พิมพ์หน้านี้ - {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: เขียนสือ ที่ 11-05-2015 18:24:13

หัวข้อ: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 11-05-2015 18:24:13
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม






It' you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'

 
(http://ookbeetunwalai.s3.amazonaws.com/files/member/101200/660132189-member.jpg)

 

คนนึงเดินตามความฝันจนได้อยู่จุดที่สูงที่สุด  แต่ไม่รู้เลยว่าตัวเองได้สร้างอีกหนึ่งชีวตขึ้นมา

.............................................................

กลับอีกคนที่ต้องละทิ้งความฝันไว้ข้างหลัง  เพื่อที่จะเก็บอีกหนึ่งชีวิตไว้

 

 
(http://ookbeetunwalai.s3.amazonaws.com/files/member/101200/593940520-member.jpg)

ไค/คิมจงอิน (อายุ21ปี)

นักร้องซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของเกาหลีตอนนี้  เป็นไอดอลที่มีอิทธิพล

กับแฟนคลับมากที่สุดในบรรดาไอดอลทั้งหมด สังกัดค่าย HK Entertainmen

 

 
(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1353063800-member.jpg)
โอเซฮุน(อายุ21ปี)

คุณแม่ยังสาว(?) เจ้าของร้าน Indy cafe ที่เป็นเหมือนศูนย์รวมวัยรุ่น

ลูกชายคนเล็กของคุณนายคิมและประธานโอ เจ้าของค่ายเพลงชื่อดังอย่าง HK Entertainment

 

 
(http://ookbeetunwalai.s3.amazonaws.com/files/member/101200/783701621-member.jpg)

จีซอง(อายุ3ปี)

ลูกชายสุดที่รักของหม่าม๊าเซฮุน เด็กน้อยน่ารัก แสนซุกซน

ที่ฉลาดเกินวัย ขวัญใจลูกค้าร้าน Indy cafe มีแฟนคลับตัวเองตั้งแต่เด็ก

 

 

........................................................................................

 

 

พยายามถอยห่าง......เพราะกลัวเจ็บ

พยายามจะไม่เก็บ......เรื่องราวของเราไว้

พยายามจะหยุดรักนาย......ครั้งใด

แต่หัวใจกลับไม่เคยทำได้......สักที




 
(http://ookbeetunwalai.s3.amazonaws.com/files/member/101200/2146619479-member.jpg)

  คำว่ารักที่เคยบอกมันยังมีความหมายอยู่มั้ย? คำสัญญาที่เคยมีให้กันนายยัง

จำมันได้รึเปล่า? ที่เคยบอกว่าจะอยู่ข้างๆกันตลอดไป แล้วตอนนี้นายไปอยู่ที่ไหน?




 
(http://ookbeetunwalai.s3.amazonaws.com/files/member/101200/1675193359-member.jpg)

เพราะรักจึงยอมปล่อยมือ คำสัญญาที่เคยบอกไว้วันนั้น

ตอนนี้ฉันคงทำให้นายไม่ได้แล้ว  เพราะฉันต้องรักษาสิ่งที่สำคัญที่สุดของฉันไว้เหมือนกัน

 

 
(http://ookbeetunwalai.s3.amazonaws.com/files/member/101200/697051000-member.jpg)

หม่าม๊าฮับป๊ะป๋าไปไหน จีซองจะไปหาป๊ะป๋า!!!




 

 

 

 

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 

มี่ขอฝากนิยายเรื่องใหม่อีกหนึ่งเรื่องของมี่ด้วยนะค่ะ

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/278760693-member.jpg)

 เรื่องนี้ก็เป็นแนว Mpreg ท้องได้ เหมือนกันค่ะ

::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: 

 

 

 

ดีค่ะ!!!! เราชื่อ'มี่' เพิ่งจะยี่สิบต้นๆ จะเรียก 'พี่มี่' 'น้องมี' 'ไอ่มี่' หรือยังไงก็แล้วแต่สะดวกเลย

เราเป็นนักเขียนมือใหม่เพิ่งจะเริ่มแต่งนิยายเป็นของตัวเอง ปกติก็เป็นคนอ่านมาตลอด

แต่ที่ต้องมาแต่งเองเพราะว่ามันไม่ค่อยมีแนว 'mpreg' 'ผู้ชายท้องได้' แบบที่เราชอบสักเท่าไหร่

เราก็เลยเริ่มแต่งซะเลย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อสนองความต้องการของตัวเองแท้ๆ ใครที่ชอบคล้ายๆกัน

ก็เข้ามาอ่ามาแลกเปลี่ยนความคิดกันได้นะคะ ส่วนคนที่ไม่ชอบแนวนี้เลยก็ลองเปิดใจ

ลองอ่านกันสักนิดถ้าไม่ชอบไม่ใช่แนวจริงๆก็กดปิดไปได้เลยค่ะ ให้นิยายมันเป็นแค่นิยาย

เปิดใจให้กว้างและสนุกไปกับมันไม่ต้องไปคิดอะไรมากมาย ไม่ต้องไปอิงกับความเป็นจริงให้มาก

เพราะมันมีไว้ให้เราอ่านเพื่อให้ผ่อนคลายพักสมองจากเรื่องเคลียดในชีวิตจริง แล้วโลดแล่น

มีความสุขสนุกหรรษาไปตัวละคร จะยังไงก็แล้วแต่ฝากผลงานของเราด้วยนะคะ

ถึงตอนนี้อาจจะยังแต่งได้ไม่ดีเท่าไหร่เพราะเราไม่ใช่นักเขียนอาชีพเราคือมือใหม่หัดแต่ง

แต่เราก็จะพยายามพัฒนาไปเรื่อยๆ เอาความคิดและคำแนะนำของทุกคนมาปรับแก้

 

สนับสนุน 'ไอ่มี่' คนนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ >3<!!

 

 

 

 

 

 

- ศิลปินในรูปไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับนิยายเรื่องนี้ รูปมีไว้เพื่อให้จิ้นเท่านั้น

- นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้เขียน ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำความเสียหายแก่ศิลปิน

- นิยายเรื่องนี้เป็นแนว mpreg 'เคะท้องได้' ท้องโดยไม่มีหลักการใดๆ ไม่มีเหตุผลรองรับ

- เรื่องนี้เป็น y เรื่องแรก เพราะคนแต่งมันเป็นวายตัวแม่ ++ขอแค่ได้จิ้น++

- ฝากช่วยเป็นกำลังใจให้ ลูกหมูตัวน้อยๆๆที่ตามหาป๊ะป๋า ด้วยน้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG KAI&HUN
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 11-05-2015 18:34:26
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 1

HK Entertainment

"One two three four jump Stop.หยุดก่อน เป็นอะไรไปเซฮุน เต้นผิดตลอดเลย สีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะไม่สบายรึเปล่า"

ครูสอนเต้นตัวเล็กถามขึ้น เมื่อเห็นสีหน้าซีดๆของนักเรียนในคลาส

"รู้สึกเวียนหัวนะฮะพี่เลย์ สงสัยเมื่อคืนอ่านหนังสือดึกไปหน่อย เลยนอนไม่พอนะฮะ" เด็กหนุ่มตัวขาวตอบด้วยเสียงอ่อนแรง

"ถ้าอย่างนั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนพรุ่งนี้ค่อยซ้อมต่อ อ่อ!จงอินก่อนพี่จะเข้ามาี่นี่พี่เจอท่านประธานนะท่านฝากให้พี่มาบอกนา่ยว่า

ฝึกเสร็จแล้วเข้าไปหาท่านด้วย ส่วนเซฮุนก็กลับไปพักซะถ้ายังไมดีขึ้นก็ไปหาหมอ ร่างกายของเราต้องเตรียมพร้อม

ตลอดเวลานะเพราะในบรรดาเด็กฝึกทั้งหมด นายสองคนมีโอกาสได้เดบิวต์เร็วๆนี้แน่ เชื่อสิ พี่ไปก่อนนะ" พูดจบร่างเล็ก

ของครูสอนเต้นก็ออกจากห้องไปทันที

"โอ๊ย...ไม่ไหวแล้ว เหนื่อย!!!" หลังจากครูสอนเต้นออกไปร่างบางก็ทิ้งตัวลงนอนกับพื้นห้องซ้อมทันที

"อะไรกันคุณกระต่าย แค่นี้บ่นเหนื่อย วันนี้ซ้อมน้อยกว่าทุกวันเลยนะ" ร่างสูงเอ่ยแซวและนั่งลงข้างๆร่างบาง

"ก็จริงนี่คุณหมี เวียนหัวไปหมด ไม่ไหวแล้วขอนอนก่อนนะ นายก็ไปหาท่านประธานสิไปช้าเดี๋ยวก็โดนว่าหรอก"

พูดจบร่างบางก็หลับตาลง

"อืม..นายก็นอนพักไปก่อนนะถ้าไม่ดีขึ้นเดี๋ยวกลับมาจะพาไปหาหมอ" ร่างสูงพูดบอกพลางปัดผมที่ปรกหน้าร่างบางออก

ก่อนจะก้มลงจุ๊บเร็วๆที่ปากบางๆ และเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีออกจากห้องไป

"เดี๋ยวเถอะจงอิน!!!" ร่างบางพูดดุออกมาทั้งที่ยังไม่ลืมตา ก่อนจะหลับลงไปอย่างรวดเร็ว

++ ปิ๊บ ปิ๊บ ++

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้คนที่หลับไปด้วยความอ่อนเพลียต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา

"ยอโบเซโย" ร่างบางกรอกเสียงรับสายด้วยความงัวเงีย

"ซ้อมเสร็จรึยัง อยู่ที่บริษัทรึป่าว" ปลายสายถามกลับมา

"เสร็จแล้วฮะอยู่ห้องซ้อม พี่มีอะไรรึเปล่า" ร่างบาตอบกลับด้วยคำถาม

"พอดีพี่พาแม่มาทำธุรแถวนี้ แม่เค้าอยากเจอเราน่ะ เลยให้โทรหาจะแวะไปรับมาทานข้าวด้วยกัน เสร็จแล้วก็รีบลงมาล่ะ

รถจอดอยู่ที่เดิมนะ" พูดจบคนปลายสายก็วางสายไปทันที

'เอาไงดีเนี่ยจงอินก็ยังไม่มา เขียนโน๊ตทิ้งไว้แล้วกัน ตั่งแต่ขอออกมาอยู่หอนานๆทีจะได้เจอคุณแม่ ซ้อมหนักตลอด'

ร่างบางคิดในใจพลางเขียนโน๊ตทิ้งไว้ให้ร่างสูง เก็บของเสร็จก็เดินลงมาจากตึกที่มีแฟนคลับมากมายที่มายืนรอศิลปิน

ที่ชอบอยู่ข้างหน้าบริษัทแม้ว่าจะมืดแล้วก็ตาม เดินตรงไปังรถคันใหญ่ที่จอดอยู่ฝั่งครงข้าม แต่ในขณะที่กำลังจะเปิด

ประตูรถนั้น ร่างบางก็รู้สึกหน้ามืดจนหมดสติล้มลงไปกับพื้นถนน ทำให้คนที่รออยู่ในรถนั้นตกใจ รีบลงจากรถออกมาดู

และพาไปโรงพยาบาลทันที



โรงพยาบาล


"อือ..ผมเป็นอะไรไปฮะ" ร่างบางลืมตาขึ้นมาเห็นห้องไม่คุ้นตาแต่ก็ดูรู้ว่าเป็นโรงพยาบาลและยังมีแม่และพี่ชายนั่งเฝ้าตนอยู่

"เราเป็นลมไปนะ พี่กับแม่เลยพามาโรงพยาบาล" พี่ชายร่างบางเป็นคนตอบ

"แล้วหมอว่ายังไงฮะ" ร่างบางถามต่อ

"ยังไม่ได้บอกอะไรเลย หมอเค้ารอให้ลูกตื่นก่อนนะ เป็นยังไงบ้างฮะเรา แม่ตกใจแทบแย่เลยรู้มั้ย ที่เห็นลูกเป็นลม

ล้มลงไปแบบนั้น ทำไมไม่ดูแลตัวเองให้ดีนะเซฮุน" คุณนานคิมบ่นลูกชายคนเล็กด้วยความเป็นห่วง

  ....ก๊อก....ก๊อก.....

"คุณเซฮุนฟื้นแล้วนะคะ หมอจะมาแจ้งผลตรวจให้ทราบคะ " ยังไม่ทันที่ร่างบางจะได้พูดอะไรหมอและพยาบาลก็เดินเข้ามา

"ลูกดิฉันเป็นอะไรมากรึป่าวคะ" คุณนายคิมถาม

"ไม่เป็นอะไรมากหรอกคะที่หมดสติไปเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ หมอขอถามคุณเซฮุนเพิ่มหน่อยนะคะว่าก่อนหน้านี้คุณมี

อาการผิดปกติยังไงบ้างคะ" หมอสาวถามอย่างสุภาพ

"ก็เวียนหัวแล้วช่วงนี้ก็รู้สึกหน้ามืดบ่อยๆนะฮะ เมื่อเช้าตื่นมาก็อาเจียนด้วย" ร่างบางตอบ

"ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอกคะ อาการของคุณเซฮุนเป็นอาการทั่วไปของคนตั้งครรภ์น่ะคะ" หมอสาวบอก

"เดี๋ยวนะ คุณหมอบอกว่าลูกดิฉันเป็นอะไรนะ" คุณนาคิมถามด้วยความไม่มั่นใจ

"ตั้งครรภ์คะ คุณเซฮุนตั้งครรภ์ได้ 12 สัปดาห์แล้วคะ" คุณหมอยืนยันคำตอบ

"แต่ลูกดิฉันเป็นผู้ชายนะคะ จะท้องได้ยังไง" คุณนายคิมถามอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

"คุณแม่อาจจะยังไม่ทราบนะคะว่าผู้ชายที่มีฮอร์โมนเพศหญิงมากกว่าปกติสามารถตั้งครรภ์ได้ค่ะ แล้วนี่ก็ภาพอัลตร้าซาวด์

ของเด็กในครรภ์ตอนที่เราตรวจคุณเซฮุนน่ะคะ เด็กแข็งแรงมาก หมอฉีดยาบำรุงให้แล้วเดี๋ยวคุณพยาบาลจะเอายามาให้

และเคลียร์ค่าใช้จ่ายนะคะ  เสร็จเรียบร้อยแล้วก็กลับบ้านได้เลย หมอขอแสดงความยินดีกับว่าที่คุณแม่คนใหม่ด้วยนะคะ"

หมอสาวบอกและยื่นภาพถ่ายสองใบให้กับเซฮุนด้วยความยินดีและเดินออกไป เหลือแต่สามแม่ลูกที่ยังตกตะลึงกับสิ่ง

ที่คุณหมอบอก

"แม่ฮะ พี่ฮะ ผมท้อง" ร่างบางเอ่ยขึ้นราวกับเสียงกระซิบด้วยใบหน้าที่สับสน

"ไม่เป็นไรนะเซฮุน ไว้เราค่อยคุยเรื่องนี้กันพร้อมกับคุณพ่อพรุ่งนี้นะลูกจะได้ช่วยกันหาทางแก้ไข กลับไปพักผ่อนที่บ้าน

กันเถอะวันนี้ลูกเหนื่อยมามากแล้ว" คุณนายคิมบอกด้วยน้ำเสียงเบาหวิว

"แต่แม่ครับ" ลูกชาคนโตแ้ย้งขึ้น

"เชื่อแม่เถอะจุนมยอน เอาไว้คุยกันพรุ่งนี้พร้อมคุณพ่อ" เธอรู้ว่าลูกชายคนโตของเธอคิดอะไร เพราะเธอก็อยากรู้เหมือนกัน

แต่วันนี้เธอเหนื่อยเกินไปที่จะจัดการอะไรอีก ไว้ค่อยคุยกันตอนที่มีสติมากกว่านี้ดีกว่า  ที่สำคัญรอคุยพร้อมสามีเธอดีกว่า

เพราะเซฮุนคือลูกคนโปรดของประธานโอ ที่ดูจะหวงมากกว่าจุนมยอน

 

HK Entertainment
 
  ก๊อก....ก๊อก

"เชิญ"

"พี่เลย์บอกว่าท่านเรียกให้ผมมาพบหรอครับ"

"ฉันเรียกนายมาคุยเรื่องเดบิวต์ของนายนะ" ประธานโอเอ่ยเสียงเรียบ

"อะไรนะครับ เดบิวต์หรอ จริงหรอครับ" ร่างสูงถามอย่างไม่เชื่อหู

"อืม อีกหกเดือนต่อจากนี้คือวันเดบิวต์ของนาย เตรียมตัวให้พร้อมล๊ะ แผนสำหรับวันเดบิวต์ของนายได้วางไว้แล้วอย่าทำให้

ฉันต้องผิดหวังที่เลือกนาย ฉันมีเรื่องจะบอกนาแค่นี้แหละที่เหลือมินซอกและจงแดจะเป็นคนจัดการนายเอง ตั้งใจเข้าล๊ะ"

"ขอบคุณครับ ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน แต่ท่านประธานครับแล้เซฮุนล๊ะครับ" ร่างสูงถามไปถึงคนตัวบาง

"มันยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้บริษัทมีโปรแผนที่จะปั้นศิลปินเดี่ยวน่ะ แล้วคนที่ฉันเลือกก็คือนาย ส่วนเซฮุนไม่ต้องเป็นห่วง

คนมีความสามารถอย่างเค้าได้เดบิวต์แน่นอน แต่นี่ยังไม่ใช่สำหรับเค้า ตอนนี้นายแค่กลับเตรียมตัวให้พร้อมเถอะ

ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอื่นหรอกสนใจแค่ตัวนายก็พอ โอกาสเป็นของนายแล้วอย่าปล่อยให้หลุดมือไป" ประธานโอบอกด้วย

สีหน้าเรียบเฉย

"ครับ ขอบคุณอีกครั้งที่ให้โอกาสผม" ร่างสูงเดินออกจะห้องประธานบริษัทด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มและมีความสุข โอกาสของเค้า

มาถึงแล้ว เค้ากำลังจะมีเพลงเป็นของตัวเอง ความฝันของเค้ากำลังจะเป็นจริง

"เซฮุน!! ฉันมีข่าวดีจะมาบอก อะ..อ่าว หายไปไหน" เมื่อร่างสูกลับมาถึงห้องซ้อมของตัวเอง กำลังจะบอกข่าวดีของตน

ให้ใครอีกคนได้ร่วมยินดีด้วย แต่เมื่อเปิดประตูเข้ามากลับไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิต เหลือเพียงแต่กระดาษโน๊ตแผ่นเล็กที่

แปะติดกระจกไว้ แค่ว่า - วันนีไม่กลับหอนะคุณหมี คุณแม่มารับไปกินข้าวที่บ้าน มีอะไรโทรมานะ จากคุณกระต่าย แบร่ :P -

ร่างสูงได้แต่ขำกับความน่ารักของเจ้าของโน๊ต ตั้งแต่รู้จักกับเซฮุนมาจากความเป็นเพื่อนจนเลื่อนเป็นแฟน เค้าก็ไม่เคยเจอ

หรือรู้จักครอบครัวของเซฮุนเลย ส่วนเค้านั้นไม่มีญาติที่ไหน ตัวคนเดียวครอบครัวเค้าจากไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อสองปีที่แล้ว

แต่พ่อและแม่ของเค้ายังทิ้งมรดกไว้ให้พอใช้ทั้งค่าเรียนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้เค้าเข้ามาเป็นเด็กฝึกอย่างเดียวสบายๆ

ได้โดยที่ไม่ต้องทำงานพิเศษไปด้วย

"คุณกระต่ายอยู่ที่ไหนครับ" ร่างสูงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคนรักทันที

"อยู่บ้านน่ะ มีอะไรรึป่าวจงอิน"

"ฉันมีข่าวดีจะบอกด้วยล๊ะ" ร่างสูงบอกด้วยเสียงตื่นเต้น

"ฉันก็มีเรื่องจะบอกเหมือนกัน" ร่างบางบอกด้วยเสียงนิ่งเรียบ

"เรื่องอะไรหรอ พูดเรื่องของนายก่อนก็ได้" ร่างสูงถามด้วยความสงสัย

"พูดเรื่องของนายก่อนเลย เหมือนจะเป็นเรื่องดีมากๆเลยนะเสียงของนายดูมีความสุขมากเลย"

"ดีมากๆเลยแหละ ฉันจะได้เดบิวต์แล้วนะเซฮุน ที่ท่านประธานเรียกฉันไปเพื่อที่จะคุยเรื่องนี้น่ะ ฉันดีใจมากที่สุดเลย

โอกาสของฉันมาแล้ว สิ่งที่ฉันรอคอยมาตลอดชีวิตกำลังจะเป็นความจริงแล้วนะเซฮุน" ร่างสูงบอกด้วยน้ำเสียงที่มี

ความสุขมากจนคนฟังรู้สึกได้

"แล้วมีใครได้เดบิวต์กับนายบ้างล๊ะ" ร่างบางถามด้วยเสียงสั่นเคลือน้อยๆ

"มีแค่ฉันคนเดียว บริษัทต้องการที่จะทำศิลปินเดี่ยวนะ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะฉันถามท่านประธานให้นายแล้วท่านบอกว่า

นายได้เดบิวต์แน่นอน นายเป็นอะไรไปเซฮุน นายไม่ดีใจกับฉันบ้างหรอ" ร่างสูงถามเมื่อจับความผิดปกติในน้ำเสียง

ของร่างบางได้

"ต้องดีใจสิ ดีใจมากๆ จนพูดไม่ออกเลยแหละ ก็นายรอวันนี้มานานแล้วนิ ฉันยินดีด้วยจริงๆน้าาา..." ร่างบางทำเสียงร่าเริง

กลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง

"เพราะฉันมีนายอยู่ข้างๆและคอยเป็นกำลังใจให้ฉันสู้ต่อในวันที่ฉันท้อไง ถ้าไม่มีนายฉันก็ไม่มีแรงสู้จนถึงทุกวันนี้หรอก

ว่าแต่ที่นายบอกว่ามีเรื่องจะบอกเรื่องอะไรหรอ"

"ไม่มีอะไรหรอก แค่ฉันจะบอกว่าไปหาหมอมาแล้วน่ะ หมอบอกว่าฉันพักผ่อนน้อยเกินไป"

"ดีแล้วฉันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง นี่ๆพรุ่งนี้วันหยุดของเรา เราไปเที่ยวกันมั้ย ฉันจะพานายไปกินชานมร้านโปรดนายไงไปนะ"

"ก็ได้ แต่ขอดูก่อนนะว่าจะออกไปตอนไหนได้ เดี๋ยวฉันโทรบอกอีกทีแล้วกัน"

"โอเค นอนพักผ่อนได้แล้วดึกแล้วนะ พรุ่งนี้เจอกัน รักนะครับคุณกระต่าย ฝันดีครับ" ร่างสูงว่างสายไปแล้วแต่ร่างบางก็ยัง

ไม่ได้นอนพักผ่อนอย่างที่อีกคนบอกไว

  ' รักเหมือนกัน......แม่ควรจะทำยังไงดีลูก แม่ขอโทษที่ไม่ได้บอกพ่อเค้าไปเรื่องของหนู ไม่ใช่ว่าลูกไม่สำคัญ แต่

ความฝันที่พ่อเค้าทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจและรอคอยเวลานี้มาตลอด แม่คงจะทำให้เรื่องของเราสองคนไปขวางความ

สำเร็จที่พ่อเค้าใฝ่ฝันมาตลอดไม่ได้ แค่คอยให้กำลังใจพ่อเค้าห่างๆก็พอ ลูกอยู่กับแม่แค่สองคนก็พอเนาะ แม่รักลูกมากนะ'

ร่างบางใช้มือนึงถือรูปถ่ายอัลตร้าซาวด์ อีกมือนึงลูบท้องที่ยังคงแบนราบเพราะอายุครรภ์ยังน้อยเพื่อส่งผ่านความรู้สึกไปถึง

ลูกน้อย ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาพร้อมกับความคิดดยู่อย่างนั้น ตอนนี้เค้าสับสนไปหมด ทั้งดีใจและเสียใจปะปนกัน

ไปหมด ยินดีที่คนรักของเค้ากำลังจะได้ทำในสิ่งที่หวังมาตลอด เพราะนั่นคือความสุขของคนรัก ดีใจที่ในท้องของเค้ามีอีก

หนึ่งชีวิตที่เกิดขึ้นมาจากความรักของเค้าทั้งสองคน และเสียใจที่เค้าบอกเรื่องที่น่ายินดีนี้กับคนที่เป็นพ่อไม่ได้ เสียใจที่ไม่

สามารถรักษาความสมบูรณ์ของครอบครัวให้พร้อมหน้า พ่อแม่ลูกได้ แต่เพื่อความสุขและความสำเร็จของคนรักเค้ายอม

ที่จะเก็บเรื่องทุกอย่างไว้คนเดียว และเป็นทั้งพ่อและแม่ให้ลูกของเค้า

 






...

เป็นครั้งแรกที่เอามาลงในเว็บนี้ ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าถ้าจะลงนิยาย

จะลงที่นี่เปนเรื่องแรกแต่สรุปคือ คนแต่งโง่ลงไม่เป็น

ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG KAI&HUN
เริ่มหัวข้อโดย: เข็มวินาที ที่ 11-05-2015 18:36:04
มารอเรื่องใหม่ รู้สึกจะได้กลิ่นมาม่า จะมีรึเปล่านัเรื่องนี้  :hao7:
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG KAI&HUN
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 11-05-2015 18:38:02
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 2




บ้านตระกูลโอ

 

 “คุณคะฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” คุณนายคิมเอ่ยขึ้นในขณะที่สมาชิกครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า

“เรื่องอะไรกันคุณทำไมต้องทำหน้าเครียดกันขนาดนั้น” ประธานโอถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของทุกคน

“เซฮุนลูกจะเป็นคนบอกคุณพ่อเองหรือจะให้แม่บอก” คุณนายคิมถามลูกชายคนเล็ก

“บอกเองฮะ” ร่างบางตอบด้วยเสียงแผ่วเบา

“ไหนมีเรื่องอะไรบอกพ่อมาสิเซฮุน” ประธานโอถามลูกชายอีกครั้งเมื่อเห็นทุกคนเงียบไป

“ผมท้องฮะพ่อ” ร่างบางบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือ

“ลูกว่ายังไงนะ พูดใหม่สิ” ประธานโอถามอย่างไม่เชื่อหู

“ผมท้องฮะพ่อ ผมกำลังจะมีลูก” ร่างบางบอกด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา

“ใคร มันเป็นใคร!! แกไปท้องกับใครมาห๊ะ!!!” ประธานโอถามด้วยเสียงที่เกรี้ยวกราด พลางเขย่าตัวลูกชายคนเล็กของตน

ร่างบางได้แต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ  ร้องไห้สะอื้นแทบจะขาดใจอยู่อย่างนั้น

“คุณคะพอเถอะ แค่นี้ลูกก็เสียใจมากแล้ว” คุณนายคิมบอกและพยายามแกะมือของสามีออกจากตัวลูกชาย

“เสียใจหรอ แล้วผมละ ผมไม่เสียใจเลยรึไงที่ลูกชายที่ผมหวังไว้ว่าจะสานต่อความฝันของผม คุณรู้มั้ยวันที่เซฮุนมาบอกผม

ว่าจะไปเป็นเด็กฝึกในบริษัทผมดีใจแค่ไหน ตั้งแต่ตอนนั้นผมหวังมาตลอดว่าจะต้องมีซักวันนึงที่ผมจะมีโอกาสไปยืนดู

วันที่ลูกโลดแล่นเป็นดาวอยู่บนเวที แต่ตอนนี้มันจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว บอกพ่อมาสิเซฮุนว่ามันเป็นใครพ่อของไอ่เด็กใน

ท้องแกมันเป็นใครห๊ะ มันเป็นใคร” ประธานโอพูดความในใจออกมาหมด มือก็ทุบตีร่างบางของลูกชายคนเล็ก ที่เป็นดัง

ดวงใจของเค้ามาตลอดเป็นลูกที่ทำให้เค้ามีความสุขตั้งแต่วันแรกที่เกิดมา จะบอกว่าเค้ารักลูกไม่เท่ากันก็ได้เพราะเซฮุน

นอกจากหน้าตาที่เหมือนแม่แล้วนอกนั้นทั้งความคิด ความอ่านและนิสัย เซฮุนเหมือนเค้ามากเลยทำให้คุยกันได้ทุกเรื่อง

อีกทั้งยังขี้อ้อน ช่างพูด ช่างเจรจาจนทำให้เค้าหลงลูกมาก แถมยังมีความฝันเหมือนเค้าตอนที่ยังเป็นเด็กฝึกเมื่อยี่สิบกว่าปี

ก่อนมากๆเรียกได้ว่าถอดแบบเค้ามาเลยก็ว่าได้ เพราะตอนนั้นเค้ามีจุนมยอนเลยต้องล้มเลิกความฝันนั้น แต่เพราะเค้า

รักเสียงเพลงรักเสียงดนตรีเลยมาเปิดค่ายเพลงเล็กๆของตัวเอง ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด กัดฟันสู้จนมาเป็นบริษัทใหญ่

และมั่นคงอย่างนี้ เค้าแค่หวังว่าลูกๆของเค้าไม่คนใดก็คนนึงจะได้ไปยืนอยู่บนเวทีนั้นแทนเค้าแต่ไม่เลยจุนมยอนชอบที่จะ

อยู่เบื้องหลัง ขอเป็นโปรดิวเซอร์แทน เค้าก็ไม่ขัดเพราะมันคือความสุขของลูก จนมาวันนึงเซฮุนเดินมาบอกเค้าว่าไปสมัคร

เป็นเด็กฝึกที่บริษัทมา มันทำให้เค้าดีใจมากและมีความหวังมาตลอด

“พ่อครับพอเถอะ อย่าตีน้องอีกเลยน้องเจ็บไปหมดแล้วครับ มันอันตรายกับหลานนะครับ” จุนมยอนทนไม่ได้ที่เห็นพ่อทุบ

ตีน้องอยู่อย่างนั้น เอาตัวไปขวางกอดน้องไว้ให้พ่อตัวเองแทน ถ้ามันจะทำให้พ่อเค้าหายโกรธน้องได้บ้าง

เพราะเซฮุนคือความหวังของพ่อเค้ามาตลอด จะไม่ให้ท่านเสียใจก็ไม่ได้ แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้ว

ก็ต้องยอมรับกลับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างน้อยเด็กที่กำลังจะเกิดขึ้นมาก็มีเลือดเนื้อเชื้อไขของน้องเค้าครึ่งนึงไม่ว่าพ่อเด็กจะเป็น

ใคร เด็กในท้องของเซฮุนก็คือหลานของเค้าคนนึง

“ไปเอามันออกซะเซฮุน” ประธานโอบอกด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

“ไม่ฮะ ผมจะไม่เอาลูกออก ผมขอเถอะนะพ่อ ขอร้องละครับ ให้ผมได้เก็บเค้าไว้เถอะฮะ นะฮะพ่อ ผมขอร้อง”

 ร่างบางทรุดลงกอดขาผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงแทบขาดใจ

“คุณคะฉันขอเถอะคะ อย่าให้ลูกทำอย่างนั้นเลย อย่างน้อยเค้าก็เป็นหลานเรา” คุณนายคิมที่ดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วย

ความเสียใจอยู่นาน เอ่ยขอร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“พ่อครับเอาหลานไว้เถอะ ในเมื่อเค้าเกิดมาแล้วคุณพ่อยังจะทำร้ายเค้าได้ลงอีกหรอครับ” จุนมยอนเอ่ยขอร้องพลาง

เตือนสติของผู้เป็นพ่อ

“จุนมยอนแกเอามันไปเรียนกับแกที่ต่างประเทศด้วย” ประธานคิมพูดแค่นั้น แล้วเดินจากไปด้วยความผิดหวังและเสียใจ

“ลุกเถอะเซฮุนไม่ต้องร้องแล้วคุณพ่อท่านยอมแล้ว หยุดร้องได้แล้วเดี๋ยวหลานพี่ร้องตามนะ” จุนมยอนพยุงน้องขึ้นนั่งบน

โซฟา และกอดปลอบด้วยความโล่งใจ

“แม่ฮะ ผมขอโทษ” ร่างบางเอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิดเมื่อหันไปเห็นคนเป็นแม่ที่นั่งร้องไห้ แทบขาดใจ

“ไม่เป็นไรจ๊ะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว เลิกคิดมากได้แล้วนะลูก ถือซะว่ามันคือโชคชะตา ในเมื่อพระเจ้าประทานเค้ามาให้เรา

แล้วเราก็มีหน้าที่ ที่จะต้องดูแลเค้าต่อไป จะเป็นแม่คนอยู่แล้วเลิกร้องไห้ได้แล้วนะ ลูกจะต้องเข้มแข็งนะรู้ไหม” คุณนายคิม

เช็ดน้ำตาและเดินมากอด พูดปลอบคนตัวบางอีกคนนึง

“แต่คุณพ่อ” ร่างบางพูดขึ้น

“พ่อเค้าแค่เสียใจ เค้าไม่ได้เกลียดลูกหรอก เคยได้ยินไหมว่ารักมากก็เจ็บมาก ให้เวลาเค้าหน่อยนะลูก เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดี

ขึ้นเอง เชื่อแม่เถอะ แม่ว่าเราไปพักผ่อนเถอะเหนื่อยมามากแล้ว” คุณนายคิมพูดบอก

“คุณแม่ฮะ ผมขอไปข้างนอกได้มั้ยฮะ วันนี้ผมนัดจงอินไว้ว่าจะไปฉลองให้ที่เค้าจะได้เดบิวต์เร็วๆนี้นะฮะ”

ร่างบางขออนุญาตคนเป็นแม่

“เราจะไหวไปหรอลูก” คุณนายคิมถามเมื่อมองดูลูกของตนที่ตาบวมแดงช้ำไปหมด

“ไหวฮะ จงอินเป็นเพื่อนคนเดียวในบริษัทที่ดีกับผม เดี๋ยวผมก็ต้องไปอยู่กับพี่แล้ว” ร่างบางขอร้องด้วยสีหน้าอ้อนวอน

“ก็ได้จ๊ะ ให้พี่เค้าไปส่งนะ ถ้ามีอะไรก็โทรหาแม่หรือโทรให้พี่เค้าไปรับนะ ลูกไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วนะ” คุณนายคิมพูดสั่ง



"ฉันมาถึงแล้ว นายล๊ะอยู่ตรงไหนจงอิน ฉันมองไม่เห็นนายเลย" ร่างบางถามคนในสายเมื่อมาถึงจุดนัดพบ

"ฉันก็อยู่นี่ไงคุณกระต่าย" คนปลายสายตอบกลับมา

"อ๊ะ!! ตกใจหมด เล่นอะไรน่ะจงอิน" ร่างบางตกใจเมื่อมีคนมากอดจากด้านหลัง

"โอ๋ๆ ขอโทดนะครับคุณกระต่ายที่ทำให้ตกใจ" ร่างสูงบอกขอโทษด้วยสีหน้าทะเล้น

"นายมานานแล้วหรอ ไปอยู่ตรงไหนมาฉันไม่เห็นนายเลย" ร่างบางถามอย่างสงสัย

"ฉันเห็นตั้งแต่นายออกมาจากรถแล้ว เลยไปหลบอยู่ข้างหลังต้นไม้ตรงโน่นไง ว่าแต่ใครมาส่งนายหรอ"

ร่างสูงบอกและถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้

"พี่ชายฉันน่ะ ฉันว่าเราเข้าไปข้างในกันก่อนเถอะ ฉันร้อนแล้ว" ร่างบางตอบและชวนร่างสูงเข้าในร้านประจำ

"บ้านนายต้องรวยมากแน่เลย รถคันที่นายมามันแแพงมากเลยนิ อย่างนี้พอฉันได้เดบิวต์แล้วต้องขยันทำงานเก็บเงิน

ให้ได้เยอะๆแล้วแหละ จะได้มีเงินไปขอนายกลับพ่อแม่ แล้วเราก็จะมีลูกน่ารักๆกันสักสามคนเน๊าะ นายว่าอย่างนี้ดีมั้ย?"

ร่างสูงเล่าแผนการของอนาคตที่วางไว้ให้ล่างบางฟังอย่างมีความสุข

"อืม" ร่างบางฝืนยิ้มรับคำอย่างยากลำบาก

"นายเป็นอะไรไป ทำไมทำหน้าอยางนั้น ยังปวดหัวอยู่หรอ ไหนบอกว่าไปหาหมอมาแล้วไง" ร่างสูงถามเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดี

ของร่างบางพลางเอามือวัดอุณภูมิที่หน้าผากของร่างบาง

"ป่าวหรอก กินเสร็จแล้วเราไปเดินเล่นกันดีกว่า เราไม่ได้มาที่นี่กันนานแล้วเนาะ" ร่างบางบอกปัดพลางพูดเปลี่ยนเรื่อง

"อืม...ไปกันเลยเถอะ เดี่ยวจะเดินดูไม่ทั่ว" ร่างสูงพูดจบก็จูงมือร่างบางออกเดินทันที

"จงอินถ้านายได้เดบิวต์แล้วนายจะต้องมีความสุขให้มากๆนะ" ร่างบางพูดขึ้นในขณะที่ทั้งคู่เดินจูงมือกันเลือกซื้อของ

"แน่นอนอยู่แล้ว ฉันรอวันนี้มานานแล้วนี่ ทำไมนายพูดเหมือนจะไม่อยู่ข้างๆฉันต่อไปเลยล๊ะ" ร่างสูงถามอย่าหวาดระแวง

"ป่าวหรอก ฉันอยู่ข้างนายเสมอจงอิน ฉันแค่บอกเพราะว่าเคยเห็นพวกรุ่นพี่ที่เดบิวต์ไปแล้วดูเหนื่อยมากๆจนเหมือนไม่มี

ความสุขเลยน่ะ" ร่างบางเลี่ยงตอบกลับไป

"ฉันจะไม่เป็นแบบนั้นหรอเพราะฉันมีนายอยู่ข้างๆ รู้มั้ยเซฮุน ฉันรักนายมากเลยนะ และไม่คิดจะรักใครอีกไม่ว่าคนๆนั้นจะดี

สักแคไหนก็ตาม ฉันสัญญา ฉันจะพยามเพื่อวันข้างหน้าของเรา อยู่ข้างๆฉันต่อไปนะคุณกระต่าย" ร่างสูงบอกความรู้สึกที่มี

อยู่ในใจให้ร่างบางได้รับรู้ และมองสบตาร่างบางเพื่อยืนยันคำพูด

"อื้อ!! สู้ๆนะจงอิน ฉันก็รักนายมากที่สุดเลยคุณหมีของฉัน" ร่างบางบอกกลับ ด้วยน้ำตาคลอ ความรู้สึกอึดอัดที่มีอยู่ในใจมัน

แทบจะระเบิดออกมา ว่าเค้าทำไม่ได้ เค้าจะไม่อยู่เคียงข้างกับร่างสูงอีกต่อไป

"สู้ตาย!อยู่แล้วครับเพื่อคุณกระต่าย เรามาถ่ายรูปกันดีกว่า เดี่ยวเตรียมตัวเดบิวต์ฉันจะยุ่งมากๆเลยล่ะ คงไม่คอยมีเวลา

อยู่กับนายสักพักนึง มาถ่ายรูปไว้ดูตอนคิดถึงกันดีกว่า" ร่างสูงบอกพลางหยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมถ่ายรูป

"สนุกมั้ย?คุณกระต่าย" ร่าสูงถามขึ้นหลังจากที่ทั้งสองคน มานั่งเล่นที่สวนสาธารณะริมแม่น้ำ หลังจากที่เที่ยวกันมาทั้งวัน

"สนุกสิ วันนี้ฉันมีความสุขมากที่สุดเลยนะ ฉันจะจดจำวันนี้ไปตลอดเลย" ร่างบางตอบด้วยรอยยิ้มที่ฝืนออกมา

"พูดเหมือนกับเราจะไม่ได้มาเที่ยวด้วยกันอีกอย่างนั้นแหละ"

"ก็จริงนิ เดี๋ยวนายก็เป็นซุปตาร์แล้ว จะมาเดินเที่ยวไปทั่วอย่างนี้ไม่ได้หรอก" ร่างบางยู่หน้าตอบ

"ได้สิถ้าฉันจะทำซะอย่าง สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับฉันคือนายนะ ถ้านายต้องการอะไรฉันก็จะทำให้ทุกอย่า" ร่างสูงบอก

พลางรั้งหัวกลมๆของคนรักมาซบที่ไหล่ตน

"ถ้าอย่างนั้นฉันอยากให้นายใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนายอย่าทิ้งความฝันของนายนะเพราะมันคือตัวตน

ของนาย คือความสุขของนาย ดูแลตัวเองให้มากๆ อย่าซ้อมจนร่างกายตัวเองแย่ สัญญากับฉันสิ" ร่างบางพูดอย่างขอร้อง

"ฉันสัญญา ฉันรักนายนะเซฮุนรักมาก มากกว่าอะไรทั้งหมดจริงๆ" ร่างสูงรับปากพลางก้มหน้ามองร่างบางที่นั่งข้างๆตน

"ฉันก็รักนายมากที่สุดจงอิน" ร่างบางบอกพลางสบตากับคนตรงหน้า ในขณะที่ร่าูงสูงกดริมฝีปากลงมาอย่างแผ่วเบาและ

ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆเป็นเวลานานเพื่อยืนยันคำสัญญานี้ ตราบนานเท่านาน








 

...


 

กว่าจะแต่งบทนี้เสร็จคนเขียนแทบตาย

ถูกใจกันรึป่าวไม่รู้ แต่บีบคนเขียนมาก (เขียนเองอินเอง) ฮ่าๆๆ

เพื่อเป็นกำลังใจให้กับ 'คุณหมีและคุณกระต่าย'

คนอ่านที่น่ารักช่วย เม้นๆ โหวตๆกันหน่อยนะคะ
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG KAI&HUN
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 11-05-2015 18:42:03
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'  ตอน 3


HK Entertainment

       ก๊อก....ก๊อก

"ขออนุญาติครับ มีคนบอกผมว่าท่านประธานเรียกพบผมหรอครับ" จงอินเปิดประตู พลางขออนุญาติจากคนข้างใน 

ตอนที่เค้าซ้อมร้องเพลงอยู่นั้นมีรุ่นน้องที่เป็นเด็กฝึกด้วยกันเข้าไปเรียกและบอกกับเค้าว่าท่านประธานเรียกพบที่

ห้องประชุมใหญ่ นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้เค้าตกใจมากอยู่เหมือนกันเพราะคนในบริษัทรู้กันดีอยู่ว่าห้องประชุมใหญ่จะใช้

ก็ต่อเมื่อมีโปรเจคใหญ่ๆหรือเรื่องที่สำคัญๆเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ทำให้เค้าตกใจเท่ากับตอนที่เค้าเปิดประตูเข้ามาแล้ว

เห็นแต่บุคคลที่ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เจอใกล้ๆแบบนี้แน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นบอร์ดบริหารทุกฝ่ายทุกคนที่เค้าเคยเห็นแต่

ในทำเนียบผูบริหารตรงทางขึ้นตึกเท่านั้นเป็นเด็กฝึกอยู่บริษัทนี้มาตั้งนานเพิ่งจะเคยเห็นตัวจริงก็วันนี้แหละ

แล้วยังมีนักแต่เพลงชื่อดังที่เคยเห็นในทีวีเค้าบอกกันว่าจะแต่เพลงให้เฉพาะคนที่พอใจจะแต่งให้เท่านั้น  ไม่ว่าเพลงไหน

เพลงนั้นดังทุกเพลง นักเต้นที่ชนะการประกวดระดับโลกมาอย่าพี่เลย์อีก อีกทัั้งยังมีโปรดิวเซอร์มือทองที่ใครๆก็อยาก

ร่วมงานด้วยทั้งนั้น นี่มันเกิดอะไรกันเนี่ย

"เข้ามาก่อนสิจงอิน ฉันให้คนไปตามนายมาเองแหละ มีคนที่อยากให้นายรู้จักไว้น่ะ" ประธานโอกวักมือเรียก

เด็กฝึกในสังกัดของตนที่เป็นตัวเอกของงานนี้เข้ามายืนข้างๆตน เพราะเห็นเด็กหนุ่มยืนตกตะลึงอยู่ตรงประตูนานแล้ว

"ครับท่านประธาน" ร่างสูงเดินเข้ามายืนข้างๆประธานโอ และมองไปข้างหน้าด้วยความประหม่า เพราะคนทั้งห้อง

จ้องเค้าจนเค้ารู้สึกไม่มั่นใจ นี่เค้าเผลอทำอะไรผิดไปรึป่าวเนี่ย เด็กหนุ่มได้แต่คิดในใจ

"นี่คิมจงอิน คนที่เราได้คุยกันไปก่อนหน้านี้ จงอินคือคนที่ฉันเลิกจะทำในโปรเจคนี้ คือคนที่จะได้ขึ้นแท่นเป็น

ซุปเปอร์สตาร์คนต่อไป เป็นดาวดวงใหม่ของวงการเพลงคนต่อไป เพราะจงอินคือคนที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ

มา เด็กคนนี้มีความขยัน อดทน และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเสมอ จงอินเป็นเด็กฝึกกับเรามาห้าปีเต็ม ฉันเห็นพัฒนาการ

ความก้าวหน้าของเค้ามาตลอด จนมาถึงวันนี้ฉันคิดว่าเค้าพร้อมแล้วที่จะก้าวขึ้นไปเป็นศิลปินอย่างเต็มตัว นั่งสิจงอินวันนี้

เราจะมาคุยกำหนดการและและรายละเอียดทั้งหมดเรื่องการเดบิวต์ของนายกัน ใครมีอะไรจะแย้งหรือเสนอก็เชิญเลย"

ประธานโออธิบายเหตุผลต่างๆที่เลือกเด็กหนุ่มผิวเข้มคนนี้ให้คนในห้องทั้งหมดฟังก่อนจะหันไปแก้ข้อสงสัยให้กับ

เด็กหนุ่มที่ยืนงงอยู่ข้างตน และเปิดประเด็นในการประชุมครั้งนี้

"ผมไม่เห็นความน่าสนใจในตัวของเด็กคนนี้เลย ดูธรรมดาเกินไปซะด้วยซ้ำ แถมยังมีผิวสีเข้มที่ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมอีก

แล้วอย่างนี้จะดังได้อย่างไร อย่าว่าแต่ระดับโลกเลยแค่ในเกาหลีบ้านเราหรือในเอเชียจะเป็นที่รู้จักรึป่าวเถอะ" บอร์ดบริหาร

คนนึงพูดแย้งขึ้นมาและยังมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาดูแคลน เมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างหน้านั้นดูธรรมดาเกินไป

"แต่ผมขอดูพัฒนาการของเค้าที่คุณพูดถึงหน่อยได้ไหมครับประธานโอ แล้วผมจะให้คำตอบสำหรับการร่วมงานในครั้งนี้"

นักแต่งเพลงชื่อดังที่นั่งฟังอยู่นานแย้งขึ้นและขอดูความสามารถที่ผ่านมาของเด็กหหนุ่มบ้าง

"ได้สิคุณนักแต่งเพลง มินซอกช่วยจัดการเปิดในสิ่งที่คุณเตรียมมาด้วย"ประธานโอตอบรับและหันไปบอกหนึ่งในเมเนเจอร์

ทีดูแลเด็กฝึกทั้งหมดของบริษัท ที่เค้าอนุญาติให้เข้าร่วมในการประชุมนี้ด้วย

"ครับท่านประธาน" มินซอกหยิบแผ่นดีวีดีที่เค้าเตรียมมาด้วยเปิดให้กับทุกคนในห้องดู สิ่งที่เค้าได้เตรียมมาในวันนี้คือส่วน

หนึ่งของการฝึกทั้งหมดของจงอินที่เค้าได้รวบรวมมาตัดให้เหลือเวลาในการเล่นเพียงไม่กี่นาที เป็นพัฒนาการและความ

เปลี่ยนแปลงของจงอิน ทั้งด้านการแสดง การร้องเพลง การเต้น กาพรพูด บุคลิกภาพและการวางตัว ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่

จงอินได้เรียนในตลอดระยะเวลาในการฝึกห้าปี จากเด็กฝึกทุกคนที่เค้าได้รับหน้าที่ดูแลทั้งหมดในตอนนี้นั้น จงอินคือคนที่

สมควรได้โอกาสในการเดบิวต์ครั้งนี้มากที่สุด เป็นคนที่มีความพยายามและความอดทนมากจริงๆในขณะที่พวกที่ฝึกมาด้วย

กันนั้นบางคนก็ถอดใจกันไปแล้ว ความอดทนสูง แม้ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ไม่เคยบ่น ถึงท้อก็ไม่เคยถอย คนแบบนี้แหละที่

เหมาะกับการที่จะก้าวขึ้นไปเป็นซุปเปอร์สตาร์

"เอาหล่ะในเมื่อดูกันจนจบแล้วใครมีอะไรจะแย้งอีกไหม หรือจะถอนตัวออกจาโปรเจคนี้ผมก็ไม่ว่า" ประธานโอถามขึ้น

เมือภาพในจอนั้นหยุดลง

"ผมไม่สงสัยแล้วแหละครับเอาเป็นว่าผมตกลงขอร่วมโปรเจคนี้ด้วย ฉันล๊ะไม่สงสายเลยว่าทำไมท่าประธานถึงเลือกนาย"

โปรดิวเซอร์มือทองเป็นคนพูดขึ้น ใครล๊ะจะคิดว่าเด็ที่ดูภายนอกแสนจะธรรมดาแบบนี้ จะดูเซ็กซี่และมีสเน่ห์ในตัวเอง

มากมายขนาดนั้น นี่ขนาดยังไม่จับไปแต่งไปปรับเปลี่ยนอะไรเลยนะ ถ้าเปลี่ยนขึ้นมาล๊ะก็เค้าไม่อยากจะคิด

"ส่วนเรื่องเพลงทั้งหมดผมจะจัดการให้ครับ ถ้าอยากได้แนวไหนเป็นพิเศษก็บอกผมเพิ่มแล้วกัน" นักแต่งเพลงชื่อดังที่ขึ้น

ชื่อเรื่องการวางตัวที่ใครๆก็บอกว่าหยิ่งและเล่นตัวกลับเป็นคนเสนอตัวขึ้นเอง

"แล้วนายล๊ะเลย์" ประธานโอหันไปถามครูสอนเต้นอันดับหนึ่งที่ยังคงเงียบอยู่หลังจากที่คนอื่นๆตกลงกันหมดแล้ว

"ท่านประธานก็น่าจะรู้คำตอบของผมดีอยู่แล้วนิครับ จะถามให้เสียเวลาทำไม ยังไงจงอินมันก็น้องผม" ครูสอนเต้นตัวเล็ก

ตอบด้วยสีหน้านิ่งๆน้ำเสียงกวนๆ อย่างไม่เกรงกลัวสายตาดุๆของประธานโอที่ใครๆในบริษัทก็ต่างเกรงกลัว

"ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอบคุณมากสำหรับความร่วมมือ อย่างที่เห็นกันในเอกสารที่ผมให้ไปวันเดบิวต์ของจงอินคือวันคัมแบค

ของปาร์คชานยอล ในอีกหกเดือนข้างหน้า ชนกันให้รู้ไปเลยว่าใครจะแน่กว่ากัน" ประธานโอเอ่ยขอบคุณทุกคนจากใจจริง

เพราะความจริงเค้าก็กลัวเหมือนกันว่าจะไม่มีใครเต็มใจช่วยเค้าปั้นจงอินขึ้นมา เพราะอย่าที่เห็นตอนนี้จงอินยังไม่ค่อเป็น

ที่หน้าสนใจสักเท่าไหร่

"แต่ท่านประธานคะชื่อของจงอินมันจะม่ดูธรรมดาเกินไปหรอคะ" คณะกรรมการฝ่ายโฆษาณาคนนึงแย้งขึ้นมา

"นั่นสินะ เอาเป็นว่าต่อไปนี้นายใช้ชื่อ 'ไค' แล้วกัน ต่อไปนี้นายคือ 'ไค' คนที่จะมาเป็นซุปเปอร์สตาร์ของวงการคนต่อไป

ถ้าหมดเรื่องแล้วทุกคนก็ย้ายกันยไปทำหน้าที่ได้แล้ว ส่นนายไค ต่อไปนี้การฝึกซ้อมของนายเหมือนการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่

โปรแกรมการฝึกของนายจะหนักขึ้นอีกหลายเท่าตัว ตั้งใจเข้าล๊ะ อ่อ!ส่วนนายมินซอกต่อไปนี้ดูแลแค่คนเดียวพอ

พรุ่งนี้เข้าไปพบฉันที่ห้องด้วย ไปเอาตารางงานของจงอิน" ประธานโอสั่งเสร็จก็เดินออกไปทันที ปล่อยให้อีสองคนที่เหลือ

ยืนงงกลับคำสั่งที่รวดเร็วจนตั้งตัวแทบไม่ทัน

"พี่รู้อยู่แล้วหรอว่าต้องมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวผม" ว่าที่ศิลปินถามเมเนเจอร์หมาดๆด้วยความสงสัยปนดีใจ

"เหอะ! ฉันก็รู้พร้อมนายนี่แหละ อะไรของท่านประธานเนี่ย" มินซอกตอบทั้งๆที่สติยังไม่เต็มร้อย

"ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะครับคุณเมเนเจอร์" จงอินพูดด้วยเสียงทะเล้นและโค้งตัวลงเล็กน้อย

"เอาเถอะวันนี้เราแยกกันไปพักดีกว่าพรุ่งนี้งานหนักรอเราสองคนอยู่" มินซอกบอกก่อนจะแยกย้ายกันไป

 
บ้านตระกูลโอ

++ ปิ๊บ ปิ๊บ++

"ยอโบเซโย" ร่างบางที่กำลังนั่งเหม่ออยู่นั้นต้องหลุดจากภวังค์เพราะเสียงโทรศัพท์

"เซฮุนอยู่หอรึป่าว ฉันกำลังจะกลับ จะเอาอะไรมัย?" ปลายสายถามด้วยน้ำเสียงอย่างคนอารมณ์ดี

"ฉันอยู่บ้านนะจงอิน คงไม่กลับหอซักพัก ฉันต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ แม่ฉันเลยให้มาอยู่บ้านซักพัก"

"แย่จัง วันนี้ฉันอุสาห์ได้หยุด ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ยังจะมีเวลาเจอกันมากแค่ไหน เสียดายจัง แต่เราเฟสทามคุยกันก็ได้เน๊าะ"

"อืม ถึงหรอรึยัง ให้ฉันวางก่อนไหม"

"ถึงพอดีเลยเดี๋ยวฉันโทรไปใหม่นะ"

"อือ"

"มาแล้วๆครับคุณกระต่ายที่รัก วันนี้คิดถึงคุณหมีบ้างรึป่าวน้า.." ยังไม่ทันที่จะเอาโทรศัพท์ออกจากหูเลยเสียด้วยซ้ำ ก็มี

สายเรียกเข้ามาอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นการโทรแบบเห็นหน้าแทน ทันทีที่รับสายเสียงทักทายหยอกล้อของจงอินก็ดังขึ้นมา

พร้อมกลับสีหน้าทะเล้นของเจ้าตัวที่นอนคว่ำหน้าจ้องเค้าอยู่บนเตียงของเจ้าตัวที่หอพัก

"ฮึ ฮึ รีบขนาดนั้นเลยหรอคุณหมี" เมื่อเห็นหน้าสีทะเล้นๆและกิริยาน่ารักๆของคนรักก็ทำให้คนที่นั่งเหม่อมาทั้งวัน

มีรอยยิ้มจางๆขึ้นมาแทนสีหน้าเศร้าหมองบนใบหน้าขึ้นมาบ้าง

"รีบสิ ก็คิดถึงคุณกระต่ายจะแย่ เราไม่ได้นอนกอดกันตั้งคืนนึงแหนะ" ร่างสูงตอบด้วยสีหน้าเศร้าเกินจริง

จนคนฟังอดที่จะขำไม่ได้

"เวอร์จริงๆ เลยนะจงอินเนี่ย ทำหน้าแบบนั้นมันไม่ได้น่ารักเลย มันดูตลกซะมากกว่า" เซฮุนแกล้งพูดให้อีกคน

เสียความมั่นใจ

"ตลกจริงหรอ แต่ฉันคิดถึงนายจริงๆเลยน้า...." จงอินเปลี่ยนสีหน้าทันที และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"คิดถึงก็ต้องทนให้ได้สิจงอิน เพราะเวลาของเรากำลังจะไม่ตรงกันแล้วนะ อีกอย่างนายจะต้องซ้อมหนักขึ้นจนไม่มีเวลาเลย

นอนเลยแหละ จนถึงตอนนั้นนายอาจจะลืมฉันไปแล้วก็ได้" เซฮุนพูดบอกให้อีกคนได้คิดตาม และเพื่อเป็นการย้ำกับตัวเอง

ด้วยว่าหลังจากนี้ต่อไปเราสองคนจะไม่เหมือนเดิมแล้ว

"ทำไมนายพูดเหมือนไม่รักฉันแล้วล๊ธเซฮุน พูดแบบนี้ฉันเสียใจนะ" ร่างสูงพูดออกมาด้วยความน้อยใจ"

"ทำไมฉันจะไม่รักนายล๊ะจงอินฉันรักนายมากและคิดถึงนายมากกว่าที่นายคิดซะด้วยซ้ำ อย่าคิดอย่างนั้นอีกนะ แต่ที่ฉันพูด

ออกไปทั้งหมดนั้นก็เพราะฉันหวังดีกับนายนะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำไปก็เพื่อนายทั้งนั้น" เซฮุนเค้นเสียงพูดออกไปอย่าง

อยากลำบากเพราะเมื่อเห็นสีหน้าของร่างสูงแล้วอาจจะเป็นเค้าเองซะอีกที่เป็นฝ่ายทนไม่ได้

"ฉันขอโทษนะเซฮุนที่พูดอะไรออกไปไม่คิด จนทำให้นายรู้สึกไม่ดี เออนี่!เซฮุนวันนี้นะท่านประธานเรียกฉันไปพบ บลาๆ"

จงอินเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตนทั้งหมดวันนี้ให้เซฮุนฟังอย่างตื่นเต้น

"นายทำได้อยู่แล้วฉันเชื่อแบบนั้น สู้ๆนะ ไม่ว่าตอนไหนฉันก็เป็นกำลังใจให้นายเสมอ" เซฮุนพูดอย่างเชื่อมั่นและกำมือขึ้น

แล้วยกชูขึ้นมาเพื่อบอกให้ร้างสูงรู้ว่าเค้าจะคอยให้กำลังใจเสมอ

"ถ้ากำลังใจมาเต็มขนาดนี้ คิมจงอินสู้ไม่ถอยอยู่แล้ว แต่ฉันไม่ชินเลยที่มีแต่คนเรียกว่า 'ไค' ฉันเหมือนกับไม่ใช่ตัวฉันเลย"

"เดี๋ยวก็ชินไม่ว่าจะเป็น 'ไค' หรือ 'คิมจงอิน' ก็คือตัวนายทั้งนั้น อย่าคิดมากเลยแค่ตั้งใจทำในสิ่งที่นายต้องการมาตลอด

ก็พอ เรื่องอื่นก็ช่างมันเถอะนะจงอิน"

"นั่นสินะ ฉันก็คือฉัน ไม่ว่าจะเป็ ไค หรือ จงอิน คนที่ฉันรักที่สุดก็จะมีแค่นายคนเดียว ฉันรักได้แค่โอเซฮุน

คุณหมีรักคุณกระต่ายที่สุด อยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไปนะ" จงอินบอกความรู้สึกจริงๆออกมาจากใจ พร้อมกับสายตาที่จริงจัง

"ฉันก็เป็นคุณกระต่ายที่รักแค่คุณหมีคนเดียวเท่านั้น" เมื่ออีกฝ่าพูดแบบนั้นเซฮุนก็บอกความรู้สึกของตัวเองให้อีกคนมั่นใจ

"อ่า..ดึกขาดนี้แล้วหรอเนี่ย ถึงว่าทำไมรู้สึกง่วงๆ ฉันรู้สึกเหมือนเราพึ่งคุยกันได้ไม่นานเองนะ" ร่างสูงพูดไปหาวไป

"นายนอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่มีแรงซ้อมหรอก ฉันก็รู้สึกง่วงแล้วเหมือนกัน" เมื่อเห็นสีหน้าง่วงๆของคนรัก เซฮุนก็พูด

ตัดบทโดยทันที ทั้งที่จริงแล้วเค้าไม่อยากจะวางสายเลย อยากจะคุยต่ออีกสักนิด อยากจะซึมซับและจดจำความรู้สึกของ

คำว่าเราแบบวันนี้ไปนานๆ แต่เพราะมีงานหนักรอจงอินอยู่จะให้มาอดนอนคุยกับเค้าต่อไปก็คงไม่ใช่

จงอินสมควรที่พักผ่อนได้แล้ว

"อือ...ฝันดีนะครับคุณกระต่าย รักน้า.." จงอินบอกลาด้วยเสียงงัวเงียทั้งที่ตาแทบจะลืมไม่ขึ้น

"ดูแลตัวเองดีๆนะจงอิน ฉันก็รักนาย" ปลายสายตอบรับในลำคอเพราะง่วงเต็มทนแต่ก็ยังฝืนตัวเองเพื่อที่จะคุยกับเซฮุน

สายตัดไปแล้วร่างบางนั่งมองจอโทรศัพท์ที่มืดสนิทด้วยสีหน้าเศร้าหมอง น้ำตาที่พรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวยนั้นไม่มี

ทีท่าที่จะหยุดลง หัวใจดวงน้อยของเซฮุนตอนนี้มันบอบซ้ำไปหมด ความเจ็บปวดที่มีมันมากจนไม่รู้จะอธิบายออกมายังไง

การคุยกันครั้งนี้ของเค้ากับจงอินจะเป็นการคุยกันครั้งสุดท้าย พรุ่งนี้ก็จะต้องไปแล้ว นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นรอยยิ้ม

ของจงอินที่ในแววตานั้นมีเพียงแค่เค้าคนเดียว จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้บอกความรู้สึกของกันและกันให้อีกฝ่ายได้รับรู้

เพราะหลังจากนี้ไปเค้าจะเก็บความทรงจำที่มีระหว่างเราสองคนเก็บมันซ่อนไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจ จะไม่มีอีกแล้ว

เรื่องราวระหว่างเรา ไม่มีอีกแล้วความฝันอันแสนไกล จะไม่มีคุณหมี จะไม่มีคุณกระต่าย จะมีก็แต่โอเซฮุนที่ทั้งชีวิตนี้และ

หัวใจดวงนี้ ทั้งหมดยกให้แค่เพียงลูกน้อยของเค้าที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลกนี้คนเดียว ลูกที่เป็นเหมือนชีวิตและเปรียบ

เสมือนดวงใจของเค้า ต่อให้ยากลำบากและทรมาณแค่ไหนเค้าก็ยอม

   ++ สนามบินอินชอน++

"เซฮุนรับเข็มขักฃดเรียบร้อยแล้วรึยัง" เสียงเรียกของพี่ชายที่ดังอยู่ข้างหูทำให้ร่างบางหลุดออกจากภวังค์

"เรียบร้อยแล้วฮะ" ตอนนี้ผมอยู่ในชั้นเฟิร์สคลาสบนเครื่องบินเป็นที่เรียบร้อย วันนี้เป็นวันที่ผมจะต้องเดินทางออกจาก

เกาหลีแล้ว เมื่อสักครู่ก่อนขึ้นเครื่องคุณพ่อและคุณแม่ก็มาส่งพวกผมด้วย คุณแม่ย้ำและเตือนว่าถ้ามีปัญหาอะไรให้โทรมา

บอกทันทีและท่านจะไปหาผมกับพี่บ่อยๆ ส่วนคุณพ่อท่านแค่ยืนมองผมเฉยๆไม่พูดอะไรออกมาเลย แต่ผมไม่โกรธหรืน้อยใจ

อะไรหรอกอย่างที่คุณแม่ท่านเคยบอกว่าคุณพ่อท่านคาดหวังกับผมไว้มาก เลยทำให้ท่าเสียใจมากเหมือนกัน เลยยังทำใจ

ยอมรับกับเรื่องนี้ไม่ค่อยได้ แต่ดีแค่ไหนแล้วที่ท่านยังยอมให้ผมได้เก็บลูกไว้ ผมหวังว่าสักวันเราสองคนพ่อลูกจะกลับมา

เหมือนเดิมและท่านคงจะเมตตาเอ็นดูลูกของผมบ้างในวันที่เค้าเกิดมา เครื่องกำลังเทคออฟออกจากเกาหลีแล้ว

ผมมองออกไปทางหน้าต่าง ดูวิวของเกาหลีเป็นครั้งสุดท้าย ลาก่อนความฝันของฉัน ลาก่อนความทรงจำที่แสนสุข

ลาก่อนความรักที่หอมหวาน ลาก่อนนะคุณหมี ลาก่อนจงอิน ลาก่อนที่รักของฉัน



...

 
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG KAI&HUN
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 11-05-2015 18:46:54
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'  ตอน 4


HK Entertainment (เกาหลี)

 

"ไค มัวทำอะไรอยู่ ไปได้แล้วท่านประธานกับนักแต่งเพลงเค้ารอนายเลือกเพลงอยู่ ให้ผู้ใหญ่รอนานๆมันไม่ดีเลยนะแล้วนี่นาย

โทรหาใครพี่เห็นนายหน้าบู้อยู่กับโทรศัพท์ตั้งแต่ออกจากหอแล้วนะ คนสำคัญรึไง" มินซอกถามศิลปินในความดูแลของตน

เพราะเค้าเห็นร่างสูงหงุดหงิดอยู่กับโทรศัพท์ตั้งแต่ตอนที่เค้าไปรับออกจากหอมาแล้ว จนถึงตอนนี้มาถึงบริษัทตั้งแต่ครึ่งชั่วโมง

ที่แล้วสมควรทีจะต้องเข้าห้องประชุมเพื่อเลือกเพลงในการเปิดตัวของไคได้แล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมลงจากลดซักที่

"โทรหาเซฮุนนะครับ โทรมาสองอาทิตย์แล้ว ไม่เคยติดเลย ไปหาที่หอก็ไม่มีใครอยู่ บ้านเค้าผมก็ไม่รู้จัก โทรกี่ครั้งก็ไมติดเป็น

อย่างนี้มาตลอดเลยหายไปไหนของเค้านะ จะเป็นอะไรรึป่าวก็ไม่รู้ ถ้าเจอนะจะตีให้ ทำให้ผมเป็นห่วงขนาดนี้" จงอินตอบอย่าง

หัวเสีย เค้าหงุดหงิดจนแทบบ้าแล้วตอนนี้ หลังจากวันนั้ที่คุยกันครั้งสุดท้าย ทุกอย่างในชีวิตเค้าก็เปลี่ยนไป พอเช้าวันต่อมาเค้าก็

โดนย้ายออกจากหอเดิมที่กว้างและใหญ่กว่าเดิม สะดวกสบายกว่าหลายเท่า มีมินซอกเป็นคนดูแลความเรียบร้อยทุกอย่าง

จะมาทำงานก็มีรถส่วนตัว มีห้องซ้อมส่วนตัวเป็นของตัวเอง ฝึกซ้อมหนักมากกว่าเดิมหลายเท่าจนแทบไม่มีเวลาพัก

 มีตารางเสริมความงามจับเค้าไปตัดผมทำหน้าจนเค้าแทบจะตัวเองไม่ได้ตอนที่เห็นหน้าตัวเองในกระจกเพราะมีข่าวเรื่องเดบิวต์

ที่บริษัทตั้งใจทำหลุดออกไปพร้อมกับภาพตอนที่เค้าฝึกซ้อม เลยทำให้เริ่มมีคนรู้จักและสนใจเค้าไปไหนก็มีแต่คนเรียกว่า ไค

กันหมด จนไม่มีใครเรียกชื่อจริงๆของเค้าแล้ว ทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดีแต่มี่แค่อย่างเดียวที่กำลังทำให้เค้ารู้สึกไม่ดีเลยคือเรื่อง

ของเซฮุนสิ่งที่สำคัญคือเซฮุนหายไปไหน เค้าทำอะไรให้เซฮุนโกรธจนต้องหายไปอย่างนี้รึป่าว เค้าสับสนไปหมดแล้ว

"เซฮุนออกจากการฝึกไปแล้วนิ เค้าไม่ได้บอกกับนายหรอ ลาออกไปตั้งแต่วันที่ท่านประธานเรียกนายเข้าไปประชุมเรื่องการ

เดบิวต์นั่นแหละแต่มีแค่จดหมายมาวางไว้นะ เห็นจงแดบอกว่าถามใครก็ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็นเซฮุนเลย พวกนายเป็นเพื่อนกัน

ยังไงนนะไค ถึงไม่รู้เรื่องนี้" มินซอกเล่าเรื่องที่เค้ารู้มาจากจงแดที่เป็นเพื่อนผู้จัดการด้วยกันอีกทีให้จงอินฟัง

"อะไรนะ!! ออกไปแล้ว ทำไมผมไม่รู้เรื่องนี้ล่ะ แล้วเค้าออกไปทำไม มีปัญหาอะไรทำไมไม่บอกกัน"

จงอินถามด้วยความตกใจ นายมีเหตุผลอะไรถึงหนีหายไปเฉยๆแบบนี้ มีปัญหาอะไรทำไมไม่บอกกัน จะทำอะไรทำไมไม่คิดถึงใจ

เค้าเลย ทำไมถึงกล้าทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวแบบนี้ เคยบอกแล้วใช่ไหมเซฮุนว่านายคือหัวใจของฉัน เป็นทุกๆอย่างในชีวิตของฉัน

นายทิ้งฉันไปแบบนี้แล้วฉันควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ช่วยบอกฉันทีสิเซฮุน

"เอาเถอะเรื่องนี้เอาไว้คุยกันที่หลังนะ พี่จะช่วยนายเอง แต่ตอนนี้เข้าบริษัทกันก่อนเถอะอนาคตของนายรออยู่ อย่าให้เรื่องอะไร

มาขวางทางของนายเลย ที่นายฝึกหนักมาตลอดก็เพื่อวันนี้ไม่ใช่หรออย่าทำให้ความฝันและความพยายามของนายต้องสูญเปล่า

เลยไค แล้วถ้าเซฮุนรู้ว่าเค้าเป็นสาเหตุที่ทำให้นายพลาดโอกาสไปเค้าคงเสียใจมาก เชื่อพี่เถอะนะ เราเข้าไปข้างในไปกันเถอะ

พี่สัญญาว่าพี่จะช่วยนายทุกอย่าง" พูดจบ มินซอกก็ลากร่างสูงที่ดูไร้ชีวิตทำหน้าเหมือนจะขาดใจของจงอินลงจากรถและเข้า

บริษัทไป เค้าก็พอรู้อยู่บ้างในความสำพันธ์ของทั้งสองคนแต่ในเมื่อทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว ก็ต้องปล่อยมันไปก่อน เอไว้

ค่อยช่วยกันคิดและแก้ไขกันต่อไปก็แล้วกัน ตอนนี้มีเรื่องที่สำคัญกว่ารอพวกเค้าอยู่ เค้าไม่อยากให้ความพยายามที่ผ่านมาของ

ไคต้องหยุดลงด้วยเรื่องแบบนี้ เพราะไคก็เหมือนน้องชายของเค้าคนนึง




เคมบริด์จ (รัฐแมสซาซูเซตส์) อเมริกา


"เสร็จรึยังเซฮุน เดี๋ยวสายนะ" เสียงพี่จุนมยอนดังมาแต่ไกล สงสัยว่ากลัวไปช้าแล้วรถจะติดเพราะวันนี้เราต้องไปรับคุณแม่ที่

สนามบินด้วยท่านจะมาอยู่เป็นเพื่อนผมจนผมคลอดเลยหล่ะ ไม่รู้ว่าขอคุณพ่อได้ยังไง แล้วไหนยังจะธุรกิจส่วนตัวของท่านเองอีก

"เสร็จแล้วฮะไปกัน"

"ค่อยไเดินสิ จะเดินเร็วทำไมเดี๋ยวหลานพี่ก็ปวดหัวกันพอดี" ไม่ค่อยจะเห่อหลานสักเท่าไหร่เลยพี่ชายผม เป็นคนบอกให้รีบๆเอง

แท้ๆ แต่กลับห้ามไม่ให้เดินเร็ว นั่นยังไม่พอคอยแต่จะพยุงผมตลอดทั้งที่ผมก็บอกแล้วว่าไม่เป็นอะไรเลยเดินเองได้ แต่ช่างเถอะ

พูดไปเดี๋ยวก็งอลหาว่าหวงไม่ยอมให้เข้าใกล้หลานอีก จริงๆเลยพี่ชายผม

"คุณแม่สวัสดีฮะ รอนานรึป่าว" ตอนนี้เรามาถึงสนามบินแล้วฮะ พอเข้ามาก็เจอคุณแม่คนสวยของพวเรานั่งรออยู่ สงสัยเครื่อง

จะเลนดิ้งนานแล้ว

"ไม่นานหรอกจ๊ะ ไหนเซฮุนมาให้แม่ดูหน่อยสิว่าหลานแม่ตัวใหญ่แค่ไหนแล้ว" เมื่อหันมาเห็นพวกเราท่านก็ลุกขึ้นมากอดทักทาย

กับพี่จุนมยอนทันทีก่อนที่จะหันมากอดผมและทักทายเจ้าตัวเล็กในท้องด้วย หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าไปโรงพยาบาลกันต่อทันที

เพราะวันนี้ผมมีนัดดูเพศของตัวเล็กกัน แต่เพราะคุณแม่บอกว่าอยากไปลุ้นด้วยและท่านจะมาวันนี้เลยไปรับท่านก่อนที่จะไป

โรงพยาบาล ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสามเดือนแล้วที่ผมกับพี่มาอยู่ที่นี่ เมืองที่ผมกับพี่เลือกมาอยู่กันมันเป็นรัฐที่เต็มไป

ด้วยประวัติศาสตร์ ความสงบ ความสวยงาม สะอาดและความเป็นมิตรของผู้คน เป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางด้านการศึกษาของ

ประเทศนี้ เพราะผมและพี่ต้องเรียนต่อทั้งคู่ พี่จุนมยอนต่อปริญญาโทแต่ที่นี่ให้อิสระมากในการเลือกพี่เลยเลือกที่จะเรียนสอง

สาขาคู่กันไปคือสาขาบริหารและสาขาที่เกี่ยวกับศิลปะและการดนตรี ถ้าพี่จบก็จะได้ใบปริญญาสองใบส่วนผมเลือกเรียนปริญญา

ตรีแบบการศึกษาด้วยตัวเองแล้วเข้ามาสอบเอา และไปเข้าคลอสเรียนทำขนมอีกด้วย เพราะผมได้คิดไว้แล้วว่า

เมื่อเรียนจบแล้วกลับไปเกาหลีก็คงจะเปิดค่เฟ่เล็กๆอยู่กันอย่างเงียบๆแค่สองคนแม่ลูก ส่นจงอินนั้นถ้าจะบอกว่าไม่คิดถึงกันเลยก็

คงจะเป็นการโกหกกันเกินไป แต่ถ้าถามว่าตอนนี้จงอินสำคัญสำหรับผมไหมก็ยังคงสำคัญอยู่แต่ไม่ใช่จงอินอีกต่อไปแล้วที่จะเป็น

สิ่งที่สำคัญที่สุดของผม เพราะตอนนี้ผมมีเจ้าตัวเล็กที่ป็นเหมือนทั้งชีวิตของผมแล้ว และผมหวังว่าจงอินจะไปได้ดีกับการเป็น

ศิลปินอย่างที่เค้าฝันไว้และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขผมและลูกคงจะได้แต่ให้กำลังใจอยู่ห่างๆอย่างนี้

"เซฮุนมัวคิดอะไรอยู่จ๊ะ ไปกันเถอะแม่อยากเห็นหน้าหลานจะแย่อยู่แล้ว" เสียงเรียกของแม่ทำให้ผมรู้สึกตัวนี้ผมเหม่ออีกแล้ว

หรอเนี่ย หลังจากที่เราตรวจเสร็จเรียบร้อยก็กลับบ้านแม่กับพี่จุนมยอนดีใจกันใหญ่เลยที่ได้รู้ว่าตัวเล็กในท้องเป็นผู้ชายและแข็ง

แรงมาก ตอนแรกก็ถอดใจคิดว่าต้องรอลุ้นกันตอนคลอดซะแล้วเพราะว่าเจ้าตัวเล็กเกิดอายขึ้นมา แต่เพราะคำพูดห่ามๆของ

พี่จุนมยอนที่ก้มลงไปบอกกับตัวเล็กว่า'ถ้าเกิดมาแล้วเป็นผู้ชายแต่เตรียมบาร์บี้ไว้ให้ก็ต้องเล่นนะ' เพราะว่าไม่ยอมให้ดูว่าเป็น

ผู้หญิงหรือผู้ชาย ไม่รู้จะขอบคุณดีไหม จนตอนนี้เจ้าตัวก็ไปเรียนทั้งๆที่ดีใจจนหน้าบานไปแล้ว เพราะคิดว่าหลานรักตัวเองมาก

ที่สุด ที่บ้านก็เหลือแค่ผมกับแม่และเด็กรับใช้ในบ้าน แต่มีแค่แม่และผมเท่านั้นที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกตอนนี้

"เซฮุนโทรไปบอกพ่อสิลูกว่าตัวเล็กเป็นผู้ชาย พ่อเค้าคงอยากรู้"

"จะดีหรอฮะแม่ ท่านคงยังไม่หายโกรธผมหรอก แล้วนี่ไหนจะเรื่องที่คุณแม่ต้องมาอยู่กับผมแล้วปล่อยให้คุณพ่ออยู่คนเดียวอีก

ท่านยังจะยอมคุยกับผมอีกหรอกฮะ"

"โทรเถอะพ่อเราก็แค่คนปากแข็ง ตอนอยู่ที่เกาหลีเค้าถามเรื่องของเรากับแม่ทุกวัน ถ้าลูกโทรไปบอกกับเค้าด้วยตัวเองพ่อเค้า

คงจะดีใจ"

"ฮะผมโทรเลยนะ" ผมหันไปถามคุณแม่ให้แนใจอีกที ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ผมไม่เคยได้คุญกับคุณพ่อเลย ผมก็คิดถึงท่านเหมือนกันแต่

กลัวว่าท่านจะยังโกรธและยังคงไม่ให้อภัยผมอยู่

 

++ตรู๊ดด...ตรู๊ดด..++

"ยอโบเซโย ใครครับ ถ้ายังไม่พูดผมก็จะวางแล้วนะ" เสียงของคุณพ่อดังขึ้นมา ทำให้ผมกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรออกไป พอหัน

ไปมองคุณแม่ท่านก็พยักหน้าและยิ้มให้ผมอีกครั้ง

"คุณพ่อฮะ ผมเอง เซฮุน ผมจะโทรมาบอกคุณพ่่อว่าตัวเล็กลูกของผมเป็นผู้ขายน่ะฮะ ผมอยากให้คนพ่อทราบ" เซฮุนบอกไป

ด้วยความกล้าๆกลัวๆหลังจากจบคำพูดของเซฮุนทุกอย่าก็ตกอยู่ในความเงียบ เซฮุนไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่ออีก แต่ที่ประธานโอ

เงียบนั้นเพราะตกใจที่คนปลายสายนั้นคือลูกชายคนเล็กที่เปรียบเสมือนดวงใจของเค้า

"อืม..มีธุระแค่นี้ใช่ไหม ฉันจะได้ทำงานต่อ" เพราะทิฐิที่มีอยู่มากของเค้าทำให้คำพูดที่ออกไปนั้นสวนทางกับความคิดและความ

รู้สึกของเค้าทั้งๆที่ใจจริงเค้านั้นอยากจะรู้แทบแย่ว่าอาการของลูกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง อยู่ที่โน่นสบายดีไหม ลำบากบ้างรึป่าว

"ฮะ...คุณฮะพ่อผมขอโทษ" สายตัดไปแล้วตัดไปพร้อมกับคำขอโทษของเซฮุนที่ไม่รู้ว่าคนปลายสายนั้นได้ยินสิ่งที่เค้าพูด

ไปรึป่าว

"เซฮุนไม่เป็นไรนะลูก พ่อเค้าก็แค่คนแก่ขี้งอล เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง ไม่ต้องร้องแล้วนะลูกเดี๋ยวตาหนูก็ร้องตามหรอก

โตจนจะเป็แม่คนอยู่แล้วยังจะขี้แยอยู่อีก ลูกชายใครน้าา..." คุณนายคิมที่นั่งอยู่ฝั้่งตรงกันข้ามกับว่าที่คุณแม่ที่เห็นน้ำตาไหล

ลงมาจากดวงตาคู่สวยพร้อมๆกับเสียงคำขอโทษที่แผ่วเบาที่เซฮุนตั้งใจจะให้คนปลายสายได้ยินก็ต้องรีบเข้ามากอดปลอบเพราะ

ลูกชายของเธอนั้นไม่มีทีท่าที่จะหยุดร้องเลย สงสัยว่าจะเป็นเพราะความเสียใจบวกกับอารมณ์อ่อนไหวของคนท้องเลยทำให้ยิ่ง

เสียใจมากกว่าเดิม

"คุณแม่ฮะคุณพ่อเค้าเกลียดผมแล้ว" เซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น

"แม่บอกแล้วไงว่าพ่อเค้าแค่เสียใจให้เวลาเค้าหน่อยนะ ไม่มีใครจะเกลียดลูกของตัวเองได้ลงหรอก แล้วตกลงลูกจะไม่บอก

พวกเราจริงๆหรอว่าตาหนูเป็นลูกใคร เมื่อเค้าเกิดมาแล้วเค้าถามว่าพ่อของเค้าเป็นใครแล้วลูกจะตอบเค้ายังไง เด็กทุกคนเค้า

ต้องการครอบครัวที่อบอุ่นนะเซฮุน"

คุณนายคิมเปลี่ยนเรื่อง มาถามถึงคนที่เป็นพ่อของหลานเค้า ที่เค้าเฝ้าพยายามถามเซฮุนมาตอลอดเวลาสามเดือน

แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ

"ผมบอกไม่ได้หรอกฮะ ขอโทษนะฮะคุณแม่ที่ผมทำให้ทุกคนต้องผิดหวังอยู่ตลอด แต่เรื่องของต่อตาหนูผมขอเถอะฮะ

เค้าไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังจะมีลูก"

"ลูกไม่ได้บอกเค้าหรอเซฮุน ทำไมลูกทำอย่างนี้ล๊ะ พรากพ่อพรากลูกเค้ามันบาปนะลูกไม่ดีเลยนะ"

คุณนายคิมตกใจที่เธอได้รู้ว่าลูกชายของเธอไม่แม้แตจะบอกพ่อของหลายชายเธอ นี่มันเรื่องอะไรกัเนี่ย สักวันเธอจะต้องรู้ให้ได้

ว่าเค้าคนนั้นเป็นใคร และทำไมลูกชายของเค้ามีเหตุผลอะไรถึงได้เลือกที่จะตัดสินใจแบบนี้

"ไม่ได้จริงๆฮะแม่ ส่วนเรื่องคำตอบนั้นที่คุณแม่ถาม เมื่อเวลานั้นมาถึงผมคงมีคำตอบดีๆให้ลูก และตาหนูแกคงจะเข้าใจ

ผมขอตัวก่อนนะฮะเริ่มง่วงแล้ว ตอนเย็นเจอกันนะฮะ คุณแม่ก็ไปพักผ่อนได้แล้ฮะเดินทางเหนื่อยมาทั้งวัน" พูดจบว่าที่คุณแม่ก็

ขอตัวทันที เมื่อถึงห้องนอนของตัวเองเซฮุนก็ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงทันที พร้อมกับมือที่ลูบวนอยู่บนท้องที่เรื่อมจะใหญ่ขึ้นมากตาม

อายุครรภ์เพื่อเป็นการส่งความรู้สึกของตัวเองไปถึงลูกน้อยไปด้วย แม่ขอโทษนะลูกที่แม่ไม่สามารถบอกพ่อได้  เข้าใจแม่นะลูกที่

แม่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อพ่อของลูก อยู่กับแม่แค่สองคนก็ได้เน๊าะแม่สัญญาว่าจะรักและดูแลลูกอย่างดีที่สุดที่เท่าแม่คนนึงจะทำได้

เพราะลูกคือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับแม่ แม่รักลูกนะเจ้าชายตัวน้อยของแม่

 

 

 

 

...
วันนี้วันแรกที่ลง และลงทั้งหมด 4ตอนเลยเพื่อที่จะให้ทันกับอีกสองเว็บ

อย่างที่บอกกันไปก่อนหน้านี้ว่าคอมคนเขียนพัง

จำเป็นที่จะต้องมาลงที่ร้านเน็ตเลยอาจจะผิดพลาดไปบ้าง

คนเขียนพยายามเต็มที่แล้วจริงๆคะ แต่เพราะนี่คือสิ่งที่รักที่ชอบ

ถึงจะมีคำติอีกเป็นร้อยคนเขียนก็สู้ตาย!!คะ เจอกันตอนหน้าคะ
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน(KAI&HUN)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 15-05-2015 17:15:11


รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'  ตอน 5


เคมบริด์จ (รัฐแมสซาซูเซตส์) อเมริกา

 

'แรง!!! ทีเซอร์ซิงเกิลแรกเปิดตัวฮิตติดหูดังถล่มทลาย'

 

'ฮอตติดลมบน!!!หนุ่มผิวสีน้ำผึ้งขึ้นแท่นดาวรุ่งพุ่งแรงน้องใหม่แห่ง HK Entertainment'

 

'จำนวนแฟนคลับ!!!เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากปล่อยทีเซอร์ซิงเกิลแรกออกมา เผยเตรียมเดบิวต์เร็วๆนี้'


     'หลังจากค่ายดังอย่าง HK Entertainment เงียบหายไปถึง 4 ปีเต็ม ที่ไม่มีศิลปินใหม่เกิดขึ้นมาเลย ปล่อยให้ค่าย

คู่แข่งอย่าง CB Ent' ปั้นปาร์คชานยอลแร๊ปเปอร์อารมณ์ดีให้พุ่งแรงแซงทางโค้งสะเทือนวงการเพลงทำคะแนนทิ้งห่างไป

ไกลแต่แล้วสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นวงการเพลงต้องสั่นสะเทือนอีกครั้งเมื่อ HK Ent' นั้นได้ปล่อยทีเซอร์น่องใหม่ของค่ายออก

มาเปิดตัวแรงด้วยเพลงที่มีเนื้อร้องทำนองแปลกหู การเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งพริ้วไหวและงดงามของร่างกาย ใบหน้าคม

คลายและผิวสีน้ำผึ้งสุดแสนจะเซ็กซี่และเย้ายวนใจ ทำให้สาวคนไหนที่ได้เห็นเป็นอันต้องหลงไหลกันทุกคน ความฮอตของ

น้องใหม่คนนี้คงจะฉุดไม่อยู่แล้วจริงๆแหละคร้าบบ..คุณผู้ช้มมมมม มีทีมงานกระซิบผมว่ามียอดจองอัลบั้มสูงลิบตั้งแต่ยังไม่

ได้เดบิวต์กันเลยทีเดียว เอาไว้เรามารอลุ้นกันดีกว่าคร้าบว่าเค้าจะแสดงตัวออกมาตอนไหน แล้วปาร์คชานยอลและ

ค่ายCB Ent' ต้นสังกัดจะเตรียมรับมือกับน้องใหม่มาแรงคนนี้อย่างไร เค้าจะสามารถรักษาความเป็นที่หนึ่งของเค้าได้รึป่าว'

เสียงพิธีกรที่ดำเนินรายการอยู่ในทีวีนั้นบรรยายอย่างออกรสเกี่ยวกับเรื่องที่จะเกิดศิลปินหน้าใหม่ที่กำลังทำให้วงการเพลง

ของเกาหลีถึงกับสั่นสะเทือน


"ดูอะไรอยู่เซฮุน มาทานข้าวได้แล้วนะ" เสียงคุณนายคิมเรียกลูกชายคนเล็กดังมาจากห้องทานข้าว


"แปปนึงฮะคุณแม่ ขอผมดูข่าวนี้ก่อน" ตอบกลับไปทั้งที่ไม่หันไปมอง


"ข่าวอะไรของเรา ไปดูต่อในห้องทานข้าวก็ได้ ลุกเลย ป่านนี้หลานพี่หิวแล้ว" เมื่อเห็นว่าเลยเวลทานอาหารมาพอสมควร

แถมพอคุณนายคิมเรียกก็ไม่ยอมลุกอีก เค้าจึงมาตามเซฮุนด้วยตัวเองและปิดทีวีทันทีหลังจากพูดจบ และมาช่วยพยุงร่าง

กลมๆของว่าที่คุณแม่ที่ใกล้คลอดเต็มทีให้ลุกไปยังโต๊ะทานข้าว

"โธ่! แปปเดียวเองฮะพี่" เมื่อนั่งประจำที่แล้วยังไม่วายจะทำหน้างอใส่พี่ชาย ก็เค้าอยากรู้ข่าวเกี่ยวกับจงอินบ้างนิ

พี่จุนมยอนอ่ะไม่เข้าใจน้องเลย  นี่ก็ผ่านมาตั้งหลายเดือนแล้วเค้าพึ่งจะได้เห็นหน้าจงอินจากทีเซอร์เปิดตัวนี่แหละ ถึงแม้ว่า

มันจะเลือนๆไม่ชัดก็ตามที แต่เห็นแค่นั้นเค้าก็รู้แล้วว่านั่นคือจงอินแน่นอน

"อย่าทำหน้างอแบบนั้นเซฮุน เดี๋ยวหลานพี่ไม่หล่อกันพอดี จะดูช่อง m-net ใช่มั้ยพี่จะเปิดให้ อ๊ะนี่ไง เห็นไหมข่าวที่เราดู

มันยังไม่จบเลย ทีนี้ก็เลิกทำหน้างอแล้วกินข้าวได้แล้ว ดูไปด้วยกินไปด้วยนั่นแหละ หลานพี่หิวแย่แล้ว" จุนมยอนเห็นหน้า

งอๆของน้องไม่ได้จนต้องเปิดช่องทีวีที่ของเกาหลีที่น้องชายดูก่อนหน้านี้ให้

"ข่าวอะไรของเราเซฮุน ถึงกับต้องทำหน้างอ งอลใส่พี่เค้าอย่านั้นฮึเรา" คุณนายคิมถามลูกชายคนเล็กด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ

หลังจากที่นั่งดูสองพี่น้องเค้างอลง้อกันอยู่นานสองนาน

"ข่าวบันเทิงของเกาหลีนะฮะคุณแม่ นักร้องของบริษัทคุณพ่อที่กำลังจะเดบิวต์นะฮะ เห็นเค้าว่ากำลังมาแรงเลยฮะทั้งๆที่ยัง

ไม่ได้เดบิวต์ด้วยซ้ำ กลับมีแฟนคลับและยอดจองอัลบั้มสูงลิบเลยฮะ" เซฮุนตอบทั้งๆที่สายตายังไม่ยอมละออกจากหน้า

จอทีวี

"ไม่ต้องตั้งใจดูขนาดนั้นก็ได้มั้งเซฮุน รู้จักเค้าหรือไง หรือจะเป็นแฟนคลับกะเค้าอีกคน กินข้าวเข้าไปถ้ามัวแต่ดูทีวีพี่ก็จะปิด

แล้วนะไม่ต้องดูมันแล้ว จะเป็นแม่คนอยู่แล้วห่วงลูกบ้างสิ เลยเวลาทานข้าวมานานแล้วแต่เราก็ไม่ยอมทานซักท มัวแต่สน

ใจไอ่ข่าวนี่อยู่ได้ ป่านนี้ตาหนูคงจะหิวแย่แล้วนะ" จุนมยอนพูดดุขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นน้องชายสนใจแต่ข่าวในทีวีจนไม่

ยอมกินข้าว

"อย่าดุน้องนักสิจุนมยอน เซฮุนคงจะสนใจจริงๆ ลูกก็รู้ว่าที่ผ่านมาไม่ว่าเรื่องอะไรน้องก็ให้ความสำคัญตาหนูมาเป็นอย่าง

แรกอยู่แล้ว ว่าแต่ทำไมเราถึงสนใจข่าวนี้นักล่ะเซฮุน คนรู้จักลูกหรอ" เมื่อคุณนายคิมปรามคนพี่เสร็ก็หนไปถามคนน้อง

"ก็รู้จักกันฮะ เราเคยเป็นเด็กฝึกมาด้วยกันนะฮะคุณแม่"

"อย่างนี้นี่เอง ใช่คนที่ลูกเคยขอแม่ไปเที่ยวฉลองที่ว่าเพื่อนกำลังจะได้เดบิวต์ใช่คนเดียวกันรึป่าวลูก เอ..ชื่ออะไรน้าแม่จำ

ไม่ได้ซะแล้ว" คุณนายคิมถามด้วยความสงสัยเธอเหมือนจะคุ้นๆเหมือนกันว่าลูกชายคนเล็กบอกว่าเพื่อนกำลังจะได้เป็น

ศิลปิน

"คนเดียวกันฮะ เค้าชื่อจงอิน แต่ตอนที่เราคุยกันครั้งสุดท้ายเห็นเค้าบอกว่าทางบริษัทเปลี่ยนให้ไปใช้ชื่อว่า 'ไค' น่ะฮะ"

เซฮุนตอบด้วยเสียงแผ่วเบาพร้อมแววตาที่สะท้อนความเจ็บปวด เมื่อเผลอนึกไปถึงวันเวลาเก่าๆ เรื่องราวดีๆ ระหว่างเค้ากับ

จงอินขึ้นมา

"เป็นอะไรไปน่ะเซฮุน ปวดท้องรึป่าว" จุนมยอนถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าแปลกๆของน้อง แต่เซฮุนกลับส่ายหน้าปฏิเสธ

"ลูกคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาหรอ ไม่เป็นไรหรอกนะเซฮุนถึงลูกจะไม่ได้เป็นศิลปิน แต่ลูกกลับมีโอกาสได้ทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่

มากกว่าการเป็นศิลปินอีกนะ อย่าคิดมากเลยลูกอะไรที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไป" คุณนายคิมลุกขึ้นจากที่นั่งของตน

เพื่อมาปลอบว่าที่คุณแม่ เพราะเข้าใจว่าเซฮุนนั้นเสียใจที่ไม่ได้เป็นนักร้องตามที่ตัวเองวาดฝันไว้ แต่ความคิดของ

คุณนายคิมนั้นผิดทั้งหมด

     นายทำได้แล้วนะจงอิน ความฝันที่นายเคยวาดไว้กำลังจะเป็นจริงแล้วสินะ มันใกล้เข้ามาแล้ว ตอนนี้นายจะรู้สึกยังไงนะ

ฉันก็หวังว่าตอนนี้นายคงจะมีความสุขดีในเมื่อสิ่งที่นายหวังไว้กำลังจะเป็นจริง การรอคอยของนายกำลังจะสิ้นสุดลง ความ

สำเร็จที่ยิ่งใหญ่กำลังรอนายอยู่ ทำให้ได้นะจงอิน ไปให้ถึงฝั่งฝันที่นายหวังไว้ ฉันขอให้นายประสบความสำเร็จ มีแต่คนรัก

เป็นที่นิยม  ฉันและลูกจะเป็นกำลังใจให้นายเสมอ



KBS Studio (Music Bank) เกาหลีใต้

"พร้อมรึป่าวไค แต่งหน้าเสร็จรึยัง ไปเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อย วันนี้นายจะต้องแสดงเป็นอันดับที่9นะและคนที่ขึ้นแสดงก่อน

นายก็คือ ปาร์คชานยอล ผลสรุปจำนวนแฟนคลับที่อยู่ในฮอลล์ออกมาแล้วนะ นายอยู่ลำดับที5 ในขณะที่แฟนคลับของ

ชานยอลคลองพื้อนที่อยู่หกสิบสองเปอร์" พี่มินซอกพูดขึ้นหลังจากกลับเค้ามาจากการไปดูโพลและประสานงานกับทาง

รายการ วันนี้แล้วครับที่การรอคอยทั้งหมดของผมจะสิ้นสุดลง หลังจากที่ผมฝึกซ้อมจนแทบลืมหายใจ หลังจากที่บริษัท

ปล่อย mvออกไป กระแสตอบรับดีมากๆเลยครับ จำนวนแฟนคลับก็เพิ่มขึ้นรวดเร็วมากกว่าตอนที่ปล่อยทีเซอร์ออกไปนั่น

เป็นอะไรที่ผมดีใจมาก แต่หลังจากที่ฟังพี่มินซอกพูดออกมาเมื่อสักครู่เรื่องโพลแฟนคลับในฮอลล์ ผมชักไม่แน่ใจแล้วซิครับ

ว่าผมมีแฟนคลับเยอะอย่างที่ออฟฟิเชียลบอกรึป่าว

"เฮ้! อย่าทำหน้าอย่างนั้นน่า ผลโพลมันไม่ใช่การตัดสินทั้งหมดนะ นี่มันแค่สิบเปอร์เซ็นของการตัดสินทั้งหมดนะ มันเป็น

เพียงคะแนนส่วนน้อยนิดเท่านั้น เชื่อมั่นในตัวเองและเชื่อใจในแฟนคลับของนายหน่อยสิ แค่ทำให้เต็มที่ก็พอแล้วทุกอย่าง

มันจะดีเอง สู้ๆ พี่เชื่อว่านายทำได้แน่ไค"

"ขอโทษครับ ไค ไปรอแสตนบายหลังเวทีด้วยครับ ตอนนี้ชานยอลกำลังขึ้นแสดงอยู่" ก่อนที่จะได้ตอบอะไรเสียงสตาฟก็

เปิดประตูเข้ามาเรียกให้ไปรอทำการแสดงเป็นคิวต่อไป

"แล้วจะตามไปครับ ไปกันเถอะพี่ ผมพร้อมแล้ว" ตอบรับสตาฟเรียบร้อยก็พากันออกไปยืนรอข้างเวทีดูการแสดง

สุดเพอร์เฟคของแร๊ปเปอร์ชื่อดังที่เป็นแชมป์อันดับหนึ่งหกสมัยซ้อนของรายการเพลงนี้อยู่ในตอนนี้ หลังจากการแสดงของ

ชานยอลจบลงก็เรียกเสียงกรีดร้องจากแฟนคลับในฮอลล์ได้อย่างล้นหลาม นี่สินะคู่แข่งอันดับหนึ่งของเค้า น่ากลัวจริงๆ

"ฉันจะรอดูผลงานของนายนะน้องใหม่มาแรง" ขณะที่กำลังจะขึ้นแสดงตามคิวของตัวเองก็เดินสวนทางกับแร็ปเปอร์คนดังที่

ทักทายขึ้นและสบสายตาอย่างท้าทาย ทำให้ไคต้องย้ำกับตัวเองอีกครั้งว่านี่คือการพิสูจน์ฝีมือและการแสดงความเป็นตัวตน

ของเค้า เค้าจะต้องทำให้ทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุด

"Hey..Are you ready" เสียงของไคดังขึ้นจากความเงียบเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับได้เป็นอย่างดี เสียงอินโทรเพลง

ดังขึ้นพร้อมกับสปอตไลท์ที่ส่องไปกลางเวที ใบหน้าคมคายและผิวสีน้ำผึ้งของไคส่องประกายเจิดจ้ามากเมื่ออยู่บนเวที

อย่างนี้ เสียงกรีดร้องของแฟนคลับที่อยู่ในฮอลล์ดังขึ้นอย่างถล่มทลายมากขึ้นไปอีก ตามบีตหนักๆของเพลง ร่างกายที่

เคลื่อนไหวไปตามทำนองเพลง ทั้งโดดแด่นและสดุดตา ไคทำได้ทั้งหมดอย่างเฟอร์เฟคโดยไม่มีที่ติถึงแม้ว่าจะเป็นการ

แสดงครั้งแรก

"นายทำได้ดีมากๆเลยไค" มินซอกพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อเค้าทั้งสองคนเดินกลับมาถึงห้องพักหลังเวที เพื่อรอการแสดงทั้ง

หมดของวันนี้จบลง และรอทีมงานรวบรวมผลโหวตทั้งหมดด้วย

'การแสดงทั้งหมดก็จบลงไปแล้วนะครับ ขอเสียงปรบมือให้กับศิลปินทุกท่านที่อยู่บนเวทีในวันนี้ด้วยคร้าบ และก็มาถึงเวลา

ที่่ทุกคนรอคอยกันแล้วนะครับว่าที่หนึ่งในวันนี้จะเป็นใครกัน ผมล่ะตื่นเต้นแทนทุกคนกันจริงๆถ้าพร้อมแล้วขอผลโหวตด้วย

ครับ' พิธีกรพูดขึ้นเมื่อการแสดงทั้งหมดจบลงและศิลปินทุกคนก็มายืนรวมกันบนเวทีเพื่อฟังผลโหวต

'ผลโหวตออกมาแล้วนะครับ' ไคหลับตาลงกำมือแน่นขึ้นด้วยหัวใจที่เต้นแรง ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องและเสียงเรียกชื่อเค้าก็

ดังขึ้นจนทำให้เค้าต้องลืมตาขึ้มาดูจนได้

'ในที่สุดเราก็ได้รู้แล้วนะครับ ผู้ชนะในวันนี้ก็คือ น้องใหม่มากความสามารถ ไค!!!' ไคเดินเข้าไปรับถ้วยรางวัลมาจาก พิธีกร

ชูขึ้น เพื่อบอกกับทุกคนและเป็นการบอกกับตัวเองว่าเค้าทำมันได้แล้ว สำเร็จแล้วความฝันของเค้า มันเป็นจริงแล้ว

"เยี่ยมไปเลยไค เก่งมาก นายทำสำเร็จแล้ว พี่ยินดีด้วยนะ โตขึ้นไปอีกขั้นแล้วสินะน้องชายฉัน" มินซอกเอ่ยชมและแสดง

ความยินดีกับศิลปินในความดูแลของตน ที่ได้ชัยชนะมาครอบครองเพียงแค่การเปิดตัวเป็นครั้งแรกของการเป็นศิลปินเต็มตัว

ก็ได้คะแนนและความรักจากแฟนคลับอย่างล้นหลาม

"ถ้าไม่มีท่านประธาน ไม่มีทีมงาน ไม่มีพี่คอยช่วยผม ผมก็คงจะมาไม่ถึงวันนี้หรอกครับ รางวัลนี้ไม่ใช่ของผมคนเดียวหรอก

ครับพี่ มันเป็นของทุกคนเหมือนกันเพราะเราเหนื่อยมาด้วยกัน ผมสิต้องขอบคุณทุกๆคน ขอบคุณอีกครั้งนะครับพี่ที่คอยช่วย

เหลือผม" ไค ขอบคุณจากใจจริงเค้าดีใจมากที่มาถึงวันนี้ แต่นี่เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น

     ไคกลับมาพักผ่อนที่หอหลังจาก งานเลี้ยงฉลองความสำเร็จในก้าวแรกของเค้าที่ประธานโอใจดีจัดขึ้นให้จบลง ก็ทิ้งตัว

ลงนอนบนเตียงหลังใหญ่มองถ้วยรางวัลที่พึ่งได้มาสลับกับรูปถ่ายใบเก่าที่แขวนติดผนังห้องนอนไว้

  'นายอยู่ไหนนะเซฮุน ฉันทำได้แล้วนะ นายจะได้ดูการแสดงของฉันรึป่าว ฉันอย่ากให้นายได้เห็น ได้อยู่ด้วยกันในวันที่ฉัน

ประสบความสำเร็จอย่างนี้ ฉันคิดถึงนายมากเหลือเกิน เวลาที่ไม่มีนายอยู่ข้างๆฉันก็เหมือนกับคนที่ตายไปแล้วเลยรู้ไหม

กลับมาเถอะเซฮุน กลับมาหาฉัน กลับมารักกัน' น้ำตาลูกผู้ชายที่ไม่เคยมีใครเห็นนั้นไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ไม่ใช่

เพราะดีใจที่ความฝันเป็นจริงจนร้องไห้ออกมา แต่ที่น้ำตามันไหลออกมาก็เพราะความห่วงหา ความคิดถึง คนที่เป็นเจ้าของ

หัวใจมันเกินจะทนแล้วจริงๆ รอยยิ้มและความเข้มแข็งที่ผ่านมามันก็แค่ละครฉากนึงเท่านั้น ที่แสดงออกมาให้ทุกคนเห็นว่า

เค้าไม่เป็นไร


เคมบริด์จ (รัฐแมสซาซูเซตส์) อเมริกา

     ขณะที่ทางเกาหลีมีเรื่องหน้ายินดีนั้น อีกซีกโลกนึงในเวลาเดียวกันแต่แตกกันด้วยเวลานั้นก็มีเรื่องให้ตื่นเต้นและหน้า

ยินดีมากเหมือนกัน ในตอนที่เซฮุนตื่นมาแต่เช้ามืดเพื่อที่จะดูถ่ายทอดสดส่งตรงจากเกาหลีรายการเพลงที่จะเป็นเวทีเดบิวต์

ของจงอินก็รู้สึกปวดหน่วงที่ท้อง เจ็บเสียจนแทบจะขาดใจ จะตะโกนเรียกใครก็ไม่มีแรงพอที่จะส่งเสียงออกไป จนมือเรียว

คว้าสะเปะสะปะไปเจอแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง เซฮุนฝืนแรงฮึดเป็นครั้งสุดท้ายข้วางแก้วออกไปทางประตูกระจก

บานเลื่อนริมระเบียงห้องจนแตกกระจากก่อนที่จะหมดสติไป

 

    ++ เพล้ง!!!!!!!!!! ++

 

เพราะเสียงดังเหมือนมีอะแตกทำให้ทุกคนบ้านตื่นขึ้นมาดู ไม่ว่าจะเป็นคุณนายคิมหรือจุนมยอน ไม่เว้นแม้แต่พวกแม่บ้าน

"เสียงอะไรครับแม่/เกิดอะไรขึ้นนะจุนมยอน" จุนมยอนและคุณนายคิมถามขึ้นพร้อมกันเมื่อทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องรับแขก

แล้วยกเว้นว่าที่คุณแม่ที่หมดสติอยู่ในห้อง คำตอบจากการถามของทั้งสองคนคือการส่ายหน้าว่าไม่รู้

"เซฮุน/เซฮุน" เมื่อตั้งสติและนึกขึ้นได้ว่าไม่มีว่าที่คุณแม่อยู่ในห้องนี้ทั้งสองคนก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปที่ห้องของเซฮุน ทันทีที่เปิด

ประตูเข้าไปนั้น ก็เจอกับเศษกระจกและเศษแก้วแตกทางประตูระเบียง และร่างอวบของว่าที่คุณแม่นั้นใบหน้าเนียนชื้นเหงื่อ

เต็มไปหมด ที่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้สติ จนคนเรียกนั้นใจไม่ดี ใบหน้าเนียนนั้นชื้นเหงื่อเต็มไปหมด เพราะความเป็นห่วงน้อง

มากจุนมยอนตัดสินใจอุ้มน้องไปโรงพยาบาลทันทีทั้งที่ตัวเองนั้นตัวเล็กกว่า

           เปลือกตาสีน้ำนมค่อยๆลืมขึ้นมองห้องที่ไม่คุ้นตา มือบางยกวางขึ้นทาบหน้าท้องที่เคยกลมนูนด้วยความเคยชิน

แต่ตอนนี้มันได้แฟบลงไม่ไม่กลมนูนเหมือนเดิมจับลงไปก็เจอแต่ผ้าก็อตที่ปิดทับแผลผ่าตัด คิดย้อนกลับไปก่อนหน้าที่ตน

จะหมดสติลงก็ใจคอไม่ดี นึกเป็นห่วงลูกน้อยที่เคยอยู่ในท้อง

"อ่าว..ตื่อนแล้วหรอเซฮุนเป็นยัไงบ้างลูก" คุณนายคิมที่เดินเข้ามาในห้องพักก็ถามขึ้นเมื่เห็นว่าเซฮุนตื่นแล้ว

"โอ๊ย!! ก็รู้สึกเจ็บที่ท้องนิดหน่อยฮะ คุณแม่ฮะแล้วลูกผมล๊ะ ตาหนูล๊ะฮะ" เซฮุนตอบด้วยหน้าเหยเกเมื่อขยับตัวเร็วเกินไป

จนสะเทือนแผลผ่าตัด และถามถึงลูกน้อยด้วยสีหน้ากระวนกระวายเพราะความเป็นห่วง

"มาแล้วคร้าบ..คุณยาย ตาหนูมาแล้วคุณแม่ตื่นรึยังครับ" จุนมยอนเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับพยาบาลที่มีห่อผ้าสีขาวใน

ออ้มแขน

"พาน้องมาส่งคุณแม่คะ" พยาบาลสาวส่งห่อผ้าสีขาวที่มีเด็กน้อยตัวสีแดงๆอยู่ข้างในให้เซฮุนและเดินกลับออกไป

"น่าเกลียดน่าชังจริงๆเลยหลานยาย ดูสิตัวจ้ำม่ำจริงเชียว" คุณนายคิมยืนมองหลานจนยิ้มหน้าบานแทบหุบไม่ลง

"แล้วจะตั้งชื่อหลานว่าอะไรหรอเซฮุน" จุนมยอนถามด้วยเสียงตื่นเต้น

" 'จีซอง' ผมจะให้ตาหนูชื่อว่า'จีซอง' ดีไหมฮะคุณแม่ ดีไหมฮะพี่" เซฮุนบอกและถามควาเห็นจากอีกสองคน

"จีซอง ที่แปลว่า ความจริงใจที่แท้จริง การอุทิศเสียสระ ความจงรักภัคดีนะหรอ" จุนมยอนถามความหมายของชื่อด้วยความ

ไม่แน่ใจ แต่เซฮุนก็พยักหน้าว่าใช่ความหมายเดียวกันกับที่จุนมยอนบอกมา

"ก็ดีนะเพราะดี ความหมายก็ดีแม่ชอบ เอาชื่อนี้แหละ โตจนเป็นแม่คนแล้วเราเข้มแข็งให้มากๆนะเซฮุนเพื่อตาหนูจีซอง

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า แม่ จุนมยอน และคุณพ่อจะอยู่ข้างลูกเสมอ" คุณนายคิมพูดบอกวันนี้เธอมีความสุขมาก

จริงๆที่เห็นหน้าหลานชายของเธอ แต่เธอกลัวว่าเมื่อวันเวลาผ่านไปลูกชายของเธอจะต้องมีปัญหาในการตอบคำถามของ

หลานเธอเรื่องคนเป็นพ่อแน่ๆ เพราะดูแค่ตอนนี้ก็เห็นชัดแล้วว่าหลานเธอได้หน้าตาคนเป็นพ่อมาเต็มๆ ถ้าโตขึ้นหน้าตาจะ

ต้องชัดเจนขึ้นแน่นอนเพราะแทบจะไม่ตรงไหนเหมือนลูกชายเลยแม้แต่น้อย พอถึงวันนั้นเราคงได้รู้กันแน่ว่าพ่อของตาหนู

เป็นใคร

"ฮะคุณแม่ ยินดีต้อนรับนะครับจีซอง ในที่สุดเราก็ได้เจอกันซะที หลังจากวันนี้ไปเราจะเป็นคนสำคัญของกันและกันนะลูกรัก

แม่สัญญาว่าแม่จะดูแลหนูให้ดีที่สุดเท่าที่แม่คนนึงจะทำได้ แม่รักลูกนะจีซอง ลูกรักของแม่" เซฮุนพูดกับลูกน้อยในอ้อม

แขนด้วยความรักและเอ็นดูอย่างสุดซึ้ง

 

...

มาแล้วค่ะตอนที่ 5 ของเรา รอกันนานรึป่าวคะ

ตอนหน้าขอกระซิบแอบบอกกันก่อนว่า เราจะเจอลูกหมูกันแล้ววว

ยังไงก็ขอฝาก นิยายเรื่องนี้ ด้วยนะคะ

แล้วตอนหน้ามี่จะพาทั้งคุณป๊ะป๋า คุณหม่าม๊า และลูกหมู

มาเสริฟคนอ่านกันแน่ค่ะ วันนี้ก๊ะ บ๊าย...บาย
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน(KAI&HUN)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 28-05-2015 15:11:11
 it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 6

 



"จีซอง อยู่ไหนลูก เราต้องไปกันแล้วนะ ออกมาเลย เลิกเล่นได้แล้วลูก ถ้ายังไม่ออกมาหม่าม๊าจะทิ้งให้อยู่ที่นี่คนเดียวแล้วนะ"

หายไปไหนอีกนะ ลูกหมูตัวแสบนิเดี๋ยวก็ตกเครื่องกันพอดี วันนี้พวกเราจะต้องกลับเกาหลีกันแล้วฮะ ทั้งผมและพี่จุนมยอนก็

เรียนจบแล้วตอนแรกพวกเราก็จะอยู่ต่ออีกซักเดือน แต่ทนเสียงรบเร้าของเพราะความคิดถึงหลานของคุณแม่ไม่ไหวก็เลยต้อง

กลับกันเลย

"ต๊ะเอ๋!!/อุ๊ย!!"ผมต้องสะดุ้งด้วยความตกใจ เมื่อยืนมองหาเจ้าตัวแสบก็มีมือป้อมๆมาตะปบที่ต้นขา แล้วยังไม่วายเอาหัวกลมมาถูต้นขาผมอีก

"คิมจีซอง!!! หม่าม๊าบอกแล้วไง ว่าเราต้องรีบไปยังจะมัวเล่นอีก" ใช่แล้วฮะจีซองหรือคิมจีซองลูกชายวัยสามขวบของผมเอง

จากเด็กน้อยตัวแดงๆวันนั้น กว่ากลายมาเป็นเจ้าเด็กตัวกลมๆเหมือนลูกหมูตอนนี้ ต้องยอมรับเลยฮะว่ามันไม่ง่ายเลยจริงๆ มัน

เป็นอะไรที่เหนื่อยและลำบากมาก แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขมากเหมือนกัน เดือนแรกที่มีคุณแม่คอยสอนคอยแนะนำก็ว่า

ยากแล้ว แต่หลังจากที่คุณแม่กลับไปนี่สิผมกับพี่นี่แทบจะไม่ได้หลับได้นอนกันเลยทีเดียว

"จีซองไม่ได้เล่งซะหน่อย  จีซองแค่เจอร์ไปร์หม่าม๊าเองน้าา...คิก คิก" ดูสิเจ้าเลห์จริงๆแถมยังแสบสุดๆสงสัยจะอยู่กับคุณลุงมาก

เกินไปถึงได้เป็นแบบนี้ เจ้าคนนี้เค้าหลานรักคุณลุงโอ๋กันตลอด จนจีซองดื้อแบบนี้

"ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยเจ้าลูกหมู อยากจะพูดก็ยังพูดผิดอีก เล่นครับไม่ใช่เล่ง แล้วเซอร์ไพร์ก็ไม่ใช่เจอร์ไปร์ของลูกด้วย เรารีบไป

กันเถอะจีซอง ลุงจุนมยอนรออยู่ มาหม่าม๊าอุ้ม" แหม่ พอบอกว่าจะอุ้มนี่รีบชูมือเลยเชียว ไม่ค่อยจะขี้เกียจเลยลูกผม

"ไปเลยฮับหม่าม๊า ไปขึ้นเครื่องบิน บรึ้น!..บรึ้น!..บรึ้น!.." ฮึ ฮึ พูดอย่างเดียวไม่พอยังกางแขนกางขาเป็นเครื่องบินอีก ผมเลยอดไม่

ได้ที่จะจับเจ้าตัวหันหน้ามาหาผมแล้วฟัดแก้มฟูฟูนั่นซะ ใครจะว่าผมหลงลูกก็คงต้องยอมรับว่าใช่ล๊ะฮะ ทั้งรัก ทั้งหลง ทั้งหวง

ทั้งห่วงเลย ก็ลูกเป็นเหมือนชีวิตของผมนี่ฮะ ถ้าวันไหนขาดลูกไปผมคงอยู่ไม่ได้ ผมหวังว่าการกลับไปเกาหลีครั้งนี้ของผมและ

จีซองจะราบรื่นไร้ปัญหาและคงจะไม่เจอกับจงอิน ผมขอแค่มองอยู่ห่างๆในที่ของผมก็พอ เพราะเท่าที่รู้มาคือ ตอนนี้จงอินเป็น

ศิลปินอันดับหนึ่งของเกาหลี ได้รับความนิยมมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาทุกอย่างที่จงอินทำมา

จะต้องจบแน่ๆ จีซองยิ่งโตก็ยิ่งชัดเจนขึ้นว่าเหมือนพ่อของเค้ามากทั้งหน้าตาและกริยาท่าทาง คงมีแค่สีผิวเท่านั้นที่เหมือนผม

แถมนิสัยยังเหมือนกันสุดๆ ทั้งกินเก่ง นอนเก่ง เหมือนจงอิน จนตอนนี้กลายเป็นลูกหมูน้อยๆไปแล้ว จีซองอาจจะดื้อจะซน

ไปตามเรื่องตามราวเหมือนเด็กทั่วไป แต่รู้มากรู้เกินเด็กจนเป็นหลานรักคุณลุงคุณยายไปแล้วหลงกันจนถอนตัวไม่ขึ้น

คุณยายนี่มาหาบ่อยมากๆ ส่วนคุณพ่อของผมท่านเองก็เคยมากับคุณแม่สองครั้ง ท่านก็ยังคงคุยกับผมแทบนับคำได้ ตอนแรก

ท่านก็ทำเหมือนไม่สนใจจีซองเหมือนกันแต่พอเจ้าตัวแสบตื้อคุยด้วยหน่อยก็ตกหลุมความเจ้าเลห์ของจีซองไปอีกคน ทีนี้แหละ

ถึงกับถอนตัวไม่ขึ้น ถึงตัวท่านจะไม่มาแต่ก็โทรคุยกันตลอด ทุกครั้งที่โทรมาก็จะคุยแค่กับจีซองเท่านั้นส่วนผมกับพี่จุนมยอนก็

ตกกระป๋องกันเป็นการถาวร ถ้าเป็นแบบนี้ไปนานๆเข้า สักวันจีซองคงจะเป็นกาวที่ต่อรอยร้าวของผมกลับคุณพ่อให้แนบสนิทได้

 


สนามบินอินชอน

"พร้อมนะไค" พี่มินซอกหันมาถามผม วันนี้ผมต้องขึ้นเครื่องไทยครับ เพราะผมมีคิวที่จะจัดคอนเสิร์ตครั้งที่สองขึ้นที่นั่น

ในวันพรุ่งนี้ แต่ตอนนี้เรายังอยู่บนรถกันอยู่เลย ยังเข้าไปเช็คอินไม่ได้เพราะจำนวนแฟนคลับที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปีของผม

ปีนี้ก็เป็นปีที่สามแล้วที่ผมได้ขึ้นมาเป็นศิลปินเต็มตัว ผมก็ดีใจนะครับที่ผลตอบรับดีขนาดนี้ แฟนๆให้การสนับสนุนผลงาน

ของผมทุกๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผลงานเพลง หนัง ละคร ถ่ายแบบ หรือโฆษณาก็ตามพวกเค้าให้การสนับสนุนผมเป็นอย่างดี

มีกันเยอะๆก็อบอุ่นดีครับ แต่จะไปไหนมาไหนทีก็ลำบากกันหน่อย

"ขอทางหน่อยครับ ขอทางให้ไคได้ไปทำงานอย่างสะดวกหน่อยนะครับ" การ์ดมาแล้วครับการเดินทางไปไหนของผมแต่ละที

ต้องใช้การ์ดมากกว่าสิบคน และพี่มินซอกก็ต้องตะโกนขอทางอย่างนี้ตลอดเวลา บางทีผมก็สงสารนะครับเพราะพี่แกตัวเล็ก

นิดเดียว ครั้งแรกเลยที่ผมต้องเดินทางไปต่างประเทศพอรู้ว่าต้องมีการ์ดเปิดทางให้เยอะขนาดนั้นผมแย้งเลยว่าไม่ต้องทำขนาด

นั้นก็ได้ แต่ผลคือผมถูกแฟนคลับรุมทึ้งจนล้มลงไปกองกับพื้นสนามบินเลย หลังจากวันนั้นผมก็ไม่เคยแย้งเลยว่าการ์ดเหมือน

จะเพิ่มจำนวนมากขึ้น แค่เดินออกไปนิ่งๆ ตามที่พี่มินซอกบอกเดี๋ยวผมก็ปลอดภัย

"อ๊ะ" เป็นเพราะผมหยุดเดินและถอดแว่นออกเพื่อที่จะได้มองให้ชัดๆให้แน่ใจว่าใช่รึป่าว กลับทำให้การเคลื่อนไหวทั้งหมด

หยุดลงพร้อมกับเสียงกรีดร้องของแฟนคลับที่ดังขึ้นจนปวดหู นี่ขนาดผมใส่หูฟังนะยังได้ยินขนาดนี้ แล้วพวกเค้าไม่หนวกหู

กันบ้างหรอ บางทีผมก็อยากถามออกไปว่าแค่ผมถอดแว่นนี่มันปหน้าตื่นเต้นขนาดนั้นเลยหรอ แต่ก็ทำไม่ได้

"หยุดทำไม ไค รีบเดินต่อเลยนายกำลังจะทำให้ผู้โดยสารคนอื่นเดือดร้อนนะ" พี่มินซอกหันมากระซิบผมและใช้มือดันหลังผม

เบาๆ เพื่อเป็นการให้สัญญาณว่าผมควรเดินต่อได้แล้ว

"เมื่อกี้นายหยุดทำไมน่ะไค นายเกือบจะทำให้เกิดความวุ่นวายในสนามบินเพราะถอดแว่นโชว์หน้าสดหล่อๆของนายแล้วนะ"

เมื่อเข้ามานั่งพักในเกทที่ปราศจากแฟนคลับแล้ว พี่มินซอกก็เปิดฉากบ่นผมทันที

"ผมคิดว่าผมเห็นเซฮุนนะพี่" เพราะเหตุนี้แหละที่ทำให้ผมลืมตัวหยุดเดินเพื่อจะดูให้แน่ชัดว่าผมไม่ได้ตาฝาด มองไม่ผิดจริงๆ

"นายแน่ใจรึป่าวว่าเห็นเซฮุนน่ะไค ไม่ได้คิดถึงเค้าจนมโนไปเองนะ"

"ก็เพราะว่าผมคิดว่าผมอาจจะตาฝาดนั่นแหละครบ ผมถึงหยุดเพื่อที่จะมองให้ชัดๆ แต่ก็เพราะแฟนคลับดันเข้ามาเรื่อยๆ

จนพี่ให้ผมเดินต่อนั่นแหละ หันไปอีกทีเค้าก็หายไปแล้ว อีกอย่างตรงที่ผมเห็นเค้ามันไกลมากเลยด้วย แต่ผมว่าผมดูไม่ผิดหรอก

ต้องใช่เซฮุนแน่ๆ พี่ต้องช่วยผมตามหาเซฮุนด้วยนะครับ"

"เอาเถอะพี่จะลองอีกทีก็แล้วกัน แต่ทีหลังนายอย่าทำแบบนี้อีกนะไค มีอะไรก็เก็บไว้ในใจก่อนเอาไว้มาคุยกันที่หลัง ทำอย่าง

นี้มันเสี่ยงเกินไป"

"ครับผมจะจำไว้ ขอบคุณครับพี่" ขอให้ใช่ทีเถอะ ผมว่าผมจำไม่ผิดแน่ ผิงจะดูอวบๆขึ้นกว่าเดิม ต้องใช่เซฮุนแน่ๆ

ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าผมไม่ตามหา สองปีแรกผมจ้างนักสือให้ตามหาจนนักสืบถอนตัวออกไปเป็นคนๆ ทั้งผมและพี่มินซอกก็ช่วย

กันแต่ก็ไม่มีใครหาเจอเลย จนผมเริ่มถอดใจหยุดการตามสืบหาเซฮุนมาได้ซักพัก ถ้าคนที่ผมเห็นเป็นเซฮุนก็แสดงว่าเซฮุนไป

อยู่ต่างประเทศมา บื้อจริง!!ๆจงอินเอ้ย มิน่าผมถึงหาไม่เจอเพราะผมมัวแต่หาในประเทศนี่แหละไม่คิดว่าเซฮุนจะไปต่างประเทศ

ผมลืมควาจริงไปอย่างนึงว่า เซฮุนเป็นลูกคุณหนูคงจะไปอยู่ต่างประเทศได้สบายๆ ผมนี่โง่จริงๆ ครั้งนี้ขอให้เจอทีเถอะ

จะได้รู้สักทีว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เซฮุนทิ้งผมไปเฉยๆแบบนี้ตั้งหลายปี แล้วไปอยู่ที่ไหนมา นายจะยังรักฉันคนนี้อยู่ไหมเซฮุน

...

"เค้ามีอะไรกันทำไมคนเยอะขนาดนั้น" ทันทีที่เครื่องลงจอดที่สนามบิน พวกผมก็เดินออกมาเพื่อที่จะไปหาที่นั่งรอรถของที่บ้าน

มารับ ลูกหมูน้อยๆของผมคงจะเพลียแย่แล้วและคงปรับเวลาไม่ทันด้วยมั้ง เลยอ้อนให้คุณลุงเค้าอุ้มจนหลับไปแล้ว หายซ่าไปเลย

     +++ กรี๊ดดด!!!! กรี๊ดดด!!!!!+++

"หม่าม๊า......" เพราะเสียงกรีดร้องที่ดังมากทำให้ลูกหมูของผมงัวเงียตื่นขึ้นมา เพราะนอนไม่พอจึงทำให้เจ้าตัวงองแงดันตั้วออกจากพี่จุนมยอนพลางเอนตัวมาจะให้ผมอุ้ม พอผมยื่นมือออกไปรับเจ้าลูกหมูก็กอดหมับเข้าที่คอและซุกหน้าเข้ากับซอกคอผม

แถมขาสั้นๆนั่นยังเกี่ยวรัดเอวผมซะแน่นเลย

"สงสัยพวกดารานักร้องมั้ง ไปกันเถะเดี๋ยวเจ้าตัวแสบตื่นขึ้นมางองแงอีกจะยุ่งเอา" ผมหันไปมองทางที่พี่จุนมยอนสนใจตั้งแต่แรก

ก็เห็นกอทัพแฟนคลับ มีทั้งป้ายไฟ ทั้งกล้องถ่ายรูป เต็มไปหมด แต่ผมมองไม่เห็นหรอกว่าศิลปินเป็นใครเพราะมันไกลเกินไป

สงสัยคงจะเป็นพวกที่ดังมากๆและอยู่ในกระแสตอนนี้ล่ะมั้ง ไปต่างประเทศทีถึงได้มีแฟนคลับแห่กันมาส่งเป็นกองทัพแบบนี้

แต่ก็ช่างเถอะมันไม่ใช่เรื่องของผม ตอนนี้ผมคงต้องรีบกลับไปให้ถึงบ้านอย่างเร็ว แล้วทิ้งตัวหนักของลูกหมูจีซองลงที่นอนนุ่มๆ

สบายๆ จะได้นอนอย่างเต็มอิ่ม ถ้าตื่นขึ้นมาตอนนี้คงจะอาละวาดให้แหลกกันไปข้างแน่ๆ ก็อย่างที่เคยบอกไปว่าเรื่องที่สำคัญที่สุด

ของจีซองคือเรื่องกินกับเรื่องนอน

 

 



บ้านตระกูลโอ

        หลังจากที่ได้นอนจนเต็มที่แล้ว เจ้าลูกหมูก็ตื่นขึ้นมาทันเวลาทานมื้อกลางวันพอดี คำแรกที่ใช้ทักทายผมตอนตื่นนอนคือ

'หม่าม๊า จีซองหิววว....' พูดทั้งๆที่ยังลืมตาไม่ขึ้นเลย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมเรียกว่าลูกหมูได้ยังไงกัน ผมล๊ะอดไม่ได้ที่จะฟัด

พุงกลมๆที่มันโพล่พ้นเสื้อออกมาเพราะเจ้าตัวนอนดิ้น กลมไปหมดทั้งตัวแล้วลูกชายผม พอได้ลงมาทานข้าวก็เท่ากับเติมพลัง

ของเค้าเต็มร้อยแล้วหล่ะ ทีนี้ล่ะก็เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่ และตอนนี้ก็เล่าเรื่องความฝันเมื่อเช้าให้คุณตาเค้าฟัง

"จริงๆนะฮับคุงตา จีซองอะชกคุงสักปะหลาดอย่างที่คุงลุงสอนเลย จีซองเก่งใช่ม้ายย....." เล่าจบก็กอดแขนคุณขาแล้วถามด้วย

ความภาคภูมิใจทีจัดการกับสัปหลาดในความฝัน แถมยังยักคิ้วให้อีกสองทีต่างหาก ทะเล้นจริงๆ ไม่ค่อยจะขี้โม้เท่าไหร่เลย

ไม่รู้ทำไมจีซองถึงพูดภาษาเกาหลีบางคำไม่ชัดทั้งที่พูดอังกฤษชัดทุกคำ

"ฮ่าๆ เก่งๆหลานตาเก่งจริงๆ" คุณพ่อก็เป็นไปกับเจ้าตัวแสบด้วยแต่ผมก็ดีใจนะที่เห็นท่านยิ้มและหัวเราะได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง

"ลงมานั่งดีๆสิจีซอง นั่งบนตักคุณตานานๆอย่างนั้น คุณตาท่านจะเจ็บขาเอานะลูก" ผมบอกกับจีซองที่นั่งอยู่บนตักคุณพ่ออยู่นาน

สองนาน เพราะท่านอายุมากแล้วแถมเจ้าลูกหมูก็ไม่ใช่เบาๆ ผมกลัวว่าท่านจะปวดขาเอาได้

"ไม่เป็นไรหรอก หลานฉันตัวเล็กนิดเดียวไม่หนักหรอก" ท่านบอก และมองหน้าผมด้วยสายตาที่อ่อนลงมากซึ่งต่างจากวันนั้น

ผมหวังว่าสักวันเราจะกลับมาคุยกันได้เหมือนเดิม และจีซองคงจะช่วยผมไถ่บาปโดยทำให้ท่านมีความสุขในทุกๆวัน

"โอ้โห!! ถ้าไอ่ลูกหมูของคุณพ่อนี่ตัวเล็ก บนโลกนี้ก็ไม่มีเด็กคนไหนอ้วนหรอกครับ" พี่จุมยอนพูดแหย่จีซองเข้าให้

"เดี๋ยวเถอะ ตาจุนมยอนนี่ พูดกับหลานไม่เพราะเลย ไอ่เอ้ยอะไรกัน" คุณแม่ว่าและตีแขนพี่จุนมยอนเบาๆเพื่อเป็นการเตือน

"คุงลุงพูดไม่เพราะ หลานแค่ อวบ!! อวบ!! เองนะ ไม่ได้อ้วนสักหน่อย จิ๊!!" มาแล้วฮะสัพนามที่ใช้แทนตัวเวลาโกรธหรือจะอ้อน

เอาอะไร ถ้าเป็นผมก็จะแทนตัวเองว่า 'ลูก' ไม่มีใครสอนหรอกฮะแกเป็นของแกเอง หันมาพูดค้อนใส่พี่จุมยอนเสร็จก็กอดอกสะบัดหน้าหนีไปเลยแสดงให้เห็นว่าตัวเองงอลแล้ว

"อ้วน!! จีซองอ้วน ไอ่หมูอ้วน" พี่จุนมยอนยังไม่เลิกแหย่ เดี๋ยวคอยดูเถอะว่าใครจะชนะ

"ป่าวนะ!! หลานแค่ อวบ อวบ" คราวนี้ลงจากตักคุณตาไปยืนเท้าเอวที่ไม่ค่อยจะมีเถียงอยู่ตรงหน้าคุณลุงด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวด

"อ้วน!!!"

"อวบ!!! อวบ!!!"

"หมูอ้วน"

"หลานก็แค่ อวบ อวบ แง๊ง....แง่ๆ....แง....ฮึก..." งานเข้าแล้วไง เรื่องนี้เป็นวาระระดับชาติของคุณลุงคุณหลานเค้าตั้งแต่อยู่อเมริกา

แต่ก็ไม่ต้องไปห้ามหรือไปยุ่งกับเค้าสองคนหรอกฮะ เค้าจัดการกันเองได้ ถ้าใครเข้าไปยุ่งเป็นเรื่องแน่

"โอ๋ๆ ลุงขอโทษครับจีซองคนหล่อ ดีกันน้า..." คุณลุงคว้าตัวคุณหลานเข้าไปกอดปลอบ พลางชูนิ้วก้อยแกว่งไปมาเพื่อขอคืนดี

แต่คุณหลานกับส่ายหน้าปฏิเสธ

"ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวลุงซื้อเค้กให้ ดีกันนะครับจีซองคนหล่อ" คราวนี้เอาของโปรดเข้าแลก คุณหลานถึงกับหยุดซะอื้นทันที แถมยังชูสองนิ้วขึ้นมาด้วย ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่รู้หรอกว่าความหมายคืออะไร แต่คุณลุงคุณหลานเค้ารู้กัน

"ก็ได้ๆ ลุงแถมไอติมให้ด้วย คราวนี้ดีกันน้า..." คุณลุงเพิ่มข้อเสนอให้และชูนิ้วก้อยเพื่อขอคืนดีกันอีกครั้งแต่คุณหลานกับส่ายหน้า

และพยักหน้าในเวลาเดียวกัน

"เค้กก็แล้ว แถมไอติมให้ด้วยยังจะเอาอะไรอีกครับคุณหลานสุดที่รัก" คุณลุงถามด้วยความไม่เข้าใจเมื่อหลานทั้งตกลงและปฏิเสธ

"ซื้อหม่าม๊า" คุณหลานบอกความต้องการ

"ห๊!!" แต่คุณลุงก็ยังคงไม่เข้าใจ

"ซื้อเค้ก กะ ไอติม ของหม่าม๊า หม่าม๊าทำอร่อยที่สู้ดดด..." ทีนี้เจ้าตัวบอกอย่างชัดเจนด้วยสีหน้าเจ้าเลห์

"ฮ่าๆ ฮึๆ ฮ่า" คำตอบของคุณหลานทำให้คนที่นั่งดูคุณลุงคุณหลานเค้างอลง้อกันถึงกับระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกัน เพราะความ

น่ารัก เจ้าเลห์ และรู้มากของคุณหลาน อย่างง่ายดาย ช่างเป็นภาพที่น่ารักจริงๆ

"มาหาตามาจีซอง ได้กำไรสองต่อเลยนะตัวแสบ ตัวแค่นี้รู้จักช่วยแม่แล้วหรอฮึ" ประธานโอเรียกจีซองเข้าไปหาและอุ้มจีซอง

นั่งตักตัวเองอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะขยี้หัวกลมของหลานด้วยความเอ็นดู

"ไม่ต้องทำตามที่จีซองบอกหรอกฮะพี่ แค่ลูกอยากกินผมทำได้จะซื้อกันทำไม" เซฮุนค้านขึ้น

"ไม่ได้น้า..หม่าม๊า คุงลุงบอกว่าลูกผู้ชายต้องห้ามผิดสัญญา" จีซองแย้งขึ้นและยกมือป้อมชูนิ้วก้อยหมุนไปหมุนมาด้วยหน้าทะเล้น

"โอเคๆ ลุงจ่ายเองพอใจยังครับคุณหลาน" จุนมยอนพูดอย่างปลงตกเพราะเสียรู้หลาน พลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นเป็นการยอมแพ้

"แสบจริงๆหลานตา" ประธานโอพูดบอกก่อนที่จะฟัดแก้มฟูฟูนั่น

"ก็เหมือนคุงตาไงฮับ" พูดตอบและยิ้มจนตาหยี

"ฮ่าๆ!!!!!!!!!" คำตอบของลูกชายหม่าม๊าเซฮุนทำให้ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นอีกครั้ง เพราะมีจีซองทำให้บ้านใหญ่ที่เงียบเหงา

ได้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง มีทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ทำให้ทุกๆคนในบ้านมีความสุขไปด้วย ทิฐิที่สูงลิบของประธานโอที่มีต่อ

เซฮุนกำลังทลายลงทีละนิดๆ เมื่อถึงวันที่ทิฐินั้นหมดไป บ้านก็คงจะเป็นบ้านที่น่าอยู่มากกว่านี้ ครอบครัวก็คงจะอบอุ่นและมี

ความสุขมากกว่านี้ หวังว่าวันนั้นคงจะมาถึงในเวลาอันใกล้นี้

 
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน(KAI&HUN)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 28-05-2015 15:12:54
  it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 7

 

 

 



Indy Cafe'


      กรุ๊งกริ๊ง  กรุ๊งกริ๊ง     

"อิงลี่ คาเฟ่ ยิงดีต้องรับฮับพี่สาว" จริงๆเลยลูกชายผมพูดไม่ชัดแล้วยังขยันที่จะพูดอีก ปมไปปรึกษากับคุณหมอมาแล้วแหละเรื่องนี้

เค้าบอกว่าอาจจะเป็นเพราะว่าตอนอยู่ที่อเมริกาแกพูดและได้ยินภาษาอังกฤษมากกว่าเกาหลีเลยทำให้แกยังออกเสียงไม่ค่อยถูกต้อง

อยู่ไปสักพักเดี๋ยวแกก็ปรับตัวได้และพูดชัดขึ้นเองไม่ต้องเป็นห่วงไม่มีปัญหาอะไร ผมก็พอจะเบาใจได้หน่อยที่ลูกไม่ได้เป็นอะไร

"จีซองครับ หม่าม๊าว่าเราไปทำการบ้านตรงโน้นกันดีกว่าไหมลูก ตรงนี้ให้พี่แบคกับะี่โด้เค้าดูแลเอง มาไปกับหม่าม๊าดีกว่าเร็ว"

ตอนนี้ก็ผ่านมาสามเดือนกว่าๆแล้วฮะที่เรากลับมาอยู่เกาหลีทุกอย่างก็เข้าที่เข้าทางมากขึ้น ตอนนี้ลูกหมูของผมก็ไปโรงเรียนแล้ว

เป็นนักเรียนอนุบาลหนึ่งโรงเรียนเอกชนหมีน้อย ค่าเทอมแสนแพง ที่คุณตาเค้าอยากให้เข้าเรียนที่นี่และขอดูแลค่าใช้จ่ายเรื่องเรียน

ของจีซองจนกว่าเจ้าตัวจะจบปริญญากันเลยทีเดียว ถึงจะเกรงใจแต่ผมก็ห้ามไม่ได้หรอกฮะเดี๋ยวจะมีเรื่องขัดใจกันขึ้นมาอีกเพราะ

ตอนนี้คุณพ่อท่านหลงหลานมาก และเรื่องราวต่างๆของจีซองก็ทำให้ผมและคุณพ่อได้คุยกันมากขึ้น ส่วนเรื่องที่ผมตั้งใจจะมาเปิด

คาเฟ่เล็กๆอยู่แล้ว พอคุณแม่รู้เรื่องเข้าก็อาสาจัดการเรื่องทำเลที่ตั้งและจัดการสร้างร้านนี้ขึ้นมา แต่ท่านก็ให้ผมออกแบบเองส่วน

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคุณแม่ก็เป็นคนจัดการ พอผมแย้งท่านก็บอกว่าเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสที่ผมเรียนจบปริญญากลับมาและ

พี่จุนมยอนก็ได้รถหรูเกือบร้อยล้านเหมือนกัน แถมคุณพ่อยังถอยรถมาให้ใหม่คันนึงบอกว่าซื้อรับขวัญหลานแต่กลับเป็นชื่อผม

ส่วนผมเป็นแค่คนขับรถให้ลูกเท่านั้น ทำให้ผมกับพี่และคุณแม่ต้องหลุดขำออกมาเพราะความปากแข็งของคุณพ่อ ต้องยอมรับว่า

คุณแม่เก่งมากที่สามารถหาทำเลที่ตั้งร้านผมได้ดีขนาดนี้ เพราะร้านของผมตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของย่านธุรกิจ แหล่งช็อปปิ้ง และอยู่

ใกล้โรงเรียนมัธยมอีกต่างหากทำให้ร้านของเรามีลูกค้าทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว Indy Cafe' เป็นร้านที่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ มีเค้กที่ทำขึ้นสดใหม่วันต่อวันและยังมีไอศครีมโฮมเมตที่ทำมาจาเนื้อผลไม้แท้ๆและนมโคสดๆ ไขมันต่ำ คนรักสุขภาพต้องลอง ทังสองอย่านี้ผมเป็นคนทำเองทั้งหมดที่สำคัญราคาถูกและเป็นกันเองแบบสุดๆ และมีพนักงานประจำที่น่ารักๆสามคนฮะคนนึงคือเชฟประจำร้านของเรามีหน้าที่ทำอาหารจานหลักทั้งหมด ส่วนอีกสองคนก็คือ

แบคฮยอนและดีโอ สองคนนี้เป็นบาริสต้าครับ ทั้งสุภาพ เรียบร้อย อัธยาศัยดีเป็นกันเองสุดๆ ขยันขันแข็งไม่เคยบ่นไม่เคยอู้เลยแม้ว่าบางทีแทบจะไม่ได้หยุดพักกันเลยก็ตาม เพราะช่วงเที่ยงพักกลางวันก็จะมีพวกพนักงานออฟฟิตแถวนี้เข้ามาที่ร้านกันเยอะเลย ส่วนช่วงบ่ายๆเย็นๆก็จะเป็นพวกคู่รัก วัยรุ่น หรือเด็กนักเรียนโรงเรียนมัธยมแถวๆนี้ ก็จะเข้าก้นมาพร้อมกันจนบางที่เราสามคนก็ทำไม่ทันแต่พวกเค้าก็ใจเย็นกันพอที่จะรอกัน ถือว่าเป็นอะไรที่ดีมากเลยฮะในการที่พึ่งเปิดร้านแล้วมีคนสนใจมากขนาดนี้

"เดี๋ยวก่อนค่ะ!! น้องน่ารักจัง พวกเราขอให้น้องมานั่งเล่นกับพวกเราก่อนได้ไหมคะ" ยังไม่ทันที่ผมจะพาจีซองเดินออกไปเลย

หนึ่งในกลุ่มน้องมัธยมปลายที่เข้ามาใหม่ก็พูดขึ้น

"จะดีหรอฮะ ลูกชายพี่ซนมากเลยนะ พี่กลัวน้องจะลำคานเอา"ผมไม่ได้หวงลูกจนไม่ให้ใครเข้าใกล้และไม่ให้เล่นกับใครหรอกนะ

แต่ที่พูดไปก็เพราะอยากจะเตือนน้องเค้าจริงๆก็จีซองน่ะซนแบบธรรมดาๆซะที่ไหน ป่วนสุดๆ

"ไม่รำคานหรอกคะ น้องน่ารัก เราแอบดูน้องเล่นกับคนอื่นหลายครั้งแล้ว ไม่มีโอกาสจะได้เล่นกับน้องซักที"

"ก็ได้ฮะ แต่ถ้าจีซองซนก็บอกพี่ได้เลยนะ"

"ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวเราไปนั่งใกล้ๆกับเคาเตอร์เลย ออนนี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงน้องด้วย"

"เอ๋!! น้องคงจะเข้าใจะอะไรผิดไป พี่เป็นผู้ชายนะฮะไม่ใช่ผู้หญิง" เหอะๆสงสัยน้องเค้าคงจะสับสนแหละฮะถึงได้เรียกผมว่าพี่สาว

"เรารู้ค่ะว่าพี่เป็นผู้ชาย แต่ก็พี่มีลูกนี่คะแถมยังสวยกว่าผู้หญิงอย่างเราอีก นะคะเราขอเรียกพี่ว่าออนนี่ได้ไหมคะ" ผมว่ามันจะไม่

แปลกเกินไปหรอฮะถึงผมจะมีลูกแต่ผมก็ยังเป็นผู้ชายอยู่นะ

"นร้าคร้าๆ นะ พวกเราอยากเรียกพี่ว่าออนนี่จริงๆ" อย่าอย่าทำหน้าอย่างนั้นกันสิ

"แล้วแต่พวกน้องเลย จะเรียกพี่ว่าอะไรก็ตามใจแล้วกันฮะ" โธ่!จนได้สิผม เฮ้อ!ท่องไว้ๆลูกค้าคือพระเจ้า

"เย้ๆ ว่าแต่พี่ชื่ออะไรคะ พวกหนูจะได้เรียกกันถูก" ดีใจกันขนาดนั้นเชียวแต่น้องรู้ไหมว่าพี่เสียใจมากเลยที่หลุดปากรับคำน้อง

ออกไป ฮือๆอยากจะร้องไห้แล้วลงไปดิ้นๆกับพื้นเหมือนจีซองจัง ไม่น่าเลยผม คนอื่นจะมองผมแปลกไหมเนี่ย

"พี่ชื่อเซฮุนนะ"

"ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอเรียกว่าเซฮุนออนนี่ได้ไหมคะ!!!" ถ้าน้องพร้อมใจกันเรียกขนาดนี้ล๊ะก็อย่าขอพี่เลย

"แล้วแต่เลย เชิญตามสบายเลยนะฮะพี่ขอตัวไปทำงานก่อ จีซองครับอย่าซนนะดูแลพวกพี่สาวด้วย"

"ฮับป๋ม จีซองสุดหล่อจะดูแลพวกพี่สาวเอ๊งงง...." โถ่...เจ้าลูกหมูไม่ค่อยจะหลงตัวเองเลย ยังมีหน้ามาทำท่าตะเบ๊ะเหมือนตำรวจอีก

"อ๊าย!! น้องจีซองน่ารักจังเลย ถ่ายรูปกับพวกพี่สาวได้ไหมครับ" หนึ่งในกลุ่มเด็กมัธยมเมื่อกี้พูดขึ้นมา

"ได้ฮับ!! ถ่ายให้จีซองหล่อๆเลยน๊าาา...พี่สาว จีซองชอบถ่ายรูป" ผมล๊ะขำจริงๆ ทำไมผมเหมือนเห็นสายตาเจ้าชู้ของลูกหมูเลยนะ

แต่ผมก็ไม่ได้หวงไม่ได้ห้ามหรอกฮะเพราะนี่ไม่ใช่คนแรกที่ถ่ายรูปจีซอง ตั้งแต่เปิดร้านมาคนไหนที่ได้คุยได้เล่นกับจีซองก็จะขอ

ถ่ายรูปด้วยทุกคน จนจีซองจะกลายเป็นมาสคอต เป็นโลโก้ประจำร้านไปแล้ว แต่ผมก็ดีใจนะที่ลูกเข้ากับคนง่ายและมีแต่คนเอ็นดู

แบบนี้ แกจะได้ไม่รู้สึกเหมือนขาดอะไรไป

 

 


HK Entertainment     

     ตารางงานทั้งหมดของผมวันนี้ได้หมดลงแล้วครับ แต่ผมก็ยังไม่สามารถกลับไปพักผ่อนได้หรอกครับเพราะผมยังต้องเข้าบริษัทเพื่อที่จะมาซ้อมท่าเต้นของเพลงใหม่ที่กำลังเตรียมตัวจะคัมแบคในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

     ++ ปึก!!! ++

"งื้อ..อ...." ผมกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยในขณะที่จะเดินไปห้องซ้อมก็มีเด็กที่ไหนก็ไม่รู้วิ่งมาชนผม แต่เจ้าตัวกลับหงายหลังล้ม

ไปเองซะงั้น

"โอ๊ะ! ตัวเล็กเจ็บไหมครับ อาขอโทษนะ ไหนขออาดูหน่อยสิ ว่าเราเจ็บตรงไหนรึป่าว" แปลกแฮะ ปกติเป็นเด็กทั่วๆไปนิ ถ้าล้ม

ก้นจ้ำเบ้าแรงขนาดนี้ คงร้องไห้จ้าไปแล้ว แต่เจ้าหนูนี่ก็ไม่ร้อง กลับนั่งนิ่งจ้องหน้าผมแทนซะงั้น นิ่งซะจนผมอดห่วงไม่ได้

จนผมผมต้องจับยืนขึ้นดูตามเนื้อตามตัวว่ามีรอยฝกช้ำตรงไหนรึป่าว

"ไม่เจ็บฮับ จีซองแข็งแรง!!" โธ่..กว่าจะตอบได้นะเจ้าตัวเล็ก ทำเอาอาใจหายหมดนึกว่าเดินชนลูกเค้าจนหัวฟาดพื้นไปซะแล้ว

แถมยังมีหน้ามาทำท่าแบ่งกล้ามให้ผมดูอีก

"ฮ่าๆ เก่งจังเลยนะตัวแค่นี้ ว่าแต่เรามากับใครครับ ที่นี่เค้าไม่ให้เด็กเข้ามาวิ่งเล่นหรอกนะ เดี๋ยวก็โดนดุเอาหรอก"

"ไม่โดนดุหรอกฮับ คุงตาบอกว่าที่นี่เป็งของคุงตาก็คือของจีซอง จีซองวิ่งได้" เจ้าตัวเค้าบอกด้วยความภูมิใจว่าแต่หลานใครเนี่ย

"หรอครับ แล้วตกลงมากับใคร เรายังไม่ได้บอกกับอาเลยนะ"

"มากับหม่าม๊าฮับ!! หม่าม๊าเอาเค้กมาให้คุงตา เค้าร้างหม่าม๊าอร่อยที่สุดในโลกเล๊ยยยย..." ฮึๆ เจ้าหนูนี่แค่ตอบไม่พอ ยังจะโฆษณา

ขนมที่หม่าม๊าตัวเองทำ ไม่วายที่จะทำท่าทางอยากจะกินซะเองเมื่อพูดถึงเค้กของหม่าม๊าตัวเอง ยิ้มกว้างซะน่ารักจนผมอดไม่ได้ที่

จะยิ้มตามไปด้วย

"หม่าม๊าเราไปไหนซะหล่ะ ทำไมถึงปล่อยให้เราอยู่คนเดียว แล้วที่เราวิ่งมาชนอาเนี่ยกำลังจะไปไหนฮะตัวเล็ก" ผมอุ้มเจ้าตัวเล็ก

ขึ้นมาถาม อื้อหือ!! เห็นตัวเล็กๆหนักไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย

"หม่าม๊าคุยกะคุงตา แต่จีซองอยากไปหาคุงลุงเลยขอหม่าม๊าแล้วไงฮับ ว่าแต่คุงอาเป็นใครฮับ เป็นคนแปลกหน้ารึป่าวฮับ  หม่าม๊า

ไม่ให้จีซองคุยกับคนแปลกหน้าน้าาาา......" ฮ่าๆ โอ้ย!! ผมไม่รู้ว่าจะตอบคำถามยังไงดี เจ้าหนูนี่ตลกจัง แต่ไอ่การที่ทำหน้าเหมือน

หมาสงสัยนี่น่ารักชะมัด คุยกันมาตั้งนาน แล้วยังจะมีหน้ามาถามอีกว่าผมเป็นคนแปลกหน้ารึป่าว

"อาชื่อไค ไม่ใช่คนแปลกหน้าหรอกครับอาเป็นนักร้องอยู่ที่นี่ แล้วเราหล่ะชื่อจีซองใช่ไหม" ผมทั้งตอบคำถามและถามกลับไปบ้าง

เจ้าหนูนี่ก็พยักหน้าหงึกหงัก

"อาไม่ใช่คนแปลกหน้าจริงๆหรอฮับ ถ้างั้นเราก็คุยกันได้อ่ะจิ" พอผมพยักหน้ายืนยัน เจ้าหนูนี่ก็ยิ้มหน้าบาน ทำท่าดีใจสุดๆ

เด็กหนอเด็ก ทำไมถึงไว้ใจคนง่ายขนาดนี้

"แล้วนี่จีซองจะไปหาคุณลุงใช่ไหม ลุงเราชื่ออะไรหล่ะ เดี๋ยวอาจะพาไปส่ง"

"คุงลุงชื่อ คุงลุงจุนมยอนฮับ" หรือหลานรองประธานหรอเนี่ย ถ้าอย่างนั้นก็เป็นหลานประธานด้วยอ่ะดิ ถึงว่าเข้ามาวิ่งเล่นได้ขนาดนี้โดยที่ไม่มีใครสนใจจะบ่นจะว่าที่แท้ก็เป็นว่าที่เจ้าของคนต่อไปนี่เอง เอ..ว่าแต่ท่านประธานไม่ได้มีลูกแค่ท่านประธานคนเดียวหรอเนี่ยแต่ทำไมเจ้าหนูนี่ถึงไม่มีเคร้าโครงเหมือนทางบ้านท่านประธานเลยแฮะ

"หนูเป็นหลานประธานโอกับท่านรองหรอ"

"ป่าวนะ!! จีซองเป็นหลานคุงตา คุงยาย คุงลุง แล้วก็เป็นลูกชายหม่าม๊าด้วย" หือ...นี่ผมงงหรืองงเนี่ย ขนาดผมอุ้มอยู่ยังกอดอก

ขมวดคิ้วใส่ผมซะได้ ซ้ำยังตอบคำถามของผมซะหลุดโลกไปเลย

"แล้วคุณลุงของเราชื่อคิมจุนมยอนส่วนคุณตาชื่อโอซึลกีใช่ไหม" ผมถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

"ใช่ฮับ" เจ้าหนูพยักหน้าตอบ

"ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ผิดแล้ว หลานท่านประธานกับท่านรองนี่แหละ" ผมพึมพำกับตัวเอง

"ไม่ใช่ซะหน่อย!! จีซองเป็งหลางคุงลุงกะไม่ใช่หลานท่านรองซะหน่อยน๊ะ" ฮ่าๆผมไม่รู้จะพูดยังไงแล้วหล่ะ เจ้าหนูนี่ซื่อจริงๆ

ฮาสุดๆ เหมือนเราคุยกันคนละเรื่องเดียวกันเลย

"โอเคๆหลานคุณลุงก็หลานคุณลุง อาขอโทษที่พูดผิดไป ถ้าอย่างนั้นอาพาเราไปส่งคุณลุงดีกว่าไปไหม..ป่านนี้คงรอเราแย่แล้ว"

"ไปฮับ!! " ทีอย่างนี้หล่ะยิ้มได้ขึ้นมาเชียว เมื่อตะกี้ยังทำหน้ายู่ใส่ผมอยู่เลย

"จะว่าไป จีซองหล่อนะเนี่ย ถ้าโตขึ้นสาวๆติดตรึมแน่ๆ" ดูไปดูมาเเจ้าหนูนี่หล่อแฮะ หน้าตาดีตั้งแต่เด็กเลยนะไอ่ตัวเล็ก

"ใช่ๆ พวกพี่สาวที่มากิงเค้กที่ร้านหม่าม๊าก็บอกว่าจีซองหล่อ ขอถ่ายรูปแล้วก็หอมแก้มจีซองทุกวันเลยด้วย" เจ้าหนูพูดอวดตัวเอง

ด้วยความภาคภูมิใจแบบสุดๆ ยิ้มซะแก้มกลมๆนั่นแทบแตก

"จริงดิ ฮอตแต่เด็กเลยน่ะเนี่ยเรา หล่อเหมือนพ่อหรือเหมือนแม่ฮะเรา"

"หม่าม๊าบอกว่าจีซองเหมือนป๊ะป๋าเป๊ะเลย แต่จีซองยังไม่เคยเห็นหน้าป๊ะป๋าเลยฮับ" อ่าวชวนคุยเรื่องผิดซะแล้วผม เจ้าตัวเล็กก็ดู

เศร้าลงจน จนผมรู้สึกไม่ดีเลยครับมันวูบๆโหวงๆในอกแปลกๆ

"ไม่เป็นไรนะจีซอง อาขอโทษ อาไม่น่าพูดเรื่องนี้กับเราเลย" ผมพูดปลอบ จับหัวเล็กๆนั่นซบไปกับไหล่ตัวและกระชับอ้อมกอด

ให้แน่นขึ้นอีกนิด เผื่อมันจะทำให้จีซองรู้สึกดีขึ้นไม่มากก็น้อย

"ฮึก!!....จีซองอยากหาป๊ะป๋า....ฮือๆ...." ทั้งที่พึ่งรู้จักกันวันนี้แท้ๆแต่ทำไม ใบหน้าเปื้อนน้ำตาและเสียงสะอึกสะอื้นจนตัวโยน

ของจีซองถึงทำให้ผมรู้สึกหน่วงในใจจนแทบหายใจไม่ออก

"จีซอง!!!!"

"แง๊....คุงลุง...ฮือ...." จะถึงห้องของรองประธานอยู่แล้วแต่บังเอิญท่านเดินออกมาซะก่อน คงเป็นเพราะเห็นจีซองร้องไห้ เลยทำ

ให้ตะโกนเสียงดังหน้าตาตื่นหลุดมาดที่เคยขรึมแบบนั้น เพราะตั้งแต่ที่ท่านมารับตำแหน่งรองประธานก็มีแต่คนเกรงเพราะพวก

พนักงานที่ทำอยู่ในออฟฟิตเคยมาเล่าให้ผมฟังว่าท่านทำงานเนี๊ยบมาก ทั้งนิ่ง ทั้งดุ จนพนักงานกลัวกันไปเป็นแถบ แต่ผมก็ไม่รู้

หรอกว่าจริงรึป่าวผมก็พึ่งจะเคยเจอตัวจริงของท่านวันนี้แหละ เพราะช่วงที่ท่านเข้ามารับตำแหน่ง ผมก็มีคิวงานที่ต่างประเทศ

ส่วนจีซองพอเห็นว่าเป็นคุณลุงของตัวเองก็ผละออกจากผมและโผลเข้าอ้อมแขนของท่านรองเลยทันที

"หลานผมเป็นอะไร ถึงร้องไห้ขนาดนี้ คุณพอจะบอกผมได้รึป่าวไค" ท่านรองถามผมด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งจนน่าขนลุก ส่วนมือ

ก็ลูบหลังปลอบจีซองไปด้วย

"ผมขอโทษครับท่าน เป็นความผิดของผมเองที่พูดถามถึงพ่อของแก ผมขอโทดจริงๆครับ ผมไม่รู้ว่าแกจะ..."

"ไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกที่คุณพูดไปก็เพราะคุณไม่รู้ ว่าแต่ทำไมหลานของผมถึงมาอยู่กับคุณได้" ยังไม่ทัน

ที่ผมจะได้พูดจบท่านรองก็พูดขัดขึ้นมา คงเป็นเพราะไม่อยากให้จีซองได้ยินอะไรที่ทำให้รู้สึกแย่ขึ้นมาอีก

"พอดีเราเดินชนกันนะครับ ผมเลยจะพาแกมาส่งที่ห้องของท่านนะครับ"

"ยังไงผมก็ต้องขอบคุณ คุณมากนะไค"

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมนี่สิต้องขอโทษท่านที่ทำให้จีซองต้องร้องไห้ และอีกอย่างผมรู้สึกถูกชะตากับแกนะครับ" จะว่าไปผม

ก็รู้สึกแย่จริงๆเลยครับที่ทำให้ แววตาไร้เดียงสาของจีซองต้องมีน้ำตา น่าสงสารจริงๆเลยครับตอนนี้แกก็ยังไม่หยุดสะอื้นเลย

คนเป็นพ่อเป็นแม่เค้ามีปัญหาอะไรกันนะถึงได้สร้างรอยร้าวให้หัวใจที่บริสุทธิ์ของเด็กน้องที่แสนเปราะบางเหมือนตุ๊กตา

กระเบื้องเคลือบแบบนี้ ไม่ไหวเลยจริงๆ

"ช่างมันเถอะ ยังไงซะไอ้การที่จีซองไม่มีพ่อนั่นก็คือเรื่องจริง เค้ายังต้องต่อสู้กับความจริงที่เจ็บปวดอย่างนี้ไปอีกนาน นี่มันก็แค่

เริ่มต้นเท่านั้น" ท่านรองพูดด้วยหน้าเศร้าเมื่อมองมาที่หน้าของจีซองที่เต็มไปด้วยน้ำตา แต่คนเป็นพ่อนี่ก็แย่นะครับ ถึงจะมีปัญหา

กับคนเป็นแม่แต่มันก็คือเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่ควรเลยที่จะทิ้งให้ลูกต้องเจ็บปวดกับเรื่องแบบนี้

"ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปซ้อมก่อนนะครับ จีซองอาไคไปก่อนนะ" ผมขอตัวจากท่านรองและบอกลาจีซอง

"คุงอา...ฮือ...ฮึก...ฮือ...อย่าไปน้าาา...อยู่กับจีซอง...ฮือออออ...." แต่แล้วจีซองก็สร้างความประหลาดใจให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคน ด้วย

การงองแงไม่ให้จงอินไป จีซองผละออกจากอกของจุนมยอนและโผเข้าหาจงอินที่ยืนอยู่ตรงข้ามกันจนแทบจะรับไม่ทัน

"จีซองมาหาลุงมา อาไคต้องไปทำงานแล้วนะ" จุนมยอนพยายามพูดกล่อมและดึงตัวหลานออกจากอ้อมแขนของไค

"ไม่!! จีซองจะอยู่กับอาไค...ฮึกๆ.... อาไคกอดอุ่น จีซองอยากกอด...ฮือ...." แต่ผลคือจีซองกลับกอดรัดจงอินแน่นเข้าไปอีก และ

นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้จุนมยอนแคลงใจเป็นอย่างมาก เพราะถึงแม้ว่าจีซองจะเป็นเด็กที่เข้ากับคนง่าย แต่ก็เป็นเด็กที่ฉลาดพอที่จะ

ไม่สนิทและไว้ใจใครนอกจากคนในบ้าน แต่นี่กลับเรียกร้องหาไคและจะอยู่กับไค ทั้งๆที่พึ่งจะรู้จักกัน ทำเหมือนกับว่าสนิทและ

ผูกพันกันมานานซะอย่างนั้น แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อจีซองพึ่งจะเคยเจอไคเป็นครั้งแรกแน่นอนเค้ามั่นใจ นี่มันคืออะไรกัน

หลานเค้าเป็นอะไรไปเนี่ย

"อย่าดื้อน่าจีซอง มาหาลุงมาเดี๋ยวเราไปกินเค้กกับหม่าม๊ากันดีกว่าเน๊าะ อาไคเค้าต้องไปทำงานแล้วนะ" จุนมยอนพยายามเกลี้ย

กล่อมอีกครั้งด้วยการเอาของกินสุดโปรดเข้าล่อ แต่เจ้าหนูจีซองกลับก้มหน้าก้มตาส่ายหน้าทั้งน้ำตาซุกไหล่ไคอยู่อย่างนั้น

"จีซองไปกลับคุณลุงก่อนะครับ เดี๋ยวอาไคทำงานเสร็จแล้วจะมาหานะ" ไคพยายามช่วยพูดอีกคน รำพังเค้านะไม่รีบอะไรหรอก

จะให้เอาจีซองไปเล่นด้วยที่ห้องซ้อมก็ยังได้ แต่คนเป็นลุงคงไม่ยอมแน่ๆ

"ไม่เอา!! อาไคโกหก ฮึกๆ เดี๋ยวอาไคก็หนีจีซอง" ก้มหน้าปฎิเสธลูกเดียว

"ไม่หนีหรอกครับ อาสัญญา ถ้าอาทำงานเสร็จแล้วอาจะมาหาจีซองที่ห้องของคุณลุง แต่ถ้าจีซองรอไม่ไหวก็ไปหาอาไคที่

ห้องเลยดีมั้ย" ไคค่อยๆพูดกล่อมอย่างใจเย็นเพราะเหมือนกับตอนนี้เจ้าตัวเล็กจะค่อยๆคล้อยตามเค้า เพราะหยุดร้องไห้ไปแล้ว

เหลือแค่สะอื้นเป็นพักๆเท่านั้น แต่ก็ยังคงซุกหน้าอยู่กับไหล่ของไค

"อาไค จะไม่หรอกจีซองใช่มั้ยฮับ" จีซองเงยหน้าขึ้นมาถามไคด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา

"อาไม่หลอกจีซองหรอกครับ"

"อาไคจะไม่ทิ้งจีซองไปเหมือนกับป๊ะป๋าใช่มั้ยฮับ" จีซองถามด้วยสีหน้าอ้อนวอน อย่างมีความหวัง ตากลมๆเริ่มรื้นไปด้วยน้ำตา

"อาจะไม่ทิ้งจีซอง อาสัญญา" ไคสบตาจีซองและชูนิ้วก้อยขึ้นตรงหน้าระหว่างเค้ากับจีซองเพื่อทำการสัญญา เค้าก็ไม่รู้เหมือนกัน

ว่าตัวเองเป็นอะไรไปทำไมถึงรู้สึกผูกผันกับจีซองอย่างนี้ ทั้งที่เพิ่งจะเจอเพิ่งจะรู้จักกันวันนี้แท้ๆ แต่พอเห็นจีซองร้องไห้เหมือน

จะขาดใจอย่างนั้น มันยิ่งทำให้เค้าปวดหนึบที่อกข้างซ้ายจนแทบหายใจไม่ออก ทั้งๆที่เค้าไม่ใช่คนใจอ่อนนไม่ใช่คนที่รักเด็ก

เสียจนทนเห็นเด็กเสียใจร้องไห้งองแงไม่ได้ แต่พอเป็นจีซองทุกๆอย่างมันเหมือนกับข้อยกเว้น 

"จีซอง!! เป็นอะไรไปลูกร้องไห้ทำไมครับ" เสียงของคนมาใหม่ทำให้ไคถึงกลับตัวชา ความรู้สึกตอนนี้มันบอกไม่ถูก ทั้งตื่นเต้น

ทั้งดีใจ จนไมกล้าหันกลับไปมอง แต่น้ำเสียงแบบนี้ มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่มันฝังอยู่ในสมองและหัวใจของเค้า

"หม่าม๊า!!"

"เซฮุน....."

 
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน(KAI&HUN)
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 30-05-2015 04:56:00
เจอกันแล้ว แอร้ยยยยยยย ต่อจากนี้ละ มาม่ามาแน่ๆ
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน(KAI&HUN)
เริ่มหัวข้อโดย: TrebleBass ที่ 30-05-2015 21:47:41
 :hao7: เจอกันแล้วววววว  ทำใงละทีนี้ 

สารภาพ เข้ามาอย่างไว เพราะเห็นชื่อ ไค เซฮุน   5555
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน(KAI&HUN)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 31-05-2015 19:05:59
  it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 8




"หม่าม๊า!!!..." จีซองเรียกเสียงดังเมื่อเห็นว่าเป็นแม่ตัวเอง

"เซฮุน" จงอินพึมพำด้วยเสียงแผ่วเบาเหมือนคนละเมอ

"จีซอง! ร้องไห้ทำไมลูก มาหาหม่าม๊ามา" เพราะความเป็นห่วงลูกชายที่มีร่องรอยของการร้องไห้ใบหน้าที่เปอะเปื้อนด้วยน้ำตา

ทำให้เซฮุนไม่ทันได้สนใจมองว่าคนที่อุ้มลูกน้อยของตนหันหลังอยู่นั้นคือคนที่เค้าไม่อยากจะพบเจอ และพยายามจะเลี่ยงให้

จีซองนั้นอยู่ให้ห่างมากที่สุด

"จะหาหม่าม๊า" เมื่อเห็นว่าแม่ของตนอยู่ตรงหน้าทำให้หนูน้อยไม่ทันได้คิดว่าสิ่งที่ทำนั้นจะอันตราย เลยเอนตัวทิ้งน้ำหนักตัว

ทั้งหมดไปข้างหน้าเพื่อที่จะไปหาเซฮุน แต่จงอินที่พึ่งจะตั้งตัวได้นั้นกอดรั้งจีซองไว้แน่น

"หม่าม๊า...อย่างนั้นหรอ??" จงอินหันกลับไปเผชิญหน้ากับเซฮุนและถามขึ้นด้วยความไม่แน่ใจ ว่าที่เค้าได้ยินนั้นคือความจริง

"จงอิน..." เซฮุนพูดด้วยเสียงเบาหวิวอย่างไม่เชื่อสายตาว่าคนตรงหน้านั้นคือคนที่เค้าพยามที่จะหลีกเลี่ยงมาตลอด

"ใช่!! เป็นฉันเองแหละเซฮุน จงอินคนที่นายทิ้งไปไง ไหนนายช่วยบอกฉันให้ชัดๆทีซิ ว่ามันไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดใช่มั้ย?"

จงอินถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

"ลูก จีซองเป็นลูกของฉัน นายมีปัญหาอะไรหรอจงอิน" เซฮุนทำใจสู้ตอบกลับ ทั้งที่ความจริงนั้นตอนนี้แทบจะทรงตัวไม่อยู่

"แต่จีซองเรียกนายว่าแม่!! แล้วคนอย่างนายคงจะไปทำใครท้องไม่ได้หรอกใช่มั้ย??"

"ก็ฉันเป็นแม่!!!!  แล้วมันผิดตรงไหนล๊ะจงอินที่ลูกจะเรียกฉันว่าหม่าม๊า??"

"มันจะไม่ผิดเลยเซฮุน!! ถ้านายไม่ได้ทิ้งฉันไปตั้งสามปีกว่า แล้วกลับมาพร้อมกับเด็กที่นายบอกว่าเป็นลูกของนายอย่างนี้!!!!"

เซฮุนถึงกลับหน้าถอดสีเมื่อได้ยินสิ่งที่จงอินพูด น่ากลัวจริงๆตอนนี้จงอินโกรธจัดจนหน้ากลัว

"แล้วเรื่องที่ฉันมีลูกมันเกี่ยวอะไรกับนายตรงไหน ระหว่างเราสองคนมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว มันจบลงไปตั้งนานแล้ว

เพราะฉะนั้นต่างคนต่างอยู่เถอะจงอิน ขอลูกฉันคืนด้วย" เซฮุนจ้องตาตอบจงอินเหมือนกับว่าเป็นเรื่องธรรมดาๆทั่วไป

และแสดงออกมาให้จงอินเห็นว่าตนไม่ได้รู้สึกอะไรเลยกลับเรื่องที่ผ่านมา

"ใครเป็นพ่อ"

"พูดอะไรของนาย??"

"ฉันถามว่าใครเป็นพ่อของจีซอง!!!! ตอบฉันมาเซฮุน บอกฉันสิ ฉันบอกให้พูดออกมา!!!!" ใบหน้าหล่อเหลาของจงอินตอนนี้

บิดเบี้ยวด้วยความโกรธจนแทบจะไม่เหลือเค้าโครงของนักร้องขวัญใจซุปเปอร์สตาร์คนดังที่ใครๆก็ต่างหลงไหล

"แง๊ง!!....หม่าม๊า...จีซองจะหาหม่าม๊า...ปล่อย...อาไคปล่อย...จีซองจะหาหม่าม๊า...ฮื่อๆ..." เพราะเสียงที่ไคใช้ถามเซฮุนดังจน

กลายเป็นการตวาดนั้น ทำให้จีซองตกใจและรู้สึกกลัวไค พยายามจะดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมแขนของไค เพื่อที่จะไปหาคนเป็นแม่แต่จงอินกลับไม่ยอมปล่อยตามที่จีซองร้องขอ หนำซ้ำยังกอดรัดแน่นกว่าเดิม

"มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน นายไม่เกี่ยว ช่วยส่งลูกฉันมาด้วย" เซฮุนยื่นมือออกไปเพื่อที่จะอุ้มจีซอง แต่จงอินกลับเบี่ยงหลบ

และใช้ตัวเองบังจีซองไว้

"จะเกี่ยวหรือไม่ฉันจะตัดสินใจเอง บอกฉันมา มัน!เป็น!ใคร! ห๊ะ! ไอ้คนนั้นมันเป็นใคร!!!" จงอินปล่อยมือข้างนึงออกจากการอุ้ม

จีซอง มาจับแขนเซฮุนไว้ มือหนาของจงอินบีบแขนเล็กแน่นจนขึ้นรอย

"ปล่อยฉันนะ!! มันไม่ใช่เรื่องอะไรของนาย" เซฮุนตอบด้วยสีหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ เพราะเหมือนกับว่ายิ่งพูดอะไรออกไป

จงอินยิ่งเพิ่มแรงบีบแขนตนแน่นกว่าเดิม เจ็บจนเหมือนกลับว่าแขนจะหักเลย

"แง๊ง!!!....แงๆ...ฮึก.....ฮือ..........หม่าม๊า...อย่าทำหม่ม๊า....อาไค...อย่าทำหม่าม๊าจีซองน้าาาาา......ปล่อย!!!....ปล่อยจีซองสิ!!!!"
เพราะเห็นจงอินบีบแขนเซฮุนแน่นและเขย่าจนเซฮุนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ บวกกับสีหน้าเจ็บปวดและหยดน้ำตาที่ไหลลงมาของ

คนเป็นแม่ทำให้จีซองกรีดร้อง ทั้งหยิก ทั้งกัดและทุบตีจงอินด้วยมือเล็กๆของตนเท่าที่แรงจะมี

"ไคปล่อย ไคปล่อยน้องกับหลานฉันก่อน" เพราะความอยากรู้และดูให้แน่ชัดในความสัมพันธ์ของจงอินและเซฮุน จึงทำให้

จุนมยอนยืนดูอยู่ห่างๆและพยายามที่จะประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดที่ตนได้รับรู้ ได้ยิน ได้เห็น และคิดว่ามีความเป็นไปได้สูง

ในสิ่งที่ตนสงสัยอยู่ตอนนี้ แต่เพราะจงอินเหมือนกับขาดสติจนควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว จึงเข้ามาห้ามและพยายามแยกจงอินจาก

เซฮุนกับจีซอง เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของทั้งสองคน

"แง๊...หม่าม๊า...คุงลุง...จีซองกลัว.....ฮือ.....ฮือ..." เพราะเซฮุนและจุนมยอนพยายามแกะมือของจงอินที่อุ้มจีซองและที่จับแขนของเซฮุนอยู่ออก ทำให้เกิดการยื้อแย่งกันไปมาจนจีซองแทบจะล่วงหล่นไปที่พื้นจึงร้องออกมาด้วยความกลัว แต่เพราะจงอินปล่อยมือข้างที่จับเซฮุนอยู่นั้นออกมารับและรวบตัวของจีซองไว้ได้ทัน ทำให้จีซองปลอดภัย

"โธ่เว้ย!!!!" จงอินปล่อยจีซองให้กับจุนมยอนที่ยื่นมือเข้ามารับ หันกลับตัวไปต่อยระบายอารมณ์กับพนังทางเดินของบริษัท

"เซฮุนพาจีซองไปรอพี่ที่ห้องก่อน เดี๋ยวพี่ตามไป ส่วนนายตามฉันไปที่ห้องซ้อมของนาย ฉันว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันแล้วหล่ะไค"

พูดจบก็เดินนำออกไป ทิ้งให้จงอินยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว

"ท่านรองมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมหรอครับ" เมื่อตั้งสติได้แล้วจงอินก็เดินตามจุนมยอนเข้ามาในห้องซ้อมส่วนตัวของตน

"นายรู้จักกับเซฮุนมาก่อนหรอไค" จุนมยอนถาขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติทำเหมือนว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น

"ครับ เราเป็นเด็กฝึกมาด้วยกัน"

"อย่างนั้นหรอ? แล้วนายกับน้องของฉันเป็นอะไรกันหล่ะจงอิน"

"ท่านต้องการจะถามอะไรผมกันแน่ครับ" จงอินถามด้วยความสงสัยเพราะเค้าไม่เข้าใจว่าจุนมยอนเรียกเค้ามาคุยเรื่องอะไรกันแน่

"ฉันแค่ถามนายว่า นายกับเซฮุนคบกันด้วยสถานะไหนกันแน่ไค แค่นี้เองทำไม นายไม่เข้าใจตรงไหนหรอ?" จุนมยอนที่ยืนหัน

หลังให้ถามย้ำ มองจงอินจากในกระจกที่มีติดอยู่รอบห้องซ้อม

"คนรักครับ ผมกับเซฮุนเป็นคนรักกัน" จงอินสบตาตอบกลับจุนมยอนที่ยืนจ้องมองจนในกระจกด้วยความชัดเจน

"แล้วถ้าฉัน จะขอให้นายเล่าเรื่องระหว่านายและเซฮุนตั้งแต่ต้น นายจะช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม" จุนมยอนกันตัวกลับมา

เผชิญหน้ากับจงอินถามด้วยเสียงเรียบนิ่งอย่างไม่รีบร้อน

"ได้ครับ ถ้าท่านอยากจะฟัง ตอนนั้นผมกับเซฮุนเราเป็นบัดดี้กันในการฝึก เราอยู่ในสถานะเพื่อนมาได้ปีกว่าๆ จนมาถึงช่วงเวลา

ที่ผมได้สูญเสียครอบครัวทั้งหมดที่มีไปกับอุบัติเหตุทางเครื่องบินจนไม่เหลือใครทำให้ผมคิด ที่จะเลิกฝึกเลิกฝัน แต่เพราะมีเซฮุนที่คอยอยู่ข้างๆคอยดูแล ห่วงใยและให้กำลังใจผมมาตลอด ทำให้ผมลุกขึ้นสู้ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์และช่วงเวลานั้น

ผ่านมาได้พัก อาจจะเป็นเพราะความรัก ความผูกพัน หรือจะเพราะอะไรหลายๆอย่างจนทำให้เราสองคนเลื่อนสถานะจากคู่หูจน

กลายมาเป็นคนรัก ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีและมีความสุขมากสำหรับผม จนเราเป็นคนรักกันมาได้สามปีกว่า ในวันที่ผมได้รู้

ว่ากำลังจะเดบิวต์ ถัดจากวันนั้นมาหนึ่งวันเราก็ไปเที่ยวฉลองกันแต่ใครจะรู้ล๊ะว่าจะเป็นวันที่ผมจะได้อยู่กับเซฮุนเป็นวันสุดท้าย

เพราะเช้าวันต่อมาก็มีจดหมายขอลาออกจากเซฮุนวางอยู่ที่โต๊ะของพี่จงแด ถามใครก็ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น ผมและพี่มินซอก

พยายามที่จะตามหาเซฮุนมาตลอดแต่ก็ไม่เคยเจอ จนมาถึงวันนี้ วันที่ผมได้เจอกับเซฮุนอีกครั้งที่นี่ พร้อมกับจีซองเด็กคนที่เซฮุน

บอกกับผมว่าเป็นลูกของตัวเอง" จงอินยืนตัวสั่นกำมือแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน เมื่อนึกย้อนไปถึงวันที่เค้าได้รู้แน่ชัดแล้วว่าเซฮุน

ได้หนีจากเค้าไปแล้วจริงๆ วันนั้นเค้าทั้งโกรธ ทั้งโมโห ทั้งเสียใจจนแทบบ้า อาราวาดขังตัวเองไว้คนเดียวในห้องนอนที่หอพัก

ไม่กิน ไม่นอน ไม่ยอมพบใคร และไม่ได้ออกไปซ้อมเลยจนเกือบจะโดนประธานโอระงับการเดบิวต์ของตัวเอง จนมินซอกทน

ไม่ไหว ให้คนพังประตูห้องเค้าเข้ามา ทั้งพูด ทั้งดุ ทั้งด่า จนเค้าคิดได้และมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง

"แล้วตอนที่คบกัน นายสองคนเคยมีอะไรกันรึป่าว?" จุนมยอนถามขึ้นอีก

"อะไรนะครับ" จงอินถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

"ฉันถามว่านายเคยมีอะไรกับเซฮุนรึป่าว เมคเลิฟน่ะ มันมีอะไรเข้ายากตรงไหน" จุนมยอนถามขึ้นอีกครั้งเหมือนเรื่องปกติทั่วไป

"เคยครับ" จงอินตอบอ้อมแอ้มพลางก้มหน้า

"อืม...ถ้าอย่างนั้นฉันก็พอจะเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วหล่ะ ที่เหลือก็แค่ให้เจ้าตัวยอมรับออกมาเท่านั้น" จุมยอนพึมพำในสิ่งที่ตัวเอง

คิดว่าใช่และเริ่มมั่นใจออกมา

"ท่านอย่าบอกนะครับว่า!! ท่านคิดว่าจีซองเป็นลูกของผม" จงอินถามด้วยน้ำเสียงตกใจในตาคมเบิกกว้าง

"แล้วนายคิดว่าน้องฉันจะไปมีอะไรกับใครมั่วในขณะที่คบกับนายอยู่หรอ หรือนายจะบอกว่าการเมคเลิฟระหว่างนายสองคน

น้องฉันเป็นคนเริ่มก่อนหรอ น้องฉันเป็นคนประเภทที่กล้าในเรื่องนี้หรอไค แล้วอีกอย่าง ที่นายบอกว่าน้องฉันหายไปหลังจาก

ที่นายรู้ว่ากำลังจะเดบิวต์น่ะ ฉันก็จะบอกอะไรให้นายรู้ไว้นะว่าน้องของฉันก็รู้ว่าตัวเองตั้งท้องในวันนั้เหมือนกันเพราะฉันกับแม่

มารับเซฮุนหน้าบริษัทกลับไปทานข้าวด้วยกันแต่เซฮุนดันหมดสติเป็นลมล้มไปต่อหน้าต่อตา ฉันกับแม่ก็พาเซฮุนไปโรงพยาบาล

จนรู้ว่าน้องฉันท้องไง แต่พอพ่อฉันรู้ก็ทะเลาะกันจนเป็นเรื่องราวใหญ่โต เพราะพ่อฉันให้เซฮุนไปทำแท้งเอาจีซองออก แต่เซฮุน

ไม่ยอม แล้วประจวบเหมาะกันที่ตอนนั้นฉันจะต้องไปเรียนต่อโทเพื่อมารับช่วงต่อที่บริษัท คุณพ่อก็เลยไล่เซฮุนไปอยู่อเมริกา

กับฉันไง ยังไม่หมดนะในเย็นวันเดียวกันกับที่เซฮุนทะเลาะกับคุณพ่อน้องฉันก็ขออนุญาติคุณแม่ไปเที่ยวกับเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย

แล้วบอกว่าเพื่อนคนนั้นกำลังจะได้เดบิวต์ นายช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมไค ว่าเพื่อนคนนั้นของน้องฉันใช่นายหรืป่าว'

จุมยอนเดินมาหยุดตรงหน้าจุนมยอนถามด้วยน้ำเสียงกดต่ำ

"ใช่ครับผมเอง แต่ถ้าจีซองเป็นลูกของผม ทำไมเซฮุนไม่ยอมบอกผมหล่ะ หนีหายไปอย่างนี้ทำไม" จงอินถามด้วยความสงสัย

ถึงแม้ว่าเค้าจะมั่นใจเกินร้อยแล้วว่าจีซองคือลูกของเค้า เพราะเค้ารู้นิสัยของเซฮุนดีว่าไม่ใช่คนมั่วไปทั่วติดจะขี้อายซะด้วยซ้ำ

และคิดประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมารวมกับเรื่องที่จุนมยอนเล่า แต่เค้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเซฮุนถึงไม่บอกเค้า

เรื่องที่ตัวเองท้องจะได้ช่วยกันคิดแก้ไขไม่ใช่หนีหายไปอย่างนี้

"นายลองคิดกลับกันสิไค ถ้าเป็นนายที่ท้องแล้วเซฮุนกำลังจะได้เดบิวต์ ความฝันของคนรักที่เค้ารอคอยมานาน นายจะทำยังไง"

จุนมยอนพูดให้จงอินคิดตาม เพราะเค้าก็พอจะรู้ประวัตินักร้องอันดับหนึ่งของบริษัทอยู่เหมือนกัน

"ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะ เซฮุนควรที่บอกผมบ้าง ยังไงเซฮุนกับลูกก็สำคัญกับผมมากกว่าชื่อเสียงเงินทองอยู่แล้ว ผมยอมที่

จะทิ้งความฝันทิ้งทุกอย่างเพื่อครอบครัวที่ผมรักอยู่แล้ว" จงอินถอนหายใจทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นอย่างเหนื่อยล้า

"ก็เพราะว่าเซฮุนรู้นิสัยของนายดีนะสิ รู้ว่านายจะต้องทิ้งความฝันทั้งหมดของนายเพราะตัวเองกับลูก และความพยาพยามที่นายทำหลายปีก็ต้องสูญป่าว เพราะเซฮุนรักนายมากยังไงล่ะ เลยเลือกที่จะตัดสินใจอย่างนั้น แต่ฉันมั่นใจว่าทุกอย่างที่เซฮุนทำไปก็เพื่อนาย  นายรู้อะไรไหมว่าตลอดเวลาสามปีที่จีซองเกิดมาเซฮุนไม่เคยหลุดพูดออกมาเลยว่าใครเป็นพ่อของหลานฉัน ไม่ว่าฉันกับแม่

จะถามหรือว่าขู่แค่ไหน ก็เพราะปกป้องนายยังไงล๊ะเพราะว่าถ้าพ่อฉันรู้นายตายแน่ แล้วอีกอย่างนะหลานของฉันน่ะใช้นามสกุล

คิมไม่ใช่นามสกุลโอ พอได้ใบเกิดของจีซองมาเซฮุนก็เก็บไว้ไม่ให้ใครเห็นเลยว่าในช่องชื่อพ่อของจีซองเป็นใคร เอกสารทุก

อย่างที่มีชื่อพ่อของจีซองอยู่ เซฮุนจะเก็บไว้อย่างมิดชิดเลยแหละ แล้วที่สำคัญเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันมั่นใจมากที่สุดก็คือตอนที่ฉัน

เห็นนายอุ้มจีซอง นายแค่ดูก็รู้นิว่าจีซองไม่มีตรงไหนเหมือนกับเซฮุนหรือคนในบ้านฉันเลย ตอนแรกฉันก็แค่คิดเล่นๆ ว่าจีซอง

กับนายอาจจะเป็นพ่อลูกกันเพราะหน้านายกับหลานฉันเหมือนกับถอดย่อส่วนออกมาเลย แต่ตอนนี้ฉันมั่นใจกว่าเดิมแล้วหล่ะไค

 ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าจงอินสินะ นายช่วยฉันคิดทีซิว่า คิมจีซองจะใช่ลูกของคิมจงอินรึป่าว???" จุมยอนถามขึ้นอีกครั้งอย่างกดดัน

แต่สีหน้าและท่าทางที่แสดงออกมาอย่างผ่อนนคลายเหมือนกับว่าตัวเองไม่ได้คิดอะไรเลยกับเรื่องที่พยามประติดประต่อกันอยู่

"แล้วผมควรจะทำยังไงดี" จงอินพึมพำกับตัวเองสองมือหนาขยุ้มผมกุมขมับตัวเองไว้แน่น ตอนนี้เค้าคิดหาทางแก้ไขเรื่องที่ผ่านมา

ให้มันถูกต้องจนหัวแทบแตก

"ฉันจะเป็นคนช่วยนายเองไค แค่นายสัญญากับฉันมาก่อนว่านายจะเป็นพ่อและสามีที่ดีของน้องกับหลานฉัน จะรักและดูแล

ทั้งสองคนอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนายจะต้องปกป้องทั้งเซฮุนและจีซองด้วยชีวิตของนาย" จุนมยอนจ้องหน้าจงอิน

และพูดขึ้นอย่างจริงจัง

"ถึงท่านรองไม่บอกผมก็ต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้วครับ เพราะพวกเค้าเป็นหัวใจของผม เป็นคนสำคัญของผม และเป็นครอบครัว

ที่เหลืออยู่ของผม ผมขอสัญญาด้วยชีวิตเลยครับ!!!!" จงอินสบตาจุนมยอนด้วยความแน่วแน่และตอบกลับด้วยเสียงที่หนักแน่น

สายตาของจงอินสื่อให้จุนมยอนรู้ว่าเค้าจะไม่มีทางผิดคำสัญญาที่ให้ไว้แน่นอน

"ดี!! ฉันจะช่วยนายเองไอ่น้องเขย ที่ฉันช่วยไม่ใช่เพราะฉันชอบนายหรือเพราะว่านายเป็นซุปเปอร์สตาร์จนฉันอยากจะได้นาย

มาเป็นน้องเขย แต่ที่ฉันช่วยเพราะว่านายคือสามีของเซฮุนและเป็นพ่อของจีซอง และเพราะว่าฉันรักน้องและหลานของฉันมาก

จนทนเห็นเซฮุนเสียใจกับการที่ไม่สามารถอยู่กับคนรักได้กับจีซองที่ต้องเจ็บปวดและขาดความอบอุ่นเพราะขาดพ่อไป แต่นาย

อย่าพึ่งดีใจไปถึงแม้ว่าฉันและคุณแม่จะอยู่ข้างนายและคอยช่วยเหลือนาย แต่ปัญหาใหญ่ของนายคือคุณพ่อของฉันและแฟนคลับ

ของนาย"

"ผมยอมทุกอย่างขอแค่ให้ได้อยู่ใกล้ๆและได้รักเซฮุนกับจีซอง"

"ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันบอกแล้วไงว่าจะช่วย แค่นายทำตามที่ฉันบอกก็พอ แต่ตอนนี้เราไปจัดการกับคนปากแข็งที่ทำให้เรื่อง

มันวุ่นวายมาถึงตอนนี้ก่อนดีกว่า"

"ครับ ขอบคุณครับ"

...

มาแว้วววว......สรุปอิพิ๊จุนเป็นพระเอกสินะ ฮ่าๆๆๆๆ

ภาษาอาจจะยังไม่สวย สำเนียงที่ใช้อาจะยังไม่ดีพอ แต่ก็จะพยายามค่ะ

ที่จริงเรื่องนี้มี่ลงไปถึงตอนที่14 แล้วนะคะ แต่เป็นอีกเว็บนึง ถ้าใครอยากอ่านเลย
ลองเอาชื่อเรื่องค้นหากันดูนะค่ะ ชอบไม่ไชอบยังไงก็บอกกันหน่อยน้าาาา
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน(KAI&HUN)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 01-06-2015 13:18:58
จีซองน่าร๊ากกกก~ :m3: เจ้าลูกหมูตัวน้อยร้องไห้เสียน่าสงสารเลยเชียว แต่เราว่างานนี้ง้อกันยาวเลยล่ะค่ะจงอิน เพราะคุณทำลูกกลัวเสียแล้วล่ะค่าา :laugh: นี่ถ้าจงอินไม่ฟิวส์ขาดเสียก่อน จงอินก็จะมีจีซองเป็นกองหนุนในการช่วยง้อคุณหม่าม๊าแล้วนะคะเนี่ย ><

รอตอนต่อไปจ้า ^^
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน(KAI&HUN)
เริ่มหัวข้อโดย: TOY_SKY ที่ 01-06-2015 17:59:29
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน(KAI&HUN)
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 01-06-2015 21:11:35
สู้ ๆ นะจงอิน เซฮุนก็ใจอ่อนหน่อยสิลูก

แล้วจีซองหนูจะน่ารักไปไหนเนี่ย ลักพาตัวจีซองได้มั้ยยยย
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน(KAI&HUN)
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 01-06-2015 22:21:05
ตามอ่านทีเดียว ยาวสะใจมาก

ท่านรองจะใช้แผนอะไรช่วยไคหน๋อ?! :hao3:
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน(KAI&HUN)
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 02-06-2015 00:52:20
สนุกมากเลยค่ะ // แต่อยากให้ช่วยกำกับตอนหน่อยได้ไหมอะค่ะ พอดี ถ้าอัพแล้วมันไม่ทราบน่ะค่ะ ว่าถึงตอนไหนแล้ว
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน(KAI&HUN)
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 02-06-2015 06:52:12
ช่วยกำกับตอนหน่อยได้ไหมคะ พอดี ถ้าอัพแล้วมันไม่ทราบน่ะคะ ว่าถึงตอนไหนแล้ว เช่น EP 3 P 2 2/6/2558 อะคะ คือไม่งั้นก็ไม่รู้เลยอะคะว่าอัพเดทแล้วอะคะ รบกวนทีคะ
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน(KAI&HUN)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 03-06-2015 18:43:33
  it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 9




"เรามีอะไรจะบอกพี่รึเปล่าเซฮุน" จุนมยอนถามเปิดประเด็นขึ้น เมื่อเปิดประประตูห้องทำงานของตนเข้ามาและเห็นว่าเซฮุนนั่ง

ลูบผมของจีซองที่นอนหลับอยู่บนโซฟารับแขก

"พี่หมายถึงเรื่องอะไรหรอฮะ" เซฮุนถามกลับออกไปทั้งที่พอจะรู้อยู่ว่าพี่ชายนั้นต้องการจะถามเรื่องอะไร

"ก็เรื่องที่ไคเป็นของพ่อจีซองไงหล่ะ หรือเราจะปฎิเสธว่าไม่ใช่?"

"ผมขอปฎิเสธฮะ เพราะเค้าไม่ใช่พ่อของลูกผม" เซฮุนปฎิเสธเสียงแข็ง

"โกหกใครก็โกหกได้นะเซฮุน แต่โกหกตัวเองโกหกความเป็นจริงไม่ได้หรอก"

"เค้าไม่ใช่พ่อของจีซองหรอกฮะพี่ ผมกับจงอินเราแค่เคยเป็นเพื่อนกัน เค้าเป็นถึงซุปเปอร์สตาร์ของเกาหลี แต่พ่อของลูกผมเป็น

เพียงผู้ชายธรรมดาๆเท่านั้นเองฮะ"

"ถ้าน้องยังคงยืนยันที่จะตอบแบบนี้ และไม่ยอมบอกพี่ว่าพ่อของจีซองคือใคร เราก็คงจะต้องตรวจดีเอ็นเอกันแล้วหล่ะ เพราะไค

เค้าบอกกับพี่ว่าเค้าสงสัยเหมือนกันว่าจีซองอาจจะเป็นลูกของเค้า ถ้าเราไม่พูดออกมาว่าจีซองเป็นลูกใครเค้าก็จะขอตรวจดีเอ็นเอ

ให้แน่ชัดกันไปเลย " จุนมยอนพูดออกมาในสิ่งที่ตัวเองได้คิดวางแผนกับจงอินไว้

"อะไรนะ!! ไม่ได้นะฮะจีซองเป็นลูกของผม คนอื่นจะมาตรวจอะไรมั่วๆแบบนี้ได้ยังไง ผมไม่ยอมหรอก ยังไงผมก็ไม่ยอม"

เซฮุนเบิกตากว้างทันทีเมื่อได้ยินในสิ่งที่จุนมยอนบอก

"มันก็อาจจะจริงที่เค้าจะทำโดยพลการไม่ได้ แต่ถ้าเค้ายื่อนฟ้องกับศาลก็จากจะมีสิทธิ เพราะช่วงเวลาที่น้องท้องและหายไปจาก

ชีวิตของเค้าคือช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อถึงวันที่ศาลอนุมัติเมื่อไหร่วันนั้นน้องก็ไม่สามารถจะปฎิเสธหรือแก้ไขอะไรได้แล้ว แต่มี

สิ่งหนึ่งนะที่พี่อยากจะเตือน น้องอย่าลืมนะว่าไคคือซุปเปอร์สตาร์คือคนดังที่มีคนให้ความสนใจมาก ถ้ามีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล

จะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ และโดยเฉพาะเรื่องแบบนี้ ไคเสื่อมเสียชื่อเสียงแน่ๆหรือถ้าแย่กว่านั้นชีวิตในวงการบันเทิงของไคอาจจะ

จบลงไปเลยก็ได้ใครจะไปรู้ แล้วทีนี้ทั้งน้องและจีซองก็จะมีแต่คนให้ความสนใจ ความสงบสุขในชีวิตก็จะหายไป และที่สำคัญ

ถ้าจีซองรับเรื่องพวกนี้และแรงกดดันจากเรื่องนี้ไม่ไหวแกก็จะมีปมด้อยกลายเป็นเด็กมีปัญหาไปเลย น้องอยากให้ลูกเป็นแบบนั้น

หรอเซฮุน คิดดีๆนะ ไม่ว่าน้องจะเลือกทางไหนหรือเกิอะไรขึ้นพี่ก็จะอยู่ข้างๆคอยช่วยน้องเสมอ" จุนมยอนนั่งลงข้างๆเซฮุน

ค่อยพูดกล่อมและคอยสังเกตุอาการของเซฮุนอยู่ตลอด

"พี่ฮะ ผมไม่อยากให้ลูกเป็นอย่างนั้น ไม่อยากให้มีเรื่องอะไรมากระทบจิตใจของแก ผมไม่อยากให้จีซองโดนสังคมทำร้าย พี่ฮะ

ช่วยผมด้วย ช่วยผมกับจีซองจากเรื่องพวกนี้ด้วย" เซฮุนหันมากอดและซุกหน้าลงกับไหล่พี่ชายและพูดเสียงสะอื้น ด้วยความกลัว

กลัวว่าความจริงของเรื่องทั้งหมดจะกลายเป็นหนามที่คอยทิ่มแทงจีซองให้เจ็บปวด ถ้าเกิดมีเรื่องมีราวถึงศาลขึ้นมาจริงๆ

ไม่ว่าเรื่องออกมาเป็นแบบไหนก็ต้องมีเสียงวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักแน่นอนและคนที่จะได้รับผลกระทบไปเต็มๆก็คือจีซอง

"พี่บอกแล้วไงว่าพี่จะอยู่ข้างๆน้อง และจะช่วยน้องทุกอย่า ขอแค่น้องบอกพี่มาได้ไหมว่าจีซองเป็นลูกของใคร เราจะได้รู้ว่าควร

จะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร" จุนมยอนพูดเกลี้ยกล่อมอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเซฮุนเริ่มคล้อยตาม

"จงอินฮะ....จงอินเค้าคือพ่อของจีซอง....แต่พี่อย่าบอกเค้าเลยนะฮะ" เซฮุนก้มหน้าตอบไม่เต็มเสียง

"แล้วทำไมเราถึงไม่บอกเค้าหล่ะว่าเราท้อง ตอนไคก็ยังไม่ได้เดบิวต์ไม่ใช่หรอ ทำไมน้องถึงเลือกที่จะหนีเค้าไปเฉยๆแบบนี้

น้องรู้รึป่าวว่าน้องกำลังทำร้ายลูกด้วยการทำให้เค้าขาดพ่อ ทำให้ไคกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวไร้ความรับผิดชอบทั้งๆที่เค้าไม่รู้

เรื่องอะไรเลย และที่สำคัญน้องทำร้ายหัวใจตัวเองรู้บ้างรึเปล่าเซฮุน"

"เพราะว่าตอนนั้นจงอินกำลังจะได้เดบิวต์แล้วฮะ ผมก็รู้ว่าท้องในวันเดียวกัน วันนั้นที่เราคุยกันจงอินเค้าดีใจมากเลยฮะที่จะได้

เดบิวต์ เพราะมันเป็นสิ่งที่เค้ารอมานาน ผมทำลายอนาคตของเค้าด้วยการบอกว่าผมท้องไม่ได้หรอกฮะ เพราะผมรู้นิสัยของจงอิน

ดี เค้าจะต้องระทิ้งความฝันที่เค้าเฝ้ารอมานานเพื่อผมกับลูกแนนอน และอีกอย่างผมไม่อยากให้ความพยามทั้งหมดของจงอิน

ต้องสูญเปล่าแน่ ก็เลยเลือกที่จะไม่บอกเค้าฮะ ผมทำร้ายเค้าไม่ลงจริงๆ"

"แล้วนายเคยถามฉันไหมว่าฉันต้องการแบบนั้นรึเปล่าเซฮุน  ฉันก็บอกนายตลอดนิว่านายคือสิ่งที่สำคุญที่สุดสำหรับฉัน คือ

ครอบครัวของฉัน คือชีวิตของฉัน เป็นทุกๆอย่างของฉัน แล้วนายคิดว่า ความฝัน ชื่อเสียง เงินทองทั้งหมดที่ฉันมีอยู่ตอนนี้

คือสิ่งที่ฉันต้องการมากกว่านายกับลูกอย่างนั้นหรอ???" จงอินที่ยืนฟังอยู่หน้าห้องตั่งแต่แรก เพราะได้ตกลงกับจุนมยอนไว้

ว่าจุนมยอนจะเข้ามาพูดเกลี้ยกล่อมให้ก่อนและตนค่อยเข้ามาปรับความเข้าใจกับเซฮุน แต่เค้ากลับไม่ได้ทำตามที่ตกลงกับ

จุนมยอนไว้ เพราะทนที่จะแอบฟังอยู่เฉยๆไม่ได้อีกต่อไป เมื่อได้รู้และได้ยินเหตุผลต่างๆและเรื่องราวทั้งหมด จึงทำให้

ตัดสินใจเปิดประตูเข้ามา

"จงอิน!!!" เซฮุนตกใจเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าจงอินเดินเข้ามา

"เอาหล่ะ!! ตรงนี้หมดหน้าที่ของฉันแล้ว หลังจากนี้ให้เป็นเรื่องของนายสองคนแล้วกัน จะทำอะไรก็นึกถึงสิ่งที่จะตามมานะไค

ตัดสินใจดีๆนะเซฮุน เรื่องนี้มันไม่ได้มีแค่นายสองคนเท่านั้นแล้วนะ จะเอายังไงก็คิดถึงจีซองให้มากๆหล่ะ ฉันจะเอาหลานฉัน

ไปนอนที่บ้านก่อน คุยกันซะ!! ทำให้ทุกอย่างมันถูกต้อง ให้มันเป็นไปในสิ่งที่ควรจะเป็น" จุนมยอนพูดจบก็อุ้มจีซองออกไป

"จงอินนาย...นาย..." เซฮุนพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก

"ถ้านายจะถามว่าฉันได้ยินที่นายกับพี่คุยกันรึเปล่า ฉันก็จะตอบให้ว่าฉันได้ยินทุกๆอย่างตั้งแต่แรก!! ทำไมเซฮุน ทำไม? นาย

ถึงเลือกให้เป็นอย่างนี้ นายไม่เคยมั่นใจในตัวฉันเลยหรอ หรือฉันไม่ดีพอที่จะเป็นพ่อของลูก" จงอินพูดด้วยสีหน้าที่คาดเดาไม่ได้

"ไม่ใช่นะจงอิน!! มันไม่ใช่อย่างที่นายคิด เพราะการเป็นนักร้องคือความสุขของนาย ฉันเลยไม่อยากจะทำลายความสุขของนาย"

เซฮุนส่ายหน้าปฎิเสธเป็นพัลวัน

"นายกำลังดูถูกตัวเองอยู่นะเซฮุนที่คิดว่าความฝันบ้าบอนั่นมันจะสำคัญกว่านาย และนายก็ดูถูกฉันด้วยที่คิดว่าฉันจะมีความสุข

เพียงเพราะได้เป็นนักร้องมากกว่าการที่ฉันจะได้อยู่กับนายและลูก แล้วนายก็ใจร้ายมาก ที่ทิ้งฉันไปโดยที่ไม่บอกอะไรกันเลย

นายรู้อะไรไหมเซฮุน!! ว่าตลอดเวลาที่ฉันไม่มีนายอยู่ข้างๆกัน มันเจ็บปวดและทรมาณแค่ไหน ฉันเสียใจจนแทบบ้ารู้บ้างรึป่าว

เคยถามฉันไหมว่าจริงๆแล้วสิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดคืออะไร ความรักความห่วงใย กำลังใจจากนายและลูกไง แม้ว่าฉันจะไม่ได้

เดบิวต์เป็นนักร้อง แต่เป็นเพียงแค่พ่อค้าขายบะหมี่หรือพนักงานออฟฟิตธรรมดาๆ ต่อให้ฉันต้องลำบากมากแค่ไหนฉักก็ยอม

และมีความสุขได้ขอแค่มีนายกับลูกเท่านั้น" จงอินพูดด้วยน้ำเสียงและแววตาตัดพ้อ ความเจ็บปวดที่แสดงออกมาทางสีหน้าทำให้

เซฮุนเสียใจอดรนไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาทั้งๆที่พยายามจะกลั้นจนสุดความสามรถ

"ขอโทษจงอิน ฉันขอโทษ...ฉันขอโทษที่ทำอะไรไปโดยไม่ทันได้นึกถึงความรู้สึกของนายเลย ฉันขอโทษจริงๆ ฉันเสียใจ...

ได้โปรดเถอะจงอิน...อย่าเสียใจอย่าทุกข์ทรมาณอีกเลยนะฉันขอร้อง...ยอมแล้ว....ฉันยอมแล้ว...จะให้ฉันทำอะไรก็ยอม" เซฮุน

สะอึกสะเอื้อนซุกตัวกอดจงอินด้วยน้ำตาพร่ำบอกแต่ว่าขอโทษอยู่อย่างนั้น

"กลับมาหาฉันสิเซฮุน กลับมารักกัน กลับมาอยู่กับฉัน อยู่กันแบบครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาสามคนพ่อแม่ลูกไง มีฉันมีนาย

แล้วก็มีจีซอง มาอยู่กับฉันนะ ตอนนี้ฉันมีพร้อมหมดทุกอย่างแล้ว ทั้งบ้านทั้งรถ ทั้งเงินทองอีกตั้งมากมาย ฉันสามารถเลี้ยงนาย

และลูกได้สบายๆอยู่แล้ว ได้โปรดนะเซฮุน" จงอินบอกพร้อมกับกระชับอ้อมกอดที่มีเซฮุนอยู่ไว้แน่น

"แล้วงานของนายหล่ะจงอิน ถ้าแฟนคลับนายรู้พวกเค้าจะรู้สึกยังไง" เซฮุนถามด้วยความกังวล

"ถ้าใครถามก็บอกไปว่านายเป็นเมียฉันและจีซองก็คือลูกของเรา ไม่จะเห็นต้องคิดอะไรให้มันมากมาย" จงอินตอบแบบสบายๆ

ขอแค่ได้อยู่กับเซฮุนและลูกเท่านั้นต่อให้จะต้องเลิกเป็นศิลปินก็ยอม เค้าไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

"จะบ้าหรอจงอิน!!! นายจะทำอย่างนั้นได้ยังไง พวกแฟนคลับนายเค้าจะเสียใจมากแค่ไหนถ้ารู้เรื่องนี้ และผลกระทบที่จะตามมา

อีก จีซองยังเด็กนะจงอิน ลูกยังรับมือกับปัญหาพวกนี้ไม่ได้หรอก อย่างน้อยๆถ้านายจะเปิดเผยหรือบอกกับใครจริงๆก็ขอให้

จีซองได้โตพอที่รับรู้มากกว่านี้สักหน่อย เมื่อถึงวันนั้ฉันก็จะไม่ห้ามนายอีกเลย" เซฮุนพูดในสิ่งที่ตนคิดว่าดีที่สุดออกมาให้

จงอินรับรู้ เพราะตอนนี้สิ่งที่เค้าห่วงที่สุดก็คือสภาวะจิตใจของจีซอง ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆหัวใจที่บอบบางของจีซอง

คงจะรับไม่ไหวอย่างแน่นอน

"ก็ได้!! ฉันจะเก็บเรื่องของเราไว้จะยังไม่บอกกับใครตอนนี้ แต่ขอเถอะให้ฉันได้บอกกับลูกกับครอบครัวของนายเถอะ แล้วฉัน

ก็จะไปขออนุญาติพ่อกับแม่ของนาย เรื่องของเรา และเรื่องที่นายกับลูกจะมาอยู่กับฉัน" จงอินพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงอ้อนวอน

"ใครบอก!! ว่าฉันและลูกจะไปอยู่กับนายกันจงอิน" เซฮุนแกล้งพูดแหย่จงอินด้วยสีหน้าจริงจังและสียงเรียบนิ่ง

"ทำไม? ทำไมนายถึงพูดอย่างนี้หล่ะ ก็เราเข้าใจกันแล้วไม่ใช่หรอ หรือนายไม่รักฉันแล้ว??" จงอินผละเซฮุนออกจากอ้อมแขน

และถามด้วยสีหน้าหม่นๆนัยน์ตาเศร้า

"อุ๊บ!...ฮ่า....หน้านายตลกจังจงอิน แค่ฉันล้อนายเล่นเท่านั้นเอง ถ้านายสามารถผ่านด่านคุณพ่อไปได้หล่ะนะ ฉันก็ไม่มีปัญหา

อะไรหรอก แต่ฉันจะขอเตือนนายไว้ก่อนนะว่าจีซองอ๊ะหลานรักคนโปรดของคุณตาเค้า ท่างหวงยิ่งกว่าอะไร ท่านคงจะยอม

ให้นายเอาหลานรักของท่านไปอยู่ด้วยหรอก"

"นี่!!! นายกล้าหลอกฉันหรอเซฮุน ฉันก็จะบอกนายเหมือนกันว่าต่อให้ท่านประธานจะใจแข็งแค่ไหนหรือจะให้ฉันทำอะไร

เพื่อลูกเพื่อเมียฉันทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มาให้ฉันลงโทษซะดีๆ กล้าหลอกฉันหหรอเซฮุน อย่าหนีนะ นี่แน่ะๆ"

จงอินไล่จับจี๋เอวของเซฮุนไปทั่วห้องเป็นการลงโทษที่เซฮุนแกล้งตอบให้เค้าใจเสีย

"ฮึก....ฮ่าๆ...ฮ่า....หยุดนะจงอิน...มันจั๊กจี้น้า...ฮึๆ...ยอมแล้วๆ..หยุดก่อน...อ๊ากกกกก...." เพราะมัววิ่งหนีจงอินจนไม่ได้มองทาง

ทำให้เซฮุนสะดุดขาโต๊ะรับแขกจึงทำให้เสียหลักหงายหลังล้มนอนไปกับโซฟา

"ฮึ ฮึ เสร็จป๊ะป๋าแน่คุณหม่าม๊าคนสวย...." จงอินยกยิ้มเจ้าเลห์เหมือกับหมาป่าที่จ้องจะกินกระต่าย ใช้สองแขนแกร่งกักตัวเซฮุน

ไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้ ทั้งสองคนมองหน้าสบสายตาให้กันอย่างมีความหมายของกันและกัน ความรัก ความห่วงหา ความคิดถึง

ที่มันเต็มแน่นอยู่ในหัวใจจนแทบจะเอ่อล้นออกมา จงอินค่อยๆก้มลงเคลื่อนใบหน้าเข้าไปหาเซฮุนอย่างเชื่องช้า แค่อีกนิดเดียว

เท่านั้น ที่ปากของทั้งคู่กำลังจะสัมผัสมอบความหวานให้แก่กัน

"ฉันว่า!! เรากลับกันดีดว่า ป่านนี้จีซองคงจะตื่นแล้ว เดี๋ยวพอไม่เห็นหน้าฉันขึ้นมาจะพาลงองแงให้พี่ปวดหัวเอาอีก ไปกันเถอะ"

เซฮุนถดตัวถอยหนี ดันตัวของจงอินออกให้พ้นทางและลุกเดินหนีออกจาห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้จงอินหน้าเหวออยู่อย่างนั้น

"โธ่....เซฮุนนะเซฮุนอีกนิดนึงก็ไม่ได้ อย่าให้ถึงวันของฉันบ้างแล้วกัน ฉันจะจัดการคิดบัญชีทบต้นทบดอกจนนายลุกจากเตียง

ไม่ขึ้นเลยคอยดู  จะเอาให้จีซองมีน้องแฝดไปเลยคอยดู" จงอินเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน บ่นงึมงำๆกับตัวเองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

 



บ้านตระกูลโอ

"คุงลุงฮับ!! หม่าม๊าไปไหน?? เมื่อไหรหม่าม๊าจะมาหรอฮับ" จีซองถามขึ้นหลังจากที่หยุดร้องไห้มาได้ซักพัก เพราะตื่นขึ้นมา

แล้วไม่เห็นหน้าแม่ของตนกอปรกับก่อนที่จะเผลอหลับไป เห็นแม่ตัวเองมีปากเสียงกับจงอิน

"อยู่กับป๊ะป๋าของจีซองนั่นแหละครับ เดี๋ยวก็มา นั่งเล่นอยู่กับลุงก่อนเน๊าะ"

"ป๊ะป๋าหรอฮับ!! แล้วหม่าม๊าจะพาป๊ะป๋ามาหาจีซองรึป่าวฮับคุงลุง" จีซองถามด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้ยินจุนมยอพูดถึงพ่อตัวเอง

"มาสิ! หม่าม๊าต้องพาป๊ะป๋ามาหาลูกหมูจีซองแน่ๆเลย แต่ตอนนี้ถ้าจีซองอยากจะอยู่กับป๊ะป๋าจีซองต้องฟังและทำตามที่ลุงบอก

ก่อน ถ้าจีซองไม่ทำอย่างที่ลุงบอกจีซองอดอยู่กับป๊ะป๋าแน่ๆ ถ้าเกิดว่าคุณตา.....บลาๆ โอเค๊??" จุนมยอนมั่นใจว่าการตกลงคุยกัน

ของทั้งสองคนจะต้องออกมาอย่าที่เค้าคิดแน่นอน  ตอนนี้เค้าจะต้องจัดการลงโปรแกรมปราบความรั้นของคุณตาเจ้าตัวเล็ก

ใส่สมองเจ้าเลห์ๆนี่ซะก่อน ทุกอย่างจะได้ไม่มีปัญหา

"โอเค หลานรับแซบ" หึๆ แค่นี้ก็เรียบร้อยโรงเรียนจุนมยอน

"อุ๊ต๊ะ!!!! หม่าม๊ามาแล้ววววว..... ป๊ะป๋า หม่าม๊า ป๊ะป๋า หม่าม๊าาาา.....อาาาาา...ไค" เพราะได้ยินเสียงรถดังเข้ามาในบ้าน จีซองจึงรีบ

วิ่งออกมาจากห้องนั่งเล่นด้วยความเร็วที่พอจะทำได้ เพราะความตื่นเต้นและดีใจที่จะได้เจอกับคนเป็นพ่อ แต่แล้วจีซองก็หยุดวิ่ง

และค่อยๆเดินถอยหลังเมื่อเห็นว่าคนที่มากับเซฮุนเป็นใคร ความทรงจำครั้งสุดท้ายของจีซองก็คือการได้เห็นจงอินและเซฮุนมี

ปากเสียงกัน เลยทำให้จีซองเกิดอาการกลัวจงอินขึ้นมา

"จีซองมาหาหม่าม๊ามาครับ" เมื่อเห็นลูกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้และเดินถอยหลังหนี เซฮุนจึงดึงมือที่จงอินกุมอยู่ออกและเดิน

ไปอุ้มจีซองขึ้นมา

"เป็นอะไรไปครับลูกหมู ถอยหนีหม่าม๊าทำไม" เซฮุนถามขึ้น

"ป๊ะป๋าล๊ะฮับ คุงลุงบอกว่า หม่าม๊าจะพาป๊ะป๋ามาหาจีซอง" จีซองเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามของเซฮุน ยืดตัวชะเง้อมองไปทาง

ด้านหลังของเซฮุนเพื่อมองหาป๊ะป๋าของตัวเอง

"ก็นี่ไงครับ!! ป๊ะป๋าของจีซอง หม่าม๊าพาป๊ะป๋ามาหาจีซองแล้วนี่ไง" เซฮุนพูดบอกและชี้นิ้วไปที่จงอิน พรางพยักหน้าให้จงอิน

เดินเข้ามาใกล้ๆ แต่พอจงอินขยับตัวเดินเข้ามาจีซองก็ผวากอดคอเซฮุนไว้แน่

"ไม่ใช่!!! นี่อาไค ไม่ใช่ป๊าป๋า ป๊ะป๋าอยู่ไหน!!! หม่าม๊าโกหกลูก!!!"จีซองหวีดร้อง ส่ายหน้าปฎิเสธลูกเดียว

"ก็อาไคนี่แหละครับคือป๊ะป๋าของจีซองน่ะ" จุนมยอนที่ยืนดูอยู่นานก็ช่วยพูดขึ้นอีกแรง

"แต่อาไคบอกจีซองว่าอาไคเป็นอาไค ไม่ใช่ป๊ะป๋านิ หม่าม๊ากับคุงลุงโกหก!!!!!" จีซองเถียงขึ้นเพราะจำได้ว่าตอนเจอกันครั้งแรก

จงอินบอกว่าตัวเองชื่อไคและแทนตัวว่าอา ไม่ใช่ป๊ะป๋าของตน

"ก็เพราะตอนนั้นป๊ะป๋าไม่รู้นครับว่าจีซองเป็นลูกชายของป๊ะป๋า จีซองเชื่อป๊ะป๋าเถอะนะครับว่า ป๊ะป๋าเป็นป๊ะป๋าของจีซองจริงๆ"

จงอินเห็นสีหน้าผิดหวังของลูกชายแล้วรู้สึกใจไม่ดี จึงค่อยๆขยับ ก้าวเดินเข้ามาใกล้ๆกับจีซองที่อยู่ในอ้อมแขนของจีซองและ

พยายามอธิบายให้จีซองได้เข้าใจ

"ก็เพราะหม่าม๊าเราไม่ยอมบอกนะสิ ว่ามีลูกหมูอย่างจีซองเกิดขึ้นมาก็เลยทำให้ป๊ะป๋าของเราไม่รู้ว่าเราเป็นลูกไงไอ่หมูอ้วน"

จุนมยอนพูดห่ามๆตามสไตล์ของตัวเอง เค้ามั่นใจว่าเด็กฉลาดๆอย่างหลานเค้าจะต้องเข้าใจเมื่อพูดอธิบายกันออกมาตรงๆ

"จริงหรอฮับหม่าม๊า??" จีซองหันไปถามเซฮุนเพื่อความแน่ใจว่าสิ่งทีจงอินและจุนมยอนพูดคือเรื่องจริง

"จริงครับ อาไคก็คือป๊ะป๋าของลูกนะจีซอง" เซฮุนพูดบอกด้วยเสียงจริงจัง

"มาหาป๊ะป๋ามาจีซอง ขอป๊ะป๋าอุ้มลูหน่อยนะ" จงอินทำใจกล้าพูดขึ้นและยื่นมือออกไปข้างหน้าจีซอง แต่จีซองกลับลังเล

มองหน้าคนนั้นทีคนโน้นที ทั้งเซฮุนและจุนมยอนก็ต่างพยักหน้าให้เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับจีซอง และมองดูกันอย่างลุ้นๆ

"ป๊ะป๋า!!!!!!!......" จีซองตะโกนเรียกจงอินและโถมตัวไปหาจงอินด้วยน้ำหนักตัวทั้งหมด

"ครับป๊ะป๋าเอง ต่อไปนี้ป๊ะป๋าจะไม่ปล่อยให้จีซองต้องอยู่กับหม่าม๊าแค่สองคนอีกแล้ว เราจะอยู่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูกเลย

ดีไหมครับ ไปอยู่กับป๊ะป๋านะครับ" จงอินพูดด้วยความตื้นตันที่จีซองยอมรับตัวเองและยอมเรียกตนว่าป๊ะป๋า

"จีซองคิดถึงป๊ะป๋า จีซองรักป๊ะป๋า จีซองอยากอยู่กับป๊ะป๋ากับหม่าม๊าด้วย อยู่กันสามคนเล๊ยยย..." จีซองกอดรัดจงอินแน่น

ด้วยความดีใจ พูดบอกและยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุข จนเซฮุนและจุนมยอนที่มองอยู่อดไม่ได้ที่จะยิ้มตามสองพ่อลูกคู่นี้

"จะไม่มีใครไปไหนทั้งนั้น!!!!!..."

"คุณพ่อ/พ่อ"

"ท่านประธาน"

"คุงตา....."

 

...

มาแล้วค่ะตอนที่9 สำหรับคนที่อยากให้ทั้งสามคนดีกันก็คงสมใจ

แต่สำหรับใครที่คิดว่าคืนดีกันง่ายเกินไปรึป่าว มี่ก็ต้องขอชี้แจงก่อนนะคะว่า

ความจริงคือจงอินและเซฮุนไม่ได้ทะเลาะกันแค่ห่างๆกันไปเฉยๆแต่ทั้งคู่ก็ยังคงรักกันมาก

ส่วนจีซองคือเด็กที่โหยหาความรักของพ่อมาตลอดแม้ว่าจะไม่ได้พูดออกมาตรงๆและถ้าจำกันได้ในตอนที่7

อ้อมกอดของจงอินนั้นทำให้จีซองรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยเหมือนมาเติมเต็มในสิ่งที่ตัวเองขาดไปจนทำให้ร้องตามจงอิน

ยังไงก็แล้วแต่ขอคุณสำหรับคอมเม้นเพราะทุกคอมเม้นทุกคำติชมคือกำลังใจที่สำคัญของมี่

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ..........
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน Up.ตอนที่9 3/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 03-06-2015 18:52:30
เดี๋ยวดึกๆมี่จะมาลงให้อีกตอนนะคะหรอไม่ก็อาจจะลงจนถึงตอนที่15ให้ทันกับเว็บอื่นเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณผู้อ่านเลยค่ะว่าต้องการแบบไหน
จะให้ลงทั้งหมดเลยหรือจะให้เพิ่มทีล๊ะตอน ยังไงก็ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์มากเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน Up.ตอนที่9 3/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 03-06-2015 20:29:38
คุณตากำลังจะปล่อยพลังทำลายล้างทุกคนแล้วสินะค้าา บรื๊อ~ :sad3:

ถ้าทำได้จริงๆ น่ะนะคะ ^^ เพราะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณตาจะทนใจแข็งให้กับแอ็คติ้งของน้องจีซอนได้นานแค่ไหนกัน เราว่าน้องต้องมาเต็มแน่นอนเลยนะคะ ทั้งลูกอ้อน ทั้งน้ำตาคงจะเรี่ยราด(?)น่าดูเลยเชียว~ :laugh:

เพื่อความสุขของลูกและหลาน ได้โปรดอย่าเยอะนะคะท่าน~ o18 ..

ปล. ลงทีละตอนก็ดีเหมือนนะคะ >< เพราะเราอยากตามแสดงความคิดเห็นในแต่ละตอนด้วยน่ะค่าา~
หัวข้อ: Re: { it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' } MPREG ไค&เซฮุน Up.ตอนที่9 3/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-06-2015 20:48:29
ได้เวลาออกโรงแล้ว
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่10 3/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 04-06-2015 14:58:12
it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 10 






"ท่านประธาน"

"คุณพ่อ/พ่อ"

"คุงตา"

"จีซองมาหาตาหน่อยสิ" ประธานโอที่เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับคุณนายคิมเอ่ยเรียกจีซองที่อยู่ในอ้อมแขนของจงอินให้มาหาตน

เป็นเพราะว่าวันนี้เค้าและภรรยาต้องไปงานเลี้ยงการกุศลเลยทำให้กลับบ้านค่ำกว่าปกติ ตนที่นั่งรถเข้ามาในเขตบ้านนั้นเค้าเห็น

รถไม่คุ้นตาจอดอยู่ในโรงจอดรถแต่ก็ไม่ได้สงสัยแต่อย่างใดเพราะคิดว่าอาจจะเป็นเพื่อนของจุนมยอนที่ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกา

ก็มีเพื่อนมาหาไม่ซ้ำหน้า แต่แล้วในขณะที่กำลังจะก้าวเข้าไปในบ้านนั้นก็ได้ยินเสียงจุนมยอน เซฮุน จีซองและเสียงคุ้นหูของ

ผู้ชายอีกคนกำลังคุยกันเรื่องคนที่เป็นพ่อของหลานชายตน เลยทำให้ประธานโอรั้งแขนคุณนายคิมให้หยุดเดินและฟังในเรื่อง

ที่เค้าก็สงสัยและอยากรู้อยู่เหมือนกัน

"ฮับ!! คุงตาคุงยายฮับ ป๊ะป๋า นั่นป๊ะป๋าจงอินของจีซอง ป๊ะป๋ามาหาจีซองแล้ว" เมื่อจงอินปล่อยจีซองลงยืนที่พื้นแล้ว จีซองก็เดิน

ไปหาประธานโอทันที พูดพลางเขย่าแขนประธานโอและคุณนายคิมอย่างดีใจและชี้ไปที่จงอินให้รู้ว่านั่นคือป๊ะป๋าของตัวเอง

 คุณนายคิมได้แต่ยิ้มน้อยๆให้จงอินเพราะเธอพอจะรู้มาบ้างแล้วคร่าวๆเพราะจุนมยอนเป็นคนโทรไปเล่าให้เธอฟัง แต่กลับกัน

ประธานที่พึ่งจะรู้เรื่องราวทั้งหมดเมื่อสักครู่ด้วยตัวเองก็ได้แต่แหล่ตามองจงอินด้วยหางตา

"คุณพ่อคุณแม่ฮะคือ จงอินเค้าเป็น.." เซฮุนพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ เมื่อเห็นว่าหลังจากที่จีซองพูดจบนั้น ทุกคนกลับนิ่ง

และไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย

"มีเรื่องอะไรก็เอาไว้คุยกนวันหลังตอนนี้ฉันเหนื่อยอยากพักผ่อน ส่วนนายก็กลับไปได้แล้วไค" ยังไม่ทันที่เซฮุนจะพูดจบ

ประธานโอก็พูดบอกตัดบทเลยทันที

"ไม่เอาน้าา...ไม่ให้ป๊ะป๋ากลับ จีซองอยากนอนกับป๊ะป๋า อยากนอนกับหม่าม๊า กอดกันสามคนเลย กอดอุ่นๆ นะฮับปป๊ะป๋า"

จีซองสะบัดมือออกจากประธานโอและวิ่งไปกอดต้นขาของจงอินไว้แน่น

"แต่ท่านประธานครับ ผมขอ.."

"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้นไค นายควรจะออกไปจากบ้านของฉันได้แล้วตอนนี้ จุนมยอนพาเซฮุนกับจีซองขึ้นไปบนห้อง" ประธานโอ

หันไปสั่งจุนมยอน

"พ่อครับผมว่าเราควรจะรับฟังในสิ่งที่ไคอยากจะพูดกันก่อนดีกว่าไหมครับ" จุนมยอนแย้งขึ้น

"ฉันบอกให้แกพาเซฮุนกับจีซองขึ้นไปบนห้องไง ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉันแกเป็นแค่ลูกไม่ต้องมาออกความคิดเห็น

หน้าที่ของแกมีแค่ทำตามในสิ่งที่ฉันสั่งก็พอ" ประธานโอพูดบอกจุนมยอนด้วยน้ำเสียงเรียบแต่แววตากลับดุดัน

"ก็ได้ครับ! ไปเซฮุน ไปกันครับจีซองไปข้างบนกับลุงก่อน" จุนมยอนเห็นท่าทีของประธานโอก็ต้องจำใจตกปากรับคำ เพราะ

ไม่อยากจะขัดใจให้ประธานโอต้องอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ เดี๋ยวจะพลอยเดือดร้อนกันไปหมด

"ไม่เอาจีซองไม่ไป! จีซองจะอยู่กับป๊ะป๋า ป๊ะป๋าอยู่กับจีซองน้าา...จีซองอยากกอดป๊ะป๋า..."จีซองกอดต้นขาของจงอินแน่นขึ้น

ไปอีกเมื่อเห็นว่าจุนมยอนกำลังจะเดินมาหาตัวเอง

"จีซองขึ้นไปเล่นของเล่นกับลุงก่อนดีกว่าเน๊าะ ให้ป๊ะป๋าของจีซองอยู่คุยธุระกับคุณตาก่อน ไปครับไปกับลุง" จุนมยอน

พูดบอกและพยายามดึงจีซองออกจากจงอิน

"กรี๊ดด...ไม่เอา!!! คุงลุงอย่าเข้ามานะ ฮือ...จีซองจะอยู่กับป๊ะป๋า...จีซองรู้คุงลุงโกหก! ฮึก...คุงตาไล่ป๊ะป๋าจีซองได้ยินนะ ฮือๆ

คุงตาไล่ป๊ะป๋าทำไม ฮือๆ...ฮือๆ" จีซองกรีดร้อง ปัดมือของจุนมยอนที่จะจับตัวเองออก

"จีซองครับเงียบก่อน หยุดร้องก่อนนะครับ แล้วฟังหม่าม๊า คุณตาเค้าไม่ได้ไล่ป๊ะป๋าไปหรอกลูกได้ยินผิดไปเองนะครับ คุณตา

เค้าแค่บอกให้ป๊ะป๋าไปทำงานเท่านั้นเอง ป๊ะป๋ามีงานต้องไปทำนะครับลูก ทำงานเหมือนกับที่หม่าม๊าไปทำที่ร้านทุกวันไง

จีซองคนเก่งของหม่าม๊าไม่งองแงหรอกเน๊าะ ให้ป๊ะป๋ากลับไปทำงานก่อนนะลูก" เซฮุนพยายามพูดกล่อมด้วยความใจเย็น

ไม่ใช่ว่าเค้าจะไม่รู้สึกอะไรที่ต้องยืนดูอยู่เฉยๆ ถึงแม่ว่าเค้าจะสงสารลูกและอยากที่จะอยู่กลับจงอินมากแค่ไหนก็ตาม แต่ก็คง

ต้องทนรอให้คุณพ่อใจอ่อนและยอมรับเท่านั้น เพราะว่าที่ผ่านมาเค้าทำให้ท่าต้องผิดหวังและเสียใจมามากแล้ว เลยไม่อยาก

ที่จะเรียกร้องหรือขัดใจท่านให้เกิดการทะเลาะกันขึ้นมาอีก

"หม่าม๊าโกหก!!! ฮือๆ..ลูกรู้  ฮึก....ลูกได้ยินคุงตาไล่ป๊ะป๋า....จีซองโกรธ!! โกรธคุงตาแล้ว...ฮือ...." จีซองพูดเถียงเซฮุนทันที

(โกหกจีซองทำไม อย่าคิดว่าจีซองเป็นเด็กแล้วจะไม่รู้เรื่องน๊ะ)

"จงอิน" เซฮุนเงยหน้ามองจงอินด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ

"ฉันเข้าใจแล้วเซฮุน จีซองครับ! ลูกฟังป๊ะป๋าน่ะ วันนี้ป๊ะป๋าต้องกลับไปทำงานก่อน จีซองขึ้นไปเล่นกับหม่าม๊าบนห้องก่อน

ถ้าป๊ะป๋าทำงานเสร็จแล้วจะรีบมาหาลูกเลย วันนี้จีซองนอนกอดกับหม่าม๊าแค่สองคนก่อนนะครับ" จงอินพยักหน้าตอบเซฮุน

เพราะพอจะรู้อยู่ว่าเซฮุนต้องการจะให้ตนทำอะไร จงอินย่อตัวนั่งให้อยู่ระดับเดียวกันกับจีซองและช่วยเซฮุนพูดกล่อมลูกชาย

อีกแรงนึง

"แต่คุงตาไล่ป๊ะป๋า ฮึกๆ ไม่ให้ป๊ะป๋าอยู่กลับจีซอง ฮือ...." จีซองยังคงเถียงและเชื่อว่าตัวเองได้ยินไม่ผิด

"ไม่ใช่หรอกครับ จีซองได้ยินผิดแล้ว คุณตาแค่บอกให้ป๊ะป๋ากลับไปทำงานเฉยๆครับ ไม่ได้ไล่ ถ้าป๊ะป๋าไปทำงาน ป๊ะป๋าก็จะมี

เงินซื้อของเล่นกับขนมอร่อยๆให้จีซองไงครับ หยุดร้องได้แล้วนะครับ ลูกผู้ชายเค้าไม่ร้องไห้กันหรอกนะ เดี๋ยวไม่หล่อ"

จงอินพยายามพูดกล่อมให้จีซองคล้อยตาม

"ป๊ะป๋าจะไปทำงานจริงๆหรอฮับ ....ฮึก... แล้วป๊ะป๋าจะมาหาจีซองเมื่อไหร่ฮับ ป๊ะป๋าอย่าทิ้งลูกกับหม่าม๊าอีกน้าาา..." จีซอง

ถามจงอินด้วยความไม่แน่ใจ เพราะกลัวว่าจงอินจะทิ้งตัวเองให้อยู่กับเซฮุนแค่สองคนแม่ลูกอีก

"ลูกชายป๊ะป๋าน่ารักขนาดนี้ไม่ทิ้งหรอกครับ ป๊ะป๋าทำงานเสร็จแล้วจะรีบกลับมาหาจีซอง ป๊ะป๋าสัญญา" จงอินยื่นมือชูนิ้วก้อย

หมุนไปมาตรงหน้าจีซอง

"ป๊ะป๋าสัญญาแล้วนะฮับ ว่าจะรีบมาหาลูกกับหม่าม๊า" จีซองเกี่ยวก้อยกับจงอินก่อนจะพูดย้ำในสิ่งที่ตัวเองกลัวจนฝังใจ

"ครับลูกชาย ป๊ะป๋าทำงานเสร็จแล้วจะรีบกลับมารับ ตอนนี้จีซองขึ้นไปเล่นกับหม่าม๊าข้างบนก่อนนะครับ ป๊ะป๋าก็จะไป

ทำงานแล้วเหมือนกัน" จงอินพูดย้ำอีกครั้งก่อนจะพยักหน้าให้เซฮุนและจุนมยอนพาจีซองขึ้นไปบนห้อง

"ป๊ะป๋า!! ลูกแบ่งพลังให้ ป๊ะป๋าจะได้ทำงานไม่เหนื่อย แล้วรีบกลับมานะฮับ ลูกจะรอ จุ๊บบ!! >3< " ในขณะที่เซฮุนจูงมือจีซอง

เดินขึ้นบันได จีซองก็สะบัดมือออกและวิ่งมากอดและจุ๊บปากของจงอินเบาๆ ด้วยความคิดแบบเด็กๆที่ว่าสามารถแบ่ง

พลังงานให้กันได้ เหมือนกับที่เคยทำกับเซฮุนบ่อยๆในเวลาที่เซฮุนบอกว่าเหนื่อย

"ขอบคุณครับแล้วป๊ะป๋าจะรีบมารับลูกนะ ถ้าท่านประธานยังไม่พร้อมที่จะเปิดใจคุยและรับฟังผม ผมก็ขอตัวกลับก่อนนะครับ

แล้วผมจะมาใหม่ ผมหวังว่าท่านคงจะเมตตาให้โอกาสผมได้ทำหน้าที่พ่อและสามีที่ดีด้วยนะครับ" หลังจากที่จีซองวิ่งขึ้นห้อง

ไปกับเซฮุนและจุนมยอน จงอินก็หันมาพูดกับประธานโอด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ประธานโอกลับหันหลังเดินหนีขึ้นบันไดไป

ทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่จงอินพูด

"เอาไว้ค่อยคุยกันนะไค ให้พ่อเค้าได้ตั้งตัวก่อน แล้วแม่จะช่วยพูดกับพ่อเค้าให้" คุณนายคิมที่ถูกทิ้งให้ยืนอยู่ที่เดิมกับจงอินพูดบอก

"ขอบคุณครับ ถ้าอย่างนั้นวันนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ" จงอินโค้งตัวเล็กน้อยเพื่อบอกลาคุณนายคิม

................................................................

เช้าวันต่อมา

 

"เป็นอะไรไปจีซอง ทำไมถึงทำหน้ามุ่ยอย่างนั้นแถมยังกินข้าวแแค่นิดเดียวอีก อิ่มแล้วหรอครับ" คุณนายคิมถามในขณะที่

สมาชิกทุกคนในบ้านกำลังทานอาหารเช้ากันพร้อมหน้าพร้อมตาอยู่ แต่วันนี้หลานชายของเธอกลับทำตัวแปลกๆไป

ทั้งหน้างอไม่งอมพูดไม่ยอมจาอีกทั้งยังทานข้าวไปแค่นิดเดียวทั้งๆที่ปกติแล้วนี่กินเหมือนยัดนุ่นจนคนเป็นแม่อย่างเซฮุน

ต้องห้ามและบอกให้หยุดกินเพราะกลัวว่าท้องจะแตกซะก่อน

"เฮ้อ!!จีซองเป็นเด็กซึมเศร้าฮับคุณยาย เพราะจีซองขาดความอบอุ่นจากป๊ะป๋า" จีซองถอนหายใจเสียงดังและตอบคุณนายคิม

ด้วยเสียงหงอยๆ แต่คำตอบของจีซองนั้นทำให้ทุกคนต้องกลั้นขำจนหน้าแดงยกเว้นประธานโอที่คิ้วขมวดทันทีที่ได้ยินคำ

ตอบของหลานชายคนโปรด

////แอบวางแผนกันอีกแล้วซินะลุงหลานคู่นี้/// เซฮุนได้แต่คิดในใจพลางเหลือบมองจุนมยอนกับจีซอง

///เจ้าเลห์จริงเชียวหลานฉัน/// คุณนายคิม

///ฉันควรจะทำยังไงดี/// ประธานโอที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเค้าเลย

///ดี่มากไอ้หลานรัก ตีบทแตกสมกับเป็นศิษย์ท่านจุนมยอน/// จุนมยอนแอบชูนิ้วโป้งให้จีซอง

///ผมเจ๋งใช่มั้ยฮับ/// จีซองยักคิ้วข้างเดียวให้จุนมยอนสองที

"แล้วยายจะต้องทำยังไงให้หลานยายกลับมาร่าเริงดีล๊ะเนี่ย หรือหลานอยากได้ของเล่นใหม่กันนะ ยายไม่ชอบเลยที่หลานเป็น

แบบนี้" คุณนายคิมแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและถามต่อ

"จีซองไม่อยากได้ของเล่นหรอกฮับคุงยาย จีซองแค่อยากอยู่กับป๊ะป๋า" จีซองยังคงทำหน้าเศร้าพูดต่อไปทั้งๆที่ตอนนี้อยาก

จะกินกับข้าวฝีมือหม่าม๊าอีกแทบแย่ แต่ต้องต้องอดทนเพราะคุงลุงบอกว่าถ้าทำแบบนี้แล้วคุงตาจะให้เจอป๊ะป๋าเร็วขึ้น

"ผมไปบริษัทก่อนนะคุณ" ประธานโอทนอยู่ฟังคำพูดของหลานต่อไม่ไหว เลยต้องลุกออกจากโต๊ะอาหารและไปทำงานก่อนเวลา

"คุงตาฮับ!!" จีซองเรียกประธานโอไว้

"ไม่ต้องไปส่งตาหรอกจีซองหลานกินข้าวต่อเถอะ" ประธานโอพูดบอกเพราะคิดว่าหลานจะเดินไปส่งตนที่หน้าบ้านอย่างทุกวัน

"เปล่าฮับ! คุงลุงบอกว่าคุงตาทำงานที่เดียวกับป๊ะป๋า จีซองจะบอกว่าถ้าคุงตาเจอป๊ะป๋า จีซองฝากบอกป๊ะป๋าด้วยว่าจีซองคิดถึง

มาหาจีซองเร็วๆนะ ได้มั้ยฮับคุงตา??" จีซองพูดขอร้องด้วยหน้าเศร้าๆ

"อืม แล้วตาจะบอกพ่อเราให้" ประธานโอรับปากด้วยความขัดใจ

"คิกๆ/ฮึๆ /ฮ่าๆ" หลังจากที่เสียงรถของประธานโอออกไปทุกคนในบ้านก็ประสานเสียงหัวเราะออกมา เพราะความเจ้าเหล์

ของจีซอง แต่เจ้าตัวกลับไม่สนใจใครอีกต่อไป กลับไปนั่งที่ของตัวเองและตั้งหน้าตั้งตายัดข้าวเช้าต่อไป

 

...

มี่อยากลงอิมเมทตัวละครให้จิ้นน่ะค่ะ จะได้เพิ่มความฟิน ดีอ่ะป่าว?

ปกติแล้วอีกสองเว็บที่มีเอาลงไว้มี่จะลงรูปไว้ทุกตอนนะค่ะ

ที่นี่เค้าอนุญาติให้ลงรึป่าว? หรือว่าไม่? ยังไงกันดีคะ?

สุดท้ายก็ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ทุกกำลังใจนะคะ


หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่10 3/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 04-06-2015 15:34:25
รางวัลออสการ์ไม่หนีไปไหนจริงๆ เลยค่ะจีซอง~ หนูตีบทได้แตกกระจุยกระจายมากเลย ยอดเยี่ยมค่าา o13 คุณตาจะทนไปได้อีกนานแค่ไหนกันน้อ~

ปล. เรื่องรูปอิมเมจที่นี่อนุญาตให้ลงได้ค่าา ^^ แต่ว่าขนาดของรูปภาพต้องไม่ใหญ่เกินไปกว่าที่ทางเล้ากำหนดไว้ด้วยนะค้าา :-[
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่11 5/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 05-06-2015 11:04:04
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 11 







"กรี๊ดด...อ๊าย >///< ไค!! ไคโอปป้า ร้องอีกเพลงได้ไหมค่ะ เอาอีกๆ อีกเพลงๆ อีกเพลงๆ "

เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังสนั่นฮออล์เมื่อนักน้องขวัญใจของตนร้องเพลงสุดท้ายจบ

"ขอบคุณครับ ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมสนุกกันวันนี้ และขอบคุณที่อยู่ข้างๆผม คอยให้กำลังใจ คอยสนับสนุนกันตั้งแต่วันแรก

เพลงแรก และอัลบั้มแรก ไม่ว่าจะที่ไปไหน เวลาใดผมก็มองเห็นพวกคุณอยู่ข้างๆกันตลอดเวลา ถึงตอนนี้เราจะต้องต่างคนต่าง

กลับบ้านแยกย้ายกันไป แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเวลาของพวกเราจะหมดไปนะครับ" ร่างสูงที่ยืนบนเวทีขนาดเล็กพูดขึ้น

เมื่อร้องเพลงสุดท้ายของงานนี้จบลง แต่เมื่อหมดเวลาที่กำหนดบรรดาแฟนคลับทั้งหลายกลับไม่ยอมที่จะแยกย้ายกันไป

"แต่พวกเรายังไม่อยากกลับนี่ค่ะ พวกเรายังอยากอยู่กับไคโอปป้าต่ออีก / ใช่ๆ" แฟนคลับสาววัยมัธยมคนนึงพูดขึ้นเพราะเธออยู่

ข้างหน้าเวทีเลยทำให้ไคได้ยินอย่างชัดเจน พอเธอพูดจบคนอื่นๆก็เห็นดีด้วย

"แต่ตอนนี้มันหมดเวลาที่เราตกลงกับเจ้าของสถานที่กันแล้วนะครับ เอาอย่านี้ดีกว่า พวกคุณก็คิดซะว่าให้เวลาผมไปเตรียมซ้อม

เพลงใหม่ เพราะว่าถ้าผมพร้อมและดีพอแล้ว เผื่อบางทีทางบริษัทจะเลื่อนกำหนดการคัมแบ็คของผมได้เร็วกว่าเดิมก็ได้

เราจะได้เจอกันเร็วกว่าเดิมอย่างนี้ไหมครับ" ไคพยายามที่จะต่อลองกับแฟนคลับตัวเอง

"ก็ได้ค่ะ แต่ไคโอปป้าต้องอยู่ส่งพวกเราก่อนนะค่ะ//ใช่ๆ" แฟนคลับสาวอีกคนเรียกร้องขึ้นอีกครั้ง

"ได้ซิครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอมอบเพลงพิเศษอีกหนึ่งเพลงให้พวกคุณที่เป็นคนพิเศษของผม ผมจะยืนส่งพวกคุณอยู่ตรงนี้จนกว่า

จะจบเพลง และเมื่อเพลงจบแล้วผมก็จะกลับทันที พวกเราจะได้กลับพร้อมกันไงครับ กลับบ้านกันโดยสวัสดีภาพนะครับ"

พูดจบไคก็ร้องเพลงขึ้นอีกเพลงทันทีเพื่อเป็นการส่งแฟนคลับของตน

 

 

 

แสงไฟที่ส่องแสง ท่ามกลางสายตาของฝูงชน
พวกคุณที่โบกแท่งไฟให้ผม
มือ(ของคุณ)เมื่อยไหม? พักหน่อยเถอะ
ความรักของพวกคุณต่อผม มากมายน่าจดจำ
การเคลื่อนไหวที่หลากหลาย สีสันเสื้อผ้าที่สวยงามไม่สามารถเปรีบเทียบได้
ใบหน้าหัวเราะที่มีความสุขของคุณ
มันยากที่จะพูดความเงียบที่ผมต้องเสียไป
บอกผม ว่าผมมีค่าพอที่พวกคุณปกป้องผม
เพราะความรักของคุณ (ทำให้ผมโบยบินในวันพรุ่งนี้ได้)
เพราะเสียงหัวเราะของคุณ (ให้ผมเห็นมันตลอดไป)
ไม่รู้ว่าจะสามารถบินได้สูงแค่ไหน ได้ไกลแค่ไหน ..โฮ้ว..
เพราะว่าความรักของคุณ (ทำให้ผมไม่รู้จักความเหนื่อย)
เพราะรอยยิ้มของคุณ (ทำให้ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้น)
พวกคุณอยู่ในใจ อยู่กลางใจของผม
เพราะความรักของคุณ (ทำให้ผมโบยบินในวันพรุ่งนี้ได้)
เพราะเสียงหัวเราะของคุณ (ให้ผมเห็นมันตลอดไป)
ไม่รู้ว่าจะสามารถบินได้สูงแค่ไหน ได้ไกลแค่ไหน ..โฮ้ว..
เพราะความรักของคุณ (ทำให้ผมพยายามที่จะไม่ร้องไห้)
เพราะรอยยิ้มของพวกคุณ (ผมจึงสามารถวาดภาพที่สวยงามได้)
พวกคุณอยู่ในใจ อยู่กลางใจของผม
พวกคุณจะเป็นทุกอย่างสำหรับผมตลอดไป(ชั่วนิรันดร)

## EXO (Lay ft. Luhan) - Because Of You {เป็นเพลงที่เลย์แต่งให้แฟนคลับค่ะ}

 

 

 

 

จงอินร้องเพลงพลางโบกมือลาไปด้วย ทันทีที่ดนตรีดังขึ้นแฟนคลับทุกคนก็เริ่มทยอยเดินออกไปทันทีแต่ที่น่าแปลกใจคือ

แฟนคลับทุกคนเดินถอยหลังและโบกมือตอบกลับจงอินทุกคน

"ว่ายังไงเหนื่อยไหมคุณนักร้องสุดฮอต แฟนคลับของนายนี่เหลือเชื่อจริงๆ พี่แทบไม่เชื่อตาตัวเองเลยนะที่เห็นพวกแฟนคลับ

เดินถอยหลังกลับทุกคนอย่างนั้น" มินซอกทักขึ้นเมื่อจงอินเข้ามานั่งในรถพร้อมที่จะกลับไปพักผ่อนแล้ว

"ก็นิดหน่อยครับพี่ พี่ช่วยไปส่งผมที่ Indy cafe' หน่อยสิครับ" ผมบอกจุดหมายที่จะไปกับพี่มินซอกทันที เพราะตารางงานของ

ผมวันนี้มีแค่งานแฟนมิตติ้งกับแฟนคลับเท่านั้นและไม่มีตารางซ้อมต่อด้วย จะถือว่าช่วงนี้เป็นช่วงพักของผมก็ว่าได้ หลังจาก

ที่ทำงานเกือบยี่สิบชั่วโมงในหนึ่งวันตลอดระยะเวลาสามปีกว่าๆที่ผมได้เป็นศิลปินเต็มตัว และที่จริงผมก็ยังไม่มีคิวที่จะคัมแบ็ค

หรอกครับ แต่ผมต้องหลอกแฟนคลับไปแบบนั้นก็เพราะว่าทางบริษัทได้เช่าสถานที่ไว้ในเวลาแค่นั้นจริงๆ นี่ผมก็กะว่าจะขอ

หยุดพักร้อนกับท่านประธานเพื่อที่จะได้ใช้เวลาพักผ่อนพาเซฮุนกับจีซองไปเที่ยวบ้างจีซองคงจะชอบ และหลังจากนี้ไปผมว่า

จะรับงานให้น้อยลงและเลือกรับแต่งานที่ทำให้ผมได้มีเวลาอยู่กับเซฮุนและจีซอง ส่วนเรื่องเงินก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผม

เพราะเท่าที่มีอยู่จากจากที่ผมโหมรับงานมากตลอดจนแทบไม่มีเวลานอน ต่อให้ผมใช้ทิ้งใช้คว้างมันก็ไม่หมดง่ายๆหรอก

แต่ผมไม่ใช่คนอย่างนั้นซะด้วยสิ ยังไงผมก็มีปัญญาเลี้ยงลูกเมียไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว ขอให้ผมได้มีความสุขบ้างเถอะ

"แหมๆ พ่อคนรักครอบครัว พอเจอลูกเจอเมียแล้วนิไม่ปล่อยให้ห่างเลยนะ" พี่มินซอกแซวผมอีกแล้ว คิดว่าจะอายหรอ

จงอินคนนี้บอกเลยว่าไม่ ฮ่าๆ ผมสืบมาหมดแล้วเหละครับว่าเซฮุนเปิดร้านอยู่ที่ไหนทำอะไรบ้าง

"พี่ก็ ให้ผมได้ทำหน้าที่พ่อที่ดีบ้างเถอะครับ แค่นี้ผมก็รู้สึกผิดจะแย่ที่ปล่อยให้พวกเค้าอยู่กันตามลำพังมาตั้งนาน"

"เรื่องที่มันผ่านมาก็ช่างมันเถอะ เอ้า!!ถึงแล้ว ระวังตัวด้วยนะไค พวกนักข่าวตาหูไว ถ้ามีอะไรก็โทรหาพี่เลยนะ"

"ขอบคุณครับพี่ แล้วผมจะระวังตัว พี่ก็กลับไปพักผ่อนให้สบายเถอะครับพี่เหนื่อยกับผมมามากแล้ว" อ้า!! ถึงแล้วครับ

Indy cafe' ร้านของเซฮุน ตกแต่งได้สมกับเป็นเซฮุนจริงๆทั้งๆที่ใกล้กลับบริษัทแท้ๆผมกับไม่เคยได้สังเกตุเลย

 
........................................................................


  กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง

"อิงลี่ คาเฟ่ ยิงดีต้องรับฮับ คุงอาจะรับอะไรดีฮับ เดี๋ยวจีซองจะไปบอกหม่าม๊าให้เอง" ฮ่าๆ ลูกชายผมขนาดชื่อร้านยังพูดไม่ชัดเลย

แต่ผมก็อดภูมิใจไม่ได้เพราะตั้งแต่ที่ผมมองเข้ามาจากข้างนอกร้านก็เห็นจีซองนั่งจ้องประตูอยู่ พอผมเดินเข้ามาจีซองก็รีบวิ่ง

มาต้อนรับทันทีเลย ขยันจริงๆเลยลูกชายผมตัวแค่นี้รู้จักช่วยหม่าม๊าแล้ว

"มารับลูกชายครับ" ผมย่อตัวบอกกลับไป

"คนไหนหรอฮับ เดี๋ยวจีซองจะไปตามให้" ฮึๆ คงเป็นเพราะว่าผมใส่หมากและสวมฮู้ดคลุมทับอีกทีเลยทำให้จีซองจำผมไม่ได้

"คนนี้ไงครับ!! ป๊ะป๋ามาหาจีซองแล้ว" ผมบอกและดึงฮู้ดลงนิดหน่อยแค่พอให้จีซองได้เห็นเท่านั้น

"ป๊ะป๋า!!!! ป๊ะป๋ามาแล้ว เย้!!! เย้ๆ" จีซองตะโกนเสียงดังและกระโดดกอดผมด้วยความดีใจ จนคนทั้งร้านหันมามอง

ดีนะที่ผมดึงฮู้ดขึ้นปิดไว้เหมือนเดิมทัน

"จีซองเสียงดังอะไรลูกรบกวนลูกค้าหม่าม๊าหมดแล้วนะ อ่า....อ่าวจงอิน มาได้ไงเนี่ยรีบขึ้นไปอยู่บนห้องกันก่อนเลยนะทั้ง

สองคนพ่อลูกเลย  จีซองครับพาป๊ะป๋าไปนั่งเล่นรอหม่าม๊าข้างบนห้องก่อนนะลูกเดี๋ยวหม่าม๊าตามเอาเค้กขึ้นไปให้" เซฮุน

ก็คงตกใจเหมือนกันที่เห็นผม แต่อาจจะเป็นเพราะว่าจีซองตะโกนเสียงดังก่อนหน้านี้ทำให้ลูกค้าในร้านยังสนใจพวกเราอยู่

จนเซฮุนต้องเดินไปขอโทษ และจีซองก็พาผมขึ้นมาชั้นบนของร้านดูเหมือนว่าห้องนี้จะเอาไว้ให้เจ้าตัวแสบไว้นอนกลางวัน

เพราะมีทั้งเตียงนอนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาและของเล่น

"ป๊ะป๋า จะมาอยู่กับจีซองแล้วใช่ไหมครับ" จีซองพาผมมานั่งที่เตียงและถามผมขึ้น

"ครับ แต่เราต้องช่วยกันคุยกับคุณตา ให้คุณตาอนุญาติก่อนเราถึงจะอยู่ด้วยกันได้" ผมถอดฮู้ดที่ใส่คลุมมาออกก่อนที่จะตอบ

"ว่างยังไงครับสองพ่อลูกทำอะไรกันอยู่" เซฮุนเดินเข้ามาพร้อมกับของว่างและเครื่องดื่ม

"อ๊า!! เค้กสตอเบอร์รี่!!!! ลูกอยากินๆ" ยังไม่ทันที่เซฮุนจะได้วางถาดที่ถือมาลงลูกชายผมก็ไปกระโดดแหย่งๆร้องจะกินเค้ก

ตรงหน้าหม่าม๊าเค้าแล้ว

"หยุดก่อนเลยจีซอง!! หม่าม๊าจำได้ว่าก่อนขึ้นมาลูกพึ่งจะกินไอติมสตอเบอร์รี่มาสองถ้วยเลยนะ ยังจะกินเค้กต่ออีกหรอ"

"กินฮับ ลูกแค่กินไอติมไปแค่อย่างเดียวเอง ลูกยังไม่ได้กินเค้กเลย มันไม่ครบเลยน้าา..หม่าม๊า  แล้วลูกก็ยังไม่อิ่มเลยด้วย

เดี๋ยวคุงเสือในพุงลูกก็ร้องโครก โครก จนเสียงดังอีก" เจ้าตัวพูดไปก็ลูบพุงน้อยๆของตัวเองไป

"จะกินก็กินครับ แต่จีซองต้องแบ่งกับป๊ะป๋าด้วยนะห้ามกินคนเดียว ถ้ากินมากๆแล้วอ้วนจนไม่หล่อขึ้นมาอย่ามาโทษหม่าม๊า

นะเจ้าลูกหมู" เซฮุนพูดบอก แล้วก็แกล้งฟัดพุงจีซองเล่น ตอนแรกผมฟังก็คิดว่าเซฮุนจะดุลูกจริงๆที่ไหนได้ดันตามใจกันซะงั้น

แต่อย่างว่าแหละครับลูกชายผมน่ารักขนาดนี้ใครจะดุลง

"ว่าแต่นายมาได้ยังไงจงอิน ไม่ทำงานหรอ" เล่นกับลูกเสร็จเซฮุนก็หันมาถามผมบ้าง ส่วนลูกชายผมน่ะหรอ โดนมนต์สะกด

เค้กของหม่าม๊าจนลืมป๊ะป๋าอย่างผมไปแล้ว

"พี่มินซอกมาส่งฉันนะ แล้วงานของฉันก็หมดแล้วด้วย ช่วงนี้ฉันว่างน่ะ เราไปเที่ยวกันไหมเซฮุน ไปกันแบบครอบครัวไง

เรายังพึ่งจะได้เจอกัน แล้วตอนนี้ฉันก็ว่างด้วย มันเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตานะ"

ผมลากเซฮุนมานั่งด้วยกันที่เตียงและพูดในสิ่งที่ผมได้คิดเอาไว้แล้วให้เซฮุนฟัง อ่า! มือเซฮุนยังนุ่มเหมือนเดิมเลย

"ฉันก็อยากไปเหมือนกันนะ แล้วคุณพ่อล๊ะนายจะทำยังไง เรื่องของเรามันยังไม่เคลียร์เลยนะจงอิน" นั้นสินะปัญหาทั้งหมด

ตอนนี้ก็อยู่ที่ท่านประธานคุณพ่อตาคนเดียว ผมคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วแหละก่อนที่จะปล่อยให้เสียเวลาในการอยู่

กับลูกกับเมียของผมไปมากกว่านี้

"ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกเซฮุน วันนี้ฉันจะไปคยกับท่านประธานให้รู้เรื่อง" ว่าแต่ทำไมจีซองถึงนั่งก้มหน้าเงียบไปเลยหล่ะ

"ลูกเป็นอะไรรึป่าวเซฮุน" ผมถามเซฮุน

"ไม่หรอก จีซองครับ จีซองหันมาหาหม่าม๊าหน่อยลูก" เซฮุนเรียกจีซองเบาๆด้วยน้ำเสียงธรรมดาๆแต่เจ้าลูกชายผมกลับ

สะดุ้งตกใจ

"ฮับหม่าม๊า!!!"
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

"ฮ่าๆ/ฮึๆ" โอ๊ย!จีซองนะจีซองนิ่งซะจนป๊ะป๋าเป็นห่วงกลัวว่าจะเป็นอะไรไปแต่ที่ไหนได้  เจ้าตัวกลับตั้งหน้าตั้งตากินเค้กซะงั้น

"ฉันบอกนายแล้ว ว่าลูกไม่เป็นอะไรหรอก มีอยู่สองอย่างเท่านั้นแหละที่ลูกจะเงียบและอยู่เฉยๆได้ ก็คือตอนกินกับตอนนอน

จีซองน่ะเหมือนเอานายมาก๊อปปี้แล้วย่อส่วนเลย เหมือนกันไปซะทุกอย่าง ฉันเป็นแม่เป็นคนอุ้มท้องมาแท้ๆกลับไม่มีตรงไหน

เหมือนกับฉันเลย มันน่าน้อยใจนัก" เซฮุนพูดด้วยหน้าและเสียงงอลๆ มันน่ารักซะจนผมอดไม่ได้ที่จะกัดจมูกรั้นๆนั่นด้วย

ความมันเขี้ยว

"นี่! เล่นอะไรน่ะจงอิน มันเจ็บนะ" ฮึๆ เซฮุนดุผมเหมือนแมวขู่เลย ผมควรที่จะกลัวดีไหมเนี่ย

"อย่าน้อยใจไปเลยนะเซฮุน เอาไว้คนต่อไปฉันจะตั้งใจทำให้เค้าเหมือนนายเลย"

"คนต่อไปอะไรของนายกัน" เซฮุนยังคงงงกับคำพูดของผมอยู่

"ก็ลูกคนต่อไปน้องของจีซองไงคุณกระต่ายที่รัก" ผมโอบเอวเอามือลูบวนไปมาที่หน้าท้องแบนราบของเซฮุนและกระซิบ

ข้างหูของเซฮุนเบาๆจนเจ้าตัวขนลุกให้ผมเห็นเลย

"ทะลึ่ง!!แล้วนะจงอิน"

"โอ๊ย!! นายตีฉันทำไมเนี่ยเซฮุน ฉันพูดความจริงต่างหากทะลึ่งตรงไหนกัน" เขินรุนแรงจังเมียผมเขินจนหน้าแดง แถมยังมาตี

แขนผมอีกมือหนักชะมัด แต่ผมชอบจังตอนที่เซฮุนเขินจนทำตัวไม่ถูกอย่างนี้

"ป๊ะป๋าเป็นอะไรฮับ!! ร้องทำไม" โธ่..ขอบคุณที่ยังเป็นห่วงป๊ะป๋านะจีซองถึงแม้ว่าลูกจะวิ่งมาทั้งๆที่มีเค้กอยู่เต็มปากเต็มมือ

อยู่อย่างนั้น

"หม่าม๊าแกล้งป๊ะป๋า ตีป๊ะป๋าด้วยครับจีซอง" ผมแกล้งทำสีหน้าเจ็บปวดซะเต็มประดาให้ลูกเห็น

"จงอิน!! ไปบอกลูกอย่างนั้นได้ยังไง" เซฮุนดุและเผลอตีผมเบาๆเข้าอีกที

"นี่ไงๆ จีซองเห็นไหมลูกหม่าม๊าตีป๊ะป๋า จีซองช่วยป๊ะป๋าจัดการหม่าม๊าหน่อยลูก" ผมแกล้งทำสีหน้าให้เจ็บเข้าไปอีก

"ฮับ!! จีซองจะช่วยป๊ะป๋าจัดการหม่าม๊าเองงงง....หม่าม๊าต้องเจอพลังลูกหมูพิฆาต ย๊าห์ นี่แน่ะๆจี๋ๆจี๋ๆ" พูดจบก็ยัดเค้ก

ทั้งหมดที่อยู่ในมือใส่ปากตัวเองก่อนที่จะกระโดดปีนขึ้นไปนั่งทับท้องเซฮุไว้ แล้วก็ไล่จี๋เอว จี๋คอ ของเซฮุน

"ฮ่าๆ...หยุดนะจีซองหม่าม๊าจักกะจี้ คิกๆ จงอินช่วยฉันหน่อย เอาจีซองออกไปจากตัวฉันทีนายก็รู้ว่าฉันบ้าจี้ ฮ่าๆ"

คุณหม่าม๊ากระต่ายของผมมีแรงแค่นิดเดียวสู้เจ้าลูกหมูไม่ได้ซะแล้ว อย่างนี้ผมต้องช่วยซักหน่อย

"ได้ฉันจะช่วยนายเอง แต่ช่วยซ้ำนะ ฮ่าๆ"

"อ๊ากกก!!! จงอินนนนนน.....จีซองงงงง.....หยุดน้าาาาาา...." ฮึๆแบบนี้แหละครับเค้าถึงจะเรียกว่าความสุขที่แท้จริง

เพราะมีเซฮุนและจีซองเป็นครอบครัว มาคอยเติมเต็มให้กับผม ผมก็กลายเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกแล้วแหละครับ

 

...

ต่อกันด้วยตอนที่11 กันเลย

ตอนนี้ก็เรื่อยๆเอื่อยๆกันไปก่อนนะคะ

ดีไม่ดียังไงก็ติชมกันได้นะคะ

เพราะทุกคอมเม้นต์คือกำลังใจของคนแต่ง

ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วย ชอบก็บอกต่อ

มีพี่ มีน้อง มีเพื่อน มีหลานก็ชวนกันมาอ่านนะคะ......


หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่11 5/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 05-06-2015 11:19:34
สามคน พ่อ แม่ ลูก เขาอยู่รวมกันแล้วอบอุ่นจริงๆ เลยน้าา~ :heaven
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่11 5/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-06-2015 17:09:31
ความสุขอบอวล
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่11 5/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 05-06-2015 18:22:04
อยากให้มีความสุขแบบพ่อ แม่ ลูก แบบนี้เร็วจัง เมื่อไหร่พ่อตาจะใจอ่อนซักทีเนี่ย :hao5:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่12 7/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 07-06-2015 10:14:42
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 12     




 
(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1511120879-member.jpg)

HK Entertainment

 

'เข้าไม่ได้นะ!! ท่านประธานไม่อนุญาติให้ใครเข้าพบตอนนี้'

'ถอยไป เธออย่ามาขวางฉัน วันนี้ฉันจะคุยกับท่านประธานให้รู้เรื่อง' เพราะเสียงเอะอะโวยวายของเลขาสาวหน้าห้องนั้น

ทำให้ประธานโอต้องละสายตาจากงานเอกสารที่อยู่ในมือ ขมวดคิ้วเพราะความสงสัย แต่ยังไม่ทันไรประธานโอก็รู้สาเหตุ

ที่เลขาของเค้านั้นเอะอะโวยวายเสียงดัง พร้อมกับคนที่ถือวิสาสะเปิดประตูห้องทำงานของเค้าเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาติ

"ขอโทษค่ะท่าน!! ดิฉันห้ามเค้าแล้วนะคะ แต่เค้าไม่ยอมฟังดิฉันเลยค่ะ" เลขาสาวรีบบอกด้วยความลนลาน

"ไม่เป็นไร เธอไปทำงานของเธอเถอะ" ประธานโอบอกปัด ไม่ได้ใส่ใจกับอาการกลัวของเลขาสาว เพราะจุดประสงค์การมา

ของคนที่บุกรุกห้องทำงานเค้าโดยไม่ได้รับอนุญาติเช่นนี้ มันจะต้องทำให้เค้าปวดหัวอย่างแน่นอน

"สวัสดีครับท่านประธาน" สาเหตุที่วันนี้ผมต้องบุกถึงห้องทำงานส่วนตัวของคุณพ่อตาด้วยตัวเอง ตั้งแต่วันนั้นที่ท่านประธาน

รู้ถึงความสัมพันธ์ของผมกับเซฮุน ผมก็พยายามขอเข้าพบท่านทุกวันแต่ผลที่ได้คือการปฏิเสธ ไปรอพบที่บ้านก็ไม่เคยเจอเลย

จนมาถึงวันนี้ก็ปาเข้าไปอาทิตย์นึงแล้ว ผมรอแล้วรออีกจนหมดความอดทน

"นายมาทำไม ไค" ท่านประธานถามผมเสียงเรียบ

"ผมจะมาขอลาพักร้อนครับ" ผมบอกจุดประสงค์ที่ผมมาวันนี้ แต่ไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดหรอกครับเนี่ยแค่ส่วนย่อย

"ลาทำไม ช่วงนี้มันช่วงเก็บตัวของนายนิ ก็เหมือนวันหยุดอยู่แล้ว แล้วนายยังจะขอพักร้อนทำไม"

"เพราะผมต้องการความแน่นอนครับ ว่าผมจะไม่มีงานระหว่างที่ผมกำลังให้เวลาเที่ยวกับครอบครัว"

"ครอบครัว?? นายจะไปกับใคร ในเมื่อพ่อแม่พี่น้องของนายเสียไปหมดแล้ว" ท่านถามผมด้วยความฉงน

"จีซองกับเซฮุน ที่เป็นลูกเป็นภรรยาผมไงครับท่าน" ผมตอบด้วยรอยยิ้ม แต่เหมือนกับว่าท่านจะไม่ยินดีไปกับผมด้วยเลย

     ปึง!!!!

"ลูกชายกับหลานฉันไปเป็นลูกเมียนายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน อย่ามาพูดพล่อยๆอย่างนี้" ท่านประธานตบโต๊ะเสียงดัง ด้วยท่าทีขึงขัง

"ผมพูดอะไรผิดตรงไหนครับท่าน ในเมื่อจีซองกับเซฮุนเป็นลูกและภรรยาของผมจริงๆ" ผมตอบกลับอย่างไม่เกรงกลัว ในเมื่อ

สิ่งที่ผมพูดบอกออกไปมันคือเรื่องจริงทั้งนั้น

"จะเป็นได้ยังไง!!! ในเมื่อฉันยังไม่ยอมรับนาย" คราวนี้ท่านลุกตะโกนใส่หน้าผมเลย

"ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมจะต้องทำยังไง ท่านถึงจะยอมรับในตัวผมและเปิดโอกาสให้ผมได้ทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดี ดูแล

เซฮุนกับจีซองบ้างหล่ะครับ" ผมลุกขึ้นยืน ถามด้วยเสียงที่ดังไม่แพ้กัน

"โอกาสอะไรของนายมันไม่มีทั้งนั้นแหละ ลูกกับหลานแค่สองคนฉันมีปัญญาเลี้ยงไม่ต้องให้คนอื่นมาดูแลหรอก" ท่านประธาน

มองหน้าผมด้วยสายตาเหยียดๆ แต่นั้นมันยังไม่ทำให้ผมรู้สึกแย่เท่ากับคำว่า 'คนอื่น' ที่ท่านจงใจพูดออกมาหรอก

"ถ้าผมขอกับท่านดีๆท่านยังยืนยันที่จะไม่ยอม ผมก็คงต้องขอโอกาสจากคนทั้งประเทศ เอ๊ะ! หรือว่าทั้งโลกดีครับท่านประธาน"

ในเมื่อผมขออนุญาติดีๆยังแล้วไม่ยอมรับ ก็คงต้องบังคับกันทางอ้อมบ้างแหละครับ เพราะผมคงจะไม่ปล่อยให้เรื่องราวมัน

คาราคาซัง ยื้ดเยื้อต่อไปเรื่อยๆหรอกครับ ลูกเมียผมต้องการผมพอๆกับผมที่ต้องการพวกเค้าเหมือนกัน ทุกๆครั้งที่ผมแวะเข้า

ไปหาเซฮุนไปเล่นกับจีซองที่ Indy cafe' ตอนขากลับเวลาแยกจากกันทีไรจีซองก็จะร้องไห้สะอึกสะอื้น พยายามดิ้นออกจาก

อ้อมแขนของเซฮุนและวิ่งตามผมทุกที หัวอกคนเป็นพ่ออย่างผมมันรู้สึกแย่และเจ็บปวดทุกครั้ง ถึงแม้ว่าเราพึ่งจะพบเจอกัน

ได้ไม่นาน แต่มันคงเป็นเพราะสายสัมพันธ์ความเป็นพ่อลูกที่ทำให้เราผูกพันมากขึ้นทุกวัน จบผมพูดได้เต็มปากเต็มคำเลย

ว่าผมรักลูกชายของผมมากจริงๆ

"นายคิดจะทำอะไรห๊ะไค!!!!" ท่านประธานถามด้วยเสียงกระโชก

"ก็ทำในสิ่งที่ถูกต้องที่ควรจะเป็น โดยใช้ในสิ่งที่ผมมีอยู่ให้เป็นประโยชน์ไงหล่ะครับ"

"นี่นายขู่ฉันหรอ!!! คนอย่างนายมันเลี้ยงไม่เชื่อง ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ ฉันเป็นคนสร้างนายมาแท้ๆ"

"ไม่เลยครับท่าน ผมสำนึกมาตลอดว่าที่ผมมีเชื่อเสียงมาได้อย่างทุกวันนี้ก็เพราะท่าน ท่านคือผู้มีพระคุณของผมคือคนที่

ผมรักและเคารพมาตลอด ท่านอยากให้ผมทำอะไรผมก็ทำให้ท่านได้ทุกอย่าง แต่ผมขอท่านแค่อย่างเดียว ช่วยอนุญาติ

ให้ผมได้ดูแลเซฮุนกับจีซอง ให้พวกเราได้เป็นครอบครัวอยู่พร้อมกันพ่อแม่ลูกเถอะครับ ผมขอร้อง" ผมทิ้งตัวนั่งก้มหน้าคุกเข่า

ตรงหน้าท่านประธาน ยอมทิ้งแม้กระทั้งศักดิ์ศรีลูกผู้ชายที่ผมรักนักรักหนา แต่เพื่อเซฮุนกับลูกแล้วต่อให้มากกว่านี้ผมก็ยอม

"นายคิดว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะยอมนายง่ายๆอย่างนั้นหรอไค" ท่านประธานก้าวเดินเข้ามาถามใกล้ๆผม

"ผมไม่คิดว่าท่านจะเห็นใจผมหรอกครับ แต่แค่ผมอยากให้ท่านเมตตา อย่างน้อยก็ขอให้ท่านได้นึกถึงความรู้สึกของเซฮุน

หรือท่านจะคิดซะว่าทำเพื่อจีซองก็ได้ครับ ไม่ใช่แค่ผมที่ต้องการพวกเค้า พวกเค้าก็ต้องการผมเหมือนกัน จีซองต้องการพ่อ

ต้องการความรักความอบอุ่นจากครอบครัวที่สมบูรณ์นะครับท่าน ได้โปรด ให้โอกาสผมเถอะครับ" ผมเงยหน้าตอบ และ

สบตากับท่านประทานด้วยความมั่นคงแสดงให้เห็นว่าผมจริงจัง ก่อนที่จะก้มต่ำจนศีรษะจรดพื้น

"ลุกขึ้นไค ยืนขึ้น ฉันบอกให้นายลุกขึ้นยืน!!!" ท่านประธานตะคอกเสียงดัง เมื่อเห็นว่าผมยังนั่งก้มหน้าอยู่เหมือนเดิม

ก่อนที่จะเดินเข้ามากระชากให้ผมลุกขึ้นยืน

   ผัวะ!!!!!

"ฉันอนุมัติการลาพักร้อนของนายสองเดือนไค นายจะพาลูกเมียนาย ไปอยู่ด้วยหรือไปเที่ยวที่ไหนก็ตามใจ

ถ้าหมดธุระของนายแล้วก็เชิญ ฉันจะได้ทำงานต่อสักที" ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตั้งตัวท่านประธานก็ต่อยเข้ามาซะเต็มแรง

เล่นซะผมเสียสูญจนเกือยล้มเลย แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นหรอกครับเจ็บแค่นี้สำหรับผมถือว่าเล็กน้อยมาก  ถ้าแลกกับสิ่งที่

ท่านประธานพูดออกมาเมื่อสักครู่

"ท่านหมายความว่า ท่านอนุญาติให้เซฮุนกับจีซองมาอยู่กับผมแล้วหรอครับ" ผมถามด้วยความดีใจ

"พูดมาก ออกไปได้แล้วฉันจะทำงาน" ท่านไม่ตอบผม แต่เดินกลับไปนั่งที่แล้วก้มหน้าทำงานต่อโดยไม่สนใจผมอีก

"ขอบคุณครับ ขอบคุณครับท่าน ขอบคุณจริงๆครับท่านประธาน" ผมโค้งตัวแล้วโค้งตัวอีกเพื่อเป็นการขอบคุณ ฮึๆ ฮ่าๆ

ผมดีใจจริงๆ โอ๊ย!! ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกนี้ออกมายังไงดี  อ๊ากกกก!!!! คิมจงอินคนนี้จะได้อยู่กับเมียกับลูกแล้วครับ

พี่น้องงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!   ฮู้ว!!!!!!

 

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1674243751-member.jpg)
บ้านตระกูลโอ

 

      Tru.....Tru.....Tru

เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องปลุกจีซองที่หมดฤทธิ์นอนหลับพักเติมพลัง

อยู่ในห้องนอนคนเดียวเพราะเพลียจากการเล่นซนที่โรงเรียน ต้องงัวเงียตื่นขึ้นทั้งๆที่ยังนอนไม่เต็มอิ่ม

"งื้อ!!" จีซองดิ้นบิดตัวไปมาอย่างหงุดแต่เสียงของโทรศัพท์ก็ไม่ยอมหยุดสักที ทนไม่ไหวจนต้องค่อยๆกลิ้งไปตามความกว้าง

ของที่นอนไป เพื่อที่จะดูโทรศัพท์ของเซฮุน

"อุ๊ต๊ะ!! ป๊ะป๋า!!!!" พอเห็นรูปบนหน้าจอของสายเรียก ก็ทำให้ตื่นเต็มตาทันที ปากน้อยๆที่ยู่ด้วยความหงุดหงิดเมื่อครู่

ก็กลายเป็นรอยยิ้มกว้างจนตาหยี

"ป๊ะป๋า!!!!" จีซองกรอกเสียงใสรับสายอย่าง ดังจนคนปลายสายยกโทรศัพท์ออกจากหูแทบไม่ทัน

(/ฮึ ฮึ เสียงดีจังเลยครับลูกชาย ทำอะไรอยู่ แล้วหม่าม๊าไปไหนครับ/) เพราะเสียงดีใจของจีซองทำให้จงอินต้องกลั้นขำ

ก่อนที่จะพูดถามกลับไป

"ลูกนอนเติมพลังอยู่บนห้อง แต่หม่าม๊าอยู่ข้างล่างฮับ"

(/ถ้าอย่างนั้นจีซองไปบอกหม่าม๊าด้วยนะว่าป๊ะป๋าจะเข้าไปหา ได้ไหมครับลูกชาย/)

"ป๊ะป๋าจะมาหาลูกหรอฮับ!!!"

(/อีกซักพักป๊ะป๋าจะไปหาจีซองกับหม่าม๊า แต่ตอนนี้ป๊ะป๋าต้องไปทำธุระก่อนครับ/)

"ป๊ะป๋ามาเร็วๆน้าาาาา....ลูกจะรอ"

(/อย่าลืมไปบอกหม่าม๊านะจีซอง แล้วเจอกันนะครับลูกชาย/)

"หม่าม๊า!!!!!!!!!!!!!!" เมื่อวางสายจาจงอินแล้วจีซองก็หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง รีบวิ่งลงมาหาเซฮุนข้างล่าง

"ไอ่ลูกหมูอย่าวิ่งลงบันได เดี๋ยวก็กลิ้งตกลงมาจนเจ็บตัวหรอก แล้วนี่เราจะแหกปากทำไมหึ หลานรัก" จุนมยอนที่พึ่งทำงาน

เสร็จกลับมาจากบริษัท พูดเตือนเมื่อเดินเข้ามาบ้านแล้วเห็นว่าจีซองวิ่งลงบันไดมาจากชั้นบนด้วยขาสั้นๆของตัวเอง

"หลานจะหาหม่าม๊า หม่าม๊าฮับอยู่ไหนนนนน!!!!!" จีซองตอบจุนมยอนก่อนที่ จะตะโกนเรียกหาเซฮุนต่อ

"อย่าเสียงดังสิจีซอง มันไม่น่ารักเลยนะ" เซฮุนชะโงกหน้าออกมาจากห้องอาหารเพราะกำลังจัดเตรียมมื้อเย็นอยู่พูดดุจีซองขึ้น

"ขอโทษฮะ ก็ลูกดีใจ"

"ดีใจอะไรครับลูกถึงต้องเสียงดังขนาดนั้น"

"ป๊ะป๋าจะมาหาฮับ"

"หืม ที่บ้านเนี่ยหรอ แล้วลูกรู้ได้ยังไงครับ" เซฮุนถามด้วยความแปลกใจเพราะจงอินบอกไว้ว่าวันนี้ต้องไปทำธุระเลยจะไม่มาหา

"ป๊ะป๋าโทรมาที่โทรศัพท์หม่าม๊าฮับ แล้วให้ลูกมาบอกหม่าม๊า"

"ถ้าอย่างนั้นลูกไปนั่งเล่นรอหม่าม๊าก่อนนะครับ หม่าม๊ายังเตรียมมื้อเย็นไม่เสร็จ"

"ฮับป๋ม!!" จีซองทำตัวตรงตะเบ๊ะเหมือนทหารอย่างทะเล้นจนเซฮุนหลุดขำ

 

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/488875774-member.jpg)

 

ในขณะที่ทุกคนในบ้านกระกูลโอนั่งทานมื้อเย็นกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตานั้นก็มีเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาในบ้านทำให้

ทุกคนหยุดทานและมองหน้ากันด้วยความสงสัยว่าใครที่มาในเวลานี้ ยกเว้นก็แต่จีซองและเซฮุนเพราะรู้ดีว่าใครมา

"ป๊ะป๋า!!!!!!" จีซองทิ้งช้อนที่กำลังตักข้าวเข้าปาก และรีบวิ่งออกไปหน้าบ้านทันที

"เมื้อกี้จีซองบอกว่าใครมานะ" ประธานโอหันมาถามเซฮุนด้วยเสียงเรียบ

"ผมเองครับท่านประธาน สวัสดีตอนเย็นครับทุกคน" ยังไม่ทันที่เซฮุนจะบอก จงอินก็อุ้มจีซองเดินยิ้มเข้ามาในห้องอาหาร

พร้อมกับโค้งตัวน้อยๆเป็นการทักทายสมาชิกในบ้าน

"อืม" ประธานโอรับคำเบาๆก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานมื้อเย็นต่อ ปฏิกิริยาการตอบสนองจงอินของประธานโอทำให้ทุกคน

ในบ้านตกใจอ้าปากค้างไปตามๆกัน

"พ่อครับ!! นี่ไคนะครับ ไคอ่ะไม่ใช่คนอื่น" จุนมยอนบอกย้ำอีกทีเพราะคิดว่าจะต้องมีอะไรผิดพลาดไปแน่ที่ประธานโอเห็น

จงอินแล้วยังนิ่งเฉยอยู่อย่างนี้ ไม่โวยวาย ไม่อาละวาดใส่

"ก็ไคนะสิ แกพูดอะไรของแกห๊ะจุนมยอน แกเป็นบ้าไปแล้วหรอ คุณผมอิ่มแล้วขอตัวก่อนนะ" ประธานโอทำหน้าเอือมใส่

จุนมยอนก่อนที่จะหันไปพูดบอกกับภรรยา และเดินออกจากห้องอาหารไป

"ปล่อยเค้าไปเถอะ นั่งก่อนสิไค อยู่ทานข้าวด้วยกันกับแม่ก่อนนะ" คุณนายคิมบอกกับจงอิน ก่อนที่จะหันไปสั่งแม่บ้าน

ให้จัดอาหารเพิ่มอีก

"โอ้บร๊ะเจ้า นี่มันเรื่องอะไรกัน แม่ครับบอกให้แม่บ้านเตรียมกักตุนอาหารไว้เลยครับ โลกแตกแน่ๆครับ เชื่อผมสิ

พ่อไม่โวยวายอะไรใส่ไคเลย" จุมยอนยังคงไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น

"ตาจุนมยอนนี่พูดอะไรเลอะเทอะจริงๆ อย่าไปสนใจเลยไค เรามาทานข้าวกันต่อเถอะ" คุณนายคิมเอ็ดใส่จุนมยอนอย่าง

ไม่จริงจัง ก่อนที่จะชวนทุกคนทานมื้อเย็นกันต่อ

"ผมพูดจริงๆนะครับแม่ แม่ก็ดูอาการของพ่อสิครับ!!!" จุนมยอนยังคงเถียงต่อ

"ไม่มีอะไรหรอกครับท่านรอง ผมเคลียร์กับท่านประธานเรียบร้อยแล้วครับ และท่านก็ยังให้โอกาสผมได้ดูแลเซฮุนกับจีซอง

ต่อจากนี้ไปอีกด้วยครับ" จงอินไขข้อข้องใจให้จุนมยอน ก่อที่จะหันมากุมมือเซฮุนจากใต้โต๊ะและบอกด้วยรอยยิ้ม

"จริงดิ!! เจ๋งว๊ะ!!ไอ้น้องเขย ต่อไปนี้นายก็เรียกฉันว่าพี่ได้แล้วนะสิ" จุนมยอนถามด้วยความตกใจอย่างไม่เชื่อหู

"นั่นสิ! ยังไงเราก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว ไคก็เหมือนกับลูกชายแม่อีกคน ต่อไปนี้ก็เรียกแม่ว่าแม่นะลูก

ถ้ามีปัญหาอะไรก็ปรึกษาแม่ได้นะ" คุณนายคิมพูดบอกจงอินอย่าใจดี เธอดีใจที่สามีเธอเลิกทิฐิสักที

"ขอคุณมากครับ ผมก็อยากให้ทุกคนเรียกผมว่าจงอินเหมือนกันครับเพราะมันคือชื่อจริงๆผม ยังไงผมฝากตัวด้วยนะครับ"

"ยังไงคืนนี้ก็นอนค้างที่บ้านก่อนนะจงอิน แล้วจะทำยังไงต่อไปพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีก" คุณนายคิมบอก

"ครับคุณแม่"

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/2125414641-member.jpg)

ห้องเซฮุน 

"เป็นอะไรปน่ะเซฮุน ทำไมถึงเงียบแบบนี้ นายไม่ดีใจหรอที่เราจะได้อยู้ด้วยกันพร้อมน่าพร้อมตาสามคนพ่อแม่ลูกสักที"

จงอินถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องของเซฮุนสองคน หลังจากทานมื้อเย็นกันเรียบร้อย ส่วนจีซองขอไปเล่นกับคุณลุงก่อน

"ดีใจสิ ดีใจมากๆเลยหล่ะจงอิน ดีใจจนฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี" เซฮุนหันหน้ากลับไปพูดกับจงอินด้วยน้ำตาอาบ

สองแก้มด้วยความดีใจ

"โธ่...คุณกระต่ายทำเอาฉันใจไม่ดีเลย ฉันนึกว่านายจะไม่อยากอยู่กลับฉันแล้วซะอีก โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะ ไม่ร้องแล้ว

ดีใจก็ต้องยิ้มสิ เดี๋ยวลูกมาเห็น ก็หาว่าฉันแกล้งหม่าม๊าของเค้าหรอก" จงอินกอดปลอบลูบหลังเซฮุนอย่างโล่งใจ

"จะบ้าหรอ!! ฉันอยากจะอย่ากับนายมาตลอดนะจงอิน แต่ที่ฉันไม่ทำอะไรเลยก็เพราะว่าฉันไม่อยากจะขัดใจคุณพ่อ

ที่ผ่านมาฉันทำให้ท่านเสียใจมาตลอด" เซฮุนซบหน้าลงกับอกอุ่นของจงอินบอกด้วยเสียงเครือ

"ใครบอกว่านายไม่ทำหล่ะฮึ ที่ผ่านมานายทำเพื่อฉันมาตลอด แถมยังเลี้ยงดูลูกมาคนเดียวโดยที่ฉันไม่ได้ช่วยอะไรเลย

แค่นั้นมันก็มากพอแล้วนะ หลังจากนี้ให้เป็นหน้าที่ฉันดูแลนายกับลูกเอง ฉันรักนายนะคุณกระต่ายที่รักของฉัน"

จงอินก้มหน้าลงเล็กน้อย เพื่อกระซิบประโยคสุดท้ายด้วยเสียงแผ่วเบาแต่กลับชัดเจนในความรู้สึกของทั้งสองคน

"ฉันก็รักนายคุณหมี" เซฮุนสบตาบอกย้ำความรู้สึกที่ผ่านมาของตนให้จงอินได้รู้ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีกี่เดือนหัวใจของทั้งคู่

ยังคงโหยหาอีกคนเสมอมา สายตาสองคู่ที่สะท้อนภาพกันและกันความรู้สึกที่ห่างหายไปนานเริ่มเรียกร้องให้ทำตามความ

ต้องการที่มันซ่อนลึกอยู่ข้างใน จงอินกระชับอ้อมแขนให้ตัวเซฮุนแนบให้ชิดเข้าไปอีก ลมหายใจอุ่นๆที่กระทบเปลือกตา

ของเซฮุน ยังไม่ทำให้ใจเต้นแรงเท่ากับริมฝีปากหนาที่แนบชิดและกดย้ำกับปากบางๆ ยิ่งได้สัมผัสยิ่งโหยหาความอ่อนโยน

แปลเปลี่ยนเป็นความร้อนแรงดุดันในชั่วพริบตา พาให้เลือดสูบฉีดทั้งร่างกาย  จงอินพาถอยหลังไปนั่งที่เตียงนอน

ริมฝีปากของทั้งคู่ยังคงไม่ยอมแยกห่างออกจากกัน  ดึงรั้งให้เซฮุนนั่งทับบนตักแกร่งรั้งเอวบางเข้ามาชิดตัว ร่างสูงถอนจูบ

อย่างอ้อยอิ่งจ้องมองดวงตาฉ่ำปรือของเซฮุนราวกับถูกมนสะกด

"ได้มัย?เซฮุน" จงอินถามด้วยเสียงพร่า เซฮุนทำได้เพียงพยักหน้าด้วยความเขินอาย  มือหนาสอดใต้เสื้อสัมผัสผิวนุ่มลื่น

บีบคั้นอย่าเพลิดเพลิน ลูบไล้ด้วยความปรารถนา จมูกโด่งคลอเคลียซุกซนอยู่กับซอกคอขาว ริมฝีปากหนาประทับลง

ปากบางด้วยความทะนุถนอม หลอกล้อเชิญชวนให้คล้อยตาม ความต้องการกำลังเพิ่มขึ้นจนไม่อาจหยุดยั้ง

      ปึง!!!!!

"ป๊ะป๋า!!!!! หม่าม๊า!!!! ลูกมาแล้ววววว......."

 

...

มาแล้วค่ะมีใครรอลูกหมูจีซองมั้งรึป่าว?

ป๊ะป๋าหมีทำสำเร็จแล้ว คุณตายอมแล้ว(??)

หวังว่าตอนนี้คงจะถูกใจใครหลายๆคนนะคะ

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่12 7/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 07-06-2015 11:40:12
นี่ถ้าไม่บอกว่าน้องจีซองไปเล่นอยู่กับคุณลุง
จุนมยอนตั้งแต่ทีแรก เราก็คิดไปแล้วนะคะ
เนี่ยว่าเป็นความตั้งใจของคุณตาที่ปล่อยให้น้องจีซองเข้ามาขัดจังหวะคุณพ่อกับคุณแม่เขาสวีทกันแบบนี้น่ะค่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่12 7/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 07-06-2015 11:54:18
คุณลูกมาผิดเวลามากกกกกก :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่12 7/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 07-06-2015 12:27:52
ลกหมูมมมมมมมมมมมม ทำไมมาไวแบบนี้ละลูก
กำลังเข้าที่เลยยยยยยย พี่ฟิน
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่12 7/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวไหมอ้วนกลม ที่ 07-06-2015 12:58:13
 :laugh:   :laugh:   :laugh:  ค้างเลยสิปาป๊าลูกรักทำค้าง 5555555555
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่12 7/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-06-2015 13:12:12
ลูกเอ้ยไปนานกว่านี้ก็ได้
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่13 8/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 08-06-2015 19:03:01
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 13   

 

 

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/328314836-member.jpg)

      ปึง!!!!!

 

"ป๊ะป๋า!!!!! หม่าม๊า!!!! ลูกมาแล้ววววว......." เสียงเปิดประตูที่ตามมาด้วยเสียงเรียกของจีซอง ทำให้เราทั้งคู่หยุดชะงักทันที

"ป๊ะป๋ากับหม่าม๊าทำอะไรกันอยู่ฮับ" เพราะคำถามของจีซองทำให้เซฮุนตั้งสติได้ก็ผละตัวออกจากผม ยืนก้มหน้าจัดเสื้อที่

ผมเกือบจะได้ถอดออก อย่างแก้ๆกังๆสงสัยจะเขินเพราะไม่ยอมตอบคำถามจีซองหรือมองหน้าผมเลย

"ทำน้องลูก/ไม่ได้ทำอะไรครับลูก" เราสองคนตอบพร้อมกัน

"จงอิน!!! ไปบอกลูกอย่างนั้นได้ยังไงห๊ะ" เซฮุนทำหน้าตาตื่นดุผมซะดังเลย

"โอ๊ย!!! ฉันพูดความจริงนี่ นายจะตีฉันทำไมเนี่ยคุณกระต่าย" ฮึๆดุอย่างเดียวไม่พอ ตีผมอีกต่างหาก พวกคุณไม่ต้องเดากัน

ให้เสียเวลาเลยครับอำนาจตกอยู่ในมือใคร ใครใหญ่ที่สุดในครอบครัว ผมเป็นคนรุ่นใหม่ที่เชื่อคำสอนของคนสมัยก่อนครับ

ว่าคนที่เชื่อเมียมีแต่เจริญ แต่ผมก็ไม่ได้กลัวนะครับ ไม่กลั๊วววววว......

"ทำน้องหรอฮับ เอาๆจีซองอยากมีน้อง ป๊ะป๋ากับหม่าม๊าทำน้องให้ลูกหน่อยจิ" ฮึ ฮึ เป็นไงหล่ะลูกชายผมพอพูดถึงน้องนี่

กระโดดดีใจซะทำเหมือนกับจะได้น้องวันนี้เลย

"ได้ซิครับ เดี๋ยวป๊ะป๋าทำน้องให้จีซองเอง"

"จงอิน!!!!! เดี๋ยวเถอะ" โธ่....อย่าทำหน้าเหมือนจะฆ่ากันอย่างนั้นสิเมียจ๋าสามีกลัวววววว......

"จีซองครับ หม่าม๊าว่าลูกไปอาบน้ำดีกว่านะครับ ถ้านอนดึกมากเดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรงไปโรงเรียนนะ ไปหม่าม๊าอาบให้"

เซฮุนพูดเสร็จก็เตรียมจะอุ้มจีซองไปทางห้องน้ำ

"แต่ลูกอยากมีน้องนี่ฮับ ยงมินยังมีน้องเล็กๆเลย จีซูก็มี" เจ้าตัวเล็กขืนตัวไว้ก่อนจะบอกด้วยหน้าหงอยๆ

"จีซองครับ!! ฟังหม่าม๊านะครับ ถ้าลูกอยากมีน้องก็ต้องรอนะครับ กว่าน้องจะออกมาจากท้องหม่าม๊ามันต้องใช้เวลานะลูก

ไม่ใช่ว่าลูกอยากได้ปุ๊ป แล้วน้องจะออกมาวันนี้เลยนะ อีกอย่างถ้าน้องออกมาแล้วหม่าม๊ากับป๊ะป๋าก็ต้องแบ่งความรักที่มีให้

แค่จีซองเอาไปให้น้องอีกคน และจีซองก็ยังต้องดูแลน้อง รักน้อง แบ่งขนมให้น้องนะ ลูกจะทำได้รึป่าวครับ ถ้าลูกทำได้

หม่าม๊ากับป๊ะป๋าก็จะมีน้องให้จีซองอีกคนนึง แต่ถ้าลูกทำไม่ได้อย่างที่หม่าม๊าบอกลูกก็ไม่ต้องมีหรอกน้องน่ะ"

อือหือสุดยอด...ผมพึ่งจะเคยเห็นมุมนี้ของเซฮุนนะเนี่ย เหมาะแล้วที่จะเป็นแม่ของลูกผม ค่อยๆพูดอธิบายกับลูกอย่างใจเย็น

ส่วนจีซองก็เหมือนโดนสะกดเลย แค่ฟังแล้วก็ได้แต่พยักหน้าอย่างเดียว

"ทำได้ฮับ!! ลูกอยากมีน้องลูกเหงา ลูกจะรักน้อง จะแบ่งขนมของลูกให้น้องด้วย แต่น้องอยู่พุงนี่หรอหรอฮับหม่าม๊า

อยู่ได้ไงอ่ะ น้องไม่อึดอัดหรอ แล้วลูกเคยอยู่ในนี้ด้วยรึป่าว" ฮ่าๆรับปากซะขันแข็งเชียวสงสัยอยากจะได้น้องจริงๆ

ก่อนจะใช้นิ้วป้อมๆจิ้มบนหน้าท้องแบนราบของเซฮุน

"เคยสิครับจีซองก็อยู่ในท้องหม่าม๊ามาตั้งเก้าเดือนแน่ะ ถึงจะออกมาเป็นลูกหมูแสนซนอย่างนี้ได้"

"หรอฮับ?? แล้วลูกเข้าไปอยู่ในนี้ได้ยังไงอ่ะ" เอาแล้วไงลูกชายถามด้วยหน้าตาใส่ซื่อขนาดนั้น ทีนี้หม่าม๊าคนสวยของผม

จะตอบยังไงดี ฮึๆ

"ก็เพราะหม่าม๊ากับป๊ะป๋ารักกันไงครับ ถึงมีจีซองออกมาได้"

"ถ้าอย่างนั้นลูกรักหม่าม๊า รักป๊ะป๋า รักคุงลุง รักคุงตาคุงยาย ลูกก็มีน้องเองได้ใช่มั้ยฮับหม่าม๊า" ผมว่าจะนะไปกันใหญ่แล้ว

จีซองถามด้วยความตื่นเต้นซะตาลุกวาวเชียว

"ไม่ได้หรอกครับ มันไม่เหมือนกัน เอาไว้ลูกโตกว่านี้ เดี๋ยวลูกก็รู้เอง ตอนนี้ไปอาบน้ำกันก่อนดีกว่านะครับ"

"ฮับ!!" จีซองตอบรับแล้วก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำคนเดียวแล้วหล่ะ ผมคิดว่าเรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆซะแล้ว ช่างถามจริงๆ

"มานี่สิเซฮุน" ผมเรียกให้เซฮุนเดินเข้ามาหาก่อนจะดึงรั้งให้นั่งตักผมอีกครั้ง แต่เจ้าตัวกับดิ้นหนีสงสัยจะกลัวลูกมาเห็น

แล้วเกิดคำถามอีกแน่เลย

      จุ๊บ!! จุ๊บ!!

"อย่านะจงอิน ลูกอยู่" โธ่!...เมียจ๋า สามีแค่จุ๊บนิดจุ๊บหน่อยเอง

"ฉันรู้น่า แค่อยากจะคุยด้วยเฉยๆเท่านั้นเอง"

"นั่งคุยกันดีๆก็ได้ นายนี่!! เดี๋ยวลูกเห็น"

"เหอะน่า แป็ปเดียวเองนะคุณกระต่าย ฉันคิดถึงนายม๊ากมาก ขอกอดหน่อย"

"นายก็เป็นแบบนี้ตลอด ฉวยโอกาส"

"ถ้าฉันไม่เป็นแบบนี้แล้วจีซองจะมีน้องหรอ"

"คิมจงอิน!!!!" ฮึ ฮึ ดุแหะ แหย่นิดแหย่หน่อยโมโหตลอด

"โอเคครับๆ ฉันจะคุยเรื่องที่จะให้นายกับลูกย้ายไปอยู่กับฉันไงครับที่รัก"

"แต่นายอยู่คอนโดไม่ใช่หรอจงอิน ถึงมันจะใหญ่แต่จีซองชอบวิ่งชอบเล่นซนที่สนามมากกว่านะ ฉันว่าเราอยู่ที่นี่ก่อนดีกว่ามั้ย?"

"ฉันคิดไว้เอาแล้วแหละ ฉันซื้อเตรียมไว้ตั้งแต่เจอนายกับลูกวันแรกแล้ว เมื่อตอนบ่ายพอฉันคุยกับพ่อนายเสร็จฉันก็จ้างคน

มาทำความสะอาดแล้วเรียบร้อย ที่เหลือก็รอแค่นายกับลูกไปอยู่เท่านั้น" ผมพูดจริงนะครับ พอผมรู้ว่าเราสองคนมีลูกด้วยกัน

ผมก็ให้พี่มินซอกช่วยหาบ้านที่มีสนามหญ้าไว้ให้ลูกผมวิ่งเล่น เพราะผมมั่นใจว่าผมสามารถทำให้เราได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา

สามคนพ่อแม่ลูกแน่นอน แล้วที่สำคัญบ้านของผมจะต้องมีความปลอดภัยสูงด้วย เพราะทั้งสองคนคือชีวิตคือหัวใจของผม

"จริงหรอ???" เซฮุนถามผมเหมือนไม่เชื่อ

"จริงสิ!!! เราย้ายกันไปพรุ่งนี้เลยนะที่รัก ฉันไม่อยากรบกวนที่บ้านนาย ถึงแม้ว่าท่านประธานจะอนุญาติแต่ไม่ได้หมายความว่า

เราจะญาติดีกันเหมือนเดิม ฉันไม่อยากให้ท่านอึดอัดที่เห็นหน้าฉัน ถ้านายคิดถึงคนที่นี่ก็มาหาได้ตลอดอยู่แล้วเพราะว่า

บ้านของเราไม่ไกลจากที่นี่สักเท่าไหร่ แล้วฉันได้นอนกอดนายทุกวันเลยยยยย......ฉันคิดถึงนายจะแย่" ผมหล่ะอยากจะ

ฟัดตัวนุ่มๆของเซฮุนให้หายคิดถึงสักที ถ้าเราได้นอนพร้อมกัน ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นเซฮุนเป็นคนแรก ก่อนออกมาทำงาน

ได้จุ๊บจากจีซองเป็นกำลังใจ แค่คิดผมก็มีความสุขแล้ว

"อื้ม!!!" เยส!! เซฮุนตกลงแล้ว

        หลังจากเราสามคนพ่อ แม่ ลูก อาบน้ำเสร็จแล้วก็พากันนอนแต่เจ้าตัวเล็กนี่สิ พอบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะย้ายไปอยู่

บ้านใหม่ด้วยกัน ก็ตื่นเต้นไม่ยอมหลับไม่ยอมนอนอยู่อย่างนี้

"จีซองนอนได้แล้วลูก" เซฮุนที่อยู่อีกฝั่งนึงบอกกับจีซอง เจ้าลูกหมูเค้าเป็นคนจัดการให้ตัวเองนอนกลาง เซฮุนนอนฝั่งขวา

ผมนอนฝั่งซ้าย แล้วผมกับเซฮุนจะต้องกอดเจ้าตัวแสบนี่จนกว่าจะหลับด้วย

     จุ๊บ!!! จุ๊บ!!!

"ฮับ!!! ลูกรักหม่าม๊า ลูกรักป๊ะป๋า" ฮึ ฮึ หันมาจุ๊บปากและบอกรักผมกับเซฮุนเบาๆคนละที

     ฟอดดด/ฟอดดด

"หม่าม๊าก็รักจีซอง/ป๊ะป๋าก็รักลูก" ผมกับเซฮุนบอกก่อนที่จะหอมแก้มจีซองคนละข้าง เจ้าตัวก็มีรอยยิ้มน้อยๆสงสัยจะฝันดี 

"ฝันดีนะคุณหมี" เซฮุนบอกผมก่อนที่จะหลับตาลงช้าๆ

     จุ๊บ!!

"ฉันรักนายนะคุณกระต่าย ฝันดีครับ" ผมบอกก่อนที่จะชะโงกตัวข้ามจีซองไปจุ๊บเบาๆที่ปากบางๆของเซฮุน กระชับอ้อมกอด

ที่มีทั้งเซฮุนและจีซองให้แน่นขึ้นอีกนิด

 

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/356140681-member.jpg)

 

"โอ้โห!!!/ว๊าวววว!!!" นี่คือเสียงอุทานของผมกับจีซองเองฮะ จงอินบอกว่าจะพาเรามาบ้านใหม่ เพราะอยากจะเซอร์ไพร์

ก็เลยขอปิดตาเราสองคนแม่ลูกตั้งแต่นั่งรถออกมาจากบ้าน พอถึงแล้วจงอินก็พาเราเดินมาจากรถทั้งๆที่ปิดตาอยู่อย่างนั้น

แต่หลังจากที่หงุดเดินและแกะผ้าปิดตาออกให้ผมกับจีซอง ภาพข้างหน้ามันทำให้เราสองแม่ลูกต้องอ้าปากค้าง

นี่มันบ้านในฝันของผมชัดๆ มีทั้งสนามหญ้ากว้างๆเอาไว้ให้ลูกวิ่งเล่น ไหนยังจะวิวสวยๆเพราะอยู่ติดกับริมแม่น้ำ สวยมากจริงๆ

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1320502996-member.jpg)

"เป็นไงครับคุณหม่าม๊าคุณลูกชอบบ้านที่ป๊ะป๋าเลือกรึป่าวครับ" เสียงของจงอินเรียกสติของผมที่มัวแต่ดีใจจนเพลิน

"ชอบฮับป๊ะป๋า!!!" คงจะถูกใจเค้าหล่ะลายนั้นเพราะสนามหญ้าใหญ่กว่าที่บ้านคุณพ่อคุณแม่มากถึงแม้ว่าพื้นที่จะน้อยกว่าก็ตาม

เพราะบ้านผมเค้าเน้นตัวบ้าน ไม่เหมือนบ้านหลังนี้ที่จัดสัดส่วนของตัวบ้านอย่างลงตัว

"ชอบสิจงอิน!! บ้านของนายสวยมากเลย" ผมคงจะแสดงออกมากเกินไปจงอินถึงยิ้มกว้างถูกใจอย่างนั้น

"ไม่ใช่บ้านฉัน มันคือบ้านของเรา และอีกอย่าบ้านหลังนี้ฉันซื้อให้เป็นชื่อของนาย" เมื่อกี้จงอินพูดอะไรนะผมฟังไม่ชัด

"อะไรนะ!!! ชื่อของฉันหรอ" ผมถามเสียงหลง

"ใช่บ้านหลังนี้ของเรา เป็นชื่อของนาย มันเป็นสมบัติส่วนตัวของนายนะเซฮุน" จงอินบอกด้วยสีหน้าจริงจัง

"แต่นายซื้อมันมาด้วยเงินจากน้ำพักน้ำแรงของนายนะจงอิน ถ้านายยกมันให้ฉัน ฉันว่ามันมากเกินไป"

"ไม่มากเกินหรอกเซฮุน ของๆฉันก็คือของๆนาย แล้วเราสองคนเป็นสามีภรรยากัน เป็นคนครอบครัวเดียวกันนะไม่ใช่คนอื่น

ถือซะว่าฉันซื้อบ้านหลังนี้เป็นให้เป็นของขวัญที่จีซองลูกชายที่น่ารักของเราเกิดมาก็แล้วกัน เพื่อนายกับลูกแล้วมูลค่าของเงิน

ที่ฉันใช้ซื้อบ้านหลังนี้ไป มันเล็กน้อยมากจนแทบจะไม่มีค่าเลยถ้าเอามาเทียบกับนายและลูก ฉันสัญญานะว่าฉันต่อจากนี้

ไปฉันทำทุกอย่างเพื่อให้นายกับลูกมีความสุข" จงอินบอกด้วยเสียงหนักแน่นสายตาคมที่ฉายแววหนักแน่นและมั่นคงคู่นั้น

มันทำให้ผมเชื่อคำพูดนั้นได้อย่างง่ายดาย

"ขอบคุณนะจงอิน ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่างที่นายทำเพื่อฉันและจีซอง แต่แค่นายเป็นนายอย่างทุกวันนี้ก็พอ ฉันไม่อยากได้

หรือต้องการอะไรอีกแล้ว" จงอินเดินเข้ามากอดผมไว้แน่น ผมก็กอดตอบให้เค้ามั่นใจเหมือนกันไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น

ผมก็ขอยืนเคืองข้างกับจงอินจะไม่หนีหายไปไหนอีกแล้ว

"จีซอง!! เราเข้าไปดูข้างในกันดีกว่าลูก" จงอินตะโกนเรียกเจ้าลูกหมูที่วิ่งไปกลิ้งเล่นบนสนามหญ้าที่อยู่อีกฝั่งนึง

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/234428075-member.jpg)

"นี่คือห้องของหม่าม๊ากับป๊ะป๋า" หลังจากที่จงอินพาเราทัวร์ชั้นล่างเสร็จก็พามาดูชั้นบน ชั้นล่างก็มีห้องครัว ห้องรับแขก ห้องน้ำ

ทุกห้องเป็นแบบที่ผมชอบทั้งหมดเลย แต่ที่ผมชอบที่สุดก็คือห้องนั่งเล่นที่ติดกับสระว่ายน้ำที่มีรูปทรงเป็นน้ำตก ระบบน้ำวน

ห้องนั้นเป็นห้องที่สามารถเปิดกว้างรับลม มองเห็นสนามหญ้าหน้าบ้าน มองเห็นวิวสวยๆริมแม่น้ำได้ หรือถ้าไม่ชอบก็มีกระจก

แบบเลื่อนให้เราปิดได้เหมือนกัน ชั้นบนนี้มีห้องอยู่สี่ห้องห้องแรกข้างในสุดฝั่งซ้ายก็คือห้องนี้ ที่จงอินบอกว่าเป็นห้องของ

เค้ากับผม แต่งเรียบๆสไตล์จงอินเค้าหล่ะ แต่ก็สวยดีกว้างขวาง จัดสรรแยกโซนเป็นระเบียบดีฮะ

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1380719247-member.jpg)

"อันนี้ห้องของลูกชายป๊ะป๋าครับ" จงอินเปิดประตูกว้าง

"ยะฮู้!!!!!" พอเห็นข้างในและรู้วว่าเป็นห้องของตัวเองเจ้าลูกหมูก็ตาโตเลยฮะ

"ชอบมั้ยครับ" จงอินที่ยืนกอดไหล่ผมอยู่ถามขึ้น

"ชอบฮับ!!! จีซองชอบที่สุดเลยฮับป๊ะป๋า!!!!" พูดจบก็รีบวิ่งเข้าห้อง ปีนขึ้นเตียงแล้วกระโดด ดึ๋งๆ อยู่อย่างนั้น ห้องนี้

เป็นห้องที่อยู่ตรงข้ามกับห้องของผมกับจงอินฮะ เป็นโทนสีฟ้า แต่งแบบห้องเด็กผู้ชายทั่วๆไปแหละฮะ แต่ที่ไม่เหมือนคือ

ลูกชายผมยังไม่ทันจะสี่ขวบเลย ในห้องก็มีครบทั้งทีวี เกมส์ และคอมพิวเตอร์ แต่เอาเถอะเรื่องนี้ไว้ค่อยคุยกันที่หลัง

"ถ้าห้องนี้เป็นห้องของลูก แล้วห้องโน้นเป็นห้องของป๊ะป๋ากับหม่าม๊าลูกก็ต้องนอนคนเดียวอ๊ะจิ" อยู่ดีๆจีซองก็หยุดกระโดด

และถามออกมาสงสัยเจ้าลูกหมูเพิ่งจะนึกขึ้นมั้งฮะ เลยทำหน้าตาแบบนั้น

"ถูกต้องแล้วครับลูกชาย จีซองจะสี่ขวบแล้วนะลูก ต้องแยกห้องนอนคนเดียวได้แล้ว" จงอินเดินเข้าไปหาจีซองลูบหัวกลมๆนั่น

"ไม่เอา!! ลูกจะนอนกับป๊ะป๋ากับหม่าม๊า" หน้างอเข้าให้แล้ว ผมจะไม่ยุ่ง ยืนดูอยู่แบบนี้แหละฮะ ให้พ่อลูกเค้าจัดการกันเอง

"จีซองโตแล้วนะ ลูกไม่อยากมีน้องหรอครับ ถ้าลูกนอนคนเดียวได้ ป๊ะป๋าจะทำน้องให้ เอามั้ย?" หึ!! เสนอไปแบบนั้น

เคยถามความสมัครใจหม่าม๊ากันบ้างรึป่าวฮะคุณป๊ะป๋าหมี

"อยากได้ฮับ!! แต่ลูกก็อยากนอนกับป๊ะป๋า นอนกับหม่าด้วยอ่ะ" คึๆ น้ำตาคลอซะแล้วลูกหมีของหม่าม๊า

"ลูกนอนกับป๊ะป๋ากับหม่าม๊าก็ได้ครับ แต่ลูกจะไม่ไ้อน้องนะครับ"

"ลูกอยากได้น้องด้วย!!!"

"อ่าว!! ถ้าอย่างนั้นลูกก็ต้องเลือกว่าจะนอนคนเดียวแล้วได้น้อง หรือจะนอนกับป๊ะป๋าและหม่าม๊าแต่ไม่ได้น้อง ว่ายังไงครับ"

รู้สึกว่าคุณป๊ะป๋าจะกดดันลูกชายแบบเนียนๆซะเหลือเกิน ทำเหมือนยอมแต่ก็ไม่

"ลูกอยากได้น้อง ลูกจะนอนคนเดียวฮับ" ลูกหมูตอบซะเสียงเบาเชียว โตขึ้นแล้วสินะลูกชายผม ทั้งๆที่น้ำตาคลอกลัวการนอน

คนเดียวซะขนาดนั้นแต่ก็ยอม ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมพยายามที่จะแยกห้องสอนให้นอนคนเดียว แต่พอตกดึกเข้าหน่อย จีซอง

ก็จะมาเคาะห้องขอนอนด้วยทุกที คราวนี้สงสัยอยากมีน้องจริงๆเพราะจีซองเป็นเด็กชอบเล่นชอบคุย พอกลับจากโรงเรียนมา

หรือกลับจากร้านของผมแกก็จะนั่งเล่นของเล่นคนเดียวเพราะทุกคนในบ้านต่างมีหน้าที่ที่จะต้องทำ ถึงแม้ว่าผมกับพี่จุนมยอน

จะเล่นด้วยบ้าง แต่ก็คงจะไม่สนุกเหมือนกับเล่นกับเด็กๆด้วยกัน

"เยี่ยม!! เก่งมากเลยครับลูกชายป๊ะป๋า เดี๋ยวปะป๋าจะเสกน้องให้หลายๆคนเลย" ฮึๆ ดีใจเวอร์จริงๆ หลอกลูกได้ ถ้าจะถามผมว่า

ระหว่างจีซองกับจงอินใครเจ้าเลห์กว่ากันผมคงตอบไม่ได้หรอกฮะ เพราะความเจ้าเลห์ของพ่อลูกคู่นี้เค้าพอๆกัน ก็ผมเคยบอก

ไว้แล้วก่อนหน้านี้ว่าจีซองน่ะถอดแบบจงอินมาเด๊ะเลย

 

...

ตอนนี้ก็เรื่อยๆไม่มีอะไร ถ้าไม่ถูกใจกัน ก็ขอโทษด้วยนะคะ

ลงบ่อยๆแล้วเหมือนกับว่าคนอ่านจะเบื่อๆ(รึป่าว?)

ไม่ค่อยมีใครเม้น ไม่ค่อยมีใครทวงซะเท่าไหร่

แต่ยังไงก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ

 
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่13 8/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 08-06-2015 19:25:59
ลูกหมูจีซองอยากได้น้องเล็ก ก็ต้องยอมให้กับคุณปะป๋าจอมเจ้าเล่ห์จนได้สิน้าา~ >< น่ารักน่าเอ็นดูจังค่ะ นี่ขนาดว่าน้ำตาคลอแล้วนะคะ ยังอดทนยอมรับข้อตกลง(โกงๆ)ของคุณปะป๋าเข้าจนได้
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่13 8/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-06-2015 20:00:59
เจ้าเล่ห์นักน่ะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่13 8/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 10-06-2015 06:14:48
น้องกี่คนดีน้า
หัวข้อ: Re:{it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่14 10/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 10-06-2015 10:35:21
it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 14

 

 

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/743208714-member.jpg)

   กรุ๊งกริ๊ง  กรุ๊งกริ๊ง     

"Indy cafe ยินดีต้อนรับฮะ คุณลูกค้ารับอะไรดีฮะ"

"ผมขอ All Green Soda ที่นึงครับ"

"รับเค้กช็อคโกแลตบาวาเรี่ยนรสชาติเข้มๆสูตรเด็ดของร้านเพิ่มเป็นของว่างไหมฮะคุณลูกค้า
ทานคู่กับ All Geern Sodaที่คุณลูกค้าสั่งเป็นอะไรที่ลงตัวสุดๆเลยนะฮะ"

"ก็ได้ครับ เอาตามนั้นเลย"

"จะรับกลับบ้าน หรือทานที่นี่ฮะ"

"ทานที่นี่แล้วกันครับ"

"ตกลงรับ ออกรีนโซดากับเค้กช็อคโกแลตบาวาเรี่ยนนะฮะ คุณลูกค้าเชิญนั่งรอสักครู่นะฮะ"

      เฮ้อ!!! เหนื่อยจัง วันนี้ผมต้องเข้ามเคลียร์บัญชีของร้านให้เรียบร้อยเพราะว่าพรุ่งนี้
เราสามคนพ่อแม่ลูกจะไปเที่ยวกันแบบครอบครัวเป็นครั้งแลก ตอนแลกจงอินอยากจะพา
ไปต่างประเทศแต่เจ้าลูกชายอยากจะเที่ยวที่เกาหลีเพราะว่าตั้งแต่กลับมาจากอเมริกา
จีซองก็ยังไม่เคยเที่ยวในเกาหลีเลย อย่างมากก็แค่ห้างที่ไปซื้อของกับผม เราก็เลยตกลงกันว่า
ช่วงระยะเวลาสองเดือนที่จงอินได้หยุดพักร้อนเราก็จะเที่ยวกันไปเรื่อยๆ อีกทั้งผมยังต้องทำขนมที่ร้านอีก
คงทิ้งไปไหนนานๆไม่ได้  แล้วพอถามว่าที่แรกอยากไปไหนจีซองก็บอกว่าอยากไปล็อตเต้เวิลด์
 เพราะเพื่อนที่โรงเรียนเคยไปเที่ยวแล้วมาเล่าให้ฟังสนุกมาก เจ้าตัวก็เลยอยากไปบ้าง ตอนแรกผมก็ค้านนะ
เพราะว่าเป็นห่วงจงอิน ยิ่งอยู่ในเมือง อยู่ในที่ๆมีคนเยอะๆก็ยิ่งเสี่ยงต่อหัวตานักข่าวแต่เพราะว่าจงอินบอกว่าไม่เป็นไร
 อีกทั้งจีซองยังอยากไปมากๆอีก ผมก็ได้แต่ยอม แต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้อยู่ดี.......

"ขอโทษนะฮะคุณ" อุ้ย!! คุณลูกค้าคนเมื่อกี้นี่เอง มาเงียบๆตกใจหมดเลย

"มีอะไรให้ช่วยหรอฮะคุณลูกค้า"

"คือผมขอคุณเข้าไปหลบนักข่าวข้างในหน่อยได้ไหมครับ" เค้าบอกและชี้ไปทางกลุ่มคน
ที่มีกล้องคล้องคอตัวใหญ่ที่ยืนอยู่หน้าร้าน เอ....ว่าแต่เค้าเป็นใครกันหล่ะเนี่ย ปิดหน้าปิดตามา
ซะขนาดนี้ผมจะรู้ไหมเนี่ย

"เอ่อ....ว่าแต่คุณคือ?"

"ผมชานยอลครับ ปาร์คชานยอล" อ่า...คุณแร๊พเปอร์คนดังนี่เอง ถึงว่าทำไมเสียงเท่ขนาดนั้น

"ผมขอเข้าไปหลบในนั้นได้ไหมครับ ถ้าพวกนักข่าวไปแล้วผมจะรีบกลับเลย" คุณแร๊พเปอร์ชี้ไปทางห้องทำขนม

"เอ่อ.....ไม่ได้หรอกฮะในนั้นมีพนักงานกำลังอบขนมกันอยู่หลายคนเลย ผมว่าคุณขึ้นไปหลบบนห้องพักของผม
ที่ชั้นสองดีกว่านะฮะ" ตอนแลกที่ผมส่ายหน้าบอกว่าไม่ได้เค้าก็ทำหน้าเสีย แต่พอผมบอกให้เค้าขึ้นไปหลบบนห้อง
สีหน้าเค้าก็ดีขึ้นมาเลย ถือว่าช่วยกันฮะ เพราะเค้ามีอาชีพเดียวกับจงอินผมเลยเข้าใจว่าเค้าก็คงอยากจะใช้เวลา
ส่วนตัวบ้างแต่อย่างว่าแหละครับเป็นดารานักร้องก็เหมือนกับขายชีวิตส่วนตัวของตัวเองไปแล้ว

"ขอบคุณครับ ขอบคุณมากๆเลย" อ๋าาา.........ยิ้มทีเห็นฟันครบสามสิบสองซี่เลย ผมรู้แล้วครับว่าทำไมปาร์คชานยอล
ถึงได้เป็นแร๊พเปอร์คนดังจนมาถึงทุกวันนี้ก็เพราะเค้ามีสเนห์ขนาดนี้ยังไงล๊ะ ไม่ได้ๆเซฮุนห้ามหวั่นไหวๆท่องไว้ๆจงอินๆ

"ถ้าอย่างนั้นคุณก็เดินตามผมขึ้นไปข้างบนเลยฮะ เชิญตามสบายเลยนะฮะคุณจะนอนพักก่อนก็ได้
 ถ้าคนพวกนั้นไปแล้วผมจะขึ้นมาบอกนะฮะคุณชานยอล เดี๋ยวผมขอตัวไปทำงานก่อนนะฮะ"
 ผมเดินมาส่งคุณชานยอลที่ห้อง

"เดี๋ยวก่อนสิครับ"

"มีอะไรรึป่าวฮะ"

"เอ่อผมอยากจะถามชื่อคุณนะครับ"

"อ๋อ...เซฮุนฮะ"

"คุณเป็นเจ้าของที่นี่หรอครับ?"

"ฮะ ผมไปก่อนนะ" เฮ้อ!! เป็นคนดังนี่มันลำบากจริงๆเลยน้า จะทำอะไรตามใจชอบก็ไม่ได้
 มีเวลาพักส่วนก็ต้องอยู่แต่บ้านจะไปไหนทีก็ต้องหลบๆซ่อนๆ

      กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง   

"คิดอะไรอยู่ครับคุณกระต่าย"

"เอ้า!! จงอินมาได้ไงเนี่ยแล้วพวกนักข่าวเห็นรึป่าว"

"ใจเย็นๆสิครับคุณหม่าม๊า ให้ป๊ะป๋าพักหายใจก่อน แล้วป๊ะป๋าก็อุ้มลูกหมูที่แบตหมดหลับอยู่เนี่ยคุณหม่าม๊าเห็นรึป่าวครับ"

"อ่า....ขอโทษทีนะจงอินฉันมัวแต่เป็นห่วงกลัวนายจะเจอนักข่าว เพราะเมื่อกี้มีนักข่าวอยู่หน้าร้านน่ะ"

"หรอ? ตอนเข้ามาก็ไม่มีนะ เดี๋ยวป๊ะป๋าลงมานะครับ ขอพาลูกหมูขึ้นไปนอนบนห้องดีๆก่อน เริ่มเมื่อยแล้ว" 
พูดจบก็รีบอุ้มจีซองเดินขึ้นไปบนห้องเลย ว่าแต่เราลืมอะไรไปน้าา.......เอ.....อ๊า!! ใช่สิคุณแร๊พเปอร์ชานยอลอยู่บนห้องนิ

"เดี๋ยว!!! อย่าเพิ่งขึ้นไปจงอิน!! เอ่อ...จงอินคือ....." ไม่ทันแล้วสินะ

"นี่มันอะไรกันเนี่ยเซฮุน!!" อย่าดุกันสิคุณหมี ฉันกลัวนะ

"คือคุณชานยอลเค้ามาทานขนมที่ร้านน่ะจงอิน แล้วมีนักข่าวตามมา ก็ที่ฉันถามนายไง แล้วเค้าขอฉัน
เค้าไปหลบในห้องทำขนมหน่ะ ฉันเห็นว่าในนั้นคนเยอะแล้วก็ยังยุ่งๆด้วย ฉันก็เลยให้เค้ามาหลบบนห้องน่ะ"
 งื้อ!!! ทำหน้าดุอย่างนี้แล้วฉันกลัวนะ

"แล้วนายหล่ะเป็นใคร ทำไม่ถึงต้องดุคุณเซฮุนด้วย พูดกันดีๆก็ได้" อ๋อย! อย่าถามอย่างนั้นสิ จงอินยิ่งเป็นพวกขี้หวงขี้หึงอยู่

"จงอินฉันว่า...."

"เงียบเลยคุณกระต่าย!!!!!" กลัวแล้วจร้า

"แล้วนายจะดุคุณเซฮุนทำไม??" อย่ามาอยากรู้ตอนนี้ได้ไหมคุณแร๊พเปอร์

"ก็เป็นสามีเซฮุนไง ผัวอ่ะรู้จักรึป่าว แล้วนี่ก็ลูกชายของฉันสองคนถ้ารู้แล้วก็ช่วยหลีกด้วย ฉันจะเอาลูกนอน"
นั่นไง!!หมดกันผมไม่ได้อายหรืออะไรหรอกนะ แต่ที่ผมไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องก็เพราะว่ากลัวจงอินจะเดือดร้อน
แต่เหมือนว่าเจ้าตัวเค้าจะไม่กลัวไปกับผมเลย แถมยังอยากจะเปิดเผยให้ได้อีก

"จริงหรอครับ?? ไคเค้าเป็นสามีของคุณจริงๆหรอครับคุณเซฮุน" คุณชานยอลมองหน้าผมกับจงอินสลับกันไปมา
 และหันมาทำหน้าเหลอหลาถามผมเหมือนกับไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่จงอินพูด

"จริงฮะ!! จงอินเป็นสามีผม แล้วนั่นก็จีซองลูกชายของเราสองคน" ไหนๆก็ๆหนๆแล้วไม่มีอะไรจะต้องปิดแล้ว
 ก็ตอบไปตามความจริงเลยแล้วกัน พอผมตอบจงอินก็กลับมายิ้มได้ ฮึ!! ผ่านมากี่ปีๆไอ้นิสัยขี้หึงขี้หวงแบบเด็กๆ
ของจงอินก็ไม่หายสักที

"ถ้ารู้แล้วหมดธุระแล้ว นายก็กลับไปได้แล้ว ข้างล่างไม่มีนักข่าวแล้ว" กวนจริงๆเลยทำไมถึงพูดอย่างนั้นนะ

"จงอิน!!!! ทำไมถึงพูดแบบนั้น คุณชานยอลเค้าเป็นลูกค้านะ แล้วเค้าก็เป็นรุ่นพี่ในวงการของนายด้วย
ขอโทษคุณชานยอลเค้าเดี๋ยวนี้เลย"

"แต่เซฮุน ก็..."

"เดี๋ยวนี้!!! ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ฉันจะไปนอนกับลูก" ผมบอกอย่างดังก่อนที่จะพูดกระซิบระโยคหลังให้จงอินได้ยินคนเดียว

"ไม่เป็นไรหรอกครับเซฮุน ก็แค่เด็กไม่รู้จักโต!!" คุณแร๊พเปอร์ทำไมถึงพูดแบบนั้น เรื่องมันจะดีอยู่แล้วเชียว

"นายว่าใคร???" จงอินโมโหอีกซะแล้ว

"ใครอยากรับก็รับไป" ยังไม่จบ

"พอๆพอทั้งคู่นั้นแหละ จงอินรออยู่ที่นี่ก่อนเดี๋ยวฉันมา ส่วนคุณชานยอลข้างล่างนักข่าวไปหมดแล้ว
 ผมว่าคุณกลับไปก่อนเถอะฮะ อย่าอยู่ทะเลาะกันเสียงดังให้ลูกผมตื่นเลย ไปเถอะฮะ เดี๋ยวผมลงไปส่ง"

"ทำไมต้องไปส่งด้วยเซฮุน"

"เงียบ!! ไปเลยจงอินถ้าลูกตื่นขึ้นมางองแงนะฉันจะตีนายเหมือนกับตีจีซองนั้นแหละ นอนเป็นเพื่อนลูกไปก่อนเลย"
ผมพูดจบก็ปิดประตูทันทีเลยไม่รอฟังเสียงง้องแง้งของจงอินหรอก

"ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่รบกวน และยังเสียมารยาทอีก" พอลงมาถึงข้างล่างคุณแร๊พเปอร์ก็หันมาขอโทษผมก่อนเลย

"ไม่เป็นไรหรอกฮะ เป็นผมซะมากกว่าที่จะต้องขอโทษที่จงอินพูดไม่ดีกับคุณทั้งๆที่คุณเป็นรุ่นพี่เค้าแท้ๆ คุณชานยอลอย่า

ถือสาจงอินเลยนะฮะ ที่จริงเค้าก็ไม่ใช่คนหาเรื่องอย่างนี้หรอกนะฮะ เค้าแค่ขี้หึงขี้หวงไปหน่อยเท่านั้นเอง"

"ไม่หรอกครับ ผมกับไคเราก็กวนประสาทกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันแล้วแหละครับไม่ใช่ความผิดของคุณเซฮุนหรอกว่าแต่
ผมขอถามได้ไหมครับว่าพวกคุณคบกันมานานรึยังทำไมลูกของพวกคุณถึงตัวโตจัง"

"อ๋อ!! ได้ซิฮะ เราสองคนคบกันตั้งแต่เป็เด็กฝึกแล้วแหละฮะ แต่ผมดันท้องซะก่อนก็เลยอดเดบิวต์
 ส่วนจีซองน่ะเค้าพึ่งจะสามขวบกว่าๆเองฮะที่เค้าดูตัวใหญ่ก็เพราะว่ากินเก่งเหมือนพ่อเค้านะฮะ ฮึ ฮึ"

"อ่า...สงสัยจะเหมือนจงอินมากเลยนะครับ เมื่อกี้ผมแค่เห็นแว็บๆยังว่าเห็นเคล้าหน้าที่ถอดกันมาเลย"

"ฮ่าๆ สองคนพ่อลูกเค้าเหมือนกันเด๊ะเลยแหละครับ ว่าแต่คุณชานยอลรู้เรื่องนี้แล้วช่วยเก็บเป็นความรับได้ไหมฮะ
ที่จริงจงอินก็อยากจะเปิดเผย แต่ผมเป็นห่วกลัวลูกรับแรงกดดันไม่ไหว คุณชานยอนช่วยผมหน่อยได้มั้ยฮะ"

"ได้สิครับ!! แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะครับ"

"อะไรหรอฮะ ถ้ามันไม่เหนื่อบ่ากว่าแรงผมก็ตกลงฮะ"

"ไม่เลยครับ แค่ผมจะขอเป็นเพื่อนกับคุณเท่านั้นเอง ได้ไหมครับ"

"ได้สิฮะ ได้เลยผมก็นึกว่าเรื่องอะไร"

"ถ้าอย่างนั้นอย่างแรกเซฮุนต้องเรียกผมว่าชานยอลเฉยๆไม่มีคำว่าคุณแล้วผมก็จะเรียเซฮุนว่า
เซฮุนเฉยๆตกลงไหมครับ"

"ตกลงครับ ยินดีอย่างยิ่ง"

"โอเคครับถ้าอย่านั้นผมขอตัวก่อน เดี๋ยวคนแถวนี้เค้าจะเข้าใจผิดแล้วโมโหพาลมาชวนเซฮุนทะเลาะกันซะเปล่าๆเอาไว้

วันหลังผมจะมาใหม่นะครับ จะได้มาเล่นกับจีซองด้วย อ่อ!! ขนมร้านของคุณอร่อยมาก"

"ขอบคุณครับ!! แล้วเจอกันใหม่ครับ"

"เจอกันใหม่คืออะไรห๊ะคุณกระต่าย"

"อุ๊ย!! ตกใจหมดเลยจงอิน แล้วนี่ลงมาทำไม บอกให้อยู่เป็นเพื่อนลูกไง"

"บอกมาก่อนเลยว่าเจอกันใหม่คืออะไร"

"ไม่ต้องมาทำดุเลย คุณชานยอลเค้าแค่ขอเป็นเพื่อนกับฉันและชมว่าขนมของฉันอร่อยก็เท่านั้น"

"ทำไมต้องเป็นเพื่อนด้วย!!! ห้าม!!! ห้ามเลย ห้ามเจออีกห้ามคุยอีก ห้ามๆ"

"โวยวายอะไรกันจงอิน ฉันไม่ได้คิอะไรกับเค้าสักหน่อย"

"นายไม่ได้คิดไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่คิดนะเซฮุน ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่ชอบ"

"นายไม่ไว้ใจฉันหรือไงจงอิน ถึงใครจะชอบ แต่ถ้าฉันไม่เล่นด้วยซะอย่าใครจะทำอะไรได้ หรือนายไม่เชื่อใจฉัน"

"ไม่ใช่นะเซฮุน ฉันเชื่อใจนาย แต่ฉันก็กลัว"

"กลัวอะไรจงอิน จนป่านนี้แล้วลูกก็มีแล้ว และฉันก็พร้อมสำหรับอุ้มท้องลูกคนที่สองแล้ว ไม่ต้องกลัวแล้ว
ฉันก็มีแค่นายรักได้แค่นายคนเดียวเท่านั้นแหละจงอิน และชีวิตนี้ฉันก็ยกให้นายกับลูกไปหมดแล้ว
ไม่มีเหลือไว้แบ่งให้ใครอีกแล้ว"

"อือ....ฉันขอโทษนะคุณกระต่าย ฉันแค่กลัวจะเสียนายให้คนอื่นมากไปหน่อย ก็หมอนั่นทำถ้าเหมือนจะชอบนาย
แล้วก็ไม่ต้องมาเถียงเลยนะว่าฉันคิดไปเอง แค่เห็นสายตาของหมอนั่นฉันก็รู้แล้วว่ามันคิดยงไงกับนาย"

"ช่างเถอะ!! อย่าให้คนอื่นมาทำร้ายทำลายความรู้สึก ความเชื่อใจ ความไว้ใจของเราเลยนะจงอิน จะพาลให้เรา
ไม่มีความสุขไปซะเปล่า ใครจะยังไงก็ช่าง แค่ครอบครัวของเรามีความสุขก็พอ"

"คร้าบๆๆ ป๊ะป๋าขอโทษนะหม่าม๊า ว่าแต่เมื่อกี้หม่าม๊าบอกว่าพร้อมมีน้องให้จีซองแล้วใช่ป่ะ เราเริ่มกันคืนนี้เลยนะ"

"อะไรๆใครพูด? ทีอย่างนี้หล่ะเปลี่ยนเรื่องไวจังนะจงอิน"

"นะคร้าบบบ.....น้าาา....คุณหม่าม๊า...ป๊ะป๋าพร้อมแล้ว จีซองก็อยากมีน้องแย่แล้ว นะ นะ
น้าาาา....คร้าบบบ....ที่ร๊ากกก"

ฮึๆ หนีดีกว่า จริงๆเล๊ยจงอินนี่น้า ที่เรื่องแบบนี้นี่เร็วจริงๆ ผมหล่ะตอบชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้ที่สุด พระเจ้าฮะ
ขออย่าให้มีภัยอันตรายใดๆมาทำร้ายทำารายความสุขของครอบครัวลูกเลยนะฮะ

 

...

เอ....ชานยอลคู่แข่งคนสำคัญของคุณป๊ะป๋ากลับมาแล้ว

ต่อไปจะเป็นยังไง ก็รอติดตามติดตามกันนะคะ

สำหรับลูกหมูวันนี้นอนหลับไม่มีบทเลย ใครคิดถึงก็รอตอนหน้านะค่ะ

สุดท้าย มี่ขอฝากนิยายเรื่องใหม่ {แรง.ร้าย.รัก.....คุณเมียภาคบังคับ}(พี่ภาสกับหนูพัส)ด้วยค่ะ

 เหมือนเดิมค่ะ หนึ่งคอมเม้น=หนึ่งล้านกำลังใจ ถ้าชอบก็ปิดตาจิ้มๆโหวตให้มี่ด้วยนะคะ

 
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่14 10/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 10-06-2015 11:46:50
ถ้าชานยอลทำท่าจะออกตัวแรง เราว่าคุณปะป๋าต้องผนึกกำลังกับคุณลูกหมู(?)ช่วยกันปกป้องคุณหม่าม๊าให้รอดพ้นจากพวกแมลงหวี่ที่ชอบมาดอมดมของๆ คนอื่นเขาค่าา~ :laugh3:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่14 10/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 10-06-2015 14:40:37
เนื้อเรื่องง่าย เรียบๆ รวดเร็วทันใจดีจัง สนุกดีจ้าาา    :mew1:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่14 10/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-06-2015 15:52:22
หมูมัวแต่หลับ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่14 10/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 12-06-2015 00:27:32
น่ารักจังเลยยยยยพ่อแม่ลูก(หมู) น่ารักแย่างนี้ตลอดไปน้าาาา
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่15 12/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 12-06-2015 15:31:25
it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 15   

 

 

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/2042102862-member.jpg)

 

"จีซองครับ!! ถ้าลูกยังเลือกไม่ได้ว่าจะใส่ชุดไหนอยู่อย่างนี้ ป๊ะป๋าว่าเราจะต้องไปสาย แล้วได้เล่นเครื่องเล่นไม่ครบแน่เลย"

"ก็ลูกอยากหล่ะเหมือนป๊ะป๋านี่ฮับ!!!" โถ่.........ลูกชายผม วันนี้เราตกลงกันว่าจะไปล็อตเต้เวิลด์กันครับ เพราะเจ้าลูกหมูเค้า

รีเควสมาว่าจะต้องไปให้ได้ เซฮุนกังวลมากว่าจะมีคนจำผมได้และกลัวว่าจะเจอนักข่าว แต่สำหรับผมหรอไม่กลัวหรอก

เพราะว่าผมพร้อมที่จะเปิดเผยเรื่องครอบครัวของผมเสมอ แล้วอีกอย่างเซฮุนกับจีซองเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของผม เค้าทั้ง

สองคนเป็นเรื่องดีๆของผม เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องปิดบัง แต่เซฮุนกลัวว่าแฟนคลับจะรับไม่ได้และเสียใจที่ผมมี

ครอบครัวแต่สำหรับผมแล้วแฟนคลับถือว่าเป็นกลุ่มบุคคลสำคัญเหมือนกันและเป็นผู้ที่มีพระคุณสำหรับผมมาก แต่คุณก็อย่า

ลืมว่าผมก็เป็นคนธรรมดาๆคนนึงที่ทำงานหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวแต่ผมดันเลือกอาชีพศิลปินที่ทำหน้าที่ตอบแทนมอบ

ความสุขให้แฟนๆทางเสียงเพลงและเป็นที่จับตามองและมีคนสนใจมากกว่าคนปกติก็เท่านั้น แต่ยังไงๆในชีวิตจริงหลังเวที

หลังฉากการแสดงตัวผมก็ยังคงเป็นคิมจงอินคนธรรมดาๆที่มีหัวใจ มีความรู้สึกนึกคิด และผมก็อยากมีความสุข มีเวลาส่วนตัว อยากใช้เวลาว่างเวลาพักผ่อนเหมือนคนทั่วๆไปเหมือนกัน ผมแค่เลือกทำในสิ่งที่รักที่ชอบ แต่ผมไม่ได้ขายตัวตนและจิตวิญญาณให้ใครดังนั้นถ้าผมอยากจะทำอะไรผมก็จะทำ!!!

"จงอินนน!!!  จีซองงงง!!! ถ้ายังมัวโอ้เอ้กันอยู่อย่างนั้นก็ไม่ต้องไปกันแล้ว!!!!"  เสียงเซฮุนตะโกนเรียกมาจากข้างล่าง

"เลือกได้รึยังครับลูกชายหม่าม๊าเรียกแล้วนะ ถ้ามัวชักช้าแล้วหม่าม๊าโมโหจนไม่พาไป ป๊ะป๋าก็ช่วยไม่ได้นะจีซอง"

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1794166478-member.jpg)

"เสร็จแล้วฮับป๊ะป๋า!!! ลูกหล่อมั้ย??" อื้อหืออ!!! จัดเต็มเลยลูกชายผม ถึงไม่พูดไม่บอก ใครๆเค้าก็คงเดาออกว่าเป็นลูกศิลปิน

เสื้อยืดสีขาวคลุมทับด้วยแจ๊คแก็ตหนังสีทอง กางเกงพับขาขึ้นข้างนึงเหมือนพวก Hip Hop ตามด้วยหมวกทรง Hip Hop

ทั้งหมดนั้นคือลูกชายผมเลือกเองแต่งเอง งานนี้สงสัยโตมาจะไม่พ้นเป็นพวก Hip Hop หรือไม่ก็แร๊ปเปอร์จริงแท้แน่นอน

"หล่อแล้วครับลูก ฟอดดด....เรารีบลงไปข้างล่างกันเถอะ เดี๋ยวหม่าม๊ากลายร่างเป็นยักษ์มากินเราสองคน" ผมชมลูกชายก่อน

ที่จะหอมแก้มไปอีกที

"หม่าม๊า!!!! ลูกหล่อมั้ย???" พอเดินลงมาถึงชั้นล่างก็ตะโกนถามเซฮุนที่กำลังก้มๆเงย เตรียมมื้อเช้าของเราสามคนอยู่ในครัว

"โอ้โห!!! ฟอดดด.....ลูกชายหม่าม๊าหล่อจังเลย!!! ป๊ะป๋าแต่งตัวให้จีซองหรอครับ" เซฮุนละมือจากมื้อเช้าก่อนที่จีซองจะวิ่ง

ไปกอดและเซฮุนก็ก้มลงหอมแก้มลูกชายก่อนที่จะถาม

"ป่าวฮับ!!! ลูกแต่งเองน้าาาา...." จีซองทำหน้ายู่ก่อนที่จะบอก เซฮุนเลยเงยหน้ามองและเลิกคิ้วขึ้นถามผม ผมก็เลยพยักหน้า

ยืนยันเป็นคำตอบว่าจีซองเป็นคนเลือกเอง จนเซฮุนทำตาโตสงสัยจะแปลกใจ

"ฟอดดด.....ลูกชายหม่าม๊าเก่งที่สุดเลยครับ แต่ตอนนี้หม่าม๊าว่าเรามาทานมื้อเช้ากันก่อนดีกว่าไหมครับ แล้วเราจะได้ไป

ล็อตเต้เวิลด์กันเร็วๆไงครับ ว่าแต่ลูกชายหม่าม๊าหิวรึยังน้าาาา....."

"หิวที่สู้ดดดด.....เลยฮับ!!!"

"ฮ่าๆ/ฮึๆ" พอเซฮุนถามจบเจ้าลูกหมูก็พุ่งเข้าใส่มื้อเช้าทันทีเลย

"หมูก้อนๆ หมูก้อนของลูกห้ามใครกินน้าาาาาา...." จีซองโวยวายใหญ่เลยตอนที่เซฮุนคีบหมูก้อนให้ผม

"แบ่งป๊ะป๋าบ้างสิจีซอง ถ้าลูกกินคนเดียวหมดนี่หม่าม๊าจะต้องเลี้ยงจีซองไม่ไหวแน่เลย" พอเซฮุนบอกเจ้าตัวแสบก็วางตะเกียบ

นั่งหน้างอกอดอกเลย

"อ๊ะๆ ป๊ะป๋าไม่อยากกินหรอกป๊ะป๋าให้ลูกนะครับ" ผมบอกก่อนที่จะคีบหมูก้อนที่เซฮุนคีบให้ผมไปใส่ในถ้วยของจีซอง

"ขอคุณฮับ!!!" ยิ้มได้หล่ะ กะอีแค่หมูก้อน ก้อนเดียวลูกผมทำเหมือนโลกจะแตกเลย เรื่องกินนี่สำคัญมากสำหรับจีซอง

"จงอิน!!! ทำแบบนี้ไม่ถูกเลยนะลูกจะเคยตัว" เซฮุนดุผมอย่างไม่พอใจ

"ไม่เป็นไรหรอกคุณกระต่าย เดี๋ยวก็ค่อยๆสอนกันไป ตอนนี้ลูกยังเด็ก แกยังไม่ฟังหรอก" ผมบอกก่อนที่จะก้มหน้ากินข้าวต่อ

ถ้าเป็นเด็กทั่วไปนี่ พ่อแม่จะต้องบังคับให้กินมื้อเช้า อย่างน้อยให้ได้ดื่มนมซักแก้วก็ยังดี แต่กลับกันมาตรฐานทั่วๆไปแบบนั้น

ใช้ไม่ได้กับจีซองหรอกครับ มื้อเช้าของลูกผมจะต้องมีข้าวถ้วยใหญ่ๆหนึ่งถ้วย นมหนึ่งแก้ว ขนมฝีมือหม่าม๊าหนึ่งชิ้นและ

ตบท้ายด้วยน้ำผลไม้หนึ่งแก้ว นั่นคือมาตรฐานมื้อเช้าของลูกชายผม ไม่สิต้องบอกว่าทุกๆมื้อของลูกชายผมเลยก็ว่าได้แค่

เปลี่ยนจากน้ำผลไม้เป็นผลไม้สดๆเท่านั้นเอง

"อ้าาาาา....อิ่ม!!!" จีซองพูดไปลูบพุงไปหลังจากกินหมดทุกอย่างจนไม่เหลือแล้ว

"กินขนาดนี้ถ้าไม่อิ่มหม่าม๊าก็จะไม่เลี้ยงแล้ว กระเพาะลูกมีหลุมดำหรอจีซอง ทำไมลูกถึงกินเยอะขึ้นทุกวันๆ สงสัยต่อไป

หม่าม๊าจะต้องคุมปริมาณอาหารแล้วหล่ะ ไม่อย่างนั้นหม่าม๊าต้องมีลูกเป็นหมูแน่นอน" เซฮุนพูดขึ้นขณะที่กำลังเก็บถ้วยชาม

ไปล้าง ไม่ต้องห่วงหรอกครับถ้าเป็นบ้านอื่นพ่อกับแม่ก็จะต้องเป็นคนกินอาหารให้หมด แต่บ้านผมลูกชายเป็นคนจัดการกิน

อาหารทุกอย่าที่พ่อแม่อย่างพวกผมไม่กิน และหมูก้อนที่เต็มจนเกือบจะล้นจานนั้นที่จีซองหวงนักหวงหนาเจ้าตัวก็จัดการกิน

คนเดียวจนหมดไม่เหลือเลยซักชิ้น น่าภูมิใจแทนเซฮุนจริงๆที่ลูกกินเรียบขนาดนี้ อย่ามองผมกันอย่านั้นสิคุณผู้อ่าร นี่ผมพูด

จากความรู้สึกข้างในจริงๆเลยนะไม่ได้จะประชดแต่อย่างใด

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1152791679-member.jpg)

"ล็อตเต้เวิลด์จ๋าาา....จีซองมาแล้วววว....." ฮ่าๆ พอเข้ามาข้างในได้ลูกชายผมก็ตะโกนเสียงดังแบบไม่สนใจใครเลย

สงสัยจะดีใจจัด ฮึๆ

"จีซองอย่าเสียงดังครับลูกเดี๋ยว......"

"ไม่เป็นไรหรอกเซฮุน อย่าคิดมากสิ! วันนี้เรามาพักผ่อนกันแบบครอบครัวนะ ปล่อยตัวไปตามสบายๆสิ" ยังไม่ทันที่เซฮุน

จะพูดกับจีซองจบผมก็พูดขัดขึ้นก่อน ทำไมผมจะไม่รู้ล๊ะว่าเซฮุนจะพูดอะไรกับลูก แต่ผมไม่อยากให้พวกเราหมดสนุกเพราะ

ความกลัวในเรื่องเหล่านั้น

"จะดีหรอจงอิน??" เซฮุนถามเสียงเบแต่หน้านี่หงอยไปแล้ว เฮ้อ!! กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง

"ดีสิ!! เชื่อฉันแค่สนุกและมีความสุขไปกับมันก็พอ ทิ้งความเป็นคนดังของฉันไปไกลๆ เหลือไว้แค่คิมจงอินที่เป็นสามี

ของนายและเป็นพ่อของจีซองลูกเราก็พอนะ ฉันขอร้อง นายไม่เห็นหรอว่าลูกมีความสุขและตื่นเต้นแค่ไหนนะ ฮึ!"

"อื้ม!! (^__^) ฉันเข้าใจแล้วคุณหมี"

"ถ้าอย่างนั้นวันนี้เรามาลำรึกความหลังกันดีกว่า ไปเดทกันคุณกระต่าย!!!!" ที่จริงผมกับเซฮุนมีเดทแรกกันที่นี่แหละครับ

พวกคุณรู้แล้วก็อย่าไปแซวเซฮุนกันนะครับเดี๋ยวคุณกระต่ายจะเขิลแล้วพาลมางอลไม่ยอมคุยกับผมอีก

"อื้ม!! ได้เลยคุณหมี!!!" เซฮุนยื่นมือมาจับมือผมที่รอรับอยู่

"ป๊ะป๋าาา....หม่าม๊าาาา....เราจะไปเล่นกันได้รึยังฮับ!! (T^T)" อุ๊ยย!! ผมลืมไปเลยว่าเรามีจีซองอีกคน และวันนี้เราก็พกลูกมา

ด้วยไม่ได้มาเดทกันแค่สองคนซักหน่อย

"ฮ่าๆ/คิกๆ" ผมกับเซฮุนมองหน้ากันก่อนที่จะหัวเราะออกมาพร้อมกัน

"ไปกันเลยครับลูกจะเล่นอันไหนก่อนดี!!!" ผมอุ้มจีซองขึ้นด้วยมือเดียว ก่อนที่มืออีกข้างของผมจะเอื้อมไปกุมมือเซฮุนไว้แน่น

ไม่เป็นไรหรอกถึงจะไม่ได้เดทกันแค่สองคน แต่การเดทสามคนแบบครอบครัวก็มีความสุขไปไม่น้อยกว่ากันหรอกนะครับ

พวกคุณคิดเหมือนกันกับผมรึป่าว???

...

ตอนแรกมี่กะว่าจะอัพตอนที่15พรุ่งนี้แต่ว่าพรุ่งนี้มี่ติดภารกิจ

เพราะมัวแต่ลุ้นเจ้าลูกหมูแต่งตัวและกินข้าวกันอยู่เอาไว้ตอนหน้าเราไปเที่ยว

กันแบบแสบๆซนๆกับเจ้าลูกหมูจีซองกันนะคะ วันนี้ก็ลาก่อนหล่ะ ค่ะ (>3<) 
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่15 12/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 12-06-2015 16:53:25
หนูจีซองกินเก่งขนาดนี้อนาคตคงหนีไม่พ้นเป็น 'ลูกหมูที่โตเต็มวัย' แล้วแน่เลยนะคะเนี่ย :laugh: ..
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่15 12/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-06-2015 20:01:06
นึกว่าลืมลูกแล้ว มัวแต่หวานระลึกความหลังกันอยู่
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่15 12/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 12-06-2015 23:34:45
หลงจีซอง คงไม่มีใครมาสร้างความร้าวฉานใช่ไหม
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่15 12/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: makone ที่ 14-06-2015 11:13:33
น่าร๊ากกกกกกก :-[  :mew1:  o13 ขออน่าให้มามาม่าเลยนะค่ะ Loveจียอง  :mew1:  :mew1:
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่16 17/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 17-06-2015 19:20:10
it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 16   

 

 

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1794166478-member.jpg)

"น้านนนน......ม้าหมุนๆ ป๊ะป๋าฮับ! หม่าม๊าฮับ! นั่นๆม้าหมุนๆ ลูกอยากเล่นๆ" พอเข้ามาข้างในได้เจ้าลูกหมูก็สตาร์ทติด

เครื่องตัวเองด้วยเครื่องๆเล่นเบาๆอย่างม้าหมุนสองรอบ

"เอ๊ะโอ๋!!! ป๊ะป๋าาาาาา......ลูกอยากเล่นอันนั้นอ๊ะ!!!" พอลงมาจากม้าเจ้าตัวก็กระโดดใช้แขนสั้นๆเกาะเอวและขาสั้นๆรัด

ต้นขาของจิงอินไว้แน่นจนทำให้ตอนนี้ทั้งคู่เหมือนพ่อหมีลูกหมีเข้าไปทุกที ยิ่งหน้าให้กันๆอยู่

"ฮ่าๆทำไมกอดป๊ะป๋าแบบนี้หล่ะ จีซองอยากเล่นอันไหนหรอครับ" จงอินขำกับท่าทีของจีซอง เอี้ยวตัวคว้าจีซองมาอุ้ม

ก่อนที่จะถามขึ้นอีกครั้ง

"(>[]<)/อันน้านนนนน......." คราวนี้ลูกหมูใช้มือป้อมป้องหูจงอินก่อนที่จะตะโกนเสียงดังจนหูจงอินแทบแตก

และชี้นิ้วไปยังสิ่งที่ตัวเองอยากเล่นเป็นอันต่อไป

"สเก็ตน้ำแข็ง??" จงอินถามให้แน่ใจ

"อื้อๆ \(>O<)/ อันนั้นแหละฮับ!!!"

"ลูกเล่นเป็นหรอเซฮุน??" จงอินหันมาถามผมให้แน่ใจอีกที นี่ยังดีนะเนี่ยที่ยังจำได้ว่าผมก็มาด้วย ตั้งแต่เข้ามาในนี้อะไรๆ

ก็ป๊ะป๋าๆ อะไรๆก็จีซองๆ เหอะ!! มันน่าน้อยใจนัก (T^T)

"ไม่เป็นหรอก ฉันไม่เคยพาลูกเล่นสเก็ตหรอกฉันกลัวลูกล้มแล้วเจ็บตัวน่ะ" ผมบอกออกไป ตอนที่อยู่อเมริกาน่ะ ผมจะไม่

ให้จีซองเล่นอะไรที่มันโลดโผนหรือเสี่ยงต่อการได้เจ็บตัวหรอก ผมไม่ชอบเห็นลูกร้องไห้และไม่ชอบให้เนื้อตัวของจีซอง

มีแผลหรอก ผมจะระมัดระวังอย่าถึงที่สุดแต่จีซองก็แอบไปปืนต้นไม้ไปเล่นอะไรที่มันห่ามๆซนๆกับพี่จุนมยอนทุกที

"ลูกเคยเล่นน้าาา.....ลูกเคยแอบหม่าม๊าไปเล่นกับลุงจุนมยอนมาตั้งหลายครั้งแล้วด้วยยย.....อุ๊บบ!!(OxO)" จีซองรีบใช้สองมือ

ปิดปากตัวเองทันทีที่นึกขึ้นได้ว่าตัวเองหลุดคำพูดที่ไม่ควรพูดออกมา

"เมื่อกี้ลูกพูดว่ายังไงนะจีซองบอกหม่าม๊ามาซิ!!" เฮอะ!! นั่นไงพูดยังไม่ทันขาดคำก็หลุดความลับออกมาอีกแล้วตลอดเลย

คุณลุงคุณหลานสองคนนี้เป็นแบบนี้ประจำ ปล่อยให้คลาดสายตาไม่ได้เลยทีเดียว

"(OxO ) ( OxO) (OxO ) ( OxO)" จีซองยังไม่ยองเอามือที่ปิดปากออก เอาแต่สายหน้าไปมาลูกเดียว

"ช่างเถอะน่า...เราไปเล่นสเก็ตน้ำแข็งกันดีกว่าเร็ว!!" จงอินบอกก่อนจะอุ้มจีซองด้วยมือข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างนึงก็มาคว้า

มือผมไว้และจูงเดินไปพร้อมๆกัน

"เย้ๆ \(^0^)/ ไปเลยฮับป๊ะป๋าาาา....ไปกันเล๊ย!!!" ทีอย่างนี้หล่ะเปิดปากพูดออกมาได้นะเจ้าลูกหมูตัวแสบ มันน่านัก!!

"จีซองเล่นเป็นแน่นะลูก" จงอินถามขึ้นเมื่อเราเปลี่ยนเป็นรองเท้าสเก็ตแล้วหลังจากที่ไปเช่ามา ผมกับจงอินน่ะไม่มีปัญหาหรอก

เพราะตอนเป็นเด็กฝึกอยู่ในบริษัทคุณพ่อเราสองคนมาก็เล่นสเก็ตที่นี่ได้ประมาณสองสามครั้งแล้ว ตอนแรกผมก็เล่นไม่เป็น

เหมือกันแต่ก็ได้จงอินนี่แหละคอยสอนล้มลุกคุกคลานอยู่ตั้งนานสองนานกว่าจะเป็น แต่ไอ่คนที่บอกว่าอยากจะเล่นแล้วก็

เล่นเป็นนี่สิปัญหาใหญ่ เพราะขืนจงอินปล่อยมือขึ้นมาเมื่อไหร่แล้วปรากฏว่าจีซองเล่นไม่เป็นขึ้นมาเจ้าตัวจะต้องเจ็บตัวแน่ๆ

"เป็นฮับ!!!"

"ถ้าอย่างนั้นป๊ะป๋าปล่อยมือลูกเลยนะ" จงอินถามเพื่อความแน่ใจอีกที

"ป๊ะป๋าปล่อยลูกเลยฮับ!!" จีซองตอบอย่างมั่นใจ จนจงอินค่อยปล่อยมือออกจากตัวของจีซอง

   ตุ๊บบบ!!!

"จีซอง/จีซอง" เสียงของผมกับจงอินดังขึ้นพร้อมกัน เมื่อพอจงอินปล่อยมือจากลูกปุ๊บจีซองก็ล้มก้นจ้ำเบ้าลงไปอย่างเร็ว

จนจงอินคว้าไม่ทันเลย

"เดี๋ยวก่อนเซฮุน!! ปล่อยลูกไว้อย่างนั้นก่อน" ผมกำลังจะเดินไปจับลูกลุกขึ้น แต่จงอินกลับรั้งแขนผมไว้

"ทำไมหล่ะจงอิน? ฉันจะไปช่วยจับลูกลุกขึ้นนะ" ผมถามอย่างไม่เข้าใจ

"นายก็ดูจีซองสิ!! ตอนเนี่ยลูกไม่รูสึกเจ็บหรอกและพยายามที่จะลุกขึ้นด้วยตัวเองด้วยนายเห็น? แต่ถ้านายทักหรือทำถ้าตกใจ

และจะเข้าไปช่วยเมื่อไหร่ลูกก็จะร้องเพราะเรียกร้องความสนใจทันทีเลย ดูสิ!ถ้าลูกรู้สึกเจ็บจริงๆป่านนี้คงร้องไห้จ้าไปแล้ว

เพราะฉะนั้นนายก็ยืนดูอยู่เฉยๆกับฉันตรงนี้ก่อนนะ ไว้ลูกไม่ไหวและอยากให้เราช่วยเมื่อไหร่ค่อยเข้าไป โอเคมั้ย?"

"แต่ฉันว่า..."

"เชื่อฉันเถอะ!! ตอนเด็กๆพ่อฉันก็สอนฉันเล่นสเก็ตน้ำแข็งด้วยวิธีนี้เหมือนกัน ที่ฉันทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะฉันไม่ห่วงลูกหรอกนะ

แต่ตรงกันข้ามฉันรักและเป็นห่วงลูกมากฉันถึงเลือกให้เค้าได้ลองทำลองช่วยเหลือตัวเองก่อนที่เค้าจะขอให้เราช่วย แม้ว่ามันจะ

เป็นเรื่องเล็กๆและลูกยังเด็กอยู่ก็ตาม ต่อไปเมื่อเค้าเติบโตขึ้นโดยไม่มีเราคอยช่วยเหลือประคับประคอง  ฉันก็ชื่อว่าลูกของเรา

จะยืนหยัดได้อย่างสง่างามและแข็งแกร่งโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาใครเลย นายจะคอยปกป้องลูกเหมือนกับไข่ในหินอยู่ตลอดเวลา

อย่างนี้ไม่ได้หรอกนะเซฮุน ซักวันจีซองก็ต้องโตและลูกก็จะต้องเลือกทางเดินเป็นของตัวเอง เชื่อฉันสักครั้งเถอะนะ

คุณกระต่าย  เราอย่าเป็นพ่อแม่ที่คอยสปอยลูกตลอดเวลาเถอะนะ อย่าเป็นพ่อแม่ที่คอยช่วยเหลือและไม่ให้ลูกได้ลองผิด

ลองถูกหรือได้ทำอะไรด้วยตัวเองเลย  พอถึงวันที่เค้าไม่มีเราแล้วเค้าจะกลายเป็นคนที่ล้มไม่เป็นท่าและทำอะไรไม่เป็น

นายอยากเป็นประเภทพ่อแม่รังแกฉันหรอ??" จงอินพูดอธิบายให้ผมฟังในมุมมองของเค้าอย่างใจเย็น

"อืมมม....ก็ได้" ผมตอบจงอินไปโดยที่ไม่ได้ละสายตาออกจาจีซองเลย ผมมองลูกและคิดตามในสิ่งที่จงอินพูด ถ้าถึงวันที่จีซอง

ไม่มีผมและจงอินอยู่ด้วยแล้วและจะต้องเป็นอย่างที่จงอินบอกผมคงจะทนไม่ได้ ผมคงจะเสียใจมากที่ทำได้แค่เพียงมองลูก

ล้มลุกทุกข์ทรมาณจากบนฟ้าโดยที่สาเหตุเกิดมาจากการอบรมเลี้ยงดูและรักลูกแบบผิดๆของผม

"อย่าคิดมากเลยคุณกระต่าย ฉันจะช่วยนายดูแลจีซองให้เป็นเด็กที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีความสุขที่สุดในโลกเลย"

จงอินเอื้อมมือมากุมมือผมไว้และบีบเบาๆเพื่อให้กำลังใจ เฮ้อ!!ผมคงจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีเลี้ยงลูกใหม่หมดซะแล้ว

เพราะที่ผ่านมาผมเป็นห่วงลูกและกลัวลูกเจ็บมากเกินไปเลยไม่อนุญาติให้จีซองได้เล่นซนเหมือนเด็กผู้ชายซะเท่าไหร่

งานนี้ผมคงจะต้องปรึกษาจงอินให้มากๆแล้วแหละ เพราะจงอินอยู่คนเดียวและดูแลตัวเองมาตั้งแต่อายุสิบห้าเป็นช่วงหัวเลี้ยว

หัวต่อพอดีเลย เด็กถ้าจะดีจะเลวก็รู้กันช่วงนั้นนั่นแหละฮะจนถึงปัจจุบันนี้จงอินเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นพ่อที่ดี และเป็น

หัวหน้าครอบครัวที่ดีอย่างนี้ได้โดยที่ไม่มีใครคอยเลี้ยงดูและอบรมสั่งสอนเลยเพราะอย่าที่รู้กันคือจงอินสูญเสียครอบครัว

ทั้งหมดไปเพราะอุบัติเหตุเครื่องบินตก แต่จงอินก็อยู่รอดและมีอย่างทุกวันนี้ได้ก็เพราะตัวเองทั้งนั้น จงอินคงจะมีมุมมอง

และความคิดดีๆที่แต่กต่างจากลูกคนหนูอย่างผมแน่นนอน

"ป๊ะป๋าาาาา....หม่าม๊าาาาา.....ลูกเล่นได้แล้ว!!!! ดูจิๆ" เสียงจีซองเรียกความสนใจของเราสองคนได้เป็นอย่างดี

"ฮ่าๆๆๆๆ/คิกๆๆๆๆ" พอผมและจงอินหันไปเห็นลูกก็ต้องระเบิดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เพราะอะไรน่ะหรอฮะ

ก็เพราะวิธีเล่นที่เจ้าลูกหมูตัวแสบบอกว่าเล่นได้แล้วน่ะสิฮะ ไอ้เราก็นึกว่าลูกเราจะเก่งมากจนสามารถยืนบนรองเท้าสเก็ต

ด้วยตัวเองแต่ที่ไหนได้เจ้าลูกหมูตัวแสบกลับคว่ำตัวลงกับลานสเก็ตน้ำแข็งแล้วใช้แขนขากระดึบไปข้างหน้าทำท่าเหมือน

กับตอนว่ายน้ำนะสิฮะ เท่านั้นยังไม่พอเจ้าลูกหมูยังกางแขนกางขาค่อยใช้พุงกลมๆของตัวบังคับทิศทางหมุนตัวเองเป็น

วงกลมได้อีกต่างหาก สงสัยผมคงจะต้องใช้วิธีของจงอินเลี้ยงลูกจริงๆแล้วนะสิฮะในเมื่อ ทั้งๆที่จีซองล้มก้นจ้ำเบ้าไปกับ

พื้นน้ำแข็งอย่างแรงยังไม่ร้องไห้งองแงเลยแถมยังยิ้มร่าหัวเราะได้อย่างมีความสุขอีก
(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/2042102862-member.jpg)

"อ๊ากกกก......หิวๆ ลูกหิว!! หิวม๊ากกกกก...............หม่าม๊ามีอะไรให้ลูกกิงรึป่าวฮับ!!!"

"ฮึๆ ทีเวลานี้มาถามหาของกินเลยนะเจ้าลูกหมู ทีตอนหม่าม๊าบอกว่าให้เลิกเล่นทำไมลูกไม่ยอมเลิกหล่ะครับ หม่าม๊าไม่รู้ว่า

ป่านนี้ที่ร้านอาหารข้างหน้าจะปิดหรือว่าขายอาหารหมดไปแล้วรึยังก็ไม่รู้ หม่าม๊าไม่ได้เตรียมมื้อกลางวันมาซะด้วยสิทำยังไง

ดีน้าาา....ป๊ะป๋าจงอินว่ายังจะมีอะไรเหลือให้ลูกหมูจีซองกินอยู่รึป่าวนะ??" เซฮุนแกล้งพูดแหย่จีซอง เมื่อเจ้าตัวถามหาอาหาร

ทันทีหลังจากที่เกลือกกลิ้งเองบ้าง ให้ผมกับเซฮุนจูงเดินบ้าง ใช้เวลาอยู่ในลานสเก็ตตั้งนานสองนานทั้งๆที่เลยเวลามื้อเที่ยง

มาตั้งนานแล้วเซฮุนก็ถามแล้วถามอีกว่าหิวรึยังแต่เจ้าตัวก็บอกว่าไม่หิว ขอเล่นก่อนไม่รู้ว่าติดใจหรือชอบอะไรนักหนาถึงได้

ยอมกินมื้อเที้ยงช้าทั้งๆที่ปกติแล้วต่อให้แผ่นดินไหวจีซองก็ต้องได้กินข้าวตรงเวลาทุกมื้อหรือว่าอาจจะตื่นเต้นที่ได้มาเที่ยว?

"เอ.........ป๊ะป๋าว่าป่านี้อาหารคงหมดแล้วมั้งครับหม่าม๊า นี่ก็เลยเวลามื้อกลางวันมาตั้งนานแล้วน้าาา...." ผมแกล้งดูเวลาที่

นาฬิกาข้อมือก่อนจะรับมุกของเซฮุน

"งื้อออออ.........ไม่เอาน้าาา......ลูกหิวแล้วน้าาาา\(TOT)/ หิวมากเลยด้วย ลูกอยากกิงๆ ป๊ะป๋าาาาา......หม่าม๊าาาาา........."

จีซองทำท่าเหมือนโลกจะแตกกอดขาของผมกับเซฮุนคนละข้างเงยหน้ามองผมทีมองเซฮุนที

"ฮ่าๆๆๆๆ ไปลูกป๊ะป๋ากับหม่าม๊าแค่ล้อเล่นเฉยๆ แต่คราวหลังถ้าถึงเวลากินแล้วจีซองก็ต้องกินรู้ไหมครับลูกอย่ามัวแต่ห่วงเล่น

เพราะบางที่อาหารก็ไม่ได้มีให้เรากินได้ตลอดเวลาหรอกนะครับลูก" ผมอุ้มจีซองขึ้นมาก่อนที่จะเดินไปยังโซนอาหารทันที

โดยมีเซฮุนเดินตามหลังมาด้วยกัน

"ทำไมถึงไม่มีอาหารให้เรากิงตลอดล๊ะฮับป๊ะป๋า เวลาลูกหิวตอนไหนหม่าม๊าก็ทำให้ลูกตอนนั้นเลยนะฮับ เห็งมั้ยลูกมีอาหาร

ให้กิงตลอดเวลาเลยด้วย" จีซองเถียงผมออกมา

"ก็เพราะว่าต่อไปนี้หม่าม๊าจะทำอาหารแค่สามมื้อไงครับลูก ถ้านอกเหนือจากนั้นหม่าม๊าก็จะไม่ทำแล้ว เหมือนกับที่โรงเรียน

ไงครับลูก ถ้าจีซองไม่กินข้าวตอนที่เค้าพักกลางวันลูกก็จะไม่มีได้กินจนกว่าจะถึงตอนกลับบ้านเลยใช่ไหมครับลูก??"

"ใช่ฮับ!!! ฮเยจีเคยไม่ยอมกิงข้าวเที่ยงที่คุงครูเอามาให้ด้วยฮับป๊ะป๋า พอตอนเรียนวาดรูปฮเยจีก็ปวดท้องจนร้องไห้เลย คุงครู

ก็เลยบอกว่าที่ฮเยจีปวดท้องก็เพราะว่าไม่ยอมกิงข้าวฮับ!!" จีซองตอบผมก่อนที่จะเล่าเรื่องของเพื่อนในห้องให้ผมฟัง

"เห็นไหมถ้าลูกไม่ยอมกินข้าวก็จะปวดท้องเหมือนฮเยจี ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้พอป๊ะป๋ากับหม่าม๊าบอกอะไรจีซอง ลูกก็จะต้อง

ทำตามรู้ไหมครับลูก ถึงเวลากินลูกก็ควรจะกินถึงเวลาจะนอนลูกก็ควรจะนอน เพราะว่าถ้าลูกมัวแต่ห่วงเล่นหรือดื้อจนไม่

ยอมกินข้าวให้ตรงเวลา มื้อนั้นลูกก็จะอดกินไปเลยรู้ไหมครับ เพราะว่าหม่าม๊าจะไม่ทำเพิ่มให้ลูกอีกแล้วเข้าใจที่ป๊ะป๋าพูด

รึป่าวครับจีซอง" ผมถามเมื่อเห็นว่าจีซองได้แต่เงียบ

"หม่าม๊าจะไม่ทำอาหารให้ลูกจริงหรอฮับ??" จีซองไม่ยอมตอบคำถามผมแต่กลับหันไปถาเซฮุนแทน

"จริงครับ!! หม่าม๊าจะทำแค่มื้อเช้า มื้อเย็น และมื้อกลางวันอย่างที่ป๊ะป๋าบอกเท่านั้น จะไม่มีมื้อสาย มื้อบ่าย และมื้อดึกของลูก

อีกต่อไปครับ" เซฮุนตอบกลับ

"แล้วถ้าลูกหิวหล่ะครับป๊ะป๋า"จีซองหันมาถามผมอีกครั้ง

"ไม่หิวหรอกครับลูก ในสามมื้อที่หม่าม๊าบอกไปนั้น ลูกจะกินเท่าไหนก็ได้จนกว่าจะอิ่มป๊ะป๋าอนุญาติ ถ้าลูกทำอย่างที่ป๊ะป๋า

บอกลูกก็จะไม่หิวอีกเลย ตกลงมั้ย??"

"ก็ได้ฮับ!!"

         หลังจากที่เราทานมื้อกลางวันกันตอนบ่ายสองเกือบจะบ่ายสามที่เจ้าลูกหมูสูบอาหารเข้าหลุมดำในกระเพาะจนเต็ม

พุงกลมๆนั้นแล้ว เราสามคนพ่อแม่ลูกก็พร้อมผจญภัยวันหยุดสุดหรรษาในล็อตเต้เวิลด์กันต่อเลย

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1293513548-member.jpg)

       ผมกับจีซองเลือกที่จะเริ่มต้นเบาๆในบ้านผีสิงเพื่อเดินย่อยอาหารก่อน แต่เซฮุนค้านหัวชนฝาว่าไม่เห็นด้วย  แต่สรุปแล้ว

ผมกับจีซองสองเสียงชนะไปแบบใสๆ และบ้านผีสิงก็ไม่ทำให้ให้เจตนารมณ์ของผมและจีซองต้องล้มเหลว เพราะจริงๆแล้ว

ที่เราสองคนพ่อลูกเลือกบ้านผีสิงก็เพราะว่าอยากจะได้ยินเสียงกรีดร้องของคุณหม่าม๊าคนสวย และมันก็เป็นไปตามที่คาด

เพราะว่าบ้านผีสิงที่นี่ขนาดคนไม่กลัวผีอย่างผมยังหลอนนิดๆเลย จะนับภาษาอะไรกับคนที่ขวัญอ่อนขี้กลัวอย่างเซฮุน

ของพวกเรา งานนี้ถึงแม้ว่าจะหลอนไปนิดแต่ถ้าเทียบกับการที่ได้ยินเสียงกรี๊ดสาวแตกของหม่าเซฮุนคนสวยงานถือว่าคุ้ม

ส่วนเจ้าลูกหมูจีซองน่ะหรอ? ก็ไม่ได้กลัวผีเลยน่ะสิ ขอขี่หลังผมสนุกหัวเราะตลอดทางเลย แถมยังไปดึงไส้ปลอมของผีติดมือ

มาอีก เฮ้อ!! ลูกชายผมไม่รู้ว่าห่ามได้ผมหรือได้ใครมา

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1024097489-member.jpg)

        ถัดมาพวกเราก็สนุกกันต่อกันที่ Giant Loop เป็นกระเช้าที่หมุนแบบ 360 องศา ที่ชวนเสียวสร้างความตื่นเต้นช่วยเพิ่ม

อัตตราการเต้นของหัวใจให้เต้นแรงขึ้นมาอีกนิด
(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1518591088-member.jpg)

          แต่ที่เรียกเสียงกรี๊ดของสองคนแม่ลูกได้ดังสนั่นก็ต้องนี่เลย The Conquistador  เรือไว้กิ้ง ที่ยกสูงจนเกือบจะตั้งฉากกับพื้น

งานนี้พอลงมาได้ผมก็ไม่รู้ว่าจะต้องดูแลใครก่อนดี ทั้งคุณลูก ทั้งหม่าม๊า หมดสภาพพอกัน
(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1669351632-member.jpg)
           หลังจากที่พวกเราตระเวรเล่นเครื่องเล่นจนครบหมดแล้ว และหามื้อเย็นทานกันอย่างง่ายๆแล้วก็พากันซื้อไอติมมากิน

กันระหว่างที่มานั่งพักให้หายเหนื่อยกันที่ลาน Adventure เพื่อรอเวลาที่จะดู Laser Show ตอนสามทุ่มครึ่ง ที่คุณลูกชายเค้า

รีเควสมาว่าจะต้องดูให้ได้ ส่วนคุณหม่าม๊าคนสวยน๊ะหรอ ก็แทบจะเป็นลมหมดแรงกันไปเลยทีเดียวขนาดคนที่ออกกำลังกาย

หนักๆเป็นประจำอย่างผมยังเหนื่อยแทบแย่ อย่าว่าแต่เซฮุนเลย แต่จีซองนี่สิไม่รู้ว่าไปขุดเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนักหนา ตั้งแต่

สายยันค่ำจนป่านนี้แล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยหรือหมดแรงแต่อย่างใดเลย สุดยอดจริงๆลูกชายผม!!!

 

...

ขอบคุณรูปภาพสวยๆและข้อมูลดีๆจาก Minbong (ขออนุญาติด้วยนะคะ)

และบางสิ่งบางอย่างของตอนนี้ก็ไม่สามารถทำได้จริงอย่างเช่น พาเด็ก4ขวบขึ้นไวกิ้ง (เป็นเรื่องจริงที่ไหนมี?)

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมี่เขียนเพื่อความสนุกของนิยายเท่านั้นค่ะ อย่าคิดมากและถือสากันเลยนะคะ

ตอนนี้ก็ยังเฉยๆอยู่เลย ตอนต่อไปพวกเราไปตื่นเต้นกันแบบ จะปาล๊ะเห๊ยกัน(ภาษา?อะไรของแกไอ้มี่)ดีกว่า

รู้สึกว่าหลังๆนี่มาแทบจะไม่มีใครเม้นต์กันเลยที่เดียว มันน่าเบื่อเกินไปรึป่าวค่ะ? หรือยังไง?

พอมี่เปิดดูแล้วก็ อื้อหือ!! ป่าช้าชัดๆ จนมี่ไม่แน่ใจว่ายังมีคนอ่านนิยายของมี่อยู่ไหม

จะลงต่อดีไหม? หรือจะเอายังไงกันดีค่ะพวกเรา?

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่16 17/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-06-2015 20:07:17
ครอบครัวสุขสันต์กันตอนนี้
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่16 17/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 17-06-2015 21:22:06
ในเมื่อสองคนพ่อลูกเขาร่วมมือกันแกล้งคุณแม่แบบนี้แล้ว เพื่อเป็นการเอาคืนเซฮุนต้องประท้วงด้วยการไม่ทำอาหารให้ทานค่าา ดูสิ~ ว่าคุณพ่อกับคุณลูกเขาจะทนหิวกันไหวไหมน้อ :laugh3: ..
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่17 18/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 18-06-2015 02:01:05
it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 17   

 

 

 

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/632841481-member.jpg)

"คุณกระต่ายนายไปพักเถอะ เดี๋ยวฉันพาลูกไปนอนเอง" ผมบอกเซฮุนในขณะที่เราขึ้นมาบนชั้นสองของบ้าน คือเราสามคนพึ่งจะ

กลับมาถึงบ้านนี่แหละครับตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วครับเซฮุนคงจะเหนื่อยมากแล้วผมเลยอาสาเอาลูกเข้านอนเอง ส่วนเจ้าตัวแสบที่

คึกมาทั้งวันหน่ะหรอ ก็อยู่นี่ไงครับหมดฤทธิ์ไปแล้วปลุกยังไงก็ไม่ตื่นจนผมต้องอุ้มขึ้นมาเองเลย

"เอางั้นหรอ? ต้องเช็ดตัวให้ลูกก่อนด้วยนะเล่นซนมาทั้งวันแล้วเดี๋ยวจะนอนไม่สบายตัว จะปลุกให้มาอาบน้ำตอนนี้ก็คงงองแง

ไม่ยอมหรอก นายทำได้หรอ? ให้ฉันช่วยก่อนดีกว่ามั้ย" เซฮุนถามอย่างเกรงใจ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเซฮุนจะต้องเกรงใจ

ผมถึงขนาดนี้ทั้งๆที่จีซองก็เป็นลูกผมเหมือนกัน

"ได้สิ!! แค่นี้เองสบายมาก นายไปอาบน้ำให้สบายตัวก่อนเถอะ.....เดี๋ยวนายจะต้องเหนื่อยกว่าฉันอีกเยอะ ฮึๆ" ประโยคแรกผม

พูดบอกกับเซฮุนอย่างชัดเจน แต่ประโยคหลังผมพูดกับตัวเองเบาเบา

"นายพูดว่าอะไร? ฉันได้ยินไม่ถนัดเลย อะไรๆ เหนื่อยๆหรอ?" เซฮุนถามผมอย่างไม่แน่ใจ

"ไม่มีอะไรหรอก!! นายไปรอที่ห้องก่อนเถอะ ฉันจัดการลูกเสร็จแล้วเดี๋ยวตามไป" ผมบอกปัดก่อนที่จะเดินหนีมาห้องจีซอง

โดยที่ไม่ให้เซฮุนได้ทันตั้งตัว พอมาถึงห้องผมก็วางจีซองไว้บนเตียงก่อนที่จะเอาอุปกรณ์ในการเช็ดตัวที่ห้องน้ำมาเช็ดตัวให้ลูก

หลังจากนั้นก็ทาแป้งเยอะๆให้ทั่วตัวเหมือนกับหมูชูปแป้งทอดอย่างที่เจ้าตัวเค้าชอบทำเป็นประจำก่อนที่จะเอาชุดนอนลายพี่หมี

ตัวโปรดมาใส่ให้ พอทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยผมก็เปิดเครื่องฟอกอากาศและเช็คอุนภูมิห้องอีกครั้งเพื่อไม่ให้เย็นเกินไปหรือ

ร้อนเกินไปสำหรับเจ้าลูกหมู

         ฟอดดด......

"ฝันดีนะครับลูกหมูตัวแสบของป๊ะป๋า เดี๋ยวคืนนี้ป๊ะป๋าจะเสกน้องให้" ผมหอมแก้มยุ้ยๆของลูกชายก่อนที่จะบอกฝันดี

จัดการห่มผ้าให้เจ้าตัวแสบให้เรียบร้อยจากนั้นก็ปิดไฟดวงใหญ่เหลือแค่ไฟในห้องน้ำไว้ให้เผื่อจีซองจะตื่นมาเข้าห้องน้ำ

ตอนดึกๆ อ่า!! ตอนนี้ก็เหลือแค่จัดการเสกน้องเข้าท้องคุณหม่าม๊าตามคำขอของลูกชายสุดที่รัก ฮึๆ ฮึๆ

          หือออ....ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องก็ไม่เห็นวี่แววของเซฮุนเลย ที่เตียงก็ไม่มี ลงไปข้างล่างหรอ? ก็ไม่น่าใช่นะ แต่เอ๊ะ!

ห้องน้ำเปิดไฟอยู่มีเสียงน้ำอีกต่างหาก ฮึๆเสร็จป๊ะป๋าแน่คุณหม่าม๊า......

          ก๊อก...ก๊อก   

"มีอะไรหรอจงอิน" เซฮุนถามทันทีที่เปิดประตูมาเจอผมยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่ผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กๆห่อตัวเอาไว้

".............." ผมไม่ตอบ ได้แต่ยืนมองเซฮุนอยู่อย่างนั้น ขาว ขาวมาก บอกไว้ก่อนเลยว่า คิมจงอินจะไม่ทน!!

"เอ่อ...นายจะอาบน้ำหรอ? รอแป๊ปนึงนะฉันจะอาบเสร็จแล้วหล่ะ" สงสัยว่าหน้าของผมตอนนี้มันจะแสดงออกว่าหื่นมากเกินไป

เซฮุนถึงกลับรีบปิดประตูใส่ผมเลย

"เดี๋ยวก่อนสิ!! ฉันอาบด้วยคนนะ!! อาบพร้อมกันไปเลยจะได้ไม่เสียเวลา" แต่ผมไม่ปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้หรอก ในตอนที่เซฮุน

กำลังจะปิดประตูผมก็ดันประตูไว้ก่อนที่จะแทรกตัวเข้ามาในห้องน้ำ แถมยังล็อคให้เสร็จสับ

"ถ้านายรีบก็อาบก่อนเลยก็ได้เดี๋ยวฉันไปรอข้างนอกก่อน" เซฮุนบอกและกำลังจะเปิดประตู

"อาบพร้อมกันนี่แหละ!! เราไม่ได้อาบน้ำด้วยกันมาตั้งนานแล้วนะ" ผมรั้งเอวเซฮุนจากข้างหลังและกอดไว้แน่นกันไม่ให้หนี

ไปไหนได้อีก

"แต่....."

"เชื่อฉันดิ!! เราจะได้พักผ่อนซักที เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว......หรือว่านายรังเกียจฉันหรอ??  ถ้าอย่างนั้นฉันออกไปก่อนก็ได้

เชิญนายอาบไปก่อนเถอะ!!!!" ผมแกล้งพูดและหันหลังทำท่าจะเดินออกจากห้องน้ำจริงๆ

"ไม่ใช่นะ!! เราอาบพร้อมกันก็ได้....ฉันไม่เคยรังเกียจอะไรนายเลย....อย่าคิดแบบนั้นอีกนะจงอิน" เยส!! สำเร็จ ฮึ ฮึ

"อือ....นายไปก่อนเลยฉันถอดเสื้อผ้าก่อน" ถึงปากผมจะบอกไปแบบนั้นแต่มือผมก็ถอดเสื้อผ้าออกจากตัวเกือบหมดล๊ะ

"อ๊ะ!! จงอิน....." เซฮุนสะดุ้งทันทีเมื่อผมเดินเข้ามากอดข้างหลัง ทั้งเนื้อทั้งตัวของเราทั้งคู่เปลือยเปล่าเสียดสีกันอยู่ใต้สายน้ำ

เย็นที่ไหลออกมาจากชาวเวอร์

"ชูว์!! ไม่มีอะไรหรอกน่า อาบน้ำกันต่อเถอะนะคุณกระต่าย" ผมพูดบอกเหมือนไม่มีอะไรทั้งๆที่จงอินน้อยมันตื่นเต้นจนแทบบ้า

แล้วที่เห็นร่างกายขาวๆเนียนๆของแม่มัน ที่พลัดพรากห่างหายจากกันไปหลายปี

"แต่ว่า........." ไรขนอ่อนแถวซอกคอขาวของเซฮุนลุกจนผมเห็นได้ชัดเลย

"มันเป็นเรื่องธรรมดาน่าที่รัก!! จงอินน้อยมันคิดถึงแม่เหมือนกัน" ผมบอกก่อนที่จะกดครีมอาบน้ำมาถูวนเบาที่หน้าท้องแบนราบ

ของเซฮุน ร่างกายของเซฮุนไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมซักเท่าไหร่เลย เอวยังคอดกิ่วจนเหมือนเดิมเพียงแต่เนื้อตัวดูมีน้ำมีนวลมาก

ขึ้นจับได้เต็มไม้เต็มมือ อาจจะเป็นเพราะว่ามีจีซองมาแล้วคนนึงเลยทำให้มีเนื้อมีหนังขึ้นไม่เหมือนกับเมื่อก่อนที่ผอมๆบางๆ แต่ยิ่งเห็นยิ่งได้สัมผัสผมแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่อยากจะจับฟัดให้หายคิดถึงซะตอนนี้เดี๋ยวนี้ แต่ผมทำ

แบบนั้นไม่ได้เดี๋ยวกระต่ายจะตื่น? แม่กระต่ายตัวนี้ต้องค่อยๆตะล่อมค่อยๆกล่อม

"อื้ออออ...จงอินนนนน....อย่า" เซฮุนร้องออกมาก่อนและหันหน้ากลับมาใช้มือดันหน้าผมทันทีที่ผมจูบซับหลังหู ท้ายทอยขาว

และไหล่เนียนสวย

"ฉันมาไปไกลแล้วคุณกระต่าย มันหยุดไม่ทันแล้วหล่ะที่รัก เรามาช่วยกันทำน้องให้จีซองเถอะ" พูดจบผมก็ประกบริมฝีปากบางๆ

ของเซฮุนทันทีไม่ปล่อยให้มีโอกาสไดปฏิเสธ เน้นย้ำริมฝีปากบนและร่าง จนเซฮุนเผลอเผยอปากออกทำให้ผมมีโอกาสได้ส่ง

ลิ้นร้อนเข้าไปชิมความหวานข้างใน ลิ้นเล็กของเซฮุนพยายามจะหลีกหนีแต่ผมก็รั้นเกี่ยวกระหวัดมาจนได้ ดูดดึงคลึงซ้ำหนักๆ

จนเซฮุนคล้อยตาม เราสองคนต่างบดจูบรุนแรงตามอารมณ์ดิบก่อนที่ผมจะผละออกเบาเพื่อให้เซฮุนได้หายใจ สายตาที่เราใช้

มองกันมันบอกความรู้สึกของเราตอนนี้ได้อย่างชัดเจน ทั้งความต้องการ ความรู้สึก ความรัก และความโหยหาที่ห่างหายกันมา

นาน ผมยื่มมือเช็ดคราบน้ำหวานของเราที่ไหลออกมาจากมุมปากของเซฮุน

"เราไปต่อกันที่เตียงดีกว่า" ผมชวนก่อนที่จะล้างคราบสบู่ออกจากตัวเราสองคน เซฮุนได้แต่ยืนก้มหน้า และผมก็อุ้มเซฮุนออกมา

วางที่เตียง (มี่ช่วยพากย์ต่อทีดิไม่ไหวแล้วว่ะ/จงอิน) (อะเช:มี่)

          จงอินมองร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสายตาหวานเชื่อมชวนหวาบหวาม ก่อนจะขึ้นตามจงอินประกบจูบเซฮุนอย่าง

ดูดดื่มและรุนแรงขึ้นตามอารมณ์อีกครั้งมือหนาก็ทำหน้าที่บีบแค้นสำรวจจนร่างกายขาวนวนของเซฮุนขึ้นสีก่อนที่จะมาหยุด

นวดคลึงตุ่มไตสีสวยของเซฮุน จงอินถอนริมฝีปากออกจากปากบางของเซฮุน ก่อนจะเปลี่ยนจุดหมายมาซุกไซร้ลำคอขาว

ขมแม้มจนขึ้นรอยสีกุหลาบแต่งแต้มจนทั่วคอก่อนจะเลื่อนตัวลงมาเป้าหมายต่อไปคือตุ่มไต่สีสวยที่จงอินแคล้นคลังดูดดุน

อย่างกระหายจนชูชันสู้มือ ส่วนเซฮุนก็ได้แต่ครางงเสียงหวานเหมือนคนไม่ได้สติ มือสากค่อยๆลูบไล้ไปตามหน้าท้องขาวบีบ

เค้นตามแรงอารมณ์ทำให้เซฮุนรู้สึกเสียววูบจนหน้าท้องหดเกร็ง ก่อนที่จะเงยหน้าสบตากับร่างบางที่ขึ้นสีจัดด้วยความเขินอาย

มือหนากอบกุมแก่นกายแข็งขืนของร่างบางเอาไว้ ก่อนที่จะถูไถไปมาเบาๆโดยไม่ละสายตาออกจากอีกคน ทำให้เซฮุนรีบ

เบือนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความเขินอาย

 “อ๊ะ…” ร่างบางกระตุกเล็กน้อย เมื่อจงอินใช้ปากรูดรั้งแก่นกายของเค้า ใบหน้าหวานเงยขึ้นด้วยความเสียวซ่าน เค้ารู้สึกเหมือจะได้แตะขอบสวรรค์อยู่แล้ว แต่ทุกอย่างกลับชะงักเมื่อจงอินหยุดลงอย่างกะทันหัน เซฮุนมองจงอินด้วยสายตาตัดพ้ออย่างไม่เข้าใจ

“นายต้องช่วยฉันบ้างนะคุณกระต่ายที่รัก” จงอินผละตัวออกจาเซฮุน พูดบอกและยิ้มให้บางๆ

“…”

“ทำเหมือนที่ฉันทำให้นายบ้างได้ไหม เซฮุน”

“….” เซฮุนไม่กล้าที่จะมองหน้าจงอิน เค้าอายแม้กระทั้งตัวเอง ถึงจะเคยร่วมรักกันจนมีจีซองเป็นพยานรักมาแล้วคนนึง แต่เรื่อง

พวกนี้มันก็ห่างหายกันไปนานหลายปี แล้วการร่วมรักที่ผ่านๆมาจงอินเป็นคนเริ่มและจบเองคนเดียวมาตลอด อีกอย่างคือเซฮุน

ไม่เคยทำมันมาก่อน เลยยิ่งทำให้กังวลมากขึ้น

“ไม่เป็นไรคุณกระต่าย ไม่ต้องช่วยฉันก็ได้” จงอินเอื้อมมือไปลูบผมของเซฮุนเป็นเชิงปลอบใจเมื่อเห็นว่าเซฮุนทำท่าลังเลและเงียบอยู่นาน

“ฉันทำให้…” เซฮุนบอกด้วยเสียงที่เบาหวิวราวกับเสียงกระซิบ เรียกรอยยิ้มของอีกคนได้เป็นอย่างดี ร่างบางค่อยๆลุกขึ้นนั่งโดยที่

ไม่ยอมมองหน้าจงอินเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่จงอินจะขยับไปนั่งพิงหัวเตียงโดยที่ไม่ละสายตาจากร่างขาวนวลตรงหน้า

(น่ารัก!!  เอ็กซ์ชะมัด!!) จงอินได้แต่สบถในใจเมื่อเซฮุนนั่งคุกเข่าลงกลางหว่างขาของเค้าด้วยท่าทางงกๆเงิ่นๆ เซฮุนเผลอกลืน

น้ำลายเมื่อเห็นขนาดตัวตนของอีกคนที่เหมือนว่ามันใหญ่ขึ้นต่างจากเมื่อก่อนมากอยู่ มือบางกอบกุมแก่นกายร้อนของอีกคนรูดขึ้น

ลงอย่างเบามือ และเหมือนจะได้ยินเสียงสูดปากอย่างชอบใจเบาๆมาจากคนข้างบน จึงค่อยๆเร่งจังหวะขึ้นอีกนิด ริมฝีปากบาง

ค่อยๆอ้าออกแล้วครอบคลุมแก่นกายที่ชูชันร้อนผ่าวของจงอินก่อนจะขยับขึ้นลงด้วยความรู้สึกแปลกๆ ลิ้นเล็กโลมเลียไปมา

ราวกับสิ่งนั้นคือไอศกรีมแสนอร่อย

“อืมมมม……” เสียงครางต่ำของจงอินเต็มไปด้วยอารมณ์สุขสม ส่วนเซฮุนก็ดีใจที่ทำให้คนรักมีความสุขได้ แต่แล้วเซฮุนก็ต้องแปลกใจเพราะอยู่ดีๆจงอินก็จับหัวเค้าออกและเหวี่ยงเบาๆลงกับเตียง

“นาย….” เซฮุนหน้าเสียทันทีที่จงอินจ้องมองเค้าด้วยสายตานิ่งๆ นี่เค้าทำอะไรให้จงอินไม่พอใจหรอ?

“ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ….คุณกระต่าย” จงอินเอื้อมมือหยิบขวดครีมทาผมของเซฮุนที่ลืมวางไว้บนโต๊ะเล็กข้างเตียง กดบีบใส่มือและชโลมนิ้วชี้และนิ้วกลางจนชุ่มก่อนจะค่อยๆยัดไปในช่องทางสีสวยของเซฮุนทีละนิ้ว

“อ๊ะ!...จงอิน…เจ็บ..บ” ความรู้สึกเจ็บปวดแล่นขึ้นตามสันหลัง เหมือนกับครั้งแรกที่ร่วมรักกันเลย คงเป็นเพราะห่างหายกันไป

นาน มันอึดอัดคับแน่นไปหมดนี่เพียงแค่นิ้วของอีกคนเท่านั้นนะถ้าเปลี่ยนจากนี้ไปเป็นตัวตนของอีกคนเค้าไม่อยากจะนึกเลย

“ผ่อนคลายนะที่รัก…” จงอินบอกและจูบเบาๆที่กระหม่อมบางเป็นการปลอบ และขยับควานนิ้วเข้าออกในช่องทางสีสวยของ

เซฮุนเพื่อให้ขยายเตรียมพร้อมรองรับในสิ่งที่ใหญ่กว่า

“อื้ออออ……” เซฮุนเผลอใช้เล็บจิกแขนของจงอินเมื่อรับรู้ถึงสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในช่องทางของตน

ความเจ็บทำให้มีน้ำตาซึมออกมาเล็กน้อยที่หางตา

“ไม่เป็นไร….ที่รัก….มันเข้าไปหมดแล้ว” จงอินบอกและจูบซับน้ำตาที่ไหลมาจากหางตาของอีกคนเบาๆ เค้าเองก็ต้องใช้ความความอดทนอย่างมากที่จะไม่รุนแรงกับอีกฝ่ายเพราะช่องทางของเซฮุนตอดรัดเค้าจนปวดไปหมด มือแกร่งยกสะโพกมนของ

เซฮุนขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ขยับได้สะดวกขึ้น ก่อนที่สะโพกหนาจะค่อยๆขยับเข้าออกช้าๆเบาๆ

 “อึก…อืออออ….” เซฮุนครางเบาๆในลำคอเมื่อจงอินเริ่มขยับสะโพกเบาๆ ด้วยจังหวะที่เนิบนาบ

“อ่า……..” จงอินเผลอสูดปากเบาๆด้วยความเสียวซ่าน

“อึก….อิ๊ออออ” ร่างบางแทบกลั้นเสียงร้องไม่ไหวเมื่อจงอินค่อยๆเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ร้อนแรงขึ้น ดวงตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์เร่าร้อนของจงอินที่ใช้มองเซฮุนเหมือนราวกับจะกลืนกินให้หมดทั้งตัว ลิ้นหนาเลียริมฝีปากตัวเองอย่างกระหาย แต่แล้วร่างบางต้องผวากอดคอของจงอินไว้แน่น เมื่อมือหนาวงแขนและแข็งแกร่งจะโอบหลัง อุ้มเซฮุนขึ้นนั้งบนตักแกร่งของตนโดยที่ท่อน

ล่างยังเชื่อมต่อกันอยู่

“อืมมมมม…..ขยับสิที่รัก….ตามที่นายต้องการ” จงอินหยุดขยับก่อนที่จะทิ้งหลังนั่งพิงหัวเตียงรอให้เซฮุนเป็นฝ่ายเริ่มบ้าง

“อ๊ะ!....จง…ง …อิน…น.” เซฮุนร้องออกมาเสียงหลงเมื่อจงอินแกล้งกระแทกสะโพกขึ้นเหมือนกับเป็นการแร่งการตัดสินใจ

ของเซฮุน

“อ่าห์…ช้าๆ ที่รัก…” จงอินบอกออกมาด้วยเสียงกระเส่าเมื่อเซฮุนเริ่มขยับขึ้นลงเบาๆอย่างกล้าๆกลัว มือหนาทั้งสองข้างก็เอื้อมประคองเอวบางของเซฮุนไว้

“อ๊า…อื้ออออออ…จงอิน….แรง…ไป..แ…แล้ว” เซฮุนสะดุ้งสองมือจิกไหล่แกร่งของจงอินจนเป็นรอยและร้องออกมาเสียงดังเมื่อจงอินกระแทกสะโพกสวนขึ้น

“อืมมม….อย่างนั้นแหละที่รัก” ริมฝีปากหนาจูบซับตามแนวกรามของร่างบางและไล่ลงซุกไซร้ซอกคอขาวก่อนจะขบเม้มเบาๆจนขึ้นสีกุหลาบเป็นจ้ำๆทั่วลำคอขาว

“อื๊อ…อืออออ….” เซฮุนครางออกมาเสียงเบาพร้อมกับขยับตัวเร็วขึ้นตามแรงอารมณ์  ลมหายใจติดขัด

“อ่าห์….สุดยอดเลย….อืมมมม”

“อะ….อ๊า….จง…ง……จงอิน”

“อืมมม….เก่งมากที่รัก” จงอินบอกด้วยเสียงพร่า พรางเด้งสะโพกขึ้นสวนกับที่จงอินกดทับลงมาอย่างห้ามไม่ไหว

“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาา……” เซฮุนเกร็งตัวก่อนที่จะปลดปล่อยออกมาเต็มหน้าท้องของจงอิน

   พรึ่บ….

“คราวนี้ก็ถึงคิวของฉันบ้างแล้วนะคุณกระต่าย” จงอินบอกด้วยเสียงพร่าและจ้องมองร่างกายขาวนวลที่ตอนนี้กลับแดงระเรื่อเพราะเหนื่อยหอบจากศึกรักเมื่อซักครู่อย่างหื่นกระหาย  จงอินพลิกตัวของเซฮุนให้นอนหงายก่อนที่จะจับขาของเซฮุนแยกออกให้กว้างมากขึ้น ก่อนที่จะกระแทกสะโพกเข้าออกอย่างรุนแรงและหนักหน่วง

“อื๊อออออ….อ๊ะ….อ๊ะ” เซฮุนครางออกมาดังลั่นเพราะทั้งจุกทั้งเสียว ถึงแม้ว่าตนจะปลดปล่อยไปแล้วรอบนึง

“อืมมมมม…..ซี๊ดดด” จงอินครางออกมาอย่างสุขสมเมื่อช่องทางรักของเซฮุนตอดรัดระรัว

“อะ…อะ….อ๊ะ….อ๊า” เซฮุนได้แต่กอดรัดและจิกหลังของจงอินไว้แน่น

“อืออออ…..อืมมมมม”

“อะ….อ๊ะ…คุณ…หมี…แรง..แรงเกินไปแล้ว…อ๊า…ฉัน…จะ..ไม่..ไหว…อื๊อออออ”

“อืมมมมม…..พร้อมกันนะคุณกระต่าย” จงอินบอกอกมาเมื่อใกล้จะถึงขีดสุดของแรงอารมณ์

“อ๊างงงงงงงงงงงงงง” เซฮุนหวีดร้องออกมาเสียงดังอย่างห้ามไม่อยู่ เพราะความเสียวซ่านเมื่อปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สอง

จงอินก็กัดฟัดกรอดเร่งสะโพกถี่ยิบเมื่อช่องทางของเซฮุนตอดรัดแน่นขึ้นกว่าเดิมมากเพราะเจ้าตัวได้ปลดปล่อยไปแล้ว

“อืมมมมมม….อ่าาาาาาาาาาาาาา” จงอินกระตุกตัวเกร็งพร้อมกับปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในช่องทางรักของเซฮุน จนเซฮุนรู้สึก

อุ่นวาบที่ช่องท้อง

“รีบมาเร็วๆนะลูกรัก พี่ชายเราเค้ารออยู่ ป๊ากับม๊าก็อยากเจอหนูนะ” จงอินพูดและจูบเบาๆที่หน้าท้องแบนราบของเซฮุนราวกับว่าในท้องของเซฮุนนั้นมีลูกน้อยของตนเองอยู่จริงๆ

“เสร็จแล้ว ออกไปได้แล้วจงอิน” เซฮุนบอกด้วยความเขินอายจนไม่กล้ามองหน้า เมื่อจงอินไม่ยอมถอดถอนแก่นกายของตัวเองออกจากช่องทางรักของตน

“ใครบอกว่าฉันเสร็จแล้วกัน” จงอินพูดหน้าตาย

“จงอิน….(=[]=)….นาย…..ฉัน.....ไม่ไหวแล้วนะ” เซฮุนบอกด้วยสีหน้าตกใจเมื่อรู้สึกว่าไอ้สิ่งที่นอนสงบอยู่ในช่องทาง

ของตนกำลังแข็งขืนตื่นขึ้นอีกครั้ง

“อะไรกันที่รัก…เมื่อกี้แค่คนแรกเองนะ…ฉันตั้งใจจะมีน้องแฝดให้ลูกหน่ะ” จงอินบอกด้วยเสียงเจ้าเลห์

ก่อนที่จะเริ่มขยับสะโพกอีกครั้ง และอีกครั้ง

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1897964956-member.jpg)

       ปึ๊งงงงงง.........     

          จีซองเปิดประตูห้องของจงอินและเซฮุนอย่างแรงจนเกิดการกระแทกเสียงดังแต่บุคคลทั้งสองเจ้าของห้องกลับไม่มีใคร

รู้สึกตัวตื่นซักคน ปกติแล้วทุกๆวันจงอินจะมีหน้าที่ปลุกจีซองและพาลงไปทานมื้อเช้าของเซฮุนตรงเวลาทุกวัน แต่วันนี้จีซอง

กลับต้องตื่นเองตอนสายมากแล้ว กลิ้งเล่นของเล่นไปมาอยู่บนเตียงตั้งนานสองนานเพื่อรอให้จงอินมาปลุกเหมือนทุกที แต่วันนี้

กลับไม่เหมือนทุกวัน ไม่เห็นแม้แต่เงาของป๊ะป๋าตัวเอง รอแล้วรออีกจนหิวข้าวและคุณเสือที่อยู่ในพุงน้อยๆร้องคำรามหาอาหาร

แล้วเหมือนกันจนทนไม่ไหวและเดินลงบันไดไปหาป๊ะป๋าข้างล่างเองเลย แต่เมื่อจีซองลงไปข้างล่างแล้วกลับไม่เห็นแม้แต่เงา

ของป๊ะป๋ากับหม่าม๊าของตัวเองจึงเดินกลับขึ้นมาข้างบนและเดินตรงไปที่ห้องของป๊ะป๋าตนเองทันที เพราะความหงุดหงิกที่เดิน

ขึ้นลงบันไดจนเหนื่อยบวกกับความโมโหหิวทำให้เจ้าลูกหมูต้องเปิดประตูอย่างแรงเสียงดังขนาดนี้

"หม่าม๊าาาาาา....." จีซองปีนขึ้นไปบนเตียงและแทรกตัวลงนั่งตรงกลางระหว่าเซฮุนและจงอินและตัดสินใจเขย่าตัวเรียกเซฮุน

เป็นคนแรก แต่เพราะความเพลียและเหนื่อยมากเมื่อจงอินเอาแต่ใจจากกิจกรรมเมื่อคืนทำให้เซฮุนไม่รู้สึกตัวตื่นแต่อย่างใด

"งื้อออออออออ..........ป๊ะป๋าาาาาาา........" เมื่อเซฮุนไม่มีวี่แววว่าจะตื่นจีซองเลยเปลี่ยนเป้าหมายใหม่คือจงอิน

"อืมมมม.....จีซอง.....ว่าไงครับลูก......." จงอินงัวเงียถามเมื่อเห็นว่าลูกชายตนมานั่งหน้ามุ่ยอยู่ข้างๆ

"อื้อออ.....ฮึก.....ลูกหิว....หม่าม๊าก็ไม่ตื่น" จีซองตอบด้วยเสียงสะอื้น น้ำตาเริ่มคลอเต็มหน่วยตา

"หือ!!! สายป่านนี้แล้วหรอ?" จงอินต้องตกใจทันทีเมื่อดูเวลาจากนาฬิกาที่ผนังห้อง นี่ก็เกือบจะเที่ยงอยู่แล้ว มันก็สมควรแล้ว

ที่ลูกเค้าจะงองแงหิวขนาดนี้ เพราะปกติจีซองกินข้าวตั้งแต่เจ็ดโมง และเวลาตรงเป๊ะทุกวัน

"ฮือออ...หม่าม๊าไม่ตื่น..ฮื้อออ..ทำข้าวให้ลูก.....ป๊ะป๋าไม่ปลุกลูก ฮึก....ลูกหิว....ฮึกกก!!...คุณเสือก็ร้อง!!" จีซองพูดงองแง

สะอึกสะอื้นแรงขึ้นเมื่อพูดถึงความหิวของตน บวกกับความน้อยใจเมื่อเข้ามาเห็นจงอินและเซฮุนนอนกอดกันกลมอยู่บนเตียง

และคิดว่าจงอินลืมตัวเองจนไม่ไปปลุกตัวเองอย่างทุกๆวัน

"โอ๋ๆ ไม่ร้องนะลูกชายคนเก่งของป๊ะป๋า หม่าม๊าเค้าช่วยป๊ะป๋าเสกน้องจนเหนื่อยเลยยังไม่ตื่น เดี๋ยววันนี้ป๊ะป๋าทำมื้อเช้าให้ลูก

เองดีไหม??" จงอินอุ้มจีซองมานั่งตักตัวเองก่อนที่จะพูดปลอบ

"ป๊ะป๋ากับหม่าม๊าเสกน้องให้ลูกแล้วหรอฮับ!!" เมื่อจงอินพูดถึงน้อง จีซองก็หยุดร้องให้ทันทีเลยและถามจงอินอีกครั้งเพื่อ

ความแน่ใจ

"ครับ!! ป๊ะป๋าเสกน้องเข้าไปในท้องหม่าม๊าให้จีซองแล้ว คราวนี้จีซองก็ปล่อยให้หม่าม๊านอนพักอีกซักนิดแล้วก็ไปกินข้าว

กับป๊ะป๋าก่อนดีกว่าเน๊าะ" จงอินบอกก่อนที่จะอุ้มจีซองลงจากเตียงและห่มผ้าให้เซฮุนได้นอนต่ออีกนิด เพราะว่าเมื่อคืนเค้า

เอาแต่ใจกับเซฮุนไปสามรอบของเค้านะส่วนของเซฮุนน่ะนับไม่ได้หรอก กว่าจะได้นอนกันก็เกือบเช้าแล้ว

     จุ๊บบบ....

"ลูกรักป๊ะป๋า...." จีซองจุ๊บแรงๆที่ปากของจงอิน เพราะดีใจที่จงอินทำตามสัญญาที่บอกว่าจะเสกน้องให้

"ลูกอยากมีน้องมากขนาดนั้นเลยหรอ?" จงอินถามอย่างสงสัยเพราะว่าลูกชายเค้าแสดงออก

มาตลอดว่าอยากได้น้องมากและพูดทวงเรื่องเสกน้องกับเค้าทุกๆวัน

"ฮับ!!! ลูกดีใจ ลูกอยากมีน้อง ลูกจะเล่นกับน้อง จะรักน้อง!!" จีซองพูดออกมาด้วยรอยยิ้มกว้าง

"ฮ่าๆ ไปๆเราๆปกินข้าวกันดีกว่าให้หม่าม๊านอนพักต่ออีกซักหน่อย" จงอินอดที่จะขำไม่ได้เมื่อเจ้าลูกหมูดีใจจนโอเวอร์ดีดดิ้น

อยู่ในอ้อมแขนของเค้า และสองพ่อลูกก็พากันเดินออกไปจากห้อง ปล่อยทิ้งให้คนที่ตนคิดว่าหลับอยู่นอนหน้าแดงด้วยความ

เขินอายเงียบๆอยู่ในห้องคนเดียว ที่จริงเซฮุนรู้สึกตัวตื่นตั้งแต่ได้ยินเสียงจีซองร้องไห้แล้วแต่เพราะว่าเค้ากระดากอายจงอิน

จากเรื่องเมื่อคืนอยู่มากเลยแกล้งหลับต่อ แล้วก็เพราะรู้ว่ายังๆจงอินก็จัดการดูแลจีซองได้อยู่แล้ว เลยขอเวลาทำใจที่จะต้อง

เผชิญหน้ากับจงอินอีกสักนิดเถอะ

...

อื้อออออ......เขิน (=///=) มาแล้วเอ็นซีกากๆของมี่

เป็นครั้งแรกที่มีแต่งเอ็นซี(-/\-)ขอโทษด้วยนะคะที่แต่งได้ไม่ดี

ชอบไม่ชอบยังไงก็บอกกันบ้างนะคะ ครั้งต่อไปมี่จะพยายามให้ดีกว่านี้

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ

 

 

หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่17 18/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 18-06-2015 08:40:22
คุณหมีได้กินคุณกระต่ายสมใจอยากแล้วสินะคะ ยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมเลยล่ะสิน้าจงอิน~ >\\\\\< ตอนนี้ทำเอาเขินตามเซฮุนไปด้วยแล้วนะคะเนี่ย.. ร้อนแรงกันสุดๆ เลยค่าา :-[
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่17 18/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 18-06-2015 10:53:20
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:


ไม่กากนะคุณมี่  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่17 18/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 18-06-2015 11:03:47
 :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่17 18/6/58
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-06-2015 16:04:34
 :haun4: คงจะได้น้องสมใจแน่ๆพ่อแม่พยายามกันขนาดนี้
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่18 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 19-06-2015 10:35:24
it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 18

 

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1375023154-member.jpg)


"นั่นนายจะกินอีกแล้วหรอ?คุณกระต่าย" เสียงทักของจงอินทำให้ทำให้ผมต้องวางโหลคุกกี้ที่ทำไว้ให้จีซองทานเล่น ลงแทบ

ไม่ทันเลย..ไม่รู้ว่าเป็นอะไรช่วงนี้ผมถึงได้หิว หิว แล้วก็หิวอย่างนี้ก็ไม่รู้ กินได้ทั้งวัน กินจนเจ้าลูกหมูอย่างจีซองยังยอมแพ้

ส่วนเรื่องท้องหน่ะหรอ? ตั้งแต่วันนั้นที่จงอินเริ่มเสกน้องให้จีซองจนมาถึงวันนี้ก็จะสองเดือนเข้าไปแล้ว ไม่มีวี่แววอะไรเลย

และนั่นก็เป็นข้ออ้างให้จงอินเอาเปรียบผมแทบทุกคืนแล้วอ้างเหตุผลที่ว่า 'เสกน้องให้ลูก' เจ้าเลห์ที่สุด!!  ขนาดเราทำกันบ่อยนี้

ยังไม่ท้องเลย  สงสัยเราคงจะหมดหวังกับเรื่องนี้แล้วแหละฮะ ช่างเถอะ!! ถึงจะมีแค่จีซองคนเดียวผมก็มีความสุขมากแล้ว

"ก็ฉันหิวหนิ!! นายกินกับฉันมั้ย?" ผมถามและนั่งลงข้างๆจงอินก่อนที่จะเปิดโหลคุกกี้และยื่นมันไปข้างหน้าจงอิน

"อุ๊บ! โอ๊กกกกกก!!!! อ๊อกกกกกก!!! แหวะ!!!!"

"ตายแล้ว!!! เป็นอะไปหน่ะจงอิน" ผมถามในขณะที่มือก็ช่วยลูบหลังของจงอินไปด้วย พอผมยื่นโหลคุกกี้ให้ปุ๊ป อยู่ดีๆจงอิน

ก็เอามือปิดปากแล้ววิ่งมาอาเจียนที่ห้องน้ำอย่างนี้เลย

"แหวะ..แคก..แค่ก...เฮ้อ!..คุกกี้ของนายเสียรึป่าวเซฮุน ฉันเหม็นมันมากๆเลย ตอนที่นายยื่นมันมาให้ฉันนะมันเหมือนกับได้

กลิ่นอะไรเน่าๆเลย" หือ!! คุกกี้ผมเนี่ยนะเสียอ่ะ มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อผมอบใหม่ทุกๆเช้าหน่ะ เพราะปกติเจ้าลูกหมูจีซอง

จะทานหมดภายในวันเดียว แต่วันนี้ที่มันยังเหลือให้ผมได้ทานบ้างก็เพราะว่าคุณลุงของเค้ามารับไปเล่นที่บ้านโน้นแต่เช้านะสิ

"ไม่น่าใช่อ่ะ เพราะฉันเพิ่งอบเสร็จตอนที่นายไปปลุกลูกเองนะจงอิน มันจะเสียได้ยังไง?" ผมบอกและใช้ผ้าเช็ดหน้าที่มีวางติด

ไว้ในห้องน้ำซับหน้าให้จงอิน เพราะเจ้าตัวเค้าป้วนปาก ล้างหน้า ไม่ยอมเช็ดหน้าให้แห้งกลับยืนหมดแรงพิงเคาน์เตอร์ซะงั้น

"แต่ฉันเหม็นมันจริงๆนะเซฮุน เหม็นมากกกก.....เหม็นจนเวียนหัวไปหมด" ทำหน้าอย่างนี้มันเหมือนกับตอนที่จีซองใช้

อ้อนกับผมเวลาป่วยเลย คิกๆ

"ถ้าอย่างนั้นฉันว่าฉันพานายไปโรงพยาบาลให้หมอตรวจหน่อยดีกว่า" ผมบอกและจูงมือจงอินเดินออกมาจากห้องน้ำ

"ไม่ต้องหรอก!! ฉันดีขึ้นมากแล้ว เดี๋ยวแค่นอนพักอีกนิดก็หายแล้ว ไม่ต้องไปหาหมอหรอกนะ!!!" น้าน!! ยิ่งเรื่องนี้ยิ่งเหมือน

กันเข้าไปใหญ่เพราะจีซองก็ไม่ชอบไปโรงพยาบาลเหมือนกัน พวกแฟนคลับจะรู้ไหมนะว่าคุณซุป'ตาร์ งองแงขนาดนี้

"ไปให้หมอเค้าตรวจหน่อยเถอะนะจงอิน...ถือว่าฉันขอนะ อย่าลืมสิว่าพรุ่งนี้ครบกำหนดที่นายจะต้องกลับไปทำงานแล้วนะ

ไหนจะต้องทำเดินสายตามตารางงานไหนจะซ้อมร้องซ้อมเต้นอีก ฉันเป็นห่วงนายจริงๆนะจงอิน" ผมบอกด้วยหน้าที่งอนิดๆ

เพราะพรุ่งนี้ครบกำหนดลาพักร้อนสองเดือนแล้ว และเมื่อวานตอนเย็นพี่มินซอกก็เมล์ส่งตารางงานของจงอินมาให้แล้ว

ผมเห็นแล้วก็พูดได้คำเดียวเลยว่าแน่น!! ไม่ว่าจะเป็นถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา งานอีเว้นท์  อีกทั้งยังต้องร่วมรายการเกมโชว์

วาไรตี้ต่างๆ แถมยังต้องให้สัมภาษณ์กับหนังสืออีกเป็นสิบฉบับ นี่ขนาดว่ายังไม่คัมแบล็คงานยังเยอะขนาดนี้ ถ้าเกิดมีคิว

คัมแบล็คเมื่อไหร่จีซองคงจะต้องมีร้องไห้ตามกันบ้างหล่ะ

"ก็ได้ครับ!! ไปโรงพยาบาลก็ได้ อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ" จงอินตอบตกลง

"ถ้าอย่างนั้น...ไปตอนนี้เลยนะ!!!" ผมบอกก่อนที่จะลากจงอินออกจากบ้านไม่ให้จงอินมีเวลาทักท้วงอะไรได้ โดยไม่ลืมที่จะ

คว้ากระเป๋าสะพายข้างติดมือมา ก่อนหน้านี้ผมก็เตรียมพร้อมจะออกไปดูร้านกันอยู่แล้วเพราะฉะนั้นไม่ใช่ปัญหา

.

.

.

.

.

     (โรงพยาบาลเอกชน xxxxx)

 

"สวัสดีฮะ!! พี่หมอ!!" มาถึงผมก็ได้เข้าห้องตรวจเลยเพราะว่าก่อนหน้านี้ผมโทรให้พี่จุมยอนช่วยติดต่อให้กับทางโรงพยาบาล

ไว้แล้ว และดีที่ว่าโรงพยาบาลนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีแต่พวกคนรวยๆหรือพวกเซเลบไฮโซเข้ามาใช้บริการเท่านั้น จึง

ทำให้จงอินไม่เป็นที่สนใจซักเท่าไหร่ เพราะต่างคนก็ต่างอยากปกปิดและรักษาความลับของตัวเองไว้เหมือนกัน เลยไม่ค่อย

สนใจใคร ต่างคนต่างปิดหน้าปิดตาเพื่อไม่ให้คนอื่นจำตัวเองได้ ผมว่ามันลำบากและดูน่าอึดอัดมากเลยนะฮะที่เป็นคนเหล่านี้

แต่ก็มีคนห่ามๆอย่างจงอินคนนึนี่งแหละที่ใส่แว่นตาอันเดียวไม่ปกปิดอะไรกับใครเค้าเลย ไม่รู้จะจำกัดความจงอินว่าอะไรดี!!!

"อ้าวเซฮุน!! มาได้ยังไงเนี่ย? แล้วนี่ไปเจอคยูมารึยัง? รายนั้นเค้าบ่นคิดถึงเรากับเจ้าลูกหมูจีซองทุกวันเลยนะ!!" ง่าาา....เงยหน้า

ขึ้นมาเห็นผมแล้วถามเป็นชุดเลย แล้วอย่างนี้ผมจะตอบเรื่องไหนก่อนดีเนี่ย?

"เอ่อ....จงอินนี่พี่หมอชีวอน พี่หมอเค้าเป็นสามีของพี่คยูหน่ะ พี่คยูเค้าเป็นหมอที่คอยดูแลฉันตอนที่ฉันตั้งท้องจีซองช่วงเวลาที่

ฉันอยู่อเมริกาอ่ะ แล้วพี่หมอชีวอนเค้าก็เป็นเพื่อนสนิทกับพี่จุมอยอนด้วยหน่ะเลยทำให้เราสนิทกัน พี่หมอฮะ!! แล้วนี่ก็

คิมจงอินสามีของผม พ่อแท้ๆของจีซองเค้านะฮะ" ผมแนะนำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกันก่อนเพราะว่าตอนที่พี่หมอเค้าเดินเข้า

มากอดทักทายผมเหมือนปกติทุกทีที่เราเจอกัน สีหน้าของจงอินก็บึ้งตึงไม่แสดงออกว่าไม่ชอบใจไปแล้วครับ ก็อย่างที่บอกไป

แหละฮะว่าพี่ชีวอนเค้าเป็นเพื่อนกับพี่จุนมยอนและเป็นสามีของพี่คยูฮยอนที่เป็นหมอประจำตัวคอยช่วยดูแลผมตอนที่ท้อง

จีซองช่วงที่อยู่อเมริกานะฮะ รู้สึกว่าช่วงนั้นพี่คยูต้องไปทำงานใช้ทุนที่นั่นแล้วพี่หมอชีวอนก็เลยตามไปทำงานที่นั่นด้วย แต่

ผมบอกไว้ก่อนเลยนะฮะว่าพี่หมอชีวอนหน่ะเค้าเป็นพวกคุณชาย บ้านพี่เค้าเป็นพวกนักการเมืองนักธุรกิจกันทั้งบ้านที่สำคัญ

คือรวยมากกกก....(ก.ไก่ ล้านตัว) ส่วนพี่คยูเป็นคนธรรมดาๆทั่วไปที่ต้องขอทุนเรียนเอานะฮะตอนแรกทางบ้านพี่หมอก็ค้าน

กันเต็มที่ พี่จุนมยอเคยบอกว่ากว่าพี่ชีวอนและพี่คยูจะมีความสุขอย่างทุกวันนี้เป็นอะไรที่ลำบากมา และพี่คยูก็ประเภทเดียว

กันกับผมคือมีมดลูกตั้งแต่กำเนิดและพี่หมอทั้งสองคนก็มีลูกสาวที่หน้ารักด้วยกันหนึ่งคนชื่อน้องชีฮยอน น้องชีฮยอนน่ารัก

เหมือนพี่คยูมากๆเลย แต่อายุมากกว่าจีซองสองปี

"อ๊ะ!! สวัสดีครับชื่อผมชีวอน ยินดีที่ได้รู้จักครับ เอ....ว่าแต่ทำไมผมถึงคุ้นหน้าคุนจังเลยนะ ไม่ทราบว่าเราเคยเจอกันที่ไหน

มาก่อนรึป่าวครับ พอดีว่าผมรู้สึกคุ้นๆหน้า แต่ว่าผมนึกไม่ออกว่าจริงๆว่าเคยเห็นคุณที่ไหน" พี่หมอยื่นมาจับทักทายกับจงอิน

ก่อนที่จะทำหน้านึก ฮึๆ สงสัยว่าจะเคยเห็นจงอินตามรายการทีวีทั่วไปแต่คงจะจำไม่ได้ว่าจงอินเป็นนักร้อง

"ผมชื่อจงอินครับ คิมจงอิน ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ แต่ผมว่าเราไม่เคยเจอกันนะครับ คุณคงจะจำคนผิด" จงอินแนะนำตัวเอง

แต่ก็ไม่ยอมบอกว่าเป็นนักร้องกลับพูดปัดซะอย่างนั้น

"อ่อ!! คงจะเป็นอย่างที่คุณพูดจริงๆนั้นแหละครับ ว่าแต่ทำไมมาถึงโรงพยาบาลได้หล่ะเราไม่สบายหรอเซฮุน?" พี่หมอพูดกับ

จงอินก่อนที่จะหันมาถามผม

"ผมสบายดีฮะ!! แต่จงอินโน่นแหละที่เป็น อยู่ดีๆก็วิ่งไปอาเจียนแล้วบอกว่าคุกกี้ของผมเหม็น" ผมพูดบอก

"อ่าว..ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณจงอินนั้งเลยครับ เดี๋ยวผมขอตรวจหน่อยนะครับ อืม....ไข้ก็ไม่มี ความดันก็ปกติดี ว่าแต่คุณมีอาการ

เป็นยังไงบ้างครับนอกจากอาเจียนอย่างที่เซฮุนบอกมา ช่วยบอกหมอที" พี่หมอเริ่มตรวจทันที ทั้งวัดไข้ วัดความดัน

"ก็ไม่มีอะไรนะครับนอกจากมึนหัวเพราะเหม็นคุกกี้ของเซฮุนจนต้องอาเจียนออกมา นอกนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วครับ อย่างตอนนี้

ผมก็รู้สึกสบายดีไม่ปวดหัวเวียนหัวแล้วด้วย" จงอินตอบและบอกอาการให้พี่หมอฟัง

"ผมว่าอาการของคุณฟังดูคุ้นๆเหมือนผมเคยเป็นเลยนะ ไหนพี่ขอตรวจเราอีกคนซิเซฮุน อืม...พี่ว่าเดี๋ยวเราไปให้คยูตรวจดูให้

แน่ใจอีกที่ดีกว่า ป่ะ!! เชิญครับคุณจงอิน ตามผมมาเลยครับ" เอ้า!! ตรวจผมเสร็จพี่หมอก็ยิ้มแปลกๆและลากผมออกจากห้อง

โดยไม่บอกอะไรเลยซักคำ

     ก๊อก...ก๊อก

"อ่าว! มาทำไมอ่ะชีวอน ไม่มีคนไข้แล้วหรอ? แล้วนั่นทำไมไม่ปิดประตู ถ้าอู้งานมาก็กลับไปเลยนะ" เสียงพี่คยูถามทันทีที่

พี่หมอเดินเข้าไป พี่หมอให้ผมกับจงอินรออยู่หน้าห้องก่อนเพราะบอกว่าอยากจะเซอร์ไพร์พี่คยู

"อย่าเพิ่งดุสิที่รัก!! ดูซะก่อนว่าผมพาใครมาหา" พี่ชีวอนบอกก่อนที่จะเดินออกมาลากผมเข้าห้องตรวจของพี่คยูโดยที่ไม่ได้ตั้งตัว

แต่ผมก็คว้าแขนจงอินให้เดินมาด้วยกันเพราะเดี๋ยวคุณหมีเค้าจะหาเรื่องงอลและบอกว่าผมไม่สนใจเค้าอีก

"ตายแล้ว!!! เซฮุน!!! พี่คิดถึงเราจังเลย ว่าแต่คนนี้ใครกันแล้วตาหลานลูกหมูจีซองของพี่ไปไหนเนี่ย! ไม่ได้พามาด้วยหรอ?"

พอพี่คยูเห็นหน้าผมก็กระโดดเข้ากอดและยิงคำถามมาเป็นชุดไม่มีช่องว่างให้ผมได้ตอบเลย พอกันเลยสามีภรรยาคู่นี้

"จีซองไปเล่นอยู่กับพี่จุนมยอนฮะ ส่วนนี่จงอินสามีผม จงอินเค้าเป็นพ่อแท้ๆของจีซองนะฮะ" ผมตอบคำถามของพี่คยู

"พ่อแท้ๆของตาหลานจริงดิ!! อ่า...สวัสดีครับผมคยูฮยอนเป็นเพื่อนของจุนมยอนและเป็นหมอที่ดูแลเซฮุนอยู่นะครับ"

พี่คยูอุทานอย่างแปลกใจกับผม ก่อนที่จะแนะนำตัวเองให้จงอินรู้จัก

"สวัสดีครับผมจงอิน เป็นสามีของเซฮุนและเป็นพ่อแท้ๆของจีซอง ยินดีที่ได้รู้จักครับ" จงอินโค้งตัวเล็กน้อยเพื่อเป็นการทักทาย

"เดี๋ยวค่อยคุยกันที่หลังนะที่รัก คุณช่วยตรวจเซฮุนให้ผมก่อนผมอยากรู้จะแย่แล้ว" พี่หมอพูดขัดขึ้นมาก่อนที่พี่คยูจะถามอะไรอีก

"ตรวจอะไรอ่ะ เซฮุนเป็นอะไร" พี่คยูหันมาถามผมแต่ผมก็ส่ายหน้าปฎิเสธไปเพราะผมไม่รู้จริงๆว่าพี่หมอเค้าจะให้มาตรวจอะไร

ผมในเมื่อผมไม่ได้เป็นอะไร แต่จงอินต่างหากที่ป่วยนะ

"คือว่า...............ก็เป็นอย่างที่บอกนั่นแหละ ที่รักช่วยตรวจน้องหน่อยนะ" พี่หมอกระซิบบอกอะไรกับพี่คยูก็ไม่รู้ พอพูดจบพี่คยู

ทำหน้ายิ้มแปลกๆเหมือนกับพี่หมอก่อนหน้านี้เลย

"อืม...ถ้าอย่างนั้นเซฮุนไปฉี่ใส่กระปุกนี่ให้พี่ทีนะ แล้วก็เดี๋ยวพี่ให้พยาบาลมาเจาะเลือดหน่อยนะจะได้รู้ผลกันให้ชัวร์ๆไปเลย"

ผมรับกระปุกใส่ฉี่จากพี่คยูมาแบบงงๆ พอฉี่เสร็จพยาบาลก็มาเจาะเลือดผม และก็เอาไปทั้งเลือดทั้งฉี่เลย พี่คยูบอกว่าจะรู้ผล

ในอีกยี่สิบนาที ตอนนี้ให้นั่งรอและคุยกันไปพรางๆก่อน

"เอ๊ะ!!....ว่าแต่คุณจงอินนี่ใช่คนเดียวกันกับนักร้องที่ชื่อไครึเปล่าครับ?" อยู่ดีๆพี่คยูก็ถามขึ้นมา

"อือๆ ใช่ๆที่รัก ผมก็ว่าอยู่ว่าหน้าคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหน" พี่หมอพูดขึ้นอีกคน

"ใช่ครับ!! ผมเป็นนักร้องนะคร้บ" จงอินบอกและพยักหน้ายืนยันแบบนิ่งๆ ผมจะรอดูสิว่าจงอินจะทำขรึมได้สักกี่น้ำ

"อ่า!!! นั่นไงว่าแล้ว รู้อะไรมั้ย?เซฮุน ตั้งแต่กลับมาอยู่เกาหลีนะชีฮยอนกรี๊ดนักร้องที่ชื่อไคมากเลย มีเพลงกี่เพลงออกมากี่อัลบั้ม

นิตยสารเอย แมกกาซีนเอย โปสเตอร์เอย นี่ยังไม่รวมพวกของกระจุ๊กกระจิ๊กนะ แม่นางชีฮยอนก็อ้อนขอให้พ่อเค้าซื้อให้ทุกทีเลย

นี่ถ้ารู้ว่าไคโอปป้าของนางคือพ่อของจีซองงานนี้มีน้ำตาแตกกันบ้าง ฮ่าๆ" พี่คยูเล่าไปขำไป ผมก็พึ่งจะรู้นะเนี่ยว่าหลานสาว

คนสวยของผมจะคลั่งจงอินได้ขนาดนี้

"ถ้าอย่างนั้นวันหลังก็พาชีฮยอนไปเล่นกับจีซองที่บ้านผมสิฮะ เดี๋ยวผมจะให้จงอินแฟนเซอร์วิสให้เป็นพิเศษเลยฮ่าๆ" ผมพูดขำๆ

"ก็ดีนะ ถ้าว่างๆก็เชิญคุณหมอสองคนไปทานมื้อค่ำด้วยกันนะครับ ถือว่าเป็นการฉลองที่เราได้มีโอกาสรู้จักกัน แล้วผมก็อยากจะ

เลี้อยงขอบคุณพวกคุณด้วยที่ช่วยดูแลเซฮุนกับจีซองให้ผม" จงอินบอกและระบายยิ้มน้อยๆ

     ก๊อก....ก๊อก

"ขออนุญาติค่ะคุณหมอคยู ดิฉันเอาผลตรวจมาส่งค่ะ" ก่อนที่จะได้คุยกันต่อก็มีเสียงพยาบาลขัดขึ้นมาซะก่อน

"ขอบคุณมากครับ!! เชิญคุณพยาบาลออกไปได้เลยครับ เดี๋ยวที่เหลือผมจัดการเอง" พอรับซองเอกสารผลตรวจมาแล้วพี่คยู

ก็เชิญให้พยาบาลออกจากห้องไปเลย

"ผลเป็นยังไงบ้างที่รัก" พี่หมอถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

"หึๆ เป็นอย่างที่คุณคิดนั้นแหละ ฮ่าๆ" เอ้า!! มัวแต่หัวเราะกันสองคน แถมยังไม่ยอมบอกผลตรวจให้ผมฟังอีก ผมไม่เข้าใจเลย

"แล้วตกลงผมเป็นอะไรหรอฮะ พวกพี่ขำอะไรกันเนี่ย!! ผมงงไปหมดแล้วนะฮะเนี่ย!!" ผมถามพี่คยู

"พี่ยังไม่บอกหรอก!! จนกว่าเซฮุนจะยอมให้พี่ตรวจอีกอย่างนึง พี่รับรองว่าถ้าเราเห็นเครื่องมือพี่แล้วจะรู้เลยว่าตัวเองเป็นอะไร"

พูดจบก็ดึงมือผมให้เดินไปที่ห้องตรวจที่มีประตูเชื่อมกับห้องที่พวกเราอยู่ก่อนหน้านี้

"นี่พี่คยูอย่าบอกนะว่า ผม...." พอได้เห็นเครื่องมือการตรวจผมก็พอจะเดาได้แล้วเหมือนกัน

"อย่างที่เราคิดก็ถูกแล้วหล่ะ คิกๆ" พี่คยูพยักหน้ายืนยัน

"ตกลงเซฮุนเป็นอะไรหรอครับ!! ช่วยบอกผมที ผมไม่เข้าใจที่พวกคุณคุยกันเลย!!" จงอินถามด้วยเสียงติดจะหงุดหงิด

"ใจเย็นๆสิจงอิน ฉันก็อยากให้นายรู้ด้วยตัวเองเหมือนกัน" ผมบอกและลูบแขนจงอินเบาๆเพื่อให้จงอินใจเย็น เพราะตอนนี้

จงอินเริ่มที่จะหงุดหงิดแล้ว ในเมื่อพวกผมรู้กันแค่สามคนแต่จงอินไม่รู้อะไรเลย

"เอาหล่ะ!! เครื่องตรวจพร้อมแล้วเซฮุนขึ้นเตียงเลย ส่วนคุณจงอินก็ไปยืนข้างๆเซฮุนตรงโน้นเลยจะได้เห็นภาพในจอชัดๆ"

พี่คยูบอกและเริ่มทาเจลที่ท้องผมทันทีก่อนที่จะเอาเครื่องตรวจมาหมุนวนที่ท้องของผมเบาๆ
(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/990248708-member.jpg)

          ตึก ตึก ตึก ตึก 

"คิก คิก น้ำลายไหลหมแล้วจงอิน" พอได้ยินเสียง ตึก ตึก จงอินก็หันไปมองที่จอมอนิเตอร์จนตาค้างไปเลย

"นี่ๆอะไรนะเซฮุน???" จงอินถามด้วยความสงสัย คงจะเป็นเพราะว่าจงอินไม่ได้อยู่ตอนที่ท้องจีซองเลยทำให้ไม่รู้

"ก็น้องของจีซอง ลูกคนที่สองของเรายังไงหล่ะจงอิน" ผมเอื้มมือไปจับมือของจงอินก่อนที่จะบอก

"ลู..ก.....ลูก ลูกจริงๆหรอ???" จงอินถามผมเสียงสั่นๆ

"อื้อ!! เค้าคือลูกคนที่สองของเราจริงๆ" ผมบีบมือของจงอินเบาๆก่อนที่จะบอกด้วยรอยยิ้ม

"ฮ่าๆ ลูก!! ฉันทำได้แล้วเซฮุน!! ฉันทำน้องให้จีซองได้แล้ว!!! ฮ่าๆ" จงอินพูดไปด้วยหัวเราะด้วยความดีใจไปด้วย ดีใจถึงกับ

น้ำตาไหลออกมาเลย ผมเองก็ดีใจมากๆเหมือนกัน ถ้าจีซองรู้ว่ามีน้องแล้วจะทำหน้ายังไงนะ?

"เอาหล่ะเรียบร้อย!! ที่นี้ก็รู้กันแล้วนะครับคุณจงอิน ว่าเซฮุนเป็นอะไร" พี่คยูบอกในขณะที่เก็บเครื่องตรวจ

"แล้วที่จงอินอาเจียนหล่ะครับพี่หมอ?" ผมถามเมื่อเราเดินกลับมาห้องเดิมที่เข้ามาตอนแรกแล้ว

"อ่อ!! ไม่ต้องห่วงหรอกเซฮุน คุณจงอินเค้าแค่แพ้ท้องแทนเราหน่ะ พี่ก็เคยเป็นเหมือนกันตอนที่คยูชีฮยอนนะ เดี๋ยวอีกสักพัก

อาการเหล่านี้ก็จะหายไปเอง เค้าว่ากันว่าคนที่แพ้ท้องแทนเมียเนี่ย เป็นคนที่รักเมียมากๆเลยน้าาา..." พี่หมอเป็นคนตอบคำถาม

ของผมแทนพี่คยู แถมยังยิ้มล้อๆอีกต่างหากตอนที่พูดว่าคนที่แพ้ท้องแทนเมียเนี่ย เป็นคนที่รักเมียมากๆเนี่ย

"ถ้าอย่างนั้นก็เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ?? ผมจะรีบไปบอกจีซองนะครับ รายนั้นเค้าอยากมีน้องจะแย่แล้ว" จงอินถาม สงสัยว่า

จะยังตื่นเต้นไม่หาย ดูทำท้าเข้า

"เดี๋ยวฝากท้อง รับยา และรับใบนัดการตรวจครั้งต่อไปเสร็จก็กลับบ้านได้เลยครับ อ่อผมลืมบอกไปตอนนี้เซฮุนตั้งครรภ์

ได้หกสัปดาห์แล้ว ผมก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ พี่ดีใจด้วยนะเซฮุน" พี่คยูพูดบอก

"พี่ก็ดีใจด้วยนะเซฮุน ยินดีด้วยนะครับคุณจงอิน" อันนี้พี่หมอเป็นคนบอก

"ขอบคุณครับ!! ยังไงถ้าว่างๆก็เชิญไปเที่ยวที่บ้านเลยนะครับ วันนี้ผมขอตัวก่อน" จงอินบอกลาแบบเร็วๆ ฮ่าๆตลกจัง

"ขอบคุณมากๆเลยนะฮะพี่หมอพี่คยู แล้วเจอกันนะฮะ" ผมพูดและโค้งตัวนิดๆเพื่อบอกลา จุดหมายต่อไปของเราก็คือบ้าน

คุณพ่อกับคุณแม่ เราสองคนจะเอาข่าวดีไปบอกจีซองว่าเรากำลังจะมีน้องแล้วนะ ตั้งแต่ขับรถออกมาจากโรงพยาบาลจงอิน

ก็จับมือผมมาตลอดทางเลยฮะ แถมยังขับรถช้ากว่าเดิมอีก ยิ้มหน้าบานจนแทบจะหุบไม่ลงแล้ว จงอินคงจะตื่นเต้นและดีใจมาก

จริงๆ ถึงได้แสดงออกมามากขนาดนี้ อย่าว่าแต่จงอินเลยฮะ ผมเองก็ตื่นเต้นดีใจจนหัวใจเต้นแรงไม่ยอมหยุดเลย ก็เหลือแต่จีซอง

ที่พอได้รู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นพี่เจ้าลูกหมูจะทำหน้ายังไงน้าาาา......

 

...

หวังว่าตอนนี้คงจะถูกใจใครหลายๆคนมั้ง?คะ

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ

 

 
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่18 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 19-06-2015 14:09:48
น้องมาอีกคนแล้ว ^^ ถ้าจีซองได้รู้ข่าวคงจะยิ้มแก้มบานเลยนะคะเนี่ย ถูกใจเขาเลยเชียวล่ะเน้อ~ :impress2:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่18 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-06-2015 14:58:23
สำเร็จ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่18 (19/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 19-06-2015 17:21:20
 o13 o13
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่19 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 20-06-2015 08:35:29
it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 19

 

 

 

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1715906290-member.jpg)
"ป๊ะป๋ากับหม่าม๊ามาแร้วววววววววว" จีซองกระโดดลงจากตักของประธานโอทันทีที่เห็นจงอินและเซฮุนเดินจูงมือกันเข้ามา

ในห้องนั่งเล่น

"อ๊ะ!! จีซองอย่ากระโดดใส่หม่าม๊าอย่างนั้นสิลูก" จงอินพูดเตือนทันทีเลยเหมือนกัน เมื่อจีซองกระโดดกอดใส่เซฮุนเต็มแรง

ก่อนจะนั่งยองๆให้ตัวเสมอเท่าจีซองและรั้งจีซองมากอดไว้แทนเอง

"ทำไมล๊ะฮับ ก็จีซองคิดถึงหม่าม๊ากับป๊ะป๋านี่ฮับ" จีซองถามด้วยความสงสัยเพราะว่าปกติแล้วถ้าหม่าม๊าไปรับที่โรงเรียนหรืออยู่

ห่างกันหลายชั่วโมงพอเจอหน้ากันจีซองก็จะต้องกระโดดกอดอย่างนี้ทุกที และไม่เห็ว่าหม่าม๊าจะว่าอะไรเลย แต่ทำไมวันนี้ป๊ะป๋า

ถึงห้ามจีซองหล่ะ ก็จีซองมาเล่นที่บ้านคุงตาตั้งนาน จีซองก็คิดถึงหม่าม๊าจะแย่อยู่แล้วนะ!!

"อืม....ป๊ะป๋าว่าให้หม่าม๊าบอกลูกเองดีกว่านะ" จงอินบอกด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะเงยหน้ามองเซฮุน

"คิดว่าในห้องนี้มีกันแค่สามคนพ่อแม่ลูกหรือยังไง แล้วไอ้ที่นั่งหัวหงอกให้เห็นอยู่เนี่ย เป็นหัวหลักหัวตอหรือไงถึงไม่คิดจะ

ทักทายกันก่อนที่จะพูดคุยอะไรกัน" แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดคุยอะไรกันไปมากกว่านั้น เสียงประทานโอก็พูดแทรกขึ้นมา

อย่างฮึดฮัดขึงขัง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ใครติดใจหรือโกรธอะไรกับคำพูดของประธานโอ เพราะทุกคนในบ้านรวมทั้งจงอินต่างก็รู้ดี

ว่าสิ่งที่เห็นอยู่นั้นคือสิ่งที่ประธานโอแค่แสดงออกมาเฉยๆหรือที่ทุกคนในบ้านต่างเรียกอาการนี้กันว่า 'คนแก่ขี้งอล' ตอนนี้

ประธานโอก็ไม่โกธรแค้นอะไรจงอินจริงๆจังๆแล้ว หลังจากที่หลอกถามจากหลานบ่อยๆว่าจงอินรักและดูเซฮุนและจีซอง

มากและดีขนาดไหน และจีซองก็จะเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในบ้านตั้งแต่ย้ายออกไปใช้ชีวิตแบบสามคนพ่อแม่ลูกว่ามี

ความสุขขนาดไหน อีกทั้งยังได้ยินมาจากภรรยาของตัวเองว่าจงอินซื้อบ้านเป็นชื่อเซฮุนแถมยังไปทำเรื่องเปลี่ยนช่องทาง

การรับเงินค่าตัวของทุกๆงานเริ่มตั้งแต่เดินนี้เป็นต้นไปให้ทางบริษัทโอนเข้าไปยังบัญชีที่เป็นชื่อของเซฮุน และนั่นก็เป็นสิ่ง

ที่ทำให้ประธานโอพอใจเป็นอย่างมาก (อ่อ! ที่แท้พ่อตางกนี่เอง คึ คึ)

"สวัสดีครับท่านประธาน สวัสดีครับคุณแม่ สวัสดีครับพี่จุน ขอโทษทีครับที่ผมเสียมารยาท" จงอินอุ้มจีซองขึ้นก่อนจะ

โค้งทักทัยคนอายุมากกว่าทั้งสามคนก่อนที่จะจูงมือเซฮุนเดินเข้าไปนั่งพร้อมกัน

"หึ!! เซฮุนมานั่งข้างพ่อ จีซองด้วยมานั่งข้างตาเลย" ประธานโอทำเสียงขึ้นจมูกใส่จงอิน ก่อนที่จะบอกพูดสั่งเซฮุนและจีซอง

"สวัสดีฮะคุณพ่อ สวัสดีฮะคุณแม่ สวัสดีฮะพี่" เซฮุนโค้งทักทายเช่นเดียวกันกับเซฮุนก่อนที่จะเดินเข้าไปนั่งข้างประธานโอ

ด้วยความจำใจ จีซองก็กระโดดขึ้นไปนั่งตักของเซฮุนทันทีเช่นกัน

"อุ๊!! จีซอง!!" เซฮุนหลุดเสียงเรียกออกมาด้วยความเมื่อจีซองปีนขึ้นบนโซฟาก่อนที่จะกระโดดนั่งทับตักเซฮุนอย่างเต็มแรง

"จีซอง!!! เมื่อกี้ป๊ะป๋าพี่งจะบอกว่าอย่ากระโดดใส่หม่าม๊าแรงไง!!!" จงอินพูดดุออกมาเสียงดัง จนทำให้จีซองหน้าเสีย น้ำตาคลอ

เบะปาก เตรียมที่จะร้องไห้เต็มที่เพราะตั้งแต่ที่อยู่ด้วยกันมาจงอินไม่เคยเลยซักครั้งที่จะดุอย่างวันนี้ ถึงแม้ว่าจีซองจะเล่นซน

แค่ไหนก็ตาม แถมยังคอยให้ท้ายเวลาเซฮุนจะดุหรือตีจีซองเสียด้วยซ้ำ

"แง๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง" และแล้วจีซองก็ร้องอกมาจนได้

"เรื่องแค่นี้เองทำไมนายต้องดุฉันจนถึงกับร้องไห้อย่างนี้ด้วยห้ะจงอิน!!" ประธานโอพูดต่อว่าจงอินอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นว่า

หลานรักของตนเสียใจจนร้องไห้ออกมาอย่างนี้

"ก็เพราะเซฮุนท้องอยู่ไงครับ!!" จงอินตอบออกมาด้วยเสียงห้วน เพราะตอนนี้เค้ารู้สึกหงุดหงิดตัวเองมากที่ทำให้ลูกรักอย่าง

จีซองต้องร้องไห้เสียน้ำตาเพราะพ่ออย่างเค้าซะเอง

"อะไรน๊ะ!!!!! ท้อง!!!!" (OoO)คุณนายคิม (O0O)จุนมยอน (O[]O)ประธานโอ

"ฮื้ออออออออออออ" เป็นเพราะเสียงประสานของประธานโอ คุณนายคิม และจุนมยอนที่ดังออกมาพร้อมกันเสียงดังจนทำให้

จีซองยิ่งตกใจขวัญเสีย ร้องไห้หนักกว่าเดิมเข้าไปอีก

"โอ๋ๆ จีซองมาหาป๊ะป๋ามาลูกมา ป๊ะป๋าขอโทษนะครับลูก" จงอินเดินลุกจากที่นั่งเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของจีซองพยายามที่

จะจับและอุ้มจีซองขึ้นมาปลอบแต่จีซองก็ขืนตัวไว้

"ไม่!! ป๊ะป๋า ฮึก ไม่รัก ฮึก ลูก ฮึก แร้ว แง๊ๆๆๆๆ" จีซองเสียงสะอึกสะอื้น พูดบอกด้วยความน้อยใจที่จงอินดุตน

"รักสิครับ รักมากๆเลย ป๊ะป๋าหน่ะรักจีซองที่สุดแล้วครับลูก" จงอินพูดกล่อมจนจีซองยอมให้อุ้ม แต่ก็ยังคงร้องไห้อยู่

"แต่...ฮึก....ป๊ะป๋า...ฮึก...ดุ...ลูก...ฮึก...ลูก..เสียใจ...คุณหัวใจ...ของลูก.....เจ็บ...ฮึก....คุณหัวใจ...ของลูก...ร้องไห้..ฮึก!!"

จีซองพูดบอกพร้อมกับเอามือทาบที่หน้าอกของตัวเองเพื่อแสดงให้จงอินเห็นว่าตัวเองเสียใจจริงๆ

"โอ๋ๆ ไม่ร้องแล้วนะครับ ป๊ะป๋าผิดไปแล้ว ป๊ะป๋าขอโทษนะครับจีซองสุดหล่อ ป๊ะป๋าไม่ได้ตั้งใจจะดุลูกหรอกครับ ป๊ะป๋าแค่

ตกใจมากเกินไปหน่อยเท่านั้นเอง ป๊ะป๋าก็เสียใจเหมือนที่เสียงดังใส่จีซอง คุณหัวใจของป๊ะป๋าก็ร้องไห้เหมือนกันรู้ไหมครับ

ที่ได้ยินว่าลูกพูดว่าป๊ะป๋าไม่รักลูกหน่ะ ป๊ะป๋าหน่ะรักจีซองที่สุด รักมากกว่าอะไรในโลกนี้อีกลูกรู้ไหมครับ จีซองคือคุณหัวใจ

ของป๊ะป๋ารู้ไหมลูก" จงอินอุ้มจีซองดินกลับมาที่นั่งตัวเองก่อนที่จะนั่งลงและจับจีซองนั่งตักหันหน้าเข้าหาตัวเองและพูดบอก

อธิบายอย่างใจเย็นให้จีซองได้รู้ได้เข้าใจ สิ่งที่เค้าพูดออกมาทั้งหมดนั้นคือความจริง ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเค้าจะไม่ได้ตั้งใจจะทิ้ง

จีซองให้อยู่กับจีซองแค่เพียงลำพัง แต่ยังไงๆสาเหตุทั้งหมดที่เซฮุนตัดสินใจแบบนั้นก็เพราะตัวเค้าเอง  แต่นั้นก็เป็นเหตุที่ทำให้

เค้าเสียรู้สึกผิดและเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้  และถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเค้าสามคนจะกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาเป็นครอบครัว

ครบทั้งสามคนพ่อแม่ลูกและกำลังจะมีสมาชิกคนที่สี่ของครอบครัวกำลังจะเกิดมานั้น เค้าก็ขอสัญญากับตัวเองว่าไม่ว่าเค้าจะมี

ลูกเกิดขึ้นมาใหม่อีกซักกี่คนเค้าจะรักและทำให้จีซองมีความสุขที่สุดจะไม่ปล่อยปละละเลย ให้จีซองได้เสียใจเสียความรู้สึก

เหมือนที่ผ่านมาอีก เพราะที่ผ่านมาเค้าปล่อยให้จีซองโหยหาความรักจากเค้ามาตลอด ดังนั้นจีซองก็เปรียบเสมือนหัวใจของเค้า

อย่างที่เค้าได้พูดบอกจีซองออกมา

"ฮื้ออออออออออ ป๊ะป๋าาาาาา...." พอจงอินพูดจบจีซองก็โถมตัวกอดคอจงอินไว้แน่น ร้องไห้ฮือออกมาเสียงดัง แต่การร้องไห้

ครั้งนี้ของจีซองมันเป็นการร้องไห้ที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจากการร้องไห้ก่อนหน้านี้มาก จนผู้ใหญ่ทั้งหมดในห้องนี้

น้ำตาซึมออกมาตามๆกันทุกคน เมื่อได้เห็นได้ฟังสองคนพ่อลูกเค้าคุยกัน ไม่เว้นแม้แต่คุณตาใจแข็งอย่างประธานโอ

"เอาหล่ะๆ ไหนๆจีซองก็เข้าใจและหยุดร้องไห้แล้ว จงอินหรือเซฮุนก็ได้ช่วยบอกแม่หน่อยสิว่าที่บอกว่าท้องนะจริงๆหรอ?"

คุณนายคิมถามขึ้นหลังจากที่จีซองหยุดร้องไห้และหยุดสะอื้น

"ให้เซฮุนพูดเถอะครับ" จงอินบอกหลังจากที่ทุกคนจ้องมาที่เค้าเป็นตาเดียว โดยเฉพาะพ่อตาจอมโหดของเค้าที่จ้องเขม็งเลย

"จะใครพูดก็เหมือนกันแหละน่า....จะต้องเรื่องมากอีก" ประธานโอบอกด้วยความใจร้อน หรือความจริงก็คือยังตั้งแง่อคติ

กับจงอินอยู่นั่นเอง ไม่ว่าจงอินจะพูดหรือทำอะไรก็ดูขวางหูขวางตาไปหมด

"คือจีซองกำลังจะมีน้องนะฮะ ผมท้องได้หกสัปดาห์แล้วฮะ" เซฮุนพูดบอกด้วยความเขิน

"ฮ้า....นี่แม่กำลังจะมีหลานอีกคนแล้วหรอเนี่ย ดีจังเลยน้า อีกหน่อยบ้านเราจะได้คึกคักเพราะเสียงหัวเราะของเด็กๆแน่เลย"

คุณนายคิมประสานมือตรงหน้าออกด้วยความดีใจ พรางทำหน้าเพ้อเมื่อคิดถึงสิ่งที่ตนพูดออกมา

"ฮ่าๆๆ น้ำยาดีว่ะไอ้น้องเขย ย้ายไปอยู่ด้วยกันแค่เดือนกว่าๆน้องฉันก็ท้องปาเข้าไปเดือนครึ่งแล้ว อนาคตข้างหน้าจีซอง

คงจะมีน้องหลายคนแน่ๆเลยว่ะ" จุนมยอนหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจก่อนที่จะพูดแซวทั้งสองคนจนเซฮุนเขินอายหน้าแดง

ส่วนจงอินก็ได้แต่ลูบต้นคอของตัวเองแก้เขิน

"หึ!! เรื่องแค่นี้ทำเป็นตื่นเต้นทำเหมือนเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้" ประธานโอพูดออกมาเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาๆไม่ได้

ตื่นเต้นอะไร แต่เจ้าตัวนั้นเก๊กหน้าฝืนที่จะไม่ยิ้มออกมา จนปากกระตุก

.

.

.

.

.

.

"ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอตัวกลับก่อนนะครับ ท่านประธาน คุณแม่ พี่จุน ลาหล่ะครับ" จงอินบอกลาหลังจากที่อยู่ทานมื้อเย็นที่นี่

และพูดคุยกันต่ออีกนิดหน่อย ที่ต้องรีบกลับบ้านเพราะพรุ่งนี้จีซองต้องไปโรงเรียน ส่นตัวเค้าเองก็ต้องกลับไปทำงานเหมือนกัน

"ผมกลับก่อนนะฮะคุณพ่อ คุณแม่ ผมกลับก่อนนะฮะพี่" เซฮุนบอกและเดินเข้าไปกอดลาพ่อแม่และพี่ของเค้าทีละคน

"จีซองกลับนะฮะ แล้วหลานรักคุงตา คุงยาย แล้วก็คุงลุงที่สู้ดดดดดด!!!" จีซองพูดและกางแขนออกกว้างเท่าที่แขนสั้นๆ

ของตัวเองจะเอื้ออำนวยได้

.

.

.

.

.

.

.

"หม่าม๊ากำลังจะมีน้องจริงๆหรอฮับ?" จีซองถามหลังจากที่เรานอนรวมกันอยู่บนเตียงในห้องผม วันนี้ผมอนุญาติให้จีซอง

นอนด้วยกันได้หนึ่งคืน เพราะว่าวันนี้ผมทำลูกร้องไห้ เสียขวัญไปแล้วไงครับผมเลยกลัวว่าจีซองจะผวาตื่นมากลางคืน

แล้วไม่เห็นใครจะพาลร้องไห้เข้าอีกรอบ

"จริงสิครับ! น้องอยู่ในท้องหม่าม๊า ตรงนี้ไง" ผมวางมือทาบที่ท้องของเซฮุนเบาๆบอกกับจีซอง

"ลูกไม่เห็นได้ยินเสียงน้องเลยอ่าาา......" จีซองนอนเอาหูแนบไปบนท้องของเซฮุนก่อนที่จะถามออกมา

"ฮึๆ จีซองต้องรอให้น้องโตกว่านี้อีกหน่อยนะครับลูก ตอนนี้น้องตัวเล็กแค่นี้เอง" ผมทำมือให้จีซองดูเพื่อเปรียบเทียบกับ

ขนาดตัวของเจ้าตัวเล็กในท้องของเซฮุน

"อ่า.....น้องตัวเล็กจัง! ทำไมน้องตัวนิดเดียวเองหล่ะฮับหม่าม๊า?" จีซองถามเซฮุนด้วยความสงสัย

"ก็น้องพึ่งจะเข้ามาอยู่ในท้องหม่าม๊าได้ไม่นานเองนี่ครับ เดี๋ยวถ้าน้องอยู่นานกว่านี้น้องก็จะโตเองแหละครับลูก" เซฮุนตอบ

"แล้วเมื่อไหร่ล่ะฮับ!! ลูกอยากเล่นกับน้องแล้วน้าาาา...." จีซองพูดออกมา

"อีกเจ็ดเดือนครึ่งครับ ตอนนี้ต้องรอให้น้องโตพอที่จะออกมาก่อนรู้ไหมครับลูก ถ้าเกิดน้องออกมาตอนนี้น้องจะต้องไม่สบาย

แน่เลย จีซองอยากให้น้องไม่สบายหรอครับ" เซฮุนอธิบายให้จีซองฟังอย่างใจเย็น

"งื้อออ.....ไม่เอาอ๊ะ!! ลูกอยากให้น้องแข็งแรงแล้วก็ตัวโตๆเหมือนลูก..." จีซองบอกก่อนที่จะแบ่งกล้ามด้วยแขนสั้นๆที่เต็ม

ไปด้วยเนื้อนุ่มๆไร้กล้ามเนื้อให้ดู

"ฮ่าๆๆ ถ้าจีซองอยากให้น้องแข็งแรงเหมือนกับตัวลูก ลูกก็จะต้องห้ามดื้อ ห้ามซนจนหม่าม๊าเหนื่อย แล้วก็ห้ามกระโดดกอด

หรือกระแทกหม่าม๊าแรงๆ ต้องคอยดูอย่าให้หม่าม๊าล้มและยกของหนักๆตอนที่ป๊ะป๋าไปทำงานได้ไหมครับ"

ผมถามขอคำตอบจากจีซองในสิ่งที่ผมบอกไปก่อนหน้า อย่างน้อยช่วงที่ผมไปทำงานอย่างน้อยผมก็ยังเบาใจได้ที่มีจีซองคอย

ช่วยดูแลเซฮุนให้อีกแรงถึงแม้ว่าลูกของผมจะแค่สามขวบกว่าๆก็เหอะ ผมมั่นใจว่าเด็กฉลาดๆอย่างจีซองต้องช่วยผมได้

ระดับนึงไม่มากก็น้อย อีกทั้งจีซองรักเซฮุนมากและเห่อน้องมากๆไม่แพ้กัน

"ได้ฮับ!!" จีซองรับปากผมก่อนที่จะทำท่าตะเบะเรียนแบบตำรวจ จริงๆเล๊ยลูกชายผม ไม่มีใครแสบเท่าจีซองแล้วหล่ะผมว่า

"ฮึ ฮึ หม่าม๊าว่าตอนนี้เราเลิกคุยและก็นอนกันได้แล้วมั้งครับคุณป๊ะป๋า คุณลูกชาย นี่ก็ดึกมากแล้วนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่มีแรง

ไปทำงาน ไม่มีแรงไปเล่นที่โรงเรียนกันหรอกครับ" เซฮุนพูดขัดขึ้นเมื่อเห็นว่าผมและจีซองไม่มีทีท่าว่าจะนอนกันเลย

     จุ๊บบบ จุ๊บบบ จุ๊บบบ

"ฮับ!! ลูกรักป๊ะป๋า ลูกรักหม่าม๊า แล้วพี่จีซองรักน้องเล็กๆด้วย" จีซองจุ๊บราตรีสวัสดิ์ผมและเซฮุนก่อนนอนอย่างทุกๆคืน ที่มัน

เหมือนกับเป็นทำเนียมปฏิบัติของครอบครัวของเราไปแล้วที่จะต้องจุ๊บกันก่อนนอนและหลังจากตื่นนอนเป็นประจำทุกๆครั้ง

แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปที่จีซองจุ๊บมากกว่าทุกทีเพราะเจ้าตัวก้มลงไปจุ๊บน้องเล็กๆของตัวเองที่ท้องหม่าม๊าเซฮุนด้วยอีกที

ลูกผมน่ารักที่สุดจริงๆเลยพวกคุณว่าอย่างนั้นมั้ย?

     จุ๊บบบ

"หม่าม๊าก็รักลูกหมูจีซองมากๆเหมือนกันครับ ฝันดีนะครับลูกหมูน้อยของหม่าม๊า" เซฮุนลุกขึ้นมาจุ๊บจีซองเหมือนละบอก

ฝันดีกับลูกเหมือนกับทุกๆคืนก่อนที่จะค่อยๆทิ้งตัวกลับไปนอนลงเหมือนก่อนหน้านี้ วันนี้เราก็นอนตำแหน่งเดิมคือ

ผมนอนริมฝั่งขวา เจ้าลูกหมูจีซองนอนกลาง และเซฮุนนอนริมฝั่งซ้าย ผมไม่กลัวจีซองจะทับท้องเซฮุนหรอกครับเพราะลูก

ผมเรียบร้อยตอนเดียวคือตอนนอน นอนท่าไหนท่านั้นไม่มีดิ้น

     จุ๊บบบ จุ๊บบบ จุ๊บบบ จุ๊บบ

"ฝันดีครับลูกชายสุดที่รักของป๊ะป๋า ฝันดีครับคุณหม่าม๊ากระต่ายสุดที่รักของป๊ะป๋า ฝันดีครับเจ้าตัวเล็กป๊ะป๋าก็รักหนูเหมือนกัน

แข็งแรงๆ โตเร็วๆ และออกมาเล่นกับพี่จีซองเค้าไวๆนะครับ ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวของเรานะครับ" ผมลูบหัวกลมๆ

ของจีซองซองอย่างรักใคร่ก่อนที่จะบอกฝันดีและก้มลงจุ๊บปากเล็กๆที่ชอบต่อล้อต่อเถียงนั้นด้วยความมันเขี้ยว เจ้าตัวก็ได้แต่

หัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ ก่อนที่จะเอี้ยวตัวข้ามไปบอกฝันดีและจุ๊บปากบางๆของหม่าม๊ากระต่ายเป็นรายถัดไป และปิดท้าย

ด้วยการจุ๊บต้อนรับสมาชิกใหม่อย่างน้องเล็กๆของพี่จีซอง หลังจากที่เสร็จภาระกิจระดับชาติของครอบครัวแล้วผมก็ปิดไป

กระชับผ้าห่มให้คลุมตัวของเราทั้งสี่คนอย่างพอดีไม่ให้อึดอัดเกินไป

"ฝันดีนะคุณป๊ะป๋าหมีที่รักของฉัน" เสียงของเซฮุนดังขึ้นในความมืด หึ หึ ไอ้เราก็คิดว่าวันนี้จะไม่ได้ยินคำนี้ซะแล้ว หึ หึ

คืนนี้ผมคงฝันดี นอนหลับชาร์จแบตตัวเองได้เต็มที่เพื่อออกไปเผชิญกับชีวิตซุปตาร์ที่แสนจะเหน็ดเหนื่อยและวุ่นวายใน

วันพรุ่งนี้แล้วแหละครับ ฝันดีนะครับทุกคน

 

...

มาแล้วค่ะ.....มาแบบสั้นๆอีก คึ คึ

แล้วจะชดเชยให้ในตอนหน้านะคะ หลังจากที่เราเอื่อยๆกันมานาน

มี่ว่าหลังจากนี้เราเปลี่ยนโหมดมาตื่นเต้นๆกันบ้างดีกว่าเน๊าะ

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์ ทุกๆคนที่ติดตามอ่านกันมาจนถึงตอนนี้นะคะ

แล้วเจอกันค่ะ...............
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่19 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 20-06-2015 09:27:43
ภารกิจ 'จุ๊บๆ แห่งชาติ' น่ารักมากๆ เลยค่าา.. :m3: งื้อ~ อบอุ่นดีจังเลยน้าา >\\\\\<
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่19 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 20-06-2015 10:56:58
ว้าว มีสมาชิกใหม่ล่ะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่19 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-06-2015 21:04:42
 o13
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG KaiHun Up.ตอนที่19 (20/6/58)
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 20-06-2015 23:01:07
 :กอด1: อร๊ายยย น่าร๊ากกกกก
แหม ชีวิตของจงอินกะครอบครัวคงจะต้องวุ่นวายอีกเยอะเลยสินะเนี่ย  o16
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG //แจ้งข่าว// (01/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 01-09-2015 11:31:04
ดีค่ะๆ ก่อนจะแก้ตัวก็ต้องขอโทษแฟนนิยายของมี่

ทุกๆคนก่อนะคะ ที่มี่หายไปนานมากขนาดนี้
สาเหตุที่มี่หายไปมีอยู่สองสาเหตุค่ะ
1คือ ครั้งแลกที่บอกว่าป่วยก็คือป่วยจริงๆนั้นแหละค่ะ เป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉียบพันเพราะโพเทสเซี่ยมในร่างกายหมด หมดแบไม่มีเหลืออยู่ในร่างกายเลยค่ะ
ทำให้ตอนนั้นร่ากายของมี่ไม่สามารถทำ
อะไรได้เลยค่ะนอกจากกระพิบตาปิบๆอยู่
บนเตียง ทุกส่วนในร่างกายไม่วามารถขยับ
ได้เลยนอกจาหัว แค่บังคับการขับถ่ายของตัวเอง
ยังไม่ได้เลยค่ะ
ส่วนเหตุที่สองคือ หลังจากที่มี่หายจากเหตุการแรกนั้น
กลับมาพักฟื้นที่บ้าได้สามวัน มี่ก็ออกไปธุรกับพี่ชาย
แต่ไม่รู้ว่าปีชงหรือดวงซวยอะไร
เลยทำให้มี่กับพี่ชายโดนรถที่เห็นแก่ตัวคันนึงฝ่าไฟแดงมาบวกกับรถมี่เต็มๆ เลยทำให้เฮียของมี่ไหปลาร้าหักกับซี่โครงหักสองซี่ ส่วนมี่แขนซ้ายหักตรงข้อศอก กระดูกแขนแตก ไม่สามารถผ่าตัดได้เพราะตรงส่วนนั้นคือศูนย์รวมของเส้นประสาทและเส้นเลือดใหญ่การผ่าตัดมีความเสี่ยงสูงที่มี่อาจจะต้องเสียแขน และมี่ก็มีโรคประจำตัวด้วย คุณหมอเลยไม่ยอมผ่าตัดให้
แต่ขอให้นอนดึงกระดูกเอา การดึงกระดูกคือ
คุณหมอจะเจาะเหล็กเข้าไปติดกับกระดูกทั้งสองข้างที่แตกออกจากกันและรั้งให้ใกล้ข้อศอกที่หลุดมากที่สุด และให้มี่นอนอยู่กับเตียงนิ่งๆ จับแขนข้างที่เจ็บตั้งฉากถ่วงทรายโดย
รั้งข้อมือผูกไว้กับขื่อเตียง ตั้งแต่วันนั้นจนถึง
เมื่อวานมี่โดนล็อกอยู่กับเตียงมาตลอดเวลากินก็นอนกิน ขับถ่ายก็นอนขับถ่ายที่เตียง
จนเมื่อตอนบ่ายของเมื่อวานคุณหมอก็ถอดเหล็กออกแต่ขอให้ใส่เฝือกประคองแขนต่อไว้อีกหน่อย มี่เพิ่งได้กลับบ้านมาเมื่อเช้าค่ะ
‪#‎ยังไงก็ต้องขอโทดด้วยนะคะที่มี่หายไปนาน‬ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ มี่ขอโทษค่ะที่ทิ้งไว้โดยไม่ได้บอกอะไรเลย

 

#ส่วนนิยายตอนต่อไปรอกันอีกสักนิดนะคะขอมี่เรียบเรียงอีกซักนิดนะคะ

(ถึงตอนนี้ใช้แขนได้ข้างเดียวไอ้มี่ก็สู้ตายค่ะ!!!)

/// อย่าพึ่งทิ้งเค้าน้าาาาา...../////
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG //แจ้งข่าว// (01/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 01-09-2015 12:33:46
รอนะค้าา.. :กอด1:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG //แจ้งข่าว// (01/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-09-2015 14:19:20
ไม่เป็นไรจ้า ยังไงก็ขอให้หายไวไวนะค่ะ
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG ตอนที่20 (05/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 05-09-2015 17:01:30
it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 20   

 

 

 

 

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/747081685-member.jpg)


"จีซอง อย่างองแงอย่างนี้ซิลูก ป๊ะป๋าเค้าต้องรีบไปทำงานนะครับ" เซฮุนกำลังปะเหลาะเจ้าลูกหมูตัวแซบอยู่ครับ ไม่รู้วันนี้

เป็นอะไรขึ้นมาถึงได้ร้องงองแงจะตามผมไปทำงานด้วยให้ได้ ทั้งๆที่ปกติแล้วติดหม่าม๊าติดน้องเล็กๆในท้องเซฮุนจะตาย

แต่วันนี้แปลกมากเลยครับร้องงองแงจะไปกับผมให้ได้ ขนาดเอาน้องเล็กๆที่เจ้าตัวหวงนักหวงหนามาอ้างยังไม่ยอมเลย

"งื้ออออ...ไม่เอา..ลูกจะไปกับป๊ะป๋า ลูกจะไป ลูกจะไป" พูดคำนี้มาตั้งแต่ผมแต่งตัวเตรียมตัวจะไปทำงานแล้วครับ เกาะติด

หนึบผมเป็นลูกลิงอยู่อย่างนี้ ดุก็แล้ว ขู่ก็แล้ว ยังไงๆเจ้าตัวก็ไม่ยอม

"ไค!! เตรียมตัวเสร็จรึยัง เราต้องรีบหน่อยนะเดี๋ยวจะสายเอา วันนี้เราต้องเดินทางไกลเลยเชียวหล่ะ" พี่มินซอกมารับผมแล้วครับ

แต่เจ้าลูกหมูตัวแสบนี่สิยังไม่ยอมปล่อยผมเลย

"สวัสดีฮะพี่มินซอก" เซฮุนทักผู้จัดการคนเก่งของผมที่มัวแต่ก้มหน้ามองๆจิ้มๆไอแพดดูตารางงานของวันนี้อยู่

"หวัดดีจ้าเซฮุน อ้าว!! จีซองทำไมเกาะป๊ะป๋าอยู่อย่างนั้นหล่ะครับ ไหนมาให้อาหมินกอดหน่อยสิ" พอเงยหน้าทักทายกับเซฮุน

เสร็จ แล้วหันมาเห็นหลานรักตัวแสบของตัวเองเกาะผมเป็นลูกลิงอยู่ก็เรียกเสียงดังเลย ต้องบอกว่าหลานรักก็เพราะว่าหลังจาก

ที่ผมเริ่มกลับไปทำงานตอนนี้ก็สามเดือนแล้วแหละครับ ส่วนเซฮุนก็อุ้มท้องเจ้าตัวเล็กมาได้สี่เดือนครึ่งแล้วแหละครับจะว่าไป

ก็เร็วเหมือนกันนะครับเนี่ย เซฮุนหน่ะไม่มีอาการแพ้เลย มีแต่ผมนี่แหละที่แพ้แทนต้องอาเจีนนทุกเช้าเป็นประจำเลย และก็พิ่ง

จะหายไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองครับ ส่วนจีซองกับพี่หมินนะหรอครับต้องบอกว่าเป็นหลานรักก็เพราะว่าพี่หมินแกโดนความแสบ

ความเจ้าเลห์ของจีซองเข้าครอบงำอีกคนแล้วแหละครับ เมื่อก่อนวันไหนว่างไม่มีงาน ซึ่งหาได้น้อยมาสำหรับผมสองคน ปกติพี่

แกก็จะไปพักในส่วนของแก แต่เดี๋ยวนี้ไม่เลยครับจะมารับจีซองไปเดทกันสองคนลุงหลานครับ ไปกินไอติมบ้าง เดินเที่ยวบ้าง

หรือไม่ก็จะช่วยอาสาดูจีซองแล้วปล่อยให้ผมอยู่เงียบๆกันสองคนบ้าง เป็นไงหล่ะครับ ตอนนี้คนรอบข้างผมกลายเป็นโรค

จีซองลิซึ่มกันหมดแล้วแหละครับ

"ป้าหมินนนนนนนนน.....หลานอยากไปทำงานกับป๊ะป๋า อยากไปเล่นกับป้าหมินอ่ะ" พอเห็นพี่หมินก็ปล่อยขาผมแล้ววิ่งเข้า

กอดโถมตัวใส่พี่หมินเต็มแรงเลย แถมยังทำหน้าอ้อนๆอีก ตายๆพี่หมินฟินตาย เดี๋ยวนี้ยิ่งชอบถ่ายรูปคู่กับจีซองเวลาไปเที่ยว

แล้วอัพลงโซเชี่ยลอวดพวกผมอยู่ ไม่รู้โดนลูกผมทำเสน่ห์ใส่บ้างรึป่าว

"หืม.....แต่ที่ทำงานป๊ะป๋ามีแต่ผูใหญ่นะครับ ไม่มีของเล่นสนุกๆให้จีซองเล่นหรอกนะครับ" พี่หมินบอก

"แต่หลานอยากไปอยู่เป็นแฟนป้าหมินนี่ฮับ ตอนป๊ะป๋าทำงานป้าหมิก็ต้องอยู่คนเดียว ป้าหมินจะต้องเหงานแน่ๆเลยฮับ"

ฮึๆเอากับเจ้าตัวแสบเค้าสิครับ

"นี่ๆให้มันน้อยๆหน่อยเจ้าลูกหมู เป็นห่วงกลัวป้าหมินเหงา แล้วไม่เป็นห่วงหม่าม๊ากับน้องเล็กๆจะเหงาบ้างหรอลูก" เซฮุนถาม

เมื่อเห็นท่าทางออดอ้อนของเจ้าตัวแสบที่ใช้อ้อนป้าหมินของตัวเอง

"เดี๋ยวลูกกับป๊ะป๋าก็ต้องไปส่งหม่าม๊าที่ร้านอยู่แล้วนี่ฮับ พอหม่าม๊าไปอยู่ที่ร้านหม่าม๊าก็มีพี่โด้กับพี่แบคเป็นเพื่อน หม่าม๊าก็ไม่

เหงาแล้วนี่ฮับ แต่ป้าหมินต้องอยู่คนเดียวป้าหมินเหงาน้า......หม่าม๊าไม่สงสารป้าหมินหรอฮับ ลูกหล่ะสงส๊าร สงสาร" ฮึๆ

เอาเข้าไป เถียงกันไปไกลแล้วครับ เจ้าตัวแสบชักแม่น้ำร้อยแปดสายมาอ้างขนาดนี้ผมว่าผมคงต้องยอมแล้วแหละครับ

"เอาๆจะไปก็ไปครับ รีบเอากระเป๋าตัวเองมาเลยครับ เดี๋ยวป๊ะป๋าไปทำงานสายกันพอดี" พอผมพูดจบ เจ้าตัวก็ยิ้มหน้าบาน

วิ่งไปหยิบกระเป๋าเป้สะพายหลังประจำตัวของตัวเองมาเลยครับ

"จงอิน!!!! เดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก" เซฮุนหน้ามุ่ยดุผมอย่างไม่พอใจ

"ไม่เป็นไรหรอกน่าคุณหม่าม๊ากระต่าย อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ยิ่งมัวเถียงกันอยู่อย่างนี้ฉันไม่ได้ไปทำงานกันพอดี นายก็รู้ไม่

ใช่หรอ ว่าลูกเราดื้อแค่ไหน แล้วนี่เราเถียงเรื่องนี้กันมาสองชั่วโมงแล้วนะเจ้าตัวแสบยังไม่ยอมแพ้เลย ถ้าเรายังไม่ยอมนายคิด

ว่าวันนี้ฉันจะได้ไปทำงานไหมหล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกน่างานนี้เป็นงานถ่ายเอ็มวีของนักร้องใหม่ที่ฉันโดนรับเชิญให้ไป

ช่วยเล่นเอ็มวีให้แค่นั้นเอง มีแต่คนใน ไม่มีนักข่าวหรอก ไม่เชื่อนายถามพี่หมินก็ได้" ผมบอกให้เซฮุนได้สบายใจเพราะว่า

ถ้าปล่อยให้เซฮุนเคลียดหรือคิดอะไรมากเกินไปมันก็ไม่ดีซักเท่าไหล่จะพาลส่งผลเสียไปให้เจ้าตัวเล็กในท้องอีกต่างหาก

ผมรู้ครับว่าเซฮุนไม่ได้กลัวเหงามากขนาดนั้นอย่างที่บอกกับจีองไปหรอกครับ แต่เซฮุนกลัวว่าเรื่องของครอบครัวเราจะหลุด

เป็นข่าวออกไปและจะส่งผลเสียให้ผมซะมากกว่าไงครับ ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมก็บอกตลอดนะครับว่าผมไม่สนใจหรอก

กลับกันผมอยากเปิดเผยซะด้วยซ้ำว่ามีลูกมีเมียแล้วและเซฮุนกับจีซองก็คือครอบครัวของผม เพราะผมไม่อยากหลบๆซ่อนๆ

อย่างนี้อีกแล้ว ผมอยากเข้าไปส่งจีซองทุกๆเช้าที่โรงเรียนให้ถึงห้องเรียนไม่ใช่แค่ส่งได้แค่หน้าประตูโรงเรียนและปล่อยให้

ลูกเดินเข้าห้องไปคนเดียวด้วยตัวเองอย่างนี้ ส่วนผมก็ทำได้แค่เพียงนั่งมองรอจนกว่าลูกจะเดินเข้าไปในห้องเท่านั้นเอง ผมว่า

มันดูหดหู่เกินไปนะครับ ที่จะปล่อยให้เป็นแบบนั้นนานๆ ผมไม่รู้ว่าจีซองจะคิดมากหรือป่าวที่เห็นเพื่อนๆมีพ่อแม่ไปส่งถึง

ที่นั่งในห้องเรียนส่วนตัวเองต้องเดินเข้าไปด้วยตัวเองอย่างนี้ ช่วงแรกๆเซฮุนก็เป็นคนไปส่งนั้นแหละครับ แต่ช่วงนี้เซฮุนนอน

ตื่นสายกว่าทุกทีมากเลย กว่าเซฮุนจะก็ตื่นหลังจากที่จีซองไปโรงเรียนแล้ว หน้าที่ทั้งหมดที่เคยเป็นของเซฮุนตั้งแต่ปลุกจีซอง

ทำอาหารเช้าไปส่งลูกที่โรงเรียนนั้นผมก็ทำเองหมด ที่จริงเซฮุนก็บอกให้ผมปลุกเค้านะครับแต่ผมไม่อยากปลุกเพราะคุณหมอ

เคยบอกว่ามันเป็นอาการปกติของคนท้องที่จะต้องพักผ่อนมากกว่าคนทั่วไป ส่วนวันไหนที่ผมมีงานแต่เช้ามึดผมก็จะปลุกจีซอง

ก่อนเวลาจับอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็จะเอาไปฝากไว้ที่บ้านตระกูลโอ วานให้พี่จุนเป็นธุรไปส่งจีซองนะครับ

"อื้ม...ไม่ต้องห่วงหรอกเซฮุน พี่จะช่วยดูหลานเอง ถือซะว่าปล่อยให้หลานไปเที่ยวกับพี่อีกวันแล้วกันเน๊าะ ส่วนเรื่องนั้นก็ไม่ต้อง

เป็นห่วงหรอก ถ้าใครถามพี่ก็จะบอกว่าจีซองเป็นหลานพี่ เท่านี้ก็ไม่มีปัญหาแล้วแหละ" พี่หมินช่วยผมกล่อมเซฮุนอีกแรง

"เสร็จแล้วฮับ!!!" แหม...อารมณ์ต่างจากเมื่อกี้ลิบลับเลยนะเจ้าลูกหมู

.

.

.

.

.

.

"จีซองอย่าดื้ออย่าซนกับป้าหมินนะลูก แล้วก็ห้ามกวนเวลาป๊ะป๋าทำงานด้วยนะครับ" เซฮุนพูดประโยคนี้มาตั้งแต่ออกจากบ้าน

จนตอนนี้รถมาจอดอยู่หน้าร้าน Indy cafe'แล้ว เซฮุนก็ยังหันกับมาย้ำกับลูกอีกครั้ง

"งื้ออออ.....ลูกรู้แล้วฮับหม่าม๊าบอกมาล้านครั้งแล้วนะ" เจ้าลูกหมูทำหน้ายู่ปากจู๋อย่างงอลๆ

    ฟอดดดด....

"โอเคๆหม่าม๊าไปแล้วก็ได้ ดูแลตัวเองนะครับลูก รบกวนฝากหน่อยนะครับพี่หมินถ้าจีซองดื้อก็ดุเลยนะ โชคดีนะครับพี่"

หอมแก้มลูกชายสุดที่รักเสร็จก็หันไปฝากฝังกับผู้จัดการของผมอีกรอบ พี่หมินก็พยักหน้ารับ

"หวัดดีเซฮุน หวัดดีไค" พอเข้ามาในร้านโด้กับแบคก็ทักผมสองคนทันที ตอนแรกที่รู้ว่าผมเป็นพ่อจีซองพวกพี่แกก็เกร็งๆ

ไม่กล้าเข้าใกล้ผมไปหลายวันเลยครับ ตอนแรกผมก็นึกว่าสองคนนี้เป็นพวกแอนตี้ผม จนผมใจหายไปหลายวันเลย แต่ที่ไหน

ได้เซฮุนมาบอกกับผมว่าพี่แกเป็นแฟนบอยตัวจริงของผมเลยหลังจากนั้นผมก็เป็นฝ่ายชวนพวกพี่แกคุยก่อนจนพวกเราค่อยๆ

สนิทกันนั้นแหละครับ

"หวัดดีครับพี่ผมฝากเซฮุนหน่อยนะครับ วันนี้เจ้าตัวแสบไม่ยอมอยู่ดูแลหม่าม๊า ผมเลยต้องพาไปทำงานด้วย ยังไงผมก็ฝากพี่

สองคนช่วยผมดูเซฮุนหน่อยนะครับ" ผมบอก

"ไม่ต้องห่วงหรอก สบายมากเซฮุนเป็นน้องพี่ เจ้าตัวเล็กนี่ก็หลานพี่เรานั้นแหละเอาเจ้าตัวแสบไปด้วยจะไม่มีปัญหาหรอกหรอ"

พี่โด้เป็นคนพูด

"สบายมากพี่ไม่มีปัญหาหรอก ถึงจะมีก็ช่างมันเถอะ" พอผมพูดจบพี่สองคนก็พยักหน้ารับรู้ แล้วก็แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเอง

"เอ้านี่!! เอาไปไว้กินกับลูกแบ่งพี่หมินด้วยนะ แล้วอย่าพาลูกสร้างปัญหานะจงอิน" เซฮุนยัดตระกร้าปิกนิกที่เต็มไปด้วย

ขนม คุกกี้ เค้ก ผลไม้ น้ำผลไม้ และน้ำ ใส่มือผม ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่าคุณหม่าม๊าเค้ารักและเป็นห่วงเจ้าลูกหมูขนาดไหน

"ฮึๆ ไม่ได้ไปค้างซักหน่อย ตอนค่ำๆก็กลับแล้วครับ ให้เอาไปหมดนี่เลยหรอ?" ผมแกล้งถาม

"อย่ามาทำเป็นไม่รู้นะจงอิน ก็รู้ๆอยู่ว่าลูกกินเก่งขนาดไหน แถมตัวนายเองก็ด้วย เอาไปนิดเดียวก็ไม่พอที่จะบรรจุในกะเพาะ

ของคุณลูกกับคุณป๊ะป๋าหรอก อย่างน้อยถ้ามีขนมจีซองจะได้นั่งอยู่เฉยๆไม่เล่นซนจนทำให้นายวุ่นวายก็แล้วกัน"

เซฮุนพูดแบบกระเง้ากระงอด

"คิดมากน่า ไม่มีอะไรหรอก อยู่ร้านก็นั่งคิดเงินเฉยๆนะอย่าทำงาน แล้วถ้าไม่ไหวก็โทรเรียกพี่จุนเลยนะ แล้วถ้าตอนไหนที่ฉัน

ว่างฉันก็จะโทรหานะ" ผมพูดไปก็ลูบแก้มนุ่มๆของเซฮุนไป ผมว่าแก้มเซฮุนมันดูป่องๆขึ้นหน้ารักดีนะครับ แต่ความจริงแล้ว

เซฮุนก็ป่องขึ้นทุกส่วนนั้นแหละ ดูมีเนื้อมีนวลขึ้น ตัวกลมๆ แต่ไม่ได้ตัวใหญ่จนหน้าเกลียดหรอกครับ ผมว่าหุ่นของเซฮุน

ตอนนี้ดูจ้ำม้ำน่าฟัดดีครับ พวกคุณคิดว่าไง? หรือว่าผมหื่น?

"อื้อ......รู้แล้ว นายก็รีบไปได้แล้ว ป่านนี้พี่หมินกับลูกรอแย่แล้ว เดี๋ยวก็ไปทำงานสายกันพอดีหรอก" เซฮุนก้มหน้าบอกเบาๆ

อาการนี้คุณหม่าม๊าเขินชัวร์เลย

"ไปก็ได้ครับ แต่ก่อนไปขอกำลังใจก่อน" ผมบอกพลางยื่นหน้าอมลมแก้มป่องไปใกล้ๆหน้าเซฮุน

     ฟอดดดด.....

"บ้า!! จงอินบ้า ไปทำงานได้แล้ว!!" หอมผมเสร็จก็ว่าผมเสียงดัง แล้วก็เดินหนีเข้าไปในห้องอบขนมอย่างเขินๆ ฮึๆ แค่นี้ผมก็

มีกำลังใจทำงานแล้วหล่ะครับ

.

.

.

.

.

.

"อ้าว!! คุณไคมาแล้วหรอค่ะ มาทางนี้เลยค่ะมาทางนี้เลย เดี๋ยวฉันจะแนะนำคนที่ร่วมแสดงเอ็มวีนี้กับคุณนะคะ คนแรกก็คือ

คุณชานยอลคุณคงรู้จักกันดีแล้วใช่ไหมครับ ส่วนน้องผู้หญิงคนนี้ก็ น้องมินอานะคะเป็นเจ้าของเพลงที่เราจะถ่ายทำกันวันนี้

นี่แหละค่ะและน้องก็จะเล่นเป็นนางเอกในเพลงนี้ด้วย" มาถึงผู้จัดการกองก็พาผมมาแนะนำทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมงาน

ในครั้งนี้เลยครับ ถือว่าดีเลยนะครับสำหรับการเตรียมความพร้อมเท่าที่ผมเห็นเพราะว่าการถ่ายทำครั้งนี้เป็นการถ่ายทำนอก

สถานที่มันเป็นอะไรที่เราคาดเดาและกะเกณฑ์ไม่ได้หรอกครับ แต่ผมเห็นเค้าเตรียมอุปกรณ์พร้อมรองรับทั้งแดดทั้งฝนเลย

แต่ที่ไม่ดีอยู่อย่างนึงคือเพื่อนร่วมงานอย่างปาร์คชานยอล คู่แข่งตลอดการของผมทั้งในจอและนอกจอ ตอนนี้ชานยอลก็สนิท

สนมทั้งกับเซฮุนและจีซองเลยแหละครับหลังจากที่ผมปะทะกันวันนั้น เพราะถ้าชานยอลมีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็จะมาดื่มกาแฟ

ที่ร้านและเนียนๆอยู่คุยกับเซฮุนและเล่นกับจีซอง ลูกผมก็ชอบเลยซิครับที่มีเพื่อนเพิ่มอีกคนหน่ะ แต่ผมไม่ชอบเลย!!!

"ไง! สบายดีนะ เซฮุนเป็นไงบ้างหล่ะ ช่วงนี้ฉันยุ่งๆไม่มีเวลาได้เข้าไปหาเลย" ปาร์คชานยอลครับ เข้ามาทักผมในขณะที่ผมนั่ง

รอคิวถ่ายในมุมส่วนตัวที่ทางทีมงานเข้าจัดไว้ให้

"ไม่ไปหน่ะดีแล้ว เกะกะ" ผมหล่ะไม่อยากจะคุยดีๆกับคนที่เข้ามาเต๊าะเมียผมหรอกนะ

"นายควรจะเลิกระแวงและคุยกับฉันดีๆได้แล้วนะ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันเลิกสนใจเซฮุนในแบบนั้นไปแล้ว" ชานยอลบอกแบบ

ไม่สบอารมณ์ คือต้องเป็นผมมากกว่าเปล่าว่ะที่จะต้องไม่ชอบใจหน่ะ

"เรื่องของฉัน"

"เฮ้อ....แล้วแต่นายเถอะว่ะ ไม่ว่ายังไงอีกหน่อยเราก็ต้องเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่ดี" พูดจบมันก็เดินออกไปเลย ก็เพราะมัน

มาพูดอย่างนี้กับผมไงไม่ให้ผมระแวงได้ยังไงว่ะ แม่งเจอหน้ากันที่ก็ไปซุบซิบ พูดคุย มีลับลมคมในกับเซฮุนอย่างสนิทสนม

พอถามเซฮุนก็บอกว่าไม่มีอะไร แต่ทำไมผมถึงเห็นว่ามันสนิทกับเมียผมมากขึ้นทุกวันเลยหล่ะ แล้วถ้าเป็นคุณ คุณจะไม่เป็น

อย่างผมหรอ? แต่ก็ช่างมันเถอะครับ ยังไงผมก็เชื่อใจเซฮุน แล้วอีกอย่างยิ่งนึกถึงก็ยิ่งหงุดหงิด อ่า...ว่าแต่พี่หมินพาลูกผมไป

เข้าห้องน้ำถึงไหนแล้วหล่ะเนี่ย......

"เอ่อ....สวัสดีค่ะรุ่นพี่" ผมนั่งมองหาจีซองอยู่ก็มีผู้หญิงมาเดินเข้ามายืนอยู่ข้างหน้าผม

"สวัสดีครับ เอ่อ...." น้องเค้าชื่ออะไรนะ ผมไม่ค่อยได้สนใจตอนที่พี่สตาฟเค้าแนะนำเลยจำไม่ได้อ่ะ แต่รู้สึกว่าน้องเค้าจะเป็น

เจ้าของเพลงนี้รึยังไง ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน

"ฉันชื่อมินอาค่ะ ชินมินอา ยินดีที่ได้รู้จักนะคะรุ่นพี่" น้องเค้าแนะนำตัวแบบเขินๆ

"อ่าครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับผมชื่อไค" ผมแนะนำตัวตามมารยาท

"คือฉันเป็นแฟนคลับของรุ่นพี่นะค่ะ ก็เลยอยากจะรู้จักรู่นพี่นะค่ะ" น้องเค้าบอกเบาๆอย่างอายๆ

"อ่า...ครับ ได้สิ เชิญนั่งเลยครับ" ผมพูดและชวนเค้านั่งด้วยกันเพราะเห็นว่าน้องเค้าใส่ส้นสูงยืนบิดไปบิดมา

"ขอบคุณค่ะ คือ...ฉันเป็นนักร้องหน้าใหม่ของค่ายPVกำลังจะเดบิวต์นะค่ะ และก็จะใช้เอ็มวีที่เราถ่ายวันนี้ในการเปิดตัวด้วยนะค่ะ

ยังไงๆฉันก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับรุ่นพี่ด้วยนะคะ" น้องเค้าก้มหน้าบอก ถ้าน้องจะขี้อายขนาดนี้ แล้วเวลาแสดงบนเวทีจะรอดไหม

หน่ะ หรือว่าที่น้องเค้าอายจะเป็นเพราะว่าเป็นแฟนคลับผม หรือยังไง?

"ป๊ะป๋า!!!! นี่ๆป้าหมินซื้อคุณติมให้ลูกด้วยฮับ!!" มาแล้วหล่ะครับลูกชายผม มาถึงก็กระโดดมานั่งตักผม ชูไอติมโชว์ส่ายไปส่ายมา

ให้ผมดู เห็นหายไปนานจนเราเป็นห่วง แต่ที่ไหนได้สองคนป้า(?)หลานดันพากันไปซื้อไอติมมากินอย่างสบายใจซะงั้น

"อื้อหือ..น่ากินจังเลยครับ แต่ทำไมไม่เห็นมีของป๊ะป๋าเลยหล่ะ" ผมแกล้น้อยใจทำเสียงอ่อยใส่จีซอง

"ก็....ก็...ก็ลูกจะแบ่งให้ป๊ะป๋ากินกับลูกไงฮับ!!" เหมือนจะใจดีนะไอ้ลูกชาย แต่หน้านี่ไม่เหมือนกับที่ปากบอกมาเลยหล่ะ

ปากก็บอกว่าจะมาแบ่งกับผม แต่ทำหน้าเศร้ามองไอติมในมืออย่างเสียดายที่ไม่ได้กินทั้งคนเดียวซะงั้น

"ขอบคุณนะครับ แต่ป๊ะป๋ากินขนมของหม่าม๊าอิ่มซะแล้ว ป๊ะป๋ากินไอติมของลูกไม่ไหวแล้วหล่ะครับ ลูกคงจะต้องกินไอติม

คนเดียวแล้วหล่ะ ลูกจะกินทั้งหมดนั้นได้ไหมนะ?" ผมแกล้งทำท่าเสียดายซะเต็มประดา เพื่อให้เจ้าลูกหมูไม่รู้สึกผิดที่ไม่ได้

แบ่งผมและบอกว่าอิ่มแล้วทั้งๆที่ยังไม่ได้กินอะไรเข้าไปเลย แต่คนเป็นพ่อที่ไหนจะกล้าแย่งลูกหล่ะครับ ยิ่งเด็กที่รักการกินเป็น

ชิวิตจิตใจอย่างจีซองแล้วด้วย ยิ่งทำให้ผมไม่อยากแย่งเลยหล่ะ อีกอย่างของว่างที่เซฮุนเตรียมมาไว้ให้ก็อร่อยมากไม่แพ้ไอติม

ของจีซองหรอกอีกทั้งยังเตรียมมาให้เยอะมากเลยด้วย

"ได้ฮับ!!! ลูกกินคุณติมหมดอยู่แล้ว" เปลี่ยนสีหน้าเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วจริงๆเลยลูกชายผม

"ฮึๆ ที่อย่างนี้หล่ะยิ้มได้ขึ้นมาเชียวไอ้ลูกหมูตัวแสบเอ้ย!!!" ผมมองจีซองที่นั่งกินไอติมอยู่บนตักของผมอย่างมีความสุข ก็อดที่

จะลูบหัวกลมๆนั่นไม่ได้

"อ้าว!!! แล้วน้องผู้หญิงคนนี้คือใครเนี่ยไค ทำไมถึงมานั่งอยู่ตรงนี้ได้" พี่หมินเงยหน้าจากถ้วยไอ้ติมขึ้นมาได้ก็ถามถึงคนที่นั่ง

อยู่ตรงข้ามผม อ่า...นี่น้องเค้ายังนั่งอยู่อีกหรอครับเนี่ย ไอ้ผมก็นึกว่าน้องเค้าไปตั้งนานแล้วซะอีก

"น้องเค้าชื่อมินอาพี่ น้องเค้าเป็นเจ้าของเพลงที่เรามาถ่ายวันนี้หน่ะ มินอานี่พี่มินซอกผู้จัดการส่วนตัวของพี่เองครับ" ผมแนะนำ

ให้ทั้งสองคนรู้จักกัน พี่หมินก็พยักหน้าหงึกหงักว่ารับรู้แล้วแต่ทำไมถึงทำหน้าแปลกๆก็ไม่รู้ ส่วนมินอายิ้มรับและก็โค้งทักทาย

กลับอย่างมีมารยาท

"แล้วเรื่อง" พี่หมินเดินเข้ามาพูดกระซิบผมแค่นั้นแล้วก็ชี้มาทางจีซองที่นั่งกินไอติมอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่แค่นั้นผมก็รู้แล้ว

ว่าพี่หมินเค้าต้องการจะถามอะไรผมต่อ

"ช่างเถอะพี่ ไม่มีอะไรหรอก น้องเค้ารู้แล้วก็ดีเพราะน้องเค้าบอกว่าเป็นแฟนคลับผมและผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าในมุมมอง

ของแฟนคลับด้วยกันน้องเค้าจะรู้สึกอะไร จะได้วัดใจกันไปเลย" ผมตอบกลับเบาๆให้ได้ยินแค่ผมกับพี่หมินสองคนเท่านั้น

"เอ่อ....ฉันขอเสียมารายาทได้ไหมค่ะรุ่นพี่" น้องเค้าพูดแทรกมาเบาๆ

"จะถามอะไรหรอครับ?" ผมแกล้งถามกลับทั้งที่พอจะเดาออกเหมือนกันว่าน้องเค้าคงจะถามเกี่ยวกับจีซอง ถ้าเกิดว่าน้องเค้า

นั่งฟังมาตั้งแต่ต้น

"คือ...คือน้อง....น้องคนนี้กับรุ่นพี่ เอ่อ..." มินอาถามผมอย่างกล้าๆกลัว

"จีซองครับ น้องชื่อคิมจีซอง เป็นลูกชายของพี่เองครับ" ผมบอกอย่างชัดเจน

"ลูกชาย!! ลูกชายแท้ๆเลยหรอค่ะ" มินอาอุทานเสียงดัง ทำหน้าตาตื่นอย่างไม่เชื่อหู

"ครับลูกชายแท้ๆ จีซองเป็นลูกชายแท้ๆที่เกิดจากพี่เองเลยครับ" ผมย้ำแบบชัดๆอีกครั้ง คราวนี้น้องหน้าเหวอเลยครับ แต่ทำไม

เหมือนผมเห็นแววตาของน้องเค้าสั่นไหวเลยนะ

"ขอโทษนะคะ เชิญคุณไคกับคุณจงอินเข้าฉากต่อไปด้วยค่ะ" ยังไม่ทันที่จะได้พูดคุยอะไรกันต่อ ทางทีมงานก็มาเรียกให้ผมกับ

น้องเค้าเข้าฉากต่อไปทันที

"ครับ/ค่ะ" ผมและน้องเค้าขานรับสตาฟพร้อมกัน แต่น้องเค้าเดินออกไปก่อน

"จีซองเดี๋ยวป๊ะป๋าไปทำงานก่อนนะครับ ลูกก็อยู่กับป้าหมินไปก่อน อย่าดื้ออย่าซนนะลูก" ผมบอกกับจีซองที่ยังคงนั่งกินไอติม

อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ เจ้าตัวก็พยักหน้าอย่างแข็งขัน แต่ไม่รู้ว่าจะรับรู้รึป่าวนี่สิ

.

.

.

.

.

.

"ฉากแรกนี้เป็นฉากที่คุณชานยอลและคุณมินอาซึ่งเป็นแฟนกันอยู่ในตอนนั้น ทะเลาะกันรุนแรงจนถึงขั้นคุณมินอาทนไม่ไหว

จึงขอเลิกกับคุณชานยอนเลยนะครับทั้งๆที่ยังรักอยู่ ส่วนคุณจงอินแสดงเป็นเพื่อนสนิทที่หลงรักคุณมินอา ที่ได้แต่ยืนมองอยู่

ห่างๆ จนทนไม่ได้ที่จะเห็นคุณมินอาผู้หญิงที่แอบรักมานานร้องไห้เสียใจเลยเดินเข้าไปขั้นกลางระหว่างคนทั้งคู่ และผลักอก

คุณชานยอลออกห่างนะครับ" ทางทีมงานเข้ามาอธิบายอย่างละเอียดให้พวกผมฟังซ้ำอีกทีทั้งๆที่ผมท้องบทกันมาก่อนหน้านี้แล้ว

.

.

.

"คัท!!! ทั้งสามคนดีมากเลยครับ พักทานข้าวกันก่อน1ชั่วโมงนะครับ แล้วหลังจากนั้นเราก็จะถ่ายฉากสุดท้ายก็เสร็จแล้ว

หล่ะครับ" เสียงสั่งคัทจากผู้กำกับคือเสียงสวรรค์ ที่ดังมาพร้อมกับเสียงเฮของเหล่าทีมงานเพราะตั้งแต่เริ่มฉากแรกเราก็ถ่ายทำ

กันมา โดยไม่ได้พักเลยแหละครับจนตอนนี้ก็ปาไปบ่ายสองเข้าแล้ว ไม่รู้ป่านนี้ลูกหมูจีซองของผมจะงองแงไปแล้วหรือยัง

"ป๊ะป๋า!!!" พอเห็นหน้าผมก็เรียกเสียงหลงเชียว

"ว่าไงครับลูก" ผมอุ้มตัวจีซองขึ้นมากอด ก่อนที่จะถาม

"ลูกหิวววววว....." อ่า....ลากเสียงซะอ่อยเชียว ผมจะสงสารอยู่แล้วเชียวถ้าไม่หันไปเห็นซากขนมกองโตที่เซฮุนเตรียมมาไว้ให้

วางอยู่บนโต๊ะซะก่อนหล่ะนะ

"อืม....หิวอะไรครับ แล้วถุงขนมของหม่าม๊านี่คืออะไรหรอครับลูก" ผมแกล้งเลิกคิ้วถาม

"งื้ออออ.....ลูกป่าวกินคนเดียวนะ!! ป้าหมินกินเยอะกว่าลูกอีก" ทีอย่างนี้นี่ก็ร้อนตัวรีบตอบก่อนเลยทีเดียวเชียว

"หืออออ....ถ้าจีซองจะบอกว่าที่หนูป้อนคุกกี้ป้าหมินมาสองชิ้นคือการที่ป้าหมินกินเยอะกว่าป้าก็ยอมลูก คริๆ" พี่หมินหันมา

พูดด้วยความขันขำ ในความเจ้าเลห์ของหลานรักตัวเอง

"ป๊ะป๋าาาา....ก็จีซองหิวอ่าาาาาา......" คราวนี้เจ้าตัวแสบพูดและก็ใช้สองมือป้อมๆของตัวเองลูบหน้าผมเบาไปด้วย

"โอเคครับๆ เดี๋ยวป้าหมินจะไปหาข้าวมาให้ทั้งคุณพ่อทั้งคุณลูกเลยโอเค?" พี่หมินพูดขึ้นมา

"โอเคฮับ!!" หน้าบานเลยเชียวไอ้ลูกหมูตัวแสบ

"งั้นเรามาโทรหาหม่าม๊ากันดีกว่ามั้ยครับ?" ผมถามพลางชูโทรศัพท์ขึ้นให้จีซองเห็น

"โทรฮับ!! โทรแบบเห็นหน้านะฮับป๊ะป๋าลูกจะคุยกับน้องเล็กๆด้วย" ฮึๆเริ่มคิดถึงแล้วหล่ะสิ เพราะปกติวันหยุดถ้าไม่ต้อง

ไปโรงเรียนอย่างวันนี้ถึงผมจะออกมาทำงาน จีซองก็จะอยู่เล่นกับหม่าม๊ากับน้องเล็กๆของเค้าตลอดทั้งวัน และก็มีแค่วันนี้

นั้นแหละครับที่งองแงจะออกมากลับผมให้ได้ไม่รู้เป็นอะไร

.

.

.

.

.

     อีกฝั่งหนึ่ง

'นี่!!ซอนเย ฉันได้เจอพี่จงอินแล้ว แต่ตอนนี้พี่เค้ามีเมียมีลูกแล้ว แถมยังพาไอ้เด็กบ้านั่นมาด้วยโดยไม่กลัวเป็นข่าวเลย ไม่!!

ไม่!! ยังไงฉันก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจของฉันเด็ดขาด ฉันไม่สนหรอก!!! ต่อให้พี่เค้ามีลูกมีเมียอีกเป็นสิบฉันก็จะเอา!! แกก็รู้ว่า

ฉันรักพี่เค้ามานานแค่ไหน ไม่รู้แหละ ฉันมาไกลมาเกินไปแล้ว ฉันจะไม่ยอมถอยเด็ดขาด ต่อให้ฉันจะต้องฆ่าใครฉันก็จะทำ'

     ในขณะที่ปาร์คชานยอลเดินออกจากห้องน้ำหลังจากที่ทำธุรส่วนตัว ก็บังเอิญได้ยินเสียงหญิงสาวคนนึงคุยโทรศัพท์ทางด้าน

ห้องน้ำฝั่งผู้หญิง เค้าจะไม่สนใจเลยถ้าเรื่องที่คุยไม่มีใจความที่เกี่ยวกับคนรู้จักใกล้ตัวของเค้าถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยชอบหน้าหรือ

ลงรอยกันซักเท่าไหร่ก็เถอะ แต่นี่มันเกี่ยวกับความเป็นความตายของเซฮุนเพื่อนสนิทคนใหม่บวกตำแหน่งผู้ช่วยของเค้าใน

ตอนนี้ด้วย อีกทั้งยังจีซองเพื่อนซี้ต่างวัยของเค้าอีก

(จงอิน? คิมจงอิน? ไคนะหรอ? แย่แล้วสิ ไอ้บ้านั่นเจอแฟนคลับโรคจิตเข้าจริงๆแล้วหล่ะ ทำไงดี ทำไงๆ อ่อ!! ที่รัก!! ต้องบอก

ที่รักไว้ก่อน เพราะถ้าไปบอกกับไอ้หมีหวงก้าง(?) นั่น จะต้องคิดว่าเราแต่งเรื่องขึ้นมาแน่ๆเลย)  เมื่อเถียงกับตัวเองเสร็จชานยอล

ก็ต่อสายโทรหาคนที่เค้านึกขึ้นได้ทันที

...

ขอโทดจริงๆนะคะพรุ่งนี้มี่จะลงตอนที่ 21/22 ให้สองตอนเลยนะคะ

มี่มึนจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 22 (05/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-09-2015 17:25:19
เอาลูกหมูมาให้แล้ว
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 22 (05/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 05-09-2015 18:48:27
ถ่ายแบบเซ็ตนี้เสร็จเมื่อไร งานเข้าแน่ๆ เลยนะคะไค เพราะท่าทางมินอานักร้องหน้าใหม่คนนี้อาจจะอยากดังทางลัดก็ได้..
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 22 (05/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 05-09-2015 22:08:13
ดีใจที่ได้อ่านต่อค่ะ
งานนี้เหมือนจะมีสาวๆ มาอ่อยป๊ะป๋านะ จีซองจัดการด่วนๆ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 22 (05/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 05-09-2015 22:11:55
อ๊ากกกกก..มีขอโทดค่ะมี่ลงให้ผิดตอนที่จริงในเล้าพึ่งถึงตอนที่19เองอ่ะ

มี่ขอลบตอนปัจจุบันและลงตอนที่20ให้ก่อนแล้วกันนะคะ

อันที่ลงไปมันเป็นตอนที่22 ข้ามไปตั้งสองตอนแนะ :sad4:

ขอโทดนะคะช่วงนี้มี่มึนๆ ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ขอโทดจริงๆนะคะ :o11: o6
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 20 (05/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: jamesnaka ที่ 05-09-2015 22:59:50
ตามอ่านรวดเดียวถึงตอน 20 เลย พล๊อตเรื่องน่ารักดีค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ

แต่มินอานักร้องหน้าใหม่พวงแฟนคลับตอนล่าสุดนี่จิตมากค่ะเกลียดมากกับคนนิสัยแบบนี้ขอให้ไม่ได้ดี  :katai1:

รอตอนต่อไปจ้า  :pig4:

 
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 20 (05/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 05-09-2015 23:00:17
ถ้ามินอาตั้งใจจะทำอย่างที่คิดต่อไปจริงๆ เราว่ายังไม่ทันจะได้ 'ดัง' เธอได้ 'ดับ' ก่อนแน่ๆ และก็อย่าได้คิดที่จะเอาเรื่องที่จงอินมีลูกแล้วมาขู่กันเสียให้ยากเลยนะคะ มันจะเข้าทางจงอินเปล่าๆ แถมยังเสียเวลามากด้วย เพราะเจ้าตัวเขาพร้อมที่จะชี้แจงความจริงเสมอจ้า ^^

รอสองตอนหน้าค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 21 (06/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 06-09-2015 09:21:56
it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 21   













(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/112058299-member.jpg)

 

("แค่นี้ก่อนนะจงอินคุณพ่อกับพี่จุนมาน่ะ แล้วเจอกันที่บ้านนะจีซอง อย่าดื้อนะครับลูก ปิ๊บ!!") เสียงปลายสายตัดไปแล้ว แต่

เจ้าลูกหมูของผมยังนั่งจ้องโทรศัพท์อยู่เลยครับ สงสัยจะเริ่มคิดถึงหม่าม๊าจริงๆเข้าแล้วแหละ เพราะนี่ก็บ่ายแล้ว ผมเหลือ

อีกถ่ายอีกแค่ฉากเดียวก็เสร็จแล้วหล่ะ แต่อีฉากเดียวอันนี้นี่น่าหนักใจที่สุดเลยครับเพราะผมจะต้องเข้าฉากกับปาร์คชานยอล

แค่สองคน มันเป็นฉากที่ผมและนายนั่นจะต้องทะเลาะลงไม้ลงมือแย่งนางเอกในเรื่องนะครับ เฮ้อ.....

"เป็นอะไรไปครับ เจ้าลูกหมูตัวแสบของป๊ะป๋า คิดถึงหม่าม๊าหรอครับลูก" ผมอุ้มจีซองมานั่งตักเจ้าลูกหมูก็รู้คิวไงครับ รีบหันหน้า

เข้าหาผมแล้วก็ซบอกกอดทันทีเลยเหมือนกัน

"งื้อออ.....นิดนึงงงงงง" ฮึๆ ปากบอกว่าคิดถึงแค่นิดเดียว แต่หน้ามันไม่ใช่อย่างนั้นเลยนะไอ้ลูกหมูตัวแสบเอ้ย!!! อย่างว่าแหละ

ปกติจีซองจะห่างกับเซฮุนแค่ตอนไปโรงเรียนเท่านั้นเองนี่ครับ วันหยุดก็ทำตัวติดกันเป็นแตงเมไม่ยอมห่างเลย ไปไหนก็ไปด้วย

ยิ่งเดี๋ยวนี้หลังจากที่รู้ว่าเซฮุนท้องนี่ยิ่งติดเซฮุนหนักเข้าไปอีก ขนาดเวลาที่พี่จุนมารับไปเล่นที่บ้านใหญ่ไปหาคุณตาคุณยายเค้า

ก็ยังไม่อยากไปเลยทั้งๆที่ปกตินั่งนับวันรอให้ทางนั้นเค้ามารับเลย เพราะอะไรจีซองถึงอยากไปบ้านโน้นนั้นหรอ? ก็เพราะทางนั้น

เค้าตามใจเจ้าตัวแสบนี่ยังไงหล่ะครับ กลับมาทีไรก็ได้ของเล่นขนมาเต็มรถพี่จุนเลยหล่ะ แต่หลังจากที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นพี่

ก็ไม่อยากที่จะห่างหม่าม๊าไปไหนแล้วนะครับเพราะว่าเจ้าตัวเค้าจะเล่นจะคุยกับน้องทั้งวัน แต่ก็มีวันนี้นี่แหละครับที่พอตื่นมาปุ๊บ

ก็ร้องไห้งองแงตามผมมาทำงานด้วยอย่างนี้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจีซองเป็นอะไร

"เอ๋....กำลังคุยอะไรกันอยู่ค่ะ น่าสนุกเชียว ให้พี่สาวคุยด้วยคนได้หรือเปล่าครับหนุ่มน้อย??" เสียงของมินอาครับ น้องที่เป็นเจ้า

ของเพลงนี้ที่ผมมาเล่นเอ็มวีให้นี่ไงครับ เดินเข้ามาจับแก้มจีซองแล้วถามด้วยเสียงใสๆใจดีๆในสไตล์ของเธอ

"............." แต่จีซองนะสิครับ ไม่ยอมพูดคุยทักทายกลับเลย เอาแต่จ้องมองหน้ามินอาเฉยๆ มองแบบไม่แสดงความรู้สึกอะไร

ออกมาด้วยนะครับ ทั้งๆที่ปกติแล้วถ้าคนไหนดูแล้วถูกชะตาด้วยจีซองก็จะคุยด้วยไม่หยุดเลย แต่ถ้าคนไหนที่มองแล้วไม่ค่อย

ชอบไม่ค่อยจะถูกชะตาเท่าไหร่จีซองก็จะบอกออกมาตรงๆเลยว่าไม่อยากคุยด้วย แล้วยิ่งเป็นพวกพี่สาวสวยๆอย่างมินอานี่ปกติ

จีซองจะยิ้มกว้างอย่างชอบใจวิ่งเข้าใส่และเป็นคนชวนเล่นชวนคุยเองเลยนะครับ ไม่ใช่มองเงียบๆอย่างนี้

"อ่า...พี่ขอโทษแทนลูกพี่ด้วยแล้วกันนะมินอา พอดีจีซองเค้าเริ่มคิดถึงหม่าม๊าแล้วหน่ะ เลยพาลให้อารมณ์ไม่ดีไม่อยากจะคุย

กับใคร ทั้งๆที่ปกติแล้วเจ้าลูกหมูนี่ชอบพี่สาวสวยๆอย่างมินอามากๆเลยนะ" ผมอธิบายให้น้องเค้าเข้าใจ เพราะผมเห็นว่าน้องเค้า

เริ่มหน้าเสียแล้วหลังจากที่ทักจีซองแล้วจีซองไม่ยอมคุยด้วย

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะรุ่นพี่ ฉันไม่ถือน้องเค้าหรอกค่ะ ว่าแต่....คุณแม่ของน้องเค้าไปไหนหรอคะ? ถึงปล่อยให้รุ่นพี่หนีบลูกชาย

สุดหล่อมาทำงานด้วยอย่างนี้หล่ะคะ" มินอาทิ้งตัวนั่งเก้าอี้ที่ว่างอยู่ฝั่งตรงข้ามผม ก่อนที่จะถาม

"หม่าม๊าเจ้าตัวแสบนี่ทำงานหน่ะ แต่ปกติแล้วเจ้าตัวแสบนี่เค้าก็จะอยู่กับหม่าม๊าเค้านั่นแหละ ไม่รู้วันนี้นึกคึกอะไรถึงได้ร้องงองแง

แล้วก็อ้อนขอตามมาทำงานกับพี่ด้วย" ผมตอบกลับแบบสบายๆ เพราะว่าผมได้ตั้งใจจะปิดปังเรื่องนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

อีกอย่างผมแค่อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าแฟนคลับผมรู้เรื่องนี้แล้วจะรู้สึกและแสดงออกมาอย่างไง เพราะว่าน้องเค้าบอกว่าน้องเค้า

เป็นแฟนคลับผมใช่มั้ย? ผมก็จะเอาน้องเค้านี่แหละเป็นคนทดลอง ถ้าน้องเค้าอยากรู้อะไรผมก็จะบอก หรือว่าถ้ามีข่าวอะไร

หลุดไปถึงหูนักข่าวภายในวันนี้ผมก็จะไม่โทษน้องเค้าหรอกเพราะว่าคนในกองนี้เค้าก็รู้กันหมดแล้วว่าจีซองคือลูกชายของผม

แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดหรือว่าแสดงความคิดเห็นออกมาหรอกครับ เพราะว่าเรื่องของผมมันไม่ใช่เรื่องแรกและผมไม่ได้เป็นศิลปิน

คนแรกที่ซุกลูกซุกเมียเอาไว้ ยังมีศิลปินนักร้องนักแสดงอีกหลายคนที่เป็นแบบผม แต่ก็มีเฉพาะคนวงในเท่านั้นแหละครับที่รู้กัน

แฟนคลับหรือคนนอกอย่างนักข่าวก็ยังไม่มีใครรู้ เพราะไม่มีใครอยากจะยุ่งหรืออยากจะพูดเรื่องของใครนักหรอก เพราะต่างคน

ก็ต่างมีความลับของกันและกันอยู่ไงครับ  และเบื้องหลังของวงการมายานี้มันไม่ได้สวยงามเสมอไปอย่างที่พวกคุณคิดหรอกนะ

"อ่อ...อย่างนี้นี่เอง สงสัยสุดหล่อจะหวงคุณพ่อหล่ะมั้งคะ! ว่าไงครับสุดหล่อพี่ชื่อมินอานะคะ แล้วสุดหล่อคนนี้ชื่ออะไรเอ่ย?"

มินอาพยักหน้าเข้าใจก่อนที่จะก้มหน้าคุยกับจีซองที่นั่งอยู่บนตักผม

".........." ลูกชายผมก็ยังคงเงียบอยู่เหมือนเดิม  เอ.....จีซองเป็นอะไรไปนะ

"อาาา.....สุดหล่อ...จะไม่คุยกับพี่จริงๆหรอคะเนี่ย ทำยังไงดีน้าาา....พี่อยากคุยกับสุดหล่อมากจริงๆเลยนะเนี่ย"

".........." เงียบ

"จีซองครับ!! คุยกับพี่สาวเค้าหน่อยสิลูก ถ้าลูกไม่คุยกับพี่เค้าเดี๋ยวพี่เค้าก็เสียใจแย่เลยน้าาา........" ผมช่วยพูดอีกแรง เมื่อเห็น

น้องเค้ามีความพยายามที่จะคุยกับจีซองขนาดนั้น สงสัยจะชอบเด็กมั้งครับ แต่ลูกชายผมนี่สิ ไม่ยอมพูดอะไรด้วยเลย ทำหน้านิ่ง

อย่างเดียว วันนี้จีซองทำตัวแปลกๆทั้งวันเลย มันแปลกมากจริงๆเลยนะครับที่เห็นสาวสวยมาคุยด้วยอย่างนี้แล้วยังทำหน้านิ่ง

ไม่สนใจได้ขนาดนี้เนี่ย ทั้งๆที่ปกติแล้วพวกพี่สาวสวยๆอย่างมินอานี่คือเป้าหมายของเจ้าตัวเค้าเลย

"..........." เงียบ เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ ฮึๆ นี่ผมยังจะมาตลกอีก ฮ่าๆ

"คุณไคคะ!! เข้าฉากได้แล้วค่ะ" สตาฟเดินมาตามผมไปถ่ายฉากสุดท้ายของวันนี้แล้วแหละครับ แต่พี่หมินก็ยังไม่มาเลย คือ

พี่หมินเค้าไปพูดคุยตกลงรายละเอียดงานกับผู้ว่าจ้างงานของวันพรุ่งนี้ครับ เลยปล่อยให้จีซองอยู่กับผมสองคนเพราะบอกว่า

จะไปคุยแค่แป๊ปเดียว แต่จนป่านนี้แล้วก็ยังไม่มาเลย

"ครับๆ   จีซองครับเดี๋ยวป๊ะป๋าไปทำงานแป๊ปนึงนะ ถ้าป๊ะป๋าถ่ายฉากนี้เสร็จเราก็จะได้กลับบ้านไปกอดหม่าม๊ากอดน้องเล็กๆ

กันแล้ว ลูกนั่งรอป้าหมินอยู่ตรงนี้คนเดียวก่อนได้ไหมครับ? " ผมขานรับสตาฟ ก่อนที่จะก้มหน้าพูดบอกกับจีซอง

"ได้ฮับ!! ลูกเก่งลูกอยู่ได้ ป๊ะป๋าไปทำงานเลยยย....." น้านนนน.....ทีอย่างนี้นี่รีบรับปากเลย สงสัยจะอยากอยู่กับพี่สาวแค่สองคน

หล่ะมั้ง ถ้าเป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆนี่ อานาคตข้างหน้าผมกับเซฮุนจะต้องปวดหัวเพราะความเจ้าเลห์ของเจ้าตัวแสบแน่ๆ

"รุ่นพี่รีบไปเข้าฉากเถอะค่ะ เดี๋ยวผู้กำกับจะว่าเอา ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอกค่ะเดี๋ยวฉันจะช่วยดูน้องให้เอง ยังไงๆฉันก็ไม่มีคิวแล้ว

ว่างแล้ว อีกอย่างผู้จัดการฉันก็กลับไปที่บริษัทยังไม่มาเลยเหมือนกันค่ะ เอาเป็นว่าฉันจะเล่นอยู่เป็นเพื่อนน้องให้เองนะคะ"

ขณะที่ผมกำลังคุยกับลูกอยู่มินอาก็พูดขัดขึ้น และอาสาที่จะคอยดูอยู่เล่นเป็นเพื่อนกับจีซองให้ผมระหว่างที่ผมเข้าฉาก

"คุณไคคะ!! เข้าฉากได้แล้วค่ะ!!!!" สตาฟตะโกนเร่งเสียงดัง

"อ่า...เอาอย่างนั้นก็ได้ พี่ฝากหน่อยก็แล้วกันนะมินอา จีซองครับเล่นรอป๊ะป๋าอยู่ตรงนี้อย่าดื้ออย่าซนนะครับลูก" เพราะเสียง

ตะโกนเรียกซ้ำทำให้ผมตอบรับข้อเสนอของมินอา ก่อนที่จะพูดย้ำกับจีซองอีกครั้ง

     จงอินเดินออกไปถ่ายทำฉากสุดท้ายของงานนี้กับปาร์คชานยอลแล้ว ที่ตรงนี้ก็เหลือเพียงจีซองที่นั่งเล่นหุ่นยนต์ของเล่น

ที่พกใส่กระเป๋าเป้ประจำตัวที่สะพายติดตัวออกมาจากบ้านอย่างเงียบๆโดยที่ไม่สนใจสาวสวยที่นั่งจ้องมองตนอยู่ฝั่งตรงข้าม

โต๊ะเลย ส่วนมินอาตั้งแต่ที่รุ่นพี่ที่ตนหลงรักเดินออกไปเธอก็นั่งจ้องลูกชายแท้ๆของชายที่เธอรักเงียบๆเพราะไม่รู้ว่าจะพูดหรือ

จะทำอย่างไรกับเด็กคนนี้ดี เพราะความจริงแล้วตัวเธอนั้นเกลียดสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเด็กเป็นอย่างมาก ถ้าไม่จำเป็นเธอจะไม่เฉียด

ไปเข้าใกล้หรือทำความรู้จักด้วยเลย แต่ที่เธอต้องทำเป็นพี่สาวใจดีและแสดงออกมาว่ารักเด็กมากขนาดนี้ก็เพราะว่าเด็กคนนี้

ไม่เหมือนกับเด็กคนอื่น และที่เค้าต้องมาปั้นหน้ายิ้มและทนพูดจาดีๆกับไอ้เด็กบ้านี่ก็เพราะว่ามันเป็นลูกชายของผู้ชายที่เธอรัก

และก็เพราะว่าไคดูรักและหวงไอ้เด็กบ้านี่มาก เค้าก็เลยต้องนั่งทนให้มันทำท่าเมินเฉยไม่สนใจเค้าอย่างนี้นี่ยังไงหล่ะ ไม่อย่างนั้น

ก็อย่าหวังเลยว่าคนอย่างชินมินอาจะสนใจ

"สุดหล่อ...สุดหล่อชื่อจีซองใช่มั้ยครับ พี่ชื่อมินอานะ หรือจีซองจะเรียกว่าพี่สาวก็ได้น้า...." มินอาทำใจกล้าเอื้อมมือไปจับแขน

ป้อมๆของจีซองข้างที่ในมือมีหุ่นยนต์ถือไว้

"..........." จีซองเหลือบตาขึ้นมองเล็กน้อยก่อนที่จะสะบัดแขนออกให้หลุดจากมือของมินอา โดยที่ปิดปากเงียบไม่พูดอะไรเลย

ก่อนที่จะหันหนีก้มหน้าก้มตาเล่นหุ่นยนต์ในมือของตัวเองต่อ แสดงให้เห็นว่าตนนั้นตั้งใจเมินมินอาอย่างเห็นได้ชัด

"อ๊ะ....พี่สาวมีขนมด้วยนะเนี่ย! มีใครแถวนี้อยากกินบ้างไหมน้าาา....." มินอายังไม่ละความพยายามที่จะคุยและทำความรู้จัก

กับจีซอง โดยการใช้ขนมเข้าล่อ เพราะคิดว่ายังไงๆร้อยทั้งร้อยเด็กก็ต้องสยบเพราะขนม ยิ่งโดยเฉพาะกับเด็กอย่างจีซองแล้ว

วิธีนี้ยิ่งน่าจะได้ผลมากที่สุด เพราะตั้งแต่รุ่นพี่ไคของเธอเดินเข้ามา เธอก็เห็นไอ้เด็กนี่เดินมาด้วยและในมือมันก็มีขนมอยู่

ตลอดเวลา ไม่เคยมีตอนไหนเลยที่เธอมองมาแล้วเด็กนี่ไม่มีขนมอยู่ในมือ เพราะฉะนั้นเธอเลยคิดว่าวิธีนี้คือวิธีที่ดีที่สุด

"..........." เงียบ

"จีซอง.....จีซองครับ"

"..........." เงียบมาก

"จีซองสุดหล่อออ....."

"..........." เงียบถึงเงียบที่สุด 

"จีซองงงงง.....คุยกับพี่มินอาหน่อยเร็ว" เธอยังไม่ละความพยายามที่จะผูกมิตรกับจีซอง ใช้น้ำเสียงหวานๆหน้าอ้อนๆที่เธอมั่นใจ

ว่าถ้าผู้ชายคนไหนลองได้เห็นก็ต้องตกหลุมที่เธอขุดไว้ทุกคน เธอพยายามที่จะยิ้มให้หวานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งๆที่ในใจของเธอ

ตอนนี้อยากจะฆ่าไอ้เด็กบ้านี้ให้ตายนัก กล้าดียังไงมาเมินเธออย่างไร้เยื่อใยแบบนี้

".........."

"จีซองงงงงงงงงง"

"ป้า"

"หือ??" มินอาอุทานออกมาเบาๆ เพราะว่าเหมือนเธอจะได้ยินแว่วๆว่าจีซองพูดอะไรบางอย่างออกมาแต่มันแผ่วมากจนเธอ

แทบจะไม่ได้ยิน และจับใจความไม่ได้เลย

"ยาย!!" คราวนี้จีซองพูดดังและชัดขึ้นกว่าเดิมมาก ด้วยสีหน้านิ่งๆคงเดิม แต่คำพูดที่พูดออกมานั้นมันต่างจากคำแรกโดยสิ้นเชิง

 

"เอ๋...ไหน? ไหนคะ? จีซองเรียกคนไหนครับบอกพี่มินอาหน่อยได้ไหมครับ?" มินอาที่เห็นว่าจีซองยอมเปิดปากพูดด้วยแล้ว

ก็เนียนๆ คุยด้วยทันที พยายามจะแอ๊บทำหน้าให้ดูน่ารักใจดีที่สุด และมีความหวังว่าเด็กคนนี้จะคุยกับเธอซักที

"ยายแก่หน้าเกลียด!!!" จีซองพูดพร้อมกับใช้นิ้วป้อมๆของตัวเองชี้ไปที่มินอา

 

"อ๊าย!! ไม่ใช่นะลูก พี่มินอาคนสวยต่างหาก หรือจีซองจะเรียกพี่ว่าคุณแม่ก็ได้น้าาา....." มินอายังคงสวมบทบาทพี่สาวใจดี

และแกล้งทำเป็นว่าไม่ได้คิดอะไรมากในสรรพนามที่จีซองใช้เรียกตน ทั้งๆที่อารมณ์และความอดทนของเธอในตอนนี้นั้นแทบ

จะถึงขีดสุดเต็มที

"ไม่ใช่!! ยายแก่หน้าเกลียดไม่ใช่หม่าม๊า!! หม่าม๊าของจีซองสวยที่สุด!! สวยกว่ายายแก่หน้าเกลียด!! หน้าเกลียด!! หน้าเกลียด!!

ปากก็แดงเหมือนผีกินเลือด จมูกก็เหมือนแม่มด แหวะๆ จีซองไม่ชอบ ไม่ชอบๆ ยายแก่หน้าเกลียด" คราวนี้คงจะสมใจมินอาแล้ว

ที่อยากจะได้ยินจีซองพูด เพราะจีซองจัดเต็มพูดตามความรู้สึกและความคิดแบบเด็กๆของตัวเอง ใครว่าเป็นเด็กแล้วจะไม่รู้เรื่อง

ของผู้ใหญ่  จีซองเก่ง จีซองรู้นะ จีซองได้ยินป้าหมินคุยกับป๊ะป๋าว่ายายแก่หน้าเกลียดชอบป๊ะป๋า แล้วก็อยากเป็นหม่าม๊าของจีซอง

จีซองไม่เอานะ ไม่ยอมหรอก หม่าม๊ากระต่ายเซฮุนของจีซองสวยที่สุด ใจดีที่สุด ทำขนมอร่อยที่สุด แล้วจีซองก็รักหม่าม๊าที่สู้ดด!!

"ไอ้เด็กอ้วน!! ไอ้เด็กบ้า!! แกว่าฉันหรอห๊ะ!!" มินอาเอื้อมมือข้ามโต๊ะไปกระชากแขนของจีซองที่อยู่อีกฝั่งนึงอย่างแรง อีกทั้งยัง

บีบแขนบอบบางของจีซองอย่างแรง

"อื้ออออ...." จีซองเบ้หน้า ร้องออกมาด้วยความเจ็บ

"มีอะไรกันหรอ??" มินซอกถามขึ้น หลังจากที่กลับมาจากไปคุยงานให้จงอินก็รีบเดินตรงเข้ามาบริเวรที่พักของจงอินทันที

เพราะตนไปนานกว่าที่คาดไว้มาก เลยกลัวว่าจงอินจะไปเข้าฉากและปล่อยให้หลานชายสุดที่รักนั่งรอคนเดียวนานๆ แต่พอ

เดินมาใกล้ๆกับที่พักนั้นก็ได้ยินเสียงร้องที่ไม่ดังมากของหลานชาย

"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พอดีน้องเค้าเล่นเพลินจนจะตกเก้าอี้นะค่ะ มินอาเลยช่วยจับน้องเค้าไว้เท่านั้นเอง สงสัยจะกะแรงพลาด

ไปหน่อยเลยทำให้น้องเค้าเจ็บ จีซองสุดหล่อครับพี่มินอาขอโทษนะลูก พี่ไม่ได้ตั้งใจ โอ๋ๆ ไม่เจ็บนะครับ ไม่เจ็บ" มินอาปล่อย

มือออกจากแขนจีซอง และหันไปตอบคำถามของมินซอกด้วยรอยยิ้มหวานปานนางฟ้าประจำตัวของเธอ ก่อนที่จะเดินอ้อมมา

นั่งยองๆ โอบกอดและปลอบประโลมจีซองเหมือนกับว่าตนนั้นรู้สึกผิดเสียเต็มประดากับเรื่องที่เธอแต่งขึ้นมา

"ฮึก........." จีซองยังคงซะอื้นอยู่เล็กน้อย

"โอ๋ๆ พี่มินอาขอโทษจริงๆนะคะสุดหล่อ.....เงียบนะ!! ถ้าไม่เงียบฉันจะหยิกแกให้เนื้อเขียวเลยไอ้เด็กบ้า แหล...นักนะแก

โดนแค่นี่ทำเป็น เดี๋ยวปัด!! แม่ตบคว่ำ เจ็บนิดเจ็บหน่อยก็ร้องห่มร้องไห้ทำเหมือนจะเป็นจะตาย โอ๋ๆ ไม่ร้องนะลูก"

มินอาพูดเสียงดังในประโยคแรกด้วยเสียงอ่อนเสียงหวานเหมือนรู้สึกผิดเสียเต็มประดา ก่อนที่จะกระชิบประโยคต่อไปให้ได้

ยินเพียงแค่ของคนกับจีซองด้วยเสียงแข็งอย่างข่มขู่แถมมือที่โอบกอดจีซองข้างข้างซ้ายที่ตัวของจีซองช่วยบดบังให้รอดพ้น

จากสายตาของมินซอกนั้นก็ใช้บีบแขนของข้างซ้ายของจีเข้าเต็มแรงผิดกับอีกมือนึงที่คอยลูบเบาๆทำเหมือนว่าปลอบประโลม

จีซองอยู่  ใบที่แสนงดงามและนิสัยอ่อนหวานดังเช่นนางฟ้าที่ทุกคนเห็นและเข้าใจนั้นมันก็เป็นเพียงหน้ากากใช้บังหน้าอยู่

เท่านั้นเองหรอกหรอเนี่ย

"ฮึก..." จีซองสะอื้นและใช้มือป้อมดึงรั้งผมของมินอาอย่างเนียนๆเหมือนกัน เอาซิ!! ยายแก่หน้าเกลียด ยายแสดงละครได้

จีซองก็แสดงได้เหมือนกัน หึ! ให้รู้ซะบ้างว่าจีซองก็ศิษย์ลุงจุนก็เคยเข้าคอร์การแสดงที่ลุงจุนพาไปเรียนตอนที่ต้องช่วยป๊ะป๋า

ฝ่าด่านของคุงตาเหมือนกันนะ!!

"โอ้ย!!" มินอาหลุดร้องออกมาเพราะโดนจีซองจิกผมด้านหลังของเธอ

"อ่ะ!! คุณมินอาเป็นอะไรรึป่าวครับ?" มินซอกถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นว่ามินอาร้องออกมาพร้อมกับหน้าที่เหยเก

"ไม่มีอะไรค่ะ เดียวยังไงมินอาขอตัวไปโทรหาผู้จัดการหน่อยนะคะ" มินอาบอกปัดเพราะเธอก็มีความผิดติดหลังเหมือนกัน

เลยไม่อยากจะต่อต่ายเพราะยังไงๆเธอก็คิดว่าไอ้เด็กบ้าจีซองก็ต้องมีรอยช้ำรอยเขียวเพราะแรงบีบของเธอเหมือนกัน เธอเลย

รีบบอกขอตัว แต่ในตอนที่เธอจะลุกนั้นจีซองก็คว้าคอเธอกอดรัดไว้แน่น ทำให้เธอลุกขึ้นโดยมีจีซองห้อยติดมาด้วย

"งื้อออ.....พี่สาว พี่สาวอย่าพึ่งไปนะฮับ จีซองอยากเล่นกับพี่สาว" จีซองบอกพร้อมกับใช้ขากอดรัดมินอาไว้แน่น แถมสองมือ

ป้อมๆของจีซองตอนนี้ก็ย้ายไปตรงท้ายทอยของมินอา และสองมือป้อมๆนั้นก็สามัคคีกันทั้งจิก ทั้งรั้ง ลุมทึ้งผมยาวสลวย

ของมินอาจนเจ้าตัวเจ็บและแสบไปหมด

"โอ้ย โอ้ย" มินอาได้แต่โอดโอยออกมาอย่างอดกลั้น เพราะตอนนี้ศีรษะของเธอนั้นระบมไปหมด

"คริๆ จีซองมาหาป้าหมินดีกว่าครับ ปล่อยให้พี่สาวไปทำธุระก่อนนะ เอาไว้ค่อยเล่นกับพี่เค้าที่หลังนะครับ คึๆ" มินซอกพูดไป

ขำไปเพราะคิดว่าหลานชายของตัวเองคงจะแค่ทำตัวแก่แดดเกินเด็กที่ชอบคุยชอบเล่นกับสาวสวยๆเหมือนกับทุกทีที่อยู่ร้าน

ของเซฮุนก็เท่านั้นเอง เพราะมินซองเห็นเพียงแค่ด้านหลังของจีซองเท่านั้นเลยไม่รู้ว่าข้างหลังของมินอานั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง

"ฮับ!! ป้าหมินอุ้มหลานโหน่ยยยยยย......" เมื่อสมใจแล้วจีซองก็ละมือออกจากผมของมินอา และอ้อนเสียงอ่อนให้มินซอกเดิน

มาอุ้มตัวเอง ส่วนมินอาก็แสร้งตีหน้ายิ้มได้แต่อุ้มจีซองอยู่อย่างนั้นเพื่อรอให้มินซอกมาอุ้มจีซองออกไปจากตัวเองเสียที

"ฉันขอตัวก่อนนะคะคุณมินซอก พี่สาวไปก่อนนะสุดหล่อ!!!" เมื่อมินซอกมาอุ้มจีซองออกไปจาตนแล้ว มินอาก็รีบบอกลา

ด้วยเสียงกระแทกกระทั้น และเดินหนีออกจากตรงนั้นทันที

"ว่าไง!! เจ้าตัวดี ชอบพี่มินอาเค้ามากหรือไงฮึ! ถึงได้กอดไม่ยอมปล่อยแบบนั้นนะ" มินซอกถามจีซองอย่างหยอกล้อ

"ฮับ!! พี่มินอาเล่นเป็นแม่มดใจร้ายเหมื๊อนเหมือน หลานหล่ะสนุ๊กสนุก คิกๆ" จีซองพูดเหมือนกับว่าตนได้เล่นกับมินอา

สนุกมากเหลือเกิน (ฮึๆ ยายแก่หน้าเกลียด คิดว่าแค่นั้นคนอย่างพี่จีซองศิษย์ลุงจุนจะเจ็บหรอ? เชอะ!! คนอย่างงพี่จีซองศิษย์

ลุงจุนกลิ้งตกบันไดลงมาจากชั้นสองยังไม่ร้องไห้ให้หม่าม๊ากับป๊ะป๋าเห็นซักแอะเลยจะบอกให้ อะโด่! เจ็บแค่นี้จิ๊ดริดๆ

เหมือนมดกัดเอง พี่จะบอกให้ คึ คึ)

.

.

.

.

.

.
{ต่อข้างล่างค่ะ}
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 21 (06/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 06-09-2015 09:24:31
{ต่อค่ะ}
.
.
.
(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1772633560-member.jpg)

"หม่าม๊าาาาาาาา......ลูกกลับมาแล้วววววววว" เมื่อรถจอดปุ๊บเจ้าลูกหมูจีซองก็ตะโกนเสียงดังพร้อมกลับหอบพุงกลมของตัวเอง

วิ่งเข้าไปหาเซฮุนที่นั่งดูทีวีรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นทันทีเลย

"อืมมม...กลับมาแล้วหรอครับลูกหมูตัวแสบของหม่าม๊า" เซฮุนอ้าแขนรับจีซองที่ค่อยๆเดินเข้ามากอดตัวเองเบาๆ เพราะหลังจาก

วันนั้นวันที่รู้ว่ามีน้องจีซองก็ระวังและเชื่อฟังคำพูดของจงอินที่ว่าห้ามกระแทกหรือกอดหม่าม๊าแรงๆเพราะน้องจะเจ็บ ตั้งแต่นั้น

มาจีซองก็จะค่อยๆกอดค่อยจับตัวเค้าเบาๆบางครั้งบางทีก็เบาเกินทำเหมือนกับว่าตัวเค้านั้นเป็นตุ๊กกระตากระเบื้องเคลือบที่พร้อม

จะแตกได้ทุกเมื่อ เมื่อจับแรงๆซะอย่างงั้น

"ลูกคิดถึงหม่าม๊าจังเลยฮับ แล้วพี่จีซองก็คิดถึงน้องเล็กๆด้วย" จีซองบอกพลางซบหน้าลงพูดกับท้องกลมนูนที่ใหญ่ขึ้นตาม

อายุครรภ์ของเซฮุนเพื่อเป็นการทักทายน้องน้อยๆของตัวเองไปด้วย

"หืม...จะมาคิดถึงอะไรตอนนี้ครับหมูอ้วน ที่เมื่อเช้ายังปล่อยให้หม่าม๊าอยู่แค่สองคนกับน้องเลย หม่าม๊าสิต้องเป็นคนบอกว่าเหงา

ไม่ใช่เราสักหน่อยเจ้าลูกหมูตัวแสบ" เซฮุนพูดบอกพร้อมกับบีบแก้มฟูฟูของจีซองด้วยความมันเขี้ยว

"อ๋อย!! ก็วันนี้ลูกต้องไปต่อสู้แล้วก็จัดการไล่ยายแม่มดหน้าเกลียดไม่ให้มายุ่งกับป๊ะป๋านี่ฮับ" จีซองเปลี่ยนจากซบท้องเซฮุน

มาเป็นนั่งกอดอกตัวเองพร้อมกับพูดด้วยความภาคภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำ

"ไหนๆ ป๊ะป๋าได้ยินใครโม้ว่าไปต่อสู้กับอะไร ที่ไหนมานะ" จงอินที่เดินตามเข้ามาที่หลังเพราะว่ามัวคุยคิวงานของวันพรุ่งนี้

กับมินซอกอยู่บนรถ ที่มาทันได้ยินจีซองพูด ก็เลยแกล้งถามขึ้นบ้าง

"วันนี้เหนื่อยมากไหมจงอินที่มีเจ้าตัวแสบไปป่วนด้วยอย่างนี้" เซฮุนถามเหมือนกับทุกครั้งที่จงอินกลับมาจากทำงานแต่ครั้งนี้

เซฮุนอดไม่ได้ที่จะพูดแบบแหย่ๆจีซองไปด้วย

     ฟอดดด.....

"วันนี้ป๊ะป๋าเหนื่อยมากกว่าทุกวันเลยครับหม่าหม๊า เพราะวันนี้ป๊ะป๋าต้องพกลูกหมูตัวยุ่งแถวๆนี้ไปทำงานด้วย" จงอินหอมแก้ม

เซฮุนซะเต็มรักก่อนจะแกล้งพูดเสียงอ่อยๆแบบเหนื่อยๆ พร้อมกับสังเกตุสีหน้าของจีซองไปด้วย

"หรอ!! แย่จังเลยน้า หม่าม๊าอยู่บ้านกับน้องเล็กๆก็เหง๊าเหงา" ทั้งป๊ะป๋าและหม่าม๊าของจีซองยังคงพูดแหย่ลูกชายตัวเองต่อไป

      จุ๊บบบบ......

"สวัสดีครับคนเล็กของป๊ะป๋า วันนี้อยู่กับหม่าม๊าแค่สองคนเหงามากมั้ยครับ" จงอินจุ๊บเบาที่ท้องกลมนูนของเซฮุนเพื่อทักทาย

ลูกคนเล็กของตน

"งื้ออออ......ป๊ะป๋าไม่เห็นจุ๊บลูกมั่งเลยอ่ะ ป๊ะป๋าจุบแต่หม่าม๊ากับน้องเล็กๆ พี่จีซองก็น้อยใจน้าาาาา...." จีซองทำปากยู่หน้างอ

เรียกร้องความสนใจจากจงอิน ทั้งๆที่วันนี้อยู่ด้วยกันมาทั้งวัน อีกทั้งตอนที่นั่งรถกลับมาบ้านก็นั่งคุยนั่งเล่นอยู่บนตักของ

จงอินมาตลอดทางตั้งแต่รถออกมาจากสถานที่ถ่ายทำมิวสิควีดีโอซึ่งเป็นงานเดียวของวันนี้

"อ่าว!! ก็วันนี้ป๊ะป๋าจุ๊บจีซองตั้งหลายครั้งแล้วนี่ลูกแถมวันนี้เรายังอยู่ด้วยทั้งวันอีกด้วย แต่หม่าม๊ากับน้องอยู่คนละที่กับเรา

ป๊ะป๋าก็ต้องจุ๊บหม่าม๊ากับน้องแค่สองคนสิครับ วันนี้จีซองได้จากป๊ะป๋าไปหลายจุ๊บแล้วนะ" จงอินอธิบายให้จีซองฟัง

"อ่าาาา.....งั้นป๊ะป๋าก็ถอยออกไปเลย ลูกจะกอดหม่าม๊ากับน้องเล็กๆแค่สองคน วันนี้ป๊ะป๋าได้กอดจากลูกไปเยอะแล้วน้าา....."

จีซองพูดพร้อมกับดันจงอินออกให้ห่างขากตัวของเซฮุน ที่เค้าว่ากันว่าพ่อกับลูกเชื้อมักจะไม่ทิ้งแถวก็คงจะจริงอย่างที่เค้าพูด

กันมา ยิ่งโดยเฉพาะกับพ่อลูกคู่นี้

"อะไรๆ เจ้าลูกหมูตัวแสบ ป๊ะป๋านั่งของป๊ะป๋าอยู่ดีๆนะ จีซองจะมาแย่งที่ป๊ะป๋าได้ยังไงครับ" จงอินแกล้งฝืนตัวทำตัวให้หนัก

เข้าไว้เพื่อจะแกล้งลูกชาย

"ฮึบ!! อึดดด....ป๊ะป๋าาาา....ลุกไปน้าาา.....ลูกจะกอดหม่าม๊ากับน้องเล็กๆ ฮึบ!!" จีซองแทรกตัวเองนั่งลงตรงกลางระหว่าง

จงอินกับเซฮุน และพยายามที่จะดันตัวหนักๆของจงอินออกให้ห่างจนหน้าดำหน้าแดง แต่จงอินก็ยังคงสนุกกับการแกล้ง

ลูกตัวเองอยู่อย่างนั้น

"พอแล้วๆ หยุดเลยนะ ทั้งสองคนเลย กับมาเหนื่อยๆแทนที่จะไปอาบน้ำให้สดชื่น แต่นี้กับมาเล่นอะไรกันก็ไม่รู้" เซฮุนที่ตอน

แรกก็ร่วมมือกับจงอินแกล้งจีซอง กลับต้องเป็นคนกลางห้ามศึกของสองพ่อลูก ก่อนที่เรื่องเล็กๆอย่างการหยอกกันระหว่าง

พ่อลูกจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะจีซองเริ่มหน้างอตั้งท่าเบะปากเตรียมที่จะร้องไห้เต็มที่แล้ว

"ป๊ะป๋าแกล้งลูกอ่ะ" จีซองปล่อยมือออกจากจงอิน แต่ก็ยังไม่วายหันไปค้อนให้อีกที

"จีซองนั่นแหละดื้อ" คนพ่อก็ไม่ยอมลงให้เหมือนกัน เค้ามีความสุขจริงๆกับการที่ได้แหย่ให้ลูกหมูโมโหหน้าคว่ำหน้างอ

"ยังๆยังไม่หยุดกันอีก โอ๊ะ!!!" ยังไม่ทันที่เซฮุนจะได้พูดจบประโยคดี ก็ร้องเสียงหลงออกมาเสียก่อย

"เป็นอะไรเซฮุน/หม่าม๊าเป็นอะไร" จีซองและจงอินถามออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจ เพราะตอนที่เซฮุนร้องออกมานั้น

เซฮุนจับที่บริเวณท้องกลมนูนของตัวเองด้วย

"คิกๆ เหมือนกันจังเลยน้าพ่อลูกคู่นี้ หม่าม๊าไม่เป็นอะไรหรอกครับจีซอง ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอกนะจงอิน อย่าทำหน้าเหมือน

จะร้องไห้กันอย่างนั้นสิสองคนพ่อลูกนิ ตัวเล็กแค่ดิ้นแรงไปหน่อยเท่านั้นเองหม่าม๊าเลยตกใจหน่ะ" เซฮุนบอกด้วยรอยยิ้ม

พร้อมกับเอื้อมือทั้งสองข้างของตนไปจับมือจีซองข้างนึง จับมือจงอินข้างนึง และดึงมือทั้งสองคนมาวางไว้บนหน้าท้อง

ของตัวเอง

"อุ๊ย!! หม่าม๊าาาาา..." จีซองดึงมือตัวเองออกจากท้องของเซฮุนอย่างรวดเร็วเพราะความตกใจ

"คิกๆ ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร น้องเล็กแค่อยากทักทายพี่จีซองก็เท่านั้นเอง" เซฮุนพูดบอกพร้อมกับจับมือของจีซองมาวาง

ไว้บนหน้าท้องตนอีกครั้งนึง

"เซ.....เซฮุน เมื่อกี้ๆ เมื่อกี้ลูกดิ้นหรอ" จงอินถามด้วยความตื่นเต้นไม่แพ้กัน

"อื้ม!! ตัวเล็กแค่ดิ้นเองนะ คุณป๊ะป๋าถึงกับไปไม่ถูกเลยหรอ คิกๆ" และแล้วเซฮุนก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เมื่อเห็นสี

หน้าเอ๋อๆเหวอๆของคุณป๊ะป๋าซุปตาร์

"โธ่...อย่ามาขำกันสิเซฮุนก็ฉันตกใจนี่ ฉันไม่เคยจับท้องใครที่มีเด็กดิ้นอย่างนี้มาก่อนนิ ตอนนายท้องจีซองฉันก็ไม่อยู่

ด้วยซักหน่อย ใครจะไปรู้" จงอินบอกพร้อมกับทำหน้ามุ้ยหน้างอ ที่เซฮุนขำตอนที่ตัวเองเผลอทำหน้าเหวอออกมา

"โอ๋ๆ อย่าทำหน้างอสิ! ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรนายซักหน่อย ที่ฉันขำก็เพราะตอนที่นายทำหน้าเหวอมันน่ารักมากต่างหากเล่า

และไม่ต้องกลัวนะว่าจะไม่ได้อยู่เห็นพัฒนาการของตัวเล็กหน่ะ ท้องนี้นะฉันจะให้นายรู้ทุกเรื่องเลย แถมพอตัวเล็กคลอด

ออกมานะ ฉันก็จะให้นายช่วยเลี้ยงจนกว่าจะเบื่อเลยดีมั้ย?" เซฮุนพูดบอกด้วยรอยยิ้มสดใส เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศให้จงอิน

รู้สึกดีขึ้น ถึงแม้ว่าจงอินจะไม่พูดออกมาตรงๆแต่เค้าก็รับรู้ได้ว่าจงอินรู้สึกแย่แค่ไหนที่ไม่ได้เห็นพัฒนาการของจีซองตั้งแต่

อยู่ในท้องเหมือนลูกคนเล็กตอนนี้ บางครั้งที่คุยเรื่องของตัวเล็กกันอยู่ดีๆจงอินก็จะคอยถามว่าแล้วจีซองตอนที่อยู่ในท้อง

และมีอายุเท่ากับตัวเล็กตอนนี้ จีซองเป็นยังไงบ้าง พอผมตอบไป จงอินก็จะเงียบและหยุดพูดและนั่งเหม่อจมอยู่กับความคิด

ของตัวเองเหมือนกับพยายามจะนึกภาพตามอย่างไงอย่างนั้น จนเค้าเองก็หมดปัญญาเหมือนกันที่จะบอกให้จงอินเลิกคิดมาก

เพราะบอกไปทีไร จงอินก็จะบอกกลับมาว่าไม่ได้คิดแล้ว ไม่ได้คิดอะไรซักหน่อย ซึ่งมันเป็นอะไรที่สวนทางกับสีหน้าที่แสดง

ออกมาของจงอินอย่างชัดเจนเลย

"อื้อๆ พี่จีซองก็รักน้องเล็กๆเหมือนกัน คิกๆ พี่รู้แล้วน่าาา...บอกบ่อยๆพี่ก็เขินนะ (>///<)" เสียงของจีซองทำให้จงอินและเซฮุน

ที่ต่างก็จมอยู่กับความคิดของตัวเองได้รู้สึกตัวขึ้น ภาพที่จงอินและเซฮุนเห็นตอนนี้มันทำให้คนมองรู้ดีและหลงรักสองคน

พี่น้องนี่ยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งๆที่คนนึงนั่งเอาหน้าแนบกับท้องแม่ส่วนอีกคนก็ยังอยู่ในท้องแม่ แตกลับคุยและสื่อสารกันรู้เรื่องซะงั้น

อย่างเช่น ถ้าจีซองถาม ตัวเล็กในท้องก็จะถีบท้องเป็นการตอบโต้ แต่ถ้าจีซองเงียบ ตัวเล็กก็จะถีบท้องหม่าม๊าเซฮุนจนขึ้นรอยเท้าเล็กๆพาให้คนที่ได้มองได้เห็นสายสัมพันธ์เล็กๆของสองพี่น้องนี้รู้สึกอุ่นวาบเข้าไปเต็มหัวใจเลยทีเดียว

 

...
เอาตอน21มาเสริฟให้ตอนนึงกอนนะคะ
มี่ขอไปทำบุญกับเฮียของมี่ก่อนน้าาาา....
เฮียหนีจะกลับญี่ปุ่นแล้วอ่าาาาาา.... :sad4:  :o12:
เดี่ยวเย็นๆมี่จะเอาตอนที่22มาให้อ่านตามสัญญานะคะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 21 (06/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 06-09-2015 12:52:56
เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับจีซองศิษย์เอกของลุงจุนเข้าแล้วนะคะมินอา เป็นยังไงล่ะ สมน้ำหน้านัก! กับเด็กตัวแค่นี้ก็ยังเจ้าคิดเจ้าแค้นได้ลงคอ จิตใจทำด้วยอะไรก็ไม่รู้ นิสัยแย่จริงๆ เลย o12 ..

แต่พอกลับมาที่บ้านแล้วเปลี่ยนอารมณ์เลยค่ะ จีซองน่ารักเชียว ^^ คุยกับน้องเล็กได้เรื่องเป็นราวเลยเน้อ~
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 22 (06/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 06-09-2015 19:21:48
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 22 

 

 

 

“นั่งคิดเงินอย่างเดียวก็พอนะห้ามทำอย่างอื่น ดูแลตัวเองดีๆด้วยหล่ะ ป๊ะป๋าไปก่อนนะ

พี่จีซองอย่าดื้อนะครับ แล้วป๊ะป๋าจะรีบกลับมารับ” พูดเสร็จสั่งจบคุณป๊ะป๋าซุปตาร์ก็

ขับรถออกไปอย่างรีบร้อน

 “หม่าม๊าบอกว่าให้มาพร้อมลุงจุนก็ไม่เชื่อ เห็นมั้ยครับป๊ะป๋าต้องไปทำงานสายเลย นี่ถ้า

วันนี้ป้าหมินไม่ให้ค่าเหนื่อยป๊ะป๊ะป๋านะพี่จีซองก็ต้องอดขนมแน่ เพราะป๊ะป๋าไม่มีเงิน

มาซื้อขนมให้ โอเค๊? เข้าใจตรงกันนะครับ” ปล่อยระเบิดลูกโตไซโคใส่ลูกชายเสร็จ

คุณหม่าม๊าคนสวยก็ชิ่งเดินประคองท้องกลมๆของตัวเองไปประจำที่เคาน์เตอร์คิดเงิน

อย่างสบายใจ งานเก็บตังค์ คิดเงิน เป็นงานเพียงอย่างเดียวที่คุณสามีอนุญาตให้เซฮุน

ทำได้ในตอนนี้

“งื้ออออ…ไม่เอาน้าา…ลูกขอโต๊ดดดด….ลูกไม่เอาของเล่นกะได้ แต่อย่าให้ลูกอดหนมน้าา……”

เชื่อเลยว่าเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่สำหรับลูกหมูน้อยของคุณป๋าซุปตาร์

จริงๆ ถ้าเป็นเด็กคนอื่นที่อยู่ในวัยเดียวกันกับจีซองคงจะไม่มีใครยอมแลกของเล่น

ที่โปรดปรานกับของกินแน่ๆ แต่สำหรับเจ้าลูกหมูจีซองนั้นอาหารมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ

 

……ก็พี่เสือในพุงจีซองชอบร้องเสียงดังนี่ฮับ จีซองก็เลยต้องกิน……

 

“คิมไคมาแล้ว!!!” เสียงของสตาฟในงานดังขึ้นทันทีที่ร่างสูงผิวเข้มของซุปตาร์คนดัง

ปรากฏให้เห็นตัวหลังจากที่ปล่อยให้ทีมงานรอกันมาอยู่พักใหญ่ๆ

“ขอโทษครับ พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย” ร่างสูงโค้งตัวขอโทษทีมงานจนหน้าแทบ

ชิดเข่า ที่ตนเองทำให้ทีมงานกว่าสิบชีวิตต้องรอเขาเพียงคนเดียว

“ไม่เป็นไรๆ ไหนๆก็มาแล้ว ไปแต่งหน้าแต่งตัวก่อนเถอะ เราจะได้เริ่มงานกันซะที

เดี๋ยวแสงหมดแล้วจะยุ่ง” เสียงของช่างกล้องยอดฝีมือของวงการถ่ายภาพพูดบอก

ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง

.

.

“มีอะไรรึเปล่าไคทำไมถึงให้พี่มารับหน้าก่อนแล้วมาสายขนาดนี้ นายไม่เคยเกเรนี่”

มินซอกเอ่ยถามหลังจากที่ขึ้นมาแต่งหน้าทำผมอยู่บนรถประจำตัวของจงอินที่ทาง

บริษัทต้นสังกัดจัดให้คุณซุปตาร์โดยเฉพาะ

“ก็อุบัติเหตุนิดหน่อยอย่างที่ผมบอกนั่นแหละครับ” ไอ่ที่บอกว่าเกิดเหตุนะคือเรื่องจริง

ไม่ใช่แค่ข้ออ้างแต่เป็นเหตุที่เกิดจากความตั้งใจของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาเอง

นี่แหละ กว่าจะออกมาจากบ้านตระกูลโอกันได้นิคิมจงอินคนนี้น่วมไปหมด

.

.

.

ย้อนเหตุการณ์ก่อนหน้านี้

       คุณป๊ะป๋าหมีกำลังประคองคุณหม่าม๊ากระต่ายลงจากบันได หลังจากที่ปล่อยให้

ลูกหมูจีซองลงมาเล่นกับลุงจุนและคุณตาคุณยายของเจ้าตัวนานแล้ว (ทุกอาทิตย์ต้องมีหนึ่งวันที่จงอิน เซฮุนและ

จีซองจะต้องมาค้างที่บ้านตระกูลโอตามคำสั่งของประธาโอหรือคุณตาของเจ้าลูกหมูจีซองนั่นแหละ) พอจงอิน

ประคองให้เซฮุนนั่งลงโซฟาเดี่ยว

(ซึ่งเป็นที่นั่งประจำตัวของเซฮุนตั้งแต่ตั้งท้อง)เรียบร้อยแล้วนั้นทุกคนก็ต้องอ้าปากค้างเพราะ

การกระทำอันคาดไม่ถึงของลูกหมูจีซอง

“ย๊ากกกกกกกกกกกกกก//อึก….โอ๊ยยยยยยยยยยยย” เสียงแรกนั้นแน่นอนว่าเป็นของ

เจ้าลูกหมูจีซอง ส่วนเสียงที่สองนั้นคือเสียงโหยหวนของป๊ะป๋าหมีจงอิน ที่ทุกคนต้อง

อ้าปากค้างนั้นก็เป็นเพราะว่าอยู่ดีๆเจ้าลูกหมูนั้นวิ่งเอาหัวกลมๆของตัวเองชนกับ

กล่องดวงใจของป๊ะป๋าหมีด้วยแรงทั้งหมดที่มี ทำเอาคิมจงอินคนนี้หน้าเขียวจนตัวงอ

เพราะความจุก

“นี่แน่ๆๆๆๆๆ///โอ๊ยๆๆจีซองตีป๊ะป๋าทำไมครับ โอ๊ยยยยย….”  แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว

จีซองก็ถ่อยหลังออกไปแล้ววิ่งพุ่งเข้าใส่จนจงอินเซล้มหงายหลังไปกับโซฟา เท่านั้น

ยังไม่พอเจ้าลูกหมูยังขึ้นไปนั่งทับตัวจงอินไว้แถมยังกระหน่ำตีจนคุณป๊ะป๋าโอดโอย

กว่าจะจับทั้งคู่แยกออกจากกันได้คุณป๊ะป๋าหมีก็น่วมไปหมดแล้วทั้งตัว

“ไหนจีซองบอกหม่าม๊าซิครับว่าลูกตีป๊ะป๋าทำไม” แล้วก็ต้องเป็นหน้าที่ของ

หม่าม๊ากระต่ายที่เป็นคนจัดการปัญหานี้เพราะเซฮุนเป็นคนเดียวที่จัดการกับจีซองได้

เพียงแค่ใช้คำพูด ใครๆก็รู้ว่าหม่าม๊าเซฮุนสวย ใจดี อ่อนหวาน น่ารัก ทำอาหารเก่ง

ทำขนมสุดยอด แต่ไม่มีใครรู้ว่าหม่าม๊าเซฮุนนั้นโหดและน่ากลัวแค่ไหนเวลาโกธรเท่า

สองคนพ่อลูกนี้อีกแล้ว

 

……..ใครไม่กลัวแต่จีซองกลัวที่สู้ดดดด…….

 

“ก็ลุงจุนบอกว่าป๊ะป๋ามีกิ๊กนี่ฮับ ลูกไม่อยากให้หม่าม๊าเสียใจนี่ฮับลูกก็เลยจัดการ!!!”

จีซองพูดด้วยความมั่นใจ แต่ไม่วายที่จะหันไปทำหน้าขู่เหมือนลูกแมวใส่จงอินใน

ประโยคสุดท้าย

“เย้ย!! มีซะที่ไหนเล่าเจ้าลูกหมู  กิ๊กก๊อกอะไรกันป๊ะป๋าไม่มีนะ” จงอินปฏิเสธด้วย

หน้านิ่งซะจนจีซองที่ตอนแรกแง่งๆใส่พ่อตัวเองถึงกับหน้าเสียมองจงอินตาละห้อย

เพราะจงอินไม่เคยทำแสดงสีหน้าอย่างนี้ให้เห็นว่าตัวเองนั้นจะดื้อสักแค่ไหน

“ก็ลุงจุนบอกนี่ฮับ” จีซองพูดเสียงอ่อย

“พี่จุน!!!/จุนมยอน!!!” เซฮุนและคุณนายคิมหันไปเรียกคนต้นเรื่องเจ้าตัวสะดุ้ง

“อะไรเล่าฉันแค่อยากแหย่หลานเท่านั้นเอง//โอ้ยๆแม่ๆโอ้ย..ตีผมทำไมเนี่ยผมเจ็บนะ”

พูดบอกกับเซฮุนจบจุนมยอนก็โดนฝ่ามืออรหันของคุณนายคิมเลยทันที เวรกำๆ เซฮุน

ได้แต่ส่ายหน้ากับนิสัยเด็กๆของพี่ชายอายุจะเข้าเลขสามอยู่แล้วยังไม่ยอมโตสักที

“จีซองได้ยินแล้วใช่มั้ยครับว่าลุงจุนพูดว่าอะไร” เซฮุนหันกลับมาพูดกับลูกชายที่ยืน

อยู่ตรงหน้าตัวเอง

“ฮับ” พยักหน้าตอบเบาๆ

“แล้วจีซองต้องทำยังไงครับ” เซฮุนถามขึ้นอีก คราวนี้จีซองไม่ตอบเซฮุนแต่ค่อย

เดินไปหาจงอินที่นั่งอยู่ไม่ไกล

“ป๊ะป๋า….ลูกขอโทดฮับ” ลูกหมูน้อยจีซองก้มหน้าเอ่ยขอโทษป๊ะป๋าหมีเสียงแผ่ว

“……..” แต่จงอินกลับไม่พูดอะไรมีเพียงแต่ความเงียบเท่านั้นที่ตอบจีซอง

“ป๊ะป๋า…ฮึก...ลูกขอโทดฮับ” เพียงแค่เงยหน้าขึ้นมาเห็นหน้านิ่งๆและสายตาเรียบเฉย

ที่จงอินไม่เคยใช้มองตัวเองมาก่อนลูกหมูจีซองก็น้ำตาเอ่อทันที จีซองไม่รู้หรอกว่า

สายตาแบบนี้มันหมายความว่ายังไงแต่จีซองรู้สึกไม่ดีเลยไม่ชอบเลยที่ป๊ะป๋ามองจีซอง

ไม่เหมือนเดิม

“จงอิน” เซฮุนเอ่ยเรียกคุณป๋าซุปตาร์ด้วยเสียงต่ำ

“โอเคๆ เข้าใจล๊ะ” ตอนแรกกะว่าจะแอ๊บนอยด์ลูกชายต่ออีกซักหน่อยแต่พอหันไปเห็น

ตาดุๆของคุณหม่าม๊าเท่านั้นแหละ คุณป๋าซุปตาร์ต้องเปลี่ยนโหมดปรับอารมณ์ทันที

ก่อนที่งานจะเข้าและกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาจริงๆ อย่าลืมสิว่านอกจากจงอิน

จะเป็นนักร้องแล้ว คุณซุปตาร์คนดังยังเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทอีกต่างหาก

แค่แสดงละครสอนลูกแค่นี้ไม่เกินความสามารถคิมจงอินหรอก

“จีซองครับฟังป๊ะป๋านะลูก…ป๊ะป๋ารักจีซองกับหม่าม๊ามากกว่ารักตัวเองอีกนะไหน

จะน้องเล็กๆในท้องหม่าม๊าอีก แค่นี้คุณหัวใจของป๊ะป๋าก็เต็มจนเกือบจะล้นแล้ว

รู้ไหมครับลูกหมูตัวแสบ” จงอินรวบจีซองขึ้นมานั่งบนตักตัวเองก่อนจะพูดบอก

“ป๊ะป๋าไม่มีกิ๊กใช่มั้ย” จีซองช้อนตาที่เต็มไปด้วยรื้นน้ำตามองจงอินถามด้วยเสียงอ้อนๆ

“ไม่มีครับ” จงอินเซ็ดน้ำตาให้ลูกชายก่อนที่จะตอบด้วยเสียงหนักแน่น

“ป๊ะป๋ารักหม่าม๊าใช่มั้ยฮับ?”

“ใช่ครับ” ตอบอย่างไม่ต้องคิดเลยคำถามแบบนี้

“ป๊ะป๋ารักน้องเล็กๆด้วยใช่มั้ยฮับ?”

“ใช่ครับ” นี่ก็อีก

“ป๊ะป๋ารักพี่จีซองมากที่สุดเลยใช่มั้ยฮับ?”

“ใช่ครับ” ชัวร์อยู่แล้ว

“ป๊ะป๋ารักพี่จีซองมากกว่าหม่าม๊า มากกว่าน้องเล็กๆใช่มั้ยฮับรัก?”

“ครับๆป๊ะป๋ารักพี่จีซองที่สุด” แน่นอนที่สุด

“เห็นไหมลุงจุนหลานบอกแล้วว่าป๊ะป๋าไม่มีกิ๊กและป๊ะป๋ารักจีซองที่สุด มาเลยลุงจุน

จ่ายมาเลยๆค่าบุฟเฟต์ปิ้งย่าง บัตรสมาชิกบุฟเฟต์เค้กหนึ่งปี ห้ามลืม PSP รุ่นล่าสุดด้วย”

พอได้คำตอบที่พอใจแล้วจีซองก็กระโดดลงจากตักจงอินวิ่งไปแบมือทวงสิ่งที่ตกลง

กับจุนมยอนก่อนหน้าที่ทุกคนจะลงมาจากชั้นบน

“ของอะไรกันจีซอง จุนมยอน” ประธานโอทีนั่งเงียบอยู่นานถึงกับเอ่ยปากถาม

เพราะเรื่องที่จีซองโวยวายเหมือนจะจบไปแล้วแต่ก็ไม่จบซักที

“ก็……”

.

.

.

ย้อนเหตุการณ์ไปก่อนหน้านี้อีกซักนิด

          หลังจากที่จีซองโดนป๊ะป๋าจับอาบน้ำทาแป้งแต่งตัวหล่อเรียบร้อยแล้ว ก็ขอ

ป๊ะป๋ากับหม่าม๊าลงมาหาอะไรหม่ำข้างล่างก่อนเพราะพี่เสือในพุงร้องเรียกหาอาหาร

แล้ว ขืนรอให้ป๊ะป๋าอาบน้ำแต่งตัวเสร็จล่ะก็พี่เสือต้องอาละวาดจนจีซองปวดท้องแน่

“มอร์นิ่งไอ้หลานรัก ตื่นแต่เช้าเชียวพ่อแม่แกไปไหนไอ้หมูอ้วน” จุนมยอนที่นั่งดูทีวี

อยู่เอ่ยทักเมื่อเห็นจีซองเดินลงมาจากชั้นบนคนเดียว

“มอร์นิ่งฮับลุงจุน จีซองหิววววววว….” ทักทายคุณลุงสุดที่รักโดยที่ไม่มองหน้าเลย

แล้วก็วิ่งหายไปในครัวแปปนึง พอเดินออกมาก็มีนมอยู่ในมือแก้วนึง อีกมือนึงก็ถือ

จานที่เต็มไปด้วยขนมปัง แถมปากเล็กๆนั่นยังคาบโดนัทไว้อีกต่างหาก

“อื้อหือ..จะกินเผื่อพรุ่งนี้หรอไอ้อ้วน กินขนาดนี้แล้วจะกินข้าวเช้าต่อไหวไหมเนี่ย”

จุนมยอนถามขึ้นเมื่อจีซองมานั่งข้างๆ

“ตะบายๆ ไหวๆ” ตอบทั้งๆที่ขนมปังยังเต็มปาก จุนมยอนถึงส่ายหน้าเมื่อเห็นหลาน

ก้มหน้าก้มตาตั้งอกตั้งใจยัดขนมปังตรงหน้า หลานชายสุดที่รักของเขากินหนักขึ้น

ทุกวันๆ ดีนะที่จีซองไม่ชอบอยู่นิ่งๆเฉยๆเล่นทั้งวัน ไม่งั้นตัวแตกแน่

“นี่ๆ ป๊ะป๋าแกมีกิ๊ก” เห็นหลานแล้วหมั่นเขี้ยวขอแหย่สักหน่อยเถอะ

   …กึก…(เหมือนได้ยินเสียงอะไรสดุด)

“ลุงจุนมั่ว” พอได้ยินจุนมยอนพูดจีซองหยุดกินทันที และหันไปว่าคุณลุงจุนสุดที่รัก

อีกต่างหาก

“จริงๆ เมื่อกี้ลุงดูข่าวอยู่” พูดบอกและพยักเพยิดไปทางทีวีที่ตอนนี้เป็นช่วงข่าวบันเทิง

“ไม่จริง! ป๊ะป๋ารักหม่าม๊าที่สุด มั่วๆ ลุงจุนมั่วๆ”

“จริง!!!”

“ไม่จริง!!!”

“ถึงไม่มีกิ๊กพอน้องออกมาป๊ะป๋าเจ้าก็ต้องรักน้องมากกว่าอยู่ดี ใครจะรักไอ่อ้วนกัน”

งานแกล้งหลานคืองานของจุนมยอน

“ป๊ะป๋ารักหลานที่สุด!!!!”

“ถ้าจงอินพูดว่ารักจีซองที่สุดลุงยอมจ่ายค่าบุฟเฟต์ปิ้งย่างแถมบัตรสมาชิกบุฟเฟต์เค้ก

อีกหนึ่งปีเลยเอ้า!!! แต่ถ้าจงอินไม่ได้พูดว่ารักจีซองที่สุด จีซองต้องมานอนที่บ้านนี้

กับลุงเดือนนึงโอเค๊??” คนรักเมียอย่างจงอินยังไงๆก็ต้องบอกว่ารักเท่ากันอยู่แล้ว

หึๆ ถึงเขาจะชอบแกล้งหลานแหย่หลานเขาก็รักไอ้หลานอ้วนคนนี้ที่สุด เลี้ยงมาตั้งแต่

อ้อนแต่ออกจนตัวโตเป็นลูกหมู ลุงจุนอย่างเขาเคยเป็นคนที่หลานเรียกหามาตลอด

แต่พอเจอพ่อปุ๊บเจ้าหลานก็เรียกหาแต่ป๊ะป๋าๆ แล้วยิ่งช่วงๆหลังๆมานี้อยู่คนละบ้าน

เจอกันทีไม่เกินวันสักที พอจะเอามานอนด้วยก็โดนคุณตาคุณยายเขาตัดหน้า

ที่ท้าไปอ่ะไม่มีอะไรหรอกก็แค่คิดถึงหลาน(เรื่องมันเศร้า T_T )

“ก็ได้ฮับ!! เพิ่ม PSP ด้วยนะฮับ หลานอยากได้” จีซองพูดอ้อนๆเอาหัวถูต้นแขน

จุนมยอนเบาๆเหมือนลูกแมวอ้อนเจ้าของ

“ตกลง” จุนมยอนที่เห็นหลานอ้อนเสียงเล็กเสียงน้อยก็ยอมตกลงอย่างง่ายดาย โดยไม่

ทันได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเลห์ของหลานรักซะแล้ว อย่าลืมสิกันสิ!! ความจริงที่ว่าจีซองมี

ฉายาว่า’จีซองศิษย์ลุงจุน’ เพราะฉะนั้นความเจ้าเล่ห์ เจ้าบทบาท แถมยังความแสบ

ระดับสิบของจุนมยอนได้ถ่ายทอดมาให้จีซองหมดแล้วแถมเจ้าตัวยังใช้ความฉลาด

ของตัวเองอัพเกรดสิ่งเหล่านั้นขึ้นอีกต่างหาก เป็นอันว่ามวยยกนี้จีซองน้อยศิษย์ลุงจุนชนะอาจารย์จุนมยอนเจ้าพ่อวิชามารยาร้อยเล่มเกวียนไปอย่างขาดลอย งานนี้นอกจากจะไม่ได้นอนกอดหลานรักแล้วคิมจุนมยอนยังเสียหายหลายแสน อาเมน…..   

 .

.

.

ปัจจุบัน…

“เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นอย่างนี้แหละฮะพี่” จงอินเล่าเรื่องทั้งหมดที่เป็นสาเหตุทำให้ตน

มาทำงานสายให้กับมินซอกฟัง

“ฮ่าๆๆ จีซองนี่สุดยอดจริงๆ นี่แหละน้า…..เหนือจงอินก็มีเซฮุน…..เหนือรองจุนมยอน

ยังมีจีซอง คึ คึ” มินซอกพูดไปขำไป วีรกรรมเด็ดๆของหลานชายตัวแสบทำเอาฮาจน

ป้าหมินน้ำตาเล็ด

“โธ่พี่ก็…ทุกวันนี้ก็มีแต่เซฮุนเท่านั้นแหละที่เอาจีซองอยู่น่ะ…ผมนี่เป็นรองลูกตลอด

แล้วถ้าไปเล่าให้ใครฟังนะเค้าคงจะไม่เชื่อหรอกครับว่าลูกผมยังไม่เต็มห้าขวบอ่ะ

…ว่าแต่วันนี้ผมต้องถ่ายกับใครอ่ะ” ถึงปากจะโอดครวญแต่ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องราว

แสบๆ ของเด็กชายคิมจีซอง ใบหน้าของป๊ะป๋าซุปตาร์นั้นเต็มก็ไปด้วยรอยยิ้มตลอด

“ก็ถ่ายกับ….”

      ก๊อก….ก๊อก

ยังไม่ทันที่มินซอกจะตอบ ก็มีเสียงเคาะประตูรถดังขึ้นซะก่อน

      …..ครืดดด…..

“ใครครับ….อ่ะอ้าว…น้องมินอา….มีออะไรรึป่าวครับ” มินซอกเลื่อนเปิดประตูดรถตู้

แล้วเอ่ยถามคนที่มาเคราะเรียก ชินมินอานักร้องหน้าใหม่ที่ไคเพิ่งไปร่วมแสดงมิวสิค

วีดีโอเพลงเปิดตัวให้นั่นเอง

“สวัสดีค่ะพี่มินซอก พี่ทีมงานให้มินอามาตามรุ่นพี่ไคน่ะค่ะ” มินอาเอ่ยทักทายพูดบอก

ด้วยเสียงร่าเริงหน้าตายิ้มแย้มสดใส สไตล์สาวหวานแรกรุ่น

“หือออ….น้องมินอามาถ่ายเซ็ตนี้เหมือนกันหรอครับ?” มินซอกถามอย่างงงๆ เพราะ

ตอนที่ตกลงรับงานให้ไคทางสปอนเซอร์บอกว่าถ่ายกับนางแบบอีกคนที่เป็นรุ่นพี่ไค

ที่อยู่บริษัทเดียวกันนี่ ถ้ารู้ว่างานนี้มีคนนอกคนละค่ายอย่างนี้มินซอกไม่ตกลงรับงาน

แน่ๆ เพราะขี้เกลียดตามแก้ข่าวแก้ปัญหาที่จะตามมา เพราะงานนี้เป็นงานถ่ายแบบ

 

แนวเซ็กซี่ชวนเพ้อไงหล่ะ!!!!

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มี่เอาตอนที่22มาคืนแล้วนะคะ

คุยกับมี่ที่ แฟนเพจได้นะคะ Little Mz
https://www.facebook.com/pages/Little-Mz/492656867557293 (https://www.facebook.com/pages/Little-Mz/492656867557293)
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 22 (06/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 06-09-2015 19:48:11
งานนี้มินอาต้องมีถึงเนื้อถึงตัวจงอินมากเกินไปจากสิ่งที่ทางสปอร์นเซอร์ต้องการแน่ๆ เลยนะคะ ยังไงก็ระวังตัวเอาไว้ด้วยล่ะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 22 (06/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 06-09-2015 21:18:13
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 22 (06/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 07-09-2015 00:10:57
เกลียดชะนีนางนี้จัง เรื่องนี้ควรจะน่ารักสบายใจสิ นางมาผิดเรื่องรึเปล่านะ

จงอิน(เขียนอย่างนี้รึเปล่าหว่า จำชื่อเกาหลีไม่ค่อยได้ซะด้วยTT)เป็นพ่อที่ดีมากไม่นอกลู่ลอกทางเลย ดีใจแทนภรรยาที่บ้าน ส่วนเจ้าตัวเล็กก็แสนพูดจาจังเลย อ่านแล้วหลงรักจ้าาา
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 22 (06/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Forever_Love ที่ 07-09-2015 15:29:58
เกลียดยัยมินอาโรคจิต :z6:

รอตอนต่อไป...คนเขียนรักษาสุขภาพด้วยนะคะ   :L2:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 22 (06/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuja ที่ 07-09-2015 16:11:23
น่ารักมากเลย   

อ่านรวดเดียวเลย 

อิอิ ชอบ ๆ มาต่ออีกไวไวนะคะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 22 (06/09/58)
เริ่มหัวข้อโดย: jamesnaka ที่ 07-09-2015 17:46:47
โปรดหาทางกำจัดยัยมินอาโดยไว  :m31: เกลียดมั๊กๆ

รอตอนต่อไปจ้า  :pig4:
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 23 (12.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 12-09-2015 11:30:15
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 23



“ตกลงว่ารุ่นพี่ไคเสร็จรึยังคะพี่มินซอก” เมื่อเห็นว่ามินซอกยังจมอยู่กับความคิดของตัวเองและไม่ยอมให้เธอ
พบรุ่นพี่ไคของเธอซักที มินอาจึงถามถึงอีกครั้ง
“อ่อๆ แป๊ปนึงนะครับน้องมินอาไคกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่พอดี”
     …ครืดด…
ยังไม่ทันที่มินอาและมินซอกจะได้พูดอะไรต่อเสียงเปิดประตูรถดังขึ้นเรียกให้ทั้งสองคนหันไปสนใจซะ
ก่อน คนที่เดินนำออกก่อนมาคือสไตล์ลิสส่วนตัวของคุณซุปตาร์คนดังส่วนเจ้าตัวนั้นก็เดินใส่เสื้อคลุม
ตามหลังออกมา
“เธอ? เธอมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?” จงอินถามขึ้นเมื่อเห็นว่ามินซอกยืนคุยอยู่กับใคร เขาจำได้แค่ว่าเธอคือนักร้อง
หน้าใหม่ที่เขาและชานยอลไปเล่นมิวสิควีดีโอเปิดตัวให้เมื่อไม่นานมานี้ แต่เค้าจำไม่ได้ว่าเธอชื่ออะไรถึงได้
เรียกออกไปอย่างนั้น
“มินอามาถ่ายแบบกับรุ่นพี่นี่แหละค่ะ” มินอาพูดบอกออกไป
“อ่าว!! ไม่ใช่รุ่นพี่จีอาหรอพี่หมิน?” พอได้ยินสิ่งที่มินอาบอก ไคก็หันไปถามมินซอกด้วยเสียงเรียบอย่าง
ไม่สบอารมณ์ มินซอกเป็นผู้จัดการส่วนตัวเขามานานก็น่าจะรู้นิว่าเค้าไม่ชอบงานอย่างนี้ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้
จริงๆคนที่ร่วมงานกับเขาก็ต้องเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในสังกัดเดียวกันและจะต้องสนิทกันในระดับนึง เพราะเขา
ไม่ชอบที่จะมีปัญหาหรือข่าวเรื่องชู้สาวกับใคร อีกทั้งงานอย่างนี้ยังเปลืองตัวอีกต่างหากเค้าไม่ชอบ
“ตอนพี่รับงานทางผู้ว่าจ้างเขาระบุชัดเจนว่าเป็นจีอาจริงๆนะไค ตอนรับงานพี่ยังไปพร้อมกับผู้จัดการของ
จีอาเลยนะ” มินซอกรีบบอกก่อนที่งานจะเข้าตัวเอง ไคนั้นนิสัยก็ดีนั่นจริง สุภาพรึก็ใช่ แต่ใช่ว่าคุณซุปตาร์
คนนี้จะไม่วีนไม่เหวี่ยง เมื่อสามารถเลือกงานได้แล้วไคก็จะเลือกทำเฉพาะในสิ่งที่ตัวเองรักตัวเองชอบ แต่
ก็ทำมาแล้วแทบจะทุกอย่างแทบจะไม่ปฏิเสธงานไหนเลยเสียด้วยซ้ำก็มีเพียงแต่ไอ่งานที่เลือกไม่ทำก็คือ
งานที่ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวให้คนอื่นเห็นเนื้อหนังมังสาอย่างนี้นี่แหละที่คุณซุปตาร์ปฏิเสธ!!
“ผมจะไปคุยกับคนที่รับผิดชอบงานนี้  เค้าผิดสัญญาผมไม่ถ่าย!!!” นั่นไงมาแล้วสิ่งที่มินซอกกลัว
พูดจบก็เดินตรงไปทางที่มีทีมงานกำลังเตรียมอุปกรณ์เซ็ตฉากกันอยู่
“ตายแน่ไอ้หมินเอ้ย!!” มินซอกรีบวิ่งตามไปติดๆทิ้งให้มินอายืนงงอยู่ที่เดินเพียงลำพัง
“ไคมาแล้วค่ะ” เสียงของสตาฟคนนึงตะโกนขึ้น
“ผมขอคุยกับคนที่รับผิดชอบงานนี้หน่อยครับ” จงอินหยุดนิ่งตรงกลางกลุ่มสตาฟที่กำลังหัวหมุนอยู่กับ
การเซ็ตฉาก
“ฉันเป็นคนรับผิดชอบดูแลการถ่ายทำในครั้งนี้ค่ะคุณไค” หญิงสาวร่างเพียววัยกลางคนที่เป็นผู้รับผิดชอบ
งานถ่ายแบบในวันนี้ลุกขึ้นแสดงตัวเมื่อซุปตาร์คนดังอย่างคิมไคถามหา
“คุณคือ?” จงอินหันมองคนที่กำลังก้าวเดินมาหาตน
“ฉันคิมฮเยจินบรรณาธิการนิตยาสารเฟรี่เล่มที่คุณกำลังจะขึ้นปกนี่แหละค่ะ ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรสงสัย
รึป่าวคะคิมไคถึงถามหาดิฉัน” หญิงสาวแนะนำตัวตัวเองอย่างมั่นใจสมกับตำแหน่งงานก่อนที่จะถามจงอิน
“ผมจะมาบอกว่าผมจะไม่ถ่ายแบบให้กับนิตยสารของคุณอีกแล้วรวมทั้งยกเลิกงานในวันนี้ด้วย” คำพูดที่ออก
จากปากซุปตาร์คนดังทำเอาทุกคนแทบหยุดหายใจ
“คุณมีปัญหาอะไรคิมไค ทำไมคุณถึงพูดเหมือนกับเล่นขายของอย่างนี้ คุณคิดว่าคุณเป็นคนดังเลยจะทำอะไร
ก็ได้อย่างนั้นหรอ สัญญาก็เซ็นกันไปแล้ว ทุกอย่างก็เตรียมไปหมดแล้ว มันง่ายไปรึป่าวค่ะคุณซุปเปอร์สตาร์”
 บก.สาวพูดกระแทกมองจงอินด้วยสายตาที่แสดงออกว่าไม่พอใจอย่างชัดเจน เธอรู้ว่าคิมไคคือซุปเปอร์สตาร์
คนดังที่นิตยสารที่ไหนก็อยากได้ไปลงปกของตัวเอง แต่เพราะถือว่าตัวเองเป็นคนดังอย่างนั้นหรือถึงจะทำตัว
ไร้ความรับอย่างนี้
“ใช่ครับ เซ็นสัญญาไปแล้วแต่ทางนิตสารของคุณผิดสัญญาผมจึงมีสิทธิที่จะยกเลิกสัญญา” จงอินบอกเสียง
เรียบหน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์อะไรออกไปทั้งนั้น
“ทางฉันผิดสัญญาอะไร!!” บก.สาวแหวใส่จงอินจนคนที่อยู่ระแวกนั้นเริ่มถอยออกห่างกันทีละก้าวๆ
“ในสัญญาจ้างคนที่ถ่ายคู่กับผมคือคิมจีอารุ่นพี่สังกัดเดียวกับผมไม่ใช่ใครที่ไหนก็ไม่รู้อย่างนี้!!!”
จงอินกดเสียงต่ำระงับอารมณ์โมโหของตัวเองเมื่อพูดถึงสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบที่สุด
“อีแค่เปลี่ยนนางแบบเนี่ยนะ!! นายถึงกับยกเลิกสัญญากลางคันอย่างนี้ ไม่มีความเป็นมืออาชีพเลยนะคะ
คุณซุปเปอร์สตาร์” เธอพูดจากระแทกแดกดันพร้อมกับมองจงอินอย่างเหยียดๆ
“ใช่ไม่เป็นมืออาชีพเลย ทางคุณนะไม่เป็นมืออาชีพเลยกับอีแค่ทำสัญญาที่เปรียบเหมือนคำพูดของตัวเอง
ยังรักษาไม่ได้เลย มันไม่เกี่ยวหรอกว่านางแบบที่ถ่ายเป็นคนไหนแต่มันเกี่ยวกับความซื่อตรง ความเชื่อมั่น
และความไว้วางใจที่นักธุรกิจที่ดีควรจะมี อย่าลืมว่าคนทำงานอย่างเราก็เหมือนการทำธุรกิจ ผมพูดแค่นี้
หวังว่าคุณคงจะเข้าใจ งานวันนี้ผมขอยกเลิก!! ถ้ามีปัญหาก็เอาสัญญาจ้างไปคุยกันในชั้นศาลนะครับ
คุณบรรณาธิการ” พูดในสิ่งที่อยากจะพูดหมดแล้วจงอินก็เดินหันหลังกลับไปที่รถของบริษัทเพื่อเปลี่ยน
เสื้อผ้าทันที ทิ้งให้ผู้จัดการคนเก่งอย่างมินซอกอยู่เคลียร์ปัญหากับ บก.สาว ที่ยืนกรีดร้องอยู่ที่เดิม
.
.
.
“นายไม่น่าใจร้อนอย่างนั้นเลยนะไค ภาพพจน์ที่สะสมมาตลลอดของนายจะเสียหมด” มินซอกบ่นขึ้นทันทีที่
ขึ้นมาบนรถแต่งตัวของคุณซุปตาร์
“ช่างเถอะพี่ พี่ก็รู้ว่าผมเกลียดงานอย่างนี้มากแค่ไหน” จงอินที่กำลงเปลี่ยนเสื้อพูดบอก
“พี่รู้ แต่อย่างน้อยก็น่าจะใจเย็นกว่านั้นอีกซักหน่อย เดี๋ยวก็ขึ้นหน้าหนึ่งจากซุปเปอร์สตาร์คนดังคนดี
กลายเป็นซุปตาร์ขี้เหวี่ยงขี้วีนแทนหรอก” มินซอกพูดอย่างไม่จริงจัง
“ก็ดีเหมือนกันนะพี่ ถ้าผมเลิกทำงานในวงการบันเทิงนี้เมื่อไหร่คนจะได้ไม่ลืม ฮึๆ ผมกลับก่อนนะพี่จะรีบ
ไปหาเจ้าลูกหมูป่านนี้คงป่วนหม่าม๊าจนปวดหัวแล้วมั้ง มีอะไรก็โทรบอกผมนะพี่ ผมไปล่ะ” จงอินพูด
ติดตลกอย่างไม่คิดอะไร ก่อนที่จะบอกลามินซอกและเดินไปขึ้นรถตัวเองขับออกไปจากบริเวณนั้นอย่างเร็ว
โดยไม่แคร์สายตาของใครที่มองมา
.
.
.
.
.
       กรุ๊งกริ๊ง….กรุ๊งกริ๊ง
“อินดี้คาเฟ่ยินดีต้อนรับฮับ…อ๊ะ!! ป๊ะป๋า!!!” จีซองที่ทำหน้าที่ (ที่คิดเองเออเองว่าเป็นหน้าที่ของตัวเอง)
ต้อนรับลูกค้าอยู่เดินออกมาจากหลังเคาน์เตอร์คิดเงินที่นั่งเล่นกับเซฮุนอยู่ตรงนั้น พูดทักทายออกมาอย่าง
สุภาพตามที่หม่าม๊าเซฮุนสอนก่อนทั้งๆที่ยังไม่เห็นหน้าลูกค้า แต่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงร่าเริงอย่างดีใจ
เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่เดินเข้ามาในร้าน
“ว่าไงครับลูกชาย ดูแลหม่าม๊ากับน้องแทนป๊ะป๋าดีรึป่าวเนี่ย!!  ฟอดดด….อื้มม…ชื่นใจ” จงอินอุ้มจีซอง
ขึ้นมาฟัดแก้มฟัดพุงกลมๆอย่างหมั่นเขี้ยว
“คิกๆ ป๊ะป๋าลูกจั๊กจี๋น้าาาาาาาาา……งื้อออ……...” ลูกหมูน้อยของป๊ะป๋าจงอินหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี
โยกตัวหลบริมฝีปากของป๊ะป๋าที่ตามฟัดตามหอมตัวเองอย่างชอบใจ
“อ่าว!! จงอิน ทำไมกลับเร็วนักล่ะพึ่งไปได้ไม่นานเองนะ” เซฮุนที่ได้ยินเสียงหัวเราะของจีซองก็เดินประคอง
ท้องนูนๆของตัวเองออกมาดู
“อ๋อ! เสร็จเร็วนะเลยได้กลับไว” และแล้วคุณป๊ะป๋าซุปตาร์ก็เลือกที่จะโกหกออกไป
“จริงหรอ?” คุณหม่าม๊าเซฮุนถามอย่างสงสัย ตากลมก็จ้องเข้าไปเค้นหาความจริงในตาคมของป๊ะป๋าจงอิน
อย่างกดดัน จนคุณป๋าซุปตาร์เริ่มอึดอัด
“ป๊ะป๋าฮับหม่าม๊าฮับพี่จีซองอยากไปสวนสัตว์อ่าาาาาาาา……..” แต่ก่อนที่จงอินจะหลุดพิรุธหรือเซฮุนจะ
เค้นอะไรต่อ เสียงของเจ้าลูกหมูจีซองก็ดังขึ้นขัดจังหวะการเค้นความจริงของหม่าม๊าเซฮุนเสียก่อน
เมื่อเจ้าลูกหมูนั้นหันไปเห็นโฆษาของสวนสัตว์แห่งหนึ่งที่กำลังฉายอยู่ในทีวี
“สวนสัตว์หรอ? ไปซิๆไหนๆวันนี้ป๊ะป๋าก็ว่างแล้วว่าแต่คุณหม่าม๊าจะไปด้วยหรือป่าวครับ” จงอินรีบพูด
เปลี่ยนเรื่องทันทีเลยเมื่อสบโอกาส
“จะไม่เป็นไรหรอจงอิน? ถึงจะไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์แต่ก็ยังเป็นวันปิดเทอมของพวกนักเรียนอยู่นะ”
เซฮุนถามเพราะเป็นห่วงกลัวว่าจะมีนักข่าว
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฉันก็ใส่หมวกกับผ้าปิดปากปิดหน้าไว้ไงแค่นี้ก็ไม่มีใครจำได้แล้ว และก็นะถึงใคร
จะจำได้จะเอาไปพูดหรือเขียนข่าวยังไงฉันก็ไม่สนหรอก เพราะว่านี่คือความสุขของลูก”
จงอินพูดอย่างสบายๆไม่ได้สนใจอะไร แต่เซฮุนนี่แอบประชดจงอินในใจว่าไม่มี๊ ไม่มีใครเลยที่จะจำ
คุณซุปเปอร์สตาร์อย่างคิมไคได้ ถ้าเป็นแฟนคลับตัวจริงนี่เห็นแค่เงาเขาก็ดูกันออกแล้วว่าเป็นใคร
ยิ่งคนที่มีผิวสีน้ำผึ้งแบบจงอินแล้วนี่ยิ่งจำง่ายไปกันใหญ่
“อืมๆ ถ้างั้นก็ตามใจ แต่ฉันไม่ไปนะ เดินไม่ไหวหรอก” เซฮุนบอกพลางลูบท้องไปด้วยแสดงให้จงอินรู้
ว่าเพราะอะไรเจ้าตัวถึงบอกว่าเดินไม่ไหว
“อ่า…จริงด้วย แล้วจะทำยังไงดี ยกเลิกแผนนี้ก่อนดีไหมครับพี่จีซอง หม่าม๊าไปเดินดูสัตว์ด้วยไม่ไหว
เพราะว่าหม่าม๊ามีน้องอยู่ในท้องน่ะครับ” จงอินเสนอความคิดก่อนจะหันถามจีซองที่กอดคอตัวเองอยู่
“แต่ลูกอยากดูคุณหมี คุณกระต่าย คุณหมู คุณเสือ และก็ๆ อีกหลายๆ อย่างเลยอ่าาา…หม่าม๊าาาา…”
จีซองบอกกับจงอินก่อนที่จะหันไปช้อนตาพูดอ้อนเซฮุนอีกคน
“พาลูกไปเถอะจงอิน จีซองไปเที่ยวกับพี่จุนบ่อยก็จริงแต่ก็ไม่เคยไปที่ที่เด็กๆอยากไปอย่างสวนสัตว์หรอก
รายนั้นพาไปแต่ผจญภัยแบบคนโตทั้งนั้นแหละ ลูกคงอยากไปจริงๆ” ถึงจะกลัวมีปัญหาตามมาแค่ไหน
คนเป็นแม่ก็แพ้ลูกอ้อนของสิ่งมีชีวิตที่ขึ้นชื่อว่าลูกทุกคนอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ
“แล้วนายล่ะ? ให้ฉันไปส่งที่บ้านก่อนดีมั้ย?” จงอินถาม
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันโทรให้พี่จุนแวะมารับตอนเลิกงาน นายก็ไปรับฉันที่บ้านใหญ่แล้วกัน” เซฮุนบอก
“โอเคๆ จีซองจุ๊บหม่าม๊าหน่อยเร็ว เราจะหนีหม่าม๊าไปดูพี่เสือกันแล้วนะ” ถึงปากจะพูดอย่างนั้นแต่จงอิน
ก็แกล้งดึงจีซองถอยห่างออกมาทุกๆครั้งที่จีซองเอนตัวไปข้างหน้าเพื่อที่จะจุ๊บลาเซฮุนอย่างที่จงอินบอก
แต่ก็ติดอยู่ตรงที่คุณป๋าซุปตาร์นี่แหละที่ยังสนุกกับการแกล้งลูกชายสุดที่รัก
“งื้อออ….ป๊ะป๋าแกล้งลูกอ่า” จีซองเริ่มหน้ามุ่ยเมื่อคุณป๊ะป๋ายังไม่หยุดแกล้งตัวเอง
“ฮ่าๆโอเคๆ ป๊ะป๋าไม่แกล้งลูกล่ะ อ่ะๆ เรามาจุ๊บแก้มหม่าม๊าพร้อมกันดีกว่า” จงอินบอกก่อนที่จะก้าวเดิน
เข้าไปชิดติดกับตัวเซฮุนทั้งๆที่ยังคงอุ้มลูกหมูจีซองอยู่
       ฟอดดดด//ฟอดดดด
“คิกๆหม่าม๊าหน้าแดง” เมื่อผละออกตัวออกมาจากหน้าเซฮุนมาหลังจากที่หอมแก้มเซฮุนพร้อมกับจงอิน
เสร็จแล้วจีซองก็หัวเราะเสียงดังก่อนที่จะพูดล้อออกมาเมื่อเห็นเซฮุนหน้าแดง
“หึหึ” ยังไม่ทันที่จะได้พูดหรือแก้ตัวอะไรกับลูกชาย ก็ได้ยินเสียงขำออกมาเบาๆจากคนเป็นพ่ออีกคน
อีกทั้งยังทำหน้าทำตาล้อเลียนเขาเหมือนกับคนเป็นลูกไม่มีผิด นี่แหละมั้งที่เขาเรียกกันว่าถอดกันออกมาน่ะ
“ไปกันได้แล้ว เหมือนกันทั้งพ่อทั้งลูกเลย ฮึ่ย!!” เซฮุนกลบเกลื่อนด้วยการไล่สองคนพ่อลูก ก่อนที่จะหันหลัง
เดินหนีเข้าไปนั่งหลังเคาน์เตอร์คิดเงินด้วยความเขินอายพลางบ่นพึมพำกับตัวเอง
“คิกๆ / ฮ่าๆ” แต่ถ้าเซฮุนหันหลังกลับมามองอีกซักนิดก็คงจะเปลี่ยนจะจากความเขินอายกลายเป็น
ความอาฆาตแทนก็ได้เมื่อเห็นสองพ่อลูกขยิบตาตีมือกันอย่างชอบใจที่ร่วมมือกันแกล้งคุณหม่าม๊าได้
ถึงจงอินจะแพ้ทางเซฮุนหรือจีซองจะกลัวความโหดของเซฮุน แต่เมื่อไรที่สองพ่อลูกสุดแสบนี่ร่วมมือกัน
ต่อให้มีหม่าม๊าเซฮุนสิบคนก็คงจะสู้ความเจ้าเล่ห์ของสองคนพ่อลูกนี้ไม่ไหวหรอก
.
.
.
.
.
สวนสัตว์

“อ๊ากกกกกก…..คุณกระต่ายๆ น่ารักจังเลยยย…..งื้ออออ” จีซองร้องออกมาอย่างตื่นเต้นเมื่อเข้ามาภายในส่วน
ที่มีกรงสัตว์ประเภทต่างแสดงอยู่กลางแจ้ง ซึ่งสัตว์ชนิดแรกที่มีให้เห็นก็คือคอกกระต่ายที่ไม่สูงมากนัก ซึ่ง
พอเจ้าตัวแสบเห็นแล้วก็วิ่งถลาเอาหน้าไปแนบชิดติดกับคอกกั้นเลยทีเดียวเชียว
“ใจเย็นครับๆลูกหมูตัวน้อยของป๊ะป๋า คุณกระต่ายไม่หนีไปไหนหรอกครับ แล้วก็อย่าเอาหน้าไปถูกับกรง   
สัตว์อย่างนั้นนะครับลูกมันมีเชื้อโรคเดียวไม่สบายแล้วหม่าม๊าจะไม่ให้เรามาเที่ยวที่นี่อีก” จงอินบอกก่อนที่
จะดึงตัวจีซองออกให้ออกห่างจากกรงกั้นสัตว์อีกนิด ถึงจะมีที่กั้นคนดูสองชั้นก็เถอะแต่เค้าไม่ได้ห่วงแค่
เชื้อโรคที่มาจากสัตว์หรอกนะแต่เค้าห่วงโรคที่มาจากคนด้วยกันเองนี่แหละที่สำคัญ
“ป๊ะป๋าฮับ!” จีซองเงยหน้าเรียกจงอินที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ว่าไงครับ” จงอินขานรับ
“ลูกยืมทรอสัพป๊ะป๋าหน่อย” จีซองบอกพร้อมกับแบมือขอ
“นี่ครับ จีซองจะเอาโทรศัพท์ป๊ะป๋าไปทำอะไรครับ” จงอินยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้ตามที่จีซองขอ
ก่อนที่จะถามด้วยความสงสัย
แชะ!!
“เอามาถ่ายคุณกระต่ายไปให้หม่าม๊ากับน้องเล็กๆดูฮับ! นี่ไงฮับป๊ะป๋า” จีซองบอกพร้อมกับโชว์
รูปกระต่ายตัวเล็กๆที่ถ่ายเองให้จงอินดู
“เก่งมากเลยครับลูกชายของป๊ะป๋า” จงอินบอกพร้อมกับขยี้หัวเล็กๆของจีซองที่อยู่ภายใต้หมวกที่
จงอินใส่ให้จีซองตั้งแต่อยู่บนรถเพื่อเอาไว้กันแดด ก่อนที่จะยกยิ้มอย่างมีความสุขเพราะความภูมิใจ
ในตัวลูกชาย ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆก็เถอะ แม้ว่าจะมาเที่ยวกันแค่สองคนพ่อลูกแต่จีซองก็ยังคงนึกถึง
เซฮุนและน้องของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
.
.
“โอ้โหหหหห….คุณเสือตัวใหญ่จังเลย แล้วคุณเสือในท้องลูกจะเหมือนกับคุณเสือตัวนี้รึป่าวฮะป๊ะป๋า”
จีซองถามขึ้นเมื่อเดินมาถึงกรงเสือและได้ยินตอนเสือคำรามพอดี ความจริงแล้วจีซองไม่รู้หรอกว่า
คุณเสือหน้าตาเป็นยังไงเพราะจีซองสนใจแต่ของกิน และในโรงเรียนอนุบาลก็ยังไม่ได้เอารูปคุณเสือ
มาให้จีซองดูเลยด้วย แต่ที่จีซองบอกว่าคุณเสือร้องก็เพราะว่าเวลาท้องจีซองร้องลุงจุนชอบบอกว่ามี
คุณเสือนอนอยู่ในพุงจีซอง ตั้งแต่นั้นมาจีซองก็เลยเชื่อมาตลอดเลย
“ไม่มีหรอกครับ คุณเสือตัวใหญ่กว่าจีซองซะอีก จะเข้าไปนอนในท้องจีซองได้ยังไง” จงอินบอก
“อ่าว! แล้วเวลาที่มีเสียงดังออกมาจากพุงลูกล่ะฮับ” จีซองยังคงถามต่ออย่างสงสัย
“ที่ท้องของจีซองร้องก็เพราะว่าจีซองหิวข้าวไงครับ ร่างกายมันต้องการอาหารมันก็เลยส่งเสียงเตือน
ออกมาเมื่อถึงเวลาอาหาร มันก็คล้ายๆกับตอนที่จีซองกินอิ่มแล้วก็เรอออกมานั่นแหละครับ” จงอินพยายาม
หาคำพูดที่จะอธิบายออกมาให้จีซองได้เข้าใจอย่างง่ายที่สุด
“อ๋อออออออ….” จีซองลากเสียงยาวเหมือนจะเข้าใจ
“เข้าใจแล้วใช่มั้ยครับ?” จงอินถาม
“ไม่เข้าใจฮับ!!” จีซองตอบออกมาเสียงดังฟังชัดอย่างมั่นใจ
“ช่างมันเถอะครับ เดี๋ยวพอจีซองโตแล้วก็จะเข้าใจเองแหละ ตอนนี้เราไปดูอย่างอื่นกันดีกว่าเน๊าะ!!”
จงอินบอกก่อนที่จะจูงมือจีซองชวนกันเดินออกจากบริเวณกรงเสือ
“ฮับ!!!” จีซองรับคำอย่างง่ายดายพลางกระชับมือที่จับอยู่กับมือคุณป่าซุปตาร์ให้แน่นขึ้นอีก
เดินไปกระโดดไป พากันร้องเพลงเด็กที่เกี่ยวกับสัตว์กันอย่างสนุกสนาน
.
.
“คิกๆ คิกๆ”
“ขำอะไรครับคุณลูกชาย” จงอินถามขึ้นเมื่อเห็นว่าตั้งแต่มาถึงกรงหมีจีซองก็เอาแต่หัวเราะคิกคัก
ไม่พูด ไม่ถาม ไม่สงสัยเหมือนกับตอนดูสัตวชนิดต่างๆที่ผ่านๆมาก่อนหน้านี้
“ขำคุณหมีฮับ คิกๆ” จีซองบอกทั้งๆที่ยังคงหัวเราะอยู่
“คุณหมีมีอะไรให้ขำหรอครับ ป๊ะป๋าไม่เห็นมีอะไรแปลกตรงไหนเลย” จงอินถามด้วยความสงสัย
เพราะเท่าที่เห็นมันก็เหมือนหมีทั่วๆไป มีอะไรน่าตลกตรงไหนเนี่ย จะว่าจีซองพึ่งเคยเห็นก็คงไม่ใช่
เพราะว่าที่บ้านก็มีตุ๊กตามีตั้งหลายตัวเพราะหม่าม๊าเซฮุนของเจ้าตัวแสบนี่เค้าชอบ
“ก็คุณหมีตัวนั้นเหมือนป๊ะป๋าเด๊ะเลยนี่ฮับ คิกๆ” จีซองบอกพร้อมกับชี้ให้จงอินดูหมีตัวที่กำลังนั่ง
ทำหน้าง่วงๆอ้าปากหาวแล้วหาวอีกก่อนที่จะหลับตาลงไป และหมีตัวนั้นก็คงจะหลับไปแล้วจริงๆ
“เดี๋ยวนี้หัดแซวป๊ะป๋าหรอตัวแสบ ฮึ! อย่างนี้ต้องโดนลงโทษ ย๊าาาาาาา” พูดจบคนที่บอกว่าจะลงโทษ
ลูกชายก็ก้มลงรวบตัวจีซองขึ้นมาแบบท่านอนคว่ำแขนข้างนึงอุ้มรองตรงหน้าอก ส่วนอีกข้างก็รวบ
ขาทั้งสองข้างของจีซองไว้แน่น ก่อนที่จะพาวิ่งไปโฉบซ้ายเลี้ยวขวาแบบเครื่องบินร่อนพาจีซองไปดู
สัตว์ชนิตต่อไป (นั่นคือการลงโทษ?) งานนี้ไม่รู้ว่าจงอินลงโทษลูกชายที่กล้ามาแซวตัวเองหรือลงโทษ
ตัวเองโดยการแปลงร่างเป็นเครื่องบินพาจีซองร่อนให้เมื่อยแขนแทนเพราะหลงลูกชายมากเกินไปกันแน่
.
.
“หึ หึ” ครั้งนี้กลายเป็นจงอินเสียเองที่ยืนมองสัตว์ในกรงสลับกับหน้าลูกชายและหัวเราะออกมาเบาๆในลำคอ
“ป๊ะป๋าขำอะไรอ่ะ?” จีซองถามเมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของพ่อตัวเอง
“ก็ขำที่จีซองได้มาเจอกับฝาแฝดตัวเองไง” จงอินพูดแบบติดตลก
“ไหนอ่ะ จีซองไม่มีแฝดน้าาาาาาา” จีซองหันมองหาฝาแฝดตัวเองตามที่จงอินบอก ก่อนที่จะบอกออกมา
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเป็นลูกคนเดียวมาโดยตลอดถึงแม้ว่ากำลังจะมีน้องเล็กๆก็เถอะ แต่คุณครูเคยบอกว่า
น้องเล็กๆก็คือน้องเล็กๆไม่ใช่ฝาแฝด แล้วก็บอกอีกว่าคนที่มีฝาแฝดคือคนที่เกิดมาพร้อมกันสองคน
“มีสิครับ จีซองมีฝาแฝดนะ” จงอินยืนยันคำเดิมพร้อมกับทำหน้าจริงจัง
“ไหนอ่ะป๊ะป๋า” เมื่อเห็นหน้าจริงจังของจงอินจีซองก็ถามออกมาพร้อมกับหันซ้ายหันขวามองหาฝาแฝด
ของตัวเองตามที่จงอินบอก
“นั่นไง หน้าเหมือนจีซองเด๊ะเลย ฮ่าๆๆๆ” จงอินชี้ไปทางคอกสัตว์ก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
เมื่อเห็นหน้าเหวอของลูกชายตัวเอง
“งื้ออออ….จีซองไม่เหมือนคุณหมูซักหน่อยน้าาาาาาาป๊ะป๋า” จีซองโวยออกมาทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่าย
โดนป๊ะป๋าสุดที่รักแกล้งคืนบ้างแล้ว
“เหมือนจริงๆนะ ไม่เชื่อลูกดูตรงนี้นี่เดี๋ยวป๊ะป๋าจะบอก” จงอินหันหลังให้คอกหมูและทิ้งตัวนั่งยองๆ
และดึงตัวจีซองให้มานั่งทับต้นขาของตัวเองอีกทีก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองมาเปิด
โปรแกรมถ่ายรูปกล้องหน้า จัดท่าทางนิดหน่อยและให้จีซองเป็นฝ่ายื่นแขนสั้นๆไปถือโทรศัพท์ไว้
จากนั้นก็นับถอยหลังเพื่อให้คุณลูกชายยิ้มสวยๆส่วนตัวเองก็โอบกอดลูกชายไว้ มือหนาทั้งสองข้าง
ก็ประสานกันดีข้างขวานั้นเตรียมจิ้มถ่ายรูปที่จอโทรศัพท์ที่จีซองถือไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ยกขึ้นไปดัน
จมูกลูกชายสุดที่รักได้ทันพอดิบพอดี รูปที่ได้ออกมาเลยเป็นที่ถูกใจคุณป๋าซุปตาร์เป็นที่สุด
รูปที่คนทั้งสองคนในรูปทำหน้าตาตลกๆและเป็นรูปที่มีลูกชายอยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นพ่อ
โดยมีฉากหลังเป็นคอกหมูเลอะๆ และรูปนี้คงจะเป็นความทรงจำดีๆระหว่าพ่อและลูกชายอีกรูปนึง
เพื่อทดแทนในส่วนที่ขาดหายไปหลายปีของทั้งสองคน
.
.
“สนุกไหมครับจีซอง” จงอินถามขึ้นเมื่อเขาและจีซองอยู่บนรถระหว่างทางกลับไปบ้านตระกูลโอ
หลังจากคอกหมูนั้นเขาและจีซองก็เดินดูกันต่อไปเรื่อยๆจนดูสัตว์ต่างๆครบทุกประเภท ปิดท้ายที่
การแสดงของปลาโลมาแสนรู้ที่เจ้าตัวชอบนักชอบหนา แถมยังบอกอีกว่าถ้าน้องคลอดเมื่อไหร่จะ
เป็นคนพาน้องมาดูเองเลย พอเขาบอกว่าถึงน้องออกมาก็ยังมาไม่ได้ต้องรอน้องเดินได้ก่อนถึงพามาได้
เจ้าตัวก็เถียงมาอีกว่าแค่น้องลืมตาได้น้องก็ดูได้แล้ว!!! เอากับคุณชายเขาสิ!
“สนุกที่สุดเลยฮับป๊ะป๋า” จีซองบอกพร้อมกับหันมายิ้มตาหยีให้จงอิน
“แล้วจีซองชอบตัวอะไรที่สุดครับ” จงอินถามขึ้นระหว่างรถจอดติดไฟแดง
“ชอบคุณหมี คุณกระต่าย คุณหมูแล้วก็คุณแมงกระพรุนฮับ” จีซองทำท่าคิดก่อนที่จะบอกออกมา
“เพราะอะไรถึงชอบล่ะครับ” จงอินถามต่อด้วยความสงสัยเพราะเค้าคิดว่าจีซองจะชอบสิงโตที่สุดซะอีก
เพราะตอนที่ในโซนแสดงลูกสัตว์ที่เพิ่งเกิดใหม่จีซองดูสนใจลูกสิงโตอยู่มาก ยืนดูนิ่งๆเฉยๆอยู่พักใหญ่
แถมยังได้ป้อนนมลูกสิงโตด้วยตัวเองอีกด้วย แต่พอถามถึงสัตว์ที่ชอบกลับไม่มีลูกสิงโตเลยซะงั้น
“ก็ลูกชอบที่คุณหมีดูแข็งแรงเหมือนป๊ะป๋าเวลากอดก็ต้องอุ่นเหมือนป๊ะป๋าแน่ๆเลยฮับ
คุณกระต่ายก็น่ารักเหมือนหม่าม๊าแล้วเวลากอดตัวก็ต้องนุ่มนิ่มๆเหมือนหม่าม๊าแน่ๆเลยฮับ
แล้วป๊ะป๋าก็บอกว่าคุณหมูเหมือนจีซอง คุณหมูตัวกลมๆน่ากอดๆ ถ้าลูกเหมือนคุณหมู ป๊ะป๋ากับหม่าม๊า
ก็ต้องกอดจีซองทุกวันแน่ๆเลยฮับ!” จีซองเจื้อยแจ้วพูดออกมาด้วยความคิดและจินตนาการแบบเด็กๆ
โดยไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนมากมาย แต่คำพูดของจีซองนั้นทำให้จงอินถึงกับสะอึกเพราะสิ่งที่แปลได้จาก
คำพูดแบบเด็กๆของจีซองนั้นมันคือความคิดความรู้สึกความต้องการลึกๆของเจ้าตัวนั่นเอง
“แล้วคุณแมงกะพรุนล่ะครับ” จงอินถามต่อเมื่อยังเหลือแมงกะพรุนอีกหนึ่งอย่างที่จีซองบอกว่าชอบ
แต่ไม่ได้พูดออกมา
“ลูกชอบคุณแมงกะพรุนเพราะคุณแมงกะพรุนทำท่าดึ๋งดึ๋งแล้วน่าร๊ากกกกกก……...ลูกชอบบบบบบบบบ”
จีซองบอกเสียงใสเมื่อนึกถึงตอนที่เดินเข้าไปในอุโมงค์สัตว์น้ำแล้วเห็นการเคลื่อนที่ของกะแมงกะพรุน
ที่เหมือนกับกำลังเต้นรำอยู่น้ำยังไงยังงั้น จีซองล่ะช๊อบชอบ จงอินเห็นสีหน้าที่มีความสุขของลูกชายแล้ว
อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปขยี้หัวกลมๆนั่นด้วยความหมั่นเขี้ยว ก่อนที่จะสัญญากับตัวเองว่าไม่ว่าวันข้างหน้า
จะเกิดอะไรขึ้นจงอินก็จะขอปกป้องและดูแลรักษารอยยิ้มที่สดใสนี้จนกว่าจะถึงลมหายใจสุดท้าย
“จีซองรักป๊ะป๋าทิ๊สุดเลยฮับ” ประโยคที่ดังออกมาอย่างแผ่วเบาทำให้จงอินหันมามองจีซองทันที
ถึงเสียงนั้นจะเบาสักแค่ไหนแต่มันชัดเจนเหลือเกินในความรู้สึกของจงอิน แต่สิ่งที่จงอินเห็นนั้น
คือลูกหมูจีซองตัวแสบที่หลับคอพับคออ่อนอย่างหมดแรงเพราะใช้พลังงานในการเที่ยวเล่นไปจนหมด
เมื่อเห็นอย่างนั้นจงอินก็ตีไฟเลี้ยวเข้าข้างทางเพื่อปรับเบาะลงจัดท่านอนให้ลูกชายได้หลับอย่างสบาย
เพราะชั่วหัวค่ำอย่างนี้รถในใจกลางกรุงโซลนั้นติดยิ่งกว่าอะไรดี กว่าจะถึงบ้านตระกูลโอที่อยู่ชานเมือง
เจ้าตัวแสบนี่คงนอนหลับชาร์ตแบตเต็มอิ่มพอดี
“หลับสนิทขนาดนี้แสดงว่าที่ป๊ะป๋าได้ยินนั่นคือละเมอซินะ แต่ไม่เป็นไรหรอกเพราะป๊ะป๋าเคยได้ยินมา
ว่าคนที่นอนละเมอนั้นจะละเมอพูดความจริงออกมาจากจิตใต้สำนึกและความรู้สึกลึกๆจากใจจริง
ป๊ะป๋าจะถือว่าเมื่อกี้จีซองบอกรักป๊ะป๋าก็แล้วกันนะครับ” จงอินพูดเองเออเองอยู่คนเดียวอย่างมีความสุข
ก่อนจะคลื่อนรถออกมุ่งหน้าไปบ้านตระกูลโอต่อทันที  ถ้าใครได้เห็นจงอินตอนนี้นี่ก็คงจะเข้าใจผิดคิด
ว่าจงอินคงกำลังมีความรักหรือไปปิ๊งสาวที่ไหนแน่ๆเลยเพราะจงอินนั้นขับรถมองทางไปฮัมเพลงไป
อย่างอารมณ์ดี


...

อ่า..ใครที่กลัวมินอามาเกาะแกะป๊ะป๋าหมีตอนนี้คงโล่งอกแล้วนะค่ะ

เพราะจงอินวีนแตกไม่ยอมถ่ายซะงั้น เดี๋ยวตอนหน้าเรามาดูหม่าม๊าเซฮุนเค้นกันนะคะ

ว่าทำไมจงอินไม่ยอมถ่ายแบบนี้เพราะอะไร แล้วก็คอยดูว่ามินอาจะมาไม้ไหนกันแน่

ส่วนนั้นตอนนี้ยกให้เป็นตอนมุ้งมิ้งแห่งชาติของสองพ่อลูกไปเค้าไป

ฝากติดตามนิยายเรื่องใหม่ของมี่ด้วยนะคะ ** Blood Moon กระตุกหัวใจเจ้าชายรัตติกาล
อารมณ์ประมาณแวมไพร์+แฮร์รี่(อย่างล้นๆ)

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  o13 o13

 


หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 23 (12.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuja ที่ 12-09-2015 12:19:06
น่ารัก มากเลยค่ะ

รอตอนที่น้องเล็ก ๆ ออกมาแล้วได้ไปเที่ยวกันทั้ง 4 คนเลยนะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 23 (12.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 12-09-2015 13:22:31
จงอินมีสิทธิ์โวยวายเพราะทางคุณเป็นฝ่ายที่ผิดสัญญาก่อนเอง และต่อให้ปุบปับยังไงก็แล้วแต่ เมื่อมีการเปลี่ยนตัวนางแบบก็ควรแจ้งให้จงอินรับทราบก่อนล่วงหน้า ไม่ใช่มาทราบเอาวันที่จะถ่ายทำกันจริงๆ แบบนี้หรอกนะคะคุณบรรณาธิการ ไม่อย่างนั้นจะมีสัญญาไว้เพื่ออะไร ใช่ไหมคะ? o18

แต่พอจงอินได้กลับมาเจอกับครอบครัวก็ดูจะผ่อนคลายขึ้นเยอะเลยนะคะ ^^ น่ารักเชียวค่ะ สองคนพ่อลูกเดินจูงมือกันเที่ยวชมคุณกระต่ายกับคุณหมี~~ :m3:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 23 (12.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-09-2015 13:34:58
ฮ่ะๆๆๆๆ เห็นฤทธิ์พ่อซุป'ตายัง
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 23 (12.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 12-09-2015 15:30:45
ครอบครัวสุขสันต์ เจ้าลูกหมูน่าฟัดพุงซะจริงๆเลย ลูกเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ ลูกมูกก็น่ารักและบริสุทธิ์เหมือนผ้าขาว ไม่แปลกที่พ่อหมีกับแม่กระต่ายจะรักหัวปรักหัวปรำ และไม่แปลกที่คนอ่านก็รักเช่นกัน อิอิ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 23 (12.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 12-09-2015 16:04:33
เป็นครอบครัวที่น่ารักมาก อบอุ่นหัวใจฝุดๆ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 23 (12.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 12-09-2015 20:40:18
พึ่งมาอ่านจร้าาาา
ชอบจีซองมากๆเลย น่าร๊ากกกกกก
ไม่รุตอนหน้ายายบรรณาธิการที่ไคปฏิเสธไปจะมาโวยวายไหมน๊าาาาา
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 24 (16.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 16-09-2015 19:04:58
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 24

 

 

 

 

 

Tru…Tru…Tru…

 

       เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงส่งเสียงแผดร้องรบกวนการนอนของเจ้าของห้อง

ทั้งสองคนขึ้นกลางดึก

“อื้อ…จงอินๆ…จงอินเสียงโทรศัพท์นายดัง” แล้วก็เป็นหม่าม๊าเซฮุนคนสวยที่รู้สึกตัวเป็นคนแรก ก่อนที่

จะงัวเงียปลุกพ่อหมีขี้เซาเมื่อเห็นว่าเป็นโทรศัพท์ของจงอินที่ดังอยู่ในขณะนี้

“อือ…ขออีกสิบนาทีนะคุณกระต่าย” จงอินงืมงำขอเลื่อนเวลาตื่นทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา เพราะคิดว่าเซฮุนปลุก

ตัวเองเหมือนกับทุกๆเช้าที่ตนต้องไปทำงาน

“ไม่ได้นะจงอิน ตื่นขึ้นมารับโทรศัพท์ก่อนแล้วค่อยนอนต่อ โทรศัพท์นายดังหลายครั้งแล้วนะ” เซฮุนบอก

พร้อมกับออกแรงเขย่าร่างหมีของป๊ะป๋าขี้เซาแรงขึ้นกว่าตอนแรกขึ้นอีก เมื่อจงอินยังคงไม่ยอมตื่นแถมยัง

ขอต่อเวลานอนเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก

“อีกนิดนะที่รัก” จงอินก็ยังคงไม่ยอมตื่นเหมือนเดิมแถมยังมุดหน้าหนีการปลุกของเซฮุนด้วยการเอาหัวไป

ซุกอยู่ใต้หมอนซะงั้น ซึ่งแตกต่างกับเซฮุนนักเพราะตอนนี้เซฮุนรู้สึกตื่นเต็มตาแล้วแหละ เพราะอาการงองแง

ไม่ยอมตื่นนอนเป็นเด็กๆของจงอินนี่แหละ

“ถ้านายยังไม่ยอมตื่นอีก ฉันจะพาลูกหนีไปอยู่บ้านใหญ่แล้วปล่อยให้นอนที่นี่คนเดียวซักเดือนนึงดีมั้ย”

ครั้งนี้เซฮุนพูดบอกจงอินเบาๆและไม่ได้เขย่าตัวจงอินเหมือนที่แล้วๆมาแต่อย่างใด แต่กลับทำให้จงอิน

ตื่นและลุกขึ้นมานั่งแบบมึนๆได้อย่างไม่น่าเชื่อ

“ตื่นแล้วๆแค่นี้ไม่เห็นจะต้องขู่กันเลย” จงอินบ่นพึมพำกับตัวเองทั้งๆที่ยังไม่ได้ลืมตา

“ตื่นแล้วก็ไปดูโทรศัพท์ได้แล้วครับป๊ะป๋า มันดังขึ้นหลายครั้งแล้ว คนที่โทรมาเค้าอาจจะมีเรื่องสำคัญ”

เซฮุนพูดพลางส่ายหัวเมื่อมองดูจงอินที่ลุกขึ้นมานั่งอย่างมึนๆ  ไม่เหลือคราบคุณซุปเปอร์สตาร์คนดังเลย

ที่เซฮุนเห็นอยู่ตรงหน้าตอนนี้นั้นก็มีแต่พ่อหมีตัวโตๆที่นั่งหน้ายุ่งหัวฟูอยู่บนเตียงนอนก็เท่านั้นแหละ

แต่ยังไม่ทันที่จงอินจะตั้งตัวหรือเซฮุนจะได้พูดอะไรต่อนั้นเสียงโทรศัพท์ของจงอินก็ดังขึ้นมาอีก

 

Tru…Tru…Tru…

 

“ฮัลโหลครับ” จงอินกรอกเสียงรับโทรศัพท์ลงไปทั้งๆที่ยังสลึมสลือเมื่อโทรศัพท์นั้นส่งเสียงดังขึ้นอีกครั้ง

(“เกิดเรื่องใหญ่แล้วไค”) เสียงมินซอกผู้จัดการส่วนตัวของจงอินตอบกลับมาอย่างร้อนรน

“มีอะไรครับ ค่อยๆพูดสิพี่” จงอินบอกกลับเมื่อได้ยินเสียงสั่นๆเหมือนจะร้องไห้ของมินซอก

(“ข่าว!! มีข่าวของนายออกมาทางอินเตอร์เน็ตเต็มเลย”) มินซอกละล่ำระลักบอก

“ข่าวอะไรอ่ะ ทำไมพี่ถึงต้องทำเสียงตกใจขนาดนี้” จงอินถามด้วยความสงสัย

(“ข่าวของนายกับเซฮุนและก็เรื่องที่นายซุกจีซอง เอาอย่างนี้นะไคพี่จะส่งไปให้นายดูทางอีเมล และนายก็

หาดูทางอินเตอร์เน็ตเพิ่มเอา แค่นี้ก่อนนะพี่โดนคณะกรรมการบริษัทเรียกแล้ว ได้เรื่องยังไงพี่จะโทรบอก”) 

พูดจบมินซอกก็วางสายไปทันที ถ้าจงอินเดาไม่ผิด คิดว่าตอนนี้มินซอกต้องอยู่ที่บริษัทแน่นอนเพราะเมื่อกี้

เหมือนได้เสียงพูดคุยของหลายๆคนดังแทรกเข้ามาทางโทรศัพท์ หลังจากมินซอกวางสายได้ไม่นานก็มีเสียง

เตือนอีเมลดังแจ้งเตือนขึ้นมา

 

 

**หลุด!!! ซุปเปอร์สตาร์อักษรย่อ ‘K’ แอบซุกลูกซุกเมีย**

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/881349809-member.jpg)



       เป็นเรื่องแล้ว!!! เมื่อมีภาพหลุดของซุปเปอร์สตาร์คนดังเจ้าของผิวสีน้ำผึ้งขยี้ใจสาวกับหนุ่มหน้าหวาน

และเด็กผู้ชายน่ารักออกมา จากแหล่งข่าวที่มาของภาพได้ระบุไว้ชัดเจนว่าหนุ่มหน้าหวานและเด็กน้อยใน

ภาพดังกล่าวนั้นคือ ‘ภรรยาและลูก’ ซุปเปอร์สตาร์คนดังอักษรย่อตัว ‘K’ งานนี้คุณซุปตาร์ที่ว่านี่จะเป็นใคร

จะเป็นไอดอลหรือศิลปินคนไหน จะชัวร์หรือมั่วก็ต้องตัดสินกันจากภาพข้างล่างแล้วหล่ะค่ะ

 

 

**หลุด!!! ภาพซุปเปอร์สตาร์คนดังสวีตหวานหนุ่มหน้าหวานกลางสวนสนุก**

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/1945689031-member.jpg)

 

**หลุด!! ภาพซุป’ตาร์ผิวสีเข้มเดทหนุ่มน้อยหน้าหวานในคาเฟ่ใจกลางเมือง**

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/276897231-member.jpg)

 

**หลุด!! ภาพศิลปินชายอักษรย่อตัว ‘K’ จูงมือหนุ่มหน้าหวานในที่สาธารณะโดยไม่สนสายตาใคร**

(http://cdn-tunwalai.obapi.io/files/member/101200/335810722-member.jpg)

 

       จงอินเลื่อนอ่านหัวข้อข่าวและรูปภาพที่มีทั้งตัวเขา เซฮุนและจีซองในอิริยาบถต่างๆในที่สาธารณะ

ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุกที่เขาพาเซฮุนและจีซองไปเที่ยวด้วยกันครั้งแรกในแบบครอบครัว หรือตอนที่เขา

พาเซฮุนไปเดินเล่นสูดอากาสที่สวนสาธารณะริมแม่น้ำใกล้บ้านหลังกลับมาจากโรงพยาบาลตอนที่รู้ว่า

เซฮุนนั้นตั้งท้องเจ้าตัวเล็กอีกคนหรือแม้กระทั้งตอนที่เขาพาจีซองไปเที่ยวสวนสัตว์เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา

ก็มี รูปทั้งหมดล้วนแต่เป็นรูปที่แอบถ่ายทั้งนั้น บางรูปนั้นมันเป็นช่วงเวลาก่อนหน้าที่เขาพาจีซองไป

ทำงานด้วยในกองถ่ายมิวสิควีดีโอนั่นเสียด้วยซ้ำ

 

“ตกลงใครโทรมาน่ะจงอิน” เสียงของเซฮุนถามขึ้นในขณะที่เจ้าตัวกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ ทำให้จงอิน

รู้สึกตัวและรีบปิดหน้าข่าวและล็อคโทรศัพท์เก็บวางไว้ที่เดิมทันที

“พี่หมินอ่ะ เขาโทรมาคอนเฟิร์มงานพรุ่งนี้น่ะไม่มีอะไรหรอก” จงอินบอกในขณะที่ลุกขึ้นไปช่วยพยุงเซฮุน

เดินมาที่เตียงอย่างระวัง

“คอนเฟิร์มงานตอนตีสองครึ่งเนี่ยนะ!!” เซฮุนถามแบบไม่อยากจะเชื่อ

“อืม พอดีพี่หมินเขาแวะเข้าไปเช็คงานกับพี่จงแดที่บริษัทต่ออ่ะ ถึงโทรมาตอนนี้ นอนๆ นอนต่อกันเถอะ

ฉันง่วงจะแย่อยู่แล้ว” จงอินตอบไปตามน้ำก่อนจะตีเนียนประคองเซฮุนให้นอนพร้อมตนและทำทีเป็นหาว

แสดงให้เห็นว่าตัวเองนั้นง่วงอย่างที่บอกจริงๆ

.

.

.

Tru…Tru…Tru

 

       เสียงโทรศัพท์ของจงอินดังขึ้นอีกครั้งในเวลารุ่งเช้า แต่คราวนี้กลายเป็นจงอินที่รู้สึกตัวตื่นก่อน

ไม่สิ ต้องบอกว่าจงอินนั้นยังไม่ทันได้นอนเลยต่างหาก

“แปปนึงนะพี่” จงอินรีบคว้าโทรศัพท์มากดรับสายและพูดกรอกเสียงเบาๆบอกมินซอกลงไป ก่อนที่เซฮุน

จะรู้สึกตัวตื่นและค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงนอนอย่างเงียบๆเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนการนอนของเซฮุน

“ไคได้ยินพี่หรือป่าว” มินซอกถามกลับเมื่อเห็นว่าจงอินรับสายและเงียบหายไป

“ได้ยินครับ ทางนั้นว่าไงบ้างพี่” จงอินถามในขณะที่เดินลงบันไดไปชั้นหนึ่งของบ้าน

“พวกฝ่ายบริหารโวยวายกันใหญ่เลยเมื่อเห็นภาพและรู้ข่าวถึงกับเรียกประชุมด่วนตอนตีสองเลยอ่ะ

แล้วพอรู้ว่าเมียนายเป็นลูกชายคนเล็กของท่านประธานด้วยนี่ยิ่งบ้ากันไปใหญ่ กล่าวหาว่าท่านประธาน

ปิดบังบ้างหล่ะ จะจับนายบ้างหล่ะ หลอกใช้นายบ้างหล่ะ ถึงกับจะรวมหุ้นที่ท่านประธานกระจายขาย

เมื่อช่วงที่ท่านเจอพิษเศรษฐกิจเพื่อถอนท่านประธานออกจากการเป็นประธานบริษัทด้วยหล่ะ แต่ตัว

ท่านประธารเองก็มีหุ้นเหลืออยู่ห้าสิบเปอร์เซ็นไงเลยเป็นเรื่องเป็นราวถกเถียงกันใหญ่โตเลยตอนนี้

นี่พี่ก็โดนไล่ออกมาเพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น แต่ช่วงสายพวกนั้นจะให้นายมาที่บริษัทนะ

นายจะมาเองหรือจะให้พี่ไปรับ” มินซอกเล่ารายละเอียดทั้งหมดที่ตัวเองรับรู้มาให้จงอินฟัง

“เรื่องของผมมันไม่น่าจะไปเกี่ยวกับการถอนท่านประธานหรือผู้ถือหุ้นอะไรนั่นเลยนะพี่” จงอินบอก

ก่อนที่จะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นใหญ่ที่สามารถมองออกไปเห็นวิวแม่น้ำและพระอาทิตย์

กำลังจะขึ้นอยู่ตอนนี้ มันจะเป็นภาพที่สวยและน่าจดจำมากถ้าจงอินได้เห็นในวันปกติที่ไม่ได้มีปัญหา

มากมายวุ่นวายรออยู่อย่างวันนี้

“คืออย่างนี้นะจงอิน ก่อนหน้านี้พี่เคยได้ยินพวกพนักงานออฟฟิตในบริษัทซุบซิบกันเรื่องที่กรรมการมุน

พยายามหาทางรวมหุ้นกับผู้ถือหุ้นคนอื่นๆเพื่อถอนท่านประธานออกและขึ้นแท่นเป็นประธารเองน่ะ”

 มินซอกขึ้นมานั่งบนรถตัวเองก่อนที่จะเล่าในสิ่งที่ตัวเองได้รู้มาโดยความบังเอิญตอนไปเข้าห้องน้ำใน

ส่วนออฟฟิตของบริษัท

“ถ้าเขาตั้งใจทำอย่างนั้นจริงๆ เขาก็ควรที่จะทำตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือพี่ ไม่ใช่มาเริ่มตอนที่มีข่าวผมอย่างนี้”

จงอินถามความเป็นไปได้ เพราะกรรมการมุนที่เขารู้จักนั้นก็ดูเป็นคนดีและเป็นฝ่ายสนับสนุนประธารโอ

อยู่ตลอดไม่ว่าประธานโอจะเสนอหรือคิดจะทำอะไร

“ก็เพราะว่าหุ้นเขามีไม่พอที่จะสามารถขึ้นเป็นประธานได้ไงหล่ะ กฎผู้ถือหุ้นของบริษัทถ้ามีหุ้นอยู่ไม่ถึง

สามสิบเปอร์เซ็นก็ไม่สามารถขึ้นเป็นประธานได้และกรรมการมุนมีหุ้นอยู่ในมือเพียงแค่สิบแปดเปอร์เซ็น

ส่วนหุ้นที่เหลือก็กระจายไปอยู่กับกรรมการคนอื่นๆ” มินซอกพูดต่อ

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลยนี่พี่ในเมื่อท่านประธานมีหุ้นตั้งห้าสิบเปอร์เซ็น” จงอินบอก

“น้อยไปสิ! ตอนนี้กรรมการคนอื่นกำลังจะขายหุ้นต่อให้กรรมการมุนเพื่อจะให้กรรมการมุนได้ขึ้นแท่น

ประธานแทนพ่อตานายไงคิมไค ถึงประธานโอจะมีหุ้นถึงห้าสิบเปอร์เซ็นแต่ถ้ากรรมการคนอื่นลงชื่อ

ถอดถอนประธานและลงชื่อแต่งตั้งให้กรรมการคนใดคนนึงที่มีหุ้นถึงสามสิบเปอร์เซ็นขึ้นแทนได้น่ะ

นอกเสียจากประธานโอจะหาหุ้นมาเพิ่มให้ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นเท่านั้นแหละถึงจะมีสิทธิขาดในการเป็น

ประธานบริษัทแต่เพียงผู้เดียวเหมือนกับเมื่อก่อน” มินซอกอธิบายให้จงอินฟังต่อ เพราะตัวมินซอกเองนั้น

เป็นพนักงานคนแรกๆในที่นี่ตั้งแต่พึ่งเริ่มต่อตั้งบริษัทขึ้นมาเสียด้วยซ้ำถึงได้พอรู้ในเรื่องพวกนี้อยู่บ้าง

“แค่มีหุ้นเพิ่มอีกยี่สิบเปอร์เซ็นประธานโอก็จะมีสิทธิขาดและไม่โดนถอนออกจากการเป็นประธานใช่มั้ยพี่”

จงอินถามต่อเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“ใช่น่ะสิ แต่ใช่ว่าจะหาหรือขอซื้อคืนจากใครมาได้ง่ายๆในเมื่อกรรมการพวกนั้นรวมหัวกันเสียขนาดนี้

 พูดไปก็น่าสงสารประธานโอเน๊าะพี่เคยยินมาว่าประธานโอน่ะสร้างบริษัทนี้มาด้วยตัวเองอย่างยากลำบาก

แต่เพราะท่านรักดนตรีและเสียงเพลงมาก ถึงล้มแล้วล้มอีกแต่ท่านก็ยังกัดฟันทนสู้และสร้างมาให้ใหญ่โต

และมีชื่อเสียงมากถึงขนาดนี้ ถ้าจะต้องยกให้คนอื่นดูแลโดยที่ตัวเองทำได้เพียงแค่นั่งมองนั้นน่าเศร้าใจ

มากเลยนะ” มินซอกบอกพลางนึกถึงสมัยก่อนช่วงที่ตนตัดสินใจมาสมัครงานที่นี่ตั้งแต่ยังเป็นบริษัทเล็กๆ

ที่ตัวอาคารมีเพียงแค่สามชั้นเท่านั้น ความจริงแล้วมินซอกจะไปสมัครงานอีกบริษัทนึงที่ตอนนี้เป็นคู่แข่ง

ของที่นี่ต่างหากแต่เพราะมินซอกมาเจอประธานโอกำลังนั่งรับสมัครพนักงานด้วยตัวเองอยู่หน้าบริษัท

แห่งนี้ด้วยรอยยิ้มและความเป็นกันเองไม่มีแบ่งแยกชนชั้นอย่างที่อื่นมินซอกก็เลยลองสมัครงานที่นี่ดู

ถึงแม้ว่าค่าตอบแทนจะน้อยกว่าที่อื่นเกือบครึ่งก็เถอะแต่เพราะยังไงตัวเองก็ไม่เดือดร้อนเรื่องอะไรอยู่แล้ว

เพราะที่บ้านมินซอกเองนั้นก็มีกิจการเป็นของตัวเองเหมือนกันเพียงแต่ตัวเองนั้นต้องการประสบการณ์

ใหม่ๆเท่านั้นเอง

“ผมรู้ครับพี่เพราะเซฮุนก็เคยพูดแบบนั้นเหมือนกัน แค่นี้ก่อนนะพี่ ยังไงตอนสายพี่ก็มารับผมหน่อยแล้วกัน”

จงอินพูดก่อนที่จะวางสายโดยที่มินซอกยังไม่ทันได้ตอบอะไรกลับมาก่อนที่จะลุกเดินกลับขึ้นไปบน

ห้องนอนอีกครั้งนึงเพื่อหาในสิ่งที่ตนต้องการ

.

.

.

       จงอินเดินกลับเข้ามาในห้องนอนของตนเองอีกครั้งก็เห็นเซฮุนที่อาบน้ำเปลี่ยนชุดเป็นที่เรียบแล้วกำลัง

จัดเก็บที่นอนอยู่เหมือนปกติในทุกๆเช้า

“มอร์นิ่งคุณหมี ไปไหนมาแต่เช้าอ่ะ ทุกทีไม่ปลุกก็ไม่ตื่น ไหงวันนี้ตื่นแต่เช้าได้เนี่ย” เซฮุนเอ่ยทักทายเมื่อ

เห็นว่าจงอินเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนที่จะพูดล้อเรื่องที่จงอินเป็นจอมขี้เซา

     จุ๊บ!!

“มอนิ่งคิสครับคุณกระต่ายที่รัก ฉันนอนไม่หลับอ่ะเลยจะลงไปเปิดทีวีดูข่าวแต่สัญญาณกลับล่มดูไม่ได้

เสียอย่างนั้น” จงอินจุ๊บเบาๆที่ริมฝีบากบางของเซฮุนเหมือนปกติทุกเช้า ก่อนที่จะพูดโกหกเรื่องสัญญาณ

โทรทัศน์ล่มเพื่อกันไม่ให้เซฮุนได้รู้ได้เห็นข่าวในตอนนี้ เพราะเขาเองนั้นก็ยังไม่รู้เลยว่าจะมีข่าวอะไร

เรื่องไหนบ้างเกี่ยวกับพวกเขาและกลัวเซฮุนรู้สึกแย่ถ้าข่าวเขียนไปทางที่ประธานโอเสียหายเพราะเซฮุน

นั้นรักและแคร์ประธารโอมากเลยเหมือนกับไม่อยากทำให้ประธานโอเดือดร้อนหรือเสียใจเพราะตัวเองอีก

เพราะเซฮุนคิดฝังใจว่าประธานโอเสียใจและผิดหวังในตัวเองมากในเรื่องที่มีจีซองในตอนนั้น

“อ่าว! ทำไมอ่ะเมื่อคืนฝนก็ไม่ตกนี่” เซฮุนถามอย่างสงสัย

“เห็นพวกแม่บ้านบอกว่ามีอุบัติเหตุรถชนเสาส่งสัญญาณหลักล้มน่ะเลยดูไม่ได้ สงสัยคงจะต้องใช้เวลา

ซ่อมทั้งวันเลยอ่ะ ยังไงนายอยู่บ้านก็เปิดการ์ตูนหรือหนังดูกับลูกไปก่อนนะ ฉันเสร็จงานแล้วจะมารับ

พาไปดูเจ้าตัวเล็กกันวันนี้วันหมอนัดนะนายลืมรึป่าวเนี่ย” จงอินบอกในสิ่งที่เขานั้นได้นัดแนะกับแม่บ้าน

ที่ตัวเองจ้างมาให้อยู่กับเซฮุนแบบเช้าไปเย็นกลับแล้วและสั่งให้ทิ้งหนังสือพิมพ์และนิตยาสารของวันนี้

ทั้งหมด ส่วนตัวเองก็จัดการดึงสัญญาณโทรทัศน์และสัญญาณอินเตอร์เน็ตออกทั้งหมดแล้วก่อนที่จะ

ขึ้นมาบนห้องนอน

“ไม่ลืมหรอก นายน่ะไปอาบน้ำได้แล้วนะจงอินจะไปทำงานไม่ใช่หรอ เดี๋ยวฉันจะลงไปทำข้าวเช้ารอ

อ่อ! ฝากปลุกจีซองด้วยนะจงอินจัดการลูกแทนฉันหน่อยนะวันนี้ เจ้าตัวเล็กนี่ดื้นสเต็ปเทพแต่เช้ากว่า

จะหยุดฉันนี่จุกไปหมด” เซฮุนบอกพร้อมกับลูบท้องให้จงอินดูไปด้วย เพราะว่าวันนี้น้องเล็กๆของพี่จีซอง

คึกโชว์สเต็ปเทพเตะท้องปลุกหม่าม๊าเซฮุนแบบรัวๆ จนเซฮุนนั้นจุกไปหมด

     จุ๊บ!!

“มอนิ่งครับตัวเล็ก อย่าแกล้งหม่าม๊านักซิครับหม่าม๊าเจ็บน้า” จงอินจุ๊บเบาๆที่ท้องนูนๆของเซฮุนเพื่อทักทาย

เจ้าตัวเล็กในท้องของเซฮุนเหมือนทุกๆเช้าๆ คราวนี้ภารกิจจุ๊บๆแห่งชาติของครอบครัวคุณซุปตาร์ก็เหลือแค่

คนต้นคิดภารกิจนี้อย่างคิมจีซองเจ้าลูกหมูของป๊ะป๋าจงอินนั้นเอง

.

.

.

แอ๊ดดดด…..

       พอเดินประคองเซฮุนลงบันไดไปส่งข้างล่างเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น จงอินก็เดินตรงมาปลุกลูกชายที่ห้อง

ของเจ้าตัวเขาเลยทันที พอเปิดประตูไปได้จงอินก็ได้แต่ส่ายหัวแบบขำๆเมื่อเห็นลูกหมูนอนกลับหัวกลับหาง

ตัวไปทางผ้าห่มไปทาง หมอนรูปการ์ตูนตัวโปรดก็กระเด็นลงมาอยู่พื้นข้างเตียง สิ่งเหล่านี้บ่งบอกมากว่า

ลูกชายเขานั้นเป็นเด็กที่นอนเรียบร้อย(?)ขนาดไหน

“จีซองครับตื่นได้แล้วนะ” จงอินนั่งลงพื้นข้างเตียงและค่อยๆเขย่าปลุกจีซองแบบเบาๆ

“คร่อกกก…ฟี้” แต่สิ่งที่จงอินได้กลับมานั้นมีเพียงเสียงกรนของลูกชายสุดที่รักเท่านั้น

     จุ๊บ…ฟอด…ฟอด

“เช้าแล้วนะจีซอง ตื่นได้แล้วลูก” ครั้งนี้จงอินลุกขึ้นนั่งบนที่นอนจีซองก่อนที่จะอุ้มเจ้าตัวขึ้นมา

ทั้งจุ๊บปากทั้งหอมแก้มย้วยๆทั้งสองข้างเพื่อเป็นการปลุก

“คร่อกกก…ฟี้” และสิ่งที่จีซองตอบกลับมาก็มีเพียงแค่เสียงกรนเหมือนเดิม เมื่อปลุกดีๆไม่ยอมตื่นจงอิน

ก็เลยต้องหาตัวช่วย เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วจงอินก็ปล่อยตัวจีซองลงไปเหมือนเดิมก่อนที่ตัวเองนั้นจะเดิน

หายออกไปจากห้องโดยใช้เวลาไม่นานนักก็เดินกลับเข้ามาอีกครั้ง

“หึๆ จีซองครับจีซอง หนูต้องการสิ่งนี้มั้ยลูก” จงอินก้มลงกระชิบข้างหูจีซองพรางจับสิ่งที่ไปเอามาโบก

ไปมาใกล้ๆจมูกจีซอง

“งืมๆ….แจ๊บๆ” และแล้วลูกหมูขี้เซาของป๊ะป๋าจงอินก็เริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองจงอินกลับมา

“ตื่นได้แล้วนะจีซอง ถ้าไม่ตื่นป๊ะป๋าจัดการไอ่เจ้านี้หมดไม่เหลือแน่ๆ” จงอินพูดบอกพร้อมกับพยายาม

กลั้นขำ เมื่อเห็นจีซองทำหน้ายุ่งทั้งๆที่ยังไม่ทันได้ลืมตา

“อย่าน้าาาาาาา…..ไก่ทอดของลูกกกกก…….”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” จงอินหลุดขำออกมาเสียงดังเมื่อเห็นจีซองลุกขึ้นมานั่งตะโกนเสียงดังทั้งๆที่ยังคงหลับตาอยู่

ใช่แล้วล่ะสิ่งที่จงอินไปเอามาเป็นอุปกรณ์ในการปลุกลูกชายนั้นคือไก่ทอดฝีมือหม่าม๊าเซฮุนที่จัดอยู่ในหมวด

อาหารที่มีอิทธิพลต่อกระเพาะของเจ้าลูกหมูจีซองในอันดับต้นๆ

“งื้อออ….ป๊ะป๋าลูกอยากกินไก่ทอดอ่าาาาาา” จีซองบอกพร้อมกับลืมตามองจงอินอย่างงัวเงีย

“ยังกินไม่ได้ครับ หม่าม๊าบอกมาว่าให้จีซองต้องอาบน้ำกับป๊ะป๋าก่อนถึงจะกินได้” จงอินเอาเซฮุนมาอ้าง

เพื่อที่จะให้จีซองยอมอาบน้ำกับตัวเองอย่างไม่งองแงเพราะสำหรับพ่อหมีและลูกหมูนั้นหม่าม๊าเซฮุน

คือสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุดในโลก

.

.

.

“จีซองครับอย่าลืมที่เราสัญญากันไว้นะ” จงอินพูดย้ำในสิ่งที่ได้ทำสัญญากับไว้จีซองตอนที่กำลังอาบน้ำกัน

ในขณะที่เดินจูงมือจีซองเดินลงบันไดเพื่อไปทานมื้อเช้า

“ฮับผม!!” จีซองเอามือที่ไม่ได้จับกับจงอินและถือไก่ทอดอยู่นั้นขึ้นมาทำท่าตะเบ๊ะแบบทหารว่ารับทราบ

“ว่าไงครับลูกชายถึงกับต้องใช้ไก่ทอดปลุกเลยหรอฮึ!” เซฮุนที่กำลังจัดโต๊ะอาหารเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นสองพ่อ

ลูกเดินจูงมือกันลงบันไดมาและเห็นว่ามืออีกข้างของลูกชายนั้นถือไก่ทอดลงมาด้วย

“งื้ออออ…หม่าม๊าอ่ะ” จีซองทำหน้ากระเง้ากระงอดใส่เซฮุนเพราะรู้ว่าหม่าม๊านั้นแซวตัวเอง

   

      ปิ๊นนน….ปิ๊นนน

“เสียงรถพี่หมินมาแล้ว คงไม่ได้กินข้าวเช้าด้วยแล้วแหละ อย่าดื้อกับหม่าม๊าแล้วก็อย่าลืมสัญญาของเรา

นะครับลูก ป๊ะป๋ารักจีซองน้า ฉันไปทำงานก่อนนะเซฮุนดูแลตัวเองด้วย” จงอินบอกพร้อมกับขยี้หัว

จีซองเบาๆและหันไปพูดกลับเซฮุนก่อนที่จะกระชับกระเป๋าสะพายที่จะพกติดตัวไปด้วยไว้แน่นและ

ก้าวเดินออกจากบ้านอย่างมั่นคงและแน่วแน่

 

 ...

อีกไม่กี่ตอนเรื่องนี้จะจบแล้วนะคะ

บทสรุปจะเป็นยังไงก็มาช่วยกันลุ้นด้วยนะคะ

อ่อ!!! อย่าลืมมินอากันไปซะก่อนนะคะ

ช่วยกันเม้นต์ ช่วยกันโหวตให้ลูกหมูเป็นการส่งท้ายหน่อยนะคะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 24 (16.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 16-09-2015 20:15:57
คุณป๋าสู้ๆ ต้องมีคนไม่หวังดีปล่อยข่าวแน่ๆ

ปกติเม้นในธัญวลัย วันนี้เห็นในเล้าก่อน
รอตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 24 (16.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-09-2015 20:59:44
 :z6:ไอ้พวกอยากได้ไม่มีสุด
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 24 (16.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 16-09-2015 22:40:23
เราเดาว่า จงอินมีหุ้นบริษัทในมืออย่างน้อยก็ 20% นะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 24 (16.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 16-09-2015 23:16:54
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 24 (16.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 17-09-2015 02:46:08
ห๊าาาา  ทำไมจะจบเร็วจัง ฮือออออ ไม่น้าาาาาตัวเองงง
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 24 (16.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 17-09-2015 09:10:45
มินอาเป็นคนปล่อยข่าวไหมคะ ทางฝ่ายกรรมมุนเลยได้โอกาสดำเนินการตามแผนที่วางเอาไว้พอดิบพอดี..
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 24 (16.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 17-09-2015 12:02:56
สู้ๆนะ จงอิน เพื่อลูก(สอง)และเมียที่รออยู่ที่บ้าน 555
บอกความจริงนักข่าวไปเบย ^0^//
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 25 (17.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 17-09-2015 21:48:07
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 25

 

 

 

       ตอนนี้จงอินและซิ่วหมินนั้นนั่งรออยู่หน้าห้องประชุมใหญ่ของบริษัท ซึ่งกว่าจะเข้ามาภายในตึกนั้น

ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เพราะตอนนี้บริเวรหน้าบริษัทนั้นเต็มไปด้วยกองทัพนักข่าวและกองทัพแฟนคลับของ

ซุปเปอร์สตาร์คนดังอย่างคิมไคที่มีข่าวฉาวข่าวใหญ่และภาพหลุดออกมาอยู่ในขณะนี้ แต่ที่ต้องมานั่งรอ

อยู่อย่างนี้ก็เพราะว่าพวกข้างในยังเถียงกันไม่เสร็จเลยไม่ยอมให้เขาเข้าไปไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรที่จะต้องคุย

กันนักหนาเห็นคนแถวๆนี้บอกว่าพวกคณะกรรมการบริหารเข้าไปคุยกันตั้งแต่ตีสองจนตอนนี้สิบโมเช้า

แล้วยังไม่มีใครเดินออกมาจากห้องกันซักคน

“นั่นนายจะไปไหนน่ะไค” ซิ่วหมินถามขึ้นเมื่อเห็นจงอินเดินไปทางประตูทางเข้าห้องประชุม

“ผมไม่รอแล้วพี่ ในเมื่อมันเป็นเรื่องของผม ผมก็มีสิทธิ์ที่จะไก้รับรู้ด้วยสิ” พูดจบจงอินก็เคาะประตูตาม

มารยาทสองสามครั้งก่อนจะผลักประตูเดินเข้าไปในห้องประชุม

“ใครอนุญาติให้นายเข้ามาคิมไคไม่เห็นหรือไงว่าคณะกรรมการบริหารอย่างพวกฉันประชุมกันอยู่”

กรรมการมุนพูดบอกและมองจงอินอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นว่าเป็นจงอินที่เปิดประตูเข้ามา

“เห็นครับแต่ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของผม ผมก็มีสิทธิ์ที่จะรับรู้เหมือนกัน” จงอินบอกเสียงเรียบและ

ไล่มองคณะกรรมการบริหารทีละคนๆจนหยุดอยู่ที่ประธานโอเป็นคนสุดท้ายซึ่งตอนนี้สีหน้าของ

ประธานโอเองก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก

“นี่มันเรื่องภายในบอร์ดบริหาร คนที่เป็นแค่ศิลปินอย่างนายไม่มีสิทธิ์ที่จะรับรู้ ออกไปซะ!! ส่วนเรื่อง

ข่าวของนายนั้นเราจะได้คุยกันแน่นอนเมื่อเสร็จปัญหาตรงนี้” กรรมการอีกคนนึ้งพูดขึ้นมาพร้อม

กับเหล่ตามองจงอินกับประธานโอด้วยสายตาดูถูกดูแคลน

“อ่อ! หรอครับ? ถ้าอย่างนั้นแล้วผมยิ่งสมควรที่จะอยู่คุยด้วยเลยนะครับถ้าเป็นเรื่องนี้” จงอินพูดบอก

เสียงใสเหมือนกับว่าตอนนี้ตนเองนั้นอารมณ์ดีเสียเต็มประดา

“หมายความว่ายังไง!!” กรรมการคนเดิมถามต่อด้วยเสียงกระชาก

“ก็เพราะผมคือหนึ่งในคณะกรรมการบริหารไงครับและหุ้นในส่วนที่ผมถือสิทธิ์อยู่นั้นมีอยู่ทั้งหมด

ยี่สิบเปอร์เซ็น” จงอินพูดต่อพร้อมกับหยิบใบสัญญาซื้อขายหุ้นบริษัทออกมาจากกระเป๋าสะพายที่พก

ติดตัวมาให้ทุกคนที่อยู่ในห้องดู ซึ่งสิ่งที่จงอินพูดและหลักฐานที่โชว์ให้ทุกคนได้เห็นนั้นทำเอาบุคคล

ที่อยู่ในห้องนั้นทั้งหมดนั้นตกใจอ้าปากค้างไปตามๆกันไม่เว้นแม้แต่ประธานโอซึ่งมีฐานะเป็นพ่อตา

และซิ่วหมินที่เป็นคนคอยดูและจงอินมาตั้งแต่ก่อนเดบิวต์

“นายไปเอามันมาจากไหนน่ะจงอิน” ประธานโอเอ่ยถามออกมาเป็นคนแรก

“ท่านรองปาร์คไงครับที่เป็นคนขายต่อหุ้นนี้มาให้ผม” จงอินตอบแบบสบายๆเหมือนคุยเรื่องทั่วไป

ไม่ได้เครียดหรือกดดันอะไรซึ่งแตกต่างจากกรรมการคนอื่นๆที่เริ่มจะกระสับกระส่ายเพราะสิ่งที่

รวมหัวลงขันกันวางแผนคว่ำบาตรแบนประธานโอนั้นเหลือความเป็นไปได้ริบหรี่เหลือเกิน

“ไม่จริง!! เป็นไปไม่ได้!! ถ้ามีการซื้อขายหุ้นพวกฉันก็จะต้องรับรู้และเซ็นรับรองด้วยสิ!! หรือหุ้นที่นาย

เอามาอ้างนั้นเป็นของปลอม!! // ใช่ๆต้องเป็นของปลอมแนๆ” เสียงพวกคณะกรรมการเริ่มโวยและหา

ข้ออ้างต่างๆมาโวยใส่จงอิน

“จริงหรือปลอมก็ลองตรวจดูได้เลยครับ ว่ามันมีลายเซ็นของพวกคุณและชื่อของผมระบุอยู่ในสัญญา

หรือเปล่า เชิญเลยครับ อ่อ!! เผื่อจะไม่รู้ว่าชื่อจริงๆของผมนั้นคือคิมจงอิน นี่ครับบัตรประชาชน เดี๋ยว

จะหาว่าผมมโนมั่วนิ่มกันซะอีก” จงอินพูดบอกพร้อมกับยื่นใบสัญญาการถือหุ้นและบัตรประชาชน

ของตัวเองส่งให้พวกคณะกรรมการบริหารดู

“ของจริง//ของจริงนี่//ของจริง” คณะกรรมการทั้งสามคนพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันเมื่อเห็นหลักฐาน

ลายเซ็นของตัวเองระบุอยู่ในใบสัญญาการถือหุ้นของจงอินและเห็นชื่อของจงอินระบุอยู่ในช่องเจ้า

ของผู้ถือหุ้นอยู่ในนั้นจริงๆด้วย

“ทีนี้ผมก็สามารถอยู่ร่วมประชุมด้วยได้แล้วนะครับ ขอของๆผมคืนด้วยนะครับ แล้วก็เชิญพูเรื่องที่คุยค้าง

กันต่อได้เลยครับ เชิญ!!” จงอินกระตุกยิ้มมุมปากอย่างพอใจเมื่อเห็นสีหน้าที่กรรมการแต่ละคนแสดงออกมา

“ถึงจะมีผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นมายังไงก็แล้วแต่ พวกเรายังคงยืนยันคำเดิมที่จะปลดประธานโออกจาการเป็น

ประธานและแต่งตั้งกรรมการมุนขึ้นเป็นประธานบริษัทนี้แทน ยังไงสามเสียงก็ชนะสองเสียงและพวกผม

จะไม่ยอมลงชื่อให้แน่ๆถ้าลูกเขยของคุณคิดจะยกหุ้นให้คุณเพื่อที่จะให้คุณเป็นประธานต่อไป” กรรมการ

คนเดิมที่ถือข้างสนับสนุนกรรมการมุนพูดดักทางขึ้นมาหนำซ้ำยังเน้นตรงคำที่ว่าจงอินมีฐานะเป็นลูกเขย

ของประธานโอด้วยน้ำเสียงเยาะๆ

“ในเมื่อผมยกหุ้นให้พ่อตาตัวเองไม่ได้ แล้วพวกคุณจะทำยังไงหรือครับ ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องอย่างนี้ต่อให้

นั่งถ่างตาคุยกันทั้งวันทั้งคืนก็ไม่ได้บทสรุปหรอกครับในเมื่อน้ำหนักความที่เราแย้งกันอยู่มีค่าเท่ากัน

หรือถ้าพวกคุณยอมไม่ได้จริงๆที่พ่อตาของผมจะยังคงดำรงตำแหน่งประธานบริษัทนี้เหมือนเดิมพวกคุณ

ก็ขายหุ้นที่มีครอบครองอยู่ในมือตัวเองเสียซิครับ และไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีใครซื้อหรือขายแล้วจะขาดทุน

เพราะผมยินดีที่จะรับซื้อทั้งหมดสามสิบเปอร์เซ็นที่พวกคุณมีอยู่ด้วยราคามากกว่าตอนที่พวกคุณซื้อมา

เสียอีก เพราะผมกำลังหาของขวัญวันเกิดครบห้าขวบให้ลูกชายอยู่พอดีเลยและผมก็คิดว่าหุ้นจำนวน

สามสิบเปอร์เซ็นของHK Entertainment บริษัทที่คุณตาของเค้าก่อตั้งขึ้นมาจากความรักและความยาก

ลำบากเนี่ยมันจะเป็นของขวัญวันเกิดที่พิเศษที่สุดเลย และอีกอย่างนะครับบริษัทนี้จะได้เป็นเพียงกิจการ

ภายในครอบครัวโดยไม่มีคนนอกมาปะปนและมาคอยนั่งชี้นิ้วสั่งๆรอวันรับเงินเดินเงินปันผลอย่างเดียว

พวกคุณว่าความคิดผมดีมั้ยครับ?” จงอินตั้งศอกกับโต๊ะและประสานทั้งสองข้างรองคางตัวเองก่อนที่จะ

พูดบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างสบายๆเหมือนไม่มีอะไรแต่สำหรับกรรมการบริหารทั้งสามคนนั้นได้เห็น

นั้นก็ดูรู้ว่าจงอินตั้งใจจะกวนประสาทและพูดแดกดันพวกตน

“อย่ามาอวดดีแถวนี้นะคิมไค!!!” กรรมการมุนตะหวาดออกมาเสียงดังด้วยความไม่พอใจ

“นายมันก็แค่ไอ้เด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่หวังรวยทางรัด ที่จับลูกประธานโอแลกกับการที่ได้

จะเป็นนักร้องเท่านั้นแหละ!!!” กรรมการอีกคนก็พูดดูถูกจงอินต่อจากกรรมการมุนทันที

“ใช่ๆนายจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อหุ้นทั้งหมดได้กะอีแค่นักร้องกระจอกๆ หรือนายจะปะเหลาะเกาะขา

ขอเงินพ่อตานายอย่างนั้นหรอ อะโธ่!!!” กรรมการคนสุดท้ายพูดถากถางดูถูกดูแคลนจงอินและประธานโอ

อย่างเย้ยๆเพราะคิดว่าจงอินนั้นคงไม่มีปัญญาทำได้อย่างที่พูดหรอ

“มันจะมากไปแล้วนะพวกคุณ!!! ผมทำงานและบริหารด้วยความบริสุทธิ์และซื่อตรงไม่เคยทำอะไรอย่าง

ที่พวกคุณกล่าวหามา ถ้าเราตกลงกันไม่ได้จริงๆก็เชิญพวกคุณขายหุ้นในมือทิ้งอย่างที่คิมไคบอกได้เลย

ถ้าเค้าไม่ซื้ออย่างที่พูดจริงๆผมจะซื้อเอง!!!!” ประธานโอหน้าตึงทันทีที่พวกกรรมการบริหารทั้งสามคน

กล่าวหาตนและจงอินอย่างดูถูกดูแคลน ตัวเขาเองนั้นทุ่มเททั้งชีวิตลงทุนทั้งแรงกายแรงใจเพื่อสร้างบริษัท

นี้มาอย่างยากลำบากไม่เคยมีซักครั้งที่คิดจะขอความช่วยเหลือจากใครแม้จะล้มลุกคลุกคลานสักแค่ไหน

ก็ตามเพราะฉะนั้นอย่าหวังเลยว่าเรื่องเล็กน้อยอย่างเรื่องปั้นศิลปินในสังกัดจะต้องลงทุนเอาลูกชายหัวแก้ว

หัวแหวนอย่างโอเซฮุนมาหลอกล่อหรือต่อรองในเมื่อตัวเค้าเองนั้นก็หวังจะให้ลูกชายเป็นศิลปินเหมือนกัน

ขนาดตอนที่เซฮุนมาเป็นเด็กฝึกที่บริษัทยังต้องทำทุกๆอย่างเหมือนกับเด็กฝึกทั่วไปเลย ไม่สิ ต้องบอกว่า

เค้านั้นกดดันเซฮุนมากกว่าเด็กฝึกคนอื่นๆด้วยซ้ำเพราะครั้งแรกที่เซฮุนมาฝึกเค้าก็ส่งไปเป็นบัดดี้กับไค

ที่เป็นตัวเต็งและเป็นเด็กฝึกที่เก่งที่สุดในตอนนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเซฮุนและกดดันให้เซฮุนนั้นทำให้

ได้ดีเหมือนไคทั้งๆที่ระยะเวลาฝึกนั้นห่างกันหลายปี ส่วนเรื่องที่ไคกับเซฮุนนั้นครบกันเค้าไม่เคยได้รู้เลย

ถ้าวันนั้นเซฮุนยอมบอกเค้าซักนิดว่าไคเป็นพ่อของจีซอง เค้านั้นจะล้มเลิกโปรเจ็กต์ที่จะปั้นไคทันทีแม้จะ

ต้องเสียหายหรือศูนย์เงินที่ลงทุนไปแล้วนั้นมากมายสักแค่ไหน ถึงแม้ตอนนี้เค้าจะปล่อยให้ไค เซฮุนและ

จีซองได้อยู่ด้วยกันแต่ใช่ว่าเค้าจะชอบใจที่ได้ไคเป็นลูกเขย เขาไม่ต้องการเลยไม่ต้องการที่จะได้คิมไค

ซุปเปอร์สตาร์คนดังมาเป็นลูกเขยเลย เพราะเค้ากลัวจะมีปัญหาตามมามากมายอย่างตอนนี้นี่ไง แต่เพราะ

ความสุขของลูกและหลานไงเค้าถึงยอม ถึงแม้จะยังคงตึงๆใส่คิมไคอยู่จนถึงทุกวันนี้ก็เถอะ ตอนนี้เค้านั้น

รู้สึกแย่จริงๆเสียความรู้สึกมากๆที่โดนดูถูกอย่างนี้จากคนที่เปรียบเสมือนเพื่อนในความคิดของเค้า แต่แรก

นั้นเค้าพยามจะประณีประนอมให้มากที่สุดสำหรับเรื่องนี้แต่ตอนนี้คงไม่แล้วหล่ะ

“ผมจะซื้อหุ้นทั้งหมดเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้จีซองจริงๆครับ และพวกคุณก็ไม่ต้องกังวลว่าผมจะ

ไม่มีปัญญาซื้อหุ้นของพวกคุณ บางทีเงินที่พวกคุณสามคนมีอยู่ตอนนี้รวมกันอาจมีไม่ถึงครึ่งที่ผมมีอยู่

ก็ได้นะครับ อืม..พี่หมินครับช่วยบอกพวกเค้าหน่อยได้ไหมครับว่าเงินจากการทำงานในปีที่แล้วของผม

ได้เท่าไหร่กันเอาแค่เฉพาะปีที่แล้วก็พอนะครับ อ่ะ!! ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวพวกเค้าตกใจ อืม..เอาเป็นของ

หกเดือนแรกนี้ดีกว่าครับพี่เพราะผมรับงานมันน้อยที่สุดแถมหยุดงานไปตั้งสองเดือนแน่ะ” จงอินบอก

กับประธานโอและกรรมการทั้งสามคนก่อนที่จะหันไปถามมินซอกที่ยืนขาแข็งอยู่ข้างๆจงอินเพราะ

ไม่กล้าขยับตัวไปไหน

“อะ…เอ่อ..แค่ค่าตัวโฆษณาของครึ่งปีนี้ได้ไหมอ่ะไค พี่จำได้แค่ค่าโฆษณาอ่ะ” มินซอกบอกอย่างตะกุก

ตะกักเพราะตัวเค้าเองจำได้แค่ค่าตัวโฆษณาของจงอินครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเท่านั้นเพราะพึ่งจะไปเซ็นรับและ

โอนเข้าบัญชีที่จงอินแจ้งเปลี่ยนไว้เมื่อสองวันที่ผ่านมาเอง จะให้เค้ามานั่งจำรายได้ของจงอินทั้งหมดคงจะ

ไม่ไหวหรอกเพราะช่วงที่จงอินยังไม่เจอเซฮุนและจีซองนั้นจงอินทำงานแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงมีเวลานอน

ก็แค่ตอนที่นั่งรถเปลี่นสถานที่ทำงานเท่านั้นแหละและเค้าคิดว่าแค่เงินค่าโฆษณาของจงอินครึ่งปีแรกนี้ก็คง

จะพอทำให้คณะบริหารตกใจแน่นอน เพราะตอนช่วงปีแรกๆในการทำงานของจงอินนั้นเค้าเองก็ตกใจใน

จำนวนรายได้ของจงอินเหมือนกันแหละ แต่ก็คิดว่ามันสมเหตุสมผลนะในเมื่อจงอินทำงานหนักถึงขนาด

นั้น แถมยังอดคิดไม่ได้เลยว่าจงอินได้ขนาดนี้แล้วส่วนของบริษัทที่หักไปจะได้ขนาดไหน

“แค่นั้นก็ได้ครับ เพราะแค่นั้นก็คงพอที่ซื้อหุ้นได้นะผมว่า” จงอินพยักหน้าบอกพลางส่งซิกอะไรบางอย่าง

ไปให้ผู้จัดการส่วนตัวคนเก่งซึ่งมินซอกได้เห็นก็พอจะรู้ว่าศิลปินในความดูแลคนที่เปรียบเสมือนน้องชาย

คนนี้ต้องการอะไร

“รายได้ค่าโฆษณาของคิมไคในครึ่งปีแรกนี้มีไม่มากหรอกครับเพราะไคเค้าพักร้อนไปตั้งสองเดือนเลย

มีเวลาทำงานแค่สี่เดือนเองครับรายได้ทั้งหมดก็เลยได้แค่ 1,691,474.25 USD หรือประมาณ 2,000 ล้านวอน

เท่านั้นเองน่ะครับ” มินซอกล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงตัวเองก่อนจะกดๆจิ้มๆพอได้รู้สิ่งที่ต้องการ

แล้วก็พูดบอกออกไปด้วยเสียงดังฟังชัดให้ทุกคนที่อยู่ในห้องได้ฟัง พรางหันไปมองจงอินที่ยกนิ้วโป้งให้

ด้วยความชอบใจ

“เท่านี้ก็คงจะพอที่จะซื้อหุ้นของพวกคุณนะครับ อ่อ! อย่าลืมนะครับว่านี่เป็นเพียงรายได้จากค่าโฆษณายัง

ไม่ได้นับรวมกับราได้ส่วนอื่นหรือแม้แต่เงินปันที่ได้จากหุ้นจำนวนยี่สิบเปอร์เซ็นในส่วนของผมด้วยนะ

ครับเนี่ย เอาไงครับจะขายไม่ขายหรือจะเอายังไง ถ้าขายให้ผมพร้อมที่จะรับซื้อพร้อมทั้งเซ็นเช็คเงินสด

ให้พวกคุณทันทีที่นี่ตอนนี้และนาทีนี้ด้วยราคาที่พวกคุณพอใจ รับรองว่าเช็คผมไม่เด้งแน่นอน แต่ถ้า

พวกคุณไม่ยอมและเอาไปขายที่อื่นผมก็ไม่รับประกันหรอกนะว่าจะได้ราคานี้หรือป่าวแต่ถ้าอย่างนั้น

ก็ดีเหมือนกันเพราะผมจะได้เสียเงินที่น้อยกว่าที่คิด เพราะไม่ว่าพวกคุณจะไปขายให้ใครที่ไหนผมก็จะ

ไปตามซื้อมาเป็นของผมอยู่ดี ว่าไง? เอาไงครับ? เวลาผมเป็นเงินเป็นทองนะครับ” จงอินพูดพร้อมกับ

เอนหลังพิงพนักพิงเก้าอี้กอดอกไขว่ห้างอย่างวางมาด ทำเอามินซอกต้องยืนกลั้นขำแทบตายเมื่อ

เห็นจงอินในรูปแบบนี้เพราะปกติจงอินจะเป็นคนที่เจียมตัวตลอด ไม่เคยหลงแสงสีหรือแม้แต่

คิดว่าตัวเองเด่นดังกว่าคนอื่นเค้า ไม่เคยใช้สายตาคมนั่นมองเหยียดใครอย่างตอนนี้ อยู่ง่ายกินง่าย

กว่าศิลปินบางคนที่ดังไม่เท่าจงอินแต่เรื่องเยอะเรื่องมากแถมยังหัวสูงเสียอีกด้วย แต่จงอินที่เค้า

เห็นมาตลอดเวลาก็เป็นเพียงแค่เด็กน้อยที่ชอบเป็นหมีง่วงชอบนอน ชอบกินไก่ทอด และจะติด

เพอร์เฟคติดดูดีเฉพาะเวลาทำงานเท่านั้นแหละ แต่ครั้งนี้ที่แสดงท่าทางออกมาอย่างนี้ก็เพราะว่า

คงเหลืออดจริงๆ

“แล้วถ้าพวกฉันไม่ขายและยืนยันที่จะปลดประธานโอเหมือนเดิมล่ะนายจะทำยังไง” กรรมการมุน

พูดขึ้นมาหลังจากที่ฟังจงอินและปรึกษากับกรรมการอีกสองคนที่เหลือเบาๆ

“ก็ไม่ทำยังไงหรอกครับเพราะผมคงจะไม่มีสิทธิมากพอที่จะตัดสินใจอะไร แต่ผมคงจะหาทนาย

ที่เก่งๆดีๆสักคนมาเป็นที่ปรึกษาและช่วยหาทางซื้อหุ้นคืนจากพวกคุณและหาจ้างนักบัญชีเก่งๆสัก

ชุดนึงมาตรวจดูรายได้ย้อนหลังของบริษัทสักหกเจ็ดปีตามที่รองปาร์คได้เคยเล่าเรื่องบางอย่างให้

ผมได้ฟังก่อนที่จะขายหุ้นมาให้ผมแทน ในฐานะหนึ่งในกรรมการบริหารที่ดีที่ควรจะเป็นไงครับ”

จงอินยกคิ้วขึ้นข้างนึงอย่างกวนๆเมื่อได้ยินสิ่งที่ประธานมุนถามก่อนที่ตอบกลับไปอย่างเป็นต่อเมื่อนึก

ถึงสิ่งที่รองปาร์คคนที่ขายหุ้นต่อมาให้ว่ารองปาร์คนั้นเคยเล่าเรื่องบางอย่างที่เกี่ยวกับการเงินการบริหาร

ของกรรมการทั้งสามคนให้ฟังก่อนที่จะขายหุ้นต่อให้จงอินอีกทีได้ขึ้นมา

“นายหมายความว่ายังไงคิมไค” ประธานโอที่นั่งสะกดอารมณ์ตัวเองและนั่งฟังอย่างเงียบๆอยู่นานแล้วนั้น

ถามจงอินขึ้นมาเมื่อจงอินพูดในสิ่งที่เค้าเองไม่ค่อยเข้าใจนัก

“เอาไว้คุยกันที่บ้านเป็นการส่วนตัวนะครับท่านเพราะมันเป็นเรื่องของภายในไม่สมควรที่จะให้บุคคลที่

กำลังจะเป็นคนภายนอกนั้นรับรู้หรอกครับ” จงอินตอบและพยามที่จะส่งสายตาให้ประธานโอเข้าใจและ

ยอมเอออไหลตามน้ำกับการตัดสินใจของเค้าไปก่อน

“อืม” ประธานโอตอบรับกลับมาสั้นๆอย่างง่ายดายและรอดูการกระทำการตัดสินใจของจงอินต่อไป

“ตกลงกันได้หรือยังครับว่าจะเอายังไง? เวลาของผมเป็นเงินเป็นทองนะครับ!!” จงอินกดดันกรรมการ

ทั้งสามคนด้วยสายตา

“พวกเราจะขายให้!! เพราะไม่อยากอยู่ร่วมหุ้นกับพวกมือสมัครเล่นอย่างพวกคุณในบริษัทกระจอกๆ

อย่างนี้อีกต่อไปแล้ว!!!” กรรมการมุนเชิดหน้าพูดดูถูกประธานโอและจงอินอย่างกระแทกกระทั้น

อย่างไม่พอใจ เพราะความจริงนั้นพวกเค้าวางแผนกันล้มประธานโอมานานมากแล้วแต่ไม่มีโอกาส

จนมีข่าวของจงอินออกมาและพอรู้ว่าภรรยาของจงอินเป็นใครนั้นพวกเค้าก็สบโอกาสใช้ช่องโหว่

ตรงนี้เข้ามาตีกรอบกดดันประธานโอและพยามพูดใส่ร้ายให้มันเป็นความผิดของประธานโอทั้งหมด

และมันก็จะเป็นอย่างที่พวกเค้าต้องการถ้าไม่มีคิมไคเดินเข้ามาเพราะก่อนหน้านั้นประธานโอเริ่มมี

สีหน้าไม่ดีและหาทางแก้ตัวไม่ได้อยู่แล้วเมื่อโดนพวกเค้าทั้งสามคนต้อนจนจนมุม แต่คำพูดที่เหมือน

กับบอกเล่าเรื่องทั่วไปของคิมใครในครั้งสุดท้ายนี่แหละที่ทำให้พวกเขากลัวเพราะว่าพวกเขานั้นมีความ

ผิดติดตัวอยู่พอได้ฟังจงอินพูดทำนองนั้นก็เลยกลายเป็นวัวสันหลังหวะจนต้องยอมอย่างที่เห็นไม่อย่างนั้น

จะต้องเสียมากกว่าที่กำลังจะได้ในตอนนี้อย่างแน่นอนถ้าคิมไคทำอย่างที่พูดออกมาจริงๆ

“อืม…ก็ดี…ขอบคุณนะครับที่ยอมขายหุ้นให้ผมบริษัทนี้จะได้เป็นกิจการของครอบครัวและบริหารอย่าง

ครอบครัวเหมือนเดิมจริงๆเสียที ไม่ใช่บริหารงานโดยการทำงานบนหลังคนอยู่กินอย่างสุขสบายโดยที่ไม่

ต้องลงทุนลงแรงหรือทำอะไรเลยและมองเห็นศิลปินในสังกัดเป็นเพียงแค่หุ่นยนต์รับใช้ที่คอยรับคำสั่ง

ให้ล่าเนื้อมาถวายฝูงไฮยีน่าอย่างนี้ไงครับ” จงอินพูดนิ่งๆอย่างยิ้มเยาะเมื่อนึกถึงสิ่งที่รุ่นน้องในค่ายที่เป็น

เด็กปั้นที่เป็นสิทธิขาดของกรรมการสามคนนี้เคยโอดครวญให้ฟัง

“มันจะมากไปแล้วนะคิมไค!!!” กรรมการมุนลุกขึ้นชี้หน้าและตะคอกจงอินอย่างโกรธจัด

“พรุ่งนี้ที่ห้องนี้ตอนสิบโมงเช้าช่วยนำเอกสารสัญญามาให้ครบถ้วนเรียบร้อยด้วยนะครับ ผมเองก็จะ

มาพร้อมกับทนายของบริษัทและเงินสดตามจำนวนที่เราได้ตกลงกันนะครับ หมดธุระของพวกคุณแล้ว

เชิญ!! ออกไปได้เลยครับเพราะเรื่องที่จะประชุมต่อไปนี้ไม่อนุญาติให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับรู้!!”   

จงอินไม่ได้สนใจคำพูดและท่าทางที่ไม่พอใจอย่างมากของกรรมการมุนแต่อย่างใด แถมยังไล่โดยใช้

คำพูดและสายตาทำนองเดียวกันกับที่กรรมการมุนใช้พูดและมองเหมือนกับตอนแรกที่จงอินเดินเปิด

ประตูเข้ามาในห้องประชุมแห่งนี้

“แล้วพวกฉันจะนั่งนับวันรอดูความพินาศของพวกนายและค่ายเพลงเฮงซวยนี่!!!!” กรรมการมุนตวาด

เสียงดังอีกครั้งก่อนที่จะพาพักพวกอีกสองคนเดินกระแทกเท้าปึงปังออกไปด้วยความไม่พอใจ
.
.
.
.
.
{มีต่ออีกข้างล่างอีกนิดค่ะ}
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 25 (17.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 17-09-2015 21:52:46
     ปึง!!!!!!!!!! 

 

“เอ่อ..ผมต้องออกไปด้วยหรือเปล่าครับท่านประธาน” ซิ่วหมินถามขึ้นเมื่อสิ้นเสียปิดประตูอย่างแรง

หลังจากที่กรรมการทั้งสามคนเดินออกไป

“ไม่ต้องหรอก อย่างไงนายก็เป็นผู้จัดการของคิมไค เดี๋ยวเราจะคุยเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นตอนนี้ด้วยเลย

 เลขาจองช่วยจัดการเรียกหัวหน้าฝ่ายทุกฝ่ายมาประชุมเรื่องข่าวของคิมไคที่ห้องนี้ในอีกสามสิบนาที

ข้างหน้านี้ด้วย” ประธานโอบอกกับมินซอกก่อนที่จะหันไปสั่งงานกับเลขาตัวเองที่นั่งอยู่ข้างๆ

“ครับ//ค่ะ” มินซอกและเลขาสาวพูดตอบรับพร้อมกัน ก่อนที่มินซอกจะนั่งลงเก้าอี้ว่างข้างๆจงอิน

ส่วนเลขาสาวของประธานโอนั้นเดินออกไปจากห้องประชุมเพื่อที่จะไปทำตามคำสั่งของประธานโอ

“ทั้งหมดนี่มันหมายความว่ายังไงไค นายไปรู้เรื่องอะไรมาและนายถือสิทธิครองหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นนี้

มาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมฉันถึงไม่รู้” ประธานโอพูดขึ้นทันทีที่เลขาสาวออกไป ตอนนี้ทั้งห้องประชุมใหญ่

แห่งนี้ก็เหลือเพียงประธานโอ จงอินและมินซอกเท่านั้น

“ตอนนั้นผมเพิ่งเดบิวต์ได้แค่สองปีเองครับ ก่อนที่รองปาร์คจะลาออกไปจากบริษัทเขาก็เข้าไปคุยกับผม

ที่ห้องซ้อมตอนที่ผมมกำลังซ้อมเต้นอยู่น่ะครับและรองปาร์คก็เสนอขายหุ้นทั้งหมดที่เขามีให้กับผมเอง

โดยที่เขาบอกว่าตอนนั้นเขาเดือดร้อนและจำเป็นต้องใช้เงินแต่ไม่อยากขายหุ้นให้กับกรรมการทั้งสามคน

เพราะเขาไม่อยากให้บริษัทนี้ต้องมลายหายไปเพราะโดนยักยอกโกงกินจากคนเห็นแก่ตัวเพราะเข้าก็รัก

และผูกพันกับบริษัทนี้มากเหมือนกับที่นี่เป็นบ้านของเขาเอง” จงอินเริ่มพูดออกมาให้ประธานโอได้ฟัง

“แล้วทำไมเขาถึงไม่มาพูดคุยหรือปรึกษากับฉันเองแทนที่จะเป็นนายล่ะ” ประธานโอถามด้วยความสงสัย

“ผมก็ถามเขากลับไปแบบนั้นเหมือนกัน แต่เขาบอกว่าเขาไปคุยกับท่านแล้วและตอนนั้นท่านก็บอกกับ

รองปาร์คว่าตัวท่านเองก็เดือดร้อนเหมือนกันเลยไม่สามารถช่วยรองปาร์คได้ เขาก็เลยตัดสินใจมาเสนอ

ขายหุ้นให้กับผมแทนเพราะคิดว่าผมคงจะผูกพันกับบริษัทนี้เหมือนกันกับเขาเพราะผมอยู่ที่นี่มานาน

อีกทั้งตอนนั้นผมเองก็พอจะมีกำลังทรัพย์มากพอที่จะซื้อหุ้นต่อจากเขาในราคาที่ไม่สูงมากนัก ถ้าเกิด

ท่านไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดออกไปท่านเองก็ลองคิดดูดีๆซิครับว่ารองปาร์คนั้นเคยเข้าไปปรึกษากับท่าน

ก่อนที่จะมาเสนอขายให้ผมหรือป่าว” จงอินพูดพลางบอกให้ประธานโอคิดตามในสิ่งที่ตนพูดถึงสิ่งที่

ประธานโออาจจะหลงลืมไปชั่วขณะ

“อืม…ฉันเข้าใจแล้ว ตอนนั้นฉันไม่พร้อมที่จะช่วยใครหรือคิดเรื่องอะไรจริงๆนั่นแหละ” ประธานโอบอก

หลังจากที่พยายานึกย้อนกลับไปว่ารองปาร์คนั้นได้มาคุยกับตนก่อนหรือป่าวและก็เป็นอย่างที่จงอินบอก

จริงๆเมื่อนึกขึ้นได้ อาจจะเป็นเพราะช่วงนั้นมีหลายๆเรื่อง หลายๆปัญหาที่ประเดประดังเข้ามารุมเร้าเข้ามา

เลยทำให้ตัวเองนั้นได้หลงลืมไป

“เป็นเพราะเรื่องที่ท่านตรวจพบว่าตัวเองเป็นโรคหัวใจหรือป่าวครับถึงสามารถทำให้ท่านปล่อยปละละเลย

เรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับบริษัทที่ตัวเองรักอย่างนี้น่ะครับ” จงอินถามขึ้นด้วยเสียงที่เรียบนิ่งและมองประธานโอ

อย่างคาดคั้นแต่ไม่ได้ก้าวร้าวแต่อย่างใด

“นี่ นี่นาย นายรู้” ประธารโอถามอย่างตะกุกตะกักด้วยความตกใจ เมื่อจงอินพูดในสิ่งที่เขานั้นพยายามปิดบัง

ไม่อยากให้ใครรู้และไม่เคยมีใครได้รู้แม้แต่ภรรยาคู่ทุกคู่ยากอย่างคุณนายคิมก็ตามเพราะเขาไม่อยากให้ใคร

เป็นห่วงโดยเฉพาะโอเซฮุนลูกชายสุดที่รักและเขาสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าเข้ารักเซฮุนมากที่สุด

ถึงแม้ว่าจะมีจีซองเป็นหลานแล้วก็ตามแต่ยังไงเขาก็ยังรักเซฮุนมาที่สุด รัก รักมากกว่าคุณนายคิม รักมากกว่า

จุนมยอน ไม่ใช่ว่าเค้าไม่รักจุนมยอนเขาก็รักเหมือนกันเพราะจุนมยอนก็เป็นลูกของเขา แต่เพราะตัวเขานั้น

ผูกพันกับเซฮุนมากกว่าใครๆ เลี้ยงเซฮุนมาด้วยตัวเองตั้งแต่เกิดเพราะช่วงที่เซฮุนเกิดมาคุณนายคิมต้องไป

ช่วยงานกิจการทางบ้านของเธอเองและเอาจุนมยอนไปด้วย และจำเป็นที่จะต้องทิ้งเซฮุนไว้ให้ประธานโอ

เลี้ยงเพราะว่าที่ๆคุณนายคิมไปนั้นมันไม่พร้อมและไม่เหมาะกับเด็กอ่อนเลยทำให้ประธานโอต้องเป็นพ่อ

ลูกอ่อนตัวติดกับเซฮุนตลอดเวลา ครั้นจะให้จ้างพี่เลี้ยงก็ไม่ไหวและไม่ไว้ใจใคร บริษัทนี้เปิดมาพร้อมกับ

การเกิดของเซฮุน ช่วงแรกๆนั้นบริษัทนี้เล็กมากแม้แต่ตำแหน่งแม่บ้านยังไม่มีใครกล้ามาสมัครเลย เลยทำ

ให้ประธานโอต้องเริ่มงานตั้งแต่ตอนเช้ามืดด้วยตำแหน่งพ่อบ้านกวาดถูบริษัทตัวเองโดยที่มีเซฮุนอยู่ใน

ห่อผ้าคาดไว้กับหลังตัวเอง สายหน่อยก็ไปนั่งรับสมัครพนักงานรับสมัครเด็กฝึกพร้อมกับที่กล่อมเซฮุนนอน

ตกเย็นก็ขึ้นไปแต่งเพลงบนห้องอัดพร้อมกับเสียงอ้อแอ้ของเซฮุน พอเซฮุนโตขึ้นหน่อยก็สอนเซฮุนร้องเพลง

ด้วยตัวเอง สอนเซฮุนเต้นด้วยตัวเอง ยิ่งเห็นเซฮุนชอบและสนุกไปกับสิ่งที่เขายิ่งมีความสุขและยังจำสิ่งที่

เซฮุนพูดกับเขาในตอนที่เซฮุนมีอายุเพียงแปดขวบได้เป็นอย่างดี

‘ฮุนจะเป็นนักร้องที่ดี เต้นเก่งๆอย่างคุณพ่อฮะ’ และนั่นทำให้เขายิ่งรักและภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้มาก

จนเกิดเรื่องที่เซฮุนตั้งท้องจีซองนั่นแหละถึงทำให้เขาปั้นปึ่งใส่เซฮุนและไม่พูดคุยกันได้อย่างสนิทใจ

เหมือนอย่างเมื่อก่อน จะว่าเขาเป็นคนยึดติดก็ได้แต่ที่เขาเป็นอย่างนี้ก็เพราะว่าเขาหวังมากเกินไปและ

ไม่ยอมปล่อยวางว่ามันเป็นเพียงคำพูดที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แต่เชื่อเถอะว่าโอเซฮุนคือ

คนที่เขาให้ความสำคัญและห่วงความรู้สึกของเจ้าตัวมากกว่าใครๆทั้งหมด เลยไม่ยอมบอกเรื่องที่

ตัวเองเป็นโรคหัวใจให้ใครรู้เพราะกลัวว่าถ้าเซฮุนรู้แล้วจะโทษว่าเป็นความผิดตัวเองอีก ทั้งๆที่มันไม่ใช่

เพราะว่าเซฮุนเป็นคนคิดมาก ยิ่งตอนนี้เซฮุนกำลังตั้งท้องหลานอีกคนอยู่ยิ่งบอกไม่ได้เด็ดขาด

“ครับผมทราบมาได้ซักพักแล้ว เพราะผมบังเอิญไปเจอกระปุกยาของท่านตกอยู่ในตระกร้าของเล่น

จีซอง แต่ผมไม่รู้หรอกนะครับว่ามันไปตกอยู่ในนั้นได้ยังไง ผมอยากจะคุยเรื่องนี้กับท่านหลายครั้งแล้ว

แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้อยู่คุยกับท่านตามลำพังเสียที” จงอินพูดบอก

 

“อย่าบอกใครได้ไหม อย่าบอกได้หรือป่าว ถือว่าฉันขอร้อง” ประธานโอพูดบอกด้วยเสียงที่อ่อนแรง

“เพราะอะไรหรือครับ ทำไมท่านถึงไม่ยอมบอกใคร พวกเราทุกคนเป็นห่วงท่านมากนะครับ ไม่ว่าจะ

เป็นคุณแม่ พี่จุน จีซอง เซฮุนหรือแม้แต่ผมเองก็รักและเป็นห่วงท่านเหมือนพ่อคนนึงถึงแม้ว่าท่านจะ

ไม่ยอมรับก็เถอะ” จงอินบอกเสียงดังก่อนจะเบาลงเมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ของตนและประธานโอ

“ก็เพราะฉันไม่อยากให้ใครเป็นห่วฉันอย่างที่นายเป็นนี่ไงโดยเฉพาะเซฮุน นายเป็นสามีเซฮุนายก็รู้นี่ว่า

เมียนายเป็นคนยังไง เซฮุนจะต้องโทษตัวเองแน่ๆถ้ารู้ว่าฉันป่วยเป็นอะไรถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ความผิดของ

เจ้าตัวก็ตาม ขอร้องเถอะไคถ้านายบอกว่ารักและเคารพฉันเหมือนพ่อตัวเองจริงๆ อย่าบอกเรื่องนี้ให้

คนอื่นรู้เลยนะ” ประธานโอพูดพลางขอร้อง

“ผมจะไม่บอกใครตามที่ท่านขอร้องก็ได้ครับ แต่ผมขอท่านกลับบ้างได้หรือป่าวครับ ถ้าผมจะขอให้ท่าน

เข้ารับการรักษาอย่างจริงจังได้ไหมครับ ผมรู้มาว่าท่านไม่ยอมเข้ารับการผ่าตัดทั้งๆที่มันเป็นทางเดียว

ที่สามารถทำให้ท่านดีขึ้น ท่านไม่อยากอยู่ถึงวันที่เห็นจีซองได้เติบโตและประสบผลสำเร็จในการเป็น

ศิลปินตามที่เจ้าตัวเขาบอกว่าจะเป็นนักร้องเพื่อคุณตาของเขาหรอครับ ท่านไม่อยากเห็นวันที่จีซองได้

รางวันนักร้องยอดเยี่ยมและตะโกนอยู่บนเวที่ว่าคุณตาครับจีซองทำได้แล้วครับ ท่านไม่อยากเห็นหรอครับ

ตอนนี้จีซองสีขวบกว่าๆยังไม่เต็มห้าขวบเลยจีซองก็เริ่มขอเซฮุนให้พาไปเข้าคอร์สเรียนเต้นเรียนร้องเพลง

พอผมมาซ้อมที่บริษัทจีซองก็ตามมาด้วยและขอให้ผมสอนเขาด้วย แต่พอผมหรือเซฮุนถามว่าจีซองอยาก

เป็นนักร้องหรอ?‘จีซองก็บอกว่าป่าวฮะ แต่จีซองจะเป็นนักร้องเพื่อคุณตาเพราะคุณตาบอกว่าคุณตาเคย

อยากเป็นนักร้องแต่ก็ไม่ได้เป็นจีซองก็เลยจะเป็นนักร้องแทนคุณตาเอง’ นั่นคือทั้งหมดที่ออกมาจากปาก

ของจีซองเองจริงๆนะครับถ้าท่านไม่เชื่อถามพี่เลย์ก็ได้ครับว่าพี่เลย์เคยสอนจีซองเต้นและเคยได้ยินจีซอง

พูดแบบนั้นหรือป่าวเพราะพี่เลย์เองก็เคยถามแบบที่ผมและเซฮุนถามเหมือนกัน เมื่อรู้อย่างนี้แล้วท่านจะ

ใจอ่อนยอมรักษาตัวเองตามที่ผมบอกหรือป่าว ท่านจะทำลายความหวังความตั้งใจของหลานชายท่านเอง

หรือครับในเมื่อตัวท่านเองก็รู้ว่าความรู้สึกนั้นมันแย่แค่ไหน หรือถ้าไม่คิดว่าทำเพื่อตัวเองหรือจีซองก็คิด

เสียว่าทำเพื่อโอเซฮุนคนที่ท่านรักมากที่สุดเถอะนะครับ ผมขอร้อง” จงอินพูดจบก็ลุกขึ้นไปนั่งคุกเข่า

ขอร้องอยู่ตรงหน้าประธานโอ

“เฮ้อ!! นายนี่มันจริงๆเลยนะคิมไค นายคิดว่านายเป็นลูกเขยฉันแล้วจะพูดหรือบังคับอะไรฉันก็ได้อย่าง

นั้นหรือ” ประธานโอเอ่ยออกมาเสียงนิ่ง

“ผมไม่ได้คิดอย่างนั้นนะครับ!!” จงอินเถียงขึ้นทันทีเมื่อคิดว่าประธานโอกำลังเข้าใจความหวังดีของ

ตัวเองผิดไป

“ก็ได้ๆ ฉันยอมเข้ารับการผ่าตัดก็ได้ แต่ฉันยอมทำเพื่อลูกชายกับหลานของฉันหรอกนะไม่ได้ยอมเพราะ

คำพูดขอร้องของนาย อย่าเข้าใจผิดไปเสียล่ะคิมไค และก็อย่าลืมด้วยที่นายสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับ

ใครเป็นอันขาด และก็ลุกไปนั่งที่นายได้แล้วจะถึงเวลาประชุมเรื่องข่าวของนายละ” ประธานโอบอก

พลางเบือนหน้าหันหนีไปอีกทางที่เป็นทิศตรงข้ามกับจงอิน

“ครับๆ ผมจะจำไว้ให้ขึ้นใจครับคุณพ่อตา” จงอินลุกจากพื้นขึ้นไปนั่งที่ตนเองเหมือนเดิมก่อนที่จะพูดแซว

ประธานโอเมื่อแอบเห็นว่าหูและหน้าของประโอนั้นแอบแดงน้อยๆเหมือนกับเขินหรืออายอะไรสักอย่าง

...

ตอนนี้ให้พ่อตากับลูกเขยเค้ายอมรับกันอย่างจริงๆจังๆเสียหน่อย

หลังจากที่ปั้นปึ่งกันมานานทั้งๆที่เหมือนจะยอมรับแล้วแต่ก็ไม่

พรุ่งนี้เรามาลุ้นกันดีกว่าค่ะว่าจะมีปัญหาอะไรอีกบ้างที่รอคุณป๋าซุปตาร์อยู่
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 25 (17.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 17-09-2015 22:22:02
จะกี่ปัญหาก็ไม่หวั่น เพราะจงอินเองก็พร้อมสู้เสมออยู่แล้วล่ะเนอะ ^__________^
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 25 (17.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 17-09-2015 22:27:33
เป็นอย่างที่คิดจงอินมีหุ้นบริษัท 20% จริงๆ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 25 (17.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 17-09-2015 22:34:06
เพิ่งจะได้เข้ามาอ่านเอาตอนใกล้จบ  :katai5:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 25 (17.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-09-2015 23:29:43
พระเอกมาก
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 25 (17.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: s.mosis ที่ 18-09-2015 01:17:11
เปิดเผยไปเลยแฟนคลับน่าจะเข้าใจได้นะ ร้านขนมจะได้ดังๆ เพราะแฟนคลับไปนั่งกินกันเยอะๆ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 25 (17.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 18-09-2015 05:38:13
เดี๋ยวไปโบกป้ายไฟให้กำลังใจหน้าบริษัทเลยค่ะ!!!!
คิมไคสู้ๆ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 25 (17.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 18-09-2015 11:49:43
หล่อมาก ๆ พระเอกคิมไค สู้เพื่อลูกเมีย
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 26 (18.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 18-09-2015 18:29:52
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 26

 

 

 

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

 

     “ขออนุญาตค่ะท่านประธาน ตอนนี้หัวหน้าฝ่ายทุกท่านมาคบทุกแผนกหมดแล้ว” เสียงของเลขาสาว

ดังขึ้นมาพร้อมกับเจ้าตัวที่เปิดประตูเข้ามา

 

     “อืม ให้ทุกคนเข้ามาได้เลย” ประธานโอตอบรับเบาๆก่อนที่หัวหน้าฝ่ายแต่ละฝ่ายภายในบริษัทจะทยอย

เดินเข้ามาในห้องประชุมและนั่งประจำที่ตนเองทีละคน ส่วนไคกับมินซอกนั้นก็ต้องย้ายไปนั่งตรงหัวโต๊ะ

ข้างประธานโอเพราะเรื่องที่จะประชุมกันต่อไปนี้คือเรื่องข่าวของจงอินที่หลุดออกมา

 

     “เอาล่ะ! เรามาเริ่มกันเลย ก็อย่างที่รู้ๆกันนะว่าเมื่อกลางดึกที่ผ่านมานั้นมีข่าวของคิมไคเรื่องที่มีลูก

และภรรยาแล้วหลุดออกมา และมันก็เป็นเรื่องจริงที่ว่าคิมไคนั้นมีลูกและภรรยาแล้วไม่ใช่เพียงแค่

ข่าวลืออย่างที่ผ่านๆมา ผมเลยอยากจะขอความคิดเห็นจากพวกคุณ ใครมีความคิดอะไรดีๆที่พอจะเสนอ

ผมบ้างไหม เพราะคิมไคต้องการจะแถลงข่าวยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมดไม่คิดที่จะปฏิเสธแต่อย่างใด

อย่างน้อยๆสิ่งที่ผมต้องการก็คือหนทางที่จะทำให้คิมไคและครอบครัวหรือทางบริษัทของเราได้รับความ

เสียหายและผลกระทบให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้” ประธานโอเปิดประเด็นขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าทุกคนใน

ห้องประชุมพร้อมกันหมดแล้ว

 

     “ผมขอถามได้ไหมครับ” หัวหน้าฝ่ายการสอนการแสดงที่เป็นลูกครึ่งยกมือถามขึ้น

 

     “ถามมาได้เลยเจอา” ประธานโอเอ่ยอนุญาต

 

     “ที่เขาบอกว่าภรรยาของคิมไคคือลูกชายคนเล็กของท่านจริงหรือป่าวครับ” คำถามที่เจอาถามขึ้น

เรียกเสียงฮือฮาจากคนในห้องประชุมได้เป็นอย่างมาก เพราะบางคนก็ยังไม่รู้หรือคนที่รู้ก็ไม่คิดว่าจะ

มีใครกล้าถามออกมาตรงๆอย่างนี้

 

     “อืม ก็อย่างที่คุณพูดมานั้นแหละ แต่ผมไม่รู้หรอกนะว่าสิ่งที่คุณรู้หรือได้ยินมามันจะเป็นความจริง

มากน้อยแค่ไหน เพราะฉะนั้นผมจะอธิบายให้พวกคุณทุกคนฟังพร้อมๆกันทีเดียวครั้งเดียวตกลงไหม”

ประธานโอพูดออกมาเมื่อคิดว่าคนที่รู้นั้นอาจจะรู้มาจากไหนสักที่แต่ก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน ใส่สีตีไข่

ไปมากแค่ไหน เลยตัดสินใจที่จะบอกความจริงให้ทุกคนฟัง

 

     “ครับ/ค่ะ” ทุกคนตอบรับพร้อมกันอย่างพร้อมเพียงเพราะความอยากรู้

 

     “ลูกชายคนเล็กของผมคือภรรยาของคิมไคนั้นคือเรื่องจริง คิมไคเป็นลูกเขยผมนั่นก็จริง แต่เค้าทั้ง

สองคนคบกันรักกันตั้งแต่ตอนที่เป็นเด็กฝึกอยู่ด้วยกันที่นี่และตอนนั้นยังไม่มีใครรู้ว่าโอเซฮุนคือ

ลูกชายคนเล็กของผมแม้แต่คิมไคเองก็ตาม ที่ฉันพูดมาทั้งหมดนี่คือความจริงใช่มั้ยเลย์ ใช่มั้ยมินซอก

ใช่มั้ยจงแดเพราะพวกนายทั้งสามคนคือคนดูแลและที่สนิทกับไคและเซฮุนที่สุด พวกนายรู้ใช่มั้ยว่า

พวกเค้าพักอยู่หอพักเด็กฝึกด้วยกัน รู้ใช่มั้ยว่าพวกเค้าทั้งสองคนคบกันโดยที่พ่อแท้ๆควบด้วยตำแหน่ง

ประธานบริษัทอย่างฉันเนี่ยไม่เคยได้รู้เลยว่าลูกชายแท้ๆกับเด็กในสังกัดที่กำลังจะปั้นขึ้นมานั้นมี

ความสัมพันธ์กันไปขนาดไหน ที่ฉันพูดออกมาเนี่ยจริงหรือป่าว เลย์ มินซอก จงแด” ประธานโอพูด

ออกมาพร้อมกับถามบุคคลทั้งสามอย่างมินซอกและจงแดที่เป็นคนดูแลจงอินและเซฮุนในตอนนั้น

และเลย์ที่เป็นครูสอนเต้นที่สนิทและรู้แทบจะทุกเรื่องของจงอินและเซฮุน และแน่นอนว่าทั้งสามคน

นั้นรับรู้มาตลอดว่าเด็กในความดูแลทั้งสองคนคบอยู่ในสถานะไหนแต่ก็ไม่มีใครพูดห้ามหรือว่าแต่

อย่างใดเพราะทั้งจงอินและเซฮุนนั้นช่วยกันผลักดันกันและกันให้ได้ดีและพัฒนาฝีมือขึ้นอยู่ทุกวัน

โดยที่ไม่เคยพากันเบี้ยวซ้อมหรือพากันเกเรแต่อย่างใด

 

     “จริงครับ/จริงครับ/จริงครับ” มินซอก จงแดและเลย์ตอบออกมาอย่างพร้อมเพียงกัน

 

     “แล้วหลังจากนั้นท่านก็ไม่รู้หรอครับถึงได้ปล่อยให้คิมไคได้เดบิวต์ออกมาจนถึงทุกวันนี้”

หนึ่งในผู้ร่วมประชุมคนนึงยกมือถามขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะตอนนี้สีหน้าของประธานโอนั้นไม่ดีเลย

 

      “คุณคิดว่าถ้าตอนนั้นผมรู้แล้วผมจะปล่อยให้ไคออกมาเป็นคิมไคอย่างทุกวันนี้หรอ หรือคิดว่าผมจะ

หลอกหาผลประโยชน์จากลูกเขย ถ้าพวกคุณคิดอย่างนั้นผมบอกไว้เลยว่าไม่มีทาง ต่อให้สิบปีจะมีซักคน

ที่เป็นเด็กที่เพียบพร้อมทั้งพรสวรรค์พรแสวงอย่างคิมไค คนอย่างผมก็พร้อมที่จะโยนโปรเจคร้อยล้านนั่น

ทิ้งทันทีถ้าหากมันจะต้องมาแลกกับความเดือดร้อนของลูกและหลานผมอย่างนี้  แต่เพราะว่าผมมารู้เรื่องนี้

เอาเสียตอนที่สายไปและไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้แล้วยังไงล่ะผมถึงต้องปล่อยผ่านทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

อย่างทุกวันนี้ เอาล่ะผมเล่าให้พวกคุณฟังได้เท่านี้เพราะมันเป็นเรื่องภายในครอบครัว ใครมีอะไรจะเสนอ

ผมไหมครับ” ประธานโอพูดเสียงแข็งเมื่อเผลอนึกไปถึงวันที่เขารู้ว่าเซฮุนท้องซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เขาเรียก

จงอินเข้าไปคุยเรื่องการเดบิวต์เป็นศิลปินของเจ้าตัวพลางคิดไปว่าอาจจะเป็นเพราะความผิดของเขาเองก็ได้

ที่ทำให้ลูกต้องเสียใจ ทำให้หลานต้องกำพร้าพ่อ ทำให้สามีภรรยาเค้าต้องแยกจากกันถึงแม้จะแค่ในช่วง

เวลาเพียงแค่ไม่กี่ปีก็ตาม

 

     “ทำเรียลลิตี้การเป็นอยู่ของครอบครัวไคสิครับ” และก็เป็นเลย์ที่เสนอออกมาหลังจากที่ทุกคนนั่งจมอยู่

กับความคิดของตัวเองหลังจากที่ประธานโอพูดจบไปเมื่อสักครู่ใหญ่ๆ

 

     “เรียลลิตี้เนี่ยนะ?” ประธานโอถามเลย์กลับ

 

     “ครับ! เรียลลิตี้  แบบประมาณว่าไปติดกล้องไว้ที่บ้านของไคเพื่อดูความเป็นอยู่ของครอบครัวไค

ให้แฟนคลับหรือคนดูทางบ้านได้เห็นในอีกมุมนึงที่ต่างออกไปของคิมไค ได้เห็นคิมไคในบทบาทของ

สามีที่ดีและคุณพ่อที่อบอุ่นและน่ารักอะไรประมาณนี้แหละครับและถ่ายทอดออกไปก่อนทางโทรทัศน์

สักช่อง เอาเป็นช่องที่มีคนดูแบบทุกเพศทุกวัยและช่วงเวลาที่คนในครอบครัวอยู่กันพร้อมๆหน้าด้วยนะ

ครับ โดยที่ไคยังไม่ต้องจัดแถลงข่าวอะไรออกไป” เลย์อธิบายเพิ่มให้ประธานโอและทุกคนที่อยู่ในห้อง

ประชุมนี้ได้เข้าใจ

 

     “นายจะบอกว่าให้ประชาชนได้รับรู้ความจริงเองและให้พวกเค้าได้ตัดสินใจเองว่าไคถูกผิดอย่างไร

อย่างนั้นหรอเลย์” คำถามนี้ออกมาจากรองจุนมยอนโปรดิวเซอร์คนเก่งของบริษัทหรือก็คือลุงจุนของ

ลูกหมูจีซองนั่นเองแต่ที่ไม่ได้เข้ามาประชุมคณะกรรมการผู้ถือหุ้นในตอนแลกก็เพราะว่าจุนมยอนไม่มี

หุ้นส่วนอยู่ในบริษัทแต่อย่างใดเป็นเพียงพนักงานที่ดำรงกำแหน่งรองประธานกรรมการเท่านั้นเอง

 

     “ใช่แล้วครับท่านรอง เราจะใช้ความเป็นธรรมชาติของไคและครอบครัวนี่แหละเป็นตัวยืนยันกับ

แฟนคลับและคนดูทั่วไปให้รู้ว่า ถึงแม้ว่าไคจะมีลูกและภรรยามีครอบครัวเป็นของตัวเอง แต่คิมไค

ก็จะยังคงเป็นคิมไคที่เป็นซุปเปอร์สตาร์คนเดิมเพียงแค่มีบทบาทหน้าที่ของการเป็นสามีและพ่อที่ดี

ในชีวิตเพิ่มขึ้นมาเท่านั้นเอง อย่างอื่นก็ยังคงเหมือนเดิม ร้องเพลงได้ รับงานแสดงได้หรือแม้แต่จะ

จัดเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตเหมือนครั้งที่ผ่านมาก็ได้เหมือนกัน” เลย์อธิบายต่อในสิ่งที่ตนคิดว่าน่าจะเป็น

     “แล้วถ้ามันไม่เป็นอย่างที่คุณคิดล่ะเราควรที่จะทำยังไงต่อไป” จุนมยอนถามต่ออีก

 

     “ถึงช่วงแรกอาจจะยังติดขัดและได้ผลลบมากกว่าผลบวกไปบ้างเพราะคนดูยังคงมีอคติและไม่ค่อย

ยอมรับเสียเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะว่าถึงเขาจะมีอคติมากแค่ไหนเขาก็ยังคงเปิดดูอยู่ต่อไปเพราะมีคิมไค

ศิลปินที่เค้าช้าเค้ารักยังไงล่ะครับ แต่พอเค้าได้เห็นความดีของเซฮุนและความน่ารักของจีซองพวกเค้า

ก็จะเปลี่ยนความคิดกันไปเอง หรือว่าคุณไม่มั่นใจในตัวจีซองหรอครับ? แต่ผมมั่นใจนะว่าลองใครได้

เห็นหรือได้ดูจีซองเป็นอันต้องตกหลุมรักทุกคน ขนาดผมไม่ชอบเด็กไม่ซิ ต้องบอกว่าผมเคยเกลียดเด็ก

ยังหลงรักจีซองหลานชายสุดที่รักของคุณเลยนะครับรองจุนมยอน ไม่แน่นะครับพอจบเรียลลิตี้นี้เราอาจ

จะได้ดาราหรือนักร้องเด็กในสังกัดเพิ่มขึ้นมาอีกคนก็ได้นะครับ” เลย์พูดบอกพลางยักคิ้วส่งไปให้จุนมยอน

อย่างกวนๆโดยที่ไม่ได้กลัวจุนมยอนอย่างที่พนักงานในบริษัทกลัวกันเลยเพราะเลย์กับจุนมยอนนั้นคือเพื่อน

ที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ประถมเลยยังไงล่ะ

 

     “เอาซิ! ฉันชอบความคิดนี้ของนายนะเลย์ คนอื่นว่ายังไงบ้าง เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยยังไงก็ค้านหรือ

เสนอความคิดเห็นได้เต็มที่เลย” ประธานโอถามความเห็นจากผู้ร่วมประชุมทุกคน

 

     “ฉันเห็นด้วยกับเลย์นะคะ/ใช่ๆผมก็เห็นด้วย/ถึงจะเสี่ยงแต่ก็คุ้มนะครับ” ทุกคนพูดออกมาทำนองเดียวกัน

ว่าเห็นด้วยในความคิดของเลย์ถึงแม้ว่ามันอาจจะเสี่ยงไปหน่อยเพราะว่าเหมือนกับการซื้อใจของคนดู

 

     “ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มวางแผนโปรเจคนี้กันเลย ว่าแต่เราจะเรียกโปรเจคนี้ว่าอะไรกันดี” ประธานโอถาม

ออกมาหลังจากที่ความคิดของทุกคนไปในทางเดียวกัน

 

     “รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์” มินซอกเผลอพึมพาออกมาเบาๆกับตัวเองแบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็ทำ

ให้หลายคนในห้องประชุมแห่งนี้ได้ยินและหันมองมินซอกด้วยความพร้อมเพียงกัน

 

     “เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะมินซอก ฉันได้ยินไม่ค่อยชัด” ประธานโอหันไปถามมินซอกทันจนเจ้าตัวสดุ้ง

เพราะมัวแต่นั่งจมอยู่แต่กับความคิดตัวเองเลยไม่ทันได้รู้ตัวว่าตอนนี้นั้นตัวเองเป็นที่สนใจขนาดไหน

 

     “อุ๊ย!! ตกใจหมดเลย  เมื่อกี้ท่านประธานถามผมว่าอะไรนะครับ” มินซอกที่เงยหน้าขึ้นมาถามประธานโอ

ต้องสดุ้งตกใจเพราะตอนนี้คนทั้งห้องประชุมจ้องมองเขาเป็นตาเดียวกันเลย

     “ฉันถามว่าเมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ” ประธานโอถามย้ำอีกครั้ง

 

     “เอ่อ ‘รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์’ ครับ” มินซอกพูดบอกอย่างไม่เต็มเสียงนัก ก็นะตั้งแต่

ทำงานมามินซอกคนนี้เคยเสนออะไรกับเค้าซะที่ไหนมีแต่รับฟังแล้วก็ทำตามเท่านั้นเอง มันก็ต้อง

มีเขินๆกันบ้างแหละน่า

 

     “ก็ดีนะครับท่านประธาน ผมว่าเราเริ่มเทปแรกของโปรเจคนี้ด้วยการย้อนวันวานช่วงสำคัญๆของ

คิมไคและภรรยาตั้งแต่ตอนที่ยังคงเป็นเด็กฝึกที่นี่จนเกิดเรื่องราวนาทีที่ผลิกผันชีวิตของทั้งสองคน

ดีไหมครับ นอกจากคนดูจะได้รู้ความจริงด้วยตัวเองแล้ว ยังอาจจะทำให้คนดูเลิกต่อต้านยอมรับได้

เร็วขึ้นกว่าเดิมเพราะว่าสงสารและเห็นใจทั้งสองคน พวกเขาจะได้หยุดด่าว่าเซฮุนเสียๆหายๆสักที

พวกเขาจะได้รู้สักทีว่าถ้าไม่ใช่เพราะการเสียสละของเซฮุนในวันนั้นก็คงจะไม่มีคิมไคคนที่พวกรัก

ในวันนี้อย่างแน่นอน” จุนมยอนเสนอความคิดของตัวเองด้วยน้ำเสียงแข็งๆเมื่อนึกไปถึงผลตอบรับ

ของข่าวที่ออกมา ที่เขาได้เข้าไปดูความคิดเห็นใต้เนื้อหาข่าวในอินเตอร์เน็ตนั้น ส่วนมากนั้นมีแต่

คนด่าเซฮุนอย่างเสียๆหายๆ ว่าว่าเซฮุนมาหลอกมั่งล่ะ จีซองไม่ใช่ลูกของไคเป็นลูกของคนอื่นที่เซฮุน

เอามาหลอกโมเมให้ไคเป็นพ่อบ้างล่ะ มันน่าโมโหนักหลอกบ้าหลอกบออะไรกัน ก็เห็นๆกันอยู่ว่าจีซอง

นั้นหน้าถอดบล็อกเดียวกันมาซะขนาดนั้นถ้าพูดว่าไม่ใช่ลูกเซฮุนนี่น่าเชื่อกว่ามั้ย โธ่!! นึกแล้วโมโห

 

    “แต่มันจำเป็นที่จะต้องเล่าเรื่องภายในครอบครัวให้คนอื่นรู้ขนาดนั้น และอีกอย่างนะครับตอนนี้เซฮุน

ก็ท้องลูกคนเล็กผมได้หกเดือนแล้วนะครับท้องก็โตมากเกินกว่าที่จะไปย้อนวันวานแล้วนะครับ” จงอินที่

นั่งฟังอยู่เงียบๆมานานก็แย้งขึ้นมาเพราะคิดว่าเรื่องแบบนี้มันไม่เหมาะสักเท่าไหร่ที่จะให้คนอื่นได้รับรู้

และอีกอย่างคือถ้าจำเป็นต้องให้คนอื่นได้รับรู้จริงๆแล้วจะทำอย่างไรในเมื่อตอนนี้เซฮุนนั้นท้องโตเสีย

ขนาดนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาแสดงบทบาทสมมุติเหมือนเมื่อตอนเป็นเด็กฝึก

 

     “ได้สิไค เทปแรกที่เราจะปล่อยออกไปให้คนดูได้ดูจะเป็นเพียงการแสดงบทบาทสมมุติโดยอ้างอิง

จากชีวิตจริงของนายและเซฮุนในตอนนั้นโดยใช้เด็กฝึกในค่ายที่เรามีอยู่ตอนนี้นี่แหละ เห็นไหมแค่นี้

ก็ไม่มีปัญหาแล้ว แถมยังได้โปรโมทเด็กในสังกัดเพิ่มอีกด้วย งานนี้เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกตั้ง

หลายตัว คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม” จุนมยอนอธิบายรายละเอียดเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

 

     “ฉันชอบความคิดนี้ของรองจุนนะ แล้วคนอื่นล่ะว่าไง มีใครจะคัดค้านอะไรอีกไหม ถ้าฉันจะเริ่ม

โปรเจค‘รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์’ นี้เลยน่ะ” ประธานโอถามขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ข้อเสนอที่

พอใจ และก็เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ว่าไม่มีใครค้านอะไรอีก หลังจากนั้นทุกฝ่ายก็ร่วมกันหาลือและ

เสนอความคิดเห็นกันอย่างจริงจังจนได้ผลสรุปที่ทุกคนต่างพอใจ และมีแผนการที่จะเริ่มถ่ายทอด

เทปแรกของโปรเจค ‘รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์’ ในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าโดยมีคิมไคเป็น

คนเขียนบทและควบคุมการกำกับในเทปแรกนี้ด้วยตัวเองและจะเริ่มเข้าติดตั้งกล้องในบ้านของ

ซุปเปอร์สตาร์คิมไคในวันพรุ่งนี้และจะมีช่างกล้องของบริษัทติดตามไปแอบถ่ายด้วยเมื่อครอบครัว

คุณซุปเปอร์สตาร์มีกิจกรรมนอกบ้าน เรียกได้ว่าอยู่ในสายตาคนดูตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยแล้วกัน โดยงาน

นี้มีเพียงแค่คนในห้องประชุมในที่นี่เท่านั้น นั่นเท่ากับว่าหม่าม๊าเซฮุนและลูกหมูจีซองจะไม่มีทางรู้แน่ๆ

เพราะงานนี้จะไม่มีการจัดฉากหรือส่งมอบภารกิจใดๆนอกเสียจากชีวิตประจำวันของครอบครัวคุณ

ซุปเปอร์สตาร์คนดังเท่านั้น โปรเจคนี้คือเรียลลิตี้อย่างแท้จริง!!!

.

.

.

.

.

       เสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นดังขึ้นตามจังหวะการก้าวเดินของเจ้าของ เรียกความสนใจจากเลขาสาว

ทั้งสองคนที่นั่งอยู่คนละฝากฝั่งประจำหน้าห้องของเจ้านายตัวเองตัวเองต้องเงยหน้าขึ้นมองผู้ที่มาเยือน

ถึงชั้นบนสุดของ HK Entertainment แห่งนี้ที่มีเพียงสองห้องคือประธานบริษัทและรองประธานบริษัท

เท่านั้น แล้วงานนี้ชายหนุ่มสุดหล่อแว่นดำที่แต่งตัวเต็มยศด้วยชุดสูทแบบไม่เป็นทางการที่แสนดึงดูดใจ

เพราะรูปร่างของคนสวมใส่ที่เดินมาพร้อมกับทิวลิปช่อโตในมือนี้ต้องการที่จะมาพบใครกันระหว่าง

ท่านประธานกับท่านรองประธานที่มีอยู่สองคนในชั้นบนสุดนี้     

 

     “เอ่อ…ผมจะมาขอพบคุณคิมจุนมยอนน่ะครับไม่ทราบว่าเขาอยู่ห้องไหน” และไม่ต้องเสียเวลาเดา

กันมากมายเมื่อแขกผู้มาเยือนแสดงเจตจำนงว่าต้องการพบใคร

 

     “ท่านรองจุนมยอนอยู่ห้องนี้ค่ะ” เลขาสาวประจำห้องของจุนมยอนเป็นคนพูดบอกเมื่อรู้แล้วว่าแขก

สุดหล่อคนนี้มาพบเจ้านายของเธอ

 

     “ผมขอเข้าไปพบเขาได้ไหมครับ เขาว่างหรือป่าว” เขาถามเธออีกครั้งด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์

 

     “ท่านรองให้คุณเข้าพบได้เลยค่ะ” เลขาสาวบอกทันทีที่วางสายโทรศัพท์หลังจากโทรเข้าไปแจ้งให้

เจ้านายได้ทราบว่ามีแขกขอเข้าพบ

 

     “ขอบคุณมากๆนะครับคุณเลขาคนสวย” ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปพบเจ้าของห้องแขกสุดหล่อก็ไม่ลืม

ที่จะหันมาขอบคุณเลขาสาวหน้าห้องทั้งสองคนโดยการดึงแว่นกันแดดที่ใส่มาลงนิดหน่อยและยักคิ้วแบบ

เท่ๆอย่างที่เจ้าตัวชอบทำส่งให้เลขาสาวทั้งสองคน

 

     “กรี๊ดดด…นั่นมันๆ/กรี๊ดดด…ปาร์คชานยอลนี่ อ๊ายยยย >//<” พอได้รู้ว่าแขกผู้มาเยือนคือใครก็ทำเอาเลขา

สาวหน้าห้องทั้งสองคนแทบจะสติแตกเมื่อเห็นแร๊พเปอร์สุดหล่อกับตาตัวเองแบบใกล้ๆ

.

.

.

.

     “ใจคอคุณจะไม่เงยหน้าขึ้นมารับแขกหน่อยหรอครับที่รัก” ชานยอลเอ่ยทักแบบเย้าๆเมื่อเห็นว่าเจ้าของ

ห้องก้มหน้าก้มตาอยู่กับเอกสารบนโต๊ะทำงานโดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าตัวเองนั้นเข้ามาแล้ว

 

     “นี่..นาย..นายมาได้ยังไงน่ะ…ใครให้นายเข้ามาในนี้…แล้วยามหน้าบริษัทปล่อยให้นายที่เป็นศิลปิน

ของบริษัทคู่แข่งอย่างนี้ได้ยังไง แล้วๆ” จุนมยอนรัวคำถามใส่ทันทีเมื่อเห็นว่าแขกผู้มาเยือนคือใคร

 

     “ใจเย็นๆสิครับที่รัก เอาทีละคำถามสิ ถามรัวแบบนี้ผมตอบไม่ทันนะ! เอาคำถามแรกเลยก็แล้วกันที่

ถามว่าผมมายังไง ผมขับรถมาครับเสร็จงานอีเวนท์ผมก็ตรงมาหาที่รักเลยนะเนี่ย พอถึงหน้าตึกบริษัทคุณ

ผมก็บอกยามข้างล่างว่าผมมาพบรองจุนมยอนแฟนของผม เขาก็ให้ผมเข้ามาเลย และคุณก็เป็นคนอนุญาต

เลขาหน้าห้องให้ผมเข้ามานี่แหละครับที่รัก” ชานยอลพูดบอกเหมือนเรื่องปกติธรรมดาพลางนั่งลงเก้าอี้

ตรงหน้าโต๊ะทำงานของจุนมยอนโดยที่เจ้าของยังไม่ทันที่จะได้อนุญาต

 

     “ที่รง ที่รักอะไร อย่ามาพูดพล่อยๆนะไอ่นักร้องหูกางหน้าหม้อ!! ฉันไม่ใช่ที่รักของนายมาทางไหนก็

กลับไปทางนั้นเลยที่นี่ไม่ต้อนรับคู่แข่งอย่างนาย” จุนมยอนแหวใส่ทันทีที่ชานยอนเรียกตัวเองว่าที่รัก

และพูดเหมือนว่าเค้าทั้งสองคนคบกัน ในใจก็นึกโทษโกรธตัวเองที่ไม่ยอมถามเลขาหน้าห้องให้ละเอียด

เสียก่อนที่อนุญาตให้ชานยอนเข้ามาในห้องทำงานตนได้ง่ายๆ

 

     “เอาน่า..ถึงตอนนี้จะไม่ใช่แต่อีกไม่นานเราจะได้เป็นแฟนกันจริงๆแน่นอนเชื่อผมสิ หัดเรียกไว้ก่อน

ให้ชินปากก็ไม่เสียหายอะไรหรอกนะครับ และที่ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อจะมาหาความลับอะไรของบริษัท

คุณหรอกไม่ต้องกังวลไป ผมมาที่นี่ในฐานะปาร์คชานยอลคนธรรมดาๆไม่ใช่แร๊พเปอร์ปาร์คชานยอล

ซะหน่อย และที่สำคัญ ‘ผม จะ มา จีบ คุณ’ อย่างจริงจังตามที่คุณต้องการไงครับที่รัก” ชานยอนพูดบอก

แบบสบายๆก่อนที่จะลุกขึ้นใช้แขนเท้าโต๊ะทำงานของจุนมยอนพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆจุนมยอนและ

พูดเน้นทีละคำในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจมาในวันนี้

 

     “เอาหน้าหม้อๆหูกางๆของนายออกไปไกลๆฉันเลยนะไอ้บ้า!!!” จุนมยอนตะโกนใส่ชานยอนพร้อม

กับพยายามใช้สองมือผลักหน้าชานยอลให้ออกห่างจากหน้าตัวเอง

 

     “นี่คุณจะเลิกงานหรือยังอ่ะ นี่มันก็เย็นมากแล้วนะ ผมหิวข้าวแล้วอ่ะ เราไปทานข้าวกันเถอะ ผมเลี้ยงเอง

นี่ตั้งแต่เช้าผมยังไม่ได้ทานอะไรเลยนะ เลิกงานก็ตรงมาหาคุณเลย คุณไปทานข้าวกับผมเถอะนะ” ชานยอล

ถอยออกมานั่งเก้าอี้ที่เดิมเหมือนกับตอนแลก ก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยและตีเนียนชวนจุนมยอนไปทานข้าว

ด้วยซะงั้น ทำเอาจุนมยอนมึนไปเลยเพราะตามความคิดของชานยอลไม่ทัน

 

     “ไม่!! มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลยนะไอ่นักร้องหูกลาง ฉันไม่มีเวลาว่างไปกินข้าวกับนายหรอก

หรือต่อให้มีเวลาฉันก็ไม่ไปกับคนหน้าหม้อ โลเล เจ้าชู้ หลายใจ นายแน่นอน!!” จุมยอนหลุดตะหวาดใส่

ชานยอลเมื่อนึกถึงเรื่องราวระหว่างเค้าทั้งสองคนที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน

 

     “เรื่องนั้นมันไม่มีอะไรจริงๆนะจุนมยอน ทำไมคุณไม่ให้โอกาสผมได้อธิบายบ้างล่ะ ผมบอกแล้วไง

ว่าผมจริงจังมากแค่ไหนเรื่องของเรา” ชานยอลพูดบอกเสียงอ่อนอย่างเหนื่อยใจ

 

      “ออกไป!! ออกไป!! ฉันบอกให้นายออกไปไงปาร์คชานยอล ออกไปจากห้องทำงานฉันเดี๋ยวนี้!!”

ไม่ว่าตอนนี้ชานยอลจะทำหน้าเศร้าได้หน้าสงสารแค่ไหนมันก็ไม่ได้มีความหมายเลยในสายตาของ

จุนมยอนเพราะความโกรธ ความเสียใจนั้นบังตาบังใจจุนมยอนไปหมดแล้ว

 

     “โอเคๆ วันนี้ผมกลับก่อนก็ได้ แต่ผมจะมาหาคุณอีกอย่างแน่นอนและผมก็ยืนยันคำเดิม ว่าผมจริงจัง

มากในเรื่องของเราสองคน วันนี้คุณอาจจะยังไม่อยากเห็นหน้าผมสักเท่าไหร่หรือต่อให้ผมต้องง้อคุณอยู่

อย่างนี้ไปนานซักแค่ไหนผมก็จะไม่ยอมแพ้ ผมกลับก่อนล่ะ ดอกไม้นี่ผมตั้งใจเอามันมาให้คุณ คุณจะขว้าง

มันทิ้งหรือจะทำยังก็เรื่องของคุณเพราะมันเป็นของคุณ อย่ามันแต่ทำงานจนลืมเวลาทานข้าวนะจุนมยอน

ผมเป็นห่วง ดูแลตัวเองด้วยนะ ผมรักคุณนะครับที่รัก” ชานยอลพูดอย่างยอมแพ้เมื่อเห็นว่าฝืนดื้อดึงไปก็

พาลจะทะเลาะกันไปให้หนักกว่าเดิมซะอีก พลางยื่นทิวลิปช่อโตที่ตั้งใจเอามาให้อีกฝ่ายตั้งแต่แรกยื่นให้

จุนมยอนไปแต่จุนมยอนไม่ยอมรับชานยอลก็ได้แต่ถอนใจและวางช่อทิวลิปไว้ตรงหน้าจุนมยอนแทนก่อน

ที่จะพูดออกมาอีกสองสามประโยคที่ออกมาจากความรู้สึกข้างในจริงๆให้จุนมยอนฟังและเดินหันหลัง

ออกจากห้องทำงานของจุนมยอนไป

 

  ปึงงง

 

     จุนมยอนเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารหลังจากที่แกล้งทำเป็นก้มหน้าก้มตาสนใจอยู่นานเมื่อได้ยินเสียง

ปิดประตูดังขึ้นหลังจากปาร์คชานยอลออกไป ความจริงแล้วสมาธิของจุนมยอนไม่ได้จดจ่ออยู่กับเอกสาร

อย่างที่ตัวเองแสดงออกมาหรอก เพราะถึงแม้ว่าตาจะจ้องมองเอกสารงานที่วางอยู่ตรงหน้าแต่สมาธิทั้งหมด

ของจุนมยอนนั้นจดจ่อตั้งใจฟังอยู่กับคำพูดทุกคำพูดของปาร์คชานยอลทั้งนั้นแหละ

 

     “นายมันเป็นไอ่บ้าของแท้เลยปาร์คชานยอล ที่กล้าเดินเข้ามาในบริษัทคู่แข่งของตัวเองอย่างนี้ แล้วฉัน

จะสามารถเชื่อคำพูดของคนอย่างนายได้มากน้อยแค่ไหนกัน” จุนมยอนหยิบช่อทิวลิปที่วางอยู่ตรงหน้า

ขึ้นมาดูก่อนที่จะพูดบ่นกับตัวเองเบาๆ พลางนึกถึงเจ้าของทิวลิปช่อสวยนี้



...

ถ้ามีตัวอักษรแทรกหรือตัวอักษรกระโดดไปบ้างก็ขอโทษด้วยนะคะ

เพราะโน๊ตบุ๊คมี่มันเน่าและมี่อาจจะต้องหายไปสักสองสามวันเพราะเอาคอมไปซ่อม

ตอนที่26 นี้เลยสั้นไปหน่อย เอาไว้มี่จะชดเชยให้ในตอนหน้านะคะ

ใครที่รอคอยชานยอลและจุนมยอนมี่ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการให้แล้วนะคะ

เรื่องราวของสองคนนี้เป็นมายังไงก็เดาๆกันไปนะคะ

ขอบคุณคนอ่านที่น่ารักทุกคน ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์

ถึงจะมีอุปสักซักแค่ไหนมี่ก็พยายามจะสู้ต่อไปค่ะ

ปล1.สิ้นเดือนนี้มี่ได้ถอดเฝือกแล้วนะคะ(ดีใจๆ)

ปล2. โปรดอย่าลืมมินอา

ปล3. ที่บอกว่าเรื่องนี้กำลังจะจบมี่แค่หยอก คึคึ (หลบรองเท้าคนอ่าน)

แล้วเจอกันค่ะ :mew1: :bye2:

 
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 26 (18.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 18-09-2015 18:44:14
โอ้!!!! คิดถึงซุปเปอร์แมนรีเทิร์นเลยยยยยยย
สู้ๆนะคะ รอตอนต่อไปเนาะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 26 (18.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 18-09-2015 18:52:44
รอชมเรียลลิตี้นะค้า~~

ส่วนมินอาเราจะจำเธอไว้ไม่ลืมแน่นอนค่า ><
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 26 (18.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-09-2015 19:07:29
อยากเห็นรายการแล้วซิ ตื่นเต้นๆ **คำที่มี ร และ ล
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 26 (18.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-09-2015 19:13:30
ตื่นเต้นๆ อยากเห็นรายการแล้วซิ  ** คำที่มี ร และ ล ผิดบ่อยมากค่ะแบบสลับกันก็มี
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 26 (18.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: s.mosis ที่ 18-09-2015 19:47:50
มานอนรอคะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 26 (18.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 18-09-2015 19:59:02
ตื่นเต้นกับรายการเรียลลิตี้

จุนกับปาร์คนี่ยังไงกันนะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 26 (18.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 18-09-2015 20:08:38
ดูแล้วงานนี้จีซอนได้เปิดตัวเป็นดาราเด็กดาวรุ่งคนใหม่แน่ๆ 55
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 26 (18.09.58)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 18-09-2015 22:09:25
 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 27(09.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 09-10-2015 00:44:19
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 27

 

 

 

 

       รายการ ‘รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์’ ได้ถ่ายทอดออกไปแล้วสองตอนด้วยกันซึ่งตอนแรก

เป็นตอนที่ย้อนอดีตไปในช่วงก่อนที่จงอินและเซฮุนก่อนที่จะมาเป็นเด็กฝึกจนถึงช่วงที่ทั้งสองคนเจอ

กันครั้งแรกโดยใช้เด็กฝึกของบริษัทที่กำลังจะได้เป็นศิลปินในเร็วๆนี้สองคนที่มาแสดงเป็นจงอินและ

เซฮุนนั่นก็คือแทมกับคีย์ซึ่งแทมรับบทบาทเป็นจงอินส่วนคีย์ก็รับบทบาทเป็นเซฮุนซึ่งตอนแรกนี้ผู้ที่

เขียนบทถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดก็คือจงอินและจงอินก็เป็นก็ยังคงเป็นคนกำกับด้วยตัวเองเลยเพราะ

ตั้งใจที่จะให้เหมือนเรื่องจริงให้มากที่สุด

 

       ส่วนตอนที่สองนั้นเป็นช่วงที่ทั้งคู่ได้เป็นบัดดี้ในการฝึกและตกลงคบหาดูใจกันในฐานะคนรักจน

ถึงช่วงชีวิตที่หักเหของจงอินที่ต้องสูญเสียครอบครัวที่ประกอบไปด้วยพ่อ แม่และพี่สาว ทั้งหมดไปกับ

อุบัติเหตุจนทำให้จงอินเสียใจจนแทบจะเสียคนและท้อแท้จนล้มเลิกความตั้งใจและเลือกที่จะโยนความฝัน

ทิ้งไปอย่างไม่ลังเล ทำตัวเหลวไหล โดดซ้อมไม่ไปโรงเรียนหมกตัวอยู่แต่ในบ้านในห้องมืดๆของตัวเองโดย

ไม่ทำอะไรเลยแม้แต่จะกินข้าว แต่ก็เป็นเพราะเซฮุนที่คอยพูดคอยปลอบ คอยดูแล ห่วงใยและให้กำลังใจจน

ทำให้จงอินลุกขึ้นมาสู้ได้อีกครั้งนึง

 

       ตอนที่สามที่กำลังจะถ่ายทอดในสัปดาห์หน้านี้เป็นตอนสุดท้ายในการย้อนอดีตนั้นก็ถือเป็นจุดเปลี่ยน

ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของทั้งสองคนเลย ก็คือวันที่ประธานโอเรียกจงอินเข้าไปคุยถึงเรื่องการเดบิวต์เป็นศิลปิน

เต็มตัวพร้อมๆกับการที่เซฮุนได้รับรู้ว่ามีอีกหนึ่งชีวิตที่อาศัยอยู่ในท้องของเขาในตอนนี้และเป็นหนึ่งชีวิต

เล็กๆที่กำเนิดขึ้นจากความรักของเขาทั้งสองคน ทำให้เซฮุนเลือกที่จะเสียสละโยนความฝันของตัวเองทิ้งไป

เพื่อที่จะรักษาชีวิตเล็กๆที่เป็นผลผลิตของความรักของเขาทั้งสองคนไว้และเลือกยอมที่จะเสียใจและยอมที่

จะเป็นคนใจร้ายผิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้แก่จงอินและหอบความเสียใจพร้อมกับลูกในท้องหนีจงอินไปอยู่

ต่างประเทศเพื่อที่จะให้จงอินได้ทำในสิ่งที่รักสิ่งที่ฝันให้เป็นความจริงอย่างที่จงอินได้หวังไว้ โดยที่จงอิน

ไม่เคยได้รู้เลยว่าเซฮุนตั้งท้องลูกของตัวเองและไม่เคยรู้เลยว่าแท้จริงนั้นเซฮุนคือลูกชายคนเล็กของประธาน

โอเจ้าของบริษัทต้นสังกัดของเขาเอง จนถึงวันที่จงอินได้พบเจอเซฮุนอีกครั้งพร้อมกับลูกชายของเขาทั้งสอง

คนนั่นก็คือจีซอง(ในส่วนนี้ประธานโอและจุนมยอนสั่งให้เอาเหตุการณ์จริงที่กล้องวงจรปิดในวันนั้นเข้า

มาตัดต่อแทรกลงไปในเทปนี้ด้วยเพื่อเป็นการยืนยันให้คนดูได้เห็นว่าเรื่องทั้งหมดคือเรื่องจริงที่ไม่ได้

เฟคขึ้นมาเองแต่อย่างใด)และมีฉากที่จงอินต้องพิสูจน์ตัวเองกับประธานโอด้วยจนถึงวันที่สามคน

พ่อแม่ลูกได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันเป็นครอบได้จนถึงทุกวันนี้ในที่สุด

 

      และตั้งแต่ตอนที่สี่เป็นต้นไปนั้นก็จะเป็นช่วงเวลาปัจจุบันถ่ายทำโดยการซ่อนกล้องไว้ภายในบ้าน

ของครอบครัวคุณพ่อซุปตาร์คิมไคในทุกๆมุมทุกๆจุดจะเว้นก็แต่ในห้องน้ำเท่านั้นซึ่งแน่นอนว่า

ห้องนอนของคุณพ่อซุปตาร์นั้นมีกล้องซ่อนไว้อย่างแน่นอน(ซึ่งตอนนี้กล้องหลายสิบตัวก็ถูกซ่อนไว้

ในที่ต่างๆภายในบ้านเรียบร้อยแล้วโดยมีมินซอกเป็นผู้คอยดูแลคอยอำนวยสะดวกแก่ทีมงาน)

 ส่วนเวลาที่ครอบครัวคุณพ่อซุปตาร์ออกไปข้างนอกหรือมีกิจกรรมข้างนอกนั้นก็จะมีตากล้องและ

ทีมงานตามแอบถ่ายอยู่ตลอดเวลา(โดยมีผู้รู้เห็นเป็นใจคอยส่งข่าวและพิกัดปลายทางให้แก่ทีมงานนั้น

ก็คือคุณพ่อซุปตาร์นั่นเอง)

 

'รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่สี่เริ่ม!!!

.

.

.

.

       “ป๊ะป๋า หม่าม๊า อยู่ไหนนนนนนนนนน” เวลาเช้าวันใหม่ของบ้านคุณพ่อซุปตาร์ก็เริ่มขึ้นด้วย

เสียงเรียกหาป๊ะป๋าของลูกชายคนโตของบ้านนี้เหมือนกับทุกๆวันที่เจ้าตัวตื่นมาแล้วไม่เจอใคร

 

     “ป๊ะป๋ากับหม่าม๊าอยู่นี่ครับลูก” จงอินพูดบอกพลางโบกมือเรียกลูกชายสุดที่รักที่กำลังเดินลาก

หมอนเน่าเดินลงบันไดมาจากชั้นบนด้วยหน้ายุ่งๆหัวฟูๆเพราะเจ้าตัวพึ่งจะตื่นนอนมา พอเดินมาถึง

บริเวณห้องนั่งเล่นใหญ่ที่จงอินกับเซฮุนกำลังนั่งคุยนั่งเล่นดูวิวแม่น้ำตอนเช้าอย่างสบายๆอยู่ จีซอง

ก็ปีนขึ้นไปบนโซฟาแล้วทิ้งตัวลงนอนคว่ำทับตักจงอินโดยที่มีเพียงส่วนหัวเท่านั้นที่ยื่นไปบนตัก

เซฮุนและหันหน้าซุกลงกับท้องกลมของหม่าม๊าเซฮุน

 

     “อ้อนเอาอะไรแต่เช้าครับลูกชาย” จงอินตบก้นจีซองเบาๆเป็นการแหย่พร้อมกับเอ่ยแซวเมื่อเห็นท่าทาง

อ้อนๆของลูกชายตัวเองที่มาถึงก็ไม่ยอมพูดยอมจาแต่กลับปีนขึ้นมานอนบนตักของตัวเองและเซฮุนแทน

 

     “งื้อออ….ลูกคิดถึงน้องเล็กๆเมื่อคืนลูกไม่ได้ฝันดีน้องเล็กๆเลยอ่า มอนิ่งคิสน้าน้องเล็กๆ” จีซอง

เงยหน้าขึ้นตอบจงอิน ก่อนที่จะหันไปมุดและจุ๊บท้องป่องๆอายุครรภ์หกเดือนครึ่งของเซฮุนก่อนที่

จะพูดงุ้งงิ้งคุยทักทายอยู่กับน้องเล็กๆของเจ้าตัวโดยที่ไม่ได้สนในป๊ะป๋าหรือหม่าม๊าของตัวเองอีกเลย

ช่วงหลังๆมานี้ จีซองเปลี่ยนไปหลายๆอย่าง อย่างแรกเลยคือ จีซองติดจงอินมากกว่าเซฮุนไม่ว่าจะ

ไปไหนจะทำอะไรหรือต้องการอะไรจีซองก็จะเรียกหาจงอินเป็นคนแรกเสมอช่วงแรกๆเซฮุนก็

น้อยใจเหมือนกันนั่นแหละที่จีซองเหมือนจะให้ความสำคัญจงอินมากกว่าตัวเองและจงอินคงจะรู้

ว่าเซฮุนนั้นเรื่อมน้อยใจลูกเลยเอ่ยปากถามจีซองแทนเซฮุนเองเลย และคำตอบที่จีซองตอบมานั้น

มันทำให้เซฮุนและจงอินยิ่งรักยิ่งหลงลูกชายเข้าไปอีกเพราะจีซองบอกว่า ‘ลูกไม่อยากให้หม่าม๊าเหนื่อย

กับลูกเพิ่มฮับ แค่หม่าม๊าแบกน้องไว้ในท้อง หม่าม๊าก็เหนื่อยแย่แล้ว ลูกก็เลยมาดื้อกับป๊ะป๋าแทนฮับ’

และคำตอบของจีซองก็เล่นเอาทั้งป๊ะป๋าและหม่าม๊าหัวเราะกันจนน้ำตาไหลกันเลยทีเดียว

 

     “ป๊ะป๋า หม่าม๊า ลูกอยากไปทะเล” จีซองเปลี่ยนมาเป็นนอนหงายแทนโดยทั้งตัวอยู่ที่จงอินและมีเพียง

หัวกลมๆเท่านั้นที่หนุนตักนุ่มของเซฮุน ก่อนที่จะพูดออกมาพลางมองหน้าเซฮุนกับจงอินแบบอ้อนๆ

 

     “หืม…จีซองก็ถามป๊ะป๋าสิครับว่าจะว่างพาเราสองคนไปไปทะเลหรือป่าว ถ้าป๊ะป๋าว่างที่จะพาไปได้

หม่าม๊าก็โอเคครับ” เซฮุนบอกพร้อมกับลูบหัวกลมๆของลูกชายอย่างเอ็นดู พอมานั่งดูนั่งมองจีซอง

แบบใกล้ๆชัดๆอย่างนี้แล้วก็รู้สึกว่าปีนี้จีซองจะตัวโตขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย แถมยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนจงอิน

มากขึ้นไปอีกเหมือนกับว่าตอนนี้เขานั้นนั่งมองจงอินย่อส่วนอย่างไงอย่างนั้น

 

     “ป๊ะป๋าาาาาาาาาาาาา” เมื่อได้ยินเซฮุนบอกแบบนั้นจีซองก็จับแขนจงอินแล้วดึงตัวเองขึ้นไปนั่ง

ค่อมตักกอดคอซบหน้าลงกับไหล่หน้าของจงอินเพื่ออ้อนต่อทันที

 

     “นายจะไปได้หรอเซฮุน” จงอินไม่ได้พูดอะไรกับจีซองแต่กลับหันไปถามเซฮุนแทนซะอย่างนั้น

พร้อมกับมองไปตรงท้องนูนๆของเซฮุนให้เซฮุนได้รู้ด้วยว่าเขาหมายถึงอะไร

 

     “ได้สิ โน่นเจ็ดแปดเดือนนั่นแหละถึงจะห้ามเดินทางไกลๆนะ แต่จะว่าไปนะตอนที่ท้องจีซองอะนะ

ฉันยังไปตะลอนเที่ยวกับพี่จุนจนถึงแปดเดือนครึ่งเลยนะ นี่พึ่งจะหกเดือนครึ่งเองสบายมากและอีกอย่าง

ช่วงนี้ฉันเหมือนกับไม่ค่อยได้ทำหน้าที่แม่ที่ดีของจีซองสักเท่าไหร่เลยด้วย” เซฮุนพูดบอกแบบติดตลก

เมื่อนึกไปถึงตอนตัวเองนั้นอุ้มท้องจีซองอยู่ตอนนั้นน่ะนะจุนมยอนพาเขาตะลอนเที่ยวไปทั่วจนเกือบจะ

ถึงวันคลอดเลยทีเดียวเชียว นี่ยังดีนะที่คุณนายคิมแม่ของเขาเดินทางไปหาซะก่อนไม่อย่างนั้นมีหวัง

เขาอาจจะคลอดจีซองที่สถานที่เที่ยวที่ไหนสักแห่งในอเมริกาแทนโรงพยาบาลก็เป็นได้ ก่อนที่จะเปลี่ยน

มาพูดด้วยเสียงที่ไม่ดังนักเมื่อนึกถึงช่วงหลังๆตั้งแต่ที่เขารู้ตัวว่าตั้งท้องมานี่เขาแทบจะไม่ได้ดูแลจีซอง

อย่างจริงๆจังๆตามที่ควรจะเป็นเลย ทั้งๆที่มันเป็นหน้าที่และสิ่งที่เขาควรจะทำเองแท้ๆกลับกลายเป็น

จงอินเสียอีกที่ต้องมาทำทั้งงานนอกบ้านในบ้านแถมยังหอบจีซองติดไปทำงานด้วยกันอีก

 

     “อย่าคิดมากน่า นายทำทุกอย่างได้ดีที่สุดแล้ว ลูกเองก็ไม่ได้น้อยใจอะไรนี่หนำซ้ำยังเข้าอกเข้าใจ

นายดีมากกว่าฉันที่เป็นคนทำให้นายลำบากเสียอีก” จงอินลูบหลังเซฮุนเบาเพื่อเป็นการปลอบเพราะ

พอจะรู้และเข้าใจว่าเซฮุนรู้สึกอย่างไร ทั้งยังไม่วายพูดแซวเซฮุนในประโยคสุท้าย ว่าเป็นตัวเขาเอง

นั่นแหละที่ทำให้เซฮุนต้องลำบากอุ้มท้องลูกคนเล็กของเขาสองคนเสียอีก งานนี้เล่นเอาคุณหม่าม๊า

หน้าแดงหูแดงไปหมดเพราะความเขินอายเล่นซะอย่างนั้นไป

 

     “แล้วทำไมอยู่ดีๆพี่จีซองถึงอยากไปทะเลล่ะครับลูก” เมื่อพอใจกับท่าทางเขินอายของภรรยาแล้ว

จงอินก็หันมาถามลูกชายแทน

 

     “โบมีไปเที่ยวทะเลมาฮะแล้วโบมีก็บอกว่าที่ทะเลมีปูตัวเล็กๆเต็มไปหมดเลยแล้วก็ได้เล่นน้ำกับ

สร้างปราสาททรายสวยๆด้วย จีซองอยากไปบ้างอ่ะป๊ะป๋า ไปนะๆ ป๊ะป๋าพาจีซองกับหม่าม๊าแล้วก็

น้องเล็กๆไปเที่ยวทะเลนะฮะป๊ะป๋า นะๆ ป๊ะป๋าน้าาาาาา” จีซองบอกถึงเหตุผลที่ตัวเองอยากจะไป

ทะเลให้จงอินและเซฮุนได้รู้และโบมีที่เจ้าตัวพูดถึงนี่ก็คือเพื่อนสนิทในคลาสบัลเล่ต์ที่เจ้าตัวขอให้

จงอินพาไปสมัครเรียนนั่นเอง

 

     …..ก็โบมีบอกว่าได้ไปทะเลสวยๆได้ว่ายน้ำต๋อมแต๋มและก็ได้วิ่งไล่จับคุณปูตัวเล็กๆนี่ จีซองก็

อยากจับจะวิ่งไล่คุณปูเหมือนกันนะ!!!.....

 

     “แล้วถ้าป๊ะป๋าว่างแต่ไม่อยากพาพี่จีซองไปล่ะ” จงอินถามจีซองออกไปเหมือนกับว่าจะไม่พาจีซอง

ไปตามที่เจ้าตัวอ้อนขอ และนั่นก็ทำให้เซฮุนแทบอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้ทันทีเสียจริง ถ้าถามว่าทำไม

นะหรือ? ก็จะอะไรซะอีกนอกเสียจากว่าสงครามน้ำลายของสองพ่อลูกกำลังจะเริ่มนะสิ! แม้ว่าช่วงหลังๆ

มานี่จงอินกับจีซองจะรักกันมากขนาดไหนก็ตาม แต่ทั้งสองคนก็ยังไม่วายที่จะทะเลาะหรือหาเรื่องเถียงกัน

ได้ทุกวันอยู่ดีและกรรมการห้ามจะเป็นใครได้ล่ะ นอกเสียจากโอเซฮุนคนนี้ไง!!

 

          …..ก็นะคนพ่อก็ชอบแหย่ คนลูกก็ช่างยุขึ้นซะจริงๆ…..

 

      “ลูกก็ให้ลุงจุนกับอายอลลี่พาไปก็ได้ ไม่ง้อป๊ะป๋าหรอก เชอะ!!” จีซองผละออกจากการกอดและ

ลุกออกจากตักของจงอินลงไปยืนอยู่ข้างหน้าตรงกลางระหว่าจงอินและเซฮุนก่อนที่จะกอดอกเชิดหน้า

ตอบจงอินอย่างงอนๆเพราะเข้าใจว่าจงอินตั้งใจจะไม่พาตัวเองไปเที่ยวตามที่ขอ

 

     “เห?…ลุงจุนน่ะป๊ะป๋าพอจะเข้าใจนะ แต่อายอลลี่นี่เขาเป็นใครหรอลูก” เพราะชื่อแปลกออกจากปาก

ของลูกชายทำเอาจงอินลืมที่ความตั้งใจที่จะแหย่จีซองเลยทีเดียว ก่อนที่จะถามออกไปเพราะความสงสัย

 

     “อายอลลี่ที่เป็นแฟนกับลุงจุนไงฮะ! คนที่หล่อๆแล้วก็เป็นนักร้องเหมือนป๊ะป๋าอ่ะ!!” เพราะความงอน

และอารมณ์ที่อยากจะเถียงให้ชนะป๊ะป๋า เลยคิดจะเอาอีกคนมาเกทับเหมือนกับว่าถึงจะไม่มีป๊ะป๋าแต่จีซอง

ก็มีคนพาไปนะ เลยทำเอาลูกหมูจีซองเผลอหลุดปากพูดความลับของลุงจุนออกมาทั้งๆที่ตัวเองทำสัญญา

ลูกผู้ชายไว้กับจุนมยอนอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วแท้ๆ

 

     “หืม…อายอลลี่ของลูกนี่ใช่นักร้องที่ชื่อปาร์คชานยอลหรือป่าวครับ” จงอินหันไปมองเซฮุนพลางเลิกคิ้ว

ถามความเห็นก่อนที่จะได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้าว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน เลยหันมาถามจีซองต่อ

 

     “ใช่ฮะ! อายอลลี่คนนั้นแหละเป็นแฟ…อุ๊บ!! (0x0)” จีซองยังคงเผลอตอบเสียงดังไปด้วยความมั่นใจ

ก่อนที่จะรีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเผลอหลุดความลับของลุงจุนสุดที่รักออกไป

 

      “หึๆ จะปิดปากตัวเองตอนนี้ให้แน่นแค่ไหนก็ไม่ทันแล้วลูกหมูเอ้ย! ป๊ะป๋ารู้เรื่องหมดแล้ว” จงอินบอก

นึกขำท่าทางของลูกชายสุดที่รักตอนนี้  ถ้าให้เดานะไอ่ท่าทางของจีซองตอนนี้น่ะเขาคิดว่าเจ้าตัวคงจะไป

สัญญาหรือลับปากอะไรไว้กับจุนมยอนสักอย่างนี่แหละและถ้าเขาไม่เข้าใจอะไรผิดไปจากคำพูดที่หลุดมา

จากปากของจีซองก็คงจะเป็นความลับที่ว่าจุนมยอนกับปาร์คชานยอลอาจจะตกลงคบหากันก็เป็นไปได้

 

 

        ….งื้อออออออ.…จีซองผิดสัญญาแล้วทำยังไงดีอ่าาาาาาาา....

 

 

     “เป็นอะไรทำไมถึงทำหน้ายุ่งอย่างนั้นครับลูก” เซฮุนถามขึ้นเมื่อเห็นจีซองหน้านิ่วคิ้วขมวด

เหมือนกับจะร้องไห้ให้ได้ซะยังไงยังงั้น

 

     “ก็จีซองทำผิดสัญญาลูกผู้ชายกับลุงแล้วก็อายอลลี่นี่ฮะ” จีซองตอบเซฮุนออกไปด้วยเสียงเบาหวิว

 

     “หือ…สัญญาเรื่องอะไรล่ะครับ บอกหม่าม๊าหน่อยได้ไหม” เซฮุนพูดตะล่อมถามด้วยเสียงอ่อนโยน

อย่างคนใจดี เพราะคิดว่าถ้าพูดด้วยแบบปกติจีซองคงจะไม่ยอมบอกแน่ๆ

 

     “มานี่มาจีซองเดี๋ยวป๊ะป๋าจะกอดแบ่งพลังความกล้าให้ลูกเอง” เมื่อเห็นว่าจีซองยังคงลังเลเหมือน

กำลังตัดสินใจว่าจะบอกเซฮุนดีหรือป่าว จงอินเลยเรียกจีซองพร้อมกับกางมือออกทั้งสองข้างเพื่อให้

จีซองเข้ามากอดอย่างทุกที่และใช้ภาษาพูดเด็กๆเป็นการหลอกล่อให้จีซองตัดสินใจพูด

 

     “ก็..ก็วันนั้น วันที่ลุงจุนมารับจีซองไปกินสเต็กอ่ะหม่าม๊า ที่ร้านมีอายอลลี่อยู่ด้วยแล้วอายอลลี่ก็

บอกกับจีซองว่าอายอลลี่กับลุงจุนเป็นแฟนกันอ่ะ แล้วพอกินสเต็กกันเสร็จลุงจุนก็ให้ลูกทำสัญญา

ลูกผู้ชายกับลุงจุนก่อนว่าจะไม่บอกหม่าม๊า ป๊ะป๋า แล้วก็คุณตาคุณยายด้วยว่าลุงจุนกับอายอลลี่เป็น

แฟนกันและก็ไม่ให้บอกด้วยว่าลุงจุนกับอายอลลี่พาจีซองไปเที่ยว ไปซื้อของเล่น ไปกินขนมมา

หลายครั้งแล้ว แล้วลุงจุนกับอายอลลี่จะซื้อกีตาร์อย่างที่ลูกอยากได้แถมซื้อคอร์สเรียนกีตาร์ให้ลูก

ด้วยอ่ะ แต่ถ้าลูกผิดสัญญาลุงจุนจะยึดกีตาร์คืน แล้วลูกก็ผิดสัญญาให้ป๊ะป๋ากับหม่าม๊ารู้แล้วลูกจะ

ทำไงดีอ่า งื้ออออ…..ลูกไม่อยากโดนลุงจุนยึดกีตาร์น้าาาาาาาา” เมื่อได้ยินจงอินบอกอย่างนั้นจีซอง

ก็โผเข้ากอดจงอินเต็มแรงก่อนที่จะค่อยๆพูดค่อยๆเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมาให้จงอินและเซฮุนฟัง

 

     “โอ๋ๆ กีตาร์จีซองไม่โดนยึดหรอกลูก ป๊ะป๋ากับหม่าม๊าสัญญาว่าจะไม่บอกให้ใครรู้แล้วก็ไม่บอก

ให้ลุงจุนรู้ด้วยว่าป๊ะป๋ากับหม่าม๊ารู้ความลับของลุงจุนกับจีซองแล้ว มันจะเป็นความลับของเราสามคน

ดีไหมครับลูก” แม้ว่าใจจริงอยากจะเอาเรื่องนี้ไว้แหย่ลูกชายก็เถอะแต่พอเห็นหน้าที่พร้อมจะร้องไห้

ทุกเมื่อของจีซองแล้วจงอินทำไม่ลงจริงๆอีกทั้งช่วงหลังๆตั้งแต่จุนมยอนซื้อกีตาร์ให้มานี้จีซองก็เหมือน

จะโตขึ้นกว่าเดิมมากเพราะเจ้าตัวไปเรียนคอร์สที่เรียนกีตาร์ที่จุนมยอนซื้อให้นั่นแหละกลับมาบ้านก็มา

หัดเล่นหัดซ้อมด้วยตัวเองต่ออีก อีกทั้งช่วงนี้จีซองก็ขยันทั้งเรียนร้องเพลงเรียนเต้นแทบจะทุกแนว

ยกเว้นก็แต่เรื่องเรียนหนังสือปกติเท่านั้นแหละที่เจ้าตัวเหมือนจะไม่ชอบและไม่ค่อยกระตือลือล้น

สนใจสักเท่าไหร่ และเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นที่ไม่สนิทหรือเวลาอยู่ข้างนอกบ้านจีซองก็จะวางตัว

เหมือนกับเป็นเด็กอายุซักประมาณสิบสองสิบสามซะอย่างนั้น จะมีก็แต่อยู่กับเขาและเซฮุนหรือ

คนในครอบครัวนี่แหละที่เจ้าตัวถึงจะอ้อนบ้างงองแงบ้างทำตัวเหมือนเด็กที่กำลังจะครบห้าขวบปกติ

ธรรมดาๆได้ อ่อ! แล้วมีอีกอย่างที่เปลี่ยนไปให้เห็นได้อย่างชัดเจนคือจีซองตัวสูงใหญ่กว่าเด็กรุ่นๆเดียวกัน

มากอยู่เหมือนกัน

 

     “จริงหรอฮะ!” จีซองถามด้วยเสียงดีใจ

 

     “จริงสิครับ ป๊ะป๋าเคยโกหกลูกหรอ?” จงอินบอกพร้อมกับถามจีซองกลับไปบ้าง

 

     “เย้ๆ ลูกรักป๊ะป๋าที่สุดเลยฮะ” จีซองตะโกนบอกเสียงดังพร้อมกับจุ๊บรัวๆที่ริมฝีปากของจงอินเร็วๆ

 

     “แต่เราจะไปแค่ใกล้ๆนะจีซองเพราะหม่าม๊าและน้องนั่งรถไกลๆไม่ได้ เอาไว้หม่าม๊าคลอดน้องแล้ว

ป๊ะป๋าจะพาขึ้นเครื่องบินไปที่ไกลๆสวยๆตกลงไหมครับ”

 

      “ตกลงฮะ!!!”

 

     “ถ้าตกลงก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้วครับ เราจะต้องพาหม่าม๊าไปให้ป้าหมอคยูตรวจดูน้องก่อนนะ

ป๊ะป๋าถึงจะพาเราไปเที่ยวทะเลน่ะ” จงอินพูดบอกออกมาเมื่อมองดูเวลาในนาฬิกาดิจิตอลที่ติดอยู่บนข้าง

ผนังบ้านพลางคิดคำนวณเวลาและวางแผนกำหนดการที่จะพาลูกชายไปเที่ยวทะเลด้วย

 

     “ครับผม!!!” จีซองทำท่าทางตะเบ๊ะเหมือนพวกตำรวจทหารก่อนที่จะวิ่งขึ้นบันได้ไปบนห้องตัวเอง

ด้วยความเร็วแสง

 

     “ฮึๆ/ฮ่าๆ” ท่าทางกระตือรือร้นตื่นเต้นเกินความจำของลูกชายคนโตที่แสดงออกมาอย่างน่ารักสมวัย

ทำเอาคนเป็นพ่อแม่หันมองหน้ากันก่อนที่จะระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกันอย่างช่วยไม่ได้

 

     “นายว่าลูกเปลี่ยนไปเยอะกว่าเดินมากไหม” เซฮุนถามขึ้นเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

 

     “อืม..ตัวโตขึ้นมั้ง” จงอินตอบอย่างไม่แน่ใจเพราะว่าเขาตัวติดกับจีซองแทบจะตลอดเวลาเลยสังเกต

ความเปลี่ยนแปลงไม่ได้มากนักเพราะความเคยชินเลยทำให้ดูไม่ค่อยรู้เรื่อง

 

     “แต่ลูกพูดชัดขึ้นแถมยังไม่ติดสำเนียงภาษาอังกฤษแล้วด้วย” เซฮุนบอกในสิ่งที่ตัวเองสังเกตจากการ

พูดคุยด้วยกันเมื่อกี้นี้

 

     “นั่นสินะ พวกครูสอนเต้นสอนร้องเพลงที่เขามีลูกในบริษัทเขาเคยแนะนำให้ฉันพาลูกไปตรวจทดสอบ

พวกไอคิวอีคิวที่โรงพยาบาลด้วยนะ เพราะเขาบอกว่าลูกเราฉลาดและสามารถเรียนรู้อะไรได้เร็วกว่าเด็กโต

ในคลาสเสียอีกนะ” จงอินบอกในสิ่งที่พวกพนักงานรุ่นพี่ที่สนิทกันในบริษัทเคยบอกเคยเล่าถึงพัฒนาการ

การเรียนรู้ที่เกินอายุเกินวัยของลูกชายของเขาด้วยความหวังดี แต่เขาก็มัวแต่ยุ่งเรื่องงานเรื่องข่าวจนหลงลืม

ไปแล้วก็พึ่งมานึกได้ก็ตอนที่เซฮุนทักขึ้นมาเนี่ยแหละ

 

     “ลูกเรามีอะไรผิดแปลกจากเด็กปกติไปหรอ?” เซฮุนถามด้วยความกังวลเพราะเป็นห่วงลูกชาย

 

     “เฮ้ๆ อย่าคิดมากซิ มันไม่มีอะไรหรอก นายก็เห็นอยู่ว่าลูกเราปกติแค่เป็นเด็กที่กินเก่งกับฉลาดเกินกว่า

เด็กวัยเดียวกันไปหน่อยก็เท่านั้น” จงอินบอกให้เซฮุนสบายใจเพราะตั้งแต่เซฮุนตั้งท้องมาจนจะคลอดอยู่

อีกเดือนสองเดือนข้างหน้านี่แล้วยังไม่เลิกคิดมากหรือหวั่นไหวง่ายเสียที

 

     “แต่…”

 

     “เอาอย่างนี้นะ ถ้านายไม่สบายใจเราก็พาลูกไปตรวจวันนี้พร้อมๆกับนายเลยโอเคมั้ย?” จงอินพูดขัด

ขึ้นทันทีไม่ปล่อยให้เซฮุนได้เถียงหรือแย้งอะไรอีกเลย

 

     “ก็ได้” เซฮุนตอบตกลงเมื่อเห็นสายตาจริงจังติดไปทางดุของจงอิน

.

.

.

.

.

     “เอาล่ะถึงเวลาที่เราจะได้ดูตัวเล็กกันอีกแล้ว” คยูฮยอนหมอประจำตัวของเซฮุนพูดขึ้นหลังจากที่

ตรวจสุขภาพทั่วไปของเซฮุนเสร็จแล้ว อ่อ! จีซองด้วยก่อนหน้านี้จงอินและเซฮุนไปตรวจพัฒนาการ

ทางด้านร่างกาย สมองและจิตใจเป็นที่เรียบร้อยแล้วผลคือปกติทุกอย่างไอ่ที่ตัวโตนี่ก็เพราะเจ้าตัวนั้น

กินเก่งก็เลยตัวโตมากกว่าเด็กรุ่นเดียวกันมากไปหน่อยแต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติทั่วไปส่วนพัฒนาการ

ทางด้านจิตใจของจีซองก็ออกมาดีมากไม่ผิดปกติอะไรแค่ลูกชายของเขามีความฉลาดทางด้านจิตใจ

และสติปัญญาสูงมากๆ มากจนเกือบจะแตะขอบเด็กอัจฉริยะก็เท่านั้นเองไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงเพียง

แค่เขาต้องการอยากจะเรียนรู้อะไรก็แค่คอยสนับสนุนเขาก็เท่านั้นเอง

 

     “อ่าทุกอย่างปกตินะ แต่เจ้าตัวเล็กไม่ยอมให้เราเห็นเพศกันอีกแล้วล่ะ ไหนจีซองลองคุยกับน้อง

หน่อยสิลูก ป้ามองไม่เห็นเลยว่าน้องเป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิง” ป้าหมอคยูของเจ้าลูกหมูบอกกับพี่ชาย

ตัวแสบให้เคลียร์กับของเล็กๆของตัวเองให้หน่อยเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเซฮุนชอบเมาส์อยู่บ่อยๆว่าเจ้าตัวเล็ก

เขาเชื่อฟังพี่ชายมากกว่าพ่อแม่

 

     “น้องเล็กๆนี่พี่จีซองสุดหล่อในโลกหล้าน้า ตัวเองบอกพี่ชายหน่อยสิว่าตัวเองเป็นผู้หญิงสวยๆหรือ

เป็นผู้ชายหล่อๆเหมือนพี่อ่ะ” จีซองบอกพร้อมกับใช้นิ้วเคาะเบาๆเพื่อคุยสื่อสารกับน้องตัวเองเหมือนกับ

ที่ผ่านมา

 

     “ไหนจีซองลองพูดอีกทีซิครับเมื่อกี้น้องขยับแล้วแต่ยังไม่ยอมให้ป้าหมอคยูเห็นเลย” หมอคยูลูบหัว

หลานชายเบาๆก่อนจะบอกให้จีซองคุยกับน้องใหม่อีกครั้งเพราะว่าเมื่อกี้ตัวเล็กในท้องของเซฮุนขยับตัว

นิดๆเมื่อได้ยินเสียงของพี่ชายอย่างจีซองแต่ก็ไม่มากพอที่จะให้เห็นเพศในเมื่อเจ้าตัวยังคงนอนหนีบขา

เหมือนเดิม

 

     “น้องเล็กๆบอกพี่จีซองหน่อยซิว่าตัวเองมีปีกาจูเหมือนพี่จีซองหรือมีจิ๊มิโก๊ะอย่างที่ลุงจุนบอกอ่า”

คราวนี้พี่จีซองถามโดยใช้คำพูดที่ลุงจุนสุดที่รักสอนมาถามน้องเล็กๆของตัวเองแทนแต่เหมือนกับว่า

น้องเล็กๆในท้องหม่าม๊าเซฮุนดูจะไม่ค่อยพอใจในคำถามนี้ของพี่ชายสักเท่าไหร่เพราะทันทีที่จีซอง

พูดจบเจ้าตัวเล็กก็หันหลังหนีเสียงพี่ชายทันที เลยทำให้ภาพบนจออัลตร้าซาวด์นั้นมีเห็นเพียงข้างหลัง

ทารกน้อยในครรภ์เท่านั้นเอง

 

     “ฮ่าๆ/ฮึๆ/คึๆ” ผู้ใหญ่ทั้งสามคนระเบิดหัวเราะออกมาทันทีเมื่อได้ฟังประโยคคำถามของพี่ชายและ

ได้เห็นท่าทางที่คนเป็นน้องแสดงออกมาผ่านทางจอภาพเพราะดูเหมือนงานนี้น้องเล็กๆของพี่จีซอง

จะงอนที่ชายเข้าให้แล้ว

 

     “ฮึๆสงสัยต้องเอาไว้ไปลุ้นกันตอนคลอดแล้วหละ อ่อ! ที่จะไปเที่ยวกันน่ะไปได้นะแต่อย่าโลดโผน

เหมือนตอนอยู่อเมริกานะ ขับรถระวังๆหน่อยนะครับคุณจงอิน” หมอคยูฮยอนพูดบอกกับเซฮุนทั้งๆที่

ยังไม่สามารถหยุดขำได้ ก่อนที่จะหันไปย้ำกับจงอินอีกครั้งเรื่องความปลอดภัย

 

     “ผมจะระวังที่สุดเลยครับหมอคยูไม่ห่วง ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”

 

     “ผมไปก่อนนะฮะพี่หมอคยู”

 

     “แล้วหลานจะเอาคุณปูมาฝากนะฮะป้าหมอคยู”

 

     หลังจากที่ล่ำลากันหมอคยูและจัดการรับยาบำรุงและใบนัดครั้งต่อไปของเซฮุนเรียบร้อยกันเสร็จแล้ว

ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกก็มุ่งหน้าไปทะเลที่ไม่ไกลจากโซลมากนักและแน่นอนว่าต้องเป็นชายหาดที่เงียบสงบ

และก็เป็นส่วนตัวด้วยเพราะงานนี้ก็เหมือนกับว่าจงอินพาครอบครัวหนีความวุ่นวายในเมืองหลวงมาพักผ่อน

ชาร์ตพลังให้เต็มที่เสียก่อน ที่จะกลับไปเผชิญกับปัญหาใหญ่ที่รอคอยเขาอยู่ในวันข้างหน้าได้อย่างเต็มที่





...

กลับมาแล้วค่ะ มี่หายไปสงบจิตสงบใจอยู่กะเฮียที่โน่นมาค่ะ

หลังจากที่แทบบ้าเมื่อตัดเฝือกออกแล้วปรากฎว่าข้อศอกที่แตกของมี่ติดค่ะ

และลุงหมอบอกว่าไม่สามารถเหยียดตรงได้อีกแล้วและขอเวลารักษาให้มันคลายตัว

อีกสองปีแต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าจะยืดได้ซักแค่ไหนเหมือนกันแต่ที่แน่นอนเลยคือ

มี่จะต้องทนปวดและทรมาณอย่างนี้ตลอดชีวิตเลยหล่ะ ช่างมันๆมันผ่านมาแล้วเน๊อะ

ขอโทษด้วยนะคะที่ปล่อยให้ทุกคนรอนาน

และช่วงนี้มี่ไม่สามารถกำหนดเวลาอัพนิยายได้เนื่องจากติสแตก

ติสแตกซะจนสติแตกแทบคลั่งจนคนที่นี่ทนไม่ไหวให้เฮียมาลากมี่ไปอยู่ที่โน่นด้วย

แต่มีก็กลับมาเข้ากรงทองเหมือนเดิมแล้วล่ะค่ะไม่ต้องห่วง

ยังไงก็ขอขอโทษไว้ล่วงหน้าเลยแล้วกันนะคะเผื่อมี่เกิดติสแตกขึ้นมาอีก

แต่ยังไงมีก็ยืนยันคำเดิมค่ะว่านิยายของมี่จะจบทุกเรื่อง

เจอกันตอนหน้าค่ะ :bye2: คิดถึงทุกคนมากๆเลยนะคะ  :mew2::mew1:

 

 
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 27 (09.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-10-2015 01:47:41
ใกล้จะได้เป็นพี่ชายแล้วน่ะ รอชมเรตติ้ง
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 27 (09.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 09-10-2015 06:03:09
สงสัยตัวเล็กคงอยากเซอร์ไพรส์ทุกคนในวันคลอดทีเดียวเลยละมังคะเนี่ย ^^
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 27 (09.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 09-10-2015 06:38:44
ก่อนอื่นเลย
ต้องบอกว่ามี่สู้ๆนะคะ พี่สาวเราก็เป็นค่ะที่เข่า ใช้เวลารักษานานเหมือนกัน และต้องหมั่นทำกายภาพด้วย พยายามเข้านะคะ

งั้นแสดงว่าตอนนี้ก็มีกล้องตามติดครอบครัวไปทุกที่เลยสิ จีซองต้องมีแฟนคลับเยอะแน่ๆ ฮิๆๆๆๆ
แถมลุงจุนกับป้ายอลลี่อีก กรี๊ดดดดดดด ฟินนนน
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 27 (09.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Appman ที่ 09-10-2015 09:13:57
สู้นะจ๊ะ..และขอให้หายไวๆ สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำใหเข้มแข็งขึ้นค่ะ สู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 27 (09.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: FONS ที่ 09-10-2015 12:39:46
ขอให้หายไวๆ นะคะ

อ๊ายๆๆๆ จีซอง.... รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 27 (09.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuja ที่ 09-10-2015 13:27:02
เป็นกำลังใจให้กับนักเขียนนะคะ สู้ ๆ ค่ะ ขอให้แข็งแรง ๆ ในเร็ววัน

ตายหละไม่ใช้รุู้แค่คุณพ่อหมีกับคุณแม่กระต่ายนะ ความลับนี้รู้กันทั่วประเทศแล้ว ตาย ตาย ตาย
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 27 (09.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 09-10-2015 18:15:04
ครอบครัวมุ้งมิ้งมากๆๆ ^0^
อยากรู้ฟีดแบคของคนดูจัง ว่าหลงรักจีซองแล้วรึยัง

ปล. คนแต่งหายเร็วๆนะคะ ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ ><
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 27 (09.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 10-10-2015 00:25:01
จะคลอดแล้ว ครอบครัวนี้ดูมีความสุขมสกเลย โชคดีที่จงอินกับเซฮุนได้เจอกัน

หายไวๆนะคะคุณมี่ ขอให้แข็งแรงเหมือนเดิมไวๆค่ะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 27 (09.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 10-10-2015 10:01:55
สู้ๆน๊า
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 28 (15.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 15-10-2015 00:00:43
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 28

 

      [ปาร์คชานยอล&คิมจุนมยอน]

 

 

 

 

 

ลานจอดรถใต้ดินของตึก HK Entertainment  เวลา 02.23 น.

 

     “เมื่อไหร่นายจะเลิกทำอย่างนี้ซักทีปาร์คชานยอล” จุนมยอนพึมพำกับตัวเองเบาๆเมื่อเห็นว่ามีคน

นั่งหลับพิงรถของเขาอยู่ตอนนี้ ถึงจะใส่เสื้อผ้าปิดมิดชิดสักแค่ไหนก็เถอะ คนที่ทำเรื่องบ้าๆอย่างนี้มี

แค่คนเดียวเท่านั้นแหละ แล้วจะใช่ใครที่ไหนถ้าไม่ใช่ปาร์คชานยอลแร๊พเปอร์ชื่อดังนักร้องในสังกัด

ค่ายคู่แข่งอย่างบริษัท CB Entertainment ที่เป็นคู่แข่งคู่ปรับตลอดกาลของ HK Entertainment  และ

หลังจากที่เจ้าตัวประกาศว่าจะง้อเขาให้ได้ในวันนั้นปาร์คชานยอลก็เข้ามาวนเวียนให้จุนมยอนได้เห็น

หน้าอยู่ทุกวัน ไล่แล้วไล่อีกก็ไม่ยอมไป พอสั่งห้ามไม่ให้รปภ.ปล่อยคนที่ชื่อปาร์คชานยอนไปหาเขา

บนตึกเจ้าตัวก็มานั่งรอนั่งเฝ้าอยู่ข้างรถเขาอย่างที่เห็นนี่แหละ เขาไม่คิดเลยจริงๆว่าพ่อแร๊พเปอร์คนดัง

นี่จะไม่มีตารางงานหรือทำตัวให้ว่างเองก็ไม่รู้ แล้วเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าชานยอนนั่งอยู่ที่นี่ได้ยังไง

ตั้งนานสองนาน เพราะถึงจะยังไม่ใช่หน้าหนาวก็เถอะแต่อากาศตอนตีสองในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกลาง

เดือนตุลาอย่างนี้มันก็เย็นใช่เล่นอยู่นะ ถ้าไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไงกัน  เฮ้อ!! จุนมยอนอยากจะบ้า

 

    ปิ๊บ!!!  ปิ๊บ!!!

 

     “อ๊ะ!!! อ่าว...จุนนี่ทำงานเสร็จแล้วหรอ” ชานยอนสดุ้งตกใจตื่นเพราะเสียงปลดล็อครถของจุนมยอน

ก่อนที่จะถามอย่างงัวเงียเมื่อเห็นว่าจุนมยอนยื่นอยู่ข้างหน้าไม่ห่างจากตัวเขาเท่าไหร่นัก

 

     “นายไม่มีอะไรจะทำหรอปาร์คชานยอลถึงได้มานั่งหลับตามลานจอดรถหรือชั้นใต้ดินเหมือนคนเร่ร่อน

ไร้ที่อยู่อย่างนี้ได้ทุกวันนะห๊า!!!!!” จุนมยอนตวาดดังลั่นอย่างหมดความอดทนเมื่อเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วย

ความเหนื่อยล้าของชานยอล ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าชานยอนงานยุ่งหรืองานเยอะแค่ไหนในเมื่อเวลาที่เขา

เปิดทีวีดูเขาก็จะเห็นชานยอลมีส่วนร่วมแทบจะทุกรายการที่เกี่ยวกับวงการเพลงหรือเกมโชว์แล้วยิ่งคิมไค

คู่แข่งอันดับหนึ่งมีข่าวฉาวขนาดนี้ใครๆก็อยากดึงชานยอลไปร่วมงานดึงกระแสสร้างเรตติ้งให้กับรายการ

การตัวเองกันทั้งนั้นแหละ ทำงานเยอะขนานนั้นแล้วยังจะมานั่งเฝ้าเค้าชั่วค่อนคืนอย่างนี้แล้วจะเอาเวลาที่

ไหนไปนอนไปพักผ่อน จุนมยอนไม่เข้าใจเลยจริงๆ

 

     “ฉันบอกแล้วไงว่าเรื่องของเรามันกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ เลิกพยายามได้แล้ว!!” จุนมยอนฝืนใจ

บอกทั้งๆที่ตรงข้ามกับความต้องการจริงๆของตัวเอง

 

     “ฉันก็บอกแล้วไงว่าฉันรักนายมากแค่ไหน บอกแล้วไงว่าจะไม่มีทางที่จะยอมแพ้เรื่องของเรา” ชานยอล

ลุกขึ้นจากพื้นและบอกยืนยันคำตอบเดิมของตัวเองเหมือนกับทุกๆครั้งที่ผ่านมา แต่กลับหน้ามืดขึ้นมา

กะทันหัน

 

     “นายเป็นอะไรไปน่ะชานยอล” จุนมยอนถลาเข้าไปรับทันทีที่ชานยอลทำท่าเซเหมือนจะล้ม

 

     “ไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่กๆ” ชานยอลบอกพร้อมกับไอออกมา

 

     “ไม่เป็นไรบ้าบออะไร ตัวร้อนขนาดนี้ห๊ะ!!” จุนมยอนแหวใส่เมื่อรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผล่ออกมา

จากร่างกายของชานยอล

 

     “ไม่เป็นไรจริงๆ แค่กๆ” ชานยอลยังคงดื้อดึง

 

     “ไปๆเดี๋ยวฉันจะพาไปส่งที่บ้านนายเอง ป่วยแล้วยังไม่เจียม” จุมยอนค่อนคอด ประคองชานยอล

ไปทางฝั่งข้างคนขับเปิดประตูยัดชานยอลเข้าไปนั่งในรถพร้อมกับอ้อมมาขึ้นประจำที่ของตัวเองและ

ออกรถมุ่งหน้าไปส่งชานยอลที่บ้านทันที

.

.

.

.

.

     เพราะว่าบ้านของชานยอลเป็นเพนท์เฮ้าส์หรูที่ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของคอนโดหรูใจกลางเมืองทำให้

จุนมยอนต้องระมัดระวังมากๆในการเข้าออกแต่ระครั้งแต่ดีที่ก่อนหน้านี้ชานยอลพาเขาเข้ามาบ่อยๆ

เลยทำให้พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ดูแลทางเข้าออกคอนโดนี้ยังพอคุ้นหน้าคุ้นตาเขาอยู่บ้างจึง

ปล่อยเขาขับรถเข้ามาถึงลานจอดรถชั้นใต้ดินได้อย่างนี้

 

     จุนมยอนแบกชานยอนขึ้นมาบนห้องได้อย่างอยากลำบาก แต่ก็โชคดีที่ไม่มีใครได้ทันเห็นแร๊พเปอร์

คนดังหมดสภาพแบบนี้เพราะเป็นเวลาที่ดึกมากแล้ว

 

     “อย่าใจร้ายกับผมนักได้ไหมจุนนี่ เพราะอะไรทำไมคุณถึงได้ทำเหมือนว่าไม่เคยรักกัน” ชานยอล

เพ้อออกมาด้วยพิษไข้ในขณะที่จุนมยอนกำลังเช็ดตัวให้อยู่ และคำถามแบบเพ้อๆของชานยอลทำให้

จุนมยอนได้ย้อนนึกไปถึงเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างเขาทั้งสองคน

.

.

.

.

.

ย้อนไปถึงครั้งแรกที่ชานยอลและจุนมยอนได้พบเจอกัน

   

     ชานยอนที่เดินออกมาจากร้านกาแฟของเซฮุนด้วยความหงุดหงิด เพราะว่าคนสวยที่แสนดีของเขานั้น

มีลูกและสามีเป็นตัวเป็นตนแล้วแต่นั่นมันไม่ใช่สาเหตุที่เขามาหงุดหงิดอยู่อย่างนี้หรอกเพราะว่าถึงจะมี

ครอบครัวแล้วเขาก็ยังอยากที่จะคบคนคนดีๆมีน้ำใจอย่างเซฮุนถึงแม้ว่าจะฐานะเพื่อนก็ตาม ต่อให้ชอบ

หรืออยากได้แค่ไหนคนอย่างปาร์คชานยอลก็ไม่คิดจะแย่งหรืออยากได้คนมีเจ้าของหรอก แต่ที่เขาหงุด

หงิดอย่างนี้ก็เพราะว่าไอ้เจ้าของคนสวยของเขามันคือคิมไคศัตรูอันดับหนึ่งในวงการของเขานะสิ!!

 

     ปึก!!!!

 

     “โอ๊ะ!/โอ้ย!” เดินออกมาจากร้านกาแฟของเซฮุนได้ไม่กี่ก้าวชานยอลก็เดินชนกับใครก็ไม่รู้เข้าให้

 

     “ขอโทษครับๆ” ชานยอลเอ่ยขอโทษพรางช่วยคนที่เขาชนล้มไปเก็บของที่กระจัดกระจายอยู่ข้างๆ

ตัวเจ้าของอยู่ตอนนี้

 

     “ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ทันได้มองทาง” จุนมยอนพูดขอโทษทั้งๆที่ยังไม่ยอม

เงยหน้ามองคนที่เดินชนตัวเองเพราะรีบเก็บของอยู่ กลัวว่าถ้าช้ากว่านี้เจ้าหลานตัวดีจะอาละวาดฟาด

งวงฟาดงาใส่หนักกว่าเดิมซะอีกหลังจากที่เขาผิดนัดกับเจ้าตัวมาตั้งแต่บายแล้วว่าจะพาไปกินของอร่อย

แต่ว่าเขาดันติดประชุมด่วนเสียนี่ เลยทำให้เจ้าตัวโทรจิกเร่งเขายิกๆตั้งแต่ออกมาจากห้องประชุมได้

 

     “ยังไงก็ต้องขอโทษครับเพราะว่าผมก็ไม่ได้มองทางเหมือนกัน นี่ของคุณครับ” ชานยอลบอกพร้อม

กับยื่นของชิ้นสุดท้ายที่ตกอยู่ที่พื้นข้างตัวของเขาส่งให้เจ้าของ แต่พอได้เห็นหน้าคนที่เขาเดินชนเท่านั้น

แหละ ถ้าเป็นในหนังสือการ์ตูนก็คงจะเห็นลูกศรรักรูปหัวใจพรุ่งใส่หน้าอกข้างซ้ายของเขาแน่ๆเลย

 

     “ขอบคุณครับถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับพอดีผมรีบ” จุนมยอนพูดบอกพร้อมกลับรีบจ้ำเดิน

เข้าร้านกาแฟของเซฮุนไป เพราะไม่อยากให้หลานรักกลายร่าง ก็จีซองน่ะนะน่ารักขี้อ้อนแค่กับพ่อแม่

ของตัวเองเท่านั้นแหละ แต่ถ้ากับลุงอย่างเขาน่ะหรือ หึ! อย่าต้องให้พูด ยิ่งเวลาทำให้เจ้าตัวโกรธหรือ

หงุดหงิดยิ่งแล้วใหญ่ จากเด็กน่ารักๆกลายเป็นปีศาจลูกหมูทันทีเลยหล่ะ แต่จะโทษใครได้นอกเสียจาก

ตัวเขาเองที่สั่งสอนและก็ตามใจหลานให้เป็นอย่างนี้เอง

 

     “แล้วเจอกันใหม่นะครับคุณนีออนคนสวย คุณทำให้ผมได้รู้จักคำว่ารักแรกพบซะแล้ว” ปาร์ชานยอล

พูดกับตัวเองเบาๆ เมื่อมองตามจุนมยอนเข้าไปในร้านที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังเหมือนกับง้องอนจีซองลูกชาย

ของเซฮุนอยู่ ใบหน้าคมที่ซ่อนอยู่ในใต้หมวกที่มีฮู้ดสวมทับอีกทีระบายยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

.

.

.

.

สองอาทิตย์ต่อมาที่ Indy Café

 

     ปาร์คชานยอลเดินเข้ามาภายในร้านกาแฟของเซฮุนอย่างอารมณ์ดีเมื่อนึกถึงคนตัวขาวที่ได้เจอเพียงครั้ง

เดียวก็ติดตรึงเข้าไปจนเต็มหัวใจ และที่มาวันนี้เขาก็หวังว่าจะได้เจออีกซักครั้งหรือไม่ก็ได้รู้อะไรเกี่ยวกับ

คนตัวขาวคนนั้นไม่มากก็น้อย และเขามั่นใจว่าเซฮุนจะต้องรู้จักคนๆนั้นของเขาเพราะว่าวันนั้นตอนที่เขา

มองตามเข้ามาในร้านก็เห็นคนๆนั้นเข้าไปกอดจีซองลูกชายของเซฮุนอย่างสนิทสนม

 

     “อินดี้คาเฟ่ยินดีต้อนรับครับ” หนึ่งในพนักงานคนนึงที่อยู่ตรงเคารน์เตอร์เอ่ยต้อนรับอย่างสุภาพ

 

     “เซฮุนอยู่รึป่าวครับ ผมมาพบเซฮุน” ชานยอลถามถึงเซฮุนทันทีเมื่อมองหาแล้วไม่เห็น

 

     “อ่อ! สักครู่นะครับ ผมจะตามให้” พนักงานคนเดิมบอกก่อนที่จะผละออกไปตามเซฮุน

 

     “สวัสดีฮะ พนักงานบอกว่าคุณต้องการพบผมหรือฮะ” เซฮุนที่อบขนมอยู่ในครัวของร้านพูดทัก

เมื่อแบคฮยอนเดินเข้าไปตามและบอกว่าคนที่ยืนหันหลังให้เขาอยู่ตอนนี้คือต้องการพบเขา

 

     “ฉันปาร์คชานยอลเองเซฮุน” ชานยอลพูดบอกพรางเปิดผ้าปิดปากออกให้เซฮุนได้เห็นหน้าตัวเอง

 

     “อ่าว! ชานยอลเองหรอ มีอะไรรึป่าว” เซฮุนถาม

 

     “เปล่าหรอกพอดีวันนี้ฉันว่างน่ะ ก็เลยแวะมาหาอะไรเย็นๆดื่มสักหน่อย ว่าจะมาขอเล่นกับหลานด้วย

ครั้งที่แล้วจีซองหลับฉันเลยไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับหลานเลย” ชานฮยอนบอกพรางส่องสายตา

มองหาจีซอง

 

     “อ๋อ! จีซองเขาออกไปหาคุณตากับลุงเขาน่ะเดี๋ยวก็มา อ๊ะ! นั่นไงมาแล้ว” เซฮุนบอกเมื่อเห็นว่าจีซอง

เดินลากจุนมยอนเข้ามาในร้าน

 

     “หม่าม๊า~ ลูกหิว~” จีซองเห็นเซฮุนเข้าก็บอกปัญหาระดับชาติเลยทีเดียวเชียว

 

     “ฮ่าๆ ใจเย็นๆครับลูก จีซองมารู้จักอาชานยอลกันก่อน คนนี้ชื่ออาชานยอลครับ อาชานยอลเขา

เป็นเพื่อนกับหม่าม๊าครับ คนเก่งสวัสดีอาชานยอลก่อนเร็ว” เซฮุนอ้าแขนรับจีซองที่วิ่งเข้ามากอด

ก่อนที่จะแนะนำให้จีซองได้รู้จักกับชานยอล

 

     “สวัดดีฮับ! อาชานยอล จีซองชื่อจีซองฮับเป็นลูกของหม่าม๊าเซฮุนคนสวยกับป๊ะป๋าจงอินที่หล่อ

ที่สุดในโลกหล้า ยินดีที่ได้รู้จักฮับ!!~” จีซองโค้งตัวแนะนำตัวตามฉบับความแสบของตัวเอง

 

     “ฮึๆ ยินที่ได้รู้จักครับสุดหล่อ เหมือนพ่อไปหมดซะทุกอย่างเลยนะเราน่ะ” ชานยอลทักทายกลับ

อย่างขำๆในความช่างพูดของจีซอง อดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงคนเป็นพ่อเมื่อเห็นว่าจีซองนั้นเหมือนกับ

คิมไคย่อส่วนอย่างไงอย่างงั้น

 

     “อ่อ! ชานยอลนั่นพี่จุนมยอนลุงของจีซองพี่ชายแท้ๆของฉันเอง พี่ฮะนี่ชานยอลฮะ ชานยอลเป็น

เพื่อนของผมฮะ” เซฮุนเห็นจุนมยอนที่ยืนมองชานยอลทักทายพูดคุยกับจีซองอยู่ก็เลยแนะนำให้ทั้ง

สองคนได้รู้จักกัน



      "ผมปาร์คชานยอลยินดีที่ได้รู้จักครับ" ชานยอลเป็นฝ่ายยื่นมือไปทำความร้จักกับจุนมยอนก่อน และคำชื่อ

ของคนที่แต่งตัวปิดหน้าปิดตาอย่างมิดชิดที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขานี้ก็ทำให้จุนมยอนนั้นต้องประหลาดใจว่า

ศิลปินเบอร์หนึ่งของค่ายคู่แข่งตลอดการของบริษัทนั้นกลายมาเป็นเพื่อนกับเซฮุนได้ยังไง



      "คิมจุนมยอนครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ" แต่ถึงจะสงสัยมากแค่ไหนจุนมยอนก็แสดงมารยาทที่ดีในการ

แนะนำตัวเองกลับไปพร้อมกับยื่นมือไปจับทักทายกับชานยอลเหมือนกับคนอื่นๆทั่วไป



       Tru...Tru...Tru



       "ว่าไงฮะคุณแม่ เสร็จเรียบร้อยแล้วฮะ อ่า..ก็ได้ฮะ" ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่อโทรศัพท์ของ

เซฮุนก็ดังแทรกเข้ามา จนเจ้าตัวเลี่ยงออกไปรับสายไม่ไกลจากที่ยืนอยู่ตอนแรกนัก



       "คือ..อีกเดี๋ยวผมต้องเอาของว่างไปที่สมาคมพร้อมคุณแม่นะฮะ เพื่อนที่สมาคมคุณแม่เขาอยากจะคุยเรื่อง

จัดเลี้ยงอะไรสักอย่างกับผมนะฮะพี่ ยังไงผมฝากชานยอลอยู่ทานข้าวกับพี่และจีซองหน่อยนะฮะพอดีชานยอล

เขาตั้งใจจะมาเล่นกับจีซองนะฮะ ขอโทษทีนะชานยอลพอดีฉันต้องไปธุระกับคุณแม่น่ะนายอยู่คุยเล่นกับ

จีซองแล้วก็พี่จุนไปก่อนนะ เดี๋ยวมื้อนี้ฉันเลี้ยงเองถือว่าเป็นค่าเลี้ยงหลาน ฮึๆ" เซฮุนบอกกับจุนมยอนก่อนที่

จะหันไปพูดขอโทษกับชานยอลอีกคนนึงเมื่อเขาไม่สามารถอยู่คุยกับชานยอลได้ทั้งๆที่อีกฝ่ายตั้งใจมาแท้ๆ



       "หม่าม๊าจะไปไหนฮับ" จีซองถามเมื่อเห็นว่าแม่ตัวเองพูดกับจุนมยอนเหมือนกับว่าจะออกไปไหน



       "หม่าม๊าจะออกไปธุระกับคุณยายครับ จีซองอยู่ทานข้าวกับลุงจุนกับอาชานยอลไปก่อนนะครับ

ห้ามดื้อ ห้ามซน แล้วก็ดูแลร้านแทนหม่าม๊าด้วยแล้วหม่าม๊าจะแถมพายแอปเปิ้ลอร่อยๆให้เป็นของหวาน

ในมื้อนี้ ตกลงมั้ยครับ" เซฮุนก้มลงบอกลูกชาย



     "ตกลงฮับ!!" จีซองรีบตอบตกลงทันทีเมื่อได้ยินเซฮุนพูดถึงพายแอปเปิ้ล แหม..ก็พายแอปเปิ้ลแสนอร่อยของ

หม่าม๊าน่ะอร่อยสุดยอดเลย!! จีซองล่ะช๊อบชอบ!!

.

.

.

.

.

       กรุ๊งกริ๊ง  กรุ๊งกริ๊ง



       "อ่ะ!! ลูกค้ามา"

   

       "อ๊ะ! จีซองจะไปไหนครับ" ชานยอลถามอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าจีซองกระโดดลงจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่และรีบ

วิ่งออกไปทางหน้าร้านอย่างรวดเร็วทั้งๆที่กำลังทานข้าวอยู่



       "ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ คุณทานข้าวต่อเถอะ ไอ้เจ้าหมูอ้วนมันก็เป็นอย่างนี้แหละ" จุนมยอนบอกเมื่อ

เห็นว่าชานยอลมองตามหลังจีซองไปอย่างเป็นห่วง



       "ยังไงหรอครับ"



       "อินดี้คาเฟ่ยินดีต้อนรับฮับพี่สาวคนสวย~~ พี่สาวคนสวยจะรับอะไรดีฮับ!!" ไม่ต้องรอให้จุนมยอนตอบ

อะไร เสียงของจีซองก็ดังเข้ามาให้ได้ยินและก็เป็นคำตอบให้ชานยอลได้อย่างดี



       "นั่น!! จีซองออกไปต้อนรับลูกค้าเองหรอครับ?" ชานยอลถามอย่างไม่แน่ใจนักเพราะเขาไม่เคยเห็นเด็ก

สี่ขวบที่ไหนทำอย่างจีซองมาก่อนและยิ่งไอ้คำว่า 'พี่สาวคนสวย' ที่เจ้าตัวทำเสียงอ่อนเสียงหวานยิ่งแล้วใหญ่



       "ฮึๆ ไอ้อ้วนมันร้ายใช่เล่นใช่มั้ยครับ?" จุนมยอนถามอย่างขำๆ

 

       "คงจะแสบหน้าดูนะครับ"



       "ก็เล่นเอาปวดหัวกันไปทั้งบ้านนั้นแหละ แต่ก็ดีนะครับไม่เหงาดี เดี๋ยวก็อ้อนคนโน้นอ้อนคนนี้เขาไปทั่ว

จนตายายนี่หลงหลานจนแทบจะไม่ไปทำงานทำการเลย ฮ่าๆ" และแล้วชานยอลก็ทำให้คนหลงหลานอย่าง

จุนมยอนสามารถพูดคุยกับชานยอลได้อย่างเป็นกันเองไม่ใช่ถามคำตอบคำอย่างที่ผ่านมา



       "อย่างนี้ที่บ้านคุณคงจะสนุกน่าดูเลยนะครับ ต่างกันกับที่บ้านของผมเลย ที่บ้านผมนะมีแต่ผู้ใหญ่ไม่มีเด็ก

เลยซักคน พอเจอหน้ากันก็พูดคุยกันแต่เรื่องเคลียดๆจนผมนี่ต้องออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียวอย่างนี้นี่ไง"

ชานยอลพูดบอกพรางนึกถึงครอบครัวของตัวเอง ครอบครัวที่อึดอัดและเคร่งเครียดทุกครั้งที่อยู่ใกล้

ครอบครัวที่ไม่มีความใกล้ชิดสนิดสนมแม้แต่กลับพี่น้องที่คลานตามกันมายังต้องใช้ภาษาพูดอย่างเป็น

ทางการคุยกันเลย ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันล้วนไม่ใช่หรือไม่ใกล้เคียงตัวตนแท้ๆของเขาเลยสักนิด



       "เอาน่า..คุณเป็นเพื่อนของเซฮุนก็เป็นเหมือนน้องชายของผมคนนึงเลยเหมือนกันนะ" เพราะเห็นสี

หน้าหม่นๆของชานยอลที่เจ้าตัวไม่ได้ต้องการที่จะแสดงออกมาแต่มันเป็นเพียงกลไกลธรรมชาติเท่านั้นเอง

จุนมยอนก็พูดปลอบแถมยังใช้ภาษาแบบกันเองอีกต่างหาก และนั่นก็ทำให้ชานยอลยิ้มออกมาได้อย่างง่ายดาย



       .....คุณจะทำให้ผมหลงรักคุณไปถึงเมื่อไหร่นะคุณนีออนคนสวย......



       "ผมเป็นแค่น้องเองหรอครับ?" ชานยอลเลิกคิ้วถาม และคำถามที่ถามออกไปนั้นก็ทำให้จุนมยอนแทบจะ

สำลักน้ำส้มที่กำลังดื่มอยู่เลย



       "แล้วคุณอยากจะเป็นอะไร อยู่ในสถานะไหนกับผมล่ะครับ?" จุนมยอนแกล้งถามพร้อมทั้งเอียงคอมอง

ชานยอลด้วยถ้าทางน่ารักๆที่ถ้าใครสักคนในครอบครัวของเจ้าตัวได้เห็นก็คงจะมีจะต้องมีคนตกใจกันบ้างล่ะ

ใครจะไปคิดล่ะว่าคนบ๊องๆห่ามๆอย่างลุงจุนของจีซองจะมีมุมมุ้งมิ้งกับชาวบ้านเขาด้วย



       "แล้วถ้าอยากเป็นแฟนจะได้ไหมครับ?" ชานยอลถามรีบกลับแบบตรงๆตามที่ใจตัวเองต้องการแบบไม่มี

อ้อมค้อมเลยทีเดียวเชียว



       "อืม...ไอ้ได้น่ะมันก็ได้อยู่หรอกนะ แต่มันอยู่ที่ว่าคุณจริงจังแค่ไหน? ถ้าแค่จะเล่นๆผมไม่เอาหรอกนะ

เพราะว่าไอ้ผมน่ะมันแก่แล้ว ไม่อยากเปลี่ยนแฟนบ่อยๆ" ประสานมือรองใต้คางพร้อมทั้งส่งสายตาถามอย่าง

สื่อความหมาย



       "ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยจริงจังกับเรื่องไหนเท่ากับเรื่องของคุณเลยจริงๆนะ" ชานยอลพูดบอกด้วยน้ำเสียง

มั่นคง แววตาจริงใจ



       "อาฮะ! ถ้าคุณอยากเป็นแฟนผมก็จงจำไว้ว่าคุณควรที่จะมี ความจริงใจ มั่นคง ซื่อตรงและจริงจัง ถ้าคุณทำ

ทั้งสี่ข้อนี้ให้ผมเห็นและสามารถทำให้ผมมั่นใจในตัวของคุณมากพอแล้ว วันนั้นผมจะตกลงเป็นแฟนของคุณ

โอเคมั้ย??" จุนมยอนพูดบอกอย่างจริงจังไม่แพ้กัน



       Tru...Tru...Tru



       "วันนั้นของคุณมันจะต้องมาถึงเร็วๆนี้แน่ผมรับรอง และวันนี้ผมต้องขอตัวก่อนนะครับผู้จัดการโทรมา

ตามผมแล้วล่ะ แล้วเจอกันใหม่นะที่รัก" ชานยอลบอกพร้อมกับชูโทรศัพท์ของตัวเองที่หน้าจอขึ้นโชว์

คำว่าเมเนเจอร์ให้กับจุนมยอนดู ก่อนที่จะลุกออกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่พร้อมทั้งใส่ผ้าปิดปากสวมฮู้ดเพื่อพรางตัว

จากสายตาแฟนคลับและนักข่าวแต่ก่อนที่จะเดินออกไปยังไม่วายยักคิ้วหลิ่วตาใส่จุนมยอนเป็นการทิ้งท้ายอีกที



       "หึ้ย!! ไอ้บ้าเอ้ย!!!" จุนมยอนโวยวายแก้เขินกับตัวเองอย่างไม่ดังนักและดีที่โต๊ะนี้เป็นส่วนตัวอยู่มุมอับ

ของร้านและลับตาคนมากพอที่จะทำให้ศิลปินดังอย่างชานยอลได้นั่งทานข้าวอย่างเป็นสุขไร้การรบกวน

จากเหล่าแฟนคลับและนักร้องที่คอยเป็นสต๊อกเกอร์ติดตามชีวิตศิลปิน





...

พาร์ทย้อนอดีตของชานยอลกับจุนมยอนยังไม่หมดนะคะ

ถ้าชอบถ้าใช่จงกดบวก

แต่ถ้าไม่บวกเป็ดก็ขอแค่คนละคอมเม้นเป็นให้กำลังใจให้คนแต่งก็ยังดีนะคะ

เรื่องนี้กำลังจะจบลงในอีกไม่กี่ตอนข้างหน้าแล้ว นี่คือเรื่องจริงไม่ใช่ล้อเล่นอย่างที่ผ่านมา

อีกไม่เกินสิบตอนแน่ๆค่ะ และหลังจากที่จบแล้วมี่จะค่อยๆรีไรต์เนื้อเรื่องในช่วงแรกๆที่มันแล้ว

ขัดหูขัดตา ภาษาไม่ดี บรรยายได้ไม่โอเลย อันนี้มี่แก้ไขแน่ๆค่ะ

เพราะมี่ลองกลับไปอ่านเองแล้วมันเป็นอะไรที่ขัดใจมากๆ

#คิดถึงงงงงงงง(กอดแน่นๆ)ม๊ากกกกกกกกกกก  :katai5:



 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

   

   

 

 

 

 

 

 

 

 

 
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 27 (09.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-10-2015 00:20:30
ประธานโอคงจะได้ลูกเขยเข้าบ้านอย่างเดียวเลย 
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 29 (29.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 29-10-2015 03:59:44
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 29 





       รถครอบครัวคันหรูแล่นอยู่บนถนนเลียบชายหาดด้วยความเร็วที่ไม่มากนักเพราะในรถประกอบไปด้วยคุณแม่ท้องแก่
และเด็กแสบที่นั่งหลับคอพับคออ่นอยู่ในคาร์ซิทที่นั่งเด็กงานนี้คุณพ่อซุปเปอร์สตาร์ที่เป็นคนในครั้งนี้จึงขับอย่างระมัดระวัง
เต็มที่เพื่อความปลอดภัยของสมาชิกครอบครัวที่รักสุดหัวใจอย่างเต็มที่ และจุดหมายปลายทางการเที่ยวพักผ่อนในครั้งนี้
คือบ้านพักต่างอากาศของศิลปินรุ่นพี่ของจงอินที่นานๆทีจะปล่อยให้พวกเซเลปหรือศิลปินดาราด้วยกันมาเช่าสถานที่พักผ่อน
ที่จงอินเลือกที่นี่นั้นเพราะบ้านพักต่างอากาศหลังนี้อยู่ไม่ไกลใจกลางเมืองอย่างกรุงโซลสักเท่าไหร่แต่ความสงบเงียบและ
ความเป็นส่วนตัวนั้นไม่แพ้ที่ไกลๆเลยเพราะบ้านพักต่างอากาศหลังนี้มีชายหาดส่วนตัวที่กินพื้นที่กว้างห่างไกลจากบ้าน
ประชากรคนอื่นไในหมู่บ้านนี้มากและแน่นอนว่าลับสายตาความอยากรู้อยากเห็นของประชาชนประชาชีแถวๆนี้แน่ๆ


       "จีซองครับ จีซอง ตื่นเถอะครับ ถึงทะเลแล้วนะครับลูก" หลังจากที่จอดรถและประคองหม่าม๊าเซฮุนไปนั่งพักผ่อน
รออยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้วจงอินก็กลับมาปลุกลูกชายสุดที่รักตัวแสบที่ยังคงนั่งหลับคอพับคออ่อนอยู่คาร์ซิทของตัวเอง
เหมือนเดิมทั้งๆที่รถจอดอยู่หน้าบ้านของจุดหมายในครั้งนีี้มาได้ซักพักแล้ว ไม่ได้เลย ไม่ได้เลยจริงๆลูกชายคนนี้ของเขานี่
ขึ้นรถไม่ได้เลยจริงๆ ไอ้ตอนที่ออกรถมาจากบ้านก็ยังชวนคุยเอะอะวุ่นวายอยู่เลยแต่ผ่านไปได้ซักสิบนาทีเท่านั้นแหละเสียง
เจื้อยแจ้วก็เงียบหลายไปเลยหันไปมองอีกทีลูกหมูตัวแสบของเขาก็หมดฤทธิ์หลับไปซะแล้ว


       "งื้อออ...ป๊ะป๋าาาา" ยังไม่ทันได้ลืมตาเลยปากก็ร้องเรียกหาป๊ะป๋าสุดที่รักเสียแล้ว พอเห็นว่าป๊ะป๋ากำลังปลดเข็มขัดล็อค
ที่นั่งออกให้ตัวเองอยู่จีซองก็อ้าแขนโผเข้ากอดคอจงอินซะแน่นเลย


       "ไม่งองแงนะครับลูก ถึงทะเลแล้วนะครับ เห็นมั้ย?" จงอินบอกพร้อมกับเอี้ยวตัวหลบให้จีซองที่กอดตัวเองเป็นลูกลิง
ติดแม่ให้เห็นบรรยากาศและสภาพแวดล้อมรอบๆตัวให้เจ้าตัวได้เห็นว่าถึงปลายทางที่เจ้าตัวร้องขออยากจะมาแน่แล้ว


       "อุ๊ต๊ะ!!! ทะเล๊...ทะเลลลลลลลลลลล....พี่จีซองมาแล้วววววววววววววว!!!!" พอได้เห็นภาพพื้นน้ำทะเลที่อยู่เบื้องหน้า
ตัวเองเจ้าเด็กน้อยที่ร้องอ้อนงองแงป๊ะป๋าตัวเองเมื่อกี้นี้ก็เปลี่ยนกลายเป็นอีกคนเลย จีซองดีดดื้นดันตัวเองหลุดจากอ้อมแขน
ของป๊ะป๋าตัวเองได้ก็วิ่งร้องตะโกนอยู่ข้างๆรถอยากอารมณ์ดีเลยทีเดียว


       "ทะเลล่ะ ป๊ะป๋าทะเลจริงๆด้วยอ่ะ" จีซองหันมาพูดพรางชี้ให้จงอินที่ยืนกอดอกมองลูกชายอยู่ดูด้วยกันอย่างตื่นเต้น


        "ครับๆ ป๊ะป๋าเห็นแล้วครับ" ลูบหัวลูกชายด้วยความเอ็นดูเบาๆ


       "ไปเล่นน้ำกันนะป๊ะป๋า เล่นน้ำกันๆ" จีซองบอกพร้อมกับกระตุกมือชวนจงอินจะให้ไปเล่นน้ำด้วยกัน


       "ตอนนี้เราจะยังไม่เล่นน้ำกันนะครับจีซองเพราะแดดยังร้อนอยู่เห็นไหมครับ" จงอินบอก จีซองก็พยักหน้ารับรู้แต่ยัง
คงหน้ามุ่ยอยู่เพราะอยากจะเล่นเดี๋ยวนี้เลยนี่นา
 
       "อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิครับ ตอนนี้เป็นเวลาทานมื้อกลางงวันใช่มั้ยครับ จีซองจำได้หรือป่าวว่าป๊ะป๋าเคยบอกว่ายังไง"
จงอินย่อตัวนั่งยองเพื่อให้เสมอกับจีซองแล้วถามอย่างใจเย็น


       "ถึงเวลากินก็ต้องกินฮะ เพราะถ้าไม่กินตอนนี้ก็จะไม่ได้กินอะไรอีกเลยจนกว่าจะถึงมื้อต่อไป" จีซองก้มหน้าตอบเบาๆ


       "แล้วมีอะไรอีกครับ?" จงอินจับแขนทั้งสองข้างของลูกชายเพื่อให้จีซองหยุดบิดตัว


       "ถึงเวลาเล่นก็จะได้เล่นให้เต็มที่แบบสุดๆไปเลยฮะ" จีซองตอบพร้อมกับค่อยๆช้อนตามองจงอิน


       "อืม..แล้วถ้าอย่างนั้นตอนนี้พี่จีซองควรจะทำอะไรก่อนดีครับ"


       "ไปกินข้าวกับป๊ะป๋าแล้วก็หม่าม๊าครับ" จีซองตอบพร้อมกับหลบสายตาของจงอินที่จ้องมองตัวเองอยู่ เพราะถึงป๊ะป๋า
จะใจดีแค่ไหนแต่ถ้าเป็นเรื่องนี้ป๊ะป๋าเคยดุแล้วก็ทำโทษให้พี่จีซองอดข้าวมาแล้วนะเพราะตอนนั้นพี่จีซองห่วงเล่นไง
พี่จีซองจำได้นะหิวจนปวดท้องเลย พี่จีซองเลยกลัวป๊ะป๋านิดหน่อย แค่นิดหน่อยจริงๆนะ!!


       "อื้ม!! ลูกชายป๊ะป๋าเก่งที่สุดเลยครับ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เราไปทานมื้อเที่ยงกันดีกว่าเน๊าะ แดดร่มเมื่อไหร่ป๊ะป๋าจะรีบพา
พี่จีซองออกมาเล่นน้ำเลย ป่ะ! เข้าบ้านกันดีกว่า ป่านนี้หม่าม๊ากับน้องเล็กๆรอแย่เราสองคนจนหิวแย่แล้ว" จงอินบอกพร้อม
กับจูงมือลูกชายสุดที่รักเข้าไปในบ้านพักเพื่อไปทานอาหารมื้อเที่ยงของวันกันอย่างมีความสุขและภาพข้างหลังของสองคน
พ่อลูกที่เดินจับจูงมือแกว่งไปมาที่ฉายออกไปทางทีวีนั้นก็ทำให้คนดูทางบ้านมีความสุขเช่นเดียวกัน
.
.
.
 .
.
       "จงอิน! จีซอง! เล่นระวังๆ กันหน่อยนะ นี่!! ที่หม่าม๊าพูดเนี่ยฟังกันบ้างมั้ย!! เฮ้อ! พอกันทั้งพ่อทั้งลูกเลย" เซฮุนตะโกน
บอกสองพ่อลูกจงอินและจีซองที่พากันวิ่งลงทะเลหลังจากที่พาเขามานั่งอยู่ใต้ร่มไม้เรียบร้อยแล้ว แต่เหมือนกับว่าต่อให้
เซฮุนตะโกนให้คอแตกกันไปข้างนึงสองคนพ่อลูกนั่นก็หาได้สนใจไม่ จนเซฮุนต้องถอนหายใจอย่างปลงๆ เพราะทำได้
แค่เพียงนั่งลูบท้องกล่อมลูกคนเล็กไปพรางนั่งดูสองพ่อลูกเล่นน้ำทะเลไป ตอนนี้จงอินเหมือนกับกลายร่างไปเป็นเด็ก
ห้าขวบวัยเดียวกันกับลูกชายไปเสียแล้วจากที่เซฮุนเห็นเพราะเหมือนกับว่าใจไม่มีใครยอมใครในการแกล้งสาดน้ำใส่กันเลย


       "ฮึๆ สู้ป๊ะป๋าไม่ได้หรอกลูกหมูตัวแสบเอ้ย! นี่แนะๆ ฮ่าๆ" จงอินแล้งวักน้ำสาดใส่ลูกชายอย่างไม่หยุดพัก จนจีซองทำ
หน้ามุ่ยเพราะเริ่มสู้ไม่ได้ แต่ก็นะขึ้นชื่อว่าจีซองศิษย์ลุงจุนซะอย่างเรื่องเอาคืนป๊ะป๋าแค่นี้สบายมาก


       "ฮึ่ม!! ฮึ่มๆ พลัง!จีซองแมน ย๊ากกกกกกก!!!" จีซองชูมือทำท่าเรียนแบบซุปเปอร์ฮีโร่ในดวงใจตัวเองก่อนที่จะตะโกน
ออกมาด้วยเสียงที่ดังและพุ่งตัวใช้หัวโขกหน้าท้องแกร่งของจงอินอย่างไม่ออมแรง คือมีแรงเท่าไหร่จีซองแมนก็ใช้เต็มที่
เลยเหมือนกัน

       "อุ๊ก!! โอ๊ยยย!! จีซองงงงงง" จงอินโหยหวนออกมาด้วยความจุก แรงลูกชายสุดที่รักของเขาใช่ว่าจะน้อยปกติก็มือหนัก
อยู่แล้ว แต่นี่เล่นโหม่งมาซะสุดแรงเลยจะไม่ให้เขาร้องออกมาได้อย่างไง

       "ฮะๆ ฮ่าาาาาา เป็นไงล่ะปีศาจป๊ะป๋า เห็นพลังของจีซองแมน!! รึยัง คึๆ" จีซองเก๊กปิดท้ายเลียนแบบซุปเปอร์ฮีโร่เวลา
ปราบปีศาจในการ์ตูนเสร็จปิดท้ายอีกทีก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

       "ชริ! ป๊ะป๋างอนจีซองแล้วครับ จีซองทำป๊ะป๋าเจ็บมาก โป้งงง!!" จงอินพูดออกมาพร้อมกับแสดงสีหน้าและท่าทาง
เหมือนกับว่าโกรธจีซองมากจริงๆซะอย่างนั้น ก่อนที่จะเดินหนีจีซองขึ้นจากริมชายหาดที่เล่นกันอยู่กับจีซองและเดิน
กลับไปหาเซฮุนที่มองดูทั้งคู่นั่งอยู่ใต้ร่มไม้ พูดคุยอะไรกันสักอย่างก่อนที่จะเดินผละออกจากเซฮุนขึ้นฝั่งไป ทำเอาจีซอง
ที่ยืนมองท่าทางของจงอินอย่างงงๆอยู่ที่เดิมเริ่มหน้าเสียเหมือนจวนจะร้องไห้เสียเต็มประดาซะแล้ว

       "เป็นอะไรไปครับจีซอง ทำไมถึงทำหน้าอย่างนั้นล่ะครับ หืม.. รึว่าเล่นน้ำไม่สนุกแล้วครับ" เซฮุนเดินแบกท้องโตๆ
ของตัวเองเข้ามาถามลูกชายคนคนโตใกล้ๆ เมื่อเห็นว่าจีซองยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่มีทีท่าที่จะขยับเขยื้อนไปไหนเลย
ตั้งแต่จงอินเดินออกไป

       "หม่าม๊าาาา.....ป๊ะป๋าอ่าาา" จีซองพุ่งเข้ากอดพร้อมกับถูหน้ากับท้องกลมๆของเซฮุนก่อนที่จะพูดออกมาด้วยเสี่ยงสั่นๆ
เหมือนกับว่าเจ้าตัวนั้นกำลังร้องไห้อยู่

       "หือ...ป๊ะป๋าทำไมหรอครับ? ป๊ะป๋าเขาบอกกับหม่าม๊าว่าจะไปเข้าห้องน้ำนี่ครับลูก จีซองเป็นอะไรรึป่าวครับ" เซฮุนดัน
ตัวจีซองออกให้ห่างจากตัวเองเพื่อที่จะมองหน้าลูกชายชัดๆ และบอกในสิ่งที่เขาได้คุยกับจงอินก่อนหน้านี้ให้จีซองได้ฟัง
เพราะว่าจงอินบอกกับเขาว่าปวดท้องจะไปเข้าห้องน้ำในบ้านเท่านั้นเอง แต่จีซองกับน้ำตานองอย่างนี้มันหมายความว่ายังไง
มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างการเล่นของสองพ่อลูกที่เขาไม่รู้รึป่าวเนี่ย       

       "ป๊ะป๋าโกรธลูกฮะหม่าม๊า ลูกทำป๊ะป๋าเจ็บอ่า" จีซองเบ้ปากบอกเพราะเริ่มใจคอไม่ดีน้ำตาเม็ดน้อยก็เริ่มไหลออกมาอย่าง
ไม่ขาดสายเพราะกลัวว่าป๊ะป๋าจะโกรธตัวเองจริงๆทั้งๆที่ตัวเองก็ยังคงงงๆอยู่เพราะปกติแล้วเล่นกันแรงกว่านี้จงอินยังไม่
เคยดุเคยว่าอะไรเลย แถมยังเป็นคนที่ชอบชวนเล่นอย่างนี้เองซะด้วยซ้ำ แล้ววันนี้ป๊ะป๋าเป็นอะไรอ่าาาา....

      "อืม..หม่าม๊าว่าจีซองคงจะเข้าใจผิดแล้วล่ะลูก หม่าม๊าไม่เห็นป๊ะป๋าจะเหมือนโกรธอะไรลูกเลยนะครับ ป๊ะป๋าแค่บอก
กับหม่าม๊าว่าปวดท้องจะไปห้องน้ำก็แค่นั้นเองนะครับลูก" เซฮุนค่อยๆเซ็ดน้ำตาให้ลูกชายเบาๆ และพยามที่จะอธิบายให้
จีซองสบายใจไปด้วย ใจก็พรางคิดไปว่าจงอินนี่หรอ คนอย่างคิมจงอินที่ทั้งรักทั้งหลงจีซองแถบจะเอาลูกชายขึ้นหิ้งบูชา
เลยเนี่ยนะจะโกรธและเย็นชาไม่สนใจลูกได้ลงคอน่ะ พนันล้านวอนโอเซฮุนคนนี้ขอแค่วอนเดียวพอ ไม่มีทางซะหล่ะ

       "ป๊ะป๋าโกรธลูกจริงๆนะฮะหม่าม๊า พอลูกทำป๊ะป๋าเจ็บ ป๊ะป๋าก็ว่าลูกแล้วก็เดินหนีไปเลย" จีซองยังคงยืนยันคำเดิมว่า
จงอินนั้นโกรธเคืองตัวเองอยู่จริงๆ

       "ถ้าอย่างนั้นหม่าม๊าว่าเราเข้าไปหาป๊ะป๋าที่ในบ้านเลยดีกว่าจะได้รู้เรื่องไปเลย นี่ก็เริ่มมืดแล้วด้วย เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อย
ออกมาเล่นน้ำพร้อมกับดูคุณพระอาทิตย์ดวงใหญ่กันตอนเช้าเลยดีกว่าเน๊าะ" เซฮุนบอกเมื่อเห็นว่าพระอาทิตย์กำลังตกดิน
ท้องฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว ทั้งๆที่เหมือนกับว่าออกมาเล่นข้างนอกกันได้ไม่เท่าไหร่เอง ถ้าเกิดจีซองอยากจะจะโทษใครก็ต้อง
บอกให้ไปโทษคุณป๊ะป๋าดีเด่นอย่างจงอินแล้วหล่ะ เพราะกว่าจะยอมให้จีซองออกมาจากบ้านได้ก็ต้องรอให้แดดมันอ่อน
จริงซะก่อน ก็เลยได้ออกมาแป๊ปเดียวอย่างนี้นี่ไง

       "ฮะ!" จีซองรับคำพร้อมกับยื่นมือไปกับกันกับมือเซฮุนก่อนที่ทั้งสองคนจะพากันเดินกลับไปยังบ้านพักที่อยู่ไม่ไกล
จากชายหาดที่นั่งอยู่ซักเท่าไหร่หรอก แต่ก็อาจจะต้องให้เวลามากกว่าปกติซักหน่อยเพราะเซฮุนนั้นเดินเร็วมากไม่ได้
เนื่องจากมีท้องใหญ่ๆคอยถ่วงอยู่นั่นเอง
.
.
.
.
.
       "งื้ออออ!! ทำไมบ้านมืดจังล่ะฮะหม่าม๊า" จีซองกระตุกมือเซฮุนถามเมื่อเดินพ้นประตูบ้านเข้ามาแล้วเห็นว่าทั้งบ้านนั้น
มืดสนิทไร้เงาของป๊ะป๋าจงอินของตัวเองอย่างที่ควรจะเป็นเลย

       "นั่นสินะ หม่าม๊าว่าเรามาลองเรียกป๊ะป๋ากันก่อนดีกว่านะจีซองเพราะหม่าม๊าไม่รู้ว่าสวิตช์ไฟอยู่ไหนซะด้วยสิ
ขืนเสี่ยงเดินมั่วๆเข้าไปมีหวังพากันชนโน่นชนนี่ให้เจ็บตัวกันซะป่าวๆนะหม่าม๊าว่า จงอินๆ จงอินอยู่รึป่าว จงอิน!!"
เซฮุนบอกพร้อมกับตะโกนเรียกจงอินไปด้วย ก่อนที่จะต้องขมวดคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเหมือนกับว่าเห็นแสงอะไรแว๊บๆ
อยู่ทางตำแหน่งห้องครัวนะถ้าเขาจำไม่ผิดก่อนที่แสงนั้นจะหายไปอย่างรวดเร็ว

       แซง-งิล-ชุก-คา-ฮัม-นิ-ดา~
       แซง-งิล-ชุก-คา-ฮัม-นิ-ดา~
       ซา-รัง-ฮา-นึน-จีซอง-อา~
       แซง-งิล-ชุก-คา-ฮัม-นิ-ดา~~

       เสียงของร้องเพลงอวยพรวันเกิดดังมาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้าน ทำเอาจีซองสะดุ้งตกใจเผลอบีบมือที่จับกันกับ
เซฮุนเข้าอย่างแรงเมื่อได้ยินเสียงของป๊ะป๋าตัวเอง จนเซฮุนต้องลูบหลังเป็นการปลอบลูกชายเบาๆ และดันตัวจีซองที่ยืน
อยู่ข้างๆกันให้ออกมายืนอยู่ตรงด้านหน้าของเขาแทนเมื่อเห็นจงอินถือเค้กปอนด์ใหญ่ที่จุดเทียนพร้อมแล้วเดินร้องเพลง
อวยพรวันเกิดออกมาจากประตูห้องครัวของบ้านพักก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าจงอินคงจะจัดเซอร์ไพร์วันเกิดให้ลูกชายด้วยตัว
ของตัวเองคนเดียวเสียแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาลืมวันเกิดลูกชายตัวเองแต่อย่างไรนะเพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้เขาและจงอินได้
ปรึกษากันแล้วว่าจะจัดวันเกิดให้จีซองหลังจากที่กลับจากทะเลเพราะคงจะเตรียมตัวไม่ทันเพราะเจ้าลูกชายดันเรียกร้อง
อยากจะมาให้ได้ แต่นี่อะไรจงอินแอบทเซอร์ไพร์ลูกชายลับหลังโดยไม่บอกเขาเพื่อเรียกคะแนนพิศวาสเพิ่มจากลูกชาย
ทั้งๆที่ตอนนี้ตัวเองเป็นขวัญใจลูกมากกว่าเขาอย่างนั้นหรอ? ฮึ่ม!! คิมจงอินนะคิมจงอินคอยดูเถอะโอเซฮุนคนนี้จะเอา
ลูกคนเล็กในท้องมาเป็นพวกเดียวกับตัวเองให้ได้เลยคอยดู!! นอยด์นะนอยด์งานนี้เซฮุนขอบอกเลยว่านอด์มากอ่ะ

       "อธิฐานขอพรและเป่าเทียนเร็วๆสิครับลูกชาย เทียนจะดับหมดแล้วนะ เอ้า! ยืนงงอะไรครับ วันนี้วันเกิดของจีซอง
ไงครับลูก" จงอินบอกเมื่อเห็นว่าจีซองยังคงทำหน้าสงสัยเหมือนกับว่ายังคงงงๆอยู่ก่อนที่จะย่อตัวนั่งทั้งๆที่ถือเค้กอยู่อย่างนั้น
เพื่อให้ตัวเสมอกับจีซองและจีซองจะได้เป่าเทียนได้ถนัดๆ
 
       ฟู่ว!! ฟุ่ว!! ฟู่ว!!

       เมื่อได้ยินจงอินบอกอย่างนั้นจีซองก็รีบหลับตาอธิฐานขอพรเหมือนกับที่หม่าม๊าเคยสอนในทุกๆวันเกิด ก่อนที่จะ
เป่าเทียนที่ปักอยู่บนเค้กอย่างสุดแรงเกิดจนเทียนดับหมดทุกเล่ม

       "สุขสันต์วันเกิดครบห้าขวบครับพี่จีซองลูกชายสุดที่รักของป๊ะป๋า" เมื่อเทียนดับหมดแล้วจงอินก็ลุกขึ้นยืนเพื่อกดเปิด
สวิตช์ไฟที่อยู่ข้างผนังตรงที่ตัวเองยืนอยู่ ก่อนที่จะพูดอวยพรวันเกิดจีซองอีกที และพากันเดินไปนั่งกันทีี่ชุดโซฟารับแขก
เพราะไม่อยากให้เซฮุนต้องยืนเป็นเวลานานๆ

       "แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับพี่จีซองสุดหล่อของหม่าม๊า หม่าม๊าขอให้พี่จีซองสุขภาพแข็งแรงๆอย่างนี้ไปตลอดเลยนะครับ"
เมื่อนั่งลงกันได้เซฮุนก็คว้าตัวลูกชายสุดที่รักเข้ามากอด ก่อนที่จะพูดอวยพรวันเกิดให้จีซองอีกคน อย่างไม่ยอมน้อยหน้า
กันกับจงอินเลย

        ฟอดดด!! ฟอดดด!!

       "ลูกรักหม่าม๊ากับป๊ะป๋าที่สู้ดดดดดดในโลกเลยฮะ" จีซองหอมแก้มเซฮุนกับจงอินอย่างเน้นๆคนละทีก่อนที่จะตะโกน
บอกรักออกมาจนดังลั่นบ้าน

       "ฮึๆ / ฮ่าๆ" คำพูดบวกกับท่าทางของจีซองทำเอาจงอินกับเซฮุนขำไปตามกันกับความทะเล้นน่ารักของลูกชาย
ที่ดูเหมือนว่ายิ่งโตจีซองก็ยิ่งมีความสามารถในการทำให้คนอื่นมาหลงรักตัวเองเพิ่มมากขึ้นทุกที และหลังจากนั้น
ก็มีเสียงหยอกล้อ หัวเราะและเสียงพูดคุยกันอย่างมีความสุขสนุกสนานของสามคนพ่อแม่ลูกดังคละเคล้าไปกับความ
อบอุ่นที่อบอวนไปทั่วทั้งบ้านจนล่วงเวลาเลยไปจนค่อนคืน
.
.
.     
.
.
        ช่วงสุดท้ายของรายการ 'รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์'
     
       "เอาล่ะค่ะ และช่วงเวลาต่อนี้ไปก็คือช่วงที่ทุกช่วงพิเศษท้ายราย 'รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์' นั่นเองหล่ะครัา
คุณผู้โช้มมมม....ช่วงนี้ของรายการก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ เพียงแต่เราแค่อยากจะนำความคิดเห็นของคุณผู้ชมคนดูที่
รับชมรายการ 'รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร' อยู่ทางบ้านก็ดีหรือช่องทางออนไลน์อย่างในอินเทอร์เน็ตก็ดี ว่าหลังจาก
ที่ทุกท่านได้ชมรายการกันมาตลอดจนถึงล่าสุดสัปดาห์นี้แล้วมีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้าง และทางทีมงานก็ได้รวบรวม
ผลสำรวจความคิดเห็นจากทุกช่องทางมาให้ดิฉันแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันไปพร้อมๆกันเลยนะคะ" พอภาพครอบครัว
ของจงอินตัดไปก็แทนที่ด้วยพิธีกรสาวสวยคนนึงที่ออกมาพูดอธิบายและชี้แจงอย่างละเอียดว่าทำไมรายการไม่ได้ตัดจบ
ไปปอย่างทุกๆสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่หน้าจอจะขึ้นภาพวีดีโอที่เหมือนกับจะเป็นการสัมภาษณ์ผู้ชมจากทางบ้านโดยทีมงาน

       "ครั้งแรกเลยที่พวกคุณรู้ข่าวว่าคิมไคมีภรรยาและลูกคุณรู้สึกอย่างไรคะ" เสียงทีมงานภาคสนามเป็นคนถาม

       "เสียใจค่ะ เสียใจมากๆเลย รู้สึกเหมือนกับโดนหักหลังอย่างไงอย่างงั้นเลย" ผู้ให้สัมภาษณ์ 1

       "โกรธค่ะ ทั้งโกรธทั้งเกลียดผู้ชายที่ชื่อโอเซฮุนเลยค่ะที่เขาเข้ามาแย่งไคโอปป้าของพวกเรา" ผู้ให้สัมภาษณ์ 2
 
       "ใช้ค่ะ ผู้ชายและเด็กคนนั้นมีสิทธิ์อะไรที่จะมาแย่งคิมไคไป คิมไคเป็นของพวกเรานะ!!" ผู้ให้สัมภาษณ์ 3

       "แล้วหลังจากที่ได้ดูรายการเรียลลิตี้'รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์' ได้รู้ความจริงทั้งหมดและเห็นชีวิตประจำวัน
ของครอบครัวคิมไคไปกันบ้างแล้วล่ะค่ะความรู้สึกตอนนี้เป็นยังไงได้เปลี่ยนไปจากครั้งแรกแล้วบ้างหรือยังคะ"
ทีมงานคนเดิมถาม

       "จากที่ได้ดูเทปย้อนประวัติของทั้งคู่(คิมไคและโอเซฮุน)ไป ก็รู้อยากจะขอบคุณผู้ชายที่ชื่อโอเซฮุนมากๆเลยค่ะที่ทำ
ให้เราทุกคนได้มีโอกาสได้เจอได้รักคิมไคอย่างทุกวันนี้ ขอบคุณไม่ปล่อยให้คิมไคต้องอยู่อย่างเดียวดายในวันที่ไม่มีใคร
ขอบคุณที่คุณเสียสละเป็นคนยอมทุกข์ใจเพื่อให้คิมไคได้ทำตามความฝันจนเป็นคิมไคอย่างที่พวกเรารักอย่างทุกวันนี้
พวกเราขอโทษที่เคยด่าเคยว่าคุณทั้งๆที่คุณไม่ผิดอะไร สุดท้ายไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเราก็ขอยืนหยัดที่จะสนับสนุน
และจะรักคิมไคอย่างนี้ต่อไปค่ะ" ผู้ให้สัมภาษณ์ 1  บอกพร้อมกับปาดน้ำตาตัวเองเบาๆ

       "อื้อ!! เซฮุนอนนี่เป็นผู้ชายที่สวย น่ารักและใจดีที่สุดเลยค่ะยิ่งอยู่กับไคโอปป้ายิ่งน่ารักค่ะ ฉันขอโทษที่ว่าออนนี่นะคะ
ต่อไปนี้ถ้าฉันได้ยินใครว่าหรือพูดถึงออนนี่ในทางแย่ๆฉันจะจัดการให้เอง รักนะคะเซฮุนออนนี่" ผู้ให้สัมภาษณ์ 2 เธอบอก
อย่างมุ่งมั่นและปิดท้ายด้วยการทำมือเป็นรูปหัวใจ

       "คิมไคโชคดีมากๆเลยค่ะที่มีโอเซฮุนภรรยาและแม่ของลูกตัวเอง ถ้ามีข่าวว่าคิมไคทำให้โอเซฮุนเสียใจเมื่อไหร่
ฉันนี่แหละจะพาพวกไปจัดการด้วยตัวเองเลย ส่วนน้องจีซองก็น่ารักน่าหยิกอยากเจอตัวจริงๆบ้างจัง จะกอดจะฟัด
ให้หายหมั่นเขี้ยวเลยจริงๆ เด็กอะไรพ่อแม่ช่างปั้น! ฉลาดน่ารักและแสนซนเป็ที่สุด~" ผู้ให้สัมภาษณ์ 3 เธอพูดบอกและ
ทำท่าทางเพ้อๆเมื่อพูดถึงจีซองทำเหมือนกับว่าตรงหน้าของเธอนั้นมีหนูน้อยจีซองยืนอยู่จริงๆเสียอีก

       "อ่า~ และนั่นก็คือเสียงสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งจากทางบ้านเท่านั้นนะคะ ต่อไปเราลองมาดูความคิดเห็นทางบทความหรือ
แฟนเพจของรายการที่ทางบริษัทสร้างขึ้นมาเพื่อแจ้งข่าวเกี่ยวกับรายการบ้างดีกว่านะคะว่าพวกเขาเหล่านั้นมีความคิดเห็น
เกี่ยวกับข่าวและรายการนี้อย่างไร ความรู้สึกตอนนี้ของพวกเขาจะเป็นอย่างไรกันบ้างนะคะ เราไปดูกันเลยดีกว่าคร้า"
พิธีกรสาวสวยคนเดิมบอกพร้อมกับที่มีตัวอย่างข้อคิดเห็นเกี่ยวกับครอบครัวคุณซุปเปอร์สตาร์คิมไคขึ้นมาทางหน้าจอ
ให้คนทางบ้านได้เห็น ในขณะที่เธออ่านให้ฟังไปด้วยบางความคิดเห็น

       ความคิดเห็นที่ 1 'นี่มันอะไรกัน!! จะโกหกอะไรพวกเราอีกถึงได้สร้างไอ้รายการบ้าๆนี้ออกมาอย่างนี้'

      ความคิดเห็นที่ 89 'ออกไปจากชีวิตคิมไคได้แล้วโอเซฮุน ไอ้ผู้ชายหน้าด้าน โอเซฮุนไปตายซะ!!!'
 
       ความคิดเห็นที่ 154 'คิมไคคนหลอกหลวง!! โอเซฮุนผู้ชายหน้าไม่อาย!! ไอ้เด็กบ้าจีซอง!!'

      ความคิดเห็นที่ 378 'เซฮุนออนนี่สู้ๆค่ะ ออนนี่น่ารักที่สุด ดีที่สุด' จากลูกค้อินดี้คาเฟ่คนที่ 1

      ความคิดเห็นที่ 522 'เซฮุนออนนี่คนสวยน้องมาให้กำลังใจ สู้ๆนะคะ รักออนนี่เหมือนเดิมค่ะ' ลูกค้าอินดี้คาเฟ่คนที่ 8

      ความคิดเห็นที่ 781 'กรี๊ดดดจีซองของเจ๊!! หน้าตาหนูเบ้าเดียวกับป๊ะป๋าเลยลูก ดีใจด้วยนะที่เจอป๊ะป๋าแล้ว' แฟนคลับพี่จีที่ 1

      ความคิดเห็นที่ 10790 'อย่าลืมกินข้าวเยอะๆนะพี่จีซองของป้า แล้วป้าจะไปอุดหนุนที่ร้านเหมือนเดิม' แฟนคลับพี่จีที่ 2

      ความคิดเห็นที่ 15647 'คิมไค เซฮุน จีซอง ไฟว์ติ้ง!! สู้เขานะ!!'

       ความคิดเห็นที่ 25464 'อยากเป็นสะใภ้บ้านนี้ค่ะ!! จีซองโตไวๆนะลูกพี่จะรอน้องอยู่บนคานทอง'

       "เป็นยังไงกันบ้านค่ะ นี่เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของคนส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะ อย่างที่รู้ๆกันนะคะว่ารายการนี้
เป็นรายการเรียลลิตี้ทั้งหมดคือเรื่องจิงไม่มีจัดฉากหรือเฟคแต่อย่างใด ทั้งโอเซฮุนที่เป็นภรรยาของคิมไคและคิมจีซองลูกชาย
ของเขาทั้งคู่ไม่มีใครรู้เห็นว่ามีรายการนี้หรือข่าวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เลยเพราะโดนคิมไคปิดหูปิดตาพาหนีเที่ยวตลอด ก็แหม
อย่างที่รู้ๆ เห็นๆกันอยู่นั้นแหละค่ะว่าครอบครัวคุณซุปเปอร์สตาร์กำลังจะมีสมาชิกใหม่ลืมตาดูโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
นี้แล้ว ถ้าเป็นดิฉัน ดิฉันก็เลือกที่จะทำอย่างที่คิมไคทำนั้นแหละค่ะ เอาเป็นว่าฉันขอจบช่วงพิเศษของวันนี้เท่านี้ดีกว่าค่ะ
ยังไงก็ลองติดตามดูกันเรื่อยต่อๆไปนะคะ เผื่อบางทีคุณผู้ชมจะหลงรักหนูน้อยจีซองสุดหล่ออย่างดิฉันก็ได้นะคะใครจะไปรู้
เด็กอะไรก็ไม่รู้นอกจากจะถอดแบบคนเป็นพ่อมาอย่างบล็อคเดียวกันแล้วยังจะฉลาดมากเลห์มีเสน่ห์แบบสุดๆเกินหน้าเกินตา
คุณพ่อซุปเปอร์สตาร์คิมไคเสียอีก โอ้ยยยย!! ดิฉันอยากได้!! แล้วเจอกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะคุณผู้ชม สวัสดีค่ะ" พิธีกรสาวเธอ
พูดปิดรายการอย่างคล่องแคล่วไม่มีติดขัดสมแล้วที่เป็นมืออาชีพก่อนที่จะตัดเข้ารายการต่อไปของสถานีโทรทัศน์ต่อไป



...
มาแบบสั้นๆอย่างมึนๆ
ต้องขอโทดนะคะที่ไอ้มี่คนนี้หายไปแบบสองอาทิตย์เต็มๆ
คือมี่ติดธุระน่ะค่ะ ที่จริงพรุ่งนี้มีก็ยังต้องไปทำธุระต่อแต่เพราะว่า
ไอ้มี่คนนี้อยากจะมาอัพพี่จีซองให้ทันก่อนวันเกิดตัวเองในวันที่30เดือนนี้
ก็เลยต้องอดหลับอดนอนมาอัพกันอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ ส่วนลุงจุนกะอายอลลี่ยังไม่หมดนะคะ
แต่จะมาต่อตอนไหนก็บอกไม่ได้เหมือนกัน ยังไงก็ขอโทดอีกทีนะคะ!!
รักคนอ่านทุกคนมากกว่าเดิมอีก!!  คิดถึงมากๆเลยด้วย(กอดแน่นๆ)

     
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 29 (29.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 29-10-2015 07:14:33
กรี๊ดๆๆๆๆๆ ฟินกับตอนนี้ฝุดๆ
จีซองน้อยโดนคุณพ่อแกล้ง 555555
จงอินคร้า ระวังภรรยาที่รักจะงอนนะคะ อิอิ
แฟนคลับเริ่มเข้าใจแร้วอ่ะ ดีใจ >\\\<
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 29 (29.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 29-10-2015 08:04:53
จงอินถูกเซฮุนหมั่นไส้เล็กๆ เข้าเสียแล้วนะคะนั่น :laugh:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 29 (29.10.58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-10-2015 10:06:30
เรียบร้อย
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 30 (9.11.58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 09-11-2015 02:59:38
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 30 









       ปึก!!



       "โอ๊ะ! ขอโทษครับผมเดินไม่ระวังเอง" จงอินที่อยู่ในชุดปกปิดตัวเต็มยศ ทั้งหมวก แว่น เสื้อฮุ้ด ผ้าปิดปาก เอ่ยขอโทษ

ลูกค้าในร้านที่เขาเดินชนบังเอิญเดินเข้าให้ทั้งๆที่ยังไม่ทันได้มองว่าเป็นใคร เป็นเพราะว่าเขากลัวว่าลูกค้าจะจำได้เลยรีบ

เดินจนเกินไปและไม่ทันได้มองทางเลยปะชนกับคนอื่นเข้าให้จนได้



       "อุ๊ย! ขอโทษค่ะรุ่นพี่ ฉันเดินไม่ระวังเอง"



       "หืม...เธอ?" เป็นเพราะได้ยินเสียงที่เหมือนจะเคยได้ยิน แต่กลับนึกไม่ออก จงอินจึงถอดแว่นมองหญิงสาวตรงหน้าตัวเอง

แบบชัดๆ



       "ฉันมินอาไงคะ! น่าน้อยใจจังเราเจอกันออกจะบ่อยแต่ทำไมรุ่นพี่ถึงจำฉันไม่ได้เลยล่ะคะ" หญิงสาวบอกอย่าง

กระเง้ากระงอดด้วยความน้อยใจ

   

     .....ทำไมนะ!! รุ่นพี่ถึงจำเขาไม่ได้หรือไม่จำเขาสักที นี่เขายังสวยไม่พออีกหรอกหรอ?......

 

       "อ่า..เธอนั่นเอง ขอโทษทีนะ พอดีฉันขี้ลืมน่ะ จำหน้าใครไม่ค่อยได้หรอก แล้วนี่เธอมาทำอะไรที่นี่เนี่ย" จงอินบอกอย่างปัดๆ

ก่อนจะพูดเปลี่ยนประเด็น



       "อ๋อ! คือเพื่อนฉันแนะนำมาน่ะค่ะว่าร้านนี้มีแต่ของอร่อยๆที่ห้ามพลาด แถมยังกระซิบมาอีกว่าเป็นร้านของคุณเซฮุน

ภรรยาคนสวยของรุ่นพี่น่ะค่ะ ฉันก็เลยอยากจะมาลองชิมดูบ้าง ถ้าถูกใจนี่กะจะยึดเป็นร้านประจำเลยนะคะเนี่ย คริๆ"

เธอบอกพร้อมกับยื่นหน้าไปทำท่าทางเหมือนกับกระซิบบอกในตอนที่เล่าให้จองอินฟังด้วย จนจงอินผงะเผลอชักสีหน้าใส่เธอ

ด้วยความไม่ชอบใจ ด้วยนิสัยส่วนตัวที่เขาไม่ชอบสนิทหรือใกล้ชิดกับใครง่ายๆด้วยโดยเฉพาะผู้หญิงที่มีสิทธิ์เสี่ยงที่จะเป็น

ข่าวด้วยอย่างมินอาด้วยเขายิ่งไม่ชอบใจ จนเผลอทำเสียมารยาทแสดงสีหน้าอย่างนั้นออกไป



       "อ่อ..ถ้าอย่างนั้นก็ตามสบายนะ ฉันขอตัวก่อนล่ะ พอดีรีบไปทำธุระต่อน่ะ" จงอินพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะบอกลาและรีบ

เดินออกจากร้านไปโดยไม่ได้สนใจสายตาเจ็บปวดของหญิงสาวที่มองตามหลังตัวเองเลย



       จงอิน เซฮุนและจีซอง ก็ได้กลับมาจากการไปเที่ยวพักผ่อนที่ทะเลมาได้สามวันแล้วหลังจากที่หนีคุณปู่คุณย่าและลุงจุน

ไปเที่ยวอยู่ที่นั่นหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ จนลุงจุนสุดที่รักของลูกหมูจีซองโทรตามแล้วตามอีกว่าคนที่บ้านใหญ่คิดถึงแย่แล้ว อีกทั้ง

ที่บ้านใหญ่ยังรอที่จะจัดวันเกิดย้อนหลังให้หลานชายสุดที่รักกันอีก จากที่จงอินตั้งใจจะหลบความวุ่นวายอยู่ที่บ้านพักต่าง

อากาศที่นั่นอีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็ต้องพับโครงการเก็บทันทีเมื่อโดนประกาศิตจากปากประธานโอคุณปู่สุดที่รักของจีซอง

บอกว่าจะยัดงานให้เขาทำจนไม่มีเวลาได้เจอลูกเมียซักเดือนสองเดือนเลยถ้าเขายังขืนยึดคิมจีซองสุดที่รักของทุกคนไว้กอด

ไว้กกอยู่คนเดียวน่ะนะ



      .....จงอินอยากจะตะโกนกลับไปเหลือเกินว่านี่ลูกชายเขานะ!! แต่ในความเป็นจริงสิ่งที่เขาตอบกลับประธานโอไปนั้นคือ

'ครับๆ ทราบแล้วครับ แล้วผมจะรีบพากลับ' หึๆ ทำไงได้ล่ะ! นั่นพ่อตาเชียวนะ!! คิมจงอินคนนี้อยากจะบ้าจริงๆ.....



     และไอ้ที่เขาต้องมาที่ร้านอินดี้คาเฟ่อย่างนี้ก็เพราะว่าคุณหม่าม๊ากระต่ายอยากจะได้เทียนปักเค้กที่เป็นรูปหมู หมี และ

รูปกระต่าย ที่มีอยู่ที่ร้านน่ะสิ เพราะวันนี้บ้านใหญ่เขาจะจัดงานวันเกิดย้อนหลังให้จีซองกันและงานนี้หม่าม๊าเซฮุนก็ลงมือ

ทำเค้กวันเกิดด้วยตัวเองให้ลูกชายเหมือนกับทุกๆปีนั่นแหละเพียงแต่มันก้อนใหญ่กว่าเดิมมากและยังมีตั้งสามชั้นก็เท่านั้นเอ๊ง!

หึๆ ดูเหมือนตั้งแต่วันทีี่ที่เขาเซอร์ไพร์วันเกิดจีซองที่ทะเล คุณหม่าม๊ากระต่ายจะออกแนวเขม่นๆ เขาอยู่นะเวลาเขาจะซื้อหรือ

ทำอะไรให้ลูกชายน่ะ แต่ก็ไม่ได้เป็นจริงเป็นจังซักเท่าไหร่หรอก...แค่คุณหม่าม๊าเขางอลๆปนอิจฉาก็เท่านั้นเอง ฮ่าๆ

.

.

.

       "อยู่กันที่นี่เองหรอคะรุ่นพี่" เสียงของหญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบาๆในขณะนั่งอยู่ในรถของตัวเองมองลอดรั้วเหล็กสูง

ของบ้านหลังสวยเข้าไปด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกว่าเจ้าตัวคิดอะไรกันอยู่แน่ เล็บที่ทำสีจิกลงกับพวงมาลัยรถจนแน่นเหมือนจะ

ระบายอารมณ์โกรธแค้นหรืออะไรสักอย่าง  หลังจากที่เห็นว่าจงอินขึ้นรถขันไหนแน่แล้ว เธอก็ขึ้นรถขับตามจงอินออกมา

จากร้านจนถึงหน้าบ้านหลังนี้ด้วยเหมือนกัน

.

.

.

.

.

       "กลับมาแล้วหรอจงอิน ได้มารึป่าวของที่สั่งให้ไปเอาน่ะ" จงอินเข้าบ้านมาได้เซฮุนก็ทวงถามหาของที่ตัวเองสั่งทันทีเลย

แต่แทนที่จงอินจะโกรธหรือน้อยใจใช่มั้ยที่กลับมาจากข้างนอกเหนื่อยๆแล้วโดนทักอย่างนี้ทั้งๆที่ยังไม่ทันได้นั่งให้หายเหนื่อย

แต่ก็เปล่าเลยเพราะเสียงทวงของจากเซฮุนมันมาพร้อมกับร่างคุณแม่ท้องป่องของเจ้าตัวที่ในมือมีน้ำผลไม้เย็นๆแสนอร่อยฝีมือ

เซฮุนติดมือมาให้เขาได้ดื่มให้ชื่นใจหายเหนื่อยซะด้วย จงอินจึงอดยิ้มไม่ได้ ก็นะ! ก็เพราะเซฮุนน่ารักอย่างอย่างนี้นี่แหละเขาถึง

หลงได้หัวปรักหัวปรำมาจนถึงทุกวันนี้น่ะ ทั้งๆที่เหมือนเจ้าตัวจะงอลเขาแต่ก็ยังคอยดูแลและเป็นห่วงเขาอยู่ดีนั่นแหละ



       "ได้สิ! นี่ไง เอาไปเลยครับที่รัก ฉันเอารูปอื่นมาด้วยนะเผื่อแค่หมี กระต่ายและหมูแค่สามตัวมันจะไม่พอ" จงอินยื่นถุง

กระดาษที่ข้างในมีเทียนสำหรับปักเค้กวันเกิดรูปสัตว์ที่มากกว่าสิบชนิดให้เซฮุนโดยไม่ลืมที่จะยักคิ้วกวนๆส่งให้คุณแม่

ท้องแก่ที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ข้างๆตัวเองด้วย



       "คิมจงอิน..นายนี่มัน..ฮึ้ย!!" เซฮุนสะบัดหน้าหนีจงอินอย่างงอนๆ อย่างไม่รู้จะพูดอะไร เมื่อเห็นท่าทางของจงอินรู้ที่ดู

เหมือนว่าจะรู้ทันเขาไปซะทุกอย่างอย่างนี้ 



       .....จำไว้เลยนะคิมจงอิน!! งอลที่สุดอ่ะ..ชริ!!.....


.

.

.

.

.

     "ฉันไปก่อนนะเซฮุน..แล้วจะรีบกลับ จีซองไปเร็วครับลูกจะสายแล้วนะ!!" จงอินบอกกลับเซฮุนพร้อมกลับตะโกนเรียก

จีซองที่กำลังวิ่งออกมาจากบ้านทั้งๆที่ปากยังคาบขนมปังอบของหม่าม๊าเซฮุนอยู่เลย ที่สองคนพ่อลูกต้องรีบตาลีตาเหลือกกัน

อย่างนี้ก็เพราะว่าวันนี้ลูกชายเขามีถ่ายแบบคู่กับป๊ะป๋าของเจ้าตัวน่ะสิ! บอกเลยว่าโอเซฮุนคนนี้ตื่นเต้นยิ่งกว่าเจ้าตัวอีกที่ยังมี

คนอยากจะได้เด็กตัวกลมไปเป็นนายแบบน่ะ คึๆ เรื่องข่าวทั้งหมดของเขา จงอินและจีซองที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้เขารู้ทั้งหมด

แล้วล่ะหลังจากที่โดนปิดหูปิดตาอยู่นาน จะถามว่าโกรธไหมตอนที่รู้ว่าจงอินและทุกๆคนที่บ้านใหญ่รู้เห็นกับจงอินปิดเรื่องข่าว

กับเขา บอกเลยว่าโอเซฮุนคนนี้ไม่โกรธหรอกเพราะรู้ดีว่าทุกๆคนตั้งใจปิดเพราะเป็นห่วงความรู้สึกและกลัวเขาเคลียดจนมีผล

ไปกระทบกับลูกในท้อง แต่ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ว่าเขาไม่โกรธแล้วจะไม่ได้รู้สึกไม่น้อยใจนะ บอกเลยว่าน้อยใจมาก โดยเฉพาะ

กับจงอินที่น่าจะรู้จักเขาดีกว่าใครๆ รู้จักตัวตนของเขาดีกว่าพ่อแม่เขาซะอีก! จงอินน่าจะบอกเขาสักนิดว่ามันมีเรื่องอะไรเกิด

ขึ้นบ้างตอนนี้ แค่บอกให้เขารับรู้แต่ห้ามไม่ให้เขาสนใจอย่างนี้ตั้งแต่แรกก็ได้นิ เพราะตัวเขาเองก็เตรียมใจกับเรื่องนี้มานานพอ

สมควรแล้วเพราะคิดว่าสักวันนึงมันจะต้องเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นแน่ๆ ในเมื่อจงอินยังคงพาจีซองไปทำงานที่โน่นนี่นั่น อย่าง

เปิดเผยมาได้สักพักแล้วอย่างนี้  ก็แคขอให้บอกกันก็เพียงก็เท่านั้น!!



       "ไปก่อนนะครับคุณกระต่ายที่รัก / ไปแล้วนะฮะหม่าม๊า" เซฮุนสายหน้ายิ้มๆ ให้กับสองพ่อลูกคู่เหมือนเบาๆ และมองตาม

รถยนต์คันหรูของจนอินที่เล่นออกจากรั้วบ้านไปจนลับตา ความจริงเขาก็อยากจะไปด้วยอยู่หรอกในเมื่อนี่มันเป็นงานชิ้นแรก

ในวงการของลูกชายเขาเชียวนะ แต่ก็ติดที่ว่าเขาท้องใหญ่เกินที่จะออกไปตะลอนๆแล้วล่ะ ขืนไปก็พลอยจะไปเป็นภาระให้

จงอินห่วงเอาเปล่าๆอีก จากที่จงอินเล่าให้ฟังว่าทางผู้ว่าจ้างติดต่อกับพี่หมินผู้จัดการส่วนตัวของจงอินมาว่าต้องการมาให้

ไปถ่ายแบบลงปกนิตยสารเล่มนี้กันทั้งครอบครัว ก็คือจงอิน จีซองและรวมถึงเขาด้วย แต่ติดตรงที่ว่าจีซองลูกชายเขาน่ะสิสั่ง

ให้ป้าหมินปฏิเสธทางนั้นไปว่าไม่ให้หม่าม๊าไปถ่ายแบบด้วยเพราะเป็นห่วงน้อง เกี่ยว? ทั้งๆที่คนเป็นพ่ออย่างจงอินบอกว่า

อยากให้ไปกันหมดนี่เลย แต่เจ้าลูกหมูกลับงองแงบอกว่าถ้าเขาไปเจ้าตัวก็จะไม่ไป เถียงกันอยู่นานจนได้ข้อสรุปว่าเจ้าตัวเขา

หวงน้องนั่นเองจากคำสารภาพปากของเจ้าตัว เล่นเอาเงิบไปทั้งเขาทั้งจงอินเลยทีเดียว! ทั้งๆที่น้องเล็กๆของพี่จีซองอยู่ในท้อง

ของเขาแท้ๆใครจะไปมองเห็น ฮึๆ



       ปริ๊นน....ปริ๊นนน



       "หือ...รถใคร?...ใครมาหรอฮะคุณแม่บ้าน" ยังไม่ทันที่เซฮุนจะได้หันหลังเดินเข้าบ้านเลย ก็มีเสียงแตรรถดังขึ้นพร้อมกับ

มีรถคันสวยจอดรออยู่ตรงหน้าประตูรั้วบ้าน เซฮุนสงสัยอยู่ได้ไม่นานก็มีแม่บ้านวิ่งมาแจ้งถึงแขกผู้มาเยือน



       "คุณมินอาคนที่เป็นนักร้องมาขอพบคุณเซฮุนค่ะ!!"





...

หลังจากนี้มี่คงจะลงนิยายถี่ๆเหมือนเดิมเพราะเคลียร์ปัญหารกสมองอันหนักอึ้งหมดไปแล้วค่ะ ฮ่าๆ

เรื่องนี้จะจบลงแล้วจริงๆนะคะ และก็อย่างที่เคยบอกไปว่าจบแล้ว

มี่คงจะรีไรต์แก้ไขเนื้อหาบางตอนใหม่โดยเฉพาะตอนแรกๆ ที่ภาษามันดูหน่อมแน้มมากๆ

แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 30 (9.11.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 09-11-2015 05:39:07
จะมาเรียกร้องเอาอะไรที่นี่คะมินอา ความหลังครั้งเก่าก่อนกับจงอินหรือก็ไม่มี แถมจงอินเองก็แสดงออกชัดเจนเสียขนาดนั้นแล้วว่าแม้กระทั่งรู้จักกันแค่ผิวเผินก็ยังไม่ต้องการ เราว่ามันมากพอที่จะบอกมินอาว่าพยายามไปเท่าไรก็ไม่มีหวังแล้วนะคะแบบนี้น่ะ

เป็นห่วงก็แต่เซฮุนค่ะ เพราะถ้าหากว่าคำพูดที่มินอาตั้งใจจะเอามาทำร้ายเซฮุนทำอะไรเซฮุนไม่ได้ ด้วยเพราะเซฮุนเชื่อใจจงอิน ก็กลัวว่ามินอาจะสติแตกแล้วมาผลักเซฮุนเข้าให้นี่สิคะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 30 (9.11.58)
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 09-11-2015 07:19:08
เอาแล้วไงๆๆๆๆๆ มินอามาวุ่นวายถึงที่บ้าน
นี่นางต้องมาก่อกวนเต็มสตรีมแน่ๆเรย
เซฮุนมั่นคงไว้นะ!!!!
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 30 (9.11.58)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 09-11-2015 08:42:14
อิมินอา....!!!!!!!
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 30 (9.11.58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-11-2015 13:59:13
จะมาก่อกวนอะไรห่ะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 30 (9.11.58)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 09-11-2015 17:48:07
ต้องมาก่อกวน หรือมาใส่ร้ายอะไรแน่เลยอะ
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 31 (26.11.58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 26-11-2015 20:52:02
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 31 









       "มากันแล้วหรือไค จีซอง" ทันทีที่เข้ามาในห้องที่ผู้จัดการส่วนตัวอย่างคิมมินซอกบอกว่าเป็นห้องแต่งตัว

ก็ต้องแปลกใจ เมื่อเข้ามาแล้วเห็นประธานโอบุคคลที่เป็นทั้งเจ้านายและพ่อตานั่งรออยู่ก่อนแล้ว     



       "คุณตาาาา..." จีซองร้องเรียกประธานโอแล้ววิ่งเข้าไปโถมกอดด้วยความดีใจ ซึ่งประธานโอก็ตั้งท่ารอรับ

หลานชายสุดที่รักอยู่แล้ว



       "อ้าว! ท่านประธานมาทำอะไรที่นี่ครับ..?" จงอินถามด้วยความสงสัย พลางคิดไปว่าจะต้องมีเรื่องอะไร

ที่สำคัญแน่ๆ เพราะเจ้าของบริษัทอย่างประธานโอเนี่ยน้อยครั้งนักที่จะมาดูศิลปินในสังกัดทำงาน ยิ่งงานที่

เป็นแค่การถ่ายแบบลงปกหนังสือธรรมดาๆอย่างนี้แล้วยิ่งไม่มีทาง



       "กลับไปรับเซฮุนที่บ้านซะจงอิน" ประธานโอไม่ตอบแต่เลือกที่จะออกคำสั่งแทน



       "รับเซฮุน? ไปรับเซฮุนมาทำไมหรือครับ" จงอินถามต่อเพราะไม่เข้าใจในคำสั่งของเจ้านายบวกพ่อตา

สักเท่าไหร่ และอีกอย่างเขาก็ไม่อยากจะกลับไปรับเซฮุนหรอกเพราะเซฮุนนั้นท้องแก่จวนจนจะใกล้คลอด

อยู่แล้วเลยไม่อยากจะให้เคลื่อนไหวหรือไปไหนมาไหนบ่อยๆนัก เพราะเป็นห่วงกลัวว่าจะสะดุดหรือพลาด

เป็นลมล้มไปอีกจะแย่เสียเปล่าๆ



       "ที่จริงวันนี้ไม่ใช่งานจ้างถ่ายแบบจากข้างนอกหรอก แต่เป็นการถ่ายรูปครอบครัวของเราต่างหากและ

วันนี้เราทุกคนก็จะร่วมกันบันทึกเทปสุดท้ายของโปรเจค 'รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์' ของนายกัน

มันก็เหมือนกับแถลงข่าวอย่างกลายๆนั่นแหละเพราะทางช่องที่เราออกอากาศไปเขาส่งพิธีกรและทีมงาน

มาสัมภาษณ์ด้วยในวันนี้" ประธานโออธิบายให้จงอินฟัง เพราะคิดว่าขืนเขาไม่ยอมบอกไม่ยอมอธิบายให้

เจ้าตัวฟังก่อน วันนี้ทั้งวันจงอินก็คงจะไม่ยอมไปรับโอเซฮุนลูกชายคนเล็กของเขามาหรอก

 

        "ถ่ายรูปครอบครัว?" จงอินเผลอหลุดพูดออกมาเบาๆ ไอ้เรื่องสัมภาษณ์ปิดโปรเจคเนี่ยเขาก็เข้าใจอยู่

หรอก แต่การถ่ายรูปครอบครัวเนี่ยมันคืออะไรล่ะ รูปครอบครัวของเขา เซฮุน และจีซอง พวกเขาก็ไปถ่ายกัน

มาแล้วนี่ แล้วก็กะว่าจะให้คนเล็กในท้องเซฮุนออกมาก่อนจะได้ไปถ่ายใหม่อีกครั้งนึง



       "อืม..ก็แค่ถ่ายรูปครอบครัวไงนายยังจะงงอะไรอีก" ประธานโอถามอย่างไม่สบอารมณ์ กะอีแค่การถ่ายรูป

ครอบครัวมันมีอะไรตรงไหนเข้าใจยังไงเนี่ย หรือว่าลูกเขยเขาจะทำงานจนบื้อไปแล้ว?



       "ผมก็มีรูปครอบครัวกันอยู่แล้วนี่ครับ" จงอินตอบกลับ พร้อมกับเหลือบตาสังเกตุมองท่าทางของ

ประธานโอไปด้วย เพราะเขารู้แล้วแหละว่าประธานโอหมายถึงอะไร แต่ก็นะ..ขอแกล้งพ่อตาปากแข็ง

สักหน่อยก่อนเถอะ



       "มีแล้ว? มีตอนไหน? มันจะมีไปได้ยังไงในเมื่อนายยังไม่ได้ถ่ายรูปกับฉัน คุณนายและก็เจ้าจุนมยอนเลย

หรือว่านายไม่อยากจะเป็นครอบครัวเดียวกันกับฉันแล้ว" ประธานโอถามด้วยน้ำเสียงหาเรื่อง ทั้งๆที่หน้าและ

ใบหูเริ่มแดง แต่ก็พยายามที่จะเก็บอาการให้มากที่สุดเพราะรู้สึกอายที่โดนลูกเขยพูดไล่ต้อนเหมือนเด็กมี

ความผิด และไอ้การที่เขาเข้ามาพูดมาคุยกับจงอินก่อนก็กระดากปากจะแย่อยู่แล้วเพราะว่าก่อนหน้านี้เขา

ก็ด่าว่าและตั้งแง่หาเรื่องจงอินไปเยอะอยู่เหมือนกัน



       "อ่อๆ ผมเข้าใจแล้วครับ ผมจะรีบไปรับเซฮุนเดี๋ยวนี้แหละครับคุณพ่อ จีซองอยู่แต่งตัวกับคุณตาไปก่อน

นะครับลูก ป๊ะป๋าขอกลับไปรับหม่าม๊ากับน้องก่อน" จงอินบอกกับประธานโอเสียงทะเล้นโดยเน้นคำว่า

'คุณพ่อ' เป็นพิเศษด้วยสีหน้ากลั้นขำ ก่อนที่จะก้มตัวพูดบอกกับลูกชายที่นั่งเล่นของเล่นของเจ้าตัวอยู่

ข้างๆกันกับประธานโอ และเดินออกจากห้องแต่งตัวเพื่อที่จะกลับไปรับเซฮุนทันทีโดยที่ไม่สนสีหน้าบึ้งๆ

เหวี่ยงๆของคุณพ่อตาเลย

.

.

.

.

.

       "สวัสดี...นายหรือเปล่าที่ชื่อโอเซฮุนคนที่เป็นภรรยาของจงอินโอปป้า" ยังไม่ทันทีเซฮุนจะก้าวเดินไปไหน

เลย รถยนต์คันสวยก็จอดเทียบหน้าประตูทางเข้าด้านในบ้านตรงที่เซฮุนยืนอยู่พอดิบพอดีเลย ประตูรถฝั่ง

คนขับเปิดออกพร้อมกับร่างของหญิงสาวที่ดูดีแบบไม่มีที่ติ ซึ่งพอได้เห็นหน้าคาดตาบวกกับชื่อที่แม่บ้าน

บอกกับเซฮุนเมื่อสักครู่นี้เซฮุนก็นึกได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้คือชินมินอานักร้องหน้าใหม่ที่จงอินเคยไปแสดง

มิวสิควีดีโอให้และตัวเขาเองก็เคยเห็นผ่านๆบ้างทางหน้าจอโทรทัศน์

       

       "สวัสดีฮะ คุณมีธุระอะไรกับผมหรือฮะ" เซฮุนไม่บอกแต่ตอบกลับด้วยคำถามแทน



       "มีสิ! ฉันมีธุระกับนายหลายเรื่องเลยแหละ" เธอบอกพร้อมกับก้าวประชิดตัวเซฮุน ซึ่งเซฮุนเองก็ถอยห่าง

ทันทีเลยเหมือนกัน เพราะเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีกับสีหน้าและท่าทางที่คุกคามของแขกไม่ได้รับเชิญคนนี้แล้วล่ะ



       "ผมกับคุณเราเคยรู้จักกันมาก่อนหรอ" เซฮุนถามและสำรวจมอง ประเมิณท่าทางและอารมณ์ของคน

ตรงหน้าตัวเองอีกครั้ง และพยายามที่จะมองหาแม่บ้านของตนเองไปด้วยอย่างไม่ให้มีพิรุธเพราะมินอาเริ่ม

แผ่รังสีแห่งการคุคามออกมาจากตัวมากขึ้นทุกทีๆ



       "ฉันกับแกเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนหรอก แต่ที่ฉันจะต้องมาทำความรู้จักกับแกถึงที่นี่ทั้งๆที่ฉันทั้งรังเกียจ

และขยะขแยงแกมากถึงมากเพียงแค่ได้ยินชื่อแกออกมาจากปากจงอินโอปป้าแท้ๆ ก็เพราะว่าฉันต้องการที่

จะมาบอกแกว่า แกควรที่จะออกไปจากชีวิตของจงอินโปปป้าได้แล้ว ฉันปล่อยให้แกกับไอ้เด็กนรกลูกของแก

แย่งจงอินโอปป้าของฉันมานาเกินไปแล้ว" มินอาบอกเสียงเย็นพร้อมกับก้าวเดินไล่ต้อนให้เซฮุนอย่างช้าๆ

และแสดงสีหน้าออกเหมือนกับว่าเธอกำลังสนุกเมื่อเห็นเซฮุนก้าวถอยหลังหนีเธอด้วยสีหน้าตื่นๆ

.

.

.

       "เฮ้ยๆ แทคัง! นั่นอะไรว่ะมินอามาทำอะไรที่นี่ แล้วคุณเซฮุนถึงมีท่าทีแปลกๆอย่างนั้นล่ะ?" หนึ่งใน

สองของทีมงานโปรเจค 'รักลับๆของคุณพ่อซุปเปอร์สตาร์' ที่ยังคงประจำอยู่หลังต้นไม้พุ่มใหญ่ตำแหน่ง

ลับตาคนในสวนข้างบ้านของจงอินที่ต้องอยู่บันทึกเทปที่เหลือในอีกหนึ่งตอนสุดท้ายนั้นก็พูดขึ้นพร้อมกับ

สะกิดเพื่อนคู่หูที่นั่งหลับอยู่ข้างๆให้ดูมินอาและเซฮุนเมื่อเห็นว่าเซฮุนมีสีหน้าและท่าทางแปลกๆ อย่างที่

ไม่เคยเห็นมาก่อนและเหมือนกับว่าเจ้าตัวนั้นกำลังกลัวหรือหวาดระแวงอะไรสักอย่าง



       "เออว่ะ ชิบหายแล้ว!! เดี๋ยวแกโทรแจ้งไปทางสถานีนะว่าขอถ่ายทอดสด บอกไปว่ามีข่าวใหญ่ ข่าวด่วน

ของคิมไคแล้วกันเดี๋ยวเขาก็ตัดออกอากาศให้แกเอง...ฉันขอไปแอบดูสถานการณ์ใกล้ๆก่อนว่ะเผื่อเกิดอะไร

ขึ้นจะได้ช่วยคุณเซฮุนได้ทัน ท่าจะไม่ดีแล้วว่ะ! อย่าลืมนะเว้ย ถ่ายไว้ๆ เก็บให้ได้ทุกช็อต เช็คกล้องเช็คไมค์

ที่อยู่รอบๆตรงนั้นดีๆ ซูมเอาให้ได้เห็นได้ยินชัดๆแบบทุกมุมเลยนะเว้ย!!" เมื่อมองในสิ่งที่เพื่อนชี้ให้ดูและเห็น

ว่ามินอากระชากแขนของเซฮุนอยู่ไกลๆ แทคังก็พูดบอกในสิ่งที่คู่หูของตัวเองจะต้องทำอย่างระเอียดและ

รวดเร็ว เพราะความเป็นห่วงเซฮุน ก็นะ..ถึงแม้ว่าเซฮุนจะไม่เคยรับรู้ในการมีตัวตนของทีมงานอย่างพวกเขา

แต่ก็รู้สึกดี รู้สึกชอบเซฮุนไปแล้วหลังจากที่ซุ่มดูอยู่เป็นเดือนๆ รับรู้มาโดยตลอดว่าโอเซฮุนนั้นทั้งน่ารักและ

แสนดีขนาดไหน อีกทั้งคิมไคกับจีซองก็ดูและส่งข้าวส่งน้ำรวมถึงส่งขนมฝีมือของเซฮุนมาให้พวกเขาตลอดๆ

อย่างมีน้ำใจทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ และจะพูดฝากฝังให้ช่วยดูแลเซฮุนแทนอยู่ทุกครั้งที่ทั้งสองคนพ่อลูก

จำเป็นต้องไปธุระและปล่อยให้เซฮุนต้องอยู่ตามลำพัง และสิ่งที่สำคัญเลยคือโอเซฮุนคนนี้คือลูกชายคนเล็ก

ของโอซังซูประธานบริษัทหรือเจ้านายใหญ่ของเขานั่นเอง และถ้าสิ่งที่อยู่ในใจเขาตอนนี้เป็นเรื่องจริง จะให้

เขาทนเห็นคนดีๆถูกทำร้ายไปต่อหน้าต่อตาหรอ? บอกได้เลยว่าไม่มีทางซะหรอก!!

.

.

.

       "คุณพูดอะไรของคุณ...ผมไม่เข้าใจ" เซฮุนขมวดคิ้วยุ่งเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่มินอาพูด



       "ไม่เข้าใจ..ตอแหล!! ฉันพูดชัดขนาดนี้แล้วว่าให้แกกับไอ้จีซองเด็กนรกลูกชายของแกออกไปจากชีวิต

ของจงอินโอปป้าของฉันแกยังจะไม่เข้าใจอะไรอีกห๊ะ!!!" มินอาบอกพร้อมกับคว้าแขนของเซฮุนอย่างแรง

จนเซฮุนแทบเซล้ม แต่ดีที่ว่ายังตั้งตัวทัน




       "ทุกสิ่งที่คุณพูดนั้นแหละคือที่ผมไม่เข้าใจ" เซฮุนตอบพร้อมกับพยายามที่จะบิดแขนตัวเองออกจาก

มือมินอาเพราะรู้สึกเจ็บ เพราะมินอาใช้เล็บที่เคลือบสีสดของเธอนั้นมันจิกลงเนื้ออ่อนที่ต้นแขนของเซฮุน

จนเซฮุนทั้งเจ็บทั้งแสบและคาดว่าเนื้อตรงส่วนที่มินอาจิกนั้นคงจะเป็นแผลได้เลือดไปแล้ว



       "แก..แกนี่มันหน้าด้านหน้าทนจริงๆนะ ตอแหลแกล้งซื่อได้เก่งจริงๆ ถึงว่า..ว่าทำไมไอ้พวกคนดูหน้าโง่

มันถึงได้หลงเชื่อไปชื่นชมแกได้ ทั้งๆที่ไอ้รายการเรียลลิตี้บ้าบอกอะไรนั่นมันก็แค่การจัดฉากๆนึง เหมือนกับ

รายการทีวีทั่วๆไป ก็เพราะแกมันแสดงละครได้เก่งแบบนี้นี่เอง"



       "เรียลลิตี้?" เซฮุนหลุดพูดออกมาด้วยความสงสัย รายการ? เรียลลิตี้? เรียลลิตี้ที่มินอาพูดคือ? รายการ

อะไรล่ะ? แล้วมันเกี่ยวกับเขายังไงกันเขาไม่เข้าใจ ผู้หญิงคนนี้พูดเรื่องอะไร?



       "ห๊ะ? ทำหน้าอย่างนี้คือไรหรอโอเซฮุน หรือแกจะบอกกับฉันว่าแกไม่รู้เรื่องรายการเรียลลิตี้ชีวะประวัติ

ความรักเน่าเฟะ เฟคๆ ที่ปล่อยมาเรียกร้องความเห็นจากพวกชาวบ้านหน้าโง่ให้สงสารแกรึยังไง...มันจะ

เป็นไปได้หรือโอเซฮุน ว่าเรื่องรายการเรียลลิตี้ที่คนทั้งประเทศ ไม่สิ..ต้องบอกว่าคนทั้งโลกรู้ต่างหากล่ะ

แล้วนายจะไม่รู้เลยหรือ..ฮึ? โอเซฮุนชายหนุ่มหน้าหวานแสนดีที่เป็นภรรยาและแม่ของลูกของซุปเปอร์ตาร์

คนดังอย่างคิมไค อ่อ! อีกทั้งยังเป็นลูกชายคนเล็กที่แสนจะเหลวแหลกพลาดท้องโย้ตั้งแต่ยังไม่จบมัธยม

ของเจ้าของบริษัทเพลงยักษ์ใหญ่อย่างประธานโอซังซูด้วยสินะ!! มันจะตลกไปรึเปล่าฮึโอเซฮุนที่คนทั้งโลก

รู้ประวัติฉาวโฉ่เน่าเฟะของแกกับครอบครัว แต่แกกลับบอกว่าแกไม่รู้เรื่อง ฮ่าๆ" มินอาพูดกระแทกแดกดัน

เซฮุนอย่างสนุกปากเมื่อเห็นว่าเซฮุนมีสีหน้าตกใจปนสับสนจนในนิ่งไปเมื่อได้ยินในสิ่งที่เธอพูด

 


       "......"



       "แต่ก็เอาเถอะ...เห็นแก่ความพยายามในการแสดงสีหน้าตกใจอันล้ำเลิศของแกฉันจะแกล้งโง่ทำเป็น

เชื่อว่าแกไม่รู้เรื่องจริงๆก็แล้วกัน ฉันเองก็เป็นคนดีซะด้วยสิ! เอาเป็นว่าฉันจะสงเคราะห์ผู้ชายหน้าโง่ๆอย่าง

แกด้วยการบอกความจริงในทุกๆเรื่องก็แล้วกันนะ!"



       "......"



       "อย่างแรกเลยคือ เรื่องราวเน่าเฟะของแกตั้งแต่ตอนที่แกเป็นคนใจง่ายชั่วช้าที่หลอกบังคับจงอินโปป้า

ให้นอนกับแกยอมมีอะไรกับแกเพื่อแลกกับการที่แกจะช่วยพูดเร่งเรื่องการเดบิวต์ของจงอินโอปป้ากับพ่อ

ของแกเพื่อที่จะจับจงอินโอปป้า ทั้งๆที่จงอินโอปป้ามีความสามารถแล้วจะได้เดบิวต์อยู่แล้วแท้ๆ แต่แกก็

หลอกให้โอปป้าเขายอมนอนกับแก จนแกพลาดท้องไอ้เด็กนรกจีซองลูกของแกขึ้นมาจนพ่อแกจับได้ไง

หรือจะเป็นเรื่องที่พ่อแม่แกเขาอับอายที่มีลูกร่านๆอย่างแกจนต้องส่งแกไปชุบตัวอยู่เมืองนอกเมืองนา

ตั้งหลายปี เนี่ยเรื่องนี้เนี่ยนะเขารู้กันทั่วโลกแล้ว  หรือจะเป็นเรื่อง......."



       "หุบปากเน่าๆของเธอสักทีชินมินอา!! ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเรื่องรายการเรียลลิตี้ที่เธอบอกมาเนี่ยมันจะ

มีอยู่จริงๆหรือไม่มี แต่เรื่องที่ฉันรู้และและสิ่งที่ฉันมั่นใจที่สุดเลยคือฉันกับจงอินเรารักกันและฉันก็ไม่เคย

ทำเรื่องบ้าๆที่พล็อตเหมือนกับนิยายน้ำเน่ามาอย่างที่เธอพูดหรอกนะ และพ่อแม่ฉันไม่เคยพูดหรือแสดง

ท่าทีที่บอกว่าเขาอับอายที่มีลูกอย่างฉันเลย มีแต่จะพาไปแนะนำกับเพื่อนกับหุ้นส่วนของพวกท่านอย่าง

ภาคภูมิใจทั้งนั้นว่าฉันโอเซฮุนคนนี้คือลูกชายคนสุดท้องของเขา และสิ่งที่สำคัญเลยคิมจีซองลูกชายของฉัน

คือสิ่งที่พระเจ้าท่านประทานพรให้มาเป็นของขวัญที่มีค่าและแสนพิเศษแก่ฉันและคิมจงอินสามีของฉันไม่ใช่

เด็กนรกอย่างที่เธอพูดสักนิด เธอมันก็แค่ผู้หญิงขี้อิจฉาหน้าไม่อาย ที่เที่ยวคอยแต่จะวิ่งไล่จับสามีของคนอื่น

จนตัวสั่นทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าเรามีลูกและภรรยาอยู่แล้วแท้ๆ การกระทำของเธอต่างหากที่น่ารังเกียจ!!!"

เซฮุนทนไม่ได้ที่จะฟังคำโกหกของมินอาอีกต่อไปจึงพูดตอกหน้าว่ามินอากลับบ้าง เขาไม่รู้หรอกว่ารายการ

เรียลลิตี้บ้าบออะไรนั่นจะมีจริงหรือป่าวเรื่องนี้เอาไว้ค่อคุยกับจงอินอีกที แต่เรื่องที่เขายอมไม่ได้เลยคือสิ่งที่

มินอาพูดออกมาทั้งหมดมันเกินไป มันดูถูกครอบครัวของเขาเกินไป และที่สำคัญเลยคือมินอาหยาบคาย

มากที่มาเรียกจิกด่าว่าซ้ำๆว่าลูกชายสุดที่รักของเขานั้นเป็นเด็กนรก!! ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เขายอมไม่ได้ ลูกใคร

ใครก็รัก ครอบครัวใครใครก็อยากปกป้องและดูแลกันทั้งนั้น!! เซฮุนจึงรวบรวมกำลังแรงฮึดผลักมินอาออก

จากตัวเองอย่างแรงจนรู้สึกได้ถึงเนื้่อของตัวเองที่ติดไปกับเล็บของมินอา ถึงเซฮุนจะเป็นคนเงียบๆ เรียบร้อย

แต่ใช่ว่าคนอย่างโอเซฮุนจะอ่อนแอและหัวอ่อนจนยอมให้ใครมาหลอกปั่นหัวหรือเอาเปรียบโดยที่ไม่โต้ตอบ

อะไรเลยหรอกนะ อย่าลืมสิว่าประธานโอซังซูและคุณนายคิมบอกเสมอว่าโอเซฮุนมีนิสัยที่ถอดแบบมาจาก

คนเป็นพ่อมากน้อยขนาดไหน จะมายืนเงียบๆให้เขาตราหน้าทั้งๆไม่ใช่เรื่องจริง..ไม่มีทางซะหรอก!!!



       "โอ๊ะ...โอ้ย!! ละ..เลือด หัวแตก แกทำฉันหัวแตกเลยหรออีตุ๊ด!!!" มินอาร้องออกมาพร้อมกับทำท่าจะ

พลุ่งใส่เซฮุนเมื่อเห็นว่ามีเลือดไหลลงมาจากหน้าผากของตัวเอง เพราะตอนที่เซฮุนผลักมินอาออกจากตัวเอง

นั้นคงจะใช้แรงเยอะไปหน่อย มินอาถึงได้ล้มหัวไปกระแทกกับกระถางต้นไม้ประดับซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณ

เซฮุนและมินอายืนอยู่สักเท่าไหร่นัก



       "ว๊ายตายแล้ว!! อย่าค่ะ เธออย่าทำอะไรคุณเซฮุนนะ!! / อย่านะคุณมินอา" แต่ยังไม่ทันที่มินอาจะได้

ถึงตัวเซฮุนแต่อย่างใด ก็มีหญิงวัยกลางคนที่เป็นแม่บ้านที่จงอินจ้างมาดูแลเซฮุนและแทคังที่เป็นทีมงาน

จากบริษัทก็กระโดดเข้ามาขวางทางมินอาและจับล็อคตัวมินอาไว้เพื่อไม่ให้มินอาได้เข้าถึงตัวเซฮุนได้อีก

 

       "คุณเป็นใคร" เซฮุนเอ่ยถามแทคัง



       "ผมเป็นพนักงานในบริษัทHK Ent' ครับ คิมไคและจีซองฝากให้พวกผมช่วยดูแลคุณละหว่างที่เขาทั้ง

สองคนไม่อยู่ครับ" แทคังตอบไปตามตรงแต่ก็ไม่ทั้งหมด

 

       "ถ้าอย่างนั้นผมวานคุณช่วยเชิญเขาออกไปจากบ้านผมด้วยนะฮะ ถ้าเขาไม่ยอมก็โทรเรียกตำรวจมา

พาเขากลับไปส่งให้ถึงบ้านทีนะฮะ" เซฮุนบอกพร้อมกับมองไปทางมินอาที่กำลังมองตนอย่างเครียดแค้น

ทั้งๆที่หัวแตกมีเลือดอาบหน้าอยู่แท้ๆ แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ยังไม่ยอมหยุดเสียที และถึงแม้ว่าเขาจะยังสงสัย

ในการมาของแทคังแต่เขาก็ไม่อยากจะซักถามอีกแล้วละ เพราะรู้สึกเหนื่อยเต็มทนเพราะปกติแล้วเวลานี้

มันควรจะเป็นพักผ่อนของเขาซะมากกว่าที่จะต้องมายืนทะเลาะกับมินอาให้ปวดอย่างนี้ เพราะยิ่งอายุครรภ์

มากขึ้นเท่าไหร่เซฮุนก็ยิ่งต้องการการพักผ่อนมากขึ้นไปด้วย

.

.

.

       "ปล่อย!! ปล่อยฉันได้แล้ว!!" มินอาพูดโวยวายออกมาพร้อมกับพยายามที่จะสะบัดตัวดิ้นรนออกจาก

การจับกุมอันแน่นหนาของแทคัง เมื่อเห็นเซฮุนค่อยๆเดินเข้าบ้านไปอย่างช้าๆเพราะท้องใหญ่เกินกว่าที่

จะเคลื่อนไหวเร็วได้แล้ว โดยที่มีแม่บ้านวัยกลางคนเดินตามไปประคองเซฮุนอย่างประคบประหงบด้วย

ความเป็นห่วงอีกคน ซึ่งนั่นยิ่งทำให้มินอารู้สึกหมั่นไส้เซฮุนเพิ่มเข้าไปอีก



       "เชิญครับ" แทคังละมือออกจากตัวของมินอาข้างนึงเพื่อที่จะเปิดประตูรถมินอา



       ปึก!!  ปึก!!



      "แกคิดว่าง่ายขนาดนั้นเลยหรือห๊ะไอ้กระจอก!!" มินอาตะโกนใส่หน้าแทคังหลังจากที่เตะไปกลางกล่อง

ดวงใจของแทคังซึ่งเป็นจุดอ่อนของผู้ชายทุกคนและจับหัวแทคังโขกกับรถตัวเองจนแทคังทั้งจุกทั้งมึนใน

ช่วงที่แทคังกำลังเผลอและละมือจากตัวเธอเพื่อที่จะเปิดประตูรถเธอเสร็จแล้วเธอก็รีบวิ่งเข้าไปในตัวบ้าน

เพื่อที่จะไปตามหาเซฮุนอีกครั้ง



       "เซฮุนแก...อย่าได้มีชีวิตอยู่อีกเลยอีตุ๊ด!!!" มินอาพูดพร้อมกับที่ใช้สองมือขยุ้มจิกผมของเซฮุนและ

กระชากเซฮุนให้หงายหลังให้ตกจากบันไดอย่างเต็มแรง

 

       "เซฮุน!!! / คุณเซฮุน!!! / คุณเซฮุน!!!" เสียงร้องเรียกของจงอิน แทคังและเสียงกรีดร้องของแม่บ้านที่

ยืนอยู่ข้างๆกับเซฮุนบนบันไดร้องเรียกเซฮุนออกมาพร้อมๆกัน เมื่อเห็นว่ามินอากำลังกระชากผมเซฮุนจาก

ข้างหลังแต่ก็ไม่ทัน ในเมื่อตอนนี้ร่างอวบๆที่มีท้องนูนๆของเซฮุนนั้นนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นตรงทางขึ้น

บันไดแล้วโดยที่มีมินอายืนหน้าซีดตัวสั่นอยู่เมื่อเห็นว่าเป็นจงอินผู้ชายที่เธอหลงรักกำลังมองมาที่เธอด้วย

ความเกรี้ยวกราดและโกรธแค้นอย่างที่ใครได้เห็นก็คงจะต้องหวาดผวากันบ้างเพราะสายตาคมคู่นั้นมัน

ช่างดูน่ากลัวมากเลยจริงๆ



       "จับผู้หญิงคนนี้ไว้แล้วโทรแจ้งตำรวจด้วย!!!" จงอินตะโกนบอกทุกคนที่อยู่ในบริเวณบ้าน และรีบอุ้ม

ร่างที่เต็มไปด้วยเลือดของเซฮุนขึ้นรถมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลทันที โดยที่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นรีบแหวกทาง

ให้จงอินอย่างไม่ต้องมีใครบอกเลย

.

.

.

      ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้



       "หือ...คนพวกนี้มามุงอะไรกัน" จงอินบ่นกับตัวเองในขณะที่จอดรถอยู่ข้างรั้วทางฝั่งหน้าบ้านตัวเอง

เมื่อเห็นกลุ่มคนกลุ่มใหญ่กำลังมุงออกันอยู่ทางประตูรั้วทางเข้าบ้านของเขา คนพวกนี้รู้จักบ้านของเขา

ได้ยังไงกันและที่สำคัญกว่านั้นคือพวกเขาเหล่านี้มาทำไม!!



       ก๊อก...ก๊อก

       

      "ไคโอปป้าคะ พี่รีบเข้าไปในบ้านพี่เถอะค่ะ พี่เซฮุนกำลังจะแย่แล้วนังปีศาจมินอากำลังจะทำร้าย

พี่เซฮุนค่ะ พวกเราจะเข้าไปในบ้านพี่ก็ไม่ได้เพราะประตูมันล็อคอยู่และที่สำคัญมันค่ะพวกฉันปีนเข้าไป

ช่วยพี่เซฮุนไม่ได้ ไปเลยค่ะ รีบๆเข้าไปเลยค่ะ" ไม่ต้องเสียเวลาเดาก็มีแฟนคลับเดินเข้ามาเคาะกระจกรถ

ของจงอิน และเมื่อเห็นว่าเป็นแฟนคลับมารยาทดีที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีของตัวเองจงอินก็เลื่อนกระจกลง

เพืื่อที่จะถามให้หายข้องใจกับสิ่งที่ตัวเองสงสัย แต่จงอินยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไรแฟนคลับคนดังกล่าวก็

รีบพูดบอกพร้อมกับชูหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองที่กำลังเปิดดูถ่ายทอดสดภายในบ้านของของตัวเองที่มี

มินอากำลังวิ่งตาเซฮุนเข้าไปในบ้านทางอินเตอร์เน็ตให้กับจงอินดู เมื่อเห็นดังนั้นจงอินก็ไม่รอให้แฟนคลับ

ผู้หวังดีต้องพูดบอกอะไรอีกเขาก็เร่งเครื่องรถพร้อมกับบีบแตรของทางจากบรรดาแฟนคลับที่ยืนมุงกันอยู่

ทางหน้าบ้านและกดรีโมตเปิดประตูรั้วเลยโดยทันที ซึ่งพวกแฟนคลับก็ช่วยกันแหวกทางโดยที่ไม่ต้องรอ

ให้ใครบอกเลยเมื่อเห็นรถยนต์คันหรูเพราะเดากันได้ว่าต้องเป็นคิมไคอย่างแน่นอน

.

.

.

       "กรี๊ดดดดดดด!!!! พวกแกจะทำอะไรฉัน!! ถอยออกไปนะ ถอยออกไป!!! อีพวกบ้า!!!!" มินอากรีดร้อง

เสียงหลงเมื่อโดนผู้ชายสี่ห้าคนในบรรดากลุ่มของแฟนคลับหามและอุ้มออกเธอมาข้างนอกบ้าน



       "คนจิตใจสกปรกหยาบคายที่ชอบแสดงสันดานต่ำๆอย่าง เธอพวกฉันจะช่วยกันขัดล้างให้ความคิดชั่วๆ

ของเธอได้เจอจางและเบาบางไปบ้างไม่มากก็น้อยกับสิ่งที่เธอทำลงไปก่อนที่จะส่งเธอไปเข้าคุกยังไงล่ะ

โยนอีบ้าโรคจิตนี่ลงไปเลยพวกเรา!!" หนึ่งในแฟนคลับซึ่งดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มแฟนคลับคนนึงพูดขึ้น

ก่อนที่จะสั่งให้พวกผู้ชายที่ช่วยกันหามมินอาอยู่นั้นโยนมินอาลงไปในบ่อน้ำตกจำลองที่อยู่ทางบริเวณหน้า

บ้านของจงอินอย่างไม่ออมแรง พร้อมกับที่สมาชิกแฟนคลับจงอิน เซฮุนและจีซอง ค่อยๆทยอยเดินลงไป

ลุมทึ้งช่วยกันจับมินอากระชากไปมา พร้อมทั้งร่วมกันจิกหัวมินอากดลงน้ำเป็นพักๆ ซึ่งมินอาเองก็ได้แต่

กรีดร้องอย่างบ้าคลั่งและพยายามที่จะดิ้นรนให้หลุดรอดออกจากตรงนั้นแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเหมือนกับว่า

จำนวนแฟนคลับที่เข้ามารุมทึ้งตัวเธอนั้นจะเพิ่มมากขึ้นทุกทีๆ ก่อนที่เธอจะสลบไปหลังจากที่เจ้าหน้าที่

ตำรวจมาช่วยกันพาเธอขึ้นจากบ่อน้ำอย่างอยากลำบากและทุลักทุเลเพราะมีแฟนคลับจำนวนมากที่ยืน

ล้อมรอบตัวเธออยู่ และเฮโลกันไปโรงพักตามระเบียบ





...

มาแล้วค่ะ....ขอโทดนะคะที่ปล่อยทิ้งให้อารมณ์ค้างกันไปเสียนาน

หวังว่าตอนนี้คงจะยาวพอที่จะชดเชยความผิดของมี่กันได้นะคะ

จะจบแล้วน้าาา....จะจบแล้วน้าาาา......

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 31 (26.11.58)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 26-11-2015 22:09:01
จะคลอดก่อนกำหนดหรือเปล่า จะปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกไหมนะ  :sad4: เกลียดมาม่าจัง
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 31 (26.11.58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-11-2015 22:36:12
ขอให้ทุกคนปลอดภัยด้วยเถิด
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 31 (26.11.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 26-11-2015 22:54:50
ท่าทางสติสตังจะไม่ค่อยดีนะคะมินอาถึงได้มาทวงคนรักของคนอื่นเขาคืนได้หน้าตาเฉยแบบนี้น่ะ แย่จริงๆ เลยเชียว

ขอให้เซฮุนกับตัวเล็กปลอดภัยด้วยนะคะ :call:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 31 (26.11.58)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 26-11-2015 23:30:36
แงแงๆๆ สงสารลูกในท้องและคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่สุด อีชะนีเลว สังคมไม่ควรให้อภัย ตายเถอะค่ะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 31 (26.11.58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuja ที่ 26-11-2015 23:57:08
ไม่จริง ไม่จริง ไม่จริง  :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

น้องน้อย ๆ ต้องไม่เป็นไรนะ   :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

นางชะนีใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยยย   :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:

คนเขียนรีบมาต่อด่วนค่ะ   :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 32 (01.12.58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 01-12-2015 05:15:29
รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 32   









      "ช่วยด้วยครับ!! ช่วยด้วย!!! ช่วยภรรยาผมด้วย!!!" ทันทีที่จอดรถหน้าตึกฉุกเฉินของโรงพยาบาลได้
จงอินก็รีบอุ้มร่างโชกเลือดของเซฮุนออกจากรถตัวเองวางลงบนเตียงเข็นผู้ป่วยอย่างระมัดระวังโดยได้รับ
ความช่วยเหลือจากบุรุษพยาบาลที่ประจำอยู่อีกแรง ก่อนที่บุรุษพยาบาลจะเข็นเตียงเซฮุนเข้าห้องฉุกเฉิน
ไปโดยมีหมอเวรประจำวันเดินตามเข้าไปดูอาการของเซฮุนอย่างเร่งด่วน หลังจากที่ได้ซักประวัติและสาเหตุ
ที่ทำให้เซฮุนต้องอยู่ในสภาพโชกเลือดอย่างนี้จากปากของจงอินเรียบร้อยแล้ว


      "มีอะไรหรือป่าวครับหมอ!!!" ยังไม่ทันที่จงอินจะได้หายใจหายคอได้สะดวก หมอคนเดิมที่เข้าไปดู
อาการของเซฮุนก็เดินกลับออกมาอีก


      "ตอนนี้อาการของภรรยาคุณน่าเป็นห่วงมาก เพราะการกระทบกระเทือนจากเหตุที่คุณบอกทำให้เรา
ตรวจพบว่าคนไข้มีเลือดคลั่งที่สมองและอีกหนึ่งอย่างที่หน้าเป็นห่วงคือถุงน้ำคร่ำที่หุ้มตัวทารกในครรภ์ของ
คนไข้นั้นแตกเพราะได้รับผลมาจากการกระแทกอย่างรุนแรงและกระทบกระเทือนจนทำให้มีน้ำคร่ำรั่วไหล
ทำให้โพรงมดลูกแห้งจนสายสะดือถูกตัวเด็กกดทับไว้ และอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิตได้ ดังนั้น
ผมจึงอยากจะให้คุณช่วยตัดสินใจเลือกด้วยครับ ว่าคุณจะให้เรารักษาแม่หรือเด็กก่อนเพราะเราไม่อาจที่
จะผ่าตัดพร้อมกันได้เนื่องจากว่าคนไข้เสียเลือดไปก่อนหน้านี้มากเกินไปแล้ว ถ้าขืนเราทำการผ่าทั้งสอง
อย่างพร้อมกันซึ่งถือว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่นั้น...คุณอาจจะเสียไปทั้งภรรยาและลูกไปพร้อมๆกันเลยก็ได้
เพราะคนไข้เสี่ยงที่จะเกิดภาวะช็อคได้ตลอดเวลาในการรักษา"


      "ละ..เลือกหรอครับ" จงอินถามเสียงแห้ง เขานั้นแทบอยากจะหยุดหายใจเมื่อได้ยินสิ่งที่หมอบอก
หูสองข้างของเขานั้นมันอื้ออึงไปหมดเพราะไม่อยากจะรับรู้ไม่และรับฟังในคำพูดของหมอเลย...เลือก?
เลือกหรอ? ที่ผ่านมายี่สิบกว่าปีของเขานั้น เขาไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดและทรมาณมากมายในการที่จะต้อง
ตัดสินใจเลือกอะไรอย่างนี้เลย เพราะการเลือกของเขาในครั้งนี้มันไม่ใช่แค่สิ่งของหรือเสื้อผ้า แต่มันเป็น
การเลือกชีวิตในการต่อลมหายใจของคนสำคัญในชีวิตของเขาทั้งสองคน แล้วเขาคนนี้จะต้องเลือกอะไร
ระหว่างชีวิตของโอเซฮุนผู้ชายที่เป็นเหมือนทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเหมือนกับทั้งชีวิตของเขาและลูกที่เขายัง
ไม่เคยได้เห็นได้สัมผัสแต่ก็เปรียบเสมือนกับเป็นดวงใจของเขาด้วยเช่นกัน แล้วคิมจงอินคนนี้จะต้องทำยังไง เขาควรที่จะเลือกใคร.....


      "จงอิน" ในขณะที่จงอินช็อคและสับสนวนอยู่ในความคิดของตัวเองอยู่นั้น ก็มีเสียงคนเรียกเขาจาก
ทางด้านหลังพร้อมกับฝ่ามือหนักๆที่ตบลงเบาๆที่ไหล่ซ้ายของเขาอีกสองทีเหมือนกับว่าคนๆนั้นกำลังให้
กำลังใจเขาอยู่ และเมื่อหันกลับไปเขาก็เจอประธานโอซังซูพ่อตาที่เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเขามาโดยตลอด
กำลังส่งรอยยิ้มซีดเซียวมาให้เขาและข้างหลังของประธานโอนั้นก็ยังมีคุณนายคิมที่ยืนร้องไห้อยู่อีกคน
ถับไปก็เป็นจุนมยอนที่สองตาแดงมีน้ำตาคลออยู่ตรงขอบตาจนเกือบจะล้นออกมาและปาร์คชานยอล
ที่ในอ้อมแขนมีจีซองลูกชายคนโตของเขานอนหลับคาอกอยู่ด้วย ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้หรอกว่าคนพวกนี้มา
ตั้งแต่เมื่อไหร่ตอนไหนยังไงแต่ที่แน่ๆเลยคือทุกคนคงจะได้ยินในสิ่งที่หมอพูดเหมือนกันกับเขา เพราะสีหน้าและแววตาของแต่ละคนนั้นมันบ่งบอกเขาอย่างชัดเจนว่าทุกคนกำลังรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดใจไม่น้อยไป
กว่าเขาเลย


      "คุณพ่อครับ" จงอินเรียกประธานโอด้วยเสียงเบาหวิวในสรรพนามที่ไม่เคยเอ่ยเรียกอย่างจริงจังมาก่อน 


      "เลือกในสิ่งที่นายต้องการเถอะจงอิน ไม่ว่านายจะเลือกเซฮุนหรือว่าลูกของนายก็จะไม่มีใครว่าอะไร
นายหรอกเพราะพวกเราเชื่อว่าสิ่งที่นายตัดสินใจนั้นมันคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ตอบหมอเขาไปเถอะว่านายจะ
เลือกใครก่อนที่อะไรๆมันจะแย่ไปกว่านี้" ประธานโอบอกพร้อมกับฝืนยิ้มเซียวๆให้กับจงอินอีกที ก่อนที่จะ
ผละไปนั่งที่เก้าอี้สำหรับญาติผู้ป่วยเพราะไม่อยากที่จะรอฟังคำตัดสินใจเลือกในครั้งนี้ของจงอิน เพราะ
คนนึงก็ลูกและอีกคนก็หลาน ไม่ว่าจงอินเลือกใคร มันก็เจ็บปวดไปไม่แพ้กันหรอก


      "ถ้าเลือกได้แล้วช่วยเซ็นเอกสารระบุการยินยอมในการผ่าตัดรักษาในครั้งนี้ด้วยนะครับ" หมอพูดเร่ง
จงอินเมื่อเห็นว่าเสียเวลามามากพอแล้ว พร้อมกับส่งเอกสารยินยอมให้กับจงอินได้เซ็นอนุญาติในการผ่าตัด
ในครั้งนี้ด้วย


      "ผมฝากด้วยนะครับหมอ" จงอินบอกเสียงสั่นๆ เมื่อยื่นใบเอกสารส่งคืนหมอหลังจากที่เซ็นชื่อเสร็จ
เรียบร้อยแล้ว


      "ครับ ผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดครับ ถ้าคุณโชคดีทั้งภรรยาและลูกของคุณก็อาจจะรอดชีวิตกันหมด
ทั้งคู่ก็ได้นะครับ" พูดจบหมอก็เดินกลับเข้าห้องฉุกเฉินไป เหลือเพียงร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงของจงอินคนเดียว
ลำพังที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมหน้าตรงประตูหน้าห้องฉุกเฉิน


      "ป๊ะป๋า ป๊ะป๋าเป็นอะไร" จีซองที่ตื่นมาแล้วเห็นพ่อของตัวเองยืนอยู่ไม่ไกลจากที่ตัวเองอยู่ด้วยท่าทาง
แปลกๆ ก็รีบวิ่งเข้าไปกระตุกแขนถามจงอินด้วยความสงสัย


      "จีซอง" จงอินเรียกชื่อลูกชายตัวเองด้วยเสียงเบาหวิว น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่อายใครเมื่อ
เห็นหน้าลูกชาย ทิ้งตัวคุกเข่านั่งกับพื้นคว้าตัวจีซองมากอดพร้อมกับเรียกชื่อลูกซ้ำๆเหมือนกับคนเสียสติ
จะทำยังไงดี เขาควรจะทำยังไงดี มีอะไรที่เขาสามารถจะทำเพื่อแลกกับการที่เขาไม่ต้องเสียใครไปเลย
สักคนได้ไหม มีบ้างหรือป่าว มีบ้างไหม ใครก็ได้ช่วยบอกเขาที....ต่อให้แลกด้วยชีวิตเขาก็ยอม


      "โอ๋ๆ ป๊ะป๋าอย่าร้องน้า อย่าร้อง..ไหนๆ ป๊ะป๋าเจ็บตรงไหนบอกพี่สิ พี่จะเป่าให้ พี่เก่งนะ เป่าทีเดียว
เดี๋ยวป๊ะป๋าก็จะหายเจ็บเลย" จีซองกอดตอบพร้อมกับพูดปลอบจงอิน เมื่อเห็นว่าจงอินร้องไห้ออกมา
และคิดแบบเด็กๆว่าจงอินคงอาจจะแค่เป็นแผลตรงไหนและเจ็บถึงได้ร้องไห้ออกมา เหมือนกับตอนที่
ตัวเองหกล้มจนได้แผลและหม่าม๊าเซฮุนก็ปลอบตัวเองแบบนี้ทุกทีเหมือนกัน ก่อนที่จะคลายแขนที่กอด
จงอินออกก่อนที่จะเช็ดน้ำตาให้คนเป็นพ่ออย่างเบามือ แต่แทนที่จะหยุดร้องไห้กลับกลายเป็นว่าจงอิน
นั้นร้องไห้ออกมาหนักกว่าเก่าอีกเพราะรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถรักษาน้องเล็กๆของเจ้าตัวไว้ได้ และอีกอย่าง
ก็คือเขากลัว กลัวว่าจีซองจะเสียใจที่ต่อไปนี้จะไม่มีน้องอีกแล้ว เพราะเจ้าตัวคาดหวังและเฝ้ารอคอยที่จะได้
วิ่งเล่นด้วยกันกับน้องเล็กๆในท้องของหม่าม๊ามาโดยตลอด


      "ป๊ะป๋าขอโทษลูก ฮึก! ป๊ะป๋าขอโทษ" จงอินพร่ำแต่พูดขอโทษลูกชาย ขอโทษเพราะคิดว่าเป็นความผิด
ของตัวเองที่มัวแต่ชักช้าจนไปไม่ทันช่วยเซฮุน ขอโทษที่ไม่อาจรักษาน้องเล็กๆของพี่จีซองไว้ได้ ขอโทษที่
อาจจะทำให้จีซองต้องผิดหวังและเสียใจเพราะเจ้าตัวนั้นผูกพันกับน้องและตั้งตารอน้องมานานหลายเดือน
ขอโทษที่เป็นสาเหตุให้หม่าม๊าสุดที่รักของเจ้าตัวต้องเจ็บตัว ขอโทษ ขอโทษ และก็ขอโทษ เพราะเขารู้สึกผิด
ต่อลูกชายเหลือเกิน


      "ป๊ะป๋าาา..." จีซองเบะปากเตรียมร้องไห้ตามป๊ะป๋าตัวเองแล้ว เมื่อเห็นว่าจงอินร้องไห้หนักกว่าเดิม
และรู้สึกถึงความเศร้าความเสียใจของจงอินที่ส่งผ่านออกมาให้ได้รับรู้


      "พอเถอะไค ลุกขึ้นเถอะ ตอนนี้นายจะมามัวนั่งร้องให้เฝ้าโทษแต่ตัวเองอย่างนี้ไม่ได้นะเพราะนายเป็น
หัวหน้าครอบครัว ถ้าขืนนายเป็นอย่างนี้ต่อไปแล้วเซฮุนกับจีซองจะเป็นยังไง จะรู้สึกยังไงในเมื่อคนที่เสาหลัก
อย่างนายยังล้มไม่เป็นท่าอย่างนี้แล้วลูกเมียของนายจะไม่แย่ไปตามๆกันหรอ แล้วอีกอย่างนะตราบใดที่หมอ
ยังไม่ได้เดินออกมาบอกนายว่าลูกนายหรือเมียนายไม่รอดแล้ว นายก็ต้องเชื่อและหวังอยู่เสมอว่าทั้งเมียนาย
และลูกนายเขาสองคนนั้นจะต้องรอดปลอดภัยกันทั้งคู่ เชื่อเถอะว่าปาฏิหาริย์มันมีอยู่จริงเพราะฉันเองก็ยังเชื่อ
เลยว่าเซฮุนและหลานของฉันจะต้องรอดออกมาร้องเรียกฉันว่าอายอลลี่ตามพี่จีซองของเขาอีกคน" ชานยอล
ที่นั่งมองจงอินและจีซองมาตลอดก็ทนดูไม่ได้ที่จะเห็นคู่แข่งตลอดการอย่างจงอินมีสภาพที่อ่อนแอและย่ำแย่
ขนาดนี้ บวกกับการที่เห็นหลานรักอย่าจีซองกำลังเบะปากเจียนจวนจะร้องไห้ตามคนเป็นพ่อรอมร่อ ก็ลุกขึ้น
จากที่นั่งของตัวเอง เข้าไปหาและช่วยประคองจงอินและจีซองให้เดินมานั่งบนเก้าอี้ดีๆ ก่อนที่จะพูดปลอบ
พร้อมกับให้กำลังใจจงอินไปในตัวและเดินกลับไปนั่งของตัวเองข้างๆกันกับคนรักอย่างจุนมยอนเหมือนเดิม
เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนจงอินเองเมื่อได้ยินคำพูดของชานยอลก็เริ่มที่จะตั้งสติได้และพร่ำพูดภาวนา
อยู่คนเดียวในใจว่าขอให้ปาฏิหาริย์ที่ชานยอลพูดนั้นมีอยู่จริง และคนในอ้อมกอดของเขานั้นก็เหมือนกับเป็น
สิ่งมหัศจรรย์เป็นพรวิเศษจากพระเจ้าที่ช่วยให้เขาหายเหนื่อยหายท้อได้ในทุกๆครั้งที่เขาอ่อนแอหรือสิ้นหวัง


      "เรามาช่วยกันส่งกำลังใจให้หม่าม๊ากับน้องให้ได้มีแรงสู้กับความโหดร้ายนี้กันดีกว่านะจีซอง" จงอิน
พูดบอกพร้อมกับจูบศีรษะของลูกชายเบาๆ
.
.
.
      "ขอโทษนะครับท่านประธาน ทางตำรวจต้องการที่จะคุยกับคิมไคน่ะครับ" ผู้จัดการคนเก่งอย่างมินซอก
บอกอย่างกล้าๆกลัวๆ เมื่อเห็นท่าทางของแต่ละคนที่นั่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉินแห่งนี้ เพราะดูเหมือนกับว่าตนนั้น
จะเข้ามาผิดเวลา แต่จะให้เขาทำยังไงได้ล่ะในเมื่อทางตำรวจติดต่อเขามาอีกทีเพราะต้องการที่จะคุยกับ
จงอินเรื่องคดีความเดี๋ยวนี้เลยเพราะเหมือนกับว่าคดีมันซับซ้อนกันหลายคดีเนื่องจากมีเรื่องที่แฟนคลับรุม
ทำร้ายชินมินอาไปด้วยเกือบร้อยคนรวมไปด้วยเพราะเหตุจูงใจมันเกิดมาจากการที่กลุ่มแฟนคลับต้องการ
ที่จะลงโทษมินอาเรื่องที่เธอไปทำร้ายเซฮุน


      "เอาไว้ก่อนไม่ได้หรือไงครับพี่" จงอินตวัดเสียงถามมินซอกอย่างไม่พอใจ อะไรกันคนเขาก็จะเป็นจะตาย
กันอยู่มะลอมมะล่อใครเขายังจะมีอารมณ์ไปให้ปากคำกับตำรวจอีกห้ะ


      "คือมันมีเรื่องคดีของแฟนคลับที่ไปรุมทำร้ายมินอาเพื่อต้องการที่จะแก้แค้นให้เซฮุนร่วมด้วยนะครับ
ซึ่งจำนวนแฟนคลับมันมากเกินกว่าที่ทางตำรวจจะจับขังไว้รอให้ทางเราพร้อมได้น่ะครับทางตำรวจจึงขอ
ความร่วมมือจากทางเราเพราะกลัวว่าจะเกิเหตุจลาจลขึ้นน่ะครับท่านประธานเพราะทางแฟนคลับยังคง
ไปรวมตัวที่หน้าสถานีตำรวจเพื่อที่จะรอชินมินอากันอีกกลุ่มใหญ่เลยครับ" มินซอกบอกในสิ่งที่ตนรับรู้มา
จากตำรวจให้ประธานโอฟังอีกทีนึงอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะสีหน้าและท่าทางของประธานโอตอนนี้เป็น
อะไรที่หน้ากลัวมาก เขาละเสียวว่าตัวเองจะโดนเด้งออกจากงานก็อีงานนี้นี่แหละ


      "ไม่เป็นไรหรอกครับคุณพ่อ เดี๋ยวผมจะไปกับพี่มินซอกเองเพราะผมไม่อยากให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอะไร
กับเรื่องนี้ต้องมาเดือดร้อนไปกับเราด้วย ยังไงผมก็ฝากคุณพ่อกับทุกคนช่วยดูทางนี้ให้ผมด้วยนะครับ ถ้า
มีอะไรคืบหน้าหรือเร่งด่วนอะไรในตอนที่ผมไม่อยู่ ก็ช่วยโทรบอกผมหน่อยนะครับ จีซองอยู่กับคุณตาคุณยาย
ที่นี่ก่อนนะลูกเดี๋ยวป๊ะป๋าไปธุระกับป้าหมินก่อน" จงอินบอกกับประธานโอไปตามความรู้สึกจริงๆของตัวเอง
ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นห่วงเซฮุนกับลูกมากมายสักแค่ไหนก็เถอะ แต่เขาไม่ต้องการให้คนที่ไม่เกี่ยวข้อง
อะไรกับเรื่องนี้มาเดือดร้อนกับเขาไปด้วยไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือว่าจะเป็นแฟนคลับก็ตาม เพราะฉะนั้นเขา
ควรที่จะต้องไปจัดการในส่วนที่เป็นความรับผิดชอบของตัวเองซะให้เรียบร้อยก่อนในฐานะที่เป็นคนต้นเรื่อง
ก่อนที่จะก้มลงบอกลูกชายสุดที่รักอย่างจีซองที่นอนพาดอยู่บนตักของเขาอยู่ตอนนี้


      "ไม่เอา! ลูกจะไปกับป๊ะป๋า" เมื่อได้ยินคนเป็นพ่อบอกอย่างนั้น จีซองก็เอ่ยปฏิเสธเลยทันที เพราะอยาก
จะอยู่กลับจงอินมากกว่าที่จะอยู่กับคนอื่น จีซองก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมทุกคนถึงต้องมานั่งจ้องประตูสีขาวๆ
นี่ด้วย แต่จีซองก็รู้สึกไม่ดีอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน ก็เลยอยากที่จะอยู่กับป๊ะป๋ามากกว่า เพราะตอนนี้ป๊ะป๋าเป็นคนเดียวที่ทำให้จีซองรู้สึกอุ่นใจเพราะว่าหม่าม๊าเซฮุนคนที่คอยอยู่เคยข้างจีซองในตอนที่จีซองเคยรู้สึก
อย่างนี้มาก่อนนั้นยังอยู่ที่บ้านสองคนกับน้องเล็กๆอยู่เลย


      "จีซองมาอยู่กับยายดีกว่านะลูก ป๊ะป๋าหนูเขาต้องไปธุระนะครับ" เมื่อเห็นว่าจีซองเริ่มที่จะงองแงร้องตาม
จงอินคุณนายคิมก็พูดบอกกับหลานชายเพราะไม่อยากจะให้จงอินเสียเวลาและลำบากใจไปมากกว่านี้
และเข้าใจดีว่าคนที่รู้สึกแย่ที่สุดคงจะเป็นจงอินเพราะเจ้าตัวคงอยากจะอยู่เฝ้ารอข่าวของเซฮุนอยู่ที่นี่มากกว่า
ที่จะไปคุยกับทางตำรวจหรือทางแฟนคลับของเจ้าตัว


      "นะๆ นะครับป๊ะป๋า ให้พี่จีซองไปกับป๊ะป๋าน้า ตอนนี้พี่จีซองรู้สึกวืดๆที่คุณหัวใจจังเลย แต่ถ้าพี่จีซองมี
ป๊ะป๋าอยู่ข้างๆกันพี่จีซองก็จะหายวืดๆตรงคุณหัวใจล่ะ ป๊ะป๋าให้พี่ไปด้วยน้าา..." จีซองบอกหน้าเศร้าน้ำตาคลอ พลางใช้สองมือน้อยๆ จับตรงตำแหน่งหัวใจของตัวเองตามที่เคยอ่านหนังสือและหม่าม๊าบอกมา
ประกอบกับคำพูดของตัวเองให้ป๊ะป๋าเข้าใจว่าตัวเองรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ทั้งๆที่จีซองเองก็ไม่รู้หรอกว่าตอนนี้
ตัวเองนั้นเป็นอะไร แต่ก็พยายามที่จะบอกให้ป๊ะป๋าได้เข้าใจตัวเองมากที่สุดเท่าที่เด็กห้าขวบอย่างเขาจะทำได้


      "ครับๆ พี่จีซองไปกับป๊ะป๋าก็ได้ครับ ยังไงผมก็ฝากทางนี้ก่อนนะครับ" จงอินพูดกับลูกชายตัวเอง และหัน
ไปพูดบอกกับประธานโอและคุณนายคิม ก่อนที่จะอุ้มจีซองเดินออกจากบริเวณนั้นโดยที่มีมินซอกตามไปดูแล
สองพ่อลูกนี้อีกคน ที่จงอินยอมจีซองง่ายๆอย่างนั้นก็เพราะเข้าใจดีว่าตอนนี้จีซองนั้นกำลังรู้สึกเจ็บปวดใจ
ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะไม่เข้าใจและรู้สาเหตุที่ตัวเองรู้สึกอย่างนั้นก็เถอะ เขาคิดว่ามันคงเป็นเพราะสายสัมพันธ์
ของการเป็นแม่เป็นลูกระหว่างเซฮุนกับจีซองและเป็นเพราะสายสัมพันธ์ของพี่น้องระหว่าจีซองกับลูกคนเล็ก
ในท้องของเซฮุนที่มันอาจจะส่งถึงกันได้ จึงทำให้จีซองรู้สึกอย่างนั้นทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าตอนนี้หม่าม๊ากับน้องเล็กๆ
ของเจ้าตัวกำลังต่อสู้กับความโหดร้ายกันอยู่ในห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลที่ตัวเองไปนั่งเฝ้าอยู่กับเขาเมื่อสักครู่
เพราะเจ้าตัวรู้แค่ว่าหม่าม๊าอยู่กับน้องเล็กๆที่บ้านเหมือนกับตอนที่พวกเขาออกมา
.
.
.
.
.
[ต่อข้างล่างค่ะ]     
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 32 (01.12.58)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 01-12-2015 05:19:01
.
.
.
        เมื่อมาถึงถนนหน้าสถานีตำรวจจงอินก็ต้องตกตะลึงกับกลุ่มมวลชนจำนวนไม่น้อย
ที่ทั้งนั่งและยืนปักหลักออกันอยู่หน้าสถานีตำรวจ จากที่คาดดูจากสายตาก็น่าจะมีจำนวน
ไม่ต่ำกว่าสามร้อยถึงสี่ร้อยคนเป็นแน่และสิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจมากที่สุดคือสภาพแวดล้อม
หน้าสถานีตำรวจนั้นเหมือนกับเป็นสนามรบที่พึ่งจะผ่านศึกสงครามมายังไงยังงั้นเพราะมันเละเทะ
เสียจนแทบจะดูไม่ออกเลยว่ามันเป็นสถานที่ราชการที่มีไว้คอยให้ความช่วยเหลือประชาชนให้ได้
อยู่รอดปลอดภัยจากอันตรายอย่างสนานีตำรวจมาก่อน

       การที่จงอินจะออกจากรถไปยังตัวอาคารของสถานีตำรวจนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะทันทีที่
มวลชนเหล่านั้นได้เห็นรถตู้ของบริษัทที่จงอิน จีซองและมินซอกได้โยสารมานั้น ทุกคนก็พุ่งเป้าเข้ามาหารถ
เลยทันที เลยทำให้จงอินได้ว่านอกจากกลุ่มแฟนคลับแล้วนั้นยังมีพวกนักข่าวจากสถานีโทรทัศน์หรือจาก
สำนักพิมพ์ต่างๆ อีกจำนวนไม่น้อย และสิ่งเดียวที่จะทำให้จงอินลงไปให้ปากคำได้นั้น มินซอกก็ต้องโทร
ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดต่อมาก่อนหน้านี้ให้มากันคนเหล่านี้ออกจากรถให้เสียก่อน
ถึงจะพากันออกมาจากรถได้ แต่ก็ต้องใช้เวลาและเป็นไปอย่างทุลักทุเลกันพอสมควร

        และเมื่อมาถึงบริเวรหน้าสถานีตำรวจจงอินก็มีเรื่องที่จะต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ไม่ได้พาเขาเข้าไปในตัวอาคารสถานีแต่อย่างใด แต่กลับเชิญให้เขานั่งให้ปากคำเกี่ยวกับคดีตรงบริเวร
หน้าสถานีซึ่งมีโต๊ะตัวยาว ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกันกับโต๊ะที่เขาเคยใช้ในการแถลงข่าวอะไรประมาณนั้น
แต่ก็ห่างจากที่กั้นของกลุ่มแฟนคลับและนักข่าวพอสมควร

       "เชิญครับคุณคิมไค ชื่อจริงของคุณคือคิมจงอินใช่หรือไม่ครับ" เจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งอยู่บริเวรหัวโต๊ะ
ก็ถามขึ้นทันที เมื่อเห็นจงอินนั่งเรียบร้อยแล้วโดยที่มีจีซองนั่งอยู่ที่ตักจงอินและมินซอกผู้จัดการส่วนตัว
นั่งบริเวณเก้าอี้ที่ว่างตัวถัดไปที่ติดกันกับจงอินนั่นแหละ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนดูแลความเรียบอยู่ประจำ
จุดต่างๆในบริเวณรอบๆอีกทีเพื่อป้องกันการเกิดเหตุจลาจลเหมือนก่อนหน้านี้

       "ครับ คิมจงอินคือชื่อจริงของผม" จงอินตอบกลับไป

       "ขอโทษครับ!! พวกผมขออนุญาติตั้งไมค์ตั้งกล้องส่งให้ทางสถานีได้ถ่ายทอดสดออกไปให้ประชาชน
ทางบ้านได้รับรู้ด้วยได้ไหมครับ" ยังไม่ทันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ถามอะไรจงอินต่อหนึ่งในกลุ่มนักข่าวก็
ยกมือขึ้นถามอย่างเสียงดังฟังชัด โดยที่มีนักข่าวสำนักอื่นและกลุ่มแฟนคลับส่งเสียงร้องขอเป็นแรงสนับสนุน
กันอีกที

       "ผมจะทำตามที่เขาขอได้รึเปล่าครับ" จงอินถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ

       "เรียกร้องกันขนาดนั้นถ้าผมไม่อนุญาตินี่สถานีผมคงจะต้องปิดถาวรแล้วหล่ะครับ" เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ตอบกลับแบบปลงตก ก่อนที่จะหันไปสั่งลูกน้องตัวเองที่ยืนอยู่บริเวรใกล้ๆไปเปิดทางให้แค่นักข่าวและตากล้อง
เข้ามายังบริเวรโต๊ะสอบสวนชั่วคราวนี้ได้มาเซ็ตไมค์ตั้งกล้องและกลับออกไปยังที่เดิมเหลือทิ้งไว้เพียงไมค์และ
กล้องเท่านั้นที่ตั้งอยู่ตรงหน้าจงอิน

       "เรียบร้อยแล้วนะครับ ก่อนอื่นเลยผมต้องขอโทษด้วยที่ต้องเรียกพบคุณอย่างกระทันหันแบบนี้ ทั้งๆที่รู้ดี
ว่าคุณคงจะอยากอยู่ดูอาการของภรรยาอยู่ที่โรงพยาบาลมากกว่ามาสถานีตำรวจอย่างนี้ตามที่ผู้จัดการ
ของคุณได้บอกเรามา แต่เนื่องจากว่าเราไม่สะดวกที่จะขังชินมินอาไว้ที่สถานีได้นานเพราะว่าทางกลุ่ม
แฟนคลับกลุ่มนั้นของคุณได้บุกเข้าทำร้ายชินมินอาถึงในห้องขังบนสถานีของเรา เราจึงจำเป็นที่จะต้อง
เรียกคุณตัวเข้ามาให้ปากคำด่วนอย่างนี้ เพราะเราจะทำเรื่องส่งชินมินอาเข้าไปฝากขังในเรือนจำก่อนที่
จะรู้ผลอาการของภรรยาของคุณ ทางศาลถึงจะตัดสินสิ้นสุดบทลงโทษของคดีความ" เจ้าหน้าที่ตำรวจบอก
กับจงอินพร้อมกับชี้ไปทางรถขนนักโทษคันใหญ่ห้าคันที่ใช้เป็นห้องขังชั่วคราวที่ใช้ขังแฟนคลับของจงอินที่
โดนคดีทำร้ายร่างกายของชินมินอาโดยเฉพาะเลย

       "พวกเขาทั้งหมดจะต้องติดคุกเหรอครับ" จงอินถามเสียงแผ่วอย่างรู้สึกผิดที่ทำให้คนอื่นจะต้องมา
เดือดร้อนไปกับเรื่องของตัวเองไปด้วย

       "ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ พวกนั้นโดนแค่คดีทำร้ายร่างกายเท่านั้น รอแค่มีคนมาประกันตัวและเสีย
ค่าปรับให้ก็กลับบ้านได้แล้วครับ"

       "ถ้าอย่างนั้นผมขอเป็นคนประกันตัวพวกเขาทั้งหมดเองก็แล้วกันครับ พี่หมินช่วยเป็นธุระจัดการประกัน
ตัวพวกเขาให้ผมทีนะครับ" จงอินบอกพร้อมกับส่งกระเป๋าของตัวเองที่มีทั้งบัตรประชาชน เงินสด และบัตร
เครดิต เรียกว่ามีครบทุกอย่างที่จะใช้ในการประกันตัวเลยทีเดียว ซึ่งมินซอกเองก็เดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เข้าไปในอาคารเละๆของสถานีตำรวจทันทีอย่างเต็มใจ

       "เรามาเริ่มเข้าเรื่องกันเลยดีกว่านะครับ...ก่อนหน้าที่คุณจะมานี้ทางเราก็ได้สอบสวนชินมินอามาเรียบ
ร้อยแล้ว ซึ่งเธอก็ยอมรับสารภาพว่าเธอเจตนาที่จะทำร้ายร่างกายของภรรยาคุณโดยที่เธอได้คิดแผนการณ์ล่วงหน้ามาก่อนหน้าแล้ว ซึ่งเธอก็ให้เหตุในแรงจูงใจที่ว่า เธอเคยเป็นเพื่อนบ้านและคนรักของคุณมาก่อนที่
จะโดนโอเซฮุนภรรยาของคุณแย่งคุณไปจากเธอ เธอจึงคิดที่จะมาทวงคุณคืนโดยที่จัดการข่มขู่และทำลงมือ
ทำร้ายโอเซฮุนภรรยาของคุณ" เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดแฟ้มตรงหน้าของตัวเองและอ่านให้จงอินฟัง ในข้อมูล
การให้ปากคำของชินมินอา

       "ห๊ะ!! ผมเนี่ยนะ!!" จงอินหลุดถามเสียงหลงเพราะตกใจกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

       "ครับ เธอบอกกับเราอย่างนั้น" เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันคำตอบกับจงอินด้วยสีหน้าจริงจัง

       "ผมไม่ทราบหรอกนะครับว่าเธอเอาเรื่องอะไรมาพูด แต่สิ่งที่ผมรู้แน่ๆเลยคือ ตั้งแต่เกิดมาจนถึงทุกวันนี้
ผมมีคนรักคนเดียวคือโอเซฮุน แฟนคนแรกของผมก็คือโอเซฮุน ภรรยาและคนรักคนแรกและคนเดียวของผม
ก็คือโอเซฮุน และก่อนหน้าหรือหลังจากที่ผมรู้จักกับเซฮุนภรรยาของผม ผมก็ไม่เคยไปมีความสัมพันธ์กับใคร
เลยไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือทางใจ ส่วนผู้หญิงที่ชื่อชินมินอาคนนี้ผมก็เพิ่งจะมาจำชื่อเธอได้ก็ตอนที่เธอได้
ลงมือทำร้ายภรรยาของผมวันนี้นี่แหละครับ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมได้มีโอกาสได้ร่วมงานกับเธอมาครั้งนึงแล้ว
แต่ผมกลับจำชื่อและหน้าเธอไม่ได้เลย จนมาวันนี้นี่แหละผมถึงนึกขึ้นมาได้ว่าผมจะเจอเธอโดยบังเอิญหรือ
มันเป็นความตั้งใจของเธอที่ร้านของภรรยาผมอีกครั้งหรือสองครั้งซึ่งผมเองก็จำไม่ได้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อยู่ในเศษเสี้ยวของความคิดความทรงจำของผมเลย แล้วอย่างนี้ผมจะยังเหมือนกับคนที่เคย
เป็นคนรักเก่าหรือเพื่อนบ้านกันมาก่อนเลยหรือครับ" จงอินตอบกลับไปอย่างชัดเจนไม่มีสะดุดตะกุกตะกัก

       "ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยบอกเราได้หรือไม่ครับว่าบ้านเกิดและที่อยู่ปัจจุบันของคุณอยู่ที่ไหนกัน"

       "ผมเกิดและโตอยู่ที่เมืองซุนชอนและย้ายมาอยู่หอพักของบริษัทตอนอายุสิบสามเพราะต้องฝึกซ้อม
และย้ายมาเรียนมัธยมที่โซลอาร์ทไฮสคูลด้วย ส่วนที่อยู่ปัจจุบันผมก็บ้านหลังที่คุณตำรวจไปจับชินมินอา
นั่นแหละครับ บ้านหลังนี้ผมพึ่งซื้อมาได้ประมาณสามปีหลังจากที่ลูกและภรรยาผมกลับมาจากต่างประเทศ
ซึ่งก่อนหน้าที่ผมจะมาซื้อบ้านหลังนี้ ผมก็อยู่หอของบริษัทนี่แหละครับเพียงแต่มันเป็นคนละที่กลับตอนที่
เป็นเด็กฝึกก็เท่านั้นเองครับ  แล้วที่อยู่ของผมทั้งหมดที่บอกกับคุณตำรวจไปมีที่ไหนตรงกับที่ผู้หญิงคนนั้น
บอกบ้างหรือเปล่าครับ" จงอินแจงรายละเอียดที่อยู่ของตัวเองตั้งแต่เกิดยันปัจจุบันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟัง
พร้อมถามถึงบ้านหลังที่มินอาอ้างถึงด้วย เพราะเขามั่นใจมากถึงมากที่สุดเลยว่าชีวิตนี้ทั้งชีวิตเขาไม่เคย
รู้จักชินมินอาเลย แถมเขายังรักการเต้นและใช้เวลาทั้งหมดในชีวิตไปกับการเต้นซะส่วนใหญ่เขาจะเอาเวลา
ที่ไหนไปเป็นคนรักหรือเพื่อนบ้านของชินมินอากัน อย่าว่าแต่ชินมินอาเลย เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาสักคน
ยังไม่มีเลย อย่าลืมความจริงที่ว่าเขาเข้ามาเป็นเด็กฝึกในค่ายตั้งแต่ยังไม่โตดีเลย แล้วก่อนหน้านั้นเขาจะเอา
ความรู้สึกที่ไหนไปรักกับใครเขาได้หรือ

       "บ้านเกิดของเธออยู่ที่คยองกีและเธอเพิ่งจะย้ายมาโซลเมื่อประมาณสองปีที่ผ่านมาครับ ส่วนที่อยู่
ทั้งหมดของคุณที่คุณบอกมามันตรงกันกับที่เราตรวจสอบของคุณและชินมินอาหลังจากที่เธอยอมสารภาพ
แล้วหล่ะครับ ซึ่งคำให้การของคุณในวันนี้บวกกับหลักฐานที่ทางเรามีก็ยืนได้แล้วครับว่าเธออาจจะเข้าใจผิด
หรือจำผิดคนไปเอง หรือไม่เธอก็อาจจะชอบคุณมากเกินไปจนสร้างจินตนาการไปเอง แล้วอย่างนี้คุณจะ
ทำยังไงกับเธอครับ คุณจะยอมความเปล่าครับ"

       "ไม่ครับ ไม่มีทาง ผมต้องการที่จะดำเนินคดีกับเธอให้ถึงที่สุดครับ" จงอินตอบเสียงนิ่ง หนักแน่น
อย่างจริงจัง สายตาคมที่แสดงออกมาให้เห็นนั้นไม่มีแววของความปราณีอยู่เลย บ่งบอกได้เลยว่าเจ้าตัวนั้น
อาฆาตแค้นคู่กรณีมากขนาดไหน  ตอนที่อยู่บนรถระหว่างทางที่จะมาสถานีตำรวจนี้จงอินได้คิดไว้แล้วว่า
ไม่ว่าชินมินอาจะอยู่ในสภาพไหน หรือว่ามีผลตรวจมายืนยันว่าเธอมีปัญหาทางจิตหรือไม่อย่างใด เขาก็จะ
ตามเอาเรื่องเธอให้ถึงที่สุด ไม่ว่าเขาจะต้องเสียลูกคนเล็กที่อยู่ในท้องของเซฮุนไปหรือไม่คิมจงอินคนนี้ก็จะ
ไม่มีทางที่จะยอมควาและปล่อยให้คนร้ายได้ลอยนวลหรือโดนประกันตัวไปหรอก สำหรับคนที่กล้ามาทำให้
ครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาต้องเจ็บ สำหรับเขาแล้วมันจะไม่มีคำว่าปราณีอีกต่อไป ถึงใครจะว่าเขาใจร้าย
ก็ตาม
.
.
.
       "สวัสดีครับ พวกคุณคงจะรู้แล้วใช่ไหมครับว่าเด็กที่ยืนอยู่ข้างๆผมนี้คือใครและเป็นอะไรกับผม" จงอิน
พูดขึ้นในขณะที่มายืนหลังที่กลั้นตรงหน้าแฟนคลับ หลังจากที่คุยกับทางเจ้าหน้าตำรวจที่เสร็จแล้ว

       "สวัสดีครับ ผมชื่อคิมจีซอง เป็นลูกป๊ะป๋าจงอินกับหม่าม๊าเซฮุนและก็เป็นหลานชายสุดหล่อของคุณปู่
คุณย่าแล้วก็ลุงจุนมยอนด้วย ยินดีที่ได้รู้จักครับ" เมื่อเห็นพ่อของตัวเองทำอย่างนั้น ลูกหมูน้อยจีซองตัวแสบ
ก็ทำตามบ้าง ด้วยการพูดทักทายและนำตัวเองในแบบที่เอาให้รู้จักกันให้ครบไปทั้งบ้านเลยโดยที่ไม่ลืมโค้งตัว
เก้าสิบองศาในแบบที่ป๊ะป๋ากับหม่าม๊าสอนให้ทำเวลาเจอผู้ใหญ่หรือคนที่โตกว่าด้วย ซึ่งการกระทำและคำพูด
ของจีซองนั้นก็เรียกเอารอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากบรรดาแฟนคลับของป๊ะป๋าตัวเองได้ไม่ยากเลย

        "หึๆ ตามนั้นครับ ถึงจีซองจะแสบหรือเจ้าเล่ห์ไปบ้างแต่ก็อย่างที่ทุกคนรู้กันนะครับ ว่าเด็กอ้วนคนนี้คือ
ลูกชายของผมกับโอเซฮุนซึ่งเป็นภรรยาของผมนั่นเอง ไหนๆเรื่องมันก็มาถึงขนาดนี้แล้ว...ผมก็อยากจะบอก
ว่า...ผมขอโทษนะครับ ผมขอโทษจริงๆที่ผมอาจจะต้องทำให้พวกคุณเสียใจหรือผิดหวังไปกับคนอย่างผม
พวกคุณจะโกรธ จะเกลียดหรือจะไม่ให้อภัยกับความผิดนี้ของผมก็ได้ แต่ผมขอร้องเถอะครับว่าอย่าไปโกรธ
ไปเกลียดเซฮุนกับจีซองเลย อย่างที่พวกคุณได้ดูจากรายการเรียลลิตี้ไปนะครับว่าถ้าวันนั้นผมไม่มีโอเซฮุน
มันก็จะไม่มีคิมไคอย่างทุกวันนี้หรอกนะครับ ผมอาจจะเป็นแค่คิมจงอินผู้ชายธรรมดาๆที่แทบจะมองหา
อนาคตไม่เจอเลยก็ได้ ขอร้องเถอะครับช่วยยอมรับในตัวของพวกเขาด้วยนะครับ!!!" จงอินบอกพร้อมกับ
นั่งคุกเข่าคำนับศีรษะจรดพื้นซ้ำๆอยู่หลายครั้งหลายที โดยที่มีจีซองทำตามด้วยเมื่อเห็นป๊ะป๋าของตัวเอง
ทำอย่างนั้น ที่จริงจงอินไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ ถ้าเป็นศิลปินดาราทั่วไปก็คงจะแค่ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพูด
ขอโทษแล้วก็จบไป แต่กับจงอินมันไม่ใช่ที่เขาทำอย่างนี้ก็เพราะอยากจะขอโทษและขอบคุณไปพร้อมๆกัน
ทั้งๆที่จงอินโกหกโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่มันก็เป็นเหมือนการทรยศหักหลังเลยหล่ะสำหรับศิลปินที่แอบซุกลูก
ซุกเมียอย่างเขา แต่แฟนคลับของเขาก็ยังถือโทษแถมยังมีน้ำใจมาช่วยเขาและครอบครัวของเขาจาก
เหตุการณ์ร้ายๆอย่างนี้อีก ซึ่งเขาถือว่าเป็นบุญคุณมากเลยล่ะสำหรับเขา

       หลังจากที่จบคำพูดของจงอินทุกสิ่งทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ เงียบจนกระทั้งได้ยินแม้แต่เสียง
ของลมหายใจ และเมื่อจงอินเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องเห็นแฟนคลับของเขาแทบจะทุกคนที่นั่งนิ่ง ปล่อยให้
น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้และไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมหรือเป็นเพราะอะไรกลุ่มคน
หรือแฟนคลับที่อยู่ตรงหน้าของเขานี้ถึงได้ร้องไห้ออกมาอย่างนี้ เลยไม่รู้จะทำยังไงจึงได้แต่ส่งยิ้มซีดเซียว
กลับไปให้แฟนคลับตัวเองอย่างรู้สึกผิดเพราะคิดว่าทุกคนอาจจะไม่ให้อภัยและเกลียดเขาไปแล้วจริงๆก็ได้
ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนและอุ้มลูกชายเดินออกมาจากบริเวณนั้นเพื่อที่จะขึ้นรถและเดินทางกลับไปโรงพยาบาล
ไปเฝ้ารอดูอาการของเซฮุนต่ออีก เพราะตั้งแต่เขาออกมาก็ยังไม่มีใครโทรมาบอกข่าวอะไรกับเขาเลย

       "ไม่เป็นไร!!!  ไม่เป็นไร!!!  ไม่เป็นไร!!!"

       "เรารักคุณ!!! เรารักคุณ!!! เรารักคุณ!!!"

       "คิมไค โอเซฮุน คิมจีซอง ไฟท์ติ้ง!!!!"

       แต่แล้วในขณะที่เขากำลังจะก้าวขาขึ้นรถนั้นพวกแฟนคลับของเขาร้องตะโกนให้กำลังใจเขามา
สามประโยคสั้นๆ แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความหมายกันอย่างพร้อมเพียง ด้วยความสามัคคี

       จงอินเองไม่ได้พูดอะไรกลับไป แต่เขาเพียงแค่หันหลับกลับไปหาแฟนคลับและโค้งตัวขอบคุณอีกครั้ง
ทั้งๆที่อุ้มจีซองอยู่ ก่อนที่จะพากันขึ้นรถไป โดยที่สองคนพ่อลูกซุปเปอร์สตาร์นั้นก็ไม่ลืมที่จะเปิดกระจกรถ
โบกมือลาแฟนคลับของตัวเองด้วยรอยยิ้มอีกที



       .......ได้ยินแล้วใช่ไหมเซฮุน ไม่ใช่แค่ฉันหรือจีซองหรอกนะที่รอนายกับลูกกลับมาหาเรา แต่ยังมี
คุณพ่อคุณแม่ พี่จุน ชานยอลและพวกเขาเหล่านี้อีกนะที่รอ รีบๆกลับมาหาฉันนะคุณกระต่ายที่รัก.......




...
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 32 (01.12.58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuja ที่ 01-12-2015 07:46:01
ไม่นะ คุณกระต่ายต้องไม่เป็นไร น้องเล็กๆด้วยยยยย
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 32 (01.12.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Nabee ที่ 01-12-2015 12:33:45
get well soon ns sehun  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 32 (01.12.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 01-12-2015 13:14:51
เซฮุนกับน้องเล็กๆ รีบกลับมาไวๆ นะคะ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 32 (01.12.58)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-12-2015 13:52:04
ทุกอย่างจะต้องดีและปลอดภัย
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 32 (01.12.58)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 01-12-2015 17:15:57
ขอให้ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกค่ะ
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 33 (09.12.58) *จบ*
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 09-12-2015 20:08:21
รักนี้มีแค่....'นายซุปเปอร์สตาร์' ตอนที่ 33 














       8 ปีผ่านไป.....


       "คิมจีซอน เร็วๆหน่อยได้ไหมคะลูก เดี๋ยวก็ไปไม่ทันได้ดูพี่ชายสุดที่รักของเราแสดงกันพอดี" เซฮุนตะโกน
เร่ง เรียกลูกสาวคนเล็กวัยแปดขวบของตัวเองมาครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็จำไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ต้องมีเกินสิบครั้งขึ้นไป
ใครบอกว่าเลี้ยงลูกสาวง่ายกว่าลูกชายนั้นเซฮุนคนนี้ขอเถียงใจขาดดิ้นเลยว่ามันเป็นการโกหกทั้งเพ เพราะ
คิมจีซอนลูกสาวคนเล็กของเขานั้นแสบไม่ต่างไปจากจีซองลูกชายคนโตของเขาเลย เรียกได้ว่าถอดแบบ
กันมาเลยดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกิน เรื่องความแสบ ยิ่งเรื่องความเจ้าเล่ห์แล้วเรียกได้ว่าจีคนพี่กับจีคนน้อง
ไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียวเชียวล่ะ เล่นเอาทั้งเขาและจงอินมีเรื่องต้องให้ปวดหัวกันได้ทุกวันทุกเวลา


       เมื่อแปดปีที่แล้ว หลังจากที่เขาและจีซอนลูกสาวคนเล็กของเขานั้นสุภาพแข็งแรงและดีขึ้นเป็นปกติ
ร้อยเปอร์เซ็นต์ จนหมออนุญาติให้กลับบ้านได้แล้วนั้น จงอินก็เอาเอกสารยืนยันการรักษาของเขาและจีซอน
กลับไปจัดการฟ้องร้องและดำเนินคดีกับชินมินอาอย่างจริงจังอีกที จนศาลตัดสินให้มินอาได้รับโทษขั้นสูงสุด
คือการจำคุกตลอดชีวิต แต่เวลาผ่านไปได้แค่ปีกว่าๆก็มีข่าวออกมาว่ามินอามีอาการทางจิตชนิดรุนแรงที่
ชอบเห็นภาพหลอนและคอยแต่จะทำร้ายตัวเองตลอดเวลา จนถูกส่งไปอยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวชแทน
ซึ่งเขาและจงอินก็ทำได้เพียงแค่การอโหสิกรรมและให้อภัยผู้หญิงคนนี้ไปเพียงเท่านั้น


       ส่วนจงอินเองก็หยุดทำงานในวงการบันเทิงไปได้แค่เพียงสองปีกว่าๆก็ต้องกลับเข้าไปรับงานอีกครั้งทั้งๆ
ที่ความตั้งใจแรกของจงอินคือการยุติการเป็นศิลปินของตัวเองเพราะรู้สึกผิดกลับแฟนคลับและประชาชนใน
เรื่องข่าวต่างๆ ที่ผ่านมา แต่ก็ต้องกลับเข้าวงการอีกครั้งเพราะทนเสียงเรียกร้องของประชาชนและแฟนคลับ
ของตัวเองไม่ไหว แต่แทนที่กลับไปแล้วงานจะซาๆหรือน้อยลงไปกว่าเมื่อก่อนบ้างเพราะมีครอบครัวแล้ว
แต่ก็ไม่เลย กลับกันจงอินมีงานรุมเข้ามาเยอะกว่าตอนก่อนที่จะมีข่าวออกมาเสียด้วยซ้ำเรียกว่าตอนนี้เป็น
จุดพีคจุดสูงสุดของจงอินในวงการบันเทิงเลยก็ได้


       และตัวเซฮุนเองก็ยังคงทำอยู่ที่ขนม ทำเค้กอยู่ที่อินดี้คาเฟ่ร้านกาแฟของตัวเองเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติม
ก็คือสาขาที่สอง สาม สี่ และห้า ของอินดี้คาเฟ่ที่ขยายออกไปต่างหาก  เพราะหลังจากที่แฟนคลับของจงอิน
ที่เคยมาชมมาชิมสูตรเด็ดที่ร้านและรู้ว่าเป็นร้านของเขาเอง ก็ช่วยโฆษณาช่วยบอกกันไปปากต่อปากจนมี
ลูกค้าตามกันมาชิมเรื่อยๆ จนที่ร้านรับไม่ไหวถึงกับต้องขยายไปถึงห้าสาขาทั่วเกาหลีกันอย่างที่เห็นนี่แหละ


       ส่วนลูกหมูน้อยจีซองตัวแสบของทุกคนเมื่อแปดปีที่แล้วน่ะหรอ? อยากรู้กันรึเปล่า? ถ้าอยากรู้ก็รีบตาม
หม่าม๊าเซฮุนและลูกหมูจีซอนคนน้องกันไปเลยจ้ราาา.....
.
.
.
.
.
       Music Bank (KBS Studio)
 
       "สวัสดีคร้าบบบ....สวัสดีทั้งผู้คนที่อยุ่ในห้องส่งและผู้ชมทางบ้านที่นั่งรอดูกันอยู่ที่หน้าจอโทรทัศน์กัน
ด้วยนะครับ ก่อนอื่นต้องขอเล่าก่อนเลยว่าในวันนี้เมื่อสิบสามปีที่แล้วผมเพิ่งจะได้มาเป็นพิธีกรฝึกหัดครั้งแรก
บนเวทีนี้ ถ้าใครจำได้ช่วยบอกผมได้หน่อยได้ไหมครับว่าในวันนี้เมื่อสิบสามปีที่แล้วผมเปิดตัวพร้อมกับศิลปิน
คนไหน??" พิธีกรพูดเปิดรายการพร้อมกับถามผู้ชมคนดูที่อยู่ในห้องส่งกลับไปถึงวันวานในความทรงจำ


       "คิมไค!!!!!!!"  คนดูในห้องส่งตอบกลับมาเป็นเสียงเดียวกันจนดั่งลั่นห้องส่ง


       "โอ้ววว...ถ้าพวกคุณพร้อมใจกันตอบอย่างนี้ี ก็แสดงว่ารู้กันแล้วใช่ไหมครับว่าศิลปินคนต่อไปคือใคร
ถึงจะไม่ใช่คิมคนพ่อ แต่เป็นคิมคนลูกที่มีดีไม่แพ้กันเลย....ใครที่เคยมองเมิน เดินก็ต้องหยุด เมื่อเห็นลีลา
ท่าทางการเต้นอันพริ้วไหวและเสียงร้องที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของเขา ถ้าพร้อมแล้วก็ไปพบกับผู้ที่ได้รับ
ฉายาว่าเป็นหนูน้อยอัจฉริยะที่เพียบพร้อมทุกด้านทางดนตรี 'คิมจีซอง!!!!' กันเลยคร้าบบบบบบ...."
พิธีกรร้องบอกส่งเข้าช่วงต่อไปของรายการอย่างตื่นเต้นและไฟทั้งหมดในห้องส่งจะมืดดับลง ซาวด์ดนตรี
เริ่มต้นของเพลงที่ไม่คุ้นหูแต่ชวนคนฟังเคลิ้มตามได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่เงามืดที่โชว์ท่วงท่าอันพริ้วไหว
กลางเวทีเริ่มที่จะเด่นชัดขึ้นมาทีละนิดๆ จนเพลงเริ่มถึงช่วงบีทบีทหนักๆจังหวะเร้าใจ แสงไฟก็สว่างวาบ
สาดส่องเข้าไปจุดกลางเวทีที่มีร่างของเด็กหนุ่มหน้าตาคมคายละม้ายคล้ายคลึงกับซุปเปอร์สตาร์คนดัง
กำลังวาดลวดลายแสดงฝีมือทั้งร้องทั้งเต้นสะกดสายตาผู้ชมคนดูทั้งในห้องส่งและทางบ้านให้ละสายตา
ออกจากการแสดงสุดเพอร์เฟคของเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้เลยทีเดียวเชียว


       ""กรี๊ดดดดดด...คิมจีซอง!!!...จีซองอาาา~" เสียงกรีดร้องดังลั่นห้องส่งทันทีเมื่อการแสดงบนเวทีจบลง
แต่ตัวศิลปินเองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินกลับเข้าไปยังห้องพักหลังเวทีของตัวเองเพื่อรอที่จะขึ้นโชว์ตัว
อีกครั้งบนเวทีในช่วงท้ายของรายการ เพราะมีศิลปินอีกหลายคนหลายกลุ่มที่รออยู่ข้างเวทีเพื่อที่จะแสดง
ต่อจากเขา


       "ว่ายังไงครับพ่อซุปตาร์ตัวน้อย เป็นยังไงบ้างหายตื่นเต้นรึยังฮึ?" ป้าหมินหรือคิมมินซอกที่มาทำหน้าที่
เป็นผู้จัดการส่วนตัวคอยดูแลคิมคนลูกแทนคิมคนพ่อที่ตอนนี้ได้จงแดคู่หูเมเนเจอร์ของเขาไปรับหน้าที่ดูแล
คิมไคหรือคิมจงอินแทนเขา เนื่องจากจีซองขอร้องประธานโอหรือคุณตาของเจ้าตัวว่าให้เขามาช่วยดูแล
ตัวเองแทนที่จะเป็นจงแดเพราะสนิทกับเขามากกว่า อ้อนชนิทที่ว่าประธานโอจอมโหดรีบทำตามแทบจะ
ทันทีทันใดด้วยความที่รักและหลงหลานชายคนนี้มากกว่าใครๆ แต่ก็ใช่ว่าจะตามใจ เข้าข้างและอวยจีซอง
ไปซะทุกเรื่อง เพราะกว่าที่จีซองจะมาเป็นศิลปินเต็มตัวอย่างวันนี้ได้ ก็เรียกได้ว่าเป็นการฝึกมหาโหดเลยที
เดียว หลังจากงานวันเกิดที่จีซองมีอายุได้เจ็ดขวบเต็มแล้ว เจ้าตัวก็เริ่มเข้าโปรแกรมฝึกหัดของบริษัททันที
แบบที่ครูฝึกในค่ายไม่มีความเกรงใจหรือเกรงกลัวว่าเป็นหลานของประธานบริษัทเลย เพราะก่อนหน้านี้
ประธานโอและจงอินก็ได้บอกและย้ำกับครูฝึกทุกคนทุกส่วนแล้วว่าจีซองจะเข้ามาในบริษัทในฐานะเด็กฝึก
ธรรมดาๆคนนึง ให้สอนสั่ง พูดว่าหรือลงโทษได้เลยถ้าจีซองทำผิดหรือทำอะไรไม่ถูกต้องตรงไหน เรียกได้ว่า
ฝึกหนักเกินกว่าเด็กฝึกคนอื่นๆไปเลยดีกว่าเพราะบางทีบางครั้งจีซองก็โดนทั้งประธานโอและจงอินต่อว่า
ต่อหน้าเด็กคนอื่นๆในค่ายเลยเมื่อทำได้ไม่ดี ในตอนที่ถึงเวลาทดสอบความสามารถประจำเดือนของบริษัท
ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่บริษัทจะต้องคัดเลือกศิลปินเดบิวต์ใหม่ประจำปี ปีนี้เป็นจีซองจึงไม่มีใครโวยวายหรือ
พูดว่านินทาอะไรเลยเพราะว่าได้เห็นผลงานมาตลอดระยะเวลาห้าปีของการเป็นเด็กฝึกหัดของจีซอง
ทุกคนจึงหมดข้อครหาใดๆ ในตัวของจีซอง ไม่ว่าจะเป็นประชาชนคนดูหรือจากเด็กฝึกด้วยกันก็ตาม


       "ตื่นเต้นสิครับป้าหมิน จีซองตื่นเต้นสุดๆไปเลย ยิ่งตอนที่คนดูในห้องส่งนั่งเงียบกันนะ ตอนนั้นจีซอง
ใจคอไม่ดีเลยอ่ะบอกตรงๆ ว่าแต่หม่าม๊า ป๊ะป๋า จีซอนและทุกคนที่บ้านยังไม่มีใครมาอีกหรอครับป้าหมิน"
จีซองก็ยังคงเป็นเด็กน้อยจีซองจอมแสบคนเดิมที่ชอบเข้ามาออดอ้อนกอดเขาในยามที่ตื่นเต้นหรือดีใจ
เหมือนเดิมในความรู้สึกของซิ่วหมิน เพียงแต่จีซองน้อยของเขาในตอนนี้ไม่ได้มีตัวนุ่มนิ่มและอ้วนกลม
พุงป่องเหมือนตอนเด็กๆแล้วก็เท่านั้น เพราะตอนนี้คิมจีซองคือเด็กหนุ่มที่โตเกินวัยสิบสามปีของเจ้าตัว
พุงป่องๆ ตัวนิ่มๆ ก็กลายเป็นเด็กหนุ่มตัวโต สูงใหญ่ที่มีกล้ามเนื้อเฟิร์มๆอยู่ทั่วทั้งร่างกาย ยิ่งหน้าตาแล้วนี่
ไม่ต้องไปพูดถึงเลย เพราะเจ้าตัวนั้นถอดแบบคนเป็นพ่ออย่างจงอินมาแทบจะร้อยเปอร์เซ็นเองมีเพียงแค่
ดวงตากลมสองข้างและผิวสีน้ำนมขาวใส่เท่านั้นนั่นแหละที่ได้มาจากแม่อย่างเซฮุนแต่นั้นก็ไม่ใช่ข้อด้อย
แต่อย่างใด กลับกันสิ่งเหล่านี้ที่รวมกันอยู่ในตัวของจีซองแล้วมันเหมือนกับเป็นรูปปั้นของพระเจ้าก็ไม่ปาน
จีซองหลานชายสุดหล่อของเขาตอนนี้เป็นเหมือนกับสมบัติล้ำค่าของวงการบันเทิงของเกาหลีไปแล้ว
เพราะไม่ว่าจะเป็นสาวน้อย สาวใหญ่ สาวแท้ สาวเทียม หรือแม้แต่แฟนบอยก็ต้องการที่จะได้สัมผัสได้เห็น
คิมจีซองตัวเป็นๆกันทั้งนั้นแหละ


       "คงจะมากันหมดแล้วหล่ะ แต่อยู่กันตรงไหนป้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเมื่อกี้ตอนที่ป๊ะป๋าของเรา
โทรมาป้าไม่ได้รับเพราะว่าตอนนั้นเราอยู่ข้างเวทีกันแล้ว ยังไงเดี๋ยวตอนรายการจบก็ได้เจอกันอยู่ดี ป้าว่า
ตอนนี้จีซองเตรียมตัวกลับขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีดีกว่า เพราะป้าเชื่อว่างานนี้จีซองจะต้องชนะแแน่ๆ"


       "ครับผม ขอบคุณนะครับป้าหมินที่คอยดูแลและอยู่ข้างๆจีซองมาตลอด" จีซองบอกพร้อมกับหอมแก้ม
ของมินซอกแรงๆอย่างที่ชอบทำตั้งแต่เด็กจนโต


       "หึๆ ไม่ให้ดูแลหลานของตัวเองแล้วจะให้ป้าไปดูแลใครกันฮึไอ้ตัวแสบ ไปๆไปเตรียมตัวข้างเวทีกันดีกว่า"
มินซอกบอกพร้อมกับขยี้หัวของจีซองเบาๆด้วยความรักและเอ็นดู ก่อนที่สองคนป้าหลานจะพากันเดินไป
ข้างเวทีเพื่อที่จะไปรอแสตนบายรอปิดรายการ
.
.
.
.
.
       อีกด้านหนึ่งของห้องส่ง (บริเวณจุดอับสายตาข้างเวที)


       "ขอบใจเราสองคนมากนะเซฮุน จงอิน ที่ทำให้พ่อได้มีวันนี้อย่างที่ฝัน ขอบใจมากจริงๆ ที่สร้างจีซอง
ให้เข้ามาเป็นส่วนที่เติมเต็มในครอบครัวของเรา" ประธานโอบอกพร้อมกับส่งรอยยิ้มเคล้าน้ำตาแห่งความสุข
ส่งไปให้กับเซฮุนและจงอินที่ยืนดูจีซองรับรางวัลเพลงยอดนิยมประจำสัปดาห์อยู่ ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่น่าภูมิ
ใจและตื้นตันใจจริงๆ สำหรับคนเป็นตาและเป็นประธานบริษัทต้นสังกัดของจีซอง ที่เห็นจีซองได้รับรางวัล
ตั้งแต่วันแรกที่เดบิวต์เปิดตัวอย่างเป็นทางการอย่างนี้เลย


       "เราสองคนก็ต้องขอบคุณคุณพ่อด้วยฮะ ขอบคุณที่คุณพ่อยอมให้อภัยในความผิดพลาดของเราสองคน
ขอบคุณที่คุณพ่อรักและเอ็นดูจีซอง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือผมขอขอบคุณคุณพ่อมากๆเลยฮะที่วันนี้คุณพ่อ
ได้มีความสุขอย่างแท้จริงสักที" เซฮุนบอกก่อนที่จะเข้าไปซุกอกร้องไห้กอดประธานโออย่างเต็มรัก สิบสามปี
เกิือบสิบสี่ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เขาตั้งท้องจีซอง มันอาจจะเป็นเวลาที่ไม่นานสักเท่าไหร่สำหรับใครหลายคน แต่
สำหลับเซฮุนนั้นมันเหมือนกับความยาวนานแทบจะทั้งชีวิตเลยเสียด้วยซ้ำที่ไม่สามารถพูดหรือมองหน้าพ่อ
ของตัวเองได้อย่างสนิทใจเพราะมีความรู้ผิดที่ติดค้างอยู่ในใจแทบจะตลอดเวลา แต่วันนี้ วันที่เห็นความ
สำเร็จของลูกชายตัวเอง วันที่ได้มองเห็นรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความสุขใจของคนเป็นพ่อ ในฐานะที่เขาเป็น
ทั้งแม่และลูกของจีซองและประธานโอ คำเดียวที่เซฮุนพูดได้ตอนนี้คือ เขามีความสุขมากจริงๆ


       "ฮึๆ เลิกร้องไห้ได้แล้วไอ้ลูกคนนี้นี่มีลูกต้องสองคนแล้วนะยังจะร้องไห้เป็นเด็กๆไปได้ เอาล่ะ!! จงอินมา
เอาเซฮุนไปปลอบต่อแทนพ่อทีสิ พ่อจะไปรอจีซองที่ห้องแต่งตัวหลังเวทีสักหน่อย โน่นๆ ยัยจีซอนตัวป่วน
กวักมือเรียกพ่อจนมือจะหักอยู่แล้ว" ประธานโอบอกพร้อมกับส่งตัวเซฮุนที่อยู่ซุกอกตัวเองอยู่ไปให้จงอิน
ก่อนที่จะผละเดินไปหาจีซอนหลานสาวคนเล็กที่ยืนกวักมือเรียกตนอยู่กับลุงจุนและอายอลลี่ของเจ้าตัว
อยู่ตรงประตูทางเข้าหลังเวทีของพวกศิลปินหรือทีมงานทั้งหลาย


       "โอ๋ๆ เลิกร้องได้แล้วนะครับหม่าม๊าคนสวย ดูโน่นสิ! เห็นมั้ยว่าวันนี้จีซองลูกชายของเรามีความสุขมาก
มายขนาดไหนกัน" จงอินชี้ชวนให้เซฮุนดูจีซองที่กำลังเริ่มแสดงผลงานเพลงแรกในชีวิตของตัวเองอีกครั้ง
เพื่อเป็นการฉลองให้กับรางวัลแรกในการเป็นศิลปินเต็มตัวของตัวเอง

       "ขอบคุณนะครับเซฮุนขอบคุณที่เสียสละตัวเองทิ้งความฝันไป และยอมที่จะเป็นคนธรรมดาๆ
เพื่อที่จะรักษาสิ่งที่มีค่าที่สุดอย่างจีซองไว้ และก็ขอบคุณอีกครั้งนะครับที่ยอมกลับมาหากัน กลับมารักกัน
.........รักนะครับคุณกระต่ายที่รักของผม" จงอินบอกพร้อมกับจ้องตาส่งความรู้สึกจากหัวใจตัวเองให้เซฮุน
ได้รับรู้ ว่าเขานั้นรู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ

       สิ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับจงอินแล้วนั้น ไม่ใช่การเป็นศิลปินดาราหรือความเป็นซุปเปอร์สตาร์
แต่อย่างใด เพราะตราบใดที่ชีวิตของเขานั้นยังต้องอยู่รอดโดยการอาศัยอัตราการเต้นของหัวใจเมื่อใด
เมื่อนั้น....ความสำคัญและความสุขที่สุดในชีวิตของเขานั้นก็จะมีแค่สิ่งเดียวคือ....'โอเซฮุน'

       "ก็เพราะว่าความรักของฉันคนนี้มีให้แค่ 'นายซุปเปอร์สตาร์' อย่างนายคนเดียวยังไงล่ะคิมจงอิน"

       ไม่ว่าวันเวลาที่ผ่านมาจะต้องล้มลุกคลุกคลานหรือผิดพลาดมากน้อยเพียงใด กาลเวลาจะแปลเปลี่ยน
หมุนเวียนไปอีกเนิ่นนานเท่าใด หรือแม้แต่ว่าจงอินจะเป็นเพียงแค่คิมจงอินคนธรรมดาๆไม่ใช่ซุปเปอร์สตาร์
เหมือนอย่างทุกวันนี้ ผู้ชายที่ชื่อโอเซฮุนคนนี้ก็ขอที่จะมั่นคงและซื่อสัตย์กับเสียงร้องเรียของหัวใจของตัวเอง
ที่เฝ้ารอที่จะรักแค่คิมจงอินแต่เพียงผู้เดียวก็พอ.........





(...End...)


...
 นิยายเรื่องนี้ก็ดำเนินมาถึงตอนจบแล้วนะคะ.....(แอบเศร้า) ก่อนอื่นเลยคือ มี่ต้องขอขอบคุณนักอ่านหรือแฟนนิยายที่น่ารัก
ของมี่ทุกคนที่ติดตามกันมาตั้งแต่เริ่มเรื่องจนถึงวันนี้ ทั้งๆที่มี่ก็เป็นเพียงแค่นักเขียนมือใหม่ที่ฝีมือไม่ค่อยได้เรื่องสักเท่าไหร่
ขอบคุณทุกคอมเม้นทุกกำลังใจที่ช่วยกันส่งเข้ามา ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริงๆที่ให้โอกาสนักเขียนสมัครเล่นอย่างมี่
     *ในส่วนของจุนมยอนและชานยอลมี่จะขอแยกออกมาเป็นช็อตสั้นๆของทั้งสองคนก็แล้วกันนะคะ(ไม่เกินห้าตอนหรอกค่ะ)
     *และมี่จะเริ่มทยอยรีไรท์เนื้อหาแรกๆของเรื่องนี้ที่ยังคงเป็นภาษาอนุบาลๆแรกๆของมี่ด้วยนะคะ ถ้าคิดถึงจงอิน เซฮุนหรือ
ลูกหมูน้อยจีซองตัวแสบก็ลองกลับเข้ามาอ่านกันได้นะคะ
     *แต่ตอนพิเศษนี่มี่ไม่ขอรับปากนะคะ แต่มีคนต้องการอ่านเยอะหน่อยมี่ก็อาจจะมีก็ได้ค่ะ
     *ไหนๆก็จบเรื่องแล้วช่วยบอกความรู้สึกของทุกคนที่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้ให้มี่ฟังกันหน่อยได้ไหมคะ? (แล้วมี่จะรออ่านน้าาา..)
      *อย่าลืมติดตามเรื่องใหม่ของมี่กันด้วยนะคะ

รัก. รัก. รัก. รัก. รัก. รัก. รัก. รัก. รัก. มี่ร๊ากกกกกทุกคนที่สุดเลยค่ะ ....................สวัสดีค่ะ!!! บ๊ายบาย!!!
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 33 (9.12.58) *จบ*
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 09-12-2015 21:27:38
ก็ลุงจุนมยอนมีจีซองที่แสนจะเจ้าเล่ห์มาเป็นผู้ช่วยในการดูแลเจ้าหญิงตัวน้อยของบ้านทั้งทีจะไม่ให้จีซอนแสบตามๆ กันไปก็กระไรอยู่นะคะเซฮุน :laugh:

โล่งใจเลยค่ะที่ได้รู้ว่าทั้งสองคนแข็งแรงและปลอดภัยจากเหตุการณ์คราวนั้นมาได้ ^^ แถมตอนนี้ลูกหมูจีซองที่ความสามารถไม่หมูไปด้วยยังประสบความสำเร็จในเส้นทางที่ตัวเองเลือกอีกต่างหาก แบบนี้ตำแหน่งซุปเปอร์สตาร์คนต่อไปคงไม่ยากเกินไปที่จะไขว่คว้าใช่ไหมคะจีซอง :interest:

ปล. รออ่านคู่รองนะคะ

ขอบคุณค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 33 (9.12.58) *จบ*
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 10-12-2015 20:38:19
เป็นนิยายที่สนุกและอบอุ่นด้วยไอรักค่ะ  o13
หัวข้อ: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 33 (9.12.58) *จบ*
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 10-12-2015 22:26:59
ขอเข้ามาแจ้งข่าวนิดนึงค่ะ ตอนนี้มี่เปิดเรื่องใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ

ชื่อเรื่องว่า                      ***กอด.โอบ.อุ่น.ของนายท้องฟ้า***

เรื่องนี้มีครบทุกรสเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น สุข เศร้า ซึ้ง เหงา หรือแม้แต่ความฮาก็มีนะคะ

และแน่นอนที่สุดคือ คนอ่านที่น่ารักของมี่ทุกคน ก็จะได้รับรู้ไปถึง อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นในครั้งนี้ด้วยค่ะ

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ความรักแบบชู้สาวเท่านั้นนะคะ ความสัมพันธ์ของเพื่อน และความรักความอบอุ่นก็มีค่ะ

ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ค่อยๆอ่านค่อยๆทำความเข้าใจกันไป มี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังเลยค่ะ

หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 33 (9.12.58) *จบ*
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 11-12-2015 00:12:54
น่ารักมากเรื่องนี้ เราชอบทุกตัวละครเลย (ถึงแม้ว่าชื่อจะจำยากจริงๆ) โดยเฉพาะนายเอก ที่เป็นคนที่เสียสละมากกว่าใคร และขุ่นพ่อที่ปากแข็งแต่ก็โอนอ่อนไปตามลูกหลาน55555

ขอบคุณมากนะคะ แต่งมายันจบเลย เก่งมากค่ะ แต่ก็ตกใจนะที่จบไวเหลือเกิน เผลอแป๊บเดียวเอง(พูดเหมือนคนแก่เลย5555)

อยากให้มีตอนพิเศษนะ เพราะต้องคิดถึงครอบครัวหมูน้อยแน่ๆ^^
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 33 (9.12.58) *จบ*
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 12-12-2015 01:59:36
ขอบคุณน้องมี่มากนะจ๊าที่แต่งนิยายเรื่องนี้มาให้พี่อ่าน เป็นนิยายที่อบอุ่นน่ารัก ไม่หวานจนเลี่ยน และก็ไม่ดราม่าจนเก็บไปเครียดต่อจนพี่นอนไม่หลับ^^ อิอิอิ ต้องชื่นชมมี่จริงๆน๊า ขนาดว่าว่ามีปัญหาสุขภาพยังอุสาห์มาแต่งเรื่องนี้จนจบ ไม่ให้แฟนคลับทุกคนต้องผิดหวัง เป็นนักเขียนที่มีสปิริตสูงมากๆ แล้วก็เขียนออกมาได้ดีซะด้วย รักษาสุขภาพด้วยน้า ขอให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงเร็วๆ***
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 33 (9.12.58) *จบ*
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 12-12-2015 08:21:05
ในที่สุดฝันของประธานโอก้อเป็นจริง ขอบคุณน๊าาา
หัวข้อ: Re: {it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์'} MPREG Up.ตอนที่ 33 (9.12.58) *จบ*
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 12-12-2015 10:12:24
สนุกค่ะ อ่านเพลินเลย รวดเดียวจบ o13
ยังมีเรื่องต้องปรับปรุงอยู่บ้าง เขียนเยอะๆ อ่านเยอะๆ เดี๋ยวเก่งขึ้นเองค่ะ :กอด1:
แล้วก็สะกดคำผิดค่ะ ร เรือ ล ลิง ใช้สลับกันหลายจุด สู้ๆค่ะ :bye2:
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: makone ที่ 26-12-2015 21:38:58
น่ารักที่สุดเลย ครอบครัวนี้ อยากให้มีตอนพิเศษเพิ่มมาให้อ่านด้วยค่ะ
ยังไม่อยากให้ถึงตอนจบเลย
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: kat.dog ที่ 28-12-2015 20:21:20
ชอบมากเลยค่ะ
อ่านแล้วยิ้มตามความน่ารักของจีซองตลอดเลยค่ะ :-[
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ  o13
จะติดตามอ่านนิยายของคุณมี่ต่อไปเรื่อยๆค่า :mew1:
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 29-12-2015 14:25:07
เป็นครอบครัวที่น่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 29-12-2015 19:28:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 31-12-2015 21:18:08
 o13
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 01-01-2016 17:42:10
ขอบคุณนะค้าาาา น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 02-01-2016 16:40:16
ขอบคุณค่ะ คนเขียน เรื่องนี้น่ารักมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 02-01-2016 23:55:05
อ่านรวดเดียวจบเลย
แรกๆเนื้อเรื่องก็เรื่อยๆ
แต่เริ่มน่าอ่านมากๆตอนที่มีข่าวซุกลูกซุกเมียนี่แหละ
ชอบประธานโอ(แปลกไหม?)ที่สุดและ
เป็นคนซึนๆ น่ารักมากอ่ะ
รออ่านตอนของลุงจุนกับอายอลลี่นะคะ
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: Be mine ที่ 25-02-2016 19:25:06
ขอบคุณมากนะคะพี่มี่สุดที่รักของหนู หนูไปอ่านคุณเมียภาคปฏิบัติจบแล้วถึงได้มาอ่านเรื่องนี้ ขอบอกเลยนะคะว่าชอบสำนวนภาษาและแนวการขียนแบบพี่มี่มากกกกก เพราะมันทำให้เราเสียน้ำตาทุกครั้ง แต่ก็จบด้วยhappy ending ทุกที

ฝากถึงนิยายเรื่องนี้>>> เป็นนิยายอีกเรื่องที่ชอบมากๆเลยค่ะ ชอบทุกอย่าง ยิ่งอ่านก็ยิ่งทำให้หลงใหลในตัวละคร ขอสนับสนุนงานเขียนของพี่มี่ต่อไปนะคะ  ขอกอดพี่มี่แน่นๆหนึ่งที
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: yupa ที่ 25-02-2016 19:36:27
 :pig4: :L2: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: Wtftt ที่ 01-03-2016 22:23:34
น่ารักอะ แรกนี่ลุ้นมาก
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 02-03-2016 16:12:20
เรื่องนี้น่ารักมากๆเลย ขอบคุณนะครับสำหรับนิยายสนุกๆ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 02-03-2016 19:13:28
ไม่มีอะไรมาค่ะ มี่แค่อยากจะเข้ามาขอบคุณทั้งแฟนนิยายหน้าเก่าที่ติดตามมาตั้งแต่แรกเริ่มและแฟนนิยายใหม่ๆที่หลงผ่านเข้ามาอ่านเรื่องนี้นะคะ สำหรับเรื่องของอายอลลี่และเรื่องตอนพิเศษที่มี่เคยให้สัญญาไว้มี่ต้องขอแจ้งให้ทราบนิดนึงนะคะว่า มันอาจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีก็คือสิ่งที่มี่ต้องลงมือแต่งใหม่ทั้งหมดรวมทั้งที่บางตอนที่มี่รีไรต์ไปแล้วด้วย เพราะอีเมลล์ที่มี่ใช้เป็นคลังเก็บ
นิยายไว้นั้นมันโดนแฮกเปลี่ยนรหัสและเปลี่ยนไอดีของมี่ในอีกเว็บนึงไปค่ะ เพราะฉะนั้นมี่ก็ต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้เลยนะคะ

#ไม่ว่าจะผ่านไปกี่วันกี่เดือนหรืออีกกี่ปีมี่ก็เข้ามาเช็คดูนิยายทุกเรื่องของมี่บ่อยๆอยู่แล้วนะคะ แต่ถ้าใครอยากจะคุยกับมี่โดยตรงเลย
ก็ติดต่อมาที่ แฟนเพจเฟสบุ๊ค Little Mz ได้เลยนะคะ จะมาหน้าวอลล์หรือหลังไมค์ก็ได้ค่ะ

#ขอบคุณที่ติดตามค่ะ #รักนะคะ!!! ................................................มี่
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 04-03-2016 18:59:46
ตามอ่านจบแล้ว น่ารัก :z13:
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 23-03-2016 23:24:46
เป็นครอบครัวที่อบอุ่นและน่ารักมากๆๆเลยค่ะ

รักหม่าม๊า ป๋าป๊า และน้องจีซองมากๆๆจ้า  :mew3:

 :pig4:       :pig4:

หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 26-03-2016 10:54:32
ขอบคุณนะคะ น่ารักมากๆเลย
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 02-10-2016 17:42:58
น่ารักมากเลย ............. ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 09-10-2016 18:20:05

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 15-11-2016 23:58:46
รวดเดียวจบ แบบว่าอยากตบมินอาค่ะมาน้อยแต่แรง ขึ้นเลยๆ ขอบคุณนิยายดีๆ และขอให้คนเขียนสุขภาพแข็งแรงน๊าาาาาาา :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-10-2017 05:07:11
อบอุ่นดีนะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: kesuki ที่ 15-10-2017 15:50:12
สนุกมากค่ะ อ่านตั้งแต่ต้นจนจบในรวดเดียวเลย
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: lemonphug ที่ 15-10-2017 19:50:54
ขอตอนพิเศษของลุงจุมกะอายอลลี่ด้วย
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 17-10-2017 08:08:57
 o13
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 18-10-2017 17:14:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 14-11-2017 21:02:26
น่ารัก.. ยกนิ้ว  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: Aomampapeln ที่ 12-12-2017 01:27:03
เราชิปคู่นี้อยู่แล้วด้วยยิ่งมาเจอนิยายเรื่องนี้ยิ่งชอบไปอีก กระต่ายน้อยเซฮุนนาาาน่ารักจังเลย  :o8: คุณหมีจงอินนี่พระเอกสุดๆไปเลย o13 จีซองตัวแสบก็ร้ายเจ้าเลห์จริงๆ  :hao3:ชอบประธานโอนะน่ารักถ้าไม่มีภรรยานะจะดูเป็นเคะน่ารักๆซึนๆเลยละ55(แอบจิ้นกับไคบ่อยมากเลย อิอิ) ชอบหมดทุกตัวละครในเรื่องไม่ชอบก็แต่ชะนีมินอานี่ละน่าตบให้หายบ้าจริงๆ :m16:  :m16:
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 28-01-2019 17:34:42
 :katai2-1:
น่ารักกันทั้งครอบครัว
เซอุน  เป็นคนดีมากๆ
ไค  ก็เป็นคนรักที่ดี มากๆ
จีซอง  ก็ฉลาดและน่ารัก มากๆ
ทุกคนรอบๆตัว ก็เป็นคนดีๆ ทั้งใน
ยกเว้นตัวร้าย มินอา  น่าจะโดนหนักกว่านี้... 5555
ขอบคุณนักเขียนมากๆ  จะติดตามผลงานต่อไปน้าาาาา... เอาส่งให้  +1 กำลังใจ
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {Mpreg} it's you รักนี้มีแค่...'นายซุปเปอร์สตาร์' **จบแล้ว**
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 09-06-2020 09:13:51
น่ารักทั้งบ้านเลยครับ