พิมพ์หน้านี้ - =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Loverouter ที่ 30-06-2015 15:22:07

หัวข้อ: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 30-06-2015 15:22:07
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้าม มิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด  โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
5.ขอ ให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่ นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.อย่า พูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยาย ในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

เวปไซต์แห่งนี้เป็น เวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


********************************


ขอแจ้งข่าวเรื่องการรวมเล่มเรื่องนี้ค่ะ

ผู้แต่งมีเพื่อนพี่น้องคนสนิทที่เป็นชายรักชายอยู่หลายคน แต่กลอน (นามสมมุติ) เป็นหนึ่งในนั้นที่ผู้แต่งขออนุญาตดึงเอาเรื่องราวชีวิตส่วนหนึ่งของเขามาเขียนเพราะเห็นว่ามันมีแง่คิดในการใช้ชีวิตที่ดี และอยากลบคำสบประมาทที่ว่า รักแท้ไม่มีในกลุ่มชายรักชายหรอก แต่เพราะนี่คือนิยายและเจ้าของเรื่องอยากแบ่งปันแค่เรื่องราวบางส่วนแต่ยังขอมีพื้นที่ส่วนตัวในชีวิตจริง เพราะฉะนั้นส่วนหนึ่งในเรื่องจึงมีการแต่งเติมปรับเปลี่ยนเพื่อให้ได้อรรถรสในการอ่านและความสบายใจของเจ้าของเรื่อง และขอเปลี่ยนชื่อนิยายเรื่องนี้ว่า จนกว่ารักจะทักทาย (The moment of love)

ถ้าคุณเคยผิดหวังในความรักและคิดว่าไม่ได้เกิดมาเพื่อถูกรัก อยากให้คุณอ่านเรื่องราวของกลอน บางทีคุณอาจได้รับคำตอบเรื่องของความรักให้กับตัวเองค่ะ

(https://www.picz.in.th/images/2018/02/19/27972338_2039888609588044_2424008739682764807_n.jpg)

สำนักพิมพ์  : Bookish House ปก : Leila

รายละเอียดการสั่งนิยายแบบรวมเล่ม

เรื่อง..จนกว่ารักจะทักทาย (บันทึกรัก..ร้อน) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3800596#msg3800596)

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)

สารบัญ จนกว่ารักจะทักทาย

จูบแรกของกลอน (ตอนที่1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3109778#msg3109778) , (2 จบตอน) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3111898#msg3111898)
รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (ตอนที่1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3152414#msg3152414) , ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3159253#msg3159253) , ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3170479#msg3170479) , ตอนที่ 4 จบตอน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3192341#msg3192341)
หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย, ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3192345#msg3192345), ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3198090#msg3198090), ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3199958#msg3199958), ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3203623#msg3203623), ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3209435#msg3209435), ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3214189#msg3214189), ตอนที่ 7 จบตอน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3219717#msg3219717)
ล้างให้ออก, ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3225064#msg3225064), ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3228287#msg3228287), ตอนที่ 3 จบตอน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3233129#msg3233129)
หนึ่งใจสองทาง, ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3235730#msg3235730), ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3244296#msg3244296), ตอนที่ 3 จบตอน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3249850#msg3249850)
กลับคำเสีย, ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3287017#msg3287017)
บันทึกบทสุดท้าย, จบบริบูรณ์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3288673#msg3288673)
บันทึกรักฉบับพิเศษ, หวง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.msg3292872#msg3292872)


นิยายเรื่องอื่นๆของผู้แต่ง



ซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายรองเท้าแตะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44925.0)

รักวุ่นดีปีโป้ช่วยลุ้น ภาค 1 และ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45546.0)

จนกว่ารักจะทักทาย (18+) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47582.0)

เคลียร์คิวหัวใจเอาไว้ให้ความรัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52203.0)


ซีรีส์ชาวเกาะ
ปรุงรักให้ลงล็อก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58932.0)
ปลดล็อกให้ความรัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64395.0)
เพลงรักที่หายไป (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67389.0)


มนตราแห่งมายัน
ภาค วสันตวิษุวัต (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69992.0)
ภาค ครีษมายัน (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70879.0)


เรื่องสั้น
ผู้โชคดี (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70401.0)



[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย] (https://twitter.com/loverouter)


---------------------
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (1) (30/05/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 30-06-2015 15:23:07
บันทึกรัก..ร้อน

          กว่าผมจะได้จรดปากกาลงในหน้ากระดาษสีขาวที่ว่างเปล่าก็ล่วงเลยมาเป็นเวลาหลายปี ด้วยอะไรหลายอย่างที่ทำให้ผมไม่ได้เริ่มต้นที่จะเขียนมัน ได้แต่ปล่อยให้หน้ากระดาษมันว่างเปล่าอยู่อย่างนั้น

ผมซื้อสมุดบันทึกเล่มนี้มาตั้งแต่อยู่มัธยมศึกษาชั้นปีที่ห้า ผมตั้งใจจะเขียนบันทึกเรื่องราวของตัวเองเพื่อเก็บเอาไว้อ่าน ที่ผมอยากเขียน เพราะในชีวิตจริงผมไม่สามารถจะเล่าเรื่องราวส่วนนี้ของผมให้ใครฟังได้ ผมเลยอยากเขียนมันในวันที่สมองของผมยังจดจำมันได้ดี สักวัน...ผมอาจจะยื่นสมุดบันทึกนี้ให้ใครสักคนได้อ่าน ใครคนนั้นคงเป็นคนที่ผมอยากให้เขารู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของผมนั้นเป็นอย่างไร ผมได้ผ่านอะไรมาบ้าง ผมจะเขียนมันถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าใครคนนั้นอ่านแล้วจะรับได้หรือไม่ได้ แต่ผมอยากให้เขารู้ว่าผมคงรักเขามากจริงๆ ถึงยินดีจะให้เขามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่แท้จริงของผม ไม่มีภาพลักษณ์ใดๆ ไม่มีการปั้นแต่ง ทุกตัวอักษรที่ผมเขียน นั่นคือสิ่งที่ผมเป็นจริงๆ

   ชื่อของผมที่พ่อกับแม่ตั้งให้ตั้งแต่เกิดก็คือ เด็กชายกรกฏ เนื่องจากผมเกิดเดือนกรกฎาคมและเกิดวันจันทร์ แม่บอกว่าคนที่เกิดวันจันทร์ อักษรต้องห้ามก็คือรูปสระทั้งปวง แม่เลยตั้งชื่อของผมตามเดือนเกิด ส่วนชื่อเล่นของผมก็คือ กลอน

   พ่อของผมท่านเป็นผู้พิพากษา ส่วนแม่ของผมท่านเป็นครู ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดตั้งแต่เกิด เป็นลูกคนเดียว พ่อของผมค่อนข้างเจ้าระเบียบแต่ก็ใจดี พ่อจะสอนผมในเรื่องของความรับผิดชอบ เรื่องของมารยาทหรือการปฏิบัติตัวเวลาอยู่กับสังคมส่วนรวม ผมเลยเป็นเด็กเรียบร้อยและอยู่ในกรอบมาโดยตลอด ส่วนแม่จะเข้มงวดกับผมในเรื่องของการเรียน ผมจะถูกปลูกฝังเรื่องการอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กๆ แม่จะถ่ายทอดกระบวนการทางความคิดให้ผม ผมเลยค่อนข้างที่จะเป็นเด็กที่ฟังมากกว่าพูด ผมอ่านหนังสือเยอะมาก แต่มันก็ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง แต่พอโตมาผมถึงได้รู้ว่า ประสบการณ์จริงกับคำบอกเล่าจากผู้อื่นผ่านหนังสือมันแตกต่างกันเหลือเกิน ความรู้จากหนังสือเป็นแค่แนวทาง แต่เส้นทางชีวิตของเรา เราต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่แล้วชีวิตของเด็กชายหนอนหนังสืออย่างผมที่อยู่ในกรอบที่พ่อกับแม่วางเอาไว้ตลอดมากลับถูกบางอย่างที่ทำให้ผมได้รู้ว่า ตัวตนของผมยังมีอีกด้านหนึ่งที่แตกต่างจากชีวิตที่เคยเป็น บางอย่างที่ว่านั้นก็คือ ‘ความรัก’


บันทึกบทที่หนึ่ง..รักแรกของกลอน (1)


   ช่วงเวลา : มัธยมศึกษาชั้นปีที่ห้า โรงเรียนชายล้วน
   
   “กลอน มึงรู้เรื่องเข้าค่ายของชมรมรึยังวะ”

   ‘หนึ่ง’ เพื่อนสนิทของผมเดินมานั่งที่เก้าอี้ม้าหินด้านหลังของโรงยิม ซึ่งเป็นที่นั่งอ่านหนังสือประจำของผม เด่นเป็นลูกชายของเพื่อนสนิทของแม่ เราเลยรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ เราเรียนอยู่ห้องเดียวกันตั้งแต่อนุบาล แม้ว่าผมจะสนิทกับเด่นมาก แต่ผมไม่เคยบอกให้เด่นได้รู้เลยว่าผมเป็นเกย์ เด่นเองก็คงคิดแค่ว่าผมเป็นเด็กเรียน หนอนหนังสือ เด็กเรียบร้อย เพราะเด่นรู้ดีว่าแม่ของผมค่อนข้างเจ้าระเบียบและเข้มงวด ผมไม่เคยพูดคำหยาบแม้ว่าเพื่อนจะพูดคำหยาบกับผมและผมไม่เคยว่าร้ายใคร เด่นบอกว่าเพื่อนในห้องล้วนแต่เกรงใจผมและไม่ค่อยกล้าเข้ามาคุยด้วย

   “ที่ต้องไปเขื่อนรัชชประภาเหรอ บอยเพิ่งเอามาให้เราเมื่อกี้นี้เอง” ผมบอกก่อนจะเลื่อนแผ่นกระดาษที่ต้องเอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นยินยอมให้เด่นดู

   “อ้าว ได้มาแล้วเหรอ งั้นรู้รึยังว่าเราต้องไปกับชมรมดนตรีด้วย”

   “ไม่รู้ ทำไมต้องไปด้วยกันล่ะ” ผมถาม เพราะปกติชมรมบรรณารักษ์ที่ผมอยู่จะไม่ค่อยเข้าร่วมกับชมรมไหน

   “ก็งานหนังสือปีนี้ชมรมดนตรีจะมาช่วยสร้างสีสันให้ด้วย ครูเป็ดเลยชวนชมรมดนตรีไปเข้าค่ายด้วยกัน จะได้ประชุมวางแผนงานหนังสือของพวกเราด้วยเลย กูอยากไปแล้ว อยากเที่ยว อยู่แต่งบ้านเบื่อจะแย่”

   “ก็เห็นออกร่อนทุกวันยังจะเบื่ออีกเหรอ” ผมย้อนถาม

   “ใครจะอยู่แต่ในกรงทองเหมือนมึงละ อ่านแต่หนังสือ แล้ววันนี้มึงต้องอยู่ช่วยครูเป็ดอีกรึเปล่า” เด่นถามผม ปกติผมต้องคอยอยู่ช่วยครูเป็ดเก็บหนังสือที่บรรดานักเรียนหยิบมาอ่านแล้วไม่เก็บเข้าที่ แล้วก็ช่วยเช็คหนังสือที่เด็กยืมไปแล้วยังไม่เอามาคืน กว่าจะเสร็จก็เกือบหนึ่งทุ่ม แต่ผมก็ไม่ได้ทำทุกวัน จะทำเฉพาะวันศุกร์ พ่อจะเป็นคนแวะมารับผมกลับบ้าน

   “อืม ทำไม จะไปช่วยเหรอ” ผมย้อนถาม

   “หึ ไม่เอาหรอก ถามไปงั้นแหละ มึงไม่เบื่อบ้างเหรอวะ บ้าน โรงเรียน ห้องสมุด แล้วก็บ้าน วนอยู่แบบนี้”

   “ไม่เบื่อ”

   “เอาไว้วันที่มึงมีแฟน กูอยากจะดูสิว่ามึงจะเปลี่ยนไปรึเปล่า แต่คงยาก วันๆ ไม่ออกไปไหน คงจะได้หนังสือเป็นแฟน ฮ่าๆๆๆ”

   “ต่อให้มีแฟนเราก็ไม่เปลี่ยนหรอก”

   “แล้วกูจะรอดู ไปละ กูนัดสาวอาชีวะไปกินติม ได้เวลากลับบ้านแล้ว นี่ขี้เกียจเข้าแถวออกจากโรงเรียนเลยแวะมาหามึงก่อน นึกว่าไม่ต้องช่วยครูเป็ดจะได้ไปกินด้วยกัน”

   “ไปเหอะ แล้วเจอกันวันจันทร์”

   “เออ ไปนะ” เด่นบอกกับผมแล้วก็เดินลิ่วๆ ออกไป

   ผมถอนหายใจ เก็บการบ้านใส่กระเป๋าแล้วก็เดินไปที่ห้องสมุด ถามว่าผมเบื่อไหม มันก็มีที่เบื่อบ้าง แต่ผมก็ยังไม่เห็นว่าอะไรที่จะมีความสุขมากไปกว่าการได้อ่านหนังสือนี่นา

   “มาพอดีเลยกรกฎ ครูรบกวนหน่อยนะ วันนี้ครูต้องพาลูกสาวไปหาหมอ เธอช่วยครูจัดหนังสือสามกองนี้เข้าที่ที แล้วก็เก็บกุญแจห้องสมุดเอาไว้ที่เธอเลย วันจันทร์ค่อยเอามาคืนครู ครูมีอีกชุดหนึ่ง รบกวนหน่อยนะ”

   “ได้ครับ แค่สามกองนี้เหรอครับ”

   “ใช่จ้า รบกวนหน่อยนะ”

   ครูเป็ดกลับไปแล้ว ผมก็จัดการทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ด้านนอกยังพอมีนักเรียนเดินไปมา แต่สักพักก็หายไปจนหมด ผมเก็บหนังสือเข้าที่เรียบร้อยแล้ว แต่นัดให้พ่อมารับตอนหนึ่งทุ่ม เมื่อเห็นว่ายังเหลือเวลาเลยนั่งอ่านหนังสือรออยู่ในห้องสมุด กำลังอ่านเพลินๆ ผมก็ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา พอเงยหน้าขึ้นมาดูก็พบว่าคนที่เดินเข้ามาคือ ‘เต็งหนึ่ง’ คนดังของชมรมดนตรี รูปหล่อ เล่นกีตาร์เก่ง เป็นขวัญใจนักเรียนทุกชั้นปี ที่สำคัญ เป็นคนที่ผมแอบชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ แต่ผมก็ได้แค่แอบมอง ไม่เคยแสดงให้เจ้าตัวและทุกคนได้รู้ ผมจำวันนั้นได้ดี วันงานโรงเรียนตอนมอสาม ผมถูกเพื่อนชนจนล้ม เต็งหนึ่งเป็นคนที่คว้าข้อมือของผมแล้วพาออกมาจากกลุ่มคนที่กำลังเต้นกันอย่างเมามันอยู่ในโรงยิมเพราะกลัวว่าผมจะโดนเหยียบ เต็งหนึ่งพาผมไปทำแผลที่ห้องพยาบาล มันทำให้ผมประทับใจเขามาโดยตลอด

   “ครูเป็ดไปไหนละ” เต็งหนึ่งถามผม

   “กลับไปแล้ว”

   “อ้าว ครูบิ๊กให้เอาเอกสารนี่มาให้”

   “เอาวางไว้บนโต๊ะครูตรงนั้นก็ได้ ลูกสาวครูเป็ดไม่สบาย คงไม่กลับเข้ามาแล้วล่ะ” ผมบอก เต็งหนึ่งพยักหน้าแล้วก็เดินเอาเอกสารไปวางไว้ตรงที่ผมชี้บอก จากนั้นเต็งหนึ่งก็เดินมานั่งตรงข้ามกับผม

   “เห็นอยู่แต่กับหนังสือ มันสนุกมากเหรอ” เต็งหนึ่งถามผม

   ผมรู้สึกไม่เป็นตัวเองยังไงก็ไม่รู้ ไม่เคยคิดว่าเขาจะมานั่งคุยกับผมต่อ เราอยู่กันคนละห้อง เดินสวนกันเขายังไม่เคยมองมาที่ผมเลย มีแต่ผมที่แอบเหลือบมองเขามาโดยตลอด แต่มีข่าวลือมาว่าเขาเป็นแฟนกับแจน ดาวประจำโรงเรียนหญิงล้วน ก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง

   “ก็เพลินดี” ผมตอบสั้นๆ

   “ทำไมเวลาคุยไม่มองหน้าคนที่คุยด้วยละ” เต็งหนึ่งถาม

   ผมเลยต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา เห็นแววตาหยอกล้อมองมา ผมก็หลบตาอีก

   “เราอยากอ่านหนังสือเกี่ยวกับดวงดาว พอจะหาให้ได้ไหม ประวัติดาวต่างๆ” เต็งหนึ่งถามผม

   ผมพยักหน้าแล้วก็ลุกขึ้นเดินไปที่ชั้นหนังสือ ผมเดินเข้าไปแล้วมองหาหนังสือเล่มหนึ่ง จำได้ว่ามันอยู่แถวๆ นี้ มัวแต่มองหาเลยไม่ทันสังเกตว่าเต็งหนึ่งเดินตามมาด้วย จนกระทั่งเต็งหนึ่งเดินมายืนจนชิดตัวของผม ผมถึงได้รู้ พอหันหน้ามา ผมก็ถูกประชิดจนต้องถอยหลัง

   “จะทำอะไร” ผมถามเสียงสั่น ใจเต้นแรงจนรู้สึกได้ สายตาที่มองมาดูอ่อนโยนจนผมเดาไม่ถูกว่ามันจะสื่ออะไร

   “เราชอบกลอนมานานแล้ว ตั้งแต่วันที่กลอนล้ม เราคอยมองกลอนมาตลอด แต่กลอนไม่เคยมองเราเลย”

   “ไม่จริงหรอก นายจะล้อเล่นอะไร ออกไปเถอะ” ผมกลัว เป็นไปไม่ได้เลย เต็งหนึ่งไม่เคยมีทีท่ามาให้ผมสักนิด

   “เราล้อเล่นเหรอ เรารู้ว่ากลอนชอบกินราดหน้า ชอบกินน้ำเก๊กฮวย แม่จะมารับกลับบ้านตอนห้าโมงเย็น วันศุกร์ต้องมาช่วยครูเป็ด พ่อจะมารับกลับตอนทุ่มหนึ่ง ชอบไปนั่งเล่นที่ม้าหินหลังโรงยิม แล้วก็ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับดวงดาว”    ที่เต็งหนึ่งร่ายมามันถูกต้องทั้งหมด ผมอึ้งไปที่เขาเก็บรายละเอียดของผมได้ขนาดนี้ แปลว่าที่เขาพูดมาไม่เกินจริงเลย นี่เขาชอบผมจริงเหรอ

   “แต่ว่า..” ผมจะพูดเรื่องของแจน แต่เต็งหนึ่งเดินเข้ามาชิดตัวผมเสียก่อน ตอนนี้หลังของผมถอยไปจนติดกับชั้นหนังสือแล้ว ไม่สามารถถอยหลังได้อีก เต็งหนึ่งจับมือของผมที่ดันอกของเขาออก

   “เราได้แต่เก็บมันเอาไว้ เพราะเรากลัวว่ากลอนไม่ได้คิดตรงกันกับเรา กลอนคิดยังไงกับเรา”

   “คือ..เรา” ผมไม่กล้าที่จะพูดออกไป ผมยังรู้สึกกลัว ผมชอบเต็งหนึ่ง แต่ผมกลัวว่าสิ่งที่กำลังรู้สึกมันคือความผิด ผมรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้ชอบมองผู้หญิงแบบที่ผู้ชายควรจะเป็น แต่ผมก็ไม่คิดว่าผมจะต้องมาคบกับผู้ชาย นั่นคงเพราะผมไม่อยากให้ตัวเองออกนอกกรอบที่วางเอาไว้ คิดว่าแอบชอบก็คงพอแล้ว แต่พอโดนคนที่ชอบมาสารภาพความในใจ ผมก็อดรู้สึกดีใจไม่ได้ มันทั้งตื่นเต้นและกลัว ผมกำลังสับสนและลังเล

   “ถ้าไม่ชอบเราก็บอกมาตรงๆ ก็ได้นะ เราพร้อมรับความจริงแล้ว เราคิดว่าเราไม่อยากพลาดโอกาสนี้ไป”

   “เต็งหนึ่งชอบเราจริงๆ เหรอ เรา..เราเป็นผู้ชายเหมือนกันนะ เราเห็นว่าเต็งหนึ่งเดินกับผู้หญิง ไม่คิดว่าจะเป็น เอ่อ...เป็นเกย์” ผมถามเต็งหนึ่งไปตรงๆ

   “เราไม่รู้หรอกว่าเราเป็นอะไร เราก็ไม่เคยมองผู้ชายคนไหน แต่เราอยากมองแต่กลอน เรา บอกตรงๆ นะ เราอยากกอดกลอนมากๆ ตั้งแต่ในห้องพยาบาลแล้ว ไม่รู้ว่ามันเกิดความรู้สึกนี้ได้ยังไง” เต็งหนึ่งบอกกับผม

   ผมยอมรับว่าผมกำลังหวั่นไหวไปกับคำสารภาพของเขา เขาไม่ได้รู้สึกกับผู้ชายคนอื่นทั่วไป แต่เขารู้สึกอย่างนั้นเมื่อเป็นผม อาจจะเป็นเพราะผมตัวเล็ก ขาว ขนหน้าแข้งยังไม่มีเลย แต่ผมก็ไม่ได้ตุ้งติ้งหรือทำตัวเหมือนผู้หญิง ผมเล่นกีฬาเก่งอีกต่างหาก ส่วนใหญ่เพื่อนจะมองว่าผมเป็นเด็กเนิร์ด เด่นเคยบอกว่าผมเหมือนคุณหนู คุณชายจอมเนี๊ยบประมาณนั้นเสียมากกว่า

   “กลอน เราจูบกลอนได้ไหม” เต็งหนึ่งถามผมเมื่อเห็นผมเงียบไป

   ผมใจเต้นหนักกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำขอจากเต็งหนึ่ง ‘จูบเหรอ’ แค่บอกว่าชอบผม ผมก็สับสนแล้ว เต็งหนึ่งกำลังรุกผมมากเกินรึเปล่า แต่สายตาของเต็งหนึ่งกำลังทำให้ผมหวั่นไหว ยังไม่ทันที่จะได้ตอบอะไร ริมฝีปากของเต็งหนึ่งก็ทาบทับมาที่ริมฝีปากของผมแล้ว นี่คือจูบแรกของผม ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ร่างกายของผมไม่ได้ต่อต้านเขาเลยแม้แต่น้อยทั้งที่รู้ว่ามันไม่ถูกมันไม่ควร ในใจกลับเต้นเหมือนกลองรัว ผิวหน้าของผมร้อนวูบวาบ ผมหลับตาปี๋เมื่อลิ้นของเต็งหนึ่งรุกล้ำเข้ามาในปากของผม สัมผัสแรกคือรู้สึกจั๊กจี้ สัมผัสต่อมาคือเริ่มหายใจติดขัด วูบวาบไปทั่งตัว ขนลุกและรู้สึกหวิวๆ เต็งหนึ่งยังคงตวัดรัดเกี่ยวลิ้นของผมอย่างเร่งเร้า เสียงจูบของเราดังท่ามกลางความเงียบและความมืด ผมกลัว กลัวว่าใครจะมาได้ยิน แต่ร่างกายของผมกลับยืนนิ่งตอบรับจูบของเขาอยู่อย่างนั้น สติที่แม่เคยสอนว่าให้มีเวลาคับขันกลับใช้ไม่ได้เลยในตอนนี้ ผมกำลังจะอ่อนแรง ยืนแทบไม่ไหวแล้ว ลมหายใจถูกดูดกลืนไปหมด

   “รู้สึกดีบ้างไหม” เต็งหนึ่งยอมถอนจูบออกแล้วถามผม

   ผมหลบสายตาหวามไหวที่มองมา แต่เต็งหนึ่งก็ยังเอียงหน้ามาถาม ในที่สุดผมก็พยักหน้าออกมา แม้จะรู้สึกอายและเขินมากๆ แต่ผมอยากซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง

   “ห้ามไปทำแบบนี้กับใครนะ ห้ามเปิดกลอนให้ใครเข้ามาในใจอีกนะ” เต็งหนึ่งพูดกับผมก่อนจะหอมแก้มผม คลอเคลียจมูกกับแก้มของผมจนผมต้องหลุดยิ้มออกมากับความอ่อนโยนที่ได้รับ

   “พ่อใกล้จะมารับแล้ว” ผมบอก เต็งหนึ่งถอนหายใจ

   “ยังไม่อยากให้กลับเลย อยากกอด อยากจูบทั้งคืนเลย” เต็งหนึ่งพูดกับผมแล้วก็สวมกอดผม ผมยิ่งเขินหนัก ส่วนกลางลำตัวของเราทั้งคู่มันกำลังตื่นตัวตามธรรมชาติของวัยที่ฮอร์โมนกำลังพุ่งพล่าน มันสัมผัสเสียดสีและดันกันอยู่จนผมต้องหันหน้าหนีไปทางอื่น ไม่กล้าสบตาเต็งหนึ่ง ผมเขินมากจริงๆ ที่เป็นแบบนี้

   “เราช่วยไหม” เต็งหนึ่งถามผมเมื่อมองไปที่กางเกงของผม ผมรีบส่ายหน้า หน้าผมคงแดงมากในตอนนี้ ที่คิดแบบนั้นเพราะผมสัมผัสได้ถึงความร้อนที่ปรากฏบนผิวหน้าตัวเอง

   “เดี๋ยวพ่อมาแล้ว”

   “ขอจูบอีกทีนะ นะครับ” เต็งหนึ่งอ้อนผม

   ผมไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ บอกตรงๆ ว่าผมเขินมากจริงๆ ผมไม่กล้าบอกว่าผมต้องการ ไม่กล้าบอกว่าผมรู้สึกดี ผมอาย ผมกลัวว่าตัวเองจะเป็นคนใจง่าย เขาแค่บอกชอบผมเมื่อครู่ผมก็ยอมให้เขาเข้ามาใกล้ชิดขนาดนี้ ผมกลัวจะถูกมองว่าเป็นคนที่คิดแต่เรื่องอย่างว่า อาจจะดูเป็นคนหน้าด้านถ้าพูดว่าต้องการออกไป ทั้งที่ร่างกายดันไปตอบสนองเขาอย่างนั้นเสียแล้ว ผมว่ามันคงเป็นการบอกให้เต็งหนึ่งรู้ว่าผมใจง่ายจริงๆ นั่นแหละ

   “ไม่ได้เหรอ” เต็งหนึ่งถามเสียงอ้อนๆ ผมได้แต่หลบตา สุดท้ายเต็งหนึ่งก็เป็นฝ่ายรุกเข้ามาเองอีกครั้ง คราวนี้บดเบียดร้อนแรงจนผมต้องเผลอส่งเสียงครางเบาๆ ออกมา ยิ่งหลุดเสียงคราง เต็งหนึ่งก็ยิ่งใช้ลิ้นรุกไล่ผมจนเสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ผมตกใจแล้วผลักเต็งหนึ่งออกเบาๆ ผมรีบเช็ดริมฝีปากเพราะมันชื้นแฉะไปหมด ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วกดรับ

   “ครับพ่อ เสร็จแล้วครับ เดี๋ยวกลอนออกไป ขอเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ ครับพ่อ” ผมกดวางสายก่อนจะมองหน้าเต็งหนึ่งที่ยืนยิ้มให้ผมอยู่

   “จะเข้าห้องน้ำเหรอ” เต็งหนึ่งถามผม

   “เรา..แค่อยากล้างหน้า” ผมพูดติดๆ ขัดๆ เต็งหนึ่งหยิบโทรศัพท์จากมือผมไปกดเบอร์ของเขา ก่อนจะส่งคืน

   “คืนนี้เราโทรไปหานะ อย่าลืมรอรับด้วยนะ อยากบอกฝันดีก่อนนอน”

   “อืม” ผมรับคำพร้อมกับพยักหน้า

   “หอมแก้มหน่อยนะ” เต็งหนึ่งพูดจบก็หอมแก้มผมดังฟอดจนผมต้องยิ้มเขินๆ

   “กลับถึงบ้านแล้วไลน์มาหน่อยนะครับ” เต็งหนึ่งบอกกับผม ผมพยักหน้าแล้วก็เดินออกมาจากชั้นหนังสือ โดยมีเต็งหนึ่งเดินตามออกมา

   ผมล็อกห้องสมุดเรียบร้อยแล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาพร้อมกับสำรวจตัวเองว่าเรียบร้อยไหม ส่วนที่มันตื่นตัวก็ดูจะเบาบางลง คงเพราะตกใจตอนที่พ่อโทรเข้ามาด้วย พอเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเต็งหนึ่งยืนรออยู่ ผมยิ้มให้เขา เขายิ้มให้ผม เราสองคนเดินแยกกันไป ผมเดินออกไปที่หน้าโรงเรียน ส่วนเต็งหนึ่งเดินไปที่โรงรถ เต็งหนึ่งขับรถมอเตอร์ไซด์มาเรียนครับ
 
   ผมเดินมาถึงรถของพ่อ ขึ้นไปนั่งในรถก่อนจะยกมือไหว้พ่อ พอรถเคลื่อนตัวออก ผมก็เห็นว่าเต็งหนึ่งขี่รถตามมา แล้วมาจอดขนาบข้างตอนที่รถติดไฟแดง พ่อมัวแต่คุยโทรศัพท์เลยไม่ได้สังเกตว่าผมหันไปยิ้มกับเต็งหนึ่งตลอด เต็งหนึ่งขมุบขมิบปากบอกว่า ‘คิดถึง’ ผมก็ได้แต่นั่งยิ้มเขินๆ จนกระทั่งไฟเขียว พ่อถึงได้วางสายแล้วก็เคลื่อนรถออกไป

   
   

(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (1) (30/05/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 30-06-2015 15:24:02
เมื่อกลับมาถึงบ้านผมลงไปเปิดประตูรั้วให้พ่อ พอพ่อขับรถเข้าไปด้านในผมหันไปมองที่นอกรั้วก็เห็นว่าเต็งหนึ่งขี่มาส่งผมถึงหน้าบ้าน ผมรีบโบกมือให้เขา เต็งหนึ่งโบกกลับมาก่อนจะยอมขี่รถกลับไป ส่วนผมก็เดินยิ้มเข้าบ้านอย่างคนอารมณ์ดี นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกได้ว่าชีวิตของผมเปลี่ยนไป ปกติผมจะมีแผนที่วางเอาไว้เป็นระบบ กลับถึงบ้านต้องอาบน้ำ จากนั้นไม่เกินครึ่งชั่วโมงต้องรีบลงมาทานข้าวพร้อมพ่อกับแม่ พอช่วยแม่เก็บล้างเสร็จก็ไปอ่านหนังสือต่อ แม้จะว่าเป็นคืนวันศุกร์ ผมก็ไม่มานั่งดูทีวีเรื่อยเปื่อย พอสี่ทุ่มผมก็หลับแล้ว แต่มาวันนี้ผมกลับอ้อยอิ่งไม่ได้รีบอาบน้ำเหมือนเคย กลับหยิบโทรศัพท์มาเปิดไลน์แล้วกดรับเต็งหนึ่งเป็นเพื่อน จากนั้นก็ส่งข้อความไป

   ‘มาส่งถึงบ้านแล้วจะให้ไลน์ไปบอกทำไม’

   ผมกดข้อความส่งไป เต็งหนึ่งยังคงไม่ได้เปิดอ่าน ผมเดาว่าเขาคงยังขี่รถกลับไปไม่ถึงบ้าน ผมตัดสินใจวางโทรศัพท์แล้วเข้าไปอาบน้ำ ระหว่างที่อาบน้ำ ในใจผมยังคงนึกถึงจุมพิตของเต็งหนึ่งที่สัมผัสบนริมฝีปาก เต็งหนึ่งได้ฝากรอยเอาไว้ มันอ่อนโยนและรุ่มร้อนจนผมแทบหายใจไม่ออก ผมดำดิ่งกับการจินตนาการภาพที่เกิดขึ้นในห้องสมุด จนกระทั่งได้ยินเสียงแม่เรียกผมให้ลงไปทานข้าวผมถึงได้หลุดออกจากภวังค์ รู้สึกตกใจเมื่อเห็นว่าส่วนกลางลำตัวของตัวเองถูกปลุกเพียงแค่คิดถึงรสจูบของคนที่แอบชอบ ทำไมผมถึงควบคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนี้ พอตั้งสติได้ผมก็รีบเปิดน้ำรดหัวตัวเอง ผมจะให้อารมณ์หรือความใคร่มาครอบงำตัวเองไม่ได้ เพราะหากผมผิดหวัง ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะอ่อนแอถึงเพียงไหน ซึ่งผมไม่อยากเป็นแบบนั้นเลย ไม่อยากให้ความรักหรือความใคร่มาทำให้ชีวิตของผมต้องเบนออกจากเส้นทางที่เคยเดิน

   “เป็นอะไร ดูเหม่อลอยตลอดเลย” แม่ถามผมระหว่างที่เราทานข้าวกันอยู่

   “อ๋อ..เปล่าครับ กลอนแค่ง่วง วันนี้เดินตากแดดนานไปหน่อย รู้สึกเพลียครับ” ผมรีบตอบแม่โดยไม่สบตาท่าน นี่เป็นครั้งแรกที่ผมโกหกแม่

   “ไม่สบายรึเปล่า เล่นบาสมาอีกละสิ เอาเรื่องเรียนไว้ก่อนดีกว่า กีฬาแค่เล่นให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ต้องไปจริงจัง” แม่บอกผม

   “ครับแม่” ผมตอบรับ

   “กินเสร็จก็ไปพักเถอะ แม่ล้างเองได้”

   “ไม่เป็นไรครับ กลอนทำเอง”

   “ไปเถอะลูก เพลียก็ไปพัก” พ่อบอกผม ผมเลยไม่กล้าขัด ได้แต่ยกมือไหว้พ่อกับแม่ก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องไป พอขึ้นไปถึงห้องถึงได้เห็นว่ามีสายจากเต็งหนึ่งโทรเข้ามาถึงห้าสาย ผมรีบกดโทรกลับไป

   “ถึงบ้านแล้วเหรอ ขอโทษทีนะ เราลงไปทานข้าวมา” ผมบอกเมื่ออีกฝ่ายรับสาย

   “ถึงได้สักพัก กินข้าวเหมือนกันเลยไม่ทันได้อ่านไลน์ พออ่านแล้วเลยรีบโทรกลับ” เต็งหนึ่งบอกกับผม

   “แล้วอาบน้ำรึยัง” ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ

   “ยังเลย มาอาบให้หน่อยสิ” เต็งหนึ่งทำเสียงอ้อนๆ ผมยังไม่ชินกับการถูกอ้อนเลยได้แต่นั่งเขินอยู่คนเดียวในห้อง

   “เรื่องอะไร อาบเองสิ” ผมตอบกลับไป

   “ฮ่าๆ เขินเหรอ เวลากลอนเขิน น่ารักมากเลยนะ รู้รึเปล่าว่าตัวเองเสน่ห์แรงขนาดไหน” เต็งหนึ่งบอกกับผม

   “อย่ามาโม้เลย” ผมตอบกลับไป

   “จริงนะ เพื่อนเราคนหนึ่งชอบกลอนมากเลยนะ มันแอบถ่ายรูปกลอนเต็มไปหมด มันบอกว่ากลอนดังมากในหมู่นักเรียนหญิง หล่อ เรียนดี ป๊อป” เต็งหนึ่งบอกในสิ่งที่ผมไม่อยากจะเชื่อเลย

   “เราไม่ป๊อปเท่าเต็งหนึ่งหรอก”

   “เราไม่ได้อยากป๊อป เราแค่อยากให้คนๆ เดียวเท่านั้นมองเห็นเรา เป็นคนที่เรากำลังคุยอยู่ด้วยตอนนี้” เต็งหนึ่งบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผมได้แต่ยิ้มเขิน หยิบปากกามาเขียนชื่อเต็งหนึ่งเต็มกระดาษที่เอาไว้ทดเลขไปหมด

   “มองเห็นตั้งนานแล้ว” ผมตอบ

   “จริงเหรอ” เสียงเต็งหนึ่งดูดีใจ

   “อืม แต่เราไม่คิดว่า..”

   “เราชอบกลอนนะ บางที อาจะเป็นความรักก็ได้ รักแรกของเรา” เต็งหนึ่งชิงพูดมาก่อน

   ผมรู้สึกว่าหัวใจของผมกำลังพองโต ผมกำลังมีความสุขจนต้องยิ้มออกมาเพื่อเป็นการระบาย ไม่เช่นนั้นความสุขมันคงล้นอก ผมอยากบอกเขาว่าเขาคือรักแรกของผมเหมือนกัน เป็นจูบแรกของผมด้วย ผมไม่คิดไม่ฝันว่าคนที่ผมแอบมองแอบชื่นชมมาหลายปีจะมาบอกว่าเขารู้สึกตรงกันกับผม มันเหมือนฝันที่เป็นจริง ความรักระหว่างเด็กผู้ชายด้วยกันมันยากที่จะสมหวัง แต่ตอนนี้มันกำลังเกิดกับผม ผมคิดว่าผมกำลังควบคุมตัวเองไม่อยู่

   “ไม่เห็นกลอนบอกเลยว่ารู้สึกยังไงกับเรา เอาแบบนี้ อย่าเพิ่งบอก ขอเราไปอาบน้ำก่อน ให้เวลาคิดครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวเราจะโทรมาใหม่ ห้ามหลับนะ”

   “ครับ” ผมตอบไป เต็งหนึ่งวางสาย สักพักแม่มาเคาะประตู ผมเลยเดินไปเปิดให้

   “แม่เอานมอุ่นๆ มาให้ ปวดหัวรึเปล่า”

   “ไม่ปวดครับ ขอบคุณครับแม่”

   “ทีแรกแม่จะชวนไปบ้านคุณยายด้วยกัน สงสัยต้องโทรไปเลื่อน กลัวลูกจะไม่สบายขึ้นมา”

   “ไม่เป็นไร แม่ไปกับพ่อเถอะ กลอนอยู่ได้ ขอนอนให้เต็มอิ่ม อาทิตย์ที่ผ่านมากลอนอ่านหนังสือดึกไปหน่อย กลอนไม่อยากให้ยายรอเก้อ ฝากแม่บอกยายว่าปิดเทอมกลอนจะไปอยู่กับยายที่บ้านสวนนะครับ” ผมบอกแม่ แม่เดินเอามือมาอังที่หน้าผากของผมก่อนจะพยักหน้า

   “ตัวรุมๆ ถ้าปวดหัวก็ทานยานี่นะ พรุ่งนี้แม่จะทำข้าวต้มทิ้งเอาไว้ให้ พรุ่งนี้แม่ไม่ปลุกลูกนะ”

   “ขอบคุณครับแม่ ฝันดีนะครับ” ผมบอก แม่หอมแก้มผมก่อนจะเดินออกไป ผมเดินไปล็อกประตู ปิดไฟ แล้วมานอนเล่นที่เตียง ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเต็งหนึ่งก็โทรมา ผมรีบกดรับเพราะกลัวแม่จะได้ยินเสียงโทรศัพท์ ปกติไม่เคยมีใครโทรหาผม เด่นก็ไม่เคยโทรมาถ้ามันไม่มีอะไรด่วน เด่นรู้ว่าผมนอนไว

   “อาบเสร็จแล้วเหรอ”

   “อืม รีบอาบ กลัวเด็กดีจะหลับก่อน” อีกฝ่ายตอบกลับมา

   “ยังไม่สี่ทุ่มเรายังไม่หลับหรอก”

   “โอ้โห มีสวิตช์เปิดปิดได้ด้วยเหรอ นี่ใกล้สี่ทุ่มแล้ว ไม่ใช่หลับคาโทรศัพท์นะ”

   “ฮ่าๆ ก็ไม่แน่”

   “งั้นมาทำอะไรไม่ให้หลับกันดีกว่า”

   “ทำอะไรเหรอ” ผมถามกลับไปเพราะไม่รู้จริงๆ ว่าเต็งหนึ่งจะให้ทำอะไร

   “ทำตามที่เราบอกนะ ปิดไฟห้องรึยัง” เสียงของเต็งหนึ่งดูกระซิบกระซาบจนผมเริ่มใจเต้นรัว

   “ปิดแล้ว” ผมเดาว่าเขาอาจจะเล่าเร่องผีให้ผมฟัง ผมไม่กลัวหรอกแต่ก็เล่นไปตามน้ำ

   “เอาหูฟังมาใส่ จะได้ไม่ต้องถือโทรศัพท์”

   “โอเค ทำแล้ว”

   “ใส่ชุดนอนยังไงเหรอ” เต็งหนึ่งถาม ผมขมวดคิ้ว เล่าเรื่องผีต้องถามถึงชุดนอนด้วยเหรอ

   “ก็..เสื้อยืด กางเกงขายาว”

   “อืม ดีครับ หลับตานะ แล้วนึกถึงหน้าของเรา” เต็งหนึ่งบอก ผมเริ่มคิดว่าเต็งหนึ่งคงไม่ได้จะเล่าเรื่องผีแล้วล่ะ

   “จะทำอะไรเหรอ” ผมถามเพื่อความมั่นใจว่าที่ผมกำลังคิดนั้นไม่ผิด

   “คนดี ทำตามเรานะ อย่าถาม แค่ทำตามก็พอ นะครับ” เต็งหนึ่งพูดจาอ้อน น้ำเสียงอ่อนโยน ผมฟังแล้วก็คล้อยตามง่ายๆ

   “ครับ หลับตาแล้ว”

   “จำรสจูบของเราได้ไหม” เต็งหนึ่งถาม ผมเริ่มรู้แล้วว่าที่ผมคิดไว้นั้นไม่ผิดจริงๆ รู้ว่าเต็งหนึ่งชวนผมทำอะไร รู้ทั้งรู้ แต่ก็ไม่ขัด กลับยินยอมและคล้อยตามเขา

   “จำได้ครับ”

   “ตอนนี้เรากำลังประทับจูบกลอนนะ ลิ้นของเรากำลังเลียริมฝีปากของกลอน กลอนกำลังแลบลิ้นออกมาตอบรับเรา” หูผมฟังเต็งหนึ่งบรรยาย สมองก็มโนภาพตามไปโดยอัตโนมัติ ใจผมเต้นแรงอีกแล้ว ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเต็งหนึ่งกำลังจูบผมจริงๆ

   “ลิ้นเราสองคนกำลังดูดดุนกัน อืมมม มันดีมากเลย กลอนรู้สึกดีไหมครับ”

   “อืม” ผมตอบ  เผลอแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากตัวเอง

   “ดึงเสื้อขึ้นมา ลูบไล้ปลายนิ้วไปที่ยอดอกนะคนดี เราอยากเลียที่ยอดอกของกลอนเหลือเกิน ให้ปลายนิ้วของกลอนแทนลิ้นอุ่นๆ ของเรานะ เรากำลังชิมที่ยอดอกขวา ช้าๆ เบาๆ”

   ผมหลุดครางออกมาเมื่อปลายนิ้วของตัวเองสัมผัสที่ยอดอกของตัวเอง มันชูชันขึ้นมาสู้ ผมบีบปั่นเบาๆ  อารมณ์ของผมเริ่มเตลิดออก เต็งหนึ่งทำเสียงจ๊วบจ๊าบออกมาราวกับว่ากำลังดูดยอดอกของผมจริงๆ ผมถึงกับต้องแอ่นหน้าอกของตัวเอง หลับตาและระบายลมหายใจที่กำลังเต็มไปด้วยความทรมาน

   “หนึ่งกำลังดูดหน้าอกของกลอนนะครับ มันหวานมากเลย หวานจนไม่อยากเลิกรา ซี๊ดด” เต็งหนึ่งยังคงบรรยายบทอย่างว่าประหนึ่งว่ามันเกิดขึ้นจริง ผมฟังแล้วก็มโนภาพตาม ร่างกายของผมกำลังตื่นตัวที่ ผมรู้สึกได้ถึงความคับตึงที่เกิดขึ้นกับส่วนนั้น

   “หนึ่ง..กลอนว่า..กลอน...” ผมระบายลมหายใจออกมาเมื่อมือของตัวเองกำลังลงไปสัมผัสส่วนที่นูนพองด้วยความลืมตัว เสียงของเต็งหนึ่งที่อ่อนโยนแผ่วสะท้านยิ่งทำให้ผมเคลิบเคลิ้มราวกับกำลังฝันว่าเต็งหนึ่งมาอยู่ตรงนี้กับผม

   “หนึ่งกำลังไล่ลิ้นลงไปที่หน้าท้องของกลอนนะ ร่างกายของกลอนมันหอมหวานไปหมด หนึ่งกำลังเกี่ยวกางเกงของกลอนออก ผิวของกลอนขาวจังครับ ตรงนั้นของกลอนก็ขาวจนหนึ่งอดใจไม่ไหว ขอหนึ่งชิมหน่อยนะ หวานจัง” หนึ่งพูดแล้วทำเสียงคราง ผมก็ครางตาม มือของผมกำลังกอบกำของตัวเอง ผมทำทุกอย่างไปตามความต้องการของอารมณ์ เหมือนตัวเองลอยละล่องอยู่ในความฝันที่แสนหวานและทรมาน

   “หนึ่งกำลังดูดเลียให้กลอนนะ ชอบไหม ดูดแรงๆ แบบนี้ ชอบไหม อืม...อร่อย กลอนอร่อยไปทั้งตัวเลย”

   “กลอนจะไม่ไหวแล้ว” ผมบอก เมื่อรู้สึกว่าร่างกายของผมกำลังจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ หน้าผมร้อนผ่าว หน้าท้องเสียววาบแบบประหลาด ปวดหน่วงที่ส่วนกลางเหมือนต้องการระบายอะไรออกมา

   “คนดี อดทนหน่อยนะ หนึ่งกำลังดูดแรงๆ ให้ อ้าส์..” เต็งหนึ่งส่งเสียงคราง ตอนนี้ผมว่าผมได้ยินเสียงชื้นแฉะดังมาแทนเสียงครางจากอีกฝ่าย เป็นเสียงจากการกระทำเดียวกันกับสิ่งที่ผมกำลังทำ

   ภาพเต็งหนึ่งที่กำลังทำแบบเดียวกับผมลอยขึ้นมาในหัว เสียงครางของเต็งหนึ่งดังสลับกับเสียงเนื้อที่ถูกรูดรั้งดังมาในสาย ผมถึงกลับเผลอครางเสียงดังกว่าเดิม มือผมก็เร่งราวกับว่ามือนั่นเป็นของเต็งหนึ่ง เสียงของเราสองคนดังครางแข่งกัน สุดท้ายผมก็ปลดปล่อยน้ำรักออกมาเต็มหน้าท้องของตัวเอง ผมได้ยินเสียงเต็งหนึ่งหอบเบาๆ มาในสาย ผมเองก็เช่นกัน ร่างกายที่เกร็งไปทั่วก็เริ่มผ่อนคลาย ผมรีบลุกขึ้นหยิบทิชชูที่หัวเตียงมาเช็ดที่มือและหน้าท้อง พออารมณ์ที่ทะยานขึ้นสู้จุดสูงสุดแล้วสติของผมถึงได้กลับมา ผมรู้สึกละอายใจกับสิ่งที่เพิ่งทำลงไป ถึงมันจะรู้สึกดีมากๆ แต่ในขณะเดียวกันผมก็ว่ามันเป็นการกระทำที่น่าละอาย ถ้าพ่อกับแม่รู้ท่านคงจะผิดหวังในตัวของผม แต่ที่ผมเฝ้าถามตัวเอง ว่าทำไมผมถึงยินยอมต่อการรุกเร้าของเต็งหนึ่งได้ง่ายถึงเพียงนี้ เป็นเพราะผมรักเขาหรือเป็นเพราะผมกำลังอยู่ในวัยอยากรู้อยากลองและไวต่อการตอบสนองเรื่องเพศกันแน่

   “กลอน หนึ่งอยากกอดกลอนมากๆ เลย หนึ่งมีแต่ภาพกลอนเต็มไปหมด คิดถึง เคยคิดถึงใครมากๆ ไหม” เสียงของเต็งหนึ่งถามผม ผมเลยหลุดออกจากความคิดแล้วส่งเสียงตอบกลับไป

   “หนึ่ง..กลอนว่า..เรา เรา” ผมอึกอัก ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำยังไง รู้สึกผิดอย่างมากแต่เป็นความผิดที่มีความสุขเหลือเกิน

   “กลอนครับ กลอนไม่รู้สึกดีเลยเหรอ”

   “ดีสิ..กลอนรู้สึกดี แต่..”

   “ไมมีแต่ เรารักกัน ใจตรงกัน เรากำลังทำในสิ่งที่คนรักกันทำ ไม่มีอะไรผิดนะครับ ความต้องการเป็นธรรมชาติของมนุษย์นะ เรายังเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็นศิษย์ที่ดีของครู แต่เราก็จะเป็นคนดีของกันและกันด้วย” สิ่งที่เต็งหนึ่งพูดทำให้ผมคล้อยตาม ถึงผมจะทำแบบนี้แต่ถ้าการเรียนผมไม่เสีย ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ผมไม่ได้ติดยา ผมแค่มีความรัก ผมทำแบบที่ทำไปเมื่อครู่ได้ใช่ไหม ผมคิดวนไปมา คำตอบก็คือ ผมอยากทำตามหัวใจของตัวเอง ผมจะเปิดใจ ผมแค่อยากมีความรัก อยากมีคนให้รัก ผมก็เป็นแค่คนๆ หนึ่งที่มีความต้องการ คงไม่ผิดใช่ไหมครับที่จะคิดแบบนี้

   “ครับ กลอนก็รักหนึ่ง อยากให้หนึ่งกอด” ผมตัดสินใจตอบกลับไป

   “ชื่นใจจังเลย อย่างนั้นนอนพักผ่อนนะ พรุ่งนี้หนึ่งขอไปหาที่บ้านจะได้ไหม ถ้าไม่สะดวกก็ออกมาเจอกันได้ไหม หนึ่งอยากเห็นหน้ากลอนจะแย่อยู่แล้ว” เต็งหนึ่งอ้อนผม ผมนิ่งคิดก่อนจะตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำ

    “พรุ่งนี้พ่อกับแม่กลอนจะไปบ้านยาย หนึ่งมาหากลอนสักตอนเก้าโมงเช้าก็ได้”

   “ดีจังเลย อยากให้เช้าไวๆ อยากหอมแก้มกลอนแล้ว รักกลอนนะครับ ฝันดีนะครับที่รัก”

   “ฝันดีครับ” ผมตอบกลับ

   พอเต็งหนึ่งวางสายแล้วผมก็ยิ้มกับโทรศัพท์ ใจของผมยังเต้นแรงอยู่เลย ผมไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกล้าทำเรื่องน่าอายแบบนี้ได้ แต่ผมมีความสุขจริงๆ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นครั้งแรก ใจเต้นแรกเป็นครั้งแรก รู้สึกสุขล้นเป็นครั้งแรก ถูกจูบเป็นครั้งแรก ทำเรื่องที่ไม่เคยทำเป็นครั้งแรก แต่ผมสัญญากับตัวเอง ว่าผมจะไม่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปกว่านี้อีกแล้ว แต่นั่นคือสิ่งที่ผมคิดในวันวาน ผมไม่รู้เลยว่ารักครั้งแรกของผมครั้งนี้ จะทำให้ความคิดและการกระทำหลายอย่างของผมต้องเปลี่ยนไปจนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว   



*********โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ***********

บันทึกท้ายบทจากผู้แต่ง..

นิยายเรื่องนี้เป็นการแต่งแต้มเรื่องราวขึ้นเอง ซึ่งส่วนหนึ่งผู้แต่งคลุกเคล้ามาจากการบอกเล่าชีวิตจริง

ของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ซึ่งเต็มใจเล่า แต่เป็นการเพิ่มเติมเนื้อหาเพิ่มขึ้นเพื่ออรรถรสของนิยาย

นิยายเรื่องนี้ไม่มีนายเอกโลกสวย ไม่มีพระเอกจากความฝัน ไม่มีตัวร้ายถาวร

มีแต่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ได้เจอกับความรักหลายรูปแบบ ทั้งเจ็บเจียนตายและทำคนอื่นเจ็บเช่นกัน

ประสบการณ์ที่ไม่สามารถบอกเล่าให้คนในครอบครัวฟังได้ เลยถ่ายทอดผ่านบันทึกเล่มนี้ 

ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกท่านที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของ'กลอน'
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (1) (30/05/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-06-2015 15:28:45
 :L1:  รอติดตามจ้า
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (1) (30/05/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 30-06-2015 15:40:34
แปะไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาอ่าน ขอปั่นงานให้เสร็จทันห้าโมง แล้วจะแว้บมาอ่านทันทีฮ้าฟฟ (ชอบชื่อเรื่อง ฮ่าาา)
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (1) (30/05/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: tutatoomtam ที่ 30-06-2015 15:49:31
เรื่องไหม่เย้!!! จะติดตามน้าาาาาาา


****ทำไมเรารู้สึกแปลกๆกับเต็งหนึ่ง ? หรือว่าจะคิดไปเอง :katai5:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (1) (30/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 30-06-2015 16:31:37
แลดูจะดราม่ามากมาย -0-;;
ติดตามค่า
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (1) (30/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 01-07-2015 01:21:50
ตามมาจากรักวุ่นดี

บวกเป็ดให้ครับ

เหมือนหนึ่งจะมาไม่ดีแน่เลย กลอนเลยต้องเขียนบันทึก
พอจะเดาเรื่องออกได้นิดนึง 55555
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (1) (30/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 02-07-2015 10:29:13
ติดตามจ้าาา  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (1) (30/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 02-07-2015 11:01:04
เหมือนคนเขียนต้มน้ำร้อนไว้ ไม่เอามาม่ารสต้มยำกุ้งนะ เดี๋ยวแสบท้อง
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (1) (30/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ziqh.leo ที่ 02-07-2015 15:54:50
โห หนึ่งโหดมาดอ่ะ
ขนาดวันแรกยังรุกขนาดนี้
วันต่อไปนี่จะ.....ยังไง ยังไง....

รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 จูบแรกของกลอน (2 จบตอน) (02/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 02-07-2015 19:26:04
จูบแรกของกลอน (2)

ผมได้ยินเสียงรถยนต์ของพ่อเคลื่อนออกไปจากบ้านตอนหกโมงเช้า ผมนอนขี้เกียจอยู่บนเตียงถึงครึ่งชั่วโมงก็ตัดสินใจลุกไปอาบน้ำแล้วก็ลงไปข้างล้าง แม่ทำต้มข่าไก่กับผัดฉ่าปลาทับทิมเอาไว้ให้ผม ผมยังไม่รู้สึกหิวเท่าไหร่เลยรินแค่นมมานั่งกินที่หน้าโทรทัศน์ นานแล้วที่ผมไม่ได้อยู่บ้านคนเดียวแบบนี้ ปกติวันหยุด เราสามคนพ่อแม่ลูกก็จะชวนกันปลูกต้นไม้บ้างหรือหากิจกรรมทำด้วยกัน แต่คราวนี้แม่คงไม่อยากเลื่อนนัดกับยาย เพราะยายบ่นว่าพวกผมไม่ได้ไปหาท่านนานแล้ว ผมก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่โกหกแม่ว่าผมอยากจะพัก เพราะผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติ ผมคิดถึงคนที่เพิ่งก้าวเข้ามาในชีวิต ก่อนจะหลับก็นึกถึง ตื่นมาก็นึกถึงอีก วันนี้กว่าจะเลือกชุดใส่ได้ใช้เวลานานกว่าทุกวัน ก็ผมอยากดูดีต่อหน้าเขา


เต็งหนึ่งขี่รถมอเตอร์ไซด์มาจอดที่หน้าผมก่อนเวลานัด ผมได้ยินเสียงกริ่งก็วิ่งออกมาเปิดประตูรั้วให้ เต็งหนึ่งจูงมอเตอร์ไซด์เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ผมล็อกรั้วเสร็จก็เดินตามเขาแล้วเชิญเขาให้เข้าไปข้างใน ผมให้เต็งหนึ่งนั่งรอที่โซฟา ส่วนผมก็เดินไปรินน้ำให้เขา รู้สึกเขินๆทำตัวไม่ถูก เรื่องที่ผมกับเต็งทำลงไปเมื่อคืนมันทำให้ผมไม่กล้าสบตาเขาเลย เต็งหนึ่งชวนผมคุยจนผมหายเกร็ง เขาเล่าเรื่องที่เขาไปเล่นดนตรีเปิดหมวกที่กรุงเทพตอนปิดเทอมใหญ่ ผมตั้งใจฟังเขาเล่าด้วยความสนใจ อีกมุมหนึ่งของเขาที่ผมไม่เคยรู้ ผมฟังแล้วก็คิดว่าชีวิตเต็งหนึ่งต่างจากผมโดยสิ้นเชิง พ่อของเต็งหนึ่งเป็นสถาปนิก ส่วนแม่มีร้านเบเกอรี่ พี่สาวของเต็งหนึ่งเรียนอยู่ที่กรุงเทพ แล้วก็กำลังจะได้แสดงละคร พ่อแม่ของเต็งหนึ่งเลี้ยงดูแบบให้อิสระเต็มที่ ไม่ว่าลูกจะทำอะไรก็พร้อมสนับสนุน ผมก็ไม่แปลกใจ เพราะเต็งหนึ่งดูเป็นคนรักอิสระ เรื่องที่เขาเล่าให้ผมฟังแปลว่าเขาได้ไปเที่ยวมาหลายที่ ต่างจากผม ที่ไม่เคยได้ไปไหนเลยนอกจากบ้านของยาย


“คิดอะไรอยู่” เต็งหนึ่งถามผมก่อนจะลุกจากโซฟาอีกตัวมานั่งโซฟาเดียวกันกับผม

“ก็อิจฉาหนึ่ง ได้ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ”

“ทำไมละ พ่อแม่ของกลอนไม่ให้ไปไหนเลยเหรอ”

“ก็ไม่เชิงว่าไม่ให้ไป แต่เราไม่เคยขอไปไหน”

“แล้วทำไมไม่ลองขอดูละ”

“ก็..เพราะเราก็ไม่ได้อยากไปด้วยละมั๊ง”

“จากนี้ไปหนึ่งจะพากลอนออกไปพบเจอโลกอีกใบ กลอนจะได้เรียนรู้ว่าโลกใบนี้มันกว้างมากจริงๆ”

“โลกของหนึ่งเหรอ” ผมถาม เต็งหนึ่งขยับเข้ามาใกล้ผมกว่าเดิม

“ตาของกลอนสวยมากเลยนะ ขนตายาวงอนกว่าผู้หญิงบางคนอีก” เต็งหนึ่งพูดจบก็จูบที่เปลือกตาของผม ผมหลับตารับริมฝีปากของหนึ่ง หัวใจผมเริ่มเต้นแรง ทั้งตื่นเต้นทั้งเกร็งไปหมด ผมรู้ว่าการที่ยอมให้เต็งหนึ่งมาหาที่บ้านตอนที่พ่อกับแม่ไม่อยู่ มันแปลว่าผมก็อยากอยู่ใกล้ชิดกับเขา เคยไหมครับ ใจหนึ่งก็ต้องการ อีกใจก็รู้สึกตลอดเวลาว่าตัวเองทำผิด

“ใช่ โลกของหนึ่ง” เต็งหนึ่งล้วงมือเข้ามานเสื้อของผม ลูบไล้แผ่นอกของผมเบาๆ ปลายนิ้วของเต็งหนึ่งเหมือนมีไฟฟ้าสถิต แตะโดนตรงไหนผมก็รู้สึกวูบวาบราวกับว่ามีไฟฟ้าแล่นผ่านมาถึงผิวกายของผม

“หนึ่ง..กลอนว่า..มันเร็วไปไหม” ผมถามเสียงสั่นและต้องกลั้นหายใจเพราะรู้สึกสะท้านหวิว ก็เต็งหนึ่งกำลังบีบปั่นยอดอกผมอยู่ ขนลุกไปทั้งตัว

“หนึ่งกำลังพากลอนไปที่โลกของหนึ่งไงครับ กลอนหลับตานะ อย่าเกร็ง ไปกับหนึ่งนะ” เต็งหนึ่งทำเสียงอ้อนผม ผมไม่ได้ตอบอะไรไป ได้แต่หันหน้าหลบสายตาเว้าวอน สุดท้ายก็ต้องกัดริมฝีปากแน่นเพราะเต็งหนึ่งดันตัวผมลงนอนกับโซฟาแล้วเลิกเสื้อของผมขึ้น ทันทีที่ปลายลิ้นของเต็งหนึ่งตวัดโดนยอดอก ร่างกายของผมก็ตอบรับความรู้สึกนั้นด้วยกระครางเบาๆ


บอกตรงๆว่าผมก็แอบแปลกใจว่าทำไมเต็งหนึ่งดูชำนาญทั้งที่ก็อายุเท่าๆกันกับผม ถึงเราจะไม่ใช่เด็กๆ แต่ผมว่าสิ่งที่เต็งหนึ่งทำกับผมเมื่อคืนหรือกระทั่งตอนนี้มันเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับผมมากๆ แต่ตรงกันข้ามกันกับอีกฝายที่ดูจะรู้ไปหมดว่าควรจะทำอะไรตรงไหนที่จะทำให้ผมอ่อนระทวยได้ง่ายๆแบบนี้ เต็งหนึ่งดูดหน้าอกของผมจนผมต้องส่งเสียงออกมา ไม่ได้เจ็บปวด แต่มันทรมาน ยิ่งตอนนี้ปลายลิ้นกำลังไล่ลงไปที่หน้าท้องของผม ผมต้องบิดตัวไปมาเพราะมันเสียววูบวาบไปหมด กระดุมกางเกงของผมถูกปลด ผมพยายามจะดึงเอาไว้ก่อน แต่มือของเต็งหนึ่งก็ปัดมือผมออกเบาๆ ด้วยความชำนาญของอีกฝ่าย ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรเลยนอกจากเสื้อตัวเดียว ผมไม่กล้ามองหน้าเต็งหนึ่ง ต้องหลับตา มือก็กำหมอนอิงแน่น น่าอายมากๆ เพราะรู้ว่าส่วนนั้นของผมกำลังท้าทายเต็งหนึ่งอยู่


“สวยมากเลยกลอน ขาวน่ากินจัง”

“ไม่เอา อย่าพูด กลอนอาย” ผมรีบบอก ได้ยินเสียงหัวเราะของเต็งหนึ่ง เพียงไม่นานผมต้องสะท้านวาบเมื่อส่วนกลางของผมถูกครอบครองด้วยปากของเต็งหนึ่ง ผมกระถดหนีความทรมาน แต่เต็งหนึ่งรั้งสะโพกของผมเอาไว้

“หนึ่ง ฮื้อ..ออ อืมม” ผมทรมานจนต้องส่งเสียงออกมาเบาๆ เต็งหนึ่งทำกับส่วนนั้นของผมเหมือนมันเป็นไอศกรีมแท่งที่เขาโปรดปราณ ไม่เพียงจะลิ้มรสด้วยลิ้นที่ลากผ่านไปมาบางจังหวะก็ดูดดุนแรงๆราวกับว่าของผมจะละลายหายไป ผมต้องแอ่นอกบิดกายเพราะรู้สึกว่าในร่างกายของผมมีพายุลูกน้อยๆที่กำลังก่อนตัวเป็นพายุลูกใหญ่ในเวลาอันใกล้นี้ เสียงชื้นแฉะดังเข้ามาในหู หน้าท้องของผมหดเกร็งแล้วเสียววูบวาบ เต็งหนึ่งครอบปากลงส่วนนั้นของผมจนสุดไปถึงโคน ผมร้องครางดังพร้อมกับหอบหายใจถี่ พยายามจะผลักหัวเต็งหนึ่งออกเพราะว่าว่าอารมณ์ของผมมันกำลังจะทะลักทลายแล้ว

“หนึ่ง ออกเถอะ กลอนไม่ไหวแล้วครับ ฮื้อออ. หนึ่ง อื้อออ ฮื้มม เฮ้อ..หนึ่ง อ๊า...” ผมเหยียดตัวเกร็งแล้วปลดปล่อยออกมาในที่สุด รีบชะโงกดูเต็งหนึ่ง เห็นเขากำลังบ้วนน้ำรักของผมออกใส่ทิชชูก่อนจะหันมายิ้มให้ผม ผมรีบลุกขึ้นมานั่ง ช่วยดึงทิชชูเช็ดส่วนที่ยังเปรอะเปื้อนให้เต็งหนึ่งด้วย

“ขอโทษนะ” ผมบอกเสียงอ่อย

“ขอโทษทำไม หนึ่งเต็มใจ หนึ่งอยากให้กลอนมีความสุข กลอนไม่เคยกับใครใช่ไหม” หนึ่งถามผม

“จะไปเคยกับใครเล่า” ผมแอบค้อนเต็งหนึ่ง เขาหัวเราะและดึงผมไปหอมแก้ม

“ทำให้หนึ่งบ้างได้ไหม” เต็งหนึ่งถาม ผมอึ้งไป ผมลืมไปเลยว่าเต็งหนึ่งเป็นฝ่ายทำให้ผมอยู่ฝ่ายเดียว

“แต่กลอน..ไม่เคยทำ”

“ไม่เป็นไร หนึ่งสอนให้ นะครับคนดีของหนึ่ง” เสียงเต็งหนึ่งอ้อนอีกแล้ว ผมเลยพยักหน้าให้ เต็งหนึ่งโน้มใบหน้ามาจูบผม ลิ้นเราสองคนตวัดต้อนกันไปมา ผมเริ่มจะคุ้นเคยกับการจูบของเต็งหนึ่ง เริ่มรู้ว่าควรหลบหรือรุกไล่ยังไง จากนั้นเต็งหนึ่งก็จับข้อมือของผมเอามาวางตรงส่วนกลางของเขา เขาออกแรงกดที่มือของผมให้คลึงตรงส่วนกลางของเขาที่กำลังโตจนตุงคับกางเกง

“ลองสัมผัสของหนึ่งสิครับ” หนึ่งถอนจูบมาบอกผม ผมค่อยๆถอดกางเกงของหนึ่งออก ระหว่างนั้นเต็งหนึ่งก็ซุกไซร้ที่คอของผม ผมปลดกางเกงตัวนอกออกแล้วเหลือแต่กางเกงใน เต็งหนึ่งเกี่ยวกางเกงในของตัวเองออกจนส่วนนั้นของเต็งหนึ่งดีดผึ่งออกมา ผมไม่กล้ามองเต็มๆ ได้แต่เหลือบๆมอง ก็ดูสะอาดสะอ้านดี

“ลองจับมันรูดๆดูสิ” เต็งหนึ่งบอกผม ผมทำตาม ไม่กล้ารูดแรง ผมกลัวทำเขาเจ็บ จนกระทั่งเต็งหนึ่งกุมมือผมแล้วเร่งจังหวะให้เอง

“ลองชิมดูนะครับ ค่อยๆเลีย เหมือนกลอนกำลังเลียไอติมนะครับ” เต็งหนึ่งบอก ผมไม่ได้มองหน้าเขา แต่ก็ก้มหน้าลงไป ค่อยๆแลบลิ้นแล้วแตะไปเบาๆ


จากนั้นผมก็นึกถึงสิ่งที่หนึ่งทำให้ผม ผมก็ค่อยๆทำตาม ได้ยินเสียงเต็งหนึ่งร้องซี๊ดแผ่วๆ มือของหนึ่งจับที่ศีรษะของผม ผมค่อยๆครอบลงให้ลึก แต่ทิ่มที่โคนลิ้นจนผมต้องรีบถอนออกเพราะจะขย้อน มันยังไม่คุ้น เต็งหนึ่งยิ้มให้ผม เหมือนกับจะให้กำลังใจ ผมเลยก้มลงไปทำต่อ สักพักก็เริ่มจะคุ้นเลยทำได้คล่องขึ้น เต็งหนึ่งเริ่มส่งเสียงคราง มือที่จับศีรษะผมแล้วออกแรงกดเป็นจังหวะ บางทีผมก็เกือบสำลักแต่ก็อดทน คราวนี้เต็งหนึ่งเริ่มสวนสะโพกกระแทกเข้ามา ผมหายใจไม่ทันเลยต้องใช้มือช่วย ผมออกแรงเร่งจังหวะรูดรั้งส่วนนั้นของเต็งหนึ่ง แอบมองหน้าเต็งหนึ่งก็เห็นว่ากำลังกัดริมฝีปาก ระบายลมหายใจ ไม่นานเต็งหนึ่งก็ดันผมออกแล้วใช้มือตัวเองรูดจนน้ำรักพุ่งออกมาเต็มหน้าผมเลย เต็งหนึ่งรีบหยิบทิชชูมาเช็ดให้ผม เช็ดแล้วก็ทั้งหอม ทั้งจูบปากผมจนเขาพอใจ


“กลอนมีความสุขไหม”

“อืม” ผมพยักหน้า

“นี่แค่เริ่มแรกเองนะ หนึ่งจะพากลอนไปที่โลกของหนึ่งบ่อยๆ รับรองว่ากลอนจะมีความสุขมากกว่านี้” เต็งหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูจะพึงพอใจ ผมมีความสุขนะกับสิ่งที่เขาทำให้ แต่ผมนึกว่าโลกของเต็งหนึ่งคือการพาผมไปรู้จักสิ่งรอบๆตัวเขา ครอบครัว เพื่อนสนิท ไม่ใช่แค่เรื่องแบบนี้ ถึงผมจะคิด แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไป

“กินข้าวกันนะ” ผมชวน เต็งหนึ่งยิ้มให้

...
..
.

เราสองคนแต่งตัวจนเรียบร้อยแล้วก็ไปนั่งทานข้าวกัน เต็งหนึ่งก็ชวนผมคุย แต่คุยแต่เรื่องอย่างว่าจนผมรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ ผมก็เปลี่ยนเรื่องเป็นถามเรื่องส่วนของเต็งหนึ่งบ้าง ผมก็ได้รู้เรื่องของเขามากขึ้น เขาชอบไปเล่นบอลกับเพื่อนที่สนามของวิทยาลัยพละในช่วงหลังเลิกเรียน เสาร์อาทิตย์ก็ไปห้องเช่าอัดดนตรีในตลาดเพื่อเล่นดนตรีกับเพื่อนๆในวง มีเพื่อนจากต่างโรงเรียนด้วย ผมถามเต็งหนึ่งว่าทำไมถึงได้มาชอบผม ทำไมถึงกล้าเขามาหาผม ผมดูออกว่าชอบผู้ชายเหรอ เต็งหนึ่งหัวเราะแล้วก็บอกว่าไม่มีใครดูผมออกหรอก เพราะผมนิ่งจนเหมือนรูปปั้น แต่เขาอยากเสี่ยงเพราะเก็บความรู้สึกไม่ไหวแล้ว เขากลัวผมจะมีใครไปก่อน


เรากินข้าวเสร็จ เต็งหนึ่งก็ขอผมขึ้นไปดูห้องนอน ผมพาเต็งหนึ่งขึ้นไป เขาก็ชมว่าห้องของผมสะอาดมาก ห้องเขารกมาก เต็งหนึ่งแซวว่าห้องผมหนังสือเยอะจนเอาไปสร้างกำแพงเมืองจีนได้เลย เต็งหนึ่งชวนผมคุยไปเรื่อย คุยไปคุยมากลายเป็นว่าเขามานอนกอดผมอยู่บนเตียง เราสองคนนอนก่ายกันไปมา จูบที่เร้าร้อนทำให้ผมโอนอ่อนผ่อนตามเขาไปทุกอย่าง โลมเล้าไปมาร่างกายของเราสองคนก็เปลือยเปล่า นอนเบียดเสียสีกันตามแรงอารมณ์ ช่วยกันด้วยปากและมือจนเสร็จไปรอบแล้วรอบเล่า แต่แค่นี้ผมก็เหนื่อยจนไม่มีแรง ตัวของผมแดงไปหมด มีแต่รอยจูบ รอยดูดของเต็งหนึ่ง จนเกือบสี่โมงเย็นผมถึงได้บอกว่าแม่ของผมคงใกล้จะกลับแล้ว เต็งหนึ่งถึงได้ยอมปล่อยให้ผมเป็นอิสระแล้วแต่งตัวกลับบ้านไป ผมได้แต่ยืนมองตัวเองในกระจก เต็งหนึ่งคือรักแรกของผม ผมไม่รู้ว่าเขาแอบมองผมมานานจริงหรือเปล่า เพราะผมเคยแต่เป็นฝ่ายแอบมองเขา ไม่เคยเห็นสายตาของเต็งหนึ่งมองกลับมาสักครั้ง แต่วันนี้เขาเป็นฝ่ายเข้ามาหาผม เพียงแค่วันเดียวเราสองคนก็ปล่อยใจให้อารมณ์นำทาง แล้วตอนนี้ผมคือแฟนของเขาใช่ไหม ผมทำอะไรได้มากกว่าเพื่อนรึเปล่า ผมไม่กล้าถามเขา แค่เขาบอกว่าคิดถึงผม อยากนอนกอดผม อยากอยู่ใกล้ๆผม ไม่อยากไปไหน ผมก็ดีใจจนหุบยิ้มแทบไม่ได้แล้ว

ผมว่า..ผมคงตกหลุมรักเต็งหนึ่งมากกว่าเดิมเสียแล้ว


ความสัมพันธ์ของผมกับเต็งหนึ่งดำเนินไป จะว่าเรื่อยๆก็เรื่อยๆ จะว่าไวก็ไว เราสองคนไม่ได้เปิดตัวว่าคบกัน ในโรงเรียน ผมก็ดำเนินชีวิตให้เหมือนทุกวัน ผมกับเต็งหนึ่งไม่เคยไปนั่งกินข้าวด้วยกัน ไม่เคยไปเดทกัน ที่โรงเรียนเราได้แต่ส่งไลน์หากัน เต็งหนึ่งป้อนคำหวานมาให้ผมได้เก้อเขินเสมอ พอตกเย็นผมก็ไปห้องสมุดและรอพ่อมารับเหมือนเดิม แต่วันไหนถ้าครูเป็ดไม่อยู่ เต็งหนึ่งถึงจะมาหาผม แล้วก็ไม่พ้นว่าเราสองคนแอบกอดจูบกันในซอกชั้นหนังมือ เต็งหนึ่งบอกว่าตื่นเต้นดี แต่ผมกลัว กลัวว่าสักวันจะมีคนมาเห็น ผมเลยให้เขาทำได้แค่จูบเท่านั้น ตกกลางคืน เต็งหนึ่งก็จะโทรมาหา แล้วก็ให้ผมช่วยเซ็กส์โฟนกับเขา เสาร์อาทิตย์ จากที่ผมเคยอยู่แต่บ้าน ก็จำต้องโกหกแม่ว่าไปหาซื้อหนังสืออ่าน แต่จริงๆแล้วเต็งหนึ่งจะมาเอารถยนต์ของพ่อมารับผม แล้วก็พาผมไปจอดที่โกดังข้าวร้าง เราสองคนใช้เบาะหลังเป็นรังรัก เขาทำให้ผม ส่วนผมก็ต้องทำให้เขาเหมือนกัน หลายต่อหลายครั้งที่เต็งหนึ่งอยากจะสอดใส่มาในร่างกายของผม แต่ผมไม่ยอม เหมือนวันนี้ก็เช่นกัน เราสองคนมาอยู่ที่โรงสีร้าง เต็งหนึ่งกำลังพยายามใช้ปลายลิ้นโลมเร้าที่ช่องทางด้านหลังของผมอยู่


“หนึ่ง กลอนไม่เอานะ” ผมรีบบอก

“ทำไมละครับ เราก็คบกันมาเดือนนึงแล้วนะ กลอนไม่อยากมีความสุขเหรอ”

“ความสุขของกลอน แค่มีหนึ่ง กลอนก็มีความสุขนะ” ผมบอก เต็งหนึ่งขยับตัวขึ้นมาจูบผม นิ้วของเต็งหนึ่งก็กำลังพยายามจะดันเข้าไปที่ช่องทางของผม ผมรีบดึงมือของเต็งหนึ่งออก

“ทำไมละกลอน รังเกียจหนึ่งเหรอ”

“มันไม่ใช่แบบนั้น แต่กลอนยังไม่อยากไปถึงขั้นนั้น”

“ทำไมละ หนึ่งต้องการ หนึ่งขอนะ กลอนเป็นผู้ชาย ไม่ท้องหรอก จะกลัวอะไร” เต็งหนึ่งดูเหมือนจะไม่พอใจ

“กลอนใช้ปากให้นะ นะครับ” ผมร้องขอ

“หนึ่งอยากให้เราเป็นหนึ่งเดียวกัน หนึ่งอดทนไม่ได้แล้ว” เต็งหนึ่งบอกพร้อมกับจับผมให้นอนคว่ำ ผมดิ้นแล้วพลิกตัวกลับ รีบคว้ากางเกงกับเสื้อมาใส่ เต็งหนึ่งเห็นแบบนั้นก็ชักสีหน้าใส่ผมทันที

“กลอนขอกลับบ้านก่อนนะ” ผมบอก

“ทำไมละกลอน กลอนไม่ได้รักเราเลยใช่ไหม ถ้าคนรักกันเขาต้องยอมกันได้”

“ถ้าคนรักกันเขาต้องอดทนได้เหมือนกัน” ผมเถียง

“นี่กลอนหาว่าเราไม่ได้รักกลอนเหรอ”

“แล้วหนึ่งรักกลอนรึเปล่าละ กลอนยังไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากหนึ่งเลย มีแต่ชวนนอนแล้วก็ทำเรื่องแบบนี้”

“อ๋อ จะบอกว่าฝืนใจเหรอ แล้วที่ครางกระเส่านี่ไม่ชอบใช่ไหม”

“หนึ่ง ทำไมพูดแบบนี้”
“กูจะพูด มึงไม่พอใจก็กลับไปเอง” หนึ่งตวาดผม ผมรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาเลย ความน้อยใจ ความเสียใจทำให้ผมตัดสินใจหยิบกระเป๋าแล้วเดินลงจากรถ

ผมเดินออกมานอกโกดังข้าว แถวนี้ไม่มีรถผ่าน ผมจะกลับยังไง เสียงรถของหนึ่งดังตามมา แต่แล้วมันก็ผ่านเลยไป เขาทิ้งผม ทิ้งให้ผมกลับบ้านเอง น้ำตาของผมไหลออกมาทันที เขาทำแบบนี้ได้แปลว่าเขาไม่มีเยื่อใยเลย รู้ว่าโกรธ แต่ทำกันแบบนี้ได้ ผมว่าคงไม่ใช่คนที่มีความรักให้กัน ผมตัดสินใจไปนั่งร้องไห้ในตู้โทรศัพท์สาธารณะจนพอใจ จากนั้นผมก็โทรศัพท์ไปหาเด่น รอไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเด่นก็เอารถกระบะของแม่เด่นมารับผม เด่นไม่ได้ถามอะไรผม ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาจนกระทั่งถึงบ้านของเด่น ผมถึงได้รู้ว่าเด่นยังไม่ได้ไปส่งผมที่บ้าน

“มึงไปล้างหน้าก่อนเลย ตาแดงขนาดนี้ กลับไปแม่มึงถามแน่” เด่นบอกผม

“ขอบคุณนะ” ผมบอกมัน มันพยักหน้าให้ พ่อแม่ของเด่นไม่ค่อยอยู่บ้าน บ้านเด่นค่อนข้างมีฐานะมากๆ แต่มันไม่ค่อยอวดว่าตัวเองรวย ติดดิน แต่เจ้าชู้มาก ผมเจอมันแต่ละที แฟนมันไม่เคยซ้ำหน้าเลย ผมกับเด่นรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจนเราแทบไม่ต้องพูดกันก็รู้ว่าคิดอะไร ผมอยู่ชมรมบรรณารักษ์เพราะชอบหนังสือ แต่มันนี่สิ ตามมาสมัครด้วยเพราะเหตุผลที่ว่า มันจะได้ไม่ต้องทำอะไร ให้ผมทำแทนมัน มันจะได้มีเวลาไปจีบหญิง

“เออ แล้วเดียวกูไปส่ง กูนัดน้องยิ้มเอาไว้ด้วย” เด่นบอก มันไม่ถามผมจริงๆว่าผมเป็นอะไร คงรู้ว่าผมไม่อยากพูด ผมยังไม่อยากกลับบ้านในตอนนี้ โกหกแม่ว่าจะกลับตอนสองทุ่ม เพราะจะไปนั่งอ่านหนังสือที่ร้านหนังสือ

“ไปส่งเราที่ร้านหนังสือแล้วกัน ยังไม่อยากกลับบ้าน”

“อีกแล้ว ร้านหนังสืออีก ไม่ต้อง ไปดูหนังกับกู”

“แต่เด่นไปกับแฟน จะเอาเราไปทำไม”

“เอามึงไปเปิดหูเปิดตาบ้าง มึงไม่ต้องโกหกแม่ละ โทรไปบอกแม่มึงว่าอยู่กับกู” เด่นสั่งผม ผมเลยต้องทำตามที่มันบอก โทรไป แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร มีบ่นๆนิดหน่อยว่าผมออกจากบ้านบ่อยไปแล้ว


ผมมาถึงที่หน้าโรงภาพยนตร์ เด่นมันไปซื้อตั๋วหนังให้ ผมเลยไปเข้าห้องน้ำ รู้สึกปวดท้อง ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำที่เป็นห้อง ไม่ชอบยืนฉี่ที่โถด้านนอก เข้าไปได้ไม่กี่นาทีก็ได้ยินเสียงคนหัวเราะและคุยกัน ผมว่าผมจำได้ว่าเป็นเสียงของเต็งหนึ่ง


“มึงหายไปไหนมาวะไอ้หนึ่ง พักนี้มึงแว๊บบ่อย มีกิ๊กละสิมึง กูจะฟ้องน้องนิว”

“ฟ้องดิ น้องนิวไม่กล้าโกรธกูหรอก เจอลิ้นกูก็ยอมหมด”

“มึงแม่งเชี้ย กิ๊กมึงใครวะ กูเห็นมึงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์ทุกที เด็ดไหมวะ”

“เด็ดไรวะ โคตรอ่อน ที่เอาเพราะน่าเอา อยากลอง จะว่าไปก็เด็ดนะ แต่เล่นตัว แม่ง กูว่าจะทิ้งแล้ว เบื่อ”

“เขาไม่ให้มึงเอาละสิ”

“ไม่ต้องถามมา หงุดหงิด ไปเหอะ เดี๋ยวมึงไปนั่งห่างกูหน่อยนะ กูอยากลองในโรงหนังกับนิวหน่อย”

“มึงแม่งสุดยอดไอ้หนึ่ง ระวังโดนแอบถ่ายนะมึง”

“ไม่กลัวโว้ย”


เสียงของเต็งหนึ่งเงียบไปแล้ว ผมยืนตัวสั่นใจสั่นอยู่ ผมรู้สึกว่าใจของผมกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ ผมไม่โทษเต็งหนึ่งเลยบอกตรงๆ ผมโทษตัวเองเพราะผมมันง่ายเอง เขาแค่มาบอกชอบก็ยอมให้เขาเข้าหาถึงเนื้อถึงตัวง่ายๆ ถึงผมจะเป็นผู้ชาย แต่ผมก็มีศักดิ์ศรี ผมทำลายศักดิ์ศรีของตัวเองไปแล้ว ผมได้ยินเสียงของเด่นมาเรียกผม ผมไม่ได้ร้องไห้ แต่รู้ตัวว่าคงไม่มีอารมณ์จะดูหนังพอออกมาก็เลยบอกเด่นว่าผมปวดท้องอยากกลับบ้าน เด่นเลยบอกว่าจะไปส่ง ผมเกรงใจมัน มันนัดแฟนมาดูหนังเลยบอกว่าเดี๋ยวจะให้พ่อมารับ มันถึงยอม ผมนั่งรถเมล์กลับถึงบ้านด้วยจิตใจหม่นหมองสุดๆ ต้องขอบคุณโลกของหนึ่งที่อยากให้ผมได้รู้จัก ผมได้รู้จักแล้ว โลกที่ไม่มีความจริงใจ โลกที่ใจร้ายกว่าที่ผมจะคิดถึง ผมอ่อนเกินไปจริงๆ อ่านหนังสือมาตั้งมากมาย แต่ก็ไม่รู้เท่าทันคน ผมควรออกจากโลกที่เคยเป็น ออกจากการเป็นดักแด้เสียที


วันหยุดสุดสัปดาห์ผ่านไป อีกอาทิตย์เดียวผมก็ต้องไปข้าค่ายที่เขื่อนรัชชประภา ซึ่งมีชมรมของเต็งหนึ่งไปด้วย ผมพยายามไม่คิดถึงแต่ก็ยังอดไม่ได้ แอบร้องไห้จนสงสารตัวเอง เห็นสภาพตัวเองแล้วก็พาลสงสารไปถึงพ่อกับแม่ ท่านเลี้ยงผมมา คงไม่ต้องการให้ผมไปร้องไห้ให้ใคร ผมตัดสินใจนับหนึ่งใหม่ ก็แค่คนๆหนึ่งที่เดินเข้ามาเป็นบทเรียน บทเรียนที่ผมจะจำมันเอาเพื่อสอนตัวเอง


“กลอน วันนี้จะมีครูฝึกสอนมาสอนสองคน หญิงคนชายคน เห็นไอ้จุ้ยมันบอกว่า ครูผู้หญิงแจ่มมากมึง” เด่นทำหน้าตื่นเต้น ผมก็ได้แต่ขำมัน รู้สึกว่าผู้หญิงทุกคนก็แจ่มสำหรับมันหมด

“จะเล่นของสูงเหรอ” ผมถามมัน

“เล่นได้ก็ดี เฮ้ย..ไม่ใช่ละ หาเรื่องให้กูแล้วไง”

“กลอน” เสียงของใครบางคนเรียกผม ผมกับเด่นหันไปดูก็เห็นเต็งหนึ่งมายืนอยู่

“ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ” เต็งหนึ่งพูดต่อ เด่นหันมามองหน้าผม ผมทำหน้าเฉยๆไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ

“งั้นเดี๋ยวกูมา” เด่นบอกผม ผมพยักหน้าให้มัน พอเด่นเดินออกไปแล้วเต็งหนึ่งก็เข้ามานั่งตรงกันข้ามกับผม

“กลอน หนึ่งขอโทษนะ หนึ่งกลับไปคิดๆดูแล้ว หนึ่งผิดเองที่ไม่รู้จักอดกลั้น กลอนคงตกใจใช่ไหม หนึ่งแค่รักกลอนมาก มันมากจนอยากให้ครอบครองทั้งกายทั้งใจ” เต็งหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆเหมือนเคย แต่ผมกลับรู้สึกรังเกียจคำพูดและท่าที่เสแสร้งนั้นจับใจ

“แค่นี้ใช่ไหมที่อยากพูด” ผมถาม พร้อมกับลุกเก็บการบ้านใส่กระเป๋า

“ยังโกรธหนึ่งเหรอ ขอโทษนะครับคนดี”

“อย่าพูดอีกเลยหนึ่ง พอเถอะ อย่ามายุ่งกับเราอีก เราขอร้อง” ผมพูดจบก็เดินหนีไปเลย เต็งหนึ่งไม่ได้ตามผมมาหรอก ในโรงเรียนเขาคงไม่กล้า กลัวคนจะรู้ว่าดาวโรงเรียนเป็นเกย์ ตกเย็นผมก็ไปที่ห้องสมุดเหมือนทุกที คราวนี้ครูเป็ดไม่อยู่ ให้ผมช่วยเก็บหนังสือและล็อกห้องให้ ผมเก็บหนังสือเสร็จก็เห็นเต็งหนึ่งมานั่งรออยู่

“กลอน ดีกันนะ หนึ่งผิดไปแล้ว นะครับ หนึ่งจะไม่ทำแบบนั้นอีก” เต็งหนึ่งดึงผมให้เดินเข้าไปในซอกชั้นหนังสือ ผมสะบัดมือ แต่สะบัดไม่ออกเพราะเต็งหนึ่งจับเอาไว้แน่น

“หนึ่ง เราได้ยินหมดแล้วที่หนึ่งพูดที่โรงหนัง หนึ่งมีแฟนแล้ว หนึ่งแค่อยากลอง เราเล่นตัว หนึ่งเบื่อยากเลิกกับเรา เลิกเสแสร้งได้แล้ว พอเถอะ ต่างคนต่างอยู่ เราไม่ใช่แค่ที่ระบายตัณหาให้หนึ่งนะ” ผมพรั่งพรูออกมาทั้งน้ำตา ที่คิดว่าจะไม่ร้องก็อดกลั้นไม่ได้ มันเจ็บ เสียใจ ผมแค่คิดว่า ถึงเราสองคนจะต้องแอบคบกัน ผมก็พร้อมจะยอมรับให้ได้ เพราะสังคมของเราสองคนจำต้องทำแบบนั้น แต่ไม่ใช่เก็บผมเอาไว้เพราะเขามีแฟนออกนอกหน้าแล้ว เขาแค่อยากลองเรื่องเซ็กส์กับผู้ชาย ผมเป็นแค่ตัวทดลอง

“กลอน..”

“อย่าให้ต้องเกลียดกันมากไปกว่านี้เลย” ผมบอกแล้วสะบัดมืออกจากการจับกุม หนึ่งยืนมองผม ก่อนจะกระชากเสื้อนักเรียนผมออกจากกางเกง ผมตกใจมาก หนึ่งจู่โจมจูบผม มือของหนึ่งก็ขยำที่เป้าของผม ผมไม่ได้รู้สึกดีเลย ผมดิ้นแต่ไม่กล้าร้องให้คนช่วย มันน่าอาย ผมกลัวและอาย

“หนึ่ง ปล่อย หนึ่ง ไม่เอานะ อย่าทำแบบนี้” ผมร้องไห้ บอกหนึ่ง อยากให้เขามีสติ แต่ไม่ได้ผล หนึ่งกัดปากผมจนผมเจ็บ รู้สึกได้รสชาติของเลือด หนึ่งจับผมกดลงไปนอนที่พื้นห้อง พลิกให้ผมนอนคว่ำ ปลดกางเกงผมออก ผมดิ้นไปดิ้นมา แต่สู้แรงหนึ่งไม่ได้จริงๆเขาใช้ตัวกดทับผม ผมจะร้องหนึ่งก็อุดปากผม หนึ่งใช้เข่าแยกขาผมออก ผมดิ้นสุดตัวจนหนึ่งล้มไปชนชั้นหนังสืออย่างแรง เต็งหนึ่งเงื้อมือจะต่อยผม แต่มีคนมาดึงเต็งหนึ่งจนเต็งหนึ่งหงายหลังไป ผู้ชายคนหนึ่งกระชากคอเสื้อเต็งหนึ่งขึ้นมาแล้วทำท่าจะต่อย

“จะให้แจ้งความไหม” เขาถามผม ผมรีบส่ายหน้าก่อนจะดึงกางเกงขึ้นมาใส่

“อย่ามายุ่งกับเราอีก” ผมบอกเต็งหนึ่งแบบไม่มองหน้าเขา ผู้ชายคนนั้นปล่อยคอเสื้อเต็งหนึ่งแล้วทำหน้าดุใส่ เต็งหนึ่งรีบวิ่งออกไปจากห้องสมุด ผมรีบลุกขึ้นมา ยกมือไหว้ขอบคุณ ทั้งที่รู้สึกอายไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ผู้ชายคนนั้นก้มลงไปหยิบโทรศัพท์มือถือของผมมาส่งให้ผม

“เป็นอะไรรึเปล่า” เขาถาม ผมส่ายหน้า

“อย่าบอกใครได้ไหมครับ” ผมบอก

“ไม่ใช่เรื่องน่าบอก”

“ขอบคุณมากครับ” ผมบอกเขา เขาพยักหน้าให้ก่อนจะเดินออกไป น่าจะเป็นผู้ปกครองของใครสักคน แต่ยังดูอายุไม่เยอะเท่าไหร่เลย ผมไม่รู้ว่าเขาจะไม่บอกใครจริงหรือเปล่า ถ้าบอกไปผมคงทนอยู่ที่นี่ไม่ได้ ผมนึกสงสารพ่อกับแม่ รู้สึกผิด ผมทำให้ท่านผิดหวัง

“เฮ้ย ไอ้กลอน พ่อมึงเขาโทรหามึงไม่ได้ เขาบอกโทรมามึงปิดเครื่อง ดีนะกูยังไม่กลับเลยแวะมาดู แล้วทำไมเสื้อผ้ามึงเป็นอย่างนั้นวะ” เด่นที่เดินเข้ามาตอนที่ผมจะล็อกห้องสมุดพอดี ผมหยิบโทรศัพท์ตัวเองมาดูพบว่ามันดับสนิทสงสัยตอนหล่นแน่ๆ

“ดับอะ แบตหมดแน่เลย” ผมบอก

“แล้วทำไมเสื้อมึงยุ่งอย่างนั้นวะ”

“แอบหลับน่ะ” ผมปดไป เด่นพยักหน้า ก่อนจะทำท่าทางตื่นเต้นอีกรอบ แล้วหยิบโทรศัพท์ของมันมาให้ผมดู

“เออ แสดงว่ายังไม่เห็นคลิปนี้ ดูๆเลยมึง” เด่นกดเปิดคลิปให้ผมดู ผมเห็นแล้วตกใจมาก เพราะเป็นคลิปของหนึ่งในโรงภาพยนตร์ กำลังถูกผู้หญิงคนหนึ่งก้มลงไปก้มๆเงยๆที่เป้า ดูก็รู้ว่ากำลังทำอะไร ในคลิปเห็นหน้าหนึ่งชัดเจน

“คลิปหลุดเหรอ” ผมถาม

“เออดิ แล้วมันมาหามึงทำไมเมื่อบ่ายอะ”

“อ๋อ มาถามเรื่องหนังสือ” ผมรีบหลบตาเด่น แต่ดูเด่นไม่ติดใจสงสัยอะไร

“ตอนนี้คลิปแพร่ไปทั่วเลยมึง พรุ่งนี้ได้ดังแน่” เด่นบอก ผมนึกเห็นใจหนึ่งนะ แต่สงสารผู้หญิงมากกว่า ดีที่ไม่ค่อยเห็นหน้า ถ้าในคลิปนั่นเป็นผม ผมคงตายแน่ๆ นี่ก็เป็นอีกบทเรียนของผม วัยที่ใช้อารมณ์นำพา อารมณ์มาเหนือความถูกผิดทั้งหมด

“สงสารเขานะ” ผมบอก

“เฮ้อ พ่อแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนวะแบบนี้ ไปกันเถอะ พ่อมึงให้กูไปส่งมึง เขาติดงานสำคัญ” เด่นบอก ผมพยักหน้าแล้วเดินตามเด่นไป นึกแปลกใจเหมือนกัน ปกติถ้าพ่อมารับไม่ได้แม่ก็จะมา แต่ท่านทั้งคู่คงไม่ว่างจริงๆ


สรุปว่า ข่าวของเต็งหนึ่งแพร่สะพัดไปไวมากในโลกโซเชียล เต็งหนึ่งไม่ได้มาที่โรงเรียนอีก ผมได้ข่าวว่าพ่อแม่ของเต็งหนึ่งมาลาออกให้ แล้วก็ให้เต็งหนึ่งไปเรียนที่เมืองนอก ผมก็ไม่ได้เจอกับเต็งหนึ่งอีกเลย เรื่องของผมกับเต็งหนึ่งจบลงแบบไม่น่าประทับใจเลยสักนิด แต่ผมก็จำเขาได้แม่นยำ เขาเป็นคนแรกที่ก้าวเข้ามาในโลกเรียบๆของผม พาผมไปสู่โลกที่ผมไม่คุ้นเคยเลยสักนิด ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ความรักอย่างที่ผมเคยนึกฝัน แต่ผมก็ยอมรับว่าเวลาสั้นๆ ในมุมที่เจ็บปวดนั้น ผมก็มีความสุขจริงๆ ทั้งทางกายและทางใจ เต็งหนึ่งจะเป็นบันทึกหน้าแรกที่ผมจะเขียนถึงและจะขอบคุณที่ทำให้ผมกล้าที่จะก้าวออกมาจากโลกใบเดิม


*************โปรดติดตามตอนต่อไป*************

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ คือเรื่องนี้อาจจะมีบทเรทๆเยอะหน่อย แต่มันมีที่มาที่ไหม เป็นเรื่องของคนๆหนึ่งที่อยากออกจาก
โลกใบเดิม แต่เดินออกมาก็เจอกับบทเรียนมากมาย มีทั้งดีไม่ดี ทุกอย่างมันทำให้เขากลายเป็นใครอีกคนที่ต่างจากเดิม
มันทำให้เขาคิดว่า รักกับเซ็กส์มันต้องมาด้วยกันเสทอเลยรึเปล่า สาระมาก!! 5555 แต่มีพระเอกนะเออไม่ใช่ไม่มี 555


 :hao3:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (2 )(จบตอน) (02/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 02-07-2015 19:46:12
โอ้โห. รักครั้งแรกก็เจ็บถึงขนาดนี้แล้ว. แต่ยังมีจุดดีอยู่นะ. กลอนโชคดีที่มีเพื่อนดีแถมใจแข็งอีก
ไปไกลๆไปเหอะหนึ่ง. เลวจริง
เป็นกำลังใจให้กลอนและคนเขียนจ้า
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (2 )(จบตอน) (02/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 02-07-2015 19:47:03
ติดตามต่อจ้า
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (2 )(จบตอน) (02/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 02-07-2015 20:27:36
อิเห้หนึ่ง! อิเลววว! อย่ากลับมาอีกนะ!
ดีใจที่เรื่องนี้มีพระเอก แหะๆ
คนที่มาช่วยคือครูผู้ชายคนใหม่ป่ะ?
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (2 )(จบตอน) (02/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 03-07-2015 14:15:42
คิดอยู่แล้วเชียว
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (2 )(จบตอน) (02/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 03-07-2015 14:52:57
ตะเตือนไต
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (2 )(จบตอน) (02/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ziqh.leo ที่ 03-07-2015 15:57:04
ก้ว่า.. มาวันแรกก็รุกซะ!
ดีแล้วแหละ กลอน ที่ยังไม่ให้หนึ่งไป..
แต่กลอนเข้มแข็งมากนะ
รอตามตอนต่อไปนะคะ ขอให้เจอรักดีๆ เร็วๆน้า..  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (2 )(จบตอน) (02/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 03-07-2015 23:48:04
ติดตามอยู่นะคะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (2 )(จบตอน) (02/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 11-07-2015 23:11:04
เข้ามาอ่านตามชื่อเรื่องเลยคับ พออ่านไปอ่านมาผู้เขียนบอกเขียนจากประสบการณ์จากคนจริงๆ มันยิ่งน่าอ่านคับ ชอบมาก ตอนใหม่มาเร็วๆนะคับ รอ รอ รอ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (2 )(จบตอน) (02/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 15-07-2015 07:51:13
กำลังนึกอยู่เลยว่ามันเร็วเกินไป  วันแรกก็ไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว  อดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากว่ากลอนยังหลวมตัวต่อไป คลิปที่หลุดอาจจะเป็นของกลอนก็ได้

หวานอมขมกลืนทีเดียวกับรักแรก
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (2 )(จบตอน) (02/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 18-07-2015 00:12:50
มาต่อด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 1 จูบแรกของกลอน (2 )(จบตอน) (02/06/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 08-08-2015 22:55:33
เข้ามารอ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (1) (12/08/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 12-08-2015 21:36:20
บันทึกหน้าที่สอง รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (ตอน 1)


เรื่องของเต็งหนึ่งค่อยๆหายไปจากความคิดของผม ก็คงเป็นธรรมชาติของเวลาที่มักจะนำพาใครบางคนออกไปชีวิตเราเพราะความห่างไกล และคงเพราะอะไรอีกหลายๆอย่าง ทั้งการเรียน ทั้งกิจกรรมทำให้ผมมีเวลาน้อยลงที่จะมานั่งคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้น มันทำให้ผมเลิกเจ็บปวดไปเองแบบไม่ได้ฝืน ผมก็ยังคงเป็นเด็กเรียนในสายตาของเพื่อน ครูและคนครอบครัว ยังเป็นคนที่พูดน้อยและไม่ค่อยได้ออกไปไหนเหมือนเดิม แต่มีเรื่องหนึ่งที่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมคิดว่าคงไม่มีวันให้ใครได้รู้ด้านนี้ของผม ผมสมัครเข้าไปเป็นสมาชิกในเว็บชายรักชายที่ผมเคยได้ยินเพื่อนที่เปิดเผยตัวว่าเป็นเกย์คุยกันที่โรงเรียน ผมตัดสินใจอยู่นานมาก บอกตรงๆว่ากลัวโดนจับได้ กลัวไปสารพัด แต่สุดท้ายผมก็แพ้ตัวตนและความต้องการของตัวเอง ผมอยากรู้ว่าโลกอีกใบที่มีคนเป็นเหมือนกันกับผมมันเป็นยังไง


..ทำอะไรกันอยู่..


ข้อความจากไลน์เด้งขึ้นมา ผมกดเปิดอ่าน ไลน์กรุ๊ปนี้ผมได้มาจากเว็บบอร์ดชายรักชายที่ผมเข้าไปสมัครเป็นสมาชิก ผมเข้าไปเล่นได้สักพักใหญ่แล้วถึงได้รู้ว่าเขามีไลน์กรุ๊ปเอาไว้คุยกัน ซึ่งบางคนก็ใช้ชื่อจริงนามสกุลจริง หลายคนก็ไม่เปิดเผยตัวเอง ผมก็เป็นหนึ่งในหลายคนนั้น ผมใช้นามแฝงว่า หนอนหนังสือ ไลน์ไอดีของผมอันนี้มาจากการเปิดเบอร์ใหม่ของผม ไม่ใช่ไลน์ที่ผมใช้ในชีวิตประจำวัน และคนที่พิมพ์เมสเสจเข้ามาก็คือ บุ้ง บุ้งเป็นคนที่เข้ามาคุยในกรุ๊ปนี้บ่อยที่สุด บุ้งอายุเท่ากับผม เปิดเผยหน้าตา บุ้งบอกว่าก็ไม่ได้ปิดอะไร แต่ก็ไม่ได้เปิด บุ้งมีเพื่อนที่เป็นเกย์ กระเทยเยอะแยะ ถ้าอยู่กับเพื่อนบุ้งจะแสดงความสาวออกมาเต็มที่ แต่ถ้าบุ้งอยู่กับแม่ บุ้งจะวางตัวเฉยๆ ผมเคยถามว่าแม่รู้ไหม บุ้งก็บอกว่าคงจะรู้ แต่เมื่อแม่ไม่พูดไม่ถาม บุ้งก็ไม่บอกและไม่แสดงท่าทางกระตุ้งกระติ้งให้แม่อึดอัดใจ เหมือนกับว่า พบกันครึ่งทาง บุ้งถือว่าเป็นเพื่อนเกย์จากโลกโซเชียลที่ผมสนิทที่สุด ผมได้รู้อะไรหลายๆอย่างจากบุ้ง บุ้งเป็นคนตรงไปตรงมา พูดจาแรง แต่ก็แรงกับคนที่แรงมาก่อน


..กำลังช่วยตัวเองว่ะ ฮ่าๆๆ..


คนที่ตอบไลน์บุ้งคนแรกคือพี่นาย พี่นายบอกว่าเขาเป็นลูกคนจีน ครอบครัวไม่รู้ว่าเป็นเกย์ พี่นายมีแฟนที่รักกันมา 5 ปีแล้ว ถึงพี่นายจะบอกว่ารักแฟนมาก แต่ผมก็เห็นว่าพี่นายก็หยอดหลายๆคนในกรุ๊ปนี้ เหมือนหมาหยอกไก่ ทีเล่นทีจริง แต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่าถ้ามีคนตอบรับพี่นายจริงๆ พี่นายจะเล่นด้วยรึเปล่า ผมเพิ่งเข้ามาใหม่ ก็ได้แต่แอบสังเกตนิสัยของแต่ละคนผ่านตัวหนังสือเท่านั้น


..ว้าย ให้ช่วยไหมคะพี่นาย.. บุ้งตอบกลับมา
..เปิดกล้องเลยนาย..


คนที่ตอบต่อจากบุ้งก็คือพี่ระเบิด เป็นนามแฝง พี่ระเบิดก็ไม่ได้เปิดเผยหน้าตา ผมรู้มาจากบุ้งว่า พี่ระเบิดเล่นมานานแล้ว บุ้งบอกว่าพี่เขารวยมากๆ ผมถามว่ารู้ได้ยังไงในเมื่อเขาไม่เปิดเผยตัว บุ้งเลยบอกว่า บุ้งเคยเจอพี่ระเบิดครั้งหนึ่ง ทั้งหล่อทั้งรวยจนน้ำเดิน มดลูกตีบตัน คำของบุ้งทำให้ผมขำ แต่ยุ้งก็บอกกับผมว่า ห้ามขอดูรูปพี่ระเบิด เพราะบุ้งไม่มีวันผิดสัญญา ผมก็ไม่ได้คิดจะขออยู่แล้ว เพราะผมเองเข้าใจว่าบางทีเขามีความจำเป็น เรื่องแบบนี้ต้องเซฟตัวเองเอ่ไว้ก็ไม่เสียหลาย แต่พี่ระเบิดต้องไว้ใจบุ้งมาก ถึงได้ยอมให้รู้จักตัวตนที่แท้จริง ดีไม่ดีอาจจะเคยกิ๊กกันก็ได้


..อยากเห็นมาที่ห้องสิครับระเบิด.. พี่นายตอบ บุ้งบอกว่าพี่นายเป็นรุก พี่ระเบิดก็เป็นรุก คงตลกดีเหมือนกันถ้าสองคนนี้กิ๊กกัน ผมอ่านแล้วก็แอบยิ้ม บอกตรงๆว่าผมรู้สึกสบายใจเมื่อเข้ามาอยู่ตรงนี้
..อยากร่วมด้วยช่วยกันจัง..

คนที่เข้ามาพิมพ์ประโยคล่าสุดคือพี่แนนซี่ บุ้งบอกว่าชื่อเดิมของพี่แนนซี่คือแหนม แต่อัพเกรดมาเป็นแนนซี่เพราะได้แฟนฝรั่ง พี่แนนซี่เรียนอยู่ปีสี่แล้ว มีโครงการจะผ่าตัดแปลงเพศเมื่อเรียนจบ โดยมีแฟนฝรั่งเป็นคนออกทุนให้ พี่แนนซี่เป็นคนตลก มีอะไรแปลกมาเล่าให้พวกเราได้ขำกันตลอด เป็นคนที่ทะลึ่งทะเล้นมากๆ คุยเรื่องปกติให้ติดเรทได้ตลอด แต่ผมชอบนะ เวลาพี่เขาเข้ามาคุยผมได้หัวเราะคนเดียวอยู่หน้าจอโทรศัพท์ตลอด ผมเป็นน้องใหม่ ยังไม่ค่อยกล้าคุย แต่พี่แนนซี่ก็จะคอยมาแซวมาชวนผมคุยด้วยตลอด เป็นคู่หูกับบุ้งเลย ถ้าลองสองคนนี้ได้คุยกันต้องติดเรท


..แหมพี่แหนม เจอบิ๊กไบท์ของแฟนพี่ ให้พี่นายกับพี่ระเบิดรวมตัวกันยังยังเหลือพื้นที่ไหม.. บุ้งพิมพ์กลับมา
..กรี๊ด อิบุ้ง หนึ่งอย่าเรียกกุว่าแหนม ตบปากเดี๋ยวนี้ สอง กุพร้อมรับทั้งกองทัพเพื่อความรวดเร็ว กุใจบุญนะยะ..
..ฮ่าๆๆ ผมไม่เชื่อ ขอลองก่อนนะน้องแนนซี่..
พี่นายตอบกลับมา พี่นายกับพี่ระเบิดทำงานแล้วทั้งคู่ ไม่ยอมบอกอายุ แต่บุ้งบอกผมว่าวัยกำลังน่ากิน
..นี่ไอ้หนอนแอบอ่านอยู่ละสิ เด็กน้องของพี่ ใจแตกรึยังจ๊ะ.. พี่แนนซี่ทักผม มันคงขึ้นจำนวนคนอ่าน
..ฮ่าๆ ร้าวนิดๆแล้วครับ.. ผมตอบกลับไป
..ถ้าร้าวเดี๋ยวพี่ปะให้นะครับน้องหนอน อยากเห็นหนอนน้องจัง เอ้ย น้องหนอนจัง.. พี่นายพิมพ์กลับมา
..ตลอดอะพี่นาย เมื่อกี้ยังอยากลองน้องแนนซี่อยู่เลย..  พี่แนนซี่พิมพ์มา
..รอหนอนลอกคราบเป็นผีเสื้อก่อนเถอะ จะมีแต่คนหลงรัก.. คราวนี้บุ้งพิมพ์มาบ้าง
..มึงเห็นหน้าน้องหนอนแล้วเหรอบุ้ง..


คนที่พิมพ์ประโยคล่าสุดคือพี่ปอง พี่ปองเรียนหมอ อยู่ปีสี่ มหาวิทยาลัยชื่อดังอยู่เหมือนกัน พี่ปองเคยแอบทักแยกมา ทีแรกก็ชวนคุย หลังๆมาก็จีบผมเลย จีบทั้งที่ไม่รู้ว่าผมเป็นใคร แต่ผมไม่ได้ตอบรับ ผมคุยกับพี่เขาเหมือนคุยกับเพื่อน ผมว่าพี่เขาก็คงรู้ ผมไม่ได้อยากมาหาแฟนในนี้ แค่อยากมีโลกอีกใบที่ผมสามารถเป็นได้อย่างที่ผมเป็น ขนาดเต็งหนึ่งที่เห็นหน้ากัน ผมยังเจอแบบนั้น แล้วผมจะรักคนที่ไม่รู้จักกันได้ยังไง แต่ผมก็ไม่ได้บอกใครแม้กระทั่งบุ้งว่าพี่ปองมาจีบผม


..เห็นแล้ว โคตรน่ารัก.. บุ้งตอบ ผมตกใจเหมือนกันที่บุ้งตอบแบบนั้น หรือบุ้งจะรู้ว่าผมคือใคร
..ไรวะ เอามาดูบ้างดิ๊ พี่น้อยใจนะน้องหนอน ไหนว่าขอให้รู้จักกันมากกว่านี้ค่อยให้ดูรูปไง.. พี่ปองพิมพ์มา
..มึงก็ไปเชื่อไอ้บุ้งมัน เรามีข้อตกลงกันแล้วไง ว่าจะไม่ยุ้งเรื่องส่วนตัวกันถ้าเจ้าตัวไม่ยินยอม.. พี่ระเบิดพิมพ์มาบ้าง พี่ระเบิดดูเป็นผู้ใหญ่เสมอ ผมก็แอบประทับใจนิสัยพี่เขานะ ทุกคนก็ดูจะเกรงใจพี่ระเบิดด้วย
..ฮ่าๆๆ จริง เชื่อบุ้งไข่เหี่ยวนะพี่ปอง..  พี่แนนซี่พิมพ์แซวมา
..ก๊ากกก ไหน ดูหน่อย เหี่ยวรึยัง.. บุ้งพิมพ์
..เชี้ยแหนม เดี๋ยวเอาไข่เหี่ยวๆยัดปากเลย.. พี่ปองพิมพ์มา แล้วทุกคนในกรุ๊ปก็พิมพ์เลขห้ายาวเป็นพรืด
..ว้ายยยย แบ่งคนละใบนะพี่แนนซี่.. บุ้งพิมพ์ตอบ ผมก็นั่งขำอยู่เหมือนกัน
..ดูอันนี้ยัง แม่ง กูดูแล้วตั้งเลย ใหม่ล่าสุด น้องหนอนยังเด็ก ห้ามดูนะครับ ส่วนอิบุ้งดูได้ เพราะหน้ามันล้ำอายุจริงแล้ว..


มาอีกคนแล้วครับ คนที่พิมพ์มาล่าสุดก็คือพี่กร ชื่อเหมือนผม แต่เขียนไม่เหมือนกัน พี่กรก็ทำงานแล้ว มีแฟนแล้ว แต่แฟนพี่กรเป็นผู้หญิง พี่กรเป็นไบเลยไม่เปิดเผยหน้าตา พี่กรกลัวว่าแฟนจะจับได้ ผมก็ไม่เข้าใจนะ พี่กรบอกว่ารักแฟนมากๆ แต่ก็อยากมีเซ็กส์กับผู้ชาย ผู้ชายทำให้พี่กรถึงกว่า แต่พี่กรไม่อยากคบกับผู้ชาย นี่ก็เป็นอีกความรู้หนึ่งที่ผมได้รู้จากที่นี่ ผมไม่รู้ว่ามีคนแบบพี่กรด้วย หลังจากที่ผมรู้ตัวว่าผมชอบผู้ชาย ผมก็ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับผู้หญิงเลย ยิ่งตอนที่ผมถูกเต็งหนึ่งปลดเปลื้องอารมณ์ให้ ผมยิ่งไม่รู้สึกว่าตัวเองมีความต้องการเลยเวลาดูหนังโป๊ผู้ชายกับผู้หญิงมีอะไรกัน นี่แหละครับที่บอกว่าผมได้ก้าวออกมาจากโลกใบเดิม จากเด็กดีที่เอาแต่เรียน ตอนนี้ผมดูหนังโป๊ชายรักชายที่ได้จากพี่ปองบ่อยๆ ผมช่วยตัวเอง ผมนึกถึงแต่ร่างกายของผู้ชาย ผมปลดเปลื้องอารมณ์ตัวเองบ่อยๆเวลาเครียดจากชีวิตประจำวัน ผมเหมือนคนสองคนที่อยู่ในร่างเดียว


..อ้าว เงียบกันหมด ส่งของทีไรหายไปดูกันหมด ไม่มีขอบคุณกันเลย.. พี่กรพิมพ์มาอีกรอบหลังจากส่งลิงค์หนังโป๊ให้แล้ว
..อยู่ ทำงานไปด้วย ยังไม่เลิกงานโว้ย.. พี่นายพิมพ์มา
..เออ ใครจะว่างแบบพี่กรวะ ดูคลิปโป๊แม่งทั้งวี่ทั้งวัน สักวันแฟนจับได้ขึ้นมาจะหาว่าแนนซี่ไม่เตือน..
..มึงอย่าพูด กูยิ่งเสียวๆอยู่ ทำไงได้วะ กับเขากูไม่ค่อยสุดว่ะ เฮ้อ..
พี่กรตอบ พวกเขาคงสนิทกันพอสมควร ดูได้จากใช้ภาษาพ่อขุน ด่าแซวกันแรงๆได้
..พี่กรมาหาบุ้งมามะ บุ้งจะยอมเป็นยาระบายให้.. บุ้งพิมพ์กลับมา
..กูว่ากูยิ่งหมดอารมณ์..
..ฮ่าๆๆ ปากร้ายนะไอ้กร..
พี่ระเบิดพิมพ์บ้าง
..ทำไม ว่าเด็กพี่ไม่ได้เลยนะ เคยกับมันก็ยอมรับมาเถอะ.. พี่นายแซวพี่ระเบิด
..ก็เด็ดอยู่.. พี่ระเบิดพิมพ์ตอบ ผมเบิกตาโต สรุปสองคนนี้ได้กันแล้วจริงๆเหรอ
..นั่นๆ ยอมรับแล้วโว้ย.. พี่ปองพิมพ์มา
..บ้าๆ พี่เบิดก็นะ บุ้งเขิน..
..พอๆ กูล้อเล่น เดี๋ยวเข้าใจผิดกันหมด.. พี่ระเบิดพิมพ์กลับ
..กลัวไอ้หนอนเข้าใจผิดละสิ.. บุ้งพิมพ์โต้กลับ ผมโดนบุ้งแซวอีกแล้ว บุ้งชอบแซวผมกับพี่ระเบิด
..หนอนของผมนะพี่เบิด ห้ามจีบ.. พี่ปองรีบพิมพ์มาแล้วส่งสติ๊กเก้อรูปปืนอันใหญ่มาด้วย
..เงียบไปเลยรายนั้น หายไปดูคลิปก่อนคนอื่นแล้วมั๊งเด็กน้อย ยิ่งห้ามยิ่งยุ.. พี่ระเบิดพิมพ์แซวผม
..เปล่านะ ผมพิมพ์ไม่ทัน แต่ก็อ่านอยู่.. ผมรีบปฏิเสธ ถึงจะรู้ว่า ที่นี่ผมเปิดตัวตนได้ แต่ผมก็ไม่อยากถูกมองว่าบ้าเซ็กส์ ถึงผมดูมันบ่อยๆ แต่เพราะมันเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับผม ไม่ถึงว่าถ้าไม่ได้ดูแล้วจะคลั่งสักหน่อย


“กลอน แม่เข้าไปได้ไหมลูก” เสียงของแม่เรียกอยู่ที่หน้าห้อง ผมรีบเอาโทรศัพท์เครื่องเก่าที่ใช้เล่นไลน์กรุ๊ปนี้เก็บใส่ลิ้นชัก

“ได้ครับแม่” ผมตะโกนกลับ แม่เดินเข้ามานั่งบนเตียง หนังสือเรียนที่ผมอ่านค้างเอาไว้กองอยู่บนหมอน แม่หยิบมาดูแล้วยิ้มให้ผม

“กลอนยังอ่านไม่จบเลยยังไม่ได้เก็บ” ผมบอก แม่ชอบความเป็นระเบียบ ซึ่งผมก็ติดความเป็นระเบียบเรียบร้อยมาจากแม่เยอะพอสมควร

“แม่จะเข้ามาบอกว่า ลูกชายของลุงการุณเขาย้ายมาเป็นครูฝึกสอนที่โรงเรียนของกลอน เคยเจอพี่เขารึยัง พี่เขาเก่งภาษาอังกฤษมากๆ วันนี้แม่ไปเจอพี่เขามา ลุงการุณเลยบอกว่าจะให้พี่เขามาช่วยสอนภาษาอังกฤษให้กลอน แม่ก็ตอบตกลงไปแล้ว เขาจะมาสอนให้ที่บ้าน พี่จะมาค้างด้วยทุกวันศุกร์ วันเสาร์สอนให้เต็มวัน”

“เหรอครับ กลอนยังไม่เคยเจอพี่เขาเลย เจอแต่ครูฝึกสอนผู้หญิงที่มาสอนห้องกลอน”

“เหรอ ถ้ายังไงลองไปตามหาพี่เขา ไปขอบคุณด้วยตัวเอง พี่เขาจะเริ่มมาสอนพรุ่งนี้เลยนะ แม่เห็นกลอนอ่อนอังกฤษกว่าวิชาอื่นๆเลยตอบตกลงโดยไม่ได้กลอนก่อน” แม่ลูบศีรษะผม ผมอ่อนอังกฤษกว่าวิชาอื่นก็จริง แต่ผมก็ได้เกรดสี่มาตลอด แต่ในสายตาของแม่ ท่านคงคิดว่าผมทำได้ดีกว่านี้

“ครับแม่”

“แม่ไม่กวนแล้ว อ่านหนังสือต่อเถอะ อย่านอนดึกนะลูก”

“ครับแม่”


แม่ออกไปแล้ว ผมก็เดินไปล็อกประตูห้อง จากนั้นก็ไปอาบน้ำ จัดตารางสอน กว่าจะได้กลับมาที่เตียงก็สี่ทุ่มกว่า ผมเปิดลิ้นชักหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ไลน์กรุ๊ปโชว์ข้อความที่ยังไม่ได้อ่านร้อยกว่าข้อความ มีข้อความทักแยกมาจากพี่ระเบิดกับพี่ปอง ผมไม่ได้เปิดอ่านของพี่ปอง ถ้าอ่านแล้วก็ต้องตอบ พอตอบแล้วจะยาว ผมขี้เกรงใจ ไม่กล้าเลิกคุยก่อน เลยเลือกเปิดแต่ของพี่ระเบิด พี่เขาไม่เคยทักผมมาก่อนเลย
 

..โกรธเหรอ เงียบหายไปเลย พี่แซวเล่นนะครับ..
..เปล่าครับ พอดีแม่มา เลยเลิกเล่นไปก่อน..
..แม่ไม่รู้ใช่ไหม..
..ครับ..
..พี่เข้าใจดี..
..ที่บ้านพี่ก็ไม่รู้เหรอครับ..
..อืม ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครรู้ มีเพื่อนสนิทจริงๆที่รู้ ก็ไม่เกินสามคน..
..แล้วพี่อึดอัดไหมครับ..
..ไม่เลย พี่เองก็ไม่อยากให้ใครรู้นะ พี่มีความสุขแบบที่พี่เป็น ถึงพ่อแม่อาจจะรับได้ แต่ท่านก็คงผิดหวังอยู่ดีถ้ารู้ ถ้าท่านไม่ได้บังคับให้พี่แต่งงานหรือไม่ได้มาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของพี่ พี่ก็ไม่อยากทำให้ท่านเสียใจ เรามีความสุขได้โดยที่ไม่ต้องให้ใครรู้นี่เนอะ..
ผมอ่านความคิดของพี่ระเบิดก็ยิ่งประทับใจ พี่เขาคิดเหมือนผมเลย
..ผมดีใจจังที่มีคนคิดเหมือนผม ทุกวันนี้ผมก็คิดว่าผมทำหน้าที่ของผมไม่ให้บกพร่องก็พอ..
..อืม ดีมากเด็กน้อย มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรืออยากระบายก็คุยกับพี่ได้นะ ในฐานะคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน อาจจะช่วยอะไรได้บ้าง..
..ทำไมไม่อาบน้ำอุ่นละครับ อาบน้ำร้อน เดี๋ยวก็พาผมไปร้อนด้วย..
..นั่น แสบเหมือนกันนะเรา..
..ฮ่าๆ ผมไม่ใช่หนอนหนังสืออย่างที่ทุกคนคิดหรอกนะจะบอกให้ ใสซื่อนั่นภาพมายา ฮ่าๆ..
ผมได้ทีคุยบ้าง ในเมื่อไม่รู้จักตัวตนผม ผมก็กล้าที่จะพิมพ์อะไรอย่างที่ใจคิดบ้าง
..พี่เชื่อ..
..เชื่อว่าอะไร..
..เชื่อว่าดูทุกคลิปที่ไอ้กรส่งให้ มันจะขึ้นบอกนะว่าใครเข้ามาดูบ้าง..
พี่ระเบิดบอก ผมอึ้งไปเลย อึ้งแบบไปต่อไม่ถูก
..ฮ่าๆๆ พี่ล้อเล่น โป๊ะแตกเลยใช่ไหม นี่แหละเด็กน้อย หลอกง่ายจริง.. พี่ระเบิดตอบมา ผมรีบถอนหายใจ หนอย มาแกล้งผมเหรอ
..ยอมรับก็ได้ว่าดู ก็อยากรู้ว่าเป็นยังไง..
..แล้วเป็นยังไงละ..
..ก็ มีอารมณ์..
ผมพิมพ์กลับไป บอกแล้วว่าผมกล้าที่จะพิมพ์นะ วงเล็บว่า ถ้าไม่ใช่ห้องรวม ฮ่าๆ
..แล้วทำยังไงต่อละ..
..เวลาพี่มีอารมณ์ พี่ทำยังไงละครับ..
..พี่โตแล้ว มีหลายวิธีที่จะทำ เรายังเด็ก คงได้แต่ จุ๊ดๆสินะ ฮ่าๆๆ..
พี่ระเบิดพิมพ์มา
..บอกวิธีผมบ้างสิ..
..เฮ้ยไม่เอา ยังเด็ก ช่วยตัวเองไปก่อนดีแล้ว..
..ไหนว่าปรึกษาได้ทุกเรื่องไง..
..ก็ปรึกษาได้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะช่วยทุกเรื่องนี่หว่า..
..ขี้โกง..
..เอ้า ไอ้เด็กแสบ..
..ไปคลิปที่พี่กรส่งมาดีกว่า..
ผมพิมพ์ไป
..เดี๋ยวๆ นี่ดึกแล้ว ดูแล้วเดี๋ยวคึกนะ..
..ไม่เห็นเป็นไรเลย..
ผมบอก
..ห้ามดูนะ เดี๋ยวจะสั่งไอ้กรไม่ให้ส่งห้องรวมแล้ว.. พี่ระเบิดพิมพ์ขู่มา
..พี่จะขัดขวางการศึกษาของเด็กรึไง..
..ฮ่าๆๆ พูดจาฉลาดนักนะ ไม่ดูนะครับ ดึกแล้ว ดูมากไม่ดีเดี๋ยวอยากลองของจริง..
..ผมไม่ใช่เด็กน้อยนะ ผมเคยมาแล้ว..
เพราะรู้สึกว่าพี่เขามองผมเหมือนเด็กไม่รู้จักโต ผมเลยพิมพ์แบบนี้กลับไป พิมพ์ไปแล้วก็รู้สึกว่าไม่น่าพิมพ์ไปเลย
..ถึงหนอนจะเคยมาแล้ว แต่พี่เชื่อว่ามันเกิดจากความรัก ครั้งต่อไป พี่ก้อยากให้มันเป็นความรัก ไม่ใช่ความใคร่ เข้าใจไหมครับ.. พออ่านที่พี่ระเบิดพิมพ์มา จู่ๆก็เหมือนมีก้อนอะไรสักก้อนมาจุกอยู่ที่คอ รู้สึกว่าพี่เขาเข้าใจผมทั้งที่เพิ่งเคยรู้จักกัน ผมตำหนิตัวเองมาตลอดเรื่องของเต็งหนึ่ง ผมด่าตัวเองทุกครั้งที่ส่องกระจกว่าผมมันคนใจง่าย แค่โดนเขาเล้าโลมก็อ่อนปวกเปียกไปหมด แต่พี่ระเบิดทำให้ผมดูมีค่ามากขึ้นแค่คำว่า ผมยอมเพราะความรัก
..ผมไม่ใช่เด็กใสซื่อบริสุทธิ์เท่าที่พี่คิดหรอก..
..พี่คิดอะไร หนอนไม่รู้หรอก อย่ามาเดาเลย นอนนะครับ เดี๋ยวพี่จะไลน์มาเช็คว่านอนรึยัง..
..ผมก็แกล้งไม่ตอบ พี่จะรู้ได้ไงว่าผมนอนจริงรึเปล่า..
..พี่เชื่อใจหนอนไง..
เอาอีกแล้ว พี่เขาทำผมอึ้งอีกแล้ว
..เชื่อคนง่ายไป ระวังถูกหลอก..
..สรุปว่าจะดูคลิปให้ได้ใช่ไหม อะ งั้นดูเลย เด็กดื้อเอ้ย..
..ฮ่าๆ ยอมรับว่าดื้อมาก..
..เปิดฟรีคอลได้ไหม..
พี่ระเบิดถาม พี่ปองก็เคยคอลมา แต่ผมไม่ได้รับ แต่พอพี่ระเบิดถาม ผมดันลังเล สุดท้ายก็ใจอ่อน คงเพราะรู้สึกไว้ใจมากกว่าพี่ปอง แค่คอล ได้ยินแค่เสียง คงไม่มีปัญหาอะไร
..ครับ.. พอผมตอบรับ พี่ระเบิดก็คอลมา ผมเลยกดรับ


“อยากฟังเสียงเด็กดื้อหน่อย ว่าจะดื้อออกทางเสียงรึเปล่า” เสียงของพี่ระเบิดนุ่มมาก เสียงหล่อเลยละ

“ดื้อไหมครับ” ผมตอบกลับไป

“ว้า ทำไมเสียงน่ารัก”

“อ้าว เสียงน่ารักก็ผิดหวังด้วยเหรอ” ผมถามกลับ

“นึกว่าเสียงจะแสบสุดๆ”

“หึ..ใช้เสียงเป็นกับดักไง” ผมตอบ พี่เขาหัวเราะ

“อะ ดูไปคลิป จะอยู่ฟัง”

“เฮ้ย ไม่เอาอะ” ผมรีบตอบ

“ทำไมละ” พี่เขาถาม

“คนเรามันก็ต้องอายปะ” ผมถามกลับ พี่เขาหัวเราะอีก

“ดี อายจะได้ดูแล้วหลับไปเลย ยิ่งถ้าอายมากๆ อารมณ์ไม่เกิด จะได้เลิกดู” พี่เขาตอบกลับมา

“โรคจิตเปล่าอะ ขัดขวางความสุขคนอื่น” ผมถาม พี่เขาหัวเราะดังกว่าเดิม

“เออ ยอมรับว่าโรคจิต ไปนอนไป๊ เด็กน้อย” พี่เขาไล่


ความอยากเอาชนะของผมวิ่งขึ้นมาเลย ผมกดเปิดเพลงจากเครื่องเล่นเบาๆ แม่รู้ว่าผมชอบเปิดเพลงบรรเลงของแฟรงค์ซิเนต้าก่อนนอน จริงๆแล้วผมเปิดกลบเสียงที่ไม่อยากให้แม่ได้ยินต่างหาก จากนั้นก็กดเปิดคลิปที่พี่กรส่งมาจากโน๊ตบุ๊ค วางโทรศัพท์เครื่องที่คอลไลน์ไว้ใกล้ลำโพงคอม เปิดเสียงพอให้ได้ยินเข้าไปถึงอีกฝ่าย ซึ่งผมเปิดลำโพงโทรศัพท์เอาไว้ด้วย


“เฮ้ย ดูจริงดิ ไอ้แสบเอ้ย” เสียงพี่ระเบิดดังออกมาจากลำโพง


ผมไม่ได้ตอบแต่หัวเราะคิกคักแทน สักพักได้ยินอีกฝ่ายเปิดคลิปเหมือนกัน เพราะได้ยินเสียงมาจากฝั่งพี่ระเบิด อยากจะแซวพี่เขาเหมือนกันว่าไม่แน่จริงนี่นา ก็อยากดูเหมือนกันแหละ แต่พอเผลอไปตั้งใจดูคลิปหนังที่พี่กรส่งมา สติเลยไปจดจ่ออยู่หน้าจอคอมแทน เป็นคลิปคู่รักคู่หนึ่ง ตั้งกล้องถ่ายกันเอง ทุกอย่างมันดูจริง ผมไม่รู้ว่ามันคลิปคู่รักจริงหรือเป็นแค่การแสดง ถ้าแสดง..ก็สมจริงมากๆ ร่างกายของผมเริ่มเกิดอารมณ์บางอย่าง ความต้องการมันพุ่งพล่าน มิน่าพี่กรถึงบอกว่าเด็ด ส่วนกลางของผมมันเริ่มปวดหนึบ บ่งบอกถึงอารมณ์ของวัยรุ่นที่ต้องการจะปลดปล่อยเต็มที่ ผมลืมไปเลยว่ามีพี่ระเบิดอยู่ในสายคอลไลน์ เพราะอีกฝ่ายก็เงียบไป ผมจดจ่ออยู่กับคลิปคู่รักร้อนแรงและผมก็กำลัง..ช่วยตัวเอง


มือของผมกำลังรูดรั้งส่วนกลางลำตัวเป็นจังหวะ ดวงตาของผมเลิกจดจ่อที่หน้าจอโน๊ตบุ๊ค แหงนหน้าขึ้นพร้อมกับหลับตาแล้วกัดริมฝีปาก สักพักเดียวผมก็ได้ยินเสียงชื้นแฉะ เสียงเดียวกับเสียงที่เกิดจากการปลดปล่อยอารมณ์ของผมดังมาจากในโทรศัพท์ ผมถึงได้นึกขึ้นได้ว่าพี่ระเบิดยังอยู่ในสาย แต่ความอายที่มีมันแพ้พายุอารมณ์ที่โหมกระหน่ำผมอยู่ และผมทำในสิ่งที่ไร้ยางอายกว่าการช่วยตัวเองให้กับคนแปลกหน้าได้ยิน ผมทิ้งตัวลงนอน หยิบโทรศัพท์มาแนบกับหู อีกมือก็ยังปลุกปั่นตัวเอง ผมเรียกชื่อพี่ระเบิดพร้อมกับส่งเสียงคราง ผมร้องขอให้เขาเรียกชื่อผม แต่ผมได้ยินเสียงระบายลมหายใจแรงๆดังกลับมาแทน ได้ยินเสียงเนื้อที่รูดรั้งดังแจะๆเป็นจังหวะเร็วและถี่มาจากพี่ระเบิด มันยิ่งทำพายุที่ก่อตัวมันรุนแรงยิ่งขึ้น ผมครางสะท้าน วูบวาบไปทั้งตัว หลับตามโนภาพว่ากำลังโดนใครสักคนช่วยผมอยู่ เมื่อพายุอารมณ์ป่วนปั่นผมจนถึงจุดหมายปลายทาง ผมปลดปล่อยออกมามากกว่าตอนที่ช่วยตัวเองคนเดียว เสียงหายใจหอบสะท้านของผมแผ่วเบากว่าเดิม


“เห็นไหมครับ ว่าผมก็เป็นแค่เด็กใจแตกไร้ยางอาย ไม่ใช่เด็กใสซื่อหรือความรักอย่างที่พี่บอกหรอก” ผมพูดใส่โทรศัพท์ ผมยอมรับว่าตัวเองมีความสุข ในความสุขนั้นมันปนไปด้วยความละอายใจในการกระทำที่ไม่คิดหักห้าม ผมเคยภูมิใจในตัวเองมากๆว่าตัวผมดีพร้อมในหลายๆอย่าง แต่ตอนนี้ความภูมิใจนั้นมันแทบไม่เหลือแล้ว แต่ผมจะยอมรับและไม่คิดปฏิเสธสิ่งที่ผมต้องการทำอีกแล้วเพราะมันก็คือตัวตนที่ผมเป็น แต่เป็นด้านที่ผมสัญญาว่าจะไม่แสดงมันออกมาให้พ่อกับแม่ได้รู้


“อย่าคิดมาก มันคือธรรมชาติของคน” เสียงพี่ระเบิดตอบกลับมา

“ธรรมชาติเหรอครับ ผมว่ามันผิดธรรมชาติมากๆเลยละ ฮ่าๆ” ผมหัวเราะ แต่เป็นเสียงหัวเราะที่ดูไม่จริงใจเอาเสียเลย

“อย่าที่หนอนบอกไง ทำหน้าที่ของตัวเองอย่าให้บกพร่อง ถ้าตราบใดไม่ได้ผิดผัวเมียใคร อยู่ในขอบเขตที่เราทำได้ มันไม่ได้ผิดอะไรนะครับเด็กน้อย บอกแล้วว่าพี่เข้าใจ สิ่งที่หนอนกำลังทำพี่ก็เคยทำมาทั้งนั้น ตอนนี้พี่ดูแลพ่อแม่ได้ดี พี่เลี้ยงดูตัวเองได้ดี พี่ทำประโยชน์ให้สังคมหลายอย่าง แล้วพี่ก็ช่วยตัวเองให้เด็กน้อยได้ยินเหมือนกัน เราไม่ได้ไปมั่วกับคนมากหน้าหลายตา มันไม่มีอะไรที่ผิดเลย เราไม่ได้ทำร้ายใคร อย่าลดคุณค่าตัวเองสิครับ จากนี้ไปก็ตั้งใจเรียนให้ดีดูแลตัวเองดีๆ เข้าใจไหม” พี่ระเบิดพูดกับผมด้วยเสียงที่นุ่มนวลอบอุ่น ผมยิ้มออกมาได้ในที่สุด


..ถ้าเต็งหนึ่งเป็นคนที่พาผมก้าวมาสู่โลกอีกใบ ผมคิดว่า..พี่ระเบิดก็คงเป็นเหมือนเข็มทิศ ที่คอยช่วยบอกว่าผมจะไปทางไหนถึงจะถูกทิศถูกทาง ผมจะลองเชื่อผู้ใหญ่ที่อาบน้ำมาก่อนในชีวิตด้านนี้ของผม ผมจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีพร้อมๆกับทำตัวเองให้มีความสุขในขอบเขตที่ผมทำได้..


“ขอบคุณนะครับพี่ระเบิด”

“ฝันดีเด็กน้อย ขอบใจนะที่ทำให้พี่แทบขาดใจ หึหึ”

“เหมือนกันครับ ฝันดีครับ” ผมตอบกลับไปก่อนจะวางโทรศัพท์ลง ปิดคลิปในโน๊ตบุ๊ค ลุกทำความสะอาดร่างกาย แล้วกลับมานอนอ่านหนังสือเรียนจนหลับไปในที่สุด


****โปรดติดตามตอนต่อไป****

มาต่อแล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (1) (12/08/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 12-08-2015 21:55:50
มาแย้วว :mc4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (1) (12/08/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 16-08-2015 10:07:02
เย้ รอติดตามตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (1) (12/08/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 16-08-2015 10:23:26
สนุกกกกง่ะะ  o13 เอาอีก ๆๆๆๆๆๆ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (1) (12/08/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-08-2015 11:12:13
 :katai2-1:   อูย เกือบจะพลาดแล้ว
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ
รอดูต่อไปว่าน้องจะเจอใครอีกในชีวิตจริง
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (1) (12/08/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 20-08-2015 21:36:06
รักคนเขียนค่ะ  บอกเลย

กลุ่มนี้อ่านแล้วยังน่ารักนะคะ    บางกลุ่มนี่แบบ..... o22

กลอนกำลังกลายมาเป็นผู้ใหญ่ทีละนิดๆ   เรียนรู้ชีวิตแบบที่ตัวตนเป็นในโลกของความเป็นจริงทีละหน่อย

จริงๆแล้วความรักกับเซ็กส์มันไม่จำเป็นต้องมาด้วยกัน มาแบบแยกๆก็ได้  แต่บรรทัดฐานของสังคมสอนให้เราตีกรอบการใช้ชีวิตตามแบบที่ควรเป็น น่าจะเป็น    ผู้หญิงส่วนใหญ่จะฝังจิตฝังใจมากๆกับการตีคู่เรื่องความรักกับเซ็กส์  ในขณะที่ผู้หญิงบางส่วนได้ก้าวเดินออกจากกรอบของค่านิยมไปแล้ว     บรรทัดฐานกับค่านิยมไม่ใช่เรื่องดีหรือแย่ไปทั้งหมดเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตในสังคมกับกลุ่มคนหมู่มาก    บางอย่างก็ควรจะเปลี่ยนหรือได้เปลี่ยนไปแล้วตามเวลา,ความสมควร, ความน่าจะเป็น  ที่สำคัญที่สุดก้คือการแยกแยะที่เป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นมากๆในการใช้ชีวิต
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (1) (12/08/58) P.1
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 21-08-2015 00:41:38
อยากอ่านต่อ กลอนค่อยๆเรียนรู้ไปสินะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน2 (21/08/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 21-08-2015 17:15:34
บทรักบทที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (ตอนที่ 2)


คาบเรียนในช่วงเช้าผ่านไปแล้ว ผมนั่งกินข้าวกับเด่น พุดและบาสเสร็จ ก็บอกว่าจะไปตามหาครูฝึกสอนที่เป็นลูกชายของลุงการุณ วันนี้เป็นวันศุกร์แรกที่พี่เขาจะไปค้างที่บ้านของผม แม่ให้ไปบอกพี่เขาว่าให้รอกลับพร้อมผมเลยในตอนเย็น น่าแปลกอยู่เหมือนกัน เพื่อนผมทั้งสามคนได้เจอพี่เขากันหมดแล้ว ยกเว้นผมคนเดียว ซึ่งพวกมันบอกว่าไม่แปลกใจหรอก เพราะผมสนใจแต่หนังสือ มันบอกว่า แต่ยังจำมันพวกมันได้ก็ถือว่าดีแล้ว ผมก็ได้แต่ขำคำแซวของพวกมัน ผมเดินมาถึงห้องพักครูภาคภาษาอังกฤษ พยายามชะเง้อเข้าไปข้างในก่อน แต่เพราะตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน เลยไม่มีใครอยู่ในห้องพักครูเลย พี่เขาก็คงไปพักทานข้าวเหมือนกัน ผมตัดสินใจจะเดินกลับไปนั่งเล่นที่ห้องสมุดก่อน แต่ผ่านสนามบาสได้ยินเสียงเฮๆดัง มีกลุ่มนักเรียนไปนั่งเชียร์อยู่ที่แสตนเชียร์ กลุ่มนักเรียนผู้หญิงที่มีอยู่น้อยนิดในโรงเรียนชายล้วนก็มารวมอยู่ที่นี่เกือบหมด ผมตัดสินใจหยุดยืนดู ก็มีพวกชมรมบาสกำลังแข่งบาสเก็ตบอลกันท่ามกลางแดดจัดแบบเอาจริงเอาจัง ผมก็ชอบเล่นนะ แต่กลางแดดจ้าแบบนี้ก็ไม่ไหว คนอื่นๆผมก็คุ้นตา แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ดูก็รู้ว่าคงไม่ใช่นักเรียนแน่ๆหน้าตาคุ้นๆเสียด้วย รูปร่างสมส่วน ผิวสีแทนที่เต็มไปด้วยเหงื่อผุดอยู่เต็มใบหน้า ลำคอและร่างกาย เสื้อยืดสีขาวบางๆเปียกชื้นเหงื่อจนแนบไปกับลำตัว เพราะความบางของเสื้อ พอถูกเหงื่อชโลมเข้าเลยไม่อาจปิดบังร่างกายที่ดูแข็งแกร่งได้ ผมได้ยืนมองลีลาการเล่นที่คล่องแคล้วจนทำแต้มลูกแล้วลูกเล่า คงเพราะคนๆนี้เอง ที่เรียกเสียงกรี๊ดจากนักเรียนหญิงและกลุ่มพลังชายใจหญิงเกรียวกราว ผมไม่ได้ตั้งเองนะ ที่โรงเรียนผมมีกลุ่มนี้จริงๆ เวลามีกิจกรรมอะไร ก็ได้นักเรียนกลุ่มนี้แหละที่สร้างสีสันเสมอ มีนักเรียนจากที่ระดับชั้นเลย ซึ่งหัวหน้ากลุ่มก็เป็นเพื่อนร่วมห้องของผมเอง ชื่อ เปี๊ยก เปิดเผยว่าเป็นผู้ชายที่รักจะเป็นหญิงทั้งใจและกายตั้งแต่มอต้น ซึ่งผมก็แอบได้รู้เรื่องเว็บชายรักชายจากเปี๊ยกนี่แหละครับ


พลั๊ก..กก...


ผมรู้สึกรับรู้ได้ถึงแรงอัดจากวัตถุบางอย่างเต็มๆใบหน้าของตัวเอง แรงนั้นทำให้ผมถึงกับล้มลงไปนอนกับพื้น ได้ยินเสียงกรี๊ดก่อนที่จะมีคนวิ่งมาจับแขนผม ตอนนี้ผมมึนหัวและรู้สึกถึงรสชาติความเค็มปร่าๆ


“กรี๊ดดดด ครูขา เลือดค่ะ กรกฏเลือดกำดาวไหลค่ะครู”

“ลุกไหวไหม” เสียงเข้มๆถามผม ผมมองใบหน้าที่รู้สึกคุ้นๆอยู่นานเลยยังไม่ได้ตอบ เขาคงนึกว่าผมลุกไม่ไหว ตัดสินใจช้อนตัวผมอุ้มลอยขึ้นมาจากพื้นจนผมตกใจ

“ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้ถูกวางลง เขายังคงอุ้มผมไปจนถึงห้องพยาบาลท่ามกลางสายตาของเพื่อนนักเรียนที่ผ่านมาเห็นพอดี

“ปวดหัวไหมกรกฏ” ครูบังอรถามผม ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ

“นอนพักไปก่อนแล้วกัน ไม่รู้ว่าถูกลูกบาสอัดแรงแค่ไหน ดีนะที่จมูกไม่หัก แต่ครูว่าเธอเปลี่ยนเสื้อดีกว่า เลือดเต็มไปหมด” ครูบังอรพูดจบก็เดินหายไปในห้องพักที่อยู่ในห้องพยาบาลอีกที เดินลับมาอีกทีพร้อมเสื้อพละตัวหนึ่ง

“ใส่นี่ไปก่อน แล้วค่อยซักมาคืนครูวันจันทร์”

“ขอบคุณครับครู” ผมยกมือไหว้และรับเสื้อมา ครูบังอรรูดผ้าม่านให้ผม ผมเลยปลดกระดุมเสื้อนักเรียนออก แล้วก็หยิบเสื้อพละมาใส่ จังหวะที่สวมเสื้อพละพ้นระดับสายตาก็ได้เห็นว่าคนที่พาผมมาส่งกำลังยืนกอดอกมองผมอยู่ที่ปลายเตียง ผมรีบดึงเสื้อลงให้เรียบร้อย

“ขอโทษนะ ที่ทำให้เจ็บ” เขาพูดกับผม

“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นอุบัติเหตุ ว่าแต่คุณ..เอ่อ ขอบคุณครับที่พาผมมาส่งห้องพยาบาล” ผมจะถามว่าเขาเป็นใครจะดูไม่ดีไหม ผมเลยยกมือไหว้ของคุณเขาแทน

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องไหว้หรอกกลอน”

“พี่รู้จักผมด้วยเหรอครับ อ๊ะ หรือว่าพี่คือลูกชายลุงการุณ” ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาน่าจะเป็นครูฝึกสอน ไม่อย่างนั้นคงเข้ามาเล่นบาสกับนักเรียนในโรงเรียนในเวลานี้ไม่ได้หรอก

“อืม พี่ชื่อรัน เรียกว่าพี่รันก็ได้”

“ไม่ได้หรอกครับ อยู่ในโรงเรียนต้องเรียกครูรัน เย็นนี้แม่ให้ครูรันกลับพร้อมผมเลย ผมไปหาครูที่ห้องพักมา แต่ไม่เจอครับ” ผมบอกพี่เขา พี่เขายิ้มๆแล้วเดินมายืนใกล้ๆเตียงพยาบาล ตัวพี่เขายังมีเหงื่อเต็มเลย เสื้อก็บางจนเห็นยอดอกสีเข้มและกล้ามมัดท้องของพี่เขา ผมดันพลาดไปจ้องมองเพราะมันอยู่ตรงระดับสายตาของผมพอดี พอเห็นว่าพี่เขามองหน้าผม ผมรีบหันหน้ามามองมือของตัวเอง รู้สึกขายหน้าที่ไปเผลอจ้อง

“เป็นเกย์เหรอเรา” พี่รันถามผม ผมชะงักอึ้ง รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ทำไมพี่เขาถึงรู้ ผมหันกลับมาจ้องหน้าพี่เขา แล้วภาพๆหนึ่งก็โผล่มาในหัว พี่รันเป็นคนที่ช่วยผมวันที่เต็งหนึ่งพยายามจะล่วงเกินผม จากวันนั้นผมไม่ได้เจอพี่เขาอีก ไม่คาดคิดเลยว่าคนที่ช่วยผมจะเป็นคนใกล้ตัว ผมเลยเครียด พี่เขาจะบอกพ่อกับแม่ของผมไหม จะบอกลุงการุณไหม

“พี่ไม่บอกใครหรอก ถ้าบอกคงบอกนานแล้ว” เหมือนพี่เขาจะรู้ว่าผมคิดอะไร

“คือ..ผม”

“ไม่ต้องอธิบายหรอก พี่ไม่ใช่คนที่จะพูดเรื่องไม่ควรพูด แต่มีข้อแม้อย่างหนึ่ง”

“อะไรเหรอครับ”

“ต่อไปนี้ต้องมาเล่นบาสด้วยกันทุกวัน”

“แค่นี้เองเหรอครับ ได้ครับ ผมก็เล่นบ่อยๆ”

“ตอนกลางวันนะ”

“อะ..อะไรนะครับ”

“เกิดมาเป็นผู้ชาย มันต้องหัดทำตัวให้แข็งแรง เอาตามนี้แหละ เจอกันตอนเย็นนะ” พี่รันพูดกับผมเสร็จก็เดินออกไปเลย ผมได้แต่งงว่าพี่เขาทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่ผมก็คงต้องทำแบบที่พี่เขาต้องการ ผมไม่อยากให้คนในครอบครัวรู้จริงๆ ถึงจะรู้ว่าความลับไม่มีในโลก แต่ปิดให้นานที่สุดได้เท่าไหร่ยิ่งดี


...


..ไงแก วันนี้โดนพี่ขาโหดสั่งให้เล่นบาสอีกรึเปล่าวะ..


เสียงไลน์ดังขึ้นมาหลังจากที่ผมออกมาจากห้องน้ำพอดี คนที่ทักมาคือบุ้ง ผมเล่าให้บุ้งฟังเรื่องของพี่รัน โดนใช้ชื่อของพี่รันว่าพี่ขาโหด  นี่ก็เข้าสู่ศุกร์ที่สองแล้วที่พี่เขามาค้างบ้านของผม วันศุกร์แรกที่พี่เขามา ผมเกร็งแทบตาย กลัวพี่เขาจะพูดเรื่องของผม แต่พี่เขาไม่ได้แสดงอะไรออกมาเลย พูดคุยกับพ่อแม่ของผมแบบสนิทสนม แถมยังชมว่าผมเป็นเด็กดี มีแต่ครูชมให้ฟัง เล่นเอาแม่ผมยิ้มไม่หุบ บุ้งแซวว่า ผมแอบลักหลับพี่เขารึเปล่า ผมตอบบุ้งไปว่า พี่เขามีแฟน เห็นคุยกับแฟนตั้งนาน ขืนผมไปลักหลับคงโดนเตะก้านคอหักแน่ๆ


..โดนสิ ตัวเราดำไปหมดแล้วบุ้ง วันแรกนี่แทบร้องไห้ แสบผิว.. ผมตอบ
..แล้ววันนี้มาค้างเปล่า วันศุกร์ไม่ใช่เหรอ..
..มาดิ แต่คุยกับแม่เราอยู่ข้างล่าง..
..เขาเกลียดเกย์เปล่าวะหนอน ถึงอยากให้แกเล่นบาส แมนๆไรงี้..
..เกี่ยวเหรอ..
ผมถาม แต่ก็แอบคิดตาม ศุกร์ที่แล้วที่พี่เขามาค้าง ดูเขาเกร็งๆ มองสำรวจห้องผม แต่ผมก็เป็นผม ไม่ได้เกร็งอะไร พูดคุยกับพี่เขาแบบปกติ สักพักพี่เขาถึงดูผ่อนคลาย แต่มาคิดๆดู พี่เขาก็ชอบพูดว่าเสียดาย ถ้าผมไม่ได้เป็นแบบนี้ พี่เขาจะติดต่อหาแฟนให้ เหมือนพูดเล่นๆ หรือเขาจะไม่ชอบเกย์จริงๆ
..ไม่รู้ดิ เดาเอา แล้วแกได้คุยกับพี่ระเบิดบ้างรึเปล่า ดูพี่เขาเครียดๆ.. บุ้งถามผม
..ไม่ได้คุยมาสองสามวันแล้ว พี่เขาเครียดเรื่องอะไรเหรอ..
..พูดงี้แปลว่าคุยเกือบทุกวันเลยดิ แหมๆ เงียบๆฟาดเรียดนะแก ถ้าแกได้พี่เบิดนะ เหมือนถูกหวย..
..บ้า เราเป็นพี่น้องกัน..
..พี่น้องท้องชนตูดมีเยอะแยะไป..
..555 บ้า..
..แต่นี่แก รำคาญพี่ปองชิบหาย จะให้ฉันเอารูปแกมาให้ได้ สงสัยไม่เห็นแกคงช่วยตัวเองไม่สำเร็จ..
..ปล่อยไปเดี๋ยวก็เลิก คนไม่เคยเห็นหน้าจะมาชอบอะไรมากมาย ตลก..
ผมตอบไป
..เออ นี่ก็ทักมา แต่ไม่ได้อ่าน ขี้เกียจ..
..ได้ยินเสียงพี่ขาโหดขึ้นมาแล้ว แค่นี้ก่อนนะบุ้ง..
..เค..


“แชทคุยกับเพื่อนเหรอ” พี่รันเปิดประตูเข้ามาทันเห็นผมพิมพ์แชทพอดี

“ครับ”

“ก็คุยต่อสิ”

“ไม่เป็นไรครับ จะเรียนกันเลยไหมครับ”

“เรียนเลยก็ได้”


ผมนั่งฟังที่พี่รันสอนเพลินๆ ผมเป็นคนที่เวลาครูสอนจะตั้งใจฟังจะยังไม่จด นอกจากเรื่องที่ผมกลัวจะจำไม่ได้ถึงจะจด ไม่ได้ชมตัวเองนะ แต่สมองผมมันก็พอจะจำที่พี่เขาพูดได้ พอพี่เขาพูดจบผมถึงจะมาช็อตโน้ตสิ่งสำคัญๆที่ผมจำในแบบของผมเอาไว้ แต่ผมไม่รู้ว่าการนั่งจ้องมองพี่เขาจะทำให้เขาอึดอัดรึเปล่า


“พี่รันอึดอัดรึเปล่าที่ต้องมาสอนผม” ผมถามออกไปตรงๆ

“เปล่านี่ ทำไมถึงถาม”

“ไม่รู้สิ พี่อาจจะไม่ชอบที่ผมเป็น..” ผมไม่ได้พูดต่อ

“เลิกเป็นได้ไหมละ” พี่เขาถามผม ผมมองพี่เขา กัดริมฝีปาก อาจจะเป็นแบบที่บุ้งบอก พี่รันอาจจะอึดอัดที่ต้องใกล้ชิดกับผม

“พี่เลิกสอนผมจะง่ายกว่าครับ” ผมไม่ได้พูดแบบก้าวร้าวนะ พูดดีๆแต่พูดตรงๆ

“พี่ไม่ได้รังเกียจกลอนหรอก อย่าคิดมาก”

“พี่รันพูดตรงๆกับกลอนได้นะ กลอนก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะเป็นแบบที่เป็น แต่ในเมื่อมันคือตัวตนของกลอน กลอนคิดว่ากลอนไม่ได้ทำร้ายใคร”

“แน่ใจว่าไม่ได้ทำร้ายใคร กลอนไม่คิดว่าคุณน้าทั้งสองจะเสียใจเหรอ แล้วเพราะเป็นแบบนี้ กลอนเกือบถูกเพื่อนคนนั้น..”

“พอเถอะครับ” ผมบอก น้ำตาเริ่มรื้นขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ผมรู้ว่าผมคงทำให้พ่อแม่ผิดหวังหรือเสียใจ แต่จะให้ผมทำยังไง

“พี่ขอโทษนะ พี่แค่เห็นกลอนเป็นเด็กดี เป็นความหวังของคุณน้า”

“ขอบคุณครับที่เป็นห่วง กลอนจะทำหน้าที่ลูกให้ดีที่สุด หลอนจะเรียนให้ดี มีงานการที่ดีเลี้ยงดูพวกท่านให้ได้ แต่การที่กลอนเป็นแบบนี้มันไม่ใช่โรค มันรักษาไม่ได้ ถ้าพี่รันอึดอัดจริงๆ กลอนจะบอกแม่เองว่ากลอนเรียนไม่ไหว ขอบคุณที่พี่อดทนปิดบังให้กลอนนะครับ” ผมบอกพี่รันพร้อมกับเช็ดน้ำตาไปด้วย ต่อมน้ำตาของผมทำงานได้ง่ายๆเมื่อพูดถึงพ่อกับแม่

“พี่ขอโทษนะ พี่ไม่ได้รังเกียจกลอนจริงๆ” พี่เขาพูดจบจู่ๆเขาก็ดึงผมไปกอด ลูบศีรษะของผมด้วยความอ่อนโยน ผมแปลกใจ แต่ก็คิดว่าพี่เขาคงรู้สึกผิดที่พูดกระทบใจของผม


วันเวลาดำเนินผ่านไปจนครบหนึ่งเดือนที่พี่รันมาสอนผม เราสนิทกันมากขึ้น พี่รันไม่ได้พูดหรือแสดงท่าทีอะไรกดดันผมอีก ผมไปเล่นบาสกับพี่รันทุกกลางวัน ไอ้เด่นบอกว่าผมเรียกเรทติ้งสาวๆในโรงเรียนไปจนหมด สนามบาสของโรงเรียนกลายเป็นศูนย์กลางของนักเรียนที่จะมารวมตัวกันดูพวกผมแข่งบาสกัน ผมมีเพื่อนเพิ่มมากขึ้นจากการมาเล่นบาส จากคนที่กลัวแดด ความขี้สำอางของผมก็เบาบางลง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็โป๊ะครีมกันแดดเยอะพอสมควร โดนแดดจัดๆผมก็กลัวเป็นมะเร็งนี่ครับ แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่แปลกไป คือพอมีเพื่อนที่เล่นบาสด้วยกันมากอดคอผมหรือเข้ามารุมผมตอนผมทำแต้มได้ พี่รันดูจะหงุดหงิดแล้วก็ไล่ๆให้แยกไปเล่นต่อ ตอนที่ผมไปอาบน้ำล้างเหงื่อ พี่รันก็จะสั่งให้ผมไปอาบที่ห้องพักครู ผมเล่าให้บุ้งมันฟัง มันก็บอกว่า พี่รันอาจจะยอมรับผมได้แล้ว อาจจะเห็นผมเป็นน้องสาวไปแล้วเลยหวง ผมก็ขำข้อวินิจฉัยของบุ้ง แต่มันก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะพี่รันบอกผมว่า ถ้าผมมีแฟนจะต้องให้พี่รันสกรีนให้ก่อน


“วันนี้วันเกิดพี่ ไปดูหนังกันไหม พี่ขอคุณน้าให้แล้ว พี่เอารถพ่อมา” พี่รันบอกกับผมในตอนเย็น

“อ้าว โห กลอนแย่จริงๆ ไม่รู้เลยอะครับ ไม่ได้เตรียมของขวัญให้พี่เลย”

“ไม่เป็นไร มันไม่สำคัญหรอก ปกติวันเกิดพี่ก็อยู่คนเดียวประจำอยู่แล้ว” พี่รันบอกผม ผมพอจะรู้มาจากแม่ว่าลุงการุณเจ้าชู้ มีเมียน้อยเยอะ บางทีก็พาเข้าบ้านตั้งแต่พี่รันยังเด็กๆ

“แต่ปีนี้มีกลอนอยู่ด้วยแล้วไง ดีเหมือนกัน กลอนเองก็ไม่เคยได้ออกมาจากบ้านหลังตะวันตกดินบ่อยๆ”

“เป็นหมาป่ารึไง กลัวพระจันทร์เหรอ” พี่รันถามผม

“แง่งงงง” ผมทำท่าขู่จนพี่รันหัวเราะ พี่รันพาผมไปนั่งกินข้าวที่ร้านอาหาร ดีเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่พี่รันแม่คงไม่ให้ผมมา

“กินเยอะๆหน่อย ผอมจะแย่แล้วเราอะ”

“กลอนก็กินเยอะนะ”

“เยอะที่ไหน พี่เห็นกินนิดเดียวทุกที กับข้าวฝีมือคุณน้าอร่อยจะตาย พี่ยังอยากไปกินทุกวันเลย”

“พี่ก็มาอยู่กับพวกเราที่บ้านสิครับ ไม่ต้องไปอยู่บ้านพักครู” ผมบอก พี่รันอึ้งไปนิดๆก่อนจะยิ้มให้ผม

“พี่อิจฉากลอนนะ มีครอบครัวที่อบอุ่น”

“พี่รันก็คือคนในครอบครัวผมนะ”

“คิดดูก่อน มีน้องหน้าตาดี เรียนก็เก่ง แพ้หมดทุกทางแบบนี้ คงเป็นพี่ที่ไม่น่าภูมิใจ” พี่รันพูดขำๆ ผมยิ้มให้พี่เขา บอกตรงๆว่าผมรู้สึกดีกับพี่รันมากๆ พี่เขาดูอบอุ่น แต่ผมรู้ว่าสำหรับเรามันเป็นไปไม่ได้ ผมรักพี่เขาไม่ได้และพี่เขาก็ไม่ได้รักผม

“กลอนภูมิใจในตัวพี่นะ เผื่อพี่อยากรู้” ผมบอก พี่รันยิ้มแล้วโยกหัวผม ทานข้าวกันเสร็จก็ได้เวลาที่หนังจะเริ่มฉาย ผมรู้สึกสนุกนะ แต่พี่รันดูจะเงียบๆ จนกระทั่งหนังจบ

“พี่มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ” ผมถาม

“ไม่มีอะไรหรอก นี่ก็สามทุ่มแล้ว ไปกินขนมที่ท่าน้ำต่อดีกว่าแล้วค่อยกลับบ้านกัน”


พี่รันพาผมมาที่ตลาดท่าน้ำ ผมซื้อน้ำแข็งไสใส่ถ้วยโฟมมากิน แต่พี่รันแวะซื้อเบียร์มาดื่ม แต่เราขับรถมาจอดที่ใต้ต้นมะขามริมน้ำ พี่รันบอกว่าเป็นที่โปรดของพี่รัน ผมว่าพี่เขาต้องมีเรื่องไม่สบายใจมาแน่เลยหรือเขาจะทะเลาะกับแฟน พักนี้ไม่เห็นโทรคุยกับแฟนเลย แต่ผมก็ไม่กล้าถามหรอก ผมกินน้ำแข็งไสจนหมดถ้วย พี่รันก็เริ่มดื่มเบียร์กระป๋องที่สอง ตอนที่ไปซื้อน้ำแข็งไส ผมแอบไปซื้อขนมปียกปูนที่ร้านขนมไทยมา แล้วก็ขอซื้อเทียนไขกับไฟแช็คจากร้านอาหารตามสั่งมาด้วย ผมหันมาปักเทียนลงบนขนม จุดเทียนแล้วถึงหันไปหาพี่รัน พร้อมกับร้องเพลงอวยพรให้ด้วย พี่รันทำหน้าประหลาดใจก่อนจะยิ้มให้ผม


“อธิษฐานเลยครับ” ผมบอก พี่รันหลับตาลงพักหนึ่งก่อนจะลืมตาแล้วเป่าเทียน

“เปียกปูน..เหมือนถวายราหูเลยนะ เทียนก็มี ขาดแต่ธูปนะ” พี่รันแซวผม ผมขำพรวดออกมาเลย ไม่ได้นึกถึงขนาดนั้น แต่พอพี่รันพูดออกมาก็เห็นจริงตามนั้น

“กินน้ำแข็งไสจนปากแดงเลย” พี่รันมองที่ปากของผม ผมเบะปากออก พยายามมองปากของตัวเอง แล้วสิ่งที่ไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดขึ้นก็เกิดขึ้น ผมถูกพี่รันจูบ รสเบียร์ขมๆผสมปนเปกับรสชาติของน้ำแดงเฮลบลูบอย จูบของพี่รันร้อนแรงมาก มากจนผมหายใจแทบไม่ทัน ผมรีบดันอกของพี่รันออก

“พี่รัน..”

“พี่..พี่ขอโทษ..” พี่รันบอก


พี่รันลูบใบหน้าของตัวเองก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกไปอย่างเร็ว ผมใจเต้นตึกตักๆ ไม่กล้าหันไปมองพี่เขา จนพี่รันขับรถมาถึงบ้าน ผมเดินตัวลอยๆขึ้นบ้านไป แต่พี่รันยังในอยู่ในรถ แม่เปิดประตูห้องนอนมาถามว่ากลับมาแล้วเหรอ ผมรีบตอบรับ แม่ถึงปิดประตูกลับไป นี่มันก็ห้าทุ่มแล้ว ปกติแม่กับพ่อก็เข้านอนแล้วเวลานี้ ผมคิดว่าพี่รันอาจจะกลับไปนอนที่บ้านพักครู พี่เขาอาจจะเข้าหน้าผมไม่ติด ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร แต่สิ่งที่ทำให้ผมคิดหนักกว่าคือผมดันเผลอจูบตอบพี่เขาไป คงเพราะในใจผมแอบเก็บพี่รันเอาไว้ในใจมาโดยตลอด เลยปฏิเสธไม่ได้ว่าผมรู้สึกดี ผมขึ้นมาถึงห้องก็รีบเข้าไปอาบน้ำ กะว่าออกมาจะโทรหาพี่รัน ไม่อยากให้พี่เขาคิดมาก ถึงพี่เขาไม่ได้รักผมและผมจะรักพี่เขาไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากให้ความเป็นพี่น้องของเราต้องเสียไป ผมอาบน้ำออกมาก็ต้องตกใจเพราะพี่รันมานั่งอยู่บนเตียงของผมแล้ว ผมนึกว่าพี่เขากลับไปแล้ว


“กลอน..พี่..” พี่รันมีสีหน้าไม่ดีเลย หลบตาผมด้วย

“ไม่เป็นไรครับ พี่ไปอาบน้ำนะ พรุ่งนี้เราไปใส่บาตรกัน เลยวันเกิดมาแล้วแต่พระท่านรอได้” ผมบอกพี่รัน พยายามพูดให้เป็นปกติ เล่นมุขให้พี่เขาสบายใจ พี่รันเงยหน้าขึ้นมามองผม เราสองคนสบตากันอยู่นานโดยไม่ได้พูดอะไรกันต่อ แล้วพี่รันก็ดึงมือผมให้ลงไปนอนบนที่นอน ผมยังอยู่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำอยู่เลย

“พี่พยายามหักห้ามแล้ว พี่ทำไม่ได้ ไม่รู้ว่ากลอนเข้ามาในใจพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่กลอนเข้ามาแล้ว..” พี่รันกอดผมแน่น น้ำเสียงของพี่รันสั่นเครือ ผมบอกไม่ถูกว่าดีใจหรือจะยังไงดี บอกตรงๆว่าผมกลัว พี่รันไม่ได้เป็นเกย์ แต่อาจจะเหงาแล้วสับสน  ผมไม่คิดว่าพี่รันจะรักผม

“พี่ พี่ทะเลาะกับแฟนเหรอครับ” ผมถาม

“เปล่า พี่ขอเลิกกับเขาเอง”

“พี่รัน...คือ กลอน..”

“พี่ขอโทษนะ พี่ขอโทษ ทั้งที่พี่อยากให้กลอนเลิกเป็น แต่พี่กลับเลิกสนใจกลอนไม่ได้เลยสักนาทีเดียว พี่เข้าใจแล้ว ว่าเรื่องแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้ ทุกครั้งที่พี่มาค้างที่นี่ พี่อยากเอื้อมมือไปกอดกลอน แต่พอพี่คิดว่า ตัวพี่เองจะเป็นฝ่ายที่ทำให้คุณน้าผิดหวัง พี่ก็ต้องอดทน แต่..สุดท้ายแล้ว..พี่..” พี่รันถอนหายใจ ผมเชื่อนะว่าสิ่งที่พี่รับพูดออกมามันไม่ใช่เรื่องโกหก ผมบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่มันเป็นความรู้สึก พี่รันใส่ใจผมมากขึ้นๆ อ่อนโยนกับผม ดูแลผมอย่างดีมาตลอด ถ้าพี่รันเป็นคนอื่น ผมคงคิดว่าพี่รันต้องมีใจให้ผม แต่เพราะเป็นพี่รัน ผมเลยคิดว่าพี่รันเอ็นดูผมเหมือนน้อง ผมเห็นความต่างของพี่รันกับเต็งหนึ่ง ระหว่างการเป็นผู้ให้และการเป็นผู้รับ

“พี่อยากกอดกลอนไหม” ผมถาม พี่รันทำหน้าตกใจ ผมไม่รู้ว่ามันถูกหรือผิด แต่สำหรับผม นี่คือขอบเขตแห่งความสุขของผม แม้ว่าอนาคตมันอาจจะทำให้ผมต้องเสียใจ แต่ผมก็ไม่อยากปฏิเสธมัน แม้อีกซีกหนึ่งของความคิดจะบอกว่า ผมไม่ควรทำ แต่มันเป็นซีกที่น้อยจนผมไม่ได้รับฟังมัน

“ถ้าพี่ต้องการกลอนจะให้ อะไรก็ได้ที่พี่มีความสุข แล้วถ้าพรุ่งนี้พี่จะอยากให้กลอนเป็นแค่น้อง กลอนก็จะเป็นให้” ผมพูดออกไปอีก พี่รันยังคงทำหน้าตกใจ ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งกุมหัว ผมลุกตามขึ้นมา เห็นพี่รันยังคงนั่งอยู่ท่าเดิม ผมเลยลุกไปจะใส่เสื้อผ้า แต่เพียงแค่ลุกขึ้น พี่รันก็คว้าข้อมือของผม

“พรุ่งนี้ไปหาพ่อของพี่กันนะ พี่อยากให้ผู้ใหญ่รับรู้เรื่องของเราด้วย” พี่รันบอก ผมอึ้งไป

“ไม่เป็นไรครับ คือ..กลอน..เป็นผู้ชาย พี่ไม่ต้องกังวลอะไรนะ จริงๆนะครับ” ผมไม่ได้อยากให้ใครรับรู้ แต่ผมเข้าใจว่านี่คือการให้เกียรติผม แม้ว่าผมจะเป็นแค่เด็กผู้ชาย แต่ผมก็รู้สึกประทับใจกับสิ่งที่พี่รันคิดจะทำเพื่อผม

“นะ ไปเถอะ พ่อของพี่ท่านจะเข้าใจ ท่านไม่บอกพ่อแม่ของกลอนหรอก นะครับ” พี่รันบอก ผมลังเลอยู่สักพัก พอเห็นสายตาที่วิงวอนของพี่รันผมก็เลยพยักหน้า เพียงแค่นั้นพี่กลอนก็ดึงผมไปนั่งตัก

“พี่ขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ พี่อยากกอดกลอนแบบนี้มานานแล้ว” พี่รันบอกผม


ผมถึงพี่รันดึงให้ลงไปนอนบนที่นอนนุ่มๆอีกครั้ง พี่รันถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก ผมใจเต้นแรง ยิ่งเห็นรูปร่างของพี่รันผมยิ่งใจเต้น พี่รันดูดีกว่าเต็งหนึ่งหลายเท่า แม้จะหน้าตาธรรมดา แต่พี่เขาดูแข็งแรงแบบนักกีฬา ผมลูบไปบนกล้ามท้องของพี่รันเบาๆ พี่รันเกร็งหน้าท้องเมื่อปลายนิ้วผมลูบผ่าน พี่เขาดึงเชือกผูกเอวของผมออกแล้วตวัดเสื้อคลุมผมออกอย่างแรงจนมันฉีกขาด มือแกร่งลูบที่ผิวกายของผมจนผมสั่นสะท้านไปหมด พี่รันถอดกางเกงตัวเองออกจนร่างของเราสองคนเปลือยเปล่า ขนาดว่าผมตากแดดบ่อยๆ แต่เมื่อเทียบกับผิวสีแทนของพี่รัน ร่างกายของผมก็ขาวขึ้นถนัดตา มือเกร็งลูบเบาที่แก้มของผมก่อนจะโน้มตัวลงมาประทับจูบที่ร้อนแรงให้ผม เป็นจูบที่เร้าร้อนสมกับเป็นพี่รัน ผมร้อนวูบวาบไปหมด ร่างกายตอบสนองพี่รันแทบจะทันที ปวดตึงส่วนกลางทั้งที่พี่เขาแค่จูบผม


“พี่รัน อื้มมมม...” ผมร้องครวญครางเมื่อพี่รันตวัดปลายลิ้นลงบนยอดอกของผม ริมฝีปากขบเม้มจนผมต้องดิ้นเร่าๆ มันเสียวสะท้านไปหมด พี่รันร้อนแรงจนผมแทบละลาย มือหนาตะโปมลูบไล้ไปทั่วร่างของผม พี่รันจูบไปถึงหน้าท้อง ผมแอบเห็นว่าพี่เขาลังเลเมื่อเห็นส่วนกลางของผม ผมเลยพลิกตัวพี่รันให้นอนหงายแทน ส่วนผมก็ลงไปนั่งขุกเข่ากับพื้นห้อง อยู่ตรงหว่างขาพี่เขา

“กลอน ใช้มือก็ได้” พี่รันบอก ผมไม่ได้ตอบ แต่ใช้มือรูดรั้งแกนกายของพี่รัน แกนกายที่มันพองเต็มที่จะเส้นเอ็นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“ซี๊ดด เสียวมากเลยกลอน” พี่รันร้องซี๊ดทันทีแล้วหายใจแรงๆ ผมครอบรอมฝีปากลงไป พี่รันชะงักนิดหนึ่งแต่ก็ไม่ได้ขัดอะไร พี่เขาหายใจแรงกว่าเดิม ส่งเสียงครางในลำคอ ยิ่งผมเร่งจังหวะ พี่เขาก็สวนสะโพกกลับมาจนผมแทบสำลัก แต่ผมก็ยังคงทำต่อไป ทำตามแบบที่เห็นในคลิปที่พี่กรส่งมาให้ดูบ่อยๆ  ผมรูดรั้งด้วยปากจนพี่รันร้องซี๊ดดังและปลดปล่อยมันออกมาคาปากของผม ผมดึงทิชชูมาบ้วนทิ้ง พี่รันพรูลมหายใจ แล้วก็ดึงผมกลับไปนอนใหม่ พี่รันดูดหน้าอกผมใหม่อีกรอบ บีบเค้นจนผมเจ็บ จากนั้นพี่เขาก็ใช้มือช่วยรูดรั้งให้ผมจนผมถึงที่หมายเหมือนกัน จากนั้นพี่เขาถึงได้มานอนกอดผมเอาไว้

“กลอนเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิตพี่เลย”

“ดีใจนะครับที่ได้ยินแบบนั้น”

“เคยทำแบบนี้ให้ใครรึเปล่า” พี่รันถามผม ผมอึ้งไป

“ไม่เป็นไร มันเรื่องของอดีต แต่ต่อไปนี้ทำไม่ได้แล้วนะ ห้ามแชทกับใครด้วย”

“โอ้โห หวงผมแล้วเหรอ”

“หวงมานานแล้ว”

“พี่รันน่ารักจัง” ผมบอก

พี่รันหอมผมแล้วก็จูบผมอีก คืนนั้นเราช่วยกันเกือบทั้งคืน มาได้นอนก็เกือบเช้า แต่พี่รันไม่ได้ใช้ปากให้ผม ใช้มือช่วยผมตลอด ผมคิดว่าพี่เขาคงยังไม่คุ้น แล้วก็ดีที่พี่เขาบอกว่าจะไม่สอดใส่ผมจนกว่าผมจะเรียนจบ พี่รันก็ยังคงเป็นพี่ที่น่ารักที่นึกถึงอนาคตของผม ผมดีใจที่ได้รักคนที่รักผมเหมือนกัน หวังว่าความรักครั้งนี้คงจะยาวนาน แม้จะคิดแบบนั้น แต่ผมรู้สึกว่า ความกลัวมันยังคงซ่อนอยู่ในใจลึกๆไม่เคยจางหายไปเลย 


*******โปรดติดตามตอนต่อไป*********

เรื่องนี้จะเป็นบทๆ แต่ละบทอาจจะมีถึงสองสามตอนนะคะ
อาจจะมองว่าน้องกลอนใจง่าย แต่มันก็เป็นแบบชะนี้แล 5555
บอกแล้วว่าคงไม่ใช่นิยายโลกสวยนะคะ แต่ผู้แต่งสวยละกัน ฮ่าๆๆๆ
ล้อเล่นค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เรื่อยๆแต่มาเรียงๆ ไม่หนีไม่หายไม่ให้ค้างคาจ้า


หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน 2 (21/08/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-08-2015 17:51:10
 :impress2:   พี่รันน่ารักเวอร์
กลอนไม่ได้ใจง่ายหรอก. เราเข้าใจนะ
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน 2 (21/08/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 21-08-2015 18:15:17
น้องกลอนนี่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าพี่รันอีกนะในหลายๆแง่   บอกตรงๆว่าไม่ได้รู้สึกเลยว่ากลอนง่ายเกินไป   คือเหมือนกับเวลาและสถาณการณ์มันเป๊ะ ใช่พอดี   

ในขณะที่ ณ ตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงที่เด็กๆในวัยกลอนเริ่มริลองเรื่องทางเพศกัน   กลอนจะอยากลองบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก    แต่ความรู้สึกระหว่างกลอนกับรันไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเป็นการลองเลยนะ  ไม่ว่ารันจะเป็นคนที่ใช่หรือไม่ เราก็คิดว่ากลอนไม่ได้เป็นคนง่ายเกินไป    แต่ความรู้สึกบอกว่าท่าจะยาก เพราะว่ารันเองก็คงไม่อยากที่จะคบเพศเดียวกันแบบเปิดเผย    ไม่รู้สิอ่านตอนนี้แล้วคิดว่ากลอนเป็นเด็กที่ levelheaded มากพอตัว

ถ้าพี่รันกลายเป็นพี่เบิดแล้วก็โกโกครั๊นช์แน่ๆค่ะ งานนี้  มโนไปโน่นเลย

ชอบน้องบุ้งค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน 2 (21/08/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 23-08-2015 01:41:04
น้องกลอนมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ดีนะ

ขอบคุณทึ่เหมือนมาแชร์ประสบการณ์จริงให้ได้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน 2 (21/08/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 26-08-2015 22:25:19
รู้เลยว่าเรื่องนี้จะต้องดาร์กขึ้นเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน 2 (21/08/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 26-08-2015 23:44:19
สู้นะกลอน พี่รันอย่ามาหลอกน้องนะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน 2 (21/08/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 28-08-2015 21:02:43
มีดราม่าแน่ๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน 2 (21/08/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 29-08-2015 00:12:58
รอ
หัวข้อ: Re:=บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน 3 (05/09/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 05-09-2015 13:59:56
บทรักบทที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (ตอนที่ 3)


ผมกับพี่รันแอบคบกันเงียบๆมาได้สามเดือนกว่าๆ สรุปว่าผมไม่ยอมให้พี่รันบอกลุงการุณเรื่องของผม ผมรู้ว่าวันหนึ่งพ่อแม่ของผมก็อาจจะรู้ เพราะความลับมันไม่มีในโลก แต่ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากให้ท่านรู้ช้าที่สุด ผมรู้ว่าท่านทั้งสองรับไม่ได้หรอกครับ ผมเป็นลูกชายคนเดียว พ่อแม่มีหน้าตาในสังคมและตอนนี้วัยของผมก็ยังไม่ควรมีเรื่องแบบนี้ให้ท่านต้องทุกข์ใจ


พี่รันเป็นคนขี้หึง ไม่ยอมให้ผมแชทหรือเข้าไปในบอร์ดชายรักชาย แม้กระทั่งไอ้เด่น พี่รันยังไม่อยากให้ผมไปใกล้ชิดมัน แม้ผมจะบอกว่ามันคือเพื่อนสนิท แต่พี่รันก็ยังหงุดหงิดทุกครั้งที่ไอ้เด่นมาโอบไหล่หรือแกล้งแหย่ผม แต่พี่รันไม่กล้าแสดงออหรอกครับ ได้แต่กลับมาต่อว่าผมที่บ้าน ในโรงเรียนทุกคนแค่คิดว่าพี่รันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผม ส่วนผมก็ยอมทุกอย่าง ไม่ค่อยได้เข้าไปคุยกับบุ้งและคนอื่นๆ ผมบอกบุ้งว่าผมต้องตั้งใจเรื่องเรียนมากๆ เพราะเหลืออีกไม่ถึงกี่เดือนผมก็จะต้องเตรียมตัวสอบไฟนอลแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้เลิกเล่นเสียทีเดียว ยังคงแอบเข้าไปแชทบ้างวันที่พี่รันไม่อยู่ ตอนนี้พี่รันย้ายจากบ้านพักครูมาอยู่ที่บ้านผมแล้ว พี่รันช่วยสอนพิเศษผมทุกวัน แล้วกลับบ้านวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์แทน


ผมไม่รู้ว่าผมรักพี่รันรึเปล่า แต่ผมมีความสุขเวลาได้อยู่กับพี่รัน เราสองคนดูแลกันหลายเรื่อง นอนด้วยกัน ช่วยให้ความสุขซึ่งกันและกัน แต่พี่รันไม่เคยอ้อนขอสอดใส่ผมเลย พี่รันบอกว่ากลัวผมเจ็บ พี่รันไม่อยากให้ผมเจ็บ ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกดีที่พี่เขาใส่ใจผมแทบจะทุกเรื่อง แต่ที่ผมไม่รู้ว่ารักรึเปล่า เพราะผมไม่ได้รู้สึกหึงหรือมีอาการของคนที่เพิ่งรักกันใหม่ๆควรจะมี ผมเคยปรึกษาพี่ระเบิด พี่ระเบิดบอกว่า ผมอาจจะกำลังเซฟตัวเองจากความเจ็บปวด มันอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ ผมอาจจะกลัวต้องเจ็บอีก เลยพยายามสะกดจิตตัวเองว่าอย่าทุ่มเทใจให้ใครเต็มร้อยอีก


“อาทิตย์หน้ารันติดธุระสำคัญที่ลุงการุณให้ไปทำ คงไม่ได้มาค้างอาทิตย์หนึ่งนะ เมื่อกี้รันโทรมาบอก” แม่บอกกับผม เมื่อผมกลับมาจากไปวิ่งออกกำลังกายกับพ่อที่สวนสาธารณะ ผมพยักหน้ารับรู้ แต่ก็แปลกใจที่พี่รันไม่โทรมาบอกผมเอง คิดอีกที การที่พี่รันบอกผู้ใหญ่ก็คงดีกว่ามาบอกผม แบบนี้แปลว่าพี่รันจะลางานอาทิตย์หนึ่งเลยอย่างนั้นเหรอ

“หอมจัง แม่ทำอะไรกิน กลอนหิวจังเลย” ผมเดินเข้าไปดูกับข้าวที่แม่จัดเอาไว้พร้อมทาน

“คุณ ท่านผู้ว่าจะปรึกษาเรื่องสำคัญ กินข้าวกันไปเลยนะ ไม่ต้องรอ สงสัยจะได้ทานที่บ้านท่านเลย” พ่อเดินมาบอกก่อนจะเดินขึ้นไปอาบน้ำ แม่ถอนหายใจ

“กินกันสองคนอีกแล้ว ไปอาบน้ำไป” แม่บอก ผมพยักหน้าแล้วรีบไปอาบน้ำ


เสร็จจากอาบน้ำผมก็ลงมาทานข้าวกับแม่ เสร็จแล้วถึงได้ขึ้นมาบนห้อง ถือโอกาสหยิบโทรศัพท์ที่ซ่อนเอาไว้มาเปิดเครื่อง ผมเปิดดูไลน์กรุ๊ป แต่ปรากฏว่ามันเงียบ ไม่มีใครคุยกันเลย อย่างว่าละครับ ต่างคนต่างก็มีสังคมขอตัวเอง ผมเองยังหายไปเลย คนอื่นก็คงจะเหมือนกัน ผมเลยวางโทรศัพท์ลงแล้วก็หยิบโน๊ตบุ๊คมาเปิดแทน เปิดหน้าเฟสบุ๊คทิ้งเอาไว้ แล้วก็ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการบ้านที่ได้มาด้วย ได้เสียงอินบอกซ์กลุ่มที่โรงเรียนดังขึ้นจากเฟสบุ๊ค แต่ผมยังไม่ได้เข้าไปอ่าน มัวแต่จดข้อมูลที่เพิ่งเสิร์ชเจอก่อน แต่พอเห็นเสียงมันถี่เลยคลิกหน้าต่างเฟสบุ๊คเปิดออกแล้วไล่อ่าน ปรากฏว่าพวกเพื่อนๆกำลังคุยเรื่องพี่รัน พี่รันเป็นขวัญใจนักเรียน ซึ่งส่วนใหญ่ครูฝึกสอนเข้ามา ถ้าหน้าตาดีก็มักเป็นขวัญใจนักเรียนกันแทบทุกคน ยิ่งพี่รันหน้าตาไม่ได้ด้อยเลย แน่นอนว่าต้องมีนักเรียนชื่นชอบแน่ๆ ผมไล่อ่านข้อความของบรรดาเพื่อนๆมาถึงช่วงหนึ่งที่ทำให้ผมต้องตั้งใจอ่านสุดๆ


..แกๆ ฉันเพิ่งรู้ว่าครูรันมีเฟสบุ๊คละแก..
..กรี๊ดด แกไปเจอได้ยังไงวะ เคยขอครู ครูบอกไม่เล่น..
(ใช่ครับ ผมเคยถาม พี่รันบอกว่าพี่รันไม่ได้เล่น นั่นยิ่งทำให้ผมสนใจว่าเฟสที่เพื่อนผมไปเจอมันของพี่รันจริงรึเปล่า)
..ก็พอดี๊พอดี ครูเป็นเพื่อนกับเพื่อนของพี่สาวกู กูกดดูไปเรื่อยจนเจอ แต่ครูเขาตั้งค่าส่วนตัว เข้าไปส่องไม่ได้ เซ็งเลยแก..
..ไหนๆ เอามาดูหน่อย..



ผมกดลิ้งค์ที่เพื่อนส่งมา รูปโปรไฟล์เป็นรูปพี่รันจริงๆด้วย แต่เข้าไปดูไม่ได้เพราะพี่รันตั้งค่าไพรเวท แต่ที่แปลกใจคือ มันโชว์ว่ามีเพื่อนร่วมกันหนึ่งคน ซึ่งเป็นรูปผู้หญิงคนหนึ่ง แสดงว่าผู้หญิงคนนี้มาแอดเฟสของผม ผมก็จำไม่ได้ว่าไปกดรับตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมเลยกดเข้าไปดู ส่วนใหญ่ก็เป็นรูปเซลฟี่ หน้าตาสวย ผิวขาว ตัวเล็กๆ ผมไล่ดูไปเรื่อยๆจนไปเจอภาพถ่ายคู่กันของผู้หญิงคนนี้กับพี่รัน ในรูปยืนถ่ายคู่กันที่ทะเล ผมอ่านคอมเมนท์ ส่วนใหญ่ก็ชมเจ้าของเฟสว่าสวย ไม่มีแซวอะไร ผมเลยคิดว่าอาจจะเป็นเพื่อนของพี่รัน ที่แปลกใจก็คือมาแอดผมได้ยังไงหรือจะรู้จักผม ผมเลิกสนใจแล้วกลับไปหาข้อมูลทำการบ้านต่อ สักพักเสียงไลน์กรุ๊ปดัง ผมเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู


..มาออนแล้วเหรอ.. พี่ระเบิดทักไลน์แยกมา
..รู้ได้ยังไงครับ.. ผมถาม
..เห็นในห้องร่วมว่ามันขึ้นครบแล้ว เป็นยังไงบ้าง..
..สบายดีครับ..
..แสดงว่าแฟนไม่อยู่ใช่ไหม ถึงได้มาเปิดออนไลน์นี้ได้..
..ครับ ทำไมในกรุ๊ปรวมเงียบจัง..
..แบบนี้แหละ เดี๋ยวมีอะไรคุยก็เข้ามากัน พอยุ่งๆก็เงียบหน่อย..
..แล้ววันนี้พี่ไม่ยุ่งบ้างเหรอ คนที่พี่จีบตกลงจีบติดไหม..
..ไม่ติดเพราะเลิกจีบก่อน..
..ทำไมละครับ..
..โสดจนเคย พอคิดว่าต้องมีพันธะก็ไม่อยากมีแล้วแฟน..
..แล้วไม่เหงาเหรอ..
..ไม่อะ มีอะไรทำให้หายเหงาเยอะแยะ..
..ผมจะคอยดูว่าพี่จะไม่มีแฟนจริงรึเปล่า..
..พูดแบบนี้ไม่เชื่อละสิ..
..อื้อ ไม่เชื่อหรอก..
..เชื่อเหอะ..
.. ขอดูก่อนว่าควรเชื่อดีไหม..
..หนอน พี่คอลไปได้ไหม พี่ขี้เกียจพิมพ์..



ผมชั่งใจอยู่สักพัก สุดท้ายก็ยอมให้พี่ระเบิดคอลมา เราสองคนคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ผมเล่าเรื่องพี่รันให้พี่ระเบิดฟังบ้าง พี่ระเบิดก็เล่าเรื่องคนที่ไปตามจีบมาให้ฟัง ผมคุยกับพี่ระเบิดเกือบชั่วโมงครึ่งแบบเพลินไปเลย แล้วโทรศัพท์อันที่ใช้ทุกวันก็ลืมเปิดเสียง เลยไม่รู้ว่าพี่รันโทรมาตั้งหลายสาย พอเห็นเลยต้องรีบวางสายจากพี่ระเบิดแล้วโทรกลับพี่รัน แต่พี่รันไม่ยอมรับสาย ผมโทรไปตั้งหลายรอบ ไม่รู้ว่าโกรธรึเปล่า ผมเลยว่าจะรออีกสักพักค่อยโทรไปใหม่ ระหว่างนั้นก็กลับมาเปิดเฟสดูใหม่ เหมือนมีอะไรดลใจให้ผมกดไปที่เฟสผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง คราวนี้รูปที่เธอเพิ่งลงคือรูปคู่ของเธอกับพี่รัน พี่รันโอบไหล่เธอ ท่าทางสนิทสนม ผมถึงกับอึ้งไปต่อไม่ถูก ผมกดดูสถานที่ ถ่ายที่หัวหิน ใจของผมมันรู้สึกวาบๆโหวงๆ ผมเลื่อนไปที่รูปคู่ของพี่รันกับผู้หญิงคนนี้ที่ผมเห็นครั้งแรก ผมดูวันที่ รูปนี้ถ่ายเมื่อเดือนที่แล้ว วันเสาร์ด้วย


..ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวสมกันจริงๆ..


มีคนมาคอมเมนท์ใต้รูป บอกตรงๆว่าผมช็อคมาก หมายความว่ายังไง ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว พี่รันกำลังจะแต่งงานเหรอ ทำไมผมไม่เคยรู้สึกเอะใจเลย ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ พี่รันอยู่กับผมแทบจะทุกวัน ไม่เคยเห็นโทรหาใคร ไม่มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป พี่รันโกหกเนียนเกินไปหรือว่าผมที่ไว้ใจจนไม่ได้ระแวงอะไรเลย ผมไม่ได้ร้องไห้ แต่ผมบอกได้เลยว่าผมรู้สึกช็อค เบลอ ทำอะไรไม่ถูก รู้สึกเจ็บในอกมากกว่าตอนที่เลิกกับเต็งหนึ่งเสียอีก อารมณ์ตอนนั้นผมไม่ได้อยากร้องไห้ แต่ผมใจหายเหมือนเราได้ยินข่าวร้ายแบบไม่ทันได้ตั้งตัวประมาณนั้น มันเบลอๆงงๆ ไม่รู้จะเริ่มที่อะไรก่อน จะโทรไปถามพี่รันตรงๆหรือเลียบๆเคียงถามแม่ แต่สุดท้ายแล้วผมเลือกที่จะอยู่เงียบๆคนเดียว อยากนอนอยู่เฉยๆไมอยากจะทำอะไรเลย พอนอนคิดเรื่องของพี่รันไปเรื่อยๆ จากที่เบลอๆชาๆ ตอนนี้ผมเริ่มร้องไห้เสียใจ เพราะผมคิดถึงช่วงเวลาที่เราสองคนอยู่ด้วยกัน พี่รันไม่มีพิรุธอะไรเลย ถึงการคบกันของเราจะราบเรียบ แต่ผมก็มีความสุข ถึงไม่ได้เปิดเผยหรือแสดงออกไม่ได้ว่านี่คือแฟนเราอย่างคนทั่วไป แต่เวลาที่ผมเครียดจากการเรียน แค่พี่รันกอดและหอมผม ผมก็หายเหนื่อยและรู้สึกอบอุ่น พี่รันก็บอกว่าพี่รันมีความสุขมาก พี่รันอยากจะกลืนกินผม ไม่อยากให้ใครใกล้ชิดผม ไม่อยากให้ผมไปอยู่ไกลตา พี่รันบอกว่าหวงผมมากๆ คำพูดหวานๆคำแล้วคำเล่าวนอยู่ในหัว ผมขอภาวนาว่าให้เรื่องที่รับรู้เป็นเรื่องเข้าใจผิด อยากหลอกผมเลยนะพี่รัน อยากทำแบบนี้กับผมเลยนะครับ


โชคดีที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เมื่อคืนผมร้องไห้จนปวดตาปวดหัวไปหมด ไม่ได้ลงไปทานข้าวเช้าจนแม่ต้องขึ้นมาดู ผมบอกแม่ว่าปวดหัว แม่คิดว่าผมอ่านหนังสือหนักเกินไปเลยไม่ได้ถามอะไร แต่ยกข้าวต้มมาให้พร้อมกับยาแก้ปวด บอกกับผมว่าอยากไปเที่ยวไหนไหม ท่านจะพาไป ผมแทบอยากจะร้องไห้และรู้สึกผิด คนที่รักและดูแลเราก็คือพ่อกับแม่ ผมจะไม่ทำให้ท่านต้องหนักใจและเป็นห่วงผม เลยลุกมาอาบน้ำ ทานข้าวแล้วทำตัวปกติ แม้ว่าในใจของผมในตอนนี้มันมีบาดแผลอยู่ พี่รันไม่ได้โทรหาผมเลย ซึ่งมันผิดปกติ


“แม่ครับ เพื่อนกลอนบอกว่าพี่รันจะแต่งงาน จริงรึเปล่าครับ” ผมตัดสินใจถามแม่ในตอนบ่าย ตอนที่เรากำลังช่วยกันลงต้นไม้อยู่ที่หลังบ้าน

“อ้าว หมดกัน รันให้แม่ช่วยปิดกลอนเอาไว้ก่อน พี่เขาอยากพาแฟนมาให้เรารู้จักก่อนแล้วค่อยบอก แล้วนี่เพื่อนกลอนไปรู้ได้ยังไง” ขนาดว่าผมเตรียมใจเอาไว้บ้างแล้ว แต่พอรู้ชัดแน่ๆว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การเข้าใจผิด ผมก็แทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้

“แม่ เศษดินเข้าตากลอน” ผมบอกแม่ก่อนที่แม่จะถามว่าผมร้องไห้ทำไม ผมไม่ได้สะอึกสะอื้น แต่ผมเก็บน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ

“ไหน มาให้แม่ดูสิ รีบไปล้างหน้าก่อนเร็ว ไม่ต้องทำแล้ว เดี๋ยวแม่ทำเอง” แม่ลูบหน้าลูบตาให้ผมแล้วไล่ให้ผมไปล้างหน้า ผมถือโอกาสกลับเข้าไปในบ้าน ขึ้นห้องแล้วไปแอบร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ

“กลอน เป็นยังไงบ้าง ไปหาหมอกันดีกว่า เดี๋ยวจะติดเชื้อ” เสียงแม่เรียกผมอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ ผมรีบเช็ดน้ำตา

“แสบๆนิดหน่อย แต่ไม่ได้เจ็บอะไรแล้วครับแม่ ไม่ต้องไปหาหมอหรอก กลอนขออาบน้ำก่อนนะครับ”

“ถ้าเคืองตาไม่หายต้องแม่นะลูก”

“ครับแม่”


ได้ยินเสียงแม่ปิดประตูห้องแล้วผมก็มองตัวเองในกระจก สภาพผมดูไม่ได้เลย สองครั้งแล้วที่ผมถูกหลอก เต็งหนึ่งต้องการแค่เรื่องเซ็กส์จากผม พี่รันก็คงเหมือนกัน พอคิดแบบนี้ผมก็เหมือนจะกระจ่างกับการกระทำที่ผ่านมา แม้ว่าพี่รันจะชอบมีเซ็กส์กับผม แต่ไม่เคยใช้ปากให้ผมเลย ส่วนมากจะชอบผมทำให้ พอเสร็จพี่รันก็แค่ใช้มือช่วยผม ตอนนั้นผมไม่ได้นึกอะไรเลยผมแค่อยากทำให้พี่รันมีความสุขก็แค่นั้น ผมเคยบอกพี่รันว่าผมดูคลิปชายรักชาย พี่รันก็ดุผมและห้ามไม่ให้ดู บอกว่ามันน่ารังเกียจ ผมก็นึกไปว่า พี่รันห่วงผมเพราะเห็นว่าผมยังเด็ก คำของพี่ระเบิดลอยมาในหัว ตอนที่ผมเล่าเรื่องนี้ให้พี่ระเบิดฟัง พี่ระเบิดบอกว่า ถ้าในคลิปมันน่ารังเกียจ แล้วที่ทำๆกันอยู่มันแตกต่างกันยังไง ผมได้คำตอบแล้วครับพี่ระเบิด มันแตกต่างตรงที่พี่รันอาจจะไม่ได้อยากมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่แค่อยากลองก็เท่านั้นเอง


สามวันผ่านไป พี่รันก็ยังคงเงียบและไม่ได้โทรมา ผมมาเรียนหนังสือตามปกติ แต่คงไม่ปกติเท่าไหร่จนไอ้เด่นมันรู้สึกได้ มันถามว่าผมเป็นอะไร เหม่อลอยบ่อยๆ ผมต้องโกหกมันว่าผมเครียดเรื่องเรียน มันก็บ่นผมว่าผมจะประสาทก่อนเรียนจบ มันเลยบอกว่าคืนนี้แม่มันจะจัดงานวันเกิดให้พ่อมัน มันจะบอกแม่มันให้ขอแม่ผมให้ผมไปค้างที่บ้านมัน ผมบอกมันว่าไม่สำเร็จหรอก แม่ไม่ชอบให้ผมไปค้างที่ไหน แต่สุดท้ายแล้วผมก็ต้องแปลกใจที่แม่ผมอนุญาต ไอ้เด่นเลยบอกว่าจะพาผมไปเอาชุดนักเรียน พรุ่งนี้จะได้มาโรงเรียนพร้อมมันเลย


พอเลิกเรียนผมก็อาศัยรถของเด่นกลับบ้าน เพราะพ่อของผมติดงานสำคัญมารับไม่ได้พอดี ส่วนเด่นมันเอารถยนต์มาโรงเรียน ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมครับ ว่าบ้านเด่นมีฐานะดีมาก แล้วการที่มันเอารถยนต์มาโรงเรียนก็เลยเป็นจุดเด่นมากๆ มันถึงมีสาวๆไม่ขาดเลย แต่ผมก็ไม่เห็นมันจะคบใครได้นานสักที


“แม่ไม่อยู่ ไม่รู้ไปไหน สงสัยมีงานที่โรงเรียนมั๊ง” ผมบอกกับเด่นกลังจากกลับมาที่บ้านแล้วไม่เจอแม่ ปกติแม่จะกลับมาแล้วหรือเพราะแม่รู้ว่าผมจะไปงานเลี้ยงวันเกิดพ่อของเด่น เลยไม่ห่วงเรื่องทำกับข้าวให้ผม

“มึง...” เด่นเรียกผม ผมที่กำลังจัดตารางสอนของวันพรุ่งนี้หันกลับไปตามเสียงเรียก แล้วผมก็ต้องตกใจเมื่อเห็นของในมือของเด่น

“เราขอคืนได้ไหม” ผมบอก หน้าผมเสียมากผมรู้ตัวเลย ผมนึกตำหนิตัวเองอย่างแรงที่ดันเผลอเอารูปของผมกับพี่รันไปไว้ใต้หมอน รูปพี่รันกำลังหอมแก้มผม

“.................” เด่นยื่นรูปคืนให้ผม สีหน้ามันเฉยมากจนผมใจเสีย

“เราไม่ไปแล้วก็ได้นะ” ผมบอกมัน

“นี่ใช่ไหมที่ทำให้มึงเหม่อลอยบ่อยๆ ทำไมมึงไม่บอกกูว่ามึงคบกับครูรัน” เด่นถามผมเสียงเครียด

“มันไม่ใช่เรื่องน่าบอกรึเปล่า ถ้าเด่นรังเกียจเรา ไม่อยากคบเราต่อเราจะยอมทุกอย่าง แต่อย่าบอกใครได้ไหม เราขอร้อง” ผมบอกเด่น น้ำตาพาลจะไหลอีกรอบ นี่สินะ ที่เขาบอกกันว่าความลับไม่มีในโลก

“กูจะรังเกียจมึงทำห่าอะไร ที่กูโกรธเนี่ยเพราะถ้ากูรู้ว่าครูรัยมาจีบมึง กูจะได้บอกมึงว่าเขามีแฟนแล้ว กูเจอเขาบ่อย ไปดูหนังกับแฟนผู้หญิง ส่วนไอ้เรื่องที่มึงเป็น เอ่อ เป็นแบบที่มึงเป็น กูรู้นานแล้ว” ผมอึ้งไปเลย อึ้งทั้งเรื่องที่เด่นรู้ว่าผมเป็นเกย์และอึ้งเรื่องที่เด่นบอกว่าพี่รันคบกับผู้หญิงระหว่างที่คบผมไปด้วย

“กูขอโทษที่ไม่ได้บอกมึง” ผมพูดจบก็ร้องไห้เลย มันรู้สึกเจ็บปวดกับการที่ถูกหักหลัง

“ไม่ต้องร้องมึง คนเหี้ยๆอย่างไอ้รันมันไม่ควรจะได้มึงไปหรอก แม่งเจ็บใจ กูก็นึกว่ามันเป็นญาติมึงจริงๆ แถมมันยังรู้ว่ากูรู้ว่ามันมีแฟน กูปากหนักเองที่ไม่ได้พูดขึ้นมา ไม่งั้นมึงคงจะไม่เจ็บเท่านี้เลย”

“เราเจ็บวะเด่น” ผมบอกมัน จู่ๆมันก็ดึงผมไปกอด ตบหลังผม อยากจะขำมันเหมือนกัน เพราะมันตบหลังผมดังปุ๊ๆเสร็จแล้วมันก็ชะงักนิดหนึ่งแล้วรีบเปลี่ยนเป็นลูบหลังผมเบาๆแทน ถ้าผมไม่ติดว่าผมกำลังเสียใจมากๆ ผมคงจะหัวเราะแล้วบอกมันว่า ผมยังเป็นผู้ชายเหมือนเดิม ไม่ต้องทำเหมือนผมเป็นผู้หญิงก็ได้


(มีต่อข้างล้างนะคะ)

V
V


หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน 3 (05/09/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 05-09-2015 14:01:09
(ต่อจากข้างบนจ้า)


เด่นมันปล่อยให้ผมร้องไห้จนพอใจแล้วถึงพาผมกลับมาที่บ้านของมัน ตอนนี้ที่บ้านของเด่นมีแขกมาเต็มบ้าน เป็นงานเลี้ยงแบบโต๊ะจีน จัดบริเวณสนามหญ้าข้างๆบ้าน บ้านของเด่นกว้างมาก จัดงานได้สบายๆ เด่นมันพาผมไปนั่งที่โต๊ะลูกพี่ลูกน้องของมัน มันบอกว่าให้นั่งรออยู่นี่ มันจะเอาของผมไปเก็บบนห้องก่อน ข้างๆของผมเป็นแฟนของเด่น หน้าตาสวยมาก ที่สำคัญรูปร่างเป็นสาวเกินวัยจริงๆ เธอมีเพื่อนมาอีกคน หน้าหมวยๆ ส่วนที่นั่งตรงข้ามผมคงเป็นลูกพี่ลูกน้องของเด่น ผมเหมือนเคยเห็นรูปในห้องนอนของเด่น หน้าตาหล่อดี ส่วนอีกสองสามคนผมไม่รู้จัก


“น้องกลอนมาแล้วเหรอลูก”

“สวัสดีครับม๊า” ผมยกมือไหว้แม่ของเด่น แม่ของเด่นลูบหัวผม เราสองครอบครัวรู้จักกันมานานแล้ว แม่เด่นรักผมเหมือนลูกคนหนึ่ง ท่านชอบบ่นเด่นให้ผมฟัง แถมยังให้ผมช่วยอบรมเด่นด้วย จนเด่นมันโวยวายบ่อยๆว่าม๊าทำให้มันขายหน้าต่อหน้าผม

“อย่าทำหน้าเศร้าสิลูก ยิ้มหน่อย เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป เอาละๆ ทำตัวตามสบายกันเลยนะเด็กๆ เดี๋ยวม๊าไปรับแขกก่อน” ม๊าบอกผมและทุกคนในโต๊ะก่อนจะเดินออกไปรับแขก ผมอึ้งไป สีหน้าของผมมันแสดงออกขนาดนั้นเลยเหรอ สักพักเด่นก็เดินลงมา อาบน้ำเปลี่ยนชุดจนหล่อเฟี้ยวเลยครับ

“ตกถังน้ำหอมมารึไง” ผมถามมัน มันหัวเราะแล้วสั่งให้แฟนมันขยับไป มันนั่งลงข้างๆผมแทนแฟนมัน

“รู้จักกันเอาไว้นะ นี่หญิงแฟนกู นี่ฝนเพื่อนหญิง นั่นพัดโบก ลูกพี่ลูกน้องก่อน แล้วก็จิมกับเพชร ลูกเพื่อนแม่กู แต่ก็สนิทกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว แล้วนี่กลอน เพื่อนรักกู รู้จักกันเอาไว้นะ” เด่นแนะนำเสร็จผมก็เลยยิ้มให้ทุกคน ทุกคนก็ยิ้มตอบ แต่มีคนหนึ่งที่ผมเห็นว่านั่งจ้องผมตั้งแต่ผมมานั่งแล้วก็คือพัดโบก จ้องจนผมต้องทำเป็นว่าไม่เห็น

“พัด ตอนนี้มึงยังต้องไปเก็บตัวที่กรุงเทพรึเปล่าวะ” เด่นถามลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง

“ช่วงนี้ใกล้สอบ ยังไม่ต้องไป สอบเสร็จปุ๊ปก็ไปเลย” พัดตอบ

“มันจะได้ไปเก็บตัวที่ญี่ปุ่นเลยนะ อิจฉา เด็กญี่ปุ่นขาวจั๊วะ” จิมทำท่าเช็ดน้ำลาย

“เฮ้ย อย่าพูดเรื่องนี้ เดี๋ยวแฟนกูจะพิโรธ เอาไว้คุยกันทีหลัง” เด่นพูดจบก็โดนหญิงฟาดที่แขนดังเพี๊ยะ ผมก็พลอยขำไปด้วย พ่อแม่เด่นก็ดีนะ ไม่เคยว่าลูกเรื่องมีแฟน แถมเด่นบอกว่าพ่อยังสอนให้ใช้ถุงยางด้วย ท่านทั้งคู่ค่อนข้างจะสมัยใหม่ แต่ก็ไม่ได้ตามใจเด่นจนเสียคนนะครับ เวลาดุก็น่ากลัวเหมือนกัน ผมเคยเห็นเด่นถูกดุ แม่ผมน่ากลัวไม่ได้ครึ่งแม่ของเด่นเลย

“กินเหล้าไม่เป็นเหรอ” เพชรถามผม

“เฮ้ยๆ เพื่อนกูคนนี้เด็กดี อย่าเอาของมึนเมาให้มัน” เด่นรีบยกมือห้าม

“กินอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ไม่เป็นไรหรอก ใจถึงรึเปล่า” จิมถามแบบขำๆ

“พวกมึงนี่กวนตีน บอกไม่ได้ๆ” เด่นด่าเพื่อนตัวเอง

“เอามาสิ” ผมบอก ผมไม่ได้ทำเพราะอยากประชดอะไรหรอกครับ แต่วันนี้ผมอยากจะลองมันสักหน่อย ไอ้เด่นทำหน้าเหวอ

“เอาไวน์ก็พอ” พัดโบกส่งขวดไวน์ที่มีขายในเซเว่นมาให้

“มึงไม่ต้องกินเยอะเลยนะ พรุ่งนี้ไปโรงเรียนด้วย กูขี้เกียจหามมึงกลับบ้านก่อนเวลาอันควร แม่มึงเอากูตายแน่” เด่นกำชับผมเหมือนเด็ก ผมเลยกระดกไวน์ลงคอไปเกือบครึ่งขวด

“ดูมันๆ บทจะดื้อแม่งดื้อเงียบ” เด่นส่ายหน้า แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก คีบกับข้าวให้ผมกิน มันบอกว่าท้องว่างจะยิ่งเมาง่าย


แล้วผมก็เมาแบบที่เด่นมันกลัวจริงๆ ผมกินไปแค่สองขวดเอง มันหวานอร่อยดีเหมือนน้ำผลไม้ ไม่คิดว่ามันจะทำให้ผมร้อนไปหมดทั้งตัว หน้าก็ชา แต่ไม่ได้เมาแบบขาดสติ ไม่ได้พูดมากด้วย นั่งยิ้มอยากเดียวเลย ผมรู้ตัว แต่มันอยากยิ้มทั้งที่ในใจผมอยากร้องไห้นะ มิน่าละ คนถึงอยากเมา ผมบอกเด่นว่าอยากไปนอนแล้ว เด่นจะไปส่งผม แต่ผมบอกว่าผมไปได้ เห็นแฟนเด่นมันงอนๆอยู่ที่เด่นไม่ค่อยเอาใจ มานั่งเอาใจแต่ผม มันคงรู้ว่าผมกำลังเฮิร์ท ผมเดินยิ้มไปตลอดทาง ไม่ได้เดินเซ หรืออาจจะเซแล้วไม่รู้ก็ได้ครับ ฮ่าๆ แต่ก็เดินมาถึงห้องไอ้เด่นจนได้ รู้สึกดีที่ห้องมันเปิดแอร์เอาไว้แล้ว จากที่ร้อนวูบๆวาบๆในร่างกายค่อยรู้สึกสบายตัวหน่อย สักพักเด่นมันตามขึ้นมา


“เป็นไงมึง ไหวเปล่าวะ กูหาแทบตาย นี่มันห้องกูที่ไหนละ แต่ก็ไม่มีใครนอนหรอก มึงนอนนี่ก็ได้”

“ไหว อยากนอนคนเดียวด้วย จะนอนให้เต็มเตียงเลย สบายจัง ฮ่าๆๆ จะนอนแล้วไม่ต้องมาห่วงหรอก”

“ไม่ห่วงได้ไงมึงเพื่อนกู อย่าไปคิดอะไรมาก นอนคือนอนนะมึง ถ้ากูเห็นร้องไห้กูจะจับกรอกไวน์ให้อ้วกเลย”

“ขู่จัง ไปเลยไป๊ ชิ้ว ฮ่าๆๆ” ผมไล่มันแล้วหัวเราะ ตลกตัวเอง แต่มันห้ามตัวเองไม่ได้ อยากหัวเราะ แล้วก็ง่วงมากๆ

“มึงเมาน่ารักดีวะ ฮ่าๆ ไอ้เพี้ยนเอ้ย” เด่นมันขำผมแล้วสักพักมันก็เดินลงไป ผมนอนพลิกไปมา รู้สึกไม่สบายตัว ไม่เคยไม่อาบน้ำนอน เลยเดินเข้าไปอาบน้ำ หลับตาอาบแล้วตอนนี้ พอเดินออกมา หาเสื้อผ้าไม่เจอ แต่รู้สึกง่วงมากจนแทบไม่อยากลืมตา ขนาดอาบน้ำยังไม่ช่วยอะไรเลย ผมเลยใส่แค่บ็อกเซอร์นอนคลุมผ้าห่มนวมแค่นั้น ไม่รู้หรอกว่าตัวเองหลับไปตอนไหน


ผมรู้สึกว่าร่างกายของผมกำลังถูกสัมผัส สัมผัสที่แผ่วเบาไล้ไปตามร่างกายเปลือยเปล่าของผม ผมไม่รู้ว่านี่คือฝันหรือไม่ใช่ ผมลืมตาไม่ขึ้น แต่ก็รู้สึกเสมือนจริงจนเผลอส่งเสียงครางเบาๆออกมา อีกแล้ว สัมผัสที่ชื้นแฉะที่ยอดอก มันเย็นวาบก่อนจะรู้สึกถึงความนุ่มหยุ่นบางอย่างกำลังลากผ่านหัวนมของผมจนผมต้องแอ่นหน้าอกขึ้น


“พี่รัน...กลอนเสียว...” ผมร้องออกมาเหมือนยอดอกถูกดูดกลืนและขบกัดสลับกันไป

“อื้อ..ออ ซี๊ด..” ผมหลุดเสียงร้องออกมาอีกเมื่อความชื้นแฉะนั่นกำลังละเลงอยู่บนร่างกายผมไปทั่ว หน้าอก หน้าท้อง โคนขาอ่อนไปจนถึงปลายนิ้วเท้า ความอุ่นสากลากไล่ไปทั่วจนผมบิดตัวหนีความสะท้าน

“พี่รัน...” ผมร้องเรียก ได้ยินเสียงอีกฝ่ายทำจุ๊ๆ ผมเลยนอนบิดตัวร้องครางต่อเมื่อโดนโลมเล้าหนักขึ้น

“อื้ออออ เสียวว ซี๊ดดด” ผมร้องดังขึ้นเมื่อส่วนอ่อนไหวของผมถูกครอบครอง ความอุ่นที่กำลังดูดดื่มส่วนกลางของผมทำให้ผมตื่นตัวอย่างง่ายดาย โพรงปากอุ่นๆครอบชงลึกจนผมต้องกระตุกสะโพกรับ ความเสียวซ่านสะท้านแล่นตามร่างกายของผม บวกกับความร้อนจากแอลกอฮอล์ในร่างกายมันยิ่งทำผมร้อนผ่าวไปหมด ผมกระตุกสะโพกตามจังหวะรูดรั้ง พี่รันไม่เคยทำแบบนี้ให้ผมเลย นี่ไม่ใช่พี่รัน ไม่ใช่ความฝัน ผมลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด ถึงจะตกใจว่านี่ไม่ใช่ความฝัน แต่ตอนนี้ร่างกายผมควบคุมไม่ได้แล้ว ผมกำลังจะถึงจุดหมายปลายทาง ผมหลับตาต่อและกระตุกสะโพกถี่ขึ้นจนกระทั่งในที่สุดผมก็ปลดปล่อยออกมา

“ใคร” ผมถามด้วยเสียงที่แผ่วเบา การถึงจุดหมายครั้งนี้มันส่งอารมณ์ผมได้มากกว่าทุกครั้งเลย ใจหนึ่งก็กลัว เพราะไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาทำแบบนี้กับผมคือใคร แต่ก็ไม่กล้าโวยวาย กลัวจะเป็นเองใหญ่

“ชู่วๆๆ” คนที่เพิ่งช่วยให้ผมถึงจุดหมายมาทำเสียงกระซิบข้างๆหูผม ก่อนจะเลียใบหูแล้วดูดเม้มที่ติ่งหู ผมเอียงหน้าหลบ แต่ก็หลบไม่พ้น

“ใคร พอแล้ว ไม่เอาแล้ว” ผมพยายามจะดันหน้าอก แต่อีกฝ่ายก็ยังคงนอนทาบทับผมเอาไว้

“ชู่วๆ ปล่อยวางทุกอย่างนะ” เสียงแหบพร่ากระซิบแผ่วๆที่ข้างหูของผม ก่อนจะซุกไซร้ที่ซอกคอของผม ผมนอนนิ่ง หลายสิ่งอย่างที่ตีกันอยู่ในหัว ถ้าผมโวยวายจะเกิดอะไร แล้วถ้าผมยอมละจะเป็นอะไรไหม ระหว่างที่กำลังคิด บุคคลลึกลับก็เริ่มไล่เลียร่างกายผมอีกรอบ คราวนี้อร้อนแรงกว่าเดิมจนผมต้องหลุดเสียงครางออกมาอีกรอบ

“อื้อ..ออ ไม่เอา เป็นใคร บอกก่อน..ซี๊ดด..โอย พอ นะ..”

“ชู่วๆ เชื่อผมนะ” เสียงแหบพร่าบอกอีกรอบก่อนจะขบเม้มตามร่างกายของผม ยอดอกของผมถูกดูดเม้มแรงๆจนผมครางดังกว่าเดิม บุคคลลึกลับขึ้นมาทาบทับตัวผมแล้วเสียดสีส่วนกลางบนร่างกายของผม ผมบอกอย่างไม่อายเลย


..ผมกลัว..แต่ผมตื่นเต้น.. ผมรู้สึกว่าร่างกายของผมตอบสนองรุนแรงมาก ผมกำลังเป็นอะไร ทำไมผมถึงยอมใครก็ไม่รู้ให้มาทำอะไรบนร่างกายของผมได้ แถมผมยังคล้อยตามและรู้สึกรุนแรงได้ขนาดนี้ สองร่างกายในความมืดพลิกตัวกอดรัดกันอย่างร้อนแรงจนที่นอนยับยู่ยี่ไปหมด เราจูบกันอย่างคนหื่นกระหาย ลิ้นของอีกฝ่ายกวาดต้อนจนผมแทบหายใจไม่ออก บุคคลในความมือจับตัวผมพลิกคว่ำแล้วไล่เลียต้นคอ แล้วลากลงตามแผ่นหลัง จนถึงบั้นท้าย ผมครวญครางเพราะสะท้านกับการปลุกเร้าที่ร้อนแรงแบบนี้ คนๆนี้ชำนาญ รู้ว่าจุดไหนที่รุกแล้วอีกฝ่ายจะละลายได้ง่ายๆ


“ไม่เอา ผมไม่เคย” ผมร้องขึ้นมาเมื่อปลายลิ้นของอีกฝ่ายไล่วนที่ช่องทางคับแคบ แต่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจ คงตวัดปลายลิ้นรัวจนผมต้องกลั้นหายใจเกร็งไปหมดทุกส่วน เขาเก่งเกินไปหรือผมมันอ่อนหัด ทำไมผมถึงไม่ขัดขืน ทำไมผมถึงยอมแพ้ต่ออารมณ์แบบนี้

“อ๊ะ..” ผมสะดุ้งเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังใช้ปลายนิ้ววนๆที่ส่วนท้ายของผม จากวนๆเริ่มจะลึกล้ำเข้าไป เจลหล่อลื่นที่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีก็ถูกชะโลมจนเต็มช่องแคบนั่น อันที่จริงผมคิดนะว่าอยากให้พี่รันเป็นคนแรกที่ผมจะยอมเจ็บเพื่อเขา ถ้าพี่รันต้องการผมจะยอมทุกอย่าง แต่คิดแล้ว นอกจากเขาไม่ต้องการแล้ว เขาอาจจะรังเกียจที่จะแตะต้องมันด้วยซ้ำ คิดแล้วผมก็หัวเราะออกมาพร้อมกับน้ำตาที่นึกจะไหลก็ไหลออกมาง่ายๆ เสียงสะอื้นของผมทำให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำ เขาเลื่อนขึ้นมานอนซ้อนหลังผมแล้วกอดผมเอาไว้ เขาคงนึกว่าผมกลัวจนร้องไห้ ผมก็ไม่ได้บอกสาเหตุ แต่ก็รู้สึกดีที่อย่างน้อยผมไม่ได้นอนร้องไห้คนเดียว

“ทำต่อสิ” ผมร้องไห้อยู่พักใหญ่แล้วถึงเอ่ยขึ้นมา อีกฝ่ายกระชับกอดผมแต่ยังนอนเฉยๆ ผมเลยตัดสินใจพลิกตัว พยายามจะเพ่งมองแต่ไม่เห็นจริงๆ ห้องนี้ไม่มีแสงอะไรที่จะเล็ดลอดเข้ามาได้เลย

“แต่ถ้าเจ็บ ผมให้หยุด คุณต้องหยุดนะ” ผมพูดต่อ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ลุกมาทำอะไร มือของเขาลูบที่ใบหน้าของผม ลูบไปทั่วๆ แบบคลำๆในความมืด จนถึงริมฝีปาก ปลายนิ้วเขาไล้เบาๆก่อนจะจูบผม เราแลกลิ้นกันอย่างร้อนแรงอีกรอบ


เขาเล้าโลมผมจนผมตื่นตัวครั้ง เขาจับขาของผมขึ้นพาดที่บ่า เอาหมอนมารองสะโพกของผมเอาไว้ด้วย ใจของผมเต้นแรง ถึงสมองจะคิดตลอดเวลาว่าผมคิดถูกหรือผิด แต่ใจผมก็ไม่คิดจะปฏิเสธ ผมสะดุ้งเบาๆเมื่อเจลมาสัมผัสที่ช่องทางคับแคบอีกครั้ง ได้ยินเสียงเขาใส่ถุงยาง ผมกลั้นหายใจ กัดริมฝีปากแน่น จนเขาโน้มตัวผ่านหว่างขาของผมมาจูบผมอีกครั้ง จูบที่อ่อนโยนจนผมคล้อยตาม ทางด้านล่างของผมก็ถูกอีกมือของเขาคลึงเบาๆ จนกระทั่งนิ้วผ่านเข้าไปได้ ผมรู้สึกแน่นที่ส่วนล่าง แต่ก็ไม่เจ็บ คนๆนี้ค่อยๆทำจนผมรู้สึกได้ว่าเขาไม่อยากให้ผมเจ็บ คนแปลกหน้า คนที่ไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร คนที่ผมยอมให้เขาทำในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะยอมง่ายๆ นั่นอาจจะเป็นเพราะเขาคือคนแปลกหน้า คนที่ผมคงจะไม่รู้สึกเสียใจแม้จะเสียอะไรไปให้เขาก็ตาม ไม่มีความรัก ไม่มีการคาดหวัง ไม่ต้องมีอนาคตร่วมกัน มีแต่ความต้องการของร่างกาย มีความสุขจากการได้รับแบบไม่ต้องรักเขาเลยก็ได้


“อ๊ะ...”

“เจ็บเหรอ”

“เปล่า..มันแน่น” ผมบอก ได้ยินเสียงเขาหัวเราะ สักพักผมก็ต้องกัดริมฝีปากอีกครั้งเมื่อส่วนนั้นที่ใหญ่กว่านิ้วกำลังค่อยๆเข้ามาในร่างกายของผม เจลหล่อลื่นช่วยได้มาก ผมไม่เจ็บอย่างที่คิด แค่รู้สึกตึงๆและคับแน่น ผมถอนหายใจเมื่อส่วนนั้นเข้ามาจนสุด อีกฝ่ายแช่เอาไว้อย่างนั้น ได้ยินเสียงครางในลำคอของเขาเบาๆ

“เจ็บไหม” อีกฝ่ายถามผมอีกเมื่อกำลังขยับออก

“นิดหน่อย แต่ทนได้” ผมบอก เริ่มเจ็บตึงๆนิดหน่อย ได้ยินเสียงค่อยเปิดฝาขวดเจลอีกรอบ

“ไม่ไหวแล้วนะ” เขาบอก

“อืม” ผมตอบรับ จากนั้นเขาก็ขยับสะโพกเข้าออกเร็วขึ้น ผมกัดฟัน มันเริ่มเจ็บบ้างแล้วตอนที่เสียดสีกัน แต่ผมไม่ส่งเสียงร้องออกมา จนผ่านไปไม่นานความเจ็บที่ผมได้รับมันเริ่มเปลี่ยนเป็นความรู้สึกเสียงวาบๆรอบๆส่วนท้ายและที่ส่วนกลางของผม เสียงเนื้อที่กระทบกันยิ่งสร้างอารมณ์ของผมตื่นตัวอีกรอบหลังจากที่มันหายตื่นเพราะความกลัว เสียงเขาครางลอดออกมา ผมโอบรอบคอเขาแน่นเลย

“โอ้ย อื้อ..อื้อ.. อื้อ....ซี๊ดด” เขาร้องออกมาเบาๆ ผมเองก็ครางไม่หยุด สัมผัสการถูกรุกล้ำครั้งแรกมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ผมเคยจินตนาการเอาไว้


เขาเร่งจังหวะแรงขึ้นมากๆจนตัวผมสั่นไหวไปตามแรงกระแทกของเขา เหงื่อผมออกเต็มตัว เขากระตุกสะโพกเขาหาผมเน้นๆสองสามครั้งก่อนจะชักออกมา แล้วลุกออกจากเตียงไป ผมว่าผมได้ยินเสียงเขาเดินกระแทกอะไรบางอย่างจนผมหัวเราะออกมา เขาคงไม่กล้าปล่อยในร่างกายผมและคงไม่กล้าเอาออกที่เตียง สักพักเขากลับมาที่เตียงแล้วนอนกอดผมอีกรอบ เขาจูบที่แผ่นหลังของผม ที่ต้นคอ ผมก็นอนนิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา


..ก็แค่นี้เอง ความสุขที่เกิดในระยะเวลาสั้นๆ มันไม่ยาวนาน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมต้องร้องไห้หรือเสียใจ ผมอาจจะไม่ได้ถูกกำหนดมาให้มีความสุขยาวนานก็ได้ ไม่รู้สิ แล้วมันก็คงจะผ่านไปจริงๆสำหรับความรักที่ไม่รู้ว่ามีจริงหรือเปล่าสำหรับผมคนนี้..   


*****โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ*******

มาต่อแล้วค่ะ เชื่อเรื่องโลกกลมพรหมลิขิตไหมคะ อ่านตอนนี้แล้วรอต่อไป จะได้รู้ว่าคำนี้มีความหมายยังไงกับกลอน
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ มากอดกันหน่อยยยยยให้หายคิดถึงคุณผู้อ่าน




หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน 3 (05/09/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-09-2015 17:07:43
 :hao7:   ว้ากกก  :sad4:   ใครอ่าเสียงไม่คุ้นอีก
เลวมากเลยพี่รัน เป็นไปได้ถึงขนาดนี้เนาะคนเรา เลวฝังลึกอะ เห็นความรักของเด็กน้อยเป็นแค่ของเล่นชั่วคราว

แต่ไอ้คนที่มาลักหลับนี่น่ากลัวยิ่งกว่า เสียตัวให้ใครยังไม่รู้เลย
เราชักสงสัยว่าพี่ระเบิดอยู่ใกล้กว่าที่คิดรึเปล่า

 :pig4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน 3 (05/09/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 05-09-2015 18:44:42
*ถอนใจ*
เจอมาแบบนี้กันสินะ ถึงได้ถอดใจกันเป็นแถวๆ   ไม่ต้องรักก็มีพสพกันได้  เพราะว่าคนที่ใช่มันหายากกว่าคนที่ไม่จำเป็นต้องใช่

เกลียดคนแบบรันที่สุด   ที่จริงถ้าหากว่าอยากลองเฉยๆก็ไม่น่าหายาก  หรือที่จริงถ้าหากว่าอธิบายให้น้องฟังตรงๆจะดีกว่า  ยังไงก็เป็นญาติกัน  น้องเขาก็จะได้ไม่ต้องเจ็บหรือมีปม  ยิ่งใกล้สอบด้วย   เป็นคนที่เลวแบบไม่รับผิดชอบอะไรเลยเป็นครูแท้ๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน 3 (05/09/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 06-09-2015 08:40:04
ว่าแล้วว่ารันต้องเป็นแบบนี้

ว่าแต่คนนี้ใครกันนะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน 3 (05/09/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 06-09-2015 10:10:27
สงสารน้องกรกฎ คนนี้ ให้เดา ลูกพี่ลูกน้องเด่น ไม่ก็เด่น แต่อยากให้เด่นเป็นเพื่อนแท้ตราบนานเท่านาน

ตอนแรกที่อ่านลุ้นพี่ระเบิดเป็นพระเอก แต่ ฮึ้ยยยยยย เดาๆแบบนี้ก็ลุ้นดีค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน 3 (05/09/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 22-09-2015 10:37:16
ขอให้เจอคนดีๆสักทีน้า อยากอ่านต่อออ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอน 3 (05/09/58) P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: top_fy ที่ 01-10-2015 15:23:13
ขอให้เจอรักดีๆนะ พี่กลอน มาต่อเร็วน่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก ตอนจบ UP p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 01-10-2015 22:57:16
บทรักบทที่ 2 รักไม่ได้ ไม่ได้รัก (ตอนที่ 4 จบบทที่ 2)


ตอนที่มีอะไรกันกับคนแปลกหน้าในคืนนั้น ผมรู้สึกแปลกที่ไม่ได้เจ็บอย่างที่คิด แต่สงสัยเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอ หรือไม่ก็ผมดำดิ่งอยู่กับบทรักที่อีกฝ่ายมอบให้จนลืมความเจ็บไป แต่พอตื่นมานี่สิครับ ผมปวดทั้งศีรษะและปวดช่วงล่างของตัวเองมาก มากจนผมไม่กล้าถ่ายหนักเพราะมันเจ็บร้าวๆหน่วงๆ ไอ้เด่นมันเห็นผมยังไม่ตื่นนอนเลยเข้ามาปลุก ผมไม่ได้เล่าอะไรให้มันฟัง คนที่นอนข้างๆผมเมื่อคืนก็หายไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ผมต้องเก็บอาการแล้วรีบลุกไปอาบน้ำ เมื่อลงไปกินข้าวก็เจอพ่อกับแม่ของเด่นทั้งคู่ ท่านทักทายผมแล้วบ่นเด่นว่าจะทำให้เด็กดีอย่างผมเสียคน เด่นมันรีบบอกว่าให้ผมดื่มในสายตาดีกว่าผมไปถูกคนอื่นมอมเหล้า จะเสียอย่างอื่นด้วย ผมได้ยินก็สะอึกแต่ก็เก็บอาการได้ ได้แต่แสร้งยิ้มตอนแม่เด่นบอกว่า กลัวเด่นนั่นแหละที่จะไปทำคนอื่นท้อง ถ้าพ่อกับแม่ผมรับเรื่องแบบนี้ได้ผมก็อยากเล่าเรื่องของผมให้ท่านทั้งสองคนฟังเหมือนกัน แต่มันคงเป็นไปไม่ได้


ผมกับเด่นไปถึงเวลาทันแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ไอ้เด่นมันจับมือผมวิ่งไปเข้าแถว ผมต้องกัดฟังทนเจ็บวิ่งไปกับมัน กลัวมันถามว่าผมเป็นอะไร แต่ที่ทำให้ลืมความเจ็บที่ร่างกายไปก็คือ บริเวณเสาธงตรงที่บรรดาคุณครูยืนอยู่ มีพี่รันอยู่ด้วย ความเจ็บมันเลยเคลื่อนย้ายมาที่หัวใจของผมแทน ผมเห็นไอ้เด่นมันกำมือแน่น ผมรีบแตะที่แขนมัน ก่อนจะบอกว่าขอให้เป็นเรื่องของผมกับพี่รันก็แล้วกัน


ผมเข้าไปเรียนคาบเช้าเสร็จ ก่อนจะไปกินข้าวกลางวันผมเดินเลยไปที่ห้องพยาบาล อยากได้ยาแก้ปวดกับแก้อักเสบมาทาน ผมกลัวว่าส่วนนั้นมันจะอักเสบ เมื่อไปถึงห้องพยาบาลผมเจอพี่รันคุยอยู่กับครูฝึกสอนอีกท่าน พอพี่รันรู้ว่าผมมาขอยาทาน หน้าพี่รันก็เจื่อนๆ พอครูฝึกสอนอีกท่านขอตัวไปกินข้าว พี่รันรีบดึงแขนผมแล้วพาเข้าไปในห้องพักครูด้านใน ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลย


“ไม่สบายเป็นอะไร เหมือนจะมีไข้เลย” พี่รันรีบเอามือมาอังที่หน้าผากของผม ผมรีบปัดมือพี่รันทิ้ง พี่รันอึ้งไป

“ผมว่าผมเรียนเก่งนะ แต่เพิ่งจะรู้ว่าการเรียนไม่ได้ช่วยให้ผมฉลาดทุกเรื่อง” ผมพูดกับพี่รัน พี่รันทำหน้างงๆ สักพักเหมือนจะรู้ตัว ผมดูจากท่าทางร้อนรนที่พี่รันเก็บเอาไว้ไม่อยู่

“กลอน พี่..”

“กลอนไม่อยากฟังอะไรยืดยาว พี่ตอบคำถามกลอนมาแค่คำเดียว กลอนขอแค่นั้น พี่จะแต่งงานใช่ไหม” ผมถามแบบตรงไปตรงมา

“กลอน..” พี่รันหน้าเจื่อนกว่าเดิม ยืนนิ่ง ก่อนจะพยักหน้า

“พี่รู้ไหม จริงๆพี่แค่บอกกลอนก็ได้นะว่าพี่อยากลอง พี่แค่อยากลองมีอะไรกับผู้ชาย กลอนจะได้ไม่ต้องให้ใจไปด้วย ให้แค่กายก็พอ”

“ไม่ใช่นะกลอน พี่ไม่ได้อยากได้กับผู้ชาย พี่ไม่ใช่เกย์ แต่พี่แค่รักกลอน”

“พี่รัน ถ้าพี่รักใครสักคนจริงๆ พี่จะไม่ทำให้เขาเสียใจหรอก อย่าพูดมันออกมา กลอนไม่อยากหมดศรัทธากับคำนั้น” ผมเสียใจมาก อยากจะร้องไห้นะ แต่น้ำตาของผมไม่ไหลสักหยด

“แต่พี่รักกลอนจริงๆนะ เราก็อยู่กันแบบนี้ ถึงพี่แต่งงานไป พี่จะไม่ทิ้งกลอน กลอนเองก็ไม่อยากให้คุณน้ารับรู้อยู่แล้ว เราสองคนอยู่กันแบบคนรักแบบเปิดเผยท่านไม่ได้อยู่แล้ว นะครับกลอน”

“ทำไมพี่เป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ กลอนว่ากลอนโชคดีแล้วที่ได้เลิกกับคนอย่างพี่ กลอนสงสารผู้หญิงคนนั้นจริงๆ” ผมปัดมือของพี่รันที่พยายามจะกอดผม

“พี่ไม่เลิกนะ” พี่รันบอก

“ถ้าพี่ไม่เลิก ก็ไปบอกผู้หญิงคนนั้นว่าพี่กับกลอนเรามีอะไรกัน กล้าไหม” ผมท้า พี่รันยืนนิ่งไป

“อย่ามายุ่งกับกลอนอีก อย่างน้อยถ้ากลอนทำใจได้แล้วเรายังจะเป็นพี่น้องกันได้ในอนาคต ปล่อยแขนกลอน” ผมบอกเสียงแข็ง ทีแรกพี่รันจะไม่ยอมปล่อย จับแขนผมจนผมเจ็บ แต่พอได้ยินเสียงนักเรียนที่ดังแว่วมา พี่รันรีบปล่อยมือผม ผมได้แต่หัวเราะ แต่เป็นการหัวเราะให้กับความโง่ของตัวเอง ผมเดินออกมาจากห้องพักครูด้านใน เห็นไอ้เด่นมันยืนอยู่ในห้องพยาบาล มันรีบเดินเข้ามากอดคอผมแล้วพาผมออกไป อย่างน้อยผมก็มีเพื่อนดีๆที่ยังยืนเคียงข้างผม ชีวิตผมจะเสียคนแย่ๆไปอีกสักคนก็คงไม่เป็นไรหรอก


ตอนเย็นไอ้เด่นบอกว่าให้ผมกลับไปพร้อมกับมัน เพราะว่าพ่อผมไม่ได้มารับ ผมได้แต่รับรู้ ไม่ได้ถามมันว่าทำไมพ่อผมถึงไม่ได้มารับ เพราะหัวผมยังคิดถึงแต่ภาพวันเก่าๆของตัวเองกับพี่รัน ไม่ได้เอะใจเลยว่าความทุกข์ในใจของผมมันจะไม่ได้มีแต่เรื่องความรักเท่านั้น


ผมกลับมาถึงบ้านก็พบว่าภายในบ้านเงียบสนิท ไอ้เด่นมันลงมาส่งผมด้วย ผมก็แปลกใจ แต่นึกว่ามันคงห่วงผมเรื่องพี่รันเลยไม่ได้ถามอะไร จนระทั่งผมตะโกนเรียกแม่ ไม่มีเสียงตอบรับ ผมเริ่มผิดสังเกต เพราะรถของแม่ก็ยังจอดที่หน้าบ้าน จนผมเดินเข้ามาถึงในครัว เห็นแม่นอนนิ่งอยู่กับพื้น ผมตกใจรีบวิ่งเข้าไปหาแล้วเรียกแม่ให้ตื่น ผมเห็นยาเม็ดหล่นเกลื่อนพื้น ผมบอกให้เด่นโทรเรียกรถพยาบาล ส่วนตัวผมพยายามเรียกแม่ ใบหน้าของแม่อาบไปด้วยน้ำตา แม่ดูสะลึมสะลือ คงเพิ่งจะทานเข้าไป ผมไม่กล้าล้วงคอท่าน กลัวทำไม่ถูกวิธี ผมได้แต่เรียกแม่ น้ำตาเริ่มไหลเพราะกลัว ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมแม่ต้องกินยาฆ่าตัวตาย มันเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของผม


“แม่มึงปลอดภัยแล้ว ท่านคงไม่ได้อยากกินยาเกินขนาดหรอก” ไอ้เด่นมันปลอบผม ตอนนี้แม่ยังอยู่ในห้องไอซียู แต่หมอบอกว่าล้างท้องให้แล้ว ปลอดภัยแล้ว แต่ให้นอนดูอาการอยู่ก่อน

“แกรู้ใช่ไหม แกรู้อะไร ทำไมไม่บอกเรา” ผมถามเด่น ผมมาย้อนนึกถึงคำพูดของแม่เด่นเมื่อวานที่ท่านทักผม คิดว่าไอ้เด่นก็คงพอจะรู้

“กูขอโทษ แต่แม่บอกว่า แม่มึงจะบอกมึงเอง ไม่ให้กูพูด ท่านกลัวมึงจะเสียใจจนเสียการเรียน”

“พ่อเรามีเมียน้อยเหรอ” ผมหันไปมองหน้าไอ้เด่น มันพยักหน้า

“อืม แม่กูไปเจอพ่อมึงกับผู้หญิงคนนั้นหลายครั้งแล้ว แต่ไม่กล้าบอกแม่มึง จนวันก่อนแม่มึงไปจับได้เอง” ไอ้เด่นรีบตบบ่าของผม ผมมองเข้าไปในห้องไอซียู นึกสงสารแม่จับใจ ขนาดผมแค่คบกับพี่รันไม่นาน ผมยังเจ็บ แล้วแม่อยู่กับพ่อมามากกว่าอายุของผมอีก ท่านทำหน้าที่ของท่านอย่างดี เมื่อเจอพ่อหักหลังก็คงจะเจ็บมาก ผมไม่ได้พูดอะไรกับเด่นอีก นั่งเหม่ออยู่ที่หน้าห้องไอซียู จนพี่รันเข้ามาสะกิด ผมถึงได้รู้ว่ามีคนพูดกับผม

“กลอน..” พี่รันลงมานั่งข้างๆผม เอื้อมมือมาบีบมือของผม ดีที่ไอ้เด่นมันขอตัวกลับบ้านไปหาข้าวกับเสื้อผ้ามาให้ผม ไม่งั้นมันคงได้ชกพี่รันแน่ๆ เด่นมันเลือดร้อนด้วย

“ปล่อยมือกลอน” ผมบอก

“มันไม่ใช่เวลาจะมาโกรธพี่นะกลอน พี่อยากให้กำลังใจ มาอยู่เป็นเพื่อนกลอน” ผมถอนหายใจ อยากกรีดร้องแล้วบอกว่ามันไม่ใช่เวลาที่ผมต้องการพี่รันเหมือนกัน ผมทุกข์ใจเรื่องแม่พอแล้ว ผมไม่อยากเห็นหน้าคนที่หลอกลวงผม

“ถ้าพี่อยากช่วยกลอนจริงๆ ไปจากชีวิตกลอนสักพักนะครับ กลอนขอร้อง”

“กลอน”

“พี่ กลอนได้เสียกับคนอื่นแล้วด้วย ได้มากกว่าที่พี่เคยได้ กลอนก็ชอบด้วย บอกตรงๆนะว่าพี่ดีแต่ให้กลอนทำให้ กลอนไม่มีความสุข เราไม่เหมาะกันหรอก เชื่อกลอนนะ กลับไปหาผู้หญิงคนนั้นเถอะ”

“กลอน พี่รู้ว่ากลอนกำลังประชด พี่ไม่เชื่อหรอก” พี่รันพูดจบผมก็ลุกขึ้นแล้วจับข้อมือพี่รันให้ตามผมมา ผมพาพี่รันมาที่ห้องพักที่เตรียมเอาไว้ตอนที่แม่จะออกมาพักดูอาการจากห้องไอซียู ผมพาพี่รันเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะปลดกระดุมเสื้อนักเรียนของตัวเอง พี่รันเบิ่งตาโตเมื่อเห็นร่องรอยแดงๆบนตัวผม

“กลอน ทำไม..”

“เชื่อรึยัง” ผมถาม พี่รันทำสีหน้าผิดหวังในตัวผมอย่างที่สุด ก่อนจะชกไปที่ประตูห้องน้ำดังโครม ผมตกใจมาก ที่ข้อนิ้วของพี่รันขึ้นสีแดงเข้ม

“ตอนที่เราคบกัน กลอนไปทำแบบนี้กับคนอื่นรึเปล่า” พี่รันถาม ผมบอกตรงๆว่าอึ้งไป ถึงแม้ว่าผมกำลังประชด แต่ก็ไม่คิดว่าพี่รันจะคิดว่าผมมั่วสุดๆขนาดนั้น ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมา มันไม่ได้ทำให้พี่รันรู้จักตัวตนของผมเลย ก็คงไม่แปลก เพราะผมก็ไม่รู้จักตัวตนของพี่รันเหมือนกัน ไม่รู้เลยสักนิด

“ถามทำไมเหรอครับ”

“พี่อุตส่าห์ไม่รังเกียจร่างกายของกลอน ทั้งที่พี่ไม่คิดจะทำแบบนี้กับผู้ชายคนไหน แต่กลอน..ทำไมกลอนแย่แบบนี้” พี่รันตวาดผม

“แล้วที่พี่รันไปนอนกับผู้หญิงคนนั้น แล้วมาให้ผมทำอะไรให้ ผมต้องรังเกียจพี่ด้วยไหมครับ”

“มัน...มันไม่เหมือนกัน”

“ไม่เหมือนยังไงครับ”

“เขาสะอาด”

“หึ...ฮ่าๆๆ” ผมหลุดหัวเราะมาทันที คำว่าสะอาดของพี่รันคืออะไร ผมว่าเต็งหนึ่งมันแย่มากแล้ว มาเจอแบบพี่รัน ผมว่าเต็งหนึ่งมันยังไมทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองน่าขยะแขยงได้เท่าที่พี่รันกำลังทำเลย

“มึงอยู่ในนั้นรึเปล่ากลอน” เสียงของเด่นตะโกนถามอยู่หน้าห้องน้ำ พี่รันมองหน้าผมแบบรังเกียจก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำแล้วเดินออกไป ไอ้เด่นตกใจที่เห็นรอยบนตัวของผม มันนึกว่าพี่รันทำ มันกัดฟันแล้วจะเดินกลับออกไป ผมรีบดึงมือมันเอาไว้ก่อนจะร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะเก็บความทุกข์ที่ถามโถมเข้ามาไม่ไหวแล้ว

“ไม่เป็นไรมึง เดี๋ยวมันจะผ่านไป” ไอ้เด่นมันดึงผมไปกอดปลอบ ผมก็ได้แต่ร้องไห้ ร้องให้พอใจกับความทุกข์ที่ได้รับในวันนี้ อีกบทเรียนที่ผมจะต้องผ่านมันไปให้ได้อย่างที่เด่นบอก


เรื่องราวของผมกับพี่รันก็จบแบบไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มันก็เป็นอีกหนึ่งภูมิคุ้มกันให้ผม ซึ่งผมไม่ได้มีเวลาจมกับความทุกข์เรื่องของพี่รันเพราะแม่ แม่ออกจากโรงพยาบาลแล้วทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม่แค่กอดแล้วขอโทษผม ท่านถามผมว่า ผมอยู่กับท่านแค่สองคนได้ไหม ผมรีบบอกว่าได้ เพียงแค่นั้นเราสองแม่ลูกก็กอดกันร้องไห้อีกครั้ง แล้วก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นแม่ร้องไห้ แม่ยังคงไปสอนหนังสือตามปกติ กลับมาทำหน้าที่แม่ให้ผมแบบไม่ขาดตกบกพร่องเลยสักนิด พ่อไม่ได้กลับมาบ้าน หรือจะกลับมาตอนเราสองแม่ลูกไม่อยู่ก็ไม่รู้นะครับ พ่อโทรมาหาผม ท่านขอโทษผม ผมไม่ได้โกรธท่าน แม้ลึกๆอยากจะบอกว่าท่านผิด แต่ท่านเป็นถึงผู้ผู้พิพากษา อะไรถูกผิดก็คงไม่ต้องไปบอก ผมคิดแค่ว่า ถ้าพ่อไม่รักแม่แล้ว ผมจะชดเชยความรักของผมให้แม่เอง ซึ่งนี่แหละครับ ยิ่งทำให้ผมมานะในเรื่องเรียนมากยิ่งขึ้นและโดยเฉพาะเรื่องตัวตนของผม มันจะยิ่งต้องเป็นความลับมากขึ้นกว่าเดิม ผมไม่อยากให้แม่ต้องเสียใจจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะที่ควร

ผมกลับมาเป็นหนอนหนังสือ โฟกัสแต่เรื่องเรียน ไม่ได้ติดต่อกับกลุ่มเพื่อนเกย์ในกรุ๊ปไลน์เลย แม่ของผมยิ้มได้มากขึ้น แม้ท่านจะเหม่อบ่อยๆ แต่ผลการเรียนและการเป็นลูกที่ดีของผมทำให้ท่านมีความสุข ผมเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งเกี่ยวกับงานวิชาการต่างๆ เอารางวัลมาให้แม่ได้หลายรายการ และของขวัญที่ดีที่สุดที่ผมได้ทำให้แม่กับตัวของผมเอง คือผมสอบเข้าคณะที่อยากเข้าในสถาบันที่หวังอาไว้ได้ แม่ดีใจจนร้องไห้ โชคดีที่แม่ตามใจผมให้เลือกสายที่อยากเรียน แต่สิ่งที่ผมห่วงก็คือ ผมต้องย้ายเข้าไปอยู่ในกรุงเทพ ผมไม่อยากให้แม่อยู่คนเดียว แต่แม่ของเด่นบอกว่าไม่ต้องห่วง ท่านจะช่วยดูแลแม่ของผมให้ แม่เองก็บ่นว่าผมหาว่าท่านแก่จนดูแลตัวเองไม่ได้ ผมเห็นแม่เข้มแข็งแล้วก็นึกชื่นชมหัวใจของคนที่เป็นแม่ ท่านทุกข์แค่ไหนแต่ท่านไม่ยอมให้เวลากับความทุกข์นานเท่าที่ให้เวลากับลูก ผมไม่ได้ถามว่าวันนั้นท่านคิดกินยาตายจริงหรือเปล่า ไม่อยากไปจี้ปมนั้น แต่ผมก็เชื่อว่าท่านคงไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งผมเอาไว้คนเดียว แล้วมันก็ผ่านมาแล้ว ผมจะรีบเรียนให้จบไวๆ จะได้หางานดีๆ หาซื้อบ้านสักหลัง จะได้ให้แม่มาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพ


..แต่มันก็ยังอีกไกล เอาเป็นว่า ผมตั้งใจว่าจะทำทุกวันให้ดีที่สุดสำหรับตัวผมเองและเพื่อแม่ของผมแค่นั้นก็พอ...


..... จบบทรักบทที่ 2 อวสานพี่รัน ไปชิ้วๆ มีต่อบทรักบทที่ 3ข้างล่างนะคะ....

V
V
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย ตอนที่ 1 P.2 อัพ!!
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 01-10-2015 23:00:38
ต่อจากด้านบนค่ะ


บทรักบทที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (ตอนที่ 1)


ผมยืนมองตัวเองอยู่ที่หน้ากระจกในห้องน้ำของมหาวิทยาลัย หน้าของผมเต็มไปด้วยสีที่ถูกบรรดารุ่นพี่ช่วยกันละเลงอย่างสนุกสนาน ผมของผมก็เป็นสีขาวเนื่องจากถูกแป้งเด็กโรยจนเหมือนผมหงอก ซึ่งผมพยายามปัดจนฝุ่นแป้งฟุ้งกระจาย


“ไอ้กลอน แป้งเข้าตาเรา” เสียงของคนที่ยืนข้างๆผมโวยวาย ผมรีบหันไปปัดฝุ่นแป้งจากหัวของผมใส่มันหนักกว่าเดิม

“ไอ้กลอน อย่าเล่น เดี๋ยวเราฟ้องพี่รหัสเรานะโว้ย” มันโวยหนักกว่าเก่า

“เกี่ยวอะไรกับพี่รหัสแกวะบุ้ง” ผมถามด้วยความสงสััย


ใช่ครับ คนที่ยืนข้างๆผมในตอนนี้ก็คือบุ้ง โลกมันกลมจริงๆ หลังจากที่ผมสอบเข้าที่นี่ได้ ผมก็กลับเข้าไปในกรุ๊ปไลน์อีกครั้ง ผมนึกว่ากรุ๊ปนี้จะล่มสลายไปเสียแล้ว แต่ที่ไหนได้ มีคนมาเพิ่มมากขึ้นอีกหลายคน เกือบสิบคนได้ ผมถามบุ้งว่ามาจากไหนกัน บุ้งว่า เจ๊แนนซี่เป็นลากเข้ามา ตอนนี้เจ๊เรียนจบแล้ว เปิดบริษัทโมเดลลิ่งด้วยทุนของแฟนฝรั่งเหมือนเดิม ผมเพิ่งรู้ว่าแฟนเจ๊แนนซี่เป็นนายแบบมาก่อน ตอนนี้เลยย้ายมาอยู่เมืองไทยแล้วลงทุนเปิดบริษัทที่นี่ แถมเจ๊แนนซี่เพิ่งจะผ่าตัดแปลงเพศมาแบบสดๆร้อนๆ บุ้งบอกว่าเจ๊แกจะแต่งงานเมื่อซิลิโคนเข้าที่แล้ว ส่วนเพื่อนใหม่ที่ลากเข้ามาในกรุ๊ปไลน์เป็นเด็กในสังกัดเจ๊แนนซี่นั่นแหละครับ ที่เจ๊แกคัดเข้ามาแล้วว่านิสัยโอเค ที่สำคัญเป็นเกย์รุกที่กำลังขาดตลาด (เจ๊แกว่าอย่างนั้นนะครับ) แต่ผมยังไม่ค่อยรู้จักหรอก เข้าไปเล่นแต่ก็ไม่บ่อย แล้วที่ว่าโลกกลมก็เพราะผมมารู้ว่าบุ้งสอบติดคณะเดียวและมหาวิทยาลัยเดียวกันกับผม ทำให้ผมดีใจมากที่จะมีเพื่อน ผมนัดเจอกับบุ้งก่อนเปิดเรียน โดยไม่ให้บุ้งบอกใครในกรุ๊ปว่าผมเรียนที่เดียวกับบุ้ง ตอนเจอผมครั้งแรกแบบตัวเป็นๆ บุ้งมันร้องกรี๊ดจนผมตกใจ มันชมว่าผมน่ารักกว่าในรูปอีก มันบอกว่ามันไม่อยากเรียนที่เดียวกับผมแล้ว เพราะผมคงจะเรทติ้งดีกว่ามัน และน่าจะได้กินผู้ชายมากกว่ามัน ผมไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีกับคำพูดตรงๆของบุ้ง 555


“ก็พี่รหัสเราถามถึงแต่แก แต่เราว่าพี่เขาดูสาวว่ะ” บุ้งบอกผม

“เหรอ ดูไม่เห็นออก”

“จะไปดูใครออก หัวใจปิดตายแบบนั้น” บุ้งพูดแล้วแกล้งค้อนผม ผมดึงคอบุ้งมากอดแล้วสะบัดแป้งใส่ให้มันร้องโวยวายอีก

“โห น้องสองคนนี่เป็นแฟนกันรึเปล่า สนิทกันเร็วจัง” ผมหยุดแกล้งบุ้งเมื่อได้ยินเสียงใครสักคนร้องทัก พอหันไปดูก็เห็นว่าเป็นพี่รหัสของบุ้ง เขาชื่อพี่เมตร ส่วนอีกคนที่เดินเข้ามาด้วยชื่อพี่ฉลาม ดูท่าทางน่าจะดุเหมือนฉลาม เป็นพี่ว๊ากด้วย

“พี่เมตรอยากสนิทด้วยใช่ไหมละ” บุ้งถาม

“ได้ก็ดี” พี่เมตรยิ้มกรุ่มกริ้มมาทางผม

“แต่ไม่ได้ มันมีแฟนแล้ว” บุ้งบอก พี่เมตรทำหน้าละห้อย ส่วนพี่ฉลามเดินเลยพวกผมเข้าไปด้านใน

“ไปฉี่อีกรอบดีกว่า” บุ้งกระซิบผมก่อนจะเดินตามพี่ฉลามแล้วไปยืนข้างๆพี่เขา พอผมรู้ว่าบุ้งมันจะไปแอบส่องอะไร ผมหน้าแดงขึ้นมา แสบจริงๆเพื่อนผมคนนี้ ผมรีบล้างมือก้มหน้าลงไปล้างหน้าที่ก๊อก

“ล้างทำไม เดี๋ยวก็โดนอีก” เสียงเข้มๆทักผม ผมเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นพี่ฉลามยืนล้างมืออยู่ข้างๆผม

“ไม่อยากเป็นสิว ล้างเอาไว้ก่อนครับ” ผมตอบไปตามความจริง

“เป็นตุ๊ดเหรอ” ผมชะงักกึกเมื่อได้ยินคำถาม หันไปมองคนที่สูงกว่าผม ใส่เสื้อนักศึกษาตัวใหญ่ๆ กางเกงยีนสีดำเก่าๆ ขาดที่เข่า ผมยักศกยาวถึงคอ มีหนวดขึ้นรำไร ผมอยากจะชมว่าพี่เขาเท่ห์มากๆถ้าปากไม่เสียมาให้ผมสะดุดหูเสียก่อน

“ทำไมไปทักน้องอย่างนั้นวะไอ้หลาม” พี่เมตรรีบเข้ามาเมื่อเห็นว่าบรรยากาศไม่ค่อยดี ส่วนไอ้บุ้งยืนขำอยู่ข้างหลังผม มันจะขำอะไรของมัน

“ก็เจ้าสำอาง เลยสงสัย”

“ถ้าพี่จะเรียกคนรักสะอาดว่าตุ๊ด ก็เอาที่พี่สบายใจครับ ยอมเป็นตุ๊ดดีกว่าโสโครก” ผมบอกจบก็ก้มลงไปล้างหน้าต่อ ได้ยินเสียงไอ้บุ้งกับพี่เมตรหัวเราะดังลั่น พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีพี่ฉลามก็หายไปแล้ว ผมไม่ได้อยากสร้างศัตรูนะ ถึงผมจะเป็นแบบนั้น ก็ไม่ต้องมาพูดเหยียดหยามก็ได้

“เด็ดมาก ไม่เคยมีใครกล้ากับไอ้หลามเลยนะ เสียดายจัง ไม่น่ามีแฟนเลย ไปกันเถอะ ไปช้าโดนไอ้หลามมันสั่งวิดพื้นไม่รู้ด้วยนะ” พี่เมตรขู่ บุ้งมันรีบคว้ามือผมแล้ววิ่งไปที่ลานหน้าตึกคณะทันที

“มากันครบรึยัง” เสียงตะโกนของพี่ว๊ากคนหนึ่งดังมากจนผมแอบคิดว่ากล่องเสียงพี่เขาจะแตกออกมาไหม ทำไมต้องตะโกนขนาดนั้นด้วย

“เฮ้ย ไอ้น้องคนนั้น ใครใช้ให้ไปล้างหน้า พี่บอกว่าห้ามล้างจนกว่าจะปล่อยไง” พี่ว๊ากอีกคนที่รูปร่างใหญ่เหมือนยักษ์ชี้มาที่ผม ผมขอเรียกพี่เขาว่าพี่อ้วนนะครับ คราวนี้ทุกสายตาหันมามองผมหมด

“ลุกขึ้นมาดิ” พี่คนแรกที่ตะโกนสั่งผม ผมขอเรียกคนนี้ว่าพี่แหบ เพราะพี่เขาตะโกนจนเสียงแหบ

“ไปล้างหน้าทำไม” พี่อ้วนถามผม

“ผมไม่รู้ว่าห้ามล้างครับ” ผมตอบ ซึ่งผมไม่รู้จริงๆ ไม่รู้ว่าพี่เขาพูดตอนไหนว่าห้ามล้าง

“ทำไมไม่ตอบแบบเมื่อกี้ละ” พี่ฉลามถามผม ผมถอนหายใจก่อนจะตอบใหม่

“ไม่อยากโสโครก ไม่อยากเป็นสิวครับ” ผมตะโกนตอบ คราวนี้เงียบกันทั้งคณะ ก่อนจะได้ยินเสียงเป่าปากหัวเราะชอบใจจากรุ่นพี่หลายคน ส่วนพวกปีหนึ่งนั่งก้มหน้ากันหมด

“มึงเดินออกมานี่เลย ท่าทางจะแสบ” พี่แหบเรียกผม ผมเดินออกไป ถามว่ากลัวไหมก็กลัว แต่ก็คิดว่า ไม่ว่าจะรุ่นไหนเราทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน

“เอานี่ คล้องคอตลอดนะ ห้ามถอด มึงต้องคล้องทุกวันหลังเลิกเรียน ถ้ามึงถอดหรือทำป้ายหาย เพื่อนมึงทั้งรุ่นงานเข้าแน่” ผมก้มลงมองป้ายที่พี่แหบคล้องให้ผม ผมยืนอึ้งไป ได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้นมา ในป้ายเขียนว่า ผมเป็นตุ๊ด

“ผมคืนครับ” ผมถอดป้ายออกทันที พวกพี่ว๊ากเริ่มหยุดหัวเราะแล้วหน้าบึ้ง มีเสียงซุบซิบดังมาจากพวกปีหนึ่ง

“มึงหูตึงรึไงวะ กูบอกห้ามถอด” พี่อ้วนเดินมาตะโกนใส่หูผม

“ไม่ได้หูตึงครับ แต่ผมมีสิทธิที่จะไม่ใส่” ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองเอาความกล้านี่มาจากไหน ที่ผ่านมาผมเป็นคนเงียบๆ เป็นเด็กเรียน ใครว่าไงก็ว่างั้น แต่ทำไมผมถึงกลายเป็นรุ่นน้องที่กล้าปีนเกลียวไม่เชื่อฟังรุ่งพี่ไปแล้วก็ไม่รู้เหมือนกัน

“เด็กปีหนึ่งทุกคน ลุกขึ้น วิดพื้นร้อยที” เสียงพี่แหบตะโกน ผมหันไปมองเพื่อนๆ เห็นทุกคนส่ายหน้า ทำหน้าเซ็งๆแล้วรู้สึกผิด

“ผมวิดคนเดียว เพื่อนไม่ได้ผิดอะไร” ผมบอก

“ไม่ได้ พวกมึงเป็นเพื่อนกัน เพื่อนผิดก็ต้องรับผิดหมด” พี่แหบตะโกนบอก

“ผมผิดอะไรครับ” ผมถาม หันไปมองไอ้บุ้ง มันรีบส่ายหน้าให้ผม มองพี่เมตร พี่เขาก็ยิ้มแห้งๆให้มา แต่ผมอยากรู้จริงๆ

“บ๊ะ มึงนี่กวนประสาทจริง” พี่อ้วนเกาหัว

“ผมไม่ได้กวนนะครับ ผมแค่อยากรู้ การที่ผมไม่อยากให้พี่เอาความรู้สึกของผมมาล้อเล่นมันผิดเหรอครับ การที่ผมไม่อยากเป็นตัวตลกในสถาบันที่ผมพยายามแทบตายกว่าจะได้เข้ามามันผิดเหรอครับ การที่ผมเห็นว่าสิ่งที่พี่กำลังทำมันไม่ได้ทำให้เรารักกันมากขึ้น มีแต่จะทำให้เกลียดกันฝังใจ ผมยังไม่เห็นว่าอะไรคือประโยชน์ของการรับน้องที่พี่กำลังปฏิบัติกับพวกผม ผมเลยสงสัย ว่าผมผิดอะไรถ้าพี่ให้เหตุผลที่ดีได้ ผมจะยอมทำทุกอย่างที่พี่อยากให้ทำ” ผมพูดยาวเลย พูดจบ ผมได้ยินเสียงปรบมือ หันไปดูเห็นไอบุ้งมันปรบมือ จากนั้น เด็กปีหนึ่งแทบทุกคนก็ปรบมือ พี่อ้วนเกาหัวหนักกว่าเดิม ส่วนพี่แหบหน้าเหวอ รุ่นพี่คนอื่นๆก็อึ้งๆกันไปหมด

“มันเป็นการฝึกความอดทน คุณอาจจะคิดว่ามันไร้สาระแต่วันหนึ่งคุณจะรู้ว่าคุณต้องเจออะไรแบบนี้ในชีวิตจริง พวกเราทำกันมาทุกปี ที่คุณเคยโดนผมก็โดนมาเหมือนกัน แล้วทุกวันนี้ผมกับรุ่นพี่ผมที่จบไปแล้วก็ไม่ได้เกลียดกัน เรายังช่วยเหลือติดต่อกัน สนิทสนมกันมากกว่าเดิม ถ้าคุณคิดว่าพวกรุ่นพี่ทำเกินไป พวกพี่ให้คุณเลือกที่จะเดินออกไปได้เลย ถ้าจะจบประเพณีที่ชาวคณะทำกันมาในปีนี้ ผมก็ถือว่า พวกผมมันแย่เองที่ทำให้น้องเข้าใจไม่ได้” พี่ฉลามพูดจบก็ผายมือออก ผมหันกลับไปมองเพื่อนๆ คราวนี้ทุกคนเงียบแล้วก็ไม่มีใครลุก

“ผมขอพูดอีกได้ไหมครับ” ผมถาม พี่อ้วนเกาหัวต่อแล้วก็หัวเราะออกมา

“มึงแม่งโคตรเป็นเจ้าหนูจำไมช่างสงสัยช่างเจรจาจริงจริ๊งงงง เวรกรรมอะไรของกูที่มาเจอรุ่นน้องแบบมึงว่ะ รู้ถึงหูโคตรรหัส กูโดนหัวเราะเยาะแน่ เอ้า..อยากพูดก็พูด”

“ผมเข้าใจความต้องการของพี่แล้ว เอาเป็นว่า ถ้านี่คือการแสดงสายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง ผมอยากให้มันชัดเจนกว่านี้ครับ” ผมบอก

“ยังไง” พี่แหบถาม

“ผมจะคล้องป้ายนี้ แต่ให้พี่เขาแขวนด้วยได้ไหมครับ” ผมชี้ไปที่พี่ฉลาม รุ่นพี่อ้าปากค้าง พูดไม่ออก ยืนอึ้งกันไปหมด พี่ฉลามจ้องหน้าผมนิ่ง ก่อนจะก้มหน้าหัวเราะ

“เออ เดี๋ยวผมคล้องด้วย คุณอย่าถอดก่อนผมแล้วกัน” พี่ฉลามพูดจบ ผมเห็นพี่แหบรีบถอนหายใจยกมือลูบอกตัวเอง รุ่นพี่คนอื่นๆปรบมือเป่าปากส่งเสียงเฮๆ ไอ้บุ้งรีบลุกมากอดผม ราวกับว่าผมพ้นโทษประหารแล้ว


แล้ววันนั้นผมก็โดนรุ่นพี่หลายคนสั่งให้ออกมาทำกิจกรรมแทบจะทุกด่าน บุ้งบอกว่าผมคงมีชื่อเป็นแบล็กลิสท์ของรุ่นไปแล้ว แต่ผมก็โอเคนะครับ แต่ละด่านไม่ได้ทำอะไรที่เกินไป ไม่ได้ใช้ความรุนแรง รุ่นพี่บางคนอาจจะใช้คำหยาบคายไปบ้าง แต่พี่เขาก็ฮาๆดี โดยเฉพาะพี่อ้วนที่ไหว้ผมทุกที่ที่เจอ จนผมต้องรีบยกมือไหว้กลับ พี่เขาบอก กลัวอิทธิฤทธิ์ของผมจริงๆ ซึ่งทำให้คนอื่นๆขำท่าทางพี่เขากันใหญ่


ผมผ่านการรับน้องมาได้ด้วยดี ผมกับพี่ฉลามถูกคนอื่นๆล้อว่าคู่ตุ๊ดหยุดโลกเพราะว่าป้ายที่เราสองคนคล้องไปมาทั้งวันแม้กระทั่งในเวลาเรียน อาจารย์บางท่านก็ขำก่อนจะสั่งให้ถอดเพราะทนสงสารไม่ไหว จนมาถึงวันสุดท้าย รุ่นพี่ที่จบไปแล้วหลายคนก็มาพูดคุย หลายๆคนประสบความสำเร็จมากๆ พี่เขาก็มาให้ความรู้ มาบอกแนวทาง ซึ่งผมเห็นแล้วว่า ทุกคนดูรักและเมตตาพวกเรารุ่นน้องด้วยความจริงใจ เห็นความเป็นกันเอง มีหยอกล้อกันแรงๆได้ นั่นทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาเหมือนกันที่ไปรู้สึกแอนตี้ในทีแรก คงเพราะผมไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ พอโดนต้องคล้องป้ายแบบนั้นมันทำให้ผมร้อนตัวขึ้นมา นี่ก็คงเป็นอีกบทเรียนหนึ่งที่ทำให้ผมเข้าใจว่าเราควรวางตัวยังไงในสังคม


..อย่ากลัวที่จะเป็นตัวเอง อย่ากลัวความคิดคนอื่น แต่จงกลัวความคิดตัวเองตอนที่อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล..


“ดีเนอะ อยากจบแล้ว อยากทำงานไวๆ” ผมบอกกับบุ้งหลังจากที่รุ่นพี่ปล่อยทุกคนกลับ

“อืม แก เห็นพี่เต่าไหม หล่อเนอะ เท่ห์ อยากได้ โอ้ย คิดแล้วอยากไปหัวหินเร็วๆ” บุ้งทำหน้าเพ้อฝัน พี่เต่าคือรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว เป็นเจ้าของบริษัทโฆษณาชื่อดังพอสมควร พี่เขาจะรับรุ่นน้องที่จบแล้วไปทำงานด้วยเสมอ บางคนยังไม่จบก็เข้าไปฝึกงานเรียนรู้ได้

“ไปหัวหิน ไปทำไม” ผมถามบุ้ง

“อ้าว พ่อหนอนหนังสือ จะรู้อะไรบ้างไหม ก็งานรับน้องยังไม่จบ ยังไม่ได้ผูกข้อมือเลย เราต้องไปรับน้องอีกทีที่หัวหิน พวกรุ่นพี่ที่จบไปแล้วจะมากันเยอะมาก เหมือนงานรวมรุ่นประจำปีเลยละ เป็นงานสังสรรค์ ฮาๆซึ้งๆ พวกที่มาในวันนี้แค่ส่วนเดียวเอง พี่เขาจะมาทำความรู้จัก รุ่นน้องบางคนก็ใช้เวลาว่างขอไปฝึกงานกับพวกรุ่นพี่ที่มีบริษัทของตัวเองได้เลยด้วย”

“จริงเหรอ ดีจัง เราอยากฝึกงาน” ผมบอกอย่างดีใจ

“เฮ้ย ไอ้หนูจำไม” เสียงตะโกนเรียกทำให้ผมกับบุ้งหันกลับไปมอง รถเก๋งคันหนึ่งมาจอดขนาบฟุตบาทที่พวกผมยืนอยู่

“มีอะไรครับพี่แหบ” ผมถามพี่แหบที่เปิดกระจกรถที่นั่งหลังมาทักผม รถเบนซ์เสียด้วย

“ไปกินข้าวเย็นกัน” พี่แหบบอก ผมกำลังจะปฏิเสธ แต่บุ้งรีบเดินมายืนข้างหน้า

“พี่เลี้ยงใช่ไหมครับ” บุ้งถามเสียงสดใส

“กูไม่แดกเงินน้องหรอก ให้ไว” พี่แหบสั่ง บุ้งรีบดึงมือของผมให้เข้าไปนั่งในรถทั้งที่ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย เข้าไปก็เห็นว่าคนที่ขับรถมาคือพี่ฉลาม มีพี่ผู้หญิงนั่งคู่มาด้วยข้างหน้า สวยมากๆ

“ไปกินที่ไหนเหรอครับ ผมว่า ผมกลับหอดีกว่า” ผมพูดขึ้นมา อยากกลับเพราะวันนี้รู้สึกเพลียจริงๆ โดนรุมมาทั้งวัน

“กินก่อน เดี๋ยวไปส่ง อยู่แถวไหน อยู่ด้วยกันรึเปล่า” พี่แหบถาม

“ผมอยู่แถวxxx แต่กลอนมันอยู่ตรงxxx” บุ้งบอกรายละเอียดไป

“อ้าว กลอนอยู่ใกล้บ้านไอ้หลามเลย ดีๆ น้องๆจะได้มีรถฟรีกลับบ่อยๆ เพื่อนพี่มันใจดี ใจป๋า ป๋าหมากมากๆด้วย” พี่แหบพูดจบก็ตบไหล่เพื่อน ส่วนผมเผลอหลุดหัวเราะ จนสายตาคนขับเหล่มามองผ่านกระจกส่องหลัง

“เดี๋ยวได้เดินไปกิน” พี่หลามขู่เพื่อน ผู้หญิงที่นั่งคู่มาด้วยก็หัวเราะน้อยๆก่อนจะเอื้อมือไปเกลี่ยๆที่แก้มของพี่หลาม ไอ้บุ้งรีบหันมาทางผมแล้วเบ้ปาก ผมได้แต่ขำมัน มันมักจะทนรังสีแห่งความรักของมวลมนุษย์ชาติๆไม่ได้


แล้วผมกับบุ้งก็ได้กินข้าวเย็นจนท้องจะแตกแบบที่เงินยังอยู่ครบ พี่ๆเขาพาไปกินร้านอาหารที่อยู่ติดริมแม่น้ำ อร่อยดี แต่ผมก็กินได้ไม่เยอะ แต่แค่นั้นก็อิ่มมากๆ จนได้เวลากลับบ้าน พี่ฉลามวนไปส่งทุกคนจนเหลือผมกับพี่ฉลามสองคนเพราะอยู่ใกล้กัน ก่อนจะถึงคอนโด เด่นโทรมาหาว่าผมอยู่แถวไหนแล้ว ผมอยู่คอนโดเดียวกับเด่น แม่ของเด่นซื้อทิ้งเอาไว้นานแล้ว คอนโดเป็นห้องชุด มีสองห้องนอน ผมเลยมาอยู่ด้วย แต่เด่นเรียนคนละที่กับผม ผมเลยไปกลับเอง ไม่ได้ให้มันไปส่ง คนละทางกัน แต่คอนโดนี่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยที่ผมเรียน ผมเลยไม่ได้คิดไปอยู่ที่อื่น ประหยัดดีด้วย แต่ผมจะเป็นคนออกค่าน้ำค่าไฟเอง


“ไปเปิดรั้วให้หน่อย” พี่ฉลามบอกผม ผมทำหน้างง รั้วอะไร คอนโดที่ผมอยู่ไม่ได้ติดถนนใหญ่ พี่ฉลามขับมาในซอย แล้วมาจอดหน้าคอนโดของผมแล้ว คอนโดนี้เข้าได้สองทาง แต่ทางด้านหน้าจะมีเพียงประตูรั้วอัลลอย์สำหรับคนเข้าเท่านั้น ถ้าจะจอดรถต้องไปเข้าอีกซอยหนึ่ง ผมเลยงงว่ารั้วที่ฉลามให้ผมไปเปิดมันคือรั้วไหน ผมมาเข้าใจเมื่อพี่หลามชี้ไปที่บ้านหลังใหญ่ที่อยู่ตรงกันข้ามกับด้านหน้าของคอนโดเลย บ้านนี้รั้วสูงมาก ผมเคยออกไปยืนดูที่ระเบียงห้อง มองไปที่บ้านหลังนี้ มันใหญ่มาก พื้นที่ก็กว้าง มีทั้งสนามบาสและสระว่ายน้ำ ไม่คิดว่าจะเป็นบ้านของพี่ฉลาม 

“บ้านของพี่เหรอ” ผมถาม

“อืม เปิดให้หน่อย พี่ลืมเอารีโมทรั้วมา”

“อ้าว แล้วกลอนจะเปิดยังไง” ผมถาม

“กดกริ่ง เดี๋ยวมีคนมาเปิด” พี่ฉลามพูดจบผมก็เลยลงไปยืนกดกริ่งให้ สักพักประตูก็เปิดออก

“งั้นผมกลับเข้าคอนโดเลยนะ ขอบคุณสำหรับข้าวเย็นแล้วก็รถฟรีด้วยครับ” ผมยกมือไหว้พี่เขา พี่เขาพยักหน้าก่อนจะแบมือ ผมก็งงรอบสอง

“เอาโทรศัพท์มา” พี่ฉลามบอกผม

“ทำไมครับ”

“จิ๊ ขี้สงสัยจริง เอามาเร็ว” มาว่าผมอีก ก็ผมสงสัย

“ทำไมอ่า” ผมถามซ้ำ พี่เขาถอนหายใจก่อนจะหัวเราะเบาๆ

“จะให้เบอร์ เช้าโทรมา ไปมอพร้อมกัน” พี่เขาอธิบาย ผมยืนลังเลสักพัก พอเห็นพี่เขาจิ๊ปากผมเลยเปิดกระเป๋าหยิบกระดาษมาจดเบอร์แล้วส่งให้ พี่เขาหยิบกระดาษไปดูก่อนจะทำมือไล่ผม ผมยิ้มให้พี่เขาก่อนจะเดินไปที่หน้าประตูเหล็กดัดของคอนโด หยิบคีย์การ์ดมาแตะ พอประตูเปิดผมก็เดินเข้าไป หันมาดูอีกทีประตูรั้วบ้านพี่ฉลามก็ปิดไปแล้วเหมือนกัน


*****ติดตามบทรักต่อไปในตอนหน้านะคะ********


เซ็งมากกับเน็ตที่บ้าน มันเด้งหลุดตลอด จัดหน้ากำลังจะเสร็จ เน็ตค้าง ต้องเริ่มใหม่อยู่แบบนี้มาสามวัน
วันนี้เลยมาจัดหน้าในเวิร์ด แล้วเอามาลง แต่กว่าจะได้ หมุนติ้วๆเลยค่ะ ขอให้สนุกกับน้องกลอนกับความรักบทใหม่นะคะ
ส่วนไอ้พี่รัน ถีบส่งค่ะ 5555 ผู้แต่งอยากบอกว่า สมัยนั้นมันไม่ใช่ไลน์ แต่มันคือสไกป์ แต่แต่งเป็นไลน์ ง่ายดีเนอะ

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 2 ตอนจบ + บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 1 (01/10/58) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 01-10-2015 23:52:31
นี่รอติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 2 ตอนจบ + บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 1 (01/10/58) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-10-2015 00:01:36
เราว่ากลอนมีความคิดดีนะ ยังคิดได้แม้ว่าจะเจอกับความผิดหวังเสียใจซ้ำๆ
ก็หวังว่ากลอนจะรักตัวเอง แล้วก็เจอคนที่รักจริงในที่สุดนะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 2 ตอนจบ + บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 1 (01/10/58) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 02-10-2015 01:51:18
ขอให้ไอ้รันมันติดโรคจากคนที่*สะอาด*ของมัน

โคตรเกลียดพ่อของกลอนเลย   เป็นพ่อแต่สร้างปัญหาให้ลูกมารับผิดชอบ
ตำแหน่งหน้าที่การงานสูงขนาดไหนก็ยังไม่สามารถแก้สันดานเสียได้

กลอนเข้มแข็งมากๆค่ะ  ในทุกๆเรื่อง  จัดการเรื่องของรันของแม่ได้ดี มีสติ  เป็นตัวเอกที่เราชอบมากๆเลยคนหนึ่ง  คงต้องขอบคุณเด่นกับแม่ด้วย   แม่ของกลอนก็พยายามอย่างมากๆ   ตอนที่กินยาตายนั้นอาจจะอยากให้สามีกลับมา แต่พอทางนั้นไม่กลับมาก็ตัดใจได้   เจ็บแต่จบค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 2 ตอนจบ + บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 1 (01/10/58) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 02-10-2015 08:27:39
รักกลอน.  :man1:   โอ๋ๆนะ
น้องเป็นคนดี แต่ตอนนี้อาจจะเป็นพี่เราก็ได้เหมือนเรื่องจะผ่านมานานแล้ว
เราเชื่อว่าคนดีจะดึงดูดคนดีเข้ามา ใครจะเจอแต่คนเลวคนเห็นแก่ตัวกันล่ะ
พี่รันเลวมาก ป่วยมาก อยากให้นางสำนึกสักวันว่าได้ทำลายชีวิตของเด็กคนนึงไป
นางแค่หนีความจริงว่าตัวเองเป็นเกย์แต่งงานกับผู้หญิงเพื่อยืนยันสถานะแต่จะเอากลอนเป็นเมียเก็บ ดูถูกกลอนเพื่อจะบอกตัวเองว่าสิ่งที่ตัวเองเลือกมันถูกต้อง สุดท้ายคนแบบไอ้พี่รันก็ต้องหันไปหาผู้ชายเข้าสักวันและใจตุ๊ดไปตลอดชีวิต

เรื่องชีวิตในมหาลัยยังอีกยาวไกล เชื่อว่าน้องผ่านความสาหัสมามากแล้วน้งจะเข้มแข็งขึ้นแน่นอน
เอาจริงๆยังสงสัยอยู่ว่าใครพรากซิงของกลอนไปนะ แต่แอบหวั่นใจว่าไม่รู้จะดีกว่ารึเปล่า ขอบคุณค่ะ มาต่ออีกนะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 2 ตอนจบ + บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 1 (01/10/58) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 02-10-2015 09:12:58
กลอนแกร่งมากอ่ะ
จัดการปัญหาด้วยสติจริงๆ ไม่ต้องหาเหตุผลนั่นนี่แค่เข้าใจมัน และทำในสิ่งที่เราทำได้
กลอนเหมือนคุณแม่เลย คุณแม่เองก็เข้มแข็งมาก

เสน่ห์กลอนยังไม่หมดเนอะ ความรักครั้งใหม่กำลังเริ่มขึ้นสินะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 2 ตอนจบ + บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 1 (01/10/58) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 03-10-2015 12:56:53
ขอชื่นชมความเข้มแข็งของคุณแม่-น้องกลอนค่ะ   :katai2-1:

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 2 ตอนจบ + บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 1 (01/10/58) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 03-10-2015 13:39:52
ขอชื่นชมความเข้มแข็งของคุณแม่-น้องกลอนค่ะ   :katai2-1:

หัวข้อ: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 2 ตอนจบ + บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 1 (01/10/58) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 03-10-2015 22:09:32
จะมีอะไรต่อ อยากอ่าน :hao7:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 2 ตอนจบ + บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 1 (01/10/58) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 03-10-2015 23:07:46
อย่าบอกนะว่าคนต่อไปคือพี่ฉลาม

บวกเป็ดให้ครับ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 2 ตอนจบ + บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 1 (01/10/58) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 04-10-2015 06:42:26
เรื่องสนุกมากครับ
ไม่ได้ติดตามเรื่องไหนอย่างจริงจังมาพักหนึ่งแล้ว แต่เรื่องนี้ทำเอาให้ต้องอ่านรวดเดียวเลย ยอมรับว่าติดงอมแงม
เป็นกำลังใจให้ครับ
มาต่อบ่อยๆนะครับ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 2 ตอนจบ + บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 1 (01/10/58) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 04-10-2015 08:44:18
 o13
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 2 ตอนจบ + บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 1 (01/10/58) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 04-10-2015 10:27:56
พี่หลามจะจีบน้องหรอ? จริงใจกับน้องหรือแค่เล่นๆกัน ฮ้อสงสารน้อง
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 2 ตอนจบ + บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 1 (01/10/58) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 06-10-2015 00:42:54
อยากให้กลอนได้เจอคนที่รักกลอนจริงๆเสียที
แต่กลอนเป็นคนดี... เราเชื่อว่ากลอนต้องมีความสุขในท้ายที่สุดแน่ๆค่ะ

ติดตามและเป็นกำลังใจให้นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 2 ตอนจบ + บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 1 (01/10/58) p.2
เริ่มหัวข้อโดย: fangdxxi ที่ 08-10-2015 09:04:58
รออ่านอยู่น้าา ติดตามๆๆๆ :katai2-1:  :katai2-1:  o13
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 2 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (08/10/58) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 08-10-2015 12:31:23
บทรักบทที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (ตอนที่ 2)

ผมกลับมาถึงไอ้เด่นก็เข้ามาชวนคุยเรื่องมหาวิทยาลัย ผมก็เล่าให้มันฟังทุกเรื่อง มันทำหน้าเหมือนไม่เชื่อว่าผมจะกล้าพูดอะไรแบบนั้นกับรุ่นพี่ แต่มันก็บอกให้ผมดูแลตัวเองดีๆ มันว่าที่กรุงเทพไม่เหมือนต่างจังหวัด ผมก็ขำมันนะ ผมก็อายุเท่ามัน แต่มันห่วงผมเหมือนผมเป็นเด็ก มันคงเห็นเป็นคนหัวอ่อน ถูกหลอกง่ายละมั๊ง ผมคุยกับมันอีกสักพักก็ขอตัวไปอาบน้ำ วันนี้โดนทั้งสี ทั้งแป้ง ทั้งฝุ่นจนเหนียวตัวไปหมด อาบน้ำเสร็จไอ้เด่นก็เข้ามาบอกว่าเพื่อนใหม่ชวนไปกินเหล้า มันเลยมาชวนให้ผมไปด้วย แต่ผมไม่ไป เพลียและง่วงจนตาจะปิดแล้ว ผมบอกให้มันไปไม่ต้องมาห่วงอะไรผม แต่ผมไม่ให้มันขับรถไป มันเลยบอกว่าเดี๋ยวเพื่อนมันมารับ อยากจะบ่นมันเหมือนกันเรื่องกินเหล้า แต่คิดว่าดูมันไปก่อน ถ้ามันยังไม่เพลาๆเรื่องนี้ผมคงต้องเตือนมันบ้าง


ผมหลับรวดเดียวถึงเช้า ไม่รู้ด้วยว่าไอ้เด่นมันกลับมาตอนกี่โมง แต่ตื่นมาก็เห็นมันแปะกระดาษที่หน้าประตูห้องผมว่ามันซื้อโจ๊กมาให้ อย่าบอกนะว่ามันเพิ่งกลับมาตอนเช้าถึงได้มีโจ๊กมาให้ผมด้วย ผมไมได้ปลุกมัน เพราะมันเขียนบอกเอาไว้ด้วยว่าวันนี้มันมีเรียนบ่าย ผมกินโจ๊กที่มันซื้อมาให้ เก็บล้างจานเรียบร้อย เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นมาพอดี ผมเดาว่าอาจจะเป็นพี่ฉลาม ซึ่งผมเดาถูก ผมไม่ได้ปฏิเสธที่จะไม่ไปด้วย ก็ถ้าพี่เขาต้องไปมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ผมติดรถไปด้วยก็คงไม่เป็นอะไร ผมรีบหยิบกระเป๋าแล้วลงไปข้างล่าง พี่ฉลามโทรเข้ามาอีก บอกให้ผมเดินเข้ามาหาเขาที่บ้าน ผมเริ่มลังเลใจ ยืนตัดสินใจจนประตูรั้วของบ้านพี่ฉลามเปิดออก มีรถหนึ่งคันแล่นออกมาจากด้านใน เป็นรถสปอร์ตยี่ห้อหรูสีแดงสด รถคันนั้นจอดนิ่งแล้วเปิดกระจกลง


“มาหาใครรึเปล่า” ผู้ชายวัยทำงานแล้วทักผม หน้าตาหล่อมากๆ มีส่วนคล้ายพี่ฉลาม แต่หล่อกว่ามาก ดูดีไม่ทำตัวเซอร์ๆเหมือนพี่ฉลาม อาจจะเป็นพี่ชายก็ได้

“ผมมารอพี่ฉลามครับ” ผมบอก อีกฝ่ายพยักหน้ารับรู้

“โอเค งั้นเดินเข้าไปเลยนะ ซ้ายมือ” พี่เขาบอกผมก่อนจะปิดกระจกรถแล้วขับออกไป


ผมเดินเข้าไปข้างในรั้วบ้านของพี่ฉลามแบบเกร็งๆ มีคุณลุงคนหนึ่งเป็นคนพาผมเดินเข้าไป ผมผ่านสนามบาสก่อน บริเวณบ้านนี้แบ่งออกเป็นสองฝั่ง มีสนามหญ้าคั่นกลางระหว่างสองบ้าน ผมถูกพาเดินมาทางด้านซ้ายมือ บ้านหลังใหญ่แต่งสไตล์โมเดิร์น ผมยืนมองอย่างชื่นชม ถ้ามีบ้านผมก็อยากแต่งสไตล์นี้แหละครับ คุณลุงที่เดินนำผมมาบอกให้ผมเข้าไปข้างในเลย แต่ผมบอกลุงว่าขอนั่งรอที่ชิงช้านี่ดีกว่า ลุงก็เลยตามใจผมแล้วเดินจากไป ผมนั่งรอไม่นานพี่ฉลามก็เดินลงมา เสื้อนักเรียนสีขาวสะอาดกว่าตัวเมื่อวาน แต่ไม่ได้นุ่งทับเหมือนเดิม ผมเพิ่งสระยังไม่แห้งดี หนวดที่ขึ้นรำไรยิ่งทำให้พี่เขาดูดิบๆดุๆยังไงไม่รู้


“ทำไมไม่เข้าไปรอข้างใน ร้อนจะตาย” พี่ฉลามถามผม

“ไม่เห็นร้อนเลย ลมดีจะตาย พี่มีเรียนเช้าเหรอครับ” ผมถาม

“อืม กินไรมายัง”

“กินแล้วครับ”

“ไรวะ พี่ยังไม่ได้กินเลย” พี่ฉลามเหล่ตามามองผม ก่อนจะเดินนำผมไปที่โรงจอดรถ ผมเดินมาถึงโรงรถก็ต้องส่งเสียงร้องโอ้โหออกมา รถสวยๆทั้งนั้นเลย มีตั้งสี่คัน จะรวยไปถึงชาติไหนครับพี่

“น้ำลายไหลแล้ว” พี่ฉลามแซวผม ผมรีบหุบปากแล้วเดินขึ้นไปนั่งในรถคันเดิมที่มาส่งผมเมื่อวานนี้

“มาเช่าอยู่เหรอ” พี่ฉลามถามผม

“ห้องของเพื่อนสนิทครับ แต่มันมีสองห้องเลยมาอยู่ด้วย”

“สนิทกับไอ้บุ้งมาก่อนเหรอ”

“ครับ”

“ทำไมมาเรียนนิเทศ อยากทำงานอะไร”

“กลอนอยากทำงานบริษัทโฆษณา แล้วพี่ละ”

“ช่างภาพ ถ่ายภาพนู๊ด”

“ห๊ะ”

“ฮ่าๆๆ” พี่ฉลามหัวเราะ ผมอยากจะบอกว่าผมเชื่อนะนั่น ภาพลักษณ์พี่ให้มาก

“พี่หัวเราะเป็นด้วยเหรอ เห็นชอบทำหน้านิ่งๆ หรือเป็นพี่ว๊ากต้องทำหน้าดุ” ผมถาม พี่ฉลามหันมาส่งยิ้มมุมปาก

“เคยคิดว่าทำแบบนั้นมันได้ผล แต่เพิ่งรู้เมื่อวานว่ามันใช้ไม่ได้กับทุกคน” พี่ฉลามตอบผม ผมได้แต่ยิ้มแหยๆ

“ผมก็กลัวพี่นะ”

“เหรออออ” พี่ฉลามลากเสียงยาวเหมือนไม่เชื่อ

“จริงๆ”

“นี่ขนาดกลัวนะ ถ้าไม่กลัวคงปีนขึ้นมาขี่คอเลยมั๊ง” ผมหัวเราะพรวดออกมาเลยเมื่อพี่ฉลามพูดจบ หัวเราะจนตัวงอ ยิ่งพี่ฉลามสั่งให้ผมหยุดขำ ผมยิ่งขำ ขำจนน้ำตาไหล ขำแบบไม่มีเหตุผล รู้แต่มันหยุดขำไม่ได้

“แต่ไม่ได้เป็นเหมือนบุ้งใช่ไหม” แค่ได้ยินคำถามแค่นั้นแหละขำ ต่อมขำฟีบเลย ผมไม่ได้มองไปที่คนถาม แต่ขยับร่างกายให้ดีเพราะว่าจะถึงมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว

“บุ้งเป็นยังไงเหรอครับ” ผมย้อนถาม

“คำถามง่ายๆ เด็กที่สอบเข้าคะแนนสูงสุดของรุ่นคงเข้าใจได้มั๊ง” พี่ฉลามย้อนกลับ

“กลอนไม่ได้เป็นอย่างที่พี่คิด” ผมตอบ ผมรู้ว่าการโกหกมันไม่ดี แต่ผมไม่อยากบอกเรื่องที่ผมไม่ต้องการให้ใครรู้กับคนที่เพิ่งรู้จักเมื่อวานนี่เอง

“พี่ก็ว่างั้นแหละ เห็นไอ้เมตรมันมาโอดครวญอยากจะจีบ แต่พี่ก็ว่าเราไม่ใช่” พี่ฉลามพูดขึ้นมา

“เมื่อวานแฟนพี่เหรอ สวยดี” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง

“เปล่า ยังไม่ใช่แฟน”

“สวยดีออก ทำมี่ไม่จีบละ”

“ไม่รู้ดิ ไม่อยากรีบ บางคนสวยจริง คบไปแล้วความสวยไม่ช่วยอะไรเลย คนเราอย่ามองแค่หน้าตานะรู้เปล่าเจ้าหนูจำไม ใช่ไม่ใช่ความรู้สึกมันจะบอก ไม่เกี่ยวกับหน้าตา” พี่ฉลามสอนผม ผมอยากบอกว่าผมเข้าใจ เมื่อเราเจอใครสักคน มันก็ไม่เกี่ยวกับเพศเหมือนกัน ผมก็ไม่ได้คิดว่าผมจะเกิดมาแล้วมามีรสนิยมแบบนี้ ครอบครัวผมก็อบอุ่นดี แม้ว่าตอนนี้พ่อจะออกนอกลู่นอกทางไป แต่ที่ผ่านท่านก็ดูแลผมดี มันคงไม่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมหรืออะไรทั้งนั้น ผมก็หาคำตอบให้กับเรื่องนี้ไม่ได้เหมือนกัน


และด้วยความที่เราอยู่ใกล้กัน ผมกับพี่ฉลามเลยเริ่มสนิทกัน ผมติดรถพี่เขาไปมอและกลับบ้านด้วยบ่อยๆแต่ก็ไม่ทุกวัน บุ้งบอกว่า ได้ยินพี่เมตรเคยพูดว่าปกติพี่ฉลามจะหยิ่งๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับรุ่นอื่นนอกจากเพื่อน แต่ก็ไม่ถึงกับติสท์แตกสันโดษ แต่เป็นคนไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายด้วย ผมก็คิดว่าพี่ฉลามคงเป็นแบบนั้น เท่าที่ผมได้พูดคุยกับพี่เขา พี่เขาค่อนข้างเป็นคนมีความคิดจะว่าแปลกมันก็ไม่ได้แปลก อย่างเช่นเรื่องการแต่งตัวหรือการใช้ชีวิต พี่เขาจะมีมุมมองที่โดดออกมาเลย เป็นตัวเอง คิดแบบนี้ มั่นใจแบบนี้ จะทำแบบนี้ แต่ข้อดีคือ ถ้าผมเห็นต่างหรือแย่งพี่เขา เขาจะนิ่งรับฟัง พออีกวันถ้ายังไม่เห็นด้วยก็จะหาข้อมาแย้งผม แต่ถ้าเห็นด้วยก็จะมาบอกว่าผมคิดถูก แล้วก็ยอมรับตามนั้น  บุ้งถามว่าพี่ฉลามมาจีบผมรึเปล่า ผมบอกเลยว่าไม่ พี่ฉลามไม่ได้มีทีท่าจะมาจีบผมเลย พี่เขาเชื่อที่ผมบอกว่าผมไม่ได้เป็นเกย์ ยังชวนไปเที่ยวกลางคืนด้วยซ้ำ แต่ผมปฏิเสธตลอด โดยอ้างว่าผมไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ แล้วความลับที่ผมไม่ยอมเปิดเผยกับพี่ฉลามก็มาแตกในวันที่เราไปงานรับน้องที่หัวหินกัน ดวงของผมคงจะซวยสุดๆ เพราะบังเอิญที่พี่รันพาภรรยามาเที่ยวที่หัวหินเหมือนกัน และพักที่รีสอร์ทเดียวกันกับผมด้วย เรื่องมันก็มีอยู่ว่า


“เอาน้องๆ เราจะพักที่รีสอร์ทนี้นะ พี่อาย อดีตดาวคณะที่แสนสวยของเราเป็นสปอนเซอร์หลัก ให้ที่พักสำหรับพวกน้องๆปีหนึ่งทุกคน” พี่อ้วนตะโกนบอก พวกผมยกมือไหว้ขอบคุณพี่ดาว รุ่นพี่ที่เรียนจบไปได้สองปีแล้ว พี่เขาเป็นเจ้าของที่นี่ ทั้งสวย ทั้งรวย ทั้งใจดีเลยครับ

“ส่วนพวกพี่จะพักที่โรงแรมข้างๆกันเลย ซึ่งก็ได้พี่ขนุนเป็นสปอนเซอร์ให้อีกเหมือนกัน เอา ไว้ซะ” พี่อ้วนพูดจบ พวกทุกคนก็ขอบคุณพี่ขนุน หน้าตาออกแนวแขกขาว คนนี้เป็นรุ่นพี่พี่อายอีกที ที่พวกผมได้นอนรีสอร์ทเพราะต้องทำกิจกรรมหลายอย่าง ที่รีสอร์ทของพี่ดาวติดชายหาด ก็คงสะดวกดี ส่วนพวกรุ่นพี่ปีสองถึงสี่และรุ่นพี่ที่จบไปแล้วก็เลยไปนอนที่โรงแรมที่อยู่ติดกัน เห็นบุ้งบอกว่า พี่อายเป็นแฟนกับพี่ขนุนด้วย บุ้งมันข่าวไวจริงๆเลยครับ

“เอาของไปเก็บกันก่อน เดี๋ยวพี่จะพาไปเข้าฐานกิจกรรม ให้เวลายี่สิบนาทีนะ” พี่แหบตะโกนบอก บุ้งมันรีบจับมือผมวิ่งไปจองที่นอน ผมได้นอนห้องเดียวกับ บุ้ง เสือ เก้งและเล็ก เป็นห้องกว้าง มีเตียงใหญ่สองเตียง แล้วก็โซฟาขนาดใหญ่สำหรับหนึ่งคนนอนได้สบาย ทั้งห้าคนที่นอนห้องเดียวกับผมก็สนิทกันครับ เราห้าคนดูจะเข้ากันได้ คุยกันรู้เรื่อง เสือเป็นคนใต้ ที่บ้านมีโรงงานไม้ หน้าตาคมเข้มแบบชาวใต้ ชอบแต่งตัวแบบคาวบอย รองเท้าบู๊ทหนังปลายงอนขึ้น คาดเข็มขัดอันใหญ่ๆ เก้งเป็นคนนนทบุรี  ที่บ้านทำสวนผลไม้ หลักๆเลยคือทุเรียน ส่วนเล็กพ่อแม่เป็นครูเหมือนแม่ของผมเลย เป็นเด็กเรียนเก่ง คะแนนเป็นที่สองรองจากผมเลย

“ตื่นเต้น จะได้เจอรุ่นพี่” เล็กบอก พวกผมพยักหน้าเพราะคิดเหมือนกัน

“รีบไปเถอะ ขี้เกียจโดนวิดพื้น” เสือรีบเร่งพวกผม พวกผมยังไม่ได้เก็บของ แค่เอากระเป๋าไปวาง เข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะต้องเข้าฐานแล้วรีบตามเสือออกไป


พวกรุ่นพี่ให้พวกผมไปนั่งแช่น้ำทะเลแล้วร้องเพลงประจำคณะ จากนั้นก็ให้พวกผมแบ่งกลุ่มตามห้องนอน เพราะคืนวันสุดท้ายพวกผมต้องออกมาแสดงอะไรก็ได้ให้รุ่นพี่ดู จากนั้นพวกผมก็เริ่มไปเข้าฐานต่างๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นเกม ให้พวกผมแสดงความสามัคคีกัน ซึ่งบางเกมมันตลกและทะลึ่งมาก ผมทั้งขำทั้งสงสารตัวเองและเพื่อน แต่มันสนุกดี ผมว่าผมไม่ได้หัวเราะขนาดนี้มานานแล้ว จนมาถึงฐานสุดท้ายของวัน คือให้รุ่นพี่ป้อนข้าวรุ่นน้อง ซึ่งใช้วิธีสุ่มจับ ผมได้พี่ฉลามเป็นพี่บัดดี้ อย่าคิดว่าผมจะโชคดีเพราะสนิทกับพี่ฉลามแล้ว เพราะว่าข้าวที่พี่ฉลามนำมาป้อนผมมันคือผัดกระเพราะที่เผ็ดที่สุดในโลกเลยครับ


“ไม่กินไม่ได้เหรอครับพี่” ผมถาม พี่ฉลามส่ายหน้า

“ช่วยไม่ได้ อยากจับได้พี่เอง โหดสุดแล้วขอบอก” พี่ฉลามบอกผม ผมหน้าเหี่ยวเลย ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วอ้าปาก เจอคำแรกเข้าไปผมก็น้ำตาไหลแล้ว มันเผ็ดโคตรๆเลยครับ อ๊ากกกก ไฟจะลุกออกปาก

“โถๆๆๆ สงสารเจ้าหนูจำไมของพี่อ้วนจริงๆ โดนใครไม่โดน มาโดนไอ้หลาม ก๊ากกกกกกกก” พี่อ้วนเดินมาซ้ำเติมผม ผมเป็นพวกแพ้ไม่ค่อยเป็นเหมือนกัน พอโดนเยาะเย้ยก็เลยยืดอก กินต่อไม่บ่นเลย พี่อ้วนทำหน้าขยาดกับข้าวที่ผมกินก่อนจะเดินไปแกล้งน้องคนอื่นต่อ พอพี่อ้วนไปแล้วพี่ฉลามเทข้าวผัดโคตรพริกทิ้งใส่ถุง ก่อนจะหยิบอีกกล่องที่ซ่อนเอาไว้ออกมา

“ปากแดงเลย” พี่ฉลามเอานิ้วมาจิ้มที่ปากของผม ผมทำหน้าไม่ถูก รู้สึกเขินแต่ต้องรักษาอาการเอาไว้

“รีบกินก่อนที่ไอ้อ้วนมันจะมา” พี่ฉลามป้อนหมูทอดกระเทียมให้ผม ผมก็รีบกิน แป๊ปเดียวก็หมดกล่อง

“เก่งมาก ปรบมือให้น้องกลอนหน่อย คืนนี้ใครนอนห้องเดียวกลับน้องกลอนระวังหน่อยนะครับ อาจจะเรอออกมาเป็นไฟได้” พี่แหบตะโกนใส่โทรโข่ง รุ่นพี่กับเพื่อนๆปรบมือให้ผม ผมรีบโค้งรับก่อนจะหันไปยิ้มให้พี่ฉลาม ที่นั่งทำหน้านิ่งอยู่ข้างๆพี่แหบ

“เอาละ วันนี้ไปพักได้ เหนื่อยกันมาทั้งวัน ขอบคุณนะครับที่ร่วมมือทำกิจกรรมกันด้วยความเต็มใจ พี่ๆเห็นความสามัคคีในตัวน้องๆนะ แต่พรุ่งนี้เรายังต้องทำกิจกรรมกันต่อ รีบไปนอนนะครับเด็กน้อย” พี่แหบปล่อยพวกผมกลับที่พัก


(มีต่อข้างล่างค่ะ)

V
V


หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 2 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (08/10/58) p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 08-10-2015 12:32:14
(ต่อจากด้านบนนะคะ)


ผมเข้าไปอาบน้ำเป็นคนแรกเลย ผมไม่ชอบให้ตัวเหนียว ติดความสะอาดและเจ้าระเบียบมาจากแม่เลยครับ เพราะผมอาบน้ำเสร็จก็รีบมาเก็บของเข้าตู้และบังคับให้เพื่อนอีกสี่คนเก็บให้หมดด้วย ไม่รู้ว่าเพราะกระเพราสามสี่คำที่กินเข้าไปออกฤทธิ์รึเปล่า ผมรู้สึกปวดท้องมาก ไม่ได้ถ่ายนะ แต่ปวดแบบบิดๆในล้ำไส้ ผมเลยออกมาขอยาทาน ก็เจอพี่แหบกับพี่ฉลามอยู่ที่ลอบบี้ของรีสอร์ทพอดี


“เวรละ พาไปหาหมอดีกว่า” พี่แหบบอก เพราะว่าผมหน้าซีดๆด้วย

“เดี๋ยวกูพาไปเอง” พี่ฉลามบอกแล้วพาผมเดินออกมา ตอนนั้นเองที่ผมแทบลืมอาการปวดท้องไปเลย เพราะคนที่เดินสวนข้ามาก็คือพี่รันกับผู้หญิงคนหนึ่ง ใส่ชุดคลุมท้องด้วย พี่รันเห็นผมก็ทำหน้าตกใจก่อนจะยิ้มกว้างออกมา

“กลอน” พี่รันเรียกผม ผมอุตส่าห์หลบตาไม่มองแล้ว มาเรียกผมทำไมไม่รู้ เราจบกันไม่ดี ผมคิดว่าเราไม่น่าจะมาคุยกันได้อีก

“ลูกพี่ลูกน้องของผมเองครับ” ผมบอกพี่ฉลาม เพราะพี่ฉลามเลิกคิ้วเหมือนจะถามผม

“ขอตัวก่อนนะครับ” ผมหันไปบอกพี่รัน

“เป็นอะไร ทำไมหน้าซีด แล้วมาทำอะไรที่นี่” พี่รันถามผม ก่อนจะมองไปที่พี่ฉลามแบบไม่พอใจเท่าไหร่

“มางานของมหาวิทยาลัยครับ ผมขอตัวพารุ่นน้องของผมไปก่อนนะครับ” พี่ฉลามจับข้อมือผมแล้วพาเดินออกไป ผมไม่ได้หันกลับไปมอง ไม่อยากเห็นหน้าเลยด้วยซ้ำ แต่คิดว่าพี่รันคงไม่ได้ตามมาหรอก เพราะผมได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นเรียกพี่รันพอดี พี่ฉลามก็ไม่ได้ถามอะไรผม พาผมมาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หมอบอกว่าผมเป็นโรคกระเพาะอยู่แล้ว กินเผ็ดเข้าไปเลยมีผลทำให้ปวดท้อง ให้ยามาทานแล้วให้กินอาหารอ่อนไปก่อน

“พี่ขอโทษนะ” พี่ฉลามขอโทษผมระหว่างทางที่กลับบ้าน

“ไม่เป็นไรครับ อย่าคิดมาก เรามารับน้องกัน” ผมรีบยิ้มให้พี่ฉลาม

“ฟันสวยนะ”

“หือ..” ผมทำหน้างง คุยกันเรื่องรับน้องจู่ๆก็มาชมผมว่าฟันสวย ผมเลยทำหน้าไม่ถูก

“พี่ชอบคนฟันสวย เวลายิ้มแล้วดูดี” พี่ฉลามขยายความ

“อ๋อ แม่บังคับกลอนตั้งแต่เด็กแล้ว ต้องแปรงฟันทุกครั้งหลังทานอาหารแล้วก็ก่อนนอน”

“ดีแล้ว บางคนหน้าตาดี พอยิ้มแล้วไม่ผ่าน บางคนดูธรรมดา แต่ยิ้มแล้วมีเสน่ห์”

“โหย จะบอกว่ากลอนหน้าตาธรรมดาอะดิ” ผมย้อนถาม

“แล้วคิดว่าตัวเองหล่อรึไง ไอ้หนูจำไม” พี่ฉลามย้อนถามผมแล้วหัวเราะ ผมเบ้ปากใส่พี่เขา แล้วผมก็นั่งเถียงกับพี่ฉลามเรื่องฟันจนมาถึงรีสอร์ท ซึ่งก็ปาไปห้าทุ่มกว่า อาการปวดท้องทุเลาลงแล้ว แต่พอผมกลับถึงห้องปรากฏว่าผมลืมเอากุญแจออกมา เคาะประตูห้องเท่าไหร่ไอ้พวกนั้นก็เงียบสนิท สงสัยเพลียหลับสนิทกันหมด ไม่งั้นก็คงโดนวางยาสลบไปแล้ว เพราะผมเคาะหลายทีมากแต่ก็ไร้การตอบกลับ

“ไปนอนที่ห้องพี่ก่อน ขี้เกียจไปขอกุยแจสำรองกับพี่อาย เกรงใจเขา” พี่ฉลามบอก

“ที่โรงแรเหรอครับ” ผมถาม สีหน้ากังวล เพราะไม่ได้เอาข้าวของอะไรออกมาเลย

“เปล่า พี่นอนที่นี่ เป็นยามคอยดูแลน้องๆ ห้องพี่อยู่ชั้นสอง” พี่ฉลามบอแล้วเดินนำผม ผมไม่มีทางเลือกก็ต้องเดินตามพี่ฉลามไป จนจะเข้าไปในห้องอยู่แล้ว ห้องรงกันข้ามก็เปิดประตูออกมาพอดี ซึ่งความซวยของผมมันคงไม่หมดโปร เป็นพี่รันที่เปิดออกมา แต่เพราะภรรยาพี่เขาเดินออกมาด้วย เขาเลยไม่ได้ทักผม แต่เห็นว่าพี่ฉลามเรียกผมเข้าห้องพอดี ผมปิดประตูห้องพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรง ไม่ใช่ว่ารู้สึกอะไรกับพี่รันนะ แต่ผมไม่อยากให้พี่ฉลามรู้ว่าผมเป็นเกย์

“ไม่ถูกกันกับญาติเหรอ” พี่ฉลามโยนชุดนอนให้ผม

“เปล่าครับ แค่ไม่ได้สนิทมากมาย” ผมรีบบอก พี่ฉลามพยักหน้า

“ผมใส่ชุดนี้นอนก็ได้”

“ใส่ไปเหอะ เอามาเยอะ” พี่ฉลามบอก ผมเลยเข้าไปเปลี่ยนชุด ก็หลวมแบบที่คิด

“หัดกินเยอะๆบ้าง ตัวกะเปี๊ยกเดียว”

“ก็มันอิ่ม อิ่มแล้วก็ไม่อยากฝืนกิน”

“กินยาเลย” พี่ฉลามส่งยาก่อนนอนให้ ผมบอกตรงว่ารู้สึกดี ยอมรับว่าผมแอบชอบพี่ฉลามนะ แต่ผมรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ พี่ฉลามเป็นผู้ชายแท้ๆที่รักผู้หญิง พี่เขาสนิทใจและเอ็นดูผมเหมือนน้องชายคนหนึ่งเท่านั้น ผมรู้ดี

“เดี๋ยวกลอนนอนที่โซฟาก็ได้” ผมชี้ไปที่โซฟาเพราะรู้ว่าพี่ฉลามนอนกับพี่แหบ

“ไม่เป็นไร มานอนด้วยกัน ไอ้แหบมันไปกินเหล้า มานอนแล้วเหม็นปากมัน” พี่ฉลามบ่น ผมหัวเราะขำ ถ้าพี่แหบมาได้ยินคงดิ้นตาย


ผมเดินขึ้นไปนอนบนเตียง ส่วนพี่ฉลามเข้าไปอาบน้ำ อาบนานมากจนผมหลับไปก่อน เพราะผมไม่รู้ว่าพี่เขาออกมาตอนไหน รู้แต่ว่าที่นอนมันนุ่มมาก หลับสบายดีเหลือเกิน โชคดีที่แอร์ไม่เย็นเท่าไหร่ ผมขี้หนาวด้วย หลับยาวรวดเดียวจนถึงเช้า ผมลุกขึ้นตั้งแต่ตีห้าครึ่งตามความเคยชิน เห็นพี่แหบนอนใส่แต่บ็อกเซอร์อยู่ที่โซฟา ส่วนพี่ฉลามก็นอนข้างๆผม เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ๆเหี่ยวๆ กางเกงเก่าๆไม่สมกับเป็นฐานะทางบ้านเลย ผมได้แต่แอบขำ แล้วผมก็แอบย่องออกจากห้อง ลองไปเคาะห้องเรียกบุ้ง แต่ก็ยังไม่มีใครตื่น ผมเลยออกไปเดินเล่นที่ชายหาด ก็ไปเจอกับคนที่ไม่อยากเจอที่สุดในโลกพอดี แทบจะเดินกลับในทันที แต่ก็โดนเรียกเอาไว้ก่อน


“กลอน อย่าเพิ่งไป คุยกันก่อน”

“ผมไม่อยากคุย”

“พี่ขอโทษนะ ขอโทษในทุกกรณี พี่มันเลวเอง พี่โกรธและพูดไม่ดีกับกลอนเพราะเหมือนถูกหักหลัง ทั้งที่จริงๆแล้วพี่เองที่เป็นฝ่ายหลอกลวงกลอน รู้ไหม ไม่มีสักวันเลยนะที่พี่ไม่คิดถึงกลอน”

“พี่รันครับ มันไม่มีประโยชน์ที่จะมาพูดอะไรอีกแล้ว ภรรยาของพี่กำลังจะให้กำเนิดเลือดเนื้อเชื้อไขของพี่ เรื่องของเรามันจบไปแล้ว”

“พี่รักกลอนนะ รักมาก พี่ขอโทษ พี่มันควาย มีของดีไม่รู้จักรักษา” จู่ๆพี่รันก็ร้องไห้ออกมาจนผมตกใจ

“พี่รัน..”

“ขอให้พี่ได้พูดคุยกับกลอนบ้างไม่ได้เหรอ ถึงกลอนจะไม่ได้รักพี่แล้ว ก็ขอให้พี่ได้คุยกับกลอนบ้าง”

“อย่าเลยครับ”

“ทำไม เพราะผู้ชายคนนั้นเหรอ” พี่รันถาม ผมนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนจะตัดสินใจพยักหน้า

“กลอนขอร้อง อย่าทำร้ายความรู้สึกกลอนอีกเลยนะครับ กลอนกำลังมีชีวิตที่ดี ถ้าพี่ยังรักกลอน ปล่อยให้กลอนไปมีอนาคตที่ดีกับคนที่กลอนเลือกนะครับ” ผมบอก พี่รันยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา แล้วเอื้อมมือมากุมมือผม ผมรีบหันไปมองรอบๆแล้วบิดมือออก

“จำเอาไว้นะ พี่จะรอกลอนเสมอ ไม่ว่ายังไง ถ้ากลอนอยากกลับมา พี่..”

“กลอนต้องไปแล้ว ถ้าเมื่อไหร่กลอนพร้อมจะให้เราคุยกันได้ กลอนจะติดต่อไปนะครับ แต่มันคงไม่ใช่ตอนนี้” ผมพูดจบแล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปที่รีสอร์ท ไปเจอกับพี่เมตรที่ล็อบบี้พอดี พี่เมตรมองผมแล้วยิ้มๆ

“ไปไหนมาครับน้องกลอน”

“ไปเดินเล่นมาครับ”

“ตื่นเช้าดีจัง คนตื่นก่อนก็ได้เห็นอะไรดีๆก่อนเนอะ” พี่เมตรพูดกับผม ผมอึ้งไป รู้สึกแปลกๆกับคำพูดของพี่เมตร

“ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ” ผมรีบบอกแล้วเดินกลับไปที่ห้อง คราวนี้เสือตื่นแล้ว ลุกมาเปิดประตูให้ผม สรุปว่าเมื่อคืนพวกมันไม่ได้หลับสนิทจนไม่ได้ยินหรอกครับ มันหนีไปกินเหล้ากับพวกพี่แหบมา พอกลับมาไม่เจอผมเลยไปถามพี่ฉลาม พอรู้ว่าผมหลับแล้วเลยไม่ปลุก ปล่อยให้ผมนอน ไอ้บุ้งมากระซิบผมว่า ตอนที่เข้าไปถามหาผม พี่ฉลามไม่ได้ใส่เสื้อด้วยแถมผมก็ยุ่งไปหมด ดีนะที่ผมหลับ ไม่งั้นมันคงคิดไปไกลแน่ๆ ผมเลยได้แต่ว่ามันว่าไปไหนไม่บอก แล้วก็รีบไปอาบน้ำ แต่ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อนึกถึงคนที่ผมแอบปลื้มอยู่ในใจ


ถึงเวลาอาหารเช้า พวกผมต้องเข้าไปทานที่โรงแรม เก้งดูจะตื่นเต้นที่สุด เพราะมันชอบกินอาหารเช้าในโรงแรม มันบอกว่าดูในหนังมาเยอะ อยากมีโมเมนท์แบบนี้บ้าง ปกติไปเที่ยวไหน แม่ทำกับข้าวไปเองตลอด ผมก็ได้แต่ขำสิ่งที่เก้งเล่าก่อนจะเดินไปตักอาหารเช้ามาทาน ผมเห็นพี่ฉลามนั่งอยู่กับพี่แหบ พี่เขาเงยหน้ามาพอดี ผมเลยยิ้มให้ แต่พี่เขาไม่ยิ้มตอบ แถมยังทำหน้าหน้าเฉยๆ ผมเลยหน้าแตก รีบตักอาหารแล้วไปนั่งกินกับเพื่อน คิดว่าพี่ฉลามอาจจะอารมณ์ไม่ดีอยู่


กินกันเสร็จก็ไปเข้าฐานกิจกรรมต่อ คราวนี้เป็นเกมหาของตามด่านต่างๆ ต้องทายปริศนาให้ออกหรือเล่นเกมให้ผ่านแล้วถึงจะได้คำใบ้ พวกผมก็เล่นกันไปขำกันไป โดยเฉพาะเกมใบ้คำแบบรายการมาตามนัด ไอ้เก้งมันทำท่าลา แต่เสือดันทายว่าหมา พวกผมขำกันจนต้องลงไปนั่ง ก็ยังไม่เคยเห็นว่าลามันยกขาฉี่แบบหมาฉี่ใส่กำแพงแบบนั้น พวกผมเล่นกันจนมาถึงด่านพี่ฉลาม ด่านที่โหดที่สุด พวกผมต้องปิดตาแล้วคลำหาของตามคำบอกของรุ่นพี่ให้เจอ ผมเป็นคนสุดท้ายที่ได้เล่น โดนพวกรุ่นพี่แกล้งจนหัวหมุนไปหมด  ผมต้องเดาให้ถูกว่าพี่คนไหนพูดจริง คนไหนหลอก แต่ผมเดาผิด ไปฟังเสียงคนๆหนึ่ง พอได้ยินเสียงว่าจับ ผมก็จับหมับทันที แล้วผมก็ต้องหงายหลังล้มลงไปนอนกับพื้นทรายอย่างแรง ได้ยินเสียงหัวเราะกับเสียงเป่าปาก บุ้งรีบเข้ามาเปิดตาให้ผมพร้อมกับปัดเศษทรายให้


“เจ็บตรงไหนรึเปล่า” บุ้งถาม ผมพลิกแขนมาดู มีรอยเลือดออกซิบๆจากรอยถลอก คงจะไปขรูดกับเศษก้อนกรวด ผมมองไปรอบๆ เห็นรุ่นพี่กับเพื่อนคนอื่นๆกำลังหัวเราะ ผมเลยมองหน้าบุ้งแบบงงๆ

“แกดันไปจับที่เป้าที่ฉลาม พี่เมตรแม่งกวนตีน ตะโกนบอกให้แกไปจับ” ผมตกใจมากเมื่อได้ยิน มองไปที่พี่ฉลาม ทีแรกพี่เขาก็มองมา แต่พอผมมองไปพี่เขาก็เมินหน้าหนีไปทางอื่น

“เนื่องจากน้องกลอนจับผิดเป้าหมาย ไปจับหูฉลามเสียได้ เกมนี้กลุ่มทองหยอดไม่ผ่านนะครับบบบบ เพราะฉะนั้นกลุ่มที่ชนะก็คือ กลุ่มฝอยทอง ฮริ้ววว ปรบมือให้ผู้ชนะหน่อย” พี่อ้วนประกาศ เสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องดีใจดันขึ้นพร้อมเสียงกลองทอม


ผมลุกขึ้นยืน ปัดเศษทรายออก ก่อนจะขอตัวกลับไปที่ห้องพัก รู้สึกถึงความผิดปกติของพี่ฉลาม ผมรู้ว่าผมอาจจะไปจับของต้องห้ามแล้วทำให้พี่เขาตกใจ แต่พี่เขาน่าจะรู้ว่าผมไม่ได้ตั้งใจ ทำไมต้องผลักผมแรงขนาดนั้น โดยเฉพาะสีหน้าเฉยชาแบบนั้นมันทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเลย ผมกลับมาถึงห้องก็อาบน้ำแล้วเอาน้ำเกลือมาล้างแผล โชคดีที่ติดเอามาด้วย จริงๆพวกรุ่นพี่เขาก็มีให้ แต่ผมอยากมาอาบน้ำล้างเศษทรายออกก่อน พอดีพี่เขาปล่อยฟรีครึ่งชั่วโมงด้วยให้ทานข้าว ผมเลยกลับมาได้ ผมทำความสะอาดแผลถลอกเรียบร้อยก็เหม่อมองออกไปที่ระเบียง ก่อนจะถามตัวเองว่าผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า จนกระทั่งบุ้งมันมาตามให้ไปกินข้าว ผมเลยบอกว่าไม่หิว มันเลยตามใจผม แต่สักพักผมก็ตามมันออกไปเข้าฐานต่อ คราวนี้ไม่ได้เป็นเกมบุกผ่าฝ่าดงอะไร แต่เป็นการให้รุ่นน้องพูดคำว่า ขอโทษ กับรุ่นพี่ ถ้าเราไม่สามารถพูดให้รุ่นพี่พูดคำว่า ยกโทษให้ ก็ไม่สามารถกลับไปนั่งได้ ยกเว้นแต่จะทำอะไรก็ได้ให้รุ่นพี่หลุดขำ ถือว่า รุกฆาต เราถึงจะได้กลับไปนั่ง


ส่วนคู่ก็คือคู่เดิมแบบที่โดนป้อนข้าว รุ่นพี่ไปยืนเป็นวงกลม ส่วนพวกผมต้องไปยืนตรงหน้า แล้วเริ่มพูด ผมก็พูดคำว่าขอโทษไป เสียงดังก็แล้ว เบาก็แล้ว แต่พี่ฉลามยังคงเงียบ จนเพื่อนๆของผมมันได้ทยอยเข้าไปนั่งแล้ว ผมก็ยังคงยืนพูดอยู่ จนกระทั่งเหลือคู่ผมเป็นคู่สุดท้าย ตอนนี้ทุกสายตาเลยมองมาที่ผม ผมยอมรับว่าเกร็งและเครียด พี่ฉลามทำหน้าเฉยเหมือนไม่รับรู้อะไร ผมยืนจนเมื่อย สงสารเพื่อนที่นั่งรอด้วย เลยตัดสินใจทำหน้าที่คิดว่าตลกและน่าเกลียดสุดๆ แต่ก็ยังไม่ได้ผล เกิดมาผมไม่เคยต้องมาทำอะไรที่มันน่าอายแบบนี้ต่อหน้าผู้คนเลย ทำท่าลิง ท่าคนบ้า จนคนอื่นขำผมกันท้องคัดท้องแข็ง ผมเหมือนตัวตลกไปแล้ว แต่พี่ฉลามก็ยังยืนเฉย ผมทำจนไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ผมเลยยืนมองหน้าพี่เขานิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา พี่แหบคงเห็นท่าไม่ดีเลยรีบเข้ามากระซิบพี่ฉลามว่าให้พอ


“ไม่ได้เรื่อง” พี่ฉลามพูดจบก็เดินออกไป ทุกคนเงียบกริบ


ก่อนที่บรรยากาศจะตึงเครียดไปกว่านี้ พี่อ้วนรีบเข้ามาบอกให้ปีหนึ่งพักไปอาบน้ำ วันนี้พวกผมจะได้ไปกินอาหารทะเลในโรงแรม เสียงเฮดังกลบบรรยากาศมาคุเมื่อครู่ไปเสียสนิท บุ้งเข้ามาตบไหล่ของผมแล้วโอบไหล่ผมเดินกลับห้องพัก ผมรู้สึกคาใจ เลยตัดสินใจเดินไปที่ห้องของพี่ฉลาม เคาะประตูจนพี่ฉลามมาเปิด พอเห็นหน้าผมพี่เขาก็ถอนหายใจ


“ผมทำอะไรให้พี่ไม่พอใจเหรอครับ” ผมถามออกไปเมื่อเห็นว่าพี่ฉลามอยู่ในห้องคนเดียวพอดี

“ไม่ชอบคนโกหก” ผมอึ้งไป

“ผมโกหกเรื่องอะไร” ผมถาม พี่ฉลามมองหน้าผม

“นอนกับผู้ชายนี่ไม่ใช่เกย์ใช่มะ” พี่ฉลามถามผม ผมอึ้งไปเลย พูดไม่ออก

“หน้าตาก็ดี เรียนก็ดี คิดไม่เป็นเหรอวะว่าต้องระงับให้เป็นหรือมึงอยากจนทนไม่ไหว กูผิดหวังในตัวมึงจริงๆ” ผมเจ็บแปลบเหมือนถูกใครมาแทงๆที่หัวใจ พี่ฉลามไม่เคยขึ้นกูมึงกับผมเลย โดยเฉพาะเรื่องที่พี่ฉลามว่าผม มันแรงจนผมแทบยืนไม่อยู่


ผมไม่ได้แก้ตัวอะไรเลย มันคงไม่มีประโยชน์ ไม่รู้ว่าพี่เขารู้มาจากไหน แต่ถ้าเขาตัดสินผมแล้ว ผมก็คงไม่ต้องไปอธิบายอะไร ผมเดินหันหลังกลับห้อง พอเข้าไปในห้องเจอพวกเพื่อนๆกำลังแต่งตัวกัน ผมบอกพวกมันว่าปวดท้องขอตัวไม่ไป แต่เดี๋ยวจะกินขนมมาม่าที่ผมพกมาด้วยแทน บุ้งเลยบอกว่าถ้าปวดจนทนไม่ไหวให้ผมรีบโทรหา สักพักพวกมันก็ออกไปจนหมด ผมถึงได้ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา พร้อมกับคำถามเดิมที่ผมยังถามตัวเอง


...ผมทำอะไรผิดไป ผมผิดที่ไม่ได้บอกสิ่งที่มันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนหรือผมผิดที่เกิดมาน่ารังเกียจในสายตาของปกติทั่วไป..


*****โปรดติดตามบทรักบทที่สามตอนที่สามตอนหน้านะคะ******   


เย้ ดีใจที่มีคนอ่านเพิ่มขึ้น ฮ่าๆ ขอบคุณที่เปิดใจเขามากดอ่านนะคะ และยิ่งดีใจที่ยังมาเมนท์ให้กำลังใจกัน
สำหรับคนแต่งนิยาย แค่หนึ่งคำทักทาย มันก็มีความหมายนะคะ เชื่อว่าผู้แต่งทุกคนรู้สึกแบบนี้ เนอะๆ
มากอดกันหน่อยยย อิอิ จะพยายามมาลงให้ไม่ช้าเกินไป เรื่องนี้เขียนง่ายเพราะมีเนื้อหาเดิมมาให้แล้ว
แค่ใส่สีสันความบันเทิงเข้าไปด้วย สรุปว่ามันก็คือนิยายที่มีแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ผู้ชายคนหนึ่งค่ะ
มันจะยากก็ตรงที่โดนใบสั่งให้แก้ว่า "อารมณ์จริงกูไม่ได้แบบนี้ เอาใหม่ๆ แต่งใหม่" 55555
ค่ะ นายว่าไง ลูกน้องว่างั้น ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ เลิฟทุกคนจัง

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 2 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (08/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 08-10-2015 12:51:01
 :hao5:สงสารกลอนนน ใครจะเป็นพระเอกน้าๆๆๆ  มารอตอนต่อไป มาต่อเร็วๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 2 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (08/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 08-10-2015 13:59:40
สงสารกลอนอ่ะ รู้สึกความรักแต่ละครั้งนี่อุปสรรคเยอะจริงๆ
แล้วพี่ฉลามทำไมพูดแบบนั้น
ไปรู้อะไรผิดๆมารึเปล่า
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 2 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (08/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 08-10-2015 18:16:18
เป็นบ้าอะไรของแกว่ะพี่ฉลาม~~~~ 
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 2 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (08/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-10-2015 18:42:45
 :m15:    สงสารอ่า. ยุคนั้นแบบว่าโหดมากอะ. รังเกียจจนคนแอ๊บกันทั้งบ้านทั้งเมือง
คือจะให้ป่าวประกาศเลยไหมล่ะถึงจะเรียกได้ว่าไม่โกหก
เพลียใจ.    :mew5:   
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ เขียนตามใบสั่งต่อไปค่ะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 2 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (08/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: fangdxxi ที่ 08-10-2015 19:07:00
สงสารกลอนนะ เป็นกำลังใจให้  :hao5:  :กอด1:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 2 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (08/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 08-10-2015 20:59:39
โถ  ลูกเอ๋ย  ที่ทำๆนี่ก็เพราะต้องคอยดูหน้าคนอื่นสินะ
มีปัญญารับผิดชอบกันไหมนี่?  ทำร้ายจิตใจคนๆหนึ่งด้วยความปากพล่อย
เมตรกับฉลามนี่เกิดมาชาติหน้าก็ขอให้ได้เป็นในสิ่งที่ไม่ต้องการเถอะ
จะได้รับรู้บ้างว่ามันทรมาณยังไง

กลอน ป้าไม่รู้จะว่ายังไงนะลูก   Shin up and take heart. What that doesn't kill you makes you stronger kha.
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 2 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (08/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 08-10-2015 21:45:49
พี่ฉลามโดนใครใส่ไฟมาป่ะเนี่ย
แม้กลอนจะนอนกับผู้ชายจริงๆ แต่เรื่องแบบนี้น่ะใครเขาพูดได้เต็มปากบ้าง
จะให้พูดว่า ใช่ครับผมเป็นเกย์เคยนอนกับผู้ชายมาแล้วด้วย งั้นหรอ
น่าอวดตายล่ะ
ขนาดชายหญิงปกติยังไม่อยากบอกเลยว่าเคยผ่านมาแล้วน่ะ
แต่คิดว่าพี่เขาคงโกรธที่กลอนไปโกหกว่าไม่ได้เป็นเกย์มากกว่าล่ะมั้ง

อย่าให้รู้เชียวว่าใครพูด หรือว่าพี่เมตร?
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 2 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (08/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 09-10-2015 06:32:07
สงสารน้องกลอน น้องผิดอะไรรึก็ไม่ แต่ถ้าพี่ฉลามคิดได้แค่นี้ รีบถอยห่างแต่แรก

เสียความรู้สึกเท่าที่เสียไปถือว่าโชคดีแล้ว ถ้ายิ่งสนิทกันจะยิ่งเฟล คนอะไร มไ่ฟังอะไรเลย

ปากมีทำไมไม่ถามน้องวะ ว่าอะไรเป็นอะไร ให้น้องอธิบายบ้าง ไม่ใช่พูดกับน้องแบบนี้

แต่เรารู้สึกว่าเดี๋ยวพี่ฉลามก็กลับมาง้อน้อง ยังไงก็ไม่รู้ 

ปล. น้องใกล้จะเจอพระเอกตัวจริงเสียงจริง รักน้องจริงๆรึยังคะ?
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 2 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (08/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 09-10-2015 10:57:14
พี่เค้าอาจจะโกรธเรื่องที่โกหกอย่างเดียว

ความจริงเค้าก็เอ็นดูเหมือนเป็นน้องเป็นนุ่ง 

หวังว่าจะปรับความเข้าใจกันได้นะคะ    :กอด1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 2 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (08/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 09-10-2015 21:57:22
เมตรต้องเป็นคนมาเล่าให้ฉลามฟังแน่ๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (10/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 10-10-2015 13:05:57
 
บทรักบทที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (ตอนที่ 3)


ผมกินแค่ขนมปังแล้วก็นอนหลับไป ตื่นมาอีกทีตอนประมาณสี่ทุ่มกว่า พวกเพื่อนๆยังไม่กลับมา พรุ่งนี้ฟรีครึ่งวันเช้า บ่ายๆบรรดารุ่นพี่ที่จบไปแล้วจะมาทำความรู้จักกับพวกเรา มากันหลายคนเลย พอกลางคืนจะเป็นงานบายศรี ต่อด้วยปาร์ตี้ยาวไปถึงเช้า แล้วก็เดินทางกลับกรุงเทพในช่วงบ่าย


“ตื่นแล้วเหรอ” บุ้งกลับมาที่ห้อง เห็นผมตื่นแล้วเลยเดินเข้ามาหา

“ทำไมกลับมาคนเดียว” ผมถาม

“ยังกินกันอยู่ ฉันกลับมาดูแกว่าเป็นไงบ้าง”

“ดีขึ้นแล้ว”

“แกมีปัญหาอะไรกับพี่ฉลามเปล่าวะกลอน” บุ้งถามผมสีหน้าจริงจัง ผมถอนหายใจ

“เขาโกรธที่เราโกหกว่าไม่ได้เป็นเกย์ ก็ไม่รู้เขาไปรู้ได้ไง”

“แค่นี้เหรอ”

“อืม”

“ฉันว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้นว่ะ” บุ้งทำหน้ายุ่ง

“ทำไมอะ”

“ก็เมื่อกี้นั่งๆกินกันอยู่ พี่ฉลามต่อยพี่เมตรปากแตกเลย แล้วก็เกือบจะต่อยพี่แหบ ดีที่รุ่นพี่คนอื่นห้ามเอาไว้ทัน แต่ไม่รู้เรื่องอะไรกัน แต่ก็เคลียร์กันแล้ว”

“เหรอ” ผมก็ตกใจเหมือนกัน แต่มันอาจจะไม่เกี่ยวกับผมหรอก

“ฉันตกใจมากตอนที่พี่ฉลามผลักแกล้ม แต่ตอนนั้นสีหน้าพี่เขาก็ไม่ดีเลยนะเว้ย หน้าเสียเลย เหมือนตกใจ”

“เราก็ไม่รู้อะบุ้ง เราไม่ได้ตั้งใจจะจับเป้าพี่เขา ไม่ได้โรคจิตขนาดนั้น เราผิดเหรอวะที่ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราเป็นอะไร เราแค่ไม่อยากให้แม่เสียใจ” ผมน้ำตาซึมเมื่อพูดถึงแม่ คนอื่นคงไม่รู้ว่าครอบครัวผมเราผ่านอะไรมา เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับผม ผมไม่อยากให้แม่สะเทือนใจกับเรื่องของผมอีก ผมคือความหวังของแม่ ผมรู้ดี

“ใจเย็นๆ เราว่าอาจจะมีอะไรเข้าใจกันผิด เออ แก เมื่อกี้มีผู้ชายมาถามหาแกที่หน้าห้องด้วย แต่ฉันดูแล้วว่าไม่น่าไว้ใจ เลยบอกว่าแกอยู่ที่งานเลี้ยง” บุ้งบอกผม ผมคิดว่าคงเป็นพี่รัน ผมเลยเล่าเรื่องพี่รันให้มันฟัง บุ้งมันทุบหมอน สีหน้าหงุดหงิด

“แม่ง ถ้ารู้ก่อนว่ามันเป็นใครจะเตะเป้ามันให้สูญพันธ์เลย แกอย่าอยู่คนเดียวเลย ถึงจะไม่มีอะไรก็เหอะ ไปที่งานกัน อาหารทะเลเพียบเลย รุ่นพี่ที่จบไปแล้วทยอยมากันมาค้างตั้งแต่วันนี้ อย่าพลาดโอกาสดีๆเลย”

“อืม ไปก็ได้ ขอเปลี่ยนชุดแบบหนึ่ง” ผมบอกก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า


ผมใส่แค่เสื้อยืดสีขาวตัวบางๆกับกางเกงยีน เราสองคนเดินไปถึงโรงแรม พอผมเดินเข้ามาในห้องอาหารเสื้อก็ตะโกนเรียกผม ผมเห็นว่าพี่ฉลามเงยหน้าขึ้นมามองผม แต่ผมรีบมองที่เพื่อน ในเมื่อเขารับไม่ได้ที่ผมเป็นแบบนี้ ผมก็ควรรักษาระยะห่างเอาไว้ ไม่อยากให้ใครลำบากใจ


ผมเข้าไปนั่งกับกลุ่มเพื่อนปีหนึ่งด้วยกัน มีรุ่นพี่เข้ามาทักทายและนั่งคุยด้วย ทีแรกผมก็เกร็งๆ แต่สักพักก็หาย รุ่นพี่ทุกคนใจดี เป็นกันเอง ทำให้พวกเราสนิทกันได้อย่างรวดเร็ว แถมผมยังได้โอกาสเข้าไปฝึกงานในบริษัทโฆษณาของรุ่นพี่คนหนึ่งด้วย ไปฝึกแบบไม่ได้รับค่าจ้าง เพราะเราเข้าไปแค่ช่วงเวลาที่ว่าง เหมือนการได้ซ้อมทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ผมชอบนะ อยากไปทำเร็วๆ เวลาได้นั่งคุยกับเรื่องที่เราสนใจ เวลาก็เหมือนจะผ่านไปเร็ว ตอนนี้ก็ตีสามกว่า พี่อ้วนมาบอกว่าให้รุ่นน้องปีหนึ่งไปพักผ่อนได้แล้ว พวกผมเลยไหว้ลารุ่นพี่ก่อนจะพากันเดินกลับไปที่รีสอร์ท เก้งชวนให้พวกผมไปนั่งเล่นที่ริมทะเล เพราะถึงยังไงพรุ่งนี้ก็ตื่นสายได้ พวกเราเลยตกลงแล้วไปนั่งเล่นที่ริมทะเลกัน


“มึง กูดีใจนะที่ได้มาเจอกับพวกมึง” เล็กพูดขึ้นมาก่อนจะหงายหลังลงไปนอนกับพื้นทรายเลย

“ทะเลพาซึ้งซะงั้น” เสือบอกก่อนจะขำ แล้วมันก็ทิ้งตัวลงไปนอนบ้าง

“แต่เราก็รู้สึกเหมือนเล็กนะ ดีใจที่มาทำความรู้จักกับพวกแกก่อน รู้สึกว่าสบายใจเวลาคุย เราจะเป็นเพื่อนตายกันนะ” เก้งพูดจบก็ทิ้งตัวลงไปนอนตามสองคนแรก

“กูเป็นเกย์นะ พวกมึงรับได้ใช่ไหม” บุ้งพูดขึ้นมา ผมหันไปมองหน้าบุ้ง ยิ้มให้มัน

“ก็รู้ตั้งแต่เห็นติ่งหูมึงแล้วบุ้ง” เสือบอก เก้งกับเล็กก็ส่งเสียงเห็นด้วย

“ดี งั้นก็เป็นเพื่อนตายกันได้” บุ้งบอกจบแล้วก็ทิ้งตัวลงไปนอนอีกคน ส่วนผมนั่งกอดเข่าตัวเองเหม่อมองไปที่ทะเลเบื้องหน้า ผมไม่กล้าพูดแบบบุ้งหรอก ถึงจะสนิทใจและรักพวกมันเหมือนกัน แต่ผมก็เลือกที่จะเก็บมันเอาไว้

“มึงไม่มีอะไรจะพูดเหรอกลอน” เล็กถาม

“มี” ผมบอก บุ้งหันมามองผม

“อะไรวะ ลุ้นนะมึง” เสือถาม

“จะบอกว่า ขอไม่นอนลงไปแบบพวกแกนะ ไม่อยากเปื้อน” ผมบอกจบพวกมันก็โห่ใส่ แล้วมันสี่คนก็มองหน้ากัน ผมเห็นท่าไม่ดีแต่ก็ไม่ทันแล้ว พวกมันลุกขึ้นโถมตัวใส่ผมจนผมล้มลงไปนอนกับพื้น เราแกล้งกันจนเนื้อตัวเต็มไปด้วยเม็ดทราย หัวเราะกันลั่นทะเล


..นี่ก็เป็นอีกความทรงจำหนึ่งที่ผมจำได้แม่น มิตรภาพของเพื่อนได้ก่อตัวขึ้น โดยมีท้องทะเล เม็ดทราย ดวงดาว สายลมและพระจันทร์เป็นพยานให้กับเรา มิตรภาพที่ยังคงแนบแน่นมาจนถึงทุกวันนี้..


...


แม้ว่าเมื่อคืนผมจะนอนดึกมาก แต่ด้วยความเคยชินของร่างกาย ผมก็ตื่นตอนตีห้าครึ่งตามเคย ผมเลยออกไปเดินเล่นอีก ภาวนาว่าคงไม่ต้องมาเจอพี่รันอีกนะ เพราะผมอยากเห็นพระอาทิตย์ขึ้นโดยไม่มีอะไรมาทำให้เสียอารมณ์ คำภาวนาเป็นผล เพราะผมไม่เจอพี่รัน ผมเดินเล่นมาเรื่อยๆจนฟ้าเริ่มสว่าง ตอนที่เดินกลับก็เห็นคุณป้าคนหนึ่งหอบอะไรมาตั้งขายอยู่ไกลๆ กำลังจะเดินไปดูแต่ช้ากว่าใครบางคน ผมเห็นไกลๆก็จำได้ว่าเป็นพี่ฉลาม พี่เขาใส่เสื้อกล้ามสีเขียวขี้ม้ากับกางเกงเล นั่งยองๆอยู่ตรงหน้าคุณป้าคนนั้น ผมเลยเดินเลี่ยงมาอีกทาง ไปนั่งเล่นเตียงผ้าใบของรีสอร์ท ตอนที่เดินเล่นก็สวยกับรุ่นพี่ที่จบไปแล้วบางคนออกมาวิ่ง ผมก็ยกมือไหว้ทักทาย พี่เขาก็พยักหน้าให้ บางก็ทักว่าผมตื่นเช้าดีจัง


“หนู ช่วยป้าซื้อของหน่อยสิจ๊ะ” ผมหันมามองคุณป้าที่หาบกระจาดของมานั่งยองๆข้างๆผม ผมมองไปที่กระจาด พบว่ามันเป็นโมบายที่ทำจากหอย ใส่ถุงเอาไว้ แต่ก็มีห้อยโชว์ให้ดูที่ด้ามไม้หาบ

“อันเท่าไหร่ครับป้า” ผมถาม นึกสงสารแก ผมจะเป็นคนที่เซนซิทีฟเรื่องคนชรา เห็นแล้วจะใจอ่อนตลอด

“อันละห้าสิบบาทเอง หลานป้ามันพิการ มันร้อยเองเลยนะ มีหลายแบบ ลองเลือกดูนะ”

“เอาอันนี้ก็ได้ครับ” ผมชี้ไป ป้ารีบหยิบถุงโมบายอันเล็กๆให้แล้วรีบของคุณผม ผมอยากซื้อมากกว่านี้นะ แต่หยิบเงินติดมาแค่หกสิบบาทเอง


ผมรู้สึกแสบๆท้อง เมื่อคืนไปนั่งที่งานเลี้ยงแต่ก็ไม่ค่อยได้กินอะไรเท่าไหร่ ผมเลยเดินกลับเข้าไปข้างในรีสอร์ท แต่จะแวะไปกินโอวันตินกับอาหารเช้าที่ห้องอาหารก่อน คิดว่ารอพวกเพื่อนๆผมตื่น ผมอาจจะปวดท้องเสียก่อน แต่พอเดินเข้าไปก็เห็นว่าพี่ฉลามนั่งอยู่กับพี่แพร พี่แพรหน้าตาน่ารัก เหมือนเน็ตไอดอลเกาหลีที่เราเห็นๆกันในตอนนี้ ปากนิด จมูกหน่อยแต่ขาวมาก เรียนรุ่นเดียวกับพี่ฉลาม ในมือพี่แพรถือโมบาย กำลังคุยหัวเราะกับพี่ฉลาม เขาสองคนก็เหมาะสมกันดี ดีเหมือนกันที่พี่ฉลามโกรธผมแบบนี้ เพราะถ้าเรายังคุยกัน แล้วผมต้องฟังเรื่องของพี่แพรระหว่างทางกลับบ้านกับพี่ฉลาม ผมอาจจะเจ็บก็ได้ การแอบรักคนอื่นมันจะเจ็บก็ตอนที่เจ็บแต่แสดงออกไม่ได้นี่แหละครับ ผมตักอาหารมานั่งทานอยู่อีกมุมหนึ่งคนเดียว สักพักหนึ่งก็เห็นว่าพี่ฉลามเดินออกไปจากก้องอาหารพร้อมกับพี่แพร ผมได้แต่ถอนหายใจ สักพักหนึ่งพี่แหบก็เดินมานั่งด้วย ในมือถือกาแฟมาแก้วเดียว


“ตื่นแต่เช้าเชียวนะ”

“พี่ก็เหมือนกัน” ผมพูดตอบไป

“พี่ยังไม่ได้นอนเลย เดี๋ยวจะไปงีบสักแป๊ป เห็นเรานั่งกินข้าวเลยมาทักหน่อย”

“อ๋อ ครับ”

“เมื่อวานนี้เจ็บรึเปล่า” พี่แหบถามผม

“จำไม่ได้แล้วครับ มันผ่านมาแล้ว” ผมตอบ

“อย่าไปโกรธไอ้หลามมันนะ พวกพี่ผิดเองแหละ”

“ไม่ได้โกรธครับ พี่เขาคงตกใจ” ผมบอก

“จริงๆมันมีสาเหตุอื่นน่ะ แบบ พี่ขอโทษจริงๆนะกลอน” พี่แหบยกมือไหว้ผมจนผมตกใจยกมือไหว้กลับ แต่ก็งงว่าพี่เขาพูดถึงอะไร

“คืนนั้นที่กลอนมานอนหลับที่ห้อง พี่กับไอ้เมตรกลับมาตอนเกือบเช้า เมาได้ที่เลย คะนองไปหน่อยเลยแกล้งแรงไปหน่อย”

“แกล้งอะไรเหรอครับ” ผมถาม

“ไอ้เมตรมันเห็นไอ้หลามมันนอนหงายเป้าตุงอยู่ เลยเอามือน้องกลอนไปวางที่เป้ามันแล้วถ่ายรูปเอาไว้ พอเช้าก็แกล้งมัน บอกมันว่าโดนน้องกลอนจับเอาไว้ทั้งคืน ไม่คิดว่ามันจะโกรธขนาดนั้น ปกติพี่ก็เล่นกันแบบนี้บ่อยๆ เมื่อคืนพอไปสารภาพมัน เกือบโดนมันต่อย ไอ้เมตรโดนไปแล้ว กลอนอย่าโกรธพวกพี่นะ” ผมอึ้งไปกับคำสารภาพของพี่แหบ ถ้าจะโกรธก็ต้องโกรธตัวเองด้วย ทำไมผมถึงหลับสนิทจนไม่รู้เรื่องขนาดนั้น อาจจะเป็นยาที่คุณหมอให้มารึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ผมไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ

“พี่ยอมให้ต่อยก็ได้ อย่าโกรธพวกพี่นะ พี่ก็รู้หละว่ากลอนไม่ได้เป็นเกย์ แต่เห็นกลอนเรียบร้อย เลยอำไอ้หลามมัน ไม่คิดว่ามันจะเชื่อขนาดนั้น มันนึกว่าน้องกลอนจะลักหลับมัน” ผมถอนหายใจ ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกแย่ จะยังไงก็คือ พี่ฉลามเกลียดเกย์ จะโดนแกล้งหรือไม่แกล้งมันก็เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมต้องรักษาระยะห่างของตัวเองกับพี่ฉลามอยู่ดี

“ช่างมันเถอะครับ กลอนเข้าใจ เล่นกันขำๆ แต่ก็อย่าเล่นแบบนี้อีกนะครับ” ผมบอก พี่แหบยิ้มแล้วรีบขอบคุณผมใหญ่ แล้วพี่แหบก็ขอตัวไปนอน ส่วนผมยังนั่งอึ้งอยู่คนเดียว

...
..


ผมยังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้บุ้งฟัง เพราะพอกลับเข้าไปพวกมันก็ตื่นกันหมดแล้ว จากนั้นก็เดินไปที่โรงแรม เตรียมเข้าไปทำกิจกรรมพบรุ่นพี่ต่อจนถึงเย็น ได้ความรู้มากมาย ฟังเพลินเลย บางคนทำงานในวงการบันเทิง ก็วีดีโอเอาเบื้องหลังมาเปิดให้ดู บางคนผมก็เพิ่งรู้ว่าเขาเรียนที่สถาบันนี้ด้วย ส่วนใหญ่ทำงานเบื้องหลังทั้งนั้น ผมพยายามจดข้อมูลสำคัญๆเอาไว้ บางอย่างเป็นบทเรียนที่ดี แล้วหมดเวลาไปอย่างรวดเร็วจนมาถึงงานบายศรี เราทุกคนใส่เสื้อคณะมา ออกแบบสวยดี ผมชอบมาก มารู้จากบุ้งว่าพี่แพรเป็นคนออกแบบ บุ้งเมาท์ให้ฟังว่าพี่แพรน่าจะกำลังคบกับพี่ฉลาม เห็นรุ่นพี่เขาแซวกัน ผมก็ได้แต่รับรู้แล้วทำเฉยๆ


พวกเรานั่งฟังรุ่นพี่ออกมาพูดความในใจทีละคน พี่อ้วนพูดซึ้งจนผมน้ำตาซึม ผมเพิ่งเข้าใจว่าสายใยระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องมันดีแบบนี้ ยิ่งตอนที่พี่เขาเปิดวีดีโอพวกผมที่โดนรับน้องตั้งแต่วันแรกจนถึงเมื่อวานให้ดู ปีหนึ่งร้องไห้กันแทบทุกคนรวมถึงผมด้วย แต่ภาพในวีดีโอมีผมเยอะมาก ตั้งแต่วันแรกที่ผมเถียงพวกพี่เขา ผมเพิ่งเห็นว่าหน้าผมเอาเรื่องน่าดู มีรูปตอนที่พี่อ้วนไหว้ผมด้วย ผมขำทั้งน้ำตาเลย ดูวีดีโอเสร็จก็ถึงตอนที่รุ่นพี่ร้องเพลงให้พวกเรา น้ำตาก็ไหลเป็นก๊อก มันซาบซึ้งมากครับ จากนั้นก็เป็นการผูกข้อมืออวยพร รุ่นพี่นั่งที่เก้าอี้ ส่วนพวกผมนั่งที่พื้นแล้วขยับไปเลื่อนไปเรื่อยๆ


ตอนนี้ข้อมือของผมเต็มไปด้วยด้ายสีขาว ผมเลื่อนมาถึงพี่ฉลาม ผมก้มหน้า คิดว่าถ้าพี่เขาไม่ยอมผูกให้ผม ผมจะทำยังไงดี แต่ความกังวลของผมก็หมดไป เพราะพี่เขายอมผูกข้อมือให้ผม แต่ไม่พูดอวยพรอะไรเลย ผูกเสร็จผมก็ยกมือไหว้ ไม่ได้พูดอะไรกลับไปเช่นกัน ก็สงสัยเหมือนกัน ในเมื่อพี่เขารู้ความจริงแล้วว่าผมถูกแกล้ง ทำไมถึงยังทำเฉยใส่ผม


เราวนผูกกันจนครบแล้ว ประธานรุ่นก็คือพี่นพ ก็เปิดงานปาร์ตี้ ผมพวกต้องเตรียมตัวขึ้นไปแสดงตามโจทย์ที่ได้รับในวันแรก กลุ่มผมได้เล่นเป็นกลุ่มสุดท้าย ซึ่งผมชักอยากจะเปลี่ยนการแสดงที่ตกลงกันเอาไว้กับเพื่อนเสียแล้ว แต่คงไม่ได้ เพราะซ้อมกันมาแล้ว เลยได้แต่นั่งดูเพื่อนคนอื่นแล้วก็ทำใจไปด้วย ส่วนใหญ่ก็ร้องเพลง แสดงละครสั้นๆ มายากลบ้าง ในที่สุดก็ถึงกลุ่มผม ผมสูดอากาศเข้าปอด แล้วเดินขึ้นไปบนเวที


เสียงหัวเราะเฮลั่นห้องจัดเลี้ยง ผมมองลงไปข้างล่าง ทุกคนหัวเราะกันจนตัวงอหลังระหว่างที่ดูกลุ่มผมแสดง พวกผมแสดงอะไรนะเหรอครับ ก็ล้อเลียนรุ่นพี่นี่แหละครับ ซึ่งผมยอมรับเลยว่าไอ้สี่คนเพื่อนผมมันเนียนมาก แสดงเหมือนมากๆ สลับสับเปลี่ยนกันเป็นคนโน้นคนนี้ ยิงมุกสดๆกันตลอดไม่เหมือนที่ซ้อม ผมแอบยังหลุดขำ ส่วนผมนี่สิ ได้รับมอบหมายให้แสดงเป็นพี่ฉลาม นี่และที่ผมอยากจะเปลี่ยนในตอนแรก แต่ก็ต้องกัดฟันแสดง ซึ่งผมก็พยายามนึกท่าทางของพี่เขา ซึ่งไม่รู้หรอกว่าแสดงเป็นยังไง แต่คนก็ขำกันลั่น ผมไม่กล้ามองไปที่พี่เขาหรอก ยิ่งตอนที่ไอ้บุ้งมันต้องมาแสดงเป็นผมตอนที่ถูกพี่ฉลามดุ มันเลียนแบบผมทำหน้าเชิดๆเสียเหมือนจนผมหลุดขำ พวกผมแสดงเสร็จก็ได้ยินเสียงปรบมือดัง พอลงมาข้างล่างก็รู้สึกโล่งใจที่มันผ่านไปได้ด้วยดี แล้วงานกินก็เริ่มขึ้น งานเต้นก็มาด้วย พวกผมสนุกกันสุดเหวี่ยง ผมเองก็แอบกินไวน์แบบขวดเล็กๆไปหนึ่งขวด แต่แค่นี้ก็ร้อนวูบวาบ เหมือนเลือดสูบฉีดไปทั้งตัวแล้วครับ


ผมออกไปเต้นจนเหงื่อออกเต็มตัว อันที่จริงก็เต้นไม่เป็นหรอกครับ อาศัยโดดๆเอาสนุก หัวเราะเหมือนคนบ้า ไอ้บุ้งมันบอกว่าผมเมาน้ำจิ้มซีฟู๊ดมากกว่าไวน์ เพราะกินไปขวดแต่เมาเป็นลัง ผมขำที่มันเปรียบเทียบ พอรู้สึกร้อนเลยบอกมันว่าจะกลับ ไม่ชอบให้ตัวเหนียว ผมเดินกลับไปที่รีสอร์ทคนเดียว มาถึงหน้าห้องก็เจอพี่รันยืนอยู่ ผมตกใจเหมือนกัน


“พรุ่งนี้พี่จะกลับแล้ว อยากขอคุยกับกลอนได้ไหม”

“ผมว่าผมพูดสิ่งที่ผมต้องการไปหมดแล้วนะครับ” ผมบอก

“ครั้งสุดท้าย นะ แล้วพี่จะไม่มากวนกลอนอีก” พี่รันทำหน้าอ้อนวอน

“อย่าดีกว่าครับ” ผมบอกตรงๆว่าไม่อยากไปคุยอะไรกับพี่เขาอีก พี่รันเดินตรงมาผาผมแล้วกอดผม ผมรีบดันตัวพี่เขาออก

“กลอน ไอ้นั่นมันไม่ใช่เกย์ มันบอกพี่แล้ว มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลอนเป็นเกย์ มันรังเกียจกลอนนะ พี่ดูก็รู้ กลอนอยากหลอกพี่เลยว่าคบกันมัน” พี่รันพูดจบ ผมก็รู้สึกเหมือนก้อนหินก้อนใหญ่หล่นใส่หัว สติโดนน็อคจนไปต่อไม่ถูก เพราะสาเหตุนี้นะเอง ที่ทำให้พี่ฉลามโกรธผม เพราะผมอ้างว่าเขาเป็นคนรักของผม

“กลอน เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ” พี่รันเข้ามากอดผมอีก คราวนี้ผมผลักพี่รันออกอย่างแรงจนตัวพี่รันเซไปชนกับกำแพงห้อง

“พี่จะทำร้ายกลอนไปอีกเท่าไหร่ พี่อยากให้กลอนฆ่าตัวตายแบบแม่ใช่ไหม อยากให้กลอนดูไร้ค่า อยากให้กลอนหมดศรัทธากับตัวเอง พี่ต้องการแบบนั้นใช่ไหม” ผมร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย รู้สึกเสียใจที่พี่รันเอาเรื่องของไปพูดกับพี่ฉลาม ถ้าพี่รันไม่หยุด สักวันอาจจะเอาเรื่องนี้ไปพูดกับแม่ของผม ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไง เขาถึงจะยอมไปจากชีวิตของผม ผมรู้สึกเสียใจเพราะครั้งหนึ่งผมเคยรักคนๆนี้ ทุ่มเทให้เขา แต่เขาเลือกที่จะไปจากผมเอง

“กลอน พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้อยากทำร้ายกลอน” พี่รันหน้าเสียเมื่อเห็นผมร้องไห้

“ไปจากชีวิตกลอนเถอะนะ กลอนขอร้อง พี่กำลังมีลูกนะ พี่ไม่สงสารเขาเหรอ อย่าทิ้งเขาเหมือนที่พ่อทิ้งกลอนเลย อย่าทำแบบนั้นกับเด็กที่ไม่รู้เรื่อง” ผมยกมือไหว้พี่รัน พี่เขาอึ้งไป สุดท้ายพี่รันก็ร้องไห้ออกมาด้วย

“โอเค พี่จะไม่มายุ่งกับกลอนอีก พี่ขอโทษนะสำหรับทุกอย่าง” พี่รันบอกผม ผมไม่ได้ตอบ จนกระทั่งพี่เขาเดินไป ผมถึงได้ไขกุญแจแล้วเดินเข้าห้องไปร้องไห้ต่อ

.....

..


แล้วพี่รันก็ไปจากชีวิตของผมจริงๆอย่างที่ผมต้องการ ส่วนผมเองก็กลับมาตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่อย่างที่เคยทำมาตลอด ผมไม่ได้ไปมหาวิทยาลัยกับพี่ฉลามอย่างที่เคย ตั้งแต่กลับมาจากรับน้องผมก็ไม่ได้เจอพี่เขาเลย เป็นผมเองที่เป็นฝ่ายหลบหน้าพี่เขา ไม่ไปกินข้าวที่โรงอาหารของคณะ เลิกเรียนก็ไปฝีกงานกับพี่เหิร รุ่นพี่ที่ผมขอไปฝึกงานด้วย ผมไปช่วยเขาหลังเรียน วันไหนไม่มีเรียนหรือมีงานที่ผมต้องรีบทำส่งอาจารย์ ผมก็จะไป จนวันหนึ่งฝนตกหนักมาก ผมต้องหลบฝนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ปากซอย ไม่อยากเดินฝ่าเข้าไป กลัวจะเป็นหวัด ผมยิ่งเป็นภูมิแพ้อยู่ด้วย จนเห็นรถของพี่ฉลามขับผ่าน ผมก็ได้แต่มอง แล้วรถเบนท์ที่ขับเลยผมไปแล้วก็ถอยหลังกลับมา ผมยืนมอง ไม่ได้เดินเข้าไป พี่เขาไม่ได้เปิดกระจกเพราะฝนมันตกอยู่ ไม่อยากหน้าแตก จนได้ยินเสียงบีบแตรดังลั่นหลายที ผมถึงรีบวิ่งฝ่าฝนออกไปเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่ง พี่ฉลามออกรถไปเลยโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกับผม พี่เขาไม่ได้จอดส่งผมที่คอนโด แต่ขับรถเข้าไปในบ้าน ผมก็เข้าใจ ฝนมันอาจจะสาดเข้าไปในรถได้ เดี๋ยวไปลงในโรงจอดรถบ้านพี่เขาแล้วค่อยเดินออกมาก็ได้


“ช่วยถือโครงงานให้หน่อย” พี่ฉลามบอกผมเมื่อพี่เขาขับมาจอดในโรงรถแล้ว ดีที่วันนี้พี่เขาไม่ลืมเอารีโมทรั้วมา ไม่เช่นนั้นคงเป็นผมที่ต้องตากฝนไปกดกริ่งให้ ผมรีบสะพายกระเป๋าของตัวเองแล้วเข้าไปช่วยพี่ฉลามถือลังกระดาษ พี่ฉลามเดินนำผมเข้าไปในบ้าน ผมเกร็งนิดหน่อย เพราะเราไม่ได้พูดกันมาเกือบสองอาทิตย์ อีกอย่างคือผมเพิ่งได้เข้ามาในบ้านพี่เขาเป็นครั้งแรก ข้างในตกแต่งสวยมากๆ

“เอาไว้ไหนครับ”

“ตามมาข้างบนนี่” พี่ฉลามบอก ผมเลยเดินตามพี่เขาขึ้นไป พอถึงห้องพี่เขาผมก็วางลังกระดาษลง

“ขอบคุณนะครับที่ให้ติดรถมาด้วย ผมกลับก่อนนะครับ” ผมบอก

“รอให้ฝนหยุดตกก่อน” พี่ฉลามบอก ผมกำลังจะปฏิเสธ แต่พอเห็นสายตาดุๆเลยเลือกที่จะเงียบ

“ไปอาบน้ำก่อน นี่ชุด แล้วค่อยเอามาคืน” พี่ฉลามบอกพร้อมกับส่งเสื้อผ้าให้ผม ผมเปียกนิดหน่อย แต่ก็เปียกเพราะป้ายรถเมล์มันหน้าปากซอยมันเล็ก แล้วฝนตกหนัก เลยหลบไม่พ้นเท่าไหร่

“ไม่เป็นไรครับ ผมว่าผมกลับเลยดีกว่า”

“พูดไม่รู้เรื่องรึไง”

“ก็ผม..”

“กลอน ไปอาบน้ำ” พี่ฉลามทำเสียงดุกว่าเดิม ผมเลยรับชุดในมือของพี่ฉลาม วางกระเป๋าตัวเองลงแล้วเข้าไปอาบน้ำ ห้องน้ำที่โคตรจะใหญ่ มีอ่างอาบน้ำด้วย แต่ผมรีบไปอาบที่ตู้กระจกที่เป็นส่วนที่เอาไว้อาบน้ำ แชมพูของพี่ฉลามมีแต่ภาษาอังกฤษ หอมมากด้วย ได้ใช้ของแพงกับเขาแล้วนะไอ้กลอน ผมบอกกับตัวเองอย่างขำๆ

“ไดร์เป่าผมอยู่ที่หน้าตู้กระจก” ผมเดินออกมาพี่ฉลามก็ชี้บอก ผมเลยเดินไปนั่งที่หน้าตู้กระจกแล้วเป่าผมจนแห้ง ส่วนพี่ฉลามนั่งต่อโครงงานอะไรอยู่ที่โซฟา ฝนยังไม่หยุดตกเลย ฟ้าร้องดังมากด้วย ผมรีบโทรบอกไอ้เด่นว่าติดฝนอยู่ ซึ่งมันก็ยังติดฝนเหมือนกัน

“พี่หายโกรธกลอนแล้วเหรอ” วางสายจากเด่นแล้วผมก็ทำใจกล้าเดินเข้าไปถามเจ้าของบ้าน

“ถามตัวเองเหอะ” พี่ฉลามย้อนถามผม ผมทำหน้างง

“นั่งเฉยๆทำไม ทากาวให้หน่อย” พี่ฉลามบอกแล้วเลื่อนกระดาษสีเงินแผ่นเล็กๆให้ผมช่วยทากาว

“ถามตัวเองคืออะไรเหรอครับ”

“ใครหลบหน้าพี่” พี่ฉลามย้อนถาม ผมก็เลยอึ้งไป

“ก็เผื่อพี่ไม่อยากเห็นหน้ากลอน”

“ก็ไม่อยากเห็น” พี่ฉลามพูดจบผมก็เจ็บแปลบเลย เลยนั่งทากาวเงียบๆ

“แต่พอไม่เห็นก็แปลกๆ” พี่ฉลามพูดต่อ ผมแอบเหลือบมองพี่เขา ใจเต้นขึ้นมาแบบไม่มีเหตุผล

“ขอโทษที่ผลักนะ พี่ตกใจ” พี่ฉลามพูดต่อ ผมพยักหน้าให้แต่ก็ยังก้มหน้าทากาวต่อ

“แล้วก็..ขอโทษแทนเพื่อนที่ไปแกล้ง” ผมพยักหน้าอีก

“แล้ว..ทำไมไปบอกไอ้นั่นว่าพี่เป็นแฟน” ผมกำลังจะพยักหน้านึกว่าพี่เขาจะขอโทษอะไรอีก พอได้ยินคำถามก็จ๋อยเลย

“กลอนขอโทษ กลอนแค่ไม่อยากให้เขามายุ่ง”

“แล้วทำไมไม่บอกความจริงว่าเป็น..” พี่ฉลามไม่ยอมพูดออกมา

“เป็นพี่พี่จะพูดเหรอ” ผมย้อนถาม พี่เขานิ่งก่อนจะส่ายหน้า

“แต่เราสนิทกัน” พี่เขาบอก

“ยิ่งสนิทกลอนยิ่งไม่อยากบอก พี่ไม่ชอบเกย์ ถ้ากลอนบอก พี่อาจจะระแวงจนเราไม่สนิทกัน”

“ใครบอกว่าไม่ชอบเกย์ เคยพูดเหรอ” พี่ฉลามถามเสียงห้วนๆ ผมเงยหน้ามองพี่เขา พี่เขารีบหลบตาผม

“ก็แบบ ไม่ได้รังเกียจ คบได้ เป็นพี่น้องกัน มีอะไรต้องพูดความจริง ที่โกรธ เพราะนึกว่าเราไปยุ่งกับผู้ชายที่เมียกำลังท้อง” พี่ฉลามรีบพูดต่อ คงกลัวผมจะเข้าใจผิดว่าพี่เขามีใจ ผมยิ้มให้พี่เขา ก็ยังดี ได้กลับมาเป็นน้องของพี่ฉลามก็ยังดี

“ครับ ต่อไปกลอนจะไม่โกหกอีก” ผมบอก เป็นครั้งแรกในรอบสองอาทิตย์ที่ผมได้เห็นรอยยิ้มของพี่ฉลาม

“แล้วทำไมถึงได้เป็น รู้เมื่อไหร่ว่าเป็น มีแฟนมากี่คนแล้ว แล้วแบบ..เคย แบบ” พี่ฉลามถามผมรัวเลย ผมนิ่งอึ้งไป สุดท้ายก็ถอนหายใจแล้วเล่าให้พี่ฉลามฟัง ผมเล่าทุกเรื่องอย่างไม่ปิดบัง เพราะอะไรไม่รู้ ผมรู้สึกว่าผมไว้ใจผู้ชายคนนี้ พี่เขานั่งฟังผมเงียบๆ มือก็ทำงานไปด้วย ผมเล่าจบพี่เขาก็ถอนหายใจ

“พี่ขอโทษนะ” เขาพูดขึ้นมา

“สำหรับอะไรครับ”

“ทุกเรื่อง” พี่ฉลามบอกผม ผมเดาความคิดพี่เขาไม่ออก ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร อาจจะกำลังสงสารผมอยู่

“กลอนก็ขอโทษเหมือนกัน ทุกเรื่อง” ผมบอก พี่เขายิ้มแล้วยีหัวผมเล่น ผมบอกตรงๆว่ารู้สึกดีมากๆ พี่ฉลามเป็นแบบนี้ ถ้าได้คิด ได้เข้าใจแล้วพี่เขาก็จะยอมรับในสิ่งที่เขาผิด

“ไปกินข้าวกัน ท่าทางจะไม่หยุดตกง่ายๆ” พี่ฉลามชวนผมลงไปกินข้าว ลงไปก็เจอพ่อกับแม่ของพี่ฉลามที่เพิ่งกลับมา ผมยกมือไหว้ ท่านดูใจดี ชวนผมคุย แล้วสักพักพี่คนนั้น คนหล่อๆที่ผมเคยเจอตอนที่มารอพี่ฉลามไปมหาลัยครั้งแรกก็เดินเข้ามา ผมก็ได้รับการแนะนำ เลยรู้ว่าพี่เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่ฉลาม แต่อายุมากกว่า เขาชื่อพี่นุ๊ก วันนี้พี่นุ๊กมาทานข้าวที่บ้านพี่ฉลามด้วย


ผมฟังครอบครัวพี่ฉลามคุยกันแล้วก็พอเข้าใจว่าพี่ฉลามเหมือนใคร พ่อพี่ฉลามมีบริษัทเรือเดินสินค้า ส่วนแม่ทำงานธนาคาร ตำแหน่งใหญ่ แต่ทั้งคู่คุยแบบฮาร์ดคอร์กันมาก ยิ่งเรื่องการเมือง เถียงกันออกรส แต่สุดท้ายก็รับฟังความคิดกัน ส่วนพี่นุ๊กได้แต่ยิ้มๆเหมือนกับผม ไม่กล้าไปคุยด้วย พี่นุ๊กทำเกี่ยวกับพวกอสังหาริมทรัพย์ คอนโดที่ผมอยู่ก็เป็นของพี่นุ๊ก บ้านนี้เขารวยกันจริงๆ


ทานข้าวเสร็จ พ่อพี่ฉลามก็ชวนผมเล่นหมากรุก ผมไม่อยากอวดว่าผมเก่งมากๆ ผมเล่นกับพ่อบ่อยๆ เล่นจนเอาชนะพ่อได้ ทีแรกพ่อพี่ฉลามก็ถามว่าผมเล่นเป็นไหม ผมตอบว่าเป็นก็เลยโดนชวนเล่น ส่วนพี่ฉลามก็เดินมานั่งดูทีวีที่โซฟาข้างๆ พี่นุ๊กก็อ่านหนังสือพิมพ์ข้างพี่ฉลามอีกที แล้วทั้งคู่ก็เลิกสนใจทีวีและหนังสือพิมพ์มาลุ้นเกมหมากรุกระหว่าผมกับพ่อพี่ฉลาม ผลสรุปคือผมชนะ พ่อพี่ฉลามชอบใจใหญ่ ยิ่งรู้ว่าผมอาศัยอยู่คอนโดตรงกันข้าม ยิ่งสั่งให้ผมมาเล่นด้วยบ่อยๆ


“ขอบคุณมากสำหรับอาหารเย็นแสนอร่อย ครอบครัวพี่น่ารักดีนะครับ ผมกลับก่อนนะ” ผมบอกพี่ฉลาม ตอนนี้ฝนหยุดแล้ว พี่ฉลามเดินออกมาส่งผมที่หน้ารั้ว

“มากินทุกเย็นสิ จะได้ประหยัด” พี่ฉลามบอก

“ผมไปฝึกงานที่บริษัทพี่เหิรกว่าจะกลับคงสองทุ่ม” ผมบอก พี่ฉลามพยักหน้ารับรู้

“พรุ่งนี้ไปด้วยกัน” พี่ฉลามพูดต่อ

“ครับ ขอบคุณนะครับ” ผมบอกแล้วยิ้มให้พี่ฉลาม พอผมจะกลับพี่เขาก็เรียกผมเอาไว้

“รอแป๊ปนึง อย่าเพิ่งไป” พี่ฉลามพูดจบก็วิ่งกลับเข้าไปในบ้าน ผมรอสักพักพี่เขาก็วิ่งกลับมาแล้วส่งถุงให้ผม ผมรับมาแบบงงๆ

“กลับไปได้แล้ว เร็ว ค่อยไปดูที่ห้อง” พี่ฉลามบอก ผมเลยยิ้มให้พี่เขาอีกครั้งก่อนจะเดินกลับไปที่คอนโด


ผมกลับถึงห้องก็รีบแกะถุงออกดู แล้วผมก็ต้องอึ้งไป เพราะมันคือโมบายหอยแบบเดียวกับที่ผมซื้อมา ตรงกลางโมบายหอยมีเรซิ่นใสๆรูปปลาฉลามสีฟ้าห้อยอยู่ด้วย ความรู้สึกดีๆมันถาโถมเข้ามาสู่หัวใจผมมากมาย ผมนึกว่าพี่เขาซื้อให้พี่แพร ไม่รู้ว่ามันมีความหมายอะไรไหมสำหรับของขวัญชิ้นนี้ แต่แค่พี่เขาซื้อให้ผม ผมก็ดีใจจนไม่ไม่รู้จะบรรยายยังไง


ผมรีบเดินออกไปที่ระเบียงห้อง ซึ่งมันมองเห็นบ้านพี่ฉลามชัดเจน ผมเอาโมบายผูกไว้ที่ขื่อระเบียง แล้ววิ่งเข้าไปหยิบมือถือมาถ่ายรูปโมบาย แล้วก็กดส่งไปให้พี่ฉลามดู พักเดียวพี่ฉลามก็ส่งรูปกลับมา เป็นรูปของผมยืนห้อยโมบายอยู่ที่ระเบียงแบบไกลๆ ผมรีบมองไปที่บ้านของพี่ฉลาม เห็นพี่เขายืนอยู่ที่หน้าต่างห้อง ซึ่งตรงกับระเบียงห้องของผมพอดี เราเห็นกันแบบในระยะไกลเพราะห้องของผมอยู่ตั้งชั้นหก ผมโบกมือให้พี่เขา พี่เขาก็โบกกลับ แล้วเสียงโทรศัพท์ของผมก็ดัง ผมรีบกดรับ


“กลับเข้าไปได้แล้ว”

“ครับ ขอบคุณมากนะครับ กลอนชอบมาก”

“อืม เจอกันพรุ่งนี้นะ”

“ครับ ฝันดีครับพี่ฉลาม”

“ฝันดีเจ้าหนูจำไม”


ผมวางสายแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง รู้สึกมีความสุขจัง ความสุขครั้งนี้มันแตกต่างจากตอนเต็งหนึ่งแล้วก็พี่รัน ผมอธิบายออกมาเป็นตัวหนังสือไม่ได้ว่ามันแตกต่างยังไง รู้แต่ว่ามันไม่เหมือน



..รักครั้งนี้ของผมอาจจะเป็นรักแค่ข้างเดียว แต่มันก็ทำให้ผมรู้ว่าผมยังศรัทธาในความรัก หัวใจของผมไม่ได้ถูกปิดตาย ผมยังสามารถคิดถึงใครคนหนึ่งได้อย่างไม่มีเงื่อนไข แม้ผมยังคงกลัวที่จะเจอกับความผิดหวัง ผมยังจำได้ว่ามันเจ็บยังไง แต่ความกลัวนั้นมันน้อยกว่าการรู้สึกอยากจะรักใครสักคน แม้ว่ามันจะเป็นแค่ข้างเดียวก็ตาม...


*******โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ*******


โดนใบสั่งให้มาต่อเร็วๆ เพราะอยากอ่านนิยายที่คล้ายเรื่องของตัวคนสั่งเอง ฮ่าๆๆ จัดไปค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (10/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-10-2015 13:09:43
 :mew1:   อีพี่ฉลามมมม.  แบบนี้จะไม่หวั่นไหวได้ยังไง เห้อ
หัวใจคนเรามันไม่ได้ปิดตายกันง่ายๆหรอกแค่กลัวความผิดหวังและรู้จักระวังตัวมากขึ้นเท่านั้นเอง
เชื่อว่ากลอนจะดูแลตัวเองได้ดีขึ้นนะจากนี้ไม่มีความลับกับพี่ฉลามแล้วก็ดีไปแต่ว่าไอ้สถานะพี่น้องเนี่ย.....หน่วงนะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (10/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 10-10-2015 13:37:38
เลวอย่างต่อเนื่องเลยว่ะอิพี่รัน
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (10/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 10-10-2015 14:51:44
ดีใจที่ปรับความเข้าใจกันได้
ถ้าไม่เกิดเรื่องเลวร้ายซะก่อน
อย่างน้อยกลอนก็ยังมีพี่ชายเพิ่มมาอีกคน
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (10/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 10-10-2015 15:16:09
เอาแล้วไงคู่นี้
55555555
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (10/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 10-10-2015 15:24:51
เรื่องน้องกลอนนี่ ยิ่งอ่านมันยิ่งเป็นความจริงมากๆ คนคนนึงไม่มีทาง พบกันรักกัน สมหวังตลอดกาลจริงๆ แบบนี้เลย

แต่ยิ่งคนเราเจอมาเยอะ พอเจออีกมันจะยิ่งเจ็บช้ำนะ อ่านตอนนี้บอกตรงๆยังไม่ไว้ใจพี่ฉลามเลยอ่ะ เป็นห่วงน้องกลอน   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (10/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 10-10-2015 22:25:18
แหมะ พี่ชายยยยยย
แต่พี่เล่นแบบนี้ น้องก็ใจสั่นได้เหมือนกันนะเจ้าคะ
ขยันอ่อยเกิ๊น!!!
และ แฮะๆ พี่เมตร~~~ เก๊าก๋อโต๊ด
เคยเข้าใจผิดคิว่าเป็นคนเอาเรื่องน้องเป็นเกย์ไปปูดอ่ะ
แต่ไอ้เรื่องอำเนี่ย ขอสักที
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (10/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 11-10-2015 10:36:58
ใจเต้น
พี่ฉลามน่ารักมากมาย
แบบนี้น้องกลอนจะไม่รักได้ไง
(หวังแค่ว่าพี่ฉลามจะไม่ทำให้น้องกลอนช้ำรักอีกรอบหรอกนะ)
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (10/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 11-10-2015 13:30:46
 :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (10/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: top_fy ที่ 12-10-2015 11:38:35
อยากอ่านต่อแร้ววววววว. ค๊าบบบบบบ :katai3:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (10/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 12-10-2015 13:15:40
ขอเดาว่าพระเอกคือคนที่ได้จิ้นนไป  :z2:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (10/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: maruko ที่ 12-10-2015 17:37:53
ตามอ่านรวดเดียว น้ำตาซึมไปกับความเจ็บปวดของกลอนที่ต้องเจอ อินหนักมากค่ะ T___T
กลอนเป็นเด็กดีมากจริงๆ เจอปัญหาแต่ละครั้ง มีสติและตัดสินใจได้ดีเลย เอามาผลักดันชีวิตไปทางที่ดี
ตอนนี้ลุ้นพระเอกหนักมากกก อยากให้กลอนได้เจอรักที่ดีคนที่ใช่เร็วๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (10/10/58) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 13-10-2015 12:59:30
ไม่รู้ว่าต่อไปกลอนจะได้ลงเอยกับใคร แต่ตอนนี้เชียร์พี่ฉลามค่ะ
ขอให้พี่ฉลามเป็นคนดีที่ทำให้กลอนแฮปปี้ทีเท๊อะ!

รออ่านตอนต่อไปค่ะ ^^
หัวข้อ: Re:=บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 14-10-2015 17:55:54
บทรักบทที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (ตอนที่ 4)


ความสัมพันธ์ของผมกับพี่ฉลามก็กลับมาเป็นเหมือนรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทกันเหมือนเดิม แต่จะว่าไป ผมว่าเราสองคนสนิทมากกว่าเดิมจะดีกว่า ผมเข้าออกบ้านของพี่ฉลามเหมือนกับเป็นญาติคนหนึ่ง พ่อกับแม่ของพี่ฉลามก็ใจดีกับผมมาก ไปไหนก็ซื้อของมาฝากเสมอ คอยให้พี่ฉลามมาตามผมไปทานข้าวด้วย รวมถึงพี่นุ๊กก็ด้วย บางวันที่ผมมีเรียนเช้า แต่พี่ฉลามมีเรียนบ่าย ผมต้องเดินทางไปเรียนเอง ถ้าวันไหนผมออกไปเจอพี่นุ๊ก พี่นุ๊กก็จะอาสาไปส่งผมเพราะเป็นทางผ่าน ผมรู้สึกสนิทใจกับพี่นุ๊กได้เหมือนพี่ฉลาม พี่เขาดูเป็นผู้ใหญ่ ยิ้มง่าย ใจดี พี่นุ๊กอยู่กับแม่แค่สองคน พ่อพี่นุ๊กเพิ่งเสียไปเมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง ส่วนแม่พี่นุ๊กก็ชอบไปปฏิบัติธรรมที่วัด พี่นุ๊กบอกว่าแม่อยู่วัดมากกว่าอยู่บ้าน มิน่า ผมเลยเห็นพี่นุ๊กมาฝากท้องบ้านพี่ฉลามบ่อยๆ แต่ถึงยังไงผมก็ไม่ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับผมให้พี่นุ๊กฟังแม้จะรู้สึกสนิทในระดับหนึ่งก็ตาม


อ่อ อีกเรื่องหนึ่งที่ลืมเล่าไป โมบายที่ผมซื้อมาเหมือนกับของที่พี่ฉลามซื้อมา เช้าวันถัดมาหลังจากที่ได้โมบายหอยจากพี่ฉลามในคืนนั้น ผมก็เอาโมบายของผมไปให้พี่บ้าง พี่เขางอนผมไปทั้งวันเลย ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกว่าพี่เขางอน แต่เห็นทำเฉยใส่ผมอีก ก็แปลกใจว่าพี่เขาเป็นอะไร มารู้ในตอนเย็นเพราะผมทำใจกล้าเข้าไปหาพี่ฉลามที่บ้าน เนียนเอาของฝากจากที่บ้านที่ไอ้เด่นมันหอบมาเอาไปให้แม่พี่ฉลาม แล้วผมก็พี่ฉลามว่าผมทำอะไรผิดไปอีก พี่เขาเลยบอกว่าของที่เขาให้แล้ว ถ้าไม่อยากได้ก็ให้ทิ้งไป ผมเลยเข้าใจว่าพี่ฉลามคิดว่าผมเอาโมบายมาคืนเขา พอเขารู้ว่าอันนี้ไม่ใช่ของเขา แต่เป็นของที่ผมซื้อมาเหมือนกัน พี่เขาถึงอึ้งไป แล้วก็เนียนใช้ผมให้เอาโมบายไปห้อยให้ด้วยที่หน้าต่างห้อง จากนั้นมาก็โดนผมก็เลยรู้ว่า นอกจากพี่ฉลามจะติสท์แล้วยังขี้งอนอีกด้วย


ผมไม่อยากเข้าข้างตัวเองหรอกว่าพี่เขารู้สึกดีกับผมบ้าง เพราะพี่ฉลามเป็นลูกคนเดียว การที่มีผมมาคุยมาสนิทด้วยอาจจะทำให้พี่เขารู้สึกเหมือนมีน้องชาย เพราะถึงพี่เขาจะห่วงใยหรือดีกับผม แต่พี่เขาก็ควงคนนั้นคนนี้ไปเรื่อยไม่ได้ขาด บางทีพ่อของพี่ฉลามโทรตามผมให้มาเล่นหมากรุกด้วยในวันหยุด พี่ฉลามก็จะออกไปนอกบ้านแม้ว่าผมจะอยู่ที่บ้านของพี่เขา พี่เขาออกไปเที่ยวกับเพื่อนเขา แต่ก็จะกลับมากินข้าวเย็นด้วย แม่พี่ฉลามบอกว่า ปกติไม่กลับมาหรอกถ้าผมไม่มา ซึ่งมันทำให้ผมแอบดีใจนิดๆ ผมมีความสุขนะ แม้ว่าผมจะเป็นได้แค่นี้ แต่ความคิดถึงของผมมีที่ไป เวลาฟังเพลงรักแล้วมีคนให้คิดถึง มันก็มีความสุขดี มันมีหลายโมเมนท์เลยที่ผมแอบมาดีใจในความใจดีเล็กๆน้อยๆของพี่ฉลามที่แสดงกับผม แต่ถึงมันจะเล็กน้อย มันก็เป็นโมเมนท์ที่ทำให้คนแอบรักพี่เขาข้างเดียวยิ้มได้ก็โอเคนะ


แต่แล้วบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไปเมื่อผมขึ้นปีสอง ส่วนพี่ฉลามก็ขึ้นปีสี่ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อเราไปรับน้องกันที่ต่างจังหวัด


“อย่าดื่มกันเยอะนะ พรุ่งนี้ต้องพาน้องเข้าฐานแต่เช้า” พี่แพรเดินเข้ามาบอกพี่ฉลามที่กำลังนั่งดื่มกันอยู่กับกลุ่มพี่ว๊าก ตอนนี้พวกผมเป็นพี่ปีสอง พาน้องปีหนึ่งมารับน้อง แต่คราวนี้เรามากันที่เกาะช้าง

ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาผมเห็นพี่ฉลามกับพี่แพรทำตัวห่างกัน พี่ฉลามบอกว่าพี่แพรงอนที่พี่ฉลามติดเพื่อนแล้วต่างคนก็ต่างเหินห่างกันไป แต่สองสามวันที่ผ่านมาผมเดาว่าคงเริ่มกลับมาคบกันอีก เพราะผมเห็นพี่แพรมาวนเวียนทุกที่ที่พี่ฉลามอยู่ ส่วนพี่ฉลามผมเห็นพี่เขาเฉยๆ ผมก็ไม่กล้าถามหรอกว่าพี่เขากลับมาคบกันรึเปล่า กลัวคำตอบครับ แหะๆ

“ห่วงแฟนจริงแม่คุณ เดี๋ยวผมไปส่งให้ถึงห้องเลยครับ” พี่อ้วนบอก พี่แพรค้อน แต่ก็ดูออกว่าเขินที่โดนแซวมากกว่าโกรธ

“มึงอย่าดูดบุหรี่” พี่ฉลามไม่ได้สนใจคำแซวแต่ดึงบุหรี่จากปากพี่แหบมาขยี้กับพื้น พี่แหบอ้าปากค้างเพราะโดนแย่งบุหรี่เพิ่งจะถูกจุดขึ้นเมื่อกี้เลย

“เฮ้ย มึงทิ้งของกูทำไม” พี่แหบถาม

“เหม็นควัน มึงไปดูดตรงโน้น” พี่ฉลามชี้บอก

“ไรวะ กูก็ดูดทุกทีไม่เห็นมึงจะเหม็น”

“ก็ทุกทีไม่มีรุ่นน้องใช่ไหมมึง สร้างภาพว่ะ” พี่ต้า เพื่อนสนิทอีกคนของพี่ฉลามแกล้งต่อว่าพี่ฉลาม พี่ฉลามไม่ได้ตอบแต่ยิ้มนิดๆที่มุมปาก ผมกับบุ้งหันมามองหน้ากัน รุ่นน้องที่ว่าในวงเหล้าตอนนี้ก็มี บุ้ง ผม เสือ แล้วก็เก้งแค่นั้น

“ผมไม่แพ้ ดูดไปเหอะพี่” เสือบอกพี่แหบ

“บุ้งก็ไม่” บุ้งบอกบ้าง ตอนนี้ทุกสายตาเลยมองมาที่ผม จริงๆผมก็ไม่ได้แพ้ขนาดนั้น แต่เคยบอกพี่ฉลามไปว่าแพ้บุหรี่ เพราะผมไม่อยากให้พี่เขาสูบ ซึ่งหลังจากที่ผมบอกไปวันนั้น พี่เขาก็ไม่เคยสูบต่อหน้าผมเลย

“แพรแพ้เอง” พี่แพรบอกแล้วยิ้มหวาน ออกอาการเขินอายสุดๆ ส่วนผมสิ จากที่รู้สึกว่าหัวใจมันพองโตอยู่แท้ๆ ฟีบลงทันที ก็คนที่พี่เขาห่วงไม่ใช่ผมสักหน่อย พักนี้ผมเสียนิสัย ชอบเข้าข้างตัวเองบ่อยๆ

“เออๆ กูไปดูดตรงโน้นก็ได้” พี่แหบทำหน้าเซ็งๆก่อนจะเดินถือซองบุหรี่ออกไป พี่แพรที่ทำท่าจะเดินไปนอนในตอนแรก ตอนนี้เปลี่ยนใจมานั่งข้างพี่ฉลามแทนแล้ว แถมคอยเอาใจชงเหล้าให้ด้วย ผมว่าผมเริ่มรู้สึกอึดอัดยังไงชอบกล ปกติก็ฟังพี่ฉลามเล่าเรื่องผู้หญิงให้ฟังบ่อยๆ แต่มันต่างจากการเห็นด้วยตาตัวเอง มันทำให้ผมแอบใจหายขึ้นมาเหมือนกันหากเขากลับไปคบกันจริงๆ

“กลอนขอไปเช็คน้ำดื่มก่อนนะครับ ลืมเลยว่ายังไม่ได้เช็ค เผื่อไม่พอเอาไปพรุ่งนี้” ผมบอก ผมไม่ได้เป็นพี่ว๊ากกับเขาหรอก อยู่ฝ่ายดูแลเสบียงครับ รับน้องคราวนี้ไม่ได้หรูหราเหมือนตอนรุ่นผม ออกแนวบุกป่าฝ่าดงมากๆ

“แล้วจะกลับมาอีกเปล่า” บุ้งถาม ผมเหลือบมองไปที่พี่ฉลาม เห็นพี่เขามองมาเหมือนกัน

“ไม่อะ จะไปนอนเลย ผมไปนอนเลยนะครับพี่ๆ” ผมบอก พี่ทุกคนพยักหน้าให้


แล้วผมก็เข้าไปเช็คน้ำดื่มอย่างที่บอกทุกคนจริงๆ พรุ่งนี้เราต้องไปเข้าฐานที่น้ำตก ไกลออกมาจากที่พัก ต้องเอาน้ำดื่มติดไปด้วย ผมลืมเช็คจริงๆ โชคดีที่มันยังมีเยอะอยู่ ระหว่างที่กำลังจัดให้มันเข้าที่ ก็มีรุ่นน้องปีหนึ่งสองคนรีบเข้ามาช่วยผม เป็นผู้ชายกับผู้หญิง น้องผู้หญิงชื่อแตงโม ตัดผมหน้าม้าเต่อ เป็นคนตลกดี เป็นขวัญใจรุ่นพี่เลย โดนแกล้งแต่ก็ยิ้มได้ตลอด ส่วนน้องผู้ชายอีกคนชื่อมอส หน้าตาดี อยู่แค่ปีหนึ่งแต่ก็เล่นดนตรีในผับหาเงินไปด้วย เคยเห็นฝีมือในการเล่นกีต้าร์แล้ว เก่งมากๆ ได้เป็นตัวแทนประกวดเดือนของคณะผมด้วย แถมมอสยังเป็นน้องรหัสของบุ้ง บุ้งมันดีใจที่ได้น้องหน้าตาดี ดีใจเหมือนได้มาเป็นแฟนครับ 555


“พี่กลอนขยันจัง” สำเนียงเหน่อของน้องแตงโมทำเอาผมต้องยิ้มออกมา อยู่กับน้องเขาแล้วต้องอารมณ์ดีตามไปด้วย

“ขยันอะไรละ โดนใช้ให้เช็คตั้งแต่บ่าย พี่เพิ่งมานึกได้ตอนนี้” ผมบอก

“ตัวพี่นิดเดียว ออกไปเหอะ ผมยกให้ เดี๋ยวโดนลังทับแบน” น้องมอสบอกผม พูดกับผมเหมือนผมเป็นเด็กเลย ใครรุ่นพี่รุ่นน้องกันแน่

“เฮ้ยๆ ไอ้มอส รุ่นพี่นะเว้ย แม้หน้าพี่เขาจะอ่อนกว่าเอ็งก็เหอะ” แตงโมรีบบอกเพื่อน

“เนอะ พี่แข็งแรงนะเห็นแบบนี้” ผมบอก ก่อนจะยกลังน้ำขึ้นมา แต่ก็โดนน้องมอสแย่งไปถืออีก แถมมือน้องมอสยังมาจับโดนมือผมด้วย แค่โดนคงไม่ได้คิดอะไร แต่โดนแล้วไม่ขยับออก ผมเลยตะหงิดๆนิดนึง

“ทำไมยังไม่ไปนอนกันอีก” เสียงพี่ฉลามดังขึ้นมา น้องแตงโมทำท่าสะดุ้งจนผมขำ พี่ฉลามก็ยังคงเป็นพี่ขาโหดสำหรับน้องๆทุกรุ่น

“มาช่วยพี่เขายกลังน้ำค่ะ” แตงโมตอบ ส่วนมอสไม่ยอมตอบ แต่ทำหน้าเฉยๆ ผมว่าบรรยากาศมันไม่ค่อยดี ดูน้องมอสห่ามๆด้วย

“พี่ทำเองได้ ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นมาวิ่งตีห้าด้วย ไปๆๆ” ผมรีบไล่ น้องสองคนเลยชวนกันเดินออกไป

“มานี่ ยกให้” พี่ฉลามยกลังน้ำที่เหลือวางเข้าที่ให้ผม

“เลิกกินเหล้ากันแล้วเหรอพี่” ผมถาม

“มาฉี่”

“ห้องน้ำอยู่ทางนี้ที่ไหนกัน ห่วงกลอนก็บอกมาเหอะ กิ้วๆ” ผมแค่จะแกล้งพี่ฉลามให้อารมณ์ดี แต่พี่ฉลามกลับทำหน้าเหมือนเก้อเขิน ผมเลยอึ้งไปแล้วก็เงียบเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี

“หิว เห็นหน้ารีสอร์ทมีร้านบะหมี่ ไปกินกัน” จู่ๆพี่ฉลามก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

“ไปไงอะครับ” ผมถาม เพราะจากหน้ารีสอร์ทเข้ามามันก็ประมาณเกือบหนึ่งกิโล


แล้วยานพาหนะที่พาผมมาถึงร้านบะหมี่ก็คือมอเตอร์เก่าๆของรีสอร์ท เสียงท่อไอเสียดังจนผมกลัวว่าเจ้าป่าเจ้าเขาจะโกรธเอาได้ที่ไปรบกวน แต่มันก็ได้บรรยากาศดี ได้เกาะเอวคนที่เราแอบชอบ ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่ลอยมากับลม ผมยาวๆของพี่ฉลามปลิวมาโดนแก้มผม ผมเลยต้องก้มหน้า หน้าผากของผมไปชนกับแผ่นหลังของพี่เขา เหมือนผมซบพี่เขาเลย อยากให้ร้านบะหมี่อยู่ห่างออกไปสักห้ากิโลจัง


“เอาอีกไหม” พี่ฉลามถามผม ผมส่ายหน้า กินแค่นี้ก็ท้องจะแตกแล้ว พี่ฉลามกินไปตั้งสองชาม

“ซื้อไปฝากเพื่อนๆดีไหม” ผมถาม

“ไม่ต้อง ยังไม่กลับ ขี้เกียจหิ้ว”

“อ้าว ยังไม่กลับ แล้วเราจะไปไหนกันเหรอ” ผมถาม มองไปรอบๆ ก็เห็นมีแต่ร้านบะหมี่กับร้านขายของชำ

“ไปนั่งริมทะเลกัน ไม่ไกลหรอก พี่แอบไปเซอร์เวย์มาเมื่อกลางวัน” พี่ฉลามชวน ผมมีเหรอที่จะปฏิเสธ ได้ใช้เวลากับคนที่เราแอบรักมันดีนะตาย


แล้วเราสองคนก็เคลื่อนย้ายร่างกายโดยฝากชีวิตกับเจ้าสองล้อท่อดังไปจนถึงริมทะเลด้วยความปลอดภัย ที่นี่ไม่ไกลจากรีสอร์ทเท่าไหร่ น่าจะเป็นชายหาดส่วนตัวรึเปล่า เพราะผมเห็นมีบ้านคนด้วย แต่ก็ไม่เห็นมีป้ายติดว่าเขตหวงห้าม โขดหินที่มีขนาดใหญ่มากๆถูกเราใช้แทนเก้าอี้ผ้าใบ พี่ฉลามนอนหงายหนุนแขนตัวเอง ส่วนผมนั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆ ถ้าใครได้มากับแฟนท่ามกลางบรรยากาศอย่างนี้คงจะฟินไม่น้อยเลย แต่ถึงพี่ฉลามจะไม่ใช่แฟนของผม แต่ผมก็มีความสุขเหมือนมากับแฟน ขี้ตู่เอาเพื่อบรรยากาศครับ


“โชคดีท้องฟ้าเปิด เห็นดาวชัดเลย” ผมบอก

“รู้ไหม ไหนดาวลูกไก่” พี่ฉลามถาม

“ไม่รู้ ไหนอะครับ” ผมถาม

“เอ้า พี่ถามเรา ดันมาถามพี่กลับอีก” พี่ฉลามหัวเราะ โธ่ ผมนึกว่าพี่เขารู้เลยมาถามลองภูมิผม

“รู้จักอยู่ดาวเดียว” ผมบอก

“ดาวอะไร”

“ดาวคณะ นี้ไง” ผมชี้ไปที่ฉลามแล้วหัวเราะ พี่เขายิ้มแล้วก็หันกลับไปมองดาวอีกรอบ เงียบอีกแล้ว เหมือนพี่ฉลามมีเรื่องไม่สบายใจ

“มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า เล่าให้กลอนฟังได้นะ” ผมบอก

“ช่วยได้เหรอ”

“ก็ลองปรึกษาก่อนสิ”

“ช่างมันเหอะ” พี่ฉลามบอก ผมเลยไม่เซ้าซี้ คิดว่าคงมีเรื่องไม่สบายใจจริงๆ

“หนาวอะ” ผมบอก ลมทะเลมันแรง ไม่ได้เอาเสื้อคลุมมาด้วย

“มานอนใกล้ๆพี่นี่มา พี่กินเหล้ามา ตัวอุ่น” พี่ฉลามบอก ผมอึ้งไป กลัวโดนแกล้ง ผมเลยไม่ยอมไปแต่นั่งอยู่ที่เดิม แล้วพี่เขาก็ดึงตัวผมให้ขยับไปใกล้ๆ แล้วดันผมให้ลงมานอนข้างๆ ผมได้กลิ่นเหล้าอ่อนๆ แต่กลิ่นน้ำหอมของพี่ฉลามมันชัดกว่า ผิวที่แขนพี่เขาร้อนจริงๆด้วย ไม่ได้ร้อนแบบเป็นไข้นะครับ แค่อุ่นๆเกือบร้อน

“ถ้าเผลอหลับจะทำยังไง” ผมถาม

“ดันตกทะเล” พี่ฉลามตอบ ผมหันไปเบ้ปากใส่พี่เขา


ผมกับพี่ฉลามนอนดูดาวกันเงียบๆ รอบๆตัวมีแต่เสียงคลื่นกระทบกับโขดหิน แต่ที่ดังอยู่ภายในคือเสียงหัวใจของผมเอง ผมจำความรู้สึกนี้ได้ดี ใจของผมเต้นตึกตักๆ ทั้งเกร็งและผ่อนคลายสลับกันไปมา มีความสุขและความกังวล สมองคิดไปต่างๆนาๆ สงสัยจะคิดมากไปจนเริ่มเบลอ ง่วงและรู้ตัวเลยว่ากำลังจะหลับ ผมนอนหลับตาเพราะรู้สึกง่วงมาก ยิ่งมีลมเย็นๆพัดผ่าน เสียงคลื่นขับกล่อม รู้สึกสบาย ไม่รู้ว่าสติมันหายไปตอนไหน แต่มารู้สึกอีกก็ตอนที่ผมรู้ว่าตัวผมกำลังถูก..


จูบ...


ผมไม่ได้ลืมตาขึ้นมาในทันที แต่ผมรับรู้ได้ ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ชัดเจน มันมาพร้อมกับไออุ่นที่ถูกทาบที่ริมฝีปาก สัมผัสเบาๆกระตุ้นให้หัวใจผมเต้นหนักกว่าเดิมเป็นเท่าทวีคูณ ผมไม่กล้าลืมตา ไม่ได้ฝันไปแน่ๆ แต่อยากให้เป็นฝัน ผมกลัวว่าถ้าผมลืมตาขึ้นมาแล้วโลกจะไม่ได้เป็นอย่างที่มันควรจะเป็น ผมกลัวว่าการกระทำนี้อาจจะเป็นแค่การอยากลองเหมือนกับที่พี่รันรู้สึกกับผม


“พี่จูบได้ไหม” เสียงพี่ฉลามถาม พี่เขารู้ว่าผมยังไม่ทันได้หลับสนิท แปลว่าพี่เขาตั้งใจจูบ ผมกลั้นหายใจจนเฮือกสุดท้าย แล้วก็พรูลมหายใจออกมาก่อนจะลืมตา ใบหน้าของพี่ฉลามอยู่ใกล้กับผมนิดเดียว ผมเห็นดวงตาของอีกฝ่ายชัดเจน มันเหมือนดาวดวงหนึ่งที่ลอยอยู่ตรงหน้า ผมควรคว้ามันมาดีไหม

“พี่อยากจูบกลอนเพราะอะไร เมารึเปล่าครับ” ผมถาม พี่ฉลามยิ้มก่อนจะพลิกตัวลงไปนอนราบเหมือนเดิม แล้วพี่ฉลามก็จับข้อมือผมขึ้นมาให้ชูขึ้นไปบนฟ้า

“ชูนิ้วขึ้นมาสิ” พี่ฉลามบอก ผมชูนิ้วขึ้นสองนิ้ว”

“สองนิ้ว เมาไหมแบบนี้” พี่เขาตอบก่อนจะหันมาถาม ผมยังใจเต้นไม่หายเลย ยิ่งโดนจับข้อมือแบบนี้ ผมบอกตรงๆ ขนลุก มันไม่ได้มีอารมณ์แบบนั้นนะ แต่มันตื่นเต้น

“อยากลองจูบเหรอครับ” ผมถามอีก ใจยังเต้นรัวเป็นกลอง

“อืม” พี่เขาตอบตรงๆ ผมใจเสียไปนิดหนึ่ง แต่ก็ดีใจที่พี่เขาไม่โกหก พี่ฉลามเอามือผมลงมาแต่ไม่ได้ปล่อย ยังคงจับข้อมือผมเอาไว้

“ทำไมครับ” ผมถาม

“เจ้าหนูจำไม”

“กลอนอยากรู้ จู่ๆมีคนมาขอจูบ เป็นพี่ไม่อยากรู้เหรอ” ผมถาม พี่เขายิ้มนิดๆ

“พี่สับสน พี่ไม่รู้ว่ากำลังรู้สึกยังไงกับกลอน” พี่ฉลามพูดจบก็ถอนหายใจ

“ถ้าจูบแล้วจะหายสับสนเหรอครับ” ผมถามอีก

“ไม่มั๊ง ไม่รู้ ไม่เคยสับสน นี่เป็นครั้งแรก” พี่ฉลามตอบผม ผมหัวเราะจนพี่เขาหันมามอง ผมรู้สึกดีนะ เข้าใจพี่เขา เขาใกล้ชิดผม อาจจะหวั่นไหว แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงหวั่นไหว ผมว่าตัวผมไม่มีอะไรให้น่าหวั่นไหวเลยนะ แต่ผมก็ดีใจที่อย่างน้อยผมยังมีค่าที่ทำให้ผู้ชายดิบๆคนนี้หวั่นไหวได้

“จูบก็ได้ แต่พี่ต้องสัญญาก่อน” ผมบอก

“อะไร จะขอค่าสินสอดเหรอ” พี่ฉลามถาม ผมหัวเราะอีก พี่เขามองผมแล้วถอนหายใจ

“เกลียดรอยยิ้มนี่จริงๆเลย” พี่เขาพูดขึ้นมา ผมหน้าเหวอไปเลย

“ทำไมอะครับ”

“ก็ยิ้มนี่แหละ ที่ทำให้สับสน” พี่ฉลามถามผม ผมพลิกตัวมานอนตะแคง มองด้านข้างของพี่เขา ในความมืดเลือนรางก็ยังดูดีขนาดนี้เลย ผมสิต้องหวั่นไหว

“ถ้าพี่จูบกลอน แล้วสรุปว่ามันไม่ใช่อย่างที่พี่อยากให้เป็น พี่ก็แค่อยากลอง ถ้าเป็นแค่นั้น พี่อย่าทำตัวห่างไป ขอให้พี่ลืมมันไป แล้วเราเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมได้รึเปล่า” ผมถาม

“แล้วถ้ามันใช่ละ ถ้าพี่รู้สึกดีละ”

“แปลว่าพี่เป็นเกย์ไง” ผมบอกแล้วหัวเราะ

“น่าผลักตกทะเลจริงๆ” พี่ฉลามแกล้งขู่

“ผมล้อเล่น พี่จำเรื่องพี่รันที่กลอนเล่าให้พี่ฟังได้ใช่ไหม กลอนไม่อยากเสียความสัมพันธ์ที่ดีๆไป โดยเฉพาะกับพี่ กลอนไม่อยากเสียพี่ไป กลอนไม่รู้หรอกว่าพี่สับสนอะไร แต่ถ้าพี่อยากจูบ กลอนจะให้พี่จูบ แต่พี่ต้องทำแบบที่กลอนขอร้องให้ได้นะ” ผมไม่รู้ว่าตัดสินใจถูกหรือผิด แต่ผมก็อยากให้พี่เขาลอง ถ้าพี่เขาจูบแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ แค่หวั่นไหวไป อย่างน้อยมันก็ไม่มากไปกว่านี้ เรายังกลับมาเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันได้

“แต่พี่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้กับบุ้งหรือคนอื่นๆที่เขาเป็นแบบนั้น ไม่ได้มอง ไม่ได้คิดจะมองด้วย” พี่ฉลามพูดแล้วถอนหายใจ

“สงสัยเพราะกลอนน่ารัก ยอมรับก็ได้” ผมพูดชมตัวเองแล้วหัวเราะอีก


คราวนี้พี่ฉลามดันผมนอนลง แล้วก็ประกบริมฝีปากผมเลย ลิ้นร้อนๆถูกแทรกเข้ามาฉกชิมทั่วพื้นที่ปากของผม ไม่รู้ว่ารสชาติของเหล้าที่ออกจะหวานๆขมๆหรือเพราะความร้อนแรงของเจ้าของลิ้นอุ่นๆที่บรรเลงจุมพิตมาแบบไม่มีกั๊กกันแน่ที่ทำให้ผมรู้สึกมึนตึบ ผมตอบรับจูบโดยอัตโนมัติ ความร้อนในร่างกายของผมมันเพิ่มขึ้นมาจนรู้สึกว่าลมทะเลไม่ได้ทำให้ผมหนาวอีกแล้ว ลิ้นของเราสองคนตวัดบดเบียดรุกไล่กัน จูบครั้งนี้ไม่ได้รุนแรงแต่มันร้อนแรงมากๆ ผมไม่รู้ว่าหัวใจผมยังเต้นดังอยู่รึเปล่า เพราะตอนนี้ผมได้ยินแต่เสียงจูบของเราสองคน จนพี่ฉลามถอนจูบออกแล้วมองหน้าผม คราวนี้ผมกลับมาได้ยินเสียงหัวใจตัวเองแล้ว มันรัวเลยครับ ผมเองก็มองหน้าพี่เขา รอฟังคำพิพากษา


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V


หัวข้อ: Re:=บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 14-10-2015 17:57:05
^
^

(ต่อจากด้านบนค่ะ)


“จูบเก่ง” แป่ววววววว อุตส่าห์รอฟังว่าใช่หรือไม่ใช่ ดันมาชมจนผมทำหน้าไม่ถูกเลย แล้วพี่ฉลามก็จูบผมอีกรอบ ถ้าเป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์ก็คงเป็นการทดลองซ้ำเพื่อความแน่ใจละมั๊ง ฮ่าๆ อื้มม ผมถูกจูบซ้ำ คราวนี้นานกว่าเดิมจนชักจะหยุดไม่ได้ ผมเลยบีบแขนพี่ฉลามเพื่อให้เขาพอก่อน พี่เขาถึงได้เลิกจูบ พี่เขามองหน้าผม ก่อนจะถอนหายใจแล้วพลิกตัวกลับไปนอนหงายมองท้องฟ้าเหมือนเดิม

“ทำไงละที่นี่” พี่เขาพูดขึ้นมา

“ไม่เป็นไรครับ” ผมบอกก่อนจะลุกขึ้นนั่ง พี่เขาคงไม่อยากเป็นในสิ่งที่เขาไม่อยากเป็นมาตั้งแต่ต้น ได้พิสูจน์แล้ว ผมเองก็แค่กลับไปเป็นน้องที่อยู่ข้างๆเหมือนเดิม

“จะลุกไปไหน” พี่ฉลามถาม

“กลับกันเถอะพี่ พรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้า อย่าไปคิดอะไรมากเลย ลืมๆมันไปเนอะ” ผมบอกแล้วยิ้มให้พี่ฉลาม ทั้งที่หัวใจผมมันไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดี แต่พี่เขาลุกขึ้นมานั่ง แล้วขมวดคิ้ว

“กลอนลืมได้เหรอ” พี่เขาถาม ผมมองหน้าพี่เขา อยากจะบอกว่าผมไม่มีวันลืมหรอก แล้วมันก็จริง ผมไม่เคยลืมเลย ผมจำได้มาจนถึงทุกวันนี้ มันเป็นโมเมนท์ที่ประหลาดที่สุดและมีความสุขที่สุดในชีวิตของผมแล้ว ทดลองจูบกับคนที่เราหลงรัก มันไม่ได้เกิดกับทุกคนหรอก ใช่ไหมครับ

“กลอนไม่อยากให้พี่ลำบากใจ”

“พี่จะลำบากใจถ้ากลอนจะทำแบบนี้กับคนอื่น ไม่ทำแบบนี้นะกับคนอื่น โอเคไหม..พี่ยอมรับว่าพี่รู้สึกดี ดีมากกับจูบเมื่อกี้ แล้วพี่ไม่จูบกับคนที่พี่ไม่ชอบหรอกนะ” พี่ฉลามบอกผม

“แล้วพี่ว่ากลอนใจง่ายเหรอ ถ้าไม่ใช่พี่ กลอนไม่ให้จูบหรอกนะ” ผมรีบเถียงแบบฉุนๆ แต่พี่ฉลามหัวเราะ

“ชอบพี่เหรอ” ผมอึ้งไปอีกรอบ หลายอึ้งแล้ววันนี้

“อยู่ใกล้ๆพี่รู้สึกอะไรบ้างเปล่า” พี่ฉลามถาม ผมไม่ยอมตอบ กลัวโดนแกล้งอีก

“รู้สึกเหมือนที่พี่รู้สึกไหม” พี่ฉลามถามอีก

“พี่รู้สึกยังไง กลอนจะไปรู้เหรอ”

“อืม..ก็แบบ ตั้งแต่รู้ว่ากลอนชอบผู้ชาย ทีแรกพี่ก็คิดว่าถ้าเราสนิทกัน กลอนจะคิดอะไรกับพี่รึเปล่า เราจะสนิทใจกันได้รึเปล่า พี่ต้องระวังตัวไหม แก้ผ้าต่อหน้ากลอนได้รึเปล่า เออ..แล้วรู้ไหม แฟนเก่ากลอนเอารูปกลอนนอนโป๊ให้พี่ดูด้วย ดีว่าหันหลังนะ แต่พี่ก็จำได้แหละว่าเป็นกลอน” ปกติพี่ฉลามไม่ใช่คนที่จะมาพูดอะไรยาวๆ พอคราวนี้พูดยาวๆ ผมทั้งเขินทั้งขำ

“ก้นขาวมาก” พี่ฉลามพูดต่อ

“ห๊ะ” ผมตกใจมากถึงมากที่สุด หน้าชาไปหมดเหมือนถูกตบแรงๆ เพิ่งรู้ว่าพี่รันเลวขนาดนี้ ผมไม่เคยรู้ว่าถูกถ่ายเลยนะ คิดว่าพี่เขาต้องแอบถ่ายเอาไว้ตอนผมหลับแน่ๆ แล้วดูคำชมของพี่ฉลาม ก้นขาว โอ้ย ผมไม่รู้จะมองหน้าพี่เขายังไง

“พี่รันเหรอครับ” ผมถามทั้งที่รู้

“อืม เขามาขอให้พี่เลิกกับกลอน เขาบอกกลอนรักเขา พี่ไม่เชื่อ บอกว่ากลอนไม่ได้เป็นเกย์ เขาเลยเอารูปกลอนมาให้ดู พี่ยอมรับว่าโกรธมาก คือยังไงละ แบบรู้ว่ากลอนเป็นเกย์ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ทำไมต้องถ่ายภาพแบบนี้ มันจะทำลายอนาคตไหมถ้าภาพหลุดออกไป แล้วพี่ก็มาคิดได้ว่ากลอนไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่ก็ไม่รู้จะง้อยังไง ทำตัวแย่ๆใส่ไปแล้ว” พี่ฉลามทำหน้าสำนึกผิด ผมเข้าใจพี่เขาในทันทีว่ารู้สึกยังไงในตอนนั้น

“ทำไมพี่ไม่เคยเล่าเลย”

“ไม่อยากให้กลอนรู้สึกแย่ไปกว่านี้ แต่พี่ขู่มันไปแล้ว พี่บอกว่าพ่อพี่เป็นมาเฟีย ถ้ามันเอารูปนี่ออกมาอีก พี่จะฆ่าลูกมันตั้งแต่ยังไม่เกิด”

“ห๊ะ” ผมตกใจรอบสอง

“ก็กลัวมันเอาไปโชว์คนอื่นไง จะให้ทำยังไงละ” พี่ฉลามพูดแบบฉุนๆ

“แล้วพอเราสองคนได้คุยกันอีก สนิทกันเหมือนเดิม พี่ก็เริ่มรู้สึกดีๆ พี่ก็ไม่รู้ว่ามันเริ่มตอนไหน พี่ก็ว่าพี่ชอบผู้หญิงนะ แต่ระยะหลัง มันนึกถึงแต่กลอนอะ แล้วไม่ได้คิดถึงคนอื่น ไม่ได้อยากคุยกับใคร อยากคุยกับกลอน คุยอะไรก็ได้ ถึงไม่ได้จีบกัน แต่แค่คุย พี่ก็มีความสุข พี่ลองแล้วนะ ไปกับเพื่อนตอนที่กลอนมาที่บ้าน แต่แม่งไม่สนุก อยากกลับบ้าน” พี่ฉลามเกาท้ายทอยตัวเอง แล้วเงยหน้ามองฟ้าอีก

“แล้วที่น่าประหลาดใจที่สุด” พี่ฉลามกลับมามองผมอีกรอบ แล้วพูดค้างเอาไว้

“อะไรเหรอครับ”

“พี่แม่งโหลดหนังโป๊ผู้ชายมาลองดู” พี่ฉลามพูดจบผมก็อึ้งรอบที่ร้อย ก่อนจะหัวเราะออกมา พี่ฉลามรีบคว้าคอผมมาล็อกเอาไว้แล้วยีผมของผมจนยุ่งไปหมด

“ดูแล้วเป็นยังไง” ผมถามเมื่อหยุดขำได้แล้ว

“อ้วกจะแตกอะดิ” พี่ฉลามตอบแล้วผมก็หน้าจ๋อยเลย พี่เขาคงไม่ได้เป็นเกย์จริงๆ แค่หวั่นไหวไปเพราะใกล้ชิดผมแค่นั้น อาจจะเหมือนพี่รัน อยากให้ผมทำให้ แต่ไม่ยอมแตะต้องอะไรของผม เพียงเพราะผมมีอะไรที่เหมือนกับเขา

“ดูทำหน้าเข้า ฟังให้จบก่อน” พี่ฉลามบอก

“แบบ คนอื่นในคลิปมันไม่ใช่กลอนไง ดูแล้วมันไม่เกิดอารมณ์ อย่างถ้าให้พี่ไปทำแบบนั้นกับคนอื่น พี่คงทำไม่ได้อะ มันต่างจากกลอน อย่างตอนที่กลอนมาที่บ้าน เวลาใส่เสื้อคอกว้างๆ พี่แม่งก็เลวแอบเหลือบดู นมสีชมพูด้วย”

“พี่ฉลาม!!” ผมเรียกพี่เขาเสียงดังแล้วขำ เห็นทั้งนมทั้งก้นผม ผมควรจะหนีกลับรีสอร์ทเลยดีไหม

“แล้วมันมีอารมณ์ว่ะ พี่ก็ไม่รู้ต้องทำไง มันสับสน ถามตัวเอง นี่กูมาถึงจุดที่มองนมผู้ชายแล้วมีอารมณ์ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ จะว่าแค่อยากเรื่องแบบนั้น มันก็ไม่น่าใช่ เรามันก็ผู้ชายเหมือนกัน แต่พี่ก็มาคิด สำหรับพี่นะ พี่จะอยากทำอะไรกับคนที่พี่ชอบจริงๆ ไม่อย่างนั้นพี่ก็ทำไม่ลง” พี่ฉลามเล่าจบผมก็รู้สึกดีมากๆที่ได้รู้ความรู้สึกของพี่เขา แต่ก็สับสนตามไปด้วย ผมไม่ใช่กูรู ไม่รู้ว่าควรต้องทำยังไงกับคนตรงหน้า เขายังสับสนว่าตัวเองเป็นเกย์หรือไม่เป็น ผมจะไปทำอะไรได้

“พี่อยากให้กลอนอยู่ห่างๆพี่ก่อนไหมครับ” ผมลองเสนอดู แม้ว่าเป็นข้อเสนอที่ผมไม่อยากให้พี่เขาตอบรับ

“ใจร้ายว่ะ” พี่ฉลามโวยผม แต่เป็นคำโวยที่ทำให้ผมรู้สึกดี อย่างน้อยพี่เขาก็ไม่ได้คิดผลักไสผม

“แล้วกลอนต้องทำยังไง”

“พี่อยากคบกับกลอน แต่พี่กลัวว่าวันหนึ่งถ้าเราทะเลาะกัน เราจะเสียกันไป ยิ่งสิ่งที่กลอนเจอมา มันมีแต่คนแย่ๆ พี่ก็ไม่อยากให้กลอนรู้สึกว่าพี่เหมือนพวกนั้น” พี่ฉลามบอกกับผม ผมก็ถอนหายใจ

“กลอนขอพูดบ้างนะครับ กลอนยอมรับว่าแอบชอบพี่มานานแล้ว มันเป็นความประทับใจ แต่กลอนรู้ว่าพี่ไม่ได้ชอบกลอน กลอนรู้ว่าต้องวางตัวเองไว้ตรงไหน กลอนมีความสุขนะเวลาอยู่กับพี่ แม้จะในฐานะน้อง ถึงกลอนจะรู้สึกจี๊ดๆนะเวลาพี่ไปเที่ยวกับแฟนหรือมีเรื่องแฟนมาเล่าให้กลอนให้ แต่กลอนก็ทำใจได้ ขอแค่เราได้พูดคุยกัน”

“แอบชอบพี่มานานแล้วจริงดิ พี่นึกว่ากลอนคบกับรูมเมทกลอน เพราะบุ้งบอกกลอนมีแฟนแล้ว”

“ไอ้เด่นเหรอ นั่นเพื่อนสนิทกลอนนะพี่ เป็นแฟนกันก็คงฆ่ากันตาย รู้ไส้รู้พุง กลอนไม่มีแฟนหรอก บุ้งมันไม่ชอบพี่เมตร มันไม่อยากให้พี่เมตรมาจีบกลอน” ผมหัวเราะออกมา

“งั้น..เราลองคบกันไหม” จู่ๆพี่ฉลามก็ขอคบผมเลยพอรู้ว่าเด่นไม่ใช่แฟนผม

“ถ้าเราไปกันไม่รอดละครับ” ผมถาม

“เราไม่รู้อนาคตหรอก พี่ก็ตอบไม่ได้ ไม่รู้สิ พี่ให้กลอนตัดสินใจก็แล้วกัน” พี่ฉลามบอก

“แล้วพี่แพรละครับ”

“พี่ไม่ได้คบกับแพร แต่ถ้าอยากให้พี่บอกทุกคนว่าเราคบกันพี่ก็บอกได้ เอาจริงๆ ไอ้อ้วนกับไอ้แหบมันก็รู้แหละว่าพี่ชอบกลอน”

“ห๊ะ”

“จะห๊ะอะไรนักละ” พี่ฉลามถามขำๆ

“พี่เขารู้ว่ากลอนเป็นเกย์เหรอครับ” ผมว่าผมไม่เคยแสดงอาการอะไรเลยนะ บุ้งมันยังบอกเลยว่าผมเหมือนผู้ชายเรียบร้อยแบบลูกผู้ดีแนวเด็กเรียนอะไรแบบนั้นมากกว่า

“มันไม่รู้หรอกว่ากลอนเป็น มันยังบอกเลยว่ากลอนไม่ได้เป็น แต่มันว่าพี่บ้า ที่จู่ๆก็คิดจะชอบผู้ชาย มันบอกไม่อยากจะเชื่อ พี่ยังไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย แต่มันก็รู้สึกไปแล้ว” คราวนี้พี่ฉลามยีหัวตัวเอง

“ขอให้กลอนกลับไปคิดก่อนแล้วกันนะครับ” ผมบอกเมื่อพี่ฉลามนั่งมองหน้าผม พี่เขาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเสยผมตัวเองให้หายยุ่ง

“กลับกันเถอะ” พี่ฉลามยิ้มแล้วกระโดดลงไปยืนก่อนจะยื่นมือให้ผมจับ ผมจับมือพี่เขาแล้วค่อยๆไต่ก้อนหินลงมา 


ขากลับผมนั่งกอดเอวพี่ฉลามเอาไว้เพราะพี่ฉลามแกล้งขับเซไปเซมา แต่พอใกล้ถึงรีสอร์ทถึงได้เปลี่ยนเป็นเกาะเอาไว้เฉยๆ ผมอยากจะตอบรับเป็นแฟนกับพี่ฉลามนะ ใครจะไม่อยากคบกับคนที่แอบชอบมาตั้งนาน แต่ผมก็กลัวจริง ผมอยากลองคิดอีกสักหน่อย ถ้าผมจะมีความรักอีกสักครั้ง ก็อยากให้มันยาวนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมอยากให้แน่ใจว่าพี่ฉลาม คนที่เป็นผู้ชายที่รักผู้หญิงมาโดยตลอด จะเปลี่ยนใจมารักผู้ชายธรรมดาอย่างผมได้จริงๆ ผมไม่อยากให้มันจบไม่ดีแบบเต็งหนึ่งหรือพี่รัน ยิ่งรู้ว่าพี่รันคนที่ผมเคยให้ใจมาแอบถ่ายรูปผมแบบนั้น ผมยิ่งคิดว่าคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ สำคัญสุดๆเลย ผมไม่อยากเสียพี่ฉลามไป ไม่อยากให้เขาต้องหายไปจากชีวิตของผมเหมือนกับอดีตที่ผมได้เจอมา


พี่ระเบิดเคยบอกผมว่า ความรักแบบพวกเรามันยากที่จะมีชีวิตคู่ที่จะอยู่ด้วยกันนานๆ ด้วยความกดดันหลายๆอย่างของคนที่มีจุดยืนแบบที่ไม่ใช่เรื่องปกติของสังคม ถ้าไม่ได้รักกันมากพอ ส่วนใหญ่ก็ต้องเลิกรากันไปสาเหตุหลักๆมาจากความอดทนไม่เพียงพอ ทั้งทนต่อกระแสสังคมและทนต่อความความใคร่ที่มันเกิดขึ้นได้ง่ายๆกับกลุ่มชายรักชาย ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ เพราะผมมาเจอมาแล้วกับรักที่ผ่านมา ผมเลยได้แต่หวังว่า ถ้าผมจะตัดสินใจคบกับพี่ฉลาม อย่างน้อยก็ขอให้ผมเจ็บน้อยที่สุด แล้วก็..ถึงถ้าไปกันไม่รอด เราก็จะจบกันด้วยดี แบบนั้นมันคงจะดีกว่า

......
....
..

กลับมาจากรับน้องได้เกือบสองอาทิตย์ ผมก็ยังไม่ได้ให้คำตอบกับพี่ฉลาม เราทั้งคู่มัวแต่ยุ่งเรื่องงานกีฬามหาลัย ผมไม่ได้ไปช่วยงานที่บริษัทของพี่เหิรเลยเพราะต้องช่วยอาจารย์เตรียมงาน เพราะสถาบันเราเป็นเจ้าภาพ แต่พี่เหิรก็เข้าใจและบอกว่าว่างค่อนเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนพี่ฉลามมีหน้าที่เป็นช่างภาพของงาน ต้องถ่ายรูปทำข่าวให้หนังสือพิมพ์ของมหาลัยด้วย ผมกลับมาถึงคอนโดก็หลับเป็นตาย กับไอ้เด่นเองยังไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเลย แต่ผมก็มีโมเมนท์ที่รู้สึกดีๆตอนที่เรานั่งรถมาเรียนด้วยกัน พี่ฉลามแหย่ผมมากขึ้น ผมรู้สึกว่าพี่เขาอ่อนโยนกับผมมากขึ้น แคร์ผม เอาใจใส่ ทุกครั้งที่ผมมองไป ก็เห็นพี่เขามองกลับมาทุกที แต่พี่เขาก็ไม่ได้เร่งเอาคำตอบจากผมนะ


กับพี่แพร ผมก็ยังเห็นว่าพี่แพรจะอยู่กับพี่ฉลามตลอด แต่ผมก็ดูออกว่าพี่ฉลามไม่ได้อะไรด้วย ส่วนใหญ่เพื่อนๆจะแซวเพราะไม่รู้ คิดว่าสองคนนั้นยังคบกัน มีแต่พี่แหบที่คอยแอบมาเล่าให้ผมฟัง ว่าพี่แพรตื้อพี่ฉลามน่าดูทั้งที่พี่ฉลามบอกแล้วว่าเป็นเพื่อนกันดีกว่า ถ้าถามผมว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไง ผมบอกได้เลยว่าผมรับพี่ฉลามเข้ามาในใจเต็มๆแล้วละครับ ยิ่งสนิทก็ยิ่งรู้สึกดี บางทีผมแทบอดใจไม่ได้ อยากเข้าไปกอดพี่เขาเวลาเราอยู่กันสองคนที่ห้องพี่ฉลาม แต่ผมก็ต้องทน ไม่อยากรีบร้อน อยากให้เวลากับตัวเอง


จนกระทั่งวันนั้นหลังจากงานกีฬาจบไปแล้ว ผมเอาของฝากที่แม่ฝากมาไปให้แม่ของพี่ฉลาม ผมเล่าเรื่องครอบครัวของพี่ฉลามให้แม่ฟัง ว่าทุกคนเมตตาเอ็นดูผม แม่เลยฝากของฝากมาให้ทุกครั้งที่ผมกลับบ้านหรือไอ้เด่นกลับ แต่วันนี้พี่ฉลามไม่อยู่ ออกไปข้างนอกกับเพื่อน แม่พี่ฉลามให้ผมไปนั่งเล่นรอที่ห้องของพี่ฉลามก่อน เพราะท่านจะให้ผมอยู่กินข้าวเย็นด้วยกัน ผมเลยขึ้นไปรอ  แต่ก่อนจะเดินไปถึงนอนของพี่ฉลาม ผมจะต้องเดินผ่านห้องมืด ห้องที่พี่ฉลามทำเอาไว้ล้างรูป เห็นมันแง้มอยู่เลยเข้าไปดู เคยเข้ามาบ่อยๆ ดูพี่เขาล้างรูป กดเปิดไฟในห้อง ไฟมันเป็นสีแดง กำแพงห้องมีราวลวดขึงเอาไว้ มีฟิล์มที่ล้างแล้วห้อยอยู่เต็มไปหมด ผมเลยไปยืนส่องดู ปกติที่เคยเข้ามามันไม่ได้มีฟิล์มเยอะแบบนี้ สงสัยจะเป็นงานที่พี่เขาต้องทำส่งอาจารย์ แต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด


...รูปของผมแทบทั้งนั้นเลย...


ผมเหลือบไปดูที่โต๊ะทำงาน เห็นอัลบั้มรูปวางอยู่เลยเดินเปิดดู ในอัลบั้มพวกนั้นก็มีแต่รูปของผม ตั้งแต่ตอนที่ผมอยู่ปีหนึ่ง ผมรู้สึกได้ว่าระดับความสุขของผมมันพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมไม่ได้เคยคาดหวังเลยว่าพี่เขาจะรู้สึกนึกถึงผมมากขนาดนี้ ผมดีใจ ดีใจมาก มาคิดดู ช่วงเวลาที่พี่เขารอคำตอบจากผม หลายครั้งที่พี่เขาจะจูบผมก็ได้หรือทำมากกว่านั้น แต่พี่เขาไม่ทำ อย่างมากก็มองผมแล้วสั่งผมห้ามยิ้ม พี่เขาบอกว่า ผมยิ้มแล้วยั่ว ฮ่าๆ เอาจริงๆเราสองคนก็เป็นผู้ชาย เรื่องแบบนี้มันคงธรรมดา แต่พี่เขาก็ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวผมมีค่า มันคือการให้เกียรติ ผมเห็นรูปของตัวเองผ่านฝีมือของพี่ฉลามแล้วก็มีความสุข พี่เขาเก่งถ่ายจนผมดูดีหรือเพราะผมเห็นว่าคนที่ถ่ายเป็นคนที่ผมรัก สีหน้าผมเลยดูดีแบบนี้ก็ไม่รู้สิ ว่าแล้วผมก็แอบขโมยรูปพี่ฉลามมาหนึ่งใบ แล้วเดินไปรอพี่ฉลามที่ห้อง


“กลับมาแล้วเหรอครับ” ผมถามพี่ฉลาม ผมมานั่งรอที่ห้องของพี่เขาอีกเกือบครึ่งชั่วโมง พี่เขากลับมาท่าทางจะเหนื่อยๆ

“อืม ไปถ่ายรูปส่งอาจารย์ ร้อนมาก” พี่ฉลามถอดกางเกง ถอดเสื้อ สวมผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ ผมชินแล้วครับ พี่เขาทำแบบนี้ประจำ สักพักก็ออกมา กลิ่นสบู่หอมมาเลย

“มีอะไรรึเปล่า” พี่ฉลามถาม เพราะปกติผมไม่เคยมาโดยไม่บอกก่อน

“คิดถึงเลยมา” ผมตอบ พี่ฉลามเลิกคิ้วก่อนจะยิ้ม

“อ่อยว่ะ” พี่ฉลามว่าผม

“อือ อ่อยก็อ่อย” ผมตอบ พี่ฉลามหรี่ตามองผมแบบเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะพูดแบบนี้ ก่อนจะเดินมานั่งข้างๆผม ตัวพี่เขายังมีหยดน้ำเกาะติดอยู่เลย ผมเลยหยิบผ้าบนไหล่ของพี่เขามาช่วยเช็ดให้ พี่เขาก็มองหน้าผมแบบจ้องเลย คงสงสัยท่าทีของผม ก็ผมอยากเอาใจบ้าง รู้สึกมีความสุข

“เดี๋ยวทนไม่ไหวทำไง”

“ทนให้ได้สิ ทำมาได้ตั้งนานแล้วนะ” ผมบอก พี่เขาเลยเอียงคอมาหอมแก้มผมเลย ผมเขินอะ แต่ก็เนียนตีหน้าเฉยๆแล้วส่งผ้าเช็ดตัวให้พี่เขา นี่เป็นครั้งแรกหลังจากที่จูบกันวันรับน้องที่พี่เขาถึงเนื้อถึงตัวผม

“ทนไม่ได้จริงๆนะ” พี่เขาบอกก่อนจะก้มมองที่เป้าของตัวเอง ผมเลยต้องมองตามไปที่ผ้าขนหนูสีน้ำตาลอ่อนที่พี่เขานุ่งอยู่ ตกใจมากเพราะมองไปแล้วเห็นว่าตรงกลางมันโป่งออกมา

“ทะลึ่งอะ” ผมบอก

“มันธรรมชาติเปล่าวะ มาอ่อยแล้วมาว่าพี่อีก” พี่ฉลามบอกก่อนจะลุกขึ้นแล้วหายเข้าไปในห้องน้ำ ผมก็สงสารพี่เขานะ แต่ผมก็ไม่กล้าแสดงออกไปว่าผมก็รู้สึกต้องการพี่เขาเหมือนกัน อารมณ์ของผู้ชายวัยฮอโมนอย่างพวกเรา พอได้ใกล้ชิดกันตามลำพัง มันเป็นธรรมดาที่จะรู้สึก สักพักพี่เขาก็ออกมาจากห้องน้ำ แต่งตัวออกมาเรียบร้อยดี

“คืนนี้งานวันเกิดไอ้อ้วนมัน มันให้พากลอนไปด้วย” พี่ฉลามบอก

“ไม่ได้ซื้อของขวัญให้พี่อ้วนเลย กลอนไม่รู้อะ”

“ไม่เป็นไร ให้ร่วมกับพี่นี่แหละ ว่าแล้วก็ห่อให้หน่อย เดี๋ยวพี่ขอหลับงีบหนึ่งนะ เพลีย อย่าลักหลับนะ” พี่ฉลามบอก ผมหัวเราะ แล้วก็หยิบของขวัญที่พี่ฉลามหยิบมาให้นั่งห่อ ส่วนพี่เขาก็ไปนอนที่เตียงแล้วก็หลับสนิทเลย คงจะเพลียจริงๆ


*****โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ******

มาแล้วๆ มาลงเรื่องนี้ให้ก่อน ส่วนอีกเรื่องแปะไว้ก่อนนะคะ 55555
ขอบคุณที่มาทักทายกัน ดีใจค่ะ อ่านทุกเมนท์นะคะ ชอบมากเวลามีความคิดเห็นในเรื่องนี้กัน
ชีวิตจริงถ้าได้เจอคนที่ใช่ในรักครั้งแรกมันยิ่งกว่าถูกหวยนะคะ ซึ่งมันก็ยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เจอ
คนเรามีเหตุและผลของการมาเจอกันและจากกัน แต่เป็นเหตุผลที่อีกฝ่ายรับได้หรือเปล่าก็เท่านั้น
ยังไงก็ขอบคุณที่ร่วมเดินทางไปกับชีวิตรักของกลอนผ่านตัวอักษรของผู้แต่งนะคะ


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-10-2015 18:12:36
 :-[.    โอ๊ยยยย. อิพี่ฉลามสารภาพได้แบบ. ฮรือขอแบบนี้คนนึงค่า
แดดิ้น.  :ling1:  ทนไม่ไหวก็บอกน้องกลอนนะพี่นะ. 
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ
เอาใจช่วยกลอนต่อไป
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 14-10-2015 20:22:55
รักนี้ผู้ใหญ่มากๆ  คือมีสติ  ไม่บุ่มบ่าม  มีคุยเปิดใจ
ป้าปลื้มมากๆค่ะ ลูกกลอน   หนูพยายามทำดีที่สุดแล้ว

พี่หลาม ไหวไหมเนี่ย?
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: maruko ที่ 14-10-2015 22:35:11
พี่ฉลามน่ารักมากกกกกก ฟินนนน ชอบตรงที่ทั้งคู่คุยกันตรงๆเลย คือมันดี มันใช่

อยากให้รักครั้งนี้เป็นรักที่ดีของกลอน แต่ก็แอบระแวงนิดๆกลัวกลอนจะเจ็บปวดอีก

ไม่กลัวใจพี่ฉลามเลย รู้สึกพี่เค้าชัดเจนและดีงามมากกกก กลัวปัญหาจากรอบข้างมากกว่า

พี่ฉลามลูกคนเดียวด้วย คือหวั่นดราม่า ฮือออ ระแวงหนักกว่ากลอนก็คนอ่านนี่ละค่ะ 5555

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 14-10-2015 23:39:48
 ก็เป็นแนวคิดที่ดี ที่ให้เวลาตัวเองได้คิดให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจอะไรลงไป
 ความรักในเพศเดียวกัน ค่อนข้างเปราะบาง  อยากให้มีความสัมพันธ์ที่ดีๆ แบบนี้ไปนานๆ ค่ะ

 พี่ฉลามแมนมากค่ะ ชอบ o13ๆ 
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 15-10-2015 06:27:45
กับพี่ฉลาม น้องกลอนค่อยเป็นค่อยไปมาก มีบางบันทึกที่เขียนแล้วเเรารู้สึกว่าเหมือนพี่ฉลามเป็นคนในความทรงจำที่
คบมาแล้วไม่เสียใจแต่ไม่ใช่คนปัจจุบันเลย เอาจริงๆจุดที่น้องกลอนอยู่ในความสัมพันธ์ที่ดำเนิน เราว่าพีคสุดสมควร
แก่เวลาคบแล้วจริงๆค่ะ บ่มเพาะไม่ฉาบฉวยแล้ว อะไรจะเกิดข้างหน้าก็ให้มันเกิดไป คุ้มค่าที่อย่างน้อยก็เรียนรู้ที่จะรักกัน
แล้วกับพี่ระเบิดน้องยังคุยอยู่มั้ยคะตอนนั้น? หรือห่างๆไปเลย



หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 15-10-2015 09:07:15
ชอบกลอนมากกกก อยากเป็นเพื่อนกับกลอน กลอนนิสัยดี :katai2-1:
เป็นกำลังใจให้กลอนและคนเขียนนะคะ อยากอ่านทุกวันเลยอ่าาา :impress2:
กำลังปลื้มพี่ฉลาม ใจดี อบอุ่น แมนด้วย หมายถึงกล้าทำ กล้ารับ กล้าคุยตรงๆ อยากให้พี่เขาเป็นคนสุดท้ายของกลอน :o8:
รออ่านตอนต่อไปนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 15-10-2015 10:41:26
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 15-10-2015 18:46:58
ฟินตัวระเบิดเลยจ้า
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 15-10-2015 21:06:20
เอาใจช่วยกลอนกับพี่ฉลาม
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 17-10-2015 05:52:50
 :really2:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 17-10-2015 22:56:45
ชอบความคิดของกลอน
หวังใจว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กลอนกับพี่ฉลามจะยังมีความรู้สึกดีๆต่อกันตลอดไป
หัวข้อ: นทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 18-10-2015 19:06:26
โอ๊ย น่ารักไปอีก นี่ขนาดชอบๆกันแต่ยังไม่คบนะ :ling1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 20-10-2015 00:39:51

บ๊ะ! เอาใจช่วยไม่ผิดคนจริงๆ
พี่ฉลามนี่เข้าทีมาก!!
กลอนลูก... พี่ว่าหนูมาถูกทางแล้วล่ะ
ที่เหลือก็คือประคับประคองกันไปเนอะ
(ขออย่าให้มีดราม่าอีกเลย ป้ากลัวกลอนเศร้า)

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^
 
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 20-10-2015 01:15:23
เพิ่งเข้ามาอ่านจากกระทู้แนะนำ
วู้วว...ของเค้าดีจริงๆ

ขอสมัครเป็นแควนเรื่องนี้ด้วยคน
ถูกใจ..ใช่ชิ๊บ

อ่านเรื่องของกลอน
ตอนนี้เป็นพี่หลาม
หนทางข้างหน้าจะเป็นยังไง..ช่างมัน
ขอแค่ปัจจุบันยังมีความสุขอยู่ด้วยกัน..แค่นั้นก็พอ

สุขใจที่ได้มีความรัก
+1 ให้ครับ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 21-10-2015 02:31:35
กรี๊ดพี่ฉลาม
อยากให้น่ารักแบบนี้ไปตลอด
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 4 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 14/10 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Zxjmm ที่ 21-10-2015 03:59:50
ละมุนกับอะไรแบบนึ้ชอบพี่ฉลามแต่เผื่อใจไว้กันดราม่า55555555555
เรื่องนี้มีพระเอกมั้ยคะอยากรู้จริงๆนะจะได้ตั้งรับทัน
 :hao4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 21-10-2015 15:34:52
บทรักบทที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (ตอนที่ 5)


ผมปลุกพี่ฉลามลงไปทานข้าว ทานเสร็จผมก็ขอกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่คอนโด ผมอยู่คนเดียวตั้งแต่เมื่อวาน ไอ้เด่นมันไปเชียงใหม่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว กว่าจะกลับก็คงวันจันทร์ มันไปกับชมรมอาสาสมัครอะไรของมันสักอย่าง อาทิตย์นี้เป็นวันหยุดยาวด้วยครับ พี่ฉลามก็เลยบอกว่าให้ผมมานอนค้างที่บ้านของพี่เขาเลย เพราะคงกลับดึก จะได้ไม่ต้องเดินกลับคนเดียว ผมเลยเอาชุดนอนใส่กระเป๋าติดมาด้วย ผมว่าผมก็แต่งตัวง่ายๆแบบที่ชอบใส่ประจำ ผมชอบใส่เสื้อยืดบางๆ คอวีกว้างหน่อย จะว่าชมตัวเองก็ได้นะ ผมว่าช่วงคอลงมาถึงไหปลาร้าผมสวย ไหล่ก็ไม่ลู่ลง ผมเลยชอบโชว์ ฮ่าๆๆ  ส่วนกางเกงยีนก็ใส่แบบพอดีตัว แต่พี่ฉลามบอกว่า ผมอ่อยเขาอีก อยากจะบ้าตาย จะให้ผมใส่เสื้อคอปีนรึไง เนอะ..


พี่ฉลามพาผมมาถึงผับที่พี่อ้วนจัดงานวันเกิด คนมาเยอะเหมือนกัน เพิ่งรู้ว่าพ่อพี่อ้วนเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ งานในคืนนี้พ่อพี่อ้วนก็มาด้วย ทำตัววัยรุ่นมากๆ ดูเป็นคนอารมณ์ดี พี่อ้วนก็ไม่ผิดกับพ่อเลย มีดารามาด้วยสองสามคน พี่อ้วนนี่ก็ไฮโซเหมือนกันนะเนี่ย ฮ่าๆ


พี่ฉลามพาผมไปสวัสดีพ่อพี่อ้วน แล้วพี่อ้วนก็พาพวกผมไปนั่งข้างใน ผมดีใจที่เห็นบุ้งกับเสือนั่งอยู่ เลยเดินไปนั่งกับพวกมัน แต่ที่เซ็งๆคือ ที่โต๊ะติดกันมีพี่แพรกับเพื่อนผู้หญิงอีกสองสามคน ผมไม่ได้นั่งข้างพี่ฉลามหรอก พี่เขาโดนพี่แพรดึงไปนั่งด้วย ทีแรกเหมือนพี่เขาจะอึกๆอักๆ แต่พอเห็นผมตรงเข้าไปนั่งข้างบุ้ง ซึ่งที่มันก็เต็มพอดี พี่เขาเลยต้องเดินไปนั่งข้างพี่แพร ผมไม่ได้งอนหรอกครับ แต่ก็ไม่อยากให้พี่เขาต้องมาทำตัวไม่ถูก วันเกิดพี่อ้วน ก็อยากให้สนุกๆไม่ต้องมาคิดอะไร


แต่มันมีประเด็นขึ้นมาก็ตรงที่น้องมอสเป็นนักดนตรีเล่นให้ที่ผับนี้ มันจะมีช่วงที่ดีเจเปิดแผ่นกับช่วงเล่นสด น้องมอสเห็นผมกับบุ้งเลยเข้ามานั่งด้วย แถมคอยชวนผมคุย รังสีอำมหิตจากปลาฉลามตัวโตเลยถูกส่งมาเป็นระยะ ผมเลยแกล้งเนียนลุกไปห้องน้ำ พอกลับมาอีกทีก็มานั่งข้างไอ้เสือแทน รังสีอำมหิตถึงได้หายไป แต่เรื่องไม่จบแค่น้องมอส มีผู้หญิงชงเหล้ามาให้ผมอีก แถมเบอร์มาด้วย ไอ้บุ้งมันบอกว่า หน้าตาผมกำลังเป็นที่นิยม ถ้ามันไม่ติดว่าผมเป็นเพื่อน มันจะมอมเหล้าผมแล้วพาไปนอนด้วย ผมขำมัน รู้ว่ามันล้อเล่น แต่มันก็ยืนยันว่ามันพูดจริง อ่อ..มันบอกด้วยว่า พี่ระเบิดจะนัดมันไปกินข้าว มันถามว่าผมจะไปไหม แต่ผมบอกมันว่ายังไม่อยากไป มันก็เลยไม่ได้เซ้าซี้อะไรผม


ผมเริ่มสังเกตว่าพี่ฉลามเริ่มจะกึ่มๆแล้ว หน้าแดงไปหมด ตางี้เชื่อมเลย ยิ้มตลอดเวลา จ้องมาที่ผมจนผมกลัวว่าคนอื่นจะสังเกตเห็น ส่วนพี่แพรก็ซบพี่ฉลามแล้วครับ ท่าทางจะดื่มเยอะเหมือนกัน เธอกอดแขนพี่ฉลามด้วย ก็รู้สึกสึกจี๊ดๆ แต่ก็ทนได้ เพราะพี่แพรก็ทำแบบนี้เสมอ


ผมเห็นว่านี่ก็ตีสามแล้ว เลยบอกบุ้งว่าจะกลับแล้ว ไม่รู้ว่าพี่ฉลามจะขับกลับได้ไหม ผมเดินไปเข้าห้องน้ำอีกรอบ ล้างหน้าล้างตา เผื่อว่าต้องเป็นคนขับรถกลับ ผมก็ขับได้นะ ตั้งใจว่าออกมาแล้วจะชวนพี่ฉลามกลับบ้าน พี่แพรเดินตามผมมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ครับ เธอมาบอกว่าให้ผมกลับไปก่อน เดี๋ยวเธอจะขับไปส่งพี่ฉลามเอง ผมเลยบอกว่า ผมขอถามพี่ฉลามก่อน เพราะถ้าพี่ฉลามอยากอยู่ต่อผมก็จะกลับเอง พี่แพรเลยทำหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่ก็เดินปั้นปึ่งกลับไปที่โต๊ะ ผมก็ไปเข้าห้องน้ำ 


ผมเดินกลับมาถึงโต๊ะ พวกพี่ๆเขากำลังแข่งกันกระดกเหล้าเพียวๆกัน เสียงเฮเสียงเชียร์ดังกลบดนตรี พี่แพรนั่งอยู่ข้างพี่ฉลามเหมือนเดิม พี่ต้าท้าให้พี่แพรดื่มแข่งกับแฟนพี่ต้าบ้าง พี่แพรรับคำท้า แล้วสิ่งที่ผมไม่คิดว่าพี่แพรจะกล้าทำ คือ พอพี่แพรกระดกเหล้าหมดแก้วแล้ว เธอก็หันไปจูบพี่ฉลามตามเสียงเชียร์ของบรรดาเพื่อนๆเลย จูบแบบดูดดื่มด้วย ไอ้บุ้งร้องกรี๊ดแล้วปรบมือชอบใจ ทุกคนก็ดูจะชอบใจกันใหญ่ เพราะคู่นี่คือคู่ขวัญของคณะมาตั้งนานแล้ว มีแต่คนเชียร์ให้กลับมารักกัน มีเพียงพี่แหบที่หันมามองผม ผมเลยยิ้มกลับไป ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่คงเป็นรอยยิ้มที่ฝืนที่สุด


..เจ็บได้ แต่แสดงไม่ได้.. นี่แหละครับ เจ็บแบบที่ผมเจอมาตลอด


“เรากลับก่อนดีกว่าบุ้ง ง่วงแล้ว” ผมบอกบุ้ง ผมไม่ได้มองไปหรอกว่าสองคนนั้นเลิกจูบกันรึยัง แต่ยังได้ยินเสียงเชียร์อยู่ ผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับพี่ฉลาม คงไม่มีสิทธิ์ไปว่าอะไร ผมไม่ได้โกรธพี่ฉลามนะ นั่นคือจุดยืนที่เขาเป็นมาตลอดชีวิต เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มองแต่ผู้หญิง การมาเจอผมมันก็ไม่ใช่ว่าเขาจะทำอย่างที่ต้องการได้ในทันที จะให้เขาไม่รู้สึกอะไรกับความสวยความงามหรือหวั่นไหวไปกับเพศรสของสตรีมันคงเป็นไปไม่ได้ ผมเองก็ไม่พร้อมจะบอกใครต่อใครว่าผมรู้สึกยังไงกับพี่ฉลามซึ่งเป็นผู้ชายเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ถ้าผมจะเจ็บ ผมก็ต้องอดทน

“แกจะกลับยังไง คืนนี้พี่ฉลามท่าทางจะไม่พ้นมือพี่แพรว่ะ” บุ้งพูดขำๆ เพราะมันไม่รู้ว่าผมกับพี่ฉลามคิดยังไงต่อกัน แต่ผมไม่ขำเลยสักนิด แต่ก็ต้องยิ้มออกมา

“กลับเองได้ สบายมาก ง่วงจะตายแล้ว” ผมบอก บุ้งมันเลยเดินออกมาส่งผม แต่ยังไม่ทันได้เรียกแท็กซี่ น้องมอสก็ขี่มอเตอร์ไซด์มาจอดตรงหน้าของผม

“จะกลับเหรอ ผมไปส่งไหม” น้องมอสถาม

“นอกจากเป็นนักดนตรีแล้วยังขี่วินด้วยเหรอวะน้องรหัสกู” ไอ้บุ้งมันแซว

“เป็นได้หมดอะเจ๊” น้องมอสเรียกบุ้งว่าเจ๊ ปกติบุ้งมันไม่ชอบให้ใครเรียกแบบนี้ แต่นี่ไม่เห็นมันโกรธ แถมยังเตะไปที่ขาน้องรหัสของมันเบาๆแบบขำๆ

“งั้นฝากด้วย ขี่ดีๆนะมึง เพื่อนกูเป็นไรไป มึงตาย” บุ้งแกล้งขู่

“แล้วไม่ต้องเล่นดนตรีแล้วเหรอ” ผมถาม

“เดี๋ยวไปส่งพี่แล้วกลับมาใหม่” น้องมอสตอบผม

“ไม่เป็นไรดีกว่า พี่กลับเอง จะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมา”

“ไม่เป็นไรพี่ อีกนานกว่าจะเล่นอีกรอบ”

“เอางั้นเหรอ” ผมอยากจะบอกว่าขอกลับแท็กซี่ดีกว่า แต่พอเห็นความตั้งใจดีของน้องแล้วไม่กล้าปฏิเสธ

“เฮ้ย เดี๋ยวก่อน พ่อแกมาโน้นแล้ว” ไอ้บุ้งพูดจบผมก็หันไปมองข้างหลัง พี่ฉลามเดินหน้าบึ้งออกมาเลย

“จะไปไหน” พี่ฉลามถามห้วนๆ

“มันง่วงอะพี่ เลยจะกลับ” ไอ้บุ้งตอบแทนผม

“ตอนมา มาด้วยกัน กลับแล้วไมไม่บอก” พี่ฉลามหันมาถามผมต่อ

“พอดีมันไม่อยากขัดความสุขพี่ไง” ไอ้บุ้งตอบแทนผมอีก

“เพื่อนมึงเป็นใบ้เหรอ” พี่ฉลามเลิกคิ้วถาม ไอ้บุ้งเลยหัวเราะเพราะโดนพี่ฉลามประชด สองคนนี้ก็สนิทกันเพราะไปกินเหล้าด้วยกันบ่อยๆ บุ้งมันเลยรู้ว่าพี่ฉลามกวนๆแบบนี้

“ให้บุ้งตอบหรือจะให้มันตอบละ” ไอ้บุ้งกวนกลับ

“มึงกวนตีน กูไม่ให้เบอร์ไอ้จั่นแล้ว” พี่ฉลามพูดจบไอ้บุ้งก็รีบยกมือไหว้ จั่นคือเพื่อนพี่ฉลาม อยู่สถาปัตฯ ไอ้บุ้งมันชอบมาก มันให้พี่ฉลามเป็นพ่อสื่อให้อยู่

“โอ้ย ไม่กวนแล้ว” ไอ้บุ้งพูดจบก็ดันผมให้เข้าไปหาพี่ฉลาม

“ยืมรถหน่อยดิ” พี่ฉลามพูดกับน้องมอส น้องมอสทำหน้างงๆ แต่ก็ยอมลงจากรถจักรยานยนต์ให้ พี่ฉลามเอาหมวกกันน็อคที่แขวนอยู่ที่แฮนด์รถมาสวมให้ผม ก่อนจะแกะอันที่น้องมอสสวมจากหัวน้องมอสเลยมาสวมให้ตัวเอง แล้วพี่เขาก็ขึ้นไปค่อมรถ

“ซ้อนมาดิ” พี่เขาบอกผม ผมหันไปมองบุ้งกับมองน้องมอสก่อนจะหันกลับมามองพี่ฉลาม

“ขี่เป็นเหรอ กลอนไม่อยากตายนะ” ผมถาม น้องมอสหลุดหัวเราะ

“ได้ข่าวเคยซ้อนมาแล้วเปล่าวะ” พี่ฉลามถาม ผมนึกถึงเจ้าสองล้อท่อดังที่พี่ฉลามพาผมไปชมทะเลแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้

“แล้วจะไปไหน” ผมถาม

“ไปธุระแป๊ปนึง อย่าถามมากดิ” พี่ฉลามบอก ผมเลยยอมขึ้นไปนั่งซ้อนท้าย

“พี่ครับ พาเพื่อนผมกลับมาให้ครบสามสิบสองด้วยนะ” ไอ้บุ้งรีบบอก

“ไม่ครบหรอก กูบอกเลย” พี่ฉลามพูดจบก็สตาร์ทเครื่องแล้วขี่พาผมออกไปเลย ทิ้งให้น้องมอสยืนงง ผมเองก็งงเหมือนกัน ผมเกาะเอวพี่ฉลามมาได้สักพัก พี่เขาขี่ไปเรื่อยๆ

“เมาเปล่า ขี่ไหวเปล่า” ผมถาม

“ทำไมอะ กลัวเหรอ”

“กลัวดิ เมื่อกี้บอกไอ้บุ้งว่าไงละ” ผมขยับเข้าใกล้พี่ฉลามอีกนิด เพราะไม่ค่อยได้ยินเสียง เสียงลมมันดังกว่า

“ความบริสุทธิ์มันนับรวมอยู่ในสามสิบสองเปล่าวะ ถ้ารวม ก็แปลว่าอาจจะกลับไม่ครบสามสิบสอง” พี่ฉลามตอบ ผมอึ้งไปเลย รู้ตัวเลยว่าหน้าร้อนผ่าวๆ

“บ้าอะ” ผมบอก พี่เขาหัวเราะใหญ่เลย

“กอดแน่นๆดิ เดี๋ยวหล่น” พี่ฉลามบอกผม ผมยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนจากเกาะเอวมากอดเอาไว้แทน

“จะไปไหน” ผมถาม

“ไม่รู้ อยากไปไหน” พี่ฉลามถามผม

“ไปไหนก็ได้..ที่มีพี่” ผมตอบ แต่พูดเบาๆ ไม่คิดว่าพี่เขาจะได้ยิน แต่พี่เขาเอามือซ้ายมาลูบที่มือของผมที่กอดเอวเขาอยู่ พี่เขาขี่พาวนชมวิวกรุงเทพ แล้วก็พากลับมาที่ผับ เขาขี่มาจอดข้างๆรถยนต์ของตัวเอง แล้วก็พาผมไปเข้านั่งในรถ

“จะกลับเหรอครับ” ผมถาม

“ยัง ยังไม่ได้เป่าเค้กเลย เดี๋ยวไอ้อ้วนมันงอน” พี่ฉลามบอกผม

“แล้ว..” ผมทำหน้าสงสัย พาผมมานั่งในรถทำไม แล้วที่พาผมออกไปขี่รถเล่น แล้วก็ขี่กลับมา พี่ฉลามกำลังคิดอะไรอยู่

“งอนเหรอ” พี่เขาถาม ผมเลยนึกขึ้นได้ ลืมไปแล้วนะว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น ผมเป็นแบบนี้ทุกที ถ้ามีความสุขก็ไม่ค่อยจะนึกถึงเรื่องอะไรแล้ว ผมถึงถูกพี่รันหลอกมาได้ตั้งนาน

“ไม่ได้งอนหรอก”

“แล้วจะหนีกลับเนี่ยนะ”

“ไม่ได้งอน แต่ก็ไม่อยากเห็น”

“ต่างกันตรงไหน”

“ต่างสิครับ ถ้างอนคงไม่มานั่งพูดกับพี่อยู่แบบนี้หรอก แต่แค่ไม่อยากเห็น”

“แล้วทำไมไม่งอน” เอ้า ดูพี่เขาถามผม

“กลอนไม่มีสิทธิ์อะไรจะงอน” ผมบอกไปตรงๆ พี่เขาถอนหายใจ

“กลอนจะให้มันเป็นแบบนี้เหรอ จะเก็บความรู้สึกเอาไว้ ให้สิทธิพี่ไปทำอะไรก็ได้ จะเอาแบบนั้นใช่ไหม” พี่ฉลามจับหน้าผมให้หันมามองหน้าเขา

“ก็กลอนทำได้แค่นั้น” ผมบอก

“กลอนทำได้มากกว่านั้นนะ พี่บอกแล้วไง ว่าพี่ให้กลอนตัดสินใจ”

“กลอนกลัว ถ้าเราคบกัน เราอาจจะไม่ได้ดีต่อกันอย่างที่เป็นอยู่”

“เกิดมาเพิ่งเคยเจอคนใจแข็งขนาดนี้ เฮ้อ ยอมใจเลย แล้วแต่กลอนแล้วกัน” พี่ฉลามถอนหายใจก่อนจะยิ้มให้ผมแล้วก็โยกหัวผม

“จะกลับบ้านไหม พี่จะไปส่งก่อน” พี่ฉลามถามผม บอกตรงๆว่าผมรู้สึกใจหายวาบเลย พี่เขาจะตัดใจแล้วใช่ไหม เขาคงรำคาญความเยอะของผม สมองของผมในตอนนี้มันมีอะไรตีกันวุ่นวายไปหมด แต่สุดท้ายผมก็พยักหน้า ได้ยินเสียงพี่เขาถอนหายใจเบาๆก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับพาผมออกมา ระหว่างทางพี่ฉลามไม่พูดอะไรเลย ผมเองก็นั่งนิ่งอึ้ง รู้สึกเสียใจ ใจหาย จนมาถึงคอนโด พี่ฉลามก็กดเปิดล็อก ผมหันไปมองหน้าพี่เขา พี่เขายิ้มให้ผม จู่ๆน้ำตาผมก็ไหลออกมาเลย ตลกตัวเอง เพราะกลัวจะเสียพี่เขาไปเลยคิดมาก แล้วตอนนี้ละ ผมกำลังจะเสียพี่เขาไปจริงๆ แล้วก็มานั่งร้องไห้ในสิ่งที่ตัวเองเลือกเอง

“ร้องไห้ทำไม” พี่เขาเอื้อมมือมาลูบที่แก้มของผม ใช้หัวแม่มือเกลี่ยน้ำตาออกให้ มันอ่อนโยนมากๆ ผมรักมือนี้ รักเจ้าของมือนี้

“ถ้ากลอนลงจากรถคันนี้ไปแล้ว จะเป็นยังไงต่อไปครับ” ผมถาม น้ำตาก็ดันไหลไม่หยุดเลย

“ก็เป็นน้องของพี่ไง เหมือนเดิมไง อย่าคิดมาก ไม่ต้องร้อง อย่างอแงสิ” พี่ฉลามบอก คำว่าน้องมันยิ่งทำให้น้ำหูน้ำตาไหล ผมบ้าไปแล้ว

“แล้ว ถ้ามีคนมานั่งตรงนี้ กลอนจะนั่งตรงไหน” ผมถามต่อ พี่ฉลามมองผมนิ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองเบื้องหน้าแล้วไม่ได้พูดอะไรเลย ผมนั่งร้องไห้สักพักก็ดึงทิชชูมาเช็ดน้ำตา เตรียมตัวจะลง แต่พี่ฉลามก็ดึงมือผมเอาไว้

“พี่ต้องทำไงบอกพี่ที รู้ตัวไหม กำลังทำให้พี่ทรมาน รักก็ไม่ได้ ไม่รักก็ไม่ได้” พี่ฉลามถามผม ผมเห็นว่าตาพี่เขาก็แดงๆ

“รักได้ แต่ไม่เลิกรักได้ไหม” ผมถามพี่เขา พี่เขาหันมามองผม

“ไม่รู้ว่ะ ตอนนี้มันรัก มันก็รักอะ” พี่เขาตอบผม ผมหลุดหัวเราะทั้งที่เพิ่งจะร้องไห้งอแงเหมือนเด็ก

“พี่โกหกบ้างก็ได้นะ” ผมบอก

“ไม่เอา ไม่อยากให้กลอนต้องเจอเรื่องเดิมๆอีก วันนี้รัก ถ้าเลิกรักจะบอก แบบนี้ได้ไหม” พี่เขาถามผม มันไม่โรแมนติกเอาเสียเลย คนอื่นฟังแล้วอาจจะรู้สึกแย่ แต่สำหรับผม ผมว่ามันมีค่านะ แค่พี่เขาพยายามจะไม่เปิดแผลเก่าของผม แปลว่าเขาให้ความสำคัญกับความรู้สึกของผม

“ไปทะเลกันไหม” พี่ฉลามถามผม

“ไปเลยเหรอ แล้วกุญแจรถน้องมอสละ”

“ห่วงมันรึไง หึงนะเว้ย ตั้งแต่เมื่อกี้ละ ถ้าออกมาช้ากว่านี้คงซ้อนมันไปแล้วดิ งอนพี่ก็ไม่งอน จะไปกับคนอื่นอีก รักพี่บ้างเปล่าวะ ถามจริง นี่...คนที่ต้องร้องไห้คือพี่เปล่าวะ พี่..” ผมเคยบอกแล้วว่าพี่ฉลามขี้งอน เห็นรึยังครับ งอนผมซะงั้น เรื่องพลิกเลย ผมผิดไปอีก

“รัก รักมาตั้งนานแล้ว รักจนกลอนเป็นบ้าอยู่นี่ไง” ผมรีบพูดแทรกก่อนจะบ่นผมยาวกว่านี้ คราวนี้พี่ฉลามหยุดพูดเลย ดึงผมไปจูบ ผมรีบดันตัวออก พี่ฉลามทำหน้างอนอีก

“นี่มันหน้าบ้านพี่เลยนะ กล้องวงจรปิดจ่ออยู่เห็นไหม ปะ..ไปทะเลกัน” ผมบอก พี่เขาเลยยิ้มออก ก่อนจะหันไปหากล้องวงจรปิดหน้าบ้านตัวเอง แล้วชูนิ้วกลางใส่เฉยเลย ผมได้แต่ขำ

...
..
.


มีต่อข้างล่างนะคะ

V
V

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 21-10-2015 15:36:22
**ต่อจากด้านบนค่ะ**


ในที่สุดพี่ฉลามก็พาผมขับมาที่สัตหีบ ก่อนจะมาพี่เขาขับเอากุญแจรถของน้องมอสไปคืน แต่ไม่ได้เข้าไป พี่ฉลามโทรให้พี่แสบออกมาเอา พี่แสบยิ้มให้ผม ผมเขินนะ รู้ว่าพี่เขายิ้มล้อผม ส่วนบุ้งผมคิดว่ามันคงจะพอรู้แล้วละ แต่ด้วยนิสัยบุ้ง ถ้าผมไม่เล่า มันก็จะไม่ถามอะไรมาก


พี่ฉลามขับพาผมขับมาที่บ้านหลังหนึ่ง พี่เขาบอกว่าเป็นบ้านพักตากอากาศของพ่อ ไม่ค่อยได้มา ส่วนใหญ่ให้ญาติๆมาพักถ้าไม่อยากขับไปไกลๆ บ้านหลังนี้อยู่ติดทะเลเลย ไม่ได้ใหญ่มากมาย แต่ก็ได้รับการดูแลอย่างดี เป็นบ้านยกพื้นสูงหน่อย แต่มีชั้นเดียว ข้างในมีสองห้องนอนกับหนึ่งห้องนั่งเล่น มีครัวที่มีอุปกรณ์ครบ มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันเลย


อ่อ..จะบอกว่า ระหว่างทางที่ขับรถมา เราไม่ได้คุยอะไรกันหวานๆนะ แต่พี่ฉลามเขาเล่าเรื่องพี่แพรให้ฟัง เขาบอกว่าเขาสงสารพี่แพรนะ เพราะพี่แพรแสดงออกมากว่าอยากกลับมา แต่พี่ฉลามก็บอกไปแล้วว่าเป็นแบบเดิมไม่ได้ พี่เขายอมรับว่าตอนที่คบกับพี่แพรก็มีอะไรกัน แต่พี่แพรไม่ค่อยมีเหตุผล เอาแต่ใจเกินไป แล้วก็มีคนอื่นก่อน พี่แพรเป็นคนมาขอเลิกกับพี่ฉลามเองด้วย แต่พี่ฉลามบอกว่า เขาก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจ คงเพราะพี่เขารู้ว่ายังไงก็ไปกันไม่รอด ผมฟังยอมรับว่ากลัว ผมกลัวพี่ฉลามเป็นเหมือนพี่รัน แค่อยากลอง ว่ามีอะไรกับผู้ชายแล้วจะเป็นยังไง แต่สุดท้าย ที่ข้างๆในโลกแห่งความเป็นจริงก็เป็นที่ของผู้หญิงอยู่ดี


“ถ้าพี่แพรเป็นคนที่ใช่ พี่จะเลิกรักพี่แพรไหม” ผมถามก่อนจะเดินตามพี่ฉลามไปที่ห้องนอน ผมไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามา แต่พี่ฉลามมีเสื้อผ้าที่เก็บเอาไว้ในรถตลอด พี่เขาบอกให้ใส่เสื้อผ้าเขาไปก่อน

“ถ้ามันใช่ก็คงไม่เลิกกันหรอก” พี่ฉลามตอบผม

“กลอนแปลกใจนะ ผู้ชายที่เป็นผู้ชายจริงๆแบบพี่ ทำไมถึงเปลี่ยนใจมาชอบกลอน พี่ไม่เคยมองผู้ชายคนอื่นมาก่อนเลยจริงๆเหรอ”

“อืม ไม่เคย ถึงได้สับสนไง ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ไหนดูดิ มีอะไรให้น่าชอบบ้าง” พี่เขานั่งลงที่เตียง ดึงผมมายืนตรงหน้า แล้วจับผมให้หันไปหันมา ชะโงกมองดูร่างกายของผมตรงนั้นตรงนี้ ผมก็ขำอีก

“ได้คำตอบยัง” ผมถาม

“อย่างแรงเลยนะ ชอบฟัน ฟันสวย ยิ้มสวย ชอบตากลมๆสดใสดี แต่เวลาร้องไห้โคตรน่าสงสารอะ ชอบขนตา ผู้ชายอะไรวะขนตาย๊าวยาว ชอบขา ขาก็สวยขนน้อยอีกต่างหาก แอบกินยาคุมเปล่าวะ แล้วก็ชอบนมชมพู ชอบก้นขาวๆ ชอบ..”

“พี่อยากมีอะไรกับกลอนไหม” ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำไมถึงกล้าถามแบบนั้นออกไป พี่ฉลามขมวดคิ้ว มองผม ผมรู้ว่าพี่เขาหยอกล้อผมเล่น ให้ผมขำ แต่ผมก็สัมผัสได้ว่าพี่เขาไม่ได้เป็นเหมือนเต็งหนึ่งหรือพี่รัน พี่เขาอดทนมานาน ไม่เคยฉวยโอกาสใช้ความง่ายที่เป็นผู้ชายเหมือนกันมาทำให้ผมใจอ่อน พี่เขาใช้ความจริงใจ ผมยอมแล้ว ยอมแพ้ความรักของพี่ฉลาม ยอมแพ้ความรู้สึกตัวเอง ผมเองก็ต้องการพี่เขา ไม่อยากทนอีกต่อไปแล้ว

“อยาก” พี่เขาตอบ มาตรงๆ


ผมนิ่งคิด ไม่รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของผมถูกหรือผิด ถ้าบุ้งรู้มันคงด่าผมว่าผมบ้า ผมก็คงบ้าอย่างที่มันบอก เพราะผมผลักพี่ฉลามให้นอนลง ก่อนที่จะเป็นฝ่ายตามไปจูบพี่เขาก่อน พี่เขานอนเฉยๆแค่ครู่เดียว สุดท้ายก็จูบตอบผม แถมร้อนแรงกว่าที่ผมรุกไปเสียอีก พี่ฉลามจูบเก่งจริงๆ แค่จูบตอบกลับมาผมก็แทบละลายแล้ว


“แน่ใจนะว่าอยากทำแบบนี้ พี่หยุดไม่ได้นะ” พี่ฉลามถามผม


ผมไม่ตอบ แต่ถอดเสื้อของตัวเองออก พี่ฉลามทำหน้าแปลกใจอีกรอบ แล้วพี่เขาก็จับตัวผมลงไปนอนราบกับที่นอนแทน ส่วนเขาค่อมผมเอาไว้ พี่ฉลามโน้มใบหน้าลงมา แต่ไม่ได้จูบผม พี่เขาใช้ปลายจมูกคลอเคลียที่ลำคอ ติ่งหู ไหปลาร้า มันเป็นสัมผัสที่อ่อนโยนมากครับ ปกติพี่ฉลามไม่เคยปฏิบัติกับผมเหมือนกับผมเป็นอีกเพศหนึ่ง ชวนเล่นเกม ชวนคุยเหมือนเพื่อนผู้ชายคุยกัน แถมบางทีเล่นแรงๆกับผมด้วยซ้ำ แต่มาตอนนี้ ผมกลับรู้สึกเหมือนเป็นฝ่ายที่ได้รับการปฏิบัติแบบอ่อนโยนแบบที่ผมไม่เคยได้รับจากเต็งหนึ่งหรือพี่รัน


“อื้มมม” ผมเผลอส่งเสียงครางเมื่อพี่ฉลามขบเม้มที่ติ่งหูของผม พี่เขาซุกไซร้ไล่เลียเบาๆจนผมขนลุก

“ทำไมผิวนิ่มลื่นดีจัง” พี่ฉลามกระซิบถามผม

“ทาครีมไง” ผมตอบ

“เลียเข้าไปจะตายเปล่า ครีมมี อย. ไหม” พี่เขาถามผม ผมหลุดขำ พี่เขายิ้มที่เห็นผมขำแล้วก็ถามผมอีก

“ตรงอื่นนิ่มแบบนี้ไหม” คราวนี้ผมไม่ได้ตอบ เขินครับบอกเลย พี่เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะใช้หัวแม่มือบี้คลึงที่ยอดอกของผมทั้งสองข้าง ผมตัวอ่อนบิดไปบิดมาเพราะมันเสียว ขนาดพี่ฉลามไม่ได้รีบร้อนอะไรเลย แต่กลับสร้างอารมณ์ให้ผมได้มาก อย่าว่าแต่พี่ฉลามจะหยุดไม่ได้เลย ผมเองก็ตกหลุมลงไปลึกจนถอนตัวไม่ได้แล้วเหมือนกัน

“อื้อ..ออ” ผมครางเมื่อยอดอกของผมถูกลิ้นอุ่นมาแทนที่ปลายนิ้ว ยอดอกเม็ดเล็กๆถูกพี่เขาละเมียดชิมจนผมเคลิบเคลิ้มกับผมสัมผัส แล้วก็ต้องเสียววาบเมื่อพี่เขาใช้ฟันขบคลึงเบาๆ ผมถึงกับเผลอตัวแอ่นอกตามไป

“ตื่นใหญ่แล้วเจ้าหนูจำไม” พี่ฉลามแซวผม ก็พี่เขาเล่นทาบตัวมาบดเบียดช่วงล่างของผมจนผมตื่นสู้นี่นา ยังจะมาแซวกันอีก แต่ไม่มีเวลาให้ผมมาเขินอายหรอกครับ เพราะผมถูกจับเปลื้องกางเกงชิ้นสุดท้ายออกหมดแล้ว

“พี่...” ผมเรียกเมื่อพี่เขาขยับลงต่ำไปที่ส่วนนั้นของผม ผมกลัวพี่เขาจะรังเกียจเหมือนพี่รัน พี่เขาหยุดแล้วเงยหน้ามามองผม

“พี่ไม่ต้องทำก็ได้ คือ กลอน..กลอนทำให้พี่ดีกว่า” ผมบอก

“พี่ไม่ใช่มันนะ อย่าเอาพี่ไปเปรียบกับมัน” พี่เขาทำเสียงดุเหมือนจะรู้ว่าผมคิดอะไรก่อนจะกอบกุมส่วนนั้นของผม ผมลงไปนอนแผ่เหมือนเดิมเพราะว่าพี่เขาครอบครองส่วนอ่อนไหวของผมด้วยปากแล้ว ถ้าผมไม่ได้สนิทกับพี่ฉลาม ผมจะไม่เชื่อเลยว่าพี่เขาไม่เคยกับผู้ชาย ขนาดผมทำให้เต็งหนึ่งครั้งแรก ฟันของผมยังไปครูดโดน แต่นี่พี่เขาทำให้ผมเหมือนชำนาญมาก ยอมรับว่าผมจะสำลักความสุขตายแล้ว

“อ่า...ซี๊ดด..พี่ฉลาม..กลอนเสียว” ผมได้แต่หลับตาร้องครวญคราง ได้ยินเสียงเนื้อถูกรูดรั้งยิ่งทำให้ผมร้อนจนจะถึงขีดสุด พี่ฉลามถอนปากออกมาแล้วใช้มือช่วยเร่งจังหวะ สุดท้ายผมก็ปลดปล่อยออกมา นอนหายใจสะท้านเพราะเกร็งตัวจนเหนื่อย ผมกระตุกหลายรอบเลย พี่ฉลามทำให้ผมสุดแบบสุดจริงๆ

“ดีไหม” พี่เขาขยับขึ้นมาถาม ก่อนจะจูบผากผมแบบร้อนแรง ผมจูบตอบ ก่อนจะพลิกตัวขึ้นมาเป็นฝ่ายแสดงผลงานบ้าง

“อืมมม” พี่ฉลามส่งเสียงพึงพอใจ เมื่อผมใช้ลิ้นเลียไปที่เจ้าตุ้มกลมๆก่อนจะลากจากโคนถึงปลายยอด ผมอยากให้พี่เขามีความสุขเหมือนที่ผมมี ผมไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วการที่ผมเลือกทำแบบนี้จะถูกหรือผิด แต่ผมจะไม่เสียใจ ผมรักผู้ชายคนนี้ แม้ผ่านค่ำคืนวันนี้ไปแล้วผมจะไม่ใช่คนที่ได้ยืนเคียงข้างเขา แต่ไม่เป็นไร ยังมีที่อื่นที่ผมยังยืนมองพี่เขาได้เท่าที่ผมอยากจะมอง ขอแค่เขายังต้องการผมก็พอ

“ซี๊ดดด กลอน เสียวดี” พี่ฉลามกดหัวผมลงพร้อมกับขยับสะโพกขึ้นลงตามจังหวะรูดรั้งของผม เจ้าหนูของพี่ฉลามยาวมากจนผมแทบสำลัก แต่ผมก็จัดการจนพี่เขาส่งเสียงครางต่ำในลำคอ บางทีก็ร้องซี๊ดออกมาจนผมรู้สึกพอใจที่ทำให้พี่เขารู้สึกได้แบบนั้น ก่อนที่ผมจะทำให้พี่เขาถึงจุดหมาย พี่เขาดึงตัวผมขึ้นมา ก่อนจะดันให้ผมนอนลง

“พี่ทำนะ” พี่ฉลามบอกก่อนจะลุกไปหยิบของบางอย่างในกระเป๋า ผมอึ้งไปเลย มันคือถุงยางกับเจล

“โหย มีครบเลยอะ” ผมทำหน้าประหลาดใจ

“โอนลี่ยูเลยนะ เตรียมเอาไว้ตลอด เปลี่ยนทิ้งมาหลายรอบแล้ว เพราะรอนานเกิน” พี่เขาบอกยิ้มๆก่อนจะใช้เจลป้ายที่ส่วนท้ายของผม ผมสะดุ้งนิดหน่อยเพราะมันเย็นวาบ แสดงว่าพี่เขารอผมมาตลอดจริงๆ เตรียมพร้อมขนาดนี้

“อ๊ะ” ผมร้องเมื่อถูกพี่เขาค่อยดันของเขาเข้ามา จริงๆพี่เขาใช้เวลาพอสมควรก่อนจะใส่ ทั้งแค่เอาเจ้าหนูของเขามาถูไถ แค่คลึงให้ผมผ่อนคลาย

“เจ็บไหม” พี่เขาถาม สีหน้าดูจะกังวล

“ทนได้” ผมบอก แต่ก็กอดพี่เขาแน่นเลย ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะดันเข้ามาได้หมด คราวนี้ผมเจ็บอะ ก็มันฉลามสมชื่อจริงๆ ผมกัดฟันอดทนจนพี่ฉลามเข้ามาในตัวผมได้หมด แต่พี่ก็คาเอาไว้อย่างนั้นไม่ได้ขยับในทันที พี่เขาจูบผม จูบแบบร้อนแรง มือก็บี้ยอดอกของผมด้วย อารมณ์ของผมเริ่มกลับมาอีกครั้ง คราวนี้พี่เขาค่อยๆขยับเจ้าหนูไปด้วย

“ซี๊ดดดด แน่นสุดๆ” พี่เขาบอก

“กลอนทนได้ ทำเลย” ผมบอกเพราะสงสารพี่เขา มันเจ็บและแน่นนะครับ แต่ยิ่งค้างเอาไว้ ผมยิ่งเจ็บ พี่เขาก็ทรมาน พอได้ยินเสียงผมบอก พี่เขาเทเจลลงไปอีกหน่อยก่อนจะเริ่มขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ เมื่อมันเริ่มง่ายขึ้นพี่ฉลามก็เร่งจังหวะ ตัวผมขยับไปตามแรง

“อื้อ..อื้อ..อื้อ” ผมต้องร้องออกมาเพื่อลดความทรมาน มันสะท้านไปหมด ทั้งเจ็บทั้งเสียว สมองผมไม่ได้รับรู้ว่าพี่ฉลามพูดหรือส่งเสียงอะไรบ้าง มันเหมือนผมหลุดออกไปอีกมิติหนึ่งเลย ได้แต่หลับตาแล้วส่งเสียงร้อง เหมือนอยู่ในหลุมดำที่พาตัวผมเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา เสียววาบไปถึงปลายนิ้วเท้า

“ซี๊ดดด กลอน โคตรแน่นเลย อื้มมมมม ซี๊ดด”

“อ่าส์...อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ...” ผมร้องเสียงขาดๆหายเพราะแรงกระแทกกระทั้น พี่ฉลามใช้มือช่วยผมไปด้วย ผมจะไม่ไหวแล้ว ตัวผมสั่นมาก ผมกัดริมฝีปาก เกร็งหน้าท้อง เมื่อพี่ฉลามกระแทกเข้ามาในตัวผมเน้นๆแรงๆสามสี่ที ก็จะเหยียดตัวเบียดเข้ามาในตัวผมจนสุด ผมปล่อยแขนที่โอบรอบคอพี่ฉลามเอาไว้แล้วนอนหายใจสะท้าน พี่ฉลามเองก็พรูลมหายใจแรงๆไม่แพ้ผมแล้วซบมาที่ตัวผม ยังไม่วายใช้ลิ้นเลียยอดอกผมอีก

“ไหนว่าเมาไง ไม่เห็นเหมือนคนเมาเลย” ผมถาม พี่เขาละออกจากยอดอกของผม ก่อนจะจูบผมแบบดูดดื่มอีกครั้ง จากนั้นถึงได้พลิกตัวมานอนข้างๆผมแทน

“สร่างเลย เจอยาลูกกลอนเข้าไป” พี่เขาบอก ผมขำคำตอบ

“ทำไมทำเก่งจัง” ผมถาม อยากรู้จริงๆครับ

“ศึกษามาดี” พี่เขาตอบ เล่นเอาผมทึ่ง

“ไหนว่าดูแล้วจะอ้วกไง” ผมถามต่อ

“ถามเยอะจริง อีกสักรอบดีกว่า” พี่ฉลามแกล้งทำท่าฮึดฮัดก่อนจะจัดการผมอีกรอบ แล้วสุดท้าย ผมก็ปล่อยทั้งใจทั้งกายให้พี่ฉลามไปจนหมดไม่มีกั๊กเลยครับ


คืนนั้นหลังจากผ่านสมรภูมิรบกันไป มันไม่มีโมเมนท์ที่พี่เขาจะลุกมาทำความสะอาดให้ผมหรือบอกรักกัน  เราต่างคนต่างจดการตัวเอง ผมไม่ได้คาดหวังการปฏิบัติอะไรเลย เราไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนหวาน ผมก็เป็นแค่นายกลอน ผู้ชายคนหนึ่ง แต่เพราะผมไม่ได้คาดหวัง ผมเลยดีใจมากกับการกระทำที่ไม่คิดว่าพี่เขาจะทำกับผม เมื่อตอนที่ล้มตัวลงนอน พี่ฉลามเป็นฝ่ายมากอดผม ทั้งกอดทั้งหอม ผมยอมรับว่ามีความสุขแล้วก็ตื้นตันจนอยากจะร้องไห้อีกรอบเลย ผมรักพี่ฉลาม อยากบอกเขาหลายๆรอบ แต่ผมเลือกที่จะไม่พูดอีก มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง

.. ถ้าพี่ฉลามคือคนที่ฟ้ากำหนดมาให้ผม ผมคงมีโอกาสได้พูดคำนี้ออกไปได้เท่าที่ผมอยากพูด..


******โปรดติดตามตอนต่อไป*******


เย้ๆ ดีใจ กลับมาดูอีกที โห มีคนเข้ามาทักทายมากขึ้น ขอบคุณนะคะ ดีใจมากจริงๆ
สำหรับคำถามว่า กลอนมีพระเอกตัวจริงไหม มีค่ะ 555 ต้องติดตามอ่านไดอารี่กันไปนะคะ
อาจจะมีคำผิดบ้าง เดี๋ยวกลับมาแก้ไขให้ค่ะ

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-10-2015 16:03:16
 :o8:  เขินแทนกลอนมากเลย
กลอนน่ารักสุดๆเป็นอาหารให้ฉลามไปซะแล้ว มีการเตรียมมาดีทั้งอุปกรณ์และสถานที่ แถมเพื่อนเด่นก็ไม่อยู่ด้วย
ครั้งแรกกับคนที่รรักเรามันก็ดีกว่าครั้งแรกกับใครไม่รู้เนอะ นี่อาจจะนับเป็นครั้งแรกที่อยากจดจำก็ได้
พี่แพรไหวป้ะ เพลียกะนางมากๆ หมั่นไส้พี่ฉลามไปจูบทำไม  :z3: 
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Zxjmm ที่ 21-10-2015 17:38:10
พี่ฉลามไม่น่าใช่พระเอกของน้องกลอนแต่เราฟินมากกกกกก
การเตรียมความพร้อมของพี่ฉลามทำให้เราฮา
แต่คำว่าฉลามสมชื่อทำให้เราเขินอ๊ากกกกกกกกก
 :hao7:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 21-10-2015 22:08:07
อืมมมมม โดนเข้าจนได้
ฉลามแมนพอใช่ป่ะ อย่าทำให้กลอนเสียใจอีกนะ
กลอนเจ็บมาเกินพอแล้วอ่ะ
หวังว่าคนนี้จะเป็นตัวจริง
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 21-10-2015 22:23:54
โฮกกกกก
อ่านเสร็จเลือดแทบกาฉูด
อิอิ

ก็คงต้องพูดเหมือนๆเดิม..
ไม่มีใครรู้อนาคตวันข้างหน้า
รู้แค่ว่าปัจจุบันวันนี้เรายังมีความสุขอยู่ได้
ก็พอล่ะ

แอบคิดเหมือนกับคนอื่น
พี่ฉลามไม่น่าจะใช่ตัวจริงของกลอน
เพราะพี่เขายังมีเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคอยู่เยอะ
ไหนจะสภาพตัวตนที่แท้จริง+สภาพครอบครัว+สังคมที่เป็นอยู่
..ไม่น่าจะใช่นะ..

แต่ทำไม? รู้สึกตะหงิดๆว่า..คนนั้นน่าจะเป็น"เด่น"
เพื่อน"เด่น" ใช่ป่ะ...กลอน

ถูกใจชอบใจ +1 เล๊ยยยยย
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 21-10-2015 22:26:16
ถึงพี่ฉลามจะไม่ใช่คนที่เป็นพระเอกตัวจริงของน้องกลอนแต่เราดีใจนะที่กลอนได้เจอความรักดีๆอย่างน้อยก็ในตอนนี้  ถึงจะแยกจากกันแต่ก้ยังมีโมเมนท์ดีๆหลงเหลืออยู่   กลอนเองก็ท่าจะทำใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่าอาจจะไม่ยืด   ซึ่งก็อาจจะมาจากการที่พี่ฉลามเป็นหนุ่มปกติมาก่อน  หรือพี่เขาแค่อยากลองกับกลอน  อย่างไรก็ตามเราขอภาวนาว่าขอให้น้องกลอนอย่าได้เจออะไรที่มันเจ็บปวดอย่างการเลิกราจากรันอีกเลย

ถ้าวันหนึ่งกอดกันไม่ได้ต่อไปอย่างน้อยก็ขอให้จากกันด้วยดีเถอะค่ะ   เอาใจช่วยน้องกลอนนะคะ   
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 22-10-2015 00:03:50
ดีใจกับน้องกลอนที่ได้มีความสุขกับคนที่รักค่ะ 

พี่ฉลามก็แสดงความเป็นผู้ชายมากๆ ที่อุตส่าห์รอให้น้องพร้อม
ทั้งที่พี่ก็แอบเตรียมการเอาไว้ตั้งนานแน่ะ   o13
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-10-2015 07:25:42
ฉากนี้ที่รอคอย โฮกกกกกก :haun4:
ดีใจที่เป็นพี่ฉลามไง แต่แบบแอบทำใจอีกแล้วว่าพี่ฉลามไม่ใช่พระเอกตัวจริงของกลอน :sad4:
ไม่เป็นไร ตอนนี้มีความสุข ตักตวงเอาไว้เยอะๆนะกลอน :กอด1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: maruko ที่ 22-10-2015 11:58:09
อยากให้พี่ฉลามเป็นพระเอกตัวจริงของกลอน เค้าอยู่ด้วยแล้วมันดีกับใจมากกกก
แต่รู้สึกเหมือนคนอื่น คือ พี่ฉลามน่าจะยังไม่ใช่พระเอกตัวจริง T_____T
ไม่เป็นไร ตอนนี้ขอให้กลอนได้มีรักที่ดีมีความสุขกับพี่ฉลามก็พอแล้ว
ขอแอบทายพระเอก อาจเป็นพี่ระเบิด ดูคลาดกันไปมาบ่อย พอเจอกันอาจพรหมลิขิตเลย
พี่ระเบิดอาจเป็นคนใกล้ตัว  เคยสวนกันอาจเป็นพี่นุ๊กหรือซักคน .. มโนเชื่อมโยงมากจุดนี้ 5555
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 23-10-2015 00:03:18
มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 23-10-2015 01:08:57
พระเอกน่าจะเป็นคนที่ได้กลอนเป็นคนแรก ณ คืนนั้น  หายไปไหนหว่า
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 23-10-2015 07:20:38
ดีจัง   อย่างน้อยกลอนก็พยายามทำให้ตัวเองมีความสุขไม่ปิดกั้นตัวเอง
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 24-10-2015 09:15:35
 :-[
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 25-10-2015 00:07:38
ดีใจที่กลอนมีความสุข
หวังว่าคงไม่เจอการหลอกลวง
แม้ภายหลังอาจไม่ได้อยู่ด้วนกัน
ก็อยากให้กลอนเก็บความรู้สึกดีๆไว้ตลอดไป
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 25-10-2015 07:15:23
 :hao6:   :hao6:   :hao6:
หัวข้อ: บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 5 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพแล้ว 21/10 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 25-10-2015 18:46:57
ขอให้ฉลามเป็นคนที่ใช่จริงๆนะ

รออ่านจ้า
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 6 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 27/10 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 27-10-2015 12:15:08
รักบทที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (ตอนที่ 6)


ผมใช้ช่วงวันหยุดยาวที่ชายทะเลสัตหีบกับพี่ฉลาม เราสองคนได้คุยกันถึงอนาคตของเรา ที่น่าดีใจคือผมไม่ได้เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน พี่ฉลามเป็นฝ่ายถามผมว่าอยากให้พี่เขาบอกกับทุกคนไหมว่าเราสองคนคบกัน แม้กระทั่งพ่อแม่ของเขา เขาก็พร้อมจะบอก ผมดีใจและตื้นตัน แต่ถึงจะรู้สึกดีแค่ไหน ผมก็ปฏิเสธที่จะประกาศเรื่องของผมกับพี่เขา ผมอธิบายให้พี่ฉลามเข้าใจ ทุกอย่างมันไม่ได้สำคัญเลยสำหรับผม ขอแค่อย่าโกหก อย่าหลอกลวงกัน ขอแค่ให้พี่เขารักษาคำพูด ถ้าเลิกรักผมขอให้บอก ถ้าเมื่อไหร่พี่เขาเริ่มอ่อนไหวกับคนอื่น ขอแค่บอก  ในวันนั้นพี่ฉลามก็ตกลงรับปากว่าจะไม่บอกใคร ให้การคบกันของเราเป็นแค่เรื่องของเรา


แต่หลังจากที่เรากลับมาจากสัตหีบ ปฏิบัติการแอบคบกันของเราก็เริ่มต้นขึ้น แม้ว่าเราสองคนจะทำตัวแบบเดิม ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่เวลาที่ไปเป็นกลุ่ม ผมก็ไม่ได้อยู่ใกล้พี่เขา พี่เขาอยู่กับเพื่อนเขา ผมอยู่กับเพื่อนผม คนที่รู้ก็น่าจะมีแค่พี่แหบกับบุ้ง แต่รู้ในที่นี่ก็คงแค่สงสัยว่าผมกับพี่ฉลามคบหรือไม่ได้คบกัน เพราะผมไม่เคยแสดงออกอะไรเลย มีแต่พี่ฉลามที่เป็นฝ่ายเผลอ ผมก็คอยเตือน พอเตือนบ่อยๆเข้า พี่ฉลามก็เริ่มไม่เข้าใจ เรื่องนี้เลยเป็นเรื่องที่เราชอบเถียงกันได้ตลอด แม้จะไม่ได้ทะเลาะกันใหญ่โต แต่มันก็คงสะสมในใจของพี่ฉลามมาโดยตลอด


“ทำไมละ ก็กลอนไม่อยากให้แม่รู้ ก็แค่ไม่บอกแม่กลอนก็พอ” พี่เขาถามผม

“ความลับถ้าออกจากปากเราไปเมื่อไหร่ก็ไม่ใช่ความลับแล้วครับ”

“งั้นบอกแค่พ่อแม่ของพี่ก็ได้”

“ไม่เอาอะ”

“ทำไมละ”

“กลอนพูดกับพี่หลายครั้งแล้วอ่าแค่นี้เราก็มีความสุขดีไม่ใช่เหรอ”

“การที่นั่งใกล้แฟนไม่ได้ จับมือก็ไม่ได้ เย้าแหย่ต่อหน้าเพื่อนก็ไม่ได้ กลอนมีความสุขเหรอ” พี่ฉลามย้อนถามผม ผมหน้าจ๋อยๆ ก่อนจะขยับเข้าไปจับมือฉลามแล้วยกขึ้นมาจูบหลายๆที

“ถ้าคนอื่นรู้ ยิ่งรู้มาก เราจะยิ่งไม่มีความสุข เชื่อกลอนเถอะครับ พ่อแม่ท่านรับไม่ได้หรอก ถึงท่านจะเมตตากลอน เพราะท่านคิดว่ากลอนเป็นเพื่อนของลูกชายท่าน ไม่ใช่คู่รัก รอให้เราเรียนจบก่อน เรามีงานการทำที่ดี เราอยากทำอะไรก็ได้”

“ใครละที่จบ อีกสองเดือนพี่ก็จะจบแล้ว แต่ของกลอนอีกตั้งปีหนึ่ง ถ้าพี่จบพี่บอกพ่อกับแม่เลยได้ไหมละ” พี่ฉลามถาม ผมเห็นหน้าพี่เขาแล้วก็รู้สึกไม่ดีที่ทำให้พี่เขาอึดอัด พอพี่ฉลามเห็นผมเงียบไปก็ถอนหายใจ

“พี่รักกลอน ไม่ได้อยากให้ใครรู้หรอกว่าเราเป็นเกย์ แต่อยากแสดงความรักกับกลอนได้ทุกที่ที่อยากแสดง ไม่อยากระวังตัวบ้าบอจนพี่เกร็งไปหมด พี่ไปค้างกับกลอนก็ไม่ได้ กลอนกลัวเพื่อนอึดอัด กลอนเองก็ไม่ยอมมานอนที่นี่ทุกวัน มาเดือนหนึ่งสองสามครั้งเอง ชวนไปเช่าคอนโดใหม่อยู่ด้วยกันก็ไม่ไป”

“กลอนขอโทษครับ” ผมอยากจะร้องไห้ ไม่ใช่ผมไม่อยากทำอะไรแบบนั้น แต่ครั้งล่าสุดที่ผมกลับบ้าน แม่ก็กอดผม บอกว่าชีวิตแม่เหลือแค่ผมที่เป็นสิ่งที่ทำให้ท่านอยากมีชีวิตอยู่ต่อนานๆ ผมกลัวนะ เพราะแม่ของผมเป็นคนหัวโบราณ ผมกลัวท่านจะรับไม่ได้แล้วจะคิดสั้นอีก ผมอาจจะคิดมากไป แต่ก็ดีกว่าไม่คิดอะไรเอาไว้เลย ถ้าแม่ยังมีพ่อ ผมก็ยังไม่เครียดเท่านี้ นี่แม่ไม่มีใครจริงๆนอกจากผม

“พี่ขอโทษนะ ช่างมัน ไม่บอกใครก็ไม่บอก” พี่ฉลามพูดแล้วหอมแก้มผมแล้วก็กอดผมเอาไว้นานเลย

“เดี๋ยวพี่จะออกไปเอากล้องที่บ้านไอ้กันต์ ไปด้วยกันใหม่ อาจจะอยู่กินเหล้ากับมันนิดหน่อย มันชวนมาหลายหนแล้ว” พี่ฉลามถามผม

“กลอนไม่ไปได้ไหมครับ กลอนอยากอ่านหนังสือ จะสอบแล้ว”

“ก็ได้ พี่ไปไม่นานหรอก มานอนที่นี่ไหม ตอนกลับพี่จะแวะรับที่คอนโด เดี๋ยวบอกแม่ว่ากลอนขับไปรับพี่มา เพราะพี่กินเหล้า” พี่ฉลามบอกผม ผมสงสารพี่เขาเลยไม่ปฏิเสธ พี่เขายิ้มดีใจ ก่อนจะหอมผมอีกหลายที


เราสองคนคุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนได้เวลาที่พี่เขาต้องไปบ้านเพื่อน ผมก็เลยจะกลับไปอ่านหนังสือ แต่เจอแม่พี่ฉลามเรียกให้อยู่ก่อน แม่ทำแกงส้ม ท่านอยากให้ผมเอาไปทานที่คอนโดด้วย ผมเลยต้องอยู่รอ สักพักแม่ก็หิ้วถุงแกงส้มมาให้ผม สีหน้าของแม่ดูเหมือนมีเรื่องจะพูดกับผม


“มีอะไรรึเปล่าครับ” ผมเริ่มกลัวตะหงิดๆ หวังว่าแม่คงไม่รู้เรื่องผมกับพี่ฉลามนะ

“กลอน แม่มีเรื่องจะให้กลอนช่วยหน่อย” แม่ดึงผมไปคุยที่ห้องทำงาน

“อะไรเหรอครับ”

“แม่อยากให้ฉลามไปเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ แต่ฉลามไม่ยอมไป ฉลามต้องกลับมารับงานต่อจากพ่อ แม่อยากให้เขาได้ภาษา ได้คอนเน็คชั่น ได้ประสบการณ์อะไรหลายอย่างๆ เคยคุยกันตอนเข้าสอบเข้ามหาลัยได้ใหม่ๆ เขาก็ตกลงว่าจะไปเรียนต่อ แต่จู่ๆก็มาดื้อไม่ยอมไป พ่อเขาโกรธอยู่ที่ฉลามไม่รักษาคำพูด พ่อเขาก็อยากพักแล้ว แม่ก็กลุ้มใจ ไม่อยากให้พ่อลูกทะเลาะกัน” แม่เล่าให้ผมฟังด้วยสีหน้ากังวล ผมฟังแล้วรู้สึกแปลบๆ เพราะผมหรือเปล่า

“กลอนจะช่วยยังไงได้ครับ” ผมถาม

“กลอนลองกล่อมพี่เขาให้หน่อยได้ไหมลูก แม่เห็นพี่เขาฟังกลอน นุ๊กลองพูดให้ก็ไม่ได้ผล”

“กลอนกลัวพี่ฉลามจะไม่ฟังกลอน แต่กลอนจะลองดูครับ” ผมรับปากแม่ แม้ในใจจะรู้สึกโหวงเหวง แต่มันคืออนาคตของพี่เขา

“ขอบใจมากลูก แม่ไม่อยากให้พ่อเขาไม่สบายใจ”

“ได้ครับแม่ ถ้าอย่างนั้นกลอนขอตัวกลับก่อนนะครับ”

“ขอบใจมากนะกลอน แม่ฝากด้วยนะ” ผมเดินออกมาจากบ้าน คิดอะไรปนเปกันไปหมด ผมก็อยากให้พี่ฉลามไปเรียนต่อ แต่อีกใจก็กลัวความห่างไกล แต่มาชั่งความรู้สึกทั้งสองอย่าง ผมอยากให้พี่เขาไปเรียนต่อมากกว่า ถ้าผมกับพี่เขาหนักแน่นพอ แต่สองปี ผมก็เรียนจบเหมือนกัน มันอาจจะดีสำหรับเราสองคนก็ได้

“เหม่ออะไรหนุ่มน้อย”

“พี่นุ๊ก” ผมมัวแต่จมอยู่กับความคิด เลยไม่ทันเห็นว่าพี่นุ๊กยืนอยู่ในสนามบาส พี่เขามาวิ่งออกกำลังกาย

“ไม่กินข้าวด้วยกันที่นี่เหรอ”

“อ๋อ กลอนจะกลับไปอ่านหนังสือครับ”

“หนอนหนังสือสินะ” พี่นุ๊กยิ้มให้ผม แต่ผมอึ้งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะบอกตัวเองในใจว่าคงไม่มีอะไรหรอก ใครๆก็เรียกผมแบบนี้มาตั้งแต่มัธยมแล้ว

“วันนี้ไม่ออกไปไหนเหรอครับ” ผมถาม

“ขี้เกียจ แล้วที่เหม่อแบบนี้ เพราะเรื่องไปเรียนต่อของฉลามรึเปล่า” พี่นุ๊กถาม ผมหันไปมองพี่เขาก่อนจะพยักหน้า

“โดนขอร้องให้เกลี่ยกล่อมละสิ” พี่นุ๊กพูดต่อ ผมก็พยักหน้าอีก

“คงยาก เจ้าฉลามมันดื้อจะตาย ลองบอกไม่ก็ไม่” พี่นุ๊กวิ่งเหยาะๆอยู่กับที่พร้อมกับชวนผมคุยต่อ

“นั่นนะสิครับ” ผมถอนหายใจ

“แต่ก็ลองดู มันอาจจะแพ้ทางกลอน มันไม่มีน้อง อ้อนหน่อยแล้วกัน” พี่นุ๊กพูดแล้วยิ้ม ผมกลับรู้สึกว่า ยิ้มนี่มันมีความหมายแฝง หรือพี่นุ๊กจะรู้ว่าผมกับพี่ฉลามเป็นอะไรกัน

“ยาก กลอนเถียงอะไรไม่เคยชนะหรอกครับ” ผมรีบบอก

“น้าพิณก็คงไม่อยากบังคับลูกชายหรอก ตามใจกันมาตลอด ติดที่น้าพยนต์ไม่ค่อยสบาย ท่านเป็นโรคหัวใจ โรคหอบด้วย ทำงานหนักๆไม่ไหวแล้ว พี่ให้ท่านบอกฉลามไปตรงๆ ท่านก็ไม่ยอมบอก พ่อลูกนิสัยเหมือนกัน ไม่ชอบให้ใครมาสงสาร” พี่นุ๊กหยุดวิ่งแล้วบอกเรื่องที่ทำให้ผมยิ่งหนักใจเข้าไปอีก

“มิน่าละ กลอนเห็นท่านหน้าซีดบ่อยๆ ตอนเล่นหมากรุกกัน มือท่านมีแต่เหงื่อ หายใจแรง ยังบอกให้ฉลามพาลุงไปตรวจ พี่ฉลามก็บอกว่าพ่อไปตรวจสุขภาพทุกเดือน” ผมนึกถึงอาการของพ่อพี่ฉลามก็ยิ่งรู้สึกเป็นห่วงท่าน ท่านใจดีกับผมมาก

“กลอนลองคุยกับฉลามแล้วกัน” พี่นุ๊กตบบ่าผมเบาๆ

“ครับ กลอนจะพยายาม” แล้วผมก็เดินกลับคอนโดด้วยความหนักใจ อ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเลยจนไอ้เด่นมันถามว่าผมเป็นอะไร ดูเหมือนคนกระวนกระวายใจ ผมไม่ได้ตอบมันหรอก บอกแต่ว่าวันนี้อาจจะไปค้างบ้านเพื่อน จะไปติวหนังสือ ถึงเด่นจะรู้ว่าผมเป็นเกย์ แต่ผมก็ไม่ได้บอกเรื่องพี่ฉลามกับมัน กลัวมันหลุดปากไป ไม่รู้ซะก็จะได้ไม่ต้องกังวลใจที่จะต้องมาปิดบังให้ผม

“เพื่อนมึงคนไหนวะ กูรู้จักเปล่า” เด่นถาม

“ก็พวกบุ้งนั่นแหละ” ผมบอก เด่นพยักหน้ารับรู้ ผมอาบน้ำแล้วรอเวลาที่พี่ฉลามจะมารับ สักสี่ทุ่มพี่เขาก็โทรมา ผมบอกเด่นแล้วก็ลงไปหาพี่ฉลาม

“ไปเยาวราชกัน กลอนอยากกินก๋วยจั๊บ” ผมชวน พี่ฉลามเลิกคิ้ว มองผมเหมือนได้ยินผิดไป พอผมพูดอีกรอบพี่เขาถึงได้พยักหน้า

“นึกยังไง ปกติพี่ชวนไปกินอะไรก็ไม่ไป”


ผมไม่ได้บอกเหตุผลอะไร พี่เขาก็ไม่ได้ถามอีก แต่ก็ขับพาผมไป ผมก็คิดมาตลอดทางว่าจะเริ่มต้นพูดกับพี่เขายังไง ผมรักพี่ฉลามนะ รักมาก ไม่ได้อยากให้พี่เขาไปอยู่ไกลๆเลย แต่ผมแค่นึกถึงใจเขาใจเรา ถ้าพ่อแม่พี่ฉลามเป็นพ่อกับแม่ของผม ผมก็คงเลือกที่จะทำให้ท่านสบายใจ แต่คิดว่าพี่ฉลามคงไม่ได้คิดเหมือนผมแน่ๆ ก็อย่างที่พี่นุ๊กบอก พี่ฉลามเองนิสัยเหมือนคุณลุง เท่าที่ผมได้มาทำความรู้จักกับครอบครัวพี่ฉลาม ถึงจะดูเป็นคนง่ายๆอะไรก็ได้ ใจดี ยิ้มแย้ม ดูไม่น่าจะเรื่องมากอะไร แต่ถ้าเรื่องงานหรือธุรกิจจะเด็ดขาด หรือเรื่องที่เกี่ยวกับเงินทอง ทั้งพ่อและแม่หรือตัวพี่ฉลามเองไม่ชอบให้ใครมาชี้นำหรือชักจูง อย่างถ้ามีญาติห่างๆมาขายประกันชีวิต คุณลุงจะถามรายละเอียดแบบถี่ยิบ ไม่ฟังคำชักจูงหรือคำหว่านล้อม แต่จะดูเองว่าดีหรือไม่ดี ทำแล้วจะได้ผลประโยชน์ที่ดีหรือเปล่า ถ้าโดนเซ้าซี้มากๆก็ไม่ทำ แถมยังดุกลับไปอีก ผมจำได้ว่า คุณลุงเคยบอกกับผมว่า คุณลุงยอมตามใจให้พี่ฉลามเลือกเรียนนิเทศ ให้ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ชอบ แต่เมื่อจบแล้ว พี่ฉลามก็ต้องไปศึกษาเรื่องธุรกิจด้วย เพราะถึงยังไงก็ต้องมาสานต่องานให้กับครอบครัว


“มีอะไร ทำไมดูเหม่อตลอดเลย เลยร้านแล้ว ชอบร้านนี้ไมใช่เหรอ” พี่ฉลามถามผม ผมหยุดเดินก่อนจะยิ้มให้พี่ฉลาม คิดมากจนไม่ได้สังเกตสิ่งรอบตัวเลย

“เดินมองของกินเพลินไปหน่อย”

“โกหกไม่เนียนเลย” พี่ฉลามเอาไหล่มากระแทกที่ไหล่ของผมเบาๆก่อนจะดึงแขนเสื้อของผมให้เดินตามมานั่งที่โต๊ะ พี่เขาเคยจับมือผม แล้วผมเผลอตกใจดึงออกเพราะกลัวคนมาเห็น จากนั้นมาพี่เขาก็ไม่กล้าจบมือผมเลย ผมรู้สึกผิดมากๆ แต่ถามแล้ว พี่เขาก็บอกว่าไม่ได้โกรธ

“กินก่อน กลอนมีเรื่องจะคุยกับพี่ด้วยแหละ” ผมบอก

“กินกลอนหรือกินก่อน” พี่เขาถามแล้วยิ้ม ผมค้อนพี่เขาแต่ก็ยิ้มตอบกลับไป เรานั่งกินจนอิ่ม มีลูกค้ามายืนรอโต๊ะ พี่เขาเลยสั่งคิดเงินแล้วบอกว่าไปคุยในรถก็ได้ ผมก็เห็นดีด้วย เราเลยเดินกลับไปที่รถ แต่ระหว่างทางผมเป็นฝ่ายจับข้อมือพี่ฉลาม พี่เขาทำหน้าแปลกใจสุดๆแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร

“ไหน มีเรื่องอะไรจะคุย” พี่เขาถามหลังจากที่ขับพาผมออกมาจากเยาวราชแล้ว ผมกลั้นหายใจนิดหนึ่ง รู้สึกเครียดเหมือนกัน มันกลัวหลายอย่าง ที่สำคัญสุด คือกลัวพี่เขาโกรธ

“เมื่อเย็นกลอนคุยกับแม่ของพี่” ผมพูดออกมา พี่ฉลามไม่ได้หันมามองผม แต่ผมรู้ว่าพี่เขาตั้งใจฟังอยู่

“เรื่องไปเรียนต่อของพี่”

“แม่คิดว่าให้กลอนมาพูดแล้วพี่จะเปลี่ยนใจเหรอ” พี่ฉลามพูดขึ้นมา ผมหายใจไม่ทั่วท้องเลย

“พี่บอกกลอนได้ไหมครับ ว่าทำไมถึงไม่ไป” ผมเลิกคิดที่จะพูดเกลี่ยกล่อม แต่ถามถึงเหตุผลแทน

“เหตุผลคือไม่อยากไป ถ้าเป็นกลอน กลอนจะไปไหม” พี่ฉลามตอบก่อนจะถามผมบ้าง

“ไปครับ” ผมนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนจะตอบ พี่ฉลามหันมามองหน้าของผม

“เหตุผล” พี่เขาถาม

“กว่าธุรกิจหนึ่งจะเติบโตมาได้ พ่อของพี่คงลำบากไม่น้อย ท่านทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว พี่ปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหม ว่าครอบครัวของพี่สบายมีพร้อมทุกอย่างได้เพราะธุรกิจนี้ ตอนนี้คงเป็นหน้าที่ของพี่ที่จะต้องทำต่อ พ่อของพี่ควรจะได้พักแล้วครับ” พี่ฉลามนิ่งไป

“ที่กลอนมาพูดไม่ได้ทำเพราะแม่ของพี่ขอร้องนะ กลอนมาพูดเพราะกลอนรักพี่ กลอนอยากให้พี่ประสบความสำเร็จในชีวิตทุกด้านเลย” ผมอธิบายต่อ พี่ฉลามถอนหายใจ

“พ่อพี่ไม่สบายรู้ใช่ไหม” พี่ฉลามถามผม ผมแปลกใจ เพราะนึกว่าพี่เขาไม่รู้

“รู้ครับ”

“พี่ถึงไม่อยากไป” พี่ฉลามพูดจบผมก็เข้าใจว่าพี่เขาหมายความว่าอะไร พี่เขาคงไม่อยากไปอยู่ไกลๆ เพราะทั้งบ้านก็มีแค่แม่กับพี่ฉลาม พี่เขาคงเป็นห่วงหากคุณลุงเป็นอะไรขึ้นมา

“อาการหนักมากเลยเหรอครับ” ผมถามเสียงเบาเลย นึกสงสารคนที่ผมรักจับใจ ถ้าแม่ผมไม่สบาย ผมก็คงไม่ทิ้งไปไหนเหมือนกัน

“พี่ไม่รู้หรอก รู้แต่ว่าท่านไปหาหมอบ่อยมาก ไปทีหนึ่งมีถุงยากลับมาเต็มเลย ปกติท่านไม่เคยตื่นสาย แต่ระยะหลังมานี่พ่อพี่ตื่นสายบ่อยๆ มันผิดปกติ”

“ผมอยากให้พี่คุยกับคุณลุง ถ้ามัวแต่คิดแทนกันไปมามันไม่มีอะไรดีขึ้นนะครับ พี่คุยว่าพี่คิดยังไง แล้วกลอนก็อยากให้พี่ฟังท่านในสิ่งที่ท่านต้องการเหมือนกัน” ผมบอก พี่ฉลามหันมามองหน้าผม ก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือของผมเอาไว้แล้วบีบเบาๆ

“แม่พี่เก่งนะ” พี่ฉลามพูดจบผมก็งงไปเลย จู่ๆมาเปลี่ยนเรื่อง

“เก่งอะไรเหรอครับ”

“รู้จักใช้ถูกคน รู้ไหม แม่ทั้งปลอบ ทั้งขู่ ทั้งขอร้อง พ่อก็ด้วย พี่นุ๊กด้วย พี่ไม่ฟังใครเลย แล้วนี่เป็นใครเนี่ย หื้ม.. หว่านล้อมเก่งจริงๆ” พี่ฉลามมายีหัวของผมแทน ผมยิ้มเมื่อได้ยินคำอธิบาย

“เป็นแฟนพี่ไง เชื่อแฟนได้ดีทุกคน” ผมก็มีมุมอ้อนนะ พี่เขาหัวเราะ

“ไปกับพี่ไหม ไปเรียนที่โน้นด้วยกัน” พี่ฉลามถาม ผมอึ้งไปเลย

“ตลกแล้ว กลอนยังเรียนไม่จบเลย พี่ไปเหอะ กลอนรออยู่นี่แหละ”

“พี่อาจจะขอพ่อ อีกสองปีค่อยไป” พี่ฉลามบอก

“ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่รีบไปรีบกลับ กลอนรอได้”

“ไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆเหรอถ้าพี่จะไปจริงๆ”

“พี่ไปเรียนนี่นา ไม่ได้หนีไปแต่งงานสักหน่อย”

“ไม่รู้ดิ พี่ไม่เชื่อว่ารักระยะไกลมันจะมีจริง ร้อยทั้งร้อยก็ทนไม่ได้ เลิกกันหมด” พอได้ยินพี่ฉลามพูดแบบนี้ผมใจไม่ดีเลย

“พี่ไม่เชื่อใจกลอนเหรอ”

“พี่ไม่เชื่อใจตัวเอง” ผมก็รู้นะว่าพี่ฉลามเป็นคนพูดตรง แต่ตรงมาแบบนี้ผมใจแป้วเลย

“แต่กลอนเชื่อใจพี่” ผมบอก พี่เขาหัวเราะแล้วก็จับมือผมมาจูบ

“เฮ้อ ก็เป็นแบบนี้ พี่จะทนอยู่ห่างๆได้ไงวะ” พี่ฉลามยิ้มให้ผมก่อนจะหันกลับไปขับรถ ผมแอบลอบมอง สีหน้าของพี่เขาไม่ได้สดใสเหมือนน้ำเสียง ผมเป็นฝ่ายจับมือพี่ฉลามมาแนบที่แก้มแล้วก็จูบ กอดแขนพี่เขาไว้ตลอดทางจนถึงหน้าบ้าน

“วันนี้กลอนกลับไปนอนที่คอนโดก่อนนะ พี่อยากคุยกับพ่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าเจอกัน พี่จะพาไปกินโจ๊กเจ้าอร่อย” พี่ฉลามบอก ผมพยักหน้า แต่ใจของผมมันไหววูบ ได้แต่หยิบกระเป๋าของตัวเองออกมา ยืนมองดูรถพี่ฉลามหายเข้าไปในบ้าน ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่า จากนี้ไป ผมจะทำได้แค่มองข้างหลังพี่เขาแบบนี้แค่นั้นก็ไม่รู้

.....
...
..

(มีต่อข้างล่างค่ะ)

V
V
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 6 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 27/10 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 27-10-2015 12:15:52
(ต่อจากด้านบนค่ะ)



“อ้าว กลับมาทำไม ลืมของเหรอ” เด่นละสายตาจากทีวีมาถามผมเมื่อเห็นผมเดินกลับเข้ามา

“พอดีอยากกลับมาอ่านเองที่บ้าน เลยเปลี่ยนใจ”

“มึงมีไรเปล่าวะกลอน กูเป็นเพื่อนมึงมาตั้งแต่จู๋เท่าหนอนนะ กูรู้ว่ามึงมีปัญหาอยู่”

“ไอ้บ้า เปรียบเสียน่าเกลียด” ผมว่ามันแล้วขำ

“น่าเกลียดตรงไหน ตอนนี้ไม่เท่าหนอนแล้วใช่ไหม ไหนกูดูหน่อยดิ๊”

“ไอ้เด่น อย่าเล่นนะ ไม่เอานะ ไอ้เด่น ฮ่าๆๆๆ” ผมวิ่งหนีมัน โตจะตายแล้วมาเล่นอย่างกับตอนเด็กๆ

“ทำไม ไม่ต้องมาอายกูเลยนะ เมื่อก่อนยังแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันอยู่” มันวิ่งไล่ผม ผมหนีเข้าห้องนอน จะปิดประตู แต่มันดันมาได้ สู้แรงมันไม่ไหว ผมเอาหมอนตีมัน มันร้องโวยวาย ผมนึกสนุกตีมันไม่หยุด จนมันทนไม่ได้โถมตัวเข้าใส่ผมจนทั้งผมทั้งมันกระเด็นลงไปนอนที่เตียงโดยมันตัวมันทับผมอยู่ อย่างกับในหนังไม่มีผิด

“หนักว่ะ ลุกไปเลย” ผมบอกมัน ผมคงจะไม่รู้สึกแปลกๆ ถ้าไม่เห็นสายตาของมัน แต่มันก็แค่แป๊ปเดียว สายตาขี้เล่นของมันก็กลับมาเหมือนเดิม

“มึงดูนี่ กูไปออกกำลังกายมา” มันลุกขึ้นจากตัวผมมานั่ง แล้วโชว์กล้ามท้องและกล้ามแขนยกใหญ่

“ก็งั้นๆ”

“มึงขี้ก้างแบบนี้ไม่รู้หรอกว่ากล้ามเนื้อมันคืออะไร เสร่อว่ะมึง” มันว่าผม ผมเบ้ปากใส่มัน

“สาวเพียบเลยละสิ” ผมถามมัน มันยักคิ้ว

“มึงบอกกูมาว่าเป็นอะไร ถ้าไม่บอกกูจะจับมึงแก้ผ้าจริงๆ” มันวกกลับมาถามผม แถมขู่ด้วย

“มีเรื่องให้คิด ไม่ได้หนักหนาอะไรหรอก ถ้าคิดไม่ตกแล้วจะมาเล่าเอง โอเคปะพ่อ” ผมถามมัน แถมประชดมันเล็กน้อย มันหัวเราะ

“กูรู้ว่ามึงมีแฟน”

“รู้ได้ไง” ผมถามมัน

“หน้ามึงมีความสุขมากๆอะดิ เพิ่งเห็นวันนี้แหละที่เหมือนคนอมทุกข์” ผมปิดมันไม่ได้จริงๆ ทั้งที่ไม่ค่อยได้เจอกัน น่าแปลกที่มันจับอาการผมได้

“อืม แต่ไม่ได้ทะเลาะอะไรหรอก แค่เขาจะไปเรียนต่อเมืองนอก” ผมบอกมัน

“มีเมียใหม่แน่มึง” ไอ้เด่นตอกย้ำผม ผมเลยเอาหมอตีมันอีกจนมันหัวเราะ

“จริงเหรอ ที่ความไกลทำให้คนเราต้องเลิกกัน” ผมหยิบเอาหมอนมาตีมันอีกรอบแล้วถอนหายใจ

“มั่นใจตัวเองหน่อยสิวะ มึงน่ารักแบบนี้ แฟนมึงไม่มีคนอื่นหรอก” ผมหันไปมองมัน ปกติมันไม่ค่อยจะชมผมหรอก คงสงสารผมมั๊ง

“แต่มันก็มีคนน่ารักกว่าเราเปล่าวะ” ผมถามมัน

“เออ ก็จริง” มันทำหน้าคิดก่อนจะตอบ ผมหน้าเหวอเลย อ้าว..ดูมันดิ ปลอบผมได้ไม่ถึงนาทีเลย

“พอเลย แกยิ่งปลอบ เรายิ่งเครียด” ผมว่ามัน ก่อนจะเอาหมอนตีมันอีก มันโวยวายก่อนจะดึงหมอนในมือผมไป ผมเซไปตามแรงจนล้มไปทับตักมัน พอผมจะลุก มันเอาหมอนกดผม ผมดิ้นๆสู้จนมันยอมเอาหมอนออก

“ไปดีกว่า ไม่อยากให้หนอนน้อยไม่ได้อ่านหนังสือ สอบตกจะมาโทษกูอีก” มันดันตัวผมขึ้นแล้วลุกออกไปยืนว่าผม ผมแลบลิ้นให้มัน มันโยนหมอนใส่หน้าผมแล้ววิ่งออกไปเลย ผมได้แต่หัวเราะในความกวนของมัน พอมันออกไปแล้วผมก็ถอนหายใจอีกรอบ ไม่รู้ว่าพี่ฉลามจะคุยกับคุณลุงยังไงบ้าง ผมลุกออกจากเตียงแล้วเดินออกไปที่ระเบียง เสียงโมบายหอยกระทบกันตามแรงลมดังแกร๊กๆ

“พี่ฉลาม” ผมมองไปเห็นพี่ฉลามยืนอยู่ที่ระเบียงอยู่แล้ว มีแสงวาบๆที่มือ น่าจะเป็นบุหรี่ ผมนึกว่าพี่เขาเลิกสูบแล้ว พี่เขามองมา ผมโบกมือให้ แต่เขาไม่ได้โบกกลับ เขาโกรธผมเหรอ ผมได้แต่นึกในใจผมลองโบกมือให้ใหม่ เขาอาจจะไม่ได้มองมา แต่พี่เขาก็ไม่ได้โบกตอบ ผมนึกเอะใจ เลยเดินไปหยิบโทรศัพท์มาลองโทรหา แต่พี่เขาก็ไม่รับ ผมไม่สบายใจเลย กดโทรหาซ้ำๆ แล้วพี่เขาก็เดินกลับไปในห้อง ผมเลยได้แต่มองความว่างเปล่าของระเบียงห้องพี่ฉลามอยู่คนเดียว

..

ผมไม่สบายใจเลย นอนไม่หลับ พี่เขาไม่ยอมโทรกลับมา ผมก็ไม่โทรไปอีก ถ้าเขาอยากคุยคงโทรกลับมาแล้ว ผมไม่คิดว่าพี่เขาจะโกรธผมขนาดนี้ ผมเผลอหลับไปตอนกี่โมงก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตื่นมาก็ปาไปเก้าโมงเช้าแล้ว ผมรีบหยิบโทรศัพท์มาดู กลัวว่าพี่ฉลามโทรมาแล้วจะไม่ได้รับสาย เพราะพี่เขานัดว่าจะพาไปกินโจ๊ก แต่ปรากฏว่าไม่มีสายโทรเข้าเลย ผมรีบลุกไปอาบน้ำล้างหน้า ออกมาก็เจอแต่ข้อความของไอ้เด่นเขียนบอกว่ามันทำอาหารเช้าเอาไว้ให้ แต่ตัวมันก็ไม่อยู่เหมือนกัน ผมร้อนใจเลยไม่ได้กินอาหารเช้าที่เด่นมันทำเอาไว้ให้ แต่เดินไปที่บ้านของพี่ฉลามเลย


“คุณผู้ชายท่านไปนอนที่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บ้านเลย อยู่ที่โรงพยาบาลกันหมด” คนสวนที่บ้านของพี่ฉลามบอกผม ผมตกใจมาก รีบถามชื่อโรงพยาบาล กำลังจะเดินออกไปเรียกแท็กซี่ รถพี่นุ๊กก็แล่นออกมาพอดี

“จะไปโรงพยาบาลใช่ไหม ไปพร้อมพี่เลย” พี่นุ๊กลดกระจกมาถาม ผมรีบพยักหน้าแล้วขึ้นไปนั่งในรถ

“คุณลุงอาการกำเริบเหรอครับ” ผมถาม พี่นุ๊กพยักหน้า

“ทะเลาะกับฉลาม เห็นน้าพิณบอกว่าทะเลาะกันแรงกว่าทุกทีเลย” ได้ยินพี่นุ๊กเล่าผมยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ

“อย่าคิดมาก ไม่ใช่เพราะกลอนหรอก” พี่นุ๊กพูดเหมือนรู้ว่าผมกำลังคิดอะไร แต่ผมไม่ได้แสดงอาการอะไรออกไป ได้แต่นั่งเงียบไปตลอดทางจนถึงโรงพยาบาล ผมเดินตามพี่นุ๊กไปจนถึงห้องพัก รู้สึกโล่งใจที่อย่างน้อยคุณลุงก็ไม่ได้อยู่ในห้องฉุกเฉิน

“เป็นยังไงครับ” พี่นุ๊กถามแม่ของพี่ฉลาม ผมยกมือไหว้ท่าน ท่านรับไหว้ก่อนจะยิ้มให้นิดหน่อย

“ดีขึ้นแล้ว เมื่อคืนโรคหอบกำเริบ หายใจไม่ออก นี่ก็เพิ่งจะหลับไปเมื่อครู่เอง”

“แล้วเจ้าฉลามไปไหน” พี่นุ๊กถามในสิ่งที่ผมอยากรู้พอดี

“ไปคุยกับอาหมอ นุ๊กมาก็ดีแล้ว ฝากดูลุงเขาหน่อย กลอนไปช่วยแม่หิ้วของเยี่ยมไปไว้ที่รถหน่อยได้ไหมจ๊ะ” แม่ของพี่ฉลามบอกผม ผมรีบเข้าไปช่วยถือพวกตะกร้าของที่มีคนเอามาเยี่ยม แค่ช่วงสายๆเอง ทำไมตะกร้าเยอะมาก

“ผมเอาไปไว้ให้ก็ได้ น้าพิณจะได้ไม่ต้องไป” พี่นุ๊กอาสา

“ไม่เป็นไร” แม่พี่ฉลามตอบเสียงเรียบๆจมผมเริ่มรู้สึกว่าแม่ของพี่ฉลามตั้งใจจะให้ผมไปกับท่าน ลางสังหรณ์ของผมถูก เมื่อไปถึงรถ เก็บของเรียบร้อยแล้ว แม่พี่ฉลามก็ชวนผมไปนั่งที่ร้านกาแฟที่อยู่ชั้นล่างของโรงพยาบาล

“เมื่อคืนฉลามไปคุยกับพ่อของเขาเรื่องที่ต้องไปเรียนต่อที่มองนอก” คุณแม่ท่านเริ่มพูดก่อน

“ครับ”

“ทีแรกแม่ก็ดีใจที่ฉลามยอมไปเรียน” แม่พี่ฉลามพูดจบท่านก็บีบมือตัวเอง ท่านเม้มปากเหมือนคนพูดไม่ออก สักพักก็น้ำตาไหลออกมาจนผมตกใจ

“แม่ครับ” ผมรีบแตะที่มือของท่าน ท่านดึงมือออกมาจับมือของผมแทน มือท่านสั่น ผมรู้สึกได้

“ฉลามยื่นข้อแม้กับพ่อว่า พ่อต้องยอมรับเรื่องของฉลามให้ได้ด้วย” แม่พูดจบผมเริ่มรู้สึกถึงเค้าลางที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่

“ฉลามบอกว่า เขาคบอยู่กับกลอน แบบ..คนรัก” คุณน้าพูดจบก็ปิดปาก กลั้นสะอื้น ผมตกใจมาก มือผมสั่นไม่แพ้มือของคุณแม่ของพี่ฉลามเลย สติของผมกระเจิดกระเจิง พูดอะไรไม่ออก

“แม่ครับ กลอนขอโทษ” ผมพูดออกมาได้เท่านี้ ไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ น้ำตาของท่าน อาการเสียใจของท่าน มันไม่ได้เสแสร้งเลย ท่านเสียใจจริงๆ ผมเห็นท่าแล้วนึกถึงแม่ของผมวันที่ถูกพ่อทิ้งไป ท่านก็ร้องไห้ไปกอดผมไปแบบนี้

“แม่ไม่ได้รังเกียจกลอนนะลูก แต่แม่..”

“กลอนเข้าใจครับ” ผมพูดแทนเมื่อท่านพูดต่อไม่ได้ ผมเสียใจ เสียใจที่ทำให้คนที่ดีกับผมร้องไห้ในสิ่งที่ผมเป็น

“กลอน..” คุณแม่พยายามเช็ดน้ำตา ดวงตาที่แดงก่ำมองมาที่ผม

“ครับ” ผมไม่กล้าสบตาท่าน จนท่านแตะที่มือผมอีกรอบ ผมถึงได้เงยหน้าไปสบตา

“ถ้าพ่อถาม บอกกับพ่อว่ามันไม่จริงได้ไหม บอกว่าฉลามแค่ไม่อยากไป เลยโกหก แล้วช่วยพูดให้ฉลามไปเรียนต่อ ทำเพื่อพ่อเขาสักครั้ง ได้ไหมลูก แม่กลัวว่าพ่อ..”

“ครับ ได้ครับ” ผมรีบรับคำอย่างไม่คิดอะไรเลยจนแม่เป็นฝ่ายเองนิ่งอึ้งไป คงไม่คิดว่าผมจะยอมง่ายๆ ผมเจ็บนะ เสียใจและเจ็บมาก ผมรู้เลยว่าต่อจากนี้เรื่องของผมกับพี่ฉลามจะไม่ได้ง่ายเหมือนที่เคยเป็น ผมรู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้ ผมถึงพยายามให้พี่ฉลามเก็บเรื่องของผมกับพี่เขาเอาไว้ ผมไม่รู้ว่าทำไมพี่เขาถึงใจร้อนพูดออกไป

“แม่กลัวว่าฉลามจะไม่ยอม”

“พี่ฉลามจะยอมครับ กลอนจะไม่ทำให้พ่อกับแม่ต้องเสียใจ” ผมบอกท่าน พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างที่สุด ผมเข้าใจได้ในตอนนั้นว่า น้ำตาตกในเป็นยังไง การที่ผมเป็นเกย์ทำให้ผมได้เข้าใจตัวเองสองอย่าง ผมสามารถอ่อนแอได้อย่างที่ไม่เคยเป็นและก็เข้มแข็งได้อย่างที่ไม่คิดว่าผมจะทำได้ ใจของผมกำลังจะแหลกสลาย ผมคิดถึงวันนี้เสมอ แต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ ผมอยากร้องไห้ อยากเสียใจ แต่ผมแสดงออกมาไม่ได้จริงๆ

“ขอบคุณมากนะลูก แม่ขอบคุณจริงๆ แม่ขอโทษนะที่ต้องขอร้องแบบนี้”

“ไม่เป็นไรครับแม่กลอนเข้าใจ แต่แม่ครับ”

“ว่าไงลูก”

“แม่อย่าโกรธพี่ฉลามนะครับ พี่เขาก็คงไม่ได้อยากทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง กลอน..กลอนเชื่อว่า พี่เขายังรักผู้หญิงได้ กลอนขอโทษนะครับ..ที่..” ผมพยายามจะคุมอารมณ์ให้พูดออกไปแบบปกติที่สุด

“ขอบคุณนะกลอน แม่ขอบคุณลูกจริงๆ” แม่ของพี่ฉลามไม่ได้รอให้ผมพูดจบ


ผมว่าท่านคงเข้าใจสิ่งที่ผมจะบอก ท่านบีบมือผม ลูบศีรษะของผม ยิ่งทำให้ผมปวดใจเป็นที่สุด สักพักท่านก็ชวนผมขึ้นข้างบน แต่ผมขอตัว ผมบอกไปตรงๆว่ายังไม่อยากให้พ่อตื่นมาแล้วเห็นหน้าของผม ขอให้ท่านออกจากโรงพยาบาลก่อน แม้แม่จะบอกว่า พ่อไม่ได้โกรธผม แต่ผมรู้ครับว่าท่านทำใจไม่ได้หรอก ผมเองก็ทำใจไม่ได้ กลัวจะเห็นแววตาที่ผิดหวังจากท่าน ผมคงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้อีก ในที่สุดแม่ก็เลยยอมให้ผมกลับ ผมเดินออกมาแล้วโทรหาเด่น สักพักมันก็ขับรถมารับผมที่ป้ายรถเมล์ไม่ไกลจากโรงพยาบาล มันไม่ได้ถามอะไรผม ผมก็ได้นั่งเหม่อมองไปข้างหน้า ไม่รู้ว่ามันจะพาผมไปไหน มารู้สึกตัวเองอีกทีคือมันขับพาผมมาที่วัดแห่งหนึ่งที่อยู่ติดริมแม่น้ำ


“หนักใจพอจะบอกกูได้รึยังว่ามึงเป็นอะไร”

“เด่น..เราเจ็บตรงนี้ โคตรเจ็บเลย ฮึก เจ็บ..” ผมทุบที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเองหลายที ก่อนจะพรั่งพรูน้ำตาออกมาอย่างไม่อายมันเลย

“มึงทุบตัวเองแรงกว่านี้ มันก็ไม่เจ็บไปกว่าความเจ็บข้างในหรอก พอเหอะ” มันรีบคว้ามือผมไปจับเอาไว้ไม่ให้ทุบตัวเอง แล้วก็ปล่อยให้ผมร้องไห้โดยที่ไม่ได้เซ้าซี้ถามอะไรอีก


ผมรู้..ว่าความเจ็บที่ผมกำลังได้รับมันไม่ได้มาจากการถูกทำร้าย แต่ผมเจ็บจากการที่ผมได้ทำร้ายคนอื่นที่ดีกับผมต่างหาก ผมทำให้ผู้ชายปกติคนหนึ่งกำลังเลือกเดินทางที่มีแต่ขวากหนาม ผมอาจจะทำลายอนาคตของเขา ทำลายความสัมพันธ์ของครอบครัวของเขา ทั้งที่มันเคยสงบสุขมาก่อน ผมไม่ได้เกลียดที่ตัวเองเป็นแบบนี้ แต่ผมเกลียด ถ้าสิ่งที่ผมเป็นมันอาจจะไปทำร้ายใคร ผมไม่ใช่พ่อพระหรือนางเอก แต่ผมมองโลกในแบบที่ควรจะเป็น ผมไม่อยากให้พ่อแม่ของใครต้องมาท้อแท้ผิดหวังหดหู่เหมือนแม่ของผม ผมรักแม่ของผมมาก แม่ก็รักผมมาก แม่กับพ่อของพี่ฉลามก็คงรักพี่ฉลามมากเหมือนกัน ผมยังไม่รู้หรอกว่าผมควรจะทำยังไงต่อไป ผมขอร้องไห้ก่อน ก่อนที่จะต้องยิ้มรับให้กับชะตาชีวิตของตัวเอง


...ก็ผมเลือกที่จะเป็นแบบนี้ ผมต้องยอมรับสิ่งที่กำลังเข้ามาพิสูจน์ตัวผมเอง ถ้าการที่ผมเป็นเกย์แล้วจะไม่สมหวังในรัก ไม่สามารถยืนข้างๆคนที่รักได้อย่างที่คนอื่นๆทำได้ แต่อย่างน้อยผมก็ยังรู้ว่า ตัวเองยังสามารถที่จะรักใครได้ รักในแบบของผม แบบที่อาจจะไม่มีใครเข้าใจผมเลยก็ตาม...


*******โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ*********

 :เฮ้อ:

สงสารจัง ความรักของคนเพศเดียวกันในตอนนั้น มันไม่ได้เปิดกว้างเหมือนตอนนี้สักเท่าไหร่นะ
แต่ถึงตอนนี้จะเปิดกว้างยังไง น้อยครอบครัวนักที่จะรับได้อย่างหน้าชื่นตาบาน สู้แต่ไปไอ้กลอนเอ้ย

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 6 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 27/10 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-10-2015 12:58:46
 :hao5:   แง.
ร้องไห้ไปกับกลอนด้วย
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 6 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 27/10 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 27-10-2015 16:58:08
อ่านจบตอนแล้ว..........
เป็นกำลังใจให้ทุกคนจริงๆ
แต่......นับถือใจพี่ฉลาม
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 6 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 27/10 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 27-10-2015 18:16:49
จริงๆแล้วพี่ฉลามกับกลอนน่าจะเป็น a match made in heaven เลยทีเดียว แต่ circumstances มันทำให้เป็นไปไม่ได้   พี่ฉลามยังต้องอยู่เพื่อประคับประคองครอบครัว   กลอนเองก็ต้องอยู่เพื่อแม่   สังคมกลายเป็นบ่วง   เราสงสัยว่าพี่ฉลามกัลกลอนคงต้องเลิกกันทั้งๆที่ยังรักกันอยู่    เลิกก็เพราะรัก   

รู้สึกเจ็บไปกับกลอนด้วยค่ะ    ไม่ได้มโนว่าเป็นกลอน  แต่มาคิดว่าถ้าลูกเราต้องเจอแบบกลอนแล้วจะเป็นยังไง    แต่อย่างน้อยก็อยากบอกกลอนว่ามันเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่มากค่ะ   เพราะว่ามีแต่ความรักไม่ว่าจะมองแง่ไหน    จากพ่อจากแม่ จากที่กลอนมีให้คนอื่น มีให้ฉลาม แล้วที่ฉลามมีให้กลอนด้วย
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 6 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 27/10 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 27-10-2015 19:30:18
หวั่นใจมาตั้งแต่พี่ฉลามเป็นลูกคนเดียวแล้วล่ะ แค่เรื่องนี้ก็ทำให้ความรักของกลอนกับพี่ฉลามไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแล้ว :hao5:
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง ที่ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคนสินะ :mew4:
กลอนจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ยังไง จะยังได้รักกับพี่ฉลามอยู่ไหมน้อ :sad4:
เศร้าจังเลย ทั้งที่ตอนที่แล้วยิ้มแก้มแทบแตก :z3:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 6 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 27/10 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 27-10-2015 21:51:07
ความรักเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เสมอ
หากวันใดที่คนเราไร้ซึ่งความรักนี้
โลกก็คงจะไม่น่าอยู่อีกต่อไป

เลิกกันทั้งที่ยังรู้อยู่ว่ารักกัน
มันเจ็บปวดเกินกว่าจะหาคำใดมาบรรยายได้

เห็นใจทั้งสองคน
พี่ฉลามกับน้องกลอน
ต้องเจ็บปวดโดยกติกาของสังคม..ทำร้าย

อีกคู่..อีกคู่ และจะอีกซักกี่คู่
ที่โดนกีดกันจากสิ่งสมมุติทางสังคม


"ความรักมันไม่มีเพศ คนเราต่างหากที่ไปกำหนดเพศให้มัน"
                                                               ---- เซ็งเป็ด----
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 6 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 27/10 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 27-10-2015 23:42:47
พึ่งเข้ามาอ่านจ้า อ่านรวดเดียวถึงตอนล่าสุดเลย

ถึงไม่ได้คู่กัน อย่างน้อยพี่ฉลามก็เป็นแฟนที่ดีคนนึง รอลุ้นต่อไปว่าพระเอกตัวจริงคือใคร จะใช่พี่ระเบิดหรือไม่ แล้วใครที่เป็นคนเอาซิงน้องกลอนไป  :katai1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 6 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 27/10 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 28-10-2015 21:56:05
 กะอยู่แล้วเชียว
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 6 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 27/10 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 28-10-2015 22:05:58
ทำไมผมรู้สึกว่าเด่นกับกลอน ถ้าคบกันแล้วจะเข้าใจกันดีแฮะ.... อาจจะเพราะสายสัมพันธ์ที่สร้างมานานจะทำให้เด่นเข้าใจและรู้จักวิธีรับมือกลอนก็ได้มั้งครับ...

ทำไมผมตงิดๆว่าคนเปิดซิงกลอนคือญาติเด่น ไม่ก็เด่นแฮะ... รู้สึกเหมือนตอนทำนั่นดูอ่อนโยนผิดปกติ...
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 6 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 27/10 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 28-10-2015 22:33:35
ทำไมผมรู้สึกว่าเด่นกับกลอน ถ้าคบกันแล้วจะเข้าใจกันดีแฮะ.... อาจจะเพราะสายสัมพันธ์ที่สร้างมานานจะทำให้เด่นเข้าใจและรู้จักวิธีรับมือกลอนก็ได้มั้งครับ...

ทำไมผมตงิดๆว่าคนเปิดซิงกลอนคือญาติเด่น ไม่ก็เด่นแฮะ... รู้สึกเหมือนตอนทำนั่นดูอ่อนโยนผิดปกติ...

ไม่น่าใช่เด่น เพราะว่าสนิทกัน ถ้าเป็นเด่นจริง กลอนน่าจะจำได้ และถ้าเด่นชอบกลอน ก็น่าจะมีตอนที่ดูแลใส่ใจกลอนมากกว่านี้ เรียกว่าไม่น่าจะรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับกลอนคืนนั้น ถึงได้จับมือวิ่งไปเข้าแถว

เดาว่าน่าจะเป็นพัด ลูกพี่ลูกน้องเด่น แบบว่าที่ตอนนี้หายไป เพราะไปเก็บตัวที่ญี่ปุ่นไรแบบนั้น พอหมดตอนของพี่ฉลาม อาจจะได้ออกโรงเป็นคนถัดไป แต่พี่ระเบิดนี่เงียบหายไปเลยหรอ น่าจะมีติดต่อคุยกับกลอนมั่ง คนนี้ก็มีลุ้นจะเป็นพระเอกได้อีกคน  :laugh:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 6 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย อัพพุธที่ 27/10 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 02-11-2015 02:08:28
ร้องไห้ตาม
กลอนกับพี่ฉลามเพิ่งสวีทได้ไม่กี่ตอนก็เป็นอันมีเหตุให้ต้องแยกแล้วเหรอเนี่ย
คนที่ใช่ของกลอนจะเป็นใครน้า (ผิดหวังกับความรักบ่อยเกินไปแล้วนะ)
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 02-11-2015 16:18:16
รักบทที่ 3 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย (ตอนที่ 7 จบตอน)

ผมได้ทราบจากพี่นุ๊กว่าพ่อของพี่ฉลามออกจากโรงพยาบาลกลับมาที่บ้านแล้ว ตั้งแต่วันนั้น ผมไม่ได้ติดต่อกับพี่ฉลามเลย ผมไม่กล้าโทรไปและพี่เขาก็ไม่ได้โทรมา ที่มหาลัยเราก็ไม่ได้เจอกัน พี่แหบบอกว่าพี่เขามาเรียนแล้วรีบกลับเลย ผมก็ได้แต่รับรู้ เราไม่ได้โกรธกัน แต่ผมเข้าใจว่าพี่เขามีเรื่องต้องคิด ถึงไม่ได้ติดต่อผมมา


ผมเล่าเรื่องของผมให้เด่นฟัง แต่ก็ไม่ได้เล่าละเอียดมาก แค่บอกว่า พี่เขาต้องไปเรียนต่อเพื่อครอบครัว เด่นมันถามผมว่า ครอบครัวพี่ฉลามรับเรื่องผมไม่ได้ใช่ไหม เพราะผมคงไม่ได้มาร้องไห้เพราะแค่ต้องห่างจากคนที่ผมรัก มันบอกว่าผมก็คงรู้ก่อนคบว่าจะต้องลงเอยแบบนี้ แต่ผมยังเลือกที่จะรักพี่ฉลาม เพราะฉะนั้นก็อย่าได้เสียใจในสิ่งที่เลือก เพราะมันเชื่อว่าผมได้รับความสุขมากพอถึงเลือกที่จะเจ็บในวันหนึ่งข้างหน้า


“กลอน” เด่นมันเข้ามาในห้องของผม ในขณะที่ผมกำลังนั่งกอดเข่าเหม่อมองโมบายหอยอยู่

“มาตามไปกินข้าวเหรอ” ผมถามมันก่อนจะเหลือบไปดูนาฬิกา ทุ่มหนึ่งแล้ว มันมาตามผมไปกินรอบหนึ่งแล้วแต่ผมปฏิเสธไปว่ายังไม่หิว จะอ่านหนังสือก่อน

“มีคนมาหา” มันบอกผม ผมหันกลับไปมองมัน ด้านหลังของมันคือพี่ฉลาม หน้าตาของพี่เขาดูโทรมๆแต่ก็ยังดูดีอยู่เหมือนเดิม

“ขอคุยด้วยนะ” พี่เขาบอกผม

“กูจะออกไปข้างนอกนะ กินข้าวด้วยละมึง” เด่นบอกผม ผมพยักหน้าให้มัน แล้วมันก็เดินออกไป ผมรู้ว่ามันคงเปิดโอกาสให้ผมได้คุยกับพี่ฉลาม


พี่ฉลามเดินเข้ามานั่งตรงหน้าของผม พี่เขามองผมก่อนจะยิ้มให้ ผมน้ำตาคลอเลย แต่ก็พยายามกลั้นเอาไว้ ยิ้มกลับไปให้พี่เขาเหมือนกัน

“คิดถึงมากเลย” พี่ฉลามพูดกับผม ผมเม้มริมฝีปาก กลั้นก้อนสะอื้นที่มันตีตื้นขึ้นมาแล้ว แต้น้ำตามันกลั้นไม่อยู่จริงๆ มันไหลกลิ้งลงมาจนพี่ฉลามต้องเกลี่ยออกให้ ผมว่ามือพี่เขาสั่นๆ

“พี่ขอโทษนะที่ทำให้เรื่องมันออกมาแบบนี้” พี่เขาพูดต่อ ผมรีบพยักหน้า จับมือพี่เขามาแนบที่แก้มแล้วร้องไห้ พี่เขาใช้มือที่ว่างอีกมือลูบหัวผม

“พี่ต้องไปเรียนต่อ พ่อพี่อาการไม่ค่อยดีเลย ระหว่างนี้พี่นุ๊กจะช่วยดูแลที่บ้านให้” ผมพยักหน้ารับรู้อีก ไม่สามารถพูดอะไรได้ในตอนนี้จริงๆ
 
“พี่อยากบอกให้กลอนรอนะ แต่พี่ทบทวนหลายรอบแล้ว...” พี่ฉลามหยุดพูด ผมเงยหน้ามองพี่เขา พยักหน้าให้อีกก่อนจะจูบไปที่มือของพี่ฉลาม

“อย่ารอพี่เลย พี่ขอโทษที่สุดท้ายแล้วก็ต้องเลือกพ่อ พี่ไม่อยากให้กลอนมารอคนเห็นแก่ตัวเองแบบพี่ พี่รู้ว่าแต่ละวันของคนที่รอมันเป็นยังไง” พี่ฉลามเสียงสั่นๆ

“รู้ไหม หนึ่งอาทิตย์ที่พี่ไม่ได้ติดต่อกลอน แม่ง โคตรคิดถึง โคตรปวดตรงนี้เลย” พี่ฉลามจับมือผมไปจับที่หน้าอกข้างซ้ายของพี่เขา สีหน้าของคนที่ดูแข็งๆอย่างพี่ฉลามดูเจ็บปวดจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าพี่เขาก็ร้องไห้เหมือนกัน

“พี่อยากทำเพื่อเราสองคนนะ”

“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรจริงๆ” ผมเปิดปากพูดเป็นครั้งแรกก่อนจะโผไปกอดพี่ฉลาม ร้องไห้กับอกพี่เขา พี่เขาก็กอดผมแน่นเลย

“ขอวันนี้อีกวันได้ไหมครับ อีกวันเดียว” ผมบอก เราสองคนนั่งกอดกันร้องไห้ ชีวิตที่เหมือนโลกจะแตกสลายในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้ามันคงจะเป็นแบบนี้สินะ

“พี่ขอโทษนะ ขอโทษ”


พี่ฉลามพูดแต่คำว่าขอโทษ ผมไม่ได้โกรธพี่เขาเลยจริงๆ ผมเข้าใจ เพราะเข้าใจถึงได้เสียใจ เสียใจที่ไม่สามารถให้ในสิ่งที่จะทำให้พี่เขามีความสุขได้ ถ้าเพียงผมเกิดเป็นผู้หญิง เราคงไม่ต้องมานั่งร้องไห้กันแบบนี้ แต่ในความเสียใจ ผมดีใจที่พี่เขาตัดสินใจแบบนี้ มันอาจจะดูว่าพี่เขาไม่ต่อสู้เพื่อคำว่าเรา แต่ผมเป็นใคร เพิ่งเจอพี่เขาได้ไม่ถึงครึ่งชีวิตเลย เขาควรเลือกคนที่รักเขามาทั้งชีวิตมากกว่า  ต่อให้วันนี้เขาต่อสู้เพื่อรักของเรา วันหน้าก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าเราสองคนจะไม่เลิกกัน ถึงเลิกกันก็คงไม่ทำให้ชีวิตพี่เขาแย่ลง แต่ถ้าเขาทิ้งอนาคตที่พ่อแม่วางให้ นั่นอาจจะทำให้ชีวิตเขาเสียสิ่งดีๆไปมากกว่าก็ได้


“กลอนหิวแล้ว กินข้าวกันนะ” ผมบอกพี่เขาหลังจากที่พายุดราม่าผ่านไปได้สักพัก ผมเริ่มแสบท้องจริงๆ กลัวจะปวดจนเสียช่วงเวลาดีๆไป

“กินลงเหรอ” พี่เขาถามผมแต่ก็ยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มที่ผมจะไม่มีวันลืมเลย

“ลงสิ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป พี่ก็ต้องทำชีวิตให้ดีนะ สู้ๆ” ผมบอก ผมไม่ได้พยายามร่าเริงนะ ผมร่าเริงจริงๆ ไม่ได้เจอพี่เขาเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมาก ตอนนี้พี่เขาอยู่ตรงหน้าผมแล้ว ผมไม่อยากมานั่งร้องไห้จนกินเวลาที่เหลืออยู่ของผมหรอก ถึงพี่เขาจะไม่ได้ไปเมืองนอกในวันสองวันนี้ แต่ความสัมพันธ์ของเรามันไปต่อไม่ได้ ครอบครัวพี่เขาคงรับไม่ได้จริงๆ ผมก็ไม่อยากต่อเวลาความเจ็บปวดของตัวเองเหมือนกัน

“พ่อกับแม่ไม่ได้รังเกียจกลอนนะ” พี่เขาบอกผมเมื่อเราสองคนออกมานั่งกินข้าวด้วยกันที่ห้องรับแขกเล็กๆ แต่ยิ่งเล็กยิ่งดี ผมอยากให้ผมใกล้ชิดกับพี่เขาให้ได้นานที่สุด

“กลอนดีใจนะที่ท่านไม่โกรธกลอน แต่กลอนคงไม่กล้าไปหรอกครับ ไว้รอให้พี่กลับมาจากเมืองนอก ถ้าเรามีโอกาสได้เจอกันอีก กลอนค่อยเข้าไปหาท่านดีกว่า”

“ใจคอจะไม่ติดต่อกับพี่เลยเหรอ” พี่ฉลามถามผม

“ครับ” ผมบอกไปตามตรง พี่ฉลามมองหน้าผม ก่อนจะก้มหน้าทานข้าวเงียบๆ ผมก็ต้องรักษาเยียวยาจิตใจของผมเอง ขอหักดิบเลยดีกว่า

“อย่างน้อยพี่ก็อยากรู้เรื่องของกลอนบ้าง”

“พี่ถามจากพี่แหบเอาแล้วกันครับ” ผมบอก พี่ฉลามถอนหายใจ วางช้อนข้าวแล้วยีผมตัวเองแบบที่ทำประจำเวลามีเรื่องไม่สบายใจ ผมลุกขึ้นแล้วเดินไปหาพี่เขา พี่เขารวบผมไปกอด พี่เขาซบใบหน้าที่หน้าท้องของผมแล้วถอนหายใจแรงๆอีกครั้ง

“กลอนรักพี่นะ กลอนไม่เคยเสียใจเลยที่เลือกรักพี่ พี่จริงใจกับกลอน ถึงแม้วันนี้มันไม่ได้เป็นแบบที่เราฝันเอาไว้ แต่พี่ทำให้กลอนมีแต่ความทรงจำที่มีแต่ความสุข พี่ทำให้กลอนลืมความทรงจำไม่ดีเรื่องความรักที่กลอนเคยมีไปหมดเลย” ผมลูบแก้มพี่เขาแล้วยิ้มให้ พอพูดก็เริ่มจะร้องไห้อีก แต่ก็ฝืนเอาไว้ ไม่อยากให้มันทรมานไปกว่านี้แล้ว

“แต่สำหรับพี่ กลอนทำให้พี่เจ็บปวด” พี่ฉลามพูดออกมา ผมอึ้งไปเมื่อพี่ฉลามพูดแบบนี้

“ทุกความเจ็บปวดของพี่คือความคิดถึง พี่จะอยู่ไหวไหมวะถ้าความคิดถึงมันมาตลอดแบบนี้” พี่เขากอดผมแน่นเลย ผมต้องเงยหน้าไม่ให้น้ำตามันหยดลงมาโดนพี่เขา สองคนกอดกันร้องไห้อีกรอบ ข้าวปลาไม่ได้กิน

“บอกแล้วว่ากินไม่ลง” พี่เขาพูดต่อ ผมเลยหัวเราะทั้งน้ำตา


คืนนั้นพี่ฉลามนอนค้างกับผม เราสองคนมีอะไรกันทั้งคืน มันเป็นคืนที่มีความสุขและเจ็บปวดมากในชีวิตของผม ยิ่งเข็มนาทีเดินผ่านไป เวลาของผมก็ใกล้จะหมดลง สำหรับคนอื่นผมไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม แต่สำหรับผม ผมเคยบอกแล้ว ความรักทำให้ผมรู้จักด้านที่อ่อนแอของตัวเองพร้อมทั้งรู้จักความเข้มแข็งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะมีขนาดนี้


ไม่มีคำว่ารักเกิดขึ้นในคืนนั้น แต่ผมมั่นใจว่าทุกสัมผัสของพี่ฉลาม ไม่ว่าจะอ่อนโยน เร้าร้อนหรือดุดัน ทุกอย่างมันคือคำว่ารักแล้ว ผมรู้ว่าทำไมพี่เขาไม่อยากให้ผมรอ เพราะเขาไม่อยากทำให้ผมเจ็บหากเขารักษาสัญญาไม่ได้ สิ่งดีสิ่งหนึ่งที่ผมได้จากผู้ชายคนนี้นอกจากความรักแล้วก็คือความจริงใจ ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าผมจะมีคนใหม่หรือใจผมจะรักใครได้อีกหรือเปล่า แต่ถ้าเราสองคนเกิดมาเพื่อกันและกัน เราอาจจะได้กลับมาเจอกันและรักกันในวันที่เหมาะสมอีกก็ได้ หรือถ้าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อยืนเคียงข้างกันในฐานะคนรัก ในอนาคตผมก็ยังยืนเคียงข้างพี่ฉลามในฐานะน้องชายที่เป็นกัลยาณมิตรต่อกัน เรายังคงมองหน้ากันได้ ยิ้มให้กันได้ มองชีวิตของกันและกันได้ ปรารถนาดีต่อกันได้ ห่วงใยต่อกันได้ ไม่โกรธเกลียดกัน


..ถ้าผมต้องรอ ผมก็คงจะรอวันที่ผมจะไม่เจ็บปวดเพราะความคิดถึงเช่นเดียวกันกับที่พี่ฉลามรู้สึก คือวันที่ความคิดถึงนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นความสุขใจเมื่อได้นึกถึงแทน..


ผมนอนมองห้องที่วางเปล่าไร้คนที่ผมรักสุดหัวใจ เริ่มร้องไห้อีกครั้ง ร้องจนหายใจแทบไม่ออก ก่อนที่พี่ฉลามจะไป ผมได้ยินเสียงพี่เขาร้องไห้ พี่เขาจูบแก้มผม หน้าผากผม ลูบหัวผมโดยที่ผมนอนหลับตาไม่ไหวติง ความเจ็บปวดในใจสะกดสั่งให้ผมอย่าลืมตา อย่ามองภาพพี่ฉลามเจ็บปวด อย่าจำภาพนั้น อย่าได้เห็นตอนเขาเดินจากไป ผมคิดว่าพี่เขารู้ว่าผมไม่ได้หลับ แม้ว่าเวลาของเราในฐานะ คนรัก จบลงแล้ว แต่ความรักมันยังอยู่ มันเลยทำให้ผมต้องอ่อนแออีกครั้งโดยที่ไม่คิดจะห้ามตัวเองเหมือนกัน


“ไหวไหมมึง” เด่นเคาะประตูแล้วเดินมาหาผม ผมรีบเช็ดน้ำตา ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มเพราะผมยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า

“อ่อนแออีกวันเดียวแหละ” ผมบอกมันเสียงอู้อี้

“ทำไมไม่แอบคบกันวะ” มันถามผม

“เราเกลียดการโกหก เราก็ไม่อยากทำแบบนั้นกับใคร ถ้าแอบคบกัน พี่ฉลามต้องคอยโกหกพ่อกับแม่เพื่อเรา อย่าเลยดีกว่า แบบนี้แหละ ดีแล้ว เดี๋ยวก็หาย”

“ให้มันหายเร็วๆเหอะ กูกลัวเพื่อนกูจะจมกองน้ำตาตายเสียก่อน กูให้มึงร้องไห้อีกครึ่งชั่วโมงนะ ไม่เอา สบนาทีดีกว่า มึงลุกอาบน้ำ วันนี้กูจะพามึงไปเปิดหูเปิดตา ห้ามปฏิเสธ”

“ไม่ไปได้เปล่า” ผมบอกมัน

“กูบอกห้ามปฏิเสธไง”

“ก็...” ผมอ้ำอึ้งๆ

“ไรของมึง”

“ขาเราสั่น เราคงไปไหนไม่ไหวอะเด่น อยู่บ้านนะ” ผมก้มหน้าบอกมัน มันเงียบไปก่อนจะหัวเราะออกมาเสียดัง

“แม่ง อดีตแฟนมึงนี่ตายอดตายอยากมาจากไหนวะ เมื่อคืนเล่นเอากูนอนไม่หลับ ห่า ท้างงงงคืน” มันพูดออกมาผมต้องมุดเข้าไปในผ้าห่มเลยก่อนจะเอาขายันมันให้มันออกไป ที่ยันมันเพราะคำว่าอดีตแฟนมันทำให้ผมรู้สึกปวดหนึบๆขึ้นมาน่ะสิ

“เออๆ ไม่ไปก็ไม่ไป งั้นเดี๋ยวทำไรกินกัน นั่งดูหนังผีกันเหมือนตอนเราเด็กๆ แต่ยังไงกูให้มึงร้องไห้ได้อีกสิบนาทีนะ”

“เออ รู้แล้วพ่อ” ผมบอกมัน มันถึงได้เดินหัวเราะออกไป แต่เอาจริงๆผมก็ลืมไปเลยว่าเมื่อคืนมันอยู่ ผมก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปเต็มที่ แต่ก็ช่างเถอะ อย่างน้องผมก็ได้รู้ว่า ชีวิตผมยังมีคนที่เป็นห่วงผม ไม่อยากเห็นผมร้องไห้ ผมจะรีบเข้มแข็ง ผมสัญญากับหัวใจตัวเอง

.....
....
..

(มีต่อข้างล่างค่ะ)

V
V
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย ตอนจบ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 02-11-2015 16:19:00
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


ชีวิตมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เราหวังอยากให้เป็น ผมไม่ได้ร้องไห้เหมือนโลกจะแตกสลายเท่าวันแรกๆ แต่ความเจ็บและความรักมันคงไม่ได้เจือจางไปไหน รักเท่าไหร่ก็ยังเจ็บเท่านั้น แม้ว่าผมกับพี่ฉลามจะยุติความสัมพันธ์ในฐานะคนรักลง แต่เราไม่สามารถยุติการเป็นพี่น้องร่วมสถาบันลงได้ อีกเดือนหนึ่งกว่าที่พี่ฉลามจะไปเรียนต่อ เรายังคงเจอกันในมหาวิทยาลัยบ่อยๆ ผมก็ส่งยิ้มให้พี่เขา เขาเองก็ทักทายผม แต่เราไม่ได้ไปไหนด้วยกันเหมือนเดิม ไม่ได้มามหาวิทยาลัยพร้อมกันหรือกลับด้วยกัน น่าแปลกที่บุ้งมันไม่ได้ถามผม กลับเป็นเพื่อนคนอื่นถามว่าผมโกรธอะไรกับพี่ฉลามรึเปล่า ผมเลี่ยงได้ก็เลี่ยงที่จะตอบ ส่วนใหญ่บุ้งจะเป็นคนเข้ามาช่วยแทรกเรื่องอื่นจนผมไม่ต้องตอบแทบจะทุกที ส่วนพี่แพรก็ยังคงตามติดพี่ฉลาม แต่ผมเห็นว่าพี่ฉลามไม่มีอาการอะไรตอบกลับ ผมก็ได้แต่แอบมองแบบนี้แหละครับ มันก็อดไม่ได้ที่จะยังมองในเมื่อพี่เขายังอยู่ตรงนี้


“กลอนรู้เปล่า วันนั้นพี่ไปที่บ้านไอ้หลามมันมา แม่ไอ้หลามมาแอบถามพี่ว่ากลอนสบายดีรึเปล่า แม่บอกถามไอ้หลามมันไม่ยอมตอบ แล้วพอก่อนจะกลับ พ่อมันก็มาถามพี่อีกว่ากลอนย้ายคอนโดเหรอ ท่านให้หลามโทรตามกลอนมาเล่นหมากรุกด้วยกันแต่มันไม่ยอมโทร” พี่แหบบอกผมในวันหนึ่ง ตอนที่ผมเดินไปขึ้นรถเมล์ พี่แหบเองก็กำลังจะกลับบ้าน พี่เขาเห็นผมเลยชวนผมไปนั่งกินบะหมี่ด้วยกัน

“เหรอครับ” ผมรู้สึกว่าหัวใจของผมมันแจ่มใสขึ้นเมื่อได้ยิน ผมดีใจที่ท่านทั้งสองคนไม่ได้เกลียดผม

“พี่รู้เรื่องกลอนกับไอ้หลามแล้วนะ คือไงดีละ บางทีพ่อแม่มันอาจจะแค่ตกใจ ไม่ลองไปหาท่านกันอีกรอบเหรอ ดูท่านรักกลอนนะ บางที.."

“ไม่ดีกว่าครับ แบบนี้ดีแล้ว” ผมบอกแล้วนั่งกินบะหมี่ต่อ พี่แหบเลยไม่กล้าพูดอะไรอีก


ผมรู้ว่าพ่อกับแม่พี่ฉลามเมตตาผม ท่านอาจจะแค่รู้สึกผิด ไม่ได้หมายความว่าท่านยอมรับได้ การที่ท่านดีขึ้น ผมมั่นใจว่าเพราะพี่ฉลามไม่ได้ติดต่อกับผมอีก ท่านคงมีความหวังว่าลูกชายตัวเองจะกลับไปรักผู้หญิงได้อีกก็ได้ ถ้าท่านรับได้จริง ผมมั่นใจว่าพี่ฉลามคงรีบมาหาผมแล้ว แต่เพราะพี่ฉลามรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ พี่เขาถึงไม่อยากพาผมไปเจ็บปวด ผมว่าผมรู้จักผู้ชายคนนี้ดี ผมโชคดีนะที่ครั้งหนึ่งเคยได้หัวใจของผู้ชายคนนี้มา

......
...
..


หนึ่งวันก่อนที่พี่ฉลามจะเดินทาง


“กลอน วันนี้ห้ามปฏิเสธแล้วนะ ยังไงต้องไปกับเรา ไม่มีเรื่องสอบให้อ้างแล้ว สอบเสร็จแล้วนะ” นี่ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่บุ้งมาบังคับให้ผมไปกินข้าวด้วย

“ไปก็ได้ เพราะพรุ่งนี้เราจะกลับบ้านไปหาแม่ยาวเลย” ผมบอก

“ไม่ไปส่งพี่ฉลามจริงเหรอวะแก”

“อืม” ผมพยักหน้า

“โอเค งั้นไปกัน มีอะไรจะเซอร์ไพรส์” บุ้งบอกผม ผมไม่ได้คิดอะไร ได้แต่มองลานหน้าตึกก่อนจะถอนหายใจ แล้วเดินตามบุ้งไป


บุ้งพาผมนั่งแท็กซี่เข้ามาในร้านอาหารที่ดูหรูหน่อยแถวๆทองหล่อ ผมชิงจ่ายค่ารถก่อนผม ผมเกรงใจแต่บุ้งบอกว่าแค่ผมมาด้วยบุ้งก็ยอมจ่ายทุกอย่างแล้ว ผมได้แต่ขำ มาครั้งนี้เพราะเกรงใจบุ้ง ผมบ่ายเบี่ยงมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าบุ้งจะชวนผมมากินที่หรูๆแบบนี้ ผมเดินตามบุ้งเข้าไป จนบุ้งไปหยุดอยู่ที่โต๊ะที่ตั้งอยู่มุมในสุด เป็นมุมที่อยู่ในโดมกระจกที่มีไม้เลื้อยเต็มไปหมด ดูวินเทจสุดๆ พอบุ้งเบี่ยงตัวหลบผมถึงกับหน้าเหวอด้วยความตกใจ


“พี่นุ๊ก” ผมมองหน้าพี่นุ๊กสลับกับมองบุ้ง

“นี่พี่ระเบิด ก็คือพี่นุ๊กนี่แหละ” บุ้งหัวเราะขำ ผมยังคงยืนหน้าเหวออยู่ สมองเริ่มทำงาน ทีแท้พี่ระเบิดคือคนผมรู้จักมาตั้งนานแล้วงั้นเหรอ แล้วบุ้งรู้หรือเปล่าว่าพี่ระเบิดรู้จักผม ผมงงไปหมดแล้ว ทำไมโลกมันกลมขนาดนี้ คนที่ผมคุยแบบไม่รู้จักหน้าตา ที่แท้คือพี่ชายของคนที่ผมรัก ผมดันไปปรึกษาเรื่องพี่ฉลามกับพี่ระเบิดตั้งหลายเรื่องด้วยสิ

“ขอโทษทีนะที่ทำให้ตกใจ เห็นกลอนไม่อยากให้ใครรู้จัก พี่เลยให้บุ้งปิดเอาไว้ก่อน แต่พี่ว่าเรารู้จักกันนานพอแล้วมั๊ง” พี่นุ๊กพูดกับผม บุ้งดึงมือให้นั่งลงข้างๆ

“ห้ามโกรธฉันนะเว้ย ไปโกรธพี่เบิดเหอะ ให้ปิดอยู่ได้ เกือบหลุดหลายรอบแล้ว” บุ้งรีบบอกผม

“พี่รู้ได้ไงว่าเป็นกลอน” ผมถาม

“แหะๆ ฉันหลุดเองแหละ” บุ้งยกมือสารภาพ ผมพอจะเข้าใจแล้ว ไม่ได้โกรธหรอก เพราะผมก็ไม่ได้ไว้ใจพี่ระเบิด ยิ่งรู้ว่าพี่ระเบิดคือพี่นุ๊กผมก็ยิ่งดีใจ อย่างน้อยเป็นพี่ที่ผมนับถือทั้งคู่ แต่ผมนึกขึ้นได้เรื่องที่ผมเคยเซ็กส์โฟนกับพี่ระเบิดผมก็เริ่มทำหน้าไม่ถูก

“เป็นเรื่องที่ดีนะที่เราไม่ต้องปิดบังอะไรกันแล้ว คนใกล้ตัวทั้งนั้น เรามารู้จักกันใหม่แล้วกัน เรื่องเก่าๆลืมไป” พี่นุ๊กพูดเหมือนรู้ว่าผมคิดอะไร ผมเลยยิ้มออก

“เย้ โล่งแล้ว แต่พี่ๆคนอื่นในกรุ๊ปไม่รู้หรอกนะว่ากลอนเป็นใคร เราไม่ได้บอก” บุ้งรีบบอก ผมพยักหน้ารับรู้

“ไปห้องน้ำก่อนนะ” บุ้งบอกก่อนจะเดินออกไป

“โอเคขึ้นไหม” พี่นุ๊กถามผม

“ครับ” ผมคิดว่าพี่เขาคงรู้เรื่องของผมกับพี่ฉลามแล้วโดยไม่ต้องอธิบายอะไร ผมปรึกษาไปขนาดนั้น

“อดทนหน่อยนะ ฉลามมันก็รักกลอนมาก ให้มันทำหน้าที่ลูก เดี๋ยวมันก็กลับมา” พี่นุ๊กบอกผม

“กลอนไม่รอหรอกครับ ต้องทำหน้าที่ลูกเหมือนกัน ไม่อยากยึดติดอะไร อีกนิดเดียวก็จบแล้ว แบบที่พี่เคยสอนกลอนไง เอาไว้มีงานมีเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ ถึงตอนนั้นอยากทำอะไรก็ค่อยทำก็ยังไม่สาย” ผมรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย พี่นุ๊กในฐานะพี่ระเบิดเคยสอนผมมากมายในการใช้ชีวิตเกย์ในสังคมไทย พอตอนนี้มาเป็นพี่นุ๊ก คนได้รู้เรื่องของผมในส่วนของกลอน ทำให้ผมสามารมีคนที่พูดได้ในเรื่องที่ไม่สามารถพูดกับใครได้

“พี่ดีใจนะที่เห็นกลอนเข้มแข็งแบบนี้”

“พี่บอกบุ้งให้คอยดูแลกลอนใช่ไหม บุ้งมันถึงไม่เคยเซ้าซี้ถามอะไรเลย” ผมถาม พี่นุ๊กยิ้ม

“พี่ทำไมไม่จีบบุ้ง” ผมถามอีก พี่ฉลามทำหน้าเหวอบ้างจนผมขำ

“เป็นพี่น้องกัน” พี่นุ๊กรีบตอบ จนบุ้งเดินกลับมาที่โต๊ะ

“นินทาบุ้งละสิ” บุ้งค้อน ผมหัวเราะ พี่นุ๊กก็ยิ้มๆ


วันนี้เป็นวันที่ผมได้หัวเราะมากที่สุดตั้งแต่วันที่เลิกกับพี่ฉลาม เพราะบุ้งเอาเรื่องของคนในกรุ๊ปมานินทาแบบขำๆ กรุ๊ปที่ผมลืมไปแล้วเพราะไม่ค่อยได้เข้าไปเลย ยิ่งตอนคบพี่ฉลามผมก็หายไปเลย ในสักวันหนึ่งเมื่อผมเรียนจบผมก็อาจจะไปกินข้าวกับทุกๆคน ผมเชื่อว่าทุกคนเป็นคนดี แต่แค่ยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะไปรู้จัก แค่วันนี้ได้รู้จักบุ้งกับพี่นุ๊ก ผมก็ถือว่าผมมีเพื่อนที่ดีในโลกที่ผมได้เป็นตัวเองเพิ่มมาอีก พี่นุ๊กมาบอกกับผมทีหลังว่า รู้ว่าเป็นผมตอนที่บุ้งบอกว่ากลอนเรียนคณะเดียวที่เดียวกับบุ้ง แล้วพี่นุ๊กแอบเห็นรูปรับน้องที่พี่ฉลามถ่าย เห็นผมถ่ายรูปคู่กับบุ้งเยอะ เลยเดาว่าน้องหนอนคือคนนี้แน่ มามั่นใจตอนคุยโทรศัพท์ พี่เขาจำเสียงผมได้ แต่ผมสิ จำเสียงพี่เขาไม่ได้ พอทานข้าวเสร็จพี่นุ๊กก็ไปส่งบุ้งก่อน ก่อนจะไปส่งผม เพราะคอนโดผมอยู่ตรงกันข้ามของพี่นุ๊ก อันที่จริง คอนโดนั้นเป็นของพี่นุ๊กนี่นา


“พรุ่งนี้ฉลามจะไปแล้ว จะไม่ไปส่งมันจริงๆเหรอ” พี่นุ๊กถามผม

“กลอนกลับบ้านครับ สงสารแม่ อยู่คนเดียว คงคิดถึงกลอนจะแย่แล้ว”

“กลอน อดทนเอาไว้นะ พี่ขอบใจกลอนนะที่ทำเพื่อครอบครัวของฉลาม วันหนึ่งกลอนจะได้เจอสิ่งๆดีจากความคิดดีๆที่กลอนทำอยู่”

“อย่างน้อยวันหนึ่งถ้าแม่รู้ว่ากลอนเป็นเกย์ ความดีของกลอนอาจจะทำให้แม่ลดความผิดหวังในตัวกลอนลง กลอนคิดแค่นี้แหละครับ”


พี่นุ๊กขับเข้ามาถึงในซอยบ้าน ผมแอบตกใจที่เห็นพี่ฉลามมายืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ที่หน้ารั้วบ้านของตัวเอง พร้อมกับเหม่อมองขึ้นไปที่คอนโดของผม พอพี่ฉลามเห็นรถพี่นุ๊กก็เลยหันกลับไปเปิดประตูรั้วให้ ฟิล์มรถมันมืด พี่เขาคงไม่เห็นว่าผมนั่งมาด้วย ผมตัวแข็งเลย ไม่ได้เห็นพี่เขาใกล้ๆมานานแล้ว


“จะเข้าไปในบ้านก่อนไหม” พี่นุ๊กถาม ผมรีบส่ายหน้า พอพี่นุ๊กจอดที่หน้ารั้ว ผมก็รีบเปิดประตูออก นึกว่าพี่ฉลามเดินกลับเข้าบ้าน ช่วงจังหวะที่ผมลง พี่ฉลามก็เดินมาที่ประตูรถพอดี พี่เขาดูอึ้งไปเมื่อเห็นผม

“ว่าไง” พี่นุ๊กชะโงกหน้ามาถามพี่ฉลาม กลายเป็นว่าผมต้องยืนคาอยู่ที่ประตูรถ โดยมีพี่ฉลามยืนขวางผมอยู่ พอพี่นุ๊กชะโกงหน้ามาถาม มือของพี่ฉลามก็จับหลังคารถข้างหนึ่ง ประตูรถข้างหนึ่ง ก้มหน้าไปตอบพี่นุ๊ก โดยมีผมยืนเกร็งตัวตรงแถมลืมหายใจในวงล้อมพี่ฉลาม นึกภาพออกใช่ไหมครับ

“ว่าจะยืมรถไปซื้อของหน่อย ขี้เกียจเอารถออก” พี่ฉลามบอกพี่นุ๊ก

“เอาสิ” พี่นุ๊กตอบก่อนจะหยิบกระเป๋าเอกสารของตัวเองแล้วลุกออกมา พี่ฉลามกลับมายืนตัวตรงแต่ยังไม่เอามือออก มองหน้าผมนิ่งๆ

“ยืมคนนั่งมาไปด้วยนะ” พี่ฉลามบอกพี่นุ๊ก พี่นุ๊กมองผมก่อนจะยักไหล่

“ถามเองสิ” พี่นุ๊กตอบ ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยพี่ฉลามดันผมกลับไปนั่งในรถ ก่อนจะปิดประตูแล้วตัวพี่เขาก็ดินอ้อมไปนั่งที่คนขับแล้วก็ขับออกไปเลย ผมนั่งเงียบมาตลอดทาง ไม่กล้าถามอะไร ใจเต้นโครมคราม

“ลงมาสิ” ผมไม่รู้เลยว่าพี่เขาขับพาผมมาที่ไหน มันเป็นชายทะเลนะ แต่ใช้เวลามาแค่ไม่นานเอง พอเห็นนกนางนวลเยอะๆถึงได้รู้ว่าเป็นบางปู แม่พี่ฉลามเคยเล่าให้ผมฟังว่าพ่อพี่ฉลามมาจีบแม่ที่นี่ แต่ลมแรงมาก เจอนกนางนวลบินใส่อีก เลยกลายเป็นเดทแรกที่ตลกมากในตอนนั้น ผมเดินลงจากรถ พี่เขาเดินนำผมไป พระอาทิตย์กำลังตกพอดีเลย แสงสีส้มสดตัดกับขอบน้ำทะเลดูสวยจัง

“เคยตั้งใจว่าจะพามาวันครบรอบเราคบกัน เลยคิดว่าอยากให้มันสมบูรณ์” พี่ฉลามบอกผม ผมเข้าไปยืนข้างๆพี่เขา มองไปเบื้องหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย

“เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ ขอให้พี่พบเจอแต่สิ่งดีๆ คนดีๆ ประสบความสำเร็จกลับมานะครับ” ผมอวยพรพี่เขาเลย พี่เขาหันมามองผม

“พี่เจอแล้วสิ่งดีๆคนดีๆอะ อวยพรให้ไม่เสียไปได้รึเปล่า” พี่เขาพูดกับผม ผมอึ้งไป น้ำตาลพาลจะไหลอีกแล้ว พี่ฉลามทำให้ผมรู้ว่า ที่ผมพยายามเข้มแข็งอยู่มาโดยตลอดมันไม่ได้ผลเลย

“ไม่อยากไปเลยว่ะ” พี่ฉลามยีผมตัวเองอีก เสียงเครียดๆ ผมรีบกลั้นน้ำตาที่มันจะไหลแล้วหันไปยิ้มให้พี่เขา

“มันทรมานแค่ตอนนี้แหละ เดี๋ยวเจอแหม่มขาวๆสวยๆก็หายเหงา” ผมแกล้งแหย่พี่เขา

“ไม่ได้เหงาแต่มันลืมคนๆหนึ่งไม่ได้” พี่เขาหันมาบอกผม

“ก็อย่าลืม อย่าลืมกลอนนะ” ผมบอกเสียงสั่นเลย ไม่คบกันก็ได้ แต่อย่าลืมผมเลย พี่เขาดึงผมมากอดทันทีเลยโดยไม่สนใจใคร

“ไม่ลืม พี่ไม่มีวันลืม พี่ไม่รู้ว่าพี่จะเจอใครอีกหรือเปล่ามันเป็นอนาคต แต่รู้ไว้นะ ในอดีตที่ผ่านมา พี่รักกลอนที่สุดแล้ว รักมาก รักมากนะ” พี่เขาบอก ผมพยักหน้า สวมกอดพี่เขาแน่น ซบหน้าร้องไห้กับอกพี่เขา แค่นี้ก็ดีมากแล้ว

“ทำไมโลกใจร้ายกับเราจังวะ” พี่ฉลามถามผมก่อนจะเช็ดน้ำตาให้ใหญ่เลย พี่เขาก็ตาแดงๆ

 “พรุ่งนี้กลอนไม่ได้ไปส่งนะ กลอนจะกลับบ้าน”

“รู้แล้ว ไม่อยากให้ไปส่งเหมือนกัน กลัวไม่ยอมขึ้นเครื่อง นี่ก็สองจิตสองใจแล้วเนี่ย”

“พี่ฉลาม พี่จูบกลอนครั้งแรกที่ทะเล จูบลาที่ทะเลได้เปล่า” ผมถาม

“ใจร้ายชิบหายเลยวะคนเรา ยั่วอยู่เนี่ย” พี่เขาบ่นผมแต่ผมเห็นว่าผมเขายิ้ม ทั้งจากริมฝีปากและแววตา

“ตรงนี้เลยเปล่า” พี่เขาถามผม ผมส่ายหน้า พี่เขาขำ คงขำที่ผมใจไม่กล้าอยู่ดี พี่เขาจูงผมขึ้นไปในรถ ก่อนจะจูบผม จูบเนิ่นนานจนแทบขโมยลมหายใจจากผมไปหมด

“อย่าร้องไห้อีกนะ โลกใจร้ายกับเราแล้ว เราก็อย่าใจร้ายกับตัวเอง เข้าใจไหม เจ้าหนูจำไม”

“ครับ” ผมรับปาก แล้วพี่เขาก็พาผมกลับ แต่ขับช้ามาก ช้าจนโดนรถคันหลังบีบแตรใส่ ปกติพี่เขาจะอารมณ์ร้อน แต่นี่เขาไม่สนใจ ยังคงขับช้าๆต่อเวลาของเรา แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ในที่สุดก็มาถึงบ้าน พี่เขาจอดส่งผม ผมหันไปมองพี่เขาอีกครั้งให้เต็มๆตา

“กลอนจะไม่รอพี่หรอก แต่พี่กลับมาเร็วๆนะ” ผมบอก พี่เขามองผมด้วยสายตาที่ดูอ่อนโยนที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นผม

“อืม”

“แล้วพบกันใหม่” ผมบอก พี่เขาเอื้อมมือมาลูบที่แก้มของผม

“แล้วพบกันใหม่” พี่เขาตอบกลับมา ผมจูบที่มือของพี่เขาก่อนจะลงจากรถแล้วไม่หันกลับไปมองอีก จากกันด้วยรอยยิ้มแล้ว ก็อย่าให้เห็นน้ำตากันอีกเลย


..จากนี้ไป ไม่ว่าเราอยู่จะในสถานะใดต่อกัน ก็อย่าลืมกัน เดี๋ยวเราก็พบกันใหม่ กลอนรักพี่ฉลามมากนะ และความรักยังชัดเจนมาจนถึงทุกวันนี้ครับ..

......
....
...



“แม่ อยู่ไหนอ่า กลอนเสร็จแล้วนะ” ผมตะโกนถามแม่เพราะว่าลงมาจากข้างบนแล้วไม่เจอใคร วันนี้เราจะไปวัดกัน ผมตั้งนาฬิกาปลุกลงมาพาแม่ไปตลาดแต่เช้าแล้ว กลับมาก็รีบอาบน้ำ ห้าเดือนกว่าแล้วที่พี่ฉลามไปอยู่ที่อังกฤษ เราไม่ได้ติดต่อกัน ต่างคนต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเองเพราะเรายังขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่ การเลือกของเราแม้จะต้องเจ็บปวดแต่ผมกับพี่เขาก็ยอมรับได้ ผมบอกแล้วว่าพี่ฉลามคิดไม่ค่อยเหมือนใคร เหมือนจะเป็นคนดื้อหัวแข็ง แต่อีกมุมก็คือเป็นคนเข้าใจอะไรได้ง่าย หากมีเหตุผลพอที่มาทำให้พี่เขายอมรับได้ ผมเชื่อว่าพี่เขาคงได้คุยกับพ่อแม่ของเขาแล้ว ได้เห็นถึงเหตุผลของท่าน พี่เขาถึงได้จบเรื่องราวของผมกับเขาได้ง่าย แบบที่คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจหรือไม่เชื่อว่าเราจะแยกจากกันได้ แต่เราสองคนก็ทำให้เห็นแล้วว่าเราทำได้ และผมก็เชื่ออีกว่าพี่เขารักผมเท่าที่ผมรักเขา

“แม่.. อ้าว พ่อ” ผมเดินไปถึงหน้าบ้าน กำลังจะเรียกแม่ แต่เห็นพ่อยืนอุ้มเด็กคนหนึ่งอยู่ที่หน้ารั้วกับแม่ด้วย

“สวัสดีครับพ่อ” ผมยกมือไหว้ พ่อพยักหน้าแล้วยิ้มให้ผม

“ฉันกำลังจะไปวัด เอาไว้มาคุยตอนเย็นแล้วกัน” แม่บอกด้วยสีหน้าเรียบๆ ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน แต่พ่อทำหน้าเจื่อนๆก่อนจะพยักหน้า ส่วนผมเจอกับพ่อบ่อยๆ เวลาพ่อขึ้นมากรุงเทพก็จะนัดผมกินข้าวแล้วก็ให้เงินตลอด แต่ผมไม่เคยเจอแฟนใหม่ของพ่อ รู้แต่ว่ามีลูกด้วยกัน ผมเดาว่าน่าจะเป็นเด็กผู้หญิงที่พ่ออุ้มอยู่ น่าจะสองสามขวบได้ ผมนึกว่าแม่จะโกรธพ่อแบบไม่มองหน้าแล้วเสียอีก แต่ดูจากตอนนี้ก็น่าจะอภัยให้แล้วถึงได้พูดดีด้วยแม้จะยังไม่ปกติเหมือนเคยก็ตาม

“พ่อไปก่อนนะ เจอกันตอนเย็นนะลูก” พ่อบอก ผมยกมือไหว้ก่อนจะเดินตามแม่เข้าไปในบ้านและซ้อนรถของแม่ไปที่วัด ผมไม่ได้ถามแม่ว่าพ่อมาทำไม ได้แต่หิ้วปิ่นโตเดินตามไป วันนี้คนมาทำบุญที่วัดเต็มไปหมดเพราะเป็นวันเข้าพรรษาพอดี ผมกวาดตามองหาที่นั่ง เห็นไอ้เด่นมันกวักมือเรียกผม ผมเลยสะกิดบอกแม่ แม่เลยเดินเข้าไปหาครอบครัวของเด่น ผมยกมือสวัสดีพ่อกับแม่ของเด่น แล้วถึงหันไปเห็นใครอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆเด่น หน้าตาคุ้นๆ

“ไอ้พัดโบกไง จำได้เปล่า” กลอนถามผม ผมได้ยินชื่อก็นึกได้ว่าเคยเจอที่งานวันเกิดพ่อของเด่น ชื่อแปลกๆจำง่ายดีผมเลยนึกออกได้ไว ผมยิ้มทักไป อีกฝ่ายยิ้มกลับมา ผมจำแทบไม่ได้นะ ญาติของเด่นคนนี้ดูหล่อกว่าเดิม จำได้ว่าต้องไปเก็บตัวที่ญี่ปุ่น อากาศที่นั่นคงจะดี ดูผิวพรรณดี ขาวมากด้วย ปากงี้แดงดูสุขภาพดีสุดๆ แต่เป็นนักกีฬานี่นา ก็น่าจะดูดีเพราะได้ออกกำลังกาย

“กลอนผอมลงรึเปล่าลูก” แม่ของเด่นทักผม

“มันกินอย่างแมวดมอะม๊า” เด่นรีบฟ้อง

“กินให้มันเยอะๆหน่อย เธอดูลูกเธอสิ ผอมจะปลิวได้” ม๊าลูบหัวผมแล้วหันไปคุยกับแม่ แม่ได้แต่ยิ้ม ก็ม๊าเป็นห่วงเรื่องความผอมของผมมาตั้งแต่เด็กๆ บ่นผมเรื่องนี้ทุกที แต่ผมผอมๆแบบนี้ผมก็แข็งแรงนะ

“ไปเอาถาดกับถ้วยมาใส่กับข้าวให้แม่หน่อย” แม่บอกผม ผมเลยลุกขึ้นไปหยิบถาดกับถ้วยที่วัดเตรียมให้คนที่มาทำบุญใส่ถวายพระ ผมไปหยิบถาดมาให้แม่เสร็จ แม่ก็ส่งขันข้าวสวยให้

“ไปเอาข้าวใส่บาตร แม่ไปใส่มาแล้ว ตรงนั้น” แม่ชี้บอกผม ที่โต๊ะมีบาตรพระท่านเรียงอยู่ ผมเดินไปถึงที่โต๊ะวางบาตร แต่ช่วงที่กำลังจะตักข้าวใส่ มือของใครบางคนก็มาแตะที่แขนของผม ผมหันไปมองก็เห็นว่าพัดโบกมายืนอยู่ข้างหลังผม มือของพัดโบกแต่ที่แขนของผม

“ใส่ด้วย ยังไม่ได้ใส่” พัดโบกบอก ผมเลยไม่ได้ว่าอะไร แต่ตักข้าวใส่จนครบ ก่อนจะส่งขันข้าวให้พัดโบก

“ใส่เองด้วยสิ” ผมบอก

“ไม่เป็นไร แตะแล้ว ถือว่าตักบาตรร่วมขันแล้วปะ” พัดโบกพูดแล้วยิ้ม ผมอึ้งไป ก่อนจะหันกลับมาตักข้าวใส่บาตรให้หมด คราวนี้พัดโบกจับที่ข้อมือของผม ผมตกใจรีบบิดมือออก

“ชู่วๆๆ แค่ใส่บาตรเอง ตกใจทำไมละ” พัดโบกกระซิบผมเบาๆ ผมได้ยินเสียงกระซิบของลูกพี่ลูกของของเด่นแล้วต้องตกใจจนขันแทบหลุด เสียงนี่..เสียงในคืนนั้น


ผมรีบกลับมานั่งใกล้ๆแม่โดยมีพัดโบกเดินตามมานั่งข้างเด่น ผมไม่รู้ว่าตัวเองหน้าซีดจนกระทั่งเด่นมันถามว่าผมจะเป็นลมรึเปล่า มือที่ถือขันข้าวยังคงสั่น แต่ผมก็ตั้งสติแล้วเก็บอาการจนเป็นปกติ ผมแค่กลัวว่าแม่จะรู้สิ่งแย่ๆที่ผมทำ ใจง่ายนอนกับใครก็ไม่รู้ ผมขอภาวนาว่าอย่าให้เป็นพัดโบกเลย เขาเป็นญาติของเด่นด้วย ผมไม่อยากให้เด่นมันรู้สึกแย่กับผม ผมสลัดความคิดออกแล้วตั้งใจทำบุญ เผื่อผลบุญจะให้คำภาวนาของผมเป็นจริงด้วยเถิด



****โปรดติดตามไดอารี่ชีวิตของกลอนในตอนต่อไปตอนหน้านะคะ****


คู่กันแล้วก็จะไม่แคล้วกันหรอก เข้มแข็งและมีสติดีมากกลอนที่รัก เจ็บแต่เข้าใจเนอะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 02-11-2015 16:43:00
 :mew6:  แงๆ สงสาร มันแย่ตรงที่เลิกกันทั้งที่ยังรัก แต่ก็ตามนั้น ถ้าคนมันคู่กันก้อหนีกันไม่พ้นหรอก

 :L1: 
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 02-11-2015 17:07:55
มันสุขปนเศร้า แต่กลอนกับพี่ฉลามเก่งมากจริงๆ ที่เข้าใจกันแบบนี้ :กอด1:
เซอร์ไพรส์มากที่พี่นุ๊กคือพี่ระเบิด เหลือเชื่อมากๆ แต่ก็ดีที่พี่ที่ดีของกลอนคือคนใกล้ตัว :impress2:
ความรักครั้งต่อไปของกลอนจะใช่พัดโบกไหมนะ ขอให้เป็นคนดีด้วยเถอะ :impress2:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 02-11-2015 18:59:43
แน่นในอกมาก
สงสารกลอนกับพี่ฉลาม แต่ก็รู้สึกดีที่จากกันด้วยดีนะ
รายต่อไปคือพัดโบกสินะ คนนี้จะเข้าถึงเส้นชัย ได้เป็นตัวจริงของกลอนรึเปล่า ลุ้นต่อไป
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 02-11-2015 20:52:35
ปกตินะเราไม่ชอบอ่านอะไรที่เศร้าๆหรือหน่วงๆ
แต่ตอนพี่ฉลาม - กลอนนี่นะเป็นอะไรที่มันวางไม่ลง
น้ำตาซึม
เจ็บแต่ก็อบอุ่นด้วยความรักที่รู้สึกเหมือนกับว่ามันเอ่อล้นออกมาตามตัวอักษรที่ได้อ่าน

อ้างถึง
สิ่งดีสิ่งหนึ่งที่ผมได้จากผู้ชายคนนี้นอกจากความรักแล้วก็คือความจริงใจ
อันนี้คือพรอันประเสริฐแล้วลูกเอ๋ย 
อยากบอกกลอนว่า You have been blessed.
เพราะว่ามันเป็นความรักที่ดีและยิ่งใหญ่มากๆ
ปัญหามันไม่ได้มีแค่ทางพ่อแม่พี่ฉลาม
แต่มีทางแม่และญาติของกลอนด้วย
ไม่รู้สิ  เราว่าวันหนึ่งถ้าพี่ฉลามกับกลอนยังตั้งมั่นมีใจให้กันอยู่
ถ้าเราเป็นพ่อแม่ของเด็กสองคนนี้
เราคงทนที่จะเห็นลูกเจ็บไม่ได้หรอก
แล้วกลอนก็เป็นเด็กที่ดีมากๆ
รักของสองคนนี้ก็อาจจะเป็นไปได้
แต่อย่างว่าชีวิตจริงไม่ใช่นิยาย
ทั้งพี่ฉลามและกลอนก็คงได้เจอใครระหว่างทางที่ปล่อยมือจากกันไป

พ่อกลอนจะกลับมาทำไม?
เอาลูกเมียใหม่มาเย้ยหยันแม่กลอนหรือไง
หรือว่าเมียใหม่ทิ้งลุกไว้แล้วไม่มีปัญญาเลี้ยง?

เป็นพัดโบกจริงๆสินะ   
พี่นุ๊กคือพี่ระเบิด
บุ๊งน่ารัก
เด่นก็แสนดี
ดีใจที่รอบตัวกลอนมีคนที่ดีๆค่ะ
ช่วยให้มีชีวิตดีขึ้นมากๆเลยค่ะ

ป.ล
อ้างถึง
คู่กันแล้วก็จะไม่แคล้วกันหรอก เข้มแข็งและมีสติดีมากกลอนที่รัก เจ็บแต่เข้าใจเนอะ

เรายังหวังได้ไหมเนี่ย?  มโนเองเองก็ได้เนอะว่าเป็นคนไหน
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 02-11-2015 21:59:29
เพียงความทรงจำ
กับความรู้สึกดีดี
..พี่ฉลาม..

มาเริ่มลุ้นกับความรักใหม่

ไม่รู้ว่าพัดโบก..คนนี้
จะมีแรงยืนโยกกับกลอน
ได้นานหรือแป๊บเดียว
กว่าคนก่อนๆ หรือเปล่า
หุหุ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 02-11-2015 22:15:01
คนนี้นี่เอง

ตอนนี้ก็รอดูเรื่องกลอนกับพัด
พ่อกลอนมาทำไม
แล้วก็พี่ระเบิดจะยังไง
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: LEO ที่ 03-11-2015 02:50:56
กลอนเข้มแข็ง และมีสติมาก  เป็นกำลังใจให้น่ะ....ตอนนี้ปิดท้ายด้วยการเปิดตัวพระเอกคนต่อไป 555

คนเขียน เขียนและเรียบเรียงได้ดีนะ ไม่รู้ว่าเขียนจากบันทึกของกลอน หรือจากคำบอกเล่า  จะยังไงก็คือเขียนดีอ่ะ ชอบครับ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 03-11-2015 11:32:03
กลอนสู้นะ รออ่านว่าจะเป็นยังไงต่อ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: bluecoco ที่ 03-11-2015 19:37:35
หูยอ่านแล้วหลงรักกลอนนะ...ไม่แปลกใจที่ใครๆก็รักกลอน
อยากให้ได้กับพี่ฉลามที่สุดเลย...เกิดมาแล้วได้รักคนแบบนี้ก็คุ้มค่าแล้วเนอะ...พี่ฉลามก็คงคิดแบบนี้
จำใจจากมันช่างทรมานจริงๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 03-11-2015 20:05:40
จชีวิตรักของกลอนนี่มันดราม่าจัดมาทุกรสเลยอ่ะ   แต่สิ่งที่ยอมรับเลยคือนางเสน่ห์แรงอ่าาาา  มีมาไม่ขาด
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 03-11-2015 20:16:44
ชายผู้เปิดซิงคนแรก กลับมาแล้ว เค๊ากลับมาพร้อมกับเต็งหนึ่งอย่างพี่ระเบิดด้วยจ้าาาาา ใครคะพระเอกงานนี้

เรื่องของพี่ฉลามเราซึ้งนะ ทำให้เราได้คิด ความรักกับความเป็นจริงที่เป็นไปได้บางทีมันก็สวนทางกัน
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: rotedump ที่ 05-11-2015 02:08:23
สงสารกลอน สงสารพี่ฉลาม.
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 05-11-2015 03:37:43
ถ้าหากเป็นคู่กันจริง เชื่อว่า
พี่ฉลามกับกลอนจะกลับมาพบและรักกันอีกครั้ง
สงสาทั้งสองคนเลย แย่มาก กับการที่รู้ว่ายังรัก
แต่หนทางทำให้เราไปด้วยกันไม่ได้
อึดอัดจัง แต่ความรักครั้งนี้ก็คงทำให้น้องกลอน
มีทัศนคติต่อความรักดีขึ้น และคงกล้าจะมีรัก
รออ่านชีวิตของน้องกลอนต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 05-11-2015 13:30:44
สนุกมาก
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 05-11-2015 16:14:12
เสียใจกับความรักของทั้งคู่ที่ไม่อาจสมหวังในวันนี้

แต่ก็ยังดีที่ได้จากกันทั้งๆที่ยังรู้สึกดีๆต่อกันนะคะ หวังว่าจะได้พบกันอีกในโอกาสหน้า ยังรออ่านต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 05-11-2015 19:55:43
ความรักไม่ได้ทำร้ายใครถ้ารู้จักรักเป็น  ยอมรับในความเข้มแข็งของกลอนและพี่ฉลามเลยค่ะ

ถึงต้องจากกันทั้งที่ยังรัก แต่ก็แค่จากเป็น ยังมีโอกาสมาพบกันอีก 

หวังว่ากลอนจะได้คบกับตัวจริงซักที ไม่ว่าจะเป็นพี่ระเบิดหรือพัดโบก เราก็แอบลุ้นกันต่อไป   o18
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 05-11-2015 21:28:13
หน่วงใจ......
แล้วมันจะผ่านไป
บทใหม่กำลังจะเริ่ม
หวังว่าฉลามจะเป็นฉลามไปตลอด  แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ก็ขอให้เก็บความรู้สึกดีๆที่มีให้กันไว้ตลอดไป
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 06-11-2015 14:45:22
สนุกมากเลยค่ะ รู้สึกเหมือนได้อ่านไดอารี่ของคนคนหนึ่งจริงๆ
น่าติดตามมาก ว่าสุดท้ายแล้ว กลอนจะได้มีความรักที่สมหวังไหม ฮือออ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 07-11-2015 07:52:47

กลอนเอ๋ย...
ทั้งเสียใจ และดีใจกับหนูด้วย
ความรักที่เพิ่งจบไปเป็นความรักดีๆที่อดใจหายไม่ได้ที่ต้องจากกัน
แต่เชื่อเถอะว่ามันจะตราตรึงในความรู้สึกของทั้งสองคนไปตลอด
ดีใจกับน้องเหลือเกินที่ได้มาเจอฉลาม (พี่ฉลามก็โชคดีที่ได้เจอ และรักน้อง)

เอาล่ะ... ความรักบทเก่าจบไป
รออ่านความรักครั้งใหม่ของน้องกลอนกันดีกว่า
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^ ^  :L2:

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 3 ตอนที่ 7 หัวใจที่ไม่ได้ปิดตาย จบตอน อัพ 02/11 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: fangdxxi ที่ 08-11-2015 18:55:24
เศร้าอะอ่านแล้วร้องไห้เลย
กลอนสู้ๆๆน้า
 :mew1:   :3123:  :3123:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 1 ล้างให้ออก UP 08/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 08-11-2015 19:09:59
บันทึกรักบทที่ 4 ล้างให้ออก ตอนที่ 1


ผมกลับมาจากวัดก็มาช่วยแม่ลงต้นไม้ ตอนนี้ที่บ้านของผมต้นไม้เยอะแยะไปหมด แม่ของผมเป็นคนชอบต้นไม้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พออยู่คนเดียวก็เลยทุ่มเทกับการแต่งสวนเต็มที่ แต่วันนี้ไม่ได้มีแค่ผมกับแม่เท่านั้น ยังมีอีกสองคนที่อาสามาช่วยแม่ของผมลงต้นไม้ก็คือเด่นกับพัดโบก ผมเห็นแม่หัวเราะได้ก็มีความสุข แม่ปลูกต้นไม้ไปก็สอนเรื่องเกี่ยวกับต้นไม้ต่างๆให้พัดโบกฟัง ดูแม่มีความสุขเมื่อได้พูดถึงสิ่งที่แม่รัก


“เสร็จเสียที ได้เด่นกับพัด แม่เบาแรงไปเยอะเลย” แม่เอ่ยชมสองคนนั่นระหว่างที่ผมเข้าไปชงน้ำแดงมาแจกทุกคน ทำไมไม่เห็นชมผมบ้างเลย ผมก็ทำนะ

“ผมก็คิดว่าถ้าปล่อยกลอนช่วยแม่คนเดียวคงจะไปเสร็จเอาตอนเปิดเทอมพอดี” เด่นมันแขวะผมตอนผมไม่อยู่ ดูมันครับ ไอ้เพื่อนขี้นินทา มันคงไม่รู้ว่าผมมาแอบฟังอยู่ไม่ไกล

“กลอนเขาไม่ถนัดลงแรงแบบนี้หรอก แต่แม่ก็ภูมิใจที่เขาเรียนเก่งเรียนดี ให้ไปสายวิชาการไปก็ดีแล้ว” แม่พูดจบผมก็ยิ้มออก

“แม่อยากให้กลอนทำงานอะไรเหรอครับ” พัดโบกถาม ผมเลยแอบยินฟังก่อน ยังไม่ได้เดินออกไป

“ใจจริงแม่ก็อยากให้เขารับราชการ มันมั่นคงดี แต่ก็ตามใจเขา แม่ก็แก่แล้ว แก่ตัวแม่ไม่ลำบากหรอก มีเงินบำนาญใช้ แม่ห่วงแต่กลอนนั่นแหละ แม่รู้ว่าเขาเลี้ยงตัวเองได้ แต่แม่กลัวเขาล้มเหลวในชีวิตครอบครัวเหมือนแม่”

“กลอนมันเข้มแข็งเหมือนแม่ แม่ไม่ต้องห่วงมันหรอกครับ ไม่ว่าจะยังไงเด่นก็จะช่วยดูแลมัน”

“แล้วกลอนมีแฟนบ้างไหม” ผมแทบทำถาดหลุดมือเมื่อแม่ถามคำถามนี้

“มีสิแม่” เด่นตอบ ผมแทบอยากจะเอาถาดตีหัวมันเดี๋ยวนี้เลย ไอ้เด่นอย่าพูดอะไรนะ

“จริงเหรอ” แม่ถามเสียงเหมือนประหลาดใจ

“หนังสือไงแม่ มันจะแต่งงานกับหนังสืออยู่แล้ว หลับนอนกับหนังสือทุกวัน ฮ่าๆๆ” ผมพรูลมหายใจเมื่อฟังเพื่อนตัวแสบพูดจบ ผมรีบเดินออกมาจากในบ้าน แอบมองพัดโบกที่เอาแต่ยิ้มอยู่ข้างไอ้เด่น

“นินทาอะไรเรา” ผมถามก่อนจะแจกน้ำแดงให้ทุกคน

“เปล๊า เนอะแม่เนอะ” ได้เด่นมันทำเสียงสูงเชียว

“นี่ถ้ากลอนเป็นลูกสาวแม่ยกให้เด่นไปแล้ว” แม่พูดจบไอ้เด่นก็สำลักน้ำทันที ผมหัวเราะขำเพื่อกลบเกลื่อนสีหน้าที่ตกใจอยู่เหมือนกันที่ได้ยิน

“แม่ โชคดีแล้วที่มันเกิดเป็นผู้ชาย ผมชอบเปรี้ยวๆ จี๊ดๆ เรียบร้อยแบบนี้ไม่เอาหรอกแม่” ไอ้เด่นรีบพูด แม่หัวเราะขำใหญ่

“ยกให้ผมก็ได้ ผมชอบคนเรียบร้อย” พัดโบกพูดแทรกขึ้นมา ผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าชา รีบส่งสายตาไม่พอใจไปให้
 
“หมายถึงถ้ากลอนเป็นผู้หญิงครับ” พัดโบกรีบพูดต่อ แต่ผมรู้ว่าสายตาหมอนั่นมันเจ้าเล่ห์มากๆ

“แม่ไม่ยกให้ใครหรอก แม่เลี้ยงได้ลูกคนเดียว ผู้หญิงสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อนด้วย อยู่คนเดียวก็มีความสุขได้เนอะลูกแม่” แม่ลูบศีรษะของผม ผมรีบสวมกอดแม่เอาไว้

“จริงด้วย กลอนอยู่กับแม่ก็ได้”

“อย่าเพิ่งกลับกันนะ เดี๋ยวแม่จะทำขนมปังหน้าหมูให้ทานกัน” แม่บอกก่อนจะลุกเดินกลับเข้าไปในบ้าน ผมก็หยิบเครื่องมือทำสวนไปเก็บในห้องเก็บของที่แม่ต่อเติมเอาไว้ที่ด้านข้างโรงจอดรถอีกที ระกว่างที่ผมกำลังเก็บเครื่องมือเข้าที เสียงประตูห้องเก็บของเปิดออก พอผมหันไปดูพัดโบกก็มายืนประชิดตัวผมแล้ว ผมรีบใช้ศอกดันตัวพัดโบกออก

“เข้ามาทำอะไร” ผมถาม พักโบกชูสายยางที่ม้วนเก็บเรียบร้อยแล้วให้ผมดู

“เอาวางไว้ เดี๋ยวเราเก็บเอง” ผมบอก ห้องเก็บของมันแคบ อึดอัด ที่สำคัญ ผมไม่อยากอยู่กับพัดโบกสองคน

“วางถึงเหรอ ตอนเอามา เราหยิบมาจากบนโน้น” พัดโบกชี้ไปที่ชั้นที่อยู่เหนือหัวขึ้นไป

“เดี๋ยวใช้บันไดเอาได้”

“อะ ถือ” พัดโบกส่งสายยางให้ผม ผมรับเอาไว้ แต่สายยางแทบร่วงหลุดมือเมื่อพัดโบกจับเอาผมแล้วดันขึ้นเหมือนอุ้ม คือผมก็ไม่ได้ตัวเล็กมากมาย ถึงจะผอมก็เถอะ แต่ผู้ชายคนนี้ยกผมเหมือนผมเป็นแค่เก้าอี้ตัวหนึ่ง

“เฮ้ย ทำอะไร ปล่อยเราลง” ผมรีบบอก

“รีบวางก็เสร็จแล้ว เร็วดิ” เสียงของพัดโบกดูจริงจัง ผมเลยรีบดันสายยางเข้าไปวางบนชั้น แล้วหมอนั่นก็วางผมลง

“ก็แค่นี้” หมอนั่นพูดจบก็เดินออกไปเลย ผมสิ ยังตกใจอยู่เลย ผมว่าผมจำเสียงได้ แต่มาคิดอีกที อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ดูท่าทางเขาไม่ออก ก็ดูแมนๆปกติ ผมอาจจะคิดมากไป ร้อนตัวไปเอง


เรานั่งคุยกันระหว่างที่รอเวลาขนมปังหน้าหมูของแม่เสร็จ ผมก็ได้รับรู้เรื่องที่ประหลาดใจมากๆเกี่ยวกับพัดโบก อันที่จริงแล้วพัดโบกไม่ได้เป็นนักกีฬา ผมคิดไปเองเพราะได้ยินคำว่าไปเก็บตัว แล้วรูปร่างของพัดโบกก็ดูดี ดูแข็งแรง ใครจะไปคิดว่าหมอนั่นเรียนเกี่ยวกับด้านอาหาร เด่นบอกว่า พัดโบกชอบทำขนมมาตั้งแต่เด็กๆ มีพรสวรรค์ ไปเรียนกับเชฟชาวญี่ปุ่นเพื่อไปแข่งทำขนมหวานที่ปารีส ผมอึ้งไปเหมือนกัน นับกันแล้วก็อายุมากกว่าผมปีเดียว แต่ได้ทำในสิ่งที่รักและก็ก้าวไปไกลได้ขนาดนี้


“คืนนี้ว่าจะไปคาราโอเกะ ไปเปล่า เดี๋ยวกูมารับ” เด่นถามผมหลังจากที่ได้กินขนมปังหน้าหมูเสร็จ พอแม่ของผมได้รู้ว่าพัดโบกเก่งเรื่องทำขนมก็คุยกันถูกคอยกใหญ่  แถมยังขอให้พัดโบกมาสอนทำเค้กบ้าง เพราะแม่อยากทำหลังจากที่เกษียณอายุราชการแล้ว

“แม่จะให้ไปรึเปล่าไม่รู้” ผมบอก ใจก็ไม่อยากไป แต่รู้ว่าพ่อจะมาคุยอะไรกับแม่ก็เลยอยากให้ท่านอยู่คุยกันสองคน

“มึงรอแป๊ป กูไปขอให้” เด่นพูดจบก็ดินกลับเข้าไปในบ้าน

“ผอมลงนะ” พัดโบกพูดกับผมก่อน

“ก็ปกตินะ” ผมตอบไป

“ไม่ปกติ เอวนิดเดียว” พออีกฝ่ายตอบกลับมาผมก็ทำหน้าไม่ถูก

“ปกติ”

“โอเค ปกติก็ปกติ” พักโบกยกมือทำท่ายอมแพ้

“เราทำอะไรให้โกรธรึเปล่า” พัดโบกถามผม หลังจากที่ผมเงียบไปอีก รู้สึกอึดอัดยังไงบอกไม่ถูก แต่พอได้ยินคำถามก็รู้สึกว่าตัวเองตั้งแง่ไปรึเปล่า

“เปล่าหรอก ร้อนเลยหงุดหงิดนิดหน่อย” ผมแก้ตัว รู้สึกผิดเหมือนกัน พัดโบกก็ไม่ได้ทำอะไร มันเป็นเพียงการคาดเดาของผม อีกอย่าง ถึงจะใช่พัดโบกจริงๆ ผมจะโกรธเขาก็ไม่ได้ ผมสมยอมเอง ผมผิดเองที่ไม่รู้จักยับยั้งความต้องการที่เกิดขึ้นในคืนนั้น
“ชอบกินขนมอะไร” พักโบกเปลี่ยนเรื่อง

“เอแคลร์” ผมตอบดีๆ น้ำเสียงไม่ห้วนเหมือนตอนแรกๆ

“ไส้กาแฟเหรอ”

“รู้ได้ไง” ผมถาม ผมชอบเอแคลร์ไส้กาแฟจริงๆ

“คนชอบเอแคลร์ไส้กาแฟจะชอบมีเซ็กส์ที่เร้าร้อน” พัดโบกพูดจบก็ยักคิ้ว ส่วนผมนี่หน้าร้อนวูบเลย โอ้ย ไม่น่าญาติดีด้วยเลยจริงๆ

“บ้า ตรรกะบ้าๆ” ผมต่อว่าออกไปทันที อีกฝ่ายหัวเราะ จนเด่นเดินกลับมาได้จังหวะทำลายความอึดอัดนี้พอดี

“แม่มึงโอเค หัวค่ำกูมารับ” เด่นบอกผมก็พยักหน้าให้มัน ผมไม่ได้มองหน้าพัดโบกหรอก เดินกลับเข้าไปในบ้านเลย ผมว่าผมควรจะแน่ใจได้แล้วมั๊งว่าคนแปลกหน้าในคืนนั้นจะเป็นหมอนี่จริงๆ


พอหัวค่ำเด่นก็ขับรถมารับผมตามเวลาที่นัดกันเอาไว้ ตอนที่ผมจะออกจากบ้าน พ่อก็มาพอดี แต่คราวนี้มาคนเดียว ผมนึกห่วงแม่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าพ่อจะมาพูดอะไรให้แม่เสียใจอีกรึเปล่า แต่ถึงพ่อจะเสียในเรื่องนี้ พ่อก็ไม่ใช่คนไม่ดี ผมหวังว่าเรื่องที่คุยอันจะเป็นเรื่องที่ตกลงกันได้ก็แล้วกัน


ผมไปถึงโรงแรมใหญ่ประจำจังหวัดที่มีห้องคาราเกะที่ทันสมัยที่สุดในตอนนั้น เข้าไปถึงก็เจอคนหลายคนเลย ส่วนใหญ่ผมก็พอจะคุ้นเคยบ้างเพราะเป็นญาติๆของเด่น มีผู้หญิงมากันหลายคน พัดโบกก็นั่งเป็นไข่แดงอยู่ในกลุ่มสาวๆด้วย ผมทักทายทุกคนก่อนจะไปนั่งที่โซฟาที่ตั้งอยู่มุมห้อง ในห้องมีจอโทรทัศน์เครื่องใหญ่ตั้งอยู่ มีเครื่องสีดำที่ให้เราเอาไว้เลือกเพลงที่จะร้อง สาวๆแย่งรีโมทกันใหญ่ ผมได้แต่นั่งดู เด่นสั่งไวน์ขวดเล็กๆมาให้ผม แต่ผมไม่ได้ดื่มหรอก จนได้ฟังเพลงที่พี่ฉลามเคยร้องให้ผมฟังบ่อยๆ ผมถึงกับยกไวน์มาดื่มเพราะไม่อยากให้อารมณ์จมดิ่งไปกับเพลง ผมเริ่มรู้สึกอยากกลับบ้าน แต่เห็นเด่นมันกำลังป้อสาวอยู่เลย แล้วตอนนี้มันก็หายไปไหนไม่รู้ ผมเลยกระซิบบอกกับญาติอีกคนของเด่นว่าผมจะกลับบ้าน ดูเวลาแล้วยังไม่ดึกมาก รถสามล้อเครื่องน่าจะยังมีอยู่ ผมออกมาก็เจอพัดโบกยืนทำมิวสิควีดีโออยู่ที่หน้าทางเข้าโรงแรม มองที่พื้นเห็นขี้บุหรี่ด้วย นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าหมอนี่จะสูบบุหรี่


“จะกลับเหรอ เราไปส่ง” พัดโบกบอก

“กลับเองได้ จะได้ไม่ต้องเสียงเวลากลับไปกลับมา”

“ไปเหอะ เบื่อเหมือนกัน ขี้เกียจอยู่” พัดโบกเดินนำผมไปที่รถโดยไม่ฟังคำตอบจากผมเลย ผมชั่งใจอยู่ก่อนจะตัดสินใจเดินตามไป พัดโบกไม่ได้พาผมกลับบ้าน แต่พาขับรถวนรอบเมือง ไปจอดรถอยู่ที่คูเมือง ซึ่งก็ไม่ไกลบ้านของผมเท่าไหร่

“อกหักมาเหรอ” พัดโบกถามผม ผมหันไปมอง นึกเคืองเด่นที่เล่าให้หมอนี่ฟัง

“รู้ได้ไง” ผมถามทั้งที่โทษไอ้เด่นไปแล้ว

“ก็เห็นฟังเพลงรักแล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้”

“เปล่าสักหน่อย”

“อย่าหลอกตัวเอง”

“ยุ่งอะไรด้วย”

“แล้วทำไมถึงยุ่งไม่ได้ละ”

“ก็นายไม่ใช่เพื่อนเราด้วยซ้ำ”

“ก็ไม่ใช่เพื่อนไง จริงไหม”

“............” ผมไปต่อไม่ถูก สมองผมกำลังคิดไปต่างๆนาๆว่าควรทำยังไงดี

“คืนนั้น ตอนวันเกิดคุณลุง นาย..นายค้างที่บ้านของเด่นใช่รึเปล่า” ผมตัดสินใจถามให้รู้เรื่อง

“เปล่า” พัดโบกปฏิเสธ ผมนิ่งไป ไม่ใช่พัดโบก รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก

“กลับตอนตีสี่ได้มั๊ง” ความโล่งอกเมื่อครู่หายวับไปในทันที

“..........................” ผมกัดริมฝีปาก กำลังคิดว่าควรพูดออกไปดีหรือไม่ดี จนพัดโบกขยับมาใกล้ผมแล้วเอาหัวแม่มือมากดริมฝีปากของผมออกจากฟันของผมเบาๆ ก่อนจะขยับกลับไปนั่งตามเดิม

“กัดทำไม ไม่เจ็บเหรอ ตอนเราอยู่ที่ญี่ปุ่นนะ ลูกสาวของครูที่สอนเรากัดริมฝีปากแบบนี้ ครูดุราวกับเป็นเรื่องใหญ่เลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ห้ามแลบลิ้นเลียบ่อยๆด้วย” พัดโบกพูดยาวกว่าทุกที แต่นี่สิ นั่งเกร็งไปหมดแล้ว จู่ๆก็มาจับปากผม

“ไปอยู่ที่โน้นเป็นไงบ้าง” ผมตัดสินใจที่จะไม่พูดเรื่องคืนนั้น แต่ชวนคุยเรื่องอื่นแทน

“ก็ดี ชอบ แต่การอยู่ต่างบ้านต่างเมืองมันก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด คนละประเพณี คนละขนบธรรมเนียม บางทีทำอะไรผิดแบบที่ไม่รู้ตัว แต่ทุกอย่างมันคือประสบการณ์ที่ดีในชีวิต” พัดโบกพูดแบบนี้ทำให้ผมนึกถึงอีกคนที่อยู่ไกลบ้าน ไกลผม เขาจะเป็นยังไงบ้าง

“แฟนอยู่ไกลเหรอ” พัดโบกถาม ผมหลุดออกมาจากความคิดถึงใครคนนั้น

“ไม่ได้เป็นแฟนแล้ว” ผมก็ไม่รู้ทำไมถึงได้พูดออกไปทั้งที่ทีแรกยังไม่ไว้ใจหมอนี่อยู่เลย

“คู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก เดี๋ยวก็เจอกันอีก” พัดโบกพูดออกมา ผมรู้สึกว่าหัวใจตัวเองมันเต้นตึกตัก คำว่า แล้วพบกันใหม่ที่ผมกับพี่ฉลามพูดกันในวันนั้น ถ้าได้พบกันใหม่ เราจะยังรู้สึกเหมือนเดิมไหมนะ

“กัดปากอีกแล้วนะ” พัดโบกมาคางผมให้หันไป ผมสบตาอีกฝ่ายอยู่สักพัก ก่อนจะรีบหันกลับไปมองเบื้องหน้าเหมือนเดิม

“แล้วจะต้องไปแข่งทำขนมเมื่อไหร่” ผมถาม

“อีกสองอาทิตย์”

“ถ้าชนะแล้วจะยังไงต่อเหรอ”

“ก็มีชื่อเสียงไง แต่ไม่ชนะหรอก เราไปเอาประสบการณ์ มีแต่คนเก่ง ความฝันเราแค่มีร้านขนมอร่อยๆ ที่ไหนก็ได้”

“เรานึกว่าพัดโบกเป็นนักกีฬาเสียอีก”

“เหรอ มีแต่คนคิดงั้น หรือไปเป็นนักกีฬาดี มวยปล้ำ ดีไหม”

“ทำไมชอบพูดลามก” ผมสวนไป

“ฮ่าๆๆๆ เขินแล้วน่ารักนะ ผู้ชายเขาก็คุยติดเรทกันแบบนี้แหละ ทำไมละ”

“ผู้ชายแถวไหน แถวนี้ไม่มีใครพูด”

“โอเคๆ ถ้าไม่ชอบไม่พูดแล้ว เชื่อแล้วว่าเรียบร้อย”

“อยากกลับบ้านแล้ว” ผมบอก

“อีกเดี๋ยวสิ กลิ่นไวน์ยังมีอยู่เลย เดี๋ยวแม่ก็ว่าหรอก” พัดโบกพูดจบผมก็อึ้งๆไปนะ ไม่ทันคิดเรื่องนี้ สะเพร่าจริงด้วย ถ้าแม่ยังไม่นอนแล้วได้กลิ่นคงไม่ชอบใจแน่ๆ ถึงผมจะโต แต่ก็ยังเรียนไม่จบ แม่คงไม่เข้าใจหรอก ดีไม่ดีคราวหน้าไม่ให้ผมไปเที่ยวกลางคืนอีก แต่ตอนที่ผมอยู่กรุงเทพ แม่ไม่เคยถามหรือจับผิดนะ ทำนอง ไม่รู้ก็ไม่ว่า แต่อย่าให้รู้

“ขอบใจนะ เราไม่ทันนึกถึงข้อนี้ ทำไงดี ยังมีกลิ่นมากเลยเหรอ” ผมถามด้วยความกังวล

“ไหนลองพูดอีกทีดิ” พักโบกบอก

“ได้กลิ่นไหม” ผมพูด แต่ก็ต้องชะงักตกใจเมื่ออีกฝ่ายโน้มตัวเอาจมูกมาใกล้ปากผมเลย ผมผงะถอยหลังจนชนประตูรถ

“ยังมีอยู่ อมลูกอมนี่” พัดโบกตีหน้าตายพร้อมกับส่งลูกอมให้ผม ผมรับมาแกะใส่ปาก

“ป่านนี้แม่คงนอนแล้วละ ไปส่งเราเถอะ” ผมว่าผมยอมถูกแม่ว่าดีกว่าอยู่ต่อ ไม่ได้กลัวว่าพัดโบกจะมาทำอะไร แต่กลัวตัวเองนี่แหละครับ วัยฮอโมนไม่ควรมีอะไรมากระตุ้น แหะๆ

“โอเค” พัดโบกตอบรับแล้วพาขับมาถึงบ้านผมในที่สุด รถของพ่อไม่อยู่แล้ว ไฟหน้าบ้านเปิดเอาไว้ ไม่รู้ว่าแม่ยังรอรึเปล่า

“ขอบใจนะที่มาส่ง ขับกลับดีๆนะ”

“อืม แล้วเจอกันใหม่” พัดโบกพูดคำนี้อีกแล้ว ผมพยักหน้าให้ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้าน พัดโบกยังไม่ได้ขับกลับ รอจนผมเข้าไปในบ้านผมถึงได้ยินเสียงรถแล่นออกไป

ผมเข้ามาในบ้านก็เจอแม่นั่งดูทีวีอยู่ แม่บอกว่ามีเรื่องจะคุยกับผม ผมรีบบอกแม่ว่าขอไปอาบน้ำแป๊ปเดียวเพราะร้อนมาก ผมกลัวแม่ได้กลิ่นไวน์ที่ดื่มเข้าไป อาบน้ำแปรงฟัน เช็คว่าโอเคดีแล้วก็รีบลงมา สีหน้าของแม่ไม่ค่อยดี ผมไปนั่งลงข้างๆแม่ แม่ก็ถอนหายใจออกมา


“พ่อว่าไงเหรอครับ” ผมถาม

“พ่อเขาเอาพินัยกรรมของเขามาฝากแม่ แล้วก็ฝากให้แม่เป็นธุระให้” แม่เริ่มเล่าให้ผมฟัง

“ทำไมเหรอครับ เขาทะเลาะกับผู้หญิงคนนั้นหรอ”

“พ่อเขาเป็นมะเร็งตับ” ผมพูดไม่ออกเลย มันอื้ออึงและหน่วงๆ พ่อก็ดูปกติดีนี่นา

“ระยะไหนครับ”

“ระยะที่สอง แต่พ่อเขาไม่อยากประมาท อยากทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย เขาไม่ได้จดทะเบียนกับผู้หญิงคนนั้นหรอก ทุกอย่างที่สร้างมาด้วยกันกับแม่เขายกให้กลอนหมด ส่วนหลังจากที่เลิกกับแม่เขาขอให้ลูกอีกคน”

“มันมีโอกาสรักษาไหมครับ”

“แม่ก็ไม่แน่ใจ” แม่พูดจบก็ถอนหายใจ

“ผู้หญิงคนนั้นจะดูแลพ่อไหมครับ” ผมถาม รู้สึกอยากร้องไห้ แม่เองก็ตาแดงๆ แม่คงยังรักพ่ออยู่

“ก็หวังว่าจะดูแล แม่อยากให้ลูกหมั่นไปหาพ่อเขา กำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เป็นยารักษาที่ดีที่สุด”

“แม่ไม่โกรธพ่อแล้วใช่ไหม”

“แม่หายโกรธนานแล้วละ แต่มันก็ไม่เหมือนเดิมหรอก ได้แต่ปลง แม่ก็พยายามดูแลตัวเองให้ดี แม่อยากอยู่กับกลอนนานๆ อยากเห็นกลอนประสบความสำเร็จในชีวิต”

“กลอนไม่ยอมให้แม่หนีหายไปไหนหรอก” ผมลงไปนั่งกับพื้นแล้วซบหน้ากับตักของแม่ รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก น้ำตามันก็ไหลมาเอง ผมยอมเสียทุกอย่างที่มีในชีวิตเพื่อแลกกับการที่มีแม่อยู่กับผม

“กลอนน่าจะเรียนหมออย่างที่พ่ออยากให้เรียน” ผมบอกกับแม่

“ชีวิตคนเรามีพบก็มีจาก ทำทุกวันดีแล้วก็ไม่มีอะไรน่าเสียใจนะกลอน แม่ภูมิใจในตัวกลอนนะ ไม่ได้เป็นหมอ แม่ก็ภูมิใจ”

“กลอนรักแม่จัง” ผมจับมือแม่มาหอมหลายที แม่ก็ลูบศีรษะของผม

“ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ไปทำบุญกันอีกวัน” แม่บอก ผมรีบคำก่อนจะลุกมาหอมแก้มแม่


..ผมอาจจะไม่มีความฝันที่ชัดเจนเหมือนกับพัดโบก ผมรู้ว่าตัวเองชอบอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ชอบมันถูกหรือเปล่า มันจะพาผมไปพบความสำเร็จไหม แต่อย่างที่แม่บอก ถ้าทำวันนี้ให้ดีก็คงไม่มีอะไรน่าเสียใจ เรื่องของพี่ฉลามก็เหมือนกัน โชคดีที่เราสองคนตัดสินใจแบบนั้น แม้เราทั้งคู่จะต้องเสียน้ำตา แต่มันคงคุ้มค่าในอนาคตแน่นอน..


(มีต่อข้างล่างค่ะ)

V
V



หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 1 ล้างให้ออก อัพ 08/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 08-11-2015 19:10:51
ต่อจากข้างบนค่ะ


ปิดเทอมผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ผมเป็นพี่ปีสามแล้ว เริ่มเลือกลงสายวิชาเอกมากขึ้น ผมเลือกเอกโฆษณา ผมตั้งใจกับทุกวิชามากและผมก็ทำมันได้ดี ส่วนพัดโบกแพ้การแข่งขันที่ปารีส น่าจะเป็นการแข่งขันสำหรับเชฟที่อายุยังไม่มาก แต่ดูเหมือนพัดโบกไม่ได้เสียใจอะไรกับผลการแข่งขัน ก็คงเป็นอย่างที่เขาบอกว่าเขาแค่ไปหาประสบการณ์ หลังจากจบการแข่งขัน พัดโบกก็ไปเรียนที่ญี่ปุ่นเหมือนเดิม ผมติดต่อกับพัดโบกผ่านทางอีเมลล์ เราคุยกันเหมือนเพื่อน มีแตกต่างกว่าเพื่อนก็ตรงอีกฝ่ายชอบทะลึ่งใส่ผมตลอด แต่มันคงเป็นนิสัยขี้เล่นของเขามากกว่า ผมชินแล้ว แต่ผมก็ยังทำใจกล้าถามเขาไม่ได้ว่า คืนนั้นเป็นเขารึเปล่า


บุ้งมันก็พยายามถามผมว่าผมคบกับใครรึเปล่า ผมก็บอกว่าผมไม่มีใครจริงๆ แต่คนที่เข้ามาก็มีนะ เป็นผู้หญิงสักสองคน คนหนึ่งเรียนพยาบาล ผมไปเจอตอนที่พ่อไปรับเคมีบำบัด เธอเข้ามาฝึกงาน ก็หน้าตาน่ารักดี ถ้าผมชอบผู้หญิงก็คงมีใจให้เธอได้ไม่ยาก ส่วนอีกคนเรียนที่เดียวกับผม แต่อยู่คณะบริหาร คนนี้รุกผมมาก มาจีบตรงๆจนผมลืมไปเลยว่าตัวเองเป็นผู้ชาย แต่คนนี้เสือมันชอบ ผมเลยสั่งให้มันจีบ ซึ่งจุดนี้มันทำให้เสือมันสงสัยว่าผมเป็นเกย์รึเปล่า ผมอ้างว่าผมไม่ชอบผู้หญิงที่เข้ามาก่อนแบบนี้ ก็เลยพ้นข้อสงสัยไป ส่วนอีกคนที่เข้ามาจีบผมก็คือน้องมอส แต่ผมปฏิเสธ บุ้งช่วยกันให้สุดๆโดยยืนยันว่าผมไม่ใช่เกย์จริงๆ แต่ผมว่าน้องมันคงไม่เชื่อเท่าไหร่หลังจากที่เห็นพี่ฉลามมาขโมยตัวผมไปในคืนนั้น


ผมเรียนหนักแต่ก็ยังไปช่วยงานที่บริษัทของพี่เหิรเหมือนเดิม ส่วนเสาร์อาทิตย์ถ้าไม่ต้องอ่านหนังสือ ผมก็กลับไปหาแม่กับพ่อสลับกัน ผมเริ่มสนิทกับน้องสาวคนละแม่ของผม เธอน่ารัก สี่ขวบแล้ว กำลังจะเข้าเรียน เป็นเด็กช่างเจรจา พ่อบอกว่าหน้าตาเหมือนผมตอนเด็กๆ เพราผมตอนเด็กๆหน้าเหมือนผู้หญิง แฟนใหม่ของพ่อก็ไม่ได้มายุ่งอะไรกับผม แต่ผมดูแล้วว่าเธอก็ดูแลพ่อดี เธอคงจะรักพ่อผมจริงๆ เรื่องความรักมันยากที่จะกำหนดจริงๆว่าคนไหนจะเป็นคนสุดท้ายของเรา ผมเข้าใจพ่อ บังเอิญมาเจอคนที่ใช่กว่าแม่ แต่ไม่หมายความว่าผมเห็นชอบกับสิ่งที่พ่อทำ เพราะสำหรับผม ถ้าลองเลือกจะใช้ชีวิตกับใครสักคนจริงๆไปแล้ว ก็ไม่น่ามีสิทธิ์ทิ้งคนๆนั้นเอาไว้ข้างหลังเพียงเพราะเจอคนที่ใช่กว่า


ผมไม่ได้ข่าวของพี่ฉลามเลย ที่ไม่ได้ข่าวเพราะผมไม่ต้องการรับรู้ พี่แหบพยายามมาเลียบๆเคียงๆถามว่าอยากรู้เรื่องพี่ฉลามไหม แต่ผมปฏิเสธ พี่แหบก็สงสัยว่าผมมีคนอื่นรึเปล่า ผมก็ห้ามความคิดใครไม่ได้ คงแล้วแต่จะคิดกันไป ส่วนพี่นุ๊กไม่เคยเล่าเรื่องพี่ฉลาม พี่เขารู้นิสัยผมพอสมควร พี่นุ๊กเป็นพี่ชายที่ดีมากๆ คอยดูแลผมในหลายๆเรื่อง แต่ไม่เคยทำให้ผมลำบากใจเลยไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม ผมว่าผมรู้สึกได้นะว่าพี่นุ๊กรู้สึกพิเศษกับผม ผมก็รู้สึกดี แต่ดีในระยะที่ผมวางเอาไว้ในฐานะพี่ชาย ผมรู้ว่าบุ้งรักพี่นุ๊ก แต่เรื่องหัวใจต้องให้สองคนเป็นฝ่ายจัดการกันเอง


หลังจากการสอบปลายภาคเรียนที่สองของชั้นปีที่สามผ่านไป ผมเหลือเก็บวิชาอีกแค่สามตัว นอกนั้นก็จะเป็นการฝึกงาน ซึ่งผมไม่ได้กังวล เพราะว่าพี่เหิรให้ผมไปเข้าทำงานเต็มตัวได้เลย เท่ากับว่า เทอมที่สองของการเรียนปีสุดท้าย ผมก็จะได้งานทำไปด้วยเลย ปิดเทอมคราวนี้ผมไม่ได้กลับบ้าน เพราะอยากใช้เวลากับพ่อให้มากหน่อย โชคดีที่พ่อเข้าร่วมโครงการเกษียณก่อนกำหนดไม่ต้องไปทำงาน พ่อเลยย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพเพื่อง่ายต่อการรักษาตัว ส่วนแม่ ผมไม่ห่วงเท่าไหร่ เพราะท่านมีแม่ของเด่นเป็นเพื่อน ท่านทั้งคู่ไปเที่ยวต่างจังหวัดกันบ่อยๆ ไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง ผมก็ดีใจที่แม่ดูมีความสุข แม่บอกว่า โสดแบบนี้แสนจะสบาย ลูกก็โตแล้ว คราวนี้แม่จะไปเปิดหูเปิดตากับเพื่อนๆบ้าง


อย่างที่ผมบอกไป พอขึ้นปีสี่ผมมีเวลาว่างมากขึ้น วันนี้ผมว่างและรู้ว่าพ่อไปพบคุณหมอตามนัด ผมก็เลยแวะมาหาพ่อ เพราะอยากรู้ผลการตรวจ พี่นิ่ม ภรรยาใหม่ของพ่อพูดให้ฟังว่า คุณหมอพบจุดดำที่ตับ 2 จุด ซึ่งยังไม่ทราบผลว่าคืออะไร พี่นิ่มบอกว่าพ่อไม่อยากรับคีโมแล้ว เพราะว่าท่านมีความรู้สึกว่าอาการท่านแย่ลงกว่าเดิม ผมได้แต่ฟัง เพราะไม่มีความรู้เรื่องนี้เลยจริงๆแต่ก็ตั้งใจว่าคราวหน้าผมจะไปพบกับคุณหมอด้วย อยากรู้รายละเอียดให้มากกว่านี้


“กลอน ค้างที่นี่ไหมลูก ดึกแล้ว” พ่อถามผมหลังจากที่ผมอยู่ทานข้าวด้วยแล้วก็เล่นกับน้องสาวจนเพลินลืมเวลา

“ไม่เป็นไรครับพ่อ พรุ่งนี้กลอนต้องไปที่ทำงานแต่เช้า เจ้านายเขารับงานอีเวนท์เอาไว้ กลอนต้องไปช่วยเขา”

“แล้วไม่มีเรียนเหรอ”

“ไม่มีครับ”

“วันไหนว่างๆก็มาค้างกับพ่อนะ”

“ได้ครับ พ่อ..พ่อกินข้าวน้อยจัง ร่างกายส่วนดีของเราต้องการอาหารนะครับ กลอนรู้ว่าพ่อไม่อยาก แต่พ่อฝืนใจหน่อยนะครับ”

“พ่อกินแล้วอาเจียน มันทรมาน”

“เดี๋ยวกลอนจะถามคุณหมอว่าพ่อทานพวกอาหารเสริมได้รึเปล่า พ่อต้องมีกำลังใจนะให้ตัวเองนะ”

“อืม พ่อขอบใจนะที่กลอนไม่โกรธพ่อ ถ้าพ่อเป็นอะไรไป อย่าทิ้งน้องนะลูก”

“กลอนไม่ทิ้งน้องหรอกครับ แต่พ่อต้องบอกตัวเองว่าอย่าทิ้งเราสองคน น้องยังเด็กนะ น้องต้องการพ่อ พ่อต้องสู้กับมะเร็ง ไม่ใช้ให้มันชนะเรา นะพ่อนะ พ่อของกลอนสู้ๆ” ผมจับมือพ่อมาชูขึ้น พ่อหัวเราะแต่ท่านก็ร้องไห้ด้วย ผมไม่เคยทำแบบนี้กับพ่อเลย หมายถึงเล่นกันแบบนี้ ปกติพ่อจะเข้มงวดเจ้าระเบียบ ตอนนี้พ่อดูเหมือนเด็กงอแงคนหนึ่งตอนที่ป่วยไข้ ชีวิตคนเราก็แค่นี้จริงๆครับเป็นเด็ก โต แล้วก็เหมือนย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง

“พ่อทำไม่ดีกับลูกกับแม่เขาเลย พ่อขอโทษนะ” ผมรีบลุกมากอดพ่อ ผมไม่เคยเห็นน้ำตาของพ่อเลยตั้งแต่เกิดมา วันนี้พ่ออ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ ผมยิ่งต้องเข้มแข็งขึ้น ทั้งที่จริงๆแล้ว ผมเองก็อยากจะร้องไห้ออกมาดังๆเหมือนกัน ผมรักแม่มากเพราะแม่คือคนที่รักผมยิ่งกว่าอะไรในโลก แต่ผมก็รักพ่อเพราะท่านก็ปลูกฝังผมให้เป็นคนที่มีเหตุผลและใจเย็น พ่อกับแม่ทำให้ผมเป็นผมทุกวันนี้ ผมยังอยากอยู่กับท่านทั้งคู่ไปนานๆ


กว่าผมจะกลับมาถึงคอนโดก็ปาไปเกือบห้าทุ่ม เปิดประตูเข้ามาก็ต้องตกใจเพราะเจอพัดโบกเดินนุ่งกางเกงในตัวเดียวผ่านหน้าผมเข้าไปนั่งดูทีวีที่โซฟา


“เฮ้ย มาได้ไง เด่นละ” ผมถาม พยายามไม่โฟกัสจุดที่มันล่อแหลมกับสายตาของผม

“ไปกับแฟนมัน กินข้าวมารึยัง กินพิซซ่าไหม” พัดโบกถามผม

“กินมาแล้ว แล้วกลับมาตอนไหน ไหนว่าอาทิตย์หน้าจะมีงานขนมไง” ผมถาม ก็พัดโบกเพิ่งเมลล์มาบอกผมว่าวีคหน้าที่ญี่ปุ่นจะมีเทศกาลขนม ยังชวนให้ผมไปเลย ทำอย่างกับค่าเครื่องบินถูกๆ ไหนจะต้องขอวีซ่าอีก

“ไม่มีหรอก จะเซอร์ไพรส์ไง แล้วเซอร์ไพรส์ไหม”

“มาก แต่ไม่ได้เซอร์ไพรส์เพราะนายกลับมาหรอกนะ เพราะนึกว่าโจรโรคจิตมางัดห้อง” ผมบ่นก่อนจะเดินเอาของไปเก็บในห้อง จากนั้นก็อาบน้ำ เสร็จแล้วถึงเดินออกมา พัดโบกก็ยังนั่งที่เดิม แต่ที่เพิ่งเติมคือมาผ้าขนหนูมาพันเอวเอาไว้แล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย

“เด่นจะกลับเปล่า” ผมถาม

“ไม่รู้อะ แต่มันบอกให้เราไปนอนกับกลอน เพราะมันอาจจะพาแฟนมันมานอน”

“ก็นอนโซฟานี่ไง” ผมรีบบอกหน้าตื่นเลย

“ใจร้ายว่ะ” พัดโบกพูดคำนี้แล้วผมก็อึ้งไป ภาพพี่ฉลามลอยมาอีกแล้ว สองคนนี่มีอะไรคล้ายๆกันหลายอย่าง

“ก็ห้องนี้ก็มีแอร์ โซฟาก็กว้างจะตาย”

“เกิดเด่นมันพาแฟนมาละ เรานอนโป๊ทำไง เดี๋ยวออกไปเปิดโรงแรมก็ได้ ไม่ซีเรียส” พัดโบกพูดจบก็ยื่นพิซซ่าให้ผมอีก ผมส่ายหน้าแล้วก็นั่งคิดหลายตลบ

“นอนด้วยกันก็ได้ แต่ต้องอาบน้ำนะ ห้ามอาบแห้ง” ผมบอก ผมบอกแล้วว่าผมเป็นคนติดความสะอาดมาจากแม่ แล้วผมก็เข้าไปเปิดคอมพิวเตอร์ในห้องเพื่อเตรียมงานในส่วนของผมที่ผมจะต้องไปช่วยพี่เหิรในวันพรุ่งนี้ สักพักพัดโบกก็เข้ามา อาบน้ำตัวหอมมาเรียบร้อย มายืนอยู่ด้านหลังของผม

“คิดเองเหรอ” พัดโบกถามเมื่อเห็นรูปบูธและแผนงานที่บริษัทพี่เหิรรับจัดอีเวนท์โปรโมทให้ เป็นการเปิดตัวน้ำอัดลมรสชาติใหม่ยี่ห้อหนึ่ง

“หลายคนช่วยกัน แต่งานนี้เป็นงานแรกที่เราเป็นคนคิดพวกกิจกรรมในงาน” ผมบอกก่อนจะยิ้มออกมา รู้สึกตื่นเต้นและภูมิใจในตัวเองอยู่เหมือนกันที่เสนอไปแล้วพี่ๆที่บริษัทชอบ

“เก่งนะ พรุ่งนี้ขอตามไปด้วยได้ไหม จัดที่สยามใช่เปล่า”

“เอาสิ” ผมบอก มันเป็นงานที่อยากให้คนไปเยอะๆอยู่แล้ว

“รูปแฟนเหรอ” พัดโบกชี้ไปที่รูปของพี่ฉลาม ตั้งอยู่ข้างๆคอม

“อดีต” ผมตอบสั้นๆ

“หล่อดี ไปนอนดีกว่า” พัดโบกเดินไปนอนบนที่นอน หยิบหนังสือเรียนของผมที่วางไว้มาอ่าน ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดจนผมแอบขำ ผมเลิกสนใจแล้วหันกลับมาทำงานต่อ กว่าจะเสร็จก็เกือบตีหนึ่ง พัดโบกหลับไปแล้ว ได้ยินเสียงเด่นกลับเข้ามา ผมเลยเดินออกไปดู คิดว่าถ้าเด่นมันกลับมาคนเดียว ผมจะหนีไปนอนห้องเด่นดีกว่า แต่พอแง้มประตูออกไปได้ก็ต้องรีบปิด เด่นมันยืนจูบกับแฟนมันตรงกลางห้องรับแขกเลย ผมได้แต่ถอนหายใจแล้วก็ปลงว่าคงต้องนอนกับพัดโบกจริงๆ แต่หมอนั่นหลับไปแล้ว คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมเลยปิดไฟแล้วข่มตาให้หลับ สงสัยเพราะกินกาแฟเยอะไป ตามันค้างไม่ง่วงเลยสักนิด

“อ่าห์..อ่าห์ เด่น อ๊ะ อ๊ะ” ผมนอนตัวแข็งทื่อเลย คอนโดนี่กำแพงมันบางเกินไปรึเปล่านะ ทำไมผมได้ยินเสียงชัดขนาดนี้ แล้วก็นึกไปถึงตอนที่เด่นมันแซวผม ตอนที่พี่ฉลามมามีอะไรกับผมในคืนนั้น คิดแล้วก็ร้อนผ่าวๆที่หน้า ผมส่งเสียงอะไรออกไปเด่นมันคงได้ยินชัดแบบนี้เหมือนกันแน่ๆ

“ไอ้เด่นเอ้ย” เสียงพัดโบกสบถขึ้นมาท่ามกลางความเงียบที่มีเฉพาะในห้องของผม ส่วนห้องข้างๆโรมรันพันตูกันอย่างหนักหน่วง ปกติเด่นไม่เคยพาผู้หญิงมานอนเลยถ้าผมอยู่ สงสัยคนนี้จะรักจริงถึงพามาที่ห้อง

“นึกว่าหลับไปแล้วอะ” ผมพูดขึ้นมา

“หลับแล้ว แต่เสียงขนาดนี้ใครก็ตื่น ทำไมมันชัดแบบนี้ ห้องอื่นไม่ได้ยินหรือไง” พัดโบกถาม คราวนี้ผมอึ้งไปอีก ลืมนึกข้อนี้ไป แต่โชคดีที่ห้องของผมติดระเบียงและห้องรับแขก ไม่ได้ติดกับห้องคนอื่น ผมกับพักโบกนอนนิ่งฟังเสียงซาวนด์แทร็กที่เด่นบรรเลงกับแฟนจนรู้สึกว่ามันมีบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเอง ผมจะบ้าตาย ส่วนนั้นของผมมันตื่นตัวเฉยเลย ผมพยายามเข้าข้างตัวเองว่าผมคงไม่ได้เสพติดเซ็กส์หรอกใช่ไหม ก็ผมยังอยู่ในช่วงวัยว้าวุ่น มาได้ยินเสียงสดๆแบบนี้ มันก็ต้องรู้สึกกันบ้าง

“อยากไหม” จู่ๆพัดโบกก็ถามผมในความมืด ผมเงียบไม่ตอบแกล้งทำว่าหลับ

“ช่วยไหม” พัดโบกถามผม พอผมเห็นว่าพัดโบกขยับ ผมตกใจรีบเด้งลุกมายืนเลย ได้ยินสียงพัดโบกหัวเราะผมเลยเปิดโคมไฟ พัดโบกนั่งพิงหัวเตียงแล้วยังขำผมอยู่นั่นแหละ

“ทะลึ่ง ออกไปนอนข้างนอกเลย” ผมโวยวาย แต่โวยวายแบบไม่ดังนะ ออกทางสีหน้า

“ล้อเล่นแค่นี้เอง”

“ไม่ขำ” ผมรู้เลยว่าตัวเองหน้างอ แต่พอเห็นพัดโบกจ้องมาที่กางเกงของผม ผมเลยก้มไปดู แล้วก็หน้าชาไปหมด ผมรีบลงไปนั่งบนที่นอนแล้วเอาหมอนมาบัง รู้สึกอายมาก พรุ่งนี้ผมจะเตะลูกไอ้เด่นให้มันใช้การไม่ได้ไปเลย โทษฐานมาทำให้ผมขายหน้าแบบนี้

“เรื่องธรรมดานะ ที่ญี่ปุ่น เพื่อนช่วยเพื่อนบ่อยไป” พัดโบกยักไหล่แล้วก็ไถตัวลงไปนอน เสียงห้องข้างๆก็ยังไม่หยุด ผมตัดสินใจจะไปเข้าห้องน้ำสงบอารมณ์ที่น่าอายนี่ก่อน แต่พอผมลุกขึ้น พัดโบกก็ดึงข้อมือผมแรงแบบที่ผมไม่ทันตั้งตัวจนผมล้มลงไปนอนที่เตียงเพราะเสียหลัก

“ชู่ววว อย่าดื้อนะ” พัดโบกกระซิบที่หู ผมรีบดันตัวพัดโบกออก

“อย่าทำอะไร คราวนี้ไม่ยอมจริงๆด้วย” ผมรีบบอก พัดโบกหัวเราะอีกแล้ว

“แล้วทำไมคราวที่แล้วถึงยอมละ” พัดโบกถาม เอาละ ผมไม่ต้องสงสัยอีกแล้ว มั่นใจร้อยเปอร์เซนต์แล้วว่า พัดโบกนี่เองที่เป็นคนในคืนนั้น

“เมา” ผมตอบห้วนๆ

“ไม่ได้เมานะ เรามั่นใจ” อีกฝ่ายย้อน ผมหน้าชาเลย ผลของการทำอะไรไม่คิดให้รอบคอบ

“แต่มันก็ผ่านไปแล้ว มันจะไม่เกิดขึ้นอีก เราเป็นเพื่อนกันนะ” ผมพูดดีๆ พัดโบกยิ้มแล้วชะโงกหน้ามาหอมแก้มผมเฉยเลย ผมเอามือตีพัดโบกไปอย่างแรง แต่อีกฝ่ายยังทำหน้าทะเล้น

“อยากให้บอกเด่นไหม ว่าเราเคยมีอะไรกัน”

“พัดโบก!!!” ผมโกรธมากที่พัดโบกเอาเรื่องนี้มาขู่ ดีนะขู่แค่เด่น ถ้าขู่ว่าจะบอกแม่ผมคงช็อคตาย ผมคิดผิดจริงๆที่ยอมให้ผู้ชายคนนี้มาเป็นเพื่อน

“ปิดไฟ” พัดโบกบอกผม หน้าตาจริงจัง ผมไม่ยอมปิด

“หรือไปบอกคุณน้าดี ว่าเราอยากมาขอลูกคุณน้าเป็นแฟน”

“เลว” ผมว่าพัดโบก อีกฝ่ายยักไหล่

“ปิดไฟ” ผมจำต้องปิดไฟ พัดโบกดึงผมให้ขยับมานอนซบที่อก

“อย่าทำแบบนี้เลย” ผมบอก

“ชู่วๆ” พัดโบกเอื้อมมือมาสอดเข้าไปในกางเกงนอนของผม ผมรีบจับข้อมือพัดโบกเอาไว้ แต่สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้

“ถ้าทำเราจะเกลียด” ผมขู่กลับไปบ้าง

“อย่าเผลอรักก็แล้วกัน” พัดโบกพูดจบพร้อมกับมือของเขาสัมผัสลูกของผมที่มันยังตื่นตัวอยู่เลย อยากจะตีไอ้ลูกน้อยของผมให้ตาย สถานการณ์แบบนี้ยังจะตื่นอยู่อีก

“อ๊ะ..” ผมเผลอร้องก่อนจะเอามืออุดปากตัวเองเมื่อพัดโบกใช้นิ้วโป้งเคล้นคลึงปลายยอดลูกชายของผม

“ชอบไหม”

“ไม่ อย่าทำนะ ถึงเราจะมีอารมณ์แต่เราไม่อยากให้บังคับกัน” ผมพยายามพูดดีๆ อันที่จริงผมจะขัดขืนต่อสู้ก็ได้ แต่ถ้าทำแล้วเด่นกับแฟนก็คงจะได้ยิน ถ้าแฟนเด่นมารู้เรื่องของผม มันคงไม่จบแค่นี้ ผมพยายามจะคิดว่าควรทำยังไง แต่สมองของผมมันทำงานน้อยลงเต็มทีเมื่อโดนมือของอีกฝ่ายรูดรั้งลูกชายของผมเร็วขึ้นจนเกิดเสียงที่น่าอาย ผมไม่ยอมครางออกมาทั้งที่พายุอารมณ์พัดโหมในร่างกายแล้ว

“เก็บเอาไว้ทำไม ครางสิ” พัดโบกกระซิบที่หูของผม ผมส่ายหน้า หันหน้าหนี

“อึ๊ก..”


ผมแทบหลุดร้องเมื่อพัดโบกเร่งจังหวะมือ สุดท้ายแล้วผมก็ปลดปล่อยออกมา ผมไม่กล้าลุกเพราะไม่อยากมองหน้าคนข้างๆ ได้ยินเสียงพัดโบกลุกขึ้น ก่อนจะได้ยินเสียงร้องโอ้ย เหมือนเมื่อคืนนั้นเลย คนๆนั้นก็ลุกเดินในความมืดจนไปชนของ คงจะไปปลดปล่อยในห้องน้ำเหมือนคืนนั้น แต่ผมคิดผิด เขาเดินกลับมา ลูกชายของผมกำลังถูกทำความสะอาด ผ้าเปียกน้ำหมาดๆกำลังลูบไล้ที่ลูกชายของผมและรอบๆบริเวณนั้น เช็ดจนทั่วแล้วพัดโบกก็ดึงกางเกงขึ้นให้ผมก่อนจะเดินหายไปอีก สักพักถึงกลับมานอนเงียบๆ ห้องข้างๆก็เพิ่งจะเงียบไป ผมนึกว่าผมจะโดนคนทะลึ่งคนนี้บังคับทำอะไรมากกว่านี้ พัดโบกแค่ช่วยผมแล้วก็มานอน ผมบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง ความโกรธมันหายไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะรู้สึกดี เพราะถึงยังไงก็ไม่ชอบวิธึการขู่แบบนั้นอยู่ดี เงียบไปสักพักผมก็ทนไม่ได้


“เจ็บไหม ไปชนอะไรอะ” ผมถาม

“นอนถอะ” เสียงพัดโบกบอกผม ผมกัดริฝีปาก ทำเสียงเหมือนงอนผม ผมสิต้องไม่พอใจ ทำไมขี้งอนเหมือนพี่ฉลามเลย

“แล้ว..ไม่ไปเอาออกเหรอ” ผมถาม จะว่าผมทะลึ่งก็ได้ ก็ผมอยากรู้จริงๆว่าเขาแค่อยากช่วยปลดปล่อยให้ผมแค่นั้นหรือหวังอะไรกันแน่หรือที่ญี่ปุ่นเขาทำกันแบบนี้จริงๆ แล้วผมผิดเหรอที่ไม่คุ้นเคย ถึงคืนนั้นผมจะยอม ก็ไม่ได้แปลว่าผมอยากให้มันเกิดขึ้นอีกง่ายๆ แต่ผมคงดูง่ายจริงๆ มาถึงจนตอนนี้ ผมก็ยังยอมให้เขามาทำอะไรกับร่างกายผมง่ายๆ

“เกลียดก็ไม่ต้องมาถามหรอก นอนไปเหอะ” เสียงอีกฝ่ายตอบกลับมาแบบงอนๆ ผมแทบหลุดขำ แต่ก็กลั้นเอาไว้แล้วหันหลังให้อีกฝ่าย

“เราไม่ชอบให้มาขู่” ผมพูดขึ้นมา อีกฝ่ายก็เงียบ ผมก็เลยไม่พูดอะไรอีก แล้วสุดท้ายผมก็ผล็อยหลับสนิทไปเลย


*****โปรดติดตามต่อตอนหน้านะคะ******



...ล้างให้ออก ล้างให้ออก ล้างหัวใจเธอจากเขา ให้ออก.. #ร้องเพลง

ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ ขอบคุณที่ช่วยบอกคำผิดด้วย อ่านแล้วพัดโบกก็น่ารักดีนะ
แต่ก็นะ.....กลอนของเราจะล้างใจออกไหมรึเปล่า มาเอาใจช่วยกันค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 1 ล้าให้ออก อัพอาทิตย์ 08/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-11-2015 19:36:15
 :mew3:   ว้ายๆ.  เขาทำอะไรกันอะ
พัดโบกจริงๆด้วยงื้อ. นั่นแหละอย่างที่กลอนว่า. อย่ามาขู่บังคับกันเลย.
แต่ก็ยังดีที่แค่ช่วยนะ.  :hao3:   
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 1 ล้าให้ออก อัพอาทิตย์ 08/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 08-11-2015 20:11:52
เสร็จแล้วพัดโบกยังมาล้างให้กลอนด้วย
ใจดีจริงๆ

แต่กลอนก็น่าจะล้างให้พัดโบกด้วย
จะได้ใจดี เหมือนกัน

อิอิ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 1 ล้าให้ออก อัพอาทิตย์ 08/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 08-11-2015 20:41:46
พัดโบกนี่ก็น่าจะดีนะ แต่จะใช่ตัวจริงหรือเปล่า ?
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 1 ล้าให้ออก อัพอาทิตย์ 08/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 08-11-2015 20:58:03
ทำไงดีกัยพัดโบก เชียร์ดีไหม  :katai2-1:
ดูจากชื่อตอนแล้วเดาไม่ออกเลยอ่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 1 ล้าให้ออก อัพอาทิตย์ 08/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 08-11-2015 21:38:10
ชัดเจนแล้วเนอะว่าคืนนั้นใคร
ดูท่าว่าหากพัดโพกใช้การออดอ้อนแทนการสั่งหรือบังคับ
อาจจะมีสิทธิ์ได้รางวัลกลับคืนมาบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 1 ล้างให้ออก อัพวันอาทิตย์ 08/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 08-11-2015 23:02:50
สวัสดีรักครั้งใหม่
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 1 ล้างให้ออก อัพวันอาทิตย์ 08/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 08-11-2015 23:51:31
พัดโบกคือรักต่อไปสินะ แล้วจะเป็นรักตลอดไปรึเปล่า
เราเข้าใจนะ ที่ว่ามีรักก็ต้องมีเลิก
แต่ที่สุดใครๆก็อยากเจอคนที่จะอยู่ด้วยกันตลอดไป
อยากให้กลอนเจอคนนั้นๆสักที
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 1 ล้างให้ออก อัพวันอาทิตย์ 08/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 09-11-2015 00:17:14
พัดโบกก็ดูน่าจะเป็นคนดีนะ  ถึงคืนนั้นตั้งใจทำ แต่คืนนึ้ก็ก็ไม่ได้ฝืนใจกลอนถึงขั้นนั้น
แถมมีหลายอย่างคล้ายพี่ฉลาม กลอนคงหวั่นไหวในไม่ช้านี้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 1 ล้างให้ออก อัพวันอาทิตย์ 08/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 09-11-2015 00:36:40
กลอนเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ รู้จักแยกแยะ คิดดีทำดี  รักตัวละครตัวนี้มากๆ  เสียดายเราขาดวัยวุฒิในเล้าไป 2 วัน ไม่งั้นเราจะเอากลอนไปเสนอรางวัลเซ็งเป็ด

กับพัดโบกนี่ก็น่ารัก หยอกทีเล่นทีจริง  กลอนก็ไว้ตัว พัดโบกก็รุกแบบผิดอิมเมจเชพทำขนมเลย   เรายังอยากฝันถึงคู่กันแล้วไม่แคล้วกันกับพี่ฉลามนะ   แต่ก็ไม่อยากให้กลอนปิดใจกับรักครั้งใหม่ถ้าหากว่ามีโอกาส

ขอเมนท์เรื่องพ่อกลอนหน่อยเถอะ
ที่พ่อเป็นอยู่นี่เราอยากจะเรียกว่ากรรมนะ
กรรมที่ทำกับแม่กลอนกับกลอน
ไม่ผิดที่จะมีรักใหม่หากว่าเจอคนที่ใช่ทีหลัง
แต่ผิดที่ไม่รู้จักหักห้ามใจและเคลียร์กับคนเก่าก่อน
เพราะยังไงแม่กลอนก็ไม่ได้ผิดอะไร
มาทีหลังพอมีปัญหาก็กลับมาขอให้แม่กลอนเป็นคนจัดการ
ดีนะที่แม่กลอนปล่อยวางแล้วก็ไม่ได้สอนให้ลูกเกลียดพ่อหรือน้อง

ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเราถึงได้ปลื้มมากๆตอนที่แม่กลอนว่าถ้าเป็นผู้หญิงจะยกให้เด่น
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 1 ล้างให้ออก อัพวันอาทิตย์ 08/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 09-11-2015 00:43:38
ตกลงพัดโบกนี่ตัวจริงแล้วใช่มั้ย
// :z6:โดนถีบ//ถามมาก เขาเพิ่งเริ่ม
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 1 ล้างให้ออก อัพวันอาทิตย์ 08/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 09-11-2015 09:12:16
พัดโบกเหมือนหื่น
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 1 ล้างให้ออก อัพวันอาทิตย์ 08/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 09-11-2015 17:07:34
กลอนไม่ได้ปิดพัดโบกว่าเป็นเกย์เหรอ พัดโบกถึงทักเรื่องพี่ฉลาม
เหมือนพัดโบกจะมีปมบางอย่าง
หวังว่ากลอนคงไม่เจ็บอีก
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 12-11-2015 16:09:12
บันทึกรักบทที่ 4 ล้างให้ออก ตอนที่ 2


เสียงนาฬิกาปลุกตามกำหนดที่ผมตั้งเอาไว้ ตื่นขึ้นมาคนที่นอนข้างๆก็หายไปแล้ว ผมรีบเข้าไปอาบน้ำเพราะว่าต้องรีบไปถึงสถานที่จัดงานก่อนแปดโมงเช้า ผมไม่รู้ว่าพัดโบกกลับไปหรือยัง เพราะเขาไม่ได้เอากระเป๋าเสื้อผ้ามาไว้ที่ห้องของผม เมื่อคืนก็ไม่ได้อาบน้ำที่ห้องของผม แต่เขาบอกผมว่าจะขอตามไปที่งานอีเวนท์ด้วย บางทีอาจจะงอนเรื่องเมื่อคืนแล้วเปลี่ยนใจกลับไปแล้วก็ได้ ผมอาบน้ำเสร็จพร้อมออกเดินทางไม่ลืมหยิบกระเป๋าเอกสารที่จัดเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนออกมาด้วย แต่พอออกมานอกห้องก็ได้กลิ่นหอมของอาหารลอยมาแตะจมูก


“เสร็จแล้วเหรอ ว่าจะเข้าไปปลุก” คนที่ผมคิดว่ากลับไปแล้วส่งยิ้มมาให้ผม อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วด้วย เบื้องหน้าเขามีอาหารวางอยู่เต็มโต๊ะเลย

“ทำอะไรเต็มไปหมดเลย หอมมาก” ผมเดินเข้าไปดู

“กินข้าวก่อน ต้องไปถึงก่อนแปดโมงใช่ไหม ทันอยู่แล้ว” พัดโบกเลื่อนเก้าอี้ให้ ผมแปลกใจที่เขารู้เวลาและคิดว่าทันอย่างที่เขาบอก ผมเลยนั่งลง อาหารบนโต๊ะมีทั้งอาหารเช้าแบบฝรั่งและข้าวต้มกุ้งตัวโตดูน่าทานมาก

“กินอะไรดี” ผมถามแต่ใจผมเลือกข้าวต้มกุ้งที่มีควันลอยกรุ่นยั่วน้ำย่อยมากๆ

“ข้าวต้มกุ้ง มีชามเดียว เราทำให้กลอน อาหารเช้าเอาไว้ให้เด่นกับแฟน ตื่นมาคงแทบหมดแรง” พัดโบกพูดจบก็หัวเราะ แต่ผมสิ ไม่ได้สบตา เสียงของสองคนนั่นยังติดในหู อีกอย่าง สิ่งที่พัดโบกทำให้ผม ผมก็รู้สึกอายเหมือนกันแม้อีกฝ่ายจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกอย่าง คำว่าทำให้ผมคนเดียว ฟังแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนสำคัญยังไงไม่รู้ครับ

“เด่นมันให้เอารถมันไป วันนี้มันไม่ได้ออกไปไหน” พัดโบกบอก ผมพยักหน้ารับรู้

“แล้วไม่กินเหรอ อร่อยอะ นึกว่าทำเป็นแต่ขนมหวาน” ผมตักข้าวต้มเข้าปากแล้วก็นึกทึ่งในความสามารถของพัดโบก อร่อยจริงๆครับ

“ค่อยๆกิน มันร้อน” พัดโบกดึงชามข้าวต้มจากผมไปคนๆแล้วก็เป่า แล้งถึงส่งกลับมาให้ผม ผมได้แต่นั่งเงียบๆกินจนหมดชามเลย กินเสร็จพัดโบกก็ดึงชามของผมไปล้าง ผมรีบลุกไปดึงชามคืนแล้วเดินไปล้างที่อ่าง พัดโบกเดินมายืนซ้อนด้านหลังของผม ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายในที่เป่ารดต้นคอ ผมยืนเกร็ง รีบๆล้างจนจนเสร็จ ล้างมือแล้วจะเบี่ยงตัวออก แต่พัดโบกเข้ามาประชิดตัวผมแล้วจับมือของผมยื่นไปที่ก็อกน้ำ

“ใครเขาล้างมือแบบนี้กัน” พัดโบกคว่ำมือของผมลง เปิดน้ำ แล้วใช้มือของตัวเองทาบมาที่มือของผม จากนั้นก็สอดนิ้วไปประกบที่ง่ามนิ้วมือของผม ถูไปมาช้าๆ ก่อนจะจับมือของผมหงายแล้วใช้หัวแม่มือถูไปตามฝ่ามือและนิ้ว ใจของผมเต้นโครมครามเลย มือของพัดโบกนิ่มมาก สัมผัสที่ส่งมาก็เบามากจนแทบไม่รู้สึก คำถามคือ ทำไมผมถึงปล่อยให้พัดโบกเข้าถึงตัวผมง่ายขนาดนี้ ปกติผมเป็นคนระวังตัวมาก แต่ทำไมผมถึงให้เขาทำอะไรแบบนี้กับผม โดยที่ผมกลับยืนนิ่งๆแค่นั้น

“สะอาดแล้ว เช็ดมือก่อน” พัดโบกจูงผมมาที่โต๊ะ หยิบผ้าขนหนูสีขาวสะอาดมาเช็ดมือให้ผม

“ขอบคุณ” ผมพูดไปสั้นๆ พัดโบกยิ้มนิดๆแล้วก็เดินไปหิ้วกล่องสีครีมที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วก็หยิบกุญแจรถของเด่นก่อนจะเดินนำไปที่ประตู ผมเลยหยิบกระเป๋าของผมแล้วเดินตามไป

"รู้ทางหรือเปล่า” ผมถาม ก็พัดโบกไปอยู่ที่ญี่ปุ่นตั้งนาน ผมกลัวจะพาผมไปหลงทางแล้วจะไม่ทัน

“รู้ ถามเด่นแล้วเมื่อเช้า”

“เด่นมันตื่นมาเหรอ” ผมถาม

“อืม มันได้กลิ่นอาหาร ตามมาเหมือนหมาดมกลิ่นเลย” พัดโบกพูดจบผมก็หลุดขำ

“จะฟ้องเด่น” ผมบอก

“ไม่กลัว”

“แล้วกลัวอะไร”

“กลัวคนเกลียด” พัดโบกพูดจบผมก็อึ้งไป อีกฝ่ายก็เงียบ มาถึงรถก็เข้าไปนั่ง พัดโบกหันมาคว้าเข็มขัดมาคาดให้ผม ผมตกใจกับการจู่โจมของพัดโบก แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ เริ่มจะชินแล้ว

“กลัวคนเกลียดก็อย่าทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบสิ” ผมพูดขึ้นมาก่อนท่ามกลางเสียงเพลงที่พัดโบกเปิดเบาๆ

“เราจะรู้ได้ไงว่าเขาไม่ชอบถ้าไม่ลองทำก่อน” อีกฝ่ายย้อนกลับ ผมก็อึ้งไปอีก

“ก็ ถ้าเขาบอกแล้วว่าไม่ชอบ ก็อย่าทำอีก”

“งั้นพูดมาสิ ไม่ชอบให้ขู่ แล้วไม่ชอบอะไรอีก” พัดโบกหันมาถามผม ผมนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนจะตัดสินใจถามเรื่องคืนนั้นตรงๆ

“คืนนั้น พัดโบกทำไม..คือทำไมถึงได้เข้ามาหาเรา ทำไม..” ผมกำลังคิดว่าจะใช้คำว่าอะไรดีให้ดูไม่กระอักกระอวนเกินไป แต่พัดโบกพูดแทรกขึ้นมา

“ทำไมถึงคิดว่ากลอนจะยอมเหรอ”

“อืม”

“ไม่ได้คิดอะไรเลย รู้แต่ว่า มองแล้วไม่อยากละสายตา เห็นปากแล้วอยากจูบ เห็นคอขาวๆ ตัวขาวๆแล้วอยากสัมผัส อยากกอด อยากเป็นเจ้าของ ไม่อยากให้ใคร” ผมหันไปมองคนตอบ ไม่รู้ทำไมผมถึงเห็นเต็งหนึ่ง พี่รันและพี่ฉลามรวมอยู่ในคนๆนี้ ความหื่นระดับสิบเต็มแบบเต็งหนึ่ง แสดงความต้องการแบบเปิดเผย การอ่อนโยนดูแลแบบที่พี่รันมี ความตรงไปตรงมา เปิดเผย ดูจริงใจแบบที่ผมเห็นจากพี่ฉลาม

“ถ้าไม่อยากให้ใคร แล้วทำไมถึงลุกหนีหายไป ไม่ติดต่อมาละ” ผมอยากรู้จริงๆ

“คงไม่รู้ตัวละมั๊งว่าเรียกคนชื่อรันตลอดเวลาที่เราสัมผัส” พออีกฝ่ายตอบมาผมไปต่อไม่ถูกเลย นั่งอึ้งกิมกี่อยู่เงียบๆ ไม่รู้จริงๆว่าเรียกชื่อพี่รันออกไป

“กลับมาอีกครั้งก็มีแฟนแล้วอีก เห็นเด่นบอกว่ารักมากเสียด้วย มากจนเราคิดว่าคงหมดหวังแล้ว” พัดโบกพูดต่อ

“อย่างน้อยก็น่าจะบอกเราเรื่องคืนนั้น” ผมเถียงออกไปเพราะไม่รู้จะเอาอะไรมาย้อนแย้งเหตุผลที่พัดโบกพูดออกมา

“เราจะพูดได้ยังไง พูดแล้วกลอนจะรู้สึกดีเหรอ สำหรับกลอนเรื่องคืนนั้นอาจจะเป็นความผิดพลาดไม่ได้อยากให้มันเกิด แต่สำหรับเรา มันคือความตั้งใจและปรารถนาที่จะให้มันเกิด เราดีใจ เรามีความสุขนะ เราจดจำทุกอย่างได้ แต่กลอนอาจจะอยากลืม”

“ไม่ได้มองว่าเราง่ายเหรอ” ผมถาม

“แล้วกลอนมองว่าเราเลวไหม ใช้ช่วงเวลาที่กลอนอ่อนแอและเมาเอาเปรียบกลอน” พัดโบกถาม

“ก็เลวอะ” ผมตอบ พัดโบกทำตาโตมองมาที่ผม ผมหลุดหัวเราะออกไป

“ใจร้ายว่ะ” พัดโบกทำหน้าเซ็งๆ ผมขำอีกรอบ ผมไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น ผมบอกแล้ว ถ้าจะผิด ก็ผิดที่ผมเอง ผมตอบสนอง ผมยินยอม ผมเองก็ตั้งใจให้มันเกิด จะว่าพัดโบกเลวไม่ได้หรอกครับ

“ช่างมัน งั้นเราสองคนไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก เริ่มกันใหม่ เนอะ” ผมพูดออกไป รู้สึกโล่งอก มาคิดดูดีๆ เป็นพัดโบกก็ยังดีกว่าเป็นใครก็ไม่รู้ ถ้าเป็นคนที่เที่ยวเอาพูดผมก็คงแย่เหมือนกัน แต่ถึงยังไงก็ต้องระวังให้มาก เพราะผมก็เพิ่งรู้จักพัดโบกเอง

“เริ่มใหม่ ในฐานะอะไร” พัดโบกถามผม

“เพื่อนไง” ผมตอบ อีกฝ่ายเงียบไปทันที

“จีบได้ไหม” พัดโบกถาม คราวนี้ผมเป็นฝ่ายเงียบบ้าง

“เรายังลืมคนที่เรารักไม่ได้” ผมตอบไปตรงๆ การที่ผมไม่ได้พูดถึง ไม่ได้ติดตามข่าวของเขา ไม่ได้แปลว่าผมหมดรัก เป็นความรู้สึกที่ผมแอบซ่อนมันเอาไว้อย่างดี ใครๆก็คิดว่าผมเก่ง ใจแข็ง ลืมได้ง่ายๆแต่มันไม่ใช่เลย

“เฮ้อ..เจ็บดี” พัดโบกถอนหายใจ แต่ก็ส่งยิ้มมาให้ผม แต่เป็นยิ้มที่ดูเศร้าๆจนผมนึกเห็นใจ


ในที่สุดพัดโบกก็ไม่ได้พาผมหลงทาง มาถึงก่อนเวลาด้วยซ้ำ เขามาจอดให้ผมลงตรงบริเวณที่จัดงานแล้วบอกว่าจะไปหาที่จอดรถแล้วจะตามมา ผมขอบคุณเขาสำหรับอาหารเช้าและขับรถมาให้ด้วย มาถึงก็เจอทีมงานเริ่มทยอยมากันแล้ว ผมก็มัวแต่ยุ่งกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา ลืมไปเลยว่าพัดโบกมาด้วย เวลางานจะเริ่มตอนบ่ายสามโมงเย็น งานนี้เป็นงานแรกที่ผมได้รับหน้าที่สำคัญ ผมทำด้วยความสนุก ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย ตื่นเต้นมากๆ ผมคงเรียนมาถูกทางแล้ว เพราะผมรักและสนุกกับงานที่กำลังทำอยู่ นึกขอบคุณพี่เหิรที่ให้โอกาสผม ทั้งที่ผมยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ บุ้งบอกว่า พี่เหิรไม่จ้างผมก็บ้าไปแล้ว เพราะเกรดเฉลี่ยนอย่างผม คงมีแต่คนแย่งตัว แต่ผมกลับคิดต่างออกไป ต่อให้เรียนเก่งแค่ไหนก็สู้คนที่มีประสบการณ์ทำงานมากๆไม่ได้ แม้บริษัทพี่เหิรจะไม่ได้ใหญ่โต แต่ทีมงานทุกคนมีคุณภาพมากๆ และทุกคนก็ทำงานเป็นทีมเวิร์ค ทุกคนดูแลช่วยกันเหมือนพี่น้อง ผมว่าผมโชคดีมากกว่าที่ได้เข้ามาทำงานที่นี่


“กลอน กินอะไรรึยัง พี่เอาข้าวมาไว้ให้ หายไปไหนแล้ว” พี่ฝน เลขาของพี่เหิรเห็นผมนั่งอยู่คนเดียวในเตนท์ทีมงานเลยเข้ามาถาม ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเลยขอมานั่งพักครู่หนึ่ง

“ยังเลยครับ ไม่เป็นไร เดี๋ยวกลอนหาอะไรง่ายกินแถวนี้ก็ได้” ผมตอบ มองหาไม่เห็นกล่องข้าว สงสัยมีคนเอาไปแล้ว

“ได้ไง พี่สั่งมาให้พิเศษเลย ทำตั้งแต่เช้าแล้วไม่ได้หยุดเลย เดี๋ยวเป็นลมทำไง”

“โห พี่ฝน กลอนแข็งแรงนะ”

“ไม่ได้ๆ เดี๋ยวพี่ไปหาให้ นั่งรออยู่นี่แหละ” พี่ฝนกำชับก่อนจะเดินออกไป แต่สวนกับพัดโบกที่เดินเข้ามาพอดี พัดโบกเอากล่องสีครีมที่หิ้วมามาตั้งตรงหน้าผม ผมมองแล้วสงสัยว่ามันคืออะไร

“เดินมาหาครั้งหนึ่งแล้วแต่ไม่เจอ เอานี่ ข้าวกลางวัน” พัดโบกเปิดกล่องมา ข้างในมีกล่องใส่อาหารสามสี่กล่อง พัดโบกเอาออกมาเรียง มีข้าวผัดกุ้ง ผัดผักรวมมิตร หมูทอดแล้วก็น้ำผลไม้ใส่ขวดมาด้วย

“ทำเองทั้งหมดเลยเหรอ ทำมาให้เราเหรอ” ผมถามด้วยความประหลาดใจ เห็นหิ้วมาตั้งแต่ออกจากบ้าน ไม่คิดว่าจะใส่อาหารมาให้ผม

“อืม คิดแล้วว่างานแบบนี้ไม่มีเวลาไปหาอะไรกินหรอก รีบกินดิ” พัดโบกยื่นช้อนให้ ผมซาบซึ้งใจมากๆกับสิ่งที่พัดโบกทำให้

“ขอบใจนะ” ผมรับช้อนมาแล้วตักข้าวทาน อร่อยมาก อร่อยทุกอย่างเลย

“กินด้วยกันนะ” ผมชวน พัดโบกยิ้มแล้วหยิบช้อนอีกคันมาตักกินด้วยกัน กล่องที่พัดโบกหิ้วมาเป็นกล่องเก็บอุณหภูมิ อาหารยังอุ่นๆอยู่ ไม่เย็นแฉะ สมแล้วกับที่ไปเรียนเกี่ยวกับอาหาร มีพรสวรรค์อย่างที่เด่นบอกจริงๆ ผมกินไปมองหน้าคนทำไป ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะทำอาหารเก่งและรักการทำอาหาร

“อ้าว พี่กำลังจะมาขอโทษเลย หาได้แต่มาม่ามาให้รองท้อง ไอ้พวกทีมงานเวทีเล่นกินเสียหมด อย่างว่านะ ผู้ชายตัวอย่างกับยักษ์ทั้งนั้น โห น่ากินทั้งนั้นเลย แล้วนี่เพื่อนเหรอจ๊ะ” พี่ฝนเดินบ่นเข้ามา พอเห็นผมมีข้าวกินแล้วเลยเลิกบ่น แต่ตอนนี้มาสนใจพัดโบกแทน

“ครับ พัดโบก..นี่พี่ฝน พี่ฝนนี่พัดโบกเพื่อนกลอนครับ เป็นเชฟเชียวนะ” ผมแนะนำ พี่ฝนทำหน้าตื่นเต้น

“จริงเหรอ ไม่น่าเชื่อ พี่นึกว่านายแบบ หล่อขาวออร่าดาราเปล่งปลั่งมาก” พี่ฝนชม พัดโบกมันยกมือไหว้พี่ฝนก่อนจะทำหน้าเขินๆ
 
“เสียดาย อยากอยู่คุยด้วย แต่พี่ต้องรีบไปเอาของให้คุณเหิรก่อน ทานข้าวกันไปก่อนนะจ๊ะ แล้วกลอนพาเพื่อนคนนี้มาอีกนะ พี่ชอบ หล๊อหล่อ” พี่ฝนพูดจบก็หัวเราะร่วน ก่อนจะออกไปยังมีทำตาวิบวับใส่พัดโบก ผมก็ขำ พี่ฝนมีครอบครัวแล้ว แต่เธอเป็นคนขี้เล่น เป็นคนน่ารักมากๆ ทำงานเก่งสุดๆด้วย

“เราหล่อมะ” พัดโบกถามผม

“ก็ดี”

“ว่าละต้องตอบแบบนี้” พัดโบกพูดจบก็ตักหมูทอดมาป้อนผม ผมส่ายหน้า มองไปรอบๆ

“เราไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราเป็นอะไร อีกหนึ่งอย่างที่เราไม่ชอบ คือให้การเปิดเผยตัวตน” ผมบอกเสียงเรียบๆ พัดโบกหน้าเจื่อนไป

“ขอโทษ ลืมตัว”

“เราไม่ได้โกรธ แต่พัดโบกบอกอยากรู้ เราเลยบอก” ผมอธิบาย อีกฝ่ายยิ้มออก

“เรียกเราว่าพัดเฉยๆก็ได้ แต่ถ้าอยากอินเตอร์ก็เรียกแฟน (fan)”

“ตลกละ” ผมส่งวายตาค้อนไปนิดหน่อย อีกฝ่ายยิ้มกรุ่มกริ่ม คงดีใจที่เล่นมุขได้

“เราไปทำงานก่อนนะ ถ้าพัดเบื่อก็กลับไปก่อน เราคงเลิกค่ำเลย เดี๋ยวให้ทีมงานไปส่งได้” ผมบอกเมื่อทานข้าวเสร็จแล้ว ได้เวลาที่งานจะเริ่มแล้วด้วย ผมต้องไปประจำจุดที่จัดกิจกรรมเล่นเกม

“เรารอได้ เสร็จแล้วรอตรงนี้ เราจะอยู่แถวๆนี้แหละ” พัดโบกบอก ผมรู้สึกเกรงใจ แต่เมื่อพัดพัดโบกยังยืนยันว่าจะอยู่ผมเลยไม่ได้ขัดอะไรอีก


งานในครั้งนี้ถือได้ว่าประสบความสำเร็จ มีคนมาร่วมงานเยอะมากกว่าที่ตั้งเป้าเอาไว้ อาจจะเพราะพรีเซนเตอร์เป็นดาราดาวรุ่งที่กำลังมาแรงมาร่วมในงานด้วย ก็มีข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ แต่ไม่ได้ทำให้งานเสียหายอะไร แต่พี่เหิรก็สั่งให้จดรายละเอียดทุกอย่างเพื่อเอาไว้ปรับปรุงในงานหน้า พี่เหิรเรียกประชุมเพื่อกล่าวขอบคุณทีมงานที่ทุ่มเท ชื่นชม ใช้เวลาสั้นๆก่อนจะบอกว่าจะพาทีมงานทุกคนไปเลี้ยงข้าวในวันอาทิตย์ ผมกลับมาเก็บของในเตนท์ก็เห็นพัดโบกนั่งรออยู่ หน้าตาดูเหมือนเพิ่งตื่น สงสัยจะงีบหลับไป สาวๆรุ่นพี่เดินมาแซวพัดโบกกันใหญ่ ทุกคนได้รู้จากพี่ฝนว่าพัดโบกเป็นเพื่อนผม ทุกคนเลยรีบมาตีซี้ผมเพื่อทำคะแนนกันใหญ่ หวังให้ผมเป็นพ่อสื่อให้ แต่ก็คงขำๆกันครับ พี่เขามีแฟนกันหมดแล้ว โชคดีที่สมัยนั้นคนยังมองว่าผู้ชายรักผู้ชายก็คือผู้ชายที่แต่งตัวเป็นผู้หญิงไปเลย เลยไม่มีใครมาแซวเรื่องที่พัดโบกมารอผม ผมก็เบาใจไป


“ตอนแรกก็ว่าไม่เหนื่อย แต่พองานเสร็จรู้เลยว่าเหนื่อยสายตัวแทบขาดเป็นยังไง” ผมบ่นในรถ

“กินอะไรดี” พัดโบกถามผม ผมมองเวลา ห้าทุ่มแล้ว พัดโบกก็ยังไม่ได้กินอะไรแน่ๆ

“อะไรก็ได้”

“งั้นกลับไปกินที่บ้านนะ เดี๋ยวเราทำให้”

“เฮ้ยไม่เป็นไร พัดก็เหนื่อยมารอเราทั้งวัน กินบะหมี่หน้าปากซอยก็ได้”

“งั้นไปกินที่เยาวราชกัน” พัดโบกพาผมขับไปที่เยาวราช และร้านที่พาผมมากินคือร้านก๋วยจั๊บเจ้าโปรดของผม ผมได้นั่งโต๊ะตัวเดิม เก้าอี้ตัวเดิมแบบที่เคยนั่งตอนมากับพี่ฉลาม ที่ต่างไปคือคนที่นั่งตรงกันข้ามกับผม

“ไม่ชอบเหรอ เปลี่ยนร้านไหม” พัดโบกถามผม คงเห็นผมนั่งเขี่ยตับไปมา พี่ฉลามชอบกินตับมาก เวลามากินผมจะตักตับในชามของผมให้พี่ฉลาม ผมไม่ได้ไม่ชอบ แต่ผมอยากให้พี่ฉลามได้กินเยอะๆเลยบอกไปว่าไม่ชอบ

“ชอบ เราชอบ” ผมตอบแล้วก็ตักก๋วยจั๊บเข้าปาก จู่ๆพัดโบกก็ตักตับในชามของตัวเองมาให้ผม

“ไม่ชอบกินเหรอ” ผมถาม

“ชอบ แต่เราอยากให้กลอนได้กิน มันมีประโยชน์” พัดโบกตอบแล้วก็หันไปสั่งหมูกรอบใส่กล่องสองกล่อง ส่วนผมได้แต่มองผู้ชายตรงหน้า ผมยอมรับว่ารู้สึกดี การมีใครสักคนมาใส่ใจดูแลเรามันย่อมดีอยู่แล้ว แต่ผมไม่อยากเอาเปรียบหัวใจใคร ผมไม่อยากเสียใจเพราะคนอื่น ก็ไม่อยากให้คนอื่นมาเสียใจเพราะผมเหมือนกัน

“อยากกินอะไรอีกไหม” พัดโบกถาม ผมส่ายหน้า พัดโบกเลยพาผมกลับ


กลับมาถึงบ้าก็เห็นข้อความของเด่นแปะอาไว้ที่หน้าประตูห้องของผม เด่นเขียนเอาไว้ว่า ไปบางแสนกลับวันอาทิตย์ พัดโบกเดินเข้าไปในครัว คงเอาของไปเก็บ ผมเลยกลับเข้าไปอาบน้ำ รู้สึกเมื่อยไปทั้งตัว ทั้งเหนื่อย เพลียแดดที่สาดส่องเหมือนจะเผาตัวผมมาทั้งวัน นึกถึงอ่างอาบน้ำที่บ้านของพี่ฉลาม อยากแช่ตัว นึกถึงตอนที่พี่ฉลามสวมกอดแล้วร้องเพลงให้ฟังตอนที่อาบน้ำด้วยกัน คิดถึงรอยยิ้ม


...ผมคิดถึงพี่ฉลามเหลือเกิน พี่เขาลืมผมไปรึยังนะ...


“กลอน นอนรึยัง” ผมอาบน้ำเสร็จแล้วแหละ กำลังเช็ดผมอยู่ ได้ยินเสียงพัดโบกเรียกอยู่ที่หน้าห้อง

“ยัง เข้ามาสิ” ผมบอก พัดโบกเดินถือกะละมังใบใหญ่เข้ามา

“อะไรอะ” ผมถาม

“แช่เท้า” พัดโบกวางกะละมังลงแล้วจะจับข้อเท้าของผม ผมตกใจรีบเบี่ยงหนี

“เฮ้ยไม่เป็นไรหรอก”

“เราเคยยืนทำขนมทั้งวัน มันเมื่อย สุดท้ายแล้วจะมีเส้นเลือดขอดนะ อยากให้ขามีเส้นเขียวๆขึ้นเต็มรึไง” อีกฝ่ายขู่ ผมฟังแล้วนึกกังวลตามไปเลย ไม่เอานะขาเขียวๆมีเส้นเลือดปูดๆแบบที่เคยเห็นหนังสือ พัดโบกคงเห็นผมคล้อยตามคำขู่เลยยิ้มแล้วจับเท้าผมลงไปแช่ ผมสะอุ้ง มันอุ่นค่อนไปทางร้อน

“ขอโทษนะที่ต้องขู่ ก็ดื้อทำไมละ เนี่ย คลายเส้น น้ำอุ่นจะช่วยให้เลือดหมุนเวียนดี” พัดโบกหยิบผ้าอีกผืนมาประคบที่ขาพับด้านหลังของเข่าและน่องของผม ผ้าร้อนนิดๆ แต่ผมรู้สึกสบายจัง

“ขอบคุณนะ” ผมบอกหลังจากที่พัดโบกนวดเท้าให้ผมเสร็จแล้ว ผมรู้สึกหายเมื่อยเลยจริงๆ

“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้เปล่า” พัดโบกถาม

“อะไร บอกมาก่อน” ผมถาม ถึงจะมาเอาใจผม ผมก็ต้องระแวงเอาไว้ก่อน

“ขอนอนด้วยนะ ไม่อยากนอนคนเดียว กลัวผี” พัดโบกทำหน้าอ้อนผม

“โตจะตายแล้วนะ”

“นะ ไม่ทำอะไรหรอก ถ้าไม่เต็มใจ” พัดโบกทำหน้าขอร้อง

“บ้า ใครจะไปเต็มใจ” ผมรีบพูดออกไป ทั้งที่ผ่านมาผมใจอ่อนเอง สรุปแล้ว ผมก็ยอมให้พัดโบกมานอนด้วย ผมง่วงและเพลียสุดๆ กำลังจะเคลิ้มหลับ อีกฝ่ายก็มาสวมกอดผม รีบพลิกตัวไปมองหน้าอีกฝ่ายฝ่าความมืด

“ไหนว่าจะไม่ทำอะไรไง” ผมถาม

“กอดเฉยๆ นอนนะ ตาจะลืมไม่ขึ้นอยู่แล้ว” เสียงอีกฝ่ายตอบกลับมาเบาๆ

“กอดแบบนี้จะหลับได้ไง” ผมบ่น

“ก็ลองหลับก่อนสิ” พัดโบกขยับตัวเข้าหาให้ผมมาซบที่แขน ผมเหนื่อยเกินกว่าจะมาโวยวายอะไรแล้ว ตาผมจะปิดแล้วจริงๆ

“ลองหลับก็หลับยาวอะดิ เจ้าเล่ห์นัก ห้ามทำอย่างอื่นนะ ง่วงแล้ว” ผมบ่นอู้อี้ ได้ยินแต่เสียงหัวเราะของพัดโบก แล้วผมก็หลับไปเหมือนถูกตัดสวิทช์ รู้สึกอบอุ่นดี


..พี่ฉลาม คืนนี้เราจะได้เจอกันในฝันรึเปล่า แค่ในฝันก็ยังดี กลอนคิดถึงพี่ อยากให้คนที่กอดกลอนเป็นพี่จังเลยครับ...


((มีต่อข้างล่างค่ะ))

V
V



หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 12-11-2015 16:09:47
((ต่อจากด้านบนค่ะ))


ผมได้นอนยาวอย่างเต็มอิ่ม ตื่นมารู้สึกสดชื่นสุดๆ อาการเหนื่อยล้าหายไปเหมือนได้ชาร์ตพลังเต็มที่ ตื่นมาก็เที่ยงกว่าเกือบบ่าย ท้องร้องประท้วงดังครืดคราด เดินออกมาก็เห็นพัดโบกกำลังดูโทรทัศน์อยู่ พออีกฝ่ายเห็นผมก็รีบลุกไปในครัว ผมเลยเดินตามไป บนโต๊ะมีกับข้าววางอยู่


“ดีจัง ตื่นมาได้กินเลย” ผมบอก

“อยากรู้สึกดีแบบนี้ไปตลอดชีวิตไหมละ” อีกฝ่ายถาม ผมเหลือบมองแต่ไม่ได้ตอบ ขยันหยอดจริงๆ

“ไข่ตุ๋น น่ากินจัง กินนะ” ผมรับจานข้าวจากพัดโบกมาวาง แล้วจัดการอาหารตรงหน้าทันทีเพราะแสบท้องไปหมดแล้ว พัดโบกนั่งมองผมแล้วยิ้ม ผมก็ทำเป็นกินไม่สนใจการจับจ้องของอีกฝ่าย

“เมื่อคืนจูบไปตั้งหลายที” พัดโบกพูดขึ้นมา

“แค่กๆๆๆๆ” ผมสำลักข้าวเลย พัดโบกรีบส่งแก้งน้ำให้ผมแล้วเดินมาลูบหลังให้

“ล้อเล่น”

“ติดคอตายทำยังไง” ผมค้อนใส่ เจ็บคอเลย

“ปั๊มหัวใจไง ผายปอดให้ด้วย เราเรียนมานะ”

“กระล่อนจริงๆ ติดคอตายใครเขาผายปอดกัน” ผมต่อว่าไม่จริงจัง

“กินไป ไม่กวนใจแล้ว” พัดโบกลูบหัวผมเบาๆก่อนจะเดินออกไปนั่งที่ห้องรับแขกตามเดิม ผมเลยนั่งกินข้าวไปจนอิ่ม เก็บล้างเรียบร้อยแล้วถึงมานั่งในห้องรับแขกด้วย

“วันนี้เราจะไปค้างบ้านพ่อนะ” ผมบอก อีกฝ่ายหันมามองผม สีหน้าดูเศร้าลง ก่อนจะรีบปรับเป็นยิ้ม

“อืม ไปกี่โมงละ” พัดโบกถาม

“อีกพักหนึ่งคงออกแล้วละ พรุ่งนี้คงกลับมาตอนบ่ายๆ” ผมบอก อีกฝ่ายพยักหน้าแต่ไม่ได้มองผม ผมลุกขึ้นแล้วกลับเข้าไปในห้อง เตรียมเสื้อผ้าใส่กระเป๋า พอเดินออกมาก็เห็นพัดโบกนั่งอยู่ที่เดิม

“เราไปนะ” ผมบอก

“อืม” อีกฝ่ายหันมามองแล้วตอบสั้นๆ ผมมองแล้วรู้สึกไม่สบายใจแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เดินลงมาเรียกแท็กซี่แล้วบอกจุดหมายปลายทาง


ผมมาถึงบ้านพ่อ คุยกับพ่อ เล่นกับน้อง แต่ในใจของผมนึกถึงแต่คนที่อยู่ที่คอนโด ผมก็บอกไม่ถูกว่าทำไม ผมยังคิดถึงพี่ฉลาม ยังรักพี่ฉลามนะครับ ถึงผมบอกว่าจะไม่รอ แต่ผมก็ยังนึกถึงเขาตลอดเวลา แต่ตอนนี้ผมก็อดที่จะนึกถึงอีกคนที่เข้ามาในชีวิตของผมไม่ได้ ผมรู้สึกดีๆ หรือผมอาจจะแค่สงสาร ผมพยายามหาเหตุผลมาหักล้างว่า..การที่ยอมให้เขามาใกล้ชิดกับผมง่ายๆยอมให้เขามากอดมาทำอะไรให้ ซึ่งเหตุผลนั้นก็คือ เพราะเขาเคยมีอะไรกับผมมาแล้ว เราก็เป็นผู้ชายเหมือนกันคงไม่เสียหายอะไร ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ไม่ได้ความเอาเลย ผมแค่หลอกตัวเองว่าตัวเองไม่ได้ใจง่าย ทั้งที่ความจริงผมคงเป็นแบบนั้น แล้วที่เขาบอกว่าเขากลัวผี ผมควรจะเชื่อดีไหม อาจจะเป็นแค่ข้ออ้าง แต่ถ้าเขาไม่ได้โกหก เขาจะอยู่ได้ไหมคนเดียว ผมก็คิดไปมากมายจนพ่อทักผม


“เป็นอะไร ทำไมเหม่อลอยจังเลย”

“อ๋อ คิดเรื่องงานครับพ่อ” ผมโกหกอีกแล้ว

“แล้ววันนี้จะมาค้างกับพ่อไหม”

“ครับ” ผมบอก พ่อยิ้มดีใจ


ฝนหลงฤดูเริ่มจะโปรยปรายมา เสียงฟ้าร้องดังจนผมสะดุ้ง พ่อเพิ่งจะเข้านอน น้องสาวของผมก็เข้านอนแล้วเหมือนกัน ส่วนผมมานั่งมองสายฝนที่ตกมากระทบกระจกเป็นเม็ดใส ผมถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นมาแล้วคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าลงมาข้างล่าง เจอพี่นิ่มกำลังตรวจตราบ้านอยู่


“จะไปไหนเหรอคะน้องกลอน” พี่นิ่มถามผม

“กลอนลืมไปเลยว่ากลอนมีงานด่วนค้างเอาไว้ครับ กลอนต้องกลับไปเคลียร์ ฝากบอกพ่อด้วยนะครับ โอกาสหน้ากลอนจะมาค้างด้วยหลายวันเลย”

“ไม่ได้อึดอัดอะไรใช่ไหมคะ” พี่นิ่มหน้าเสีย

“อ๋อ เปล่าเลยครับพี่นิ่ม กลอนมีงานจริงๆครับ อย่าคิดมากนะครับ”

“แต่ฝนตกหนักแบบนี้จะกลับยังไงคะ เดี๋ยวพี่โทรบอกยามให้เรียกรถแท็กซี่มารับในนี้นะคะ” พี่นิ่มยังคงมีสีหน้ากังวล

“ขอบคุณมากครับ”


สักพักใหญ่แท็กซี่ก็เข้ามารับผมถึงหน้าบ้าน ไม่นานก็มาถึงคอนโด ผมมาจอดฝั่งหน้าบ้านของพี่ฉลาม อดจะมองขึ้นไปไม่ได้ ห้องของพี่ฉลามก็มืดสนิทแบบเดิม ผมรีบฝ่าสายฝนวิ่งเข้าไปถึงตัวอาคาร แต่เพราะฝนตกหนัก วิ่งไวแค่ไหนตัวผมก็เปียกอยู่ดี มาถึงหน้าห้องก็หากุญแจไม่เจออีก สงสัยเมื่อบ่ายลืมหยิบมาด้วยแน่ๆ ผมกดกริ่งหน้าประตู เริ่มรู้สึกหนาว สักพักหนึ่งประตูก็เปิดออก พัดโบกทำหน้าประหลาดใจที่เห็นผม พอเห็นตัวผมเปียกก็รีบดึงเข้ามาแล้วเดินไปเอาผ้าขนหนูมาเช็ดตัวเช็ดหัวให้ผมใหญ่


“ทำไมเปียกแบบนี้” พัดโบกรีบถอดเสื้อผมออก ผมตกใจจับมือพัดโบกเอาไว้ แต่พอเห็นสายตาอีกฝ่ายมองมาแบบดุๆก็เลยปล่อย ถอดเสื้อผมเสร็จก็เช็ดตัวให้อีก ผู้ชายเหมือนกัน ไม่ต้องอายหรอก ผมปลอบใจตัวเอง

“ฝนตกก็ต้องเปียกอะสิ ถามได้” ผมตอบแบบกวนๆไป

“แล้วกลับมาทำไม” อีกฝ่ายถาม

“เอ้า นี่ห้องเรา กลับไม่ได้รึไง”

“กวนละ เดี๋ยวโดน หมายถึง บอกจะไปค้างบ้านพ่อ แล้วทำไมถึงกลับมา” พัดโบกจิ้มหน้าผากผมเบาๆ

“ลืมไปว่ามีงานค้าง”

“มีงานหรือห่วงเรา” อีกฝ่ายถามตรงๆ ผมอึ้งไป

“ทำอะไรอยู่” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง

“ดูหนังอยู่” พัดโบกตอบ ผมชะโงกไปดูว่าเขาดูเรื่องไร

“เฮ้ย หนังผีนี่ ไหนว่ากลัวผีไง” ผมโวยวาย อีกฝ่ายรีบหยิบรีโมทมากดปิด

“ไม่ทันแล้วปะ เจ้าเล่ห์ว่ะ คนอุตส่าห์เป็นห่วง” ผมรีบต่อว่า ก็ผมอุตส่าห์ฝ่าสายฝนมา ดูดิ มานั่งดูหนังผีเฉยเลย

“ขอบคุณนะที่ห่วงเรา” พัดโบกยิ้ม สีหน้าดูจะดีใจสุดๆ

“ตรงนั้นไม่ต้องเช็ดมากก็ได้” ผมบอกเมื่อเห็นว่าผ้าเช็ดตัวมันวนอยู่แถวๆหน้าอกผมนานแล้ว

“เดี๋ยวปอดบวม ต้องเช็ดเยอะ” ดูเขาแถสิครับ ผมกัดริมฝีปากด้วยความเคยชิน กำลังคิดว่าจะโต้ตอบยังไงดี แล้วปลายนิ้วของพัดโบกก็มากดริมฝีปากให้ผมออกจากฟันเหมือนที่เคยทำ

“กัดจริงเลยนะ”

“เราไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อก่อนนะ” ผมรู้สึกเขินๆ บรรยากาศแบบนี้ด้วย ผมว่าผมไปตั้งสติก่อนดีกว่า

“เร็วๆนะ มาดูหนังด้วยกัน” เขาบอกผม ผมค้อนเขาให้อีกทีก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง อาบน้ำเสร็จก็เดินออกมา พัดโบกขยับให้ผมมานั่งข้างๆ พอผมนั่งเขาก็เอาผ้าห่มมาห่อตัวเราสองคนด้วยกัน เขาดึงมือผมไปจับ

“สรุปว่าไม่กลัวใช่ไหม” ผมถาม

“กลัว ไม่เคยได้ยินเหรอ หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง”

“ไม่เชื่อหรอก” ผมว่า

“จริง แต่เปลี่ยนเรื่องดีกว่า” เขาบอกเสร็จก็ลุกพรวดไป

“เรื่องอะไร” ผมถาม

“ไม่รู้ แต่เจอมันหล่นอยู่ใต้เตียงกลอนตอนเราเข้าไปดูดฝุ่นให้อะ” พัดโบกบอก ผมงง นึกไม่ออกว่าแผ่นหนังเรื่องอะไร แต่ก็รอดู เพราะพัดโบกใส่แผ่นไปแล้ว สงสัยของเด่นมาลืมเอาไว้ แต่เดี๋ยวนะ ทำไมต้องเข้าไปดูดฝุ่นให้ผมด้วย จะพ่อบ้านไปไหนอะ หน้าตาท่าทางดูไม่น่าจะมาทำอะไรพวกนี้เลย เหมือนนายแบบหรือนักกีฬามากกว่าจะมาเป็นพ่อบ้านเสียอีก แต่ก็ดี..ผมขี้เกียจอยู่พอดีเลย แหะๆ

“อ๋อ หน้าแผ่นเขียนว่าบุ้งอะ”

“เฮ้ย ไม่ได้ ดูไม่ได้นะ” ผมร้องห้ามจนพัดโบกตกใจ แต่ไม่ทันแล้วครับ ดีวีดีหนัง 18+ ที่บุ้งเอามาฝากเอาไว้ให้พี่นุ๊ก ผมกลัวเด่นมาเจอเลยเอาไปซ่อนใต้เตียง แล้วผมก็ลืมไปเลย จะลุกไปปิดก็โดนมือของคนที่นั่งข้างๆยึดเอาไว้แล้ว จอภาพตรงหน้ากำลังเริ่มฉายผู้ชายสองคนโรมรันพันตูกันแล้ว

“ของเพื่อนเรา” ผมรีบบอก

“ชู่วๆ” พัดโบกหันมายิ้ม ก่อนจะกระชับมือของผม

“อย่าดูเลย” ผมบอก

“ถ้าคิดกับเราแค่เพื่อน จะกลัวอะไร ก็แค่หนังโป๊” พัดโบกบอกก่อนจะเดินไปปิดไฟ


ผมนั่งนิ่งค้างอยู่กับที่ จะรอดไหม ผมถามตัวเองเบาๆ แล้วก็เกิดคำถามใหม่ ผมอยากรอดไหม ก็แค่ลุกหนีไป ผมเชื่อว่าพัดโบกจะไม่ขืนใจผมหรอก แต่ผมกำลังสับสน หันไปมองหน้าของพัดโบก แล้วก็ถามตัวเองอีก ผมกลับมาทำไม ทั้งที่รู้ว่าต้องอยู่กับพัดโบกแค่สองต่อสอง ผมชอบพัดโบกเหรอ ผมจะเปลี่ยนสถานะของผมกับพัดโบกเพราะต้องการแค่เซ็กส์ที่ห่างหายไปนานหรือเพราะว่าผมอยากมีใครสักคนจริงๆ


“เราไม่ทำอะไรหรอก ถ้าไม่เต็มใจ บอกแล้วไง” พัดโบกคงเห็นผมนิ่งไปเลยกันมาพูดด้วย จอภาพตรงหน้าก็กำลังดุเด็ดเผ็ดมันจนผมเริ่มร้อนผ่าวๆ

“พัดโบก”

“หื้ม”

“เราลืมพี่เขาไม่ได้” ผมบอกพัดโบก เอาจริงๆคือผมตอกย้ำตัวเองอยู่

“ก็อย่าลืมสิ เรื่องดีๆก็ไม่ควรลืมนะ” พัดโบกบอกผม เราหันมาสบตากัน ผมใจเต้นแรง เส้นบางๆที่ผมกั้นเอาไว้กำลังจะขาดลง 

“ไม่เป็นไรใช่ไหม” ผมถาม

“อืม ไม่เป็นไร” 


****โปรดติดตามตอนต่อไปตอนหน้านะคะ****


เอร้ยยยยยยยยยยย ตัดไปแบบนี้ได้ไง #บอกตัวเองนี่แหละค่ะ 5555555
ขอบคุณมากที่ช่วยบอกคำผิดนะคะ ดีใจๆ เพราะรู้ตัวว่าเป็นคนพิมพ์ผิดเยอะมาก แต่มองแล้วบางทีก็ลอดสายตาไป
แล้วจะกลับแม่แก้คำผิดให้นะคะ ขอบคุณที่ยังติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-11-2015 17:00:56
กลอนจ๋า ไม่ต้องลืมพี่ฉลามอย่างที่พัดโบกบอกนั่นแหละ แล้วกลอนจ๋าก็ไม่จำเป็นต้องปิดกั้นตัวเองเนอะ  :กอด1:
ขอบคุณหนังของบุ้ง ที่ทำให้กลอนจ๋าให้โอกาสตัวเองและพัดโบก ตอนหน้าคาดหวังได้ไหมอ่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 12-11-2015 18:40:08
หน่วงจังเลย
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 12-11-2015 21:09:37
อาจจะเป็นคนนี้
หวังว่าใจ..เค้าคงดี

+1 ให้กับพัดโบก

เฉพาะตอนนี้นะ
เพราะตอนหน้ายังไม่รู้
หุหุ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-11-2015 21:36:15
 :katai2-1:     ค้างงงงงงง
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-11-2015 22:26:47
สนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 12-11-2015 22:34:15
3 in 1  ค่ะ
ช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงที่ลำบากมากๆสำหรับกลอนนะ
คือเดินหน้าก็ไม่กล้ากลับหลังก็ไม่ได้
ไม่ต้องลืมความหลังหรอกค่ะ
เพราะว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรา
แต่อย่าเก็บเอามาฝังใจเพราะจะทำให้เดินหน้าไม่ได้
ความรักกับพี่ฉลามเป็นสิ่งที่ดีและสวยงาม
เก็บเอาไว้เป็นแหล่งพลังงานของชีวิต
ว่าครั้งหนึ่งกลอนมีโอกาสได้มีความรักแบบนั้น
เปิดใจให้พัดโบก ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ค่อยๆดูใจกันไปทีละนิด
ถ้ามันใช่ก็เป็นสิ่งที่ดี

สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราชื่นชมกลอนมากๆก็คือการที่กลอนคิดไตร่ตรองก่อนทำ
กลอนคิดถึงคนรอบข้างเสมอ
ใช้ชีวิตโดยระวังไม่ผลีผลาม
นี่คือเหตุผลสำคัญที่เราเชื่อว่าทำให้กลอนไม่ได้หลวมตัวเต็มที่กับความรักครั้งแรกกับครั้งที่สองและทำให้กลอนมีสติกับความรักครั้งที่สาม
กับพัดโบกนี่ถ้าจะเป็นไปได้นะ  เรามองว่าอาจจะเป็นไปในแนวที่อยู่ด้วยกันเหมือนที่อยู่มากับเด่นหลายปี จนคนรอบข้างรู้หมดแล้วว่าอะไรยังไง  เรามองแนวนี้จริงๆ

แต่เราก็ยังหวังอยู่ลึกๆว่าจะได้รับข่าวเรื่องพี่ฉลาม  หวังว่าการเสียสละความรักของเด็กสองคนนี้จะเป็นสิ่งที่คุ้มค่า

รักคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 13-11-2015 04:37:31
ตัดจบได้ทำร้ายมาก
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 13-11-2015 12:09:50
 :katai4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 13-11-2015 19:38:36
คนที่รวม ส่วนต่างๆที่เราชอบจากคนที่เราเคยชอบนี่ ใช่รึยังนะ? แล้วพัดโบกนี่ดีจริงรึป่าววววว? น้องกลอนไม่กังวล แต่พี่อ่านพี่กังวลแทน
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 13-11-2015 21:04:54
ดีใจที่กลอนเปิดใจ
เรื่องของความจำไม่จำเป็นต้องล้างออกไป
ยิ่งเป็นความทรงจำที่ดีแค่เก็บไว้ที่มุมหนึ่งของใจก็พอ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 13-11-2015 21:58:51
เป็นกำลังใจให้กลอน
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 14-11-2015 09:42:31

ดีใจที่พัดเองก็ดีกับกลอนมาก...
ใจนี่อยากให้กลอนได้พบความสุขในความรักเสียที
(กลัวมากว่าพอลงเอยกับพัดโบกแล้วพี่ฉลามจะกลับมา
เฮ่ออออ... ทีนี้ป้าเลือกไม่ถูกเลยว่าจะหันหน้าไปซบอกใคร //
ได้ข่าวว่าหล่อนไม่ใช่กลอน?!!)

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^  :L2:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: marisa9397 ที่ 14-11-2015 22:24:29
เพิ่งมาอ่านรวดเดียวเลยค่ะ เสียน้ำตาไปหลายปีบมาก

กลอนเป็นคนดี ทัศนคติดีจัง เป็นกำลังใจให้กลอนได้เจอคนดีๆค่ะ

ขอบคุณผู้แต่งมากนะคะ เป็นกำลังใจและรอติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 14-11-2015 23:42:36
ชอบกลอนที่เป็นคนตรงดี รู้สึกว่าพัดโบกไม่งี่เง่าด้วย เข้าใจอะไรง่ายๆ แต่ก็กลัวมาทำให้กลอนเสียใจ

อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว  :hao7:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 2 ล้างให้ออก อัพวัน พฤ. 12/11 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ 16-11-2015 22:45:24
เปะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 3 ล้างให้ออก (จบตอน) อัพวันพุธ 18/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 18-11-2015 11:45:39
บันทึกรักที่ 4  ล้างให้ออก (ตอนที่ 3) จบตอน


ไม่รู้ว่าฟ้าจะแกล้งหรือจะช่วยผมกันแน่ เพราะสายฝนที่เริ่มซาลงเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ตอนนี้เริ่มกระหนำตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาอีกครั้ง ฟ้าฝนที่เทลงมาอย่างหนักทำให้ไฟดับ เมื่อไฟดับก็ดูดีวีดีแผ่นต้องห้ามนั้นต่อไม่ได้ ผมรู้สึกโล่งใจที่ไม่ต้องจมอยู่กับบรรยากาศล่อแหลมนั้น แต่ความโล่งใจมีได้แค่เศษเสี้ยววินาที เมื่อฟ้าผ่าลงมาตรงไหนสักแห่งใกล้ๆ ผมตกใจจนขยับไปนั่งเกยกับพัดโบกจนแทบจะรวมเป็นร่างเดียวกัน ได้ยินเสียงพัดโบกหัวเราะเยาะในความขี้ตกใจของผม


“พัดโบกยังกลัวผีได้เลย เรากลัวฟ้าร้องผิดตรงไหน” ผมรีบพูดแก้เขินพร้อมกับจะขยับตัวออก แต่โดนมืออีกฝ่ายรัดตัวเอาไว้แน่นเหมือนงูเหลือมที่พร้อมจะเขมือบเหยื่อแล้ว

“เรายังไม่ได้ว่าอะไรเลย” พัดโบกพูดแล้วก็ขำต่อ

“ก็ขำทำไมละ ยิ่งกว่าพูดออกมาอีก”

“เราขำตัวเองต่างหาก ปกติเราก็กลัวฟ้าร้องนะ ฝังใจตั้งแต่เด็กๆ แต่พอมาเจอกลอนกลัวกว่า เรากลับไม่ตกใจอย่างที่เคย ตลกดี” ผมฟังแล้วก็นึกขำตาม มีการหายกลัวเพราะเจอคนกลัวกว่าได้ด้วยเหรอ อันที่จริงผมไม่ได้กลัวหรอก แต่ผมตกใจ มันดังมากจริงๆ คิดดูสิครับ กระจกประตูระเบียงถึงกับสะเทือนเลยครับ

“แต่ตอนนี้เราไม่ได้กลัวแล้ว ปล่อยเราได้แล้ว” ผมบอก

“กลอนเลิกกลัว แต่เรากลัว”

“อ้าว ไหนบอกไม่กลัวฟ้าร้องแล้วไง”

“เราไม่ได้หมายถึงฟ้าร้อง เรากลัวว่า..ถ้าปล่อยกลอน เราจะไม่ได้กอดกลอนแบบนี้อีก” ผมไม่ได้เห็นว่าสีหน้าของพัดโบกตอนที่พูดประโยคนี้เป็นแบบไหนเพราะในห้องมันมืด ท้องฟ้าด้านนอกก็มืดครึ้มด้วยเมฆฝน ถึงจะมีแสงไฟจากทางเดินนอกห้องเพราะคอนโดคงมีเครื่องปั่นไฟสำหรับลิฟท์และส่วนกลาง แต่ในห้องก็ยังมืด พอเห็นแค่ลางๆเท่านั้น ได้ยินเพียงน้ำเสียงที่ดูจริงจังไม่ได้หยอกล้อกึ่งทะเล้นเหมือนเคย

“อดีตของกลอนเราไม่คิดจะไปแตะต้องเลยนะ แต่อนาคตของกลอนจะมีเราอยู่ด้วยได้หรือเปล่า” ผมยอมรับว่าพอได้ฟังพัดโบกพูดแบบนี้ด้วยน้ำเสียงอ้อนๆแล้วใจของผมอ่อนยวบเลย

“เรื่องของอนาคตใครจะไปตอบได้ละ ต้องไปถามหมอดูแล้วละ” ผมบอกด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ ไม่อยากให้บรรยากาศมันดูจริงจังจนทำอะไรไม่ถูก

“งั้นขอเป็นปัจจุบันก็ได้ สถานะไหนก็ได้ เรายอม ให้เราได้ดูแลกลอนนะ” พัดโบกยังยื่นข้อเสนอมา

“ดูๆกันไปเรื่อยๆเนอะ อย่าไปจำกัดสถานะเลย ให้เวลาเราหน่อยนะ เรายังอยากโฟกัสเรื่องเรียนแล้วก็เรื่องพ่อก่อน แต่เราไม่ได้รังเกียจพัดโบกนะ เรารู้สึกดี” ผมตอบกลับไป


ยังไม่ทันที่จะฟังว่าพัดโบกจะตอบอะไรกลับมาแสงจากท้องฟ้าสว่างวาบนำมาก่อน ผมรู้ได้ทันทีว่าจะต้องมีเสียงดังตามมา แต่ยังไม่ทันจะปิดหูตัวเอง พัดโบกก็ยกมือของเขามาปิดหูให้ผมและกดน้ำหนักให้ศีรษะของผมให้มาซบที่ไหล่ของเขา แล้วฟ้าก็ร้องจริงๆ คราวนี้แรงกว่าเดิม ผมสงสัยว่าจะมีสายล่อฟ้าอยู่แถวนี้หรือเปล่า ใจผมเต้นตึกตักๆเพราะลมหายใจของพัดโบกเป่ารดอยู่บริเวณแก้มของผม เมื่ออีกฝ่ายเอามือออกจากหูของผมแล้วมากดที่คางของผมแทน ผมกำลังกัดริมฝีปากเหมือนเคย ในแสงสว่างเพียงน้อยนิดแบบนี้เขาก็ยังรู้ว่าผมกัดปากตัวเองอยู่


“บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้กัด”


พัดโบกบอกก่อนจะทาบริมฝีปากของตัวเองมาที่ริมฝีปากของผม ลิ้นอุ่นๆค่อยๆเลียไปมาที่รอยแยกของริมฝีปากของผมก่อนจะสอดมันเข้าไปสัมผัสกับลิ้นของผม พัดโบกไม่ได้รีบร้อนแต่ละเลียดบดเบียดและดูดดุนช้าๆจนผมรู้สึกดื่มด่ำคล้อยตามกับจุมพิตที่อ่อนโยนนี้ ร่ากายของผมค่อยๆเอนลงนอนราบบนโซฟา โดยมีพัดโบกเอนตัวตามลงมาค่อมตัวของผมเอาไว้ มือของพัดโบกล้วงเข้ามาในเสื้อนอนของผมแล้วลูบไล้ไปทั่ว มือซุกซนในเสื้อ ริมฝีปากก็ยังคลอเคลียไปทั่วใบหน้าและลำคอของผมจนผมสะท้านไปกับทุกสัมผัส ผมแอ่นหน้าอกขึ้นเพราะเมื่อเสื้อนอนของผมถูกเลิกขึ้นมา พัดโบกก็ตวัดปลายลิ้นไปทั่วๆหน้าอกของผม ยกเว้นยอดอก พัดโบกเหมือนจะแกล้งผมเพราะไล้เลียชิมเฉียดส่วนที่ไวต่อสัมผัสไปมา


“อ-อื้อ.ออ อ่าห์” ผมสะดุ้งและร้องครางโดยอัตโนมัติเมื่อลิ้นที่แกล้งลากเฉียดยอดอกไปมากลับมาจ่อที่ปลายยอดและตวัดดูดแรงๆ พัดโบกเคล้นคลึงหน้าอกของผมและดูดจนได้ยินเสียงจร้วบจร้าบแข่งกับเสียงสายฝนด้านนอก

“พัดโบก..อื้มม” ผมได้แต่ร้องเรียกแต่ไม่มีแรงจะห้าม อีกฝ่ายเหมือนจะได้ใจเลยไล่ชิมไปทั่วตัวผมจนถึงหน้าท้องน้อย ผมเกร็งท้องและกลั้นหายใจ มืออีกฝ่ายดึงกางเกงนอนยางยืดของผมลงพร้อมกับเกี่ยวกางเกงในของผมลงไปกองที่ปลายเท้า พัดโบกยกขาข้างหนึ่งของผมพาดไปที่พนักพิงโซฟา ผมจิกหมอนอิงแน่นเมื่อลิ้นร้อนเลียไปที่โคนขาอ่อน

“อื้อ..อึ๊ก..อ่าห์..พ-พ—พัดโบก ตรงนั้น อื้ออ” ผมร้องครางดัง


จุดอ่อนของผมคือตรงโคนขาอ่อนและใกล้ๆบริเวณนั้น คนรักที่ผ่านๆมาของผมไม่เคยมีใครรู้จุดตรงนั้นเลย อย่างพี่ฉลามก็มักจะจู่โจมที่ส่วนกลางเลย แต่พัดโบกกลับสาละวนอยู่ตรงนั้นเนิ่นนานจนผมร้องครางดังอย่างที่ห้ามไม่ได้ ผมบิดตัวไปมา เสียวเหมือนใจจะขาดจนแทบเสร็จ ผมบอกแล้วว่ามันเป็นจุดอ่อนของผมจริงๆ ผมถูกปลุกเร้าจนปวดส่วนกลางลำตัว เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ใจ พัดโบกใช้ปากครอบครองส่วนตื่นตัวของผมแล้วรูดรั้งมันช้าๆ มืออีกข้างก็วนคลึงอยู่ที่ช่องทางคับแคบ ผมเผลอยกสะโพกรับจังหวะที่ถูกรูดรั้ง มัวแต่จมดิ่งกับอารมณ์ที่พุ่งทะยาน ไม่รู้เลยว่านิ้วของพัดโบกเข้าไปกระตุ้นคลึงอยู่ในร่างกายของผมแล้ว


“อ๊ะ..” ผมหลุดเสียงร้องออกมาเมื่อนิ้วถูกดึงออกแล้วมีบางอย่างที่ใหญ่กว่ามาจ่อวนอยู่ที่รอยจีบ ชะโงกมองไปเห็นพัดโบกคุกเข่าอยู่ตรงหว่างขา ผมเดาว่าพัดโบกคงกำลังใส่ถุงยางอยู่ ใจนึกอยากถามว่าเตรียมการตอนไหน สงสัยตอนผมไปอาบน้ำ ถ้าเดาต่อผมว่าพัดโบกคงรู้ว่าดีวีดีแผ่นนั้นเป็นหนังสิบแปดบวกแน่ๆ แล้วที่บอกกับผมว่าเด่นมันจะไม่ไปไหนก็คงหลอกผมอีกแน่ๆ เจ้าเล่ห์นัก แต่เดาไปก็เท่านั้น ผมปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินมาถึงตอนนี้แปลว่าผมเองก็ย่อมรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมเต็มใจเอง ผมทบทวนแล้ว ถึงไม่แน่ใจว่าหัวใจพร้อมไหมกับการเริ่มต้น แต่ผมรู้ว่าร่างกายของผมต้องการปลดปล่อยอารมณ์ความต้องการ ถ้าใครคนนั้นเป็นพัดโบก ผมรู้สึกวางใจ

“เจ็บบอกนะคนดี” พัดโบกโน้มตัวมาจูบที่แก้มของผมก่อนจะค่อยๆดันส่วนนั้นเข้ามาในร่างกายของผมช้าๆ ผมจะกัดปากแต่พัดโบกรีบชิงจูบมาเสียก่อน ลิ้นเราสองคนตวัดรัดเกี่ยวกัน ความดื่มดำในรสจูบลดอาการเกร็งของผมลง ไม่นานพัดโบกก็เข้ามาในตัวผมได้หมด

“ขอโทษนะที่ปล่อยให้ค้าง” พัดโบกกระซิบที่ข้างหูก่อนจะขบเม้มที่ติ่งหูของผม


สักพักพัดโบกก็ยันตัวขึ้นไปคุกเข่าเหมือนเดิม จับขาผมมาพาดกับไหล่ของเขาแล้วขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ ตัวผมเลื่อนไปมาตามแรงจังหวะ มือของพัดโบกกอบกุมส่วนนั้นของผมแล้วช่วยนำพาอารมณ์ที่ค้างเอาไว้ให้ดำเนินต่อไป พออารมณ์ไต่ขึ้นจวนจะทะลักทะลายพัดโบกก็หยุดนิ่งแล้วเปลี่ยนท่า โดยการจับผมพลิกตัวมาอยู่ในท่าเกาะพนักพิงโซฟาเอาไว้ พัดโบกมายืนข้างหลัง แล้วเริ่มดันส่วนกลางเข้ามาใหม่ คราวนี้พัดโบกเร่งจังหวะเร็วและแรงว่าเดิมจนเสียงเนื้อของเราสองคนกระทบกันดังเป็นจังหวะ


“อ๊ะ อ๊ะ ซี๊ดดด...อ๊ะ..” เสียงของผมดังกระท่อนกระแท่นฟังไม่ได้ศัพท์ ท้องฟ้ายังคงแลบแปลบปลาบร้องคำรามดูน่ากลัว แต่พายุอารมณ์ในห้องนี้กลับรุรแรงกว่า ผมใจจะขาดเมื่อพัดโบกกดสะโพกผมให้ต่ำลงแล้วกดสะโพกผมพร้อมกับสวนเจ้าหนูของเขาให้ทิ่มลงมาเสียดสีด้านในของผมเน้นๆ เขาหมุนควงสะโพกไปมาและเน้นจังหวะย้ำๆกับผนังด้านในของผม ผมไม่เคยเจอสัมผัสที่มีผลรุนแรงกับอารมณ์ขนาดนี้มาก่อนเลย มันเสียวมากครับ เสียวโดยที่คราวนี้พัดโบกไม่ได้จับส่วนอ่อนไหวของผมด้วยซ้ำ ผมกัดปาก กำมือแน่น เริ่ดหน้าขึ้นแล้วก่อนจะปล่อยครางเสียงดังเพราะภายในของผมมันแผ่วร้อนและสั่นสะท้านตั้งแต่หัวถึงปลายเท้า ผมไม่รู้ว่าตัวเองลอยได้หรือเปล่า แต่ผมรู้สึกแบบนั้น มันหวิวไปหมด เลืองลางไปหมด ผมปลดปล่อยน้ำรักออกมาพร้อมกับพรูลมหายใจที่อัดแน่นรุนแรงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“อื้ม  ซี๊ดดดด กลอน ดีจังเลย ซี๊ดดดดดดดดดด อึ๊ก..กก อ่าห์..” ไม่นานพัดโบกก็เสร็จตามผมมา เมื่ออีกฝ่ายดึงส่วนกลางออกจากตัวผม ผมถึงกลับทิ้งตัวลงไปนั่งกับโซฟาแล้วหายใจหอบเหนื่อย ผมเกร็งร่างกายจนเหนื่อย มันสุขล้น ยอมรับว่าเป็นซ็กส์ที่ทำให้ผมสะท้านที่สุดตั้งแต่เคยมีมา

“เหนื่อยเหรอ” พัดโบกลงมานั่งข้างผมแล้วจับตัวผมให้มานั่งซ้อนตักหันหน้าเข้าหาเขา

“จะต่ออีกเหรอ” ผมถาม รอบเดียวผมก็ใจจะขาดแล้ว ยังเสียววาบๆที่หน้าท้องอยู่เลย

“เปล่า อยากเห็นหน้า” พัดโบกใช้นิ้วเกลี่ยเหงื่อที่หน้าผากให้ผม ในแสงสว่างลางๆ แต่เราอยู่ใกล้กันจนพอที่จะเห็นใบหน้าของกันและกัน สีหน้าของพัดโบกดูอ่อนโยนมากๆ

“ดีไหม ชอบไหม มีความสุขหรือเปล่า” พัดโบกถามผม ผมพยักหน้า พัดโบกยิ้มแล้วโอบรอบเอวของผม ดันผมให้ขยับเข้ามาแล้วจูบผม จูบที่เนิ่นนานกว่าจะถอนออก

“เราจะอยู่ตรงนี้นะ วันนี้ไม่พร้อมจะรักเราก็ไม่เป็นไร แต่เราจะอยู่ข้างๆ จะเป็นทุกอย่างให้นะ” พัดโบกลูบไล้ที่ใบหน้าของผมก่อนจะหอมที่แก้มของผม ผมรู้สึกดีนะ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ก่อตัวขึ้นในใจ ขอให้มั่นใจอีกหน่อยว่าผมล้างใครบางคนออกจากหัวใจได้ แล้วผมจะบอกเขา ถึงวันนี้ผมไม่ได้พูดออกมาว่าผมรักเขาเพราะไม่มั่นใจ แต่ผมก็ไม่คิดจะดูใจใครอื่นและนอนกับใครอื่นนอกจากเขา คงเป็นสิ่งเดียวที่ผมจะทำให้ผู้ชายคนนี้ได้ในตอนนี้

“อื้อ... ไหนว่าไม่แล้วไง อ—อื้อมมม” ผมถามติดๆขัดๆเมื่อพัดโบกดูดกลืนยอดอกของผมจนอารมณ์ของผมเริ่มตะเหลิดอีกครั้ง

ก็อกๆๆๆ ก็อกๆๆ


เสียงเคาะประตูหลายทีทำให้ผมตกใจ ผมรีบลุกขึ้นมายืน พัดโบกเองก็ด้วย ฝนตกหนักแบบนี้และดึกป่านนี้ไม่รู้ว่าใครมาเคาะหรือจะเป็นเด่นที่กลับมา ผมรีบคว้าเสื้อผ้าเดินฝ่าความมืดเข้าไปในห้อง บอกพัดโบกว่าให้เก็บถุงยางไปทิ้งด้วย ผมเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเรียบร้อยดีก็คลำหาไฟฉายที่เก็บเอาไว้ที่โต๊ะทำงาน หาเจอก็รีบเดินออกมานอกห้อง ผมฉายไปที่ประตูห้อง ก็เห็นพัดโบกอยู่ในชุดกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวยืนพิงประตูอยู่ ส่วนอีกคนที่ยืนอยู่ตรงปากประตูก็คือ..


“พี่นุ๊ก..” ผมร้องเรียกเพราะตกใจ ไม่คิดว่าพี่จะเป็นพี่นุ๊ก พี่เขาไม่เคยมาหาผมที่คอนโดเลย หรือว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับพี่ฉลาม ผมเริ่มใจไมดี

“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมรีบเดินไปหาแล้วถาม พัดโบกขมวดคิ้วมองผมสลับกับพี่นุ๊ก

“ไม่มีอะไร พี่เห็นไฟดับนานแล้ว กลัวกลอนจะกลัวฟ้าร้องเลยแวะมาดู” พี่นุ๊กบอกพลางมองไปที่พัดโบกเหมือนกัน

“พี่รู้ได้ไงว่ากลอนกลัวฟ้าร้อง” ผมถาม อีกฝ่ายอึ้งไปจนผมคิดว่าผมรู้คำตอบ ซึ่งถ้าผมเดาถูก คำตอบนั้นมาสั่นคลอนหัวใจผมจนไหวหวั่นอย่างรุนแรง

“หม้อแปลงหน้าปากซอยถูกฟ้าผ่าจนระเบิด คงอีกพักใหญ่เลยกว่าไฟจะติด แต่มีเพื่อนอยู่ด้วยแล้วพี่ก็ไม่ห่วงแล้ละ ถ้ามีอะไรโทรเข้าหาพี่ที่บ้านได้เลยนะ” พี่นุ๊กไม่ตอบคำถามผม ผมเลยมั่นใจแล้วว่า พี่ฉลามคงจะบอกให้พี่นุ๊กมาดูผม แต่พี่ฉลามรู้ได้ยังไงว่าฝนตกไฟดับหรือว่าพี่เขาจะกลับมาแล้วโดยที่ผมไม่รู้ เหมือนพี่นุ๊กจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่

“พอดีฉลามมันโทรมาคุยกับพี่อยู่พอดี พี่ไปนะ” พี่นุ๊กยิ้มให้ผมแล้วก็เดินออกไป ผมหันไปมองพัดโบกที่ยืนทำหน้าเฉยๆอยู่ ผมเดินถอยกลับมาพัดโบกก็ปิดประตู

“พี่เขาเป็นเจ้าของคอนโดนี้ เป็นพี่ชายของพี่ฉลาม” ผมพูดขึ้นมาลอยๆ พัดโบกหันกลับมายิ้มให้ผมก่อนจะดึงเอวผมไปกอดแล้วพาเดินกลับมานั่งที่โซฟา

“ยืมไฟฉายหน่อย” พัดโบกบอก ผมส่งให้ ไม่รู้อีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ พัดโบกเดินหายไปในครัวก่อนจะกลับออกมาพร้อมกับกล่องเมลามีนสีขาวลายดอกไม้สีชมพูหวานเชียว

“อะไรอะ” ผมถาม พัดโบกวางไฟฉายที่โต๊ะกลางพร้อมกับนั่งลงที่โต๊ะกลางนั่นแหละก่อนจะเปิดฝาชามเมลามีนที่ยกมา ข้างในเป็นเอแคลร์วางเรียงรายเต็มไปหมด

“น่ากินจัง ทำเองหรือซื้อ” ผมถาม

“ถามแบบนี้ฉีกใบเชฟทิ้งเลยดีกว่า ทำเองสิ ของที่กลอนชอบเราไม่ให้กินฝีมือคนอื่นหรอก” พัดโบกพูดแล้วหยิบขนมมาหนึ่งชิ้นแล้วป้อนผม

“อร่อยจังเลย สุดยอด” ผมชิมแล้วยกนิ้วให้ อร่อยมากๆครับ อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยกินมาเลย

“จริงดิ ไหนชิมหน่อย” พัดโบกโน้มตัวมาจูบปากผม แทรกลิ้นมากวาดทั่วโพรงปากของผมก่อนจะถอนออก

“อืม อร่อยจริงๆ อร่อยกว่าตอนชิมข้างนอก สงสัยต้องกินต่อจากกลอนตลอดถึงจะอร่อย” พัดโบกพูดจบก็หยิบเอแคลร์ป้อนผมใหม่

“มั่วแล้ว” ผมว่าเขา เขาหัวเราะก่อนจะเปิดเสื้อผมออกแล้วหยิบเอแคร์มาบี้ลงกับหน้าอกของผม

“ทำอะไร เปื้อนหมดแล้ว” ผมตกใจ เอแคลร์เย็นๆมาโดน ยอดอกผมแข็งชันเพราะขนลุกเลย

“จัดให้นะ” พัดโบกยิ้มแล้วลงไปนั่งคุกเข่าที่พื้น ก่อนจะเลียยอดอกของผมจนไม่เหลือเศษซากของขนมเมื่อครู่เลย ผมสิจะบ้าตาย ขนลุกเกรียวแล้วก็เกร็งไปหมด

“อร่อยกว่าปกติจริงๆนะ” พัดโบกบอกแล้วจับมือผมให้ลุกขึ้นเดินตามมาที่ห้องครัว อีกมือก็ถือขนมมาด้วย เขาผลักผมลงนอนลงบนโต๊ะกินข้าว ก่อนจะจัดการถอดเสื้อผ้าที่ผมเพิ่งใส่ออกจนหมด แล้วก็ละเลงเอแคลร์ทั่วร่างกายของผมเลย ผมใจเต้นแรง เกิดมาเพิ่งเคยโดนทำแบบนี้ ที่สำคัญผมกลับไม่ปฏิเสธเลย ปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจตัวเอง


ผมไม่รู้ว่าคืนนั้นฝนหยุดตกเมื่อไหร่ ผมจมดิ่งกับรสรักที่ผมไม่เคยคิดว่าจะถูกกระทำแบบนี้เลยในชีวิต ผมถูกพัดโบกมอบความแปลกใหม่และความรัญจวนใจอย่างที่ผมไม่เคยได้รับมาก่อน ทุกท่วงท่าทุกลีลาที่ผู้ชายคนนี้มอบให้มา มันไม่ใช่แค่ความเร้าร้อนของอารมณ์ทางเพศ แต่มันอ่อนโยนและผมรู้สึกได้ถึงความใส่ใจในรายละเอียด ทุกอากัปกิริยาของผมที่ส่งตอบกลับไป มันทำให้อีกฝ่ายเก็บรายละเอียดแล้วนำมาปรนเปรอให้ผมจนผมสำลักความสุขไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ไม่ใช่เพียงแค่ในครัวที่ผมถูกพาไป แทบจะทุกพื้นที่ของห้องที่พัดโบกทำให้สติของผมกระเจิดกระเจิงจนไม่รู้เวลาเลย จนกระทั่งพัดโบกพาผมมานอนที่เตียง เช็ดตัวให้ผมอย่างทะนุถนอม เช็ดทุกส่วนของร่างกายจนผมสบายตัวแล้วผล็อยหลับไป


..ในคืนนั้นผมนอนหลับสนิท ไม่ได้ฝันอะไรเลย คงเพราะความอ่อนเพลีย ผมรู้แต่ว่า ผมมีความสุข สุขจากการกระที่อ่อนโยนเอาใจใส่ของพัดโบก และลึกกว่านั้น ผมมีความสุขมากๆ เมื่อรู้ว่าใครอีกคนของที่อยู่คนละฝากฟ้า เขายังคงคิดถึงและเป็นห่วงผมอยู่ เขายังไม่ได้ลืมผม..

....
..
.


((มีต่อด้านล่างค่ะ))

V
V

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 3 ล้างให้ออก (จบตอน) อัพวันพุธ 19/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 18-11-2015 11:51:30
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


หลังจากคืนวันนั้น ผมและพัดโบกก็คงทำตัวตามปกติเวลาที่อยู่ต่อหน้าคนอื่น แม้กระทั่งเด่นเองก็ไม่ได้ผิดสังเกตหรือถามอะไร ผมไม่แน่ใจว่าเด่นจะรู้เห็นเป็นใจให้พัดโบกเข้ามาในชีวิตของผมหรือเปล่า แต่เมื่อมันไม่ได้พูดอะไรกับผม ผมก็เลยวางตัวแบบที่เคยเป็น ไม่ได้แสดงตัวอะไรให้มันมาถาม ส่วนพัดโบก เขาทำให้ผมผิดคาด ผมนึกว่าเขาจะเผลอลืมตัวแสดงออกกับผมมากกว่าเพื่อนธรรมดา แต่ไม่เลยครับ เขาเก็บอาการได้ดี เขาไม่ได้ทำให้ผมอึดอัดใจหรือลำบากใจเลยเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น แม้ว่าเวลาที่ผมกลับบ้านไปหาแม่ บางทีพัดโบกจะตามกลับไปด้วย แต่พัดโบกวางตัวดี ทำตัวจนเป็นที่รักของแม่ผม แม่ดูจะเอ็นดูพัดโบกมาก พัดโบกทำให้แม่ยิ้มได้มากกว่าผมเสียอีก ผมเองเพิ่งรู้จากเด่นว่า พ่อแม่ของพัดโบกเพิ่งเสียจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ พัดโบกเหลือแค่ครอบครัวทางแม่ที่อยู่ในไทยก็คือครอบครัวของเด่น ส่วนครอบครัวทางพ่อของพัดโบกอยู่ที่ญี่ปุ่น มิน่าพัดโบกถึงขาวขนาดนี้เพราะมีเชื้อสายญี่ปุ่นอยู่นี่เอง


ผมตัดสินใจเล่าเรื่องของพัดโบกให้บุ้งฟัง ทีแรกบุ้งก็เหมือนจะตั้งแง่ไม่ชอบพัดโบก บุ้งอยากให้ผมรอพี่ฉลาม แต่พอผมพาพัดโบกมาเจอกับบุ้ง พัดโบกก็เป็นที่รักของเพื่อนๆผมไปอีก ถึงจะมาสายทำอาหาร แต่พอคุยกับเสือเรื่องรถ ดันถูกคอจนดื่มน้ำเมาร่วมสาบานกันเลยทีเดียว พัดโบกมาอยู่กับผมจนหมดเทอม ผมเก็บวิชาที่เหลือครบแล้ว มั่นใจว่าผ่านทุกตัว ทีนี้ก็เหลือแค่การฝึกงาน ซึ่งมันไม่ใช่ปัญหา ผมผ่านอยู่แล้วแน่ๆ ผมโล่งใจมาก ในที่สุดก็เรียนจบเสียที ถ้าไม่ผิดตามที่ผมคาดเอาไว้ ผมจะได้เกียรตินิยมมาฝากแม่กับพ่อด้วย


“ถ้าเราไม่อยู่ต้องกินข้าวให้ตรงเวลานะ” พัดโบกเชยคางผมให้หันมามองหน้าเขา ผมนั่งทำรายงานอยู่บนเตียง ส่วนเขานั่งที่เก้าอี้ที่ลากมาตั้งข้างเตียง เราอยู่กันสองคนในห้อง เพราะเด่นไปเที่ยวทะเลกับแฟนอีกแล้ว แฟนคนใหม่ด้วย สงสัยมันจะทำยอดลงกินเนสบุ๊ค ไม่เคยซ้ำหน้าเลยจริงๆ

“รู้เปล่า ตั้งแต่พัดโบกมาอยู่กับเรา เราอ้วนขึ้นตั้งเยอะ แม่ยังบอกเลยว่ามีเนื้อมีหนัง” ผมยกแขนขึ้นมาดู พัดโบกหัวเราะแล้วกัดเบาๆที่แขนของผม

“เราชอบ จับตรงไหนก็นุ่มนิ่ม” พัดโบกพูดจบก็โน้มตัวมาหอมแก้มผม

“ไปปีหนึ่งเลยเหรอ” ผมถามแก้เขิน พัดโบกต้องกลับไปเรียนให้จบคลาส พัดโบกเล่าว่าตอนแรกไม่คิดจะกลับมาที่นี่ด้วยซ้ำ แต่พอรู้ว่าผมกำลังอกหักเลยรีบกลับมา ผมเคยบอกเขาไปว่าผมไม่เชื่อว่าเขากลับมาเพราะผม แต่หลายๆอย่างมันทำให้ผมเริ่มเชื่อว่าผู้ชายคนนี้หลงรักผมจริงๆ

“อืม อยากรีบไปเรียนให้จบแล้วจะได้รีบกลับมา อย่าเป็นเด็กดื้อนะ” พัดโบกบอกผมก่อนจะกระโดดขึ้นมานอนบนเตียงแล้วเท้าคางมองผม

“ใครกันแน่ที่ดื้อ” ผมย้อนถาม เมื่อวานเราเถียงกันเรื่องที่เขาชอบขับรถเร็ว พัดโบกบอกว่าถ้าไม่ได้เรียนเชฟจะไปเป็นนักแข่งรถ

“ไม่ดื้อแล้วไง”

“ก็ดีแล้ว เราก็จะกินข้าวตรงเวลา สบายใจได้รึยังคนขี้บ่น” ผมบอกเขา เขายิ้มแล้วก็ขยับๆตัวมานอนที่ตักของผม

“จะคิดถึงเราไหม” พัดโบกถามผม ผมก้มลงมามองหน้าคนที่มาหนุนตักของผมอยู่

“คิดถึงสิ คนเคยเจอกันบ่อยๆ ไม่อยู่ก็ต้องคิดถึง”

“เราไม่อยากกลับไปเลย แต่เราอยากมีอนาคตที่ดี เราจะได้ดูแลกลอนกับแม่ได้” ผมอึ้งไปเมื่อได้ยิน ผมไม่คิดว่าพัดโบกจะคิดเผื่อไปถึงแม่ของผม

“ทำเพื่อตัวเองคือจุดมุ่งหมายที่พัดต้องบอกตัวเองนะ คนอื่นค่อยมาทีหลัง” ผมบอกเขา

“กลอนกับแม่ไม่ใช่คนอื่นสำหรับเรานะ อีกอย่าง ตั้งแต่พ่อแม่เราตาย เราไม่มีจุดมุ่งหวัง จนมาเจอกลอน มันทำให้เราอยากมีอนาคตที่ดี”

“งั้นก็ทำตัวดีๆนะ ถ้าทำตัวไม่ดีเราจะตีให้ก้นลาย” ผมพูดจบอีกฝ่ายก็ยิ้มกว้าง


อีกแค่สามวันพัดโบกก็จะเดินทางแล้ว ไม่รู้ว่าเพราะผมมีภูมิคุ้มกันตั้งแต่ตอนพี่ฉลามหรือเปล่า ผมถึงได้ไม่รู้สึกทรมานในการจากลามากเท่าที่คิดเอาไว้ ผมรู้ตัวดีว่าผมรับเอาพัดโบกเข้ามาในใจแล้ว ช่วงเวลาเกือบครึ่งปีที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กันแทบจะทุกวัน นอกจากความรู้สึกดีๆที่มันกำลังกลายเป็นความรักมันก็คือความผูกพันด้วย ผมไม่เคยทะเลาะกับพัดโบกเลย บุ้งเคยบอกว่าที่ผมไม่ได้ทะเลาะกับพัดโบกมีอยู่สองประเด็น คือ หนึ่งเพราะยังอยู่ในช่วงโปรโมชั่นรักเหนือสิ่งอื่นใดยอมกันได้ทุกอย่างกับ สอง เพราะผมไม่ได้คาดหวังอะไรจากรักครั้งนี้เท่าที่ผ่านมา ผมปล่อยตัวสบายกว่าเดิม พัดโบกก็ไม่มีครอบครัวให้ผมต้องมากดดันเรื่องรับได้หรือไม่ได้ เลยไม่มีอะไรให้เป็นประเด็นมาเถียงกัน มันอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้


วันที่พัดโบกเดินทางไปญี่ปุ่น ผมใจหายนะถึงปากจะบอกว่าโอเค แต่ลึกๆผมก็รู้สึกเหงา พัดโบกเป็นคนเอาใจเก่ง ผมทำงานหนักกลับมาก็จะคอยมานวดหรือทำอะไรอร่อยๆเอาไว้ให้ ส่วนเรื่องบนเตียงไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ผมขอมอบถ้วยให้เลย บางทีผมก็แอบสงสัยนะ ว่าก่อนหน้าผม พัดโบกอาจจะเคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อน อย่างเต็งหนึ่งนี่ได้ทั้งชายทั้งหญิง คบผมเพราะอยากลอง พี่รันยิ่งไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายแน่ๆ พี่เขาหวั่นไหวเพราะความใกล้ชิด ส่วนพี่ฉลามเองเขาก็บอกว่าผมคือผู้ชายคนแรกที่เขามีอะไรด้วย ทุกอย่างที่พี่ฉลามทำให้ผมมันมาจากอินเนอร์ล้วนๆ มีศึกษาจากหนังนิดหน่อย แต่พี่เขาก็ยืนยันว่าไม่ชอบดูผู้ชายคนอื่นนอกจากผมคนเดียว แต่พัดโบกดูจะชำนาญ รู้จุดที่จะทำให้ผมถึงจุดหมาย จุดที่ผมก็ไม่เคยรู้ว่ามันจะทำให้ผมสะท่านได้มากถึงขนาดนั้น แต่ถึงจะสงสัยยังไงผมก็ไม่เคยถามเขาเพราะเอาจริงๆผมกับเขายังไม่ได้ตกลงเลยว่าจะคบกัน เป็นผมเองแหละครับที่ยังไม่อยากพูดเรื่องนี้



หลังจากที่พัดโบกกลับไปที่ญี่ปุ่นแล้วไม่กี่อาทิตย์ พ่อของผมก็อาการทรุดลง ผมอาสาไปนอนเฝ้าพ่อที่โรงพยาบาล เพราะน้องสาวของผมก็ยังเล็ก พี่นิ่มคงไม่สะดวกจะมานอนเฝ้า ผมเองก็อยากดูแลพ่อด้วย พี่เหิรก็ใจดีกับผมมาก ให้ผมเลิกงานเร็วและมาทำงานสายได้ พี่เขาบอกว่าเขาเคยทำงานจนละเลยแม่ของเขา จนแม่เขาเสียชีวิตโดยที่เขาไม่ได้ดูแลแม่เลย เขาเลยเข้าใจและอยากให้ผมทำหน้าที่ได้เต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เอางานมานั่งทำที่โรงพยาบาลด้วย มันเงียบดีครับ ทำตอนที่พ่อหลับ ดูแล้วว่าไม่ได้กวนหรือเกะกะอะไร ดีกว่าอยู่เฉยๆ เพราะส่วนมากพ่อจะนอนหลับ ท่านดูผอมลงมาก เพลียและเหนื่อยง่าย ทานอะไรไม่ได้ อาเจียนออกหมด ผมรู้ว่าอาการของพ่อเข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้ว แต่ผมก็ได้แต่หวังว่าท่านจะอยู่กับผมได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


“เหนื่อยไหมมึง” เด่นถามผมในวันที่ผมเอาเสื้อผ้าที่ใส่แล้วกลับมาซัก คืนนี้พี่นิ่มจะอยู่เฝ้าพ่อเอง เพราะแม่ของพี่นิ่มมาค้างที่บ้าน เลยดูแลน้องสาวต่างมารดาของผมให้

“ไม่เหนื่อยหรอก ไม่ได้ทำอะไรเลย ส่วนใหญ่พยาบาลเขาก็ทำให้หมด”

“แล้วอาการพ่อมึงเป็นไงบ้าง”

“ไม่ค่อยดี พ่อกินอะไรไม่ได้เลย” ผมตอบพลางถอนหายใจเมื่อนึกถึงพ่อ

“กูรู้ว่ามึงเข้มแข็ง แต่ยังไงกูก็อยู่ตรงนี้นะ มึงมีอะไรบอกกูได้ตลอด ให้กูไปช่วยเฝ้าพ่อมึงก็ได้”

“ขอบใจมาก แล้ววันนี้ไม่ไปไหนเหรอ” ผมถาม ปกติวันหยุดแบบนี้มันไม่เคยอยู่คอนโดหรอกครับ

“ขี้เกียจ อยากอยู่เจอมึงบ้าง ไอ้หมาน้อยของกู ผอมลงเปล่าวะ ไหนดูพุงดิ๊” เด่นมันเดินมาโอบไหล่ผมแล้วจี้ไปที่พุง ผมยิ่งบ้าจี้อยู่เลยเอากระเป๋าเหวี่ยงใส่มัน มันน่าจะชอบอะไรที่ซาดิส ชอบให้ผมรุนแรงใส่ ยังมีหน้ามาหัวเราะชอบใจอีก

“เออ กูว่าจะถามหลายที แต่ก็ปากหนัก มึงมีอะไรกับไอ้พัดเปล่าวะ” ในที่สุดเด่นก็เอ่ยปากถามผม

“นึกยังไงถึงถาม” ผมไม่ได้ตอบแต่ย้อนถามกลับ

“ก็กูรู้ว่าพัดโบกมันเป็นเกย์ มันน่าจะชอบมึงแหละ แต่ดูแล้วบางทีเห็นเฉยๆกันเลยไม่รู้ว่ามันมาจีบมึงหรือเปล่า”

“เหรอ พัดโบกเป็นเกย์เหรอ แล้วเขามีแฟนหรือเปล่า” ผมถามกลับไป อยากรู้จริงๆครับ ไม่ใช่แกล้งทำเป็นสนใจเพื่อกลบเกลื่อน

“อืม เป็นมานานแล้ว เป็นมาก่อนที่กูรู้ว่ามึงก็เป็นอีก แฟนมันก็เป็นคนญี่ปุ่นนั่นแหละ ตัวขาวจั๊วะ ตัวเล็กกว่ามึงอีก ออกนุ่มนิ่มกว่ามึงหน่อย แต่มันรักๆเลิกๆ ทะเลาะกันบ่อย ไม่รู้ว่ายังคบกันหรือเปล่า” คำบอกเล่าของเด่นทำเอาหัวใจของผมเสียการทรงตัวไปได้เหมือนกัน ผมรีบเก็บอาการแล้วถามต่อ

“รู้ได้ไงอะ เคยเห็นเหรอ”

“เคย..ตอนไปหามันที่ญี่ปุ่น โคตรจะหลงแฟนเลย มันไม่ได้มาจีบหรือทำอะไรมึงใช่ไหม” เด่นมองหน้าของผมพร้อมกับถามอย่างจับผิดอีกครั้ง

“เปล่า ก็ทะลึ่งทะเล้นหยอดไปตามประสาพัดโบกแหละ”

“อืม แต่ถึงมันจีบมึง มึงก็คงไม่สนใจ กูคิดว่ามึงยังลืมไอ้หนุ่มข้างคอนโดไม่ได้หรอกถึงไม่ได้ถามแต่แรก”

“ทำไมถึงคิดว่าเราลืมเขาไม่ได้ละ” ผมถามไป แต่สมองคิดแต่เรื่องของพัดโบกอยู่ ตอนนี้ผมรู้สึกหน่วงๆในใจ จะเจ็บจนอยากร้องไห้มันก็ไม่เชิง ใจมันแกว่งๆ แค่รู้สึกผิดหวังที่พัดโบกไม่ได้เล่าเรื่องแฟนให้ผมฟัง อย่างน้อยถ้าพูดออกมาอย่างจริงใจผมก็จะเข้าใจได้และจะได้รู้ว่าผมควรจะวางตัวยังไง

“ก็มึงรักเขามากไม่ใช่เหรอวะ เออ...กลอน กูเคยเล่าให้มึงฟังไหมว่าเขามาถามกูก่อนไปเมืองนอกว่ากูรักมึงหรือเปล่า”

“อะไรนะ” สติผมกลับมาที่เด่นในทันที ผมไม่เคยรู้ เด่นไม่ได้เล่า

“กูไม่ได้เล่าเหรอวะ สงสัยลืม พี่เขามาถามกู เขาบอกว่าเขาเห็นกูเล่นถึงเนื้อถึงตัวกับมึง กอดมึง ท่าทางตอนที่เขามาถามกู แบบ..หึงแทบฆ่ากูได้เลยมั๊ง กูก็แปลกใจว่ามาเห็นได้ไง เพราะกูจะเล่นแบบนั้นกับมึงในที่ส่วนตัวเท่านั้น กูว่าแม่งต้องมีญาณทิพย์ แต่กูก็บอกไปว่ากูกับมึงเล่นแบบนี้มาตั้งแต่มึงยังไม่มีผัวแล้ว..โอ้ย!! มึงตีกูทำไม”

“ก็ปากแกเนี่ย!!” ผมอยากจะฟาดมันอีกทีแรงๆด้วยซ้ำ

“ก็มันโมโหเหมือนกันนี่หว่า ทำมาหวง กูก็หวงเพื่อนกู กูยังไม่ว่าสักคำที่มาจีบเพื่อนกูเนี่ย”

“แล้วเขาว่าไง”

“เขาก็เปลี่ยนโหมดมาทำเป็นมาดพระเอก บอกว่าฝากมึงด้วย มีมาข่มทับกูอีก”

“ข่มยังไง”

“แม่งบอกว่าถึงกูรู้จักมึงนานกว่าเขา แต่กูรักมึงไม่เท่าที่เขารักมึงหรอก แม่ง พระเอกมาเลย สัส รักจริงแล้วทิ้งมึงทำไม ฟายเอ้ย โอ้ย..ตีกูทำไมอีก” เด่นมันโวยวายเมื่อผมตีมันอีกรอบ

“หมั่นไส้ล้วนๆ” ผมบอกมัน มันลูบแขนตัวเอง ทำหน้าสยองใส่ผม

“ตัวนิดเดียวแรงเยอะชิบ” มันบ่น


ตอนนี้บอกตรงๆว่าผมรู้สึกสับสนในใจ ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรจะเสียใจหรือดีใจกับเรื่องราวที่เพิ่งได้รู้ทั้งสองเรื่อง ผมรู้ว่าพี่ฉลามรักผม แต่เรื่องของเรามันคงลงเอยกันไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นความรักที่ผมมีให้พี่ฉลามก็ยังชัดเจนเสมอมาและผมยังคงดีใจมากเมื่อรู้ว่าเขายังคงไม่ลืมผม ส่วนความรู้สึกที่มีให้กับพัดโบก ผมยังไม่แน่ใจว่าผมรักเขารึยัง ถ้าผมจะไม่ได้เจอกับเขาอีก แค่คิดแบบนั้น ผมก็รู้สึกแปลบๆในใจเหมือนกัน แต่เอาเข้าจริง สุดท้ายแล้ว ผมอาจจะไม่เหลือใครสักคนเลยก็ได้ที่จะมายืนเคียงข้าง ผมคงจะโดนสาปในเรื่องความรัก ผมควรจะชินกับมันเสียทีใช่ไหมครับ


...
..
.


พัดโบกยังคงส่งเมลล์มาหาสม่ำเสมอ ผมอ่านทุกฉบับแต่ไม่ได้ตอบกลับเหมือนทุกครั้ง คอลสไกป์มาผมก็ไม่รับ ปกติผมไม่เคยเป็นแบบนี้นะ ผมไม่ชอบหนีปัญหา ชอบแบบตรงๆจริงใจกันไปเลย แต่ไม่รู้ทำไมว่าคราวนี้ผมกลับทำแบบนี้ บุ้งบอกว่าสิ่งที่ผมทำเรียกว่างอน ผมแอบเถียงในใจว่าผมไม่ได้งอน แต่แค่ไม่อยากรับรู้หรือคุยอะไรทั้งนั้น แล้วแทนที่คนที่เคยตั้งแง่กับพัดโบกอย่างบุ้งจะเข้าข้างผม มาคราวนี้กลับเข้าข้างพัดโบก บุ้งบอกว่าเรื่องมันอาจจะนานมาแล้ว เขาอาจจะเลิกกันแล้ว เพราะที่เด่นเล่ามันคือเรื่องที่ไม่ใช่ปัจจุบัน บุ้งให้ผมถามพัดโบกตรงๆ แต่ผมก็ไม่ยอมถาม นี่แหละ บุ้งถึงบอกว่าผมกำลังงอน


แล้วระยะหลังมานี่ ผมก็ไม่ได้รับเมลล์จากพัดโบกอีกเลย ผมรู้สึกใจหายเหมือนกัน แต่ก็ทำใจแข็ง พยายามทำว่าไม่สนใจ แต่ทุกครั้งที่เปิดอีเมลล์เช็คงานก็อดจะหวังไม่ได้ว่าอาจจะมีของพัดโบกส่งมา แต่ก็เปล่า เขาก็คงจะเบื่อแล้ว คงไม่อยากง้อผมแล้ว การที่ต้องมานั่งเอาใจผม คนที่บอกกับเขาว่าไม่เคยลืมคนรักเก่ามันก็คงใจร้ายกับเขาเหมือนกัน ผมเรียกชื่อเขาผิดเป็นพี่ฉลามไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยโกรธ เคยแอบดีใจที่เจอคนมีเหตุผลเหมือนตัวเอง แต่ลึกๆแล้วอาจเป็นเพราะเขาไม่ได้รักผมมาตั้งแต่แรกอย่างที่ผมเชื่อก็ได้ เขาถึงได้ไม่รู้สึกอะไรหากผมยังคงมีพี่ฉลามในหัวใจ


..ก็คงเป็นอีกครั้ง ที่ผมก็คงจะปล่อยให้ความรู้สึกเจ็บปวดมันผ่านไป กับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ มันก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่นัก ตลอดเวลาที่อยู่กับพัดโบก เขาก็เต็มที่กับผมมากๆ ถึงแม้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่ผมหวังจะให้จบลงแบบนี้ ไม่รู้ว่าควรจะใช้คำว่าชินชาหรือเบื่อความรักดี ผมชักไม่อยากให้ใครก้าวเข้ามาในชีวิตของผมแล้ว ถึงผมจะเข้มแข็ง แต่เวลาอ่อนแอผมก็ทรมานมากๆ ผมก็เป็นแค่คนๆหนึ่งบนโลกที่ร่างกายยังขับน้ำตาออกมาได้เหมือนคนอื่นๆ กลไกหัวใจ เวลาที่สั่งให้เข้มแข็ง สั่งบ่อยๆเข้ามันก็คงจะชำรุดได้ในสักวัน ผมไม่อยากให้มันพังลง ผมยังต้องใช้ความเข้มแข็งเพื่อครอบครัวของตัวเองอีก คงจะพอเสียทีกับเรื่องของความรัก..


พักนี้อาการของพ่อเริ่มหนักขึ้นมากกว่าเดิมเข้าไปอีก ผมแทบไม่ได้นอนเลยครับ เพราะพ่อร้องโอดครวญจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในร่างกายแทบจะทั้งคืน ผมสงสารพ่อ ท่านคงทรมานจริงๆ พี่เหิรบอกว่าผมไม่ต้องไปเข้าไปฝึกงานในช่วงนี้ ให้ผมดูแลพ่อให้เต็มที่ พี่เขายินดีเซ็นใบรับรองการฝึกงานให้ผมไปยื่นกับทางมหาวิทายาลัย ผมซาบซึ้งกับความเมตตาที่พี่เหิรให้ผม แต่ผมก็ไม่มีเวลาทำงานเลยจริงๆ ผมรู้ว่ามันเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่ผมจะได้อยู่กับพ่อแล้วอยากให้เวลากับท่านให้เต็มที่


และคงเพราะผมพักผ่อนได้น้อย จู่ๆวันนี้ผมก็ไข้ขึ้นสูง หมอบอกว่าผมเป็นไข้หวัด ให้ยามาทานแล้วให้กลับมาพักที่บ้าน เพราะกลัวว่าผมจะเอาเชื้อหวัดมาแพร่กระจายสู่พ่อได้ ผมเลยไม่ได้อยู่เฝ้าพ่อ กลับมานอนที่คอนโดแทน เด่นมันก็ไม่อยู่ มันก็ไปฝึกงานเหมือนกัน มันต้องไปเอาท์ติ้งกับพี่ๆที่บริษัท ผมเลยแวะซื้อข้าวต้มกลับเข้ามาเพราะรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมดไม่อยากมาทำอะไรกินเอง พอกลับมาถึงคอนโดก็ต้องประหลาดใจ ได้กลิ่นหอมๆลอยมาจากในครัว คิดว่าไม่น่าใช่เด่น เด่นไม่เคยเข้าครัวอยู่แล้ว ผมเดินเข้ามาถึงในครัว ก็เห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคยยืนล้างจานอยู่ ผมยืนมองอยู่นานจนอีกฝ่ายหันหลังกลับมา พอเจอผมก็ส่งยิ้มกว้างให้แล้วเดินเข้ามาหา ในความประหลาดใจมันซ่อนความน้อยใจและดีใจปะปนกันอยู่


“กลับมาแล้วเหรอ หิวไหม กับข้าวเสร็จแล้วนะ เฮ้ย ทำไมตัวร้อนแบบนี้ละ” เขาจับที่แขนของผมแล้วโวยวายออกมาด้วยความตกใจ

“เราซื้อข้าวมากินแล้ว” ผมตอบไปสั้นๆ

“ไม่ได้ เราบอกแล้วไง ว่าเราอยากให้กลอนได้กินของอร่อยๆที่เราทำ” อีกฝ่ายดึงข้าวต้มในมือผมไปแล้วเดินเอาไปทิ้งขยะ ผมไม่มีแรงจะต่อว่าเลยได้แต่ยืนเฉยๆ เขาเดินกลับมาแล้วแตะที่หน้าผากของผม

“เห็นไหม ป่วยแบบนี้เพราะเทวดาลงโทษที่ใจร้ายกับเรา”

“ใครกันแน่ที่ใจร้าย” ผมตอบกลับไป อีกฝ่ายทำหน้างงๆ ผมกัดริมฝีปาก อีกฝ่ายยิ้มแล้วส่ายหน้าก่อนจะกดคางผมแบบที่เคยทำมาตลอดเวลาเห็นผมกัดริมฝีปาก

“ไหนบอกสิ เราใจร้ายอะไร แต่ก่อนจะบอกเรา เราขอบอกเรื่องของเราก่อน เราเรียนจบแล้วนะ จบก่อนเวลาเพราะเร่งเรียนเต็มสปีดเลย เราใจร้อนเพราะกลัวจะเสียคนสำคัญไป เราจะไม่ไปไหนแล้วนะ จะไม่ยอมให้ตัวเองทรมานเพราะทนคิดถึงกลอนไม่ได้อีกแล้ว” ผมยืนมองแววตาที่ดูไม่มีความเจ้าเล่ห์เหมือนทุกทีของพัดโบกแล้วรู้สึกสับสน แล้วความอ่อนแอของร่างกายก็ส่งผลมาถึงจิตใจ ผมยืนร้องไห้เพราะผมไม่อยากเข้มแข็งอีกแล้ว พัดโบกดูจะตกใจมากที่เห็นผมร้องไห้ รีบดึงผมไปกอด

“ร้องทำไมครับ บอกเราว่าเราทำให้อะไรให้กลอนต้องเสียใจขนาดนี้ โอ๋ๆ ไม่งอแงนะ” ผมอยากจะทุบคนที่ทำเหมือนผมเป็นเด็กๆคนนี้ คนที่กอดผมอยู่ แต่มือผมดันไม่ทำตามความคิด กลับไปสวมกอดเขาจนแน่นแล้วร้องไห้ออกมาอีก


..ผมไม่รู้ว่าผมใจอ่อนลืมว่าต้องเคลียร์กับพัดโบกก่อนหรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมอยากมีที่พักพิง ผมเหนื่อย ขออ่อนแออีกสักวันหนึ่ง วันนี้ผมจะปล่อยวางเรื่องทุกอย่างเอาไว้ ขอให้อ้อมกอดนี้ช่วยลดความเหนื่อยล้าของผมลง จนกว่าแสงแรกของวันพรุ่งนี้จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง..



****โปรดติดตามบทรักบทต่อไปในตอนหน้าค่ะ****

จบตอนพัดโบกฉายเดี่ยวเพื่อจะมาพบกับตอนหน้าที่มีชื่อว่า "หนึ่งใจสองทาง" แต่น แตน แต๊นนน 555
แบบว่า ตอนแต่งบทเลิฟซีนของพัดโบก เบื้องบนบอกว่า อ่านแล้วมันใช่มากๆราวกับผู้แต่งไปนอนบนเตียงด้วย
ผู้แต่งเลยบอกว่า มันใช่แค่บนเตียงเหรอคะยู นี่ขาดระเบียงก็ฟูลฟลอร์แล้วไหม 555555
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ รักทุกคน มากอดกันให้เบื้องบนอิจฉาเราบ้าง


 :กอด1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 3 ล้างให้ออก (จบตอน) อัพวันพุธ 18/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-11-2015 11:56:33
โอ๊ยยยยย. พัดโบก. ทำแบบนี้ใครจะไม่ละลายกันเนี่ย. วันรุ่งขึ้นเคลียร์กันเลยนะว่าคบซ้อนหรือเปล่า
ถ้าเราเป็นกลอนเราก็เครียดนะ จะให้เลือกยังไงล่ะมันยากมากเลยจนแทบจะต้องขออยู่คนเดียวสักพัก
พี่ฉลามเองก็อาจจะไม่ได้กลับมาคบเป็นแฟนแบบเดิม ถ้าต้องเลือกก็ขอเลือกพัดโบกถ้าเขาพร้อมจะอยู่ข้างๆเราจริงๆแบบที่ไม่ต้องลักกินกันน่ะ
เราเชื่อว่ากลอนห่วงแม่ที่สุด คนแก่แล้วชอบใครก็อยากฝากลูกกับคนนั้นแหละ พัดโบกเลยภาษีดีกว่าตรงนี้และแถมไม่ต้องทะเลาะกันเรื่องทางบ้าน เราเชื่อว่ากลอนรักทั้งสองคน แต่เรายังเชื่อว่าคนเรามีเนื้อคู่แค่คนเดียวนะ หรือไม่ก็ไม่มีเลย
ขอบคุณคนเขียนมากๆค่ะ เขียนดีสุดๆ. เบื้องบนต้องปลื้มอย่างที่คนอ่านปลื้มแน่ๆเลยอ่า
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 3 ล้างให้ออก (จบตอน) อัพวันพุธ 18/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 18-11-2015 14:12:24
หนึ่งใจ สองทาง
ฉลามกับพัดโบก ใครจะได้หนึ่งใจนั้นไป?
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 3 ล้างให้ออก (จบตอน) อัพวันพุธ 18/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 18-11-2015 14:25:22
สรุปกลอนจะมีวันแฮปปี้เอนดิ้งกับเค้าบ้างไหม โฮกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 3 ล้างให้ออก (จบตอน) อัพวันพุธ 18/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 18-11-2015 16:53:04
เราซึ้งกับความรู้สึกของพี่ฉลามมากๆ  ถึงขนาดที่ว่าตัวห่างไกลแต่ใจยังอยู่
ส่วนพัดโบกนี่เราก็รู้สึกดีใจนะที่กลอนได้เจอคนที่ดูแลตัวเองดีขนาดนี้
พัดโบกจะมีแฟนหรือไม่มีแฟนอยุ่คือประเด็นใช่ไหม?  กลอนเองก็คงกลัวคำตอบถึงได้ไม่ถาม  พัดโบกเองก็อาจจะนึกว่าทีกลอนเองใจยังอยู่กับพี่ฉลามเลย  ทั้งคู่เหมือนคนที่มาเยียวยาเติมเต็มให้กัน   แต่มาตอนนี้พัดโบกเรียนจบแล้วจะกลับมาเมืองไทยถ้าจะเดินหน้ากับกลอนก็ต้องเคลียร์ตรวนที่รั้งไว้ก่อน

เรื่องพ่อของกลอนนะ   บางทีถ้าหากว่าให้แม่กลอนมาเยี่ยมแล้วบอกอโหสิกรรมให้พ่อกลอน  แกก็อาจจะไม่ทรมาณมากแบบนี้เพราะว่าวิบากใจได้เบาบางลงไปแล้วในบางส่วน   

เจอที่น่าจะผิดค่ะ
อ้างถึง
บอกเด่นว่าให้เก็บถุงยางไปทิ้งด้วย
เป็นพัดโบกหรือเปล่าคะ?

ป.ล  คิดอีกทีนะ  พัดโบกดีเกินฝันก็กลัวว่าจะไม่ยืด
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 3 ล้างให้ออก (จบตอน) อัพวันพุธ 18/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 18-11-2015 18:23:07
รักทั้งคู่
ก็ต้องเลือกอยู่กับความจริง
คนไหนมีสิทธิ์ใช้ชีวิตร่วมกันได้มากกว่าก็เลือกคนนั้น
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 3 ล้างให้ออก (จบตอน) อัพวันพุธ 18/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 18-11-2015 19:29:55
อยากให้กลอนได้เจอกับรักดีๆ พัดโบกเข้ามาขนาดนี้ อย่ามีอะไรให้กลอนเสียใจอีกเลยนะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 3 ล้างให้ออก (จบตอน) อัพวันพุธ 18/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 18-11-2015 19:44:32
ใจเราเชียร์พี่ฉลามนะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 3 ล้างให้ออก (จบตอน) อัพวันพุธ 18/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 18-11-2015 19:48:04
เปรียบเหมือนหนึ่ง นิดเดียว มหาศาล
ช่วยเจือจาน สานฝัน วันสดใส
เปรียบเหมือนเรือ พาข้าม พิบัติภัย
เพียงหนึ่งใจ แต่ลึกซึ้ง ก้นบึ้งรัก

+1 ครับ
 :L1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 3 ล้างให้ออก (จบตอน) อัพวันพุธ 18/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 18-11-2015 19:55:37
โอ๊ยยย ยอมใจพัดโบก แสนดีขนาดนี้  o13
แต่ชื่อตอนหน้า รู้สึกหวั่นใจ ว่ารักครั้งก่อนจะกลับมาไหม หรือจะมีใครมาสั่นคลอนหัวใจกลอนอีก :z3:
อยากอ่านแว้ววว รอฮะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 3 ล้างให้ออก (จบตอน) อัพวันพุธ 18/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 18-11-2015 20:59:57
โอยยยย ตายๆๆ ทั้งหวานและขมคอไปพร้อมๆกัน

แอบสงสัยพัดโบกว่าจะมีอะไรซ่อนไว้อีกมั้ย

ส่วนเรื่องพ่อ อยากให้แม่มาอโหสิฯ ให้นะ จะได้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างกันอีก

ส่วนเรื่องดูแล คงได้แต่ดูแลเค้าให้เต็มที่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง

เพราะยังไงแล้ว จะดีจะเลวเค้าก็คือพ่อ สักวันผลบุญคงจะกลับมาหากลอนเพื่อบรรดารสุข

ขอให้กลินก้าวผ่านมันไปให้ได้นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 3 ล้างให้ออก (จบตอน) อัพวันพุธ 18/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 19-11-2015 00:02:36
กลอนน่าจะสบสน ซึ่งก็ไม่ใช่เร่่ืองแปลกหรอก เพราะพี่ฉลามก็ยังรักและห่วงใยกลอนเสมอ เพียงแต่ข้อจำกัดทางครอบครัวและสังคม ทำให้ต้องจากกันทั้งที่ยังรัก  ส่วนพัดโบกก็เข้ามาเติมเต็มในตอนที่กลอนรู้สึกเคว้งคว้างพอดี  เอาใจช่วยให้กลอนผ่านเรื่องราวที่มันหน่วงจิตไปด้วยดีค่ะ    :กอด1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 3 ล้างให้ออก (จบตอน) อัพวันพุธ 18/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 21-11-2015 11:32:06

ตอนนี้ไม่สนแล้วล่ะว่าคนอื่นจะเป็นยังไง
พี่ฉลาม... ถึงจะรัก แต่ก็ต้องก้าวข้ามข้อจำกัดของที่บ้านมาให้ได้
ฝ่ายพัด... ก็ต้องเคลียร์ตัวเองให้เด็ดขาด
ไม่งั้น ป้าไม่ยกหนูกลอนให้เป็นอันขาด!! (เอ๊ะ! นี่ฉันกลายเป็นญาติฝ่ายกลอนไปตั้งแต่เมื่อไร?!)
ตอนนี้เชียร์กลอนคนเดียว... ไม่อยากให้น้องเหนื่อยเกินไป
เพราะไหนจะเรื่องพ่อด้วยแล้ว สงสารน้องมาก... บอกเลย

เป็นกำลังใจให้ค่ะ... รอติดตามนะคะ  :mew1:

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 4 ตอนที่ 3 ล้างให้ออก (จบตอน) อัพวันพุธ 18/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-11-2015 13:29:11
กลัวอนาคต
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวัน ส. 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 21-11-2015 15:44:27
บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง (ตอนที่ 1)


อีกหนึ่งวันเต็มๆที่ไข้ของผมขึ้นสูงพอสมควร นึกว่าจะต้องไปนอนที่โรงพยาบาลแล้ว แต่พัดโบกคอยช่วยดูแลเช็ดตัว ทำกับข้าวและบังคับผมกินยาตรงเวลาเป๊ะ พอเช้าวันที่สองอาการเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวของผมหายไปแล้ว ไข้ก็ลดลง ไม่ปวดหัว แต่ก็เหมือนยังไม่ค่อยมีแรงเท่าไหร่ แต่ก็ไม่รู้สึกอยากนอนซมทั้งวันเหมือนเมื่อวานนี้ สบายตัวขึ้นอีกด้วย เมื่อรู้สึกดีขึ้นผมก็เลยต้องรีบเคลียร์เรื่องที่ยังค้างคาอยู่ในใจ ไม่ใช่เรื่องพัดโบกมีแฟนหรอกครับ เรื่องเรียนของเขามากกว่า


“พัด อย่าโกหกเรา พัดยังเรียนไม่จบใช่ไหม” ผมถามพัดโบกในห้องนั่งเล่น สีหน้าเขาดูตกใจที่ผมถามแบบนี้ เหมือนจะคิดอะไรอยู่ในใจ ผมเลยกระตุกข้อมือเขาอีกทีเพื่อให้รู้ว่าผมรอคำตอบที่แท้จริงอยู่

“อืม” เขาตอบกลับมาสั้นๆ

“ว่าแล้วเชียว ตอนที่คุยกันบอกต้องไปเรียนอีกหนึ่งปี นี่แค่ครึ่งปีกว่าๆเอง จะเร่งรัดยังไงก็ไม่น่าจะเรียนครบ ยิ่งเกี่ยวกับอาหารด้วย ทำไมต้องโกหก”

“เราไม่รู้ว่ากลอนโกรธเราเรื่องอะไร กลอนไม่ตอบเมลล์เรา ไม่รับโทรศัพท์เรา เราไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลยตัดสินใจว่าจะกลับมาทำงานที่เมืองไทย เรามั่นใจว่าเราไม่ต้องจบก็ทำงานได้แล้ว” ผมฟังเหตุผลของพัดโบกแล้วก็ลอบถอนหายใจ

“แล้ว..มีเรื่องอะไรที่โกหกเราอีกไหม” ผมเลยถามต่อ

“ไม่มี เราไม่ได้โกหกอะไรกลอน แต่เรื่องที่ไม่ได้บอกก็มี”

“อย่างเช่น” ผมถามต่อ สีหน้าของพัดโบกดูจ๋อยๆ

“เราแอบ...แอบ ใช้ปากให้กลอนเมื่อคืน เคยอ่านเจอว่าถ้าได้ปลดปล่อยแล้วไข้จะลง ขอโทษนะ ขอโทษๆๆๆ” พัดโบกรีบยกมือไหว้ผม ผมตกใจไม่คิดว่าจะออกมาเป็นเรื่องนี้ แล้วเมื่อคืนผมก็ไม่รู้ตัวจริงๆด้วย ตอนนี้หน้าผมกลับมาร้อนผ่าวเหมือนตอนเป็นไข้เลย มันวูบวาบจนต้องจับแก้มตัวเอง

“อย่าโกรธนะ แค่อยากลองดูว่ามันได้ผลจริงไหม” พัดโบกรีบเข้ามาจับมือผม ผมบอกไม่ถูกเลย อยากจะขำแล้วก็อยากจะซัดคนตรงหน้าสักหมัด ทะเล้นทะลึ่งไม่มีใครเกิน

“แล้ว..เป็นไงละ..” ผมถามไปแบบอ้อมแอ้ม ไม่กล้าสบตาเลย

“ร้อนในปากมาก น้ำก็ร้อน”

“โอ้ย บ้า ไม่ต้องเล่าแล้ว” ผมบอกแล้วก็ยกมือขึ้นปิดหน้า พัดโบกรีบดึงมือผมไปจับอีกรอบแล้วก็ยิ้ม ก่อนจะมาหอมที่หน้าผากของผม

“ดีกันนะ บอกเราหน่อย เราใจร้ายเรื่องอะไร” พัดโบกมาถามผมบ้าง

“มีแฟนแล้วทำไมไม่บอก” ผมพูดออกไปพร้อมกับเงยหน้ามามองหน้าอีกฝ่าย พัดโบกยังคงยิ้มอยู่ ไม่เห็นมีท่าทางตกใจเลยที่ผมรู้

“หึงเรานี่เอง” พัดโบกดึงผมไปกอดแล้วเอียงหน้ามาจูบที่ซอกคอมผมซ้ำๆ

“ตอบมาสิ ว่ามีหรือไม่มี” ผมถามซ้ำ

“เคยมี ตอนนี้ไม่มี ไม่มีมาจะปีหนึ่งแล้ว กำลังอยากจะมี แต่ไม่รู้เขาจะยอมมาเป็นแฟนเรารึเปล่า”

“เล่าให้ฟังหน่อย” ผมดึงตัวเองออกมาจากอ้อมกอดของพัดโบก

“เด่นมันบอกเหรอ” พัดโบกถาม ผมพยักหน้า

“เขาชื่อทามะ เรียนเชพด้วยกัน ตัวเล็กๆ ขาว หน้าตาสวยเหมือนผู้หญิง เราเห็นครั้งแรกก็หลงรักเลย เราไปจีบเขาแล้วก็ตกลงคบกัน แต่เขาเป็นคนใจร้อน เอาแต่ใจและเครียดเรื่องการเป็นเชฟมากเพราะทางบ้านคาดหวังในตัวเขามาก เราทะเลาะกันบ่อยๆ บอกเลิกกันหลายหน แล้วก็กลับมาดีกันอีก เรื่องที่เราทะเลาะกันหนักก็คือเขาอยากไปแปลงเพศ แต่เราไม่อยากให้เขาทำ เรารักที่เขาเป็นแบบนั้น ไม่จำเป็นต้องไปเจ็บตัวอะไรเลย แต่เขาก็ไม่ยอม ทะเลาะกันหนักๆเข้าก็เลยจบความสัมพันธ์กันไป”

“แล้วยังเจอกันอยู่ไหม”

“ก็เจอ”

“เขาแปลงเพศไปแล้วเหรอ” ผมถาม

“เปล่า เขาไม่ได้แปลงเพศแล้ว”

“เขายังรักพัดโบกใช่ไหม”

“มันไม่สำคัญแล้วละ เพราะเราไมได้รักเขาแล้ว มันจบไปแล้ว คนที่เรารักคือคนที่เราทนไม่ได้ที่เขาโกรธเราโดยที่เราไม่รู้เลยว่าเราผิดอะไร” พัดโบกทำหน้าดุใส่ผม ผมเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก พัดโบกไม่เคยดุผมเลย เอาใจสารพัด แต่มันก็น่าให้เขาโมโห ผมไม่มีเหตุผลเอง ไม่ถามเขาแต่ตัดการติดต่อไปเลย

“ก็..เราไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ของใคร”

“แต่กลอนกำลังทำลายความสัมพันธ์ของเรา เราน้อยใจนะ”

“ขอโทษนะ” ผมบอกเสียงอ่อยๆ พัดโบกถอนหายใจแล้วคลี่ยิ้มให้ผม ส่ายหน้าก่อนจะกอดผมอีกรอบ

“ไม่เป็นไร หายน้อยใจตั้งแต่เห็นหน้าแล้ว”

“กลับไปเรียนเถอะนะ” ผมบอกเขา สีหน้าเขาสลดลง

“ไม่อยากให้เราอยู่ด้วยเหรอ”

“ไม่ใช่แบบนั้น เราเข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้ว เราผิดเองที่คิดไปเอง แต่เราจะรู้สึกแย่มากกว่าถ้าพัดโบกเลิกเรียนมาเพราะเรา อีกแค่ครึ่งปีเอง กลับไปเรียนนะ แล้วรีบกลับมา” ผมบอก อีกฝ่ายยิ้มออกมาได้หลังจากที่หน้าเสียไปพักใหญ่

“คบกันนะ นะ” พัดโบกเร่งรัด ผมนั่งนิ่งก่อนจะส่ายหน้า พัดโบกหน้าเสียอีกรอบ

“กลับไปเรียนให้จบแล้วเราจะให้ของขวัญ” ผมบอก แต่พัดโบกยังคงสีหน้าไม่ดี เขาปล่อยมือผม

“ยังรอเขาเหรอ” พัดโบกถามผม ผมอึ้งไป เป็นคำถามที่ผมตอบไม่ได้เหมือนกัน

“เราไม่ได้คบใคร ไม่ได้นอนกับใครนอกจากพัดนะ มาถึงตรงนี้พัดคิดว่าเราไม่ได้เปิดใจให้พัดเลยเหรอ” ผมถามเขา

“แต่ไม่ได้รักใช่ไหม” เขาถามผม ผมเงียบไป ผมรักเขารึยัง ผมก็ถามตัวเองอยู่

“โอเค ไม่เป็นไร ไม่ต้องตอบ ไม่เครียดๆ อย่ากัดปากตัวเองสิ” พัดโบกพูดต่อแล้วปรับสีหน้าท่าทางใหม่ ยิ้มให้ผมแล้วก็หอมแก้มผม

“เอาแบบนี้นะ เราจะกลับไปเรียนให้จบ แล้วจะกลับมาขอของขวัญ แต่รู้เอาไว้นะ เรารักกลอน รักมาก ถ้าวันไหนที่ไม่มีใครในหัวใจแล้ว รับเราไว้พิจารณาด้วยนะ” พัดโบกใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยที่แก้มของผมแล้วหอมอีกครั้ง ผมพยักหน้าให้เขา

ก่อนหน้านี้ผมรู้สึกเสียใจที่คิดว่าเขามีแฟนแล้วไม่บอกผม แต่ตอนนี้ผมกำลังทำให้เขาเสียใจใช่ไหมที่ไม่สามารถพูดคำที่เขาอยากได้ยินได้ แม้จะมีรอยยิ้มฉาบบนใบหน้าของพัดโบก แต่แววตาของเขาดูเศร้าจนผมรับรู้ได้ ผมได้แต่สวมกอดคนตรงหน้า อยากให้เขามั่นใจว่า แม้ว่าผมยังมีใครอีกคนในหัวใจ แต่กับความเป็นจริงของชีวิต ผมมีแค่เขาคนเดียวจริงๆ


พัดโบกอยู่กับผมหนึ่งอาทิตย์ก่อนจะกลับไปที่ญี่ปุ่น เขาให้ผมสัญญาว่าห้ามขาดการติดต่อ ไม่ว่าจะโกรธหรืองอนอะไรขอให้ผมพูดกับเขา ขอให้เขาได้อธิบาย ผมรับปากและขอโทษเขาอีกครั้ง ความรู้สึกหม่นๆในใจหายไปเมื่อทุกอย่างเคลียร์แล้ว ผมกลับไปดูแลพ่อเหมือนเดิม แต่ผมสามารถไปทำงานได้ด้วยเพราะแม่ของพี่นิ่มขึ้นมาช่วยดูน้องสาวของผมให้ พี่นิ่มจึงมาผลัดเปลี่ยนกับผม ทำให้ผมมาทำงานในช่วงเช้าแล้วไปเฝ้าพ่อในตอนกลางคืน


พี่นิ่มบอกว่าตอนนี้มาอาจารย์หมออีกท่านมาช่วยดูอาการของพ่อให้ ผมรับฟังแล้วก็ไม่ได้คิดอะไร จนมารู้จากพี่นิ่มว่า อาจารย์หมอเป็นเพื่อนสนิทของพ่อพี่ฉลาม ท่านฝากให้มาดูแล พี่นิ่มเลยมาถามว่าผมรู้จักพ่อพี่ฉลามไหมว่าเป็นใคร ทำไมถึงได้ให้อาจารย์หมอมาดูแลพ่อของผมเป็นพิเศษ ผมโทรไปหาพี่นุ๊กทันที พี่นุ๊กบอกว่าพี่นุ๊กรู้จักอาจารย์หมอ แต่ไม่รู้ว่าพ่อพี่ฉลามฝากเอาไว้ ผมคุยกับบุ้ง บุ้งยอมสารภาพว่าที่ผ่านมาพี่ฉลามรู้เรื่องราวของผมทุกอย่างผ่านจากพี่นุ๊กแล้วก็บุ้งเอง บุ้งมันขอโทษผมยกใหญ่ กลัวผมโกรธ ผมไม่ได้โกรธ แต่ผมกำลังรู้สึกเจ็บปวด เจ็บปวดกับหลายๆอย่าง เจ็บปวดเพราะดีใจ เจ็บปวดเพราะเสียใจ ผมไม่รู้จะบรรยายอย่างไรดีให้ทุกคนรับรู้ถึงความรู้สึกตอนนั้นที่ผมเป็นอยู่


ผมจำได้ดีในวันนั้น เช้าวันอาทิตย์ ผมยืนสูดอากาศเข้าปอดอยู่ที่หน้าบ้านของพี่ฉลามพร้อมกับผลไม้ตะกร้าใหญ่ที่แม่ฝากมา ผมกดกริ่งหน้าประตู ไม่นานลุงคนสวนก็มาเปิดแล้วยิ้มให้ผม ทักทายว่าผมหายไปเลย เจ้านายของลุงบ่นคิดถึงกันทุกคน ผมรับรู้แล้วยิ่งรู้สึกว่าหัวใจผมสั่นไหวอย่างรุนแรง ผมเดินเข้าไปมาในสถานที่ๆคุ้นเคย ใจเต้นรัว เกร็งไปหมด ผมไม่ได้เข้ามาที่นี่สองปีได้ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ผมเลือกมาในวันนี้เพราะรู้ว่าพ่อและแม่ของพี่ฉลามจะอยู่บ้าน


“กลอน มาได้ยังไงลูก เข้ามาเลย เข้ามาก่อน”

“สวัสดีครับ แม่ผมให้เอาผลไม้มาขอบคุณคุณลุงที่ช่วยฝากอาจารย์หมอให้ดูแลพ่อผมเป็นพิเศษครับ” ผมไม่ได้ก้าวเข้าไป แต่ยื่นตะกร้าผลไม้ให้ แม่ของพี่ฉลามรับแล้วก็จูงมือผมให้เดินเข้ามาในบ้าน

“คุณ ดูสิใครมา” แม่พี่ฉลามพาผมเดินเข้าไปถึงในห้องรับแขก พ่อพี่ฉลามเห็นผมก็รีบวางหนังสือพิมพ์ พ่อพี่ฉลามดูสดใสและแข็งแรงกว่าเดิม ท่านรีบกวักมือเรียกผมให้เดินไปหา ผมยกมือไหว้แล้วเดินเข้าไปหา รู้สึกอาการเกร็งลดลงกว่าเดิมเมื่อเห็นปฏิกิริยาของท่านทั้งสองคน

“เดี๋ยวแม่ไปเอาน้ำมะตูมกับครองแครงกะทิสดมาให้ชิมนะ ช่วยแม่ชิมหน่อย พ่อเขากินหวานไม่ได้ แต่แม่เพิ่งได้สูตรมา” แม่พี่ฉลามพูดจบก็เดินหายเข้าไปในครัว

“กลอนขอบคุณนะครับเรื่องอาจารย์หมอ แล้วก็..กลอนขอโทษนะครับ..” ผมพูดต่อไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะพูดว่าขอโทษเรื่องอะไรดี แต่คิดว่าพ่อพี่ฉลามคงเข้าใจ

“เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม ผอมลงรึเปล่า” พ่อพี่ฉลามลูบหัวผม ผมน้ำตารื้นขึ้นมาทันที แต่ก็พยายามกลั้นเอาไว้

“กลอนขอโทษนะครับ” ผมบอกท่านอีกครั้ง ก้มลงกราบท่านที่ทำให้ท่านผิดหวัง ท่านเมตตาผม แต่ผมก็ทำให้ท่านเสียใจเรื่องของพี่ฉลาม ท่านรีบดึงผมขึ้นมา เห็นผมร้องไห้ท่านก็ดูจะตกใจ แต่ก็ยิ้มให้

“พ่อต้องขอโทษมากกว่า อย่าโกรธพ่อนะ” ท่านพูดจบผมรีบส่ายหน้า เช็ดน้ำตา

“พ่อพยายามจะติดต่อกับกลอน แต่ฉลามมันไม่ยอม สงสัยมันนึกว่าพ่อของมันใจร้ายจะไปต่อว่ากลอนมั๊ง” พ่อพี่ฉลามพูดแล้วหัวเราะ มือท่านก็ยังลูบหัวผม

“พ่อรู้ว่าพ่อใจร้ายจริงๆ พ่อไม่ได้รังเกียจกลอนเลยนะ แต่พ่อไม่รู้ว่าความรักแบบนี้มันฉาบฉวยรึเปล่า ฉลามมันอยากพิสูจน์ก็ให้มันพิสูจน์ มันบอกว่ามันรักกลอนจริงๆ มันจะทำให้พ่อเห็นว่ามันมีความรักโดยไม่ทำให้เรื่องอื่นเสียได้ ตอนนี้มันเรียนจบแล้วนะ แถมมีผลงานได้รางวัลจากงานที่มันได้ไปฝึกกับบริษัทใหญ่ๆที่โน้นมาอวดด้วย ทั้งหมดนี่ไม่ใช่เพราะพ่อเลย เพราะกลอนทั้งนั้น”
“ไม่หรอกครับ พี่ฉลามรักพ่อกับแม่มากๆ”

“พ่อให้นุ๊กไปตามเราให้มาหา นุ๊กมันก็บอกว่ามันทำไม่ได้เพราะฉลามห้ามเอาไว้ พ่อไปหากลอนที่คอนโดมาด้วยนะ แต่ไม่เจอใคร” ผมตกใจที่ได้รู้ แต่ที่ผ่านมาผมไปเฝ้าพ่อตลอด เด่นก็ไม่ค่อยอยู่ ท่านคงไปตอนที่ไม่มีใครอยู่ที่ห้อง

“แค่กลอนรู้ว่าพ่อกับแม่ไม่โกรธกลอน กลอนก็ดีใจแล้วครับ”

“มาหาพ่อบ่อยๆนะ พ่อคิดถึง แม่เขาก็คิดถึง แล้วก็..โทรหาฉลามมันนะ มันคงคิดถึงกลอนมากกว่าพ่ออีก”

“มันไม่ได้โทรหากลอนเลยเหรอ” เมื่อเห็นผมนิ่งไปพ่อพี่ฉลามเลยถามผม

“ไม่ได้โทรครับ”

“อย่าโกรธมันเลยนะ เพราะพ่อเอง พ่อขอโทษ”

“ไม่เป็นไรครับพ่อ ไม่เป็นไรจริงๆ” ผมรีบบอกเมื่อเห็นว่าสีหน้าของท่านไม่ดีเลย ผมเชื่อว่าท่านเสียใจจริงๆ ผมเข้าใจในเหตุผลที่ท่านทำ ผมไม่ได้มองโลกสวยงามนะครับ แต่ผมมองจากความเป็นจริง ใจเขาใจเรา ถ้าผมเป็นพ่อคน ผมก็คงอยากให้ลูกทำในสิ่งที่ควรจะทำก่อน ตอนนี้พี่ฉลามเรียนจบแล้ว พิสูจน์ให้ท่านเห็นแล้ว การที่ท่านยังเมตตาผม แปลว่าท่านไม่ได้รังเกียจผมจริงๆ แต่ท่านคงอยากให้พี่ฉลามได้ทำในสิ่งที่ควรทำก่อน เมื่อท่านไม่ห่วงเรื่องการเอาตัวรอดดูแลตัวเองได้ของพี่ฉลาม ผมคิดว่า ท่านก็คงไม่ห่วงเรื่องอื่นแล้ว

“อยู่กินข้าวเย็นกับพ่อนะ พ่อเหงา ไม่มีใครเล่นหมากรุกได้สนุกเท่าเล่นกับกลอนอีกแล้ว” พ่อพี่ฉลามชวนผม ผมตอบตกลง ดูท่านดีใจที่ผมไม่ได้โกรธท่าน


วันนั้นผมอยู่ที่บ้านของพี่ฉลามทั้งวัน พ่อกับแม่ของพี่ฉลามชวนผมคุยหลายเรื่อง ส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องของพี่ฉลาม เวลาแค่วันเดียวผมได้รู้เรื่องที่ผมพยายามปฏิเสธไม่รับรู้มาตลอดสองปีได้มากมาย หลายๆเรื่องผมก็ขำตามพ่อกับแม่ของพี่ฉลามไปด้วย แต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมขำไม่ออก แถมยังอยากจะร้องไห้อีก


..พี่ฉลามไม่เคยมีใครเลย พี่ฉลามให้พี่นุ๊กคอยดูแลผม คอยถามเรื่องผมผ่านทางพี่นุ๊กและบุ้งมาโดยตลอด หมอประจำที่รักษาพ่อก็เป็นเพื่อนของพี่นุ๊ก แม่ของเด่นก็รู้จักกับแม่ของพี่ฉลามมาตั้งนานแล้ว มิน่าแม่ของเด่นถึงได้มาซื้อคอนโดที่นี่เอาไว้ แม่พี่ฉลามจัดทัวร์ให้แม่เด่นพาแม่ผมไปเที่ยว แม่พี่ฉลามก็ไปด้วย ผมไม่รู้เลยจริงๆว่าท่านไปทำความรู้จักกัน แม่ของผมไม่ได้เล่าให้ผมฟังเลย ฟังดูแล้วมันเหมือนนิยาย แต่มันคือความจริงที่เกิดกับผม พี่ฉลามไม่ให้ผมรอ แล้วเขารอผมทำไม ผมกำลังเสียใจที่คิดว่าผมรักเขา แต่ความรักของผมมันไม่ได้ครึ่งที่พี่เขาให้ผมเลย ตอนนี้ผมเจ็บ เจ็บยิ่งกว่าตอนที่พี่เขาไปจากผมเสียอีก...


จากวันนั้นมา ผมก็เลยต้องกลายเป็นแขกประจำของครอบครัวของพี่ฉลามอีกครั้ง ผมต้องเข้าไปทานข้าวกับพ่อและแม่ของพี่ฉลามทุกวันอาทิตย์ ท่านทั้งคู่ไปเยี่ยมพ่อของผมบ่อยมาก ที่ทำให้ผมประหลาดใจที่สุดคือแม่ของผมก็ขึ้นมาเยี่ยมพ่อเหมือนกัน แม่ได้เจอกับพี่นิ่มเป็นครั้งแรก แม่พูดคุยกับพี่นิ่มดี พี่นิ่มดูจะเกรงใจแม่ของผมมาก แม่อุ้มน้องสาวของผมด้วย ท่านซื้อชุดมาฝากน้องด้วย พ่อก็ดูเหมือนจะดีใจที่แม่มาเยี่ยม ท่านคุยกันเหมือนเพื่อน แถมแม่ยังดุพ่อเรื่องที่ชอบไปหงุดหงิดใส่พี่นิ่ม ผมรู้สึกดีจังที่ได้เห็นบรรยากาศแบบนี้


แม่มาค้างกับผมตลอดอาทิตย์ ไปช่วยดูแลพ่อช่วงเย็นประมาณหนึ่งชั่วโมง แล้วแม่พี่ฉลามก็เป็นคนมารับแม่กลับไป ผมบอกไม่ถูกเลยว่ารู้สึกยังไง มันเกินความคาดหมายมาก บรรยากาศนี้มันอบอวลไปด้วยความสุขอย่างที่ผมไม่ได้รู้สึกมานานแล้ว การอภัยให้กันมันดีแบบนี้เอง มันทำให้เราโล่งใจ สบายใจและมีแต่เรื่องดีๆให้แก่กันและกัน แล้วพอพ่อเหมือนมีเรื่องสบายใจ ท่านก็ดูจะทานข้าวได้มากขึ้นจนหมอแซวว่าถ้าพ่อใจสู้แบบนี้ก็จะได้ไม่ต้องกินยาแทนข้าว ส่วนวันนี้พี่นิ่มมานอนเฝ้าพ่อ ผมเลยกลับมานอนที่คอนโดกับแม่


“แม่ กลอนไม่อยากให้แม่กลับเลย” ผมอ้อนแม่เมื่อรู้ว่าพรุ่งนี้แม่จะกลับแล้ว แม่ของเด่นขึ้นมากรุงเทพจะเลยมารับแม่กลับไปด้วยเลย

“แม่ห่วงบ้าน ไม่อยู่นานๆ สกปรก ขโมยขโจรอีก”

“ห่วงบ้านมากกว่ากลอนอีกเหรอ” ผมแกล้งงอนแม่

“ใช่ เพราะกลอนมีแต่คนรักคนห่วง แม่สบายใจแล้ว” แม่พูดจบผมก็รู้สึกร้อนตัวแปลกๆ

“ใครจะมาห่วงกลอน”

“เพราะลูกเป็นคนดีนะกลอน ถึงได้ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ แม่ดีใจและภูมิใจในตัวกลอนนะ ที่ผ่านมาแม่เองก็กังวลไปสารพัดตามประสาคนเป็นแม่ แต่ตอนนี้แม่รู้แล้วว่าลูกของแม่ได้พบเจอแต่คนดีๆ”

“แล้วแม่ไปสนิทกับแม่ของพี่ฉลามตอนไหน เอ่อ..พี่ฉลามที่กลอนเคยเล่าให้ฟังอะครับ”

“แม่รู้จำได้น่า ต้องอธิบายด้วย แม่ไม่ได้แก่ขนาดลืมนะ”

“ก็เผื่อแม่นึกไม่ออกไง”

“ก็รู้จักผ่านม๊าของเด่นไง คนสูงวัยมารวมตัวกัน ไปเที่ยวกัน สนุกสนานดี แล้วแม่ก็จำได้ที่ลูกมาเล่าให้ฟังบ่อยๆว่าท่านเมตตาลูก แม่ได้สัมผัสเองก็คิดว่าทั้งคู่เป็นคนดีแล้วก็นิสัยดีนะ กลอน..คุณน้าทั้งสองเขาเมตตาลูกนะ หมั่นไปหา ว่างก็ไปดูแลท่านให้เหมือนท่านเป็นญาติผู้ใหญ่ของเรา กตัญญูรู้คุณคนจะไม่อับจนหนทางนะลูก”

“ครับแม่ กลอนจะจำคำที่แม่สอนเอาไว้ทุกอย่างเลย” ผมนอนตักของแม่ แม่ยิ้มให้ผม


เรื่องเดียวจริงๆที่ผมไม่กล้าบอกแม่ ถึงจะรู้ว่าแม่รักผมมากและตอนนี้แม่ก็ปลงได้หลายอย่าง แต่ผมก็ไม่กล้าอยู่ดี ยิ่งท่านแสดงออกว่าภูมิใจในตัวของผมมากกว่าเดิม ผมยิ่งไม่อยากให้ความรู้สึกแบบนั้นของท่านจางหายไป ผมเชื่อว่าแม่ของพี่ฉลามก็คงไม่พูดเรื่องนี้เหมือนกัน


.....

..


ในที่สุดผมก็เรียนจบเสียที เพราะเกรดออกมาแล้วว่าผมผ่าน ใบฝึกงานก็ส่งไปแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยหมด ถึงจะรู้ว่าจบแน่ๆ แต่พอทำเรื่องจบมันก็ยิ่งมีความสุขมากกว่าร้อยเท่า พี่เหิรจัดงานเลี้ยงฉลองเรียนจบและฉลองต้อนรับพนักงานใหม่ไปด้วยในตัวให้ผม ส่วนเรื่องพัดโบก..ผมก็ยังคุยกับพัดโบกเสมอต้นเสมอปลาย อีกสองเดือนเขาก็จะจบเหมือนกัน พัดโบกยังคงทวงเรื่องของขวัญตลอดทุกครั้งที่ได้คุยกัน


ผมมาทบทวนเรื่องของตัวเองซ้ำๆ ผมยังรักพี่ฉลามมันชัดเจนแน่นอนอยู่แล้ว มันไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ผมคิดว่าพี่เขาคงรู้แล้วว่าผมกับพ่อแม่เขากลับมาสนิทสนมกันเหมือนเดิม แต่เขาก็ยังไม่ได้ติดต่อผมมา รู้แต่ว่าเขาสบายดีผ่านจากคำบอกเล่าของพ่อและแม่ของพี่เขา มันคงมีอะไรที่ไม่เหมือนเดิมสำหรับเราอีกแล้ว มันคงถูกลิขิตมาแล้วว่าเราคงเป็นได้แค่พี่น้องที่ดีต่อกัน บางทีพี่เขาอาจจะผิดหวังที่ผมไม่ได้รอเขาเหมือนที่เขารอผม เขาอาจจะไม่อยากรักผมอีกแล้ว


......


ถ้าชีวิตคนเราคือบททดสอบที่ทำให้เราเรียนรู้และผ่านเรื่องราวต่างๆให้ได้ บททดสอบครั้งนี้ของผมคงเป็นครั้งที่หนักหนาอีกรอบ ก่อนหน้านี้พ่อของดูดีขึ้นมากจนออกจากโรงพยาบาลได้ ทั้งที่นอนโรงพยาบาลนานจนเหมือนบ้าน ด้วยความที่เห็นพ่ออาการดีขึ้น ผมก็คิดว่าพ่อคงจะอยู่กับผมได้อีกนานหลังจากที่ได้รับการรักษาอย่างดีและมาถูกทาง แต่หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลได้เดือนเดียว พ่อก็เริ่มทรุดลง กินข้าวไม่ได้ อาเจียนบ่อยๆเหมือนเดิม พี่นิ่มตั้งใจว่าจะพาพ่อไปโรงพยาบาล แต่พ่อเป็นลมและล้มไปก่อน พี่นิ่มโทรมาหาผมร้องไห้จนฟังแทบไม่รู้เรื่อง ผมรีบโทรตามรถพยาบาลแล้วไปรอพ่อที่โรงพยาบาล พ่อถูกพาเข้าห้องไอซียู หมอบอกว่าพ่อไตวายเฉียบพลัน ความดันต่ำและหัวใจเต้นผิดปกติ ผมพยายามรวบรวมสติทั้งที่ตอนนี้ใจของผมมีลางสังหรณ์ไม่ดีเลย ผมโทรบอกแม่ แม่บอกว่าเช้าจะรีบขึ้นมาหา


ผมนั่งเฝ้าพ่อจนเช้า ไม่นานแม่ก็มาถึงพร้อมแม่ของเด่น พักใหญ่ๆหมอประจำตัวของพ่อก็มา หมอมาบอกข่าวร้ายว่าตอนนี้พ่ออยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจและยาเพิ่มความดัน  หมอบอกว่ามะเร็งมันลามมาที่ผนังหน้าท้องและลำไส้ หมอจะพยายามประคองอาการเอาไว้แต่ก็อยากให้ญาติๆรับรู้ว่า คนไข้เคสแบบพ่อถือว่าสู้มากแล้ว พี่นิ่มร้องไห้จนดูน่าสงสาร ผมกับแม่ก็ร้องไห้เหมือนกัน แต่เราก็เข้าใจ ผมว่าพ่อก็สู้กับความทรมานมามากแล้วจริงๆ


แต่ถึงแม้จะทำใจเอาไว้แล้ว ผมก็ยังรู้สึกกลัวทุกครั้งที่พยาบาลเดินเปิดประตูออกมา ผมกลัว กลัวว่าจะได้ยินคำว่าเสียใจด้วย อารมณ์การนั่งอยู่ที่หน้าห้องไอซียูมันเป็นประสบการณ์ฝังใจผมมาถึงตอนนี้เลย เวลาผ่านไปจนค่ำ แม่กลับไปอาบน้ำแล้วจะมาเปลี่ยนผม แต่ผมขออยู่ก่อน พี่นุ๊กพาพ่อแม่ของพี่ฉลามมาเยี่ยม พวกเพื่อนๆผมก็มากันหมด ทุกคนพยายามให้กำลังใจผม ผมยิ่งใจไม่ดี อาจารย์หมอ เพื่อนของพ่อพี่ฉลามเดินมาบอกว่าให้ญาติเข้าไปเยี่ยมได้ ผมเข้าใจความหมายว่าพ่อของผมคงมีเวลาไม่นานแล้ว ผมรู้สึกตื้อและอลอึงไปหมด แต่ก็รีบเปลี่ยนชุดแล้วเดินเข้าไปก่อน สักพักแม่กับพี่นิ่มก็ตามเข้ามา พ่อนอนหลับตานิ่ง มีสายอะไรเต็มไปหมด


“พ่อ” ผมจับมือพ่อและเรียก พ่อยังนอนนิ่งไม่ไหวติง

“ถ้าพ่อทรมานก็ไม่ต้องทนนะ ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น กลอนจะดูแลน้อง ไม่ทิ้งน้องนะ กลอนรักพ่อนะ ถ้ากลอนทำอะไรให้พ่อเสียใจ กลอนขอโทษนะครับและกลอนอภัยให้พ่อในทุกเรื่องนะ” ผมบอก น้ำตาร่วง ผมพยายามกลั้นแล้ว แต่มันกลั้นไม่ได้จริงๆ ผมเดินออกมาให้พี่นิ่มเข้ามาหา พี่นิ่มปิดปากร้องไห้ พูดไม่ออก ได้แต่บีบมือของพ่อเอาไว้ แล้วพี่นิ่มก็เดินถอยออกมาร้องไห้ แม่เลยเดินเข้าไป

“คุณ ฉันอโหสิกรรมให้นะ อย่าเสียใจกับทุกอย่างๆ คิดแต่เรื่องดีๆ เรื่องอื่นไม่ต้องห่วงนะ ฉันช่วยอะไรได้ก็จะช่วย อย่างน้อยเราเคยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน มันจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป ขอบคุณที่เคยดูแลฉันอย่างดีนะ” แม่พูดจบพ่อก็กระดิกนิ้ว ผมรีบเดินเข้ามาหา


“พ่อได้ยินใช่ไหมครับ พวกเรารักพ่อนะ พวกเราจะดูแลกัน พ่อไม่ต้องห่วงนะครับ กลอนรักพ่อนะ กลอนรักพ่อนะ” ผมพูดจบพ่อก็กระดิกนิ้ว น้ำตาพ่อไหลด้วย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ พ่อร้องไห้จริงๆทั้งที่ตายังหลับอยู่ ผมเห็นแล้วน้ำตาร่วงแต่ก็ไม่กล้าปล่อยโฮ


ประมาณครึ่งชั่วโมงได้หัวใจของพ่อก็เต้นช้าลง หมอเข้ามาถามว่าต้องการให้ให้ยากระตุ้นไหม แม่ให้พี่นิ่มตัดสินใจ พี่นิ่มเลยบอกว่าไม่ต้องให้แล้วเพราะไม่อยากให้พ่อทรมาน แล้วเส้นกราฟหัวใจของพ่อก็แผ่วลงเรื่อยๆเหมือนในหนังเลย แต่หนังเรื่องนี้มันกันเกิดขึ้นจริงกับผม ผมกราบที่เท้าของพ่อ พอเงยหน้าขึ้นมาชีพจรของพ่อก็เป็นเส้นตรง ผมก้มลงไปจูบเท้าพ่ออีกครั้ง พยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาหยดใส่ พอเดินออกมานอกห้องก็พบว่าทุกคนยังอยู่ แล้วคนที่ทำให้ผมแทบปล่อยโฮก็คือใครบางคนที่มายืนเด่นอยู่ท่ามกลางคนที่มาให้กำลังครอบครัวของผม


...พี่ฉลาม..


พี่เขามายืนอยู่ที่หน้าห้องไอซียูด้วย เขาอยู่ตรงหน้าผมแล้วแบบไม่ใช่ความฝัน ผมได้แต่ยืนนิ่งเพราะสติของผมในตอนนี้มันไม่รู้จะเริ่มจากอะไรก่อนเลย จนกระทั่งแม่เดินตามออกมาบอกข่าวร้ายกับทุกคน พี่ฉลามเดินเข้ามากอดผมเลยโดยไม่สนใจใคร พอผมตกอยู่ในที่พักพิงที่คุ้นเคยผมก็ปล่อยโฮออกมาเหมือนกัน เพื่อนคนอื่นๆก็เลยเดินมารุมกอดปลอบผมด้วย


วินาทีที่ผมได้พบกับความสูญเสียครั้งนี้มันช่างทรมานและมันเป็นการสูญเสียแบบไม่มีวันได้กลับคืนมา มันยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดนั้นให้ทวีคูณ อยากบอกว่าเข้าใจคำที่ว่า ใครที่ยังมีพ่อแม่อยู่ให้ดูแลท่านให้ดี ถ้าท่านไม่อยู่แล้ว ไม่ว่าคุณมีเงินทองมากมายแค่ไหน คุณก็จะไม่มีวันได้ท่านกลับมาอีก ชีวิตคนๆหนึ่งมีพ่อแม่ได้แค่คนเดียว เป็นความจริงที่เราต้องจำให้ขึ้นใจ ขนาดผมว่าผมเป็นลูกที่ดีให้ท่านเท่าที่ทำได้ ผมก็เสียใจมากๆเลยตอนที่ท่านจากไป แต่ในความเสียใจเราจะไม่เสียดายเลยว่าเรายังไม่ได้ทำอะไรดีๆให้ท่าน


หลังจากช่วงเวลาแห่งความเศร้าเสียใจผ่านไป ผมต้องสลัดความอ่อนแอออกเพื่อจัดการเรื่องงานศพให้พ่อ เราตกลงกันว่าจะเอาพ่อกลับไปไว้ที่วัดที่บ้านเกิด แม่ของเด่นพาแม่กลับไปเตรียมงานเลยในคืนนี้ เด่นเป็นคนขับรถกลับไปให้ พี่นุ๊กให้รถตู้ของบริษัทไปรับพี่นิ่ม น้องสาวของผมและแม่ของพี่นิ่มตามไปค้างที่บ้านของผมด้วยเลยเหมือนกัน ส่วนผมอยู่จัดการเรื่องใบมรณะบัตรและเรื่องรถพยาบาลที่จะพาร่างของพ่อกลับไปที่บ้านในวันพรุ่งนี้เอง พี่ฉลามบอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อนผมเอง ส่วนเพื่อนคนอื่นๆและพ่อแม่ของพี่ฉลามก็กลับบ้านก่อนจะตามไปในวันพรุ่งนี้เช้าเหมือนกัน


กว่าผมจะกลับจากโรงพยาบาลมาถึงคอนโดก็ตีสามกว่าๆ ผมกลับมาเก็บของที่จะเอาไปด้วย ผมนั่งเหม่อคิดถึงพ่อ สักพักพี่ฉลามก็เดินเข้ามานั่งข้างๆผม ลูบหลังผมเบาๆ ผมหันมามองพี่เขา ก่อนจะโผไปกอดเขาแล้วร้องไห้อีกครั้ง มันหลายอย่างเหลือเกินที่ผมรู้สึก ผมเสียใจเรื่องพ่อแน่นอนอยู่แล้ว แต่อีกความรู้สึกหนึ่งคือความคิดถึงที่ผมเก็บกดมานาน นานจนผมคิดว่าผมไม่ทรมานเวลาที่คิดถึงผู้ชายคนนี้อีกแล้ว แต่เอาเข้าจริงมันไม่ใช่เลย มันทะลักออกมาเหมือนลูกโป่งที่ถูกเป่าจนมันระเบิด ผมกอดพี่เขาแน่นๆ แน่นจนคิดว่าพี่เขาคงจะเจ็บ แต่เขาก็ไม่ได้พูดว่าเจ็บ แต่พี่เขาพูดคำที่ทำให้ผมเป็นฝ่ายเจ็บแทน


“พี่กอดกลอนได้ไหม พี่ยังกอดกลอนได้ใช่ไหม”   



**โปรดติดตามต่อตอนหน้าค่ะ**


อ่านละน้ำตาซึมเรื่องพ่อ เข้าใจหัวอกคนสูญเสียคนที่รัก อย่าลืมดูแลพ่อแม่กันให้ดีนะคะ
แต่เดี๋ยวก่อน โอ้ย ฉันเชียร์ไม่ถูกจริงๆนะยะ ขาดเธอก็เหงาขาดเขาก็คงเสียใจ (หมั่นไส้เบื้องบนเบาๆ)
แต่อย่างน้อยผู้แต่งก็ไม่อึดอัดเพราะรู้ปัจจุบันละว่าใครได้ไป ส่วนคุณผู้อ่านก็หน่วงกันต่อไปนะคะ 555
ปูลูมีคำผิดเตือนได้นะคะ เดี๋ยวมาแก้ไข ขอบคุณมากคร่าาาา จุ๊บๆ

 


หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-11-2015 15:55:36
 :sad4:   แง้ พี่ฉลามง่าาาาา.  ประโยคสุดท้ายคือที่สุดอะ. น้ำตาแตก
มันสื่อว่าพี่แกรู้ทุกเรื่อง แล้วก็อยากถามกลอนกลายๆว่ากลอนเป็นของคนอื่นไปแลิวหรือยังเป็นคนของแกอยู่. ยังไงก็ตามอยากบอกเลยว่าอิจฉากลอนนะ มีให้เลือกอะ แต่ยังไงก็ทำตามหัวใจตัวเองเถอะ
มันไม่มีผิดถูกไม่ต้องกลัวใครเสียใจจนละเลยหัวใจของตัวเอง เพราะคนเราไม่ควรฝากความสุขของตัวเองที่คนอื่น

กลอนยังโชคดีที่ได้ลาพ่อในนาทีสุดท้าย. คนที่เสียทั้งพ่อทั้งแม่โดยที่ไม่มีโอกาสลาก็มีนะคะ
ดีแล้วที่พัดโบกกลับไปเรียนต่อ เพราะนาทีนี้กระอักกระอ่วนสุดๆแล้ว. เวลาไม่เหมาะ
เอาไงดีเนี่ยชีวิต กลอนคงเสียหลักและสับสนสินะ. ให้เวลากลอนสักนิดนะคะพี่ฉลาม
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ.   :mew1:   รอเฉลยค่ะ คนเขียนรู้อยู่คนเดียวอ่า
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 21-11-2015 16:11:22
อยากรู้เหมือนผู้แต่งจัง ว่าปัจจุบันใครได้กลอนไป
ฉลามก็ดี พัดโบกก็ดี
อยากเก็บเธอไว้... ทั้งสองคน...
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-11-2015 16:18:49
ยิ่งมาถึงแล้วยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ จะตัดสินใจอย่างไรกับอนาคต  :ling3:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 21-11-2015 23:09:15
ควรจะสงสารใครดี
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 21-11-2015 23:11:20
เข้าใจความหมายของชื่อตอนแล้ว
ตัดสินใจยากจริงๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 21-11-2015 23:41:05
เอาแล้วไง

งืออออออ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 22-11-2015 07:27:39
อ่านๆไปน้ำตาก็ซึมไปด้วย

การลาจากคนที่รักไม่ว่าจะยังไงก็เจ็บปวดตลอดกาล
พ่อกลอนยังถือว่าไปดี ได้รับการอโหสิกรรมจากแม่กลอน
กลอนก็กราบขออโหสิกรรมแล้ว
ทุกคนในครอบครัวกลมเกลียวกัน เป็นเรื่องที่ดี

อีกเรื่องที่ทำเอาเราซึ่งใจมากๆก็คือพี่ฉลามกับครอบครัว
เป็นผู้ชายที่ดีและความรักของพี่ฉลามมันยิ่งใหญ่มากๆ
รักโดยที่ไม่ได้ล้อมกรอบหรือบีบคั้น
รักโดยไม่หวังอะไร
ถ้าหากว่าไม่แกร่งจริงๆไม่สามารถทำได้แน่นอน
พี่ฉลามพิสูจน์ความรักของตัวเองที่มีต่อกลอน
ให้กับพ่อแม่ เฝ้ามองดูแลกลอนอยู่ห่างๆ
ในขณะเดียวถางทางให้กับพ่อแม่ ครอบครัว อนาคตทุกอย่าง
ทั้งๆที่ได้แค่มองกลอนอยู่ห่างๆ
บุ้งคงเล่าเรื่องพัดโบกให้ฟังแล้ว
พี่นุ๊กก็เห็นอีกฝ่ายด้วยในคืนที่ไฟดับ
พี่ฉลามกลับมาแล้วแน่นอนตอนนั้น

มาตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นใครที่กลอนเลือก
เราก็แน่ใจว่าแม่กลอนไม่ขัดอยู่แล้ว
เผลอๆทุกคนรู้กันหมดแล้วว่ากลอนเป็นเกย์

รู้ว่าพัดโบกก็ดีความรักของพัดโบกนั้นอบอุ่น
พี่ฉลามก็เป็นที่สุดของคำว่าผู้ชายที่ดีที่สุดคนหนึ่ง
ความรักของพี่ฉลามนั้นก็ยิ่งใหญ่เหลือเกิน
ยิ่งมาอ่านประโยคสุดท้ายของพี่ฉลามก็เจ็บแทนทั้งสองคนเลยค่ะ
เราเชียร์อยู่แล้วคนหนึ่งมากๆ   แต่ถ้ากลอนเลือกอีกคนก็เข้าใจ
ไม่ใช่แค่คนที่ใช่   แต่เป็น The one who was destined to be.

ป.ล  กลอนพูดถึงพี่ฉลามในแง่ที่ตัดใจแล้ว   ถ้าเป็นตามนั้นจริงกลอนก็คงตัดใจจากพี่เขาตั้งแต่วันที่ต้องจากกัน   พี่เขาก็แสนดีไม่กั๊กกลอนไว้เลย  เปิดทางให้กลอนเต็มที่ในขณะที่ตัวเองสู้อยู่คนเดียวเพื่อความรัก
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 22-11-2015 15:20:28
เพราะน้องกลอนเป็นคนดี เลยทำให้เจอคนดีๆสักที เราเดาว่าน้องกลอนเลือกพัดโบกนะ เหมือนพี่ฉลามเคยเป็นคนที่ใช่ แต่

กลับมาอีกที เวลามันไม่ใช่แล้วอ่ะ แต่ก็ไม่แน่อีกนั่นแหละ เรื่องของความรู้สึกนี่ เดายากพูดยากจริงๆ ลุ้นค่ะ ลำบากใจแทนด้วย
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-11-2015 17:55:18
ยังไม่เคยสูญเสียคนรอบข้างที่ใกล้ชิด ถึงจะรู้ว่าสักวันมันคงมาถึง แต่ยังไงก็คงทำใจไม่ได้อยู่ดี  :hao5:
หลายๆอย่างประดังประเดเข้ามา ตอนนั้นกลอนคงจะเหนื่อยมาก แต่ที่หน่วงสุดๆก็คือพี่ฉลามที่กลับมาตอนนี้น่ะสิ :katai1:
เราว่ากลอนชัดเจนแล้วนะ จากคำพูดก่อนหน้านั้น แต่มันจะใช่อย่างที่คิดหรือเปล่า รออ่านตอนต่อไปฮะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 22-11-2015 18:18:21
ฮือออ แสดงว่าพี่ฉลามต้องรู้เรื่องของพัดโบกแน่ๆ
ฮือออออ สงสารพี่ฉลามอะ ฮือ อยากร้องไห้
กลับมาเถอะนะกลอน
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 23-11-2015 00:21:30
 :sad4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 23-11-2015 09:42:39
กลอนคงไม่กลับไปคบพี่ฉลาม เพราะเคยตัดใจไปแล้ว อาจจะรู้สึกผิด ไม่คู่ควร กับคนดีขนาดนี้
กลอนคงไม่คบพัดโบก เพราะพึ่งทำร้ายจิตใจพี่ฉลามไป รู้สึกดี แต่ไม่ได้แน่ใจตัวเองว่ารักหรือเปล่า
หรือถ้าเลือกคนใดคนหนึ่ง สุดท้ายกลอนน่าจะลงเอยกับพี่นุ๊กอยู่ดี พี่นุ๊กคนนี้ก็แสนดี อยู่ในทุกช่วงชีวิตกลอนมาตั้งแต่แรกๆ   :laugh:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 23-11-2015 11:31:26
ดราม่ามากกกก เป็นเรื่องที่ตัดสินใจยากจริงๆ
ไม่รู้จะเชียร์ใครดี ฮือออออ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 23-11-2015 11:56:53
ทำไมเชียร์พัดโบก
หัวข้อ: บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 24-11-2015 00:15:33
เหมือนกลอนต้องเลือกแล้วล่ะว่าจะพี่ฉลามหรือพัดโบก

ทำไมรู้สึกสงสารพัดโบกนะ พี่ฉลามกลับมาถูกจังหวะเหลือเกิน

อยากอ่านต่อแล้ว สู้น้า :mew1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 24-11-2015 03:05:33
เอาไงล่ะทีนี้
พี่ฉลามกลับมาแล้ว กลอนจะเลือกใคร
เฮ้อ รักพี่เสียดายน้องอ่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Minnie~Moo ที่ 24-11-2015 11:25:38
เชียร์พี่ฉลามนะ พัดโบกก็น่าสงสารแต่ว่าพี่ฉลามน่าสงสารกว่า
ต้องแยกกันทั้งๆที่รัก แต่พี่ฉลามก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อกลอน
ไม่ต้องบอกให้รู้แต่ดูแลอยู่ห่างๆ  :hao5:  :hao5:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 1 อัพวันเสาร์ 21/11 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 28-11-2015 12:26:49

อาาาาา... ไม่มีตัวเลือกแบบที่สามเหรอคะ
อยากเก็บเธอเอาไว้ทั้งสองคนไรงี้
รู้สึกหนักใจแทนกลอนเหลือเกิน (ก้มหน้าเอาปลายนิ้วชี้จิ้มกันซ้ำๆพร้อมทำปากบู้)
โธ่กลอนน้อยของป้า... ป้าก็ไม่รู้ว่าจะให้คำแนะนำหนูว่ายังไง
เอาเป็นว่า ทำใจให้เข้มแข็งแล้วก้าวข้ามความเจ็บปวดจากการสูญเสียไปให้ได้โดยไม่ทำผิดกับใครคนใดคนหนึ่งเพราะแรงผลักดันของความเศร้าแล้วกันนะลูก  หนูเป็นคนดี... ไม่ว่าอย่างไร สุดท้ายปลายทางที่รอหนูอยู่ย่อมต้องดีเสมอ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ  :กอด1:


หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 30-11-2015 22:21:36
บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง (ตอนที่ 2)


คำถามและแววตาของพี่ฉลามทำให้ผมยิ่งร้องไห้ออกมา พี่ฉลามโอบกอดผมถึงแม้ยังไม่ได้รับคำตอบ พี่ฉลามยังคงเป็นฉลามที่คนเดิมที่แม้จะมีอะไรในใจ แต่ก็เลือกที่จะทำให้ผมสบายใจก่อน ผมร้องไห้จนปวดหัว พี่ฉลามเอายามให้ทานก่อนจะปลอบให้ผมหลับ ผมก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย คืนนั้นผมสะดุ้งเพราะฝันร้ายหลายรอบ แต่ทุกครั้งที่สะดุ้งตื่นก็จะหลับต่อไปได้เพราะอ้อมกอดของพี่ฉลามยังคงปลอบประโลมใจให้ผมรู้สึกอบอุ่นและไม่กลัวที่จะหลับตาต่อไป นับว่าโลกยังไม่ใจร้ายกับผมจนเกินไป เพราะต่อให้หลับตาแล้วฝันร้ายอีกหรือตื่นมาแล้วจะรับรู้ว่าพ่อจากผมไปแบบไม่มีวันกลับ ผมก็ยังโชคดีที่คนที่ผมรักอีกคนได้กลับมาแล้ว


...แล้วพบกันใหม่...

...ได้พบแล้ว ผมได้พบพี่ฉลามแล้ว...



พี่ฉลามมาปลุกผมให้ไปล้างหน้า ผมงัวเงียลุกขึ้นมาก็เห็นว่าพี่ฉลามจัดการเอากระเป่าเสื้อผ้าลงไปไว้ในรถหมดแล้ว ผมรีบเข้าไปล้างหน้าล้างตาแล้วเดินทางไปที่โรงพยาบาล พี่ฉลามไม่ได้ขับรถไปเอง แต่ให้คนขับรถไปส่ง ส่วนกระเป๋าเสื้อผ้าของผม พี่เขาฝากรถพ่อกับแม่ของเขาไป ส่วนพี่ฉลามจะนั่งไปกับรถของโรงพยาบาลที่จะนำศพพ่อกลับไปกับผม


กว่าเอกสารจะเรียบร้อยและพร้อมออกเดินทางก็เลยเที่ยงไปนิดหน่อย ทางโรงพยาบาลนำศพพ่อขึ้นรถพยาบาล ผมกับพี่ฉลามตามขึ้นไปนั่ง ผมอดไม่ได้ร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง พี่ฉลามนั่งบีบมือของผม คงอยากให้ผมรับรู้ว่ายังมีพี่เขาอยู่ตรงนี้ ระหว่างทางผมก็โปรยเหรียญไปด้วยตามความเชื่อที่แม่บอก ผมไม่เข้าใจแต่ก็ทำตาม สามชั่วโมงกว่าๆ รถพยาบาลก็ขับเข้ามาที่บ้านของแม่ก่อน แม่ยืนรออยู่แล้ว แม่จุดธูปแล้วก็ปักที่ศาลพระภูมิเจ้าที่ ก่อนจะจุดอีกหนึ่งดอกให้ผมถือติดไปที่วัดด้วย สั่งว่าห้ามให้ดับ จนกระทั่งรถพยาบาลขับมาถึงวัด หลวงตาที่นับถือมายืนสวดบทสวดสั้นๆก่อนจะให้ย้ายศพพ่อขึ้นศาลาเพื่อทำพิธีรดน้ำศพ เพื่อนๆของพ่อและแม่รวมถึงญาติๆของเราและญาติของนิ่มจะทยอยกันมารดน้ำศพ ไม่นานพ่อและแม่ของพี่ฉลาม พี่นุ๊กและเพื่อนๆของผมก็ตามมา ทุกคนมาช่วยเสิร์ฟน้ำในงานศพจนผมรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของทุกคน พ่อและแม่ของพี่ฉลามก็นำขนมและน้ำผลไม้จัดกล่องเป็นชุดๆมารับรองแขกที่มาในงานให้ด้วย


งานศพของพ่อมีแขกมากันเยอะกว่าที่ผมคิดเอาไว้ แม่บอกว่าถึงพ่อจะทำผิดกับแม่เรื่องครอบครัว แต่พ่อเป็นคนดีคนหนึ่ง พ่อเป็นคนมีน้ำใจและช่วยเหลือคนมาก็เยอะ เป็นคนไม่ทุจริตในงานที่ทำ ผมเชื่อแล้วหลังจากที่เห็นคนที่รักพ่อมาร่วมกันอาลัยและส่งพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ผมไม่ได้ร้องไห้อีกเพราะมีงานต้องทำหลายอย่าง ป๊าของเด่นเปิดโรงแรมให้พวกกรุงเทพนอนกัน แต่เพื่อนผมและพี่ฉลามไปนอนที่บ้านของผม มันบอกว่าไม่อยากให้บ้านเงียบ พี่นิ่มกับญาติก็ย้ายมานอนที่โรงแรม


งานสวดศพคืนแรกผ่านไป กลับมาถึงบ้านก็เที่ยงคืนกว่า พวกเพื่อนๆผมมันขึ้นไปนอนอัดเป็นปลากระป๋องอยู่ในห้องของผม แม่เอาผ้านวมมาปูรองพื้นให้ก็นอนกันได้พอดี ส่วนผมกับพี่ฉลามและบุ้งนอนบนที่นอน ผมนอนตรงกลาง ทีแรกพี่ฉลามก็นอนเฉยๆ ผมก็นอนคุยกับบุ้งจนบุ้งมันหลับ สักพักพอเสียงทุกอย่างเงียบพี่ฉลามก็เอื้อมมือมากอดผมเอาไว้ ผมพลิกตัวหันหน้าไปหาพี่เขา เรานอนมองตากันในความมืดที่พอจะมีแสงลางๆให้เห็นกันได้


“เหนื่อยไหม” พี่เขากระซิบถามเบาๆ

“นิดหน่อย”

“หลับซะ” พี่เขาบอก ผมยิ้มให้พี่เขาก่อนจะหลับตา พี่เขาดึงผมไปนอนซุกที่อกเขา ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น ผมรู้สึกอบอุ่นและก็หลับสนิทเลยรวดเดียวจนถึงเช้า



ในตอนเช้าผมบอกกับแม่ว่าผมจะบวชให้พ่อ แม่บอกว่าแม่ปรึกษากับพี่นิ่มแล้ว สรุปได้ว่าจะเก็บศพพ่อเอาไว้ร้อยวันแล้วค่อยเผา แม่เลยบอกว่าอยากผมช่วยงานในงานศพก่อน เพราะพี่นิ่มก็ลูกเล็ก แม่ก็แก่แล้วไม่ค่อยคล่องเหมือนเดิม ผมก็เลยยังไม่ได้บวช แต่ก็เคยตั้งใจว่าก่อนจะเข้าทำงานผมจะกลับมาบวชสักพรรษาหนึ่งอยู่แล้วก็เลยไม่ได้บวชในงานศพให้พ่อ วันนี้แขกก็มาเยอะเหมือนเดิม แม่ทำข้าวต้มกระดูกอ่อนเลี้ยงแขกในงาน ผมออกไปเอาขนมที่สั่งเอาไว้ กลับมาก็ต้องตกใจเพราะว่าคนที่ช่วยแม่ทำข้าวต้มอยู่ก็คือพัดโบก พัดโบกหันมายิ้มให้ผม แต่พอเห็นว่าใครที่ยืนอยู่ข้างผมรอยยิ้มนั้นก็หายไปเลย


“กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วใครไปรับมา” ผมเดินเข้ามาถาม

“มาถึงเมื่อเช้ามืด ทำไมไม่บอกว่าพ่อเสีย เราติดต่อกลอนไม่ได้เลย นี่ถ้าไม่โทรหาเด่นก็ไม่รู้” พัดโบกต่อว่าผม แต่ไม่ได้ดุดันรุนแรงอะไร เหมือนน้อยใจมากกว่าที่ผมไม่บอก

“มัวแต่ยุ่งเรื่องงานศพ ขอโทษนะ” ผมบอก สักพักพัดโบกก็คลี่ยิ้มออกมา

“เราลืมไปว่ากลอนคงยุ่ง ขอโทษนะที่ต่อว่า เสียใจด้วยนะกลอน” พัดโบกบอกกับผม ผมพยักหน้าและยิ้มให้ พี่ฉลามเดินเข้ามาพร้อมกับส่งกระเป๋าสะพายของผมมาให้ผม สองคนมองหน้ากัน ผมรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก

“พัด นี่พี่ฉลาม พี่ฉลาม นี่พัดโบก ญาติของเด่นครับ” ผมแนะนำ พัดโบกไม่ได้ยกมือไหว้พี่ฉลามแต่พยักหน้าแล้วยิ้มให้แทน พี่ฉลามก็ยิ้มตอบ

“พี่ไปช่วยข้างนอกก่อนนะ” พี่ฉลามบอกผมแล้วก็เดินออกไป พัดโบกหันหลับไปปรุงข้าวต้มที่กำลังเดือดปุ๊ดๆอยู่ ผมไม่รู้ว่าในใจของพัดโบกกำลังเดือดเหมือนข้าวต้มหรือเปล่า แต่แววตาดูโกรธๆยังไงไม่รู้

“ชิมสิ อร่อยไหม” พัดโบกตัดน้ำซุปมาให้ผมชิม ผมชิมแล้วยกนิ้วให้

“กลอน ได้ซื้อซองขาวมาให้แม่หรือเปล่า” แม่เดินเข้ามาถาม

“ซื้อครับ เดี๋ยวกลอนไปหยิบให้ ขอบคุณนะที่มา เราไปเอาของให้แม่ก่อน” ผมบอกพัดโบก อีกฝ่ายพยักหน้า


งานสวดศพวันนี้พ่อและแม่ของพี่ฉลามเป็นเจ้าภาพ พ่อและแม่ของพี่ฉลามสั่งผัดไทกุ้งสดเจ้าดังมาเลี้ยงด้วย ผมก็วุ่นต้อนรับแขกที่ทยอยมา จนกระทั่งงานวันที่สองผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ผมไปเคาะโลงบอกพ่อว่าจะกลับบ้านแล้ว ก่อนจะเดินออกมาก็เจอกลุ่มเพื่อนผมพร้อมกับพี่ฉลามและพัดโบกยืนอยู่ด้วย ผมเริ่มกระอักกระอวน เรื่องอะไรคิดว่าทุกคนก็คงจะพอรู้กัน เรื่องที่นอนนั่นเอง แต่เหมือนพระมาโปรดผมเลย


“กลอน วันนี้กลอนมานอนกับแม่ก็ได้ ห้องจะได้ไม่แน่น” แม่เดินมาบอกผม ผมยิ้มแล้วกอดเอวแม่

“ก็ได้ กลอนจะได้กอดแม่” ผมรีบอ้อน

“โอเค งั้นพี่ฉลามนอนฝั่งหนึ่ง พัดโบกนอนฝั่งหนึ่ง บุ้งนอนตรงกลาง” บุ้งพูดจบก็ปรบมือชอบใจ

“เดี๋ยวพี่ไปนอนกับพี่นุ๊กก็ได้” พี่ฉลามบอกผม ผมแอบเหลือบมองพัดโบก อีกฝ่ายยืนคุยกับเสือ ทำเหมือนว่าไม่ได้ฟัง แต่คิดว่าคงฟังอยู่

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวกลอนไปส่ง” ผมบอก คราวนี้พัดโบกหันมามองผม

“เรานั่งไปเป็นเพื่อน เวลาส่งเสร็จแล้วจะได้มีเพื่อนกลับ” พัดโบกบอก เพื่อนๆทุกคนเงียบไป ผมทำหน้าไม่ถูก แม่ก็มองอยู่ด้วย

“ไม่เป็นไร พี่กลับเองได้ โรงแรมแค่นี้เอง” พี่ฉลามบอกผม

“แต่พี่นุ๊กกลับไปแล้ว” ผมบอก

“นี่ไง พี่ยืมเด่นเอาไว้แล้ว” พี่ฉลามชี้ไปที่มอเตอร์ไซด์ ผมรู้เลยว่าสีหน้าตัวเองในตอนนี้คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บุ้งเลยรีบเดินเข้ามา

“เอางี้ เดี๋ยวเราซ้อนพี่ฉลามไปเอง แล้วไปนอนกับพี่นุ๊กด้วยเลย แกไม่ต้องห่วงนะ” พอบุ้งบอกแบบนี้ผมก็เลยต้องพยักหน้า ผมพาแม่กลับไปขึ้นรถ แต่ก็อดมองไปที่พี่ฉลามไม่ได้ พี่เขายิ้มให้ผมและพยักหน้าให้ ผมเลยยิ้มตอบแล้วขึ้นรถ พัดโบกเข้ามานั่งข้างๆด้วยสีหน้าเรียบๆ

“แม่อาบน้ำแล้วจะนอนเลย เพลียจัง ลูกล็อกบ้านด้วยนะ” แม่สั่งผมเมื่อมาถึงบ้าน ผมรีบรับคำ เพื่อนคนอื่นทยอยกันขึ้นบ้านหมดแล้ว เหลือผมกับพัดโบกสองคน ผมกลัวแม่จะลงมาเจอ เลยดึงพัดโบกไปที่โรงจอดรถและเข้าไปนั่งคุยในรถ พอเข้าไปนั่งในรถพัดโบกก็มองหน้าผมแต่ไม่ยอมพูดอะไร

“เดินทางมาตั้งแต่เช้า เหนื่อยไหม” ผมถาม อีกฝ่ายส่ายหน้า

“เห็นหน้ากลอนก็หายเหนื่อยทุกอย่าง”

“แล้วโดดเรียนมาใช่ไหม” ผมถาม

“กลอน วันที่กลอนต้องเศร้าแบบนี้ ต่อให้โลกจะแตก เครื่องบินจะตกเราก็จะมา”

“ไม่เอา อย่าพูดแบบนั้น” ผมรีบเอามือปิดปากพัดโบก ไม่ชอบให้ใครพูดเหมือนเป็นลาง พัดโบกจับมือที่ผมปิดปากเขาเอาไปจูบเบาๆ

“กลอน เรารู้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะมาถาม แต่ถ้าไม่ถามเราก็คง...” พัดโบกถอนหายใจ

“เรื่องพี่ฉลามเหรอ” ผมเป็นฝ่ายพูดออกมาแทน

“อืม เขากลับมาแล้ว แล้วกลอนละ..จะกลับไปคบกับเขาไหม”

“ยังไม่ตอบได้ไหม เราไม่ได้คิดอะไรถึงเรื่องนี้เลย” ผมบอกไปตรงพัดโบกถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะดึงผมไปกอด

“ขอโทษนะ ไม่ใช่เวลาที่จะมาถามจริงๆ”

“ไม่เป็นไร ขอบคุณนะที่กลับมา” ผมบอกเขา พัดโบกเชยคางผมแล้วจูบ สักพักผมก็ดันตัวเข้าออก

“เดี๋ยวแม่ลงมาเห็น ขึ้นห้องกันเถอะนะ” ผมบอก

เราสองคนกลับเข้าไปในบ้าน ผมจัดแจงเดินตรวจตราความเรียบร้อยแล้วก็กลับขึ้นห้องไป เล็กกับเก้งนั่งเล่นเกมกันอยู่ยังไม่นอน ส่วนเสือเพิ่งออกมาจากห้องน้ำก่อนจะมานั่งคุยกับพัดโบกเรื่องรถตามเคย ผมเลยเข้าไปอาบน้ำ สงสัยจะอาบนานไปหน่อย กลับออกมาหลับกันหมดเหลือพัดโบกที่รออาบน้ำต่อจากผม พอบุ้งไปนอนที่โรงแรมด้วย บนเตียงเลยเหลือผมกับพัดโบกแค่สองคน บุ้งส่งข้อความมาบอกว่าถึงโรงแรมแล้ว ผมไม่กล้าถามถึงพี่ฉลาม ในใจก็นึกสงสารพี่เขา ผมไม่รู้จริงๆว่าผมควรทำยังไง


ผมนอนเล่นจนเหมือนจะเคลิ้มหลับ แต่ผิวเย็นๆของพัดโบกที่มากอดผมทำให้ผมสะดุ้ง ผมหันไปแต่ในห้องมันมืดมาก ผมว่าผมเปิดไฟที่หน้าห้องเอาไว้ แต่ทำไมมันดับไปไม่รู้ ในห้องเลยมืดมาก พัดโบกมาหอมแก้มของผม ก่อนจะจูบผม ผมพยายามจะดันออกกลัวเพื่อนได้ยิน แต่สุดท้ายก็ต้องคล้อยตามอารมณ์ของอีกฝ่าย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ยอมส่งเสียงออกมาเลย พัดโบกดึงผ้าห่มมาคลุมร่างเราสองคนเอาไว้ ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในเสื้อนอนของผมแล้วปั่นที่ยอดอกจนมันแข็งสู้นิ้ว


“ไม่เอา เดี๋ยวเพื่อนได้ยิน” ผมกระซิบให้เบาที่สุด

“หลับกันหมดแล้ว” พัดโบกบอกก่อนจะขยับตัวลงไปฉกชิมที่หน้าอกของผม ผมกัดฟังกลั้นเสียงแทบตาย พัดโบกยังคงไม่หยุด ไล่เลียไปทั้งตัวจนถึงส่วนกลาง กางเกงนอนถูกดึงลง ผมรีบจับมือของพัดโบกจะดึงให้ขึ้นมา แต่ไม่ทันแล้ว อีกฝ่ายครอบครองส่วนกลางของผมแล้ว ผมเกร็งตัวแล้วกัดผ้าห่มแน่น เพราะริมฝีปากของผมโดนผมกัดจนบวมเจ่อ พัดโบกรูดรั้งเบาๆไม่ให้เกิดเสียง แต่ผมจะขาดใจ ยิ่งทำอะไรแบบที่กลัวคนจะได้ยินผมยิ่งเกร็ง พอยิ่งเกร็ง อารมณ์มันยิ่งเตลิด ผมกัดผ้าห่มส่ายหน้าไปมา ไม่นานผมก็ปลดปล่อยออกมาในปากของพัดโบกเลย อีกฝ่ายจัดการดูดกลืนเกลี้ยงไม่มีเลอะออกมาเลย ผมพรูลมหายใจให้เบาที่สุด อีกฝ่ายมุดผ้าห่มออกมาจูบที่หน้าผากของผม

“คิดถึงมากจนทนไม่ไหวจริงๆ ขอโทษนะ” พัดโบกกระซิบ

“แล้ว..อยากไหม” ผมถาม แต่ผมไม่ทำให้หรอกนะ ถ้าอีกฝ่ายตอบว่าอยากผมจะให้เขาไปช่วยตัวเอง อยากหาเรื่องเองนี่นา ผมยอมเป็นคนใจร้าย

“ไม่เป็นไร นอนนะคนดีของพัด” พัดโบกหอมแก้มผมอีกครั้ง ผมเลยชะโงกหน้าไปหอมแก้มพัดโบกบ้างก่อนจะกลับมานอน


เช้าวันสวดวันสุดท้าย ผมว่าผมลุกแต่เช้าแต่ก็ยังสายกว่าพัดโบก พัดโบกตื่นพาแม่ผมไปตลาดตั้งแต่เช้ามืด แล้วเอาของไปไว้ที่วัด พวกผมตื่นอาบน้ำเสร็จ เด่นก็ขับรถมารับ ไปถึงวัดก็รีบไปช่วยแม่ทำกับข้าวเลี้ยงเพล สักพักพี่นุ๊ก บุ้ง พี่ฉลามก็มา พี่ฉลามมานั่งข้างๆผมแล้วก็ช่วยผมเด็ดชะอม พักโบกที่กำลังปรุงน้ำซุปไก่อยู่ก็แอบเหลือบมองมาบ่อยๆ แต่พี่ฉลามไม่ได้คุยอะไรมาก นิ่งๆตามประสาพี่เขา คงเพราะทั้งคู่คงรู้ว่าผมกำลังอยู่ในภาวะที่ไม่ควรทำให้คิดมาก ทั้งคู่เลยต่างคนต่างอยู่คนละมุม


จนกระทั่งงานสวดศพของพ่อครบสามคืนผ่านไป เราเก็บศพเอาไว้ที่วัดอีกร้อยวันถึงจะเผา ผมเลยบอกแม่ว่าจะอยู่เป็นเพื่อนแม่ก่อน แต่แม่บอกว่าแม่จะไปปฏิบัติธรรมที่เชียงรายกับแม่ของพี่ฉลามต่อเลย เพราะที่วัดก็ไม่มีอะไรแล้ว แต่พี่นิ่มยังอยู่ต่อ เพื่อจัดการเรื่องประกันชีวิตที่พ่อทำเอาไว้กับตัวแทนที่นี่และอยู่ทำบุญใส่บาตรให้พ่ออีกอาทิตย์หนึ่ง ส่วนผมเลยก็ตีรถกลับขึ้นมากรุงเทพกันคืนนั้นเลยเพราะอยากเข้ามาคุยกับพี่เหิรเรื่องงานด้วย ผมแยกกันกลับกับพัดโบก พัดโบกกลับมากับเด่น แต่ผมนั่งมากับแม่ในรถตู้ของครอบครัวของพี่ฉลาม พัดโบกหน้าเสียนิดหน่อยเมื่อรู้ว่าผมต้องกลับกับพี่ฉลาม แต่ก็คงเข้าใจว่าผมอยากนั่งมากับแม่ เพราะจะไปส่งแม่ที่สนามบินก่อน ผมกับพี่ฉลามมาส่งแม่ของเราสองคนเสร็จ พี่ฉลามก็ชวนผมกินข้าวก่อนกลับคอนโด ทีแรกผมก็ลังเล แต่ในที่สุดผมก็ตอบรับ ผมก็อยากคุยกับพี่เขาเหมือนกัน เรายังไม่ได้คุยอะไรกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยตั้งแต่เจอกัน


“รู้ไหม ตอนอยู่ที่โน้นนะ อยากกินก๋วยจั๊บมากเลย” พี่ฉลามชวนผมคุยก่อนหลังจากที่มานั่งกินก๋วยจั๊บเจ้าโปรดอยู่ที่เยาวราช

“เชื่อแล้วว่าอยาก สั่งเต็มโต๊ะเลย” ผมมองอาหารตรงหน้าก็คิดว่าพี่เขาจะกินหมดไหม

“เราก็กินบ้างนะ ผอมลงทุกวัน” พี่ฉลามบ่นผม

“รู้ได้ไงว่ากลอนผอมลงทุกวัน” ผมถาม พี่ฉลามทำหน้าอึ้งๆ ก่อนจะยักคิ้วให้แบบกวนๆ

“มีสายสืบ”

“ทำไมพี่ทำแบบนี้” ผมถาม

“แบบไหน”

“ไม่ให้กลอนรอ แล้วพี่มาทำแบบนี้”

“ก็ไม่อยากให้ทรมาน อีกอย่าง ใครกันที่บอกพี่ อย่าลืมกลอนนะ” พี่เขาถาม คราวนี้ผมอึ้งไปบ้าง

“พี่มีอะไรกับใครรึเปล่า ที่โน้นเสรีจะตายเนอะ” ผมแกล้งถามแต่ก้มหน้ากินก๋วยจั๊บ ไม่กล้าสบตาพี่เขา

“จะเสรีแค่ไหน ถ้าใจมันไม่อยาก มันก็ไม่มีหรอก” พี่ฉลามตอบ แต่ผมเหมือนโดนปามีดมาปักที่กลางอก เป็นคำถามที่ฆ่าตัวเองแท้ๆ

“กลอนขอโทษนะครับ” จู่ๆน้ำตาของผมก็ร่วงแหมะเลย หัวใจผมอ่อนแอดีจริงๆในตอนนี้ ผมไม่รู้จริงๆว่าตัวเองควรทำยังไง ผมรักพี่ฉลาม มันไม่เคยเปลี่ยนไปเลย แต่ผู้ชายอีกคนที่ก้าวเข้ามา ผมก็คิดว่าผมรักเขา คนเราจะรักคนได้ถึงสองคนได้เหรอ ผมพยายามภามตัวเองแล้ว แต่คำตอบก็คือ ใช่ ผมรักผู้ชายทั้งคู่

“ร้องไห้ทำไม ไม่ต้องร้องนะ” พี่ฉลามลุกมาลูบหัวผม ก่อนจะเดินไปจ่ายเงินแล้วพาผมเดินออกมาเลย อาหารยังเต็มโต๊ะ ผมทำให้พี่เขาไม่ได้กินเสียแล้ว

“กลอนขอโทษจริงนะที่ไม่ได้รอพี่” ผมเช็ดน้ำตาแล้วบอกพี่เขาอีกครั้ง

“จะขอโทษในสิ่งที่ไม่ผิดทำไม พี่บอกกลอนเองว่าไม่ต้องรอ ไม่ต้องเสียใจนะ วันนั้นพี่เลือกครอบครัว พี่ทำให้กลอนเสียใจ พี่ไม่มีสิทธิ์ให้กลอนรอหรอก ได้แต่ภาวนาว่าระหว่างนี้กลอนอย่าเจอใคร แต่ในเมื่อกลอนเจอเขาแล้วก็อย่ากังวลอะไร ถ้าการกลับมาของพี่ทำให้กลอนยุ่งยากใจ พี่สิต้องขอโทษ”

“เปล่านะ กลอนไม่ได้ยุ่งยากใจ กลอนดีใจที่พี่กลับมา..แต่ว่า..กลอน..” ผมไม่รู้จะพูดยังไงกับสิ่งที่ผมคิดอยู่ตอนนี้

“ดูทำหน้าเข้า ฟังนะ พี่โอเค ไม่ต้องคิดในส่วนของพี่ คิดในส่วนของกลอนพอ เขาเป็นคนดีใช่ไหม”

“ครับ”

“รักเขาไหม” พี่ฉลามถาม ผมมองหน้าพี่เขาก่อนจะน้ำตาร่วงอีก สุดท้ายก็พยักหน้า พี่ฉลามยิ้มให้ผมก่อนจะถอนหายใจเบาๆ แล้วดึงมือผมไปกุม

“อย่าร้องไห้เพราะพี่อีกเลยนะ พี่เจ็บว่ะ ยิ้มให้พี่ดีกว่า เวลากลอนยิ้มแล้วพี่มีความสุขนะ” ยิ่งพี่ฉลามอ่อนโยนแบบนี้ผมยิ่งอยากร้องไห้ พี่เขาแค่ลูบหัวผมอีก ไม่ได้ดึงผมไปกอด ไม่ได้จับมือผม ผมคงไม่มีสิทธิอยากให้เขากอดอีกแล้วใช่ไหมครับ

“กลับบ้านกัน” พี่ฉลามบอก ผมพยักหน้าแล้วเดินตามพี่เขาไป รถตู้ขับพาเรามาถึงหน้าบ้านของพี่ฉลาม มองหน้าพี่เขาอีกที พี่เขายิ้มให้ ผมลงจากรถด้วยความรู้สึกเจ็บหนึบๆในใจ ผมเดินกลับขึ้นมาที่คอนโด พอไขกุญแจเข้าไปก็เห็นพัดโบกนั่งอยู่ที่โซฟา สีหน้านิ่งๆ   

“เด่นไปไหนเหรอ” ผมถามเพราะไม่เห็นเด่น

“ไปบ้านแฟน ไม่กลับ” พัดโบกตอบแล้วหันกลับไปดูโทรทัศน์ต่อ ผมรู้ว่าพัดโบกคงจะน้อยใจและคิดมาก แต่ผมเหนื่อยเลยเดินกลับเข้าไปในห้อง เข้าไปอาบน้ำ สักพักพัดโบกก็ตามเข้ามา

“เหนื่อยเหรอ นวดให้ไหม” พัดโบกถาม

“ไม่เป็นไร เราอยากนอน” ผมตอบไปตามที่รู้สึก ผมปวดหัวเพราะร้องไห้เยอะไป พัดโบกปิดไฟแล้วเดินมานั่งทิ้งตัวลงนอนข้างๆก่อนจะกอดผม

“ตาแดง ร้องไห้มาเหรอ มีอะไรรึเปล่า” พัดโบกถามผมก่อนจะซุกไซร้ที่ซอกคอของผม

“เปล่า ไม่ได้ทะเลาะอะไร วันนี้ไม่มีอะไรได้ไหม เราเหนื่อย” ผมบอก พัดโบกชะงักไป ก่อนจะยอมปล่อยผมออกจากอ้อมกอดแล้วหันหลับไปนอนนิ่งๆ

“อยากให้เรากลับไปญี่ปุ่นไหม” พัดโบกถาม

“มันไม่ใช่แบบนั้น” ผมตอบกลับไป อีกฝ่ายเงียบ ผมถอนหายใจแล้วพลิกตัวไปกอด

“แค่คุยกัน ไม่ได้มีอะไรเลย อย่าคิดมากสิ” ผมอธิบาย อีกฝ่ายถอนหายใจก่อนจะพลิกตัวหันหน้ามาหาผม แล้วจูบผม ผมไม่ได้ขัดใจ เดี๋ยวจะน้อยใจผมอีก พอไม่ได้ขัดใจ พัดโบกก็เริ่มปลดเสื้อผ้าผมออก ผมนอนให้เขาทำตามที่อยากทำ ไม่นานผมก็เริ่มคล้อยตามอารมณ์ที่เขาปรนเปรอมา พัดโบกแสดงความรักกับผมทั้งคืน ผมไม่ได้ขัดใจเขาเลย แต่ถ้าบอกตรงๆ การตอบรับของผมในวันนี้เกิดจากอารมณ์ล้วนๆ สมองของผมกลับคิดนั่นนี่เต็มไปหมด ไม่ได้รู้เลยว่าพัดโบกพูดอะไรบ้าง จนกระทั่งพัดโบกหลับสนิท ผมถึงได้ลุกไปสวมเสื้อผ้าแล้วออกไปยืนที่ระเบียง มองโมบายหอยที่เริ่มเก่าเพราะฝุ่นจับมองเลยไปที่บ้านตรงข้าม ไฟห้องของพี่ฉลามยังเปิดอยู่ ผมมองอยู่สักพักใหญ่ จนไฟห้องพี่ฉลามดับลง ผมถึงได้กลับมานอน


(มีต่อข้างล่างนะคะ)

V
V


หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวัน จ. 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 30-11-2015 22:22:33
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


ผมตื่นมาตอนสายๆ ออกมาก็เจอเด่นกลับมาแล้ว เด่นกำลังนั่งคุยกับพัดโบกอยู่ พอเห็นผมก็หยุดคุย พัดโบกเรียกผมให้มากินข้าว ผมเดินไปนั่งกินข้าว มีเอแคลร์วางอยู่ด้วย


“กูจะไปเที่ยวสิงค์โปร์กับแฟนกูนะ มึงจะไปผ่อนคลายหน่อยไหม” เด่นถาม

“ไม่ไป พรุ่งนี้ว่าจะเข้าบริษัทพี่เหิรหน่อย ไม่ได้ทำงานให้แกเต็มที่เลยตั้งแต่พ่อป่วย” ผมบอก

“ตามใจ ดูแลเพื่อนกูดีๆนะ” เด่นหันไปพูดกับพัดโบก อีกฝ่ายพยักหน้า

“ไปกี่วัน”

“สี่ อยากได้อะไรไหม” เด่นถาม ผมส่ายหน้า

“กินข้าวเยอะๆหน่อยนะ” เด่นมันบ่นผมก่อนจะลุกกลับเข้าห้องไป

“เดี๋ยวเราไปส่งเด่นที่สนามบิน อยากกินอะไรไหม จะกลับมาทำให้” พัดโบกถามผม

“จะกลับไปเรียนเมื่อไหร่” ผมไม่ได้ตอบ แต่ถามเขากลับเพราะห่วง ไม่อยากให้เขาหยุด ช่วงนี้น่าจะสอบด้วย

“อยากให้กลับมากเหรอ” พัดโบกถามก่อนจะหันกลับล้างจาน

“เปล่า เราเป็นห่วงเรื่องเรียนพัดต่างหาก”

“ช่วงนี้ปิดเตรียมตัวสอบไฟนอล อีกสองวันก็กลับแล้ว สองอาทิตย์เดียวก็จบ เราจะกลับมา อย่าเป็นเด็กดื้อนะ” พัดโบกเดินกลับมาเปิดหน้าผากของผมแล้วหอม

“ตั้งใจสอบนะ สู้ๆ” ผมยกมือทำกำปั้นให้สู้ๆ พัดโบกยิ้มแล้วหอมผมอีก คราวนี้เด่นเปิดประตูออกมาพอดี เด่นผงะไปนิดหนึ่งก่อนจะทำหน้าปกติเหมือนเดิม ผมก็ตกใจเหมือนกัน ลืมไปเลยว่าเด่นยังอยู่

“ไปส่งกูหน่อย” เด่นบอก พัดโบกถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วหันมายิ้มให้ผม

“เดี๋ยวมานะ” ผมพยักหน้าให้ พอเด่นกับพัดโบกออกไปแล้วผมก็กลับเข้าไปในห้อง เอาเก้าอี้ไปปีนหยิบโมบายหอยมาล้างฝุ่นออก แอบมองไปบ้านตรงข้าม ผมไม่เห็นโมบายหอยของผมที่ให้พี่เขาแล้ว รู้สึกใจหายวาบเลย ผมมายืนล้างโมบายด้วยใจหวิวๆ
   

สุดท้ายผมก็ทนไม่ได้ วางโมบายลง หยิบกุญแจห้องแล้วเดินไปที่บ้านของพี่ฉลาม ถ้าพี่ฉลามไม่ต้องการโมบายอันนั้นแล้วผมก็อยากได้คืน ผมรู้ตัวว่าตอนนี้ผมนิสัยไม่ดี ผมไม่มีสิทธิ์อะไรเลย แต่ผมก็ไมอยากให้พี่ฉลามลืมผมอยู่ดี ตั้งแต่เกิดมา ครั้งนี้แหละที่ผมรู้สึกว่าตัวเองงี่เง่าไม่มีเหตุผลสุดๆที่กำลังน้อยใจพี่ฉลาม ผมมาถึงบ้านพี่ฉลามก็ไม่เจอใครเลย เจอแต่แม่บ้าน บอกว่าพี่ฉลามอยู่บนห้อง ผมเลยถือวิสาสะเดินขึ้นไปเลย ได้ยินเสียงเพลงดังมาจากในห้องมืดที่พี่เขาเอาไว้ล้างฟิลม์ ผมยืนฟังเพลงอยู่ที่หน้าห้อง พี่เขาเปิดเพลงนี้วนซ้ำๆตลอดจนผมอยากตั้งใจฟัง


วอน..อย่ามองฉันตอนร้องไห้ กลัวน้ำตาจะทำให้เธอเศร้าใจ
เตรียม..เก็บใจของเธอไว้ให้ ให้เธอเอากลับไปให้คนที่เธอต้องการ ครอบครองใจเธอทั้งใจ

ลืมฉันเลย.. ไม่เป็นไร ใจฉันมันเคยช้ำมาก่อน
เคยปวดรวดร้าวกว่านี้ เมื่อใจฉันมัน ทนได้...ทนไป

แล้ว..ฉันจะยิ้มทั้งน้ำตา ให้เธอเข้าใจว่าทนไหว
ให้เธอรู้สึกดี ไม่มีร้อนใจ จากกันไป ให้เธอสุขใจก็พอ

ร้อง..ไม่นานฉันคงหายเจ็บ คงจะชินกับการที่ไม่มีใคร ก็คนอย่างฉัน ทนได้..ทนไป 



ผมยืนฟังแล้วยกมือขึ้นมาจับหัวใจของตัวเอง ผมรู้สึกปวดหัวใจมากๆ ผมไม่กล้าแม้แต่จะเปิดประตูห้องเข้าไป ผมไม่รู้ว่าพี่ฉลามกำลังรู้สึกเหมือนในเพลงหรือเปล่า ผมยืนฟังเพลงนี้อีกหลายรอบ ในที่สุดก็ตัดสินใจผลักประตูเข้าไป แต่ปรากฏว่าผมไม่เจอใครเลย ในห้องเปิดเพลงทิ้งเอาไว้ แต่ไม่มีคนอยู่ แต่ในห้องนั้นมีรูปผมเต็มไปหมดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน มีรูปผมมากมายช่วงระหว่างที่พี่เขาอยู่ต่างประเทศด้วยซ้ำ ผมจำได้ บางรูปบุ้งเป็นคนถ่ายผม ผมยังเคยสงสัยว่าทำไมบุ้งมันขยันถ่ายผมจังเลย ผมเดินออกมาจากห้องมืดและไปที่ห้องของพี่ฉลาม ค่อยๆดันประตูเข้าไป เดินเข้าไปก็เห็นว่าพี่เขานอนหนุนแขนตัวเองข้าหนึ่งอยู่บนเตียง อีกข้างก็ชูโมบายหอยเอาไว้ พี่เขานอนมองโมบายที่กำลังแกว่งไปมาเพราะแรงลมจากพัดลมที่พี่เขาเปิดเป่าอยู่ พี่เขาเอามันมาทำความสะอาดเหมือนกัน ผมยืนเช็ดน้ำตาอยู่ตรงนั้น ไม่กล้าก้าวขาเดินไป จู่ๆพี่เขาก็ลุกขึ้น แต่ไม่ได้มองมาที่ผมนะพี่เขาเดินไปที่ระเบียงห้อง เหม่อมองไปที่ห้องของผม ผมเห็นแต่แผ่นหลังของพี่เขา ผมตัดสินใจวิ่งเข้าไปแล้วสวมกอด พี่เขาตกใจจะหันกลับมา แต่ผมกอดพี่เขาแน่นเลย ไม่ยอมให้เขาหันมา


“กลอน มาตั้งแต่เมื่อไหร่” พี่เขาถาม ผมไม่ได้ตอบ ร้องไห้อยู่กับแผ่นหลัง เพลงยังแว่วดังลอยมาบิ้วอารมณ์ผมมากๆด้วย ผมเลยร้องไห้ไม่หยุดเลย

“ใจร้ายจังว่ะคนเรา” พี่เขาบ่น ผมยิ่งกอดเขาแน่น


..แล้วฉันจะยิ้มทั้งน้ำตา ให้เธอเข้าใจว่าทนไหว...


“ดีนะที่กอดพี่จากข้างหลัง ถ้ามากอดข้างหน้า พี่คงกอดกลับ แล้วจะไม่ปล่อยไปแล้วนะ” พี่เขาพูดต่อ ผมปล่อยมือออก แล้วเดินมายืนข้างหน้า ยืนมองพี่เขาไปเช็ดน้ำตาตัวเองไป พี่เขาส่ายหน้าแล้วยิ้มก่อนจะถอนหายใจ แต่ก็ยังไม่ยอมกอดผม ผมเลยขยับเข้าไปใกล้ๆ ซบหน้ากับอกพี่เขา ได้ยินเสียงพี่เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะยกมือขึ้นมากอดผม ผมรีบกอดตอบแล้วร้องไห้อีก ผมไม่รู้หรอกว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่รู้ด้วยว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น จากคนที่เคยคิดอะไรไกลๆ คิดก่อนทำ ทบทวนตัวเองตลอด แต่ครั้งนี้ผมลืมทุกอย่างหมดสิ้นไป ผมทิ้งสมองเอาไว้ที่ไหนไม่รู้ ที่พาขาผมเดินมาถึงที่นี่ ผมแค่ใช้หัวใจนำทางเท่านั้นเอง


ร้อง..ไม่นานฉันคงหายเจ็บ คงจะชินกับการที่ไม่มีใคร ก็คนอย่างฉัน ทนได้..ทนไป


กว่าผมจะหยุดร้องไห้ได้พี่ฉลามก็บ่นว่าผมผลิตน้ำตาเก่งจริงๆ ผมได้แต่ค้อนส่งไปเพราะเถียงไม่ได้ มันเป็นเรื่องจริง พักนี้ผมผลิตน้ำตาได้เก่งมาก เราสองคนนั่งคุยกันอยู่ในห้อง คุยกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่พี่ฉลามให้บุ้งกับพี่นุ๊กมาคอยสอดส่องเรื่องผม เรื่องพ่อและแม่ของพี่เขาที่ไปทำความรู้จักกับแม่ผม พี่ฉลามบอกว่า เรื่องนั้นพ่อแม่เขาจัดการเอง เขาไม่ได้ให้ทำ คงรู้สึกผิดกับผม พี่ฉลามบอกว่าที่ไม่ให้พ่อแม่ติดต่อผม เพราะไม่อยากให้ผมจมกับความเศร้า พี่เขาบอกว่าเขารู้ว่าความทรมานที่สุดมันเป็นยังไง เพราะเขาเผชิญมันอยู่ทุกวัน พอพี่เขาพูดแบบนี้ผมยิ่งรู้สึกว่าตัวเองแย่ที่ไม่รอพี่เขา พอพี่เขาเห็นหน้าผมเขาก็ดุว่าถ้าผมยังคิดว่าตัวเองผิดพี่เขาจะไม่คุยด้วยแล้ว ผมเลยต้องรีบยิ้มออกมา แล้วพี่เขาก็ถามเรื่องของพัดโบก ผมก็เล่าไปตามจริง พี่เขาฟังนิ่งๆตามแบบฉบับ ผมเล่าจบพี่เขาก็ถอนหายใจ ผมไม่รู้ว่าพี่ฉลามคิดอะไร ผมเคยบอกแล้วว่าพี่เขาชอบคิดอะไรไม่เหมือนใคร เดายาก


“แล้วมาหาพี่ เขาไม่ว่าเหรอ” พอพี่ฉลามถามผมก็อึ้งไป ป่านนี้คงกลับมาแล้ว ผมไม่ได้หยิบโทรศัพท์มาด้วย พี่ฉลามเห็นหน้าผมแล้วก็คงเข้าใจ พี่เขาลุกขึ้นแล้วดึงมือผมขึ้นมา

“กลับไปหาเขา พี่โอเค” พี่ฉลามบอก

“โอเคแล้วทำไมฟังเพลงเศร้าละ” ผมถามหน้างอ

“โอเคๆ เดี๋ยวจะไปเปลี่ยนเป็นจิงกาเบล” พี่ฉลามพูดจบผมก็หลุดหัวเราะออกมา

“ฟันสวยเหมือนเดิมเลยนะ ยิ้มแล้วน่ารัก” พี่เขาโยกหัวผม ผมดึงมือพี่เขามาแนบแก้ม

“กลอนรู้ว่ากลอนนิสัยไม่ดีถ้าจะขอแบบนี้ ถ้ากลอนทิ้งเขาไม่ได้ แต่กลอนจะมีพี่อยู่ได้ไหม” ผมถามคำถามแย่ๆออกไป พี่ฉลามนิ่งก่อนจะส่ายหน้า

“เขาทนไม่ได้หรอก” พี่เขาตอบ ผมหน้าเสียไปเลย สุดท้ายก็ต้องปล่อยมือพี่ฉลามลงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

“กลอนไม่อยากเสียพี่ไปอีกแล้วครับ” ผมกอดพี่ฉลามอีกรอบ

“พี่ยังอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ไปไหนแล้วนี่นา” พี่เขายิ้มให้ผม

“ถ้าพี่เจอคนอื่นละ”

“คงเจอนานแล้วไหม ไม่รอถึงตอนนี้หรอก” พี่เขาย้อนถาม ผมเลยกระชับกอดพี่เขาอีก บอกตรงๆว่าผมอยากจูบพี่ฉลามมาก แต่ผมคิดว่า ถ้าผมจูบ พี่ฉลามจะยิ่งเจ็บ พัดโบกก็จะเจ็บ ผมเลยได้แต่กอดเอาไว้

“กลอนกลับก่อนนะครับ” ผมบอก

“ไม่ไปส่งนะ”

“ครับ” ผมถอนหายใจจนพี่เขาหัวเราะแล้วจูบที่หน้าผากของผม ผมยิ้มแล้วเดินกลับลงมาด้วยหัวใจที่สับสนสุดๆ เดินกลับมาถึงคอนโดรู้สึกแย่อีกเมื่อรู้ว่าทิ้งให้ใครอีกคนรอ พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่าโมบายหอยของผมกองอยู่ที่โต๊ะกินข้าว ผมตกใจมากรีบไปหยิบขึ้นมา สักพักเห็นพัดโบกเดินออกมา ในมือมีกรรไกรด้วย ผมยอมรับว่าโกรธมาก

“ทำไมทำแบบนี้ ทำไมมายุ่งของๆเรา” ผมตวาดพัดโบกไปด้วยความโมโห จะโกรธยังไงก็ควรพูดกันดีๆ ไม่ใช่มาทำลายข้าวของของผม อีกฝ่ายผงะไปเพราะผมไม่เคยตวาดเขาแบบนี้เลย

“หวงมากเหรอไง” เขาถามผมด้วยสีหน้าโกรธๆเหมือนกัน

“ใช่ หวงมาก” ผมตอบ

“หวงมากแล้วกลับมาทำไม ไปหามันแล้วไม่ใช่เหรอ”

“นี่ห้องเรา คนที่ไปมันควรใช่เราเหรอ” ผมพูดจบก็ตกใจตัวเองที่พูดออกไปแบบนั้น สีหน้าของพัดโบกดูเสียใจมาก เขาวางกรรไกรลงก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง สักพักก็เดินออกมาพร้อมกับกระเป๋า ผมใจหาย รู้สึกผิด แต่ก็ยังโกรธที่เขาทำแบบนี้

“เราทำข้าวเอาไว้ให้นะ จะกินก็อุ่นเอาหน่อย ขนมในตู้เย็น แล้วก็เห็นบ่นว่าปวดตาเลยซื้อเจลประคบตามาให้ แช่อยู่ในช่องฟรีซนะ ดูแลตัวเองดีๆ"  พัดโบกบอกแล้วจะเดินออกไป

“อย่าไป” ผมพูดออกมาเพราะเอาเข้าจริงก็ทนไม่ได้ที่เขาจะไป อีกฝ่ายหยุดชะงัก ผมหันกลับไปมองเขา แต่เขาไม่ได้หันมา

“เรายังรักพี่ฉลาม แต่เราก็ไม่อยากให้พัดโบกไป เราควรทำยังไง” ผมพูดออกไป อีกฝ่ายหันกลับมา

“จะให้เราตายตรงนี้เลยไหม กลอนอยากให้เราเจ็บจนตายเลยใช่ไหม” พัดโบกพูดเสียงสั่น

“เราขอโทษ แต่เรา..เรา..”

“ได้ จะเอาแบบอยู่กับเราวันหนึ่ง มันวันหนึ่ง แบบนี้ดีไหม” พัดโบกถามผม ผมส่ายหน้า รู้ว่าทำเขาเจ็บ

“แล้วจะให้เราทำยังไง เราเคยบอกแล้วว่าเรายังมีเขาในใจ เราไม่เคยปิดบัง”

“รักเราบ้างไหมกลอน” พัดโบกพูดจบก็น้ำตาไหล ผมใจหายรีบเดินเข้าไปกอดเขา

“รัก” ผมตอบ

“คนรักกันไม่ทำแบบนี้หรอกนะ” พัดโบกพูดกลับมา ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไง ไม่ว่าตอบแบบไหนก็ไม่ดี

“จะให้เราไปไหม” พัดโบกถาม ผมส่ายหน้า พัดโบกวางกระเป๋าลงแล้วจูงมือผมเข้าไปในห้อง พัดโบกจับผมถอดเสื้อผ้าออกหมดเลย ผมตกใจ รีบดึงกางเกงขึ้นมา แต่สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้

“ไม่ทำแบบนี้ อย่าใช้อารมณ์สิพัด” ผมรีบอก แต่อีกฝ่ายไม่ฟัง ผลักผมลงแล้วปล้ำจูบผม ผมทั้งผลักทั้งดัน แต่พัดโบกไม่ยอมหยุด ผมได้แต่ถอนใจแล้วนอนนิ่ง สู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ผมไม่อยากเจ็บตัว พอผมนิ่ง สักพักพัดโบกก็หยุดแล้วร้องไห้

“เราขอโทษ” ผมเป็นฝ่ายขอโทษ ผมรู้ว่าเขาโกรธผมมากถึงได้ควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่เขาก็หยุดเมื่อเห็นผมหยุด

“ไม่รักเราบ้างเลยใช่ไหม” พัดโบกถาม ผมพลิกตัวไปกอดเขา

“รัก”

“เลือกเราไม่ได้เหรอกลอน เราสัญญาว่าจะทำตัวดีๆกว่านี้ เราจะดูแลกลอนกับแม่ ให้โอกาสเราได้ไหม”

“เราไม่รู้ เราไม่รู้จริงๆ” ผมบอกก่อนจะร้องไห้ออกมาบ้างเพราะทนความกดดันนี่ไม่ไหวเหมือนกัน พอพัดโบกเห็นผมร้องไห้ก็รีบสวมกอดตอบ จูบที่น้ำตาของผมซ้ำๆ

“ขอโทษนะ ขอโทษ ไม่ร้องไห้นะ”

“เราไม่รู้จริงๆ เราไม่รู้ เราขอโทษ” ผมก็ได้แต่พูดซ้ำแบบนี้

“อยู่กันแบบสามคนไหม เรายอมก็ได้ ยอมทุกอย่างแล้ว เอาไหม" พัดโบกถามผม ผมอึ้งไป หันไปมองพัดโบกก่อนจะส่ายหน้า ถึงผมจะรักทั้งคู่ แต่ผมไม่ได้ต้องการแบบนี้เลย

“มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ” ผมรีบตอบ

“แล้วกลอนต้องการอะไร กลอนบอกเราได้ไหม”

“เราไม่รู้จริงๆ” ผมบอก พัดโบกถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงไปนอนราบข้างผม

“เมื่อกี้เราไม่ได้จะทำลายของรักของกลอนนะ เราเห็นกลอนแช่เอาไว้เลยล้างให้ แล้วมันกันกัน เลยว่าจะแก้ไขให้” พัดโบกอธิบายให้ผมฟัง ผมหันไปมองเขาก่อนจะรู้สึกผิดเต็มๆ ผมไม่ได้ถามแต่คิดว่าเขาทำไม่ดี ผมเองต่างหากที่ไม่ดี ผมเองต่างหากที่หลายใจ ผมเองต่างหากที่เป็นตัวปัญหา ผมควรตัดใจเลือกใครแค่คนเดียว

“กอดเราสิ” ผมบอก พัดโบกหันกลับมากอดผม สักพักก็ซุกไซร้ร่างเปลือยเปล่าของผมอีกรอบ คราวนี้ผมไม่ได้ขัดเขาเลย ได้แต่หลับตาปล่อยให้พัดโบกปรนเปรอผมด้วยความร้อนแรง


..แต่ในความมืดมิดของอารมณ์ ใบหน้าของพี่ฉลามและใบหน้าของพัดโบกสลับกันไปมา ทั้งคู่ต่างกำลังโอบกอดผมและแสดงความรักกับผมจนผมสำลักความสุข ผมจะเลือกใคร ผมควรเลือกใคร...



***โปรดติดตามตอนต่อไปในตอนหน้านะคะ***

โอ้ยๆๆๆๆ อะไรยังไงคะกลอน หรือจะสามเลยดีหรือยังไง ไม่นะะะ แหะๆ
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ ใกล้มาถึงปลายทางแล้วค่ะ จะรู้แล้วว่าสุดท้ายลงเอยกับใคร
อ่อๆๆ แล่วฝากข่าวอีกเรื่องหนึ่งนะคะ เรื่องรักวุ่นดีปีโป้ช่วยลุ้น เหลืออีประมาณ 4-5 ตอนจะจบ
จะลงทีเดียวเลยนะคะ เพราะดูแล้วคนอ่านเหลือไม่กี่คน เลยลงทีเดียวยาวจบไปเลย รอหน่อยน้า
จบแน่นอนไม่มีดองจ้า เจอกันตอนหน้า้นะคะ มีคำผิดเตือนด้วยนะะะ เดี๋ยวเค้ากลับมาแก้ไข กอดๆๆๆ

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: AuyAaiz ที่ 30-11-2015 22:45:45
โอมายก็อดดดดดด
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-11-2015 22:58:05
ยังไม่กล้าอ่านเลย เลือกไม่ถูกอะว่าจะเลือกใคร
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 30-11-2015 23:14:02
อึดอัด... ดีทั้ง 2 คน
แต่พัดโบกเหมือนจะอารมณ์ร้อนไปหน่อย ส่วนฉลามดูเป็นผู้ใหญ่ดี
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 30-11-2015 23:14:24
ตอนอ่านตอนของพี่ฉลาม เราร้องไห้เลยอะ
เราแบบไม่ไหวแล้ว สงสารมาก
เราอยากให้กลอนกลับไปนะ
เราเชียร์พี่ฉลาม พัดโบกไม่ผิดนะ
แต่เรารักผู้ชายชื่อฉลามมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 30-11-2015 23:28:12
หนักใจแทนกลอน คนนั้นก็ดี คนนี้ก็รัก  แต่เราว่าพัดโบกเอาแต่จะผูกมัดกลอนด้วยเรื่องบนเตียงไปหรือเปล่า

สงสารพี่ฉลาม แต่ก็นับถือน้ำใจพี่มากเลย  เป็นกำลังใจให้กลอนนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 30-11-2015 23:41:34
ความรู้สึกของเรานะรักพี่ฉลามมากๆ
พี่ฉลามไม่เคยยัดเยียดอะไรให้กลอนเลย
พี่เขาแกร่งพอที่จะยอมให้กลอนได้เลือก
ยอมให้กลอนได้เป็นในสิ่งที่กลอนต้องการ
ความรักของพี่ฉลามมั่นคง หนักแน่น และยิ่งใหญ่มากๆ
ชั่วชีวิตคนๆหนึ่งจะมีสักกี่คนที่จะได้สัมผัสความรักแบบนี้ กับคนๆนี้
He's always been there.

กับพัดโบกนั้นเป็นความรู้สึกที่มีเรื่องเพศรสเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เพราะกลอนเองก็บอกให้รู้ว่าความสุขของการมีเซ็กส์กับพัดโบกนั้นเยี่ยมแค่ไหน
พัดโบกเองก็เป็นคนรักที่ดี ต่างจากพี่ฉลามคือพัดโบกต้องการความรักตอบจากกลอน
ในขณะที่ความรักกับพี่ฉลามนั้นมาจากใจและความรู้สึก แล้วพี่ฉลามก็เป็นฝ่ายให้โดยไม่ได้เรียกร้องสิ่งตอบแทนจากกลอน

ดูๆไปเหมือนกับว่ากลอนเลือกพัดโบกไปแล้ว
พี่ฉลามเองก็ท่าจะตัดใจแล้ว
ในฐานะคนที่มีลูกนะ ถ้าเราเลือกได้เราจะให้ลุกเราเลือกพี่ฉลาม  เพราะเรารู้สึกว่าความรักขอพี่ฉลามมันจะจีรังและยั่งยืนมากกว่าของอีกฝ่าย  ไฟรักของฉลามอาจจะไม่รัอนแรงเท่าของพัดโบกแต่เป็นอะไรที่จะอบอุ่นไปนานแสนนาน   ไม่รู้เป็นเพราะอะไรที่คิดว่าที่พี่ฉลามรักแบบนี้ได้ก็เพราะว่าอีกฝ่ายเป็นกลอน   ถ้าไม่ใช่กลอนแล้วก็คงรักใครไม่ได้แบบนี้อีก  ในขณะที่พัดโบกเพราะเคยมีความรักมาแล้วต่อให้เลิกจากกลอนก็น่าจะยังสามารถรักคนอื่นได้อีก   

เราต้องขอโทษกลอนกับพัดโบกตัวจริงด้วยที่คิดแบบนี้
แต่ก็นะ....เราไม่ใช่คนเลือกนี่นา
ถ้าเราเป็นพ่อแม่ของฉลาม
เราคงจะเสียใจชั่วชีวิตที่ทำลายโอกาสที่ลูกจะสามารถมีความรักดีๆไป
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 01-12-2015 19:22:28
ยากต่อการตัดสินใจ
แต่ถ้าต้องเลือก พัดโบกอาจเหมาะสมกว่าเพราะไม่ต้องมีเรื่องของครอบครัวหรือธุรกิจมาให้หนักใจอีกแล้ว
แม้พี่ฉลามและครอบครัวจะดีอย่างไรก็ตาม ก็ควรปล่อยเขาไปในทางของเขา
เศร้าและเครียดแทน
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-12-2015 19:45:09
 :hao5:  สามคนก็คงไม่ไหวจริงๆนั่นแหละ ตามที่พี่ฉลามบอกว่าพัดทนไม่ได้หรอก. แล้วคนที่เจ็บอาจจะเป็นทั้งสามคนเลย

ยังไงก็รอลุ้นนะ เคารพการตัดสินใจของกลอนแต่สำหรับเราบอกเลยว่าเลือกไม่ได้

ถามว่าสงสารไหมสงสารมากสงสารกลอนที่สุดแล้วอะเพราะรักทั้งคู่จริงๆ. พี่ฉลามพี่ก็ช่างเป็นคนดีเหลือเกินมานี่มาน้องอยากปลอบ
 :pig4:  ขอบคุณที่มาต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 01-12-2015 22:39:43
สายน้ำย่อมไม่ไหลทวน..ย้อนกลับ
เวลาที่เนิ่นนับก็หยุด..ยับยั้งไว้ไม่ได้

ถ้ามัวแต่จะหวนคืนสู่อดีต
มีปัจจุบันมาคั่นกลางไม่ได้ไปไหน
แล้วเมื่อไหร่อนาคตนั้นจะมาถึง

ผ่านแล้วผ่านเลยครับ
อนาคตข้างหน้าถึงจะยังไม่รู้
แต่อดีตที่ผ่านมา..รู้แล้วครับ

กลอนรู้แล้วจากเมื่อก่อน..รักกับพี่ฉลามแล้วมีอุปสรรคยังไง
แต่กับพัดโบกวันนี้และวันหน้า..รักนี้ยังมีให้ลุ้นต่อไปอีก

เลือกพัดโบกครับ
หุหุ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 02-12-2015 05:52:43
สงสารทุกคน :hao5:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Minnie~Moo ที่ 02-12-2015 09:41:42
อ่านแล้วความรู้สึกแรกคือ เกลียดกลอนว่ะ  :z6:  :z6:
คนอะไรเห็นแก่ตัวจัง เหมือนไม้เลื้อยใกล้ใครก็เกาะคนนั้น

สงสารพี่ฉลามที่ผ่านมาไม่เคยทำผิดอะไร แถมหลังเลิกกันไปยังคอยดูแลอยุ่ห่างๆ
แต่กลอนนี่อะไรเลิกกันไปได้ไม่นานก็ไปนอนกับคนอื่นละ  :katai1:

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 02-12-2015 15:49:00
 :sad4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: blackyoyo ที่ 02-12-2015 16:01:36
คนหลายใจ ทำไมไม่เลือกใครสักคนแล้วส่งที่เหลือมาให้เรา

สามพีได้ไหม ถือว่าเราขอ อือออออออ

คนหนึ่งเขาชั่งดีกับฉันจะทิ้งเขาลงยังไง คนหนึ่งเคยทิ้งไปแต่รักไม่เคยจางหาย

มาเป็นเพลงเลยจ้า อ่านไปก็เปิดเพลงนี้ไป

สามพีเถอะนะ ถือว่าเราขอออออออ กราบล่ะจ้า
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 02-12-2015 16:19:51
ไม่รู้จะเลือกใครจริงๆ โอ้ยยยยย อินมาก
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 03-12-2015 02:07:06
อ่านไป เครียดตามแล้ว
ตอนนี้แบบว่า อยากเก็บเธอไว้ ทั้งสองคน
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 03-12-2015 11:19:54
จะเป็นไงต่อน๊าาาาาา  เลือกไม่ถูกเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 03-12-2015 21:15:40
ยังไงเนี่ยยังไง  นู๋กลอน
กลายเป็นคนสองใจไปซะแล้ววววว
ขอแนะนำ(เอาตามที่คิดนะ)
อย่าเลือกเพราะสงสาร ขอให้เลือกเพราะเราขาดเขาไม่ได้
รัก...มากหรือน้อยไม่สำคัญเท่ากับว่าเราอยู่กับใครแล้วมีความสุขมากกว่า

หรืออีกทางเลือกไม่ได้ก็รวบเลย อยู่กันแบบสามคนไปเลย
ยังไงทั้งคู่ก็แลดูจะยอมอยู่แล้ว คึคึ
หัวข้อ: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 03-12-2015 22:21:15
รู้สึกกลอนลังเลมากเลย สงสารทั้งฉลามทั้งพัดโบก
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 03-12-2015 22:37:48
เลือกสิ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 04-12-2015 01:25:55
พัดโบกนะ

ป.ล. ไม่อยากได้แบบสามคน
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 04-12-2015 16:15:40


ใจนี่เชียร์พี่ฉลาม แต่คิดว่าคนที่กลอนเลือกคือพัดโบก ไม่รู้ทำไม เหอ เหอ เหอ
แต่จะเป็นใครก็ดีนะกลอน ป้าขอเรื่องเดียว... ขอให้กลอนชัดเจน เพราะทั้งสองคนคือคนที่รักหนูทั้งคู่
อย่าทำร้ายคนที่คิดดีต่อกันด้วยความลังเลเลยลูก

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ  :L2:

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 2 อัพวันจันทร์ 30/11 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Candy Venus ที่ 04-12-2015 21:11:58
ขอบอกคำเดียวว่า

"ฉลาม"
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพ 06/12 P.98
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 06-12-2015 20:00:44
บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง (ตอนที่ 3) จบตอน


ผมนั่งกอดเข่าตัวเองอยู่บนโซฟาและเหม่อมองออกไปที่ด้านนอกของระเบียง ได้ยินเสียงแว่วๆของพัดโบกที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัว ผมนั่งทบทวนเรื่องของตัวเองแล้วย้อนคิดไปถึงแม่ ความเจ็บปวดที่เกิดจากคนที่เรารักไปรักคนอื่นมันทำให้แม่ถึงขั้นอยากจบชีวิตในวันนั้น ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นมันทำให้ผมตั้งมั่นว่าผมจะไม่มีวันทำแบบที่พ่อทำเอาไว้กับแม่ แต่ตอนนี้ละ ผมกำลังทำแบบนั้นอยู่หรือเปล่า แม้จะดูว่าต่างกัน แต่เอาจริงๆแล้วมันไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นัก ผมแค่ไม่ได้บอกว่าจะคบใคร ยังไม่ได้เกิดการนอกใจ แต่ผมก็เป็นคนสองใจและขี้ลังเลอยู่ดี


“คิดอะไรอยู่” พัดโบกเดินออกมาจากในครัวเมื่อไหร่ผมไม่ทันสังเกต มารู้ตัวอีกทีก็คือพัดโบกมาหอมแก้มผมก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆพร้อมกับจานข้าวผัดเบค่อนที่หอมกรุ่น

“คิดถึงเรื่องของเราเอง” ผมตอบไปตรงๆ รอยยิ้มของพัดโบกเจืองจางไปเล็กน้อยก่อนจะตักข้าวผัดมาเป่าแล้วทำท่าจะป้อนผม

“กินไปด้วย สมองก็ต้องการอาหารนะ” พัดโบกยิ้มให้ผมใหม่ ผมยิ้มตอบก่อนจะอ้าปากรับข้าวผัดที่คนตรงหน้าไม่ยอมให้ผมทานเอง

“อร่อย” ผมยกนิ้วให้ พัดโบกโน้มหน้ามาเลียที่ริมฝีปากของผมเบาๆก่อนจะแทรกเข้าไปข้างใน

“กินแบบนี้อร่อยกว่ากินจากช้อนจริงๆนะ” พัดโบกยิ้มมุมปาก ผมทำหน้าค้อนเขานิดๆ

“กับแฟนคนนั้นทำแบบนี้รึเปล่า” ผมถาม พัดโบกไม่ยอมตอบแต่ป้อนข้าวผมอีก

“คิดไม่ตกเรื่องของเรากับเขาเหรอ” พัดโบกย้อนมาถามผมบ้าง

“อืม” ผมก็ตอบไปตรงๆ แอบเห็นว่าพัดโบกหน้าเสียไปนิดหน่อยที่ผมตอบตรงๆ

“เขาอยากกลับมาดีกับกลอนเหรอ แล้วพ่อแม่เขารับได้แล้วเหรอ” พัดโบกถามในสิ่งที่ผมก็ไม่แน่ใจ

“เราไม่ได้คิดถึงจุดนั้น”

“แล้วคิดถึงจุดไหน”

“อย่างที่เราเคยบอกว่าเรารักพี่เขามาก ในใจเราไม่เคยลืมพี่เขาเลย แต่เราคิดว่าเส้นทางของเรากับพี่เขาคงมาบรรจบกันไม่ได้ พี่เขาถึงไม่อยากให้เรารอ แต่การกระทำหลายๆอย่างของพี่เขาทำให้เรารู้ว่า เราต่างหากที่ไม่มั่นคง ในขณะที่พี่เขาพยายามเพื่อเรา เราไม่ได้พยายามเพื่อพี่เขาเลย” ผมก็ไม่รู้ทำไมถึงได้พูดเรื่องนี้กับพัดโบก ทั้งที่รู้ว่าเขาต้องเจ็บที่เห็นผมพูดถึงพี่ฉลาม แต่ผมไม่อยากปิดบังอะไรแล้ว

“ผิดแล้วละ” พัดโบกวางจานลงที่โต๊ะ ก่อนจะหันกลับมาลูบที่แก้มของผมแล้วหอมแก้มผมอีกรอบ แต่ผมกำลังงงว่าพัดโบกจะพูดอะไร

“ผิดยังไง” ผมถาม

“ที่กลอนบอกว่าไม่ได้พยายามเพื่อพี่เขาไง ถ้ากลอนไม่พยายาม กลอนคงรับรักเราไปแล้ว กลอนคงเปิดใจให้เราไปแล้ว แต่เพราะกลอนยังเก็บเขาเอาไว้ตลอด เราเลยไม่เคยเข้าไปถึงใจกลอนสักที เรื่องนี้มันง่ายนิดเดียว กลอนและผู้ชายคนนั้นรักกันมา ตัวปัญหาคือเราเอง” พัดโบกละมือจากแก้มมากุมมือผมเอาไว้ ผมฟังถ้อยคำของพัดโบกแล้วน้ำตาคลอ

“ไม่ใช่นะ พัดไม่ใช่ตัวปัญหาของเรา” ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี

“รู้ไหม ความผิดพลาดเดียวของเราคือการที่พลาดโอกาสในวันที่เรามีโอกาส ถ้าเพียงแต่คืนนั้นเรากล้าที่จะบอกว่าเราคือใคร ถ้าเราติดต่อกลอนมา ถ้าเราไม่เงียบหายไป วันนี้เราคงเป็นเจ้าของกลอนทั้งกายและใจ เราปล่อยโอกาสจนกลอนมาเจอเขา”

“เรา..รักพัดนะ เรายังยืนยัน ขอเวลาเราอีกหน่อยได้ไหม” ผมบอก พัดโบกยิ้มให้ผม

“พรุ่งนี้เราจะกลับญี่ปุ่นแล้ว ถึงเราพูดว่าเราทนได้ถ้าจะอยู่กันสามคน แต่มาคิดแล้วเราทนไม่ได้หรอก ยิ่งถ้าเรากลับไปโดยที่ไม่รู้ว่ากลอนตัดสินใจยังไง เราคงเหมือนคนบ้า คงมานั่งหึงหวงเพราะความกลัว เราไม่อยากทำตัวโง่ๆในสายตากลอน พรุ่งนี้เช้าก่อนเรากลับ เราอยากได้คำตอบ”

“พัดโบก” ผมเรียกชื่อเขาเสียงสั่น อยากจะร้องไห้อีกแล้ว

“ผิดหวังใช่ไหมที่เรากดดันกลอนแบบนี้ เราขอโทษนะ แต่เราอยากรู้เลยว่าเราควรต้องวางตัวเองไว้ตรงไหนสำหรับกลอน ไม่ว่ากลอนจะตัดสินใจยังไง เราจะเคารพการตัดสินใจ วันนี้กลอนไปหาเขานะ ไปอยู่กับเขา แล้วลองชั่งใจดู เราจะรออยู่ที่นี่กับคำตอบในวันพรุ่งนี้ ถ้าก่อนเราจะเดินทางแล้วกลอนกลับมา เราจะไม่ปล่อยกลอนให้ใครอีก แต่ถ้ากลอนไม่ได้กลับมา เราจะยอมรับว่าเวลาของเราหมดลงแล้ว”

“ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย” ผมยกมือป้ายน้ำตาที่แก้ม ห้ามเอาไว้ไม่ไหวจริงๆ ผมอึดอัดตัวเอง เกลียดความรู้สึกของตัวเองในเวลานี้มาก พัดโบกปลอบผมไม่ให้ร้องไห้ ชวนผมคุยเรื่องอื่น ยังคงหยอกล้อและนัวเนียผมไม่ห่าง ทำเหมือนว่าไม่ได้พูดอะไรออกมา จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน หลังจากที่เราทานข้าวกันเสร็จแล้ว พัดโบกเดินลงมาส่งถึงประตูรั้วบ้านพี่ฉลาม ผมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่นานพี่ฉลามก็เดินออกมาเปิดประตูรั้วด้วยตัวเอง ทั้งคู่มองหน้ากันโดยมีผมยืนตาแดงๆอยู่ตรงกลาง

“เรากลับไปที่คอนโดก่อนนะ” พัดโบกลูบที่แก้มของผมก่อนจะเดินหันหลังข้ามกลับไปที่คอนโด พี่ฉลามยิ้มให้ผมก่อนจะจูงมือผมเดินมาในบ้าน พ่อของพี่ฉลามทักทายยิ้มแย้มที่เห็นผม ก่อนจะขอตัวไปดูต้นไม้ที่ท่านสั่งให้คนสวนลงใหม่ พี่ฉลามเลยพาผมขึ้นไปบนห้อง เดินผ่านห้องมืด ประตูถูกเปิดเอาไว้ ไม่มีรูปผมแล้ว ไม่มีรูปใครเลย

“พี่กำลังจะทำห้องใหม่จะทำเป็นโฮมเธียร์เตอร์” เหมือนรู้ว่าผมคิดอะไร พี่ฉลามเลยชิงตอบมาก่อน

“แล้วพี่ไม่เอาไว้ล้างรูปแล้วเหรอ”

“ไม่ละ พี่เลิกถ่ายรูปแล้วละ”

“ทำไมละครับ”

“เจ้าหนูจำไมกลับมาแล้ว” พี่ฉลามยีหัวผมก่อนจะพาไปที่ห้องนอน ผมมองไปที่ระเบียงโมบายหอยก็ไม่อยู่แล้ว

“โมบายพี่เอาไปซ่อม กลัวเชือกมันขาด” เหมือนจะรู้อีกว่าผมคิดอะไรพี่เขาเลยชิงพูดขึ้นมาก่อนอีก

“เอาไปซ่อมที่ไหน กลอนจะได้เอาของกลอนไปซ่อมบ้าง” ผมถาม

“เอามาฝากไว้ที่พี่แล้วกัน เดี๋ยวพี่เอาไปทำให้”

“พี่ฉลาม...” ผมเรียกชื่อพี่เขา พี่เขามองมาแล้วเลิกคิ้ว พอเห็นผมยังยืนนิ่งพี่เขาเลยดึงผมมาให้มานั่งบนเตียง

“คิดอะไรมากมาย..หื้ม” พี่ฉลามจิ้มที่หน้าผากของผมเบาๆ

“กลอนก็ไม่รู้”

“อยู่กับพี่ตอนนี้ อย่าเพิ่งคิดอะไรได้ไหม เอาออกไปจากหัวให้หมด พี่มีอะไรจะให้ดู” พี่ฉลามบอกผมก่อนจะเดินไปหยิบอัลบั้มรูปมาวางตรงหน้าผมเกือบสิบอัลบั้ม มีหมายเลขกำกับด้วย


ผมเปิดดูทีละอันตามหมายเลข ในนั้นมีรูปผม เพื่อนๆของผมและพี่ฉลาม ตั้งแต่ผมถูกรับน้องในวันแรก พี่ฉลามเล่าให้ผมฟังว่าตอนที่พี่เขาถ่ายรูปนี้ตอนนั้นเขาคิดอะไร บางรูปผมทำหน้าเฮี้ยวใส่รุ่นพี่ พี่ฉลามก็บอกตอนนั้นอยากเตะผมมาก มีรูปที่น้องมอสแอบมองผมด้วยตั้งหลายรูป พี่ฉลามบอกว่าถ่ายเอาไว้เป็นหลักฐานว่าผมเสน่ห์แรง ผมหลุดหัวเราะออกมา โดยเฉพาะภาพของตัวเองตอนอยู่กับเพื่อนๆ ผมก็เกรียนได้ใจเหมือนกันนะ ไม่ใช่แค่หนอนหนังสืออย่างที่ใครๆพูดกัน มาถึงอัลบั้มช่วงที่พี่ฉลามไม่อยู่ ผมนั่งดูแต่รูปแบบเงียบๆ พี่ฉลามบอกว่าส่วนใหญ่เป็นฝีมือการถ่ายของบุ้ง มีรูปผมกับพัดโบกด้วยตั้งหลายรูป ผมไม่ได้พูดอะไรออกมา ไม่กล้าหันไปมองพี่ฉลามด้วยว่าพี่เขากำลังทำหน้ายังไงอยู่ เพราะพี่เขาก็เงียบไปเหมือนกัน มาถึงอัลบั้มสุดท้ายที่งานศพของพ่อ ผมน้ำตกเพราะคิดถึงพ่อขึ้นมาอีก นั่งดูจนหน้าสุดท้าย พี่ฉลามหยิบอัลบั้มมาเก็บกองรวมกับอันอื่นๆ


“เห็นอะไรไหม” พี่ฉลามถามผม ผมมองพี่เขาก่อนจะทำหน้างงๆ

“หมายถึงอะไรเหรอครับ รูปเหรอ ก็ต้องเห็นสิ แต่มันเยอะมาก กลอนเห็นในห้องมืดก็ว่าเยอะแล้ว มีอันอื่นซ่อนเอาไว้อีก” ผมตอบ

“พี่หมายถึง กลอนเห็นตัวเองไหม” พี่ฉลามถามซ้ำ ผมส่ายหน้าเพราะไม่เข้าใจ พี่ฉลามเลยหยิบอัลบั้มตอนที่พี่เขาไปอยู่เมืองนอกมาเปิดให้ผมดูใหม่

“ช่วงแรกกลอนดูเศร้ามาก เศร้าจนพี่แทบจะตัดสินใจบินกลับมาหลังจากที่เห็น มีรอยยิ้ม แต่ดวงตาไม่ได้ยิ้มเลย พี่ทรมานมากที่เห็นกลอนเป็นแบบนี้ จนพี่นุ๊กไม่ยอมส่งรูปให้พี่ดูอีกเพราะกลัวพี่ล้มเลิกความตั้งใจ กลัวที่เสียสละกันมาจะสูญเปล่า ช่วงแรกพี่เมาทำตัวบ้าบอทุกวัน จนแม่โทรไปบอกว่าพ่อยอมแล้ว พ่อให้พี่กลับมาหากลอน ตอนนั้นพี่เลยนึกด่าตัวเองว่าพี่กำลังทำอะไร ถ้ามาเพื่อทำตัวแบบนี้แล้วยังทิ้งให้กลอนต้องเจ็บ กลอนคงผิดหวัง โชคดีที่คิดได้ทัน พี่เลยได้เริ่มต้นใหม่”

“กลอนภูมิใจในตัวพี่เสมอนะ” ผมบอกพี่เขา รู้สึกสะเทือนใจเหมือนกันที่ได้รู้ว่าพี่เขาทรมานไม่แพ้ผมเลย แถมเขาต้องไปอยู่คนเดียว ไม่มีใครช่วยเยียวยาความเจ็บปวด มันคงทรมานกว่าผมหลายเท่านัก พี่เขาพลิกหน้าอัลบั้มรูปไปอีก

“แล้วกลอนเห็นตัวเองตอนนี้ไหม” พี่เขาชี้ให้ดูรูปผมเอง

“ทำไมเหรอครับ”

“ดวงตากลอนไม่ได้เศร้าเหมือนเดิมอีก รอยยิ้มของกลอนตอนนี้คือรอยยิ้มที่พี่หลงรัก แม้มันจะเจ็บปวดที่ได้รู้ว่ามีใครบางคนที่ไม่ใช่พี่ทำให้กลอนยิ้มได้แบบนี้ แต่พี่เจ็บปวดน้อยกว่าตอนที่เห็นกลอนยิ้มไม่ได้แบบตอนแรก” ผมฟังที่พี่ฉลามพูดแล้วย้อนกลับไปพินิจรูปตัวเองอีกครั้ง มันก็จริงตามนั้น ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ผมเริ่มรักพัดโบกแล้ว

“กลอนขอโทษนะ” ผมไม่รู้จะเอ่ยคำไหนออกมานอกจากคำนี้ พี่ฉลามปิดอัลบั้มรูปแล้วเอาไปวางที่เดิม ก่อนจะกลับมานั่งข้างๆผม

“รู้ตัวไหม ตอนนี้ดวงตากลอนกำลังเป็นเหมือนตอนที่พี่ไปจากกลอน เมื่อกี้กลอนหัวเราะ แต่ดวงตากลอนไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย” พี่ฉลามลูบศีรษะของผมเบาๆ

“กลอน..กลอนไม่รู้ว่าต้องทำยังไงจริงๆ” ผมฟังพี่ฉลามแล้วก็ร้องไห้ออกมาอีก พี่ฉลามดึงผมไปกอด

“พี่ไม่ได้ไปไหนแล้ว พี่อยู่ตรงนี้ พี่กลับมาแล้ว แต่ดวงตากลอนเศร้าเพราะกลอนกำลังเสียใจหากใครอีกคนจะไป คนๆนั้นไม่ใช่พี่ เข้าใจรึยัง” พี่ฉลามพูดจบผมยิ่งกระชับกอดพี่เขาไว้แน่น ร้องไห้เหมือนเด็กเลยคราวนี้

“กลอนก็ไม่อยากเสียพี่ไป” ผมบอกด้วยเสียงอู้อี้ฟังแทบไม่รู้เรื่อง

“ก็ไม่ได้เสียไง แต่แค่ไม่ใช่ในฐานะคนรัก พี่เป็นคนบอกเองว่ากลอนไม่ต้องรอพี่ กลอนอย่ารู้สึกผิด การที่พี่ทำนั่นนี่ให้ พี่ทำเพราะพี่อยากทำ พี่เข้ามาทำให้กลอนรักแล้วต้องมาทำให้กลอนตัดใจ พี่แค่อยากทำให้ตัวเองรู้สึกผิดน้อยลง อย่าไปคิดมาก” พี่ฉลามพูดปลอบผม แต่ผมรู้ดีว่าพี่เขาพูดเพื่อให้ผมสบายใจ ผมรู้จักพี่ฉลามดีเหมือนที่พี่ฉลามรู้จักผม

“กลอนรู้ว่าพี่ยังรักกลอน” ผมพูดจบพี่ฉลามก็หัวเราะ

“เออก็รักไง พูดสักคำยังว่าไม่รัก”

“ถ้ากลอนคบกับพัดโบกพี่จะไม่เสียใจเลยเหรอ” ผมถามจริงๆนะ ไม่ได้เรียกร้องความสนใจ

“เสียใจสิ แต่ทนได้ พี่มีภูมิแล้ว” พี่ฉลามตอบผม ผมคลายกอดออกมาแล้วนั่งจ้องหน้าพี่ฉลาม

“ใครคือภูมิ” ผมถามเสียงแข็ง

“ยังจะมามุก” พี่ฉลามจิ้มหน้าผากของผม ผมยิ้มแต่ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่

“พี่โอเค อย่าคิดมาก พี่ไม่ได้กลับมาเพื่อทำให้กลอนทุกข์ใจนะ”

“แต่พี่รู้ใช่ไหมว่ากลอนไม่ได้หมดรักพี่” ผมถาม

“ใจร้ายว่ะคนเรา ยังจะมาถาม เดี๋ยวไม่ปล่อยไป จับปล้ำเลยดีไหม” พี่ฉลามแกล้งโวยวาย แต่ผมรู้ว่าพี่เขากำลังเจ็บปวดไม่ต่างจากผม

“พี่ฉลาม” ผมเรียกพี่เขาอีกรอบ

“บอกแล้วไงว่าโอเค วันนี้กลอนอาจจะสับสน แต่ถ้ากลอนเลือกแล้วกลอนจะโล่งใจ มันก็แค่อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เราจะพบกับความยุ่งยาก แต่เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป เราสองคนอดทนกับเรื่องยากกว่านี้มาได้แล้ว อีกเรื่องจะเป็นไรไป เข้าใจไหมเจ้าหนูจำไม” พี่ฉลามถามผม ผมพยักหน้าก่อนจะโผกอดพี่ฉลามอีก กอดที่ผมอาจจะไม่มีสิทธิ์ได้กอดอีก


พี่ฉลามมาส่งผมที่หน้ารั้ว ผมเดินกลับมาที่ประตูรั้วของคอนโด ก่อนจะมองกลับไปเห็นแผ่นหลังของพี่ฉลามกำลังเดินจากไป ผมยืนเช็ดน้ำตาและนั่งยองร้องไห้จนยามที่เดินมาตกใจถาม เมื่อเห็นผมไม่ตอบเลยเดินจากไป ผมรักพี่ฉลาม รักไม่น้อยไปกว่าพัดโบกเลย ผมอยากเลือกพี่ฉลามเพราะเราผ่านอะไรมาด้วยกันและผมคิดว่าพี่ฉลามเป็นคนที่เข้าใจผมมากที่สุดและเพราะเข้าใจผมที่สุด ผมถึงรู้ว่าผมควรเลือกอะไรและทำไมพี่ฉลามถึงให้ผมกลับมาหาพัดโบก ผมทบทวนแล้วว่าถ้าผมไม่อยากเสียพี่ฉลามไปตลอดกาล ผมไม่ควรเลือกกลับไปหาพี่เขาในวันที่ผมยังรักใครอีกคน อย่างน้อยเรายังเป็นคนที่รักกันและเข้าใจกัน ความผูกพันของเรามันเกินแค่คำว่ารักไปแล้ว แม้ในวันหนึ่งพี่เขาอาจจะได้เจอใครผมก็ต้องยอมรับมันให้ได้เหมือนกับที่พี่ฉลามทำเพื่อผมในวันนี้ แล้วการที่ผมเลือกพัดโบกทั้งที่ยังรักพี่ฉลามก็ไม่ได้แปลว่าผมไม่จริงใจกับพัดโบก เพราะจากนี้ไป ผมจะทำหน้าที่คนรักที่ดีให้พัดโบก


..ผมเลือกที่จะเก็บพี่ฉลามเอาไว้ในส่วนที่ไม่จำเป็นต้องบอกใครและผมจะยืนเคียงข้างพัดโบกให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้..


 
(มีต่อข้างล่างค่ะ)


V
V
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา. 06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 06-12-2015 20:05:11
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


ก๊อกๆๆ

เพราะผมลืมเอากุญแจมาเลยต้องมายืนเคาะห้องหลังจากที่ร้องไห้จนหนำใจแล้ว เมื่อประตูบานนี้เปิดออก ผมจะไม่ทำให้คนตรงหน้าของผมต้องเสียใจ นานอยู่เหมือนกันว่าพัดโบกจะมาเปิดประตู พอเขาเห็นผมก็ยืนอึ้ง ผมก็อึ้งไปเหมือนกันเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าตาแดงก่ำ ผมยิ้มให้เขาและเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้ พัดโบกรีบดึงผมมากอดแล้วร้องไห้ ไม่ได้ร้องแบบฟูมฟายนะครับ แต่ผมไม่ได้ร้องแล้ว รู้สึกโล่งใจอย่างที่พี่ฉลามบอกจริงๆ ผมรีบดันพัดโบกให้เข้าไปในห้องก่อนที่จะมีคนมาเห็นผู้ชายสองคนยืนกอดกัน ผมมีเรื่องที่ต้องคุยและทำความเข้าใจกับพัดโบกก่อน จากนั้นผมก็เล่าเรื่องที่พี่ฉลามพูดกับผมให้พัดโบกฟัง


“โห พี่เขาดูพระเอกไปเลย” พัดโบกห่อไหล่ทำหน้าจ๋อยๆ

“เราไม่ได้เล่าเพื่อให้พัดโบกรู้สึกไม่ดีนะ แต่เราอยากให้พัดโบกสบายใจว่าเราเคลียร์กับพี่เขาแล้ว เราเลือกแล้ว แต่ที่สำคัญ เราไม่อยากให้พัดโบกมาหึงเรื่องของเรากับพี่ฉลาม เพราะต่อให้เราเลือกพัดโบก แต่เรากับพี่ฉลามก็จะยังเป็นคนที่รู้สึกดีต่อกันในฐานะอื่นที่ไม่ใช่คนรัก พี่เขาจะยังเป็นคนสำคัญของเรา แต่เราจะไม่ให้ความสำคัญนั้นมากเกินจนดูเกินกว่าพี่น้องกัน และเช่นกัน เราจะไม่ให้ความสำคัญกับพัดโบกจนเราต้องเสียความสัมพันธ์ที่ดีของเรากับพี่ฉลามไป รับได้หรือเปล่า เราอยากให้พัดโบกบอกเรา อย่ารับปากแล้วทำไม่ได้นะ เพราะไม่งั้นเรารักได้ก็เลิกได้” ผมบอกทุกอย่างไปตามที่คิด

“กลัวแล้วคร้าบคุณแฟน” พัดโบกบอกก่อนจะหอมแก้มผมหลายทีจนผมต้องดันอีกฝ่ายเอาไว้ก่อน

“ต้องทำให้ได้นะ” ผมถามย้ำ พัดโบกยิ้มก่อนจะพยักหน้า

“เราจะทำให้ดีที่สุด ถ้าเราเผลอตัวทำอะไรเกินจุดที่กลอนเริ่มทนไม่ได้ กลอนต้องเตือนเรานะ”

“อืม เหมือนกัน ความรักต้องมีความใจกันนะ” ผมลูบดวงตาที่ยังมีร่องรอยของคนผ่านการร้องไห้อย่างเบามือ ผมว่าผมร้องเยอะแล้วนะ แต่ยังไม่แดงเท่านี้เลย คงจะร้องไห้ตั้งแต่ส่งผมที่หน้าบ้านของพี่ฉลาม

“อ่อนแอให้แฟนเห็นเลย” พัดโบกพูดแบบเขินๆ

“ถ้าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันในวันที่อ่อนแอที่สุด จะเรียกว่าคนรักกันได้ไง” ผมบอกอีกฝ่าย พัดโบกยิ้มกว้างก่อนจะจูบผมแบบดูดดื่มจนผมหายใจแทบไม่ทัน

“รู้ไหม ตอนแรกเราก็กลัวว่ากลอนจะมองเราว่าเราพยายามเอาเซ็กส์มาซื้อใจกลอน แต่เราอดใจไม่ไหวจริงๆนะเวลาอยู่ใกล้กลอน ต้องบอกว่า กลอนต่างหากทำให้เราเสพติดเซ็กส์” พัดโบกพูดขึ้นมาหลังจากที่ถอนจูบออก

“โห หาว่าเราอ่อยเหรอ” ผมแกล้งทำเสียงงอนๆ พัดโบกรีบจับมือผมขึ้นมาจูบ

“เปล่าๆ ไม่ต้องอ่อยหรอก แค่ขยับธรรมดาเราก็อยากกินกลอนแล้ว” พัดโบกพูดแล้วผมก็ยิ่งขำ

“ทะเล้นไม่เปลี่ยนเลย” ผมพูดไปขำไป

“ตอนนี้เราคบกันแล้วนะ เราไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” พัดโบกถาม ผมพยักหน้าให้

“พัดรักกลอนนะ”

“ทราบแล้วครับ กลับไปญี่ปุ่นทำตัวดีๆนะ ห้ามไปชิมอย่างอื่นนอกจากขนม เข้าใจเปล่า” ผมถาม พัดโบกยิ้มแฉ่งก่อนจะพยักหน้ารัวๆ

“ไปอาบน้ำกัน” พัดโบกทำหน้าระรื่นชวนผม

“ไปอาบก่อนสิ” ผมบอก

“ไม่เอา อาบด้วยกัน นะๆๆ นะครับ” พัดโบกอ้อนผม ผมหัวเราะก่อนจะพยักหน้า

“กลอนไปรอในห้องก่อน เดี๋ยวเราไปเอาเค้กในตู้เย็นก่อน” พัดโบกบอกแล้วลุกขึ้น ผมรีบดึงมือเขา

“เอาเค้กไปทำอะไร”

“ฉลองที่เราเป็นแฟนกันไง”

“ก็อาบก่อนค่อยมาเอาไปกินก็ได้”

“ไม่ได้ เพราะต้องกินก่อนอาบ” พัดโบกเน้นที่คำว่ากินแล้วผิวปากเดินเข้าไปในครัว


ผมส่ายหน้าขำคนทะเล้น เรื่องแบบนี้ไม่มีใครเกิน ผมคงถูกเล่นพิเรนท์อีกแน่ๆ แต่ทำไงได้ ผมให้เขาเข้ามาในหัวใจเพราะเขาเป็นเขาแบบนี้ ผมไม่ปฏิเสธเลยว่าผมมีความสุขทุกครั้งที่พัดโบกนอนกับผม เขาพาผมไปเจอกับรสรักที่แปลกใหม่ชวนตื่นเต้นได้ทุกครั้ง แต่เหนือกว่าสิ่งนั้นคือพัดโบกใส่ใจผมมากๆแทบจะทุกเรื่อง พัดโบกทำให้ผมยิ้มได้ โกรธได้ ทำให้ผมเห็นตัวเองทั้งในด้านสว่างและด้านมืด ผมไม่รู้ว่ารักครั้งนี้จะยาวนานแค่ไหนจะตลอดไปหรือเปล่า แต่ผมจะจะรักให้เต็มที่และทำให้ดีที่สุด ในขณะเดียวกัน ผมเดินเข้าไปในห้องก่อนจะเดินไปที่ระเบียง เหม่อมองไปที่บ้านตรงข้ามก่อนจะพูดกับตัวเองเบาๆ


“รอยยิ้มของกลอนมีค่ากับพี่ กลอนจะใช้ชีวิตให้ดีที่สุด ให้พี่ได้เห็นรอยยิ้มจากคนๆนี้ทุกครั้งที่มองมานะครับพี่ฉลาม”


ผมละสายตาจากบ้านฝั่งตรงข้ามเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องเปิด พัดโบกถือเค้กเข้ามาวางบนโต๊ะทำงานของผมก่อนจะส่งขวดไวน์ขวดเล็กมาให้ผม ผมรับมาดื่มเพียงเล็กน้อยก่อนจะวางลง พัดโบกคว้าเอวผมให้เข้าไปแนบกับตัวเขาก่อนจะกดจูบผม รสไวน์ของพัดโบกต่างจากที่ผมดื่ม ออกจะขมนิดๆ ผมเริ่มจะเคลิบเคลิ้มเพราะความชำนาญของอีกฝ่าย พัดโบกถอนจูบออกแล้วจับเอานิ้วผมไปป้ายที่เค้กก่อนใช้ปากของตัวเองมาดูดเค้กที่นิ้วของผม พัดโบกจับผมให้หันไปทางหน้าตู้กระจก ก่อนจะเดินไปยืนซ้อนหลังของผม เอาหน้ามาวางเกยไว้ที่ไหล่ของผม มือของพัดโบกค่อยๆปลดเสื้อผ้าของผมออก จากนั้นก็เอานิ้วของตัวเองไปป้ายครีมของเค้กแล้วให้ผมดูดบ้าง ผมมองเห็นภาพตัวเองแล้วรู้สึกเขินเลยหลุบตาลงมองพื้น แต่พัดโบกกระซิบให้ผมมองไปที่กระจก ผมเลยต้องมอง ร่างกายของผมกำลังถูกอีกฝ่ายลูบไล้ไปมาทั่วตัว ผมเกร็งหน้าท้องหายใจขัดเมื่อมือของพัดโบกกำลังวนเวียนอยู่แถวส่วนกลาง


“ดูสิว่ากลอนน่ากินแค่ไหน” พัดโบกบอกก่อนจะซุกไซร้ที่ต้นคอและไหล่ของผม มืออีกข้างที่กอดเอวผมอยู่เลื่อนมาบีบที่ยอดอก ผมหลับตาเงยหน้าขึ้นส่งเสียงระบายลมหายใจ

“มองสิครับคนดี” พัดโบกกระซิบก่อนจะขบที่หูของผม ผมจำต้องลืมตามองตัวเองในกระจก ภาพตัวเองโดนเล้าโลมยิ่งทำให้ผมใจเต้น อารมณ์ปะทุแรงกว่าครั้งไหนๆ

“อื้อมมม พัด..ยืนไม่ไหวแล้ว” ผมบอกตรงๆ ขาอ่อนแรงเลยเมื่อโดนมืออีกฝ่ายกอบกุมส่วนกลาง พัดโบกหัวเราะนิดๆก่อนหยุดการโลมเล้าแล้วพาผมไปนอนที่เตียง จากนั้นเขาก็เอาเค้กมาป้ายผมทั้งตัวเลย ส่วนกลางด้วย ผมสะท้านเพราะความเย็นของครีมสดๆที่ถูกแช่เย็นมา

“ทำใจหน่อยนะ มีแฟนหื่นแถมยังเป็นเชฟ” พัดโบกพูดกับผม

“ก็โอเคนะ แต่อย่าริเอาพริกมาแล้วกัน” ผมพูดจบพัดโบกก็หัวเราะลั่นเลย ก่อนจะคลานมาค่อมตัวผม

“รักกลอนนะ ทั้งรักทั้งหลงเลย เราสัญญาว่าจะทำให้กลอนมีความสุขกับทุกเรื่องๆนะครับ พัดจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่คนรักคนหนึ่งจะทำให้ได้”


พัดโบกพูดจบก็จัดการละเลงลิ้นไปทั่วตัวผมเลย ผมคงไม่ต้องบอกว่าผมรู้สึกยังไง ใจจะขาดรอนๆคงเป็นประโยคเดียวที่อธิบายได้ ผมไม่ได้อยากให้พัดโบกสัญญาอะไรเลย ที่เขาทำให้ผมมันดีอยู่แล้ว ความรักของคนสองคนมันประกอบไปด้วยหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องนิสัย จิตใจ เซ็กส์ การปรับตัว การเข้าใจกัน ไม่โกหกและซื่อสัตย์ต่อกัน ไม่ต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งให้มากเกินไป ไม่จำเป็นต้องดีที่สุด แต่แค่ทำให้ได้แค่นั้นเองที่ผมปรารถนา เพราะผมเองก็จะทำแบบนั้นให้เขาเหมือนกัน


....
...
..


ผมมาส่งพัดโบกที่สนามบิน พัดโบกทำตาละห้อยอ้อยอิ่งเหมือนไม่อยากกลับ แต่สุดท้ายก็ต้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองให้สำเร็จ ก่อนจะแวะไปหาพี่เหิร ผมแวะไปหาพี่นิ่มที่กลับมาที่กรุงเทพแล้ว พี่นิ่มบอกว่าน้องถามหาพ่อทุกวัน ผมรู้สึกสงสารเพราะน้องยังเด็ก เลยบอกกับพี่นิ่มว่าผมจะมาหาน้องบ่อยๆ เสร็จจากไปหาพี่นิ่มก็มาที่บริษัท คุยกับพี่เหิรเรื่องงาน ได้รับมอบหมายให้คิดโปรเจคงานโปรโมทสินค้าชิ้นใหม่พอดี ผมเอารายละเอียดสินค้ากลับมาที่คอนโดด้วย อยากทำงานให้เต็มที่หลังจากที่ไม่ได้ทำงานให้พี่เหิรแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยมานานแล้ว วันนี้บุ้งบอกว่าจะมาค้างกับผมที่คอนโดด้วย ดีเหมือนกัน ผมไม่ได้นอนคุยอะไรกับบุ้งมานานแล้ว


“แกไปทำงานพีอาร์ให้บริษัทของพี่นุ๊กเหรอ ไหนว่าจะไม่ทำไง” ผมถาม

“ก็ตอนแรกนึกว่าไอ้งานในสตูดิโอมันจะเวิร์ค แต่พอได้ลองตอนฝึกงานแล้วไม่โอ ไม่ชอบ พอดีพี่นุ๊กขาดคนเลยมาขอให้ไปลองดูก็เลยเอาก็เอา”

“แล้วแกกับพี่นุ๊กนี่ยังไง”

“ไม่ยังไง พี่น้องกัน”

“จริงอะ” ผมถาม บุ้งมันแกล้งกลิ้งมาทับผมก่อนจะกลิ้งกลับไป

“จริง พี่นุ๊กเขารักแกไม่รู้จริงดิ” บุ้งย้อนถามผม

“อย่ามาอำ” ผมรีบพูด

“ไม่อำ พูดจริง เขาชอบแกตั้งแต่แกเป็นน้องหนอนแล้ว แต่พอรู้ว่าแกเป็นแฟนน้องชายตัวเองเขาก็ตัดใจ แต่ก็ยังไม่เห็นว่าจะชอบใคร แล้วแกอะ เคลียร์กับทั้งสองคนเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”

“อืม แกคิดว่าไงที่เราเลือกพัดโบก”

“แกเป็นคนมีสมองมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วกลอน อะไรที่แกเลือกก็คือดีแล้ว อย่าไปคิดไรเยอะ”

“พูดเหมือนด่ายังไงไม่รู้” ผมแกล้งว่า แต่บุ้งมันขำ

“เพื่อนแกไปไหนอะ” บุ้งถาม ผมทำหน้างงๆ

“ใคร เด่นอะเหรอ”

“อือ”

“เดี๋ยวคงกลับแล้ว ทำไมอะ มีไรเปล่าหรือชอบ” ผมถาม เด่นไม่ได้สนิทกับเพื่อนผมเท่าไหร่ แต่ก็รู้จักกันเพราะการแนะนำของผม

“บ้า”

“ฮ่าๆ อย่าไปชอบมันเชียว เจ้าชู้ตัวพ่อ อีกอย่าง เด่นไม่ใช่เกย์ด้วย”

“ถามเพราะไม่เห็นตอบยาวเลยนะ” บุ้งค้อนผม ผมหัวเราะ


จากนั้นผมก็ขอตัวมาคิดงาน ส่วนบุ้งนอนเล่นโน๊ตบุ๊คจนหลับ สักพักได้ยินเสียงประตูห้องเด่นปิดเลยออกไปดู เด่นมันหน้าแดงมาเลย บอกว่าไปงานวันเกิดเพื่อนมาเลยดื่มเยอะไปหน่อย ผมถามว่ากินอะไรมายัง มันบอกว่ากินแล้ว เลยไล่มันไปอาบน้ำ ผมกลับมาคิดงานอีกครู่เดียว พัดโบกก็สไกป์มาหา คุยกันเกือบชั่วโมงก็เข้านอน เพราะไม่อยากไปทำงานสาย


ตอนเช้าผมตื่นเตรียมไปทำงานแต่บุ้งยังไม่ได้ไป บุ้งบอกว่าเริ่มทำงานวันมะรืน วันนี้จะมาหาห้องพักที่นี่เพราะจะได้ไปทำงานพร้อมพี่นุ๊กเลย คอนโดเก่าที่บุ้งอยู่มันไกลจากที่ทำงาน ที่สำคัญบุ้งบอกว่าพี่นุ๊กให้อยู่ฟรี ผมดีใจที่บุ้งจะมาอยู่ด้วยกัน มีบุ้งแล้วไม่เหงา มีเรื่องมาชวนคุยได้ตลอด สรุปว่าบุ้งขออยู่ที่คอนโดผมอีกคืนหนึ่ง ผมเลยทิ้งกุญแจห้องไว้ให้บุ้งก่อนจะไปทำงาน ไม่มีรถหรอกครับ ไปรถเมล์ก็ไม่ลำบากอะไร ที่ทำงานพี่เหิรอยู่ไม่ไกลจากคอนโดเท่าไหร่ด้วย


เข้าไปลุยงานเต็มตัว รู้สึกไฟแรง งานที่เสนอไปให้ทีมงานดูก็ได้รับการตอบรับอย่างดี พี่เหิรซื้อความคิดผมหลายอย่าง ทำให้ผมดีใจมากๆ ได้ทำงานที่เรารักมันก็มีความสุข บุ้งโทรมาถามผมว่าจะกลับมากินข้าวเย็นไหม บุ้งจะทำเผื่อ แต่ผมปฏิเสธไปเพราะวันนี้จะไปดูสถานที่ที่จะถ่ายทำโฆษณากับพี่เหิรและทีมงาน คงกลับดึกเลยเพราะไปดูหลายที่ พี่เหิรพาแวะกินข้าวต้มเมื่องานเสร็จ ซึ่งก็เกือบห้าทุ่มได้ ผมให้พี่เหิรส่งผมแค่หน้าปากซอย พอตกดึกรถจะมาจอดข้างทาง ซอยจะแคบหน่อยเลยไม่อยากให้พี่เขาวนเข้าไป นั่งพี่วินไปง่ายกว่า แต่พอลงเดินไปก็ไม่เห็นพี่วินสักคันเลยตัดสินใจเดินเข้าไปเอง จนได้ยินเสียงแตรรถบีบดังมาจากด้านหลังก็เห็นว่าเป็นรถของพี่ฉลาม พี่ฉลามให้ผมขึ้นรถผมก็ไม่ปฏิเสธ เรื่องอะไรจะเดินให้เมื่อย


“เหนื่อยไหม กลับดึกขนาดนี้” พี่ฉลามถามผม

“เหนื่อยแต่สนุก กลอนได้รับงานใหญ่กว่าเดิมด้วยนะ แล้วพี่ละ เห็นว่าเข้าไปทำงานที่บริษัทแล้วใช่ไหม”

“อือ ก็โอเค ทำได้” พี่ฉลามตอบ ผมมองหน้าพี่เขาก่อนจะนึกได้เรื่องหนึ่งที่ลืมถาม

“ทำไมพี่เลิกถ่ายรูปละ”

“ก็ไม่มีเวลาด้วย อยากโฟกัสกับงานที่ต้องทำ”

“ถ่ายรูปต้องใช้เวลาเยอะๆด้วยเหรอ บอกความจริงกลอนมาเลยนะ” ผมรู้ว่าพี่เขาไม่ยอมตอบความจริง

“รู้ดีนักนะไอ้ตัวป่วน” พี่ฉลามโยกหัวผมจะคลอนไปซ้ายทีขวาที ผมหัวเราะและเผลอคว้ามือพี่ฉลามมากัดเบาๆ พอนึกได้รีบปล่อยมือพี่เขาเลย

“ขอโทษนะครับ”

“พี่ต้องไปฉีดยาเปล่าวะเนี่ย”

“กลอนไม่ได้บ้านะ แค่บ๊อง” ผมเบ้ปากใส่พี่เขา พี่เขาขำๆ

“ถึงแล้ว เชิญลงได้แล้วครับท่าน” พี่ฉลามกดเปิดล็อกให้ ผมยกมือไหว้พี่เขาก่อนจะลงไป พอรถพี่เขาจะเคลื่อนตัวผมรีบวิ่งตามไปเคาะกระจก พอพี่เขาเปิดกระจกลงผมก็ยิ้มให้พี่เขา

“ฝันดีนะครับโชเฟอร์” ผมบอก พี่ฉลามยิ้มแล้วพยักหน้าให้ผมก่อนจะรอให้ผมกลับเข้าไปในคอนโดพี่เขาถึงเคลื่อนรถเข้าบ้านไป


ผมยังคงรู้สึกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่ความรู้สึกนั้นมันไม่ได้ทำให้ผมทรมานเท่าก่อนหน้านี้ ผมกับพี่ฉลามเราไม่ได้กลับมาคบกัน แต่ผมกลับรู้สึกถึงไออุ่นบางอย่างที่มากขึ้นกว่าเดิม เราไม่ได้เห็นกันทุกวัน ไม่ได้คุยกันทุกวัน ไม่ได้เป็นอะไรกันเลย แต่ผมกลับรู้สึกว่าพี่เขาอยู่กับผมเสมอ ผมไม่ได้เสียพี่ฉลามไป


..แล้วพบกันใหม่..คำนี้คงไม่ต้องใช้อีกแล้วสำหรับเราสองคน


*****โปรดติดตามตอนต่อไป*****


โฮ้วววว ในที่สุดกลอนก็เลือกแล้ว แต่ แต่ แต่.. ยังไม่จอโอะบอจบนะจ๊ะ
จบง่ายๆก็ไม่ใช่กลอนอะจิ โฮะๆๆ มันมีอะไรอีกนิดนึง รอติดตามกันน้า
พบกับตอนหน้าในตอนที่มีชื่อว่า ‘กลับคำเสีย’ แท่น แท๊น แทนนนน ยังไง ยังไงกันละเนี่ย
ปูลู คำผิดเตือนกันได้นะคะ จะกลับมาแก้ไขจ้า รักนะจุ๊บๆ

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 06-12-2015 20:25:04
อ้ะ จิ้มก่อน

คือตอนนี้อ่ะ โอเคแล้วไง

แล้ว
แล้ว!!!!!!
ที่คนเขียนสปอยมาเนี่ยคือ น้องกลอนเราต้องเศร้าอีกแล้วหรือ
มีความสุขมั่งดิ


น้า~~~
ตอนนี้กินมาม่าจนอืดหมดแล้วอ่า T{}T
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 06-12-2015 20:29:10
 :o12: เราเศร้าแทนความรักของพี่ฉลามกับกลอน
แต่ก็เข้าใจว่าทำไมกลอนถึงเลือกพัดโบก
ไม่ว่าพี่ฉลามจะกลับมามีบทบาทอะไรอีกหรือไม่ดราก็ขอบอกเลยว่า
เราประทับใจความเป็นลุกผู้ชายของพี่ฉลามมากๆ
พี่ฉลามจะเป็นหนึ่งในตัวละครที่เราจะไม่มีวันลืมเลยทีเดียว
ขอให้พี่ฉลามได้เจอความสุขที่พี่เขาคู่ควรด้วยเถอะ

มามีพี่นุ๊กเพิ่มในฮาเร็มอีกคนนิ

ป.ล เราไม่อยากหวังอะไรอีกแล้วกับชื่อตอนต่อไปนะ  สงสารพี่ฉลาม กลัวใจพัดโบกด้วยแหละ  ไม่รู้ที่ญี่ปุ่นจบแล้วหรือไร
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-12-2015 20:42:26
เอิ่มมมมมมม  :z3:     :o12:

นี่มันอะไร. ค้างมากกับชื่อตอนต่อไป
ไม่จบจริงง่ะ ฮื้ออย่าพลิกไปมากกว่านี้เล้ยสงสารพี่ฉลาม
ขอบคุณค่ะรีบมาตรอนะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 06-12-2015 21:14:41
https://www.youtube.com/v/OAiGdsWuZg4

จะเหมือนกับเพลงนี้ไหม
ถ้าใช่..คงจะเศร้าอีก

ว่าแต่ใครอ่ะ..ที่จะกลับคำพูด
ไอ่พัดโบก????
 :beat:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 06-12-2015 21:42:55
สงสารฉลาม
แต่ชื่อตอนต่อไปนี่... ยังไง
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 06-12-2015 21:53:13
อะไรยังไง
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 07-12-2015 09:07:10
ดีใจที่กลอนเลือกได้

รอตอนต่อไปอย่างจดจ่อ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 10-12-2015 12:12:47
เลิกเป็นคนโลเลสักทีเนอะกลอน รออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 12-12-2015 12:43:57


งืออออ... พี่ฉลาม ว่าแล้วว่าต้องเป็นพัดโบก
ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงเราก็เป็นกำลังใจให้กลอนเป็นหลัก
กลอนจะรักใคร ป้าก็รักด้วยลูก... ขอให้กลอนมีความรักที่เปี่ยมสุขสักทีนะ อยากให้กลอนยิ้มได้นานๆ ไม่ต้องมีเรื่องทุกข์ใจ
(แต่ชื่อตอนต่อไปนั่นก็ทำเอาป้าใจบ่ดีไปหลายนาทีเลยลูก เหอ เหอ เหอ)

รอติดตามค่ะ

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 23-12-2015 08:36:31
รอ ร้อ รอ
จะเป็นยังไงต่อไป
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 23-12-2015 09:32:32
 :mew2: :mew2: มารออออออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: littlegift ที่ 23-12-2015 09:42:26
แอบเชียร์พี่ฉลาม แต่ก็เป็นกำลังใจให้กลอนต่อไป
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 23-12-2015 21:27:20
ทำไม? ตอนที่ 4
กลอนทิ้งช่วงนานกว่าตอนก่อนหน้านี้

นานแล้วนะ..กลอน
ยังมีคนรออยู่
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: top_fy ที่ 01-01-2016 11:40:57
สวัสดีปีใหม่คับ ขอให้ทั้งคู่มีความสุขมากๆรักกันนานๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 09-01-2016 14:25:05
รอนะครับ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 5 หนึ่งใจสองทาง ตอนที่ 3 (จบตอน) อัพวัน อา.06/12 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 11-01-2016 21:26:13
มาแจ้งข่าวค่ะ ขอโทษที่หายไปนาน พอดีลุงของผู้แต่งเกิดอุบัติเหตุและเพิ่งเสียชีวิตค่ะ เลยยุ่งเรื่องดูแลและก็งานศพ

คาดว่าจะมาต่อนิยายปลายสัปดาห์นะคะ สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังด้วย ชีวิตคนเรามันสั้นมากจริงๆ ดูแลกันและกัน

และทำดีต่อกันให้มากๆนะคะ รักและคิดถึงผู้อ่านทุกท่านเลย
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= แจ้งข่าวค่ะ 11/01/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 11-01-2016 21:33:41
เสียใจด้วย



จะรออ่าน
 :pig4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= แจ้งข่าวค่ะ 11/01/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 11-01-2016 22:18:55
ขอแสดงความเสียใจเรื่องคุณลุงด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= แจ้งข่าวค่ะ 11/01/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 12-01-2016 09:53:45


ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= แจ้งข่าวค่ะ 11/01/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-01-2016 09:57:13
 :L2:  เสียใจด้วยนะคะ
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= แจ้งข่าวค่ะ 11/01/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 12-01-2016 12:18:19
เสียใจด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= แจ้งข่าวค่ะ 11/01/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 12-01-2016 15:13:41
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= แจ้งข่าวค่ะ 11/01/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 12-01-2016 18:50:19
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= แจ้งข่าวค่ะ 11/01/59 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: marisa9397 ที่ 12-01-2016 21:42:27
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย 19/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 19-01-2016 18:42:58
บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย (ตอนที่ 1)


ชีวิตรักของผมเดินทางมาถึงตอนนี้ ผู้ชายทั้งสี่คนที่ผ่านเข้ามา บางคนก็ออกไปจากชีวิตผมไปถาวรแบบที่ผมไม่รู้ข่าวคราวเลยก็คือเต็งหนึ่ง ส่วนพี่รันผมก็ยังได้ข่าวจากแม่ของผมเองบ้างหรือจากเพื่อนๆของผมสมัยมัธยม เพราะพี่รันก็คืออาจารย์ที่เคยสอนพวกมันมา มันก็คอยเอาข่าวมาเล่ากันในกรุ๊ปแชทบ้าง พี่เขาเลิกกับภรรยาแล้วและที่ทำให้ผมประหลาดใจที่สุดก็คือ พี่รันคบหากับผู้ชาย แถมผู้ชายคนนั้นน่าจะเป็นรุกอีกด้วย ผมก็ไม่รู้เรื่องจริงหรือเปล่า แต่ถ้าเพื่อนๆผมมันเมาท์กันขนาดนี้ก็คงมีมูลบ้างแหละ พี่ฉลามก็ยังคงอยู่ในชีวิตของผมไม่ได้หายไปไหน พี่เขาดูโตขึ้นมาก ตำแหน่งใหญ่โต ถอดแบบมาจากคุณลุงไม่มีผิด เวลาพี่เขาว่างก็จะโทรมาชวนผมไปกินข้าวแล้วก็บ่นเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ผมฟังตลอด ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ผมมีหน้าที่รับฟังแล้วก็เถียง พี่นุ๊กบอกว่าผมเป็นคนเดียวที่เถียงพี่ฉลามแล้วพี่เขาไม่หัวเสีย ผมอยากบอกว่ามันไม่จริงเลย พี่เขาคงหงุดหงิดอยู่เหมือนกัน แต่ผมรู้ว่าพี่เขาชอบให้แสดงความคิดเห็น ถึงจะมีขัดใจบ้างแต่ในที่สุดถ้าเหตุผลเราดี พี่เขาก็รับฟังเสมอ คนอื่นๆคงกลัวจนไม่กล้าที่จะพูดออกไปเมื่อเห็นเขาหงุดหงิดมากกว่า ทุกคนเลยถอดใจยอมกันไปตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม แม้กระทั่งพ่อแม่ของพี่ฉลามในตอนนี้ก็ปล่อยทุกเรื่องให้พี่เขาตัดสินใจ ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ดูอารมณ์ศิลปินแบบพี่ฉลามจะใส่สูททำงานแถมยังทำได้ดีมากๆ แถมยังทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวได้ตั้งแต่อายุยังไม่เยอะเท่าไหร่เลยด้วย


ส่วนผู้ชายคนที่ผมเลือกที่จะใช้ชีวิตคู่ด้วยอย่างพัดโบก ปรากฏว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างที่พัดโบกฝันเอาไว้ เรายังไม่ได้เลิกกันหรอกครับ แต่เมื่อตอนที่เขาเรียนจบกลับมา พัดโบกเริ่มไปดูทำเลที่จะทำร้านอาหารและร้านกาแฟ แต่อาจารย์คนญี่ปุ่นที่สอนพัดโบกโทรศัพท์ติดต่อขอร้องให้พัดโบกช่วยไปเป็นอาจารย์สอนที่สถาบันของท่าน เพราะอาจารย์ผู้ช่วยที่เคยสอนประจำสถาบันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิต พัดโบกมาปรึกษาผม ผมเลยให้พัดโบกตัดสินใจเอาเอง พัดโบกตัดสินใจที่จะไปช่วยทางโน้น ผมก็โอเค เพราะผมเองในตอนนี้ก็กำลังไฟแรง ลุยงานเยอะมากจนบางทีก็แทบไม่ได้กลับบ้าน พัดโบกจะบินกลับมาเดือนละครั้ง อยู่ครั้งละสี่ห้าวัน พัดโบกดีกับผมเสมอต้นเสมอปลาย เอาใจผมเสมอ แถมยังช่วยทำความสะอาดห้อง ทำกับข้าว ทำขนมเอาไว้ให้ ซักผ้า ซื้อของเข้าบ้านให้ ดูแลผมทุกอย่างจนผมเองรู้สึกผิดที่ไม่ค่อยได้ดูแลเขาบ้างเลย แต่พัดโบกก็ไม่เคยงอแงหรือเรียกร้องอะไร ผมรู้สึกแฮปปี้กับชีวิตมากๆ


อ่อ มีเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจยิ่งกว่าเรื่องพี่รันไปคบหาผู้ชาย ก็เรื่องของไอ้เด่นเพื่อนรักของผมเอง ไอ้เพลย์บอยตัวพ่อ ไม่รู้มันเพลย์อีท่าไหน ตอนนี้คนที่มันนัวเนียไม่ห่างเลยก็คือ..บุ้ง วันแรกที่ผมรู้ว่ามันมีอะไรกันผมตกใจมาก คือตอนนี้บุ้งมันย้ายมาอยู่ที่คอนโดเดียวกับผมเพราะมันทำงานกับพี่นุ๊ก มันเหงาก็เลยมาสิงอยู่ที่ห้องผมบ่อยๆ มีอยู่วันหนึ่งผมต้องไปเอาท์ติ้งกับบริษัทที่พัทยา แต่ผมรู้สึกไม่สบาย พี่เหิรเลยให้รถของบริษัทพาผมไปโรงพยาบาลเพื่อหาหมอก่อนจะพากลับมาส่งที่คอนโด ผมไม่ได้โทรบอกเด่นเพราะเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา แต่พอผมไขกุญแจเข้าห้องไปเท่านั้นแหละ กระเป๋าแทบร่วงจากมือเพราะว่าไอ้เด่นกับบุ้งกำลังร้อนแรงกันอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนของเด่น เสื้อผ้ามันสองคนกระจัดกระจายเต็มพื้น มันสองคนก็ตกใจที่เห็นผม บุ้งรีบโดดลงมาจากตัวไอ้เด่นแล้วผลุบเข้าห้องไป ส่วนไอ้เด่นที่ยืนแข็งอารมณ์ค้างทำหน้าไม่ถูก จนผมหัวเราะมันถึงได้รีบผลุบเข้าห้องตามบุ้งไป มันหายเข้าไปกันพักใหญ่ๆ ผมก็กลับเข้าไปในห้องนอนของผม บุ้งมันมาเคาะประตูก่อนจะเล่าให้ฟังทั้งที่ผมก็ไม่ได้ถามมันนะ ผมว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของมัน โตๆกันแล้ว ผมห่วงเรื่องเดียวคือผมไม่รู้ว่าเด่นมันมีอะไรกับผู้ชายเพราะอะไร ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นแบบไหน ผมไม่อยากให้ต้องมามองหน้ากันไม่ติดที่หลัง เพราะทั้งคู่คือเพื่อนที่ผมรัก


“เพื่อนมึงอ่อยกู” ไอ้เด่นพูดจบก็โดนไอ้บุ้งฟาดเข้ากลางหลัง

“นานรึยัง” ผมถามมันแกมขำที่ไอ้เด่นทำตัวลีบเหมือนคนกลัวเมีย

“สองเดือนได้แล้ว ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก ทีแรกมันก็เมาทั้งคู่ ไปๆมาๆมันมาติดใจเราเฉยเลย” บุ้งตอบเสร็จเด่นก็ยักคิ้ว ผมว่าคู่นี้ดูๆไปก็เหมาะสมกันนะ

“เขาเรียกได้หลังลืมหน้าไปเลยจ่ะที่รัก” เด่นตอบ ผมหัวเราะ บ้งหน้าแดงแต่ก็เบ้ปากใส่ไอ้เด่นแก้เขิน

“ก็แล้วแต่ โตๆกันแล้ว มันเป็นเรื่องของแกสองคน เราโอเคก็ดีใจด้วย ขออย่างเดียว อย่ามาทะเลาะกันจนมองหน้ากันไม่ติดนะ แบบนั้นเราไม่โอเค” ผมบอก

“ได้ยินรึเปล่า ถ้าไม่จริงจังก็เลิกๆไปเลยนะ” บุ้งหันไปพูดกับเด่น

“ไม่เลิกเว้ย” เด่นตอบก่อนจะดึงบุ้งไปกอดเอว ผมยิ้มให้กับเพื่อนทั้งสองคน ดีเหมือนกัน ผมกำลังมีเรื่องจะบอกมันเลย

“ดีเหมือนกัน งั้นบุ้งย้ายมาอยู่ห้องนี้ไหม” ผมถาม

“อะไรของมึง” เด่นถาม

“ตั้งใจจะซื้อห้องเอาไว้เอง เพราะว่าแม่จะได้มาอยู่ด้วย คุยกับพี่นุ๊กเอาไว้แล้ว พอดีห้องที่อยากได้เขาจะขายพอดี”

“เฮ้ยแก” บุ้งสีหน้าไม่ดี

“อะไร ไม่เกี่ยวกับแกหรอกบุ้ง แกมาอยู่แทนเราเรายิ่งสบายใจ ไอ้เด่นมันไม่ได้เรื่อง สกปรก” ผมบอกเพราะคิดว่าบุ้งคงนึกว่าผมอึดอัด

“อ้าว มึงไม่ให้เครดิตเพื่อนเลยไอ้กลอน”

“อยู่ด้วยกันเดี๋ยวเบื่อเรา ไม่เอาด้วยหรอก” บุ้งแกล้งโวยวาย

“ไม่รู้ละ ถ้าเพื่อนมึงไม่มาอยู่กูก็ไม่ให้มึงย้ายออก” เด่นหันมาพูดกับผม ผมได้แต่ขำ แต่ในสุดบุ้งก็ยอม

“แล้วเมื่อไหร่ไอ้พัดมันจะย้ายกลับมาไทย” เด่นถามผม

“คงรอให้ทางนั้นสถานการณ์ดีขึ้นก่อนมั๊ง” ผมตอบไป ล่าสุดที่คุยกัน พัดโบกก็บอกว่าอาจารย์น่าจะได้ครูมาช่วยสอนที่สถาบันเร็วๆนี้

“มึงยอมได้ไงวะ ยังไงเขาก็เคยเป็นคนรักเก่ากัน” เด่นพูดจบผมก็นิ่งอึ้งไป พอมันเห็นอาการของผมมันเลยหน้าเจื่อนๆก่อนจะขยับเข้ามาหาผม

“มันไม่ได้บอกมึงเหรอ” เด่นถาม

“อะไร มีอะไร พูดมาเลยเด่น” เป็นบุ้งที่เข้าไปเค้นคำอธิบายจากเด่น

“ก็ไอ้โรงเรียนนั้นมันเป็นของครอบครัวแฟนเก่าไอ้พัด แล้วพ่อแม่ทางนั้นรถคว่ำเสียชีวิต มันเลยสงสารเพราะมันเคยผ่านเหตุการณ์นั้นมาก่อนด้วย  มันเลยไปช่วยดูแลกิจการทางนั้นให้ก่อนจนกว่าแฟนเก่ามันจะโอเคขึ้น ไหนมันบอกว่ามันบอกมึงแล้วไง”

“บอก แต่ไม่ได้บอกแบบนี้” ผมพูด รู้สึกใจสั่น สมองของผมมันงงๆเบลอๆ กำลังเรียบเรียงคำพูดของเด่นอีกรอบ

“มันคงกลัวแกไม่สบายใจเปล่าวะกลอน” บุ้งรีบเดินมาลูบหลังผม

“เราขออยู่คนเดียวก่อนนะ” ผมบอกทั้งสองคน เด่นกับบุ้งสีหน้าไม่ดี แต่ทั้งคู่ก็ยอมออกไป


ก็อาจจะเป็นแบบที่บุ้งบอก พัดโบกอาจจะกลัวผมไม่เข้าใจ ไม่สบายใจหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่พัดโบกก็เลือกที่จะทำในสิ่งที่ผมเกลียดที่สุดนั่นคือโกหก เขาคงคิดว่า สุดท้ายแล้วถึงผมจะรู้เรื่อง แต่ถ้าเขาอธิบายหรือขอโทษผมก็คงจะให้อภัย พัดโบกคงไม่รู้นิสัยของผม ผมให้อภัยได้ในเรื่องที่ผมควรให้ ผมไม่รู้หรอกว่าพัดโบกจะนอกใจหรือไม่ มันไม่ใช่ประเด็นที่ผมจะคิดแล้ว แต่การที่พัดโบกเลือกที่จะโกหกผม แปลว่าเขาสะดวกใจที่จะทำแบบนั้นมากกว่าการเปิดใจพูดกับผมตรงๆในทุกๆเรื่อง ผมยังพูดกับเขา เล่าทุกเรื่องด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วผมทำเวรทำกรรมอะไรเอาไว้หนักหนา พอจะได้เริ่มต้นกับใครก็ต้องมีเหตุให้ต้องเสียใจทุกที


คืนหนึ่งเต็มๆที่ผมได้นั่งทบทวนว่าควรจะเอายังไงกับเรื่องนี้ดี บุ้งกับเด่นมันก็เป็นห่วงผม มันคงคิดว่าผมคงร้องไห้จนไม่มีแรงไปทำงาน ที่ผมเดาว่ามันคิดแบบนั้นเพราะว่ามันทำหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นผมลุกออกมาตั้งแต่เช้าเตรียมตัวไปทำงาน


“มึงโอเคเปล่าวะกลอน” เด่นมันถามผมไม่รู้รอบที่เท่าไหร่แล้ว

“หน้าเราดูไม่โอเคเหรอ” ผมย้อนถามมันบ้าง

“เปล่า แต่กูกลัวมึงเก็บอาการ กูคิดว่าไอ้พัดมันจะบอกมึงเพราะมันก็บอกกับกูแบบจริงจังว่ามันกับทามะจบลงแล้วแบบคนรัก มันรักมึงมาก”

“รักแล้วทำไมต้องไปแคร์ทางโน้น เข้าข้างกันรึเปล่าเนี่ย เป็นเราหน่อยไม่ได้” บุ้งวางชามโจ๊กลงตรงหน้าผมก่อนจะหันไปเบ้ปากใส่ไอ้เด่น

“พาลชิบเลยเพื่อนมึง” เด่นส่ายหน้า ผมก็ขำ เหมือนคู่กัดมากกว่าจะเป็นคู่รักกันนะคู่นี้

“เราเชื่อนะว่าพัดโบกรักเรา แต่ที่เราไม่รู้คือ เขาหมดรักทางโน้นแน่รึเปล่า เขาก็รักกันมาตั้งนาน มันตัดไม่ขาดหรอก” ผมคนโจ๊กในชามพร้อมกับบอกสิ่งที่ตัวเองคิด

“อย่าบอกนะว่าแกทำใจยอมรับได้” บุ้งถามผม

“เราก็ไม่รู้ว่าเรายอมรับหรือปลง เมื่อคืนยอมรับว่าเสียใจนะ รู้สึกใจหาย อยากร้องไห้ แต่น้ำตามันก็ไม่ยักจะไหล พอคิดไปคิดมา ถ้าเป็นเรากับพี่ฉลาม เราก็คงทำแบบพัดโบก แต่ความต่างคือเราจะไม่โกหกพัดโบกเหมือนที่พัดโบกโกหกเรา”

“แล้วแกจะทำยังไงต่อไป” บุ้งถามผมอีก

“เราว่าเราจะไปญี่ปุ่น” ผมตอบเสร็จ บุ้งกับไอ้เด่นมองหน้ากันแบบตกใจ ก็ไม่รู้ทำไมมันต้องตกใจ

“มึงจะไปเมื่อไหร่” เด่นถามผม

“วีซ่าผ่านเมื่อไหร่ก็ไป” ผมตอบ

“กูไปด้วย” เด่นมันบอกผม ผมพยักหน้าก่อนจะกินโจ๊กจนหมดชาม กองทัพต้องเดินด้วยท้องนี่เนอะ


ถามว่าผมยังเสียใจไหม ผมรู้สึกใจกายมากกว่า เคยไหมครับ มันแวบๆวูบๆวาบๆตลอด มันเหมือนลางเตือนให้ผมได้ทำใจ ว่าอนาคตอันใกล้ผมคงได้เสียน้ำตาแน่ๆ เอาไว้ถึงเวลานั้นผมก็คงจะตอบคำถามของไอ้เด่นกับบุ้งได้ ว่าผมโอเคหรือเปล่า


กว่าผมจะเคลียร์งานได้และได้วีซ่ามาก็ผ่านไปเกือบเดือน ระหว่างนั้นผมทำตัวปกติกับพัดโบกเวลาที่เขาคอลสไกป์มาหา ผมไม่ได้พูดเรื่องนี้ให้พี่ฉลามฟังและกำชับบุ้งว่าห้ามเล่าให้พี่นุ๊กและพี่ฉลามฟัง บุ้งก็รับปากและพยายามมาอยู่เป็นเพื่อนผมเพราะกลัวผมเสียใจ แต่ผมก็ทำตัวปกติ ผมไม่ได้เข้มแข็งอะไรขนาดนั้นที่จะไม่รู้สึก แต่ก็ยังไม่ถึงกับร้องไห้จนทำอะไรไม่ได้ ที่ผ่านมาผมไม่ได้คิดอะไรระแวงอะไรเลยไม่ได้จับผิด แต่เมื่อมารู้เรื่องแล้วในตอนนี้ ทุกครั้งเราเปิดกล้องแชทคุยกัน ผมว่าผมได้ยินเสียงผู้ชายฮัมเพลง ได้ยินบ่อยๆนึกว่าเสียงจากโทรทัศน์ แต่พอตั้งใจฟังแล้วมันไม่น่าใช่ บางวันผมกดทักไปก่อน สัญญาณทางฝั่งโน้นกดรับก่อนจะโดนตัดสายไปแบบรวดเร็ว พักใหญ่พัดโบกถึงได้ทักมาแล้วบอกว่ามือเปื้อนเนยอยู่เลยตัดสายไปก่อน มือเปื้อนเนยตอนสี่ทุ่มเนี่ยนะเหรอ ผมก็เพิ่งจะมาเอะใจว่ามันผิดปกติก็ตอนรู้เรื่องนี่แหละครับ


ก่อนหน้าที่ผมจะเดินทางไปญี่ปุ่นสี่วัน คืนนั้นพัดโบกก็คอลสไกป์มา ผมกดรับ แต่ภาพที่ปรากฏมาจากอีกฝ่ายกลับไม่ใช่พัดโบก เป็นผู้ชายหน้าสวยมากๆคนหนึ่ง หน้าขาวใส ตาหวานมากๆ จมูกโด่ง ปากแดงอิ่มสดใส ผมสีน้ำตาลเข้มตัดรับกับใบหน้า แค่เห็นแวบแรกก็อดชื่นชมไม่ได้ อีกฝ่ายส่งยิ้มมาแล้วทักผมเป็นภาษาไทยออกสำเนียงญี่ปุ่น ผมขอเขียนบันทึกนี้เป็นภาษาไทยไปเลยเพื่อความเข้าใจ


“สวัสดี ผมชื่อทามะ”

“สวัสดีครับ” ผมตอบกลับไป

“กลอนใช่ไหม”

“ใช่ครับ”

“ขอโทษที่ใช้สไกป์ของพัดคอลมานะ ผมแค่อยากคุยกับกลอน” อีกฝ่ายคงพูดไปยิ้มไป แต่ดวงตาดูเศร้ามากๆ

“ครับ”

“แปลกใจไหมที่ผมพูดไทยได้ดี พัดเขาสอน เขาชอบให้ผมใช้คำไทย เวลาผมพูดผิดก็หัวเราะ”

“ครับ” ผมตอบไปสั้นๆ อีกฝ่ายเห็นผมตอบสั้นๆก็ทำท่าถอนหายใจ

“ผมขอโทษนะ ไม่ได้จะมาทำไม่ดี ผมแค่อยากรู้จักคุณ พัดพูดถึงคุณให้ฟัง”

“เหรอครับ”

“คุณโกรธเราไหม”

“โกรธเรื่องอะไรครับ” ผมถาม

“เรื่องที่พัดกับผม..”

“..........” ผมเงียบไป เมื่ออีกฝ่ายก็เงียบ รอยยิ้มของอีกฝ่ายที่ปรากฏเมื่อครู่หายไป ใบหน้าขาวๆตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตา ผมว่าเขาไม่ได้เสแสร้ง เขากำลังร้องไห้เพราะความเสียใจจริงๆ เพียงแต่ผมไม่รู้ว่าเขากำลังเสียใจเรื่องอะไร

“ผมขาดพัดไม่ได้ ผมไม่เหลือใครแล้วจริงๆ” ใบหน้าขาวใสพูดไปสะอื้นไป ผมได้แต่แอบทอดถอนลมหายใจ พร้อมกับถามตัวเองว่า แล้วผมละ ขาดพัดโบกได้ไหม

“คุณทามะ คนที่คุณควรไปอ้อนวอนไม่ใช่ผมหรอก คุณควรไปพูดคุยกับพัดโบก ถ้าเขายินดีที่จะกลับไปคบกับคุณ ผมก็จะไม่ขัดขวางอะไร” ผมพูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าละมุนที่สุดแล้วครับ ผมไม่ได้โกรธเขานะ ผมไม่ได้เป็นพ่อพระ แต่ผมเป็นแค่ใครคนหนึ่งที่ยอมรับกับความสุญเสียได้ดีเท่านั้นเอง ถ้าพัดโบกยังรักและยังอยากดูแลทามะ ผมจะรั้งเขาเอาไว้ทำไม

“เขาคงเลือกคุณมากกว่าผม” ทามะก้มหน้า น้ำเสียงดูเศร้าสร้อยจมผมอดสงสารไม่ได้

“.........” ผมก็ไม่รู้จะตอบเขาว่ายังไงก็เลยเงียบอีกจนบรรยากาศมันดูน่าอึดอัด

“ขอบคุณมากครับ” ทามะพูดขอบคุณกับผมเสร็จก็กดตัดสายไปเลย


จนอีกเกือบสองชั่วโมงพัดโบกถึงคอลมาหาผม พูดคุยเป็นปกติ จนได้ยินเสียงจานหล่นแตก พัดโบกทำหน้าตกใจก่อนจะวิ่งหายไปจากจอคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว สักพักใหญ่ถึงได้กลับมาแล้วบอกว่าจานมันหล่นลงมาเอง ผมได้แต่ยิ้มให้เขา ไม่ได้พูดอะไรออกไป ผมจ้องมองสีหน้าของพัดโบก ใบหน้าของคนที่ต้องโกหกมันมีริ้วรอยของความไม่สบายใจแฝงอยู่ชัดเจน ผมอยากถามเขาว่าเหนื่อยไหมที่ต้องอยู่แบบไม่สบายใจแบบนี้ ได้แต่คิด ไม่ได้พูดออกไป อีกสี่วันผมจะเดินไปญี่ปุ่นแล้ว เก็บเอาไว้ถามต่อหน้าเลยก็แล้วกัน


....

มีต่อด้านล่าง

V
V


หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย (ตอนที่ 1) 19/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 19-01-2016 18:43:43
ต่อจากด้านบน



เด่นพาผมมายืนอยู่ที่หน้าตึกสีขาวสี่ชั้นที่มีป้ายภาษาญี่ปุ่นตัวใหญ่สีเงินประดับอยู่ที่เหนือประตูกระจกทางเข้า ที่หน้าประตูมีป้ายโปสเตอร์ตั้งเอาไว้ มีรูปของพัดโบกกับทามะถ่ายคู่กันในชุดเชฟสีขาวสะอาดตา ผมไม่เข้าใจรายละเอียดในโปสเตอร์หรอก แต่น่าจะเป็นการโฆษณาของโรงเรียน ผมยังไม่ได้เข้าไปในทันที แต่เลือกชวนเด่นมานั่งที่ร้านกาแฟที่อยู่ตรงกันข้ามกับโรงเรียน อากาศหนาวมากๆจนไอออกปาก ขืนยืนอยู่ด้านนอกคงจะแข็งตายแน่ เข้ามาในร้านนี้ค่อยรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาหน่อย กลิ่นกาแฟก็หอมยั่วมาก เบเกอรี่ก็น่ากินสุดๆ ผมเห็นรูปทามะกับครอบครัวติดอยู่ที่กำแพงด้านหนึ่งด้วย สงสัยจะเป็นร้านของครอบครัวของทามะ


“นั่นไงไอ้พัด” เสียงของเด่นทำให้ผมมองออกไปยังฝั่งตรงกันข้าม พัดโบกเดินออกมาพร้อมกับผู้ชายรูปร่างผอมบาง แต่ใบหน้าสวยหวานเกินเพศ ยืนข้างพัดโบกแล้วตัวเล็กนิดเดียว ภาพต่อมาทำให้ผมต้องมองจ้องจนลืมกระพริบตา พัดโบกกำลังสวมหมวกและถุงมือให้ทามะก่อนจะจูงมือพาข้ามถนนมายังร้านกาแฟที่ผมนั่งอยู่กับเด่น ผมยังคงมองทั้งสองคนจนกระทั่งทั้งคู่เข้ามาถึงในร้าน พัดโบกทักทายเด็กในร้านเป็นภาษาญี่ปุ่นก่อนจะเดินเข้าไปที่เคาท์เตอร์ด้านใน ไม่ได้มองมาทางผม ส่วนคนที่พัดโบกจูงมือเข้ามาหันมาเห็นผมแล้วทำตาโตก่อนจะหยุดนิ่งอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์แล้วหันไปมองที่พัดโบก พัดโบกเห็นทามะยืนนิ่งมองมาทางผมเลยหันมามองตาม พอเห็นผมพัดโบกมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะรีบเดินมาหาผม

“กลอน...เด่น..” พัดโบกเรียกชื่อพวกผมสองคนก่อนจะทำหน้าเจื่อนๆ

“คุยกันเองก็แล้วกัน กูขอไปเดินเล่นแถวนี้เดี๋ยวมา แต่มึงกับกูมีเรื่องต้องเคลียร์กันทีหลังไอ้พัด” เด่นบอกก่อนจะลุกไป พัดโบกลงมานั่งแทนที่ของเด่น

“กลอน จะมาหาทำไมไม่บอก มีอะไรหรือเปล่า” พัดโบกกุมมือผม ผมมองเลยไปที่ทามะ สีหน้าฝ่ายนั้นดูเจ็บปวดก่อนจะเดินหันหลังออกไปจากร้าน

“พัดน่าจะรู้ว่ามันมีอะไรหรือเปล่า” ผมบอก พัดชะงักไป นั่งนิ่งเงียบอยู่นานเลย พอเห็นผมขยับตัวถึงได้ถอนหายใจแล้วรีบบีบมือของผมเอาไว้แน่น

“เราขอโทษนะที่ไม่ได้บอกเรื่องของทามะ เราไม่อยากให้กลอนต้องไม่สบายใจ”

“ถ้าบอกเราตรงๆ เรามีอะไรที่ต้องไม่สบายใจเหรอ” ผมย้อนถาม

“ก็ทามะคืออดีตคนรักเก่าของเรา”

“แล้วยังไง เราจะกังวลทำไมถ้าเขาเป็นแค่อดีต”

“ก็เรากลัวกลอนคิดมากที่เรามาอยู่ใกล้เขา”

“เอาล่ะ มันไม่มีประโยชน์แล้วที่จะมาพูดเรื่องบอกหรือไม่บอก เพราะวันนี้เรารู้แล้ว เรามาที่นี่เพื่อถามคำถามเดียว เราขอให้คำตอบที่พัดจะตอบมาจากความจริงใจ เราไม่อยากหมดศรัทธาที่จะเชื่อในตัวพัดนะ”

“กลอน...”

“พัดมีอะไรกับทามะหรือเปล่า หลังจากที่คบกับเรา” ผมถามพร้อมกับจ้องหน้าอีกฝ่าย พัดมีสีหน้าไม่ดีเลย ผมคิดว่าผมรู้คำตอบได้จากแววตาและสีหน้าของเขา

“เราขอโทษ แค่สองครั้งเท่านั้นจริงๆ เราขอโทษนะกลอน แต่เรารักกลอน นะ อภัยให้เราได้ไหม เราจะกลับไปกับกลอนเลย เราเลือกกลอนนะ”

“เราไม่ได้มาถามพัดว่าจะเลือกใคร เรามาแค่อยากได้ยินความซื่อสัตย์สุดท้ายว่าพัดจะมีให้เราไหม ขอบใจนะที่ไม่เลือกที่จะโกหกกันอีก”

“กลอน เราไม่เลิกกับกลอนนะ”

“พัดไม่มีสิทธิเลือกตั้งแต่นอนกับคนอื่นแล้ว สำหรับเรื่องของเราสองคน เราขอจบตรงนี้นะ”

“ทำไมถึงได้เลิกกับเราง่ายๆ เพราะกลอนไม่เคยรักเราเลยใช่ไหม กลอนดูไม่เสียใจเลย กลอนอยากเลิกกับเราเพราะอยากกลับไปหาคนรักเก่าเหมือนกันใช่ไหม” พัดตะโกนใส่ผมจนคนในร้านหันมามอง

“ถ้าอยากให้เราสองคนยังเป็นเพื่อนกันได้ก็อย่าทำให้เราต้องเสียใจและผิดหวังกับเรื่องอีกเลย เราจำเป็นต้องร้องไห้ให้คนที่ไม่ซื่อสัตย์กับเราเห็นเหรอ เราจำเป็นต้องฟูมฟายที่ต้องเสียคนที่ไม่จริงใจกับเราไหม เราไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจเลยเพราะเราทำดีที่สุดแล้ว ที่ตรงนี้เหมาะกับพัดแล้วละ คนๆนั้นต้องการพัดมากกว่าเรา” ผมบอกก่อนจะเดินออกจากร้านไป มองไปก็เห็นทามะยืนตาแดงก่ำอยู่ด้านนอก พัดโบกเดินตามออกมามองผมกับทามะสลับกัน ไม่นานไอ้เด่นก็เดินเข้ามาหาผม

“เราจะกลับเมืองไทย” พัดโบกพูดเสียงดัง พูดจบทามะก็ร้องไห้เลย

“มันไม่มีประโยชน์แล้วพัดโบก” ผมบอกเขา

“เรายังให้เวลากลอนลืมคนรักเก่า ทำไมกลอนไม่ให้เวลาเราบ้าง เราอดทนรอตอนที่กลอนมีผู้ชายคนนั้นเต็มหัวใจด้วยความเจ็บปวดตลอดมา เราดูแลกลอนไม่ดีเหรอ เรารักกลอนไม่พอเหรอ กลอนไม่รักเราแล้วเหรอ กลอนขาดเราได้จริงๆเหรอ” พัดโบกพูดไปร้องไห้ไป ผมตกใจเหมือนกันที่เห็นเขาร้องไห้ และยิ่งพัดโบกร้องไห้ ทามะก็ร้องหนักกว่าเก่าเหมือนจะขาดใจ คนแถวนั้นก็มอง ผมไม่ชอบเลย รู้สึกไม่ดีกับสถานการณ์แบบนี้ พัดโบกทำเหมือนเรื่องทั้งหมดผมผิดที่ไม่ให้โอกาสเขาบ้าง

“เราเลือกพัดในวันนั้น มันหมายความเรารักพัดนะ แต่พัดไม่เลือกที่จะรักษาความรักที่เรามีให้ ถึงใจเราไม่เคยลืมพี่ฉลาม แต่เราก็มีความซื่อสัตย์ให้กับพัดตลอดเวลาที่เราคบกัน เลิกโทษเราแล้วถามตัวเองว่าดีพอให้เรารั้งเอาไว้หรือเปล่า อย่าให้เราต้องเกลียดพัดเลยนะ” ผมบอก พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ การที่ผมไม่ได้แสดงว่าผมเจ็บ ไม่ได้แปลว่าผมไม่เจ็บ การแสดงออกของคนเราไม่เหมือนกัน ภูมิต้านทานในใจของคนเราก็ไม่เหมือนกัน

“กลอน ขอโทษนะ ขอโทษ อย่าเลิกกันเลยนะ นะ” พัดโบกเข้ามากอดผมเอาไว้ ผมรีบผลักเข้าออกเพราะกำลังเป็นเป้าสายตาของคนแถวนั้น เด่นมันคงรู้ว่าผมเริ่มไม่โอเคมันเลยมาดึงผมไป

“พัด โอกาสมึงหมดแล้ว กูเคยบอกมึงว่าถ้าทำกลอนมันเสียใจถึงมึงเป็นญาติกูก็อภัยให้ไม่ได้ มึงตัดทามะไม่ขาดหรอก ลึกๆมึงก็รักทามะ สักพักมึงจะลืมไอ้กลอนได้เอง อย่าทำให้พวกเราต้องมองหน้ากันไม่ติดอีก” เด่นพูดจบก็จูงมือผมออกไปเลย พัดโบกไม่ได้ตามมา ผมไม่ได้มองกลับไปเหมือนกันว่าเขาเป็นยังไง


..มันจบแล้วจบแล้วจริงๆในเวลาที่สั้นเหลือเกินกับรักที่ผมเลือกเอง..


“กลับเลยได้เปล่า” ผมถามเด่นหลังจากที่กลับมาถึงโรงแรม ผมอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยเพราะว่าจะออกไปหาอะไรกินกัน แต่ในใจอยากกลับบ้านแล้ว

“ไม่ได้ ในข่าวบอกว่าพรุ่งนี้หิมะแรกจะตก อยู่เที่ยวก่อน มึงเหนื่อยกับชีวิตมาเยอะแล้ว”

“ไม่อยากเที่ยวแถวนี้” ผมบอกไปตรงๆ

“กูรู้แล้ว พรุ่งนี้เปลี่ยนเมือง กูจัดให้แล้ว คืนนี้นอนให้หลับก็พอ ถ้าไม่ไหวบอกกูนะ กูให้ยืมหน้าอก มาซบป๋ามา ป๋าจะปลอบ” ไอ้เด่นตบอกตัวเอง ผมนึกขำ รักกี่ครั้งที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ผมร้องไห้ ผมก็เห็นเพื่อนคนนี้เสมอ ผมเดินไปหามันแล้วกอดมัน มันทำท่าตกใจที่ผมไปกอดมันจริงๆจนผมหัวเราะท่าทางของมันทั้งน้ำตา มันลูบหัวผม แค่นั้นผมก็บ่อน้ำตาแตกพลั่กๆเลยครับ

“ถ้ากูรู้ว่ากูจะเป็นชายเหนือชายได้ กูจีบมึงไปแล้ว มึงจะได้ไม่ต้องเสียใจ” เด่นปล่อยให้ผมร้องไห้อยู่พักใหญ่แล้วก็พูดออกมา มันพูดจบผมก็ผลักอกมันออกเลย ยืนเช็ดน้ำตาตัวเองแล้วค้อนใส่มัน

“เจ็บหนักกว่าเดิมสิไม่ว่า แกโคตรเจ้าชู้ตัวพ่ออะ ขี้เอาด้วย นี่ถ้าไม่จริงจังกับบุ้งจะโดนดี” ผมต่อว่ามันพร้อมกับขู่มัน ผมหัวเราะ

“เฮ้อ กูเพื่อนมึงนะ ขู่จริง แล้วรู้ได้ไงกูขี้เอา แอบฟังละสิ”

“ไอ้บ้า”

“ฮ่าๆๆ  ไป หาสาเกดื่มแก้หนาวกันดีกว่าเพื่อนรัก” เด่นกอดคอผม ผมพยักหน้าให้มัน ไหนๆก็ตั้งใจมาที่นี่เพื่อมาบอกลาคนรัก เพื่อจะทิ้งความทุกข์เอาไว้ที่นี่ ถึงแม้ว่าปลายทางมันจะจบไม่สวยเลยจริงๆ แต่ระหว่างทางของผมกับพัดโบก พัดโบกก็ดูแลผมดี ถือว่าเราไม่ได้เกิดมาคู่กันก็แล้วกัน


ผมอยู่เที่ยวญี่ปุ่นกับเด่นจนครบกำหนดกลับ ผมปิดการสื่อสารทุกอย่าง เพราะอยากปล่อยสมองให้โล่งจริงๆ ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ผมแอบนอนร้องไห้ทุกคืนนะ แต่ไม่ใก้เด่นมันรู้ ไม่อยากให้มันห่วงมากไปกว่านี้ ไม่คิดเหมือนกันว่าเอาเข้าจริงจะเสียใจขนาดนี้ ผมบอกตรงๆนะ ไม่รู้ว่าเสียใจที่ถูกนอกใจหรือว่าเสียใจที่ต้องผิดหวังในรักอีกแล้ว มันออกแนว เหนื่อยเหลือเกินแล้วที่จะมอบใจให้ใครสักคน แต่ผมตั้งใจเอาไว้แล้วว่ากลับไปเมืองไทยผมจะไม่ร้องอีกแล้ว พอกันทีกับเรื่องความรัก ผมแต่งกับงานดีกว่า ไม่ต้องมาเสียใจด้วย


ขณะที่ผมนั่งเครื่องกลับ จู่ๆไอ้เด่นก็บอกข่าวๆหนึ่งที่ทำให้ผมตกใจมาก มันบอกมันรู้มาสองวันแล้วแต่เลือกที่จะไม่บอกผม เพราะมันอยากให้ผมได้พักผ่อนเต็มที่ ข่าวนั้นก็คือ ทามะกรีดข้อมือหวังจะฆ่าตัวตายเพราะพัดโบกเก็บข้าวของจะตามผมกลับเมืองไทย โชคดีที่มีคนไปพบก่อน แต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่อาการทางใจดูแล้วน่าเป็นห่วง โดยมีพัดโบกคอยดูแลอยู่เพราะทามะไม่เหลือใครแล้วจริงๆ ผมได้แต่ถอนหายใจ การที่ได้รู้เรื่องนี้มันทำให้ผมคลายความเศร้าลงได้ ไม่ใช่ดีใจที่เห็นทามะเจ็บตัวนะครับ แต่ผมดีใจที่ผมได้ปล่อยโลกทั้งใบให้กับใครบางคนที่เขาไม่สามารถจะขาดมันได้ คนยอมที่จะแลกลมหายใจของตัวเองเพื่อคนๆนั้น แปลว่ามันคงสำคัญกับเขามากจริงๆ ผมขออโหสิกรรมให้พัดโบกและทามะนะ จบกรรมต่อกัน นี่คงเป็นสิ่งที่ผมคิดแล้วทำให้ตัวเองหลุดออกจากบ่วงทุกข์ได้ดีที่สุดแล้วละครับ ลาก่อนนะ พัดโบก..


..และเขาจะเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่แสนหวานปนขมในชีวิตของผม เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ผมจะจำมันได้ตลอดไป..


......



..ชีวิตจริงก็เหมือนละครนะ แต่มันอาจจะไม่ง่ายแบบละครบางเรื่อง บางทีก็ซับซ้อนกว่าละครด้วยซ้ำไป มันไม่ได้สวยหวานเลิศหรูอย่างที่อยากให้เป็นได้ตลอดกาล และมันทำให้ผมคิดว่า ถ้ามีคนข้างบนคอยเขียนบทชีวิตให้กับเรา คนเขียนบทชีวิตของผมจะเขียนความรักของผมให้ต้องพบกับความเจ็บซ้ำๆแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่กันนะ..


ตื่นเช้า..
ไปทำงาน..
เลิกจนดึกดื่น..
นอน..แล้วก็ตื่นเช้าเพื่อไปทำงาน..


ชีวิตของผมตอนนี้มีแค่นี้จริงๆ ผมกำลังสนุกกับงานที่ทำ ความเสียใจเรื่องของพัดโบกค่อยๆจางหายไปตามวันและเวลา นอกจากบุ้งกับเด่นแล้ว ไม่มีใครรู้เลยว่าผมเลิกกับพัดโบกแล้ว ผมบังคับทั้งสองคนห้ามบอกใคร เน้นย้ำว่าห้ามบอก และผมก็ไม่ติดต่อกับพัดโบกด้วย แรกๆพัดโบกดูพยายามจะติดต่อผม แต่คงเห็นแล้วว่าผมใจแข็งและตัดใจจริงๆ แล้วอีกฝ่ายก็หายเงียบไปในที่สุด


จากวันที่ผมเลิกกับพัดโบกมาถึงวันนี้ก็ครบสามเดือนครึ่งพอดี ผมก็ใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างที่เคยๆ มีไปกินข้าวกับพี่ฉลามบ้างแล้วแต่เวลาจะอำนวยให้ว่างตรงกัน ที่ผมไม่ได้บอกพี่เขาเรื่องพัดโบกเพราะผมไม่อยากให้ตัวเองกลับไปยึดติดกับพี่ฉลาม ผมทำพี่เขาเสียใจ ผมเลือกพัดโบกแทนที่จะเลือกพี่ฉลาม ผมไม่อยากให้คนอื่นมองว่า พอผิดหวังก็รีบกลับมาฉวยโอกาสนี้ และบางทีพี่เขาอาจจะเจอใครที่ใช่แล้วก็เป็นได้ เห็นบุ้งบอกว่าพี่ฉลามมีคนที่คุยๆด้วยแล้ว มันคงไม่ดีถ้าผมจะเอาตัวเองไปใกล้ชิดพี่เขา ทุกครั้งที่เจอกัน พี่เขาก็ไม่เคยถามเรื่องพัดโบก ผมเลยไม่ต้องโกหก ส่วนใหญ่จะคุยกันเรื่องงานมากกว่า ไม่ก็เรื่องทั่วๆไปอย่างที่เราคุยๆกันมาตลอด นอกนั้นก็มีไปกับเพื่อนคนอื่นๆบ้าง แต่ก็ไม่บ่อย แม่ก็มาหาบ้าง ตอนนี้เที่ยวเก่งกว่าผมไปแล้ว แต่ก็ดีใจที่แม่มีความสุข


วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมเลิกงานดึกมาก กว่าจะเคลียร์งานเรียบร้อยก็ปาไปตีสอง ช่วงนี้บริษัทกำลังไปได้ดี ได้รับงานอีเวนท์ใหญ่ๆและงานโฆษณาหลายตัว พี่เหิรก็เริ่มไว้ใจมอบหมายให้ผมได้ทำงานใหญ่กว่าเดิม ผมก็ทุ่มเทเต็มที่จนบางทีก็ลืมไปว่าการรักษาสุขภาพของตัวเองก็สำคัญ อย่างตอนนี้ ผมนั่งทำทำงานนานไป พอตอนลุกไม่รู้ว่าผิดท่ายังไงมันถึงเจ็บจี๊ดที่กลางหลังแล้วก็ไม่สามารถขยับตัวได้ เจ็บเหมือนมีใครเอามีดมาแทงหลัง ผมต้องนั่งอยู่อย่างนั้นเพราะมันเจ็บร้าวจนน้ำตาซึม ผมกดโทรศัพท์หาเด่นมันปิดเครื่อง พอโทรหาบุ้งๆก็ไม่ได้รับสาย อย่างว่า ก็ตอนมันตีสองแล้ว มันคงจะหลับสนิทกันอยู่ ผมกัดริมฝีปากพยายามจะฝืนตัวแต่ก็ลุกไม่ได้ หวังว่าคงไม่เป็นกระดูกกดทับเส้นประสาทหรอกนะ พอคิดแล้วก็เครียดเลย ผมต้องนั่งอยู่ถึงเช้าไหมเนี่ย เหมือนเบื้องบนจะเห็นใจ จู่ๆโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นมา พอเห็นคนโทรเข้าก็แปลกใจ แต่ก็รีบกดรับ


“พี่ฉลาม” ผมร้องเรียกไปตามสาย

“เป็นอะไร เสียงไม่ดีเลย แล้วอยู่ที่ไหน” เสียงปลายสายตอบกลับมา

“ยังอยู่ที่ทำงานครับ กลอนเจ็บหลัง ลุกไม่ได้เลยครับ”

“รออยู่นั่นนะ นั่งเฉยๆอย่าเพิ่งขยับ เดี๋ยวพี่ไปหา”


ผมนั่งรออยู่พักหนึ่งพี่ฉลามก็มา แถมไม่ได้มาคนเดียว พาใครอีกคนมาด้วยก็ไม่รู้ พี่เขามาจับๆทีหลังก่อนจะถามอาการผม สรุปว่าพี่เขาเป็นหมอ เป็นเพื่อนพี่ฉลาม แต่ผมไม่เคยเห็นเลย เขาบอกว่าผมกล้ามเนื้ออักเสบ พี่เขาให้ยาทากับยากินมา พร้อมกับกำชับผมว่าอย่านั่งทำงานนานๆ ให้ลุกมาเดินบ้าง แต่ช่วงนี้ต้องพักหลังบ้างก่อนจะอาการแย่ไปกว่านี้ ผมยกมือไหว้ขอบคุณ พี่ฉลามก็ขอบคุณเพื่อน อีกฝ่ายส่งยิ้มให้พี่ฉลาม พี่ฉลามประคองผมลงมาข้างล่างหลังจากที่ผมพอจะขยับตัวได้แล้ว ระหว่างทางเห็นพี่ฉลามนั่งคุยกับเพื่อนแล้วรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่เพื่อนธรรมดาเสียแล้ว ใจผมกระตุกวูบก่อนจะรู้สึกหวิว   ๆ ยิ่งเห็นพี่หมอเอานิ้วไปเขี่ยผมให้พี่ฉลามผมต้องเบนหน้าหนีไปทางอื่น ไม่อยากมอง ทำไมผมรู้สึกใจแป้วมาก มากกว่าตอนเห็นพัดโบกจูงมือทามะอีก มีความรู้สึกว่าพี่ฉลามขับรถช้ามาก คงจะคุยเพลินลืมว่ามีคนเจ็บอยู่ด้วยล่ะสิ


“ขอบใจนะหมอ” พี่ฉลามมาส่งพี่หมอเสร็จ ถึงหันมาหาผม คงเพิ่งนึกออกว่ามีผมอยู่ในรถด้วย

“เจ็บเหรอ สีหน้าไม่ดีเลย พี่ไม่กล้าขับเร็วกลัวจะกระเทือนไปถึงหลัง ไปโรงพยาบาลไหม” พอพี่ฉลามพูดจบผมรู้สึกผิดเลย ผมคิดไม่ดีทั้งที่ไม่มีสิทธิ์จะคิดด้วยซ้ำ เป็นบ้าอะไรวะกลอน ได้แต่ด่าตัวเอง

“ไม่เป็นไร กลอนไม่เจ็บ อืม แล้วพี่นึกยังไงโทรมาหากลอน ตั้งตีสองแล้ว” ผมรีบถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง รู้สึกว่าตัวเองโคตรงี่เงาที่ไปรู้สึกแบบนั้น ผมเลือกเองที่จะปล่อยพี่เขาไป พี่เขาหันกลับไปขับรถแล้วถึงได้ตอบผม

“ก็โทรไปหาบุ้งตอนเที่ยงคืนบอกว่ากลอนยังไม่กลับ ทำงานอยู่ จนตีสองยังไม่เห็นห้องเปิดไฟเลยสงสัยว่าทำไมยังไม่กลับ” พอได้ยินคำตอบแล้วใจที่มันหวิวๆเหมือนจะหายไปกลับเต้นตึกๆเร็วขึ้น พี่เขามองมาที่ห้องผมตลอดเลยเหรอ

“ทำงานเพลินไปหน่อย ขอบคุณนะครับที่โทรมา ไม่ได้พี่กลอนคงแย่เลย”

“แล้วทำไมไม่โทรหาพี่” พี่ฉลามถามเสียงดุๆ

“กลอนเกรงใจ กลัวว่าพี่จะนอนแล้ว”

“นอนแล้วก็ตื่นได้ ต่อไปห้ามทำงานเกินสามทุ่มนะ ไม่งั้นพี่จะฟ้องแม่กลอน”

“อะไร ขี้ฟ้องอะ ก็งานมันเร่งนี่ครับ” ผมแก้ตัว

“แล้วถ้าเป็นอะไรขึ้นมาไม่คิดเหรอว่าจะมีคนเสียใจ” พี่ฉลามถามผม แต่ไม่ได้มองหน้าผมนะ พี่เขาขับรถ ผมนั่งหลัง แต่ผมมองพี่เขาผ่านกระจกมองหลัง แววตาพี่เขาดูจริงจัง ออกแนวว่าโมโหผมที่ไม่ดูแลตัวเอง

“ก็ได้ กลอนจะไม่ทำงานเกินสามทุ่มแล้ว สองทุ่มห้าสิบเก้าปุ๊ป วิ่งออกมานอกออฟฟิซเลยสัญญา” ผมรีบบอก ได้ยินเสียงพี่เขาหัวเราะเบาๆ

“แฟนพี่เหรอครับ” ผมถามออกไปตรงๆ

“ก็คุยๆกันอยู่” พี่ฉลามก็ตอบตรงๆ ผมแอบลอบถอนหายใจ อยากจะร้องไห้ขึ้นมาซะงั้น แต่ก็ฝืนเอาไว้

“พี่เขาดูดีนะ”

“อืม” พี่ฉลามตอบสั้นๆ ผมเลยไม่ได้ถามอะไรอีก ได้แต่บอกตัวเองว่าต้องยินดีที่พี่เขาจะได้เจอคนที่คู่ควร


*****โปรดติดตามตอนต่อไป*****

ขอโทษนะคะที่หายไปนาน อย่างที่แจ้งไปแล้วด้านบน การสูญเสียครั้งนี้ทำเอาอ่อนแอไปเลย
ลุงเปรียบเสมือนพ่อคนที่สองของผู้แต่ง พอมันกะทันหันเลยทำให้ไปต่อไม่ถูก โชคดียังมีช่วงเวลา
ที่ให้เราทำใจได้เกือบเดือน เหมือนคุณปอเลย คงฮึดสู้ทนเจ็บทนโรคเพื่อให้ภรรยาได้เข้มแข็งอยู่อีก 70 วัน
ขอเป็นกำลังใจให้ภรรยาคุณปอกับน้องมะลิเข้มแข็งและก้าวต่อไปให้ได้นะคะ

ผู้อ่านทุกท่านก็เหมือนกัน ดูแลตัวเองดีๆนะคะ ดูแลคนสำคัญของคุณด้วย ทำให้ดีที่สุดเราจะได้ไม่เสียใจวันที่ต้องจากกัน

ส่วนเรื่องนิยาย จริงๆตอนเลิกรากันของพัดโบกมันมีรายละเอียดที่มากกว่านี้ แต่เบื้องบนขอเอาไว้ เขาอยากเล่าแต่
ความทรงจำที่ดีๆของผู้ชายคนนี้ เขาไม่อยากนึกถึงเรื่องนั้นแล้ว มันแย่มากสำหรับเขา ก็เลยตามนี้แล้วกันเนอะ

ถ้ามีคำผิดพรุ่งนี้จะกลับมาแก้ไขให้นะคะ รีบเอามาลงก่อน เห็นรอกันนานมากแล้ว ขออภัยหากตอนนี้มันมีข้อผิดพลาดนะคะ

รักผู้อ่านทุกท่าน ขอบคุณที่รอกันนะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย (ตอนที่ 1) 19/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 19-01-2016 19:26:00
ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจในความสูญเสียด้วยค่ะ

กลับมาที่เนื้อเรื่อง
เราบอกตรงๆว่าเราไม่แปลกใจที่พัดโบกทำแบบนั้น
เห็นนิสัยหลายๆอย่างของพัดโบกเช่นที่ทำออรัลตอนที่กลอนป่วย
ตามปกติถ้าอีกคนป่วย คนที่ดูแลจะไม่ทำแบบนั้นเพราะว่าใจเป็นห่วงกังวลถึงอีกฝ่าย
สำหรับเรานั่นคือไม่ให้เกียรติคนที่รักที่ป่วยอยู่
เราถึงรู้สึกว่าพัดโบกรักกลอนแต่ลึกๆก็ยังรักตัวเองมากกว่า
การที่พัดโบกเลือกที่จะโกหกมันอาจจะไม่ใช่เป็นการตั้งใจที่จะนอกใจ
แต่เลือกที่จะหาทางออกแบบง่ายๆสำหรับตัวเอง
พัดโบกเองก็รู้ว่าตัวเองตัดทางนั้นไม่ขาด
ยังอยู่ด้วยกัน โอกาสที่จะมีอะไรกันก็มากขึ้น
มองในแง่ไม่ดีพัดโบกเหมือนกับว่าพยายามยื้อไว้แล้วให้ชะตาเป็นตัวตัดสิน

สำหรับเรากลอนยังเป็นตัวละครที่เราชอบมากๆ
เข้มงวดกับตัวเอง ไม่เถลไถลออกนอกทาง
ตอนที่คุยกับทามะนั้น เรารู้สึกถ้ากลอนเป็นลูกเราๆจะภูมิใจมาก
กลอนแสดงถึง self-respect ที่มีให้คนอื่นด้วย
หนทางที่กลอนเลือกอาจจะเจ็บ
แต่ทำไมจะต้องเลือกรับในสิ่งที่ด้อยค่ากว่าในเมื่อกลอนเองก็ให้เขาเต็มร้อย
ไม่ใช่ไม่ให้โอกาสแต่เราเชื่อว่าถ้าหากว่าอยุ่ด้วยกันไป
พัดโบกจะต้องมีการโกหกมากกว่านี้
ในวันนั้นต้องยอมรับว่าโกหก
ต้องบอกความจริงว่าได้นอกใจนอกกายไป
ก็เพราะว่าทามะเองก็อยุ่แถวนั้น 
จับโกหกได้ไม่ยากหรอก
หรืออาจจะเพราะความดีงามก็ได้
ความรักของพัดโบกกับกลอนเหมือนดอกไม้ไฟ
สวยงามร้อนแรงในวันที่ดีที่สุด
แต่ก็สั้นเหมือนจุดเทียนสองด้าน

เจ็บแทนกลอนค่ะ ทั้งพัดโบกและพี่ฉลาม
แต่เราเห็นด้วยกับที่กลอนทำ
พี่ฉลามเองก็เริ่มเจอคนอื่นที่สามารถทำให้พี่ฉลามมีความสุขได้
กลอนได้รับความรักและหลายๆอย่างจากพี่ฉลามอย่างเหลือล้น
ที่กลอนเงียบไม่บอก เพื่อปล่อยโอกาสให้พี่ฉลามได้เจอความรัก
กลอนก็ไม่ควรให้พี่ฉลามน้อยกว่านี้
เรายังอยากจะเชื่อคำที่คนเขียนเคยบอกไว้นะว่า คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน
ยังมีความหวังลึกๆกับพี่ฉลาม-กลอน

เด่นกับบุ้งนี่ทำเอาช็อคไปเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าจะไปกันรอดไหม  แต่ก็อยากให้ไปกันรอดได้
นิสัยใจคอเด่นกับกลอนเข้ากันได้ดีอยู่กันได้
ก็คงต้องรอดูกันต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย (ตอนที่ 1) 19/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-01-2016 19:28:01
 :katai1:   ปวดใจ

ทำไมพัดโบกเป็นคนแบบนี้.  แล้วจะทำร้ายทามะอีกคนเหรอ พัดเห็นคนที่รักพัดเป็นอะไร สิ่งของเหรอไม่อยากรื้อฟื้นอะนะ
เข้าใจว่าคนเล่าก็เจ็บปวดเหมือนกันที่ต้องเล่าออกมาขนาดไม่หมดนะยังจี้ดขนาดนี้ กลอนเข้มแข็งมากจริงๆ. และพูดได้ดีมาก เอาเข้าจริงก็ยังเสียดายพี่ฉลามนะแต่พอเห็นแกแล้วเราสงสารพี่เขามากเหมือนกัน พี่แกคยติดตามสารทุกข์สุขดิบตลอด
เป็นเหมือนคนในครอบครัว  ถ้าเขาเจอตัวจริงก็อวยพรนะ เป็นพี่น้องกันมันก็ดี
ใครจะไปรู้ล่ะว่าถ้ากลับมาคบกันจะทำร้ายใครอีกหรือเปล่า

เห้อ กลอนเอ๋ยยตัวจริงของเธอคือใครกันน้อ.   :mew6:     :กอด1:   

ขอบคุณค่ะที่มาต่อ รอๆๆ. คนเขียนสู้ๆนะคะ ศึกษาธรรมะจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นได้ค่ะ เดี๋ยวนี้หาฟังเทศน์ง่ายมากแค่เปิดยูทูบค่ะ
สวดมนต์ก็ช่วยได้นะคะ. จะต้องผ่านช่วงเวลาที่อ่อนแอไปได้แน่นอน แค่จะต้องใช้เวลาสักหน่อย
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย (ตอนที่ 1) 19/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 19-01-2016 19:49:05
เป็นกำลังให้ทั้งกลอนแล้วก็คนเขียนนะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย (ตอนที่ 1) 19/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 19-01-2016 20:48:51
พี่ฉลาดดูเหมือนจะเป็นคนที่เหมาะกับกลอนที่สุด
แต่จริงๆเด่นน่าจะเป็นชายเหนือชายเร็วกว่านี้นะ
อาจได้คู่กับกลอน
หรือสุดท้ายจะเป็นพี่นุ๊กที่จะมาเป็นตัวจริง
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย (ตอนที่ 1) 19/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: littlegift ที่ 19-01-2016 21:47:41
ที่จริงเราเชียร์พี่ฉลามสุดใจขาดดิ้น 5555 แต่ความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคนเนาะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนและกลอนค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย (ตอนที่ 1) 19/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 19-01-2016 22:54:18
อ่านถึงตอนนี้แล้วจะไม่ขอเชียร์ใครอีก
เบื่อกับการผิดหวังเต็มทน

..คุณทำให้ผมอ่านไปน้ำตาไหลไปพร้อมๆกัน..
เศร้าซะจนไม่อยากจะเชื่อเลยว่า"มันเกิดขึ้นจริง"

ขอใส่เพลงนี้ให้เพื่อนๆในเล้าฟัง
เป็นเพลงที่ผมชอบที่สุด..ที่สุดสุด
ถ้าเศร้ามากกกกกกก จะเปิดเพลงนี้ฟัง
https://www.youtube.com/v/ZX9zunPZkzc

 :o12:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย (ตอนที่ 1) 19/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: marisa9397 ที่ 19-01-2016 23:18:25
อ่านแล้วแบบสงสารกลอนจัง กลอนตัดสินใจว่าจะรักพัดโบก ก็ซื่อสัตย์กับพัดโบกคนเดียว กลับมาเจออะไรแบบนี้
ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบตัวกลอน มีความเข้มแข็ง และเด็ดเดี่ยว อยากให้กลอนได้เจอกับคนดีๆ ในใจแอบหวังให้เป็นพี่ฉลาม
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวกลอนและชะตาลิขิตค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ และขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียอีกครั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย (ตอนที่ 1) 19/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 19-01-2016 23:29:29
สู้ๆนะคะคนเขียน

ส่วนเนื้อเรื่องค่อนข้างดราม่าเลย เศร้าจัง เมื่อไหร่กลอนจะเจอคนที่อยู่ข้างๆได้ตลอด รออ่านตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย (ตอนที่ 1) 19/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 20-01-2016 00:06:05
โถ่เอ้ยยย กว่าจะได้มาก็ยาก ยังจะมาทำแบบนี้อีก
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย (ตอนที่ 1) 19/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: AuyAaiz ที่ 20-01-2016 10:35:08
พัดโบกก็เเค่พัดผ่านมาเเละก็ผ่านไป

ในใจหนูเชียร์พี่หลามมาตลอด คนดีของน้อง :ling1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย (ตอนที่ 1) 19/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 20-01-2016 12:02:26


น่าน! คบกันได้ไม่นาน (ในความรํู้สึกคนอ่าน) พัดโบกก็ออกอาการแล้วเหรอลูก?
เฮ่อ! ป้านี่สงสารกลอนซ้ำซ้อนในอารมณ์มาก นึกว่าพ่อจะเจอความรักและคนรักที่ดีอยู่แล้วเชียว
บอกกง ๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลยที่เราปลาบปลื้มกับการแสดงอารมณ์ของนายเอกในยามที่พบเจอเรื่องเจ็บปวดจากความรักจริง ๆ ตลอดมา... กลอนต้องพบเจอกับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าจนรับมือกับมันได้อย่างมีสติ และดูแพงมากในสายตาป้า - คือบอกเลยว่าถ้าป้าเป็นคนที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตกลอน ป้าจะเสียดายกลอนมากเมื่อนึกย้อนกลับไป

ไม่เป็นไรลูก ตั้งต้นกันใหม่... ตอนนี้โสด สวย ใส ใช้ชีวิตให้เต็มที่ อยู่ให้ชายชาตรีทั้งโลกหล้าต้องเสียดาย!!!
แต่ป้าแอบเชียร์พ่อหลามนะ คือ มันยุกยิกในใจ อยากให้เขากลับมาได้กัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า

รออ่านตอนต่อไป และเป็นกำลังใจให้ผ่านช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าไปได้โดยเร็วค่ะ
ถ้าไม่ไหว... รับอ้อมกอดจากเราได้นะคะ เรายินดี ^^  :กอด1:

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย (ตอนที่ 1) 19/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 20-01-2016 14:56:16
เข้ามาเม้นท์อีกรอบ
หุหุ


ไม่เป็นไร ใจจะขาด แหว่งหวาดวิ่น
ไม่เป็นไร ใจพังภินท์ จะดิ้นไหว
ไม่เป็นไร ใจระรัว รั่วไหลไป
ไม่เป็นไร ใจเคยชิน หมดสิ้นความ

แค่ลมพัด พาดผ่าน ซ่านผิวเนื้อ
จึงไม่เหลือ ร่องรอย ให้คอยถาม
ห้ามโบกหวน ทวนมา อย่าติดตาม
เพราะพัดทราม โบกชั่ว โง่งั่วเกิน



ป้อล่อ..อึดอัดอ่า ต้องระบายเขียนออกมาเป็นกลอนถึงจะบรรเทาเบาลงได้
(จิตตก) ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย หุหุ

อิพัด ดวกกกกกกกมากกกกกกก..เมิงอ่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 6 กลับคำเสีย (ตอนที่ 1) 19/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 20-01-2016 16:28:21
จากเพื่ออะไรใหม่ๆจะได้เข้ามา เนอะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 21-01-2016 14:56:14
บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ)


หลังจากคืนวันที่พี่ฉลามมาส่งผมแล้ว เกือบสองเดือนนะที่เราสองคนไม่ได้เจอกันเลย ไม่ใช่เพราะพี่เขาห่างหายไปเพราะมีแฟน เป็นผมเองที่ปฏิเสธเวลาพี่เขาโทรมาชวนไปกินข้าวด้วยกัน ในตอนนั้นผมใช้เรื่องงานมาอ้าง แต่จริงๆแล้วผมไม่อยากให้ตัวเองใกล้ชิดพี่เขา อย่างที่เคยบอก ผมไม่เคยไม่รักพี่ฉลาม แม้กระทั่งตอนที่ผมคบกับพัดโบก แต่ผมก็จะวางระยะห่างที่พอดีๆและควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้ แต่ในวันที่ผมไม่มีใครแบบนี้ การอยู่ใกล้คนที่เรายังรักมันคงไม่ดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะการที่เขามีคนที่คุยอยู่แล้วด้วย


“ไหนมึงบอกว่าจะซื้อห้องที่นี่ไง นี่ถ้าบุ้งไม่บอกว่ามึงตัดสินใจเอาที่โน้นแน่ๆกูก็คงไม่รู้” ไอ้เด่นโวยวายผมเมื่อรู้ว่าผมจะไปซื้อห้องชุดขนาดกลางที่อื่น ไม่ใช่ที่นี่อย่างที่เคยบอกมัน

“ก็ไม่ได้ไกลจากนี้สักหน่อย ที่นี่มันก็ดี แต่มันอยู่ในซอย เราไม่มีรถ ตรงนั้นมันสะดวกกว่า ทำเลที่นั่นก็ดี เกิดต่อไปอยากขายไปซื้อบ้านก็ขายง่าย” ผมบอกมัน

“กูไม่อยากให้มึงไปเลย อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน” เด่นยังคงทำหน้างอใส่ผมไม่เลิก

“เปลี่ยนใจไม่ได้เหรอกลอน ฉันไม่อยากให้แกไปอยู่คนเดียว” บุ้งเดินมานั่งข้างๆผม

“โอ้ย เราโตแล้วนะเว้ย ห่วงอะไรกัน” ผมนึกขำมัน ผมจะย้ายออกอาทิตย์หน้านี้แล้ว ห้องที่ผมซื้อเป็นห้องที่ตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีทุกอย่างพร้อม เอาแค่เสื้อผ้าก็ไปอยู่ได้เลย ราคาก็แพงพอสมควร แต่เอาเงินเก็บของผมและเงินที่พ่อทิ้งให้เอาไว้ แบ่งส่วนหนึ่งมาดาวน์เกินครึ่ง ที่เหลือก็ผ่อน จ่ายต่อเดือนก็เลยไม่มากเท่าไหร่ ไหวอยู่ครับ ไฟแนนซ์ที่พี่นุ๊กหามา ดอกก็ไม่แพงเท่าไหร่ เอาจริงๆผมก็ใจหายนะ อยู่ที่นี่มาจนเหมือนบ้านของตัวเองไปแล้ว

“พี่นุ๊กก็บ่น บอกแกดื้อ” บุ้งพูดไปก็ช่วยผมเก็บกองหนังสือใส่ลัง

“แกจะหนีอะไรรึเปล่าวะกลอน” เด่นถาม ผมเงยหน้าจากกองหนังสือมามองมันก่อนจะส่ายหน้า

“หนีอะไร เราไม่เคยหนีอะไร”

“ให้มันจริงเหอะ”

“จริงๆถ้าแกกลับไปหาพี่ฉลามมันก็ไม่ผิดเปล่าวะกลอน” บุ้งถามผม

“หิวแล้ว ออกไปหาอะไรกินกันเถอะ” ผมพูดขึ้น เด่นกับบุ้งถอนหายใจออกมาเกือบจะพร้อมกัน มันคงเบื่อที่จะพูดกับผมแล้วละ

“มึงนี่นะ ใจแข็งไม่เปลี่ยน กูขอไปดูดบุหรี่ รอที่รถเลยนะมึง” เด่นบ่นผมก่อนจะเดินออกไป บุ้งตบบ่าผมแล้วก็เดินตามเด่นออกไป


พอทั้งสองคนออกไปผมก็มองโมบายหอยที่ตอนนี้มันดูเก่าลงมาก ผมค่อยๆหยิบมันขึ้นมาก่อนจะใส่มันลงในกล่องกระดาษที่ซื้อมาสำหรับใส่ของมีค่าของผมอย่างเบามือ ผมอยากจะเถียงเด่นนะ ผมไม่ใช่คนใจแข็งเลยสักนิด เพราะไม่ใช่ ผมถึงกลัวว่าตัวเองจะทำให้พี่ฉลามลำบากใจ ตอนที่พัดโบกพยายามจะมาง้อผม ผมต้องตัดการติดต่อทุกช่องทาง ผมกลัวว่าผมจะใจอ่อน ผมกลัวว่าผมจะให้โอกาสเขาเข้ามาทำร้ายผมอีก ผมเหนื่อยแล้วที่ต้องร้องไห้ เหนื่อยแล้วที่จะผิดหวัง ผมก็พยามยามพิจารณาตัวเองนะ ว่าผมเป็นคนน่าเบื่อหรือเปล่า ผมมีข้อผิดพลาดตรงไหน ผมเป็นคนรักที่ไม่ดีหรือเปล่า ทำไมผมถึงต้องเป็นฝ่ายเสียใจเสมอ ข้อสรุปสุดท้ายที่ผมกระจ่างชัดที่สุด คือ ที่ผ่านมา ผมทำดีที่สุดแล้ว ผมควรเคารพตัวเอง เคารพการตัดสินใจของตัวเองในทุกเรื่องที่ผ่านมา แม้ว่าความรักไม่อยากอยู่กับผมนานๆ ก็ยังดีที่ความเกลียดนั้นมันก็จากไปด้วย ไม่มีคนรักและไม่มีคนที่ต้องเกลียดก็คงพอแล้วสำหรับผม

...
..
.

ผมยืนมองห้องนอนที่เหลือแค่เฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้นด้วยความรู้สึกหวิวๆ พอมาถึงเวลาที่ต้องย้ายไปจริงๆผมก็ใจหาย ผมเดินไปที่ระเบียง มองไปที่ห้องนอนของพี่ฉลาม เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นที่นี่และที่บ้านตรงข้ามมันยังคงเด่นชัดในใจของผมเสมอ โชคชะตาพาผมให้ได้มารู้จักกับครอบครัวนั้น มีทั้งความสุขและความเจ็บปวด ผมจะพยายามทำตัวเองให้รักพี่ฉลามได้ในฐานะพี่ชายเร็วๆ เพราะผมยังอยากเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของพี่เขาเหมือนเดิม โดยที่ไม่ทำให้พี่เขาลำบากใจและตัวเองก็ไม่เจ็บปวด ตอนผมตัดสินใจเลือกพัดโบก วินาทีนั้นพี่ฉลามคงรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดไม่ต่างจากผมในตอนนี้ แต่พี่เขาก็ยิ้มให้ผมเพื่อให้ผมสบายใจและอยู่กับความเจ็บปวดนั้นได้ ผมก็ต้องทำให้ได้เหมือนกัน ต้องร่วมยินดีที่พี่เขาจะมีใครสักคนมาเคียงข้าง


“กลอน”

“พี่นุ๊ก” ผมหันมาตามเสียงเรียกก็เห็นว่าเป็นพี่นุ๊กที่เดินเข้ามาในห้อง ผมเก็บของของผมไปที่คอนโดใหม่เรียบร้อยแล้ว วันนี้แค่มาเช็คอีกทีว่ายังลืมอะไรหรือเปล่า ส่วนเด่นกับบุ้งก็ออกไปกินข้าวด้วยกัน มันสองชวนผมแล้ว แต่ผมขี้เกียจไป แต่บังเอิญมาเจอกับพี่นุ๊กที่มาคุยกับนิติที่ดูแลคอนโดพอดี พี่เขาเลยรู้ว่าผมอยู่ที่นี่ พอพี่เขาคุยเสร็จพี่เขาเลยแวะขึ้นมาหาผม

“เรียบร้อยดีไหม”

“ดีครับ กลอนต้องขอบคุณพี่นุ๊กมากๆเลยที่ส่งคนไปช่วยตรวจสอบความเรียบร้อยของคอนโดใหม่ก่อนที่กลอนจะทำเรื่องโอน เขาดูให้กลอนละเอียดมากเลย พบจุดที่ต้องแก้ตั้งหลายที่ แต่มันก็ไม่ได้เป็นจุดใหญ่อะไร”

“ไม่ใช่พี่หรอก ฉลามมันจัดการทั้งนั้น” ผมอึ้งไปที่ได้รู้

“อ้าว ก็บุ้งบอกว่าพี่นุ๊กหามาให้นี่นา”

“บุ้งคงไม่กล้าบอก ฉลามมันบอกว่ากลอนหลบหน้ามัน มันก็ไม่อยากให้กลอนอึดอัด”

“เขาบอกพี่แบบนั้นเหรอครับ” ผมหน้าจ๋อยเลย แต่ก็คิดว่าพี่ฉลามคงรู้แหละครับ

“กลอนเป็นคนชอบคิดก่อนทำ มันดีนะ มันทำให้เราผิดพลาดน้อย แต่มันก็ใช้กับบางเรื่องมากไม่ได้ เรื่องบางเรื่อง ต้องปล่อยให้ใจนำทางบ้าง” พี่นุ๊กพูดพร้อมกับเดินออกมาที่นอกระเบียง มองไปที่ห้องพี่ฉลาม ที่มืดสนิทอยู่

“พี่เขามีคนที่กำลังคบด้วยอยู่แล้วนะครับ” ผมบอกกับพี่นุ๊ก

“กลอนอยากเห็นฉลามมันมีความสุขใช่ไหม” พี่นุ๊กถามผม ผมพยักหน้าให้

“แล้วกลอนไม่รู้เหรอ ว่าอะไรคือความสุขของมัน” พี่นุ๊กหันมาถามผม ผมนิ่งอึ้งไป

“ไม่ใช่กลอนไม่อยากทำอย่างที่ใจอยากทำ แต่กลอนไม่อยากสูญเสียแล้ว นอกจากแม่ พี่ฉลามเป็นอีกคนหนึ่งที่กลอนไม่อยากให้หายไปจากชีวิตกลอนเลย กลอนคบกับใครก็ไปไม่รอด อีกอย่าง กลอนทำพี่ฉลามเสียใจ กลอนยังรู้สึกแย่อยู่เลย” ผมสารภาพกับพี่นุ๊กตรงๆ

“แต่ที่กลอนทำอยู่ในตอนนี้ก็เหมือนผลักให้ฉลามมันไปจากชีวิตนะ” พอพี่นุ๊กพูดกลับมาแบบตรงๆเหมือนกัน ผมก็จุกไปไม่น้อย

“ถ้าเราเกิดมาเพื่อกัน สักวันก็คงลงตัวเองแหละครับพี่นุ๊ก ว่าแต่พี่นุ๊กล่ะ ได้ข่าวว่าไปจีบเด็กในสังกัดของพี่แนนซี่เหรอครับ” ผมหาเรื่องแซวพี่นุ๊ก เพราะยังไม่อยากพูดเรื่องพี่ฉลาม

“บุ้งบอกอีกละสิ น่าให้ไปเป็นนักข่าวจริงๆ”

“แล้วดีไหมละ คบเด็กๆ”

“ก็ดีนะ เอาใจเก่งดี”

“หวังว่าคนนี้จะใช่สำหรับพี่นะ”

“พี่เคยเจอคนที่ใช่มากๆแล้ว เลยไม่รู้ว่าจะเจอใครที่ใช่ได้กว่านี้รึเปล่า” พี่นุ๊กพูดพร้อมกับหันมายิ้มให้ผม  ก่อนจะเบนสายตาออกไปมองที่ด้านนอกอีกรอบ ผมได้แต่ยิ้มกลับแบบทำหน้าไม่ถูก เพราะอ่านสายตาพี่เขาออกว่าเขาหมายถึงใคร

“แล้วจะกลับคอนโดยังไง พี่ไปส่งไหม” พี่นุ๊กหันมาถามผมเมื่อเห็นว่าบรรยากาศมันเงียบเกินไปแล้ว
“อ๋อ เดี๋ยวกลอนเรียกแท็กซี่ครับเพราะกลอนว่าจะแวะไปซื้อของใช้เพิ่มนิดหน่อย ถ้ายังไงกลอนกลับเลยดีกว่า จะได้ฝากกุญแจห้องให้บุ้งด้วยเลย”


ผมส่งมอบกุญแจห้องให้พี่นุ๊กแล้วก็เดินออกมาเรียกรถหน้าปากซอย เรียกแท็กซี่ไปห้างสรรพสินค้า อยากหาซื้อของใช้อีกนิดหน่อย ระหว่างที่กำลังเลือกของ ผมเห็นพี่หมอเดินเลือกซื้อของอยู่เหมือนกัน แต่มาเดินกับผู้ชายที่ไม่ใช่พี่ฉลาม ผมมองตามไปพี่หมอหันมาพอดี เขาเห็นผมปุ๊ปก็ส่งยิ้มมาให้แล้วรีบเดินมาหา


“หลังเป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บยังยอกอยู่ไหม” พี่เขาทักผม ผมยกมือไหว้ ไม่คิดว่าพี่เขาจะจำหน้าผมได้

“ไม่เจ็บแล้วครับ ตอนนั้นนึกว่าจะเป็นอัมพาตซะแล้ว ขอบคุณพี่หมอมากนะครับ ยาที่พี่หมอให้กิน กินแล้วหายเจ็บเลย” ผมตอบกลับไป

“แล้วอย่านั่งทำงานนานๆอีกนะ ถ้าเจ็บบ่อยๆนานไปมันจะมีผลกับกระดูกสันหลัง แล้วนี่มาคนเดียวเหรอครับ” พี่หมอถามผม

“ครับ”

“อ่อ ลืมแนะนำ นี่เพื่อนพี่ ชื่อม่อน ม่อน นี่น้องกลอน” พี่หมอแนะนำ เอาจริงๆผมยังไม่รู้เลยว่าพี่หมอชื่ออะไร เจอกันครั้งเดียวเอง ไม่ได้ถามพี่ฉลามด้วย นาทีนั้นไม่ได้อยากรู้ละเอียดเหมือนกัน มันจี๊ดๆ แต่พี่เขาก็ชวนคุยจนไม่รู้สึกว่าแปลกหน้าต่อกัน

“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้เพื่อนพี่หมอ

“สวัสดีครับ กลอน ชื่อคุ้นจัง” พี่ม่อนทำหน้าครุ่นคิด

“อ๋อ กลอนไอ้หลามอะเหรอ” พี่ม่อนพูดขึ้นมาจนผมทำหน้าไม่ถูก พี่หมอหัวเราะก่อนจะพยักหน้า
“พี่ไปนะ มาดูหนัง ได้เวลาจะฉายแล้ว เบื่อคนมาสาย” พี่หมอพูดกับผม ผมยกมือไหว้ลาพี่เขาทั้งสองคน แต่ประโยคที่ผมได้ยินจากพี่ม่อนที่พูดกับพี่หมอทำเอาผมต้องอึ้งไปอีก

“รอก่อนที่รัก”


ที่รักเหรอ...
กลอนไอ้หลามอะเหรอ...


สองประโยคนี้ทำเอาผมสับสน ถ้าพี่หมอไม่ใช่คนที่พี่ฉลามคบด้วย งั้นเป็นใครกัน แต่พี่ฉลามบอกว่าคุยกับพี่หมอนี่นา พี่ฉลามโกหกผมเหรอ ผมได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้แล้วเดินหาซื้อของต่อ ซื้อทุกอย่างครบก็เริ่มหิว แต่ขี้เกียจกินในห้าง คนเยอะไปหมด เลยคิดว่าจะกลับไปกินมาม่าที่คอนโด นั่งแท็กซี่กลับมาจอดถึงหน้าคอนโดแล้วก็ต้องอึ้งอีกแล้ว ชีวิตผมอึ้งบ่อยจริงๆ แต่คราวนี้อึ้งใหญ่ เพราะรถที่มาจอดเสียบอยู่ด้านหน้าคือรถของพี่ฉลาม ผมจ่ายเงินแท็กซี่เสร็จก็เดินไปที่รถคันที่ผมคุ้นเคย พยายามมองเข้าไปในกระจกที่ดำสนิท แต่มองไม่เห็นเพราะฟิล์มรถมันดำมาก ผมแนบหน้าไปจนชิดกระจกด้านข้างคนขับ เอามือป้องแสงจากด้านข้าง ไม่รู้ว่าพี่เขาหลับรึเปล่าเพราะผมเคาะเรียกก็ไม่เห็นเปิดกระจก แต่รถก็ยังสตาร์ทอยู่


“เฮ้ย” ผมร้องตกใจเพราะกำลังแนบหน้าส่องดูอยู่ดีๆกระจกรถก็รูดลง จมูกของผมเกือบชนกับจมูกของคนในรถ ผมผงะออก ได้ยินเสียงพี่ฉลามหัวเราะชอบใจ

“ตลกว่ะ” พี่ฉลามบอก ผมนิ่วหน้า ตลกจังนะได้แกล้งผมเนี่ย

“เล่นอะไรอย่างกับเด็ก” ผมต่อว่า พี่เขากดกระจกให้ปิด ก่อนจะดับเครื่องแล้วเดินลงมา ในมือหิ้วอะไรมาด้วยเต็มไปหมด

“หิวแล้ว รอตั้งนาน” พี่เขาชูถุงของขึ้น

“แล้วทำไมพี่ไม่กินมาละ”

“อยากกินบนคอนโดใหม่อะ เร็วดิ หิว” พี่เขาจับผมหันหลังแล้วดันให้เดิน ผมก็พาเขาเดินมาจนถึงห้อง เสียบคีย์การ์ดเปิดประตู พี่เขาก็เดินตามเข้ามา มองไปรอบๆก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาหนังสีขาวตัวใหญ่ ผมชอบมาก เป็นมุมที่เห็นแล้วถึงตัดสินใจว่าซื้อ

“อยู่ทนจังเนอะ ของพี่ต้องเอาไปเปลี่ยนเอ็น กลัวมันขาด” พี่ฉลามมองไปที่โมบายหอยแล้วตะโกนพูดกับผม ที่ผมแขวนเอาไว้ที่มุมห้อง ผมไม่อยากเอามันไปแขวนข้างนอก กลัวมันโดนลมแล้วจะพังเร็ว

“มาช่วยกลอนแกะกับข้าวหน่อยสิ หิวไม่ใช่เหรอ” ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ เดินไปเปิดแอร์ให้เพราะพี่รู้ว่าพี่ฉลามขี้ร้อน

“แล้วเราไม่หิวเหรอ” พี่ฉลามถามผม

“ก็หิว” ผมตอบ


(มีต่อด้านล่างค่ะ)

V
V
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 21-01-2016 14:59:19
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


พี่เขาเดินมาโยกหัวของผมก่อนจะคว้าถุงกับข้าวเดินเข้าไปในส่วนของครัว เป็นครัวที่ไม่ใหญ่เท่าไหร่ มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นเอาไว้ แต่อุปกรณ์ในครัวนี่ผมก็ชอบมาก ถูกใจทุกอย่าง ถามว่าคุ้มใหม่ คุ้มนะ ผมว่าราคาที่ผมได้ถึงจะไม่น้อย แต่มันก็ถือว่าถูกถ้าเทียบกับ ทำเล ขนาดห้องและเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างที่ผมได้มา แม้จะมีจุดที่ต้องแก้ไข แต่ก็ไม่ได้แย่มากเท่าไหร่ เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น


“ซื้อมาเยอะจัง” ผมบอกเมื่อกับข้าวทุกอย่างวางอยู่ตรงหน้าแล้ว ผมกับพี่ฉลามต่างคนต่างก็กินไม่ได้คุยอะไรกัน คงจะหิวพอกัน กินอิ่ม เก็บล้างเสร็จถึงได้มานั่งเล่นกันที่โซฟามุมโปรดของผมเหมือนเดิม

“ห้องสวยดีนะ” พี่ฉลามชม

“อืม กลอนชอบ จริงๆก็เกรงใจพี่นุ๊กเหมือนกันที่ไม่ได้ซื้อที่โน้น” ผมบอก

“ไม่เกี่ยวเลย คอนโดนั้นพี่นุ๊กขายขาดหมดแล้ว แค่ดูแลส่วนกลางให้อยู่ บริการหลังการขายดีเยี่ยม”

“กลอนมาซื้อที่นี่ มันเดินทางสะดวกดี”

“งี้ก็อดแอบมองบ้านตรงข้ามแล้วสิ” พี่ฉลามพูดจบผมก็ถลึงตาใส่

“พี่ต่างหาก ระวังมองไปเจอบุ้งกับไอ้เด่นจู๋จี๋กันจะเป็นตาแดงเอาเหอะ” ผมรีบสวนกลับ

“ย้ายมาก็ไม่คิดจะบอกกันเลย พี่เป็นคนอื่นไปแล้วใช่ไหม” คราวนี้น้ำเสียงไม่ได้กวน แต่ออกแนวตัดพ้อจริงจัง ผมรู้สึกผิดนะเมื่อได้ยิน

“กลอนขอโทษนะครับ” ผมบอก ไม่มีอะไรจะแก้ตัว สำหรับพี่ฉลาม คนที่ผมคิดว่ารู้ในทุกสิ่งที่ผมทำ มันไม่มีประโยชน์ที่จะแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น

“ไม่อยากยกโทษให้เลย ใจร้ายว่ะ”

“กลอนรู้ว่าพี่รู้ ว่ากลอนคิดยังไง” ผมพูดจบพี่ฉลามก็ถอนหายใจเบาๆ

“แล้วกลอนเคยรู้บ้างไหมว่าพี่คิดยังไง” พออีกฝ่ายย้อนถามมา ผมก็พูดไม่ออก

“พี่ให้กลอนเลือกไปกับมัน เพราะไม่อยากให้กลอนรู้สึกติดค้าง แล้วทำไมตอนนี้ที่กลอนไม่มีใครแล้ว กลอนถึงเลือกที่จะไม่บอกพี่ ที่สำคัญ มันทำร้ายกลอน ทำไมไม่บอกพี่สักคำ” พี่ฉลามดูจะโกรธผมจริงๆ เมื่อกี้ยังอารมณ์ดีอยู่เลย ผมเลยไม่กล้าเถียงอะไร

“กลอนเลือกเขา ถึงเวลาที่กลอนไม่สามารถไปต่อได้ กลอนก็ไม่อยากเอาเปรียบพี่ ไม่อยากให้พี่รู้สึกว่าเพราะกลอนไม่เหลือใครแล้วถึงกลับมา ไม่อยากเอาเรื่องแย่ๆของกลอนมากวนใจพี่อีก”

“แปลว่าอยู่เองได้คนเดียวใช่ไหม สองเดือนที่ผ่านมา ไม่มีพี่กลอนก็มีความสุขดีใช่รึเปล่า” พี่ฉลามถามผม ผมไม่ได้ตอบ นั่งก้มหน้าน้ำตาจะไหล พี่เขาไม่เคยทำเสียงดุผมจริงจังขนาดนี้เลยตั้งแต่รู้จักกับมา มันดูซีเรียสจนผมใจเสีย


พอผมไม่ตอบ ก็ได้ยินเสียงพี่เขาถอนหายใจ สักพักพี่เขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องผมไปเลย ผมน้ำตาตกทันที อยากจะลุกไปดึงเขา แต่ทำได้แต่คิด ผมสับสน ผมไม่รู้ว่าถ้าผมตัดสินใจทำไปแล้ว อนาคตผมจะต้องเสียใจอีกไหม มันจะมีอะไรผิดพลาดอีกไหม คิดบ้าบออยู่ในหัว นั่งก้มหน้าร้องไห้อยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า ผมกำลังจะเสียพี่ฉลามไปแล้วจริงๆเหรอ


แกร๊ก...


ผมได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา ไม่อยากเงยหน้าขึ้นมามอง กลัวจะไม่ใช่พี่ฉลาม กลัวจะผิดหวัง หวังว่าขอให้เป็นเขาที่เปลี่ยนใจกลับมา แล้วผมจะไม่ปล่อยพี่เขาไปอีก จนกระทั่งคนที่เดินเข้ามายืนตรงหน้าของผม เอามือวางบนหัวแล้วยีเส้นผมของผม


“พี่เดินออกไปยังไม่คิดจะรั้งเลย เฮ้อ จะใจร้ายกับพี่อีกนานแค่ไหนวะกลอน อยากเห็นพี่ร้องไห้เหรอ ถามจริง จะได้ร้องให้ดู” พอพี่ฉลามพูดจบผมก็โผกอดเอวพี่เขาเลย ร้องไห้เหมือนเด็กๆ

“อย่าไปนะครับ อย่ามีใครได้ไหมครับ กลอนขอโทษ กลอนไม่อยากให้พี่มีใครเลย พี่จะรู้สึกแย่ไหมที่กลอนไม่ได้เลือกพี่ในวันนั้นแล้วมาขอพี่แบบนี้ แล้วเรารักกันได้ใช่ไหม พี่จะไม่ทิ้งกลอนไปไหนอีกใช่ไหม พ่อกับแม่ของพี่จะยอมรับเราได้จริงๆใช่ไหมครับ เราจะทำให้ใครผิดหวังรึเปล่า เราจะไม่เลิกกัน ไม่โกรธเกลียด ไม่ผิดหวังในกันและกันใช่ไหมครับ” ผมพูดไปร้องไห้ไป พร่างพรูออกมาหมดราวกับว่าถ้าไม่ได้พูดผมคงไม่มีโอกาสได้พูดแล้ว

“หึหึ คิดอะไรเยอะขนาดนี้กลอน...” น้ำเสียงพี่ฉลามดูจะกึ่งขำกึ่งสงสารผม

“ก็กลอนกลัว”

“กลอนยังรักพี่ไหม..”

“รัก กลอนรักพี่ ไม่เคยไม่รักเลย”

“แค่นี้ก็พอแล้ว คิดแค่นี้ก็พอ”

“อื้อ..กลอนรักพี่” ผมพยักหน้าแล้วกอดเอวพี่เขาแน่นเลย


ร้องไห้จนหนำใจแล้วก็ขอตัวไปล้างหน้าล้างตา พอเดินออกมาอีกทีรู้สึกเขินๆเหมือนกัน เขินที่ทำตัวไร้สาระแล้วก็มานั่งร้องไห้เอง ยิ่งเห็นสายตาของพี่ฉลามที่มองมาผมยิ่งประหม่า ไม่คุ้นชินเสียทีกับสายตานี้ สายตาที่ทำให้หวั่นไหวได้ตลอด


“พี่เลิกกับพี่หมอแล้วเหรอ” ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆพี่ฉลาม พี่เขายกมือขึ้นมาลูบๆที่ตาผม ตอนนี้มันบวมตุ่ยเลย

“ไม่ได้คบกัน”

“อ้าว ไหนว่าคุย”

“ก็คุย แล้วต้องคบเหรอ”

“จะไปรู้ได้ไง”

“ไม่เคยมองผู้ชายคนอื่นแล้วรู้สึกอยากเอามาเป็นแฟนหรอกนะ เกิดมาก็มีคนเดียวที่รู้สึกแบบนั้นได้ เล่นคุณไสยใส่เปล่าไม่รู้”

“บ้า มาตกหลุมเองจะมาโทษได้ไง” ผมคว้าแขนพี่ฉลามมากอด ผมทำแบบนี้ได้แล้วใช่ไหม

“กลอนถามจริงๆ พี่ไม่ได้ปี๊งใครบ้างเลยเหรอ” ผมถามพี่เขา

“มันก็มี แต่ก็ไม่ได้อยากสานต่ออะไร”

“เพราะกลอนเหรอ” ผมถามเพราะอยากรู้จริงๆ

“เออดิ ไม่เคยจะรู้ตัวเลย”

“ก็นึกว่ารักคนอื่นไปแล้ว นึกว่าพี่ลืมกลอนแล้ว”

“ใจฉันมีแต่เธอ มีแต่เธอคนเดียว นอกจากเธอไม่เหลียวแลใคร” พี่ฉลามร้องเป็นเพลงออกมาทำให้ผมขำอีก ทำไมรู้สึกว่าแพรวพราวขึ้นนะ

“อันที่จริงพี่ก็เป็นคนหนักแน่นรักเดียวใจเดียวดีเนอะ กลอนโชคดีจัง” ผมพูดแล้วก็เอาหน้าไปซุกๆกับแขนพี่ฉลาม ได้ยินเสียงพี่เขาหัวเราะก่อนจะจับผมมาให้มองหน้าเขา

“ก็เพิ่งรู้ตัวเหมือนกันว่าตัวเองเป็นคนแบบนั้น พี่ก็เคยอยากตัดใจนะ แต่มันทำไม่ได้ อดเป็นห่วงไม่ได้เลย คุยกับใครสักพักก็เบื่อ สงสัยชาติที่แล้วติดค้างเราเอาไว้เยอะมั๊ง ผมยอมแล้วครับท่านเจ้ากรรมนายเวร” พี่ฉลามพูดแล้วยกมือไหว้ผม ผมตกใจรีบจับมือพี่เขาลงแล้วตีที่แขนพี่เขาเบาๆพร้อมกับหัวเราะเพราะตลกท่าทาง

“ไหนว่าไม่เชื่อเรื่องชาติภพไง”

“เชื่อก็ตอนเจอเอ็งนี่แหละ” พี่เขาจิ้มหน้าผากผม ผมขำ คราวนี้พี่เขาดึงผมไปกอด

“เราเดินทางมาไกลจริงๆนะกว่าจะมาถึงวันนี้ จำได้ไหมที่กลอนเคยถามว่าเมื่อไหร่จะเป็นวันของเรา เป็นวันนี้ดีไหม” ผมฟังแล้วอยากจะร้องไห้อีกแล้ว นึกย้อนไป กว่าจะมาถึงวันนี้ ตัวผมเองก็ผ่านเรื่องราวมาเยอะจริงๆ

“ดีครับ เป็นวันนี้เลย แต่กลอนน่าจะรู้เร็วกว่านี้ กลอนจะได้ไม่ออกมาซื้อคอนโดไกลบ้านพี่”

“แสดงว่าคิดจะหนีพี่จริงๆใช่ไหม”

“ไม่ได้หนีนะ แค่หลบมาทำใจต่างหาก”

“ยังไงก็หลบพี่ไม่พ้นหรอก”

“ทำไมอะ มั่นใจจังนะ”

“ก็นี่ห้องพี่เองแหละ”

“ห๊ะ” ผมตกใจ ดันตัวเองออกมาจากอ้อมกอด เห็นพี่ฉลามยิ้มแฉ่งใส่ผมเลย

“เพื่อนมันเอามาจำนองแล้วปล่อยหลุด แต่ยังไม่ทันได้โอน พี่แอบให้พี่เหิรเอาไปให้กลอนดูก่อนเพราะเห็นพี่นุ๊กบอกกลอนหาซื้อห้อง เห็นกลอนชอบห้องนี้ก็โล่งใจ ลูกไก่ในกำมือแล้ว หึหึ อ่อ..เดี๋ยวเงินดาวน์ที่ได้มาจะคืนให้นะ ส่วนไฟแนนซ์ที่พี่นุ๊กจัดมาให้ เดี๋ยวพี่จัดการต่อเอง ไม่ต้องส่งแล้ว

“ไม่เอาครับ กลอนอยากซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงกลอนเอง แต่ทำไมต้องทำอะไรแบบนี้ด้วย”

“ก็ที่นี่มันดี จะให้เปล่าๆเดี๋ยวก็ไม่เอาอีก จะให้เป็นค่าสินสอดก็กลัวแห้ว ใจแข็งชิบเลย จะช้ากว่านี้เดี๋ยวโดนคาบไปแดกอีก พี่เหิรบอกมีนายแบบมาจีบด้วยไม่ใช่เหรอ”

“กลอนไม่ใช่กระดูกนะจะได้โดนคาบ แล้วกลอนก็ไม่อยากรักใครแล้ว ขี้เกียจเจ็บบ่อยๆ”

“เอาน่า คราวนี้ไม่เจ็บแล้ว เอาหัวไอ้บุ้งเป็นประกันเลย” พี่ฉลามดึงผมไปกอดอีก นึกขำและนึกเคืองที่ทุกคนร่วมหัวกัน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ดี ขอแค่สุดท้ายแล้วผมจะได้อยู่กับพี่ฉลามได้นานที่สุดก็พอ

“กลอนไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เหมือนฝันเลย”

“หรือจะฝันอยู่” พี่ฉลามถาม ผมเงยหน้ามองพี่เขา ก่อนจะขยับตัวไปจุ๊บๆปากพี่เขาเบาๆ

“ไม่ได้ฝัน” ผมบอกแล้วหัวเราะ

“อาจจะฝันลึก”

“งั้นเดี๋ยวปลุกแรงๆนะ” ผมบอก พี่เขายักคิ้วให้

“ให้ไว ให้ไว” พี่เขาบอกจบผมก็เลยจัดการปลุกพี่เขาเลยครับ จะได้รู้กันไปว่าไม่ใช่ความฝันอีกแล้ว

....
...
..

..”คนเราถ้าคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกัน”..


มันก็คงจะจริงตามนั้น ผมเองก็ไม่ได้คิดจริงๆนะ ว่าสุดท้ายแล้วคนที่อยู่กับจนถึงทุกวันนี้ก็เป็นคนที่ผมคิดว่าเราไม่สามารถจะมาบรรจบกันได้อีก ผมคิดว่าผมกับพี่ฉลามอาจจะเป็นได้แค่เส้นขนาน เพราะในตอนนั้นเราคิดว่าแค่ความรักอย่างเดียวมันไม่พอจะให้คนสองคนครองคู่กันได้ เพราะรอบๆตัวเรายังมีเรื่องให้เราต้องใส่ใจ ต้องแคร์ ต้องเลือก แต่ในที่สุด เรื่องของผมกับพี่ฉลามทำให้ผมได้เปลี่ยนความคิด ความรักของเราทำให้เรามาถึงทุกวันนี้


ความรักทำให้เราเป็นห่วงเป็นใยกันเสมอไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะไหนต่อกัน มันยังคงเสมอต้นเสมอปลายเสมอ

ความรักทำให้เราเข้าใจกันแม้ในวันที่ไม่มีใครเข้าใจเรา เรายังคงยอมรับการตัดสินใจของกันและกันและอยู่กับมันด้วยความเข้าใจ

ความรักทำให้มองข้ามความผิดพลาดและพร้อมจะให้อภัย พร้อมจะยอมรับความผิดพลาดและให้โอกาสกันได้ ซื่อสัตย์ต่อกันไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน

ความรักทำให้เราเลือกที่จะกระทำต่ออีกฝ่ายด้วยการให้เกียรติครอบครัวของกันและกันและก็ให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วย

ความรักทำให้เรารู้ว่าการรอคอยเป็นแค่บททดสอบเพื่อรอเวลาที่เหมาะสมของมัน


ถ้าผมกับพี่ฉลามไม่มีคำว่า..ความรัก..ให้กัน สิ่งเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นได้ในระยะเวลาที่เราต้องห่างกัน และมันคงจะไม่มีวันนี้


ขอบคุณนะครับที่อ่านไดอารี่ของผมมาจนถึงบรรทัดนี้ เรื่องราวของผมมันอาจจะไม่ได้สวยงามทุกบทตอนของชีวิต แต่มันคือบทเรียนที่ผมน้อมรับมันด้วยความยินดี เพราะมันทำให้ผมเข้มแข็งและอ่อนแอในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันทำให้ผมรู้ค่าของความรัก


ผมเป็นชายรักชาย ความรักแบบที่คนส่วนใหญ่บอกว่ามันไม่จีรังเพราะผิดธรรมชาติ ความรักที่มักจะลงเอยด้วยความเจ็บปวด ผมอยากบอกว่า อย่าไปโทษความรักครับ ความรักไม่ได้เลือกว่าเพศไหนจะได้ครอบครองมันนานที่สุด ทุกอย่างล้วนอยู่ที่ตัวเราเองไม่ว่าจะเป็นเพศไหน เราเลือกได้ที่จะให้ตัวเองมีความสุขหรือเจ็บ ในขณะเดียวกันเราก็เลือกได้ที่จะรักษาเยียวยาและมองหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง เราทั้งนั้นที่ทำให้มันอยู่หรือจากไป


ผมขออวยพรให้คุณได้เจอความรักที่ดีและรักษามันเอาไว้ให้ได้ เพราะกว่าเราจะเจอมันหรือกว่ามันจะหาเราเจอ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ ผมเองก็จะรักษาความรักครั้งนี้ให้ดีที่สุดและหวังว่ามันจะเป็นบันทึกรักบทสุดท้ายของผมที่ผมจะเขียนมัน


..กลอน..(ของพี่ฉลามคนเดียว)


“พี่ฉลาม กลอนเพิ่งเห็น พี่มาเขียนในวงเล็บต่อทำไมอะ”

“หึหึ ไม่ได้เหรอ ใจร้ายวะคนเรา”


************** จบบริบูรณ์*****************


ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่านกันมาถึงบทสุดท้ายนี้ ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนกันไม่ปล่อยให้เดี่ยวดาย 55
และก็ขอบคุณที่ร่วมกันเอาใจช่วยให้กลอนได้พบกับรักที่สมหวัง กลอนสมหวังแล้วค่ะ แล้วก็หวังว่าท่านผู้อ่านทุกคนจะได้เจอคนที่ใช่และสมหวังในความรักเช่นกลอนนะคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้ผู้แต่งด้วย ถ้ามีโอกาสได้มีผลงานมาให้อ่านอีก อย่าลืมกันนะคะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ รักท่านผู้อ่านทุกท่าน


**ปล.คำผิดจะตามมาแก้นะคะ แต่ถ้าไม่ได้แก้เตือนได้นะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-01-2016 15:35:45
 :heaven.    เนื้อคู่กันสิจะคุณไสยอะไรยะพี่ฉลาม ตามมาจนถึงตอนจบบอกเลยว่าสุขมาก
คนรอบข้างกลอนรักกลอนนะถึงได้เอาใจช่วยจนถึงตอนนี้ ขนาดพี่หมอยังรู้ว่ากลอนของใคร 555
ใจหายวาบตอนพี่แกเดินออกจากห้อง แล้วพอมาเฉลยนะว่านี่ห้องพี่เองนี่แบบ แหม แอร๊ยร้ายจนได้ดีอะคุณพี่หลาม
จะรวบหัวรวบหางต้องแบบนี้  จะซื้อเรือนหอต้อง(แอบๆ)ถามแฟนสินะ กลอนชอบก็จบเลย  o13 

ขอบคุณมากค่ะ.ทั้งเบื้องบนและคนเขียนเลยค่ะ.  เป็นการเดินทางที่มีความหมายมากๆ เราก้เชื่อว่าทุกๆอย่างที่สำคัญในชีวิตมันมีความหมายและขึั้นอยู่กับเวลา เราเชื่อเรื่องโชคชะตาและเจ้ากรรมนายเวรค่ะ เจอทั้งคู่บุญและคู่กรรมค่ะ  ที่จากเราไปก็แค่เราใช้กรรมให้เขาเนาะ จบๆกันไป
ขอให้รักกันนานๆนะคะ ดูแลกันตลอดไป   :mew1: 
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: sunshine2513 ที่ 21-01-2016 15:53:23
ดีใจสุดท้ายก้อฉลาม
หัวข้อ: Re: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 21-01-2016 16:01:47
จบแล้ว
จบเร็วจัง อยากอ่านต่ออีก 55555

ยินดีกับกลอนแล้วก็พี่ฉลามนะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 21-01-2016 16:38:43
กลอนเหมาะกับพี่ฉลามที่สุดแล้ว
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 21-01-2016 17:06:12
กรี๊ดดดดดดด พี่ฉลามมมม น้องดีใจพี่ฉลามของน้องได้มีความสุขสักที
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: marisa9397 ที่ 21-01-2016 19:05:11
ดีใจกับกลอนและพี่ฉลามค่ะ ที่ต่างเจอกันและกัน ขอบคุณมากนะคะที่แบ่งปัน เป็นเรื่องที่ประทับใจมากค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 21-01-2016 19:40:06
 พี่ฉลามดีที่สุด รักมั่นคงดีแท้  หาได้ยาก   ดีใจที่กลอนสมหวังในความรัก. พ่อแม่พี่หลามกับกลอนรับรู้และเข้าใจ ไม่ขัดขวางความรักของลูกๆ ความสุขของลูกคือความสุขของพ่อแม่
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 21-01-2016 20:06:14
ถึงกลอนจะโชคไม่ดีเรืองความรัก(ก่อนหน้านี้) แต่มีเพื่อนดีมากกกกกกกกกจริงๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: littlegift ที่ 21-01-2016 21:57:01
เย้ๆๆๆๆ คือดีใจที่สุดท้ายเป็นพี่ฉลาม ดูก็รู้ว่าทั้งคู่รักกันมากแค่ไหน เชื่อแล้วว่า คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน มันมีอยู่จริง ขอบคุณคนเขียนและกลอนที่มาเขียนเรื่องราวดีดีแบบนี้ให้ได้อ่านนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 21-01-2016 21:57:47
 :o8: :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 21-01-2016 22:26:42
จบได้ happy ending มากๆ เลย จะมีตอนพิเศษไหม ยังอยากอ่านต่ออยู่เลย
ขอบคุณที่เขียนเรื่องนี้ ชอบมาก :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 21-01-2016 23:28:26
ปมมัดปม กลมไยไหม ให้ยุ่งยาก
ใจมัดใจ ถึงลำบาก ยากแค่ไหน
ถ้าเรารู้ อยู่คู่กัน มั่นเพียงใด
ไม่ว่าใคร ไม่อาจแยก ให้แตกกัน

เรื่องราวผ่าน นานเกินพอ ไม่ขอพูด
ปิดปมปูด รูดสนิท มิดความฝัน
คือเรื่องจริง ทิ้งอดีต นับร้อยพัน
เป็นรักแท้ กันและกัน ฉันและเธอ

วู้ววววว..มีความสุขมากกกกกกกก
หายอึดอัด แก้หงุดหงิดกับตอนก่อนหน้านี้
เหมือนให้หมอฉีดยาเข็มเดียว แล้วหายป่วยไปเลย

..ฮ่าฮ่า หายเกลี้ยงเลย..

รักคนแต่งอ่ะ
จุ๊บๆๆๆ จ๊วบบบบบบบบบ

บวกเป็ดเป็ด กับ +1 ครับ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 22-01-2016 00:33:33
สารภาพว่าอ่านตอนสุดท้ายแล้วน้ำตาซึม  เหมือนนั่งดูนั่งลุ้นชีวิตลูกตัวเองผ่านอะไรต่อมิอะไรมาสารพัด   อยากจะบอกกลอนว่ากลอนได้ทำดีที่สุดแล้ว  ถ้าหากว่าลูกเราต้องเจอต้องผ่านวิบากกรรมแห่งความรักแล้วทำแบบที่กลอนทำเราจะภูมิใจมากๆ  คิดดี ทำดี  รับผลดี   ความรักก่อนหน้านั้นก็เป็นแค่การทดสอบก่อนจะมาเจอความรักที่แท้จริงและคู่ควร

ต่อให้คนเขียนเลือกที่จะเล่าแต่ส่วนดีๆของกลอนและพี่ฉลามเราก็ขอบอกว่าทั้งสองคนเป็นตัวละครที่เราชื่นชอบมากๆ เป็นหนึ่งในใจเราเลย  เราเคยเมนท์ไปแล้วว่าสำหรับเราถ้ากลอนเป็นลูกเราแล้วเราสามารถเลือกได้เราจะเลือกจะเชียร์พี่ฉลามให้กลอน  พี่ฉลามทำให้เรารู้สึกมั่นใจว่าคนๆนี้รักลูกเรา(ตี๊ต่างว่าเป็นกลอนก็แล้วกันนะ)จริงๆ  ความรักของพี่ฉลามมั่งคง  ไม่ว่ากลอนจะทำอะไร ยังไง กับใคร  เหลียวมองหาจริงๆก็จะเห็นว่าพี่ฉลามจะอยุ่ใกล้ๆกลอนตลอด   อาจจะไม่เห็นแต่ก็สัมผัสได้ด้วยใจ  สิ่งที่พี่ฉลามให้กลอนนั้นมันมากมายเหลือล้น เป็นความรักแบบที่คนๆหนึ่งต้องถามตัวเองว่าทำบุญด้วยอะไรมาจึงได้มาพบเจอรักแบบนี้ ดีใจมากค่ะที่ได้อ่านเรื่องราวความรักที่ดี จบแบบดี A very fitting ending.  ขอบคุณมากค่ะ   ขอให้โชคดี

This is once in a life time love.  Love with no condition, without reservation, devoid of any detention.  So, please love him no less than what he deserved and accept no less than what you are entitled to.

ฝากส่งไปหาเบื้องบนด้วยนะคะ   (จากคุณแม่นักอ่านคนหนึ่ง)
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 22-01-2016 10:05:38
เป็นหนึ่งในเรื่องที่ชอบมากที่สุด แต่แปลกใจที่คนติดตามน้อย  :(

ดีใจที่กลอนสมหวัง
เรื่องทุกอย่างย่อมเป็นไปตามทางของมัน
ขอให้กลอนมีความสุขตลอดไป
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: AuyAaiz ที่ 22-01-2016 10:51:26
พี่หลามทูนหัวของน้อง พ่อคนดี
 เมื่อรักมิอาจพราก ความสุขจะไปไหนเสีย
จบดีๆกับกลอนเสียที
เชียร์มาตั้งเเต่เริ่มรู้จักกันจนหยดสุดท้าย พ่อเอ้ย :o8:
อยากให้มีตอนพิเศษค่ะ ชอบคู่นี้มากกกกกกก
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 22-01-2016 16:34:47
ขอบคุณนะครับ สารภาพว่า หวั่นใจว่าจะไม่จบมาตลอด 555+
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: top_fy ที่ 22-01-2016 19:56:33
ขอบคุณเรื่องราวดีๆนะคับ รักกันนานๆนะ เป็นอีกเรื่องนะคับที่ผมจะเก็บไว้ในความทรงจำดีๆ ขอบคุณนะคับ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Thanthic ที่ 22-01-2016 22:11:14
ขอบคุณคนเขียนและเรื่องนี้นะคะ
น้ำตาซึมเลย

ชอบเรื่องนี้มากคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 22-01-2016 22:26:23
สนุกมากค่ะ เราชอบมาก บางตอนอาจขอน้ำตาซึมตามคนเขียน มีความสุขในบทสุดท้าย แต่ไม่ท้ายที่สุด ขอบคุณสำหรับความพยายามค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 22-01-2016 23:31:29
ชอบมากๆเลย  :กอด1:

อ่านแล้วบีบหัวใจมากๆๆๆๆๆ

ขอบคุณนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 23-01-2016 17:02:52
ร้องไห้เลย
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 23-01-2016 17:33:48
กลอนแฮปปี้ซะที พี่ฉลามรักเหนียวแน่น โล่งใจที่ได้คนดีกลับคืนมา ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Annko ที่ 24-01-2016 01:24:11
ชอบค่ะเรื่องนี้ อ่านไปลุ้นไป
ซึ้งอ่ะ รักแท้จริงๆนะ
ถ้ารวมเล่มเราจะรีบโอนเลย
สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: LapiN ที่ 24-01-2016 11:49:40
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ที่ทำให้ทิ้งยิ้ม ทั้งน้ำตาคลอ ลุ้นไปกับกลอนด้วย เป็นอะไรที่เรียลมากๆ จมดิ่งไปกับเนื้อเรื่องจริงๆ

อย่างที่บอก รู้สึกเหมือนกลอนเป็นน้อง ที่อยากให้เจอรักที่ดี รักสุดท้ายซะที ดีใจที่เป็นพี่ฉลาม

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ประทับใจเรื่องนี้มาก
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 24-01-2016 20:13:28
อยากบอกกลอนว่า ขอชื่นชมในความคิดที่หนักแน่นและความซื่อตรงต่อความรู้สึกของกลอนมากๆ แล้วก็ยินดีด้วยที่ในที่สุดก็ได้อยู่กับคนที่รักจริงๆ  อดีตที่ผ่านไปมันทำให้คนเราเข้มแข็งขึ้น มีสติมากขึ้น แต่กลอนก็มีคนรอบๆ ตัวที่รักและหวังดี เป็นกำลังใจและคอยช่วยเหลือให้ผ่านเรื่องร้ายๆ ไปได้ ขอให้กลอนและพี่ฉลามมีความสุขมากๆ ค่ะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 25-01-2016 01:28:11
กลอนโชคดีจังที่มีพี่ฉลามอยู่เคียงข้าง

ชอบคนแบบพัด อยากมีแฟนแบบนี้จัง
พี่ฉลามรักเดียวใจเดียวมากกกกกกก พยายามเพื่อรักจนครอบครัวยอมรับ

สุดท้าย ขอบคุณสำหรับนิยายอุ่นๆเรื่องนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: sawapalm ที่ 25-01-2016 02:25:45
กรี๊ดดดด ลุ้นจนเกงือกแห้ง เราว่าสุดท้ายที่กรเลือกพัดตอนนั้น เพราะพี่ฉลามแลจะผลักอย่างเดียวไง คนสับสนอ่า มีคนผลัก ก็ไหลเอนเพราะใจมันก็ไปอยู่แล้วด้วย แต่เราเชื่อว่าถ้าตอนนั้นพี่ฉลามรั้งกลอนไว้ ผลอาจจะได้ตรงข้ามมานะ หึหึ
 เพราะเชียร์พี่หลามไง ตอนพี่หลามเต็มๆนี่ลองไห้เป็นเผาเต่าเลยนะ เกือบไปทำงานไม่ทันเลย ฮ่าๆๆๆๆ แบบเราไม่ชอบเลยทั้งๆที่รัก ทำไมต้องเลิก ก็พอเข้าใจเหตุผล แต่ก็ไม่ชอบอยู่ดี เศร้าอ่าา ฮือๆๆ สุดท้ายยินดีด้วยจริงๆ คนแบบพี่หลามอยู่ด้วยแล้วสุขใจนะคะ อบอุ่นเหมือนพระอาทิตย์ตอนจะโผล่ขึ้นมาทักทายในยามเช้า ไม่ร้อนแรงแผดเผาเหมือนพระอาทิตย์ยามตอนกลางวัน หรือเศร้าสร้อนตอนลาลับขอบฟ้า สรุป สนุกมากกกกก
กลอนไม่ได้อาพับรักหรอก เราว่าถ้าเหตุผลทั้งหมดทำให้กลอนมาเจอพี่หลาม เราว่ากลอนโคตรโชคดีกับความรักแล้วววววว  :mew1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 26-01-2016 00:55:19
ฮืออออ ในที่สุดก็เป็นพี่ฉลาม
เรายอมรับเลยนะคะว่า ว่าพอกลอนเลือกพัดโบก
เราก็ไม่ค่อยตามเท่าไหร่ เพราะใจเชียร์พี่ฉลามมาก
แต่พอเห็นว่าจบแล้ว เลยอยากรู้ความเป็นไปของกลอน
พอได้เห็นว่าที่สุดแล้ว
ทั้งคู่ได้กลับมารักกัน เป็นอะไรที่เราอิ่มใจมากกกก
คู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอกเนาะ
เหมือนเราเคยเม้นเรื่องนี้ เป็นประโยคทำนองนี้ด้วย
ดีใจจัง ดีใจมากๆๆๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
ปล.อยากได้ตอนพิเศษจังเลยยยย อยากอ่านตอนหวานๆ
ของพี่ฉลามกับน้องกลอน หลังกลับมารักกันน่ะค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 26-01-2016 19:12:10
บันทึกรักฉบับพิเศษ “หวง”


ชีวิตของผมต่อจากบันทึกหน้าสุดท้ายก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวามากนัก ผมยังคงอยู่คอนโดของพี่ฉลามที่ตอนนี้กลายมาเป็นของผมแล้ว พี่ฉลามมานอนค้างกับผมทุกวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ วันธรรมดาพี่เขากลับไปนอนที่บ้าน ซึ่งพ่อแม่ของพี่ฉลามรับรู้และรับผมมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว แม่ของพี่ฉลามก็ชวนให้ผมมาอยู่ที่บ้าน แต่ผมปฏิเสธ เหตุผลอย่างแรกเลยคือ ผมอยากให้ผมและพี่เขามีพื้นที่ส่วนตัวซึ่งกันและกัน ถึงพ่อแม่ของพี่เขาจะรู้ว่าผมกับพี่ฉลามไม่ได้เป็นแค่พี่น้องกัน แต่การที่จะไปอยู่กับครอบครัวเขาทุกวัน แสดงออกซึ่งความรักต่อหน้าท่านมันก็คงไม่ดี ถึงอย่างไรท่านก็คงไม่คุ้นชินแน่ๆ ผมก็คงอึดอัดด้วย อย่างที่สองคือแม่ของผมเอง ผมไม่รู้ว่าแม่จะระแคะระคายเรื่องของผมหรือเปล่า แต่การที่ท่านถามผมว่าไม่มีแฟนบ้างเหรอ ไม่มีสาวคนไหนเข้าตาบ้างรึไง ผมเลยขอคิดว่าแม่ไม่รู้สิ่งที่ผมเป็นหรือไม่ก็คงไม่อยากรับรู้ ผมเลยยังคงปิดบังเอาไว้ พี่ฉลามเองก็เข้าใจ ทุกครั้งที่แม่มาหาผม มาอยู่กับผมนานๆ พี่ฉลามก็ไม่ได้มาหาบ่อยๆให้ดูผิดสังเกต แต่ดึกๆหน่อยก็จะแอบโทรมาอ้อนว่าคิดถึง อยากกอด จนบางทีผมใจอ่อนต้องโกหกแม่ว่าไปกินลี้ยงกับที่ทำงานจะกลับดึกหน่อย แล้วแวบไปหาพี่ฉลามที่ทำงาน ไปกินข้าวด้วยกันพี่เขาถึงได้มาส่งที่คอนโด แต่พี่ฉลามบอกว่าแม่ของผมรู้ เพียงแต่ท่านอาจจะแกล้งถามเพื่อให้ผมยอมเล่าความจริง แต่ผมก็ไม่อย่างเสี่ยงหรอก ยอมเป็นผู้ร้ายปากแข็งไปก่อนดีกว่าจะเห็นน้ำตาของแม่


บุ้งกับไอ้เด่นก็ยังคงคบกันอยู่ เพื่อนทุกคนในกลุ่มต่างก็พนันว่าคู่นี้คบไม่ยืด แต่มันก็ยังไปกันได้ดีนะ เรียกได้ว่าหักปากกาเซียนพนันทั้งหลายเลยละครับ เอาไว้ผมจะมาเล่าเรื่องวีรกรรมของคู่นี้ให้ฟัง แต่บันทึกพิเศษหน้านี้ผมขอเล่าเรื่องของผมกับพี่ฉลามก่อนก็แล้วกัน อืม..ขอตั้งชื่อบันทึกนี้ว่า หวง ก็แล้วกันครับ


เรื่องมันก็มีอยู่ว่า...


“พี่ว่ากลอนอ้วนขึ้นไหมอะ” ผมยืนหันซ้ายหันขวาสำรวจตัวเองอยู่ที่หน้ากระจกเงาบานใหญ่ที่เพิ่งสั่งซื้อมา ก่อนจะหันไปถามพี่ฉลามที่กำลังนั่งอ่านแฮรรี่พอตเตอร์อยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย พี่เขาซื้อฉบับภาษาอังกฤษมาครบทุกตอน แต่เพิ่งจะได้มานั่งอ่าน อ่านแล้วก็ไม่สนใจผมเลย ผมทำงานเยอะ กลับบ้านดึก บางทีก็ต้องมากินตอนดึกๆเพราะไม่ได้กินตอนเย็น ส่งผลให้รู้สึกอึดอัดและคิดว่าน้ำหนักต้องเพิ่มแน่ๆ

“พี่ฉลามครับ กลอนอ้วนไหม” ผมถามซ้ำเพราะคนถูกถามยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือ

“ไม่อ้วน” ตอบผมสั้นๆแล้วก็หันไปสนใจแฮรรี่ต่อ ให้นอนกับพ่อมดเลยดีไหมนะ ผมส่องดูตัวเองแล้วก็เดินกลับมานั่งข้างๆพี่ฉลาม

“กลอนว่าจะออกไปซื้อกางเกงว่ายน้ำกับดัมเบลอันเล็กๆ พี่ไปด้วยกันไหม” ผมถาม พี่ฉลามซึ่งนั่งพิงหัวเตียงอยู่ก็วางหนังสือลงแล้วหันมามองหน้าผม ดูจากสายตาแล้ว คาดว่าคงไม่อยากออกไปไหนแน่ๆ

“ไหนเอาพุงมาดูสิ” พี่ฉลามพูดจบก็เอามือมาลูบที่หน้าท้องของผม

“โหย พี่เรียกพุงเลยเหรอ แปลว่ากลอนอ้วนใช่ไหม” ผมรีบเขม่วหน้าท้องเลย พี่ฉลามยิ้มๆ แต่ผมรู้สึกว่าที่ลูบๆอยู่มันต่ำกว่าพุงแล้วนะ

“วิตกจริตไปเปล่า ตัวนิดเดียว” พี่ฉลามถามผม มือยังคงลงต่ำจนผมต้องจับเอาไว้ก่อน

“หยุดเลย กลอนจะออกไปซื้อของ” ผมบอกเสียงดุๆ แต่ขึ้นชื่อว่าฉลาม มีหรือจะยอมให้อะไรมาดุกว่าตัวเอง พี่เขาดึงมือเขาออกแล้วมาดันตัวผมให้นอนลงราบกับเตียง แต่ยังไม่วายหยิบหนังสือเล่มโปรดของตัวเองไปวางที่โต๊ะข้างเตียง จะหื่นแล้วยังกลัวหนังสือยับอีก

“ออกกำลังกายแบบนี้ดีกว่า สบายตัว สบายใจ”

“ตรงไหนครับที่สบายตัว เมื่อยละสิไม่ว่า” ผมพูดไปหัวเราะไปเพราะพี่เขาแกล้งลูบที่ข้างเอวผม มันจั๊กจี้

“เดี๋ยวพี่สำรวจให้นะว่ามีตรงไหนอ้วนรึเปล่า” พี่เขาพูดจบก็หอมแก้มผมก่อนจะจูบ จูบที่อ่อนหวานไม่รีบร้อนแต่ก็ทำให้ผมคล้อยตามได้


เซ็กส์ของพี่ฉลามค่อนข้างต่างกับชื่อ พี่เขาไม่เคยรีบร้อนเลย ไม่ว่าเวลาของเราจะมีมากน้อยแค่ไหน พี่เขาจะเล้าโลมผมทุกครั้ง ไม่เอะอะก็สอดใส่หรือทำให้ผมเจ็บ บางครั้งถ้าเรามีเวลาไม่พอจะจัดชุดใหญ่ อย่างน้อยพี่เขาจะทำให้ผมเสร็จก่อน แล้วผมค่อยช่วยเขาด้วยมือ นี่เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ผมรับรู้ได้ว่าผู้ชายคนนี้นึกถึงผมก่อนเสมอไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ครั้งนี้ก็เช่นกัน พี่เขาสำรวจผมทุกตารางนิ้วของร่างกาย ปฏิบัติที่อ่อนโยนแต่ทำเอาผมทรมานจนแทบขาดใจตาย ไล่ชิมผมไปทั่ว แม้กระทั่งนิ้วเท้าของผมพี่เขาก็ไม่เว้น ผมเคยบอกพี่เขาว่าอย่าทำแบบนั้น แต่พี่เขาบอกว่าผมหอมไปทั้งตัว อยากจะกินให้หมดไม่ให้เหลือเพราะเขาเป็นฉลาม ฟังเหตุผลแล้วก็ต้องยอมใจเขา ผมก็ได้แต่ฟินถึงสวรรค์เพราะฉลามตัวนี้ช่างร้ายกาจเหลือเกิน


“พี่..กลอนเสียวอ่า” ผมร้องบอกหลังจากที่พี่เขาไล่ชิมมาถึงส่วนสำคัญ ชิมจนผมสำลักความสุขไปรอบหนึ่งแล้วจนตอนนี้ความสุขมันเริ่มไต่ระดับขึ้นมาอีกแล้ว

“สบายตัวมันเป็นแบบนี้ เข้าใจรึยัง” พี่เขาเลื่อนตัวมาทาบทับผมแล้วถาม

“เข้าใจแล้วครับ” ผมตอบ ขืนตอบว่าไม่เข้าใจผมคงโดนดูดพลังอีกรอบ

“อื้อมม” พี่ฉลามร้องครางเบาๆเมื่อเจ้าฉลามน้อยเข้ามาในร่างกายของผมแล้ว เราจูบกันแบบดูดดื่มครู่หนึ่งก่อนที่พี่เขาจะขยับตัว

“อ๊ะ..อื้อ ..อ่าห์”


ในที่สุดวันนั้นผมก็ไม่ได้ออกไปซื้อของเพราะโดนพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ ฉลาม พอตเตอร์จัดการจนหมดแรงที่จะออกไปไหนเลยครับ


หลังจากนั้นมาได้สองสามวันผมถึงได้ชวนบุ้งมันออกมาหาซื้อชุดว่ายน้ำและอุปกรณ์ออกกำลังกายกัน วันนี้พี่นุ๊กพาเด็กมาทานข้าวกับพวกผมด้วย แฟนพี่นุ๊กเด็กมากจริงๆ เป็นเด็กมัธยมปลายเอง แต่เข้ามาเป็นนายแบบฝึกหัดอยู่ในสังกัดพี่แนนซี่ บุ้งบอกว่าคนนี้คบนานกว่าทุกคน สงสัยพี่นุ๊กจะแพ้ความอ้อนของเด็กครับ แต่น้องเขาก็หน้าตาน่ารักดี หุ่นดี แต่ก็ดูเด็กจริงๆ พี่นุ๊กทานข้าวเสร็จก็รีบกลับก่อนเพราะว่าพรุ่งนี้แฟนเด็กมีสอบ ผมเลยได้นั่งคุยกับบุ้งสองคนต่อ


“แก เราว่ากางเกงว่ายน้ำตัวนี้มันสั้นไปเปล่าวะ” ผมถามบุ้ง เมื่อกี้ตอนไปลองผมว่ามันรัดและดูจะมันจะสั้นไป แต่บุ้งบอกว่าเดี๋ยวลงน้ำมันจะสบายตัวกว่า

“ใครๆก็ใส่แบบนี้ ยี่ห้อนี้มันดี แกเอาไปลองก่อน เชื่อหัวไอ้บุ้ง”

“จริงนะ”

“เออ คอนโดแกมีแต่ชาวต่างชาติแทบทั้งนั้น แบบนี้ เบๆ”

“อะไรคือเบๆ” ผมถาม

“เบสิคไง วุ้ยฉันคุยกับเด็กดอยรึเปล่า” บุ้งมันค้อนผม ผมขำ ใครจะไปตามศัพท์วัยรุ่นแบบบุ้งทันกัน

“แล้วแกเป็นไงบ้าง เด่นมันทำตัวดีรึเปล่า”

“ก็ดี แต่ท่าทางแม่เขาไม่ชอบฉัน”

“ม๊าน่ะเหรอ ปกติม๊าใจดีนะแก”

“เขาคงไม่อยากให้ลูกเป็นเกย์มั๊ง”

“ใจเย็นๆนะ ทุกอย่างมันจะผ่านไปได้ ม๊าเป็นคนหัวสมัยใหม่ แค่รอเวลาให้เหมาะสมแค่นั้นเอง” ผมปลอบบุ้ง

“ฉันอะไม่อะไรหรอก แต่เพื่อนแกดิมันใจร้อน จะพยายามให้แม่ตัวเองมาชอบฉัน ฉันก็บอกแล้วว่าฉันไม่ได้ซีเรียส อยู่ไปแบบนี้ก็ได้ แต่ขานั้นไม่ยอม กลัวฉันทนไม่ได้แล้วมีผัวใหม่มั๊ง” บุ้งพูดจบก็ยักไหล่ ผมได้แต่ยิ้มให้แล้วตลที่ไหล่บุ้งเบาๆ ผมรู้ว่าบุ้งคิดมาก แต่พยายามแสดงออกว่าไม่คิด แต่ผมก็เชื่อว่าถ้าทั้งคู่รักกันมากพอ ทุกอย่างจะต้องผ่านไปด้วยดีเหมือนที่ผมได้เคยเผชิญมาแล้ว

“มีอะไรก็มาระบายกับเราได้นะบุ้ง” ผมบอก บุ้งพยักหน้าแล้วชวนผมทานข้าวต่อ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับคอนโด

.....


ช่วงสุดสัปดาห์นี้ผมว่าง งานใหญ่เพิ่งจบลงด้วยดี พี่เหิรเลยให้พักได้สี่วัน ผมเลยนัดเพื่อนๆมาทำอะไรกินกันที่คอนโด ก็มี บุ้ง เด่น เสือ เก้ง เล็ก พี่แหบ น้องมอส นัดกันไว้ตอนหกโมงเย็น อาหารส่วนใหญ่ผมซื้อเตรียมเอาไว้แล้ว บุ้งบอกว่า มันกับเด่นจะเอาน้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว แคปหมูมาด้วย เพราะเด่นเพิ่งไปสัมมนาที่เชียงใหม่มาเลยซื้อมาเยอะ ตอนนี้ผมเห็นว่าเพิ่งจะสี่โมงเย็น เลยได้ฤกษ์ประเดิมชุดว่ายน้ำตัวใหม่ เตรียมบ้านเสร็จร้อนๆ ได้ลงไปว่ายน้ำก็คงสดชื่น ผมเปลี่ยนชุดแล้วคลุมตัวด้วยผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ ลงไปที่สระก็เจอฝรั่งสองสามคนกับเด็กอีกสองคน ผมกำลังว่ายเพลินๆสบายใจ พอว่ายมาถึงอบสระก็เห็นพี่ฉลามมายืนมองดูอยู่ ข้างๆพี่ฉลามมีพี่นุ๊กกับแฟนเด็กของพี่เขายืนอยู่ด้วย ผมเอาแว่นตาว่ายน้ำออกก่อนจะเดินขึ้นมาจากสระ แฟนพี่นุ๊กยกมือไหว้ผมพร้อมกับที่ผมไหว้พี่นุ๊กกับพี่ฉลามพอดี ยังไม่ทันจะได้คุยอะไรน้องมอสก็มาสมทบด้วยอีกคน


“อ้าว ทำไมมากันเร็วจัง กลอนนึกว่าจะมากันตอนหกโมงเย็น” ผมลูบน้ำออกจากหน้าแล้วถาม บุ้งโทรมาบอกแล้วว่าพี่นุ๊กจะมาร่วมปาร์ตี้เล็กๆนี้ด้วย แต่ไม่คิดว่าจะมากันเร็ว

“ก็งานเสร็จพอดีเลยจะมาทำสเต็กให้กินกันด้วย” พี่นุ๊กบอก แฟนพี่น้องชื่อน้องนัท น้องนัทยิ้มให้ผม

“ถ้างั้นพี่ขึ้นไปก่อนเลย กลอนขอว่ายน้ำอีกหน่อยเดี๋ยวจะตามขึ้นไป” ผมบอก พี่ฉลามเดินไปหยิบคีย์การ์ดแล้วก็พาคนอื่นๆขึ้นห้องไปก่อน เหมือนพี่ฉลามจะอารมณ์ไม่ดี ผมว่ายน้ำต่ออีกพักเดียวก็ตั้งใจจะขึ้นแล้วละ แต่จังหวะนั้นพี่ฉลามเดินลงมาพร้อมกับถือกางเกงขาสั้นมาด้วย

“สวมกางเกงนี้ด้วย” พี่ฉลามบอก

“เดี๋ยวมันเปียก กลอนนุ่งผ้าเช็ดตัวนี่ก็ได้” ผมบอกพี่เขา

“ใส่” พี่เขายื่นให้ผม ผมเลยจำต้องใส่ก่อนจะเดินตามพี่ฉลามกลับขึ้นห้อง ท่าทางจะอารมณ์ไม่ดีจริงๆ


พอผมเดินขึ้นไปก็รีบเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดออกมาชวยพี่นุ๊กทำสเต็ก โดยมีน้องนัทเป็นลูกมือเหมือนกับผม แต่พี่ฉลามไปนอนอ่านแฮรี่ต่ออยู่ในห้องนอน พอใกล้ๆหกโมงเย็นเพื่อนๆผมก็เริ่มทยอยมากัน พวกไอ้เสือเก้งเล็กมาด้วยกัน เด่นกับบุ้งตามมาติดๆ พอมากันครับห้องของผมก็ดูแคบไปถนัดตา ผมจัดที่นั่งกินกันตรงโซฟา เพราะพื้นที่ตรงนั้นกว้างพอสมควร ส่วนโต๊ะกลางของผมมันออกแบบมาให้สามารถดึงให้ยาวออกมาได้อีกเท่าตัว ตอนเห็นโต๊ะกลางตัวนี้ผมชอบมากเลย เลยซื้อมาพร้อมกับกระจกบานใหญ่ที่ตั้งเอาไว้ในห้องนอน พอเพิ่มโต๊ะญี่ปุ่นมาอีกตัวก็นั่งกันได้พอดี ผมซื้อเบาะนั่งพื้นมาหลายใบ หยิบส่งให้เล็กมันเอาไปปู จากนั้นผมก็เข้าไปตามพี่ฉลามในห้อง


“หลับเหรอ” ผมชะโงกดู พี่ฉลามเอาหนังสือวางบนอก ส่วนตัวพี่เขานอนหนุนแขนตัวเองข้างหนึ่งแล้วหลับตา ผมแอบเขี่ยไปที่แก้มพี่เขาเบาๆแต่พี่เขาไม่รู้สึกตัว ผมเลยแตะไปเบาๆที่แขน

“พี่ฉลาม ไปกินข้าวกัน” ผมเรียกพี่เขา พี่เขาลืมตาแต่ยังนอนนิ่งๆ คงจะเพลียจากงาน หลับสนิทเลย

“มากันครบแล้วเหรอ” พี่ฉลามถามผมด้วยเสียงที่ยังดูจะงัวเงียอยู่

“พี่แหบเพิ่งมาเมื่อกี้นี้เอง” ผมพยักหน้าก่อนจะตอบ

“พี่ล้างหน้าก่อน” พี่เขาตอบเสียงเรียบๆ มันผิดปกติ ผมเลยยังไม่ได้ออกไปข้างนอก อยู่รอจนพี่เขาล้างหน้าเสร็จ พี่เขาออกมาเห็นผมยังนั่งอยู่เลยขมวดคิ้ว แต่ก็เดินมาหาผม

“มีอะไรเหรอ” พี่เขาถาม

“พี่แหละ มีอะไร ดูอารมณ์ไม่ดีเลย” ผมย้อนถาม

“เปล่าหนิ”

“จริงนะ”

“อืม ไปกินข้าวกัน” พี่เขากำลังจะหันหลัง แต่ผมดึงมือพี่เขาให้หันกลับมาก่อนจะกอดรอบเอวเอาหน้าซุกกับตัวพี่เขา

“ยิ้มให้ดูก่อน” ผมอ้อน ได้ยินเสียงพี่เขาร้อง หื้อ เบาๆ

“อ้อนแบบนี้เดี๋ยวไม่ได้กินข้าวนะ”

“ก็ยิ้มก่อนสิ” ผมพูดจบพี่เขาก็ยิ้มให้ผม ผมเลยจูบที่ท้องพี่เขาหลายที่ก่อนจะลุกขึ้นไปหอมแก้มอีกหลายที พี่เขาดีดที่หน้าผากผมเบาๆก่อนจะกอดคอพาผมเดินออกไป ผมอาจจะคิดมากไป พี่เขาคงแค่เหนื่อย


ปาร์ตี้เล็กๆผ่านพ้นไปด้วยดี ผมมีความสุขมากๆเวลาที่ได้อยู่กับคนที่ผมรัก เราแลกเปลี่ยนความคิดกัน มีแย้งกันบ้างแต่ก็ไม่เคยจะโกรธเคืองกัน เป็นมิตรภาพที่ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้มาเจอกับคนเหล่านี้ กว่าจะแยกย้ายกันกลับไปก็เกือบตีสาม พวกมันช่วยผมเก็บล้างทำความความสะอาดห้องจนเสร็จถึงกลับ แต่เราก็นัดกันไปเที่ยวที่เชียงใหม่ บ้านของน้องนัทในช่วงปีใหม่ด้วยครับ ที่นั่นแหละครับที่มีวีรกรรมของไอ้เด่นกับบุ้งที่จะมาเล่าให้ฟัง


“พรุ่งนี้หยุดอีกใช่ไหม” พี่ฉลามถามผม

“ครับ หยุดอีกสองวันแหน่ะ”

“ไปดูหนังกัน” พี่ฉลามชวนผม ผมทำหน้าแปลกใจ

“ไหนว่าจะนอนอ่านแฮรี่ให้จบไง”

“เดี๋ยวกลับมาอ่านก็ได้”

“หนังเรื่องไหนนะสำคัญกว่าแฮรี่ อยากรู้จัง” ผมถามขำๆ

“หึหึ พรุ่งนี้ก็ได้รู้”


พี่ฉลามหัวเราะมีเลศนัยทำเอาผมคิดจนหลับ แต่พอตื่นเช้ามาผมก็ลืมไปแล้ว พี่ฉลามพาผมมาที่ห้างใจกลางเมือง เราหาร้านกินข้าวกันก่อน แล้วพี่ฉลามก็พาผมเดินดูของไปเรื่อยๆ ผมไม่เห็นพี่เขาจองตั๋วหนังสักที จนสุดท้ายก็อดไม่ได้เลยต้องถาม


“พี่จะดูเรื่องอะไร มันฉายกี่โมง”

“ไม่รีบ” พี่เขาบอก ผมก็ได้แต่งงๆ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เขาว่าไงก็ว่ากัน โอกาสที่จะพาพี่เขามาเดินด้วยไม่ค่อยมีเท่าไหร่ พี่ฉลามไม่ค่อยชอบมาเดินแบบนี้หรอกครับ วันนี้นึกยังไงไม่รู้เหมือนกัน


สรุปว่าวันนี้เราสองคนไม่ได้ดูหนังหรอกครับ ดินซื้อเสื้อผ้ากัน เข้าร้านโน้นออกร้านนี้ ตบท้ายด้วยก๋วยจั๊บร้านโปรดพี่เขาที่เยาวราชก่อนกลับคอนโด แต่ผมเห็นพี่ฉลามยิ้มคนเดียวตลอด อยากรู้นักอารมณ์ดีเรื่องอะไร สงสัยจะเข้าวัยทอง กลับมาถึงคอนโด ผมก็วางถุงของทั้งหมดไว้ที่ห้องกลางก่อน พี่ฉลามชวนผมไปอาบน้ำเพราะอากาศมันร้อนอบอ้าวมาก ไปนั่งที่เยาวราชเหงื่อแตกกันทั้งคู่ เข้าไปอาบน้ำด้วยกันก็เลยจัดการกันไปอีกรอบ 55 รู้สึกพี่ฉลามจะอารมณ์ดีจริงๆครับ นัวเนียผมไปหัวเราะในลำคอไปด้วย พอถามก็ไม่พูด ถามก็โดนจูบแทนคำตอบ เลยไม่ถามละ กว่าจะออกมากจากห้องน้ำได้ตัวจะเปื่อย ผมมานั่งเช็ดผมให้พี่ฉลาม พี่เขาผมยาวกว่าเดิมแล้ว เป็นถึงผู้บริหารพอผมเริ่มยาวก็ต้องไปตัดให้ดูน่าภูมิฐาน แต่ส่วนตัวพี่เขาอยากไว้ผมยาว สงสารเขาเหมือนกันที่ไม่ได้ทำอะไรหลายๆอย่างที่ชอบ แต่พี่เขาบอกว่าเขาแค่ทำให้พ่อแม่มีความสุข กับการได้อยู่กับผม โกนหัวก็ยอม ปากหวานไหมครับ


“อารมณ์ดีอะไร บอกกลอนหน่อยสิ กลอนก็อยากอารมณ์ดีบ้าง” ผมโอบกอดคอพี่เขาแล้วถามอีก

“ก็แค่ได้ของที่ต้องการ” พี่เขายอมตอบละ แต่ไม่เคลียร์ครับ

“ของอะไร เสื้อผ้าเหรอ” ผมถามอีก

“อืม”

“แค่นี้อะนะ กลอนก็ซื้อให้พี่บ่อยๆ แสดงว่าไม่ถูกใจอะสิ” ผมแกล้งงอนไปงั้นแหละครับ เห็นเขาอารมณ์ดีเกินแล้วหมั่นไส้เบาๆ 55

“หาเรื่อง เดี๋ยวจะโดน”

“ก็มันจริงนี่นา ไหน เสื้อตัวไหนที่ทำให้พี่อารมณ์ดีขนาดหนังก็ไม่ดู แฮรี่ก็ไม่อ่าน”

“อยากเห็นเหรอ” พี่เขาหันหน้ามาถาม ผมคลายกอดออก พี่เขาเลยลุกเดินผิวปากไปหยิบถุงของเขามาวางตรงหน้าผม ผมหยิบของในถุงออกมาดู พอกางมันออกผมก็อึ้งไป วางของลงแล้วมองหน้าพี่เขา พี่เขาชี้มาที่ผมก่อนจะหัวเราะ ผมขมวดคิ้วทันที

“ของกลอนเหรอ”

“เยส ของ ยู” พี่เขาตอบ

.......
.....
....
..

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงระเบิดหัวเราะของไอ้บุ้งดังลั่นคอนโดของผมเลย ผมต้องรีบเดินไปอุดปากมัน วันนี้มันมานั่งเล่นที่ห้องของผม ตอนเย็นเราเลยมาออกกำลังกายกัน

“ไม่ขำ” ผมบอก

“แต่ฉันขำอะแก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” บุ้งพูดจบก็ขำอีก ผมเลยเดินหน้าเง้าไปนั่งทาครีมกันแดดที่เตียงพลาสติกที่ตั้งอยู่ริมสระว่ายน้ำ

“แก ยังเหลือพื้นที่ให้ทาอีกเหรอวะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” บุ้งพูดต่อ ผมเลยเอาหลอดครีมกันแดดปาใส่มัน มันยังคงหัวเราะไม่เลิก


ครับผม..ก็น่าให้มันขำหรอกครับ


ตอนนี้ผมอยู่ในชุดว่ายน้ำ อืม ต้องบอกว่า ชุดดำน้ำมากกว่า เสื้อแขนยาว โผล่มาแค่หน้ากับมือ กางเกงขายาวโผล่แค่ข้อเท้าครับ ถ้ามีถังออกซิเจนกับหน้ากาก ก็พร้อมดำน้ำแล้วครับ ถึงไม่อยากใส่ แต่ก็ต้องใส่ ไม่มีใครมาบังคับผมได้หรอก แต่คำสั้นคำเดียวของสุดที่รักของผมทำให้ผมต้องมาใส่ชุดนี้ว่ายน้ำในสระน้ำของคอนโด


“หวง”

ย้อนนึกกลับไปคืนนั้น ผมแทบตาเหลือกเมื่อเห็นว่าพี่ฉลามซื้อชุดนี้มาให้ผมใส่ว่ายน้ำที่คอนโด ผมถามย้ำหลายรอบ พี่เขาก็บอกเหมือนเดิมว่า ..หวง

“หวงอะไรอ่าพี่ มันจัดเต็มไปอ่าครับพี่ฉลาม” ผมเสียงอ่อย มันตลกอะ ให้ใส่ชุดนี้เนี่ยนะ

“ไม่รู้รึไง วันนั้นฝรั่งไอ้ฝรั่งคนนั้นจ้องตาเขม็งเลย แถมไอ้มอสอีก พี่นุ๊กก็ด้วย คิดแล้วโมโหว่ะ” อ๋อ สรุปว่าที่หงุดหงิดวันนั้นเพราะเรื่องนี่เอง

“พี่คิดมากไป ใครจะมอง”

“ไม่มากอะ ตูดก็ออก ข้างหน้าก็ตุง โดนน้ำละเห็นหมดเอียงไปทางไหน” หมดกัน แฟนผมพูดตรงอย่างที่เคยบอกไหมครับ

“พี่ฉลาม!!” ผมรีบตะโกนร้องบอกเมื่อพี่เขาสาธยายมา ผมอายอะ ไม่ได้สังเกตตัวเองว่ามันเป็นแบบนั้นจริงรึเปล่า แต่ก็รู้แหละว่ามันรัด แต่มันถึงขนาดนั้นเลยเหรอ

“เขินช้าไปไหม” พี่เขาถาม ผมห่อไหล่ก่อนจะมองเจ้าชุดที่ทำให้พี่ฉลามอารมณ์ดีอีกรอบ

“ไปแอบซื้อตอนไหน”


“ตอนกลอนไปห้องน้ำ”

“ให้ใส่จริงเหรอ”

“ใส่นะ นะครับ พี่หวงของพี่อะ พี่รักของพี่ พี่ก็หวง พี่ไม่อยากให้ใครมอง ไม่ใจร้ายกับพี่นะ” เจอลูกอ้อนแบบนี้ ผมถึงได้ถูกไอ้บุ้งหัวเราะอยู่ยังไงละครับ


เฮ้อ..ใครกันแน่ที่ใจร้าย เพราะผมก็รักของผมหรอกนะ ผมถึงได้ยอม

....
...
..


“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ขำว่ะ เดี๋ยวปีใหม่ฉันซื้อตีนกบให้นะ”
“ไอ้บุ้ง พอเลย มาลงน้ำเดี๋ยวนี้” ผมตะโกนบอกมันก่อนจะพุ่งลงน้ำเพราะไม่อยากได้ยินเสียงหัวเราะของมีนแล้วครับ

...จำเอาไว้เลยคราวหน้าแกโดนแฉแน่ ไอ้บุ้ง...


***จบตอนพิเศษ***


เอาตอนพิเศษมาส่งค่ะท่านผู้อ่านนนน ถ้ามีโอกาสได้ฟังอะไรเด็ดๆจากเบื้องบนพอเอามาปรุงรสให้บันเทิงได้ก็จะมาเล่าตอนพิเศษเรื่อยๆนะคะ แล้วเจอกันค่ะ ดูแลรักษาสุขภาพนะคะ หนาวจังเลยเนอะ

ปล.กำลังตบตีกับคีย์บอร์ด มันเริ่มแก่แล้ว กดไม่ค่อยลง คำผิดเยอะเตือนได้นะคะ ฮือ

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 26-01-2016 19:57:30
หวงของพี่ฉลาม ลำบากกลอน ฮาน่ารักดี :laugh: :laugh: :laugh:
ดีใจมากที่มาต่อตอนพิเศษ ยังอยากอ่านอีกน๊า มาต่ออีกเรื่อยๆ  :pig4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 26-01-2016 21:16:21
อ่านตอนพิเศษแล้วเหมือนคนละเรื่องกับเรื่องหลักเลย


อิอิ
น่ารักอ่ะ

โดยเฉพาะพี่หลาม
โคตรจะฟินรุย
จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-01-2016 21:50:42
ขอบคุณค่ะ. พี่ฉลามสุดยอดจริงๆนะ
หวงน่ะกลอนคงเข้าใจนะ หลังจากนั้นจะได้ว่ายน้ำอีกไหมหนอหรือเน้นออกกำลังกายในร่มแทน
เอาใจช่วยเด่นกับบุ้งนะ ยินดีกับคนได้กินเด็กด้วยจ้ะ. ฮรี่ๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 26-01-2016 23:45:46
พี่ฉลามโคตรน่ารักเลยอ่า    :mew1:

ดูเหมือนทุกคนจะมีคู่ มีความสุขกันทุกคนนะคะ   o13
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-01-2016 03:08:33
ยอมรับเลยว่าไม่ได้เข้ามาอ่านเลยตั้งแต่กลอนเลือกพัดโบกหลังจากจบงานศพพ่อ ทำใจไม่ได้อะเพราะเชียร์ฉลามมาตลอด แม้แต่ตอนที่จากกันตอนไปเรียนก็พยายามคิดว่าคงจะมีหวังนิดๆ 55555 แต่ก็ไม่
วันนี้มาเห็นตอนพิเศษเลยว่า อ่านสักหน่อยเถอะกลอนจะมีชีวิตเป็นไปอย่างไร  :a5: :a5: :a5:   :heaven  :heaven สวรรค์ลอยมาเลยค่ะ ดีใจ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Youi_chin ที่ 27-01-2016 06:36:39
 :heaven :กอด1: รักเรื่องนี้ ดีใจกับความรักของกลอนกับพี่ฉลามนะ รักกันนานๆน้าา :L2:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: SuMoDevil ที่ 27-01-2016 19:23:53
กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้มันไม่ใช่ง่ายเลยจริงๆ น้องกลอน พี่ฉลาม
อ่านจบแล้วนึกถึงเพลงนี้เลยนะ มันเข้ามากเลย

https://www.youtube.com/v/gOQgt5VMKjw

"ก็เพราะมันยากกว่าจะรักกัน และเพราะว่าชีวิตนี้มันสั้น อย่าเปลี่ยนไป"

ขอบคุณผู้เขียนและเจ้าของเรื่องด้วยนะครับ มันคือชีวิตจริง มันเป็นยิ่งกว่านิยาย
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: yin ที่ 27-01-2016 21:38:46
น่ารักมาก อ่านไปร้องไห้ตาม ลุ้นแทบแย่ แต่งดีจริงๆ..ขอบคุณมากขอรับ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 28-01-2016 05:16:15
ฟ้าหลังฝนนี่ดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 28-01-2016 22:14:53
อย่างน้อยกลอนก็โชคดีมากมากที่ได้เจอผู้ชายอย่างฉลาม
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 29-01-2016 21:14:15
ขอบคุณที่ยังไม่ลืมกัน
รออ่านตอนพิเศษตอนต่อไป :)
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 29-01-2016 22:15:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 30-01-2016 21:06:09
สนุกมาก​กก​ น่ารักมากกกกกก ชอบมาก​กก​ พี่ฉลาม​น่ารักอ่ะอยู่รอบๆตัวกลอนเหมือนหมอกบางๆเหมือนลมอุ่นๆ แบบแค่ยื่นมือออกไปก็รู้สึกสัมผัสได้ เหมือนอยู่ไกลแต่อยู่ใกล้ตลอด ชอบกลอน​ทั้งวิธีคิด การดำเนินชีวิตเลย เป็นคนดีที่ได้คนดี ปลิ่มมากกกก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: piengtavan ที่ 31-01-2016 03:14:37
รักเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกก  กอไก่มากมาย 
เอ็นดูกลอน  หลงรักพี่ฉลาม  ผู้ชายประเสริฐแท้
ตอนกลอนเลือกพัด เราดิ้นเลย คือเราเชียร์พี่ฉลามมาตลอดไง
ตอนจบมารักกันได้ กรี๊ดเลย  อยากให้รักกันจนวันสุดท้ายของชีวิตเลย รักคู่นี้
ปล อย่าลืมมาอัพเดทคู่เด่นด้วยล่ะ ถึงขั้นพาเข้าหาแม่นี่คือรักจริงหวังแต่งดีแท้~~~~
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 31-01-2016 21:39:20
นั่งน้ำตาตกในอยู่หน้าบ้าน อ่านแล้วมัน..../#/#+=@==##@#$@@○¤....จริงๆ ขอบคุณผู้เขียนนะ @@
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 01-02-2016 20:57:12
เปลี่ยนแค่กางเกงก็พอม้างพี่
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: marisa9397 ที่ 01-02-2016 21:13:46
พี่ฉลามน่ารักจัง ดีใจที่กลอนมีความสุข :mew1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 02-02-2016 16:17:46


ดีใจกับกลอนและพ่อหลามของป้าด้วย
ที่สุดแล้วพ่อหลามก็มาวิน เย่!!

หากเรื่องนี้อ้างอิงมาจากชีวิตของคู่รักจริง ๆ
เราก็ขออวยพรให้คู่รักที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณคนเขียน
รักกันให้นาน ๆ และอยู่เป็นคู่คิด เป็นแรงใจให้แก่กันก้าวเดินผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปจนสุดปลายทางอันแสนไกลเลยนะคะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ที่อ่านแล้วมีความสุขเหลือเกินค่ะ ^^  :pig4:

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: kyosake ที่ 04-02-2016 09:09:55
นิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "พี่ฉลามคือผู้ชายที่ดีมาก" ทั้งในฐานะลูกชาย และคนรัก ผู้ชายคนนี้ควรค่าแก่การถูกมอบความรักให้จริงๆ (っ´▽`)っ ♥
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 04-02-2016 09:28:42
แล้วทำไมไม่ซื้อมาให้ครบ!!

รอค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: pe-ar ที่ 11-02-2016 15:52:32
เสียน้ำตาให้พี่ฉลามไปเยอะนะ
ตอนพิเศษมาบ่อยๆๆหน่อย คิดถึง :mew6:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 26-02-2016 04:34:04
อ๊ะ......ไม่เห็นตอนพิเศษ

ปลื้มค่ะ   ชีวิตคู่ที่ดีงาม 
อ่านเรื่องนี้แล้วเราดีใจมากๆค่ะว่าเรดาร์ความเป็นแม่ของเราเยี่ยมมาก   ก็ใช่ว่าลูกๆเรามีแฟนกันแล้วเถอะ  ถือว่าฝึกไว้  แต่ดีใจที่มองคนไม่ผิดจริงๆ  เหมือนที่เคยเมนท์ไว้ว่าความรักของพี่ฉลามนั้นหนักแน่น  ไม่ได้ร้อนแรงแต่อบอุ่นและมั่นคง  พี่ฉลามไม่เคยห่างหายไปไกลจากกลอนเลย  ตัวตนของพี่ฉลามรู้สึกได้ตลอดเวลา  พี่ฉลามรักกลอนมากขนาดนี้หาไม่ได้ง่ายๆหรอกนะคะในหลายๆทวีป

อย่าปล่อยมือจากกัน  แล้วก็ขอให้กลอนกับพี่ฉลามมีแต่ความสุข  ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งก็ตาม สำหรับเราไม่สำคัญเท่าเนื้อหาค่ะ

Please love him no less than what he deserved and accept no less than what you are entitled to.

ขอบคุณคุณคนเขียนมากๆค่ะ ที่เอามาถ่ายทอดให้อ่าน

ป.ล  ถ้าเรามีเงินเยอะๆนะ  เราจะมาขอซื้อลิขสิทธิ์สร้างเป็นหนังเลย
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: yumijung ที่ 03-04-2016 23:04:30
อ่านรวดเดียวเลย..ชอบมากๆ
หลากอารมณ์
อ่านไปแล้วคิดตาม...
มองเห็นแง่มุมของแต่ละโจทย์ที่พบเจอตามรายทางของเรื่องราว
****เป็นบันทึกที่อ่านสนุกมากๆ...อยากได้รวมเล่มอ่ะค่ะ..
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 04-04-2016 09:07:47
สนุกมาก ได้เห็นกลอนค่อยๆโต โถ ลูกแม่ ปลื้มปริ่ม

ตอนกลอนเลือกพัดโบก เรน่าแบบ...ก็โอเค เขาไม่ได้แย่อะไร เลือกแล้วก็ขอให้มีความสุข ถึงใจลึกๆจะเสียดายพี่ฉลามมาก

พอเกิดเรื่องทามะ ก็ไม่ถึงกับเกลียดพัดโบกนะ คิดว่าถ้าพัดโบกแฟร์กว่านี้ คุยกัน บอกกัน คงจะจบไม่แย่นัก น่าเสียดาย

โดยรวม นับถือใจพี่ฉลาม ยอมถอยมาเป็นพี่น้อง แต่แอบตามดูแล ถ้าเรน่าเป็นกลอน เรน่าก็ไม่กล้ากลับไปหาคนดีๆแบบนี้เหมือนกัน กลัวทำเขาเสียใจ

2 บทสุดท้ายนี่ลุ้นแทบแย่ อ่านจบแล้วร้อง เยสสสสส เลยนะ 555

ชอบสำนวนและเนื้อเรื่อง (base on เรื่องจริง?) โดยเฉพาะกระบวนความคิดของตัวละคร เขียนได้ดีมากค่ะ   o13
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 05-04-2016 15:46:48
ไม่ได้เข้าเล้านานมากกกกกก แต่คิดถึงเรื่องนี้สุดๆ พอเข้าเล้ามาเปิดเรื่องนี้อ่านเป็นเรื่องแรกเลย :กอด1:
ดีใจสุดๆที่พี่ฉลามของเค้า(?)ลงเอยกับกลอน แถมตอนพอเศษยังน่ารักสุดๆ คนอ่านก็มีความสุขไปกับกลอนด้วยนะคะ :katai2-1:
ใกล้จะสงกรานต์แล้ว จะมีลุ้นตอนพิเศษกับเทศกาลนี้ไหมน้าาาา :impress2:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Pcrpk ที่ 05-04-2016 19:26:14
เรื่องนี้ทำหัวใจหยุดเต้นไปหลายทีเลย คือมันเศร้าจริงๆอะ ชีวิตรันทดเรื่องความรักไม่หยุด  สงสารพี่หลามอะไม่รู้ดิพี่เเกดีอะแต่กลอนก็ทำพี่หลามเจ็บไปเยอะอะ แต่อย่างน้อยก็สมหวังกันละเนอะ เราชอบความคิดของกลอนมากเลยทำให้เราคิดตามได้ตลอดเลย คนอะไรแสนดีมาก (แต่ไม่น่าเลือกผิดคน) ตอนพิเศษนี้พี่หลามเป็นคนตลกเนอะ ขำจริง อุ้ย อินเกินน อิอิ
#สุดท้ายก็ขอบคุณน้าสำหรับเรื่องดีๆเเบบนี้ รักพี่ฉลามคะ ทีมพี่หลาม55555
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: tipppppp ที่ 06-04-2016 01:08:42
เพิ่งจะได้อ่าน เสียใจกับตัวเองจริงจริงที่มาไม่ทันออนแอร์ งื้ออออออออ :ling1:
เป็น1ใน10ของนิยายที่เราชอบมากกกกกๆเลย อินไปกับทุกตอนจริงๆ
ขอบคุณที่เขียนให้อ่านนะคะ จะติดตามทุกๆเรื่องเลยย  :mew1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: yumijung ที่ 13-04-2016 15:12:07
 o13 อ่านแล้วก็อยากอ่านอีก
ชอบทิวามากมาย
***รวมเล่มเหอะค่ะอยากเก็บไว้เป็นเจ้าของ #PLEASE ***
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: meng ที่ 04-05-2016 23:35:21
ลุ้นต้องนานกลัวกลอนเลือกพัดโบก แต่ใจลึกๆก็อยากให้อัพเดตถึงพัดโบกบ้างอยากรู้ข่าวคราว

แต่พออ่านถึงตอนพี่รันทำให้นึกถึงเพื่อนคนนึงไปรักคนที่มีคู่มั่นอยู่แล้ว เห็นมันร้องไห้แล้วโครตสงสารเลย

แต่สนุกมากลุ้นมากๆว่าคนที่เข้ามาในชีวิตกลอนสุดท้ายแล้วใครจะอยู่เป็นคนสุดท้าย
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 15-05-2016 19:38:44
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน แอบร้องไห้ตอนกลอนเลือกพัดอ่ะ สงสารพี่ฉลามมาก
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 03-06-2016 15:11:19
ขอบคุณพี่ฉลามที่มั่นคงและรักเดียวใจเดียว

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: hnonnoiSK ที่ 05-06-2016 09:52:09
 :impress2: :impress2: ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่นำมาแบ่งปันกันค่ะ
ขอให้รักกันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ นะคะ
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-06-2016 11:15:36
กลอน กับ พี่ฉลาม หวานกันทั้งการใช้ชีวิต ทั้งบทรัก น่ารัก จริงๆ
พี่ฉลามหวงกลอนได้น่าเอ็นดู ขำๆ กับชุดว่ายน้ำที่แทบจะเป็นมนุษย์กบ ลงไปดำน้ำได้เลย
รอ ตอนพิเศษ ของกลอน พี่ฉลาม และของเด่น บุ้ง มีของพี่นุ้ก น้องนัท ยิ่งสุดยอด
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: SOBANG✖ ที่ 05-06-2016 17:51:10
อยากอ่านตอนพิเศษบุ้งเด่นบ้างงงงง ขอหน่อยจิคะะะ >.<
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: jing_sng ที่ 05-06-2016 18:23:39
ช่างเป็นชีวิตรักที่แสนจะพลิกผัน
แต่สุดท้ายก็ได้อยู่ด้วยกัน
ขอให้รักและเชื่อใจกัน ไม่โกหกกัน ชีวิตก็มีความสุขแล้ว
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: clairon ที่ 07-06-2016 20:25:54
ลุ้นมากๆๆๆ ว่ากลอนจะเลือกใคร
ร้องไห้กับกลอนตั้งเยอะเลย
นี้ทีมพี่ฉลามตลอด
ตอนกลอนกับมาที่คอนโดมาหาพัดโพกแล้วมีอะไรกันน่ะ
ร้องไห้จ้าาา เค้ามีความสุขอีนี้ร้องไห้สงสารพี่ฉลาม
พัดโบกเริ่มต้นก็ไม่สวยแล้วพี่ไม่ปลื้มบอกเลอ

สุดท้ายรักน้องกลอนพี่ฉลามเบื้องบนคนเขียน

ขอบคุณมากๆนะคะ สนุกอินมาก :กอด1: :mew1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: hczmtp ที่ 08-06-2016 00:09:27
ลุ้นแทบตายว่ากลอนจะเลือกใคร ขอให้รักกับพี่ฉลามนานๆน้าาา   :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Pinkish ที่ 08-06-2016 07:40:30
ฮรื่อออออ คิดว่าจะไม่ได้ลงเอยกับพี่ฉลามซะแล้ว

คหสต. ไม่ค่อยชอบพัดโบกตั้งแต่แรกเท่าไร
รู้สึกเหมือนมีแต่เรื่องเซ็ก แต่ยอกรับว่าดูแลกลอนได้ดีจริงๆ

ส่วนพี่ฉลาม รู้สึกจะเป็นพวกไม่พูดแต่จะทำให้ดู
อย่างที่บอกให้กลอนไม่ต้องรอ แต่ตัวเองกลับมั่นคงจริงๆ

ส่วนกลอน ชอบอ่ะเป็นคนที่ไม่โกหกตัวเอง เข้าใจเลยความรู้สึกที่ต้องเลือก
พี่ฉลามกับพัดโบก อีกคนก็รักอีกคนก็ตัดไม่ได้

ตอนแรกคิดว่าสุดท้ายกลอนจะลงเอยกับพัดโบก แต่ก็เลิกกันคิดว่าต้องเป็นพี่ฉลามแน่ๆ
แต่มาตอนที่พี่ฉลามบอกว่าคุยอยู่กับคุณหมอ แบบ...อ้าวเฮ้ย แล้วไงต่ออ่ะ
สุดท้ายก็แฮปปี้ ยินดีกับทั้งคู่ด้วยจริงๆที่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
ก็ที่บอกว่าเนื้อคู่คงไม่แคล้วกัน ฮี่ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 12-06-2016 22:40:36
ลุ้นมาตั้งแต่ต้นจนจบ ดีใจที่เป็นพี่ฉลามเพราะเชียร์มาตลอด อ่านไปก็รักตัวละครไป รักสุดคือกลอนนี่แหละ
พอเธิเศร้าเราเศร้าด้วย หลายครั้งที่ร้องไห้ไปกับกลอน คนเขียนถ่ายทอดได้ดีมากค่ะ ชื่นชม
อีกตอนที่ร้องไห้คือตอนพ่อกลอนเสีย เศร้ามากๆ แต่ความดีของกลอนก็ทำให้มีคนดีๆคอยช่วยเหลือค้ำจุนอยู่รอบตัว
คนอื่นขอไม่เอ่ยละกันมีแต่เห็นแก่ตัวทั้งเต็งหนึ่ง อีนี่เลวววว พี่รัน ก็เห็นแก่ตัว พัดโบก ที่จริงก็มีข้อดีเยอะแต่ข้อเสียก็เยอะ
แต่ที่ปลื้มสุดคือพี่ฉลาม ปลื้มในความดีความใส่ใจของแก บอกไม่ให้น้องรอ แต่ตัวเองยังคอยดูแลใกล้ชิดอยู่เสมอ
จนพ่อแม่ต้องยอมใจ กลอนก็เข้มแข็งเหลือเกิน อดทน เสียสละกันมาเยอะ จนมีวันนี้ ดีใจกับทั้งคู่ค่ะ
ตอนพิเศษน่ารักมากกกกก หวงแฟน 555 ก็น่าหวงนี่เนอะ พี่แกพูดตรงมากเรื่องเปียกน้ำแล้วเห็นหมด อย่างฮา
แหม ก็แฟนเขาน่ารัก มีคนมาชอบให้พรึ่บพั่บๆ เขาก็ต้องหวงเนอะ รักพี่ฉลามและน้องกลอนมากค่ะ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ค่ะ อ่านยาวรวดตลอดวันหยุดนี้เลย
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: basanti ที่ 14-06-2016 16:02:11
รู้สึกดีใจที่ตามมาอ่านเรื่องนี้จากกระทู้แนะนำนิยาย ถ้าพลาดเรื่องของกลอนไปคงเสียดายมาก

ขอบคุณ "เบื้องบน" ที่แบ่งปันเรื่องราวและขอบคุณ "Loverouter" ที่นำเรื่องมาปรุงเป็นนิยายสนุกครบรส

ขออวยพรให้พี่ฉลามและกลอน..(ของพี่ฉลามคนเดียว) รักกันไปนาน ๆ นะ  :mew1:

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 15-06-2016 23:10:28
สนุกมากกกกกกกกกกค่ะ สงสัยว่าตัวเองไปอยู่ไหนมาเพิ่งได้อ่าน ภาษาก็ดีงามไปหมดดดด  จากใจคนเชียร์พี่ฉลามมาตลอดคือแฮปปี้มากกกกกก รอวันพี่เขากลับมา สารภาพว่าช่วงที่มีฉากอัศจรรย์กับพัดโบกเราข้ามค่ะ ทนไม่ได้ เหมือนตัสเองคือพี่ฉลาม แต่พัดโบกก็เข้ามาในเวลาที่กลอนอ่อนไหว เราไม่โทษใคร แต่พี่ฉลามดีเกินไปจริงๆ รักหนักแน่นมั่นคงมาก อยากได้เอง ตอนที่กลอนเลือกพัดโบกไปเรามีความคิดที่จะเลิกอ่าน เพราะรู้สึกแปลกๆกับพัดโบก รู้สึกถึงความไม่มั่นคง เลยอ่านต่ออยากรู้ต่อไป แล้วก็สมหวังค่ะ ชอบที่สุดคือกลอน เป็นเด็กที่ดีมากเลย ผิดหวังมาหลายครั้ง แต่ยังมีความรักอย่างมีสติ รอบคอบ เป็นตัวละครที่มีมิติน่าสนใจมากค่ะ ส่วนพี่ชัลหลามมมม ยินดีด้วยนะคะ ฝากถึงเบื้องบนด้วยว่าขอบคุณสำหรับบันทึกเรื่องราวที่สวยงามและน่าประทับใจแบบนี้ ขอให้มีความสุขในชีวิตรักนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 17-06-2016 09:04:21
พลาดเรื่องนี้ได้ไง สนุกมากกก ชอบความคิดของกลอน. ขอบคุณนะนิยายดีมากกกกกกกกก

ปล.รอตอนพิเศษๆๆ อยู่นะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: zaturday ที่ 17-06-2016 11:54:18
บอกตรงๆ อ่านจบแล้วรู้สึกดีใจมากที่เรื่องนี้แฮปปี้เอน

ด้วยความที่เขียนมาคล้ายบันทึก เราก็เลยกลัวว่ามันจะเป็นบันทึกรักที่กลอนอยากเขียนไว้นึกถึงความรักที่ผ่านมา อารมณ์ประมาณว่าตอนนี้เศร้าๆเหงาๆเลยเขียน

ชีวิตเราคล้ายๆกลอนนะ เราก็มีรักกับเพศเดียวกัน แต่เราเป็นหญิงกับหญิงแค่นั้น คบกับแฟนมาห้าปีกว่าละ พ่อแม่รับรู้ทั้งสองฝ่าย เราก็ไม่ได้บอกพ่อแม่ชัดเจนอะไรหรอก แต่ท่านก็เหมือนจะรับรู้
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 18-06-2016 17:39:11
อ่านจบไปอีกรอบ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: leelea ที่ 18-06-2016 20:49:20
ทีมพี่ฉลามมาตั้งแต่ต้นค่ะ
มีความรู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้ควรค่ามาก ต่อให้คบต่อไปลำบากแต่ถ้าได้อยู่ตอนท้ายด้วยกันก็คุ้มมาก
เพราะเค้ามีสิ่งที่หลายๆคนไม่มีคือ ความจริงใจ

พี่ฉลามไม่ใช่เกย์ตั้งแต่ต้น แต่พอมั่นใจแล้วคือใจคอหนักแน่นมาก
แล้วไม่ใช่คนที่แบบ ต้องของฉันเท่านั้น ตอนปล่อยกลอนไปให้พัดโบกนี่แทบจะร้องไห้ตาม
เป็นคนที่คิดถึงคนที่ตัวเองรักสูงมาก จะทำอะไรก็นึกถึงกลอนก่อน

ดีใจที่จบแฮปปี้นะคะ ยินดีกับเบื้องบนด้วยนะคะ ที่ได้คนที่ดีขนาดนี้
ขอให้มีความสุข จับมือกันไปยาวๆนะคะ :)
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 20-06-2016 22:00:51
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณคนเขียนมากๆเลยนะคะที่มาถ่ายทอดเรื่องราวของกลอนมาให้อ่าน
อ่านแล้วรู้สึกไปกับกลอนในทุกๆช่วงชีวิตจริงๆคะ
รักเรื่องนี้มากๆเพราะได้ข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิตมากมายจากเรื่องนี้ ยกให้เป็นเรื่องโปรดในดวงใจเลยค่ะ
พี่ฉลามเป็นผู้ชายในอุดมคติของเราเลยค่ะ เป็นผู้ใหญ่ อบอุ่น หนักแน่น และมั่นคง
กลอนกับพี่ฉลามโชคดีมากๆที่ได้มาเจอ มารักกัน
กลอนกับพี่ฉลามนี่ meant to be together จริงๆค่ะ
ขออวยพรให้ทั้งคู่รักษาความรักนี้ไปนานๆนะคะ 

ป.ล. อยากให้คนเขียนมาอัพเดตเรื่องราวของกลอนกับพี่ฉลามถ้ามีโอกาสนะคะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Nunnaly ที่ 20-06-2016 22:43:35
รู้สึกดีที่เชียร์พี่ฉลามตั้งแต่แรก o18
ไม่ผิดหวังจริงๆ  :mew1:
เราคิดว่าเรื่องนี้ในแง่คิดเราเยอะมาก
ทั้งเรื่องครอบครัว ความรัก ความรู้สึก การแก้ปัญหา บลาๆๆ
เราชอบกลอนนะ ถึงแม้จะแอบขัดใจตอนกลอนโลเลก็ตาม แต่มันก็ช่วยไม่ได้ถ้าจะลังเล(เป็นเรานี่คงเลือกยากคือกัน 555)
ขอบคุณค่ะ  :bye2:

ปล.อยากได้แฟนแบบพี่ฉลามอ่ะ  :sad4: :sad4:
แม่คะ!! หนูอยากได้~~
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Memindbucker ที่ 21-06-2016 08:50:11
สนุกมากเลยค่ะ ภาษาก็ดี. ภาษาสวยจริงๆ มีประโยคกินใจหลายประโยคมาก
ตอนแรกสงสารน้องกลอนมาก ชีวิตรักรันทดอะไรขนาดนี้
แต่พอมาถึงตอนที่ต้องเลือกระหว่างพัดโบกกับพี่ฉลาม คือเริ่มไม่ชอบแล้วอ่ะ กลอนคิดยังไง คนอย่างพัดสู้พี่ฉลามไม่ได้แม้แต่นิด
เหมือนในหัวพัดก็คิดแต่เรื่องเซ็กส์ไม่งั้นคงไม่เข้าหากลอนด้วยวิธีสกปรกแบบนั้น
ยิ่งพอรู้ว่าพี่ฉลามยังคอยฝากให้พี่นุ๊กดูแลกลอนคือยอมใจพี่ฉลามมาก คนอะไรจะดีขนาดนี้
ตอนทีีไฟดับแล้วพี่ฉลามให้พี่นุ๊กมาดู คือร้องไห้เลย กลอนทำอะไรอยู่ล่ะตอนนั้นอยู่กับผชคนอืืน แต่อีกคนเขาคอยห่วงกลอนตลอด
แทบทำใจอ่านต่อไม่ได้เลย ยิ่งตอนเลือกพัดแล้ว คืออยากให้พี่ฉลามเจอคนใหม่เลย ฮือออทีมพี่ฉลาม
แต่สุดท้ายคู่กันแคล้วไม่แคล้วกัน รักกันนานๆนะพี่ฉลามกับน้องกลอน
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 22-06-2016 06:35:39
พี่ฉลามคือความดีงามของโลกค่ะ

ยอมมมมมม

เสียน้ำตาไปกับพี่แกเยอะจริงๆ

หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: pimBNY ที่ 26-06-2016 00:08:09
สนุกมากกกกกก  เศร้ามากกก แต่ไม่น่าเบื่อ
ชอบวิธีคิดของกลอน
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 29-06-2016 23:26:19
 o13 o13 o13 o13 o13
สุดยอดคะ เนื้อเรื่องดีมาก ขอให้พบความรักดีๆบ้าง

อให้กลอนกับพี่ฉลามมีความสุขขขขขข

 :3123: :3123: :3123: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: targetsii ที่ 01-07-2016 19:16:29
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ อ่านวนไปสองสามรอบแล้ว
อ่านนานแล้วพึ่งสมัครเลยมาเม้น   :mew1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: peppermintt ที่ 14-07-2016 11:24:29
น่ารักดีจัง ถ้าแต่งจากเรื่องจริงก็ขอให้กลอนไม่ต้องเสียใจอีกนะคะ :mew3:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: may_nk ที่ 15-07-2016 01:21:49
บอกเลยชอบเรื่องนี้มาก  o13
ขอบคุณนะคะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 16-07-2016 04:48:10
สนุกมากเลยค่ะ ชอบมากๆๆๆ โดนใจทั้งเรื่อง ดีใจที่ซู๊ดที่ฉลามเป็นพระเอก เย้ๆๆ วู้ฮู้ววว ยิปปี้ ยิปป้า เฮอเร่ย์
ขอร่วมดันให้ได้เซ็งเป็ดอะวอร์ดปีนี้อีกเสียง ประทับใจ พระ นาย ดาวรุ่ง เชียร์รวบตึงไปเลยค่ะ เย้!
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-07-2016 09:29:22
คิดถึงพี่ฉลาม กลอน มากกกกก  :mew1: :mew1: :mew1:
ยังขำชุดว่ายน้ำของพี่ฉลามไม่หาย ไร้ท เขียนเก่งมาก ขำจริงๆ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
เรื่องของเด่น กับบุ้ง ที่เชียงใหม่ ทั่กลอนจะเล่าด้วย
รอ ตอนพิเศษตอนใหม่ นะ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 16-07-2016 21:50:08
 o13
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: psyche ที่ 29-08-2016 19:31:31
อ่านจบแล้ว ต้องเม้นต์​
กลอน เป็นนายเอกที่ไม่โลกสวยจริงๆ กว่าจะได้เจอคนที่รักจริง ผ่านเรื่องราวเยอะมาก ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เข้มแข็งจริงๆ คนหน้าตาดี ใช่ว่าจะสมหวัง ไม่เสียใจ ความเป็นจริง กลอนถูกทิ้ง ถูกหลอก ตลอด

ผู้เขียนบอกว่า มีส่วนความจริง  เราว่ากลอนโชคดีมากที่ได้เจอพี่ฉลามเราเชียร์​พี่ฉลามตั้งแต่แรก เป็นคนจริงใจ ตรงๆ ดีอะ   คนอื่นๆที่ผ่านเข้ามา ดูออกว่า ต้องการแค่เรื่อง sex จากกลอน ไม่มีกลิ่นไอความรักเลย
แม้แต่พัด เราก็มองว่า ไม่ใช่รัก ขนาดพ่อกลอนเสียชีวิต​ ยังมี sex ได้

ยินดีด้วยนะคะ ที่กลอน ได้เจอคนรักที่ดี ลุ้นมาทั้งเรื่อง
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: live_evil ที่ 27-09-2016 01:22:02
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านแล้วเครียดมากกกกก  :ling1: :ling1:
ที่จริงไม่ชอบอ่านนิยายที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพระเอกที่ชัดเจน มันกดดัน ไม่อยากเดาเอง 55+
แต่เพราะเนื้อเรื่องและก็สำนวนของคนเขียนที่ทำให้เราอ่านมาได้จนถึงตอนจบ
อ่านรวดเดียวจบแบบไม่เป็นอันกินอันนอนเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวจนออกมาเป็นนิยายเรื่องนี้
ขอให้รักกันนานๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 04-12-2016 12:47:23
โอ๊ยดี ดีงาม ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  รักเลยยยย
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Pling ที่ 13-12-2016 12:12:21
ชอบมากกก ครบทุกอารมณ์เลย อ่านไปก็ร้องไห้ไป ดีใจที่ตอนจบคู่กับพี่ฉลาม เชียร์คนนี้มาตลอด  o13  :กอด1:
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: top_fy ที่ 01-01-2017 09:03:40
HappyNewYear 2017นะครับ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: tear0313 ที่ 25-03-2017 18:32:38
น่าร๊ากกกก :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: vvrpm3u ที่ 29-03-2017 11:11:02
รักนายเอกเรื่องนี้ เสียน้ำตาไปเยอะมาก อินมากกกก รักๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: บารมี ส่งเสริมยิ่ง ที่ 29-03-2017 20:37:02
เอาจริงๆนะคิดว่า เด่นมาwin รู้สึกเด่นรักเพื่อนมาก อยู่ข้างๆตลอด
เป็นเรื่องที่ครบรสจริงๆ นี่คือมนุษย์อะ  มนุษย์ที่ไม่ได้เก็บซิงไว้ชิงโชค มนุษย์ที่มีอารมณ์ก็ต้องระบาย
นิยายดีๆไม่ต้องโปรโมทจริงๆ ไม่ต้องดังไม่ต้องดัน ชอบมากที่ไม่มีคำบรรยายว่านายเอกหน้าสวยเกินหญิง
แ ต่นายเอกก็เป็นมนุษย์ผู้ชายคนนึงที่มีความต้องการ
ดีต่อใจมากที่ได้มาเจอเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: hunhan ที่ 18-06-2017 20:31:38
เป็นนิยายที่ดีมากๆถึงมากที่สุด มันทำให้เรารู้จักแง่มุมของความรัก ว่ามันไม่จำเป็นต้องสมหวังเสมอไป
นายเอกเรื่องนี้เป็นคนที่เข้มแข็งและมีจุดยืนเป็นของตัวเองมาก
เรื่องนี้สื่ออกมาได้ดีในทุกๆอย่าง
เสียใจที่พึ่งมาอ่าน แง แต่ก็จะติดตามไปเรื่อยๆนะคร้า ดีงามจริงๆ
จะไปอ่านเรื่องของคุณพี่เรื่องถัดไป อิอิ :mew1: :hao6:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Nattarat ที่ 20-06-2017 23:22:25
อ่านจบแล้ว บอกตามตรงลุ้นมากค่ะ เราเชียร์พี่ฉลามมาตลอด ดีใจที่จบแบบแฮปปี้ เอนดิ้ง ตอนพิเศษฮามากค่ะ ขอตอนพิเศษอีกนะค่ะ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 28-07-2017 20:46:52
โอยยยย อ่านจบแล้ว ดีใจมากที่ได้ลงเอยกับพี่ฉลาม ฮืออ เรารักพี่ฉลามมากเลย  :o12:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 06-12-2017 02:03:52
ไม่เสียแรงที่เชียร์พี่ฉลาม โอ้ยยยย  เชียร์มาตลอด รักมาตลอด

เป็นนิยายที่ประทับใจมาก เรียลมากกก

เสียน้ำตาไปกับเรื่องนี้พอสมควร ชอบจัง

คนเรากว่าจะเจอคนที่ใช่ต้องผ่านอะไรมาเยอะ  อุปสรรค บททดสอบมันเยอะ

ชอบที่ได้อ่านพัฒนาการของกลอน เหมือนมีเพื่อนคนนึงละส่งถึงฝั่ง

ชอบคำว่าคู่กันแล้วไม่แคล้วจากกันหรอก

ขอบคุณนิยายเรื่องที่อ่านจบแล้วกลับมาทำให้เชื่อในความรักอีกครั้ง
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: SeaBreeze ที่ 07-12-2017 06:59:58
ชีวิตคู่ดีงาม :L1:
พี่ฉลามมั่นคงมาก กลอนโชคดี :katai2-1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 08-12-2017 21:28:53
ชุดดำน้ำ มีความฮา555
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-12-2017 14:13:34
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Thanking ที่ 12-12-2017 07:42:55
เป็นบันทึกที่คุ้มค่าคุ้มเวลาในการอ่านมาก ประทับใจจริงๆ บันทึกเล่มนี้สะท้อนและสอนชีวิต ให้แง่คิดดีๆ ผ่านมุมมองของแต่ละคนออกมามากมาย ดีใจที่หาเรื่องนี้พบและได้ร่วมรับรู้ความเป็นไปในแต่ละช่วงเวลาของกลอน ขอให้ความสุขไม่หนีหายไปไหน อยู่กับทุกๆ คนในบันทึกนี้ไปเรื่อยๆ นะ ขอบคุณที่หยิบเรื่องราวดีๆ นี้มาแบ่งปัน ขอบคุณจริงๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 22-12-2017 01:12:15
มาอ่านรอบที่สามแล้ว ยังคงชอบพี่ฉลามเหมือนเดิม แล้วก็ชอบกลอน ชอบทัศนคติ ชอบการใช้ชีวิต เป็นเด็กดีและเติบโตมาอย่างมีคุณภาพจริงๆค่ะ :hao5:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 22-12-2017 22:14:17
ขอสารภาพว่าแอบอ่านคอมเมนต์ แล้วรู้ว่าใครเป็นพระเอก เราเลยอ่านข้ามๆตอนแรกๆ
แต่สนุกมากกกกก ร้องไห้ตอนที่กลอนเลือกพัด แล้วก็กลับมากรี้ดตอนเขากลับมาคบกับพี่ฉลาม
คู่อื่นก็ดีค่ะ ตลกคู่บุ้งกับเด่น แต่แอบสงสารพัดเล็กๆ ขอให้ทำใจได้เร็วๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้นะคะ
 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: StarPasO ที่ 24-12-2017 00:14:20
เรื่องนี้ดีมากครับ ตอนอ่านสงสารพี่ฉลามมาก  :hao5: ผิดไหมที่ดีใจที่พัดโบกนอกใจ  :hao7:

ชอบตอนพิเศษ ซื้อมาได้ใส่ครั้งเดียวก็ต้องเปลี่ยนซะละ หวง
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: plearnly ที่ 24-12-2017 00:52:59
เพิ่งเข้ามาอ่านรวดเดียวจบเลย เหมือนกลอนเป็นลูกน้อยที่เราเฝ้าดูตั้งกะเริ่มตั้งไข่กับความรัก หน่วงไปด้วยกันสุขไปด้วยกันแบบเดาทางไม่ค่อยออกพลิกไปพลิกมาตลอดเลย แต่บทสรุปก็สุขใจไปกะลูกด้วยที่มีคนที่ดีมาดูแลลูก  หัวอกคนเป็นแม่มโนแบบเราก็ปริ่มใจในตอนจบ  o13
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 02-01-2018 16:40:02
อ่านรวดเดียวจบ อ่านไปร้องไห้ไปเลย
ลุ้นกับพี่ฉลามมากจริงๆ ดีใจที่สุดท้ายก็ได้อยู่ด้วยกัน
ขอให้รักกันไปนานแสนนาน มีความสุขในทุกๆวันนะ

ขอบคุณเรื่องราวดีๆ :3123:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: jomyingg ที่ 11-01-2018 17:31:25
สนุกมากเลยค่ะ เป็นความรักที่มีหลายรสชาติมากๆ
ขอบคุณคุณเบื้องบนที่ใจดีให้เรื่องมาเผยแพร่นะคะ  :กอด1:
แล้วก็ขอบคุณคุณนักเขียนด้วยที่แต่งออกมาได้ดีมากๆเลยค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 12-01-2018 23:26:34
กว่าจะสมหวังได้ เจ็บมาแค่ไหน เสียน้ำตาไปเท่าไหร่ คู่รักแล้วก็ไม่แคล้วกันตามที่โบราณเค้าว่าจริงๆ

แต่เราก็คิดนะว่ากลอนเหมาะกับพี่หลามมากกว่าพัดโบกอ่ะ เชียร์พี่หลามออกนอกหน้ามาก

ซึ่งกลอนเลือกพัดก็เข้าใจนะ ก็เห็นรักกัน ดูแลกันดี นึกว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว

เกิดไรขึ้นเนี่ยยยย ไหนว่ารักกลอนมากไง โกหกงั้นหรอ วางแผนอนาคตซะดิบดี

คบกันแต่ลืมคนเก่าไม่ได้พอกลับไปอยู่ใกล้เลยมีอะไรกัน ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว สองครั้งจ้า มันทำแบบนั้นได้ด้วยหรอว่ะนั่น

ไม่นึกว่าจะเลวได้ขนาดนี้นะพัด ไม่เชียร์แต่ก็ไม่ได้ชอบ แต่ตอนนี้เกลียดเลย

แค่ไกลกันก็ลำบากพอแล้วยังนอกใจอีก รับไม่ได้
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 13-01-2018 14:26:37
 :hao3: :L3:สุดท้ายก็ได้รักกันซึ้งสุดๆๆๆ
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-01-2018 18:55:46
 :L2:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 17-01-2018 08:55:39
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: bojaemyboo ที่ 26-01-2018 11:17:25
#ทีมพี่ฉลาม อินมากตอนกลอนเลือกพัด จะร้องไห้ตามพี่ฉลาม ซาบซึ้ง พี่แกรักของแกมากอ่ะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: nekodollzz ที่ 29-01-2018 14:29:47
ฮือออ ชอบมาก ซึ้งมาก ขอบคุณค่ะ
นั่งอ่านทั้งวันรวดเดียวจบ
หมดน้ำตาไปหลายก๊อกเลย
ดีใจที่คนดีๆเขาได้คู่กัน
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: gungchan ที่ 29-01-2018 15:43:55
 o13 ขอบคุณมากค่ะที่ลงบันทึกเรื่องนี้ให้อ่านกัน เป็นเรื่องที่มากกว่านิยาย
เหมือนสะท้อนอารมณ์ ความคิด และบางครั้งก็เป็นการเตือนสติให้ยั้งคิด
ให้เห็นถึงการตัดสินใจทำอะไรบางอย่างหากขาดเหตุผลประกอบด้วยนั้น มันจะเป็นอย่างไร
ความรักมันไม่เกี่ยวกับว่า เพศไหน แต่มันขึ้นอยู่กับว่า อีกฝ่ายเป็นใคร
 :mew1:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 30-01-2018 14:46:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักฉบับพิเศษ ตอน หวง 26/01/59 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 18-02-2018 17:57:35
อ่านจบแล้วตบอกตัวเอง
โอ้ยนี่แหละนิยายที่ตามหา

อินมากกกก  มีความสุขเมื่ออ่านจบ
ประทับใจมากค่ะ รอติดตามรูปเล่มที่จะออกนะคะ

ขอบคุณสำหรับนิยายมากค่ะ
หัวข้อ: Re: จนกว่ารักจะทักทาย(บันทึกรักร้อน) อัพเดทการรวมเล่มหน้าแรก+โชว์ปกหน้า 14 ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 19-02-2018 14:30:33
มาอวดปกเรื่องนี้กันค่ะ


สำนักพิมพ์ : Bookish
ปก : Leila



(https://www.picz.in.th/images/2018/02/19/27972338_2039888609588044_2424008739682764807_n.jpg)


ในฐานะผู้แต่งและในฐานะเพื่อนของกลอน
อยากขอบคุณสำนักพิมพ์ Bookish House ที่รักในนิยายเรื่องนี้และช่วยสร้างฝันเลิฟให้มันจับต้องได้
ช่วยทำให้กลอนได้มีบันทึกเก็บไว้จริงๆ
และขอบคุณอาจารย์ leila ที่ช่วยวาดปกให้ได้อย่างที่ต้องการ
สวยจนพี่ฉลามตัวจริงเห็นแล้วถามว่า “พี่หล่อแบบนี้เลยจริงดิ” 555
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) อัพเดทการรวมเล่มที่โพสต์แรก + ปกหน้า 14 ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 19-02-2018 15:07:26
คิดถึงเรื่องนี้จัง ปกสวยมาก
ชื่อใหม่เพราะดีค่ะ "จนกว่ารักจะทักทาย"
ในเล่มจะมีตอนพิเศษเพิ่มเติมอีกไหมคะ
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) อัพเดทการรวมเล่มที่โพสต์แรก + ปกหน้า 14 ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gungchan ที่ 19-02-2018 16:55:55
รอคอยในรูปแบบ ebook(ebub) ด้วยนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) อัพเดทการรวมเล่มที่โพสต์แรก + ปกหน้า 14 ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 19-02-2018 16:57:10
คิดถึงเรื่องนี้จัง ปกสวยมาก
ชื่อใหม่เพราะดีค่ะ "จนกว่ารักจะทักทาย"
ในเล่มจะมีตอนพิเศษเพิ่มเติมอีกไหมคะ

มีแน่นอนค่ะ หยอดกระปุกเผื่อเค้าด้วยน้าาาาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) อัพเดทการรวมเล่มที่โพสต์แรก + ปกหน้า 14 ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: khungyf ที่ 21-02-2018 23:00:12
รออยู่นะคะ รักพี่ฉลามมากกก พี่เค้าคือผัวของโลกใบนี้ /กลอนแม่ขอโทษนะลูก
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) อัพเดทการรวมเล่มที่โพสต์แรก + ปกหน้า 14 ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 22-02-2018 09:49:32
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) แจ้งพรีฯ นิยาย หน้า 14 ค่ะ 06/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 06-03-2018 08:31:53
ขอฝากผลงานรวมเล่มเรื่องแรกของ Loverouter ด้วยนะคะ

 
รอบ Pre - Sale

เรื่อง : The Moment of Love จนกว่ารักจะทักทาย

ผู้แต่ง : Loverouter

วาดปกโดย : Leila

Artwork : Jirito De Las Espadas

สำนักพิมพ์ Bookish House

 
ระยะเวลา ตั้งแต่วันนี้ - 18/3/2561

กำหนดการจัดส่ง ภายในเดือนเมษายน 2561

รอบ Pre-Sale ราคา 360 บาท (ราคาปก 379 บาท)

สั่งจองได้ที่  [Bookish House] (http://www.bookishhouse.com/)



ค่าจัดส่ง (ใส่กล่องทุกออเดอร์) ลงทะเบียน 50 บาท  EMS 70 บาท จัดส่งภายในเดือนเมษายน


สิ่งที่จะได้

- หนังสือ 1 เล่ม (มีตอนพิเศษที่ไม่ได้ลงเว็บ 3 ตอน) จำนวนหน้า 360+ หน้าโดยประมาณ

- ที่คั่น 1 ใบ

- โปสการ์ด 2 ใบ (ลายปก+ลายจิบิ)


ของแถมรอบพรี

โปสการ์ดโดจินวาดโดยคุณซัสจี้

ขนาด 5 x 7 นิ้ว จำนวน 1 ใบ

(เป็นการ์ตูน 4 ช่อง 2 แถว)


สิทธิ์พิเศษรอบ Pre-Sale

- ลดราคาจากปก 5%

- สามารถแลกซื้อแสตนดี้ได้ตามจำนวนเล่มที่สั่งซื้อ (หนังสือ 1 เล่ม สามารถซื้อแสตนดี้ได้ 2 ลาย ลายละ 1 อัน)

ลาย SD วาดโดยคุณซัสจี้   ลายปก วาดโดย อ.เลล่า


สำหรับท่านที่ไม่สะดวก Pre-Sale สามารถซื้อหนังสือที่งานหนังสือได้ค่ะ หนังสือจะวางจำหน่ายที่บูธ B2S

- ผู้ที่ซื้อในงานจะไม่ได้ของแถมรอบพรี

- ไม่สามารถร่วมรายการแลกซื้อแสตนดี้ได้

- ราคาขายตามหน้าปก ไม่มีส่วนลด


(https://www.picz.in.th/images/2018/03/06/SSpl8v.md.jpg)

(https://www.picz.in.th/images/2018/03/06/SSpD7E.md.jpg)

ขอบคุณ Thaiboyslove สำหรับพื้นที่ให้นักเขียนคนนี้สานฝันสำเร็จด้วยนะคะ หากผิดกฏช่วยชี้แนะด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) แจ้งรายละเอียดการพรีฯ หน้า 14 ค่ะ 06/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 02-05-2018 14:26:34
คู่แท้ค่าาาาาาเขาคือคู่แท้ พี่ฉลามน้องกลอนเชียร์คู่นี้แต่แรกแล้วววว :ling1: :hao7: :mew1:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) แจ้งรายละเอียดการพรีฯ หน้า 14 ค่ะ 06/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 07-05-2018 02:11:36
อ่านตอนแรก อ่านไปช้ำไปกลอนชีวิตหนอชีวิต เจ็บกี่ครั้งถึงจะพอใจ ยิ่งตอนพี่ฉลาม ให้ตาย น้ำตาไหลจนอายคนนั่งข้าง ๆ แต่สุดท้าย กลับมารักกัน ดีใจจริง ๆ ค่ะ มันคุ้นกับเรื่องของคนที่เราเคยติดตามเลย ดีใจที่กลอนกับพี่ฉลามรักกันแบบนี้
หัวข้อ: Re: =บันทึกรัก..ร้อน= บันทึกรักที่ 7 บันทึกรักบทสุดท้าย (จบ) 21/01/59 P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 16-05-2018 18:53:57
โอ้ จบแล้ว อ่านไปก็ลุ้นไปกับกลอนว่าคนไหนจะเป็นคนๆนั้น

ขอบคุณนะคะ เริ่มอ่านมาตั้งแต่เมื่อคืนอยากมาราธอนมาก

แต่ง่วง (ฮา) ผู้แต่งแต่งออกมาดีทุกเรื่องเลย ฮือ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) แจ้งรายละเอียดการพรีฯ หน้า 14 ค่ะ 06/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 29-05-2018 07:13:04
พี่ฉลามเหมาะสมกับกลอนที่สุดแล้ว
เราอ่านตอนพัดเราไม่ชอบพัดเลย
แอบเสียใจตอนกลอนเลือกพัด
สงสารพี่ฉลามมาก ทำทุกอย่างเพื่อกลอนคนเดียว รักกลอนมาก
บอกตรงๆว่าแอบเชียร์พี่ฉลามตั้งแต่แรก
ยังไงก็ขอให้มีความสุขตลอดไปนะคะ
ขอบคุณคนเขียนด้วยนะคะ ที่เอาเรื่องราวดีๆมาให้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) แจ้งรายละเอียดการพรีฯ หน้า 14 ค่ะ 06/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: kamol1620 ที่ 30-05-2018 22:33:02
ดีใจมากที่ได้มาเจอเรื่องนี้ ไม่คิดว่าจะเล่นเอาทำนบน้ำตาแตกเหมือนเขื่อนแตก  :mew4: อ่านไปก็เจ็บไปด้วย อิน อิน ^^ แล้วก็เป็นอีก 1 เรื่องที่จะซื้อหนังสือมาเก็บไว้

ขอบคุณมากนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) แจ้งรายละเอียดการพรีฯ หน้า 14 ค่ะ 06/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: noy ที่ 29-06-2018 06:32:19
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) แจ้งรายละเอียดการพรีฯ หน้า 14 ค่ะ 06/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: mameaw.omg ที่ 29-07-2018 14:36:23
สนุกมากกก ขอบคุณที่ที่เขียนนิยายดีๆให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) แจ้งรายละเอียดการพรีฯ หน้า 14 ค่ะ 06/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 14-09-2018 22:44:16
หมุนวนมาเจอและได้อ่านซ้ำอีกรอบ ยังประทับใจเหมือนเดิม

เราไม่อาจรู้ ว่าคนที่เดินผ่านเรา สวนไปมา หรือคนที่อยู่ในระยะสายตาของเราตลอดมา คนไหนคือรักแท้ของเรา เพราะบางครั้งในบางเรื่องมันก็ต้องปล่อยให้พรหมลิขิตเป็นผู้ชี้นำพาให้ได้เจอ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) แจ้งรายละเอียดการพรีฯ หน้า 14 ค่ะ 06/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 03-11-2018 17:42:27
 :mew1:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) แจ้งรายละเอียดการพรีฯ หน้า 14 ค่ะ 06/03/61
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหนูไฉไล ที่ 04-11-2018 00:03:45
อ่านจบแล้ว เย้ ...

เรื่องนี้อ่านแล้วกระแทกใจหลายอย่าง

นี่ไม่ได้โชคดีมีความรักเหมือนกลอน แต่ก็เลือกที่จะปิดตัวเอง ความเป็นไปในแต่ละช่วงชีวิตของกลอน มันทำให้เรารู้สึกหลาย ๆ อย่าง

อย่างน้อยตอนนี้ ก็คงต้องหาใครไว้แอบรัก หาใครไว้แอบยิ้มจริง ๆ จัง ๆ บ้างแล้วล่ะ เพราะอยู่คนเดียวมันก็เหงาเกินไปจริง ๆ นะ ...
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: Loverouter ที่ 25-12-2018 20:29:12
My Santa


ไม่รู้ว่าผมเคยเล่าไปรึยังว่าผมกับพี่ฉลามไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันพิเศษต่างๆ ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายเพราะเมื่อเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับมัน ความทรงจำเกี่ยวกับวันพิเศษเหล่านี้จึงมีน้อยมาก จำได้ว่ามีวาเลนไทน์อยู่ปีหนึ่งที่ผมร้องขอกุหลาบจากพี่เขา ซึ่งเขาคงประหลาดใจมากๆ เพราะผมไม่เคยขออะไรที่หวานแหววเลยตั้งแต่คบกันมา เมื่อผมเอ่ยปากขอ สิ่งได้กลับมาก็เป็นความทรงจำที่ทำให้ยิ้มได้มาจนถึงทุกวันนี้ แต่ที่ผมจะเล่าไม่ใช่เรื่องวันวาเลนไทน์ครั้งนั้น แต่เป็นวันคริสต์มาสอีฟที่เพิ่งผ่านมาเพียงวันเดียวต่างหากครับ
 
ช่วงสองอาทิตย์สุดท้ายของเดือนธันวาคมเป็นช่วงที่ผมยุ่งมากที่สุด ผมต้องเคลียร์งานที่คั่งค้างให้เสร็จก่อนหยุดยาว เป็นความสบายใจของมนุษย์ที่บ้างานอย่างผมเอง เพราะวันที่ 25 ผมมีนัดกับเพื่อนถึง 2 กลุ่ม วันที่ 26 ก็เป็นงานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัท และบริษัทของผมให้หยุดตั้งแต่วันที่ 27 ครับ
 
ผมถามพี่ฉลามก่อนแล้วว่าวันคริสต์มาสจะไปไหนกันไหม ผมจะได้ไม่รับนัดคนอื่น พี่เขาบอกว่าไม่ไป เขาขี้เกียจออกไปเบียดกับคนตามร้านอาหารต่างๆ ผมคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าเขาไม่อยากไปไหน นิสัยของเขายังเหมือนเดิม คือไม่ชอบความวุ่นวาย อีกอย่างหนึ่งคือวันหยุดยาวเราก็มีเวลาอยู่ด้วยกัน กรุงเทพจะโล่งมากเหมือนทุกปี เราค่อยใช้เวลาช่วงนั้นด้วยกัน ผมจึงรับนัดเพื่อนๆ ที่ไม่ค่อยได้เจอกัน ส่วนพี่ฉลามก็คงฉลองกับกลุ่มเพื่อนของเขาเหมือนกัน ถ้าให้ผมเดา ก็คงตั้งวงเหล้าที่บ้านพี่ฉลามนี่แหละครับ เมื่อกำหนดแผนออกมาแบบนี้ผมจึงรีบลุยงานให้เสร็จก่อนวันคริสต์มาส ช่วงนั้นผมกลับดึกทุกวัน เหนื่อยมาก
 
ปกติแล้วถ้ามีงานติดพันที่จะต้องกลับดึกๆ ผมจะมานอนค้างที่คอนโด หอบหิ้วงานมาทำต่อ มันสะดวกทั้งการเดินทางและที่สำคัญมันเงียบดีครับ เวลาคิดงานผมชอบอยู่คนเดียว ซึ่งมันเป็นแบบนี้มาหลายปี พี่ฉลามไม่เคยห้ามหรือบ่นอะไรเพราะหลายปีที่ผ่านมาผมแบ่งเวลางานกับเวลาส่วนตัวได้แบบไม่ขาดตกบกพร่อง
 
คนส่งส่วยเวลาผมลุยงานก็ยังเป็นพี่ฉลามคนเดิม เขามาแบบเงียบๆ ซื้อนั่นนี่มาเตรียมเอาไว้ให้ มาชงโกโก้ร้อนให้ วางไว้ให้แบบไม่พูดอะไร ทำอะไรเสร็จก็มาหอมแก้มผม แล้วก็กลับบ้าน บางทีผมก็เกรงใจพี่เขาที่ต้องมาห่วงมาดูแลผมตลอด ผมเคยบอกว่าผมดูแลตัวเองได้ อยากให้พี่เขาพัก แต่เขาบอกว่านี่คือการการพักของเขา มันคือความสุขของเขา เขาไม่ได้เหนื่อยอะไร
 
นั่นคือเหตุการณ์ที่ผ่านมา แต่กับการจำศีลการทำงานในครั้งนี้พี่ฉลามเปลี่ยนไป
 
ยังไงเหรอครับ?
 
เขาให้ผมกลับไปทำที่บ้าน เขามารอรับผมทุกวันทั้งที่ตัวเขาก็งานยุ่งจะตาย ผมถามเขา เขาก็บอกว่าเขารู้สึกห่วงผม ผมไม่ได้มาที่คอนโดของตัวเองเป็นเดือนแล้วครับ เพราะพี่ฉลามไม่ยอมให้มาคนเดียว
 
“เอาดีๆ ห่วงหรือระแวงอะไรกลอนรึเปล่า” ผมถามเขาเพราะมันผิดปกติ

“ระแวงอะไร กลอนมีกิ๊กเหรอพี่ถึงต้องระแวง” เขาถามผมกลับ

“บ้าดิ ทำงานจนหัวฟูแล้วเอาเวลาที่ไหนไปหากิ๊ก”

“ไหนหัวฟูเหรอ มาดูหน่อย” เขาโน้มคอผมให้มาใกล้ๆ แล้วก็แกล้งหอมหัวผมหลายที

“เนี่ย มีอะไรแน่เลย เนียนเลี่ยงไปเลี่ยงมา บอกกลอนมา ทำไมให้กลับบ้าน”

“ห่วงจริงๆ”

“แล้วพี่ก็ต้องมารอกลอนดึกๆ ดื่นๆ กลอนก็ห่วงพี่นะ ให้ขึ้นมารอที่ทำงานพี่ก็ไม่เอา รอในรถก็ติดเครื่องไม่ได้ ร้อนจะตาย”

“เออน่า พี่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการรอกลอน”

“อีกแค่อาทิตย์เดียวเอง งั้นพี่มานอนกับกลอนที่คอนโดก็ได้ มันใกล้ที่ทำงานดี”

“เอากลับไปทำที่บ้านแหละ”
 
ในเมื่อพี่เขายื่นคำขาดมาแบบนี้ผมก็ขี้เกียจเถียง แต่เหตุผลฟังไม่ขึ้น ดื้อไหมครับพี่ฉลามของทุกคน
 
ผมสงสารพี่เขามากเลย ยิ่งช่วงใกล้วันหยุดยาวผมยิ่งเลิกงานดึก พี่เขาก็ยังมารอผม ผมก็กลับมาคิดทบทวนว่าตัวเองทำอะไรให้พี่เขาไม่ไว้ใจหรือเปล่า เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่ผมก็ไม่มีใครจริงๆ แถมเลิกงานเสร็จเราสองคนก็ไม่ได้ไปกินข้าวกันต่อนะครับ ตรงกลับบ้านเลย ผมเหนื่อยจนอยากจะเดินหลับด้วยซ้ำ บางวันกินข้าวกล่องในรถกันทั้งสองคน พี่เขาซื้อมารอไว้เลยเพราะรู้ว่าผมยังไม่ได้กินอะไรแน่ๆ วันไหนพี่เขาติดประชุมมารับไม่ได้ก็ส่งคนขับรถมารอรับแทน บางวันผมขึ้นรถได้ก็หลับสนิทเลย ถึงบ้านพี่เขาถึงได้ปลุก สีหน้าเขาดูไม่ดีเหมือนกันที่เห็นผมเหนื่อย แต่ผมก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามแล้วว่าทำไมถึงต้องห่วงผมขนาดนี้ เขาอาจจะฝันไม่ดีหรือมีอะไรสักอย่างทำให้รู้สึกห่วงผม ถ้าเขาสบายใจ มันก็ไม่ได้ยากลำบากอะไรเลยที่ผมจะตามใจเขา

......

 
24 ธันวาคม 2561 เวลาประมาณ 21.00 น.
 
ผมเคลียร์งานทั้งหมดแล้ว จบสิ้นเสียทีความเหนื่อยที่สะสมมา สามารถก้าวเข้าสู่ปีใหม่ด้วยความสบายใจไร้กังวลแล้วครับ ตอนนี้อยากนอนแช่น้ำอุ่นและหลับบนเตียงนุ่มๆ ในห้องแอร์เย็นๆ คิดแล้วก็รีบเก็บข้าวของแล้วลงไปหาคนที่รอผมอยู่ตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้ว
 
“บอกให้ขึ้นไปรอข้างบนก็ไม่เอา” ผมเห็นพี่เขานั่งเล่นเกมในมือถือในรถมืดๆ เลยบ่นเขาสักหน่อย

“ขึ้นไปให้โดนแซวว่าหวงแฟนอะดิ”

“แล้วไม่หวงเหรอ” ผมถาม
 
จริงอยู่ที่เพื่อนร่วมงานผมแต่ละคนไม่ธรรมดาเลย สาววายเข้าขั้น แต่ผมรู้ว่าเขาไม่ได้อายที่โดนล้อ มีไม่กี่คนในที่ทำงานของผมรู้ว่าผมเป็นเกย์ พี่เขาเลยไม่อยากให้ผมอึดอัดใจเวลาถูกซักถามเรื่องส่วนตัวหรือถูกจ้องมอง เขายังเป็นคนที่เข้าใจผมเสมอ ผมเคยถามเขาว่าอยากให้ผมบอกเพื่อนที่ทำงานไหมว่าเราเป็นแฟนกัน กลัวเขาน้อยใจ เขาบอกว่าไม่ต้องไปบอกใครเรื่องของเรา ถ้าใครจะรู้ให้รู้เอง โดยเฉพาะเพื่อนผู้ชายที่เป็นเกย์ ห้ามบอกเด็ดขาด ให้คนอื่นคิดว่าผมอยากมีเมียน่ะดีแล้ว ผมฟังแล้วก็ขำ
 
“หวงแบบมีสติ” เขาตอบผม แถมยังยักคิ้วให้ กวนผมอีกแล้ว เรื่องที่ผมเคยหึงเขาแบบไม่มีสติยังคงถูกเขาล้อมาจนถึงทุกวันนี้ครับ ผมมันเขี้ยวเขาที่สุด ถ้าไม่ติดว่าที่จอดรถมีคนเดินผ่านอยู่เรื่อยๆ ผมคงขอหอมเขาสักที

“ไปหาอะไรกินกันไหม” ผมถามเขา พรุ่งนี้ผมหยุดงาน แต่จะไปกินข้าวกับเพื่อน วันนี้เลยอยากไปกินกับพี่ฉลามก่อน

“เอาสิ ที่ไหนดี”

“พี่เลือกเลย”
 
แล้วเราสองคนก็ไปกินข้าวกันในวันคริสต์มาสอีฟที่...เยาวราช ก๋วยจั๊บร้านเดิม ร้านโปรดของพี่เขา ช่างเข้ากันกับเทศกาลจริงๆ ครับ
 
เสร็จจากนั้นพี่ฉลามก็พาผมมาที่คอนโด ผมเลิกคิ้วแทนการถามว่าทำไมไม่พากลับบ้าน
 
“ก็เห็นว่าอยากเอางานมาเก็บที่คอนโดไม่ใช่เหรอ พี่เลยแวะมาให้ก่อน พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องมาเอง”

“พี่มีอะไรเปล่าเนี่ยถามจริง”

“อะไร แหน่ะ มาจ้องหน้าอีก ไป ขึ้นห้อง” พี่เขาทำหน้าตายก่อนจะเดินนำขึ้นไป
 
เราสองคนมาถึงหน้าห้อง ผมว่าต้องมีอะไรแน่ๆ ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศแผ่ลอดประตูห้องออกมาด้านนอกเลยครับ เขามองหน้าที่สงสัยของผมแล้วก็หัวเราะ คงคิดว่าผมคงเริ่มเดาได้แล้วว่าพี่เขาต้องทำอะไรให้ผมประหลาดใจเอาไว้แน่ๆ
 
เมื่อประตูห้องเปิดผมได้กลิ่นหอมลอยก่อนเลย กลิ่นมิ้นท์เย็นๆ จากเครื่องทำอโรม่า
 
“ทำไมไม่เปิดไฟอะพี่ฉลาม” ผมถามเมื่อเขาจูงมือผมให้เดินตามเข้ามาในห้องแบบมืดๆ ผมจะเปิดไฟก็ไม่ยอม

“ใจเย็น หลับตาก่อน”

“ตื่นเต้นอะ” ผมตื่นเต้นจริงๆ เราไม่ค่อยเซอร์ไพรส์อะไรกันสักเท่าไหร่
 
ผมหลับตาได้พักใหญ่ อยากจะแอบหรี่ตามองแต่ในใจก็คิดว่าเขาอุตส่าห์ทำอะไรเซอร์ไพรส์ผมอยู่ ผมควรรอ
 
Why do birds suddenly appear Every time you are near Just like me, they long to be Close to you
 
แล้วสียงเพลง close to you ก็ดังขึ้นเบาๆ พี่เขาเคยบอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่เขาได้ยินทีไรหน้าผมจะลอยมาทุกที
 
Why do stars fall down from the sky Every time you walk by Just like me, they long to be Close to you
 
ผมหลับตาฟังเพลงได้ไม่นานก็ลืมตาขึ้นเพราะทนรอไม่ไหว พี่เขาเงียบหายไป พอลืมตามาไฟก็สว่างแล้ว เห็นพี่เขานั่งยิ้มอยู่ตรงหน้า ผมใจเต้นแรงมาก บอกตรงๆ ว่าไม่เคยใจเต้นแรงแบบนี้มานานแล้ว ไม่ใช่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่เขานะครับ แต่เราอยู่ด้วยกันมานานจนเหมือนเป็นเพื่อน เป็นคนในครอบครัว เป็นคนสนิท อยู่ใกล้กันทุกวันจนมันไม่ได้เกิดอาการแบบนี้ง่ายๆ เหมือนสมัยแรกรัก
 
On the day that you were born the angels got together And decided to create a dream come true So they sprinkled moon dust in your hair of gold and starlight in your eyes of blue
 
แต่สายตาของเขาที่จ้องมาในวันนี้มันทำให้ผมใจเต้นแรงอีกครั้ง ดวงตาคู่เดิมที่มองผมมาตลอด 26 ปี
 
“พี่อยากให้เรามีวันคริสต์มาสอีฟด้วยกันสักปี” เขาบอกผม

“พรุ่งนี้กลอนไม่ไปกับเพื่อนก็ได้นะ” ผมบอกเขา อยากให้เขารู้ว่าเขาสำคัญมากเหมือนกัน

“ไม่เป็นไร ปีหน้าเราค่อยมีวันคริสต์มาสด้วยกัน สะสมไปเรื่อยๆ ไม่รีบ ให้ทั้งชีวิต” แล้วพี่เขาก็ลุกขึ้นยืน ยื่นมือมาให้ ผมลุกขึ้นยืนตาม ส่งมือให้เขาจับ ไม่รู้ว่าเขาจะพาไปไหน
 
แต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่การยื่นมือมาเพื่อพาไปไหน
 
“เต้นรำกัน”
 
That is why all the girls in town Follow you all around Just like me, they long to be Close to you
 
คำร้องขอจากพี่ฉลามทำให้ผมหัวเราะ ไม่ได้หัวเราะเพราะตลก ผมเขิน พี่เขาไม่ใช่คนหวาน ผมเองก็ไม่ใช่ เรารู้ตัวเองเสมอว่าเราสองคนคือผู้ชยาที่รักกัน เราไม่ได้อยากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้หญิง ไม่ได้อยากได้ความอ่อนหวาน เราคงเป็นเหมือนผู้ชายทั่วไป แต่เราแค่รักกัน และผมเชื่อว่า การร้องขอครั้งนี้...พี่ฉลามแค่อยากทำทุกอย่างที่คนรักกันทำด้วยกัน
 
ผมเต้นรำไม่เป็น คิดว่าคงขัดๆ เขินๆ แน่ พี่ฉลามเขาเข้ามาใกล้ๆ มือหนึ่งสวมกอดที่เอวของผม รั้งให้ตัวผมไปแนบชิดกับตัวของเขา อีกมือแตะที่ท้ายทอยของผมเพื่อให้ผมซบที่บ่าเขา ผมสวมกอดเอวของพี่เขาเช่นกันก่อนจะแนบใบหน้าลงตรงพื้นที่ที่อบอุ่นที่สุดในชีวิต เราสองคนขยับขาไปตามเพลง เดินวนไปวนมา ไม่ได้เหยียบเท้ากันอย่างที่ผมคิด มันเป็นไปโดยอัตโนมัติ อาการขัดเขินค่อยๆ หายไป แต่ความซาบซึ้งใจกำลังเข้ามาแทนที่เพราะคำพูดที่เขากระซิบพูดกับผม
 
“เราคบกันเกินยี่สิบห้าปีแล้วนะ ความรักของเราเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว”

“ถึงเหรอ พี่นับตั้งแต่ตอนไหน”

“ตั้งแต่ตอนที่เราเจอกันวันแรก ถึงตอนนั้นจะยังไม่รู้ว่ารัก แต่ฟ้ากำหนดมาแล้วให้เราคู่กันก็ต้องนับเลย”

“แบบนี้ได้ด้วยเหรอ”

“อืม”

“คิดนานไหม ขอเต้นรำเนี่ย ฉลามตัวจริงหรือเปล่า” ผมถาม ไม่อยากขัดความโรแมนติกนะครับ แต่มันไม่ใช่พี่เขาเลย

“มีอะไรอีกหลายอย่างที่พี่อยากทำกับกลอน เคยคิดแต่ไม่ได้เริ่มทำสักที ไม่รู้ว่ารออะไรเหมือนกัน”

“พี่ไม่เบื่อกลอนบางเหรอ”

“พูดแบบนี้เคยเบื่อพี่อะดิ”

“ไม่เคย แค่อยากรู้ว่ารู้สึกเหมือนกันไหม”

“อยากเบื่อเหมือนกัน กลัวว่าวันหนึ่งถ้าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันพี่จะใช้ชีวิตยังไงวะ”

“พี่ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม” ผมเงยหน้าขึ้นมามองเขาทันที
 
อายุเราสองคนก็ไม่ใช่น้อยๆ ไม่ใช่ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้ เคยอธิษฐานว่าหากมีใครต้องจากไป ขอให้เป็นผมก่อน ผมคงทนไม่ได้หากต้องอยู่โดยไม่มีพี่เขา ผมเพิ่งรู้ว่าเขาเองก็ทนไม่ได้หากผมต้องไปก่อน
 
“แข็งแรงดี เดี๋ยวคืนนี้จะเตะปี๊บให้ดู” เขารีบบอกผม สงสัยสีหน้าของผมจะแสดงออกถึงความกังวลชัดไป

“เดี๋ยววันหยุดนี้เราไปตรวจสุขภาพพร้อมกันนะ ตรวจแบบละเอียดยิบเลย”

“อืม”

“กลอนรักพี่มากนะ”

“เอ้า โรแมนติกอยู่ดีๆ กลายเป็นนางนาคซะงั้น”

“พี่ฉลามอะ” ผมหลุดขำ โอเค มุกนี้ถึงจะเกร่อแต่จังหวะมันได้ครับ

“ทำงานให้น้อยลงนะ พี่เป็นห่วง” เขากระชับกอดผม

“ครับ”

“อยากได้อะไรจากซานต้าไหม”

“พี่จะเป็นซานต้าให้กลอนเหรอ”

“ใช่ ให้ได้ทุกอย่าง”

“แพงๆ ก็ได้เหรอ”

“พี่รู้ว่ากลอนไม่ได้อยากได้อะไรแพงๆ”

“รู้ใจไปหมด อืม..กลอนขอให้พี่เป็นซานต้าของกลอนทุกปีนะ”

“แต่ปีนี้ของเป็นสองอย่างนะ”

“หืม” ผมทำหน้าสงสัย

“พี่ขอเป็นกวางด้วย”

“ทำไมอะ” ผมสงสัยหนักกว่าเดิม

“กลอนจะได้ขี่พี่ไง”
 
ผมหัวเราะหนักเลย สงสัยว่าคริสต์มาสปีนี้พระเจ้าคงประทานพรให้ผมในฐานะที่เป็นคนดีมาหลายปี เปลี่ยนแฟนของผมให้กลับมาเป็นวัยรุ่นคึกคักเชียวครับ ผมเซอร์ไพรส์มากจริงๆ
 
นากจากอยากเป็นกวางให้ผมขี่แล้ว พี่ฉลามยังแต่งคอนโดให้ผมใหม่ มิน่าถึงไม่ยอมให้ผมกลับมาที่คอนโดเลยเป็นเดือนๆ ห้องรับแขกไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แต่มีโต๊ะทำงานใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม เก้าอี้นั่งทำงานก็เปลี่ยนใหม่ให้ ดูท่าจะนั่งสบายมากๆ ผมปวดหลังบ่อยๆ พี่เขาใส่ใจผมทุกอย่างจนผมยังอิจฉาตัวเอง
 
เดินเข้ามาถึงในห้องนอนก็แทบจะร้องว้าวออกมา โทนสีแดง สีเขียว สีทอง สมกับคริสต์มาส พี่เขาบอกจ้างบริษัทตกแต่งของเพื่อนเขาเอง เขาบอกเพื่อนไปว่า...อยากได้โทนสีนี้จะได้ร้อนแรงตื่นเต้นเร้าใจ เหมือนชีวิตจะได้เริ่มต้นใหม่ตลอดเวลา พี่ฉลามอำผมแน่ๆ เขาคงไม่พูดทะลึ่งแบบนี้กับเพื่อนเขาหรอก
 
บอกเลยว่าการตกแต่งดูดีมากเลยครับ ที่นอนดูหนามาก ถ้าได้ทิ้งตัวลงนอน ผมคงจะนอนหลับสบาย
 
แต่คงไม่ใช่ในคืนนี้....
 
“ขอบคุณนะครับซานต้าของผม” ผมหอมพี่เขา
 
‘การกอดและการหอม’ เป็นสองสิ่งที่เราสองคนปฏิบัติต่อกันเสมอ เราไม่เคยเบื่อที่จะทำ มันสื่อแทนคำพูดนับร้อยพัน เป็นได้ทั้งกำลังใจ คำปลอบโยน คำสัญญา คำว่ารัก
 
“พี่ทำให้กลอนรู้สึกว่าที่ผ่านมากลอนใส่ใจพี่น้อยกว่าที่พี่ใส่ใจกลอนอีก” ผมคิดแบบนี้จริงๆ พี่เขาใส่ใจผมทุกอย่าง ให้ความสำคัญกับผมเสมอ ยี่สิบกว่าปีไม่ใช่น้อยๆ นะครับที่ใครสักคนยังรักเราไม่เปลี่ยนแปลง

“คิดมากอีกแล้ว ลองคิดสิ พี่ได้คนรักที่ซื่อสัตย์กับพี่ที่สุด เป็นคู่คิดให้พี่ ให้เกียรติพี่และครอบครัว เป็นคนดีที่พี่ได้เขามาครอบครอง พี่ยังไม่น่าอิจฉาอีกเหรอ”

“ขอบคุณนะครับ กลอนชอบทุกอย่างที่พี่ทำให้” ผมรู้สึกดีมากที่ได้ยินคำพูดของพี่ฉลาม พี่ฉลามไม่เคยโกหกผม เขาเป็นคนจริงใจกับคำพูดของตัวเอง มันเลยทำให้ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเองเมื่อเขาเอ่ยชม

“กลอนชอบพี่ก็มีความสุข”

“กลอนก็มีของให้พี่นะ” ผมบอก พี่เขาทำหน้าประหลาดใจ คงคิดว่าผมไม่ได้เตรียมให้เขาแน่เลย ถึงผมจะยุ่ง และถึงเราไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับวันพิเศษตามเทศกาลต่างๆ แต่ผมก็นึกถึงเขาเสมอ “แต่เก็บไว้ที่บ้าน ไม่รู้ว่าโดนเซอร์ไพรส์ก่อนนี่นา อุตส่าห์คิดว่าจะได้เซอร์ไพรส์พี่ก่อน จริงๆ กลอนอยากให้พี่กลับไปเปิดเลย แต่ว่าคืนนี้เราต้องฉลองเตียงใหม่ที่นี่กันก่อนเนอะ”

“รู้ใจผมจังครับคุณกรกฏ”

“สุขสันต์วันคริสต์มาสอีฟนะมายซานต้า”

“.......” พี่เขายักคิ้วเหมือนรอจะให้ผมพูดอะไรต่อ ผมนึกตั้งนานกว่าจะนึกออก

“มายเรนเดียร์ด้วย”
 
Wa, close to you

Wa, close to you

Ha, close to you

La, close to you

 
บันทึกพิเศษนี้ผมขอมอบให้เป็นของขวัญวันคริสต์มาสและวันปีใหม่สำหรับทุกคน
แทนคำขอบคุณที่มอบความรู้สึกดีๆ
และฝากคำอวยพรต่างๆ มาให้คู่ของเราอยู่เสมอ
ผมก็ขออวยพรให้ทุกท่านพบเจอแต่สิ่งดีๆ และมีความสุขนะครับ

                                                        กลอน

MAKE A WISH ?

MAY ALL YOUR WISHES

COME TURE

......................

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย] (https://www.facebook.com/Loverouter.Writer/)
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย] (https://twitter.com/loverouter)

หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-12-2018 20:42:01
อิ่มอกอิ่มใจจังเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 25-12-2018 20:58:02
หวานมากๆค่ะอยากมีพี่ฉลามเป็นของตัวเองหรือแปลงร่างเป็นน้องกลอนดี..ขอบคุณสำหรับของขวัญจากซานต้าเลิฟนะคะ
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-12-2018 21:59:02
น่ารัก อบอุ่นหัวใจที่สุดค่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 25-12-2018 22:45:19
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 26-12-2018 00:59:39
อ่านแล้วรู้สึกดี ที่ทั้งกลอนและพี่ฉลามอยู่ด้วยกัน ด้วยความเข้าใจ ห่วงใจกันและกัน เป็นความรักจริงๆ ขอให้มีความสุขอย่างนี้ตลอดไปนะคะ.

เมอร์รี่คริสมาสต์ค่ะ.   :L2:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 26-12-2018 15:10:56
 :m3:
คิดถึงงงงงงงง


รักกันไม่เปลี่ยนแปลง
ดีต่อใจ
 :oo1:
ร่างกายด้วย..อิอิ
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-04-2019 21:11:10
 :pig4: :L1: :3123: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: MaTazz ที่ 06-05-2019 17:09:55
ขอบคุณทุกการเดินทางในความรักของกลอนที่ทำให้มาเจอพี่ฉลาม
เวลาจะบอกเราเองว่าใครคือคนที่ใช่และไม่ไปไหน
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 08-05-2019 22:53:37
เบาหวานขึ้นนนนนน
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 30-06-2019 23:26:53
 :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 25-08-2019 00:16:03
ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: janehsih ที่ 29-08-2019 12:02:13
อ่านรวดเดียวจบเลย สนุกมากๆ ค่าา ชีวิตกลอนคือผ่านอะไรมาเยอะมากจริงๆ ชอบที่กลอนเป็นคนมีเหตุผลนี่แหละ พี่ฉลามก็ดีมากๆๆๆๆ รักกันไปนานๆ เลยน้าาา
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: Gimlongdeep ที่ 08-11-2019 14:04:04
แงงงงงงงงกลอนจ๋าาาาาาาาาา  สนุกมากกกอ่านรวดเดียวเลยค่ะเอาใจช่วยกลอนทุกตอนเลย. ความรักมันทำให้เราอ่อนแอและเข็มแข็งไปด้วย กลอนมีคนรอบข้างที่ดีและเข้าใจ ขอบคุณเบื้องบนนะคะขอให้คุณมีความสุขมากๆค่าา  ขอบคุณนักเขียนที่เขียนเรื่องนี้มาค่ะ ชอบมากๆๆเล้ยยยย เสียดายเราไปอยุ่ไหนมาาา  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 10-11-2019 23:14:15
มาย้ำอีกรอบ ก็ยังประทับใจเหมือนเดิม :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: KKIMKIMMY ที่ 11-11-2019 10:02:21
คิดถึงกลอนกับพี่ฉลาม วนมาอ่านอีกกี่รอบก็เป็นเรื่องที่ติดอยู่ในใจเราเสมอ
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 12-11-2019 14:46:21
พึ่งได้มาอ่านตอนนั้นตัวเองไปอยู่ไหนทำไมไม่เจอเรื่องนี้ :ling3:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: nyxca ที่ 02-02-2020 18:38:49
เม้นไม่เป็น หาทางเม้นอยู่ ไม่รู้จะผิดมั้ยTT แต่เราชอบเรื่องนี้นะ ยังอ่านไม่จบแต่ชอบงะ อ่านต่อๆ
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: nyxca ที่ 02-02-2020 20:37:27
อ่านถึงตอนที่กลอนมีปัญหากับพัดเรื่องโมบายและจบลงด้วยเซ็กซ์ เราเคยชอบกลอนมากแต่ตอนนี้ขอถอนคำพูดละ ถ้าเราเป็นฉลามเราจะปล่อยกลอนไป ที่เคยรอก็ไม่เสียดายเวลานะแต่มันควรจบได้แล้ว ฉลามควรไปมีความรักดีๆมากกว่าจะมาจมอยู่กับกลอนที่โลเล
เราอ่านสปอย เรารู้แล้วว่าสุดท้ายกลอนจะเลือกใครแต่เราโอเค5555 เกลียดกลอนไปแล้วตินนี้






////edit

อ่านจบละ ก่อนอื่นต้องขอบคุณผู้เขียนก่อน เขียนดีมากเลยค่ะ อ่านได้ยันจบเพราะคนเขียนดีจริงๆ ชื่นชมและชอบผลงานคุณมากๆ
ส่วนที่ทำให้เราจะอ่านไม่จบก็อย่างที่บอกแหละ เพราะนายเอก5555 ด้วยมุมมองและทัศนคติของเราไม่ได้ไปทางเดียวกับการกระทำแบบรักพี่เสียดายน้องของกลอนเลยทำให้ขัดใจในตัวนางมาก เราหวังว่ามันจะจบแบบพี่ฉลามมีครอบครัวที่อบอุ่นและลืมกลอนไปซะ แต่ก็นะแต้มบุญของนายเอกมันส่ง แอบหวงพี่ฉลาม อินจัดเลยด้วย><

ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ปลื้มคนเขียนมากจะติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 13:25:18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: Kimmiku ที่ 03-07-2021 02:12:22
ดีต่อใจ รักแท้และเข้าใจ หาไม่ได้ง่ายๆ เลยไม่ว่าจะจากคู่รักชายหญิง หรือชายชาย กลอนและฉลามโชคดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 25-07-2021 09:19:09
 :z13: