ส่วนที่เอาไปแปะไว้ที่กระทู้ก่อนลงนิยาย อยู่ในระหว่างเส้น *** นะคะ (ข้อ 1-18 ก๊อปเฉพาะหัวข้อที่ทำตัวทึบไว้ก็ได้
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0)
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com (http://www.thaiboyslove.com) ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
FAN PAGE --> BlueGusten (https://www.facebook.com/BlueGusten.FictionY/?ref=bookmarks)
สวัสดีค่ะ นักอ่านทุกคน!!! สำหรับนิยายเรื่องนี้กิ่งเคยโพสในเว็บนี้มาแล้ว 2 ครั้ง แต่ตอนนั้นมันไม่จบสักที T^T
กิ่งเลยตั้งใจกลับไปเขียนใหม่จนจบและจะทยอยอัพลงให้อ่านกันวันละ 2 บทนะคะ
ปล.กิ่งมีนามปากกาว่า BlueGusten นะคะ แต่พอดีตอนเป็นสมาชิกเล้ายังไม่ได้เป็นนักเขียน แหะๆ เลยใช้ชื่อเป็น Cheepoke (ชื่อแมวที่บ้าน) ไม่งงกันนาาาาา
สำหรับ "ราชันย์พ่ายรัก" ถือเป็นเรื่องแรกของเซตที่วางไว้ถึง 4 เรื่องด้วยกันคือ
ราชันย์พ่ายรัก
กงจักรจอมพล (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61221.0)
เล่ห์กลอัศวิน
มลทินธนัท
โดยขอยอมรับเลยค่ะว่าตอนนี้จบไปแค่สองเรื่องแรกอยู่เลย T^T แต่จะแต่งต่อให้จบแน่นอนค่ะ
ยังไงก็ขอกำลังหน่อยนะคะ
********************************
สารบัญINTRO (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3678722#msg3678722)
CHAPTER 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3674642#msg3674642)
CHAPTER 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3674778#msg3674778)
CHAPTER 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3675160#msg3675160)
CHAPTER 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3675466#msg3675466)
CHAPTER 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3675614#msg3675614)
CHAPTER 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3675922#msg3675922)
CHAPTER 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3676153#msg3676153)
CHAPTER 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3676490#msg3676490)CHAPTER 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3676633#msg3676633)
CHAPTER 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3676939#msg3676939)CHAPTER 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3677135#msg3677135)
CHAPTER 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3677531#msg3677531)CHAPTER 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3677795#msg3677795)CHAPTER 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3678069#msg3678069)CHAPTER 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3678379#msg3678379)CHAPTER 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3678715#msg3678715)CHAPTER 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3678935#msg3678935)CHAPTER 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3679186#msg3679186)CHAPTER 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3679363#msg3679363 :hao6:)CHAPTER 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3679706#msg3679706)EPILOGUE (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61208.msg3679852#msg3679852) [END]เนื่องจาก INTRO เคยอยู่หน้านี้แต่ตัวหนังสือเกินนนนน กิ่งเลยย้ายไปไว้หน้าใหม่ รบกวนคนที่จะเข้ามาอ่านกดอ่านตามสารบัญนะคะ
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
INTRO
สายฝนกระหน่ำเทลงมาราวกับว่าท้องฟ้ากำลังร้องไห้อย่างหนัก เสียงฟ้าร้องดังกึกก้องอย่างบ้าคลั่งสลับกับเสียงกระดิ่งและกิ่งของต้นไม้ใหญ่ที่ปัดป่ายกระแทกกันไปมาเพราะแรงลมทำให้อาณาบริเวณแห่งนี้ที่แต่เดิมมันเป็นเพียงสถานที่เงียบๆ เพื่อใช้เก็บรวบรวมวาระสุดท้ายของการเป็นมนุษย์เอาไว้กลับกลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์ตามธรรมชาติที่น่ากลัวอยู่ไม่น้อย
ร่างบางของชายหนุ่มอายุยี่สิบห้าปี ยังคงนั่งคุกเข่าเหม่อมองไปยังภาพเบื้องหน้าที่ปรากฏให้เห็นอัฐิของผู้มีพระคุณอันเป็นที่รักทั้งสองคนอยู่อย่างนั้นจนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วหากแต่เจ้าตัวยังคงไม่คิดที่จะลุกไปไหน
หยาดน้ำตาที่เคล้าไปกับสายฝนทำให้หากมองดูแบบผิวเผินแล้วอาจจะไม่มีใครรู้เลยว่าชายหนุ่มที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงนี้กำลังร้องไห้ให้กับภาพที่เห็นตรงหน้าออกมาหนักมากแค่ไหน แต่หากใครลองสังเกตไหล่บางที่สั่นระริกตามแรงสะอื้นดูสักนิด ก็คงจะเดากันได้ว่าเจ้าของร่างกายที่แสนบอบช้ำเกินจะเยียวยาคนนี้กำลังร้องไห้คร่ำครวญอย่างหมดหวัง หมดความไว้เนื้อเชื่อใจ หมดสิ้นทุกอย่างแม้กระทั่ง…ความรักที่เขามีให้กับใครบางคน
สายฝนยังคงเทลงมาอย่างไม่ขาดสาย เบื้องหลังของคนตัวเล็กปรากฎภาพผู้มาเยือนคนใหม่ สูทสีดำสนิทที่แต่เดิมมันเคยถูกสวมใส่ไว้บนเรือนร่างหนาเพื่อเสริมให้ดูภูมิฐานและน่าเกรงขาม กลับถูกถอดและรวบมันเอาไว้ในมือเพียงเดียวของคนเป็นเจ้าของ ทำให้บนกายหนาเหลือไว้แต่เพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เปียกโชกไปด้วยหยาดน้ำฝนที่เทลงมาอย่างไม่เป็นใจนักเผยให้เห็นสัดส่วนตามแบบฉบับชายชาตรีที่ทำให้ใครๆ ต่างก็หลงใหลมันได้ไม่ยากนัก
ชายหนุ่มผู้มาใหม่มองไปยังร่างบางที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาโกรธเคืองอยู่ไม่น้อย สองเท้าของเขาค่อยๆ ก้าวเข้าไปใกล้อีกคนทีละนิด เสียงจากรองเท้าหนังชั้นดีที่เหยียบย่ำเข้ามาผนวกกับเสียงหอบหายใจที่แสดงว่าคนข้างหลังคงจะเหนื่อยจากการวิ่งมาในที่แห่งนี้ทำให้คนที่กำลังเหม่อมองไปยังคู่อัฐิตรงหน้ารู้สึกตัวก่อนที่เขาจะหันหลังกลับไปมองผู้มาเยือนด้วยแววตาที่เรียบเฉย
หากคิดว่าเขาจะตกใจที่เห็นร่างหนาของคนที่พยายามหลีกหนีคนนี้แล้วล่ะก็…เหตุการณ์แบบนั้นไม่เกิดขึ้นหรอกเพราะร่างบางรู้ดีว่าบุรุษเพศที่ยืนอยู่ตรงหน้าจะต้องตามหาเขาเจอในสักวันแม้ว่าตัวเขาเองเพิ่งจะหนีจากร่างสูงที่ได้กระทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยมาได้เพียงไม่กี่วันก็ตาม
“จำได้ว่ากูยังไม่ได้อนุญาตให้มึงมาที่นี่!”
“…”
“มึงมาที่นี่ทำไม! แล้วมากับไอ้ตัวผู้ตัวไหนบอกกูมาเดี๋ยวนี้!!” ร่างหนาตรงหน้าระเบิดอารมณ์ที่กำลังเดือดพล่านด้วยคำพูดเสียๆ หายๆ สาดทอไปยังอีกคนที่ไม่แม้แต่จะตอบโต้กลับจนทำให้คนที่กำลังโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงยิ่งทวีความร้ายกาจที่น้อยคนนักจะได้เห็นออกมามากกว่าเดิม
“จะบอกไม่บอก!”
“อึก!…” ร่างบางนิ่วหน้าลงด้วยความเจ็บเมื่อร่างหนาบีบต้นแขนกลับอย่างไม่ออมแรงแต่ถึงกระนั้นเขาก็เลือกที่จะไปเอ่ยคำพูดใดๆ ที่แสดงถึงความอ่อนแอออกไป
“แฟร์! กูถาม!!”
ชายหนุ่มร่างบางที่ถูกอีกฝ่ายเรียกชื่อรวบรวมแรงทั้งหมดสลัดแขนออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายได้สำเร็จก่อนจะปาดน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกับมองใบหน้าเหี้ยมของคนตรงหน้ากลับไป
“แล้วคุณล่ะมาที่นี่ทำไม”
“กูมาตามมึงกลับ”
“ทำไม”
“ก็เพราะมึงหนีกูมา!”
“หึ! คุณทำอะไรพอให้ผมต้องหนีมาอย่างงั้นเหรอ” แฟร์เหยียดยิ้มพร้อมกับส่งคำพูดร้ายๆ กลับไปจนอีกฝ่ายถึงกับชะงักกับท่าทีของเขาที่เปลี่ยนไป
“กู!…คือเรื่องในคืนนั้น…”
“ผมไม่อยากฟัง”
“แต่มึงต้องฟัง!…เพราะกูไม่ได้ตั้งใจจะทำให้มึงเจ็บ” แฟร์พยายามบอกปัดแต่ร่างสูงกลับตะโกนลั่นทันควัน
“…”
“กูขอ…”
“กลับไปซะเถอะ” ร่างบางพูดก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาจากบริเวณนั้น
แฟร์ที่เดินออกจากบริเวณเก็บอัฐิยกแขนขึ้นกอดตัวเองเมื่อรู้สึกหนาวจนตัวสั่น สายฝนที่กระหน่ำเทลงมาทำท่าว่าจะไม่หยุดง่ายๆ เขาจึงเร่งฝีเท้าเดินไปยังต้นโพธิ์ใหญ่ข้างๆ ศาลาวัดเพื่อใช้เป็นที่หลบฝน
ร่างสูงของชายอีกคนยกมือขึ้นเสยผมอย่างข่มอารมณ์ก่อนจะวิ่งตามร่างบางของคนที่เขาต้องพยายามตามหาอยู่หลายวันเข้าไปหลบใต้ต้นโพธิ์เช่นเดียวกัน
เสียงฟ้าร้องและสายฝนที่ดังระงมไปทั่วสารทิศบดบังเสียงต่างๆ เสียจนทำให้ไม่มีใครยอมปริปากออกมา ร่างบางที่ยืนสั่นเทิ้มส่งเสียงจามเป็นพักๆ เรียกสายตาของอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้หันไปมองอีกคนอย่างนึกห่วงก่อนที่เขาจะทนบรรยากาศชวนอึดอัดนี้ต่อไปไม่ไหวจนต้องถามในสิ่งที่ยังไม่ได้คำตอบออกมาอีกครั้งหนึ่ง
“จะบอกได้หรือยังว่าทำไมนายถึงมาที่นี่” สรรพนามที่ร่างสูงใช้กับ อีกคนเปลี่ยนไปหากทว่าร่างบางก็ยังคงไม่ยอมตอบกลับไปอยู่ดี ทำเอาเส้นบางๆ ของความอดทนที่อีกฝ่ายมีอยู่เพียงน้อยนิดแทบขาดสะบั้น!
ร่างสูงเดินเข้าไปกระชากร่างบางให้หันมาเผชิญหน้ากับตัวเองด้วยอารมณ์ที่คล้ายกับอยากจะง้างปากให้อีกฝ่ายพูดกับเขาเสียเหลือเกิน แต่ฝืนทำมากกว่านี้ไม่ได้เพราะตัวเขาเองรู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นคนไม่ชอบความรุนแรงจึงได้แต่พยายามข่มตัวเองที่กำลังเดือดพล่านให้ได้มากที่สุด
“จะไม่พูดใช่มั้ย!!” ร่างสูงเค้นเสียงถามด้วยความโกรธเกรี้ยว
“ผมจะไปตามทางของผมส่วนคุณก็ควรจะไปตามทางของคุณเหมือนกัน ผมว่าต่อจากนี้ไปเราอย่าเกี่ยวข้องกันอีกเลย” คำพูดที่เปล่งออกมาจากเรียวปากเล็กไม่ได้เป็นคำตอบที่อีกฝ่ายต้องการเลยสักนิดแต่มัน กลับยิ่ง ทำให้คนตรงหน้าเดือดดาลขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดจนร่างหนาพลั้งมือบีบไปยัง ต้นแขนเล็กพร้อมกับเขย่าเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบเต็มแรง
“นี่มึงพูดเรื่องอะไร! บอกให้กูไปตามทางของกูทั้งที่เมียกูยังยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน!”
“ผมไม่ใช่เมียคุณ!!”
“แล้วคืนนั้นที่กูได้ครอบครองร่างกายของมึงล่ะมันเรียกว่าอะไร!?”
“ก็แค่สงเคราะห์คนอดอยากก็เท่านั้น! คุณเองไม่ใช่เหรอที่เคยกล่าวหาผมว่าคงผ่านมือผู้ชายมาแล้วเป็นสิบ!”
“!!”
“หากเรื่องในคืนนั้นมันทำให้ผมถูกคุณเรียกว่า 'เมีย' ถ้ายังงั้นตอนนี้ผมก็คงมีผัวเป็นสิบแล้วล่ะ!!!”
“แฟร์!!!” ร่างสูงตวาดลั่นพลางจ้องอีกคนอย่างคาดคั้นแต่แล้ว…
“แฟร์! ทำไมมายืนตากฝนแบบนี้ล่ะเกิดไข้กลับขึ้นมาจะทำยังไง!” เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนจะเผยให้เห็นชายหนุ่มอีกคนที่ลงจากรถแล้ววิ่งตรงเข้ามาใต้ ต้นโพธิ์ที่ทั้งคู่กำลังยืนอยู่ ฝ่ายนั้นเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้าของตนเป็นอย่างไรจึงหันไปมองคนตัวเล็กราวกับต้องการคำตอบทันที
แฟร์รีบแกะมือหนาที่บีบต้นแขนของตนออกอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบเดินเลี่ยงไปหาผู้มาเยือนคนใหม่ที่มีร่างกายกำยำสมกับความเป็นชายไม่แพ้ร่างสูง อีกคนที่ยืนนิ่งค้างด้วยใบหน้าเกรี้ยวกราดทันที
“พี่ทิวช่วยพาผมกลับรีสอร์ทของพี่ทีนะครับ” แฟร์พูดขึ้นก่อนจะดึงแขนชายผู้มาใหม่คนนั้นไปที่รถ ทิ้งให้ร่างสูงที่ยังคงไม่ได้รับคำตอบยืนขบกรามอย่างเหลืออดเมื่อเห็นการกระทำของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็น 'คนของตัวเอง' กับผู้ชายคนอื่น
“แต่มึงต้องกลับกับกู! กูมาที่นี่ก็เพราะมาตามมึงกลับไป!!” ไวเท่าความคิดมือหนาเอื้อมไปคว้าข้อมือเล็กก่อนจะออกแรงกระชากให้อีกฝ่ายกลับมาหาตัวเอง
แต่แล้วทุกอย่างกลับยิ่งตาลปัตรเมื่อข้อมืออีกข้างของแฟร์ก็ถูกชายผู้มาใหม่คว้าเอาไว้ด้วยเช่นกันก่อนที่ฝ่ายนั้นจะพ่นคำพูดตราหน้าร่างสูงเจ้าอารมณ์กลับไป
“ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณเป็นใคร แต่ช่วยปล่อยแฟร์เดี๋ยวนี้!”
“กูไม่ปล่อย! แล้วมึงเป็นใครถึงได้กล้ามาสั่งให้กูทำแบบนั้น!!” ร่างสูงตอกอีกคนกลับไปอย่างเดือดดาล แรงที่บีบไปยังข้อมือเล็กส่งผลให้เกิดรอยแดงขึ้นเป็นริ้ว
“ผมเป็นเหมือนพี่ชายของแฟร์!!”
“แต่นี่มันเมียกู!!!”
สิ้นเสียงของคนอารมณ์ร้อนทิวเบิกตาขึ้นราวกับไม่เชื่อหู มือหนาของเขาค่อยๆ ปล่อยข้อมือของคนตัวเล็กจนแฟร์ที่เงียบอยู่นานถอนหายใจออกมาอย่างขมขื่น
“พอเถอะพี่ทิว” แฟร์หันไปพูดกับพี่ชายที่อาสามารับเขากลับบ้านก่อนจะหันกลับไปยังผู้ชายอีกคนที่ยังคงบีบข้อมือของเขาแน่นราวกับมีกาวติด
“ต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมปล่อยผมไปสักที”
“กูไม่มีวันปล่อยมึงไป! นี่มันเรื่องบ้าอะไรบอกกูมา!!” ร่างสูงพ่นคำพูดตามนิสัยดิบเถื่อนที่ตัวเขาเองพยายามปรับปรุงมันหลังจากที่คิดจะจริงจังกับแฟร์ออกมา น้ำเสียงที่กราดเกรี้ยวแต่แฝงไปด้วยความรู้สึกราวกับคนอับจนหนทาง ทำให้แฟร์ค่อยๆ ยิ้มและแกะมือเขาออกจากข้อมือของตัวเองช้าๆ
ร่างบางรู้จักนิสัยของอีกฝ่ายดี…'อะไรที่อยากได้ก็ต้องได้แม้ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม!'
เขาเข้าใจว่าการ บอกลาคงจะไม่เป็นผลหากอีกฝ่ายยังคงดื้อดึงและอารมณ์ร้ายอยู่แบบนี้ แต่เขาจำเป็นต้องทำ! เขาต้องอาศัยการหักดิบแบบนี้ก่อนที่มันจะสายเกินไป
“ผมไม่อยากพูดถึงมันอีก พอกันที…ผมเหนื่อยและผิดหวังกับคุณมามากคุณกลับไปซะเถอะแล้วเราอย่าเจอกันอีกเลย ต่างคนต่างอยู่ คุณกลับไปใช้ชีวิตของคุณผมเองก็จะกลับไปใช้ชีวิตของผมให้เหมือนอย่างที่มันควรจะเป็นมาตั้งนานแล้ว”
“ก็ลองดูสิ!! กูจะเป็นคนลากตัวมึงกลับไปเองไม่ว่าตัวผู้หน้าไหนก็พรากมึงไปจากกูไม่ได้!!!” ร่างสูงตะคอกกลับไปยังร่างบางที่ยืนแสยะยิ้มออกมาอย่างขบขันก่อนจะหันไปจ้องผู้ชายอีกคนที่ดูเหมือนอยากจะแย่งคนของเขาไปเสียเต็มประดาราวกับหวงของ
คนตัวเล็กหัวเราะให้กับชะตาชีวิตที่เล่นตลกของตัวเองราวกับคนบ้า ก่อนแฟร์จะเอื้อยเอ่ยคำพูดที่ทำร้ายจิตใจคนฟังออกมาอีกระลอก คำพูดที่ตัวเขาคิดมันมาตลอดว่าคงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องบัดซบที่กำลังพบเจออยู่ในทุกวันนี้
“หากไม่มีใครพรากผมไปจากคุณได้จริง…ก็คงเหลือทางเลือกให้ผมแค่ทางเดียวซะแล้วล่ะ”
“...”
“คือตายจากคุณไปซะ!”
TBC...
18/07/2560
CHAPTER 18
แฟร์ตื่นนอนแต่เช้าพลางกวาดตามองไปทั่วห้องเพื่อหาใครอีกคนที่เอาแต่นอนกอดเขาทั้งคืนไม่ห่างหากแต่เมื่อมองไปจนทั่วแล้วกลับไร้ซึ่งวี่แววและเงาของอีกฝ่าย ไม่มีแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวภายในในห้องนี้แม้แต่น้อย
ร่างบางกระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะลุกขึ้นและเดินไปยังโต๊ะเล็กที่มีกระดาษโน้ตปิดพับวางเอาไว้เคียงข้างด้วยชามข้าวต้มร้อนๆ ที่ส่งกลิ่นหอมเสียจนแฟร์ไม่รอช้ารีบนั่งและจัดการอาหารเช้าตรงหน้าทันที
มือเล็กเปิดกระดาษโน้ตขึ้นอ่านพลางตักอาหารตรงหน้าเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ถ้อยคำแกมบังคับนิดๆ ที่ถูกอีกฝ่ายกลั่นกรองออกมาเป็นตัวหนังสือหวัดหากทว่ามันก็ยังบรรจงในคราวเดียวกันตรงหน้าทำให้แฟร์รู้ทันทีว่าเจ้าของกระดาษโน้ตใบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก…ราชันย์
ทานข้าวต้มให้อร่อย
ฉันเตรียมชุดใหม่ไว้ในตู้
อาบน้ำและเปลี่ยนเป็นชุดนั้น
แล้วมาพบฉันที่ห้องรับแขกเรือนใหญ่
แฟร์ปิดพับกระดาษโน้ตไว้ตามเดิม ร่างบางก้มหน้าก้มตาทานข้าวต้มตรงหน้าจนหมดก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อทำธุระตามที่อีกคนได้เขียนระบุไว้ในกระดาษโน้ตแผ่นนั้น เมื่อเสร็จร่างบางก็เดินออกจากบ้านสวนหลังนี้พร้อมกับมุ่งหน้าไปยังเรือนใหญ่ทันที
แฟร์เดินเข้าห้องโถงของเรือนใหญ่ด้วยท่าทีเกรงๆ บรรยากาศโดยรอบช่างเงียบสงัดส่งผลให้ร่างบางได้ยินเสียงพูดคุยที่ดังแว่วออกมาจากห้องรับแขกห่างจากจุดที่เขายืนประมาณยี่สิบเมตรได้อย่างชัดเจน
แฟร์ตัดสินใจเดินผ่านตู้โชว์ของสะสมหลายหลังไปยังห้องรับแขกที่อยู่ทางขวามือ จนกระทั่งดวงตากลมสังเกตเห็นสมาชิกในครอบครัวนี้ทั้งหมดกำลังนั่งเรียงรายอยู่บนโซฟาหรูท่ามกลางการพูดคุยของพวกเขาที่ดูจะมีรายละเอียดสำคัญ เพราะในขณะที่ร่างบางได้ก้าวเท้าเดินเข้าไป เสียงเหล่านั้นกลับเงียบลงถนัดตาจนแฟร์เริ่มสงสัย
เจ้าบ้านอย่างกนกส่งยิ้มให้กับคนที่มาใหม่ ก่อนนัยน์ตาสีน้ำตาลของร่างบางจะกวาดมองไปจนทั่วห้องที่มีทั้งพ่อบ้าน แม่บ้าน และชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งซึ่งแฟร์เองก็ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนกำลังมองเขาเป็นตาเดียว
ราชันย์ที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวขวามือของกนกโบกมือเรียกแฟร์พลางเขยิบที่นั่งข้างตัวเพื่อเป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าร่างสูงกำลังบอกเป็นนัยให้ร่างบางเข้าไปนั่งก่อนแฟร์จะตัดสินใจทำตามที่อีกฝ่ายบอกอย่างว่าง่าย
“หลับสบายมั้ยจ้ะหนูแฟร์” กนกเอ่ยทักทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นเมื่อแฟร์นั่งลงบนโซฟาข้างๆ ราชันย์เป็ฯที่เรียบร้อย
ร่างบางมองอีกฝ่ายกลับด้วยความรู้สึกผิดที่ประเดประดังเข้ามาจนคับอกก่อนราชันย์จะหันมาสบตากับเขาพลางพยักหน้าเพื่อเป็นการผ่อนคลายความกังวลนี้
“คะ…ครับ” แฟร์ตอบพลางก้มหัวกลับ
“นี่คือคุณทนงศักดิ์ทนายประจำตระกูลของเราจ้ะ” กนกแนะนำชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ด้วย
“ทนาย? ตระกูลของเรา?” ร่างบางถามอย่างไม่เข้าใจก่อนคนเป็นเจ้าของบ้านจะเอ่ยทับขึ้นมาเสียก่อน
“เอาล่ะในเมื่อมากันครบแล้วฉันก็จะเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดในอดีตที่ยังติดค้างไว้แต่ก่อนอื่นฉันขอถามอะไรหนูแฟร์หน่อยจะได้มั้ย” กนกว่าพลางมองแฟร์นิ่ง
ร่างบางเหลือบมองอีกฝ่ายเพียงครู่ก่อนจะพยักหน้ากลับอีกฝ่ายเลยไม่รอช้าเอ่ยคำถามที่อยู่ในใจของเธอออกไปทันที
“แฟร์ได้ยินเรื่องที่ป้าส่งคนไปทำร้ายลินดาได้ยังไง” คนถามมีสีหน้าที่อยากจะรู้ความจริงในข้อนี้เอามากๆ
“ผมได้อ่านจดหมายของพ่อที่ฝากไว้กับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งน่ะครับบังเอิญคุณพ่อท่านอาศัยอยู่กับเขาก่อนจะเสีย” ร่างบางตอบ
“นิกรเสียแล้วเหรอ” กนกมีท่าทีตกใจกับข่าวที่ได้รู้เธอเบิกตากว้าพลางยกมือขึ้นปิดปากอย่างเสียไม่ได้
“ครับเมื่อสองปีก่อน” แฟร์ว่าก่นอจะยกน้ำเปล่าตรงหน้าขึ้นดื่ม
“ป้าเสียใจด้วยนะจ้ะไม่คิดเลยว่าสองคนนั้นเขาจะเสียในเวลาไล่เลี่ยกัน เพราะคุณพิภพเองก็เสียไปเมื่อสองปีก่อนเหมือนกัน” เจ้าของบ้านเอ่ยคำพูดเป็นนัยออกมาให้ร่างบางสงสัยก่อนเธอจะถอนหายใจและเริ่มต้นเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีตทั้งหมดออกมาในที่สุด
“ป้ากับลินดาเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมัธยม…” กนกเอ่ยเล่าด้วยน้ำเสียงเศร้า ดวงตาที่เคยเป็นประกายกลับหดหู่ลงอย่างเห็นได้ชัดท่ามกลางทุกคนในห้องที่เงียบกริบตั้งใจฟังในสิ่งที่เธอพูด
“จำได้ว่าตอนนั้นพวกเราเรียนมอปลายปีสุดท้าย ลินดาถูกผู้ชายคนหนึ่งที่หล่อเหลาเอาการตามจีบ…เขาคือคุณพิภพ” คนเล่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะมองไปยังร่างบางที่นั่งข้างๆ ลูกชายคนโตของตน
“แต่เพราะอยู่คนละโรงเรียนพวกเขาทั้งคู่จึงได้เจอกันเฉพาะเวลาหลังเลิกเรียนเพียงเท่านั้น ซึ่งทุกครั้งที่คุณพิภพมาหาลินดาเธอก็มักจะพาป้าไปด้วยเสมอเช่นเดียวกับฝ่ายนั้นที่มักจะเกี่ยวเอาเพื่อนรักอีกคนมาด้วยนั่นก็คือนิกร”
ร่างบางมองกนกกลับด้วยแววตานิ่ง แฟร์หายใจไม่ทั่วท้องเมื่อได้ฟังเรื่องที่อีกฝ่ายกำลังเล่า
“นิกรตามจีบป้าหลังจากที่ลินดากับคุณพิภพคบหากันได้สามเดือน เขาเป็นคนทุ่มเท มุ่งมั่น มีความเป็นตัวเอง แต่เขากลับไม่เคยฟังใครแถมยังใจร้อน ป้าจึงไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ กับเขาตั้งแต่แรก แต่สุดท้ายป้าก็ตกลงคบหากับเขาเพียงเพราะอิจฉาลินดาที่มีคนดีๆ อย่างคุณพิภพคอยดูแล…ซึ่งในตอนนั้นป้าเองก็อยากจะมีบ้าง” เสียงของกนกสั่นเครือ เธอพยายามบังคับน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาด้วยการเงยหน้าขึ้นพลางกระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะเล่าต่อ
“แต่หลังจากนั้นไม่นานป้ากับนิกรก็พลาด…พวกเรามีอะไรกันจนกระทั่งอีกสองเดือนหลังจากนั้นป้าก็รู้ว่าตัวเองท้อง ป้าเลือกตัดขาดการติดต่อกับนิกรตั้งแต่นั้น จนกระทั่งครอบครัวของป้ารู้เรื่องเข้า พวกเขารับไม่ได้จึงหาผู้ชายที่เหมาะสมทั้งฐานะและชาติตระกูลให้มาแต่งงานกับป้า ซึ่งป้าเองก็มารู้ทีหลังว่าผู้ชายคนนั้นกลับเป็นคุณพิภพโดยในตอนนั้นครอบครัวของเรากำลังจะร่วมทำธุรกิจกันทางฝ่ายผู้ใหญ่จึงเห็นดีอยากให้ดองกันไว้เพราะมันค่อนข้างที่จะมีผลดีต่อธุรกิจในวันข้างหน้า”
ร่างบางได้ยินก็รู้สึกปวดร้าวไปทั้งอก เรื่องราวที่ออกมาจากคำพูดของกนกแม้ว่าจะยังไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่หากทว่าแฟร์กลับรู้สึกว่ามันเศร้าเหลือเกินจนน้ำตาเริ่มเอ่อขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“หลังจากที่ป้าแต่งงานกับคุณพิภพพวกเราก็ตกลงกันไว้ว่าจะอยู่กันเหมือนเพื่อน คุณพิภพจะยังไปหาลินดาได้เสมอเมื่อต้องการซึ่งป้าเองก็ตกลงและดูแลตัวเองอย่างดีจนเมื่อเวลาผ่านไปเก้าเดือนป้าก็คลอดราชันย์” กนกพูดพลางสบตาลูกคนโต
ร่างบางชะงักก่อนจะหันไปมองเสี้ยวหน้าของคนข้างๆ เช่นเดียวกันหากทว่าราชันย์กลับไม่สะทกสะท้านกับเรื่องที่กนกเล่าออกมาแต่อย่างใด ร่างสูงยังคงมองไปยังผู้เป็นแม่ด้วยแววตาหนักแน่นไม่เปลี่ยน
“ป้ากับคุณพิภพช่วยกันเลี้ยงดูราชันย์อย่างดีในขณะที่คุณพิภพเองก็ยังคงไปหาลินดาไม่เคยขาด ส่วนนิกรที่อยากเจอป้าก็ฝากคำขอร้องผ่านคุณพิภพกลับมาบอกเสมอ แต่เป็นป้าเสียเองที่ไม่กล้าพอจะไปเจอเขา ป้ากลัว อะไรหลายๆ อย่างทำให้ป้าเอาแต่หลบอยู่แบบนี้และไม่ให้เขารู้กระทั่งว่าราชันย์คือลูกของเขา” น้ำตาของกนกไหลอาบข้างแก้ม เธอเอื้อมมือขึ้นปาดมันออกก่อนจะสบตากับแฟร์ที่นั่งนิ่งไม่ไหวติงพลางเหยียดรอยยิ้มเศร้ามาให้
“แต่พอเข้าปีที่สามหลังจากที่ป้าแต่งงานกับคุณพิภพ ลินดาก็ตั้งท้อง คุณพิภพเลยอยากจะหย่าเพื่อที่จะได้กลับไปดูแลเธอได้ แต่เรื่องทั้งหมดกลับถึงหูผู้ใหญ่ทางฝั่งป้าเสียก่อน พวกเขาส่งคนไปทำร้ายลินดาถึงที่บ้าน ป้าโกรธมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และหลังนั้นไม่นานลินดาก็หนีไปแถมยังตัดขาดการติดต่อกับทุกคนทำให้คุณพิภพนั้นเสียใจมาก”
“แต่แล้ววันหนึ่งลินดาก็เขียนจดหมายส่งมาถึงป้า บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอว่าตอนนั้นเธอสบายดี เธอเข้าใจเรื่องที่ถูกทำร้ายและไม่อยากให้ป้าโทษตัวเอง เธอได้คลอดลูกชายหน้าตาน่ารักพร้อมกับมีคนคอยดูแลและอยู่เป็นเพื่อนซึ่งป้าก็ไม่คิดเลยว่าเพื่อนคนนั้นจะเป็นนิกร” แฟร์มองกนกด้วยแววตาสั่นระริก ร่างสูงข้างๆ จึงเอื้อมมือมากุมมือของเขาไว้อย่างหลวมๆ เพื่อเป็นการปลอบ
“เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้ป้าขอโทษจริงๆ ที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเพราะถ้าหากในอดีตป้าเข้มแข็งเทียบเท่าลินดาสักนิดชีวิตของทุกคนก็คงไม่เป็นแบบนี้” กนกว่าทิ้งท้ายก่อนจะเช็ดน้ำตาตัวเองเบาๆ
“แล้วผมจะเชื่อเรื่องที่คุณป้าเล่ามาทั้งหมดได้ยังไง” ร่างบางเอ่ยหลังจากที่อีกคนเล่าจนจบ กนกเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายพลางยิ้ม
“ป้ารู้ว่าหนูต้องถาม” เจ้าของบ้านว่าก่อนจะหยิบเอาซองจดหมายที่วางไว้บนโต๊ะด้านหน้าอยู่ก่อนแล้วยื่นให้กับแฟร์
“นี่เป็นจดหมายที่ลินดาเขียนส่งมา มีรูปเราตอนยังแบเบาะด้วยนะน่ารักไม่เบาเลย” ร่างบางมองซองจดหมายที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ก่อนจะเอื้อมมือออกไปหยิบและแกเปิดอ่านทันที
ข้อความตัวบรรจงที่ถูกขีดเขียนมาด้วยหมึกปากกาสีน้ำเงินทำเอาแฟร์รู้สึกคับแน่นไปทั้งอก เนื้อความบอกเล่าเรื่องราวที่ใช้สำนวนแบบเพื่อนสนิทคุยกันทำให้ร่างบางที่กวาดสายตาอ่านมันจนจบรีบเงยหน้ามองกนกที่ยังคงส่งยิ้มกลับมาให้เขาก่อนที่มือเล็กจะหยิบเอารูปใบหนึ่งที่แนบมาในซองจดหมายขึ้นดู
มันเป็นรูปของผู้หญิงคนหนึ่งกำลังอุ้มเด็กทารกชายที่มีไฝสองเม็ดเล็กใต้ตาขวาส่งยิ้มมาด้วยใบหน้าที่มีความสุข
แฟร์มองรูปตรงหน้าก่อนน้ำตาของเขาจะไหลออกมาเป็นสาย ใบหน้าของผู้เป็นแม่ที่เขาไม่เคยลืมแม้ว่าอีกฝ่ายจะจากไปนานกว่าสิบเจ็ดปีแล้วแต่ไม่เคยมีสักวันที่ร่างบางจะไม่คิดถึง
“นิกรคงไม่รู้เรื่องนี้เขาเลยผูกใจเจ็บ ป้าอยากขอโทษที่ทำกับเขาแบบนั้นมาโดยตลอดแต่ก็หาทางติดต่อกับเขาไม่ได้” กนกเอ่ยก่อนราชันย์จะเอ็ดร่างบางที่เอาแต่ร้องไห้กลับ
“หยุดร้องไห้ได้แล้วไม่อายบ้างหรือไง” ร่างสูงว่าพลางเอื้อมมือไปปาดน้ำตาอีกฝ่ายออก
“ก็ผม…” แฟร์พยายามจะเถียงพร้อมกับเบือนหน้าหนีเพราะรู้ดีว่าทุกคนกำลังมองพวกเขาอยู่หากแต่ราชันย์ก็ยังไม่หยุดการกระทำเหล่านั้น
“เข้มแข็งหน่อยแฟร์” ร่างสูงเอ่ยหลังจากที่ปาดน้ำตาอีกฝ่ายออกจนหมดก่อนร่างบางที่เงยหน้าขึ้มาสบตากับเขาจะเอ่ยถามกลับไปอีกเมื่อยังมีบางอย่างที่เขายังสงสัย
“แล้วอัศวิน…” ร่างบางเอ่ยไม่ทันจบราชันย์ก็สวนกลับทันควัน
“คนเราไม่ใช่พระอิฐพระปูนนายก็น่าจะเดาเรื่องต่อจากนั้นออก” ร่างสูงว่าพลางมองไปยังผู้เป็นแม่ที่ส่งยิ้มกลับมาราวกับคนโดนแซว
“หมายความว่าผมกับอัศวินเป็นพี่น้องกัน?” แฟร์เบิกตากว้างพลางมองไปยังคนที่ถูกกล่าวถึง
อัศวินยิ้มรับก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้ม
“ครับพี่ชาย” แฟร์อ้าปากค้างก่อนจะหันไปมองราชันย์เพื่ออยากให้อีกฝ่ายบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริงหากทว่าราชันย์กลับสวนคำพูดที่ทำเอาเขายิ่งอึ้งเข้าไปใหญ่
“หน้านายกับมันเหมือนกันมากกว่าฉันซะอีกแล้วอะไรที่ทำให้นายคิดว่าเราสองคนจะเป็นพี่น้องกันล่ะหืม” ร่างสูงว่าพลางมองแฟร์กลับอย่างเอาเรื่องก่อนกนกจะขัดขึ้นเมื่อสถานการณ์ตรงหน้าเริ่มคลี่คลายเป็นไปอย่างที่เธอหวัง
“เอาล่ะเราเสียเวลามามากแล้วต่อไปคงเป็นหน้าที่ของคุณทนงศักดิ์แล้วล่ะค่ะ” เจ้าของบ้านว่าก่อนที่ทุกคนจะหันไปให้ความสนใจกับชายวัยกลางคนที่นั่งฟังเรื่องต่างๆ อย่างเงียบๆ อยู่ตรงโซฟาเล็กซ้ายมือของกนกทันที
“ได้ครับ ถ้าอย่างงั้นผมจะเปิดพินัยกรรมของคุณพิภพเดี๋ยวนี้”
“พินัยกรรม?” สิ้นเสียงของทนงศักดิ์แฟร์ก็ทวนคำพูดนี้ขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
“ใช่จ้ะเพราะคุณพิภพสั่งเสียเอาไว้ว่าหากวันไหนที่หาตัวลูกแท้ๆ ของเขากับลินดาเจอให้เปิดพินัยกรรม” กนกคลายความสงสัยแต่ร่างบางกลับยิ่งรู้สึกว่าเรื่องมันเริ่มที่จะเลยเถิดไปกันใหญ่จนต้องกล่าวห้าม
“แต่ว่าผม…ผมไม่มีหลักฐานในการแสดงตัวเลยแม้แต่อย่างเดียวนะครับ” แฟร์ว่า
“ป้าเชื่อของป้าไม่มีใครที่จะมีไฝสองเม็ดเล็กใต้ตาขวาแบบเราอีกแล้ว”
“แต่ว่า…”
“งั้นป้าขอถามเราหน่อยสิว่าลินดาเกิดวันที่เท่าไหร่”
“ท่านเกิด วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2513 ครับ”
“แล้วชอบทานขนมอะไร”
“ท่านชอบทานขนมไทยโดยเฉพาะจ่ามงกุฎ”
“แล้วเวลาจะนอนเธอจะทำอะไร”
“ท่านจะต้องอ่านหนังสือที่คล้ายๆ กับไดอารี่เล่มเล็กๆ สีน้ำเงินทุกครั้งและจะนั่งสมาธิอีกประมาณสิบนาที” สิ้นเสียงคำตอบของร่างบางกนกก็เผยรอยยิ้มก่อนจะพูดขึ้น
“แฟร์อาจจะยังไม่รู้ว่าแม่ของเธอเป็นคนโลกส่วนตัวค่อนข้างสูงหากใครไม่สนิทจริงจะไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอกโดยเฉพาะเรื่องไดอารี่เพราะมันเป็นไดอารี่ที่คุณพิภพให้กับเธอเอาไว้ฉะนั้นป้าเชื่อว่าเราคือตัวจริง” ว่าเสร็จกนกก็หันไปหาทนงศักดิ์
“เชิญคุณทนงศักดิ์ต่อเลยค่ะ”
“ครับคุณกนก” ทนงศักดิ์พยักหน้ารับก่อนจะล้วงเอาพินัยกรรมของพิภพขึ้นมาอ่านทันที
“ข้าพเจ้านายพิภพ ชวกรดำรงค์ ได้จัดทำพินัยกรรมเพื่อยกมรดกและทรัพย์สินของข้าพเจ้าภายหลังจากที่ข้าพเจ้าเสียชีวิตให้กับทายาทและบุคคลต่างๆ ดังมีรายนามดังต่อไปนี้…
1. นายราชันย์ ชวกรดำรงค์ บุตรชายของนางกนก ชวกรดำรงค์ และนายนิกร พรรักษา จะได้รับตำแหน่งผู้บริหารบริษัท CHAVAKORN Co., Ltd. ในส่วนของกิจการอสังหาริมทรัพย์ หุ้นของข้าพเจ้าทั้งหมดจำนวนสามสิบเปอร์เซนต์ทั้งภายในบริษัท CHAVAKORN Co., Ltd. และตลาดหลักทรัพย์ เงินสดจำนวนหนึ่งร้อยยี่สิบล้านบาทและบ้านพักที่จังหวัดภูเก็ตจำนวนหนึ่งหลัง
2. บุตรของข้าพเจ้าและนางลินดา มานะชื่น (ในกรณีที่ยังมีชีวิตอยู่) จะได้รับตำแหน่งผู้บริหารบริษัท CHAVAKORN Co., Ltd.ในส่วนของกิจการเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย หุ้นของข้าพเจ้าทั้งหมดจำนวนสามสิบห้าเปอร์เซนต์ทั้งภายในบริษัท CHAVAKORN Co., Ltd. และตลาดหลักทรัพย์ เงินสดจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทและบ้านพักที่จังหวัดภูเก็ตจำนวนหนึ่งหลัง
3.นายอัศวิน ชวกรดำรงค์บุตรชายของข้าพเจ้าและนางกนก ชวกรดำรงค์ จะได้รับตำแหน่งผู้บริหารบริษัท CHAVAKORN Co., Ltd.ในส่วนของกิจการโรงแรมและที่พัก หุ้นของข้าพเจ้าทั้งหมดจำนวนสามสิบห้าเปอร์เซนต์ทั้งภายในบริษัท CHAVAKORN Co., Ltd. และตลาดหลักทรัพย์ เงินสดจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทและบ้านพักที่จังหวัดเชียงใหม่จำนวนหนึ่งหลัง
4.นางกนก ชวกรดำรงค์ ภรรยาของข้าพเจ้า จะได้รับบ้าน 'ชวกรดำรงค์' เครื่องเพชรทั้งหมด เงินสดจำนวนสองร้อยล้านบาท บ้านพักที่เขาใหญ่จำนวนสองหลังและสิทธิ์ในการดูแลบุตรของข้าพเจ้ากับนางลินดา มานะชื่น ในกรณีที่ยังมีชีวิตให้อยู่อย่างสุขสบาย
5.พ่อบ้าน แม่บ้านตลอดจนถึงคนสวนและคนรับใช้ทุกคนในบ้าน 'ชวกรดำรงค์' จะได้รับเงินจำนวนห้าแสนบาททุกคนภายหลังจากได้เปิดพินัยกรรมนี้แล้ว
หากบุตรของข้าพเจ้าและนางลินดา มานะชื่น ถึงแก่ชีวิตก่อนการเปิดพินัยกรรมฉบับนี้ทรัพย์สินทั้งหมดที่ข้าพเจ้ามอบให้จะตกเป็นของนายราชันย์และนายอัศวิน ชวกรดำรงค์ คนละห้าสิบเปอร์เซนต์ทันที
ลงชื่อ พิภพ ชวกรดำรงค์”
อ่านจบทนงศักดิ์ก็ปิดพับสมุดพินัยกรรมของพิภพลง ร่างบางของแฟร์ได้ยินดังนั้นก็ตัวชาวาบขึ้นมาทันที แฟร์ตกใจกับเรื่องที่เพิ่งจะได้รู้เป็นอย่างมาก เหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านไปมันช่างไกลกว่าที่เขาคิด แฟร์ขมวดคิ้วพลางรวบมือที่ชื้นไปด้วยเหงื่อด้วยท่าทีประหม่าก่อนเจ้าของบ้านอย่างกนกจะเอ่ยถามกลับเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังจะมาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวเอาแต่นิ่งเงียบ
“นี่คือสิ่งสุดท้ายที่คุณพิภพอยากจะมอบให้กับทุกคน…แฟร์ฉันอยากจะให้หนูย้ายเข้ามาอยู่กับพวกเราในฐานะลูกชายของฉันอีกคน” กนกว่าก่อนราชันย์จะเอ่ยเสริม
“ใช่มาอยู่ด้วยกันเสียที่นี่นายจะได้ไม่ต้องลำบากอีก” ร่างสูงมองไปยังคนข้างๆ ที่เอาแต่เงียบก่อนกนกที่กำลังจะเอ่ยอะไรออกมาอีกจะถูกร่างบางเอ่ยทับ
“แฟร์…”
“ผมขอไม่รับครับ”
“!!”
“ผมไม่อยากได้ทรัพย์สินอะไรทั้งนั้น ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วแต่ผมก็ไม่ได้อยากให้ทางคุณป้ารับผิดชอบอะไร” คำพูดของแฟร์สร้างความแปลกใจให้กับทุกคนในห้องเป็นอย่างมากโดยเฉพาะกับราชันย์ที่หันมองคนข้างๆ อย่างไม่เข้าใจทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ยถาม
“หมายความว่าไง” สิ้นเสียงของราชันย์แฟร์ก็หันไปให้คำตอบคนข้างๆ ด้วยใบหน้านิ่ง
“ผมขอจบเรื่องราววุ่นวายทั้งหมดแต่เพียงเท่านี้ ผมไม่ต้องการอะไรนอกจากขอให้ผมได้ใช้ชีวิตอยู่แบบเดิม เป็นเพื่อนบ้านไม่ก้าวก่ายชีวิตของกันและกันแค่นั้นก็พอครับ”
“ไม่ได้!” ราชันย์ตะโกนขัดก่อนจะลุกขึ้นมองแฟร์อย่างเอาเรื่อง
“ราชันย์ใจเย็นก่อนลูก” กนกเห็นดังนั้นจึงเอ่ยปราม
“กูไม่ยอมให้มึงทำแบบนั้นแน่!!” ร่างสูงเอ่ยทันทีที่อีกฝ่ายลุกยืนขึ้นตาม คำพูดว่าร้ายที่ดังออกมาทำเอาผู้เป็นแม่ที่กำลังคว้าแขนลูกชายคนโตเอาไว้เพื่อให้ใจเย็นสะดุ้งเฮือก
แฟร์มองหน้าราชันย์นิ่ง ร่างบางไม่เอ่ยอะไรออกมาก่อนร่างสูงตรงหน้าจะตวาดถามกลับไปอีก
“กูนึกว่าเราเข้าใจกันแล้วตั้งแต่เมื่อคืน! ตกลงมึงต้องการจะไปจากกูให้ได้เลยใช่มั้ย!!”
“คือหนูแฟร์ป้าว่า…” กนกที่พยายามจะให้ทั้งสองฝ่ายคุยกันดีๆ เอ่ยปากหากแต่ร่างบางที่กำลังจ้องราชันย์ด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดากลับเอ่ยขึ้นทับพลางยกมือไหว้
“เสร็จธุระทั้งหมดแล้วใช่มั้ยครับคุณป้างั้นผมขอตัวกลับก่อน” แฟร์ทำท่าจะเดินออกจากห้องรับแขกมาทันทีแต่ร่างสูงของราชันย์กลับฉวยข้อมืออีกฝ่ายเอาไว้พร้อมกับกระชากกลับ
“มึงยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นกลับมาคุยกันให้รู้เรื่อง!!”
“โอ้ย!!” แฟร์ร้องออกมาพลางนิ่วหน้า
“ราชันย์!” กนกตะโกนปรามลูกตัวเองลั่นจนทุกๆ คนในห้องต่างพากันจดจ้องไปยังพวกเขาเป็นตาเดียว
“กูไม่ยอมปล่อยมึงไปเด็ดขาด!” ร่างสูงว่าพลางยื้อแฟร์ที่พยายามแกะมือหนาของเขาออกเอาไว้
“ผมแค่ต้องการความสงบสุขของผมคืน!” ร่างบางตะโกนบอกก่อนจะสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของราชันย์ได้สำเร็จและเตรียมเดินหนีออกมาทันทีหากทว่าคำพูดต่อมาของราชันย์กลับทำให้แฟร์ถึงกับชะงัก
“แต่มึงเป็นเมียกูแล้ว!!”
“!!”
ร่างสูงตะโกนออกไปอย่างไม่อาย ผู้เป็นแม่นถึงกับเบิกตากว้างพอๆ กับทุกคนในห้องที่เมื่อได้ยินก็ส่งเสียงอื้ออึงออกมาอย่างไม่เชื่อหู
ร่างบางหันกลับมามองราชันย์อย่างคาดโทษก่อนอีกฝ่ายจะเอ่ยคำพูดว่าร้ายออกไปอีกหากแต่มันกลับเป็นคำพูดร้ายๆ ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่อยากจะให้อีกฝ่ายรับรู้
“มึงเป็นเมียกูแล้ว! ไม่ใช่แค่กูที่ต้องรับผิดชอบมึงแต่มึงต้องรับผิดชอบใจของกูด้วย!!”
“!!”
แฟร์เบิกตากว้างทันทีที่ได้ยิน ร่างบางเริ่มหายใจเข้าออกได้ไม่ทั่วท้องก่อนที่เนื้อตัวจะค่อยๆ ชาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เมื่ออีกฝ่ายพยายามเอ่ยคำพูดมากมายออกมาท่ามกลางสายตาที่ราชันย์ใช้มองเขา
มันดู…ยอมแพ้และอ้อนวอนจนคนถูกมองถึงกับใจเต้นรัว
“ต้องทำยังไงมึงถึงจะยอมยกโทษให้กู…บอกกูหน่อยแฟร์ว่ากูต้องทำยังไง”
“…”
“กูรักมึงแฟร์…กูรักมึงไปแล้วเข้าใจกูบ้างมั้ย”
“!!”
แฟร์หัวใจกระตุกวูบทันทีที่ได้ยิน ร่างบางสับสนจนไม่อาจควบคุมการกระทำและอารมณ์ของตัวเองได้ สายตาที่เขาใช้มองไปยังเจ้าของคำบอกรักนี้สั่นระริกก่อนที่น้ำใสจะค่อยๆ เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตากลมเมื่อภาพเหตุการณ์ร้ายๆ ที่อีกฝ่ายเคยทำเอาไว้กลับฉายชัดขึ้นมาเสียจนแฟร์รับรู้ถึงความรู้สึกตอนนั้นได้เป็นอย่างดี
ร่างบางมองราชันย์อีกเพียงครู่ก่อนจะตัดสินใจหันหลังกลับและวิ่งออกจากบ้านชวกรดำรงค์มาทันที
“แฟร์!!” ราชันย์ตะโกนก้องอย่างบ้าคลั่งก่อนจะพยายามวิ่งตามอีกคนออกไปแต่กนกกับอัศวินและคนอื่นๆ กลับตรงเข้ามายื้อตัวเขาเอาไว้เสียก่อน
“ปล่อยผม! หยุดเดี๋ยวนี้นะแฟร์! กลับมา!!!” ร่างสูงตะโกนออกไปจนสุดเสียงแต่ร่างบางกลับไม่ยอมทำตามเลยสักนิด แฟร์ยังคงวิ่งออกไปอย่างไม่เหลียวหลังก่อนราชันย์จะทรุดตัวลงเสียตรงนั้นราวกับคนหมดแรง
กนกมองดูลูกชายที่ไม่เคยอ่อนแอให้เห็นเลยสักครั้งด้วยความสงสาร ผู้เป็นแม่รู้ดีว่าระหว่างแฟร์กับราชันย์ต้องมีอะไรมากกว่าการเป็นเจ้านายกับลูกน้องอย่างแน่นอนก็ตอนที่เห็นราชันย์ตะโกนเรียกอีกฝ่ายอยู่หน้าบ้านในวันนั้น
“อย่าเพิ่งคาดคั้นหนูแฟร์เขาเลยแกคงกำลังสบสันให้เวลาแกได้คิดอีกสักนิดเถอะ” กนกว่าก่อนจะมองใบหน้าราชันย์ที่ตอนนี้มันช่างดูเคร่งเครียดปนเศร้าหมองกว่าครั้งไหนๆ อย่างเห็นใจ
“ผม…” ร่างสูงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือก่อนคนเป็นแม่จะเอ่ยถามเรื่องที่ยังสงสัยกับคำพูดของอีกฝ่ายเมื่อกี้ออกไป
“ความจริงแม่ก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องของลูกหรอกนะ แต่คำที่ลูกใช้เรียกหนูแฟร์เมื่อกี้มันทำให้แม่ต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
“…”
“บอกแม่มาให้หมดว่าลูกทำอะไรไว้กับหนูแฟร์”
“!!”
TBC..........
------------------------------------------------
เรื่องครอบครัวคลี่คลายลงแล้ว เหลือแต่เรื่องส่วนตัวของทั้งคู่แล้วล่ะ!!
#อีเฮียคายปากบอกรักหนูแฟร์แล้วค่ะ กิ่งอยากจะกรี๊ดดดดดด
บอกต่อหน้าทุกคนด้วยนะเออ ไม่ธรรมดา พระเอกของเราใจกล้าชะมัด!
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
ต่อค่ะ....
“อ่ะ! อื้ออออ” เสียงเล็กครางผะแผ่วดังขึ้นอย่างเสียวซ่านเมื่อร่างสูงลงลิ้นลากไล้ไปทั่วแผงหน้าอกบางจนตุ่มไตเล็กสีชมพูลุกชูชันส่งผลให้คนด้านบนครอบริมฝีปากลงพลางดูดดึงจนเกิดเสียงดังน่าอาย
แฟร์พยายามกลั้นเสียงตัวเองเอาไว้ ร่างบางหอบหายใจพลางนึกอายจนอยากจะถอยหนีเมื่อราชันย์เริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาออกทีและชิ้นจนไร้ซึ่งสิ่งปกปิดร่างกายในที่สุด
ราชันย์คร่อมแฟร์เอาไว้ทั้งร่างก่อนจะเท้าศอกลงกับเตียงและเงยหน้าจากแผงอกนั้นขึ้นก่อนจะถามกลับไป
“มึงไม่ได้กำลังฝืนตัวเองอยู่ใช่มั้ย” ร่างสูงมองอีกคนด้วยความรู้สึกและความต้องการที่ประเดประดังเข้ามาจนเริ่มที่จะห้ามตัวเองไม่ได้เข้าไปทุกที
“ผะ…ผมโอเค” แฟร์ตอบเสียงอ่อนก่อนจะเบือนหน้าไปอีกทางอย่างเขินอาย
“ถ้ามึงไม่รีบห้ามกูตอนนี้เมื่อไหร่ที่กูเริ่มเดินเครื่องเมื่อนั้นแม้ว่ามึงจะพยายามห้ามหรือร้องขอชีวิตกับกูสักแค่ไหนกูก็จะไม่หยุด” ร่างสูงบอกถึงความต้องการที่มากล้นก่อนคนใต้ร่างจะหันมาสบนัยน์ตาคมพร้อมกับยืนยันกลับไป
“ผมโอเค…ถ้าเป็นคุณ” สิ้นเสียงของแฟร์ราชันย์ก็ทำการซุกไซร้ซอกคอขาวทันทีก่อนจะเคลื่อนปากไปตามใบหู หน้าผาก ปลายจมูกเรื่อยลงมาจนถึงริมฝีปากเล็กที่เผยอรอให้อีกฝ่ายส่งลิ้นร้อนเข้าไปกวาดต้อนลิ้นเล็กที่พยายามตอบรับร่างสูงอย่างเคอะเขิน
ราชันย์ขบเม้มริมฝีปากของแฟร์อย่างเร้าร้อนเช่นเดียวกับร่างบางที่ตอบรับอีกฝ่ายด้วยการกดจูบย้ำๆ ไปตามริมฝีปากสีคล้ำอย่างโหยหา ร่างสูงทำการผละริมฝีปากออกก่อนจะจูบซับไปยังปลายคาง แผงอก เรื่อยลงมาจนถึงหน้าท้องแบนราบไร้ซึ่งมัดกล้ามเฉกเช่นชายชาตรีทั่วไปท่ามกลางเสียงร้องครางของอีกฝ่ายที่มันช่างเรียกอารมณ์มากมายให้ตรงเข้าหาร่างสูงได้เป็นอย่างดี
“อึก! อ่ะ! อื้อออ”
ราชันย์กดจูบไปรอบๆ สะดือเล็กก่อนจะเคลื่อนริมฝีปากลงไปยังกลางกายของอีกคนช้าๆ ร่างสูงจับกลางกายของคนใต้ร่างขึ้นก่อนแฟร์จะร้องเสียงหลงเมื่อรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร
“ดะ…เดี๋ยว! คุณราชันย์คุณจะทำอะไร! ไม่เอานะ! อ่า…ซี๊ดดดด” แฟร์ครางออกมาอย่างช่วยไม่ได้เมื่อความร้อนจากโพรงปากนุ่มของราชันย์แผ่กระจายไปทั่วกลางกายเล็กที่ยังสงบในขณะที่อีกคนพยายามปลุกเร้าให้มันผงาดขึ้นมา
ร่างบางเอื้อมมือข้างหนึ่งขึ้นปิดปากสะกดกลั้นเสียงครางแห่งความสุขสมของตัวเองในขณะที่มืออีกข้างก็พยายามดันไหล่แกร่งของอีกคนให้เลิกทำเรื่องน่าอายเช่นนี้ หากทว่าราชันย์กลับไปสะทกสะท้านร่างสูงยังคงรูดรั้งและปรนเปรอร่างบางด้วยโพรงปากของตัวเองจนอีกฝ่ายเริ่มปวดหนึบ
“อือ อือ อ่ะ อือ…คุณ! พอก่อน! ผมจะ!...” แฟร์ร้องห้ามเมื่ออีกฝ่ายพยายามเร่งจังหวะจนร่างบางใกล้เสร็จเข้าไปทุกที
ราชันย์มองใบหน้าแดงก่ำและทรมานของอีกฝ่ายด้วยใจที่ชื้นไปด้วยความสุขจนเต็มอก ร่างสูงพยายามใช้มือรูดรั้งเพิ่มจังหวะช่วยริมฝีปากที่เจ้าตัวยังไม่ประสานักหลังจากที่ศึกษาเรื่องพวกนี้จากอินเตอร์เน็ตมาได้แค่ไม่กี่วัน
“คุณราชันย์ อ่ะ! อ๊า!!!” มือเรียวบีบลงบนลาดไหล่กว้างก่อนจะปลดปล่อยความคับแน่นออกมาจนเต็มโพรงปากของอีกคน
“ผะ…ผมขอโทษ! คายมันออกมาสิครับ! คายมันออกมา!” แฟร์ลุกขึ้นนั่งพลางละล่ำละลักคำพูดมากมายออกมาหากทว่าร่างสูงกลับไม่ฟัง ราชันย์มองใบหน้าตื่นของคนใต้ร่างเพียงครู่ก่อนที่เขาจะตัดสินใจกลืนสิ่งที่อยู่ในปากของตัวเองลงคอไปในที่สุด
“คุณ! อ่ะ!!!” แฟร์ที่เบิกตากว้างเพราะตกใจกับสิ่งที่อีกคนทำกำลังจะเอ่ยคำพูดออกไปอีกหากแต่กลับถูกราชันย์ผลักให้ล้มลงไปนอนอีกครั้งก่อนร่างสูงจะจ้องเขากลับอย่างยียวน
“กูก็แค่ใจดีวอร์มให้มึงก่อนก็เท่านั้นทีนี้ถึงตากูเอาคืนบ้าง” พูดเสร็จร่างสูงก็ปลดเปลื้องอาภรณ์ของตัวเองออกก่อนจะตะปบมือหนาลงบนสะโพกเล็กพร้อมกับนวดคลึงมันไปมาอย่างมั่นเขี้ยว
“อ่ะ! อื้อออ” แฟร์กัดปากร้องออกมาเมื่อราชันย์พยายามแทรกนิ้วยาวของเขาเข้าไปยังช่องทางกลีบกุหลาบของเขา ร่างสูงส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอเมื่อทุกอย่างที่เขาอุตส่าห์ศึกษามาเป็นอย่างดีกลับไม่เป็นไปตามที่คิดเมื่อร่างกายของแฟร์ดูจะต่อต้านเขาอยู่ไม่น้อย
“ผ่อนคลายหน่อยแฟร์กูเพิ่งเอานิ้วเข้าไปได้นิ้วเดียวอยู่เลย” ราชันย์บอก
“มะ…มัน อึก!” แฟร์พยายามผ่อนคลายอย่างที่อีกฝ่ายบอกหากแต่ตอนเริ่มต้นมันกลับรู้สึกแปลกๆ จนร่างบางไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไงต่อไปอีก
“กูกำลังทำให้มึงชินเพราะถ้าขืนทำอย่างคราวก่อนมีหวังมึงได้เลือดอีกแน่ๆ” ร่างสูงบอกก่อนจะส่งนิ้วที่สองเข้าไป
“ไม่ต้องพูดถึงมันแล้ว ผะ…ผมไม่อยากฟัง อ่ะ!” แฟร์สบถว่าให้ก่อนราชันย์จะส่งนิ้วที่สามตามเข้าไปติดๆ
“โอเคครับเมีย ผัวขอโทษผัวจะไม่พูดถึงมันอีกต่อไปแล้ว” ร่างสูงว่าแซวก่อนจะพยายามขยับนิ้วเข้าออกให้เป็นจังหวะ
แฟร์หลับตาปี๋พลางยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองเอาไว้ไม่ใช่เพราะอายแต่เพราะเขากำลังยิ้มให้กับประโยคของร่างสูงเมื่อครู่จนลืมความคับแน่นที่มีอยู่ไปเสียชั่วขณะ
“อะ อึก! อ๊า!ๆ” แฟร์ร้องครางออกมาเมื่อราชันย์เร่งจังหวะก่อนอีกฝ่ายจะค่อยๆ ถอนนิ้วทั้งสามออกพร้อมกับจ่อกลางกายของตัวเองที่ยังคงผงาดตั้งแต่เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไปยังช่องทางด้านหลังของแฟร์แทน
“กูจะใส่เข้าไปแล้วนะ”
“ดะ…เดี๋ยว” แฟร์เอ่ยก่อนจะลอบมองคนด้านบนด้วยท่าทีอ้ำอึ้ง
“ทำไม” ร่างสูงถามพลางเลิกคิ้ว
“คะ…คุณไม่มีเจลเหรอ”
“ไม่มี”
“คือว่า…”
“อะไร”
“ผม…ผมกลัวเจ็บ” แฟร์ว่าก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความอาย
“รับรองว่ากูจะทำเบาๆ” ราชันย์ได้ยินถึงกับยิ้มขำ ก่อนจะก้มลงจูบซับไปยังพวงแก้มสีแดงระเรื่อนั่นหลายที
ร่างสูงหยัดตัวขึ้นอีกครั้งก่อนจะลากไล้แท่งร้อนของตัวเองไปมาบนช่องทางด้านหลังของอีกฝ่าย ราชันย์มองช่องทางกลีบกุหลาบของแฟร์นิ่งก่อนที่เขาจะค่อยๆ ลงแรงกดส่วนหัวกลางกายใหญ่ของตัวเองเข้าไป
“อึก! อือออ โอ้ย!!”
“เจ็บเหรอ!” ร่างสูงถามตาตื่นเมื่อแฟร์ร้องออกมาหลังจากที่เขาเข้าไปในช่องทางนี้ได้แค่เพียงส่วนหัวเท่านั้น
“นิดหน่อย ไม่เป็นไร ทะ…ทำต่อเถอะ” แฟร์ว่าก่อนจะหายใจเข้าจนเต็มปอด
ราชันย์พยายามกดมันเข้าไปอีกครั้งท่ามกลางร่างบางที่นิ่วหน้าเหยเกด้วยความเจ็บระคนเสียวซ่าน
“ผ่อนคลายหน่อยแฟร์มึงตอดกูมากไปแล้ว” ราชันย์ว่าพลางนิ่วหน้าตาม
“ซี้ดดด อึก! อ่า…” ความคับแน่นของแฟร์ทำให้ร่างสูงเองก็ทรมาน ราชันย์แทบจะเสร็จทุกครั้งจนเริ่มคิดได้ว่าหากขืนเป็นอย่างนี้อีกต่อไปได้ทรมานกันทั้งคู่เป็นแน่ ร่างสูงจึงก้มลงบดจูบริมฝีปากเล็กราวกับอยากจะให้อีกฝ่ายพยายามผ่อนคลายให้มากกว่านี้
แฟร์จูบตอบราชันย์กลับก่อนร่างสูงจะลากไล้ริมฝีปากไปตามซอกคอของเขาเพื่อจูบซับไปมาในขณะที่ช่วงล่างก็พยายามดันเข้ามาทีละนิด
ร่างบางส่งเสียงร้องออกไปอีกครั้งเมื่อความคับแน่นยิ่งทวีคูณจนแฟร์รู้สึกจุกไปทั่ว ราชันย์เคลื่อนริมฝีปากขึ้นมาบดจูบเขาอีกครั้งก่อนร่างสูงจะทำดันกลางกายเข้าไปในช่องทางของแฟร์ขณะที่อีกฝ่ายเผลอไผลไปกับรสจูบจนมิดด้าม
“อื้อออ!!!” ร่างบางส่งเสียงร้องในลำคอก่อนร่างสูงจะผละริมฝีปากออกพร้อมกับเริ่มขยับสะโพกสอบของตัวเองเข้าออกช้าๆ ทันที
“ซี้ดดดด! อย่าตอดกูมากแฟร์กูจะถึง” ราชันย์ว่าก่อนแฟร์จะพยายามผ่อนคลายให้มากหากทว่าด้วยขนาดของอีกฝ่ายทำให้ทุกครั้งที่ราชันย์ดันแท่งร้อนเข้ามาแฟร์ถึงกับจุกจนพูดไม่ออก
“อ๊า! อึก! อ่ะ!!ๆๆๆ” เสียงครางของแฟร์ดังขึ้นเมื่อราชันย์รู้สึกได้ว่าคนข้างใต้ผ่อนคลายจนทุกๆ จังหวะสามารถขับเคลื่อนไปได้ง่ายเขาจึงเร่งขยับสะโพกสอบเข้าออกถี่ระรัว
“รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ย” ร่างสูงถามพลางก้มลงไปหยอกล้อเล่นกับตุ่มไตของแฟร์อีกครั้ง
“มัน อ่ะ! อึก! มันจุก!” แฟร์บอกเสียงกระเส่า
“ขอโทษแต่กูห้ามตัวเองไม่ไหวแล้วว่ะ” สิ้นเสียงร่างสูงก็เดินเร่งเครื่องจนคนใต้ร่างสั่นไหวไปตามจังหวะ
“อ๊า! อ่ะ!ๆๆๆ คุณราชันย์ อึก! ซี้ดดด” แฟร์ร้องออกมาหากทว่าน้ำเสียงครางนี้กลับเต็มไปด้วยความเสียวซ่านและมีความสุข
“แฟร์! ซี้ดดด กู! ฮืม…” ราชันย์กอดอีกคนเอาไว้เมื่อความรู้สึกปวดหนึบที่กลางกายประเดประดังเข้ามาจนร่างบางต้องปิดเปลือกตาพลางฝังเขี้ยวและจิกเล็บลงกับลาดไหล่หนาของคนด้านบนเเมื่อจังหวะกระแทกกระทั้นทำให้แฟร์รู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังอยากจะปลดปล่อย
“อื้อออ อ่ะ อึก! อ๊า อ่ะ!” แฟร์ร้องไม่เป็นศัพท์ก่อนร่างสูงจะเร่งจังหวะสุดท้ายกระแทกแรงๆ เข้ามาพร้อมกับปลดปล่อยของเหลวสีขุ่นข้างในตัวร่างบางในที่สุด
“อ๊า!!!…” ราชันย์ทิ้งตัวลงบนกายบางก่อนจะหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด เช่นเดียวกับแฟร์ที่หอบหายใจก่อนจะพยายามดันตัวเองออกหากทว่าด้วยกลางกายที่อีกฝ่ายยังไม่ถอนออกไปทำให้ราชันย์หยัดตัวขึ้นอีกครั้งก่อนจะขยับสะโพกสอบเข้าออกอีก
“เดี๋ยว! คุณไม่บอกผมว่าจะมีต่อรอบสอง!!” ร่างบางโวยวายลั่นพลางเบิกตาโพรง
“บอกก่อนก็ไม่สนุกน่ะสิ” ราชันย์ว่า
“คนขี้โกง!”
“ไม่โกงก็ไม่ใช่ราชันย์น่ะสิ”
“คุณ! อ๊า!!!” ราชันย์พลิกตัวอีกคนให้หมอบลงไปกับเตียงก่อนที่จังหวะรักครั้งที่สองจะบรรเลงขึ้นอีกครั้งท่ามกลางเสียงเนื้อกระทบกันที่ดังสอดผสานกับเสียงครางของทั้งคู่ทำให้บรรยากาศภายในห้องเร้าร้อนไปด้วยบทรักที่อีกฝ่ายกำลังเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ จนคนใต้ร่างยากจะทานไหว
ร่างสูงแกล้งแฟร์ด้วยการส่งมือหนาเย้าแหย่กลางกายของเขาด้านหน้าก่อนร่างบางจะพยายามแกะมือของอีกฝ่ายออกเมื่อความรู้สึกเสียวซ่านทำให้อีกฝ่ายถึงกับลมแทบจับ
“คุณมัน! อ่ะ!ๆๆๆ อึก! คนเจ้าเล่ห์!!”
ราชันย์ยิ้มออกก่อนจะเร่งจังหวะจนอีกฝ่ายสั่นไหวไปพร้อมกัน ร่างสูงจับแฟร์พลิกตัวกลับมาอีกครั้งก่อนจะส่งบทกระแทกกระทั้นเข้าไปจนแฟร์ร้องเสียงหลง
“มันจุก! โอ้ย! อ๊า…คุณ! อึก!” แฟร์เอื้อมมือขึ้นโอบรัดรอบคอของอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนจะมองคนด้านบนกลับด้วยดวงตาสวยหยาดเยิ้มที่พอบวกกับใบหน้าสีแดงระเรื่อแล้วกลับยิ่งทำให้อีกฝ่ายอดใจไม่ไหวกระแทกแท่งร้อนเข้าจนสุดด้ามไปหลายที
“แฟร์…แฟร์ ซี้ดดด กูรักมึง” ราชันย์กระซิบข้างหูของร่างบาง
“ผม…อ่ะ! อื้อออ!!” แฟร์ที่ดูเหมือนกำลังจะเอ่ยอะไรกับอีกฝ่ายพยายามพูดออกไปหากแต่บทรักที่กำลังดำเนินอยู่ช่างหวาบหวามเสียจนคนใต้ร่างพูดออกมาไม่เป็นศัพท์
“ผมก็!...อึก! อ่ะ!!!ๆๆๆ” ราชันย์เร่งเครื่องอีกครั้งเมื่อต้องการอยากที่จะปลดปล่อย ร่างสูงหยัดตัวขึ้นพลางส่งแท่งร้อนเข้าออกถี่รัวจนกระทั่งของเหลวสีขาวขุ่นถูกปลดปล่อยในตัวอีกฝ่ายเป็นครั้งที่สอง
แฟร์ปิดพับเปลือกตาพลางหอบหายใจถี่ระรัว ราชันย์ถอนกลางกายออกจนอีกฝ่ายรู้สึกโหว่งจนต้องบิดตัวนอนตะแคงโดยเร็ว ร่างบางคว้าเอาผ้าห่มที่เกือบจะตกจากเตียงมาห่มไว้ก่อนร่างสูงที่หยัดตัวขึ้นนั่งจะถามถึงเรื่องเมื่อครู่ออกไป
“เมื่อกี้มึงจะพูดอะไร”
“ปะ…เปล่า” ร่างบางว่าพลางดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าอย่างเขินอาย
ราชันย์มองท่าทีอีกคนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหลก่อนจะพลั้งมือบีบไปยังบั้นท้ายของอีกคนอย่างมั่นเขี้ยว
“โอ้ย! ผมเจ็บนะ!!” แฟร์เอ็ดพลางตบไปยังต้นแขนขวาของอีกฝ่ายเต็มแรง
“โทษทีๆ กูไม่รู้” ร่างสูงพยายามนวดคลึงบริเวณที่บีบเมื่อครู่กลับไป
“งั้นก็รู้ไว้ด้วย! ซี้ดดดด” แฟร์ว่าก่อนจะลุกพรวดพราดขึ้นนั่งทำให้ช่องทางด้านหลังเสียดสีจนร่างบางต้องส่งเสียงออกมาด้วยความเจ็บ
ราชันย์ขำกับท่าทีของคนข้างๆ ก่อนร่างสูงจะรวบตัวอีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมกอดพลางยกตัวแฟร์ขึ้น
“คุณจะพาผมไปไหน”
“กูจะพามึงไปล้างตัว” ร่างสูงว่าก่อนจะเดินลงจากเตียงตรงไปยังห้องน้ำ
“ไม่ต้อง เดี๋ยวผมทำเอง” แฟร์ปฏิเสธพลางดิ้นจะลงเสียให้ได้
“แน่ใจ” ราชันย์ถามในขณะที่แฟร์เองก็พยักหน้า
ร่างสูงปล่อยอีกคนให้ลงเดินตามที่ขอก่อนเท้าเล็กของแฟร์ที่สัมผัสพื้นได้เพียงนิดจะทำให้เจ้าของทรงตัวไม่อยู่จนต้องล้มลงไปนอนกองกับพื้นอย่างไม่เป็นท่า
“โอ้ย!!!” แฟร์ร้องออกมาเมื่อเรียวขาทั้งสองข้างไม่มีแรงเสียดื้อๆ ก่อนคนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ จะรวบตัวเขาอุ้มขึ้นมาอีกครั้ง
“อย่าดื้อเหอะมันผิดที่กูไม่ยั้งแรงกับมึงเอง” ราขันย์พูดหน้าตายหากแต่คำพูดนี้กลับทำเอาแฟร์อายจนแทบอยากจะแทรกผ่านดินหนี
ร่างสูงจัดการล้างตัวและกำจัดน้ำรักมากมายออกจากช่องทางด้านหลังของแฟร์เป็นที่เรียบร้อยก่อนจะหันไปทำความสะอาดตัวเองจนเสร็จ ราชันย์อุ้มแฟร์ออกมาจากห้องน้ำก่อนจะแต่งตัวให้อีกฝ่ายและกดให้แฟร์ล้มตัวลงนอนข้างๆ ตัวเองพร้อมทั้งส่งลำแขนแกร่งไปกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่น
“เอามึงนี่เหนื่อยชิบหาย” ราชันย์ว่าก่อนแฟร์จะดิ้นออกจากอ้อมกอดนี้ทันที
“งั้นทีหลังก็ไม่ต้อง”
“พูดอย่างนี้แสดงว่าอนุญาต!” ร่างสูงดีใจจนตาโต
“รอปีหน้าเถอะ”
“บ้าไปแล้ว!” ร่างสูงสบถเมื่อแฟร์ยื่นคำขาด
“ก็แค่อีกสามเดือนกว่า” ร่างบางแหย่กลับก่อนราชันย์จะก้มลงมองหน้าอีกฝ่ายบริเวณแผงอกของตัวเองนิ่ง
“กูเฉาตายก่อนพอดี” ร่างสูงว่า
“งั้นก็ช่วยตัวเองไปก่อน”
“ไม่เอา! มึงอย่าทำยังงั้นนะแฟร์ กูว่ากูทนไม่ได้แน่ๆ แค่มีมึงอยู่ข้างๆ ทุกวันกูก็ต้องอดกลั้นอารมณ์ของตัวเองวันละเป็นสิบเที่ยวแล้ว” ราชันย์เอ่ยเสียงอ้อนพลางมองแฟร์ด้วยแววตาเศร้า
“ให้ตายเถอะ! เป็นเอามากเลยนะนั่น” แฟร์ขมวดคิ้วต่อว่าหากแต่ภายในอกเล็กกลับเต้นตูมตามกับคำพูดของราชันย์จนมันแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว
“ก็เพราะว่ากูรักมึง” ร่างสูงว่าก่อนจะกระชับอ้อมกอดเข้ามาอีกจนแฟร์ที่เห็นท่าทีทุกอย่างนั้นเริ่มแซวกลับ
“ไปเอาท่าทีแบบนี้มาจากไหน”
“กูก็เป็นของกูแบบนี้มานานแล้ว” ราชันย์บอก
“ขี้โม้!” แฟร์เอ็ดกลับขำๆ ก่อนอีกฝ่ายจะถามเรื่องเมื่อครู่ขึ้นมาอีก
“ตกลงเมื่อกี้ก่อนที่กูจะเสร็จมึงจะพูดอะไร” ราชันย์มองไปยังใบหน้าของคนในอ้อมกอดอีกครั้ง
“ไม่มีอะไร” แฟร์ปฏิเสธพลางหลบตาอีกฝ่าย
“แต่กูว่ามึงมี”
“ไม่มี”
“แน่นะ”
“อื้ม! แน่” ร่างบางเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาคมพลางย้ำกลับ
“โอเคงั้นกูจะหลับ…ราตรีสวัสดิ์นะครับเมีย” ราชันย์ว่าก่อนจะคลายอ้อมกอดออกเพียงนิดเพื่อให้แฟร์นอนหลับสบายขึ้น
“ฝันดีครับ” ร่างบางตอบกลับ
“กูรักมึงนะแฟร์” ราชันย์เอ่ยในขณะที่ดวงตาของเขาปิดพับด้วยเปลือกตาเรียบร้อยแล้ว
แฟร์มองใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายในความมืดไม่วาง คิ้วเข้มกับจมูกโด่งเป็นสัน ทั้งยังริมฝีปากได้รูปที่มีเสน่ห์ทุกครั้งยามที่อีกคนใช้มันเพื่อจูบเขานั้นยิ่งทำให้แฟร์รู้สึกหวาบหวามอย่างบอกไม่ถูก
ร่างบางยังคงไม่ปิดพับเปลือกตาลงแต่อย่างใด แฟร์นอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งเวลาล้วงเลยผ่านไปนานหลายนาที เสียงลมหายใจของคนตัวสูงข้างๆ ที่ดังเข้าออกอย่างสม่ำเสมอทำให้แฟร์รู้ว่ดีาตอนนี้ราชันย์ได้หลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนที่มือเล็กจะยกขึ้นและใช้นิ้วเรียวลากไล้ไปตามคิ้วเข้มคู่นั้นเรื่อยลงมาตามสันจมูกโด่งได้รูปก่อนจะมาหยุดที่ริมฝีปากด้วยความรู้สึกหลงใหลอีกฝ่ายเข้าจนเต็มเปา
แฟร์มองใบหน้านี้อีกพักใหญ่ก่อนร่างบางจะแนบหูลงกับแผงอกแกร่งพลางตอบคำถามที่อีกฝ่ายได้ถามออกมาเมื่อครู่ออกไป
“เมื่อกี้ผมจะพูดว่า…ผมเองก็รักคุณนะครับคุณราชันย์”
น้ำเสียงที่ดังขึ้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มีอยู่ภายในใจ แฟร์ปิดพับเปลือกตาลงพลางยิ้มออกมาเรียวแขนเล็กสอดผสานโอบกอดอีกฝ่ายตอบอย่างไม่นึกปิดอีกต่อไป
หากทว่า…น่าเสียดายที่ร่างสูงของคนที่พยายามอยากได้ยินคำนี้จากร่างบางมาโดยตลอดกลับเข้าสู่ห้วงนิทราไปเสียก่อน ราชันย์จึงไม่สามารถรับรู้ได้ว่าคนในอ้อมกอดของเขาในขณะนี้ก็รู้สึกเหมือนกับเขาเช่นเดียวกัน…
-จบ-
จบแล้วนะคะ สำหรับเรื่องราวความรักของ ราชันย์ x แฟร์ อาจจะไม่ถูกใจนักอ่านไปทั้งหมด
แต่กิ่งอยากให้รู้ว่ากิ่งตั้งใจที่อยากจะให้ความสุขแก่นักอ่านทุกคนนะคะ ^^ ไว้ไปเจอกันเรื่อง กงจักรจอมพล ค่ะ
ปล. สำหรับใครที่สนใจอยากได้นิยายเรื่องนี้ฉบับเสร็จสมบูรณ์
กิ่งลงขายกับทางเว็บธัญวลัยค่ะ มีทั้งแบบรูปเล่มและ E-book
สามารถไปสั่งซื้อกันได้ ความยาว 375 หน้า A5
ราคาเล่มกระดาษ 329 บาท E-book 249 บาท จร้า
มีตอนพิเศษที่ไม่ได้โพสที่ไหน 4 ตอนคือ
Trouble is a Friend
Just Friend
Will You Marry Me?
Lost (Love) in England
ซื้อ (http://www.tunwalai.com/story/92186/end%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81-yaoi-18)
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1: