การยอมให้คนคิดว่าขายตัวไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาพลนะ. เพราะชื่อเสียงฉายโฉ่ขนาดนี้. พลก็ยังตามตื๊อ แก้ข่าวเรื่องเดือนปีกทองเถอะ.คิดเหมือน
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน และคำแนะนำนะค่ะ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4::
ถึงขนาดแก้ผ้าแล้วอยู่ในห้องน้ำด้วยกัน ยังจะแก้ตัวว่าอะไรอีก. ต่อให้มีเหตุผลอะไรฟังไปก็เหมือนแก้ตัวอยู่ดี แถมชะนียังพูดว่าเป็นแฟนกันแล้วการกระทำที่ผ่านมาอีกไม่มีเวลาให้แฟนแต่เอาเวลาอยู่กับชะนีตัวเมียแล้วบอกรักนักรักหนาหาพระเอกใหม่เถอะ :m31:
พี่พลทำถูกต้องแล้ว
คราวนี้ควรทำหน้าที่พี่ชายดีมากๆ
พายก็ฟังภีมแก้ตัว เฮ้ย..อธิบายก่อนนะ
เห็นแล้วสงสารภีมมากๆ
ตอนที่ 19 ครอบครัว
ภีม พาร์ท
พี่พายปวดท้องจนแทบจะทนไม่ไหว เขากำเสื้อผมไว้แน่ ในขณะที่ผมโทรศัพท์หาพี่เจนนี่
“พี่เจนนี่คับ พายจะคลอดแล้วคับ” ผมบอกพี่เจนนี่ทันทีที่พี่เขารับโทรศัพท์
“เฮ้ยยยย แย่ละ ภีมรีบพาพายมาที่โรงพยาบาลหมอนัทนะ เข้าทางด้านหลัง พวกพี่จะรอรับอยู่” พี่เจนนี่บอกผมด้วยความตกใจ แต่ยังดีที่พี่เขามีสติพอสมควร
“คับ ได้คับ ผมจะรีบพาพายไปทันที” ผมวางสายพี่เจนนี่ก่อนจะอุ้มพี่พายไปที่รถ โดยมีคุณพ่อกับคุณแม่พี่พายเดินตามมาด้วยความกังวล
“พี่เจนนี่กับหมอนัทจะเตรียมสถานที่ให้ อดทนไว้ก่อนนะคับที่รัก” ผมบอกพี่พายด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง ก่อนจะจูบที่หน้าผากเขาเป็นการให้กำลังใจ
“ให้พายมานอนหลังรถกับแม่นะ จะได้นอนสบายๆ” พ่อพี่พายบอกทุกคน
“ทนหน่อยนะลูก” คุณแม่บอกพี่พายด้วยความเป็นห่วง
“ปวดท้องจังเลยคับแม่” พี่พายเสียงสั่น
“เดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว” คุณแม่พยายามบอกปลอบพี่พาย ตอนนี้ทุกคนกังวลกันหมด
“ภามเตะท้องแรงมากเลย” พี่พายยังคงพูดเสียงสั่น
“อย่าทำแม่เจ็บสิคับภาม” ผมที่ขับรถอยู่เอื้อมมือไปจับท้องพี่พาย เพื่อบอกเจ้าตัวแสบที่อยู่ในท้องให้ช่วยพี่พายหน่อย ก่อนจะดึงมือกลับมาขับรถอย่างเร่งรีบที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ภีมอุ้มพายขึ้นเตียงก่อน” พี่เจนนี่บอกผมให้อุ้มพี่พายขึ้นเตียง แล้วเขาก็เข็นพาห้องผ่าตัด
“ผมเข้าไปได้ไหมคับ” ผมถามพี่หมอนัทที่สีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างจากผม
“เราต้องผ่าตัด น้องรอข้างนอกดีกว่านะ” พี่หมอนัทบอกก่อนจะตบไหล่ผมเบา
“ไม่ต้องกังวล พวกพี่จะทำให้เต็มที่ พายและลูกจะปลอดภัย” พี่หมอนัทบอกผม เพราะผมคงสีหน้าไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเดินเข้าห้องผ่าตัดไป
“ผมจะรอพี่อยู่ตรงนี้ไม่ต้องกลัวนะคับ” ผมปล่อยมือจากพี่พายก่อนที่จะเขาเข้าไปในห้องผ่าตัด
เราทุกคนรอด้วยความเป็นห่วง ยิ่งเวลาผ่านไปผมก็ยิ่งกังวล ผมกลัวไปสารพัด จนแทบจะนั่งไมติด คุณพ่อนั่งกุมมือคุณแม่ พวกท่านก็ดูกังวลมากเช่นกัน ผมได้แต่เดินวนไปมา
“เป็นไงบ้าง” พี่กิตที่พึ่งมาถึงถามผมอย่างร้อนใจ
“ยังไม้รู้เลยคับ พี่พายเข้าไปตั้งนานแล้ว” ผมบอกพี่กิต
“ใจเย็น” พี่พลบอกผม ผมได้แต่พยักตอบรับ แต่ยิ่งรอนานๆ ผมยิ่งรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า ผม่เลยต้องนั่งลงเพื่อระงับสติของตัวเอง
“เด็กกับแม่ปลอดภัย เดี๋ยวพี่จะเข็นเด็กไปห้องพักที่เตรียมไว้ก่อน” พี่เจนนี่ที่เดินออกมาบอก ทำให้เราทุกคนโล่งใจกันเป็นแถว ก่อนที่จะเข็นภามออกมา ผมรีบเดินไปยืนข้างๆเขา แต่ก็ไม่กล้าจับ เพราะผมยังไม่ล้างมือเลย ภามตัวเล็ก หน้ากลมเชียว เขาดูเหมือนเด็กทารกทั่วไป แต่ที่ไม่เหมือนคือความรู้สึกผมที่มีให้เขา ผมตื่นเต้น และตื้นตัน จนน้ำตาไหลออกมาเอง
“ภาม” ผมได้แต่เรียกชื่อเขาเบาๆ ลูกของผมกับพี่พาย ผู้ชายที่ผมรักที่สุด
ตอนนี้เราทุกคนมาอยู่ในห้องพักที่พี่เจนนี่กับพี่นัทเตรียมไว้ให้ พี่พายยังไม่ฟื้นจากฤทธิ์ยาสลบ ส่วนเจ้าตัวเล็กอย่างภามก็ยังหลับอยู่ พี่พลที่ตามมาที่หลังเอาเสื้อผ้ามาให้ผมกับคุณพ่อคุณแม่ได้อาบน้ำ และเปลี่ยน เพื่อความสะอาด ผมถึงได้อุ้มภามสักที
ถึงจะดูเก้ๆกังๆ แต่ผมก็พยายามระวังที่สุด เขาดูบอบบางเหลือเกิน ผมน้ำตาไหลออกมาเองเฉยเลย มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมากสำหรับผม ผมไม่รู้ว่าทำตัวตัวเองถึงดีใจ และตื่นตันอะไรได้มากขนาดนี้...
“ภะ..ภีม” พี่พายเรียกผมที่ฟุบหลับอยู่ข้างเตียงเขา
“คับ เป็นไงบ้างคับ เจ็บตรงไหนรึเปล่าคับ” ผมรีบถามเขาด้วยความเป็นห่วง
“ภามละ” พี่พายถามพลางมองไปรอบๆ
“พี่หมอนัทพาไปตรวจเดี๋ยวก็กลับมาคับ” ผมจับมือพี่พายไว้ด้วยความเป็นห่วง เพราะหน้าเขายังดูเหมือนคนไม่มีแรงอยู่เลย
“อืม” พี่พายตอบรับอย่างเหนื่อยล้า
“พักผ่อนอีกสักหน่อยนะคับ ถ้าภามกลับมา ผมจะปลุกพี่ทันที” ผมบอกพลางจูบหน้าผากพี่พายไปที
แอ๊ด---ประตูเปิดพร้อมพี่หมอนัทอุ้มภามเข้ามาพอดี
“ตื่นแล้วหรอคับพาย” พี่หมอนัททัก
“คับ ผมขออุ้มภามได้ไหมคับ” พี่พายรีบบอกหมอนนัททันที ก่อนที่หมอนัทจะยืนภามให้พี่พายอุ้ม ลูกของเรายังคงหลับสนิท
“ภาม...” พี่พายพูดแค่นั้น น้ำตาเขาก็ไหลออกมา ผมยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้พี่พาย เขามองผมพร้อมรอยยิ้มที่ผมชอบที่สุด
“ลูกของเรา” พี่พายพูด
“ใช่คับลูกของเรา” ผมกอดพี่พายเอาไว้ระหว่างที่เขาอุ้มภามอยู่ ผมมีความสุขมากที่วันนี้ผมมีครอบครัวที่สมบูรณ์กับคนที่ผมรักที่สุด...
หนึ่งปีผ่านไป
พาย พาร์ท
วันนี้ผมมีนัดกับภีมที่มหาลัย เพราะว่าเขาต้องซ้อมร้องเพลงให้กับงานประกวดดาวเดือนปีล่าสุด ทางมหาลัยเห็นว่าภีมได้รับฉายาโคตรเดือน จึงอยากให้ภีมมาแสดงอะไรในปีสุดท้ายก่อนเขาจบสักหน่อย
ผมอุ้มเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนที่ดูท่าจะตื่นเต้นกับสิ่งรอบตัวน่าดู คงเพราะพึ่งตื่นนอนเลยคึกแน่ๆ ตอนนี้ภามอายุได้ 1 ขวบแล้วคับ ออกเสียงเรียกได้บ้างแล้ว คำแรกที่เจ้าตัวเล็กเรียกได้คือ แม่ ผมตกใจไม่น้อยตอนได้ยินเสียงเรียกจากเขาครั้งแรก ส่วนคำต่อมาที่ภามเรียกได้คือ พ่อ ทำเอาภีมที่ได้ยินยิ้ม ร้องตะโกนด้วนความดีใจใหญ่ที่ภามเรียกเขาว่าพ่อ ผมอดขำไปกับท่าทางเหมือนเด็กๆของเขาไม่ได้เลยจริงๆ
ครืด---ครืด ผมหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าอย่างลำบากสักเล็กน้อย
--พี่พายถึงยังคับ ไอ้ภีมให้ผมโทรถามพี่— เจตเพื่อนภีมเป็นคนโทรหาผม
“ถึงแล้ว กำลังเดินเข้าไป ที่ซ้อมยังอยู่ที่หอประชุมใช่ไหม”
--ใช่คับพี่ รีบมาแสดงความเป็นเจ้าของนะพี่ สาวๆที่ประกวดดาวมหาลัยมันจะกินไอ้ภีมอยู่แล้ว—
“5555 ได้จะรีบไป” ผมบอกก่อนจะว่างสายไป
ภีมที่ได้ชื่อว่าโคตรเดือน ตอนนี้เขาก็ยังเป็นผู้ชายที่ไม่มีใครมาโค่นล้มความหล่อของเขาได้ เขายังคงเป็นที่หนึ่งในเหล่าเดือนอยู่ ผมภูมิใจเหมือนกันนะเนี่ยที่มีแฟนหล่อแบบนี้
“โทษทีมึง กูมาช้า” ไอ้กิตที่พึ่งมาถึงบอกผมด้วยสภาพที่ดูเหนื่อยหอบ
“มึงวิ่งมาหรอ เงื่อออกเยอะแบนี้”
“ใช่ดิ กูปล่อยไอ้พี่พลไปจอดรถแล้วรีบมาหามึงเนี่ย ช่วงนี้งานกูยุ่งมากไม่ค่อยได้เจอมึงเลย คิดถึงภามด้วย” ไอ้กิตบอกก่อนจะเอื้อมมือมาจับเจ้าตัวเล็กที่มองมันอยู่ก่อนแล้ว
“จำพี่กิตได้ไหมคับภาม” ไอ้กิตจับมือภามโยกไปมา มันดูรักลูกผมไม่น้อยเหมือนกัน
“อ่า---อ่า” ภามร้องอ้อแอ้เหมือนกำลังจะบอกว่าจำได้ ทำเอาไอ้กิตยิ้มแป้นเลย
“มึงมาอยู่กับภีมที่คอนโดที่นี้ เราเลยไม่ค่อยเจอกัน กูอยากให้พี่มึงมาเปิดโรงแรมในกรุงเทพนี้ซะจริงๆ” ไอ้กิตมันบ่นขณะที่ยังเล่นกับภามอยู่
“กรุงเทพมันวุ่นวายการแข่งขันก็สูง เปิดที่บ้านกูนั้นแหละดีแล้ว”
“กูคิดถึงภามนี้หว่า นี้ถ้าวันนี้ไม่ใช่วันเกิดภามนะ กูคงหาข้ออ้างให้พี่มึงพามากรุงเทพไม่ได้แน่ๆ”
“อยากมีไหมละ เดี๋ยวพี่ไปบอกคุณเจนนี้ให้ทำให้ท้องได้ซะเลย” พี่พลที่พึ่งมาถึงบอกกับไอ้กิตที่ทำหน้าอึ่งไปเป็นที่เรียบร้อยกับข้อเสนอแบบนั้น
“บ้าหรอ เห็นไอ้พายตอนท้องลำบากจะตาย” ไอ้กิตรีบปฏิเสธพร้อมส่ายหน้าอย่างแรงในทันที
“ลำบากกูก็มีความสุข” ผมบอกพลางยิ้มให้มันอย่างภูมิใจ
“เออๆ กูไม่ว่ามึงละ แล้วนี้ต้องไปรอภีมที่หอสประชุมหรอวะ” ไอ้กิตถาม
“ใช่” ผมบอกขณะเดินนำไปที่หอประชุม
“พวกส่ต๊าฟจะไม่ว่าอะไรหรอวะ เราเป็นคนนอกแล้วนะเว้ย” ไอ้กิตถาม
“ไม่เป็นไรหรอก ภีมบอกพวกสต๊าฟไว้แล้ว ไม่ต้องห่วง”
ณ หอประชุม
“พี่พายยยยย/พี่พายยยยย” เจตกับพลอยเรียกผมซะเสียงดังจนคนที่กำลังพักจากซ้อมหันมามองพวกผมกันหมด
“เบาๆก็ได้” ผมบอกสองคนนั้น
“ไม่เจอพี่พายตั้งงนานยังสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ พลอยขอเซลฟี้ด้วยสักรูปนะคะ” พลอยพูดเสร็จก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปทันที
“นี้น้องภามใช่ไหมคับ หล่อเหมือนพ่อเลยนะเนี่ย” เจตถาม
“อืม ดูเหมือนพ่อพอตัวเลย” ผมบอก
“มาเล่นกับพี่พลอยไหมค่ะ” พลอยยืนมือออกมาพลางเรียกร้องความสนใจจากภาม
“พี่อะไร แกเป็นอาแล้วเหอะ” เจตบอกพลอย
“พี่ก็พอยะ เนอะน้องภาม พี่ก็พอนะคะ” พลอยว่าเจตก่อนหันมาเล่นกับภาม
“แล้วนี่ภีมละ” ผมถามก่อนที่คู่รักนี้จะเถียงกันต่อ
“อยู่หลังเวทีคับ กำลังเตรียมตัวซ้อมรอบสุดท้าย พรุ้งนี้ก็งานจริงแล้ว พวกพี่มานั่งรอตรงนี้ก่อนดีกว่าคับ” เจตบอกผม ก่อนจะพาไปนั่งมุมที่พวกน้องเขานั่งกันอยู่ก่อนแล้ว
“เออ พี่พายเดือนศิลปกรรมรึเปล่าคะ” น้องผู้หญิงที่เป็นสต๊าฟสองสามคนเดินเข้ามาถามผม
“ใช่คับ”
“ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมค่ะ”
“เอออ ได้คับ” ผมบอกก่อนที่พวกเธอจะเข้ามารอบถ่ายรูปกับผม และเจ้าตัวเล็กที่ผมอุ้มอยู่
“นี้น้อยชายพี่พายหรอค่ะ น่ารักจังเลยค่ะ” พวกน้องสต๊าฟที่ถ่ายรูปเสร็จเริ่มให้ความสนใจกับเจ้าตัวเล็กในอ้อมกอดผม
“ไม่ใช่น้อยชายหรอกคับ ลูกพี่เองคับ” ผมบอก พร้อมกับยิ้มให้พวกเธอ
“ลูก!!!” ทุกคนดูตกใจไม่น้อย ผมก็ได้แต่ยิ้มแหละคับ
“มาแล้วหรอคับพี่พาย” ภีมที่เดินออกมาจากหลังเวทีเห็นผมเข้าพอดี
“เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม” ผมถามเขา
“นิดหน่อยคับ พี่ละคับ เหนื่อยไหม” เขาถามพลางยืนมือมาหาเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมอกผม
“พ่อ---พ่อ” ภามก็โผเข้าหาภีมเหมือนกัน
“คับผม เป็นไงบ้างคับภาม คิดถึงพ่อไหมเอ่ย” ภีมหอมแก้มภามฟอดใหญ่เต็มๆ คนที่อยู่รอบข้างอย่างพวกผมก็ยิ้มไปกับความน่าเอ็นดูของพ่อลูกคู่นี้ มีแต่สาวๆสต๊าฟที่ดูจะอึ่งไปแล้ว มองผมกับภีมสลับกันไปมา ผมก็เข้าใจละคับว่ามันน่าตกใจแค่ไหนที่ผู้ชายสองคนจะมีลูกด้วยกันแบบนี้
“เออ น้องวันคับ คิวผมอีกนานไหมคับ เห็นน้องๆซ้อมที่เดิมกันมานานแล้ว ผมไม่ได้ออกซะทีเลยเดินออกมาถามดู” ภีมพูดน้ำเสียงสุภาพ
“อ่อ ขอโทษคะพี่ภีม พอดีพวกหนูเจอพี่พายเลยแว๊บมาถ่ายรูปด้วยคะ” น้องสต๊าฟที่ภีมเรียกพี่วันทำท่าขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
“เดี๋ยวผมขอซ้อมเลยนะคับ พอดีผมมีนัดกับลูกและภรรยาต่อคับ” ภีมบอกก่อนจะส่งภามมาให้ผมอุ้ม พร้อมหอมแก้มผมฟอดใหญ่
“รอแป๊ปนะคับ ซ้อมอีกรอบเดียว เดี๋ยวมาหา” ภีมบอกแล้วเดินกลับเข้าหลังเวทีไป พร้อมน้องๆสต๊าฟที่มีเวลาให้อึ้งกับรื่องที่เกิดขึ้นแป๊ปนึงก่อนเดินตามไป
“ผัวมึงนี้ดูมีอำนาจจริงๆ” ไอ้กิตมากระซิบแซวผม
“มึงนั่งอยู่เฉยๆไปเลย” ผมว่ามัน
“อ๊า---แอ๊” ดูท่าภามจะหิวซะแล้ว ผมเลยอุ้มเจ้าตัวเล็กนอนลงก่อนจะหยิบขวดนมออกมาจากกระเป๋า แล้วป้อนเขา สักพักเจ้าตัวเล็กก็เหมือนจะหลับแล้วคับ
“เสร็จแล้วคับ” ภีมเดินมาหาผม พร้อมกับรับภามที่ดูดนมเหมือนจะหลับไปอุ้มไว้เอง
“ภีมจะไปฉลองวันเกิดเจ้าตัวเล็กที่ไหน” ไอ้กิตถาม
“โรงแรมคับ คุณพ่อคุณแม่ พี่ชายผม แล้วก็คุณพ่อคุณแม่พี่พายน่าจะรออยู่แล้วคับ”
“รวยสุดยอด” ไอ้กิตพูด
“ผมอยากให้เป็นวันเกิดปีแรกของภามที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้าคับ” ภีมบอกพร้อมรอยยิ้มที่หล่อเหล่าของเขา ก่อนจะจูงมือผมไปที่รถ
พอมาที่รถเราต่างก็แยกย้ายกันไปขึ้นรถของตัวเอง ผมจึงต้องรับภามมาอุ้มระหว่างที่ภีมขับรถอีกครั้ง ภีมเป็นแฟน และพ่อที่ดีมาก เขาช่วยผมเลี้ยงภามตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ เราไม่จ้างพี่เลี้ยงเลย เพราะผมอยากเลี้ยงภามด้วยตัวเอง ส่วนภีมเขาก็คิดแบบผมเช่นกัน นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ภามติดผมกับภีมมากกว่าใคร
ณ โรงแรม
“สวัสดีคับทุกคน” พวกเราที่พึ่งมาถึงต่างสวัสดีผู้หลักผู้ใหญ่ที่นั่งคุยกันอยู่ในห้อแกรนบอลรูมอยู่แล้ว พ่อแม่ผมกับพ่อแม่ของภีมพวกท่านคุยกันถูกคอพอสมควร
“ภามหลับแล้วหรอลูก” คุณแม่ภีมถามผมคับ
“ยังหรอกคับ แค่งัวเงียคับ กินนมไปเยอะพอสมควร พึ่งตบหลังให้เรอไปบนรถระหว่างมานี่เองคับ” ผมบอกท่านด้วยรอยยิ้ม
“งั้นเรามาเริ่มงานกันเลยดีกว่า ก่อนที่ตัวแสบของเราจะหลับซะก่อน” คุณพ่อของภีมบอก ภีมจึงส่งสัญญาณบอกพนักงาน ก่อนที่พวกเขาจะดับไฟ และเอาขวดนมที่สั่งทำเป็นตัวไดโนเสาร์ผูกโบว์ออกมา เจ้าตัวเล็กกินจุของผมก็ตาหวานพอเห็นนมอีกขวด ผมนึกว่าลูกจะอิ่มแล้ว แต่ดูท่าของแฮปปี้เบิร์ดเดย์จะเรียกร้องความสนใจได้
“แฮปปี้เบืร์ดเดย์ ทู ยู---“ ทุกคนร้องเพลงวันเกิดก่อนที่จะเอาขวดนมไดโนเสาร์ให้เจ้าตัวเล็ก ภามดูชื่นชอบไม่น้อย ก่อนจะดูดกินอย่างเอร็ดอร่อย และในที่สุดเจ้าของวันเกิดก็หลับไปพร้อมกับขวดนมขวดใหม่
นี้ถือเป็นงานวันเกิด และงานรวมญาติเลยก็ว่าได้ เราทุกคนต่างได้มาเจอกัน มาพูดคุยกัน เพราะหลังจากผมคลอด ผมก็อยู่ที่บ้านสวนกับครอบครัวผมสักพักให้แม่ผมท่านสอนการเลี้ยงลูก แล้วผมก็มาอยู่คอนโดกับภีมที่กรุงเทพ ซึ่งผมก็แทบจะไม่ได้เจอใครเลยนอกจากครอบครัวภีมบ้างบางครั้ง ส่วนใหญ่ผมจะอยู่กับภีม และภามสามคน เรียกว่า เลี้ยงมาด้วยน้ำพักน้ำแรงทั้งหมดของผมกับภีมเลยก็ว่าได้
ภีมจะรีบกลับจากมหาลัยมาช่วยผมเลี้ยงภามตลอด เขาไม่เคยไปเที่ยวไหนกับเพื่อนจนบางที่พลอยกับเจตก็โทรมาขออนุญาตผมพาภีมไปปาร์ตี้ แต่ถึงผมอนุญาตเขาก็ไม่ไป ภีมมักบอกว่าเขาห่วงผมกับลูก คิดถึงตลอดเวลา กลับมาห้องคือที่ๆเขามีความสุขที่สุด
ส่วนพี่ชายผมกับไอ้กิต ไม่ต้องบอกทุกคนก็คงรู้ว่าพวกเขามีความสุขดี ไอ้กิตทำงานเป็นเลขาให้พี่พล พวกเขามีทะเลาะกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ไอ้กิตก็ต้องง้อพี่พลตลอด เพราะมันชอบทำตัวเป็นเด็กเอง
พี่พลก็เป็นพี่ชายที่ดีของผมเหมือนเดิม ผมยินดีที่เรามีวันนี้กันได้ วันที่ผมกับพี่พลไม่มีเรื่องในอดีตมากวนใจกันอีก เราได้กลับเป็นครอบครัวเดียวกันเหมือนเดิม
จะว่าไปผมก็ต้องขอบคุณพี่พลเหมือนกัน เพราะเรื่องที่เลวร้ายก็ทำให้ผมเจอคนดีๆแบบภีม คนที่ทำให้เดือนปีกทองอย่างผม กลายเป็นเพียงเดือนธรรมดาที่รู้จักรักตัวเอง และรู้จักรักคนที่รักผมจริงๆ เขาเป็นคนที่มาดึงปีกทองออกไปจากหลังของผม วันนี้ผมเป็นแค่คนธรรมดาที่มีความสุขกับคนรอบตัว และครอบครัวที่ผมกับภีมสร้างมันมาด้วยกัน
“คิดอะไรอยู่หรอคับ ออกมายืนระเบียงแบบนี้” ภีมถามผมขณะที่ผมยืนอยู่ที่ระเบียงของห้องแกรนบอลรูมที่อยู่บนชั้นสูงสุดของโรงแรม
“คิดถึงเรื่องต่างๆที่ผ่านมา” ภีมสวมกอดผมจากทางด้านหลังขณะที่ผมอุ้มภามที่หลับแล้วอยู่ในอ้อมแขน
“ขอบคุณนะคับ”
“พี่สิต้องขอบคุณภีม เพราะภีม พี่ถึงรู้ว่าตัวเองก็มีคนที่พร้อมจะรักพี่ ไม่ว่าใครจะบอกว่าพี่เป็นยังไง”
“เดือนปีกทอง เพราะชื่อนี้ผมถึงมีโอกาสได้เข้าใกล้พี่โดยที่ไม่ต้องคิดแผนอะไรให้เนิ่นนาน” เขาบอกพร้อมซุกหน้าลงที่ซอกคอผม
“ถ้าไม่ใช่เพราะชื่อที่ดูเข้าหาง่ายแบบนี้ ผมคงยังไม่รู้ว่าจะจีบพี่ยังไงด้วยซ้ำ” เขาพูดพลางจูบซอกคอผมไปด้วย
“คงต้องขอบคุณคำว่าเดือนปีกทองด้วยสินะ”
“ใช่คับ เพราะนั้นคือจุดเริ่มต้นของเรา”
“พี่รักภีมนะ”
“ผมก็รักพี่พายคับ เดือนของผม”
จากนี้ไปเดือนสามดวงที่อยู่รวมกันจะส่องแสงจนความมืดมิดยังต้องสลายหายไปอย่างแน่นอน เพราะความความรักมักทำให้คนเราเข้มแข็ง...THE END
ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ติดตามอ่านมาจนถึงตอนจบ และต้องขอโทษที่มาต่อช้าด้วยคะ
หวังว่าทุกคนจะชอบ และมีความสุขกับการอ่านนิยายเรื่องนี้คะ
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: