พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้น] ในยามราตรี แจ้งข่าว 5/9/2017

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: Earth112 ที่ 08-06-2017 00:52:34

หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี แจ้งข่าว 5/9/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 08-06-2017 00:52:34
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


********************************************************

นี่เป็นนิยายเรื่องแรกยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
ถ้ามีอะไรก็ติชมกันได้ หวังว่าจะมีคนชอบเรื่องของเรานะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี บทนำ 8/6/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 08-06-2017 01:01:08
บทนำ

เสียงนกร้องบ่งบอกถึงเวลาเช้าอันสดใส พระอาทิตย์ทอแสงเป็นประกาย ณ ปลายขอบฟ้า ชายหนุ่มลืมตาขึ้นพร้อมกับกล่าวขอบคุณฟ้า ขอบคุณสวรรค์ ที่ให้เวลากับเขาเพื่อที่จะทำความฝันให้เป็นจริง เขาค่อยๆยืดตัว ลุกออกจากเตียงเพื่อทำกิจวัตประจำวันเหมือนทุกๆวันที่ผ่านมา อาบน้ำแต่งตัว เสื้อผ้าที่เขาเลือกใส่ในวันนี้คือเสื้อเชิตสีดำ เนคไทสีฟ้าเข้ม กางเกงสแล็คเข้ารูปสีดำและรองเท้าหนังสีดำคู่เก่ง ชายหนุ่มรู้สึกว่าในวันนี้เขาทำทุกสิ่งอย่างเสร็จอย่างรวดเร็วผิดปกติ ความรู้สึกแปลกใจในเรื่องนั้นถูกกลบด้วยความคิดที่ว่า ทุกวินาทีมีค่า เราต้องใช้ให้คุ้ม เขาเลิกคิดเกี่ยวกับเวลาและเตรียมตัวเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของเขาในวันนี้  เขาหยิบสิ่งของที่จำเป็น ตรวจทานความเรียบร้อยของตัวเองในกระจกก่อนจะออกจากห้องพักไป

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณหนู วันนี้คุณหนูประสงค์จะไปที่ไหนไหมครับ” อาชีพของชายหนุ่มคือบอดี้การ์ดประจำตัวของบุตรคนเล็กในตระกูลชื่อดัง  ที่จับธุรกิจหลายด้านและเป็นตระกูลที่ประสบความสำเร็จในอันดับต้นๆของประเทศ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีวันอาจเอื้อมแต่หัวใจของเขา ได้มอบให้เด็กหนุ่มคนนี้ไปแล้วทั้งใจ

“ฉันว่าจะไปร้านเพชรในห้างของเรา ไปซื้อสักชุดเป็นของขวัญวันเกิดคุณแม่ เดี๋ยวนายไปเตรียมรถเลยแล้วกัน” ชายหนุ่มรู้สึกสมเพชตัวเองขึ้นมา ขนาดแค่ชื่อของเขาคนที่เขาแอบรักยังจำไม่ได้เลย ถึงเขาจะรับใช้คุณหนูมาตั้งแต่เธอยังเด็กจนแทบจะจำความไม่ได้ แต่ก็เหมือนจะไม่เคยอยู่ในสายตาของเธอเลย แต่ไม่ว่าจะรู้สึกเช่นไรทุกๆอย่างกลับต้องหลบซ่อนอยู่ในหน้ากากที่สร้างขึ้นมา เพื่อที่เขาจะได้อยู่รับใช้คนที่เขารักเพราะถ้าหากความลับนี้เผยแพร่ออกไปเขาคงไม่มีวันได้พบหน้าคนที่เขารักอีกเป็นแน่

“ครับคุณหนู” เขาทำตามคำสั่งทุกประการก่อนจะก้มลงมองดูนาฬิกา เหลืออีกเพียงยี่สิบสามชั่วโมงเท่านั้น

รถหรูที่ขับเคลื่อนออกจาตัวคฤหาสน์โดยมีบอดี้การ์ดเป็นคนขับและคุณหนูนั่งอยู่ที่เบาะหลัง เขาใช้เวลาในขณะที่รถติด สังเกตการแต่งตัวของคุณหนูในวันนี้ใส่เสื้อโปโลสีเทาอ่อนกับกางเกงขายาวสีขาวเข้ากับผิวสีขาวอมชมพูของเจ้าตัว เขาละสายตาจากคุณหนูเมื่อเห็นว่าสัญญาณไฟจราจรได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว

ใช้เวลาไม่นานก่อนที่รถสีดำจะมาจอดอยู่ที่หน้าห้างชั้นนำ เขาลงจากรถเพื่อเปลี่ยนตัวคนขับและเดินไปเปิดประตูให้คุณหนู เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างเมื่อเห็นบุคคลที่ลงมาจากรถก็รีบโค้งคำนับก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้างให้ คุณหนูเดินตรงไปที่ร้านเครื่องเพชรตามที่ตั้งใจ เธอใช้เวลาอยู่นานทีเดียวกว่าจะได้เครื่องเพชรที่ถูกใจ เวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆทำให้บอดี้การ์ดหนุ่มอดไม่ได้ที่จะดูนาฬิกา สามชั่วโมงผ่านไปเหลืออีกเพียงยี่สิบชั่วโมงเท่านั้น ถึงเขาจะรู้ว่าเวลาของเขากำลังลดลงเรื่อยๆและกำลังจะหมดไป แต่เขาก็ไม่มีท่าทีเร่งรีบที่จะทำในสิ่งที่ตนเองตั้งใจไว้เพียงคิดว่ารอให้ถึงเวลาและโอกาสที่เหมาะดีกว่า เมื่อเลือกเครื่องเพชรเสร็จก็เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงแล้ว คุณหนูเลือกที่จะรับประทานอาหารญี่ปุ่นในห้าง

“นี่นาย มานั่งกินกับฉัน” ถึงจะดีใจแค่ไหนก็ต้อง ปฏิเสธไปเพราะความไม่เหมาะไม่ควร ด้วยเห็นว่าเราทั้งสองนั้นแตกต่างกันทางด้านฐานะ หน้าที่การงาน และหน้าตาทางสังคม

“จะดีเหรอครับ ผมเห็นว่ามันไม่เหมาะที่จะให้ผมไปนั่งร่วมโต๊ะกับคุณหนูที่เป็นเจ้านายนะครับ”

“ฉันสั่ง” เมื่อนายเหนือหัวกล่าวคำ มีหรือที่ลูกจ้างที่จงรักภัคดี ยอมแม้แต่ถวายชีวิตจะขัดคำสั่ง ความคิดที่ว่านี่อาจเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายผ่านเข้ามาในสมองเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะเลือนรางหายไป  ความคิดดีใจเข้ามาแทนที่ มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้ร่วมกินข้าวกับบุคคลอันเป็นที่รัก คิดว่าคงเป็นมื้ออาหารที่อร่อยและมีความสุขที่สุดในชีวิต

เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ คุณหนูต้องการกลับไปพักผ่อนที่คฤหาสน์ บอดี้การ์ดคนสำคัญจึงเรียกรถและเดินทางกลับในที่สุด เมื่อส่งคุณหนูถึงที่พักอย่างปลอดภัย เขาที่ยืนรอรับคำสั่งอยู่หน้าห้องก็ก้มหน้าลงมองนาฬิกาอีกครั้งหนึ่ง บ่ายโมงแล้ว เท่ากับว่าเขาเหลือเวลาอีกสิบแปดชั่วโมง

หนึ่งชั่วโมงให้หลังคุณหนูเดินออกมาสั่งให้เขาเข้าไปนวดขาให้ในชุดเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มขลับให้ผิวสีขาวอมชมพูของเธอดูมีออร่ามากขึ้น ชายหนุ่มเดินตามเจ้านายเข้าไปในห้องส่วนตัวก่อนจะนั่งลงที่ข้างเตียง ไม่ว่าคุณหนูจะต้องการอะไร เขาสามารถทำตามความต้องการของเธอได้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะอยู่นอกเหนือจากหน้าที่ของเขาที่ตกลงกันไว้ในสัญญาว่าจ้างหรือไม่

“ขออนุญาตนะครับ”  ครั้งแรกที่ได้สัมผัสต้องตัวของคุณหนู ผิวขาวดูเปราะบาง ทำให้เขากลัวว่าถ้าบีบแรงเกินไปจะทำให้เป็นรอย ความเนียนนุ่มที่ได้สัมผัสเป็นเหมือนดั่งความฝันที่ไม่คิดว่าจะเป็นจริง เขาค่อยๆบีบนวดขาและฝ่าเท้าทั้งสองข้างจนคุณหนูพอใจ

“พอเถอะ ฉันจะนอนสักเดี๋ยว นายก็อยู่ในนี้แหละ” เธอบอกให้เขายืนอยู่ในห้องแทนที่จะเฝ้าหน้าห้อง ไม่นานร่างที่ดูบอบบางก็หลับใหลไปในห้วงนิทรา เป็นอีกครั้งที่รู้สึกดีใจ การที่ได้เห็นคนที่รักนอนเป็นอีกสิ่งที่เขาไม่คิดไม่ฝันว่าจะเห็น แววตาคู่สวยถูกบดบังด้วยเปลือกตาและขนตางอนงาม ริมฝีปากสีหวานปิดสนิท หน้าอกบางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเธอยังหายใจ เขาเดินเข้าไปห่มผ้าห่มให้คุณหนูให้เรียบร้อย หน้ากากที่เคยมีถูกถอดออกไป ความรูสึกห่วงหา ห่วงใยและรักใคร่ เผยออกมาอย่างชัดเจนบนใบหน้าคมเข้มนั้น

“ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต ผมก็จะรักเพียงคุณหนูคนเดียว หัวใจของผม” หยาดน้ำตาไหลรินตามกรอบหน้าคม เขาเช็ดมันออกก่อนที่มันจะหยดลงถูกดวงใจของเขา เขาถ่อยห่างออกไปและกลับไปยืนใจจุดที่เขาควรยืน

ประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งผ่านไป คุณหนูก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกเศร้า เธอไม่แน่ใจว่าเธอฝันอะไรแต่ที่รู้ก็คือมันทำให้เธอเศร้าจนอยากร้องไห้ เธอคิดไม่ตกเกี่ยวกับเรื่องความฝันแต่ใบหน้าหวานนั้นไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกแต่อย่างใด เพราะเป็นความเคยชิน คนที่เกิดมาในตระกูลที่มีอิทธิพลต้องห้ามแสดงจุดอ่อนของตน เธอเรียนรู้ที่จะใส่หน้ากากตั้งแต่ยังเด็กจากที่เคยยิ้มแย้มจากใจจริงกลายเป็นแค่รอยยิ้มเสแสร้งเท่านั้น

“กี่โมงแล้ว” ชายหนุ่มก้มมองนาฬิกาอีกครั้งก่อนจะตอบ

“สี่โมงครึ่งแล้วครับ คุณหนูต้องการอะไรหรือเปล่าครับเดี๋ยวผมจะจัดเตรียมให้” เขารอคำตอบจากเจ้านายและคำนวณเวลาอยู่ในใจ สิบสี่ชั่วโมงกับอีกสามสิบนาที

“แค่เตรียมน้ำอุ่นก็พอ ฉันจะแช่น้ำ” เขาพยักหน้ารับก่อนจะของตัวไปเตรียมน้ำ ไม่รู้ว่าคุณหนูเคยสังเกตหรือเปล่าแต่น้ำอุ่นที่เขาเตรียมไว้ให้มีอุณหภูมิอุ่นพอดีตามที่คุณหนูชอบและยังมีกลิ่นกุหลาบที่เป็นดอกไม้โปรดของเธออีก ในใจก็อดคิดไม่ได้ ถ้าหากไม่มีเขาคุณหนูจะคิดถึงไหม ไม่นานเขาก็รู้ตัวว่าความคิดของเขามันบ้าและเหมือนตัวเองกำลังสำคัญตัวเองผิด จึงสลัดความคิดนั้นทิ้งไปและเดินไปบอกคุณหนูว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว

เหลือเพียงสิบสามชั่วโมงเท่านั้น เขาหวนคิดไปถึงเมื่อเช้าที่คิดว่าเขาควรใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่าคำถามหนึ่งที่เกิดขึ้นมาคือ ตอนนี้เขาใช้มันอย่างคุ้มค่าแล้วหรือยัง

คุณหนูตัดสินใจที่จะออกจากบ้านอีกครั้งเพราะไม่มีใครอยู่ร่วมรับประทานมื้อเย็น จุดหมายในครั้งนี้คือร้านอาหารกึ่งบาร์ในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง คุณหนูสั่งอาหารกินก่อนจะสั่งแอลกอฮอล์มาดื่ม มีผู้ชายหลายคนพยายามที่จะชวนคุณหนูคุยแต่ก็ถูกปฏิเสธไปทั้งหมด เวลาล่วงเลยไปถึงห้าทุ่ม คุณหนูเริ่มมีอาการมึนเมาจากเหล้าหลายๆชนิดที่ดื่มเข้าไป บอดี้การ์ดหนุ่มแน่นำให้เธอกลับบ้านแต่เธอก็ปฏิเสธพร้อมชวนเขามาดื่มด้วยกัน หากแต่ว่าครั้งนี้เขาคงต้องขัดคำสั่งของคุณหนูเพราะเขาเป็นคนขับรถจึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของคุณหนูไว้ก่อน เมื่อนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน คุณหนูก็ทนฤทธิ์เหล้าไม่ไหวสลบไป เขาจึงตัดสินใจอุ้มคุณหนูกลับบ้านแล้วปล่อยให้หน้าที่เช็ดตัวเป็นของแม่บ้าน

กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็ตีหนึ่งกว่าหมายถึงว่าเขาเหลืออีกห้าชั่วโมงนิดๆ เขาอาบน้ำทำความสะอาดตัวก่อนจะตัดสินใจเขียนความในใจลงกระดาษ เขาใช้เวลาอยู่นานกว่าจะได้ข้อความที่เขาพอใจ พอเหลือบไปมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาตีห้าแล้ว เหลืออีกสองชั่วโมงเท่านั้น เขานำจดหมายใส่ในซองจ่าหน้าซองถึงคุณหนูและนำมันไปไว้ในห้องนอนของเธอ เขายืนมองเธอหลับใหลจากมุมมุมหนึ่งในห้อง ร้องเพลงของเราเพื่อกล่อมเธอนอน ในเวลาหกโมงครึ่งเขาเข้าไปเตรียมน้ำอุ่นให้คุณหนูของเขาอาบ เขาเหลืออีกแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น อุณหภูมิจะร้อนกว่าปกติเพราะเขารู้ว่าในครั้งนี้ เธอจะไม่ได้แช่ทันทีที่เตรียมน้ำเสร็จ เขาออกมายืนมองคุณหนูอีกครั้ง เขาได้คำตอบแล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรเพียงแค่ได้ใช้เวลากับคนที่รัก มันก็คุ้มค่าแล้ว

“จะรักคุณหนูคนเดียวตลอดไป”  คำพูดสุดท้ายก่อนที่ร่างของเขาจะจางหายไปในเวลาเจ็ดโมงตรง นั่นคือครั้งสุดท้ายที่เขาเป็นคน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 08-06-2017 13:18:02
หือ..อออ ซินเดอเรลล่าแวมไพร์อ่อ??? :ruready
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: LoveAlone ที่ 08-06-2017 21:03:37
 :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่1 18/6/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 18-06-2017 23:51:43
คืนที่ 1 ในความฝัน

ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยความรู้สึกใจหายเหมือนทุกๆวันตลอดสามปีที่ผ่านมา ความรู้สึกนี้ไม่เคยจางหายไปเลย ทั้งๆที่คิดว่าเขาไม่ใช่คนสำคัญอะไร เดี๋ยวก็คงลืมได้ แต่เวลาก็ได้พิสูจน์ให้ผมได้เห็นแล้วว่าเขาสำคัญกว่าที่ผมคิด เพื่อนเล่นในวัยเด็ก บอดี้การ์ดประจำตัว คนรู้ใจ คนที่ให้คำปรึกษา คนที่คอยดูแล แทบจะเรียกได้ว่าเขาเป็นอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตผมเลยก็ว่าได้ ในวันที่เขาหายไป ผมตื่นมาพบจดหมายหนึ่งฉบับ จ่าหน้าซองถึงผม ถึงจะรู้สึกแปลกใจแต่ผมก็เปิดดูเพราะคิดว่าคงไม่มีคนนอกสามารถเข้าห้องผมได้

ถึงคุณหนู
ผมทราบดีว่าการลักลอบเข้ามาในห้องนอนของคุณหนูมีความผิดแต่สิ่งที่ผมกังวลมากกว่าบทลงโทษของคุณหนูคือการที่คุณหนูโกรธผมเพราะว่าผมหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ต้องขอโทษด้วยนะครับแต่ไม่ว่าอย่างไรผมก็คงไม่สามารถอยู่กับคุณหนูได้อีกต่อไป ผมมีเหตุจำเป็นจริงๆและค่อนข้างที่จะเป็นอะไรที่กะทันหันมาก ผมรู้ว่าคุณหนูอาจจะโกรธแต่รบกวนกรุณาอ่านจดหมายฉบับนี้ให้จบด้วยเถอะครับ นี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมจะได้บอกให้คุณหนูรับรู้ว่า ถึงแม้ผมจะไม่ได้อยู่กับคุณหนูแต่ผมก็รักและเป็นห่วงคุณหนูเสมอ ตั้งแต่เด็กจนโตและจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป ผมเคยถูกสอนว่าคุณหนูเป็นเสมือนของล้ำค่าที่ผมต้องดูแล ผมจึงมีชีวิตอยู่มาเพื่อคุณหนูมาโดยตลอด ในตอนนี้ผมรู้แล้วว่าสิ่งที่ผมทำมันไม่ใช่แค่การทำตามหน้าที่แต่เป็นการทำตามหัวใจ ผมอยากบอกคุณหนูว่า ผมรักคุณหนูครับ รักมาก และไม่ใช้รักของลูกน้องที่มีต่อเจ้านายแต่เป็นรักที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักใครอีกคนได้ ผมหลงรักรอยยิ้มที่ทำให้โลกสดใสของเด็กน้อยคนหนึ่ง ผมหลงรักความเข้มแข็งของเด็กหนุ่มคนนั้นในวันที่เขาถูกหักหลัง ถึงแม้รอยยิ้มจะหายไปแต่เขาก็ไม่ได้ล้มลงเพราะคนเลวๆคนนั้น ผมหลงรักความฉลาดหลักแหลมของผู้ชายคนนั้นที่ทำให้คนอีกหลายคนมีชีวิตที่ดีขึ้น ผมหลงรักทุกๆอย่างของคุณหนู ขอโทษอีกครั้งนะครับถ้าสิ่งนี้ทำให้คุณหนูไม่พอใจ ขอให้คุณหนูมีชีวิตที่ดีนะครับ ลาก่อน
ด้วยรักจากนิล

ตอนนั้นผมตกใจและใจหายนิดหน่อย ไม่คิดว่าคนที่อยู่ด้วยกันมาทุกวันจู่ๆจะหายไป ผมให้คนออกหาตัวเขาเหมือนกันเพราะคิดว่าเขาอาจจะมีปัญหาหรืออะไร ที่สุดท้ายที่เขาไปคือเข้ามาในบ้านใหญ่แต่กล้องวงจรปิดไม่เคยจับภาพเขาตอนออกจากบ้าน ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน ผมสั่งยกเลิกการหาตัวเขาในสองเดือนต่อมาเพราะไม่ว่าจะทำอย่างไร หาข้อมูลจากที่ไหนก็ไม่เจอ

ผมเคยเข้าไปดูที่ห้องพักของนิล ข้าวของส่วนตัวของเขาอยู่ครบไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว แม้กระทั่งบัตรประจำตัวประชาชนของเขายังอยู่ในห้องอยู่เลย ผมคิดว่าเขาคงรีบร้อนมากจริงๆก็แปลกที่เขาไม่ได้เอาของสำคัญอย่างนี้ไปแต่กลับมีเวลาเขียนจดหมายให้ผมด้วยลายมือบรรจง เรียบร้อยที่ดูไม่เหมือนคนที่รีบร้อนเลย ก่อนออกจากห้อง ผมบังเอิญหันไปเห็นสมุดเล่มหนึ่งวางสะดุดตาผมอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ถึงจะดูละลาบละล้วงไปหน่อย แต่ผมก็หยิบขึ้นมาเปิดดู ไดอารี่? ผมไม่คิดว่าผู้ชายอย่างเราๆจะมานั่งเขียนไดอารี่ ผมกำลังจะปิดมันลงแต่ก็ดันไปเห็นชื่อตัวเองเข้าสะก่อน ในเมื่อมันมีชื่อผม ก็ถือว่าผมมีสิทธิ์ที่จะรู้หรือเปล่าว่านิลเขียนอะไรถึงผม

ผมไล่อ่าน แทบจะทุกอย่างที่อยู่ในไดอารี่เล่มนี้มันเกี่ยวกับผมและดูเหมือนว่าจะมีเล่มอื่นๆอีก ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีอะไรน่าสนใจแต่เขาก็จดมันไว้หมด ผมเข้าไปหาไดอารี่เล่มอื่นๆแล้วนำมาเก็บไว้ในห้องนอนของผม จากที่เห็น วันที่แรกๆที่ถูกเขียนนี่ตั้งแต่ผมอยู่ประถมเลย มันทำให้ผมรู้สึกแปลกใจอีกครั้งก่อนจะนึกถึงสิ่งที่เขาเขียนไว้ในจดหมาย เขารักผมมานานขนาดนี้เลยเหรอ?

ในตอนนี้ผมก็ใช้ชีวิตตามปกติ อาจจะขัดใจนิดหน่อยเวลาที่บอดี้การ์ดคนใหม่ทำอะไรไม่ถูกใจ น่าแปลกที่ไม่ว่าเขาจะพยายามเท่าไหร่ก็ไม่เหมือนที่นิลเคยทำให้ผม แต่ผมจะทำอะไรได้เพราะนิลคนนั้นได้หายตัวไปอย่างไรร่องรอย ตามตัวไม่ได้ขนาดนี้ ผมเลิกคิดถึงนิลและตั้งใจออกแบบโปรเจคชุดใหม่ของบริษัทต่อ

ตอนนี้ผมเข้าไปทำงานที่บริษัทที่ทำจิวเวลรี่ของคุณพ่อคุณแม่อย่างเต็มตัวแล้ว และเมื่ออาทิตย์ก่อนคณะผู้บริหาร และบอร์ดตัดสินใจว่าเราควรมีคอลเลคชั่นใหม่ ต้อนรับหน้าหนาวที่กำลังจะมาเยือน ถึงอากาศในประเทศไทยของเราจะไม่ได้หนาวตามชื่อฤดูแต่เพราะบริษัทของเราเน้นส่งออกต่างประเทศมากกว่า โปรเจคครั้งนี้จึงจำเป็น การออกแบบเครื่องประดับในครั้งนี้ทางบริษัทได้เปิดให้บุคคลทั่วไปส่งการออกแบบของตนมาให้บริษัทพิจารณา ทางบริษัทจะเลือกการออกแบบที่ตอบโจทย์และดูดีที่สุดจำนวน20แบบ คนที่ได้รับเลือกจะได้รับสิทธิ์เข้ามาทดลองทำงานในบริษัท หากผ่านทดลองงานก็จะได้บรรจุเป็นพนักงานเต็มตัวทันที

การที่ผมนั่งออกแบบอยู่ตอนนี้เพราะว่าทางบอร์ดได้กำชับมาว่านักออกแบบของบริษัทก็ต้องมีส่วนร่วมในงานครั้งนี้ด้วย หากชนะจะได้เงินจำนวนหนึ่งซึ่งจะว่าไปก็เยอะอยู่เหมือนกัน ผมที่เป็นหัวหน้าฝ่ายออกแบบควบคู่ไปกับการเป็นประธารของบริษัทก็ต้องไม่เกี่ยงงานและต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกน้อง ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้คือ ผมคิดไม่ออก

ผมร่างแบบออกมาหลายแบบแต่ก็ยังไม่ถูกใจสักที ผมเสียเวลาวาดๆลบๆอยู่ประมาณสองชั่วโมงก็ตัดสินใจเข้านอน คิดว่าถึงดึงดันจะทำต่อไปงานก็คงไม่เป็นที่น่าพอใจเลยกะว่าพรุ่งนี้จะไปหาแรงบันดาลใจแล้วค่อยเริ่มออกแบบใหม่

(ครึ่งแรก)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 19-06-2017 09:38:38
รอ..อออออออออ   :undecided:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: tn ที่ 19-06-2017 14:00:30
ตาม :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 20-06-2017 13:17:33
เขาจะได้เจอกันอีกไหมมม   :katai1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่1 4/7/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 04-07-2017 02:37:46
(ครึ่งหลัง)

‘คุณหนู คุณหนูจริงๆด้วย’

นั่นใครกัน ทำไมน้ำเสียงนั่นช่างคุ้นหู ทำไมผมถึงลืมตาไม่ได้ ทำไมผมถึงควบคุมร่างกายของผมไม่ได้

‘คุณหนูครับ ผมคิดถึง คิดถึงเหลือเกิน’

นิล เสียงของนิลใช่หรือเปล่า บอดี้การ์ดคนสนิทที่หายตัวไปตลอดสามปี

‘นิล…’ ผมเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก

‘สามปีที่ผ่านมา ผมพยายามค้นหาคุณหนูมาตลอด ในที่สุดผมก็ได้เจอ คิดถึงเหลือเกิน’

‘นั่นนิลใช่ไหม’ ผมเรียกและพยายามลืมตา ผมสามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้มากขึ้นและ ในขณะเดียวกันสียงของนิลก็ค่อยๆเบาลง เหมือนเขาเดินห่างจากผมไปเรื่อยๆ
‘อย่าเพิ่งไป! นิล! นิล!’

‘คุณหนู! คุณหนู!’

“นิล!” ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา ตื่น? นี่ผมฝันถึงนิลอย่างนั้นหรือ คงเครียดมากเกินไปสินะ ผมมองไปที่นาฬิกา เพิ่งตีสี่เอง ผมกำลังจะล้มตัวลงนอนต่อ แต่ก็คิดถึงงานออกแบบเครื่องประดับขึ้นมา ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมลุกออกจากเตียงและตรงไปที่โต๊ะทำงาน

ความทรงจำที่เกี่ยวกับนิลแล่นเข้ามาในสมองเป็นฉากๆเหมือนหนังม้วนก่อนจะหายไป ผมสะบัดหัวเล็กน้อยเพื่อไล่ความคิดแปลกๆนั้นออกไป แล้วเริ่มต้นร่างแบบเครื่องประดับ

“เสร็จ” ผมมองแบบที่เสร็จสมบูรณ์ อย่างพอใจในผลงานของตัวเอง กว่าจะเสร็จก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย เริ่มทำตอนตีสี่นี่ก็เกือบๆจะเจ็ดโมงแล้ว ผมตัดสินใจไปอาบน้ำแทนที่จะไปนอนต่อ ถึงแบบจะเสร็จแต่ก็ยังต้องเก็บงานเกี่ยวกับวัสดุที่จะนำมาทำอีก

ผมลงไปกินข้าวเช้า บรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็เป็นเหมือนในทุกๆเช้า มีพ่อนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่หัวโต๊ะ ที่นั่งข้างๆทางด้านขวามีแม่ที่นั่งเช็คราคาหุ้นของบริษัทตัวเอง แม่เงยหน้าขึ้นมารับไหว้และยิ้มให้ผม พูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบอย่างเช่นทุกวัน ถัดมามีพี่ฟ้า พี่สาวคนโตนั่งเล่นเกมที่ติดงอมแงม ถึงจะเป็นคนติดเกมแต่เธอมีตำแหน่งรองจากพ่อกับแม่นั่นคือการเป็นรองประธารของทุกๆบริษัทของพ่อและแม่ เธอมีหน้าที่ตรวจงานที่น้องๆอย่างพวกผมทำแต่เพราะเธอต้องดูแลทุกบริษัทซึ่งถือเป็นงานหนัก เราจึงแบ่งงานกันทำโดยที่คนที่คุมบริษัทจะต้องตรวจตรางานก่อนจะให้พี่ฟ้าสุ่มตรวจ ตรงข้ามกับแม่หรือทางซ้ายมือของพ่อมีพี่ภูผา พี่ชายคนโตนั่งคุยกับพี่ชายคนที่สองอย่างพี่ภูมิ พี่ภูผาดูแลธุรกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพวกโรบอตและการออกแบบโปรแกม ส่วนพี่ภูมิดูแลโรงแรมและโรงพยาบาลในเครือของบริษัท ผม ธาร ดูแลบริษัทเครื่องประดับและแบรนด์เสื้อผ้า

ทุกคนมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบมากมายแต่สิ่งที่เป็นกฎเหล็กของครอบครัวคือห้ามละเลยคนในครอบครัว ในอีกนัยหนึ่งคือครอบครัวต้องมาก่อนงานเสมอ

เมื่อทุกคนมาพร้อมกันที่โต๊ะกินข้าว อาหารมื้อนี้ก็เริ่มขึ้น ไม่นานนักทุกคนก็ต้องบอกลากันและกลับไปทำน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ผมขึ้นห้องไปเอาแบบที่เขียนไว้ใส่กระเป๋าเอกสารและมุ่งหน้าไปที่บริษัทเพื่อไปเก็บรายละเอียดของชุดเครื่องประดับที่ผมกำลังออกแบบอยู่

ในแผนก ทุกคนดูตั้งใจออกแบบเครื่องประดับในคอลเลคชั่นนี้เพราะกำหนดส่งแบบก็ใกล้เข้ามาทุกที เมื่อเห็นทุกคนตั้งใจทำกันผมก็เบาใจและนั่งทำงานในส่วนของตัวเองต่อ ในขณะที่ผมพยายามคิดว่าจะใช้วัสดุอะไรมาทำดี ผมก็คิดถึงความฝันเมื่อคืน ตลอดสามปีที่ผ่านมาผมไม่เคยฝันถึงเขาเลยทำไมอยู่ดีๆถึงฝันถึง แล้วทำไมพอฝันถึงนิลแล้วผมถึงออกแบบเครื่องประดับได้ คำถามต่างๆเริ่มประเดประดังเข้ามา ผมสะบัดหัวไล่คำถามพวกนั้นออกไป ถ้ามันเป็นอย่างที่ผมคิด ถ้านิลเป็นแรงบันดาลใจให้ผมออกแบบเครื่องประดับในครั้งนี้จริงๆผมจะใช้ ไพลิน ถึงชื่อของนิลจะเหมือนนิลที่เป็นอัญมณีสีดำแต่มันไม่ตรงกับชื่อคอลเลคชั่น ผมจึงเลือกไพลินที่เดิมมีชื่อเรียกว่านิลกาฬ และมีสีน้ำเงิน ทำให้นึกถึงความหนาวเย็นของหน้าหนาว อีกทั้งความหมายของสีนำเงินที่เป็นสีแห่งสมาธิ ความสงบ ความสุขุมนุ่มลึก การอุทิศตน และความจริงใจ นอกจากนั้นไพลินยังเป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์หรือความจริง ความมั่นคงและความแน่วแน่ ทุกอย่างช่างสอดคล้องกับความเป็น ‘นิล’ จนทำให้ผมไม่สามารถเลือกใช้อัญมณีอื่นได้เลย

อ้างอิงข้อมูลจาก
รู้จริงเรื่อง ไพลิน  (https://www.pembagems.com/article/12/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99-blue-sapphire) และ
พลังแห่งแสงสีของอัญมณี (http://www.vvygems.com/article-th-68231-%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%A1%E0%B8%93%E0%B8%B5.html)


มุมของนักเขียน
อยากจะขอโทษคนที่อ่านนิยายของเราค่ะที่มาลงช้า
เรื่องนี้คือเรื่องที่เราแต่งเพราะอารมณ์ชั่ววูบจริงๆดังนั้นมันเลยไม่มีพล็อตและไม่มีส่วนที่แต่งไว้ล่วงหน้า
ทุกอย่างคือแต่งสดค่ะ และบางทีที่เรามาลงช้าเพราะเราตัน คิดไม่ออกจริงๆ
ต้องขอโทษจริงๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 04-07-2017 06:39:40
พี่นิล..ค่าตัวแพง   :ruready
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่2 9/7/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 09-07-2017 23:46:03
คืนที่ 2

ผมไม่ได้ฝันถึงนิลอีกเลยตั้งแต่วันนั้น มาจนถึงตอนนี้ก็เกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว ผมก็เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าทำไมผมถึงต้องแคร์นิลถึงขนาดนี้ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรขนาดนั้นและคำตอบที่ผมได้คงเป็นเพราะเขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจนทำให้ผมสงสัยและเกิดสนใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับนิล ถึงผมจะไม่ได้งมงายกับเรื่องเหนือธรรมชาติแต่ผมก็ไม่ได้คิดว่าสิ่งพวกนั้นไม่มีอยู่จริง

วันนี้เป็นวันประกาศผลการออกแบบในครั้งนี้แล้วว่าแบบไหนที่จะได้นำไปผลิตเป็นเครื่องประดับออกขายจริงๆ การประกาศผลถูกจัดขึ้นใต้อาคารสำนักงานของบริษัทผม มีคนที่ส่งแบบและเพื่อนๆที่มาให้กำลังใจยืนรอผลอยู่มากมาย ผมคือหนึ่งในผู้คนพวกนั้น คณะกรรมการลงความเห็นกันว่าในเมื่อผมมีผลงานเข้าร่วมประกวดด้วย ดั้งนั้นผมจึงไม่ควรเป็นหนึ่งในคนที่คัดเลือกผู้ชนะและคณะกรรมการจะไม่อ่านชื่อผู้ออกแบบเพื่อป้องกันการลำเอียง

“การประกาศรางวัลในครั้งนี้จะไม่เรียงตามลำดับคะแนนที่ได้หรือความสวยงามใดๆทั้งสิ้น ถ้าหากชื่อของใครถูกประกาศขอให้เดินขึ้นมาบนเวทีด้วยนะคะ สำหรับผู้ชนะ20คนมีรายชื่อดังต่อไปนี้...” พนักงานต้อนรับที่รับบทเป็นพิธีกรในงานนี้กล่าวขึ้นพร้อมประกาศชื่อผู้ชนะทั้ง20คน ชื่อแรกๆส่วนมากเป็นของพนักงานในแผนกผม หากนับแล้วจาก20คนเป็นคนของผม8คน ที่เหลือเป็นชื่อของบุคคลภายนอก ทุกคนถูกขอให้กล่าวถึงงานของตน กล่าวถึงแรงบันดาลใจและที่มาของงาน ผมรู้สึกเสียใจนิดหน่อยที่ไม่ได้เป็นหนึ่งใน20และกำลังคิดว่าผมผิดพลาดตรงไหน

“คนที่ไม่มีชื่อในผู้ชนะยี่สิบคนไม่ต้องเสียใจนะคะ ทางกรรมการได้ตกลงกันแล้วว่าการแประกวดครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ได้เห็นไอเดียใหม่ๆมากมาย จึงจะมีการจัดการประกวดแบบนี้อีกและในครั้งหน้าอาจมีงานในส่วนของแผนกอื่นอีกด้วยค่ะ แต่ก่อนที่ทุกคนจะไปไหน คณะกรรมการชอบผลงานอีกชิ้นหนึ่งมากจึงจะมอบรางวัลพิเศษให้...” หลังจากที่เธอพูดจบ จอโปรเจคเตอร์ด้านหลังเธอก็ถูกเลื่อนลงมาและมีงานออกแบบงานหนึ่งถูกฉายขึ้นบนจอ ผู้คนทั้งหลายต่างมองงานนั้นด้วยความตะลึงพร้อมกับชื่นชมงานนั้นเพราะเป็นการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร เหมือนผลงานชิ้นนั้นสามารถสื่อความรู้สึกที่เปล่งออกมาเป็นคำพูดไม่ได้

“งานใครวะ โคตรเทพ”

“เออ เทพจริง สมัครเป็นลูกศิษย์เลยได้ไหมวะ”

“สวยมากอะแก ถ้าฉันมีเงินฉันต้องซื้อแน่ๆเลย”

“นั่นสิ อยากเห็นคนออกแบบจัง”

“ดูมีความหมายลึกซึ้งเนอะ”

เสียงที่กล่าวถึงงานนั้นทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมามองว่ามันจะสวยเหมือนที่คนอื่นเขาพูดกันหรือเปล่า แล้วผมก็ต้องผงะเมื่องานที่ผมเห็นอยู่คืองานที่ผมออกแบบมาด้วยตัวเอง

“เนื่องจากงานชิ้นนี้ไม่มีชื่อ ดิฉันขอเชิญคนที่รู้ตัวว่าเป็นเจ้าของแบบนี้ขึ้นมาบนเวทีด้วยค่ะ” ผมเดินไปที่เวทีด้วยความรู้สึกตกใจ แปลกใจและงงผสมกันไปแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นทุกอย่างก็ยังคงอยู่ภายใต้หน้ากากเย็นชาขอผม ทุกคนพอเห็นผมขึ้นเวทีก็ปรบมือให้ผมเสียงดังจนผมรู้สึกเขินเล็กน้อย พอมองไปทางพนักงานในแผนก ทุกคนก็ดูเหมือนจะอึ้งน้อยลงและยิ้มแสดงความยินดีให้ผมอย่างจริงใจ ผมขอบคุณพวกเขาโดยการก้มหัวให้เล็กน้อย

“เป็นงานของท่านประธารที่ควบตำแหน่งหัวหน้าผ่ายออกแบบนั่นเอง กรุณาอธิบายถึงแรงบันดาลใจของงานในครั้งนี้หน่อยค่ะ”

“งานชิ้นนี้ผมได้คนรู้จักคนหนึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ครับ เขาเป็นคนอ่อนน้อม สุขุม จริงจัง จริงใจและซื่อสัตย์ ผมฝันถึงเขาและคิดถึงความทรงจำที่เกี่ยวกับเขาก่อนจะออกแบบงานนี้ครับ”

“ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ สำหรับพนักงานที่ชนะ ทางบริษัทจะแบ่งเปอร์เซนจากยอดขายเครื่องประดับแต่ละชุดให้ ส่วนคนอื่นจะให้เริ่มฝึกงานในวันจันทร์ที่จะถึงนะคะ หากมีคำถามอะไรให้ติดต่อฝ่ายบุคคลทางซ้ายมือเลยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ทำให้งานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จนะคะ ขอบคุณค่ะ” ถือเป็นการปิดงานสำหรับผ่ายออกแบบ ลำดับต่อไปคือหน้าที่ของทางผ่ายจัดซื้อและผ่ายผลิตที่ต้องทำคอลเลคชั่นนี้ให้ออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน

ผมตัดสินใจแล้วว่าเงินรางวัลทั้งหมดที่ผมได้มาผมจะนำไปทำบุญบริจาคอุปกรณ์แพทย์ให้โรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกลและนำไปบริจาคให้สถานที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งผลบุญทั้งหมดผมจะขออุทิตให้นิล ถ้าไม่มีนิลงานครั้งนี้คงไม่ออกมาแบบนี้

“ผมยินดีด้วยนะครับคุณหนู ผมดีใจที่ผมสามารถช่วยคุณหนูได้นะครับ”

นิล ผมฝันถึงนิลอีกแล้วเหรอ?

“ถึงคุณหนูจะมองไม่เห็นแต่ผมอยู่กับคุณหนูตลอดนะครับ ผมจะปกป้องคุณหนูด้วยชีวิตของผม”

ทำอย่างไรผมถึงจะสื่อสารกับเขาได้ สรุปนิลเป็นอะไร ผี? วิญญาณ? หรือเป็นแค่ความฝันกันแน่

“ผมคงต้องไปแล้วนะครับ ขอโทษด้วยที่ผมอยู่นานกว่านี้ไม่ได้”

อย่าเพิ่งไปสินิล! รอก่อน! นิล!

“นิล!...ฝัน..อีกแล้วเหรอ” คราวนี้ผมตื่นมาในเวลาหกโมงครึ่ง ผมลุกขึ้นมาทำกิจวัตรประจำวันเหมือนทุกเช้าก่อนจะรีบลงไปหาแม่

“สวัสดีครับแม่” แม่เงยหน้าขึ้นมาจากจอแทปเล็ตก่อนจะรับไหว้ผมเหมือนทุกๆวัน

“แม่ครับ ธารมีเรื่องจะถาม” แม่ทำหน้าสงสัยนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้าเป็นการอนุญาตให้ผมถามได้ ผมนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆแม่และถามออกไป

“ถ้ามีใครมาเข้าฝันเรา มันมีความหมายอะไรหรือเปล่าครับแม่”

(ครึ่งแรก)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 10-07-2017 18:43:29
สรุปพี่นิลเป็น... o22
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 12-07-2017 11:06:05
อ่า.....จะมาต่อใช่ไหมคะ

จะรอนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 16-07-2017 23:34:45
คำขอโทษตัวโตๆจากนักเขียน
ช่วงนี้เรายุ่งๆ มีปัญหาในครอบครัวนิดหน่อยอีกอย่างคือ
เราไปต่างจังหวัดมา ญาติเราแข่งรถ เลยไม่ได้จับคอมเลย
สัญญาว่าจะมาลงให้ก่อนวันพุธค่ะ
อย่าเพิ่งทิ้งเรานะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 17-07-2017 01:41:04
คำขอโทษตัวโตๆจากนักเขียน
ช่วงนี้เรายุ่งๆ มีปัญหาในครอบครัวนิดหน่อยอีกอย่างคือ
เราไปต่างจังหวัดมา ญาติเราแข่งรถ เลยไม่ได้จับคอมเลย
สัญญาว่าจะมาลงให้ก่อนวันพุธค่ะ
อย่าเพิ่งทิ้งเรานะ


อย่างน้อยคนเขียนก็มีความเคลื่อนไหว

ขอบคุณที่มาส่งข่าว

ยังรอนะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่2 19/7/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 18-07-2017 23:58:09
(ครึ่งหลัง)

“ทำไมธารถึงถามอย่านั้นละลูก ธารฝันถึงใครงั้นเหรอ” แม่เอ่ยปากถามด้วยใบหน้าฉงน ผมคิดอยู่ครู่ใหญ่ว่าควรจะบอกแม่ดีหรือเปล่า แม่ก็ไม่ได้รีบร้อนเค้นเอาคำตอบจากผม หลังจากผ่านไปหลายนาทีผมก็ได้ข้อสรุปว่าผมควรบอกไปตามตรงเพราะผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไรเลย

“ธารฝันถึงนิลครับ แม่จำได้หรือเปล่า คนที่เคยเป็นบอดี้การ์ดของธารเมื่อประมาณสามปีก่อน คนที่หายตัวไปหนะครับ”

“จ๊ะ แม่ก็พอจำได้อยู่เหมือนกัน เด็กคนนั้นก็อยู่กับเรามานาน ไม่น่าเชื่อที่อยู่ดีๆจะหนีหายไปแบบนั้น ส่วนเรื่องที่ลูกถาม แม่ไม่รู้หรอกนะว่าคนอื่นเขาจะทำอย่างไรแต่ถ้าเป็นแม่แม่คงไปทำบุญให้เขา เพราะเราไม่รู้ว่าชีวิตความเป็นอยู่ของเขาในตอนนี้เป็นยังไง แม่เชื่อว่าถ้าเราทำบุญให้ ยังไงเขาก็จะได้รับผลบุญนั้นจ๊ะ” ผมพยักหน้าตอบรับคำของแม่

หลังจากบทสนทนาของแม่จบลง พวกพี่ๆก็มาพร้อมหน้าพร้อมตากันที่ห้องอาหาร พวกเราเริ่มต้นมื้ออาหารด้วยรอยิ้มแบบทุกวัน เราคุยกันทุกเรื่อง ทั้งเรื่องที่มีสาระและเรื่องที่ไม่มี ทุกๆอย่างทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารอบอุ่นสมกับคำว่า ‘ครอบครัว’

ผมออกจากบ้านและมุ่งตรงไปที่วัดประจำใกล้ๆบ้าน ก่อนหน้านี้ผมก็ได้โทรไปบอกที่บริษัทแล้วว่าวันนี้จะเข้าทำงานสาย การจราจรติดขัดไม่มากเพราะเส้นทางไปวัดนั้นสวนกับเส้นทางที่คนส่วนใหญ่ใช้เพื่อไปทำงาน เกือบๆสามสิบนาทีผมก็มาถึงจุดหมาย ในวัดนี้มีหลวงพ่อที่คุณพ่อคุณแม่เคารพนับถืออยู่รูปหนึ่ง จะว่าไปแล้วก็ถือว่ามีความสนิทสนมกันอยู่ในระดับหนึ่งเพราะผมก็ได้มากราบไหว้ท่านตั้งแต่เด็ก พระท่านก็จำพวกผมได้

“นมัสการครับหลวงลุง” ผมถามหาหลวงลุงกับเด็กวัด ก่อนจะตรงมาที่โบสถ์ตามที่เด็กวัดคนนั้นบอก

“โยมธารเองหรือ ไม่ค่อยได้เห็นหน้ากันเลย” เขากับหลวงลุงสนทนาธรรมและคุยกันเกี่ยวกับเรื่องสารทุกข์สุขดิบกันก่อนผมจะพูดถึงเรื่องทีตั้งใจจะทำ

“ผมอยากมาทำบุญครับหลวงลุง แต่วันนี้ไม่ได้เตรียมอะไรมาเพราะผมอยากมาถามหลวงลุงก่อนว่าในวัดขาดเหลืออะไร จะได้ถวายในสิ่งที่ได้ใช้ประโยชน์ได้จริงครับ” ผมตั้งใจมาทำบุญจริงๆแต่เพราะไม่ต้องการซื้อในสิ่งของที่ไม่จำเป็นมาถวายเลยเลือกที่จะมาถามที่วัดก่อน หากหลวงลุงไม่ตอบเขาก็คงต้องถามเด็กวัดเอา

“อาตมาและลูกวัดไม่ได้ขัดสนอะไร ของที่มีในวัดก็ยังมีใช้อยู่ โยมธาร...ที่โยมมาหาอาตมาในวันนี้เพราะโยมคนนั้นหรือเปล่า” หลวงลุงมองเลยเขาไปเหมือนกับเห็นใครอีกคนแต่พอเขาหันกลับไปกลับไม่มีใครอยู่ตรงนั้น สิ่งที่หลวงลุงพูด ทำให้เขาคิดถึงคำพูดของนิลในความฝัน ถึงคุณหนูจะมองไม่เห็นแต่ผมอยู่กับคุณหนูตลอดนะครับ

เขา...อยู่จริงๆหรือ

“หลวงลุง...นิลอยู่ที่นี่เหรอครับ”

“โยมไม่เห็น ใช่ว่าเขาไม่อยู่ กรรมใดใครก่อ เขาก็ต้องได้รับผลกรรมนั้น ทุกสิ่งถูกกำหนดด้วยผลบุญผลกรรม แต่หากเป็นคู่แท้ก็ย่อมไม่แคล้วคลาดจากกันหรอกโยมธาร” ผมคุยกับหลวงลุงอีกนิดหน่อยก่อนจะกราบลาท่าน สิ่งที่ท่านพูดยังเล่นวนอยู่ในห้วงความคิดของผม นิลอยู่กับผมจริงๆหรือ แล้วเขาเป็นอะไรกันแน่ ผีหรือเปล่า แล้วเรื่องคู่แท้อะไรนั่นอีก ผมสับสนไปหมด ไม่รู้ควรคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ก่อนที่ผมจะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ ผมก็เจอเด็กวัดคนเดิมจึงตัดสินใจเข้าไปถามว่าที่วัดขาดเหลืออะไรหรือเปล่า เขาก็บอกว่าไม่ได้ขาดอะไรเหมือนที่หลวงตาบอกผมจึงไม่ได้ซักอะไรไปมากกว่านั้น ก่อนจะขึ้นรถกลับผมบังเอิญเห็นคุณลุงคนหนึ่งกำลังให้อาหารหมาวัดอยู่ ซึ่งถ้าจะว่ากันตามตรงคุณลุงก็ไม่ได้ดูรำรวยหรือมีเงินมากมายอะไรผมจึงเดินเข้าไปคุยกับแก

“คุณลุงให้อาหารพวกมันทุดวันเลยเหรอครับ”

“ไม่หรอกครับคุณ วันไหนผมมีผมก็ให้ วันไหนไม่มีพวกมันก็ต้องอดไปกับผมนั่นแหละ ผมเป็นแค่คนจนๆธรรมดาคนหนึ่ง หาเช้ากินค่ำไม่มีเงินหาอะไรมาเลี้ยงเจ้าพวกนี้หรอก” คุณลุงตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะยังมีคนใจบุญแบบนี้หลงเหลืออยู่

“ถ้าลุงไม่รังเกียจ ช่วยรับเงินจำนวนนี้ได้ไหมครับ ถือว่าผมช่วยออกเงินหาข้าวหาน้ำให้พวกมัน” ผมยื่นแบงค์พันไปสองใบ

“โธ่พ่อหนุ่มลุงรับไม่ได้หรอก ลุงไม่ได้ทำหวังผลอะไรเลย แค่สงสารเจ้าพวกนี้” ลุงทำหน้าตกใจก่อนจะปฏิเสธที่จะรับเงินจากผม

“ผมอยากให้จริงๆครับ ผมอยากช่วยพวกมันเหมือนลุงแต่ผมก็ไม่มีเวลาที่จะมาหาอาหารให้พวกมัน อีกทั้งการเดินทางมาที่นี่ก็ไม่ได้สะดวก เงินที่ผมให้ลุงก็เอาไปซื้ออาหารให้พวกมันถือว่าช่วยผมทำบุญไงครับ รบไว้เถอะ” ผมพยายามพูดโน้มน้าวให้ลุงรับเงิน เราพูดคุยกันตั้งนานสองนานกว่าลุงจะรับเงินผมไปแล้วให้คำมั่นว่าจะใช้เงินที่ผมให้ไปดูแลเจ้าพวกนี้อย่างเดียว ไม่เอาไปใช้เอง

ผมมองเวลาเห็นว่าสายมากแล้วเลยรีบเข้าไปที่บริษัทเพื่อเคลียร์งานและส่งใบลาของวันเสาร์นี้ ผมตั้งใจจะไปซื้อของทำสังฆทานอุทิตส่วนบุญส่วนกุศลให้นิล

มุมของนักเขียน
ขอบคุณคนที่ติดตามผลงานของเรานะ ดีใจมากๆเลย
นี่เป็นนิยาย(เรื่องสั้น)เรื่องแรกที่เป็นชิ้นเป็นอันของเราเลย
เคยคิดจะแต่งนิยายตั้งแต่อยู่ป.6 ตอนนี้จะม.5อยู่แล้ว 5555
ถึงจะมาต่อช้าแต่รับรองว่าไม่ทิ้งแน่นอน+จะพยายามแต่งให้จบก่อนเปิดเทอม(ปลายเดือน8)
มีอะไรก็ติชมกันได้นะ ขอบคุณจริงๆที่ติดตาม
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 22-07-2017 00:22:55
มุมของนักเขียน

สำหรับคนที่รอ
เดี๋ยวเราจะพยายามมาลงให้คืนวันอาทิตย์นะ
บอกตามตรงคือหัวเราวิ่งตอนกลางคืน ช่วงนี้เราก็แบกคอมไปทุกที่นะแต่แต่งไม่ออกเลย
สมองชอบมาแล่นหลังสี่ทุ่มอะะ
จริงๆตั้งใจจะมาลงคืนพรุ่งนี้แต่แพลนของพ่อกับแม่ยังไม่นิ่งไม่รู้จะว่างหรือเปล่า

แล้วเจอกันคืนวันอาทิตย์(เช้าวันจันทร์)นะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 22-07-2017 05:45:56
จัดพี่นิลเข้าหมวด #พระเอกค่าตัวแพง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 22-07-2017 06:05:44
คู่แท้....งั้นหรอ

จะออกม่เป็นแบบไหนกันนะ

รอจ้า.  :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 22-07-2017 06:06:47
คู่แท้....งั้นหรอ

จะออกมาเป็นแบบไหนกันนะ

รอจ้า.  :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่3 24/7/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 24-07-2017 02:32:15
คืนที่ 3

ผมตื่นขึ้นมาในเช้าวันอาทิตย์ ทำทุกๆอย่างเหมือนทุกวันแต่สิ่งที่แปลกออกไปคงเป็นสิ่งที่จะทำในวันนี้ ผมออกจากบ้านและตรงไปที่วัดเพื่อไปหาหลวงลุง เมื่อวานผมได้ไปเลือกซื้อของที่ห้าง โดยสิ่งที่ผมซื้อไว้ก็จะมี ยาสามัญประจำบ้าน ใบมีดโกน แชมพู ยาสีฟันแปรงสีฟัน แป้ง ผ้าขนหนู ทิชชู่ รองเท้า เครื่องเขียน ผ้าไตรจีวรและกล่องบรรจุของ อย่างละเก้าชุด ส่วนน้ำยาเช็ดพื้น อุปกรณ์ทำความสะอาดอื่นๆและเครื่องปรุงที่ใช้ในการประกอบอาหาร อีกหนึ่งชุด ซึ่งกว่าจะได้ของทั้งหมดก็กินเวลาไปครึ่งวัน หลังจากนั้นผมก็ขนทุกอย่างกลับไปจัดที่บ้านและสั่งแม่บ้านให้ทำอาหารให้ผมนำมาถวายพระในวันนี้

พอถึงวัดผมก็พยายามจะย้ายสังฆทานจากหลังรถขึ้นไปที่โบสถ์ แต่ด้วยความที่ของค่อนข้างเยอะและหนักจึงทำให้ผมไม่สามารถย้ายทุกสิ่งทุกอย่างในครั้งเดียวได้ ผมทยอยย้ายของไปทีละสามสี่ชิ้น พอพบหลวงลุง หลวงลุงเลยเรียกเด็กวัดให้มาช่วยผมขนของ พอทุกอย่างถูกเคลื่อนย้ายเสร็จสิ้นแล้ว ผมก็มาทำความเคารพหลวงลุงอีกที

“นมัสการครับหลวงลุง วันนี้ผมจะมาถวายสังฆทานและถวายภัตตาหารเช้าตามที่บอกไว้เมื่อครั้งที่แล้วที่มาครับ”

“อย่างนั้นโยมธารก็อยู่รอถวายภัตตาหารพร้อมกับคนอื่นเลยนะ ส่วนสังฆทานค่อยถวายหลังจากถวายภัตตาหารนะ” หลวงลุงตอบ ผมก็เข้าใจว่าผมมาเวลาฉันของท่านพอดีเลยยังไม่สามารถถวายสังฆทานได้

หลังจากคุยกับผมเสร็จ หลวงลุงก็กล่าวคำให้รับไตรสรณคมน์ สมาทานศีลและกล่าวคำถวายภัตตาหาร ผมพูดตามท่านก่อนจะถวายภัตตาหารพร้อมๆกับคนอื่น หลวงลุงฉันภัตตาหารกับพระลูกวัดรูปอื่นๆ เมื่อฉันเสร็จท่านก็กล่าวนำให้อุทิศส่วนบุญและสวดอนุโมทนาคาถา หลังจากจบการถวายอาหาร คนอื่นๆก็กราบลาเพื่อกลับบ้าน

“โยมธารไปจุดธูปเทียนหน้าพระประธารก่อนเถอะ” ผมทำตามที่ท่านบอกก่อนจะกราบพระพุทธรูปและกลับมานั่งหน้าหลวงลุงและพระลูกวัด ท่านและลูกวัดก็กล่าวอาราธนาศีล กล่าวไตรสรณคมน์ กล่าวคำสมาทานศีล 5 กล่าวอานิสงส์ของศีล กล่าวคำถวาย พอกล่าวจบผมก็ประเคนของทั้งสิบชุด หลังจากนั้นผมก็กรวดน้ำเมื่อพระเริ่มสวด ผมตั้งใจอุทิศบุญกุศลจากการถวายสังฆทานครั้งนี้ แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย เทวดาทั้งหลาย และนายทัตเทพ ภัคดี(นิล)* ผมเทน้ำจนหมดและประนมมือรับพรต่อจนจบ
(*จริงๆอุทิศให้ได้เฉพาะผู้ที่ล่วงลับไปแล้วแต่พระเอกของเรา...ก็ไม่รู้สินะ)

“หลวงลุงครับของที่ถวายไปมีชุดหนึ่งที่ไม่เหมือนชุดอื่น ในกล่องมีพวกน้ำยาเช็ดพื้น อุปกรณ์ทำความสะอาดอื่นๆและเครื่องปรุงที่ใช้ในการประกอบอาหาร ผมอยากให้หลวงลุงแยกออกหนะครับ ผมกลัวเครื่องปรุงมีกลิ่น” หลวงลุงพยักหน้ารับ

“โยมธารมีอะไรจะพูดกับอาตมาอีกไหม” หลวงลุงถามหลังจากที่พระลูกวัดออกจากโบสถ์ไปหมดแล้ว

“คือครั้งที่แล้วหลวงลุงพูดเหมือนกับเห็นนิล ผมเลยอยากถามว่าทำไมเขาถึง...” ผมไม่สามารถพูดต่อให้จบประโยคได้ เพราะถ้านิลตายทำไมไม่มีศพ แต่ถ้ายังไม่ตายแล้วทำไมหลวงลุงถึงเห็นนิลแต่เขาไม่เห็น

“ทุกสิ่งย่อมเป็นไปตามเวร ตามกรรม โยมธาร ในชาติก่อนเขาทำอะไรไว้เขาก็ต้องได้รับผลจากการกระทำนั้น”

“ครับหลวงลุง อย่างนั้นผมกราบลานะครับ” ผมเดินออกมาจากโบสถ์ หวังอยู่ลึกๆว่าวันนี้ผมคงฝันถึงนิล มันเป็นเหมือนทางเดียวที่ผมสามารถสื่อสารกับเขาได้

พอเดินมาถึงรถ เจ้าหมาหลายตัวที่ผมเคยเจอครั้งที่แล้วก็วิ่งมาหาเหมือนจำได้ ผมไม่เห็นคุณลุงอยู่ใกล้ๆเลยคิดไปว่าพวกมันอาจจะหิว ผมเลยไปซื้อลูกชิ้นปิ้งกับตับย่างมาอย่างหลายไม้จากตลาดตรงข้ามวัด พอถึงวัดผมนึกว่าพอพวกมันเห็นอาหารแล้วจะกระโจนใส่ผมเสียอีก แต่จริงๆแล้วพวกมันก็แค่แลบลิ้นทำหน้าดีใจพร้อมกับส่ายหางรัวๆ ผมพาพวกมันเดินไปที่ที่จะไม่เกะกะคนอื่นแล้วเริ่มให้อาหารโดยดึงออกจากไม้แล้ววางไว้บนมือ พวกมันแย่งกันบ้างแบ่งกันบ้างเป็นภาพที่น่ารักดี

อยู่ๆผมก็คิดไปถึงนิล จำได้ว่าบ้านเราเคยเลี้ยงหมาอยู่ตัวหนึ่ง พวกแม่บ้านบอกว่ามันหลงเข้ามาในบ้านนิลเลยขออนุญาตเลี้ยงมันไว้ ถ้านิลอยู่กับผมตอนนี้เขาจะเล่นกับหมาพวกนี้กับผมไหม ถ้าวันหนึ่งนิลกลับมาผมจะพาเขามาเจอเจ้าพวกนี้ ผมสั่นหัวเล็กน้อยเพื่อไล่ภาพนิลกับเจ้าข้าวสวยและความคิดบ้าบอออกไป ผมปัดฝุ่นออกเล็กน้อยก่อนจะบอกลาและขับรถกลับบ้าน

“คุณธารไปไหมมาคะ ทำไมกลับมามอมแมมอย่างนั้น” ป้าแม่บ้านถามทันทีที่เห็นผมในสภาพเสื้อยับๆที่มีรอยเปื้อนฝุ่น เปื้อนดินเป็นหย่อมๆ

“พอดีผมไปเล่นกับหมาที่วัดของหลวงลุงหนะครับเลยมอมแมมไปหน่อย เดี๋ยวผมก็จะขึ้นไปอาบน้ำแล้วหละ” ผมตอบพร้อมบอกลาป้าแม่บ้านเพื่อไปอาบน้ำสระผมและพักผ่อน
.
.
ในตอนเย็นผมก็ลงไปกินข้าวกับครอบครัวแต่ไม่ได้นั่งคุยกันนานเท่าทุกคืนเพราะผมต้องการนอนให้เร็วกว่าปกติ ถึงมันอาจจะดูบ้าไปสักหน่อยแต่ผมก็หวังว่าการที่ผมได้นอนนานขึ้น ผมอาจได้คุยกับนิลมากกว่าเดิม ผมล้มตัวลงบนเตียง ถ้าหากนิลอยู่กับผมจริงๆ เขาคงได้ยิน

“อยากเจอนาย”

ผมลืมตาขึ้นทุกๆอย่างเป็นสีขาวโพลนหมด ผมคงฝันอยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมลืมตาได้ในความฝัน พอนึกขึ้นได้อย่างนั้นเลยลองเรียกดูเพื่อจะได้เจอกันจริงๆ

“นิล อยู่แถวนี้หรือเปล่า” ผมเดินไปเรื่อยๆก่อนจะได้ยินเสียงของเขา

“คุณหนู คุณหนูครับ ผมขอบคุณนะครับที่คุณหนูทำเพื่อผมขนาดนี้ ผมซาบซึ้งในน้ำใจของคุณหนูเหลือเกิน” ผมรีบหันหาว่าเสียงของเขามาจากไหน แต่ก็หาไม่เจอ

“นิลอยู่ไหน ทำไมฉันไม่เห็นนาย”

“คุณหนูอยากเจอผมหรือ ถ้าอย่างนั้นช่วยปิดตาแล้วนึกถึงผมนะครับ...ลืมตาได้แล้วครับ” ผมทำตามที่นิลบอก

“นิล นิลจริงๆด้วย” ผมเบิกตากว้า ขยี้ตานิดหน่อยเพื่อความมั่นใจว่าผมไม่ได้ตาฝาดไป

“หึหึ ก็ต้องเป็นผมจริงๆสิครับ จะเป็นใครได้อีก” นิลหัวเราะนิดหน่อยกับอาการที่ผมแสดงออกไป

“นายหายไปไหนมา ทำไมถึงเป็นแบบนี้”

“เรื่องนี้มันอธิบายยากนะครับ ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี เอาเป็นว่าตอนนี้ผมไม่มีกายหยาบ มีเพียงดวงจิต ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าผมตายหรือยัง ที่คุณหนูถามว่าผมหายไปไหนมา จริงๆแล้วคือ ผมคลับคล้ายคลับคลาว่าผมได้คุยกับใครสักคนก่อนที่กายหยาบจะหายไป เราต่อรองอะไรสักอย่างซึ่งผมก็ไม่แน่ใจ จำได้แค่ว่าวันสุดท้ายผมรู้ว่าผมต้องไป หลังจากวันนั้นความทรงจะหลายๆอย่างก็หายไป ผมใช้เวลาสามปีในการค้นหาตัวตนของผม ค้นหาเป้าหมายของการมีอยู่ของผม แล้วผมก็ได้พบคุณหนูของผม” นิลเอื้อมมือเหมือนจะจับหน้าผมแต่ก็ชะงักไปแล้วทำท่าจะดึงมือกลับแต่ไม่ทันผมที่กุมมือของเขามาวางไว้ที่แก้มของผมพร้อมเอียงหน้ารับสัมผัสนั้น

“คุณหนู...” นิลพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ พยายามจะดึงมืออก

“ฉันคิดถึงนิล ฉันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะทำอะไรก็คิดถึงนาย ฉันไม่เข้าใจนิลความรู้สึกนี้มันคืออะไร...รัก...หรือเปล่า” ผมสารภาพออกไป คิดว่าไม่รู้จะเก็บเอาไว้ทำไมและกลัว.. กลัวว่าจะไม่ได้พูดออกไป

“คุณหนู ผมไม่อาจเอื้อม...”

“ตลอดสามปี ฉันคิดถึงนิลตลอดเลย รู้ไหมบอร์ดี้การ์ดคนใหม่ยิ่งทำให้ฉันคิดถึงนาย ขนาดตอนทำงานยังคิดถึง ฉันคิดว่าฉันคงรู้สึกตัวช้า การที่นายหายไปมันเลยไปกระตุ้นต่อมอะไรสักอย่างที่ทำให้ฉันรู้ว่าฉันรัก” ผมน้ำตาไหล แค่เพียงคิดว่านี่คือฝันและผมต้องตื่น ต้องบอกลากับเขา

“ผมก็รักคุณหนูครับ อย่าร้องไห้เลยครับ” นิลใช้นิ้วปาดน้ำตาให้ผมก่อนจะพูดอีกประโยคหนึ่งขึ้นมา
“ผมต้องไปแล้ว”

“ไม่! นิล! อย่าเพิ่งไปนะนิล ได้โปรด” ผมตกใจในคำพูดของนิล ผมยังไม่อยากให้เขาไป เราเพิ่งเจอกันแป๊บเดียวเอง ด้วยความคิดตื้นๆ ผมถลาเข้าไปกอดนิลไว้ คิดว่ามันอาจจะทำให้เขาไม่หายไป

“ผมขอโทษจริงๆครับแต่ผมต้องไปแล้ว” นิลพยายามจะแกะมือผมออกแต่ผมไม่ยอมปล่อย ไม่อยากอยู่ห่างจากเขาอีกแล้ว ผมไม่สนใจฐานะเจ้านายกับลูกจ้าง ตอนนี้มีเพียงผมกับคนที่ผมรักเท่านั้น

“ต้องทำยังไงเราถึงจะเจอกัน” จากที่นิลพูดไม่ว่าผมจะอ้อนวอนอย่างไรเขาก็คงอยู่ต่อไม่ได้ สิ่งที่ผมนึกออกตอนนี้ก็มีเพียงต้องทำอะไร วิธีไหนที่จะทำให้ผมกับนิลได้พบเจอกันอีกครั้ง

“พลังของผมทำให้เราได้เจอกัน มันเป็นตัวกำหนดเวลา ถ้าให้ผมเดาคงเป็นเพราะผลบุญที่คุณหนูอุทิตให้ผม” คำตอบของนิลทำให้ผมนึกถึงหลวงพ่อ ผมอยากปรึกษากับท่านว่ามันจริงตามที่นิลคิดหรือเปล่า ถ้าหากว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ผมจะตื่นมาใส่บาตรทุกวันก่อนไปทำงาน ผมตั้งใจอย่างนั้น

“พรุ่งนี้เราจะเจอกันอีกไหม” ร่างของนิลค่อยๆจางไป เหมือนเขาจะค่อยๆโปร่งแสงมากขึ้น ผมจึงตัดสินใจถามคำถามสุดท้ายออกไป

“ผมจะพยายามครับ” คำพูดสุดท้ายของนิลไม่ใช่คำสัญญาว่าเราจะเจอกันพรุ่งนี้อย่างที่ผมอยากให้เป็นแต่คำว่าพยายามของนิลก็ทำให้ผมรู้สึกดี ถึงผมกับนิลอาจไม่ได้เจอกันแต่ผมก็ได้รู้ว่านิลได้พยายามแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างค่อยๆหายไปและตัวผมที่ค่อยรู้สึกตัวขึ้นมาในเช้าวันใหม่



มุมของนักเขียน
มาลงให้เลทไปจากที่พูดไว้นิดหน่อยหวังว่าจะไม่โกรธกันนะคะ
ตอนนี้พี่นิลมีบทมากขึ้นแล้วนะ รู้แล้วด้วยว่าตลอดสามปีพี่นิลไปไหนมา แต่ก็ยังสรุปไม่ได้อยู่ดีว่าพี่นิลเป็นอะไร
พี่นิลจะกลับมาเป็นคนอีกครั้งหรือเปล่า? ความรักครั้งนี้จะสมหวังไหม?
ยังไงก็ช่วยติดตามกันต่อไปนะคะ(ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขอโทษด้วยนะคะ)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่3 24/7/2017
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 24-07-2017 05:48:46
เอาใจช่วยพระเอกค่าตัวแพง  :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่3 24/7/2017
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 24-07-2017 15:19:33
+1 เจาะไข่ซะ...อิอิ

รอต่อไป...แยากรู้เร็วๆจัง

ปล.ขอบคุณที่เพิ่มวันที่ให้.  :mew3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่3 24/7/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 27-07-2017 01:54:42
คืนที่ 4 (25%)

หลังจากที่นิลต้องไป ผมก็ตื่นขึ้นมาในเวลาตีห้ากว่าๆ เห็นว่าถ้าผมจะใส่บาตรก็ควรตื่นได้แล้วเลยไม่ล้มตัวลงนอนต่อเหมือนทุกวัน เช้านี้ผมทำทุกอย่างรวดเร็วกว่าปกตินิดหน่อยเพราะต้องเผื่อเวลาไปซื้ออาหารใส่บาตร จะให้แม่บ้านทำตอนนี้ก็คงไม่ทันพระบิณฑบาต

“คุณธารจะไปไหนแต่เช้าคะ”  คุณป้าแม่บ้านถามขึ้นเมื่อเห็นแต่งตัวเรียบร้อย ถือกุญแจรถ พร้อมที่จะออกไปข้างนอก

“ผมจะไปซื้อของใส่บาตรที่ตลาดครับ เมื่อวานไม่ได้สั่งแม่บ้านให้ทำอาหารไว้ ยังไงผมก็ฝากป้านิ่มบอกคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะครับ ว่าผมจะกลับมากินมื้อเช้าด้วย ไปก่อนนะครับ” ผมพูดรัวๆก่อนจะรีบเดินไปที่รถได้ยินป้านิ่มตะโกนไล่หลังมาแว่วๆว่าจะบอกคุณท่านให้

ในที่สุดผมก็ได้ตักบาตรตามที่ตั้งใจไว้ทั้งๆที่ไม่ค่อยรู้ว่าจะไปใส่ที่ไหนดีเพราะผมก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรอย่างนี้ แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดี คงต้องขอบคุณป้าร้านขายข้าวแกงที่ช่วยบอกเวลาที่พระจะบิณฑบาตและผมควรจะไปรอใส่บาตรที่ไหน เมื่อได้ทำสิ่งที่ตั้งใจแล้วผมก็กลับไปกรวดน้ำอุทิตส่วนบุญส่วนกุศลให้นิล

“อรุณสวัสดิ์ครับ” ผมยกมือไหว้คุณพ่อ คุณแม่และพวกพี่ๆทั้งสาม ทุกคนก็ยกมือรับไหว้ผม

“ทำไมเราถึงออกไปตักบาตรแต่เช้า มีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า” คำถามของพี่ฟ้าทำให้จุดสนใจของทุกคนมารวมไว้ที่ผม ก็คงไม่แปลกที่พี่ฟ้าจะถามเพราะตั้งแต่เด็กถ้าไม่ใช่วันสำคัญหรือวันเกิดใครในครอบครัว ผมก็คงไม่ออกไปใส่บาตรอย่างนี้

“ธาร..ไปใส่บาตรให้นิลอะ พี่ฟ้าจำได้หรือเปล่า บอดี้การ์ดคนก่อนของธาร” พี่ฟ้านั่งนึกสักพักก่อนที่จะพยักหน้าบอกว่าจำได้

“คนที่หายไปใช่ไหม แล้วทำไมเราถึงต้องไปทำบุญให้เขาหละ” คราวนี้เป็นพี่ภูผาที่ถามออกมา

“พอดีธารฝันถึงเขาเลยอยากทำบุญไปให้” พอผมพูดจบทุกคนก็เหมือนหมดความสนใจในเรื่องนี้ไปแล้วเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นกันจนจบมื้ออาหาร

หลายวันผ่านไปผมเริ่มชินกับการตื่นเช้าไปตักบาตรโดยมีเด็กที่บ้านเตรียมหุงข้าวและทำกับข้าวจัดให้เป็นชุดๆเพื่อที่ผมจะได้ไม่ต้องไปซื้ออาหารที่ตลาดทุกเช้า จะว่าไปที่หน้าบ้านก็มีพระเดินบิณฑบาตผมเลยไม่ต้องลำบากขับรถวนไปวนมาเพิ่มมลพิษและเปลืองน้ำมัน

หลังจากคืนที่ผมได้เห็นนิล ผมก็ฝันถึงเขาบ้างเป็นบางวันแต่ไม่ได้เจอหน้าเหมือนวันนั้น ผมคิดไว้ว่าจะไปหาหลวงลุงเพื่อถามเรื่องนิลในวันพรุ่งนี้ ผมอยากรู้ว่าผมต้องทำยังไงผมถึงจะได้เจอนิล ทั้งในความฝันและในความเป็นจริง

มุมของนักเขียน
เดี๋ยวเราจะไปต่างประเทศอาจจะไม่ได้มาอัพให้
เอามาลงให้ก่อน25%เดี๋ยวไปแต่งต่อที่ต่างประเทศแล้วจะกลับมาลงให้วันจันทร์-วันอังคารนะ
ถ้าคืนนี้(27/7/2017)ไม่ยุ่งมากจะพยายามแต่งต่อแล้วจะเอามาลงให้นะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่4 25% 27/7/2017
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 27-07-2017 02:37:39
ขอบคุณที่มาต่อเหมือนกันจ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่4 25% 27/7/2017
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 27-07-2017 06:11:34
รอจ้า..Nice trip นะครัช  :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่4 25% 27/7/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 02-08-2017 04:07:12
ขอโทษทุกคนที่รอไว้ ณ จุดนี้
ขอโทษที่ไม่ได้ลงตามวันที่บอกไว้
บอกตามตรงว่านักเขียนมีความตันแต่งไม่ออก
นั่งเขียนตั้งแต่สี่ทุ่มตอนนี้ยังไม่เสร็จเลย
รอหน่อยนะ ไม่เกินเย็นวันนี้จริงๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่4 25% 27/7/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 02-08-2017 05:03:26
คืนที่ 4 (75%)

“นมัสการครับหลวงลุง”

“โยมธาร มีอะไรถึงมาหาอาตมา”

“ผมมาปรึกษาหลวงลุงเรื่องนิลครับ ... ผมอยากเจอเขา” หลวงลุงมองไปด้านหลังผม หลับตาลงและนั่งสมาธิ ผมไม่รู้ว่าหลวงลุงกำลังทำอะไร ถ้าให้ผมเดา หลวงลุงอาจจะกำลังคุยกับนิลก็ได้

“นมัสการครับหลวงพ่อ” ผมโน้มตัวลงเพื่อกราบหลวงพ่ออีกครั้ง เรายังอยู่ในตัวโบสถ์เหมือนเดิม หลวงพ่อก็ยังคงนั่งสมาธิเหมือนที่คุณหนูเห็นอยู่ ส่วนหลวงพ่อที่ผมกราบไหว้อยู่ตอนนี้ เป็นดวงจิตที่หลวงพ่อแยกออกจากร่างหรือที่เรียกง่ายๆว่า ถอดจิต

“โยมนิล โยมจำได้หรือเปล่า เรื่องเมื่อสามปีก่อนนั่น” หลวงพ่อถามขึ้น

“ผมจำได้แค่รางๆครับ” ผมตอบไปตามความจริง สามปีก็เป็นเวลาที่นานพอสมควร หลังจากวันนั้นความทรงจำผมยังหายไปอีก คงไม่แปลกที่ผมจะลืม

“ถ้าอย่างนั้นอาตมาจะเล่าให้ฟัง” หลวงพ่อลืมตาขึ้นเมื่อพูดจบ

ย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน

“โยมธาร โยมธาร ตื่นเถอะ” ผมลืมตาขึ้นมา ข้างหน้ามีพระประธารองค์ใหญ่และมีหลวงพ่อนั่งสมาธิอยู่เบื้องหน้าพระประธาร

“หลวงพ่อ นมัสการครับ” ผมนั่งพับเพียบก้มตัวลงกราบหลวงพ่อ

“อาตมามาเตือน เวรกรรมที่โยมทำไว้ในชาติก่อนจะทำให้โยมพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก” หลวงพ่อพูดขึ้นโดยที่ยังคงนั่งสมาธิอยู่

“ผมไม่เข้าใจ ที่หลวงพ่อพูดหมายความว่าอะไร” ผมถามออกไปด้วยความไม่เข้าใจ

“เมื่อใดสิ่งที่ผิดได้ถูกแก้ เมื่อเจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ เมื่อนั้นกายหยาบจงคืน อุปสรรคจงหายไป” หลวงพ่อพูดต่อไป ไม่ได้ตอบคำถามของผม

“กายหยาบจงคืน หลวงพ่อหมายความว่าอย่างไรครับ ร่างของผมจะหายไปไหน” ผมยังคงถามต่อไป นี่มันเรื่องอะไรกัน กรรมเก่าอะไร สิ่งที่หลวงพ่อพูดทำให้ผมงงเหมือนถูกอะไรฝาดใส่หัว แล้วเรื่องบุคคลอันเป็นที่รักอีก พ่อกับแม่ก็ไม่อยู่แล้ว เป็นไปได้ไหมว่าคนคนนั้นจะเป็นคุณหนู

“โยมเหลือเพียงหนึ่งวันเท่านั้น ยี่สิบสี่ชั่วโมงหลังตื่นนอน อาตมาคงบอกได้แค่นี้ ขอให้พระคุ้มครอง” หลวงพ่อพูดประโยคนั้นก่อนที่ผมจะลืมตาตื่นขึ้นมาจริงๆ ถ้าผมไม่ได้ตีความอะไรผิด ผมคงเหลือเวลาแค่ยี่สิบสี่ชั่วโมงเพื่อที่จะบอกรักคุณหนู

เหตุการณ์ต่างๆไหลเข้ามาในสมองเหมือนหนังเก่าถูกนำมาฉายอีกรอบ ที่หลวงพ่อรื้อฟื้นความทรงจำของผมในเรื่องนี้คงเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณหนูมาปรึกษา เจ้ากรรมนายเวรต้องอโหสิกรรมให้ผม ผมถึงจะได้ร่างกายของผมคืน แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าใครเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผม แล้วกรรมที่ผมไปก่อไว้ในชาติก่อนคืออะไรผมก็ยังไม่รู้ เส้นทางของผมกับคุณหนูมันเหมือนจะมีความหวัง ผมรู้ว่าผมจะต้องทำอะไร แต่ความหวังนั้นก็ดูเรือนรางเหลือเกิน เพราะผมไม่รู้เลยจริงๆว่าผมจะต้องเริ่มแก้ปมจากตรงไหน มันเหมือนมีเส้นทางแต่ทุกๆเส้นทางก็เหมือนจะเป็นทางตันที่ไร้ทางออก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นผมก็ต้องพยายาม เพื่อคนที่ผมรัก

“หลวงลุง สรุปผมต้องทำอะไรบ้างครับ ผมอยากเจอนิลจริงๆ” ผมถามเมื่อเห็นหลวงลุงลืมตาขึ้น

“อาตมาเคยบอกโยมแล้วว่าทุกสิ่งย่อมเป็นไปตามกรรม ทุกสิ่งใช่ว่าเราจะกำหนดเองได้ จงทำหน้าที่ของโยมให้ดีที่สุดก็พอ” หลวงลุงหมายถึงอะไร ผมช่วยอะไรนิลไม่ได้ใช่ไหม นั่นคือที่หลวงลุงกำลังบอกเหรอ ผมกราบลาท่านและตรงกลับบ้าน

หน้าที่ที่หลวงลุงพูดถึงคืออะไรเป็นคนดี เป็นลูกที่ดี เป็นหัวหน้าที่ดี เป็นคนดีของสังคมหรืออะไร หรือจริงๆแล้วหลวงลุงหมายถึงสิ่งที่ผมสามารถทำได้ ที่หลวงลุงไม่ตอบอาจเป็นเพราะผมทำอย่างอื่นไม่ได้ ผมแค่ต้องทำสิ่งที่ผมทำให้ดีที่สุดอาจหมายถึงผมที่ต้องทำบุญให้นิลมากขึ้นเหรอ ผมคิดไม่ตกเรื่องของนิลจนเผลอหลับไป

มุมของนักเขียน

เดี๋ยวเอาอีก25%มาลงให้ตอนบ่ายๆนะ
เดี๋ยวเราไปญี่ปุ่นคืนนี้อาจจะหายไปอีกสี่ห้าวัน(ช่วงนี้ชีพจรลงเท้า5555)
ช่วยรอกันด้วยนะ
ขอโทษอีกครั้งที่ผิดคำพูดทีว่าจะมาลงให้จันทร์-อังคาร
ช่วยติดตามกันต่อไปด้วยนะ
ปล.ขอบคุณสำหรับcommentนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่4 75% 2/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 02-08-2017 10:08:17
ซับซ้อนกว่าที่คิดแฮะ... :m28: :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่4 75% 2/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-08-2017 13:10:03
ใครเป็นเจ้ากรรมนายเวรนิล  :katai1:

คุณหนู หรือเปล่า  :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่4 75% 2/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 02-08-2017 23:12:14
เรากำลังจะไปญี่ปุ่น ไม่ได้เอาคอมมา
กำลังลองใช้wordใน โทรศัพท์อยู่
ขอโทษสำหรับความล่าช้า
จะพยายามมาลงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้นะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี แจ้งข่าว 2/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 03-08-2017 00:36:18
ไม่เป็นไรจ้า. ยังไงก็รอ

ขอแค่ไม่ทิ้งกันพอ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี แจ้งข่าว 2/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 04-08-2017 12:25:50
คืนที่4 100%

“คุณหนูครับ ผมมาหาแล้ว ตื่นก่อนเถอะ” เสียงที่อบอุ่นพร้อมสัมผัสที่อ่อนโยนบนใบหน้าปลุกให้ผมตื่น
 
“นิล ได้เห็นหน้าแล้ว วันนี้นิลได้คุยอะไรกับหลวงลุงหรือเปล่า” ผมคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ถามออกไปด้วยความอยากรู้
 
“ครับหลวงพ่อมาเตือนความทรงจำนิดหน่อย ท่านบอกผมเกี่ยวกับเรื่องที่คุณหนูถาม”
 
“ท่านบอกอะไร”
 
“ผม... ไม่บอกได้ไหมครับคุณหนู” พอได้ยินประโยคนี้ ผมก็ชะงัก นิลไม่เคยมีอะไรปิดบังผม ผมถามอะไรเขาก็ตอบเสมอ ผมเงียบไปพักหนึ่งแล้วก็คิดได้ว่า ถ้าหลวงลุงอยากให้ผมรู้ท่านก็คงบอกต่อหน้าผมแล้ว ไม่ต้องไปคุยกับนิลตามลำพัง
 
“คุณหนูไม่โกรธผมใช่ไหมครับ” ผมส่ายหน้า
 
“ฉันเข้าใจ แต่ถ้ามีอะไรที่ฉันสามารถช่วยได้ก็รีบๆบอกฉันนะ”
 
“ครับคุณหนู ว่าแต่งานออกแบบของคุณหนูจะวางขายเมื่อไหร่เหรอ” นิลถาม ผมสงสัยนิดหน่อยแต่ก็ตอบออกไป
 
“เห็นบอกว่าจะเป็นช่วงกลางเดือนตุลา นี่ก็กันยาแล้ว คงอีกไม่กี่อาทิตย์” นิลพยักหน้ารับรู้ ความเงียบเข้าคลุมพื้นที่ ถึงจะเงียบไม่มีบทสนทนา แต่ก็ไม่ได้มีความอึดอัดในความเงียบนั้น ทั้งผมทั้งนิลมองหน้ากัน มันแปลกหรือเปล่าที่ผมรู้สึกว่าหน้าของพวกเราใกล้กัน
 
รู้ตัวอีกทีริมฝีปากของผมและของนิลก็บดเบียดกันแล้ว ผมปิดตาลงเพื่อที่จะเก็บสัมผัสของนิลไว้

จูบแรกของเรา

กลีบปากของเราบดเบียดกันอย่างเร่าร้อนถึงนี่จะเป็นเพียงฝัน มันก็คงเป็นฝันที่ดีที่สุดของผม นิลถอนปากออก กำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรสักอย่างแต่ผมไม่ยอมหรอก ไหนๆเราก็ใจตรงกันแล้ว ฝันที่สามารถสัมผัสนิลได้ก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นบ่อยๆ ผมจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้ผ่านไปอย่างไร้ความหมาย ผมกดปากลงไปอีกครั้งและอีกครั้งจนเราทั้งคู่หอบเพราะหายใจไม่ทัน ถึงจะเป็นคนเริ่มแต่ริ้วแดงๆบนใบหน้าของผมก็บ่งบอกว่าผมก็เขินเหมือนกัน

“คุณหนู... ไม่ควรเลย” ถ้าผมมองไม่ผิด หูของนิลก็เหมือนจะแดงขึ้นมาเหมือนกัน

“ทำไมถึงไม่ควร นิลไม่ชอบเหมือนที่ฉันชอบเหรอ”

“ชอบสิครับ แต่ถ้าผมยังเป็นเพียงแค่ความฝันของคุณหนู ถ้าเกิดเราไม่ได้เจอกันอีก คนที่จะเจ็บปวดก็คือคุณหนูไม่ใช่เหรอครับ”

“นิล! อย่าพูดแบบนั้นสิ มันต้องมีทางที่จะทำให้เราได้อยู่ด้วยกัน แต่ถึงแม้ว่าสิ่งที่ฉันหวังจะไม่เป็นจริง แต่ตอนนี้มันก็คือโอกาสของเรา เราควรจะคว้ามันไว้สิ อย่างน้อยเราทั้งคู่ก็ได้รับรู้ว่าพวกเรารักกันแค่ไหน เรามาสร้างความทรงจำด้วยกัน เพราะถ้าวันนั้นมาถึงเราจะได้ไม่เสียดายวันเวลาที่ผ่านไปไง เราจะได้มีความทรงจำดีๆให้นึกถึง” แค่คิดว่าต้องจากกัน น้ำตาก็พากันมาคลออยู่ที่ดวงตา

“คุณหนูอย่าร้องไห้เลยนะครับ ไม่ว่ายังไงผมจะพยายามทำให้สิ่งที่คุณหนูหวังไว้ให้เป็นจริง” ถึงแม้ว่าผมจะมองไม่เห็นเส้นทางเลยก็ตาม นิลคิดในใจพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตาให้คุณหนู

“รัก ฉันรักนิลนะ”

“ครับ ผมก็รักคุณหนูเหมือนกัน” เสียงบอกรักของพวกเราดังก้องกังวานอยู่ในหู ในสมอง และในหัวใจ

ผมขอ ไม่ว่าสิ่งใดที่สร้างอุปสรรคให้ความรักของเรา ขอ ขอให้มันหายไป
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่4 4/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 04-08-2017 14:26:05
เอาใจช่วยทั้งคู่... :n1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่4 4/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 04-08-2017 15:23:35
ขอให้เจอกันเร็ว ๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่4 4/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-08-2017 19:40:28
นิล คุณหนู เจอกันแบบกายจริงสักที  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่4 4/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 04-08-2017 22:59:51
เราขอขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนท์นะ
สำหรทุกคนที่รอ เราจะบอกว่าเรายังอยู่ญี่ปุ่น
คงแต่งนิยายไม่ค่อยสะดวก ถ้าไม่ติดธุระอะไรจะมาลงให้คืนวันที่8-9นะ
แจ้งมาเพื่อทราบจ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่4 4/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 06-08-2017 21:01:30
สู้ๆนะนิล

คนแต่งด้วยค่ั
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่4 4/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 10-08-2017 03:54:01
สปอย


มันแปลกมาเลย ความฝันในคืนนี้มันไม่เหมือนทุกคืน ไม่มีเสียงของนิลที่เรียกชื่อของผม ไม่มีสัมผัสอันอ่อนโยนของนิ้วของนิลที่จะปลุกให้ผมตื่นจากนิทรา มีเพียงเสียงหวีดหวิวของลม เสียงของใบไม้ที่ไหวไปตามลมและเสียดสีกับอีกใบหนึ่ง เสียงนกร้อง นี่ผมอยู่ที่ไหนกันแน่


ขอโทษนะคะพอดีโดนลากไปประชุมด้วยแล้วจริงๆวันนี้ก็มีธุระ ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงจริงๆจะลงให้ช่วงเย็นๆ(อาจจะดึกหรือเป็นเช้ามืดของพรุ่งนี้ค่ะ)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่5 spoil 10/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-08-2017 05:51:31
รอ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่5 spoil 10/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 11-08-2017 03:57:54
คืนที่ 5 (50%)

แปลก

มันแปลกมากเลย ความฝันในคืนนี้มันไม่เหมือนทุกคืน ไม่มีเสียงของนิลที่จะเรียกชื่อของผม ไม่มีสัมผัสอันอ่อนโยนของนิ้วของนิลที่จะปลุกให้ผมตื่นจากนิทรา มีเพียงเสียงหวีดหวิวของลม เสียงของใบไม้ที่ไหวไปตามลมและเสียงนกร้อง นี่ผมอยู่ที่ไหนกันแน่

ผมค่อยๆลืมตาขึ้น บ้านทรงไทยโบราณปรากฏแก่สายตา 'ที่ไหน' คำถามนี้วนขึ้นมาอีกรอบ

พอนึกขึ้นได้ว่ามันคงเป็นความฝัน ก็คิดว่ามันก็คงไม่มีอะไรเสียหายถ้าผมออกเดินสำรวจรอบๆ ถึงจะไม่เหมือนฝันก่อนๆแต่ผมก็ยังหวังอยู่ลึกๆว่าจะเจอนิลที่นี่ ผมเดินแบบหลบๆซ่อนๆอยู่พักใหญ่ๆ มีคนงานแต่งตัวเหมือนพวกบ่าวไพร่ในหนังเดินกันเต็มไปหมดแต่ก็เหมือนไม่มีใครสนใจผม

“นี่นาย” ผมเดินเข้าไปหาผู้ชายคนหนึ่ง จะถามว่าที่นี่ที่ไหนแต่เขาก็ทำเหมือนไม่เห็นผม เขาไม่แม้แต่หันหน้ามาด้วยซ้ำทั้งๆที่ผมก็เรียกเขาอยู่หลายรอบ เขาทำเหมือนกับผมไม่มีตัวตน ผมเลยจะสะกิดเขาแต่มือของผมก็ทะลุร่างชายคนนั้นไป

“เฮ้ย อะไรเนี่ย สัมผัสไม่ได้เหรอ” ผมพยายามอีกหลายครั้งแต่ผลลัพธ์ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ผมเดินผละออกจากผู้ชายคนนั้นแล้วเดินไปทำสิ่งเดียวกันกับคนอื่นซึ่งผมก็แตะต้องใครหรืออะไรไม่ได้เลย ผมตัดสินใจเดินชมนกชมไม้รอบๆเรือนไทยหลังนี้ต่อ

“คุณแม่เจ้าคะ พวกเรารักกันจริงๆนะเจ้าคะ” เสียงของใครกัน ผมไม่ได้สอใส่เกือกนะแต่ไหนๆผมก็ไม่รู้จักใคร ไม่มีใครเห็นผมแล้วผมก็สัมผัสอะไรไม่ได้แล้ว ไปฟังว่าเขาพูดอะไรกันเผื่อจะได้อะไรจากฝันครั้งนี้บ้าง ใจหนึ่งคิดว่าบางทีนี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมฝันถึงที่นี่ก็ได้ แต่อีกใจหนึ่งคิดว่ามันอาจจะเป็นแค่ฝันธรรมดาๆไม่มีความหมายอะไรก็ได้

“แต่คุณหลวงเขามามั่นหมายแม่พลอยไว้แล้วนะ เจ้าคุณพ่อก็ตอบรับทางนั้นไปเช่นนี้แล้ว หากแม่พลอยปฏิเสธ ก็เท่ากับว่าแม่พลอยไม่ไว้หน้าเจ้าคุณพ่อเลย” สิ่งที่ผมเห็นคือแม่ลูกคู่หนึ่งทะเลาะกันอยู่บนเรือน ผมนั่งฟังไปก็จับใจความได้ประมาณว่าคนลูกไปรักกับผู้ชายคนหนึ่งแต่คนพ่อก็มั่นหมายลูกไว้กับลูกชายของเพื่อนที่มียศสูงกว่า ลูกเลยมาขอร้องแม่ให้ยกเลิกงานแต่งงาน แต่แม่ก็ปฏิเสธเพราะกลัวส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานของสามี

“ทำไมคุณแม่ไม่เข้าใจอิฉันเลย” หลังจากพูดจบเธอก็ไหว้ลาคุณแม่แล้วก็เดินไปที่ห้องๆหนึ่งด้วยกริยามารยาทงดงาม เดาว่าคงเป็นห้องของเธอ เธอก็ดีเหมือนกันนะเนี่ยขนาดน้อยใจคุณแม่ขนาดนี้ยังมีอารมณ์มาไหว้ลาแถมเดินอย่างสวยงามด้วย ถ้าเป็นคนในยุคปัจจุบันคงจะตะคอกใส่แล้วเดินกระทืบเท้าออกไปแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจ ดีไม่ดีอาจจะมีกระแทกประตูใส่ด้วยก็ได้

ผมเดินเล่นในเรือนไปเรื่อยๆ ดูบ่าวในเรือนทำนู่นทีนี่ที โผล่ไปห้องพระบ้าง ห้องทำงานบ้าง ห้องครัวบ้าง แต่ผมไม่กล้าเข้าไปในห้องของแม่พลอยอะไรนั่นหรอก กลัวจะไปจ๊ะเอ๋กับอะไรเข้า สุภาพบุรุษชะมัดเลยผม

ผ่านมาจนมืดผมก็ยังไม่เห็นมีอะไรเลย ทุกคนก็ดูจะปกติดี บ่าวก็วุ่นวายทำความสะอาด จัดสำรับ แม่พลอยก็ไม่เห็นจะออกจากห้องไปไหน ส่วนแม่ของแม่พลอยก็ไม่ได้ไปไหน เดินๆนั่งๆอยู่บนเรือน ตกเย็นทุกคนก็มากินข้าวด้วยกัน พ่อของแม่พลอยกลับมาตอนมื้อเย็นพอดี ระหว่างกินข้าวก็ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ ขนาดหัวข้อที่แม่พลอยพูดเมื่อตอนบ่ายยังไม่ถูกยกขึ้นมาพูดเลย หลังมื้อค่ำทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง

ผมรู้สึกเบื่อมากแต่ผมก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นจากฝัน ผมก็เลยมานั่งเล่นรับลมอยู่ตรงบันไดขึ้นเรือนเพราะเดินสำรวจมาจนเกือบจะครบแล้วเลยรู้สึกเบื่อนิดหน่อย ระหว่าที่ผมกำลังหาวอยู่ผมก็เห็นเงาตะคุ่มๆอยู่ข้างเรือนช่วงห้องแม่พลอย จะเป็นใครกันนะ ด้วยความสงสัยผมเลยเดินไปดู ถ้ามองไม่ผิดผมเหมือนเห็นผู้ชายแต่งตัวดูดีในระดับหนึ่ง คงไม่ใช่บ่าวไพร่ในเรือนนี้ หรือจะเป็นผี พอคิดได้อย่างนี้ผมเลยจะหันหลังกลับแต่ดันเห็นแม่พลอยเดินไปหาผู้ชายคนนั้นเสียก่อน

 ความคิดที่ว่าเขาอาจเป็นผีถูกตัดไป เขาจะใช่ท่านขุนที่แม่พลอยอินเลิฟอยู่ด้วยหรือเปล่านะ ผมเดินไปหาทั้งคู่หวังว่าจะได้เห็นหน้าของผู้ชายคนนั้น แต่ก่อนจะไปถึงตัวทั้งคู่ความจริงบางอย่างทำให้ผมต้องอุทานออกมา

“เฮ้ย” ไม่คิดเลย ไม่คิดเลยจริงๆว่าทั้งสองจะพากันหนี แม่พลอยเอาผ้าคลุมไหล่มาคลุมหัวแล้วจุดตะเกียงเพื่อนำทาง ทั้งคู่ค่อยๆย่องออกไปทางท่าเรือและพายเรือออกไป แล้วผมก็มองไม่เห็นอะไรอีก ทุกอย่างเป็นสีดำก่อนที่ผมจะรู้สึกเหมือนถูกดูด พอลืมตาขึ้นอีกทีก็เป็นเช้าวันใหม่ในโลกแห่งความจริงสะแล้ว

(ครึ่งแรก)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่5 50% 11/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 11-08-2017 04:23:47
อ่า.....พลอยจะเป็นนายเอกชาตินี้รึเปล่านะ?
 

รออีกครึ่งนะ :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่5 50% 11/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 11-08-2017 09:50:23
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่5 50% 11/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 19-08-2017 03:01:10
(ครึ่งหลัง)


ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณหนูฝันเห็น ผมก็เห็นเหมือนกัน ระหว่าที่ผมกำลังเฝ้ารอคุณหนูหลับและไปเข้าฝันเธอ ผมก็ถูกดูดเข้ามาในความฝันของคุณหนู ครั้งนี้คุณหนูมองไม่เห็นผมและผมไม่สามารถพูดคุยกับคุณหนูได้ไม่ว่าผมจะพยายามสักเท่าไหร่ แต่ผมได้ยินทุกสิ่งที่คุณหนูพูด เห็นทุกอย่างที่คุณหนูทำ

ต้นไม้ใหญ่ที่แปลกตาไม่เคยเห็นมาก่อน เสียงพูดคุยในสำเนียงที่ไม่คุ้นหู และกายแต่งกายที่ไม่คุ้นตา สภาพแวดล้อมอมของฝันครั้งนี้ทำให้ผมนึกถึงหนังย้อนยุค ตอนนี้ผมเหมือนอยู่ในสมัยรัชกาลที่๕

ผมเดินตามคุณหนูตลอดทั้งวัน รับรู้เรื่องของแม่พลอยและท่านขุน ยิ่งอยู่ในความฝันนี้นานเท่าไหร่ผมก็สงสัยมากขึ้นเท่านั้น ทำไมครั้งนี้ผมกับคุณหนูถึงคุยกันไม่ได้ แล้วทำไมเราต้องมาฝันย้อนยุคด้วย หรือว่าฝันนี้จะเกี่ยวของกับการที่ผมไม่มีกายหยาบ แต่ตลอดทั้งวันก็ไม่เห็นมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับผมเลย

ผมนั่งนิ่งๆข้างคุณหนู ปล่อยให้ความคิดของตัวเองตกตะกอน พวกเรานั่งกันเงียบๆจนกระทั่งมีสิ่งหนึ่งมารบกวนความเงียบของเรา ผู้ชายคนนั้น ผมว่าผมกับคุณหนูคงคิดเหมือนกันว่าคนคนนั้นคือท่านขุน ผมรีบตามคุณหนูไปดูทั้งสอง แต่แล้วผมก็ต้องตกใจเพราะอยู่ดีๆคุณหนูก็หายไปตอนที่ทั้งสองพายเรือออกไป ผมนึกว่าผมจะตื่นเหมือนกับคุณหนูเพราะรู้สึกเหมือนโดนดูด แต่ผมก็ต้องตกใจอีกครั้งหนึ่งเพราะผมไม่ได้ตื่นอย่างที่คิด พอลืมตาอีกทีผมก็อยู่ในเรือที่แม่พลอยกำลังนั่งอยู่ ผมยืนงงอยู่สักพักแล้วก็คิดว่ามันคงมีเหตุผลอะไรสักอย่างให้ผมมาอยู่ตรงนี้

พอพวกเราออกมาจากท่าน้ำที่เรือนมาไกลแล้ว คนที่ผมคิดว่าเป็นท่านขุนก็ลดความเร็วของการพายลง แม่พลอยก็นำผ้าที่คลุมหัวไว้ลงก่อนจะหันมาคุยกับท่านขุน

“พี่นพ อิฉันรู้สึกไม่ดีเลย อิฉันหนีออกมาเยี่ยงนี้ เจ้าคุณพ่อและคุณแม่ต้องเป็นห่วงอิฉันมากเป็นแน่ อีกอย่างสิ่งที่อิฉันกำลังทำให้พวกท่านต้องอับอายที่ลูกสาวเพียงคนเดียวหนีไปกับผู้ชายเยี่ยงนี้” แม่พลอยพูดออกมาด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

“พี่รู้ว่าน้องรู้สึกผิด แต่เราไม่มีทางเลือก หากมีโอกาสพี่จะพาเจ้ามากราบขอโทษท่านทั้งสองและจะมาขอน้องกับท่านเจ้าพระยาด้วยตัวเอง” ท่านขุนเงยหน้าขึ้นมาตอบแม่พลอย นั่นทำให้ผมตกใจ ถึงใบหน้าของเราจะไม่ได้เหมือนกันราวกับแกะแต่ความรู้สึกลึกๆก็ทำให้ผมรู้ว่าท่านขุนนพนี่ต้องเป็นผมในชาติก่อนแน่ๆ และสิ่งที่ท่านขุนกำลังทำอาจเป็นกรรมที่ส่งผลมาถึงผมในชาตินี้ก็ได้

ผมถูกดูดอีกครั้ง และเป็นอีกครั้งที่ผมเดาผิด ผมไม่ได้ตื่นอย่างที่คิดแต่กลับมาอยู่ที่เรือนที่มีเสียงโหวกเหวกโวยวายอยู่

“คุณหญิงเจ้าคะ แย่แล้วเจ้าคะ แย่แล้ว” ทันทีที่ผมเปิดตาผมเห็นบ่าวคนหนึ่งเดินอย่างเร่งรีบมาหาคุณหญิง แม่ของแม่พลอยที่นั่งอยู่กลางเรือน

“มีกระไรรึ เกิดกระไรขึ้นถึงวิ่งมาหาข้าหน้าตื่นเช่นนี้ หากไม่ใช่เรื่องสำคัญข้าจักเฆี่ยนให้หลังลายทีเดียว” คุณหญิงหยุดมือที่กำลังพัดอยู่แล้วหันมาถามบ่าวคนนั้นด้วยสีหน้าหงุดหงิด

“คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู” เธอนั่งพับเพียบหน้าคุณหญิงและพูดออกมา แต่พูดออกมานิเดียวยังไม่สามารถจับใจความได้ก็หอบหายใจ

“มีกระไร แม่พลอยเป็นกระไรงั้นรึ เอ็งเร่งบอกข้ามา” คุณหญิงถามด้วยสีหน้าตกใจปนเป็นห่วงทำให้ผมที่รู้ทุกอย่างและพูดได้ว่าเป็นตัวก่อเหตุรู้สึกผิดไม่น้อย

“คุณหนูหายไปเจ้าค่ะ หาเท่าใดก็ไม่เจอ ในครัวก็ไม่มี ในห้องก็ไม่พบเจ้าคะ บ่าวออกหารอบๆตัวเรือนก็ไม่มีเจ้าค่ะ” บ่าวคนนั้นเอ่ยด้วยเสียงตื่นตระหนก จะไปเจอได้ไงเพราะตัวผมในชาตินี้พาแม่พลอยหนีไปแล้ว ผมคิดในใจ

“เอ็งว่ากระไรนะ แม่พลอยหายไป ตาเถร อกอีแป้นจะแตก” แล้วคุณหญิงก็เป็นลมล้มพับไปเลย บ่าวไพร่แถวนั้นต่างตกใจ รีบกระวีกระวาดไปหายาหอมให้คุณหญิงดมและพัดให้คุณหญิง

เสียงเอะอะโวยวายคงดังรบกวนท่านเจ้าพระยาเข้า ท่านเลยเดินออกมาจากห้องที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นห้องทำงาน เห็นภรรยาเป็นลมจึงรีบเข้าไปประคองและสอบถามถึงเหตุผล พอได้รู้ว่าลูกสาวหายไปก็ตกใจและมีสีหน้าเคร่งเครียด ออกปากสั่งบ่าวผู้ชายให้ออกตามหาตัวลูกสาว ผมยิ่งรู้สึกผิดมากไปอีกเมื่อเห็นสีหน้าของท่าน ในความคิดของผมตอนนี้มีเพียงเรื่องการหายตัวไปของแม่พลอย ความคิดที่ว่าการที่เธอทิ้งจดหมายไว้สักฉบับเพื่อบอกว่าเธอสบายดีจะดีกว่าการหายตัวไปเฉยๆหรือเปล่า แต่ถ้าเธอทิ้งจดหมายไว้จริงๆมันจะไม่แปลว่าเธอตั้งใจทำให้พ่อแม่อับอายหรือ

ภาพที่ผมกำลังเห็นอยู่ ทุกสิ่งเคลื่อนไหวเร็วมากขึ้น เรื่องราวของผมในชาตินี้ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเก็บไว้ในความทรงจำของผม ความรู้สึกเหมือนโดนดูดกลับมาอีกครั้ง คราวนี้ผมคงตื่นจากฝันจริงๆสักที ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือหญิงชราคนหนึ่งใส่ชุดเหมือนชาวบ้านก้มลงกราบพระ เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินคือ

“ถ้าหากชาติหน้ามีจริง อิฉันจักขอเกิดเป็นลูกของคุณแม่อีก”



มุมของนักเขียน

ขอโทษที่หายไปนานค่ะไม่มีข้อแก้ตัวใดๆทั้งสิ้นค่ะ
ขอโทษจริงๆนะคะ
ถ้าภาษาไม่ดีเท่าที่ทุกคนคาดหวังไว้ก็ขอโทษด้วยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่5 100% 19/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 19-08-2017 08:34:50
รอค่ะ... o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่5 100% 19/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 19-08-2017 10:10:11
เศร้าเน้อ :hao4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่5 100% 19/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 23-08-2017 22:36:10
เนื่องจากนักเขียนเปิดเทอมแล้ว คงไม่สะดวกมาลงบ่อยๆ
อาจอัพช้ากว่าเดิม ขอให้ทุกคนเข้าใจนะคะ
ถ้าว่างเราจะพยายามมาลงให้นะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที่5 100% 19/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 24-08-2017 16:38:37
เนื่องจากนักเขียนเปิดเทอมแล้ว คงไม่สะดวกมาลงบ่อยๆ
อาจอัพช้ากว่าเดิม ขอให้ทุกคนเข้าใจนะคะ
ถ้าว่างเราจะพยายามมาลงให้นะคะ

Ok รอจ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี แจ้งข่าว 23/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 31-08-2017 01:45:29
คืนที่ 6

ผมเข้าใจแล้ว

ทุกสิ่งที่อยู่ในฝันของคุณหนู สิ่งที่หลวงพ่อเคยบอกไว้ ทุกๆอย่างกำลังปะติดปะต่อกัน เหมือนจิ๊กซอชิ้นสุดท้ายได้อยู่ในที่ที่มันควรอยู่แล้ว ในชาติก่อนผมได้พรากแม่พลอยจากบุพการีทั้งสอง นั่นเป็นกรรมเก่าที่ผมได้สร้างไว้ ในชาตินี้ผลกรรมที่ผมทำส่งผลให้ผมต้องพรากจากคนที่รัก ถ้ามันเป็นเหมือนที่ผมคิดจริงๆ ถ้าหากแม่พลอยคือคุณหนูในชาติก่อน ถ้าหากสิ่งที่แม่พลอยลั่นวาจาไว้เป็นจริง เจ้ากรรมนายเวรของผมก็คงเป็นคุณท่านทั้งสอง

หลวงพ่อพูดไว้ว่า ‘เมื่อใดสิ่งที่ผิดได้ถูกแก้ เมื่อเจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ เมื่อนั้นกายหยาบจงคืน อุปสรรคจงหายไป’ ในเมื่อผมไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ สิ่งเดียวที่ผมทำได้คือทำให้ท่านทั้งสองอโหสิกรรมให้ผม ถึงจะไม่แน่ชัดมากนักแต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่คุณท่านจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของผม แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าการหาเจ้ากรรมนายเวรคือผมจะขอขมาท่านทั้งสองอย่างไรในเมื่อผมไม่มีร่างกาย

ตั้งแต่วันที่ผมฝันถึงเรื่องราวแปลกๆในอดีตผมก็ไม่ได้ฝันถึงนิลเลย ผมเป็นห่วงเขามากเลย เพราะไม่รู้ว่าเขาเป็นอยู่ยังไงใจของผมเลยกระวนกระวายมากกว่าปกติ แต่จะให้ลางานไปหาหลวงลุงบ่อยๆก็ดูจะไม่เหมาะสมสำหรับคนที่เป็นทั้งหัวหน้าแผนกและประธารบริษัทอย่างผม

วันนี้เป็นวันที่เครื่องประดับที่ผมออกแบบจะวางขาย จริงๆกก็ไม่เชิงวางขายหรอก เพราะของทุกชิ้นที่ออกแบบกันตอนนั้นจะมีจำนวนจำกัด แต่ละแบบจะมีเพียง20ชุดเท่านั้น ที่บริษัทจึงเปิดเป็นการประมูลราคาแทน ทางบริษัทจะให้ผู้ซื้อพิมพ์ราคาที่ต้องการไว้ในระบบ เราจะแสดงชื่อของ20คนที่ประมูลสูงสุด และขายในราคาที่ผู้ซื้อคนที่20หรือราคาประมูลที่ต่ำที่สุดใน20คน งานของแต่ละคนก็มีราคาที่แตกต่างออกไป งานของผมเป็นชิ้นสุดท้ายที่ประมูลกัน ตัวเลขสุดท้ายที่ออกมาทำให้ผมแปลกใจนิดหน่อย ผมไม่คิดว่าราคางานของผมจะแพงห่างจากราคาของคนอื่นมากขนาดนี้ เพื่อนร่วมงาน คุณหญิงคุณนายต่างพากันมาแสดงความดีใจกับผม ผมก็ยิ้มรับไป ผมยังไม่ลืมสิ่งที่ตั้งใจไว้ในตอนแรกหรอก

เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ผมได้จากงานนี้ ผมจะนำไปบริจาคในนามของนิล


นับตั้งแต่วันที่ผมได้เงินรางวัลจากงานออกแบบของผม วันนี้ก็เกือบครบอาทิตย์แล้ว ผมนำเงินที่ได้มาทั้งหมดแบ่งเป็นส่วนๆเพื่อบริจาคให้บ้านเด็กกำพร้า บ้านพักคนชรา สมทบทุนช่วยสร้างโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ซื้อเครื่องมือแพทย์ไปบริจาคให้โรงพยาบาลในชนบทและที่ลืมไม้ได้เลยคือผมนำเงินส่วนหนึ่งไปบริจาคให้วัดที่หลวงลุงอยู่ ผมทำเหมือนทุกครั้งที่ทำบุญคือกรวดน้ำไปให้นิล แต่ไม่ว่าจะทำยังไงผมก็ยังไม่ฝันถึงนิล เวลาล่วงเลยไปเกือบครบสามอาทิตย์ที่เราไม่ได้คุยกัน ผมทนต่อไปไม่ได้เลยไปหาหลวงลุงที่วัด ผมกราบพระประธารก่อนจะกราบหลวงลุง

“โยมธารมีเรื่องกังวลหรือ ถึงมาหาอาตมา”

“ครับ พอดีว่าเมื่อประมาณอาทิตย์ก่อนผมฝันแปลกๆแล้วหลังจากคืนนั้นผมก็ไม่ได้ฝันถึงนิลอีกเลยครับ ผมเป็นห่วงนิลไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง” ผมเล่าออกไป ความกังวลใจต่างๆถูกเผยออกมาทางสีหน้าและแววตา เมื่อได้ยินที่ผมพูด หลวงลุงก็หลับตาลงสักครู่ก่อนจะตอบผม

“ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก โยมนิลไม่ได้เป็นอะไร เขายังอยู่ดีเพียงแต่กำลังพยายามอยู่เขาเลยยังมาหาโยมธารไม่ได้” พยายาม? พยายามอะไร นิลกำลังทำอะไรอยู่งั้นเหรอ พอนึกย้อนกลับไป ผมสงสัยว่าสิ่งที่นิลกำลังพยายามทำอยู่จะเกี่ยวกับเรื่องที่นิลกับหลวงลุงคุยกันแล้วไม่ยอมบอกผมหรือเปล่า แต่ไม่ว่าเขากำลังพยายามทำอะไรอยู่หน้าที่ของผมคือช่วยเขาและสิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้คือทำบุญให้เขา

ผมกำลังพยายามอยู่

ผมไม่รู้หรอกว่าต้องทำยังไงผมถึงจะไปขอขมาคุณท่านทั้งสองได้ดังนั้นตอนนี้ผมกำลังหาวิธีอยู่ บุญที่คุณหนูทำให้ส่งถึงผมทำให้ผมมีพลังมากขึ้น บางครั้งผมก็รู้สึกเหมือนกับว่าผมสามารถแตะต้องสิ่งของได้ ที่คุณหนูคิดว่าผมหายไป ไม่ได้เข้าฝันคุณหนูจริงๆแล้วผมก็ยังอยู่ข้างๆคุณหนูไปไหนมาไหนด้วยตลอด แต่ไม่อยากให้คุณหนูเห็นความกังวลของผม ผมเลยเลือกที่จะไม่ไปเจอคุณหนูแทนการที่ต้องทำให้คุณหนูคิดมากไปด้วย

วันที่คุณหนูไปหาหลวงพ่อผมได้คุยกับท่านนิดหน่อย

“โยมนิล อาตมารู้ถึงความตั้งใจของโยมนิลแต่มันเป็นการทำร้ายทั้งตัวโยมนิลและโยมธาร อาตมาอยากให้โยมคิดดูใหม่อีกครั้งเกี่ยวกับสิ่งที่โยมทำอยู่ การหลบหน้าไม่ทำให้ใครเป็นสุขหรอก” หลวงพ่อสอน ผมมาคิดๆดูแล้วมันก็เป็นเรื่องจริงเพราะการไม่เจอกันทำให้คุณหนูเป็นห่วงผม ส่วนผมก็คิดถึงคุณหนู อยากพูดคุยด้วยแต่ผมก็ยังไม่อยากทำให้คุณหนูเครียดเพราะเรื่องของผมเหมือนกัน

“ผมทราบครับหลวงพ่อ ผมจะกลับไปคิดทบทวนอีกที” ผมตอบ ทั้งผมและหลวงพ่อเงียบไปสักพัก ผมเป็นคนทำลายความเงียบและถามถึงสิ่งที่ค้างคาใจผมอยู่
“หลวงพ่อครับ ผมมีเรื่องอยากจะถาม ความฝันครั้งนั้นผมย้อนกลับไปอยู่ชาติที่แล้ว ผมรู้ผมเห็นทุกอย่าง ตอนนี้ผมมีคำถามครับ ถ้าหากเจ้ากรรมนายเวรของผมคือคุณท่านทั้งสอง คุณพ่อคุณแม่ของคุณหนูในชาติปัจจุบัน ผมต้องทำยังไงผมถึงจะขอขมาพวกท่านได้เหรอครับ ตอนนี้ผมไม่มีร่างกายและก็เข้าฝันคุณท่านทั้งสองไม่ได้เหมือนกัน ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับ เหมือนกำลังจะเจอทางตัน”

“เมื่อถึงเวลาหนทางจะปรากฏ อุปสรรคจะจางหาย”
“โยมเคยได้ยินไหม ความพยายามอยู่หนใด ความสำเร็จอยู่ที่นั่น โยมทั้งสองกำลังพยายามด้วยกันทั้งคู่ สักวันความพยายามของโยมทั้งสองจะเห็นผล” หลวงพ่อพูดแค่นั้นก่อนที่ผมจะลาแล้วกลับบ้านไปกับคุณหนู


หลังจากวันนั้นผมก็กลับไปเจอคุณหนูในความฝันเหมือนเมื่อก่อนเพราะนำสิ่งที่ผมกังวลมาชั่งน้ำหนักแล้วการที่ผมไม่เจอคุณหนูก็ทำให้คุณหนูเครียดเหมือนกัน อย่างที่หลวงพ่อว่า การหลบหน้าไม่ได้ช่วยอะไรเลยจริงๆมีเพียงแต่ทำให้เราทั้งคู่ ทรมาน


“อรุณสวัสดิ์ครับคุณหนู เช้าแล้วนะครับเดี๋ยวจะไปทำงานสาย” แสงแดดจากหน้าต่างส่องมากระทบเปลือกตาของผม ผมว่าเมื่อคืนผมก็ปิดม่านนะ แล้วเมื่อกี้เสียของนิลเหรอ นี่ผมยังฝันอยู่หรืออะไร แต่เมื่อคืนก็ฝันถึงนิลไปแล้วนี่นา แถมตอนนี้ยังมีแดดด้วย ผมค่อยๆลืมตา สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมแทบหัวใจวาย

ผมตื่นมาในห้องของผมเหมือนทุกวัน นาฬิกาบอกเวลาหกโมงเข้า เวลาปกติที่ผมตื่น ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนเดิม ยกเว้นคนที่ยืนอยู่ข้าเตียง

“...” ดวงตาของผมค่อยๆเบิกกว้างขึ้น ปากของผมคงอ้าๆหุบๆเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ไม่มีเสียงออกมาจากลำคอของผมเลย หน้าของผมตอนนี้คงตลกมากจนทำให้คนที่เคยเก๊กหน้าขรึมมาตลอดหลุดหัวเราะออกมา

“หึหึ ถ้าคุณหนูยังมัวแต่อึ้งอย่างนี้จะไปทำงานไม่ทันเอานะครับ” เสียงของนิลพูดเตือนสิติผม ทำให้ผมรู้สึกตัว นี่ผมเผลอทำหน้าประหลาดๆอะไรออกไปถึงทำให้นิลขำได้ขนาดนี้กันนะ พอคิดได้แบบนี้ก็อดจะอายไม่ได้ เลือดเริ่มมาหล่อเลี้ยงใบหน้าของผมมากเกินไปจนทำให้รู้สึกร้อน ตอนนี้หน้าผมต้องแดงมากๆแน่ๆเลย

“อาบน้ำเถอะครับคุณหนู หกโมงยี่สิบแล้วนะครับ เดี๋ยวออกมาผมจะเล่าให้ฟังเอง” นิลคงเดาได้ว่าผมมีคำถามมากมายอยากจะถามเขา เลยพูดดักทางผมไว้ก่อน พอเห็นนาฬิกาผมก็ต้องสะดุ้ง จะสายแล้วจริงๆด้วย

“ห้ามไปไหนนะ ถ้าฉันกลับมานิลต้องอยู่ตรงนี้นะ” ผมเดินเกือบจะถึงห้องน้ำอยู่แล้วแต่ด้วยความกลัวว่านี่จะเป็นเพียงแค่ฝันหรือภาพลวงตาหรืออะไรก็ตามเลยหันกลับมากำชับนิลให้รอผม

“ครับ ผมจะรอคุณหนูอยู่ตรงนี้ครับ” นิลส่งยิ้มขำขันมาให้ผมก่อนจะตอบตกลง

ผมก็ไม่ได้รีบอะไรมากหรอกครับแค่วันนี้ผมอาบน้ำเร็วที่สุดทำลายสถิติตอนที่ตื่นสายแล้วต้องรีบไปโรงเรียน จะว่าไปตั้งแต่จำความได้ก็ไม่เคยรีบอาบน้ำขนาดนี้มาก่อนเลย เพราะความเร่งรีบและความเคยชินทำให้ผมลืมหยิบเสื้อผ้าเข้ามาในห้องน้ำด้วยแล้วตอนนี้มันกำลังทำให้ผมเขิน

ทำไมนิลต้องจ้องผมขนาดนั้นด้วย ผมก็แค่พันผ้าเช็ดตัวออกมาผืนเดียวก็เท่านั้นเอง สายตาของนิลมันทำให้ผมทำอะไรถูกๆผิดๆไปหมด ผมเขินจนต้องหันไปตวาดนิลเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินของผม

“มองอะไรเล่า! คนจะแต่งตัว! หันไปอีกทางเลยนะ!” นิลยิ้มแล้วขำอีกรอบเหมือนจับได้ว่าผมทำโมโหกลบเกลื่อน นั่นทำให้ผมเขินอายมากกว่าเดิม แต่ถึงเขาจะขำแต่นิลก็หันหลังให้ผมตามที่ผมบอกเขา

ผมลงไปกินข้าวตามปกติแล้วออกไปทำงาน ในวันนี้แทนที่ผมจะขับรถไปเองเหมือนทุกวัน ผมให้คนขับรถขับให้เพื่อที่จะได้มีเวลาคุยกับนิล พอขึ้นรถผมก็ทำทีเป็นคุยโทรศัพท์ เอาหูฟังขึ้นมาใส่

“สรุปเป็นไงมาไง ทำไมฉันถึงเห็นนิลได้แล้วหละ” ผมเริ่มบทสนทนา

“เรื่องนี้ผมต้องขอบคุณคุณหนูครับ ผลบุญที่คุณหนูทำให้ผม ผมได้รับทั้งหมดเลยนะครับ และสิ่งนั้นก็ทำให้ผมมีพลังมากพอที่จะปรากฏกายให้คนที่ผมอยากให้เห็นเห็นได้ ผมมาให้คุณหนูเห็นคนแรกเลยนะครับ” นิลเอ่ยด้วยน้ำเสียงดีใจปนตื่นเต้น

“ไม่คิดว่าฉันจะตื่นมาเห็นนิลแล้วตกใจ หัวใจวายตายบ้างเหรอ อยู่ดีๆก็โผล่มา ไม่เคยเจอกันแบบนี้แท้ๆ” ผมเหน็บแหนมนิลไป ถ้าไม่ใช่นิลผมคงโวยวายบ้านแตกไปแล้วแน่ๆ อยู่ดีๆก็มีสิ่งที่ไม่ใช่คนมาปลุกแบบนี้

“โธ่ คุณหนูก็ว่าไปนั่น ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณหนูไม่ขวัญอ่อนขนาดนั้น ขนาดผมที่หายไปไปหาคุณหนูในฝัน ทั้งๆที่มาแค่เสียงแท้ๆคุณหนูยังไม่กลัวเลยแถมยังเรียกร้องให้ผมปรากฏตัวอีก ผมรู้ว่าครั้งนี้คุณหนูก็จะไม่ตกใจเหมือนกัน จากที่ดูแล้วผมคิดว่าผมคิดถูกนะ ไม่ตกใจแต่ดีใจจนพูดอะไรไม่ออกเลย ฮะฮะฮะ” คนอะไรก็ไม่รู้ พูดเองเออเอง แถมยังมาล้อผมอีก ถ้าเป็นนิลแต่ก่อนนะคงรับฟังเงียบๆอย่างเดียวไม่ต่อปากต่อคำกับผมอย่างนี้หรอก

“นี่ พอไม่ได้อยู่ในฐานะเจ้านายลูกน้องก็เอาใหญ่เลยนะ แต่ก่อนไม่เห็นพูดมากอย่างนี้เลย”

“แต่ก่อนก็ส่วนแต่ก่อนสิครับ ตอนนี้เราใจตรงกันแล้วนะ มันก็ต้องมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้างสิ ไม่จริงเหรอครับ ที่รัก” ผมเหมือนได้ยินเสียง ช่า เลือดพากันมากองอยู่ที่แก้มของผม ใบหน้าของผมค่อยๆเปลี่ยนสีเป็นสีแดงเหมือนมะเขือเทศลามไปถึงใบหูและคอ ผมเขินจนต้องถอดหูฟังเป็นสัญญานบอกว่าผมจะไม่คุยกับนิลขี้แกล้งแล้ว เป็นการบ่งบอกกลายๆว่านิลแกล้งผม และผมจะงอน

มุมของนักเขียน
พี่นิลกับน้องธารเจอกันในโลกแห่งความจริงแล้ว จะเป็นยังไงต่อไปติดตามกันด้วยนะคะ อย่าเพิ่งทิ้งกัน

เราเรียนหนักมากจริงๆ การบ้านก็เยอะ แทบไม่มีเวลากระดิกตัวเลย
แต่ก่อนชอบดองการบ้านตอนนี้แบบไม่ต้องดองก็ทำไม่ทันอะ
ขอโทษที่ต้องลงแบบห่างๆนะคะ พยายามให้มันเร็วแล้วจริงๆ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที6 31/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 31-08-2017 09:53:04
สกิลการอ้อยของพี่นิลไม่ธรรมดาอื้อหือไม่ธรรมดา 555  :วู้วว1: :วู้วว1: :วู้วว1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที6 31/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-08-2017 16:07:06
รอ  :mew1: :mew1: :mew1:

ขอให้นิลพบวิธีขอขมา อโหสิกรรมได้ไวๆ
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที6 31/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 02-09-2017 01:35:19
ขอให้ทุกอย่างรีบๆดีขึ้น
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี คืนที6 31/8/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 05-09-2017 11:14:37
นักเขียนขอแจ้งข่าวค่ะ

เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณปู่ของเราเข้าโรงพยาบาลและจากไปในวันอาทิตย์
เราอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเราจะไม่สามารถมาแต่งนิยาให้อ่านได้จนกว่าจะจบงานสวด
ถ้าเราจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วจะรีบกลับมาต่อให้นะ
เราสัญญาจะไม่ทิ้งพี่นิลและน้องธารแน่นอนค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี แจ้งข่าว 5/9/2017
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 05-09-2017 13:19:22
เสียใจด้วย..เป็นกำลังใจให้   :L1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี แจ้งข่าว 10/10/2017
เริ่มหัวข้อโดย: Earth112 ที่ 10-10-2017 22:27:31
เราขอเวลาหน่อยนะ ช่วงนี้เรียนหนักมากแล้วยังต้องไปไหว้คุณปู่ตามพิธีกรรมจีน
ยังยืนยันว่าจะไม่ทิ้งพี่นิลน้องธารแน่นอนค่ะ
ขอโทษด้วยที่หายไปนาน
จะพยายามมาลงให้เร็วที่สุดนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] ในยามราตรี แจ้งข่าว 5/9/2017
เริ่มหัวข้อโดย: lostinthelight ที่ 27-12-2018 23:06:51
ฮืออยากให้นิลกลับมาเป็นคนเหมือนเดิม รอนะคะ :hao5: