ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
"รักแรกพบ"
เพียงเจ้าหลวงหน่มได้พบสบตากับหนุ่มชาวบ้านพระทัยก็สั่นเต้นรัวดั่งรัวกลอง
“...ชมนาดเย้ายวนส่งกลิ่น ภุมรินหลงใหลคะนึงหา
บดขยี้พวงเจ้าด้วยกามา เสน่หายวนใจให้ติดตรึง...”
[/b]
:laugh: :laugh: :laugh: :m20: :m20: :m20:
แม่นางปิ่นมโนอะไรเยี่ยงนี้ ป.ล.สามีนางคือใครหนอ?
ชมนาดเย้ายวนส่งกลิ่น...ภุมรินหลงใหลคะนึงหา ๑๗
วันนี้ ณ วังหลวงแคว้นภุมริกาต่างคลาคล่ำไปด้วยอาคันตุกะต่างเมืองที่มาร่วมแสดงความยินดีในพิธีรับขวัญพระโอรสน้อยในองค์ภุมรินทั้งสอง ภุชงค์น้อยนอนกระพริบตาปริบๆ อยู่ในอ้อมแขนมารดา ในขณะที่เจ้าบัวงามคนน้อง...
“เจ้าบัวงาม ใยจึงขี้เซาปานนี้หนาลูก”องค์ภุมรินตรัสกับพระโอรสคนเล็กที่นอนหลับอุตุในพระกรพระบิดาอย่างน่าเอ็นดู
“คิกๆ น่าเอ็นดูนักพระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดว่าพลางก้มลงหอมหัวทุยของโอรสคนโต ภุชงค์น้อยอ้าปากหาวเบาๆ
“หึหึหึ”พระสรวลเบาๆ พระนาสิกกดลงบนแก้มนุ่มของลูกจนหนาโย้
“เจ้าบัวตื่นได้แล้วหนาลูก ประเดี๋ยวออกไปเจอเจ้าหลวง เจ้าชายแคว้นอื่นจักไม่งามหนาเจ้า”เจ้าชมนาดว่ายิ้มๆ แต่องค์ภุมรินกลับพระขนงกระตุก มิได้การล่ะ...แม้นแรกเกิดยังฉายแววงามหยดย้อย แลโตขึ้นข้ามิต้องเลี้ยงเสือ เลี้ยงจระเข้ไว้หน้าวังเลยหรือ
“น้อง...”
“พระเจ้าค่ะ”
“เจ้าว่าพี่ไว้หนวดดีหรือไม่”
“หา?... กระไรหนาพระเจ้าค่ะ”
“พี่จักไว้หนวดดีหรือไม่...เจ้าบัวหากโตขึ้นจักต้องงามกว่านี้เป็นแน่ มิได้การล่ะ”
“เสด็จพี่...ลูกเพิ่งจักห้าวันเองหนาพระเจ้าค่ะ..ทรงกังวลพระทัยมากไปหรือไม่”
“โธ่...เจ้าบัวงามของเรางามปานนี้จักให้พี่นิ่งนอนใจได้อย่างไร”
“ทรงลืมที่แม่เฒ่าท่านพยากรณ์ไปแล้วหรือพระเจ้าค่ะ”
“.....”
“อย่ากังวลไปเลยพระเจ้าค่ะ โชคชะตาของลูกเราฝืนมิได้ดอก...ดูแลเจ้าบัวให้ดีที่สุดก็พอแล้วพระเจ้าค่ะ”
“เฮ้อ...นั่นสิ”พึมพำก่อนจะก้มลงทอดพระเนตรดวงหน้าเล็กของเจ้าบัวงามที่หลับอุตุมิสนใคร
“ทูลฝ่าบาทได้เวลาแล้วเพคะ”อุ่นคลานเข้ามาหมอบกราบทูลความแก่นายเหนือหัวทั้งสอง
“อืม...ไปเถิดน้อง”องค์ภุมรินว่าก่อนจะเดินเคียงข้างเจ้าชมนาดออกพบปะอาคันตุกะ เจ้าบัวในห่อผ้าสีหวานดิ้นเล็กน้อยแล้วหลับต่อเรียกรอยยิ้มจากพระบิดามารดา
“หึหึหึ...”
เมื่อออกมาที่โถงรับรอง องค์ภุมรินก็ต้องทรงทำหน้าที่ใหญ่หลวงเสียยิ่งกว่าการออกรบ ออกสงคราม นั่นก็คือการปลุกเจ้าบัวงามจากห้วงนิทรา
“เจ้าบัวเอ๋ย...ตื่นเถิดลูก”เขย่าร่างเล็กเบาๆ พระหัตถ์สะกิดท่อนแขนเล็ก ทารกน้อยดิ้นแต่มิยอมตื่น
“.....”เจ้าชมนาดที่อุ้มภุชงค์คนพี่ก็มองอย่างเอาใจช่วยพระภัสดา
“เจ้าบัวงามลูกพ่อ ตื่นเถิดคนดี...หืม”นัยน์ตากวางคู่เล็กปรือขึ้น ริมฝีปากจิ้มลิ้มเบะเตรียมแผดเสียงร้อง
“อะหึ..”
“ชู่ว...คนดี ตื่นแล้วหรือเจ้า”เขย่ากายเล็กปลอบเบาๆ
“เจ้าบัวงามของแม่ ไม่งอแงหนาจ๊ะคนดี”มือบางเอื้อมไปลูบแก้มยุ้ยของเจ้าตัวน้อยเบาๆ นั่นทำให้เจ้าบัวสงบลงได้ คงเป็นเพราะสัมผัสจากมารดา
เมื่อเจ้าน้อยตื่นบรรทมก็เป็นอันว่าเริ่มพิธีรับขวัญได้ บายศรีปากชามสองที่สำหรับทารกสองคน เครื่องสังเวย อาทิ หัวหมู แลเป็ด ไก่ ถูกจัดเต็มโต๊ะ บัตรพลีเครื่องเซ่นใส่เบี้ยไว้ ๓๓ เบี้ย แลน้ำอุ่นใส่ขันทองพร้อมช้อนเล็ก ๑ คัน แม่เฒ่าเป็นผู้ทำพิธีกล่าวคำรับขวัญให้ทารกน้อยทั้งสอง มือหยาบเหี่ยวย่นผูกด้ายสายสิญจน์ที่ข้อมือเล็กของเด็กทั้งสองคน เจ้าบัวซุกหน้าก็พระอุระของพระบิดา ในขณะที่เจ้าภุชงค์นอนมองพระพักตร์มารดานิ่ง หากเทียบกันแล้วเจ้าภุชงค์นั้นเลี้ยงง่ายกว่าเจ้าบัวงาม มิค่อยร้องงอแงสักเท่าใด แต่เจ้าบัวหากมิขัดใจจริงๆก็มิร้องงอแงให้รำคาญใจ เพียงแต่จักร้องง่ายกว่าคนพี่นัก
“เสร็จแล้วเพคะฝ่าบาท”แม่เฒ่าว่าหลังจากใช้กระแจะหอมจุณเจิมที่หน้าผากให้ แลตักน้ำให้พระโอรสน้อยทั้งสองเสวยคนละ ๕ ช้อนเป็นอันเสร็จพิธีรับขวัญเด็กน้อยทั้งสอง
“ขอบใจแม่เฒ่าหนา”ตรัสพลางกระชับร่างเล็กของลูก
“มิได้เพคะ”
เมื่อเสร็จพิธีรับขวัญทารกน้อยแล้วก็ถึงเวลาที่องค์ภุมรินจักได้อวดความน่ารักน่าชังให้เหล่าเจ้าหลวง เจ้าชาย พระชายาต่างเมืองได้เชยชม พระกรโอบประคองร่างน้อยไว้ มีพระชายาคนงามโอบประคองโอรสคนโตเคียงพระวรกาย พระโอษฐ์แย้มยิ้ม
“เจ้าน้อยน่าเกลียดน่าชังนักพระเจ้าค่ะ”พระชายาแห่งแคว้นศศิมณฑลเอ่ยขึ้น
“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ขอหม่อมฉันอุ้มเจ้าน้อยได้หรือไม่พระเจ้าค่ะ”
“ได้สิ”องค์ภุมรินว่าพลางส่งเจ้าบัวงามให้พระชายาแคว้นศศิมณฑล
“เสด็จแม่”องค์รัชทายาทแห่งศศิมณฑลร้องเรียกมารดาตน
“หืม...เจ้าจันทร์ น้องน่ารักไหมลูก”
“พะย่ะค่ะ”เจ้าชายน้อยวัยแปดพรรษาทอดพระเนตรทารกน้อยหน้าหวานในอ้อมพระกรมารดา ก่อนจักยื่นมือไปจับแก้มยุ้ยเบาๆ เจ้าบัวดิ้นเบาๆแลขยับปากยิ้มจนเห็นเหงือกสีสด องค์ภุมรินผู้เป็นพ่อเห็นดังนั้นจึงได้แต่พระพักตร์ตึง พระขนงกระตุก พ่อควรจักเป็นคนแรกที่เจ้ามอบรอยยิ้มให้หนาลูก เหตุใดจึงยิ้มให้รัชทายาทศศิมณฑลเป็นคนแรกเยี่ยงนี้หนาเจ้าบัวงาม...
“หึหึหึ...แลดูเจ้าน้อยจักชอบเจ้าจันทร์ของหม่อมฉันหนาพะย่ะค่ะ”เจ้าหลวงแคว้นศศิมณฑลตรัสพร้อมรอยยิ้ม
“หึหึหึ”องค์ภุมรินทำได้เพียงแค้นพระสรวลในพระศอ
“ขอพี่อุ้มเจ้าน้อยหน่อยหนาน้อง”ตรัสกับพระชายาของตนแลรับเจ้าบัวงามเข้ามาอ้อมพระกร
“ทรงอยากอุ้มเจ้าภุชงค์หรือไม่พระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดเอ่ยถามพระชายาศศิมณฑล
“พระเจ้าค่ะ”ยิ้มรับพลางรับเจ้าภุชงค์น้อยมาอุ้ม ทารกน้อยซบหน้ากับไหล่บาง เรียกความเอ็นดูจากผู้ใหญ่
“น่ารักน่าชังทั้งคู่เลยหนาพระเจ้าค่ะ”
“องค์รัชทายาทคล้ายองค์ภุมริน แลเจ้าน้อยก็คล้ายพระชายาเหลือเกินพะย่ะค่ะ”
“เสด็จพ่อ หม่อมฉันใคร่อยากเห็นน้องพะย่ะค่ะ”องค์รัชทายาทศศิมณฑลกล่าวกับพระบิดา
“หึหึหึ”พระสรวลแลย่อกายให้ลูกทอดมองเด็กน้อยในอ้อมพระกร
ฟอด
องค์รัชทายาทน้อยยื่นหน้าเข้าใกล้ทารกน้อยก่อนจักกดพระนาสิกกับแก้มนุ่มสูดกลิ่นบัวหอมฟอดใหญ่ องค์ภุมรินมือไม้กระตุกเสียจนเจ้าชมนาดรีบคว้าพระหัตถ์พระภัสดาไว้
“หึหึหึ...หากเจ้าจันทร์โตขึ้นคงมิแคล้วได้ดองกับภุมริกาเป็นแน่หนาพะย่ะค่ะ”เจ้าหลวงศศิมณฑลตรัสพลางพระสรวล
“หึหึหึ”แต่องค์ภุมรินหาได้สรวลด้วยไม่ หวงลูกเสียจนอยากจักอุ้มเข้าตำหนักซะเดี๋ยวนี้ แลเจ้าองค์รัชทายาทนี่กระไร เหตุใดจึงมาจูบแก้มลูกคนอื่นเขาเยี่ยงนี้ มันน่านัก!!!
“หวาย...หาวซะแล้วพระเจ้าค่ะ”เจ้าภุชงค์อ้าปากหาวเบาๆ
“คงจักง่วงแล้วกระมังพะย่ะค่ะ”
“เยี่ยงนั้นหม่อมฉันขอตัวพาลูกทั้งสองกลับตำหนักก่อนหนาพระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดว่าพลางรับเจ้าบัวจากเจ้าหลวงศศิมณฑลมาอุ้มไว้
“ค่ำนี้ค่อยพบปะกันใหม่หนาพะย่ะค่ะ”หลังจากรับภุชงค์จากพระชายาศศิมณฑลแล้วจึงตรัส
“พะยะค่ะ”
“พระเจ้าค่ะ”
เมื่อกลับมาที่ตำหนักหลวงองค์ภุมรินก็ได้แต่ตรัสคาดโทษเจ้าบัวงามที่ตอนนี้หาสนใจพระบิดาไม่ ปากเล็กงับยอดถันของมารดาแลดูดกลืนน้ำนมอย่างหิวกระหาย
“เจ้าบัวหนาเจ้าบัว...เหตุใดจึงไปยิ้มให้องค์รัชทายาทศศิมณฑลเยี่ยงนั้นหนาลูก”
“โธ่เสด็จพี่..ลูกยังเล็กนัก มิรู้เดียงสาดอกพระเจ้าค่ะ”
“แลเจ้ารัชทายาทนั่น บังอาจนัก กล้ามาหอมลูกข้าได้อย่างไร...ใคร่อยากให้ข้ายกทัพไปตีเมืองเจ้าเยี่ยงนั้นรึ”เจ้าชมนาดที่ได้ฟังก็ได้แต่ส่ายหน้ากับความหวงลูกของพระภัสดา
“ทรงกังวลมากไปแล้วพระเจ้าค่ะ”
“มิได้การล่ะ...ข้าจักต้องสั่งให้สุธีนำเสือ แลจระเข้มาเลี้ยงไว้ที่หน้าวัง”
“ไปกันใหญ่แล้วพระเจ้าค่ะ”
“โธ่...น้องก็ มิหวงลูกบ้างหรือ”
“หวงพระเจ้าค่ะ แต่พระองค์ทรงกังวลเกินไปแล้ว”
“.....”
“พระทัยเย็นก่อนหนาพระเจ้าค่ะ...เจ้าบัวยังเล็กนักอย่าเพิ่งกังวลไปเลย”
“เฮ้อ...”
“พระทัยเย็นไว้พระเจ้าค่ะ”
“ก็ได้จ้ะ”
จากวันรับขวัญพระโอรสน้อยแห่งภุมริกาทั้งสองก็ผ่านมาแล้วเดือนกว่า สองพี่น้องยิ่งทวีความน่าเกลียดน่าชังจนกลายเป็นขวัญใจของคนทั้งวังหลวง เหล่าข้าหลวงสาวหรือต่างแย่งกันถวายงานพระโอรสน้อยทั้งสองเสียจนเจ้าชมนาดแทบมิต้องทำกระไร
“เจ้าภุชงค์ ใยจึงขมวดคิ้วเยี่ยงนี้เล่าลูก”เจ้าชมนาดว่าเมื่อเห็นโอรสองค์โตของตนนอนขมวดคิ้ว
ปุ๋ง
เสียงลมที่เจ้าตัวน้อยปล่อยออกมาทำเอาแม่แลน้องชะงักก่อนเจ้าบัวงามจะสะดุ้งแผดเสียงร้องออกมาเพราะตกใจกับเสียงผายลมของพระเชษฐา
“อะหึ...แง”
“อ๊ะ..เจ้าบัวลูก โอ๋ๆ”จักขำก็ขำ สงสารเจ้าบัวหรือก็สงสาร ส่วนตัวการอย่างเจ้าภุชงค์นั้นเมื่อสบายท้องแล้วก็นอนแสยะยิ้ม ดูดปากจุ๊บๆมิสนใจใคร
“คิกๆ”
“ขำกระไรอุ่น...อึก...ฮ่าๆๆ”แม้นจักเอ็ดให้บ่าวคนสนิทแต่ก็มิวายขำตาม เจ้าบัวสะอื้นตัวสั่นซบหน้ากับอกมารดา
“เกิดกระไรขึ้นกันน้อง”พระภัสดาที่เสร็จจากว่าราชการ เมื่อกลับมาที่ตำหนักหลวงจึงได้ตรัสถาม อุ่นเมื่อเห็นนายเหนือหัวกลับตำหนักมาแล้วก็ออกจากห้องบรรทมให้ครอบครัวอยู่กันตามลำพัง
“มิมีกระไรดอกพระเจ้าค่ะ...เจ้าบัวเพียงแต่ตกใจเสียงผายลมของภุชงค์ก็เท่านั้น”เจ้าชมนาดว่าพร้อมยิ้มกว้าง
“หึหึหึ...โธ่ เจ้าบัวงามของพ่อ”ทรงพระสรวลแลหอมแก้มยุ้ยของโอรสคนเล็ก ก่อนจักช้อนเจ้าภุชงค์คนโตขึ้นอุ้ม
“เสด็จพี่”
“หืม...ว่าอย่างไนคนดี”
“...น้องมีความสุขเหลือเกินพระเจ้าค่ะ”
“หึหึหึ พี่ก็มีความสุข”ตรัสก่อนจักโน้มพระพักตร์จุมพิตที่กลีบปากนุ่มของเมียรัก
วันเวลาผ่านไปล่วงเลยมาสามปีเศษ โอรสน้อยทั้งสองแห่งภุมริกาต่างเติบโตขึ้นเสียจนวิ่งอ้อมบ้านอ้อมเมือง และในขณะที่องค์ภุมรินกำลังซ้อมดาบกับทหารในกองทัพอยู่นั้น ร่างเล็กของโอรสองค์เล็กก็วิ่งเข้ามาในลานฝึกซ้อม โดยมีสุธีพี่เลี้ยงจำเป็นวิ่งตามไม่ห่าง ใบหน้าหวานงดงามถอดแบบคนเป็นแม่ นัยน์ตากวางกลมโต จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากเป็นกระจับแดงระเรื่อ แลกลุ่มผมยาวสีน้ำตาล ทำให้แม้จักมีพระชนมายุเพียงสามปี ก็งดงามดังเทวดาตัวน้อยๆ
“เฉด็จพ่ออออออออ~~~~~”เสียงใสที่ดังมาก่อนตัวทำให้เหล่าชายฉกรรจ์ที่กำลังคร่ำเครียดกับการฝึกซ้อมหยุดชะงัก
“เจ้าบัวงาม”องค์ภุมรินยื่นดาบไม้ให้ทหารนำไปเก็บก่อนจะย่อพระวรกายลง เจ้าบัวงามยิ้มแฉ่งอวดฟันกระต่ายสองซี่อย่างน่าเอ็นดู เจ้าตัวน้อยสวมเสื้อคอกระเช้าสีมอครามกับโจงกระเบนสีดินแดง แลผมยาวก็ถูกรวบเก็บครึ่งหัว ยาวระแผ่นหลังบอบบาง
“ฝึกฉ้อมมาทั้งวัน ชงเหนื่อยไหมพระเจ้าค่ะ”เอ่ยถามก่อนจะใช้ซับพระพักตร์ที่มารดาให้มาซับพระเสโทบนพระพักตร์งามของบิดา
“หึหึหึ...ได้เห็นหน้าเจ้าพ่อก็หายเหนื่อยแล้วเจ้าบัวเอ๋ย”ตรัสพลางจับมือเล็กของโอรสน้อยขึ้นหอม
“คิกๆ..เฉด็จแม่ แลภุชงค์อยู่ที่ฉาลาลิมฉะหยวง ชงเฉด็จไปที่นั่นกันหนาพระเจ้าค่ะ”
“จ้ะๆ”
“อุ้มลูกหนาพระเจ้าค่ะ”ชูแขนให้พระบิดา
“พ่อเหงื่อเต็มตัวเช่นนี้อุ้มเจ้ามิได้ดอก ประเดี๋ยวเจ้าจักเหม็นเหงื่อ”
“....”นัยน์ตากวางหลุบลง ริมฝีปากจิ้มลิ้มเบะออก
“เจ้าบัว”
“...ท่านฉุธี อุ้มบัวหน่อยเจ้าค่ะ”เจ้าน้อยผินกายหันหลังให้พระบิดา แขนชูขึ้นให้องครักษ์หลวงสุธีอุ้ม
“เอ่อ..พะย่ะค่ะเจ้าน้อย”เกรงเจ้าหลวงหรือก็เกรง แต่ใครเลยจักกล้าปฏิเสธนัยน์ตากวางออดอ้อนนั่นได้ กายแกร่งสูงใหญ่ช้อนใต้พระกัจฉะ อุ้มร่างน้อยขึ้นแนบอกกว้าง เจ้าบัวงามวาดแขนกอดรอบคอแกร่ง ใบหน้างามซบลงบนไหล่กว้าง
“บัวใคร่อยากหาเฉด็จแม่แลภุชงค์ ท่านฉุธีพาบัวไปทีเจ้าค่ะ”
“เอ่อ...หม่อมฉันทูลลาพระเจ้าค่ะฝ่าบาท”ค้อมศีรษะเคารพนายเหนือหัวที่ตอนนี้พระพักตร์บึ้งตึง ใครๆก็รู้ว่าทรงหวงเจ้าน้อยเสียยิ่งกว่ากระไร แลเห็นลูกอ้อนคนอื่นเยี่ยงนี้คงขุ่นพระทัยน่าดูแล
.
“หืม..เจ้าบัวงาม ใยจึงให้ท่านสุธีอุ้มมาเล่าจ้ะ”เจ้าชมนาดที่นั่งพับเพียบร้อยมาลัยอยู่ริมสระหลวงเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นองครักษ์หลวงคนสนิทของพระภัสดาอุ้มร่างน้อยของโอรสคนเล็กเข้ามา ไหนว่าจักไปตามพระบิดา ไฉนจึงให้ท่านสุธีอุ้มกลับมาเยี่ยงนี้หนอ
“เฉด็จแม่”ลงจากอกท่านสุธีเดินเตาะแตะเข้าไปหามารดา ที่วางเข็มร้อยมาลัยลงบนพานทองก่อนจักช้อนร่างเล็กของลูกน้อยขึ้นนั่งตัก
“เป็นกระไรไปจ๊ะ”ก้มหน้าถามลูกน้อยที่ซุกหน้ากับอกมารดา
“บัวเป็นกระไรไปหยือเจ้า”เจ้าภุชงค์ที่วิ่งเล่นกับนางข้าหลวง เมื่อเห็นน้องน้อยก็วิ่งกลับมาเกาะไหล่บอบบางของมารดา
“ภุชงค์...”นัยน์ตากวางแดงระเรื่อช้อนมองพระเชษฐา
“ใครกันบังอาจมาทำลูกแม่ร่ำไห้ หืม”
“เฉด็จพ่อ”
“เสด็จพ่อหรือ...ทรงทำกระไรเจ้ากันจ๊ะ”
“ฮึก...เฉด็จพ่อมิอุ้มบัว”
“แลพ่อเจ้าทรงทำกระไรอยู่หรือ”
“ชงฉ้อมดาบอยู่พระเจ้าค่ะ”
“อืม...พ่อเจ้าคงมิอยากให้เจ้าเปรอะพระเสโทกระมังลูก ทรงซ้อมดาบพระเสโทหรือก็คงออกมาก พ่อเจ้าคงมิอยากให้เจ้าตัวเปรอะนั่นแล”ว่าปลอบเสียงหวาน มือบางปาดน้ำตาบนแก้มนุ่ม
“ฮึก...พระเจ้าค่ะ”พยักหน้าเบาๆ
“หึหึ”ยิ้มเอ็นดูก่อนจะกดจมูกโด่งรั้นกับแก้มนุ่มของโอรสคนงาม
จุ๊บ
เมื่อเห็นมารดาจูบแก้มน้อง องค์รัชทายาทแห่งภุมริกาก็ยื่นหน้าเข้าไปกดจูบแก้มน้องตาม เจ้าบัวหัวเราะคิกคัก ก่อนจะนั่งเล่นดอกบัวหลวงอยู่บนตักมารดา มินานองค์ภุมรินก็เสด็จเข้ามาในศาลาริมสระหลวงในฉลองพระองค์ชุดใหม่ ทรงสรงน้ำชำระพระวรกายก่อนจะรีบรุดมาง้อลูก พร้อมนางข้าหลวงที่หอบพานทองบรรจุขนมหวานจนพูนมาด้วย
“เฉด็จพ่อ”เจ้าภุชงค์น้อยเมื่อเห็นพระบิดาก็ผุดลุกก่อนจะวิ่งเข้าไปเกาะพระชงฆ์
“ว่าอย่างไรเจ้านาคน้อยของพ่อ”ช้อนลูกขึ้นอุ้มแนบพระอุระ พระนาสิกกดจูบแก้มแลหน้าผากโอรสคนโต
“เสด็จพี่”เรียกพระภัสดาก่อนจะหลุบตามองโอรสคนเล็กที่นั่งเล่นดอกบัวในมือ ทำท่ามิสนใจคนเป็นพ่อ
“หึหึหึ”พระสรวลอย่างเอ็นดู ทรงเสด็จประทับข้างพระชายา เจ้าบัวน้อยเหลือบตามองพระบิดาเมื่อเห็นว่าทรงมองอยู่ก็มุดหน้ากับอกบางของมารดา
“เจ้าบัวงาม พ่อเจ้ามีขนมมาด้วยหนาลูก ใคร่อยากหรือไม่”เจ้าชมนาดเอ่ยถามเจ้าตัวน้อย
“...พระเจ้าค่ะ”ตอบมารดาเสียงแผ่ว
“หึหึหึ เจ้าภุชงค์มานี่มาเจ้า แม่จักป้อนขนม”ว่าพลางดึงโอรสองค์โตเข้ามาในอ้อมกอด องค์ภุมรินเห็นดังนั้นจึงช้อนเจ้าบัวน้อยเข้ามานั่งบนพระเพลา
“เจ้าบัวงามใคร่อยากกินกระไรก่อนดีเจ้า พ่อจักป้อน”ตรัสพลางลูบผมยาวนุ่มของบุตร พระกรกอดประคองร่างเล็กอย่างทะนุถนอม
“บัวใคร่กินอันนั้นพระเจ้าค่ะ”ชี้ไปที่ทองหยอดสีเหลืองทองฉ่ำน้ำเชื่อม
“ได้สิเจ้า”ทรงตักขนมหวานป้อนใส่ปากเล็กช้าๆ เมื่อได้ลิ้มรสขนมหวานเจ้าบัวงามก็อารมณ์ดีขึ้นทันตา เงยหน้ายิ้มหวานให้พระบิดา คนเป็นพ่อจึงแย้มพระโอษฐ์ให้พลางจูบเบาๆที่หน้าผากเล็ก พระหัตถ์ที่จับแต่ด้ามอาวุธประคองขนมหวานบรรจงป้อนลูกน้อยอย่างอ่อนโยน
“เฉด็จพ่อพระเจ้าค่ะ”
“หืม ว่าอย่างไร”
“บัวใคร่อยากเที่ยวพระเจ้าค่ะ”ว่าพลางอ้าปากรับขนมหวานจากคนเป็นพ่อ ริมฝีปากเล็กบวมตุ้ยเพราะทองหยอดเม็ดโต
“ใคร่อยากเที่ยวหรือ จักไปไหนเล่าเจ้าบัวงาม”
“ภุชงค์ใคร่ไปตลาดในเมืองพะย่ะค่ะ”คนพี่ผุดลุกจากตักมารดาเดินเตาะแตะไปหาบิดา พลางนั่งลงบนพระเพลาอีกข้าง กลาเป็นว่าตอนนี้องค์รัชทายาท แลเจ้าน้อยประทับอยู่บนพระเพลาของพระบิดาคนละข้าง โดยมีพระมารดาคอยป้อนขนมหวานให้ทั้งสองคน
“ตลาดในเมืองหรือเจ้านาคน้อย”
“พะย่ะค่ะ”
“คงจักได้ฟังมาจากนางข้าหลวงกระมังพระเจ้าค่ะ ลูกจึงใคร่เห็นตลาดนอกวังหลวง”หลายวันก่อนนางข้าหลวงที่กลับไปเยี่ยมบ้าน ได้เล่าเรื่องตลาดนอกวังหลวงให้เจ้านายน้อยทั้งสองฟัง เด็กๆจึงใคร่อยากเห็นตลาดนอกวังหลวง มากเสียจนรบเร้าให้มารดาขอประทานนุญาติจากพระบิดาให้พาออกไปเห็น
“บัวก็ใคร่ไปพระเจ้าค่ะ”
“เยี่ยงนั้นหรือ...เยี่ยงนั้น อีกสองวันพ่อจักออกไปตรวจราชการนอกวังหลวงจักพาพวกเจ้าไปด้วยก็แล้วกันหนาลูก”
“เย้ๆ บัวใคร่ซื้อขนมด้วยพระเจ้าค่ะ”
“ภุชงค์ก็ใคร่ได้ของเล่นพะย่ะค่ะ”
“หึหึหึ ได้ๆ พวกเจ้าใคร่อยากได้กระไรพ่อจักหามาให้ทุกอย่างเลย”
“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ บัวยักเฉด็จพ่อที่ฉุดพระเจ้าค่ะ”
“ภุชงค์ก็ยักเฉด็จพ่อที่ฉุดพะย่ะค่ะ”
“ว้า...มิมีใครรักแม่เลยหรือนี่ รักพ่อเจ้ากันหมดแม่เสียใจนัก”เจ้าชมนาดแสร้งทำเสียงตัดพ้อ ตีหน้าเศร้าทำเอาลูกน้อยทั้งสองรีบเข้ากอดเอาอกเอาใจมารดา
“บัวก็ยักเฉด็จแม่พระเจ้าค่ะ”
“ภุชงค์ก็ยักพะย่ะค่ะ เฉด็จแม่มิเสียใจหนา”
“บัวปลอบหนาพระเจ้าค่ะ”ว่าแล้วก็จับมือบางของมารดาขึ้นจูบเอาใจ
“หึหึหึ จ้ะๆ แม่แค่หยอกพวกเจ้าดอก”เจ้าชมนาดกอดลูกน้อยทั้งสองพลางหอมหน้าผากมนฟอดใหญ่ องค์ภุมรินทอดพระเนตรลูกเมียด้วยความรักใคร่
“เฉด็จแม่บัวตื่นเต้นพระเจ้าค่ะ”กระซิบข้างใบหูขาวของมารดาที่อุ้มตนอยู่ แขนเล็กโอบรอบลำคอระหงแน่น
“อู้หู เฉด็จพ่อพะย่ะค่ะ”ภุชงค์น้อยที่อยู่ในอ้อมพระกรขององค์ภุมรินดูตื่นตาตื่นใจกับตลาดชาวบ้านนอกวังหลวงเป็นอย่างมาก มิต่างกับเจ้าบัวงามคนน้อง
“หึหึหึ”พระสรวลในลำคอด้วยความเอ็นดูลูกทั้งสอง
“เสด็จพี่น้องมีความสุขเหลือเกินพระเจ้าค่ะ”กระซิบบอกพระภัสดาขณะที่เดินไปตามทางเดินของตลาด
“พี่ก็มีความสุขเจ้าชมนาด แค่มีเจ้า แลลูกๆก็พอแล้วสำหรับชีวิตพี่”สำหรับพระองค์ลูกๆทั้งสองก็เปรียบแก้วตาทั้งสองข้าง แลเจ้าชมนาดก็เปรียบดวงใจหนึ่งเดียวของพระองค์ มิคิดเลยว่าการเสด็จประพาสล่าสัตว์ป่าครานั้นจักทำให้ได้ประสบพบเจอกับรักแท้ แลแม่ของลูก
“น้องก็เช่นกันพระเจ้าค่ะ”สบตากันก่อนจักเผยรอยยิ้มเป็นสุข เจ้าตัวน้อยโซ่ทองคล้องใจทั้งสองเมื่อเห็นพระบิดา แลมารดายิ้มกว้างให้กันก็ยิ้มหวานประจบ เรียกเสียงหัวเราะเอ็นดูจากบุพการี
ชมนาดเย้าภุมรินจบบริบูรณ์
[/color]