากลมใสค่อยๆ ลืมขึ้นเมื่อทุกอย่างสงบลง เขาได้ยินเสียงโหวกเหวกและฝีเท้าของคนอื่นๆ รู้สึกถึงแรงกดทับที่หนักมากจนลุกไม่ขึ้น และลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดมาตรงข้างแก้ม



“อี...เอ็มมี่?”



พอรู้ว่าเป็นใคร พี่แมนก็เขย่าแขนเรียก แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะสลบไปแล้ว ดูจากระยะที่ยืนเมื่อครู่พี่แมนก็รู้ได้ว่าอีตุ๊ดนี่มันถลาเข้ามาเอาตัวบังเขาไว้แน่ๆ



“เป็นตุ๊ดเสือกโชว์แมน โง่เอ๊ย!”



พี่แมนพยายามทั้งเรียกทั้งเขย่าแต่อีเอ็มมี่ก็ไม่ตื่น เขาจะลุกเองก็ไม่ได้ ได้แต่รอให้พวกเพื่อนๆ ช่วยกันยกฉากออกจากตัวพวกเขาทั้งคู่ไปก่อน มือบางคลำๆ ไปที่ท้ายทอยอีกฝ่ายและรู้สึกถึงความแฉะเหนอะของอะไรบางอย่าง แกนคณะยกมือขึ้นส่องกับแสงไฟที่ลอดเข้ามาก่อนจะเบิ่งตากว้างเมื่อพบว่าของเหลวสีแดงบนมือนั่นคือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมีในร่างกาย



“อีเอ็มมี่!!”



โปรดติดตามแอ๊บต่อไป

#แอ๊บรัก
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 4: เป็นตุ๊ดก็อย่าโชว์แมนสิ (up 12 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 12-07-2017 20:22:51
พี่แมนเริ่มเป็นห่วงเอ็มมี่แล้ววุ้ยยย

พี่แมนเป็นเคะใช่มั้ยคะ ต้องเป็นนะ อยากเห็นพี่แมนโดนกด 55555
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 4: เป็นตุ๊ดก็อย่าโชว์แมนสิ (up 12 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 12-07-2017 20:50:13
พี่แมนใจร้าย
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 4: เป็นตุ๊ดก็อย่าโชว์แมนสิ (up 12 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 13-07-2017 20:05:07
เอ็มมี่สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 4: เป็นตุ๊ดก็อย่าโชว์แมนสิ (up 12 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 14-07-2017 20:43:17
เสียเลือดรอบนี้ต้องคุ้มซิ
ดอ็มมี่สู้ๆๆๆจับพี่แมนกินให้ได้ อิอิ
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 4: เป็นตุ๊ดก็อย่าโชว์แมนสิ (up 12 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 15-07-2017 09:20:30
แอ๊บที่ 5: ตุ๊ดขึ้นบ้าน



“เย็บสิบสี่เข็ม กระดูกแขนขวาร้าว เข้าเฝือกสองอาทิตย์”



นั่นคือผลสรุปของการทำตัวเป็นกะเทยโชว์แมนของอีเอ็มมี่ที่นอนทำหน้ามุ่ยอยู่บนเตียง หลังจากที่ถูกพี่แมนและคณะพ่วงด้วยสองกุมารหามส่งโรงพยาบาล แพทย์ลงความเห็นว่าอาการของกะเทยหนุ่มไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่นัก จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้



“อี้แอนอ้องอั๊บอิดอ้อบ (พี่แมนต้องรับผิดชอบ)”



“รับผิดชอบเหี้ยไร?”



อีเอ็มมี่เปิดประเด็นระหว่างที่ทั้งคณะพากันเดินออกจากโรงพยาบาล ซึ่งพี่แมนก็สวนกลับทันที นอกจากอีตุ๊ดยักษ์นี่จะไม่สำนึกที่ทำให้เขาไม่ได้กลับหอไปพักผ่อนแล้ว มันยังจะทวงบุญคุณอี๊ก!?



“อ๋มเอื๋อแอ๋นอ้างเอียว อำอะไรอ้ออำอากอ่ะ อาบอ๊ำ แอ่งอัว อินอ้าว โอ๋นอ๊ดอางไอเอียน อำไอ้ไอ้อ่ะ (ผมเหลือแขนข้างเดียว ทำอะไรก็ลำบากอ่ะ อาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว โหนรถรางไปเรียน ทำไม่ได้อ่ะ)”



“มึงเป็นเด็กอนุบาลใช่ไหม? เพื่อนมึงมีก็ดูแลกันไปสิ!”



ไอ้พี่แมนปัดความรับผิดชอบอย่างไม่ไยดี ทั้งสองคนยังเถียงกันต่อไปอย่างงุ้งงิ้งท่ามกลางความงุนงงของไอ้พี่งอกพี่เงิบและคณะ



“กูสงสัยว่าอีเอ็มมี่มันพูดอะไรวะ”



พี่งอกเกาหัวยิกๆ



“กูสงสัยว่าทำไมไอ้แมนแม่งเสือกฟังรู้เรื่องมากกว่า”



พี่เงิบส่ายหัว มองอีเอ็มมี่ที่ทำปากเบะ เชิดหน้าอย่างงอนๆ



“อีเอ้อีอ้าอันไอ้ไอ้อ้นเอดอี้อำไอ้อ๋มแอ๋นอักอั๊กอ่อย (อีเม่อีม่ามันไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้ผมแขนหักสักหน่อย!)”



“อย่ามา! เดี๋ยวกูถีบไปนู่น! กูขอร้องให้มึงพุ่งตัวมารับคัทเอาท์แทนกูรึไง?”



“แอ่อ้าอ๋มไอ้อำอั๊น ไอ้อนอี้อั๋วแอก แอ๋นเอาะอ้อเอ็นอี้ไอ้อ่ะอ่ะ (แต่ถ้าผมไม่ทำงั้น ไอ้คนที่หัวแตก แขนเดาะก็เป็นพี่ใช่ป่ะล่ะ?)”



เดี๋ยวนี้มันสู้เว้ย! ทำไมกูเถียงไม่ทันวะ?



พี่แมนชะงักไป 3 วิฯ เห็นสภาพหัวมีผ้าก๊อซแปะ แขนห้อยรุ่งริ่งแล้ว ต่อมสำนึกผิดก็เต้นตุบๆ



“มึงจะเอายังไง?”



เอ็มเห็นโอกาสรำไรก็หางกระดิกดิ๊กๆ แอบผินหน้ามาลอบยิ้มร้ายคนเดียวก่อนจะตีหน้าเคร่งขรึมอีกครั้งพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเก๊กแมน



“ไอ้อ๋มไออู่อี้อ๋ออี้แอนอนอ่าอะออดเอือกไอ้ไอ๊อ่ะ (ให้ผมไปอยู่ที่หอพี่แมนจนกว่าจะถอดเฝือกได้ไหมล่ะ?)”



“มากไป๊! นี่มึงหาโอกาสปลุกปล้ำกูใช่ไหมเนี่ย?!”



อีเอ็มมี่สะดุ้งหางตรงแด่ว นึกในใจว่าแม่งรู้ทันกูได้ไงวะ? นี่กูไม่ได้แสดงพิรุธอะไรออกไปใช่ไหม? หรือความคิดกูมันไหลออกมาเป็นซับไตเติ้ลให้ไอ้พี่แมนมันอ่าน?



“แอ๊วอี้อัวอูกอ๋มอ้ำอึ๊ไอ อัวอู่ไอ้แอ๊วอั่นไอ๋อ่ะเอะ (...แล้วพี่กลัวถูกผมปล้ำรึไง? กลัวอยู่ใกล้แล้วหวั่นไหวอ่ะเดะ)”



“เอาเล็บขบคิดใช่ไหมเนี่ย? กูเนี่ยนะจะหวั่นไหว ถ้ามึงหน้าสวยมีนมก็ว่าไปอย่าง”



“ไอ้อัวอ้อไอ้อ๋มไออู่อ้วยอิ อิ๊อูดอามแอนไอ (ไม่กลัวก็ให้ผมไปอยู่ด้วยดิ พิสูจน์ความแมนไง)”



หนุ่มหน้าสวยประมวลผลได้ผลเสีย เพราะดูท่าอีเอ็มมี่แม่งจะไม่ล้มเลิกความคิดนี้ง่ายๆ แต่ไอ้เรื่องยอมเสียเปรียบนี่ก็ไม่ใช่นิสัยคนฉลาดอย่างพี่แมนแน่ๆ อย่างน้อยก็ต้องเท่าทุนล่ะวะ



“ก็ได้!”



ตุ๊ดยักษ์แทบจะคว้าปอมๆ มาสะบัดอย่างเริงร่ากับคำอนุญาตจากรุ่นพี่สุดที่รัก ทว่ายังไม่ทันจะได้ดีใจเกิน 5 วิฯ พี่ท่านก็เบรกอาการกระดี่ได้น้ำของมันเสียก่อน



“แต่ถ้าภายในสองอาทิตย์นี้กูไม่หวั่นไหวกับอะไรก็ตามที่มึงพยายามจะทำ มึงต้องเลิกคิดในทางชู้สาว ชู้หนุ่ม หรือชู้ตุ๊ดกับกูโดยเด็ดขาด เข้าใจไหม?”



อีเอ็มมี่พยักหน้ารัวๆ แหม่...ข้อแม้มันก็ไม่มีอะไรเสียหาย ถ้าได้นอนห้องเดียวกันสักสองอาทิตย์ยังไงมันก็ต้องมีใจให้กันบ้างล่ะวะ!



“อ่อ...อีกข้อ ถ้ามึงทำไม่สำเร็จ มึงต้องเป็นของเซ่นอาจารย์ธีระแลกเกรดให้กู”



“ห๊ะ!!”



กะเทยจีนแดงตกใจจนพูดชัดขึ้นมาได้ทันที ไอ้อาจารย์ธีระที่พี่แมนว่าท่านเป็นอาจารย์คนใหม่ประจำคณะสถาปัตย์ ข่าวลือลับที่แพร่ในหมู่นักศึกษาช่วงนี้คืออาจารย์ท่านมีรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกันและสามารถใช้เรือนร่างแลกเกรดได้



“การลงทุนมีความเสี่ยง...ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจ”



แกนคณะปิดท้ายประโยคชวนฉุกคิดด้วยการกระตูกยิ้มร้ายหนึ่งทีให้รู้ว่ากูเอาจริงนะ ฝ่ายคนถูกตั้งเงื่อนไขก็ชักเหงื่อตก ไอ้พี่แมนแม่งโหดเหี้ยมยิ่งนัก จะผลักไสกูไปเป็นเมียคนอื่น!



“อี้แอนแอ้งไออ๊าย...(พี่แมนแม่งใจร้าย)”



“มึงไม่ใช่คนแรกที่พูดอย่างนั้นหรอก จะเอายังไง? กูจะกลับหอไปนอนแล้วเนี่ย ง่วง!”



ตุ๊ดพิการสะบัดค้อนใส่ผัวรักหนึ่งทีอย่างเง้างอดก่อนจะพยักหน้าตกลงในที่สุด ฝ่ายพี่แมนก็ยักไหล่อย่างไม่แคร์ก่อนจะหันไปเรียกพรรคพวกกลับหอ



“อุ้งอี๊อาอั๊บอ๋มอี้อ๋ออ้วยอ๊ะ (พรุ่งนี้มารับผมที่หอด้วยนะ)”



“น้องเอ็มมี่ฝันอยู่รึเปล่าครับ? มีปัญญาก็ขนสัมภาระมาที่หอพี่เองละกัน คืนนี้อย่าลืมแดกยาแก้อักเสบก่อนนอนด้วยนะครับ พี่แมนไม่ได้เป็นห่วง แต่พี่แมนไม่ไหวจะเพลียกับภาษาอ.อ่างของมึงมากแล้วครับ ราตรีสวัสดิ์นะเมียพี่ บาย~”



พี่แมนยิ้มหวานโบกมือลาแบบนางสาวไทย ก่อนจะพาฝูงลูกน้องแว๊นซ์กลับหอกันด้วยความง่วงเต็มทนทิ้งให้อีเอ็มมี่ยืนมองตามตาละห้อยด้วยใจช้ำชอก



“สรุปว่ามึงจีบพี่แมน?”



นายเอกภพหันมายิ้มเจื่อนเท่าที่ปากบวมๆ จะทำได้ให้สองแฝดที่กอดอกคาดคั้นเสียงแข็ง ใบหน้าหล่อพยักหงึกๆ รับคำสอบสวนที่ถูกจับได้คาหนังคาเขาจากบทสนทนาเมื่อครู่ หนุ่มนักดนตรีแอบกลัวว่าเพื่อนจะโกรธที่ไม่ได้บอกเลยเดินไปจิ้มแขนคนละข้างของสองแฝดด้วยท่าทางน่ารัก



“ไม่ต้องมาง้อ กูไม่นึกเลยนะ...”



เอ็มยืนก้มหน้าสำนึกผิดรับคำด่า มึงคงไม่นึกสินะว่ากูจะปิดบังเพื่อนได้ กูขอโทษ~



“กูไม่นึกเลยว่ามึงจะเป็นตุ๊ดอย่างที่พี่แมนเขาด่ามึงจริงๆ”



“ไอ้อี้ไอ๋เอ้า! (ใช่ที่ไหนเล่า!)”



เอ็มแหวดังลั่น นี่ขนาดพวกมึงก็ยังสงสัยในความแมนของกูทั้งที่คบกันมาตั้งแต่แบเบาะเนี่ยนะ? โถ...นี่กูเหมือนตุ๊ดขนาดนั้นเลยเหรอวะ?



“ไม่ใช่อะไร? นี่มึงอย่าบอกนะว่ามึงจะจับพี่แมนทำเมีย? ถุย! ไอ้ง่าว! มึงเอาสมองส่วนไหนคิดเนี่ย!”



“ใช่! มึงเตรียมตัวถวายตูดให้ธีระเหอะ ไป! อีเม่! กลับหอ!”



สองสาวที่ด่าเพื่อนรักสมใจอยากเดินหน้าเชิ่ดหนีไปเรียกแท็กซี่อย่างไม่คิดจะเหลียวมองตุ๊ดป่วยๆ ที่น้ำตาตกในด้วยความเศร้าใจ พี่แมนแม่งใจร้ายกับกูไม่พอ เพื่อนรักเพื่อนซี้อย่างอีสองแฝดยังมาใจร้ายกับกูอี๊ก? เกิดเป็นอีเอ็มมี่นี่ไม่ง่ายจริงๆ!



.

.

.



*ติ๊งหน่อง*



เอ็มบรรจงกรีดนิ้วกดกริ่งหน้าห้องพี่แมนอย่างระริกระรี้ วันนี้เขาขนสัมภาระมาเต็ม กะว่ายังไงต้องได้อยู่นานกว่าสองอาทิตย์แน่นอน อีเมเม่และอีมาม่าที่ช่วยกันขนมาเมื่อครู่ก็รีบชิ่งกลับไปเพราะไม่อยากอยู่มองความน่าสมเพชมากไปกว่านี้ แต่ถึงพวกมันจะพูดอย่างนั้นเขาก็รู้ว่าพวกมันมีน้ำใจและคงตั้งใจจะคอยช่วยเขาจีบพี่แมนอยู่แน่ๆ



*ติ๊งหน่อง*



เอ๊ะ! ทำไมไม่มีใครตอบวะ? หรือว่าเจ้าของห้องมันยังไม่กลับ?



*ติ๊งหน่อง*



“พี่แมนไม่อยู่เหรอคร้าบ~”



“อยู่...แต่กูไม่เปิด”



ชัดเจน...



แม่งทำกูง่อยแดกตั้งแต่นาทีแรกที่มาเหยียบเลยทีเดียว แต่แน่นอนว่าความพยายามของเอ็มย่อมไม่หมดลงง่ายๆ ผู้หญิงเล่นตัวน่ะเขาเจอมาเยอะแล้วเว่ย!



“พี่แมนเปิดหน่อยสิครับ...นะ ข้างนอกยุงกัด ผมตัวลายไปหมดแล้ว”



ชายหนุ่มทำเสียงอ้อนใส่ประตู ไม่อายสายตาเมทร่วมชั้นของไอ้พี่แมนที่เดินผ่านไปมาแล้วทำเสียงหัวเราะคิกคักอย่างจั๊กจี้แทน



“อีเอ็มมี่ กูขนลุก!”



“ขนลุกเพราะคิดถึงเมียใช่ไหมล่ะ? เมียมาหาแล้วก็เปิดประตูให้หน่อยสิครับ คนมองใหญ่แล้วนะ...ผัวครับไม่อยากเห็นหน้าเมียอ๋อ?~”



แกร๊ก!



ไอ้พี่แมนแม่งหน้าบางกว่าที่คิด เปิดประตูให้เร็วเกินคาด พอพี่ท่านเปิดช่องให้ อีเอ็มมี่ก็ใช้แขนข้างเดียวที่เหลืออยู่ขนสัมภาระเข้ามาในห้องทีละชิ้นอย่างทุลักทุเล ห้องของพี่แมนค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับการอยู่อาศัยเพียงคนเดียว แต่แกนคณะหน้าสวยก็จัดการทำให้พื้นที่ใช้สอยในห้องแทบไม่มีเหลือด้วยเศษกระดาษ กองงานและขยะได้อย่างน่าอัศจรรย์



“ทำเหี้ยอะไร ไร้ยางอาย!”



เอ็มหันมองหน้าเจ้าของห้องเป็นครั้งแรกของวันแล้วก็ต้องตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ไอ้พี่แมนสุดโหดของทุกคนอยู่ในชุดเสื้อยืดย้วยๆ สีขาวหม่นบ่งบอกระยะเวลาที่ถูกใช้งานกับกางเกงบอลตัวหลวมที่ร่นลงมาโชว์ขาอ่อนจากการนั่งขัดสมาธิหน้าคอมฯ หน้าใสๆ ของพี่แมนมีแว่นสายตากรอบดำแบบเด็กเนิร์ดอันใหญ่สวมทับ ผมที่ซอยไล่ระต้นคอถูกมัดขึ้นเป็นจุกอยู่ด้านหน้าเหมือนหมาพันธุ์ชิสุ



โมเอ้ฝุดๆ เลยว้อย...!!



“ยังจะมาทำหน้าหื่นใส่กูอีก!”



กะเทยหน้าหื่นรีบใช้หลังมือเช็ดน้ำลายโดยพลัน ก่อนจะจัดการเก็บข้าวของของตนเองให้เป็นระเบียบและเลยเถิดไปเก็บให้เจ้าของด้วยทั้งที่มีมืออยู่ข้างเดียวนั่นแหละ แม่ง...หน้าตาก็สวย ทำไมซกมกจังวะ?



“มึงเอากีตาร์มาด้วยทำไมเนี่ย? มึงเล่นกีตาร์มือเดียวได้เหรอ?”



“ไม่มีมันอยู่ด้วยแล้วผมนอนไม่หลับอ่ะ”



“มึงเป็นเด็กติดหมอนเน่ารึไง? ห้องก็เล็ก เกะกะ!”



“ห้องมันไม่ได้เล็กเลยนะ แต่พี่อ่ะทำมันรก!”



ไอ้พี่แมนมองสภาพห้องตัวเองแล้วจะเถียงก็เถียงไม่ออก ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไปโดยปล่อยให้รูมเมทชั่วคราวจัดการเรื่องความสะอาดของห้องไปพลางๆ ไม่รู้ว่าเผลอใช้สมาธิกับงานไปนานมากเท่าไหร่ เงยหน้าขึ้นมาอีกทีห้องก็สะอาดปิ๊งระยิบระยับอย่างที่แมนเคยเห็นแค่ครั้งเดียวคือตอนย้ายเข้ามา



“พี่แมนยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม? ผมทำข้าวไข่เจียวให้”



แล้วข้าวไข่เจียวหอมๆ ไข่พองฟูสีทองยั่วโปะมาบนข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยซอสมะเขือเทศเป็นรูปหัวใจก็ลอยมาวางอยู่ตรงหน้า แมนกะพริบตาปริบๆ อย่างยังไม่หายงงก่อนจะเซฟงานปิดคอมแล้วลงมือกินข้าวไข่เจียวที่อีเอ็มมี่มันอุตส่าห์ทำให้



“ใครได้มึงไปเป็นเมียนี่โคตรโชคดีอ่ะ แม่บ้านแม่เรือนสุดๆ”



“พี่กำลังจะกลายเป็นผู้โชคดีคนนั้นไงล่ะ”



เอ็มยิ้มเขินอาย



“กูถอนคำพูดทันไหม? ซอสมะเขือเทศขมคอขึ้นมาเลยอ่ะ”



ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่พี่แมนก็ยังเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย เอ็มเลยถือโอกาสเดินขึ้นไปนั่งบนเตียงเดียวกันพร้อมไอโฟนในมือแล้วพูดขอเสียงอ้อมแอ้ม



“พี่แมน ขอถ่ายรูปได้ป่ะ?”



“ถ่ายกูตอนนี้เนี่ยนะ? ไม่เอาอ่ะ ตอนนี้ไม่หล่อ”



ไม่หล่อแต่มึงสวยเอ็กซ์บาดใจกูมากเลยครับ



“นะพี่แมน นะ นะ”



“เอ้~ บอกว่าไม่ก็ไม่สิวะ!”



พอเห็นว่าแกนคณะจอมโหดชักอารมณ์เสีย เอ็มก็เก็บจานข้าวที่พี่แมนกินเสร็จแล้ว เดินสะบัดตูดไปล้างที่มุมครัวให้อย่างน้อยอกน้อยใจโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเลย พี่แมนนอนปั๊กกะป้าบอ่านหนังสือดีไซน์อยู่บนเตียงให้อีกะเทยหื่นได้แอบมองขาขาวๆ อย่างมีความสุขอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่ทั้งคู่จะรู้สึกว่าฝนลงเม็ดหนักๆ มากระทบระเบียง



“อีเอ็มมี่ ปิดประตูกระจกหน่อย ฝนสาดอ่ะ”



คนถูกใช้เดินไปเลื่อนประตูปิดให้อย่างว่าง่าย พลางมองฟ้ามืดครื้มสลับสายฟ้าแปลบปลาบอย่างนึกหวั่น ในหัวสมองน้อยๆ ของกะเทยคิดการใหญ่ก็ได้แต่คิดภาพไปว่าถ้าพี่แมนแม่งกลัวฟ้ากลัวฝนเหมือนนางเอกละครแล้ววิ่งมาซบอกกูก็คงดี คิดแล้วก็เหลือบหางตาไปมองคนถูกพาดพิงที่เปลี่ยนท่ามานั่งขัดสมาธิดูหนังสือไปพลางแดกป็อกกี้ไปพลางอย่างไม่สะทกสะท้านต่อเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงๆ อันสุดแสนน่ากลัว



แม่ง...ถ้ารอพี่แมน ชาตินี้กูคงได้ลวนลามหรอกนะ...เอาก็เอาวะ!



เปรี้ยง!!



“กรี๊ดดดด พี่แมน!!”



พลั่ก!



พี่แมนจุกตับจนป็อกกี้หลุดออกจากปากเมื่ออยู่ดีๆ กะเทยที่ร่างใหญ่กว่าเขาก็กระโดดขึ้นมานั่งตักในท่าเจ้าสาว กอดคอเขาไว้แน่นแล้วใช้หน้าซุกซบตรงบริเวณซอกคออย่างถือโอกาส



“มึงเป็นอาร๊าย~!!”



“ผมกลัวฟ้าผ่าอ้ะ!”



“อีตอแหล~!!! มึงนึกว่ากูจะเชื่อมึงเรอะ? ลงไป๊!!”



เอ็มชักเหงื่อตก แอคติ้งกูออกจะเนียนทำไมไอ้พี่แมนไม่หลงกลวะ? พอเห็นว่าอีกฝ่ายชักดิ้นขลุกขลักให้พ้นจากการเกาะกุม อีเอ็มมี่ก็ใช้แรงทั้งหมดที่มีโถมพี่แมนกดลงกับเตียงด้วยมือข้างเดียวแล้วตวัดขาขึ้นคร่อมด้วยท่าทางล่อแหลม



“มึงจะปล้ำกูเหรอ?”



คนหน้าสวยถามด้วยรอยยิ้มแสยะอย่างไม่นึกหวั่น เตือนให้อีเอ็มมี่สำเหนียกตัวไว้ว่าถ้าคิดว่าทำแล้วจะรอดตีนกูไปได้ก็เอาเลยสิ



“ไม่ปล้ำหรอก ผมจะรอจนกว่าพี่จะสมยอม”



“คงจะมีวันนั้นหรอก! มึงลุกออกไปได้แล้ว กูหนัก!”



ถึงแม้จะได้รับคำสั่งแล้ว แต่คนข้างบนก็ไม่คิดจะขยับถอยไปไหนได้แต่จ้องหน้าสวยๆ ของพี่แมนในระยะประชิดด้วยสายตาจริงจัง



“ขอจูบได้ป่ะ?”



“ขอกันซึ่งๆ หน้าอย่างนี้อ่ะนะ อีหน้าด้าน!”



“ก็พี่แมนบอกให้ขอก่อนอ่ะ คนที่ถูกคนหน้าด้านขอแล้วหน้าด้านไม่ให้ หน้าด้านกว่านะเว่ย!!”



คนถูกกดชักมึนๆ กับคำซ้ำในประโยค แต่ก็รีบตั้งสติเพราะกลัวจะพลาดท่าโดนอีเอ็มมี่ที่ฉวยโอกาสตอนเขาเสียศูนย์รุกล้ำอาณาเขตทางเพศเข้ามาได้



“ไหนมึงบอกเหตุผลที่กูต้องยอมให้มึงจูบมาดิ๊”



อย่างอีเอ็มมี่นี่ต้องอ้างเหตุผลเข้าสู้ สมองเท่าควายไอคิวต่ำอย่างมันคิดอะไรมีตรรกะไม่เป็นหรอก!



“ก็เพราะผมชอบพี่ไง”



“แต่กูไม่ได้ชอบมึงนะ เรื่องแบบนี้มันต้องเต็มใจทั้งสองฝ่ายดิ”



“งั้นขอค่าทำความสะอาดกะทำกับข้าวเมื่อกี้ก็ได้”



“เดี๋ยวกูให้ 20”



“พี่แมนอ่ะ! ยอมเหอะนะ นะครับ น้า~”



อีเอ็มมี่ดัดเสียงอ้อน เอียงคอกะพริบตาปิ๊งๆ ให้จนพี่แมนทำหน้าผะอืดผะอม



“น่ารักตายห่า! ลุกไปเลย!”



พอเห็นว่ายังไงไอ้พี่แมนก็คงไม่ยอมแน่ๆ เอ็มก็เบะปากเป็นเป็ดแล้วง๊องแง๊งเป็นตุ๊ดเด็กด้วยท่าทางอุบาทว์สายตา



“ถ้าพี่แมนไม่ยอมให้ผมจูบ ผมก็ไม่ยอมลุกอ่ะ”



“มึงแน่ใจนะไม่ลุก?”



“แน่! ยังไงวันนี้พี่แมนก็ต้องให้ผมจูบ”



“มึงเลือกเองนะ...”



ปึ้ก!!



“โอ้ยยย....”



โครม!!



หลังจากถูกพี่แมนกระแทกลูกรักด้วยเข่าในระยะพอดิบพอดีจนร้องเสียงผิดคีย์แล้ว พี่ท่านก็ยันอีเอ็มมี่ตกเตียงดังโครมอย่างไม่คิดจะปรานีก่อนที่แกนคณะรุ่นที่ 47 จะลุกขึ้นมามองกะเทยไม่เจียมกะลาหัวที่นอนกุมไข่บิดเอวเร่าอยู่ที่พื้นด้วยแววตาสมเพช



“พี่แมน...แม่ง...เล่น***กูอีกแล้ว”



“หึหึหึหึหึ”



ประเดิมการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่วันแรกด้วยคุณสามีสุดแมนที่ยิ้มเหี้ยมเป็นตัวร้ายในหนังเจ้าพ่อกับคุณเมียตุ๊ดที่นอกจากจะหัวแตกแขนเดี้ยงแล้วยัง***พิการเพิ่มอีกหนึ่งที่ อาเมน...





โปรดติดตามแอ๊บต่อไป



#แอ๊บรัก




Talk:
ขอบคุณสำหรับทุกๆ คอมเมนต์เลยนะจ๊ะ <3
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 5: ตุ๊ดขึ้นบ้าน (up 15 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 15-07-2017 09:47:31
พี่แมนก็โหดเสมอต้นเสมอปลาย  :katai4:
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 5: ตุ๊ดขึ้นบ้าน (up 15 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 15-07-2017 11:15:28
อะไรจะโหดปานนั้น
เอ็มควรจะออกกำลังกาย ฝึกการต่อสู้สักหน่อยนะ คิดจะกดคนสวยฤทธิ์มากนี่ไม่ง่ายนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 5: ตุ๊ดขึ้นบ้าน (up 15 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 15-07-2017 11:18:29
ตลกดี  555
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 5: ตุ๊ดขึ้นบ้าน (up 15 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: heefever ที่ 15-07-2017 11:36:04
พล๊อตคุ้น ๆ เหมือนเคยเป็นฟิคอะ ใช่มั้ยคะ?? 
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 5: ตุ๊ดขึ้นบ้าน (up 15 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 15-07-2017 12:36:35
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 5: ตุ๊ดขึ้นบ้าน (up 15 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 15-07-2017 14:03:03
สงสารก็สงสารเอ็มมี่น่ะ มันฮ่ามากกว่าอ่ะ
พี่แมนเล่นซะเอ็มมี่จุกไปเลย
ชักสับสนและว่าใครจะเป็นเมียเป็นผัว
สนุกมากเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 5: ตุ๊ดขึ้นบ้าน (up 15 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 15-07-2017 19:27:35
สงสารเอ็มมี่  :laugh:
หัวข้อ: Re: ♥ แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 5: ตุ๊ดขึ้นบ้าน (up 15 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: SANDทราย ที่ 15-07-2017 20:28:39
ชอบบ เป็นกำลังใจให้นะคะะ <3
อย่าทิ้งคนอ่านนะคะ T^T
อยากให้มาจนจบเลยยย
พี่แมนตอนนี้ดูมุ๊งมิ๊งกับเอ็มดี อิอิ ไม่โหดเหมือนแต่ก่อน ยกเว้นตอนท้ายนะ 5555555
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 5: ตุ๊ดขึ้นบ้าน (up 15 ก.ค. 60)
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 19-07-2017 16:34:05
แอ๊บที่ 6: สุรา เป็นเหตุเสียพรหมจรรย์ได้



“พี่แมนป้อนข้าวผมหน่อยดิ”



เอ็มเอ่ยปากขึ้นในมื้อเย็นของวันแรกในการเข้าห้องหอ หลังจากถูกคุณพี่ท่านประทุษร้ายน้องชายไปแล้วเมื่อกลางวัน ตุ๊ดหนุ่มก็นอนกุมไข่ให้หายเจ็บอยู่เป็นนานกว่าจะลุกขึ้นมาต่อกรกับพี่แมนต่อได้ พอตกเย็นก็ต้องกางร่มฝ่าฝนที่ยังตกปรอยๆ ไปซื้อข้าวกล่องมากินกันสองคนอีก



“มือมึงก็มี”



พี่แมนบอกปัดพลางตักข้าวผัดกุ้งเข้าปาก เห็นตัวบางๆ แบบนี้คุณพี่ท่านกินเก่งใช่เล่น ข้าวหนึ่งกล่องนี่ไม่ถึง 15 นาทีก็ซัดหมด



“ผมไม่ถนัดซ้ายอ่ะ”



กะเทยหนุ่มประท้วง หลังจากที่เริ่มทำข้าวหกเรี่ยราด กิจกรรมอื่นพอจะใช้มือซ้ายทำได้อยู่หรอก แต่การคอนโทรลช้อนเข้าปากนี่เกินความสามารถจริงๆ



“ถ้ามันไร้ประโยชน์ขนาดนั้น กูหักมันทิ้งให้เอาไหม?”



“เออ...ไอ้คนไม่มีน้ำใจ เราก็อุตส่าห์ตากฝนเดินไปซื้อข้าวให้นะ”



“กูบีบบังคับมึงสินะ?”



พอถูกตอกกลับแบบนิ่งๆ แบบนั้น เอ็มก็เถียงต่อไม่ถูก ใช่ซี้~ แค่มึงนอนบนเตียง เอียงหน้ามาทางกูแล้วพูดว่า “หิวข้าวอ่ะ~” เสียงน่ารักๆ เข้าหน่อย กูก็คว้าร่มออกไปซื้อข้าวให้มึงแล้วนี่! กูผิดเอง กูผิดเองที่ชอบมึงง่ะ!



“ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้นเลย กูไม่ง้อนะครับ กูไม่ชอบเมียงี่เง่าขี้งอนนะครับบอกไว้ก่อน”



“แปลว่าถ้าผมไม่ขี้งอน พี่ก็จะชอบใช่ป่ะ?”



เอ็มเปลี่ยนโหมดมาร่าเริงทันควัน ซึ่งอีกฝ่ายก็กระตุกยิ้มหวานตาปิดส่งตอบให้ทันควันเช่นกัน



“กูชอบคนล้างจานเก่งด้วยนะ อ่ะนี่!”



คนนิสัยเสียผลักจานข้าวที่ตัวเองทานเสร็จแล้วให้รูมเมทเฉพาะกิจอย่างเนียนๆ ก่อนจะเดินไปนอนผึ่งพุงอย่างสบายตัว ปล่อยให้ตุ๊ดโง่ๆ กุลีกุจอคว้าจานไปล้างให้ทั้งที่ตัวเองยังกินข้าวไม่เสร็จ และกว่าจะรู้ตัวว่าโดนหลอกใช้ เอ็มก็เช็ดจานเก็บเข้าที่เรียบร้อยแล้วนั่นแหละ



.

.

.



“พี่แมน...อยากนอนบนเตียงด้วยอ่ะ”



ตุ๊ดร่วมห้องเอ่ยเสียงอ้อนอย่างมีความหวังอีกครั้งเมื่อทั้งคู่อาบน้ำและเปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อยแล้ว ของเอ็มน่ะชุดนอนใช่ แต่ของพี่แมนนี่มันต่างจากชุดเมื่อกลางวันตรงไหนวะ?



“ถ้ามึงจะกรุณาแหกตาดูว่าเตียงมันเป็นเตียงเดี่ยว”



“นอนด้วยกันก็ได้อ่ะ อบอุ่นดีออก”



“ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากนอนทับแผลหมา”



กัดจิกพอเป็นเป็นพิธี พี่แมนก็เปิดแอร์ ล้มตัวนอนคลุมโปงอย่างมีความสุข เหลือเพียงกะเทยอาภัพรักที่วันนี้มีแต่ขาดทุนย่อยยับตั้งแต่ฟ้าสางจรดค่ำ นึกแล้วมันก็น่าน้อยใจยิ่งนัก…กะเทยจีนแดงเหลือบมองหัวทุยๆ ที่โผล่พ้นเตียงแล้วก็ได้แต่แลบลิ้นใส่อย่างหมั่นไส้



หรือเราจะรอให้มันหลับแล้วค่อยปล้ำมันดี?



“อ้อ! กูขอเตือนมึงไว้ก่อน อย่าคิดจะทำอะไรโง่ๆ เชียวนะ อีเอ็มมี่ กูถีบมึงตกระเบียงชั้น 7 นี่แน่ๆ”



คนถูกจับความคิดได้ใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม ไอ้พี่แมน! มึงเป็นเทพธิดาพยากรณ์กลับชาติมาเกิดใช่ไหม?! กูต้องตั้งรหัสผ่านตรงไหนมึงถึงจะแอคเซสความคิดกูเข้ามาไม่ได้เนี่ย??!!



สุดท้ายเอ็มก็ทำได้แค่ปิดไฟแล้วเดินมาล้มตัวลงนอนบนที่นอนปิกนิกหน้าห้องน้ำซึ่งเป็นจุดที่ห่างไกลจากเตียงพี่แมนมากถึงมากที่สุด คิดมากชักปวดหัว ข่มตาหลับๆ ไปดีกว่า…



เจ้าของห้องลืมตาตื่นขึ้นในตอนกลางดึกเพราะรู้สึกปวดชิ้งฉ่อง ขาเรียวก้าวลงจากเตียงเดินไปยังประตูห้องน้ำแล้วก้าวผ่านหนอนชาเขียวตัวโตไปอย่างไม่นึกสนใจ พอทำธุระเสร็จก็เดินกลับออกมาหวังจะล้มตัวนอนต่อแต่เสียงครางฮือของอะไรบางอย่างก็หยุดความสนใจไว้เสียก่อน



“ห้องกูมีผีด้วยเหรอวะ?”



อยู่มาจนจะสี่ปีก็ไม่เคยเจอผี ทั้งที่ข้างห้องเขาก็เจอกันโครมๆ จนไอ้งอกไอ้เงิบมันลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าผีก็คงกลัวมึงเหมือนกันนั่นแหละ



“หนาว...”



กูว่าไม่ใช่ผีแล้วล่ะ...



ไอ้พี่แมนเดินมานั่งยองๆ ข้างผู้อาศัยที่นอนขดตัวกลมในผ้าห่ม มือบางลองแตะหน้าผากมันดูถึงได้รู้ว่าอีกะเทยติ๊งต๊องมันเป็นไข้ แถมไข้ยังดูท่าจะขึ้นสูงมากเสียด้วย



“ไหนใครบอกคนบ้าไม่มีทางป่วยไงวะ?”



ไอ้พี่แมนขมวดคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะยักไหล่แล้วลุกขึ้นเดินกลับไปที่เตียง มันป่วยแล้วไงล่ะ?...ไม่ใช่ธุระอะไรของเขาเสียหน่อยนี่...แล้วแกนคณะหน้าสวยก็ล้มตัวลงนอนไปอย่างไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร



ทว่า...ทำยังไงก็นอนไม่หลับ



ไอ้พี่แมนเด้งตัวขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วมองไปยังหน้าห้องน้ำอีกครั้ง ที่มันไข้ขึ้นก็เพราะฝืนทำนู่นทำนี่ให้เขาทั้งที่แขนยังเจ็บ อาการอักเสบก็ย่อมเกิดตามมาเป็นเรื่องธรรมดา ไหนจะเรื่องที่มันเดินตากฝนไปซื้อข้าวให้เขากินอีก ถ้าคิดเข้าข้างตัวเองเขาก็พูดได้เต็มปากเลยว่าทุกอย่างเขาไม่ได้ขอให้มันทำเสียหน่อย มันเต็มใจทำให้เขาเอง...แต่เพราะพอคิดว่ามันเต็มใจทำให้จนต้องมานอนป่วยแบบนี้แหละ ถึงได้นอนไม่หลับ



“เห้อ~”



เจ้าของห้องคว้ารีโมทแอร์มาปิด ก่อนจะเดินมายังหนอนชาเขียวตัวเดิมแล้วเขย่าแขนเรียก



“อีเอ็มมี่ ตื่น~”



แต่คนมีไข้สูงไม่มีสติพอจะได้ยินเสียงเรียกของรุ่นพี่ คนตัวบางดึงผ้าห่มที่ม้วนพันรอบตัวคนป่วยออก แล้วช้อนแขนเข้าใต้รักแร้ ลากกะเทยตัวหนักแถ่ดๆ มายังเตียงของตัวเองแล้วโยนมันขึ้นไปก่อนจะจัดท่าจัดทางให้เรียบร้อย



“หิวน้ำ...”



“เออ...น้ำก็น้ำ”



พยาบาลจำเป็นเดินไปรินน้ำใส่แก้วแล้วหยิบหลอดชาเขียวที่เหลืออยู่เต็มตู้เย็นเพราะปกติก็เลือกจะกระดกกรอกปากอยู่ตลอดไม่ใคร่จะสนใจใช้หลอดดูดอย่างใครเขา แกนคณะจอมโหดดันหัวโตๆ ของรูมเมทให้ยกขึ้นก่อนจะจ่อหลอดเข้าริมฝีปากแห้งฝากที่ยังบวมนิดๆ ดูดเข้าไปพอดับกระหายก่อนจะปล่อยให้มันนอนลงไปอย่างเดิม



“เห้อ~”



ดูท่าแล้วอาการอีเอ็มมี่จะหนักไม่ใช่เล่น จริงๆ เขาควรจะพามันไปหาหมอด้วยซ้ำ แต่จะแบกมันแวนซ์ไปยังไงคนเดียวดึกดื่นมืดค่ำป่านนี้ คิดสะระตะไปจะโทรเรียกใครก็ไม่สมควร



“ภาระกูจริงๆ นะมึงเนี่ย!”



ถึงจะบ่นอย่างนั้นแต่พี่แมนก็เดินไปเอากาละมังใส่น้ำพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กมาวางไว้ข้างเตียงแล้วจัดการแก้ผ้าอีเอ็มมี่ออกอย่างไม่มีเหนียมอาย ก็เห็นกันมาทุกส่วนสัดยิ่งกว่าผัวเมียแต่งงานอยู่กินกันมาเป็นปี เรื่องแค่นี้มีหรือจะทำให้พี่แมนเธออายได้?



คนใจร้ายจัดแจงเช็ดผิวร้อนๆ ของคนป่วยทุกซอกทุกมุมให้อย่างดีก่อนจะสวมชุดนอนกลับให้แล้วห่มผ้าทับ ปิดท้ายด้วยการชุบผ้าขนหนูบิดหมาดแล้ววางแปะไว้บนหน้าผากอีกที



“เหนื่อยเว้ย!”



อีกะเทยเปื่อยนี่ก็ตัวหนักใช่เล่น ดีนะที่พี่แมนเครื่องฟิต เรื่องใช้แรงนี่ถนัดไม้ถนัดมืออยู่บ้างถึงได้จัดการมันให้นอนหลับตาพริ้มสบายตัวอยู่นี่ได้



“มึงนี่ก็หน้าตาดีใช่เล่นนะ ถ้าไม่ได้เป็นตุ๊ด สาวคงติดน่าดูเลย แต่อย่างว่าอ่ะ...ก็ยังหล่อน้อยกว่ากูอยู่ดี”



เท้าเอวพึมพำเข้าข้างตัวเองเสร็จสรรพ เจ้าของห้องก็จัดแจงลากที่นอนปิกนิกมาไว้ข้างเตียงก่อนจะล้มตัวนอนแทนที่คนป่วยแล้วหลับไปทั้งที่ไม่ได้เปิดแอร์เปิดพัดลม







.

.

.



“อืม...”



ตุ๊ดสร่างไข้ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาสู้แสงอย่างมึนงง มองซ้ายมองขวาเอามือป่ายคลำหน้าผากตัวเองเจอผ้าขนหนูก็ยิ่งงง แล้วก็งงหนักมากขึ้นเมื่อพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงเจ้าของห้อง ส่วนเจ้าของห้องลงไปนอนฉีกขาเปิดพุงอยู่ข้างล่าง สมองน้อยๆ ค่อยประมวลผลอย่างอืดๆ ตามประสาตุ๊ดแรมต่ำ ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปจะค่อยๆ ยิ้มออกมาอย่างหยุดไม่อยู่



พี่แมนเป็นห่วงเขาด้วยง่า~…



เอ็มค่อยๆ สลัดผ้าห่มทิ้งแล้วก้าวลงจากเตียงมานอนซ้อนหลังพี่แมนที่พื้น แล้วฉวยโอกาสโอบพุงขาวๆ สูดกลิ่นแชมพูจากเส้นผมให้ชุ่มปอด ก่อนจะไล้สันจมูกไปตามแก้มใสๆ ของคนที่ยังหลับให้เจ้าตัวรู้สึกจั๊กจี้จนรู้สึกตัวตื่น



“อือ...อะไรวะ?”



พี่แมนกะพริบตาปริบๆ ปรับแสงจนขนตาเป็นแพยาวขยับไหวเหมือนปีกผีเสื้อ พอรู้สึกหนักๆ ตัวขยับไม่ค่อยได้ ความคิดแรกที่ปรากฏในสมองคือกูถูกผีอำแน่ๆ



ดีเลย...กูยังไม่เคยลองเตะผีสักที



จอมโหดพลิกตัววูบพร้อมกับเสียงร้องอย่างตกใจของตุ๊ดร่วมห้อง



“เฮ้ย! พี่แมน อย่าทับแขนผม!!”



“อ้าว? อีเอ็มมี่! มึงลงมานอนที่กูทำไมเนี่ย?”



“ที่พี่ที่ไหน? พี่อ่ะแหละ...มานอนที่ผมทำไมเหยอ?”



ได้ยินภาษาวิบัติของตุ๊ดจิตป่วยที่มันถือโอกาสลวนลามเขาอีกแล้ว ไอ้พี่แมนก็รู้สึกเพลียตับเบาๆ นี่เขาตัดสินใจผิดหรือเปล่าวะที่ยอมให้มันเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในห้องเขาเนี่ย?



“สร่างไข้ก็เอาเลยนะมึงอ่ะ”



“ได้พยาบาลดีก็งี้แหละ พี่แมนเป็นห่วงผมใช่ม้า?”



คนถูกล้อหูร้อนวูบขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ใครห่วง? ไหน? หมาที่ไหนมันห่วง? ไม่มี๊!!!



“กูกลัวมึงมาตายในห้องกูหรอก กูไม่อยากได้ผีบ้านผีเรือนเป็นตุ๊ด!!”



ไอ้พี่แมนแก้ตัวเสียงแหวพร้อมดิ้นขลุกขลักหนี แต่ก็กลัวจะซ้ำแผลเก่าของอีตุ๊ดทรพีจนมันอักเสบไข้ขึ้นอีกรอบ คุณพี่ท่านก็เลยออกแรงดิ้นได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร



“พี่แมนปากแข็งจังเลยอ่ะ ไหนเอามาลองดิ๊แข็งจริงเปล่า?”



“อีเอ็มมี่! อย่า...อื้อ~!!”



คนปากแข็งเม้มปากแน่นเมื่อถูกตุ๊ดหื่นประกบจูบอย่างไม่ให้ทันตั้งตัว เอ็มจุดพลุในใจอย่างเปรมปรีดิ์พร้อมตวัดขาขึ้นคร่อมเจ้าของร่างบางอย่างไม่นึกกลัวเกรง ก็ไม่รู้จะเกรงทำไม? ก็พี่แมนน่ะอันตรายแค่ก่อนจูบกับหลังจูบเท่านั้นแหละ ระหว่างจูบนี่ขี้ผึ้งลนไฟไร้แรงต้านเฟ้ย! เคี้ยกๆๆๆ~*



พอแน่ใจว่าคนข้างใต้คงไม่มีสติลุกขึ้นมากระทืบเขาต่อ อีเอ็มมี่ก็ถอนปากออกมาหลังจากล่อไปซะสาแก่ใจ ไอ้พี่แมนเผยอปากแดงก่ำหอบหายใจแรงเหมือนขาดอากาศมานาน มันคงจะเซ็กซี่ดีหรอกนะถ้าตัดตากลมๆ ที่จ้องหน้าอีตัวต้นเหตุยังกับจะหักคอมาจิ้มน้ำพริกอย่างนั้น



“ปะ...ไปห้องน้ำก่อนนะ”



“มึงอย่าอยู่เลย อีตุ๊ดเนรคุณ!!”



“อ๊ากกก พี่แมน เดี๋ยวๆ แขนผมๆ พี่แม๊น~~~!!!!”



.

.

.



“ทำไมสารรูปมึงดูแย่กว่าเดิมวะ? เพิ่งคืนเดียวเองนะเว่ย!”



อีเมเม่อุทานถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ เมื่อเพื่อนรักกลับมาเยี่ยมเยียนห้องตั้งแต่เช้า สาเหตุทราบภายหลังว่ามันถูกพี่แมนเนรเทศออกจากรังรักชั่วคราว โทษฐานไปกระตุกหนวดเสือสถาปัตย์แต่เช้าตรู่



“กลยุทธ์ไม่พัฒนา”



“โง่ซ้ำซาก”



“แล้วพวกมึงจะด่ากูทำไมเนี่ย?”



เอ็มโอดครวญ พี่แมนแม่งเป็นเจ้ากรรมนายเวรกูรึไง? พอกูเริ่มชอบมึงชีวิตกูก็ตกต่ำอับเฉาโดนแม้กระทั่งเพื่อนสนิทที่เล่นกันมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยด่เรื่องวุฒิภาวะทางปัญญาเนี่ย...



“ด่าเพื่อก่อไง มึงไม่เคยได้ยินเหรอ?”



“กูเคยได้ยินแต่ติเพื่อก่อครับเพื่อน”



“อย่างมึงติแล้วไม่เข้าซีรีบัมหรอก ต้องด่าอย่างเดียว อ่ะ! มึงเอานี่ไป”



อีมาม่าโยนหนังสือเล่มหนึ่งลงมาตรงหน้าเพื่อนรัก มองหน้าปกที่เป็นตัวการ์ตูนตาแบ๊วใสกับชื่อเรื่องกำกับแล้วอีเอ็มมี่ก็ส่ายหัวดิก



“รักใสใสของคนขายน้ำเต้าหู้?”



“มึงอย่าดูถูกชื่อเรื่องมันไป เนื้อหามันช่วยมึงได้นะ”



อีมาม่าแอ๊บหน้าเป็นกูรูพร้อมส่ายนิ้วไปมาตรงหน้าเพื่อนซี้ ก่อนจะตบแปะๆ ลงบนปกหนังสือที่ตนคัดสรรมาเป็นอย่างดีเพื่อชีวิตคู่อันสวยงามของเพื่อนรัก



“เรื่องนี้พระเอกชื่อคิมฮยอนแมน เป็นหนุ่มเจ้าของธุรกิจน้ำเต้าหู้ ส่วนนางเอกชื่อชองมินอาเป็นลูกสาวเจ้าของไร่ถั่วเหลือง พระเอกมันรักนางเอกม๊ากมาก กูยังอิจฉาเลย”



“แล้วนางเอกมันทำยังไงให้พระเอกรักวะ?”



“มันไม่ได้ทำอะไรเลยว่ะ พระเอกตกหลุมรักมันเองง่ะ”



เอ็มทำหน้าม่อย...คือมึงจะบอกให้กูรอจนกว่าพี่แมนจะตกหลุมรักกูเองใช่ไหม? กูว่ารอจนหลานพี่แมนบวชกูก็ไม่ได้แอ้มมันเหอะงั้นอ่ะ



“กรณีของมึงมันใช้วิธีนางเอกๆ ไม่เหมาะเว่ย มันต้องวิธีของนางร้าย นางร้ายเรื่องนี้ชื่อพัคเอมี”



“มันทำไงวะ?”



“ง่ายมากค่ะเพื่อนรัก...”



อีมาม่ายิ้มพรายแบบตัวอิจฉาทรงภูมิได้อย่างน่าตบ



“มอมเหล้าแล้วปล้ำพี่แมนซะ!”



.

.

.



แกนคณะหน้าสวยแห่งสถาปัตย์แวนซ์ฟีโน่มาจอดหน้าผับดังข้าง ม. ด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์นัก เขาถูกอีเอ็มมี่รบเร้าให้ออกมาก๊งเป็นเพื่อนโดยที่มันจะเป็นเจ้ามือเลี้ยงเองแทนคำขอโทษที่บังอาจมาล่วงเกินเขาเมื่อเช้า ไอ้เราก็อยากทำตัวเป็นรุ่นพี่ที่ดี น้องมันสำนึกผิดเราก็อยากให้อภัย ไอ้เรื่องเหล้าฟรีลาภปากอะไรนี่ไม่ได้คิ๊ดสักนิ๊ดดดดดดดดดดเดียว!



พอก้าวเข้ามาในแหล่งแสงสี อีกะเทยแขนพิการก็โบกมือเรียกหยอยๆ มีสองแฝดกับไอ้งอกไอ้เงิบมาร่วมโต๊ะด้วย ก็กินเหล้าคนมันก็ต้องเยอะหน่อยถึงจะสนุกใช่ไหมล่ะ? ไอ้งอกกะไอ้เงิบก็เริ่มหน้าแดงแล้ว สงสัยจะดวดเหล้าเข้าไปเยอะเพราะกับแกล้มไม่พร่องไปเท่าไร



“พี่แมนนั่งนี่สิครับ”



เห็นหน้าแป้นแล้นของมันแล้วอยากยกฝ่าเท้าขึ้นลูบด้วยความเอ็นดูเบาๆ มึงอย่าคิดนะเหล้าฟรีของมึงจะลบล้างความอัปรีย์เมื่อเช้าได้



“นี่ครับๆ”



อีตุ๊ดหน้าหล่อกุลีกุจอชงมาเหล้ามาให้อย่างเอาใจ ซึ่งพอแก้วน้ำสีน้ำตาลมาวางตรงหน้า ไอ้พี่แมนก็ลืมความขุ่นข้องหมองใจไปเสียสิ้นทันที



“ชงเข้มจังวะ?”



“อ๊ะ! เหรอครับ ผมชงเหล้าไม่ค่อยเป็นอ่ะ”



มีใครเคยบอกมึงไหมว่ามึงเป็นตุ๊ดที่โกหกไม่เนียนน่ะ อีเอ็มมี่?



“มึงไม่ดื่มด้วยกันอ่ะ?”



“หมอห้ามจนกว่าจะถอดเฝือกกะตัดไหมอ่ะพี่”



“เออ...ก็จริง”



พอหมดข้อสงสัย พี่แมนเธอดื่มเหล้าเคล้ากับแกล้ม แอบมองสาวสวยที่ส่งมาสายตายั่วยวนมาเป็นบางครั้ง ซึ่งพอใครจะเดินเข้ามาใกล้ อีกะเทยข้างๆ ก็ต้องมาคลอเคลียอย่างออกนอกหน้าจนต้องผลักหัวให้หงายเงิบกันทุกทีไป



ยิ่งจำนวนแก้วเหล้าที่ถูกรินเข้าปากมันเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ พี่แมนก็รับรู้ได้ถึงความเข้มของมันมากขึ้นเท่านั้น คุณแกนคณะแอบเหล่มองอีเอ็มมี่ที่เริ่มทำหน้าเครียดเมื่อเขาไม่มีทีท่าว่าจะเมาแล้วกระตุกยิ้มมุมปากอย่างสะใจ



เสียค่าเหล้าฟรีไปเหอะมึง!



ฝ่ายเอ็มที่เริ่มท่าไม่ดีก็หันไปซุบซิบปรึกษากับคู่แฝด ซึ่งสองสาวก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างไม่รู้จะช่วยยังไง ได้แต่ปลอบใจมันด้วยเสียงกระซิบ



“มึง...พี่เขาอาจจะเมาแต่ไม่แสดงอาการก็ได้นะ มึงลองหลอกถามดูสิ”



“เออๆ”



เอ็มกระเถิบเข้าไปใกล้พี่แมนที่รักแล้วจิ้มแขนเรียกความสนใจ



“พี่แมนเมายังครับ?”



“อีโง่วววววววววว”



อีมาม่าแทบกระชากตัวเพื่อนมากระซิบด่าไม่ทัน เมื่อกี้กูก็บอกแล้วนะว่าให้หลอกถาม มึงไปถามโต้งๆ อย่างนั้นเขาก็รู้สิ โอ๊ย! กูเพลีย! กะเทยสาวจิ๊ปากอย่างไม่ได้ดั่งใจก่อนจะกระซิบกระซาบบอกวิธีให้อีเอ็มมี่ทำตาม



“พี่แมนนี่กี่นิ้วครับ?”



“2”



“ช้างมีกี่ขาครับ?”



“4”



“ห้องพี่แมนอยู่ชั้นไหนครับ?”



“7”



“แม่งไม่เมาเลยว่ะ!”



เอ็มหันมาคร่ำครวญกับแฝดสาวทั้งน้ำตา ค่าเหล้า+โซดาน้ำแข็งงวดนี้ก็ค่าขนมทั้งอาทิตย์เลยทีเดียว พี่แมนแม่ง เรดมีก็ไม่แดก เสือกอยากแดกแบล็คอีก ที่สำคัญคือทำไมมึงไม่เมาวะ?!! ระหว่างที่กำลังคร่ำครวญอยู่นั้นเอง พี่แมนเธอก็ลุกพรวดคว้ากุญแจฟีโน่อย่างไม่รีรอ



“พี่แมนไปไหน?!”



“กลับหอดิ”



“เฮ้ย! ดื่มต่ออีกหน่อยดิ”



คนถูกคะยั้นคะยอปรายยิ้มหวานให้เมียรักก่อนจะจุ๊ปากส่งให้เบาๆ อย่างนึกสงสาร



“กูแดกต่อทั้งคืนก็ไม่เมาหรอกอีเอ็มมี่ กูแดกเหล้าตั้งแต่อายุ 13 แล้ว ไอ้แผนมอมเหล้าแล้วปล้ำกูของมึงนี่มันไม่ได้ผลหรอก แต่ยังไงก็ชอบใจที่เลี้ยงเหล้ากูนะ ไปล่ะ กูง่วง”



พูดจบ พี่แมนก็หันไปล่ำลาเพื่อนงอกและเพื่อนเงิบที่เมาเละไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเดินฮัมเพลงควงกุญแจไปอย่างลั้ลลา ฝ่ายเอ็มที่เสียค่าโง่ไปไม่ใช่น้อยก็รีบล่ำลาเพื่อนตัวเองแล้วตามไปทำตัวหน้าด้านซ้อนฟีโน่เขากลับหอด้วยกัน



เมื่อขึ้นมาถึงห้อง พี่แมนก็คว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ ก่อนจะแง้มประตูโยนเสื้อผ้าออกมาให้อีเอ็มมี่ตามเก็บไปใส่ตะกร้าให้เรียบร้อย คนตัวบางใช้เวลาอาบน้ำชำระร่างกายอยู่ชั่วครู่ก็ออกมานอนแผ่บนเตียงอย่างมีความสุข



“อีเอ็มมี่ หิวน้ำอ่ะ”



“เชอะ!”



คนโดนใช้กลายๆ สะบัดหน้าหนีอย่างงอนๆ ทั้งๆ ที่มึงก็รู้ว่ากูหวังมอมเหล้ามึง มึงก็ยังหลอกแดกของฟรีของกูอี๊ก! คิดแล้วชีช้ำกะหล่ำปลีจริงๆ!



“งอนเพื่อ? กูนี่สิสมควรโกรธที่มึงคิดอกุศลกะกูอีกแล้ว!”



ไอ้พี่แมนพูดเตือนสติให้อีเอ็มมี่ได้สำนึก ซึ่งฝ่ายที่เถียงไม่ออกก็เดินไปเปิดตู้เย็นกอกแกกรินน้ำให้เจ้าของห้องที่กึ่งนั่งกึ่งนอนเล่นไอโฟนรอ



“อ่ะ!”



“แต่มึงก็รู้จักพัฒนาแผนเหมือนกันนะ โชคร้ายของมึงมันอยู่ที่กูฉลาดเกินไปนี่แหละ”



ขอบคุณนะที่มึงเปลี่ยนจากด่ากูมาเป็นชมตัวเองน่ะ…กูซึ้งมาก



ไอ้พี่แมนยกแก้วน้ำเย็นเฉียบดื่มอย่างสดชื่นแล้วส่งแก้วคืนให้อีเอ็มมี่ ก่อนจะรู้สึกแปลกใจที่มันยืนจ้องเขาไม่หนีไปไหน พอจะเอ่ยปากถามโลกก็หมุนติ้วและค่อยๆ ดับวูบไปเหมือนมีใครมาปิดสวิตซ์ไฟ



“หึหึ...โชคดีของกูคือการมีเพื่อนฉลาดนี่แหละ”



เอ็มมองสามีสุดที่รักที่หลับเป็นตายอย่างสาสมใจ ยานอนหลับชนิดรุนแรงที่อีมาม่าให้เขาไว้เป็นแผนสำรองในกรณีที่สุรามันไม่เวิร์คนั้นได้ผลดีเกินคาด ไอ้พี่แมนแม่งคงนึกไม่ถึงว่าเขาจะกล้าเล่นไม้นี้...หึหึ...คิดแล้วก็ขอขำอย่างเป็นต่ออีกที



“พรุ่งนี้ตื่นมา มึงต้องเซอร์ไพรส์แน่ๆ ครับ ไอ้พี่แมน!”







โปรดติดตามแอ๊บต่อไป





#แอ๊บรัก


หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 6: สุรา เป็นเหตุให้เสียพรหมจรรย์ได้ (19/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 19-07-2017 17:49:46
ฮามาก
ตื่นมาพี่แมนจะเซอร์ไพรส์ขนาดไหน
ไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ อิเอ็มเมียรักจะเล่นซะมีได้
สายโหดนะอย่าลืม เลี้ยงด้วยลำแข้งตาหลอด
 :hao7:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 6: สุรา เป็นเหตุให้เสียพรหมจรรย์ได้ (19/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-07-2017 19:30:35
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 6: สุรา เป็นเหตุให้เสียพรหมจรรย์ได้ (19/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 19-07-2017 19:34:54
เอ็มจับพี่แมนทำเมียเลยลูกกก  :z2:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 6: สุรา เป็นเหตุให้เสียพรหมจรรย์ได้ (19/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 19-07-2017 19:44:07
ฮ่าๆๆๆๆๆ
ยานอนหลับเท่านั้น
กลัวจริงๆๆๆ ฝ่าเท่าจะไปอยู่บนหน้าเอ็มมี่แทน อิอิ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 6: สุรา เป็นเหตุให้เสียพรหมจรรย์ได้ (19/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 19-07-2017 20:06:18
เมื่อไหร่พี่แมนจะเลิกเลวเลิกชั่วกลับมามีสำนึกล่ะ การกระทำแต่ละอย่าง ไม่มีดีอ่ะรวมไปถึงความคิดด้วย เหยียดคนได้แบบ... เลวมากอ่ะ ถ้าเขาแจ้งความนี่ไม่มีรอดอะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 6: สุรา เป็นเหตุให้เสียพรหมจรรย์ได้ (19/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 20-07-2017 20:57:20
ฮาได้อีก
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 6: สุรา เป็นเหตุให้เสียพรหมจรรย์ได้ (19/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: MayuYume ที่ 20-07-2017 21:59:11
แล่วๆๆ พี่แมนจะเสร็จน้องเอ็มมี่มั้ยเนี่ย ถ้าลักหลับนดๆหน่อยๆจะดีมากค่ะ--  :impress2:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 6: สุรา เป็นเหตุให้เสียพรหมจรรย์ได้ (19/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 22-07-2017 18:01:56
แอ๊บที่ 7: ได้แล้วต้องรับผิดชอบ!



แสงแดดยามสายส่องเข้ามากระทบร่างเปลือยเปล่าบนเตียงขับผิวขาวให้ยิ่งผ่องขึ้นจนแทบเรืองแสง เจ้าของร่างมุ่นหัวคิ้วก่อนจะค่อยๆ หยีตาขึ้นสู้แสง พอปรับภาพให้เริ่มชัดได้ สิ่งแรกที่ปรากฏคือแผงอกของใครสักคนที่ดูยังไงก็ไม่ใช่หน่มหน๊มของผู้หญิงแน่นอน พี่แมนเงยหน้าขึ้นจากจุดที่ตัวเองซุกซบอยู่เพื่อพบว่าเจ้าของร่างที่ริเอาตัวเองมานอนเบียดบนเตียงแคบๆ กับเขานี่คืออีเอ็มมี่ตุ๊ดทรพีนี่เอง



ไอ้พี่แมนเริ่มได้สติว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ พอเลิกผ้าห่มดูก็ชัดเจนว่าทั้งเขาทั้งกะเทยที่นอนอยู่ข้างๆ นี่ไม่มีเสื้อผ้าติดกายซักชิ้น แถมหน้าอกเค้ายังมีรอยจ้ำสีแดงเป็นด่างดวงประปรายไปทั่วอีกต่างหาก



“อือ...พี่แมน?...ตื่นแล้วเหรอครับ?”



“อีเอ็มมี่...มึงทำอะไร?”



เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยียบเย็นระดับขั้วโลกและสายตาพิฆาตจากคนร่วมเตียง เอ็มก็สะดุ้งเฮือกก่อนจะทำใจดีสู้เสือเอื้อมมือไปกอดเอวบางๆ ของอีกฝ่ายแล้วพูดเสียงอ่อนโยน



“เมื่อคืนเรามีความสุขกันมากนะครับ”



ไอ้พี่แมนสะบัดตัวหนีวงแขน ก่อนจะพลิกตัวหันกลับไปมองอีเอ็มมี่ด้วยสายตารังเกียจ



“มึงจะบอกว่ามึงตกเป็นเมียกูแล้วงั้นสิ?!”



“ห๊ะ?”



เดี๋ยวสิ! พี่แมน...กูว่าตำแหน่งมันผิดไปนิดนึงนะ



เอ็มพยายามจะแก้ความเข้าใจผิด แต่สมองก็ประมวลผลไม่ทันอีกคนที่พูดสวนขึ้นมาซะก่อน



“มึงคิดว่ากูไม่เคยดูละครหลังข่าวเลยสินะ ไอ้มุขวางยานอนหลับแล้วแก้ผ้ามานอนด้วยกันนี่แม่งโคตรคลาสสิก ผู้ชายอ่ะได้เอาไม่ได้เอามันรู้ตัวนะเว่ย!”



เอ็มเหงื่อแตกพลั่ก นอกจากมึงจะไม่ได้สำเหนียกถึงสถานะเมียๆ ผัวๆ ระหว่างเราแล้วมึงยังรู้ทันกูอี๊ก~! ไหนอีมาม่ามันบอกอ่านมาจากนิยายเกาหลีไงวะ?!



“พี่แมนได้ผมแล้วจะไม่รับผิดชอบเหรอ?”



เอาวะ...ตามน้ำไปก่อน จะตอแหลทั้งทีต้องตอแหลให้สุด!



คนถูกโมเมหางตากระตุกกึก อีตุ๊ดเนรคุณนี่ไม่ได้สำนึกตัวแม้แต่น้อย อุตส่าห์อนุญาตให้เข้ามาหายใจใต้ชายคาเดียวกัน แล้วดูมันทำกับเขาสิ...จ้องจะจับเขาทำผัวตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ที่น่าโกรธกว่านั้นคือเสือกใช้วิธีสกปรก...สกปรกแบบโง่ๆ อีกต่างหาก



“ไหนมึงลองพูดอีกทีสิว่ามึงตกเป็นเมียกูแล้ว!”



พี่แมนขู่ ด้วยน้ำเสียงที่แม้แต่หมายังเข้าใจว่าพูดออกไปอีกที แกนคณะคนสวยไม่เลี้ยงเอาไว้ดูเล่นในห้องต่อไปแน่



“ผะ...ผมตกเป็นเมียพี่แมนแล้ว!!”



เหี้ย! กระดากปาก!



เอ็มรู้สึกขนลุกวาบๆ อย่างแสยงตัวเอง แต่อาการเหล่านั้นหายวับไปในฉับพลันเมื่อเห็นคุณพี่ท่านฉีกยิ้มมุมปากด้วยใบหน้าที่พนันได้เลยว่าไม่มีใครอยากเห็น



“กูมีเมียมาก็หลายคน ยังไม่เคยซ้อมเมียคนไหนเลยนะ...”



ว่าแล้วพี่แมนเธอก็ดัดนิ้วประกอบคำพูดไปด้วย เอ็มรีบมองซ้ายมองขวาหาทางหนีทีไล่ที่เห็นทีจะไม่มีให้มันอย่างลนลาน



“มึงจะได้รับเกียรตินั้นเดี๋ยวนี้”



พี่แมนกระโจนใส่อีตุ๊ดตัวดีที่ขยันก่อเรื่องไม่หยุด ฝ่ายอีเอ็มมี่ก็พยายามดิ้นหนีจากการขึ้นขี่หลังเฮดล็อกของคนตัวเล็กที่ทั้งน้ำหนักทั้งแรงก็ไม่ได้เล็กตามตัวไปด้วย อีเอ็มมี่ตบเตียงปั้กๆ เป็นเชิงยอมแพ้แต่เกมนี้ไม่มีกรรมการ เลยไม่มีใครมาดึงพี่แมนท่านออกจากการทรมานเมียรักได้



“พี่แมน!! ยอมแล้ว!! ปล่อยเห๊อะ~!!”



“ร้องเป็นควายออกลูกไปได้ ทีตอนมึงทำล่ะไม่คิด!!”



แกร๊ก!





เสียงเปิดประตูห้องเข้ามาเรียกความสนใจจากคนสองคนที่กำลังเล่นมวยปล้ำกันบนเตียงได้อย่างชะงัด มนุษย์ 4 ร่างที่วิ่งพรวดเข้ามาคือสองสมุนคู่กายพี่แมน และสองเพื่อนรักของอีเอ็มมี่ที่พร้อมใจกันอ้าปากค้างกับภาพที่เห็น



“แมน มึงทำอะไรอีเอ็มมี่วะ?”



“คือกู...”



“ฮึก! กระซิก กระซิก พี่แมนใจร้าย พอเค้าไม่ยอมดีๆ ก็บังคับข่มเหงเค้า”



เอ็มฉวยโอกาสชิงตอบคำถามพี่งอกด้วยสภาพตุ๊ดน้อยผู้น่าสงสาร ยิ่งสภาพที่กำลังเปลือยทั้งคู่แถมเพื่อนตัวเองยังคร่อมทับอีตุ๊ดยักษ์อยู่ก็พอจะทำให้งอกและเงิบเกิดอาการคล้อยตามอย่างมึนๆ ในขณะที่เมเม่และมาม่ายังไม่หายจากอาการอ้าปากค้างเพราะไม่นึกว่าเพื่อนตัวเองจะแรดขั้นกว่าได้ขนาดนี้



“ข่มเหงเตี่ยมึงเสะ! ไอ้งอกไอ้เงิบมึงติดเชื้อโง่จากมันไปรึไงถึงดูไม่ออกว่ามันจัดฉากน่ะ ห๊า?!”



พูดไม่พูดเปล่า ไอ้พี่แมนจับอีเอ็มมี่ดัดหลังท่าฤาษีดัดตนจนมันร้องจ๊าก สองสาวที่ยืนดูเพื่อนรักถูกจับเล่นโยคะคอร์สพิเศษก็หวีดร้องตามแล้วรีบวิ่งเข้าไปช่วยกันดึงตัวเพื่อนซี้มาพร้อมเอาผ้าห่มพันรอบเอวมันไว้กันอุจาด ฝ่ายพี่แมนที่ถูกพี่งอกพี่เงิบรั้งไปอีกทางก็ได้รับผ้าขนหนูมาเหน็บเอวไว้เช่นกัน



“ปล่อย! กูจะทำให้มันเข้าโรง’บาลอีกรอบให้ได้!”



“พี่แมนใจร้าย! ทำร้ายเมียได้ลงคอ!”



“มึงยังไม่หยุดอีกใช่ไหม อีเอ็มมี่!!”



“ไม่หยุด! พี่แมนฟันแล้วทิ้ง ฟันแล้วทิ้ง!!”



“มึงตาย!!”



พี่แมนสะบัดหลุดจากการล็อคแขนของเพื่อน ปรี่เข้าไปคว้าหัวอีเอ็มมี่ลากแถ่ดๆ ไปยังระเบียงห้องแล้วจับมันกดลงกับขอบระเบียง



“อย่าอยู่เลยมึง!!”



“เฮ้ย! ไอ้แมนใจเย็น”



พี่งอกพี่เงิบคว้าแขนพี่แมนออกจากตัวอีเอ็มมี่คนละข้าง แต่ถึงแม้แขนจะไม่ว่างแต่เท้ายังว่างอยู่ เธอเลยนาบฝ่าเท้างามๆ ไปกลางหลังอีกะเทยทรพีแล้วตื้บๆ จนมันกระแทกราวระเบียงจุกดังแอ้กๆ พี่แมนใช้แรงมหาศาลสะบัดตัวหลุดจากสองเพื่อนรักอีกครั้งก่อนจะคว้าไหล่อีเอ็มมี่ให้หันมากะจะซัดเบ้าตามันซักหมัด แต่เท้าพี่ท่านดันเหยียบชายผ้าห่มที่พันรอบพุงอีเอ็มมี่จนมันหลุด แรงดึงจากช่วงล่างทำให้กะเทยหนุ่มหงายท้องลงไปทางด้านหลังซึ่งเป็นอากาศโล่งๆ ไม่มีอะไรรองรับ อีเอ็มมี่หลับตาปี๋นึกในใจว่าดวงกูนี้ช่างซวยยิ่งนัก ร่วงลงไปจากตรงนี้ศพกูเละแน่ๆ นี่กูจะตายโดยที่ยังไม่ได้แอ้มพี่แมนเรอะ?!



ณ ขณะนั้น คนที่มีสติที่สุดกลับเป็นเจ้าของห้อง แต่สติที่ว่าก็มาโดยสัญชาตญาณ และสัญชาตญาณเวลาเห็นอะไรกำลังจะร่วงก็ต้องคว้าสิ่งที่อยู่มือที่สุดก่อนจริงไหม? พี่แมนทำตามตำรานั้นทุกประการ ติดอยู่ตรงที่ว่าสิ่งใกล้มือพี่แมนที่สุดตอนนั้นมันดันเป็นสิ่งที่อ่อนไหวที่สุดในตัวอีเอ็มมี่และพี่ท่านก็กระชากซะเต็มแรงด้วยสิ ไม่ขาดติดมือก็บุญละ



“ฮู่ว~ เซฟ”



สองสาวที่ยืนลุ้นอยู่ใกล้ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะถลาลงไปประคองเพื่อนรักที่นั่งคุกเข่าน้ำตาเล็ดอยู่แทบเท้ารุ่นพี่



“อีเอ็มมี่! มึงเป็นไงบ้าง?”



คนถูกถามไถ่เงยหน้ามองเพื่อนรักด้วยใบหน้าของคนที่น่าสงสารที่สุดเท่าที่สองกุมารเคยพบพาน ดวงตาคู่คมคลอหน่วยไปด้วยน้ำตาแห่งความเจ็บปวดก่อนจะส่งเสียงออกมาอย่างไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกเยี่ยงไร



“งี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด~!!”





.

.

.



“กูบอกให้มึงปล้ำเขา ทำไมมันกลายเป็นว่าเขาปล้ำมึงไปได้ล่ะห๊า!!”



หลังจากเรื่องวุ่นวายเมื่อเช้าสงบลง สองกุมารแฝดก็ลากเพื่อนรักหนีหน้าไอ้พี่แมนชั่วคราวให้อีกฝ่ายสงบอารมณ์ลงก่อน ซึ่งก็คงให้เวลาไม่นานเท่าไรนักหรอกเพราะหลังจากอีเอ็มมี่มันทรุดลงไปกุมไข่ร้องงี้ดๆ เป็นหมาถูกเหยียบหางพี่แมนเธอก็ดูจะสะใจจนอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างแล้ว



“ตอนแรกกูกะว่าจะปล้ำจริงๆ นั่นแหละ”



อีเอ็มมี่ถอนใจดังเฮือก แล้วเล่าต่อ



“แต่กูคิดถึงใจพี่เขาว่ะ พี่แมนเขาเป็นผู้ชาย เขาจะรู้สึกยังไงวะ ถ้าตื่นมาแล้วต้องกลายเป็นเมียคนอื่น? กูก็เลยปล้ำไม่ลง ได้แต่นอนกอดอยู่อย่างนั้นยันเช้าอ่ะ ทรมานชิปหาย!”



สองแฝดได้ฟังอย่างนั้นก็ถอนหายใจตาม เนี่ยล่ะน้า~ ถึงอีเอ็มมี่เพื่อนเขามันจะดูเหมือนโง่...หรือโง่จริงๆ ก็ตามแต่ แต่สิ่งที่เป็นข้อดีของมันคือมันจริงใจและคิดถึงความรู้สึกคนอื่นเสมอนี่ล่ะ



“กูขอโทษนะ คราวหน้ากูจะหาวิธีที่สร้างสรรค์กว่านี้ให้ละกัน”



“ไม่ต้องขอโทษหรอกมึง ขอบใจมาก”



แล้วสามเพื่อนซี้ก็กอดกันแสดงมิตรภาพอย่างแอบซึ้ง



“เอ๊ะ! ว่าแต่มึงไปสนิทกับพี่งอกพี่เงิบขนาดลากเขามาเปิดประตูห้องพี่แมนให้แต่เช้าได้ไงวะ?”



สองสาวสะดุ้งเฮือก เดี๋ยวนี้เพื่อนเขาแม่งฉลาดขึ้นนะ รู้จักสังเกตสังกากับเขาด้วย เมเม่และมาม่ามองหน้ากันเป็นเชิงปรึกษาก่อนที่แฝดผู้พี่จะอ้อมแอ้มตอบ



“มันอธิบายยากอ่ะมึง เหตุการณ์มันเยอะ เขียนเป็นนิยายได้เรื่องนึงเลยอ่ะ”



“ขอแบบสรุปได้ไหม? ความสัมพันธ์ตอนนี้?”



“เขาจีบพวกกูอยู่”



“กูไม่เชื่อ...”



เอ็มแสดงความเห็นด้วยเสียงโมโนโทนได้อย่างน่าตบ สองสาวก็ทำเป็นมองนกมองไม้ทั้งที่รอบด้านมีแต่ตึกไปอย่างหลบเลี่ยง ซึ่งเอ็มก็ไม่ปล่อยให้เป็นเช่นนั้น



“มีความลับกะเพื่อนอ่อ?”



“มึงอย่าทำเสียงน้อยใจดิ่ ทำเสียงงี้กูก็ต้องบอกใช่ไหมง่ะ?”



“ก็กูจะให้มึงบอกไง บอกมา”



อีเมเม่ทำหน้าเขินอาย บิดไปบิดมาเป็นกิ้งก่าโดนน้ำร้อนลวกอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะยอมแย้มพรายออกมา



“ก็ดูๆ กันอยู่อ่ะ”



“ได้กันยัง?”



“มึงถามตรงไปนะ”



“แล้วได้กันยังล่ะ?”



เอ็มเค้นคอ ซึ่งสองสาวก็พยักหน้ารับแก้มแดงๆ ให้เพื่อนหนุ่มหัวเราะเหอะๆ อย่างช้ำใจ



“น่าอิจฉาว่ะ”



เอ็มไหลตัวไปกับม้าหินอ่อน ทำปากยื่นอย่างน่ารัก ทำไมคู่อื่นเขาลงเอยกันง๊ายง่าย คู่กูจะมีวันนั้นไหมว้า~ กูต้องเล่นว่าวรอไปถึงเมื่อไร?



“เอาน่า...มึง สักวันมึงต้องได้พี่เขาแน่ กูเอาใจช่วย”



แล้วสองสาวก็ตบไหล่ปุๆ ปลอบเพื่อนรักที่ยังคงต้องน้ำตาซึมกับมิชชั่นละลายใจคนแมนต่อไป และคาดว่าภารกิจนี้ยังคงอีกยาวไกลนักกว่าจะสำเร็จ



.

.

.



“กูว่าอีเอ็มมี่มันชักจะเล่นลูกไม้เยอะไปละ ถ้ากูพลาดท่าคราวหน้าอาจจะตกเป็นผัวมันจริงๆ ก็ได้”



หัวโจกบ่นขึ้นกลางกลุ่ม ขณะนั่งรอเรียนวิชาถัดไปอยู่กลางโถงอาคารเรียนรวม สีหน้าคนเป็นแกนคณะคร่ำเครียดอย่างเห็นได้ชัด จนสมุนฝ่ายขวาต้องเอ่ยแก้กลุ้ม



“เอาน่า...วันนี้มึงก็เล่นมันไปไม่น้อย มันคงอยู่เฉยๆ ได้สักวันสองวันล่ะ”



หนุ่มหน้าสวยแต่นิสัยขัดกับใบหน้าถอนหายใจยาวอย่างคิดไม่ตก สังหรณ์ใจไม่ดีว่าอีเอ็มมี่มันไม่หยุดแค่นี้แน่ นึกไปแล้วก็ไม่เข้าใจมันเลยจริงๆ ว่าจะมาจริงจังอะไรกับคนเกลียดตุ๊ดอย่างเขานักหนา



“แต่จริงๆ มันก็ดูจริงใจกับมึงนะเว่ย โดนไปสารพัดก็ไม่เห็นจะถอยซักที”



“มึงไม่ต้องเชียร์มันเลย นี่กูยังเครียดเรื่องตัวเองอยู่เลยยังไม่อยากเค้นคอเรื่องพวกมึงกับอีสองกุมารนั่นหรอกนะ อย่าให้รู้เชียวว่ามีอะไรในกอไผ่ กูจะลากพวกมันไปแช่ในบ่อวรนุชหลังม.!”



สองสมุนคนสนิทสะดุ้งเฮือก หลบสายตาวาวโรจน์ของหัวโจกโดยพร้อมเพรียง นี่ขนาดมันแค่สงสัยนะ ถ้ามันรู้ความจริง ยอดรัดยอดกระหม่อมของพวกเขาไม่ต้องคลานหนีตัวเห้กันอุตลุตเลยเรอะ?



“อ้าว พี่แมน หวัดดีครับ คาบนี้ไม่มีเรียนเหรอ?”



“อืม กูรอเรียนคาบถัดไปอยู่ มึงล่ะ ไอ้ก้อง”



รุ่นน้องหนุ่มแว่นคนหนึ่งเดินเข้ามายกมือไหว้คนเป็นรุ่นพี่ ซึ่งพี่แมนก็ทักทายตอบตามอัธยาศัย ไอ้รุ่นน้องคนนี้เป็นหนุ่มเงียบๆ ยิ้มง่าย ถือว่าสนิทกันพอสมควรเพราะมันเป็นประธานชมรมถ่ายภาพ เคยมาช่วยถ่ายรูปตอนงานนู้นงานนี้ให้แล้วแต่จะเรียกใช้



“เตรียมนิทรรศการภาพถ่ายพี่ ปีนี้จัดเต็ม”



นิทรรศการภาพถ่ายที่ว่าก็จัดกันกลางโถงและพื้นที่ว่างรอบทางเดินอาคารเรียนรวมนี่แหละ การจะประชาสัมพันธ์เรียกคนให้ไปดูงานน่ะมันวุ่นวาย สู้เอางานมาโชว์ในที่ๆ คนอยู่เยอะๆ ไม่ได้ มันง่ายกว่า ซึ่งสภานักศึกษาก็เห็นชอบกับความคิดนี้ เวลามีงานอะไร ชมรมไหนอยากโชว์ก็เลยจัดกันที่อาคารนี้เรื่อยมาอย่างที่เห็น



พี่แมนมองไปยังกลุ่มนักศึกษารุ่นน้องที่ช่วยกันจัดนิทรรศการอย่างขะมักเขม้นก็พลอยพยักหน้ายินดีกับหนุ่มรุ่นน้องไปด้วย



“ธีมไรวะ?”



“เซ็กส์แอนด์อาร์ตพี่ ภูมิใจนำเหนอโคตร”



“อืม...”



ไอ้พี่แมนเคาะนิ้วเล่นกับโต๊ะไม้ที่ตัวเองนั่งอยู่ รู้สึกเห็นแววอะไรบางอย่างจากชื่องาน ยิ่งเหลือบไปเห็นตัวอย่างภาพถ่ายบางส่วนที่ถูกจัดไว้ก็ยิ่งสะกิดไอเดียบางอย่างให้พุ่งพล่าน



“ไอ้ก้อง...กูส่งรูปเข้านิทรรศการมึงด้วยได้ป่ะวะ?”



“จริงดิพี่? เป็นเกียรติมากอ่ะ ผมจีบพี่ให้ส่งรูปกี่ปีก็ไม่ยอม”



ไอ้น้องก้องทำเสียงตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด มันรู้ว่าพี่แมนน่ะถ่ายรูปสวย แต่ชอบถ่ายเก็บไว้ดูคนเดียวมากกว่า ไม่ค่อยชอบเอาออกมาโชว์ให้เป็นบุญตาใครสักเท่าไหร่นัก ได้ยินพี่แมนเสนอตัวเองแบบนี้ประธานชมรมถ่ายภาพก็ระริกระรี้อย่างเป็นสุข



“เดี๋ยวเย็นนี้กูส่งภาพให้ มึงจัดการทันป่ะวะ?”



“ทันพี่! ผมจะรอนะ ขอบคุณมากๆ”



คนหน้าสวยพยักหน้ารับรู้คำขอบคุณของรุ่นน้อง ก่อนที่เจ้าก้องจะขอตัวไปคุมเด็กจัดนิทรรศการต่อ ฝ่ายรุ่นพี่ที่นั่งเครียดอยู่เมื่อครู่ก็อารมณ์ดีขึ้นทันตา พี่งอกและพี่เงิบสบตากันปริบๆ เมื่อเห็นรอยยิ้มชวนขนลุกบนใบหน้าเพื่อนรักพร้อมเสียงหัวเราะที่สั่นคลอนโสตประสาทได้เป็นอย่างดี



“หึหึ เสร็จกูแน่ อีเอ็มมี่”



.

.

.



เอ็มตื่นเช้ามาเรียนด้วยลางสังหรณ์แปลกๆ เมื่อคืนตอนเขาย่องกลับห้องกลัวแทบตายว่าเจ้าของห้องมันจะคว้าโคมไฟมาตีหัว แต่เปล่าเลยไอ้พี่แมนอารมณ์ดีเป็นพิเศษ อารมณ์ดีมากๆ ล่วงเลยจนเช้านี้มันยอมให้เขาซ้อนฟีโน่มาเรียนพร้อมกันได้ ก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะที่มันใจดี แต่มันใจดีแต่ละทีเหมือนจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นในชีวิตกูเลยนี่สิ



พอเข้าห้องเรียนได้ก็เจอสายตาแปลกๆ จากเพื่อนผู้ชายหลายคนที่มองด้วยสายตาโชกโชนอย่างประหลาด ชวนให้ขนลุกเกรียวกราวกันไป บางคนถึงกับส่งยิ้มแฝงความนัยมาให้ทั้งที่ไม่เคยจะรู้จักกัน ยิ่งคิดยิ่งงงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่วะวันนี้?



หลังเลิกเรียนอ็มก็ยังคงอยู่ในภาวะหวาดระแวงต่อไป ตาขวากระตุกยิกๆ บอกเหตุเป็นแม่นมั่น ยิ่งเดินๆ อยู่แล้วมีคนแอบลูบตูดขยิบตาให้นี่เข้าขั้นวิกฤติละนะ กูว่าไอ้พี่แมนแม่งต้องเล่นอะไรกะกูซักอย่างแน่ๆ



“เฮ้ย นิทรรศการของชมรมถ่ายภาพว่ะ”



“ไปดูกันไหม?”



อีสองสาวนี่ก็ยังมีอารมณ์เสพย์งานศิลป์โดยไม่รับรู้ถึงภาวะถูกคุกคามของกูเลยแม้แต่น้อย เดี๋ยวกูจะแช่งให้ผัวมึงโดนลูบตูดบ้าง เดี๋ยวก่อนๆ ถึงจะนึกด่าเพื่อนในใจเยี่ยงไร แต่สุดท้ายเอ็มก็ถูกลากเข้าไปชมงานอยู่ดี ธีมงานปีนี้คือเซ็กส์แอนด์อาร์ต ภาพที่ออกมามันเลยมีแต่เรื่องบนเตียงที่ไม่โป๊ ทุกอย่างมองออกมาเป็นงานศิลป์ ดูๆ ไปก็เพลินดีเหมือนกัน



“กรี๊ด อีเอ็มมี่!!”



อีเมเม่แหกปากลั่นจนอีกสองคนตกใจ รีบก้าวฉับๆ ตามมาดูก่อนที่อีกสองคนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจพอกัน ภาพถ่ายที่ถูกขยายขนาดตรงหน้าเป็นภาพแนวตั้งใส่กรอบทองแบบหลุยส์ ประดับโดยรอบด้วยดอกกุหลาบปลอมสีขาวแต้มสีแดงเหมือนหยดเลือด ภาพถ่ายนั้นไม่ปรากฏใบหน้าของผู้ถูกถ่าย โฟกัสเน้นไปที่น้ำตาเทียนสีแดงที่ถูกหยดวาดเป็นรูปดอกกุหลาบสุดอาร์ตบนแผงอกเรียบเนียน ภาพที่ปรากฏอยู่นั้นถูกตั้งไว้กลางสุดของงาน ใหญ่ที่สุด และโดดเด่นที่สุดราวกับชุดฟินนาเล่



เอ็มคงรู้สึกอินไปกับอารมณ์ศิลป์ตรงหน้าได้มากกว่านี้ถ้าภาพถ่ายนั้นมันไม่ใช่ตัวเขา และสาเหตุที่อีเม่เพื่อนรักมันรู้ว่าเป็นเขาโดยไม่ต้องเห็นหน้าก็เป็นเพราะตัวอักษรที่อยู่ใต้ภาพนั่นเอง



ชื่อภาพ : อีเอ็มมี่

ช่างภาพ : เมืองแมน  เลิศบุรุษ

คำอธิบาย : คณะศิลปกรรมปี 1 ชอบเล่นแบบนี้ และตอนนี้เหงามาก~*






ไอ้เหี้ยพี่แมน มึงไม่แถมเบอร์โทรกูไปด้วยเลยล่ะ!!



กูว่าแล้วว่าทำไมวันนี้เสียวประตูหลังนัก ไอ้พี่แมนแม่งเล่นแรงขนาดนี้นี่เอง เมเม่และมาม่าลากเอ็มที่จ้องภาพด้วยอารมณ์เดือดปุดๆ ออกมาจากนิทรรศการก่อนที่มันจะพังงานเขาเสียก่อน



“มึงใจเย็นนะ”



“ไม่เย็นละ พี่แมนแม่งเล่นแรงเกินไปแล้วนะเว่ย!”



เอ็มคว้าไอโฟนออกมากดโทรหาคนเป็นรุ่นพี่ มันด่าเขาเป็นตุ๊ดอยู่สองทีปลายสายก็รับด้วยเสียงกลั้วหัวเราะจนน่าหมั่นไส้



“มึงอยู่ไหน?”



“ยิมเชียร์ มึงมาดิ”



คนพูดตัดสายไปทันที ท้าทาย...มึงท้าทายนะไอ้พี่แมน รู้งี้ก็ปล้ำมึงทำเมียให้รู้แล้วรู้รอดไปซะก็ดี กูจะได้ไม่ต้องมาตกเป็นเหยื่ออารมณ์คนอื่นแบบนี้!



อีเอ็มมี่โบกมอไซค์ไปยิมเพราะยังโหนรถรางไม่ถนัดนักเนื่องจากเฝือกยังคาแขนอยู่ ส่วนอีสองกุมารจะนั่งรถรางตามมาทีหลัง พร้อมกำชับไม่ให้เขาวู่วาม ไม่ใช่เพราะกลัวเขาจะไปทำร้ายพี่แมน แต่เพราะมันกลัวพี่แมนโกรธหน้ามืดแล้วกระทืบเขาตายคาตีนต่างหาก พี่วินแวนซ์แวบเดียวก็มาส่งเขาหน้ายิมได้ เอ็มก้าวพรวดเข้าไปข้างในที่มีพี่แมนยืนคุมรุ่นน้องให้วาดคัทเอาท์ที่ยังทำไม่เสร็จดี



“พี่แมน!”



“ว่าไงจ๊ะ เมียรัก? มีคนมาจีบยัง?”



มึงยังมีหน้ามาถามกูอีกนะ แม่งน่าจับมาจูบปากโชว์ชิปหาย!



“มึงทำงี้ทำไม?”



“ก็มึงอยากมีผัว กูก็แค่หาผัวให้มึง แค่วิธีมันสาธารณะไปนิดเดียวเอง”



เอ็มทำหน้าม่อย เถียงในใจว่าไม่นิดอ่ะ ถ้าสาธารณะกว่านี้คือมึงต้องลงเฟซบุ๊คกดไลค์ 1 บาท กดแชร์ 3 บาทให้กูละล่ะ กะเทยแขนเดี้ยงขยับเข้าไปใกล้ไอ้พี่แมน ใช้แขนข้างที่ไม่เดี้ยงจับไหล่พี่แมนไว้แล้วยื่นหน้าเข้าไปพูดช้าๆ ชัดๆ



“มึงฟังนะ กูไม่ได้อยากมีผัว...”



ไอ้พี่แมนที่ถูกประชิดตัวกะทันหัน ก็นิ่งฟังไปอย่างไม่ทันจะได้นึกได้ขัดขืนหรือโต้แย้งอะไร



“กูอยากมีแค่มึง”



ไอ้พี่แมนชะงักไปกับน้ำเสียงจริงจังของคนตรงหน้า เขารู้สึกเหมือนกำลังจะพ่ายแพ้กับบางสิ่งบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ แกนคณะจอมโหดเม้มปากเบือนหน้าหนี แต่ไม่ได้สะบัดแขนออกจากการเกาะกุมที่รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นผ่านเนื้อผ้าของมือข้างนั้น



“น้องเอ็มมี่ใช่ไหมครับ?”



ทั้งสองคนผละออกจากกันเมื่อได้ยินเสียงทักของบุคคลที่สาม ตอนนั้นเองที่สองสาวมาถึงยิมและทำท่าโล่งใจที่ไม่มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น



“ครับ พี่ภูมิ”



พี่ภูมิเป็นหนุ่มหล่อหน้าตี๋ แกนคณะศิลปกรรมปีสี่ เป็นที่รู้จักดีของรุ่นน้องทุกคนเพราะเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบและโคตรสุภาพบุรุษ สาวๆ ในคณะก็กริ๊วกร๊าวพี่แกกันใหญ่ แต่ในสายตาผู้ชายด้วยกันอย่างเขาแล้วมันน่าหมั่นไส้มากกว่า โดยเฉพาะเรื่องความสูง...



“คือ...พี่อยากคุยกับน้องเอ็มมี่นิดหน่อยน่ะครับ”



“พูดได้เลยครับพี่ ผมไม่มีความลับกับเพื่อน กับพี่แมนก็ด้วย”



เอ็มดักทาง คนจะก้าวเท้าหนีเลยได้แต่ชะงักและยืนฟังแกนคณะคู่เฟรชชี่เกมส์พูดกับเมียรักต่อไป



“จริงๆ พี่มองน้องเอ็มมี่มานานแล้วครับ แต่ไม่มั่นใจว่าน้องเอ็มมี่เป็นแบบเมเม่กับมาม่ารึเปล่า แต่วันนี้พี่เดินผ่านโถงเรียนรวม แล้ว...”



“ครับ อาร์ตดีใช่ไหมครับ? ฝีมือพี่แมนแหละ”



เอ็มถือโอกาสสะบัดค้อนใส่ตัวต้นเรื่องที่ยักไหล่แบบ “แล้วไง กูไม่แคร์” ตอบกลับอย่างชิวๆ เห็นแล้วนึกเสียดายยานอนหลับเม็ดเมื่อคืนก่อนขึ้นมาตงิดๆ



“ครับ พี่ก็เลยรู้ว่าน้องเอ็มมี่ชอบแบบนั้น แล้วจริงๆ พี่ก็ชอบน้องเอ็มมี่ด้วย”



นี่ถ้าพี่ภูมิไปทำหน้าเขินๆ พูดเสียงหล่อๆ อย่างนี้ใส่สาวๆ นะ รับรองเลยรายไหนรายนั้นไม่น่ารอด แต่ประเด็นคือเขาพูดกะกูไง กูซึ่งยังไม่พร้อมจะเป็นเมียใครนอกจากไอ้พี่แมนไง



“พี่จีบน้องเอ็มมี่ได้ไหมครับ?”



“คือพี่...”



เอ็มกำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธ แต่อีเมเม่ดึงแขนเขาไว้ก่อนจะกระซิบให้แอบเหล่ไปทางไอ้พี่แมน แกนคณะหน้าสวยทำเป็นมองคัทเอาท์อย่างไม่แคร์บทสนทนาของใคร แต่หูมึงนี่ผึ่งเลยนะ...กางไปละ เก็บนิดนึงดีไหม?



“ก็...ถ้าพี่จะลองดูก็ไม่เสียหายนี่ครับ”



ตุ๊ดแขนเดี้ยงแอบยิ้มในใจเมื่อผัวรักหันขวับมามองทันทีที่เขาตอบเช่นนั้น ดูเหมือนพี่แมนจะตกใจไม่น้อยและอยากจะพูดแทรกอะไรบางอย่างแต่ก็เงียบปากแล้วหันไปดุรุ่นน้องให้ลบแก้งานใหม่ทั้งที่ไม่มีอะไรผิดพลาด



“จริงเหรอครับ? ถ้างั้นพี่ขอเบอร์น้องเอ็มมี่ได้ไหม?”



“ได้สิครับ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”



กะเทยหน้าหล่อลอบยิ้มอย่างมีเลศนัย...



ไอ้พี่แมน...คราวนี้เกมมันพลิกแล้วเว่ย!







โปรดติดตามแอ๊บต่อไป



#แอ๊บรัก

หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 7: ได้แล้วต้องรับผิดชอบ! (22/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 22-07-2017 21:18:24
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอหัวเราะก่อน อิอิ
แผนหึงหวงมาแล้ว งานนี้เอ็มมี่ จะกระตุ้มอารมณ์พี่แมนได้ไหมเนี่ย หรือจะเดี้ยงกว่าเก่า
ลุ้นต่อ อิอิ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 7: ได้แล้วต้องรับผิดชอบ! (22/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 22-07-2017 21:44:37
คราวนี้คนกำแพงสูงแถมไม่ยอมรับจะทำยังไง
ถ้าอีกหน่อยเขาจะได้กัน พี่แมนไม่เสียความรู้สึกเหรอ ถ้ารู้ทีหลังว่าเอ็มตั้งใจจะเอาพี่เป็นเมีย
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 7: ได้แล้วต้องรับผิดชอบ! (22/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 22-07-2017 22:05:23
อยากให้เอ็มคุมเกมส์อยู่เหนือพี่แมนสักที พี่แมนแม่งโหดจนเกลียดและเนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 7: ได้แล้วต้องรับผิดชอบ! (22/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 29-07-2017 07:52:15
แอ๊บที่ 8: เมียพี่มีชู้ววววว





“ทานแล้วครับ...พี่ภูมิล่ะ?”



โครม!



“ถ้าแขนหายแล้ว ผมจะเล่นให้พี่ภูมิฟังนะครับ”



เคร้ง!



“ว่างเสมอแหละครับ ถ้าพี่ภูมิชวนน่ะ”



ตุบ!



“หนวกหูเว้ย! ดึกๆ ดื่นๆ คุยอะไรกันไม่เกรงใจชาวบ้านชาวช่อง!”



หลังจากทำเสียงโคร้งเคร้งในครัวรบกวนสมาธิการคุยโทรศัพท์ของตุ๊ดร่วมห้องมานานหลายเพลา คุณพี่แกนคณะก็ทนไม่ไหวต้องออกปากขัดบทสนทนาออกมาจนได้ คนที่กำลังหงุดหงิดเดินกระฟัดกระเฟียดไปนอนคลุมโปงบนเตียงทั้งที่นาฬิกาเพิ่งจะบอกเวลาสองทุ่ม



“แค่นี้ก่อนนะครับพี่ภูมิ พี่แมนเขาจะนอนแล้วอ่ะ”



“ฝันดีเหมือนกันครับ จุ๊บๆ”



เอ็มวางสายจากพี่ภูมิสุดหล่อไป หลังจากบอกลากันด้วยน้ำเสียงหวานซ่านทว่าแสลงรูหูพี่แมนยิ่งนัก แกนคณะจอมโหดเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงจ้องหน้าตุ๊ดแหลทันทีที่มันวางสายจากผู้ชาย



“ระริกระรี้! เป็นตุ๊ดเป็นนางอ่ะ ใครสั่งใครสอนให้ให้ท่าผู้ชายเขาแบบนั้น?”



เอ็มทำหน้าเหรอหราประหนึ่งว่าไม่เข้าใจคำด่าของรุ่นพี่ ก่อนจะยกยิ้มหวานแบบเก๋ๆ ให้อีกฝ่ายแบบไม่แคร์สื่อ



“ก็พี่เขาหล่อนี่ครับ พี่แมนก็...”



ทำเสียงดัดจริตไม่พอ มันยังทำท่าเขินอายได้บิดตับพี่แมนซะปวดจี๊ด เจ้าของห้องรู้สึกเหมือนความดันโลหิตขึ้นสูง วิงเวียน หน้ามืด คล้ายอยากจะกระทืบคน โดยที่หาสาเหตุไม่ได้ขึ้นมาเสียดื้อๆ



“กูจะนอนละ มึงปิดไฟด้วย!”



พี่แมนสะบัดผ้าห่มคลุมโปงอีกครั้ง พลางเอาหัวซุกหมอนอย่างอารมณ์เสีย ยิ่งเห็นมันออดอ้อนออเซาะผู้ชายทางโทรศัพท์ยิ่งหงุดหงิดงุ่นง่านอย่างบอกไม่ถูก หนอย...ตุ๊ดที่ไหนวะ มันบอกว่าอยากมีแค่กูอยู่หยกๆ! อีซุงแหล!!



“สันดานตุ๊ด เจอผู้ชายหล่อเป็นไม่ได้!”



พี่แมนงึมงำด้วยเสียงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ก่อนจะข่มตาให้มันหลับๆ ไป



.

.

.



เมียพี่มีชู้ววววววว....

ชาวบ้านรู้ หรือเปล่า?

ไม่เคยรู้ข่าวแพร่งพราย

ผู้หญิงผู้หยังนี่ชั่งกระไร

ชอบเปลี่ยนสไตล์ ไวไฟสิ้นดี



เมียพี่มีชู้ววววววววววว




โครม!!



พี่งอกที่กำลังเคาะตะเกียบกับแก้วเหล้าประกอบจังหวะสามช่าพร้อมร้องเพลงอย่าเมามันส์ ถูกถีบถลาลงไปแนบหน้ากับพื้นปูนอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว วงดนตรีโป๊งโป๊งชึ่งเฉพาะกิจที่ตั้งวงกันหน้าร้านเหล้าปั่นชะงักกันไปทันที ลูกน้องส่วนหนึ่งรีบเข้าไปช่วยกันพยุงสมุนฝ่ายขวาที่หันมาทำน้ำตาคลอใส่หัวหน้าอย่างไม่รู้ความผิด



“ไอ้แมน...มึงถีบกูไมอ่ะ?”



“กูเกลียดเพลงนี้”



คำตอบช่างสั้น ง่าย และมีนัยยะว่าอย่าซักไซ้ต่อถ้ามึงอยากเก็บปากไว้แดกเหล้า พี่งอกของเราเลยได้แต่ยกเหล้าปั่นขึ้นซดอย่างชอกช้ำโดยมีพี่เงิบคู่ซี้ตบไหล่ปลอบอย่างเห็นใจ อุปมากันในหมู่คณะว่าพี่แมนอาจจะเมนไหลย้อน ช่วงนี้ถึงได้อารมณ์บูดเป็นพิเศษ



“ช่วงนี้มึงดูอารมณ์ไม่ดีนะ”



“ใครบอกมึง กูเนี่ยอารมณ์ดีเหี้ยๆ เลยนะ”



พี่เงิบส่ายหัวอย่างไม่อยากต่อคำก่อนจะยกเหล้าปั่นซดตามเพื่อนซี้ไปติดๆ วันนี้ไอ้เพื่อนแมนมันอยากกระดกของหวานๆ ย้อมใจเลยยกทั้งแก๊งค์มานั่งซดเหล้าปั่นข้างถนน ร้านนี้ใหญ่แหละโด่งดังพอสมควรจึงมีนักศึกษามากหน้าหลายตาแวะเวียนมานั่ง สองสมุนสนิทมองเพื่อนรักที่นั่งกระดกเหล้าเอื๊อกๆ แล้วก็ได้แต่ส่ายหัวกับอาการปากไปเชียงใหม่ใจไปยะลาของเพื่อนรัก



“มึงไม่ได้อารมณ์ดีเหี้ยๆ หรอกแมน มึงอารมณ์เหี้ยดีๆ นี่เองแหละ”



“ไอ้เงิบ!”



พี่เงิบยักไหล่ทำใจดีสู้เสือ แต่กระนั้นก็ย้ายที่นั่งให้ห่างไกลตีนเพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินก่อนจะพูดต่อ



“มึงเป็นอย่างนี้ตั้งกะไอ้เหี้ยภูมิมาจีบเมียมึงอ่ะ”



“กูกำลังดีใจที่อีเอ็มมี่มันไปพ้นๆ ชีวิตกูได้ต่างหาก”



สองซี้หันมาพยักหน้าอย่างรู้แกวให้กัน มึงลากพวกกูเข้าร้านเหล้าสามสี่วัน แถมไอ้เหี้ยภูมิเดินผ่านมึงมองตาขวางยังกะมันเคยวางเพลิงเผาสุ่มไก่ชนพ่อมึงนี่...มึงกำลังดีใจสินะ?



“ปากเธอแข็งรู้ไหม แต่ว่าฉันก็รับไหว~”



“ไอ้งอก ที่โดนถีบไปเมื่อกี้มึงไม่เข็ดสินะ”



คนหน้าสวยทิ้งหางตาอย่างโหดๆ ขู่เพื่อนรักที่ปากกล้าร้องเพลงแซว ไอ้พวกนี้ทำเป็นรู้มาก มึงเป็นคนนอกจะรู้ใจกูดีกว่าตัวกูเองได้ไง กูบอกว่ากูอารมณ์ดีก็ดีเสะ!



“เฮ้ย...ไอ้ภูมินี่หว่า”



คนอารมณ์ดีหน้าบูดเป็นตูดอีกัวน่าทันทีที่เห็นบุคคลที่ 3 เดินเข้ามาในร้านเหล้าพร้อมบุคคลที่ 4 ผู้แสนคุ้นหน้าค่าตา และเนื่องจากคนอื่นเขาหลบหน้าพี่แมนไปนั่งในร้านกันหมด โต๊ะว่างจึงมีแค่โต๊ะข้างๆ กลุ่มพี่แมนเท่านั้น



“ไอ้ภูมิแม่งขับบีเอ็มด้วยว่ะ”



“อีเอ็มมี่มันได้ผัวรวยแล้วเนอะ”



ใช่ซี้~* เบาะฟีโน่มันกระด้างไม่เหมือนเบาะบีเอ็มนี่!



พี่แมนคิดอย่างกระฟัดกระเฟียด พลางโยนแหนมตุ้มเข้าปากเคี้ยวหงับๆ โดยลืมไปว่าข้างในมันสอดไส้พริกขี้หนูเม็ดเล็กอยู่ คุณพี่ท่านเลยถึงกับซี้ดปากแล้วถุยทิ้งแทบไม่ทัน



“สั่งอะไรดีครับ น้องเอ็มมี่?”



“ผมไม่เคยมาร้านแบบนี้อ่ะครับ สั่งไม่เป็นหรอก”



“ตอแหล~”



แว่วเสียงชมเสริมมาจากฝั่งสถาปัตย์ เด็กศิลป์เลยยิ้มเจื่อนอย่างไปไม่เป็น แต่กระนั้นพี่ภูมิสุดหล่อก็ไม่ยอมปล่อยให้บรรยากาศหวานแหววที่บรรจงสร้างหลุดลอยไป



“พิงค์เลมอนเนดดีกว่านะครับ เหมาะกับคนน่ารักอย่างน้องเอ็มมี่”



“ขาก~ ถุย!!”



น้ำลายพ่อแกนคณะปลิวเฉียดเท้าพี่เงิบไป 2 มิลฯ คนชักเท้าหนีแทบไม่ทันมองหน้าเพื่อนรักอย่างเคืองใจพร้อมเอ่ยปากถามอย่างเก็บไม่อยู่



“เฮ้ย! เหี้ยแมน มึงเป็นไรวะ?”



“โทษที แหนมติดคอว่ะ!”



จอมโหดแห่ง’ถาปัตย์ตอบคำถามเพื่อนอย่างไม่รู้สึกสำนึกผิดพลางยักคิ้วให้อีตุ๊ดฝั่งตรงข้ามอย่างกวนประสาท ทำเอาสองเพื่อนผู้ทรงเกียรติส่ายหัวอย่างระอาไปตามๆ กัน เนี่ยนะที่มึงบอกไม่แคร์มัน?



“ก็ดูสมกันดีนะ”



พี่งอกที่เริ่มรู้แกวเพื่อนก็ได้ทีสอดปากแหย่อย่างเนียนๆ ฝ่ายคนที่กำลังฮึดฮัดได้ยินอะไรขัดหูเข้าหน่อยก็ตาเขียวตาขวางพาลไปเรื่อยเปื่อยอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้



“สมกันยังกับกิ่งงิ้วกับใบตำแยสิไม่ว่า!”



“มึงจะแดกดันอะไรมันนัก มันมีผัวไปแล้วจะได้เลิกยุ่งกับมึงซะทีไง..มึงไม่ดีใจเหรอ?”



“ดีใจสิ...เนี่ย! กูดีใจมาก!!”



เหี้ย...กูไม่คุยกะมึงละ!



พี่เงิบแอบด่าเพื่อนในใจก่อนจะหันไปซดเหล้ากะพี่งอกต่อ เอาเถ๊อะ! พ่อคนฉลาด...ทีเรื่องง่ายๆ ล่ะเสือกโง่นัก นี่กูแอบด่ามันในใจนะเนี่ย ด่าตรงๆ ไม่ได้เดี๋ยวมันกระทืบเอา...กูกลัว!



ฝ่ายคนโดนแอบด่าในใจก็ถอนใจเฮือกๆ อย่างไม่เข้าใจตัวเอง เขาเกลียดสภาวะหงุดหงิดเหมือนแมวเป็นเมนแบบนี้เหลือเกิน แต่ไม่รู้จะแก้ไขยังไง...ยิ่งเห็นหน้าอีตุ๊ดหล่อนี่ก็ยิ่งหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก



“นี่กูเป็นเหี้ยอะไรวะ?”



สุดท้ายก็หลุดปากสบถออกมาจนได้ พี่งอกผู้มาโปรดจึงเลื่อนแก้วเหล้าปั่นที่เด็กเพิ่งเอามาเสิร์ฟใหม่ให้แล้วตอบคำถามคนฉลาดเสมอด้วยน้ำเสียงแบบศาสดา



“มึงไม่รู้จริงๆ หรือมึงแค่ไม่ยอมรับกันแน่?”



“......”



“ไอ้แมน”



“เก็บปากไว้แดกเหล้าเหอะ กูปวดหัว”



แมนถอนหายใจอีกครั้ง เพราะคิดแล้วมันก็ได้คำตอบเดียวนั่นแหละ ถึงได้ไม่อยากจะคิด ไอ้พวกเพื่อนเหี้ยนี่ก็สนับสนุนกูจริง ถ้าพวกมึงจะรั้งกูสักหน่อย...กูก็เก๊กโหดหาเรื่องกระทืบมันต่อได้อย่างสบายใจละ



“กูเกลียดตุ๊ด แมน...มึงเกลียดตุ๊ด”



พี่แมนนั่งสะกดจิตตัวเองพร้อมกระดกเหล้าปั่นเคล้าแหนมตุ้มต่อไป โดยไม่ทันได้สังเกตสายตาพึงใจของอีตุ๊ดเจ้าเล่ห์ที่เหลือบมองปฏิกิริยาดีเกินคาดของพี่แมนเป็นระยะด้วยความพึงใจ ดีนะ...ที่พี่งอกพี่เงิบเป็นสายส่งข่าวให้เลยตามมายั่วให้หึงได้ถูกที่!



ดูท่า...แผนการครานี้จะสำเร็จเป็นแน่แท้



ระหว่างที่กระหยิ่มยิ้มย่องในใจอยู่นั้นเอง พี่ภูมิผู้แสนจะเป็นสุภาพบุรุษก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำครู่ใหญ่ ก่อนจะกลับมาที่โต๊ะพร้อมแก้วเหล้าปั่นสีชมพูหวานน่ารัก เอ็มรับน้ำใจคนหล่อมาดูดปื๊ดรับรสหวานอมเปรี้ยวลงคออย่างสุดแสนจะชื่นมื่น



ไม่รู้ว่าเพราะความหวาน หรือเพราะไม่เคยดื่มเหล้าปั่นหรือยังไง คนแมนแอ๊บตุ๊ดถึงได้รู้สึกโลกหมุนติ้วได้ไวอย่างประหลาด เอ็มเอามือกุมศีรษะ สะบัดหัววืดๆ ก็ไม่หายมึนจนพี่ภูมิต้องถามไถ่อาการด้วยความเป็นห่วง



“น้องเอ็มมี่เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”



“อืม...คงเมาแล้วล่ะครับ”



นักศึกษาเอกกีตาร์ตอบเสียงสั่น แทบคงสติไว้ไม่อยู่ รุ่นพี่จึงลุกมาประคองรุ่นน้องให้ทรงตัวแล้วกระซิบบอกด้วยเสียงอ่อนโยน



“เดี๋ยวพี่ไปส่งนะครับ”



ดูสภาพตัวเองแล้วคงไม่ไหวเป็นแน่แท้ ตุ๊ดปวกเปียกเลยได้แต่ปล่อยให้พี่ภูมิพยุงขึ้นรถบีเอ็มคันหรูและขับออกไปท่ามกลางสายตาพะวักพะวงของใครอีกคน แมนกำหมัดแน่นอย่างระงับตัวเองไม่ให้วู่วามตามไป เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าจะกลายเป็นว่าตัวเองหน้าแตกตามสำนวน ตุ๊ดเค้าจะหามอย่าเอาแมนเข้าไปสอด รึเปล่า?



“อ้าว? พี่แมน? เป็นไรครับ หน้าเครียดเชียว”



“อ้าว ไอ้ก้อง”



ถ้าท่านจำตัวละครนี้ไม่ได้ มันคือหนุ่มหน้าตี๋ประธานชมรมถ่ายภาพ ผู้ทำการอนุเคราะห์ภาพอีเอ็มมี่ฝีมือพี่แมนให้โด่งดังเป็นที่หมายปองไปทั่วแดนมหาวิทยาลัย และได้อีพี่ภูมิมาก้อร่อก้อติกนั่นเอง



“มึงมากะใครเปล่า?”



“มากับเพื่อนอ่ะพี่ แต่เดี๋ยวผมนั่งกะพี่แปบ มีเรื่องจะขยี้”



ไอ้น้องก้องทรุดนั่งข้างพี่ชายมันอย่างไม่รอคำอนุญาตก่อนมองซ้ายมองขวาหาความปลอดภัยแล้วรีบเปิดปากทันที



“พี่จำน้องม่าน เด็กแพทย์ปีสองที่อยู่ชมรมผมได้เปล่า?”



“อีตุ๊ดหน้าขาวๆ ที่โดนกูถีบตกสระว่ายน้ำอ่ะนะ? จำได้ มันมีไรอ่ะ?”



“เออ...น้องมันเข้าโรง’บาลพี่”



ยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าไอ้น้องก้องนี่มันจะสื่อความอะไรกันแน่ แต่เห็นหน้ามันทั้งเครียดทั้งจริงจังเหมือน ส.ส. ในสภาแล้วพี่แมนก็เลือกที่จะฟังมันต่อไป



“เมื่อวานผมไปเยี่ยมมันที่โรง’บาล รอยแส้รอยคัตเตอร์ทั้งตัวเลยพี่ เห็นแล้วสงสารโคตร”



“มันไปทำอะไรมาวะ?”



ไอ้น้องก้องกัดปากอย่างยั้งคำ ยิ่งทำให้คนที่ถูกบิวท์จนต่อมเสือกทำงานยิกๆ แล้ว แข้งขากระตุกเตือนรุ่นน้องให้ปล่อยปากมาเสียทีก่อนที่เลือดจะอาบปากโดยที่ไม่ต้องกัด



“มันไปนอนกับพี่ภูมิมาพี่”



คนทั้งโต๊ะหันมองหน้าคนเล่าอย่างรู้สึกช็อค บางคนที่ยังไม่เก็ทก็สะกิดถามเพื่อน ไอ้คนที่เก็ทแล้วอย่างไอ้พี่แมนนี่อ้าปากค้างแหนมร่วงจากปากไปแล้ว



“มึงอย่าบอกกูนะว่า...”



“ใช่พี่...พี่ภูมิมันเป็นพวกซาดิสม์ แล้วน้องม่านก็ไม่ใช่เหยื่อคนแรกของมันด้วย”



“แล้วทำไมไม่มีใครรู้มาก่อนเลยวะ? อีตุ๊ดม่านมันแจ้งความรึเปล่า?”



“แจ้งไม่ได้หรอกพี่ พ่อพี่ภูมิมันเป็นนายตำรวจใหญ่ ผมเห็นน้องเอ็มมี่สนิทกับพี่ เลยอยากให้พี่เตือนน้องเขาหน่อย”



“เออ! อีเอ็มมี่!!”



ไอ้พี่แมนสะดุ้ง ผุดลุกขึ้นยืนเหมือนลืมซื้อหวยตอนบ่ายสามของวันที่ 1 พี่แมนรีบตะปบกระเป๋ากางเกงหากุญแจฟีโน่โดยไวแล้วก้าวไปทันที ทว่ากลับถูกพี่งอกและพี่เงิบรั้งไว้ก่อน



“เดี๋ยวก่อนไอ้แมน”



“มึงห้ามกูเพื่อ?!”



“แล้วมึงรู้เหรอว่าไอ้ภูมิมันอยู่หอไหน?”



“เออว่ะ”



คนฉลาดทำหน้าก่งก๊งอย่างใสๆ ก่อนจะยอมทรุดตัวนั่งลงปล่อยให้พี่งอกกะพี่เงิบและสมุนทั้งหลายกดไอโฟนกันยิกๆ เพื่อถามหาที่พักของแกนคณะฯ แห่งศิลปกรรม ฝ่ายพี่แมนที่เมียหายไปอยู่ในเงื้อมมือชายอื่นก็นั่งหน้าเครียดผุดลุกผุดนั่งแทบอยู่ไม่สุข



“ไอ้แมน! หอแกรนด์ ห้อง 422”



“ขอบใจมาก”



พี่แมนพูดตอบรับคำเพื่อนในกลุ่มแล้วยกขาพาดฟีโน่ เสียบกุญแจบิดปรื๊ดออกไปทันที ด้านแก๊งค์สถาปัตย์ที่ไม่เคยปล่อยให้ลูกพี่เผชิญอันตรายคนเดียวอยู่แล้ว แก๊งค์แว๊นซ์ของชายฉกรรจ์หน้าโหดเกือบสิบคันจึงแล่นตามหัวโจกไปติดๆ ทันที

มอเตอร์ไซค์หลายยี่ห้อหลายรุ่นจอดเรียงกันหน้าหอแกรนด์ฯ หอที่หรูและแพงที่สุดในย่านชานเมืองนี้มีแต่คนมีอันจะกินเท่านั้นถึงจะอยู่ได้ เมื่อสะบัดสายตาคมดุจเหยี่ยวล็อกเป้าหมายแล้วว่าบีเอ็มของไอ้ภูมิจอดอยู่ที่นี่ พี่แมนก็ถลาเข้าไปทันทีแต่ถูกรปภ.ของหอขวางไว้ด้วยเพราะท่าทางไม่น่าไว้ใจ



“น้องมีธุระอะไร?”



“เมียผมถูกหลอกมาที่นี่ ผมจะมาตามเมียผมกลับ”



“น้องสแกนนิ้วไม่ผ่านก็ขึ้นไม่ได้หรอก”



ดูท่าแล้วถ้าเจรจาต่อคงจะกินเวลาอีกนาน ป่านนั้นอีเอ็มมี่เมียเขาได้ถูกไอ้ภูมิแล่เป็นกะเทยซาชิมิไปแล้วก็เป็นได้ พี่แมนจึงหันไปส่งสัญญาณให้ลูกสมุนอย่างมีมาด รปภ.แก่ๆ นายนั้นถูกเชิญอย่างปฏิเสธไม่ได้ไปยังหน้าประตูและจำต้องสแกนนิ้วเปิดให้หนุ่มหน้าสวยและพวกขึ้นไปแต่โดยดีหลังจากกินขนมตุ้บตั้บไปเสียเกือบอิ่ม



ก๊อก ก๊อก



ไอ้พี่แมนขึ้นลิฟท์มาจนถึงหน้าห้อง 422 แล้วลงมือเคาะเรียกอย่างไม่ลังเล เขาได้ยินเสียงกุกกักในห้อง เสียงสบถของเจ้าของห้องที่หัวเสียเพราะมีใครมาขัดจังหวะและเสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาประชิดตัวห้องแล้วเงียบไป ไอ้เจ้าของห้องมันคงส่องตาแมวจนรู้แล้วล่ะว่าเขามา และมันก็คงไม่เปิดให้โง่หรอก ไม่เป็นไร...เพราะกูก็แค่เคาะตามมารยาทเหมือนกัน



เปรี้ยง!!



พี่แมนถีบโครมเดียว บานประตูที่ลงกลอนอย่างแน่นหนาก็ดีดผึงออกอย่างง่ายดาย ภูมิตกใจจนตาโตเท่าไข่ห่านเมื่อเห็นแกนคณะที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างด้านความโหดลอยติดหูทุกผู้ในมหาวิทยาลัยก้าวเข้ามายืนในห้องด้วยท่าทางสบายๆ



ทว่าท่าทางนั้นกลับเปลี่ยนไปทันทีเมื่อแกนคณะเดินเข้าไปถึงห้องนอนแล้วพบร่างของเมียรักถูกขึงพรืดอยู่บนเตียง แขนทั้งข้างที่เจ็บและไม่เจ็บถูกรั้งไปมัดรวมกันไว้เหนือหัวอย่างน่าสงสาร บริเวณหน้าท้องมีรอยเลือดจากการถูกกรีดจางๆ และสายตาอ้อนวอนปริ่มน้ำตาและเจือไปด้วยความหวังจ้องตรงมายังเขา



“อีเอ็มมี่!”



“แมนกำลังขัดความสุขผมกับน้องนะ”



ภูมิขวางทางคนหน้าสวยไว้ ทว่าอารมณ์เดือดที่ปะทุอยู่ภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งด้วยความโกรธนั้นมาไกลเกินกว่าใครจะห้ามไว้ได้แล้ว แมนจ้องหน้าคนตัวสูงกว่าอย่างเดือดดาลก่อนจะซัดหน้าเจ้าของห้องเข้าไปเต็มแรง พี่ภูมิลงไปนอนสะบัดหัวไล่ความมึนอยู่กับพื้นอยู่ชั่วครู่ก่อนจะฝืนลุกขึ้นมาคว้าแขนแมนไว้ก่อนจะทันได้ถึงตัวคนบนเตียงแล้วซัดหน้าสวยๆ กลับเต็มแรงจนเลือดออกปากไปเหมือนกัน ไอ้พี่แมนใช้หลังมือปาดเลือดออกอย่างสุดเท่ห์ก่อนก่อนจะชี้หน้าคนจิตทรามด้วยอารมณ์โกรธสุดขีด



“ถ้าพรุ่งนี้มึงลุกเดินได้ อย่ามาเรียกกูว่าไอ้แมน”



แล้วแรงอัดจุกๆ ก็ปะทะเข้ามาที่หน้าท้องดังอั้กจนต้องทรุดตัวลงกองกับพื้น อย่าพูดถึงความคิดที่จะสวนกลับเลย แค่ตั้งรับแรงกระทืบครั้งต่อไปและต่อไป พี่ภูมิก็ยังทำไม่ได้ หลังจากได้รับรู้ความโหดที่แท้จริงของแกนคณะรุ่น 47 ไปอย่างอิ่มหนำ ไอ้พี่ภูมิก็สลบคาตีนไอ้พี่แมนไปอย่างชนิดต้องนำส่งโรง’บาลสถานเดียว



“พอแล้วไอ้แมน เดี๋ยวมันตาย”



ได้ยินเสียงเพื่อนรักห้ามไว้ พี่แมนจึงเริ่มได้สติยั้งตีนแล้วหันกลับไปดูใจเมียรักที่นอนรวยรินอยู่บนเตียง พี่แมนรีบแก้เชือกที่มือและผ้ามัดปากของอีเอ็มมี่ให้พ้นจากพันธนาการอย่างรวดเร็ว



“แง้~~~ พี่แมน!”



เอ็มโผเข้ากอดเอวผัว น้ำตาไหลพรากอย่างเสียขวัญ ดูท่ามันจะนึกไม่ถึงเหมือนกันว่าพี่ภูมิที่ดูภายนอกเป็นสุภาพบุรุษจะมีพฤติกรรมบนเตียงที่โหดร้ายเช่นนี้ พอถูกลูกหมาตัวโตที่สั่นงึกๆ สะอื้นฮักด้วยความกลัวกอดซบอยู่กับอก พี่แมนเธอเลยได้แต่ยกมือลูบหัวไปตามสัญชาตญาณแม้จะดูเก้กังอยู่บ้าง



“โอ๋ๆ ขวัญเอ๊ยขวัญมานะ เจ็บพุงไหม?”



“เจ็บง่ะ!”



เอ็มผละจากอกพี่แมนมาดูแผลตัวเองที่มีเลือดซึมออกมาอย่างน่ากลัวแล้วเบะปากจะร้องไห้อีกรอบ แต่พอเงยหน้ามาเห็นพี่แมนเลือดออกมุมปาก เอ็มก็หมดความสนใจกับความเจ็บของตัวเองแล้วตะปบใบหน้าพี่แมนมาดูชัดๆ ทันที



“พี่แมนเลือดออก!”



“แค่นี้ไม่เป็น...อื้อ~!!”



ไอ้พี่แมนถูกประกบปากอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นรอบที่ไม่อาจนับได้ พอจะอ้าปากด่าก็ถือเป็นโอกาสให้มันแทรกลิ้นเข้ามาดูดดุนบริเวณแผลอย่างดูดดื่มและชวนสยิวกิ้ว



“โอ๊ะโอ...”



เสียงอุทานโมโนโทนจากพี่งอกและพี่เงิบฉุดสติพี่แมนที่เริ่มเคลิ้มกับรสจูบเมียรักให้กลับมาอีกครั้ง กะเทยที่หวิดถูกข่มขืนเมื่อครู่ถูกผลักหน้าหงายพร้อมด้วยเสียงตวาดแหวจากรุ่นพี่



“มึงทำเหี้ยอะไรเนี่ย?!!”



“ห้ามเลือดไงพี่แมน...”



“ห้ามเลือด? ห้ามเลือดใช่ไหม? มา! กูห้ามให้มึงมั่ง!”



ไอ้พี่แมนลากอีเอ็มมี่ลงมานอนกับพื้นแล้วกระทืบเน้นๆ ไปที่แผลบนพุงทีเดียว อีเอ็มมี่จุกอั้กเหมือนกินข้าวสามจานติดแล้วไม่ได้กรอกอีโน พอได้ลงไม้ลงมือสมใจ พี่แมนเธอก็สะบัดหน้าบางๆ ของเธอหนีออกไปจากห้องทันที ทิ้งให้อีเอ็มมี่คลานแบ่บเอื้อมมือไขว่คว้าเรียกหาผัวรักด้วยสภาพอุจาดตาเป็นที่สุด



“พ..พะ...พี่แมน”



“เฮ้ย! ไอ้แมน! มาช่วยกันหามเมียมึงส่งโรงบาลก่อน ไอ้แมน!! ไอ้แม๊นนน!!”





โปรดติดตามแอ๊บต่อไป





#แอ๊บรัก


หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 8: เมียพี่มีชู้ววววว (29/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 29-07-2017 08:58:39
ฮ่า กระจายอ่ะ
เกิดเป็นเอ็มมี่ต้องทนตีนพี่แมนตลอด
สงสัยพี่แมนจะเก็บกดเมียมีชู้ ซัดซะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 8: เมียพี่มีชู้ววววว (29/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: A_bookworm ที่ 29-07-2017 09:06:23
เกือบไปแล้วน้องเอ็มมี่ พี่ภมิน่ากลัวอ่ะ  :katai1: :katai1: :katai1: รอคะ เป็นกำลังใจให้คนเขียนค๊าาาา


ขอบคุณสนุกมากเลย :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 8: เมียพี่มีชู้ววววว (29/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 29-07-2017 09:09:28
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 8: เมียพี่มีชู้ววววว (29/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 29-07-2017 19:27:06
พี่แมนคนซึนน
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 8: เมียพี่มีชู้ววววว (29/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 29-07-2017 19:59:37
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 8: เมียพี่มีชู้ววววว (29/07/17)
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 02-08-2017 20:21:59
แอ๊บที่ 9: เสียดุลการค้า





“พี่แมน...เปิดประตูให้ผมเถอะนะครับ”



“ไม่เปิด...จะไปแรดที่ไหนก็ไป๊!!”



“พี่แมนไม่สงสารผมเหรอครับ? หมอบอกให้นอนพักเยอะๆ นะ เดี๋ยวแผลไม่หายง่ะ”



“ไม่หายก็เรื่องของมึงสิ!”



เอ็มทำหูลู่หางตกอยู่หน้าประตูห้องคนเป็นรุ่นพี่อย่างน่าสงสาร พี่แมนแม่งทั้งใจแข็งใจร้ายใจดำใจสารพัดอ่ะ หมอบอกว่าไอ้แผลที่โดนกรีดไว้น่ะมันไม่ลึกเท่าไหร่หรอก แต่พอโดนตีนพี่แมนเธอประทับลงมาแผลมันเลยฉีก ก็เลยต้องเย็บนิดหน่อย...10 เข็มเท่านั้นเอ๊ง!



คิดแล้วแม่งแค้น หายเมื่อไหร่นะกูจะรวบยอดให้หมดเลยทั้งหัว ทั้งแขน ทั้งพุง ทั้ง***!



“พี่แมนจะไม่เปิดจริงๆ เหรอ? ผมปวดแผลอ่ะ โอ๊ย...พี่แมน โอ๊ย!! มีเลือดซึมออกมาจากแผลด้วยอ่ะ!”



“ไหน!”



ประตูห้องของแกนคณะสุดโหดเปิดผางดั่งใจตุ๊ด แต่ทว่าภาพเบื้องหน้าของพี่แมนที่ท่าทางร้อนใจนั้นไม่ใช่สภาพกะเทยป่วยแต่เป็นกะเทยยิ้มแฉ่งแข่งกับดวงอาทิตย์ ให้พี่แมนได้รู้ว่าตนตกบ่วงมารยากะเทยร่วมห้องอีกหนึ่งคราเสียแล้ว



“มึงตอแหลใส่กูอีกแล้วนะ!”



“ก็พี่แมนไม่สงสารผมบ้างอ่ะ ผมเจ็บจริงนะ โดนหมอจับเย็บเป็นตุ๊กตาขาดๆ เลยด้วย”



“ไม่ต้องมาทำเสียงง๊องแง๊ง จะเข้าก็เข้ามา”



พอได้ยินเสียงอนุญาต เอ็มก็หางกระดิกไหวๆ เหมือนหมาที่เจ้าของเรียกเข้าบ้าน ระริกระรี้เดินก้าวเข้าห้องอย่างหน้าชื่นตาบาน



ปัง!



“โอ๊ย!”



 พอขยับขาก้าวเข้าไปได้ข้าง พี่แมนเธอก็ซัดประตูอัดใส่หน้ากะเทยตอแหลเต็มแรงจนอีเอ็มมี่ไหลวืดไปนั่งนับดาวอยู่กับพื้น คนถูกลงทัณฑ์สะบัดหัววืดๆ ไล่ความมึนงงก่อนจะค่อยๆ กระดื๊บเข้ามาในห้องพร้อมเสียงหัวเราะหึหึอย่างแสนสะใจของเจ้าของห้องที่กลับไปนั่งเล่นคอมอยู่บนเตียง



“พี่แมน กระแทกมาเต็มหน้าเลยอ่ะ ถ้าผมโง่ขึ้นมาทำไง?”



“โถ...อีอัจฉริยะ ปกติมึงก็ไม่ได้ฉลาดอยู่แล้วป่ะเหอะ”



เอ็มค้อนพี่แมนปะหลักปะเหลือกทั้งที่บนหัวยังมีนกบินวนร้องจิ๊บๆ ไม่หาย



“ด่ามากๆ ระวังติดเชื้อผมไปนะ”



“ภูมิคุ้มกันกูดีเหอะ เชื้ออ่อนๆ อย่างมึงจะทำอะไรกูได้?”



เอ็มไถตูดกระดึ๊บๆ เข้ามาเกาะขาไอ้พี่แมนที่นั่งเล่นคอมอยู่เตียงแล้วแนบหน้าลงกับต้นขาขาวพร้อมช้อนตาแป๋วขึ้นมองใบหน้าหวานใต้กรอบแว่นเด็กเนิร์ดอย่างอ้อนๆ



“ก็ทำให้พี่แมนแว๊นซ์ฟีโน่ไปช่วยผมได้ไงครับ”



คนที่สนใจจอคอมมาตลอดเบนสายตาลงมามองรอยยิ้มดีใจของกะเทยที่แปลงร่างเป็นผีเกาะขาแล้วก็ได้แต่ลมหายใจสะดุด รีบตีสีหน้ากลบพิรุธเมินหนีไปทางอื่นทันที



แม่ง...ทำไมเดี๋ยวนี้กูมองว่ามันน่ารักได้ล่ะวะ?!!



“ขอบคุณนะครับ พี่แมน”



อย่ามาพูดเสียงอ้อนใส่กูนะ!!



“ใครไปช่วยมึง? กูแค่หาเหยื่อมากระทืบเล่นเท่านั้นล่ะ”



“พี่แมนปากแข็ง...จริงๆ เป็นห่วงผมใช่ไหมล่ะ?”



“พูดเหี้ยอะไร? อย่าหลงตัวเองนักเลยมึงอ่ะ”



อีเอ็มมี่ผละใบหน้าที่แนบต้นขาออกมาจ้องหน้าคนบนเตียงอย่างจริงจัง กะเทยเสิ่นเจิ้นลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ส่งผลให้เจ้าของห้องต้องเงยหน้ามองตาม



“พี่อ่ะแหละเป็นเหี้ยอะไร? ทำไมไม่ยอมรับความจริงซะที?”



“ความจริงเหี้ยอะไร?”



“ก็ความจริงเหี้ยๆ ที่ว่ามึงหวั่นไหวกับกูแล้วไง!”



พี่แมนอ้าปากจะเถียงต่อแต่ก็เงียบไป พอเห็นไอ้พี่แมนเพลี่ยงพล้ำ เอ็มก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดรอดต่อไปได้อีก



“มึงกระทืบกู กูทนได้ มึงไม่รักกู กูรอได้ แต่มึงโกหกตัวเอง แล้วจะให้กูต้องทน ต้องรอ ไปถึงเมื่อไหร่?”



ทั้งสองคนจ้องตากันอยู่อย่างนั้น ก่อนที่พี่แมนจะเป็นฝ่ายหลบสายตาคาดคั้นจริงจังของอีกฝ่ายไปเสียก่อน และสุดท้ายพี่แมนก็เอาแต่นิ่งเงียบไม่ตอบอะไรกลับมาเหมือนอย่างเคย กะเทยเทียมเลยได้แต่พรูลมหายใจอย่างหงุดหงิดก่อนจะเริ่มสงบสติอารมณ์ได้บ้าง



“ช่างมันเถอะ ถือว่าผมไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน หมดวีคนี้เมื่อไหร่พี่จะให้ผมไปเป็นเมียอาจารย์คนไหนก็แล้วแต่พี่เหอะ”



เอ็มพูดจบก็เดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้พี่แมนจมกับความคิดตัวเองอยู่ครู่ใหญ่ จวบจนเสียงโคร้งเคร้งในห้องน้ำดังขึ้น เจ้าของห้องจึงได้ลุกจากเตียงแล้วเดินตามเข้าไปดู กะเทยที่ยังอารมณ์ขุ่นมัวทำเป็นไม่สนใจคนที่เดินเข้ามาดู พี่แมนก้มเก็บกะลังมังใบเล็กที่อีเอ็มมี่ทำร่วงลงมาจากขอบวางอุปกรณ์ชำระร่างกายไปวางที่เดิมแล้วมองผ้าขนหนูในมืออีกฝ่ายอย่างสงสัย



“หมอไม่ให้อาบน้ำเหรอ?”



เอ็มเล่นตัวด้วยการไม่ตอบ และพี่แมนก็ฉลาดพอที่จะไม่เซ้าซี้ มองแผลที่พุงมันก็รู้ว่าห้ามโดนน้ำ แต่ก่อนแผลมันมีแต่ที่หัวกับแขนก็ยังพออาบฝักบัวได้ แต่ลงต่ำมาที่ท้องแบบนี้ยังไงก็ต้องเช็ดตัวอย่างเดียว แถมมือข้างเดียวก็ทำไม่ถนัดซะด้วย ถึงได้ชนอ่างน้ำหล่นคว่ำไปแบบนั้น



ไอ้พี่แมนเปิดน้ำใส่กะลังมังใบเดิมแล้วหิ้วมาวางไว้ ก่อนคว้าผ้าในมืออีเอ็มมี่ที่ยังงอนไม่เลิกมาจุ่มน้ำบิดหมาด



“พี่แมนจะทำไรอ่ะ?”



“ก็มึงเช็ดตัวเองลำบากไม่ใช่ไง๊?”



เอ็มที่กำลังงงๆ ถูกผ้าเย็นๆ โปะมาบนหน้าอก ก่อนที่คนโปะจะก้มหน้างุดๆ ถูไปถูมาอยู่อย่างนั้น ฝ่ายคนบาดเจ็บที่ได้รับการปฏิบัติแบบแปลกๆ ก็ได้แต่กลั้นยิ้มอย่างสุดความสามารถ



เค้าง้อกูเว่ย...เค้าง้อกู!!



“หันหลัง”



เอ็มพลิกตัวอย่างว่าง่าย ปล่อยให้พี่แมนเช็ดแผ่นหลังขาวๆ ของมันจนสะอาดเอี่ยม ไล่เลยมาถึงด้านหน้าใกล้บริเวณแผลที่เพิ่งเย็บมาสดๆ พี่แมนค่อยๆ เอามือเย็นๆ แตะๆ บริเวณท้องน้อยคล้ายจะสำรวจ สายตาที่ทอดมองลงมานั้นเจือความอาทรณ์ไว้โดยที่เจ้าตัวไม่รู้



แต่เมื่อมองจากมุมของเอ็ม ขนตาหลุบเป็นแพใต้กรอบแว่นอันใหญ่กับแก้มใสๆ ที่อยู่ใกล้แค่ลมหายใจคั่น ไหนจะสัมผัสบางเบาที่จับๆ แตะๆ อยู่ใกล้ของที่ไม่ควรใกล้อีก ถึงเอ็มจะกลายเป็นตุ๊ดไปเสียจริงๆ แต่โดนคนที่ชอบมาทำแบบนี้ถ้าไม่มีปฏิกิริยาก็เรียกได้ว่าเสื่อมสมรรถภาพแล้ว



“หือ?...มึง!!”



ไอ้พี่แมนที่ตาไวสังเกตเห็นอะไรมันดันบ็อกเซอร์ขึ้นมาเป็นดุ้นก็สะบัดตาเขียวจ้องหน้ากะเทยร่วมห้องอย่างหัวเสีย แต่พอเผลอลงน้ำหนักมือในจุดที่เคยแตะไปหน่อย อีตุ๊ดสำออยก็ร้องโอดโอยจนพี่แมนไม่กล้าลงไม้ลงมืออีก



“อีตุ๊ดหื่น!”



“ก็พี่แมนนั่นแหละ แตะตรงไหนไม่แตะ”



“นี่มึงโทษกูเหรอ?!”



“ใช่สิ! พี่แมนต้องรับผิดชอบด้วยนะ”



เอ็มเลื่อนปลายจมูกเข้ามาใกล้แก้มพี่แมนอย่างอาจหาญ พอเห็นว่าตัวเองถูกรุกรานพี่แมนก็กำหมัดเตรียมซัดกลับ แต่เอ็มรู้แกวจุ๊ปากเตือนไว้ซะก่อน



“ผมเจ็บอยู่นะพี่แมน หมอบอกว่าถ้าแผลฉีกอีกรอบผมต้องแอดมิทเป็นเดือนเลยนะ”



คนถูกขู่เลยได้แต่ฮึดฮัดอย่างขัดใจ ฝ่ายคนเจ้าเล่ห์ที่เห็นพี่แมนยอมมาแล้วครึ่งทางก็รุกหนัก ใช้มือข้างที่ไม่ได้เข้าเฝือกของตัวเองคว้ามือคนหน้าบางให้ค่อยๆ เลื่อนเข้ามาสัมผัสลูกรักของตัวเองผ่านเนื้อผ้า



“อีเอ็มมี่!!”



“นะครับ...ทำให้ผมหน่อยนะ”



เสียงทุ้มๆ อ้อนๆ ยังไม่พอ คนหน้าหล่อใช้สายตาลูกหมาขอข้าวมองไอ้พี่แมนที่หน้าแดงแปร๊ดและร้อนผะผ่าวจนแทบสุก พี่แมนพยายามควบคุมลมหายใจของตัวเองไม่ให้พ่ายแพ้ต่อข้าศึกที่เข้าแทรกซึมสติอยู่ตอนนี้



“ก..กูกระทืบมึงไม่ได้ แต่กูจับมึงกดชักโครกได้นะ”



“พี่แมนรังเกียจผมเหรอครับ?”



คราวนี้สายตาลูกหมาขอข้าวกินมันเพิ่มความน้อยใจลงไปเล็กๆ ไอ้พี่แมนที่จะอ้าปากตอบว่าใช่เหมือนทุกที ก็ต้องเก็บปากเก็บคำอย่างไม่กล้าทำร้ายจิตใจคนตรงหน้า ระหว่างที่กำลังลังเลว่าจะชักมือหนียังไง มือเย็นๆ ของพี่แมนก็เข้าไปกอบกุมความอุ่นร้อนของตุ๊ดหื่นเป็นที่เรียบร้อย ซ้ำร้ายอีกะเทยจีนแดงมันยังกุมมือพี่แมนซ้อนทับไว้แล้วค่อยบังคับให้ขยับรูดตามความยาวอีกต่างหาก



“อืม~”



เอ็มเกยหน้าไว้บนไหล่พี่แมนที่หลับตาปี๋จำใจรับสภาพไปแล้ว เสียงครางผะแผ่วกับสัมผัสเหนียวลื่นที่ฝ่ามือทำให้พี่แมนรู้สึกคล้ายจะเป็นลมจนต้องพิงสะโพกไว้กับขอบอ่างล้างหน้า



“พี่แมน...จูบนะ?”



กะเทยหน้าหล่อผละใบหน้าออกมากระซิบขออนุญาต พี่แมนที่ไม่ค่อยรับรู้อะไรแล้วก็ไม่ได้คัดค้านอะไรไป เอ็มจึงถือโอกาสประทับริมฝีปากแดงๆ ตรงหน้า ทั้งขบทั้งเม้มทั้งดูดดุนและเร่งเร้าให้พี่แมนตอบสนองก่อนจะค่อยๆ แทรกลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับเรียวลิ้นของคนตรงหน้าอย่างดูดดื่ม



พอพี่แมนเริ่มสติหลุดไปครบถ้วนทั้งหมดทั้งมวล เอ็มก็ปล่อยให้พี่แมนปรนเปรอตัวเองโดยไม่ต้องชี้นำอีก เขาผละมือไปลูบไล้เอวกิ่วคอดของพี่แมนก่อนจะเริ่มลามเข้าไปถึงกางเกงบอลย้วยๆ สู่บางสิ่งที่ล่อตาล่อใจ



“อื๊อ! ทำอะไร?”



“แลกกันทำไงครับ พี่แมนทำให้ผมอยู่คนเดียว พี่แมนเสียเปรียบนะ”



“โอ๊ย! กูยอม!”



“ยอมแล้วใช่ไหมครับ?”



กูหมายถึงกูยอมเสียเปรียบเว่ย ไม่ใช่ยอมแบบนี้!!



แต่พี่แมนก็ไม่ได้มีโอกาสแก้ความเข้าใจผิดกับอีตุ๊ดหื่นนี่แต่อย่างใด ริมฝีปากบางถูกรุกรานอีกครั้งพร้อมๆ กับฝ่ามือร้อนๆ ของคนที่เคยเป็นรองมาตลอดที่ดอดเข้าไปกอบกุมบางสิ่งที่ถูกเร้าด้วยแรงอารมณ์จนขยายขนาดแล้วเหมือนกัน



“เป็นตั้งขนาดนี้แล้วอ่ะ”



“อย่าพูด!”



“หึหึ”



ไอ้พี่แมนรู้สึกเกลียดเสียงหัวเราะอีตุ๊ดนี่ขึ้นมาชะงัด เสร็จจากตรงนี้เมื่อไหร่นะมึง..นะ...อ๊ะ!



“ทำเหมือนผมนะ”



เอ็มกระซิบบอกแล้วใช้นิ้วหัวแม่มือไล้วนบริเวณยอดปลายของพี่แมนเบาๆ จนสะโพกบางเกร็งกระตุก ไอ้พี่แมนเม้มปากแต่กระนั้นเสียงหวานครางเครือก็ยังหลุดรอดออกมาให้ได้ยินอยู่ดี



“ดีไหมครับ?”



พี่แมนไม่ตอบคำ แต่ดวงหน้าหวานหยาดเยิ้ม ดวงตาปรือปรอยฉ่ำน้ำใต้กรอบแว่นที่หลุดเอียงอย่างเซ็กซี่กับใบหน้าซับสีเลือดที่บิดเบี้ยวด้วยแรงอารมณ์ กลับตอบคำถามของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี



“ทำให้ผมด้วยสิครับ”



พี่แมนจำต้องขยับนิ้วถูไถปลายยอดให้อีกฝ่ายอย่างเท่าเทียม คนเจ้าเล่ห์ที่ชี้นำคนโหดที่ตกบ่วงแล้วถูกลากมาจนถึงป่านนี้ เขาซบใบหน้าซูดดมกลิ่นกรุ่นจากผิวกายเนียนละเอียดอย่างมีความสุข พลางกระซิบแหบเครือด้วยเสียงเร้าอารมณ์



“อือ...เสียวโคตร”



“ไอ้...หน้าด้าน”



“ผมชมพี่แมนว่าทำเก่งต่างหาก”



คนถูกชมรู้สึกเขินขึ้นมาเสียดื้อๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าความรู้สึกเวลาทำคนเดียวมันเทียบไม่ได้เลยกับการที่ถูกสัมผัสด้วยมือของกันและกันแบบนี้ แต่จะให้พูดให้อีตุ๊ดนี่มันได้ใจอ่ะนะ? ไม่มีทางอ่ะ...



“อื๊ออ”



“จะถึงแล้วเหรอครับ?”



เอ็มขยับมือเร่งให้เร็วขึ้นพร้อมไล้ปลายจมูกไปบนพวงแก้มสีหวานของรุ่นพี่ คนที่ถูกเร่งเร้าจนแทบถึงขีดสุดครางอือตอบอย่างน่ารัก



“เรียกชื่อผมหน่อยสิ”



“อือ...อีเอ็มมี่”



“ไม่เอาครับ เรียกเอ็มเฉยๆ สิ”



กะเทยที่กลายร่างเป็นหนุ่มหื่น ใช้เสียงหล่อๆ ล่อลวงไอ้พี่แมนที่สมองขาวโพลนไปด้วยความสุข วินาทีนี้ต่อให้อีเอ็มมี่มันร้องขอมากกว่านี้พี่แมนก็คงยอมได้ง่ายๆ เหมือนกัน



“อือ...เอ็ม...เอ็ม...อ๊ะ...อื๊อออ”



พี่แมนเกร็งกระตุกก่อนจะปลดปล่อยคามือคนตรงหน้า ก่อนที่เจ้าตัวจะหอบหายใจแรงราวกับเพิ่งไปวิ่งจ๊อกกิ้งมา พอได้สัมผัสห้วงความสุขสุดยอดไปแล้ว สติสตังของคนหน้าบางก็เริ่มกลับมา แต่พอจะปล่อยไอ้ของที่คาอยู่ในมือมานาน อีตุ๊ดยักษ์ก็รู้ทันตะปบมือไว้เสียก่อน



“อย่าเอาเปรียบกันสิครับ”



มึงก็อย่าพูดเสียงอ้อนข้างหูกูสิครับ!



พี่แมนจำต้องขยับมือเร่งเร้าความสุขให้ตุ๊ดร่วมห้องอย่างเขินๆ เมื่อครู่ก็ยังพอเบลอๆ มึนๆ ไปได้อยู่หรอก แต่พอสติกลับมาครบถ้วนแบบนี้แล้วไม่กล้ามองหน้ามันเลยเว่ย!



“อืม...อื้อ”



สุดท้ายเอ็มก็พ่นพิษใส่มือพี่แมนไปจนได้ คนเกือบเปลือยพรูลมหายใจอุ่นร้อนอย่างอิ่มเอมพลางมองหน้าคนที่พลิกตัวไปล้างมือ ก้มหน้างุดๆ ไม่ยอมสบตาอย่างยิ้มๆ



“ขอบคุณมากนะครับ”



ยิ่งฟังเสียงมันเปรมปรีดิ์เกินเหตุ พี่แมนเลยหมั่นไส้ตีหน้าโหดจ้องหน้ามันผ่านกระจกหวังจะให้สลดซักทีแต่กลับถูกขโมยหอมแก้มไปอีกหนึ่ง



แม่ง...วันนี้ขาดทุนชิปหาย



“พี่แมนอาบน้ำใหม่ดีกว่า เดี๋ยวผมเช็ดตัวแล้วไปรอข้างนอกนะ”



คนที่วันนี้ได้กำไรเกินดุลการค้าหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดคราบคาวบนร่างกายตัวเองจนสะอาดเอี่ยมแล้วเดินออกไปรอข้างนอกตามที่บอก ปล่อยให้พี่แมนได้ชำระร่างกายจนสดชื่นอีกรอบแล้วออกมาล้มตัวนอนบนเตียง



“ดึกแล้วมึง นอนได้แล้ว”



พี่แมนหันไปสั่งสิ่งมีชีวิตอีกตัวในห้อง ก่อนจะหันหลังคลุมโปงนอนหลับตาไป เอ็มจึงลุกไปปิดไฟให้ก่อนจะเดินไปล้มตัวนอนเช่นกัน แต่ไอ้จุดที่ไปนอนดันไม่ใช่ที่นอนมันแต่เป็นเตียงพี่แมนนี่สิ



“เกินไปละมึง”



พี่แมนทำเสียงเหนื่อยหน่ายคล้ายเพลียที่จะด่า อีตุ๊ดนี่ได้คืบเอาศอก ไอ้ศอกจะเอากูตลอดๆ แต่ถึงกระนั้น พี่แมนเธอก็ไม่ได้ต่อว่าต่อขานตุ๊ดโลภมากอย่างเอาจริงเอาจังนัก อาจจะเป็นเพราะพี่เขาเพลียจากกิจกรรมร่วมเมื่อครู่ก็เป็นได้ เอ็มเลยได้มีบุญนอนโอบเอวพี่แมนจากด้านหลังเป็นเวลาหนึ่งคืนเต็มๆ



“พี่แมน...ผมรักพี่แมนนะ”



“อือ...กูรู้แล้ว”



พี่แมนตอบกลับเสียงงัวเงีย แต่ทำให้คนฟังยิ้มปากแทบฉีกถึงเข่า



“อย่าให้ผมรอนานนะ”



“ไม่รอก็เรื่องของมึงอ่ะ กูง่วง!”



ถือเป็นคำประกาศิตให้คนตัวสูงเลิกเซ้าซี้พี่ท่านได้เสียที จากนั้นทั้งคู่ก็จมดิ่งลงไปในห้วงนิทราที่แสนเป็นสุข



.

.

.



เสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงทำหน้าที่ของมันในยามสาย พี่แมนงัวเงียลืมตาขึ้นมาอย่างเบลอๆ ก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นมองซ้ายมองขวาหารูมเมทด้วยใบหน้ายับๆ



“อาบน้ำอ๋อวะ?”



พี่แมนลุกขึ้นเดินไปดูในห้องน้ำก็ไม่พบแม้แต่เงา คนตัวบางเลยสำรวจห้องของตัวเองอย่างมึนๆ และพบว่าทั้งเสื้อผ้าในตู้ ข้าวของที่มันขนมาและกีตาร์ตัวโปรดของเมียรักหายไป..



“อีเอ็มมี่?”



พี่แมนยืนก่งก๊งอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาเมียรัก แต่ก็ได้ยินแต่เสียงผู้หญิงน่ารำคาญที่บอกให้เขาทราบว่ามันปิดมือถือหนี



แม่ง...นี่ยังไม่ทันให้กูได้มึง มึงก็ทิ้งกูแล้วเรอะ?!







โปรดติดตามแอ๊บต่อไป





#แอ๊บรัก


หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 9: เสียดุลการค้า (02/08/17)
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 02-08-2017 23:13:52
ชอบเอ็มอ่ะ 
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 9: เสียดุลการค้า (02/08/17)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-08-2017 23:50:11
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 9: เสียดุลการค้า (02/08/17)
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 03-08-2017 00:00:48
พี่แมนเหมือนมีความเมียขึ้นทุกวัน 55555  :laugh:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 9: เสียดุลการค้า (02/08/17)
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 03-08-2017 16:28:47
สงสัยแมนจะต้องเปลี่ยนเป็นแมนนี่ซะแล้วมั้ง 555

หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 9: เสียดุลการค้า (02/08/17)
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 03-08-2017 17:24:33
เอ็มมี่มีแผนการ 55555555555555
ชอบเรื่องนี้ค่ะ แหวกแนวดี
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 9: เสียดุลการค้า (02/08/17)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 03-08-2017 20:07:09
รอบนี้เอ็มมี่ได้กำไรล่ะ ฟินไปเลย ฮ่าๆๆๆ
มันเป็นแผนกระตุ้นใช่มะ เก็บผ้าหนี ให้มาง้อกลับใช่มะ
รอลุ้นๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 9: เสียดุลการค้า (02/08/17)
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 05-08-2017 20:29:43
แอ๊บที่ 10: เมียกูอยู่ไหน?



“เฮ้อ~”



“เป็นไรวะไอ้แมน ทำหน้าเหมือนเมียหาย”



พี่แมนตวัดสายตามองเพื่อนรักที่พูดจาไม่เข้าหูตั้งแต่ประโยคแรกที่เจอหน้า ส่งผลให้พี่งอกผู้กะแซวเล่นๆ แต่มันเสือกโกรธจริงรู้สึกขนลุกวูบวาบคล้ายถูกเสกควายธนูเข้าท้องอย่างไรพิกล



“อารมณ์ไม่ดีเหรอมึง?”



“มึงพิจารณาเอาจากหน้ากูซิ ลัลล้าเลยไหม? โลกสดใสดอกไม้เบ่งบานเลยรึเปล่า?”



พี่เงิบที่อุตส่าห์หวังดีถามไถ่ก็พลอยหน้าม่อยไปอีกคน ไอ้แมนเวลาโกรธแม่งเหมือนผู้หญิงเป็นเมนส์ ใครเข้าใกล้ได้โดยเหวี่ยงไปหมด พี่เงิบกับพี่งอกเลยหันมาคุยกันเองเสียแทน



“ไอ้เหี้ย วันนี้ขยันนะ แบกหนังสือมาเรียนซะกระเป๋าตุงเลย”



“เปล่า กูเอามาหนุนหัว”



ว่าแล้วพี่งอกก็จับหนังสือเรียงเป็นตั้งแล้วฟุบลงไปนอน ไม่ได้สนใจท่านอาจารย์ที่กำลังก้าวเข้ามาสอนในห้องแต่อย่างใด พี่เงิบที่ทางซ้ายก็มาคุ ทางขวาก็กรนดังเลยได้แต่นั่งกดมือถืออย่างไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร



“ไอ้เงิบ”



“ไรมึง?”



“วันนี้ไปแดกส้มตำเป็นเพื่อนกูหน่อย”



พี่เงิบขมวดคิ้ว แพ้ท้องรึไงวะถึงได้เปรี้ยวปากอยากแดกส้มตำ ปกตินี่บ่นเหม็นบ่นเค็มตลอด แถมชวนหน้านิ่งๆ อย่างนี้ลางไม่ดีแน่ๆ



“ที่ไหนวะ?”



“หึ!”



มึงอย่ายิ้มดิ้ กูขนลุก!



พี่เงิบลูบแขนตัวเองป้อยๆ มองหน้าหัวโจกที่แม่งยังคงตั้งอกตั้งใจเรียนพร้อมรอยยิ้มเย็นๆ เคลือบไว้ที่ริมฝีปากอย่างน่าสยดสยอง ทางเลือกเดียวของพี่เงิบตอนนี้คือหุบปากแล้วไปแดกส้มตำเป็นเพื่อนมันนั่นแหละจบ!



.

.

.



“ทำไมมึงต้องถ่อมากินที่นี่ด้วยวะ?”



พี่งอกที่เพิ่งตื่นนอนจากในคาบเรียนเมื่อครู่เดินเกาหัวเข้ามานั่งในเพิงขายส้มตำหน้าหอเพื่อนหญิงอย่างไม่เข้าใจ ไอ้แมนมันไม่ชอบแดกส้มตำ หรือถ้ามันนึกอยากแดกส้มตำหน้าหอมันก็มี ถ่อมาถึงหออีเอ็มมี่นี่ไม่ใช่ใกล้ๆ นะเห้ย!



“เจ้านี้ตำอร่อย”



ไอ้ตอแหล! อร่อยแล้วมึงสั่งแต่ไก่ย่างเพื่อ?



พี่งอกและพี่เงิบได้แต่ผรุสวาทอยู่ในใจ ด้วยไอ้แกนคณะเพื่อนรักมันก็หน้านิ่งเกิ๊น เดาอารมณ์ไม่ถูกจริงๆ ว่ามันต้องการอะไรจากชีวิตลูกน้องอย่างกูสองคนกันแน่ สามหนุ่มแทะไก่กันจนอิ่มหนำเป็นที่เรียบร้อย พี่แมนก็ล้างมือล้างปากแล้วหันหน้าไปถามเพื่อนรักด้วยรอยยิ้มบาง



“ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว พวกมึงอยากขึ้นไปหาอีกุมารไหม?”



“ไม่อ่ะ”



“แต่กูว่าพวกมึงอยาก”



“กูไม่...”



“พวกมึง...อยาก”



ไม่ถงไม่ถามความสมัครใจกูซ๊ากกกกกกกคำ



แม้แต่ความอยากของพวกกูมึงยังยัดเยียดอ่ะไอ้แมน พ่อมึงเป็นฮิตเลอร์ใช่ไหม? หลังจากอวดครวญพอเป็นพิธี พี่งอกกะพี่เงิบก็พาเพื่อนแมนสุดที่รักขึ้นมายืนหน้าห้องหอของสองกุมารและอีเอ็มมี่ได้เป็นผลสำเร็จด้วยคีย์การ์ดที่น้องเมเม่เคยให้พี่งอกไว้ แต่พอเห็นว่าหน้าห้องมีกุญแจลูกใหญ่ล็อกไว้อยู่ก็เป็นอันชัดเจนว่าสองศรีกะเทยทองไม่ได้สถิตอยู่ที่ห้อง



“ป่ะ กลับเหอะ”



“เย็นแล้วนะ มึงไม่คิดจะโทรถามพวกมันหน่อยเหรอว่าไปทำอะไรอยู่ที่ไหน?”



“กูว่า...”



“มึงโทรเห๊อะ~!”



พี่เงิบขัดคู่ซี้ที่ยังไม่สำเหนียกตัวว่านั่นไม่ใช่คำเสนอแนะแต่เป็นคำสั่ง พี่แมนมองเพื่อนรักกดโทรศัพท์หากุมารน้อยของมันอย่างไม่วางตา พอปลายสายรับพี่แมนก็จ้องเขม็งทันที



“เมเม่เหรอ? หนูอยู่ไหนจ๊ะ?”



“กลับบ้านเหรอจ๊ะ? อ๋อ คิดถึงสิจ๊ะ”



“ถามสิว่าอยู่กับใคร”



ได้ยินเสียงสั่งโหดๆ ลอยมา บรรยากาศหวานแหววก็หายวับไปทันตา พี่งอกอ้อมแอ้มถามสุดที่รักก็ได้ความว่าอยู่กับน้องสาวฝาแฝดและคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง



“แล้ว....!?”



พี่แมนเม้มปากแน่นเหมือนห้ามตัวเองไม่ให้หลุดพูดอะไรออกไป ก่อนที่เจ้าตัวจะจิ๊ปากทำท่าทางฮึดฮัดอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้



“แม่งเอ๊ย!”



แกนคณะสุดแมนสบถแล้วเดินหนีสองเพื่อนรักลงไปทันที เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้หงุดหงิดขนาดนี้ หงุดหงิดจนหงุดหงิดตัวเอง หงุดหงิดจนคาดโทษไอ้ตัวต้นเหตุไว้ในใจเลยว่ามันกลับมาเมื่อไหร่ได้แผลเพิ่มอีกแน่ๆ



.

.

.



“พี่แมนคะ ขนมหวานนั่งด้วยคนได้ไหมคะ?”



น้องเฟรชชี่หน้าตาน่ารักคนหนึ่งถือถาดข้าวเข้ามาทักพี่แมนที่กำลังเขี่ยราดหน้าด้วยสีหน้าอยากฆ่าคนเต็มที่ แต่ดูเหมือนแม่น้องขนมหวานนี่จะไม่ได้รับรู้อารมณ์พี่แมน หรือไม่ก็คิดว่าพี่แมนแค่เบื่อและอยากหาอะไรที่สดใสมาเติมให้ชีวิต ซึ่งคุณน้องเธอก็ดูจะพร้อมเป็นสิ่งที่ว่านั่น



พี่แมนมองหน้าน้องเขา ก่อนจะเบนสายตามองพื้นที่ในโต๊ะที่แน่นขนัดไปด้วยลูกน้องในแก๊งค์แล้วหันกลับมามองน้องเขาอีกที



“ที่ว่างเหลือแต่พื้นนะครับ ถ้าน้องจะนั่งพี่ก็ไม่ขัดศรัทธานะ”



ปิดท้ายรอยยิ้มขับไล่ไสส่งอีกหนึ่งที คุณน้องขนมหวานจึงต้องเก็บเศษหน้าแล้วรีบจรลีจากไปก่อนที่อะไรๆ จะเลวร้ายกว่าปัจจุบัน



“แมนแม่ง ปล่อยไปได้ไงวะ? น่าขยี้สัดๆ”



“ไอ้แมนมันไม่มีอารมณ์เหล่หญิงอื่นหรอก มันกำลังเฮิร์ท เมียทิ้ง”



“ไม่อยากมีปากไว้แดกข้าวแล้วไง? มึงอ่ะ”



พี่เงิบทำใจดีสู้เสือยักไหล่อย่างไม่กลัวเกรง แล้วขยี้จุดหัวหน้าแก๊งค์ต่อไปด้วยแรงสนับสนุนจากพี่งอกที่นั่งประกบเป็นลูกคู่อยู่ข้างๆ



“มึงจะบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกะมันเลยไง๊?”



“แล้วมึงจะให้กูคิดอะไร? กูเกลียดตุ๊ด มึงก็รู้!”



“ถ้าไม่คิดอะไรทำไมแค่มันหายหัวไปมึงถึงแดกไม่ได้นอนไม่หลับ เดี๋ยวพาลเดี๋ยวเหวี่ยงใครเข้าหน้าไม่ติดงี้วะ?”



“ไอ้เงิบ!!”



พี่แมนโยนช้อนลงกับโต๊ะแล้วลุกขึ้นชี้หน้าตวาดเพื่อนเสียงดัง นักศึกษาร่วมโรงอาหารเดียวกันต่างแตกฮือไปคนละทิศละทางด้วยความหวาดผวา



“ไอ้แมน ใจเย็น”



พี่งอกที่เห็นท่าไม่ดีก็รีบคว้าไหล่เพื่อนไว้ เขารู้ว่าไอ้แมนมันกำลังพาลไอ้เงิบที่พูดแทงใจมันตรงเป๊ะ วิธีการของไอ้เงิบมันก็ถือว่าได้ผลดี แต่เสี่ยงโดนตีนไอ้แมนเขี่ยปากอยู่มากโข



“ไอ้เงิบมันก็พูดถูกนะไอ้แมน มึงคิดดูดีๆ เหอะว่ามึงอ่ะเกลียดตุ๊ดจริงๆ หรือเป็นเพราะถูกรุ่นพี่ฝังหัวมากันแน่”



“ไอ้งอก!!”



“หรือถึงมึงจะเกลียดตุ๊ดจริงๆ แต่ถ้าการที่อีเอ็มมี่หายไปจากสารบบของมึงแค่สามวันแล้วมึงแทบจะกลายร่างแบบนี้ กูว่ามันก็คงพิเศษสำหรับมึงมากพอดูนั่นแหละ”



“พวกมึง...”



พอเห็นหัวโจกแก๊งค์ตัวเองทำหน้าสับสนกับข้อมูลที่ถูกป้อนเข้าสมองไปให้คิด สองคู่ซี้ก็รู้ตัวว่าควรจะหยุดอยู่ตรงนี้ได้แล้ว เรื่องละเอียดอ่อนและเข้าใจยากแบบนี้มันคงต้องใช้เวลาไม่น้อย แต่ยังไงอีเอ็มมี่ก็ถือว่ามาได้ไกลมากแล้ว...



ทั้งแก๊งค์ที่นั่งกินข้าวเย็นกันไปเงียบๆ พร้อมใจรีบอิ่มอย่างมิได้นัดหมาย เพราะท่านแกนฯ ก็ได้แต่นั่งเหม่อ ส่วนมือขวามือซ้ายก็มองอาการเพื่อนอย่างเป็นห่วง เมื่ออิ่มกันเรียบร้อย...ทั้งกลุ่มก็เดินกันไปยังลานจอดมอเตอร์ไซค์ที่วันนี้ค่อนข้างบางตา พี่แมนเธอพาดขาเสียบกุญแจฟีโน่ในช่วงเวลาเดียวกับที่รถบัสคันหนึ่งวนเข้ามาจอดตรงลานกว้างพอดี



ไอ้ตอนแรกพี่แมนก็ไม่อยากจะสนใจ แต่หน้าเด็กเฟรชชี่แต่ละคนที่ก้าวลงมาจากรสบัสมันก็คุ้นหน้าค่าตากันเป็นอย่างดีเพราะเป็นเด็กคณะศิลป์ที่ขึ้นแสตนด์กันอยู่ทุกวัน ยิ่งไอ้คนที่ห้อยเฝือกเดินลงมาจากรถเป็นคนสุดท้ายนั่นยิ่งคุ้นเข้าไปใหญ่



“อีเอ็มมี่!!”



“อ้าว? พี่แมน มารอรับผมเหรอครับ?”



อีตุ๊ดจำเลยที่ยังไม่รู้ตัววิ่งดุ๊กๆ เข้ามาหาโจทก์อย่างดีอกดีใจ พี่แมนตวัดขาลงจากรถแล้วก้าวฉับๆ เข้าไปหามันทันที



ผัวะ!



“โอ๊ย! พี่แมนต่อยผมทำไมอ้ะ?!”



เอ็มโวยวายหน้าตาตื่น อะไรวะ? คนอุตส่าห์ดีใจนึกว่าผัวใจดีมารอรับ นี่กูไม่ได้เข้าใจอะไรผิดไปใช่ไหม?



“มึงหายไปไหนมา?!”



“ป....ไปรับน้องไง”



“ทำไมไม่บอก?!”



“บอกแล้ว ฝากอีเม่กะอีม่าให้บอกพี่งอกกะพี่เงิบไปบอกพี่แมน”



สดับได้ดังนั้น พี่แมนก็ตวัดสายตาพิฆาตมองไอ้สองเพื่อนรักตัวแสบที่ยืนยิ้มเผล่อย่างน่ากระทืบทันที ดูมัน...สำนึกผิดสักนิดก็หามีไม่!



“พวกมึง...อยากไปแดกเหล้าที่ห้องกูไหม?”



คนหน้าสวยเอ่ยชวนเสียงเย็น แน่นอนว่าคนถูกชวนมันก็คงรู้ตัวว่าขืนไปคงไม่ได้ดื่มอย่างสงบสุข



“คงไม่ไปอ่ะ ช่วงนี้กูแพ้แอลกอฮอลล์ว่ะ”



“เป็นไรวะ?”



“แดกแล้วเมา”



แล้วสามหน่อซึ่งหมายรวมถึงอีตุ๊ดเมียทาสที่เพิ่งกินหมัดสามีต้อนรับกลับกรุงเทพมาหมาดๆ ก็หัวเราะเอิ๊กๆ กันอย่างชอบใจ พอพี่แมนเห็นดังนั้นก็เบนเข็มมาถามตุ๊ดที่ยังไม่หายเดี้ยงเสียงเขียว



“กูโทรไปทำไมไม่รับ?”



“มือถือโดนพี่ภูมิซิวไปตั้งแต่วันนั้นละเหอะ”



“แล้วมึงเอากีตาร์ไปด้วยทำไม?”



“ไม่เอาไปก็นอนไม่หลับดิ”



“เสื้อผ้ามึงก็เก็บไปหมดตู้เลยด้วย”



“เก็บไปไหนล่ะ ก็ซักอยู่ที่ห้องอ่ะ โน้ตก็ติดไว้ที่ฝาเครื่องว่าไม่มีเวลาแล้ว ตากให้ด้วย”



พี่แมนทำหน้าเอ๋อไปชั่วขณะ โน้ตอะไรวะ? พอระลึกได้ว่าตัวเองไม่ได้เฉียดไปใกล้เครื่องซักผ้าเลยเพราะผ้าที่ใส่ไว้สามวันก็ยังกองอยู่ในห้องก็ไม่กล้ากล่าวหาว่ามันโกหก



“นี่แสดงว่ายังไม่ได้เอาออกจากเครื่องเลยใช่ไหม? โอย...ราขึ้นแล้วมั้ง”



พอกล่าวโทษอีตัวปัญหาที่ไปไม่ลามาไม่ไหว้ไม่ได้สักข้อ แถมยังถูกมันบลัฟกลับอีกพี่แมนเธอก็รู้สึกว่าพื้นดินที่ยืนอยู่ชักไม่มั่นคง ขืนเผชิญหน้าต่อได้เพลี่ยงพล้ำเป็นแน่ เธอจึงก้าวขึ้นคร่อมฟีโน่แล้วบิดปื้ดออกไปท่ามกลางความงุนงงของอีเอ็มมี่ที่ยังไม่เข้าใจเรื่องราวสักเท่าไหร่



“อีเอ็มมี่ มาเร็ว...กูไปส่ง”



พี่งอกที่สวมบทกามเทพรีบช่วยอีเอ็มมี่ขนของขึ้นซ้อนมอไซค์แล้วบิดตามเพื่อนรักไปทันที พอส่งอีเอ็มมี่เสร็จเรียบร้อยพี่ท่านก็แถมกุญแจสำรองห้องพี่แมนให้ด้วยเพราะรู้ว่าเวลาไอ้แมนมันเขิน ยังไงมันก็ต้องหาทางหลบหน้าอยู่แล้ว



“โชคดีนะมึง”



“ขอบคุณมากพี่”



กะเทยเสิ่นเจิ้นหอบกระเป๋าหนึ่งใบและกีตาร์หนึ่งตัวขึ้นมาบนห้องของผัวรักอย่างทุลักทุเล ก่อนจะใช้กุญแจไขเข้าไปพบกับสีหน้าตกใจของเจ้าของห้องที่กำลังอ่านโพสต์อิทที่เขาเป็นคนแปะไว้ที่เครื่องซักผ้าก่อนไป



“มึงเข้ามาได้ไง? หนอย...ได้กุญแจมาจากไอ้งอกใช่ไหม?!”



“พี่แมน...พี่แมนเป็นไรอ่ะ?”



พออีเอ็มมี่มันถามด้วยสีหน้าโง่ๆ ตามประสามันแบบนั้น พี่แมนก็ยิ่งหงุดหงิดที่ตลอดสามวันที่ผ่านมากลายเป็นเหยื่อให้ไอ้เพื่อนซี้สองคนนั่นมันเล่นตลก โมโหเป็นบ้าเป็นหลังกับเรื่องที่คิดไปเองทั้งนั้น แค่ตื่นเช้ามาไม่เห็นหน้ามันก็แตกตื่นกลัวว่ามันจะหนีหายไป



“ความผิดมึงนั่นแหละ!”



พี่แมนขยำโพสต์อิทปาใส่ตุ๊ดร่วมห้อง วิธีที่ดีที่สุดคือโทษมันนั่นแหละ ก็เพราะมันนั่นแหละ เพราะมัน...



เอ็มขยับเข้ามาใกล้พี่แมนที่ยืนกำหมัดแน่นอย่างไม่นึกกลัวว่าหมัดนั้นมันจะลอยมากระทบมุมปากอีกรอบ เพราะมันปล่อยไว้ไม่ได้ มันปล่อยคนตรงหน้ามันที่มีดวงตาฉายความสับสนจนไหวระริกไว้ไม่ได้



“ครับ...ผมขอโทษ ผมผิดเอง”



เอ็มดึงร่างเล็กกว่าเข้ามาโอบไว้หลวมๆ ด้วยแขนที่เหลือเพียงข้างเดียว พี่แมนนิ่งงัน เงยหน้าขึ้นมองอีตุ๊ดหน้าหล่ออย่างไม่เข้าใจ มึงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามึงผิดตรงไหน แล้วทำไมมึงต้องยอมรับผิด...ทำไมต้องขอโทษกู?



“ถ้าพี่แมนบอกว่าผมผิดก็ตามนั้นเลยนะ...อยากต่อยผมอีกทีไหม?”



มึงอย่ามาพูดกับกูด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแบบนั้นนะ อีตุ๊ดแอ๊บแมน!



“มึงแย่มากรู้ตัวไหม? มึงต้องปลุกกูสิ! มึงคิดว่ากูจะรู้สึกยังไงที่ตื่นมาหลังจากทำ....ทำ...น่ะ แล้วมึงก็ไม่อยู่”



เอ็มพยักหน้ารับคำด่าพี่แมนหงึกๆ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้มีความผิด แต่แทนที่มันจะทำหน้าเศร้าสลดมันกลับยิ้มมุมปากอย่างมีความสุขเสียนี่ พี่แมนเลยยิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเพลี่ยงพล้ำเข้าไปใหญ่



“ครับๆ กลัวผมไม่รับผิดชอบใช่ไหม?”



กะเทยเทียมเอ่ยล้อ



“ป๊ามึงสิ กูนี่ต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ!”



เอ็มเลิกคิ้ว กระชับเอวคนในอ้อมกอดให้แน่นขึ้นแล้วพูดเสียงเจ้าเล่ห์



“พูดแล้วห้ามคืนคำนะ พี่แมนต้องรับผิดชอบผมด้วย”



“อ่ะ...อะไร?”



พี่แมนหน้าแดงจัด โต้กลับไม่เป็นคำ ยิ่งเห็นพี่แมนลนลานทำอะไรไม่ค่อยจะถูก เอ็มก็ยิ่งได้ใจ แนบริมฝีปากกับใบหูแดงเรื่อของคนในอ้อมกอดแล้วเอ่ยขอเสียงเปี่ยมสุข



“เป็นแฟนกันนะครับ...นะ”



“ไม่เอา! ถ้าใครรู้ว่ากูมีแฟนเป็นตุ๊ด กูจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?!”



เอ็มอยากจะตอบสุดที่รักเหลือเกินว่าก็เอาไว้ที่เดิมนั่นแหละเพราะกูไม่ได้เป็นตุ๊ด กูแค่เหมือนเว่ย! แต่บรรยากาศกำลังดีๆ และขืนพูดไปตอนนี้พี่แมนที่ปักใจเชื่อไปแล้วก็คงไม่ฟังกันอยู่ดี เพราะงั้น...ก็เลยตามเลย



“งั้นไม่ให้ใครรู้ก็ได้ เรารู้กันสองคนนะครับ ตกลงนะ?”



“ไม่...ปล่อยดิ...ไม่เอา”



“ตกลงก่อน แล้วจะปล่อย เป็นแฟนกันนะ น้า~”



“ไม่ตกลง ไม่เอา ไม่เป็น”



“ถ้าไม่ตกลงจะจูบนะ”



“ไม่...อื้อ~”



แล้วคนหน้าด้านก็ฉวยโอกาสกับรุ่นพี่อีกครั้งอยากดูดดื่ม ฝ่ายพี่แมนก็ได้แต่นึกด่าตัวเองอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงแพ้ทางจูบอีตุ๊ดนี่ตลอดเลยวะ คิดๆ ไปไม่ทันเท่าไหร่สมองก็ขาวโพลนไปหมด จะอ้าปากด่าเรื่องที่มันลวนลามเขาด้วยการล้วงเสื้อเข้าไปลูบเอวเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา ก็ไม่มีสติเพียงพอที่จะทำเช่นนั้น ได้แต่ปล่อยให้มันทั้งชิมทั้งเลียทั้งดูดจนพอใจละออกไปเอง ถ้ามันกินปากเขาได้มันคงทำไปแล้วล่ะ



“สรุปว่า...ตกลงนะ?”



เอ็มทวงถามย้ำกับคนที่หอบหายใจปากแดงชื้น พี่แมนสูดหายใจลึกๆ เรียกวิญญาณกลับเข้าร่างก่อนจะปล่อยมือที่ขยำเสื้ออีกฝ่ายจนยับแล้วเรียกชื่อตุ๊ดเทียมด้วยเสียงกระเส่า



“อีเอ็มมี่...”



ปึ้ก!



“อุก!...อ...อ...ไอ้พี่...แมน”



คนหล่อเอามือกุมไข่ไหลลงไปกองกับพื้นอย่างน่าสงสาร ฝ่ายพี่แมนที่ระบบหายใจกับมาทำงานปกติก็เหยียดหางตามองอีกฝ่ายอย่างเย็นชาทั้งๆ แก้มยังซับสีเลือด



“ถ...ถ้าใครรู้นะ มึงตาย!”



ทิ้งท้ายจบ พี่แมนก็คว้าผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างเร่งรีบ ทิ้งให้คนโง่ต้องประมวลผลคำพูดนั้นพร้อมนอนบิดเกร็งไข่ไปอย่างทรมาน ถึงจะใช้เวลานานกว่าคนปกติสักหน่อย แต่พอมันเข้าใจความหมายของคำนั้น เอ็มก็กระโดดตัวลอยแทบลืมความเจ็บ



“พี่แมน! ออกมาคุยกันก่อน ออกมาก่อน~ สรุปว่าตกลงใช่ไหม? ใช่ไหม?”



“มีสมองก็คิดเองสิ อีโง่!”



“พี่แมน...เค้าอาบด้วย...อาบด้วย เปิดหน่อย”



“ไม่เปิด!”



“ไม่เปิดเค้าจะพังประตูนะ”



“ถ้ามึงพัง กูจับมึงกดชักโครก! เห้ย! กูบอกว่าอย่าพังไง อีเอ็มมี่!!!!”



ก็เป็นอีกค่ำคืนนึงที่ห้องข้างๆ คงจะนึกด่าอีสองคนนี้ในใจ...



โปรดติดตามแอ๊บต่อไป





#แอ๊บรัก




Talk~*
เขินแทนพี่แมนจังเลยยยยยยย :-[
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 10: เมียกูอยู่ไหน? (05/08/17) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 05-08-2017 20:58:30
ที่แท้พี่แม่นคิดไปเอง โดนเพื่อนเล่นจนได้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
คุ้มกับการเจ็บไข่ เอ็มมี่เป็นแฟนพี่แมนแล้ว
ปิดซอยฉลองเลย อิอิ
เจ็บตัวตลอด แต่คุ้มทุกตอน 5555555555+
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 10: เมียกูอยู่ไหน? (05/08/17) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 05-08-2017 23:04:14
กรี๊ดดด พี่แมนซึนเดเระที่สุดด
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 10: เมียกูอยู่ไหน? (05/08/17) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-08-2017 23:22:14
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 10: เมียกูอยู่ไหน? (05/08/17) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 06-08-2017 05:17:01
พี่แมนนน 5555

น่ารักขึ้นทุกวันเลยน้าาาาา
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 10: เมียกูอยู่ไหน? (05/08/17) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 08-08-2017 23:43:49
น่ารักกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 10: เมียกูอยู่ไหน? (05/08/17) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 09-08-2017 09:38:44
เจอฤทธิ์เดชอิเอ็มมี่เข้าไป พี่แมน แม้นแมนไปเบย 555
พังเลยๆๆๆๆๆๆ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 10: เมียกูอยู่ไหน? (05/08/17) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 09-08-2017 15:33:18
สนุกมาก...อ่านรวดเดียวเลย :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 10: เมียกูอยู่ไหน? (05/08/17) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 12-08-2017 21:12:00
แอ๊บที่ 11: สุรา เป็นเหตุให้พิการได้



เสียงฟีโน่แล่นเข้ามาในเขตของโรงพยาบาลและค่อยๆ ดับเครื่องลง พี่แมนบิดกุญแจเก็บเข้ากระเป๋า แต่พอทำท่าจะลุกจากเบาะ ข้างหลังก็หนักๆ เหมือนมีผีชัตเตอร์ขี่คอไว้



“อีเอ็มมี่! ลงดิ ถึงแล้ว!”



“ไม่ลงง่ะ พี่แมนขับวนอีกรอบได้ป่ะ?”



ไม่พูดเปล่า มันยังขยับวงแขนกอดเอวแนบชิด แนบกว่านี้อีกนิดก็สมสู่กันบนฟีโน่แล้ว! แกนคณะสุดโหดขยับตัวยุกยิกให้อีตุ๊ดปลาหมึกมันหลุดออกไป แต่มันก็เหนียวได้ใจเหลือเกิน พี่แมนเธอจึงกลอกตามองฟ้า ถอนหายใจอย่างหน่ายเหนื่อยแล้วกระทืบเน้นๆ ไปบนหลังเท้าอีเอ็มมี่แบบเล็งเล็บขบอย่างแม่นยำ



ปึ้ก!



“แอร๊กกก พี่แมนอ้า~!”




กะเทยเสิ่นเจิ้นกระโดดแผล็วไปยืนกุมเท้าเหยงๆ เป็นกระต่ายขาเดียว ส่วนพี่แมนก็วาดขาลงมาจากฟีโน่อย่างแสนเท่ห์แล้วเดินนำเข้าอาคารไปอย่างไม่คิดจะแยแสเมียรักที่ยืนกระเง้ากระงอดโอดโอยอยู่เพียงลำพัง พอเอ็มเห็นว่าพี่แมนเธอไม่ง้อเขาแน่แล้วก็เลยเดินตามไปอย่างจำยอม



เมื่อคืนครับ...พังประตูห้องน้ำเข้าไปได้สำเร็จครับ แถมไอ้พี่แมนไม่ได้จับผมกดชักโครกอย่างที่มันขู่ด้วยครับ...



มันแค่โยนที่นอนหมอนมุ้งของผมเข้าไปในห้องน้ำแล้วบังคับให้ผมนอนในนั้นทั้งคืนเท่านั้นเอง...กุซิก กุซิก!



เมียรักของพี่แมนคิดถึงค่ำคืนอันหนาวเหน็บอย่างทุกข์ระทม นี่มันยิ่งกว่าตอนที่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันอีกไม่ใช่หรือไร? ไอ้เราก็คิดว่าจะได้นอนเตียงเดียวกัน ได้ทำอย่างงั้น ได้ทำอย่างงี้ แล้วก็ได้ทำอย่างงู้นด้วย หึหึ แค่คิดก็ฟินแระ!



“อีเอ็มมี่...คิดไรอยู่วะ? ทำหน้าหื่นๆ นะมึงง่ะ”



“เปล๊า!”



“เสียงสูง...”



พี่แมนหรี่ตาลงอย่างจับผิด เอ็มเลยต้องรีบหาทางเบี่ยงประเด็นก่อนที่จะถูกผัวรักจับได้เสียก่อน ตุ๊ดหุ่นล่ำรีบเดินไปติดต่อคุณพยาบาลตามใบนัดของหมอ วันนี้คุณหมอนัดถอดเฝือก กับตัดไหมที่หัวออก ส่วนที่พุงนั่น...ถ้าน้องเอ็มมี่ยังทำตัวดีรอดมือรอดตีนพี่แมนไปได้ อาทิตย์หน้าก็คงจะหายเหมือนกัน ย้ำว่าถ้ามันรอดไปได้น่ะนะ...



พอถอดเฝือกออกเรียบร้อย พี่แมนก็ให้เมียรักนั่งซ้อนฟีโน่เป็นตุ๊ดสก๊อยกลับหอ พอกลับมาถึง อีเอ็มมี่ก็ทำหน้าที่ศรีภรรยาที่ดีหาข้าวหาปลามื้อกลางวันให้สุดที่รักกินก่อนจะปัดกวาดเช็ดถูห้องหอแล้วลากตะกร้าผ้าไปซักที่ระเบียง แต่วันนี้เครื่องซักผ้าคงจะงอแงซักเล็กน้อย เพราะไม่ว่าจะกดปุ่มเท่าไหร่มันก็ไม่มีทีท่าจะหมุนให้แม่ศรีเรือนคนนี้ได้สมใจ



“พี่แมน เครื่องซักผ้าเจ๊งอ่ะ”



“ไหนกูดูดิ๊”



พี่แมนคว้ากล่องอุปกรณ์ช่างมาจัดการงัดเครื่องซักผ้าออกมาดูท่ามกลางสายตาตกตะลึงของเมียรัก นี่กูเรียกมึงเพราะคิดว่ามึงจะโทรตามช่างนะไอ้พี่แมน มึงซ่อมเป็นด้วยเรอะ?



“พี่แมนซ่อมเครื่องซักผ้าเป็นด้วยเหรอ?”



“เป็นลูกผู้ชายก็ต้องทำเป็นดิ่วะ เหมือนที่มึงต้องทำอาหาร กวาดบ้าน ซักผ้าเป็นนี่แหละ”



มึงจะบอกว่ากูเป็นลูกผู้หญิงใช่มะ?



พี่แมนก็แงะๆ ไขๆ อยู่ชั่วครู่ก็ได้ความว่าสายพานเครื่องมันขาด ห้างที่มีอะไหล่ชิ้นนี้ก็อยู่ไกลพอสมควร ไหนๆ ก็จะไปแล้วก็ค่อยออกไปกินข้าวเย็นทีเดียวเลยดีกว่า



“มึงซักพรุ่งนี้ละกัน”



“ผ้าพี่แมนหมดตู้ละเหอะ!”



“งั้นมึงก็ลงไปหยอดตู้ข้างล่างไป”



“ขี้เกียจแบกอ่ะ ซักมือละกัน”



เอ็มขนเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำใส่กะละมัง เทผงซักฟอก ใช้มือตีจนเกิดฟองอย่างคล่องแคล่ว ฝ่ายพี่แมนที่ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วก็ยืนพิงขอบประตูห้องน้ำมองเมียรักไปเพลินๆ



“มึงนี่...เป็นแม่บ้านที่ดีนะ”



เอ็มที่ง่วนอยู่กับการกดผ้าลงในน้ำแฟ๊บแอบมองพี่แมนที่ชมด้วยน้ำเสียงแปลกๆ อย่างสงสัย พอเห็นพี่แมนมองไปทางอื่นก็พอจะรู้ว่าพี่แมนแม่งกำลังเขิน เลยชมไม่เต็มปากเต็มคำ เห็นแล้วน่ารักน่าจับกดไม่หยอก



“จะชมว่าเป็นเมียที่ดีก็พูดมาเลยดิ”



“เสียตรงที่หลงตัวเองนี่แหละ”



แม่ศรีเรือนทำปากยื่นเป็นเป็ดเมื่อผัวรักไม่ชมดังหวัง ก่อนจะลงมือขยี้ผ้าในกะลังมังด้วยสกิลแม่บ้านระดับเมพ



“พี่แมนไม่คิดจะทำบ้างเหรอ?”



“มันใช่งานของผู้ชายที่ไหนล่ะ?”



อีเอ็มมี่ส่ายหัวค้าน



“งานบ้านเค้าไม่แบ่งหญิงแบ่งชายหรอกพี่ พ่อผมก็ช่วยแม่ซักผ้าตากผ้าออกจะบ่อย ท่านบอกว่าไม่อยากให้คนที่ท่านรักเหนื่อยอยู่คนเดียว”



เอ็มพูดไปก็ซักผ้าไปเพลินๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่รู้ตัวอีกทีพี่แมนก็มานั่งปุอยู่ข้างๆ กันแล้ว อีเอ็มมี่มองพี่แมนที่นั่งมองเสื้อผ้าตัวเองในกะลังมังแล้วหยิบขึ้นมาลองขยี้ๆ อย่างงงๆ



“ทำไรอ่ะ?”



“ซักผ้า...”



พี่แมนตอบเสียงงุบงิบ เอ็มที่สมองยังประมวลผลช้าเช่นเคยก็ได้แต่นั่งหน้าอึนต่อไป ตุ๊ดแรมต่ำใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะนึกย้อนถึงประโยคเมื่อครู่ของตัวเองออก ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างหุบไม่ได้



“พี่แมนอ่ะ...”



ไอ้ตัวดีส่งเสียงล้ออย่างมีเลศนัย ยิ่งทำให้คนแมนผู้แสนหน้าบางยิ่งรู้สึกกระฟัดกระเฟียดเข้าไปใหญ่



“ยิ้มเหี้ยอะไร?”



“ยิ้มให้คนที่ไม่อยากให้คนที่รักเหนื่อยอยู่คนเดียวต่าง...อุ๊บ...ถุย!”



พี่แมนลงโทษคนพูดมากด้วยการปาดฟองแฟ๊บใส่ปากเมียรักให้ชิมรสสะอาดกลมกล่อมไปหนึ่งคำใหญ่ อีเอ็มมี่รีบเปิดน้ำบ้วนปากก่อนจะหันกลับมามองค้อนอย่างเคืองๆ



“มึง...มันขาดอ่ะ”



เจ้าของห้องโชว์กางเกงบอลย้วยๆ ของตัวเองที่ขาดแคว่กคามือ ฝ่ายเมียรักก็ได้แต่กะพริบตาปริบๆ กับความมือหนักตีนหนักของสามีสุดที่รัก



“โห่ พี่แมน ขยี้แรงแบบนั้นก็ขาดดิ ทำแบบนี้ๆ”



ตุ๊ดแม่ศรีเรือนกุมมือพี่แมนไว้มือละข้างแล้วสอนวิธีการขยี้ผ้าแบบถูกต้อง ไม่ต้องออกแรงมากนักแค่ให้คราบต่างๆ มันหลุดออกไปก็พอใช้ได้แล้ว แต่ดูเหมือนพี่แมนจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่



“อย่างงี้เหรอ?”



“ไม่ๆ ขยี้แบบนั้นเดี๋ยวเจ็บมือ ทำแบบนี้”



แล้วเอ็มก็เปลี่ยนท่า โอบตัวพี่แมนจากด้านหลังไว้ทั้งตัวแล้วสอนสุดที่รักซักผ้าไปอย่างแนบชิด ด้วยความที่ตั้งอกตั้งใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ พี่แมนเธอก็ลืมตัวปล่อยให้ตัวเองถูกอีเอ็มมี่ลวนลามซะเต็มคราบ



“ทำแบบนี้เหรอ?”



“แบบนั้นแหละครับ เห็นไหม? คราบหลุดไปแล้ว”



อีเอ็มมี่พูดไปก็เอาคางเกยไหล่พี่แมนไป พอเห็นแก้มใสๆ ลอยไปลอยมาอยู่ปลายจมูก มันก็อดไม่ได้ที่จะหอมไปเต็มฟอด พี่แมนชะงักกึก ปล่อยเสื้อยืดของตัวเองหลุดจากมือแล้วผินหน้ากลับมาหาอีเอ็มมี่อย่างช้าๆ ด้วยสีหน้าเหมือนอยากเชือดคน



“มึงทำอะไร?”



“ทำไมพี่แมนต้องทำหน้าน่ากลัวด้วยอ่ะ เป็นแฟนกันแล้ว หอมนิดหอมหน่อยไม่เห็นเป็นไรเลย”



“ไม่เป็นไรป้ามึงสิ อีหื่น! ปล่อยกูเลยนะ”



อีตุ๊ดหื่นได้ใจ ยิ่งกระชับอ้อมแขนโอบเอวคนแมนไว้แนบกับตัวแล้วหอมไปอีกฟอด



“ไม่ปล่อย”



มันลอยหน้าลอยตาตอบพี่แมนอย่างกวนเบื้องล่าง



“อ๋อ ท้าทาย~ ท้าทายใช่ไหม?”



คนโดนกอดเค้นเสียงขู่ แต่อีกะเทยเสิ่นเจิ้นก็ยังไม่อาจสั่งตัวเองให้ปล่อยวงแขนไปได้



“หอมไม่ได้ งั้นจูบนะ”



“อื้ออออออ~~!!!”



คนใจกล้าประกอบปากสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดรัดพันอย่างชำนาญการ ชั่วพริบตาที่มันทำเยี่ยงนั้น ไอ้พี่แมนก็อ่อนระทวยเป็นโสรยาในอ้อมแขนคุณหฤษฎ์ ยิ่งอีเอ็มมี่เมียรักเอียงหน้าปรับองศาให้ยิ่งลึกยิ่งดูดดื่มมากขึ้น เนื้อตัวพี่แมนก็แดงเห่อยังกับเป็นไข้ ผิวแก้มใสๆ ร้อนผะผ่าวยังกับเตารีด แรงต้านใดๆ ก็ไม่มีเหลือกับเขาได้แต่ปล่อยให้ภรรยาหน้าหื่นตักตวงเอาได้ตามใจ



คนเจ้าเล่ห์เห็นว่าคราวนี้โชคชะตาฟ้าลิขิตให้กูฟินแน่แล้ว จึงฉวยโอกาสสอดมือผ่านเสื้อยืดย้วยๆ ของพี่แมนเข้าไปลูบไล้ผิวเนียนละเอียด เรื่อยขึ้นไปถึงติ่งไตสะดุดมือน่าเขี่ยเล่น ที่พอสะกิด พี่แมนก็หลุดเสียงครางแหลมสูงออกมาทันที



“อ๊ะ!”



เอ็มที่ได้ยินเยี่ยงนั้นก็ได้ใจจะรุกล้ำต่อ แต่มันดันลืมไปว่า พี่แมนเธอร้องได้ก็เพราะปากเธอเป็นอิสระแล้ว และเมื่อปากเธอเป็นอิสระแล้วสติเธอก็จะค่อยเริ่มกลับมาด้วย คนหื่นที่มัวแต่สนุกสนานกับหน่มหน๊มพี่แมนเลยถึงกับเหวอเมื่อเจ้าตัวผุดลุกขึ้นล็อคคอมันไว้ด้วยมือที่แข็งราวกับคีมเหล็ก



“อีตุ๊ดทรพี! มึงคิดจะเคลมกูใช่ไหม? อย่าอยู่เลยมึง!”



“เฮ้ย! พี่แมน! ดะ...บุ๋งๆๆๆ”



ไอ้พี่แมนผัวรักของอีเอ็มมี่ จับหัวเมียทรพีกดกะละมังซักผ้าอย่างโหดเหี้ยม นาทีนี้ถึงอีเอ็มมี่จะคร่ำครวญในใจขอโทษขอโพยอย่างสำนึกผิดเพียงใด ก็ไม่มีเสียงใดหลุดรอดมาได้นอกจาก...



“บุ๋งๆๆๆ”



แล้วอีเอ็มมี่ก็ลาโลกไปอย่างสงบสุข...



.

.

.



“เฮ้ย! อีเอ็มมี่ เป็นไรวะ? ทำหน้าเหมือนหมาแดกแฟ้บ”



คนถูกทักสะบัดสายตาส่งค้อนไปให้สามีเพื่อนดังขวับ โทษฐานที่พูดจาไม่นวลรูหู วันนี้ตุ๊ดเทียมมาหาเพื่อนสาวที่หอเพื่อนหญิง แต่แฝดน้องไม่ได้สถิตอยู่ที่หอ ออกไปแรดกับพี่เงิบสุดหล่อ หลงเหลือแต่แฝดพี่กับพี่งอกสามีของมันที่ลงมากินส้มตำหน้าหอด้วยกันนี่แหละ



“ป้า...ปลาร้าจานนึง พริกสิบเม็ด”



“แปบนะหนู”



อีเมเม่สั่งส้มตำอย่างนึกเปรี้ยวปาก แล้วนั่งลงบนโต๊ะม้าหินในร้านป้าแก โต๊ะหมาหินมันมีสี่ด้าน แต่อีเม่มันนั่งด้านเดียวกับพี่งอกชนิดแขนแนบแขน ขาแนบขา นี่ถ้ามันเอานมแนบหน้าพี่งอกได้มันคงทำไปแล้ว



“ห่างกันหน่อยก็ได้ม้าง?”



“อิจฉากูล่ะสิ หน้าม่อยอย่างนี้ สามีไม่ทำการบ้านเหรอจ๊ะ?”



เอ็มที่โดนแซวด้วยวาจาเสียบหัวใจของเพื่อนกุมาร มองซ้ายมองขวาหาข้าวเหนียวได้ก็ปั้นเป็นก้อนกระสุนแล้วดีดใส่แฝดพี่ทันที



“กูจะแช่งให้ของพี่งอกเหี่ยวเป็นมะเขืออบหม้อดินบ้าง”



“อ้าว อีนี่!”



คนที่เดือดร้อนอย่างพี่งอกเจ้าของมะเขือก็อดไม่ได้ที่จะด่าอีตุ๊ดตรงหน้าอย่างมีน้ำโห ไอ้แมนแม่งไม่อบรมเมีย! ไม่เหมือนน้องเมเม่คนดีของพี่ กิริยาดีไม่มีสะดุด



“ส้มตำได้แล้วจ้ะ”



อาหารหน้าตาน่าน้ำลายสอวางลงมาตรงหน้า คนบนโต๊ะเลยยุติศึกหันมาปรองดองกันได้ด้วยการจ้วงส้มตำจกข้ามเหนียวเข้าปากกันอย่างเอร็ดอร่อย



“กูถามจริงๆ เหอะ ไอ้แมนมันไม่ยอมฟีทเจอริ่งกับมึงใช่ไหม?”



คนถูกถามทำหน้าเหมือนกินส้มตำบูดทันที ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างแกนๆ



“แตะนิดเดียว พี่แมนก็จับกดน้ำแล้ว ชาตินี้จะได้ฟีทฯ กันรึเปล่ายังไม่รู้เลยพี่”



“เอาน่ามึง ไอ้แมนมันเป็นผัวตุ๊ดมือใหม่ มึงก็ต้องให้เวลามันบ้าง”



“มันไม่เห็นวี่แววเลยนะพี่งอก ไหนๆ พี่ก็ช่วยผมมาขนาดนี้แล้ว ถ้าผมกะพี่แมนได้เป็นฝั่งเป็นฝากันไปซักที พี่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพี่แมนจะกีดขวางความรักระหว่างพี่กะอีเพื่อนเลวนี่อีกแล้วนะ”



พี่งอกเกาคางตัวเองอย่างครุ่นคิด ที่อีเอ็มมี่พูดมันก็ถูกอยู่ ช่วยมัน...ผลประโยชน์ก็ย้อนคืน ฟิน-ฟิน กันทั้งสองฝ่าย ชายหนุ่มคิดหาวิธีไปพลาง ตาก็เหลือบไปเห็นซุ้มยาดองข้างร้านส้มตำที่บริหารงานโดยสามีของคุณป้าแกนั่นเอง พี่งอกตบโต๊ะดังป้าบก่อนจะลากเมียตุ๊ดของแกนคณะไปเกาะซุ้มร้านยาดอง



“มึงน่ะปล้ำไอ้แมนไม่ได้หรอก แรงมันเยอะ มึงต้องทำให้มันมีอารมณ์แล้วปล้ำมึงเอง”



“โดยใช้ไอ้เนี่ยอ่ะนะ? พี่แมนจะยอมดื่มเหรอ?”



“โถ...มึงนี่มันโง่สมคำร่ำลือจริงๆ ก็ให้มันกินโดยที่ไม่รู้ตัวสิวะ! ผสมอาหาร ผสมเครื่องดื่ม อะไรก็ได้!”



“อือๆ เอาอันไหนดีอ่ะ?”



แล้วรุ่นพี่รุ่นน้องผู้สมรู้ร่วมคิด ก็ยืนเลือกยาดองกันหน้าเครียด เครียดยิ่งกว่าสอบ O-net ตอน ม.6 เสียอีก ทิ้งให้น้องเมเม่นั่งเขี่ยเส้นมะละกออยู่ที่โต๊ะคนเดียวอย่างเหงาๆ



“อันนี้ไหมพี่? ช้างกระทืบโรง”



“อ่อฮอ...โดนมาตั้งแต่ต้นเทอม มึงยังไม่อิ่มตีนมันสินะ”



อีเอ็มมี่ที่โดนด่าอะเกน ทำปากยู่แล้วหันไปชี้โหลอื่น



“อันนี้ละกัน...นารีรำพึง”



“แต่มึงเป็นตุ๊ด...”



เอ็มทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ท่ามกลางสายตาละเหี่ยใจอย่างพี่งอก รุ่นพี่ท่านได้แต่สงสัยในใจว่าความสัมพันธ์พวกมึงมาไกลขนาดนี้ได้ยังไงวะ?



“เออ...จริง ลุงมีตุ๊ดรำพึงป่ะครับ?”



เอ็มถามคุณลุงเจ้าของร้านอย่างใสซื่อ ลืมไปเสียสนิทว่าเขาไม่ได้เป็นตุ๊ดอย่างที่คนอื่นเข้าใจ ในขณะพี่งอกกุมหัวเครียดอย่างไม่รู้จะพามันไปอัพแรมที่ไหนดี



“มึงพอเห๊อะ ลุงครับ เอาโด่ไม่รู้ล้มครับ”



ลุงแกจัดแจงกรอกยาดองที่ว่าใส่ถุงแกงมัดปากอย่างดีแล้วส่งให้อีเอ็มมี่ที่จ่ายเงินไปอย่างไม่เกี่ยงงอนพร้อมรับคำสั่งสอนสุดท้ายจากพี่งอก



“กลับหอไป ซ่อนให้เนียน ถ้ามันจับได้...อย่าซักทอดถึงกูนะ”



แล้วพี่งอกก็เดินกลับไปนั่งกินส้มตำกับเมียกุมารอย่างมีความสุข ทิ้งให้เอ็มกับถุงยาดองและสายตามุ่งมั่นกลับรังรักไปด้วยแผนเคลมสามีรอบใหม่ที่ร้ายกว่าเดิม



โชคดีของเอ็มนักที่พี่แมนออกไปข้างนอกพอดี มันจึงเสาะหาภาชนะในครัวแล้วก็ได้ขวดแก้วเปล่าๆ มาใบหนึ่ง อีเอ็มมี่จัดการกรอกยาดองลงขวดแล้วตั้งแอบปะปนกับเหล่าเครื่องปรุงอาหารอย่างเนียนๆ พี่แมนไม่เคยคิดจะทำกับข้าวกินเอง ยังไงก็ไม่มีทางผิดสังเกตอยู่แล้ว เห้อ...คราวนี้ล่ะ กูจะได้ฟินเสียที



“เย็นนี้ทำอะไรให้กินดีน้า”



ตุ๊ดเจ้าเล่ห์ทำเสียงลัลล้าอย่างน่าตบ พลางเปิดตู้เย็นคุ้ยหาของสดมาคิดเมนู แต่ยังไม่ทันจะคิดอะไรออก กะเทยเทียมก็หน้าเขียวหลังตรงแด่ว เดินขมิบตูดเข้าห้องน้ำไปอย่างรีบร้อน เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พี่แมนไขประตูห้องเข้ามาพอดี



“อ้าว มึง? เข้าห้องน้ำก็ไม่ปิดตู้เย็น รีบอะไรนักหนา?”



พี่แมนเดินไปปิดตู้เย็นพลางบ่นเบาๆ ก่อนจะย่นจมูกฟุดฟิดแล้วเบ้หน้า เมื่อกลิ่นไม่พึงประสงค์ลอยออกมาจากห้องน้ำ พี่แมนเปลี่ยนชุดเป็นชุดอยู่บ้านแล้วนั่งเปิดคอมเล่นไปครู่ใหญ่กว่าอีเอ็มมี่จะออกมาจากห้องน้ำ



“พ..พี่...พี่แมน”



“อีเอ็มมี่! ท้องเสียเหรอมึง?!”



เห็นสภาพศพคลานออกมาจากห้องน้ำ กางเกงหลุดลุ่ยแล้วพี่แมนก็รีบไปประคองเมียรักให้มานั่งบนเตียง แต่ตูดยังไม่ทันกระทบฟูกนุ่มๆ อีเอ็มมี่ก็ตะกายเข้าห้องน้ำไปอีกรอบเพราะข้าศึกมาจ่อถึงที่



“เฮ้ย! อีเอ็มมี่!”



พี่แมนเดินวนอยู่หน้าห้องน้ำอีกครู่ใหญ่กว่าจะมีเสียงกดน้ำ เสียงเปิดประตูห้องน้ำ และศพตุ๊ดกระดื๊บออกมาจากห้องน้ำอีกครั้ง



“มึงๆ ลุก! มานั่งนี่ มึงไปแดกอะไรมาเนี่ย?!”



ศพตุ๊ดพูดได้ตอบกลับผัวรักอย่างอ่อนระโหยโรยแรง



“ส้มตำ...น...หน้าหออ่ะพี่...ปวด...ท้อง”



“มันใส่อะไรให้มึงกินเนี่ย? เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะไปกระทืบให้ร้านแม่งพังเลย!”



อารามเป็นห่วงเมีย พี่แมนก็พาลไปทั่ว พอเห็นพี่แมนเป็นแบบนั้นแล้วเอ็มก็ยิ้มออกได้อย่างฝืดฝืน



“ยิ้มเหี้ยอะไร? เดี๋ยวกูไปหายาให้มึงกินก่อน”



เจ้าของห้องลุกขึ้นหาหยูกยาตามกล่องหลังตู้เย็นก็ไม่มี ในตู้เย็นก็ไม่มีติดไว้ ก็อีเจ้าของห้องมันแข็งแรงไม่เคยป่วยอะไรกะใครเค้าเลยไม่จำเป็นต้องมียาสามัญประจำบ้าน



“เอ...แต่จำได้ว่าไอ้งอกเคยซื้อยาธาตุน้ำแดงมาทิ้งไว้นี่หว่า”



พี่แมนไล่หาต่อไปถึงในครัว เพราะจำได้ว่ามีอยู่ครั้งไอ้เงิบมันก็ท้องเสีย นอนบิดอยู่ในห้องเขาตอนมาค้างทำรายงานกัน ไอ้งอกเลยลงไปซื้อยาให้เพื่อนมันแล้วก็ทิ้งไว้ในห้องเขานี่แหละ



“เจอแล้ว”



พี่แมนคว้าขวดยาธาตุน้ำแดง มาเปิดดมๆ แล้วก็ได้แต่สงสัยว่ายาธาตุอะไรวะ กลิ่นเหมือนยาดอง? แต่คราวที่แล้วไอ้เงิบมันกินแล้วก็ดีขึ้น...ก็คงกลิ่นงี้ล่ะมั้ง



สรุปเองเออเองเสร็จสรรพพี่แมนก็เดินกลับไปหาเมียที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียง ท่าทางเมื่อกี้จะโดนชักโครกสูบพลังงานไปเสียเยอะ พี่แมนประคองตัวเมียรักไว้แนบอกแล้วจ่อปากขวดยากับปากเมีย



“กินซะมึง จะได้หาย”



อีเอ็มมี่ที่เบลอๆ ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็โดนจับกรอกยาธาตุน้ำแดงไปหลายอึก ก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอีกรอบเพราะข้าศึกชุดใหม่มาประชิดเมือง พี่แมนไม่ให้อีเอ็มมี่ล็อกประตูห้องน้ำเพราะกลัวมันจะเป็นลมตายคาส้วม แต่พี่ท่านก็ช่วยอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ ได้แต่ปล่อยให้มันวิ่งเข้าวิ่งออก ส่วนตัวพี่ท่านก็ลงไปซื้อเกลือแร่มาชงให้เมียดื่มกันขาดน้ำ



“อ่ะ อีเอ็มมี่ ดื่มเกลือแร่หน่อย”



“พ...พี่แมน ร้อน...ร้อน”



ตุ๊ดร่วมห้องร้องครางอย่างทรมาน เหงื่อกาฬแตกพลั่กอย่างผิดสังเกต จนพี่แมนต้องช่วยมันถอดเสื้อ...ไล่ลงมาถึงส่วนล่างที่ตื่นตัวอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดกับคนที่ถ่ายท้องจนแทบเป็นลม



“เฮ้ย! อีป้านั่นมันใส่อะไรให้มึงกินเนี่ย?”



“ไม่รู้...พี่แมน ทำให้หน่อย...”



“ทำบ้าอะไรเล่า?!”



พี่แมนเถียงหน้าแดง แต่พอเห็นสีหน้าทรมานของมันแล้วก็อดสงสารขึ้นมาไม่ได้ เอ็มส่งสายตาอ้อนวอนขอร้องในสิ่งที่มันต้องการ ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือพี่แมนบีบเบาๆ อย่างขอความเห็นใจ



“มึงนี่นะ! นี่ไม่ได้ไปยั่วผัวป้าแกจนแกแค้นอะไรมึงใช่ไหม?”



ถึงจะพูดกลบเกลื่อนไปงั้น แต่มือพี่แมนก็ค่อยๆ เลื่อนลงไปยังจุดหมาย สร้างเสียงครางผะแผ่วจากคนป่วยตลอดทางที่มือลากผ่าน



“เอ๊ะ เดี๋ยวนะ”



มือนิ่มๆ ของพี่แมนชะงักกึกตรงขอบกางเกงเมียรัก สร้างความไม่พอใจให้คนรอเป็นยิ่งนัก



“ผัวป้า? ขายยาดอง?”



พี่แมนรำพึง แล้วค่อยๆ นึกปะติดปะต่อเรื่องราวอย่างนึกขึ้นได้ ก่อนจะละมือไปจับขวดยาธาตุมาเปิดดมอีกครั้งจนแน่ใจ สีหน้าแสนเป็นห่วงเมียรักหายวับไปทันที เหลือเพียงสีหน้าโหดเหี้ยมเหมือนอยากกระทืบคนป่วยตอแหลเสียมากกว่า



“หึ...กูเกือบเสียท่ามึงแล้วไหมล่ะ? คิดจะวางยาดองกูเรอะ?”



“พี่แมน...ร้อนจังเลย”



ยิ่งได้ยินเสียงคราง พี่แมนยิ่งโมโห พอโมโหมากๆ เข้าพี่แมนก็ทนไม่ไหว เปิดขวดยาดองที่เหลือกรอกปากอีเอ็มมี่รวดเดียวหมดขวดจนมันไอแค่กๆ ก่อนจะหาเชือกมามัดมันไว้กับเตียง ไม่ให้ลุกขึ้นมาทำอะไรเขาตอนเผลอหลับได้



“พี่แมนทำไรอ่ะ? ปล่อยเค้า~”



“หึ...ค้างไปเสียเถอะมึง!”



พี่แมนทิ้งเสียงอาฆาตแค้นสุดท้ายไว้ก่อนจะนั่งเล่นคอม ยัดหูฟังเปิดเพลงกลบเสียงครางของตุ๊ดมีกรรมไปอย่างไม่สนโลก



ปล่อยให้อีเอ็มมี่ทรมานกับอาการปวดท้องและ “โด่ไม่รู้ล้ม” ไปเสียทั้งคืน



“งี๊ดดดด พี่แมน~ ทำให้เค้าที๊~~~!!”









โปรดติดตามแอ๊บต่อไป





#แอ๊บรัก



Talk~

พี่แมนเขาไม่ตัดน้องชายเอ็งไปดองเหล้าก็ดีเท่าไหร่แล้ว อีเอ็มมี่!




หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 11: สุรา เป็นเหตุให้พิการได้ (12/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 12-08-2017 22:03:28
เมื่อไหร่พี่แมนจะตกเป็นเมียเอ็มสักที ลุ้นทุกตอน 555
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 11: สุรา เป็นเหตุให้พิการได้ (12/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 12-08-2017 22:20:49
มั้งฮ่าทั้งสงสารเอ็มมี่ โดนจับได้ตลอด แผนล่มแถมค้าง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ น้ำตาเล็ดเลย กว่าจะได้กินพี่แมน เอ็มมี่คงเหี่ยวก่อน 5555555
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 11: สุรา เป็นเหตุให้พิการได้ (12/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 13-08-2017 01:12:03
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 11: สุรา เป็นเหตุให้พิการได้ (12/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 13-08-2017 20:37:34
แผนล้มอีกละ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 11: สุรา เป็นเหตุให้พิการได้ (12/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 16-08-2017 21:15:10
แอ๊บที่ 12: ชุดไทยสไบม่วง



“มึงจะงอนกูอีกนานไหม? อีเอ็มมี่”



เมียรักของพี่แมนที่นั่งยองๆ เข้าหามุมห้องมาเป็นชั่วโมง เหลือบสายตามองสุดที่รักที่ปล่อยให้เขาค้างคากับ “โด่ไม่รู้ล้ม” มาทั้งคืนอย่างสุดแสนจะน้อยใจ พี่แมนแม่งใจร้าย...ใจร้าย...



“มึงเลิกงอนเถอะ กูหิวข้าว นี่มันจะเที่ยงแล้วนะมึง!”



“...........”



“อีเอ็มมี่...”



“...............ฮึก!”



เอาแล้วไง!



พี่แมนนั่งกุมขมับ ดูเมียรักเล่นบทโศกเป็นนางเอกละครหลังข่าวอย่างไม่รู้จะทำยังไง ผู้หญิงน่ะเคยง้อ แต่ตุ๊ดนี่จนปัญญาจริงๆ ที่สำคัญ...มันทำตัวเองใช่ไหม? กูไม่กระทืบไอ้ที่โด่ๆ เมื่อคืนหักก็บุญแล้วรึเปล่า?



“อีเอ็มมี่...”



พี่แมนเดินเข้ามาดึงแขนเมียรักให้ลุกขึ้นมาเผชิญหน้า คนขี้น้อยใจสะบัดสะบิ้งเล็กน้อยพอเป็นพิธี แต่ก็ไม่ได้เล่นตัวมากจนเกินงาม



“กูหิวแล้ว...”



“................”



อีเอ็มมี่ยังคงเบะปากเป็นเป็ด เชิดหน้าไปทางอื่นอย่างแง่งอน



“ไปกินผัดไทยหน้าปากซอยกัน”



“........พี่แมนเลี้ยงเปล่า?”



“.......อีงก”



“......ฮึก!”



“เออ! เลี้ยงๆ กูเลี้ยง!”



พี่แมนรีบรับคำ เมื่อเมียรักเตรียมจะบีบน้ำตาอีกรอบ ไม่ใช่แพ้น้ำตาตุ๊ดนะ แต่ทนมองไม่ได้จริงๆ ทุเรศลูกกะตา!



“....จับมือเดินด้วยได้เปล่า?”



“......อีนี่....ชักเยอะๆ”



แกนคณะสุดโหดชักจะหงุดหงิดกับคำขอแบบได้คืบจะเอาศอกของเมียรัก



“.......ฮึก! กุซิก กุซิก”



“เออ...จับไปเลย จับให้ละลายติดมือมึงไปเลยนะ! จะไปได้รึยัง? กูหิว!!”



เอ็มที่เซื่องซึมเป็นหมาโดนยาเบื่ออยู่เมื่อครู่ เปลี่ยนอารมณ์เป็นระริกระรี้ทันควันรีบปิดห้องตามไอ้พี่แมนที่เดินนำลิ่วไปกดลิฟต์ลงไปชั้นล่างของหอพัก พี่แมนจำต้องยอมให้เมียรักจับมือเดินเคียงไปตลอดทาง แต่ไอ้ตลอดทางที่ว่ามันแค่ประมาณ 20 ก้าวเท่านั้นเอง...



เอ็มผู้ลืมไปว่าหอพี่แมนอยู่ใกล้หน้าปากซอยเพียงกลั้นหายใจเดิน ถึงกับทำหน้าเซ็งเมื่อความสุขที่พี่แมนยอมมอบให้แม่งผ่านไปไวเหมือนรถไฟวิ่งสวนกัน พูดแล้วก็ช้ำ ช้ำแล้วก็หิว สั่งผัดไทยมากินดีกว่า



“ป้า...ผัดไทยสองจาน”



“หอยทอดเพิ่มอีกจานครับป้า”



“โห...พี่แมน กินหมดเหรอ?”



“ไม่หมดแล้วกูจะสั่งเหรอคะ? น้องเอ็มมี่”



เห็นพี่แมนกินเยอะแบบผิดกับรูปร่างแล้ว กะเทยเทียมก็ได้แต่งุบงิบกับตัวเองเบาๆ อย่างรู้สึกทดท้อ



“แม่ง...แรงถึงได้ช้างสาร จับกดไม่ได้ซะที”



“พูดอะไร?!”



“เปล๊าาาาาาาาาา โถ่...ใครจะกล้านินทาพี่แม๊นนนนน”



ไอ้พี่แมนแม่งทำหน้าระอาหัวเราะๆ หึหึ อย่างนึกสมเพชในพิรุธจังเบ้อเริ่มของเมียรัก



“มีคนเคยบอกมึงไหม? ว่าถ้ามึงลงคลาสการแสดงนี่ติด F ชัวร์ๆ อ่ะ”



“เค้าเรียกว่าจริงใจ...ตอแหลไม่เป็น”



“เค้าเรียกว่าตอแหลไม่เนียน!”



พี่แมนแก้คำให้ถูกต้อง ในขณะที่ป้าแกเอาผัดไทยและหอยทอดมาเสิร์ฟพอดี เอ็มจึงได้แต่นั่งบ่นงุ๊งงิ๊งกับแก้วน้ำแข็งไปตามเรื่องตามราวเพราะเถียงอะไรพี่แมนไม่ได้...เดี๋ยวโดนกระทืบกลางร้านผัดไทย



“พี่แมน...หอยทอดอร่อยไหมอ้า?”



“ก็ดี...”



“ป้อนหน่อยดิ”



แกนคณะชะงักช้อนที่กำลังตัดแบ่งหอยทอดแล้วช้อนมองเมียรักอย่างดุๆ เจอสายตาพิฆาตเข้าไปหนึ่งดอกเอ็มก็แทบร้องงี้ดเป็นหมาโดนรถทับ แต่กะเทยเสิ่นเจิ้นซะอย่าง...ถือคติด้านได้อายอดเว่ย!



“นะครับ...คำเดียว...นะ”



“มือมึงไม่มีรึไงห๊ะ?”



“ก็เค้าอยากให้ป้อนอ่ะ เรื่องแค่นี้...แฟนกันก็ต้องทำให้กันได้ใช่ป่ะ?”



เสียงเครือเป็นนางเอกโดนฟันแล้วทิ้งมาเลย พี่แมนนิ่งไป มองหน้าเมียรักที่กำลังจะเข้าสู่โหมดนางเอกบีบน้ำตาอีกรอบอย่างอ่อนใจเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าอนุญาตอย่างเวทนา



“อ่ะ อ้าม~”



“อ้าม~~”



คนว่าง่ายหลับตาพริ้มอ้าปากรับหอยทอดจากสุดที่รักด้วยใบหน้าแสนสุข พี่แมนเธอก็จัดให้เสียเต็มชิ้นเต็มปากเต็มคำ ป้อนแบบร้อนแรงชนิดที่เรียกได้ว่ายัดเข้ากระชากออก แถมอีหอยชิ้นโตนั่นก็ร้อนลวกปากขั้นน้ำตาไหลพรากกันเลยทีเดียว เอ็มหันซ้ายหันขวาหาทิชชู่เตรียมบ้วนทิ้ง แต่พอจะคว้า มือคุณสามีก็ตะปบป้าบเข้ามาห้ามไว้เสียก่อน



“ห้ามคาย!”



“อ๊อนอ่ะ! (ร้อนอ่ะ!)”



“พี่อุตส่าห์ป้อนให้ น้องเอ็มมี่จะคายทิ้งลงเหรอคะ?”



พูดไม่พูดเปล่า...พี่แมนทำตาแบ๊วระริกใส่อีเอ็มมี่ชนิดนางเอกการ์ตูนตาหวานยังชิดซ้าย ถึงจะรู้ว่าพี่แมนมันแกล้งมารยาทั้งที่สิ่งที่พูดออกมามันมีแต่คำขู่ทั้งนั้น แต่คนแพ้ความโมเอ้ก็อดที่จะฟินทั้งน้ำตาไม่ได้ แม่ง...น่ารักว่ะ!



เอ็มจึงจำใจต้องงับและกระเดือกหอยทอดร้อนๆ ป้อนด้วยรักจากพี่แมนลงคอไปด้วยความแสบร้อนทรมานเกินบรรยาย พอจัดการได้หมดชิ้น ชายหนุ่มผู้น่าสงสารก็อยู่ในสภาพปากคอแดงเถือก น้ำหูน้ำตาไหลไม่หยุด เดาได้เลยว่าต่อจากนี้ประสาทรับรสคงเป็นอัมพาตไปสามสี่วัน



“หึหึ”



แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสงสารมันหรอกนะ...



.

.

.



อีกเพียงสามวันก็จะถึงงานเฟรชชี่เกมส์ที่นักศึกษาปี 1 และรุ่นพี่ทุกคนทุ่มเทเตรียมงานมาเป็นเวลาร่วมเดือน ทั้งพี่แมนเองและเพื่อนๆ คนอื่นก็คุมเข้มน้องๆ ที่ขึ้นโชว์บนแสตนด์มากขึ้น ขยายเวลาฟิตซ้อมกันจนดึกดื่น ต่างคนต่างก็เหนื่อยจนแทบขาดใจ แต่ก็ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน



“พี่แมนคะ...”



สาวน้อยใส่แว่นทรงกลม ท่าทางดูเป็นเด็กเรียนที่พี่แมนจำได้ว่าเป็นแกนพาเหรดปี 3 คณะศิลปกรรมเดินทำหน้าลำบากใจเข้ามาหาในขณะที่การฝึกซ้อมบนแสตนด์หยุดพัก 10 นาที เพื่อให้น้องๆ ปีหนึ่งได้ดื่มน้ำทานของว่างแก้เหนื่อย จริงๆ ปีสูงที่รับผิดชอบพาเหรดคือไอ้เงิบ แล้วมัน...ไปไหนวะ?



พี่แมนทำหน้าหงุดหงิดเมื่อหันไปเห็นไอ้เงิบเพื่อนซี้กำลังนั่งป้อนขนมเมียมันอยู่บนแสตนด์ ใกล้ๆ กันก็มีไอ้งอกที่ปฏิบัติภารกิจมิได้ต่าง ส่วนเมียเขาที่เข้าเฝือกไปนานจนไม่ได้มีส่วนร่วมบนแสตนด์ก็หันตัวมาเป็นสวัสดิการช่วยเหลือเพื่อนๆ เมื่อแขนหายดีแทน



“ครับ? น้องมีปัญหาอะไรเหรอ?”



จริงๆ รุ่นน้องไม่ค่อยกล้ามาปรึกษาอะไรพี่แมนเท่าไหร่นัก ยิ่งต่างคณะกันแบบนี้แล้ว น้องคงอยากจะปรึกษาแกนคณะตัวเองมากกว่า ถ้าไอ้แกนคณะที่ว่ามันไม่ลากเมียพี่แมนไปปล้ำจนถูกกระทืบปางตายยังไม่ออกจากโรงพยาบาลล่ะก็นะ



“คือน้องไออุ่น คนถือป้ายของเราปีนี้รถมอ’ไซค์ล้มอ่ะค่ะ”



“เมื่อไหร่ครับ? เจ็บมากหรือเปล่า?”



รุ่นน้องสาวมองหน้าพี่แมนไปก็หน้าแดงไป พี่แมนเวลาพูดครับแล้วเจ๊นท์มากอ่ะ เขินเว่อร์!



“ขาหักเลยค่ะพี่ เราต้องเปลี่ยนคนค่ะ แต่ปีหนึ่งก็ขึ้นแสตนด์กับมีหน้าที่ในพาเหรดไปเยอะแล้ว คนหน้าตาดีๆ หน่อยก็ไม่ค่อยร่วมกิจกรรมค่ะพี่”



“อืม...ปีหนึ่งคณะพี่ก็มีแต่เถื่อนๆ นะ”



ก็จะคาดหวังอะไรกับผู้หญิงเรียนสถาปัตย์ล่ะ ยิ่งปีนี้คอนเซปป์มันออกเป็นสไตล์ไทย คนถือป้ายนี่ชุดไทยสไบม่วงมาเลย เหลียวมองรุ่นน้องแต่ละคนที่ยังว่างๆ อยู่ก็ไม่มีใครสามารถแอ๊บกุลสตรีได้สักคน



“คือ...พวกหนูปรึกษากันว่าจะเลือกน้องเอ็มอ่ะค่ะพี่”



“เอ็มไหนวะ?”



ผู้หญิงคณะเรามีชื่อเอ็มด้วยเหรอวะ?



“น้องเอ็มมี่อ่ะค่ะพี่”



“ห๊ะ?!”



ภาพกุลสตรีไทยสไบม่วงในความคิดพี่แมนถูกเปลี่ยนเป็นใบหน้าเมียรักเข้าไปทดแทน อีเมียรักมันยิ้มหวานมาให้แล้วไหว้ย่อแบบนางนพมาศมารยาทงามโคตร อืม...ถึงมันจะแปลกๆ แต่ก็...อืม...ก็น่ารักดี มันเป็นคนขาว ใส่ชุดไทยยังไงก็ขึ้นอยู่แล้ว แต่ถ้าแบบนั้นแล้ว...มันก็ควรจะเป็นภาพที่กูได้เห็นคนเดียวรึเปล่าวะ?



“เอาจริง?”



พี่แมนหันไปถามแม่รุ่นน้องด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก อยากจะถามแม่รุ่นน้องแว่นกลมนี่นักว่าไปเอาความคิดนี้มาจากไหน? คิดจะเปิดตัวเมียกูต่อหน้าธารกำนัลนี่คืออะไร?



“เอาจริงค่ะพี่ พี่พูดกะน้องเขาให้หน่อยสิคะ”



“.....”



แกนคณะสถาปัตย์ทำหน้าปั้นยาก หรี่ตาลงราวกับจะถามย้ำ แต่ประกายตาแม่แว่นเธอก็ช่างแก่กล้าและแน่วแน่เสียเหลือเกิน พี่แมนเลยต้องกวักมือเรียกอีเอ็มมี่ที่เสร็จภารกิจแจกน้ำให้วิ่งเข้ามาหาอย่างหน้าระรื่น



“พี่แมน...เรียกเค้าเหรอ?”



“เออ...มึง น้องเขาขาดคนถือป้ายอ่ะ”



“อ้าวเหรอ? ผมว่างนะ”



มึงไม่ต้องเสนอตัวขนาดนั้นก็ได้มั้ง?



“ถ้ามึงไม่อยากทำ ก็บอกเขาไปตรงๆ ก็ได้นะ”



“ไม่นะ ผมก็อยากมีส่วนร่วมเหมือนกัน”



แม่สาวแว่นยิ้มแป้นรีบขอบคุณรุ่นน้องเป็นการใหญ่ ในขณะที่พี่แมนทำหน้าเหมือนโลกจะแตกนึกปรามาศความโง่ของเมียรักในใจที่มันไม่อาจรับรู้สัญญาณที่กูส่งให้เลย



“พี่แมน..พี่เขาจะพาผมไปลองชุดอ่ะ เดี๋ยวมานะ”



“เออ!”



แล้วเอ็มก็เดินตามสาวแว่นไปโดยที่ยังไม่รับรู้ถึงความหงุดหงิดของพี่แมน หายกันไปเกือบครึ่งชั่วโมง ตุ๊ดหน้าหล่อก็เดินกลับเข้ามาพร้อมรอยยิ้มรื่นจนน่าหมั่นไส้



“เป็นไงล่ะ?”



บอกสิว่าไม่อยากทำแล้ว อยากใส่ให้พี่แมนเห็นคนเดียว...



“ก็ดีครับ ใส่แล้วก็ดูดี”



เป็นอันจบข่าว พี่แมนเมินหน้าหนีกลอกตามองเพดานยิมอย่างเหนื่อยหน่าย ถ้ามึงจะแต่งตัวสวยให้ชายอื่นเมียงมองโดยไม่สนใจกูก็เรื่องของมึงเห๊อะ! นี่กูไม่ได้หึงนะ กูแค่ไม่พอใจเฉยๆ!



“พี่แมนเป็นไรอ่ะ เครียดเหรอครับ?”



“เออ กูเครียด!!”



แล้วพี่แมนก็เดินสะบัดหน้าสวยๆ ของตัวเองหนีไปพาลใส่พี่งอกพี่เงิบที่นั่งส่งกำลังใจให้เมียแฝดอยู่ไม่ห่าง รวมทั้งบรรยากาศการซ้อมแสตนด์วันนี้ที่ถูกเปลี่ยนเป็นฮาร์ดคอร์แบบฉับพลันชนิดที่ทุกคนก็ไม่เข้าใจและไม่อาจปฏิเสธได้นั่นเอง...



.

.

.



ค่ำคืนแห่งความสนุกสนานได้มาเยือนชีวิตของเหล่าเฟรชชี่แล้ว ทุกสีต่างเตรียมพร้อมทั้งแสตนด์เชียร์ ผู้นำเชียร์และพาเหรด พี่แมนในชุดเสื้อยืดสีม่วงพาสเทลสกรีนลายประจำงานเข้ากันกับกางเกงยีนส์สีเทาและคอนเวิร์สคู่ใจก็ยืนคุมงานอยู่บริเวณแสตนด์ ในมือมีวิทยุสื่อสารและตารางเวลาของงานอยู่ มีรุ่นน้องและรุ่นเดียวกันวิ่งเข้ามาสอบถามและขอคำปรึกษามากมายดูยุ่งวุ่นวายอยู่ไม่น้อย



“แมน...พาเหรดพร้อมแล้วนะ”



เสียงวอจากเพื่อนเงิบที่ไปคุมฝั่งพาเหรดดังลอดมาตามสาย ยิ่งได้ยินอย่างนั้นพี่แมนก็ยิ่งหงุดหงิด นี่ใกล้จะได้เวลาเริ่มขบวนพาเหรดแล้ว สินกำกับถาปัตย์นานครั้งจะวนมาเจอกัน เรียกว่าเจ้าแม่เจ้าพ่อแห่งความครีเอทมันก็อยู่ในสองคณะนี้ทั้งนั้น แค่แสตนด์ที่เห็นอยู่นี่ก็ทั้งเด่นทั้งอลังการจนไม่รู้จะสาธยายยังไง แน่นอนว่าผู้คนก็ต้องให้ความสนใจกับขบวนพาเหรดของสีเรามากกว่าสีอื่นอยู่แล้ว และดรัมเมเยอร์กับคนถือป้ายซึ่งต้องคัดหน้าตามาแบบเต็มพร้อม...มันก็ต้องเป็นที่น่าสนใจมากกว่าสิ่งอื่นน่ะจริงไหม?



แม่ง...แทนที่มึงจะสวยให้กูดูคนเดียว!



แล้วพี่แมนก็ยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียวท่ามกลางรุ่นน้องที่ยืนมองอยู่ห่างๆ อย่างเหงื่อตก ไม่กล้าเขาไปชวนพี่แกคุย...เดี๋ยวพูดอะไรไม่เข้าหูจะโดนจับโยนลงไปนอนเป็นเพื่อนวรนุชเสียเปล่าๆ



“มาแล้วนะครับ กับขบวนพาเหรดสีแรกของปีนี้...สีแดงของแพทยษรคร้าบ~~”



ช่างภาพเกือบ 50 ชีวิตรีบกรูกันเข้าไปแชะภาพของขบวนพาเหรดที่นำโดยดรัมเมเยอร์ดีกรีดาวคณะ และตามด้วยคนถือป้ายเป็นผู้ชายหน้าตาดีมากสองข้างเพราะเป็นป้ายไม้ยาวขนาดค่อนข้างใหญ่ ขบวนพาเหรดเดินวนมาจนถึงแสตนด์สีม่วงของพี่แมนและวนเข้าสนามไปรอเป็นสีแรก ก่อนจะตามด้วยสีอื่นๆ ที่รังสรรค์ผลงานกันมาอย่างเต็มที่แล้วปิดท้ายด้วยสีม่วงที่ทุกคนรอคอย



“สีสุดท้ายของพวกเรานะครับ สีม่วง ศิลปัตย์~~!!”



เสียงเชียร์ดังกึกก้องเมื่อดรัมเมเยอร์ในชุดไทยสไบสีม่วงปักดิ้นทองที่ถูกออกแบบให้โฉบเฉี่ยวล้ำแฟชั่นโดยฝีมือของเด็กพัสตราภรณ์เผยโฉมท่ามกลางเสียงรัวชัตเตอร์ของช่างภาพ น้องใบหม่อนผู้รับหน้าที่ดรัมเมเยอร์ของสีม่วงในค่ำคืนนี้มีดีกรีเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัยคนล่าสุดส่งตรงจากคณะศิลปกรรม



พี่แมนชะเง้อชะแง้มองฝ่าดงช่างกล้องไปด้วยเสียงหัวใจเต้นตึกตัก ถึงปากจะบอกไม่ๆ แต่จริงๆ ใจก็แอบลุ้นอยู่เหมือนกัน ก็เมียเขามันน่ารักน้อยอยู่ซะที่ไหนกันล่ะ?



“ดรัมเมเยอร์ของสีม่วงนะครับ น้องใบหม่อน บูรณิมา แก้วเกตุภพ จากคณะศิลปกรรม เพิ่งได้รับตำแหน่งดาวมหาวิทยาลัยไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เองนะครับ”



ขบวนพาเหรดที่นำโดยน้องใบหม่อนเคลื่อนตามสีเขียวเข้ามาติดๆ วนมาได้ครึ่งสนามและยังถูกรุมถ่ายรูปไม่เลิกรา



“ค่ะ ส่วนผู้อัญเชิญป้ายประจำสีนะคะ หล่อทั้งคู่เลยค่ะ คนแรก น้องปาล์ม ปวัตร ภู่สอน เดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์”



น้องใบหม่อนเดินนำขบวนมาจนถึงแสตนด์สีม่วงซึ่งน้องๆ บนแสตนด์ก็ส่งเสียงเชียร์กันยกใหญ่กับความงดงามทั้งตัวน้องใบหม่อนเองและศิลปะที่ถูกจัดแต่งบนขบวนนี้



“ผู้อัญเชิญป้ายของสีม่วงอีกคนมาจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ค่ะ คนนี้ไม่มีตำแหน่งการันตี แต่หนังหน้ามาดีการันตีตัวเองได้ค่ะ น้องเอ็ม เอกภพ ผลบุญส่ง!!”



สิ้นเสียงประกาศ พี่แมนก็มองอีผู้อัญเชิญป้ายที่ว่าตาค้าง เมื่อเมียรักสวมชุดไทยสไบม่วงในจินตนาการมันถูกขยี้สิ้นด้วยผู้ชายหน้าไทยในชุดราชปะแตนสีครีมทองโจงกระเบนม่วงเลื่อมแบบผู้ดี กับรอยยิ้มอ่อนโยนที่เจ้าตัวส่งให้ช่างภาพและดูจะอ่อนโยนเป็นพิเศษเมื่อส่งมาทางพี่แมน แกนคณะสุดโหดรีบก้มหน้าหลบทำเป็นหันไปสั่งการรุ่นน้องทันควันด้วยสาเหตุที่ไม่อาจทราบได้



จวบจนขบวนพาเหรดเข้าสนามไปครบทั้ง 6 สี และท่านประธานกล่าวเปิดงาน พี่แมนจึงเดินเลาะริมสนามไปหาเจ้าก้อง หนุ่มรุ่นน้องประธานชมรมถ่ายภาพที่กำลังเช็ครูปที่ตัวเองถ่ายมาได้



“ก้อง เดี๋ยวส่งภาพพาเหรดสีม่วงให้กูด้วยนะ กูจะเอาไปทำจุลสารคณะ”



“อ้าว? พี่แก้วก็มาขอผมตั้งแต่เริ่มงานแล้วนี่พี่”



พี่แมนชะงักไปหนึ่งวิฯ ก็จะตีโหมดดุทำเนียนไป



“เออน่ะ...ส่งมาให้กูด้วยละกัน”



พูดจบก็เดินหนีเข้าไปนั่งเล่นในห้องแต่งตัวของพาเหรดสีม่วง นั่งไปนั่งมาสักพักน้องๆ ที่เดินพาเหรดก็กรูเข้ามานั่งพักผ่อน พี่แมนของเราก็เอ่ยปากชมน้องๆ ว่าทำได้ดีมาก ก่อนจะหลบฉากหนีสายตารู้ทันของไอ้เงิบเพื่อนรักไปคว้าแขนกะเทยหน้าหล่อที่วันนี้ไม่ได้หล่อแค่หน้าหลบมุมไปคุยกันสองคนเงียบๆ



“พี่แมน...วันนี้ผมเป็นไงบ้าง หล่อไหม?”



คนถูกถามก็ทำเป็นมองไปทางอื่นแล้วเกาต้นคอตัวเองเบาๆ ก่อนจะตอบเสียงุบงิบ



“น้อยกว่ากูนิดนึง”



คนหลงตัวเองพูดไปอย่างนั้นแต่ก็ยืนลุกลี้ลุกลนไม่กล้ามองหน้าเมียรักอยู่เป็นนาน จนอีเอ็มมี่ที่ว่าแรมต่ำนักยังสงสัยกับท่าทางประหลาดๆ ของคุณแฟน



“พี่แมน...อยากเข้าห้องน้ำเหรอ? ยืนบิดเชียว”



“ป่าววววววว”



เอ็มขมวดคิ้วงงๆ ตอนนั้นเองที่พี่เงิบวอหาพี่แมนเรียกตัวอีเอ็มมี่กลับไปที่ห้องแต่งตัวพอดี



“แมน...บอกอีเอ็มมี่มารวมที่ห้องนะ”



“เออ”



ตอบกลับไปแล้ว พี่แมนก็ยืนมองชายเสื้อเมียตัวเองอยู่อย่างนั้น พอเอ็มจะขยับหนี พี่แมนก็คว้าหมับเข้าที่ชายเสื้อแต่ก็ยังไม่ยอมสบตาอยู่ดี



“พี่แมนจะเอาอะไรครับ?”



“ไม่ได้เอาอะไร”



เอ็มเหวอแดก คือจะให้กูยืนเฉยๆ เป็นหุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ่ให้มึงเชยชมอย่างนั้นใช่ไหม?



“พี่แมน...”



“อะไรเล่า!”



พอจะเซ้าซี้เข้าก็โดนพี่แมนดุใส่ เจ้าตัวทัดผมที่หูตัวเองอย่างเก้กังจนอีเอ็มมี่เห็นชัดว่าหูพี่แมนแดงขนาดไหน พอเห็นแบบนั้นอีเอ็มมี่ก็เริ่มใช้สมองน้อยๆ ของตัวเองประมวลผลแล้วก้มลงพูดข้างหูพี่แมนเบาๆ



“ชอบชุดนี้เหรอ?”



“อีบ้า!”



พี่แมนแหวใส่ ทั้งที่หน้าแดงแปร๊ด



“งั้นก็...ชอบให้ผมใส่ชุดนี้?”



คนถูกดักทางอ้าปากพะงาบๆ แต่ก็เถียงไม่ออก ได้แต่เสมองไปทางอื่นทั้งที่มือยังจับชายเสื้อเขาไว้อยู่เลย



“พี่แมน...พี่เงิบเรียกผมแล้วนะ”



“ก็ไปสิ”



เออ...แต่มือมึงก็ไม่ปล่อยกูเนอะ?



“พี่แมน...ยืมมือถือหน่อย”



คนถูกขอเลิกคิ้วงงๆ แต่ก็ยอมล้วงมือถือส่งให้เมียรักที่วันนี้หล่อผิดหูผิดตา อีเอ็มมี่เปิดกล้องหน้าถ่ายตัวเองในมุมที่คิดว่าหล่อที่สุดแล้วส่งคืนให้คุณแฟน



“เอานี่ไปก่อน แล้วผมจะรีบไปหาที่แสตนด์นะ”



“อืม...”



พี่แมนแอบมองรูปแวบนึงแล้วเก็บใส่กระเป๋าก่อนจะพยักหน้ารับหงึกๆ อย่างว่าง่าย เห็นแบบนั้นแล้วเอ็มก็แทบเลือดกำเดาไหล แม่ง...โมเอ้จริงว้อย~~~~!!!



“ไปนะ..”



“เลิกแล้ว...อย่าเพิ่งเปลี่ยนชุด...นะ”



เอ็มเคลิ้มแทบลอย เขาอ้อนกูด้วยอ้ะ! โอย...เขาอ้อนกูอ้ะ!



“อื้อ...ไม่เปลี่ยนๆ”



พอรับคำหนักแน่นแบบนั้น พี่แมนเลยยอมปล่อยมือแล้วเดินกลับไปยังแสตนด์สีม่วงเพื่อทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ส่วนอีเอ็มมี่ที่เพิ่งขึ้นสวรรค์ไปเมื่อครู่ก็เดินยิ้มหน้าบานกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วเอ่ยถามพี่ที่ดูแลเรื่องชุดให้อย่างเพ้อๆ



“พี่ครับ...แถวนี้มีร้านเช่าชุดไทยป่ะครับ?”





   โปรดติดตามแอ๊บต่อไป




หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 12: ชุดไทยสไบม่วง (16/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 16-08-2017 22:05:35
โอ๊ยยยยยยยยยยเขินอ่ะ พี่แมนทำไมตอนนี้ดูน่ารักจัง
ถึงจะโหดคงที่ก็เตอะ น่ารักกกกกก
รอออออ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 12: ชุดไทยสไบม่วง (16/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 16-08-2017 23:07:42
ขำมากๆกับเรื่องนี้ โอ้ยยย เก๋ไก๋ แหวก แนว อ่านแล้วยิ้มจนจะบ้า
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 12: ชุดไทยสไบม่วง (16/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 16-08-2017 23:12:30
พี่แมนหลงอีเอ็มมี่แล้วอะเด๊  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 12: ชุดไทยสไบม่วง (16/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-08-2017 01:28:22
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 12: ชุดไทยสไบม่วง (16/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 17-08-2017 08:16:19
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 12: ชุดไทยสไบม่วง (16/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 17-08-2017 09:54:30
พี่แมนโคตรซึนเลยอ่ะ เอ็มมี่ต้องหล่อมากแน่ๆวันนี้  :impress2:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 12: ชุดไทยสไบม่วง (16/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 18-08-2017 10:23:17
พี่แมนโคตรซึนเลยอ่ะ เอ็มมี่ต้องหล่อมากแน่ๆวันนี้  :impress2:
เห็นด้วย
ตะลึงเลยอ่ะดิ
จับได้อย่าง คือ อิพี่แมนน่าจะชอบคนหล่อๆ ในชุดงามๆ
ไลน์ไปบอกเอ็มมี่แต่งคอสเพลย์นอนรอบนเตียง แบบนี้พี่แมนระทวยแน่นวน
 :hao7:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 12: ชุดไทยสไบม่วง (16/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 19-08-2017 00:22:22
น่ารักดี
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 12: ชุดไทยสไบม่วง (16/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 24-08-2017 20:19:41
จะมายังน่ะ รอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 12: ชุดไทยสไบม่วง (16/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 26-08-2017 22:03:44
แอ๊บที่ 13: รอยด่าง



หลังจากค่ำคืนที่แสนจะสนุกสนานผ่านพ้นไปด้วยการที่สีม่วงกวาดรางวัลชนะเลิศเรียบทั้งแสตนด์ พาเหรดและผู้นำเชียร์ รวมถึงยอมให้พี่แมนได้แชะรูปตัวเองในชุดไทยสุดสง่าจนเป็นที่พอใจแล้ว เอ็มก็จุดประกายความคิดบางอย่างขึ้นมาในหัว ก็ในเมื่อคุณพี่เขาพึงพอใจกับชุดราชปะแตนนัก คืนนี้น้องเอ็มมี่จะจัดให้ พอพี่แมนเคลิ้ม...เราก็จะ...คริคริ...



จะได้ฟีทฯ ก็คราวนี้ล่ะวะ!



เอ็มยิ้มกรุ้มกริ่มมองถุงชุดไทยที่เพิ่งไปเช่ามาสดๆ ร้อนๆ คราวนี้เปลี่ยนโจงกระเบนเป็นสีแดงร้อนแรงฝุดๆ พอพี่แมนเห็นนะ ต้องตัวอ่อนร้อนละลายให้เราได้จับเล่นจับชิม อา...แค่คิดก็ฟินแล้ว



แกร๊ก



“พี่แมนกลับมาแล้ววว”



“ดีใจเหี้ยอะไรนักหนา!”



พี่แมนที่เพิ่งกลับมาถึงหอ ร้อนก็ร้อนแถมต้องแบกไม้หวายที่ทั้งยาวทั้งหนักเป็นกำๆ เข้ามาในห้อง หันไปตวาดใส่เมียรักที่อารมณ์ดีไม่รู้เวล่ำเวลา เอ็มที่โดนดุก็ไม่ได้นึกทดท้อแต่อย่างใดกลับเดินเข้าห้องน้ำแล้วออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำเย็นจัดบิดหมาด เจ้าตัวซับเหงื่อคลายร้อนให้คุณแฟนลามไปถึงเช็ดมือเช็ดไม้ให้จนสะอาดเอี่ยม พอพี่แมนได้รับการเอาอกเอาใจจากเมียรักเธอก็อารมณ์ดีขึ้นซ้ำยังออกจะเขินเบาๆ เสียด้วยซ้ำ



“...ขอบใจ”



พี่แมนพูดไม่เต็มเสียงก่อนจะหันไปเก็บไม้หวายที่ขนมาเข้ามุมห้องให้เรียบร้อยไม่เกะกะ



“พี่แมนเอาหวายมาทำอะไรอ่ะครับ?”



“โจทย์งานกลุ่มอ่ะ อาจารย์เอามาโยนไว้ให้กลางคลาสเลย”



พี่แมนสามีที่รักของอีเอ็มมี่นี่เป็นเด็กสถาปัตย์ก็จริงๆ แต่ลงวิชาของศิลปกรรมเป็นวิชาเลือกเสรี ซึ่งอาจารย์แกก็ขยันหาโจทย์ประหลาดๆ มาให้พี่แมนและผองเพื่อนได้ใช้จินตนาการกันเสียเหลือเกิน



“พี่แมน เค้ามีเซอร์ไพรส์ให้พี่แมนด้วยล่ะ”



“เซอร์ไพรส์ไรวะ?”



“แปบนะ!”



เอ็มยิ้มร่า คว้าถุงชุดไทยที่เช่ามาวิ่งเข้าห้องน้ำไปปล่อยให้พี่แมนยืนส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ เป็นเวลาเดียวกับที่ประตูรังรักของอีเอ็มมี่และไอ้พี่แมนเปิดออก พร้อมกับสองเพื่อนซี้ที่หนีบน้องกุมารสุดที่รักเข้ามาด้วย



“มาแล้วเหรอพวกมึง? ซื้อเหล้ามาป่ะ?”



“แหมะ! ไม่เห็นต้องถาม!”



พี่เงิบชูขวดเหล้า โซดา น้ำแข็งพร้อมสรรพให้หัวโจกได้ยล วันนี้พวกเขานัดกันดื่มเหล้าเค้นไอเดียผลงานศิลปะจากไม้หวายที่เพิ่งได้รับโจทย์กันมานี่แหละ



“เมเม่ซื้อกับแกล้มมาฝากพี่แมนด้วยค่ะ นี่ไม่ได้บอกอีเอ็มมี่เลยนะคะว่าจะมา กะเซอร์ไพรส์เต็มที่เลย”



“เออ...เห็นมันบ่นถึงอะไรเซอร์ไพรส์ๆ อยู่เหมือนกัน พวกมึงเอากับไปเทใส่จานกันไป”



“ค่า...โห...ห้องพี่แมนกว้างจัง”



สองคู่รักพากันเดินเข้าไปในส่วนครัว สองสาวก็เทกับกันไป พี่งอกพี่เงิบก็ช่วยกันเทน้ำแข็งใส่กระติก เตรียมแก้วอย่างคุ้นมือ ปล่อยให้พี่แมนเธอได้เปลี่ยนชุดเป็นชุดอยู่บ้านเสร็จพอดีกับที่อีเอ็มมี่เปิดประตูห้องน้ำออกมาในชุดราชปะแตนเต็มยศ มันย่องเข้ามาเงียบๆ กอดจะกอดหมับเข้าที่เอวพี่แมนจากทางด้านหลัง



“เห้ย!!”



พี่แมนร้องลั่นด้วยความตกใจ พอหันไปเห็นเมียรักแต่งชุดไทยก็ยิ่งงงหนัก และงงต่อเนื่องเมื่ออีตุ๊ดที่ไม่ได้สังเกตถึงบุคคลอื่นภายในห้องเริ่มลวนลามสามีตัวเองด้วยคิดว่าพี่แมนเธอคงกำลังอ่อนระทวยเพราะเห็นความหล่อผ่านชุดนี้เป็นแน่



“พี่แมน...”



“อีเอ็มมี่...มึง! หยุด!!”



พี่แมนพยายามร้องห้ามเมื่อสายตาสี่คู่จากในครัวมองตรงมาอย่างตื่นตาตื่นใจ โดยที่อีกะเทยหน้ามืดนี่ก็ไม่ได้รับรู้อะไรกับใครเขา จ้องแต่จะไซ้คอ ถลกเสื้อพี่แมนอย่างเอาเป็นเอาตาย



“อีเอ็มมี่~!! กูบอกให้หยุ๊ด~!!”



“พี่แมนไม่ต้องเขินนะครับ เดี๋ยวผมจะทำให้พี่แมนมีความสุขเองนะ”



“....กูว่าไอ้แมนมันไม่ได้เขินหรอก มึงหยุดเหอะ”



อีเอ็มมี่ขมวดคิ้วกับเสียงที่แปร่งไปของผัวรัก



“เอ๊ะ...เสียงพี่แมนทุ้มขึ้นนะครับ เป็นหวัดเหรอ?”



“มึงปล่อยเห๊อะ! กูไม่อยากให้ผัวกูแดกเหล้าผสมเลือดมึงนะ”



“แหน๊ะ! คราวนี้เสียงเหมือนอีเมเม่เลยครับ พี่แมนทำได้ไงเนี่ย?”



คนเอ๋อในชุดราชปะแตนเอ่ยถามเสียงตื่นเต้น โดยมิได้สังเกตสุดที่รักที่ยืนกำหมัดแน่น หายใจแรง ปล่อยรังสีอำมหิตปกคลุมเต็มพื้นที่ชนิดที่ว่าโซดาหายซ่ากันไปเลย พี่งอกผู้คาดเดาชะตากรรมมันล่วงหน้าได้แล้วก็ยืนแผ่เมตตาให้อย่างแสนเวทนา ฝ่ายเอ็มที่เพิ่งจะรับรู้ถึงความผิดปกติในห้องก็ค่อยหันหลังมองในครัวแล้วก็พบกับรอยยิ้มเจิดจ้าดุจดอกทานตะวันของคนคุ้นหน้าทั้งสี่



“มึง...”



“พะ...พี่แมน คือเค้า...คือเค้า...”



“พวกมึงไม่ต้องตกใจนะ”



พี่แมนเงยหน้าขึ้นมายิ้มหวานให้สมาชิกในครัว ในขณะที่เมียรักหนาวสันหลังเยือก



“อีเอ็มมี่มันกำลังจะไปแคสบทละครเวทีของอักษร มันให้กูเป็นคู่ซ้อมบทให้เฉยๆ”



สี่ชีวิตที่ฟังคำอธิบายพยักหน้ารับรู้อย่างงงๆ ในขณะที่คนถูกพาดพิงทำหน้าควายเอ๋อมีเครื่องหมายปริศนาปักอยู่กลางกบาล



“อีเอ็มมี่ มึงไม่เห็นบอกกูเลยว่าจะไปแคสบท เรื่องไรวะ?”



“....ห๊ะ?”



เอ็มที่ยังตามบทสนทนาไม่ทันก็ยังสติลเอ๋อต่อไป หน้าที่ตอบคำถามจึงเป็นของพี่แมนผัวรักแทน



“นางทาส”



“อ๋อ....แหม~ ชุดมาเต็มขนาดนี้ มึงเล่นเป็นท่านเจ้าคุณใช่มะ?”



เปล่า...มันเล่นเป็นอีเย็น อีเอ็มมี่...ไหนๆ เพื่อนมึงเพื่อนกูก็อยู่กันพร้อมหน้า เราก็ซ้อมบทกันตรงนี้เลยละกัน จะได้ให้พวกมันติ-ชมด้วยไง... มึงถอดเสื้อสิ



“...ห๊ะ?”



เอ็มรู้สึกได้ถึงการข่มขู่จากประโยคคำสั่งเรียบๆ นั้น แม้มิได้อยากขัดขืน แต่สติก็ยังโหลดไม่ครบ จึงมิอาจปฏิบัติตามคำสั่งของพี่แมนได้ทันที



“กูบอกให้ถอด!”



พอเจอเสียงตวาดเหี้ยมเข้าไปหนึ่งครั้ง เอ็มก็ลนลานถอดเสื้อออกอย่างเร่งร้อน ส่งผลให้พี่แมนแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ



“อีมาม่า มึงไปเอาเชือกรองเท้าตรงระเบียงมา”



“ค...ค่ะ”



แฝดสาวผู้น้องผู้เกรงกลัวบารมีพี่แมนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร รีบวิ่งไปนำของต้องประสงค์มาประเคนให้พี่แมนตามคำสั่ง เอ็มผู้ซึ่งสัมผัสถึงลางร้ายถูกจับนั่งคุกเข่าและพันธนาการข้อมือไพล่หลังไว้ด้วยเชือกอย่างแน่นหนา พี่แมนเธอเดินอ้อมหลังเมียรักไป เลือกหวายที่มุมห้องมาหนึ่งเส้นอย่างพินิจพิเคราะห์ก่อนจะค่อยๆ สาวเท้ากลับมาหาเมียรัก



“อีเย็น มึงขโมยทองลูกกูไปใช่ไหม?!”



เพี๊ยะ!



“โอ๊ย...ซี้ด!”



“ปากแข็งเหรอมึง? ปากแข็งใช่ไหม?!”



เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!



“โอ๊ยยย...เค้าขอโทษ เค้าผิดไปแล้ว”



ต่อไปเค้าจะไม่ปล้ำพี่แมนต่อหน้าธารกำนัลอีกแล้ว...



“ขอโทษเหรอ? ขอโทษตอนนี้มันสายไปไหม? อีหื่น!!”



เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!



ไม้หวายแข็งๆ ถูกใช้ฟาดกระหน่ำลงไปบนหลังอีเอ็มมี่จนขึ้นเป็นแนวเลือดซิบๆ แสดงให้เห็นถึงพละกำลังเกินมนุษย์ของพี่แมนได้อย่างชัดเจน



“เฮ้ย...อีเม่ อีเย็นมันขโมยทองลูก แต่ทำไมท่านเจ้าคุณด่ามันว่าอีหื่นวะ?”



“กูไม่รู้ว่ะ กูก็งง”



“โถ...อีเอ็มมี่ อีเมียทาส”



พี่งอกซึ่งยืนดูอยู่นานแล้วก็ได้แต่สงสารอีเอ็มมี่เบาๆ จะหาทางฟีทเจอริ่งกับสามีแต่ละทีก็มีอุปสรรคตลอด แล้วดู...ไอ้แมนก็โมโหเลือดขึ้นหน้า ดูท่างานนี้ถ้าคุณหญิงแย้มไม่เข้าไปห้าม อีเอ็มมี่...เอ้ย! อีเย็นได้ตายคาหวายท่านเจ้าคุณแน่



“ท่านเจ้าคุณคะ พอเถอะค่ะ อิฉันหากำไลของลูกเจอแล้ว”



พี่งอกที่สวมวิญญาณคุณหญิงแย้มก้าวเข้าไปคว้าข้อมือท่านเจ้าคุณแล้วกล่าวบทได้อย่างถึงจิตวิญญาณ เรียกว่าผู้ชมอีกสามคนที่เหลือถึงกับต้องปรบมือให้อย่างแสนจะชื่นชม



“จิ๊”



“กินเหล้าเห๊อะ!”



พี่งอกคว้าหวายในมือไอ้พี่แมนไปเก็บ ส่วนสองกุมารก็ช่วยกันลากเพื่อนรักไปทำแผล ส่วนพี่งอกก็ยกสารพัดอุปกรณ์การสังสรรค์ออกมาเสิร์ฟ แล้วค่ำคืนของความสนุกสนานครั้งแรกของทั้งหกคนก็เริ่มขึ้น โดยที่พี่งอกพี่เงิบมีเมียรักเอาใจคอยชงเหล้าให้อยู่ข้างๆ ส่วนอีเอ็มมี่ พี่แมนไล่มันไปนั่งให้พ้นหูพ้นตา พอมันจะกระดื๊บเข้ามาง้อ พี่แมนก็ตวัดสายตาใส่จนมันต้องร้องงี๊ดกลับไปนั่งที่เดิม...



“อีเอ็มมี่...อย่าเสียใจไปเลยมึง โอกาสมันไม่ได้มีครั้งเดียวหรอกนะ”



ชายหนุ่มผู้อับเฉาที่นั่งจับเจ่าอยู่คนเดียวมองไอ้พี่งอกตัวดีที่ตบไหล่ปุๆ เหมือนเห็นใจเต็มที่อย่างแค้นเคือง ก็ถ้ามึงไม่ยกโขยงมากันวันนี้กูก็ได้ขยี้พี่แมนแล้วหรือเปล่า? ฮือ...แม่ง...คิดแล้วช้ำ!



.

.

.



เช้าวันรุ่งขึ้น เอ็มตื่นมาเห็นชุดไทยที่เช่ามาโดนเผาเป็นซากอยู่ที่ระเบียงก็ได้แต่ช้ำใจ กว่าจะจับจุดพี่แมนได้เจ็บตัวเข้าขั้นพิการไปไม่รู้เท่าไหร่ แล้วทุกอย่างก็มาพังพินาศลงไปกับตา ยิ่งพี่แมนยังไม่ยอมพูดด้วยซักคำตั้งแต่เมื่อคืน เอ็มก็ยิ่งช้ำหนักแทบร้องไห้เป็นสายเลือด



“พี่แมน...”



“...........”



“พี่แมนครับ”



คนที่นั่งเล่นคอมอย่างไม่สนโลกอยู่บนเตียงเหล่มองคนมีคดีที่คลานเข่าเข้ามาใกล้แล้วแนบหน้าลงบนขาอ่อนตัวเองอย่างไม่ใคร่จะไยดี



“ผมขอโทษจริงๆ นะ”



“.................”



“หายโกรธเถอะนะครับ ทำหน้าบึ้งมากๆ เดี๋ยวไม่หล่อนะ”



“................”



พอเห็นท่าพี่แมนคงไม่เลิกงอนง่ายๆ อีเอ็มมี่ก็ถอนใจอย่างสิ้นหวังก่อนจะลุกขึ้นคว้ากระเป๋าเตรียมตัวจะออกไปเรียน



“เค้าไปเรียนแล้วนะ เดี๋ยวขากลับจะซื้อน้ำแข็งใสมาฝาก รอเค้านะ”



พอสิ้นเสียงประตูห้องปิด พี่แมนยกคอมออกจากตักเพราะเมื่อกี้ก็เปิดเก๊กบังหน้าไว้เท่านั้น จริงๆ ก็ไม่ได้โกรธที่มันหื่นเท่ากับโกรธที่มันโง่ไม่รู้กาลเทศะหรอก แล้วดูมัน...ทำภาพพจน์ชุดไทยที่กูฟินเมื่อคืนป่นปี้หมดแล้ว!



พี่แมนถอนใจให้ความโมโหที่พลุ่งพล่านขึ้นมาหายวับไป ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งที่โต๊ะทำงานเล็กซึ่งมีโมเดลตึกที่พี่แมนยังแต่งไม่เสร็จวางทิ้งไว้อยู่ ไหนๆ วันนี้ก็ไม่มีคลาส พี่แมนเลยกะจะเก็บรายละเอียดที่เหลืออีกนิดหน่อยให้เสร็จ จะได้ส่งอาจารย์ไปเสียที



พี่แมนก็นั่งผสมสี ตัดแต่งอะไรไปอยู่ครู่ใหญ่ รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงเมสเสจจึงเช็ดมือกับผ้าขี้ริ้วแล้วหยิบมือถือขึ้นมาดูข้อความ



‘หายโกรธเค้ายัง?’



พี่แมนหลุดขำออกมาหนึ่งพรืด แทนที่มันจะตั้งใจเรียนนะ ยังหาเวลาส่งข้อความมาหาเขาได้อีก...พอหันกลับไปสนใจงานต่อเมสเสจก็เด้งขึ้นมาอีกรอบ



‘อย่าโกรธเลยนะ เดี๋ยวเค้าซื้อส้มตำไปง้อ’



คนกำลังจะโดนง้อด้วยส้มตำส่ายหัวอย่างระอาปนขำ เป็นแฟนกันมันรู้บ้างไหมเนี่ยว่าเขาไม่ชอบกินส้มตำน่ะห๊ะ? พี่แมนนั่งชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ตอบกลับไป



‘ไม่เอาส้มตำ อยากกินยำมาม่า’



พิมพ์เสร็จก็วางมือถือลงเพื่อรอข้อความตอบกลับ และใช้เวลารอไม่ถึงนาทีเสียงเตือนข้อความก็ดังขึ้น



‘ได้ๆ เดี๋ยวเลิกเรียนจะรีบซื้อไปให้เลย รักพี่แมนนะ!’



พี่แมนรู้สึกว่าตัวเองจินตนาการเห็นอีเอ็มมี่มีหางแกว่งระริกดีใจเหมือนหมาเห็นกระดูกอย่างไรพิกล ไม่รู้ว่าภาพนั้นมันตลกหรือยังไง...พี่แมนถึงได้นั่งยิ้มมองข้อความในมือถืออยู่นานสองนานกว่าจะดึงความสนใจกลับมาที่งานตัวเองต่อได้



พอเริ่มทำงานไปได้อีกสักพักใหญ่ เด็กสถาปัตย์ก็เหลือบมองนาฬิกาเห็นว่าใกล้จะเที่ยงครึ่งแล้ว คงได้เวลาอาหารกลางวันที่เมียรักกำลังจะซื้อมาฝากพอดี พี่แมนจึงหยัดตัวลุกขึ้นหวังจะเก็บงานก่อน แต่คงเป็นเพราะลุกกะทันหันไปหน่อย ถึงได้เตะปั้กเข้าที่ขาโต๊ะจนทินเนอร์ล้มหกนองโต๊ะไหลลงไปที่ถึงพื้น



“จิ๊! ซุ่มซ่าม”



ด่าตัวเองพอย้ำความผิดพลาดก่อนจะรีบจับขวดทินเนอร์ตั้งขึ้นแล้วหาผ้ามาเช็ดบนโต๊ะขนสะอาดเอี่ยม เช็คผลงานตัวเองว่าไม่เสียหายก็โล่งใจไปเปราะใหญ่ก่อนจะย้ายมาเช็ดทินเนอร์ที่พื้น



“เฮ้ย!”



แต่พอเห็นสภาพทินเนอร์ที่ไหลลงมาจากโต๊ะแล้วพี่แมนก็หน้าซีดเผือด เพราะไอ้ตำแหน่งที่ว่า อีเอ็มมี่เสือกเอากีตาร์ตัวโปรดของมันมาวางพิงกำแพงไว้ ทินเนอร์มันเลยอาบชโลมกัดเนื้อไม้เป็นรอยด่างไปทั้งตัว ถึงพี่แมนจะหยิบมาเช็ดทำความสะอาดก็ไม่สามารถทำให้มันกลับเป็นอย่างเดิมได้แล้ว



“ทำไงดี...”



กีตาร์ตัวนี้อีเอ็มมี่รักอย่างกะลูก ขืนมันรู้ว่าเขาทำของมันเจ๊งล่ะก็...



แกร๊ก



“พี่แมน...เค้ากลับมาแล้ววว”



เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พี่แมนนึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาเสียจริงๆ...





โปรดติดตามแอ๊บต่อไป







Talk~
เค้ามาช้า เค้าขอโทษษษ


หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 13: รอยด่าง (26/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 27-08-2017 00:29:11
หมั่นไส้อีพี่แมนจริงๆเลย ตอนหน้าให้เอ็มงอนบ้างนะคะ55ของอนหนักๆเลย เอาคืนน
เอ็มก็ทนมือทนteen ดีจริงๆเลยน้า สงสารนาง  :katai1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 13: รอยด่าง (26/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 27-08-2017 01:23:46
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 13: รอยด่าง (26/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 27-08-2017 11:54:37
เอาแล้ววววววววววว
กีต้าร์สุดหวงมีรอยด่างซะแล้ว
ยังไงๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 13: รอยด่าง (26/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 28-08-2017 12:36:10
พี่แมนสายแกร่งละลายกะอิเอ็มมี่แล้วพี่
ห่วงของ ของเมียซะลนลานขนาดนี้จะออกหน้าไหนได้อีก
ยำมาม่าอร่อยแน่งานนเน้
 :hao7:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 13: รอยด่าง (26/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 28-08-2017 13:27:51
สงสารเอ็มมี่ 555555
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 13: รอยด่าง (26/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 30-08-2017 20:31:13
แอ๊บที่ 14: เจอตุ๊ดงอน...ให้รีบง้อ



ตุบ!



ถุงยำมาม่าและน้ำแข็งไสในมือหล่นลงพื้นแตกกระจาย เอ็มมองลูกรักในมือพี่แมนที่ถูกทำร้ายจนกลายสภาพเป็นด่างดวงอย่างน่าสงสาร พี่แมนเห็นหน้าเมียรักที่ช็อกน้ำตาคลอเบ้าก็ใจร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม



“คือ..กู”



“พี่แมน...ทำไมทำแบบนี้”



“ไม่...กู”



เอ็มคว้ากีตาร์สุดหวงมาไว้ในอ้อมกอดของตนแบบก่อนจะตวาดใส่พี่แมนทั้งน้ำตาแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน



“โกรธผมก็ลงที่ผมดิ้ พี่ไปพาลมันใส่มันทำไม?!!”



“กูไม่ได้…! อีเอ็มมี่ จะไปไหน?!!”



พี่แมนผวาลุกขึ้นคว้าแขนเมียรักที่กำลังจะหนีออกจากห้องไว้หน้าตาตื่น เมื่อคนที่กำลังเสียใจขั้นหนักไม่คิดจะฟังคำอธิบายอะไรทั้งนั้น



“มึงฟังกูก่อน กูไม่ได้ตั้งใจนะ มันเป็นอุบัติเหตุ”



พี่แมนละล่ำละลักพูด แต่ดูเหมือนอีเอ็มมี่จะเสียใจเกินกว่าจะรับฟังอะไรได้ทั้งนั้น



“ผมจะกลับบ้าน...”



“อีเอ็มมี่...”



พี่แมนทอดเสียง เมื่อเมียรักใช้ดวงตาแดงก่ำจ้องมาเหมือนกึ่งบังคับกึ่งขอร้อง คนเป็นสามีจึงต้องยอมผละมือออกจากแขนของเจ้าตัวอย่างยอมแพ้



“ละ...แล้วจะไปกี่วัน?”



“ไม่รู้”



เอ็มเก็บของที่จำเป็นใส่กระเป๋าแล้วสะพายบ่า ก่อนจะเดินออกไปจากห้องโดยมีพี่แมนเดินตามเงียบๆ จะอ้าปากพูดอะไรก็ไม่กล้า จนกระทั่งทั้งสองคนลงมาถึงหน้าหอและเอ็มโบกแท็กซี่กลับบ้านไปโดยไม่ยอมแม้แต่จะมองหน้าพี่แมน



ฝ่ายพี่แมนที่หน้าเสียอย่างเห็นได้ชัดก็ได้แต่มองแท็กซี่ไปจนลับตา ไม่ลืมจดจำป้ายทะเบียนไว้ด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะกลับขึ้นไปบนห้องแล้วทำความสะอาดคราบน้ำแข็งไสกับยำมาม่าที่เมียรักมันซื้อมาง้อ...แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้กิน



เจ้าของห้องนั่งๆ นอนๆ ดูเวลาไปอย่างไร้จุดหมาย จะเล่นคอมก็เบื่อ จะทำงานต่อก็ไม่มีสมาธิ พอมองเวลาว่าครบชั่วโมงแล้วก็คว้ามือถือขึ้นมากดพิมพ์ข้อความแล้วส่งออกไปทันที



‘ถึงบ้านรึยัง?’



แล้วพี่แมนก็นั่งรอแล้วรอเล่า ทว่าไม่มีข้อความตอบกลับใดๆ จากคนที่เป็นห่วง พี่แมนเลยตัดสินใจกดโทรออก แต่ปลายสายก็ปล่อยให้สัญญาณเรียกเข้ามันดังอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งสายตัดไป



หลังจากพยายามอยู่สามครั้ง พี่แมนก็มั่นใจแล้วว่าอีเอ็มมี่มันโกรธจนไม่ยอมรับโทรศัพท์ ถึงจะรู้ดีว่าเป็นความผิดของตัวเองจริงๆ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าอย่างน้อยก็น่าจะฟังเขาพูดสักคำ...ไปโดยที่ยังโกรธกันแบบนี้ มันค้างคานะเว่ย!



“เฮ้อ~ ไอ้แมนเอ๊ย ไม่น่าซุ่มซ่ามเลย!”



หลังจากนอนโทษตัวเองไปพักใหญ่ พี่แมนก็ตัดสินใจได้ว่าควรจะใส่เวลาอีคุณแฟนมันได้สงบสติอารมณ์เสียก่อน บางทีอีกเย็นนี้มันอาจจะโผล่หน้ากลับมาที่ห้องก็ได้ มันติดเขาจะตาย...อยู่ห่างเกินวันก็งุ่นง่านอย่างกับขาดยาแล้ว



“กินมาม่าดีกว่า”



เพราะแดดตอนบ่ายมันร้อนจนไม่อยากเดินออกไปหาอะไรกินข้างนอก และตอนนี้เมียรักก็ไม่อยู่ทำข้าวไข่เจียวหอมๆ ให้กินแล้ว พี่แมนก็ต้องพึ่งบะหมี่สำเร็จรูปไปก่อน คนหุ่นบางไม่สมนิสัยเดินเข้าครัวแกะมาม่าใส่ชามเทน้ำร้อนใส่สามนาทีแล้วเปิดจานที่ใช้แทนฝาออกสูดดมควันหอมฉุย ก่อนจะใช้ตะเกียบคีบเส้นที่เด้งดึ๋งกำลังดีเข้าปาก แต่พอเคี้ยวๆ ไปพี่แมนก็ต้องทำหน้ามุ่ยอย่างไม่ถูกใจ ยอมรับเลยว่าอีเอ็มมี่เมียเขาน่ะ สกิลแม่ศรีเรือนมันสูงเลอเลิศจริงๆ ขนาดมาม่าธรรมดามันยังต้มออกมายังไงก็ไม่รู้...อร่อยกว่านี้อ่ะ!



นั่งถอนใจอยู่อีกสามนาทีจนเส้นมันอืดไปทั้งชาม พี่แมนก็ต้องตัดใจกินๆ ให้ท้องหายหิวไปก่อน พร้อมภาวนาในใจให้เมียตุ๊ดอย่างอนนาน รีบกลับมาหากูเสียทีเถอะ...เฮ้อออออ



.

.

.



“ไอ้แมน ทำไมตามึงดำเป็นแพนด้างี้วะ?”



“กูขอใช้ตัวช่วย เปลี่ยนคำถาม”



พี่งอกหน้าเหวอ เมื่อหัวโจกผู้ซึ่งพกขอบตาดำมาเรียนในวันนี้ปัดคำถามเพื่อนทิ้งเสียอย่างดื้อๆ สมุนมือขวาจึงต้องเรียบเรียงคำถามเพื่อต่อกรกับเพื่อนรักใหม่อีกครั้ง



“งั้น...เมื่อคืนทำเหี้ยไรอยู่ ไม่หลับไม่นอน?”



“กูไม่ตอบ”



คราวนี้พี่แมนตัดบทอย่างไร้เยื่อใยกว่าคำถามแรก แต่พี่งอกผู้ซึ่งวันนี้ต่อมเสือกทำงานดีเป็นพิเศษก็มิคิดทดท้อยอมแพ้แต่ประการใด



“ไรวะ? เพื่อนถามแค่นี้ตอบไม่ได้เหรอ?”



พี่งอกทำเสียงน้อยอกน้อยใจให้พี่แมนเหล่หางตามองอย่างหวาดผวา เดี๋ยวนี้มีเมียตุ๊ดต้องทำเสียงเหมือนตุ๊ดตามเมียด้วยอ๋อวะ? มันเป็นเทรนด์เหรอ? กูทำบ้างดีไหม?



“เพื่อนงอก...มึงรู้ไรป้ะ?”



พี่แมนเรียกเพื่อนเสียงแบ๊ว ถามเพื่อนเสียงแบ๊ว เอียงคอ 45 องศา ทำตาใสอย่างน่าจับขึ้นปกนิตยสารวัยรุ่นเพื่ออัพเดทเทรนด์แฟชั่นและความสวยความงาม



“รู้ไรเหรอ? เพื่อนแมน”



“ตอนเนี้ย กู...อารมณ์ไม่ดีอยู่นิดหน่อยอ่ะ”



พี่แมนพูดไปจิกเล็บตัวเองไปอย่างน่ารัก



“แล้วไงอ๋อ เพื่อนแมน?”



“คือ...กูแบบ...อยากได้ ‘เหยื่ออารมณ์’ อ่ะ เพื่อนงอกสนใจเป็นให้กูป้ะ?!”



เพื่อนงอกสดับดังนั้นก็หลับตาแน่นเล่นซีนอารมณ์เหมือนพระเอกละครเวทีผู้ผิดหวังจากความรัก แล้วพูดกับแกนคณะด้วยน้ำเสียงจริงจัง



“แมน...ถ้ามึงพูดกับกูว่า... ‘งอก...เงียบปากไปป่ะ’ กูยังเจ็บน้อยกว่านี้เลยว่ะ!”



พี่งอกพูดแล้วก็สะบัดหน้าหนีอย่างช้ำๆ แต่กระนั้นท่านหัวหน้าแก๊งค์ก็มิได้สนใจจะเยียวยาอารมณ์เพื่อนแต่อย่างใด เจ้าตัวยังให้ความสนใจกับอาจารย์หน้าชั้นกับมือถือที่วางอยู่ข้างหนังสือเรียน



“ไอ้แมน...”



เพื่อนเงิบที่นั่งอยู่ทางซ้าย เรียกชื่อแกนคณะโดยไม่ได้หันมอง เพราะตาก็มัวแต่มองเล็คเชอร์บนกระดาน มือก็จดยิกด้วยกลัวว่าอาจารย์จะลบข้อความไปเสียก่อน



“ไรวะ?”



“น้องมาม่าฝากถามมึงว่า อีเอ็มมี่ไปไหน? ทำไมไม่มาเข้าเรียน”



พี่แมนที่กำลังใช้สมาธิอยู่กับการส่องเฟสบุ๊คเมียรักเผื่อมันจะอัพสเตตัสให้หายคิดถึงได้บ้าง ก็สะบัดสายตาใส่สมุนฝ่ายซ้ายทันทีที่ได้ยินคำถามรบกวนจิตใจ



“มึงนี่ยิ่งกว่าไอ้งอกอีกนะ”



“เอ๊า! กูพูดไรผิดวะเนี่ย?”



พี่เงิบโวยเพื่อน ก็เมียกูฝากถาม กูก็ถาม เดี๋ยวนี้แม่ง...พูดอะไรก็ไม่เข้าหูมึง ใช่สิ...กูมันไม่ใช่อีเอ็มมี่นี่!



“เดี๋ยวนะ...กูว่ามันมีประเด็น ไอ้แมน เมียมึงหายอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย?”



“เมียเมอที่ไหน? วู้ววว”



แกนคณะเฉไฉ แต่สองคู่ซี้ก็ไม่ปล่อยโอกาสขยี้แกนฯหลุดรอดไปได้



“ถึงกูจะดูหน้าโง่ๆ แต่กูไม่โง่นะเว่ย กูเป็นคนทำให้พวกมึงได้สมสู่...”



“สมหวัง!”



พี่งอกตัดมุขพี่เงิบก่อนที่บทสนทนาจะติดเรทไปเสียก่อน



“เออ...สมหวังในความรัก มึงคิดว่าพวกกูจะไม่รู้เหรอว่ามึงกับอีเอ็มมี่อ่ะได้เสียกันไปถึงไหนแล้ว?”



“ใช่ๆ”



พี่งอกพี่เงิบร่วมมือกันเออออห่อหมกรับลูกกันเป็นอย่างดี ไอ้พี่แมนคิดจะปฏิเสธก็จำนนต่อหลักฐานได้แต่ค้านอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียง



“ยังไม่ถึงไหนสักหน่อย”



“เอาน่า...เดี๋ยวก็ได้”



พี่งอกตบไหลาเพื่อนปุๆ คล้ายเห็นใจ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าไอ้แมนมันก็ยังไม่อยากได้เท่าไหร่หรอก แต่อีเอ็มมี่มันก็พยายามของมันอยู่ทุกวัน



“แล้วนี่เมียมึงหายไปไหนเนี่ย? น้องม่าบอกปิดเครื่องไม่รับโทรศัพท์ด้วยนะ โกรธไรกันเปล่าวะ?”



พี่แมนเหล่เพื่อนซ้ายทีขวาที เอาวะ...เผื่อพวกมันจะช่วยได้!



   “คือว่า....เรื่องมันเป็นแบบนี้...”



   .

.

.



หลังจากปรึกษากับเพื่อนงอกและเพื่อนเงิบแล้ว พี่แมนก็ได้ความว่าจะให้แม่สองกุมารกลับบ้านไปสืบให้ว่าอีเอ็มมี่มันอยู่ดีมีสุขหรือเปล่า? หายโกรธพี่แมนหรือยัง? ส่วนพี่แมนก็จะรอฟังข่าวอยู่ที่หอ สรุปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอ....



พี่แมนหยิบมือถือขึ้นมามองอีกครั้ง ตั้งแต่เมื่อวาน...อีเอ็มมี่ก็ไม่โทรมาสักกริ๊ง ข้อความก็ไม่มี เฟสบุ๊คก็ไม่อัพ ทวิตเตอร์ ไลน์  ไอจี ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวสักอย่าง พี่แมนนั่งเขี่ยมือถือเล่นอยู่อย่างนั้นก่อนจะตัดสินใจเปิดหน้าข้อความ...แต่กลับไม่รู้จะพิมพ์อะไรลงไปดี



‘…กินข้าวยัง?’





ส่งไปแล้วก็นั่งลุ้น ลุ้นอยู่นานสองนานก็ไม่มีสัญญาณตอบกลับจากตุ๊ดขี้งอนเสียที พี่แมนเลยตั้งใจใหม่ สงสัยถามสารทุกข์สุกดิบมันจะไม่เพียงพอ



‘กูอยากกินข้าวไข่เจียวฝีมือมึงนะ’



พิมพ์ไปหน้าก็แดงไป นี่ก็ยอมให้สุดๆ แล้วนะอีตุ๊ดโง่! มึงควรจะสำเหนียกตัวได้และกลับมาทำข้าวไข่เจียวให้กูกินได้แล้วนะ! ทว่าผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง...นอกจากจะไม่มีกะเทยหน้าไหนมาทำข้าวไข่เจียวให้กินแล้ว แม้แต่ข้อความตอบกลับยังไม่มี...



พี่แมนมองค้อนมือถือตัวเองต่างหน้าเมียรักอย่างนึกน้อยใจ จะตัดขาดกันจริงๆ ใช่มะ? ทีกูโกรธมึงส่งข้อความมาคำสองคำกูยังหาย แล้วนี่อะไร...??



พี่แมนฮึดฮัดอยู่ไม่นานก็หยิบมือถือขึ้นมาใหม่ เปิดหน้าข้อความ...คิดคำไว้ในใจแล้วพิมพ์



‘คิดถ...’



เจ้าตัวพิมพ์ได้แค่นั้นก่อนจะเม้มปากแน่นแล้วโยนมือถือทิ้งไว้บนเตียง จากนั้นก็ลุกขึ้นไปหยิบงานโมเดลที่คั่งค้างไว้ขึ้นมาทำต่อโดยไม่สนใจอะไรอีก



.

.

.



เช้าวันต่อมา...



ไอ้พี่แมนก็มายืนอยู่หน้าบ้านผลบุญส่งด้วยการช่วยเหลือของสองแฝดผู้อยู่บ้านติดกันจนได้ สองสาวเมเม่และมาม่าเดินนำรุ่นพี่เข้าไปในตัวบ้านอย่างคุ้นเคย บ้านของเมียเขาถือว่าไม่ใหญ่ไม่เล็ก เป็นบ้านเดี่ยวขนาดอบอุ่นสีขาวเทาที่มีสวนเล็กๆ อยู่หน้าบ้าน ภายในบ้านจัดแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นทำให้ดูโล่งและสะอาดตา



“คุณป้าสวัสดีค่ะ”



“อ้าว...หนูเม่ หนูม่า มาหาตาเอ็มเหรอจ๊ะ? แล้วนั่นพาใครมาด้วยล่ะ?”



หญิงวัยกลางคนท่าทางใจดีทักทายเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กของลูกชาย ก่อนจะทอดสายตาอ่อนโยนมายังบุคคลแปลกหน้าที่เดินตามเข้ามา พี่แมนยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างมีสัมมาคารวะทันที



“สวัสดีครับคุณน้า แมนครับ เป็นรุ่นพี่ของ...เอ่อ...เอ็มครับ”



ไม่รู้ว่าแม่มันรู้เรื่องที่ลูกชายเป็นตุ๊ดหรือเปล่า? เซฟไว้ก่อนละกัน...



“หืมม์? เดี๋ยวนี้ตาเอ็มสนิทกับเพื่อนรุ่นพี่ด้วย ดีจัง...มีอะไรก็ช่วยดูๆ ให้ป้าหน่อยนะจ๊ะ ลูกชายป้าคนนี้บางทีก็ดี บางทีก็ดื้อ นี่จู่ๆ ก็หนีกลับบ้านไม่ยอมไปเรียน เห็นว่ากีตาร์ตัวโปรดพัง...ทำตัวเป็นเด็กๆ ไม่มีความรับผิดชอบไปได้ แม่สร้อย...แม่สร้อยอยู่รึเปล่าจ๊ะ? เอาน้ำให้แขกหน่อยซิ”



คุณน้านั่งเด็ดดอกโสนไปก็บ่นลูกชายไป แถมยังสั่งให้แม่บ้านคนสนิทยกน้ำมาให้แขกดื่ม โดยไม่ได้สังเกตสีหน้าพี่แมนที่ไม่สู้ดีเอาเสียทันทีที่ได้ยินเรื่องกีตาร์ ฝ่ายสองแฝดก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนมองหน้ารุ่นพี่สุดโหดที่ตอนนี้หงอยเป็นแมวซึมอย่างเป็นห่วง



“แม่สร้อย...เธอไปตามตาเอ็มให้หน่อยสิ บอกว่าคุณพี่แมนเขามาหา”



“ค่ะ คุณชื่น”



แม่บ้านวัยใกล้เคียงกับเจ้าของบ้านรับคำแล้วเดินขึ้นชั้นสองไปสักพัก ก่อนจะกลับลงมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก



“คุณหนูเธอบอกว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะ ไม่อยากพบใคร”



แม่สร้อยรายงานเสียงอ่อย ยิ่งทำให้สีหน้าของพี่แมนแย่ลงไปอีก น้องกุมารแฝดเลยทนเฉยอยู่ไม่ได้ คล้องแขนคุณป้าคนละข้างแล้วพาไปซุบซิบกันในครัว



“คืออย่างงี้นะคะคุณป้า พี่แมนเนี่ย...เขาเป็นคนทำกีตาร์อีเอ็มมี่พังน่ะค่ะ”



น้องเมเม่อธิบาย



“ตายจริง...เหรอจ๊ะ?”



“ค่ะ คุณป้า แต่พี่แมนเขาไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ ลูกชายคุณป้าน่ะไม่ยอมฟังพี่แมนอธิบายเลย”



“ตายจริง...งอนกันอย่างกับแฟนเลยนะจ๊ะ”



สองกุมารสะดุ้งเฮือก คุณป้าจะเซนส์ไวไปละนะคะ! ฝาแฝดมองหน้ากันอย่างมีเลศนัยก่อนจะหัวเราะกลบเกลื่อน



“คุณป้าขา...คุณป้าช่วยพี่แมนหน่อยนะคะ นะคะ”



แฝดพี่บีบนวดต้นแขนคุณป้าข้างซ้าย ส่วนแฝดน้องก็บีบแขนข้างขวา พร้อมส่งเสียงออดอ้อนอย่างน่ารักให้คนแก่ที่ไม่มีลูกสาวได้รู้สึกสดใสขึ้นมาจนต้องส่งเสียงหัวเราะเบาๆ



“จ้ะๆ ช่วยก็ช่วย”



สองแฝดแท็คมือกันก่อนจะส่งเสียงหัวเราะคิกคักอย่างยินดี แล้วทั้งสามคนก็ควงแขนกันกลับไปหาพี่แมนที่นั่งหน้าเศร้าอยู่ที่โซฟา



“คุณพี่แมน ตามป้ามาทางนี้จ้ะ”



แล้วพี่แมนก็ถูกแม่ยายลากขึ้นบันไดไปจนถึงหน้าประตูห้องนอนห้องหนึ่ง เจ้าของบ้านเคาะประตูห้องนอนลูกชายตัวดีแล้วส่งเสียงเรียก



“ตาเอ็ม เปิดประตูให้แม่หน่อยลูก”



“จ๋าแม่”



ได้ยินเสียงกุกกักในห้องอยู่ชั่วครู่ก่อนที่ประตูจะเปิดออกจากด้านใน เอ็มมองหน้าพี่แมนที่ยืนอยู่ด้านหลังแม่ตัวเองอย่างตกใจ ผิดกับอีกคนที่แทบจะยิ้มออกมาเมื่อได้เห็นหน้าเมียรักสักที



“คุณพี่แมนเข้าไปค่ะ เข้าไป”



“แม่~”



คุณชื่นฤทัยรุนหลังแขกของลูกเข้าไปในห้องส่วนตัวของเจ้าตัวโดยไม่ฟังเสียงร้องทัดทาน คนเป็นแม่ถลึงตาดุใส่ลูกชายที่เสียมารยาทเป็นเชิงสั่งสอน



“คุยกันให้รู้เรื่องนะจ๊ะ”



แล้วคุณแม่ยายก็ยิ้มให้พี่แมนแทนคำอวยพรก่อนจะปิดประตูให้เสร็จสรรพ ทิ้งไว้เพียงสองผัวเมียที่ยังทะเลาะกันอยู่ยืนมองหน้ากันอยู่หน้าประตูห้อง พี่แมนใช้โอกาสที่ยังเรียบเรียงคำพูดไม่ได้สำรวจห้องของอีกฝ่ายด้วยสายตา ก็จัดเป็นระเบียบดีตามนิสัยมัน แต่ดูเป็นห้องของผู้ชายมากกว่าที่คิด สายตาของพี่แมนเลื่อนมาหยุดอยู่ที่กีตาร์ตัวโปรดของเมียรักที่นอนหมดสภาพอยู่บนเตียงก่อนที่แกนคณะจะถอนหายใจออกมาเบาๆ



“อีเอ็มมี่...”



“............”



“วันนั้นกูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ มันเป็นอุบัติเหตุ มึงคง...ไม่ได้คิดว่ากูจะทำแบบนั้นกับของรักของมึงได้ลงหรอกใช่ไหม?”



เอ็มถอนใจ เบือนหน้าหนีสายตาเว้าวอนของพี่แมนไปทางอื่นก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงไม่อ่อนโยนเหมือนเช่นเคย



“ครับ วันนั้นผมโมโหเลยพูดไปอย่างนั้น จริงๆ ผมก็ไม่ได้คิดว่าพี่แมนตั้งใจทำหรอก”



ได้ยินดังนั้นพี่แมนก็ยิ้มออก รีบก้าวเข้าไปจับมือเมียรักไว้ด้วยความดีใจ



“แปลว่า...มึงหายโกรธกูแล้วใช่ไหม?”



“ไม่ครับ”



เจ้าของกีตาร์ตัวปัญหาดึงมือออกจากการเกาะกุมพร้อมปฏิเสธ เล่นเอาพี่แมนหน้าเสีย



“พี่แมนรู้ไหมว่ากีตาร์ตัวนี้เป็นกีตาร์ตัวแรกของผม ผมเก็บตังค์ซื้อเองตอนม.3 หัดเล่นมันอยู่เป็นปีๆ จนมันทำให้ผมได้แชมป์เยาวชนตอน ม.5 ถึงมันจะไม่ได้มีราคาแพงเท่าตัวอื่นๆ ที่พ่อกับแม่ซื้อให้ แต่มันมีคุณค่าทางความทรงจำนะ”



“..........”



พี่แมนได้แต่ยืนเงียบ ปล่อยให้คนโกรธพรั่งพรูความรู้สึกที่มีต่อกีตาร์ตัวนั้นออกมา



“ผมรักมันมาก ผมเลยโกรธที่พี่ทำมันพัง แต่พี่รู้ไหม? ผมโกรธยิ่งกว่าที่จนถึงตอนนี้พี่ก็เอาแต่พูดว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจโดยไม่ขอโทษผมสักคำ!



“กู...คือ...”



“พี่กลับไปก่อนเถอะ...ขอเวลาผมสักพัก ตอนนี้ผมยังทำใจให้อภัยพี่ไม่ได้หรอก”



อีเอ็มมี่เอ่ยปากไล่พี่แมนก่อนจะหันหลังให้ ยิ่งทำให้คนถูกเมินรู้สึกทั้งแย่ทั้งใจหายมากขึ้นไปกว่าเดิม เพราะตลอดมาเป็นฝ่ายถูกออดอ้อนเอาใจมาตลอด ตอนนี้เลยรู้สึกเหมือนในอกมันวูบโหวงอย่างบอกไม่ถูก



คนเป็นฝ่ายผิดขยับเข้าใกล้ร่างเบื้องหน้า ยื่นมือออกไปขยำชายเสื้อยืดด้านหลังของอีกฝ่ายไว้เหมือนเรียกความสนใจให้หยุดฟัง



“กู...ขอโทษนะ...กูเสียใจจริงๆ”



สิ่งที่ตอบรับประโยคนั้นมาคือความเงียบ และท่าทีนิ่งเฉยจากอีกฝ่าย พี่แมนจึงตัดสินใจปล่อยมือจากชายเสื้อนั้นแล้วเดินออกไปจากห้อง ดวงตากลมโตจ้องมองคนที่ยังโกรธด้วยสายตาวาดหวังจะได้ยินคำรั้ง แต่กลับไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมาจนกระทั่งประตูห้องปิดลง



แกนคณะสถาปัตย์เดินก้มหน้าลงบันไดลงมาชั้นล่าง ยกมือไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งที่หลบสายตา คว้ากระเป๋าแล้วเดินออกจากบ้านไปท่ามกลางความกังวลของสองสาวฝาแฝดที่พอจะรับรู้ได้ว่าทั้งสองคนคงยังเคลียร์กันไม่ได้ ฝ่ายคุณชื่นฤทัยที่เห็นสภาพของรุ่นพี่ก็ก้าวฉับๆ ขึ้นไปบนห้องแล้วเปิดประตูผางเข้าไปหาลูกชายที่นั่งอยู่บนเตียงทันที



“ตาเอ็ม! ลูกพูดอะไรกับคุณพี่แมนเขา?”



“หนูก็แค่ให้เขากลับไปก่อน”



“ไม่ใช่แค่นั้นแน่ ไม่งั้นคุณพี่แมนเขาจะเดินร้องไห้ออกไปแบบนั้นเหรอ!”



เอ็มตกตะลึงไปชั่วขณะ พอจับใจความได้ เจ้าตัวก็รีบวิ่งออกจากห้องลงบันไดออกไปข้างนอกบ้านทันที โชคดีที่ยังเห็นพี่แมนเดินอยู่หลังไวๆ เจ้าถิ่นจึงรีบสาวเท้าเข้าประชิดตัวแล้วคว้าแขนแฟนตัวเองไว้ทันที ฝ่ายที่รู้ตัวว่าถูกไล่ตามมาก็สะบัดหน้าซ่อนน้ำตาแล้วใช้หลังมือเช็ดป้อยๆ



พี่แมนไม่ได้ดิ้นหนีจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย แม้จะไม่ได้สะอึกสะอื้นคร่ำครวญเหมือนพวกนางเอกละครแต่น้ำตาเจ้ากรรมก็ไม่หยุดไหลเสียที ได้แต่ยืนเช็ดอยู่อย่างนั้น ความรู้สึกผิด เสียใจ น้อยใจ มันปะดังปะเดเข้ามาจนสับสนไปหมด



รู้แค่ไม่อยากให้โกรธ ไม่อยากถูกโกรธ ไม่ชอบ...ไม่ชอบ...



เอ็มถอนใจกับภาพตรงหน้าก่อนจะจูงแขนพี่แมนที่เดินก้มหน้าก้มตาให้กลับเข้ามาในบ้านแล้วขึ้นไปยังห้องนอนโดยมีคุณแม่มองภาพนั้นอยู่ห่างๆ ก่อนจะปลีกตัวไปให้ลูกได้จัดการปัญหาเป็นการส่วนตัว



เจ้าของห้องคว้ามือบางที่ปาดเช็ดน้ำตาจนเห่อแดงไปทั้งหน้าไว้แล้วลากเข้าไปในห้องน้ำ คว้าผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำบิดหมาดมาซับหยาดน้ำตาและคราบบนแก้มออกให้อย่างเบามือ



“หยุดร้องนะครับ”



พอได้ยินเสียงอ่อนโยนแบบที่เคยหู พี่แมนก็น้ำตาหยดแหมะอีกรอบ ทำเอาอีกฝ่ายต้องถอนใจแรงอย่างนึกเป็นห่วงตากลมโตที่แดงช้ำไปหมด



“ตาช้ำหมดแล้ว”



“ดีกันนะ”



นิ้วก้อยเล็กๆ ยื่นมาให้ตรงหน้า เสียงพี่แมนที่เคยดุด่ากลายเป็นสั่นเครือ ดวงตาเปื้อนน้ำช้อนมองอย่างเว้าวอนและวาดหวัง เห็นอย่างนี้ใครใจแข็งต่อได้ก็ไม่ใช่มนุษย์แล้ว



“ครับ...ดีกันแล้ว หยุดร้องนะ”



เอ็มคล้องนิ้วก้อยตัวเองกับนิ้วของคุณแฟน แล้วเอ่ยปลอบเหมือนโอ๋เด็กตัวเล็กๆ



“ไม่ได้ร้อง...”



“ครับ ไม่ได้ร้อง แค่น้ำตาไหลเองเนอะ”



พอรู้ตัวว่าโดนล้อ พี่แมนเลยจัดกำปั้นเน้นๆ ทุบปั้กเข้าที่อกเมียรักจนร้องซี้ด ก่อนไอ้ตัวดีจะตีเนียนเข้ามาโอบเอวพี่แมนที่รู้สึกไม่อยากขัดขืนเสียดื้อๆ เข้าสู่อ้อมกอด



“พี่แมนขี้แย”



“หยุดพูดไปเลย”



“ถ้าผมไม่ตามไปพี่แมนจะกลับหอทั้งน้ำตางี้เลยเหรอ?”



“ใช่...แล้วกูก็จะเลิกกับมึงเลยด้วย”



เอ็มหรี่ตาทำสีหน้าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์



“เลิกได้เหรอ? เสียน้ำตาให้กันขนาดนี้ ท่าทางพี่แมนจะรักผมมากนะ”



คนถูกล้อไม่หยุดหน้าแดงเห่อร้อน จะหลบลี้หนีหน้าก็ไม่รู้จะหาหนทางไหนได้ จึงต้องซบลงกับอกล่ำๆ ของเมียเป็นที่หลบภัยไปก่อน



“บอกให้ชื่นใจสักคำสิครับ”



คนร้ายกาจกระซิบเสียงอ้อนข้างหู มิวายทำเสียงงุงิน่ารักไม่สมตัวจนคุณแฟนหลุดยิ้ม



“บอกก่อนเร็ว นะ นะ”



หัวกลมๆ สะบัดไปมาอยู่กับหน้าอกคนอ้อน แต่กระนั้นเอ็มก็ไม่ปล่อยให้โอกาสที่นานทีมีหนแบบนี้หลุดมือไป



“ผมรักพี่แมนนะ”



ได้เห็นใบหูแดงๆ ผ่านไรผมยุ่งๆ หัวใจก็พองจนไม่รู้จะพองยังไงแล้ว



“พี่แมนล่ะ?”



“................................สิ...”



“อะไรนะ?”



เจ้าของห้องได้ยินเสียงจิ๊ปากจากคนในอ้อมกอดเมื่อถูกเซ้าซี้ พี่แมนเงียบไปนานจนอีกฝ่ายนึกว่าวันนี้คงหมดหวังจะได้ยินแล้ว แต่จู่ๆ คนปากแข็งก็พูดเสียงงุบงิบขึ้นมาเบาๆ แต่ก็ยังชัดถ้อยชัดคำ



“...รักสิ ไม่รักจะตามมาง้อเหรอ?”



พูดจบก็แทบจะมุดเข้าอกเขาอยู่แล้ว เมียหื่นของพี่แมนหัวเราะพอใจเบาๆ ก่อนจะไซ้ริมฝีปากไปตามใบหูร้อนๆ แก้มแดงๆ จนถึงริมฝีปากบางๆ ที่ทั้งนุ่ม ทั้งหวาน ทั้งชื้นชวนลิ้มลอง ริมฝีปากได้รูปขบเม้มริมฝีปากของคนในอ้อมกอดย้ำๆ จากนุ่มนวลเป็นเน้นหนักแล้วสอดลิ้นเข้าไปควานไล้ทั่วโพรงปาก จูบคราวนี้ใช้เวลานานเป็นพิเศษ นานแบบที่ว่าพี่แมนสติหลุดจนลืมวิธีหายใจของตัวเองไปแล้วนั่นแหละ เอ็มถึงได้ยอมละปากออก



“พี่แมน...วันนี้ค้างที่นี่นะ?”



คนถูกรุกรานที่กำลังกอบโกยออกซิเจนเข้าปอด รวบรวมสติประมวลคำถามนั้นไปพร้อมๆ กับการสู้รบกับมือซุกซนของอีกฝ่ายที่ยังไม่เลิกลูบไล้ไปทั่วทั้งตัว



“อืม...”



และหลังจากที่ความสับสนตีกันในหัวจนได้ที่ พี่แมนก็เลือกที่จะตอบรับไปเช่นนั้น...







โปรดติดตามแอ๊บต่อไป





#แอ๊บรัก





Talk~

ตอนหน้านี่ยังไงน้า~


หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 14: เจอตุ๊ดงอน...ให้รีบง้อ (30/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-08-2017 23:29:13
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 14: เจอตุ๊ดงอน...ให้รีบง้อ (30/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 31-08-2017 00:04:18
กรี๊ดดด ตอนหน้าพี่แมนจะได้เป็นเมียมั้ยนะ 55555555 ตอนนี้ทั้งสะใจ ทั้งสงสาร พี่แมน หงอยเป็นแมวหมดคราบแกนสุดโหดเลย 5555 เอ็มนี่เกางจริงๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 14: เจอตุ๊ดงอน...ให้รีบง้อ (30/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-08-2017 02:45:28
สนุกมากเลยอะ แต่งได้ดีมากครับ ภาษาดี บทดี โอ๊ยชอบมากๆๆ เลิฟเลยคนแต่ง
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 14: เจอตุ๊ดงอน...ให้รีบง้อ (30/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 31-08-2017 03:21:48
ตอนหน้า..ตอนหน้า..ตอนหน้า..ชูป้ายไฟ.. :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 14: เจอตุ๊ดงอน...ให้รีบง้อ (30/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 31-08-2017 03:36:58
ตอนหน้าพี่แมนตกเป็นเมีย เอ้ยได้เอ็มมี่เป็นเมียไหมนะ

รอติดตามเลยค่าาาา
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 14: เจอตุ๊ดงอน...ให้รีบง้อ (30/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 31-08-2017 08:24:03
นั่นสิ ตอนหน้าจะยังไงหนอ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 14: เจอตุ๊ดงอน...ให้รีบง้อ (30/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 31-08-2017 09:39:48
เล่นใหญ่รัชดาลัยได้ผลดีเลิศ
ต่อไปกีตาร์ตัวนี้จะสำคัญเพิ่มอีกข้อ คือ ได้พี่แมนเป็นภรรยา โอ๊ะๆ เป็นซะมี ชิมิ
เกาะขอบจอ รอตอนหน้า
 :hao7:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 14: เจอตุ๊ดงอน...ให้รีบง้อ (30/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 31-08-2017 19:42:41
ตอนหน้าก็ต้องคืนเข้าหอซิ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
แต่ระดับพี่แมนจะเคลิ้มง่ายๆๆหรอ
รอลุ้น อิอิ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 14: เจอตุ๊ดงอน...ให้รีบง้อ (30/08/17) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 02-09-2017 08:53:03
แอ๊บที่ 15: ด้านได้อายอด



“แม่จ๋า...วันนี้พี่แมนจะค้างกับเรานะจ๊ะ”



“เอาสิจ๊ะ บ้านเราไม่มีแขกมาค้างนานแล้วเหมือนกัน”



คุณชื่นฤทัยที่เห็นพ่อลูกชายจูงมือคุณพี่แมนลงมา ก็ยิ้มออกด้วยเข้าใจว่าทั้งสองคนคงคืนดีกันแล้ว เธอหันไปสั่งงานแม่สร้อยคนสนิทอีกชุดใหญ่ก่อนจะคว้ากระเป๋าถือขึ้นคล้องแขน



“แม่จะไปไหนจ๊ะ?”



“อ้าว...เมื่อวานแม่ก็บอกลูกแล้วไงว่าจะช่วยคุณตาจัดการเรื่องที่นาที่เขามาจำนองไว้น่ะ”



“หนูไม่เห็นจำได้เลย”



“ใช่สิ เรื่องของแม่น่ะเราเคยสนใจเสียที่ไหน”



คุณชื่นฤทัยพูดเสียงเง้างอด จนลูกชายสุดหล่อต้องรีบปรี่มาโอบร่างอิ่มท้วมไว้อย่างง้องอน



“แม่อย่างอนสิจ๊ะ ทำหน้าบึ้งมากเดี๋ยวแกเร็วน้า~~”



“อย่ามาอ้อนเสียให้ยากเลย”



“หนูมีแม่อยู่คนเดียว ไม่อ้อนแม่แล้วหนูจะไปอ้อนใครล่ะจ๊ะ?”



คุณชื่นฤทัยบีบปากลูกชายลูกชายคนเดียวแล้วจับส่ายไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว



“ปากมันดีอย่างนี้สิน้า~”



พี่แมนที่เห็นเมียรักหยอกเย้ากับแม่ตัวเองอย่างน่าเอ็นดูก็พลอยยิ้มขำไปด้วย จนคุณชื่นฤทัยที่หันมาเห็นต้องเฉดหัวลูกรักทิ้งแล้วหันมาจับไม้จับมือคุณพี่แมนแทน



“คุณพี่แมน ป้าเสียใจจังที่ไม่ได้ทำอาหารเลี้ยงเลยสักมือ แต่ป้าเด็ดโสนแช่ตู้เย็นไว้ให้แล้ว เดี๋ยวให้ตาเอ็มผัดดอกโสนจิ้มน้ำพริกให้กินละกันนะจ๊ะ คุณพี่แมนกินเป็นไหม?”



“ก็...ไม่เคยกินครับ แต่ถ้าลูกชายคุณป้าทำ ก็คงจะ...อร่อย”



คุณพี่แมนแอบสบตาคุณแฟนลับๆ อย่างมีความหมาย ทำเอาอีตาลูกชายเจ้าของบ้านยิ้มหน้าบานอย่างปรื้มปริ่ม



“อื้อ...ใช่ ตาเอ็มน่ะทำอะไรก็อร่อย งานบ้านงานเรือนก็ทำเป็นทุกอย่าง นี่ป้ายังเคยแซวเล่นๆ เลยว่าอีกหน่อยคงจะได้ไปเป็นเมียคนอื่นเขา มากกว่าจะแต่งเมียเข้าบ้าน”



คุณพี่แมนแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง ในขณะที่เอ็มกลั้นขำแทบตาย พี่แมนทำหน้าเหมือนตกใจที่มารดาของเขาล่วงรู้ความลับที่ลูกชายเป็นตุ๊ด...โดยที่ไม่รู้ว่ามีความลับขั้นกว่าคือจริงๆ แล้วกูไม่ใช่ตุ๊ด!



“ไม่หรอกครับ...อีเอ็ม...เอ่อ...เอ็มเขา...แมนจะตาย เหอะๆ”



“นั่นสินะจ๊ะ! โฮะๆ”



จากนั้นคุณแม่ก็ล่ำลาหอมซ้ายหอมขวาคุณลูกก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไปพร้อมแม่สร้อย ทั้งบ้านเลยเหลือแต่พี่แมนกับน้องเอ็มมี่กันอยู่สองคน พอรู้ตัวว่าไม่มีใครหลงเหลือในบ้านอีก ทั้งคู่ก็รู้สึกเขินกันเองขึ้นมาเสียดื้อๆ



“มึง...พูดจากับแม่น่ารักดีนะ”



“ชอบเหรอ? หนูพูดกับพี่แมนแบบนั้นด้วยก็ได้นะจ๊ะ พี่แมนจ๋า~”



“ขนลุก!!”



พี่แมนสบถพร้อมกับถูแขนตัวเองแล้วทำหน้าขนพองสยองเกล้าไปด้วย ทำเอาเมียรักบู้ปากอย่างน้อยอกน้อยใจ ไม่เห็นต้องตั้งท่ารังเกียจกันขนาดนั้นเลย แม่ยังบอกเลยว่าเค้าน่ารักอ่ะ!



“พี่แมน...กินไรมายังอ่ะ?”



“ยังเลย...”



“หิวยัง?”



“อยากกินข้าวไข่เจียว...อ่ะ”



อย่าเดะ...อย่ามาพูดเสียงอ้อนแล้วทำเป็นหลุบตาเขินแบบนี้เด้ะ!!



“ผมก็อยากกินข้าวไข่เจียวฝีมือพี่แมนเหมือนกันนะ”



เอ็มถือโอกาสจับนิ้วพี่แมนไปคลึงเล่นด้วยมิอาจเรียกการกระทำนี้ว่าลวนลามได้ เพราะไอ้คนโดนคลึงมันก็สมยอม



“แต่กูทำอาหารไม่เป็นนะ!”



แหนะ! มาทำตาโตน่ารักใส่กันอีก!



“เดี๋ยวสอน...ป่ะ!”



แล้วลูกชายเจ้าของบ้านก็ชวนคุณพี่แมนเข้าครัวไปอย่างลัลล้า เอ็มจัดแจงหยิบหมูออกจากตู้เย็น วางบนเขียงไม้แบนๆ แล้วส่งปังตอให้พี่แมน



“สับหมูนะ ทำได้ใช่ไหม?”



“อืมๆ”



คนถูกบังคับให้เรียนการทำอาหารหลักสูตรพื้นฐานพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน เอ็มจึงวางใจเปิดตู้เย็นเพื่อหาไข่ไก่ต่อไป



ปัง!



“อีเอ็มมี่~~”



“ครับ.... เฮ้ย!



คนถูกเรียกด้วยเสียงอ่อยๆ อุทานลั่น เมื่อไอ้ชิ้นหมูบนเขียงนั่นมันแยกขาดออกจากกันอย่างต่อไม่ติด ประเด็นคือไม่ใช่แค่หมู แต่เขียงก็โดนสับแยกเป็นสองท่อนอย่างน่าสงสารไปด้วย



“พี่แมน...ผมบอกให้สับหมู ไม่ได้ให้สับเขียง!”



“ก็เขียงมันไม่มีคุณภาพอ้ะ!”



“พี่อ่ะมือหนักเกินไปต่างหาก!”



อันที่จริงพี่แมนก็ไม่อยากจะยอมอ่อนข้อให้สักเท่าไรนัก แต่หลักฐานโดนผ่าเป็นสองซีกเสียแบบนี้พี่แมนเธอก็จำเป็นต้องพิจารณาเรื่องการใช้แรงของตัวเองดูสักทีเหมือนกัน



“อ่ะ...ใช้อันนี้”



เอ็มไปเปิดตู้คุ้ยหาเขียงกลมอันใหญ่มาให้พี่แมนใช้แทน คราวนี้ต่อให้แรงมหาศาลเป็นยักษ์เป็นมารแค่ไหนก็คงแบะมันออกเป็นสองซีกไม่ได้แล้ว พอปล่อยให้พี่แมนสับหมูจนละเอียดเสร็จ เอ็มก็ต่อด้วยการสอนพี่แมนตีไข่ ลูกชายเจ้าของบ้านสาธิตตัวอย่างให้ดูซึ่งผัวรักก็พยักหน้าเข้าใจ



“อ่ะ...ลอง”



เป๊ง! เป๊ง! เป๊ง!



“เฮ้ย! พี่แมนเดี๋ยวถ้วยแต๊กก~”




เจ้าบ้านรีบคว้ามือของอีกฝ่ายไว้อย่างทันท่วงที ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ แล้วยืนซ้อนหลังผัวรัก กอบกุมมือซ้ายทีประคองถ้วย มือขวาที่ถือส้อมจากด้านหลัง แกนคณะจอมโหดเลยตกอยู่ในอ้อมกอดของเมียรักทั้งตัว



“ฉวยโอกาสตลอด”



พี่แมนค่อนขอด



“มันเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนต่างหาก”



เอ็มตอบหน้าตายแล้วเริ่มขยับให้พี่แมนเรียนรู้แรงที่พอเหมาะพอควรสำหรับการทำอาหารพร้อมทั้งสอนวิธีปรุงสูตรลับเฉพาะ มีการโปรยน้ำตาลจำนวนปลายนิ้วมือตัดรสแล้วพรมน้ำเปล่าลงไปให้ไข่พองฟูเวลาทอด จากนั้นเอ็มก็คว้ากระทะมาตั้งเตาสองใบคียงกัน เทน้ำมันพอเจิ่งแล้วส่งตะหลิวให้คนข้างกาย



“พร้อมนะ”



“อื้ม!”



ฟู่~*



ไข่เจียวหมูสับสีเหลืองทองส่งทั้งเสียงทั้งกลิ่นชวนหิวอยู่ในกระทะทั้งสองใบ อีเอ็มมี่เอียงกระทะเป็นวงกลมให้ไข่กระจายตัวอย่างสวยงาม พี่แมนเห็นดังนั้นก็ลองทำบ้าง แต่ไข่เหลวๆ มันคอนโทรลยากกว่าที่คิดเลยกระฉอกออกข้างไปนิดหน่อย



เอ็มใช้ตะหลิวแงะไข่ด้านล่างดูว่าสุกได้ที่หรือยัง ก่อนจะช้อนพลิกทีเดียวไข่ก็กลับร่อนลงมาเป็นวงกลมดังเดิม คนข้างๆ ที่ทำตัวเป็นนักเรียนที่ดีลองแซะลองพลิกตามอาจารย์บ้าง แต่ไม่น่าเชื่อว่าการพลิกไข่ใบเดียวมันจะยากแบบนี้ ทำยังไงมันก็ไม่ยอมกลับด้านซะที ได้แต่ไหลด้านเดิมกลับลงไปในกระทะ และกว่าพี่แมนจะพลิกอีกด้านลงไปได้ เจ้าไข่ใบน้อยก็เปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลเข้มไปเสียแล้ว



“มึง...”



คนถูกเรียกที่โปะไข่เจียวหอมฟูของตัวเองบนข้าวสวยร้อนๆ เรียบร้อยหันมามองผลงานในกระทะพร้อมกับหน้ามุ่ยๆ ของคุณแฟนแล้วก็ได้แต่หัวเราะเบาๆ อย่างเอ็นดู



“สุกแล้วครับ เอาใส่จานข้าวนี้เร็ว”



“มันไหม้แล้วมึง กินไม่ได้แล้วอ่ะ”



“กินได้ครับ พี่แมนตั้งใจทำขนาดนี้ จะกินไม่ได้ได้ยังไง?”



พอถูกคะยั้นคะยอหนักเข้า พี่แมนก็จำต้องโปะไข่ลงบนจานข้าวที่ถูกคดเตรียมไว้ ก่อนที่ทั้งคู่จะสลับจานกันแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารพร้อมขวดซอสพริก



“มึง...จะกินจริงๆ เหรอ? ทิ้งไปเหอะ”



พี่แมนมองไข่ไหม้ๆ ในจานเมียรักแล้วก็ทำหน้ายากจะบรรยาย แต่เจ้าตัวที่ยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่ากินได้ชัวร์ก็ยังยิ้มรื่นอย่างไม่เห็นว่ามันจะเป็นปัญหาอะไร



“ผมจะทิ้งความรักที่พี่แมนตั้งใจทำให้ผมได้ยังไงล่ะครับ?”



“กินเห๊อะ! งั้นอ่ะ!”



พี่แมนตัดบทก่อนจะรู้สึกเลี่ยนจนแดกไม่ลงไปมากกว่านี้ ก่อนจะลงมือตักไข่เจียวบนข้าวสวยร้อนๆ ที่มีน้ำจิ้มแตะนิดหน่อยเข้าปากคำโตแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างมีความสุข พลอยให้คนที่นั่งมองอยู่ยิ้มตามอย่างภาคภูมิใจไปด้วย



พอเห็นอีกคนกินด้วยท่าทางมีความสุขแบบนั้นก็ชักหิวขึ้นมาบ้าง เอ็มตักไข่เจียวห่อรักจากมือพี่แมนเข้าปากแล้วเริ่มเคี้ยวก่อนจะชะงักนิ่ง หันซ้ายหันขวาแล้ววิ่งตรงไปยังถังขยะที่อยู่ใกล้ที่สุดแบบไม่คิดชีวิต



“แหวะ!”



“อ้าวๆ มึงคายความรักของกูทิ้งเลยเหรอ?”



พี่แมนย้อนอย่างนึกสมน้ำหน้า กูบอกให้ทิ้งก็ไม่ทิ้ง ดื้อจริง! มันน่าจะบังคับให้แม่งแดกให้หมดจานนั่นแหละ!



“โห่...ลองชิมสักคำเหอะ จะไม่พูดอย่างงี้เลย”



เอ็มที่กลั้วปาก ดื่มน้ำดับรสชาติทำลายลิ้นแบบสิ้นซากจนพอหายขมได้บ้างก็กลับมานั่งเท้าคางดูพี่แมนกินข้าวต่อด้วยรอยยิ้มแป้นแล้น



“อร่อยป่ะ?”



“อืม...อร่อย”



“ไม่มีอะไรตอบแทนเค้าเลยเหรอ?”



“ก็ไอ้ที่มึงคายทิ้งเมื่อกี้ไง”



เอ็มยู่หน้า ในขณะที่พี่แมนยังเคี้ยวข้าวต่อไปอย่างเอร็ดอร่อย...



“ไม่ดิ...เอาอย่างอื่นอ่ะ”



“อะไรล่ะ?”



คนไม่เจียมบอดี้เล่นปูไต่จากโต๊ะฝั่งตัวเองเดินไปเกาะมือพี่แมนข้างที่ถือช้อนอยู่ พี่แมนชะงักมือดังกึก สะบัดสายตามองหน้าเมียรักอย่างไม่นึกไว้ใจ



“วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านด้วยอ่ะ...”



สีหน้าคนพูดส่อแววมีนัยยะชัดเจนมาก ขีดเส้นใต้ว่าชัดเจนมาก พี่แมนที่ฉลาดพอจะรับรู้สารส่อๆ นั้นได้ก็หน้าเห่อร้อนจนต้องด่ากลบเกลื่อน



“อีหื่น...กลางวันแสกๆ!”



“อ้าว...แปลว่าถ้ามืดแล้วทำได้ใช่ป่ะ?”



“โอ๊ย! อีหน้าด้าน”



พี่แมนไม่รู้จะสรรหาคำในพจนานุกรมคำไหนมาด่ามันดี ในหัวอีตุ๊ดหื่นนี่แม่งต้องกักเก็บแต่อะไรลามกจกเปรตแน่ๆ มันถึงได้กล้าชวนทำเรื่องแบบนี้ตอนคนเขากำลังกินข้าวเนี่ย!



“ด้านได้อายอดอ่ะ!”



“ถึงด้านมึงก็อดได้เหอะ!”



พี่แมนสวนกลับเรียบๆ แต่วันนี้ วินาทีนี้ เอ็มมิอาจรามือให้ได้จริงๆ



“แล้วพี่จะปล่อยให้ผมอดจริงๆ เหรอ?”



“มึงเป็นตุ๊ดเป็นนางพูดแบบนี้ได้ไง? เรื่องแบบนี้เขาต้องให้ผู้ชายเป็นฝ่ายพูดเว้ย!”



พี่แมนสั่งสอนให้อีเมียลามกมันรู้สำนึก แต่ดูเหมือนผลที่ออกมามันจะตรงกันข้าม



“ก็ผู้ชายเขาไม่ยอมพูดสักทีนี่...”



เอ็มแพ้ความโมเอ้ฉันใด พี่แมนก็แพ้น้ำเสียงและหน้าตาแบบลูกหมาถูกทิ้งฉันนั้น พอเมียรักทำเสียงหมาเหงาเศร้าจิตเข้าหน่อย พี่แมนก็ชักจะหวั่นไหวไปไม่เป็นกับเขาเหมือนกัน ไอ้จะทำเนียนเปลี่ยนเรื่องไป ดวงตาแฝงแววน้อยใจจากฝั่งตรงข้ามก็จ้องเขม็งมาอย่างเร่งให้ตัดสินใจ



“ก็ตอนนี้...มันสว่างอยู่...ไง...เล่า”



พูดอ้อมแอ้มไปได้แบบนั้นแล้วพี่แมนก็งับไข่เจียวเข้าปากแก้เขิน ฝ่ายเอ็มที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มกว้างกระดิกหางดิ๊กๆ อย่างสุดแสนจะดีใจ นึกอยากจะเร่งวันเร่งเวลาให้พระจันทร์มาเยือนฟ้าโดนเร็ว ส่วนพี่แมนก็นั่งทำหน้าปั้นยาก...อีเมียนี่รักก็ใช่อยู่ แต่ไม่เค๊ยไม่เคยคิดจะขยี้ป่นปี้อะไรมันเหมือนสาวๆ คนอื่นๆ ที่เคยคบค้ากันมาก่อน



ปัญหามีอยู่ประการเดียว...



เพราะมันไม่สาว...กูเลยไม่รู้วิธีขยี้ยังไงล่ะ!



โปรดติดตามแอ๊บต่อไป





#แอ๊บรัก




Talk~*
ใครก็ได้ช่วยเดินไปปิดพระอาทิตย์หน่อยสิคะ ฟ้าจะได้มืดๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 15: ด้านได้อายอด (02/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-09-2017 12:00:38
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 15: ด้านได้อายอด (02/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-09-2017 12:10:07
โธ่ ไม่รู้จะขยี้ยังไงก็ให้เมียขยี้แทนสิจ๊ะ (แล้วพี่แมนก็เป็นฝ่ายถูกขยี้ไง อิอิ)
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 15: ด้านได้อายอด (02/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 02-09-2017 12:28:11
โง้วววว..พระอาทิตย์รีบหายไปเลย  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 15: ด้านได้อายอด (02/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 02-09-2017 13:16:43
น่ารักดี :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 15: ด้านได้อายอด (02/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 02-09-2017 13:23:21
ไม่ต้องคิดมากไปค่ะพี่แมน เพราะคนที่จะโดนขยี้คือพี่แมนนั่นแหละ 555555555555 โอยย อยากวาร์ปไปตอนหน้าเร็วๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 15: ด้านได้อายอด (02/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-09-2017 23:14:46
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 15: ด้านได้อายอด (02/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 03-09-2017 10:05:45
พี่แมนยอมแล้วววววววววววววววววว ฮ่าๆๆๆ
แต่จะโดนขยี้เองน่ะ คืนนี้ได้รู้แน่ อิอิ
พระจันทร์มาแล้ว
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 15: ด้านได้อายอด (02/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 04-09-2017 15:27:19
งานนี้ใครด้าน ใครอายมะยู๊วววววววววว
เหมือนคุณแม่จะเป็นใจ ปล่อยใครไม่ปล่อย นี่ปล่อยลูกตุ๊ดไว้กับสายโหด
ขอวาร์ปไปตอนหน้าเลยได้มั้ย อิพี่แมนจะขยี้น้องเอ็มมี่กี่ขบวนท่าอยากรู้
  :hao7:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 15: ด้านได้อายอด (02/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 05-09-2017 02:38:24
 o13
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 15: ด้านได้อายอด (02/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: MayuYume ที่ 05-09-2017 06:43:46
บรรยายการทอดไข่เจียวได้หวมากค่ะ ตอนหน้านี่ยังไงๆ :hao3:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 15: ด้านได้อายอด (02/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 06-09-2017 18:35:32
แอ๊บที่ 16: ขยี้ผ้ายามฟ้ามืด



ฟ้ามืดแล้ว...



อะคริ อะคริ!



เอ็มหัวเราะตาเป็นสระอิอย่างย่ามใจ แต่แล้วก็ต้องถอนใจเฮือกเมื่อนึกขึ้นได้ว่าถึงแม้พี่แมนที่รักจะสมยอม (แบบกลายๆ) แต่ก็มิได้หมายความว่ามันจะยอมนอนนิ่งๆ ให้ขยี้ขยำได้ตามใจนี่หว่า...ยิ่งโพสิชั่นภาคทฤษฎีส่อแววมาขนาดนี้ คืนนี้เรามิต้องเสียประตูให้พี่ท่านหรอกหรือ



แค่คิดขนก็ลุกชันจนต้องรีบคว้ามือถือไปยืนเกาะกระจกหน้าต่าง พร้อมเหล่มองประตูห้องน้ำที่มีพี่แมนกำลังชำระร่างกายอยู่ในนั้นเป็นระยะ กะเทยคิดการใหญ่กดโทรออกพร้อมมองทะลุไปยังหน้าต่างของบ้านข้างๆ ที่มีหัวกลมๆ สีทองของเพื่อนสาวโผล่ขึ้นมาสองหัวพร้อมรับโทรศัพท์



‘อะไรมึง?’



“คืนนี้กูจะเผด็จศึกพี่แมน”



‘ห๊ะ?’



แฝดสาวบ้านนู้นอุทานลั่นอย่างไม่เชื่อหู



‘มึงโทรมาถามวิธีเตรียมพร้อมก่อนตกเป็นเมียพี่เขาใช่ไหม?’



“อีบ้า! มึงเอาอะไรคิด?”



‘มึงนั่นแหละเอาอะไรคิ๊ด! มึงคิดว่าพี่เขาจะยอมให้มึงเป็นฝ่ายทะลุทะลวงรึไง?’



“กูถึงต้องโทรมาให้พวกมึงช่วยคิดนี่ไง!”



สองแฝดสาวที่รับรู้ความเครียดของเพื่อน นั่งคิดก็แล้ว นอนคิดก็แล้ว ตีลังกาคิดก็แล้ว ก็ไม่เห็นลู่ทางที่อีเพื่อนรักนี่มันจะประสบความสำเร็จในชีวิตคู่เลยสักนิด



‘เออ!’



แฝดผู้พี่ตบเข่าฉาดด้วยท่าทางปิ๊งไอเดียบรรเจิด จนแฝดผู้น้องที่อยู่เคียงข้างและอีเจ้าทุกข์ที่อยู่บ้านข้างๆ ถลาหูผึ่งรอคำตอบอย่างสนอกสนใจ



‘มึงภูมิใจในลูกชายของมึงนักไม่ใช่เหรอ? มึงก็อ้างไปเลย ใครใหญ่ได้ขยี้เว่ย!!”



“....”



‘มึงเงียบทำไมวะอีเอ็มมี่?’



“แบบว่า...ที่ได้แตะๆ นิดหน่อยคราวที่แล้วอ่ะ...”



เอ็มทำเสียงกระเง้ากระงอด เอานิ้วเขี่ยกระจกเล่นเหมือนสาวน้อยผู้ไร้ซึ่งความมั่นใจ



‘มึงอย่าบอกนะว่า…’



“อือ...”



ตุ๊ดข้างบ้านก้มหน้ายิ้มเขินอายเคล้าความภาคภูมิใจอยู่ที่มุมปาก ฝ่ายน้องเมเม่กับน้องมาม่าสดับความนัยดังนั้นก็กรีดร้องเป็นคนทรงโดนผีเข้าทันที



‘โอ๊ยยยย กูก็ว่าแล้วทำไมชะนีถึงติดพี่แมนนัก! มีของดีนี่เอง!!’



‘กูอิจฉามึงยิ่งนัก อีเมียทาส! มึงยอมเห๊อะ! เชื่อกู! ยิ่งเจ็บมากยิ่งสยิวมากนะมึง!’




สองสาวกรี๊ดกร๊าดไปก็โน้มน้าวเพื่อนซี้ไป แต่เอ็มก็มิยอมทิ้งความตั้งใจที่มีมาแต่ครั้งบรรพกาล ยังไงวันนี้กูต้องป่นปี้พี่แมนให้ได้!



แกร๊ก!



“เฮ้ย! แค่นี้ก่อนนะ!”



เอ็มรีบตัดสายเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำ คุณผัวรักก้าวออกในชุดนอนลายหมีสีครีมแบบเดียวกับที่เจ้าของห้องใส่อยู่ ซึ่งพี่แมนใส่แล้วดูเหมาะกับเจ้าตัวมากกว่าอีเจ้าของเป็นล้นพ้น 



“มึงจะนอนเลยป่ะ?”



พี่แมนถามแล้วนั่งปุลงบนเตียง ฝ่ายเอ็มก็รวบรวมความกล้าก้าวขึ้นเตียงตัวเองแล้วกอดเอวพี่แมนจากด้านหลังไว้หลวมๆ พร้อมกระซิบข้างใบหูนุ่มด้วยน้ำเสียงที่เจ้าตัวจงใจดัดให้รัญจวนที่สุด



“ฟ้ามืดแล้วนะ”



เหมือนพี่แมนจะรับรู้ถ้อยทวงสัญญานั้น แก้มใสๆ จึงเรื่อสีขึ้นอย่างน่าจุมพิต ก่อนที่เจ้าตัวจะหันหลังไปเผชิญหน้ากับคุณภรรยาด้วยสีหน้ากึ่งหนักใจ



“จะทำจริงๆ เหรอ?”



เอ็มหายใจสะดุด ย...อย่ามาตาแบ๊ว ฟีลลิ่งโมเอ้ และน้ำเสียงน่าสงสารแบบนี้ใส่เค้านะ! คะ...เค้าไม่ตกหลุมหรอก! เมียรักของคนโมเอ้รีบหลบสายตาก่อนจะถูกอำนาจแบ๊วครอบงำจนใจอ่อน แล้วกระแอมไอพอเป็นพิธีพร้อมปลอบตัวเองว่าไม่ได้คราวนี้ลูกมึงคงเหี่ยวเหงาเป็นถั่งเช่าเป็นแน่



“มันก็ถึงแก่เวลาอันสมควรแล้วไม่ใช่เหรอ?”



พี่แมนสดับดังนั้นก็หลุบตา กัดริมฝีปากล่างแดงๆ อย่างไม่ได้จงใจยั่ว เพียงแต่กำลังคิดหาวิธีแก้ปัญหาตรงหน้าอยู่ วันนี้ทั้งวันอีเอ็มมี่ก็เกาะติดไม่ปล่อย จนเขาไม่มีเวลาเสิร์ชกูเกิ้ลหา How to ขยี้ หรือแม้แต่โทรถามไอ้สองหน่อสมุนรักผู้มีประสบการณ์



พี่แมนช้อนตาโตๆ มองหน้าเมียรักที่ดูจะพร้อมเต็มที่สำหรับกิจกรรมยามฟ้ามืดวะ เอาวะ! ไหนๆ เมียเขามันก็ร่ำร้อง แถมพี่แมนก็อยากจะไถ่โทษเรื่องกีตาร์ อะไรสนองได้สนองให้ละกัน



“โอเค ไปปิดไฟก่อน”



แป๊ก!



เสียงสวิซต์ดังขึ้นทันทีที่พี่แมนสั่งจบ ไฟในห้องดับลงเหลือเพียงแสงจันทร์ที่ส่องลอดช่องม่านเข้ามา เจ้าของห้องที่กระดี๊กระด๊าใจเต้นตึกตักอย่างตื่นเต้นรีบกระโดดขึ้นเตียง หมายมาดจะแปลงร่างเป็นหมาป่าขย้ำเนื้อลูกแกะสถาปัตย์ให้สาแก่ใจ แต่พอตัวแตะเตียงปุ๊บ! แรงกดอันทรงพลังๆ ก็กดทับลงมาตรึงร่างทั้งร่างให้นอนแผ่ลงบนเตียงอย่างไม่อาจขยับหนีได้



เห้ย! ลางร้ายแล้วเห้ย!



“พ...พ...พี่แมน”



อีเอ็มมี่เรียกชื่อผัวรักเสียงกระเส่า ขนลุกชันไปทั่วร่างกับสัมผัสแผ่วหวิวตรงต้นคอ ทักษะชำนาญการจนน่าตกใจของคุณสามีเล่นเอาอีเอ็มมี่ใจหายวาบ ที่สั่นนี่ไม่ได้เสียวนะ กูกลัว!



“พี่แมน...เดี๊ยว!”



เผลอแปบเดียว พี่แมนดึงกางเกงนอนหลุดจากปลายเท้าลอยหวือไปอีกฟากฝั่งของเตียง เอ็มหน้าซีดเผือด มองโพสิชั่นตัวเองที่แยกขาปล่อยให้ตัวพี่แมนแทรกกลางมาอย่างน่าหวาดเสียว ก่อนจะมองหน้าพี่แมนที่แปลงร่างจากแมวน้อยเป็นเสือหนุ่มกลัดมันที่พร้อมจะเคี้ยวหมาป่าตัวโตๆ ลงท้องในคำเดียว



เอ็มเหงื่อแตกซิกๆ หายใจหอบอย่างตื่นกลัว ถ้าปล่อยสถานการณ์ไหลต่อไปในทิศทางนี้ กูได้ตกเป็นเมียพี่แมนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแน่ แต่ในขณะที่เอ็มเค้นหาวิธีเอาตัวรอดอย่างเอาเป็นเอาตาย ก็ต้องสะดุ้งเฮือกจากแรงบีบเน้นๆ บนแก้มก้นเด้งๆ เหมือนลูกชิ้นปลา



“นิ่มดีเนอะ~!”



เหี้ย~!! ขนาดมึงทำเสียงหื่นยังน่ารักเลยอ้ะ!



และระหว่างที่ตุ๊ดผู้ตกเป็นเบี้ยล่างเผลอเคลิ้มไปชั่ววินาทีนั้นเอง พี่แมนก็จับมันแหกขาในท่าเตรียมพร้อม เล่นเอาเอ็มแทบกรี๊ดออกมาเป็นภาษาตุ๊ด



“แบบนี้มันไม่ถูกนะพี่แมน!!”



พี่แมนชะงัก มองส่วนล่างด้วยแววตาสงสัยแล้วก็ขมวดคิ้ว มัน...ทำยังไงวะ?



“กูทำไม่ถูกเหรอ?”



“ไม่ถูก!!”



เอ็มยืนยันหนักแน่น แล้วรีบชักขาหนีเซฟความปลอดภัยให้ตัวเอง ฝ่ายพี่แมนก็รู้สึกเสียความมั่นใจจนแทบเซ เหมือนโดนเมียด่าว่าไร้น้ำยา นกเขาไม่ขัน ล่มปากอ่าว อะไรเทือกๆ นั้นเลย



พี่แมนทำหน้าบึ้ง ส่วนเอ็มที่จับขวัญที่กระเจิงไปทั่วกลับเข้าร่างแล้วตั้งสติ ก่อนจะหันไปโอบเอวพี่แมนที่นั่งหันหลังให้แบบให้รู้ว่ากูงอน สะบัดตัวออกอย่างไม่นึกอย่างจะเสวนาด้วยตอนนี้ แต่เอ็มก็ไม่ยอมปล่อย



“พี่แมน...”



“ใช่สิ! กูไม่เคยมีเมียเป็นตุ๊ดนิ! จะรู้ได้ไงว่าต้องทำไงบ้าง ไม่ได้ประสบการณ์สูงเหมือนมึงนี่!”



ประชดประชันพอเป็นพิธีแล้วก็สะบัดหน้าหนีไปทางอื่น เอ็มที่รู้ตัวว่าทำผัวรักงอนเข้าให้แล้วก็รีบกดจูบบนต้นคอขาวๆ แทนการง้อทันที



“ใครบอก~ พี่แมนเป็นผู้ชายคนแรกของผมเลยนะ”



ไม่ได้โกหกนะ แต่ชะนีไม่นับ



“อย่ามาโกหก ถ้านี่ครั้งแรกจริงแล้วมึงรู้ได้ไง?”



มันก็เป็นเรื่องที่ผู้ชายทุกคนเขาก็รู้กันป่าวว้า? ถึงเอ็มจะไม่ค่อยเข้าใจความอินโนเซนต์ในเรื่องที่ไม่เข้ากับตำแหน่งแกนคณะสถาปัตย์ของพี่แมนนัก แต่มันก็เลือกที่จะแถตามน้ำไปก่อนที่เขาจะงอนยาวไปกว่านี้



“ก็อีเม่กับอีม่าไง มันมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังอ่ะ”



พี่แมนรู้ดังนั้นก็แอบด่าพี่งอกกับพี่เงิบในใจว่าไม่เคยจะมาแชร์บ้างเลย แต่อย่างว่า...ทั้งคณะรู้ดีว่าเขาเกลียดเรื่องแบบนี้ขนาดไหน ไอ้ที่จะมีมาให้ได้รับได้รู้เลยพลอยเงียบหายไปเสียหมด



“กู...เป็นคนแรกของมึงจริงเหรอ?”



เอ็มฉีกยิ้มหวานๆ ส่งให้คนถาม



“จริงสิครับ เพราะงั้นช่วยอ่อนโยนกับผมหน่อยนะ”



เท่านั้นแหละ พี่แมนก็กลั้นยิ้มแทบไม่อยู่ ทั้งสีหน้าทั้งแววตาแสดงออกถึงความภาคภูมิใจอย่างปิดไม่มิด



“กูต้องทำไงบ้างอ่ะ?”



พี่แมนถามอ้อมแอ้ม ซึ่งก็เข้าทางไอ้จิ้งจอกที่ปิ๊งไอเดียขยี้พี่แมนขึ้นมาพอดิบพอดี มันจัดแจงจับพี่แมนถอดเสื้อผ้าแล้วนอนแผ่ลงไปบนเตียง ตามซ้ำด้วยจูบหวานซ่านปนร้อนแรงชนิดที่ทำให้พี่แมนสมองขาวโพลน นิ้วนุ่มๆ ไม่สมกับคนเล่นกีตาร์เขี่ยไล้ตุ่มไตแดงสวยที่ยอดอก พี่แมนจะผละหนีตามสัญชาตญาณแต่เมื่อรู้ว่านี่เป็นการแสดงออกทางความรักอย่างหนึ่งที่เขาควรมอบให้คนเป็นเมีย พี่เธอก็เลยยอมนอนนิ่งให้อีเอ็มมี่มันจับ มันจูบ มันคลึง มันเขี่ย มันบีบ และมันอื่นๆ ได้ตามใจชอบ



“อ๊ะ!”



เสียงแรกหลุดออกมาเมื่อปากชื้นๆ ของร่างด้านบนไล้เลียเม็ดทับทิมสีสวย พร้อมกับมืออุ่นๆ ที่ลากผ่านลงไปยังจุดสงวนขนาดไม่ธรรมดาของพี่แมน เอ็มกรีดนิ้วผ่านเบาๆ พอให้สยิว ก่อนจะกอบกุมไว้แน่นแล้วขยับชักพาอารมณ์ของพี่แมนให้ค่อยๆ ก่อตัวเป็นไอร้อนๆ เหมือนหม้อน้ำตั้งไฟที่ถูกปิดฝาไว้



พอพี่แมนเริ่มหายใจติดขัด เป็นสัญญาณบอกให้คนกระทำรู้ว่าอีกฝ่ายลอยเข้าสู่ความรู้สึกลอยล่องที่สติจะไม่สามารถรับรู้ได้เต็มที่แล้ว ตุ๊ดจิ้งจอกก็แอบบีบเจลใส่นิ้ว ลากลงต่ำกว่าเดิม ค่อยๆ นวดคลึงปากทางเข้าแล้วสอดเข้าไป



“โอ๊ย!”



โครม!!



พี่แมนร้องลั่นด้วยความเจ็บ ก่อนจะยกเท้ายันพุงเมียรักโครมใหญ่จนลอยหวือตกเตียงไปอย่างทั้งเจ็บทั้งจุก คนที่ถูกประทุษร้ายกะทันหันก็ตะกายขึ้นเตียงมาในสภาพบอบช้ำ



“พี่แมนทำไรอ้ะ?”



“มึงแหละทำเหี้ยไร? จะดีท็อกซ์กูเรอะ?”



คนเจ้าเล่ห์ที่ตะกายขึ้นเตียงมาได้สำเร็จ ก็จูบปากแดงของคุณสามีไปหนักๆ อย่างหมั่นเขี้ยว



“ผู้ชายกับผู้ชายเขาก็ทำงี้แหละ”



“แต่มึงเป็นตุ๊ด!”



“เหมือนกันแหละ!”



พี่แมนทำหน้าเหมือนแมวเอ๋อแดกไปสิบวิฯ ก่อนจะชี้ไปยังลูกชายน้อยๆ ของเมียรักที่ตื่นตัวเต็มที่แล้วชี้มาที่ร่องหลืบของตัวเองอย่างทวนถาม เอ็มพยักหน้าช้าๆ แต่เน้นย้ำหนักแน่น เล่นเอาพี่แมนเหวอแดกไปอีกรอบ



“ใช่เหรอวะ?”



แกนคณะผู้ซึ่งได้รับความรู้ใหม่ที่คาดไม่ถึงหมาดๆ ถามเสียงแผ่ว



“อื้อ!”



เอ็มพยักหน้าอีกที ทำประหนึ่งว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ มิใช่เรื่องที่น่าตกใจแต่อย่างใด



“แปลว่า...”



พี่แมนยังไม่หายสับสนดี



“แปลว่าไอ้เงิบกะไอ้งอกก็ทำแบบนี้ด้วยเหรอวะ?”



เอ็มแอบไขว้นิ้วให้ข้างหลังแล้วตอบรับด้วยน้ำเสียงโคตรมั่นใจอีกรอบ



“อื้อ!!”



ถึงตำแหน่งการเล่นมันจะต่างกันไปหน่อยก็เหอะ



ระหว่างที่พี่แมนยังมึนงงกับความรู้ใหม่ เอ็มก็จัดแจงประคองพี่แมนลงนอนเหมือนเดิมแล้วเริ่มต้นประกบปากสร้างบรรยากาศขึ้นมาใหม่ พอถูกจูบเข้าไป พี่แมนก็ชักจะเคลิ้มๆ ลืมเรื่องที่ต้องใคร่ครวญว่ามันใช่หรือไม่ใช่ไปเสียสิ้น เอ็มก็งัดทุกเทคนิคที่สะสมไว้ทุกอย่างขึ้นมาใช้ให้พี่แมนส่งเสียงครางหวานอย่างเคลิบเคลิ้ม ยิ่งขั้นตอนที่ต้องเตรียมความพร้อมให้ช่องทางที่ไม่เค๊ยไม่เคยของพี่แมนก็ยิ่งเบามือเป็นพิเศษจนคนที่นอนตัวแดงอยู่ใต้ร่างรู้สึกเพียงความอึดอัดแปลกปลอมเท่านั้น



เมื่อเห็นว่าสุดที่รักพร้อมสำหรับอะไรที่ใหญ่กว่านิ้วแล้ว เอ็มก็โน้มตัวลงไปจูบหนักๆ ดึงความสนใจไว้ก่อนจะค่อยๆ ผลักไสตัวเองเข้าไปในส่วนคับแคบของสามีอย่างอ่อนโยนที่สุด



“อื้อ~!”



พี่แมนขากระตุกจะยันความเจ็บปวดให้กระเด็นไปอีกรอบ แต่เอ็มรั้งขาเนียนไว้ได้ทันก่อนจะกระซิบปลอบข้างหูคนที่หายใจหอบทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร



“ทนนิดเดียวนะครับ”



คนเด็กกว่าบอกเสียงพร่า ซึ่งพี่แมนก็อยากจะเถียงเหลือเกินว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องอดทน ถ้าแค่นี้ยังยอมเพื่อความสุขเมียไม่ได้ จะเป็นผัวที่ดีได้ยังไง?



ส่วนแข็งขืนค่อยๆ จมหายเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ จนหมดสิ้น เอ็มทิ้งร่างแช่ไว้ให้พี่แมนได้ปรับตัวและรับแรงตอดหนักๆ จากคนไร้ประสบการณ์อย่างเสียดเสียว



“พี่แมน...”



“อือ...”



คนถูกเรียกครางเครือตอบ มันรู้สึกเหนื่อย เหนื่อยยิ่งกว่ากระทืบคนอื่นเสียอีก



“ขยับนะ?”



“ฮื่อ...กูไม่รู้”



พี่แมนอยากบอกต่อเหลือเกินว่า มึงจะทำอะไรก็ทำเถอะ แต่สมองก็สั่งการช้าลงจนน่าใจหาย ความอึดอัดในร่างกายค่อยๆ ขยับเข้าออกในส่วนคับแคบ พี่แมนหวีดร้องดังเป็นช่วงๆ เมื่อคนด้านบนเผลอกระแทกหนักอย่างยั้งไม่อยู่ ดวงหน้าหวานซุกซบไปกับหมอนใบใหญ่ ผมเผ้ากระจายยุ่งเหยิงทว่ากลับดูเซ็กซี่อย่างประหลาด มือเรียวขยำผ้าปูที่นอนจนแทบขาดติดมือ



“อื้อ...ฮือ...อึก...”



“ดีไหมครับ? ดีไหม?”



“มะ...ไม่รู้ อ๊ะ...อือ...”



ยิ่งสัมผัสภายในชัดเจนมากขึ้นเท่าไหร่ พี่แมนก็เหมือนหูพร่าตาลายพูดอะไรไม่รู้เรื่อง ยิ่งถูกเมียรักโถมแรงเข้าหาพี่แมนก็หลุดเสียงครางเย้ายวนจนอีกฝ่ายแทบทนไม่ไหว ยิ่งทำมากเท่าไหร่ก็ยิ่งโหยหามากขึ้นเท่านั้น เอ็มมองใบหน้าเปี่ยมอารมณ์ของสามีที่นอนระทดระทวยอยู่ใต้ร่างก่อนจะแลบเลียริมฝีปากเบาๆ แล้วอดไม่ได้ที่จะกัดต้นคอขาวๆ เพื่อสร้างรอยอย่างหมั่นเขี้ยว



“งือ....อ๊ะ...เร็ว..ไป...อ๊ะ!”



“ซี้ดด!”



“อื้อ!!”





พี่แมนแทบหยุดหายใจเมื่อถูกเร่งเร้าจนถึงขีดสุดของอารมณ์ มันต่าง...ต่างจากตอนทำกับผู้หญิงมาก เป็นความสุขที่ต่างกัน สัมผัสที่ต่างกัน ไม่รู้จะอธิบายได้ยังไง หรือฟันธงได้ว่าแบบไหนดีกว่า แต่ที่แน่ๆ ถ้าทำกับผู้หญิงคงไม่เหลือคราบเหนียวไว้ในตัวแบบนี้แน่



“พี่แมน...”



“อือ...”



พี่แมนหมดแรงจะตอบรับ ทั้งๆ ที่เขาหมดสภาพอย่างชัดเจนแบบนี้ทำไมเมียเขามันถึงได้ดูสดชื่นนักวะ?



“อีกรอบนะ...”



สาบานได้เลยว่ากูเปล่าอนุญาตนะ กูแค่ไม่มีแรงปฏิเสธเท่านั้นเอง...









โปรดติดตามแอ๊บต่อไป



#แอ๊บรัก



Talk~*
โถถถถถถถถถถถ พี่แมนของเค้า
ไม่รู้จะสงสาร จะขำ หรือจะหื่นก่อนดี เค้าสับสน!
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 16: ขยี้ผ้ายามฟ้ามืด (06/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 06-09-2017 19:17:06
อยากให้พี่แมนกินเอ็มบ้างอ่ะ พออ่านตอนนี้แล้วรู้สึกแบบนี้เลย พลัดกัน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

พี่แมนช่างไม่รู้อะไรเลย โดนซะแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 16: ขยี้ผ้ายามฟ้ามืด (06/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-09-2017 19:21:45
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 16: ขยี้ผ้ายามฟ้ามืด (06/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 06-09-2017 19:22:12
ถถถ พี่แมน โดนหลอกซะแล้ว
แต่แบบนี้ก็ดีค่ะ
เป็นสามีต้องยอมเพื่อความสุขเมียเนอะ 555
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 16: ขยี้ผ้ายามฟ้ามืด (06/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 06-09-2017 22:03:37
ตลกพี่แมนอ่ะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 16: ขยี้ผ้ายามฟ้ามืด (06/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 06-09-2017 23:10:18
กรี๊ดดด ในที่สุดดวันนี้ก็มาถึงง 555 สงสารก็สงสารแต่สะใจมากกว่า พี่แมนยอมโดนกดแหละดีแล้ว ให้เอ็มอยู่เหนือบ้าง เอ็มโดนพี่แมนเล่นงานมาเยอะเจ็บมาเยอะ เพราะงั้น พี่แมนยอมเป็นเมียไปนะคะ 55555555
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 16: ขยี้ผ้ายามฟ้ามืด (06/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 07-09-2017 01:23:31
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 16: ขยี้ผ้ายามฟ้ามืด (06/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 07-09-2017 10:56:20
คนไม่เคยก็โพซิชั่นนี้แหละพี่แมน
ต้องซ้ำบ่อยๆ ด้วยนะถึงจะชิน
พี่งอก พี่เงิบก็แบบนี้แหละพี่ (ตบหลังพี่แมนปุๆ พร้อมชูสองนิ้วสู้ต่อไป)
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก ไม่รู้จะขำหรือสงสารดี
 :hao7:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 16: ขยี้ผ้ายามฟ้ามืด (06/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 07-09-2017 22:52:19
งานนี้จะถึงขั้นแตกหักแบบตำนานคณะไหมหนอ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 16: ขยี้ผ้ายามฟ้ามืด (06/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 15-09-2017 19:43:18
จะมายังน่ะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 16: ขยี้ผ้ายามฟ้ามืด (06/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 16-09-2017 09:08:53
แอ๊บที่ 17: ความลับนี้ต้องเหยียบให้มิด



ฟ้าสางแล้ว...



แต่สำหรับพี่แมนนี่ต้องเรียกว่า ‘ฟ้าเหลือง’ นะ เพราะจนตะวันแผดแสงลอดม่านมาส่องตูดงอนๆ ใต้ผ้านวมแล้วพี่ท่านก็ไม่มีทีท่าว่าจะลุกออกจากที่นอนไหว ตรงกันข้ามกับเขาที่สดชื่นกระปรี้กระเปร่ายิ่งกว่าปลากระดี่ได้น้ำเสียอีก



แต่ถึงอย่างนั้น ไอ้จิ้งจอกก็ไม่อาจยินดีปรีดาได้นาน เมื่อตระหนักได้ว่าไอ้เรื่องโปปดชะมดเช็ดเมื่อคืนมันอาจจะถูกเปิดเผยเมื่อไรก็ได้ และถ้ามันถูกเปิดเผยเมื่อไร...เขาอาจจะไม่เหลือซากศพให้อีเมเม่กับอีมาม่าเอาไปทำพิธีเลยก็เป็นได้ ยิ่งคิด ตุ๊ดจอมปลอมยิ่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ก่อนจะคลายออกได้เมื่อรับรู้ถึงแรงโอบจากด้านหลัง



“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นล่ะ?”



ใบหน้าน่ารักแบบที่เขาชอบเกยไว้บนไหล่จากด้านหลัง คนถามถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยทั้งที่สีหน้าของตัวเองก็ซีดเซียวไม่สู้ดีนัก



“เปล่าครับ”



เอ็มตอบเสียงอ่อย ขืนพูดความจริงออกไป...มังกรน้อยๆ ของกูได้กลายเป็นอาหารเป็ดแน่



“กูเป็นคนรับผิดชอบนะ กูได้มึงแล้ว กูไม่ทิ้งมึงหรอก”



แต่ดูเหมือนพี่แมนเธอจะตีความจากสีหน้าเมียรักผิดพลาดไปนิดหน่อย เอ็มเลยได้แต่ยิ้มหวานส่งไปให้ เขาไม่ได้ดีใจที่ถูกปฏิบัติด้วยเหมือนผู้หญิง แต่ดีใจที่คำพูดของพี่แมนแสดงออกว่ารักเขามากขนาดไหนต่างหาก



“พี่แมนจะนอนต่อไหม?”



“อืม ปวดเอวมากเลยอ่ะ”



“งั้นเดี๋ยวเค้านวดให้นะ”



พี่แมนเหล่ตามองเมียตุ๊ดอย่างไม่ไว้วางใจ



“นวดอย่างเดียวนะมึง”



เอ็มรับคำเป็นมั่นเหมาะ พี่แมนจึงยอมให้มันบีบๆ นวดๆ คลายปวดเมื่อย ดูท่าจะนวดให้แม่มันบ่อย น้ำหนักมือกำลังดีเชียว นวดไปนวดมาพี่แมนก็เคลิ้มหลับไปอีกรอบ เอ็มจึงปล่อยให้สุดที่รักนอนพักเอาแรงไปก่อน ไม่งั้นพรุ่งนี้อาจจะหอบสารร่างไปเรียนไม่ไหวเสีย



.

.

.



แก๊งค์ปีสี่แห่งสถาปัตย์ยังคงครองพื้นที่ชั้นบนของโรงอาหารอาคารเรียนรวมโดยไม่มีใครริอาจมาแย่งเช่นเคย ผู้ชายอยู่ด้วยกันกลุ่มใหญ่ก็ย่อมส่งเสียงดังน่ารำคาญเป็นเรื่องธรรมดา แต่ดูเหมือนวันนี้ท่านหัวโจกจะเงียบผิดวิสัยจนสมุนข้างกายต้องเอ่ยปากถาม



“แมน มึงเป็นไรวะ?”



พี่งอกที่กำลังเคี้ยวข้าวคลุกกะปิเอ่ยปากถาม ดูสีหน้าแกนคณะวันนี้ก็ซีดๆ เหมือนคนไม่สบายอยู่



“ปวดเอวว่ะ”



“ไปทำไรมาวะ?”



พี่เงิบที่กำลังกินราดหน้าปลากะพงถามต่อทันที



“......................”



“หน้าแดง...ท่านแกนหน้าแดงเว่ย!”



พี่งอกยิ้มล้อ เชื่อได้เลยว่าไอ้สองตัวนี้ต้องรู้เรื่องจากเมียกุมารของพวกมันแล้วแน่ๆ ล้อมากเดี๋ยวกูเอาก๋วยเตี๋ยวต้มยำกรอกปากซะเลยนิ! พอถูกสายตาคาดโทษ พี่งอกก็จำต้องสงบปากสงบคำแต่มิวายเอียงตัวเข้ามาใกล้กระซิบให้ได้ยินกันแค่สองสามคน



“มันต้องอย่างนี้สิวะ! เมียเรียกร้องไม่สนอง ใครเขาจะว่าเราไม่มีน้ำยาได้”



“แต่สนองบ่อยๆ ก็ไม่ไหวนะ ปวดเอวว่ะ พวกมึงเป็นมั่งไหม?”



สองสมุนทำหน้าครุ่นคิดไปซักครู่ ก่อนจะเอ่ยตอบตามประสบการณ์



“ก็มีบ้างนะ ถ้าหลายยก ว่าแต่อีเอ็มมี่มันขอมึงกี่ยกล่ะ?”



ท่านแกนฯ ทำหน้าระลึกชาติอยู่สักพักก็ยกมือซ้ายขึ้นมากางออกทีละนิ้วจนครบห้า ก่อนจะแถมนิ้วโป้งมือขวาไปอีกหนึ่ง



“อื้อหือ~ เมียมึงนี่มันเด็ดว่ะ! น้องม่าของกูพอขึ้นยกสามก็เหนื่อยจนแทบสลบแล้ว”



“ทำไมน้องเม่ของกูไม่เป็นงี้บ้างวะ?”



พอได้ยินเพื่อนรักสรรเสริญเมีย พี่แมนก็อดจะยิ้มภาคภูมิอยู่ในใจไม่ได้ แต่พอนึกถึงความเจ็บร้าวหลังผ่านช่วงเวลาแห่งความสุขไปแล้ว พี่แมนก็ตั้งปณิธานในใจว่าทางที่ดีอย่าปล่อยให้มันเรียกร้องบ่อยนักจะดีกว่า



.

.

.



แกนคณะสถาปัตย์ที่เพิ่งกลับถึงหอในเวลาดึกดื่นค่ำคืนเนื่องจากต้องอยู่ประชุมละครเวทีประจำปีขึ้นลิฟต์มายังชั้นที่ตัวเองพักอยู่ก่อนจะเคาะเรียกเมียรักเพราะขี้เกียจไขประตูห้องเข้าไป เอ็มที่อยู่ชุดนอนคิกขุไม่สมตัวเปิดประตูออกมารับพร้อมรอยยิ้มเอาใจ แต่พอพี่แมนจะเดินเข้าห้องมันกลับขวางไว้ไม่ยอมให้เข้าไปง่ายๆ



“มึง...วันนี้กูเหนื่อยนะ”



“จ่ายค่าบัตรผ่านประตูมาก่อน”



พี่แมนกอดอกหมับ เชิดหน้ามองตุ๊ดยักษ์ที่ยืนเฝ้าประตูด้วยสายตากึ่งไม่พอใจ



“กูเป็นเจ้าของห้องนะ”



“แต่นี่เมียเจ้าของห้องนะ”



คนที่บอกว่าตัวเองเหนื่อยหลุดยิ้มทันที เอากะมันสิ...ตกเป็นของกูข้ามคืนเดียวมันอ้างสิทธิอย่างไม่กระดากปากเลย จะบอกว่าหน้าด้านก็รุนแรงไป ต้องพูดว่ากล้าแสดงออกเกินมาตรฐานจะดูถนอมน้ำใจมากกว่า



“เท่าไหร่ล่ะ?”



พี่แมนก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าวันนี้เมียรักมันจะงัดอะไรมาเล่น



“บัตรมีสองราคานะ”



“ว่ามา”



“บัตรถูกจ่ายด้วยการหอมแก้ม เข้าห้องแล้วเดี๋ยวเมียนวดให้”



อืม...ข้อเสนอน่าสนใจ



“แล้วบัตรแพงอ่ะ?”



“บัตรแพงจ่ายด้วยการจุ๊บปาก เข้าห้องแล้วได้ปล้ำเมีย”



พี่แมนมองประกายตาหื่นวาบของเมียรักแล้วเลือกราคาบัตรได้โดยไม่ต้องเจียดเศษเสี้ยวของเซลล์สมองไปคิดเลย



“กูเลือกบัตรถูก”



“บัตรถูกหมด เหลือแต่บัตรแพงอ่ะ”



แกนคณะไม่รู้จะขำหรือจะเครียดดี อยากจะถามมันเหลือเกินว่าคิดนานไหมมุกนี้? คือจะล่อลวงให้กูปล้ำมึงให้ได้ใช่ไหม? รู้จักผัวมึงน้อยไปแล้วอีเอ็มมี่!



“งั้นกูเอาบัตร VIP”



“บัตร VIP ไม่มีนะ”



เอ็มรีบค้าน จากที่กระหยิ่มยิ้มย่องอย่างเป็นต่อเมื่อครู่ชักจะเริ่มแกว่งเมื่อพี่แมนเธอไม่คิดจะยอมง่ายๆ



“มีสิ จ่ายด้วยตีนกูนี่ แล้วคืนนี้กูจะหนีไปนอนห้องไอ้งอก!”



“พี่แมนอ้า~”



คนเจ้าเล่ห์อวดครวญเมื่อล่อลวงสุดที่รักไม่สำเร็จ แต่พี่แมนท่านก็ไม่คิดจะใจอ่อน...เพราะถ้าใจอ่อนพรุ่งนี้กูก็ไม่ได้ไปเรียนน่ะสิ!



“มึงจะขายบัตรถูกให้กูดีๆ หรือจะให้กูบังคับขายบัตร VIP เลือกเอา”



หลังจากกระเง้ากระงอดอีกพักใหญ่แล้วพี่แมนก็ยังไม่ยอมใจอ่อน เอ็มเลยต้องจำใจขายบัตรถูกให้พี่แมนไปในที่สุด เจ้าของห้องมองซ้ายมองขวาให้แน่ใจว่าไม่มีคนมองเห็น ก่อนจะเขย่งตัวหอมแก้มเมียรักฟอดใหญ่ให้มันเปรมจนยิ้มแป้นยอมเปิดทางเข้าห้องหอให้เขาแต่โดยดี พี่แมนอาบน้ำชำระร่างกายจนพอคลายความเมื่อยล้าแล้วก็ออกมานอนบนเตียงให้เมียบีบนวดให้อย่างสุดแสนสบายกาย มองหน้าขาวๆ น่ารักๆ ของมันไปด้วยก็ยิ่งสบายใจ นี่ถ้าตัดความหื่นออกจากสมองมันเสียหน่อยนะ มันจะเป็นเมียที่นิสัยเพอร์เฟ็คมาก



“พี่แมนต้องกลับดึกงี้ทุกคืนเลยเหรอ?”



“อืม...ละคร’ถาปัตย์ ปี 4 เป็นแกนหลักอ่ะ”



“............................”



“เหงาอ๋อ?”



เห็นหน้าหมองๆ ของอีเอ็มมี่แล้วพี่แมนก็รู้สึกสงสารไม่ได้ กะเทยเสิ่นเจิ้นนวดไปพลาง ก็ส่ายหน้าให้พี่แมนยิ้มๆ ไปพลาง



“เปล่า...แค่เสียดายที่แบบ เราจะไม่ได้...แบบว่า...”



นั่นไง...พูดยังไม่ทันขาดคำ



พี่แมนดึงขาที่เมียกำลังนวดอยู่ออกมาแล้วจัดการถีบมันลงจากเตียงไปกองกับพื้นอย่างรู้สึกไม่ปลอดภัย



“พี่แมนถีบเค้าทำไมอ้ะ?”



“อีหื่น!! มึงยังมีหน้ามาถามอีก! มึงหยุดคิดเรื่องนี้ไปเลยนะ จนกว่าละครเวทีจะจบ กู! ขอ! งด!”



เหมือนมีสายฟ้าฟาดเปรี้ยงมาดับความหวังน้อยๆ ของเอ็ม เขาทำหน้าช็อคเหมือนโดนพี่แมนฟันแล้วทิ้ง ก่อนจะเริ่มตีบทโศกเป็นนางเอกละครช่องเจ็ด



“ไหนพี่แมนบอกว่าจะรับผิดชอบเค้าไง?”



“มึงจะให้กูรับผิดชอบด้วยการปล้ำมึงอีกเนี่ยนะ?!”



“ก็เค้าอยากโดนปล้ำอ้ะ! เค้าอยากโดนปล้ำ!!”



พี่แมนรู้สึกเหมือนไมเกรนจะกำเริบขึ้นมาเสียดื้อๆ มองเมียรักที่ดีดดิ้นอยู่บนพื้นอย่างปวดกบาล นี่ชาติก่อนกูไปทำอะไรใครไว้วะ ชาตินี้เจ้ากรรมนายเวรถึงได้ส่งเมียที่หื่นผิดปกติมาให้กูเนี่ย!



“ถ้ามึงยังพูดไม่รู้เรื่องนะ กูจะไม่ปล้ำมึงอีกเลย ตลอดชีวิต!!”



“ฮึก...กุซิกๆ พี่แมนใจร้าย~”



“ปิดไฟ นอน!! มึงนอนข้างล่างไปเลยนะ ห้ามขึ้นมา!”



ตัดบทไม่สนใจเสียงคร่ำครวญของเมียรักเสร็จ พี่แมนก็หันหลังคลุมโปงหนีความหื่นทันทีอย่างไม่คิดจะใจอ่อน ทิ้งให้เอ็มนอนคร่ำครวญในชะตาชีวิตเมียทาสรันทดของตัวเองต่อไปอย่างไม่มีใครสนใจ



.

.

.



“มึงนี่น้า~~”



อีเมเม่นึกอยากจะด่าเพื่อนซี้ แต่ยังบัญญัติคำด่าไม่ออกเลยได้แต่กระฟัดกระเฟียดอย่างหาทางออกไม่ได้ ก่อนจะสะกิดคู่แฝดของตัวเองที่นั่งอ่านนิตยสารแฟชั่นอยู่ข้างๆ ให้ด่ามันแทน



“มึงขยี้เขาไปครึ่งโหล! แล้วมึงยังจะมีหน้ามาคร่ำครวญให้พวกกูฟังว่าทำไมเขาไม่ยอมมึงอีกเหรอ? เขายังนั่งเรียนไหว ไม่ต้องแพลงกิ้งจดเลกเชอร์ก็บุญแล้วรึเปล๊า?”



เอ็มที่อุตส่าห์ถ่อมาปรับทุกข์ให้กุมารเพื่อนรักฟังถึงหอเพื่อนหญิง ก็ได้แต่ทำหน้าเซ็งที่ไม่มีใครเข้าใจ ทำไมอ่ะ? เวลาเรารักใครเราก็อยากจะขยี้คนนั้นบ่อยๆ ใช่ป่ะล่ะ? ใช่ป๊ะล่ะ?



“ลอยหน้าลอยตาไปเถ๊อะ~ นี่กูยังไม่นับประเด็นที่มึงไปหลอกเขาเรื่องผัวๆ เมียๆ นั่นอีก ถ้าเขารู้นะมึงเอ๊ย~~ ไม่ต้องบอกใครนะว่าเรารู้จักกัน พวกกูไม่อยากติดร่างแห!!”



“เออ...พูดถึงเรื่องนี้ พวกมึงเตี๊ยมพี่งอกพี่เงิบให้กูหน่อยสิ”



สองสาวได้ฟังคำขอของเพื่อนแล้วก็มองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจ



“จะเตี๊ยมยังไงล่ะมึง พี่งอกกะพี่เงิบเขาก็เข้าใจว่ามึงน่ะเป็นเมียเพื่อนเขา ถึงพี่แมนจะหน้าหวาน ตัวบางขนาดไหน แต่ในสายตาคนทั้งมหาลัยพี่เขาก็แมนเกินร้อยนะมึง ต่อให้เขาคบกับนักเพาะกายก็ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าเขาจะเป็นฝ่ายถูกขยี้”



เอ็มพยักหน้าตามอย่างเห็นพ้อง เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาต้องทำก็คือรักษาบทบาทตุ๊ดจำเป็นไว้ให้เนียนและนานที่สุดเท่าที่จะทำได้สินะ!



“มึงก็อย่าชะล่าใจละกัน ยังไงซื้อประกันไว้ซักกรมธรรม์ก็ดีนะ แม่มึงจะได้ไม่ลำบาก”



“มึงไม่ได้แช่งกูใช่ไหมอีเม่?”



อีเม่ส่ายหัว ตีสีหน้าเห็นอกเห็นใจแล้วตบไหล่เพื่อนปุๆ อย่างแนบเนียน



“ช่วงนี้พี่แมนกลับดึกนี่ พี่งอกกับพี่เงิบก็เหมือนกัน ถ้ามึงเหงา...กลับมานอนนี่ก็ได้นะ”



เอ็มนิ่งคิดไปสักพักก่อนจะส่ายหน้า



“ไม่ล่ะ ถ้ากูไม่อยู่ที่ห้อง มีหวังพี่แมนกลับมาปุ๊บทิ้งตัวนอนน้ำท่าไม่อาบแน่ กูอยู่รอเขากลับน่ะดีแล้ว”



“มึงนี่นับวันจะเหมือนเมียพี่เขาไปจริงๆ แล้วนะ”



อีม่าที่นอนอ่านนิตยสารอยู่บนเตียงออกความเห็น ซึ่งฝาแฝดของนางก็พยักหน้าเห็นด้วย



“ก็กูรักพี่เขานี่...”



พูดไป เอ็มก็ทำท่าเอียงอายพอเป็นพิธี ทำเอาเพื่อนตั้งแต่เด็กหมั่นไส้จนอดจะทำเสียงล้อเลียนพร้อมกันไม่ได้



“แหวะ!!”



หลังจากนั้นเพื่อนทั้งสามก็คุยเรื่องสัพเพเหระกันไปตามประสา เม้าท์ตั้งแต่เรื่องเพื่อนในคณะ เรื่องคุณแฟน ไปจนถึงเรื่องละครหลังข่าว



“อีเม่~ กูใส่แบบนี้ให้พี่เงิบดูดีเปล่าวะ?”



แฝดผู้น้องแชร์นิตยสารหน้าที่เธอกำลังดูอยู่ให้แฝดผู้พี่และคุณเพื่อนดู ก่อนจะถามความคิดเห็น ภาพแฟชั่นในเช็ตที่ว่าเป็นรูปนางแบบผิวสีแทนหุ่นเลอเลิศในชุดเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่โคร่งสีขาว นั่งชันเข่าโชว์เรียวขาเซ็กซี่แบบเก๋ๆ



“ขามึงสั้นกว่าเขาเยอะนะอีม่า”



“ขามึงก็สั้นเท่ากูนี่แหละ อีเม่!!”



คนเป็นน้องเถียงกลับอย่างอารมณ์เสีย ในขณะที่บุคคลที่สามยังจ้องภาพในนิตยสารตาเป็นมัน



“อยากเห็นพี่แมนใส่อย่างนี้จัง”



ไม่ต้องเดาเลยว่าป่านนี้ในสมองหื่นๆ จะจินตนาการล่องลอยไปถึงดาวไหนแล้ว ยิ่งมันเผยรอยยิ้มจิ้งจอกอยากกินลูกแกะที่มุมปากแบบนี้ด้วยแล้ว ฟันธงได้เลยว่าในหัวมันต้องมีแผนการชั่วร้ายเป็นแน่



“นี่มึงไม่ได้กำลังคิดอะไรแผลงๆ อยู่ใช่ไหม?”



“หึหึ”



เอ็มตอบคำถามของเพื่อนด้วยเสียงหัวเราะไม่น่าไว้วางใจ ฝ่ายเพื่อนรักสองคนก็ได้แต่ภาวนาในใจว่าอย่างน้อยก็อย่าให้พี่แมนลงโทษมันถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลอีกรอบเลยเถอะ





โปรดติดตามแอ๊บต่อไป



Talk~
ขอโทษที่มาช้าจ้า ติดธุระนิดโหน่ยยย
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 17: ความลับนี้ต้องเหยียบให้มิด (16/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 16-09-2017 10:21:09
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 17: ความลับนี้ต้องเหยียบให้มิด (16/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 16-09-2017 10:55:06
พี่แมนรู้ความจริงเมื่อไรจะออกมา โหดมันส์ฮ่า แค่ไหน อยากรู้มากๆๆๆเลย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เอ็มมี่มันหื่นจริงๆๆๆๆๆ พี่แมนคนรักเมีย อิอิ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 17: ความลับนี้ต้องเหยียบให้มิด (16/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-09-2017 11:08:30
:katai4: :katai4: :katai4: สงสารพี่แมนอะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 17: ความลับนี้ต้องเหยียบให้มิด (16/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 16-09-2017 13:25:36
พี่แมน  น่ารักดี
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 17: ความลับนี้ต้องเหยียบให้มิด (16/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-09-2017 18:28:41
 :laugh:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 17: ความลับนี้ต้องเหยียบให้มิด (16/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 16-09-2017 18:41:52
ถถถ พี่แมนผู้คิดว่าตัวเองเป็นผัวทั้งที่โดนขยี้ 55555 ถ้ารู้ความจริงจะดราม่ามั้ยยเนี่ยกลัวจริงๆ กลัวพี่แมนไม่ยอมให้ขยี้อีก
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 17: ความลับนี้ต้องเหยียบให้มิด (16/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 20-09-2017 19:26:17
แอ๊บที่ 18: ไม่ได้มีแค่ ท. ทหารที่อดทน



พี่แมนอาบน้ำอยู่...



เอ็มที่แต่งตัวเตรียมพร้อมไปมหา’ลัยเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งรออยู่บนเตียง อีกเดี๋ยวจะแปลงร่างเป็นสก๊อยซ้อนท้ายฟีโน่ไปเรียน แต่ทว่า...ก่อนหน้านั้นเขามีภารกิจที่สำคัญต่อมวลมนุษยชาติรออยู่



ตุ๊ดเสิ่นเจิ้นเริ่มนั่งกระสับกระส่าย รู้อยู่หรอกว่าสิ่งที่คิดจะทำต่อไปนี้มันเสี่ยงมาก แต่จะทำอย่างไรได้? ความอยากมันมีมากกว่าความกลัว อย่างไรเสียชาตินี้...เขาต้องได้เห็นขาอ่อนพี่แมนใต้เสื้อเชิ้ตตัวเดียวให้จงได้!! หลังจากกำหมัดตั้งปณิธานกับตัวเองอย่างมุ่งมั่นเสร็จ เสียงประตูห้องน้ำก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณให้ตุ๊ดคิดการใหญ่เตรียมพร้อม



เจ้าของห้องที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เดินออกมากจากห้องน้ำด้วยกลิ่นไอกรุ่น ผิวสีชมพูฝาด ท่อนบนเป็นเสื้อเชิ้ตนักศึกษาพับแขน ท่อนล่างมีผ้าขนหนูคาดขมวดไว้เพราะจะให้ใส่กางเกงใสห้องน้ำก็เกรงว่าชายกางเกงจะเปียก พี่แมนยืนฮัมเพลงหวีผมอยู่หน้ากระจกโดยมิได้รู้สึกถึงความชั่วร้ายจากเมียรักที่ย่องเข้ามาจากด้านหลัง



“อีเอ็มมี่...มึง... เห้ย!!



พี่แมนคว้ามือตะปบผ้าขนหนูที่ถูกกระตุกออกจากเอวด้วยสัญชาตญาณแต่ก็มิทันเมียรักที่ได้ครอบครองผ้าผืนนั้นไปเรียบร้อย เอ็มพุ่งสายตาไปยังเรียวขาขาวๆ ของคุณสามีที่โผล่พ้นชายเสื้อมาอย่างวับๆ แวมๆ ด้วยความความรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัวคล้ายเลือดกำเดาจิไหล



“งี้ดดดดดดดดดดดดดดดดด”



กูแพ้ของขาวโว้ย~!!



เอ็มกัดผ้าขนหนูกรีดร้องอย่างโคตรฟิน นี่สิ!...นี่สิ! รางวัลของความกล้าหาญ! แม่ง! ขาวจริงโว้ย!!



“งี้ดป้ามึงสิ! เอาผ้าขนหนูกูคืนมา!”



พี่แมนตวาดหน้าแดง อีเมียไม่รักดีนี่เล่นกูแต่เช้าเลย!



“ไม่คืน! ...งี้ดดด งี้ดดดด”



เอ็มเถียงสู้ ตายังไม่ละไปจากขาเปลือยเปล่าของคุณสามี ประกาศให้รู้ตรงนี้เลยว่าวันนี้กูยอมตาย พลีชีพเพื่อขาอ่อน! เซ็กซี่ว้อย!!



“ไม่คืนไม่ได้! แม่ง! มันเอากางเกงกูไปไหนหมดวะ?”



พี่แมนสบถอย่างขัดใจเมื่อเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วไม่มีกางเกงจะใส่สักตัว ทางเดียวที่เขาจะทำได้คือไปแย่งผ้าขนหนูในมืออีเมียชั่วคืนมา แต่พอเขาก้าวเข้าใกล้มันก็ถอยหนี แถมยังทำตาลุกวาวมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีกด้วย



“อีเอ็มมี่ เอาผ้าคืนมา มึงจะหนีไปไหน?!”



แล้วเกมวิ่งไล่จับก็เกิดขึ้นในห้องหอชั้น 7 ของพี่แมน คนหื่นวิ่งเบี่ยงซ้ายหลบขวาอย่างสุดชีวิตทั้งที่ตายังไม่ละไปจากขาขาวๆ ของคุณผัวรักที่ยิ่งวิ่งชายเสื้อมันก็ยิ่งเปิด แล้วพอชายเสื้อยิ่งเปิด อะไรดีๆ ก็ปรากฏสู่สายตาแบบเห็นแล้วฟินไปสามชาติเศษ



“อีเอ็มมี่! หยุด!!”



พี่แมนตะเบ็งเสียงหลังจากวนรอบห้องจนชักจะเหนื่อย ถ้าออกแรงมากกว่านี้มีหวังได้อาบน้ำใหม่อีกรอบแน่



“ไม่หยุด! งี้ดดดดดด”



พอเจอเมียเถียง เส้นเลือดบนขมับพี่แมนก็ปูดขึ้นอย่างสุดโมโห เขาย่างสามขุมเข้าหาเมียรักที่กัดผ้าขนหนูจนแทบขาดแล้วเอ่ยถามเสียงเหี้ยม



“ชอบนักใช่ไหม ขาอ่อนกูเนี่ย?!”



“งี้ดๆๆๆๆ”



เอ็มพยักหน้ารัวๆ พี่แมนได้สดับดังนั้นก็เฟดตัวเองเข้าโหมดดาร์ก แสยะยิ้มงดงามทว่าน่าลนขุกแบบที่นานแล้วไม่ได้เห็นส่งให้อีตุ๊ดคิดสั้นตรงหน้าอย่างไร้ความปรานี



“ชอบนัก กูจัดให้!”



ผัวะ!



“แอ๊ฟฟฟฟฟฟฟฟ”



เอ็มร้องลั่นตาแทบถลน เมื่อขาอ่อนที่ขาวผ่องเป็นยองใยลอยหวือในอากาศด้วยความเร็วแสงฟาดผัวะมาที่ก้านคอของกะเทยไร้สมองแบบไม่ยั้งแรง ทีเดียวร่วงผล็อยเป็นลูกโป่งโดนเจาะลมลงไปชักกระแด่วน้ำลายฟูมปากอยู่กับพื้น แต่กระนั้นภาพสุดท้ายก่อนสิ้นสติก็เป็นวิวที่เอ็มสาบานว่าจะจดจำไปจนวันตาย!



ฝ่ายแกนคณะที่ล้มตุ๊ดได้เป็นที่เรียบร้อยก็ค้นทั่วห้องจนเจอว่าเมียที่นอนปางตายนั่นมันเอากางเกงในตู้เสื้อผ้าของเขาไปซ่อนไว้บนเตียงแล้วใช้ผ้าห่มคลุมไว้ พอจัดการตัวเองจนอยู่ในสภาพพร้อมไปเรียนแล้ว พี่แมนก็ย่อตัวลงใช้นิ้วชี้อังจมูกตุ๊ดร่วมห้องพิสูจน์ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ พอเห็นว่ายังมีลมหายใจแผ่วๆ อยู่ พี่แมนก็ไม่มีความสนใจในตัวมันอีกต่อไป



ก๊อกๆๆ



เจ้าของห้องเดินไปเปิดประตูตามเสียงเคาะเรียก คนที่มาเยือนในยามเช้าแบบนี้คือสองแฝดเพื่อนซี้ของกะเทยสิ้นคิดที่นอนเป็นศพอยู่ในห้อง พอพวกนางเห็นสีหน้าเหมือนอยากฆ่าคนของรุ่นพี่แล้วก็ต้องผวาเฮือกโดดกอดกันแน่น



“มาทำไม?!”



ตุ๊ดแฝดสะดุ้งเฮือก เมื่อเจอเสียงตะคอกถาม



“มะ...มาหาอีเอ็มมี่ค่ะ เมื่อวานเหมือนมันจะคิดอะไรพิเรนทร์ๆ พวกหนูเลยจะมาขอพี่แมนว่าอย่าทำอะไรรุน...เอ่อ...แรง... แอร๊ยยยยย อีเอ็มมี่!!!



แฝดน้องที่กำลังอธิบายถึงจุดประสงค์การมาเยือน กรีดร้องเรียกชื่อเพื่อนแทรกขึ้นมาเมื่อเห็นร่างคุ้นตานอนชักเป็นกุ้งโดนช็อตอยู่ในห้อง กุมารแฝดถลาเข้าไปดูอาการเพื่อนรักในขณะที่พี่แมนปรายตามองอย่างไม่แคร์



“ฝากจัดการศพเพื่อนมึงด้วยแล้วกัน”



พูดจบ พี่ท่านก็ควงกุญแจฟีโน่ออกจากห้องไป ทิ้งภาระนำศพตุ๊ดส่งโรง’บาลให้เป็นหน้าที่ของสองกุมารที่ช่วยกันหามร่างตุ๊ดยักษ์ไปสู่มือหมอให้เร็วที่สุด!



.

.

.



“ไงล่ะมึง? ขาอ่อนพี่แมนน่ะ?”



อาการของคนโดนก้านคอเข้าเต็มรักไม่ได้หนักหนาอย่างที่คิด อย่างน้อยแพทย์ก็อนุญาตให้มันนั่งเพ้อดวงตาเป็นประกายใบหน้าเปื้อนความฟินไม่สร่างซา



“ขาว...เนียน...อา...ช่างเซ็กซี่และโมเอ้เป็นที่สุด”



เอ็มเพ้อไม่เลิก เวลาพี่แมนเปลือยทั้งตัวว่าน่าดูแล้ว เวลาปิดวับแวมก็ดูเซ็กซี่ชวนเลือดลมเดินไปอีกแบบดีเหมือนกัน คราวหน้าเอาใหม่!



“มึงนี่ไม่ได้สำนึกเลยนะ...ที่เปลี่ยนสัญชาติเป็นตุ๊ดกะเหรี่ยงนี่คือไม่เข็ดใช่ไหม?”



อีเม่เท้าสะเอวด่า สภาพเพื่อนซี้ตอนนี้นี่ยังกะกะเหรี่ยงคอยาว เฝือกอันเท่าขาธิดาช้างมันค้ำคออยู่ชนิดที่ว่า 3 วันที่ผ่านมานี้ อีเอ็มมี่กลายเป็นตุ๊ดที่สวยเริ่ดเชิดหยิ่งในปฐพีเพราะก้มหน้าลงมองสิ่งที่ต่ำกว่าระดับสายตาไม่ได้นั่นเอง



“พวกมึงไม่เข้าใจกูหรอก...เขาสั่งกูห้ามขยี้ กูก็เก็บกด แต่นี่ยังถือว่าเขายังปรานีกูอยู่บ้างนะ”



 “หรา~ เขาปรานีมึงแล้วหรา?”



อีม่าถามเสียงประชดพร้อมมองหน้าเพื่อนตุ๊ดปลอมๆ สมองไม่พัฒนาของตัวเองตั้งแต่หัวผ่านเฝือกจรดเท้าแล้วย้อนกลับมามองหน้าโง่ๆ ของมันอีกรอบ



“อย่างมึงเนี่ย เปบทีน 1 ลังกับแบรนด์ 1 โหลปั่นรวมกันยังเอาไม่อยู่เลยนะ”



กะเหรี่ยงเฝือกค้อนเพื่อนปะหลับปะเหลือก พวกมึงไม่มีบุญได้เห็นหรอกว่าพี่แมนใส่เสื้อเชิ้ตตัวเดียวมันร้อนเร่าเขย่าฮอร์โมนขนาดไหน!



ปิ๊บๆ



“มึง...พี่งอกไลน์มาว่าอยู่สนามบอล”



“ไปทำไรวะ?”



“โยคะมั้งอีนี่! ไปสนามบอลก็ต้องเตะบอลดิ้!”



อีม่ามิวายบลัฟคู่แฝดเสียงตวัดสูง จนอีเม่ต้องเท้าสะเอวขึงตาใส่



“ไม่ทำฉากละครกันเหรอวะวันนี้?”



เอ็มเอ่ยถาม เพราะช่วงนี้พี่แมนจะยุ่งวุ่นวายกับฉากละครเวทีมาก กลับดึกตื่นเช้าทุกคืนจนร่างกายเสื่อมโทรมไปหมดแล้ว



อีม่าก้มลงไปกดเครื่องมือสื่อสารต่อ คาดว่าจะสอบถามเอาความกับแฟนหนุ่ม พักเดียวก็เงยหน้าขึ้นมามอบคำตอบให้คนป่วยได้



“ร้านแถวนี้สีหมด ต้องไปซื้อไกล เริ่มงานได้อีกทีสองทุ่ม เขาเลยไปเตะบอลกัน”



“แล้วพี่แมนอยู่ด้วยป่ะ?”



“อยู่”



“งั้นไปกัน”



เอ็มลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเตรียมพร้อมเคลื่อนย้ายสังขารเต็มที่



“ไปไหนวะ?”



“ไปหาพี่แมนดิ”



“แน่ใจนะว่าเขาอยากเจอหน้ามึงอ่ะ?”



เอ็มจิ๊ปากเมื่อวาจาเพื่อนรักช่างเสียดหู



“ผัวเมียที่ไหนเค้าทะเลาะกันนานบ้างวะ?”



“แล้วที่เขาเฉดหัวมึงมานอนกับพวกกู 3 คืนแล้วนี่มันนานไหมล่ะ?”



วาจาน้องเมเม่เสียบกลางใจดังฉึก คนคอสูงหน้าหงิกเป็นหมาปั๊กขึ้นมาทันที พูดไปแล้วก็เศร้า ผัวไม่ให้เข้าห้อง!



“กูถึงต้องไปง้อนี่ไง ไปเร็ว”



พอถูกเพื่อนเร่ง สองแฝดก็พยักหน้าอย่างเบื่อๆ ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายใบเก๋มาถือแล้วเดินไปโบกรถเวียนไปลงที่สนามบอลของมหาวิทยาลัยทันที ที่นี่ก็คึกครื้นเป็นปกติเพราะอยู่ใกล้หอใน มีทั้งนักศึกษาและบุคลากรมาออกกำลังกายอยู่เป็นนิตย์ แต่วันนี้สนามหญ้าเขียวชอุ่มทั้งสนามถูกจับจองเป็นแหล่งความสนุกสนานของแก๊งค์ปีสี่สถาปัตย์ ที่นั่งบนแสตนด์เลยค่อนข้างหนาตากว่าปกติเพราะสาวๆ ที่รู้ข่าวก็แอบมาเหล่หนุ่มๆ ที่หมายปอง โดยเฉพาะพ่อแกนคณะน่ะตัวดี...เสน่ห์ขจรขจายใช่ย่อย!



ชาวคณะสถาปัตย์ทั้งแก๊งค์เลือกตัวผู้เล่นได้ 22 คน ครบตามจำนวนพอดิบพอดี ไอ้ที่เหลือเป็นส่วนเกินก็นั่งรอเป็นตัวสำรองกันไป ผู้เล่นทั้ง 22 คนยืนล้อมกันเป็นวงกลมตามคำสั่งของท่านแกนที่ให้โอน้อยออกแบ่งข้างกัน พลิกมือกันจนเมื่อยสักพักก็ได้ผู้เล่นเข้าทีมที่ลงตัว



พอแบ่งทีมเสร็จพี่แมนก็เงยหน้าขึ้นมาจากวงล้อม สบตาเข้ากับเมียรักที่ยิ้มแป้นให้สดใสและร่าเริง แต่พี่ท่านก็ไม่คิดจะยิ้มตอบแต่อย่างใด เอ็มเลยต้องหน้าม่อยไปตามระเบียบ ยิ่งหันไปเห็นเพื่อนแฝดเกาะแขนคุณแฟนออดอ้อนให้กำลังใจก่อนลงแข่งแล้วก็ยิ่งน้ำตาตกใน



“ทีมมึงถอดละกันวันนี้”



ไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกัน แต่พอหันมองพี่แมนอีกที เอ็มก็ตาโตเป็นลูกโป่งสวรรค์อัดแก๊สเมื่อพี่ท่านปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาแล้วถอดมันออกอย่างไม่ลังเล ไอ้ผิวขาวเนียนเรียบเหมือนอาบซิตร้ามาตั้งแต่เกิดนั่นไม่เท่าไหร่ แต่หน่มน๊มสีชมพูนั่นกูหวงมากเลยนะเว่ย!



“พี่แม๊น!!”



เอ็มเรียกชื่อแฟนเสียงหลงพร้อมถลาเข้าไปดึงสาบเสื้อนักศึกษาให้ปิดบังเรือนกายอีกฝ่ายไว้อย่างแน่นหนา



“อะไรของมึงเนี่ย?!”



“พี่แมนถอดทำไมอ้ะ?!”



คนเข้าเฝือกถามคุณแฟนหน้าตาตื่น ฝ่ายคนถอดก็ไม่เข้าใจว่าเมียเขามันจะตื่นตกใจทำไม?



“ก็ถอดแบ่งทีมดิ้! มึงเป็นอะไรเนี่ย?”



เอ็มได้ยินดังนั้นก็กวาดมองไปรอบๆ เห็นนักบอลครึ่งนึงถอดเสื้อนักศึกษาออกเหลือแต่ยีนส์ติดตัว เป็นการแบ่งทีมอย่างง่ายๆ ให้รู้ว่าใครอยู่ทีมไหน แล้วทุกคนรวมทั้งสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าชะนีบนแสตนด์ต่างก็มองมาที่พวกเขาอย่างเป็นจุดสนใจ



“ไม่ได้! ไม่ให้ถอด!”



“เอ๊า! อีนี่! ก็ทีมกูถอด กูก็ต้องถอดสิ!”



พี่แมนเถียงอย่างหัวเสีย คดีเก่ามันยังไม่ได้รับอภัยโทษ มึงจะก่อคดีใหม่อีกแล้วเรอะ?



“ไม่ให้ถอดนะ เค้าหวง!!”



เอ็มตะโกนลั่นสนาม สรรพชีวิตทุกสิ่งพลันเงียบสนิท เรียกว่าได้ยินกันตั้งแต่สาวๆ ที่มาเชียร์ยันป้าๆ ที่แอโรบิกอยู่ที่ลานใกล้ๆ ทุกคนพุ่งสายตามาที่นักศึกษาชายสองคนที่ยื้อยุดเสื้อนักศึกษากันอยู่ข้างสนามบอล พอรู้ตัวว่าถูกเพ่งเล็งจากทุกสารทิศ พี่แมนก็ก้มหน้าที่แดงเถือกลงกำหมัดไว้ข้างตัวแน่นก่อนจะกระชากตัวปัญหาอย่างไม่ต้องกลัวมันเจ็บไปหาที่เงียบๆ คุยกันสองคน



“มึงพูดแบบนั้นออกไปได้ไง!!”



พี่แมนระเบิดอารมณ์ใส่เอ็มอย่างไม่พอใจสุดขีด



“ก็เค้าไม่อยากให้พี่แมนถอดเสื้อนี่!”



“อีเอ็มมี่...มึงเป็นตุ๊ด มึงอาจจะไม่เคยนะ แต่กูเป็นผู้ชาย! การที่ผู้ชายถอดเสื้อเล่นบอลมันเป็นเรื่องปกติมากๆ นะเว่ย!”



กูเคยเว่ย! แต่กูหวง!!



“ก็เค้า...”



“แล้วไอ้ที่กูเคยสั่งมึงไว้น่ะจำได้ไหม? ถ้ามีใครรู้ว่าเราเป็นอะไรกันเมื่อไร มึงตาย!”



“...............”



เอ็มที่คิดจะพูดแก้ตัวก็เงียบไปพลัน ดวงตาคู่คมมองหน้าคนรักอย่างตัดพ้อและผิดหวัง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังปาดเดียวก็รู้ว่าน้อยใจแค่ไหน



“พี่แมนอายมากเลยเหรอ?”



“............”



กลายเป็นฝ่ายแกนคณะที่ต้องนิ่งอึ้งไปบ้าง น้ำเสียงของอีเอ็มมี่ไม่ได้เจือซึ่งความโกรธ ไม่ได้มีวี่แววของอารมณ์งอนง้อ แต่เขารู้ว่ามันกำลังเสียใจ เสียใจที่เขาไม่กล้าปริปากบอกความสัมพันธ์นี้ให้ใครได้รับรู้



“อีเอ็มมี่...กู...”



“ผมเข้าใจพี่แมนนะ...”



“อีเอ็มมี่...”



“ผมไม่ได้อยากประกาศให้ใครต่อใครรู้ ผมไม่ได้ต้องการแบบนั้น แต่บางทีก็อยากเดินจับมือพี่แมนบ้าง อยากนั่งกินข้าวด้วยกันในมหาลัยบ้าง อยากแสดงความเป็นเจ้าของบ้าง...อย่างตอนเนี้ย”



“..............”



แกนคณะคนเก่งหลบสายตา ทว่ามืออบอุ่นที่ยื่นเข้ามาเกาะกุมไหล่ไว้ก็ดึงการมองเห็นของเขากลับไปที่ใบหน้าของเมียรักอีกครั้ง



“อาจไม่ใช่วันนี้ พรุ่งนี้ แต่มันจะมีวันนั้นใช่ไหม?”



“..............”



พี่แมนถูกดึงดูดไว้ด้วยใบหน้านั้นอย่างไม่อาจหลบสายตาได้อีก เขาให้คำตอบคนที่เขารักไม่ได้ ให้คำยืนยันหรือแม้แต่การพยักหน้ารับคำก็ทำไมได้ สิ่งที่เขาทำได้ก็แค่เพียงดึงตัวคนสูงกว่าเข้ามากอดปลอบไว้โดยไร้เสียงประโลมเท่านั้นเอง



“กู....”



พี่แมนพูดได้เพียงเท่านั้น ก่อนจะรับรู้ได้ถึงแรงโอบบางๆ ตอบกลับมาจากคนในอ้อมกอด



“ไม่เป็นไรนะ...ผมจะรอ”



และด้วยคำพูดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงใจแบบนั้น ไม่รู้ทำไม…แต่พี่แมนก็ต้องกะพริบตาถี่ๆ ไล่ความร้อนผ่าวที่มาเกาะพราวรอบกระบอกตาให้จางหายไป







โปรดติดตามแอ๊บต่อไป


หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 18: ไม่ได้มีแค่ ท. ทหารที่อดทน (20/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 20-09-2017 20:03:24
 :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 18: ไม่ได้มีแค่ ท. ทหารที่อดทน (20/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 20-09-2017 20:42:49
เอ็มมี่ผ่านขั้นนั้นมากแล้ว ถึก ทน ทาน ฮ่าๆๆๆๆๆ
ให้เวบาพี่แมนหน่อย
รอออออ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 18: ไม่ได้มีแค่ ท. ทหารที่อดทน (20/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 20-09-2017 21:10:27
เอ็มมี่ สตรองมากค่ะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 18: ไม่ได้มีแค่ ท. ทหารที่อดทน (20/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: MayuYume ที่ 20-09-2017 21:25:02
จะบอกว่าเศร้าหรือไงดี  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 18: ไม่ได้มีแค่ ท. ทหารที่อดทน (20/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 20-09-2017 22:07:24
เอ็มสู้ๆ อิเอ็มนี่มันเหล็กชัดๆ 
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 18: ไม่ได้มีแค่ ท. ทหารที่อดทน (20/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 26-09-2017 18:53:17
มายังน่ะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 18: ไม่ได้มีแค่ ท. ทหารที่อดทน (20/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-09-2017 19:45:44
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 18: ไม่ได้มีแค่ ท. ทหารที่อดทน (20/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 27-09-2017 12:56:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 18: ไม่ได้มีแค่ ท. ทหารที่อดทน (20/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 27-09-2017 16:01:01
สงสารเอ็มมี่เหมือนกันนะ เป็นกระสอบทรายเคลื่อนที่
ทนไทนมือดีจริงๆ55555555555
คราวนี้จะง้อเมียรักยังไงดีอะพี่แมน
ปล้ำเมียดีไหม เมียมันชอบ555
ถ้าความแตกนี่เรื่องจะเป็นไงน้า
แต่หวังว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 18: ไม่ได้มีแค่ ท. ทหารที่อดทน (20/09/17) p.4
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 28-09-2017 17:23:32
แอ๊บที่ 19: ก็อย่ามาจิ๊จ๊ะให้มันมากไป



“มึง...พี่แมนเขายังไม่ยอมให้มึงกลับไปนอนที่ห้องอีกเหรอ?”



นักศึกษาเอกดนตรีเงยหน้าขึ้นมาจากกีตาร์ที่กำลังฝึกซ้อมอยู่มองเพื่อนสาวคนพี่ที่ถามขึ้น ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างเนือยๆ จริงๆ ก็ไม่รู้หรอกว่าเขายอมให้กลับไปนอนหรือยัง? แต่สืบเนื่องจากสถานการณ์เมื่อเย็น...ยังไงคืนนี้แยกกันอีกสักคืนจะดีกว่า



หลังจากพี่แมนดึงเขามากอดเมื่อตอนเย็น เจ้าตัวก็ไม่พูดอะไรอีกเลย รวมทั้งไม่ยอมลงไปเตะบอลกับแก๊งค์เพื่อนๆ อีก ได้แต่นั่งดูอยู่ข้างสนามอย่างเหม่อๆ จนกระทั่งพี่ๆ ทั้งแก๊งค์เขาต้องกลับไปทำงานกันต่อนั่นแหละ ทั้งสามคนจึงได้กลับหอมาก่อน



“อย่าคิดมากเลยมึง...นะ”



แฝดคนน้องเดินเข้ามาโอบไหล่เพื่อแล้วโยกตัวปลอบเหมือนคุณแม่ คนถูกปลอบหัวเราะหึๆ ก่อนจะพยักหน้ารับอีกครั้งเบาๆ แล้วปล่อยให้สองสาวเขาดูรายการเชฟกระทะเหล็กกันต่อ ในขณะที่ตัวเองก็เกาคอร์ดกันเหงามือต่อไป



<RRRRrrrrr>



เอ็มหยิบไอโฟนขึ้นมาดูสายเข้าและก็รู้สึกดีใจวูบขึ้นมาทันที มองเวลาแล้วพี่เขาคงเพิ่งกลับถึงหอ



“ฮัลโหล”



‘อืม...ทำไรอยู่?’



“ซ้อมกีตาร์ครับ...พี่แมนอาบน้ำยัง?”



‘ยัง’



เอ็มทำหน้ายู่ทั้งที่ปลายสายมองไม่เห็น



“ซกมกจัง อาบน้ำซะสิครับ”



‘ยังไม่ถึงหอเลย’



เอ็มเลิกคิ้ว ทำสีหน้าแปลกใจ



“อยู่ไหนแล้วครับ?”



‘...........’



“พี่แมน?”



‘อยู่ใต้หอมึง’



“ห๊ะ?”



คนป่วยผุดลุกขึ้นอย่างตกใจ จนสองสาวที่กำลังดูเชฟในทีวีเลาะเนื้อจระเข้อยู่ต้องเบนความสนใจมามอง



‘กูมารับ...กลับห้องกันนะ’



พอได้ยินดังนั้น เอ็มก็รับคำแล้วเก็บของเท่าที่จำเป็นวิ่งลงมาข้างล่างทันที ไฟด้านล่างของหอเพื่อนหญิงเปิดสว่างไสวไม่ได้น่ากลัว แต่ก็เงียบมากเพราะเวลานี้คนก็อยู่ในหอ หรือไม่ก็ยังไม่กลับจากแหล่งอโคจรแถวนี้กัน คนตัวบางยืนพิงฟีโน่คันโปรดอยู่หน้ามินิมาร์ท พอเห็นหน้าคุณแฟนก็ก้าวขึ้นรถสตาร์ทเครื่องรอให้อีกฝ่ายมาซ้อนอย่างรู้งาน



แกนคณะฯบิดฟีโน่ออกจากหอเพื่อนหญิงไปเงียบๆ ไม่ได้มีคำพูดอะไรให้เมียรักจวบจนถึงห้องหอของตนเอง พี่แมนเดินนำอีเอ็มมี่เข้าลิฟต์ขึ้นสู่ชั้นเจ็ดอันเป็นที่พำนักได้โดยสวัสดิภาพ พอเข้ามาถึงพี่แมนก็เข้าห้องน้ำชำระร่างกายแล้วออกมามองกะเทยร่วมห้องที่ปูที่นอนบนพื้นเตรียมตัวนอน



“มึง...นอนพื้นไม่ปวดหลังเหรอ?”



เอ็มทำหน้าไม่เข้าใจ ถ้าจำไม่ผิดคุณพี่เป็นคนไล่กระผมลงมานอนเองนะครับ?



“ก็มีบ้างอ่ะ”



“เหรอ?”



พี่แมนรับคำเสียงเรียบๆ เอ็มก็เลยล้มตัวลงนอนไม่ได้นึกเอะใจอะไร พอหลับตาไปได้สักพักใหญ่เห็นไฟยังไม่ปิดก็เลยลืมตาขึ้นอีกครั้ง จึงได้เห็นเจ้าของห้องนั่งห้อยขาอยู่บนเตียง ดวงตากลมโตจับจ้องมาทางเขา ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูด ยิ่งพอเห็นเขาลุกขึ้นนั่งก็ทำสีหน้าเหมือนดีใจอะไรสักอย่าง



เอ็มล้มตัวลงนอนโดยที่ยังไม่ละสายตาไปจากหน้าพี่แมน เจ้าตัวทำสีหน้าเหมือนเสียดายนิดๆ พอเอ็มลุกขึ้นนั่งอีกหน พี่แมนก็ทำตาเป็นประกายจนน่าขย้ำ



กูว่ากูรู้ละ...



“พี่แมน...นอนด้วยได้ไหมอ่ะ?”



คนถูกร้องขอทำหน้าเหมือนกลั้นยิ้ม



“ก็เอาสิ”



พอได้ดั่งใจ พี่แมนก็ล้มตัวนอนชิดริมหนึ่งของเตียงแคบๆ เหลือที่ไว้ให้อีกคนมานอนด้วย เสียงสวิตซ์ไฟปิดลงตามด้วยสัมผัสยวบลงของพื้นที่ข้างเคียง คนนอนก่อนหลับตารออยู่พักใหญ่ ไอ้คนข้างตัวก็นิ่งไปเสียเฉยๆ แกนคณะคนดีเลยต้องชะโงกหน้ามามองเมียรักที่หลับไปโดยไม่มีสัญญาณใดๆ อีก



พี่แมนจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ ก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง นอนเตียงเดียวกันแท้ๆ หันหลังให้กันแบบนี้หมายความว่าไงวะ? หน้าสวยๆ ยู่ลงอย่างขุ่นข้อง เหลียวหน้ามองอีกครั้งก็ไม่เห็นว่าเมียรักจะมีทีท่าอยากจะเข้ามาคลอเคลียเหมือนทุกที



“...............”



“หือ?”



เอ็มที่เคลิ้มใกล้หลับสะดุ้งเบาๆ เมื่อวงแขนเล็กๆ ของอีกคนบนเตียงวาดโอบเอวหนาไว้ ใบหน้าของแกนคณะจอมโหดซุกซบอยู่กับแผ่นหลังกว้างของคุณแฟน เอ็มนอนนิ่งปล่อยให้คนข้างกายซบอยู่พักใหญ่ก่อนจะถอนหายใจแล้วลุกขึ้นเปิดโคมไฟที่หัวเตียง



“พี่แมน...”



คนถูกเรียกลุกขึ้นนั่งบนเตียง ก้มหน้านิ่ง หลุบสายตาลงต่ำไม่ยอมเงยขึ้นมองคนเรียก



“คิดมากเหรอ?”



พี่แมนส่ายหัวตอบ แต่ยังคงก้มหน้าอยู่อย่างนั้น เอ็มเลยสรุปเอาเองในใจว่าคำตอบคือใช่นั่นแหละ



“กู...กลัวมึงคิดมาก”



“..............”



แกนคณะคว้ามืออีกฝ่ายไปคลึงเล่นเหมือนพยายามเบี่ยงจุดสนใจหรือทำอะไรสักอย่างเพื่อให้หลุดพ้นจากบรรยากาศเงียบๆ ที่พุ่งตรงมาหาแต่ตัวเอง



“มึงรู้ใช่เปล่าว่ากู...รักมึงอ่ะ”



แม้สามคำหลังจะเบาไปหน่อยแต่มันชัดเจนมากในห้องที่เงียบขนาดนี้ เอ็มผุดยิ้มบางๆ เพราะไม่บ่อยนักที่จะได้ยินคำบอกรักจากพี่แมน



“รู้ครับ...รักพี่แมนเหมือนกัน ที่ผมถามพี่แมนว่าอายไหม? ผมไม่ได้น้อยใจ...จริงๆ ก็นิดหน่อยนั่นแหละ แต่ผมเป็นห่วงความรู้สึกพี่แมนมากกว่านะครับ รู้ไหม?”



หัวกลมๆ ส่ายไปมาจนยุ่งเหยิง ดูแล้วน่ารักดีแต่ก็น่าตีไม่หยอก



“มึงอย่าน้อยใจสิ”



เสียงนั้นแข็งเกินกว่าจะเรียกว่าขอร้อง แต่ก็อ่อนเกินกว่าจะเรียกว่าคำสั่ง



“...ห้ามได้ด้วยเหรอครับ?”



ดวงตากลมโตที่ถอดคอนแทคเลนส์แล้วเงยมองหน้าเมียรักเป็นครั้งแรกเมื่อได้ยินคำพูดไม่เข้าหู แก้มป่องๆ แบบนั้นมันน่าหอมซ้ายหอมขวาให้ช้ำนักเชียว



“ผมดีใจนะที่พี่แมนเป็นห่วงความรู้สึกผมอ่ะ...แต่ก็ไม่อยากให้พี่แมนคิดมากนะ ผมบอกแล้วว่ารอได้ ก็หมายความตามนั้นจริงๆ”



พอพูดเสียงอ่อนโยนด้วยหน่อย แกนคณะในร่างแมวเหมียวก็กลับไปก้มหน้าเล่นมือคนอื่นอีกรอบ เห็นแบบนั้นแล้วมันอดวางมือบนหัวกลมๆ แล้วขยี้ไปมาเบาๆ เหมือนปลอบเด็กไม่ได้จริงๆ



“ลามปาม”



พี่แมนปัดมือออก ว่ากล่าวด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก แต่ก็มิวายทั้งเกาทั้งคลึงมือคนอื่นเขาต่อไปโดยไม่คิดจะปล่อยให้เจ้าของเขาได้ปลีกตัวไปนอน



“พี่แมน...”



“หือ?”



“ง่วงยัง?”



“อื้ม”



อื้ม...แต่ก็ไม่ปล่อย



“พี่แมน...อยากจูบอ่ะ”



มือที่เขี่ยคลึงอยู่เมื่อครู่ชะงักกึก คนตัวบางเงยหน้ามองเมียรักอย่างหวาดระแวง



“นะ?”



มึงอย่าอ้อนด้วยตาลูกหมาแบบนั้นเสะ!



เอ็มถือว่าขออนุญาตแล้วยังไม่โดนเตะกลิ้งลงไปกองกับพื้นก็แปลว่าสามารถทำได้ เพราะจะให้พี่แมนเอ่ยปากตรงๆ ว่า ‘เอาเลย กูอนุญาต’ เห็นทีชาตินี้คงจะไม่ได้ทำในสิ่งที่อยาก...



“จูบนะ?”



มิวายย้ำอีกทีเพื่อความแน่ใจในสวัสดิภาพ เวลาขัดใจพี่แมนโมโหร้ายแรงแค่ไหน เฝือกที่คอนี่ก็เป็นหลักฐานชั้นดี



“จิ๊...ถามมากว่ะ”



แปลสารนั้นได้อีกทีว่า ‘เออ...อนุญาต!’ กะเทยเสิ่นเจิ้นเลยได้รางวัลค่าน้อยใจเป็นจูบนิ่มๆ หวานๆ จากท่านแกนคณะ ยิ่งพี่แมนเงยหน้าหลับตาพริ้มไม่ท้วงติง รสชาติละมุนติดปลายลิ้นมันก็ยิ่งหวานซ่านจนหยุดไม่ได้ ปลายลิ้นชื้นเกี่ยวกระหวัดรัดพันกันไปมาอย่างสัมพันธ์ กว่าความหวามไหวจะดำเนินมาสู่จุดยุติได้ก็เล่นเอาหอบหายใจกันไปทั้งคู่



“อืม...”



“พี่แมน...อยากทำอ่ะ”



“ไม่ได้!”




คราวนี้พี่แมนปฏิเสธทันควัน คนที่แอบหวังอยู่นิดๆ ก็หน้าม่อยทันตา



“...อึดอัดอ่ะ”



พี่แมนมองต่ำลงไปสู่จุดอึดอัดที่เมียรักว่า ก่อนจะรีบหันหน้าหนีเกี่ยวผมตัวเองทัดหูเผยแก้มแดงเรื่อเหมือนสีมะเขือเทศ



“ไปทำในห้องน้ำไป”



คนหน้าบางเอ่ยปากไล่



“พี่แมนอ่า...จะไม่ให้จริงๆ เหรอ? ไม่สงสารเค้าเหรอ?”



“จิ๊...พรุ่งนี้กูมีเรียนนะ”



“งั้นคืนวันศุกร์ได้ใช่ป่ะล่ะ?”



คนป่วยต่อรอง



“เสาร์อาทิตย์กูทำละคร”



“งั้น 7 วันก็ทำไม่ได้เลยอ่ะดิ!”



เอ็มทำเสียงเหวี่ยง หน้างอง้ำเป็นม้าหมากรุกโดนตื้บ



“จิ๊...ก็บอกว่าละครจบก่อนไง!”



ไม่รู้ว่าวันนี้พี่แมนจิ๊ปากไปกี่ครั้งแล้ว แต่ถือว่าครั้งนี้เอ็มได้กำไรสุด ตุ๊ดจอมปลอมทำตาวาว ยิ้มกว้างปากแทบถึงไส้ติ่งอย่างมีความหวัง



“จริงนะ? หมดละครแล้วทำได้จริงนะ?”



“ฮื่อออออ”



แกนคณะโยกตัวหลบอาการเซ้าซี้พร้อมทำเสียงให้รู้ว่ากูรำคาญ



“สัญญาก่อนเร็ว”



“เซ้าซี้ว่ะ เข้าห้องน้ำไปเอาลูกมึงออกได้แล้วไป กูง่วง!!”



พูดจบ พี่แมนก็ล้มตัวนอนห่มผ้าแทบมิดเป็นสัญญาณว่าไม่ต้องรับรู้สรรพเสียงเซ้าซี้ใดๆ อีก แต่ถึงอย่างนั้นก็มิอาจบั่นทอนความร่าเริงของเอ็มที่ลุกขึ้นไปเขียนรูปหัวใจสีแดงแบบเด่นๆ เน้นๆ บนปฏิทินในวันสุดท้ายของการแสดงละครเวทีสถาปัตย์เพื่อเตือนตาเตือนใจทั้งตัวเองและคนร่วมห้อง ก่อนจะเข้าไปปฏิบัติกิจผ่อนคลายความอึดอัดอยู่ครู่ใหญ่ แล้วค่อยกลับออกมาล้มตัวนอนลงบนเตียงเคียงข้างใครอีกคนที่คงหลับไปก่อนแล้ว



จุ๊บ!



“ฝันดีนะครับ...สุดโหดของผม”



เอ็มเก็บกำไรสุดท้ายของคืนนี้ก่อนจะสวมกอดเอวบางไว้จากทางด้านหลังอย่างแนบชิด แล้วผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากเลยเวลานอนของตัวเองมามากแล้ว แต่ก่อนที่การรับรู้จะหมดไป...เขาก็ยังได้ยินเสียงส่งเข้านอนจากคนในอ้อมได้อย่างชัดเจนแม้มันจะแผ่วเบา



“ฝันดีเหมือนกัน...อีหื่นของกู”







โปรดติดตามแอ๊บต่อไป






หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 19: ก็อย่ามาจิ๊จ๊ะให้มันมากไป (28/09/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-09-2017 18:18:55
 :impress2:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 19: ก็อย่ามาจิ๊จ๊ะให้มันมากไป (28/09/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 28-09-2017 18:40:46
อ๊ากกกกก ตอนนี้พี่แมนน่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 19: ก็อย่ามาจิ๊จ๊ะให้มันมากไป (28/09/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 28-09-2017 18:58:13
โอ๊ยฟินเบาๆๆๆกับความเขินอายของพี่แมน ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
เอ็มมี่หลังละครจบเตรียมตัวให้พร้อมน่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 19: ก็อย่ามาจิ๊จ๊ะให้มันมากไป (28/09/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-09-2017 19:49:35
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 19: ก็อย่ามาจิ๊จ๊ะให้มันมากไป (28/09/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 28-09-2017 21:04:56
 :m20:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 19: ก็อย่ามาจิ๊จ๊ะให้มันมากไป (28/09/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 28-09-2017 22:28:57
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 19: ก็อย่ามาจิ๊จ๊ะให้มันมากไป (28/09/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 28-09-2017 22:58:44
น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 19: ก็อย่ามาจิ๊จ๊ะให้มันมากไป (28/09/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 04-10-2017 21:50:38
แอ๊บที่ 20: อย่าลามปามเมียพี่



“อีเอ็มมี่”



พี่แมนที่ยืนพิงกรอบระเบียงกระจกเอ่ยเรียกเมียรักที่ยืนล้างจานอยู่หน้าอ่างหลังจากเสร็จสิ้นมื้อเช้าในวันเสาร์แล้ว เอ็มเหลือบมองคุณแฟนพลางล้างฟองออกจากจานใบสุดท้ายแล้วหันมายิ้มแฉ่งให้



“ครับ?”



“ทำไมมึงปล่อยให้หนวดเคราเป็นตอแบบนั้นอ่ะ? เป็นตุ๊ดเป็นนางทำไมไม่รู้จักดูแลตัวเอง?”



พี่แมนพูดเสียงไม่พอใจ มองไรหนวดเขียวๆ เสริมความเถื่อนบนหน้าเมียรักแล้วส่ายหัว ฝ่ายตุ๊ดจีนแดงที่เอาเฝือกที่คอออกเรียบร้อยแล้วก็ลูบตอหนวดของตัวเองสำรวจสภาพหน้า



“ทำไมอ่ะ? ถ้าหน้าไม่สวยแล้วพี่แมนจะไม่รักเหรอ?”



เมียตุ๊ดแกล้งกระเซ้า พี่แมนเลยทำหน้าเหมือนเหม็นอ้วกหมาใส่



“โถ...แม่นางงามทุเรียนชะนี 3 ปีซ้อน ทุกวันนี้นี่สวยจนกูรักกูหลงเลยสินะ?”



เอ็มแสร้งทำปากยู่เง้างอดกับคำสรรเสริญของคุณแฟน พี่แมนที่เหลือบมองนาฬิกาแล้วยังเหลือเวลาอีกนิดหน่อยก่อนจะต้องออกไปประชุมละครเวที ก็เดินเข้าห้องน้ำไปหยิบอุปกรณ์โกนหนวดทั้งหลายแหล่แล้วกวักมือเรียกเมียรักตามมาที่ระเบียงห้อง แกนคณะจอมโหดคว้าเก้าอี้ซักผ้ามานั่งแล้วตบตรงพื้นกลางหว่างขาตัวเอง



“มานั่งนี่”



เอ็มรีบถอดผ้ากันเปื้อนลายคิตตี้สีชมพูแขวนไว้แล้วตามมานั่งที่พื้นหันหลังให้พี่แมน เงยหัวแหมะไว้บนพุงฟิตๆ ของท่านแกนพลางมองใบหน้าน่ารักหาใดเกินของคุณแฟนไปด้วย อา...สาบานได้ว่าทุกคนในโลกต้องอิจฉากูคนนี้...โพสิชั่นฟินที่สุดในโลกละ! ว่าแล้วก็เอาแก้มแนบขาอ่อนที่โผล่พ้นกางเกงบอลย้วยๆ อย่างเนียนๆ



“อีหื่น!...เล็กน้อยก็เอานะมึงอ่ะ”



“โอกาสดีไม่ได้มีมาบ่อยๆ นี่”



“ยังจะเถียง...ชาติที่แล้วกูต้องทำบาปทำกรรมไว้หนักแน่ๆ ชาตินี้ถึงได้ต้องเกิดมาเป็นผัวมึงเนี่ย”



บ่นไป พี่ท่านก็จับล็อกหน้าเมียรักให้เงยขึ้นแล้วป้ายโฟมลงไปทั่วๆ ก่อนจะลงมือโกนปื้ดอย่างชำนาญ โกนไปก็ต้องคอยดุอีเมียรักไป เพราะพอเผลอมันก็ลวนลามลูบขาลูบแข้งไปตามประสาตุ๊ดหื่น ต้องขู่ว่าจะเอามีดโกนเฉือนปากมันนั่นแหละถึงยอมหยุด



“เสร็จแล้ว ลุกดิ”



“ไม่อยากลุกเลยอ่า”



เอ็มบอกเสียงอ้อน กางแขนสองข้างหนีบขาพี่แมนแนบเข้าหาตัว ฝ่ายพี่แมนก็ก้มมองเมียรักพลางหัวเราะหึหึ จะว่าเอ็นดูก็ไม่เชิง



“อย่าง๊องแง๊ง ลุกเร็ว”



“ม่ายยลุก”



“ลุก!”



“จุ๊บก่อน แล้วจะลุก”



เอ็มยิ้มเผล่ ส่วนพี่แมนถอนใจเฮือก ทำไมมันหัวไวแต่เรื่องแบบนี้วะ?



“จุ๊บเร็ว จุ๊บเร็ว”



กลายเป็นเอ็มที่เป็นฝ่ายเร่งเร้า พี่แมนเบ้ปากเบื่อหน่าย แต่ก็มองซ้ายมองขวาไปทางระเบียงห้องข้างๆ ว่าจะไม่มีใครโผล่ออกมาตอนนี้ ก่อนจะก้มลงจุ๊บปากเมียรักที่นั่งพิงพุงตัวเองดังจ๊วบด้วยแก้มสีแดงเรื่อ



“ฮิฮิ”



“หัวเราะน่าเกลียดว่ะ ลุกได้แล้ว!”



พอทั้งผลักทั้งไสเมียรักออกไปจนพ้นตัว พี่แมนก็ลุกขึ้นเดินกลับเข้ามาในบ้าน แต่มิวายที่ตุ๊ดเถื่อนจะตามเข้ามาโอบรั้งเอวจากด้านหลังแล้วหอมแก้มนิ่มหนักๆ อีกที



“ขอบคุณนะครับ...รักพี่แมนนะ”



“อืม...มึงไม่น้อยใจกูแล้วใช่ไหม?”



เอ็มยิ้มเฝื่อนๆ ก่อนจะคว้ามือพี่แมนมากดจูบอย่างแสนรัก



“ไม่หรอกครับ...แค่พี่แมนไม่ทิ้งผมก็พอ”



พี่แมนมองใบหน้าเหมือนจำยอมรับสภาพของคนรักแล้วก็หน้าเสียไปเล็กน้อยก่อนจะรีบปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ



“กูทิ้งมึงไม่ได้หรอกน่า...”



“รักผมมากเลยใช่ม้า?”



“เปล่า..”



พี่แมนส่ายหัวทำหน้าอินโนเซนต์



“กูสงสารคนอื่นที่ต้องมารับภาระแทนกูอ่ะ”



“ง่ะ!”



คนหน้าสวยหัวเราะหึหึที่ได้บลัฟเมียได้ก่อนจะเข้าห้องน้ำอาบน้ำชำระร่างกายเตรียมพร้อมจะสู้รบกับกิจกรรมที่ทำอยู่ต่อไป โดยไม่ลืมจะเก็บเอาความรู้สึกของเมียรักไปคิดทบทวนอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง



.

.

.



“กูว่านางเอกมึงเรื่องมากเกินไปไหมเนี่ย ไอ้เหี้ยโฟน? เล่นละครทะเลทรายเสือกจะถือหลุยส์ขึ้นเวทีเนี่ยนะ?”



“โห่...มันเพิ่งซื้อมาใหม่มันก็เห่อไงพี่ มันคงไม่บ้าถือขึ้นเวทีวันจริงหรอก”



ไอ้น้องโฟน แกนคณะปี 3 พยายามเกลี้ยกล่อมแกนคณะรุ่นพี่ไม่ให้ปรี๊ดแตกไปมากกว่านี้ นี่พวกเขาก็ประชุมกันมาตั้งแต่สิบโมงเช้ายันบ่ายสามก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด นักแสดงแต่ละคนก็เยอะกันทั้งนั้น...พี่แมนไม่โมโหหิวไล่กระทืบทีละคนก็ดีเท่าไหร่แล้ว



<RRrrrrrr>



“ไอ้แมน...โทสับมึงอ่ะ!”



“รับแทนกูเลย”



พี่แมนตะโกนบอกสมุนฝ่ายซ้ายแล้วสุมหัวกลับไปปรึกษางานกับแก๊งค์แกนนำต่อ พี่เงิบเลยต้องรับหน้าที่แทนโดยจำเป็น และคนที่โทรหาพี่แมนยามบ่ายแก่แบบนี้ก็มิใช่ใครนอกจากอีเมียหื่นของพี่ท่านนั่นเอง



“ฮัลโหล”



‘อ้าว? ผมโทรผิดเหรอ?’



กะเทยเทียมถามอย่างงุนงงเมื่อเสียที่ได้ยินผิดแปลกไป



“ไม่ผิด แต่ไอ้แมนไม่ว่าง”



‘เหรอ? งานยุ่งมากเลยเหรอพี่เงิบ?’



เอ็มถามเพื่อนสามีที่ควบตำแหน่งสามีเพื่อนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง



“เออ...ไอ้แมนจะแดกหัวนางเอกอยู่แล้วเนี่ย”



พี่เงิบตอบกลั้วหัวเราะ มองอีนางเอกที่เดินกระฟัดกระเฟียดเข้ามาวีนใส่เพื่อนเขาอย่างไม่กลัวตายแล้วก็ได้แต่สมเพช กูว่าเดี๋ยวแม่งได้มีเปลี่ยนตัวนางเอกแน่ๆ อ่ะ



‘แล้วพี่แมนกินข้าวกลางวันยังอ่ะ?’




“ยังว่ะ...ไอ้แมนแม่งบ้างานอ่ะ กูยังหิวแทนเลยเนี่ย”



‘...พี่เงิบไล่พี่แมนไปกินข้าวดิ’



“เชื่อกูก็ไม่ใช่ไอ้แมนแล้วดิ มึงอยากให้มันกินก็มาป้อนมันเองแล้วกัน แค่นี้นะ กูไปเพนท์ฉากต่อละ”



พี่เงิบตัดบทไปด้วยความรำคาญ ก่อนจะหนีไปเพนท์ฉากละครเวทีต่อดังว่า โดยหารู้ไม่ว่าคนที่ว่างงานอยู่ที่หอมันจะสวมวิญญาณแม่บ้านทำข้าวกล่องร้อนๆ มาเสิร์ฟให้คุณแฟนถึงที่คณะเสียจริงๆ



“พี่เงิบ~”



“ใครเรียกกูวะ?”



“พี่เงิบ...ทางนี้!”



ชายหนุ่มที่นั่งเพนท์ฉากอยู่คนเดียวหันหาเสียงจนเจอใบหน้าคุ้นตาของเพื่อนเมียแอบอยู่มุมเสา พี่เงิบอุทานดังเห้ย! เมียไอ้แมนนี่กล้าเสี่ยงตายยิ่งนัก มาเหยียบคณะสถาปัตย์ที่ซึ่งวันนี้แกนคณะอยู่กันครบยกเว้นปี 5 นี่สงสัยมันจะไม่กลัวตายจริงๆ



“มึงมาทำอะไรที่นี่?!!”



“เอาข้าวมาให้พี่แมนอ่ะ”



เอ็มรีบยื่นกล่องข้าวให้รุ่นพี่พลางชะโงกมองไปข้างในเผื่อจะเห็นหน้าคนที่อยากเจอ แต่ในใจก็แอบหวั่นไม่น้อยเพราะขนาดโรงอาหารยังไปกินข้าวไม่ได้ นับประสาอะไรกับตึกคณะ!

 

“มึงรีบไปเหอะ เดี๋ยวมีคนมาเห็นเข้า”



“ครับๆ”



เอ็มรับคำอย่างว่าง่าย พลางจะหมุนตัวกลับ แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันชงของตุ๊ดเสิ่นเจิ้นโดยแท้



“มาเหยียบถิ่นพี่แล้วจะหนีกลับบ้านง่ายๆ เหรอครับน้อง?”



เอ็มเบิกตาโพลง ส่วนพี่เงิบก็รีบซ่อนกล่องข้าวโดยไว เมื่อทั้งคู่ได้ยินเสียงไอ้โฟน แกนคณะปีสามผู้เจริญรอยตามทายาทอสูรได้อย่างดีไม่มีผิดเพี้ยน มันเดินมาพร้อมลูกสมุนซ้ายขวาแล้วเรียกรั้งตุ๊ดจำเป็นไว้ไม่ให้เดินหนี



“ไอ้โฟน...อย่ามีเรื่องเลยวะ งานพวกเราก็เยอะอยู่แล้ว”



คนเป็นรุ่นพี่พยายามห้าม แต่ดูเหมือนพ่อแกนคณะเลือดร้อนไม่ได้คิดจะฟัง



“ไม่สั่งสอนบ้างไม่ได้มั้งพี่ เป็นตุ๊ด...กล้ามาเหยียบให้เป็นเสนียดคณะกูแบบนี้ มึงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม? ห๊ะ?!”



“คนจริงเขาไม่เห่ากันนะครับพี่โฟน”



แกนฯ ปี 3 ได้ยินอย่างนั้นก็แทบพุ่งเข้าใส่ ดีที่พี่เงิบคว้าตัวไว้ได้ทันก่อนที่จะชกอีเอ็มมี่หน้าหันไปเสียก่อน ถึงไอ้โฟนจะไม่ได้โหดเท่าไอ้แมน แต่ดีกรีความหนักของมือของตีนนี่ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันสักเท่าไหร่ ฝ่ายเอ็มก็เชิดหน้าไม่ยอมแพ้ ไม่ใช่ผัวกูอย่าคิดว่ากูจะยอมให้นะครับ...บอกไว้ก่อน!



“พี่เงิบ ปล่อยผมดิ้!”



“มึงใจเย็นดิ ไอ้โฟน!”



“ไม่เย็นแล้ว พวกมึงล็อกพี่เงิบไว้ดิ๊!”



สองสมุนของแกนฯ ปี3 ดึงตัวพี่เงิบไปล็อกไว้คนละข้าง พอหลุดจากรุ่นพี่ได้ หมัดลุ่นๆ ก็ซัดผัวะเข้าที่แก้มตุ๊ดเถื่อนลงไปกองกับพื้นอย่างง่ายดาย ไอ้โฟนตามไปนั่งคร่อมไว้กระชากเสื้อคู่ต่อสู้ขึ้นมาด้วยโทสะก่อนจะเงื้อหมัดกะซ้ำอีกซักหลายๆ รอบ แต่ถูกรั้งไว้ด้วยมือที่เปี่ยมด้วยพละกำลังของใครอีกคนเสียก่อน



“พี่แมน?”



“ลุกขึ้น...”



“กะอีแค่ตุ๊ดปีหนึ่งไม่ต้องให้ถึงมือพี่แมนหรอกครับ ผมจัดการเองได้”



โฟนบอกอย่างนั้น พร้อมขืนข้อมือให้หลุดจากรุ่นพี่แต่แกนปี 4 ก็ไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น



“กูบอกให้ลุกขึ้น!!”



เสียงตวาดลั่นคอมมอนคณะทำให้ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นกลั้นหายใจพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย โฟนที่เห็นสีหน้าเหมือนจะฆ่าคนได้ของรุ่นพี่ก็รีบผละออกจากร่างกะเทยเฟรชชี่ที่มุมปากเลือดอาบ พี่แมนกระชากแขนคนเจ็บให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะถามเสียงเข้ม



“มึงมาทำอะไรที่นี่?”



“..............”



เอ็มไม่ตอบ ใครจะกล้าพูดให้เด็ก’ถาปัตย์ที่เริ่มมามุงดูรู้ว่าเขามาส่งข้าวส่งน้ำให้ด้วยความเป็นห่วง



“พี่แมนไม่ต้องเสียเวลาเสวนากับมันหรอก พวกตุ๊ดน่ะมันมนุษย์ชั้นต่ำ สั่งสอนให้มันรู้ที่ทางของตัวเองแล้วไล่กลับไปก็พอ"



“เดี๋ยวนี้มึงกล้าสั่งรุ่นพี่แล้วใช่ไหม ไอ้โฟน?”



พี่แมนถามกลับเสียงเหี้ยม จนคนถูกถามต้องก้มหน้ากลืนน้ำลายดังอึ้ก



“อีเอ็มมี่...กูถามว่ามึงมาทำอะไรที่นี่?!”



พี่แมนตะคอกถามเมียรักอีกครั้ง คนถูกดุก้มหน้านิ่งเหมือนเดิม แต่ยิ่งกลับเพิ่มแรงโทสะให้พี่แมนโมโหมากขึ้น



“ตอบ!”



“...ผมเอาข้าว...มาให้พี่แมน”



เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบบริเวณ ทุกคนต่างตกใจเมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่คาดฝัน ฝ่ายพี่แมนที่ได้คำตอบแล้วก็ถอนใจเฮือก ใจหนึ่งก็อยากโกรธที่มันทำอะไรไม่คิด อีกใจหนึ่งก็รู้สึกดีที่มันเป็นห่วงเป็นใยเขาอยู่ตลอดเวลา



“บ้าใหญ่แล้ว...นี่พี่แมนรู้จักมันเหรอ?”



แกนฯ ปี 4 ไม่ยอมตอบ ในขณะที่รุ่นน้องตัวดีอ้าปากค้างเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้



“มีข่าวลือว่าพี่ซุกเมียตุ๊ดไว้ที่หอ...ไม่จริงใช่ไหมพี่?”



คราวนี้เสียงฮือฮาดังขึ้นกว่าเก่า ไอ้โฟนกล้าเค้นคอรุ่นพี่ที่มันเคารพรักด้วยสายตาคาดหวัง พี่แมนจ้องหน้ามันกลับด้วยสีหน้าลำบากใจก่อนจะหลบสายตาหนี สองมือกำแน่นอย่างลังเลและอดทน



“ไม่จริงครับ...เราไม่ได้รู้จักกัน กล่องข้าวนั่น...เพื่อนผู้หญิงผมฝากมา”



พี่แมนเงยหน้ามองคนพูดอย่างไม่เข้าใจ มึงพูดแบบนั้น ยิ้มให้กู ทั้งๆ ที่มึงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ได้ยังไง? ปกป้องกู...ทั้งๆ ที่มึงเป็นฝ่ายเจ็บได้ยังไง?



“กูว่าแล้ว...อย่างพี่แมนเขาไม่มีทางลงไปเกลือกกลั้วกับเผ่าพันธ์น่าขยะแขยงอย่างพวกมึงหรอก!”



มือที่กำหมัดไว้ของพี่แมนกระชับแน่นขึ้นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ พี่แมนก้มหน้าลงต่ำอย่างอดทนพลางลอบมองสีหน้าเมียรักอย่างสงสารและโกรธแทน



“ใช่...อีเอ็มมี่เป็นเมียกู”



คำพูดของแกนคณะผู้เป็นตำนานหยุดทุกการเคลื่อนไหวทุกอย่างโดยรอบ โฟนหันมองรุ่นพี่ตัวเองอย่างแทบไม่เชื่อหู แต่สิ่งที่ปรากฏในดวงตากลมโตทว่าแข็งกร้าวของพี่แมนก็เต็มไปด้วยคราวเกรี้ยวโกรธจนชวนให้ขนลุก



“พี่แมน?”



“คนที่มึงกำลังด่าเหมือนมันไม่ใช่คนอยู่นั่นน่ะ...เมียกู!”



ไอ้โฟนนิ่งอึ้งไป ทุกคนก็เช่นกัน เอ็มเห็นว่าสถานการณ์เหมือนจะเลวร้ายขึ้นจึงทำท่าจะเอ่ยปากแก้ตัว แต่พี่แมนกลับถลึงตาหยุดมันไว้



“ไม่มีทางอ่ะ พี่แมนอย่าล้อเล่นแบบนี้ดิ!”



“มึงไม่เชื่อใช่ไหม? ได้~”



“เห้ย!!”



เด็กสถาปัตย์ทุกผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อุทานเป็นเสียงเดียว เมื่อพี่แมนบีบคางตุ๊ดยักษ์แล้วดึงลงมาบดจูบร้อนแรงดูดดื่มชนิดนักแสดงหนังโป๊ยังต้องอาย ทีแรกเอ็มก็คิดจะขัดขืน...แต่พอถูกบังคับให้รับเรียวลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดชวนวาบหวามแล้วก็ต้องปล่อยเลยตามเลย



“พี่...แมน?”



กว่าจะละออกจากกันได้ ทั้งคู่ก็หอบหายใจแรงอย่างกับไปวิ่งรอบสนามมา พี่แมนยิ้มให้เมียตัวเองแล้วหยิกแก้มขาวเรื่อของมันเบาๆ อย่างเอ็นดู



“พี่แมนบ้าไปแล้วหรือไง?! พี่จำไม่ได้เหรอว่าพวกตุ๊ดทำลายศักดิ์ศรีของท่านรุ่นที่ 1 ไว้ยังไง?! พวกเราเป็นแกนคณะนะพี่! พี่จะให้อีตุ๊ดนี่มาทำลายศักดิ์ศรีของคณะเราอีกคนเหรอ?!”



ไอ้โฟนระเบิดอารมณ์ใส่รุ่นพี่อย่างไม่กลัวเกรงหลังจากกลายเป็นผู้ชมหนังสดระยะประชิดไปหมาดๆ ตอนนี้ความเทิดทูนในตัวรุ่นพี่มันหล่อหลอมความเสียใจและความสับสนให้ตีกันจนพุ่งพล่าน



“กูรู้ และถ้านี่คือสิ่งที่ทุกคนคิดว่ามันผิด ใช่...กูผิด”



“พี่?”



“แต่กูยอมทำผิด นี่เป็นสิ่งที่กูเลือก คนที่กูเลือก กูยังเกลียดตุ๊ดอยู่เหมือนเดิมไม่ต่างจากมึงนั่นแหละ ไอ้โฟน แต่สำหรับอีเอ็มมี่... ถึงมันจะเป็นตุ๊ดที่กูเกลียด กูก็รักของกู



แกนคณะปีสามมองใบหน้าจริงจังของรุ่นพี่ด้วยความผิดหวัง ไอ้โฟนอึดอัดจนแทบอยากร้องไห้ อยากตะโกนออกมาดังๆ หรือไม่ก็ลากอีตุ๊ดต้นเหตุนั่นไปฆ่าทิ้งซะให้รู้แล้วรู้รอด



“กลับกันเถอะมึง”



พี่แมนหันไปบอกแฟนตัวเองที่วันนี้เรียกว่าแฟนได้เต็มปาก แล้วจูงแขนมันเดินฝ่าวงล้อมออกไป แต่แล้วพี่ท่านก็หยุดกึกหันกลับมามองรุ่นน้องตัวเองอีกครั้งด้วยสีหน้าเปี่ยมโทสะ



“แล้วอย่าให้กูได้ยินมึงก้าวร้าวเมียกูอีกนะ คราวนี้เพราะมึงเป็นรุ่นน้อง กูจะปล่อยไป แต่ถ้ามีคราวหน้า กูจะเลาะฟันมึงมาร้อยเป็นพวงมาลัยขอขมาเมียกูให้ดู!”



หลังจากขู่ทิ้งท้าย พี่แมนก็พาอีเอ็มมี่เดินออกจากคณะไปโดยไม่เหลียวมองปฏิกิริยาของใครอีก เพราะเขารู้แล้วว่าถ้าเขายังสนคนทั้งโลก คนที่เขารักก็ต้องทุกข์ กลับกัน...ถ้าเขาสนความรู้สึกของคนที่รัก คนทั้งโลกก็ไม่ได้มาทุกข์ร้อนอะไรกับชีวิตเขาสักเท่าไหร่หรอก อย่างมากก็พูดกันไป พูดมาเข้าหูแล้วไม่โดนกระทืบก็แล้วไปละกัน



“ยิ้มอะไร? ไม่เจ็บปากหรือไง?”



เอ็มส่ายใบหน้าเปื้อนยิ้มปฏิเสธ



“ดีใจครับ”



“อะไร? โดนต่อยแล้วดีใจเหรอ?”



“เปล่าครับ...ดีใจที่ได้จูงมือพี่แมนในมหา’ลัยแล้ว ถึงตอนนี้จะไม่ค่อยมีคนก็เหอะ”



พี่แมนหยุดเดิน หันมามองใบหน้าคนรักให้เต็มตา อีตุ๊ดนี่มันโง่จริงๆ เขาทำเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ให้มันแล้วยังมาดีใจกับเรื่องจุ๋มจิ๋มแบบนี้อยู่อีก



“อีโง่”



พี่แมนดึงตัวเมียรักมากอด เขาต่างหากที่โง่...มันรักเขาขนาดนี้มันยังจะโง่ทำร้ายจิตใจมันอยู่ได้ตั้งนาน



“ขอบคุณมากเลยนะครับ”



เสียงอบอุ่นกระซิบอยู่ข้างหู มันอุ่นมากจริงๆ อุ่นซ่านไปทั้งกายทั้งใจ พี่แมนผละออกจากอ้อมกอดแล้วประคองใบหน้าเมียรักไว้อย่างหวงแหน



“กลับหอแล้วกูจะทำแผลให้นะ”



“ครับ...แถมจูบด้วยนะ?”



พี่แมนหลุดขำ มึงนี่คงคอนเซปป์หื่นได้ทุกสถานการณ์จริงๆ



“อื้ม...”



“พี่แมนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เลยอ่ะ”



“ใครร้อง...อีโง่ ตามึงฝาดแล้ว”



“พี่แมนจะเดินหนีไปไหน เดี๋ยวสิ”



“ตามมาเร็วๆ สิอีโง่ แดดมันร้อนนะ!!”



“หยุดด่าเมียว่าโง่ได้แล้วครับ”



“กูจะด่า”



“พี่แมนอ้า~!”



“.....หึหึ”



แล้วเสียงง๊องแง๊งแบบนั้นก็ดังไปตลอดทางสู่ห้องหอของพี่แมนกับเมียตุ๊ดของพี่ท่านนั่นแหละ...



โปรดติดตามแอ๊บต่อไป




หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 20: อย่าลามปามเมียพี่ (04/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 04-10-2017 22:14:55
พี่แมนนนนน
เริ่มเปิดรับมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
เอมมี่พยายามต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 20: อย่าลามปามเมียพี่ (04/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 04-10-2017 22:22:41
กรี๊ดดด ตอนนี้พี่แมนเอาใจไปค่ะ แมนสมชื่อ มีความผัว มีความปกป้องคนที่รัก  o13
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 20: อย่าลามปามเมียพี่ (04/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-10-2017 23:21:05
 o13 o13 ให้พี่แมนคนจริง
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 20: อย่าลามปามเมียพี่ (04/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-10-2017 00:36:33
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 20: อย่าลามปามเมียพี่ (04/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-10-2017 01:10:57
 :L1: :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 20: อย่าลามปามเมียพี่ (04/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 05-10-2017 08:38:40
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 20: อย่าลามปามเมียพี่ (04/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: A_bookworm ที่ 05-10-2017 11:37:30
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยิ่งอ่านยิ่งน่ารัก ดีต่อใจจริงๆๆ :hao6: :hao6: :hao6: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 20: อย่าลามปามเมียพี่ (04/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 05-10-2017 18:12:32
พี่แมนได้ใจไปเต็มๆ
เมียตุ๊ดของพี่ปลื้มปริ่มอย่างแรง
 :mew1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 20: อย่าลามปามเมียพี่ (04/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 05-10-2017 19:35:49
พี่ได้ใจอ่ะ สุดยอดดดดด ในที่สุดก็เปิดตัวเอ็มมี่เมียรักแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ดีใจอ่ะ งานนี้เมียรักก็ไปเฝ้าผัวทำงานละครได้แล้วอ่ะจิ พี่แมนมีความเป็นผัวมากกกกกแมนมากกกกก ถึงแม้บนเตียงจะมีความยั่วเป็นเมียก็เตอะ แต่เราเอ็นดูพี่แมนเพราะเป็นพี่แมนสายโหดดดดด ฮ่าๆๆๆๆ ชอบพี่แมนตอนไล่กระทืบก่อนเอ็มมี่จะเลือนสถานะเป็นเมีย อิอิ เอ็นดูเอ็มมี่เหมือนกันน่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 20: อย่าลามปามเมียพี่ (04/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 07-10-2017 09:47:47
แอ๊บที่ 21: กระตุกหนวดแกนคณะ



“จะยิ้มให้ปากฉีกถึงคอหอยเลยรึไงคะ คุณเพื่อน?”



น้องเมเม่ว่าพลางสอดส่ายสายตาหาเสื้อผ้าสวยๆ ไปพลาง ตอนนี้พวกเขาสามเพื่อนซี้กำลังเดินเล่นอยู่ที่ตลาดนัดหลังตึกคณะ กะว่าจะหาของกินเล่นด้วย และเสื้อผ้าชุดใหม่ไว้ใส่ไปแรดกับคุณแฟนด้วย



“ก็คนมันมีความสุขนี่หว่า”



คนโดนแขวะตอบเสียงน่าหมั่นไส้ เอ็มนั่งจ้องไอโฟนตัวเองด้วยท่าทางเหมือนเมากัญชามาตั้งแต่เช้า สาเหตุก็ไม่ใช่อะไร เพราะพี่แมนเธอเปลี่ยนสเตตัสโสดของอีตุ๊ดดวงขาขึ้นนี่ให้กลายเป็นมีผัวแล้ว แถมระบุชื่อคนเป็นสามีซะเด่นหรา เรียกว่ารู้กันตั้งแต่เพื่อนเก่าสมัยอนุบาลยันญาติที่อยู่ต่างประเทศ



“หมั่นไส้ว่ะ อยากแช่งให้แม่งโดนพี่แมนทิ้ง”



น้องมาม่าพูดอย่างเบื่อๆ ก็ช่วงนี้อีเอ็มมี่ชอบมาโม้ว่าพี่แมนตามใจอย่างงั้น เอาใจอย่างงี้ ใช่ซี้~! อยู่ในช่วงโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมกันอยู่นี่! ชิ! หมั่นไส้!!



“อีม่าๆ ร้านนี้”



แฝดผู้พี่จูงแขนแฝดผู้น้องเข้าร้านกางเกงขาสั้นเสมอของสงวน มีทั้งสีหวานสีแรง ลายดอก ลายเสือ เอวต่ำเอวสูง ปักหมุด ปักมุก แขวนเรียงรายอยู่กว่าร้อยตัว เอ็มก็เดินตามเพื่อนเข้ามาอย่างรู้งาน มาช้อปกับผู้หญิงมันก็ต้องคอยมีผู้ชายเดิมตามและตอบคำถามพวกเธอว่าดีไหม สวยไหมนั่นแหละ สาวๆ เขาถึงจะซื้อของกันได้อย่างมีความสุข



“แก...ตัวนี้สวยอ่ะ”



น้องมาม่าหยิบกางเกงลายดอกสีพาสเทลมาทาบตัวด้วยสีหน้าพออกพอใจ



“จริงด้วย แกว่าสวยไหม อีเอ็มมี่?”



น้องเม่หยิบกางเกงลายเดียวกันขึ้นมาทาบตัวบ้าง ทฤษฎีที่เค้าว่าเป็นแฝดกันจะชอบอะไรเหมือนกันนี่ท่าจะจริง



“สวยครับ น้องเม่ขาเล็ก ใส่ขาสั้นยังไงก็สวย”



“มึงอ้า~”



น้องเม่ด่าแก้เขิน เอ็มเวลามาเดินตลาดนัดหรือไปห้าง จะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ เดินตามต้อยๆ ไม่มีบ่น ถามอะไรก็ชมก็ชอบ น่ารักที่สุดอ่ะ!



“ตัวเท่าไหร่อ่ะคะพี่?”



“250 ค่ะ แต่ถ้าคุณน้องซื้อลายเดียวกัน 3 ตัว พี่ลดให้เหลือตัวละ 180 นะ”



“อ๊า~ แล้วพวกหนูสองคนจะเอาไปทำอะไรตั้งสามตัวอ่า”



สองสาวต่อรองกับแม่ค้าอยู่นาน แต่เธอก็บอกได้แค่ว่าราคามันถูกแล้วจริงๆ และคงจะลดไม่ได้ถ้าไม่ซื้อในราคาส่งตามที่เธอบอก กุมารแฝดที่หน้าเลือดอยากจะประหยัดตังค์ไว้ช้อปอย่างอื่นจึงพุ่งเป้าหมายมายังเหยื่อที่อยู่ข้างตัว



“อีม่า...กูว่ามันก็เหมาะกับอีเอ็มมี่ดีเหมือนกันนะ”



อีเม่เพื่อนรักจับกางเกงลายดอกตัวที่ว่าทาบเข้าเอวเหยื่อ ตุ๊ดเทียมสะดุ้งโหยงรีบเบ่งตัวออกแล้วแยกเขี้ยวขู่เพื่อนกุมารทันที



“อย่ามา!”



“มึงอ่ะ! ช่วยกูซื้อคนละตัวดิ มันจะได้ลด”



“มึงจะให้กูใส่เล่นสงกรานต์รึไง?”



“อีเอ็มมี่ ช่วยกูหน่อยเด้~!”



เหยื่อหน้าหล่อทำท่าจะเดินหนี สองสาวเลยรั้งแขนไว้คนละข้างแล้วทำเสียงงุ้งงิ้งออดอ้อนจนตุ๊ดจีนแดงชักรำคาญ



“ปล่อยกู๊~!”



“โวยวายไรของมึง?”



แกนคณะสุดโหดที่กำลังตักไข่ปลาหมึกรสแซ่บเข้าปาก พ่วงมาด้วยสมุนหลักซ้ายขวารวมทั้งชาวคณะแก๊งค์ใหญ่ เดินมาหยุดอยู่หน้าร้านขายกางเกงขาสั้น สาวๆ ที่กำลังเลือกกางเกงอยู่ถึงกับออกอาการกรี๊ดกร๊าดเพราะแต่ละคนก็หน้าตาผ่านมาตรฐานกันทั้งนั้น



“พี่แมน...อีเม่กับอีม่ามันจะบังคับผมซื้อกางเกงอ่ะ!”



ได้โอกาสเอ็มก็ฟ้องคุณแฟนเอาตัวรอดทันที แต่เดี๋ยวนี้น้องเม่น้องม่าได้ใกล้ชิดกับพี่แมนมากขึ้น มิหนำซ้ำยังมีคุณแฟนทั้งสองอยู่ร่วมเหตุการณ์ จึงเลือกที่จะต่อปากต่อคำแทนที่จะยอมปล่อยเหยื่อให้หลุดมือ ลดไป 70 นี่เกือบได้อายไลเนอร์แท่งใหม่เลยนะคะ



“พี่แมน~ พี่แมนว่าอีเอ็มมี่ใส่แล้วน่ารักไหมคะ?”



น้องเม่ไม่ว่าเปล่า แปะกางเกงลายดอกสีพาสเทลทาบพุงเพื่อนรักพร้อมเอ่ยถามรุ่นพี่ด้วยน้ำเสียงสดใส คนเป็นรุ่นพี่มองตามมือรุ่นน้อง เงยหน้าขึ้นมองหน้าเมียแล้วเปรียบเทียบกับกางเกงอีกที ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบด้วยรอยยิ้มชวนหลงใหล



“ก็น่ารักดีนะ”



เหมือนบางสิ่งในหัวเอ็มแตกสลาย ยิ้มแบบนั้น ตาปิดแบบนั้น น้ำเสียงแบบนั้น โฮ...คนที่น่ารักมันไม่ใช่กูอ่ะ ไม่ใช่กู๊~!!



“พี่ครับ...เอาตัวนี้ครับ”



สุดท้ายเอ็มก็หันไปจ่ายเงินด้วยความรู้สึกราวกับพ่ายแพ้ เพราะพี่แมนคนเดียวเลย คิดแล้วก็อยากจะร้องไห้ เขาพูดแบบนั้นแล้วกูจะใจร้ายขัดใจลงได้ยังไงล่ะ? ฝ่ายสองสาวที่ได้ส่วนลดสมดังใจก็หันไปแท็กมือกันอย่างเริงร่า



พอเสร็จสิ้นการจับจ่ายในร้านนั้น พี่แมนก็ขอแยกกับลูกสมุนในแก๊งค์ออกมาเดินเล่นกับเมียสองต่อสองแทน ไอ้พวกลูกกระจ๊อกก็เป็นใจเหลื๊อเกิน โดยเฉพาะไอ้งอกไอ้เงิบที่เสือกยิ้มล้ออย่างไม่กลัวตีนนั่นน่ะตัวดี



“จะว่าไป...กูก็ไม่เคยเห็นมึงแต่งตัวน่ารักๆ เหมือนตุ๊ดคนอื่นเลยนะ”



คุณสามีเอ่ยถาม ตุ๊ดเสิ่นเจิ้นเลยหัวเราะเหอะๆ เคยเห็นก็แปลกแล้วครับพี่....ก็กูไม่ใช่ตุ๊ด!



“แต่งหน้าก็ไม่เคยแต่ง”



พี่แมนเปรยต่อ พลางทำคิ้วขมวดเหมือนครุ่นคิดสักพัก แล้วยิ้มออกมานิดๆ คนข้างๆ ที่เดินไปมองไปงับไข่ปลาหมึกที่ถูกป้อนมาไป ก็มองใบหน้านั้นอย่างเพลิดเพลินใจ



“บางครั้งกูยังเคยคิดเลยว่ามึงอาจจะไม่ได้เป็นตุ๊ด”



พูดจบพี่ท่านก็หัวเราะเหมือนประโยคที่ตัวเองพูดมันเป็นมุขตลกทั่วไป แต่อีคนฟังนี่หน้าซีดเผือดไข่ปลาหมึกติดคอไปแล้ว จนพี่แมนต้องรีบซื้อน้ำเปล่าจากป้าร้านใกล้ๆ มาให้เมียรักดื่มก่อนจะขาดใจตาย



“อีตะกละ แดกเร็วจนไข่ติดคอเลยดูซิ!”



เอ็มอยากเถียงใจจะขาดว่าไม่ใช่เพราะไข่ แต่เพราะมึงนั่นแหละ! คิดแล้วขนลุกซู่!



“พี่แมนไม่ชอบที่ผมเป็นแบบนี้เหรอ?”



เอ็มถามเบี่ยงประเด็น แสร้งทำตาเศร้าออดอ้อนเป็นลูกหมาเพิ่งหย่านม พี่แมนเธอก็รีบมองซ้ายมองขวาก่อนผลักหน้าอีตุ๊ดหื่นที่ยื่นเข้ามาใกล้ให้ออกไปให้พ้นๆ 



“อะไรอ่ะ? ถามไม่ตอบอ่ะ”



“.....ฮื่อ”



“อายไรอ่ะ? คนเยอะแยะ”



ตุ๊ดเทียมหัวเราะหึๆ เมื่อเจอพี่แมนเอาไข่ปลาหมึกยัดปาก สุดโหดของมหาวิทยาลัยหน้าแดงเป็นตูดเด็ก เพราะหน้าบางอย่างงี้ไงเลยโดนอีเมียตุ๊ดมันแกล้งเอาเสียบ่อย



“ไข่ปลาหมึดเผ็ดมากอ๋อ? หน้าแดงเลยอ่ะ”



“เออ!!”



พี่แมนกระแทกเสียงก่อนจะเดินหนี ทิ้งให้เมียรักยืนถอนใจเฮือกอย่างโล่งอกอยู่คนเดียว...



.

.

.



โรงอาหารอาคารเรียนรวมชั้นบนยังคงถูกจับจองด้วยแก๊งค์ปี 4 ของแกนคณะรุ่นที่ 47 เหมือนทุกวัน เสียงคุยอึกทึกกลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ช่วยให้อาหารอร่อยขึ้น วันนี้พี่แมนกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำ พี่งอกกินเห็ดเข็มทองผัดไข่ราดข้าว ส่วนพี่เงิบวันนี้กินอาหารญี่ปุ่น ข้าวแกงกะหรี่ไก่ทอด



เสียงพูดคุยจอแจค่อยๆ เงียบลงอย่างผิดสังเกต จนพี่แมนและสมุนเอกสองหน่อต้องเงยหน้าขึ้น ก่อนจะรีบวางช้อนแล้วยกมือขึ้นไหว้บุคคลตรงหน้าอย่างเคารพ



“หวัดดีครับพี่จิ๋ม”



“กูชื่อฉิม ไอ้สัด!”



นายฉิมพลี แกนคณะรุ่นที่ 46 นักศึกษาปีที่ 5 แห่งสถาปัตย์ตบหัวพี่งอกแล้วเพยิดหน้าให้มันเสียสละที่นั่งให้รุ่นพี่อย่างเขานั่งประจันหน้ากับแกนคณะรุ่นน้อง ปกติแล้วปี 5 จะไม่เข้ามาในมหาวิทยาลัยเพราะมีภารกิจฝึกงานตามบริษัทต่างๆ เหตุผลที่พี่ฉิมผู้มีทรงผมรุงรังและไว้หนวดหรอมแหรมเหมือนคนซกมกทั้งๆ ที่หน้าจริงออกจะหล่อ ถ่อมามหา’ลัยทั้งที่ไม่มีธุระแบบนี้ก็มีเหตุผลเดียว คือไอ้โฟน...แกนปี 3 มันโทรไปฟ้องเรื่องเมียเขาไงล่ะ!



“พี่ฉิมมาคุยกะอาจารย์เหรอ?”



พี่แมนแกล้งถาม แกนปี 5 แสยะยิ้มเหี้ยมตามแบบฉบับทายาทอสูรประจำคณะก่อนจะเอ่ยตอบเสียงโหด



“มึงก็รู้ดีว่ากูมาทำไม ไอ้แมน”



สุดโหดยักไหล่ ก่อนจะเลื่อนชามก๋วยเตี๋ยวให้สมุนเอาไปเก็บแล้วผายมือให้รุ่นพี่พูดธุระที่ทำให้ต้องเสียเวลามาจัดการถึงที่นี่



“โทรเรียกเมียมึงมาดิ๊ กูอยากเห็นหน้า”



พี่แมนสั่งให้สมุนฝ่ายขวาทำตามคำสั่งรุ่นพี่ทันที ไม่ถึง 5 นาที เมียรักกับเพื่อนกุมารทั้งสองก็เดินมายังโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่ด้วยรอยยิ้มร่าเริง



“พี่แมนเรียกเค้าเหรอ?”



“อื้ม”



“คนไหนวะ?”



พี่ฉิมมองหน้าสามตุ๊ดอย่างเดาไม่ถูกว่าคนไหนกันแน่เมียรุ่นน้อง อีหัวทองสองคนข้างหลังนั่นก็หน้าตาเหมือนผู้หญิงดีอยู่เหมือนกัน ไอ้แมนอาจจะชอบน่ารักๆ แบบนี้ก็ได้



“คนนี้พี่”



คุณเมืองแมนผายมือไปยังเมียรักที่ตัวเองแสนจะภูมิใจนำเสนอ พี่ฉิมพลีมองหน้าเมียรุ่นน้องจากหัวจรดเท้าและเท้ากลับขึ้นไปจรดหัวอีกครั้งอย่างแทบไม่เชื่อสายตา



“อย่าจ้องนานดิพี่ ผมหวง”



พี่แมนโอบเอวเมียรักมาใกล้ ทำหน้าไม่พอใจเหมือนหวงจริงดังปากว่า ฝ่ายพี่ฉิมที่สมองยังประมวลผลกับความเป็นจริงตรงหน้าไม่ดีนักก็ชี้หน้าผู้ชายหน้าเข้มตรงหน้า ก่อนจะเลื่อนมาชี้หน้ารุ่นน้องที่รักเพื่อขอความมั่นใจ ซึ่งพี่แมนก็พยักหน้ารับอย่างหนักแน่น



“ไอ้แมน ให้กูพามึงไปหาหมอเหอะว่ะ กูว่าไม่สายตาก็สมองมึงอ่ะต้องมีปัญหาสักอย่าง”



พี่งอกกับพี่เงิบหันหน้าหนีไปแอบหัวเราะ จนไอ้หัวหน้าแก๊งค์ต้องมองปรามอย่างดุๆ คำปรามาสของพี่ฉิมทำเอาคนถูกพาดพิงถึงกับทำปากยื่นอย่างไม่พอใจ



“เมียผมสวยแบบลิมิเต็ดอิดิชั่นพี่ ตาไม่ถึงจริงๆ จะมองไม่เห็น”



คราวนี้ไอ้สองสมุนปล่อยก๊ากแบบห้ามไม่อยู่ แต่แกนปี 5 เธอไม่ขำด้วย พี่ฉิมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง กระแทกฝ่ามือเข้ากับโต๊ะเต็มแรงจนเสียงหัวเราะเงียบกริบ เหล่านักศึกษาที่นั่งอยู่ใกล้บริเวณและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์รีบจรลีอย่างเป็นห่วงความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน



“กูไม่ขำนะไอ้แมน เป็นเหี้ยอะไรผู้หญิงมีเยอะแยะเสือกไม่เอา!”



พี่ฉิมตวาดลั่น ทำเอาน้องมาม่ากับน้องเมเม่กลัวจนต้องหลบหลังสามี ขนาดเอ็มยังรู้สึกหวั่นๆ เห็นจะมีแต่พี่แมนที่ยังจ้องหน้ารุ่นพี่อยู่ได้อย่างไม่สะทกสะท้าน



“ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนรักกู และทำให้กูรักได้เหมือนมันไง”



พี่แมนตอบด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง พี่ฉิมทำเสียงเหอะอย่างนึกดูถูกก่อนจะเบี่ยงสายตาไปจ้องตัวต้นเหตุอย่างขยะแขยง



“มึงกล้าเอาอีตุ๊ดนี่ทำเมีย ก็เท่ากับมึงกล้าเหยียบเกีรยติของท่านรุ่นที่ 1 ด้วยตีนของมึงเองนั่นแหละ!”



“งั้นพี่ก็ต้องไปจุดธูปด่าท่านรุ่นที่ 1 ที่ได้เมียตุ๊ดเหยียบเกียรติตัวเองด้วยตีนของท่านเองเหมือนกัน!”



“ไอ้เหี้ยแมน!”

พี่งอกกับพี่เงิบถลาคว้าแขนพี่ฉิมที่เตรียมซัดหน้าสวยๆ ของรุ่นน้องเต็มที่ ฝ่ายอีเอ็มมี่ก็ขยับตัวเข้ามาขวางผัวรักไว้ด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน



“ถ้ามึงจะหน้ามืดตามัวเพราะหลงอีตุ๊ดนี่ก็อย่าเรียกตัวเองว่าแกนคณะเลยดีกว่า!”



“ก็โอเค! ตามนั้นก็ได้”



“ไอ้แมน!”



ชาวแก๊งค์สถาปัตย์ปี 4 เรียกชื่อเพื่อนเป็นเสียงเดียว ในขณะที่รุ่นพี่เองก็อ้าปากค้างมองหน้ารุ่นน้องอย่างไม่นึกเชื่อว่ามันจะกล้าทิ้งตำแหน่งที่สำคัญต่อรุ่นมากเพียงเพราะตุ๊ดคนเดียว



“ได้!! งั้นกูจะไม่นับว่ามึงเป็นรุ่น 47 อีกต่อไป!”



พี่ฉิมประกาศกร้าว ชี้หน้ารุ่นน้องอย่างเดือดดาล



“งั้นพวกผมก็ด้วย พวกผมก็มีเมียตุ๊ดเหมือนกัน”



พี่งอกกับพี่เงิบแสดงตัวอย่างอาจหาญ ก่อนจะโอบเอวที่รักไปยืนเคียงข้างพี่แมนอย่างไม่นึกหวั่น



“เหอะ...พวกมึงเตรียมเลือกแกนคณะคนใหม่ได้เลย”



แกนคณะปี 5 หันไปสั่งเหล่าแก๊งค์ปี 4 ที่เหลืออยู่ แต่ละคนทำหน้าลำบากใจก่อนที่ใครสักคนในนั้นจะพูดขึ้น



“ไม่พี่! ถ้าไอ้แมนไม่ใช่แกนคณะ ผมก็ยอมโดนตัดรุ่นเหมือนกัน!”



“ผมด้วยพี่”



“ผมก็ด้วยพี่!”



เสียงตะโกนเริ่มดังเซ็งแซ่จนพี่ฉิมโมโห แกตวาดลั่นอย่างไม่คิดว่าจะมีใครเข้าข้างรุ่นน้องวิปริตคนนี้



“พวกมึงไม่รังเกียจรึไงที่เพื่อนมึงมีเมียตุ๊ดเนี่ย?!!”



“ไม่พี่...ต่อให้ไอ้แมนเป็นตุ๊ดซะเองมันก็เพื่อนผม สี่ปีมานี่พวกผมช่วยเหลือกันมาตลอด ไอ้ธรรมเนียมคร่ำครึแบบนั้นมันเทียบไม่ได้กับคำว่าเพื่อนของพวกผมหรอกพี่ ถ้าพี่จะตัดรุ่นไอ้แมนก็ต้องตัดพวกเราทั้งหมดด้วย สถาปัตย์จะไม่มีรุ่นที่ 47 เลยสักคน ผมรับรอง!”



พี่ฉิมหายใจแรงอย่างหงุดหงิดสุดขีด มองหน้าไอ้รุ่นน้องแต่ละคนที่ไม่ได้มีความคิดเคารพธรรมเนียมเก่าด้วยความโมโห



“เอาอย่างนั้นก็ได้!! มึงจำสิ่งที่มึงทำวันนี้ไว้นะไอ้แมน กูจัดมึงหนักแน่!”



พี่ฉิมชี้หน้า ฝังความแค้นไว้ทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไปอย่างห้าวหาญ พี่แมนแสยะยิ้มเหี้ยมมองตามแผ่นหลังรุ่นพี่ไปอย่างมีเลศนัย



“กูขอแซงคิวจัดให้มึงก่อนเลยดีกว่า...ไอ้พี่ฉิม!”





โปรดติดตามแอ๊บต่อไป...






หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 21: กระตุกหนวดแกนคณะ (07/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 07-10-2017 10:58:31
 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 21: กระตุกหนวดแกนคณะ (07/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 07-10-2017 11:24:11
พี่แมนนนนนนนนน :hao7:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 21: กระตุกหนวดแกนคณะ (07/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 07-10-2017 14:49:57
55555555555555555+
อ่านจบหัวเราะเลยอ่ะ
พี่แมนเอาเลย
จัดหนักพี่จิ้ม เอ้ยพี่ฉิมเลยยยยยยยย

มาต่อเลยได้มะๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 21: กระตุกหนวดแกนคณะ (07/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 07-10-2017 16:03:10
พี่แมนจัดเลยค่ะ อิพี่จิ๋มขอให้มีเมียเป็นตุ๊ด หึหึ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 21: กระตุกหนวดแกนคณะ (07/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-10-2017 19:31:11
จัดผัวให้พี่ฉิมซักคน คงจะฮาน่าดู  :hao3:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 21: กระตุกหนวดแกนคณะ (07/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-10-2017 21:01:18
พี่แมนสุ้ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 21: กระตุกหนวดแกนคณะ (07/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 07-10-2017 23:37:38
สนุกอ่ะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 21: กระตุกหนวดแกนคณะ (07/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-10-2017 03:11:18
เอาใจช่วยหลานแมนนะ ปี 4 ทุกคนจะโดนปืนเกลียวกับรุ่นพี่รุ่นน้องทั้งคณะ สู้ไหวไหมลูก คนแก่เป็นห่วง  :try2: :try2:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 21: กระตุกหนวดแกนคณะ (07/10/17) p.5
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 11-10-2017 20:32:34
แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง



“มึงคิดถูกแล้วไอ้กัส ที่ไม่คล้อยตามพวกเสียสติอย่างเพื่อนมึง!”



แกนคณะปี 5 เอ่ยชมรุ่นน้องพลางกระแทกแก้วเหล้าลงอย่างหัวเสีย เขายังแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าคนที่แมนเกินล้านอย่างไอ้แมนจะตกหลุมพรางตุ๊ดหน้าเข้มอย่างเมียมันได้



“ใครจะทนมีเพื่อนเป็นผัวตุ๊ดได้ล่ะพี่?! คิดแล้วแค้นไอ้แมนนัก ทำกร่างปากดีไม่สนรุ่น ถุย! มันก็แค่อยากเหยียบหัวพี่ฉิมต่อหน้าธารกำนัลเท่านั้นแหละพี่!”



นายออกัส นักศึกษาสถาปัตย์ปี 4 ยุแยงรุ่นพี่อย่างออกรส แต่น้องโฟนแกนปี 3 ที่นั่งอยู่ด้วยกลับแย้งขึ้นมา



“พี่แมนก็แค่กำลังหลงอีตุ๊ดนั่นจนหน้ามืด ไม่ได้จะเหยียบหัวพี่ฉิมอย่างที่พี่กัสพูดซะหน่อย”



“นี่มึงจะเข้าข้างไอ้แมนอีกคนใช่ไหมไอ้โฟน?”



“...เปล่าพี่”



ไอ้โฟน ปี 3 ตอบเสียงอ่อย ถึงจะแย้งในใจว่าพี่ฉิมควรจะกำจัดตัวต้นเหตุคือไอ้ตุ๊ดยักษ์นั่นมากกว่าจะมาลงความผิดที่รุ่นพี่มันเคารพก็ตามที รุ่นน้องหน้าตาดีถอนใจหนึ่งเฮือกก่อนจะซดเหล้าที่พี่กัสชงให้ไปอีกหนึ่งแก้ว



“พี่ฉิมจำน้องสโนว์ ดาวพยาบาลได้ป่ะ?”



“จำได้ กูเห็นมึงควงอยู่พักนึงนี่”



“คืนนี้ไปห้องน้องเขานะ น้องเขาอยาก “ทำความรู้จัก” กับพี่”



รุ่นพี่ได้ยินดังนั้นก็ยกยิ้มเผล่ ใครๆ ก็รู้ดีกรีความสวยอึ๋มเซ็กซี่ของน้องสโนว์ดาวพยาบาลปี 3 หนุ่มๆ อยากจะแกล้งรถล้มไปนอนป่วยมองนม เอ้ย! นอนป่วยให้เธอคอยดูแลกันอยู่บ่อยไป



“แม่ง ลาภลอยแท้โว้ย~! จริงไหมวะไอ้โฟน?”



“งืมมมม”



ตุบ!



แกนคณะปี 3 ฟุบไปกับโต๊ะเหล้าดังตุบ จนผู้ร่วมวงอีกสองคนที่เหลือต้องประคองตัวขึ้นมาดูอาการ ไอ้โฟนยังคงมีสติหลงเหลืออยู่แต่ก็เลือนลางเต็มที



“เมาแล้วสิมึง กูบอกแล้วว่าอย่า...”



ตุบ!



แล้วพี่ฉิมก็ล้มฮวบไปอีกคนหนึ่ง...



.

.

.



แสงพระอาทิตย์ยามสายสาดเข้ามาในห้องพักแคบๆ ของหอพักแห่งหนึ่งข้างมหาวิทยาลัย แกนคณะปี 5 แห่งสถาปัตย์กวาดมือไปทั่วพื้นเตียงดึงร่างนุ่มนิ่มข้างตัวเข้ามากอดแล้วหอมแก้มไปฟอดใหญ่



“น้องสโนว์~”



“อะแฮ่ม! ขอโทษที่ขัดจังหวะฝันหวานๆ ของพี่นะครับ”



เสียงหวานคุ้นหูของรุ่นน้องจอมโหดปลุกให้พี่ฉิมพลีตื่นเต็มตา ไอ้ตัวดีหย่อนตูดพิงโต๊ะกระจกโยนกล่องถุงยางเปล่าเล่นอย่างอารมณ์ดี ประเด็นคือไอ้เหี้ยแมนเสือกยกสมุนในแก๊งค์มาอีกเป็นแผง



“มึงมาทำเหี้ยอะไรที่นี่?”



ไอ้พี่แมนกระตุกยิ้มมุมปากอย่างสะใจโคตร ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงยียวน



“มาเป็นสักขีพยาน”



“สักขีพยาน?”



พี่ฉิมทำหน้าเหรอหรา มองสายตากรุ้มกริ่มของรุ่นน้องแต่ละคนอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะก้มมองสภาพตัวเองรวมทั้งน้องสโนว์ดาวพยาบาลที่นอนคลุมโปงตัวสั่นอยู่ข้างๆ คงเพราะกลัวที่มีผู้ชายหน้าตาโหดเถื่อนเป็นสิบคนมารุมจ้องหลังจากเสร็จภารกิจรักกันไปเมื่อคืนหมาด



“สโนว์ สโนว์ครับ”



แกนปี 5 พยายามเขย่าเรียก แต่น้องคนสวยก็ไม่ยอมโผล่ตัวออกมาจากผ้าห่มผืนหนาเลย พี่ฉิมเริ่มรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ เลยออกแรงกระชากผ้าห่มออกดูหน้าน้องสโนว์ให้เต็มตา อนิจจา...สโนว์ที่นอนซุกหมอนน้ำตาไหลพรากอยู่ข้างกายดันเป็นผู้ชายที่หน้าเหมือนแกนปี 3 แห่งสถาปัตย์ไปซะนี่!



“ไอ้โฟน?”



“ก็ไอ้โฟนน่ะสิครับ”



พี่ฉิมสะบัดหน้าหันมาทางกลุ่มรุ่นน้องเพื่อพบไอ้ออกัสเจ้าของเสียง มันยืนกอดคอแกนปี 4 อย่างรักใคร่พลางยักคิ้วให้รุ่นพี่อย่างน่าเลาะฟันออกจากปาก



“ไอ้กัส นี่มึงหลอกกูเหรอ?!”



“พี่ฉิมคงลืมไปว่าไอ้กัสมันเป็นพระเอกละครเวทีปีที่แล้ว”



“สถาปัตย์ เอกการแสดงไงพี่”



พี่ฉิมกำหมัดแน่นอยากจะซัดไอ้หัวโจกและลูกสมุนของมันให้หน้าหงาย แต่ก็ปรับสีหน้าเป็นไม่ยี่หระและพูดด้วยน้ำเสียงเป็นต่อ



“คิดว่าแค่เรื่องจัดฉากแค่นี้กูจะเชื่อเหรอ?”



“หึ...พวกมึงออกไปกันก่อนดิ๊”



ผัวอีเอ็มมี่หันไปสั่งลูกน้องเพราะได้เวลาชำระความให้เสร็จสิ้นธุระของวันนี้ จะได้กลับบ้านไปนอนให้เมียกอดต่อ สุดโหดของมหาลัยสาวเท้าเข้าใกล้เตียง ทำเอาน้องโฟนที่รู้ตัวรีบลนลานหาผ้าขนหนูมาพันเอวแล้วลุกหนี แต่ด้วยเรี่ยวแรงที่ถูกสูบไปทั้งคืนกับอาการบอบช้ำในบางจุดทำให้เจ้าตัวแข้งขาอ่อนทรุดตุบอยู่กับพื้น



พอผู้ร่วมเตียงลุกไป หลักฐานต่างๆ นานาที่ยังคงทิ้งร่องรอยไว้บนเตียงก็เปิดเผยออกมาสู่สายตาคนในห้อง พี่ฉิมมองคราบเลือดที่กระจายตัวเป็นวงกว้างอย่างตกใจ พี่ฉิมไม่อยากจะคิดไปในทางที่เลวร้าย แต่จะว่าไอ้โฟนมันเป็นเมนส์ก็ไม่ใช่อ่ะ!



“มึง...มึงให้ไอ้กัสวางยากู?”



“อือฮึ”



“นี่มึง!”



“ฮึก...”



เสียงสะอื้นจากปากรุ่นน้อง หยุดความเกรี้ยวกราดของรุ่นพี่ที่กำลังจะฟาดฟันใส่ตัวต้นเหตุได้ชะงัด พี่ฉิมเปลี่ยนทิศมาจับแขนน้องโฟนจะช่วยพยุงขึ้น แต่กลับถูกสะบัดทิ้งหันหน้าหนีแล้วกัดปากระงับเสียงสะอื้นของตัวเองจนปากแดงช้ำไปหมด



“พี่แมน...ฮึก...มึงแม่งเหี้ย”



คนโดนด่านั่งยองๆ ลงตรงหน้ารุ่นน้องที่น้ำตาไหลเพราะถูกย่ำยีศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย เจ้าตัวยกยิ้มอย่างไม่สนโลกแม้ภาพตรงหน้าจะชวนให้สงสารมากแค่ไหนก็ตามที



“เออ...กูเหี้ย”



“ฮึก”



“ก็พวกมึงสองคนพูดไม่รู้เรื่องนี่หว่า...ให้อยู่ในสถานะเดียวกับกูนั่นแหละดี จะได้เข้าใจอะไรง่ายขึ้น”



พี่แมนหยัดตัวลุกขึ้น จ้องหน้ารุ่นพี่ที่ไม่รู้จะเข้าไปเอาเรื่องสุดโหดดี หรือจะเข้าไปปลอบไอ้ตัวเล็กที่เสียขวัญอยู่ตรงนั้นดี พี่แมนยกมือขึ้นจับไหล่เปลือยเปล่าของรุ่นพี่แล้วเอียงคอถามด้วยน้ำเสียงผู้ถือไพ่เหนือกว่า



“พี่รู้ใช่ไหมว่าควรจะทำตัวยังไง?”



“มึงอย่ามาขู่กู!”



“ไม่ขู่ก็ได้~ แค่คงจะมีคนรู้...มากขึ้น”



พี่แมนปรายตามองไปยังผู้เสียหายที่ยังนั่งซุกเข่าสะอื้นไห้ไม่กล้าสบตาใคร แต่ปฏิกิริยาต่อคำขู่นั้นก็เห็นได้เด่นชัดจนพี่ฉิมต้องยอมอยู่เฉยๆ ให้รุ่นน้องจอมวางแผนยิ้มเยาะแล้วเดินจากไปด้วยชัยชนะ



.

.

.



“หลังละครจบ กูจะไปค่ายสร้างที่กาฬสินธุ์นะ”



พี่แมนเอ่ยขึ้นในเย็นวันหนึ่ง ขณะที่ทั้งสองคนกำลังพลิกหมูกระทะบนเตากันอย่างเมามันส์ แกนคณะใช้ตะเกียบตีมืออีเอ็มมี่ที่บังอาจข้ามอาณาเขตมาขโมยเบค่อนถึงฝั่งนี้ แล้วโต้กลับด้วยการคีบไส้อ่อนฝั่งมันมากินบ้าง



“วันไหนอ่ะครับ?”



“ก็ละครจบ เช้ามาก็ไปเลย”



เอ็มกลืนเบค่อนลงคอแล้วครุ่นคิดด้วยสมองแรมต่ำของตัวเองอย่างช้าๆ มันเหมือนมีบางอย่างที่กูจะเสียประโยชน์นะ แต่กูคิดไม่ออก...อะไรวะ?



“เพราะงั้น...ไอ้ที่กูบอกว่าจะให้มึงหลังละครจบอ่ะ ก็เลื่อนไปก่อนนะ”



“คุณหลอกดาว!”



เอ็มวางตะเกียบ ตัดพ้อผัวรักอย่างสิ้นหวัง นี่กูขีดปฏิทินรอทุกวันเลยนะ พี่แมนทำอย่างเนี้ย เหมือนฉีกปฏิทินกูทิ้งกลางสี่แยก!



“อย่าทำปากเบะเหมือนเป็ดแบบนั้น มันน่าเกลียด!”



“พี่แมนใจร้าย...”



“เพิ่งรู้เหรอ? มึงเลือกเอาแล้วกันว่าจะเลื่อนไปก่อนหรือว่าไม่มีอีกเลย”



“ง่ะ!”



เอ็มยิ่งทำหน้างอตัดพ้อแฟนเข้าไปใหญ่ พี่แมนเห็นแบบนั้นก็แอบยิ้มขำก่อนจะคีบเนื้อหมูร้อนฉ่าจุ่มน้ำจิ้มยัดปากเมียทีเดียว 3 ชิ้นรวด



“อื๊อออ อ๊อนอ้ะ! (ร้อนอ่ะ!)”



“แดกเข้าไปเหอะ นี่อีกคำ”



แถมใส้อ่อนให้อีกเต็มรัก เล่นเอาเอ็มต้องรีบเคี้ยวรีบกลืนแล้วดื่มน้ำตาม แต่โปรดอย่าถามถึงอาการร้อนผาดที่ลิ้น บางทีต่อมรับรสอาจจะพิการไปแล้วก็เป็นได้



“เออ...กูคิดว่า...กูควรจะไปแนะนำตัวกับแม่มึงนะ”



“แนะนำตัว แต่แม่ผมกะพี่แมนก็เคยเจอกันละนะ”



“กูหมายถึงแนะนำตัวในฐานะผัวมึง”



“แค่กๆ!!”



เอ็มที่กำลังซดน้ำซุปทำซุปพุ่งกระจายอย่างไม่ได้ตั้งใจ เดือดร้อนพี่แมนต้องฉกทิชชู่มาเช็ดโต๊ะแล้วเลยไปซับหน้าขาวๆ อย่างเมียรักอย่างเป็นห่วง



“คือ...ไม่เร็วไปเหรอพี่?”



เมียตุ๊ดถามเสียงอ่อย เหงื่อแตกพลั่กอย่างมีพิรุธ



“จะช้าจะเร็วซักวันนึงแม่มึงก็ต้องรู้อยู่ดี”



พี่แมนเอื้อมมือไปกุมกระชับเมียรักส่งผ่านความมั่นใจไปให้พร้อมรอยยิ้มหวานๆ



“กูไม่ได้คบกับมึงเล่นๆ หรอกนะ มึงรู้ใช่ไหม?”



“รู้ครับ~”



เคลิ้มด้วยครับ~ ยิ้มหวานเว่อร์!



“เพราะงั้นถ้าเราจะคบกันแบบจริงจัง กูคิดว่าควรให้ผู้ใหญ่รับรู้ เริ่มจากแม่มึงก่อนเลย”



“ทำไมไม่เริ่มจากพ่อแม่พี่ก่อนอ่ะ?”



“พ่อกูมีปืนน่ะ...กูยังไม่อยากเป็นหม้ายตอนนี้”



เอ็มกลืนน้ำลายดังเอื๊อก ก่อนจะยอมรับปากว่าจะโทรนัดเวลากับคุณแม่ให้แต่โดยดี พอกินอิ่มกลับมาถึงหอ เอ็มก็อาศัยจังหวะที่พี่แมนชำระร่างกายหนีออกมาคุยโทรศัพท์ที่ระเบียงอย่างหลบๆ ซ่อนๆ



‘ไงจ๊ะ ตาเอ็ม’



“แม่จ๋า กินข้าวยังจ๊ะ?”



‘กินแล้วลูก โทรมาหาแม่แบบนี้นี่มีอะไรแน่ๆ เลยใช่ไหม?’



เอ็มยิ้มแหยทั้งที่ปลายสายไม่เห็น พลางเหล่มองประตูห้องน้ำอีกทีเพื่อความมั่นใจ



“แบบว่า...พี่แมนเขาอยากเจอแม่อ่ะจ้ะ”



‘ก็ดีน่ะสิ แม่ก็เหงาๆ อยากเจอคุณพี่แมนเขาอยู่เหมือนกัน’



“แบบว่า...เขาอยากไปแนะนำตัว”



‘แนะนำตัว?’



“แบบว่า...เขาเป็นแฟนหนูอ้ะ”



เอ็มบิดเขินพอเป็นพิธี ฝ่ายคุณแม่ก็หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ที่ได้ยินเสียงเล็กเสียงน้อยของลูกชาย เธอก็พอจะมองออกตั้งแต่คราวที่พากันมาง้องอนที่บ้านคราวก่อนนู้นแล้วนั่นแหละ



‘แล้วแบบว่า...คุณพี่แมนเขาเป็นลูกเขยหรือลูกสะใภ้ของคุณแม่ล่ะคะ?’



พอเจอคำถามอธิบายยากแบบนี้ เอ็มก็จำต้องใช้เวลาเรียบเรียงคำพูดออกมาอย่างพิถีพิถัน



“คืองี้นะแม่...มันมีภาคทฤษฎีกับภาคปฏิบัติ”



‘แล้วไงต่อจ๊ะ?’



“คือภาคทฤษฎีพี่แมนเขาเป็นลูกเขยแม่”



‘อุ้ยตาย...’



“ฟังให้จบก่อนแม่ แต่ภาคปฏิบัติพี่เขาเป็นลูกสะใภ้ไง”



‘อุ้ยตาย…คิกๆ อย่างนั้นเหรอจ๊ะ? แม่อุตส่าห์คิดไกลไปแล้วนะน่ะ’



“แม่อ้ะ!”



เอ็มเง้างอด ก่อนจะเปิดประเด็นปัญหาที่มันค้างคาอยู่ให้คนเป็นแม่รับรู้



“แต่แบบว่า...พี่แมนเขาไม่รู้นะแม่”



‘ไม่รู้ว่า?’



“ไม่รู้ว่าภาคทฤษฎีกับภาคปฏิบัติไม่ตรงกันง่ะ คือหนูก็พยายามทำให้มันตรงกันอยู่นะ”



‘ทำให้ภาคปฏิบัติตรงกับทฤษฎีใช่ไหม?’



“ใช่ที่ไหนล่ะแม่อ้ะ!”



คุณชื่นฤทัยส่งเสียงหัวเราะร่วนมาตามสายเมื่อได้แกล้งหยอกคุณลูกชายสมใจ ก่อนจะปรับเสียงเป็นผู้ใหญ่แล้วถามพ่อลูกชายคนเดียวด้วยน้ำเสียงจริงจัง



‘ตาเอ็มไม่ได้หลอกอะไรพี่แมนเขาใช่ไหมลูก?’



“............”



เอ็มนิ่งเงียบไปเมื่อถูกถามแทงใจดำ จะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจก็พูดไม่ได้เต็มปาก วันนั้นมันเหตุการณ์สุดวิสัยจริงๆ ถ้าไม่ทำแบบนั้นเขาก็ต้องเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำตกเป็นเมียพี่แมนในภาคปฏิบัติไปด้วยน่ะสิ



‘ตาเอ็มฟังแม่นะลูก คนเรารักกันมันก็ต้องเชื่อใจกันถูกไหม?’



“ถูกจ้ะ...”



‘พี่แมนเขารักลูกชายแม่ เขาก็ต้องเชื่อใจลูกชายแม่ถูกไหมคะ?’



“ถูกจ้ะ...”



‘แต่ลูกชายแม่หลอกพี่แมน ก็เท่ากับว่าลูกชายแม่ทรยศความเชื่อใจของพี่แมนถูกไหมคะ?’



“.....จ้ะ”



ตุ๊ดเสิ่นเจิ้นรับคำอย่างหนักใจ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะอดทนเรียนรู้กันและกันเพื่อให้พี่แมนซึมซับสถานะที่เขาอยากเป็นเสียดีกว่า ยอมรับว่าตอนนั้นแฮปปี้โคตรๆ แต่ถ้ามันจะเป็นความแฮปปี้แค่ครั้งเดียวในชีวิตเขาก็ไม่อยากได้เหมือนกัน



‘บอกความจริงแล้วโดนโกรธ อย่างน้อยก็มีโอกาสให้เราได้ง้อนะคะ แต่ถ้าพี่แมนรู้ความจริงจะปากคนอื่น โอกาสจะง้ออาจจะไม่มีเลยก็ได้นะคะ’



“................”



‘แม่เชื่อว่าตาเอ็มรู้ว่าควรจะทำยังไงนะลูก ถ้าคุยกันเรียบร้อยแล้วก็พาพี่เขามาหาแม่นะ แม่พร้อมสำหรับลูกเสมอ’



“.........จ้ะ ฝันดีนะจ๊ะแม่”



‘ฝันดีจ้ะลูกแม่’



ปลายสายวางไปแล้วพร้อมคำอวยพร แต่อีเอ็มมี่ยังเกาะระเบียงนิ่งๆ เพื่อตกตะกอนความคิดของตัวเองอย่างช้าๆ ใช่สิ...ถ้าพี่แมนรู้ความจริงจากปากคนอื่นก็ไม่มีโอกาสสำหรับเขาอีกแล้ว



พรุ่งนี้นะพี่แมน...ผมจะสารภาพความจริงกับพี่ทุกอย่างเลย



พรุ่งนี้นะ...










โปรดติดตามแอ๊บต่อไป
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 11-10-2017 20:36:45
เหมือนกำลังเริ่มกินมาม่า ชื่อตอนเศร้าจัง
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 11-10-2017 20:50:44
 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-10-2017 21:01:00
ความแตกแน่นอน ว่าแต่ว่าใครเป็นคนทำให้แตก  :hao4:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 11-10-2017 21:01:59
จะทันมั้ยเนี่ยยยเอ็ม
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-10-2017 21:29:42
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 11-10-2017 23:16:35
โอยย กลัวตอนหน้าจัง
ปล.ชอบคุณแม่ของเอ็มจังเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: MayuYume ที่ 12-10-2017 10:27:08
อ่านชื่อตอนแล้วมองอีเอ็มมี่....  :ling3:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 12-10-2017 19:07:15
นั่งกินม่าม่ารอล่ะ สั่นๆๆๆๆๆ

พี่จิ้มน่าจะได้ผัวน่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 12-10-2017 19:23:13
คงไม่ทัน
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 16-10-2017 18:56:33
จะมายังน่ะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 16-10-2017 19:16:09
รอ..แม้จะกลัวมาม่า แต่ก็อยากอ่านต่อ 555
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 17-10-2017 20:57:49
ชอบคุณแม่ของเอ็มอ่ะที่เข้าใจ แถมยังให้คำปรึกษาอีก

เหมือนมีลางว่าจะมาม่า กลัวพรุ่งนี้ของเอ็มจะไม่ได้บอกอ่ะดิ
พี่แมนอย่าโกรธมากนะ ยิ่งพลังเยอะๆอยู่

พึ่งเข้ามาอ่าน ทีเดียวรวดเลย จุใจโคตรๆ
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 04-11-2017 13:26:10
คิดถึงพี่แมนกับเอมมี่จังงงงงงงง
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 04-11-2017 15:20:49
รออยู้น้าาา กำลังถึงตอนสำคัญเลยบ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: MayuYume ที่ 04-11-2017 15:37:26
คนแต่งคดถึงคนแต่งน๊าาาา ต้มมาม่ารอเลยค่ะ(?)  :mew2:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: MayuYume ที่ 01-12-2017 17:25:24
มาต่อเถอะน๊าาาาา :mew2:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Panizzz3838 ที่ 02-12-2017 14:36:55
ปักมุด :hao7: o18 :laugh:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 22: พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง (11/10/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 07-12-2017 20:35:44
แอ๊บที่ 23: น้ำตาคนแมน



“ไอ้เหี้ยแมน”



คนถูกเรียกที่กำลังดูการซ้อมละครบนเวทีหันมองเจ้าของเสียงอย่างไม่สบอารมณ์ หนุ่มหน้าเกาหลีผิวขาวสะอาดสะอ้าน ทรงผมสั้นเซ็ทดูดีอย่างกับดารา เสื้อผ้ายันรองเท้าเป็นของแบรนด์เนมทุกชิ้นแบบที่กลัวคนอื่นไม่รู้ว่าบ้านกูรวย พี่แมนมองหน้าหล่อๆ ของมันไล่ลงมาจนถึงปลายรองเท้าหัวแหลมก่อนจะวกกลับขึ้นไปมองหน้ามันอีกทีด้วยสีหน้าสงสัย



“มึงเป็นใครวะ?”



“มึงจำกูไม่ได้ไงวะ?”



“ถ้าจำได้กูจะถามมึงเหรอวะ?”



“กู...ฉิมพลี รุ่นพี่มึงไง”



พี่แมนสะบัดหน้าจ้องมันอีกครั้งให้เต็มตาอย่างตกใจ นี่รุ่นพี่กูไปถอดรูปชุบตัวมาจากไหน ทำไมมันหล่อตี๋เกินหน้าเกินตากันได้ขนาดนี้?



“มึงมาทำไรเนี่ย? ไม่ฝึกงานรึไง?”



“กูมีภารกิจที่สำคัญกว่านั้นว่ะ มึงช่วยไรกูหน่อยดิ”



“อะไรวะพี่?”



“ลากไอ้โฟนมาให้กูหน่อย”



แกนปี 4 เลิกคิ้วก่อนจะหันไปกวักมือเรียกสมุนซ้ายขวาที่ว่างอยู่ให้เข้ามาใกล้เพื่อรับคำสั่ง



“ไอ้โฟนอยู่นี่ป่ะ?”



“มันอยู่หลังเวทีอ่ะ”



“ไปเรียกมันมาให้หน่อย”



“เฮ่ย! ไม่เรียก ลาก...พวกมึงลากมันมาเลย”



พี่ฉิมแก้คำสั่งแล้วโบกมือไล่พวกมันไปปฏิบัติหน้าที่ ก่อนจะยิ้มร้ายออกมาเมื่อคราวนี้ยังไงไอ้รุ่นน้องเขาก็คงหนีไม่รอดเงื้อมมือแน่ๆ หลังจากวิ่งไล่จับเป็นหนังอินเดียกันมาหลายวันแล้ว



“คุยกันรู้เรื่องแล้วเหรอ?”



“ถ้ารู้เรื่อง กูจะต้องให้มึงช่วยเหรอ? พอตกเป็นเมียกูแล้วแม่งงี่เง่าขึ้นเยอะเลย”



พี่ฉิมสบถบ่น แต่คำพูดนั้นไปสะกิดหูคนข้างๆ เข้าอย่างจัง พี่แมนนิ่งคิดไปสักใหญ่ก่อนจะตีหน้านิ่งเอ่ยถามรุ่นพี่อย่างไม่ให้มีพิรุธ



“ไอ้โฟนเป็นเมียพี่เหรอ?”



“อ่าว? มึงเป็นคนจัดให้กูเองนะ”



พี่ฉิมประท้วง ยู่หน้าหล่อๆ ลงอย่างหงุดหงิด



“คือ...เวลาทำอย่างนั้นอ่ะ”



“อย่างนั้นอ่ะ”



คนหน้าหล่อทำหน้าจริงจังตามรุ่นน้องที่ขมวดคิ้วถามเสียยังกับเมียหาย คนที่เมียหายน่ะมันเขาต่างหาก!



“เวลาทำอ่ะ”



“ทำอ่ะ”



“คือ...บนเตียงอ่ะ”



“เออ! มันทำไมล่ะ? ทำไมมึงไม่พูด?”



“มันอธิบายง่ายนักรึไงล่ะ?!”



แกนปี 4 แหวใส่ ก่อนจะหันซ้ายหันขวาหาตัวช่วย หันไปหันมาก็ไปเจอแก๊งค์ปี 2 มันนั่งปูเสื่อจกส้มตำไก่ย่างกันอยู่หน้าเวที เลยปิ๊งไอเดียขึ้นมาแก้สถานการณ์ได้



“เวลาทำอ่ะ พี่เป็นครกหรือเป็นสาก?”



พี่ฉิมทำหน้าเอ๋อหล่อไป 3 วิฯ นี่มันทำรักหรือตำส้มตำวะ คราวหน้ากูต้องฉีกปูดองเทน้ำปลาร้าใส่ไอ้โฟนด้วยไหม? คนทำเมียหายพยายามใช้จินตนาการขั้นสูงสุดของตัวเองทำความเข้าใจคำพูดของรุ่นน้อง ก่อนจะร้องอ๋อขึ้นมาเมื่อพอจะเทียบบัญญัติไตรยางค์ได้



“กูก็ต้องเป็นสากสิวะ!! มึงถามเหี้ยไรเนี่ย?”



คนได้รับคำตอบนิ่งไปชั่วอึดใจ หน้าซีดเผือดยังกะประจำเดือนมาก่อนจะถามย้ำด้วยน้ำเสียงขาดหาย



“พี่เป็นสาก แล้วพี่ก็เป็นผัว”



“เออสิ”



“ไอ้โฟนเป็นครก...มันเป็น...เมียพี่”



“เออ! มึงเป็นอะไรเนี่ย? เมายาแก้แพ้เหรอ?”



พี่แมนไม่ตอบคำ แต่ก่อนที่พี่ฉิมจะได้ซักไซ้รุ่นน้องไปมากกว่านี้ สองสมุนของพี่แมนก็ล็อกแขนแกนปี 3 มาส่งให้ถึงที่ พอเห็นใบหน้ารุ่นพี่ที่แปลงโฉมมาใหม่เท่านั้นล่ะ น้องโฟนก็ดีดดิ้นเป็นปลาดุกโดนทุบหัว จนรุ่นพี่ต้องล้วงเชือกที่เตรียมมามัดแขนมัดขาเอาเทปปิดปากแล้วแบกขึ้นบ่าเดินหายออกไปทันที



“พี่ฉิมแม่งเจ๋งว่ะ”



สมุนซ้ายเอ่ยชมรุ่นพี่อย่างนับถือ สมุนขวาก็เออออห่อหมกไปด้วย ครู่หนึ่งกว่าที่ทั้งครู่จะรับรู้ได้ถึงกระแสลมเย็นๆ ที่วูบผ่านสันหลังไปอย่างชวนขนลุก



“ตอนกอดอีกุมารนั่น พวกมึง...เป็นครกหรือเป็นสากวะ?”



น้ำเสียงของหัวโจกที่ใช้ถามนั้นเรียบนิ่งจนสองสมุนต้องมองหน้ากันอย่างหวาดๆ พี่งอกและพี่เงิบที่มีความสามารถด้านเรื่องลามกเป็นทุนเดิมอยู่แล้วไม่ต้องเสียเวลาคิดก็เข้าใจได้ทันทีว่าเพื่อนถามอะไร แต่ประเด็นคือมันถามทำไม?



“กูเป็นผัวน้องเขาก็ต้องเป็นสากสิวะ”



พี่เงิบตอบเหมือนว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ แต่กลับยิ่งโหมกระพือบางอย่างที่คุอยู่ในอกแกนคณะขึ้นมาอย่างเงียบๆ ดวงตากลมโตตวัดมองสมุนอีกคนเพื่อเรียกร้องคำตอบ



“กูก็...เหมือนกัน”



สิ้นคำพี่งอก พี่แมนก็หลับตาลงแน่นแล้วลืมขึ้นมาใหม่ด้วยสีหน้าเฉยชาไม่เปลี่ยน



“เลิกซ้อม”



“อะไรนะมึง?”



“กูสั่งให้เลิกซ้อม!!”



พี่แมนตวาดลั่น น้ำเสียงทรงพลังทำเอาทุกชั้นทุกแผนกหยุดชะงักกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ แม้แต่พระนางที่กำลังตระกองกอดร่ำไห้อยู่บนเวทีก็น้ำตาอาบแก้มค้างมองหน้าแกนปี 4 ตาปริบๆ



“เรียกปี 4 ทุกคนรวมที่บ่อน้องเหี้ย กูให้เวลา 5 นาที!”



.

.

.



ก๊อก ก๊อก



เสียงเคาะประตูห้องหอทำเอาตุ๊ดเทียมที่กำลังง่วนกับการเตรียมอาหารมือใหญ่ถึงกับสะดุ้ง ทำไมวันนี้พี่แมนกลับมาเร็วจัง? เขาอุตส่าห์ทำของโปรดไว้ให้ กะว่าซ้อมกลับมาเหนื่อยๆ จะให้กินให้อร่อย นวดเอาใจให้คลายเมื่อยแล้วค่อยสารภาพผิด อย่างน้อยความผิดมันก็น่าจะทุเลาแบบคิดเอาเองไปได้บ้าง



เอ็มปิดเตาแก๊ส ถอดผ้ากันเปื้อนลายคิตตี้แขวนไว้แล้วแอบไปส่องกระจกเช็คสภาพหน้าให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะรีบวิ่งมาเปิดประตูด้วยท่าทางสดใส



“กลับมาแล้วเหรอครับ~”



รอยยิ้มสดใสค่อยๆ หุบลงเมื่อบุคคลที่มาเคาะประตูไม่ใช่ผัวรักที่ตนรออยู่ แถมไม่ได้มีมากกว่าหนึ่งซะด้วยสิ



“ไอ้แมนให้มาเชิญ”



“ห๊ะ? เชิญ? เห้ย!!”



ยังไม่ทันได้ถามความต่อ เอ็มก็ถูกสมุนคุณแฟนมัดเป็นแหนมแล้วลากไปส่งแฟนมันทั้งที่ตัวเองมันยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แหนมดุ้นใหญ่ถูกประดับด้วยไก่สดกลิ่นจรุงใจรอบเอวก่อนจะถูกห้อยลงมากลางบ่อน้องเหี้ย โดนมีคุณสามียืนมองทุกขั้นตอนด้วยความนิ่งเฉยเช่นเคย



“อ..ไอ้แมน มึงทำไรวะ? นั่นเมียมึงนะ”



พี่งอกเอ่ยเตือนเสียงตะกุกตะกัก ไอ้แมนที่ตีหน้านิ่งแบบนี้แม่งน่ากลัวก็ตอนมันโมโหวิ่งไล่กระทืบเมียมันซะอีก!



“มันไม่ใช่ “เมีย” กู”



หัวหน้าแก๊งค์เน้นเสียง ขบฟันกรอดอย่างนึกแค้น ยิ่งอีเอ็มมี่ส่งสายตาอ้อนวอนขอความปรานี คนที่โง่ปล่อยให้มันหลอกมาได้ถึงป่านนี้ก็ยิ่งโมโหจนแทบเก็บอารมณ์ไม่อยู่



“หย่อนมันลงมา”



“งี๊ดดด พี่แมน อย่าทำเค้า~!!”



เอ็มดิ้นดุ๊กดิ๊ก มองระยะห่างระหว่างไก่ที่เอวกับน้องเหี้ยที่ตาเป็นประกายในบ่ออย่างหวาดกลัว อีน้องเหี้ยนี่ก็ไม่รู้จะไปหิวมาจากไหน พอเหยื่อถูกหย่อนลงมาได้ระยะ มันก็กระโดดงับไก่ทันที ดีนะที่เขาโหนตัวหลบทันได้หวุดหวิด



“ต่ำลงอีก”



“เห้ย! ไอ้แมน”



พี่งอกพี่เงิบพยายามเรียกสติเพื่อน แต่ดูเหมือนว่าความผิดที่อีเอ็มมี่ก่อมันจะเป็นเรื่องใหญ่โตมโหฬารจริงๆ ถึงได้โดนไอ้แมนจับบูชายัญเจ้าพ่อเหี้ยแบบนี้ พอเห็นเหยื่อที่ห้อยต่องแต่งอยู่บนนั้นแล้ว สองสมุนก็ได้แต่ทำหน้าเหยเกด้วยความหวาดเสียวแทน



“แอ๊~!!”



เอ็มร้องเสียงหลงเมื่อไก่ตัวที่ผูกอยู่ด้านซ้ายถูกสอยลงไปกินในน้ำแล้วเรียบร้อย ชายหนุ่มผู้ตกเป็นเครื่องเซ่นพยายามยกเข่าสูงแต่เหมือนจะไม่ช่วยอะไรเมื่อน้องเหี้ยอีกตัวโดดขึ้นมางับไก่ตัวขวาลงไปแดกได้อีกตัว



คนถูกแขวนใจเต้นตึกตัก ไก่น่ะมันเหลือตัวเดียว ตัวเล็กสุดด้วยไง แถมมันอยู่ในจุดที่อันตรายที่สุดบนร่างกายด้วยไง น้องเหี้ยหลายตัวที่ยังไม่ได้ลิ้มเนื้อไก่ว่ายน้ำวนรอบเหยื่อเพื่อหามุมเหมาะ ในขณะที่เอ็มก็ภาวนาในใจอย่างบ้าคลั่ง



มึงอย่าสับสนระหว่างไก่กับไข่นะเห้ย!



ตูม!



“อ๊ากก!!”



น้องเหี้ยตัวที่ใหญ่ที่สุดพุ่งขึ้นมาจากน้ำงับเข้าที่ไก่ตัวน้อย แต่บังเอิ๊ญอีไก่มันก็ตัวเล็กกว่าปากน้องเหี้ยไปหน่อย น้องเหี้ยเธอเลยขูดเอาส่วนประชิดไปหวุดหวิด กางเกงขาสั้นที่ใส่ติดกายขาดแคว่กที่จุดเกิดเหตุโชว์น้องลิงสีเขียวสะท้อนแสงตัวน้อยแก่สายตาประชาชี



“พอแล้วๆ พวกมึงดึงมันขึ้นมาได้แล้ว”



พี่เงิบสั่งพรรคพวกอย่างเห็นใจอีตุ๊ดเพื่อนเมียที่ตัวสั่นระริกอย่างเสียขวัญ แก๊งค์สถาปัตย์ช่วยกันดึงตัวอีเอ็มมี่ขึ้นมาแล้วแก้เชือกที่ผูกตัวมันกับกิ่งไม้ใหญ่ให้ เหยื่อน้องเหี้ยขาสั่นเหมือนเพิ่งเสียตัว หน้าซีดเหมือนเพิ่งลงจากเครื่องเล่นหวาดเสียว แต่มันก็ไม่ละความพยายามที่จะกระดึ๊บตัวเข้ามาหาคุณแฟนที่รักที่ปรายตามองอย่างไม่แยแส



“พ...พี่แมน”



พอจะคว้าตัวคุณแฟนได้ เธอก็เดินหนีอาดๆ ไปอย่างเกลียดขี้หน้า ทำเอาคนที่ปล่อยตัวสำออยอยู่เมื่อครู่ต้องรีบรวบรวมกำลังลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลแล้วก้าวตามสุดที่รักไปทั้งที่ขายังสั่น



กว่าจะไล่หลังพี่แมนทันก็แทบหืดขึ้นคอ พอคว้ามือได้พี่แมนก็สะบัดหนีอีก จับสะบัดฟัดนัวกันอยู่นานกว่าเอ็มจะรั้งแขนพี่แมนทั้งสองข้างให้หันมาเผชิญหน้ากันได้



“พี่โกรธอะไรผม?!!”



“ปล่อยกู”



“ไม่ปล่อย เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”



“ไม่ปล่อยก็ได้”



พลั่ก!!



หมัดหนักๆ ตามแบบฉบับของสุดโหดประจำมหาลัยซัดเปรี้ยงเข้าที่ข้างแก้มอดีตเมียอย่างเต็มรัก เอ็มหน้าหัน หงายลงไปนอนวัดพื้นนับไส้เดือนได้ในหมัดเดียว คนโดนชกสะบัดหัวไล่ความมึนงง ก่อนจะใช้มือรองเลือดที่บ้วนออกมาจากปากพร้อมฟันกรามที่หลุดติดออกมาทั้งซี่อย่างน่าสยอง



“พี่แมน...นี่มันแรงไปแล้วนะ”



เอ็มประท้วง



“เจ็บเหรอ?”



พี่แมนถามเสียงนิ่ง มองคนที่ไม่สามารถเรียกว่าเมียได้เต็มปากอย่างว่างเปล่า



“พี่แมน...”



“กูเจ็บกว่ามึงอีก”



คนโดนหลอกทิ้งน้ำตาให้ไหลลงข้างแก้ม ทำเอาคนที่เลือดกบปากครางเรียกชื่ออย่างตกใจ จะดึงตัวเข้ามากอดปลอบก็โดนขยับถอยหนีไปอีก



“พี่แมน...จะไปไหน?”



คนตัวบางสาวเท้าหนี พอถูกเดินตามก็หยุดกึกหันมาจ้องตัวต้นเหตุด้วยดวงตาดุ แต่พอมันฉ่ำไปด้วยน้ำตาแบบนั้นแล้วเลยดูเหมือนลูกแมวขู่หมาตัวโตมากกว่า



“อย่าตามมานะ”



ไม่รู้ทำไมปากถึงได้เลือกที่จะเชื่อฟังคำสั่งที่สั่นเครือจนแทบจะเป็นคำขอร้องนั้น เขาได้แต่มองแผ่นหลังของคนที่เดินก้มหน้าซ่อนน้ำตาไว้ใต้กลุ่มผม ค่อยๆ เดินห่างไกลกันออกไปทุกที ทุกที...





โปรดติดตามแอ๊บต่อไป



Talk~
ขอโทษที่หายไปนานค่ะ
ติดธุระรวมกันหลายเรื่องเลยค่ะ
เดี๋ยวจะค่อยๆ ทยอยลงจนจบนะคะ

ปล. สงสารพี่แมนมากกกก อยากจับมากอดปลอบจูบปลอบ
เอ่เอ๊ น้า อย่าร้องๆๆๆ *ตบตีอีเอ็มมี่รัวๆ*
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 23: น้ำตาคนแมน (08/12/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 07-12-2017 21:05:52
 :mew5: ความลับแตก ถึงคราวซวยของหนูเอ็มซะแล้ว
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 23: น้ำตาคนแมน (07/12/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-12-2017 21:20:37
 o22 o22 o22 o22
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 23: น้ำตาคนแมน (07/12/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 07-12-2017 23:31:27
เคลียร์กันไวๆน้า เอ็มง้อด่วน /กอดปลอบพี่แมนน้าา 
แต่เอ็มมันยอมพี่แมนมาตลอด ยอมทุกเรื่อง รองมือรองตีนพี่แมนจนมันน่วมแทบทุกวัน  :laugh: เะราะฉะนั้น เรื่องบนเตียงพี่แมนก็ยอมๆมันไปเถอะ
ดีใจที่ไรท์มาต่อนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 23: น้ำตาคนแมน (07/12/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-12-2017 23:48:09
พี่แมนรู้สึกเสียหน้าที่ตัวเองมิใช่สามี แต่เป็นภรรเมียบนเตียง ใช่มะ  :hao3:
งั้นเอาใหม่นะ ให้ไปดูที่การกระทำดีกว่านะ เอ็มมี่เป็นคนทำอาหารให้พี่แมน คนที่ทำกับข้าว ดูแลห้องหับต้องเป็นภรรเมีย ดังนั้นพี่แมนเป็นสามีนะถูกต้องแล้ว กลับไปปลอบเอ็มมี่ด้วย ฟันหลุดเป็นแถบแล้วมั้ง  :undecided:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 23: น้ำตาคนแมน (07/12/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 08-12-2017 00:01:22
พี่แมนนนน ฟังอิเอมมี่อธิบายก่อนนนน
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 23: น้ำตาคนแมน (07/12/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: A_bookworm ที่ 08-12-2017 09:26:42
กลับมาแล้วฮู้เล้ฮู้เล๊ เย้ๆๆๆ นึกว่าจะอดอ่านแล้วซะอีก ขอบคุณไรท์เตอร์มากกกกกกกที่กลับมาต่อ (ขยี้ตาหลายรอบมากที่เห็นตอนใหม่) :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 23: น้ำตาคนแมน (07/12/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 08-12-2017 09:35:52
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 23: น้ำตาคนแมน (07/12/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 08-12-2017 11:36:57
คิดถึงสิ่งที่เมียตุ๊ดของพี่ทำให้พี่ดูซิพี่แมน
ภริยาดีเด่ขนาดนี้หาที่ไหนได้อีก
น้องยอมพี่แมนทุกเรื่อง กะแค่เรื่องครกกับสากแค่นี้จิ๊บๆ
น่านะๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 23: น้ำตาคนแมน (07/12/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 08-12-2017 12:16:10
ซวยแล้วไงเอ็ม ใจเย็นๆแล้วคิดแผนง้อพี่แมนเลย
ต่ก่อนอื่นต้องรู้ให้ได้ก่อนนะ ว่าพี่แมนแกรู้ความจริงแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 23: น้ำตาคนแมน (07/12/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 09-12-2017 23:00:26



ในที่สุดความจริงก็เปิดเผยแล้ว สนุกล่ะอิอิ

ดีใจอ่ะมาต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 23: น้ำตาคนแมน (07/12/17) p.6
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 10-12-2017 17:00:36
แอ๊บที่ 24: ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด



“แปลว่าพี่แมนรู้แล้วว่ามึงไม่ใช่เมียเขา”



แฝดผู้พี่เอ่ยสรุป หลังจากสอบถามเหตุการณ์จากคุณสามีของตัวเองแล้วมานั่งสุมหัวปะติดปะต่อเรื่องราวกันอยู่ที่หอเพื่อนหญิง พอได้ยินดังนั้น เอ็มที่สลดเป็นผักโดนลวกแล้วก็ยิ่งห่อเหี่ยวลงไปอีก



“กูสารภาพช้าไป”



เอ็มพูดน้ำตาซึม ก้มหน้านิ่งจนแฝดคนน้องต้องโยกตัวปลอบ สองสามวันมานี้พี่แมนหลบหน้าเอ็มตลอด หนักเข้าเอ็มก็ไปดักหน้าห้องหอ พี่แมนเลยตัดปัญหาด้วยการไม่กลับห้องตัวเองเสียเลย



“เอาน่า...ให้เวลาพี่แมนหน่อย เดี๋ยวเขาคงยอมให้แกง้อเองนั่นแหละ”



มาม่าพยายามหาคำปลอบ ทั้งๆ ที่ตนก็ไม่แน่ใจในคำปลอบนั้นสักเท่าไรนัก แต่อย่างน้อยก็อยากให้อีเพื่อนมันเลิกทำหน้าเหมือนหมาโดนทิ้งแบบนี้สักที เห็นแล้วจิตตก!



“จริงด้วยมึง นี่กูก็ให้ผัวกูช่วยดูอยู่ มึงก็แดกข้าวแล้วก็นอนซะมั่ง โทรมแบบนี้พี่เขาเห็นหน้าก็ยิ่งอยากเขี่ยมึงทิ้งน่ะสิ”



เมเม่พูดพลางเดินไปอุ่นเกี๊ยวน้ำเซเว่นให้เพื่อน แล้วก็กลับมาบังคับให้มันกินให้หมดก่อนจะไล่อดีตเมียพี่แมนไปอาบน้ำ แต่เจ้าตัวส่ายหน้าปฏิเสธ



“กูจะกลับห้อง”



“มึงอย่าดื้อน่า”



“ก็แค่เผื่อพี่เขากลับมา กูสัญญาว่าจะนอนให้หลับ”



พอรู้ว่าแม้จะดึงดันไป มันก็คงดื้อแพ่งจะกลับไปรังรักให้ได้อยู่ดี สองแฝดจึงยอมปล่อยให้เพื่อนซี้ได้ทำตามใจโดยไม่ลืมกำชับหนักหนาว่าให้กินยาแก้ปวดฟันที่เพิ่งทำมาก่อนนอนด้วย



.

.

.



แกร๊ก



เสียงประตูห้องบนชั้น 7 ดังขึ้น ก่อนที่พี่แมนผู้ซึ่งตัวเหม็นยังกับไปตกถังเหล้าแต่กลับไม่มีท่าทางเหมือนคนเมาซักนิดเดินเข้ามาในห้องโดยไม่เปิดไฟ พอคลำทางได้ก็ล้มตัวลงแหมะบนเตียง ยังไม่ทันจะหลับให้สมอารมณ์หมาย อะไรแข็งๆ บนเตียงก็ทำเอาพี่แมนเด้งพรวดไปเปิดสวิตซ์ไฟโดยสัญชาตญาณ



“มึง?! ทำไมมึงมานอนอยู่นี่? ก็อีงอกมันบอกว่ามึงอยู่กับเมียมันนี่?”



พี่แมนผู้หลบเลี่ยงการเผชิญหน้ามาตลอดคิดจะหลบหนี แต่คนโดนเมินรู้ทันขยับเข้ามาขวางอย่างไม่กลัวตาย ล็อกเอวไว้ได้ก่อนที่พี่แมนจะเผ่นหนีไปได้อย่างหวุดหวิด



“พี่แมน ฟังผมก่อนนะ”



“กูไม่ฟัง ปล่อยกู!!”



คนแรงเยอะกระทุ้งเข่าเข้าที่ท้องน้อยจำเลย ถึงจะเจ็บจนหน้าเขียวเป็นฝาโออิชิรสต้นตำรับแต่เอ็มก็กัดฟันทนไม่ยอมปล่อยมือที่ล็อกเอวบางๆ ของคุณอดีตสามีออก



“ให้โอกาสผมแก้ตัวบ้างเซ่!”



“ฟังมึงหลอกกูอีกน่ะเหรอ? ห๊ะ?”



“ผมขอโทษจริงๆ นะ ผมผิดเองที่หลอกพี่แมน แต่ตอนนั้นมันเหตุสุดวิสัยอ้ะ ถ้าผมไม่หลอก ผมก็กลายเป็นเมียพี่แมนแทนอ่ะดิ”



เอ็มพยายามอธิบาย แต่เหมือนจะได้ผลตรงกันข้ามเสียมากกว่า



“มึงก็เลยทำให้กูกลายเป็นมะ...เมียมึงแทนเนี่ยนะ? เหี้ยกระดากปาก!”



“ก็มันมีวิธีอื่นหรือไงเล่า?”



“แล้วมึงไม่คิดหรือไงว่าการที่กูเป็นเมียตุ๊ดนี่มันทำให้กูเสียศักดิ์ศรีแค่ไหน?! กูเป็นผู้ชายนะ! ผู้ชายที่อยากมีเมีย ไม่ได้อยากตกเป็นเมียคนอื่น! มึงเข้าใจความรู้สึกกูไหม? อีตุ๊ดเห็นแก่ตัว!!”



คนโดนตวาดชะงักไปเมื่อเห็นน้ำตาอดีตสามีรื้นขึ้นมาอีกรอบ มือไม้ที่ล็อกเอวบางเหมือนจะหักไว้เมื่อครู่ก็เผลอปล่อยออกเพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าหยุดดิ้นแล้วหันไปร้องไห้แทนซะแล้ว



“ทั้งๆ ที่กูไว้ใจมึง...อึก...แต่มึงก็หลอกกูได้ กูเจ็บใจ...มึงรู้ไหม? กูเจ็บใจมาก...ฮึก...เสียใจมากด้วย อีเลว!!”



กำปั้นพี่แมนทุบอั้กมาที่อกล่ำๆ ของคนตรงหน้า ถ้าเป็นของชะนีอาจจะดูน่ารักพอทน แต่ถ้าเป็นกำปั้นพี่แมนนี่ขึ้นรอยช้ำเป็นวงได้อย่างไม่ต้องสงสัย



“ผมขอโทษนะ...พี่แมนอย่าร้องไห้สิ ผมเห็นน้ำตาพี่แล้วใจไม่ดีเลย”



“มึงคิดว่ากูอยากร้องรึไง? เพราะมึงนั่นแหละ อีตุ๊ดสารเลว ฮือ....”



พอถูกเมียรักพูดเสียงอ่อนโยนใส่ พี่แมนก็ปล่อยโฮออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ โกรธมันก็โกรธ โกรธตัวเองก็โกรธที่พอได้ยินเสียงแบบนี้ของมันแล้วใจก็อุ่นวาบทุกที



“ไหนๆ ก็ไหนแล้ว ผมมีอีกเรื่องจะสารภาพ”



“นี่มึงยังหลอกอะไรกูอีก...ห๊ะ?”



ดวงตากลมแดงฉ่ำน้ำจ้องมองอีเอ็มมี่อย่างคาดคั้น



“คือผม...”



“อึก...อะไรเล่า?”



“ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด”



พี่แมนถึงกับลืมสะอื้น จ้องหน้าตุ๊ดตรงหน้าอย่างสับสน มันเป็นตุ๊ดที่บอกว่าตัวเองไม่ใช่ตุ๊ด แต่มันเป็นตุ๊ดนะ!



“อะไรนะ?”



“ผมบอกว่าผมไม่ได้เป็นตุ๊ด ผมเป็นผู้ชาย”



“นี่มึง...”



พี่แมนหายใจหอบเหมือนในอกจะปะทุเดือดด้วยอารมณ์โกรธขึ้นมาอีกรอบ



“นี่มึงหลอกกูว่ามึงเป็นตุ๊ดมาตลอดเลยเหรอ?!”



กูไปหลอกมึงตอนไหนวะ? จำได้ว่ากูอธิบายเท่าไหร่มึงก็ไม่ฟังเองนะ



เอ็มคิดพลางทำหน้าเหวอ ในขณะที่อีกคนพยายามประมวลผลด้วยภาวะสมองขั้นสุด ตอนสอบโอเน็ตกูยังไม่มึนขนาดนี้เลยนะ!



“มึงไม่ได้เป็นตุ๊ด?”



“อาฮะ”



“งั้นใครเป็น? กูเหรอ?”



พี่แมนเอานิ้มจิ้มจึ้กที่อกตัวเอง ในขณะที่เอ็มขำพรวด พี่แมนเห็นอย่างนั้นก็สะบัดตัวทำท่าจะหนีไปอย่างทนไม่ได้ แต่เอ็มก็มือไวคว้าเอวหมับไว้ได้เสียก่อน



“ไม่มีใครเป็นตุ๊ดทั้งนั้นแหละครับ”



“กูไม่อยากคุยกับมึงแล้ว กูปวดหัว! ปล่อยกูนะ!”



“พี่แมนก็เลิกโกรธผมก่อนสิครับ”



“นี่มึงต่อรองเหรอ? อย่าให้กูต้องใช้กำลังนะ”



แกนสุดโหดทั้งดิ้นทั้งเหวี่ยงแขน แต่อีกฝ่ายก็หลบเลี่ยงอย่างสุดชีวิต



“อย่าโกรธกันเลยครับ ผมไม่ชอบเลยเวลาพี่แมนเมินผม ดีกันเถอะนะ?”



“กูไม่มีวันยกโทษให้มึงหรอก!”



เอ็มจับตัวคนดื้อให้หันมาเผชิญหน้าก่อนจะตีหน้านิ่งเอ่ยท้าอย่างเป็นต่อ



“งั้นพี่แมนกล้าพูดไหมล่ะครับว่าพี่เกลียดผมน่ะ?”



ไม่มีทาง...แฟนกูเค้ารักกูจะตาย!



“เออ! กูเกลียดมึง!!”



แกนคณะเธอจัดให้ชัดถ้อยชัดคำ เล่นเอาเอ็มเหวอแดก พี่แมนเลยใช้จังหวะนี้เตะเจาะยางไปเต็มแรงแล้ววิ่งหนีออกจากห้อง ฝ่ายเอ็มที่กุมแข้งหน้าเบี้ยวก็รีบคลานกระดึ๊บๆ เป็นหนอนชาเขียวเพื่อโผล่หน้ามามองแผ่นหลังเล็กๆ วิ่งดุ๊กๆ ไปจนเกือบสุดทางเดิน



“ถึงผมจะหลอกพี่หลายเรื่อง แต่ที่ผมรักพี่น่ะเป็นเรื่องจริงนะ!!”



เอ็มตะโกนลั่นสุดเสียง หยุดขาพี่แมนได้อย่างชะงัด แต่ก็เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นก็ที่ท่านแกนฯ เธอจะก้าวอาดๆ เดินลงจากชั้น 7 ไปโดยไม่สนใจรอลิฟต์



.

.

.



“กูชักจะเบื่อหน้ามึงแล้วนะไอ้พี่จิ๋ม”



“กูชื่อฉิม ไอ้เหี้ยงอก!”



รุ่นพี่ปี 5 ตวาดใส่รุ่นน้องตัวแสบที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่สายตายังไม่ละไปจากรุ่นน้องปี 3 ที่นั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนห่างไปไม่ไกลในโรงละครของมหาวิทยาลัยที่แก๊งค์สถาปัตย์ที่ยึดพื้นที่ตรงนี้ฝึกซ้อมละคร



ไอ้น้องโฟนที่นั่งอยู่ข้างเพื่อนตัวเองนั่งทำหน้าเหมือนโดนยาเบื่อมาตั้งแต่ถูกลากมาซ้อมละครพร้อมกับไอ้ตัวการเมื่อครู่ อยากจะลุกหนีก็ทำไม่ได้เพราะไอ้บ้านั่นมันขู่ไว้ว่าอยู่นอกสายตามันเมื่อไหร่มันจะลากไปมิดีมิร้ายทันที และก็นั่นแหละ...ไม่ใช่ว่าไม่เคยลองหนีหรอกนะ แต่มันไม่สำเร็จสักครั้งไงเลยต้องมานั่งให้มันมองเหมือนหมาเลียกระดูกอยู่แบบนี้



“นี่พี่เคลียร์กับมันรู้เรื่องยัง?”



พี่เงิบถามขึ้น เสือกระยะประชิดจนจำเลยร่วมหูกระดิกมองตาขวาง แต่พี่เงิบก็ถือว่ากูเป็นรุ่นพี่ กูมีสิทธิ์เสือก!



“ก็พอจะรู้เรื่องอ่ะนะ ตอนนี้ก็จีบๆ อยู่”



“จีบยังไงวะ?”



“ใช้หัวไง”



แกนปี 3 สะบัดมองหน้าไอ้รุ่นพี่อย่างนึกค้าน ไอ้ที่มึงทำคือลากกูไปคอนโดมึงแล้วก็ขยี้กูโดยไม่พูดไม่จานี่มันใช้หัวตรงไหนของมึงวะ?



“หัวอะไรของพี่วะ?”



“ก็หัว***ไง”



“ไอ้เหี้ย!!”



จำเลยร่วมสุดทน ด่าไอ้รุ่นพี่ปากหมาหน้าแดงเถือก ฝ่ายพี่ฉิมก็ยิ้มมุมปากอย่างได้ใจที่ยั่วเมียจนปรี๊ดแตกหลังจากชักสีหน้าเหม็นเบื่อใส่มันมาหลายชั่วโมง



“พวกมึงไปจีบกันไกลๆ ได้ไหม? กูรำคาญ”



ประโยคคำสั่งที่มาในรูปประโยคขอร้องแบบห้ามปฏิเสธหยุดอาการกระฟัดกระเฟียดของไอ้น้องโฟนได้ผลชะงัด พี่แมนที่ยืนมองการแสดงบนเวทีอยู่ใกล้ๆ ส่ายหัวอย่างนึกหมั่นไส้ รู้งี้ไม่จับไอ้โฟนเสิร์ฟไอ้พี่ฉิมซะก็ดี มาจีบกันให้กูแสลงใจอยู่ได้!



“อิจฉาล่ะซี้~ อิจฉาก็รีบคืนดีก็เมียซะทีสิคะ พี่แมนขา~ เอ็มมี่คิดถึงพี่แมนนะค้า~”



พี่งอกเอ่ยล้ออย่างสนุกปาก แต่พอเพื่อนรักเท้ากระตุกเตะเก้าอี้ใกล้ๆ ล้มกลิ้งไป 3 ตลบก็ทำให้ทุกคนเข้าสู่สภาวะใบ้แดกได้อย่างเฉียบขาด



คิดถึงเหี้ยอะไร? วันนี้มันยังไม่โทรมาง้อกูเลยเนี่ย!



Rrrrrrrr




พูดไม่ทันขาดคำไอโฟนพี่แมนก็สั่นกึกๆ อยู่ในกระเป๋า แกนคณะล้วงขึ้นมาอย่างมีมาดแต่ชื่อที่โชว์กลับไม่ใช่คนที่อยากได้ยินเสียง แต่เป็นเบอร์แปลกที่ไม่รู้จัก พี่แมนชั่งใจอยู่พักใหญ่แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะกดรับ



“ฮัลโหล”



‘ยังรักกับเมียดีอยู่ไหม? เพื่อนแมน’



“มึงเป็นใคร?”



‘อะไรกัน? แมนจำเราไม่ได้เหรอ? เสียใจจังนะ’



เสียงจากปลายสายยียวนจนพี่แมนรู้ได้ว่ามันไม่ได้มาดีแน่ แกนคณะปี 4 ส่งสายตาให้สองสมุนอย่างเป็นอันรู้กันว่าอาจมีเรื่องให้ต้องลงมือกันอีกแล้ว



“มึงเป็นใคร? กูไม่มีเวลามาล้อเล่นกับมึงหรอกนะ”



‘ไม่มีเวลาให้เรา แล้วพอจะมีเวลาให้น้องเอ็มมี่ เมียแมนบ้างรึเปล่าล่ะ?’



‘โอ๊ย!!’




เสียงที่สองที่ลอดเข้ามาในสายทำเอาพี่แมนใจกระตุก เพราะช่วงนี้มันโทรมาง้อเขาเกือบทุกวันก็เลยจำเสียงมันผ่านสัญญาณโทรศัพท์ได้ขึ้นใจ



“มึงทำอะไรเมียกู?!”



‘จุ๊ๆๆ แมนนี่พูดไม่เพราะเลย ถ้าทำให้เราไม่พอใจล่ะก็...’



‘อ๊ากก’




“มึงอย่าทำอะไรเมียกูนะ!!”



เสียงหัวเราะลอดผ่านปลายสายมาอย่างพออกพอใจเมื่อได้ยินแกนสถาปัตย์ตวาดด้วยเสียงร้อนรน พี่งอกกับพี่เงิบสั่งให้หยุดการซ้อมแล้วเรียกรวมปี 4 อย่างเตรียมพร้อม ในขณะที่ไอ้โฟนที่อยู่ใกล้ๆ ก็สั่งให้ปี 3 เตรียมหาอาวุธเช่นกัน



‘แค่นิดหน่อยน่า...เจ็บน้อยกว่าตอนมึงกระทืบกูจนนอนโรงบาลเป็นเดือนตั้งเยอะ’



“ไอ้เหี้ยภูมิ!”



‘หึ...จำกันได้ซักทีนะ’



“มึงต้องการอะไร?”



‘เดี๋ยวกูจะส่งแผนที่ไปให้ มาหากูซะ’



“ได้...แค่นั้นใช่ไหม?”



‘แค่นั้นแหละ...แต่มึงต้องมาคนเดียวนะ ถ้ากูรู้ว่ามึงเล่นตุกติกล่ะก็...รอรับชิ้นส่วนเมียมึงได้เลย!’



“ตกลง...โรคจิตอย่างมึงน่ะ แค่กูคนเดียวก็พอแล้ว”





โปรดติดตามแอ๊บต่อไป




Talk~
คนปากแข็งใจอ่อนกำลังจะไปช่วยเมียแล้ว!!
อย่าเพิ่งตายก่อนนะอีเอ็มมี่
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 24: ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด (10/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 10-12-2017 17:10:59
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 24: ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด (10/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 10-12-2017 18:46:21
ตอนหน้าจะมีบู๊ไหม
พี่แมนรีบไปช่วยเร็ว เอ็มเจ็บมาเยอะมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 24: ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด (10/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 10-12-2017 21:45:36
พี่แมนคนโหด รีบๆๆไปกระทืทไอภูมิเลย
กล้าจับเอ็มมี่ไปทรมาน เอาใจจมดินเลย
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 24: ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด (10/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-12-2017 21:54:04
ลุยโลดหลานแมน เอาเมียกลับมาให้ได้  :m16:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 24: ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด (10/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 10-12-2017 22:03:10
เจ็บตัวตลอดเลยเอ็มมี่  :mew5:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 24: ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด (10/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-12-2017 22:17:12
อ้าวว อีเอ็มมี่ จะตายไหมนั้น 5555
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 24: ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด (10/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 10-12-2017 22:46:38
พี่แมน ใจแมนมากค่ะ
รับไปช่วยเมียด่วน
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 24: ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด (10/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 10-12-2017 23:11:45
มั่นใจในความเป็นพี่แมน มือทีนหนักขนาดนี้ กล้าเล่นกับพี่แมนนี่คงจองศาลาไว้แล้วสินะ หึหึ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 24: ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด (10/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 13-12-2017 18:39:48
ตอนใหม่จงมาๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 24: ผมไม่ได้เป็นตุ๊ด (10/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 13-12-2017 19:48:54
แอ๊บที่ 25: ปล่อยให้เป็นหน้าที่พระเอก



แผนที่ที่ถูกส่งเข้าไอโฟนพี่แมนบอกตำแหน่งโกดังเก็บสินค้าของบริษัทผลิตเสาไฟฟ้าแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยไปไม่ไกลนัก แต่เพราะแถวนี้เป็นแถบชานเมือง บ้างก็มีนา บ้างก็เป็นที่ดินว่างเปล่ามีหญ้ารกชัฏ แถมตอนกลางคืนก็มืดมากจนเป็นอีกหนึ่งจุดที่อันตรายไปง่ายๆ และจะยิ่งอันตรายมากขึ้นอีกถ้าแกนปี 4 ตัดสินใจจะไปคนเดียวตามข้อเสนอของมัน



“กูจะไปคนเดียว”



คนพูดยืนยันหนักแน่น มองหน้ารุ่นพี่รุ่นน้องและเพื่อนฝูงที่ยืนรายล้อมอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องที่ต้องกังวล แต่คนอื่นไม่เห็นด้วยโดยเพราะสมุนซ้ายขวาอย่างไอ้งอกและไอ้เงิบ



“มึงไปคนเดียวไม่ได้หรอก มันแค้นมึงมากนะ มึงกระทืบมันขาหักเข้าโรง’บาลไปเป็นเดือนๆ แถมเรื่องที่มันทำก็รู้ถึงหูอธิการ ถึงพ่อมันใหญ่แค่ไหนก็ช่วยให้มันพ้นรีไทร์ไม่ได้อยู่ดี”



“ถ้ามันมาคนเดียว มึงก็พอจะสู้ได้หรอก แต่ดูแล้วแบบนี้...มันก็คงเรียกมึงไปรุมกระทืบนั่นแหละ”



สองสมุนช่วยกันวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อพยายามโน้มน้ามหัวหน้าแก๊งค์ แต่แกนคณะปี 4 ก็นั่งทำหน้าเมินเฉยเหมือนสิ่งที่ได้ยินเป็นสิ่งที่คาดเดาอยู่แล้ว



“กูรู้น่าว่ามันคิดจะทำอะไร?”



“รู้แล้วมึงก็ยังจะไปคนเดียวอีกเหรอ?”



“ก็ถ้ากูไม่ยอมให้มันกระทืบ คนที่โดนก็เป็นเมียกูน่ะสิ”



หมู่คณะเงียบไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่พี่ฉิมผู้ซึ่งดำรงชั้นปีสูงสุดก็ยังคัดค้านอยู่ดี



“มันเสี่ยงเกินไป ไอ้ภูมิแม่งบ้า มันอาจจะเอามึงถึงตายก็ได้”



“ถ้าเป็นไอ้โฟนโดนจับตัวไปแบบนี้ พี่จะทำยังไง? จะเสี่ยงพาพวกไปแล้วยอมให้มันเชือดเมียพี่รึเปล่า?”



สุดท้ายพี่ฉิมก็ต้องจำนน แต่คนโดนพาดพิงก็มิวายสอดปากขึ้นมาแย้งไม่ได้



“ผมไม่โง่ให้โดนจับไปง่ายๆ เหมือนเมียพี่หรอกน่า”



สายตาคมกริบตวัดมองมาที่คนเป็นรุ่นน้องให้ได้สะดุ้งเฮือก



“มึงก้าวร้าวเมียกูอีกแล้วนะ”



แกนปี 4 พูดเสียงเย็น แสดงความโกรธได้เฉียบขาดจนไอ้น้องโฟนต้องก้มหน้าพูดขอโทษเสียงแผ่ว ไอ้ที่ได้ผัวมาประดับชีวิตนี่ถือว่าพี่แมนเธอยังปรานีอยู่หรอกนะ



“ไม่ต้องกลัวนะ โอ๋ๆ”



“อย่ามายุ่งน่า!”



พี่ฉิมที่ฉวยโอกาสโอบหัวน้องโฟนเข้ามาซบบ่าเพื่อปลอบใจให้หายกลัว ก็ถูกเจ้าตัวผลักกลิ้งไปกองกับพื้นก่อนจะเดินหนีไปอยู่อีกทาง



“ยังไงพวกกูก็ต้องตามไป จะอยู่ในระยะห่างมากพอที่พวกมันจะไม่รู้ตัวก็แล้วกัน”



พี่งอกสรุป ซึ่งพี่แมนก็พยักหน้าเห็นด้วยตามนั้น ก่อนที่ต่างคนจะแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง โดยที่พี่งอกกับพี่เงิบรั้งไหล่หัวหน้าแก๊งค์ของตัวเองไว้ก่อน



“กูให้ได้มากสุดแค่กระดูกหักนะ”



พี่เงิบสั่งเสียงจริงจัง



“ไม่รับปากได้ไหมวะ?”



“ไม่ได้...มึงอยากให้อีเอ็มมี่มันเป็นหม้ายรึไง?”



พี่งอกยกชื่อเมียเพื่อนมาอ้าง ซึ่งเจ้าตัวก็รับคำด้วยเสียงหัวเราะต่ำแล้วหยิบกุญแจฟีโน่คู่ใจขึ้นมาควงเล่น



“นั่นสินะ”



แกนปี 4 ยิ้มสร้างความมั่นใจก่อนจะตบไหล่เพื่อนซี้คนละทีแล้วก้าวคร่อมฟีโน่ไขกุญแจและบิดออกไป ตามหลังห่างๆ ด้วยทั้งรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ของชาวคณะ พอเลี้ยวออกจากถนนใหญ่พี่แมนก็ส่งสัญญาณมือให้หยุดตามเพียงเท่านี้



พี่ฉิมมองสถานการณ์รอบด้านด้วยความหนักใจ ทางที่ใช้รถเข้าไปได้มีทางเดียว ด้านหลังนั่นเป็นทุ่งนามืดๆ เลยออกไปอีกไกลหน่อยถึงจะเป็นโรงงานและชุมชน แกนปี 5 หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดไล่เบอร์แล้วโทรออกอย่างใคร่ครวญดีแล้ว



“ฮัลโหล...โฉมเหรอ? พ่อกลับมารึยัง?”



.

.

.



 ฟีโน่คู่ใจจอดไว้หน้าโกดังสุดท้ายของบริษัทเสาไฟฟ้าที่ว่า พี่แมนก้าวลงจากรถ เดินเข้าไปด้านในที่มีแสงไฟเปิดอยู่อย่างไม่นึกหวั่นเกรง เมียรักของเขาถูกจับมัดไว้กับเก้าอี้ นอกจากรอยช้ำนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็ไม่มีอาการบาดเจ็บอะไร เห็นอย่างนั้นแล้วก็สบายใจได้ไปหนึ่งเปราะ



“มาแล้วเหรอ? คิดถูกแล้วล่ะนะที่ให้เพื่อนรออยู่ข้างนอกนั่นน่ะ”



พี่แมนหรี่ตาลง พูดอย่างนี้แสดงว่ามันมีคนคอยดูสถานการณ์ด้านนอกด้วยสินะ แกนปี 4 กวาดสายตาไปรอบๆ นอกจากไอ้ภูมิแล้วยังมีคนของมันอีก 5 คน อาวุธครบมือด้วย



“พี่แมน...มาคนเดียวจริงๆ เหรอ?”



“อืม...ก็มันขู่จะเชือดมึงนี่ มึงนั่นแหละ...ทำอีท่าไหนถึงโดนมันจับตัวมาได้เนี่ย?”



เอ็มก้มหน้านิ่งเมื่อถูกถาม ไอ้พี่ภูมิที่อยู่ข้างๆ ได้ยินดังนั้นเลยกลั้วเสียงหัวเราะแล้วตอบให้แทน



“ก็แค่ส่งคนไปเคาะประตูห้องแล้วบอกว่า ‘น้องเอ็มมี่ครับ...พี่แมนให้มาเรียกไปพบ’ เมียมึงก็รีบเดินตามคนของกูต้อยๆ ขึ้นรถมาให้กูจับมัดถึงนี่แล้วล่ะ”



พี่แมนได้ยินดังนั้นก็อยากจะหน้ามืดเป็นลมให้รู้แล้วรู้รอด ถ้ารอดกลับไปได้ต้องเอาน้ำมันตับปลา โอเมก้าสามกรอกปากมันเช้ากลางวันเย็นซะแล้ว



“แล้วมึงล่ะ เรียกกูมาต้องการอะไร?”



ไอ้พี่ภูมิเดินจากข้างตัวเมียพี่แมนขยับเข้ามาใกล้ มันฉีกยิ้มเป็นมิตรแบบที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่จริงใจ ก่อนจะปล่อยหมัดกระแทกท้องพี่แมนดังอั้กแบบไม่ออมแรง แต่แค่นี้ไม่ทำให้หัวหน้าแก๊งค์ปี 4 ล้มได้ เจ้าตัวคว้าแขนศัตรูไว้ด้วยมือข้างหนึ่งก่อนจะง้างหมัดเตรียมกระแทกหน้าไอ้โรคจิต



“อื๊อออออออ”



หมัดพี่แมนชะงักกึกด้วยเสียงของตัวปัญหา พี่แมนใช้หางตามองคุณแฟนที่ถูกมีดจ่อแนบคอแล้วก็ได้แต่กำหมัดให้แน่นขึ้น มองสายตาเป็นต่อของไอ้ภูมิอย่างเครียดแค้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องยอมให้ไอ้ภูมิมันหลังแหวนใส่หน้าจนล้มลงไปกองกับพื้น



“พี่แมน!”



เอ็มร้องเสียงหลงเมื่อเห็นภาพนั้น แต่ยิ่งมันร้องออกมาด้วยความเป็นห่วง ไอ้พี่ภูมิก็ยิ่งรู้สึกฉุนจนห้ามเท้าไม่ให้เต็มอัดเข้ากับท้องน้อยพี่แมนไม่ไหว



“เพราะมึง...กูเลยต้องนอนโรงบาลตั้งเป็นเดือน”



“อึก!”



พี่แมนยกมือขึ้นมาป้องกันไปหน้ากับศีรษะของตัวเองได้ทันก่อนที่ฝ่าเท้านั้นจะกระทืบลงมา



“เพราะมึง...เรื่องมันเลยแดงจนกูโดนไล่ออก”



“อึก! อึก!”



“พี่ภูมิ! พอแล้ว!!”



“พอเหรอ?! ตอนผัวมึงซ้อมกู มึงเคยร้องห้ามแบบนี้บ้างไหม?!”




เอ็มได้แต่มองคนบนพื้นอย่างสงสาร ถึงพี่แมนจะถึกแค่ไหนแต่โดนไปขนาดนั้นก็หมดสภาพได้เหมือนกัน ทั้งเนื้อทั้งตัวคนตัวบางเปรอะไปด้วยฝุ่น ที่หัวกับมุมปากมีเลือดไหลออกมาเป็นระยะ แต่ที่ร้ายกาจกว่านั้นคือไอ้พี่ภูมิมันหยิบท่อนเหล็กยาวขึ้นมาควงเล่นในมือ



“และเพราะมึง...อีเอ็มมี่มันถึงได้หลอกใช้กูเป็นเครื่องมือให้มึงหึงมัน ทั้งๆ ที่กูจริงจังกับมันแค่ไหนมึงรู้ไหม?!”



ผัวะ!



“อ๊ากกกกกกกก”



“พี่แมน!!”




แกนคณะกุมหน้าแข็งตัวเองบิดตัวไปมาอย่างเจ็บปวด เอ็มแทบน้ำตาร่วงเมื่อเห็นคนรักถูกทำร้ายโดยที่มันช่วยอะไรไม่ได้ แถมมันยังเป็นต้นเหตุอีกต่างหาก



“ถ้าพี่ภูมิโกรธผมก็ลงกับผมเซ่!”



“เดี๋ยวมึงจะได้สนุกกับกูทั้งคืนแน่ อีเอ็มมี่!”



“อย่า...อย่าทำเมียกู”



แกนคณะที่แทบจะหมดแรงพูดเอ่ยห้าม ยิ่งเห็นสายตาเป็นห่วงที่เหยื่อทอดมองกันก็ยิ่งทำให้พี่ภูมิรู้สึกโมโหจนทนไม่ได้ ไอ้โรคจิตจึงหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องตนเอง ทั้ง 5 คนจึงกลุ้มรุมเข้าไปแล้วจัดการลงไม้ลงมือกับคนที่นอนอยู่บนพื้นแบบไม่ยั้งเท้า



“พอแล้ว...พี่ภูมิพอเถอะนะ ผมขอโทษ ผมขอโทษ”



เอ็มอ้อนวอน แต่คนโรคจิตก็ได้แต่ยิ้มเยาะอย่างสมเพช



“ขอโทษเหรอ? เอ็มมี่รู้ไหมว่าพี่ชอบเรามากแค่ไหน? แต่เรากลับหลอกใช้พี่ ให้ความหวังพี่!! แล้วก็ไปมีความสุขกับมันหลังจากทำร้ายพี่จนปางตาย! เล่นตลกกับความรู้สึกคนอื่นน่ะมันสนุกมากใช่ไหม?!!”



“อั้ก!!”



ถ้ามากกว่านี้ พี่แมนได้ตายอยู่ที่นี่แน่!



“ผมขอโทษนะพี่ภูมิ ฮือ...ปล่อยพี่แมนไปเถอะนะ ผมขอร้อง”



“ขอร้องเหรอ?!!”



โครม!!



เก้าอี้ที่เอ็มนั่งอยู่ถูกถีบไปไกลพอสมควร พี่แมนใช้จังหวะนั้นคว้าท่อนเหล็กที่กำลังจะฟาดลงมาแล้วพลิกข้อมือฉวยอาวุธมาเป็นของตัวเองก่อนตวัดท่อนเหล็กกวาดขาพวกมันเรียงตัวจนล้มไป พี่แมนใช้จังหวะนี้กลิ้งตัวไปคั่นระหว่างไอ้ภูมิโรคจิตกับเมียตัวเองแล้วชี้เหล็กใส่หน้าตัวบงการ



“กูให้มึงกระทืบกูได้ แต่ไม่ได้หมายความว่ามึงจะทำอะไรเมียกูได้นะ”



คนโดนชี้หน้าได้แต่หัวเราะเหอะอย่างไม่นึกกลัวคำขู่



“คนจะยืนไม่ไหวอย่างมึงจะทำอะไรกูได้ ห๊ะ?”



“ก็ทำให้มึงไปนอนโรงบาลอยู่เป็นเดือนแล้วก็โดนไล่ออกไง”



“ไอ้เหี้ยแมน!”



“ได้แล้วพี่แมน!”




ไอ้ภูมิชะงักกับเสียงบอกของอีเอ็มมี่ คนด้านหลังสลัดตัวหลุดจากเชือกที่มัดมันไว้มาเกาะหลังพี่แมน เพราะแกนคณะแอบส่งมีดให้มันตอนเอาตัวมาบังไว้เมื่อครู่ ส่วนเจ้าตัวก็หยิบไอโฟนที่ซ่อนไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มมุมปาก



“คิดว่าโทรไปแล้ว พรรคพวกมึงจะมาช่วยทันรึไง?”



แกนคณะมองลูกน้องของไอ้โรคจิตที่ลุกขึ้นมาทีละคนแล้วก็ได้แต่ถอนใจ



“ใครว่ากูจะใช้โทรล่ะ?”



ฟึ่บ!!



เพล้ง!




ไอโฟนเครื่องหนักถูกขว้างไปในระยะเข้าหน้าไอ้พี่ภูมิ แต่มันก้มตัวหลบทัน เป้าหมายเลยเปลี่ยนไปเป็นหลอดไฟสีส้มเพียงหนึ่งเดียวที่เปิดอยู่ หรือจะพูดให้ถูกคือมันเป็นเป้าหมายของพี่แมนตั้งแต่แรกแล้วนั่นแหละ



ไอ้พี่ภูมิพยายามกะพริบตาให้ชินกับความมืด ก่อนจะล้วงเอามือถือตัวเองมากดเปิดส่องไปยังจุดที่สองผัวเมียอยู่เมื่อครู่ แต่กลับไม่มีใครอยู่ตรงจุดนั้นแล้ว ไอ้พี่ภูมิส่องไฟไปทั่วทั้งโกดังแต่ก็เหลือเพียงเสาไฟฟ้ากับลูกน้องของเขาเท่านั้น



“มันหนีไปแล้ว ขาเจ็บแบบนั้นไปได้ไม่ไกลหรอก รีบตามเร็ว!”



ไอ้โรคจิตสั่งลูกน้องก่อนจะวิ่งนำเพื่อไล่ตามแกนคณะกับเมียของมันซึ่งคงจะหนีออกไปได้ไม่ไกลนัก พอเสียงฝีเท้าห่างออกไปแล้ว พี่แมนกับแฟนของเขาที่ซ่อนตัวอยู่หลังกองเสาไฟฟ้าก็ได้แต่ถอนใจเฮือกอย่างโล่งอก



“ดีนะที่มันโง่เหมือนมึง ไม่ได้ฉลาดเหมือนกู”



“อย่าเพิ่งด่ากันเลยครับ รีบหนีก่อนเถอะ เดี๋ยวมันเอะใจย้อนกลับมาก็ไม่รอดกันพอดี”



“อืม...โอ๊ย!”



พอพี่แมนจะลุกขึ้น ขาขวาข้างที่ถูกเหล็กตีใส่เมื่อครู่ก็เจ็บร้าวจนยืนไม่ไหว ไอ้ที่ฝืนไว้เมื่อครู่ก็เพราะแรงฮึดที่เมียตกอยู่ในอันตรายล้วนๆ



“ให้ผมอุ้มนะ”



คนพูดทำท่าจะช้อนตัวพี่แมนขึ้นอุ้ม แต่ก็โดนพี่แมนใช้ขาข้างที่เจ็บยันโครมออกไปซะก่อน



“ไม่เอา!”



“พี่แมนง่ะ งั้นจะหนีไปได้ไงเล่า”



“อีหื่น อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึงจิ้นอะไรไว้ในหัว จะอุ้มกูเหมือนเจ้าสาวนี่คืออะไร? หันหลังมา!”



เอ็มทำปากยื่นเมื่อสุดที่รักรู้ทันตลอด ก่อนจะนั่งหันหลังให้พี่แมนได้โอบคอขึ้นขี่หลัง มันเดินคลำทางออกมาแล้วหนีไปทางตรงข้ามกับที่พี่ภูมิวิ่งออกไป ทางด้านหลังโกดังนี่เป็นท้องนามืดๆ เอ็มเดินไปตามคันนาด้วยอาการหอบเบาๆ สุดปลายทางเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ถ้าเลาะตามรั้วโรงงานออกไปได้ ด้านหน้าจะเป็นแหล่งหอพักและบ้านเช่าที่หนุ่มสาวโรงงานอาศัยอยู่ มีตลาด ร้านค้าและผู้คน...นั่นหมายความรอด



“แฮ่กๆ”



“เหนื่อยก็วางกูลงเหอะ มึงจะหนีไปคนเดียวก่อนแล้วค่อยเรียกคนมาช่วยกูก็ได้”



“ได้ไงเล่า พี่แมนยังไม่เคยทิ้งผมเลย ผมจะทิ้งพี่แมนได้ไง?”



เอ็มกระชับขาพี่แมนให้แนบแน่นขึ้นก็จะกลั้นใจเดินต่อ พอใกล้จะหมดแรงอีกรอบพี่แมนเธอก็จุ๊บลงมาเบาๆ ที่ข้างแก้ม เล่นเอาคนอุ้มหน้าแดงหัวใจสูบฉีดมีแรงฮึดจนเดินออกมาถึงแหล่งชุมชนจนได้ เอ็มวางตัวพี่แมนบนม้านั่งหินหน้าเซเว่นก่อนจะเข้าไปซื้อน้ำเปล่าด้านในมาให้ทั้งตัวเองและพี่แมนดื่ม



“มือถือมึงยังอยู่ไหม?”



“โดนพี่ภูมิยึดไปแล้วครับ ดีที่เขาไม่ยึดกระเป๋าตังค์ไปด้วย”



สรุปได้ว่าพวกเขาสองคนยังติดต่อใครไม่ได้ พอพักจนหายเหนื่อยแล้วหาตู้โทรศัพท์โทรหาตำรวจก็แล้วกัน ระหว่างที่พี่แมนกำลังผ่อนลมหายใจและดื่มน้ำดับกระหาย เอ็มก็ลงมานั่งคุกเข่าข้างหน้าแล้วยกขาขวาอีกฝ่ายขึ้นมาดูอย่างทะนุถนอม



“เจ็บมากไหมครับ?”



“เจ็บสิ สงสัยจะหัก”



“ขอโทษนะครับ เพราะผมแท้ๆ เลย”



คนเจ็บแอบยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าเหมือนหมาสำนึกผิด พอเป็นแบบนั้นแล้วพี่แมนก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบหัวมันอย่างเอ็นดู



“ทีหลังก็อย่าโง่ให้ใครจับตัวไปได้สิ กูเป็นห่วงแทบแย่แหนะ รู้ไหม?”



เอ็มคว้ามือที่ลูบหัวตัวเองอยู่ลงมาแนบแก้มอย่างรักใคร่



“พี่แมนหายโกรธผมแล้วใช่ไหมครับ?”



คนเป็นรุ่นพี่กะพริบตาปริบๆ เออ...กูโกรธมันอยู่นี่หว่า! พอนึกขึ้นได้เจ้าตัวก็พยายามดึงมือออกแต่ไม่รู้มันไปอัพสกิลมือกาวมาจากไหนถึงได้ดึงไม่หลุดเสียที



“อย่าโกรธเลยนะครับ โดนพี่แมนเมินใส่ ผมทรมานจะแย่”



อดีตเมียตุ๊ดพูดเสียงอ้อน ช้อนตาลูกหมามองชวนให้ใจสั่น พี่แมนต้องกลั้นใจเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะใจอ่อนกับท่าทางแบบนี้ของมันอีกแล้ว



“สมน้ำหน้า”



คนตัวบางแสร้งมองไปทางอื่น ทำปากงุบงิบด่าด้วยเสียงแผ่วๆ อย่างน่ารัก ทำเอาคนง้อได้ยิ้มออกเมื่อรู้ว่าคุณแฟนไม่ได้ใจแข็งเสียเท่าไหร่



“ยังจะมายิ้มอีก! อีตุ๊ด...ไม่ใช่สิ...ไอ้ผู้ชายเห็นแก่ตัว มึงจะให้กูบอกคนอื่นยังไงว่ากู...กูเป็น...”



“ก็ไม่ต้องบอกสิครับ ให้คนอื่นเขาเข้าใจว่าผมเป็นเมียพี่นั่นแหละ ไม่เป็นไรหรอก”



พี่แมนมองสายตาอ่อนโยนของผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจนัก



“พี่แมนทั้งรักทั้งเป็นห่วงผมจนยอมเจ็บตัวขนาดนี้ แค่โดนคนอื่นเข้าใจผิดว่าเป็นตุ๊ดน่ะเรื่องเล็กน้อยจะตายไป ให้เรารู้ความจริงกันแค่สองคนก็พอเนอะ?”



“แต่ว่า...”



“ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ ถ้าทำแบบนี้พี่แมนก็จะรู้สึกแย่น้อยลงและให้อภัยผมได้ ใช่ไหมครับ? นะ?”



คนตัวบางนิ่งเงียบไปก่อนจะก้มหน้าลงซ่อนสีหน้าไว้ มือที่โดนกุมไว้บีบตอบคนเป็นแฟนก่อนจะโน้มตัวลงโอบคอมันไว้ ซุกหน้าลงกับไหล่กว้างของอีกฝ่ายด้วยใบหูแดงเรื่อ



“กู...ไม่เคยเข้าใจตัวเองนักหรอกนะ ว่าทำไมถึงรักตุ๊ดอย่างมึงได้”



ก็บอกแล้วไงว่ากูไม่ใช่ตุ๊ด!



คนโดนกอดนึกค้านในใจ แต่พอรู้สึกถึงหยดน้ำชื้นๆ ตกกระทบไหล่แล้วก็ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ



“แต่วันนี้...เหมือนจะรู้คำตอบขึ้นมา...อึก...นิดนึง”



คนถูกชมแบบอ้อมโลกยกยิ้ม โอบร่างคนเข้มแข็งแต่หวั่นไหวง๊ายง่ายเมื่อเป็นเรื่องของเขาเข้ามาในอ้อมกอดอบุ่นแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า



“คำตอบคืออะไรอ่ะ? บอกผมมั่งสิ”



“อีโง่...คิดเองสิ!”



เอ็มหัวเราะ ในขณะที่พี่แมนนึกด่ามันในใจต่อไปอีกหลายประโยค พอไถหน้าซับน้ำตากับไหล่มันจนพอใจแล้วก็ผละออกมาให้เมียรักได้เห็นตาแดงๆ จมูกแดงๆ เหมือนลูกกวาง



“ดีกับเมียนะครับ เมียสำนึกผิดแล้วนะ”



นิ้วก้อยของอีคนที่เรียกตัวเองว่าเมียยื่นออกมาตรงหน้า ชวนให้นึกถึงภาพตัวเองที่เคยยื่นให้มันเพื่อขอคืนดีที่บ้านของมันเมื่อตอนทำกีตาร์ของมันพัง ตอนนั้นเขาจะดูทั้งเท่ห์ทั้งอบอุ่นเหมือนมันในตอนนี้รึเปล่านะ?



“อื้ม...ถ้าโกหกอีก กูจะทิ้งมึงไปมีเมียใหม่จริงๆ ด้วย!”



แล้วนิ้วก้อยเล็กๆ ของสุดโหดประจำมหาลัยก็ยื่นออกมาเกี่ยวไว้กับของคนตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มเปี่ยมสุขของคนทั้งสองคนที่ส่งให้กันและกัน







โปรดติดตามแอ๊บต่อไป



Talk~~~~
หน้าที่พระเอกคือโดนจับเป็นตัวประกัน
ส่วนหน้าที่นายเอกคือตามไปตื้บผู้ร้ายแล้วพาหนีออกมา โถๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 25: ปล่อยให้เป็นหน้าที่พระเอก (13/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 13-12-2017 20:55:56
ชอบความสลับกัน พระเอกไม่จำเป็นต้องบู๊เก่งเสมอไป
โดนจับบ้างก็ด้ายยยย ดีใจที่สุดท้ายก็กลับมาคืนดีกาน
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 25: ปล่อยให้เป็นหน้าที่พระเอก (13/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 13-12-2017 20:57:51
พีแมนก็ยังจะเรียกเอ็มว่าตุ๊ดอีก 5555 นางก็บอกไปตั้งแต่แรกๆแล้วนะว่าไม่ได้เป็นตุ๊ด  :katai4:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 25: ปล่อยให้เป็นหน้าที่พระเอก (13/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-12-2017 21:15:22
ตอนหน้าหนีให้รอดทั้งคู่นะ เอาใจช่วย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 25: ปล่อยให้เป็นหน้าที่พระเอก (13/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-12-2017 21:47:37
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 25: ปล่อยให้เป็นหน้าที่พระเอก (13/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 13-12-2017 22:58:08
 o13


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 25: ปล่อยให้เป็นหน้าที่พระเอก (13/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-12-2017 00:18:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 25: ปล่อยให้เป็นหน้าที่พระเอก (13/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: inginggist ที่ 14-12-2017 18:03:12
อยากเห็นเอมมี่โชว์แมนมั่งเลย5555555
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 25: ปล่อยให้เป็นหน้าที่พระเอก (13/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 14-12-2017 19:58:50
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ใช่เลยแบบนี้เลย
มีเเมนคนเถื่อนโหดรักเมียตุ๊ด(ถึงเอ็มมี่จะเถียงในใจก็เตอะ) ห้ามลงไม้ลงมือเมียพี่แมนน่ะ พี่แมนขาหักไปเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 25: ปล่อยให้เป็นหน้าที่พระเอก (13/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 14-12-2017 20:49:30
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 25: ปล่อยให้เป็นหน้าที่พระเอก (13/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 16-12-2017 08:55:54
แอ๊บที่ 26: เฝือก



“พี่ฉิมเนี่ยนะ...ลูกชายผบ.ตร.?”



คนถูกพาดพิงเหล่มองรุ่นน้องตัวแสบเป็นทำนองว่า “มึงมีปัญหาอะไรกับพ่อกู?” ซึ่งสมุนฝ่ายซ้ายของพี่แมนก็ไหวไหล่ตีเนียนเอาตัวรอดไปได้อย่างแถๆ



“ทำไม? กูหน้าตาไม่เหมือนลูกตำรวจตรงไหน?”



ทุกคนในห้อง อันประกอบด้วยแกนปี 4 ที่นอนห้อยเฝือกที่ขาอยู่บนเตียงโรงบาล อีเอ็มมี่ที่นั่งเกาะข้างเตียง ไอ้งอกไอ้เงิบที่นั่งอยู่บนโซฟา และน้องโฟนที่นั่งประกบเตียงพี่แมนอีกด้าน หันมองคนพูดด้วยสายตาแบบเดียวกันเป๊ะ



“ทำไมพ่อมึงปล่อยให้เรียนสถาปัตย์ได้วะ?”



“ก็พี่กูเป็นตำรวจไปคนแล้วไง กูมันลูกคนกลาง เขาเลยปล่อยๆ”



ครอบครัวพี่ฉิมประกอบด้วยคุณพ่อเฉลิมวงศ์ ซึ่งป็นผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติคนปัจจุบัน มีคุณพี่ฉลามชล เป็นสารวัตรที่เจริญรอยตามพ่ออยู่ในขณะนี้ และมีคุณน้องโฉมงามผู้กำลังเรียนเอกภาษาฝรั่งเศสอยู่ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ส่วนคุณแม่ฉันทนานั้นเป็นคุณครูสอนภาษาไทยให้โรงเรียนชื่อดังย่านลาดพร้าว



“อย่างนี้น้องโฟนของเราก็เป็นสะใภ้ตำรวจน่ะเสะ!”



“เก็บปากไว้ดูดนมเมียเถอะพี่งอก”



ไอ้น้องโฟนด่าเสียงเย็น นับวันชักจะถอดแบบรุ่นพี่ของมันมาทุกกระเบียดนิ้ว แกนปี 3 ก้มหน้าลงเล่นไอโฟนตัวเองอย่างหงุดหงิด ยิ่งอีแกนปี 5 มันกระเถิบเข้ามาจิ้มแขนล้อเลียนก็ยิ่งหงุดหงิด ปิดท้ายด้วยสายตาของแกนปี 4 ที่กวาดมองชาวคณะทีละคนแบบไม่พอใจ



“พวกมึงกลับๆ กันไปซะทีดิวะ กูรำคาญ”



แกนปี 4 เอ่ยไล่ชาวคณะ แค่ต้องมานอนขาเดี้ยงอยู่แบบนี้ก็เซ็งเต็มทนแล้วยังต้องมาฟังพวกมันกัดกันอีก เบื่อ!!



“มึงกล้าไล่ผู้มีพระคุณของมึงเลยเหรอ? ไอ้แมน”



พี่ฉิมลำเลิก เพราะคนที่โทรแจ้งพ่อของเขาคนท่านจัดการเอาคนของท่านมารวบตัวไอ้ภูมิและพวกไปได้หลังจากที่ไอ้แมนและเมียมันหนีออกไปได้แล้วก็คือเขา คนที่พาไอ้แมนกับเมียมันหามส่งโรงบาลเมื่อคืนก็คือเขา คนที่กระซิบพี่ฉลามให้ยัดข้อหาไอ้ภูมิให้หนักก็คือเขาอีกนั่นแหละ



“กูก็ผู้มีพระคุณของมึงเหมือนกัน มีเมียนั่งเล่นไอโฟนเป็นตัวเป็นตนนี่เพราะใคร? ห๊ะ? เพราะใคร?!”



สุดโหดย้อน ทำเอาพี่ฉิมต้องเบ้ปากอย่างเถียงไม่ได้ ในขณะที่ไอ้น้องโฟนค้อนขวับใส่รุ่นพี่มันอย่างไม่กลัวตาย



“แล้วผมควรจะจะทดแทนบุญคุณพี่ยังไงดี?”



ไอ้น้องโฟนถามประชด



“ก็ยอมๆ เป็นแฟนมันไปซะ เลิกเล่นตัวซะทีเหอะ กูเดือดร้อน”



“พี่ไม่ได้เป็นฝ่ายถูกกระทำก็พูดได้ดิ!”



ตึ่ง!



พี่แมนเงียบ อีเอ็มมี่ก็เงียบ แอบสบตากันเล็กน้อยพอไม่ให้ใครจับพิรุธได้ ก่อนที่เมียตุ๊ดของแกนคณะจะเปลี่ยนเรื่องไปเสียเฉยๆ



“เอ้อ! พี่ฉิม ได้ยินว่าพี่ยัดยาพี่ภูมิด้วยอ่ะ ทำแบบนี้ไม่ถือว่าใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบเหรอ?”



“ใครบอก?”



ลูกชายผบ. ปฏิเสธ



“เค้าเรียกว่าใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่กูชอบต่างหาก!”



สองสมุนของพี่แมนหัวเราะรับมุข ส่วนพี่น้องแกนปี 4 และ ปี 3 นั่งส่ายหัว ในขณะที่อีคนถามกะพริบตาปริบๆ อย่างโล่งอกที่เบี่ยงประเด็นไปได้อย่างเนียนๆ



แกร๊ก!



“ไงมึง?”



ฝูงชนสถาปัตย์ขนาดย่อมๆ เปิดประตูเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย VIP ที่ดูแคบไปถนัดตา พอมีคนเยอะขึ้น เสียงมันก็ดังมากขึ้นมาตามลำดับ



“หือ? นางพยาบาลเขาปล่อยพวกมึงมาได้ไงเนี่ย? เขาไม่คิดว่าช่างกลจะมาตีกันในโรง’บาลเหรอ?”



“หมอน่าจะใส่เฝือกที่ปากมึงด้วยนะไอ้แมน เจ็บแล้วก็ทำตัวเป็นคนป่วยหน่อย มันจะได้ดูน่าสงสาร”



“ขากูหักแค่ข้างเดียวนะมึง ตีนซ้ายกูยังใช้ได้นะ”



แกนปี 4 กระดิกเท้าโชว์เป็นการเตือนไอ้พวกเพื่อนที่ถือโอกาสลามปามตอนเขาเพลี่ยงพล้ำ



“รู้อยู่ๆ ขาที่สามก็ยังใช้ได้ ยิ่งขาที่สามนี่ถ้าหักไปอีเอ็มมี่มันเสียใจแย่~”



“ฮิ้ววววววววววววววว”



ไอ้พวกเพื่อนซี้แต่ละตัวส่งเสียงรับเล่นเวฟกันอย่างสนุกสนาน แต่แทนที่คนเป็นเมียมันจะเป็นคนเขิน พี่แมนกลับหน้าแดงแทนมันทั้งที่น่าจะชินกับคำพูดลามกจกเปรตของอีผองเพื่อนพวกนี้ได้แล้ว



“หน้าแดงเลยว้อย~ หน้าที่เขินมันเป็นของเมียเว่ย มึงเป็นผัวอย่าหน้าบางนักสิวะ!”



“พูดมากว่ะพวกมึงอ่ะ กลับไปเรียนกันให้หมดเลยไป!”



“กลับน่ะกลับแน่ แต่ขอเจิมเฝือกพี่แมนก่อนนะฮร้า~”



เพื่อนของท่านแกนทำเสียงแปร๋นได้อย่างน่าตบ ก่อนจะเรียงคิวกันเข้ามาจารึกข้อความไว้บนเฝือกขาวๆ ของคุณแกนด้วยปากกาเคมีทีละคนๆ ด้วยข้อความเด็ดๆ ครีเอทกันสุดติ่ง



‘ผมไม่เล็กนะครับ’



‘เจ็บจุงเบย’



‘รักของพี่เกิดที่รังมดแดง’



‘เมียเป็นตุ๊ด ฉุดมาจากสินกำ’




“นี่เฝือกหรือรถสิบล้อวะ?”

พี่ฉิมมองการกระทำของรุ่นน้องแล้วก็ปวดกบาล รุ่นที่ 47 ถือเป็นรุ่นโหดเหี้ยมที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งคณะมา แต่ดูเหมือนจะเป็นรุ่นที่ปัญญาอ่อนที่สุดด้วยเหมือนกัน



“ผมอยากเขียนเฝือกพี่แมนบ้างอ่ะ”



คนที่นั่งคลอเคลียคุณสามีภาคทฤษฎีอยู่ข้างเตียง เอ่ยอ้อนด้วยเสียงกระซิบ แต่ดูท่าจะกระซิบดังไปหน่อย ผองเพื่อนพี่ท่านเลยได้ยินกันถ้วนทั่ว



“หนอย...อีเวร! มึงน่ะตัวต้นเหตุทำมันเจ็บเลย ยังจะมาอยากเขียนเฝือก มานี่เลยมึง!”



“เฮ้ย!!”



แก๊งค์ปี 4 แห่งสถาปัตย์พร้อมใจกันยกตัวอีเอ็มมี่ออกจากเก้าอี้ลงมากองกับพื้นท่ามกลางเสียงโวยวายของมัน ไอ้คนที่อยู่ใกล้สุดก็จัดการถอดเสื้อตัวต้นเหตุออกโดยไม่สนแรงดีดดิ้น



“ไอ้ที มึงทำไรเมียกูวะ?!”



แกนคณะผู้พิการชั่วคราวตะโกนด่า ติดที่เฝือกกะไอ้เพื่อนตัวแสบอีกหลายคนมันล็อกแขนล็อกขาไว้ไม่ให้ดิ้นหลุด ดูมัน! นมหกหมดแล้วอีอ่อนด๋อย!



“ขืนใจไงมึง ขืนใจ”



“ขืนใจพ่อง! ปล่อยมัน!!”



แทนที่ไอ้ทีกะฝูงเพื่อนจะปล่อยตามคำสั่งกลับลงมือปฏิบัติการขืนใจตุ๊ดจนท้อง(แข็ง) ด้วยการลงมือจั๊กจี้หวีวิ่วไปตามเรือนร่างขาวผ่องของน้องปี 1 อย่างไม่ละเว้น ไอ้สองตัวที่อยู่ข้างหลังก็ถอดรองเท้าน้องตุ๊ดเทียมแล้วทำแบบเดียวกันจนอีเอ็มมี่ชักตัวหนีจนเหมือนคนเป็นลมบ้าหมู



“กร๊ากกกกกกกก ปล่อยๆๆๆ กร๊ากก ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เหี้ย! กูเหนื่อย!! ปล่อยผม~~~”



“ไอ้พวกปัญญาอ่อน!!”



พี่แมนตะโกนด่า แต่ก็มิวายหัวเราะไปกับท่าทางเหมือนหนอนโดนสบู่ของอีเมียรักที่ดิ้นแด่วๆ หนีมือรุ่นพี่อยู่กับพื้น อีตัวแสบทั้งหัวเราะทั้งหอบจนแทบหมดลม กว่าไอ้ทีกับพรรคพวกจะยอมปล่อยมันก็ลิ้นห้อยเป็นหมาหอบแดดแล้ว



ก๊อกๆ



“ขอโทษนะคะ ผู้ป่วยห้องข้างๆ แจ้งว่าพวกคุณเสียงดังมากเลย รบกวนลดเสียงนิดนึงได้ไหมคะ?”



คุณพยาบาลเดินเข้ามาเตือนแก๊งค์สถาปัตย์แอนด์เดอะตุ๊ดด้วยรอยยิ้มน่ารัก ซึ่งไอ้พวกนี้ก็ขานรับเป็นเสียงเดียวกันด้วยความหน้าหม้อ แต่พอคุณเธอเดินกลับออกไปเท่านั้นแหละ



“ห้องไหนแจ้งวะ? เก็บแม่ง!”



“กลับไปได้ละพวกมึงอ่ะ!!”



ไอ้พี่แมนออกปากไล่ พลางลูบหัวเมียที่หอบสารร่างขึ้นมาเกาะข้างเตียงได้อีกครั้งอย่างปลอบขวัญ พอได้มาเยี่ยมเยียนหัวโจกให้รับทราบอาการและเจิมเฝือกเป็นที่เรียบร้อย ชาวคณะก็พอใจและลากลับตามคำสั่งไปในที่สุด รวมทั้งพี่ฉิมที่ลากน้องโฟนติดมือกลับบ้านไปด้วยกัน



“มึงสองคนอ่ะ?”



พี่แมนหันไปถามสองสมุนซ้ายขวา



“เดี๋ยวน้องเม่เขาจะมาเยี่ยมมึงอ่ะ”



“น้องม่าด้วย”



แกนคณะพยักหน้าเป็นอันว่าเข้าใจว่าต้องปล่อยให้พ่อสองศรีอยู่เป็นก้างต่อไป ส่วนเอ็มที่ฟื้นตัวและจัดการสภาพร่างตัวเองเรียบร้อยแล้วก็คว้าปากกาเคมีที่ถูกทิ้งไว้บนเตียงขึ้นมาหาที่ว่างบนเฝือกสีขาวที่ถูกย้อมจนแทบกลายเป็นสีน้ำเงินของพี่แมน



ในที่สุดเขาก็เจอที่ว่างเล็กๆ บนส้นตีนพี่แมนพอดี เอ็มยิ้มกว้างอย่างดีใจก่อนจะรีบจรดปลายปากกาตวัดข้อความที่มันอยากเขียนอย่างแฮปปี้



“อ่าว!”



...ปรากฏว่าหมึกหมด



“อะไรมึง?”



“หมึกหมดอ่ะพี่แมน ผมลงไปซื้อแปบนึงนะ”



“เออๆ ตามใจ”



พอคุณสามีรับทราบ เอ็มก็เดินออกจากห้อง ลงลิฟต์ไปยังเซเว่นที่ชั้นล่างสุด เลือกซื้อปากกาเคมียี่ห้อที่ดีและแพงที่สุดเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง ไม่วายซื้อไส้กรอกเซเว่นไปฝากสุดที่รักด้วย



ภรรยาภาคทฤษฎีเดินผิวปากควงปากกาอย่างอารมณ์ดีกลับขึ้นมายังห้องพักผู้ป่วย แล้วเปิดประตูห้องเข้ามาด้วยสีหน้าแช่มชื่นสุดฤทธิ์



“เค้ากลับมาแว้ว~”



ทว่าภาพที่ปรากฏตรงหน้าคืออีสองตุ๊ดเพื่อนทรพีกำลังลากเส้นสุดท้ายลงบนที่ว่างหนึ่งเดียวบนเฝือกพี่แมนที่มันค้นพบ เอ็มถึงกับทำไส้กรอกหล่นตุ้บลงพื้น ก่อนจะชี้หน้าอีเพื่อนกุมารอย่างโกรธเกรี้ยว



“อีเพื่อนชั่ว มึงรู้ไหมว่ามึงทำอะไรลงไป?!!”



น้องเมเม่อ้าปากค้างเมื่อโดนด่าอย่างมิรู้ความผิด พอนางตั้งสติได้ก็เท้าสะเอวแว้ดกลับอย่างมิยอมแพ้



“มึงด่ากูทำไมเนี่ย?!”



“มึงรู้ไหมว่ากว่ากูจะหาที่ว่างเล็กๆ เจอนี่ กูต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน? แล้วมึงมาตัดหน้าเขียนก่อนกูได้ไง?”



“ใครจะไปรู้ว่ามึงยังไม่ได้เขียนล่ะ อีบ้า!”



เอ็มเบะปาก มองปากกาในมือเพื่อนรักด้วยน้ำตาแทบจะปริ่ม



“มึงไปเอาปากกามาจากไหน?”



“ผัวกูให้มาน่ะสิ”



น้องมาม่าตอบ



“อ้าว? ทำไมเมื่อกี้พี่เงิบไม่บอกว่ามีปากกาอ่ะ?”



เอ็มเปลี่ยนเป้าหมายไปเหวี่ยงผัวเพื่อนแทน



“ก็มึงไม่ถามเองนี่”



พี่เงิบยักไหล่สบายๆ แต่ดูยังไง๊~ยังไง ก็กวนตีนจนน่าเอาพื้นรองเท้าวัดหน้า



“พี่แมนก็เหมือนกัน! ปล่อยให้อีแฝดมันเขียนที่สุดท้ายที่เหลืออยู่ได้ไงอ่ะ?”



“อ้าว? กูจะรู้ได้ไงว่ามันเหลือแค่ที่เดียว มึงคิดว่ากูมีตาที่ตีนรึไง?!”



เอ็มทำแก้มป่องมองสุดที่รักอย่างน้อยใจ สะบัดมองอีเพื่อนอย่างโกรธเคือง ก่อนจะหันไปทิ้งหางตาให้พี่งอกพี่เงิบอย่างนึกแค้น พอไม่มีใครให้เหวี่ยงขึ้นสักคน เขาเลยเดินไปนั่งจุ้มปุ๊กอยู่มุมห้อง กัดไส้กรอกเซเว่นที่ซื้อมาฝากสุดที่รักเข้าปากตัวเองหงับๆ



พี่แมนเหล่มองคนที่ทำตัวตุ๊ดทั้งที่ไม่ใช่ตุ๊ด จะง้อมันเพื่อนก็ยังอยู่ เลยต้องหันไปรับผลไม้ที่สองแฝดเธอเอามาฝากแทน แถมยังจัดแจงนั่งปอกใส่จานให้อย่างเอาใจ เอาใจกูด้วยการวางทิ้งไว้ให้ เอาใจผัวด้วยการป้อนถึงปาก เพราะงี้สิน้า~ ไอ้สองตัวนั่นถึงได้รักได้หลงจนพร่ำเพ้ออยู่ทุกวัน คิดๆ แล้วก็...



“มึง กลับไปได้แล้วไป”



“ทำไมมึงไล่พวกกูจังวะ?”



พี่แมนไม่ตอบ แต่เหล่มองอีตัวปัญหาที่นั่งกอดเข่าอยู่ที่มุมด้วยบรรยากาศมาคุ สองสมุนเลยพอเข้าใจได้ พี่ท่านทั้งสองจึงแกล้งเอ่ยชวนเมียรักไปทานข้าวและปล่อยให้ในห้องพักผู้ป่วยเหลือแต่อีสองผัวเมียนี่สองต่อสองได้ซะที



“มึง...”



พอทุกคนออกไปจากห้องหมดแล้ว พี่แมนก็เอ่ยเรียกตัวกลมๆ ที่ม้วนอยู่มุมห้อง



“ฮึ!”



แหนะ! ดูมันงอน!



“มึง...”



มันยังเงียบ



“อีเอ็มมี่”



มันไม่ตอบ



“.........”



“.........”



“เอ็ม”



คนงอนเงยหน้าขึ้น หันกลับมามองคนเรียกด้วยดวงตาเป็นประกาย ก่อนจะรีบวิ่งมาเกาะขอบเตียงคนป่วยเหมือนหมาโดนเจ้าของเรียก



“พี่แมนเรียกผมว่าอะไรนะ?”



“อีเอ็มมี่ไง”



“ไม่ใช่ซะหน่อยอ่า”



เอ็มทำหน้างอเมื่อรู้ตัวว่าโดนแกล้ง เจ้าตัวฟุบหน้าไปกับตัวคนรักพลางทำปากเบะ



“มึงอ่ะงอนไร้สาระ”



“ก็ผมอยากเขียนเฝือกพี่แมนนี่”



“มึงบอกกูก็ได้นี่ จะเขียนไรอ่ะ”



“มันไม่เหมือนกันอ่ะ เขียนมันไม่เหมือนบอกนี่”



พี่แมนมองความเอาแต่ใจแบบป่วงๆ ของมันแล้วก็หน่ายแสนหน่าย สุดท้ายก็ถอนใจที่ถึงจะหน่ายก็มิวายต้องง้อมันอยู่ดี คนเจ็บแบมือขาวๆ ยื่นไปตรงหน้าเมียตัวเอง



“เขียนสิ”



“พี่แมน...”



“เอ้า! เขียนสิ”



เอ็มยันตัวลุกขึ้นนั่ง จรดปากกาลงบนฝ่ามือที่แมนโดยไม่เปิดปลอก พี่แมนเลยต้องมองตามเส้นที่มันลากไปบนฝ่ามือทีละตัวอย่างตั้งใจ



‘หายเร็วๆ นะครับ’



“แค่เนี้ย? โถ...งอนเป็นตุ๊ดเลย กูก็นึกว่าจะเขียนอะไร”



พี่แมนถือโอกาสเอานิ้วจิ้มหน้าผากมันจนหน้าหงายด้วยความหมั่นไส้ เอ็มเลยฉวยโอกาสจับมือพี่แมนมาประทับจูบเป็นการเอาคืน



“ขอโทษจริงๆ นะครับที่โง่จนทำพี่แมนเจ็บ”



ทำตาลูกหมาใส่กูอีกละ!



“อีโง่...ถ้าช่วยมึงไม่ได้ล่ะก็...กูคงเจ็บกว่านี้อีก”



ประโยคสุดท้ายพี่แมนพูดเสียงแผ่วก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดแก้มร้อนๆ ของตัวเองอย่างแนบเนียน แต่ถึงอย่างนั้นก็ปิดไม่มิดจนอีโง่ที่ว่ามันยิ้มกว้างปากแทบฉีกถึงไส้ติ่ง



“รักพี่แมนนะครับ”



“...รู้แล้วล่ะน่า!”



...ก็เหวี่ยงแก้เขินไปงั้นเอง





โปรดติดตามแอ๊บต่อไป





Talk~
ใกล้จบแล้วววจ้า
เหลือตัวร้ายรีเทิร์นคนสุดท้ายอีกแค่คนเดียว!

หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 26: เฝือก (16/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 16-12-2017 09:31:08
เวลาพี่แมนเขินมันน่าฟัดมากใช่มะเอ็มมี่ อิอิ
พี่แมนน่ารักมากกกกกกกกกก
ตัวร้ายตัวไหนอีกน่ะเค้าลืมไปแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 26: เฝือก (16/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 16-12-2017 09:31:46
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 26: เฝือก (16/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 16-12-2017 12:31:32
พี่แมนน่ารักไปอีกกกก  :mew1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 26: เฝือก (16/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-12-2017 01:30:40
พี่แมนคนแมน ๆ ยอมอ่อยเมียแล้ว  :m17:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 26: เฝือก (16/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-12-2017 01:52:26
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 26: เฝือก (16/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: MayuYume ที่ 17-12-2017 20:22:50
อ่านไปสามสี่บทที่อัพแล้วแต่ยังไม่ได้แสดงความเห็น เพราะไม่รู้จะคอมเมนต์อะไรดีเพราะกำลังฟนแลนด์อยู่ วรั๊ย---  :z3:
คนร้ายอีกคนคือใครนะ เสียดายจังใกล้จบแล้ว อยากอ่านต่อจังสนุกมากไม่ค่อยเห็นแนวนี้เท่าไหร่เลยค่ะหายากมากๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 26: เฝือก (16/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-12-2017 22:21:53
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 26: เฝือก (16/12/17) p.7
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 23-12-2017 08:55:03
แอ๊บที่ 27: ตกรถ



1 เดือนต่อมา



“หมอให้มึงถอดเฝือกได้ไงวะไอ้แมน?”



พี่งอกที่มองเห็นเพื่อนเดินปร๋อด้วยขาทั้งสองข้างหลังจากคุมงานละครด้วยเฝือกติดขามาหนึ่งเดือนเต็ม เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจจริงๆ ถึงแม้ว่าพอจะรู้อยู่ว่าร่างกายไอ้โหดนี่มันจะแกร่งกว่าคนปกติทั่วไปก็เหอะ



“กูแค่บอกหมอว่า ถ้าหมอเอาเฝือกผมออกภายใน 1 เดือนไม่ได้ หมอจะได้ใส่เฝือกเป็นเพื่อนผม เท่านั้นเอ๊ง~”



“ไอ้เหี้ย! กับหมอก็ไม่เว้น!”



ด่ามันเสร็จพอเป็นพิธี พี่งอกก็ต้องรีบหันไปจัดการหน้าที่ของตัวเองต่อ วันนี้เป็นวันแสดงจริงวันสุดท้ายแล้ว ไอ้ 6 วันที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไรผิดพลาดไปจากสิ่งที่ฝึกซ้อมไว้ หรือจะพูดให้ถูกคือไม่มีใครกล้าพลาด เพราะถ้าพลาดอย่างน้อยก็โดนพี่แมนด่า อย่างมากก็โดนเตะตกเวที เขาแอบได้ยินพวกรุ่นน้องมันกระซิบกระซาบอยู่หลังเวทีด้วยความหวาดผวาว่า...



“พี่แมนแม่งผลิตโชคไปป่ะวะ?”



“อะไรวะมึง?”



“เป๊ะ!”



“นั่นมันเป๊ก!”



แต่เบื้องหลังความเป๊ะที่ว่านั่นไอ้แมนก็แทบไม่ได้หลับได้นอนเลยตลอดการแสดงจริงนี้ ยิ่งเมื่อคืนที่มีการแสดงสองรอบเพราะเป็นวันเสาร์แล้วดันมีปัญหาเรื่องฉากจนต้องแก้กันทั้งคืนเพื่อให้ทันรอบบ่ายที่เพิ่งจบไปนี่ก็เล่นเอาท่านแกนโหมงานจนตาเป็นแพนด้า



“พี่แมนหน้าซีดๆ นะ”



ไอ้น้องโฟนทักขึ้นเมื่อใกล้จะถึงเวลาเริ่มแสดงรอบสุดท้าย มันขมวดคิ้วมองหน้ารุ่นพี่ที่มันเคารพรักแล้วก็แนะนำว่าควรจะไปนอนสักงีบจะดีกว่า



“ไม่อ่ะ เดี๋ยวก็จบแล้ว”



พี่แมนบอกปัดก่อนจะหันไปเรียกนักแสดงและสต๊าฟทุกคนมารวมกันเพื่อนเรียกพลังครั้งสุดก่อนจะบูมคณะแล้วแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง ละครเวทีเรื่องนี้ได้รับความนิยมจากเพื่อนๆ ร่วมมหาวิทยาลัย รวมทั้งต่างมหาวิทยาลัยด้วย เพราะพระนางเองก็หน้าตาดี พล็อตเรื่องก็ดี องค์ประกอบอื่นๆ ก็ดี ความนิยมที่ว่ามันล้นหลามจนบัตรขายหมดทุกรอบ คนที่ทุ่มเทให้กับงานเต็มที่ก็ภูมิใจกับผลที่ออกมาไม่น้อย



เมื่อม่านบนเวทีโรยตัวปิดลงหลังจากจบการแสดง และผู้ชมที่นั่งอยู่ด้านหน้าเริ่มทยอยออกจากหอประชุมใหญ่แล้ว เหล่าทีมงานก็โผเข้ากอดและโห่ร้องกันด้วยความยินดี โดยเฉพาะหัวเรือใหญ่อย่างพี่แมนที่โดนผองเพื่อนและรุ่นน้องดึงตัวไปกอดคนละทีสองทีจนเวียนหัวแต่ก็ยังยิ้มแป้น



“ไอ้แมน...จะไปต่อป่ะวะ?”



ไอ้ที บุคคลผู้เคยขืนใจเมียพี่แมนจนท้องแข็งไปเมื่อคราวอยู่โรงพยาบาลเอ่ยชวน คนถูกชวนทำหน้าคิดไปสักนิดก่อนส่ายหัว



“พรุ่งนี้เช้ารถออกตี 5 นะ พวกมึงตื่นให้ไหวละกัน”



ท่านแกนกำชับ เพราะว่าพรุ่งนี้เป็นวันก่อตั้งมหาวิทยาลัย รวมกับวันหยุดนักขัตฤกษ์อีก 2 วันเป็น 3 วัน แก๊งค์สถาปัตย์เลยถือโอกาสยกโขยงไปค่ายสร้างกันที่ต่างจังหวัด



“มึงนั่นแหละ~ อย่าปล้ำเมียจนฟ้าเหลืองตื่นไม่ทันนะฮร้า~”



ไอ้ทีแซวเสียงตุ๊ด ไม่วายผลักไหล่พี่แมนเป็นเชิงหยอก แต่พอผลักไปเบาๆ กลับได้ยินเสียงดังตุบ แล้วร่างของแกนคณะก็ร่วงไปกองกับพื้นท่ามกลางอาการตื่นตะลึงของทุกคน พี่เงิบที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อนที่สุดรีบทรุดตัวลงไปดู พอจับตัวมันขึ้นมาเขย่าเรียกสองสามครั้งถึงได้รู้ว่า...



“มันหลับ”



“โอ๊ะ! ไอ้นี่! ทำกูตกใจหมด!”



“มันคงเหนื่อยว่ะ พวกเรายังผลัดกันไปงีบบ้าง แต่ไอ้แมนไม่ได้นอนเลยนะ”



“แล้วนี่ใครจะพามันกลับหอวะ?”



“อีเอ็มมี่มาดูละครรอบนี้ด้วยป่ะ?”



“มึงโทรหามันดิ๊”



พี่งอกต่อสายหาเมียเพื่อนอยู่ครู่หนึ่ง อีเอ็มมี่ก็เดินเข้ามาหลังเวทีด้วยอาการแตกตื่น แต่พอเห็นว่าคุณสามีไม่ได้เป็นอะไรนอกจากหลับไป เขาก็ทำสีหน้าโล่งอก



“กลับไงอ่ะมึง? มึงขับฟีโน่แล้วเอาไอ้แมนซ้อนเงี้ยเหรอ?”



“อันตรายว่ะ ไอ้พี่ฉิมมันขับรถมา เดี๋ยวให้มันแวะส่งก็ได้ จอดฟีโน่ไว้นี่แหละ”



น้องโฟนเสนอความเห็น ซึ่งเป็นความเห็นที่ทำเอารุ่นเพื่อนกะรุ่นพี่เงียบกริบ ก่อนที่แต่ละคนจะยิ้มเผล่ออกมาอย่างไม่น่าไว้ใจ



“มีผัวอยู่ในโอวาทโว้ย สั่งให้ไปไหนก็ได้~”



“ฮิ้ววววววววววววววว”



“แล้วแวะไปส่งนี่คืออะไร? จะไปต่อที่ไหนกันจ๊ะ มืดค่ำแล้วเนี่ย~”



“ฮิ้ววววววววววววววว”



“โว้ยยยย! ล้อกันอยู่ได้!”



ไอ้น้องโฟนตวาดแก้เขินก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินออกไปจากวงล้อมเพราะอยู่นานก็มีแต่จะเสียหาย สักพักพี่ฉิมก็เดินมาตามรุ่นน้องที่หลับสนิทและเมียมันให้ไปขึ้นรถ ใช้เวลาครู่เดียวก็มาถึงหอพักของพี่แมน เอ็มจับพี่แมนแบกขึ้นหลังก่อนจะหันมาโค้งขอบคุณพี่ฉิมกับเมียพี่ฉิมที่ยังคงหน้าบึ้งเพราะเซ็งที่ถูกล้อไม่หาย แล้วเดินเข้าหอไปกดลิฟต์ขึ้นสู่ชั้น 7 อันเป็นรังรักของตน



“ฮึบ!”



อดีตตุ๊ดหงายหลังวางคุณสามีลงบนเตียง หายใจหอบสองทีพอให้รู้ว่าเหนื่อยก่อนจะจัดการถอดรองเท้าและเสื้อผ้าไล่ตั้งแต่เสื้อยืดสต๊าฟ เข็มขัดสายสีน้ำเงิน และกางเกงขาโคตรเดฟสีเทา พอถอดหมดก็นั่งหอบอีก 2 ทีแล้วหันมาจัดการกับปราการ...เอ่อ...ชิ้น...สุดท้าย



“ขาวจังง่ะ!”



เอ็มมองพี่แมนที่หลับสนิทจนเกือบคิดว่าม่องไปแล้วบนเตียงด้วยน้ำลายไหลยืด ผิวพี่แมนถึงจะขาวจนดูซีดไปหน่อยแต่หน่มหน๊มนี่สีชมพูเย้ายวนให้ลิ้มลองเสียเหลือเกิน ยิ่งตอนนี้พี่แมนหลับสนิทไม่มีสิทธิ์ขัดขืน หรือยังไงก็มัดไว้ก่อนดีมะ? ถึงตื่นมากลางคันก็ไม่สะดุด!



“ไม่ได้นะเอ็ม พรุ่งนี้พี่แมนต้องไปค่ายแต่เช้า!”



เอ็มมี่แองเจิ้ลกรอกหูซ้าย



“โอกาสแบบนี้มีมาบ่อยๆ ซะที่ไหน? ถ้าไม่ขยี้วันนี้ก็โง่ตายชักแล้วจริงไหม?”



เอ็มมี่เดวิลเป่าหูขวา



“แต่พี่แมนไม่ได้อนุญาตนะ ทำแบบนี้เค้าเรียกลักหลับ พี่แมนต้องโกรธแน่ๆ!!”



เอ็มมี่แองเจิ้ลพยายามยื้อรั้งต่อไป



“พี่แมนต่างหากที่ผิดสัญญาหลังละครจบน่ะ มันเป็นสิทธิ์ที่เราควรจะได้จริงไหม?”



เอ็มมี่เดวิลก็ชักจูงไม่หยุด



“แต่ว่า!”



“ว้อย!!”



นักศึกษากลัดมันคว้าอีเอ็มมี่แองเจิ้ลมาตบซ้ายตบขวา ตื้บๆๆ กับพื้นแล้วเตะมันทิ้งเข้าไปในห้องน้ำอย่างไร้ความปรานี บัดนี้เอ็มตัดสินใจแล้วว่ามิอาจห้ามแรงปรารถนาหื่นๆ ของตัวเองได้จริงๆ จึงก้าวขึ้นคร่อมพี่แมนอย่างอาจหาญ



“ถือว่าเป็นการลงโทษที่พี่แมนผิดสัญญาว่าจะให้ผมทำหลังละครจบก็แล้วกันนะครับ”



แล้วอีเอ็มมี่เดวิลก็ได้แสยะยิ้มเมื่อมันสามารถดึงเจ้านายลงสู่ขุมนรกที่รออยู่เบื้องหน้าได้สำเร็จ!



.

.

.



เกือบรุ่งสาง



“ทำไมไอ้แมนมันยังไม่มาซะทีวะเนี่ย? มึงโทรตามมันหน่อยดิ๊”



พี่งอกที่เกณฑ์พลพรรคขึ้นรถทัวร์จนหมดแล้ว หันไปสั่งพี่เงิบที่ยืนหน้าบูดอยู่ข้างๆ เพราะรอไอ้ตัวหัวโจกนานแล้วมันก็ไม่มาซะที พี่เงิบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสาย สักพักหนึ่งก็ได้รับการตอบรับแต่ดันไม่ใช่เสียงไอ้แมนซะนี่



‘สวัสดีครับ พี่เงิบ’



“เอาไอ้แมนมาคุยหน่อยดิ๊ มันยังไม่ออกจากหออีกเหรอเนี่ย?”



พี่เงิบบ่นเสียงหงุดหงิด



‘คือ...พี่แมนเขา...เป็นไข้อ่ะครับ’



“ไอ้แมนเนี่ยนะเป็นไข้?! โว๊ะ! กูคบมันมาสี่ปี จามสักครั้งมันยังไม่เคยเลยนะเว่ย!”



เอ็มหัวเราะแหะๆ ด้วยเสียงเอื่อยอ่อย พี่แมนเป็นไข้น่ะเขาไม่ได้โกหกหรอก แต่ไอ้สาเหตุที่ทำให้พี่แมนเป็นไข้นี่ไม่กล้าพูดจริงๆ



“มันจะไปไหวไหมน่ะ?”



‘คงไม่ไหวอ่ะครับ’



“โว๊ะ! เออๆ มึงดูมันด้วยละกัน ถ้าหนักมากก็พามันไปหาหมอ รู้ไหม?”



‘ครับ’



กำชับเสร็จสรรพแล้ว พี่เงิบก็กอดคอพี่งอกโหนขึ้นรถบัสก่อนจะออกเดินทางไปโดยเสียดายไม่น้อยที่ไอ้หัวโจกมันไม่ได้ไปด้วย ตัวมันเองก็คงหัวเสียไม่ใช่เล่นเหมือนกันที่พลาดทริปหมู่คณะแบบนี้



กลับมาที่รังรักของท่านแกนคณะและคนใจหื่น คุณพี่ท่านนอนซมอยู่บนเตียง มีแผ่นเจลคูลฟีเวอร์แปะอยู่ที่หน้าผาก ลำคอส่วนที่โผล่พ้นคอเสื้อขึ้นมาแดงเป็นจ้ำๆ อย่างน่ากลัว อีตัวต้นเหตุนั่งคุกเข่าสำนึกผิดอยู่ข้างเตียงหลังจากเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและเช็ดตัวสวมเสื้อผ้าให้ที่รักเรียบร้อยแล้ว



“พี่แมน...”



“ไม่ต้อง...แค่ก...มาเรียกชื่อกู...เลยนะ”



พี่แมนหลับตาด่าเสียงแผ่ว จำได้ลางๆ ว่าโดนไอ้ทีผลักแล้วก็วูบไป พอรู้สึกตัวอีกทีก็โดนไอ้หื่นนี่ขยี้ซะเละ พอจะผลักมันออกไปจากตัวก็ไม่มีแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ พอถูกมันทำจนหมดสติไปอีกรอบก็เป็นไข้ตัวร้อนจี๋แบบนี้เสียแล้ว



“เค้าขอโทษนะ”



“มึง...อีชั่ว...ข่มขืนกู”



“ข่มขืนที่ไหน? พี่แมนไม่ได้ขัดขืนสักหน่อย”



พี่แมนลืมตาส่งสายตาพิฆาตให้มันเมื่อได้ยินถ้อยคำแสลงหู ไม่ใช่ว่าไม่ขัดขืน แต่กูไม่มีแรงต่างหาก...ตัวมันเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขาต้องไปค่ายแต่ก็ยังทำ ถ้าไม่ป่วยจะถวายแข้งให้มันสักทีเป็นการสั่งสอน



“เค้าผิดไปแล้ว”



เอ็มคว้ามือพี่แมนมากุม แต่เจ้าตัวก็ดึงกลับไปซุกไว้ในผ้าห่มแล้วหลับตาไม่ยอมฟังคำพูดของมันอีก คนก่อเรื่องเลยได้แต่นั่งหางตกหูลู่อยู่อย่างนั้น แล้วนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เอ็มได้ยินเสียงพี่แมน



.

.

.



“สมน้ำหน้า ทำอะไรไม่คิด”



น้องเมเม่ด่าเพื่อนที่มาปรึกษาถึงหอเพื่อนหญิงอย่างไม่ไว้หน้า อีนี่ไม่รู้จักอดเปรี้ยวไว้กินหวาน พี่แมนกำลังทั้งรักทั้งหลงมันอย่างกับอะไรดีดันทำเสียเรื่องซะได้



“กูรู้ กูผิดเอง แต่พวกมึงเป็นเพื่อนกูก็ต้องช่วยกูสิ นี่พี่แมนไม่ยอมพูดกับกูซักคำมาสองวันแล้วนะ”



สองแฝดมองตัวปัญหานั่งซึมเป็นหมาถูกเจ้าของทิ้งแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ถึงมันจะทำตัวน่าโกรธจริงๆ แต่พี่แมนก็คงโกรธไม่นานนักหรอก ของมันก็ไม่ได้เสียหายครั้งแรก บางทีพี่แมนอาจจะอยากให้มันได้สำนึกแล้วคิดหาวิธีฉลาดๆ ไปง้อเขาก็ได้



“มึงหาของชอบพี่แมนไปง้อเขาบ้างยังอ่ะ?”



“กูก็ทำข้าวไข่เจียวไปง้อเขาแล้วนะ เขาก็ยอมกินอ่ะ แต่ไม่ยอมพูดกะกูอยู่ดี”



“เฮ้อ...ไม่ได้ลงทุนอะไรเลยนะมึงอ่ะ”



น้องมาม่าด่า



“มึงอ่ะ! ถ้ากูซื้อดอกไม้หรือตุ๊กตาไปง้อ กูก็โดนพี่แมนตื้บน่ะเสะ!”



ก็ถูกของมันนะ



“โทรหาพี่งอกดีกว่า เผื่อจะรู้ว่าพี่แมนมีของชอบอะไรบ้าง?”



น้องเมเม่ออกความเห็นแล้วคว้ามือถือมากดโทรออกหาที่รักทันที ไม่นานปลายสายก็รับด้วยน้ำเสียงดีใจที่แฟนโทรหา



‘หนูเม่ คิดถึงพี่เหรอจ๊ะ?’



“คิดถึงค่ะ พี่งอกไปตั้งหลายวัน น้องเม่ไม่มีใครให้กอดเลย~”



“แฮ่มๆ”



เอ็มกระแอมเตือนให้เพื่อนสาวรู้ว่าชักจะเกินหน้าเกินตาไปแล้ว น้องเมเม่เลยแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะเอ่ยเข้าเรื่องได้ในที่สุด



“พี่งอก อีเอ็มมี่มันทำพี่แมนโกรธอีกแล้วอ่ะ”



‘อ่าว มันไปทำอะไรอีกล่ะ?’



“เรื่องมันยาวอ่ะ เดี๋ยวพี่กลับมาแล้วหนูเล่าให้ฟัง ตอนนี้พี่ช่วยมันหาของชอบไปง้อพี่แมนหน่อยสิ”



‘ของชอบไอ้แมนเหรอ? เฮ้ย...ไอ้เงิบ ไอ้แมนมันชอบอะไรบ้างวะ?’



‘ไอ้แมนน่ะนะ หมาไงมึง หมา’




เสียงพี่เงิบลอดผ่านสายโทรศัพท์มาให้ได้ยินกันทั่ว เอ็มกับน้องเมเม่ทำท่าคิดหนัก ในขณะที่น้องมาม่าแย่งโทรศัพท์พี่สาวไปออดอ้อนฉอเลาะคุณแฟนอยู่ที่มุมห้อง



“หมา? แต่ที่หอพักเขาห้ามเลี้ยงสัตว์นะ”



“หรือจะเป็นตุ๊กตาหมา? ไม่อ่ะ...พี่แมนด่าตายเลย”



แล้วน้องเมเม่กับอีเอ็มมี่ก็นั่งคิด นอนคิด ตีลังกาคิดกันพักใหญ่ ขนาดน้องมาม่าวางสายจากพี่เงิบมาช่วยคิดแล้วก็ยังคิดกันไม่ออก



“หรือมึงจะไปสกล...ซื้อลูกชิ้นหมาให้พี่แมน”



“พี่แมนไม่ใช่มึงนะอีเม่!”



น้องมาม่าตวาดใส่คู่แฝดที่คิดอะไรไม่เข้าท่า ก่อนจะหันไปเปิดทีวีเพราะอยู่เงียบๆ ไปก็คงคิดอะไรไม่ออกอยู่ดี ภาพในทีวีเป็นงานแฟนซีอะไรสักอย่างของวัยรุ่นที่จัดขึ้นที่สยาม...



“นี่แหละ!”



“อะไรของมึง? กูตกใจหมด!”



แฝดพี่แว้ดใส่อีตัวดีที่อยู่ดีๆ ก็ตะโกนขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย



“กูคิดออกแล้ว ไปก่อนนะๆ”



“อ่าวเฮ้ย! เดี๋ยวเด้! อีเอ็มมี่!”



สองสาวตะโกนเรียกแต่ก็ไม่อาจรั้งเพื่อนหนุ่มที่สวมรองเท้าวิ่งออกจากห้องพักไปด้วยรอยยิ้มเริงร่าลัลล้าของมันได้ น้องกุมารได้แต่มองหน้ากันอย่างไม่อาจเดาได้ว่าไอ้ที่มันคิดออกแล้วน่ะมันคืออะไร?



หวังว่าจะสำเร็จละกันนะมึง....





โปรดติดตามแอ๊บต่อไป




Talk~
หนอย...อีเอ็มมี่ ป่นปี้พี่แมนซะยับเลยนะ!

หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 27: ตกรถ (23/12/17) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 23-12-2017 09:27:37
 :m20: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 27: ตกรถ (23/12/17) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 23-12-2017 11:43:27
เอ็มก็ยอมเป็นหมาให้พี่แมนสิ  :-[
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 27: ตกรถ (23/12/17) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 23-12-2017 17:43:08
พี่แมนโดนกินไม่รู้ตัว อิอิ อดไปค่ายเลย เอ็มมี่จะง้อแบบไหน น้องหมา คิกๆๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 27: ตกรถ (23/12/17) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-12-2017 18:28:34
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 27: ตกรถ (23/12/17) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-12-2017 02:58:17
อยากเห็นเอ็มมี่กลายร่างเป็นหมา จะเป็นหมาแบบไหนนะ แล้วจะง้อเฮียแมนสำเร็จไหมนะ  :m21:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 27: ตกรถ (23/12/17) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: MayuYume ที่ 24-12-2017 12:45:27
กรี๊ดดดดด รอตอนหน้าไม่ไหวแล้ว  :hao7: เอ็มมี่จะง้อพี่แมนสำเร็วมั้ย
ว่าแต่....เอ็มมี่ทำพี่แมนไปไปได้เลย--- :z1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 27: ตกรถ (23/12/17) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-12-2017 13:15:38
 :z1: :laugh: :z1:



 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 27: ตกรถ (23/12/17) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 25-12-2017 17:02:27
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 27: ตกรถ (23/12/17) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 25-12-2017 22:22:08
 :laugh:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 27: ตกรถ (23/12/17) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 31-12-2017 20:28:05
อย่าบอกว่าจะใส่ชุดหมาไปง้อพี่แมนนะ
555555555
เอ็มมี่ไม่อดใจรอเลยยย
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 27: ตกรถ (23/12/17) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 06-01-2018 09:05:22
จะมายังน่ะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 27: ตกรถ (23/12/17) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 28-01-2018 20:34:39
แอ๊บที่ 28: เห็ดท้องถิ่นกินแล้วอร่อย





แกร็ก!



แกนคณะคนเก่งเปิดประตูห้องพักของตัวเองเข้ามาพร้อมถุงของฝากจากเพื่อนพ้องที่เพิ่งกลับมาจากไปค่ายที่ต่างจังหวัด คนที่กลับมาแข็งแรงดีแล้วหลังจากโดนอดีตตุ๊ดทรพีขยี้เสียเป็นไข้เดินเอาของฝากไปแช่ไว้ในตู้เย็น พอปิดตู้เย็นลงก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังออกมาจากทางระเบียงห้อง



“โฮ่ง!”



พี่แมนทำหน้างง พลางนึกในใจว่าใครฝ่าฝืนกฎหอพักเอาหมาเข้ามาเลี้ยงกันนะ จะว่าเป็นหมาจากข้างนอกตึกก็ไม่น่าใช่เพราะห้องนี้ก็อยู่ตั้งชั้น 7 หรือมันจะเป็นหมาอวกาศ...บินได้อะไรเทือกนั้น



“โฮ่งๆ!”



พอได้ยินเสียงเห่าอีกที พี่แมนเลยตัดสินใจเดินออกไปดูที่ระเบียง คนตัวบางสะดุ้งเพราะดันมีหมาอยู่ในห้องเขาจริงๆ แถมไอ้ตัวนี้มันพิเศษกว่าหมาทั่วไปตรงที่เป็นหมาลายจุดตุ๊ดยักษ์ นั่งยองๆ สี่ขาทำตาใสปิ๊งมาให้อย่างน่าเอ็นดู แกนคณะสุดโหดรีบบังคับมุมปากไม่ให้หลุดยิ้มเมื่ออีหมายักษ์นั่นมันเดินสี่ขาเข้ามาใกล้ๆ



“แฮ่กๆ”



น่ารักอ๊า~!! แต่ห้ามยิ้มนะ ห้ามลูบหัวมันด้วย!!



พอไม่รู้จะตีสีหน้ายังไงดี พี่แมนเลยหันซ้ายหันขวาคว้าเอาลูกบอลสีชมพูแปร๋นที่ไว้ใส่ในเครื่องซักผ้าไม่ให้ผ้าพันกันโยนเข้าไปในห้อง เจ้าหมาตุ๊ดลายจุดพอเห็นว่าเจ้าของโยนบอลไปก็คลานดุ๊กๆ ไปเอาอย่างว่าง่าย ทำให้พี่แมนมีเวลาปรับสีหน้าแล้วเดินตามเข้ามาในห้อง หมาตุ๊ดคาบลูกบอลไว้ในปากนั่งเอียงคอรออย่างเรียบร้อย เจ้านายที่รักก็เดินมานั่งที่เตียงอย่างนิ่งๆ แล้วแบมือขอ ดัลเมเชี่ยนยักษ์ก็คลานดุ๊กๆ เอาลูกบอลมาให้ทันที



หมายักษ์ยิ้มแป้นเอาใจเจ้านาย มันรีบคลอเคลียสุดที่รักเมื่อเห็นว่าท่าทางมุขแปลงตัวเป็นหมาดูท่าจะได้ผลดีเกินคาด ถึงพี่แมนจะไม่ยอมยิ้มแต่ประกายตาตื่นเต้นในดวงตากลมโตนั่นเขาก็เพิ่งเคยได้เห็นเป็นครั้งแรก



“โฮ่ง! ชอบแบบนี้เหรอครับ?”



“หมาอะไรพูดได้?”



พี่แมนเอ็ดอย่างไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรนัก หมายักษ์ที่ยิ้มร่าเมื่อเจ้านายยอมพูดด้วยเป็นประโยคแรกในรอบ 3 วัน ก็รีบคลานเข้าหาเกยคางไว้บนขานุ่มๆ ของคุณสามีแล้วช้อนตามองคนที่นั่งอยู่บนเตียงอย่างออดอ้อน



“ก็หมาตัวนี้น่าสงสาร โดนแฟนโกรธไม่ยอมพูดด้วยตั้งหลายวัน คุณนางฟ้าใจดีเลยเสกให้หมาตัวนี้พูดได้ จะได้มาง้อคุณแฟนได้ไงครับ”



“ฮึฮึ...ปัญญาอ่อน~”



ในที่สุดพี่แมนก็หลุดยิ้มจนได้ ก็ดูมันสิ! ใครจะทนเก๊กหน้าต่อไปได้ไหว?



“หายโกรธเถอะนะครับ หมาสำนึกผิดแล้ว ต่อไปหมาจะไม่ทำตัวไม่ดีแบบนี้อีกแล้วนะครับ หมาสัญญา”



พี่แมนทิ้งหางตามองเจ้าหมาที่ทำหน้าตาน่าสงสารเว้าวอนให้เจ้านายให้อภัย ก่อนจะเมินหน้าหนีอย่างแง่งอน เจ้าตูบยักษ์เลยต้องเขยิบตัวขึ้นมานั่งเคียงกันบนเตียงแล้วรวบตัวคุณแฟนเข้ามากอดแน่นพร้อมหอมแก้มเนียนๆ ไปอีกฟอด



“นะครับ ยกโทษให้หมาเถอะ สงสารหมาเถอะนะครับ นะ...น้า~”



พี่แมนมองหมาด้วยหางตาพร้อมเบะปาก



“งดไปเลย 1 ปี”



“โห! 2 อาทิตย์ก็พอนะครับ นะ!”



“3 เดือน”



“ไม่ๆ เดือนนึงก็ได้นะครับ พบกันครึ่งทางไง”



“ครึ่งทางตรงไหน? ไอ้หมาหื่น!”



“งั้นเดือนครึ่ง! โอเคนะครับ? นะ ยิ้มให้กันก่อนเร็ว”



เอ็มอ้อนสุดตัว แต่พี่แมนก็ยังลอยหน้าลอยตาทำไม่รู้ไม่ชี้ไม่ยอมยิ้มให้เสียที



“ก็ได้ครับ ก็ได้ สองเดือน โอเคไหม? เดี๋ยวมาร์ควันไว้บนปฏิทินตัวใหญ่ๆ เลย”



“บ้า!”



“ด่าแล้วหน้าแดงนี่หมายความว่าไงอ่ะครับ?”



“ตอนเด็กๆ แม่มึงเอาหนังโป๊ให้แดกแทนข้าวรึไง?”



พี่แมนแหวใส่



“ผมฟ้องแม่จริงๆ นะเอ้า!”



“จิ๊!”



คนโดนดักทางสะบัดหน้าหนี แต่ก็ไม่ยอมลุกไปจากจุดที่โดนกอด



“ยังไม่ชมผมสักคำเลยว่าน่ารักไหม? ผมไปเช่าชุดไกลมากเลยนะ”



“เซ้าซี้ว่ะ!”



“ชอบอ่ะดิ๊! เป็นวิธีง้อที่ฉลาดสุดๆ เลยใช่เปล่า?”



“ก็สมกับที่ซื้อโอเมก้าให้แดกมาเป็นเดือนล่ะนะ”



พี่แมนแสยะยิ้ม รู้สึกดีที่ได้เห็นหมาหน้าโง่ทำหน้าม่อย แต่สุดท้ายก็มันได้หาเศษหาเลยกับพี่แมนอยู่อย่างนั้นเป็นชั่วโมง เรียกว่ากอดว่าหอมให้คุ้มก่อนจะอดขยี้ไปอีก 2 เดือนเต็ม



“เย็นนี้กินไรดีอ่ะ?”



แม่บ้านสุดหล่อถาม



“ไอ้งอกมันเก็บเห็ดในป่าแถวหมู่บ้านมาฝากอ่ะ ผัดเห็ดกินละกัน”



เมื่อได้รับคำสั่งดังนั้น หมายักษ์ก็ไปเปลี่ยนชุดจากน้องหมาเป็นพ่อครัวสวมผ้ากันเปื้อนลายคิตตี้หุงหาอาหารให้คุณแฟนขณะที่เธอชำระร่างกายอยู่ในห้องน้ำ แกนคณะเดินออกมาด้วยกลิ่นสบู่หอมฟุ้ง ในขณะที่เอ็มตั้งวงข้าวเสร็จพอดี



“ทานนี่นะครับ”



เอ็มตักผัดเห็ดใส่กุ้งให้พี่แมนคำโต ท่านแกนคณะที่เพิ่งหายงอนเชิดปากแต่ก็ยอมตักทานแต่โดยดี เห็ดที่ไอ้งอกเก็บมานี่ก็ช่างอร่อยอย่างน่าประหลาด ไม่ใช่แค่รสชาติ หน้าตามันก็ประหลาดไม่เคยเห็นตามท้องตลาดทั่วไป



“อร่อยดีแฮะ”



“แต่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะครับ”



“สงสารจะเป็นเห็ดท้องถิ่นน่ะ”



แล้วสองสามีภรรยาก็ซัดเห็ดไปไปเสียหมดจาน เอ็มเป็นฝ่ายเก็บจานไปล้างในครัว ในขณะที่พี่แมนนั่งกินมะม่วงสุกที่เมียปอกแช่เย็นไว้ให้ตั้งแต่ก่อนทานข้าวพร้อมกับดูทีวีไปด้วย



เพล้ง!



เอ็มที่ยังล้างจานไม่ทันเสร็จดีรีบล้างฟองออกจากมือแล้วออกมาดูสุดที่รัก สิ่งที่มันเห็นคือส้อมที่จิ้มมะม่วงคาไว้หล่นอยู่ที่มุมห้อง ส่วนพี่แมนก็นั่งเบะปากอยู่ที่พื้นหน้าทีวี



“พี่แมนเป็นอะไรครับ?”



เอ็มถลามานั่งลงข้างพี่แมน แกนคณะปี 4 ดูหน้าแดงๆ ท่าทางเหมือนเป็นไข้แต่พอจับเนื้อต้องตัวแล้วก็ไม่พบความร้อนแต่ประการใด



“ฮึก...ฮือออออออ”



แล้วจู่ๆ ที่แมนก็ปล่อยน้ำตาไหลออกมาเหมือนเขื่อนพัง เอ็มที่เห็นแบบนั้นก็ตาโตตะลึงงันทำอะไรไม่ถูก ได้แต่พะงาบๆ ปากอยู่นานกว่าจะตั้งสติถามออกไปได้



“พ...พี่แมนเป็นอะไรครับ?”



“มะม่วง...”



“มะม่วงมันทำไมครับ?”



เอ็มลุ้นจนแทบลืมวิธีหายใจ



“มะม่วงชิ้นเมื่อกี้มันเปรี้ยวอ่ะ! โฮ~~~~”



เอ็มกะพริบตาปริบๆ สมองที่ได้รับการบำรุงด้วยโอเมก้าสามพยายามประมวลผลความสัมพันธ์ระหว่างมะม่วงเปรี้ยวและน้ำตาพี่แมนอย่างหนักแต่เหมือนจะไม่สามารถไขสมการออกได้



“มึงก็รู้ว่ากูไม่กินมะม่วงเปรี้ยว มึงยังจะเอามาให้กูกินอีก ฮึก! มึงไม่รักกูแล้วใช่ไหม?”



“ใช่ซะที่ไหนล่ะครับ โธ่~”



คนตัวสูงจะดึงตัวคนร้องไห้เข้ามากอดแต่ก็ถูกสะบัดออก สุดโหดยังคงนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นเป็นเด็กๆ อย่างผิดลุค



“พี่แมนร้องไห้ทำไมครับเนี่ย? แค่มะม่วงชิ้นเดียวเอง”



คนร้องไห้ตวัดสายตาฉ่ำน้ำมองคนพูดไม่เข้าหู



“แค่มะม่วงชิ้นเดียว? ก็มันเป็นของที่กูไม่ชอบนี่! ฮึก! มึงน่ะไม่เคยใส่ใจความรู้สึกกูเลย! ใช่สิ! ถ้ามึงสนใจความรู้สึกกูบ้าง มึงก็คงไม่ปล้ำกูหรอก!!”



“มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ? พี่แมนเป็นอะไรเนี่ย? ทำไมงอแงแบบนี้ล่ะครับ?”



“ว่าใครงอแง?! เบื่อกันแล้วใช่ไหม? มึงจะทิ้งกูล่ะสิ!”



เอ็มอยากจะเอาหัวโขกเสาเตียงตายให้มันรู้แล้วรู้รอด คนตัวขาวๆ บางๆ มานั่งใส่เสื้อยืดคอย้วยร้องไห้ฮึกฮักอยู่ตรงหน้ามันก็น่ารักดีอยู่หรอก แต่แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะเห้ย!



“พี่แมน...เมาป่ะเนี่ย?”



“เมาบ้าอะไร! กูยังไม่ได้แดกเหล้าซักหยดเลยนะ! ฮือออ อย่ามาพาลกันนะ!”



ใครพาลใครกันแน่วะเนี่ย?



เมื่อพูดอะไรไปก็ผิดทั้งหมด เอ็มเลยนั่งดูพี่แมนร้องไห้อยู่แบบนั้น จะลุกไปล้างจานต่อก็กลัวจะหาว่าทิ้งกันอีก พ่อครัวลายคิตตี้เลยนั่งมองคนขี้แงชั่วคราวปาดน้ำตาป้อยๆ อยู่เกือบ 10 นาที ก่อนที่เจ้าตัวจะเงยหน้าขึ้นมามองกันด้วยดวงตาใสแป๋วเหมือนลูกกวาง



“เอ็ม...”



เห้ย! ใจเต้นเลยนะเห้ย!



“ค...ครับ”



“เอ็มรักแมนไหม?”



จะทะลุออกมานอกอกแล้วเห้ย!



“ร...รักครับ”



“ตอบไม่เต็มเสียง!”



“รักครับ!”



ขนาดเมายังบังคับกูได้อีกนะ!



เมื่อได้ยินคำตอบที่พึงพอใจ พี่แมนก็ยิ้มหวานให้คนรักก่อนจะลุกขึ้นจูงมือกึ่งลากเอ็มมาที่เตียงนอน



“นอนนะนอนๆ”



“นอนลงเหรอครับ?”



“ใช่ๆ”



จะไม่ทำตามเดี๋ยวก็งอแงขึ้นมาอีก เอ็มเลยตัดสินใจนอนหงายลงไปตามคำขอ พี่แมนเดินไปค้นอะไรกุกกักอยู่ชั่วครู่ก็กลับมาพร้อมเชือกเส้นหนึ่งแล้วจัดการมัดมือทั้งสองข้างของเมียภาคทฤษฎีไว้กับหัวเตียงทันที



“พี่แมนทำอะไรอ่ะ?”



“เซ็กส์ไง!”



ทำไมต้องทำหน้าตาน่ารักในเวลาแบบนี้ด้วยวะเนี่ย!



“แล้วทำไมต้องมัดด้วยล่ะ?”



“อ้าว? เอ็มไม่ได้ชอบแบบนี้เหรอ?”



“ไม่ได้ชอบครับ!”



“จริงด้วย เอ็มเกลียดแมนแล้วอ่ะ โฮ~~~”



โอ่ย...กูอยากบ้า!



“ไม่ใช่อย่างนั้น ผมแค่ไม่ชอบเล่นอะไรเจ็บๆ เท่านั้นเอง”



เอ็มพยายามทำให้สถานการณ์มันดีขึ้น



“ทีเอ็มทำแมนเจ็บ แมนยังยอมเอ็มได้เลยนะ!”



คนเป็นฝ่ายกระทำสะอึก



“จริงๆ ถ้ามันไม่เจ็บนะ แมนจะยอมให้เอ็มทำทุกวันเล้ย~~”



“พุดจริงอ๋อ?”



“ล้อ~เล่น!”



พี่แมน...มึงกระทืบกูเถอะ ได้โปรด!



“ในกูเกิ้ลบอกว่า คนที่ทำแล้วคู่ของตัวเองเจ็บอ่ะ แปลว่าห่วย!”



“ไม่ได้ห่วย! แต่ของพี่แมนมันคับนี่ ถ้าทำบ่อยๆ ก็ไม่เจ็บเองล่ะ!”



“อย่ามาตะคอกกันนะ!!”



ใครตะคอกใครกันแน่วะ?



ระหว่างที่เอ็มกำลังปลงตกกับสถานการณ์ที่รับมือยากขั้นสุด พี่แมนเวอร์ชั่นประหลาดก็ดึงกางเกงบอลพร้อมชั้นในของเขารูดหลุดไปจากข้อเท้าแล้วโยนลอยหวือไปตกข้างเตียง



“ถอดทำไมอ่ะ?!”



เอ็มเหงื่อตก สถานการณ์มันล่อแหลมมากเลยนะเห้ย!



“เอ็มเคยบอกว่าจริงๆ แล้วแมนเป็นเมียเอ็มใช่ป่ะ?”



“ก...ก็ใช่”



“แล้วเอ็มก็เคยบอกอีกว่าคนเป็นเมียอ่ะต้องอยู่ข้างบน”



“ไม่ใช่! อันนั้นไม่ใช่!!”



เอ็มตะโกนเถียง



“มันจะไม่ใช่ได้ไงเล่า!! ตอนเอ็มเป็นเมียเอ็มยังได้ทำ ตอนนี้แมนเป็นเมียแล้วแมนต้องได้ทำบ้างสิ!!”



พี่แมนจับขาอดีตเมียแยกออกจากกัน ถึงนิสัยจะเปลี่ยนไปแต่แรงกายไม่เปลี่ยนตาม เอ็มจะหุบขาขัดขืนก็สู้แรงไม่ไหวได้แต่ปล่อยให้พี่แมนประชิดตัวเข้ามาด้วยใบหน้าชุ่มเหงื่อ



“พ...พี่แมนฟังก่อนนะ”



“ไม่ฟังแล้ว!”



คนที่อ้างสิทธิเมียถอดกางเกงออก จ่อสากขนาดอวดหญิงได้เข้ากับครกของคนข้างล่างด้วยแววตามุ่งมั่น ชั่ววินาทีที่เกิดขึ้นนั้นได้กระชากวิญญาณของเอ็มออกจากร่างไปเรียบร้อยแล้ว



“ม่ายยยยยยยยยยยยยยย”



ตุบ!



เอ็มหลับตาปี๋เตรียมรับความเจ็บปวดที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่หลับอยู่นานก็ไม่มีอะไรผิดปกติไปจากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นบริเวณแผ่นอก พอค่อยๆ ลืมตาขึ้นก็พบว่าร่างของพี่แมนกำลังนอนทับตัวเองอยู่ พอชะโงกหัวดูดีๆ ถึงได้รู้ว่าหลับสนิทไปแล้ว



“เฮ้อ~~”



เอ็มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกสุดขีด ก่อนจะขยับข้อมืออยู่นานจนหลุดจากปมเชือกแล้วจัดแจงแต่งตัวคนรักและตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะจับจอมปัญหาในวันนี้ให้หลับไปในท่าที่สบายที่สุด คนที่เกือบตกเป็นเมียพี่แมนไปเสียจริงๆ เดินกลับไปล้างจานในครัว เก็บกวาดบ้านจนเรียบร้อยก่อนจะอาบน้ำแล้วเดินมาซุกตัวบนเตียงเดียวกับสุดที่รัก พอมองใบหน้าหวานๆ ของรุ่นพี่สุดโหดแล้วคำปรามาสที่เจ้าตัวว่าไว้ก็ดังขึ้นมาในหัว



‘ในกูเกิ้ลบอกว่า คนที่ทำแล้วคู่ของตัวเองเจ็บอ่ะ แปลว่าห่วย!’



คนโดนปรามาสเบะปาก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเมื่อนึกภาพพี่แมนตอนนั่งเสิร์ชกูเกิ้ลเรื่องอย่างว่าของผู้ชายออก เห็นตั้งท่ารังเกียจแบบนั้นแต่ก็คิดถึงเราเหมือนกันแฮะ รู้ตัวอีกทีก็ขยี้หัวรุ่นพี่ด้วยความเอ็นดูไปแล้ว คงไม่บาปหรอกเนอะ!



“คราวหน้าไม่เจ็บแน่นอนครับ สัญญา”



ประทับคำสัญญาด้วยจูบหวานๆ ที่หน้าผาก ก่อนที่อดีตเมียตุ๊ดจะกอดเอวคุณแฟนต่างหมอนข้างแล้วหลับไปด้วยกันอย่างเป็นสุข



.

.

.



“เฮ้ย! ไอ้งอก มึงบอกไอ้แมนป่าววะ ว่าเห็ดนั่นบางคนกินแล้วก็เมาน่ะ”



พี่เงิบเอ่ยขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้



“โถ่มึง ไอ้แมนแดกเหล้าเป็นขวดยังไม่เมาเลย นับประสาอะไรกะอีแค่เห็ด จริงมะ?”



“เออว่ะ!”



เพราะเหตุนี้ สองสมุนของท่านแกนจึงไม่ได้เอ่ยเตือนถึงพิษภัยของเห็ดนั่นออกไป...





โปรดติดตามแอ๊บต่อไป




Talk~
มาต่อล้าววว ขอโทษที่คุณนายหายไปนานจ้าาา
เหลืออีกตอนนะ *นับนิ้วก่อน* อีกสามตอนเอง! ก็จะจบแล้วล่ะจ้า
เจอกัน อังคาร พหัส เสาร์ เนาะ รวดเดียวจบไปเล้ยยย


หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 28: เห็ดท้องถิ่นกินแล้วอร่อย (28/01/18) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 28-01-2018 21:06:14
555555
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 28: เห็ดท้องถิ่นกินแล้วอร่อย (28/01/18) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 28-01-2018 21:18:51
พี่แมนตอนเมาก็น่ารักก แต่ เอ็มเกือบได้เป็นเมียนี่สิปัญหา 555
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 28: เห็ดท้องถิ่นกินแล้วอร่อย (28/01/18) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-01-2018 22:54:30
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 28: เห็ดท้องถิ่นกินแล้วอร่อย (28/01/18) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 29-01-2018 02:28:06
พี่แมนคนแมนของเรา เมาเห็ดซะแล้ว น่าจะกินให้เยอะว่านี่นะ จะได้เมายาวววววว จนได้เอ็มมี่เป็นเมียจริง ๆ สักที  :hao3:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 28: เห็ดท้องถิ่นกินแล้วอร่อย (28/01/18) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 29-01-2018 13:44:33
เราว่าแล้ว พี่แมนเค้าต้องเมาแน่เลย :laugh:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 28: เห็ดท้องถิ่นกินแล้วอร่อย (28/01/18) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 29-01-2018 18:22:40
เกือบไปแล้ว 5555555555
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 28: เห็ดท้องถิ่นกินแล้วอร่อย (28/01/18) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 30-01-2018 21:39:45
555+  :laugh:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 28: เห็ดท้องถิ่นกินแล้วอร่อย (28/01/18) p.8
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 31-01-2018 17:38:46
แอ๊บที่ 29: นางร้ายคัมแบ๊ค



ยามเย็นที่ลานโต๊ะหินอ่อนหน้าตึกคณะศิลปกรรม เด็กหื่นของพี่แมนกำลังนั่งเล่นไอโฟนอยู่เพียงคนเดียวระหว่างรอคุณแฟนมารับกลับหอ สองศรีพี่น้องตุ๊ดแฝดไปเดินช้อปปิ้งที่ตลาดนัดหลังตึกกันเรียบร้อย ปล่อยให้เพื่อนหนุ่มนั่งรอคุณแฟนอยู่เพียงเดียวดาย เพราะวันนี้คุณแฟนสัญญาแล้วว่าจะพาไปเลี้ยงหมูกระทะ



“เอ็ม~”



ใบหน้าหล่อหันไปตามเสียงเรียก ยังไม่ทันได้ตั้งตัว หน้าอกนุ่มๆ ของคนเรียกก็แนบชิดติดแขนพร้อมกับตำแหน่งที่นั่งบนม้าหินอ่อนตัวเดียวกันที่แทบจะสิงร่างกันได้อยู่แล้ว



“พ...พี่ปลื้ม”



‘ปลื้มปริ่ม’ ปี 2 เอกการแสดง อดีตคู่ควงของแกนคณะปี 4 แห่งสถาปัตย์ เธอยังสวยน่ารักและยิ้มหวานเหมือนเคย แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ใกล้เธอแล้วเสียวสันหลังวาบทุกที!



“จำกันได้ด้วย ดีใจจัง!”



“เอ่อ...ครับ”



คนเด็กกว่าพยายามดึงแขนตัวเองออกมาอย่างสุภาพ แต่หญิงสาวก็คว้าไว้แน่นไม่ยอมปล่อย



“ปลื้มปริ่มคิดถึงเอ็มมากเลยนะ! ตั้งแต่วันนั้นที่เราจูบกันน่ะ”



“คือวันนั้น พี่ยังไม่เข็ดอีกเหรอครับ?”



ชายเอ็มถามออกไปตรงๆ เพราะขืนยืดเยื้อกว่านี้แล้วพี่แมนมาเห็นเขา พี่ปลื้มปริ่มอาจจะเจ็บตัว แต่นั่นไม่สำคัญเท่าตัวเขาอาจจะได้เป็นเหยื่อสังเวยน้องเหี้ยอีกรอบ



“ไม่เข็ด! อะไรที่ปลื้มปริ่มหมายตาไว้ ปลื้มปริ่มไม่ปล่อยไปง่ายๆ หรอกนะ!”



เธอพูดเสียงมุ่งมั่น



“แต่ผมมีแฟนแล้ว และพี่ก็คงรู้จักเขาดีด้วย”



นักศึกษาเอกดนตรีอ้างชื่อคุณสามีภาคทฤษฎีมาขู่ แต่สาวเจ้ากลับยกเรียวปากสีแดงจัดขึ้นเป็นเชิงแสยะยิ้มแล้วหรี่ตาลงอย่างเป็นต่อ



“รู้สิ...แล้วปลื้มปริ่มก็รู้ด้วยว่าคนอย่างพี่แมนน่ะ เขาทนคบผู้ชายด้วยกันได้ไม่นานหรอก”



เด็กปีหนึ่งนั่งนิ่งไปกับคำกล่าวนั้น ยังผลให้สาวเจ้าได้โอกาสรุกคืบต่อ



“เอ็มลองคิดดูเอาเองสิ คนอย่างพี่แมนน่ะเขาจะยอมมีแฟนเป็นผู้ชายให้คนอื่นเขาดูถูกเหรอ? มันอาจจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่ แต่พอคบไปนานเขาก็จะรู้ว่ามันไม่ใช่ แล้วก็ทิ้งเอ็มไปอยู่ดี”



“แต่ว่า...”



“ยังไม่ต้องเถียงปลื้มปริ่มตอนนี้ก็ได้ เอาไว้เอ็มโดนพี่แมนทิ้งเมื่อไหร่ก็อย่าลืมมาซบอกปลื้มปริ่มนะ ปลื้มปริ่มจะรอ”



“รอจนนมมึงยานถึงเข่า ก็ไม่ได้แดกคนของกูหรอกอีปลื้ม!!”



 เสียงฟ้าผ่าที่ไม่ได้ยินเสียนานดังลั่นลานโต๊ะหินของคณะศิลปกรรม มือกีตาร์ที่โดนปั่นหัวอยู่เมื่อครู่รีบสลัดแขนชะนีปากแดงมาหลบหลังคุณแฟนโดยพลัน หนุ่มผมยาวเจ้าของกิตติศัพท์สุดโหดแห่งสถาปัตย์จ้องหน้าอดีตแฟนเหมือนอยากจะซัดหน้าผู้หญิงนิสัยเสียให้ซิลิโคนบนดั้งมันหลุดออกมา



“หึ! ได้ไม่ได้เดี๋ยวก็รู้!”



“อย่าคิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วกูไม่กล้ากระทืบมึงนะอีปลื้ม!”



“ถ้าพี่ทำอะไรปลื้ม ปลื้มจะแฉความลับของพี่ให้คนทั้งมหาลัยรู้เลย!”



เอ็มที่รับรู้อารมณ์ใกล้ทะลุปรอทล็อกแขนคุณแฟนไว้อย่างสุดความสามารถ ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่ปลื้มเธอไปอัพเลเวลกล้าตายมาจากไหนถึงได้กล้าพูดจาแบบนี้ใส่พี่แมนเนี่ย!



“ความลับอะไรของมึง?”



สาวศิลปกรรมกระตุกยิ้มนางร้าย เขยิบส้นสูงเข้ามาใกล้แกนคณะแล้วพูดด้วยเสียงระดับที่ได้ยินกันแค่สามคน



“ก็ความลับที่ว่าจริงๆ แล้วเอ็มไม่ได้เป็นเมียพี่แมนอย่างที่คนอื่นเข้าใจไงคะ”



พี่แมนชะงักไปวูบหนึ่ง ก่อนจะแสร้งทำเป็นหัวเราะเย้ยหยันอย่างแนบเนียนจนเอ็มนึกอยากให้พี่ท่านย้ายมาอยู่เอกเดียวกะพี่ปลื้มให้รู้แล้วรู้รอด



“พูดบ้าอะไรของมึง?”



“พี่คิดว่าผู้หญิงสวยประสบการณ์สูงอย่างปลื้มจะดูไม่ออกเหรอว่าใครจะเล่นตำแหน่งไหนบนสนาม? พี่แมนน่ะแมนเต็มร้อยก็จริง แต่ถ้าลงสนามพร้อมเอ็มแล้วล่ะก็...ยังไงก็เป็นได้แค่ผู้รักษาประตูเท่านั้นแหละ!”



“อี...”



“เอาเลยซี่! กระทืบปลื้มเลย! ถ้าอยากให้คนทั้งมหาลัยรู้ว่าพี่เป็นเมียเอ็มน่ะ!”



แกนคณะกำหมัดแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้นิ่งเข้าไว้ เพราะยังไงอีปลื้มมันก็ไม่มีหลักฐาน มันพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อมันหรอก



“ถ้าพี่แมนยอมยกเอ็มให้ปลื้มล่ะก็...ปลื้มสัญญาว่าจะรูดซิปปากเงียบกริ๊บ ไม่บอกใครเลยแม้แต่คนเดียวค่ะ”



“มึงอยากพูดอะไรก็พูดไปเลย ไม่มีใครเขาเชื่อมึงหรอก!”



“ได้ค่ะ! ถือว่าพี่แมนอนุญาตเองนะ เตรียมคำแก้ตัวไว้ให้ดีๆ ละกัน!”



น้องปลื้มทิ้งท้ายประโยคด้วยน้ำเสียงท้าทายก่อนจะเชิดหน้าเดินจากไปอย่างเหนือกว่า ทิ้งให้พี่แมนยืนระงับสติอารมณ์อยู่กับคุณแฟนที่คอยลูบหลังลูบไหล่ให้



“ไม่เป็นไรนะครับ?”



“อื้อ!”



พอเห็นหน้ามัน ได้ยินเสียงมันแล้วก็สงบลงได้อย่างน่าประหลาด ไม่รู้ทำไมพี่แมนถึงได้อยากจับมือ อยากกอดคุณแฟนแล้วเอาหน้าซุกอกมันให้หายเครียด! นับวันยิ่งรู้สึกว่าตัวเองทำตัวประหลาดขึ้นทุกทีๆ



<RRRRrrrrr>



“ไรมึง?”



แกนคณะหยิบไอโฟนมารับก่อนที่จะได้ถลาตัวซุกอกแฟนดังใจนึก คนที่โทรมาคือสมุนรักของตนนั่นเอง



“มึง...มาที่คณะหน่อยดิวะ”



น้ำเสียงพี่งอกฟังดูไม่ค่อยดีนัก



“มีไรวะ?”



“ก็...เออ มาเหอะว่ะ”



ไอ้งอกคล้ายปิดบังบางอย่างด้วยความลำบากใจ พี่แมนจับน้ำเสียงเพื่อนออกแต่คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องร้ายแรง



“เดี๋ยวกูไป”



พี่แมนวางสายไป ก่อนจะหันมาคว้าข้อมือแฟนให้เดินตามไปขึ้นฟีโน่ บอกรวบยอดว่าไอ้งอกเรียกให้ไปหาที่คณะ จะกลับไปส่งมันที่หอก่อนก็เสียเวลาจึงพาไปด้วยกันเสียเลย



ที่ตึกคณะสถาปัตย์ในวันนี้ยังคงครึกครื้นและสกปรกไปด้วยอุปกรณ์สารพัดชนิดเช่นเคย สองสมุนของเขานั่งทำสีหน้าไม่สู้ดีนักอยู่ที่โต๊ะไม้ตัวประจำ พอท่านแกนไปถึง รุ่นน้องที่อยู่แถวนั้นก็ยกมือไหว้โดยพร้อมเพรียง



“ไงวะมึง? มีไร?”



“แมน...มึง....คือว่า...”



“แมน!!”



เสียงปริศนาดังมาจากด้านหลังเสา ก่อนที่เงาขาวๆ ของใครสักคนจะวิ่งเข้ามาโผกอดแกนคณะต่อหน้าต่อตาแฟนของเธอ พอกอดจนสมใจแล้ว ร่างเล็กบางของเจ้าของเสียงก็ผละออกมายิ้มโลกสดใส เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้สวยมาก แต่ดูน่ารักและให้ความรู้สึกชวนมองอย่างประหลาด



“ฝัน?”



พี่แมนมองหน้าเธออย่างอึ้งนิ่งไป ด้วยไม่คิดว่าจะได้เจอกันอย่างปุบปับ ผู้หญิงคนนี้ชื่อ ‘เหมือนฝัน’ เธอเรียนชั้นมัธยมปลายห้องเดียวกับพี่แมนมาตลอด 3 ปี ตอนนี้เรียนหมออยู่ที่เชียงใหม่ พวกเขาไม่ได้เจอกันมานานมากแล้ว



“ฝันมาได้ไงน่ะ?”



“ฝันเบื่อน่ะ คิดถึงแมนด้วย”



เธอทำสีหน้าเบื่อดังคำว่า ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มสดใสอีกครั้งเมื่อพูดด้วยเสียงกึ่งอ้อน พี่แมนมองหน้าหญิงสาว ก่อนจะเหลือบมองคนรักที่ยืนทำหน้างงอยู่ไม่ห่าง



“เอ่อ...ฝัน”



สุดโหดค่อยๆ ถอยตัวเองห่างออกมาอย่างไม่ให้เสียน้ำใจ



“นี่...เอ็ม รุ่นน้องแมน”



พี่แมนเอ่ยแนะนำแบบกลางๆ ซึ่งชายเอ็มก็ยิ้มรับคำแนะนำนั้นด้วยความยินดี



“ส่วนนี่เหมือนฝัน เป็นเพื่อนเก่ากู”



“แมนพูดไม่เพราะ!”



เหมือนฝันตีแขนขาวๆ ของคนตรงหน้าไปหนึ่งเผียะ โทษฐานได้ยินคำไม่รื่นหู



“แล้วก็ไม่ใช่เพื่อนเก่าด้วย แฟนเก่าต่างหาก!”



คำแก้ไขทำให้เอ็มมองหน้าหญิงสาวด้วยความตกใจ ก่อนจะเบนสายตาไปหาคนรักอย่างขอคำตอบ พี่แมนทำสีหน้าลำบากใจแต่ก็พยักหน้ารับแต่โดยดี



.

.

.



พอแฟนเก่ามา ก็เป็นธรรมดาที่พี่แมนจะผิดนัดเลี้ยงหมูกระทะแฟน เพื่อจะไปดูแลเธอที่อุตส่าห์เดินทางมาไกลก่อน ฝ่ายเอ็มที่รู้ดีว่าพี่แมนไม่ได้ตั้งใจผิดนัด แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้อยู่ดี แถมคำพูดของพี่ปลื้มยังวนซ้ำอยู่ในหัวราวกับเทปกระตุก



‘ ‘คนอย่างพี่แมนน่ะ เขาทนคบผู้ชายด้วยกันได้ไม่นานหรอก’



“เฮ้อ~”



จะว่าไปก็น่าคิดอยู่เหมือนกัน พี่แมนเป็นผู้ชายแท้ๆ คบแต่ผู้หญิงมาตลอด แล้วพี่ฝันก็น่ารักออกขนาดนั้น ทำไมถึงเลิกกันได้นะ?



“คิดไรอยู่มึง?”



พี่งอกและพี่เงิบสองเพื่อนซี้มานั่งประกบข้างเมียตุ๊ดของเพื่อน ดูสีหน้ามันก็รู้แล้วว่าคงคิดเรื่องของคนสองคนที่นั่งคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ทางนู้นแน่ๆ



“พี่งอก พี่เงิบ ทำไมพี่แมนกับพี่ฝันถึงเลิกกันล่ะ?”



เอ็มตัดสินใจถามออกไปตรงๆ



“อืม...เล่าลำบากเหมือนกันแฮะ”



พี่งอกพยักเพยิดให้คู่หูเป็นฝ่ายเล่าแทน



“เป็นเพราะระยะทางน่ะ กูก็ไม่ได้เรียนโรงเรียนเดียวกับไอ้แมนหรอกนะ แต่ตอนมันเข้ามาที่นี่ใหม่ๆ มันก็ยังคบกับฝันอยู่ กูก็เคยคุยด้วยสองสามครั้งตอนฝันมาหาไอ้แมนที่นี่ แต่พอห่างกันนานๆ เข้า ต่างคนก็ต่างทุ่มเทให้กับเวลาเรียน สุดท้ายทั้งสองคนก็ตัดสินใจว่าเปิดโอกาสให้ตัวเองเจอคนใหม่จะดีกว่า”



เอ็มพยักหน้าตามก่อนจะถามเสริม



“แล้วพี่ฝันมีแฟนใหม่หรือเปล่าครับ?”



“อันนี้กูไม่รู้นะ ตอนเจอฝันโผล่มาที่คณะ กูก็ตกใจเหมือนกัน”



เมื่อยังสรุปอะไรไม่ได้ เอ็มก็นั่งเป็นหมาหงอยให้สองรุ่นพี่ตบไหล่ตบหลังอย่างเอาใจช่วยต่อไป สามหนุ่มคุยกันต่ออีกนิดหน่อย ก่อนจะหันไปมองทางที่พี่แมนกับพี่ฝันนั่งอยู่ แต่กลับไม่มีวี่แววของทั้งสองคนแล้ว



“พี่แมนไปไหนอ่ะ?”



“เออ มันพาฝันไปเข้าห้องน้ำรึเปล่า?”



“งั้นผมไปดูแปบ”



คนตัวสูงผุดลุกออกไปทางห้องน้ำหลังตึกสถาปัตย์ ทางเดินด้านหลังเงียบโล่งไร้ผู้คนผิดกับด้านหน้า เอ็มชะโงกดูแล้วไม่มีใครอยู่จึงคิดจะหันหลังกลับ แต่เสียงใครบางคนหยุดเท้าเขาไว้เสียก่อน



“มันจะเป็นไปได้ไหม? ถ้าเราจะกลับมาคบกันเหมือนเดิม”



เอ็มจับทิศทางของเสียงได้ว่ามาจากหลังกองไม้ที่สุมกันอยู่ เจ้าตัวเลือกที่จะยืนแอบฟังเงียบๆ อยู่ตรงนั้นเพื่อรอคำตอบของคนรัก



“มันช้าไปแล้วฝัน”



“ทำไมล่ะ? แมนไม่รักฝันแล้วเหรอ?”



แกนคณะนิ่งเงียบไปนานเหมือนใช้ความคิดอยู่ครู่ใหญ่ นานจนคนแอบฟังอดจะลุ้นตามไม่ได้



“รักสิ แมนรักฝันเสมอแหละ”



นั่นก็เพียงพอแล้ว...สำหรับหัวใจคนที่แอบฟัง



.

.

.



“มึงเพลาๆ มั่งเหอะ อีเอ็มมี่ ลากพวกกูออกมาแล้วแดกเหล้าเป็นน้ำนี่หมายความว่าไง?”



แฝดคนพี่เอ่ยตำหนิ หลังจากมองเพื่อนรักยกแก้วน้ำสีอำพันดื่มไม่ยั้งไปจนหน้าตาแดงก่ำไปหมด จะห้ามก็ไม่ได้ ได้แต่นั่งมองมันพร่ำเพ้อรำพันของมันไป



“พี่แมนเขาจะทิ้งกูแล้ว เขาจะทิ้งกูแล้ว ฮืออออ”



กุมารตุ๊ดส่ายหน้า โอเมก้าที่พี่แมนซื้อให้มึงแดกนี่เสียเปล่าจริงๆ ท่านแกนเขารักเขาหลงมึงจะตายห่า! ไปขุดเศษเสี้ยวสมองไหนมาว่าเขาจะทิ้งมึงได้เนี่ย?



“พี่งอก โทรตามพี่แมนให้หน่อยไม่ได้เหรอ?”



“ไอ้แมนมันอยู่กับฝันอ่ะ”



“โอ๊ย! แฟนเก่าจะสำคัญกว่าเมียได้ไง?!”



น้องมาม่าที่นั่งยื้อแก้วเพื่อนเอ็มอยู่แหวขึ้นมาบ้าง เห็นสภาพมันเป็นแบบนี้แล้วก็อดจะสมสารปนสมเพชไมได้



“พี่เงิบ! โทรให้หนูเดี๋ยวนี้เลย!”



สุดท้ายสองหนุ่มก็ขัดใจแฟนสาวไม่ได้ ต้องโทรตามท่านแกนคณะมาดูอาการเมียที่ร้านเหล้า แต่กว่าท่านแกนจะมาถึง เอ็มก็ซัดไปหมดขวดแล้ว ยิ่งมันเงยหน้าขึ้นมาเห็นว่าคุณแฟนพ่วงคนรักเก่ามาด้วยก็ยิ่งช้ำใจจนน้ำตาไหลพราก



“น้อง!”



สุภาพบุรุษแอ๊บตุ๊ดตะโกนเรียกบริกร



“พี่ขอร้องเพลงนึง”



ชายเอ็มลุกขึ้นเดินโซเซไปทางเวที มิวายหันมาสะบัดค้อนใส่พี่แมนพอให้รู้ว่ากูเสียใจมากก่อนจะเดินเป๋ขึ้นไปกระซิบบอกเพลงที่ต้องการร้องให้นักดนตรีทราบ พอได้ยินว่าเป็นเพลงฮิตที่พวกตนเล่นได้ เหล่านักดนตรีก็จัดให้ทันทีโดยไม่อิดออด



“ไม้รั๊กไม้ต้องมาแคร๋ไม้ต้องมาดี๊กับฉาน ไหม่รั๊กไม้ต๊องมาห๊วงไหม่ต่องมาห้วงใยฉานน”



สองกุมารแอนด์เดอะฮัสแบนด์ปล่อยกร๊ากไปเรียบร้อยกับลูกคอขั้นเทพของเมียท่านแกน จะมีก็แต่ตัวพี่แมนที่ยืนมองสภาพเมียรักที่ร้องผิดร้องถูกอยู่บนเวทีด้วยสายตาสุดสงสาร เขาพอจะเดาได้ไม่ยากว่าความคิดแบบมนุษย์แรมต่ำอย่างมันจะออกมาในแง่ไหน



“หยุ๊ดได้หม๊ายซะที ถ่าไม๊รั้กก๊ปล้อยกานปายยยย”



พี่แมนก้าวฉับๆ ไปลากตัวนักร้องลงจากเวทีโดยไม่ปล่อยให้มันส่งเสียงรบกวนโสตประสาทชาวบ้านเขาต่อไปอีก คนที่เมาจนไม่มีสมดุลก็ได้แต่เดินตามแรงดึงของพี่แมนออกไปนอกผับ โดยมีพี่ฝันช่วยประคองแขนอีกข้างอย่างไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ เมื่ออกมาถึงจุดที่เสียงจากในผับดังออกมารบกวนการสนทนาไม่ได้แล้ว แกนคณะก็หมุนตัวกลับมาจ้องหน้าอดีตคนรักอย่างจริงจัง



“ฝัน...แมนขอโทษนะ”



“แมนขอโทษฝันทำไม?”



“แมนมีแฟนแล้ว”



เหมือนฝันนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะแย้มยิ้มหวานให้แฟนเก่าอย่างจริงใจ



“จริงเหรอ? น่ารักรึเปล่า?”



พี่แมนได้ยินคำถามก็หัวเราะขึ้นจมูก



“ไม่รู้สิ น่ารักแบบแปลกๆ น่ะ”



“เหรอ?”



หญิงสาวรับคำด้วยรอยยิ้มบางๆ ก่อนจะเริ่มต้นถามอีกครั้ง



“พรุ่งนี้แนะนำให้ฝันรู้จักหน่อยได้ไหม? ฝันอยากแน่ใจว่าเขาจะไม่ทำให้แมนเสียใจจริงๆ ฝันจะได้ไม่ต้องตั้งความหวังอีก”



พี่แมนมองหน้าแฟนเก่านิ่ง ถอนหายใจยาวก่อนจะพยักหน้า แล้วกระตุกแขนคนเมาที่ยังพอจะยืนไหวให้มายืนเคียงข้างกัน



“ฝัน...นี่เอ็ม แฟนแมนเอง”



ว่าที่คุณหมอกะพริบตาปริบๆ อยู่สองครั้ง ก่อนจะเอามือปิดปากทำตาโตแล้วชี้มือไปที่ร่างสูงกว่าของคนที่เธอเข้าใจว่าเป็นรุ่นน้องราวกับจะถามย้ำ ซึ่งพี่แมนก็พยักหน้ายืนยันอย่างไม่ลังเล



“แมนล้อฝันเล่นรึเปล่า?”



“เปล่า...แมนเป็นแฟนเอ็มจริงๆ”



เมื่อได้ยินคำย้ำชัดโดยปราศจากแววหยอกเย้า หญิงสาวก็พิจารณาชายหนุ่มตรงหน้าอีกครั้งและพอจะจับเค้าได้ลางๆ ว่าที่เขาเมาได้ขนาดนี้สาเหตุเป็นเพราะใคร



“แมน...ฝันขอโทษจริงๆ นะ ฝันไม่รู้จริงๆ ฝันน่าจะติดต่อมาก่อน”



เธอพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดจริงๆ



“ไม่เป็นไรหรอก แฟนแมนง้อง่าย”



ได้ยินแบบนั้นเธอก็ยิ้มออกมาได้นิดหน่อย



“แมน...ขอโทษที่เสียมารยาทนะ แต่แมนไม่ได้เป็นแบบนี้เพราะฝันใช่ไหม?”



‘แบบนี้’ ที่เหมือนฝันหมายถึงคงเป็นเรื่องที่เขามีแฟนเป็นผู้ชายนั่นแหละ



“เปล่าหรอก คนที่ทำให้แมนเป็นแบบนี้คือเอ็มต่างหาก”



แกนคณะตอบให้หญิงสาวสบายใจ แต่ประโยคนั้นกลับคล้ายคำบอกรักคนข้างๆ ไปในตัว ฝันมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกสบายใจอย่างประหลาด คิดไม่ผิดจริงๆ ที่เธอตัดสินใจเดินทางมาหาเพื่อนเก่าในวันนี้ พอรู้ว่าแมนมีแฟนแทนที่เธอจะรู้สึกเจ็บปวดกลับมีแต่ความโล่งใจเสียมากกว่า



“ถ้าอย่างนั้น...ฝันกลับก่อนนะ”



“ไหนฝันบอกว่าจะมาค้างสัก 2 คืนไง?”



ว่าที่คุณหมอส่งยิ้มให้อดีตคนรักอย่างจริงใจ



“ไม่จำเป็นแล้วล่ะ ฝันได้ในสิ่งที่ฝันต้องการแล้ว”



นั่นคือการได้มองเห็นเพื่อนคนหนึ่งมีความสุขกับคนที่จะดูแลเขาได้จริงๆ





โปรดติดตามแอ๊บต่อไป





Talk~
เหลืออีกนิดดดดเดียวเท่านั้น!
ปลื้มปริ่มจะเปิดโปงสถานะที่แท้จริงของพี่แมนสำเร็จหรือไม่น้า??


หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 29: นางร้ายคัมแบ๊ค (31/01/18) p.8(อีก 2 ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 31-01-2018 17:48:03
ลุ้น  :katai1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 29: นางร้ายคัมแบ๊ค (31/01/18) p.8(อีก 2 ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 31-01-2018 18:00:30
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 29: นางร้ายคัมแบ๊ค (31/01/18) p.8(อีก 2 ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 31-01-2018 18:52:30
เปิดตัวำปเลยพี่แมนว่าข้าเป็นเมียย อย่าได้แคร์  :laugh:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 29: นางร้ายคัมแบ๊ค (31/01/18) p.8(อีก 2 ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-01-2018 19:06:55
 :katai1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 29: นางร้ายคัมแบ๊ค (31/01/18) p.8(อีก 2 ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 31-01-2018 20:43:59
 :katai1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 29: นางร้ายคัมแบ๊ค (31/01/18) p.8(อีก 2 ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-02-2018 03:57:54
นี่เอ็มมี่รู้ตัวยังว่าพี่แมนคนแมนเขาไม่ได้ทิ้งตัวนะ ยังเป็นแฟนกันอยู่นิ  o18
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 29: นางร้ายคัมแบ๊ค (31/01/18) p.8(อีก 2 ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 01-02-2018 12:59:16
เอ็มมี่ใจเย็นๆ อึดรอตอนหน้านิดนุง
พี่แมนไม่ได้ไปไหน แถมหนักแน่นและกล้าบอกว่า นี่แฟนเค้าเองแหละ
ซะมีดึขนาดนี้มีที่ไหนอีก ชิมิๆ
ขอตอนหน้ารถอ้อยคว่ำนะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 29: นางร้ายคัมแบ๊ค (31/01/18) p.8(อีก 2 ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 02-02-2018 21:59:54
เอ็มมี่เมาไม่รู้เรื่องเลย พี่แมนประกาศแล้วน่ะ อิอิ
ลุ้นต่อๆๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 29: นางร้ายคัมแบ๊ค (31/01/18) p.8(อีก 2 ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 03-02-2018 08:34:58
แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด!



อีเอ็มมี่ลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อแสงแดดจากระเบียงส่องเข้ามาแยงตาจนทนนอนต่อไปไม่ไหว พองัวเงียตื่นขึ้นมา ความรู้สึกปวดหัวก็จู่โจมก่อนเป็นอันดับแรก กว่าจะสะบัดหัวไล่ความมึนงงแล้วลืมตาสำรวจรอบห้องได้จริงๆ ก็กินเวลาไปพักใหญ่



“พี่แมน...”



คนที่นั่งดูรายการข่าวภาคเช้าอย่างสบายใจปรายตามองเป็นเชิงรับรู้การตื่นนอนของคนขี้เมา ฝ่ายคนที่ยังเมาขี้ตาอยู่ก็นั่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างสุดความสามารถ แต่ก็จำได้แค่เมา เมาแล้วกลับหอมาไงล่ะวะเนี่ย?



“ตื่นแล้วก็ไปทอดไข่เจียวให้กูหน่อยไป กูหิวละเนี่ย!”



คนที่เพิ่งตื่นเป่าลมจนแก้มป่อง อะไรวะ? ง้อกันซักคำก็ไม่มียังจะใช้ให้หาข้าวให้กินอีก?



“พี่ฝันอ่ะ?”



“กลับไปแล้วดิ”



คนขี้งอนแอบยิ้ม ไปซะได้ก็ดี! แปลว่าพี่แมนเขาเลือกกู! แต่จะแสดงกิริยามากไปไม่ดี เราต้องใช้โอกาสนี้มาต่อรองให้พี่แมนเอาตัวเข้าแลกเพื่อทำให้เราหายโกรธให้จงได้!



“จะไม่ง้อเขาสักคำเลยอ๋อ?”



เอ็มเกริ่น



“กูก็ง้อมึงแล้วไง ความผิดกูก็ไม่ใช่ด้วยซ้ำ”



“ตอนไหน?!”



พี่แมนแสยะยิ้ม ตอบด้วยน้ำเสียงมาดมั่น



“ตอนมึงหลับ”



เอ็มอ้าปากค้าง พี่แมนขี้โกง!! ตอบอย่างนี้แล้วเค้าจะหาข้ออ้างที่ไหนมาใช้ขยี้พี่แมนเล่า!!



“ถ่ายคลิปไว้เปล่า?”



เอ็มต่อรอง ไม่มีหลักฐานใครก็พูดได้เว่ย!



“หึ! กูไม่ได้โรคจิตเหมือนมึงนะ จะมานั่งถ่ายคลิปตัวเองง้อแฟนเนี่ย?”



“งั้นเค้าก็ไม่หายงอน!”



เอ็มสะบัดหน้าเชิดอย่างเล่นตัว พี่แมนน่ะใจร้าย รู้ว่าอยากแล้วยังไม่สนองตอบอีก!



“มึงจะไปทอดไข่เจียวให้กูกินดีๆ ไหม?”



“ไม่!!”



“งั้นก็เรื่องของมึง!”



แกนคณะทำน้ำเสียงไม่ยี่หระ ก่อนจะหันไปกอดหมอนดูทีวีต่ออย่างสบายใจ ทิ้งให้เอ็มนั่งอ้าปากค้างน้ำตาคลอเบ้าอย่างนึกน้อยใจที่คุณแฟนไม่นึกเอ็นดูอย่างที่คิด



หลังจากนั่งเบะปากเป็นเป็ดโดนเมียทิ้งได้ 10 นาที เอ็มก็ตัดสินใจลุกไปจัดการตัวเองในห้องน้ำแล้ว เดินเข้าครัวใส่ผ้ากันเปื้อนลายริลัคคุมะนอนเกาพุง ก่อนจะตั้งกระทะทอดไข่เจียวให้คุณเจ้าของห้องได้ในที่สุด ใช้เวลาเพียงไม่นานข้าวไข่เจียวฟูๆ กลิ่นหอมฉุยก็พร้อมเสิร์ฟให้คุณพี่แมน เสียอย่างเดียวที่คนเสิร์ฟมันหน้ามุ่ยเหมือนชะนีเป็นเมนส์ไปเสียหน่อย



“ไปหยิบซอสมาให้กูดิ๊”



พอโดนใช้ เอ็มก็เดินสะบัดตูดไปหยิบซอสมาให้ก่อนจะกลับมานั่งเชิดหน้าอยู่ข้างๆ คนร้องจะกินไข่ เชิดไว้ให้รู้ว่ากูยังงอนไปงั้นเอง พี่แมนคว้าขวดซอสไปบีบๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเลื่อนมาไว้หน้าคนที่เชิดจนคอจะเคล็ดมิเคล็ดแหล่อยู่ข้างๆ



“ป้อนกูหน่อยดิ๊ เมื่อคืนแบกควายเมากลับมานอนที่ห้อง โคตรเมื่อยแขนอ่ะ”



เอ็มกำลังจะหันมาเถียงว่าไม่ใช่ควายซะหน่อย แต่ข้อความสีแดงที่ถูกเขียนไว้บนไข่เจียวหอมๆ ก็ทำให้เผลอหลุดยิ้มแบบกลั้นไว้ไม่ทัน แต่อดีตตุ๊ดก็พยายามฝืนมุมปากตัวเองไว้ เพราะโอกาสแบบนี้มีไม่มากต้องเล่นตัวเสียหน่อย



‘รักนะ ตุ๊ดโง่’

“ไม่ใช่ตุ๊ดซะหน่อย”



เอ็มเถียงเสียงอ่อน ฝ่ายพี่แมนก็หัวเราะหึๆ หยิกแก้มคนตัวสูงกว่าอย่างนึกเอ็นดู



“มีแต่ตุ๊ดเท่านั้นแหละที่งอนตุ๊บป่องแบบนี้อ่ะ”



“ก็พี่แมนมีคนอื่นหนิ!”



ไม่วายทำเสียงง๊องแง๊งใส่ ถ้าเป็นตุ๊ดคนอื่นมาทำใกล้ๆ นี่พี่แมนยันโครมให้หน้าจิ้มไข่เจียวไปแล้วนะ



“อีหนูอย่างอนสิคะ ป๋ามีคนอื่นที่ไหนกัน ป๋ารักอีหนูของป๋าคนเดียวนะ มาหอมแก้มที!”



ฟอด~



โดนหอมไปเต็มฟอด เอ็มก็ยิ้มหน้าบานเป็นจานทรูฯ คนตัวโตกว่าหน้าแดงเขินอย่างเห็นได้ชัด จนท่านแกนฯหัวเราะหึๆ อย่างเอ็นดู



“ปากเนี่ยเลิกเบะนะรู้ไหม? มันน่าเกลียดดดดดดดด”



พี่แมนบีบปากคุณอดีตเมียจนจู๋เหมือนปลากะโห้ คนอื่นมาเห็นอาจจะมองว่าน่ารัก แต่คนโดนบีบนี่รับประกันว่าเจ็บจริงอะไรจริง แรงพี่แมนนี่เท่ากับช้างศึกโด๊ปกระทิงแดงอ่ะขอบอก



“พี่แมนอ่ะ! เจ็บนะ”



“เจ็บตรงไหนๆ โอ๋ๆ จุ๊บ!”



ท่านแกนโหมดง้อเมียจุ๊บปากแดงๆ ของนักศึกษาปีหนึ่งแบบออกเสียง เอ็มได้โชคหล่นทับดังนั้นก็บิดเขินเล่นตัวพอเป็นพิธีก่อนจะชี้ไปที่แก้มขวา



“ตรงนี้ด้วย”



“จุ๊บ”



“นี่อีกอ่ะ”



แก้มซ้าย



“จุ๊บ”



“นี่ด้วยอ่ะ”



“เยอะละ!”



“ง่า~”



ชายแท้ที่ทำตัวเทียบตุ๊ดทำเสียงเสียดายที่พี่แมนไม่ยอมลวนลามตัวเองต่อ แล้วหันไปจ้วงข้าวไข่เจียวเข้าปากแทน แต่มาได้เท่านี้ก็เป็นบุญนักหนาของมือกีตาร์ตาดำๆ แล้ว ยิ่งคนตัวบางขยับมานั่งพิงอกแล้วส่งข้าวไข่เจียวมาป้อนถึงปากนี่มันช่าง...



อิจฉากูกันล่ะสิ....



.

.

.



ช่วงนี้จะเห็นนักศึกษาสถาปัตย์มาสุมหัวกันอยู่ที่คอมม่อนคณะกันเป็นหย่อมๆ เหตุผลเพราะการสอบปลายภาคกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์หน้านี้แล้ว และเด็กสถาปัตย์โดยเฉพาะแก๊งค์ปีสี่ที่ขยันมากกกหาใดเกินก็ต้องมาพึ่งใบบุญท่านแกนที่ดูจะมีสติและปัญญากะเค้าอยู่คนเดียว ไอ้จะไปใช้พื้นที่ห้องสมุด แก๊งค์ช่างกลแห่งมหาลัยก็เสียงดังจนโดนบรรณารักษ์ตะเพิดมาตั้งแต่ปีหนึ่งกันแล้ว เลยต้องย้ายฐานมาอยู่ที่คอมม่อนร้อนๆ แห่งนี้แทน



“หน้ามึงไปโดนไรมาวะ ไอ้งอก?”



ท่านแกนเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นรอยห้านิ้วที่ใบหน้าสมุนฝ่ายซ้าย แถมมุมปากยังช้ำๆ เหมือนโดนสาวที่ไหนตบมาเต็มรักอย่างไรอย่างนั้น



“เมียตบ”



นั่นไง...ซื้อหวยไม่ถูก



“ไปทำอะไรมา?”



“กอดผิด ไปกอดน้องม่าเข้าอ่ะดิ”



พี่งอกบอกเซ็งๆ อันที่จริงเขาก็ไม่ได้สับสนระหว่างสองแฝดหรอกนะ แต่มองจากข้างหลังแล้วนึกว่าใช่ก็กอดหมับเลยไง กอดไปแล้วถึงได้รู้ว่าพลาด เมียเห็นพอดี...โดนครบห้านิ้วเต็มแก้มเลย



“แล้วมึงอ่ะไอ้เงิบ กอดผิดเหมือนกันไง๊?”



ท่านแกนย้ายบทสนทนามาที่สมุนฝ่ายขวาที่มีรอยแบบเดียวกันเป๊ะบนใบหน้า



“เปล่า กูแค่แก้ตัวให้ไอ้งอกเท่านั้นแหละว่ามันคงเข้าใจผิด เมียกูเขาเลยหาว่ากูไม่ปกป้องเขาไง โดนเลยเนี่ย”



ได้ฟังเรื่องราวของสองสมุนแล้วพี่แมนก็ได้แต่ส่ายหัว



“แล้วนี่เมียมึงหายงอนยังเนี่ย?”



“ยัง!”



พี่งอกพี่เงิบประสานเสียงตอบ



“หึ...อ่อน!”



“เอ๊อ~ กูมันไม่ใช่มึงนี่! ง้อเมียวันเดียวก็หายแล้วอ่ะ”



“สอนทริคพวกกูบ้างดิ่”



แกนคณะยักไหล่แบบไม่แคร์สื่อ



“สูตรใครสูตรมันเว่ย!”



สองสมุนโอดครวญกับคำตอบไปอีกพักใหญ่ก่อนที่ทั้งแก๊งค์จะได้เริ่มติวกันจริงๆ จังๆ ผ่านไปนานจนทั้งก๊กเริ่มจะปวดหัวกับข้อมูลที่มากเกินไปแล้วนั่นแหละ พี่แมนถึงได้หยุดพักปล่อยให้พวกมันโด๊ปกาแฟและคาราบาวแดงกันเพิ่มพลัง



“พี่แมน! เห็นนี่ยัง?!”



น้องโฟนและแก๊งค์ปีสามวิ่งเข้ามาในตึกคณะด้วยอาการร้อนรน ในมือมีแผ่นโปสเตอร์พิมพ์สี่สียื่นมากลางวงแลคเชอร์ของท่านแกนคณะปีสี่



“เห้ย!!”



ทั้งโต๊ะอุทานเป็นเสียงเดียว เพราะในโปสเตอร์นั้นคือภาพพี่แมนที่ถูกตัดต่อให้ชุดกระโปรงแบบสาวน้อยหวานแหววพร้อมแต่งหน้าให้เสร็จสรรพ ประกอบภาพด้วยข้อความ “เผยเรื่องลับสุดยอด: พี่แมนไม่ใช่ผัวตุ๊ด?? อุ๊ปส์!”



“ไอ้เหี้ยแมน นี่มันอะไรกันวะ?!”



“ฝีมืออีปลื้ม!”



พี่แมนขยำโปสเตอร์จนเละคามือ เข่นเขี้ยวชื่อคนที่กล้ากระตุกหนวดเสือด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ



“มึง...สวยว่ะ”



ไอ้พี่ทีพูดเพ้อๆ เลยโดนหัวหน้าแก๊งค์บ้องหูไปหนึ่งทีเป็นการตอบแทน



“มันใช่ประเด็นไหม?! ไป!”



“ไปไหนมึง?”



“สินกำ!”



.

.

.



“พี่แมน!”



พอมาเหยียบถึงถิ่นศิลปกรรม อีเอ็มมี่ก็วิ่งเข้ามาหาพร้อมโปสเตอร์ฉบับเดียวกันในมือ พอเห็นสีหน้าคนรักดูเป็นกังวลแล้วก็อดที่จะลูบหัวปลอบไม่ได้



“ไม่เป็นไรมึง ไม่มีใครเชื่อมันหรอก!”



“อุ๊ยตาย~! มั่นใจจังเลยนะคะ พี่แมนขรา~”



เสียงแหลมแสบแก้วหูดังนำตัวสาวเอกการแสดงที่ก้าวเข้ามาพร้อมไอแพดในมือ ตามด้วยเพื่อนร่วมคณะที่แต่งหน้าจัดเช่นเดียวกันอีกสองคน การโคจรมาพบกันของคู่กรณีที่สร้างข่าวฉาวให้กระพือไปทั้งมหาลัยอย่างรวดเร็วเรียกความสนใจจากผู้คนโดยรอบได้มากเสียยิ่งกว่ามาก



“มั่นใจสิ คำพูดไร้สาระจากผู้หญิงที่ทำตัวไร้สาระไปวันๆ ใครจะเชื่อ?”



“งั้นพี่แมนดูนี่...”



ปลื้มปริ่มโชว์ไอแพดของตัวเองที่เปิดหน้าเฟสบุ๊คอยู่ เธอเลื่อนให้ดูคอมเมนต์ใต้ภาพเดียวกับในโปสเตอร์ที่แปะอยู่ทั่วมหาวิทยาลัยที่มีบางส่วนไม่เชื่อ บางส่วนเชื่อ และบางส่วนที่เริ่มจะคล้อยตาม พอเห็นความเห็นของเหล่าเพื่อนร่วมมหาลัยเป็นไปในทางเอนเอียงแล้ว พี่แมนก็แอบหน้าซีดลงเบาๆ แม้จะพยายามเก็บอาการ จนคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เริ่มใจเสียด้วยคำขู่ของพี่ปลื้มปริ่มดังขึ้นมาในหัว



‘เอ็มลองคิดดูเอาเองสิ คนอย่างพี่แมนน่ะเขาจะยอมมีแฟนเป็นผู้ชายให้คนอื่นเขาดูถูกเหรอ? มันอาจจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่ แต่พอคบไปนานเขาก็จะรู้ว่ามันไม่ใช่ แล้วก็ทิ้งเอ็มไปอยู่ดี’



สาวปีสองส่งยิ้มมาดมั่นอย่างผู้กำชัย ในขณะที่พี่แมนจ้องหน้าเธอเหมือนอยากจับถ่วงบ่อน้องเหี้ยเต็มทน



“แก้ข่าวซะ ไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือนนะ”



“อุ๊ปส์! ถ้าพี่แมนทำอะไรปลื้ม ปลื้มก็จะแจ้งความ!”



หญิงสาวขู่กลับตามด้วยเสียงหัวเราะดัดจริต ก่อนจะเขยิบเข้าไปใกล้รุ่นน้องคณะเดียวกันที่ยืนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่ข้างๆ คนรักของตัวเอง



“เห็นม้า? ดูก็รู้แล้วว่าพี่แมนเลือกศักดิ์ศรีตัวเองมากกว่าเอ็มอ่ะ มาเป็นแฟนปลื้มปริ่มดีกว่า ปลื้มปริ่มเป็นผู้หญิงนะ ทั้งสวยทั้ง...มีอะไรให้เอ็มลองได้ตั้งเยอะ”



ปลื้มปริ่มกระซิบด้วยน้ำเสียงยั่วยวน ริมฝีมากแดงค่อยๆ เคลื่อนเข้าใกล้แก้มขาวของอดีตเมียพี่แมน แต่เจ้าตัวผลักออกอย่างทั้งรังเกียจและเกลียด! พี่แมนจะเลิกกะกูก็เพราะมึงนี่แหละ!



“ใช่ครับ พี่ปลื้มปริ่มเป็นผู้หญิงที่สวยมาก”



คนโดนชมยิ้มมั่นตามแบบสาวเปรี้ยว ปรายหางตาเยาะเย้ยพี่แมนแบบออกสื่อ



“หน้าก็หวานยังก็ช็อคโกแรด! สวยหาตัวจับยากระดับแหลไอเท็ม!”



“เอ็ม!!”



“วะฮะฮะฮ่าฮ่าฮ่า”



พี่แมนและหมู่คณะพร้อมใจหัวเราะเยาะอย่างพร้อมเพรียง ประดุจกระทืบซ้ำบนเศษหน้าที่แตกร่วงกราวของสาวสินกำต่อหน้าคนเป็นสิบ แกนคณะโน้มคอคนรักลงมาหอมแก้มเป็นรางวัลพร้อมกระซิบให้ได้ยินกันสองคน



“ด่าเป็นตุ๊ดเลยนะมึง”



“ก็มันทำพี่แมนก่อนอ่ะ”



“คิดเองป่ะเนี่ย?”



“คิดเองนะ ฉลาดป่ะ?”



“เออ...ฉลาดแบบตุ๊ดๆ”



อดีตตุ๊ดยิ้มร่าแม้ว่าคำชมมันจะแปลกๆ ก็เถอะ ฝ่ายอีปลื้มปริ่มก็โดนพี่แมนชี้หน้าคาดโทษพร้อมคำขู่เสียงเหี้ยมแบบที่ทำให้คนทั้งลานคณะขนลุกซู่



“กูจะจัดรางวัลตอบแทนให้มึงแบบลืมไม่ลงเลย อีปลื้ม!”



.

.

.

หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 29: นางร้ายคัมแบ๊ค (31/01/18) p.8(อีก 2 ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: missredlip ที่ 03-02-2018 08:35:24
“โอ๊ย! เรื่องจริงยิ่งกว่าจริงแก๊! ฉันไม่ได้ใส่สีเลยสักนิ๊ด!”



น้องปลื้มปริ่ม เอกการแสดงปีสอง หิ้วกระเป๋าแบรนด์เนมเดินเม้าท์ผ่านไอโฟนมายังลานจอดรถที่ใกล้คณะศิลปกรรมมากที่สุด เธอพูดไปหัวเราะไปอย่างออกรสแล้วกดรีโมทเปิดประตูโตโยต้าสีบรอนซ์พร้อมยัดตัวเองเข้าไปข้างใน พร้อมปิดประตูให้เรียบร้อย



“แค่นี้ก่อนนะแก ฉันจะขับรถแล้ว”



สาวเจ้าวางสายจากเพื่อนที่โทรมาถามไถ่เรื่องพี่แมน ยิ้มแสยะสวยๆ ให้ตัวเองในกระจกมองหลังหนึ่งทีก่อนจะสตาร์ทรถ เธอหยิบลิปสติกในกระเป๋ามาเติมปากนิดหน่อยก่อนจะเก็บลงที่เดิมพร้อมจะขับรถออกไปสู่จุดหมาย



แกร็ก



ประตูรถฝั่งคนขับถูกเปิดออก กุญแจรถที่เสียบสตาร์ทไว้ถูกดึงออกไปเป็นการบังคับให้ดับเครื่อง เจ้าของรถเงยหน้ามองคนที่ยืนกางแขนคร่อมระหว่างหลังคารถกับประตูด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเป็นมิตรแล้วก็เสียวสันหลังวาบ ขนอ่อนลุกชันตั้งแต่ท้ายทอยถึงตาตุ่ม แต่กระนั้นสาวเจ้าก็ยังปั้นหน้ายิ้มสู้ทั้งที่เริ่มสั่น



“ลักทรัพย์ ปลื้มปริ่มแจ้งความได้นะคะ”



“พี่แค่ขอยืมครับ กันเหนียว เดี๋ยวน้องปลื้มหนี”



ยิ่งพี่แมนยิ้มหวาน พูดเพราะแบบโคตรเจนท์เท่าไหร่ ปลื้มปริ่มก็รู้สึกว่าชีวิตตัวเองไม่ปลอดภัยมากขึ้นทุกที



“ท...ทำร้ายร่างกายก็แจ้งความได้นะคะ”



“จุ๊ๆ ใครจะทำน้องปลื้มคนสวยเจ็บได้ลงคอล่ะครับ”



พี่แมนส่งสายตาหวานเยิ้มให้เหยื่อ ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ลูกสมุนของตัวเองกรูกันเข้ามาล้อมรถของสาวเจ้าไว้ แล้วแสยะยิ้มปีศาจให้แทนใบมรณะ



“นี่เป็นรางวัลที่มึงเสือกกับชีวิตกู...และคนของกู อีปลื้ม!”



สิ้นคำ ประตูทั้งสี่ด้านของรถก็ถูกเปิดออกก่อนที่ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ที่ภายในบรรจุแมงกระจั๊วมากกว่าร้อยตัวจะถูกโยนเข้ามาในรถแล้วปิดประตูขังร่างเล็กๆ ของสาวเอกการแสดงไว้ในรถที่ไม่ต่างจากห้องแคบๆ พร้อมแมลงสาบที่บินยั๊วเยี้ย



“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”



ปลื้มปริ่มกรีดร้องอย่างเสียสติมากที่สุดในชีวิต เมื่อตัวน่ารังเกียจไต่แข้งไต่ขาสร้างความขยะแขยงเป็นล้นพ้น เธอพยายามเปิดประตูด้านตัวเอง แต่พี่แมนก็ทับไว้แน่นจนเปิดไม่ออก พอตะกายตัวหนีไปเปิดฝั่งตรงข้ามก็ได้ผลเหมือนกัน จะเปิดหน้าต่างก็ไม่ได้เพราะรถเป็นระบบไฟฟ้าและกุญแจถูกคู่กรณียึดไปเรียบร้อยแล้ว



“อ๊าย! อ๊าย! ไม่เอานะ!!”



เธอดิ้นหนี ปีนเบาะแบบสิ้นมาดคนสวยของคณะ กระนั้นแมลงสาบที่ยิ่งตกใจก็บินฮือไปมาอย่างน่าหวาดเสียว ปลื้มปริ่มขดตัวงอ ทุบกระจกรถปั้งๆ ทั้งที่ไม่ยอมหยุดกรี๊ด



“พี่แมน...ปล่อยปลื้ม ปลื้มกลัว!!”



อีปลื้มร้องไห้ออกมาในที่สุด เพราะไม่ว่าจะปัดยังไง จะหนีเท่าไหร่ แมลงสาบตัวใหม่ก็เข้ามาเกาะแกะเธอไม่หยุด บางตัวซุกซนขนาดไต่เข้าไปใต้กระโปรงสั้นกุดของเธอด้วย



“พี่แมน!! กรี๊ดด!! ปลื้มขอโทษ ปลื้มไม่ทำแล้ว ปลื้มไม่ทำ กรี๊ด!! กรี๊ด!!”



คนถูกอ้อนวอนมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มกริ่มบนใบหน้า ไม่ได้มีความสงสารปรากฏขึ้นมาในใจแม้เพียงนิด ก็กูบอกแล้วว่ารางวัลนี้มึงจะจำจนวันตาย



“เอาไงมึง?”



สมุนคนหนึ่งถามขึ้น แกนปี 4 ก็ไหวไหล่ตอบอย่างชิวๆ



“อีนี่มันหน้าด้าน ให้แมลงสาบแทะสักครึ่งชั่วโมงเผื่อหน้ามันจะบางลงบ้าง ถ้ามันเป็นไรขึ้นมา ก็ฝากมึงเรียกปอเต๊กตึ๊งด้วยละกัน”



สั่งจบ พี่แมนก็หันไปส่งจูบให้คนในรถที่หัวฟู กระดุมเสื้อหลุดรุ่ยเพราะปัดป้องตัวเองจากแมลงร้าย สภาพไม่ต่างจากผีบ้า ก่อนจะเดินจากไปหาเมียรักที่หลบมุมเสาดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ



“ไม่เข้าไปดูใกล้ๆ อ่ะ”



เอ็มส่ายหัวดิ๊กๆ สาเหตุน่ะมันก็เห็นๆ กันอยู่ แมลงตัวสีช็อกโกแลตบินว่อนขนาดนั้น มันคงจะกล้าเข้าไปใกล้หรอก?



“อีเอ็มมี่! นี่ของมึง”



เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงเรียก เจอพี่เงิบโยนแมลงสาบเป็นๆ บินเฉียดหูไป 2 มิล ชายแท้ทั้งแท่งก็กรี๊ดลั่น ไต่เสาหนีเป็นลิงไต่ต้นมะพร้าวได้อย่างคล่องแคล่ว



“กร๊ากกกกกกกกกกกก”



เสียงสมุนที่ไม่ได้ล้อมรถอีปลื้มหัวเราะลั่นอย่างพร้อมเพรียง หัวเราะไปได้สักพัก ไอ้ตัวต้นเหตุที่ทำให้สุดที่รักของพี่แมนเปลี่ยนร่างจากตุ๊ดเป็นลิงตุ๊ดก็ล้มลงไปกองกับพื้นด้วยเท้างามๆ ที่ยันตูดมาแบบไม่ออมแรง



“เลิกแกล้งมันได้แล้ว”



พี่แมนปรามพวกเพื่อนตัวแสบก่อนจะไล่พวกมันไปเตรียมตัวเปิดการติวเข้มปลายภาคโดยแกนคณะอีกครั้ง สุดโหดเดินไปคว้าตัวคุณแฟนที่สไลด์ลงมาจากเสาอย่างเสียขวัญ ปิดท้ายด้วยการจุ๊บหน้าผากแล้วปล่อยให้มันนั่งเล่นอยู่แถวนั้นรอไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน



.

.

.



“ไอ้ที”



“หือ?”



หนึ่งในแก๊งค์ปีสี่ของพี่แมนหันไปมองหน้าเพื่อนพร้อมตอบรับคำเรียก ไอ้เพื่อนตัวดีรื้อกระเป๋าเป้พี่ทีออกมาซะยังกะของส่วนตัวก่อนจะเจอเสื้อชั้นในสีแดงเพลิงสุดเซ็กซี่ซ่อนอยู่ในหลืบลึก



“ทำไมมีเสื้อในอยู่ในกระเป๋ามึงได้วะ?”



“ของเมียกูไง”



พี่ทีตอบแล้วคว้าของในมือเพื่อนกลับมาอย่างหวงๆ เผอิ๊ญ...สายตาเหลือบไปเห็นเมียท่านแกนเดินผ่านมาพอดีหลังจากไปเซเว่นซื้อของขบเคี้ยวตามคำไหว้วานของคุณสามีและเพื่อนๆ



“อีเอ็มมี่”



“อ้าว? พี่ที...เอ่อะ!”



เด็กปีหนึ่งถึงกับชะงักเมื่อเห็นของอันตรายในมือรุ่นพี่ อยู่ในมือรุ่นพี่คนอื่นน่ะไม่ว่า แต่อยู่ในมือไอ้พี่ทีทีไรล่ะ หายนะบังเกิดกับกูทุกที



“พี่มีสินค้ามานำเหนอ”



“ไม่ๆ”



“เฮ้ย ฟังก่อนดิ่ ลองได้นะมึง ไอ้แมนชอบ เชื่อกูดิ่”



“ไม่ลองๆ ไม่~”



“เฮ้ย...จับมันไว้ดิ๊!”



พี่ทีหันไปสั่งเพื่อนซี้ให้ตะครุบจับเมียท่านแกนกดลงกับพื้น อดีตตุ๊ดดีดดิ้นสุดแรง แต่แก๊งค์สถาปัตย์นี่มันไปออกกำลังกายกันที่ยิมไหนวะ ถึงได้ถึกกันขนาดนี้เนี้ย!



“เสร็จกูล่ะ!”



ไอ้พี่ทีที่ยิ้มหวานพร้อมอาวุธในมือขยิบตาให้เมียเพื่อนหนึ่งทีแบบโคตรหล่อ แต่ภาพที่ปรากฏแก่สายตาชายเอ็มคือบุคคลที่เรียนว่าตัวซวยมากกว่า



“อ๊า~~ พี่แมนช่วยด้วย~~~ อื๊อๆๆ”



พี่ทีเอามืออุดปากรุ่นน้อง แต่ไม่ทันเสียแล้ว เสียงร้องเรียกขอความช่วยเหลือดังเข้าหูท่านแกนที่อยู่กลางวงล้อมฝูงเพื่อนที่คร่ำเคร่งกับวิชาเรียนอย่างแน่วแน่ แกนคณะลุกพรึ่บ หมุนตัวหาต้นเสียงจนผมปลิวสะบัด ก่อนจะรีบแหวกฝูงมายังทิศทางที่จับเสียงได้อย่างรวดเร็ว



“พี่ที...ปล่อยกู๊~!!”



ภาพที่ปรากฏตรงหน้าแกนปี 4 คือไอ้ทีเพื่อนเหี้ยมันกำลังปลุกปล้ำยอดรักยอดขมองอิ่มของเขา บังคับจับใส่เสื้อในสีบาดตาที่ดูยังไง๊ยังไงก็ไม่เข้ากะหนังหน้ามันเลยสักนิด



“พี่แมน...”



ไอ้คนโดนแกล้งทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ ดูสภาพแล้วมันคงอยากลุกขึ้นเตะปากไอ้ทีอยู่เหมือนกันแต่ทำไม่ได้



“พวกมึงหยุด!!”



สุดโหดตวาดทีเดียว ความอลหม่านเบื้องหน้าก็หยุดนิ่ง ผู้มีส่วนรู้เห็นชักเหงื่อตก มีแต่ไอ้ทีคนเดียวที่ยังหน้าระรื่นไม่รู้เงาหัวตัวเอง



“เฮ้ย...กูหยอกเมียมึงเล่นแค่นี้ ทำไมต้องทำเสียงเครียดด้วยวะ?”



ไอ้ทีพยายามทำให้บรรยากาศครื้นเครงขึ้น แต่เหมือนว่าพี่แมนจะไม่รับรู้ถึงความพยายามนั้น คนตัวบางเดินเข้าไปดึงตัวคุณแฟนให้ลุกขึ้นแล้วดึงชุดชั้นในที่คาแขนอยู่ออกปาทิ้งไปอย่างนึกโมโห



“ไอ้แมน...”



“มึงอย่าทำอย่างนี้อีก...แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด”



ไอ้พี่ทีนิ่งไป ผองเพื่อนที่อยู่ล้อมรอบก็รับรู้ได้ถึงความจริงจังในน้ำเสียงของหัวหน้าแก๊งค์ ที่ทั้งเรียบและนิ่งจนน่ากลัว



“...อะไรวะ? ก็เห็นอยู่ว่า...”



“กูบอกว่าแฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด เอ็มเป็นผู้ชาย และกูก็ไม่ชอบที่พวกมึงปฏิบัติกับมันแบบนี้”



ยิ่งพูด เสียงพี่แมนก็ยิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนสองสมุนซ้ายขวาต้องมาประกบใกล้ เพราะกลัวท่านแกนจะปุบปับต่อยไอ้ทีร่วงไปเสียก่อน เห็นนิ่งๆ งี้ทีไรล่ะมีเรื่องทุกที



“ถ้ามันไม่ใช่แล้วใครเป็น? มึงเหรอ?!!”



“ก็ถ้าใช่แล้วยังไง?”



พอเพื่อนตัวเองไม่เปลี่ยนสีหน้า พี่ทีและคนในแก๊งค์ก็เดาทางไม่ถูกว่ามันพูดเล่นหรือพูดจริง ถ้าเป็นคำถามวัดใจล่ะวะ? หรือว่าไม่ใช่? ยังไงวะ? กูงงนะเนี่ย เด็กสินกำที่กลัวเรื่องของตัวเองจะแดงก็รีบคว้าแขนสุดที่รักไม่ให้พูดต่อ แต่พี่แมนกลับไม่สนใจ



“กูถามว่าถ้ากูเป็นเมียเอ็มจริงๆ อย่างที่อีปลื้มมันพูด พวกมึงจะว่ายังไง?”



ปีสี่สถาปัตย์มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ส่วนไอ้ทีที่ถูกจ้องหน้าตรงๆ ก็สมองเออเร่อไปเรียบร้อย แค่จินตนาการว่าไอ้แมนเป็นฝ่ายถูก...เอ่อ...กูยังจิ้นไม่ออกเลย!



“มึงอย่าล้อเล่นสิวะ”



“กูพูดจริง พวกมึงจะเชื่อไม่เชื่อก็ตามใจ แต่กูขอสั่งห้ามใครทำกับแฟนกูแบบนี้อีก ไม่งั้นก็เลิกคบกูไปเลย”



ประกาศสิ่งที่ต้องการเสร็จ พี่แมนก็คว้าข้อมือคนข้างตัวเดินอาดๆ ออกมาจากคณะด้วยอารมณ์คุกรุ่นไม่ยอมพูดจา ปล่อยให้ระเบิดที่ตัวเองทิ้งไว้กลายเป็นประเด็นโต้เถียงกันในกลุ่มเพื่อนแบบสภาวะเครียดบรรลัย พี่แมนกับคนถูกจูงเดินอยู่นานจนรอบกายไม่มีคนแล้ว เจ้าตัวจึงหยุดลงแล้วหันมามองหน้าคุณแฟนให้ชัดๆ



“พี่แมน...”



“ตอนกูเห็นรูปที่อีปลื้มมันตัดต่อกูใส่ชุดผู้หญิงอ่ะ กูโกรธมากเลยนะรู้ไหม?”



เอ็มที่ไม่รู้จะตอบยังไง ก็ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ ตามน้ำไปก่อน



“แล้วทำไมมึงโดนทำขนาดนี้ถึงไม่โกรธ?!”



คนโดนตวาดสะดุ้งเบาๆ ก่อนจะรีบอ้อมแอ้มตอบเหมือนเด็กโดนดุ



“ก็จะให้โกรธยังไงล่ะครับ? พวกพี่เขาเข้าใจมาตลอดว่าผมเป็นตุ๊ดนี่?”



“แล้วไม่คิดจะแก้ความเข้าใจผิดนี่เลยรึไง?”



เอ็มทำหน้าเป็นหมางง อีพี่ปลื้มก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้กูมากเลยนะครับว่าพูดออกไปแล้วจะเป็นยังไงน่ะ!



“ทำงั้นได้ไงล่ะครับ? จะให้บอกคนอื่นว่าพี่แมนเป็น...มะ...เอีย...ผม...เหรอ?”



“ก็ไม่ได้ให้พูดแบบนั้น!! แต่ก็...ก็บอกไปว่ามึงไม่ใช่ตุ๊ด!”



“แล้วถ้าเขาถามว่าตกลงใครเป็นคนปิ๊บ ใครถูกปิ๊บกันแน่? พี่แมนจะให้ผมตอบว่าอะไรล่ะครับ?”



คราวนี้พี่แมนเป็นฝ่ายนิ่งอึ้งไปบ้าง เจ้าตัวหลุบตาลงมองพื้นด้วยท่าทางสับสน เอ็มก็ยืนหายใจเงียบๆ ปล่อยให้เจ้าตัวได้นิ่งคิดอย่างนั้นอยู่นานโข



“กูน่ะ...โมโหมากจริงๆ ตอนที่เห็นมึงถูกทำเหมือนตุ๊ดทั้งที่ไม่ใช่ ถึงกูจะเคยทำแบบนั้นมาก่อน แต่ตอนนั้นเพราะกูไม่รู้ไง แต่ตอนนี้กูรู้แล้ว และกูก็รู้ว่ามึงไม่ชอบ กูก็ไม่ชอบ เพราะงั้นกูถึงได้อยากให้มึงบอกความจริงไง กูรู้ว่ามึงปล่อยให้มันเลยตามเลยเพราะอยากปกป้องกู กูก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่ากู...เป็นแบบนั้น...แต่ถ้า...”



พี่แมนพูดวกไปวนมา กัดริมฝีปากตัวเองมองหน้าคนตัวสูงกว่าแล้วก้มมองพื้นอีกครั้ง



“แต่ถ้ามันจะเป็นแบบนี้ต่อไปกูก็ไม่ชอบอีก เพราะงั้น...เราบอกความจริงกับทุกคนก็ได้ กูคิดว่าคงไม่เป็นไร ไม่ใช่...กูหมายถึงกูไม่เป็นไรจริงๆ”



เอ็มเห็นสภาพแปลกๆ แบบนั้นของพี่แมนแล้วก็ถอนหายใจยาว มันจะไม่เป็นไรได้ไง...ที่จริงพี่ก็เพิ่งบอกความจริงทุกคนไปเมื่อกี้ไม่ใช่รึไง? แล้วคนไม่เป็นไรมันพูดวนเป็นเรือในอ่างแบบนี้เหรอ?



“พี่แมน...ผมไม่ได้รู้สึกแย่ หรือคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องทนนะ ผมดีใจด้วยซ้ำที่แม้แต่ตอนที่พี่คิดว่าผมเป็นตุ๊ดพี่ก็ยังยอมรับอย่างโคตรเท่ห์ว่ารักผม ผมดีใจจริงๆ นะ เพราะงั้นเรื่องนี้มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับศักดิ์ศรีของพี่ที่ผมจะรักษาไว้ได้ ผมรู้ว่าสำหรับพี่...คนอื่นมองว่าเป็นผัวตุ๊ดยังพอทน แต่ถ้าถูกมองว่าเป็น...เมียผู้ชายด้วยกัน มันเจ็บยิ่งกว่าโดนกระทืบอีกใช่ไหม?”



คนฟังหลบตาหนี นิ่งคิด ก่อนจะพยักหน้าออกมาเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองคุณแฟนด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป



“มันก็จริงที่กูต้องรู้สึกแย่แน่ๆ ถ้าถูกคนอื่นมองแบบนั้น แต่ว่า...กูอยากทำเพื่อมึงบ้าง ตอนนี้กูรักมึงมากกว่ารักศักดิ์ศรีของตัวเองแล้ว มึงรู้ไหม?”



“พี่แมน...”



“เพราะงั้นถ้าคราวหน้าใครถาม กูก็จะไม่หนีความจริงอีกแล้ว”



เอ็มมองแววตาของคนตรงหน้าที่แสดงความมั่นใจมากขึ้นแล้วก็รับรู้ได้ว่า...สิ่งที่พี่แมนเป็นห่วงมากที่สุดคือความรู้สึกของเขา พอคิดได้แบบนั้นแก้มสองข้างก็รั้งขึ้นด้วยรอยยิ้มที่หุบไม่ได้จนเมื่อยหน้าไปหมด



“หยุดยิ้มได้แล้ว!”



จอมเผด็จการออกคำสั่ง แต่ก็เป็นคำสั่งที่ตอนนี้เอ็มปฏิบัติตามไม่ได้จริงๆ



“ขอบคุณนะครับ...รักพี่แมนนะ”



“รู้แล้ว”



“รักจริงๆ นะครับ”



“อืม...”



“รักที่สุดเลยครับ”



“ก็บอกว่ารู้แล้วไง!”



พี่แมนเอ็ดอย่างไม่จริงจังก่อนจะอดขำออกมาเบาๆ ไม่ได้ ไม่รู้ทำไมแค่มองหน้ามันก็มีความสุขแล้ว อาการแบบนี้แปลว่าเขาต้องเป็นโรคร้ายแรงมากแน่ๆ ชาตินี้จะรักษาหายไหมเนี่ย?



“พรุ่งนี้ไปหาแม่มึงกันนะ”



“ไปทำไมครับ?”



คนถูกถามแก้มขึ้นสีเป็นริ้วก่อนจะอ้อมแอ้มตอบเสียงเบา



“ก็ไปแนะนำตัว...ลูกสะใภ้ไงเล่า! อีโง่!!”



ทิ้งคำด่าพร้อมวาจาน่ารักไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งหนีไปอีกทาง กว่าอีเอ็มมี่ของไอ้พี่แมนจะตั้งสติได้ว่าเจอความโมเอ้กระแทกเข้าไปเต็มรัก พี่แมนก็วิ่งไปไกลจนต้องรีบวิ่งตามเพราะกลัวเจ้าตัวจะเปลี่ยนใจเสียก่อนที่คุณแม่จะได้ลูกสะใภ้สมใจอยาก



“กราบแม่สามีเสร็จ ต้องเข้าหอเลยน้า~~ โอเคไหมพี่แมน~~?”



“ใครจะโอกับมึงวะ? อีหื่น! อย่าตามกูมานะ!!”



แล้วนักศึกษามหาวิทยาลัยชานเมืองแห่งนั้นก็เห็นคู่รักคู่แปลกมันวิ่งไล่จับกันเป็นหนังอินเดียไปทั่วมหาวิทยาลัย ข่าวของพี่แมนที่อีปลื้มกระจายไปทั่วก็ค่อยๆ สร่างซาไปในที่สุด แต่แก๊งค์ปีสี่ที่ถูกบังคับให้รับรู้ความจริงก็ต้องใช้เวลาปรับตัวปรับใจอยู่นานกว่าจะมองหน้าแกนคณะแล้วไม่หน้าแดงเพราะอดจิ้นเวลาหัวหน้าแก๊งค์ตกเป็นเบี้ยล่างไม่ได้



สงครามระหว่างแกนปีสี่สถาปัตย์และเฟรชชี่สินกำก็ดูเหมือนจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีวันจบ....







จบบริบูรณ์



Talk~
คุณนายขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านมาจนถึงตอนสุดท้ายนี้นะคะ
แม้ว่าคุณนายจะหายไปเป็นพักๆ บ้าง (ฮา...)
ขอบคุณจริงๆ โดยเฉพาะคนที่เมนต์ให้กำลังใจกันมาตลอดตั้งแต่ตอนแรกๆ
ถ้ามันเป็นนิยายที่ทำให้สนุกได้บ้าง เรียกรอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะได้บ้าง คลายความเครียดจากการเรียนหรือทำงานได้บ้าง
คุณนายก็จะดีใจมากๆ เลยค่ะ

<3

คุณนายลิปแดง
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 03-02-2018 09:37:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 03-02-2018 09:51:06
พี่แมนขาโหดน่ารักมากกกกกกกก
เอ็มมี่ยังคงเป็นตุ๊ดโง่ อิอิ

จบซะแล้ว ว่างๆๆๆพาพี่แมนกับเอ็มมี่มาอวดน่ะ
เปิดเรื่องใหม่อย่าลืมประกาศน่ะ

ขอบคุณจ้า^^
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-02-2018 10:15:25
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 03-02-2018 11:40:39
พี่แมนสะใภ้สายโหด  :o8:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-02-2018 11:46:52
พี่แมนน่ารัก เป็นเมียที่ต้องคอยปกป้องตอนผัวโดนรังแก ฮา
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-02-2018 20:06:23
 :katai2-1: o13 :katai2-1:

 :กอด1: :L2: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 03-02-2018 20:40:16
เป็นนายเอกที่แมนมาก  :pig4:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-02-2018 23:58:01
 :3123: :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-02-2018 04:34:13
ยินดีกับชีวิตคู่ที่จะดำเนินต่อไปนะ แมน กับ เอ็ม  :mc4:

ไว้อาลัยใหักับชะนีปลื้ม ที่ป่านนี้ไม่รู้จะหายซ่า ปากจัดหรือยังนะ  :amen:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 06-02-2018 15:12:41
สนุกดีฮะ เรื่องแปลกดีด้วยชอบ
ขำก๊ากทุกครั้งที่ได้อ่าน ขอบคุณที่แต่งเรื่องสนุกๆให้ได้อ่านฮะ
รอติดตามผลงานเรื่องต่อไปนะคร้าบบบ
 o13
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 06-02-2018 18:15:55
สมน้ำหน้าน้องปลื้มที่สุด :laugh:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 07-02-2018 04:48:58
ขอบคุณมากเลย รู้สึกเป็นแนวที่ชอบแนวที่ใช่มาก
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 08-02-2018 23:35:50
แผนพี่แกเด็ดๆทั้งนั้นที่จะเอาคืนคนอื่น
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 10-02-2018 00:18:15
สนุกมากกกก นี่เป็นนิยายที่โหดเหี้ยมที่สุดเรื่องนึงเลยนะ ดูวิธีจัดการแต่ละอย่างของพี่แมนดิ ยิ่งตอนคราวปลื้มปริ่ม นี่มันเข้าขั้นอำมหิต กรี๊ดดดด ขนลุกพรึ่บ 55555555
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 12-02-2018 01:04:23
เอ็มเนี่ยทนไม้ทนมือจริงๆ อิอิ เหมาะกับพี่แมนที่สุดแล้ว น่ารักอ่ะ ขอบคุณนะครับสนุกมากกกกก
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: zysygy ที่ 17-02-2018 12:13:43
 o13
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 24-02-2018 15:40:24
เป็นนิยาย SM ที่ฮามาก
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 24-02-2018 15:41:06
โถๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 24-02-2018 15:42:10
5555555 น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 24-02-2018 15:44:48
พี่แมนโหดร้ายยยยยยยย
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 24-02-2018 15:45:38
พี่แมนผู้ปากไม่ตรงกับใจ กับ น้องเอ็มมี่ที่ทนถึกถาวร
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 24-02-2018 15:46:56
 o22 o22 o22 o22 o22 o22
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 24-02-2018 15:53:35
พี่แมนคนแมนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 24-02-2018 15:54:51
กร๊ดๆๆๆๆๆๆ พี่แมนรับแล้ว
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 24-02-2018 16:00:11
แฮปปี้แอนดิ้งสไตล์ขาโหด โฉด และฮา
5555
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 25-02-2018 07:58:01
จะมีตอนพิเศษมาไหมน่ะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 01-03-2018 07:31:03
พี่แม๊นนนนนนนน


น่ารัก  :man1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: Maccagadz ที่ 01-03-2018 14:16:46
กว่าจะตะล่อม ตลบ หลอกจีบพี่แมนได้นี่
ยอมใจเอ็มจริงๆ อ่ะ เป็นคนที่แบบสู้สุดชีวิต แล้วก็โคตรยอมพี่แมน
คือนางยอมทุกอย่างจริงๆ เพื่อพี่แมน โอ้ยยยย อิจพี่แมนแล้วเนี่ย
ขอบคุณคนเขียนนะคะ ที่ผลิตงาน สร้างเด็กๆ ออกมาได้สนุกขนาดนี้
ขอเป็นกำลังใจให้ในงานต่อๆ ไปนะคะ
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: jorjinney ที่ 01-03-2018 19:41:29
ฮือออ ลุ้นแทบตยว่าเมื่อไหร่พี่จะรู้ว่าเอ็มมี่ไม่สาวว 5555555555
พอร็แล้วก็น่ารัก น่ารักกกกกกกกกกมาจนจบ ดีกับใจมากกกก
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: papapajimin ที่ 24-03-2018 11:53:48
โอยยยย น่าร้ากกกกกมากๆค่าาาา

ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่านกันนะคะ
รักพี่แมนกับเอ็มมี่มากๆ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 19-07-2018 03:05:52
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 22-07-2018 04:13:23
abnormalสมชื่อเรื่องจริงๆ สนุกมากค่ะ ฮามากเลย

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ^^
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: NOOKNIK21 ที่ 22-07-2018 12:22:59
นายเอกเรื่องนี้น่ารัก แกร่ง ห้าว พร้อมตีแต่น่ารักจังชอบเวลานางด่า ว่าอีโง่!!!เอ็นดู :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: wetter ที่ 12-10-2018 00:36:40
ตอนแรกไม่ชอบที่พี่แมนเล่นแรงมาก แค่เป็นตุ๊ดก็คิดว่าจะแกล้งยังไงก็ได้เรอะ
แต่คือพี่แกก็น่ารักแบบซึนๆ แมนสมชื่อ เอ็มก็น่ารักนะรักเพื่อนอะดูเป็นผู้ชายอบอุ่นขี้เล่นมาก
ดีใจที่สุดท้ายพี่แมนก็ยอมรับได้
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: lovenine ที่ 15-10-2018 18:11:11
สนุก เรื่องนี้ น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 16-10-2018 00:16:16
ขอบคุณมากๆนะคะ ชอบคนแบบพี่แมนอะ 5555
แต่ชอบพี่แมนจริงๆนะคะน่ารักดี โหดด้วย
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 17-10-2018 23:01:05
สนุกมากๆ พี่แมน แมนสมชื่อ รักนาง  :กอด1:
น่ารักทั้งคู่ ตุ๊ดแฝดก็น่ารัก  :hao7:
อ่านแล้วขำเสียงดังแทบทุกตอนอ่ะ   ชอบมากๆ.  :pigha2:
 :pig4:     :pig4:
หัวข้อ: Re: แอ๊บรัก : Abnormal Love ♥ แอ๊บที่ 30: แฟนกูไม่ใช่ตุ๊ด! ♥ ----- (จบบริบูรณ์)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 14:37:00
 :pig4: