MY DANDELION
Every love story is beautiful
But ours is my favorite
I just wanna be with you
กึก!
กล่องอาหารที่ภายในบรรจุแซนวิชหน้าตาน่ารับประทานอัดแน่นอยู่เต็มกล่องพร้อมทั้งน้ำผลไม้คั้นสดถูกวางลงตรงหน้าชายหนุ่ม สมาร์ทเอ่ยขอบคุณคนตรงข้ามเบา ๆ โดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง
ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าใคร
"วันนี้ทำอะไรมาให้มาร์ทมันกินหรอไบร์ท"
หินเพื่อนสนิทในกลุ่มของสมาร์ทเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงปกติ ดูจะเป็นภาพที่ชินตาของบรรดาเหล่าเพื่อน ๆ ไปแล้วที่ทุก ๆ วันจะเห็นร่างโปร่งเจ้าของใบหน้าหล่อปนหวานที่ตอนนี้ผมหน้าม้ายาวลงมาทำให้เจ้าตัวยิ่งดูน่ารักเข้าไปใหญ่เทียวไปเทียวมาระหว่างตึกภาควิชาตัวเองกับภาควิชาของพวกเขาเพื่อที่จะเอาข้าวกล่องและขนมน่ากิน ๆ มาให้ไอ้คุณชายตัวดีอยู่ทุกวัน
"วันนี้เรารีบมาอ่ะเลยทำแค่แซนวิชแฮมชีสกับแซนวิชทูน่ามาให้ มาร์ททานได้ใช่ไหม" ไบร์ทตอบหินก่อนที่ท้ายประโยคจะหันไปถามคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม
"อือกินได้ ความจริงถ้ารีบก็ไม่ต้องทำมาให้ก็ได้นะ" ไบร์ทยิ้มให้กับคำตอบของสมาร์ท ใบหน้าหวานส่ายไปมาเบา ๆ
"ไม่เป็นไรเราเต็มใจหรือว่ามาร์ทเบื่อแล้ว?" เจ้าของร่างโปร่งถามด้วยน้ำเสียงใสซื่อในเนื้อความไม่มีแววประชดแต่อย่างใด เจ้าของตำแหน่งคนดังคณะวิศวะส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ
"ก็เปล่า แค่กลัวว่าจะเหนื่อย" คำตอบของคนตรงหน้าทำให้ไบร์ทยิ้มหวาน แก้มกลมรู้สึกร้อน ๆ จนต้องยกมือขึ้นมาปิด
"อ่ะ..เอ่อ..งั้นเราไปเรียนก่อนนะ บาย" ไบร์ทเอ่ยลาทุกคนก่อนจะเดินไว ๆ กลับตึกภาคตัวเองไปด้วยความเขินอาย สมาร์ทยิ้มขำกับท่าทางนั้นจนเพื่อน ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์อดแซ็วไม่ได้
"ไงวะใจอ่อนแล้วอ่ะดิ" เลย์นั่งเงียบมองอยู่นานเอ่ยถามขึ้นน้ำเสียงติดจะล้อเลียนเล็กน้อยส่วนพวกที่เหลือก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม
"หึ! ยังหรอก" สมาร์ทไหวไหล่เล็กน้อยก่อนจะก้มลงทำงานของตัวเองต่อโดยไม่ลืมที่จะแกะกล่องแซนวิชหยิบออกมากินด้วยหนึ่งชิ้น
"อ้าว อะไรของมึงเนี่ย ก็พวกกูเห็นว่าคนนี้นานกว่าคนอื่นแล้วมึงก็ยอมให้เขาทำโน่นนี่ให้ไม่ว่าอะไรซักคำแถมยังไม่รำคาญด้วย"
คราวนี้บลูถามบ้าง ก็เห็นอยู่ว่าเพื่อนสนิทยอมให้คนน่ารักประจำภาควิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียมเข้ามาวนเวียนใกล้ตัวได้อยู่ตั้งนาน แถมไอ้เพื่อนสนิทของเขาก็ดูจะเต็มใจให้เจ้าของรอยยิ้มน่ารักคนนั้นทำให้เสียด้วย ก็นึกว่าจะตกลงปลงใจคบหากันไปแล้ว ที่ไหนได้ไหงเพื่อนเขามันปฏิเสธอย่างนี้
"ก็เขาอยากดูแลกูก็ไม่ได้ว่าอะไร หรือมึงว่าไม่ดีคอยมีคนหาข้าวหาน้ำมาให้ดูแลนั่นโน่นนี่แล้วอีกอย่างนะเขาเต็มใจที่จะทำกูก็ไม่รู้ว่าจะห้ามไปทำไม"
"คำพูดมึงแลดูเห็นแก่ตัวยังไงก็ไม่รู้ว่ะมาร์ท มึงยอมให้เขาเข้ามาในโลกของมึงขนาดนี้แต่กลับไม่ยอมระบุความสัมพันธ์เนี่ยนะ" เลย์ขมวดคิ้วพูดกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงจริงจังจนหินต้องโอบไหล่บางลูบไปมาให้ใจเย็นลง ใคร ๆ ในกลุ่มต่างก็รู้ว่าเลย์รักความถูกต้องและขี้สงสารมากแค่ไหน
โดยเฉพาะกับคนน่ารัก ๆ อย่างไบร์ท
"แล้วยังไงก็เขาไม่เคยขออะไรนอกจากขอดูแลกูและอีกอย่างนะกูก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาจะทนกับกูได้อีกนานแค่ไหน ถ้าเหนื่อยเดี๋ยวก็เลิกไปเองแหละน่า"
อยากจะรู้เหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วไบร์ทจะเหมือนกับทุก ๆ คนที่เข้ามาไหม
"มึงแม่ง!" เลย์ทำท่าจะลุกขึ้นไปตบหัวเพื่อนตัวดีสักป้าบแต่ดีที่หินรั้งไว้ก่อน
"ใจเย็น ๆ น่าเลย์รอดูกันไปแต่กูเชื่อนะว่าไบร์ทต้องไม่ธรรมดา" หินลูบหลังบอกกับเลย์อย่างใจเย็น สมาร์ทหันไปหาคนพูดพลางเลิกคิ้วถาม
"ไม่ธรรมดายังไง" หินยักคิ้วเบะปากยักไหล่กวน ๆ ก่อนจะตอบ
"ไม่ธรรมดาตรงที่ในตอนจบเขาจะจบไม่เหมือนกับทุก ๆ คนของมึงน่ะสิ"
"หึ! กูก็อยากรู้เหมือนกัน" สมาร์ทพูดกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะก้มหน้าลงทำงานต่อ พลางย้อนคิดกลับไปถึงเรื่องวันนั้นที่คนน่ารักภาคปิโตรใจกล้าเดินเข้ามาสารภาพรักกับเขา
"มาร์ทเราขอเวลามาร์ทห้านาทีได้ไหม" เสียงทุ้มหวานเรียกความสนใจจากบรรดาเด็กภาคโยธาได้เป็นอย่างดี มันดีชนิดที่ว่าทุกคนหยุดการกระทำเพื่อหันมามองคนพูดอย่างสนใจ
"เรา?" สมาร์ทชี้นิ้วเข้าหาตัว ร่างโปร่งพยักหน้าขึ้นลงเร็ว ๆ ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรงเพราะกลั้นความเขินเอาไว้แก้วตากลมโตเป็นประกาย ทำให้หลาย ๆ คนที่มองอยู่เคลิ้มไปกับความน่ารัก
"อื้อ ไปคุยกันหน่อยได้ไหม" ไบร์ทยังคงมีรอยยิ้มฉาบบนใบหน้า สมาร์ทพยักหน้าตกลงก่อนจะลุกเดินนำอีกคนไปในที่ ๆ เงียบกว่านี้ไม่วายให้ไอ้พวกเพื่อนตัวดีส่งเสียงแซ็วกันเสียยกใหญ่
"มีอะไรหรอ" สมาร์ทเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาเมื่อเขาทั้งคู่เดินมาถึงด้านหลังของตึกที่ไร้ผู้คน
"เราชอบมาร์ท!" ไบร์ทโพล่งออกมาเสียงดังคนตัวบางกว่าหลับหูหลับตาพูดจนคนที่ยืนมองอยู่อมยิ้มขำ ก็นะ...มันดูน่ารักน้อยซะที่ไหนล่ะ
"แล้ว? จะคบกันหรอ"
สมาร์ทถามด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ก็ไบร์ทไม่ใช่คนแรกเสียหน่อยที่เดินมาสารภาพรักกับเขาแบบนี้ คนที่เท่าไหร่เขาก็ไม่เคยนับแหละนะและไอ้ท่าทีเขินอายแบบนี้ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเจอ สมาร์ทเจอมาทุกรูปแบบแล้วเพียงแต่คนนี้ท่าทางช่างน่าดูชมกว่าคนอื่น ๆ ก็แค่นั้นเอง
"เปล่า ๆ ไม่ได้จะขอคบ เราแค่...อยากดูแลมาร์ทก็แค่นั้นและเราก็ไม่อยากเก็บความรู้สึกนี้ไว้คนเดียวด้วยก็เลยตัดสินใจบอกแค่นั้นเอง" น้ำเสียงของไบร์ทกลับมาปกติอีกครั้งเมื่อเจ้าตัวเริ่มปรับอารมณ์ได้ สมาร์ทได้ยินดังนั้นถึงกับไปไม่เป็น เขาเคยเจอเสียที่ไหนมาแบบนี้
มาขอดูแลเฉย ๆ
โดยไม่หวังอะไรเนี่ยนะ
มีที่ไหนกัน
"ขอดูแล? ดูแลเฉย ๆ อ่ะนะ ไม่คบ? ไม่ระบุความสัมพันธ์อย่างนี้น่ะเหรอ" และคำตอบที่สมาร์ทได้จากคนน่ารักตรงหน้าคือการพยักหน้าขึ้นลงพร้อมกับรอยยิ้มหวาน
"อื้อ ขอเราเป็นเพื่อนก็ได้มาร์ทไม่ว่าอะไรใช่ไหม" สมาร์ทถอนหายใจช้า ๆ ยอมรับเลยว่ารู้สึกแปลก ๆ มันรู้สึกเสียเซล์ฟด้วยแหละมั้งก็เคยเจอเสียที่ไหนสารภาพรักกับเขาแต่ไม่อยากคบกันแถมไม่พอยังขอเป็นเพื่อนเฉย ๆ ด้วย
เพื่อนเขารู้สึกแบบนี้กันหรือไบร์ท
"ก็...ถ้านายไม่ลำบากอะไรก็ตามใจเลย"
คำตอบของสมาร์ทเรียกรอยยิ้มหวานกว้างเสียจนเต็มหน้า ไบร์ทขยับเข้ามาใกล้คว้ามือใหญ่เข้าไปเขย่าไปมาแรง ๆ
"ขอบคุณมาก ๆ นะ ขอบคุณจริง ๆ"
และเรื่องของเขากับไบร์ทก็เริ่มขึ้นตั้งแต่วันนั้นแหละ ทุก ๆ วันสมาร์ทจะได้เจอคนหน้าหวานไม่หนึ่งก็สองครั้ง ไบร์ทจะเอาพวกข้าวและขนมที่เจ้าตัวทำเองมาให้เขาได้ทานเสมอ รสชาติอาหารที่ถูกปากทำให้มาร์ทยอมรับเลยว่าเขาติดรสมือของไบร์ทไปแล้ว แต่ด้วยสถานะที่คลุมเครือมาร์ทเลยไม่รู้ว่าควรทำตัวกับไบร์ทแบบไหนส่วนคนแสนดีคนนั้นก็ไม่เคยปริปากว่าอะไรสักคำเมื่อเห็นเขาควงคนอื่น ไม่มีแม้แต่แววตาตัดพ้อซึ่งมาร์ทก็แอบหวังให้คน ๆ นั้นรู้สึกสักนิดก็ยังดีเพราะเขาจะได้ทำอะไรให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ไบร์ทแสนดีเกินไปแล้ว
"กูหิวอ่ะมาร์ทขอกินแซนวิชของไบร์ทมั่งดิ" บลูไถลตัวราบไปกับโต๊ะมือยาวค่อย ๆ คืบคลานไปหากล่องแซนวิชหน้าตาน่ารับประทานช้า ๆ ทว่าอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นที่มือจะได้สัมผัสกับอาหารเลิศรสปีศาจในคราบเจ้าชายก็แย่งเอาสมบัติล้ำค่าของบลูไป
"เขาทำมาให้กูคนเดียวนะได้ข่าว" สมาร์ทดึงเอากล่องแซนวิชไปวางบนตักของตัวเองแล้วบอกบลูด้วยน้ำเสียงกวน ๆ บลูเบ้ปากแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้
ก็น้องหิวอ่ะ! น้องจะกิน!
"เขาไม่ได้ทำมาให้มึงกินคนเดียวซะหน่อย ไบร์ทใจดีจะตายเขาคงทำมาเผื่อกูด้วย"
"กูจำไม่เห็นได้ว่ามีชื่อมึงอยู่ในประโยคตอนไบร์ทเดินเอามาให้"
"มึงหูไม่ดีเอง"
"ไอ้ขี้มั่ว"
"ไอ้ขี้หวง!" ทั้งสองคนโต้ตอบกันอย่างไม่มีใครยอมใครจนสุดท้ายหินที่นั่งเงียบอยู่นานลุกขึ้นคว้าคอบลูลากออกไปจากโต๊ะท่ามกลางความมึนงงของทั้งสมาร์ทและบลู
"โอ๊ยไอ้หินนนน มึงจะลากกูไปไหน"
"ไปแดกข้าว! กูรำคาญเถียงกันเป็นเด็ก ๆ อยู่ได้มือมีตีนมีทำไมไม่เดินไปหาแดกเองห๊ะจะไปแย่งของเพื่อนทำไม! มึงเองก็เหมือนกันเชี่ยมาร์ทจะหวงอะไรนักหนาชิ้นสองชิ้นแบ่งให้เพื่อนบ้างไม่ได้รึไง พวกมึงนี่! ฮึ่ย! กูขัดใจ!"
ทั้งสองได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ ฟังหินร่ายยาวและไม่ทันที่สมาร์ทกับบลูจะได้เอ่ยอะไรหินก็จัดการลากบลูไปโรงอาหารเสียแล้ว สมาร์ทยกมือขึ้นเกาศีรษะอย่างงง ๆ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ
ขอโทษนะเพื่อน กูแบ่งให้ใครไม่ได้จริง ๆ
ครืด...ครืด...
ด้วยความที่เวลาทำงานอยู่สมาร์ทจะเปิดระบบสั่นไว้และมันก็ทำหน้าที่ได้ดีเสียจนเกินไป เล่นสั่นซะโต๊ะสะเทือนทำเขาสะดุ้งสุดแรงดีนะแถวนั้นไม่มีใครสนใจไม่อย่างนั้นได้ขายหน้าแย่ มือใหญ่หยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาดูริมฝีปากจุดรอยยิ้มบางเมื่อเห็นว่าคนที่ทักมาเป็นใคร
Bright: อย่ามัวแต่ทำงานจนลืมทานข้าวนะ
Smart: กำลังทานอยู่เลย
Bright: อร่อยมั้ย?
Smart: ก็เหมือนทุกวัน
Bright: เหมือนทุกวันแล้วมันอร่อยมั้ยเล่า!
มาถึงประโยคนี้คนดังคณะวิศวะหลุดหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีพลางนึกถึงใบหน้าน่ารักที่ตอนนี้คงกำลังอมลมเต็มแก้มไม่ก็ทำปากยื่นอยู่แน่ ๆ
Smart: ถ้าไม่อร่อยฉันจะกินทุกวันหรอ
Bright: มาร์ท!!! ทำไมชอบทำเราเขิน >////////////<
Smart: แล้วไบร์ทชอบทำตัวน่ารักทำไมล่ะ
Bright: ไม่คุยด้วยแล้ว ไปเรียนดีกว่าตอนบ่ายเจอกันนะ
Smart: ครับผม อย่าลืมทานข้าวเช้าด้วยนะแค่นี้ก็ผอมจะแย่แล้ว
Bright: ค้าบบบบบบผม
ไบร์ทนั่งมองโทรศัพท์แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนเพื่อนสนิททั้งสามมองหน้ากันด้วยความหมั่นไส้และคนที่หยุดมือตัวเองไว้ไม่อยู่ก็คือดี คนตัวเล็กผลักหัวเพื่อนจนหน้าคะมำหัวแทบจะกระแทกกับโต๊ะ
“ผลักขนาดนี้ตบกูเลยไหมดี” ไบร์ทลูบหัวตัวเองป้อย ๆ แต่ใบหน้าหวานยังอมยิ้มอยู่
“อ่าวทำได้ใช่ไหมกูจะได้ไม่เกรงใจ” ดีทำท่าจะเข้าไปตบหัวไบร์ทอีกรอบแต่คนตัวสูงไวกว่ารีบขยับหลบด้านหลังทะเลที่นั่งหัวเราะอยู่ข้าง ๆ
“มึงนี่ก็ยุขึ้นจริง ๆ ใช่ซี่กูไม่ใช่พี่ไวท์หล่อสาดดดดดของมึงนี่” ไบร์ทตัดพ้อเพื่อนสนิทพร้อมทั้งพาดพิงไปยังแฟนหนุ่มของเจ้าตัว ดีถลึงตาใส่ชี้หน้าคาดโทษเพื่อนตัวสูงจนซีนเพื่อนตัวขาวต้องรีบยกมือขวางห้ามทัพ
“มึงดีกว่าพี่ไวท์มันหลายขุมแล้วไบร์ท เพราะรายนั้นดีมันเลี้ยงด้วยลำแข้ง” สิ้นคำพูดของซีนทั้งโต๊ะก็ระเบิดหัวเราะดังลั่นรวมทั้งคนที่ถูกพาดพิงอย่างดีด้วย
“ใครจะไปเหมือนมึงล่ะซีนสิงกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเนี่ย ถามจริงพวกมึงไม่เบื่อกันบ้างหรอฮะทะเล" ต้นประโยคดีจิกกัดเพื่อนรักตัวขาวไปหนึ่งทีก่อนท้ายประโยคจะหันมาถามแฟนหนุ่มของเพื่อนพ่วงด้วยตำแหน่งเพื่อนสนิทในกลุ่มอีกหนึ่งคน ทะเลและซีนหันมองหน้ากันก่อนที่ทั้งสองจะหันมามองดีแล้วส่ายหน้า
"ไม่หนิ พวกกูมีความสุขดีที่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้" ทะเลเป็นคนตอบคำถามแล้วซบหัวลงบนไหล่ซีน ไบร์ทมองคู่เพื่อน"รัก"ยิ้ม ๆ ต่างจากดีที่ทำหน้าเหม็นเบื่อ
"มึงไม่ลองให้พี่ไวท์มันอยู่กับมึงยี่สิบสี่ชั่วโมงบ้างล่ะ" ซีนเสนอ คนถูกแนะส่ายหัวพรืดอย่างรวดเร็ว เรื่องอะไรดีจะยอมให้ไอ้แฟนบ้ากามนั่นอยู่กับเขายี่สิบสี่ชั่วโมงกันล่ะ แค่เจอหน้ากันวันละสองสามครั้ง ไปนอนที่ห้องอาทิตย์ละสามวันดีก็เปลืองตัวจะแย่แล้ว
ก็ไอ้พี่บ้านั่นหื่นจะตายชัก!
"กลัวลุกมาเรียนไม่ไหวล่ะสิ"
ป้าบ!
สิ้นคำพูดหัวทุย ๆ ของทะเลก็หล่นจากไหล่ซีนทันทีด้วยแรงตบที่ไม่เบานัก หากแต่คนถูกทำร้ายกลับหัวเราะถูกใจไม่มีทีท่าโกรธสักนิด
"มึงนี่เขินแรงตลอด ฮึฮึ" ทะเลลูบหัวตัวเองป้อย ๆ เสียงทุ้มขึ้นจมูกแซ็วเพื่อนตัวเล็กที่ตอนนี้หน้าแดงไม่รู้แดงเพราะเขินหรือโกรธกันแน่
"เงียบปากไปเลยไอ้ดำ!" เพื่อน ๆ ต่างพากันหัวเราะดีเสียยกใหญ่ เจ้าตัวหน้าแดงเป็นลูกตำลึงเพราะเขินอายต้องรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่เขาจะอายไปมากกว่านี้
"ว่าแต่มึงเถอะไบร์ท เมื่อไหร่จะคบ ๆ กันซะที" เมื่อเห็นว่าตัวเองโดนเยอะไปแล้วดีจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่เพื่อนตัวสูงที่ตอนนี้สถานะระหว่างเจ้าตัวกับพ่อคนหล่อของคณะยังดูคลุมเครือเสียเหลือเกิน จะว่าคบก็ไม่ใช่แต่จะว่าไม่มีใจก็ไม่ถูก คนถูกถามเพียงแค่ยักไหล่น้อย ๆ
"จะคบไปทำไมอ่ะทุกวันนี้ก็มีความสุขดี" ทั้งสามเห็นท่าทีไม่ทุกข์ร้อนอะไรของไบร์ทก็ได้แต่ถอนหายใจไปตาม ๆ กัน ไบร์ทมองเพื่อนทั้งสามตาแป๋ว ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำหน้าระอากับเขาเสียขนาดนั้น
จะคบไปเพื่ออะไรในเมื่อมาร์ทไม่คิดจะผูกมัดตัวเองไว้กับใคร
จะอยากเป็นเจ้าของไปทำไมถ้าหากว่าคน ๆ นั้นไม่ได้ต้องการมีบ่วงมาคล้องคอ
ไบร์ทก็แค่อยากจะ "รัก" สมาร์ทแบบนี้ไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องเจ็บปวดก็แค่นั้นเอง
"มีด้วยหรือวะรักที่ไม่ต้องการเป็นเจ้าของ" เป็นซีนที่ทนไม่ได้ คนตัวขาวเท้าคางจ้องมองไปที่ไบร์ทอย่างสงสัยใคร่รู้ ซีนขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้วงแขนของทะเลเกี่ยวรัดรอบเอวของตัวเองได้ถนัดขึ้น จมูกโด่งกดจูบบนไหล่ขาวเบา ๆ แล้วเกยคางบนไหล่ซีนจ้องไปที่ไบร์ทอย่างรอคำตอบเช่นกัน
ไบร์ทส่ายหน้าช้า ๆ พร้อมรอยยิ้มบาง "ไม่รู้สิ กูแค่รู้สึกว่าตอนนี้กูยังมีความสุขดีอยู่ สำหรับกูแค่ได้ดูแลมาร์ทไปแบบนี้ก็พอใจแล้ว"
"มึงแม่งนางเอกสัด ๆ" ดีอดไม่ได้ที่จะจิกกัดเพื่อนตัวดี เห็นไบร์ทเป็นแบบนี้เขายิ่งหงุดหงิด ใช่ว่าเพื่อนของเขาจะน่ารักน้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ ไบร์ทน่ะเห็นเฉย ๆ แบบนี้คนแอบชอบมันเต็มไปหมดแต่เพราะว่าคุณเพื่อนเจ้าของใบหน้าหล่อปนหวานนี่พุ่งความสนใจไปที่คน ๆ เดียว จึงไม่สนใจคนดี ๆ ที่พยายามเข้ามาเลยสักนิด
"มาร์ทมันดีอะไรขนาดนั้นหรือวะไบร์ทมึงถึงได้รักมันขนาดนี้ โอเคมันหล่อโคตรพ่อกูยอมรับแต่นอกเหนือจากนั้นล่ะ ควงผู้หญิง ผู้ชายไม่ซ้ำหน้า ไม่เห็นจะจริงจังกับใครเลย มึงเลือกได้ดีกว่านี้เยอะนะไบร์ทคนดี ๆ หล่อ ๆ พอ ๆ กับมาร์ทมันก็มีนะทำไมไม่มองดูบ้าง" ไบร์ทหรี่สายตามองเพื่อนตัวเล็กอย่างจับผิด
"ถ้าที่มึงพูดมาทั้งหมดเพียงเพราะต้องการโยงเรื่องไปหาพี่ปีมึงหยุดความคิดนั้นเลยนะไอ้ดี" เมื่อถูกเพื่อนจับได้ดีก็ได้แต่ฟึดฟัดทำปากยื่นอย่างขัดใจ
"ทำไมอ่ะพี่ปีของกูเขาไม่ดีตรงไหน เดือนคณะสองปีก่อน กัปตันทีมบาสมหาลัย นักศึกษาดีเด่น นิสัยดี บ้านมีฐานะ โอ๊ยสารพัดจะดีอ่ะไบร์ททำไมมึงไม่ชอบพี่เขาว้า" ดีได้แต่คร่ำครวญเขย่าแขนเพื่อนจนทั้งสามคนหัวเราะกับท่าทางเด็ก ๆ ของเพื่อนตัวเล็ก
"ดีมึงฟังกูนะ คนที่ดีกับคนที่รักอ่ะมันต่างกัน คนที่เรารักไม่จำเป็นต้องดีแค่กูรู้ว่ากูรักเขามันก็พอแล้ว"
"มึงอ่ะแม่งกูไม่คุยด้วยเล่าไปหาไวท์ดีกว่า อ่อ! อย่าลืมกินยาแก้ไข้ด้วยนะมึงตัวมึงร้อน ๆ" ว่าจบคนตัวเล็กก็เดินสะบัดก้นไปทางคณะบริหารทันทีแถมก่อนไปยังสั่งไบร์ทเสียเสร็จสรรพ ทั้งสามมองตามขำ ๆ และก็เป็นทะเลที่เอ่ยขึ้นมาเรียกเสียงหัวเราะจากไบร์ทและซีนได้เป็นอย่างดี
"กูเชื่อเลยว่าพี่ไวท์แม่งต้องน่วมหงุดหงิดทีไรพี่มันโดนตลอดทั้งทุบทั้งตีบางทีกูก็งงนะว่านั่นแฟนหรือกระสอบทราย" ทะเลกล่าวกลั้วหัวเราะ
"แต่พี่ไวท์ก็ยอมดีตลอดนะ" ซีนพูดขึ้นมาบ้าง ไบร์ทพยักหน้าเห็นด้วย
"ก็เขารักของเขานี่" ไบร์ทตอบก่อนจะรั้งให้คู่รักต่างสีลุกขึ้นเพื่อไปเรียนในคาบบ่าย
บ่ายนี้ภาคปิโตรมีเรียนวิชาเครื่องกลเบื้องต้นซึ่งผองเพื่อนในกลุ่มลงความเห็นว่าเป็นวิชาที่ไบร์ทดูจะกระดี๊กระด๊าอยากเรียนที่สุด เพราะอะไรน่ะหรือก็เพราะว่าพวกเขาได้เรียนรวมกับภาคโยธาซึ่งมีขวัญใจของไบร์ทมันเรียนด้วยน่ะสิ เมื่อเข้ามาภายในห้องก็เห็นพวกมาร์ทนั่งกันอยู่ก่อนแล้วโดยมี บลูนั่งติดกับมาร์ทใส่เฮดโฟนในมือถือหนังสือการ์ตูนนารูโตะตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอก ข้างในติดผนังเป็นเลย์กับหินที่ฟุบหลับกันอยู่โดยแชร์หูฟังกันคนละข้าง
ใบหน้าหล่อละจากหนังสือในมือขึ้นมามองยังร่างโปร่งกับเพื่อนที่ยืนอยู่ตรงประตู มุมปากจุดยิ้มบางก่อนที่มือใหญ่จะกวักเรียกให้ไบร์ทเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ร่างโปร่งค่อย ๆ ก้าวเข้าไปนั่งอย่างระมัดระวังท่ามกลางสายตาล้อเลียนของเพื่อนอย่างทะเลและซีน
"ทานข้าวรึยัง" เสียงทุ้มเอ่ยถามทันทีเมื่อไบร์ทนั่งลงข้าง ๆ
"ทานแล้วมาร์ทล่ะ"
"ทานแล้วเหมือนกันเป็นอะไรรึเปล่าหน้าซีด ๆ" ไม่พูดเปล่ามือใหญ่ถูกส่งขึ้นไปอังหน้าผากสวยอย่างอ่อนโยน ไบร์ทชะงักกับการกระทำของสมาร์ทเล็กน้อย แก้มกลมขึ้นสีเรื่อน่ามอง
"มะ...ไม่เป็นอะไรมากหรอกแค่ปวดหัวนิดหน่อย"
"ตัวอุ่น ๆ เมื่อวานตากฝนใช่ไหม" สมาร์ทเอ่ยถามคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างเคร่งเครียด เพราะเมื่อวานเขาติดธุระกับที่บ้านเลยต้องรีบกลับไม่ทันได้รอไปส่งคนที่เลิกเรียนทีหลังแถมเมื่อวานฝนยังตกหนักเสียด้วย
"ก็..."
"ตากฝนใช่ไหม" สมาร์ทถามเสียงเข้ม ไบร์ทพยักหน้ารับหงอย ๆ จนคนที่ทำท่าจะดุใจอ่อน มาร์ทถอนหายใจช้า ๆ ก่อนจะหันไปสะกิดบลู
"บลูกูขอยืมหมอนน้อยมึงหน่อย" บลูพยักหน้าก่อนจะก้มลงไปหยิบหมอนใบเล็กรูปซาลาเปาขึ้นมาส่งให้เพื่อนตัวสูง มาร์ทเอ่ยขอบคุณก่อนจะวางมันลงตรงหน้าไบร์ทและกดหัวทุยลงบนหมอน ไบร์ททำตามอย่างงง ๆ
"นอนพักซะเดี๋ยวจดเลคเชอร์แทนเองแล้วนี่กินยารึยัง" สมาร์ทเอ่ยบอกคนที่มองหน้าเขาตาปริบ ๆ อดไม่ได้ที่จะบีบจมูกโด่งอย่างหมั่นเขี้ยว
"กินแล้วครับแต่เราไม่ได้เป็นอะไรมากนะ"
"นอนไปเลยอย่าดื้อ" คนถูกหาว่าดื้อได้แต่ยื่นปากอย่างน่ารักก่อนจะทิ้งตัวนอนราบไปกับโต๊ะเรียนตามคำสั่งของคนตัวสูงกว่าอย่างว่าง่าย ซีนและทะเลผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดหันมามองหน้ากันยิ้ม ๆ
อย่างน้อยเพื่อนเขาก็ไม่ได้คิดไปเองฝ่ายเดียว
สมาร์ทมองคนที่เขาสั่งให้นอนหลับเงียบ ๆ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันยังไม่คลาย เขาจ้องอีกฝ่ายเหมือนมีอะไรติดอยู่ในใจ ก่อนที่จะเลิกคิ้วอย่างนึกขึ้นได้ ก็คนป่วยใส่เพียงแค่เสื้อยืดคอกลมบาง ๆ มาเรียนเท่านั้น ก็รู้ว่าไบร์ทเป็นคนขี้ร้อนแต่ในสถานการณ์ที่สุขภาพตัวเองไม่ค่อยจะดีทำไมไม่รู้จักใส่เสื้อให้หนา ๆ กันนะ ว่าแล้วสมาร์ทก็ถอดเสื้อช็อปของตนเองที่เพิ่งจะซักไปเมื่อวานออกมาคลุมให้คนตัวบาง ไบร์ทขยับตัวเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดูแต่สองคนที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบแบบซีนและทะเลนี่กลั้นยิ้มกันจนปวดแก้ม
โดยเฉพาะซีนที่บีบมือทะเลกลั้นฟินจนแน่น ใบหน้าน่ารักยิ้มจนตาหยีจนทะเลอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวไปสูดความหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่ จะปล่อยให้อีกคู่หวานเกินหน้าเกินตาได้ไงล่ะ เขากับซีนก็หวานเหมือนกันนะ
สมาร์ทนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบ ๆ จนกระทั่งเพื่อนร่วมภาคของเขาเดินเข้ามาแจ้งว่าอาจารย์ติดประชุมด่วนแต่สั่งงานให้ทำส่งท้ายคาบ ไบร์ทที่ตื่นเพราะเสียงเพื่อน ๆ เฮลั่นที่อาจารย์ไม่เข้ากำลังจะลุกขึ้นนั่งดี ๆ แต่สมาร์ทก็เอามือใหญ่กดศีรษะเขาให้นอนลงเหมือนเดิม
"นอนต่อไปเถอะ"
"แต่อาจารย์สั่งงานนะ" ไบร์ทตอบเสียงอ้อมแอ้ม แก้มกลมเห่อร้อนเพราะมือใหญ่ที่กดศีรษะเขาในตอนแรกกำลังลูบหัวเขาอยู่ในตอนนี้
มาร์ทคนบ้าทำไมถึงชอบอ่อนโยน
"นอนไปเถอะเดี๋ยวทำให้"
"แต่....อ๊ะ"
"บอกว่าเดี๋ยวทำให้ไงครับ ไบร์ทนอนไปเถอะอย่าดื้อเข้าใจไหม"
ไบร์ทกำลังจะบอกว่าตัวเขาไม่ได้เป็นอะไรมากต้องชะงักเมื่อใบหน้าหล่อที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจไบร์ทไม่ปกติโน้มตัวลงมาจนปลายจมูกสัมผัสกันแถมเสียงทุ้มที่เอ่ยบอกราวกับเป็นคำสั่งที่ผู้ใหญ่สั่งเด็กไม่ให้ดื้อไม่ให้ซนยิ่งทำให้ไบร์ทเขินจนหน้าแดงเป็นลูกตำลึง มาร์ทยิ้มขำเมื่อเห็นว่าอีกคนเขินเขาจนหูแดงหน้าแดงไปหมดแต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่ามันน่ารักน่าแกล้งมากทีเดียว ยิ่งได้อยู่ใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวไบร์ทพาลให้เขาอยากจะลองจรดจมูกลงบนแก้มกลมตรงหน้าดูสักครั้ง
จะนิ่มและหอมขนาดไหนกันนะ
"มะ..มาร์ทเอ่อเอาหน้าไปไกล ๆ หน่อยก็ได้" เสียงทุ้มหวานอ้อมแอ้มตอบ ไบร์ทพยายามขยับหน้าออกห่างแต่คนขี้แกล้งรีบรั้งท้ายทอยเอาไว้
"ทำไมครับ หืม?"
โอ่ย มาหงมาหืมอะไรใกล้ ๆ มาร์ทนะมาร์ทรู้ว่าเขาเขินก็ชอบแกล้งเสียจริง แก้มกลมเริ่มพองริมฝีปากสีเชอร์รี่ยื่นอย่างเง้างอน แกล้งมาก ๆ เดี๋ยวเขาก็โกรธซะนี่ ก็ทำได้แค่คิดเพราะเอาเข้าจริงไบร์ทก็ทำใจโกรธมาร์ทไม่ลงอยู่ดี
"อ..อย่าแกล้งสิ" ทำใจดีสู้เสือตอบไปพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นแต่ทำไมมันทำได้ยากเช่นนี้นะ
"ฮะฮะ โอเคครับ ๆ ไม่แกล้งแล้วนอนพักซะ" เสียงทุ้มเจือเสียงหัวเราะเอ่ยบอกอีกคนอย่างอารมณ์ดี มือใหญ่ขยี้กลุ่มผมนุ่มเบา ๆ ด้วยความเอ็นดูก่อนจะหันหน้ากลับมาทำงานที่อาจารย์สั่ง ไบร์ทนอนมองมาร์ททำงานพร้อมรอยยิ้มหวาน คนน่ารักประจำภาคปิโตรเอ่ยพึมพำก่อนที่จะเข้าสู่ห้วงนิทราอีกรอบเพราะพิษไข้
"ขอบคุณครับมาร์ท"
ถ้าเพียงแต่ไบร์ทหลับตาช้ากว่านี้สักนิดคงได้เห็นรอยยิ้มและสายตาสื่อความหมายบางอย่างจากร่างสูงข้างกาย
[มีต่อด้านล่าง]