พิมพ์หน้านี้ - "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Y2Y ที่ 01-03-2011 23:07:29

หัวข้อ: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 01-03-2011 23:07:29
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

นิยายเรื่องนี้ เป็นผลงานการแต่งนิยายของ น้อง aeaw
ยังไงก็ขอฝากน้องสาวคนนี้ด้วยนะค่ะ
 ชอบไม่ชอบไงก็เมนท์เป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยเน๊อ

^^  รักเธอ ^^  ตอนที่ 1
เมื่อเดินลัดเลาะไปตามแนวสนามหญ้าสีเขียว ที่ทอดขนาดไปกับบ้านหลังใหญ่สีขาว บ้านหลังเล็กน่าอยู่ ซ่อนตัวอยู่หลังแนวต้นปาล์มแนบชิดติดรั้วด้านหลัง ตรงหน้าบ้านหลังนั้น ชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตน้ำเงินเข้ม นั่งอยู่บนเก้าอี้อัลลอยสีขาวตัดกับพื้นหญ้าสีเขียว ตรงหน้าชายหนุ่มคือหญิงสาวหน้าตาสวยซ่อนเปรี้ยว

“ตินคะ คืนพรุ่งนี้ไปงานเลี้ยงรุ่นกับนุ่นนะคะ”

หญิงสาวเอ่ยชวน ทอดสายตารอฟังคำตอบจากอีกฝ่ายด้วยความหวังว่า เขาจะไม่ปฏิเสธคำชวนนั้น
ถึงใครทุกคนในที่ทำงานจะมองว่าเธอกับผู้ชายหน้าคม คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน และดวงตาที่โตหวาน คนนี้เป็นคู่รักกัน
 แต่ว่าเธอก็ยังไม่ค่อยจะแน่ใจในความสัมพันธ์ ระหว่างเธอกับเขาจะเรียกว่าคนรักได้หรือเปล่า

นิรดามั่นใจว่าเธอชอบผู้ชายคนนี้ แต่เขาล่ะรู้สึกอย่างเดียวกับเธอหรือเปล่า

ภาคียิ้มบางๆให้อีกฝ่าย หญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเขาในความคิดของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ เขารู้จักกับนิรดามาได้หลายปีแล้ว ก็คงตั้งแต่เขาเริ่มทำงานนั่นแหละ

นิรดาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาสนิทมากที่สุด ถึงเธอเป็นคนสวย สวยมากคนหนึ่ง  เสน่ห์ในแบบที่เธอเป็นคือสาวสมัยใหม่ ทำงานเก่ง แต่งตัวดูดี ที่สำคัญเธอช่างออดอ้อนและเอาใจเก่ง ทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้ว่านิรดาคือผู้หญิงที่เข้าใกล้เขาได้มากที่สุด มากกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ที่รู้จัก เธอเป็นฝ่ายทอดไมตรีให้เขา ก่อนจะเริ่มความสัมพันธ์ไปสู่คำว่าแฟนในสายตาใครต่อใคร สถานะความเป็นแฟนที่เขาก็ยังไม่แน่ใจว่า คำว่าแฟน มันมีความหมายต่างจากคำว่าเพื่อนร่วมงานยังไง

เพราะนิรดาที่ถูกเรียกว่าแฟน ก็ไม่ได้แตกต่างจากเพื่อนร่วมงานคนอื่นเลย แค่เขาสนิทด้วยมากที่สุดก็เท่านั้นเอง

“กี่โมงครับ”

ภาคีเคาะนิ้วลงกับโต๊ะ เขาถามนิรดา แต่สายตากลับจับไปยังรถมินิคันเล็กสีน้ำเงินเข้มที่แล่นเข้ามาในระยะที่สายตามองเห็น
มันกำลังวิ่งมาจอดตรงหน้าบ้านหลังใหญ่ราวกับวังสีขาวของผู้ยิ่งใหญ่

รถคันเล็กแต่ราคาสูงจอดสนิทชิดบันไดหินอ่อนสีอ่อน ก่อนที่ชายหนุ่มเจ้าของรถจะก้าวออกมา ร่างที่บอบบางเกินชาย ยิ่งดูเล็กน่ารักด้วยเสื้อตัวเล็กที่แนบไปกับลำตัวและกางเกงขาเดฟที่แนบเนื้อไม่ต่างกัน แต่เหมาะเจาะรับกับรูปร่างของคนๆ นี้ได้อย่างไม่มีที่ติ


คนถูกมองหยุดขาที่จะก้าวและมองไปยังบ้านหลังเล็กผ่านแนวต้นปาล์ม มองอยู่ครู่หนึ่งจึงสะบัดหน้าเดินเข้าบ้าน
ทิ้งให้เจ้าของสายตาที่มองสบในระยะไกลเศร้าลงทันทีที่ร่างของอีกฝ่ายลับตาไป

สีฟ้า...เมื่อไหร่ผมจะเลิกมองแต่คุณได้?

ในหัวใจของภาคีเฝ้าวนเวียนพร่ำถามแต่ประโยคนี้ ทุกครั้งที่ถูกเมินเฉยหรือทำกับว่าเขาไม่เคยมีตัวตน เป็นคนน่ารังเกียจ หัวใจมันเจ็บลึก

นิรดามองตามสายตาของภาคี หญิงสาวทันเห็นเพียงร่างใครคนหนึ่งก้าวฉับๆเข้าไปในตัวบ้านหลังใหญ่ราวกับคฤหาสน์ แต่หญิงสาวพอนึกรู้ว่าเจ้าของร่างคือใคร

เป็นใครไม่ได้นอกจาก ‘สีฟ้า’ ลูกชายคนเล็กของคุณกฤษและคุณอุษา คนเจ้าเสน่ห์ที่ใครๆ ต่างพากันหลงรักเมื่อได้รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ล้วนแล้วแต่เดินหน้าเข้ามาขายขนมจีบอยู่ตลอด แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครครอบครองหัวใจชายหนุ่มได้สักที แล้วดูเหมือนเจ้าตัวเองก็ไม่มีทางทีจะสนใจใครเสียด้วย

ทำไมเธอถึงรู้เรื่องนี้ล่ะ เธอจะรู้จากใครได้ถ้าไม่ใส่ภาคี ผู้ชายที่นั่งทำตาละห้อยอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ไง

“สวยนะคะ”

นิรดาเลือกจะใช้คำว่าสวยมากกว่าหล่อ อยากรู้ว่าคนฟังจะสะดุดอะไรบ้างหรือเปล่า และใจหนึ่งก็อยากเห็นอาการของภาคีด้วยว่าจะเป็นเช่นไร

“สวยครับ”


ภาคีรับคำด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้เป็นปกติ เพราะน้ำเสียงแปร่งๆ นั้นของนิรดาที่ถาม มันเหมือนกำลังรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่


สีฟ้าสวยเกินกว่าจะเรียกได้ว่าหล่อ  ผิวขาวอมชมพูเหมือนนมรสสตอร์เบอร์รี่ ดวงตาคู่เรียวยาวดูเอาเรื่องนั้น สวยจนไม่อยากหลบสายตา จมูกรั้นบอกความเอาแต่ใจที่เขาอยากเอาใจเหลือเกิน เรียวปากอิ่มสีสดที่บ่อยครั้งเผลอคิดไปไกลอย่างห้ามไม่ทันและกู่ไม่เคยกลับ เครื่องหน้าที่ทำให้ใบหน้าสวยเกินกว่าจะเรียกว่าหล่อ ยิ่งบวกกับรูปร่างแบบบางนั้นก็ชวนให้น่าถนุถนอม อยากโอบไว้ในอ้อมกอด

....ของเขา

เหมือนกับที่เขาเคยฝันถึงมาตลอด

...สวยเหมือนดอกฟ้าที่ไม่มีวันเอื้อมถึง...


“ทำไมไม่จีบล่ะคะ”


นิรดาถามประชด ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นแฟน แต่ในความสัมพันธ์นั้น นิรดาไม่เคยแน่ใจเลยว่า ภาคีรู้สึกกับเธอเช่นไร
 เขาเฉยกับทุกเรื่อง ไม่มีคำบอกรัก แม้แต่การกระทำก็ไม่เคยมี ดอกไม้หรือของกำนัลสักอย่าง เขาก็ไม่เคยมีให้เธอ


“งานเริ่มกี่โมงครับ”


ภาคีย้อนกลับมาเรื่องเดิม เมื่ออีกฝ่ายกำลังจะตีรวน ทำให้นิรดาหงุดหงิด เธอเชื่อว่าที่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่ก้าวไปถึงไหนสักที เหมือนคนรู้จักแล้วผูกมันด้วยคำว่าแฟน มันอาจเป็นเพราะสีฟ้าก็ได้


“สองทุ่มค่ะ ตกลงตินไปกับนุ่น รับปากแล้วนะ”

แม้น้ำเสียงจะปรับให้นุ่มลงเพียงใด แต่กระแสความหงุดหงิดยังไม่จางหาย แต่ช่างเถอะ ต่อให้ภาคีคิดในสิ่งที่เธอหวาดกลัวอยู่ แต่สีฟ้าคงไม่แยแส ก็หล่อแบบสวยๆ แถมรวยแทบจะล้นฟ้า หน้าตาในสังคมก็มีเยอะ ไม่มีทางลดตัวทำผิดให้เสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลหรอก


..ต่อ
V
V

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 1 [01/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 01-03-2011 23:11:47
 :mc4:คุณหนูผู้สูงศักดิ์


หมาวัดได้แต่เฝ้ามองเหรอ :L1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 1 [01/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 01-03-2011 23:12:59
...


“อะไรนะ แพท? ให้ลมชวนหมอนั่นให้นี่นะ ไม่เอา ไปชวนเอง ลมไม่อยากยุ่ง เข้าใจไหม?”

สีฟ้าลุกพรวดจากเตียงขึ้นมานั่งหน้ายุ่งกับคำขอของเพื่อนรัก ที่มันไม่ได้ยากเกินเขาจะทำ แต่เขาไม่อยากทำมันมากกว่า ให้ไปหาภาคีนะเหรอ สีฟ้าไม่มีวันทำแน่ๆ หน้ายังไม่อยากมองเลยด้วยซ้ำ


“ช่วยเพื่อนหน่อยนะ ขอร้องล่ะ นะนะนะ ฟ้าคนดีที่หนึ่งของแพท” น้ำเพชรทำเสียงอ่อนเสียงหวานมาตามสาย  

“ไม่เอา อยากชวนหมอนั่นไปดินเนอร์ก็ไปชวนเองสิ” สีฟ้าตอบคำขอร้องของปลายสายอย่างไม่ใยดี คิ้วเรียวขมวดยุ่งแบบขัดใจในอารมณ์

“น่านะ ช่วยหน่อยนะ เอาเป็นว่าไปปารีสคราวนี้ แพทจะซื้อน้ำหอมมาฝาก สามขวดเลยเอ้า”

“ลมมีเงินซื้อเองได้”


“โธ่...ช่วยเพื่อนหน่อยนะ ลม”

“ไม่” สีฟ้าปฏิเสธเสียงแข็ง ให้บุกน้ำลุยไฟที่ไหน สีฟ้าไม่เกี่ยง แต่เรื่องให้ไปหาภาคี คนที่แทบจะไม่คุยกันเลยนี่นะ เขาลำบากใจและทำใจลำบากที่สุด

“นะ” คนปลายสายก็ยังอ้อนเสียงเบา

“ไม่”

“นะ นะ”

“ไม่ ไม่”

“นะลมคนดีของแพท ลมเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของแพทน้า ช่วยเพื่อนที่น่ารักแสนดีของลมหน่อยนะ รับรองว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกและเป็นครั้งสุดท้าย แพทสัญญา” เสียงอ้อนวอนผ่านมาตามสาย คนใจแข็งแต่ใจแข็งได้ไม่นาน
ทั้งที่ไม่อยากทำ สุดท้ายก็ปฏิเสธไม่ได้

“ก็ได้ๆ แต่ว่ามันต้องเป็นครั้งสุดท้ายนะ”

เท่านั้นแหละปลายสายถึงกับเฮลั่นมาตามสาย จนสีฟ้าต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูอยู่หลายวิ ก่อนกรอกเสียงลงไปว่า


“แต่ไม่รู้ว่านายนั่นจะไปหรือเปล่า รักแฟนออกอย่างนั้น” แอบรักยังไม่พอ แต่ยังรักคนมีเจ้าของอีกด้วย ทั้งที่น้ำเพชรรู้ว่าภาคีมีแฟนแล้ว เจ้าตัวก็ยังไม่เลิกหวัง แถมยังหวังมากขึ้นกว่าเมื่อครั้งอดีตซะอีก เจ็บไม่เคยจำ เขาก็สุดปัญญาที่จะห้ามเพราะไม่เคยจะได้ผล

“แพทเชื่อฝีมือลม” คนปลายเสียงบอกเสียงหวาน “ลมก็รู้ แพทต้องไปดูแลสาขาที่โน่นตั้งสามเชียวนะ ทำให้เพื่อนได้มีเรื่องดีๆเอาไว้คิดถึงบ้างสิ”

“พอๆ ไม่ต้องพูดแล้ว จะไปจัดการให้เดี๋ยวนี้แหละ” สีฟ้ารีบบท เขาไม่อยากจมไปกับแม่น้ำพันกว่าสาย ของเพื่อนรัก


สีฟ้าคว้าเสื้อคลุมขึ้นมาสวมทับชุดนอนตัวหลวมแขนสั้นขายาว หลังจากวางสายจากน้ำเพชรไปแล้ว  ชายหนุ่มเดินผ่านแสงจันทร์นวลอ่อน ลัดเลาะไปตามแนวสนามหญ้า ก่อนมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าบ้านหลังเล็ก แสงไฟจากข้างในบอกให้รู้ว่าเจ้าของบ้านยังไม่หลับ

พอก้าวเข้ามาในตัวบ้านหลังเล็กที่เล็กกว่าบ้านของเขาเกือบสิบเท่า สีฟ้าเห็นความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านที่มีเพียงผู้ชายคนเดียวอยู่ ทุกอย่างอยู่ในที่ทางที่ควรจะเป็น บ้านหนุ่มโสดไม่ได้รกอย่างที่คิด มันดูไม่แตกต่างจากตอนที่คุณปองอยู่เลย

ผู้ชายคนนี้เป็นคนมีระเบียบทีเดียว

ภาคีที่กำลังกำดินสอเขียนแบบไว้แน่น นั่งบนเก้าอี้ทำงานตัวเก่ง ข้างหน้ามีกระดาษแปลนบ้านกางหลา ชายหนุ่มหลับตานิ่งก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น เมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศที่คุ้นเคย ถูกแทนที่ด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของคนคนมาเยือน

ชายหนุ่มเปิดเปลือกตาขึ้น มองชายหนุ่มในชุดเสื้อคลุมสีขาว สีฟ้ากำลังยืนกอดอกมองเขาอยู่  

“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณลม” น้ำเสียงชายหนุ่มเรียบพอๆ กับใบหน้า ความตื่นเต้นถูกกักขังในชั้นที่ลึกที่สุด แม้แต่ความรักในแววตาก็ถูกกลบบังอย่างแยบยล

เขานึกแปลกใจกับการมาของสีฟ้าเลย สีฟ้าไม่เคยย่ำกายเข้ามาในบ้านหลังนี้ นับตั้งแต่ที่มารดาของเขาจากไป

“แพทชวนนายไปทานข้าวเย็นพรุ่งนี้” สีฟ้าบอกอย่างรวบรัด มันไม่ใช่คำถามแต่เป็นคำบอก ที่สีฟ้าตีความหมายว่าภาคีต้องไป ราวกับว่ามันคือหน้าที่ของภาคีที่ต้องทำ

“ผมไม่ว่างครับ” ภาคีบอกเสียงเรียบอีกตามเคย สองมือพยายามทำให้เหมือนจะวุ่นอยู่กับงานตรงหน้าตามที่บอกไป

“ดินเนอร์ใต้แสงเทียนบนเรือสำราญล่องแม่น้ำเจ้าพระยาเชียวนะ ไม่ชอบหรือไง” สีฟ้าเดินเข้ามาใกล้ บอกด้วยรอยยิ้มเยาะ

ภาคีเงยหน้าขึ้นมามองคนพูด เห็นรอยยิ้มนั้นของสีฟ้าอย่างชัดเจน ยิ้มที่เขาไม่ชอบ ยิ้มที่เหมือนการดูถูก มันคงไม่เจ็บมากหากเป็นรอยยิ้มของคนอื่นหรือคนใดในโลก แต่เพราะมันเป็นยิ้มของสีฟ้า มันเลยกรีดลึกยิ่งกว่าลึก

“ผมไม่ว่างครับ” คำตอบยังคงเป็นคำตอบเดิม สบตากับอีกฝ่ายนิ่ง ตาที่สบไม่ได้หวานซึ้งเหมือนที่ใจอยากทำ หากมันเต็มไปด้วยการปฏิเสธที่แข็งกร้าว

“โก้จะตาย มีสาวพาไปดินเนอร์ มีของดีๆ ให้กิน เงินก็ไม่ต้องเสีย ไม่ไปก็โง่แล้ว”

ภาคีกำลังถูกอีกฝ่ายดูถูก แต่เขายังทำใจเย็นไม่สนใจ สีฟ้าเป็นอย่างนี้มานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงทุกวันนี้ ระรานเขาไม่เคยเปลี่ยน คร้านจะรบราด้วยเรื่องที่ทำให้หัวใจถูกกรีดให้ลึก ชายหนุ่มหันหลังให้อีกฝ่าย ทำงานของตัวเองต่อ

“อย่าเล่นตัวนักเลยน่า ยัยแพทเค้ารวย ถ้านายได้แต่งงานด้วย สบายไปทั้งชาติ”

เมื่อไม่ได้รับความสนใจจากภาคี สีฟ้าจึงคว้าเอาดินสอของชายหนุ่มมาถือไว้ บังคับทางอ้อมให้อีกฝ่ายหันมาสนใจ
ได้ผล
ภาคียอมละสายตาจากงานตรงหน้าหันมาให้ความสนใจเขาในทันที

“ผมไม่ว่างจริงๆ” เขาบอกเสียงอ่อน อีกฝ่ายกลับไม่สนใจ ยังคงพูดในสิ่งที่ได้รับการร้องขอมาจากเพื่อนรักอย่างน้ำเพชร

“ฉันไม่สน พรุ่งนี้นายแต่งตัวให้หล่อๆ หน่อย ยัยแพทจะพานายไปดินเนอร์” ชายหนุ่มหน้าหวานวางดินสองลงบนโต๊ะ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป ไม่สนใจอาการหนักใจของเจ้าของบ้านที่มองตามร่างนั้นไปจนลับตา กับความรู้สึกที่ยากเกินบรรยาย

เมื่อไหร่จะเข้าใจอะไรสักที....คุณลม

เมื่อไหร่จะเข้าใจว่าหัวใจ...บังคับกันไม่ได้

เมื่อไหร่จะเข้าใจว่าหัวใจของผม...เป็นของใคร






ภาคีหันกลับมาสนใจงานตรงหน้าตามเดิม แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่สามารถทำงานที่ค้างอยู่ต่อได้อีก ร่างแบบบางที่หายไปจากการมองเห็น ราวกับเข้ามาเพื่อก่อกวนสมาธิของเขา แล้วจากไปพร้อมกับหัวใจดวงช้ำของเจ้าของบ้านหลังเล็ก

ชายหนุ่มวางงานตรงหน้าลง อยากทำให้เสร็จแต่เมื่อสมาธิมันกระจาย เขาก็ทำมันต่อไม่ได้ ภาคีเดินมาทิ้งตัวลงนอนเหยียดยาวบนโซฟาตัวเก่าเก็บ ใช้สองมือรองรับศีรษะเอาไว้ สายตาจับจ้องไปยังเพดานอย่างใช้ความคิด

นลินพี่สาวของเขาแต่งงานกับเมฆาพี่ชายของสีฟ้า เพราะครอบครัวเขาไม่ได้ร่ำรวยอะไร แม่ซึ่งเป็นครูเลี้ยงลูกสองคนเพียงลำพัง เนื่องจากพ่อของเขาเสียไปตั้งแต่เขาและพี่สาวยังเล็กๆ ดังนั้นพี่นลินจึงรับแม่กับเขามาอยู่ด้วยกันที่นี้ แต่ด้วยความเกรงใจของเขาและแม่ ไม่อยากรบกวนครอบครัวคุณกฤษและคุณอุษาจนเกินไป เขากับแม่จึงขอแยกตัวออกมาอยู่ต่างหาก

บ้านหลังนี้เป็นฝีมือการออกแบบของภาคี ชายหนุ่มออกแบบมันขึ้นมาตั้งแต่รู้ว่าเขาต้องย้ายมาอยู่ร่วมรั้วกับพี่สาว ออกแบบเมื่อตอนที่เขากำลังอยู่ปีหนึ่งด้วยซ้ำ

ชีวิตของเขามีความสุขมาตลอดกับบ้านหลังนี้ บ้านที่เป็นฝีมือการออกแบบของเขาเอง ทว่าความสุขของเขาจางหายไปเมื่อแม่มาจากไปด้วยโรคมะเร็ง และความสุขนั่นเริ่มลดน้อยลงไปอีกเมื่อสีฟ้าก้าวเข้ามา

สีฟ้าก้าวเข้ามาทำให้ความภูมิใจในบ้านหลังนี้ของเขาลดลง สีฟ้าทำราวกับว่าเขาเป็นเพียงคนอาศัย

ใช่สิ ถ้าไม่นับว่ามันเป็นฝีมือการออกแบบของเขาเอง นอกนั้นก็ไม่มีอะไรที่จะบอกว่าบ้านหลังเล็กหลังนี้เป็นของเขา ค่าที่มันถูกสร้างมาได้เพราะเงินของครอบครัวสีฟ้า

ภาคีถอนหายใจเหนื่อยหนัก

-----------------------------------------------------------------




สาวสวยรูปร่างเล็กกะทัดรัดในชุดตัวยาว กำลังยืนกรีดกรายหมุนซ้ายหมุนขวาอวดความงดงามให้เพื่อนสนิทที่สุดของเธอดู

น้ำเพชรใส่ชุดแสกสีขาว มีดอกไม้สีชมพูหวานติดอยู่ตรงอกด้านซ้าย เพิ่มความเก๋ไก๋ให้กับชุดสวย ฝีมือดีไซด์เนอร์ชื่อดังของเมืองไทย

“เพื่อนของลมสวยจริงๆ” สีฟ้าเอ่ยชมเพื่อนสนิทจากใจจริง น้ำเพชรถือว่าเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง ทั้งสวยทั้งน่าถนุถนอมด้วยรูปร่างที่บอบบางราวกับเนื้อเพชรเลอค่า

“แน่นะลม” น้ำเพชรถามเอาความจริง เธอมั่นใจว่าความสวยไม่เป็นรองใครก็จริงหรอก แต่ทำไมความสวยของเธอถึงไม่เข้าตาชายหนุ่มที่หมายปองได้เลย

“แน่สิ ลมว่าพอนายภาคีเห็นแพท รับรองต้องขอแพทแต่งงานแน่นอน” น้ำเพชรเลยอายม้วนต้วนกับคำพูดนั้น พลางตีแขนเพื่อนรักไปหนึ่งทีเต็มแรงอายโทษฐานพูดเกินความจริง ทำให้เธอหวังไปไกลแต่ไม่เคยไปถึงสักที  

สีฟ้ากับน้ำเพชรเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ทั้งสองเรียนโรงเรียนเดียวกันจนจบมัธยมปลาย ก่อนจะแยกย้ายกันไปเรียนปริญญาตรีกันที่เมืองนอก

“เชื่อแพทจริงๆเลยนะ ไม่รู้จักหักมองคนอื่นบ้าง มีผู้ชายรวยๆตั้งหลายคนมาจีบกลับไม่สนใจ เอาแต่สนใจนายภาคีอยู่ได้ เมื่อก่อนโดนปฏิเสธมาแล้วยังไม่เข็ดอีก”

เพราะสนิทกันมาก สีฟ้าถึงได้กล้าพูด ส่วนน้ำเพชรก็ไม่ได้โกรธเพื่อน  

สีฟ้ากับน้ำเพชรรู้จักกับภาคีตั้งแต่ตอนเรียนมัธยม ทั้งสามเรียนที่เดียวกัน มารดาของภาคีก็เคยสอนสีฟ้าและน้ำเพชร น้ำเพชรแอบชอบภาคีมานาน ถึงขั้นสารภาพรักกับชายหนุ่ม แต่ได้รับคำปฏิเสธกลับมา ตอนนั้นน้ำเพชรถึงกับร้องไห้ฟูมฟาย ร้อนถึงสีฟ้าต้องออกโรงต่อว่าคนที่ปฏิเสธเพื่อนของเขา

เรื่องตอนนั้นคงผ่านไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ถ้าภาคีไม่โผล่เข้ามาในวงจรชีวิตของคนทั้งคู่อีกครั้ง เมื่อสีฟ้ากลับมาร่วมงานแต่งงานของพี่ชาย และพบว่าภาคีเป็นน้องชายของพี่สะใภ้เขา พอเรื่องรู้ถึงหูน้ำเพชร เธอก็เกิดอาการรักแรกลืมไม่ลงขึ้นมาอีกครั้ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้จะเรียนกันคนละประเทศ แต่การกลับมาบ้านแต่ละครั้งของลม คือการโผล่มาของน้ำเพชรเสียทุกครั้ง

“รักคำเดียวย่ะ คนอย่างลมไม่มีวันรู้จักหรอก” น้ำเพชรแยกเขี้ยวใส่เพื่อน สีฟ้ายักไหล่ไม่ใส่ใจกับคำกล่าวหาของน้ำเพชร

รักหรือ ?

ใครว่าสีฟ้าไม่รู้จัก สีฟ้าน่ะรู้จักดีทีเดียวล่ะ แต่ว่าเขาสามารถควบคุมมันได้ ไม่ยอมปล่อยให้มันออกมาเดินเพ่นพล่านเด็ดขาด

“ไปหาพ่อเทพบุตรของเธอได้แล้ว”

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 1 [01/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 01-03-2011 23:15:37
ท่านใดสนใจนิยายเรื่อง รัก...เธอ และ รัก...เชิญครับ
สั่งจองได้นะคะ ตอนนี้เหลืออยู่ 8 ชุด

สนใจเมล์มาได้ที่  i_aeawแอทhotmail.com  นะคะ

(ปล.แต่ถ้าครบจำนวนแล้ว จะทำการลบโพสนี้ แต่ถ้าโพสนี้ยังอยู่ ก็แสดงว่าหนังสือยังเหลือนะคะ)
(ปล. 2 เมื่อสั่งจองเข้ามาจะตอบกลับภายใน 1 วัน หากไม่ได้รับ ลองเช็คที่ถังขยะดูนะคะ ถ้ายังไม่มีให้ติดต่อเข้ามาใหม่ หรือส่งข้อความมาทาง pm ก็ได้)

รัก...เธอ จำนวน 548 หน้า ราคา 550 บาท (รวมค่าส่งแบบลงทะเบียนแล้ว)
     -- มีตอนพิเศษรวม 8 ตอน
รัก...เชิญครับ จำนวน 620 หน้า ราคา 610 บาท (รวมค่าส่งแบบลงทะเบียนแล้ว)
     -- มีตอนพิเศษรวม 2 ตอนใหญ่ และ 11 ตอนย่อย

ของแถม -- เป็นที่คั่นหนังสือ รัก...เธอ 3 แบบ (แถมให้ทั้ง 3 แบบ แบบละ 1 อัน)
            -- เป็นที่ัคั่นหนังสือ รัก...เชิญครับ 2 แบบ + ภาพแฟนอาร์ตขนาดเท่าไปรษณีย์บัตร 1 แผ่น

เอาภาพตัวอย่างหนังสือมาให้ยลค่ะ

(http://image.free.in.th/z/if/img_05121]2.jpg) (http://pic.free.in.th/id/b7df6739ff9e682246c92f0552e4e4b7)
(http://image.free.in.th/z/it/376575_443209575731408_230020688_n2.jpg) (http://pic.free.in.th/id/7f29e1300368b6568228b4e6b7fb135b)
(http://image.free.in.th/z/th/img_04971]6.jpg) (http://pic.free.in.th/id/ffc5530a382a1eb3a3ec6a2ffbba5b7e)
(http://image.free.in.th/z/ix/img_05081]4.jpg) (http://pic.free.in.th/id/24c3715c73b7fa14ed3ce93b6bcb6f4b)
(http://image.free.in.th/z/iv/img_05071]3.jpg) (http://pic.free.in.th/id/a40ad70587408d7ec39ccd94bc166835)

บับบายนะคะ
aeaw สีเหลืองอ่อน

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 1 [01/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 01-03-2011 23:17:33

เอ่อ  ไม่รู้จะพูดว่าไงดี
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 1 [01/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 01-03-2011 23:21:39
ดูถูกคนอื่นและความรักเหลือเกินนะคุณฟ้าต่ำ


มองตัวเองซะสูงเชียว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 1 [01/03/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kukkukku ที่ 01-03-2011 23:32:02
แอบรัก

เฮ้อๆๆๆ


สู้สู้

^^


 :3123: :3123:

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 1 [01/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 02-03-2011 00:01:49
นู๋ฟ้าเจ้จะรอดูวันที่เธอทรมานเพราะความรักนะ นายเอกสวยเริ่ดเชิดหยิ่งมาอีกแล้ว สงสารพระเอกที่แพ้คำว่ารัก อิอิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 1 [01/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 02-03-2011 00:15:09
รออ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 1 [01/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 02-03-2011 03:13:35
สงสัยว่าสีฟ้าจะซึนเดเระไปทำไม o18

แต่ว่าคงมีเหตุผลใช่ใหม?

รออ่านต่อไป  :pig4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 1 [01/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 02-03-2011 06:10:53
ติดตามด้วยคนจ้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 1 [01/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 02-03-2011 06:46:32
เหนื่อยใจจริง
พระเอกจนเกินเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 1 [01/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 02-03-2011 08:42:28
แอบรักกันไปกันมาเหรอ อย่ามาม่าได้ม๊ายยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 1 [01/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 03-03-2011 13:55:59
แอบย่องมาส่งตอนที่ 2 แต่ขอเป็นครึ่งแรกก่อนนะค่ะ  เด๋ววันเสาร์หรืออาทิตย์จะมาต่อให้จบครึ่งหลังค่ะ o13

ต่อไปคาดว่าจะสามารถลงเรื่องนี้ให้จบได้ภายในเวลาไม่นานเพราะเป็นนิยายที่น้องแอ๋วแต่งจบแล้วแต่อยู่ในขณะรีไรท์นิดๆหน่อยๆ เพื่อความเหมาะสม

 :impress2:

  ส่วนตัวที่เคยได้อ่านเรื่องนี้ คิดว่า คนที่ชอบแนวละครหลังข่าว ประเภท โลโซแอบรัก ไฮโซ ยังไงยังงั้นอ่ะ แต่ก็ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้สักเรื่องนะค่ะ

ขอบคุณค่ะ :pig4:

ตอนที่ 2

V
V
V

ตรงหน้าบ้านหลังเล็กของภาคี  น้ำเพชรนั่งเขินอยู่ตรงเก้าอี้อัลลอยสีขาว ส่วนสีฟ้าได้พาตัวเองเข้าไปในบ้านแล้ว ด้วยถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของทุกอย่างที่อยู่ในเขตรั้วบ้านของเขา

กลิ่นน้ำหอมของผู้ชายลอยมาพร้อมกับชายหนุ่มมาดนิ่ง หน้าตาหล่อเหลา
ภาคีเปิดประตูห้องออกมาก็เจอผู้บุกรุก.. ไม่ใช่สิ   ต้องเรียกว่าเจ้าของบ้านหลังนี้ บ้านที่เจ้าตัวประกาศป่าวๆ ว่ามันเป็นของตัวเอง
สีฟ้ายืนห่างจากเขาเพียงไม่กี่ก้าว   มือหนึ่งของชายหนุ่มไพล่ไว้ด้านหลัง   อีกมือหนึ่งกำลังถือกรอบรูปไม้ค้างอยู่

สีฟ้าวางมันลงช้าๆ ชายตามองหนุ่มเจ้าของรูปที่เขาหยิบขึ้นมาดู
มันเป็นรูปของภาคีกับมารดาผู้ล่วงลับไปแล้ว พลางทำเสียงหึอยู่ในลำคอ เสียงหึที่เหมือนจะกล่าวเย้ยคนตัวสูง
เมื่อคืนทำท่าเหมือนไม่อยากไป แต่มาตอนนี้แต่งตัวเสียหล่อ

หล่อ?

ใช่...

ภาคีหล่อ...

ชายหนุ่มจัดว่าเป็นผู้ชายที่เรียกว่าหล่อได้เต็มปาก ทั้งที่เครื่องหน้าบนโครงหน้าไม่ได้โดดเด่นเกินใคร แต่เมื่อวางรวมกันแล้วกลับทำให้ใบหน้านั้นคมเข้ม



ภาคีดูหล่อเหลาในชุดสูทสีเข้ม  ไม่บ่อยนักที่เขาจะแต่งตัวแบบนี้ แต่ชายหนุ่มก็รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ค่าที่เขาคุ้นแต่การใส่เสื้อเซิ๊ตหรือไม่ก็เสื้อยืดคอกลมคอปกธรรมดา มันยิ่งทำให้ดูดีเหมือนคุณชายจากตระกูลดัง


“หล่อดีนี่”

คำทักทายที่ไม่เหมือนคำทักทายทั่วไป ภาคีฟังมันด้วยความรู้สึกว่างเปล่า ชินแล้วกับคำพูดประชดพวกนี้และน้ำเสียงดูถูกนี่ด้วย ถ้าไม่ติดว่าพี่สาวขอร้องให้อยู่ อย่าย้ายออกไปไหน เขาก็คงย้ายออกจากรั้วนี้ไปนานแล้ว

ถึงจะรัก ถึงจะอยากเห็นหน้าแทบตาย แต่เขาก็ทนสุดจะทนกับความรู้สึกดูถูกที่อีกฝ่ายมีให้

สีฟ้าเดินเข้าไปใกล้ร่างสูง สำรวจตรวจตราตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำให้ภาคีรู้สึกอึดอัดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ตาเรียวสวยของสีฟ้ามองราวกับเขาเป็นตัวอะไรสักอย่าง ที่เจ้าของมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้ทุกอย่าง


สีฟ้าเดินวนไปรอบๆตัวภาคี  ทิ้งระยะห่างไม่ให้ใกล้และไม่ไกลจนไปนัก ราวนักสำรวจผู้เย่อหยิ่ง


“มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับคุณลม” เขาแกล้งลืมๆน้ำเสียงของอีกฝ่าย ใส่ใจไปก็เท่านั้น คนอย่างสีฟ้าเคยรู้ตัวที่ไหน ว่าทำให้เขาเจ็บมามากเท่าไหร่

แล้วคำพูดดีๆ อย่าหวังจะได้ยินจากกลีบปากสีสดนี่เลย แม้แต่หางตาก็คงเสียดายหากจะมองเขา ถ้าไม่เป็นเพราะเรื่องของน้ำเพชร โอกาสได้สบตา ได้ยืนคุย มีค่าเท่ากับติดลบ


“ฉันหรือจะมีอะไรกับนาย” คนร่างบางหน้าหวานยักไหล่ไหว 

“ถ้าไม่มีอะไรผมขอตัวนะครับ” คร้านจะคุยกับสีฟ้า ภาคีเดินเลี่ยงออกมา แว่วเสียงอีกฝ่ายพูดตามมาไม่ห่าง

“ต่อไปนายก็คงสบาย”

ภาคีหยุดกึก พยายามระงับอารมณ์ขุ่นไว้ในใจ ไม่รู้ว่าต้องทนฟังคำถากถางพวกนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ กว่าสามปีแล้ว ตั้งแต่สีฟ้าเรียนจบกลับมาจากเมืองนอก เขาต้องเจอกับถ้อยคำดูถูกทุกครั้งที่เผลอเจอกัน  ไม่รู้ว่าสีฟ้าจะเกลียดเขาอะไรนักหนา เรื่องนั้นมันก็ผ่านมานานแล้ว เรื่องที่เมื่อก่อนเขาเคยปฏิเสธความสัมพันธ์กับเพื่อนรักของสีฟ้า


ทบทวนถึงเรื่องราวระหว่างเขากับสีฟ้า เรื่องราวเมื่อครั้งสมัยเป็นนักเรียน ตอนนั้นสีฟ้าเป็นคนที่โดดเด่นอย่างมากในโรงเรียน ถือว่าเป็นดาวด้วยซ้ำทั้งที่เป็นผู้ชาย เพราะหน้าตาที่หวานสวยเกินกว่าจะเรียกว่าหล่อ ฐานะครอบครัวที่จัดว่าเป็นมหาเศรษฐี มันสมองเป็นเลิศ ทำให้คำว่าเพอร์เฟกต์เป็นอะไรที่สีฟ้าได้รับตลอดมา

สีฟ้าเป็นที่หมายปองของแทบทุกคนไม่เว้นหญิงหรือชาย ส่วนตัวเขาก็ไม่ค่อยจะรู้จักสีฟ้ามากเกินกว่าคนที่เดินผ่านกันเพียงแว๊บๆ ในบางวัน เขาไม่ใช่ลูกเศรษฐี เข้ามาเรียนที่นี้ได้เพราะเรื่องของสมองล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับที่มารดาของเขาสอนอยู่ที่นี้ด้วย

แล้วเขากับสีฟ้าเริ่มเจอบ่อยมากขึ้น เมื่อน้ำเพชรเพื่อนสนิทของสีฟ้าเกิดสนใจเขาขึ้นมา เมื่อเขาปฏิเสธน้ำเพชร ก็ทำให้สีฟ้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขานึกว่าเรื่องคงจะจบไปเมื่อเรียนจบ แต่โลกกลมได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเขาต้องมาอยู่ร่วมรั้วเดียวกับสีฟ้า คนที่เกลียดเขาเข้าใส้จากเรื่องตอนนั้น

นับตั้งแต่นั้น สีฟ้าก็เริ่มก่อกวนเขาตลอดไม่เคยหยุด แม้ไม่บ่อยแต่ทุกครั้งที่เจอหน้าก็หนีไม่พ้นคำดูถูก คำประชด ที่สรรหามาพูดให้เจ็บเล่นๆ 

สีฟ้าเดินเอามือไพล่หลังผ่านภาคีไปหาน้ำเพชร  ไม่สนใจตามคมที่หันกลับมามองหน้าเขา หลังจากที่เขาพูดจบ ชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ข้างน้ำเพชร หญิงสาวกำลังยิ้มหวานเมื่อเห็นชายหนุ่มในดวงใจของเธอเดินตามหลังของเพื่อนออกมา

“มาแล้วล่ะพ่อเทพบุตรของเธอ” เสียงของสีฟ้าไม่เบาเลย มันดังพอให้คนที่ก้าวตามออกมาได้ยินชัดเจน ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่นิรดาในชุดแสกสีชมพูหวานเดินเข้ามา

นิรดาเดินผ่านสีฟ้าและน้ำเพชรมายืนข้างภาคี เธอมองคนทั้งสอง ความสวยของสาวร่างบางพอสูสีกับเธอได้เลย แต่กับชายหนุ่มหน้าหวานอย่างสีฟ้า นิรดายอมรับเลยว่าเทียบกันไม่ติด ทั้งที่สีฟ้าเป็นผู้ชาย เธอเป็นผู้หญิง ไม่น่าจะเอามาเปรียบเทียบกันได้เลยสักนิด แต่เธอก็อดเปรียบเทียบให้เจ็บใจเล่นไม่ได้

“ไปกันหรือยังคะ ติน”

สองมือของนิรดาเอื้อมไปจับแขนชายหนุ่มเอาไว้ แสดงความเป็นเจ้าของให้สีฟ้าและน้ำเพชรรับรู้ ให้รู้ไว้ซะว่าเธอคือเจ้าของของภาคี อย่าคิดมายุ่ง ผู้ชายคนนี้นิรดาหวง

“ครับ” ภาคีบอกตอบ สร้างความงุนงงให้กับสีฟ้าและน้ำเพชร

สองเพื่อนรักมองหน้ากัน น้ำเพชรทำหน้าเหมือนจะร้องไห้   ร้อนถึงสีฟ้าที่ทนเห็นเพื่อนน้ำตาตกไม่ได้

“จะไปไหน!” เสียงที่ถามดังเสียจนนิรดาเผลอก้าวถอยหลังไปแอบอยู่หลังภาคี  “นายรับปากฉันแล้วว่าจะไปกับแพท”

สีฟ้าจ้องเขม็งไปที่ภาคี ก่อนตวัดมองนิรดาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรและเกลียดหน้า มองชนิดที่ทำให้นิรดาไม่กล้าสบตาด้วยเลยแม้แต่วินาทีเดียว ตาคู่สวยของสีฟ้าน่ากลัวใช่น้อย

“ผมบอกแล้วว่าไม่ว่าง ผมต้องไปงานเลี้ยงกับนุ่น” ภาคีกุมมือนิรดาอย่างปลอบโยน ทำให้หญิงสาวใจชื้นขึ้น ซึ่งมันก็มากพอที่จะกล้าสบตากับสีฟ้าได้บ้าง

“แต่นายต้องไปกับเพื่อนฉัน” สีฟ้าไม่ยอม ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบแต่หน้าตาเอาเรื่อง เมื่อภาคีกล้าปฏิเสธเขา

ส่วนหนึ่งสีฟ้าสู้แทนน้ำเพชรที่ยืนเงียบ ตัวหดเหลือนิดเดียว อีกส่วนหนึ่งรู้สึกเสียหน้าที่โดนตอกกลับ ทั้งที่เขาคิดว่าภาคีควรจะยอมเขา เขาสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ ไม่ใช่มาปฏิเสธเขาแบบนี้ มันเจ็บใจเกินกว่าจะยอมความ แล้วไอ้ยิ้มสะใจของผู้หญิงตรงหน้าเขาก็ทำให้เครื่องมันร้อนเกินห้าม

“ทำไมผมต้องไป ในเมื่อผมนัดกับนุ่นแล้ว” อาการเอาเรื่องหนักของสีฟ้าไม่ได้ทำให้ภาคีกลัว กลัวทำไม ในเมื่อชีวิตเป็นของเขา สีฟ้าไม่มีสิทธิ์

“แต่นายต้องไป”

“ไปกันเถอะครับนุ่น” ภาคีหันไปพูดกับนิรดา เขาไม่สนใจว่าสีฟ้าจะตะโกนสั่งเขาดังลั่นแค่ไหน เขาก็มีลิมิตเหมือนกัน ยอมให้ได้ในบางเรื่องแต่ไม่ใช่ทุกเรื่อง

“ค่ะ”

ภาคีกระชับมือของนิรดาไว้แน่น เขาต้องการปลุกปลอบเธอ เพราะรู้ว่าหญิงสาวกำลังถูกคุกคามด้วยสายตาคู่คมกริบ ก่อนหันมาบอกอีกสาวที่ยืนเงียบ แต่ใบหน้าสวยคล้ายมีน้ำตามาคลอรอเวลาไหลอยู่นานแล้ว

“ผมขอโทษด้วยนะครับคุณแพท วันนี้ผมไม่ว่างจริงๆ ไว้โอกาสหน้านะครับ” ไม่ใช่การให้ความหวัง มันเป็นแค่คำบอกของคนที่เคยรู้จักกัน ไม่อยากเห็นใครเสียน้ำตาเพราะเขา เขาใจแข็งไม่พอ แต่ก็ไม่เคยใจอ่อนตอบรับความรักน้ำเพชร เขาไม่อยากสร้างปัญหาให้ยุ่งหนัก ยังไงเขาก็รักน้ำเพชรไม่ได้ ทั้งที่น้ำเพชรรักและรอเขามาตลอด

หัวใจมันบังคับกันไม่ได้ เขาทำได้แค่หลอกลวงหัวใจตัวเอง

น้ำเพชรพยักหน้าพลางน้ำตาไหล ร้อนถึงสีฟ้าต้องเข้ามาโอบไหล่ แต่ตาของเขาจ้องหน้าภาคีสลับกับนิรดาเขม็ง

“ไปเถอะกันนุ่น” ภาคีไม่สนอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ เขาไม่ใช่ทาสที่จะต้องทำตามคำสั่งของใคร โดยเฉพาะของสีฟ้าที่ผ่านมาเขายอมมามากพอแล้ว

เสียงร้องไห้ที่หนักขึ้นของน้ำเพชร ทำให้สีฟ้าอยากจะกระชากมือของคนทั้งคู่ออกจากกันนัก แต่ถูกน้ำเพชรรั้งไว้ก่อน 

“อย่าลม” เธอรั้งแขนเพื่อนไว้แน่

“แต่แพท...”

มือของน้ำเพชรเย็นเฉียบ ต่างกับใจของสีฟ้าที่ร้อนราวกับจะเดือดได้ ยิ่งเห็นคนทั้งคู่เดินควงแขนกันไปที่รถของนิรดาที่จอดอยู่ไม่ไกล ตรงนั้น ภาคีเปิดประตูให้นิรดาก่อนที่เจ้าตัวจะอ้อมไปเปิดประตูตรงฝั่งคนขับ ไม่ถึงนาทีรถเก๋งสภาพธรรมดาก็แล่นออกไปไกลและหายไปจากสายตาในที่สุด สีฟ้ายิ่งหงุดหงิดแทบอยากเผาบ้านที่ไร้เจ้าของทิ้งซะให้รู้แล้วรู้รอด จะได้ไม่ต้องกลับมาให้เขาเห็นหน้า
--------------------------------------------------------------------------------------------------------

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [03/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 03-03-2011 15:03:30
ฮึ..ต่างคนต่างก็แอบรักกัน
สีฟ้า ทำเป็นเข้มกับดินนะ เดี๋ยวเหอะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [03/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 03-03-2011 21:46:11
เฮ่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [03/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 03-03-2011 23:16:13
 o18
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [03/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 03-03-2011 23:48:18
 :o8:

ขอบคุณค่ะ   
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งหลัง จูบแรก [06/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 06-03-2011 09:09:23

ขอบคุณทุกคนที่แวะมาชม มาอ่านถึงแม้จะเม้นท์บ้างไม่เม้นท์บ้างก็ดีใจที่แวะมาชม   แต่(คนแต่ง)จะดีใจที่สุดถ้าบอกว่าชอบไม่ชอบเรื่องนี้ยังไง :really2:


ตอนที่ 2 ครึ่งหลังค่ะ 


เหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าที่ภาคีรับมาจากบริกรของงานเลี้ยง ชายหนุ่มดื่มมันราวกับว่าเป็นน้ำหวานลื่นคอ
จนนิรดาที่นั่งอยู่ข้างๆ ต้องหันมาถาม เพราะชายหนุ่มดื่มเยอะขนาดนี้มาก่อน
“ตินกินเยอะไปแล้วนะคะ พอเถอะค่ะ”
เธอแย่งแก้วเหล้าที่ภาคีเตรียมสาดลงคอมาไว้ในมือ ชายหนุ่มไม่ได้ว่าอะไร เพราะสมองของเขาตอนนี้มันยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว
“คิดอะไรอยู่คะ” ว่าพลางวางมือทาบบนหลังมือใหญ่ ลูบน้อยๆ ให้เจ้าของมือได้สัมผัสถึงความห่วงใยของเธอ
“เปล่าครับ” เขาปฎิเสธ แล้วดึงมือออก สัมผัสจากนิรดาทำให้เขารู้สึกแย่กว่าเดิม
“กลับกันเถอะ”
ภาคีรู้ว่าคงไม่มีอะไรดูขึ้นหากเขายังนั่งอยู่ในงานนี้ ยิ่งนั่งก็ยิ่งฟุ้งซ่าน คิดถึงแต่ใครอีกคนที่เขาทำให้โกรธจนตัวสั่น หน้าตาสวยบูดบึ้งจนน่ากลัว
ใบหน้าบูดบึ้ง ไม่ใช่ใบหน้าที่เขาอยากเห็น  มันทำให้เขากลัวว่าเจ้าของใบหน้านั้นจะเกลียดเขามากขึ้น จนไม่อยากเสียเวลาสักเสี้ยวนาทีมาประชดหรือดูถูกถางทางเขาเหมือนเช่นเดิม

------------------------------------------------------------------------------------------------

เกือบตีหนึ่งกว่าที่ภาคีจะกลับถึงบ้าน เพราะพอออกจากงานเลี้ยง เขาพานิรดาไปส่งที่บ้านของเธอ ไม่ฟังคำอ้อนใดๆ ที่จะรบเร้าให้เขาเข้าไปในบ้านของเธอ จากนั้นเขาก็ขับรถของนิรดาไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย เขาไม่อยากกลับบ้าน เขาสังหรณ์ใจว่าใครบางคนคงตั้งหน้ารอการกลับมาของเขาอยู่แน่ ซึ่งมันไม่ผิดไปจากที่คิดเลย เมื่อแสงไฟภายในตัวบ้านสว่างโล่ แสดงว่ามีอยู่ในบ้าน แล้วต้องไม่ใช่ใครอื่น นอกจากสีฟ้าคนเดียวที่กล้าทำ กล้าบุกรุก กล้าประกาศตัวว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้าน

ใจหนึ่งดีใจที่จะได้เห็นได้เห็นหน้าเหมือนคนแอบรักทั่วไป แต่อีกใจก็ล้าเกินกว่าจะบรรยายได้ว่าเป็นเพราะอะไร

มันอาจเป็นเพราะ

.....เขาไม่ใช่สิ่งของ....

....เขาไม่ใช่ของๆสีฟ้า....

แต่สีฟ้ากลับทำให้เขารู้สึกว่าเป็นสิ่งของและเป็นของๆ สีฟ้า ที่เจ้าตัวจะจับทำอะไรก็ได้ตามแต่ความต้องการ ไม่เคยคิดถึงหัวจิตหัวใจของเขาว่าจะรู้สึกอย่างไร

ที่ผ่านมาเขาทนเพราะอยากทน เผื่อความเกลียดชังจะลดน้อยลง แต่มันกลับยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เห็นหนทางที่ความหวังจะเป็นจริง วันนี้เขายังทนได้เพราะอยากทน วันไหนที่เขาต้องฝืนทน วันนั้นต่อให้พี่สาวคัดค้านยังไง เขาก็คงยืนยันความต้องการอย่างเด็ดขาดซะที

นานกว่าที่ภาคีจะเดินเข้าไปในบ้าน เพียงแค่เท้าที่ก้าวเข้ามาในตัวบ้านที่แอร์เย็นสบาย ประโยคแรกที่สีฟ้าเตรียมไว้สำหรับชายหนุ่มจึงดังขึ้นให้คนถูกถามเหนื่อยหนักขึ้นอีก

“ฉันอยากรู้ ยัยหน้าจืดนั่นมีดีตรงไหน ถึงทำให้นายปฏิเสธเพื่อนฉัน” ต่อให้นิรดาแต่งหน้าจัดแค่ไหน สีฟ้าก็มองว่าหน้านั้นจืดสู้เพื่อนเขาไม่ได้ ไม่ใช่แค่เรื่องหน้าตา เรื่องฐานะด้วย ต่างกันราวกับแม่ค้ากับเจ้าหญิง

สีฟ้านั่งรอภาคีหลังจากที่น้ำเพชรกลับ เพื่อนของเขาร้องไห้หนัก กว่าจะหยุดได้ก็ปลอบกันเกือบชั่วโมง นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องบินไปฝรั่งเศสพรุ่งนี้ สีฟ้าคงรั้งให้น้ำเพชรอยู่เคลียร์เรื่องนี้ให้รู้แล้วรู้รอดกันไป เอาให้จบ รักหรือไม่รัก จะได้เลิกสักที เขาก็เหนื่อยเหมือนกัน ไม่อยากช่วยน้ำเพชร แต่ก็ทำใจแข็งไม่ได้สักที

“ผมไม่ขอตอบ”

ครั้งแรกกระมังที่ภาคีใช้เสียงแข็งกับสีฟ้า ที่ผ่านมาต่อให้สีฟ้าพูดหรือทำอะไรกับเขา ภาคีเพียงเก็บมันเอาไว้ ไม่แสดงอะไรออกมามากมายอย่างตอนนี้ คงเพราะน้ำเปลี่ยนนิสัยที่เขาดื่มเข้าไปเป็นแน่ ทำให้เขากล้า กล้าแม้กระทั่งสบตาอีกฝ่ายด้วยสายตาแข็งกร้าว

ดีเหมือนกันสีฟ้าจะได้รู้เสียทีว่าเขาไม่ใช่สิ่งของ ไม่ใช่ของๆ สีฟ้า......แต่เขาคือผู้ชายคนหนึ่งที่มีหัวใจ เจ็บเป็น ความอดทนก็มีขีดจำกัด ไม่ใช่รักแล้วจะยอมทุกอย่าง

“แต่นายต้องตอบ”

สีฟ้าลุกเดินเข้ามาประชิดแต่ไม่มาก ใกล้พอแค่ที่เขาจะเงยหน้ามองคนตัวสูงโดยไม่ต้องลำบากมาก ถึงเขาจะไม่ใช่คนตัวเตี้ยแต่เขาก็สูงสู้อีกคนไม่ได้ แต่ตอนนี้ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ความสูง มันอยู่ที่ภาคีกล้าพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงไม่แยแสต่างหาก มันทำให้หงุดหงิด เขาไม่ชอบท่าทางอวดดีของภาคี เสียเวลานั่งรออยู่นานหลายชั่วโมง จะให้ฟังคำปฏิเสธเท่านี้หรือ ไม่มีทางเด็ดขาด ไม่เคยมีใครขัดใจสักครั้ง

“ผมเหนื่อย ผมขอตัว”

“นายยังไม่ตอบคำถามฉัน”

“ผมขอตัว”

คงไม่ต้องทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีอีกต่อไป ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ทำตัวเป็นแขกที่ดี ภาคีเดินเลี่ยงเข้าห้องของตัวเอง ทิ้งให้สีฟ้ายืนไม่พอใจกับการกระทำของเขาอยู่เบื้องหลัง

เสียงประตูเปิดและปิดในเวลาต่อมา กระตุ้นเตือนให้สีฟ้าทำอะไรสักอย่าง เขาตัดสินใจ ก่อนจะสาวเท้าก้าวตามไปในห้องส่วนตัวที่เขาไม่เคยก่ำกราย


ภาคีที่กำลังถอดเสื้อสูทพาดไว้กับเก้าอี้ หันกลับมามองคนบุกรุกทันทีที่เสียงเปิดประตูดังขึ้น ก่อนจะปิดเสียงดัง สีฟ้าจะถือสิทธิ์มากเกินไปแล้ว แม้กระทั่งห้องนอนที่ควรเป็นห้องส่วนตัวของเขา สีฟ้ายังกล้าเข้ามาอย่างไม่เกรงใจ

“นี่มันห้องนอนของผมนะครับ คุณลม”

เขาพยายามทำเสียงเรียบข่มความโกรธ มือข้างหนึ่งขยับคลายปมเน็ทไท อีกมือหนึ่งเอื้อมไปที่หัวเตียงจับกรอบรูปไม้อันเล็กคว่ำหน้าลง ไม่ให้คนบุกรุกเห็นสิ่งหวงแหน

“ฉันมาเอาคำตอบ นายต้องตอบคำถามของฉัน” อะไรที่สีฟ้าอยากได้อยากรู้ มันต้องได้และต้องรู้ ถึงจะยอมจากไป ถ้ายังไม่ได้ ยังไม่รู้ ชายหนุ่มก็จะอยู่เค้นเอาจนได้และจนรู้

สีฟ้าเดินมาใกล้อีกนิด ในระยะที่เขาเงยหน้ามองได้สบายเหมือนทุกครั้ง ตาเรียวจ้องไม่ยอมลดละ เขาทันเห็นว่าอีกฝ่ายทันคว่ำกรอบรูปเล็กๆ หนีสายตาของเขา มีความลับซ่อนอยู่ในนั่นแน่ๆ อยากรู้ ปากเลยถามออกไปอย่างใจใคร่รู้

“อะไร?”

ภาคีมองตามสายตา ไม่มีคำตอบที่ตรงคำถาม เมื่อเขาดึงให้กลับไปยังเรื่องเดิม

“นี่มันห้องนอนผม คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามา”

“ทำไมฉันจะเข้ามาไม่ได้ อะไรก็ตามที่มันอยู่ในรั้วบ้านฉัน มันคือของฉันทุกอย่าง แม้กระทั่งที่ที่นายยืนอยู่มันก็ของฉัน ฉันมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้”

ได้ผล สีฟ้าลืมความใคร่รู้ของตัวเองไปทันทีทันใด เมื่อภาคีพูดถึงเรื่องสิทธิ์ที่สีฟ้าป่าวประกาศอยู่ตลอดเวลา ว่าตัวเองมีสิทธิ์ในทุกตารางนิ้วภายในรั้วบ้านแห่งนี้ ทั้งบ้านหลังใหญ่ราวคฤสาห์และบ้านรังเล็กเท่ารังหนูในความรู้สึกของเขา

“หรือจะเถียง” หน้าสวยเชิดถามอย่างถือดี เรียวแขนเล็กยกขึ้นกอดอก ท้าทายเอาคำตอบ

“................”

“หึ...เถียงไม่ออกล่ะซี่”

“.................” ปากหนาเม้มเน้น กดอารมณ์

“คราวนี้ก็ตอบคำถามฉันมา ยัยหน้าจืดนั่นมีอะไร หรือว่าเป็นเมียนายแล้ว”

“คุณลม!” ภาคีเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดัง ตามอารมณ์ที่ถูกยั่ว สบตาคู่สวยแวววับเอาเรื่อง ไม่เคยคิดว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะกล้าพูดประโยคนี้ออกมา มันดูถูกทั้งเขาและนิรดา

“ทำไม? ฉันพูดอะไรผิด เห็นออเซาะกันขนาดนั้น ไม่พามาอยู่ด้วยกันเลยล่ะ พามาอยู่สิ ฉันจะได้ยกบ้านหลังนี้ให้เป็นสินสมรส ในฐานะผู้ใหญ่ฝั่งชาย” ปากบางเหยียดยิ้ม ไม่สะทกสะท้านกับแววตาโกรธกริ้วนั้น

“ถ้าผมจะแต่งงานกับนุ่น ผมก็คงไม่พานุ่นเค้ามาอยู่ที่นี้หรอกครับ เกรงใจ” ชายหนุ่มพยายามบอกเสียงเรียบ หากมันก็อดที่จะเน้นหนักในคำสุดท้ายไม่ได้ เขาเห็นอีกฝ่ายทำปากแบะ

“ไปอยู่บ้านเมียว่างั้น?”

“..........................” ไร้คำตอบ แต่สีฟ้าก็ไม่สน

“ดีเหมือนกันนะ มีเมียให้เกาะ”

“คุณลม!!” ภาคีแทบอยากกระชากร่างเล็กมาเขย่าให้สาแก่ใจกับคำพูดเจ็บแสบนั่น เขาก็ทำได้แค่คิด ขณะที่ใบหน้าสวยนั้นก็ยังยิ้มภูมิใจกับคำพูดของตัวเอง ไม่เคยคิดจะสนใจความรู้สึกคนฟัง มือที่กำแน่นเพื่อกดอารมณ์ระเบิดคลายตัวออกช้าๆ ภาคีสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนปล่อยมันออกมาอยู่หลายครั้ง   

“ผมอยากจะเกาะใครก็เรื่องของผม คุณลมไม่เกี่ยว ออกจากห้องผมไปได้แล้ว เชิญครับ” ภาคีเดินผ่านร่างเล็กไปยังประตู มือจับลูกบิดหมุน ประตูห้องเปิดออก เขายืนอยู่ตรงนั้น มองไปยังคนที่ยืนกอดอกทำหน้าเช็ด

“เชิญครับคุณลม”

“ไม่”  สีฟ้าหรือจะยอม ยอมก็ไม่ใช่สีฟ้าแล้ว ยิ่งโดนอีกฝ่ายไล่ด้วย ยิ่งไม่มีทางจะก้าวขาออกไปง่ายๆ ต่อให้ยืนอยู่จนถึงเช้าชายหนุ่มก็ทำได้ เพื่อเอาชนะ

นานเกือบสิบนาทีที่คนทั้งคู่เล่นสงครามประสาทกัน สีฟ้ายังยืนกอดอกอยู่กลางห้อง ส่วนภาคีก็ยังจับลูกบิดไว้แน่น ก่อนที่จะหาผู้ชนะไม่ได้ เป็นฝ่ายภาคีเองที่ออกจากที่มั่นของตัวเอง ไม่กี่ก้าวมือใหญ่ก็จับต้นแขนของคนร่างบาง กระชากให้ออกไปจากห้อง แต่สีฟ้ากลับสะบัดมันหลุดด้วยแรงที่เกือบจะเท่ากัน

“ปล่อย”

สีฟ้าตวาดกลับ สะบัดแขนจากการเกาะกุม พลางคลำต้นแขนที่โดนบีบคลายความเจ็บ แรงจากมือภาคีทำเขาเจ็บไม่น้อย

“นายไม่มีสิทธิ์มาไล่ฉัน”

คล้ายเส้นความอดทนของภาคีขาดผึง ที่ผ่านมาเขายอมมากพอแล้ว ยอมทั้งที่สีฟ้าทำกับเขาราวเป็นสิ่งของ ชายหนุ่มกระชากไหล่บางเข้าใกล้แทบปะทะแผ่นอกแข็งแกร่ง โชคดีที่สีฟ้าใช้มือดันไว้แผ่นอกนั้นไว้ก่อนที่จะปะทะให้ต้องเจ็บตัว

“ผมบอกให้ออกไป” เขาบอกเสียงเข้ม

“ไม่ไป ปล่อยฉัน”

สีฟ้าพยายามสะบัดไหล่ให้หลุดจากมือใหญ่ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผล ซ้ำร้ายยังถูกกระชากให้เข้าใกล้อกกว้างยิ่งขึ้น มือที่ดันอยู่นั้นก็แทบต้านแรงไม่ไหว เขาได้กลิ่นเหล้าอ่อนๆรวยรินอยู่เหนือผิวแก้ม รู้สึกหวิวๆ บอกไม่ถูก เหมือนกำลังตกอยู่ในอันตราย

เพราะเหล้านี่เองทำให้ภาคีกล้าจะตวาดเขาเสียงดังแบบที่เจ้าตัวไม่เคยทำมาก่อน

“นายไม่มีสิทธิ์มาทำอย่างนี้กับฉัน”

แม้จะอยู่ในสถานการณ์อันตราย แต่สีฟ้ายังฝืนทำใจกล้า ตวาดอีกฝ่ายเสียงดัง สบตาขึงโกรธอย่างไม่หวาดหวั่น ทั้งที่ในใจมันสั่นรัว 

“ผมให้โอกาสคุณแล้ว แต่คุณดื้อเองนะคุณลม” เสียงแข็งกดต่ำ
 ความคิดแรกคือต้องสั่งสอนให้สีฟ้าจดจำเสียบาง ส่วนความคิดหลังคือสิ่งที่มาจากก้นความรู้สึกลึกล้นมาเนิ่นนาน

“ปล่อยฉัน ฉันบอกให้ปล่อยไง นายไม่มีสิทธ์ ไม่อย่างนั้นฉันจะฟ้องพี่ลิน” ทุกครั้งที่เขาขู่อะไรภาคี เขามักจะอ้างชื่อของพี่สะใภ้เสมอ เพราะรู้ว่าภาคีเกรงใจพี่สาวตัวเองที่สุด

“มีสิทธิ์สิ นี่มันห้องนอนของผม คุณเดินเข้ามาหาผมเอง”

ภาคีเหวี่ยงร่างบางไปบนเตียง ก่อนจะโถมตัวเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายคิดหาทางหนี สีฟ้าถอยร่นไปจนสุดเตียง แต่ชายหนุ่มรั้งเอวบางไว้ได้ทัน ดึงให้เข้ามาอยู่ใต้ร่างกำย่ำของเขาได้อย่างง่ายดาย

“ปะ...”

ไม่ทันได้แผลงฤทธิ์ ริมฝีปากสีสดถูกทาบปิดด้วยปากหนา ดักทุกคำขู่ให้กลืนหายไปกับเรียวลิ้นร้อนจาบจ้วง สีฟ้าผลักใบหน้าหล่อเป็นพัลวัน แต่ว่าไม่สามารถหยุดอีกฝ่ายได้เลย ริมฝีปากร้อนบดขยี้รุนแรง ลิ้นร้อนจาบจ้วงอย่างน่ารังเกียจ

ภาคีรัดร่างบางไว้แน่นและจูบอย่างแรง เมื่อคนใต้ร่างของเขาเริ่มจะใช้กำปั้นเล็กทุบไหล่เขา ชายหนุ่มละจากปากนุ่ม เพื่อรวบมือทั้งสองของเจ้าของปากนุ่มตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว ก่อนกดแน่นลงกับผิวเตียง มองตาคู่สวยด้วยสายตาวาววับ ปากสีสดที่หอบเอาอากาศเข้าปอดเมื่อครู่ ตอนนี้มันเม้นแน่นไม่ยอมเปิดออก เพราะกลัวจะเป็นการเปิดช่องทาง ภาคีเสียเวลาสบตาคู่สวยเพียงครู่เดียว ก่อนค้นหาความหวานจากซอกคอระหงต่อ มืออีกข้างที่เหลือเคลื่อนเข้าไปสัมผัสกับผิวนุ่มภายใต้ชุดนอนเนื้อนิ่มที่เจ้าตัวใส่อยู่

ร่างด้านใต้ที่ขัดขืนด้วยภาษากายเริ่มอ่อนระทวยใต้ร่างกำยำ แรงสัมผัสวาบหวาม สองมือที่ถูกรวบแล้วตึงไว้เหนือศีรษะอ่อนแรงต้านเมื่อถูกปล่อยให้อิสระ แล้วกลับกลายมาเป็นโอบรัดร่างกายของคนด้านบนเอาไว้แน่น ตามโดยอารมณ์ที่โหมพาไป ปากหนาช่ำชองพาให้เตลิดไปไกล มือใหญ่ที่ลูบไล้ไปทั่วแผ่นอกลามไปถึงแผ่นหลังก็ทำให้แอ่นตัวให้สัมผัสได้มากขึ้น มันตอบสนองการบุกรุกนั้นอย่างห้ามใจไม่อยู่

เพราะสัมผัสจากมือเรียวยาวที่โอบรัดร่างของเขาเอาไว้ ทำให้ภาคีเริ่มเรียกสติและความถูกต้องกลับมาได้ กลับมาเป็นเขาคนเดิม ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออกอย่างรวดเร็ว พร้อมคลายอ้อมกอดไปพร้อมกัน เขาลุกขึ้นนั่งขอบเตียง หันหลังให้กับร่างที่นอนหอบเหนื่อยอยู่บนเตียงของเขา

รู้สึกผิดจนไม่กล้ามองหน้า แม้แต่หายใจยังไม่กล้า

สีฟ้าลุกพรวดขึ้น ปรับสมองและความคิดให้เป็นปกติ แล้วกระชับเสื้อผ้าให้เข้าที่ พลางหลับตาปิดกั้นความปวดร้าวและความอับอายไม่ให้เจ้าของแผ่นหลังกว้างเห็น ก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดเสียงเรียบเป็นปกติออกมาว่า

“คุณลมออกไปเถอะครับ ผมขอร้อง ส่วนเรื่องของคุณแพท มันเป็นไปได้หรอกครับ เพราะผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว”

สิ้นคำบอกที่พยายามบังคับเสียงให้เป็นปกติที่สุด คือยินเสียงประตูห้องปิดอย่างแรง ภาคีซบหน้าลงกับผ่ามือทั้งสอง นิ่งนานจนถึงเช้า

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งหลังมาแล้วพร้อมกับรอยจูบ [06/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 06-03-2011 09:36:44
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เกือบไปแล้วมั้ยหละลม
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งหลังมาแล้วพร้อมกับรอยจูบ [06/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 06-03-2011 10:14:52
 :pig4: นะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งหลังมาแล้วพร้อมกับรอยจูบ [06/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 06-03-2011 12:38:54
อยากกระโดดถีบคุณลม

ปากร้ายนัก น่าจะจับกดให้รู้แล้วรู้รอด
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งหลังมาแล้วพร้อมกับรอยจูบ [06/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 06-03-2011 12:43:14
ภาคีน่าจะจับกดไปเลยเผื่อจะสิ้นฤิทธิ์
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งหลังมาแล้วพร้อมกับรอยจูบ [06/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 06-03-2011 13:20:28
อยากกระโดดถีบคุณลม

ปากร้ายนัก น่าจะจับกดให้รู้แล้วรู้รอด
กร๊าก  โถๆๆๆ  อย่ากระโดดถีบคุณลมเค้าเลย เดียว ภาคีจะไม่มีใครให้บอกรัก

ภาคีน่าจะจับกดไปเลยเผื่อจะสิ้นฤิทธิ์

นั่นดิ เมื่อไหร่จะจับกดซะที คนแต่งเค้าแต่งไว้จนจบแล้ว คงยังไม่จับกดในเร็ววันนี้แน่

 
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เกือบไปแล้วมั้ยหละลม
เนี่ยะถ้าไม่ติดคำว่าเกือบ  มีเฮ

 ขอบคุณทุกๆคน นะค่ะที่แวะมาเยี่ยมชม
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งหลังมาแล้วพร้อมกับรอยจูบ [06/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: w1234 ที่ 06-03-2011 13:46:29
จับกดไปเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งหลังมาแล้วพร้อมกับรอยจูบ [06/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 06-03-2011 17:21:26
ถ้าไม่ชอบเรื่องนี้ คงไม่ติดตามมาอ่าน ชิมิ ชิมิ
ก็เรื่องแบบนี้แหละจ้า บรรดาแม่ยก พ่อยกเค้าจะชอบกัน
ต่างคนต่างแอบรักกัน แต่กลับแสดงออกว่าเกลียดกัน
มันสนุกอีตรงสาดอารมณ์ใส่กันไปมานี้แหละ อิ อิ
แต่แหม..คุณหนูลมนี่ก็ปากดีจริงแหละ (ใช่ไหมภาคี ได้ชิมไปแล้วนี่ ดีจริงใช่ไหมล่า)
พูดออกมาแต่ละคำ มันน่า..จริงๆ จารออ่านตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งหลังมาแล้วพร้อมกับรอยจูบ [06/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 06-03-2011 18:17:42
ตีหัวแล้วลากเข้าถ้ำซะนะคะง่ายดี :laugh:

น่าจับลมมาปิดปากโดยการจับจูบซะหั้ยเข็ด ปากนี่ดีนัก :jul3:

มาต่อเร็วๆนะคะ :m5: :z2:แต่สงสารตินอ่า :o12:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งหลังมาแล้วพร้อมกับรอยจูบ [06/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 06-03-2011 18:56:19
สมน้ำหน้าปากดีนักคราวนี้จะได้หุบปากดีๆซะที


ดีนะที่ไม่โดนกดด้วย


หายซ่าเลยงานนี้อีสีฟ้า  เกือบเป็นสีแดง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งหลังมาแล้วพร้อมกับรอยจูบ [06/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 06-03-2011 19:51:30
 :m20:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งหลังมาแล้วพร้อมกับรอยจูบ [06/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 07-03-2011 19:37:49
ได้ข่าวว่าจะมาแย้วววว ^^'
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 3 แหวนนี้ได้แต่ใดมา [07/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 07-03-2011 20:05:44
จับกดไปเลย
ไม่นานเกินรอแน่ ลมเอ๊ยเตรียมตัวได้เลย
ถ้าไม่ชอบเรื่องนี้ คงไม่ติดตามมาอ่าน ชิมิ ชิมิ
ก็เรื่องแบบนี้แหละจ้า บรรดาแม่ยก พ่อยกเค้าจะชอบกัน
ต่างคนต่างแอบรักกัน แต่กลับแสดงออกว่าเกลียดกัน
มันสนุกอีตรงสาดอารมณ์ใส่กันไปมานี้แหละ อิ อิ
แต่แหม..คุณหนูลมนี่ก็ปากดีจริงแหละ (ใช่ไหมภาคี ได้ชิมไปแล้วนี่ ดีจริงใช่ไหมล่า)
พูดออกมาแต่ละคำ มันน่า..จริงๆ จารออ่านตอนต่อไปจ้า
ขอบคุณที่ติดตามและชอบเรื่องนี้ แต่เรื่องนี้นายเอกของเราเค๊าแผนการณ์เยอะนะค่ะ 
ตีหัวแล้วลากเข้าถ้ำซะนะคะง่ายดี :laugh:

น่าจับลมมาปิดปากโดยการจับจูบซะหั้ยเข็ด ปากนี่ดีนัก :jul3:

มาต่อเร็วๆนะคะ :m5: :z2:แต่สงสารตินอ่า :o12:

มาแล้วค๊า
สมน้ำหน้าปากดีนักคราวนี้จะได้หุบปากดีๆซะที


ดีนะที่ไม่โดนกดด้วย


หายซ่าเลยงานนี้อีสีฟ้า  เกือบเป็นสีแดง
555 สีแดง ดีนะที่ยังมีเกือบ
:m20:
ขอบคุณค่ะที่แวะมาชม
ได้ข่าวว่าจะมาแย้วววว ^^'
เชิญรับชมตอนต่อไปได้เลยค่ะ

ตอนที่ 3

สีฟ้าวิ่งผ่านหน้าพี่ชายและพี่สะใภ้ที่กำลังกลับจากงานเลี้ยงข้างนอก ชายหนุ่มไม่มีกะใจจะเอ่ยทักคนทั้งคู่เหมือนเช่นทุกครั้ง
“วิ่งหนีอะไรมาหะ ลม”
เมฆาตะโกนถาม เมื่อคนเป็นน้องเอาแต่ก้มหน้าก้มตาวิ่ง ไม่ยอมทักทายพี่ชายอย่างเขาเลย
“ไม่มีอะไรครับพี่ฟืน”
คนเป็นน้องตะโกนตอบกลับมา สองเท้าวิ่งเร็วหายไปในห้องทันที

ครั้นพอเข้าห้องของตัวเองมาได้ หนุ่มหน้าหวานรีบโถมตัวลงบนเตียงกว้าง ซบหน้าลงกับหมอนใบใหญ่ ปลดปล่อยความรู้สึกทุกอย่างออกมาเป็นน้ำใสไหลจากหน่วยตาสวย ในห้องที่มีเพียงสีฟ้าคนเดียว เขาไม่จำเป็นต้องกักเก็บสิ่งใดๆ เอาไว้ให้ทรมาน ปล่อยมันออกมาให้หมดกับความรู้สึกที่ถาโถม

เขาเจ็บที่ใจ เจ็บที่เผลอไผลไปได้ยังไง



____________________________________________________________________

เช้าวันต่อมาภาคีขับรถแวะไปรับนิรดามาทำงานด้วยกัน เพราะรถของเธออยู่กับเขา ภาคีส่งนิรดาเข้าบริษัทไปก่อนขับมา บอกเหตุผลว่าเขามีธุระที่ต้องทำนิดหน่อย ไม่ถึงยี่สิบนาทีชายหนุ่มก็กลับมาพร้อมกับดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ เดินเอามันไปให้นิรดา ทำเอาหญิงสาวยิ้มกว้าง คิดว่าตัวเองฝันไป จนกลายเป็นที่อิจฉาของสาวๆ ในออฟฟิศ ดอกไม้ช่อแรกที่เธอได้รับจากผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรัก

“เนื่องในโอกาสอะไรคะ”
นิรดาถามเสียงหวาน เมื่อรับช่อดอกไม้นั้นเอาไว้เต็มอ้อมแขน ดอกไม้ช่อใหญ่สวยถูกใจ ด้วยมันเป็นดอกไม้ช่อแรกที่เธอได้รับ นอกจากนั้นเธอก็แสนจะภูมิใจที่ตกเป็นที่อิจฉาของผู้หญิงในบริษัท

“แต่งงานกับผมนะนุ่น” 

คำขอนั้นหลุดออกมาจากปากหยัก ทำเอานิรดาหยิกแขนตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ใช่ความฝัน แขนตรงที่เธอหยิกมันเจ็บ เสียงกรีดร้องเบาๆ จากเหล่าเพื่อนร่วมงานสาวก็ช่วยยืนยันได้ดีทีเดียว ภาคีขอเธอแต่งาน แม้ว่าหน้าตาของเขาจะเรียบเสียจนเธอคิดว่าเขาท่องสคิปส์มา
แม้คำขอแต่งงานจะราบเรียบ ไม่สวยงาน ไม่เหมือนอย่างที่นิรดาวาดหวังเอาไว้ เธอคิดว่าภาคีจะต้องพาเธอไปนั่งทานข้าวใต้เสียงเทียน ฟังเพลงรักแสนหวานก่อนที่จะขอแต่งงาน ด้วยการนั่งคุกเข่า จับมือเธอเบาๆ สวมแหวนให้ ก่อนจะแนบปากหยักของเขาบนเรียวนิ้วของเธอ แทนที่จะเดินมาหาเธอแล้วขอแต่งงานด้วยสีหน้าไม่บอกความรู้สึกอันใด ช่างเถอะ แค่เขาขอเธอแต่งงาน โดยที่เธอไม่ต้องเอ่ยปากขอซะเอง มันก็ดีแค่ไหนแล้ว

“ค่ะ” หญิงสาวตอบตกลงด้วยน้ำเสียงที่หวานยิ่งกว่าทุกครั้ง พลางเขย่งปลายเท้าขึ้น จูบแก้มอีกฝ่ายโดยเร็ว สร้างความฮือฮาให้กับพวกพนักงานที่ซุ่มแอบดูได้ไม่น้อย 

“ผมไปทำงานก่อนนะครับ”
ภาคีไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับการกระทำของอีกฝ่าย นิรดาหุบยิ้มแทบไม่ทัน ไม่เข้าใจกับท่าทางของภาคี นี่เขารักเธอมากจึงต้องขอแต่งงานใช่ไหม? 

แต่สิ่งที่เธอสัมผัสคล้ายกับมันไม่ใช่



“มานี่เลยๆ ไอ้ติน มึงกินยาลืมเขย่าขวดหรือไงวะ ถึงได้ไปขอยัยนุ่นแต่งงาน หรือว่าโดนทำเสน่ห์วะ”
คณิต เพื่อนรักที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ปีหนึ่ง จบมาก็ยังตามมาทำงานที่เดียวกันกับภาคี ชายหนุ่มกวักมือเรียกเพื่อนรักที่เดินถือถ้วยกาแฟหอมกรุ่นเดินออกมาจากห้องครัว ก่อนนั่งลงที่โต๊ะทำงาน คณิตเพิ่งรู้เรื่องที่ภาคีของนิรดาแต่งงาน เมื่อกี้นี้เอง  เนื่องจากวันนี้เขามาทำงานสาย เลยไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย 

“เปล่า”

ภาคีตอบสั้นๆ ตามสไตล์ เขาเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว ผิดกับคณิตเพื่อนรัก ที่พูดได้ไม่มีหยุด ภาคีละเลียดจิบกาแฟรสขมทีละนิด จนหมดถ้วย มันเป็นถ้วยที่สองสำหรับเช้านี้ เหตุการณ์เมื่อคืนทำเขานอนไม่หลับ ถ้าพูดให้ถูกยิ่งกว่านี้คือ หลังของเขาไม่ได้สัมผัสที่นอนเลยด้วยซ้ำ หลังจากที่สีฟ้าออกไป เขาก็นั่งอยู่ตรงนั้น ท่านั้น ตลอดทั้งคืน กับความรู้ยากอธิบาย

ไม่รู้ทำไมต้องสติแตกทำเรื่องแบบนั้นกับสีฟ้า

เพราะสีฟ้าดื้อ จนต้องสั่งสอน
หรือ
เพราะเขา มันเลว ฉวยโอกาสได้หน้าด้านๆ

เรื่องที่เกิดขึ้น มันกลับไปแก้ไขใดๆ ไม่ได้แม้แต่น้อย ต่อไปนี้เขาจะกล้าสู้หน้าคนในบ้านสีฟ้าได้ยังไง เขาคิดไม่ออก โดยเฉพาะคุณกฤษกับคุณอุษา ผู้เป็นบิดาและมารดาของสีฟ้า ท่านทั้งสองดีกับเขาเหมือนที่ดีกับพี่สาวเขา แต่เขากลับทำแบบนี้กับสีฟ้า ลูกชายคนเล็กที่คุณกฤษและคุณอุษาเลี้ยงดูมาอย่างดี น่าละอายใจจนไม่อยากสู้หน้าหากต้องเจอหน้ากัน
“เปล่า แล้วมึงไปขอยัยนุ่นแต่งงานทำไมวะ” 

เสียงของคณิตดึงเขาหลุดออกมาจากห้องความคิด ภาคีวางถ้วยกาแฟลงช้าๆ มองหน้าเพื่อน ที่กำลังดึงเก้าอี้ของตัวเองมานั่งข้างๆ โต๊ะเขา โต๊ะทำงานของเขากับคณิตอยู่ใกล้กัน

“กูไม่เข้าใจมึงเลยจริง คิดใหม่ได้นะโว้ย มันทั้งชีวิตมึงนะไอ้ติน”
ไม่ใช่คณิตไม่ชอบนิรดา แค่คิดว่าเพื่อนเขาไม่ได้ชอบนิรดาแน่ๆ เขากล้าเอาหัวเป็นประกันเลยด้วยซำ เป็นเพื่อนกันมานาน มีหรือเขาจะไม่รู้ ดูหน้าเพื่อนของเขาตอนนี้สิ หน้าตาเหมือนคนอมทุกข์มากกว่าอมสุข   

ที่ผ่านมาก็มีแต่นิรดาที่เที่ยวป่าวประกาศแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าภาคี พอเพื่อนเขาไม่พูดอะไร เลยกลายเป็นว่าถูกจับทำแฟนไปซะ
“หรือว่ามึงทำยัยนุ่มท้อง โธ่เอ้ย...กูเตือนมึงให้ระวังยัยนุ่นเอาไว้ ยัยนุ่นจ้องจะทับมึงอยู่ทุกวัน ไม่เชื่อกูเลย ซวยเลยมึง”

“เปล่า”

ภาคียังไม่มีอารมณ์อยากเล่าให้เพื่อนรักฟัง เขายังอยากให้เรื่องเมื่อคืนเป็นแค่ความฝันงี่เง่าเท่านั้น แต่ความจริงมันคือความจริง

“อะไรวะ พูดเป็นอยู่คำเดียว” คณิตส่ายหน้าเซ็ง พูดไปเยอะ ได้กลับมาแค่คำเดียว  พอจะรู้จักนิสัยเพื่อนดี มันพูดน้อยก็จริง แต่คราวนี้มันฟังดูน้อยกว่าปกติ 
“อ้าว? คุยอะไรกันอยู่ครับ ผมคุยด้วยได้ไหม” เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง สองหนุ่มเพื่อนซี้หันไปยิ้มทักทาย เจ้าของเสียงที่เดินมาหยุดอยู่ใกล้ วางมือบนไหล่คณิต หน้าตาใคร่รู้มากกว่าจะตำหนิในฐานะเจ้าของบริษัท แม้ไม่ใช่บริษัทยักษ์ใหญ่แต่ก็มั่นคงในหลายๆ ด้าน

“ก็คุยเรื่องคนกำลังจะแต่งงานสิครับบอส บอสเคยเห็นป่าว ว่าที่เจ้าบ่าวหน้าเหมือนจะโดนเชือด ผมละเชื่อจริงๆ ว่ามันอยากแต่งงาน ไม่ใช่อยากบวช” คณิตพูดอย่างขำๆ พลางดึงเก้าอี้ตัวที่ใกล้มือมาให้บอสของเขานั่ง 

“งั้นที่ผมได้ยินก็เป็นความจริงสิครับ” อชิตะ เจ้านายหนุ่มที่อายุห่างจากภาคีกับคณิตแค่ห้าปี ทำหน้าอยากรู้ความจริง พลางนั่ง  ชายหนุ่มให้ความสนิทสนมกับพนักงานทุกคนของเขา แต่ถ้ามากที่สุดคงเป็นสองคนนี้แหละ

“จริงไม่จริง บอสก็ดูหน้าไอ้ตินมันครับ ตาคล้ำ หน้าหมอง ชีวิตหดหู่ เหมือนคนมีความสุขที่ซู๊ดดด” คณิตทำเสียงสูง ปากยื่น จนน่าถีบ

“เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะครับ” อชิตะพูดยิ้มๆ ชายหนุ่มเป็นเจ้านายที่สุภาพเสมอ เขาห่วงลูกน้องไม่ใช่น้อย เคยฟังๆ จากที่คณิตพูดเป่าหู ความสัมพันธ์ของภาคีกับนิราดามันเหมือนไม่ใช่คนรักกัน ถึงจะรักก็คงเป็นฝ่ายหญิงฝ่ายเดียวมากกว่า แล้วเขาก็เคยได้ยินนิรดาปรอยอยู่บ่อยๆ ว่า ภาคีไม่เคยทำตัวเหมือนแฟนคนอื่นเลย ที่เขารู้ก็เพราะนิรดาเป็นน้องสาวของเพื่อนเขา   

“นั่นสิไอ้ติน นี่มันคำเตือนจากบอสเชียวนะโว้ย ขืนมึงไม่เชื่อ มีตกงานได้ ใช่ไหมครับบอส” คนพูดหันไปขอเสียงสนับสนุนจากบอสที่แสนจะสนิทด้วย สนิทถึงขั้นร่วมหัวจมกองเหล้าแทบจะทุกอาทิตย์

“ผมตัดสินใจแล้วครับ”

แค่นั้นแหละบทสนทนาเลยต้องจบลงอย่าช่วยไม่ได้ ขัดใจคณิตมาก เมื่อภาคีหันกลับไปก้มหน้าทำงาน ปล่อยให้เจ้านายกับเพื่อนซี้มองหน้ากันเหมือนปลงกับคำตอบ
ก่อนจะแยกย้ายไปทำงานของตัวเองต่อ

เมื่อคณิตลากเก้าอี้กลับไปที่โต๊ะของตัวเอง แล้วอชิตะเดินเข้าไปในห้องทำงาน ภาคีกลับมาอยู่ในความครุ่นคิดแบบเดิมๆ อีกครั้ง ไหล่หนาห่อตัวลง แผ่นหลังกว้างอ่อนแรงจนต้องพิงพักไว้กับพนักเก้าอี้ หัวจิตหัวใจของเขาไม่มีความสุขเลย นับตั้งแต่วินาทีที่รู้ตัวว่าทำผิดและทำเกินไป

เรื่องราวมันวิ่งวน ราวกับไม่อยากให้หลงลืม

เรือนร่างนั้นบอบบางกว่าที่คิด กลิ่นหอมที่เคยคิดว่าหอมหวาน ยิ่งหอมล้ำกว่าเมื่อได้สัมผัสใกล้ มันยากหักห้าม ถึงตอนนี้ เขาก็ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ที่ทำอย่างนั้นไป ที่จับร่างเล็กแล้วกดกอดไว้ใต้ร่างของเขา ซุกไซ้แล้วจาบจ้วงราวกับอดอยาก มันเป็นเพราะความดื้อด้านของสีฟ้าที่ทำให้อยากสั่งสอนด้วยวิธีเลวๆ หรือเพราะมันคือความต้องการส่วนลึกที่โหยหาและต้องการมาตลอด

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 2 ครึ่งหลังมาแล้วพร้อมกับรอยจูบ [06/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 07-03-2011 20:09:44
ต่อค่ะ

บนความเลวร้ายที่ภาคีไม่สามารถกลับไปแก้ไข เขาไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปกับความผิดที่ก่อขึ้น บนความเลวร้ายนั้น มันก็ทำให้ภาคียิ้มกับความหวานที่แม้ไม่หลงเหลือแม้แต่ปลายลิ้น หากมันฝังหวานจำลึกในความรู้สึก

ปากอิ่ม นิ่มและหวาน
ลิ้นชื้น ไม่ชำนาญ แต่ชวนหลงใหล
เรือนกาย หอมจนไม่อยากถอน

หากให้หัวใจของเขานิยามความหมายของสีฟ้า คำว่า “ดอกฟ้า” คงไม่ใช่คำนิยามที่คู่ควร และเขาไม่เคยคิดจะนิยามคำนี้ให้กับสีฟ้าเลย
 สีฟ้าคือะไรที่มากกว่านั้น ไม่มีคำนิยามใดๆ ให้ได้ นอกจาก “ผู้ชายคนเดียว” ที่เขาอยากยอมให้ทุกอย่าง

ยอมแม้กระทั่ง...


....ตัดใจและจากลา

แล้วมันก็คือเหตุผลที่วันนี้ เขาขอนิรดาแต่งงาน
เขาควรเริ่มต้นออกเดินเสียที เพื่อปลดปล่อยตัวเอง ปล่อยให้สีฟ้าอยู่ตรงนั้น บางทีวันหนึ่งหัวใจเขาจะลืมเลือนสีฟ้าได้ อาจยาก หากมันก็คงไม่ลำบากจนเกินไป

‘คุณลม ผมอยากบอกคุณเหลือเกินว่าผม...........
..............................ผมไม่อยากทำอย่างนี้เลย’
----------------------------------------------------------------------------------------


เพราะมัวแต่รื้อค้นข้าวของอยู่ตรงท้ายรถ ทั้งแฟ้มงานที่หอบกลับมาทำ เพราะทั้งวันสีฟ้าแทบไม่ได้แตะต้องงานเลยด้วยซ้ำ ทั้งข้าวของที่เพิ่งเดินเตร่ๆ ไปซื้อมาเพราะยังไม่อยากกลับเข้าบ้าน จะเรียกคนมาช่วยถือก็ไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวาย แค่นี้เขาถือเองได้ เมื่อวุ่นวายอยู่ตรงนั้นทำให้ไม่ทันสังเกตว่ามีใครมายืนอยู่ด้านหลัง พอหมุนตัวกลับต้องตกใจเมื่อเห็นนิรดายืนส่งยิ้มหวานมาให้ แต่ดูให้ดีสีฟ้าเชื่อว่าในรอยยิ้มนั้นแฝงแววเย้ยหยันไว้เต็มที่

ทุกทีแทบจะไม่กล้าสู้ตาเขา แต่วันนี้กลับกล้า ไปกินอะไรมานิรดา สีฟ้านึกสงสัย ถึงไม่อยากใส่ใจก็คงต้องใส่ใจ เมื่อดูท่าทางแล้วนิรดาคงมีเรื่องจะคุยกับเขาแน่ๆ  
สีฟ้าปิดกระโปรงรถเสียงดัง ทำเอาแขกที่ไม่ได้รับเชิญสะดุ้ง แต่ยังทำใจกล้าสู้ผู้ชายหน้าหวานเอาไว้มั่น เพราะวันนี้นิรดาเชื่อมันว่าเธอเหนือกว่า และเธอชนะ

“สวัสดีค่ะคุณลม” นิรดาเอ่ยทักเสียงใส ฉีกยิ้มกว้าง ด้วยความคิดที่ว่าเธอเป็นต่อด้วยเรื่องที่กำลังจะพูดถึงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

เธอกำลังจะกลับบ้านอยู่พอดี แต่พอเห็นรถของสีฟ้าแล่นเข้ามา เธอเลยเดินเข้ามาหา หวังว่าภาคีคงไม่เห็นหรอกนะ คิดว่าภาคีคงเดินกลับเข้าไปในบ้านแล้ว เมื่อครู่อยู่คุยกับภาคีเกือบสามชั่วโมง ทว่าเวลานานหลายชั่วโมงนั้น คงเป็นเธอเสียมากกว่าที่เป็นฝ่ายคุย เธอวาดหวังถึงเรื่องแต่งงาน วางแผนถึงงานที่สวยหรู แม้ยังไม่รู้เลยว่าวันงานจะมีขึ้นวันไหน

ภาคีไม่ได้บอก เขาแค่ขอเธอแต่งาน แต่ไม่มีรายละเอียดอื่นใดให้เธอเลยแม้แต่น้อย

“ทำไมไม่ราตรีสวัสดิ์เลยล่ะ คุณนุ่น” สีฟ้าประชด ทำเอาอีกฝ่ายหน้าจ๋อยไป แต่ก็เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น ก่อนจะฉีกยิ้มราวกับผู้ชนะ เมื่อบอกกับสีฟ้าว่า

“นุ่นกับติน เราสองคนจะแต่งงานกันค่ะ”

เสียงของนิรดาคล้ายดังมาจากที่แสนไกล จนคิดว่าหูฝาดไป แต่เมื่อมองใบหน้าสวยที่ยิ้มรออยู่นั้น มันทำให้เขารู้ว่ามันคือเรื่องจริง

แต่งงาน?  
มันถึงเวลาแล้วเหรอ?
เร็วไปไหม?
รักกันมากเลยหรือไง?
รักจนต้องแต่งงานกัน?
เมื่อคืน...หมอนั้นก็พูด เขานึกว่าภาคีพูดตามอารมณ์ที่ถูกเขายั่ว

ทั้งที่เขาไม่คิดว่ามันเป็นความจริง แต่การที่นิรดาพูด มันคงเป็นคำลวงไม่ได้ ท่าทีนั้นของนิรดาก็ทำให้เขาเชื่อว่าเธอคือว่าที่เจ้าสาวของภาคี

แล้วเมื่อไรคือวันนั้น วันที่ภาคีจะก้าวออกจากบ้านหลังเล็กนั้น คำถามและความคิดนั้นดึงให้สีฟ้าต้องหันไปมองยังบ้านของภาคี แสงไฟในบ้านทำให้เห็นร่างนั้นเดินออกมา หยุดมอง แล้วก้าวเท้า มุ่งหน้ามาตรงนี้

สีฟ้ารีบดึงสายตากลับ ขยับแฟ้มงานและถุงของให้เข้าที่ กัดกลีบปากล่างของตัวเองเบาๆ กดความคิดวุ่นวายเอาไว้

“แล้วมาบอกทำไม?” สีฟ้าเปิดปากถามช้าๆ ผิดจากข้างในที่วุ่นวาย อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองคนที่กำลังเดินใกล้เข้ามา แต่เสียงของนิรดาก็ดึงเขากลับไปยังเธออีกครั้ง

“เปล่าค่ะ นุ่นแค่อยากเชิญคุณลมไปงานของเรา คุณลมไปร่วมยินดีกับสองคนด้วยนะคะ”
“....................”
แม้ไม่มีคำตอบจากปาก หากสีหน้าและแววตาของชายหนุ่มก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่นิรดาไม่ได้สนใจอยู่แล้ว งานแต่งของเธอ จะมีหรือไม่มีสีฟ้า มันก็ไม่มีความหมายหรือความสำคัญกับเธอแม้แต่นิด แค่เธออยากบอก อยากประกาศให้รับรู้เอาไว้ ว่าภาคีกำลังจะเป็นของเธอ อย่าพยายามยัดเยียดเพื่อนตัวเองหรือแม้กระทั่งตัวเองให้ภาคีเด็ดขาด

น้ำเพชรไม่น่ากลัวสำหรับเธอเท่าไหร่ คนที่น่ากลัวคือผู้ชายหน้าหวานคนนี้ต่างหาก มันน่ากลัวจนคิดว่าถ้าขืนปล่อยให้อยู่ใกล้กันมากกว่านี้ ภาคีของเธออาจกู่ไม่กลับ

เพื่อนของเธอที่เรียนจบจิตวิทยาบอกมาว่า ผู้ชายแท้ๆ ถ้าได้ลองมีอะไรสักครั้งกับผู้ชายด้วยกันเอง กี่รายต่อกี่รายก็ไม่เคยจะกู่กลับ
 
สีฟ้าไม่มีคำตอบตกลงใดให้คนชวน แต่เขาก็คิดว่าแววตาของเขาบอกหญิงสาวคนนี้ไปหมดแล้ว ภาคีเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา อยู่ข้างกายนิรดา มือวางแตะไว้ตรงแผ่นหลังของว่าที่เจ้าสาว เหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เขาไม่อยากรับรู้เรื่องราวความรักของคนทั้งคู่ แม้แต่นิดเดียว เท้ามันเร็วเท่ากับความคิด ขยับก้าวยาวและเร็วเข้าไปในตัวบ้านทันที

------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ม่านเนื้อหนาสีอ่อนถูกปล่อยลง เมื่อรถเก๋งคันเก่าสีเทาแล่นพ้นออกไปจากรั้วสูงสีอิฐ สีฟ้าที่เฝ้ายืนดูรถคันนั้นจนหายลับไปจากสายตา หัวใจของสีฟ้ารุ่มร้อนเกินจะทำให้มันกลับมาเป็นปกติ สามวันมาแล้วที่เขาตกอยู่ในห้วงอารมณ์นี้  นับตั้งแต่วันที่เจ้าของรถคันเก่าน่าเกลียดบอกเขาด้วยสายตาแบบผู้ชนะ จนถึงวันนี้เขายังไม่สามารถสลัดคำพูดนั้นออกไปจากหัวได้ เขาต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นเขาคงจะบ้าตายเข้าสักวัน พอคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง สีฟ้าก็รีบสาวเท้าออกจากห้องอย่างรวดเร็ว จุดหมายของเขาคือบ้านของภาคีและตัวภาคีเอง

ผู้ชายที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง
ทั้งเรื่องน่าอายคืนนั้น ทั้งเรื่องที่จะหนีจากเขาไป!
เขาไม่ยอม!!


เมื่อเดินเข้าไปใกล้สีฟ้าเห็นเจ้าของบ้านกำลังนั่งเหม่ออยู่หน้าบ้าน มีกล่องกำมะหยีสีแดงอยู่ในมือ ภาคีนั่งพลิกมันไปมา ชายหนุ่มคงนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ว่าที่เจ้าสาวกลับ แปลกดีเหมือนกันวันนี้นิรดากลับบ้านเร็วกว่าปกติ ทุกทีเห็นฟ้าไม่มืด ไม่กลับ

เดินเข้ามาใกล้อีกนิด ก็เห็นได้ชัดว่าคิ้วเข้มชวนมองของชายหนุ่มขมวดเป็นปม ปากหยักเม้มเป็นเส้นตรง สีฟ้ายิ้มเยาะ นี่หรอหน้าตาของคนที่กำลังจะแต่งงาน หน้าเหมือนคนอมทุกข์ไว้ทั้งโลก คงแต่งได้หรอกนะภาคี ไอ้เรื่องคืนนั้นมันก็ฟ้องตัวตนของภาคีได้ไม่ยาก ผู้ชายแท้ๆ ที่ไหนจะกล้าทำแบบนั้น นอกจาก.....
“สวยดีนี่”
สีฟ้าคว้าเจ้ากล่องกำมะหยีจากมือภาคี โดยที่เจ้าของไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ เดาไม่ผิดจริงๆ ว่ามันคืออะไร เขาหยิบแหวนวงเล็กออกมา คืนกล่องเปล่าให้เจ้าของที่มองดูการกระทำของเขา สีหน้าบอกความไม่พอใจ

แหวนทองขาวเกลี้ยงฝังเพชรเม็ดเล็กเพียงเม็ดเดียว น่ารักไม่น้อย เขาชอบมันนะ ไม่หรูเกินไป ใส่อยู่บนนิ้วก็ไม่เด่นให้ใครจับตามอง สีฟ้าจับแหวนวงเล็กพลิกไปมาก่อนจะสวมมันบนนิ้วนางด้านซ้าย พอดีกับนิ้วของเขาเลย

มันไม่ใหญ่ไปหรือสำหรับนิรดา ถึงเขาจะไม่ได้ตัวใหญ่มากแต่เขาก็ตัวใหญ่กว่านิรดา แล้วไอ้แหวนวงน่ารักที่พอดีนิ้วของเขา มันไม่น่าจะพอดีกับนิ้วของว่าที่เจ้าสาวของภาคีได้เลย

“มันจะไม่คับไปหน่อยหรือไง สำหรับว่าที่เจ้าสาวของนาย” เขาถาม ตายังคงจับจ้องนิ้วที่มีแหวน ก่อนยื่นมือนั้นให้เจ้าของแหวนดู ภาคีหลบสายตาเขา มองเมินไปทางอื่น

แต่แล้วภาคีต้องหันมาจ้องตากับคนที่ถือวิสาสะเอาแหวนของเขาไปสวม ทั้งยืนกรีดนิ้วไปมา เมื่อได้ยินประโยคต่อมาที่ทำเอาเขาพูดไม่ออก ไม่คิดว่าสีฟ้าจะกล้าขนาดนี้

“น่ารักดี ฉันขอ” คำขอที่พูดได้น่าตาเฉย ไม่ใช่ว่าอยากได้มากมายอะไร ถึงจะชอบและถูกใจ แต่แหวนวงแค่นี้ราคาคงไม่เท่าไร เขาซื้อมาใส่เองก็ได้
 แต่ที่อยากคือแค่อยากแกล้ง  

“มันไม่ใช่ของคุณ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแข็ง “เอาของผมคืนมา” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงที่พอจะข่มให้สีฟ้าตัวเล็กลงถนัดตา
แต่มีเหรอที่สีฟ้าจะกลัว ที่นี่มันบ้านเขา เกิดอะไรขึ้นคนใช้ทั้งบ้านก็คงวิ่งเข้ามาช่วยทันอยู่แล้ว
“ก็รู้ว่าไม่ใช่ของฉัน ถึงได้ขอไง” สีฟ้าลอยหน้าตอบ ทำเอาเจ้าของแหวนกัดสันกรามแน่น ข่มอารมณ์กับนิสัยของคนพูด  
“ผมขอคืน”
“ไม่คืนจะทำไม” เขารู้ว่าภาคีไม่กล้าทำอะไรเขาหรอก ทุกทีก็ทำเสียงเข้มเวลาที่ไม่พอใจ แต่ก็แค่นั้น ยกเว้นคืนนั้นที่มีกลิ่นเหล้าเต็มปาก

.....ชวนเคลิ้ม

“คุณลม” เสียงของภาคีแทบจะเป็นตวาด แต่ไม่ได้ทำให้คนอย่างสีฟ้ารู้สึกหรือรู้สาอะไร นอกจากจะถูกใจ ที่สามารถปั่นอารมณ์ชายหนุ่มได้ รอยยิ้มพอใจจึงฉายอยู่บนใบหน้าหวาน ตาสวยเป็นประกายสมใจ พร้อมกับมือเรียวยังกรีดกรายไปมา ไม่มีทีท่าว่าจะเอามันคืนให้กับเจ้าของแหวนที่ทำหน้าเข้มไม่พอใจ
“ผมบอกว่าเอามันคืนมา!”
คราวนี้น้ำเสียงกลายเป็นตะคอกทันที ภาคีก้าวพรวดเข้าชิดหาร่างที่เล็กที่ตั้งท่ารอเขาด้ายสีหน้าท้าทายและเหนือกว่า สีฟ้าคงคิดว่าเขาไม่กล้าทำอะไร สีฟ้าคิดถูก คนอย่างเขาไม่มีทางกล้าทำร้ายร่างกายชายหนุ่มตัวเล็กได้
สีฟ้ายิ้มประจันหน้าคนตัวใหญ่อย่างไม่สะทกสะท้าน เรื่องอะไรที่เขาจะต้องกลัว นี่มันบ้านของเขา แล้วไม่ใช่ที่ลับตาคนพอที่ภาคีจะใช้แรงที่มากกว่าทำแบบเดียวกับเรื่องคืนนั้นได้ แล้วมีอะไรอีกให้ต้องกลัว ยังไงแหวนต้องเป็นของเขา ในเมื่อมันใส่พอดีนิ้วเขาซะขนาดนี้ แล้วเขาก็ชอบมัน ชอบที่เขาแย่งมันมาครองเอาไว้ได้

ซื้ออีกกี่วง ถ้าเขาเห็น อย่าหวังจะรอดมือไปได้

“คุณลม พูดไม่รู้เรื่องหรือไง ผมบอกว่าเอาแหวนผมคืนมา” เสียงขุ่นตวาดห้วน ตาคมแข็งกร้าว ไม่เคยเลยสักครั้งที่ภาคีจะพูดแบบนี้กับสีฟ้า ทุกครั้งเขาจะเก็บปาก แล้วรองรับอารมณ์ของสีฟ้าตลอด มือของเขาพยายามคว้ามือของอีกฝ่าย หวังถอดแหวนออกจากนิ้วให้ได้ แต่สีฟ้าไม่ยอมง่ายๆ ชายหนุ่มเอามือไพล่หลัง ยักไหล่ท้าทาย

เมื่อสีฟ้าไม่ยอมคืน ภาคีจึงต้องใช้กำลัง ชายหนุ่มคว้าร่างบางเอาไว้ พยายามดึงมือที่ไพล่หลังเข้าหาตัวเอง หวังดึงแหวนออกจากนิ้วซ้าย ในเมื่ออีกฝ่ายไม่คืนดีๆ เขาก็ต้องทำแบบนี้  สีฟ้าดิ้นไม่ยอมให้อีกภาคีคว้ามือเขาได้ พยายามเบี่ยงตัวหนีมือใหญ่ที่วุ่นวายอยู่กับมือเขา พอขยับถอย ร่างสูงกว่าก็ตามมาประชิด กำลังจะหันหลังวิ่งหนีแต่ต้องเสียหลักเมื่อถูกกระชากโดยมันทันตั้งตัว ร่างเล็กล้มกระแทกพื้นหญ้านุ่มอย่างแรง ถึงกับร้องครางออกมาอย่างแรง

“โอ๊ยยยยย...” เสียงร้องเพราะเจ็บของสีฟ้าไม่เบา มันดังพอที่จะเรียกให้คนใช้สาวสองคนวิ่งตามเสียงนั้นมา ก่อนจะทรุดตัวลงประกอบทั้งซ้ายทั้งขวาของเจ้านายหนุ่ม  

“เป็นอะไรไปคะคุณลม” หนึ่งในสองสาวใช้เอ่ยถาม ขณะที่ช่วยกันประคองนายหนุ่มคนเล็กของบ้านให้ลุกขึ้นยืนในสภาพทุลักทุเล

“นายตินผลักฉันน่ะซิ” เสียงขุ่นตอบ สีฟ้ายึดสองมือของสาวใช้เป็นหลัก เขาล้มเอาก้นไปกระแทกกับพื้นอย่างแรง เมื่อลุกขึ้นจึงยืนด้วยตัวเองไม่ค่อยจะได้ใบหน้าหวานยังคงแสดงอาการเจ็บเห็นได้ชัด จนคนที่เป็นต้นเหตุรู้สึกผิด แทบไม่กล้าสู้สายตาคนมาใหม่ที่ไม่ได้รู้เรื่องราวที่แท้จริง ว่าเจ้านายของตัวเองก่อเรื่องอะไรไว้ พูดไปก็คงไม่เชื่อ สายตามันฟ้องซะขนาดนั้นว่าโกรธแทนเจ้านาย
“พาฉันกลับเดี๋ยวนี้”
พอได้ยินคำสั่ง สองสาวก็รีบพยุงตัวเจ้านายหนุ่มออกไป สีฟ้าไม่สนใจจะเอาความกับคนที่ทำเอาเขาเจ็บ เพราะอย่างน้อยเขาก็ได้ในสิ่งที่ต้องการมาครอบครอง
“แหวน....”
มันอยู่คงอยู่บนนิ้วของเขาเหมือนเดิม
โทษตัวเองเถอะภาคี ที่ไม่เคยเอาชนะเขาได้....สักครั้ง  



ความวุ่นวายหายไปพร้อมกับแหวนของเขา ภาคีทิ้งตัวลงนั่งเหมือนคนหมดแรง คว้ากล่องกำมะหยีสีแดงขึ้นมา พลิกมันไปมาอยู่อย่างนั้น
ราวกับว่าเขาจะหาแหวนวงนั้นเจอ.....
กล่องเปล่าไม่มีค่าอะไร เมื่อสิ่งที่อยู่ข้างในมันไม่ได้อยู่ในนี้แล้ว แหวนทองขาวฝังเพชรเม็ดเล็ก แหวนที่เขาไปซื้อมันมาเมื่อตอนบ่าย เลือกมันอยู่นานกว่าจะได้วงที่ถูกใจ และมันเหมาะที่จะไปอยู่บนนิ้วของคนที่เขาอยากให้

............คิดไม่ผิดเลยที่เลือกวงนี้มา...........

มันสามารถไปอยู่บนนิ้วที่เขาอยากให้จนได้ ทั้งที่คิดว่ามันคงไม่มีโอกาส แต่สุดท้ายโอกาสนั้นก็วิ่งโลดเข้ามาหาเขาเอง  

ใบหน้าหล่อคมเข้มเผยยิ้มช้าๆ และกว้างในที่สุด
เมื่อครู่เขาโมโหจริงๆ โมโหที่สีฟ้าทำนิสัยไม่น่ารักออกมา เอาแต่ใจตัวเอง ไม่คิดถึงใจคนอื่น อยากได้อะไรก็ต้องได้ โดยเฉพาะกับเขา
โมโหจนต้องตวาด แต่เขาก็รู้ สีฟ้าเคยกลัวอะไรที่ไหน หนำซ้ำยังลอยหน้าลอยตา ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่เจ้าตัวต้องรู้ว่าเขาซื้อแหวนวงนี้ให้นิรดา แม้ความจริงมันจะไม่ใช่ก็ตาม

สุดท้ายต่อให้เขาเอาแหวนวงน่ารักนั้นคืนมาได้ ก็ใช่ว่ามันจะไปอยู่บนนิ้วของนิรดาได้ คำถามของสีฟ้ามันถูกต้อง ที่ถามว่า มันไม่คับเกินไปหรอสำหรับว่าที่เจ้าสาวของเขา

คำถามที่เขาไม่มีคำตอบให้ เพราะเขากับนิรดา ไม่ใช่สิ คงต้องเขาคนเดียวที่ไม่ได้พูดถึงเรื่องแหวน หรือแม้กระทั่งกำหนดการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานระหว่างเขากับเธอ นิรดาพูดและคิดทุกอย่าง เรื่องแหวนหญิงสาวก็คะยั้นคะยอให้เขาพาไปเลือก แต่เขาบ่ายเบี่ยงตลอด

วันนี้ถึงเขาจะไปดูแหวน แต่ก็ไม่ใช่สำหรับนิรดา เขานึกถึงใครอีกคนที่ได้มันไปแล้วต่างหาก ครั้งแรกที่เห็นแหวน ใบหน้าของสีฟ้าก็ลอยอยู่รอบตัวเขาเต็มไปหมด

แล้วสีฟ้าก็ได้มันไปจริงๆ
ดื้อจนเจ็บตัว ถ้ารู้ว่าแหวนเป็นของตัวเองตั้งแต่แรก ยังคงอยากได้มันอีกไหม......คุณลม
ผมอยากรู้จริง ถ้าคุณรู้ว่ามันเป็นของคุณมาแต่แรกแล้ว คุณยังอยากได้ไหมอยู่อีกไหม.....ผมอยากรู้จริงๆ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------


เด็กชายวัยหกขวบวิ่งมาหาคนเป็นอาที่นั่งอยู่ในห้องกระจกใส ภายนอกคือสวนสวย  โดยมีพี่เลี้ยงวิ่งตามมาด้วยอีกคน เด็กน้อยปีนขึ้นไปนั่งบนตักตามความเคยชิน แล้วแหงนหน้ามองคนเป็นอาที่นั่งน้ำตาไหล หมุนแหวนวงเล็กในมือเบาๆ

“อาลมเป็นอะไรไปคับ” เด็กชายถาม เห็นน้ำตาคนเป็นอาไหลอาบแก้ม ก่อนอาของเด็กน้อยจะตอบพร้อมกับใช้หลังมือปาดน้ำตาออกจากแก้ม แต่มันก็ยังไหลออกมาไม่ขาดสาย ฟ้องความรู้สึกที่กำลังเป็นอยู่

“อาร้องไห้ครับน้องอ้น” สีฟ้าเอื้อมมือไปลูบผมสั้นตั้งเดะของหลานชายอย่างเบามือ เขารักหลายชายคนนี้มาก และหลานชายก็รักเขามากเช่นกัน แล้วหอมแก้มยุ้ยนั้นไปฟอดใหญ่

คนในบ้านต่างพากันพูดว่า เด็กชายอ้น หน้าเหมือนแม่มาก แต่สำหรับเขา เขาคิดว่าเหมือนภาคีมากกว่า ค่าที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน โตขึ้นหลานชายของเขาคงหล่อน่าดู

“อาลมร้องไห้ อ้นจะไปบอกคุณปู่กับคุณย่า” เด็กชายบอก ก่อนจะปีนลงจากตักของสีฟ้า วิ่งตามหาปู่กับย่าเพื่อบอกเรื่องที่อาของตัวเองร้องไห้

พอหลานชายวิ่งลับตาไป สีฟ้าจึงรีบเช็ดน้ำตาที่นั่งบังคับมันอยู่นานกว่าจะไหลออกมาได้ แน่นอนล่ะ เขาไม่ได้ร้องไห้จริงๆ แค่แกล้งร้อง เพื่อเป็นการเริ่มต้นแผนการที่ดีต่างหาก ขั้นแรกของแผนการคือการให้หลานชายมาเห็นตอนเขาร้องไห้ ซึ่งมันเป็นไปตามแผนที่คิดเอาไว้

แผนที่จะทำให้นิรดาฝันสลายในวินาทีต่อไป

วันก่อนนิรดาชนะ แต่คงเป็นชัยชนะครั้งแรกและครั้งเดียวของหญิงสาว คนอย่างสีฟ้าไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก มันต้องสู้กันหน่อย แล้วเขาก็ชนะเห็นๆ  

‘ฉันไม่อยากทำอย่างนี้หรอกนะนิรดา ถ้าเธอไม่ทำเหมือนกับเป็นผู้ชนะแล้วคิดว่าฉันผู้แพ้ ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าชัยชนะที่แท้จริงมันเป็นของใคร

ได้เวลาทำตามแผนขั้นที่สองแล้ว สีฟ้าลุกขึ้นยืน เช็ดน้ำตา เดินออกจากห้องขึ้นไปชั้นบนที่หมายคือประตูห้องของตัวเอง เขาต้องขังตัวเองอยู่ในห้อง รอเวลาให้ทุกอย่างดำเนินไปตามที่มันต้องเป็น เขาเพียงแค่รอเวลาเท่านั้นเอง แล้วทุกอย่างจะเป็นอย่างที่เขาหวังและตั้งใจให้มันเกิดขึ้น





หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 3 แหวนนี้ท่าน(ลม)ได้แต่ใดมา [07/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 07-03-2011 21:57:47
ยาวมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 3 แหวนนี้ท่าน(ลม)ได้แต่ใดมา [07/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 07-03-2011 22:06:46
นายเอกเราแอบร้ายนะเนี่ย
พระเอกก็แอบเนียนเรื่องแหวน

ชอบอารมณ์แบบนี้จริงๆ ภาคิน - สีฟ้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 3 แหวนนี้ท่าน(ลม)ได้แต่ใดมา [07/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bigbeeboom ที่ 07-03-2011 22:11:33
หนูฟ้าร่ารักมากๆๆอ่ะ แก้แค้นโลด เห็นด้วยสุดจั๊กก่ะแร้ ฮ่าๆๆๆ  o18
ทั้งคู่ใจตรงกันแท้เลยเนอะ ฮุๆๆๆ สนุกมากเลยจ้า ไรเตอร์สู้ๆๆนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 3 แหวนนี้ท่าน(ลม)ได้แต่ใดมา [07/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 07-03-2011 22:29:10
 :m20:


^^'
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 3 แหวนนี้ท่าน(ลม)ได้แต่ใดมา [07/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 07-03-2011 23:05:24
ปลื้ม สีฟ้า จังเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 3 แหวนนี้ท่าน(ลม)ได้แต่ใดมา [07/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 07-03-2011 23:18:48
เจ้าแผนการทั้งคู่

 o18
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 3 แหวนนี้ท่าน(ลม)ได้แต่ใดมา [07/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 08-03-2011 02:06:07
เหมือนดูละครอยู่ ฮ่าๆ ภาคีสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 3 แหวนนี้ท่าน(ลม)ได้แต่ใดมา [07/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 08-03-2011 13:03:48
อยากอ่านอีกอ่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 3 แหวนนี้ท่าน(ลม)ได้แต่ใดมา [07/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: 2Botaku ที่ 08-03-2011 19:09:14
อินจัด!! ไปกับคุณลมแล้วเนี่ยยยยยยย :fire:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 3 แหวนนี้ท่าน(ลม)ได้แต่ใดมา [07/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 08-03-2011 19:33:41
ดอกฟ้าวางแผนทำอะไรอีกละ :L1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 3 แหวนนี้ท่าน(ลม)ได้แต่ใดมา [07/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 08-03-2011 20:26:54
 :z1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 3 แหวนนี้ท่าน(ลม)ได้แต่ใดมา [07/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 09-03-2011 16:55:27
ตอนที่ 4

บ่ายโมงกว่าคนในบ้านหลังใหญ่ต้องวุ่นวายกันหนัก เมื่อเด็กน้อยนำความมาบอกคนเป็นย่า แล้วคุณอุษาต้องรีบเรียกคุณกฤษที่กำลังสนุกกับกวนกอล์ฟกลับมาที่บ้านด่วน ด้วยเรื่องของลูกชายคนเล็กที่นั่งร้องไห้ ซ้ำยังขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง นางเคาะเรียกอยู่หน้าประตูเท่าไรก็ไม่ยอมออกมา

พอคุณกฤษกลับมาก็เจอหน้าภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากทำหน้าทุกข์หนัก คุณอุษาเล่าเรื่องที่ได้ฟังจากหลานชายให้คุณกฤษฟัง ตามด้วยเรื่องที่บรรดาคนใช้เล่าให้ฟังอีก แค่เรื่องที่หลานชายนำมาบอกว่า ลูกชายคนเล็กนั่งร้องไห้คงไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องที่ได้ฟังจากสาวใช้สองคนนี่สิ มันใหญ่และชวนให้เครียด

“คืนวันก่อนหนูเห็นคุณลมวิ่งออกมาจากบ้านคุณตินตอนดึกค่ะ”
สาวใช้คนแรกรายงาน อีกคนที่เห็นเหตุการณ์ช่วยเสริม
“เหมือนร้องไห้ด้วยนะคะ”
คุณอุษาตบอกผ่าง แล้วต้องตกใจยิ่งขึ้นไปอีกเมื่ออีกหนึ่งสาวใช้เอ่ยต่อ
“เมื่อเย็นวาน หนูสองคนเห็นคุณลมกับคุณตินทะเลาะกันด้วยค่ะ”
“ไม่รู้ว่าทะเลาะอะไรกันนะคะ”
คุณอุษาอยากเป็นลมเมื่อได้ยินสองสาวใช้เล่า นี่เรื่องมันคงไม่เป็นอย่างที่นางกลัวใช่ไหม ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ รู้ว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว  ถ้าเป็นจริงล่ะนางจะทำยังไง
คุณอุษาไม่ได้นึกถึงความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แต่คิดถึงความเสียหายที่เกิดกับลูกชายคนเล็กที่นางรักนักรักหนาต่างหาก อุตส่าห์เฝ้าถนุถนอมมาอย่างดี ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้เกาะ กลับมาโดนปู้ยี้ปู้ย้ำ (หรือเปล่า??) เพราะคนในรั้วบ้านเดียวกัน นางนึกเอ็นดีภาคีมาตลอด แต่ไม่คิดว่าตัวเด็กหนุ่มกับลูกชายนายจะเกี่ยวพันกันด้วยเรื่องนี้

ความรักไม่เข้าใครออกใครอยู่แล้ว แล้วลูกชายคนเล็กของนางน่ารักน้อยที่ไหน

“คุณกฤษ เราจะทำยังไงดี”  คุณอุษาหันไปถามสามีน้ำเสียงร้อนใจ แตกต่างจากสามีลิบลับที่เอาแต่ยิ้ม ไม่มีทีท่าจะวุ่นวายใจเหมือนตัวนางเลย
“มันอาจไม่เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้น่า คุณอุษา”  คุณกฤษพูดให้ภรรายาสบายใจ ส่วนตัวเขาคิดเพียงว่ามันเป็นเรื่องของเด็ก ยังไงตระกูลของเขาก็มีคนสืบทอดแล้ว กลัวอะไรหากลูกชายคนเล็กจะรักชอบกับผู้ชายด้วยกันเอง ดูหน่วยก้านของภาคีก็ใช้ได้ นิสัยก็ดี ไม่มีอะไรต้องน่าห่วง ห่วงแต่เด็กหนุ่มที่จะต้องมาเจอลูกชายคนเล็กที่เอาแต่ใจของเขามากกว่า
คุณกฤษโอบบ่าภรรยาเอาไว้ ปลุกปลอบ ในใจก็คิดว่าลูกของเขาเป็นผู้ชาย เกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้น ก็คงไม่ท้องโตให้กลายเป็นขี้ปากสังคมไฮโซของเขาหรอก คนมันรักกันก็ต้องปล่อยไป ฝืนกันได้ที่ไหนเล่า

“มีอะไรหรือครับคุณพ่อคุณแม่”

เมฆาเดินมาพร้อมกับภรรยาสาว  เขากับนลินทำบุญกันอยู่ที่วัด จู่ๆก็ถูกตามตัวกลับ โดยยังไม่รู้รายละเอียดของเรื่องราวทั้งหมด
“เกิดเรื่องกับน้องของเราน่ะสิ ตาฟืน”
คุณอุษาบอกลูกชาย ก่อนหันไปทางลูกสะใภ้
“ลิน ลูกตามตัวตาตินแล้วใช่ไหม”
“ค่ะคุณแม่”
นลินพยักหน้ารับ นึกเดาว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับน้องชายของเธอแน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้เธอตามตัวน้องชายมาหรอก

“แล้วตาตินจะมาถึงเมื่อไหร่” นางกลุ้มใจหนัก อยากเจอภาคีเร็วๆ จะได้ถามสิ่งที่เป็นกังวล ภาคีเป็นเด็กหนุ่มนิสัยดี ไม่ต่างจากหน้าตาที่จัดว่าหล่อ เกิดเรื่องเป็นอย่างที่นางคิด นางก็ไม่เป็นห่วงมากนัก แค่อยากรู้ แล้วอยากให้มันถูกต้อง

“ตินบอกว่าอีกประมาณชั่วโมงจะถึงค่ะคุณแม่ พอดีเขาติดงานออกแบบที่บ้านลูกค้าน่ะค่ะ”

“ตาฟืนไปตามน้องลงมาหน่อย”  คนเป็นแม่บอกเสียงเบา หันไปรับยาดมจากคนคนใช้ที่ยื่นมาให้  ชั่วโมงก่อนคุณอาขึ้นไปเคาะประตูห้องลูกชายคนเล็กอยู่นานมาก แต่ลูกชายกลับไม่ยอมออกมาพบ คงต้องให้ลูกชายคนคนโตขึ้นไปตาม เพราะพี่น้องสองคนสนิทกันมาก น่าจะพูดกันได้ง่ายกว่า

“มันเกิดอะไรขึ้นครับคุณแม่ ผมงงไปหมดแล้ว” เมฆาถาม ก่อนที่คุณอุษาจะเล่าทุกอย่างให้ลูกชายคนโตฟัง

-----------------------------------------------------------------

“ลม เปิดประตูให้พี่หน่อย”
เมฆาทำตามคำบอกของมารดา พาตัวเองไปยืนเคาะประตูหน้าห้องน้องชาย หลังจากที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมด
เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง ภาคีกับน้องชายเขานี่นะ ไม่อยากเชื่อ เมื่อหันไปมองภรรยาแล้ว
นลินเหมือนกำลังจะบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง เขาก็ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดี 
“ลม” เมฆาเคาะประตูเรียกน้องชายอีกครั้ง ก่อนที่ประตูห้องจะเปิดออกพร้อมกับร่างน้องชายที่โผล่เข้ามาซบเขา สะอื้นไห้
 น้องชายเขาร้องไห้ แค่คิดว่าใครทำให้น้องชายเขาเป็นอย่างนี้ เขาก็โกรธจนอยากตั้นหน้าให้หนัก จากที่ไม่เชื่อ เขาก็เชื่อจนเต็มอก 

“ไอ้ตินมันทำอะไรลม”  เขาจับไหล่ทั้งสองข้างของน้องชาย  ถามเกี่ยวเรื่องที่เกิดขึ้น สีฟ้าเงยหน้ามองพี่ชายคนเดียวของเขา ปาดน้ำตาที่อาบแก้ม
“เขาบอกว่าเขารัก เขาซื้อแหวนให้ แต่เขากำลังจะไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น”
คำพูดที่ดังมาพร้อมกับเสียงสะอื้นและเนื้อตัวที่สั่นเทาของสีฟ้า ทำเอาเมฆายืนนิ่ง เรื่องมันจริงยิ่งกว่าจริง ถึงขั้นซื้อแหวนให้กัน มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แล้ว

เมฆาเห็นแหวนที่อยู่ตรงนิ้วนางด้านซ้ายของคนพูด จับมันขึ้นมาดู แหวนวงเล็กน่ารัก
มันให้ความหวังน้องชายเขาขนาดนี้เลยเหรอ?  ถึงจะวงเล็ก ราคาคงไม่เท่าไหร่ แต่มันก็คือแหวน สัญลักษณ์

“ลมผิดเองพี่ฟืน ทุกอย่างเป็นเพราะลม เขาไม่ผิด” ว่าแล้วก็ต้องซบหน้ากับอกกว้างของพี่ชายอีกรอบ เพื่อซ่อนรอยยิ้มสมใจเมื่อแผนเดินมาถึงอีกขั้น

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เมื่อภาคีก้าวเข้ามากลางห้องโถงใหญ่ใจกลางบ้านหลังใหญ่  ชายหนุ่มรับรู้ถึงบรรยากาศตึงเครียด ร้ายกว่านั้นทุกย่างก้าวของเขาเหมือนถูกจับจ้องไม่วางตาจากเจ้าของบ้านทุกคน ไม่เว้นแม้แต่พี่สาวคนเดียวของเขา 
มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น? ทุกคนถึงได้อยู่กันพร้อมหน้า แล้วมันเป็นเรื่องที่เขาต้องเขามาร่วมรับรู้ด้วยหรือไง
เป็นเพราะภาคีเดินช้าเกินไปหรือเพราะเมฆาใจร้อนจนห้ามไม่ไหว พี่เขยหนุ่มถึงได้ลุกพรวดเข้าไปหาน้องเมียอย่างรวดเร็ว ก่อนซัดกำปั้นหนักๆเข้าไปตรงปลายคางภาคีไปหนึ่งที ภาคีไม่ทันตั้งตัวจึงล้มฟุบไปกองกับพื้น มีเสียงร้องลั่นของผู้เห็นเหตุการณ์ นลินปราดเข้ามาคว้าแขนสามี เพราะว่าตั้งท่าจะซัดเปรี้ยงไปอีกรอบ ด้านของภาคีก็มีสีฟ้าวิ่งเข้ามาทรุดนั่งข้างๆ จับแขนภาคีไว้แน่น แล้วเงยหน้าร้องขอพี่ชายตัวเอง

“ตินไม่ผิดครับพี่ฟืน ลมผิดเอง”
สีฟ้ากางแขนปกป้องคนที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย   แต่กำลังตกเป็นหมากตัวหนึ่งของเขา พลางน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม น้ำตาที่ไหลออกมาเพราะสั่งได้ เพื่อให้ทุกอย่างมันดูเป็นเรื่องจริง

คนโดนหมัดงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อต้องมาเจอกำปั้นของพี่เมฆา อะไรไม่แปลกใจเท่ากับคำพูดของสีฟ้า และท่าทางห่วงใยนั้นด้วย ทั้งหมดทำให้ภาคีจับต้นชนปลายไม่ถูก มือเล็กจับแน่นที่แขนเขา แล้วพยุงตัวเขาให้ลุกขึ้น 
“ตาฟืนมานี่”
คุณอุษากวักมือเรียกลูกชายเสียงเข้ม นางไม่ชอบเห็นใครมาใช้กำลังในบ้าน ส่วนคุณกฤษก็ปรามด้วยสายตา เมฆามีทีท่าว่าจะไม่ทำตามเท่าไหร่ นลินเลยทั้งจูงทั้งลากสามีให้กลับมานั่งที่เดิม นั่นแหละเมฆาถึงต้องกลับมาทิ้งตัวลงนั่งอย่างสุดอารมณ์โกรธ   โกรธที่น้องชายของเขาโดนผู้ชายหน้าซื่อหลอก โดนผู้ชายด้วยกันหลอก มันน่าดีใจไหมล่ะ
“ผมเดินเองได้”
ภาคีเกาะมือเล็กที่กำรอบแขนเขาออก แล้วเดินเลี่ยงไปนั่งข้างพี่สาว อีกข้างหนึ่งของพี่สาวคือพี่เขย  ที่มองเขาด้วยสายตาโกรธแค้น ทำให้เขานึกอยากรู้ว่าเรื่องทั้งหมดมันคืออะไร เขาไปทำอะไรให้เมฆาโกรธถึงกับต้องชกหน้า  แม้เขากับเมฆาจะไม่ได้สนิทกันมากเพราะเขาเป็นคนพูดน้อยเข้ากับใครไม่เก่ง แต่ก็พอคุยกันได้ 

คุณอุษาดึงตัวลูกชายคนเล็กเข้ามานั่งตรงกลางระหว่างนางกับสามี เมื่อเห็นลูกชายคนเล็กยืนน้ำตาซึมที่ถูกภาคีทำเฉยชาใส่ นางจับมือลูกชายไว้แน่น   สัมผัสถูกแหวนบนมือนั้น แหวนที่เจ้าตัวบอกว่าภาคีซื้อให้ ก่อนจะหันไปถามตัวต้นเรื่องทั้งหมด

“มีอะไรจะบอกป้าไหม” น้ำเสียงยังคงเหมือนเดิม ผู้ใหญ่ใจดีที่รักและเอ็นดูภาคีเสมอ คุณอุษาชอบภาคีอยู่ไม่น้อย และไม่นึกรังเกียจเลยหากต้องยกลูกชายคนเล็กให้....เฮ้อ ถ้าเรื่องเป็นอย่างที่คิดคงต้องยอมรับใช่ไหม

ภาคีกำลังจะเอ่ยปากถาม ว่าที่คุณอุษาพูดหมายถึงเรื่องอะไร เขามีเรื่องอะไรจะบอกคุณอุษา แต่ว่าสีฟ้ารีบแทรกขึ้นมาเสียก่อน ภาคีเลยได้แต่มองหน้าสีฟ้า คำพูดที่ได้ฟังก็ยิ่งทำให้งงหนักขึ้น แต่รู้สึกตะหงิดว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องดี แล้วมันเกี่ยวกับเขาโดยตรง

“คุณแม่ครับ ลมบอกแล้วไงครับ ทุกอย่างมันเป็นความผิดของลม ลมรักเขา ลมยอมเขาเอง อย่าโทษเขาเลยครับ ปล่อยให้เรื่องนี้มันจบที่ลมเถอะนะครับ ”

ร่องรอยสะอื้นยังไม่จางหาย เรียกความเห็นจากคนกลางทั้งหลายได้มากทีเดียว สีฟ้าพูดปนเสียงสะอื้นที่หนักขึ้นจากเดิม ทุกคนพากันเห็นใจ ขาดแต่ภาคีที่เขายังไม่เข้าใจอะไรมากนัก หากก็เริ่มปะติปะต่อบางคำพูด บางท่าทางของสีฟ้าเข้าไว้ด้วยกัน มันคืออะไร เขานั่นหมายถึงตัวของเขาเองหรือเปล่า แต่มันจะหมายถึงเขาได้ยังไง ในเมื่อสีฟ้าบอกว่า รักเขา คงไม่ใช่ตัวเขาแน่ๆ

“ลมรักเขา แต่เมื่อเขาไม่รักลมแล้ว ลมจะปล่อยเขาไป ไปอยู่กับคนที่เขารักจริงๆ ซึ่งไม่ใช่ลม” สีฟ้ายังคงพูด พูดทั้งน้ำตา ยิ่งทำให้ภาคีงุนงงปนครุ่นคิดหนัก 

ยิ่งคิดยิ่งสับสนกับความคิดของตัวเอง แต่ก็เพียงไม่นาน ความสับสนของภาคีก็หายไป เมื่อสีฟ้าถอดแหวนออกจากนิ้วอย่างช้าๆ พร้อมกับน้ำตาที่หลั่งไหลราวกับสายน้ำ เดินช้าเข้ามาหาเขา หยุดยืนอยู่ตรงหน้า แล้วยื่นแหวนที่แย่งเขาไปเมื่อวันก่อนคืนมาให้ มันทำให้เขาเข้าใจอะไรมากขึ้น ใบหน้าหวานเปื้อนน้ำตา ดูเศร้าสร้อย บอกช้ำในสายตาของคนอื่น แต่ไม่ใช่ภาคีเพราะยิ้มที่เกิดตรงมุมปาก ที่อาจมีเขาเพียงคนเดียวได้เห็นมัน มันฟ้องว่าคนบอกช้ำไม่ได้บอกช้ำสักนิด แววตาที่มีน้ำตาไหลทะลักก็ทอประกายสาแก่ใจ สมใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“แหวนวงนี้มันควรไปอยู่กับคนที่ตินรัก คนที่ตินจะแต่งงานด้วย ขอให้ตินมีความสุขกับคนที่ตินรักตลอดไป ไม่ต้องห่วงว่าคนๆ นี้จะเป็นยังไง จะเจ็บ จะปวด จะร้องไห้แค่ไหน ไม่ต้องสนใจนะ เพราะเวลาที่ผ่านมาระหว่างเราสองคน ลมจะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่เคยมีร่วมกัน ลมจะเก็บมันเอาไว้อย่างนี้ตลอดไป ไม่...อึก...ไม่...อึก...มีวัน...ละ...อึก...ลืมเด็ดขาด ลมสัญญา”

สีฟ้าย่อตัวลง คุกเข่าอยู่ตรงหน้าภาคี  เขาดึงมือใหญ่เข้าหาตัว วางแหวนวงลงในอุ้งมือนั้น ก่อนรวบมันด้วยสองมือของเขา กุมเอาไว้หลวมๆ พร้อมกับเงยหน้าสบตาอย่างมีความหมาย เป็นแววตาที่คนกลางทั้งหลายไม่มีวันได้เห็น นอกจากภาคีคนเดียว

ตาเรียวกำลังยิ้มทั้งที่น้ำตาเต็มหน้า 

น้ำตาไม่รู้มาจากไหนมากมาย มันไหลได้อย่างใจของสีฟ้าต้องการ มันทำให้ทุกคนต่างหลงกลไปกับแผนของชายหนุ่ม ยกเว้นภาคีที่แทบจะเข้าใจเรื่องทุกอย่างโดยทันทีที่เห็นสายตาของสีฟ้า มันฉายชัดว่ากำลังเล่นละครครั้งใหญ่ โดยการลากเอาเขาให้กลายเป็นคนผิด ในเรื่องที่เจ้าตัวอยากให้เป็น

“นายต้องรับผิดชอบลม”
 เมฆาเอ่ยแทรกขึ้นมา ชายหนุ่มขบกรามแน่น “นายแต่งงานกับใครไม่ได้ทั้งนั้น นอกจากลม”
วาจาประกาศก้องของเมฆาสมใจสีฟ้านัก ใช่สีฟ้าอยากให้มันเป็นอย่างนี้แหละ
“รับผิดชอบหรือครับ ผมทำอะไรคุณลม ทำไมผมต้องรับผิดชอบ”
ถึงน้ำเสียงที่บอกจะราบเรียบเป็นปกติ แต่กลับทำให้เมฆาเดือดพล่าน ลุกพรวดขึ้นหมายจะซัดตัวคนพูดให้หายแค้น ทว่าถูกนลินรั้งตัวไว้ก่อน มิหนำซ้ำสีฟ้ายังออกตัวปกป้องอย่างเต็มที่
“นี่มึงกล้าเหรอ มึงกล้าพูดอย่างนี้เหรอ ไอ้ติน!! “ เมฆาโมโหจัด คำสรรพนานเริ่มเปลี่ยนไปเขาอยากชัดภาคีให้หายแค้น แต่ติดที่ภรรยาแล้วก็น้องชายมายืนขวางทางเขาไว้ เขาเลยทำอะไรไม่ได้ นอกจากกำมัดแน่น 
“พี่ฟืน ตินไม่ผิด ลมผิดเอง”
....ภาคีไม่ผิด สีฟ้าผิดเอง...
ช่างเป็นประโยคที่สีฟ้าชอบเหลือเกิน
“คุณลม คุณบอกมาว่าผมทำอะไรคุณ” ภาคีถามเสียงห้วน เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่ ครั้งนี้สีฟ้าทำเกินไปแล้ว
“ตินซื้อแหวน ตินบอกรัก แล้วคืนนั้นคืนก็จูบ...แล้วก็...”
 สีฟ้าย้อนความทั้งน้ำตา เป็นน้ำตาที่กลั่นออกมาจากสมองหาใช่หัวใจแม้แต่น้อย สีฟ้าฉลาดพอจะพูดให้สั้น ให้ทุกคนตีความหมายไปไกลกว่าถ้อยคำ ถือว่าเขาไม่ได้พูดโกหก แค่พูดไม่หมด ไม่ได้บอกว่าซื้อให้ใคร บอกรักใคร แล้วคืนนั้นเกิดอะไรขึ้น เท่านี้ทุกคนก็คงจิตนาการไปไกลสุดกู่กันแล้ว
คุณกฤษประคองตัวคุณอุษาที่ทำท่าเหมือนจะเป็นลม เมื่อฟังสิ่งที่ลูกชายคนเล็กพูด แค่นี้นางก็พอรู้แล้วว่าระหว่างสองคนนี้ไปถึงไหนกันแล้ว   ถึงไหนต่อไหนในความคิดของคุณอุษา แม้ไม่ท้อง แต่มันก็เสียหายไปแล้ว

“คุณลม!”

ภาคีจ้องใบหน้าหวานเขม็ง ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่ พูดแบบนี้แล้วมันมีอะไรดีขึ้นมา ตัวเองเสียหายชัดๆ 

“ลมขอโทษ” สีฟ้าโผล่ซบอกกว้างอย่างรวดเร็ว ร้องไห้สะอื้นเสียงดังลั่นห้องโถงกว้าง 
ภาคีพยายามดึงร่างบางนั่นออก แต่สีฟ้าก็กอดเขาแน่นมาก น้ำตาชื้นก็ไหลซึมสู่ผิวเนื้อของเขา 
“ตินทำอะไรลงไปต้องรับผิดชอบ พี่ไม่อยากเห็นตินเป็นคนแบบนี้เลย”
นลินที่นั่งนิ่งฟังมาตลอดได้เวลาพูดขึ้นมาบ้าง ส่วนหนึ่งในใจของเธอ ไม่เชื่อเลยว่าน้องชายจะทำเรื่องให้สีฟ้าเสียหายอย่างที่ทุกคนเชื่อ เพราะภาคีเป็นน้อง เธอหรือจะไม่รู้จักนิสัย แต่ในเมื่อสีฟ้ายืนยันขนาดนี้แล้ว เธอก็คร้านจะเค้นอะไรจากใคร คงต้องปล่อยให้เลยตามเลย และที่สำคัญเธอดูน้องชายออก ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอรู้ว่าภาคีรู้สึกเช่นไรกับสีฟ้า

“แต่พี่ลิน ผมไม่....” เขาพูดไม่ออก เมื่อสายตาทั้งคู่จับจ้องมาที่เขาคนเดียว แม้แต่คนที่สะอื้นไห้ที่อกเขา ยังมองตาแป๋ว ถ้าเขาปฏิเสธ พี่สาวของเขาจะลำบากไหม  ในฐานที่เป็นพี่สาวของคนที่ทำให้ลูกชายเจ้าของบ้านเสียใจ ทั้งที่เขาไม่ได้ทำมันเลย แต่ทุกคนก็ดูเหมือนจะเชื่อสีฟ้ากันทั้งนั้น

“ตินเป็นลูกผู้ชายนะ”

ดูเถอะ ขนาดพี่สาวของเขายังหลงกลไปกับมารยาของสีฟ้า  ก็ได้ในเมื่อทุกคนคิดว่าระหว่างเขากับสีฟ้ามีพันธะต่อกัน เขาก็ยอมรับ อยากรู้นักว่าสีฟ้าจะทำอะไรต่อไป จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนหากใครต่อใครในสังคมไฮโซรู้ว่าลูกชายคนเล็กของบ้านกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายด้วยกันเอง

คงสนุกพิลึก 

“ครับ ผมจะรับผิดชอบสิ่งที่ผมทำลงไป” เขาบอกทุกคน แต่สายตาจับจ้องอยู่กับคนตรงหน้า เอาสิ เมื่อสีฟ้าอยากเล่นเกมอะไรก็ตาม เขาก็จะเล่นด้วย อยากรู้เหมือนกันว่าสีฟ้าจะทำยังไงต่อไป สร้างเรื่องขึ้นมาเอง ก็สร้างมันให้จบแล้วกัน

ส่วนเขาจะเสียหาอะไร มีแต่ได้กับได้...หึ

“ติน ลมขอบคุณ ขอบคุณที่ไม่ทิ้งลมไปไหน” เสียงของสีฟ้าที่พูดออกมาให้ทุกคนได้ยิน มันระริกไปด้วยความยินดีที่ปั้นแต่งขึ้นมาอย่างงดงามให้สมกับบทบาทที่กำลังแสดงอยู่
แผนของเขาสำเร็จแล้ว นึกแล้วอยากเห็นหน้าของนิรดาว่าจะเป็นอย่างไร ถ้ารู้เรื่องนี้ เป็นไงล่ะ หัวเราะที่หลัง ดังกว่าเยอะ บอกแล้วไงว่าอะไรก็ตามที่อยู่ในเขตรั้วบ้านของสีฟ้า ทุกสิ่งและทุกคน ทั้งหมดมันเป็นของสีฟ้า ไม่มีใครคนไหนจะแย่งเอาไปได้
แม้กระทั่ง ภาคี!!
ถ้าสีฟ้าไม่ยกให้  อย่าหวังจะได้เอาไปครอง


นิรดาแทบจะกรี๊ดลั่นบริษัท ถ้าเธอไม่กลัวว่าจะมีใครเดินผ่านมาเจอกับเสียงหวีดร้องของเธอ ทันทีที่ภาคีบอกข่าวร้าย หลายอาทิตย์ก่อนชายหนุ่มเพิ่งขอเธอแต่งงาน แต่วันนี้เขากลับมาบอกเลิก เพราะเขามีพันธะต้องรับผิดชอบ

รับผิดชอบผู้ชายด้วยกันเอง!

รับผิดชอบสีฟ้า!!! 

“ทำไมคะติน มันเกิดอะไรขึ้น” เธอข่มความโกรธไว้ไม่มิด ใบหน้าสวยบึ้งตึง น้ำเสียงฉุนเฉียว ต้องการคำอธิบายที่มากกว่านี้ ไม่ใช่สีหน้าที่ราบเรียบไร้ความรู้สึก ไม่ต่างจากใบหน้าวันนั้นที่ขอเธอแต่งงาน ช่างเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน

“ผมขอโทษ”
“นุ่นอยากรู้ มันเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่คำขอโทษ”
“ผมขอโทษ”

ภาคีมีคำพูดนี้เท่านั้นที่ให้นิรดาได้ เขาไม่รู้จะพูดหรืออธิบายใดๆ ที่มันดีกว่านี้ เพราะตัวเขายังไม่รู้เลยว่าเรื่องมันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง ก่อนจะหันหลัง ทิ้งให้นิรดายืนกระทืบเท้าเร่าๆ อยู่ด้านหลัง โดยที่เธอไม่สามารถทำอะไรได้

 

“ได้ใจมากวะมึง ไอ้ติน เจ๋งโครต กูละชื่นชมในการตัดสินใจของมึงจริงๆ อาทิตย์ก่อนขอแต่งงาน วันนี้บอกเลิก เลวได้ใจกูเมิ่กๆ”

คณิตที่ไม่ได้ตั้งใจจะทำตัวเป็นพวกสอดรู้สอดเห็นสักเท่าไร แต่ก็อดไม่ได้ ขอสักเรื่องเถอะ ชายหนุ่มเลยแอบมายืนดูบทสนทนาของภาคีกับนิรดา แอบลุ้นอยู่หลังพุ่มไม้ของปลอมในมุมลับตาคนอยู่นาน ว่าไอ้เพื่อนรักมันจะสลัดรักนิรดาได้สำเร็จหรือเปล่า พอน้ำตานิรดาไหลเท่านั้นแหละ คณิตก็แทบกระโดดเป็นลิงเต้นระบำ ดีใจที่เพื่อนหลุดพ้นบ่วงกำนี้ไปได้ พอภาคีเดินกลับมาที่โต๊ะ คณิตจึงตรงเข้าไปกอดเขาเพื่อนรักของเขา

“มึงแอบฟัง” ภาคีถามอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนคว้าแปลนบ้านขึ้นมาดู 

“ก็ใช่นะเซ่ ทำไม ฟังไม่ได้หรือไงวะ ทำเป็นมีความลับกับเพื่อนไปได้ หน็อยแน่อย่าคิดนะว่ามึงจะมีความลับอะไรกับกูได้” ยิ้มของคณิตสะกิดใจคนฟัง ไม่ต่างจากน้ำเสียง ทำเอาต้องนิ่งไปนิด ก่อนจะอ้าปากค้างหนักกว่าเก่า

“กูรู้นะ สาเหตุที่มึงทั้งขอแต่งงาน ทั้งบอกเลิกเมื่อกี้ คนอย่างกูรู้หมดแระ แค่กูไม่พูดเท่านั้นเอง ”
“มึงรู้อะไร?” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน คำพูดกับน้ำเสียงของคณิตไม่น่าไว้ใจ พูดเหมือนรู้
“ก็รู้ว่ามึงมีใครอยู่ในหัวใจนะสิ อะ...อะ...อ้า หน้าเป็นแพนกวิ้นหาทางกลับบ้านไม่เจอเลยนะมึง บอกแล้วว่าอย่าดูถูกเพื่อนอย่างกู กูมันคนฉลาดโว้ย มึงมีความลับกับกูไม่ได้หรอก”
“กูไม่....” ภาคีกำลังจะอ้างปากเถียง แต่คณิตก็ไม่ปล่อยโอกาสนั้นให้เกิดขึ้น
“อย่ามึงอย่า เพราะคุณลมหน้าหวานนั่นใช่ป่าว อย่าเถียง ถ้าคิดว่ากูเป็นเพื่อนของมึง”

ตอนที่เรียนอยู่ด้วยกัน คณิตแทบจะไปกินไปนอนอยู่ที่บ้านภาคีเลยด้วยซ้ำ ทำให้เขาเห็นอะไรดีๆ หลายอย่าง โดยเฉพาะกรอบรูปที่ไอ้เพื่อนคนซื่อ คิดจะเอาซ่อนเขาไม่ให้เห็น แต่ขอโทษที่คณิตซะอย่าง ไม่มีอะไรหนีพ้นสายตาได้หรอก และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาไปบ้านภาคี เป็นจังหวะที่หนุ่มหน้าหวานกลับจากต่างประเทศพอดี ก็เห็นไอ้เพื่อนตัวดีนี่แหละแอบมองซะตาละห้อย ยิ่งละห้อยใหญ่เมื่อหนุ่มหน้าหวานมีสาวมาส่งดอกไม้ช่อโตให้ถึงบ้าน แถมตอนเย็นมีรถคันโก้กับหนุ่มหล่อระดับเทพมาสู่ถึงตีนบันได
เพื่อนของเขามันคนจน อาศัยพื้นที่บ้านของคนอื่นอยู่ เลยเจียมตัว แต่ไม่เคยเจียมใจ

“มึงรู้” นิ่งไปนาน กว่าที่ปากหยักจะมีคำพูดหลุดออกมา เขาไม่คิดเลยว่าคณิตจะรู้เรื่องนี้
“เออซิวะ มีไรเปล่า” คณิตบอก ทำท่ากวน ขณะเดียวกันก็ยิ้มให้กับความฉลาดของตัวเอง
“มีครับ”

คำตอบนี้ไม่ใช่ของภาคี แต่เป็นของเจ้านายหนุ่มที่เดินถือกระเป๋ามาอยู่ด้านหลังของคนทั้งคู่ ถ้าเป็นบริษัททั่วไปและเจ้านายจอมโหด สองหนุ่มคนโดนเล่นงานซะอ่วมแน่ แต่นี้เป็นอชิตะ เจ้านายที่ใจดี ทำตัวกลมกลืนไปกับลูกน้องเหมือนเพื่อนไม่มีผิดเพี้ยน และรู้เรื่องของภาคีดีๆ เพราะคณิตชอบเอาเรื่องของภาคีมาเล่าให้เขาฟัง

“คุยอะไรกันอยู่ครับ ขอผมมีส่วนร่วมได้ป่ะ”

อชิตะเอ่ยปากถาม ไอ้เรื่องอยากรู้อยากเห็นของอชิตะก็มีไม่น้อยเลย เขาถือว่าการรู้เรื่องของลูกน้องคือสิ่งที่ควรทำ เพราะมันจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับลูกน้องที่ดีอีกทางหนึ่ง

“ข่าวดีครับบอส ลูกน้องคนนี้ของบอส” คณิตชี้ไปที่ภาคี อชิตะมองตาม “ไอ้ตินครับ มันฉลาดขึ้นแล้วครับ มันไม่อยากได้หน้าแต่มันอยากเอาหลัง บอสเข้าใจใส่ไหมครับ” คณิตพูดติดทะลึ่งตามนิสัย บอสหนุ่มส่ายหน้า คณิตเลยต้องพูดเป็นการเป็นงานขึ้น

“ตินมันยกเลิกงานแต่งแล้วครับ”
“โอ้โห ผมถือว่าเป็นเรื่องนี่นะครับเนี่ย ต้องฉลองกันสักหน่อยดีไหม”
เจ้านายหนุ่มยังใจดีเหมือนเดิม
“โอ.เค. ครับบอส” คณิตตกปากรับคำทันที ของฟรีมีที่นี้
“เออ...ผมว่าอย่าดีกว่าครับ คือผมต้องรีบกลับบ้าน”

ภาคีหลังจากที่เงียบมานาน ได้โอกาสพูดซะที ก็เพราะโดนเจ้าเพื่อนรักตัดหน้าไปทุกครั้ง แต่ความจริงแล้ว เขาเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะตอนนี้ในสมองของเขามีแต่คำถามเกิดขึ้น ว่าทำไมคนหน้าหวานถึงทำแบบนั้น สีฟ้าต้องการอะไรกันแน่

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

หลายวันต่อมาคุณกฤษและคุณอุษา เรียกภาคีมาคุยถึงเรื่องระหว่างเขากับสีฟ้าว่าจะเอายังไงต่อไป จะย้ายมาอยู่บ้านหลังใหญ่ด้วยกันไหม

ภาคีปฏิเสธการอยู่รวมกับบ้านใหญ่ แล้วสีฟ้าก็ไม่ขัดข้อง สีฟ้าพยายามเล่นบทเป็นผู้ตามที่แสนดี ภาคีว่าอย่างไรเขาก็ว่าตาม

“แน่ใจนะว่าเราสองคนจะย้ายไปอยู่เรือนหลังเล็กด้วยกัน” คุณอุษาถามเอาความแน่ใจ ไม่คิดว่าลูกชายคนเล็กจะไปอยู่ที่นั่นได้ บ้านหลังเล็กนั้น ใหญ่กว่าห้องนอนของลูกชายนางแค่นิดเดียวเอง แล้วจะไปอยู่ยังไงไว้ ตู้เสื้อผ้าก็คงปาไปครึ่งบ้านแล้วมั้ง

“ครับ”

คุณอุษาหันไปทางลูกชาย เพื่อขอคำยืนยันอีกรอบ เผื่อบางทีสีฟ้าอาจจะอยากอยู่ห้องกว้างของตัวเองเหมือนเดิม แต่ลูกชายส่ายหน้า
“ลมเห็นด้วยกับตินครับ” สีฟ้าหันไปสบตากับภาคี ยิ้มมีความหมาย ยิ้มที่ให้ภาคีเห็นเพียงคนเดียว
“ตินอยู่ที่ไหน ลมก็อยู่ที่นั่นครับคุณแม่”

.................................................
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 4 แผน (รัก) ร้าย [09/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 09-03-2011 17:38:48
 :jul3:

หึหึ หุหุ >///<
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 4 แผน (รัก) ร้าย [09/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 09-03-2011 19:50:57
ภาคีมีแต่ได้กับได้จริงๆ  สีฟ้าคิดดีแล้วเหรอจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 4 แผน (รัก) ร้าย [09/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 09-03-2011 21:32:10
ภาคีในเมื่อลมทำถึงขนาดนี้ก็จับปล้ำซะเลยย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 4 แผน (รัก) ร้าย [09/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 09-03-2011 22:10:41
ร๊ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆมากหนู๋ลม อิอิ แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ต่อไปคงแซ่บน่าดู
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 4 แผน (รัก) ร้าย [09/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-03-2011 22:15:43
ไม่ต้องวิ่งไปหาให้เหนื่อยแล้วพี่ติน


เหยื่อวิ่งเข้ามาให้กินเองถึงที่



สบายๆนอนอ้าปากรอได้เลยงานนี้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 4 แผน (รัก) ร้าย [09/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 12-03-2011 10:45:35
ตอนนที่ 5


งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นตอนช่วงเช้า เป็นงานเลี้ยงฉลองที่จัดขึ้นอย่างเล็กๆ และง่ายๆ ตามความต้องการของเจ้าของงานทั้งสอง


ภาคีไม่ได้บอกใครเพราะเขาเองกับพี่สาวไม่มีญาติที่ไหนอีกเลย และเขาเองก็เป็นคนมีเพื่อนน้อย งานนี้จึงมีแค่เพียงคณิต และถ้าหัวหน้าของเขาไม่ติดต้องบินไปต่างประเทศด่วนขึ้นมา ก็คงมาร่วมงานนี้ของเขาเหมือนกัน

ส่วนสีฟ้าเอง เขาไม่ต้องการให้ใครรู้ เพราะมันเป็นแค่ละครฉากหนึ่งที่เอาไว้แกล้งนิรดา มันจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องบอกใคร โดยเฉพาะน้ำเพชร โชคดีที่น้ำเพชรไปต่างประเทศยังไม่กลับ

แหวนทองขาวได้มาอยู่บนนิ้วของสีฟ้าสมใจอยาก แล้วเจ้าตัวก็สั่งทำแหวนอย่างเดียวกันนี้ให้ภาคี

“รักกันให้มากๆ นะลูก” พรจากคุณกฤษ
“หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันนะลูก ลมอย่าดื้อกับพี่เขานะลูก  ส่วนตินก็ดูแลน้องแทนแม่ด้วยนะลูก” คุณอุษาเอ่ยต่อคนเป็นสามี น้ำตานางเริ่มคลอเบ้า  
“ดูแลลมให้ดี อย่าทำให้น้องฉันร้องไห้เด็ดขาด จำเอาไว้ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
คำอวยพรของเมฆา ดูเหมือนจะเป็นคำสั่งมากกว่า
“พี่ขอให้ทั้งสองมีความสุขนะ” นลินเอ่ยบอก พลางสบตาคนเป็นน้องชายคล้ายจะปลอบโยนและให้กำลังใจอยู่ในที

คนนอกเพียงคนเดียวที่มีโอกาสได้เข้ามาร่วมงานคือคณิตที่ดื้อด้านจะมา ทั้งที่ภาคีไม่ได้ชวนเลยแม้แต่น้อย เมื่อทุกคนกลับกันไปหมดแล้ว จึงถึงเวลาของคณิต

“อย่าหักโหมมากนะโว้ย เดี๋ยวพรุ่งนี้มึงไปทำงานไม่ไหว กูกลัวเหงาปากว่ะ ว่าแต่ สวยว่ะ มิน่าละถึงไม่มองใครเลย ”
คำอวยพรของคณิตออกจะชวนให้ขาภาคีไปฟาดบนปากเสียนี่กระไร แต่คณิตก็ไม่ลืมที่จะชื่นชมชายหนุ่มหน้าหวานที่ยืนอยู่ไม่ห่างเพื่อนรักของเขา หวังว่าคงไม่ได้ยินคำพูดของเขาหรอกนะ ก็กระซิบถึงขนาดนี้ จากนั้นชายหนุ่มก็หันไปพูดกับสีฟ้า

“เพื่อนผมมันขี้อาย พูดน้อยครับ แต่เรื่องรักแล้ว มันรักจริง รักนาน รักทน รักมั่นคงและรักตลอดไป เออ..อีกอย่างครับ เอาใจมันให้มากๆ หน่อยครับ มันเป็นเด็กขาดความอบอุ่นต้องการคนเอาใจตลอดเวลา มันชอบคนเอาใจ มันรักตายเลยครับเจอคนแบบนี้ แต่ไม่ต้องมากก็ได้ครับเพราะเท่านี้มันก็รักก็หลงคุณลมจะแย่อยู่แล้ว ”

คณิตพูดเป็นชุด พร้อมกับส่งยิ้มให้กับคนหน้าหวานที่พยักหน้ายิ้มรับกับสิ่งที่เขาบอก แต่แววตาคู่สวยที่เขาเห็นแวบหนึ่งที่มันฉายแววเศร้า

‘แล้วฉันควรจะดีใจเหรอ? ที่เพื่อนนายเป็นคนรักจริงขนาดนี้’

สีฟ้านึกเศร้าอยู่ข้างใน ยิ่งฟังคำที่คณิตพูดแล้วให้เจ็บแปลบจนแทบจะฝืนยิ้มออกมาไม่ได้ ถ้าเพื่อนนายรักฉัน ฉันก็คงจะดีใจแล้วก็มีความสุขที่สุด แต่นี่นายคงไม่รู้หรอกว่าอะไรทำให้เพื่อนนายต้องมายืนอยู่ข้างฉันในวันนี้

“ไอ้หนึ่ง มึงอยากเดินออกบ้านกูอย่างครบสามสิบสองประการอยู่หรือเปล่าวะ” ภาคีลากตัวเพื่อนปากดีออกมาให้ห่างสีฟ้านิดหนึ่ง เกรงว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน แล้วรู้ทุกอย่าง  

“อะไรวะ กูอุตส่าห์ช่วยมึงนะโว้ย” คณิตโวยวายไม่เบาเลย ภาคีเอามือปิดปาก

“ช่วยอะไรวะ” ภาคีกระชากเสียงถามห้วน แต่ก็อยู่ในระดับที่ได้ยินกันแค่สองคน หันไปมองสีฟ้าก็เห็นว่าเดินเลี่ยงออกไปอีกทาง หยิบโน่นจับเนี่ยไป เหมือนกำลังสำรวจตรวจตราทุกซอกมุมในบ้านของเขา  

“อ้าว...ก็ช่วยให้คุณลมที่รักของมึง รู้จักมึงให้มากกว่าเดิมไงเล่า หรือไม่จริง ก็มึงมันไอ้โคโบต้ารักทนรักนานขนาดนั้น คุณลมรู้จะได้ซาบซึ้งในความรักของมึงไง” คราวนี้คณิตพูดเสียงเบาลง

“เออ...ขอบใจ แต่ถ้าไม่พูดจะดีกว่า แล้วมึงก็กลับไปได้แล้ว” จะโทษคณิตก็คงไม่ได้ เพราะเขาเองต่างหากไม่ได้บอกรายละเอียดของเรื่องทั้งหมดให้คณิตรู้ เพราะเขาบอกแต่ว่าวันนี้เขากับสีฟ้าตกลงจะอยู่ด้วยกันก็เท่านั้น คณิตก็คงต้องเข้าใจผิดความสัมผัสระหว่างเขากับสีฟ้าไปในทางที่เจ้าตัวคิด

“มึงจะรีบทำการบ้านหรือไงวะ แม่มม ฟ้ายังไม่มืดเลยนะโว้ย แต่ก็นะ มืดไม่มืด มึงก็คงไม่สนใช่ป่ะ” ไม่รอให้โดนถีบออกมานอกบ้าน ด้วยฝีเท้าที่รวดเร็ว คณิตพาตัวเองออกจากห้องของภาคีไปในทันที

..............................................................


เมื่อเหลือภาคีและสีฟ้าเพียงสองคน หลังจากที่ทุกคนกลับไปกันหมดแล้ว สีฟ้านั่งอยู่ที่ตรงบนโซฟากลางบ้าน คลายปมเนทไทสีหวานให้หายอึดอัด ภาคีเปิดประเด็นความสงสัยและอยากรู้สิ่งที่สีฟ้าต้องการทันที

“ผมอยากรู้ คุณลมต้องการอะไรกันแน่”

เป็นครั้งแรกมั้งที่ชายหนุ่มเอ่ยมันขึ้นมา เรื่องที่ติดค้างคาใจนับตั้งแต่วันเกิดเรื่อง เพราะสีฟ้าพยายามหลบหน้าเขาตลอด จะเจอตัวก็ต่อเมื่ออยู่กันพร้อมหน้าทุกคนนั่นแหล่ะ ทำให้เขาหาเวลาคั้นเอาความจริงเรื่องนี้จากสีฟ้าไม่ได้

“ฉันก็อยากเป็นเจ้าของๆ นายสิ” สีฟ้ายักไหล่ ดวงตาสบมองอย่างไม่หวั่นไหว แม้อีกฝ่ายจะทำหน้าหงุดหงิดใส่ก็ตาม

“อยากเป็นเจ้าของผม” ภาคีทำเสียงหึอยู่ในลำคอ พยายามเค้นยิ้ม “นึกยังไงถึงอยากเป็นเจ้าของผม ทั้งที่ก่อนหน้านี้คุณคอยแต่จะยัดเยียดผมให้ใครต่อใคร”

ใครต่อใครที่ภาคีหมายถึง มีเพียงคนเดียว ก็คือ น้ำเพชร

“แต่ต้องไม่ใช่ยัยนุ่น ฉันไม่มีทางยกนายให้ยัยนุ่นเด็ดขาด” น้ำเสียงของหนุ่มหน้าหวานแข็งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว สีฟ้าไม่ชอบขี้หน้านิรดาเอามากๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร

“ผมไม่ใช่สิ่งของ”
“แต่ฉันมีสิทธิ์”
“มีสิทธิ์ ?” ภาคีย้อนถามเสียงห้วน
“ใช่ ฉันบอกแล้วไง อะไรก็ตามที่อยู่ในรั้วบ้านของฉัน ฉันมีสิทธิ์ทุกอย่าง”

สีฟ้าลุกขึ้นมาเผชิญหน้า ห่างจากร่างสูงไม่กี่ก้าว เพียงพอได้กระไอร้อนของอีกฝ่าย แต่สีฟ้าไม่เคยกลัว หลงลืมบทเรียนครั้งก่อนไปชั่วขณะ
“รวมถึงตัวผมด้วย” ภาคีเอ่ย น้ำเสียงของชายหนุ่มห้าวลึก “คุณลมมีสิทธิ์จะทำอะไรกับผมงั้นก็ได้เหรอ”
“ใช่” สีฟ้าตอบเสียงดังฟังชัด ก่อนแกล้งหันไปให้ความสนใจกับข้าวของภายในบ้านของสีคราม ที่กลายมาเป็นเรือนหอจำเป็นของเขา เมื่อน้ำเสียงและหน้าตาของภาคีดุดันขึ้น บางครั้งชายหนุ่มก็กลัวเป็นเหมือนกัน
“สิทธิ์ของคุณคือการโกหกทุกคน โกหกได้หน้าตาเฉยว่าผมรังแกคุณ ทั้งที่เราทั้งคู่ก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน แล้วผมจะทำอะไรคุณได้”

นั่นสินะผู้ชายเหมือนกัน แต่ทำไมเขาไม่เคยรู้สึกอย่างที่พูดเลย แม้กระทั่งตอนนี้ เรือนกายของสีฟ้าน่ากอดแค่ไหน เขาย่อมรู้อยู่แกใจดีกว่าใคร

“ฉันไม่ได้โกหก ฉันพูดความจริง หรือฉันพูดไม่จริง นายทำอะไรฉันคืนนั้น” สีฟ้ากอดอกยืดตัวเต็มความสูง ยื่นหน้าสวยหวานเข้าไปใกล้อย่างท้าทาย

ภาคีรีบหันหลังให้กับใบหน้าเรียว ตาคู่สวย จมูกโด่งงาม กับปากอิ่มสีแดงระเรื่อที่ช่างหาเรื่อง เพราะสิ่งที่สีฟ้าพูดมันเป็นความจริง

“แต่เราไม่ได้มีอะไรกัน คุณลมก็รู้” เขาบอกไม่ค่อยจะเต็มเสียง เพราะเรื่องคืนนั้นมันเป็นความจริง ความจริงที่เขาห้ามตัวเองไม่อยู่ แล้วมันอาจเลยเถิด ถ้าเขาห้ามตัวเองไม่ทัน

ผู้ชายด้วยกันเหรอ??

แต่ทำไมล่ะ ทำไม....

ทำไมเขาถึงอยากโอบกอดคนร่างบางนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งภายในบ้านที่มีเพียงเขากับสีฟ้าสองคน ความปรารถนามันยิ่งพุ่งพรวด

“แต่ฉันเสียหาย”
“แต่คุณเป็นผู้ชาย”
“แต่นายก็ทำ”
“ก็ได้ ผมยอมรับเรื่องนี้”
เขายอมจำนน ทว่ายังคงถามต่อถึงเรื่องยังค้างคาอยู่อีกหนึ่งเรื่อง เรื่องที่เขาไม่เคยพูดออกมาให้คนหน้าหวานฟังเลยสักครั้ง
“แต่เรื่องบอกรัก แล้วก็เรื่องแหวน ผมยืนยันว่าไม่เคยบอกคุณลม และก็ไม่ได้ซื้อแหวนวงนี้ให้...เอ่อ...ให้คุณลม” ปลายประโยคของเขาออกจะติดขัด เมื่อภาคีรู้ตัวว่าเขาไม่ได้พูดความจริง แหวนมี่ซื้อมา เขารู้ดีว่าซื้อมันมาให้สีฟ้าเพียงคนเดียว
“ฉันไม่ได้บอกนี่ ว่านายบอกรักฉัน ซื้อแหวนให้ฉัน ฉันพูดแต่ว่านายบอกรัก นายซื้อแหวน หรือว่ามันไม่เป็นความจริงหะ”
คนฟังถึงกับอึ้ง
สีฟ้าขยับเข้าใกล้ร่างสูงอีกนิด หน้าสวยมีรอยยิ้มสมใจทุกอย่าง บอกแล้วว่าเขาฉลาดพอ ฉลาดพอที่จะไม่พูดอะไรที่มันจะผูกมัดตัวเอง
“แค่ฉันพูดไม่หมดเท่านั้นเอง ว่านายบอกรักยัยนุ่น และก็ซื้อแหวนให้ยัยนุ่น จริงไหมล่ะ พ่อเทพบุตรของใครต่อใคร” ภาคีไม่สบตาคู่สวย เขาเสมองไปทางอื่นที่ไม่มีหน้าของใครที่กำลังคาดคั้นเอาความจริงกับเขา

เทพบุตรเหรอ??

เทพบุตรของใครต่อใคร??

ไม่หรอก เขาไม่อยากเป็นพ่อเทพบุตรของใครต่อใคร แต่ของเป็นคนธรรมดาของคุณลมเพียงคนเดียวจะได้ไหม.....
คงไม่มีทางเป็นไปได้ ในเมื่อทุกอย่างระหว่างเขากับสีฟ้า ช่างห่างไกลกันเหลือเกิน แม้อยู่ใกล้ก็คงเหมือนไกล สีฟ้าไม่เห็นค่าอะไรในตัวเขา ไม่อย่างนั้นคงไม่คิดจะยกเขาให้ใครต่อใครหรอก
เมื่อภาคีไม่พูด สีฟ้าก็ไม่อยากพูดอะไรให้มากมายกว่านี้ เดี๋ยวจะเข้าตัวเขาหมด เลยเปลี่ยนเรื่องพูดเสีย


“จะให้ฉันนอนห้องไหน”

บ้านหลังนี้มีสองห้อง ห้องแรกเป็นห้องของคุณมณี มารดาของภาคี ส่วนอีกห้องห้องของคนตัวสูง เขาคงต้องไปนอนห้องคุณมณีแน่ๆ  ถ้าต้องนอนห้องนั้นจริง ไม่รู้ว่าจะหลับตาลงหรือเปล่า

“ห้องผม”
สีฟ้าหายใจโล่งจมูกขึ้นมาทันที เมื่อไม่ต้องนอนห้องนั้น  
“ก็ได้” ว่าแล้วก็เดินเข้าไปยังด้านใน เปิดประตูห้องที่อยู่ด้านซ้ายอย่างคุ้นเคย เพราะครั้งหนึ่งสีฟ้าเคยย่างก้าวเข้ามาแล้ว
พอเข้ามาข้างใน สีฟ้าต้องขมวดคิ้วยุ่ง เมื่อทั้งห้องยังอยู่ในสภาพเดิม ข้าวของของภาคียังอยู่เต็มไปหมด สีฟ้าหันมามองอดีตเจ้าของห้องที่เดินตามเข้ามา
“นายจะย้ายของไปเมื่อไหร่” สีฟ้าถาม บางครั้งเขาก็นึกเบื่อหน้าไร้ความรู้สึกของภาคีเช่นตอนนี้
ทำไมผมต้องย้าย” อีกฝ่ายย้อนถาม เหมือนกับไม่เข้าใจ ภาคีไม่เข้าใจจริงๆ นั่นแหละ  
“ก็ห้องนี้จะเป็นห้องของฉัน นายต้องย้ายออกไปสิ นายบอกเองไม่ใช่เหรอไง ให้ฉันอยู่ห้องนี้ ส่วนนายก็ไปอยู่ห้องแม่มณีสิ”
“ผมบอกว่าให้คุณนอนห้องผม แต่ไม่ได้หมายความว่าผมต้องย้าย สามีภรรยาถ้าไม่นอนห้องเดียวกันแล้วจะให้ไปนอนที่ไหน คุณก็รู้” คำพูดเรียบๆ ของภาคีทำเอาสีฟ้าอ้าปากค้าง ไม่บ่อยนักที่จะเห็นภาคีพูดด้วยสีหน้าเป็นต่อแบบนี้ พลางหน้ามันก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาเฉยๆ กับคำว่า สามีภรรยา ให้ตายเถอะ เขาเกลียดคำนี้จริงๆ  
“นี่นาย”

สีฟ้าชี้หน้า แต่เหมือนภาคีจะไม่รับรู้ ก้าวเข้ามาใกล้ประชิดด้านหลังของเขาเสียแล้ว สองมือแกร่งเอื้อมโอบไปแกะกระดุมเม็ดเล็กด้านหน้าให้หลุดออกจากรังดุม หลังจากที่เขาโยนเนทไทไปอีกทางแล้ว

พอคนในอ้อมแขนดิ้น ชายหนุ่มก็รัดเอวบางไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ได้กลิ่นหอมจากเรือนกาย มันหอมเหมือนคืนนั้นไม่มีผิดเพี้ยน

“นายจะทำอะไร” สีฟ้าดิ้น เมื่อสัมผัสถึงท่อนแขนใหญ่ที่โอบรอบตัวอยู่ แผ่นหลังที่ปะทะกับอกกว้างก็สั่นไหว เหมือนผิวเนื้อมันแนบสัมผัสจนร้อนรุ่ม

“ชุดเจ้าสาว เขาทำมาไว้เพื่อให้เจ้าบ่าวเป็นคนถอดนะครับคุณลม......หรือคุณกลัว” แม้สีฟ้าไม่ได้ใส่ชุดเจ้าสาว แต่ภาคีก็จะถือซะว่าเสื้อเซิ๊ตสีฟ้าตัวเล็กแนบเนื้อนี้ คือชุดเจ้าสาวที่เขาสมควรถอดมันกับมือ และถ้าสีฟ้ายอม เขาก็จะถอดมันตลอดไป....

“ทำไมต้องกลัว นายจะทำอะไรได้....ถ้าฉันไม่ให้ความร่วมมือ” สีฟ้าพูดอย่างถือดี ทั้งที่ทั้งตัวฝังอยู่ในอ้อมกอดแกร่งนั้นไปแล้ว  

“ลองดูกันไหมล่ะครับ คุณลม” ภาคีปล่อยเอวบางให้เป็นอิสระ เพียงเพื่อจะรั้งร่างบางนั้นให้หันหน้ามาหาเขา

สองมือของภาคีเริ่มจัดการกับกระดุมเม็ดเล็กอีกครั้ง และจัดการมันง่ายขึ้นเมื่ออีกฝ่ายยืนนิ่ง ไม่ออกอาการดิ้นรนเช่นเมื่อครู่

คนสองคนสบตากันอย่างท้าทาย เหมือนเล่นเกม ใครหลบตาคนนั้นแพ้

กระดุมเม็ดเล็กเริ่มหลุดออกจากรังดุมทีละเม็ด แต่ละเม็ดที่หลุดออกมานั้น มันต่างก็เผยให้เห็นผิวเนื้อเรียบนวลกระจ่างตาทีละนิด...ทีละนิด

ความเย็นวูบปะทะกับผิวเนื้อนวลสวย สลับกับลมหายใจอ่อนอุ่นที่กระทบใบหน้า มันทำให้สีฟ้ารู้สึกปั่นป่วนบอกไม่ถูก ชายหนุ่มกำลังสั่นสะท้านกับลมหายใจที่เป่ารดอยู่ไม่ห่าง ที่ใกล้กันคือปลายจมูกโด่งและริมฝีปากหยัก

ภาคีปล่อยมือจากกระดุมเม็ดสุดท้าย เคลื่อนมือใหญ่โอบเอวบางไว้หลวมๆ ประทับริมฝีปากอุ่นแนบสนิทตรงแก้มเนียนและนุ่มที่เขาสัมผัสได้ว่ามันหวานเหลือเกิน และละเลยมาถึงคองามระหง ดึงดูดความหวานจากตรงนั้นอยู่เนินนาน ก่อนมาหยุดอยู่ข้างแก้มนวลอีกครั้ง คลอเคล้าแผ่วเบา

สีฟ้าแทบยืนไม่ไหว ระทวยอ่อนแรง ต้องพิงร่างกับอกกว้าง รู้สึกว่าแขนของชายหนุ่มเลื่อนมาจับไหล่ทั้งสอง พามานั่งตรงเตียงนุ่ม เขาแพ้ เพราะหลบตาคมของภาคีก่อน  

“ผมว่าคุณลมคงเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว อาบน้ำแต่งตัวก่อนดีกว่าครับ เอาเสื้อผมไปเปลี่ยนก่อนก็ได้ เดี๋ยวบ้านโน่นคงเอาของคุณลมมาส่งให้”

ภาคีบอกเสียงแหบพร่า สะกดอารมณ์บางอย่างเอาไว้ ไม่สมควร เขาไม่อยากฉวยโอกาสจากคนตรงหน้า เพราะความถือดีของอีกฝ่าย แม้มันห้ามยากเหลือเกินก็ตาม

“เดี๋ยวเราคงต้องจัดการกับของของคุณลมอีกนาน”

สีฟ้าช้อนตามองคนพูดที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ เมื่อครู่ภาคียัง...ยัง...

โอ๊ย...แล้วจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แตะนิดถูกน้อยก็เคลิ้มจนได้

ใช่สิ สีฟ้าไม่ใช่คนที่ภาคีอยากแต่งงานด้วยนี่นา ยัยนุ่นนั่นต่างหาก คือผู้หญิงที่ภาคีอยากแต่งงานด้วย มีหรือจะมาพิศวาสตัวเขา เขาที่มีทุกอย่างเหมือนภาคี ไม่แตกต่างกันเลย แล้วจะมีอะไรไปสู้ได้

“นายก็ออกไปสิ” สีฟ้าออกปากไล่ ไม่กล้าสบตาด้วย เมื่ออีกฝ่ายยิ้ม เป็นยิ้มที่เขาดูไม่ออกเลย เมื่อกี้เขายังนึกเบื่อหน้านิ่งเหมือนไร้ชีวิตของภาคี มาตอนนี้เขาเกลียดใบหน้าที่ยิ้มอยู่นี่จริงๆ

“ครับ”

ภาคีเดินออกไปแล้ว สีฟ้าถอนหายใจยาว ทิ้งตัวลงนอนอย่างหมดแรง เรี่ยวแรงต่างๆมันมลายหายไปไหนหมดไม่รู้ ความรู้สึกเจ็บแปลบมันเกิดขึ้นที่ใจ สองครั้งแล้วที่ภาคีทำไม่สนใจเขา ทั้งที่ภาคีเป็นคนปลุกอารมณ์อ่อนหวานนั่นขึ้นมาเองแท้ๆ หรือว่ารูปร่างหน้าตาของเขามันไม่ดีพอ ไม่สิ ใครก็บอกว่าเขาสวยกว่าผู้หญิงบางคนด้วยซ้ำ รูปร่างเหรอ ใครๆ ก็ต่างอยากจะจับยัดใส่กระเป๋าเอาไปนอนกอดทั้งวันทั้งคืน

หรือเพราะเขาเป็นผู้ชาย

ภาคีไม่ได้ชอบผู้ชาย เป็นไปไม่ได้ ไม่ชอบผู้ชายก็คงไม่กล้าทำแบบนั้นกับเขา ผู้ชายแท้ที่ไหนเขาทำกันอย่างนั้นได้

หรือเขาเสน่ห์ไม่แรงพอ!!

ไม่ได้...เขาไม่ชอบให้ใครปฏิเสธ คนอย่างสีฟ้าไม่เคยมีใครปฏิเสธได้ ให้มันรู้ไปสิว่าจะไม่แตะต้องตัวเขาไปได้นานแค่ไหน

สีฟ้าเริ่มคิดแผนอีกครั้ง จะทำให้ภาคีรู้สึกอยากได้ตัวเขาและหลงรักเขาให้ได้ แต่ว่าเขาจะหลอกล่อภาคีเท่านั้น หากภาคีเริ่มต้องการเขาเมื่อไหร่ เขาจะปฏิเสธอย่างไม่ใยดีเชียวล่ะ

แทนที่จะเข้าไปอาบน้ำตามคำบอกของเจ้าของห้อง สีฟ้ากลับเดินสำรวจห้องแสนเรียบของภาคี ในห้องนี้แทบไม่มีอะไรเลย นอกจากเตียงและตู้ กับโต๊ะตัวเล็กที่ตั้งอยู่ข้างเตียง สีฟ้านึกขึ้นมาได้ว่าครั้งแรกที่เข้ามาห้องนี้ เขาทันเห็นภาคีคว่ำกรอบรูปอะไรสักอย่างลงให้พ้นสายตาเขา และเขาก็หมายมั่นอยากรู้ว่ามันเป็นรูปของใคร ถ้าเป็นรูปของยัยนุ่น เขาจะจัดการฉีกมันทิ้ง วันนี้มีโอกาสก็รีบจัดการซะดีกว่า

ว่าแล้วสีฟ้าก็พยายามมองหากรอบรูปอันนั้น ห้องที่ไม่ได้กว้างมากมาย ไม่ได้รกอะไรสักนิดเลย ทุกสิ่งที่อยู่ในห้องนี้ออกจะเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่าห้องของเขาซะอีก แต่ไม่ยักจะเห็นกรอบรูปอันนั้นเลย

“หรือว่าจะอยู่ในลิ้นชัก” แล้วเท้าของสีฟ้าก็ก้าวหยุดอยู่ที่ข้างเตียง ตรงที่มีโต๊ะหัวเตียงตั้งอยู่ โต๊ะตัวนี้มีลิ้นชักอยู่ด้วย มันน่าจะอยู่ในนี้
….กึก....
มันล็อค

“คงสำคัญมาสินะ นายถึงต้องซ่อนมันไว้”


..................................................................................................



รู้สึกเหมือนอะไรอุ่นๆทาบผ่านผิวแก้ม พลางมือเรียวยกขึ้นลูบร่องรอยนั้น สีฟ้ากำลังงัวเงียเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ เจอภาคีอยู่ข้างเตียง เขากำลังก้มหาอะไรอยู่ตรงลิ้นชัก
อีกอย่างที่สีฟ้าพบหลังจากเปิดเปลือกตาขึ้น เขาพบว่าของทุกอย่างของเขาถูกจัดวางเรียบร้อยหมดแล้ว ไม่ต้องสงสัยว่าใครจัดการกับมัน

“ตื่นแล้วหรือครับ”

ภาคีถามเสียงเรียบเป็นปกติ ก่อนเดินไปหยิบผ้าขนหนูให้คนที่ดูเซ็กซี่เหลือเกินยามตื่นขึ้นมาแล้วทำหน้ายุ่งน้อยๆ กับผมสั้นที่กระเซิงหน่อยๆ เรียวปากอิ่มสีสดที่แสนจะ...จะ....จะอะไรอีกเล่า ในเมื่อเขาทำมันไปเมื่อครู่แล้วนี่....
แก้มนวลถูกเขาขโมย....ภายหลังจากที่เขาขโมยกลีบปากอิ่มนั้นไปก่อนหน้าแล้ว
สีฟ้าพยักหน้ารับ พลางรับผ้าจากมือชายหนุ่ม คนเพิ่งตื่นยังคงมึนๆ อยู่ เลยทำทุกอย่างที่เจ้าของห้องหนุ่มบอก

“อาบน้ำก่อนเถอะครับ เดี๋ยวจะได้กินข้าวกัน บ้านโน้นเอาอาหารมาให้นานแล้ว”

ภาคีพยายามจะไม่มองแผ่นอกขาวภายใต้เสื้อเซิ๊ตที่กระดุมทุกเม็ดไม่ได้อยู่ในรังดุมเลย พอเขาออกจากห้องไป เจ้าตัวก็หลับไปทั้งสภาพแบบนี้

สีฟ้าเหมือนจะรู้ตัวว่า ตัวเองเผลอหลับไปทั้งที่อยู่ในสภาพเปลือยแผ่นอก เพราะเห็นตาคมที่เหลือบมองมา ก่อนจะเบี่ยงหน้าหนี มือเรียวรวบสาบเสื้อเข้าหากัน ก่อนเดินหนีเข้าห้องไป  
สีฟ้าจะรู้หรือเปล่าว่าตอนที่เขานอนกลับอยู่บนเตียงของภาคี เป็นช่วงเวลาที่ทำเอาภาคีแทบคลั่ง ดีที่มีข้าวของมากมายของสีฟ้ามาเป็นตัวช่วยดึงความสนใจจากร่างบางไปได้บางขณะเวลา แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้ตลอดเวลาหรอกนะ
ภาคีมองตามร่างบางไปจนร่างนั้นหายลับเข้าไปในห้องน้ำเล็กๆ ของเขา ก่อนผ่อนลมหายใจยาว ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงของเขา โชคดีที่สีฟ้าไม่รู้ว่าเขาทำอะไรลงไปบ้างตอนที่กำลังหลับอยู่ ถ้ารู้คงได้เอะอะโวยวายแน่

จบตอน


...
ปล ตอนนี้ลงกันแบบยาวๆๆ และลงครบตอนตามความประสงค์ของน้องแอ๋วทุกประการกันเลยทีเดียวที่บอกว่าให้ลงครบตอนและต่อไปคงจะลง วันเว้นวันนะค่ะ ถ้าไม่ติดขัดเรื่องต้นฉบับ ขอบคุณทุกคนที่มาอ่านและขอบคุณทุกคอมเม้นท์มากๆๆ ที่เปรียบเหมือนเป็นกำลังให้ทั้งคนแต่งและคนโพสค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 12-03-2011 11:27:31
 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 12-03-2011 12:16:43
+1 ให้เป็นกำลังใจจ้า มารอตอนต่อไปด้วย

สีฟ้าน่ารักมีร้ายเล็กๆ ชอบนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 12-03-2011 12:45:26
สีฟ้า ลุยหน้าเลยลูก  100 เล่มเกวียนนี่ ตอนนี้เรายังใช้ไปไม่ถึงเล่มเกวียนลยนี่
ทำให้ภาคีหัวปั่นเลย ไอ้พวกปากหนัก ปากไม่ตรงกับใจเนี่ย แสนจะน่าหมั่นไส้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 12-03-2011 14:35:56
^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 12-03-2011 14:51:04
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 12-03-2011 15:03:34
ภาคีจะทนได้นานแค่ไหนนะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 12-03-2011 15:05:46
คนแบบภาคีหาได้จากที่ไหนบ้างจ้าเค้าอยากได้บ้าง(จะเหลือเรอะ :laugh:)
ชอบตรงที่รักทนรักนานนี่แหละ :-[
+1จ้า ชอบทั้งสีฟ้าและภาคีมาก :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 12-03-2011 15:45:10
 :L2:มาต่อให้ไวๆ จะรอดูว่าตินจะทนได้นานแค่ไหน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: maio2000 ที่ 12-03-2011 16:54:29
ให้ตายเถอะ น่ารักมากๆ แบบปากไม่ตรงกับใจกันเลย
ถ้าเปิดใจพูดกันดีๆ จะไ้ด้กันไมเนี่ย
ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Frog ที่ 12-03-2011 17:00:04
แอร๊ยยยยยยยยยยย น่ารักๆ

 :pig4: เป็นกำลังใจให้คั้บ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 12-03-2011 17:01:48
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เริ่ดๆเชิ่ดๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-03-2011 17:51:35
ลมหาเรื่องใส่ตัวได้ตลอด แอบสงสารตินนิดนึงนะ แต่ตินก็รักลมจริงๆ นี่นา รีบๆ บอกให้ลมรู้ซะทีนะติน เดี๋ยวจะสายไปซะก่อน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jeaby@_@ ที่ 12-03-2011 17:54:25
ที่จริงลมก็อยากให้ตินมาเเตะๆกอดๆละซิ ห้าๆๆๆๆ
อยากให้กัดกันอีกนิดๆ ลมน่ารักดี

ชอบเรื่องนี้มากค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: teae ที่ 12-03-2011 18:00:04
nc  อยากอ่านมากๆๆๆ  อิอิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 12-03-2011 18:04:47
กะแวะมา บวก หนึ่ง  ให้ทุกๆเม้นท์ แต่ปรากฏว่า มีlimit ได้เฉพาะเม้นท์ในหน้า 2  เดี๋ยวพรุ่งนี้ เม้นท์ที่น่ารักหน้าสาม จะตามมาค่ะ

ขอบคุณ มากๆทุกตนนะค่ะ แอบเห็นชื่อใหม่ๆด้วยดีใจอ่ะ แล้วเจอกันวันจันทร์นะค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: money loving ที่ 12-03-2011 19:24:18
เนื้อเรื่องน่ารัก มากมากคับ และ หน้าติดตามป็นอย่างยิ่ง
เป็นกำลังใจให้คนแต่งละก็คนโพสด้วยนะคับ  :L2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 12-03-2011 19:59:31
ยาวมากกกกกกกก

แต่ลมเล่นแรงอ่า

สงสารตินจริงๆๆๆงานนี้

โดนคนที่รักแกล้งแบบนี้อ่า

ตินจัดการลมไปเลย 5555+
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mahmeow ที่ 12-03-2011 20:00:14
อ่านตอนที่คุณหนูลมขอแหวนแล้วเหวอมากเลยคะ..55+
นี่ถ้าเค้าซื้อให้เจ้าสาวแล้วจะมาของ่ายๆอย่างงี้ได้ไงเนี่ย...
แถมกะจะยึดมันทุกวงเลย...โอ้โหย...น่ารักแต่แสบสุดๆอะคะ..55+
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 12-03-2011 20:46:30
เป็นกำลังใจให้ทั้งคุณติน คุณลม  :oo1:
 :pig4:คนโพส คนแต่งจ้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 12-03-2011 22:21:54
 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 13-03-2011 19:39:36
ระวังนาคุณลมแผนจาเข้าทางตินนา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 14-03-2011 15:13:06
สีฟ้าจ๋าระวังไว้เหอะ แผนที่วางไว้มันย้อนกลับเข้าตัวเองนะ
แล้วอย่างนี้ภาคีจะทนไปได้อีกนานแค่ไหนกันนะ จับปล้ำไปเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 14-03-2011 15:20:27
อยากอ่านต่อแร้ววววววววววววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kslave ที่ 14-03-2011 18:11:04
สนุกมากค่ะ ลมน่ารักดีน้าาา
หนูลมนี่เป็นคนไม่ยอมคนจริงๆ
ช่างวางแผนอีกต่างหาก
แต่แผนแต่ละอย่างนี่เข้าทางตินตลอด   :z1:

คุณตินก็สุภาพบุรุษเหลือเกิน ไม่รู้ทนได้ยังไง

เอาใจช่วยคู่นี้ให้เข้าใจกันเร็วๆละกันค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 5 แต่งงาน [12/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 14-03-2011 18:18:42
สุภาพบุรุษเกินไปแล้วนะติน จับกดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

สีฟ้านี้ก็เหลือเกินนะดือจริงๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 14-03-2011 19:08:32
ตอนที่ 6




เตียงที่เคยนอนได้สบายๆ มาตอนนี้มันกลับแคบไปถนัดตา เพราะภาคีต้องมีอีกหนึ่งคนเข้ามาร่วมใช้มันด้วยกัน

สีฟ้าในชุดเสื้อเซิ๊ตสีขาวตัวใหญ่โคร่ง เสื้อตัวนี้เป็นของภาคี หนุ่มหน้าหวานแอบหยิบมาใส่เป็นชุดนอนสำหรับปฏิบัติการยั่วคืนนี้ เสื้อตัวใหญ่ขับให้คนตัวเล็กยิ่งเล็กลงไปอีก หนำซ้ำกระดุมยังถูกปลดออกจากรังดุมถึงสามเม็ด และมันก็โชว์ผิวเนื้อเรียบนวลขาวกระจ่างได้อย่างงดงาม เพราะตั้งใจแล้วนี่ว่าจะแกล้งยั่วคนไร้ความรู้สึกให้ได้  ดูสิว่าจะอดใจได้ไหมเมื่อเห็นเขาอยู่ในชุดล่อแหลมเช่นนี้

ถ้ายังอดใจไหว   ก็คงเป็นกามตายด้าน

สีฟ้าพยายามเดินไปมาอยู่นาน หยิบโน่น หยิบนี่ เพื่อเรียกสายตาของภาคีให้มองมาที่เขา แต่อีกฝ่ายก็เหมือนจะเห็นหนังสือในมือสำคัญกว่าคนอยากยั่ว  เสียเวลาเดินไปมาอยู่นาน สุดท้ายสีฟ้าก็เดินมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียง  ชายหนุ่มพยายามนอนในท่าที่คิดว่าเซ็กซี่ที่สุด ทั้งที่ไม่รู้ว่าแบบไหนมันจะเรียกว่าเซ็กซี่  เพราะเกิดมาเขาก็นอนในท่าเป็นปกติทั่วไป เขาดึงชายเสื้อให้สูงขึ้นกว่าเดิม อวดเรียวขาสวยเนียนไม่ต่างจากผิวเนื้อส่วนอื่นๆ  ของเรือนร่าง

ท่ายั่วนี้ไม่มีใครสอน เขาคิดค้นมันขึ้นมาเอง

ภาคีขยับกายไปจนสุดขอบเตียง พยายามบังคับสายตาให้อยู่แค่ตัวอักษรบนหนังสือเล่มที่กำลังอ่านอยู่ เมื่อร่างบางได้สัดส่วนของสีฟ้ามานอนอยู่ใกล้ๆ ภาคีรู้สึกถึงกลิ่นหอมอ่อนจากร่างยั่วยวนนั้น มันหอมเสียจนเขาหัวหมุน ผิวเนื้อที่โผล่พ้นชุดนอนตัวบางนั่นอีกเล่า ข้างในนั้นใส่อะไรบ้างไหม นึกอยากเปิดดูนัก

สีฟ้าตั้งใจจะยั่วเขาหรือไง  ดูน้ำเสียงที่ถามนี้อีก

“อ่านเรื่องอะไรอยู่เหรอ” หนุ่มหน้าหวานทอดเสียงหวานถาม พลางใช้ข้อศอกยันตัวเองขึ้นมา ขยับร่างหอมกรุ่นเข้าไปใกล้ พร้อมทั้งชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ จนใบหน้าอยู่ห่างจากหน้าของภาคีไม่กี่นิ้ว

ตาเรียวชะม้อยมองหวานเชื่อม ทำเหมือนอยากรู้ว่าภาคีกำลังอ่านอะไร แต่ความจริงแล้วสีฟ้าต้องการให้ภาคีได้กลิ่นหอมจากตัวของเขามากกว่าเดิมเท่านั้นเอง พลางเอื้อมดึงหนังสือออกจากมือภาคี จัดการปิดมันลง แล้วเอี้ยวตัวผ่านร่างกำยำอย่างจงใจ เพื่อวางหนังสือลงบนโต๊ะข้างเตียง

ภาคีหายใจติดขัด เมื่อผิวเนื้อนวลสัมผัสถูกอกกว้างของเขา แล้วดูเหมือนเสื้อตัวใหญ่กว่าเจ้าของเกือบเท่ายังทำท่าจะเลื่อนหลุดจากไหล่กลมกลึงนั่นอีก มันเผยให้เห็นแผ่นอกสวยมากขึ้น เลือดในกายมันวิ่งพล่านขึ้นมาทันที

ถอดเลยดีกว่าไหม..... คุณลม

ยั่วผมใช่ไหม?

ภาคีอยากถามประโยคนี้กับร่างเล็กน่ากอด  รู้หรือเปล่าว่าทำแบบนี้มันจะไม่ปลอดภัยกับตัวเอง จงใจหรือไม่รู้ตัวกันแน่ ขอให้เป็นอย่างหลังเถอะ  เขาจะได้ควบคุมตัวเองได้ง่ายขึ้น ถ้าจงใจยั่วกันจริงๆ เขาไม่อยากรับประกันความปลอดภัยใดๆ

เขาไม่ใช่รูปปั้นไร้ความรู้สึก  ความต้องการมันพุ่งทะยาน  ส่วนล่างของเขาก็เริ่มแข็งขืน  จนอยากทำอะไรสักอย่างให้มันบรรเทาลง

“นอนเถอะนะ ง่วงแล้ว”  สีฟ้าทอดเสียงหวานบอกอีกครั้ง  โคมไฟตรงหัวเตียงดับลงด้วยฝีมือสีฟ้าเช่นเคย

สีฟ้าทำใจกล้ายิ่งขึ้น เบียดร่างเข้าแนบร่างกำยำ  ภาคีไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อตัวเขาถอยร่นจนมาสุดขอบเตียงแล้ว ขยับอีกทีคงจะได้ไปนอนกองบนพื้น สุดท้ายชายหนุ่มจึงฝืนทำใจแข็ง แล้วหลับตา จิตนาการว่าเขากำลังนอนอยู่บนเตียงคนเดียวเช่นทุกคืน  แม้กลิ่นหอมอ่อนๆ และเนื้อนวลจะลอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆก็ตาม

แขนเรียวยาววางแผ่วเบาบนอกกว้าง ลมหายใจอุ่นเป่ารดแก้มสาก สีฟ้าจงใจยั่วภาคีอย่างสุดตัว อยากรู้นักว่าภาคีจะใจแข็งไปได้สักกี่น้ำ ถ้ายั่วได้สำเร็จเมื่อไหร่เขาก็จะเลิก แล้วเผ่นกลับไปนอนที่บ้านเขาทันที

“นายกอดฉันหน่อยสิ” สีฟ้าขยับเข้าใกล้อีก ปากสวยกระซิบแผ่ว “ฉันหนาว”

“คุณลม” เสียงภาคีแหบพร่า กลืนน้ำลายลงคอแทบไม่ทัน เมื่อเสียงนั่นกระซิบอยู่ข้างใบหู ก่อนที่ปากบางจะสัมผัสเข้ากับผิวหน้าของเขา

จงใจหรือพลาดกันแน่  

“ปิดแอร์ดีไหมครับ” พยายามจะบอกตัวเองว่าเป็นเพราะความเย็นที่เกิดจากเครื่องปรับอากาศ ที่ทำให้ร่างบางเกิดอาการหนาวและต้องการความอุ่นจริงๆ ไม่ได้หวังอย่างอื่นจากเขา

“ไม่”

ภาคีทำท่าจะลุกขึ้นไปปิดแอร์อย่างที่พูดไว้ แต่สีฟ้ากลับรั้งคนซื่อให้ล้มลงมานอนเหมือนเดิม

“อยากให้นายกอด” เสียงหวานกระซิบอยู่ข้างหูด้วยคำเดิมๆ ทันทีที่ภาคีล้มตัวไปนอนบนเตียงนุ่มตามแรงดึงอันน้อยนิดของเขา แต่นั่นมันก็มากพอที่จะทำให้ภาคีไม่อาจฝืน พร้อมกับการกระทำที่เกินจะหักห้ามใจ หรือหาเหตุผลอะไรมารองรับ

ความอดทนขาดสะบั้นทันที ร่างที่กำยำกว่าขยับเข้าหาร่างบางโอบกอดอย่างห้ามใจไม่อยู่ ไม่ใช่พระอิฐนะ  พระปูนก็ไม่ใช่ สีฟ้ายั่วเขา ไม่ผิดแน่ๆ ยั่วทำไม ไม่อยากรู้เหตุผลมันแล้ว เพราะเขาควบคุมอารมณ์ดิบร้อนที่เร้นอยู่ภายในไม่ไหวแล้ว มันวิ่งพล่าน ราวกับโหยหา

ภาคีพลิกให้คนช่างยั่วตกอยู่ภายใต้ร่างกำยำของเขา พร้อมกดทับให้แนบชิด ประทับริมฝีปากอุ่นอ่อนไปทั่วหน้านวล ซอกซอนหาความหอมจากซอกคอหวาน
 ติ่งหูนิ่มน่าลิ้มลอง ก่อนมาหยุดอ้อยอิ่งตรงริมฝีปากอิ่มแสนยั่วยวน กดเม้น กดคลึง แต่ไม่ได้แทรกสอด เพราะปากบางนั้นไม่ยอมเปิดทางง่ายๆ เขาจึงเปลี่ยนจากตรงนั้น เป็นตรงอื่น

ซอกคอ

แผ่นอก

ซอกคอ

แผ่นอก

ซ้ำแล้วซ้ำเล่า วนเวียน เหมือนคนไม่เคยพอ กลิ่นหอมอ่อนเย้ายวน อยากถอดถอน มันเป็นความต้องการที่มีมาเนิ่นนาน เมื่อมีโอกาส เขาไม่ยอมปล่อยให้ผ่านเลยไปง่ายดายแน่ๆ

ปากทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ส่วนมือใหญ่ก็ไม่เคยน้อยหน้า มันลูบไล้ เคล้นคลึงผิวเนียนนุ่นมือ เสื้อตัวรุงรังถูกเขาจับโยนทิ้ง เหลือเพียงกางเกงตัวจิ๋วห่อหุ้มส่วนหวง ร่างกายยั่วยวนเมื่อครู่กำลังสั่นระริกอยู่ในอ้อมกอดเขา สบตาคู่นั้นในความสลัว เห็นแววตาแวววับตื่นตะนกฉายชัดกับอาการแข็งขืนต่อต้านของคนที่ตกอยู่ใต้การควบคุม แต่ภาคีหยุดความต้องการไว้ไม่ได้ ความควบคุมมันหมดสิ้นไปนานแล้ว

ในเวลาอันรวดเร็ว เรือนตัวเขา และ เรือนกาย ของอีกคน เปลือยเปล่าด้วยฝีมือของเขาคนเดียว ก่อนจะก้มลงแสวงหาความหวานจากผิวเนื้อนั้นอีกครั้ง ไม่สนมือเล็กที่เหมือนจะเพิ่งนึกได้ว่าต้องต่อต้านการกระทำของเขา

สีฟ้าใช้มือเรียวดันอกกว้างเอาไว้ ดูมันจะมากเกินกว่าที่คิดไว้ เนื้อตัวรุ่มร้อนที่สัมผัสมันทำให้สั่นหวิว เนื้อตัวของเขาเปลือยเปล่าโดยที่เขาทักท้วงอะไรไม่ได้เลย มันรวดเร็วเกินไป

ผิวเนื้อถูกลิ้นชื้นลากไล้ ขยับหนีก็เหมือนยั่วยุให้ไล่ตาม แล้วถูกต้อนให้จนมุม  

“อย่า” เขาขยับขืนตัวดันแผ่นอกกว้าง ส่วนบนว่าแนบชิดแล้ว แต่ส่วนร่างมันยิ่งแนบแน่น บดเบียนจนตื่นตัว อะไรบางอย่างก็แข็งขืนทิ่มเขาอยู่ให้นึกอาย ไม่กล้าสบตา

“คุณยั่วผมเองนะ” บอกเสียงแหบพร่า ต่อให้โลกระเบิดขึ้นมาในตอนนี้ ภาคีก็ไม่มีวันปล่อยคนหน้าหวานให้เป็นอิสระเหมือนสองครั้งที่ผ่านมาแน่นอน

สองครั้งก่อนหน้านั้น ภาคียังพอทำใจหักห้ามได้ แต่ครั้งนี้มันต่างกัน เรือนกายที่เปลือยเปล่ามันยากหักห้าม ความต้องการของเขามันก็ต้องการการปลดปล่อยเต็มทน

ปากหยักของภาคีปิดลงบนปากนุ่มอีกครั้ง  มันทั้งอบอุ่นและหนักแน่น สีฟ้าครางคัดค้าน ดิ้นรนดันร่างกำยำออกห่าง ไม่คิดเลยว่าเขาจะสู้แรงของภาคีไม่ได้ หรือว่าเขาคิดผิดที่ยั่ว

“ไม่...อะ...อื้อออ”

สีฟ้าไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะผลักไสภาคีให้ถอยออกไปได้ โดยเฉพาะตอนที่ภาคีกำลังแนบแน่นบนร่างของเขา

เพียงเท่านั่นแหละที่สีฟ้าพูดออกมาได้ มันเป็นถ้อยคำสุดท้าย ก่อนที่ทุกอย่างมันจะเป็นไปตามความต้องการและยินยอม

สองมือเรียวยาวโอบรัดร่างกำยำ เบียดกายเข้าหาสัมผัสของอีกฝ่าย เมื่อถูกรุกเร้าให้รุ่มร้อนจนถอนตัวจากความวาบหวานนี้ไปไม่พ้น  


จะดีใจดีไหมที่แผนการสำเร็จ

ยั่วภาคีได้

แต่สิ่งที่เกิดตามมาล่ะ มันจะคุ้มไหมกับการเอาชนะเล็กๆ น้อยๆ ครั้งนี้ของสีฟ้า สีฟ้ายังไม่รู้เลย

แต่สิ่งที่สีฟ้ารู้ดีในตอนนี้ ตอนที่ริมฝีปากร้อน และลิ้นสากชื้น เลียไล้ไปแทบทุกตารางนิ้วของผิวเนื้อไร้อาภรณ์ห่อหุ้มนี้คือ.................

ความรู้สึกประหลาด วาบหวาน ร้อนรุ่ม หากแต่ชวนให้เคลิ้มไหว ลอยละลิ่วไปยังที่ไหนสักแห่งที่โอบล้อมด้วยความหวานที่สัมผัสได้ทางผิวเนื้อและหัวใจ

แรงปรารถนาอ่อนอุ่นทุกสัมผัส รุกเร้า ค้นหา ถ่ายทอดความรู้สึกจากข้างในออกมาเป็นการกระทำ ร่างบางที่เคยต่อต้านกลับเปลี่ยนมาเป็นตอบรับ โอบรับไออุ่นจากร่างกำยำ ตอบรับทุกสิ่งที่ชายหนุ่มหยิบยื่นให้

ความร้อนแทรกซึม

ความอ่อนหวานแทรกผ่าน

เนื้อแนบชิด

สองกายประสานประหนึ่งเรียกร้องหากันและกันมาเนิ่นนาน


....................................................................................

แสงสีส้มสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างเข้ามากระทบร่างบนเตียง ภาคีขยับตัวลุกขึ้นอย่างช้าๆ มองคนหน้าหวานที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างกาย เนื้อนวลสู้แสงสีส้มได้อย่างงดงาม

ชายหนุ่มปัดปอยผมตรงหน้าผากคนหน้าหวานอย่างเบามือ ก่อนประทับริมฝีอุ่นตรงแก้มนวลแผ่วเบา ด้วยกลัวว่าจะเป็นการปลุกอีกฝ่ายให้ตื่นขึ้นมา สีฟ้าควรได้พัก เมื่อคืนกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เขาเรียกร้องเอาจากร่างบาง และทุกครั้งที่เรียกร้อง สิ่งที่ได้คือการตอบรับแบบที่เขาแทบจะสำลักความสุขตายให้ได้ได้ จนเขาเองต้องเป็นฝ่ายหักห้ามใจตัวเองเอาไว้ กลัวร่างนี้จะรับไม่ไหวกับความต้องการที่เอ่อล้นเหมือนคนตะกละ ไม่เคยพอ

“คุณสวยมากนะครับ คุณลม” ภาคีพึมพำกับตัวเอง ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันที่เขาตื่นขึ้นมาแล้วเจอหน้าสีฟ้าเป็นคนแรก เคยคิดและฝัน แล้ววันนี้มันกลายเป็นความจริง ใบหน้าน่ารักแม้ยามหลับ แต่เขาอยากเห็นใบหน้านี้ยามตื่นมากกว่า  

หัวใจเขาเต้นแรง มันเป็นจังหวะเดียวกับเมื่อคืนไม่ผิดเพี้ยน

สีฟ้าเหมือนเด็กน้อยชอบการเรียนรู้

.............................................................................


เมื่อลืมตาขึ้นมาพบกับความว่างเปล่า สีฟ้าต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงสุดแสนเจ็บปวด มันเยือกเย็นจึงถึงขั้วหัวใจ เขาทำเรื่องน่าอายไปแล้ว มันผิดพลาดจนไม่น่าให้อภัย งี่เง่าที่พลาดท่าเสียเอง ทั้งที่คิดแค่จะยั่ว ไม่คิดว่าจะพลาด!!

พลาด!

พลาดจนได้!

สีฟ้าซุกหน้าลงกับหมอน น้ำตามันไหลออกมาอย่างง่ายดายและรวดเร็ว จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ถ้าภาคีรักเขา สีฟ้าจะไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ว่าภาคีรักนิรดา รักมากถึงขั้นจะแต่งงานกันด้วยซ้ำ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันเกิดจากการยั่วของสีฟ้าเอง มันไม่ได้เกิดมาจากความรักสักนิดหรือความต้องการของภาคีสักนิด

สีฟ้าซุกหน้าร่ำไห้อยู่นาน  พยายามทำใจแข็งรวบรวมความเป็นตัวของตัวเองกลับมา  เรื่องแค่นี้ทำอะไรสีฟ้าไม่ได้หรอก ชายหนุ่มพยายามคิดเช่นนั้น

..............................................................................




กลิ่นหอมโชยมาเข้าจมูก สีฟ้าเดินตามกลิ่นหอมเข้ามาถึงครัวท้ายบ้าน ถึงจะรู้สึกปวดแทบจะเดินไม่ไหว แต่เขาก็พยายามพาตัวเองออกมาจากห้องที่อ้างว้างนั้นจนได้  อาหารประมาณสามสี่อย่างถูกจัดเรียงอยู่บนโต๊ะเล็กกลางห้องเรียบร้อยแล้ว ข้างๆมีภาคีที่กำลังเงยหน้าขึ้นมามองเขา  ใบหน้าชายหนุ่มเรียบเฉยเหลือเกินในความคิดของสีฟ้า ขณะที่ภาคีลุกขึ้น เดินมาขยับเก้าอี้เลื่อนให้สีฟ้านั่ง ก่อนจะหันไปหยิบโถข้าวที่วางอยู่ใกล้

สีฟ้านั่งลงด้วยความยากลำบาก มองมือใหญ่ของภาคีที่กำลังตักข้าวใส่จานให้ ภาคีจะรู้ไหมว่ายามนี้เขาเจ็บทั้งตัวและเจ็บทั้งใจ เจ็บจนน้ำตามันไหล หากมันไม่ได้ออกมาข้างนอก มันล่วงหล่นอยู่ข้างในต่างหาก

“ขอบใจ”

ว่าพลางตักต้มจืดเข้าปาก ทำตัวให้เป็นปกติ เคยพูดสั้นๆ ห้วนๆ ยังไงก็ยังคงอย่างนั้น ไม่เหลือเค้าคนช่างยั่วเสียงหวานเมื่อคืนเลยนักนิด

“อร่อยดีนี่”

หลังจากนั้นบรรยากาศกลางโต๊ะอาหารก็เงียบเฉียบ มีเพียงเสียงช้อนกระทบจานดังผ่านความเงียบ  ภาคีตกอยู่ในความคิดของตัวเอง สีฟ้าก็เช่นกัน เขากำลังคิดว่าจะเล่นเกมนี้ต่อไปหรือไม่ เมื่อพบว่ามันกำลังจะดึงให้ต้องถลำลึกไปกว่าเดิม

แค่คืนเดียว คงถอนตัวออกมาทันได้น่า ไม่ต้องจับใส่ตะกล้าแล้วล้างน้ำ ก็คงไม่มีใครจับได้

..........................................................................


วันนี้ทั้งวันสีฟ้าไปคลุกอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ เพราะไม่ต้องไปทำงานถึงหนึ่งอาทิตย์ ส่วนภาคีนั้นต้องไปทำงานตามปกติ พอตกเย็นก่อนที่ภาคีจะกลับถึงบ้าน สีฟ้าก็รีบไปขนเสื้อผ้าบางส่วนออกมา คืนนี้เขาจะนอนที่บ้านของตัวเอง ไม่นอนไม่แล้วเรือนหอจอมปลอม ที่ทำให้เขาสูญเสียในหลายสิ่งหลายอย่างไป แล้วไม่อยากกลับไปเจอหน้าคนหน้าตาย ไร้ความรู้สึกพรรณนั้นด้วย

หรือบางทีเขาอาจจะอายเกินกว่าจะสู้หน้า

คำคืนที่มีคำหวานเฝ้าวนเวียนให้หลงเพ้อ ทว่าในตอนเช้ากลับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น



เมื่อภาคีกลับมาถึงบ้าน ทั้งบ้านจึงเงียบกริบเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา ครั้งแรกชายหนุ่มคิดว่าพอกลับมาเขาจะพบหน้าของใครบางคนที่มาวนเวียนอยู่ในหัวเขาทั้งวัน งานการเป็นอันว่าไม่ได้ทำมันเลย เอาแต่นั่งจ้องนาฬิกาว่าเมื่อไหร่จะถึง 5 โมงสักที เขาจะได้กลับมาเจอคนหน้าหวานที่ไม่เฉพาะแค่หน้าเท่านั้น แต่ทุกสัดส่วนและทุกสิ่งอย่างที่ประกอบกันเป็นสีฟ้า ช่างหวานหอมจนเขาอยากจะกินกลืนไว้ทั้งตัว แต่ว่าต้องผิดหวัง แต่แล้วต้องทิ้งความรู้สึกนั้นไปโดยเร็ว


-------------------------------------------------------------------------------------


“ลมจะนอนที่นี่ ลมจะนอนกับหลาน”

เสียงเอาแต่ใจดังขึ้น เมื่อสีฟ้าถูกคุณอุษาบังคับให้กลับไปบ้านของภาคี เพราะลูกชายคนเล็กหอบผ้าหอบผ่อนมานอนห้องเดิมหลายวันแล้ว ยังไม่มีท่าทางจะกลับ และภาคีก็ไม่ได้มาตาม

สีฟ้ากอดหลานชายเอาไว้เป็นเกราะ หลายคืนมาแล้วที่เขาอ้างเอาหลานชายมาเป็นตัวช่วย เพื่อจะไม่กลับไปนอนบ้านหลังนั้น
 
“ใช่ไหมครับน้องอ้น” ก้มหอมแก้มหลานชายไปหนึ่งฟอด คนเป็นแม่มีหรือจะไม่รู้ว่าลูกชายกำลังเกเรเรื่องอะไรอยู่  

“คับ อ้นจานอนกับอาลม” หลานชายบอกเสียงใส แต่ดูเหมือนของเล่นในมือของพี่เลี้ยงสาวจะดึงความสนใจมากกว่า เจ้าตัวน้อยจึงตะเกียกตะกายลงจากตักของคนเป็นอาไปหาของเล่น

“น้ำฝนเอาตาอ้นไปหาแม่เค้าก่อนไป” คุณอุษาหันไปบอกสาวใช้

“งอนอะไรตาตินอีกล่ะหะ” คุณอุษาหันมาจัดการลูกชายตัวดีต่อทันที หลังจากที่สาวใช้พาหลานชายของนางออกไปแล้ว นางโอบไหล่ลูกชายคนเล็ก ถามอย่างคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน

“เปล่าครับ”

“เปล่า ก็ต้องกลับสิ ลมแต่งงานกับตาตินแล้วนะ ทำตัวให้ดีๆ หน่อย อย่าก่อเรื่องกวนใจตาตินให้มากนัก”

ทำตัวดีๆ ?

เขาต้องทำตัวดีแค่ไหนล่ะถึงจะเป็นคนที่ภาคีต้องการ โดยที่ไม่ต้องลงมือยั่วเช่นหลายคืนก่อนหน้านี้

ตอนนี้เขาเป็นคนไม่มีค่าที่ภาคีไม่ต้องการมากกว่า ดูสิ เขาไม่กลับบ้าน ภาคียังไม่ยอมมาตามให้กลับเลย เกือบเป็นอาทิตย์แล้วนะ คิดแล้วน้อยใจซะมัด  

“ไม่เอา ห้ามเกเร”

คนเป็นแม่รีบดึงลูกชายให้ลุกขึ้น ลูกชายขืนตัวเล็กน้อย แต่ก็ยอมเดินตามแรงจูงของคนเป็นแม่ ก่อนจะถูกนำตัวไปส่งให้ภาคีถึงเรือนหลังเล็ก ตอนนี้นางทำใจได้แล้วล่ะว่ามีลูกเขย ส่วนคุณกฤษนะเหรอ รายนั้นนะ รับได้ตั้งแต่วันแรกที่รู้เรื่องแล้วล่ะ ออกจะชอบใจที่ได้ลูกเขยคนหล่อ นิสัยดี

“ตาตินมารับน้องที แม่ละเหนื่อยกับความแสนงอนจริงๆ” ว่าแล้วก็ส่งตัวสีฟ้าให้กับลูกเขยหน้าหล่อ

ภาคียื่นมือไปรับมือเล็กๆ หากแต่เจ้าตัวสะบัดพรืด ไม่ยอมให้จับ ก่อนสะบัดหน้าเดินเข้าไปในบ้าน

“แสนงอนแบบนี้แหละ เข้าใจน้องหน่อยนะตาติน แม่ฝากดูแลน้องด้วย มีอะไรต้องพูดกัน ขืนไม่พูดก็ไม่รู้เรื่องกันหรอกนะ เชื่อแม่” คุณอุษาเอ่ยปากบอก ก่อนจะเดินกลับไปที่บ้านของนาง ปล่อยให้คู่ชีวิตเขาคุยกันเอง นางทำได้แค่นี้แหละ


.........................................................................



สีฟ้าในชุดนอนเต็มยศ อันได้แก่ เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว แล้วก็มีเสื้อคลุมสีฟ้าตัวหนาซ้อนทับอีกชั้น ผูกปมไว้แน่น เดินออกมาจากห้องน้ำ คืนนี้เขาไม่ได้เดินกรีดกรายอวดเรือนร่างสวย ทันทีที่ออกมาจากห้องน้ำก็รีบซุกตัวใต้ผ้าห่มฝืนหนา นอนหันหลังให้ผู้ชายร่วมห้องอีกคน

เขาไม่อยากนอกในห้องนี้เท่าไร แต่ก็ไม่กล้าหอบผ้าไปนอนห้องคุณมณี ถึงแม้ว่าคุณมณีจะจากไปหลายปีแล้ว แต่คนขี้กลัวอย่างเขา ไม่กล้าไปนอนห้องนั้นแน่ๆ  

สีฟ้าทำตัวลีบซบหน้าลงกับหมอน ข่มความรู้สึกปวดร้าวจากซอกลึกของหัวใจไว้ เมื่อความสว่างจากโคมไฟหัวเตียงดับแสงลง ความมืดและเงียบเข้าครอบคลุม ดูเถอะ พอเขากลับมาภาคีก็ยังไม่ยอมพูดอะไร ออกมาจากห้องน้ำก็ยังนิ่ง นอนอยู่ด้วยกันแท้ๆแต่ก็ไม่ยอมแตะต้องตัวเขา เมื่อเขาไม่ยั่วภาคีก็ไม่สนใจ มันน่าน้อยใจไหมล่ะ พลันน้ำตามันก็ไหลออกมาเงียบๆ

สีฟ้าพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ กลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน

ภาคีได้ยินจริงๆนั่นแหละ ชายหนุ่มขยับเข้าไปใกล้ รั้งไหล่ที่สั่นเทาของสีฟ้าให้หันมาเผชิญหน้า ดวงตาสวยที่เขาชอบมองมีน้ำตาคลอเบ้าสู้ความมืดสลัว

“ร้องไห้ทำไมครับ”

ประคองหน้ามนด้วยมือของเขา สบเข้าไปในดวงตาคู่สวยในความสลัว

“ฉันไม่ได้ร้อง”

ปฏิเสธเสียงอู้อี้ แต่มันไม่สามารถปิดปังความจริงได้

“คุณร้อง”

“ไม่ได้ร้อง”

ภาคีดึงตัวสีฟ้าเข้ามากอด ลูบไล้เรือนผมอย่างนุ่มนวล ยิ่งทำให้คนในอ้อมกอดร้องหนักขึ้น แรงสะอื้นเพิ่มขึ้น เขาเป็นคนขี้แยตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ  

“คุณโกรธผมเรื่องอะไร บอกผมได้ไหม”

ภาคีอยากจะถามคำถามนี้มาตั้งแต่สีฟ้าออกจากบ้านหลังนี้ไป แต่เขาไม่กล้า ไม่กล้าแม้จะไปตามกลับมา

ทำไมเขาถึงไม่กล้าจะไปตามสีฟ้าตั้งแต่วันแรกที่เจ้าตัวหอบผ้าหอบผ่อนกลับไปบ้าน เพราะเขากลัวสีฟ้าจะตอกกลับมาว่า เขามีสิทธิ์อะไรในตัวของสีฟ้าล่ะ เขาเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรจะไปบังคับคนที่ไม่อยากอยู่กับเขาให้กลับคืนมาสู่อ้อมกอด

เพราะกลัว ทำให้ไม่กล้า ......

หากเขาเลิกกลัว หากเขากล้ากว่านี้ เรื่องมันจะเป็นยังไงนะ

สีฟ้ากับคนธรรมดาอย่างเขา มันคู่ควรจะอยู่เคียงกันเหรอ??
แม้แต่ในแววตาสวยนั้นมีเขาอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้

“ถามฉันทำไม นายก็รู้”

น้ำเสียงติดจะน้อยใจ พลางขยับตัวหนี แต่อีกฝ่ายไม่ยอมปล่อย คืนนี้เขาจะขอทำใจกล้าสักครั้ง เพราะหลายคืนที่ผ่านมาเขาแทบนอนไม่หลับเลยด้วยซ้ำ เมื่อไร้เรือนกายหอมกรุ่นในอ้อมกอด เพียงกดกอดแค่คืนเดียวก็ทำให้เขาหลงงมงาย ถวิลโหยหา

“ผมไม่รู้ คุณลมช่วยบอกผมได้ไหมล่ะ”
“ก็...นาย...”

สีฟ้าพูดไม่ออก มันน่าอายไหมล่ะ ถ้าบอกว่าที่ร้องไห้เพราะน้อยใจที่ภาคีไม่นึกพิศวาสอะไรในตัวเขา เรื่องหลายคืนก่อนถ้าสีฟ้าไม่ยั่วภาคี เรื่องเสียหายให้อับอายคงไม่เกิดให้ไม่กล้าสู้หน้าด้วย

“ผมอะไร? ”

เขาถามย้ำ มองใบหน้าสวยที่อยู่ใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ กลิ่นที่เขาหลงรัก ไม่ต่างไปจากเจ้าของกลิ่นเลย รักมากขึ้นเรื่อยๆ เผลอจูบแก้มนวลอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่

“ไม่รู้ ปล่อยฉัน ฉันจะหลับ”
สีฟ้าเบี่ยงหน้าหนีริมฝีปากอุ่น ด้วยหัวใจเต้นตึ๊กตั๊ก คนบ้าทำเขาหวั่นไหวอีกแล้ว
“คุณยังไม่บอกผมเลย ว่าคุณโกรธผมเรื่องอะไร”

คล้ายริมฝีปากอุ่นจะไม่หยุดอยู่แค่แก้มนวลตามที่คิดไว้ทีแรก มันเริ่มขยับลามไล้ไปบนคอระหง และแผ่นอกภายใต้เสื้อตัวหน้าสองชั้นอย่างแผ่วเบา มือมันเหมือนเป็นไปโดยสัญชาติญาณความต้องการ ภาคีปลดอาภรณ์ที่ละนิด จนหลุดลุ่ย ปลุกอารมณ์บรรเจิดจนห้ามไม่อยู่

“นายอย่าทำอย่างนี้กับฉันนะ นาย...”

สีฟ้าระทวยอยู่ในอ้อมกอด และริมฝีปากแสนร้ายกาจของภาคีที่พาเขากระเจิงทุกครั้งที่ถูกสัมผัส ทั้งๆ ที่มีความหนาของเสื้อผ้ากั้นถึงสองชั้น แต่ภาคีก็ถอดมันอย่างชำนาญมือ โดยที่เขาแทบไม่ทันต่อต้าน หรือเพราะหลงเคลิ้มไปกับปากที่ต้อนให้จนมุม

หนุ่มหน้าหวานกำลังจะแพ้กับความอุ่นโยนที่ภาคีสร้างขึ้น รับรู้อยู่เต็มอกว่าแท้จริงต้องการสัมผัสนี้จากภาคีเหลือเกิน

“อื้อ...”

ภาคีหยุดตัวเองไม่ได้ ความต้องการมันมีมากล้น จะว่าเห็นแกตัวเขาก็ยอมรับ โอกาสมันลอยอยู่ตรงหน้า เขาไม่ใช่คนดีมากพอที่จะปล่อยให้สีฟ้าหลุดมือ เมื่อสีฟ้าเคยยอมให้เขาล้วงล้ำจนติดใจมาแล้ว หากมันจะมีอีกครั้งและอีกครั้ง มันคงไม่เป็นอะไรใช่ไหม? และเหมือนตัวความต้องการนั่นก็เต็มใจอยู่ในอ้อมกอดเขา สีฟ้าตอบรับได้อย่างน่ารัก

อารมณ์รักถูกเติมให้เต็มให้สมกับที่คิดคิดมานานหลายคืน และร้างไร้ร่างบางให้โอบกอด  



จบตอน


ปราบปลื้มซาบซึ้งใจมากมายสำหรับทุกคอมเม้นท์นะค่ะ    และขอบคุณสำหรับทุกคลิกที่แวะมาอ่าน  คาดว่าเราจะเจอกันวันพุธนะค่ะ(ถ้าน้องแอ๋วคนเขียนส่งต้นฉบับมาให้ถ้าติดขัดก็เป็นวันพฤหัสนะเจ้าค่ะ)
ปล . เป็นไงบ้างค่ะสำหรับ mini NC คนแต่งเค้าออกตัวว่าไม่สามารถ แต่ว่าแบบฉบับมินิพอได้ใช่มั้ยค่ะ  แต่ถ้าได้คอมเม้นท์กระตุ้น น้องแอ๋วคนแต่งอาจได้จัดเต็มให้  :oo1: :oo1: :haun4: จุบุๆ ha ha
+1 แทนคำขอบคุณทุกๆเม้นท์ในหน้านี้นะค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-03-2011 19:22:13
 :-[ไม่ไหวๆโดนแบบนี้บ่อยๆเลือดหมดตัวแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 14-03-2011 19:31:15
แอร๊ยยยย
มีอะไรกันแล้ว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 14-03-2011 19:32:17
 :-[
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: money loving ที่ 14-03-2011 19:37:44
ยั่วเค้าละก็เสร็จเค้าชะเองนะึุคุณลม
ว่าแค่คอนนี้อ่านแล้วหลากหลายอารมณ์นะ
แต่อารมณ์รักกำลังจะตามมาแระ
เขินเขิน  :o8:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 14-03-2011 19:50:04
ยั่วนักเสร็จภาคีจนได้เป็นกำลังใจให้คนเขียนมาต่อเร็วๆนะคะ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mahmeow ที่ 14-03-2011 19:52:51
คู่นี้รักกันแต่ไม่มีใครยอมพูดเลย...น่าสงสารจังคะ..
เอาใจช่วยดินเต็มที่เลย..บอกรักคุณหนูเร็วๆนะ...^ ^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 14-03-2011 20:24:54
น่ารักมาก ๆ ค่ะ สีฟ้าเจ้าเลห์ได้น่ารัก เข้าทางตินพอดี
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 14-03-2011 20:34:49
โหะๆๆๆ  ฮ่าๆๆๆๆ หุๆๆๆๆ


โดนนน จนได้นะคุณลม   :mc4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 14-03-2011 20:38:26
 :mc4:คราวนี้ก็เป็นสามีภรรยากันจริงๆแล้วสิ อิอิ ภาคีก็อย่ากลัวอะไรไป ลุยเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 14-03-2011 20:54:19
สะท้านนนนนนนน :haun4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: auau ที่ 14-03-2011 20:57:12
เพิ่งจะได้เข้ามาอ่าน

กรี๊ดดดดดดด..............ดิ้นปัดปัด


ฟื้นความทรงจำอยู่นานมาก  เค้ารักเรื่องเน้....555 
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 14-03-2011 21:09:09
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kslave ที่ 14-03-2011 21:30:50
หนูลมยั่วววว  :jul1:
โอ๊ววววว สุดยอดเลย

จะดีกว่านี้ถ้ารู้ใจกันนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 14-03-2011 22:19:32
แอบรักเธออยู่ในใจ
อุตส่าห์ได้มาอยู่ด้วยกันแล้ว
หันหน้าพูดคุยกันซักนิด เปิดเผยความในใจกันซักหน่อย
ทุกอย่างก็จะเป็นไปด้วยดี
งอนกันแบบนี้ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ
รีบมาต่อตอนหน้าเร็วๆนะคะ และจัดNCให้ด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 14-03-2011 22:21:01
นู๋ลมยั่วพี่ตินเองนะเนี่ย...ถึงไม่ยั่วพี่ตินก็หลงจะแย่อยู่แล้ว

+1 ให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 14-03-2011 22:36:50
 :z1: ยั่งเองโดนเองเลย

ฮ๋าๆๆๆๆ

แต่แอบสงสารสีฟ้าเนอะ ไม่รู้อะไรเลยอ่า

เมื่อไหร่จะเข้าใจกันสะทีอ่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 15-03-2011 00:22:59
อยากหัวเราะน้องลมใจจะขาดอ่ะ แต่คงโดนเชิดใส่
และคสม.ตินคงกระทืบซ้ำ


น้องค่ะ น้องซึนฯมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ทำเอาสงสารตินไปชั่วขณะนึง แต่ต่อมา...
เออ กำไรดีวุ้ย
แล้วก็นึกถึงเพลง

ทนกับตัวเองมานานเหลือเกิน ใครๆเขาก็ยังเมิน ไม่แปลกใจเลยที่ไม่มีคู่ครอง
เธอมีใครหลายคนหมายปอง ฉันเองก็ยังคอยมอง แต่ไม่กล้าเหมือนเดิมจะทำฉันใด

ถ้าหากรักนี้ ไม่บอกไม่พูดไม่กล่าว แล้วเค้าจะรู้ว่ารักหรือเปล่า อาจจะไม่แน่ใจ
อยากให้เขารู้ ฉันคงต้องแสดงออก ไม่ใช่ให้ใครเค้าบอก หรือว่าให้เค้าเดาเองว่ารักเธอ (เธอต้องรักเขา)

ทนอึดอัดใจมานานหลายปี ไม่กล้าใกล้เธอซักที เจอกี่ครั้งก็ยังเป็นอยู่เช่นเคย
คุยกับตัวเองทำไมต้องกลัว เจอทีไรใจมันเต้นรัว ทั้งที่บอกกับตัวเองเรื่อยมา


เพลง แค่บอกว่ารักเธอ - หมีพูห์
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Mafia Mania ที่ 15-03-2011 00:34:32
ต่างคนต่างรัก ขอให้รู้ใจกันเร็วๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 15-03-2011 00:52:24
^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 15-03-2011 08:20:48
อร๊างๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลิกปากหนักแล้วก็เปิดใจพูดๆกันให้เข้าใจนะคะเผื่อคนอ่านจะได้NCแบบจัดหนักบ้างอะไรบ้าง

แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 15-03-2011 09:17:23
ใช้ภาษาพูดคุยกันไม่ค่อยเข้าใจ แต่พอใช้ภาษากายคุยกันเท่านั้นแหละ o13
กีสสสส น่าร๊ากกกก ขอบคุณนะคะ :man1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 15-03-2011 09:43:39
นี่ขนาดแค่ mini เลือดยังเกือบหมดตัวเลยค่ะ
เป็นไงล่ะแกล้งเค้าแต่ตัวเองโดนเองซะงั้น
แล้วก้อแอบน้อยใจเค้าอีกต่างหาก เฮ้อสีฟ้าเอ๊ย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jeaby@_@ ที่ 15-03-2011 09:54:12
น่ารักมากๆๆๆๆเลยค่ะ
ชอบน้องลม รักเค้าก็รัก น้อยใจ ขี้งอน ชอบนายเอกเเบบนี้จังเลย

พระเอกก็เท่

พูดออกมากันเถอะรักนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 15-03-2011 10:01:16
กล้าๆหน่อยดิ ติน

คุณลมเริ่มใจอ่อนแล้วว


--------------

รอตอนต่อไปนะคะ :z2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 15-03-2011 10:32:16
ลมไม่ต้องลงทุนยั่วตินก็หลงจนไปไหนไม่รอดแล้ว :laugh:
mini nc น่ารักมากเลย ให้อารมร์แบบหวานๆ :-[
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 15-03-2011 11:21:12
ชอบอะ สนุกมากกกก นายเอกซึนได้ใจ อิอิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 15-03-2011 11:59:23
nc แค่นี้ก็จิ้นไปไกลแว๊ววว
เมื่อไหร่คู่นี้เค้าจะคุยกันรู้เรื่องหล่ะเนี่ยยย ฮ่าื ฮ่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 6 ยั่ว [14/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 16-03-2011 17:52:55
วันพุธแล้ว
มารอสีฟ้าภาคี
ชอบจังเรื่องนี้ :really2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ จริงเหรอ? [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 16-03-2011 18:53:03
^
^
มาแล้วค่ะ  

ตั้งแต่เม้นท์ที่ 77 ขึ้นไปบวก 1 แทนคำขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้นะค่ะ




ตอนที่ 7




รุ่งอรุณโชยกลิ่นหอมเข้ามาปลุกร่างบาง ซึ่งตกอยู่ในอ้อมกอดอุ่นของร่างกำยำมาทั้งคืน ครั้งพอจะขยับตัวคว้าผ้านวมผืนหนาที่หมิ่นเหม่อยู่ตรงช่วงเอวค่อดขึ้นมาปกปิดกายส่วนบนเอาไว้ กลับกลายเป็นการปลุกคนร่วมเตียงให้ตื่นขึ้นมาจนได้

ความเขินอายของสีฟ้าวิ่งแล่นแทบจะกระโจนออกมาดีดดิ้นอยู่บนเตียง เมื่อภาคีเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ
 ปากหยักคลี่ยิ้มที่เต็มไปด้วยความรู้สึกถึงความหอมหวานในยามรุ่งเช้า

ใบหน้าหวานขึ้นสีหวาน เมื่อตาสบตากับคนที่กอดเขาไว้ทั้งคืน คนเคยกล้าทั้งปากทั้งใจเป็นฝ่ายแพ้สายตาที่ทอดมองราวกับจะกลืนกินให้หมดเนื้อตัว

สีฟ้าเปลือยแล้วภาคีก็เปล่าภายใต้ผ้านวมที่มือเล็กดึงขึ้นมาห่มตัว ปกปิดร่องรอยที่เกิดขึ้นในยามค่ำคืน ไม่ว่าจะเป็นรอยจ้ำสีแดงบนผิวเนื้อเนียนของสีฟ้า หรือรอยจิกและข่วนยาวตามแผ่นผิวแกร่ง ยิ่งกว่านั้นเนื้อตัวที่เปลือยเปล่า มันก็เสียดสีกันให้อุ่นและรุ่มร้อนไปพร้อมๆ กัน

“ตอบผมได้หรือยังครับ ว่าคุณลมโกรธผมเรื่องอะไร”

ภาคีกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของร่างในอ้อมกอด พร้อมกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ผิวเนื้อของสีฟ้าที่สัมผัสถูกไม่ว่าจะเป็นเบื้องบนหรือเบื้องล่าง ล้วนทำให้อะไรในตัวของเขาตื่นตัวไปหมด ชายหนุ่มขโมยความหวานและนุ่มจากแก้มนวล เขาตื่นนานแล้ว ตื่นก่อนคนหน้าหวานที่หนีหายจากอ้อมกอดเขาไปเกือบอาทิตย์ซะด้วยซ้ำ

วันนี้เป็นวันเสาร์ เขาไม่ต้องรีบไปทำงาน มีเวลานอนกอดร่างนี้ให้สมใจยาก แม้ว่าอีกฝ่ายจะดิ้นหนีอ้อมกอดเขาก็ตาม แต่ไม่มีทางหนีพ้น
 เมื่อคืนอ้อนเขาแค่ไหน รู้ตัวบ้างไหม

สีฟ้าจะรู้ไหมว่า....

ค่ำคืนที่ผ่านมา ตนเองเรียกชื่อของเขาได้เพราะและหวานมากแค่ไหน

เสียงหวานนั้นเรียกชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ต่างจากเขาที่พร่ำชื่อของสีฟ้าอยู่แทบทุกห้วงลมหายใจ

เสียงครางนั้นก็เร่งเร้าให้เขาทะยานอยากและไม่เคยเพียงพอ แม้จะกลืนกินความเสน่ห์หานั้นเท่าไหร่ก็ไม่เคยเพียงพอเช่นกัน

ยิ่งแนบแน่นจนไม่มีช่องว่างเท่าไหร่ ก็เหมือนยิ่งเข้าไปสู่ห้วงหัวใจของสีฟ้าได้มากเท่านั้น

ยิ่งลึกซึ้งมากเท่าไหร่ ก็เหมือนยิ่งถูกยั่วยุให้ยิ่งลึกและซึ้งมากขึ้นอีกหลายร้อยเท่า

ยิ่งสร้างจังหวะการเคลื่อนไหวที่หวามหวาน ก็เหมือนจังหวะดนตรีที่สอดประสานกันได้อย่างลงตัว

ยิ่งเขากอบโกยมากเท่าไหร่ ทั้งเนื้อทั้งตัวของสีฟ้าก็เหมือนจะยินยอมพร้อมใจ ไม่หวง ไม่ห้าม ไม่หนีหาย มีแต่จะหยิบยื่นให้เขาไม่มีหมดสิ้น

ครั้งแรกที่ได้แตะต้องร่างนี้ ว่าหวานแล้ว หากครั้งนี้ ยิ่งหวานยิ่งกว่า ภาคีอยากรู้ แล้วค่ำคืนที่สาม ค่ำคืนที่สีหรืออีกหลายๆ ค่ำคืนต่อจากนี้ไป ความหวานที่กลืนกินมันจะทวีความเอร็ดอร่อยมากแค่ไหน


......... เขาอยากรู้ พอๆ กับอยากทำ เพื่อให้รู้!
 

สีฟ้าหยุดดิ้นแล้วจำยอมอยู่ในอ้อมแขนของเขา ทว่าเสียงหวานที่ได้ยินในยามค่ำคืนที่ผ่านมากลับเข้มขึ้นเหมือนคนถือดี ซึ่งเคยเป็นมาตลอด ต่างกับเวลาที่อยู่ร่วมเตียงเดียวกับเขาในยามลึกซึ้งกัน

“ปล่อยฉัน” สีฟ้าสั่งเสียงเข้ม ทั้งที่ในใจอดจะหวั่นไหวไม่ได้กับน้ำเสียงหวานๆ ของภาคีที่กระซิบอยู่ข้างหูของเขา แล้วยังกดกลีบปากหยักบนผิวแก้มเขาให้ช้ำเล่นได้อีก

“ไม่ปล่อยครับ ถ้าคุณลมยังไม่บอกว่าโกรธอะไรผม ถึงได้หนีผมไป” คำปฏิเสธของภาคีตอบออกมาอย่างนุ่มนวล แต่ฟังแล้วไม่น่ากลัวเท่ากับการกระทำที่รัดสีฟ้าให้แน่นยิ่งขึ้น และความตื่นตัวที่ทิ่มแทงต้นขาของสีฟ้าอยู่เบื้องล่าง เรียกให้ความตื่นตัวของเขาทำงานตามไปติดๆ

ปากหยักของภาคีงับกลีบปากล่างของสีฟ้าเบาๆ อย่างมันเขี้ยว เมื่อเห็นอาการหน้าขึ้นสีของอีกฝ่าย สีฟ้ากำลังเขินหรือว่ากำลังกดอารมณ์บางอย่างไม่ให้พุ่งพรวดกันแน่ เดาได้ไม่ยาก  


“ตอบผมมาก่อนสิครับ” มือใหญ่ลากผ่านแก้มนวล ก่อนที่นิ้วโป้งจะคลึงเคล้นอยู่ตรงมุมปากอิ่มหวาน แล้วไล่เรื่อยลงมายังผิวกายใต้ผ้านวมที่คลุมเรือนกาย ราวกับจะสำรวจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้ารอยสัมผัสที่สร้างขึ้นมาตลอดทั้งคืนกลั่นกรองเป็นคำรักได้ ปานนี้มันคงกองเต็มห้องเล็กๆ ของภาคีไปหมดแล้ว

“บอกมาซิครับ......อ่าา” ภาคีถอนมือออกจากเรือนกายเนียนลื่นดุจผ้าแพร เพื่อให้มันได้เกาะเกี่ยวเอวบางรั้งให้เข้ามาแนบแน่น อะไรๆ ที่สัมผัสกันทำให้หลุดคราง เพียงแค่หลุดครางออกเขาก็โดนสายตาคู่เรียวสวยตวัดค้อน ซึ่งไม่ได้น่ากลัวเลย กลับยิ่งน่ารักและอยากทำอะไรๆ ที่มากกว่าการกอด

“ว่าไงครับ” หน้าคมก้มเข้าไปใกล้ใบหน้าที่ก้มต่ำหนีสายตาของเขา ก่อนใช้มือเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน ริ้วรอยความอายบนผิวแก้มปรากฏตัวให้เห็น มองดูแล้วน่ารักเกินห้ามใจ  และเกินกว่าจะห้ามไม่ให้ริมฝีปากหยักหยอกเย้ากับใบหน้าหวานอย่างไม่หยุดยั้ง

แม้จะเป็นสัมผัสที่แสนเบาบาง แต่ก็ทำเอาเจ้าของวงหน้าสั่นไหวไปถึงข้างใน ยากต่อต้านการกระทำนั้นไว้ได้ ซ้ำร้ายเสียงที่พยายามจะเปล่งคำตอบออกมาก็ตะกุกตะกักเหลือเกิน

“ก็...นาย...ก็...นายไม่เคยสนใจตัวฉัน ถ้า....ฉัน...ฉันไม่ยั่ว....เอ่อ...นาย....นายก็คงไม่แตะต้องตัวฉัน”

ในที่สุดสีฟ้าก็พูดออกมาทั้งหมดอย่างใจคิด ปากที่ช่างหยอกเย้าหยุดโดยพลัน เพียงเพื่อเจ้าของมันจะใช้มันสร้างรอยยิ้มแสนอบอุ่นและเสียงหัวเราะที่ดังรับรุ่งอรุณสดใส  มันช่างเป็นรุ่งอรุณที่สดใสยิ่งกว่าครั้งใดๆ ที่เคยผ่านมา คำตอบของสีฟ้าทำเอาภาคีแทบอยากจะกู่ร้องดังให้ก้องโลก ตาคมฉายแววหวานล้ำ สีฟ้าเขินอายในความหมายลึกซึ้งนั้น เขาพลิกตัวหันหลังและขยับหนีให้ห่างเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่วายภาคีจะรั้งเอวบางเข้ามาแนบชิดเหมือนเดิม พร้อมวางคางสากลงบนไหล่บางอย่างรักใคร่

“ผมไม่คิดว่าคุณลมต้องการให้ผมแตะต้อง ถ้ารู้ ผมก็คง......จัดให้อีกหลายๆ ครั้ง”

พูดไปแล้ว ภาคีก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะพูดถ้อยคำสองแง่สองง่ามเช่นนี้ออกมาได้ ปกติเขาไม่ใช่คนแบบนี้ คงต้องโทษเจ้าของร่างบางที่เขาโอบกอดกระชับแน่นราวจะให้กลืนกายเป็นกายเดียวกันให้ได้ เรือนกายที่ทำให้เขามีความสุขทุกครั้งเมื่อได้สัมผัส ได้แสดงความรักทั้งหมดในหัวใจที่เขามีออกเป็นภาษากายในค่ำคืนอบอุ่นและอ่อนหวาน

ในห้องนี้ไม่ใช่สรวงสวรรค์แต่มันก็ทำให้เขาล่องลอยด้วยความสุขล้ำ......จนไม่อยากหยุดยั้ง

“บ้า” คำนี้แสนเบานัก มันหลุดออกมาจากปากคนอาย สีฟ้ากำลังอาย อายหนัก อายกว่าเดิม ยิ่งอะไรๆ ที่มันดุนดันอยู่ด้านหลังในตำแหน่งที่ชวนหวาบหวามให้สั่นสะท้าน อารมณ์ทะยานสูงสะท้อนความต้องการของร่างกาย...ยากห้าม

คนโดนกล่าวหาว่า ‘บ้า’ หัวเราะลั่น จับร่างบางให้หันหน้ามาทางเขา พลางยันตัวขึ้นมา ส่งแววตาหวานฉ่ำ บอกความหมายล้ำลึกให้ได้สีฟ้าได้อายมากยิ่งขึ้น

เคยเก่ง เคยกล้า มากแค่ไหน มาตอนนี้สีฟ้าก็เหมือนแพ้ภาคีไปหมดทุกทาง  

“ที่ผมบ้าก็เพราะคุณนะครับ คุณลม รู้ไหมคุณทำเอาผมแทบคลั่ง”

“บ้า” กำปั้นเล็กทุบลงบนอกกว้างเปลือยเปล่า “เห็นฉันเป็นพวกมักมากหรือไงหะ ปล่อยนะ...ฉันจะไปทำงาน”

สีฟ้าทำเสียงเข้มกลบเกลื่อนความอายทั้งหลาย มันน่าอายไหมล่ะ เนื้อตัวเปลือยเปล่าของภาคีกำลังคร่อมทับอยู่บนเนื้อตัวของเขา ซึ่งเปลือยเปล่าไม่ต่างกัน ผ้านวมผืนหนาก็ร่นไปอยู่ตรงปลายเตียงแล้ว เขาเอื้อมไปเอามันมาไม่ได้ เพราะถูกพันธนาการไว้ด้วยร่างกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามของภาคี

แล้วจะให้สีฟ้าทำอย่างไร ในสถานการณ์นี้ มันไม่ต่างจากทั้งสองครั้งที่ผ่านมาเลย ทั้งสองครั้งที่ผ่านมา คนร่างหนาตาหวานฉ่ำกอบโกยอะไรไปจากร่างกายของเขาบ้าง แล้วเขาล่ะ แทนที่จะต่อต้าน กลับให้ความร่วมมือเสียทุกครั้ง เผลออ้อนให้ต้องอายก็หลายครั้ง

จำได้ดีราวกับจดสลักในความจำว่า...เขาออดอ้อนเรียกชื่อภาคีไปไม่รู้เท่าไหร่ แม้แต่ห้วงสุดท้ายก่อนที่สติจะเลือนหาย ปากเขาก็ยังขยับชื่อนั้นออกมา แม้มันจะไม่หลุดเป็นเสียงออกมาเลยก็ตาม

‘ติน’

ปากเขาไม่เคยหยุดขยับเรียกชื่อนี้เลยจริงๆ

น่าอายจนไม่อยากสู้หน้า หากก็ถูกบังคับให้ต้องหันมาสบตา ฟังในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการบอกให้รู้ หรือกำลังหยอกเย้าเขากันแน่ สีฟ้าก็ยังไม่แน่ใจดีนัก  

“วันเสาร์ครับ ไม่ต้องไปทำงาน” ภาคีก็ดูเหมือนจะอารมณ์ดี เมื่อเห็นสีฟ้าดิ้นน้อยๆ อยู่ใต้ร่างของเขา ใบหน้าสวยยุ่ง แต่ก็ยังน่ารักเสมอ

สีฟ้าน่ารัก

สีฟ้าน่ารัก สมกับที่เขาหลงรักมาตลอด

“ปล่อยฉัน ฉันจะไปกินข้าว” สีฟ้างัดเอาข้ออ้างอื่นขึ้นมาสู้กับความหวานหวามที่อีกฝ่ายบรรจงมอบให้ ทั้งปากหยักและลิ้นสากวุ่นวายอยู่กับผิวกายของราวกับเป็นขนมหวาน ก่อนจะถอนตัวออกมา เพียงเพื่อให้หน่วยตามทำหน้าที่ขออนุญาตลิ้มรสให้สมกับอยาก ความหมายที่วาบหวามไม่ยากเกินจะเดาว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรจากร่างกายของสีฟ้า เบื้องล่างนั้นก็ฟ้องเพราะความแข็งขืนที่ทิ่มแทงที่ต้นขา ให้อารมณ์มันโหมลุกตามไปด้วยไม่ยาก


“ปล่อยฉันนะ ฉะ...อื้มม...”

ถ้อยคำต่างๆ ที่สีฟ้าตั้งใจจะพูดถูกกลืนกลับลงไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อความอ่อนอุ่นได้แนบชิดกับกลีบปากนิ่มสีสดของเขา ก่อนจะละเลียดลามไล้ซุกซนด้วยความหวานเข้าไปในโพลงปากนุ่ม สีฟ้าไม่อาจปฏิเสธความหวานยามเช้าที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้ จำต้องให้ความร่วมมือที่แสนหวานไม่แพ้กัน  

ยามเช้า คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว

“อยู่กับผมก่อนนะ คุณลมจะได้รู้ไงครับ ว่าผมต้องการคุณมากแค่ไหน” ภาคีเอ่ยขึ้นเบาๆ แนบชิดริมฝีปากหวานที่เขาสัมผัสไปเมื่อครู่

หมดทางหนีแล้วล่ะ สีฟ้ารู้ตัว ยามนี้สองมือของเขากำลังโอบแผ่นหลังหนาเอาไว้มั่น เพราะภาคีกำลังเริ่มต้นบทรักอีกครั้ง และมันช่างหวานเสียจนสีฟ้าลืมทุกอย่างไปหมดสิ้น


…………………………………………………………………….





หลังจากเช้าวันนั้น ทุกอย่างก็เหมือนจะเข้าทีเข้าทาง สีฟ้าไม่ต้องเรียกร้องความสนใจ หรือปลุกความต้องการของใครด้วยการยั่ว ในเมื่อภาคีกลับเป็นคนที่เรียกร้องเสียเอง สีฟ้าเพียงแค่หยิบยื่นสิ่งที่ภาคีต้องการก็เท่านั้น

แล้วใครบางคนที่สีฟ้าลืมไปในช่วงเวลาหนึ่ง กลับโผล่เข้ามาในวันที่เขาไม่ได้ตั้งตัวและเตรียมใจรับกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

“แพท”

“ลม มันไม่จริงใช่ไหม” น้ำเพชรถามเสียงสั่น ครั้งแรกที่ได้ฟังจากสาวใช้บ้านหลังใหญ่ เธอยังไม่เชื่อ ถึงต้องมาดูให้เห็นกับตา แล้วไงสิ่งที่เธอเห็น สีฟ้าอยู่ที่นี้จริงๆ

มีเหตุผลอะไรที่สีฟ้าต้องทิ้งห้องกว้างแสนสบายในบ้านหลังใหญ่ มาอยู่บ้านของภาคี บ้านหลังที่สีฟ้าพร่ำดูถูกเสมอว่าเล็กเท่ารังหนูอยู่เข้าไปได้ยังไง

ถ้าไม่ใช่เพราะ....

เพราะสีฟ้ากับภาคีใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ตามคำบอกของสาวใช้  

“ลม...มันไม่ใช่ ใช่ไหม...ลมกับตินไม่ได้....”

“แพท คือลม ลมแค่จะ....”

“ฉันโง่ใช่ไหมที่ไว้ใจเพื่อนอย่างเธอ ฉันโง่ใช่ไหม ลม เธอบอกฉันสิ ฉันโง่ใช่ไหม เธอทำกับฉันได้ยังไง เธอทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง เธอมันเพื่อนทรยศ ได้ยินไหมลม เธอมันเพื่อนทรยศ!” ถ้อยคำต่างๆ พรั่งพรูออกกับทั้งน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม น้ำเพชรรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง

สีฟ้าหักหลังเธอ!!

“เธอทำอย่างนี้ได้ยังไงลม เธอก็รู้ว่าฉันชอบติน แต่เธอ...เธอมันเพื่อนทรยศ”

สีฟ้ายืนนิ่งฟังถ้อยคำที่กรีดใจ ตาเรียวปิดลงเพื่อไม่ต้องเผชิญกับสายตาปวดร้าวของน้ำเพชร แล้วมือใหญ่ที่คุ้นเคยก็เข้ามาประคองร่างสั่นเทาของเขาเอาไว้ สัมผัสที่คุ้นเคย สีฟ้าเปิดเปลือกตาขึ้นมา สบตามองร่างสูงใหญ่ด้วยน้ำตาคลอเบ้า ภาคีกลับมาแล้ว เขารู้สึกอุ่นใจ อย่างน้อยก็ไม่เผชิญหน้ากับน้ำเพชรเพียงลำพัง  

“คุณลมเข้าไปข้างในก่อนนะครับ เดี๋ยวผมคุยกับคุณแพทเอง”

สีฟ้าแทบจะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว เพราะน้ำตาของน้ำเพชร เพราะคำพูดตัดพ้อของน้ำเพชร ทำให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นเพื่อนที่ร้ายกาจ เป็นคนเลวที่ทำกับเพื่อนได้อย่างเลือดเย็น ทั้งที่คิดไว้แล้วนะ คิดมาตลอดว่าเขาสามารถควบคุมความรักให้ซุกซ่อนอยู่ในเพียงแต่ข้างในได้ ควบคุมไม่ให้มันวิ่งออกมาเพ่นพล่านทำร้ายจิตใจของเพื่อนรัก แต่เขาก็ไม่สามารถทำมันได้เลย

โทษใครได้

โทษน้ำเพชรเหรอ?

โทษภาคีเหรอ?

มันไม่ใช่เลย ทั้งน้ำเพชร ทั้งภาคี ไม่ใช่คนผิด

เขาเองต่างหากที่ทั้งผิดและเลวอย่างที่ไม่สมควรจะให้อภัยได้ ปากบอกว่าทำเพื่อน้ำเพชร สุดท้ายแล้วจะมีใครรู้ดีเท่ากับตัวเขาเอง ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น ในห้วงของความจริงที่สุด เขาทำเพื่อตัวเองเท่านั้น

เขาอยากมีภาคี เขาจึงต้องทำทุกอย่างให้มีภาคีอยู่ข้างกาย

สีฟ้ารับรู้ถึงแรงกระชับที่ไหล่ของเขา ก่อนที่จะถูกคนร่างสูงที่ยามนี้ใบหน้านั้นนิ่ง ไร้ความรู้สึก ดูไม่ออกสักนิดว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ เขาไม่อยากเห็นสายตาตัดพ้อที่เจ็บปวดของน้ำเพชร เขาเลือกที่จะเดินหนีมัน หนีความผิดที่เขาทำลงไป ตามแรงประคองและพาไปของภาคี

--------------------------------------------------------------------------------------


“เชิญนั่งครับ”

ภาคีขยับเก้าอี้ให้น้ำเพชร พอน้ำเพชรนั่ง เขาก็เดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม หน้าหล่อที่มักจะมีแววนิ่งอยู่เป็นเนืองนิตย์ เวลานี้กลับเพิ่มความนิ่งเข้าไปอีกเป็นเท่าตัว

“เราคงต้องคุยกันจริงจังสักทีนะครับ คุณก็รู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณลม”

ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของชายหนุ่มจะเป็นปกติเช่นทุกครั้ง แต่แววตาของเขาจริงจังจนน้ำเพชรนิ่งเงียบไปพักใหญ่ เธอรู้ข้อนี้มานานแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นเด็ก เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ครั้งนั้นภาคีบอกว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ เพราะเขามีคนที่เขารักแล้ว และคนที่ภาคีรักคือสีฟ้า

ภาคีบอกเธอ หากเธอไม่เคยบอกให้สีฟ้ารู้


“แต่ลมไม่ได้รักคุณ” เธอบอก สิ่งที่ภาคีควรรู้ หวังว่าคำบอกนี้จะสั่นคลอนความรู้สึกของภาคีบ้าง ไม่มากก็น้อย

สีฟ้าไม่ได้รักเขา

ความจริงข้อนี้มันบาดใจภาคี เขารู้ว่าทำไมสีฟ้าถึงเอาตัวมาผูกพันกับเขา เพียงแค่ต้องการเอาชนะนิรดา หรือมากกว่านั้นคือการเอาชนะเขา ตามที่เจ้าตัวประกาศว่า ตนเองมีสิทธิ์ในตัวเขา มีสิทธิ์ในทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในรั้วบ้านของตนเอง

แล้วสีฟ้าก็ทำได้ เขากลายเป็นของสีฟ้า ตกอยู่ใต้การควบคุมของสีฟ้า แม้แต่สั่งให้เขาไปตาย เขาก็ยังทำเพื่อสีฟ้าได้เลย และตอนนี้เขากำลังกลัว กลัวว่า สีฟ้าจะยกเขาให้กับน้ำเพชร เหมือนที่เมื่อก่อนเจ้าตัวเคยทำมาตลอด

บางครั้งเขาก็อยากจะถามสีฟ้านัก สีฟ้าลงทุนมากมายขนาดนี้เลยหรือไง ยอมเอาตัวเข้ามาผูกมัดเขาไว้เพื่อจะได้มีสิทธิ์ในตัวเขา มันดูจะเป็นการลงทุนที่สูงไปเสียด้วยซ้ำ

ทำไมสีฟ้าต้องลงทุนถึงขนาดนี้ด้วย?

ภาคีไม่เข้าใจ....และไม่เคยเข้าใจมันเลย ตลอดเวลาที่ร่างบางอยู่ในอ้อมกอดของเขาทุกค่ำคืน เสียงหวานที่เอ่ยชื่อเขาทุกครั้งที่กายกลืนกลายจะเป็นเนื้อเดียวกัน ในเวลาที่เขาแทรกลึกเข้าไปในร่างของสีฟ้า ความอ่อนหวานที่เขาได้รับแทบสำลักความสุข สีฟ้าไม่เคยขัดขืนหรือบ่ายเบี่ยงในเวลาที่เขาเรียกร้อง

แม้มีความไม่เข้าใจอยู่มากมายเต็มหัวใจ แต่เขาก็ไม่ปรารถนาอยากรู้ให้คลายความสงสัย ไม่เคยคิดจะถาม เพราะกลัวความสุขมันจะหายไปในพริบตา เขาขอเป็นคนเห็นแก่ตัวตลอดไป เท่าที่จะมีความสุขให้เขากอบโกยเอาไว้

“ผมรู้ แต่ว่าเราสองคนคือคนเดียวกันแล้ว สักวันคุณลมก็ต้องรักผม เหมือนอย่างที่ผมรักคุณลม”

ใช่....สักวันเขาจะทำให้สีฟ้ารักเขา รักอย่างที่เขารักสีฟ้าหมดหัวใจ

“ความรักมันบังคับกันไม่ได้หรอกนะติน คุณก็รู้ ถ้าลมเจอคนที่เขารักจริงๆ วันนั้นลมก็จะไปจากคุณ แล้วคุณจะกลายเป็นคนที่ไร้ตัวตนในสายตาลมทันที คุณจะทนได้เหรอ?”

น้ำเสียงของน้ำเพชรมีแววสมใจ เมื่อเห็นสีหน้าอีกฝ่ายหมองลงไป

“ครับ ผมรู้ ความรักมันบังคับกันไม่ได้ เหมือนที่คุณกับคุณลมบังคับผมไม่ได้นั่นล่ะครับ”

“ลมอยู่สูงเกินกว่าที่คุณจะเอื้อมถึง” น้ำเพชรยังคงย้ำความจริงให้ภาคีจดจำ

“ผมรู้”

ภาคียอมรับข้อนี้ สีฟ้าสูงเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมถึง แต่ว่าตอนนี้สีฟ้าก็มาอยู่เคียงข้างเขาแล้ว เขาขอใช้ช่วงเวลานี้ตราบเท่าที่สีฟ้าจะยังต้องการเขาไว้ แม้เหตุผลของความต้องการของสีฟ้า เขาจะไม่รู้ว่าคืออะไรก็ตาม

เขาไม่อยากรู้....



----------------------------------------------------------------------------------------




ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม เสี้ยวจันทร์ระบายด้วยแสงอ่อน นั่นแหละภาคีถึงตื่นจากห้วงความคิดอันขมขื่นที่น้ำเพชรทิ้งเอาไว้ก่อนกลับไป

หลายชั่วโมงแล้วที่ภาคีไม่ขยับเขยื้อนไปไหน เขานั่งคิด เฝ้าวนเวียนอยู่กับคำพูดของน้ำเพชร

ภาคีปวดร้าวถึงความจริงข้อนั้น สีฟ้าเหมือนดวงจันทร์บนท้องฟ้า ส่วนเขาเหมือนก้อนหินบนพื้นโลก สักวันดวงจันทร์ต้องลาลับไป ทิ้งให้ก้อนหินเผชิญกับความจริงแสนเจ็บปวด ร้อนรุ่มเพราะถูกแผดเผาด้วยความจริงจากดวงอาทิตย์ร้อนแรง

ทั้งที่ห้ามใจเอาไว้แล้ว แต่มันก็ห้ามไม่อยู่ ไม่เคยจะห้ามได้สักครั้ง เพราะทั้งหมดของดวงใจที่มีอยู่ในอกด้านซ้าย มันมีสีฟ้าอยู่เต็มทั้งหมดของหัวใจ



ภาคีละสายตาจากจันทร์เสี้ยว เดินหน้าไปสู่ความจริงที่ว่า เขามีสีฟ้าเคียงข้างในยามนี้ วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรเขาไม่ขอคิดถึงมันจะดีกว่า เขาขอมีความสุขอันหวานล้ำนี้ให้ถึงวินาทีสุดท้าย บางทีความรักที่เขามีอยู่เต็มอก มันอาจแทรกซึมเข้าสู่หัวใจของสีฟ้าได้ และทำให้สีฟ้ารักเขาขึ้นทีละน้อยๆ แล้วมันอาจจะเต็มหัวใจของสีฟ้าในสักวัน เขาหวังอย่างนั้น

ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้อง แต่พบความว่างเปล่า ไม่มีร่างของสีฟ้า สีฟ้าไปอยู่ไหน เขาสาวเท้าออกไปยังนอกห้อง เข้าไปในครัวหวังว่าจะเจอ แต่ต้องผิดหวัง หากชายหนุ่มก็ยังยิ้ม เมื่อเจออาหารหลายอย่างตั้งอยู่กลางโต๊ะ สีฟ้าเตรียมมันไว้สำหรับเขา คิดได้เท่านี้รอยยิ้มอิ่มเอมก็เข้ามาแทนที่ความสับสนในใจ

บ้านหลังเล็กของเขาคงไม่มีที่ไหนให้สีฟ้าซ่อนตัวได้ นอกจากห้องนอนของแม่ที่จากไปหลายปีแล้ว


...

ประตูห้องถูกเปิด เสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามา แต่ว่าสีฟ้าไม่สนใจจะหันไปมอง รู้อยู่แล้วว่าคือใคร เขายังคงนอนนิ่งปล่อยให้น้ำตามันไหลอาบหน้าเลอะหมอบใบเขื่องที่ซุกซบ ให้สาสมกับความผิดที่ก่อไว้กับน้ำเพชร เขาลืมคิดถึงใจน้ำเพชรไปได้ยังไง  

‘เพื่อนทรยศ’

คำๆ นี้ของน้ำเพชร มันคงเหมาะสมกับเขามาที่สุดแล้วล่ะ

สีฟ้ารู้สึกถึงการยุบลงไปของเตียงนุ่มข้างตัว ก่อนที่ลมหายใจอุ่นอ่อนจะระเรี่ยอยู่ข้างแก้ม พร้อมอุ้งมืออุ่นที่รั้งไหล่ของเขาให้หันมาเผชิญหน้า แต่สีฟ้าฝืนตัวเองไว้ ไม่อยากมองหน้าของเจ้าของมือใหญ่อันอุ่นที่โอบกอดเขาไว้ทุกคืนนี้เลย เพราะมันยิ่งตอกย้ำถึงความผิดพลาดที่เขาทำลงไป

เขาคิดน้อยไปจริงๆ ใช่ไหม แค่อยากเอาชนะ แล้วหลงใหลไปกับความเผลอไผลแสนหวานนั้น


“คุณแพทกลับไปแล้วครับคุณลม ไม่มีอะไรแล้วนะครับ” ใบหน้าคมก้มบอก สีฟ้ายังไม่ยอมมองหน้าเขา

“ฉันผิดมากใช่ไหม” สีฟ้าถามเสียงเครือ สะอื้นจนตัวโยน นับวันเขายิ่งอ่อนแอ ไม่คิดว่าตัวเองจะร้องไห้ได้ง่ายขนาดนี้

“ความรักมันบังคับกันไม่ได้ ผมไม่ได้รักคุณแพท แต่ผมระ...”

“ไม่ต้องพูด ฉันไม่อยากได้ยิน”

มือเรียวรีบปิดหูทันที ภาคีเลยต้องเก็บคำรักไว้ในใจ สีฟ้าอาจไม่พร้อมรับฟังคำรักในตอนนี้ก็ได้

“กลับห้องกันเถอะครับ”

“ไม่ ฉันจะนอนที่นี่” สีฟ้าบอกเสียงดัง ขืนตัวเต็มที่เมื่อภาคีจะดึงตัวของเขาให้ลุกขึ้น

ไม่...เขาไม่อยากถลำตัวมากกว่านี้อีกแล้ว แค่นี้ภาคีก็ทำให้เขาต้องทำร้ายเพื่อนมากพอแล้ว เขาอยากหยุด อยากหยุดทุกอย่างไว้แค่นี้ ไม่เอาอีกแล้ว ความสุขแสนหวาน หากตื่นมาเจอความจริงกลับเจ็บปวด

น้ำเพชรคือความจริงนั้น

“ไม่เอานะครับคุณลม ผมอายแม่นะครับ เดี๋ยวแม่เห็น” น้ำเสียงแฝงความหมายลึกซึ้ง จนคนที่ร้องไห้หนักต้องค้อนควับ ทั้งที่น้ำตานองหน้า

“บ้า”

สีฟ้าไม่พูดเปล่า กำปั้นน้อยๆของเขารัวเร็วไปบนไหล่อีกฝ่าย ไม่กล้าสบตาคู่หวาน เพราะรู้ว่าจะต้องพ่ายแพ้กับมันแน่

เขาสู้สายตาคู่หวานฉ่ำนี้ไม่ได้สักครั้งเลย

ภาคีรวบกำปั้นนั้นไว้อย่างง่ายดาย สีฟ้าน่ารักเสมอ แม้ยามที่ใบหน้านวลใสระบายด้วยคราบน้ำตาก็ตาม มันชวนมองไปอีกแบบหนึ่ง

“กลับห้องเราเถอะครับ แม่คงไม่อยากเห็นผมรังแกคุณลมในห้องนี้แน่ๆ” เขาบอกอีกครั้ง แล้วช้อนร่างบางเข้าสู้อ้อมแข็ง ไม่สนอาการต่อต้านของอีกฝ่าย
ไม่อยากทนแล้ว เขาอยากรักสีฟ้าทั้งหัวใจและรักทั้งตัว เนื้อกายหวานๆ ทำให้เขาหลงใหลและไม่เคยเพียงพอ

“บ้า...ปะ...ปล่อย” สีฟ้าร้องเสียงหลง เมื่อถูกรวบตัวเข้าสู่อ้อมกอดแข็งแกร่งแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

ภาคีอุ้มร่างบางออกจากห้องของแม่ พาคนเจ้าน้ำตากลับไปที่ที่ควรอยู่คือห้องของเขา ก่อนจะวางร่างบางหอมหวานลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล พลางทอดกายนอนเคียงข้าง จูบแก้มนวลชื้นด้วยความรักสุดหัวใจ ขณะที่สองมือของเขากำลังแกะกระดุมเม็ดเล็กให้หลุดจากรังดุมทีละเม็ดๆ

“อย่า...”

สีฟ้าปัดมือนั้นออก เมื่อรู้ว่าภาคีกำลังจะทำอะไร ทว่าสีฟ้ารู้ว่าคำห้ามแค่นี้คงหยุดดวงตาวาบหวามไม่ได้แน่

“นะครับ”

นะครับ....

สีฟ้าฟังคำนี้มาไม่รู้กี่ครั้ง แล้วเขาก็จำนนกับมันเสียทุกครั้ง ยากฝืนความปรารถนาแสนหวานที่ภาคีปรนเปรอให้และกอบโกยเอาไป


>>>>>>>>>>>>>>>จบตอน>>>>>>>>>>>>>>
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 16-03-2011 19:03:12
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 16-03-2011 19:18:06
ความรักมันบังคับกันไม่ได้จริงๆๆ
น้ำเพชรเทอเข้าใจอะไรหน่อยสิ
ถ้าตินเขาไม่ได้อยู่กับลมคิดว่าเขาจะรักเทอหรอ หน่ายจริงๆๆ
ปล.+1ให้คุณน้า จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 16-03-2011 19:19:45
อ่านตอนนี้แล้วใจจะขาด
ยัยน้ำเพชรร้ายมากนะเนี่ย รู้ว่าทั้งสองฝ่ายมีใจให้แต่ก็ใช้ประโยชน์เพื่อจะแย่งติณ

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-03-2011 19:20:34
ทำตามหัวใจตัวเองเรียกร้องบ้างนะสีฟ้า :L2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: money loving ที่ 16-03-2011 19:24:42
อ่านตอนท้ายๆเหมือนจะเศร้านะ แต่ว่ารู้สึกว่าจะออกหวานมากกว่านิดๆนะ
อ่านไปก็เขินไป  :-[ ชอบชอบ
ว่าแต่จะยังไงต่อ ติดตามคับ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 16-03-2011 19:30:04
บวกให้จ้า โถถถถ สงสารลม
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 16-03-2011 19:36:35
สงสารลมอ่ะ ถ้าเกิดแพทบอกตั้งแต่แรกว่าภาคีรักลมมันก็จบๆรักกันทั้งสองฝ่าย เพราะแพทเลยทำให้เค้าผิดใจกัน รอตอนต่อไปนะคะ~~~
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-03-2011 19:40:06
ไม่เป็นไรหรอกลม ตอนนี้อาจจะโกรธแต่ซักวันแพทต้องเข้าใจแน่ๆ
เอาใจช่วยนะจ๊ะ :กอด1:
+1 ขอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 16-03-2011 19:50:32
ตินกับลมน่ารักมาก :-[

แพทนี่จริงเลยว่าลมทรยศที่ตัวเองรู้อยู่ว่าตินรักลมมากแต่ไม่ยอมบอกลม
ทำตัวยิ่งกว่าเป็นเพื่อนทรยศซะอีกแพทน่าจะละอายแก่ใจบ้างนะที่ไปว่าลมแบบนั้น
ยังไปพูดให้ตินต้องคิดมากอีกต้องเรียกว่า อิผู้หญิงหน้าด้านหน้าทน :angry2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 16-03-2011 20:05:53
ขอบคุณคนโพสต์กับคนแต่งนะ :L2:
ตอนนี้สงสารสีฟ้าจัง :monkeysad:
มือที่สามโผล่มาแล้วรอมือที่สี่แล้วจัดการทีเดียวนะคุณภาคี
ถามนิดนะคะแฮปปี้เอ็นดิ้งใช่มั้ยคะ
+1แทนคำขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 16-03-2011 20:19:36
รักแท้ต้องมีอุปสรรคบ้างน่ะนะ
ค่อยๆจูงมือประคับประคองกันไป
ถ้ามีแฟนอย่างตินรักตายเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: SPSJ ที่ 16-03-2011 20:25:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 16-03-2011 20:32:17
"เพื่อนทรยศ" โฮ้ววววว แรงงงงง

เนื้อคู่กันแล้วมันก็ไม่แคล้วคู่กันนะจ๊ะน้ำเพชร อย่าไปโกรธลมเค้าเลยยยย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 16-03-2011 20:33:19
^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 16-03-2011 21:34:15
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 17-03-2011 07:55:42
น้ำเพชรจ๋าาา

อย่าเผลอไปเป็นตัวร้ายนะ

ไม่งั้น  หึ่มๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 17-03-2011 12:45:42
เรื่องนี้สนุกดี  แล้ว ภาคี กับ ลม จะทำไงกันต่อไป  แต่ให้ภาคีไปคู่กับคนอื่นมันก็คงไม่เหมาะอยู่ดี ลม อะเหมาะสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :z1:  :z1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 17-03-2011 13:43:10
เฮ้อน่าสงสารทั้งคู่ได้แต่คิดไปเองทั้งคู่ ไม่มีใครยอมเอ่ยปากสักคน
+ 1 แทนคำขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 17-03-2011 14:52:37
ลมจะรู้เมื่อไหร่เนี่ยว่าติณรักมากแค่ไหน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 18-03-2011 08:54:38
น้ำเพชรร้ายลึกมาตลอด เป็นเพื่อนสนิทกันได้งัยเนี้ย นิสัยไม่ดีจริง ๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 18-03-2011 09:53:07
สงสัยต้องเปิดใจคุยกันและสองคนนี้
ฮ่า ฮ่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 7 เพื่อนทรยศ>> จริงเหรอ [16/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: akera ที่ 18-03-2011 14:52:47
มาอ่านด้วยคน
ต่างคนต่างรักกันแต่ไม่ยอมบอก
 :mc4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เลิกกันเถอะ [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 18-03-2011 17:44:36
วันนี้มาส่งการบ้านเร็วหน่อยนะค่ะเพราะ คืนนี้ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด  ขอบคุณทุกๆคนที่มาอ่านและชอบเรื่องนี้อีกครั้งนะค่ะ แอบเห็นหน้าใหม่ๆ หลายคน ดีใจสุดๆ



ตอนที่ 8



....ก๊อก....ก๊อก...

“เชิญครับ”

เสียงเคาะประตูตรงหน้าห้องทำงานดังขึ้น ก่อนที่เลขาของสีฟ้าจะก้าวเข้ามา

“มีอะไรหรือครับ คุณด้า”  สีฟ้าเอ่ยถาม ทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากงานตรงหน้า งานกองเต็มโต๊ะ เยอะไปหมด

“คุณลมคะ คนที่คุณลมนัดไว้มาแล้วค่ะ”

“ใครหรือครับ คุณด้า ผมไม่ได้นัดใครนะครับ” คิ้วเรียวขมวดเข้า  สีฟ้าเงยหน้าขึ้นมาจากแฟ้มหนา เขาไม่ได้นัดใครไว้ แล้วนี้มันก็ใกล้จะเลิกงานแล้วด้วย

“คุณนิรดาค่ะ เธอบอกว่านัดกับคุณลมเอาไว้”

นิรดามาทำไมกัน?

“งั้นก็เชิญเธอเข้ามาครับ”

พอเลขาของสีฟ้าออกไปไม่นาน นิรดาก็เดินเข้ามา หน้าตาหญิงสาวซูบลงกว่าครั้งสุดท้ายที่สีฟ้าเจอ ใบหน้าหมองคล้ำเหมือนคนไม่ได้นอน

“เชิญนั่ง” เจ้าของห้องเอ่ยปากบอก เมื่ออีกฝ่ายยังยืนตัวลีบไม่ยอมนั่งสักที

“ขอบคุณค่ะ คุณลม” เสียงของนิรดาเบาเหลือเกิน วันนี้เธอไม่แต่งหน้า ยิ่งทำให้เห็นริ้วรอยความหมองคล้ำได้ชัดเจน

“มีอะไรกับผม?” สีฟ้าเปิดคำถามขึ้นทันทีที่นิรดาลงนั่ง

“นุ่นอยากคุยเรื่องของตินค่ะ” เจ้าตัวบอกเสียงเบา เฝ้าบอกตัวเองให้ทำใจสู้ แล้วมองตาน่ากลัวนั้นไว้ อย่าหลบตาเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เธอตั้งใจเอาไว้จะไม่ประสบความสำเร็จ

“เรื่องภาคี เธอจะมาคุยเรื่องคนของฉันทำไม”

สีฟ้าเอ่ยเย้ย ซมซานมาหาเขาก็เพราะเรื่องภาคี แสดงว่ายังไม่ตัดใจอีกใช่ไหม

“จะไม่หน้าด้านเกินไปหน่อยเหรอไง คุณนุ่น” สีฟ้าเอนตัวเขาใกล้

“นุ่นรักตินมากนะคะ”

“มาบอกฉันทำไม ฉันช่วยอะไรเธอได้ ถึงช่วยได้ ฉันก็ไม่ช่วย” สีฟ้าแทบจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าปลายประโยคเผลอลงเสียงหนักแค่ไหน มีแต่คนฟังอย่างนิรดาเท่านั้นที่รับรู้มันอย่างชัดเจน

“คุณลมคืนตินให้นุ่นเถอะค่ะ นุ่นรักตินมากนะคะ” นิรดาพูดทั้งน้ำตา มองเจ้าของห้องทำงานใหญ่ผ่านม่านน้ำตาที่กลั่นออกมา

สีฟ้ากอดอก เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ทอดสายตามองผู้หญิงตรงหน้า สีฟ้าอยากย้อนถามนักว่า

‘แล้วเขาล่ะ เขาก็รักภาคีมากเหมือนกัน บางทีอาจรักมากกว่านิรดาเสียอีก’

แต่สีฟ้าไม่สามารถพูดมันออกมาได้ เมื่อนิรดาเอ่ยสิ่งที่สีฟ้ากลัวมาตลอด

“เราสองคนรักกัน”

คำพูดของนิรดาทำให้สีฟ้าสะอึก นึกถึงความจริงที่พยายามจะลืมมันอยู่ตลอดเวลา

“นุ่นรักติน แล้วตินก็รักนุ่น คุณลมอย่าทรมานเราสองคนเลยนะคะ” ยิ่งพูดน้ำตาของนิรดาก็ยิ่งไหลหนัก

ถ้าเพียงแค่เห็นน้ำตาของนิรดา คนใจแข็งอย่างสีฟ้าคงไม่รู้สึกอะไรมากไปกว่ารำคาญ แต่คำพูดของนิรดานี่สิ ทำให้สีฟ้าสะท้านเข้าไปถึงขั้วหัวใจ

ทรมานหรือ ?

สีฟ้ากำลังทรมานผู้ชายคนนี้อยู่เหรอ...ภาคีทรมานเพราะอยู่กับเขาหรือเปล่า?

ทั้งสองรักกันจนถึงขั้นจะแต่งงาน แต่เขาก็ทำให้งานนั้นล้มเลิก ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องคืนภาคีให้คนรักแล้วใช่ไหม สีฟ้าอยากรู้ ใครช่วยบอกเขาได้ไหม เขาต้องปล่อยภาคีแล้วใช่ไหม วันที่เขากลัวมากที่สุด มันกำลังเดินทางมาถึงแล้วใช่ไหม

อาทิตย์ก่อนเขาเพิ่งผ่านเรื่องของน้ำเพชรมา ทั้งที่ทุกอย่างมันยังดูคาราคาซัง น้ำเพชรไม่ยอมรับโทรศัพท์เขา ไม่ยอมพบหน้าเขา แล้วหนีหน้าเขาไปต่างประเทศแล้ว หมดโอกาสให้เขาได้แก้ตัวหรือปรับความเข้าใจกัน แล้วตอนนี้ เขาต้องมาเผชิญหน้ากับนิรดา ผู้หญิงที่มานั่งร้องไห้ต่อหน้าเขา เพื่อขอคนรักคืน

เมื่ออยู่กับภาคี เขามีความสุข แต่ปัญหาก็เหมือนตามมาไม่รู้จักจบ เขาเหนื่อย บางครั้งก็เหนื่อยที่จะต่อสู้กับความจริงที่เขาพยายามลืมมันไป ทว่ามันก็ยังเป็นความจริงที่ต้องรับรู้

เขากลายเป็นคนทรยศเพื่อน กลายเป็นคนทีแย่งของๆ คนอื่น นึกสมเพชตัวเองเหมือนกัน เพียงแค่จะได้อยู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่ตัวเองรัก แต่ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นรักเขาหรือเปล่า?

ใครจะตอบคำถามนี้เขาได้ นอกจากภาคีคนเดียว

เพราะตกอยู่ในภวังค์ความคิด สีฟ้าจึงไม่เห็นแววตาสมใจของนิรดาที่ซ่อนไว้หลังม่านน้ำตา

“คืนตินให้นุ่นนะคะคุณลม”

หญิงสาวร้องไห้หนัก ใบหน้าแดงช้ำเพราะรอยน้ำตา สีฟ้ามองมันด้วยความรู้สึกที่ยากจะพูดออกมาให้ใครเข้าใจได้


นิรดาเดินออกไปแล้ว เขาควรสนใจงานต่อใช่ไหม แต่ทำไมถึงทำใจให้หยิบงานตรงหน้าขึ้นมาไม่ได้ สมองมันร้อนร้นไปหมด

นิรดากับภาคีรักกัน....

แล้วระหว่างเขากับภาคีล่ะ มันคืออะไร?


ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับภาคี เขายังไม่แน่ใจ ภาคีก็ยังไม่เคยชัดเจน ถึงลึกซึ้งในทุกค่ำคืน หากมันก็มีเพียงความหอมหวาน แต่ไร้ถ้อยคำรัก เขาไม่คิดจะพูดหรือแม้แต่ถาม ภาคีก็ไม่เคยเอ่ยปากบอก ไม่รู้ว่าภายใต้ใบหน้าคมเข้มกับนัยน์ตาหวานฉ่ำคู่นั้นคิดอะไรอยู่

เขาสองคนอยู่ร่วมบ้านกันก็จริง แต่ก็เหมือนต่างคนต่างอยู่ เขาอยู่กับงานของเขา ภาคีอยู่กับงานของตนเอง ใช้ชีวิตเหมือนคนที่เพียงร่วมบ้านและร่วมเตียง คำหวานมักมีให้เมื่อยามค่ำคืนในห้องเล็กบนเตียงนุ่ม เพียงเท่านั้นจริงๆ

ภาคีพูดน้อย บางทีถึงกับไม่พูด

เหตุนี้ไง ทำให้เขาไม่รู้ว่าระหว่างเขากับภาคี มันคืออะไร

เขาเป็นคนปากหนัก เขารู้ว่าเขาไม่กล้าพูดสิ่งที่ใจอยากถาม

แล้วภาคีล่ะ ปากหนักเหมือนเขาไหม? หรือไม่ใส่ใจมากกว่า....

ทำไงได้ในเมื่อภาคีมีแต่ได้ ส่วนเขามีแต่ให้!!  

มันคือความรักหรือความใคร่  หรือว่าทั้งสองอย่าง

เขารัก

ส่วนภาคี

...แค่ใคร่


....................................................................................



เย็นวันนี้สีฟ้ากลับบ้านช้าปกติ ทุกเย็นเขาจะกลับมาถึงบ้านก่อนภาคี แต่เพราะมีเรื่องมากวนใจ ทำให้ต้องหมกตัวอยู่ในห้องทำงานจนถึงค่ำ เพื่อหาทางออกให้กับตัวเอง


เอาล่ะ สีฟ้าคิดว่า เขาต้องถามภาคีว่ายังรักนิรดาอยู่หรือเปล่า ถ้ายังรัก เขาจะปล่อยภาคีไป

รถคันสวยสีดำจอดสนิทตรงหน้าบ้านหลังใหญ่ตามปกติ ก่อนที่เจ้าของรถจะเดินเรียบสนามหญ้าสีเขียว มุ่งตรงไปยังบ้านหลังเล็กแสนอบอุ่น  

เพียงไม่กี่ก้าวจะถึงตัวบ้านหลังเล็ก เท้าทั้งสองต้องชะงักแล้วหยุดตึงอยู่กับที เมื่อสายตามันมองไปเห็นภาคีกับนิรดายืนกอดกันอยู่หน้าบ้าน ความรู้สึกเจ็บมันพุ่งเสียบที่หัวใจทันที



ภาคีไม่ทันตั้งตัวเมื่ออยู่ดีๆ นิรดาก็โผล่เข้ากอดเขา และไม่รู้ว่าใครอีกคนหนึ่งที่เขารักเต็มหัวใจกำลังยืนอึ้งกับภาพที่เห็น

“อย่าทำอย่างนี้สินุ่น” ชายหนุ่มพยายามดึงตัวนิรดาออก เขากลัวว่าสีฟ้าจะมาเห็นและเกิดการเข้าใจผิดขึ้น โดยไม่รู้เกิดเหตุการณ์ที่เขากลัวไปแล้ว

“นุ่นรักตินนะคะ”

เธอยังดื้อ กอดร่างสูงไว้แน่น นิรดาไม่มีวันปล่อยเด็ดขาด จนกว่าจะมั่นใจว่าสีฟ้าเห็นภาพที่เธอกำลังยืนกอดกับภาคีเท่านั้น เพราะจากหางตาของเธอ เธอเห็นสีฟ้าเดินมาทางนี้แล้ว นั่นไง ร่างบางยืนนิ่งเหมือนหุ่น จะได้รู้ซะทีว่าภาคีคือของๆ เธอ

“นุ่น คุณต้องเข้าใจนะ เรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ ”

“นุ่นรักคุณ” เธอบอกทั้งน้ำตา

“แต่ผมไม่ได้รักคุณ”

นิรดาชะงัก เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม สายตาเธอเจ็บปวดกับคำพูดของภาคี ทั้งที่เตรียมใจไว้แล้วว่าต้องมาเจอคำพูดแบบนี้ แต่เอาเข้าจริงมันเจ็บปวดกว่าที่คิดเยอะ

“เพราะอะไรคะ ทำไมถึงไม่รักนุ่น ทั้งที่ตินเคยขอนุ่นแต่งงาน”

คำถามและน้ำตาของนิรดาทำให้ภาคีรู้สึกผิด ผิดที่เผลอทำเรื่องเห็นแก่ตัวในวันนั้นไป

เขาเคยให้ความหวังถึงชีวิตคู่กับเธอ แต่ว่าตอนนั้นที่เขาทำไปเพราะต้องการใช้เธอเป็นเกราะกำบังเท่านั้น เขาคิดว่าถ้าแต่งงานไปกับนิรดา เขาคงจะหลุดพ้นจากความรู้สึกที่มีต่อสีฟ้าไปได้ ความรู้สึกที่มันเริ่มทวีมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาต้องเจอสีฟ้าแต่ละครั้ง

หากไม่เห็นคงไม่รักมากขึ้นทุกวัน

หากไม่เจอคงไม่รักจนเต็มหัวใจ

หากไม่ได้ครอบครองคงไม่หวงแหนแล้วอยากกอดเก็บไว้เพียงคนเดียว ไม่อยากให้ใครได้แตะต้อง



เพราะไม่สามารถให้คำตอบกับคำถามของนิรดาได้ และไม่อยากเห็นน้ำตาของนิรดา ชายหนุ่มจึงค่อยยกมือขึ้นกอดร่างนั้นไว้ เพื่อถ่ายทอดคำขอโทษมากมายให้กับเธอ

“ผมขอโทษ”

ภาคีบอก ก่อนจะดันไหล่ทั้งสองของนิรดาออกห่าง นิรดาขืนตัวหากสู้แรงที่ดันออกของภาคีไม่ได้ หญิงสาวขัดใจแต่ก็รู้ว่าแผนของเธอสำเร็จแล้ว เธอเชื่อว่าสีฟ้าเห็นภาพที่เธอกอดกับภาคีเต็มสองตาทีเดียว

“คุณกลับไปก่อนนะนุ่น มันดึกมากแล้ว” ยังไงเสีย นิรดาก็เป็นเพื่อนของเขา อดห่วงและสงสารความรู้สึกของเธอที่โดนเขาทำลายไม่ได้ นิรดาพยักหน้าเหมือนคนที่กำลังเสียใจหนัก แต่แอบซ่อนแววตาสมใจเอาไว้มิดชิด


“คุณลม”

เสียงที่หลุดออกมามันแสนเบานัก สีฟ้าเดินเข้ามาใกล้ ในระยะที่เขาเห็นว่าใบหน้านั้นราบเรียบ ไร้ความรู้สึก สีฟ้าต้องเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่แน่ๆ แล้วร่างนั้นก็หยุดเดิน ก่อนหันหลังวิ่งกลับไปทางเดิม

ขาทั้งสองของเขาจะก้าวตามร่างบางที่วิ่งไปยังบ้านหลังใหญ่ แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อนิรดาโผล่เข้ามากอดเขาจากด้านหลัง

“อย่าไปค่ะติน”

“ปล่อยผม”

“เพราะอะไรคะ ติน เรารักกันไม่ใช่เหรอ ตินเคยขอนุ่นแต่งงาน ตินจำไม่ได้หรือไง” นิรดาซุกหน้ากับแผ่นหลังชายหนุ่ม ถามย้ำคำเดิม

“นุ่น”

ภาคีพยายามเกาะมือของเธอออก

“ปล่อยผมเถอะ”

ชายหนุ่มหันมาเผชิญหน้าอีกครั้ง คราวนี้เขาต้องจริงจังกับเธอเสียที ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป

“ผมขอโทษ ผมรักคุณลม”

“ไม่จริง! ตินไม่ได้หมอนั่น ตินรักนุ่นต่างหาก หมอนั่นเป็นผู้ชายนะคะติน”

“ฟังนะนุ่น ผมรักคุณลม รักมานานแล้ว รักมาตลอด ”

สิ้นสุดความจริงทุกอย่างของหัวใจ ชายหนุ่มทิ้งให้นิรดายืนอึ้งกับความจริงแสนเจ็บปวด ขาทั้งสองข้างพาเขาให้มุ่งสู่บ้านหลังใหญ่ด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่ม ที่อยากจะอธิบายเรื่องราวต่างๆ ให้สีฟ้าได้รับรู้ แล้ววันนี้เขาจะทิ้งความกลัวทั้งหมดไป เขาจะเอ่ยคำว่า ‘รัก’ ให้สีฟ้าฟังเสียที คำรักที่เขาไม่เคยเอ่ยออกมาให้เจ้าตัวได้ยิน นอกจากเวลาที่อีกฝ่ายหลับลึก เขามักกระซิบบอกกับใบหูเล็กซ้ำแล้วซ้ำเล่า

รู้ว่าสีฟ้าไม่เคยได้ยิน หากเขาก็เฝ้าทำมันมาตลอด...



..................................................................................



“งอนอะไรตาตินมาอีกล่ะ”

คุณอุษาถามลูกชายคนเล็ก เมื่อลูกชายยังไม่ยอมกลับบ้านสักที ทำตัวแบบนี้ คงทะเลาะกันอีกแล้ว

“เปล่าครับ” สีฟ้าหันมายิ้มแสนจืดให้คนเป็นแม่

“งอนน่ะให้มันพองาม เดี๋ยวเขาหมดรักแล้วจะหาว่าแม่ไม่บอก” มืออูมลูบหัวลูกชายอย่างรักใคร่ ลูกชายคนเล็กโผล่เข้ากอด ซ่อนน้ำตาไว้กับอกอุ่น คนอย่างสีฟ้าไม่กลัวใครเขาหมดรักหรอก แต่กลัวว่าเขาจะไม่รักตั้งแต่แรกมากกว่า เขายืนอยู่บนความไม่แน่ใจมาตลอด ถึงจะกอด พร่ำพูดคำหวานในค่ำคืนให้ซึ้งตรึงใจจนยอมทอดกายให้มากแค่ไหน มันก็มีค่าแค่นั้น

แค่เรื่องบนเตียง!!!

“ดูอย่างพี่สะใภ้เรา เคยงอนตาฟืนที่ไหน มีแต่พี่ชายเรานั่นแหละ ชอบทำตัวงอนเมีย”

มันเทียบกันไม่ได้หรอก สีฟ้านึกเถียงคุณอุษาในใจ พี่ลินกับพี่ฟืนรักกัน หนักนิดเบาหน่อยถึงให้อภัยกันได้ แต่เขากับภาคีไม่ได้รักกัน ความจริงต้องบอกว่าเขารักภาคีฝ่ายเดียวมากกว่า รักเสียจนต้องเอาตัวเข้าแลก เพื่อไม่ให้เขาไปเป็นของคนอื่น แล้วต้องมาเจ็บหัวใจเสียเอง

ใครจะรู้ดีเท่ากับตัวเขา ว่ายามที่ถูกภาคีกอด พร่ำพูดคำหวานกับเรือนกายเขา มันสุขจนล้น แต่ยามภาคีทำตัวเหมือนเป็นเพียงคนร่วมบ้านกับเขา มันอ้างว้างแค่ไหน...

คุณอุษาดึงตัวลูกชายให้ลุกขึ้น เมื่อนางเห็นภาคีเดินหน้าเศร้าเข้ามา ครั้งนี้มาง้อเร็วเกินคาด ไม่เหมือนครั้งแรกที่ต้องให้นางพาตัวลูกชายไปส่งถึงที่

“มารับน้องไปทีเถอะตาติน แม่ละเบื่อจริง คนแสนงอนเนี้ย” คุณอุษายัดมือลูกชายใส่ไปในอุ้งลูกเขย

“กลับบ้านนะครับคุณลม” ภาคีกระชับมือเล็กที่คุณอุษายื่นให้ ชายหนุ่มบีบมือเล็กนั้นเบาๆ

“เอาใจน้องหน่อยนะตาติน รายนี้น่ะเขาขี้งอนเหมือนเด็ก”

“ครับคุณแม่” ภาคีรับคำบอกนั้น แม้คุณอุษาไม่บอก เขาก็อยากทำมันอยู่ทุกวี่ทุกวันอยู่แล้ว

“กลับบ้านเรานะครับ” ว่าแล้วภาคีก็ดึงให้สีฟ้าเดินตามเขามา สีฟ้าไม่ได้ขัดขืน หากภาคีกลับรู้สึกว่าอาการนี้ของสีฟ้าน่ากลัว จนเขาหวั่นใจว่าเขาจะไม่มีมือนี้ให้จับจูงอีกต่อไป




............................................................................



“เราเลิกกันเถอะ”

สีฟ้าเอ่ยมันขึ้นมาทันทีเมื่อก้าวเข้ามาในบ้านหลังเล็กของภาคี บ้านที่เขาใช้ชีวิตอยู่กับภาคีเพียงแค่คนร่วมบ้าน

“ครับ...ถ้าคุณลมต้องการ”

ใช่...ถ้ามันคือความต้องการของสีฟ้า เขาคงต้องยอมทำตาม สิ่งไหนที่สีฟ้าต้องการ เขาก็อยากจะยินยอมและทำตามอย่างเต็มใจ แม้มันจะทำให้เขาตายทั้งเป็นก็ตาม

ภาคีเก็บกลืนคำรักที่ตั้งใจจะบอกเอาลงไปในอก ให้มันจมลงไปให้สุดใจ เขาไม่กล้ามองสบตาคู่สวย เขากลัวว่าตัวเองจะเผลออ้อนวอนและรั้งเอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายไป เขาจะไม่รั้งสีฟ้าไว้ อีกฝ่ายควรเจอคนที่เพียบพร้อมกว่าเขา

เขารักสีฟ้า แต่ใช่ว่าจะไม่มีคนอื่นๆ ที่รักสีฟ้า เขาไม่ใช่คนเดียวที่รักสีฟ้า
เขารักสีฟ้ามาก แต่ใช่ว่าคนอื่นๆ จะไม่รักสีฟ้ามากเช่นเขา คนอื่นอาจจะรักสีฟ้าได้มากกว่าเขาก็ได้


“เราสองคนต่างหากที่ต้องการ”

มันคือประโยคสุดท้ายที่เขาได้ฟังจากปากของสีฟ้า ก่อนที่เขาจะหอบข้าวของไปนอนในห้องของแม่ เมื่อรับรู้ว่าเขาไม่สามารถจะโอบกอดและรักสีฟ้าได้อีกต่อไป แววตาและท่าทางของสีฟ้า มันทำให้เขารู้ว่า เขาไม่มีสิทธิ์จะได้โอบกอดร่างหวานๆ อีกแล้ว



...

ตอนสายที่บ้านของคุณกฤษคุณอุษา ในห้องโถงห้องเดิม ทุกคนในครอบครัวนั่งอยู่กันพร้อมหน้าเพราะเป็นวันเสาร์ ขาดไปเพียงแต่เจ้าตัวเล็กของบ้านที่พี่เลี้ยงสาวพาไปเดินเล่นที่สวนหลังบ้าน สีฟ้าเดินเข้ามาท่าทางอิดรวย มีภาคีเดินตามหลังมาสภาพไม่ต่างกันเลย

คุณกฤษ คุณอุษา เมฆาและนลิน มองคนทั้งคู่เป็นตาเดียวกัน ทุกคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อสีฟ้าเดินเข้ามานั่งข้างคนเป็นแม่ ส่วนภาคีทรุดตัวลงนั่งข้างพี่สาวของเขา

“เป็นอะไรไปลูก”

คุณอุษาลูบผมลูกคนเล็ก สลับกับมองหน้าลูกเขยซึ่งมีสภาพไม่แตกต่างกันนัก หน้าหมอง ขอบตาคล้ำกันทั้งคู่ เหมือนคนอดนอนมาทั้งคืน  

สีฟ้ากำมือตัวเองแน่น เขายังไม่กล้าสบตบกับใคร เขามองไปยังภาคี อีกฝ่ายหันหน้าหนี ปฏิเสธการช่วยเหลือเขา


“เราสองคนจะเลิกกันครับ”  สีฟ้าบอกไม่เต็มเสียงนัก แต่เพราะทุกคนในห้องต่างพากันนิ่งฟังในสิ่งที่ชายหนุ่มจะพูด เสียงที่คิดว่าเบาก็ดังเหลือเกิน ไม่ต่างจากเสียงตะโกนลั่นห้อง

ทุกคนมองหน้ากันอย่างมีคำถาม คุณอุษาถึงกับถามย้ำกับลูกชายเสียงดัง

“ว่าอะไรนะตาลม” นางเริ่มใจไม่ดีแล้ว หน้าตาของลูกชายนางจริงจังมาก

“เราสองคนจะเลิกกันครับ” เขาบอกคำเดิมอีกครั้ง ครั้งนี้มันดังกว่าครั้งแรกมาก แต่เขากลับรู้สึกว่าเสียงเขาทำไมมันเบาจนโหวงในอกอย่างนี้

“จริงหรือเปล่าตาติน”

คุณอุษาหันไปทางลูกเขย ถามย้ำว่าสิ่งที่นางได้ยินคือความจริง ไม่ใช่เพราะหูฝาดตามอายุที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน

“ครับ” คำตอบสั้นๆ ของภาคี ทำเอาคุณอุษาถอนหายใจยาว นางกำลังทำใจให้ปลงกับชีวิตคู่ที่สั้นเกินไปของลูกชายคนเล็ก แต่คนที่เป็นเดือดเป็นร้อนกว่าใครคงหนีไม่พ้นเมฆา พี่ชายที่รักน้องมาก ชายหนุ่มลุกพรวดขึ้น เดินเข้าไปกระชากคอเสื้ออดีตน้องเขย ขึ้นมาประจันหน้า

“มึงทำอะไรน้องกู กูบอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าทำให้น้องกูเสียใจ” แล้วกำปั้นหนักๆของเมฆา ก็ซัดเข้าไปยังใบหน้าของภาคี เหมือนเมื่อครั้งคราวก่อน ภาคีไม่คิดจะตอบโต้  เมฆาเตรียมจะซัดอีกหมัด แต่นลินปราดเข้าไปห้ามไว้เสียก่อน ภรรยาสาวจับแขนสามีไว้แน่น แต่เมฆาก็ยังทำฮึดฮัดจะเล่นงานภาคีต่อ

“คุณฟืนคะ พอเถอะค่ะ พูดกันด้วยเหตุผลได้ไหม ลินขอล่ะ ” ในที่สุดเธอก็ดึงตัวสามีออกมาได้ หันไปบอกน้องชายด้วยสายตาให้ช่วยพูดอธิบายอะไรให้ได้มากกว่านี้ไหม บางทีเธอก็เหนื่อยกับการที่ภาคีเอาแต่เงียบ ไม่ยอมพูดอะไร ทั้งที่ในใจของภาคีมีเรื่องราวมากมาย

“คุณก็ดูน้องชายคุณ มันทำน้องผมเจ็บซ้ำใจมากี่ครั้งแล้ว” น้ำเสียงเมฆายังหงุดหงิดไม่หาย

“ฟืนพอได้แล้ว แล้วกลับไปนั่งที่เดิม” คุณกฤษประมุขของบ้านสั่งเสียงหนัก  ก่อนเอ่ยต่อ “มันเป็นเรื่องของคนสองคน ลมกับติน เรามีสิทธิ์ไปยุ่งอะไรด้วยหะ”

“แต่คุณพ่อครับ มันทำน้องนะครับ” เมฆาเถียง แต่ไม่กล้าเถียงมากเท่าที่ใจคิด

“แล้วถามน้องหรือยังว่าเขาต้องการให้ฟืนทำอย่างนั้น” คุณกฤษถาม “ว่าไงลม มีอะไรจะบอกพี่เราให้เลิกบ้าได้ไหม” คุณกฤษหันไปถามลูกชายคนเล็ก

“พี่ฟืน ตินไม่ผิด ลมผิดเอง” สีฟ้าบอกพี่ชายเสียงเบา  ไม่เคยคิดเลยว่าประโยคเดิมมันจะย้อนกลับมาอีกครั้ง

‘ตินไม่ผิด ลมผิดเอง’

สีฟ้าอยากหัวเราะนักที่ไอ้คำๆ นี้มันย้อนกลับมาอีกครั้ง แต่ถ้าต้องหัวเราะจริงๆ เขาคงต้องหัวเราะพร้อมน้ำตา ไม่คิดว่าคำๆ นี้ที่เมื่อก่อนมันออกมาจากสมอง หากว่าคราวนี้มันกลับถูกกลั่นกรองออกมาจากหัวใจ ไม่ต่างจากน้ำตาที่มันเริ่มจะเอ่ออยู่ในหน่วยตา  

“ยังจะปกป้องมันอีกนะลม” เมฆาหงุดหงิด เมื่อน้องชายออกรับแทนภาคี ให้มันได้อย่างนี้สิน้องชายเขา เห็นแล้วหงุดหงิด อยากจะชัดไอ้หน้าหล่ออีกครั้งให้หายโมโห แต่ก็ยังไม่อยากทำให้นลินเสียใจ เพราะนั่นคือน้องที่นลินรักมาก

“ลมขอโทษทุกคน เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด มันเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น ลมโกหกทุกคนครับ” สีฟ้าก้มหน้าบอกความจริงทั้งหมด รับรู้ได้ถึงความร้อนตรงขอบตา กับปริมาณน้ำที่คล้ายจะปริ่มออกมาได้ทุกเมื่อหากกระพริบตาเพียงแค่ครั้งเดียว

“ลมกับติน เราสองคนไม่ได้รักกัน เรื่องทั้งหมดลมแต่งขึ้นมาเอง ลมแค่อยากแกล้งเขาเท่านั้นเอง ลมขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายนี้ขึ้น ลมขอโทษ”

“แล้วเราทำอย่างนั้นทำไม” คุณกฤษถาม งงกับคำพูดลูกชาย

“ลมแค่อยากแกล้ง”

“พูดอะไรออกมาน่ะลูก โอ๊ย นี่มันอะไรกัน เล่นสนุก แม่สนุกไม่ออกนะ” คุณอุษายิ่งอยากจะเป็นลมเข้าไปใหญ่ เมื่อฟังสิ่งที่ลูกชายพูดออกมา ร้อนถึงคุณกฤษต้องรีบพัดวีโดยเร็ว


“ลมนึกสนุกอยากแกล้ง ตอนนี้ลมเบื่อที่จะแกล้งแล้ว”

สีฟ้าพยายามทำเสียงให้ร่าเริง ทั้งที่ในหัวใจมันตรงกันข้าม

“ตายแล้ว !” คุณอุษายังมีแรงพอจะทำเสียงดังได้อีกครั้ง “ลม นี่เราพูดความจริงหรือลูก”

“ครับ คุณแม่” ลมพยักหน้ารับ หากแต่ไม่ยอมสบสายตาใคร เขาซ่อนความรู้สึกไว้ใต้ใบหน้าที่ก้มต่ำ

“แต่ว่าเราก็ไปอยู่กับตาตินตั้งหลายเดือนแล้วนะ แล้ว...”

คุณอุษาถามขึ้นมาอีก นางไม่อยากจะเชื่อว่าระหว่างนั้นจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันก็ตามเถอะนะ ลูกชายนางออกจะน่ารักอย่างนี้ แล้วที่ผ่านมามีทั้งพ่อแง่แม่งอนกันขนาดนั้น ไม่มีอะไรในกอไผ่ก็ให้มันรู้ไปสิ

“ลมนอนห้องคุณมณี” เขากำลังโกหก รู้ว่าไม่ดี แต่มันไม่มีทางเลือก  

ทุกคนหันไปมองภาคีเป็นตาเดียวกัน เหมือนจะขอคำยืนยันว่าคือความจริง ภาคีไม่กล้าสบสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามเหล่านั้น ความจริงเป็นยังไงเขารู้อยู่แก่ใจ และรู้ว่าทุกคนไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด แต่เขาไม่รู้จะตอบมันอย่างไร ไม่อยากโกหกเหมือนสีฟ้า ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากพูดความจริงออกมาให้สีฟ้าอับอายและเกลียดชังเขาเช่นกัน ภาคีจึงเลือกที่จะเงียบ ให้ความเงียบเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในเวลานี้  

“จะเลิกกันจริงๆ แน่นะ”

คุณกฤษถาม คนเป็นพ่อ อาบน้ำร้อนมาก่อน เลี้ยงดูมาตั้งแต่อยู่ในท้อง มีหรือจะไม่รู้ว่าความจริงมันเป็นยังไง แต่คุณกฤษก็ไม่อยากคาดคั้นเอาความจริงอะไรนัก เขาเลี้ยงลูกได้แต่ตัว ส่วนชีวิตคือสิ่งที่ลูกต้องเลือกเป็นและเดินเอง หากก็อดห่วงไม่ได้

“ครับ” สีฟ้าเป็นคนตอบ เพราะภาคีเลือกที่จะนิ่งและให้สีฟ้าตัดสินเรื่องระหว่างเขากับสีฟ้าเพียงลำพัง

“แล้วเราล่ะ ติน อยากเลิกแน่ใช่ไหม?”

คราวนี้ คุณกฤษหันไปถามเด็กหนุ่มที่เขาก็รักเหมือนลูกคนหนึ่ง ไม่ได้นึกรังเกียจอะไรในเรื่องของฐานะ หรือความเหมาะสมทางสังคมแต่อย่างไร

“ครับ” เพราะสายตาคาดคั้นของคุณกฤษ ภาคีจึงต้องตอบ แม้คำตอบนั้นจะไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเลย


คำตอบของภาคี ได้กรีดหัวใจคนที่ตั้งใจฟังอย่างสีฟ้าจนไม่เหลือชิ้นดี ความหวังที่แอบซ่อนตัวอยู่ลึกๆ ว่า บางทีภาคีอาจจะรักเขาบ้าง แต่นั่น คำตอบที่ภาคีมีให้ มันทำลายความหวังเล็กๆ ของสีฟ้าไปจนหมด

ไม่เคยรักกันเลยใช่ไหม...ภาคี

ทั้งที่พร่ำกอดเขาทุกคืน กระซิบคำหวานทุกครั้งที่ลึกซึ้ง มันเป็นเพียงความใคร่และคือความง่ายของเขาเองใช่ไหม?!


...................................................
จบตอน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 18-03-2011 17:50:33
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อ่านแล้วปวดเหัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

มะไหร่หมดเครียดๆpmตามได้มะคะค่อยกลับมาอ่านใหม่อินจัด เครียดๆๆๆๆๆๆๆ :เฮ้อ: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 18-03-2011 17:58:27
แม่ง...เอ๊ย
ไม่คุยกันแล้วแม่งจะรู้เรื่องกันมั๊ยวะเนี่ย
ต่างคนต่างรักแต่เสือกไม่บอกกัน
คิดเองเออเองกันอยู่ได้
ชาตินี้คงได้รักกันหรอกนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 18-03-2011 18:00:23
คิดเองเออเอง เหี้ยจริงๆอีฟ้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 18-03-2011 18:16:02
หือๆๆๆๆ เศร้าแต่เย็น
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 18-03-2011 18:19:32
^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 18-03-2011 18:26:38
ฮ่า ฮ่า คิดเองจบเอง
ปากหนักทั้งคู่ แล้วจะลงเอยกันยังไงหว่าาา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 18-03-2011 18:38:50
เพิ่งงเข้ามาอ่านเรื่องนี้ สนุกมากเลย
แต่ตอนล้าสุดเนี่ย  :เฮ้อ:
จะปากหนักแข่งกันไปถึงไหนเนี่ย
ขัดใจแม่ยกจริงๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 18-03-2011 19:06:09
ไม่เข้าใจลมเลยงานนี้แอบเครียด
พูดเองเออเองเจ็บเอง
สงสารตินที่เออออไปกับลม
ไม่คิดจะพูดหรือมีปากเสียงกับเขาบ้างหรอ
อ่านแล้วหงุดหงิดกับทั้ง2คนนี้จริงๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 18-03-2011 19:06:56
นิ่ง  นิ่งเข้าไป นิ่งกว่านี้ได้อีกไหม

ซักวันจะอกแตกตาย เพราะไม่พูดในสิ่งที่ใจต้องการ

เมื่อไหร่จะเข้าใจกันอ่ะ ถ้าไม่พูดออกมา   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: akera ที่ 18-03-2011 19:23:47
 :m31: :m31:  เลิกกันทำไม
ไมไม่ถามกันให้รู้เรื่อง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 18-03-2011 19:27:50
ไม่เอาแบบนี้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 18-03-2011 19:36:16
เศร้าอะ
 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 18-03-2011 19:46:27
โอ๊ยยยยนี่มันอารัยกันคนเขียนทำไมทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้อ่ะคะ ตบปากตินซักทีลมด้วยอึ๊ยย รอตอนต่อไปค่ะ~~~ปวดตับมากตอนนี้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 18-03-2011 19:48:41
ปากเขามีไว้พูด
ไม่ใช่เป็นใบ้กันซักหน่อย
ตูละหน่าย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 18-03-2011 20:00:40
รำคาญนายภาคี ไม่ยอมกล้าซะทีจะกลัวอะไรอยู่เนี่ย แต่ก็นะเจียมตัวมาตั้งนานจะให้กล้าขึ้นมาก็ท่าจะยาก มันต้องตัวกระตุ้นใช่มั้ยคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 18-03-2011 20:32:54
อินังนุ่น :beat: :beat: :beat:

เมื่อไหร่จะยอมเปิดใจคุยกันเข้าใจไปคนละทางเลย :เฮ้อ:
ที่เลิกกันก็เพราะไม่ยอมพูดในสิ่งที่ใจตังเองต้องการ :sad4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 18-03-2011 20:37:20
เศร้าเกินไปแล้วนะจ๊ะ
อ่านไม่ไหวแล้ว กดดันสุดโต่ง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 18-03-2011 21:19:35
กำลังไปได้ดีอยู่แล้วเชียววว T Tโอยยย
อ่านไปพิมไปมือสั่นไป
เจ็บมากกก เจ็บโคตรรรร

ทำไมทำร้ายใจตัวเองได้ขนาดนี้นะลม ติน
ปากหนักทำไมนักหนาลม
ทำไมต้องยอมขนาดนั้นติน ถ้าตามใจตัวเองพูดในสิ่งที่อยากพูดก็คงไม่เป็นแบบนี้


โอ๊ยยยยยยยยยย !!
อยากร้องไห้ เจ็บอะ ปวดหัวใจมากตอนนี้
คนแต่งทำไมใจร้ายอย่างนี้คะ


รอรอรอรอ
อยากอ่านตอนต่อไปจังคะ
สู้ๆนะคะ สนุกมาก จะติดตามนะคะ


+1 ให้กับความปากหนักของทั้งสองคน T[]T
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 18-03-2011 21:29:39
 :o12:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 18-03-2011 21:33:25
ซึนไปไม่ไหวจะทน
สงสารแต่ก็หมั่นไส้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 18-03-2011 21:37:31
ละครมากค่ะ จริงอย่างที่คนเขียนว่าจริงๆด้วย  :laugh:

ดีค่ะ ติดตามต่อไป
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: money loving ที่ 18-03-2011 22:14:42
ทำไมตอนนี้มีแตมาม่าอะ :sad4:
ไม่เอามาม่าแล้ว แง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kslave ที่ 19-03-2011 00:24:28
โอ๊ยยยยยย ไม่มีอะไรจะพูด
ตินทำไมไม่พูด ปากน่ะมีไว้ทำอะไร  :m16:
สงสารหนูลม (ลำเอียงเห็นๆ)
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: WhatLoveIs ที่ 19-03-2011 08:42:01
ปากหนักชะมัด

 ถ้าหากรักนี้ ไม่บอกไม่พูดไม่กล่าว แล้วเค้าจะรู้ว่ารักหรือเปล่า
อยากให้เขารู้ เธอคงต้องแสดงออก ไม่ใช่ให้ใครเขาบอก ว่า "เธอรัก"

ละครมากกกกกกกกก แต่ละครก็อิงมาจากชีวิตจริงล่ะนะ 5555

เป็นกำลังใจให้นะคะ รอติดตามต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 19-03-2011 10:02:37
อึดอัด...............

ราชินี่สุดซึน กับ นายบื้อปากหนัก 

แอร๊ย....... อยากกระโดดเข้าไปตบหัวคนละทีสองที จะปากหนักกันไปไหน........
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jeaby@_@ ที่ 19-03-2011 10:56:30
ต่างคนต่างเข้าใจผิด เฮ้อ
มือที่สามเป็นปัญหาจริงๆ
ขอบคุณค่ะ

ชอบมากมาย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 8 เค๊าจะเลิกกันแล้ว [18/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 20-03-2011 20:33:40
ตอนที่ 9


ภาคีกลับมาบ้านหลังเล็กของเขาอย่างหงอยเหงา เมื่อเรื่องทุกอย่างมันได้จบลงแล้ว ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องนอนที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของเขาและใครอีกคนหนึ่ง เขาและคนๆ นั้นเคยอยู่ด้วยกัน ใครคนที่นับต่อจากนี้ไปจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว

คุณลม....ผมจะไม่มีคุณอีกแล้วใช่ไหม ต่อจากนี้ผมจะใช้ชีวิตยังไง?....ชีวิตที่ไม่มีคุณ

ร่างสูงทิ้งตัวนั่งลงบนขอบเตียง เปิดลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงที่เขาได้ปิดตายมันมาโดยตลอด ด้วยกลัวคนร่วมห้องจะเจอเข้ากับสิ่งที่ซ่อนเร้นเอาไว้ เขาไม่อยากให้สีฟ้ารู้หรือเห็นมัน เพราะนั่นอาจจะทำให้เวลาแห่งความสุขของเขามันสั้นลง แต่ตอนนี้ความสุขนั้นมันจากเขาไปแล้ว จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมาอีกต่อไป

คนที่เคยร่วมเรียงเคียงหมอนจากไปแล้ว ทิ้งหัวใจเขาไว้ให้เดียวดายกับแหวนวงเล็กที่เขากำลังกำมันแน่นอยู่ในมือ ก่อนจะไปที่บ้านของสีฟ้าด้วยกัน สีฟ้าได้คืนมันให้กับเขา ไม่มีคำพูด แค่วางมันไว้บนหมอน นั่นก็แทนคำพูดได้นับล้าน

สีฟ้าไม่ต้องการมัน .... แหวนถึงถูกวางคืนอย่างไร้คำพูดใด

ภาคีวางแหวนวงเล็กบนโต๊ะ แล้วหยิบกรอบรูปไม้อันเล็กออกมาจากลิ้นชัก กรอบรูปไม้ที่ตีกรอบโอบล้อมรูปใบเล็กเอาไว้ รูปของชายหนุ่มหน้าหวานในชุดนักเรียนมอปลาย ฉีกยิ้มกว้างสู้กล้อง รอยยิ้มที่เขาตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น รูปนี้เขาแอบหยิบมันมาจากอัลบั้มที่บ้านของสีฟ้า คนที่บ้านหลังนั้นไม่มีใครรู้ นอกจากนลินพี่สาวของเขาแค่คนเดียว พี่สาวคนดีที่รับรู้เรื่องนี้มาตลอด แต่พี่สาวของเขาก็เป็นพี่สาวที่แสนดีเช่นเคย ที่ไม่ยอมปริปากบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ แม้แต่สามีของตัวเองก็ตาม นั่นเพราะเขาขอร้องเอาไว้


ภาคีเอารูปนั้นแนบไว้กับอก ทิ้งตัวลงนอนอย่างอ่อนล้าที่หัวใจ ต่อไปนี้เตียงของเขาจะไม่มีคนร่างบางอยู่ในอ้อมกอดอีกแล้ว ทั้งที่เขาเตรียมใจไว้แล้วแท้ๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วแบบนี้

แต่แค่ไหนล่ะถึงจะเรียกว่าช้า

1 ปี

2 ปี

5 ปี

หรือมากกว่านั้นแหละ ยังไงซะจะช้าจะเร็ว เกมที่สีฟ้าสร้างขึ้นมา มันก็ต้องจบอยู่ดี

แต่คนที่เจ็บมีแค่เขาใช่ไหม?


เสียงประตูห้องเปิดเข้ามาแผ่วเบา พร้อมกับเสียงฝีเท้าเบาๆ ก้าวเข้ามา ภาคีรีบลุกขึ้น ชายหนุ่มหวังว่าจะเป็นสีฟ้า คนหน้าหวานใจร้ายอาจเปลี่ยนใจกลับมาหาเขา กลับมาเริ่มต้นใหม่กับเขา หรือจะกลับมาแกล้งเขาอีกครั้ง  จะแบบไหนก็ได้ เขาพร้อมเสมอ ขอให้มีคนๆ นี้อยู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง ได้มองหน้าหวานทุกครั้งที่ตื่นนอน  ได้ยินเสียงหวานๆในค่ำคืนที่มีเพียงเราสอง ลึกซึ้งจนไม่อยากถอนสัมผัส

แต่ไม่ใช่ ความหวังของภาคีสลาย เมื่อคนที่เข้ามาคือนลิน

นลินนั่งลงข้างคนเป็นน้อง โอบไหล่ไว้หลวมๆ พอจะเข้าใจความรู้สึกของน้องชายดี นานแค่ไหนที่เธอรับรู้เรื่องนี้ รับรู้มาตลอดแต่ทำอะไรไม่ได้ ช่วยเหลืออะไรน้องไม่ได้เลย

“ตินจะทำยังไงต่อไป” นลินถาม เธอเป็นห่วง กระชับอ้อมแขนอบอุ่นให้แน่นกว่าเดิม ศีรษะได้รูปของภาคีเอนซบลงบนบ่าของพี่สาว ซึมซับเอาความห่วงใยสู่หัวใจที่ปวดร้าว

“ผมจะย้ายออกจากที่นี่ครับ”

ภาคีบอกความตั้งใจ ชายหนุ่มเพิ่งตัดใจได้ในวินาทีที่หยิบกรอบรูปของสีฟ้าขึ้นมาแนบอก เขาไม่อยากอยู่ห้องนี้ที่ไร้เงาของสีฟ้า
 

“แน่ใจนะติน” นลินถามย้ำ หากไม่ได้หวังจะเปลี่ยนใจคนเป็นน้อง เพราะเชื่อในการตัดสินใจของน้องชายเสมอ ภาคีมีเหตุผลเสมอ เธอรู้ดี ถ้าภาคียังอยู่ร่วมรั้วเดียวกับสีฟ้า ภาคีคงต้องเจ็บปวดและทรมานกว่าที่เป็นอยู่อีกหลายเท่า

“ครับพี่ลิน ผมคงอยู่ที่นี้ไม่ได้ ความทรงจำมันมีมากเหลือเกิน”

เขาหมายความเช่นนั้นจริงๆ ถ้าต้องพบเจอกันทุกวัน แต่ไม่ได้สัมผัสเช่นทุกครั้ง มันคงเจ็บปวดจนใจไม่เหลือชิ้นดี สู้ออกไปจากตรงนี้ ตรงที่เขาจะไม่ต้องพบเจอคนหน้าหวานที่ไม่เคยใยดีหัวใจของเขาแม้แต่น้อย เขาอาจจะเจ็บปวดแค่นี้ ไม่พบ ไม่เจอ ไม่เห็น คงสักวันนั้นแหละเขาคงจะลืมสีฟ้าออกไปจากหัวใจได้

แต่เขาจะทำได้จริงเหรอ?

เกิดคำถามขึ้นในหัวใจของภาคีอีกครั้ง แน่หรือ? เขาจะลืมสีฟ้าได้จริงหรือไง แล้วไงล่ะ เวลาที่ผ่านมาหลายปี เขาก็ไม่เคยลืมรักแรกไม่ใช่เหรอ?

คร้านจะหาคำตอบทำให้ใจเจ็บ ภาคีสลัดความคิดนั้นทิ้ง พอๆ กับถ้อยคำความห่วงใยแสนนุ่มจากพี่สาวที่บอกถึงความรักและความห่วงใย

“แล้วแต่ตินนะ พี่ไม่ห้าม แต่ตินต้องดูแลตัวเองให้ดี พี่เป็นห่วง ส่วนความทรงจำที่ดีๆ อย่าทิ้งมันไป พี่รู้ว่าเวลาที่ตินอยู่กับน้องลม มันคือช่วงเวลาที่ตินมีความสุขที่สุด”

“ผมยังไม่รู้เลยพี่ลิน ว่ามันคือความสุขหรือความเจ็บปวดกันแน่”

ใช่...เขาไม่รู้ ไม่เคยรู้เลยสักนิด เพราะความสุขของเขามันปะปนอยู่กับความเจ็บปวดเสมอเรื่อยมา ทั้งที่ยามที่มีคนร่างบางอยู่ในอ้อมกอดจะทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะซะทุกครั้ง ใบหน้าหวานที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าเขาทั้งยามหลับและตื่นนั่นอีก มันเป็นความสุขที่ปะปนกับความเจ็บปวดเสมอเมื่อคิดถึงเหตุผลที่เขามีสีฟ้ามาอยู่ในอ้อมกอด

สีฟ้าไม่ได้รักเขา แต่ก็ยินยอมอยู่ในอ้อมกอดเขา ยอมให้เขาตักตวงสิ่งที่ต้องการ หากมันก็เจ็บเมื่อเฝ้าคิดเสมอว่าสิ่งที่ได้มา เป็นแค่ความใคร่ ที่ไร้หัวใจรัก

“พี่เชื่อว่าคือความสุข”

“ผมก็อยากจะเชื่อว่ามันคือความสุขครับพี่ลิน”

สุขเพียงชั่วครู่ ก่อนจะแปรผันกลายเป็นความเจ็บปวดยากจะลบลืม

...

ภาคีทำอย่างที่เขาบอกนลิน หลายวันต่อมาเขาก็ได้ย้ายข้าวของออกไปอยู่คอนโดที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน มันเป็นคอนโดที่อชิตะ บอสหนุ่มใจดีให้เขาเช่า พออชิตะรู้เรื่องของภาคี โดยที่ภาคีไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายบอกเล่าเรื่องของตัวเองให้รับรู้เลยด้วยซ้ำ แต่เพราะเพื่อนรักอย่างคณิตเอาเรื่องของเขาไปเล่าให้ฟังเช่นทุกครั้ง พอรู้เรื่องอชิตะจึงเสนอคอนโดของตัวเองให้ภาคีเช่าในราคาที่ไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับความหรูหราของมัน เพราะเป็นจังหวะพอดีกับที่อชิตะจะย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ซึ่งเป็นบ้านที่ถูกสร้างไว้เป็นเรือนหอของอชิตะและภรรยาของเจ้าตัวในอนาคต
แต่ระหว่างที่ภาคียังไม่ได้ย้ายออกมา ตลอดระยะเวลานั้นชายหนุ่มไม่ได้เจอหน้าสีฟ้าเลย คล้ายกับสีฟ้าจะหลบหน้าเขา และเขาก็เช่นกัน ยอมรับว่าเขาหลบหน้าอีกฝ่ายหนึ่งด้วยเหมือนกัน

...



“เป็นอะไรไปวะ”

คณิตที่เดินออกมาจากห้องของเจ้านายหนุ่ม และกำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง ต้องสะดุดกับไอ้อาการเหม่อๆ ของเพื่อนรัก นี่มันยังไม่หายจากอาการอกหักรักคุดอีกเหรอไง คณิตนึกอย่างเซ็ง ก็เขาทนนั่งดูอาการของเพื่อนที่เป็นเพนกวินป่วยมากว่าสามเดือนแล้วนะ แต่ก็ยังไม่ชินสักที

สามเดือนที่เลิกกับสีฟ้า

มันจะเศร้านานไปไหม? คณิตสงสัย


“เฮ้ย ! ไอ้ตินนนนน...”

เมื่อเรียกครั้งแรกไม่ได้ยินทั้งที่ยืนอยู่ใกล้แค่ถีบก้นได้ แต่ไอ้เพื่อนหน้านิ่ง คิ้วขมวดเป็นโบว์ดำแสลงทรวงยังไม่รับรู้สรรพเสียงรอบๆ ตัวอะไรเลย คณิตจึงตะโกนแถมแอ็กโค่เข้าให้อีกดอก นั่นแหละภาคีถึงจะรู้ตัว หันมาถามด้วยสีหน้าและแววตา ประหนึ่งจะบอกว่าจะตะโกนหาเยี่ยวม้าน้ำอะไรวะ

“มีไร” ภาคีย้อนถาม ขณะที่สองมือก็หยิบจับงานที่กองอยู่ตรงหน้าขึ้นมาทำ หลังจากที่ปล่อยมันกองแน่นิ่งมาหลายชั่วโมง

“ทำยังกับโลกจะแตก อกหักแค่นี้เอง เอาน่ามึง คนน่ารักยังมีอีกเยอะ เดี๋ยวเพื่อนแสนดีอย่างกูจะแนะนำให้รู้จัก ”

คณิตเป็นเพียงเพื่อนคนเดียวที่รู้เรื่องนี้ของภาคี แต่ไม่นับรวมถึงเจ้านายสุดที่รักที่คณิตเอาเรื่องของเพื่อนไปขายให้ฟังอีกหนึ่งคนนะ

“อย่ายุ่งได้ไหม” ภาคีตอบแทนความเป็นห่วงของเพื่อนด้วยน้ำเสียงห้วน นับวันเขาจะยิ่งหงุดหงิดง่าย แต่คณิตก็ไม่เคยถือโกรธกับอารมณ์ของเพื่อนที่เปลี่ยนไปราวกับหน้ามือเป็นหลังตีน

“กูเป็นห่วงมึงนะโว้ย ดูดิ งานการไม่เป็นอันทำ ดีนะบอสใจดี ถ้าเป็นคนอื่นนะ มึงโดนไล่ออกตั้งแต่วันแรกแล้ว”

“เออๆ กูรู้ ขอโทษว่ะ มึงกลับไปทำงานได้แล้ว กูจะทำงาน” ภาคีฝืนยิ้มให้กับความเป็นห่วงของคณิต เขารู้ว่าเผลอเอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้เรื่องงานพัง อย่างที่คณิตพูดจริงๆ ถ้าไม่มีเจ้านายอย่างอชิตะ ปานนี้เขาคงโดนไล่ออกไปนานแล้ว

ทำงานช้า

ทำงานพลาด

ลูกค้าด่า

โดนมาหมด แต่อชิตะก็ยังใจเย็นกับเขามากว่าสามเดือน

“มานึกทำงานเอาไอ้ตอนจะเลิกงานห๊ะ ไปๆ เก็บของเลยมึง ไม่ต้องทำมันแล้ว”

“มีอะไรกันหรือเปล่า?” เสียงของอชิตะดังขึ้น เขากำลังจะเตรียมตัวจะออกไปพบกับแฟนสาวที่เพิ่งบนกลับมาจากต่างประเทศหลังจากเรียนจบปริญญาโทได้กว่าอาทิตย์แล้ว นอกจากแฟนสาวแล้วอชิตะยังนัดกับเพื่อนที่เป็นหมอสัตว์ของเขาอีกหนึ่งคน พิษณุจะพาแฟนมาเปิดตัวให้เขาเห็นเป็นครั้งแรก

“ก็เรื่องที่มันอกหัก โดนเขาทิ้งไงครับ งานการไม่ทำมันเลยบอส นี่ดีนะครับมีบอสใจดี ผมว่าบอสคงต้อง อนุญาต ให้มันลาพักเพราะอกหักสักปีนะครับ เพื่อมันจะกลับมาเป็นผู้เป็นคนกว่านี้”

พออชิตะถาม คณิตก็ตอบทันที ตอบแบบเล่นๆ แต่ดูเหมือนเจ้านายใจดีจะถือเป็นเรื่องจริง ถามภาคีด้วยสีหน้าจริงจัง

“เอาไหมล่ะติน ผมอนุญาต แต่คงให้ได้ไม่ถึงปีหรอกนะ เอาแค่ครึ่งปีไปก่อนได้ไหม?”

“มะ..มะ...ไม่ต้องหรอกครับบอส” ภาคีรีบปฏิเสธ ก่อนหันไปทำหน้าโหดใส่คณิต

“เอาน่าติน เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง งั้นเอาอย่างนี้ดีกว่า คืนนี้เราไปดื่มให้ลืมเธอกัน ผมเป็นเจ้ามือเอง” อชิตะตบบ่าลูกน้องไปสองทีคล้ายต้องการปลอบอยู่ในที ชวนไปดื่มสักหน่อย จะได้หายจากสภาพศพเดินได้สักที แล้วเขาจะได้เปิดคนรักไปพร้อมๆ กัน

“สุดยอดครับบอส แต่ผมว่าบอสพูดผิดไปนิดนะครับ ดื่มเพื่อลืมเขาครับ ไม่ใช่เธอ”

แค่นั้นแหละ คณิตก็โกยหลบตีเพนกวินแทบไม่ทัน


...


ท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังคลอเคล้ากับความสลัวของร้าน ตรงมุมด้านในสุดของร้านย่านแหล่งเที่ยวยามค่ำคืนที่หรูหรา สามหนุ่มกำลังละเลียดอยู่กับเครื่องดื่มตรงหน้า พร้อมกับบทสนทนาที่สนุกสนาน แต่ว่าไปแล้วคงมีแค่สองหนุ่มคณิตกับอชิตะเท่านั้น ที่ดูจะมีความสุขอยู่กับเครื่องดื่มแล้วก็บทสนทนาที่พารื่นไหลไปตามจังหวะของบทเพลง ส่วนภาคีช้ำรักคงมีแต่เครื่องดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าเท่านั้นที่ง้างปากเขาให้เปิดออกได้

ทั้งที่เพิ่งจะสองทุ่มเท่านั้น แต่เหล้ายี่ห้อดังรสนุ่มลิ้นกลับหมดไปเสียหลายขวด โดยมากจะเป็นฝีมือของคนช้ำรักซะมากกว่า เพราะอาการตอนนี้ก็แทบจะทรงตัวไม่ได้อยู่แล้ว

“พอๆ พอได้แล้วไอ้ติน นี่มึงกะจะถล่มบอสเลยหรือไงวะ เดี๋ยวขนหน้าแข็งบอสก็ไม่มีให้โกนหรอกโว้ย ”

บทเพลงหวานๆ ไม่ดังมากนัก ทำให้คณิตไม่จำเป็นต้องตะโกนใส่หูภาคี แค่พูดเป็นปกติธรรมดาคนที่ออกอาการมึนเมาด้วยน้ำเมาไปก่อนใครก็ได้ยินชัดเต็มสองหู ก่อนตอบกลับมาด้วยเสียงห้วน คล้ายคนถูกขัดใจเมื่อคณิตแย่งแก้วเหล้าไปจากมือ

“ของกู เอาคืนมา”

ภาคีแย่งแก้วของเขาคืนมาจนได้ พาลยกขึ้นดื่มที่น่าจะเรียกว่ากรอกใส่ปากทีเดียวหมดแก้ว เอื้อมมือจะคว้าขวดเหล้าขึ้นมาหวังเติม แต่คณิตก็แย่งขวดเหล้าไปกอดไว้ซะก่อน

“พอได้แล้วมึง กูไม่อยากหามมึงกับห้องนะโว้ย”

“ให้ตินกินไปเถอะครับ ขนหน้าแข็งผมไม่ล่วงหรอก ถึงมันล่วงเดี๋ยวผมปลูกขึ้นมาใหม่ก็ได้”

อชิตะยังเป็นเจ้านายใจดีเหมือนเดิม คณิตจำต้องยืนขวดเหล้ายี่ห้อหรูรสนุ่มลิ้นให้เจ้านายใจดี ก่อนที่อชิตะจะเป็นฝ่ายเติมน้ำแข็งและก็รินเหล้าใส่แก้วให้คนอยากกิน

พอรินเหล้าให้ภาคีเสร็จ เจ้าเครื่องจิ๋วในกระเป๋าเสื้อสูทที่ถอดฟาดไว้กับพนักเก้าอี้ก็ร้องดังขึ้น อชิตะกดรับพร้อมกรอกเสียงที่เจ้าตัวคิดว่าหวานที่สุดไปหาคนปลายสาย แต่คนที่หูผึ่งอย่างคณิตกลับฟังแล้วชวนอ้วก ไม่คิดว่าบอสของตัวเองจะพูดหวานได้เลี่ยนขนาดนี้ แต่ภาคีกลับฟังน้ำเสียงหวานๆ ของอชิตะ ด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่สามารถเอ่ยน้ำเสียงหวานๆและยิ้มอย่างมีความสุขอย่างที่อชิตะกำลังทำกับคนรักที่อยู่ปลายสายได้

“ครับหวาน ถึงไหนแล้วครับ หน้าร้านหรือครับ เก่งจังเลยนะครับที่รักของพี่อิง เดี๋ยวพี่ออกไปรับนะครับ อ้าวทำไมล่ะ เดินเข้ามาแล้วเหรอครับ ครับๆ เดินตรงมาเรื่อยๆ เลยครับ ครับพี่เห็นหวานแล้ว”

อชิตะลุกขึ้นยืน โบกไม้โบกมือให้กับหญิงสาวน่าตาจิ้มลิ้มในชุดแสกสีดำคาดโบว์เล็กสีเงินตรงเอวบาง ที่กำลังเดินถือโทรศัพท์แนบหู ก่อนจะยิ้มแจ่มใสตอบกลับมา

“เก่งจังเลยครับคนดีของพี่อิง หาทางมาจนได้”

“กว่าหวานจะหาเจอก็เกือบแย่เหมือนกัน”

ณัชชาบอกเสียงหวาน กว่าที่เธอจะหาร้านในย่านหรูนี้เจอก็ขับรถหลงอยู่หลายรอบเหมือนกัน ที่มาได้ก็ต้องอาศัยแผนที่ที่หนุ่มคนรักแฟกซ์ไปให้ ถนนกรุงเทพเปลี่ยนแปลงไปเยอะ นับตั้งแต่เธอบินตามพ่อกับแม่ที่เป็นหมอไปอยู่ต่างแดนตั้งแต่มอสี่ และร่ำเรียนอยู่ต่างประเทศมาตลอด มาถึงตอนนี้แหละถึงได้โอกาสย้ายมาอยู่แผ่นดินเกิดอย่างถาวร เพราะเธอกำลังจะฝากอนาคตไว้กับเจ้าของมือใหญ่ที่เกาะกุมมือเล็กของเธออยู่ยามนี้ มือที่อบอุ่นเสมอสำหรับเธอไม่ว่าจะผ่านพ้นมากี่ปีต่อกี่ปี

“บอกแล้วว่าให้พี่ไปรับก็ไม่เชื่อจะได้ไม่ต้องเหนื่อยขับรถมาเอง”

อชิตะขยี้ผมนุ่มสลวยของคนรักด้วยความรักและเอ็นดู เขากับณัชชารู้จักกันตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อและแม่เป็นเพื่อนกัน ณัชชาอายุน้อยกว่าเขา เขาและเธอรักกันมานาน แม้ระยะทางก็ไม่เคยทำให้คำว่ารักมลายหายไปเลยแม้แต่น้อย

“พี่อิง คืนนี้หวานชวนเพื่อนเก่ามาด้วยนะคะ หวานเพิ่งเจอเค้าเมื่อเช้านี้เอง คงไม่ว่ากันนะคะที่ไม่ได้บอกพี่อิงก่อน”

“ไม่หรอกครับ พี่ก็มีเพื่อนมาเหมือนกัน”

อชิตะบอกคนรักด้วยรอยยิ้มหวาน พลางหันไปทางสองหนุ่มลูกน้องที่คนหนึ่งนั่งทำหน้าเหมือนจะล้อเขา เห็นแล้วนึกอายตัวเองอยู่เหมือนกัน ก็แต่ไหนแต่ไรไม่เคยแสดงมุมหวานๆ แบบนี้ให้ลูกน้องมันเห็น ส่วนลูกน้องอีกคนนะเหรอ ต่างจากคนแรก ภาคีเหมือนจะจ้องคนรักของเขาตาไม่กระพริบ นัยน์ตาฉ่ำด้วยฤทธิ์น้ำเมาดูมีอาการอะไรบางอย่าง เหมือนกำลังนึกทบทวนอะไรอยู่ในหัว พอหันมาทางณัชชาก็เห็นมีอาการไม่แตกต่างกันเท่าไหร่

“มีอะไรหรือเปล่าครับหวาน มองหน้าเพื่อนพี่จนจะทะลุถึงกระดูกสันหลังแล้วนะครับ พี่หึงนะ” ประโยคหลังเจ้าตัวเบาเสียงลงแทบจะเป็นกระซิบ

“โธ่พี่อิง ไม่ไว้ใจหวานหรือไง” คนหน้าตาจิ้มลิ้มตีหน้ายุ่งใส่ 

“ไว้ใจสิครับ แต่คนมันหึงนี่นา ก็มองเพื่อนพี่ตาไม่กระพริบเลย” อชิตะมองตาหวานๆ ของคนรัก ยามที่สาวคนรักเอื้อมมือมาดึงแก้มทั้งสองข้างของเขา ที่มักทำเป็นประจำเวลาที่เขาเริ่มมีอาการงอนอีกฝ่าย ถ้าอยู่ในที่ลับตากว่านี้ จะดึงหน้าหวานๆมาจุ๊บให้เข็ด
 

“ก็เพื่อนพี่อิงหน้าเหมือนกับเพื่อนสมัยเรียนของหวานนะสิ ”

“โล่งอกไปที นึกว่าต้องขายเรือนหอทิ้งซะแล้ว” เจ้าตัวพูดติดตลก

“ใช่....ตินหรือเปล่า” ณัชชาหันไปถามหนุ่มคิ้วเข้ม 

“เออ...ใช่ครับ หวาน”

ภาคีตอบรับเหมือนจำได้ลางๆ ว่าเคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อน ไอ้อาการมึนๆ จากน้ำเมาที่กรอกใส่ปากไปหลายแก้วคล้ายจะหายไปบ้างแล้ว

“ตินจริงๆ ด้วย โอ้ย! หวานดีใจจริงๆ ที่ได้เจอเพื่อนเก่า”

“เราก็ดีใจเหมือนกัน”

แม้ไม่สนิทมาก ด้วยแค่เรียนอยู่ชั้นเดียวกัน หากอยู่คนละห้อง หนำซ้ำเธอยังย้ายไปกลางเทอมอีก ไอ้เรื่องสนิทสนมไม่ต้องพูดถึง ทว่าณัชชาก็ยังดีใจอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะเธอจากทีนี้ไปนาน เพื่อนฝูงจึงมีไม่มากนัก ได้เจอภาคีจึงถือว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งทีเดียว

“นี่แสดงว่ารู้จักกันจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย” อชิตะโพล่งขึ้นมาหลังจากที่เห็นท่าทีของทั้งสองคนว่ารู้จักกันจริง

“ก็จริงน่ะสิพี่อิง หวานจะโกหกทำไมล่ะ” สาวคนรักหันมาค้อน จนคนพูดต้องส่งยิ้มขอโทษโดยด่วน

“แต่บอสครับ มีผมคนหนึ่งละครับที่ไม่รู้จัก” คณิตที่นั่งเงียบนานไปหน่อย ได้จังหวะพูดขึ้นมาซะที หลังจากรอเวลาร่วมบทสนทนามานาน

“อ้าว...โทษทีหนึ่ง ผมลืมไปนะ งั้นแนะนำให้รู้จักกันเลยนะครับ หวานครับ นี่หนึ่งนะครับ ว่าที่เพื่อนเจ้าบ่าวของพี่ในวันงานของเรา”

“สวัสดีค่ะหนึ่ง ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”

ณัชชาฉีกยิ้มหวานให้ว่าที่เพื่อนเจ้าบ่าวของคนรัก ก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนในวัยเด็ก

“ไม่ได้เจอกันนานตินยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะ แล้วนี่มีแฟนหรือยัง พามาให้หวานรู้จักหน่อยสิ”

เจ้าตัวถามอย่างใจคิด ณัชชายังจำได้ดีว่าเมื่อครั้งนั้น ภาคีเป็นหนุ่มที่ฮอตคนหนึ่งของโรงเรียน สาวๆ น่ะรุมจีบภาคีเป็นแถว แต่ก็ไม่มีใครพิชิตใจหนุ่มคิ้วเข้มหน้าได้สักคน ตอนนี้เลยอยากรู้ว่าใครเป็นสาวที่โชคดีได้เป็นแฟนกับภาคี

ภาคีเพียงพยักหน้ายิ้มรับคำชม ทว่ากับคำถามสุดท้ายชายหนุ่มกลับยิ้มรับไม่ได้เลย ร้อนถึงคนเป็นเจ้านายที่รู้ว่าลูกน้องคนพูดน้อยกำลังอยู่ในช่วงอกหักรักกลัดหนอง ต้องช่วยดึงประเด็นสนในออกไปจากเรื่องนี้

“ตอนนี้ก็รู้จักกันหมดแล้วนะครับ แล้วเพื่อนของหวานจะมาถึงเมื่อไหร่ละครับ” อชิตะรีบชวนแฟนสาวเปลี่ยนเรื่อง บวกกับการที่เขายังไม่เห็นเพื่อนของณัชชา บอกว่าจะมาด้วยกัน แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา

“หวานก็ไม่รู้เหมือนกันนะพี่อิง ตอนที่หวานโทรไปหายังติดประชุมอยู่เลย คงอีกนานกว่าจะมานะ”

ณัชชาหันไปตอบคำถามหนุ่มคนรัก แต่ไม่วายจะหันกลับมาคุยกับภาคีอีกครั้ง ณัชชาก็เป็นแบบนี้แหละ เพราะจากไปอยู่ต่างประเทศมานาน ทำให้เธอมีเพื่อนคนไทยน้อย พอได้มาเจอคนรู้จักเช่นภาคี ก็อดที่จะอยากรู้อยากเห็นความเป็นไปไม่ได้

“แฟนตินสวยหรือเปล่า อย่าลืมพามาให้หวานรู้จักนะ บางทีหวานอาจจะขอยืมตัวแฟนภาคีเป็นเพื่อนเจ้าสาวก็ได้”

“อย่าไปถามมันเลยครับคุณหวาน ตอนนี้มันกำลังอกหักครับ ถูกแฟนทิ้ง ถึงได้มาเมาหัวราน้ำอยู่ที่นี่ไงครับ” คณิตที่ไม่เคยหยุดปากตัวเองได้ก็พูดแทรกขึ้นมาตามนิสัยที่ไม่ค่อยจะคิดอะไรมาก มองอะไรก็เป็นเรื่องสนุกสนานเสียหมด

“จริงหรือติน” หญิงสาวย้อนถามเสียงหลง คำตอบที่ได้รับจากเจ้าของเรื่องคืออาการก้มหน้านิ่ง ไม่พูดอะไรออกมาเลย มีแต่คนที่นั่งอยู่ข้างๆ นั่นแหละที่เป็นฝ่ายตอบคำถามแทน

“จริงครับ ตอนนี้กำลังช้ำหนัก ต้องการคนดามใจด่วน คุณหวานพอจะแนะนำใครให้มันได้บ้างล่ะครับ” ยืนยันด้วยความจริงใจที่มีอยู่ คณิตไม่ได้ต้องการตอกย้ำความเจ็บช้ำของเพื่อน แต่เขากำลังช่วยหาคนดามใจให้เพื่อนต่างหาก

“พอจะมีอยู่นะหนึ่ง” ณัชชาพูดขึ้นมา หลังจากหยุดคิดไปนิดหนึ่ง

“โหย...ดีเลยครับ ตินมันจะได้เลิกถูกพิษรักทำร้ายซะที” เขาก็อยากให้เพื่อนยิ้มได้ หลังจากที่ทนเห็นหน้าไม่ยิ้มมาหลายเดือน จนบางครั้งทำเอาคณิตเครียดไปด้วย

“ใครหรือครับหวาน” อชิตะที่พยายามจะดึงแฟนสาวให้ออกห่างจากประเด็น แต่ก็ดันออกไม่ได้ เจ้าตัวเลยจำต้องยอมไหลไปตามน้ำ

“ก็เพื่อนที่หวานนัดมาเจอคืนนี้ไง คนนี้ตินก็....” ยังไม่ทันจะพูดจบ ณัชชาก็ถูกภาคีปฏิเสธความหวังดีซะก่อน

“ขอบใจครับหวาน แต่ไม่เป็นไร เราอยู่แบบนี้นะดีแล้ว” อยู่กับความเจ็บช้ำที่ไม่อยากให้เลือนหาย เพราะหากมันเลือนหาย แปลว่าสีฟ้าจะหายไปจากหัวใจเขา ซึ่งเขาไม่ต้องการ

ปล่อยให้เขาอยู่กับความสุขที่ได้คิดถึงคนที่เขารักอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ดีกว่า ดีกว่าที่จะหาใครมาแทนที่สีฟ้าในใจเขา เขาไม่ต้องการ เพราะไม่มีใครแทนคนที่เขารักจนหมดหัวใจได้หรอก

“เฮ้ย! ไอ้ติน มึงดูนั่น ใช่คุณ...”

คณิตที่กำลังยกน้ำสีอำพันขึ้นมาดื่ม พลันต้องถือค้างไว้อย่างนั้น เมื่อเขามองเห็นคนที่กำลังเดินมาทางนี้ ภาคีมองตามสายตาของเพื่อน ชายหนุ่มก็เจอะเข้ากับคนที่ห่างหายไปจากชีวิตของเขานานกว่าสามเดือน

“คุณลม”

ภาคีไม่คิดมาก่อนว่าจะมาเจอคนที่เขาเฝ้าคิดถึงมาตลอดในคืนนี้ ความดีใจฉายเพียงแค่วูบเดียว ก่อนถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกแปลบๆ ข้างใน

สีฟ้าไม่ได้มาคนเดียว หากแต่มีหนุ่มหน้าเข้มเดินเคียงคู่มาด้วย


.........................................
ปล แอบเห็นเมืนท์ของแต่ละคนแล้ว ต้องมาสปอยสักหน่อยว่าเรื่องนี้เค้าแฮปปี้เอนดิ้งนะค่ะ แต่อย่างอาจมีหวานบ้างขมบ้าง บอกแล้วว่า นี่มันละครหลังข่าวชัดๆ 
ว่าแต่ว่าถ้าตอนต่อๆไปมีแต่หวานกับหวานอย่ามาหาว่าเลี่ยนนะเค๊อะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 20-03-2011 20:51:38
อ่านแล้วขัดใจอ่ะ .....ทำไมภาคีปากหนักแบบนี้
น่าจะพูดอะไรมากกว่านี้หน่อย
....เครียด....
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 20-03-2011 20:52:35
 :a5:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 20-03-2011 21:05:15
มีตัวละครเพิ่มมาอีก
อ๊ากกกกกกกกกกกก ภาคีของฉันอกหัก รักคุด มาสามเดือนแล้ว
เกินเยียวยาหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 20-03-2011 21:45:05
  :o12:สงสารตินกับลมมาก
รอตอนต่อไปคะ
หวานหวานจะเอาหวานหวาน :serius2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: in_blu ที่ 20-03-2011 22:17:09
เพิ่งมาอ่านคร้าาา

อ่านไป อ่านมา ได้ 2 ตอน คุ้นๆ มากมาย ว่าเราเคยอ่านเรื่องนี้ที่ไหนมาก็รึเปล่า

ว่าแล้วก็ไปเปิดกรุ แล้วก็ โอววว ที่แท้เราก็เคยอ่านแล้วจิงๆ ด้วย (แต่เป็นอีกเวอร์ชั่นนึงนะคะ)

ยังไงรอติดรามเวอร์ชั่นนี้ด้วยเหมือนกันนะคะ อ่านแล้ว อ่านอีกได้ไม่เป็นไร

(พอค้าง เราก็หนีกลับไปอ่านเวอร์ชั่นเก่า ฮ่าๆ)

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 20-03-2011 22:44:21
ภาคี ชีวิตรันทดจริงๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: teae ที่ 20-03-2011 23:07:57
0hk  0hkqqqqqqqqqqqqqqqqq
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 20-03-2011 23:11:59
^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-03-2011 23:27:09
แรดเหมือนกันนี่หว่าคุณลม


เพิ่งเลิกไปไม่กี่หาใหม่ได้แล้ว  ใจเร็วดีจริง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 20-03-2011 23:29:25
เอาแบบหวานๆเลยค่ะ มันขมมากไปแล้วนะ รับไม่ได้ฮือๆ มาต่อด่วยๆเลยนะคะ~~~
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 20-03-2011 23:50:31
 กว่าจะหวาน ดูท่าพระเอกคงจะช้ำใจตายก่อนแน่ๆ
เลิกกันไม่ทันไร ควงคนใหม่มาเย้ยกันซะแล้ว
ไม่รู้ว่างานนี้ใครจะเจ็บ อยากอ่านหวานๆแล้วอ่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 21-03-2011 00:39:48
รอตอนหวานๆเลยค่ะ ชอบ อิอิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 21-03-2011 01:05:52
ชอบจะตายไปค่ะที่มีแต่หนาวอย่างเดียว ยังไม่เคยเจอใครที่สามารถแต่แต่หวานๆให้มันหวานได้ตลอดๆๆๆได้เลยอ่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 21-03-2011 01:08:21
นี่ละน้าาาา

รักที่ไม่แสดงออก

รสชาติมันเลยขมๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 21-03-2011 09:02:15
สงสารตินอะ
 :m15: :m15:

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 21-03-2011 12:28:46
เค้าเรียกคู่กันแล้วมันแคล้วกันยากส์
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 21-03-2011 12:37:47
ม้ามทรุดไปแล้ว....
อะไรมันจะอึนมึน ได้ขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 21-03-2011 14:32:01
ตามอ่านทันแล้วก็เข้ามาลงทะเบียนผู้อ่านอีกคนคะ

หน้าสงสารทั้ง 2 คน เป็นคนไม่ค่อยพุดเลยช้ำในกันท้วนหน้า
แต่ที่ทำให้บ้าได้อีกก็ยัยชะนี 2 ตัวนี่แหละเลวได้อีกปะ :m16:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 21-03-2011 15:50:31
คุณลมใจร้ายจัง

ปล.หวานเลื่ยนไม่กลัว กลัวแต่มาม่าอืด
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 21-03-2011 16:06:47
แวะมาตอบเม้นท์ค่ะ และบวก1 แทนคำขอบคุณทุกๆเม้นท์นะค่ะ :pig4:

:a5:
อย่ามาเนียน
 :m20:
มีตัวละครเพิ่มมาอีก
อ๊ากกกกกกกกกกกก ภาคีของฉันอกหัก รักคุด มาสามเดือนแล้ว
เกินเยียวยาหรือเปล่า
ถ้าจะเยียวยา ภาคีสุดหล่อมีทางเดียวต้องยุยงภาคีเอาคืนที่คุณลมปล่อยให้เอกา เดียวดายตั้ง 3 เดือน
อ่านแล้วขัดใจอ่ะ .....ทำไมภาคีปากหนักแบบนี้
น่าจะพูดอะไรมากกว่านี้หน่อย
....เครียด....
คนนี้เค้าพูดน้อยต่อยหนัก  555
 :o12:สงสารตินกับลมมาก
รอตอนต่อไปคะ
หวานหวานจะเอาหวานหวาน :serius2:
รอตอนหน้านะค่ะ หวานค่ะหวานสัญญา
เพิ่งมาอ่านคร้าาา

อ่านไป อ่านมา ได้ 2 ตอน คุ้นๆ มากมาย ว่าเราเคยอ่านเรื่องนี้ที่ไหนมาก็รึเปล่า

ว่าแล้วก็ไปเปิดกรุ แล้วก็ โอววว ที่แท้เราก็เคยอ่านแล้วจิงๆ ด้วย (แต่เป็นอีกเวอร์ชั่นนึงนะคะ)

ยังไงรอติดรามเวอร์ชั่นนี้ด้วยเหมือนกันนะคะ อ่านแล้ว อ่านอีกได้ไม่เป็นไร

(พอค้าง เราก็หนีกลับไปอ่านเวอร์ชั่นเก่า ฮ่าๆ)

ยังไงก็ฝากเวอร์ชั่นนี้ไว้ในอ้อมใจด้วยนะค่ะ
ภาคี ชีวิตรันทดจริงๆ
บอกแล้วว่าพ่อคนนี้เค้าพระเอกละครหลังข่าววิกหลายสี555
0hk  0hkqqqqqqqqqqqqqqqqq
เดาว่า  :fire:
^^
เดาคนข้างบนไม่ถูกเลย งง รึเปล่าเอ่ย

แรดเหมือนกันนี่หว่าคุณลม
เพิ่งเลิกไปไม่กี่หาใหม่ได้แล้ว  ใจเร็วดีจริง
โหใจร้าย  น้องลมเค้าแค่ มีเสน่ห์ล้นหลามเกินห้ามใจ

เอาแบบหวานๆเลยค่ะ มันขมมากไปแล้วนะ รับไม่ได้ฮือๆ มาต่อด่วยๆเลยนะคะ~~~
คาดว่าพรุ่งนี้จะมาต่อค่ะถ้าไม่ติดขัดเรื่อง เนต เรื่องต้นฉบับ

กว่าจะหวาน ดูท่าพระเอกคงจะช้ำใจตายก่อนแน่ๆ
เลิกกันไม่ทันไร ควงคนใหม่มาเย้ยกันซะแล้ว
ไม่รู้ว่างานนี้ใครจะเจ็บ อยากอ่านหวานๆแล้วอ่า
ไม่นานเกินรอค่ะ ตอนหน้าๆๆๆ   (หึหึสปอยซะงั้น)

รอตอนหวานๆเลยค่ะ ชอบ อิอิ
โปรดติดตามตอนต่อไป

ชอบจะตายไปค่ะที่มีแต่หนาวอย่างเดียว ยังไม่เคยเจอใครที่สามารถแต่แต่หวานๆให้มันหวานได้ตลอดๆๆๆได้เลยอ่ะ อิอิ
ถ้าหวานตลอดมันจาเลี่ยนเอาน๊า

นี่ละน้าาาา รักที่ไม่แสดงออก รสชาติมันเลยขมๆ
ถูกใจให้กิฟ
ขอบคุณคนโพสต์คนแต่งนะ
ตอนนี้ภาคียังคงน่าสงสาร
หวานเท่าไรไม่ว่าชอบจ้ะ
รอวันหวานนะจ๊ะ :L2:
ขอบคุณเช่นกันค่ะ
สงสารตินอะ
 
คนปากแข็งก็งี้แหละ

เค้าเรียกคู่กันแล้วมันแคล้วกันยากส์
แต่เรื่องนี้แฮปปี้เอนดิ้งน๊า
ม้ามทรุดไปแล้ว....
อะไรมันจะอึนมึน ได้ขนาดนี้
อ่านะ
ตามอ่านทันแล้วก็เข้ามาลงทะเบียนผู้อ่านอีกคนคะ
หน้าสงสารทั้ง 2 คน เป็นคนไม่ค่อยพุดเลยช้ำในกันท้วนหน้า
แต่ที่ทำให้บ้าได้อีกก็ยัยชะนี 2 ตัวนี่แหละเลวได้อีกปะ
ชะนีซะอย่างไปที่ไหนวุ่นที่นั่น
คุณลมใจร้ายจัง
ปล.หวานเลื่ยนไม่กลัว กลัวแต่มาม่าอืด
ไหน ตอนไหนมาม่า ไม่มี๊ :3125:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 21-03-2011 16:17:33
^
^
^
เอิ่มมม... มันยังไม่หวานน้าาาา บอกจากใจ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 21-03-2011 16:20:35
อึดอัดแทนจริงๆๆเลย กลัวอะไรกันนักนะ ไม่ยอมพูดสักคน
แล้วเมื่อไหร่จะได้รุ้สักทีล่ะ คงมีสักคนที่ทนไม่ได้สักวัน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 9 คิดชื่อไม่ออก [20/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 21-03-2011 21:45:27
ขอบคุณค่า..

อ่านแล้วอึดอัดมาก..จิตตกเลยง่ะ..

ปากอมอะไรกันอยู่..พูดออกมาบ้างจะตายมั้ยวะคะ..
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 22-03-2011 19:44:14

ตอนที่ 10



ตรงที่ที่ภาคีและคณิตนั่งอยู่ คือโซฟาตัวที่ตั้งชิดติดกับพนัง มุมที่เห็นคนเห็นคนเดินเข้าออกร้านได้อย่างชัดเจน แตกต่างกับโซฟาตัวที่อชิตะและณัชชานั่งอยู่ เมื่อเห็นอาการของนั่งอึ้งของภาคี และนั่งอ้าปากของคณิต ทั้งอชิตะและณัชชาจึงหันไปมองตามสายตาของคนทั้งคู่ เพียงเพื่อจะรู้ว่าอะไรทำให้สองหนุ่มตกอยู่ในอาการเช่นนั้น

ที่คู่รักอชิตะและณัชชาเห็นคือหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาหุ่นสูงเหมือนนายแบบเดินควงคู่มากับหนุ่มหน้าหวานร่างบาง

“ไอ้หมอทางนี้” ความสนใจของอชิตะที่มีต่อท่าทางของสองพนักงานในบริษัทหายไปทันที เมื่อเขาหันไปเจอเพื่อนที่นัดเจอในคืนนี้ เขาโบกมือเรียก ตอนนี้เพื่อนของเขาก็กำลังเดินยิ้มเข้ามาหา

สีฟ้าแทบอยากจะวิ่งหนีไปจากที่นี้ให้รู้แล้วรู้รอด เมื่อประสานเข้ากับด้วยตาคู่คมที่เคยคุ้นตาและคุ้นใจมาตลอด เท้าที่จะก้าวไปข้างหน้าตามแรงจูงของคนที่ชวนเขามากลับชะงักค้าง รอยยิ้มที่เกิดจากเรื่องราวที่คนข้างกายขยันนำมาเล่าให้เขาฟังตลอดเวลาที่นั่งรถมาด้วยกันจนก้าวเข้ามาในร้าน  มันกลับเลือนหายไปในพริบตา สิ่งที่ตามมาเป็นระลอกคลื่นคือความทรงจำที่อยากจะลบออกไป แต่ก็ยากเหลือเกินที่จะลืมเลือนมันไปได้ มันฝังแน่นจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของความคิดทั้งยามหลับและตื่น

“เป็นอะไรไปครับ น้องลม” พิษณุถาม เมื่อเห็นอาการที่เปลี่ยนไปของคนที่เขาคะยั้นคะยอให้มาด้วยในคืนนี้ 

“ปะ...ปะ..เปล่าครับพี่หมอ” สีฟ้าตะกุกตะกักบอก เขาไม่ได้เตรียมใจไว้ว่าจะต้องเจอ ทำไมต้องเจอ ไม่เข้าใจ โลกมันกลม หรือใครกำลังกลั่นแกล้งเขากันแน่

ทั้งที่ควรจะลืมเลือน แต่กลับต้องมาเจอให้โหยหา

“ไม่เป็นไรแน่นะครับ”

“ครับ” เขาพยักหน้ายืนยัน อาจบังเอิญที่เจอ แต่คงไม่ใช่ใครที่พี่หมอพิษณุนัดเอาไว้ สีฟ้าหวังให้มันเป็นเช่นนั้น แต่ความหวังก็บินหาย เพราะคำพูดต่อมาของคุณหมอหนุ่ม

“งั้นไปครับ เพื่อนของพี่หมอเรียกแล้ว” หมอหนุ่มชี้ไปยังกลุ่มคนที่นั่งอยู่ตรงมุมด้านในสุดของร้าน จูงมือเล็กให้เดินตามอย่างถือสิทธิ์ มือเล็กที่ไม่บ่อยนักเขาจะได้จับมัน

“เออ....คือ...คือ ลมว่าเราเปลี่ยนร้านกันดีกว่าไหมครับ พี่หมอ”

เท้าที่มันควรจะก้าวไปข้างหน้าตามแรงดึง ฝืนร่างเอาไว้ มือเล็กแตะที่ของศอก เป็นเชิงร้องขอให้อีกฝ่ายหยุด สีฟ้าไม่อยากเดินเข้าไปตรงนั้น ตรงที่มีภาคีนั่งถือแก้วเหล้าแล้วยกขึ้นดื่ม หากก็มองมาทางเขาอยู่ตลอด แค่บังเอิญมาเจอกันในร้านเดียวกันก็พอจะแกล้งทำมองไม่เห็นได้ แต่นี่ต้องนั่งร่วมโต๊ะเดียวกัน สีฟ้าไม่รู้เลยว่าเขาจะเผชิญหน้าภาคีด้วยความรู้สึกไหน

“ทำไมละครับ” คนถามสงสัย สีฟ้าจะชวนไปร้านอื่น ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่าเขานัดกับเพื่อนไว้ที่นี่ จะเปลี่ยนเป็นร้านอื่นได้ยังไงกัน

“คือลมไม่ชอบบรรยากาศน่ะครับ ลมว่ามันอึดอัด เราไปร้านอื่นดีกว่านะครับพี่หมอ” สีฟ้าหาทางออกให้กับตัวเองจนได้ แต่มันจะเป็นไปได้หรือ? ในเมื่อหมอหนุ่มนัดกับเพื่อนไว้ที่นี่

หมอพิษณุขมวดคิ้วให้กับคำพูดของคนหน้าหวาน เขาหันไปรอบๆ ร้านที่จัดเป็นตั้งโต๊ะไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย บรรยากาศของร้านก็ออกมาแบบเบาๆ ด้วยเสียงเพลงที่เปิดในระดับเสียงที่ฟังแล้วสบายหู แขกทั้งหลายก็มีมุมเป็นส่วนตัว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครหรือทำเสียงเอะอะโวยวายอะไร แล้วมันน่าอึดอัดตรงไหน แต่พอหันกลับมามองหนุ่มหน้าหวานก็พบว่าเจ้าตัวมีท่าทางอย่างที่พูดจริงๆ สีฟ้าคงไม่ชอบร้านนี้ ซึ่งเขาก็ไม่อยากขัดใจ

“ก็ได้ครับ”

คำตอบของหมอพิษณุทำให้สีฟ้าคลายยิ้มออกมาได้ กำลังจะหันหลังกลับก็ถูกรั้งเอาไว้ทั้งคำพูดและมือใหญ่ที่ดึงแขนของเขาไว้อย่างหลวมๆ

“แต่ว่าขอพี่หมอขอไปบอกเพื่อนก่อนนะครับ แอบเดินหนีไปแบบนี้ เดี๋ยวพี่หมอโดนมันด่าเละแน่ นั่นไงครับ เพื่อนพี่หมอโบกมือเรียกอีกแล้ว”

“ได้ครับ เดี๋ยวลมไปรอที่รถที่รถนะครับ”

สีฟ้ายังพยายามที่จะเอาตัวเองออกไปจากร้านนี้ให้เร็วที่สุด แต่ดูเหมือนหมอหนุ่มจะไม่รับรู้ความพยายามนั้นเอาชะเลย

“เข้าไปรู้จักเพื่อนพี่หมอหน่อยนะครับ พี่หมออยากแนะนำน้องลมให้รู้จักกับเพื่อนพี่หมอนะครับ นะครับ” ปลายประโยคถูกลดเสียงให้เบาลงคล้ายจะอ้อน  ตาของคุณหมอหนุ่มแวววาวด้วยความรู้สึกมากล้นที่สีฟ้าดูออกว่าตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ว่าพิษณุรู้สึกยังไงกับเขา แล้วตอนนี้มันก็ยังเหมือนเดิม ทั้งที่ไม่เคยให้ความหวังและยังทิ้งระยะห่างไว้พอสมควร  ก็มีแค่วันนี้แหละที่เขาทนลูกตื้อของอีกฝ่ายไม่ได้ แล้วเริ่มที่จะเห็นความดีตลอดเวลาสามเดือนที่หมอพิษณุทำให้เขา  หมอพิษณุทำให้คืนวันเหงาๆ ของเขาดูจะมีความสุขขึ้นทุกวัน  ความที่เป็นคนช่างเอาใจ มีความเป็นผู้ใหญ่อยู่ในตัวเองสูง  แต่ก็ไม่วายจะมีมุมน่ารักๆ ที่ทำให้เขายิ้มได้เสมอ นั่นแหละทำให้เขาเริ่มจะเห็นความดีที่มีอยู่ในตัวหมอหนุ่ม

“ครับ”

เพราะความดีนี่แหละทำให้สีฟ้าจำต้องพยักหน้ารับคำ แล้วยอมเดินตามหมอพิษณุที่ถือโอกาสจูงข้อมือของเขา เข้าไปเผชิญหน้ากับคนที่เขาไม่อยากเจอในมากที่สุด แต่เป็นคนที่เขาคิดทุกลมหายใจยามเมื่อห่างหายไปจากชีวิต

ถึงหมอพิษณุจะทำให้เขามีความสุขขึ้น แต่ใช่เขาจะลืมอีกคนหนึ่งได้ มันยังจำ จดลึกไม่เคยลืม ช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันเขายังจำมันได้ทุกวินาที แม้น้อยนิดก็ยังไม่เคยหล่นหาย



ก้าวแต่ละก้าวของหมอหนุ่มเต็มไปด้วยความสุขที่เกิดขึ้น นับตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับสีฟ้า หนุ่มหน้าหวานที่เขาเกิดรักแรกเจอเมื่อสามเดือนที่แล้ว ที่บังเอิญเจอกันในร้านหนังสือ แล้วเป็นเขาเองที่เป็นฝ่ายพยายามสานสัมพันธ์ด้วย แล้วตอนนี้เขาก็เริ่มมีความหวังมากขึ้นแล้ว เพราะสีฟ้ายอมออกไปไหนมาไหนกับเขาบ่อยขึ้น

“โทษทีอิง มาช้าไปหน่อย สวัสดีครับน้องหวาน ติน หนึ่ง” เมื่อจูงคนตัวเล็กกว่ามาถึงโต๊ะที่เพื่อนของเขานั่งอยู่ พิษณุเอ่ยทักเพื่อนของเขา ก่อนจะหันไปทักทายแฟนสาวของเพื่อนที่เขาเคยเจอบ่อยครั้งตอนเธอยังเรียนอยู่ที่ไทย แต่พอไปเรียนต่างประเทศเขาก็ไม่ค่อยได้เจอ แล้วพิษณุก็ไม่ลืมอีกสองหนุ่มที่เขาพอจะคุ้นอยู่บ้าง เพราะเป็นลูกน้องของอชิตะ ได้เจอที่บริษัทของอชิตะบ่อยๆ

“สวัสดีค่ะพี่หมอ” ณัชชายิ้มตอบ  แล้วมุ่งความสนใจไปยังคนที่นั่งอยู่ข้างหมอพิษณุอย่างสนใจ รู้สึกคลับคล้ายว่ารู้จัก เธอพยายามคิดว่าชายหนุ่มหน้าหวานนี้คือใครที่เธอรู้จัก

“ไม่หน่อยแล้วล่ะไอ้หมอ ..... ว่าแต่คนนี้เหรอที่จะพามาให้รู้จัก สวัสดีครับน้องลม พี่อิงนะครับ”

“สวัสดีครับ พี่อิง” สีฟ้ายิ้มตอบ

“ดีใจนะครับที่ได้เจอตัวจริง เห็นไอ้หมอมันพูดถึงน้องลมบ่อยๆ บ่อยยิ่งกว่าจ่ายยาให้คนไข้อีกครับ”  อชิตะว่า เขาไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเพื่อนของเขาถึงได้ละเมอเพ้อหา แทบจะสามเวลาหลังอาหารให้เขาฟัง เพราะหน้าสวยหวานยังกะนางฟ้าแบบนี้นี่เอง

เข้าใจเลยว่าทำไมพิษณุถึงได้ทั้งรักทั้งหลง พร่ำพูดไม่เคยขาดปากถึงผู้ชายคนนี้

หมอพิษณุยิ้มเขิน ก่อนหันไปสบตากับคนที่นั่งข้างเขา อยากรู้ว่าหนุ่มหน้าหวานจะว่ายังไร  สีฟ้ายังนั่งนิ่งเป็นปกติ แปลว่าไม่โกรธ แล้วก็ไม่ปฏิเสธ หมอหนุ่มจึงยิ้มกว้างยิ่งขึ้น มันเป็นสัญญาณที่ดีมากจริงๆ

“พี่หมอครับ” มือเล็กของสีฟ้าดึงเสื้อหมอหนุ่ม เป็นสัญญาเตือนเรื่องที่พูดกันไว้เมื่อครู่ ยามนี้สีฟ้ารู้สึกอึดอัด ลมหายใจมันติดขัดไปหมด สายตาที่มองมาของภาคี มันกดดันจนรู้สึกปั่นป่วน

“อิง ฉันขอตัวกลับก่อนนะ” พิษณุบอกกับเพื่อน เมื่อเห็นว่าคนข้างตัวเขา ส่งสัญญาณให้เขาทำตามที่รับปากเอาไว้

“เฮ้ย ! อะไรวะ ไม่ให้ไปโว้ย มาแป๊บๆ จะไปได้ไง อยู่ด้วยกันก่อน ไหนๆ ก็มาเปิดตัวหวานใจทั้งที มันก็ต้องมีดื่มเพื่อฉลองกันหน่อยเด่ะ”

คำว่า ‘หวานใจ’ ที่ออกมาจากปากของอชิตะ ทำเอาหลายชีวิตเคลื่อนไหวโดยฉับพลัน โดยที่เจ้าตัวคนพูดไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย

หมอหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างอยากลำบาก ถึงขั้นต้องหยิบแก้วน้ำสีอำพันที่มาตั้งตรงหน้าเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ขึ้นดื่มรวดเดียวเกือบหมดแก้ว ก่อนจะมองไปยัง ‘หวานใจ’ อย่ากล้าๆ กลัวๆ ว่าคนหน้าหวานจะมีปฏิกิริยายังไง จะลุกขึ้นมาปฏิเสธ หรือหันมาแหวใส่เขาหรือเปล่า ที่โมเมเอาเองว่าสีฟ้ารับรักเขาแล้ว แล้วก็พบว่าสีฟ้ายังนั่งนิ่งเป็นปกติ เห็นแล้วก็ทำให้โล่งอกได้

คณิตที่ทำตัวเป็นบริกรชั้นเยี่ยม  ที่จัดการชงเหล้ารสนุ่มให้กับเพื่อนของเจ้านายไปก่อนหน้านี้ ต้องอ้าปากค้าง พาลมือที่ถือแก้วเหล้าอยู่นั้นก็เปลี่ยนมาจับคิ้วแล้วถูไปมา มองหน้าเพื่อนของเขาสลับกับหน้าของคนหน้าหวาน  แล้วก็มีหน้าของหมอหนุ่มมาร่วมแจมด้วย ปากที่เริ่มจะคันยิบๆ ตามประสาคนที่รู้เรื่องอะไรแล้วต้องพูด แต่ทำอะไรได้ไม่มากนอกจากกัดปากตัวเองให้แน่นที่สุด  ในเมื่อเจ้าของเรื่องยังทำหน้านิ่งเป็นรูปปั้น ขืนพูดอะไรออกไปตอนนี้มีหวังได้โดนกระทืบตายแน่ 

ส่วนภาคี ชายหนุ่มกำแก้วเหล้าในมือไว้แน่น กดเก็บอารมณ์ร้อนรุ่มข้างในเอาไว้ให้ได้มากที่สุด มองหน้าคนที่เอาแต่ก้มหน้าต่ำ ไม่ยอมสบตาเขา  ไม่สิไม่ใช่แค่ไม่สบสายตา แต่ทำเป็นมองไม่เห็นเขาด้วยซ้ำ

ภาคีปวดร้าว เขากลายเป็นคนไม่มีตัวตนในสายตาของสีฟ้าแล้วใช่ไหม คนที่อยู่ข้างกายสีฟ้ายามนี้คือคนที่สีฟ้าเลือกแล้วใช่ไหม คำถามดังกึกก้องอยู่ในหัว  ซ้ำไปซ้ำมา  วนเวียนจนอยากกระชากร่างบางออกมาให้ห่างใครคนนั้น  คนที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะเป็นเพื่อนของเจ้านาย แต่มันทำไม่ได้  เขาไม่มีสิทธิ์

“พี่หมอครับ”  สีฟ้าขยับเข้าใกล้พิษณุ กระซิบเสียงเบา “ไปกันเถอะครับ” สีฟ้าอยากออกไปจากที่นี้ เขาอึดอัดเกินกว่าจะทนนั่งอยู่ตรงนี้ ทั้งสายตาของคนที่มองมา ทั้งความรู้สึกที่มันตีป่วนให้วุ่นวาย 

“กลับก่อนนะอิง เอาไว้วันหลังนัดเจอกันไหม เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง” หมอพิษณุอยากอยู่ต่อ แต่ไม่อยากขัดใจคนที่มาด้วย

“ไม่ฟังโว้ย ไม่รู้ล่ะ ถ้ากลับ เลิกคบ” อชิตะขู่ นั่นก็ทำให้หมอหนุ่มต้องหันมาทางสีฟ้าเป็นเชิงขอร้อง รู้ว่าอชิตะไม่ทำจริงหรอก แต่เขาก็ไม่อยากทำให้เพื่อนรู้สึกไม่ดี

“น้องลมครับ อยู่ต่ออีกนิดได้ไหมครับ” เพื่อนก็ไม่อยากขัดใจ ส่วนอนาคตแฟนก็ไม่อยากขัดใจเช่นกัน หมอหนุ่มเลยไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้วตอนนี้

“ก็ได้ครับ” สีฟ้าบอกเสียงอ่อย เขารู้ว่าหมอพิษณุลำบากใจไม่น้อย ความสบายใจของเขาอาจทำให้เพื่อนหมางใจกัน ซึ่งเขาไม่อยากกลายเป็นตัวสาเหตุ

“อย่างนี้สิเพื่อน” เจ้าของงานยิ้ม

“ลม...ใช่ ลมจริงๆ ด้วย ”

สาวสวยที่เหมือนจะถูกลืมจากคนเป็นแฟนและเพื่อนร่วมโต๊ะ  เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและดีใจ หลังจากครุ่นคิดมาตลอดตั้งแต่ที่เห็น


“ครับ”  สีฟ้ารับคำอย่างงงๆ เอียงคอมองคนพูด เพิ่งสังเกตว่าหน้าตาแฟนสาวของอชิตะคุ้นไม่น้อย เหมือนเคยเห็น

“ลมจำหวานได้ไหม ยัยลิงไง เพื่อนห้องเดียวกับลมตอนมอสี่อ่ะ จำได้ไหม”  ท่าทางของสีฟ้าเหมือนจะยังจำไม่ได้ ณัชชาเลยยกฉายาที่เพื่อนๆ ในห้องตั้งให้เธอออกมาเป็นตัวช่วย เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เผื่อว่าสีฟ้าจะนึกออก

“หวาน ยัยลิงหวาน?”

ความทรงจำของสีฟ้าถูกรื้นฟื้นขึ้นมา  ณัชชา เด็กสาวจอมซนของชั้นเรียน เพื่อนๆ จึงตั้งฉายาให้รับกับเธอว่ายัยลิง ถึงจะเป็นเพื่อนร่วมห้องเดียวกัน แต่ก็อยู่กันคนละกลุ่ม  เขาเลยไม่ได้สนิทกับหญิงสาวมากนัก บวกกับที่เธอดูสวยขึ้นและเรียบร้อยมากกว่าเดิม ทำให้เขาจำเธอไม่ได้

“โธ่ นึกว่าจะจำหวานไม่ได้ซะแล้ว น้อยใจนะเนี้ย  ว่าแต่เป็นไงมาไง ถึงกลายมาเป็นแฟนพี่หมอได้  ปิ๊งกันได้ไง ไหนบอกมาสิ หวานอยากรู้”  ณัชชารัวคำถามเป็นชุด เธอไม่แปลกใจว่าทำไมพี่หมอพิษณุถึงได้เลือกจะคบกับผู้ชายด้วยกันเอง แทนที่จะเป็นผู้หญิง  ก็ดูเอาเถอะ เพื่อนของเธอถึงจะเป็นผู้ชาย แต่เครื่องหน้า รูปหน้า รวมถึงรูปร่างบอบบางแล้วด้วย เป็นผู้ชายคนไหนก็อยากปกป้อง อยากจะรัก

คงไม่มีเรื่องอะไรในโลกที่ณัชชาไม่อยากรู้ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าทำเอาคนถูกถามวางหน้าไม่ถูก  หันไปมองหน้าหมอหนุ่มที่นั่งอมยิ้มอยู่ข้างๆ ดูท่าทางของหมอพิษณุแล้ว  คงจะพอใจกับความเข้าใจผิดครั้งนี้อยู่ไม่น้อย สีฟ้าเลยทำอะไรได้ไม่มากไปกว่าการยิ้มแทนคำถามทั้งหมด

“ ลมน่ะ โชคมากเลยรู้ไหม พี่หมอสัตว์ของหวานแสนดีที่สุดในโลกเลย”

“อะแฮ่ม.. น้องหวานครับพี่หมอเฉยๆ ก็ได้ครับ ไม่ต้องเติมสัตว์เข้าไปก็ได้” หมอหนุ่มพูดติดตลก ก็เขาเป็นสัตวแพทย์ แต่พอถูกเอามาเรียกแบบนี้มันดูทะแม่งๆ ยังไงบอกไม่ถูก

“ค่ะๆ พี่หมอ”

เจ้าตัวหัวเราะร่า พาคนทั้งวงหัวเราะร่วมไปด้วย  ยกเว้นร่างสูงที่ทะลึ่งลุกพรวดขึ้นยืด แต่ด้วยฤทธิ์น้ำสีอำพันที่ดื่มไปมากกว่าใครพวกตั้งแต่หัววัน ก็ทำเอาร่างสูงยืนไม่ค่อยจะตรงเท่าไหร่ หากเจ้าตัวก็พยายามฝืนแรงโน้มถ่วงของโลกเอาไว้ให้ได้มากที่สุด

“เฮ้ย...ทำอะไรวะมึง” 

คณิตลุกขึ้นทำเหมือนช่วยประคองเพื่อนแต่ความจริงเขายืนคุมคนเมามากกว่า  กลัวว่าคนเมาจะนึกอยากกระชากคุณหมอสัตว์มาชกแล้วกระทืบซ้ำ  หรือไม่ก็ฉุดตัวคนหน้าหวานที่ได้ชื่อว่าครั้งหนึ่งเคยร่วมเรียงเคียงหมอนกันมาก่อนออกไปจากร้านซะดื้อๆ

“ไปห้องน้ำ” ปากบอกคณิต หากสายตาคู่ฉ่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์มองไปยังคนที่เขานึกถึงแทบทุกลมหายใจเข้าออก เขาอยากเจอหน้าสีฟ้า แต่ต้องไม่เป็นการเจอในแบบนี้ แบบที่สีฟ้าเดินควงมากับคนอื่น

คนอื่น....ที่ไม่ใช่เขา แล้วยังยอมรับกลายๆ อีกว่า คนอื่นคนนี้คือคนใหม่ของสีฟ้า คือผู้ชายที่โชคดีกว่าเขาไม่รู้กี่ร้อยพันเท่า......

“กูไปเป็นเพื่อน”

“ไม่ต้อง กูมันตัวคนเดียว ไปคนเดียวได้ ไม่จำเป็นต้องมีคนตามมาดูแล ไม่ต้องมีใครมาประคับประคอง เดินคนเดียวได้ ไปไหนทำอะไรคนเดียวน่ะมันดีแล้ว จะได้ชินสักที   มึงไม่ต้องมาสนใจคนอย่างกู  คนที่ควรจะสนใจกูยังทำเป็นไม่เห็นกูเลย” คนเมาพูดอย่างใจคิด ทำเอาคนเป็นเพื่อนอย่างคณิตปวดหัว แน่ใจว่าคำพูดของเขามันเป็นแค่คำบอก  ไม่ใช่คำถาม  แล้วเพื่อนของเขาก็ตอบซะยาว  ตานั้นก็ใช่จะมองเขา มันมองโน้น มองคนหน้าหวานโน้น  ส่วนฝ่ายนั้นก็ไม่เห็นจะสนใจอะไรเพื่อนเขาเลย ทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน

ทำเหมือนคนไม่เคยคุ้นเคย...หรือถึงไหนต่อไหนกัน 
 
“กูว่ามึงนอกเรื่องเยอะไปแระ” คณิตกระซิบข้างหู กลัวคนอื่นๆ ได้ยิน บอสเงยหน้ามอง คนอื่นๆ ก็เช่นกัน ยกเว้นคนหน้าหวานที่เอาแต่ก้มหน้า

“ช่างกู” ภาคีบอก สลัดแขนเพื่อนออก แล้วเดินออกจากโต๊ะไปในสภาพที่ไม่ตรงเท่าไหร่

สีฟ้าไม่สนใจเขาเลย ใช่สิ เขาไม่ใช่คนที่ควรจดจำใช่ไหม ทำเหมือนไม่เคยรู้จัก ไม่เคยใกล้ชิด ทั้งที่ชิดซะยิ่งกว่าชิด อยากรู้ว่าถ้าเขาบ้ามากพอ  แล้วบอกคุณหมอสัตว์ไปว่า สีฟ้าคืออดีตเมียของเขา มันจะเป็นยังไง สีฟ้ายังจะทำเหมือนคนไม่รู้จักเขาอีกไหม


มีต่อนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 22-03-2011 19:45:58
ต่อ

แต่นั่นแหละ ภาคีได้แต่คิด เขาทำมันไม่ได้ ในเมื่อ...ในเมื่อเขาไม่กล้าจะทำร้ายสีฟ้า  ต่อให้เขาต้องเจ็บปวดกับภาพที่เห็นแค่ไหน  สีฟ้ายิ้ม หัวเราะ พูดคุยกับหมอพิษณุด้วยท่าทางสนิทสนม  และคำพูดของณัชชาก็คงเป็นเรื่องจริง

สีฟ้ากับหมอพิษณุกำลังคบหากัน

สีฟ้ามีคนใหม่ ในขณะที่เขาไม่มีใคร



แม้จะยิ้มหวานให้กับหมอพิษณุ  ปากสีสวยก็ยังพูดคุยอยู่กับอดีตเพื่อนร่วมห้องที่ไม่ได้เจอหน้าคร่าตากันมานานหลายปี  แต่สีฟ้าก็ยังได้ยินชัดเจนไปถึงหัวใจที่อ้างว้างข้างใน  ถ้อยคำของคนตัวสูงที่มองจากหางตานั้น กำลังจ้องเขาราวกับโกรธเกลียดเขานักหนา  แล้วคำพูดนั้นก็คงเป็นของเขาเช่นกัน

ทำไม นายมีคนที่รักอยู่แล้ว ยังจะมาเรียกร้องอะไรอีก  ยิ่งคิดจะก็ยิ่งเจ็บแปลบที่ความรู้สึก สีฟ้ายังเจ็บ ยังเจ็บไม่หาย นั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มปั้นยิ้มหวานให้หวานกว่าเดิมอีกหลายเท่า ปากสวยได้รูปสีสดก็พยายามจะทำให้บทสนทนาดูมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าเดิมอีกมาก

เอาสิ...ทำไมสีฟ้าจะต้องรับรู้ด้วยล่ะว่ามีภาคีอยู่ร่วมโต๊ะด้วย  ทำอย่างนี้ดีแล้ว คนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันเสียจะดีกว่า

พอลับร่างลูกน้องตัวสูงที่เดินไม่เป็นเส้นตรงเอาเสียเลย  เจ้านายหนุ่มที่พอจะจับอาการนั่งนิ่งเกินเหตุของลูกน้องหนุ่มในตอนแรก และคำพูดที่ฟังดูแล้วมันยังไงชอบกลเมื่อครู่ จึงขยับตัวเข้าไปใกล้ลูกน้องอีกคนที่เหลือ กระซิบเสียงเบาพอให้ได้ยินกันสองคน เพราะไม่อยากให้อีกสามคนที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานนั้นได้ยิน

“ตินเป็นอะไรไปหรือหนึ่ง?” อชิตะสงสัย เพราะปกติภาคีไม่ใช่คนที่จะลุกขึ้นมาพูดอะไรแบบนั้น ฟังดูแล้วมันกำกวมเหมือนกำลังต่อว่าใครสักคน

แล้วคือใครในโต๊ะ...นี่แหละคือสิ่งที่อชิตะสงสัย


“คืองี้ครับ” คณิตดึงตัวเจ้านายมาใกล้แล้วป้องปากบอก “คุณลมคือคนทำไอ้ตินอกหักครับ”

“ห๊า....!? คนที่ทำตินอกหักคือน้องลมหรือ?” อชิตะไม่อยากจะเชื่อ แต่คณิตคงไม่โกหก

“ใช่แล้วครับบอส แฟนคุณหมอนี่แหละครับคือเมียไอ้ตินมัน”

“ซวยล่ะสิคราวนี้” อชิตะกะว่าจะลากตัวลูกน้องให้มาดื่มเพื่อลืมเขา กลับกลายเป็นว่าพามาซ้ำรอยแผลเดิมอีกหรือไงวะเนี่ย  บอสหนุ่มคิดอย่างเซ็งจัด แล้วเพื่อนเขาใช่มือที่สามทำความรักลูกน้องเขาล่มหรือเปล่า นี่ก็คืออีกหนึ่งความสงสัยของอชิตะ  

“มหาซวยครับบอส  ความซวยตกอยู่ที่ไอ้ตินมันเต็มๆครับ  โดนเขาทิ้งยังไม่พอ ยังต้องมาเจอเขาควงคนใหม่มาให้เห็นตำตาตำใจ” แล้วคณิตก็ถอนหายใจหนัก พอกับอชิตะส่ายหน้าน้อยๆ อย่างไม่รู้จะช่วยเหลืออะไรลูกน้องคนสนิทได้

นี่ก็เพื่อน นั่นก็ลูกน้อง อชิตะไม่อยากให้เพื่อนอกหัก  ขณะเดียวกันก็เป็นห่วงความรู้สึกของลูกน้อง แล้วที่สำคัญภาคีกับพิษณุก็รู้จักกัน  เคยกินเที่ยวกันก็ออกบ่อย เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น  ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะเป็นยังไง  คนกลางอย่างเขาก็ลำบากใจไม่น้อย

“มีอะไรหรือคะพี่อิง” หญิงสาวเพียงคนเดียวในโต๊ะยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วถาม สีหน้าอยากรู้ เธอสงสัยตั้งแต่ตอนที่ภาคีพูดอะไรยาวๆ นั่นแหละ ฟังแล้วทะแม่งๆ เหมือนกำลังต่อว่าใครสักคนในนี้

“ไม่มีอะไรครับ”

“ไม่มีอะไรได้ไง ก็หวานเห็นอยู่ กล้ามีความลับกับหวานหรอคะ พี่อิง” ปลายเสียงติดจะงอนๆ พูดจบก็สะบัดหน้าหนี ขยับออกห่าง   อชิตะไม่รู้จะง้อคนรักยังไงดี เพราะถ้าจะง้อก็ต้องบอกเรื่องระหว่างภาคีกับสีฟ้าให้ฟัง ซึ่งเขาไม่คิดจะปิดคนรักหรอก แต่มันต้องไม่ใช่เวลานี้

“กลับบ้านแล้วพี่จะเล่าให้ฟังนะครับคนดี”  อชิตะขยับเข้าใกล้แล้วกระชิบบอก “ตอนนี้พี่เล่าให้หวานฟังไม่ได้จริงนะครับ”

“แน่นะคะ” ณัชชาก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่พูดไม่รู้เรื่อง เมื่ออชิตะบอกว่าจะเล่าให้ฟังทีหลัง เธอก็ไม่ควรรบเร้าจะรู้ให้ได้ในตอนนี้ เพราะบางทีมันอาจเป็นเรื่องที่พูดไม่ได้ มันอาจเกี่ยวกับหมอพิษณุหรือสีฟ้าคนใดคนหนึ่ง หรือบางทีอาจเป็นเรื่องของทั้งสองก็ได้

Rrrrrrrrrrrrr…………

กำลังนั่งมองรอยยิ้มหวานๆ กับเสียงหัวเราะใสๆ ของคนหน้าหวานข้างกายเพลินๆ โทรศัพท์เครื่องในกระเป๋าก็ร้องขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน หมอหนุ่มจำต้องทิ้งภาพสวยๆ ตรงหน้ามาหาไอ้เจ้าเครื่องจิ๋วแทน

“มีอะไรตาล ว่าไงนะ เจ้าปีปี๋จะคลอด ได้ๆ ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้ล่ะ” หมอหนุ่มกดวางสายทันที ก่อนจะหันมาบอกอชิตะว่า “สงสัยต้องกลับแล้วล่ะอิง เจ้าปีปี๋กำลังจะออกลูก ต้องกลับไปดูด่วน” เจ้าปีปี๋คือหมาหลังอานพันธ์พื้นบ้านธรรมดาที่หมอหนุ่มรักมาก มันถูกทิ้งไว้ข้างทางตั้งแต่ยังเด็ก พิษณุเก็บมาเลี้ยงและรักมันมาก

“ก็ได้วะ ยอมหมาวันหนึ่งก็ได้” ไอ้เรื่องรักหมากว่าเพื่อนเนี่ย อชิตะรู้มานานแล้วล่ะ แค่หมาไม่กินข้าว แล้วคนที่บ้านโทรบอก เจ้าตัวยังกล้าทิ้งเขาไว้ที่ต่างจังหวัดแล้วขับรถกลับบ้านเพื่อมาดูอาการหมาว่าทำไมถึงไม่ยอมกินข้าว

“วันหลังค่อยนัดกันใหม่ กลับกันเลยนะครับน้องลม” ประโยคสุดท้ายหมอหนุ่มหันไปบอกกับคนหน้าหวานที่ยิ้มกว้างเมื่อเขาบอก สีฟ้ารอจังหวะนี้มานานแล้ว เขาจะได้หนีจากสภาพอึดอัดนี้ซะที

“พี่หมอคะ กลับก็กลับไปคนเดียวสิคะ จะเอาเพื่อนหวานไปด้วยทำไม หวานไม่ยอม ลมต้องอยู่กับหวาน ใช่ไหมลม ลมอยู่คุยกับหวานก่อนนะ” ว่าแล้วณัชชาก็ลุกขึ้นแล้วไปนั่งคว้าข้างสีฟ้า กอดร่างนั้นเอาไว้ ไม่ยอมปล่อย เธอยังไม่อยากให้สีฟ้ากลับนี่น่า กำลังคุยสนุกอยู่เลย สีฟ้ากลับเธอก็ขาดเพื่อนน่ะสิ

“นะนะลม อย่าเพิ่งกลับเลยนะ อยู่คุยกับหวานก่อน”

“แต่ลมไม่ได้เอารถมานะหวาน ถ้าไม่กลับกับพี่หมอ แล้วลมจะกลับยังไง” สีฟ้าบอก ความจริงเขาก็ยังอยากจะอยู่คุยกับณัชชาต่อ แต่เขาไม่ได้เอารถมาเอง เพราะหมอพิษณุขับรถไปรับเขาที่บริษัท เขาเลยจอดรถไว้ที่บริษัท ถ้าไม่กลับกับหมอพิษณุ แล้วเขาจะกลับยังไงล่ะ  จะโทรให้ที่บ้านมารับก็ไม่อยากรบกวน เพราะคนในครอบครัวของเขา ดูไม่ค่อยจะชอบหมอพิษณุเท่าไหร่  ทั้งที่หมอพิษณุก็เป็นคนดี แล้วที่มานี่เขาก็ไม่ได้บอกไว้ด้วย ขืนรู้มีหวังหูเขาชาแน่

“หวานเอารถมา เดี๋ยวหวานไปส่งลมเอง นะนะ นะลม อยู่กับหวานก่อน  จะปล่อยให้หวานอยู่ในวงล้อมของพวกผู้ชายคนเดียวได้ไง นะนะนะ”  ณัชชาอ้อนขอเสียงใส ทำตาปริบๆ ขอความเห็นใจ ลืมคิดไปเลยว่าสีฟ้าก็เป็นผู้ชาย  สีฟ้าจะอยู่หรือกลับก็มีค่าเท่ากัน ยังไงณัชชาก็ตกอยู่ในวงล้อมของผู้ชายเหมือนเดิม ต่างแค่ตรงจำนวนเท่านั้นเอง

แล้วให้สีฟ้าทำไงได้ ไม่ได้ใจแข็งพอ ถึงแม้จะรู้ว่าถ้าเขายังอยู่ เขาต้องคงต้องทนอึดอัดกับสายตาของภาคีไปอีกหลายชั่วโมง  ครั้นจะให้ปฏิเสธคำขอของณัชชาก็ทำไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องเลือกความต้องการของอีกฝ่าย มากกว่าความต้องการของตัวเอง

“พี่หมอครับ ลมขออยู่คุยกับหวานก่อนนะครับ”  สีฟ้ากลับหันไปบอกพิษณุ หมอหนุ่มพยักหน้ารับทันที ก็เขาอยากจะกลับไปดูอาการของเจ้าปีปี๋เร็วๆ แล้ว

“ดูแลตัวเองนะครับ.........โอะ....” หมอหนุ่มส่งยิ้มหวานให้ ขยับตัวลุกขึ้น แต่พอหันหลังจะเดินออกไปจากโต๊ะก็ต้องปะทะเข้ากับร่างสูงกว่าเขาแต่ความหนานั้นน้อยกว่าเข้าอย่างจัง ทำให้เสียหลักนิดหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับล้มลงไปตามแรงปะทะ และก็ไม่ได้ถือสาอะไร เพราะเข้าใจว่าคนที่เขาชนด้วยนั้นอยู่ในสภาพเมามาย เดินไม่ตรงจึงเผลอชนกับเขาอย่างแรง

ภาคีไม่ได้สนใจจะเอ่ยคำขอโทษอีกฝ่ายที่เขาตั้งใจเดินชนเต็มแรง ชายหนุ่มเพียงเดินผ่านหมอหนุ่มแล้วกลับมานั่งข้างคณิต คว้าแก้วเหล้าที่คณิตยื่นให้มาดื่มรวดเดียวหมด

“เดินให้มันระวังหน่อย” ไม่ใช่หมอพิษณุ หากแต่เป็นสีฟ้าที่พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เขารู้ว่าภาคีตั้งใจเดินชนหมอพิษณุ ท่าทางของภาคีมันบอกอย่างนั้น

“ก็คนมันเมา” ภาคีบอก นัยน์ตาฉ่ำมองคนหน้าหวานด้วยอารมณ์น้อยใจ ห่วงกันเหลือเกินนะ ไม่คิดถึงใจเขาเลยใช่ไหมว่ามันจะเจ็บแค่ไหนที่เห็นคนเคยกอดกลายเป็นของคนอื่น

แค่เห็นมือเล็กที่ถูกเกาะกุมด้วยมือของหมอพิษณุ เขายังเดือดดาลในใจขนาดนี้ แล้วถ้าร่างกายที่เคยก่ายกอดถูกมือนั้นกระทำเช่นเดียวกับเขา ในทุกส่วนของเรือนร่างบอบบาง เขามิด่าวดิ้นตายเลยเหรอ?  

“รู้ตัวว่าเมาก็อย่าไประรานคนอื่น” สีฟ้ามองคนที่บอกว่าเมาอย่างนึกหมั่นไส้ ปากว่าเมา แต่การกระทำมันจงใจชัดๆ ทางเดินก็กว้าง ใช่แคบซะที่ไหน เดินเรียงสี่ยังได้

“ผมเปล่าระราน ” คนเมาปฏิเสธเสียงแข็ง

“ก็เห็นอยู่ว่าจงใจ” สีฟ้าโต้กลับ

“ผมเปล่า”

“เอ๊ะ! ก็เห็นอยู่ ว่านายตั้งใจเดินชนคุณหมอ” ยิ่งภาคีทำหน้าตายเถียงกับเขา สีฟ้าก็ยิ่งโมโห ขัดใจที่ภาคีไม่ยอมรับความจริงว่าตั้งใจเดินชนหมอพิษณุ

ก่อนที่จะเกิดสงครามปะทะคารมกันให้วุ่นวาย แล้วทำให้งานกร่อย  ตัวกลางอย่างหมอหนุ่มที่ไม่เคยรู้ความสัมผัสที่ลึกซึ้งระหว่างคนทั้งคู่  ก็ยื่นมือเข้ามาไกล่เกลี่ยสถานการณ์เสียก่อน

“อย่าทะเลาะกันเลยครับ คนกันเองทั้งนั้น”

หมอหนุ่มจะรู้ไหมนะว่าทั้งสองคนต่างก็ไม่ใช่ ‘คนกันเอง’ อย่างที่เขานิยามให้หรอก หากแต่เคยเป็น ‘คนๆ เดียวกัน’ มากกว่า

“แต่พี่หมอครับ หมอนี่จงใจนะครับ” สีฟ้ายังไม่ยอมให้เรื่องจบ เขาไม่ชอบให้ภาคีทำนิสัยแบบนี้ แม้ว่าจะทำด้วยเหตุผลใดก็ตาม เขาก็ไม่ชอบ

“ไม่เป็นไรครับน้องลม ” เพราะไม่อยากให้เรื่องไม่เป็นเรื่อง เกิดกลายเป็นเรื่องขึ้นมา หมอหนุ่มจึงไม่อยากถือสาหาความ เขากับภาคีก็คนเคยเจอกันบ่อยๆ  เวลาที่เขาไปหาเพื่อนที่บริษัท กินเที่ยวด้วยกันก็เคยออกบ่อย ภาคีเป็นคนนิสัยดี เรื่องเมื่อครู่คงไม่มีได้ตั้งใจจริงๆ  สีฟ้าคงคิดมากไปเองนั่นแหละ ใจก็แอบดีใจเล็กๆ ที่สีฟ้าดูจะเป็นห่วงเขา

หมอจะรู้ตัวอีกครั้งไหม? ว่ากำลังเข้าข้างตัวเองมากเกินไป

“แต่ว่าพี่หมอ นายนี่....” สีฟ้าพูดได้แค่นั้นเองเมื่อหมอพิษณุ ส่ายหน้านิดๆ เหมือนจะปรามหน่อยๆ

“ไม่เอานะครับน้องลม อย่าทะเลาะกันเลย พี่หมอไม่เป็นอะไร ตินก็ไม่ได้ตั้งใจ” หมอหนุ่มก้มหน้าเข้ามาใกล้ แล้วบอก  “พี่หมอว่าพี่หมอไปก่อนดีกว่า แล้วพรุ่งนี้จะมารับไปทะเล ห้ามเบี้ยวพี่หมอนะครับ  สัญญากันแล้ว” แล้วหมอพิษณุก็หยิบเอาสัญญาที่คนหน้าหวานให้เขาไว้ตอนนั่งรถมาด้วยกันเมื่อตอนเย็น มาเปลี่ยนประเด็นสนทนา

“ครับพี่หมอ แล้วเจอกันครับ” สีฟ้าจำต้องยอมหยุดแต่โดยดี ในเมื่อหมอหนุ่มไม่ได้ติดใจกับการกระทำของคนที่เอาความเมาเป็นเครื่องมือแกล้งคนอื่น  แล้วเขาจะทำอะไรได้ แต่ไม่วายที่จะทำให้คนเมายอมรับผิดเสียบ้าง

“ถึงจะเมาแต่นายก็ควรจะขอโทษเพราะนายเป็นคนผิด”

“ขอโทษ”

คนเมาบอกเสียงห้วน ในก็นึกสะใจที่ได้ทำอะไรกับหมอสัตว์ที่เขาไม่ชอบขี้หน้าขึ้นมาปุบปับ แม้จะทำได้แค่กระแทกไหล่ก็ตาม แต่ก็ดีกว่าที่ไม่ได้ทำอะไรเลย และนั่นมันก็ทำให้เขาดูมีตัวตนในสายตาของสีฟ้าบ้าง

“ไม่เป็นไรครับ” หมอพิษณุไม่ได้สะดุดอะไรกับน้ำเสียงห้วนๆ ของคนเมา จากนั้นก็รีบสาวออกจากร้านไป สวนกับร่างบางของใครคนหนึ่งที่เพิ่งก้าวเข้ามาในร้าน

ร่างบางกวาดสายตามองไปทั่วร้าน หญิงสาวมาร้านนี้ออกบ่อยจึงคุ้นเคยกับสถานที่อยู่มาก เธอมองหาคนที่นัดเอาไว้ แล้วก็เจอ

ณัชชาคือคนที่เธอนัดเอาไว้ แต่ณัชชาไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว หากแต่มีผู้ชายอีกสี่คนนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย และสองในสี่คือคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี

เท้าเหมือนถูกตรึงเอาไว้ไม่ให้ขยับก้าว


น้ำเพชรกำลังคิด เธอควรจะเข้าไปดีหรือไม่?

ไม่มีใครทันเห็นเลยว่าร่างบางที่ยืนนิ่งอยู่ไกลๆ กำลังก้าวถอยหันแล้วเดินออกไปอย่างช้าๆ

...............................................

00 จบตอน00

ปล  อ่ะอะ อ่า  ต้องขออภัยที่บอกว่าตอนนี้จะหวาน แบบว่าผิดคิวเล็กน้อย ( รู้สึกเจ็บสีข้างเล็ก หุหุ) คือว่ามันกำลังเริ่มจะหวานแล้วไงค่ะ(เหรอ ตรงไหนที่เรียกว่าหวาน 555)  ลงให้ยาวๆ เป็นการไถ่โทษนะค๊า ตอนหน้าๆแน่นอนค่ะไม่พลาดค่ะไม่พลาด ไม่มีจำผิดคิวแน่นอน  ตอนหน่้าๆๆ
ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นท์ที่เป็นกำลังใจให้ทั้งคนแต่งและคนโพสนะค่ะ  

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 22-03-2011 19:52:25
^
^
^
 o18


ชัวร์เหรอคะ?

 :confuse:

ไม่มั้งงงงง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 22-03-2011 19:57:39
^
^
^
 o18


ชัวร์เหรอคะ?

 :confuse:

ไม่มั้งงงงง

ก็ตอนหน้าๆๆ ไง แบบหน้าไม่รู้ว่าหน้าต่อไปหรือหน้าไหนง่า   (อุ๊ยเจ็บสีข้าง)
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 22-03-2011 20:10:27
แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆหวานน้ำตาตกใน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 22-03-2011 20:12:04
แรงและแรดไม่น้อยเลยนะน้องลม


เพิ่งรู้จักกันยังปกป้องกันขนาดนี้ เกินคำว่าเพิ่งรู้จักกันไปมั้ย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 22-03-2011 20:12:56
คุรรู้ปะคนอ่านนะจะอึดอัดตายเพราะ2คนนี้นะเนี่ย
ไม่ต้องหวานหรอกแค่เปิดใจคุยกันสะทีก็พอแล้วละ
น้ำเพชรนางมาอีกคนแล้วไม่อยากจะเขื่อว่าตอนต่อไปจะหวาน
 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 22-03-2011 20:16:27
ตลกดีจริงไอ้คู่นี้ปากหนักพอกันเหมือนเอาหน้าผามาผูกปากไว้เลยพูดไม่ออก



ได้แต่คิดอยู่ในใจ คิดเองว่าเป็นแบบนั้นเป็นแบบนี้  ชาตินี้คงไม่มีความสุขหรอก


แต่ก็ดีดูดิใครช้ำใจตายก่อนกัน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: akera ที่ 22-03-2011 20:37:30
เมื่อไหร่จะเข้าใจกัน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 22-03-2011 20:39:29
โอ๊ยยยยยยยยยยย

ขัดใจ อ่า

 :n1: ซักทีเถอะ 
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 22-03-2011 20:47:45
เมื่อไหร่่จะรู้ใจกันนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 22-03-2011 20:49:48
บอกตรงๆว่าตอนนี้"เคลียด"ได้ใจจริงๆค่ะตินก็ไม่พูดลมก็ไม่พูด

ไอ้ที่ว่าหวานเนี้ยไอ่หมอสัตว์กับลมหรือเปล่าคะ

แล้วปล่อยให้ตินช้ำใจตายหรอ ลมแม่งใจร้ายยยยที่สุด

รอตอนต่อไปค่ะ~~~

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 22-03-2011 20:50:52
บวกให้ด้วยความสงสารนัยภาคี >.<
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-03-2011 21:07:45
หวานเคลือบยาพิษอ่ะ
รู้สึกแย่แทนตินจัง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 22-03-2011 21:12:03
หนักใจแทน
 :laugh: :laugh:



หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 22-03-2011 21:44:46
สงสารพระเอกเรื่องนี้มากจนแล้วเมียยังควงคนอื่นให้เจ็บปวดใจอีกในขณะที่ตัวเองไม่มีใครเลย :m15:
กอดปลอบใจติน :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 22-03-2011 21:51:29
เข้ามาฝากตัวอ่านเรื่องนี้ได้คนน้าาา

เฮ้อปากแข็งกันจริงๆ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 22-03-2011 21:59:49
ไม่อยู่หลายวัน กลับมาได้อ่านอย่างจุใจ ได้ทั้งรสหวานและขมปร่าปนกัน
สงสารตินจัง วันนี้ต้องเจอแต่เรื่องตอกย้ำ
แล้วยัยแพทมาไมอีกเนี่ย  ฮึ...มากล่าวหาลมว่าเป็นเพื่อนทรยศ
ตัวเองรู้ทั้งรู้ว่าอะไรเป็นอะไร กลับอมพะนำเสียนี่
แล้วก็ เมื่อไร ลมกับตินจะได้เผยความในใจต่อกันซะทีเนี่ย คนอ่านใจไม่ดีเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 22-03-2011 22:12:57
ตอนนี้ ปวดตับมากมายค่ะ T_T สงสารภาคีจังแต่ก็เห็นใจสีฟ้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kslave ที่ 22-03-2011 22:15:20
โอ๊ยย ขัดใจ ฉุดเลยติน  :fire:
ทำไมสีฟ้าทำงี้อ่ะ
ตินก็ไม่พูดซักที
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 22-03-2011 23:29:13
สงสารติน นานๆ จะมีซักเรื่องที่เราเกลียดนายเอกนะเนี่ย
น่ารำคาญได้โล่ 
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 23-03-2011 00:04:14
ต่างคนต่างรัก

แต่ก็


ต่างคนต่างคิดอ่าาาา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 23-03-2011 00:59:16
โหยดราม่ามากค่ะ ปากหนักทั้งคู่จริงๆ อ่ะ เมื่อไหร่จะเข้าใจกันอ่า อยากอ่านตอนหวานๆ แล้วค่ะ ที่ผ่านมาก็ดราม่าเกิ๊น ดีกันเร็วๆ นะค่ะ อยากอ่านตอนหวานๆ ของติน กับ ลม แล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 23-03-2011 01:45:43
มาลงชื่อตามอ่านด้วยคนค่าแต่ยังไม่จบนะ อิอิ
**********edit**********
อ่านทันแล้ว โอ๊ยยยยย เจ็บปวด :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31:
อึดอัดมาก อยากตะโกนให้ลั่นบ้าน(แต่กลัวโดนด่าเพราะดึกมากจนจะเช้าแล้ว) :z3:
มาต่อไวไวนะคะ ทนไม่ไหวอยากระบายออกไม่รู้จะทำไง โอ๊ย เมื่อไหร่มันจะดีกัน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 23-03-2011 08:37:11
^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 23-03-2011 08:50:04
 :z3: อึนมาก ๆ
 
 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 23-03-2011 09:50:07
คิดเองเออเองทั้งคู่ แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่จะได้รู้ใจกันสักที
คาดว่าคนที่มาใหม่จะมาทำให้เรื่องมันยิ่งยุ่งเข้าไปอีกแน่
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 23-03-2011 13:07:42
ถ้าพูดในสิ่งที่คิดกันบ้างนี่ก็คงจะดี  :a14:
+1 ขอบคุณค่า ตินสู้ๆๆ  :ped149:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 23-03-2011 21:19:05
โอ้ยยยยย ขัดใจ

ไอ้คนปากแข็ง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 คนของใคร..ของใครก็หวง [22/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 24-03-2011 00:20:16
ลุ้นจริงๆๆๆ

ปากแข็งกันจัง


 :3125: :3125: :3125:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 10 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 24-03-2011 12:22:24
สวัสดีค่ะ ตอนนี้ต้องออกตัวไว้ก่อนว่า  คุณๆนักอ่านที่รักทั้งหลายขราโปรดใจเย็นๆ  ทนๆอ่านช่วงขมๆไปก่อนเดี่ยวอะไรๆก็จะดีและเริ่มหวานขึ้นเองนะเค๊อะ 

ตอนที่ 11

“กูรู้นะโว้ย มึงจงใจ” คณิตเอนตัวเข้าใกล้ ป้องปากบอก

“เออสิวะ มึงจะให้กูนั่งยิ้มดีใจ หัวเราะเริงร่าหรือไงวะ ที่เห็นคนของกูหัวเราะต่อกระซิกอยู่กับไอ้หมอสัตว์นั้น ” น้ำสีอำพันเปลี่ยนนิสัยคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ จากคนที่พูดน้อยเก็บความรู้สึกได้เก่ง กลับพูดออกมาอย่างใจคิดทุกอย่าง ซ้ำร้ายตาขุ่นๆ ที่แอบเศร้าทุกครั้งที่เห็นคนหน้าหวานยิ้มหวานๆ ให้หมอพิษณุ ยังจ้องเขม็งไปยังร่างบางที่ถูกโอบกอดกลายๆ ด้วยสองแขนของหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม ถึงจะไม่มีอะไรแอบแฝงหรือน่าหวั่นวิตกกับอ้อมแขนของณัชชาก็ตาม แต่อดที่จะหวงไม่ได้ ร่างบางนั้นควรมีแค่เขาคงเดียวเท่านั้นไม่ใช่เหรอที่จะแนบชิดสัมผัสได้

“ปากเก่งจริงนะเพื่อนกู แล้วเมื่อกี้ทำไมไม่ชกไปเลยวะ มึงเห็นไหม นั่งแทบจะเกยตักกันอยู่แล้ว แล้วมือหมอสัตว์นั้นก็นะ ไม่จับมือก็โอบตัวคุณลมของมึงตลอด นี่ถ้าไม่รีบกลับไปทำคลอดหมาที่บ้าน กูว่า มึงได้เห็นภาพบาดตามากกว่านี้แน่”

ชักสนุกแล้วสิสำหรับคณิตกับการพยายามจะบิ้วอารมณ์ของภาคีให้มันร้อนเกินองศาเดือด ภาคีกำมือเข้าหากันแน่น หากก็ทำได้แค่นั้น เขาจะทำอะไรได้มากกว่านี้ ในเมื่อทุกสิ่งอย่างมันคือสิทธิ์ของสีฟ้าที่จะยอมให้ใครเข้าใกล้ เขามันก็แค่ใครคนหนึ่งที่ไม่มีความสำคัญอะไรมากไปกว่าคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง

ก็แค่คนเคยกก คนเคยกอด แค่คนพร่ำเพ้อหลงรัก ไม่มีค่า ไม่มีความหมายอะไรเลย 

“ไม่ต้องย้ำได้ไหมวะ” ภาคีผลักคณิตให้ไปไกลๆ แต่มีหรือคณิตเพื่อนแสนดีจะยอมหยุด

“ไม่ย้ำไม่ได้โว้ย มึงบอกว่าคุณลมเป็นของๆ มึง มึงก็ต้องเอากลับคืนสิวะ ไม่ใช่เอาแต่มองตาละห้อย มีหวังของๆ มึง เสร็จคุณหมอสัตว์นั่นแน่ กูรับรอง”

“แล้วจะให้ทำยังไง” จนปัญญาจริงๆ อยากได้คนร่างบางกลับคืนมาสู่อ้อมกอดก็จริงอยู่ เพราะทุกคืนอ้อมแขนของเขามันเรียกร่างหาแต่สีฟ้าอยู่คนเดียว จนแทบอยากจะเป็นบ้าตายอยู่แล้วทุกค่ำคืน

“กูมีแผนวะ อยู่ที่มึงจะทำหรือเปล่าก็เท่านั้น” ยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ภาคีคุ้นเคยมานานผุดขึ้นบนหน้าของคณิต เมื่อไหร่ที่คณิตยิ้มแบบนี้ให้เห็น มันบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังมีความคิดที่ก้าวล้ำนำหน้าคนฟังไปหลายขุมแล้ว

“แผนอะไร?”

คณิตยังไม่ทันจะกระซิบบอกแผนการที่เขาวางไว้ หนึ่งในตัวหมากที่เขาต้องการให้เข้าร่วมในแผนนี้ด้วย ก็เหมือนจะรู้หน้าที่โดยไม่ต้องบอกกล่าวให้เสียเวล่ำเวลาอะไร

“คุยอะไรกันอยู่ ขอผมร่วมวงด้วยคนสิครับ” อชิตะแยกออกจากอีกวงหนึ่ง เพราะในวงนั้นเหมือนเขาเป็นส่วนเกิน ก็เพราะแฟนสาวของเขาเอาแต่คุยกับเพื่อนเก่าจนลืมเขาไปแล้ว

อชิตะย้ายเก้าอี้มานั่งฝั่งเดียวกับลูกน้องทั้งสอง การสนทนาจึงแบ่งเป็นสองฝั่งไปโดยอัตโนมัติ

“บอสอยากให้ลูกน้องของบอสกลับมาเป็นผู้เป็นคนเหมือนเดิมไหมครับ” คณิตที่เวลานี้นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างเพื่อนสนิทและหัวหน้าที่รัก บอกด้วยสุ้มเสียงเจ้าเล่ห์ แล้วก็แอบยิ้มให้กับความฉลาดหลักแหลมของตัวเอง รู้สึกภูมิใจกับความคิดของตัวเองเหลือเกิน

“อยากสิครับ ผมไม่อยากหูชาเพราะลูกค้าด่าเรื่องงานอีกแล้ว”

คนอยากรู้อยากเห็นและอยากกลมกลืนเป็นพวกเดียวกันกับลูกน้อง บอกอย่างอารมณ์ดี กว่าสามเดือนแล้วมั้งที่โดนลูกค้าเฉ่งเรื่องงานที่ออกมาไม่ตรงกับความต้องการ ทั้งที่เมื่อก่อนงานแต่ละชิ้นของภาคีออกมาดี เป็นที่ชื่นชมและถูกอกถูกใจลูกค้ามาตลอด พอเจอมรสุมพิษรักทำให้งานแต่ละชิ้นต้องแก้แล้วแก้อีก

“งั้นบอสก็ต้องบอกผมให้ชื่นใจก่อน ว่าจะเลือกลูกน้องหรือเพื่อนรัก” เจ้าตัวดียังทำตัวเป็นมนุษย์เจ้าคำถามต่อ

“แปลว่าผมต้องเลือก” เจอคำถามนี้เข้า อชิตะก็ลำบากใจเหมือนกัน เพื่อนก็รัก ลูกน้องก็เป็นห่วง

“ต้องเลือกครับ เพราะตอนนี้บอสต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งไหน ไอ้ตินหรือคุณหมอ” คณิตบอก พร้อมกับนั่งลุ้นคำตอบจากปากของเจ้านาย

“ผมต้องเลือกจริงๆ หรือครับ แต่ผมยังไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ผมต้องเลือก” อชิตะก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เพราะคำพูดของคณิตมันยังคลุมเครืออยู่

“ ก็คนหน้าหวานที่นั่งข้างแฟนบอสไงครับ บอสอยากจะให้ใครได้ไปครองล่ะครับ ระหว่างเจ้าของตัวจริงกับมือที่สามที่มาแย่งของๆ คนอื่น”

แรงไม่แรงไม่รู้ล่ะ แต่คณิตก็พูดออกไปแล้ว โดยไม่กลัวสักนิดว่าจะโดนไล่ออกเพราะคำพูดของตัวเอง ว่าก็ว่าเถอะ คณิตคิดว่าเขารู้จักบอสหนุ่มดี อชิตะเป็นคนมีเหตุผลเสมอและรักลูกน้องมาก

“โอ.เค บอกให้ชัดอย่างนี้ค่อยเลือกถูกหน่อย เอาเป็นว่าผมเข้าข้างลูกน้องละกัน เพราะผมยังไม่อยากเสียลูกน้องฝีมือดีไป”

ในวินาทีนี้ถึงอชิตะจะรักเพื่อนมากแค่ไหน ก็จำต้องขอทรยศเพื่อนสักครั้ง ทำไงได้ล่ะก็หนุ่มหน้าหวานคนนี้เป็นของลูกน้องของเขานี่นา จะปล่อยให้เพื่อนเป็นมือที่สามทำร้ายความรักคนอื่นได้ไง มันปาบไม่ใช่น้อย แล้วค่อยไปขอโทษเพื่อนทีหลังละกัน

“คำตอบนี้สิครับที่ต้องการ งั้นก็เอาหูมาได้ครับบอส”

จากนั้นคณิตก็กระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับคนเป็นเจ้านาย อชิตะพยักหน้าหงึกหงักกับสิ่งที่ถูกถ่ายทอดออกมาให้รู้ ภาคีที่อยากจะรู้ว่าแผนนั้นคืออะไร พยายามจะเอียงหูไปใกล้ๆ แต่ก็กลัวว่าอีกสองคนที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจะจับความผิดปกติบางอย่างได้ เลยเสหยิบน้ำสีอำพันขึ้นมาดื่มเสียหน่อย

“ไอ้ตินเดี๋ยวกูมานะโว๊ย” คณิตที่ร่ายแผนการในหัวให้อชิตะฟังจนครบถ้วนกระบวนความแล้ว จึงได้โอกาสเริ่มต้นแผนอันแยบยลของตัวเองทันที

ขณะที่อชิตะที่ซึมซับแผนการทั้งหมดสู่หน่วยความคิดไว้ทั้งหมดแล้ว ก็ขยับตัวไปนั่งข้างแฟนสาว พร้อมกับสะกิดต้นแขนของณัชชาเบาๆ ให้หันมาสนใจตัวเองบ้างไม่ใช่เอาแต่นั่งจ้อซะจนลืมว่ามีเขามาด้วย

“จะไปไหววะ มึงยังไม่ได้บอกแผนให้กูรู้เลยนะ” อุตส่าห์คิดว่าเจ้าเพื่อนตัวดีจะหันมากระซิบบอกอะไรกับเขาบ้าง แต่ไม่เลย ซ้ำร้ายยังทำท่าจะลุกไปจากโต๊ะอีก อะไรกัน แผนนี้เขาควรมีส่วนร่วมรับรู้ด้วยไม่ใช่หรือไง

“เออน่ะ เดี๋ยวก็รู้” คณิตบอกปัด ก่อนหันไปทำพูดกับคนร่วมโต๊ะคนอื่นๆ “ผมขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะครับ”

“หวานครับ พี่อิงก็ขอตัวไปห้องน้ำเหมือนกันนะครับ” พอคณิตเดินออกไปไม่ทันไร อชิตะก็ขอตัวตามออกไปด้วยอีกคน

“ค่ะ”

ณัชชาไม่ได้สนใจแฟนหนุ่มสักเท่าไหร่ เพราะเธอยังคงสนุกกับการซักถามถึงเรื่องเพื่อนเก่าๆ จากปากของสีฟ้า ซึ่งสีฟ้าก็เต็มใจที่สุดที่จะตอบทุกความอยากรู้ของณัชชา เพราะอย่างน้อยเขาก็สามารถทำลืมสายตาคู่ที่มองเขาอยู่ตลอดเวลาไปได้บ้างเป็นบางครั้ง

เพราะไม่ได้ให้ความสนใจแฟนหนุ่มสักเท่าไหร่ ณัชชาจึงไม่ทันเห็นอีกฝ่ายกำลังล้วงเอาบางสิ่งบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง พร้อมกับยัดมันใส่ในมือของลูกน้องหนุ่มอย่างรวดเร็ว

“ผมไปก่อนนะติน” เขากระซิบเบาๆ เอากับคนที่ทำหน้าเหวอ ไม่เข้าใจ

ภาคีมองสิ่งที่อชิตะยัดมันใส่มือเขา มันคือกุญแจรถ แต่ภาคีก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีกว่าอชิตะเอามันให้เขาทำไม หากความสงสัยนั้นก็กลายเป็นคำถามที่หาคำตอบไม่ได้

ถ้าณัชชาและสีฟ้าจะสังเกตสักนิดว่าสองหนุ่มที่เดินออกไปจากโต๊ะในเวลาแทบจะไล่เลี่ยกัน เดินไปยังทิศทางที่ไม่น่าจะใช่ทางไปห้องน้ำ คงมีแต่ภาคีเท่านั้นแหละที่เห็นว่าเพื่อนและเจ้านายเดินออกไปจากนอกร้านแล้ว

.........................................................................................

…Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr……….
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 24-03-2011 12:27:42
^

โพสอยู่ดีดี tot หลุดซะงั้น  :serius2: :serius2: ขอโทษที่ทำให้ขาดช่วงนะค่ะ
ต่อกันค่ะ


เสียงโทรศัพท์มือถือของณัชชาดังขึ้น หน้าจอปรากฏชื่อของเพื่อนเก่า คนที่เธอเพิ่งเจอเมื่อเช้านี้โดยบังเอิญที่หน้าคอนโดของเธอ เพราะเธอและอีกฝ่ายต่างก็อยู่คอนโดเดียวกัน

“จ๊ะแพท แพทอยู่ไหนแล้ว ใกล้ถึงหรือยัง ทำไมมาช้าจัง ” เพราะหลงคุยกับสีฟ้าเพลินไปหน่อย ทำให้ณัชชาลืมว่าตัวเองได้นัดเพื่อนอีกคนหนึ่งไว้ เมื่อน้ำเพชรโทรเข้ามาเจ้าตัวถึงเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้

‘แพท’

ชื่อที่ถูกเรียกขานแทนตัวตนคนที่อยู่ปลายสายของณัชชา ทำสีฟ้าสะดุ้ง จะใช่ ‘แพท’ คนเดียวกับคนที่เขาเผลอตัวทำร้ายไปหรือเปล่า หวังเหลือเกินว่าคงไม่ใช่ หวังทั้งๆ ที่สีฟ้าเองก็รู้ดีว่า ณัชชามีเพื่อนที่นี่น้อยมาก หรือจะพูดว่าแทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ ตามคำบอกเล่าของหญิงสาวเมื่อครู่ที่ผ่านมา

แล้ว...แล้ว คำถามที่ณัชชาถามออกไปนั่นอีก อย่าบอกนะว่าคนปลายสายกำลังจะมา ถ้าเป็นน้ำเพชรจริงๆ เขาจะทำยังไงดี ยังจะสู้หน้าได้อีกเหรอ? แล้วภาคีก็ยังนั่งอยู่ตรงนี้ มันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า

แม้ไม่ได้นั่งใกล้ณัชชาเหมือนใครอีกคนหนึ่ง แต่ภาคีก็ได้ยินชัดเจนว่าณัชชาเรียกชื่อคนปลายสายว่าอะไร ก็เสียงณัชชาเบาเสียที่ไหน ภาคีรับรู้ถึงความอึดอัดที่สีฟ้าแสดงออกมาให้เห็น เจ้าตัวกำลังมองเขาคล้ายๆ จะขอความช่วยเหลือ แต่แล้วเสียงที่ไม่เคยเบาเลยของณัชชาก็ทำให้คนที่ไม่รู้จะทำยังไงดีอย่างสีฟ้าคลายยิ้มออกมาได้

“อะไรนะ มาไม่ได้ ประชุมยังไม่เสร็จ อะไรกันแพท ทำไมประชุมกันนานจัง นี่มันจะห้าทุ่มแล้วนะ ยังไม่เลิกประชุมอีก ก็ๆ ได้ เอาไว้คราวหน้าก็ได้ เออนี่แพท ลมก็อยู่กับหวานนะ จะคุยด้วยไหม”

คำพูดของณัชชาทำให้สีฟ้าผ่อนคลายได้ไม่ทันไร ก็เปลี่ยนมาบีบเค้นอารมณ์ของสีฟ้าอีกครั้งจนได้ และก็ช่วยตอกย้ำให้สีฟ้ารู้ได้เป็นอย่างดีว่าคนปลายสายคือน้ำเพชรที่เขารู้จักจริงๆ

“ลมคุยกับแพทนะ” ณัชชาหันมายื่นโทรศัพท์ให้สีฟ้า หลังจากที่เธอบอกคนปลายสายไปแล้วว่าสีฟ้าอยู่ที่นี่กับเธอ จำได้ว่าเมื่อครั้งที่เรียนอยู่ด้วยกัน สีฟ้ากับน้ำเพชรเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน แถมยังสนิทสนมกันมาก เลยอยากให้สองคนคุยกัน

ณัชชาไม่ได้รู้เลยว่าระหว่างเพื่อนทั้งสอง อะไรๆ หลายอย่างมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

สีฟ้าไม่รู้จะทำยังไงดี จะปฏิเสธหรือก็กลัวณัชชาสงสัย หากจะรับก็กลัวเกินกว่าจะพูดกับน้ำเพชรได้ แม้ทางโทรศัพท์ก็ตามเถอะ แต่สุดท้ายแล้วสีฟ้าจำต้องรับโทรศัพท์ที่ณัชชายื่นมาให้อย่างจำยอม

“แพท.... ลมนะ”

เพียงแค่แนบมันที่ข้างหู แล้วกรอกเสียงแสนเบาลงไป สิ่งที่สีฟ้าได้รับกลับมาคือคำสั้นๆ ที่ทำให้ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมา

“เพื่อนทรยศ”

เท่านี้จริงๆ ที่สีฟ้าได้จากคนที่เคยเป็นเพื่อนรัก ก่อนที่สัญญาณจะถูกตัดไป สีฟ้าคืนโทรศัพท์ให้กับณัชชา  

“สายหลุดหรือลม?” ณัชชาสงสัยเมื่อรับโทรศัพท์คืนจากสีฟ้า ชายหนุ่มส่ายหน้าแทนคำตอบ คนช่างชักยังอยากจะชักต่อ หากโทรศัพท์เครื่องเดิมในมือจะไม่ร้องขึ้นมาอีกครั้ง

“สงสัยแพทจะโทรมา อ้าว? ไม่ใช่” คิ้วของหญิงสาวขมวดเข้าหากัน เมื่อชื่อที่ปรากฏบนหน้าเจอไม่ใช่คนที่เธอคิด แต่กลับเป็นแฟนหนุ่มที่ขอตัวไปห้องน้ำเมื่อหลายนาทีก่อน นึกสงสัยว่าทำไมต้องโทรมาหาเธอด้วย ถึงจะสงสัยยังไงณัชชาก็ยังกดรับสายและกรอกเสียงลงไป

“ว่าไงคะ...พี่อะ...” ชื่อที่กำลังจะถูกเรียกขานกลับถูกคนปลายสายห้ามไว้ก่อน

“อย่าเรียกชื่อพี่นะครับหวาน” ปลายสายบอกมาอย่างนี้

“ทำไมล่ะคะ” ย้อนถามอย่างนึกสงสัย แต่ก็ยอมทำตาม

“ฟังพี่นะครับหวาน คือว่าพี่อยากให้หวานช่วยอะไรพี่หน่อยได้ไหมครับ”

“ได้ค่ะ” จะให้ทำไงได้ล่ะ ฟังเสียงของคนรักแล้ว ดูมันจะมีอะไรที่สำคัญอยู่ไม่น้อย ถึงไม่ยอมให้เธอเรียกชื่อของเขาให้คนร่วมโต๊ะรู้ ณัชชาเลยรับคำ พร้อมทำตาม

“หวานออกมาพบพี่อิงนอกร้านหน่อยนะครับ พี่อิงมีเรื่องจะบอก แต่ห้ามบอกน้องลมกับตินนะครับ”

“ทำไมล่ะคะ ทำไมบอกไม่ได้” เจ้าตัวยกมือขึ้นป้องปาก พร้อมๆ กับลดเสียงให้เบาลงจนเป็นกระซิบ

“ออกมาก่อนเถอะนะครับ ออกมาแล้ว หวานอยากรู้อะไรพี่อิงตอบให้หมดทุกข้อเลย ”

“ก็ได้ๆ ค่ะ แต่สัญญาแล้วนะว่าจะตอบทุกคำถามของหวาน ห้ามงุบงิบเด็ดขาด ไม่งั้นหวานจะงอนไม่พูดด้วยเลย” เธอขู่ รู้สึกตื่นเต้น เหมือนกำลังเล่นเกมอะไรสักอย่าง หันกลับไปมองสีฟ้า ก็เห็นเพื่อนมองอย่างสงสัย

“ลมจ๊ะ ตินจ๋า หวานขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะ คุยกันเองไปก่อนนะ”

แล้วณัชชาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ทั้งที่ควรจะนึกออกตั้งนานแล้วก็ตาม โอ๊ย....นี่เธอลืมได้ยังไงกันเนี่ย ว่าภาคีกับสีฟ้ารู้จักกัน แต่แปลกที่สองคนกลับไม่พูดคุยกันเลย ไม่สิ ก็มีนะ เมื่อครู่นั้นไง ตอนที่ภาคีเดินชนพี่หมอ แต่นั่นมันก็เหมือนการทะเลาะมากกว่า ช่างเถอะคร้านจะคิดหาคำตอบ สู้ออกไปหาแฟนหนุ่มที่รออยู่นอกร้านดีกว่า เธออยากรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว

...

“หา ! จริงเหรอคะ?”

หญิงสาวถามเสียงดัง หลังจากที่เรื่องราวต่างๆ ถูกถ่ายทอดออกมาจากปากของคนรัก ผสมกับคำบอกเล่าอย่างออกรสออกชาติของคณิต

สองหนุ่มพยักหน้ารับ

“จริงครับหวาน”

“จริงยิ่งกว่าจริงอีกครับคุณหวาน” คณิตช่วยเสริม เพื่อให้คนถามเชื่อ

“โอย...หวานไม่อยากเชื่อ ลมกับตินนี่นะรักกัน แต่...แต่ว่าหวานไม่เห็นว่าสองคนจะรักกันตรงไหนเลย” เธอพูดตามที่เห็น

“รักนะแต่ไม่แสดงออกไงครับคุณหวาน” คณิตบอก

“แล้วพี่หมอล่ะพี่อิง พี่หมอรู้เรื่องนี้หรือยัง” หันไปถามคนรักหนุ่ม อดเป็นห่วงหมอพิษณุอยู่ไม่น้อย เห็นสายตาหมอพิษณุที่มองสีฟ้าแล้ว ถ้าเป็นเธอนะคงได้ละลายไปตรงนั้นไปแล้ว

“ยังครับหวาน พี่จะหาทางบอกเจ้าหมอมันวันหลัง ว่าแต่ตอนนี้หวานช่วยให้ความร่วมมือกับพวกเราหน่อยนะครับ”

“ช่วยอะไร?” เธอสงสัย

“ก็ช่วยให้พี่ยืมรถของหวานไปส่งคณิตเอารถที่บริษัทก่อน แล้วก็ให้พี่อิงยืมรถหวานไปส่งหวานที่คอนโดไงครับ นะครับๆ” อชิตะอ้อนแฟนสาว โดยมีคณิตเป็นลูกคู่

“ใช่ครับๆ เราปล่อยให้สองคนมีเวลาอยู่ด้วยกันไงครับ ปรับความเข้าใจกัน แล้วก็แฮปปี้กันไป”

“จะดีเหรอพี่อิง คุณหนึ่ง ลมกับตินอาจไม่ได้รักกันแล้วก็ได้ ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านมาถึงสามเดือนหรอกนะ หวานว่าเรากลับเข้าไปข้างในกันเถอะ ไปถามให้รู้เรื่องดีกว่า ว่ายังรักกันอยู่ไหม ทำแบบนี้ หวานว่ามันไม่เวิร์คเท่าไหร่นะ”

ณัชชายังไม่เห็นดีไปด้วยกับทั้งสองหนุ่ม จะให้ปุบปับเห็นดีเห็นงามไปด้วยก็ไม่ใช่ณัชชาน่ะสิ อย่างน้อยๆ เธอก็ควรจะถามเอาความจริงกับคู่กรณีทั้งสองเสียก่อน

“ โธ่...หวานครับ เข้าใจหน่อยสิครับ สองคนนั้นน่ะปากแข็งทั้งคู่ เข้าไปถามตอนนี้จะได้คำตอบอะไรล่ะครับ” อชิตะรีบห้าม ดึงตัวแฟนสาวเอาไว้

“นั่นสิครับ คุณหวานเป็นเพื่อนไอ้ตินกับคุณลมมาก่อน น่าจะรู้นะครับว่าปากแข็งซะยิ่งกว่าอะไร เข้าไปถามหรือ คงได้คำตอบว่าไม่ ไม่ๆๆๆ ไม่คำเดียวเท่านั้นแหละครับ”

“ก็หวานไม่ได้สนิทสนมกับสองคนนั่นนี่นา กับตินหวานก็แค่รู้จัก ส่วนลม ถึงจะอยู่ห้องเดียวกัน แต่หวานก็ไม่ใช่เพื่อนในกลุ่มเดียวกับลม หวานจะไปรู้ได้ยังไงว่าสองคนนั่นปากแข็งแค่ไหน หวานผิดใช่ไหมล่ะที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย”  คำพูดติดจะน้อยใจนิดๆ ที่โดนสองหนุ่มรุมกล่าวหา ร้อนถึงอชิตะที่ต้องรีบเข้ามากอดและปลอบ ไม่อยากให้แฟนสาวงอน

“โอ๋ๆ พี่อิงไม่ได้ว่าหวานนะครับ พี่แค่บอกว่าเราควรเปิดโอกาสให้สองคนได้เคลียร์กัน โดยไม่มีพวกเราทั้งสามไปบังคับต่างหากล่ะครับ อย่างอนนะครับคนดี”

“ผมก็ไม่หมายความอย่างนั้นนะครับ คุณหวาน ผมแค่อยากให้สองคนปรับความเข้าใจกัน ส่วนเรื่องรักหรือไม่รัก ผมว่าคนทั้งสองรู้ดีครับ ไม่จำเป็นต้องให้พวกเราเข้าไปเค้นเอาความจริงอะไรหรอกครับ”

“แต่....”

“นะครับหวาน รักหรือไม่รัก พรุ่งนี้ก็รู้ครับ” เพราะเห็นคนรักเริ่มจะอ่อนลงบ้างแล้ว อชิตะก็เลยรีบดึงให้เห็นดีเห็นงามด้วยกับแผนที่คณิตวางไว้

“ก็ได้ค่ะ เอ้า....เอาไปเลย ส่งหวานให้ถึงคอนโดด้วย ห้ามพาออกนอกเส้นทางเด็ดขาด หวานง่วงแล้ว”

สุดท้ายณัชชาก็จำต้องยืนกุญแจรถของเธอให้กับแฟนหนุ่ม ก่อนเดินไปยังรถที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก สองหนุ่มถอนหายใจยาวแทบจะพร้อมกัน เมื่อคนที่ไม่คิดว่าจะมีปัญหากลับทำตัวมีปัญหาซะได้

“เร็วๆ สิพี่อิง หรืออยากจะให้หวานกลับเข้าไปในร้านอีก” ปลายเสียงที่ตะโกนบอกมาออกจะติดประชดเล็กน้อย

“ครับๆ ไปแล้วครับ”

.........................................................................................

หลังจากที่ณัชชาเดินไปห้องน้ำในความคิดของสีฟ้า หากแต่ในสิ่งที่ภาคีเห็นคือณัชชาสาวเท้าออกไปทางประตูทางออก ด้วยอาการที่แทบจะวิ่งเลยทีเดียว ทั้งโต๊ะจึงตกอยู่ในความเงียบ

สีฟ้าไม่พูด ส่วนภาคีก็เงียบ

“หล่อดีน่ะครับ ไอ้หมอสัตว์นั่น”

ภาคีเป็นฝ่ายเริ่มต้นทำลายความเงียบที่เขามีส่วนสร้างขึ้น ในวินาทีที่เขาเริ่มจะทนกลายเป็นคนที่ไม่มีตัวตนในสายตาของสีฟ้าได้อีกต่อไป

ได้ผล สีฟ้าที่เอาแต่มองดินฟ้าอากาศไปทั่ว หากแต่มีจุดเดียวที่เขาไม่มองคือคนตรงหน้า ชายหนุ่มหันกลับมามองคนพูดทันทีทันใด ตาคู่เรียวจ้องเขม็ง

“ นายพูดอะไรของนาย”

“ฟังไม่ชัดหรือครับ งั้นก็คงต้องอย่างนี้สินะถึงจะฟังชัด แล้วเข้าใจอะไรมากขึ้น”

ไม่รู้ความกล้ามันมาจากไหน ไม่อยากจะหาสาเหตุให้เสียเวลา เพราะตอนนี้ภาคีพาตัวเองไปนั่งแนบชิดติดกับคนร่างบางหน้าหวาน ชนิดที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวใดๆ

 จบตอน


หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 24-03-2011 12:34:27
^
^
 :fire: อึดอัด อึดอัด ตินจับกดแม่มเลย อย่าปล่อยให้รอด :fire:
 :beat: :beat:นังส์แพท เลว เพื่อนชั่ว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 24-03-2011 12:39:35
จะเคลียร์กันรอดมั้ยหนอ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 24-03-2011 12:41:57
ขอบคุณคนโพสต์และคนแต่งนะ :L2:
หวังว่าแอลกอฮอล์จะทำให้ภาคีกล้าบอกความในใจกับสีฟ้า
ขอให้แผนการของเพื่อนรักกับเจ้านายที่แสนดีสำเร็จทีเถอะ
รอความหวานตอนต่อไปนะ :really2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 24-03-2011 12:44:44
ขอตามด้วยคนนะคะ
เนื้อเรื่องสนุกมากเลยค่ะ
ว่าแต่อยากให้หวานกันเร็วๆๆจังเลย^^
แต่ตอนนี้อ่านแล้วค้งอย่างแรง :z3:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 24-03-2011 12:47:47
มารอตอนต่อไป ลมกับติน จะเข้าใจกันไหมหนอ
แอบสงสารพี่หมอเพราะลมเหมือนจะให้ความหวังเลย
 :call:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: akera ที่ 24-03-2011 13:05:18
ตอนหน้าหวานยัง ใจจะขาดแล้ว เป็นกำลังใจให้จร้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 24-03-2011 13:11:36
จะจบตอนแค่นี้จริงๆเหรอ
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 24-03-2011 13:31:01
รอผลต่อไปค่ะว่าจะปรับความเข้าใจกันได้มั้ย ตินกล้าๆหน่อยบอกลมไปเลยวะรักเค้า เซงแทนจริงๆ รอตอนต่อไปค่ะ~~~
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 24-03-2011 13:33:33
มาเล่นจบตอนเอาดื้อๆแบบนี้เลยเหรอ ฮึ..แกล้งกันอ้ะ
คนนึงก็ทั้งหึงทั้งเมา อีกคนก็ปากแข็ง และคงทั้งงอนทั้งทิฐิ แผนการครั้งนี้จะสำเร็จรึเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 24-03-2011 13:46:44
อึมครึมขึ้นไปอีก ยังครึ้มได้อีก
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 24-03-2011 14:02:42
:เฮ้อ:
จะเคลียร์กันรอดไหมละเนี่ยะ
ใจกล้าๆหน่อยสิตินนนน
เดี๋ยวก็ถูกไอ้หมอสัตว์นั้นเอาไปครองหรอก

เบื่อคนปากแข็งทั้งสองคนจริงๆ T T
แอบหน่ายกับน้ำเพชร  เรื่องผู้ชายนี่ถึงกับทำให้เสียเพื่อนเลยหรอ

เฮ้ออออออ
รอตอนต่อไปจ้า มาต่อเร็วๆน้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 24-03-2011 14:04:27
^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 24-03-2011 14:05:33
พูดเลยยยยยยยยยยยยยย


โอ๊ยยยยยย ลุ้นตับจะหลุดแล้ว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 24-03-2011 14:24:12
หวังว่าแผนการของเพือนกับบอสคงจะสำเร็จนะ :เฮ้อ:

ยัยน้ำเพชรยังคิดไม่ได้อีกเหรอหายไปนาน
ยังคิดว่าลมทรยศอยู่อีก
คงจะโปรดไม่ขึ้นแล้วละผู้หญิงคนนี้ :m16:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 24-03-2011 14:37:39
เรียกชื่อซะได้อารมณ์



หมอสัตว์
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 24-03-2011 14:48:37
ขอให้คืนดีกันได้นะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 24-03-2011 15:51:04
ทุกคนร่วมมือกันขนาดนี้ ถ้ายังไม่คืบหน้าก้อไม่รุ้จะว่ายังไงแล้วนายติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 24-03-2011 17:12:26
ค้างๆ
 :serius2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 24-03-2011 17:14:20
แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จบตอนแบบว่า 5555555555555555555 ฆ่าอีชั้นเหอะเจ้าค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 24-03-2011 18:05:25
อ๊ะ อ้าว! กำลังลุ้นๆเลยอา ว่าคนปากแข็งเค้าจะปรับความเข้าใจกันยังไง แต่จบตอนซะแหล่ว :z1:
ตินลุยเลย คุยในผับไม่รู้เรื่อง ไปคุยกันต่อที่เตียง ฮ่าๆ :haun4:
กว่าจะผ่านช่วงอึมครึมได้ มันก็ทรมานอยู่นะคะ ถึงจะบอกมาแล้วว่าแฮปปี้เอ็นดิ้งก็เถอะ :m17:
+1 ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 24-03-2011 19:26:22
อะไรยังไงต่อไปอ่าาาาาา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 24-03-2011 19:48:35
ง่ะ 








จบตอน ?? 

เอิ๊กกกกกกกกก  อยากจะเป็นลม
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 24-03-2011 19:54:17
คุณไหนว่าตอนนี้จะหวานยังไงอ่า
หน่ายปากแข็งทั้งคู่ :เฮ้อ:
บอสสู้ๆๆเป็นกาวให้เชื่อมกันติดนะ
อิ่มมาม่าและ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 24-03-2011 20:17:55
เหอๆ ให้มันได้งี้ดี้ อีตาติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 24-03-2011 20:23:44
ลุ้นจนปวดตับ  :เฮ้อ:
หันหน้ามาคุยกันซะทีเซ่
คิดเองเออเองทั้งคู่ จะรู้เรื่องกันไหมล่ะนั้น
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 24-03-2011 22:49:38
ดูท่าแล้วกว่าจะลงเอยกันได้
แมงมุมชักใยอยู่ในปากแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 24-03-2011 23:04:40
อ้าวววเฮ้ยยย ตัดฉับบบ



กลับมาให้ไว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 24-03-2011 23:26:44
อ้าวววเฮ้ยยย ตัดฉับบบ

กลับมาให้ไว

ก็อยากจะมาต่อให้วันนี้พรุ่งนี้ แต่ติดขัดที่โน่นเลย น้องแอ๋วคนแต่งยังมิส่งต้นฉบับมาให้  (โบ้ยไปนั่นเลย)

ขอเวลาเตรียมน้ำตาลแป๊ป ตอนหน้าจะได้เริ่มเคี่ยวน้ำเชื่อมไงจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 24-03-2011 23:30:59
อ่าวกำลังจะได้เรื่องเชียวโดนคนแต่งฆ่าตัดตอนซะงั้น :laugh:

ไอ้คำว่าเพื่อนทรยศเนี่ยคุณน้องแพทด่าตัวเองปะคะ :m16:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 24-03-2011 23:31:53
อ้าวววเฮ้ยยย ตัดฉับบบ

กลับมาให้ไว

ก็อยากจะมาต่อให้วันนี้พรุ่งนี้ แต่ติดขัดที่โน่นเลย น้องแอ๋วคนแต่งยังมิส่งต้นฉบับมาให้  (โบ้ยไปนั่นเลย)

ขอเวลาเตรียมน้ำตาลแป๊ป ตอนหน้าจะได้เริ่มเคี่ยวน้ำเชื่อมไงจ๊ะ


 o7
ไม่เป็นไรค่ะ รอได้ รอได้จริง
ปล. แต่เห็นเค้าบอกว่า มันยังไม่หวานนะคะ แค่ใกล้หวาน แต่ก็ไม่ดร่ามาแล้ว   :o8:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 11 ทั้งเพื่อนและบอสอาสาเป็นกาวใจ.. [24/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 25-03-2011 19:47:01
ไม่ยอมค่ะ จบแค่นี้ได้ไงอ่ะ คาใจอ่า หวังว่าแอลกฮอลที่ดื่มเข้าไปจะช่วยตินได้นะ เอาใจช่วยตินให้ปรับความเข้าใจกับลมได้เร็วๆ ลุ้นมากมายค่ะ หนึ่งกับบอสก็เป็นใจจริงๆ ต้องอย่างนี้ซิ เยี่ยมจริงๆ :)
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 26-03-2011 20:22:26
คุยกันนิดจิตแจ่มใส 

ช่วงนี้เห็นว่าแต่ละคนน่าจะเกิดภาวะ ตับช้ำ ตัวบวม จึงปวดตับกันทั่วหน้าทั่วตา :m16:
ดังนั้นน้องแอ๋วคนเขียนผู้แสนจะน่ารักใจดีจัดเตรียมอุปกรณ์ทำขนมหวานมาฝาก  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
ขั้นตอนการทำขนมหวานต้องเตรียมน้ำตาลเตรียมเคี่ยวน้ำเชื่อมใช่มั้ยค่ะ
และแน่นอนว่า ตอนนี้เป็นเพียง ขั้นแรก คือ เตรียมวัสดุ-อุปกรณ์  ตอนต่อไปถึงจะได้น้ำเชื่อมหวานๆ
ยังไงก็เชิญรับชิมได้นะค่ะ


ตอนที่ 12

วิธีทำให้สีฟ้าฟังได้ชัดขึ้นของภาคี คือการยกร่างบางให้นั่งใกล้ชิดที่เรียกว่าแทบจะเกยตักกันเลยทีเดียว

“จะทำอะไร”

เสียงที่ถามออกมาจากปากสวยติดจะสั่น กลิ่นเหล้าที่ลอยคลอเคลียอยู่เนื้อผิวแก้มชวนให้วาบไหว ตาคู่หวานที่มองสบตอบกลับมาก็ทำใจมันวาบหวิว ท่อนแขนใหญ่ที่โอบรอบไหล่ลาดแล้วกระชับให้ร่างบางแนบชิดกับอกกว้างแกร่งอุ่น ทำให้คนถูกกอดทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ รับรู้ถึงผิวแก้มที่ร้อนผ่าว เกรงกลัวว่ามันจะขึ้นสีระเรื่อให้อีกฝ่ายจับได้ว่า หวั่นไหวไปกับการกระทำนั้นอยู่ไม่น้อย

ห่างหายไปนานหลายเดือนกับอ้อมแขนนี้ คิดถึงนะ เพราะมันเป็นอ้อมกอดที่อุ่นและทำให้เขาสุขอย่างที่สุด

“เปล่า ผมก็แค่คิดว่าแบบนี้ คุณลมจะฟังอะไรชัดขึ้น แล้วก็เข้าใจอะไรมากขึ้น....ก็เท่านั้น” ว่าแล้วภาคีก็ฝังปลายจมูกบนแก้มนวลอย่างแรง ความหอมที่ได้จากแก้มนวลทำให้อยากทำอะไรมากกว่านี้ แต่ก็กลัวอีกฝ่ายโกรธ ถึงภาคีจะกล้า หากมันก็เพราะฤทธิ์น้ำเมา

“มันจะมากเกินไปแล้วนะ” ตาคู่เรียวจ้องอย่างเอาเรื่อง หากร่างกายก็ไม่ได้ดิ้นหนีจากอ้อมแขนที่โอบกอดอย่างถือสิทธิ์

“มากกว่านี้ผมก็เคยทำมาแล้ว หรือคุณลมว่าไม่ใช่” ภาคีย้อนถาม  แต่อีกฝ่ายก็ตอบกลับมาได้รวดเร็วทันใจ ทำเอาสะอึก

“ใช่ แต่นั่นมันเมื่อก่อน แต่ตอนนี้นายไม่มีสิทธิ์” สิทธิ์ของนายมันหมดไปแล้ว ตั้งแต่วันนั้น วันที่นายไม่คิดจะรั้งฉันไว้

“อ๋อ...ผมไม่มีสิทธิ์ แต่ไอ้หมอสัตว์นั่นมันมีสิทธิ์ใช่ไหม?”

ถามเองก็เจ็บเอง ยิ่งแววตาคู่สวยที่มองสบมาก็ทำเอาเขาเหน็บหนาว จนนึกโกรธตัวเองที่ถามคำถามนั้นออกไป ให้มันกลับมาทิ่มแทงซ้ำรอยแผลเดิมทำไมกัน เขาอ่อนแอกับสายตาคู่นี้เสมอ ไม่ว่าจะมองเขาด้วยความรู้สึกแบบไหน

“ใช่”

คำตอบสั้นๆ หากกระชับทุกความหมาย ชัดเจนจนเจ้าของคำถามต้องปิดเปลือกตาลงช้าๆ เก็บกลืนความเจ็บเปร่าที่แทบจะทำให้ใจขาด

กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่เคยชิน....กับความหมางเมินที่ได้รับ เคยไหมที่จะเห็นใจกันบ้าง ไม่เคยมี ทุกครั้งที่แนบใกล้ ก็เหมือนไม่เคยจะได้แนบใจ ทุกครั้งที่คิดว่าคงรักกันบ้าง แต่ก็ไม่เคยจะรักกัน

“แล้วอย่ามาถือสิทธิ์ในตัวฉัน นายไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวฉันทั้งนั้น จำใส่สมองนายเอาไว้ มีพี่หมอคนเดียวเท่านั้นที่ฉันจะให้สิทธิ์”

สีฟ้ายิ่งตอบย้ำความเจ็บปวดให้กับภาคีอีกเป็นระรอกที่สอง คำนั้นมันแรงแค่ไหน สีฟ้ารู้ดี แต่สีฟ้าก็จะพูดมันออกมา 

“ทำไมคุณใจร้ายอย่างนี้ครับ คุณลม ที่ผ่านมาผมไม่มีค่าอะไรเลยใช่ไหม นอกจากตัวตลกโง่ๆ คนหนึ่งที่คุณอยากจะยัดใส่มือก็ได้ บอกผมหน่อย ผมไม่เคยมีค่าอะไรในสายตาคุณเลยใช่ไหม”

ถ้อยคำตัดพ้อเพียงเบาๆ กระซิบแนบชิดที่ผิวแก้ม ลมหายใจที่ดูเหมือนจะขาดเป็นห้วงๆ ผสมปนเปมาพร้อมกับกลิ่นเหล้า ทำเอาหัวใจที่เพียรสร้างให้แข็งดุจขุนเขากลับอ่อนยวบ อยากใช้มือนิ่มปลอบประโลมถ้อยคำเหล่านั้นผ่านใบหน้าคมที่แนบใกล้ หากต้องห้ามใจเอาไว้

สีฟ้าไม่อยากทำร้ายหัวใจตัวเองด้วยคำพูดของตัวเอง แต่จะให้ทำยังไงได้ คำพูดของน้ำเพชรยังคงติดค้างอยู่บนความเป็นจริง

‘เพื่อนทรยศ’

คำนี้มันยังดังก้องซ้อนทับถ้อยคำเดิมๆ ของน้ำเพชรที่สีฟ้าไม่เคยลบมันไปได้เลย เขาไม่อยากทำร้ายน้ำเพชรไปมากกว่านี้ ถึงน้ำเพชรไม่รู้ แต่สีฟ้าก็รู้ว่าเขาเลวแค่ไหน หากยังคงยึดคนร่างสูงเอาไว้อยู่เหมือนเมื่อวันวาน

แค่นี้ แค่น้ำตาของน้ำเพชรที่สีฟ้าเห็น คำพูดที่ร้าวรานของน้ำเพชร มันทำให้สีฟ้าร้องไห้ให้กับความสัมพันธ์ที่ยาวนานมามากกว่าสิบปี เขาทำลายมันลงไปแล้วด้วยมือของตัวเอง แล้วอย่างนี้จะให้สีฟ้าทำยังไงต่อไปล่ะ เพราะเขายังปรารถนาที่จะได้น้ำเพชรกลับมาเป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิม

ความจริงแล้วเราไม่ได้รักกันใช่ไหม ภาคีไม่ได้รักเขา มีแต่เขาคนเดียวที่รักจนทำให้ตัวเองต้องเจ็บ ถ้าภาคีรักเขาสักนิด วันนั้นภาคีคงไม่เลือกที่จะจากไป โดยไม่คิดจะดึงรั้งเขาเอาไว้เลย ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน มันก็คงเป็นแค่ความสัมผัสทางกาย หาใช่ทางใจไม่....


“คุณใจร้ายมากเลยนะคุณลม คุณไม่เคยรักผมเลยหรือไง”

ภาคียังคงกระซิบแผ่วเบากับใบหูเล็ก หน่วยตาเศร้าเปิดขึ้นช้าๆ มองเสี้ยวหน้านวลแสนเฉยชากับปากอิ่มที่ขบเม้มเป็นเส้นตรง ก่อนคลายออก

“ใช่ ฉันไม่เคยรักนาย  รู้แล้วใช่ไหม รู้แล้วก็ปล่อย ฉันจะกลับ” คำพูดที่กว่าจะเปล่งมันออกมาได้ ก็ยากสุดแสน แต่มันไม่สามารถคลายอ้อมกอดแนบแน่นของภาคีออกไปจากตัวได้ ซ้ำร้ายคล้ายกับว่ามันเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้อ้อมแขนนั้นตวัดรัดรึงร่างบางให้แน่นขึ้น จนสีฟ้ารู้สึกอึดอัดมากกว่าที่จะอบอุ่นเช่นเมื่อครู่

“ฉันเจ็บ” สีฟ้าบอก พลางสบตากับเจ้าของอ้อมแขนที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บอย่างที่พูดออกมาจริงๆ ภาคีรัดตัวเขาแน่นมาก แน่นจนเจ็บ

“ผมก็เจ็บ” อีกฝ่ายมองตอบมาด้วยสายตาที่บ่งบอกว่ารู้สึกจริงอย่างที่พูดเหมือนกัน จะแตกต่างกันก็ตรงที่สีฟ้าเจ็บปวดทางร่างกาย ส่วนภาคี เขาเจ็บปวดเพราะใจถูกคำพูดของสีฟ้าทำร้าย

“นายจะมาเจ็บอะไร”

“คุณลม คุณไม่เคยรู้ตัวเลยใช่ไหมว่าทำให้ผมเจ็บ” เจ้าตัวถาม ใส่อารมณ์ ความอดทนมันเริ่มน้อยลงตามถ้อยคำของอีกฝ่ายที่กรีดหัวใจเขาทุกครั้งที่พูดออกมา

“ฉันทำอะไรนาย ปล่อยฉัน ฉันบอกให้ปล่อยไง ปล่อย!”

เสียงหวานตวัดแห้วสุดอารมณ์ พร้อมทั้งดิ้นดึงพาร่างของตัวเองออกจากคนที่ซ้อนอยู่ด้านหลังอย่างสุดแรง แต่ก็ทำได้เท่านั้น ภาคียังคงขังไว้ในท่อนแขนของตัวเอง แปลกตรงที่แรงกระชับนั้นอ่อนลง

“คุณก็ยังเป็นคุณลมที่ใจร้ายเหมือนเดิม ทำไมคุณลม ทำไมเราถึงรักกันไม่ได้”

ภาคีจับไหล่บอบบางให้เจ้าของมันหันมาเผชิญหน้า ตาเรียวไม่เคยอ่อนแสงเลยสักนิด ปากอิ่มที่เคยสัมผัสเม้มเป็นเส้นตรง ใบหน้าสวยใสนิ่งเรียบเสียจนน่ากลัว สีฟ้ายังคงดื้อดึงเป็นคนเดิมไม่เปลี่ยน เขาไม่อยากนำพาอารมณ์ที่เริ่มร้อนของเขา เข้าไปปะทะกับอารมณ์ที่ร้อนกรุ่นของอีกฝ่าย

“บอกผมหน่อยได้ไหม ทำไมเราถึงรักกันไม่ได้” แม้จะเป็นคำถามเดิม แต่น้ำเสียงของภาคีกับอ่อนลงอย่างมาก เขายังไม่อยากให้อารมณ์ร้อนเข้ามาทำร้ายสิ่งที่เขาต้องการจะบอกอีกฝ่ายให้รู้

“กลับไปถามยัยนุ่นของนายสิ” แต่อีกฝ่ายกลับตอบกลับมาด้วยอารมณ์ที่ไปคนละทิศละทางกัน

“นุ่นไม่เกี่ยว นี่มันคือเรื่องระหว่างเราสองคนนะครับคุณลม” ภาคีพยายามที่จะไม่ไหลไปตามอารมณ์ของสีฟ้า

“ไม่เกี่ยวเหรอ ไอ้ที่นายขอยัยนั่นแต่งงานล่ะ แล้วไอ้ที่มานั่งร้องไห้กระซิกๆ ต่อหน้าฉันที่บริษัท ขอนายคืนล่ะ ยืนกอดกันกลมหน้าบ้านของนายอีก มันไม่เกี่ยวกันเลยใช่ไหม” สุดท้ายสีฟ้าก็ขุดเรื่องเก่าที่ค้างคาใจมาพูดจนหมด

“ผมไม่เห็นรู้เรื่อง” ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องที่ยืนกอดกับนิรดาตรงหน้าบ้าน แต่เป็นเรื่องที่นิรดาไปหาสีฟ้าถึงที่บริษัท เขาไม่เคยรู้



“พูดง่ายดีนี่ งั้นนายก็นอนละเมอไปขอยัยนั้นแต่งงาน ละเมอไปกอดกันกลมให้ใครๆ เห็นสินะ” ใครๆ นั้นหมายถึงเขาเอง เขาเห็นเต็มสองลูกตา

“ผมยอมรับว่าผมขอนุ่นแต่งงานจริง แต่ที่ผมขอนุ่นแต่งานก็เพราะ...” ยังไม่ทันจะอธิบายอะไรให้เข้าใจ สีฟ้าซึ่งไม่เคยพร้อมจะฟังอะไรจากภาคีทั้งนั้นกลับชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน

“นั่นไง แล้วอย่างนี้นายจะว่ามันไม่เกี่ยวได้ไง”

“แต่ผม...”

“พอเถอะ หยุดพูดได้แล้ว ต่างคนต่างอยู่เถอะ ขอร้องล่ะ”

ครั้งนี้ล่ะมั้งนับตั้งแต่ที่เปิดปากคุยกัน ที่สีฟ้าใส่อารมณ์น้อยที่สุด หรือจะพูดให้ถูกต้องเลยก็คือ น้ำเสียงของสีฟ้าแผ่วลงอย่างน่าใจหาย สำหรับภาคีแล้ว น้ำเสียงใส่อารมณ์ที่ตวาดใส่เขา หรือตาสวยที่จ้องคล้ายจะทิ่มแทงเขาได้ทุกเมื่อ มันยังดูจะดีกว่าสีหน้า ท่าทางและน้ำเสียงยามนี้ของสีฟ้าเป็นไหนๆ แต่จะให้เขาปล่อยคนที่อยู่ตรงหน้านี้ไปอีกครั้งหรือ ไม่มีอยาก.... ไม่อยากให้สีฟ้ากลายเป็นของคนอื่น เพราะสีฟ้าเป็นของเขา

ภาคีดึงร่างบางสู่อ้อมกอดอีกครั้ง หวังจะให้ความรักที่เขามีทั้งหมดแทรกซึมผ่านอ้อมแขนเข้าสู่หัวใจอันร้ายกาจของสีฟ้าให้ได้ ทว่าเพียงแค่เสี้ยววินาทีที่เขาโอบร่างนั้นไว้ทั้งตัว แต่ไม่เคยได้โอบกอดไปถึงหัวใจ สิ่งที่ได้คืนกลับมาคือแรงแข็งขืนที่มากกว่าครั้งไหนที่เขารู้สึกได้ พร้อมกับคำพูดที่ช่วยให้อะไรๆ มันกระจ่างชัดขึ้น

“ฉันบอกแล้วไง คนที่มีสิทธิ์ในตัวฉันคือพี่หมอ”

มันปักลึกกว่าครั้งไหน

ท่อนแขนแกร่งอ่อนแรงลงในทันใดที่ประโยคนั้นถูกเอื้อนเอ่ยออกมา ภาคีรู้แล้ว ตอนนี้เขาไม่เหลือความหวังอะไรอีกแล้ว ท่อนแขนแกร่งตกลงไปอยู่ข้างกาย ปลดปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระ

เมื่อถูกปล่อย ไร้พันธนาการจากมือใหญ่ สีฟ้าขยับไปนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้าม ปล่อยให้ภาคีจมอยู่กับความอ้างว้างและว่างเปล่าที่สีฟ้าหยิบยื่นให้

.......Rrrrrrrrrrrrrrrr..............

เสียงโทรศัพท์ของภาคีดังขึ้น ทำลายความน่าอึดอัดที่ต่างฝ่ายต่างหันหน้าหนีไปคนละทิศทาง มันดังอยู่นานหลายรอบ โดยที่เจ้าของของมันไม่ยอมสนใจมัน แผ่นหลังที่พิงพักไว้กับขอบโซฟาขยับเพียงเล็กน้อย เพียงเพื่อจะล้วงมันออกมาจากกระเป๋า หลังจากที่เรียกร้องมานานหลายครั้ง ภาคีไม่มีกระจิตกระใจจะดูว่าใครโทรเข้ามา หากแต่กดรับมันไปอย่างไร้เรี่ยวแรง

กดรับแต่ไม่ยอมกรอกเสียงลงไป ยามนี้สายตาของเขาจับจ้องที่ร่างบางที่นั่งฝั่งตรงข้าม อยากให้สีฟ้าได้รู้ว่าเขาเสียใจมากแค่ไหนกับคำพูดนั้นของเจ้าตัว หากสีฟ้าก็ไม่ยอมมองสบตากับเขาเลย

เพื่อจะหนีสายตาตัดพ้อที่เข้ามาทำให้สีฟ้ารู้สึกเหมือนกับว่าเป็นคนผิด แก้วน้ำสีอำพันที่ถูกทิ้งไว้มานานกลับเป็นตัวช่วยชั้นดีของสีฟ้าในเวลานี้ ชายหนุ่มเสหยิบมันขึ้นมาจิบ รสชาติมันแปร่งๆ เพราะค่าที่ถูกทิ้งไว้มานาน แต่กระนั้นเขาก็ยังจะละเลียดมันไปเรื่อยๆ จนเกือบจะหมดแก้วอยู่แล้ว

“เฮ้ย....ไอ้ติน มึงเป็นบ้าอะไรวะ รับแล้วไม่พูด แล้วกูโทรหาตั้งนาน ทำไมไม่รับวะ หรือว่า ฮ่าๆๆ หรือว่ากูโทรไปขัดจังหวะจู๋จี๋ของมึงวะ”

ปลายเสียงคือคณิตที่พอนั่งรถของณัชชาปุบ โดยมีสารถีเป็นเจ้านายหนุ่ม คณิตก็จัดการโทรหาเพื่อนรักทันที แต่เจ้าเพื่อนตัวดีก็ไม่ยอมรักสักที จนตอนนี้แหละถึงรับ

“เฮ...เฮ...ไอ้ตินนนนนนนน ฟังอยู่รึเปล่าวะ เฮ้ย! ไอ้ตินนนนน....” แอ่กโค่ซะจนคนในรถที่เหลืออีกสองคนต้องหันมามอง

“มีไร” กว่าจะเปิดปากออกมาได้ คนปลายสายก็ถือสายรอเสียนาน

“โห...ไอ้ติน เป็นเชรี้ยอะไรวะ กว่าจะพูดออกมาได้นะโว้ย โกรธละซี่ที่กูโทรมาขัดจังหวะ งั้นไม่เป็นไร ฟังกูดีๆ นะ กูจะบอกแผนที่มึงอยากรู้ให้ฟัง แผนก็คือ กุญแจของบอสที่อยู่กับมึงไง จัดการพาคุณลมของมึงไปเคลียร์ได้เลย ทุกอย่างปลอดโปร่ง เพราะกู บอส และแฟนบอส เปิดทางสะดวกให้มึงแล้ว แถมตังค์ค่าเหล้าที่มึงกินยังกะกินน้ำ บอสใจดีก็จัดการจ่ายให้เรียบร้อยแล้วด้วย คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับมึงที่จะโง่พาคุณลมกลับไปส่งที่บ้านของเขา หรือจะพากลับไปเคลียร์กันโต้รุ่งที่คอนโดมึง มึงก็เลือกเอาเองนะ แล้วพรุ่งนี้รายงานผลด้วย แค่นี้ล่ะเพื่อนรัก แต่เดี๋ยวก่อน บอสฝากบอกด้วยว่าโชคดี ถ้ายังเคลียร์ไม่จบอนุญาตให้ลาพักร้อนได้อาทิตย์หนึ่ง เออ....แค่นี้ว่ะ เปลือง...”

เสียงปลายสายที่ร่ายยาวเป็นชุดก่อนจะหายไปนั้น ทำให้ใบหน้าคมเหยียดยิ้มให้กับตัวเองอย่างเศร้าๆ เคลียร์หรือคณิต โชคดีหรือครับบอส คงไม่มีหรอกครับคำต่างๆ พวกนั้น

ภาคีเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ร่างสูงที่หายจากอาการมึนเมาเพราะคำพูดที่ทิ่มแทงใจ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและตัวตั้งตรง ไม่มีอาการเอนซ้ายเอนขวาเช่นครั้งก่อน

“กลับกันเถอะครับ คุณลม”

คณิตจะรู้ไหม ว่าตอนนี้เขาขอเป็นคนโง่ที่พาสีฟ้ากลับคืนสู่บ้านที่อบอุ่นของสีฟ้าเอง แทนที่จะเป็นคอนโดกว้างหากอ้างว้างของเขา ที่เขาซุกซ่อนหัวใจอันบอกซ้ำตลอดมา

สีฟ้ามองหน้าคนพูด เกิดคำถาม

“แต่ว่าหวาน...” ยังพูดไม่ทันจะจบ ภาคีก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน

“ทั้งสามคนกลับไปแล้วครับ คงไม่ต้องบอกนะครับว่าทำไมถึงกลับไปก่อนพวกเรา” เจ้าตัวระบายลมหายใจออกช้าๆ หันหลังเดินออกไป ไม่หันมามองด้วยซ้ำว่าคนร่างบางจะเดินตามเขาออกมาด้วยหรือไม่ อาจจะนึกรังเกียจเขาจนไม่อยากเข้าใกล้ด้วยมั้ง

สีฟ้าเดินตามแผ่นหลังที่ก้าวยาวๆ นำหน้าเขาไป โดยไม่คิดจะหันมามองเลยว่าเขาแทบจะวิ่งตามอยู่แล้ว

ขณะที่กำลังเปิดประตูรถฝั่งคนขับ รถที่อชิตะทิ้งไว้ให้เขา และกำลังจะพาตัวเองเข้าไปนั่ง มือเรียวก็ยืนมาจับที่ข้อมือของเขาเสีย ภาคีหันไปมองหน้าหวานที่อยู่ไม่ห่าง ไม่อยากเห็น ไม่อยากเห็นอีกแล้ววงหน้าหวานที่ทำเอาเขาเพ้อ แต่ในวินาทีเดียวกันก็กรีดใจเขาจนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่แต่จุดเดียว จุดที่เจ็บปวดแสนสาหัสที่สุด

“มีอะไรครับ” มือเล็กๆ ข้างที่เหลือยื่นมาตรงหน้าของภาคี

“นายเมาแล้ว เอากุญแจมาให้ฉัน ฉันขับเอง”

“ไม่ต้องกลัวหรอก ผมไม่พาคุณลงข้างทางแน่”

“ติน”

น้ำเสียงนั้นแผ่วเบา ราวกับไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงอะไรอีก พลางดึงร่างสูงให้ถอยห่างออกมาจากประตูฝั่งคนขับ ดึงกุญแจมาจากมืออีกฝ่าย จากนั้นก็ลากร่างสูงไปยังอีกฝั่งหนึ่ง เปิดประตู ดันร่างนั้นให้เข้าไปนั่ง ก่อนที่จะปิดประตู แล้วเดินอ้อมไปฝั่งคนขับ พารถคันหรูของอชิตะมุ่งสู่ถนนเบื้องหน้าอย่างช้าๆ

“คอนโดอยู่ที่ไหน?”

สีฟ้าถามขึ้นมา ขณะที่เขากำลังพารถแล่นออกมาสู่ท้องถนน เขารู้มาคร่าวๆ จากคนเป็นแม่ว่า ภาคีย้ายออกจากบ้านหลังเล็กไปอยู่ที่คอนโดเช่าแห่งหนึ่ง แต่ไม่รู้ที่ไหน

ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย ภาคีนั่งนิ่งคล้ายๆ กับหลุดไปอยู่อีกโลกใบหนึ่ง

“คอนโดอยู่ที่ไหน ฉันจะไปส่ง” สีฟ้าถามย้ำอีกครั้ง หากคำตอบก็ยังเป็นเช่นเดิม คือความเงียบ ภาคีหันมามองหน้าเขา แต่ไม่พูด แล้วก็หันหนี มองออกไปนอนรถ

“ติน” อีกครั้งที่สีฟ้าเรียกขานชื่อชายหนุ่มที่นั่งนิ่งเป็นหุ่นอยู่ข้างๆ คราวนี้ภาคีคล้ายจะรับรู้

นานมาแล้วที่ไม่ได้ยินชื่อของตัวเองจากปากสวยได้รูปนี้ สีฟ้าเรียกชื่อของเขาแทนคำว่า ‘นาย’ ที่มักจะเรียกขานยามที่ความหวานห่างหาย ทุกค่ำคืนไม่ใช่เหรอที่ปากนี้จะเอื้อนเอ่ยชื่อของเขาได้อย่างเพราะพลิ้วหวานหวาม เมื่อครู่ก่อนหน้านี้ สีฟ้าเรียกชื่อเขา มันทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์ ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองเข้ามานั่งในรถตั้งแต่เมื่อไหร่ มารู้ตัวอีกครั้งก็เมื่อได้ยินชื่อของตัวเองอีกครั้ง

สีฟ้าเลี้ยวหัวรถเข้าไปจอดในปั้มน้ำมัน เขาไม่อยากคุยไปด้วย ขับรถไปด้วย กลัวอันตราย เพราะสงสัยต้องถามกันอีกนาน กว่าคนปากหนักอย่างภาคีจะเปิดปากพูด เหมือนกำลังแกล้งเขา

“คอนโดนายอยู่ไหน?”

อะไรกัน เมื่อกี้นี้ สีฟ้ายังเรียกเขาว่า ‘ติน’ อยู่เลย ทำไมตอนนี้ถึงใช้คำว่า ‘นาย’ อีกล่ะ หรือว่าเขาหูฝาดไปเอง

“คอนโดนายอยู่ไหน?” ไม่รู้ว่าต้องถามคำถามนี้อีกกี่รอบถึงจะได้คำตอบ สีฟ้าคร้านจะถามเอาคำตอบจากคนที่นั่งมาด้วยกัน เมื่อไม่ตอบก็อย่าตอบ เขาถามคนอื่นก็ได้ ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมา กดต่อสายไปยังหมายเลขล่าสุดที่เขาบันทึกเอาไว้

“จ๊ะลม ว่าไง มีอะไรให้หวานช่วยหรือเปล่า ตินทำอะไรลมไหม ตอนนี้ลมยังอยู่ที่ร้านหรือเปล่า ให้หวานไปรับไหม หรือว่าออกมาแล้ว หวานเป็นห่วงลมนะ บอกมาเถอะลม ตินทำอะไรลมหรือเปล่า หวานขอโทที่ทิ้งลมไว้กับติน หวานไม่ได้ตั้งใจนะ แต่หวานถูกบังคับ”

คนปลายสายร่ายคำถามยาวเหยียดด้วยความเป็นห่วง เพราะณัชชายังรู้สึกผิดอยู่ที่จำยอมเข้าร่วมแผนการของอชิตะกับคณิต ร่ำๆ จะให้แฟนหนุ่มเลี้ยวรถกลับไปที่ร้านนั้นตั้งหลายครั้ง แต่ถูกอชิตะและคณิตทำหูทวนลมไปซะทุกครั้ง เลยได้แต่นั่งฮึดฮัดทำอะไรไม่ได้ จะหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปหาเพื่อน ก็โดนยึดอีก โชคดีนะที่สีฟ้าโทรมาหาเธอเอง คนรักหนุ่มถึงคืนโทรศัพท์ให้

“ไม่มีอะไร ตินไม่ได้ทำอะไรลมหรอก แล้วก็ไม่ต้องมารับด้วย เพราะลมออกมาจากร้านแล้ว ว่าแต่ลมขอคุยกับหนึ่งหน่อยได้ไหม” สีฟ้าตอบทุกความห่วงใยของณัชชา ก่อนจะขอคุยกับคณิต เพราะเขาคิดว่าคณิตคงจะรู้ว่าคอนโดของภาคีอยู่ที่ไหน

“หนึ่งไม่อยู่แล้ว” คำบอกของณัชชาทำให้นั่งถอนหายใจยาวออกมาอย่างเหนื่อยๆ เหลือบมองคนข้างตัวที่ตอนนี้ซ่อนหน่วยตาไว้ใต้เปลือกหนาไปแล้ว

“ลมมีอะไรจะคุยกับหนึ่งเหรอ” ณัชชาคงถามต่อ เมื่ออีกฝ่ายเงียบไป

“คือว่าลมจะถามหนึ่งเรื่องคอนโดของตินนะ ลมอยากรู้ว่าอยู่ที่ไหน จะได้พากลับไปได้ถูก”

เปลือกตาหนาขยับนิดหนึ่ง เมื่อได้ยินชื่อของตัวเองหลุดออกมาจากปากของสีฟ้า หูเขาไม่ได้ฝาดไปแน่ๆ

“อ้าว? ทำไมไม่ถามตินล่ะ” คนไม่รู้ก็ยังคงไม่รู้อีกเช่นเดิม

“เมาหลับไปแล้ว”

“เดี๋ยวนะลม เดี๋ยวหวานถามพี่อิงให้ พี่อิงน่าจะรู้นะ”

จริงด้วย สีฟ้าลืมอชิตะไปได้ยังไง ก็อชิตะเป็นเจ้านายของภาคีนี่นา น่าจะพอรู้อยู่บ้างว่าคอนโดของลูกน้องอยู่ที่ไหน

แว่วเสียงของณัชชาถามแฟนหนุ่มเกี่ยวกับเรื่องคอนโดของภาคี ซึ่งมันก็ดังพอที่จะลอดผ่านปลายสายมาให้เขาได้ยินอย่างชัดเจน สงสัยอชิตะคงจะรู้ว่าณัชชาไม่ชำนาญท้องถนนของกรุงเทพเท่าไหร่ เลยเพิ่มระดับเสียงที่บอกให้ดังจนเขาได้ยินชัด พอณัชชากรอกเสียงมา สีฟ้าจึงบอกหญิงสาวไปว่า

“ขอบใจนะหวาน ลมรู้แล้วล่ะ ฝากขอบคุณพี่พี่อิงด้วยนะ แล้วพรุ่งนี้ลมจะขับเอาไปคืนที่บริษัทนะ”

สีฟ้าวางสายจากณัชชาแล้วหันมามองคนที่ปิดเปลือกตานิ่ง แล้วต้องถอนหายใจหนักอีกรอบ คืนนี้เป็นคืนวันพฤหัส แล้วพรุ่งนี้ภาคีจะไปทำงานไหวเหรอ นึกแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้

แค่ ‘เป็นห่วง’ คงไม่ผิดมากใช่ไหม?

คำถามที่มีคำตอบอยู่แล้วว่า....

‘ไม่’ หรอกมั้ง อย่างน้อยๆ ก็เคยเป็นคนคุ้นเคย


...

กว่าชั่วโมงที่สีฟ้าพาตัวเองและคนที่เอาแต่นอนนิ่งไม่รับรู้อะไรอย่างภาคี มาถึงคอนโดนหรูโดดเด่นท่ามกลางแนวต้นไม้สูงที่ปรุงแต่งให้คอนโดนหรูดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้นในความมืดที่มีแสงไฟเพียงน้อยนิด แม้กระทั่งตอนนี้เวลามันจะก้าวเข้าสู่วันใหม่ไปแล้วก็ตาม

รถของอชิตะที่สีฟ้าขับแล่นเข้ามาจอดสนิทตรงใต้คอนโดสูงสไตล์หรู ที่สีฟ้าไม่อยากจะเชื่อว่าภาคีจะสามารถจ่ายค่าเช่าที่แพงอยู่ไม่น้อยได้ ไม่ได้ดูถูก แต่เพราะมันไม่อยากจะเชื่อต่างหาก หรือว่านลินจะช่วยคนเป็นน้องชายออกค่าเช่าก็ได้

“ตะ....” กำลังจะปลุกคนที่นอนมาตลอดทางอยู่แล้วแท้ๆ แต่เจ้าตัวกลับลุกขึ้นแล้วก้าวออกจากรถไปได้อย่างหน้าตาเฉย

“ขอบคุณครับ” เท่านั้นแหละประตูรถก็ปิดสนิท พร้อมกับร่างสูงที่ก้าวฉับๆ ไปยังประตูที่มียามตัวใหญ่เดินถือตะบองไปมาท่าทางกระฉับกระเฉง

อย่าบอกว่าตลอดเส้นทางที่ทอดยาวมาถึงคอนโดแห่งนี้ ภาคีรู้สึกตัวตลอดเวลา ภาคีไม่ได้หลับสนิทเพราะฤทธิ์น้ำเมาเหมือนที่เขาคิดไว้แต่แรก

แล้ว...แล้ว....การกระทำทั้งหมดของเขาล่ะ ภาคีก็รู้หมดสิ

มือของสีฟ้าที่ปัดปอยผมที่หล่นมาปกใบหน้าคมหวานด้วยความนุ่มนวล

มือของสีฟ้าที่สัมผัสผิวแก้มสากๆ อย่างเบามือด้วยความรัก

มือของสีฟ้าที่เอื้อมไปทาบทับไว้กับมือใหญ่ที่วางอยู่หน้าตักแผ่วเบา หากถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดลงไป


โอ้ย....แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ถึงจะเอาไว้ที่คอของตัวเองเหมือนเดิม มันก็คงไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว สีฟ้านะสีฟ้า ทำใจแข็งมาได้ตลอด ฝืนกลั่นคำพูดทิ่มแทงอีกฝ่ายมาทุกครั้ง กลับต้องมาเสียท่าเอาตอนนี้

ร่างของคนตัวสูงหายลับไปจากสายตานานแล้ว แต่สีฟ้ายังคงนั่งนึกโกรธผสมความอายอยู่ในรถอีกนานทีเดียว








........ก๊อกๆๆๆ............

เสียงเคาะกระจกรถฝั่งคนขับดังขึ้น ปลุกให้คนหน้าหวานที่หลับตานิ่ง เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างรวดเร็ว นึกขึ้นมาได้ว่าเขาเองจอดรถอยู่ตรงนี้นานเกินไปหน่อย สงสัยพี่ยามตัวล่ำมาเคาะกระจกไล่

สีฟ้าลดกระจกลงเพียงเพื่อจะขอโทษขอโพยยามร่างใหญ่ที่จอดรถตรงนี้นานไปหน่อย หากแล้วก็พบว่าคนที่เคาะประตูไม่ใช่พี่ยามยักษ์ตัวใหญ่ดังที่คิดไว้แต่แรก หากแต่เป็นคนที่สีฟ้าไม่อยากเอาหน้าแตกๆ กับหัวใจที่อ่อนไหวเข้าพานพบ

“ขึ้นไปทานกาแฟก่อนไหมครับ คุณลม”




......................................................................
จบตอน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 26-03-2011 20:34:12
เมื่อไหร่จะปรุงขนมหวานเสร็จอ่ะอยากชิม แต่ว่ากาแฟคงไม่ขมนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 26-03-2011 20:35:02
ก็แค่

ทำอย่างที่ใจ..ต้องการ

ก็ได้ไม่ใช่หรอ??
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 26-03-2011 20:39:37
ขัดใจ จะปากแข็งไปไหน   :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 26-03-2011 20:44:48
จะปากหนักกันไปถึงไหนเนี่ย
ลุ้นจนตัวโก่งแล้วอ่ะ
แต่ตอนนี้อ่านแล้วค้างอย่างแรง
มาต่อเร็วๆๆนะคะ
อยากได้น้ำเชื่อมแล้วค่ะ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 26-03-2011 20:52:22
มีแต่กาแฟเพียวหรือเปล่า
ไม่ใส่นม น้ำตาล ครีมเทียม
ตอนนี้ขมรากเลือด
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 26-03-2011 20:57:56
ใกล้แล้วใช่ไหมตอนที่หวานๆๆๆอ่า
ลมนี่ปากแขงยนิ่งกว่าหิรอีก
สงสารตินสุดๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 26-03-2011 21:06:43
ทานกาแฟอย่างเดียวป่าว?
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 26-03-2011 21:14:28
แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 26-03-2011 21:29:50
วิดวิ๊ววว...พากันเข้าห้องแล้ว :z1:
สงสัยนั่งคุยกันดีๆไม่ค่อยเข้าใจ เลยต้องนอนคุยกันแหงเลย  :haun4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 26-03-2011 21:35:52
^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-03-2011 21:49:42
อ่านแล้วชอบมากเลย
ตอนแรกที่อ่าน ชอบลมแกล้งติน
มีร้องไห้สร้างเรื่องได้เก่งมาก
แต่ตอนนี้ลุ้นอยากให้ทั้งคู่้คืนดีกัน
เกลียดยัยแพทบ้ามาว่าลม แล้วยัยนุ่มด้วยเกลียดจัง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 26-03-2011 22:22:50
แปลว่าเริ่มจะเข้าใจกันแล้ว อิอิ กินกาแฟแล้วไงต่อเหรอ หุหุ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 26-03-2011 23:08:54
เฮ้ยยยย ไปกินกาแฟ ยามดึก  สงสัยจะหวานน่าดูเน๊อะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: akera ที่ 26-03-2011 23:14:58
ไม่อยากกินมาม่ารสต้มแซบอีกแล้ว อยากกินนมเย็นใกล้จะได้กินแล้วใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 26-03-2011 23:17:29
อ้าว มาชวนขึ้นไปกินกาแฟแล้วจบเฉยเลย แล้วไงต่อค่ะ แล้วเมื่อไหร่จะหวานอ่า ลมปากแข็งจริงๆ แล้วตินก็เมื่อไหร่จะบอกละว่ารัก พูดไปเลย พอกันทั้งคู่จริงๆ ต่อเร็วๆ นะค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 26-03-2011 23:28:22
ขัดใจแม่จริงจริ๊งเลยคู่นี้
 :m31: :m31: :m31:

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 27-03-2011 00:07:28
คันปากยิก ๆ เลยอะ

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 27-03-2011 09:50:24
อีลม :beat: :z6:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 27-03-2011 10:17:57
อีกนนานไหมคะ กว่าที่จะเข้าใจกันได้น่ะค่ะ คนอ่านอย่างดิฉัน ใจจะขาดแล้วเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 27-03-2011 10:27:03
^
^
โอ๋ๆๆๆ  อย่าเพิ่งขาดใจเลยนะค่ะ

ช่วงนี้เป็นช่วงสปอยและเป็นคำเตือนสำหรับตอนต่อไป

 ...โปรดระวัง>>>คอมพิวเคอร์อาจได้รับความเสียหายเพราะ โดนมดเข้าไปทำรัง  <<<<< ขอย้ำอีกครั้ง...โปรดระวัง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 27-03-2011 10:40:30
^
^
^
มดตะนอยหรือคะที่จะเข้ามาทำรัง :laugh:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 27-03-2011 13:53:17
โอ้ยยยยยย จะปากแข็งกันไปถึงไหนเนี่ยะคู่นี้
ขอให้เคลียร์กันให้ได้ซักทีเห้อออ

จะบอกให้นะลม ถ้าเพื่อนเราจริงถ้าเขาเห็นเราเป็นเพื่อนจริง
ถ้าเรื่องแค่นี้ทำให้เพื่อนต้องแตกกัน
ก็ปล่อยไปเถอะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 27-03-2011 15:17:57
ขอกาแฟ ลาเต้ คาปูชิโน่ เอสเปรสโซ่ มอคค่า คอนโด อพาร์ทเม้น ที่นึงคร้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 27-03-2011 17:12:20
เอา คาปูชิโน่หวานๆมันๆนะค่ะตอนหน้า
จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 27-03-2011 18:51:16
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 27-03-2011 21:32:12
 :haun5:

มันจะหวาน....?
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 27-03-2011 22:59:24
อีกนานไหมกว่าจะหวาน?!
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 28-03-2011 00:13:08
เข้าใจกันซักทีเหอะะะะะะะะะะ

ลดปริมาณความซึน เลิกคิดเอาเองซะที
คนอ่านหัวใจไม่แข็งแรงนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 28-03-2011 02:50:02
แอร๊ย ต่างฝ่ายต่างรัก แล้วทำไมไม่เปิดใจคุยกันซักทีล่ะคะ?

ตอนหน้าเอาเป็นน้ำเชื่อมผสมน้ำผึ้งกับน้ำตาลอีกหนึ่งคันรถละกันนะคะคุณขา

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 28-03-2011 08:19:33
ขอบคุณคนแต่งและคนโพสต์ :L2:
เมื่อไรสีฟ้าจะเห็นรูปที่ภาคีซ่อนไว้
รอกาแฟใส่น้ำตาลนะ :impress:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 12 กาแฟสักถ้วยมั้ยครับ.. [26/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 28-03-2011 14:59:38
อีกนิดเดียวแท้ๆๆก้อจะได้ยินความจริงทั้งหมดแล้ว
ถ้าขึ้นไปคงไม่ได้แค่ดื่มกาแฟอย่างเดียวแน่แน่
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 28-03-2011 20:31:42
คุยกันนิดจิตแจ่มใส

รักเธอ มาแล้วค๊า  มาแล้ว ตอนนี้ คนเขียนเค้าคิดชื่อตอนเองเลยทีเดียว   :z1:

กาแฟถ้วยนี้พร้อมเสริฟทุกท่านแต่ อย่าเพิ่งเหวี่ยงคนโพสอย่างอิชั้นนะเจ้าค่ะว่ากาแฟไม่หวานแหมๆๆ ของแบบนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไป

เชิญชิมกาแฟได้เลยค่ะ

ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ

ประตูห้องในคอนโดมิเนียมหรูถูกเปิดโดยเจ้าของ ซึ่งตอนนี้กำลังเบี่ยงตัวหลบ เพื่อให้แขกคนสำคัญก้าวข้ามกรอบประตูเข้าไปในห้องกว้างแสนอ้างว้างของเขา เมื่อไหร่ที่สีฟ้าก้าวเข้าไปในห้องนี้ ชายหนุ่มหวังจะใช้เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่น้อยนิด เหนี่ยวรั้งทั้งตัวและหัวใจของคนใจร้ายแต่เขาก็ไม่เคยที่จะหยุดรัก จะกกกอดให้อยู่ในอ้อมแขนของเขาอีกครั้ง ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม เขาจะต้องทำมันให้ได้ จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เช่นที่ผ่านมา เพราะสิ่งที่เขาสัมผัสได้เมื่อครู่มันเติมความหวังให้ล้นเอ่อออกมา

ในรถที่หลายๆ ครั้ง....สีฟ้าสัมผัสเขาด้วยความอ่อนโยน เหมือนเมื่อครั้งที่เคยร่วมใช้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดด้วยกัน ไม่แตกต่างและไม่ผิดเพี้ยน เขากำลังเชื่อว่า อย่างน้อยสีฟ้าก็ยังไม่ลืมเลือนความรู้สึกที่เคยมีร่วมกัน

‘คำรัก’

บางครั้งมันก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างซาบซึ้งติดตรึงที่หัวใจ ด้วยคำพูดหวานละมุมที่กระซิบแผ่วยามแนบใกล้เพียงลมหายใจสื่อถึง

‘คำรัก’

บางครั้งมันก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างงดงามตราตรึงที่ดวงจิต ด้วยภาษากายอ่อนอุ่นชวนให้หลงใหล ที่กระซิบหวานยามแนบชิดกลายกลืนเป็นกันและกัน

วันนี้....

ตอนนี้....

 เขาจะทำทุกวิถีทางที่จะสื่อ ‘คำรัก’ ทั้งสองรูปแบบให้สีฟ้ารับรู้....ให้ได้


ภาคีก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่อยากจะรัก อยากรักสีฟ้า



สีฟ้ายังยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าห้องที่ถูกเปิดกว้างเพื่อเขา สองเท้ามันยังไม่พร้อมจะเดินผ่านคนร่างสูงเข้าไปข้างใน แม้เจ้าของห้องจะส่งสายตาคล้ายจะอ้อนวอนมาให้มากแค่ไหน ชายหนุ่มถอนหายใจพรืด ทำไมเขาต้องมาตามคำชวนนั้นด้วย

‘ขึ้นไปทานกาแฟก่อนไหมครับ คุณลม’

แค่ประโยคนี้ประโยคเดียว ทำให้เขาต้องพาตัวเองมายืนอยู่ตรงนี้ ตรงหน้าห้องของคนเคยชิดแต่หากห่างหายไปนาน


หรือว่าเขาอยากกินกาแฟ คำชวนง่ายๆ ของภาคี ถึงมีผลให้เขาก้าวลงรถ แล้วเดินตามแผ่นหลังกว้างมายืนอยู่ตรงนี้ นึกถามตัวเองว่า อยากกินนักหรือไอ้กาแฟขมๆเนี่ย อยากกินเอาตอนเที่ยงคืนกว่าๆ นี่นะ

อยากกินจริงๆ เหรอ?

คำถามยังวนเวียนวิ่งรอบไปทั่วห้องความคิด คำตอบมีมากมายพอๆ กับคำถามที่เกิดขึ้น แต่สีฟ้าก็ไม่สามารถหยิบจับคำตอบอันไหนมาเกาะยึดเอาไว้ได้

ถ้าเขาจะถอยหลังกลับ  มันจะทันไหม?

คำตอบคือ ไม่ทันการอย่างแน่นอน เมื่อภาคีส่งสายตาเว้าวอนมาให้เขา เขาอยากใจแข็ง แต่สุดท้าย ใจก็ไม่เคยแข็งพอ

เมื่ออีกฝ่ายถอนหายใจพรืดออกมา และสองเท้าก็ยังตรึงอยู่กับที่ ไม่มีทีท่าจะขยับเขยื้อน เจ้าของห้องเลยเปลี่ยนจากการรอคอยที่แสนเชื่องช้า ที่ไม่รู้ว่าจะต้องยืนอยู่ตรงหน้าห้องไปจนถึงเช้าหรือเปล่า อีกไม่กี่ชั่วโมงท้องฟ้าจะเปลี่ยนจากสีน้ำเงินครึ้ม เป็นสีฟ้ากระจ่างใส

แสงจันทร์นวลตาจะจางหาย ทดแทนด้วยแสงตะวันที่ร้อนแรง แล้วความจริงจะกลายเป็นเรื่องจริงที่ต้องเผชิญต่อไปอีกหนึ่งวันหรืออาจจะตลอดกาล เมื่อดวงจันทร์ตรงหน้าเขา ยังไม่คิดจะใยดีหรือห่วงใยก้อนหินช้ำๆ อย่างเขา

ภาคีทิ้งร่างบางเอาไว้ด้านนอก ส่วนตัวของเขาเองเลือกที่เดินเข้าไปในห้องกว้างอ้างว้างของตัว  เขากำลังเสี่ยง กำลังทดสอบความรู้สึกของสีฟ้า ว่าสีฟ้าจะเลือกเขาสักนิดไหม?

หากสีฟ้าก้าวตามเขาเข้ามา นั่นก็จะทำให้เขาแน่ใจมากขึ้นอีกมาว่า ระหว่างเขากับสีฟ้ายังมีเส้นใยบางอย่างถักทอร้อยดึงกันไว้อยู่  ที่รอเพียงเวลาให้เขาถักทอให้มันเด่นชัดขึ้นมาและเหนียวแน่นยิ่งขึ้น แต่ถ้าสีฟ้าไม่ยอมก้าวตามเข้ามาอย่างที่ใจเขาหวัง สีฟ้าเลือกจะเดินถอยหลังกลับ เขาก็จะไม่ยอมแพ้ เขาจะตามเอาร่างบอบบางนั้นเข้ามาสู่ห้องอ้างว้างนี้ให้ได้ ต่อให้โดนโกรธ โดนเกลียด แค่ไหนเขาก็พร้อมจะทำ จะทำให้รักให้ได้ ภาคีย้ำกับตัวเอง ขณะที่ล้วงเอาเนทไทที่ซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาวางไว้บนโต๊ะ

สุดท้ายแล้วภาคีก็ได้ทำตอบของความหวังที่มีอยู่ เมื่อประตูห้องถูกปิดลง เขาหันหลังกลับไปมอง สีฟ้ากำลังก้าวเท้ามาทางเขาตาม ภาคียิ้มให้กับตัวเอง อย่างน้อย เขาก็ไม่ต้องออกแรงวิ่งตามร่างบางแล้วกระชากลากถูเอามาขังไว้ในห้องตามตัวเลือกข้อที่สองของเขา

หากภาคีกำลังสมหวัง สีฟ้าก็คงว้าวุ่นใจไม่หายกับสิ่งที่เลือกทำ เขาก้าวตามภาคีเข้ามา ในขณะที่เขามีโอกาสทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่กำลังดำเนินอยู่นี้

สีฟ้าจะโทษใครได้ จะโทษคนชวนหรือ? โทษแล้วได้อะไรขึ้นมา ถ้าปฏิเสธตั้งแต่แรกก็คงไม่ต้องยืนทำตัวไม่ถูกต่อหน้าเจ้าของห้องอย่างนี้หรอก

‘แพท......ได้ไหม ถ้าลมจะขอทำตามหัวใจตัวเองอีกสักครั้ง’

ไม่ได้หวังหรอกว่าถ้อยความคำขอนี้จะไปถึงอดีตเพื่อนรักอย่างน้ำเพชรได้ แต่มันก็คือสิ่งที่สีฟ้าทำได้ดีที่สุดตอนนี้แล้วไม่ใช่เหรอ

ห้องชุดในคอนโดหรูที่ได้เข้ามาสัมผัสเป็นครั้งแรก ห้องชุดที่ดูโปร่งและโล่งสบาย ทุกพื้นที่ถูกจัดสรรอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวที่อยู่ด้านซ้ายของตัวห้อง เดินไปอีกนิดก็เจอกับโต๊ะทานข้าวขนาดเล็กสำหรับสองคน มีเจ้าของห้องตัวสูงยืนยิ้มกริ่มอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ว่าเดินไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ตอนไหน เลยไปอีกหน่อยก็เป็นส่วนพื้นที่ของห้องนั่งเล่น และห้องสุดท้ายที่เห็นคือห้องนอน ที่สีฟ้าไม่รู้ว่ามันจะใหญ่แค่ไหน เพราะยังไม่ได้ก้าวเท้าไปสัมผัส หากมองทะลุประตูเลื่อนบานใหญ่ ที่มีองค์ประกอบเป็นไม้สีสวยและกระจกสีขุ่นทั้งสองบาน เขาคงจะรู้อยู่หรอกว่ามันกว้างแค่ไหน

“น่าอยู่ดีนี่”

สีฟ้าเอ่ยขึ้นมาลอยๆ เมื่อภาคีเดินกลับมาอีกครั้ง พร้อมกวาดสายตาไปรอบห้องคล้ายจะสำรวจตรวจตรา ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม แต่ก็นะ คงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการทำอย่างนี้แล้ว

“มันไม่เหมาะกับคนฐานะอย่างผมใช่ไหมล่ะครับ” น้ำเสียงติดจะประชดนิดๆ ก็เขามันไม่ใช่คนร่ำรวยเงินทอง ชาติตระกูลดีอย่างคนพูด เขาก็แค่คนหาเช้ากินค่ำ พนักงานบริษัทต้อกต๋อย คนธรรมดาที่ริไปรักคนร่ำรวยเงินทอง ร่ำรวยชาติตระกูล

ก้อนหินบนพื้นโลกกับดวงจันทร์บนห้วงอวกาศ ห่างกันแค่ไหน ก็คงเหมือนฐานะของเขากับสีฟ้า ต่อให้เขาขยันขันแข็งแค่ไหน ก็คงไม่มีวันเทียบเท่าสีฟ้าได้   

“เปล่า...ก็แค่ชมว่าห้องน่าอยู่ แต่ถ้าคำพูดของฉันทำให้นายคิดมาก ก็ขอโทษ”

สีฟ้ารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเข้าใจคำพูดของเขาผิดไปอย่างมาก เขาก็แค่ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาก็เท่านั้นเอง ไม่ได้คิดดูถูกอะไรคนตัวสูงสักนิดเลย รู้งี้นั่งอยู่เฉยๆ แล้วรอกินกาแฟดีกว่า 

“คอนโดของคุณอิงน่ะครับ ค่าเช่าไม่แพง จ่ายช้าจ่ายเลทยังไงก็ได้ หรือจะไม่จ่ายก็ได้” น้ำเสียงเริ่มจะดีขึ้น คล้ายจะบอกเล่าให้รับรู้ ไม่ใช่ประชดเหมือนครั้งแรก สีฟ้าไม่ได้ผิดทีเกิดมาร่ำรวยและอยู่สูงกว่าเขา   

“ได้เจ้านายใจดีว่างั้นเถอะ” โธ่เอ้ย! สีฟ้า ไม่น่าพูดออกมาเลย ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แต่มันก็หลุดปากออกไปจนได้ แต่โชคดีที่ภาคียังไม่มีอาการฟ้องว่าไม่พอใจคำพูดของเขา นอกจากคำตอบรับสั้นๆ ตามสไตล์

“ครับ”

“แล้วจะออกมาเช่าอยู่เองให้เสียเงินไปเปล่าๆ ทำไม ทำไมไม่อยู่บ้านหลังเล็กของนายไปล่ะ”

คำถามโง่ๆ ดูคล้ายจะหลุดออกจากปากบ่อยเหลือเกิน สีฟ้านึกด่าตัวเองในใจ เมื่อภาคีทำเหมือนไม่พอใจกับคำถามของเขา 

“บ้านหลังเล็กของผม? ผมฟังอะไรผิดไปหรือเปล่า บ้านหลังนั้นไม่ใช่บ้านของคุณลมหรอกหรือครับ”

ถึงจะรักคนตรงหน้าที่ยืนทำหน้าน่ารักมากแค่ไหน แต่เขาก็ยังรู้สึกเคืองอยู่ไม่น้อยเกี่ยวกับเรื่องบ้านหลังนั้น บ้านที่มักถูกตอกย้ำเสมอว่าไม่ใช่ของเขา ตอนนี้สีฟ้ากลับพูดว่ามันเป็นของเขา

“ฉันพูดดีๆ กับนายแล้วนะ ถ้าคำพูดของฉันมันทำให้นายรำคาญมากนัก ฉันกลับก็ได้”  สีฟ้าเริ่มมีอารมณ์ เพราะพูดอะไรออกไปก็ดูเหมือนไม่เข้าหูเจ้าของห้องไปซะหมด

เขาอยากชวนคุยให้บรรยากาศมันดีขึ้น ไม่ใช่อยากชวนทะเลาะ แต่ถ้าอยากชวนทะเลาะ เขาก็คงต้องขอตัว
 

“ผมขอโทษ”

ภาคีรีบวิ่งไปขวางคนหน้าบึ้งที่อารมณ์แปรปวนง่ายเอาไว้  ทันทีที่อีกฝ่ายกำลังจะกระแทกเท้าเดินออกจากห้องของเขาไป  สีฟ้ามองหน้าคนตัวสูงนิดหนึ่ง  บอกกับตัวเองว่าเขาอยากกินกาแฟหรอกนะ ถึงยอมให้ ไม่ใช่เป็นเพราะคำขอโทษหรือสายตาอ้อนวอนของภาคีหรอกนา

แต่ตาคมหวานที่ทอดมอง อ่านออกเสียงได้ว่า อย่าไปนะครับคุณลม อยู่กับผมก่อน สีฟ้าอ่านมันได้อย่างนี้ แล้วจะให้ทำใจแข็งได้เหรอ?

เอาล่ะ...

ถ้ายอมรับตามความจริงที่สุด  สีฟ้าไม่อยากทานกาแฟเอาตอนเกือบตีหนึ่งแบบนี้ เขาอ่อนแอให้กับสายตาของภาคี  คำขอโทษของภาคี และอยากให้เหลือร่องรอยของความทรงจำดีๆ ระหว่างกัน อย่างน้อยเขากับภาคีอาจจะกลับมาเป็นคนร่วมรั้วเดียวกันที่ดีต่อกันได้ แม้ครั้งหนึ่งจะเคยกลายเป็นอะไรที่มากกว่าคนร่วมรั้วก็ตาม

สีฟ้าเดินเลี่ยงเจ้าของห้องไปยืนเคว้งอยู่ในส่วนของห้องนั่งเล่น มีโซฟาตัวนุ่มน่านั่งตั้งอยู่ตรงหน้า ชั่งใจอยู่นานว่าจะนั่งลงไปดีไหม ถ้านั่งก็เท่ากับว่าเขาจะต้องอยู่ที่ห้องชุดของภาคีไปอีกนาน แต่ถ้าจะไม่นั่ง สีฟ้าก็ไม่รู้จะทำอะไร ยิ่งตอนนี้คนตัวสูงกำลังเดินยิ้มเข้ามาใกล้ ยิ้มที่สีฟ้าไม่อยากรู้เลยว่ามันกำลังกินความหมายอะไรอยู่

คนเคยๆ มีหรือจะไม่รู้ ว่าภาคีกำลังคิดอะไร หวังอะไรอยู่   

วินาทีที่ภาคีเกือบจะเข้ามาประชิด สีฟ้าตัดสินใจทิ้งตัวลงนั่งลงทันที นึกว่าจะรอดจากรอยยิ้มนั้นได้ หากกับเป็นฝ่ายพาตัวเองเข้าสู่มุมอับหาทางออกไม่เจอจนได้   เมื่อร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งแทบจะพร้อมๆ กับเขา โซฟาตั้งยาว แต่อีกฝ่ายก็ยังจะนั่งเบียดอยู่ได้ ครั้งพอขยับถอยหนีก็ยังจะขยับตาม ตามไปจนสุดทาง เป็นอันว่าสีฟ้าตกอยู่ในวงล้อมของท่อนแขนแกร่งไปแล้ว ในเวลาอันรวดเร็ว ไม่ทันตั้งตัวใดๆ เลย

“คุณลมอยากรู้จริงๆ หรือครับ ว่าทำไมผมถึงย้ายออกมาจากบ้านของเรา” ภาคีเจาะจงเลือกใช้คำว่า ‘บ้านของเรา’ แทนที่จะใช้คำว่า ‘บ้านของผม’ หรือ ‘บ้านของคุณลม’ เพราะเขาอยากให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาอยากใช้คำว่า ‘เรา’ มากกว่า ‘คุณ’ หรือ ‘ผม’

“เอ่อ...อะ....เอ่อ...กะ...ก็....ก็อยากรู้น่ะสิ ไม่งั้นฉันจะถามนายทำไมให้เสียเวลา”  ตอนแรกก็สั่นอยู่เหมือนกัน เมื่อโดนยิงคำถามซะใกล้จนได้กลิ่นเหล้าระบายอยู่ในลมหายใจ  แต่พอตั้งสติได้ แล้วสองมือก็ดันอกกว้างให้ออกห่างได้มากที่สุดแล้ว  สีฟ้าก็พูดรัวเร็วและปลายเสียงติดจะแหวตามนิสัยที่เคยเป็นมาตลอด

“อยากรู้มากไหมครับ ถ้าอยากรู้มากผมก็จะตอบ” ภาคียิ้มหวานให้คนหน้าหวาน ไม่รู้ว่ายิ้มของเขาหรือหน้าของสีฟ้า อันไหนจะหวานกว่ากัน แต่ให้เทียบกันแล้ว หน้าของสีฟ้าคงหวานกว่ารอยยิ้มของเขาเป็นไหนๆ 

หากยิ้มหวานๆ ของภาคี กลับเป็นรอยยิ้มกรุ่มกริ่มในสายตาสีฟ้า

“ก็บอกมาสิ”  สีฟ้าว่า ทำเสียงเข้ม ขัดใจอยู่ในอ้อมกอดของภาคี ทำอะไรไม่ได้ นอกจากมือที่ยันร่างหนาเอาไว้ไม่ให้ชิดมากจนฝังแนบ

“ขอผมชิมเหล้าก่อนนะครับ แล้วค่อยบอก ได้ไหมครับ คุณลม” คำขอของภาคีแฝงความในที่อีกฝ่ายไม่ทันรู้ จึงตอบตกลงไป

“อยากกิน อยากดื่ม อยากชิมอะไรก็ตามสบาย มันบ้านของนาย ฉันจะมีสิทธิ์อะไรไปห้ามนายได้ เชิญตามสบาย อยากทำอะไรก็...ทะ...อื้ม...อืมมมมม......”

คำพูดที่เหลือถูกกลืนหายกลายเป็นอะไรสักอย่างที่สีฟ้าไม่สามารถเอามันออกมาได้  เมื่อปากหยักทาบปิดลงมาอย่างรวดเร็วและไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่จะดึงดันแทรกผ่านรอยแยกของเรียวปากสีสวย เข้าไปชิมรสชาติความหอมหวานของเหล้ารสนุ่ม ที่ซ่อนเก็บอยู่ด้านในอย่างมิดชิด

หากวินาทีแรกคือความตกใจที่ถูกจู่โจมอย่างรวดเร็ว เกินต่อต้านหรือทัดทานค้านไว้ได้   ในวินาทีต่อมาคนถูกกระทำกลับตอบรับการรุกรานอย่างยินยอมพร้อมใจ

ท่อนแขนแกร่งที่เคยตีกรอบล้อมรอบคนร่างบางไม่ให้มีทางหนี  เปลี่ยนหน้าที่อย่างรวดเร็วเมื่อได้รับความร่วมมือที่แสนหวาน   ภาคีโอบกอดร่างบางเอาไว้ พร้อมถ่ายทอดความรู้สึกรักที่มากล้นให้แทรกซึมสู่ใจของสีฟ้า ขณะเดียวกันมือคู่เรียวที่เคยดันแผ่นอกกว้างเอาไว้ไม่ให้แนบชิดเกินไปนัก กลับเผลอไผลไปเกาะเกี่ยวต้นคอหนาตามอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้า รั้งดึงให้สัมผัสนั้นแนบแน่นยิ่งขึ้น ราวกับช่องว่างระหว่างกันคือหลุมมืดที่ต้องช่วยกันฝังกลบและทำลาย

เนิ่นนานกว่าริมฝีปากอิ่มจะถูกปลดจากพันธนาการของปากหยัก  ที่ทำหน้าที่ได้อย่างร้ายกาจแต่ก็หวานซะจนคนถูกรุกรานแทบจะละลายให้ได้ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า  หากยังไม่ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระจากพันธนาการหวานนั้น

“พอใจหรือยังล่ะ ถ้าพอแล้วก็บอกมาซะที”  พอริมฝีปากหยักถอดตัวออกได้ไม่ทันไร ยังไม่ทันจับอากาศยัดแทนส่วนที่ขาดไป  ปากแสนเก่งของสีฟ้าก็ทำหน้าที่เดิมตามนิสัยของเจ้าของ  ที่ไม่เคยสักครั้งจะทำตัวดีๆ น่ารักๆ ได้นานเกินนาที

“ขออีกนิดได้ไหมครับ มันยังไม่เมาเลย คนอย่างผม ถ้ามันไม่เมาแล้วมันพูดไม่เก่ง”  ไม่ถือสาเลยจริงๆ กับคำพูดของสีฟ้า ก็เพราะมันอารมณ์ดีเกินกว่าจะเอาคำพูดที่เป็นปกติของสีฟ้ามาใส่ใจ พอตั้งท่าจะชิมเหล้าหวานๆ ในโพลงปากนุ่มอีกครั้ง  แต่อีกฝ่ายกลับรู้ทันเสียก่อน สีฟ้าเบือนหน้าหนี เลยพลาดได้แค่แก้มนุ่มแทน

“ไม่ได้”  สีฟ้าบอก เขายังเบือนหน้าหนีสัมผัสที่ดื้อดึง มือเล็กดันใบหน้าหล่อให้ห่างไกล ปากอิ่มก็เม้มไว้แน่นกันความผิดพลาดที่อาจเกิดซ้ำสอง

“ทำไมล่ะครับ อีกนิดเดียวเอง เดี๋ยวก็เมาแล้ว” ภาคีอ้อนได้หน้าด้านที่สุดในความคิดของสีฟ้า

“ไม่ได้ก็ไม่ได้สิ ไม่คิดจะบอกก็ไม่ต้องบอก แล้วฉันก็ไม่อยากรู้แล้ว”

“ทำไมล่ะครับ เมื่อกี้คุณลมยังอนุญาตอยู่เลย อย่าใจร้ายกับผมนักซิครับ”

ภาคีเอาลูกอ้อนเข้าสู้ ก่อนจะต่อด้วยลูกงอน หวังว่ามันคงจะใช้ได้ผลกับคนปากแข็ง

“ไม่เป็นไรครับ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ผมลืมไป ผมไม่ใช่คุณหมอพิษณุ ผมไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว” จากที่เคยไล่ต้อนร่างบางให้จนมุมติดอยู่ในกรงแขน  ตอนนี้ภาคีกลับขยับกายถอยห่างเสียเอง ก่อนหันหน้าหนี

คำพูดและการกระทำของภาคีทำเอาสีฟ้ารู้สึกผิด ทั้งที่ไม่ควรรู้สึกผิดเลยด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะห้องกว้างที่ตีกรอบครอบคลุมเขาเอาไว้กับภาคี  กั้นเขาสองคนออกจากโลกภายนอก ห้องนี้เป็นโลกภายในที่มีเพียงเขาสองคน ความรู้สึกมากมายจึงออกมาวิ่งเล่นจนไล่จับกลับคืนจุดเดิมไม่ได้เลย

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะติน   ตินชวนลมขึ้นมาดื่มกาแฟไม่ใช่เหรอ ไหนล่ะกาแฟ ไปชงมาให้ลมสิ”

สักครั้งที่จะพูดหวานๆ ให้กับคนที่ปุบปับก็กลายมาเป็นคนเจียมตัว ทำตัวงอนเขา มันต่างกับภาคีที่เขาคุ้นเคย

ทันทีที่สีฟ้าพูดจบ คนที่แกล้งหันหน้าหนี หันไปกอดร่างบางในแทบจะทันที ภาคีกอดเนื้อกายนั้นเต็มความรักที่มี เขาได้ยินชัดเจน สีฟ้าเรียกเขาด้วยชื่อเขา แล้วแทนตัวเองว่า ‘ลม’  ฟังแล้วมันทำให้หัวจิตหัวใจเต้นเป็นจังหวะคึกโครม ไม่มีใครเรียกชื่อเขาได้เพราะเท่ากับคนๆ นี้อีกแล้ว 

“ผมกอดคุณได้แล้วใช่ไหม”

“แล้วที่ทำอยู่ไม่เรียกว่ากอดแล้วจะเรียกว่าอะไร”

“ไม่ใช่ ผมหมายถึงตลอดไป ตินกอดลมตลอดไปได้ไหม” สรรพนามเรียกขานถูกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว แต่คราวนี้สีฟ้ากลับนิ่ง หันหน้าหนี   มือใหญ่จับคางมนให้หันสบสายตากับเขา

สีฟ้าหลบตาภาคี ไม่ยอมมองสบด้วย แล้วปากสวยสีสดก็ขยับเปลี่ยนเรื่อง

“ชวนมาดื่มกาแฟไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่มีกาแฟให้ก็จะกลับแล้วนะ ง่วงแล้วด้วย  พรุ่งนี้ก็ต้องไปประชุมกับพี่นลินแต่เช้า พี่ฟืนกับคุณพ่อก็ต่างประเทศ ทิ้งงานให้ทำตั้งเยอะแยะ”  สีฟ้าบอก ทั้งที่เรื่องที่สีฟ้าบอก ภาคีคิดว่า เขาไม่เห็นจำเป็นต้องรู้สักหน่อย

ภาคีรู้ บางทีสีฟ้ายังคงอายอยู่ ไม่เป็นไร ได้แค่นี้ก็ดีมากพอแล้ว  จะเรียกร้องอะไรให้มันมากกว่านี้ อย่างน้อยเขาก็เริ่มแน่ใจไปเกือบครึ่งแล้วว่า  สีฟ้ารู้สึกดีๆ กับเขา ไม่ได้เกลียด ไม่ได้ชัง เหมือนท่าทางที่แสดงออกมาก่อนหน้านี้

พอสีฟ้าอ่อนให้ ดูเหมือนภาคีจะยิ่งได้ใจ

“ใครดื่มกาแฟตอนตีหนึ่งกันล่ะครับ เวลานี้เราควรที่จะนอนกันได้แล้วนะครับ “ ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เห็นว่าอีกฝ่ายทำหน้าง้อเล็กน้อย แล้วก็หลบสายตาเขา แต่แล้วก็หันกลับมาเถียงเขาด้วยสุ้มเสียงที่ไม่ได้น่ากลัวเลย

“แล้วตอนแรกชวนขึ้นมาทำไมล่ะ”  สีฟ้าต่อว่า แล้วแกล้งมองไปทางอื่นอีกครั้ง หนีสายตากรุ่มกริ่มที่ทำเอาใจสั่น  มันคล้ายกับเวลาที่กำลังลึกซึ้งถึงไหนต่อไหนกัน เวลาแบบนั้นคนตาคมมักจะทำหน้าตาแบบนี้ให้รู้สึกเร่าร้อนไปทุกผิวเนื้อที่โดนแตะต้อง

“ตินแค่ลองชวนดูเฉยๆ ไม่คิดว่าลมจะขึ้นมาจริงๆ เสียหน่อย“  คนตอบ ตอบได้กวนคนถามนัก

สีฟ้าเริ่มจะหมั่นไส้ยิ้มเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าขึ้นมาตงิดๆ  พอเขาทำดีด้วยหน่อย อีกฝ่ายก็ทำได้ใจ คิดว่าเป็นต่อ เขาคงยอมให้มากเกินไป 

“ก็ได้ ถ้านายคิดว่าไม่มีใครดื่มกาแฟกันตอนนี้ ฉันก็จะกลับ” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นแล้วก้าวฉับๆ ไปที่ประตูห้อง ทำเอาภาคีหุบยิ้มแทบไม่ทัน รีบถลาเข้ามาสวมกอดด้านหลัง รั้งไม่ให้สีฟ้ากลับออกไป พร้อมกับอ้อนเสียงหวานแผ่วเบาข้างแก้มสวย

“ดึกแล้ว นอนที่นี่เถอะนะครับ  ตินไม่อยากนอนคนเดียว อยากให้ลมนอนด้วยกัน ได้ไหมครับ” จมูกโด่งกดฝังเน้นบนแก้วนวลที่ยังคงหวานชื่นใจไม่เคยเปลี่ยน

“แค่นอนเฉยๆ นะ พรุ่งนี้ต้องไปประชุมแต่เช้า ลมยังไม่อยากโดนพี่ลินดุ เข้าใจใช่ไหม” เพราะกลัวมันจะไม่จบลงแค่ต่างคนต่างนอน  เขากลัวว่ามันจะมากกว่านั้น เลยต้องบอกย้ำให้เข้าใจ แล้วขอเอาคำรับปากว่าจะทำอย่างที่เขาบอก 

“ครับๆ “ ภาคีรีบรับปาก แค่ได้กอดร่างบาง โดยไม่มีอะไรไปมากกว่านั้นก็ได้ ไม่เป็นไร ขอแค่ได้กอดให้หายคิดถึง โดยที่อีกฝ่ายยินยอมพร้อมใจ



..................................................................................

ห้องที่ซ่อนตัวอยู่หลังประตูเลื่อนบานใหญ่กรุกระจกสีขุ่น  ที่สีฟ้านึกอยากรู้ว่ามันจะว่ามันจะกว้างแค่ไหน ตอนนี้เขาได้รู้แล้วล่ะว่ามันกว้างแค่ไหน   เมื่อเจ้าของห้องได้พาเขาก้าวล้ำเข้ามาจนถึงเตียงใหญ่  ที่มันดูจะใหญ่เกินไปหากต้องทิ้งกายลงนอนเพียงลำพังทุกค่ำคืน  แต่คืนนี้มันจะไม่กว้างเกินไปแล้วใช่ไหม  หากสีฟ้าจะขออาศัยพื้นที่ตรงนี้ อาจจะเป็นซีกซ้าย หรืออาจจะเป็นซีกขวาก็สุดแล้วแต่เหตุการณ์พาไป

“ดะ...ดะ...เดี๋ยวก่อน”

เพราะหลงคิดอะไรเพลินไปหน่อย ทำให้ไม่รู้ตัวว่าถูกดันให้นอนลงบนเตียง แล้วตกไปอยู่ใต้ร่างเจ้าของเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกที่ก็ไอ้ตอนที่จมูกโด่งซุกไซอยู่ที่ซอกคอ ริมฝีปากหยักลามเลียทั่วผิวหน้า นั่นแหละทำให้นั่นต้องยันอกกว้างเอาไว้มั่น

“อือ...อะไรครับลม”

เสียงนั้นย้อนถามราวกับโดนขัดใจ สีฟ้ารวบรวมแรงทั้งหมดที่มีผลักอกแกร่งอีกครั้ง แต่มันทั้งแกร่งทั้งดื้อไม่ยอมถอนออกไปสักที  ยิ่งผลักก็เหมือนกับยิ่งรั้งดึงให้เข้าใกล้ มือใหญ่ก็ซุกซนอยู่บนผิวเนื้อนวลใต้ผิวเสื้อที่เริ่มจะร่นสูงขึ้นเรื่อยๆ

“ไม่เอานะติน  ลมจะนอน” ร่างกายที่กำลังเสียเปรียบร้องประท้วง มือพยายามปัดป้อง

“ก็นอนอยู่นี้ไงครับ หรือลมคิดว่าเรากำลังวิ่งกันอยู่” ภาคีละจากซอกคอหอมมาบอกคนที่ทำหน้าบึ้งใส่เขา

“เอ๊ะ...ก็บอกแล้วไงว่าง่วง จะนอน สัญญาแล้วนะติน ว่าจะนอนเฉยๆ” มองสบตาคู่เจ้าเล่ห์ที่ฉายแววกรุ่มกริ่มจนน่าควักลูกกะตานั้นออกมาซะให้รู้แล้วรู้รอด  มือนิ่มดันหน้าคมที่เคลื่อนเข้าใกล้ให้ถอยห่าง  แต่ก็ถูกรวบมือนั้นเอาไว้ในเวลาต่อมา

“สัญญาตอนไหน โมเมหรือเปล่า ตินเปล่านะ  ลมบอกตินหน่อยสิครับ ตอนไหนที่ตินบอกว่าสัญญา ” เขาออกจะแน่ใจว่าไม่ได้หลุดคำสัญญาออกมาจากปากเลย แค่พูดว่า ‘ครับ’ เท่านั้นเอง

สีฟ้าอยากจะบ้าตาย ใครบอกเขาที่ว่านี่คือภาคีคนที่เขารู้จัก ถ้าใช่ แล้วทำไมถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ เดี๋ยวแสนงอน เดี๋ยวเจ้าเล่ห์ จนเขาตามไม่ทัน

“ติน...ลมถามคำสุดท้าย ตินยังอยากให้ลมมาที่นี่อีกหรือเปล่า หรือว่าอยากให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย”   สีฟ้าขู่

คำขู่ของสีฟ้าทำภาคีหยุดทุกการเคลื่อนไหว   ชายหนุ่มยอมปล่อยร่างที่อยู่ข้างใต้ร่างของเขาให้เป็นอิสระ ประคองกอดให้ลุกขึ้นนั่งบนเตียง  ก่อนจะหอมแก้มหอมหนึ่งฟอดใหญ่



“ไม่ทำอะไรแล้วครับ ไม่ทำแล้วจริงๆ แต่สัญญานะครับ ลมจะมาที่นี่อีกบ่อยๆ สัญญานะครับ” เขาถาม แล้วก็ได้คำตอบที่ฟังแล้วชื่นใจจากคนที่เขากอด

“บอกว่าจะมาก็ต้องมาสิ” บางครั้ง เขาก็ควรจะอ่อนให้ภาคีบ้างใช่ไหม เผื่ออะไรๆ มันจะดีขึ้น

“อยากได้คำสัญญามากกว่าครับ”

ภาคีอ้อนขอเอาคำสัญญา สีฟ้าคร้านจะแกล้งหรือทำอะไรให้มันเปลืองเวลานอนที่มันล่วงเลยนานมากแล้ว

“สัญญา พอใจหรือยัง”

“พอใจแล้วครับ พอใจที่สุดเลยครับ” เขาดีใจ ดีใจที่สีฟ้ารับปาก

“พอใจแล้วก็ปล่อย จะอาบน้ำ”

“พร้อมกันได้ไหม?”

“ไม่ได้!”

คำถามสั้นๆ ก็ย่อมได้รับคำตอบที่สั้นกว่าเป็นสิ่งตอบแทน  เจ้าของคำถามถึงกับล้มตัวลงนอนอย่างขัดใจ แต่ทำฮึดฮัดได้ไม่มากนัก เพราะกลัวคนร่างบางจะยกเอาคำขู่เดิมมาใช้อีก

สีฟ้าลุกเดินไปยังตู้เสื้อผ้าที่ตั้งชิดผนังห้องใกล้ๆ กับห้องน้ำ ทิ้งให้ภาคีนอนกอดหมอนอยู่คนเดียวบนเตียงกว้าง มองตามแผ่นหลังของคนที่เขารัก ไม่นึกว่าในห้องนี้จะได้ต้อนรับคนๆ นี้   มันคือความจริง คืนนี้สีฟ้าจะอยู่กับเขาในห้องนี้ และอาจตลอดไป 

“ขอยืมเสื้อนะ”  สีฟ้าหันมาบอกคนที่ตอนนี้เปลี่ยนจากนอนกอดหมอน  มานั่งกอดหมอนมองเขาตาแป๋ว  ปากหยักขยับพูดคำที่ทำให้เขาแทบอยากจะเขวี้ยงอะไรสักอย่างใส่หน้ายิ้มๆ นั้น

“ไม่ใส่ไม่ได้เหรอครับ?”

“ติน”  สีฟ้าปราบ คำพูดที่ความหมายมากเกินไปของคนพูด ภาคีทั้งแปลกและเปลี่ยนไปจริงๆ หรือเป็นเพราะน้ำเมาที่ดื่มไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน แล้วพรุ่งนี้พอตื่นขึ้นมา ภาคีจะกลับไปเป็นคนไร้ความรู้สึกไหม สีฟ้านึกสงสัย หากไม่ได้ถามออกมา

“ขืนยังไม่เลิกคิดนะ ลมกลับแน่”

“ครับ” จำใจรับคำอย่างเสียไม่ได้ แต่ก็เป็นอารมณ์ที่ภาคีปรารถนาอยากสัมผัสมานาน ครั้งโน้นที่เคยอยู่ร่วมเตียงเดียวกัน แม้จะมีความสุขมากแค่ไหน แต่นั้นมันก็ปนความเศร้า ที่คล้ายกับมีอะไรมาขวางกั้นไว้เสมอ  ไม่เว้นแม้กระทั้งช่วงเวลาที่สองกายแนบชิดแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกัน

วันนั้นมี ‘ผม’ กับ ‘คุณลม’ และ ‘นาย’ กับ ‘ฉัน’

หากวันนี้มีคำพวกนั้นกลับถูกแทนที่ด้วย ‘ลม’ กับ ‘ติน’

นี่คือหนทางที่จะทอดไปสู่หัวใจของกันและกันได้แล้วใช่ไหม
.
.
.
.
.
.
.

‘ปัง !’

แล้วจู่ๆ เสียงดังปังก็วิ่งเข้ามากระแทกความสุขที่ภาคีสร้างขึ้นอย่างจัง  ห้วงความคิดแสนหวานสะดุดลง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นแววตาขุ่นขวางของตาคู่เรียวที่จ้องมองมายังเขาเขม็ง มันไม่ใช่ความหวานเช่นเมื่อครู่

เสียงที่ดังเมื่อครู่ที่เขาได้ยิน มันมีต้นตอมาจากประตูเสื้อผ้าใช่ไหม แล้วก็เหมือนกับภาคีจะรู้ว่าอะไรทำให้คนหน้าหวานเกิดอาการหน้าบึ้ง ตาขุ่นโกรธ ภาคีรีบลุกพรวดลงจากเตียง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างบางสาวเท้ายาวๆ ออกจากห้องไป

“เดี๋ยวก่อนครับ มันไม่ใช่อย่างที่ลมคิดนะครับ”

ภาคีวิ่งไปคว้าเอวบางไว้ ไม่สนว่าอีกฝ่ายจะร้อนและดิ้นร้นอยากหนีจากไปแค่ไหน

“ปล่อย! บอกให้ปล่อย” สีฟ้าดิ้นสุดแรง เพียงเพื่อจะให้หลุดออกจากคนโกหก

“ฟังตินก่อนนะครับ”

“ไม่ฟัง ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้น นายมันคนโกหก” สีฟ้าทั้งดิ้นและตอนนี้เขาก็ตะโกนใส่เจ้าของท่อนแขนที่หน่วงเหนี่ยวเขาไว้   แล้วยังลากพาเขากลับเข้าไปในห้องเดิมอีกครั้ง ก่อนจะพาเขาลงไปนอนใต้ร่างกำยำอีกครั้งจนได้

“ฟังตินนะครับ” ภาคีกดร่างบางที่เอาแต่ดิ้นไว้ใต้ร่างของเขา รวบมือที่ทั้งทุบทั้งตีเขาให้หยุด สีฟ้ากำลังโมโห เขาแทบจะเอาไม่อยู่ เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้แรงเยอะไม่น่าเชื่อ

“ไม่ฟัง ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้น นายมันโกหก นายมันคนโกหก”  คนโมโหตะโกนลั่นห้อง ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงตามแรงโกรธ

.............................................
โปรดติดตามตอนต่อไป 
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 28-03-2011 20:46:39
เกิดอะไรขึ้น
มันมีอะไรอยู่ในตู้ :sad3:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 28-03-2011 20:47:29
เกิดอะไรขึ้นอีกละนั้น



 :เฮ้อ:กำลังจะดีกันแล้วเชียว


นายตินทำไรไว้อีกละ  มันน่านัก :z6:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 28-03-2011 20:49:27
O.o อาไรอ่ะ ลม เจอเสื้อผ้าผู้ ญ เหรอ (เดาๆๆ)
บวกให้ค่า อยากอ่านต่ออ่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 28-03-2011 20:53:50
กำลังจะดีกันอยู่แล้วเชียว
ลมไปเจออะไร หวังว่าคงไม่ใช่เสื้อผ้าผู้หญิงนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 28-03-2011 21:00:00
เกิดอะไรขึ้นนนนนน
มันคือตัวอารายที่ทำให้ลมของขึ้นแบลนี้นะ
โอ๊ยมันค้างงงงงงงงงงงงงงงงงง
มาต่อไวไวอยากรู้และอ่า
กำลังจะลงรอยอยู่แล้วเชียวเหะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 28-03-2011 21:08:38
เหมือนจะเริ่มหวานแต่ตอนสุดท้ายนี่มันอะไรเนี่ย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 28-03-2011 21:09:44
 :a5: เกิดอะไรขึ้น ตามไม่ทัน
เกือบจะหวานแล้วเชียว  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 28-03-2011 21:14:23
อ่าวววว แล้วตกลงมันเกิดอะไรขึ้นอ่ะ!!!รอตอนต่อไปค่ะ~~~
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 28-03-2011 21:15:23
มีอะไรอยู่ในตู้ใช่มั๊ย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 28-03-2011 21:34:45
อะไรอยู่ในตู้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 28-03-2011 21:54:17
 :เฮ้อ:เหนื่อยใจจังจะหวานอยู่เห็นๆทำไมเป็นแบบนั้นอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 28-03-2011 22:04:24
ฌอ๊ย..จะบ้ากำลังจะไปได้สวยเชียว กำลังจะโล่งอก ลมเจออะไร
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 28-03-2011 22:19:02
เอ้าาา กำลังยิ่้มอยู่ดีๆ
หุบยิ้มไม่ทันกันเลยทีเดียว


โหยยย ตัดอารมณ์มากเลย
กำลังหวาน ตอนท้ายมาคุซะงั้น
เห้อออออ

ลมไปเจออะไรอีกละเนี่ยะ  ?
เครียดๆ กำลังไปได้ดี อย่าให้มีอะไรมาขัดอีกเล้ยย


 o18 รีบมาต่ออย่างด่วนเลยนะคะ
แล้วจะหาว่าไม่เตือน หึหึ (มาแนวข่มขู่ ก็มันค้างอ้ะ !! )

+1 ให้จ้า เพราะความอยากรู้อยากเห็น อะไรอยู่ในตู้ !
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 28-03-2011 22:21:06
ควรได้ชื่อตอนว่า "อะไร...อยู่ในตู้"  :laugh:

ถุงยาง? แอร๊ย

กำลังหวานเลยค่ะคุณ ทำไมต้องมีเรื่องอีกคะ????? :sad4:

วิ่งไปจิบน้ำส้ม :o12:

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: M23 ที่ 28-03-2011 23:17:57
มันกำลังจะหวาน..ท่องไว้ ท่องไว้
ในตู้....มีไร
แอบคิดเหมือนกันว่ามีถุงยาง
 :beat:นังแพท 55555
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: akera ที่ 28-03-2011 23:32:19
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี้ย :serius2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kslave ที่ 28-03-2011 23:52:51
what happens?   o22
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 29-03-2011 00:11:45
ติณฆ่าแล้วหมกศพนุ่นไว้ในตู้เสื้อผ้าหรอ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 29-03-2011 08:28:15
ขอบคุณคนแต่งคนโพสต์ :L2:
อะไรอยู่ในตู้ที่ทำให้สีฟ้าออกอาการ
น้ำตาลท่าจะไม่หวานซะแล้ว
จะมาม่ามั้ยนะ o7
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 29-03-2011 09:10:33
อืม . .



มันมีอะไร ในตู้อะ  :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 29-03-2011 11:13:51
อะไรกันอีกกำลังจะดีแล้วเชียว อะไรที่มันอยู่ในตู้กันฮะนายติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nariza6 ที่ 29-03-2011 11:16:48
 :impress2:555555 :-[ :-[ :-[ น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 29-03-2011 12:45:16
ตู้ซ่อนผีเหรอจ๊ะ...ทำไมลมกลายร่างอีกแล้วง่า :z3:
อุตส่าห์หวานมาตั้งแต่ต้น มาขมเอาตอนปลาย เนี่ยแหละสาเหตุที่ไม่ดื่มกาแฟ (เกี่ยว? 555)
+1 ขอบคุณค่า ตอนหน้าเอาแบบน้ำแดงโซดาเลยไม่ได้เหรอ หวานๆขมๆแล้วมันไม่อร่อย :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 29-03-2011 13:19:42
กรี๊ดดดด


เกิดอารายขึ้นค้า  เฮ้อ .... มาม่า ได้โล่ค่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 29-03-2011 14:36:40
เกิดอะไรขึ้นอ่ะ?
กำลังดีๆๆแท้ๆเชียว
ค้างอย่างแรง ณ จุดนี้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 29-03-2011 14:55:34
เกิดไรขึ้นเนี่ย มันมีอะไรในตู้เจ้าปัญหานั่น :z3:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 29-03-2011 16:59:29
^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 29-03-2011 18:30:48
แวะเข้ามาขอบคุณทุกๆคนที่แวะมาอ่าน   ขออนุญาตไม่ตอบเม้นท์นะ  เพราะมันคันปากยิบๆๆ :laugh: กลัวจะอดใจบอกไม่ไหว

ขอแทนคำขอบคุณด้วยการ บวก 1 สำหรับทุกๆเม้นท์ในตอนที่ 13 นะค่ะ   :pig4:

คำเตือนตอนต่อไป  หวานล้วนๆ  ขม มัน เข้ม ไม่เกี่ยว

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 29-03-2011 20:05:35
ต้องไปจองโรงบาลไว้ก่อน

กลัวเบาหวานกำเริบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 29-03-2011 20:09:02
 :m31: เกิดอะไรขึ้นเนี่ยๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 29-03-2011 23:56:44
นั่งอ่านไปยิ้มไปแล้วเชียว แบบน่ารักมาก กำลังได้ที่เลยอ่า แต่ตอนจบกลับกลายเป็นแบบนั้นอ่า อะไรอยู่ในตู้ละนั่น อยากรู้ใจจะขาดแล้ว มาต่อเร็วๆ นะ เกิดไรอีกละเนี่ย กำลังจะไปได้สวยแล้วเชียว :(
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 30-03-2011 09:27:27
 o22

หรือคะ? มันจะหวาน?
อืมมมม........ o7
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 13 กาแฟใส่หัวใจ.. [28/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 30-03-2011 15:46:08
หวานล้วนๆ
จริงเปล่าจ๊ะ
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ o9
รออยู่นะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 30-03-2011 20:41:52
มารอๆๆๆ  :z2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 30-03-2011 20:45:44
จริงง๊ะ !!! =[]=
จะรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ
5555555555.

>< โอ้ววว ให้ตายเหอะ ต้องไปซื้อยากำจัดมดมาใช่ไหมเนี่ยะ
ฮ่าๆ รอตอนต่อไปอยู่นะจ๊ะ

จุ๊บคนแต่งหนึ่งที  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 30-03-2011 20:50:26
เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ :really2:
รอตอนต่อไปนะคะ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 30-03-2011 20:51:35
.คุยกันนิดจิตแจ่มใส
สวัสดีค่ะ ตอนนี้คิดว่าทุกคนคงรอ ร๊อ รอ ว่าเมือไหร่จะมี
นอกผู้อ่านที่รักทุกท่านต่างรอคอย น้องลม ของอีชั้นก็ยังรอคอย คำ ๆนี้มานาน และการรอคอยของน้องลิมก็สิ้นสุดซะทีในตอนนี้ :impress2: :o8:
 ขอให้มีความสุขจากการอ่านนะค่ะ ตอนนี้ค่อนข้างยาวขอลงเป็น 2part นะค่ะ
 

.
ตอนที่ 14  รักเธอ ครึ่งแรก


“ทำไมไม่ฟังตินบ้างล่ะครับ  ฟังตินก่อนนะครับ เรื่องนี้ตินอธิบายได้ ”

ภาคีกดร่างบางที่ไม่เคยฟังอะไรเขาเลยไว้ใต้ร่างกำยำของตัวเอง  ความที่สีฟ้าเป็นผู้ชายเหมือนกัน ถึงร่างกายจะบอบบาง พอโกรธแรงจึงเยอะ ทำให้ต้องลำบากหน่อยที่จะต้านแรงขึงโกรธนั้น

“ฉันไม่ฟัง ปล่อยฉัน ฉันจะกลับบ้าน”

ทั้งๆ ที่เมื่อครู่สีฟ้ายังมีความสุข  สุขที่ได้อยู่ในกรอบวงล้อมของห้องกว้าง ที่แยกเขาและภาคีออกมาจากโลกภายนอก ให้มาอยู่ร่วมกันในโลกที่มีเพียงแค่เขาสองคน   แต่ช่วงเวลานั้นกลับหายวับไปกับตา  ทันทีที่เปิดตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ แล้วพบว่าในความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในนั้น  ที่บรรดาเสื้อผ้าต่างๆ ถูกแขวนและพับเก็บอย่างเป็นระเบียบตามนิสัยของคนเป็นเจ้าของ  เพราะความเป็นระเบียบนี่แหละที่ทำให้สีฟ้าเจอเข้ากับสิ่งที่ทำให้เดือดพล่านอยู่แบบนี้

ตู้เสื้อผ้าที่ควรจะมีเพียงแค่เสื้อผ้าตัวใหญ่ของผู้ชาย   ผู้ชายที่เป็นเจ้าของห้องนี้เพียงคนเดียวตามที่ควรจะเป็น ตามที่สีฟ้าเข้าใจ ตามคำพูดต่างๆ ที่สื่อออกมาให้สีฟ้ารู้ ว่าภาคีไม่มีใคร   ห้องนี้ในคอนโดหรู ไม่เคยเปิดต้อนรับใครเลยนอกจากเขาคนเดียว

เขามันโง่ที่คิดเอาเองว่า ภาคีอยู่ที่นี้เพียงคนเดียว ไม่มีใคร!

แล้วไงล่ะ เสื้อตัวเล็กลวดลายสวยงามสีสันสดใส กางเกงผ้าพลิ้วสีเข้ม ทั้งกระโปรงตัวยาวตัวสั้น และชุดนอนตัวสวยอีกหลายตัว   เข้ามาแชร์พื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของตู้เสื้อผ้า

หึ...นี่เหรอคือสิ่งที่เขาได้รับเป็นการตอบแทน จากความอ่อนแอของตัวเอง

เขาโง่ไปใช่ไหม?

 ลืมไปใช่ไหม?

ลืมผู้หญิงที่ชื่อนิรดา ผู้หญิงที่เจ้าของห้องเคยขอเธอแต่งาน   ผู้หญิงที่โดนเขากลั่นแกล้งช่วงชิงเอาว่าที่เจ้าบ่าวของเจ้าเธอมาเป็นของตัวเอง ผู้หญิงที่นั่งร้องไห้ขอคนรักคืนจากเขา

หรือว่าภาคีต้องการปกปิดเขา  ต้องการแก้แค้นเขาที่ทำอะไรร้ายกับภาคีสารพัดในครั้งก่อน  ภาคีต้องการหลอกให้เขารัก  หลอกให้เขาหลง  ทำให้เขาเป็นตัวตลก  เครื่องสนองความต้องการที่ไม่เคยพอ แล้วเขาก็โง่พอที่จะหยิบยื่นให้ไป

สุดท้ายเขาจะเป็นตัวตลกที่มีค่าแค่เรื่องบนเตียงใช่ไหม

หากค่ำคืนนี้ผ่านไปอย่างที่ภาคีต้องการ ภาคีได้ในสิ่งที่อยากได้ สิ่งที่ภาคีพยายามจะขอจากเขา
และเขาเองก็เกือบจะหลงให้ไปแล้ว สีฟ้าคงจะต้องกลายเป็นตัวตลกในวันพรุ่งที่แดดทอแสงยามเช้าใช่ไหม

คำถามต่างๆ ที่ผุดขึ้นมาราวระลอกคลื่นที่สาดซัด ยิ่งเพิ่มเรี่ยวแรงของสีฟ้าให้มีมากขึ้น ไม่แล้ว
 สีฟ้าจะไม่หลงกลของภาคีอีกแล้ว

พอกันที!!

“ปล่อยฉัน !” สีฟ้าตะเบ็งสุดเสียง หน้าสวยขึ้นสีความโกรธ หากขอบตามันร้อนผ่าว ด้วยความคิดที่บั่นทอนความรู้สึก

“ฟังตินนะครับลม” ภาคีพยายามจะทำให้อีกฝ่ายเย็นลง และฟังสิ่งที่เขาจะบอก อธิบายถึงสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังเข้าใจผิด แล้วกลายเป็นเรื่องที่ทำให้เขาสองคนไม่เข้าใจกัน

“ไม่ฟัง ฉันไม่ฟังอะไรนายทั้งนั้น หลักฐานพวกนั้น มันเห็นๆ อยู่ เสื้อผ้าพวกนั้นมันของยัยนุ่นใช่ไหม”   สีฟ้าตะโกนใส่หน้าอีกฝ่าย ทั้งเท้าทั้งแขนก็ดิ้นวุ่น แต่ก็ไม่สามารถหลุดออกจากวงแขนแกร่งได้เสียที ยิ่งดิ้นก็เหมือนยิ่งโดนรัดมายิ่งขึ้น

สาเหตุที่ทำช่วงเวลาดีๆ ดับสลาย เพราะเสื้อผ้าที่สีฟ้าเห็น

“มันไม่ใช่ของนุ่น มันเป็นของ.......” กำลังจะบอกอยู่ได้แล้วเชียว แต่เพราะคนร่างบางแต่แรงเยอะขึ้นเรื่อยๆ กลับดิ้นหลุดแล้ววิ่งไปยังประตูอีกครั้ง   โชคดีที่ช่วงก้าวของภาคีมันยาวกว่าของสีฟ้า มือแกร่งถึงสามารถคว้าเอวบางไว้ได้ทัน ก่อนที่จะวิ่งหนีหายไป และอาจหนีหายไปจากชีวิตของเขาตลอดไปก็ได้ หากภาคีไม่สามารถคว้าตัวเอาไว้ได้

“ทำไมไม่ฟังตินก่อน เสื้อผ้าพวกนั้น มันไม่ใช่ของนุ่นนะครับ” ภาคีดันแผ่นหลังบอบบางติดพนังห้องใกล้ๆ กับประตู มือหนึ่งยังวางรัดไว้ที่เอวเล็ก อีกมือหนึ่งบังคับตาคู่เรียวให้มองสบกับความจริงที่เขาต้องการบอกให้รู้

ไม่ใช่คิดเองเออเอง...

“มันไม่ใช่ของนุ่น”

“อย่ามาโกหกฉัน  นึกว่าฉันโง่หรือไง เสื้อผ้าพวกนั้น ถ้ามันไม่ใช่ของยัยนุ่น แล้วมันเป็นของใคร   ของนายหรือไง  นายใส่เสื้อผ้าพวกนั้นหรือไงหะ เห็นฉันโง่มากใช่ไหม
 ใช่! ฉันมันโง่ โง่ที่หลงกลไปกับหน้าซื่อๆ ของนาย โง่ที่ยอมกลับมาให้นายหลอก ฉันมันโง่ ฉันมันคนโง่
 ได้ยินไหม ได้ยินไหม ฉันมันโง่ โง่ที่ยอมใจอ่อนกับคนอย่างนาย ฉันมัน...งะ...โง่...อึก...ฮื่อ...ฮื่อ...ฉะ...ฉัน...มะ...ฮึก...มัน...อึก....งะ...โง่ ได้ยินแล้ว...อึก...กะ...ก็...อึก...ปล่อยฉันไป....สักที......”

ความอ่อนถูกถ่ายทอดสู่ขอบตาเรียวที่ร้อนผ่าว แปรเปลี่ยนน้ำใสๆ ที่คลออยู่ในเบ้าตาสวย  แล้วรินไหลเป็นทางยาวเปรอะเปื้อนใบหน้านวล ราวกับไม่มีวันจะหยุดพัก  ปากสีสวยที่พรั่งพรูคำเฉียดเฉือนทั้งตัวเองและคนฟัง ขบเม้มเป็นเส้นตรง หากยังทิ้งร่องรอยสั่นน้อยๆ ให้เห็นอย่างเด่นชัดสำหรับคนมอง

“อย่าร้องสิครับ ร้องแล้วไม่สวยนะครับ” เขาเกลี่ยหยาดน้ำตาให้พ้นไปจากแก้มใสขึ้นรอยช้ำ หากมันก็เหมือนจะไม่มีวันหมด สีฟ้ายังคงร้องไห้ น้ำตายังรินไหลไม่ขาดสาย   ทำเขาใจสั่น ทำอะไรไม่ถูก ถ้อยคำอธิบายใดก็เหมือนไม่ยอมหลุดออกมา

“ปะ...ปล่อยฉันเถอะนะ ...ฮึก...ปะ...ฮื่อ...ปล่อยฉันเถอะ...ฮึก...ฉะ...ฉันกลายเป็นคนโง่สมใจนายแล้วไง ปล่อยฉันไปได้หรือยัง?”

กว่าจะพูดแต่ละคำแต่ละประโยคออกมาได้ มันช่างยากเย็นเหลือเกิน น้ำตามันไหลอย่างห้ามไม่อยู่ และสีฟ้าเองก็ไม่คิดจะห้ามมัน

“นายเอาคืนฉันได้แล้ว ปล่อยฉันไปเถอะ ...ฮึก...”

“คุณลม”

คำขอร้องของคนร่างบางเบาราวกระซิบ กับน้ำตาที่ไหลเป็นทางยาวบนแก้มนวล เรียกร้อง นิ้วอุ่นลามไล้แผ่วเบากับความชื้นที่ทำให้ใบหน้ามนหม่นหมอง  พร้อมกับกดซับให้มันหายไปจากวงหน้าสวยด้วยริมฝีปากอุ่นของตัวเอง  ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ทำเช่นนั้น หวังว่าจะทำให้ความชื้นอุ่นที่ทำให้เขาต้องเจ็บยามเมื่อเห็นมันใบหน้าหวานจางหายไปได้   หากแต่มันยังคงมีเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่อย ๆ คล้ายกับไม่มีทางหมดไปจากวงหน้า

หากภาคีเป็นฝ่ายที่ต้องปัดเช็ดด้วยริมฝีปากหยักของเขา  สีฟ้าก็คงเป็นผู้สร้างหน่วยน้ำที่ไม่มีวันจะเหน็ดเหนื่อย

“ผมรักคุณลมนะครับ”  ภาคีเลือกจะกระซิบคำรักชิดริมฝีปากสีหวานที่สั่นน้อยๆ  แทนที่จะเฝ้าอธิบายความจริงต่างๆ ที่สีฟ้าไม่เคยคิดจะฟัง

“คำรัก”

ภาคีเอามันออกมาจนได้ คำรักที่เขาอยากพูด อยากบอกมาแสนนาน อยากบอกให้คนๆ นี้รับรู้มาตลอด หากยังไม่เคยมีโอกาส ที่ผ่านมาความกลัวทำให้เขาไม่กล้าเอ่ยมัน  ไม่กล้าเอ่ยบอกให้รับรู้  ทว่าในนาทีนี้ นาทีที่น้ำตาของคนๆ  นี้ทำให้เขาต้องพูดออกมา  ไม่มีความลังเล  ไม่เหลือความกลัว ไม่สนความต่างของฐานะที่เขาเอื้อมไม่ถึง  ในตอนนี้ ภาคีมีแต่ความรู้สึกที่ไม่อยากสูญเสียผู้ชายตรงหน้าไปจากชีวิต  ไม่อยากให้อ้อมแขนของเขาปราศจากคนร่างบางเหมือนเช่นครั้งก่อนที่ผ่านพ้นไป

“รักลมนะครับ  ตินรักลมคนเดียว  ตินรักผู้ชายคนนี้คนเดียว  ได้ยินไหมครับ”

“อืมมมมม.....”

นอกจากคำรักที่บอกให้รับรู้ ความอ่อนนุ่มยังดึงดูดกลีบปากสวยอย่างแผ่วหวาน หยอกล้อเบาๆ  ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  คล้ายบอกกล่าวคำรักเล็กๆ แต่มากความลึกซึ้งไม่มีวันหมด ก่อนที่ลิ้นอุ่นชื้นจะแทรกผ่านรอยแยกของเรียวปาก  เข้าไปสัมผัสกับความอุ่นชื้นที่ซุกซ่อนรอยคอยการสำรวจแสนร้ายกาจ   แม้จะร้ายกาจเพียงไร สีฟ้ากลับไม่เคยคิดจะต้านทานมัน  อาจเพราะคำว่า  ‘รัก’  ที่กระซิบบอก มันเจาะลึกฝังแน่นอยู่ในหัวใจในวินาทีที่ผ่านมา แล้วมันก็ทำให้ยากจะต่อต้านอะไรอีกต่อไป

คำรักแลกคำรักอยู่อย่างนั้นอย่างเนิ่นนาน   ภาษารักขับเคลื่อนให้ร่างสูงและร่างบางเกาะเกี่ยวกันอย่างแนบแน่น   แทบกลายกลืนเป็นกันและกันในวินาทีนี้อยู่แล้ว  ถ้าหากไม่มีผิวผ้าเนื้อนิ่มกันขวางระหว่างกันและกัน และด้วยแผ่นหลังของสีฟ้าจะควรถูกรองรับด้วยเตียงนุ่ม  แทนที่จะเป็นพนังห้องที่ทั้งแข็งและเย็นอย่างตอนนี้

“พะ...พอแล้ว “ เพราะไม่มีทีท่าว่าคำรักของอีกฝ่ายจะสิ้นสุดเสียที คนร่างบางจำต้องซุกซ่อนคำรักของตัวเองไว้เสีย ก่อนที่ทั้งตัวและหัวใจมันจะละลายกองไปบนพื้นพรมนุ่มเท้า

“รู้แล้วใช่ไหมว่าตินรักลม ตินรักลมคนเดียว ตินไม่เคยรักใครนอกจากลม แล้วตินก็ไม่เคยมีใครนอกจากลมคนเดียวจริงๆ นะครับ เชื่อใจตินนะครับ”  ภาคียังพร่ำบอกให้อีกฝ่ายเชื่อใจ เขาใจหายหากสีฟ้าจะเข้าใจเขาผิด

“แต่เสื้อพวกนั้น...”

แม้คำรักจะกึกก้องอยู่ในหัวใจที่พองโตและเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่สิ่งที่เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำตามันไหล จนกลายเป็นคนที่อ่อนแอได้อย่างไม่น่าเชื่อ  ก็ยังคงติดค้างอยู่ในความรู้สึกและเป็นคำถามที่อยากได้คำตอบอยู่ดี

“ก็เอาแต่พูดว่าคนโกหก คนหลอกลวง ฉันไม่ฟัง ฉันจะกลับบ้าน ปล่อยฉันๆ ฉันมันโง่ๆ อยู่แต่อย่างนั้น ไม่ยอมฟังตินสักที แล้วจะรู้ได้ไงว่าเสื้อผ้าพวกนั้นเป็นของใคร”

พอทำให้คนอารมณ์ร้อน ขุ่นด้วยความโกรธสงบลงได้ ภาคีก็หยิบเอาสารพัดคำพูดของอีกฝ่ายขึ้นมาล้อ ขณะที่ประคองกอดเจ้าของหัวใจของเขาไปยังจุดที่เกิดเหตุ

เพราะฤทธิ์ของคำว่ารักที่กระซิบบอกอยู่ใกล้ๆ แต่ห่างเพียงลมหายใจกั้น  ได้ขับไล่อารมณ์กรุ่นโกรธราวพายุร้ายให้สลายคลายตัวไปแล้ว  ทำให้คนเจ้าอารมณ์เมื่อครู่กลายเป็นเด็กตัวน้อยแสนน่ารัก ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขัดเคือง  อ้อมกอดอุ่นที่ประคองเขาไปยังตู้เสื้อผ้าจุดเกิดเรื่อง  หรือแม้แต่จะตวาดแหวใส่คนตัวสูงที่หยิบเอาคำพูดมากมายของเขาที่เอามาล้ออย่างสนุกสนาน

พอเดินมาจุดเกิดเหตุ ภาคีปล่อยอ้อมแขนจากร่างบาง แล้วก็เปิดตู้เจ้าปัญหาออก เผยให้เห็นสิ่งที่เป็นปัญหายิ่งกว่าที่แขวนอยู่ข้างด้านซ้ายมือของเขา ชุดเสื้อผ้าลวดลายสวยงามตามแบบฉบับของผู้หญิง และชุดนอนสีหวานน่ารักๆ กินพื้นที่เกือบครึ่งตู้ แล้วหันมาตีหน้าขรึมถามเอากับคนร่างบางที่ยืนตัวลีบอยู่ข้างๆ

“ดูดีๆ นะครับ เสื้อพวกนี้เคยเห็นที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า”

เขาควรจะดีใจไหม ที่เห็นคนที่เขารักนักรักหน้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เพียงเพราะเห็นเสื้อผ้าของผู้หญิงแขวนอยู่ร่วมตู้กับเสื้อผ้าเขา  ต้องดีใจใช่ไหม ที่สีฟ้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ นั่นก็เพราะพิษรักแรงหึง

ภาคีเอ้ย....ต่อให้สีฟ้าเดือดเป็นไฟกว่านี้ เขาก็จะยิ้มรับด้วยความดีใจ เพราะสิ่งที่สีฟ้าแสดงออกมาทั้งหมดคืออารมณ์ของคนขี้หึงใช่ไหมล่ะ

 แล้วคนเรารักกันมันก็ต้องมีหึงมีหวงกันเป็นของธรรมดาใช่ไหม?

,มีต่อ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 30-03-2011 20:52:51
ตอน 14 รักเธอ ครึ่งหลัง

“ ตอบมาสิครับ ว่าเคยเห็นหรือเปล่า” ภาคีถามย้ำอีกครั้ง พลางขยับตัวเข้าไปใกล้ แนบปากเข้ากับผิวแก้มนวลที่ยังคงเปียกชื้นด้วยความรักที่ล้นอก สองมือก็เกาะเกี่ยวร่างบางให้เดินเข้าไปใกล้ตู้อีกนิด เผื่อว่าอีกฝ่ายจะเห็นไม่ชัด

สีฟ้ามองเสื้อผ้าพวกนั้นอย่างพิจารณาอีกครั้ง  ครั้งแรกตอนเกิดเรื่อง เขามองมันแค่เพียงแวบเดียว พอเห็นว่ามันไม่ใช่เสื้อผ้าของผู้ชายอย่างแน่นอน อารมณ์มันก็พุ่งปรี๊ดขึ้นมาทันทีทันใด ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น คิดเพียงอย่างเดียวว่าห้องนี้ไม่ใช่ห้องของภาคีเพียงคนเดียว  แต่มีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาร่วมห้องด้วย ร่วมทั้งห้อง ร่วมทั้งเตียง แล้วใบหน้าของนิรดาผุดขึ้นมาคนแรกและเป็นคนเดียว แต่ตอนนี้ ตอนที่เขามองเสื้อผ้าพวกนี้อีกครั้ง ความรู้สึกคล้ายๆ ว่าจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่ยังคิดไม่ออก

“ก็...ก็...” สีฟ้านิ่งคิด พยายามคิดนะ แต่มันก็คิดไม่ออก ช้อนตาขึ้นมาใบหน้าคมที่เอาแต่หยอกเย้าอยู่กับแก้มของเขาแล้วให้นึกมันไส้ ได้ทีขี่แพะไล่เลยนะ

“บอกให้ตินชื่นใจหน่อยนะครับ  เคยเห็นผู้หญิงคนไหนใส่เสื้อพวกนี้บ้าง”  คิ้วเข้มยกสูงประกอบคำถาม ตาคมติดจะล้อๆ คนในอ้อมกอดที่เจ้าอารมณ์เหลือเกิน  

“ก็ของยัยนุ่นไง ชื่นใจพอหรือยัง”  ทำตัวเป็นเด็กดีได้ไม่กี่นาที สีฟ้าก็กลับคืนสู่ตัวตนที่แท้จริงอีกจนได้ ปากอิ่มยังคงเก่งกาจเหมือนเดิม ไม่ยอมจนมุมง่ายๆ รู้ว่ามันไม่ใช่  
แต่ทำไมล่ะ สีฟ้าจะตอบแบบนี้เสียอย่าง ภาคีจะทำอะไรเขาได้ เห็นเขายอมหน่อย ชักเอาใหญ่  

“ใช้อะไรมองครับ ” ภาคีถาม

“อ้าว..ก็อยากได้คำตอบไม่ใช่เหรอ แล้วมีใครที่ไหนเล่าจะเช้าถึงเย็นถึงเหมือนยัยนุ่น” สีฟ้าเถียง

“หึงหรือครับ ไม่ต้องหึงนะครับ ตินมีลมคนเดียวจริงๆ”

“หึงตายล่ะ หลงตัวเองไปหน่อยไหม ปล่อยได้แล้ว ฉันจะอาบน้ำ”

สีฟ้าทำเสียงเข้มกลบเกลื่อนความอายที่ถูกอีกฝ่ายจับความรู้สึกได้ว่ากำลังหึง  หึงก็จริงอยู่ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟแบบเมื่อครู่หรอก แต่เรื่องอะไรจะยอมรับว่าหึง

“ไม่เอา ไม่พูดคำนี้ ต้องพูดว่าลมสิครับ ถ้าไม่พูดไม่ปล่อยนะครับ” คนตัวใหญ่กว่าเริ่มทำเสียงเคืองนิดๆ พร้อมกับขู่เสียงหวานในเวลาต่อมา  “แล้วจะทำอย่างอื่นที่มากกว่านี้ด้วย ไหนพูดใหม่สิครับ” แต่มีหรือที่สีฟ้าจะกลัว ภาคีไม่รู้เลยหรือไงว่าไอ้คำขู่เนี่ย มันใช้ไม่ได้กับคนปากเก่งอย่างสีฟ้า

“...........................”

ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดอะไรออกจากปากสวยสีสดสักคำ เพียงแค่ตาสวยตวัดมอง จ้องหน้าเอาเรื่อง พร้อมข่มขู่อยู่ในที อ้อมกอดนั้นก็พลันต้องคลายออกโดยอัตโนมัติ

ยอมรับเลยว่า ภาคีกลัว กลัวจะทำให้สีฟ้าขัดใจ แล้วจะร้องหนีเขาไปอีก  

“ปล่อยก็ได้” ชายหนุ่มปล่อยร่างบอบบางในทันที ก็ภาคีไม่อยากถูกมองด้วยสายตาอย่างนั้น มันเป็นสายตาที่บอกว่าถ้าเขายังจะดื้อ เจ้าของตาเรียวคู่นี้จะไม่มีวันเดินมาเหยียบห้องนี้อีกเป็นครั้งที่สอง ตามที่ได้บอกไว้แต่ตอนแรก

“แต่ก่อนที่ลมจะไปอาบน้ำ ตินก็อยากจะบอกลมว่า เสื้อผ้าพวกนี้มันเป็นของพี่ลิน  พี่ลินมาค้างที่นี่บ่อยๆ แล้วชุดนอนตัวนี้  ลมยังจำได้ไหมว่าใครซื้อให้พี่ลิน”

เจ้าตัวบอก ก่อนจะเอื้อมมือผ่านร่างบางไปหยิบชุดนอนตัวสีขาวสะอาด แต่งลายเล็กๆ ด้วยตัวกระต่ายน้อยตรงหน้าอกด้านขวา ภาคีเอามันออกมาให้สีฟ้ามองใกล้ๆ แล้วถามย้ำอีกครั้ง

“จำได้ไหม?”

“จำได้” ทำไมสีฟ้าจะจำไม่ได้ล่ะว่าชุดนอนตัวนี้ เขาซื้อให้พี่สะใภ้ตอนวันเกิดเมื่อสองปีที่แล้ว ว่าแล้วเชียวทำไมมันคุ้นตานัก

“จำได้แล้วก็ดีครับ จะได้เลิกเข้าใจผิดตินซะที” เขาบอก พร้อมกับอ้อมแขนที่วาดกอดร่างเล็กเอาไว้ ซบหน้าลงกับไหล่เล็กๆ นั้น ก่อนที่ปลายจมูกโด่งจะซุกไซ้หาความหวานตรงซอกคอหอมอย่างย่ามใจ


“หยุดเลยนะติน” สีฟ้าเบี่ยงตัวหนี ขู่ซ้ำอีกครั้ง  “ถ้าไม่หยุดจะกลับนะ” ได้ผล คำขู่สามารถหยุดภาคีได้

“ก็ได้ครับๆ”  จำต้องยอม อดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า ได้แค่นี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ภาคียิ้มให้กับคนที่เขาสวมกอดอยู่ ก่อนจะคลายอ้อมกอดออกอีกครั้ง ขยับห่างร่างนั้นออกมาอีกนิด เพรากลัวอดใจไม่ไหว พออยู่ใกล้ร่างกายหอมๆ นี้แล้ว อดใจที่จะรุกเร้าเอาร่างกายนี้มาเป็นของตัวเองไม่ได้ซะที

“แล้วจะให้ยืมเสื้อตัวไหน” สีฟ้าถาม มองดูเสื้อผ้าในตู้ที่ถูกแขวนและพับเก็บอย่างเป็นระเบียบ ตู้เสื้อผ้าของเขายังไม่เป็นระเบียบขนาดนี้เลยนะ

“ตัวนี้ครับ”

เร็วพอๆ กับคำพูด ภาคีคว้าเสื้อตัวที่แขวนอยู่ด้านในสุด ตัวที่เขาไม่เคยใส่มันอีกเลยหลังจากคืนนั้น คืนแรกของเขากับสีฟ้า

คืนแรกของเขากับคนๆ นี้ แค่คิดถึงมัน เขาก็มีความสุขจนห้ามไม่อยู่แล้ว

“ใส่ตัวนี้นะครับ” เขาอยากเห็นสีฟ้าในชุดนี้อีกครั้ง  

สีฟ้ารับเสื้อตัวให้อีกฝ่ายดึงออกมาจากไม้แขวน แล้วยัดใส่มือของเขา

“ไม่เอาตัวนี้” ชายหนุ่มยื่นมันกลับคืนให้เจ้าของ แต่ภาคีก็กับเอามือหลบไปด้านหลังเสียก่อน ไม่ยอมรับมันคืน

“ตัวนี่แหละดีแล้ว  ตินให้ได้แค่ตัวนี้จริงๆ ตัวอื่นมันใหญ่หมดเลยนะ  ลมใส่ไม่ได้หรอก เชื่อตินนะ”

“ตัวนี้มันไม่ใหญ่เลยใช่ไหม?” คนถาม ถามเสียงเข้ม หากคนถูกถามกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“ไม่ใหญ่แน่นอน  ตินยืนยัน ลมเคยใส่มันแล้ว คืนแรกของเราสองคนไงครับ ออกจะพอดีไม่ใช่เหรอไงครับ”

เจ้าของเสื้อไหลไปเรื่อย ทั้งๆ ที่รู้ว่าเสื้อตัวนี้ที่สีฟ้าเคยใส่ มันใหญ่กว่าตัวของสีฟ้ามากทีเดียว ภาคียังจำคืนนั้นได้ดี คืนแรกที่ได้แนบชิดจนกลายเป็นคนๆ เดียวกัน ก็เพราะเสื้อตัวนี้ไม่ใช่หรอกหรือ ที่มันช่วยขับให้ร่างบางน่ากอดยิ่งน่ากอดเพิ่มมากขึ้นอีกหลายร้อยพันเท่า


“ลมว่ามันใหญ่”  สีฟ้าบอก หากเขาไม่กล้าสบตากับเจ้าของเสื้อ ใบหน้าหวานแดงระเรื่อเขินอายเกินกว่าจะกล้าสบตาพราวระยับมากความหมายคู่นั้นของภาคี ทำไมเขาจะจำเสื้อตัวนี้ไม่ได้ แล้วเกิดอะไรขึ้นในคืนที่เขาใส่เสื้อตัวนี้  ความตั้งใจที่จะยั่ว กลับหลงตัวตกหลุมของตัวเองจนปีนขึ้นมาไม่ได้

ค่ำคืนแรกของเขาและภาคี....

“ไม่ใหญ่แล้วนะครับ ถ้าลมไม่ใส่ตัวนี้  ตินก็ไม่มีตัวอื่นให้แล้วนะครับ  ลมก็ใส่เสื้อเหม็นๆ ของลมไป หรือถ้าทนความเหม็นของเสื้อตัวเองไม่ได้  ก็คงต้องอาบน้ำแล้วนอนเลย ไม่ต้องใส่อะไรมันทั้งนั้นแหละ”

บอกเหมือนจะตัดรำคาญ แต่ความจริงคือภาคีหมายความตามนั้นจริงๆ เรื่องที่ไม่ต้องใส่อะไรนอนมันเลย แต่เรื่องความเหม็นของเสื้อผ้าน่ะ  ไม่ใช่เรื่องจริง  เสื้อที่คนร่างบางใส่อยู่ ไม่ได้เหม็นอะไรเลยสักนิด ออกจะหอมซะด้วยซ้ำ ค่าที่ตัวคนใส่ออกจะหอมกรุ่นชวนให้หลงใหลสูดกลิ่นหอมจากเรือนตัวไปเสียหลายครั้ง  แต่ที่พูดก็เพื่อจะขู่เท่านั้นเอง โดยที่ลืมไปว่าคำขู่ของตัวเองไม่เคยได้ผลสักครั้ง

“ไม่ใส่ก็ได้”

คนหน้าหวานตอบเสียงเรียบ ทำเอาคนขู่ยิ้มร่า นัยน์ตาคมเป็นประกายวิบวับขึ้นมาทันที ความคิดยามนี้มันไปไกลจนสุดกู่แล้ว

เนื้อตัวหอมๆ เปลือยเปล่า  แค่คิดก็.......

“ลมใส่เสื้อของพี่ลินก็ได้”  สีฟ้าคว้าชุดนอนตัวที่ซื้อให้นลินขึ้นมา พร้อมกับเอาไอ้เสื้อเซิ๊ตตัวสีขาวแสนบางกลับไปไว้ที่เดิม ทำเอาภาคีได้แต่ยิ้มค้าง ความฝันของเขาถูกทำลายลงในพริบตา

“ไม่ได้นะลม  นี่มันเสื้อพี่ลิน ลมจะใส่ได้ยังไง” ภาคีรีบห้าม ดึงชุดนอนชุดนั้นจากมือเรียว แต่สีฟ้าก็ไม่ยอมปล่อยเลยได้ยื้อกันไปกันมาอยู่นั้นแหละ

“ทำไมจะใส่ไม่ได้” สีฟ้าถามเสียงเข้ม พร้อมออกแรงดึงอีกครั้ง แต่ไม่สำเร็จ มือภาคีเหนียวยิ่งกว่ากาวตราช้างซะอีก

“ก็...ก็ ไม่ได้ก็ไม่ได้นะครับ” รู้น่ะมันรู้ว่าทำไมถึงไม่ได้ แต่จะบอกยังไง กลัวพูดไม่ถูกใจก็จะร้องกลับบ้าน แต่ถ้าให้ใส่เสื้อของพี่สาวของเขา เขาก็อดเห็นคนร่างบางในลุกเซ็กซี่น่ะสิ

“ลมขอเหตุผล” คนที่ถูกใบสั่งโดยไม่รู้ตัวว่าคืนนี้ต้องเซ็กซี่เท่านั้น ลดเสียงต่ำลงอีก ทำเอาคนเขียนใบสั่งไปไม่ถูก กว่าจะหาเหตุผลมาอ้างได้ก็หมดเวลาไปหายวิ

“ตัวมันเล็กไง ลมใส่ไม่ได้หรอก”

“ลมไม่ได้ตัวใหญ่ขนาดที่จะใส่ไม่ได้นะ” ไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดกับข้ออ้างของภาคี เขากับพี่สะใภ้ตัวแทบจะไม่ต่างกันเลย แล้วทำไมเขาจะใส่ชุดนอนตัวนี้ไม่ได้

“มันเล็กจริงๆ นะครับ ลมใส่ไม่ได้หรอก เอาตัวนี้เถอะ” ภาคียังไม่ยอมแพ้ เขาดึงชุดนอนออกจากมือเล็กแล้วยัดเสื้อตัวใหญ่ของเขาแทนที่

“รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ บอกแล้วไงว่าขืนยังคิดเรื่องแบบนั้นอยู่อีกล่ะก็ ลมจะกลับ แล้วจะไม่กลับมาทีนี้อีก เลือกเอา จะยังให้ลมใส่ไอ้เสื้อตัวนี้อีกอยู่ไหม?” มือเล็กชูเสื้อในมือขึ้นมา เอนหน้าถาม

ทั้งคำพูดที่รู้ทัน ทั้งคำถามที่ต้องให้เลือก และก็สายตาที่เอาจริง ชนิดที่ไม่มีใครกล้าหือ ภาคีจำต้องเก็บเสื้อที่เขาหวังว่าจะไปอยู่บนเรือนกายของคนร่างบางอีกครั้ง เหมือนค่ำคืนแรกที่อยู่ด้วยกัน เก็บมันเข้าไว้ที่เดิม

“ไม่ใส่ก็ได้  ตินไม่มีสิทธิ์จะบังคับลมอยู่แล้วนี่” ว่าแล้ว ภาคีก็เดินก้มหน้าออกจากห้องไป  ทิ้งให้สีฟ้ามองตามด้วยความอ่อนใจ นึกถามตัวเองว่าเขาควรจะดีใจไหมที่ภาคีเปลี่ยนไป แสดงความรู้สึกมากขึ้นกว่าเดิม แต่ขณะเดียวกันก็เอาแต่ใจตัวเองยิ่งกว่าเขาซะอีก


.........................................................................................


“ติน....ตินตื่น ไปอาบน้ำได้แล้ว” สีฟ้าเขย่าตัวคนที่นอนหลับบนเตียงกว้าง ไม่รู้ว่ากลับเข้ามาตอนไหน พอเขาออกจากห้องน้ำมา ก็เจอภาคีนอนอยู่บนเตียงไปแล้ว ดูแล้วหลับลึกซะด้วย เขาปลุกตั้งนาน เจ้าตัวก็ยังไม่มีท่าทีจะรู้สึกตัว

“อือ...” ภาคีลุกขึ้นนั่ง บิดตัวเล็กน้อย ก่อนหันมากอดคนเสียงหวานเต็มอ้อมกอด

“หอมจัง” ปากทำหน้าที่พูดตามรายงานของจมูกโด่ง ที่สูดดมเอากลิ่นหอมของสบู่ที่เขาใช้อยู่ทุกวันเข้าเต็มปอด แปลกที่วันนี้มันคลับคล้ายว่าจะหอมเป็นพิเศษ แล้วยังติดจะหวานๆ ด้วย

“ลมรู้ว่าตัวลมหอม แต่ตินจะรู้ไหมว่าตอนนี้ตัวตินเหม็นมาก ไป ไปอาบน้ำได้แล้ว ลมง่วง อยากนอน” ว่าพลางผลักคนตัวเหม็นให้ออกห่าง เพราะจมูกโด่งนั้นไม่ยอมจะหยุดง่ายๆ

ภาคียอมถอนตัวออกโดยดี เพราะอยากจะตัวหอมให้อีกฝ่ายหลงใหลบาง แต่พอถอนอ้อมกอดออกมา ใบหน้าที่เคยตื่นแบบไม่เต็มตา แต่ก็หาซอกคอหอมๆ หวานๆ เจอ กลับเปิดยิ้มกว้างด้วยความรู้สึกดีใจสุดๆ  เมื่อพบว่าร่างบางที่เขากอดอยู่เมื่อครู่  มีเสื้อเซิ๊ตตัวบางเพียงตัวเดียวห่อหุ้มเรือนกายเอาไว้ ถึงแม้จะมีเพียงกระดุมเม็ดเดียวที่ไม่ได้อยู่ในรังดุมก็เถอะนะ

“ขอบคุณนะครับที่ไม่ใจร้ายกับตินจนเกินไป” ภาคีบอกเสียงหวาน ตาพราวระยับด้วยความสมใจยาก

“อาจจะเปลี่ยนเป็นใจร้ายก็ได้ ถ้ายังไม่รีบไปอาบน้ำ” พูดไม่ทันจบประโยคดีด้วยซ้ำ เจ้าคนที่ขี้อ้อนก็ลุกพรวดลงจากเตียง  คว้ากางเกงบ็อกเซอร์เพียงตัวเดียวออกมาจากตู้ ก่อนวิ่งหายไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

สีฟ้ายิ้มให้กับแผ่นหลังกว้างที่หายเข้าไปในห้องน้ำด้วยความเร็วสูง  ตัดสินใจผิดหรือถูกกันแน่ที่ยอมตามใจภาคีถึงขนาดนี้  ทั้งที่ไม่ควรจะตามใจก็ได้ เพราะภาคีก็เหมือนจะงอนไปเรื่อยเปื่อย ไม่เห็นจะจริงจังอะไร งอนแป๊บๆ เดี๋ยวก็หาย

แต่ก็นะ ทำไงได้ ใครบังคับให้สีฟ้ามาอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนี่ล่ะ   รู้ทั้งรู้ว่ามันร้ายกาจต่อความเข้มแข็งของตัวเองแค่ไหน หรือว่าเขาแพ้ห้องสี่เหลี่ยม ที่ค่อยแต่จะบั่นทอนให้จิตใจที่เข้มแข็งอ่อนลงเรื่อยๆ ทั้งที่ไม่คิดเลยว่าจะตามใจเจ้าของห้องได้มากมายขนาดนี้  แต่ก็ช่างมันเถอะ เขาเลือกแล้วนี่นา อะไรจะเกิดตามมาก็คงต้องปล่อยให้มันเกิดล่ะกัน เพื่อเขาจะได้มีช่วงเวลาดีๆให้จดจำ หากในวันพรุ่งนี้ทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม

หากพรุ่งนี้....

หากต้องกลับไปเป็นเหมือนเดิม เหมือนคนไม่รู้จักกัน เหมือนคนที่ไร้คำพูดใดๆ ให้กัน เขาก็ยังมีช่วงเวลาดีๆ ให้นั่งคิดถึงเพิ่มอีกเรื่องหนึ่ง

กำลังจะเอนกายลงนอนเพราะหน่วยตาเริ่มจะหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่สีฟ้าก็หันไปเจอเข้ากับโต๊ะตัวที่ตั้งชิดกับขอบเตียงอีกฝั่งหนึ่ง ที่ตอนแรกเขาไม่ทันได้สังเกต เพราะโดนเจ้าของห้องจ้องแต่จะรุกราน แล้วยังมีเรื่องเข้าใจผิดที่เกิดจากเสื้อผ้าของพี่สะใภ้เขาอีก ทำให้ไม่ได้สำรวจห้องนี้อย่างละเอียด

โต๊ะตัวที่ตั้งชิดขอบเตียง  ถูกโคมไฟขนาดกลางลวดลายสวยยึดพื้นที่ไปเพียงนิดเดียว หากแต่พื้นที่ที่เหลือกลับถูกปล่อยให้วางเปล่า มีเพียงกรอบรูปอันเล็กวางอยู่ตรงกลางของพื้นที่ว่างทั้งหมด

ไม่จำเป็นต้องขยับเข้าไปดูใกล้ๆ เพื่อให้เห็นชัด  สีฟ้าก็รู้ว่ามันเป็นกรอบรูปอันเดิมอันนั้นที่ภาคีซ่อนมันเอาไว้ไม่ให้เขาเห็น ขยับเข้าไปใกล้ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาดู เพียงแค่มองดูอยู่ตรงนี้ รูปเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ฉีกยิ้มกว้างแทบจะเห็นฟันทุกซี่  สีฟ้าก็รู้ว่าคือใคร

จะเป็นใครได้ ถ้าไม่ใช่........เขา

เขาคือเด็กผู้ชายคนนั้น

เขาคือเด็กผู้ชายในรูป

.
.
.
.
.

สีฟ้ายังยิ้มค้างอยู่กับรูปใบนั้นในกรอบไม้ แล้วประตูห้องน้ำก็เปิดและปิดอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับร่างสูงที่มีเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียว  ผิวเนื้อยังพราวไปด้วยหยดน้ำเกาะ

“แน่ใจนะว่านี้คือการอาบน้ำ”  สีฟ้าถามคนที่วิ่งถลาเข้ามาสวมกอดเขา หลังจากที่เดินออกจากห้องน้ำมาได้ ก็รีบตรงดิ่งไปปิดสวิสไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถามด้วยน้ำเสียงที่ติดจะขำนิดๆ ภาคีไม่เคยอาบน้ำเร็วอย่างนี้สักครั้ง เขาจำได้

ไม่น่าจะถึงห้านาทีด้วยซ้ำ นับตั้งแต่ประตูห้องน้ำเปิดและปิดในครั้งแรก จนถึงถูกเปิดและปิดในครั้งที่สอง

“แน่ใจครับ นอนเถอะ ตินง่วงแล้ว” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ล้มตัวลงนอน ไม่ลืมจะคว้าร่างบางในชุดแสนเซ็กซี่ให้ลมตัวลงมานอนแนบอกแกร่งพร้อมๆ กัน

เปลือกตาที่เมื่อครู่มันรู้สึกว่าหนักเหลือเกิน มาตอนนี้มันกลับเบาแสนเบา จนปิดไม่ลงด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะเสียงหัวใจที่เต้นตุ้บตั้บภายในอุ่นที่สีฟ้าแนบชิดอยู่ตอนนี้หรือเปล่า  หรือเป็นเพราะหัวใจที่เต้นรัวแรงของเขาเองกันแน่  สีฟ้าก็สุดยากจะเดา รู้เพียงว่าอกอุ่นที่ไร้อาภรณ์ห่อหุ้มที่แนบชิดกับเรือนกายของเขา มันชวนให้มือเรียวต้องลูบไล้ที่แผ่นอกอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะเปลี่ยนหน้าที่ให้กลายเป็นปากนิ่มแต่งแต้มลงไปแทน ด้วยความแผ่วเบาที่ไม่แตกต่างกับเรียวนิ้ว ทว่ามันกลับรู้สึกวาบหวานให้กับเจ้าของแผ่นอกแกร่งที่โดนลูบไล้ด้วยปลายนิ้วและกลีบปากนุ่มอย่างมากมาย

“คิดจะยั่วกันหรือครับ บอกว่ามีประชุมแต่เช้า พี่ฟืนกับคุณพ่อก็ทิ้งงานกองโตเอาไว้ให้อีก  ขืนไม่รีบนอน ตื่นสายแล้วจะไปประชุมไม่ทันนะครับ
โดนพี่ลินดุ อย่ามาโทษตินแล้วกัน”  สุ้มเสียงแหบพร่าแผ่วไล้ตรงกลุ่มผมนุ่ม เลือดในกายมันรุ่มร้อน ราวกับจะระเบิด เมื่อร่างบางนั้นออดอ้อนให้ความอดกลั้นของเขาลดลงเรื่อยๆ  

“แล้วตินอยากนอนกอดลมอย่างเดียวเหรอ” คนช่างยั่วถามแผ่วเบาเอากับอกกว้าง ก่อนมอบสัมผัสหวานให้มันอีกครั้ง

ปากนุ่มแนบจูบ เรียวลิ้นชื้นลากไล้ ก่อนจะถูกมือใหญ่ช้อนใบหน้าขึ้นมาให้สบตาด้วย

“แล้วทำอย่างอื่นได้ไหมล่ะครับ” เจ้าของอกที่ถูกฝากรอยรักผะพลิ้ว ถามเสียงแหบพร่ากว่าเดิม จ้องลึกเข้าไปในหน่วยตาหวานอย่างหลงใหล

แม้จะสลัวเพียงไหน ภาคีก็ยังเห็นแววตาหวานนั้น เห็นไปถึงหัวใจ

“ไม่ได้ห้ามแล้วนี่ แต่ถนอมหน่อยล่ะกัน”

เพียงเท่านั้นเอง เจ้าของเสียงหวาน  คนช่างยั่วก็ตกอยู่ใต้ร่างกำยำที่รอฟังคำนี้มานาน นับตั้งแต่ตัดสินใจเดินกลับมาชวนให้สีฟ้าขึ้นมาที่ห้อง

‘ขึ้นไปทานกาแฟก่อนไหมครับ คุณลม’

เป็นคำชวนที่ไม่ได้มีความหมายตามนั้นเลย  แต่มันหมายถึงแบบนี้ต่างหาก แบบที่สองร่างเกี่ยวพันเป็นกันและกัน โดยไร้ขอบเขตของคำว่าสิ้นสุด แต่รอยรัดด้วยคำรักมากมายที่อยากถ่ายทอด



โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 30-03-2011 21:03:35
^
^
จิ้มบวกจึ่กๆ
ลมน่าร๊ากกกกกกกกกกกก >//<
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 30-03-2011 21:11:42
หวานมากกกกก
คุณลมยั่วอ่ะ :-[
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 30-03-2011 21:19:53
โอ้ยยยย

ลมยั่วได้ใจมาก

จะมีใครมาทำแบบลมกับเรามั้งน้าาาาา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 30-03-2011 21:26:03
โอ๊ยๆๆๆๆไม่ไหวแล้ว
น่ารักที่สุด :-[
ลมโหมดนี้น่ารักมาก
ตินก็นะเปลี่ยนลุดแล้วน่ารักจัง
ตอนต่อๆๆไปเค้าต้องงดน้ำตาลแล้วล่ะ
เดี๋ยวเบาหวานจะขึ้น^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 30-03-2011 21:27:31
อากาศวันนี้(คุณ)ลมแร๊งง(?) พายุ(รัก)เข้าอารมย์ยั่วได้ยั่วดีบังเกิด(?) ตินจัดหนักไปเลย รอตอนต่อไปค่ะ~~~
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 30-03-2011 21:40:34
อิจฉาตินจังได้ลมมานอนกอดถ่ายทอดไออุ่นให้แก่กัน :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 30-03-2011 21:59:35
โอ้ยยยยยยย ยิ้มจนแก้มจะแตก
พูดได้ซักทีนะติน  ให้ลมได้รู้ซักทีนะกับความรู้สึกของตัวเอง
ดีใจแทนสองคนนั้นง่ะ ในที่สุดก็หวานกันซักที

แต่ลมยังไม่ได้บอกรักตินเลยนะ
รู้ใจเขาแล้วงี้ยังจะทำปากแข็งไม่บอกรักได้อีกหรอ
ฮ่าาาาาาาาาาาาาาา...

+1 ให้คนแต่งจ้า อ่านตอนนี้แล้วสมใจมาก โฮะๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 30-03-2011 22:05:50
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ลมเป็นนายเอกที่ยั่วยวนมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 30-03-2011 22:18:32
ตอนนี้หวานสุด :L1:



 :impress2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 30-03-2011 22:30:23
หวานมากเลยค่ะตอนนี้้ ตินอ้อนลมได้สุดๆเลย
น่ารักมาก แุถมลมยังมายั่วให้ตินอีก
ขนาดตินเตือนแล้วนะ ถ้าไปทำงานไม่ไหว
ลมห้ามมาว่าตินนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: WhatLoveIs ที่ 30-03-2011 23:15:19
พรุ่งนี้หรือวันไหนๆ ก็ขอให้เหมือนเดิมได้มั้ย
รักกันแล้วก็อย่าทำร้ายกันด้วยการไม่พูดเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 30-03-2011 23:36:29
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยส์

น่ารักและหวานวาบหวามมากเลยค่ะตอนนี้ แหม...นายติณรู้สึกจะหื่นเหลือเกินนะคะคุณ เบาๆกับน้องลมหน่อยละกันนะ :-[
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 30-03-2011 23:41:48
^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 31-03-2011 00:41:17
ตอนนี้น่ารักที่สุดเลย หวานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ลมน่ารักมากกก
ก็นึกว่าเสื้อผ้าใครที่แท้ของพี่ลิน ลุ้นตั้งนาน ในที่สุดลมก็เห็นรูปนั้นแล้วที่อยู่ตรงหัวเตียงของติน


หวานมากกก ตอนหน้าขอหวานกว่านี้อีกได้มั้ยค่ะ น่ารักที่สุดเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: akera ที่ 31-03-2011 02:35:49
น่ารักสุดๆ ไปเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 31-03-2011 07:08:23
ขอบคุณคนโพสต์กับคนแต่ง :L2:
ตอนนี้ทั้งหวานทั้งน่ารัก
อ่านแล้วมีความสุขมาก
ในที่สุดสีฟ้าก็เห็นรูปนั้น
ภาคีได้บอกคำรักแล้ว
รอการแก้ปัญหาของทั้งคู่
หวังว่าคงไม่ปล่อยมือกัน
+1แทนคำขอบคุณนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 31-03-2011 08:35:05
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 31-03-2011 09:25:07
 :oo1:เย้ ๆ ๆ ได้ดื่มกาแฟหอม หวาน อร่อยถูกใจแล้ว เย้ ๆ ๆ
ค่อยๆจิบ ค่อยๆดื่มล่ะ อย่าตะกรุมตะกราม แล้วอ้างว่าเพราะอดมานานนะ เดี๋ยวจะมีผลข้างเคียง อิ อิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 31-03-2011 09:52:52
น่ารักสุดใจ กรี๊ดๆๆ

ไม่ได้ห้าม แต่ถนอมๆ หน่อยนะตินเดี๋ยวลมช้ำหมด

กร๊ากกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 31-03-2011 10:47:23
“ไม่ได้ห้ามแล้วนี่ แต่ถนอมหน่อยล่ะกัน”  
เว้ยเฮ้ยยย....ชอบคำนี้ที่สุด   :-[

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 31-03-2011 10:55:41
หวังว่าคงจะช่วยกันแก้ปัญหาไปได้นะ
อย่าโกรธหรืองอนกันเลย คนอ่านเศร้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 31-03-2011 11:25:43
เฮ้อออออออออ โล่งอกลุ้นกันซะจนเหนื่อย
ตอนนี้หวานกันซะ หวังว่าตอนหน้าคงจะยังไม่มีน้ำตานะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 31-03-2011 11:39:25
ดีกันแล้วววว

ว้าวววว  แบบนี้แหละที่รอมานาน

คริคริ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 31-03-2011 11:54:35
กรี้สสสสสสส  เค๊าดีกันแล้ว :oo1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 31-03-2011 14:26:56
 o16

สบายๆ ชิลๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 31-03-2011 19:51:38
จะบ้ากระ(ละ)มังเรื่องนี้
อ่านแล้วยิ้มไม่หุบ พระนางน่ารักชะมัด
 :o8:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 31-03-2011 21:02:21
เมื่อคืนว่าจะรอ แต่ดันหลับไปก่อน :z3:
วันนี้ก็ยุ่งแต่เช้า กว่าจะได้อ่าน ชีวิตจริงช่างขื่นขม :m15:
แต่ตินกับลมทำเอาน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นตั้งเยอะ มีความสุข :o8:
 
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 31-03-2011 22:09:56
โหะๆๆๆ กาแฟ หว๊าน หวาน เน๊อะ


อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: akera ที่ 01-04-2011 16:17:18
รออยู่นะ คิดถึงคุณลมกับติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 01-04-2011 16:24:19
 :กอด1: :กอด1:

เพิ่งได้อ่าน   :o8: :o8:

สนุกมากครับ     :-[ :-[


 o13
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 01-04-2011 21:19:32
เข้ามารอตอนต่อไปนะคะ :impress:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: M23 ที่ 01-04-2011 23:28:14
และแล้วตินก็บอกความรู้สึกตะเองซะที
นุ้งลมยั่ว.. :z1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 01-04-2011 23:50:24
มันต้องอย่างนี้ซิ กาแฟถ้วยโปรดเลยล่ะ อย่างนี้ต้องกินเยอะๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 02-04-2011 00:57:29
ในที่สุด
.
.
ในที่สุด
 o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 02-04-2011 11:22:54
เข้ามารอตอนต่อไปนะคะ :impress:

จะบอกว่า คนโพสก็รอคนแต่งเหมือนกันค่ะ  :call:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 02-04-2011 11:55:39
^
^
จิ้มๆ เน้นๆ แรงๆ อะคุๆ ขอซักทีเหอะ ไม่เคยได้จิ้มเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mamaUM ที่ 02-04-2011 14:26:04
หว๊าน...หวาน ><  :-[
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 02-04-2011 20:17:57
มารอความหวานของตินกับลมค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 03-04-2011 09:44:07
อยากอ่านตอนต่อไปจัง
แต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้....
กลัวกินมาม่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 03-04-2011 21:30:08
สวัสดีคะ เพิ่งจะได้อ่าน  :L2:
อ่านรวดเดียว 14 ตอน
กว่าจะบอกรักได้ ลุ้นแล้วลุ้นอีก
กว่าจะได้เจอหวานแบบเต็มๆไม่มีเบรค ลุ้นจนเหนื่อยเลย
แอร๊ยย ขอให้หวานๆๆแบบนี้ไปตลอดนะ  :m1:

ขอบคุณคนแต่งกับคนโพสคะ
แล้วก็รอตอนต่อปายย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 03-04-2011 22:30:03
 :try2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 14 และแล้วก็สิ้นสุดการรอคอย.. [30/03/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 04-04-2011 00:28:39
มารอหลายวันแล้วน้าๆๆๆ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 04-04-2011 13:12:04
คุยกันนิดจิตแจ่มใส
 คงไม่นานเกินไปสำหรับน้ำเชื่อมอุ่นๆหวานๆ ตอนี้นะค่ะ พอดีเพิ่งได้ต้นฉบับ เห็นน้องแอ๋วแจ้งว่า เนตเดี้ยง เลยส่งช้าแต่ คาดว่าน่าจะสมกับที่รอคอยแน่ๆ เพราะ อ่านแล้ว...โอ๊ย จะละลาย  :-[ :-[...โปรดระวัง ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ก่อนอ่าน :jul1: :haun4: 555
เชิญรับชม รับชิม ค่ะ
ตอนที่ 15 คนนี้ของผม

‘คำรัก’ ถูกถ่ายทอดครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับสายน้ำเย็นฉ่ำชื่นที่ประโลมโอบรัดร้อยรึงให้อาบอิ่มจากภายนอกสู่ภายใน ความรู้สึกมากล้นสานรับกับท่วงทำนองความหวานที่จรุงกรุ่นหอม ทั่วทุกอณูของห้องนอนกว้างฉายชัดภาพแห่งกายที่จับจูงเรือนกายซึ่งกันและกัน  ผ่านม่านบางสีเทาทึบมัวหม่น สู่ห้วงแห่งความงดงามสอดประสานเสียงแห่งใจ คำรักยังกึกก้องบอกเล่าความสุขอันล้นเอ่อทุกวินาทีที่หมุนอย่างเชื่องช้า....

อยากจะขอวินาทีที่หมุนผ่านให้ย้อนกลับ ไม่ต้องผ่านพบกับวันรุ่งขึ้นที่อรุณรุ่งส่องสว่างเข้ามารุกเร้า ‘คำรัก’ ให้ต้องสิ้นลง เพียงเพราะยังอยากอิ่มเอมอาบไล้เรือนกายซึ่งกันและกัน ให้สมกับความห่างหายที่ขวางกั้นมาเนิ่นนาน

แดดอ่อนยามเช้าลอดผ่านรอยแยกของม่านหนาสีฟ้าอ่อน  เข้ามาต้องร่างบางที่ซุกกายกับผ้าห่มผืนหนา แดดอ่อนคงทำให้สีฟ้ารำคาญเพียงน้อยนิด หากเมื่อเทียบกับมืออุ่นที่ป้วนเปี้ยนอยู่เหนือผิวกายนวลเนียนอย่างก่อกวน รู้สึกดีอยู่หรอกนะ เพราะมันไม่แตกต่างอะไรจากเหตุการณ์หวานๆ ชวนให้หลงใหลไม่เคยเบื่อ ที่สิ้นสุดเอาตอนฟ้าใกล้จะเปลี่ยนสี แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่สีฟ้าต้องการนอนเพียงอย่างเดียวจริงๆ เหตุการณ์อื่นอันใดที่เจ้าของมืออุ่นต้องการและเรียกร้องอย่างอ่อนหวาน แล้วให้เขาเป็นฝ่ายตอบรับพร้อมให้ความร่วมมืออีกครั้ง เหตุการณ์นั้นสีฟ้ายังไม่ต้องการในตอนนี้

สีฟ้าเหนื่อย แม้ความเหนื่อยมันจะเกิดจากความหวานชวนหลงใหลไปเสียทุกครั้งก็ตาม

สีฟ้าอยากนอน นอนซึ่งหมายความว่านอนเพียงอย่างเดียว โดยไม่ถูกรบเร้าด้วยสองมืออุ่นที่ซุกซนเหลือร้าย

สีฟ้าอยากหลับ หลับที่ไม่มีอะไรมากระตุ้นให้ต้องสะดุ้งทุกครั้ง ตื่นซะแทบจะทุกนาทีที่เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างแท้จริง

“ไม่เอาติน ไม่เล่นแล้ว ลมอยากนอน ”

แล้วร่างบางก็ขยับไปจนสุดขอบเตียง พร้อมผ้าห่มผืนหนาที่ห่อหุ้มกายแทนเสื้อตัวบางที่เคยสวมใส่ แต่ไม่วายเจ้าของมืออุ่นก็ตามตอแยไม่เลิก ตามประชิดติดตัวอีกจนได้

จะไม่ให้ตามติดประชิดได้ไงล่ะ เพราะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งภาคีก็คร้านจะนับ ที่สีฟ้าเอ่ยประโยคที่ว่า.......

‘ไม่เอาแล้ว อย่าเล่นสิ ลมเหนื่อย ลมอยากนอน’

แต่พอโดนแตะต้องเพียงนิด โลมเล้าเพียงหน่อย เจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือทุกครั้ง ไม่เห็นจะแสดงทีท่าว่าเหนื่อย ทำให้เขาได้ใจและกอบโกยให้สมกับที่ห่างหายไปนาน
เรือนร่างนี้ก็ยังคงหวานไม่เคยเปลี่ยนแปลง

“ไม่เอาจริงๆ  ลมเหนื่อย เข้าใจไหม”

คนเหนื่อยบอกเสียงงัวเงีย เปลือกตายังปิดสนิทด้วยความหนัก ขยับหนีไปอีกนิด แล้วก็พบว่ามันขยับไม่ได้อีกแล้ว เลยเลือกจะพลิกตัวกลับเข้าสู่อ้อมกอดที่คุ้นเคย

ปากสวยได้รูปน่าสัมผัสวางแนบชิดกับอกกว้าง แล้วหยอกเย้าแผ่วเบาให้เจ้าของมันชื่นใจ ก่อนเอ่ยเสียงหวานกับแผ่นอกกว้างอีกครั้ง

“แค่นี้ไปก่อนนะ ลมเหนื่อย ลมอยากนอน ถ้ายังไม่เลิกกวน ลมก็จะให้ความร่วมมือ แต่จะเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ได้ขู่ แต่ทำจริง”

ถึงน้ำเสียงจะหวานชวนให้ไม่นึกกลัว แต่ต่อมความกลัวของภาคีก็ทำงานในทันที ทุกการกระทำที่จะหลอกล่อให้คนเสียงหวานหลงกล เป็นอันว่าต้องพับเก็บอย่างฉับพลัน
 ทิ้งไว้เพียงอ้อมกอดที่กระชับร่างนั้นไว้เพียงอย่างเดียว

“ครับ”

คราวนี้ได้พักจริงๆ แล้วล่ะ สีฟ้ายิ้มให้กับแผ่นอกกว้าง ยิ้มให้กับเรือนกายของตัวเองที่ไม่ยอมเผลอไผลไปกับสัมผัสรุกเร้าหวานๆ ของภาคีเช่นทุกครั้งที่ผ่านพ้นไป

แต่เพียงแค่อุ้งมือใหญ่เลิกที่จะก่อนกวน แล้วสีฟ้ากำลังจะดำดิ่งสู่ห้วงนิทราอย่างแท้จริง สิ่งที่มาก่อกวนแทนที่อุ้งมือใหญ่กลับเป็นเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์เครื่องเล็กของตัวเอง

“ติน...ติน โทรศัพท์ลมดัง ช่วยหยิบให้หน่อย ตรงโต๊ะกระจกน่ะ ช่วยหยิบให้หน่อยนะ ลมไม่ไหวแล้ว”

ภาคีลุกขึ้นนั่ง ชายหนุ่มมองใบหน้าที่หลับตาพริ้มแต่ปากขยับพูด เสียงนั้นเบามาก บ่งบอกว่าเจ้าตัวเหนื่อยอย่างที่พูดจริงๆ

เขารังแกสีฟ้าเกินไปหรือเปล่า ไม่ได้ถนอมอย่างที่เจ้าตัวได้บอกไว้ในตอนแรกเลย

‘ไม่ได้ห้ามแล้วนี่ แต่ถนอมหน่อยล่ะกัน’

ภาคีอดไม่ได้ที่จะก่อกวนใบหน้าหวานด้วยปลายจมูกที่จิ้มไปแรงๆ ให้สมกับความน่ารักน่าทะนุถนอม  ไม่เคยเบื่อที่จะสัมผัสมันเลยสักวินาที

แล้วนี่เขาได้ถนอมร่างบางอย่างที่รับปากไปหรือยังนะ ?

คำตอบคงเป็นคำว่า ‘ยัง’

“ติน โทรศัพท์ของลมดัง หยิบให้หน่อย เร็วๆ สิ มันดัง มันดังไง ตรงโต๊ะกระจกน่ะ”

ภาคีก้มหน้ามองคนพูดใกล้ๆ เขาอยากรู้สีฟ้าละเมอหรือรู้ตัวกันแน่ แต่ก็ยังแยกไม่ออกว่าละเมอหรือรู้ตัว จะว่าละเมอก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเสียงโทรศัพท์มันดังจริง มันดังมาจากโต๊ะกระจกที่วางชิดผนังใกล้ๆ กับประตูห้องน้ำ แต่จะว่ารู้ตัวก็ไม่น่าจะใช่ ดูสิ ตาคู่เรียวถูกเปลือกตาสวยทาบปิดสนิท เนื้อตัวก็ไม่มีขยับเขยื้อนเปลี่ยนทิศไปไหน นอนอยู่ท่าไหนก็ท่านั้นไม่เปลี่ยน

ภาคียังคงแยกไม่ออกจริงๆ ว่าสีฟ้าละเมอหรือรู้ตัว แต่ก็พาตัวเองมาหยิบโทรศัพท์ตามคำสั่ง เสียงเรียกเข้าจากปลายสายเงียบไปทันทีที่เดินมาถึง

“ใครโทรมาเหรอ”

“เดี๋ยวตินดูให้” ชายหนุ่มกดปุ่มเล็กๆ เพียงนิดเดียว ชื่อของเจ้าของเด่นหราอยู่ตรงหน้าจอสี่เหลี่ยม

ภาคีเหนื่อยแทนคนถามจริงๆ ทั้งที่ไม่มีแรงจะพูดแล้วแท้ๆ ยังขยันถามอยู่ได้ห่วงจริงๆเลยนะเรื่องไอ้คนโทรเข้ามาเนี่ย
นึกหงุดหงิดมายิ่งขึ้นเมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ

‘พี่หมอ’

เห็นชื่อแล้วอยากปาโทรศัพท์ทิ้ง พาลทำให้นึกถึงเรื่องเมื่อคืน หมอพิษณุกับคนที่นอนอยู่บนเตียงตอนนี้ ท่าทางดูสนิทสนมกันมาก สามเดือนที่เขาห่างจากสีฟ้าไป ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แล้วความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ไปถึงไหนกันแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหึงหวงคนที่เคยกกกอดไว้ตลอดคืน

ภาคีเดินกลับมาที่เตียง นั่งใกล้เรือนร่างเปลือยเปล่าใต้ผ้าห่มสีเข้ม ก่อนจะระดมจูบนับครั้งไม่ถ้วนที่ซีกแก้มนวล ทุกครั้งที่จรดริมฝีปากหยักลงไป ใจมันก็สั่นไหวว่า หมอพิษณุเคยทำแบบนี้กับแก้มนี้หรือเปล่า?

เคยหรือไม่?

ไม่ใช่เพียงแก้มนวลนิ่ม หากแต่ทั้งเรือนกายน่าหลงใหลนี้ของสีฟ้า

หมอพิษณุเคยแตะต้องหรือเปล่า?

หรือว่า...

สีฟ้าเคยยินยอมให้กกกอดเหมือนที่ยอมให้เขาทำหรือไม่?

“ไม่เอาติน ลมจะนอน อย่าแกล้งสิ อย่าแกล้ง” มือเล็กปัดป้อง ใบหน้าหวานที่ถูกรุกรานซุกเข้ากับหมอนใบใหญ่หลบหนีปากหยักที่เอาแต่ได้ ไม่รู้จักพอ หากแล้วต้องหยุดและหันกลับมามองคนที่พยายามรุกรานเขา ซึ่งตอนนี้กลับทำหน้าเศร้ากับคำถามที่ทำเอาเขาอึ้ง

“คุณหมอเคยทำแบบนี้กับคุณลมไหม?” คำถามที่มาพร้อมกับปากหยักที่แนบเข้ากับแก้มนวล ก่อนคนถามจะเงยหน้าขึ้นมองคนถูกถาม ตาเรียวมองตอบคนถามราวกับไม่เข้าใจในวินาทีแรก ก่อนจะเปลี่ยนไปในวินาทีต่อมา

“เคยไหม?”

“.....................”

สีฟ้าส่ายหน้าแทนคำตอบ เขารู้ว่าผู้ชายที่นั่งทำหน้าเศร้าตรงหน้าเขากำลังคิดอะไรอยู่ สรรพนามที่เรียกเขาก็เปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่ “ลม” เฉยๆ แต่กลับมีคำว่า “คุณ” เพิ่มเข้ามา มันไม่ใช่ความ”ห่างเหิน” หากเขารู้สึกว่ามันเหมือนความ “ห่างไกล”

“แล้วแบบนี้ละครับ คุณลมเคยปล่อยให้คุณหมอทำหรือเปล่า?” ภาคีถามอีกครั้ง มือใหญ่ดึงผ้าห่มทิ้งไปอีกทาง เผยให้เห็นร่างกายเนียนขาวหากแต่เต็มไปด้วยริ้วรอยแดงทั่วผิวเนื้อ ปากหยักกดแนบกับเรือนกายเปลือยเปล่า แล้วลากไล้ปลายลิ้นไปทั่วเรือนร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนที่ถูกถาม

การกระทำแสดงเนื้อคำถามที่อยากรู้....

ครั้งนี้ไม่มีคำตอบที่ภาคีต้องการ เมื่อสีฟ้าหันหน้าหนีไปซุกกับหมอนใบเดิม ร่างบางสั่นเทาเพราะกลั้นก้อนสะอื้นกับคำถาม ภาคีถามเหมือนไม่รู้จักเขา แล้วคำถามนั้นก็เหมือนการดูถูกเขาดีๆ นั่นเอง

ภาคีมองว่าเขาง่ายขนาดนั้นใช่ไหม?

คิดว่าเขามีอะไรกับใครก็ได้งั้นเหรอ?

แล้วการที่เขายอมให้เรื่องเมื่อคืนเกิดขึ้น เป็นเพราะเขาใจง่ายงั้นสิ?

“คุณลม” มือใหญ่วางบนแผ่นหลังเรียบแต่เต็มไปด้วยรอยแดงที่เขาเป็นคนบรรจงสร้างมันขึ้นมาตลอดช่วงเวลาที่แสนหวานั้น เขาแตะมันแผ่วเบา ราวกับกลัวว่าร่างบางจะแตกหัก หากก็เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เมื่อสัมผัสว่าเรือนร่างนี้สั่นเทาเพราะแรงสะอื้น

ร้องไห้เพราะสิ่งที่ถูกถาม

“อึก...อย่ามายุ่งกับฉัน เห็นฉันง่ายนักใช่ไหม ใช่สิ ฉันมันคนใจง่าย” ถ้อยคำตัดพ้อที่มาพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ ภาคีรั้งร่างบางที่ฝืนต่อต้านเขาเข้ามาสู่อ้อมกอด ฝ่ามือใหญ่ลูบแผ่นหลังขาวแผ่วเบาราวกับจะปลอบประโลม โยกร่างที่กอดนั้นไปมา ก่อนจะดึงรั้งให้นอนลงพร้อมกัน

“ตินขอโทษ ที่ถามเพราะหึง ไม่ได้ว่าลมใจง่าย ลมน่ารัก ตินกลัวคุณหมอจะคิดเหมือนติน แล้วก็อยากทำอะไรๆ ลมเหมือนที่ตินอยากทำ คุณหมอนั้นก็ตัวใหญ่ เกิดมันใช้กำลังกับลมล่ะ ตินกลัวรู้ไหม กลัวว่าลมจะไปเป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่ติน  ขอโทษนะครับ  ให้อภัยตินนะครับ คนดีของติน” ว่าแล้วปากหยักก็ประทับจูบที่หน้าผากมนเบาๆ ตาคมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสวยรื้นน้ำตา

“.......................” สีฟ้าเงียบ หากก็ขยับกายเข้าหาอกแกร่ง มันเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับภาคี

“ให้อภัยตินแล้วนะครับ”

“อย่าถามอย่างนี้อีก ไม่ว่าลมจะเดินกับใคร หรือลมจะอยู่กับใคร อย่าถาม อย่าถามว่าลมปล่อยให้ใครทำกับลมเหมือนที่ตินทำ  ลมไม่เคย  ไม่เคยให้ใครเหมือนที่ให้ติน”  เสียงหวานบอกความจริง ใบหน้าชื้นน้ำตาขึ้นสีแดงหวาน  ไม่ใช่เพราะแรงสะอื้นหากเป็นเพราะเขินอายกับคำพูดของตัวเอง

“ไม่แล้วครับ ตินจะไม่ถาม จะไม่ถามอีกแล้วนะครับ” ชายหนุ่มกระชับร่างนั้นให้แน่นขึ้น ถ้อยคำที่ได้ฟังทำให้ยิ้มกว้าง ท่าทีเขินอายของร่างบางที่ซุกซบกับอกเขาก็ทำให้เขาเต็มไปด้วยความสุข ภาคีเชื่อสิ่งที่คนในอ้อมกอดพูด เชื่อสุดหัวใจ เชื่อไปจนวันตาย ว่าร่างกายนี้เป็นเพียงของเขาคนเดียว สีฟ้าไม่เคยให้มันกับใคร ไม่มีใครได้ครอบครองร่างนี้ นอกจากเขา


“ปล่อยก่อนติน  ลมไม่ไหวแล้วนะ” ที่บอกอย่างนั้นก็เพราะต้นขาของสีฟ้า กำลังมีอะไรแข็งๆ ทิ่มให้เจ็บ มือที่เคยโอบรอบตัวเขาไว้ก็เริ่มอยู่ไม่สุข จนต้องดันแผ่นอกกว้างให้ถอยออกไป โชคดีที่ภาคีพอจะพูดรู้เรื่อง แต่คิ้วเข้มนั้นก็ขมวดยุ่งเหมือนคนไม่พอใจ

“ไม่ได้หรือครับ”

“ไม่ได้....เมื่อกี้ใครโทรมา” สีฟ้ารีบเปลี่ยนเรื่องคุย กลัวตัวเองจะเสียเปรียบ ถ้ายังจะเผลอต่อความกับภาคี

“คุณหมอ”

“สงสัยโทรมาเตือนเรื่องไปเที่ยวทะเล” สีฟ้าแค่พูดเบาๆ กับตัวเอง หากคนที่อยู่ด้วยกันก็ยังได้ยินชัดเจน

“ไม่ไปได้ไหม?” คำถามที่เต็มไปด้วยการร้องขอ  ภาคีนึกไปถึงคำพูดเมื่อคืนของหมอพิษณุ

‘แล้วพรุ่งนี้จะมารับไปทะเล ห้ามเบี้ยวพี่หมอนะครับ สัญญากันแล้ว’

เขาไว้ใจคนของเขา หากเขาไม่ไว้ใจหมอพิษณุ  สีฟ้าน่ารักน้อยที่ไหน แล้วเมื่อคืนสายตาของหมอพิษณุที่มองคนของเขา มันเต็มด้วยความรักความหลง  เขาไม่อยากให้หมอพิษณุใกล้สีฟ้ามากกว่านี้ กลัวว่าฝ่ายนั้นจะรักและหลงคนของเขามากไปกว่านี้


“ไม่ได้หรอก ต้องไป สัญญากับพี่หมอแล้ว”

“สัญญาได้ ก็ต้องยกเลิกได้สิครับ นะครับ ไม่ไปนะครับ” ภาคีลุกขึ้นนั่ง ดึงร่างบางที่อยากปิดเปลือกตาแทบตายให้ลุกตามขึ้นมาด้วย มือใหญ่รั้งแผ่นหลังเนียนอิงพักไว้กับอกแกร่งของตัวเอง ท่อนแขนแข็งแรงโอบรอบเอวบาง นิ้วยาวจะวนเวียนเล่นกับผิวเนื้อตรงหน้าท้องเรียบ ก่อนที่จะถูกมือเล็กหยิกเนื้อตรงหลังมือให้หยุด ถึงยอมหยุด

“ถ้ายกเลิกสัญญาของพี่หมอได้ ก็ต้องยกเลิกสัญญาของตินได้เหมือนกัน ใช่ไหม?” สีฟ้าหันหน้าไปถามคนที่ซ้อนอยู่ข้างหลัง ขณะเดียวกันก็จับมือใหญ่ให้เลิกซุกชน เพราะมันไม่ได้หยุดอยู่แค่หน้าท้องของเขา แต่มันกำลังจะเลื่อนลงต่ำ

“ตามใจลมละกัน” พอโดนย้อนจากเจ้าของเรื่อง คนที่เหมือนจะควบคุมความน้อยใจไม่เคยได้สักครั้งที่อยู่ต่อหน้าคนร่างบาง ก็ดันร่างสีฟ้าให้ออกห่าง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหันหลังให้ทันที แต่ไม่ลืมที่จะเอื้อมมือหาผ้าห่มผืนใหญ่มาคลุมตัวเอาไว้  


สีฟ้าถอนหายใจยาว เห็นภาพเด็กน้อยตัวใหญ่นอนคลุมโปงแล้วให้เหนื่อยใจ เมื่อคืนทำเขาเหนื่อยกาย พอเช้ามาก็ทำเขาเหนื่อยใจ ภาคีนะภาคี ทำไมถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้ขนาดนี้ มันจะทันไหมเนี่ย หากเขาจะขอภาคี ชายหนุ่มมาดนิ่ง เงียบขรึม คนพูดน้อย กลับคืนมา ชายหนุ่มคนนั้นน่ะคงไม่ทำให้เขาต้องเหนื่อยทั้งกายและใจอย่างนี้ใช่ไหม...

“ลมสัญญากับพี่หมอแล้ว ไม่ไปไม่ได้จริงๆ ” มือเรียวออกแรงดึงผ้าห่มเนื้อนุ่มออกจากเด็กน้อยตัวโต แต่อีกฝ่ายก็ออกแรงขืนไว้มั่น

“.......................” คนในโปงผ้ายังเงียบ

........Rrrrrrrr..........

เสียงโทรศัพท์ของสีฟ้าดังขึ้นอีกครั้ง มือเล็กเอื้อมมือหยิบขึ้นมาดู หน้าจอสี่เหลี่ยมโชว์ชื่อของหมอพิษณุ เขามองหน้าจอสี่เหลี่ยมสลับกับร่างใหญ่ใต้ผ้าห่ม สีฟ้ากำลังใช้ความคิด ความคิดที่ผ่านทั้งสมองและหัวใจ

ไม่อยากผิดสัญญากับหมอพิษณุ แต่ก็ไม่อยากขัดใจภาคี

ถ้าต้องให้เลือก เขาก็พร้อมจะเลือก

“ใครโทรมา?” คำถามนั้นดังลอดมา

“พี่หมอ” สีฟ้าบอกคนอยากรู้ แต่ยังไม่กดรับ จนเสียงเรียกนั้นหยุดไป

“ทำไมไม่รับละครับ เดี๋ยวพี่หมอจะเสียใจแย่” คำพูดประชดดังลอดออกมาอีกครั้ง แล้วภาคีก็รู้ถึงแรงยวบของพื้นเตียงนุ่มด้านหลังของเขา ก่อนที่ท่อนแขนเรียวจะโอบเขาไว้ทั้งตัว แนบใบหน้าไว้ตรงแผ่นหลังของเขาผ่านเนื้อผ้าหนาที่ใช้คลุมทั้งหัวและตัวของตัวเอง  


“อยากรับสายแทนลมไหมล่ะ ถ้าพี่หมอโทรมาอีกครั้ง” ถามออกไปแล้ว คนที่เขากอดอยู่ก็พาตัวเองออกจากผ้าห่มทันที

“ตินรับได้แน่นะ?”  ว่าแล้วก็ดึงเอาโทรศัพท์ในมือสีฟ้ามาถือไว้ ตั้งตารอเวลาที่จะมีสายเรียกเข้าเป็นครั้งที่สาม

สีฟ้ายิ้ม ปล่อยให้อีกฝ่ายคว้าโทรศัพท์ไปได้อย่างง่ายดาย ก็ยังไม่อยากเหนื่อยใจในตอนเช้าที่อากาศมันดีเหลือเกิน และความสุขยังอบอวลแทรกอยู่ทุกอณูของห้องกว้างนี่นา

“ลมให้สิทธิ์ตินแล้วตั้งแต่เมื่อคืน จำไม่ได้หรือไง” เสียงหวานทำเอาเช้าวันใหม่ของภาคีสดใสยิ่งขึ้น

“แล้วจะให้ตินบอกคุณหมอว่ายังไง?” เขาถาม

“บอกว่าลมไม่สบายก็ได้ ” น่าจะเป็นเหตุผลที่ดี ดีกว่าปฏิเสธไปตรงๆ แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่า หมอพิษณุจะรู้สึกยังไง เมื่อคนรับโทรศัพท์ไม่ใช่เขา แต่เป็นใครคนอื่น



.......Rrrrrrrrrrrrrr.........

“สวัสดีตอนหกโมงเช้าครับคุณหมอ” ภาคีไม่อยากให้ปลายสายรอนานเกินไป เขารีบกดรับและกรอกเสียงทุ้มของตัวเองลงไปอย่างคนที่มีชัยเหนือกว่าทันที เหลือบมองเจ้าของเครื่องที่ต้องนี้แย่งผ้าห่มบนตัวเขาไปแล้ว แล้วก็ล้มตัวลงนอนเอาหน้าซุกกับหมอนใบเดิมอีกครั้ง

สีฟ้าง่วงและเหนื่อย เขาอยากนอนหลับให้สนิท แต่ความหวังของเขากลับทลายลง เมื่อถูกมือใหญ่ดึงตัวให้ลุกขึ้นให้อยู่ในทางกึ่งนั่งกึ่งนอน แผ่นหลังเปลือยของเขาพิงพักไว้กับอกเปล่า ผิวเนื้อที่สัมผัสสร้างความอบอุ่นและนุ่มสบายกว่าเตียงนั้นเป็นไหนๆ แต่มันติดอยู่ก็ตรงที่ว่าเขาจะนอนหลับมันได้อย่างไรล่ะ ในเมื่อภาคีวางใบหน้าคมเข้มบนไหล่ของเขา ปลายจมูกโด่งก็วนเวียนอยู่ตรงซอกคอก่อกวนให้ปั่นป่วน

ถึงแม้ว่าทั้งจมูกและปากจะวนเวียนอยู่ตรงซอกคอนุ่มกรุ่นด้วยความหอมน่าหลงใหล จรดร่องรอยความเป็นเจ้าของซ้ำร่องรอยเดิมเมื่อยามค่ำคืน และชวนให้ขยายรอยสัมผัสไปทั่วเรือนกายยิ่งนัก หากแต่โทรศัพท์เครื่องเล็กก็ยังแนบชิดติดอยู่กับหู เพื่อฟังเสียงของคนปลายสายที่ตอบกลับมา

“เอ่อ...คุณ..คุณเป็นใครครับ แล้ว...แล้วน้องลมล่ะครับ ทำไมน้องลมไม่มารับสายครับ หรือว่าน้องลมติดประชุม” เสียงของคนปลายออกจะแปลกใจอยู่มาก
หมอพิษณุคิดว่าจะได้ยินเสียงที่คุ้นหู แต่กลับเป็นเสียงทุ้มของใครที่ไหนที่เขาไม่คุ้น

ภาคีถอนปลายจมูกและปากหยักออกจากซอกคอหวาน เพื่อตอบคำถามของอีกฝ่าย

“ลมของผมไม่สบายครับ”

นึกกลัวว่าจะโดน ‘ลมของผม’ เล่นงานอยู่เหมือนกัน ทว่า ‘ลมของผม’ กลับทำสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ชายหนุ่มกลัว นั่นคือสีฟ้าหันหน้ามาหาเขา วางมือนิ่มบนต้นคอหนา ปลายจมูกแหลมสวยจรดซ้ำบนซอกคอขาว ปากเรียวสีสวยพรั่งพรมรอยจูบนับครั้งไม่ถ้วน ถ้าปลายจมูกจรดสูดเอาความหอมของต้นคอหนาอย่างไม่เคยพอ ปากสวยก็ดึงดูดฝากรอยการครอบครองอย่างไม่หยุดหย่อน ในเมื่อเจ้าของต้นคอหนายังทำกับเขาได้ ทำไมสีฟ้าจะทำบ้างไม่ได้ล่ะ

สีฟ้ากำลังปฏิบัติการเอาคืนคนที่ก่อกวนเขาเมื่อครู่ หากมันคือการเอาคืนที่สุดแสนจะหวานหวาม คนถูกเอาคืนก็พร้อมจะยิ้มรับและน้อมรับด้วยความเต็มใจ

สีฟ้ายั่วเสียจนภาคีอยากจะโยนโทรศัพท์ทิ้งไปให้ไกล แล้วจับร่างนั้นให้ร้องครวญครางใต้ร่างของเขา  แต่ก็นึกสงสารคนปลายสายที่จะต้องทนฟังเสียงอะไรๆ ที่อาจทำให้ประเทศขาดหมอสัตว์ไปหนึ่งคน เลยปล่อยให้ปลายจมูกแหลมกับปากสวยเอาคืนเขาต่อไปเรื่อยๆ

“ลมของผม...” คนปลายสายที่ยังได้รับความปราณีอยู่ ทวนคำพูดนั้นอีกครั้ง

“ครับ ลมของผมไม่สบายเพราะโหมงานหนักมาทั้งคืน แล้วต้องการการพักอย่างมาก ไม่สามารถไปที่ไหนไกลๆ ได้นอกจากเตียงนอน สงสัยคุณหมอคงต้องไปทะเลคนเดียวแล้วล่ะครับ” ภาคีบอกเสียงระรื่น ไม่นำพาต่อมือเรียวที่ฟาดแรงๆ ที่ต้นแขนเขาไปหนึ่งที แต่เขาไม่สนใจ เจ็บนิดเดียว แต่ความหวานที่เจ้าของมือเรียวมอบให้ก็ยังคงอยู่ แถมยังลามไล้ลงมาบนอกแกร่งของเขาแทนซอกคอหนาไปแล้ว

ภาคีนึกออกเลยว่าคนปลายสายจะทำหน้ายังไง ยามที่เอ่ยถามรัวเร็วกลับมาว่า

“คุณเป็นใคร แล้วน้องลมเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นกับน้องลม บอกผมมานะคุณ แล้วตอนนี้น้องลมอยู่ไหน ขอผมคุยกับน้องลมหน่อย ”

“ตินไงครับคุณหมอ ลมมาอยู่กับผมได้ก็เพราะลมเป็นของผมไงครับ แล้วผมทำอะไรกับลมของผมจนไม่มีแรง อันนี้ขอไม่บอกนะครับ เพราะมันเป็นเรื่องของเราสองคน แค่นี้นะครับคุณหมอ”

“ดะ...เดี๋ยว”

ภาคีไม่สนเสียงของคนปลายสาย พูดจบเขาก็กดจบการสนทนาทันที

“ร้ายนักนะ” ปากหวานต่อว่าแต่ไม่ได้จริงจังนัก เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว คงต้องเลยตามเลย ภาคีอยากพูดอะไร แสดงตัวตนในฐานะไหน เขาก็ไม่อยากห้าม

“ยังร้ายไม่เท่าลมหรอกครับ แล้วก็อย่าโทษตินล่ะ ถ้าไปประชุมตอนเช้ากับพี่ลินไม่ทัน เพราะลมยั่วตินเองนะ” เจ้าตัวบอกขณะที่พลิกร่างบางให้อยู่ใต้ร่างกำยำของเขา โดยที่ร่างนั้นไม่ได้ต่อต้าน กลับดึงเขาเข้าไปแลกจูบด้วยอย่างอ่อนหวาน อ้อยอิ่งอยู่นาน ก่อนจะถอนปากออกมา แล้วพูดว่า

“ลมพูดไม่หมดน่ะ ที่บอกว่ามีประชุมแต่เช้า มันเช้าเกือบเที่ยง”

สิ้นคำบอกที่เจ้าตัวบอกไปไม่หมดเมื่อยามค่ำคืนที่ผ่านมา แขนเรียวตวัดเกาะเกี่ยวแผ่นหลังกว้างให้เข้ามาแนบใกล้ชิดอุ่นไอความหวานที่ไม่มีอะไรขวางกั้น ไม่แตกต่างจากเจ้าของแผ่นหลังกว้างที่สนองตอบด้วยบทบาทความวาบหวามที่หวานกรุ่น ที่จรุงกลิ่นหอมของความรักให้อัดแน่นยิ่งขึ้นในห้องกว้างที่อดีตเคยอ้างว้าง เดียวดาย มืดหม่นด้วยความเหงาที่ไม่มีจุดสิ้นสุด หากแต่วินาทีแห่งค่ำคืนที่ผ่านพ้น มันได้ลบความอ้างว้าง เดียวดายและความมืดหมดให้สลายสิ้นไป แล้วเติมเต็มด้วยคำรักที่ร้อยรัดสองกายให้อิ่มเอม............

...
โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 04-04-2011 13:16:07
^
^
จิ้มก่อนอ่าน
********edit********
สีฟ้าคงต้องเปลี่ยนชื่อเป็นฟ้าเหลืองแล้วล่ะ555
อยากดูนังส์แพทรับกรรมเร็วๆ จัง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 04-04-2011 13:36:24
อู๊ยยยยย หวานจริง อ่านแล้วยิ้มแก้มแทบแตก
ตินงอนเป็นเด็กน้อยเลยอ่ะ
ส่วนลมน่ารักที่สุดใน 3 โลก คุณหมอตัดใจเหอะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 04-04-2011 13:49:22
หวานเนอะ อิจฉาอ่ะแต่สงสารคุณหมอ  ส่งคุณหมอมาทางนี้เลยคร่าจะดามใจให้เอง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 04-04-2011 13:53:45
เต็มอิ่มกันไปเลย


เห้อ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 04-04-2011 14:02:30
ขอบคุณคนโพสต์คนแต่ง :L2:
หวานจังเลย หวานต่อเนื่อง ชอบนะ
ตอนนี้คุณภาคีปากเก่งได้ใจคนอ่านอย่างข้าพเจ้าจริงๆ"ลมของผม"สุดยอด o13
แต่ก็อดสงสารพี่หมอไม่ได้ เอาเป็นว่าจัดการไปแล้วหนึ่ง
รอว่าใครจะเป็นรายต่อไป o18
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 04-04-2011 14:23:06
น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงเกินขีดจำกัดเลยอ่ะ
อ่านตอนนี้แล้วยิ้มไม่หุบเลย
น่ารักที่สุด^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Ugly Ducky ที่ 04-04-2011 14:23:52
ลม ของ ผม ... อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เค้ามาตามคำเรียกของแล้วนะ ..
ขอบคุณคนลง และ คนโพสค่ะ ขอตอนต่อไปเลย อย่าให้รอนานนนนน ...  o13
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 04-04-2011 14:47:02
คู่นี้พอหวานทีไร กลัวโศกตามมาจัง 55555+
ชอบตอนนี้จัง ลมยั่ว เสมอตนเสมอปลายจริง ๆ  :call:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 04-04-2011 15:47:44
โอ้ยยยย นี่มันทั้งคืนแล้วนะ ยังต่อตอนเช้าอีก ฮ่าๆ
เดี๋ยวลมก็ช้ำหมอหรอกติน
แล้วนี่หวานกันซะขนาดนี้ ก็ขอให้หวานกันต่อไปนะ
อย่ามาม่าเลย ไม่อยากกินเท่าไหร่ = ='
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 04-04-2011 15:57:54
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kslave ที่ 04-04-2011 16:29:19
ต๊ายยย ตอนนี้ปากเก่งนะค่ะคุณติน มีพูด ลมของผม
เห็นแต่ก่อนปากหนักจะตายแล้วว

หวานมากกค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 04-04-2011 16:35:39
ตะโกนออกไปว่า "ดิน ค่อดอึดเลยอ่ะ"
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 04-04-2011 16:42:18
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 04-04-2011 16:54:41
อร๊ายยย ตอนนี้ไม่ไหว อิจฉาาา
ลมของผม  :o8:
หวังว่าจะหวานแบบนี้ต่อไปน้าา

สุดท้าย คุณหมอคงช๊อคไปเลย
จะมองหน้ากันติดไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 04-04-2011 19:01:33
สัญญาดีมากกกกกก
เริ่มหวานกันเบาๆๆ
คึคึน่ารักเนอะ ทั้งขี้งอล ขี้อ้อน ขี้หึงกันไป
แต่คงจะต้องฝ่าฟันกับอีกหลายนางเลยสินะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 04-04-2011 19:52:34
โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ลมของผม

คุณหมอช๊อคไปแล้วมั้ง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 04-04-2011 20:05:53
สงสารหมอจัง
แต่ก็ไม่ให้ลมอยู่ดี ลมเป็นของตินเท่านั้น
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-04-2011 20:09:03
เรื่องครบทุกรสชาติ


รัก  คิดถึง

หึง  งอน  ง้อ   แล้วก็ล่อกันยันเช้า :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 04-04-2011 21:28:30
 :haun4: :haun4: :haun4:

ขอให้ดีกันอย่างนี้ตลอดไปด้วยเถอะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 04-04-2011 21:39:38
ตอนนี้หวานมากกกกกกกกกก
ตินเดี๋ยวนี้มีงอน น้อยใจ ให้ลมง้อด้วย
หวานกันจนเราอิจฉาเลย
สงสารหมอจังแค่นี้ยังไม่เข้าใจอีก
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 04-04-2011 21:48:46
เค้าขอแบบนี้อีก หวานมาก ชอบบบบบบบมากเช่นกัน
สงสารพี่หมอนะ หาคนดามอกให้หน่อยจิ >.<
สุดท้ายลมก็ไปไม่รอดแถมยั่วซะ ตินกระเจิง 555+
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 04-04-2011 21:53:14
อรั้ยยยย จมทะเลน้ำตาล >.<
บวกให้ค๊าาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 04-04-2011 21:54:33
 :jul1: :pighaun: :haun4: :m25:น่ารักอ่า ลมน่ารักขึ้นเป็นกอง แล้วตินอ่าเจ้าเล่นักนะ อร๊ายยยยยยชอบบบบบ :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 04-04-2011 22:33:23
แวะมาปัดมด o11

:เหอะ1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: akera ที่ 04-04-2011 23:28:41
เย้ๆ มาต่อแล้ว :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 05-04-2011 00:12:03
ใครก้อได้ ช่วยพาไปโรงพยาบาลทีไม่ไหวแล้ว เลือดท่วมตัว นัำตาลเต็มพิกัด ธาตุไฟมันขึ้นตา ช่วยด้วย ช่วยด้วย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 05-04-2011 02:31:52
"โปรดติดตามตอนต่อไป" <--------มาเร็วๆนะ


 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 05-04-2011 02:54:07
^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 05-04-2011 09:00:55
แอร๊ยยยยยย หวานนนนนน :o8:
มาต่อเร็วๆนะค้าาา :impress2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 05-04-2011 09:13:10
ขอให้ทั้งคู่เดินผ่านปัญหาทุกอย่างไปได้ด้วยดีนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 05-04-2011 09:29:23
พี่หมอคงไม่ร้ายหรอกนะ.....ใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 05-04-2011 09:50:05
โอ๊ะ..... :-[ หน้ารักเกินไปแล้ว

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 05-04-2011 18:03:01
 o7

>////<

v
v
v
v

มาจิ้มเค้าทำไม   :m20:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 05-04-2011 19:45:35
o7

>////<


^
^
 :z13:
จิ้มทะลุถึงลำใส้ใหญ่
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 05-04-2011 20:10:39
น้ำตาลในเลือดขึ้นสูงเมื่ออ่านตอนนี้จบ หวานมากกกกกกกกกกกกกกกกกก หวานสุดๆ เลย คู่นี้เวลาหวานแล้วน่ารักมากกก หวังว่าคงไม่มีดราม่านะ อยากอ่านหวานๆ แบบนี้ อ่านแล้วยิ้มไปทั้งตอนเลย น่ารักสุดๆ รออ่านต่อไปจ้า ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: FiZZ ที่ 06-04-2011 01:24:49
เต็มปากเต็มคำมาก "ลมของผม"  o18
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 06-04-2011 04:15:20
เพิ่งตามอ่านแบบรวดเดียว สนุกมากค่ะ เนื้อเรื่องน่ารักมาก กว่าจะดีกันได้ลุ้นแทบตาย หวังว่าคงไม่มีมาม่าอีกแล้วนะ 555+ :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 06-04-2011 09:40:02
 :o8: :o8:

'ลมของผม'

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 06-04-2011 10:34:00
บอกว่าให้ถนอหน่อยก็ไม่ฟังเล้ยตินเนี่ยยยยยย

แต่ก็ช่วยไม่ได้ ก็ลมออกจะน่ารักออกปานนั้น คริคริ :-[
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 15 คนนี้ของผม.. [04/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zingiber ที่ 06-04-2011 11:38:22
 :-[ :-[ :-[ หวานสุดๆ "ลมของผม" อิอิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 ก็มันอายเค้านะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 06-04-2011 12:13:19
ตอนที่ 16



“รับให้หน่อยสิครับ”

ภาคีบอกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เมื่อโทรศัพท์ของเขาร้องดังขึ้นมา เขาล้วงมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นมันให้ไป โดยไม่คิดจะดูว่าใครโทรมา เพราะสายตากำลังจับจ้องผ่านกระจกใสไปยังท้องถนนเบื้องหน้า เส้นทางที่ทอดสู่บ้านหลังใหญ่ที่คุ้นเคย หากแต่ห่างหายไปนานกว่าสามเดือน วันนี้เขากลับมาเยือนมันอีกครั้ง พร้อมกับเจ้าของบ้านหน้าหวาน

สีฟ้ายื่นมือไปรับ แต่ไม่วายถูกลวนลามด้วยมือใหญ่ที่เกาะกุมไม่ยอมปล่อย เลยได้รอยเล็บของมือข้างที่เหลือเป็นของฝาก

“ทำร้ายร่างกายตินอีกแล้ว ทำร้ายทั้งคืน ตอนเช้าอีก จะไม่โหดเกินไปหน่อยเหรอครับ”

คนมาดขรึมพูดน้อยหายไปไหนเสียแล้ว คนที่สีฟ้าเห็นอยู่ตรงนี้ไม่มีเค้าโครงนั้นเลยสักนิดเลย เมื่อก่อนคำพูดแต่ละคำกว่าจะหลุดออกมาได้ มันช่างยากเย็นเหลือเกิน
 แต่คราวนี้มันลื่นไหลและสองแง่สองง่ามจนอยากจะเหวี่ยงมัดหนักไปที่ปากช่างพูดสักครั้ง

“หรือไม่ชอบ ถ้าไม่ชอบก็จะได้ไม่ทำ” เริ่มก่อนเองนะภาคี สีฟ้าก็ขอจัดให้เหมือนกัน

“ชอบครับ ชอบมากครับ” คนเคยพูดน้อยละสายตาจากทางเบื้องหน้า มาส่งสายตาอ้อนๆ ให้คนร่างบางในชุดเสื้อคอกลมตัวใหญ่สีเขียว สีฟ้าเหมาะกับเสื้อตัวนี้จริงๆ
แต่ภาคีก็คิดว่าสีฟ้าเหมาะกับเสื้อผ้าของเขาทุกตัวนั่นแหละ

สีฟ้าย่นจมูกเล็กรั้นใส่เจ้าของใบหน้าคมหวานทีหนึ่ง ก่อนจะก้มมองชื่อของปลายสายที่เรียกเข้ามา

“หนึ่งโทรมา รับเองดีกว่าไหม” ว่าแล้วก็ยื่นโทรศัพท์คืนไปให้เจ้าของ ไม่ใช่ไม่อยากช่วยรับ แต่คนที่โทรเข้ามาคือเพื่อนของภาคี บางทีคณิตอาจมีธุระสำคัญพูดกับเจ้าของเครื่องตัวจริงก็ได้

“รับให้หน่อยนะครับ”

ภาคียังยืนยันจะให้สีฟ้ารับโทรศัพท์ เพราะเขาอยากจะอวดกับเพื่อนรักว่า ตอนนี้รักของเขากับสีฟ้าลงเอยกันด้วยดีแล้ว

สีฟ้าจำต้องยกโทรศัพท์แนบหู หลังจากที่กดปุ่มรับสายไปแล้ว ยังไม่ทันจะกรอกเสียงทักทายลงไป ปลายสายที่ถือสายรอมานานพอสมควร กลับรัวคำพูดมากมายออกมาราวกับอั้นมากนาน ไม่มีจังหวะหยุดพักให้สีฟ้าพูดเลยแม้แต่นิด

“เฮ....ไอ้ติน เป็นไงบ้างวะ ไหนๆ มึงบอกกูทีสิวะ มึงโง่พอจะส่งคุณลมของมึงกลับบ้านของเขา หรือว่าฉลาดพอที่จะพาไปจับตรึงขึงขูดฟาดด้วยลิ้นมัดด้วยปากที่คอนโดของมึง ไหนๆ บอกเจ้าของแผนอย่างกูให้ชื่นใจหน่อย กูจะได้รู้สักทีว่าเพื่อนกูฉลาดหรือโง่” คณิตรัวคำพูดออกมาเป็นชุดตามนิสัยของคนปากมาก ด้วยเพราะคิดว่าคนเป็นเพื่อนรับสาย

“เอ่อ....เอ่อ....” ถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียวสำหรับคนฟัง หน้าสวยขึ้นสีน้อยๆ หันไปมองเจ้าของเครื่องที่ไม่ได้ร่วมรับรู้ถ้อยคำอะไรที่คนปลายสายส่งมาให้เลย

“เอ่อๆ อยู่นั่นแหละ ทำไมวะหรือกูโทรมารบกวนกิจกรรมยามเช้าของมึง โหไรวะ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วยังไม่พออีกหรือไง นี่กะจะเอาให้คุ้มกับที่หายไปสามเดือนเลยใช่ไหม
 ระวังคุณลมหน้าหวานของมึงจะช้ำในตายซะก่อนนะโว้ย กูขอเตือนด้วยความหวังดี”

รัวอีกหนึ่งชุด คณิตก็ยังเป็นคณิตที่คิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้นเสมอไม่เคยเปลี่ยน แต่คณิตก็นึกสงสัยคนปลายสายที่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ เลยรู้สึกว่ามันผิดปกติไปหน่อยหนึ่ง ถึงไอ้เพื่อนรักจะพูดน้อย แต่มันก็ไม่ใช่ไม่พูดอย่างนี้นี่นา

“เฮ้ย! ไอ้ติน เป็นอะไรไปวะ หรือมึงเหนื่อยจนพูดไม่ออก โอ.เค.ว่ะเพื่อนรัก เข้าใจแล้ว งั้นก็เชิญตามสบาย กูไม่กวนมึงแล้ว เหนื่อยก็ไม่ต้องมากทำงาน บอสเค้าใจดี
เดี๋ยวกูลาให้มึงเอง”

“เอ่อ...ไม่ใช่ตินครับ เดี๋ยวคุณหนึ่งคุยกับตินเองนะครับ” กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ ก็เป็นจังหวะเดียวกับรถหรูของอชิตะที่ภาคีขับมาส่งเขาจอดติดไฟแดงพอดี

“อ้าว....แล้ว...แล้ว...คุณ ...คุณลมเหรอครับ” คนปลายสายถามเสียงตะกุกตะกัก

“ครับ เดี๋ยวคุยกับตินนะครับ” สีฟ้ายื่นโทรศัพท์ให้ภาคี พออีกฝ่ายรับไปแล้ว เขาก็รีบขยับไปนั่งชิดติดกับประตูฝั่งตัวเองทันที ซ่อนเก็บใบหน้าที่ขึ้นสีไว้กับรถคันที่จอดติดไฟแดงอยู่ข้างๆ

ภาคีรับโทรศัพท์ไปแนบหูอย่างงงๆ สีฟ้าเป็นอะไรพอยื่นโทรศัพท์ให้เขาก็ขยับถอยห่างไปเลย คณิตพูดอะไรเหรอ ถึงทำให้สีฟ้ามีอาการอย่างนี้ได้ พอเห็นแวบๆ ล่ะว่าหน้าแดงแจ๊ดเลย

“ว่าไง มึงพูดอะไรกับลมวะ” ภาคีพูดกับคนปลายสาย

“โหยไอ้ติน ผ่านไปคืนเดียวจากคุณลมก็กลายเป็นลมเฉยๆ เลยนะโว้ย แล้วนี่ไม่สำนึกบุญคุณของกูเลยใช่ไหม ที่ทำให้มึงมีวันนี้ได้”

“เออ...ขอบใจ” ต้องขอบใจคณิต ถ้าไม่ได้คณิต เมื่อคืนและเมื่อเช้าที่ผ่านมา เขาคงได้กอดหมอนข้างไร้ชีวิต แทนที่จะเป็นร่างบางแสนหวานมีชีวิตชีวาเป็นแน่

“ไม่เป็นไรเพื่อน เพราะกูกับบอสไม่อยากเห็นมึงนั่งเป็นเพนกวินเหงาว่ะ เห็นแล้วมันขัดลูกหูลูกตา”

“ว่าแต่ เมื่อกี้มึงพูดอะไรกับลมวะ” ภาคียังค้างใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ เขาอยากรู้

“ไม่มีอะไร เปล่าพูดอะไรเลย” จะให้คณิตบอกได้ไงว่าเขาหลุดปากเสียอะไรไปบ้าง เดี๋ยวก็โดนมันตามมากระทืบที่บริษัทน่ะสิ ไอ้ที่รัวเป็นชุดตอนแรกก็คิดว่าเป็นเพื่อน
 ถ้ารู้ว่าเป็นหนุ่มหน้าหวาน เขาก็คงไม่กล้าพูดหรอก

“บอกกูมาดีๆ ไอ้หนึ่ง ไม่งั้นมึงโดนดีแน่” ภาคีขู่เสียงเบา เพราะยังเกรงใจคนที่นั่งอยู่ในรถด้วยกัน

“ก็....ก็....เอ่อ...คือกู กูก็พูดแค่ว่า มึงพาคุณลมไปส่งที่บ้านหรือพาไปคอนโดของมึง นอนดึกแค่ไหน มีความสุขดีไหม มาทำงานไหวหรือเปล่า ถ้าไม่ไหวจะลางานบอสให้ เท่านี้เอง” คำพูดบิดเบียนความเป็นจริงไปมาก มากจนคนฟังไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด แต่ก็เอาเถอะ เห็นแก่เป็นคนคิดแผนให้เขาได้สีฟ้ากลับมานอนกอด ก็ยอมให้อภัยได้

“ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม งั้นแค่นี้ก่อน เดี๋ยวค่อยไปคุยต่อที่บริษัท”

“มึงยังคิดจะมาทำงานอีกเหรอวะ ไอ้ติน เป็นกูไม่ได้จะนอนกอดให้คุ้มที่หายไปหลายเดือน” ปลายสายพูดอย่างที่ใจคิด

“อย่าลามปามไอ้หนึ่ง ลมของกู ห้ามแม้แต่จะคิด แล้วกูก็ไม่ชอบนอนกอดอย่างเดียวโว้ย เข้าใจไว้ดะ..โอะ...โอ๊ยยย โอยยย เจ็บนะครับลม” ภาคีร้องเสียงหลง ต้นแขนที่โผล่พ้นตัวเสื้อของเขาถูกหยิกจนเป็นรอยแดง

“เป็นไรไปวะ”

“ไม่มีอะไร แค่นี้ก่อนนะโว้ย” ภาคีกดตัดบทสนทนา แล้วหันมามองคนที่นั่งหน้าแดงปนบึ้ง มองแล้วน่ารักไปอีกแบบ

“ทำตินทำไม มันเจ็บนะครับ” เจ้าตัวทำเสียงอ้อนๆ ลูบต้นแขนตัวเองไปมา

“ก็ไม่อยากนั่งอยู่เฉยๆ ไงล่ะ เหมือนที่ตินก็ไม่ชอบนอนกอดอย่างเดียวไง”

ไม่รู้ว่าจะต้องอายคำพูดพวกนั้นที่ได้ยิน หรือว่าจะโกรธคนพูดดี สีฟ้ายังคิดไม่ออก แต่ที่รู้แน่ๆ คือต้องทำอะไรสักอย่างกับภาคีเสียบ้าง ก่อนที่จะเอาเรื่องของเขาไปขายเสียหมด แล้วไอ้คำพูดที่คณิตพูดอีก โอ๊ย เขาจะหน้าไปไว้ที่ไหนตอนเจอหน้าคณิต ซึ่งมันต้องมีสักครั้งนั่นแหละที่ต้องเจอ


“ตินก็ตั้งใจนอนกอดอย่างเดียว แต่ใครล่ะที่บอกว่า ‘แล้วจะนอนกอดอย่างเดียวเหรอ’ มันใช่ความผิดของตินหรือครับ ลมเองต่างหากที่ยั่วติน” ภาคีจีบปากจีบคอพูดได้น่าหมั่นไส้ในสายตาสีฟ้ายิ่งนัก

“ลมผิดใช่ไหมที่ยั่ว” สีฟ้าสะบัดหน้าพรืดไปอีกทางหนึ่ง ได้ยินเสียงหัวเราะของภาคีก็หันควับไปค้อน ก่อนจะสะบัดหน้าหนีอีกครั้ง

“รู้ตัวก็ดีครับ แต่ตินก็ให้อภัยนะ เพราะตินชอบคนทำผิด ผิดบ่อยๆ ผิดทุกเวลาก็ได้ ตินพร้อมให้อภัยลมได้เสมอ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังก้องไปทั่วรถ ขณะที่พารถคันหรูของบอสมุ่งบ้านหลังใหญ่ของคนหน้างอ

ความสุขที่แท้จริงมันเป็นอย่างนี้เอง ภาคีเพิ่งรู้จักยามที่มีสีฟ้าอยู่ข้างกาย ได้กอด ได้สัมผัส ได้บอกคำรัก เขามีความสุขจริงๆ ขอให้มันเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เถอะนะ เพราะความทุกข์ที่ต้องห่างหายจากสีฟ้า มันทรมานเกินกว่าจะกลับไปพบเจออีกแล้ว

แม้ไม่ได้ยินคำรักจากปากของสีฟ้า หากภาคีก็มั่นใจเหลือเกินว่าสีฟ้ารักเขา

สีฟ้ารักเขา....แล้วใช่ไหม

ไม่ใช่.....เขาที่รักสีฟ้า......เพียงฝ่ายเดียวแล้วใช่ไหม




..............................................................................

“ไม่ให้ไปส่งที่ทำงานจริงๆ หรือครับลม”

ร่างบางที่ก้าวออกมายืนอยู่ตรงหน้าประตูรั้วสูงกอดอกทำหน้าเชิดนิดๆ

“ไม่” คำตอบสั้นและหนักแน่น จนคนที่ลดกระจกถาม ทำหน้าเศร้าแต่ยังไม่ละความพยายาม

“ให้ตินไปส่งนะครับ ลมยังเพลียๆ อยู่เลย ขับรถเองเดี๋ยวไม่ปลอดภัยนะครับ” เขารู้ว่าสีฟ้างอนเขาตั้งแต่นั่งอยู่ในรถเลยไม่ยอมให้เขาไปส่ง ทั้งที่ก่อนออกมาจากคอนโดของเขา สีฟ้าก็ไม่ปฏิเสธเมื่อเขาขอมาส่งที่บ้านแล้วก็เลยไปที่บริษัทด้วย แต่หลังจากนั่งหน้างอ ง้อเท่าไหร่ก็ไม่ยอมพูดด้วย พอจะเลี้ยวรถไปจอดในรั้วบ้านหลังใหญ่ เจ้าตัวก็ไม่ยอม แถมยังกลับคำอีกไม่ให้เขาพาไปส่งที่บริษัทอีก

“ไม่ต้อง ขับไปเองได้” เสียงสีฟ้าห้วนมาก จากนั้นก็หมุนตัวกลับเข้าไปในรั้วบ้านหลังใหญ่ที่เปิดรถอยู่แล้ว โดยสาวใช้ของบ้าน


...

“อ้าว....น้องลมเพิ่งกลับเหรอคะ”

เท้าที่กำลังจะก้าวขึ้นบันได้ต้องชะงักค้างไว้แค่นั้น เมื่อเสียงหวานของพี่สะใภ้ดังมาจากด้านหลัง ทำไงดีล่ะ สีฟ้าไม่อยากหันไปเผชิญหน้ากับนลินเอาเสียเลย เขานึกว่าพี่สะใภ้คนสวยจะออกไปทำงานแล้วซะอีก

“ครับ พอดีลมไปค้างบ้านเพื่อนมาน่ะครับ”

ถึงไม่อยากจะหันไปเผชิญหน้ากับนลินในเวลานี้ แต่สีฟ้าก็คงเลี่ยงไม่ได้ ต้องหันหน้าไปตอบคำถามของพี่สะใภ้ที่ถาม

“แล้วนี่เพื่อนมาส่งหรือคะ” นลินยังคงถามต่อ เพราะเธอกำลังสงสัย ยิ่งเสื้อตัวที่สีฟ้าใส่อยู่ มันก็เป็นคำตอบของความสงสัยได้ในเวลาต่อมา

“ครับ”

“แล้วทำไมไม่ชวนมาทานข้าวเช้าด้วยกันก่อนล่ะคะ”

“คือ...คือเพื่อนของลมต้องรีบไปทำงานน่ะครับ แล้วนี้คุณแม่กับน้องอ้นอยู่ไหนครับ” สีฟ้ารีบเปลี่ยนเรื่องคุย ก่อนที่จะโดนนลินชักจนหาคำตอบไม่ทัน

พี่สะใภ้ของเขาใช่คนที่อะไรจะผ่านสายตาไปได้ง่ายๆ ซะที่ไหน นี่สีฟ้าก็กลัวเหลือเกินว่านลินจะจำเสื้อตัวใหญ่สีเขียวที่เขาใส่ได้ เขายังไม่อยากให้เรื่องระหว่างเขากับภาคีรู้ถึงหูทุกคน ยังไงเสียเขาก็ยังไม่มั่นใจกับความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นใหม่ในครั้งนี้  สู้ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้ระหว่างเขากับภาคีสองคนก็พอ เผื่อว่าบางทีหากมันต้องจบ มันจะได้ง่ายกว่าครั้งแรก ที่ไม่จำเป็นต้องลากคนทั้งครอบครัวเข้ามารับรู้เรื่องราวด้วยให้ลำบากใจกันทั้งสองฝ่าย

“คุณแม่พาน้องอ้นไปวัดค่ะน้องลม” ปิดเทอมเมื่อไหร่ คุณอุษามักจะพาหลานชายคนเดียวไปวัดในตอนเช้าบ่อยๆ วันนี้ก็เช่นกัน

“หรือครับ ถ้างั้นลมขึ้นไปแต่งตัวก่อนนะครับ” สีฟ้ารีบขอตัวไปทันที กำลังก้าวไวๆ ขึ้นบันไดได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็ต้องถูกตรึงด้วยคำเรียกของนลินอีกครั้ง

“เดี๋ยวค่ะน้องลม”

สีฟ้าหันกลับมาช้าๆ พบกับใบหน้ายิ้มอย่างใจดีของนลิน หากสีฟ้าก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ดีว่านลินจะจำเสื้อตัวนี้ที่เขาใส่ได้ ไม่น่าเลย เขาน่าจะใส่เสื้อตัวเดิมตัวนั้น ไม่น่าหยิบเสื้อตัวนี้หรือตัวไหนๆ ของภาคีมาใส่เลย

“น้องลมไม่ต้องรีบนะคะ พอดีประชุมเลื่อนไปเป็นตอนบ่ายแล้วน่ะค่ะ นอนพักก่อนก็ได้ แล้วเที่ยงๆ ค่อยเข้าบริษัทก็ยังทันค่ะ”

สีฟ้ายิ้มรับคำบอกของพี่สะใภ้คนสวยใจดี ไม่ได้สะดุดอะไรกับคำพูดที่เป็นห่วงเป็นใยเลยสักนิด อาจเป็นเพราะกำลังโล่งอกกระมั้งที่นลินไม่ทักเรื่องเสื้อที่เขาใส่ นั่นก็ทำให้สีฟ้าซอยเท้าไวๆ ไปยังห้องนอนของตัวเอง ทิ้งให้พี่สะใภ้ยืนมองตามด้วยความรู้สึกที่ยากจะพูดออกมาได้

ยิ้มหวานของนลินหุบลงอย่างช้าๆ เมื่อลับร่างของน้องชายสามี สีฟ้าคงคิดสินะว่าเธอจำเสื้อที่เจ้าตัวใส่ไม่ได้ว่ามันเป็นของใคร

นี่มันเป็นเสื้อของน้องชายเธอนะ มีหรือพี่สาวอย่างเธอจะจำมันไม่ได้ น้องชายของเธอใส่ออกจะบ่อยเพราะเป็นตัวโปรด แล้วรอยจ้ำสีช้ำนั้นอีก สีฟ้าจะรู้ตัวหรือเปล่าว่ามันเด่นชัดพ้นคอเสื้อกว้างนั้นออกมาแค่ไหน

“เพื่อนเหรอ...สงสัยพี่คงต้องไปคุยกับเพื่อนน้องลมสักหน่อยแล้วล่ะ ทำอะไรไม่เคยจะเกรงใจผู้ใหญ่เลยนะติน”


…………………………………………………………………

“ตินจะไปไหนคะ นี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานนะคะ” นิรดายืนขวางหน้าภาคีกับคณิตเอาไว้ เมื่อเห็นว่าสองหนุ่มหิ้วกระเป๋าออกจากบริษัท
 ดูนาฬิกาแล้ว มันก็เพิ่งจะบ่ายสองเอง  

“ยุ่งอะไรด้วยล่ะคร้าบบบ คุณนุ่น” คณิตไม่ชอบนิรดา ส่วนนิรดาเองก็ไม่ชอบคณิตเหมือนกัน เพราะคณิตชอบกั้นเธอไม่ให้เข้าใกล้ภาคี

“ฉันไม่ได้ถามนาย อย่ายุ่ง”

“อยากยุ่งตายล่ะ ไปเถอะว่ะ เบื่อพวกม่ายขันหมาก”

คณิตกอดคอเพื่อนรักเอาไว้ แล้วทำหน้าเบื่อที่ชวนให้นิรดาอยากกรี๊ดลั่นบริษัท แต่กลัวสายตาหลายคู่ที่มองมาเป็นระยะ เรื่องที่เธอถูกยกเลิกงานแต่ง ยังคงเป็นประเด็นร้อนชวนเมาท์มาจนถึงทุกวันนี้ เลยทำอะไรไม่ได้นอกจากจ้องจิกไอ้ตัวคนพูดด้วยสายตาอาฆาต

“แต่วันนี้วันเกิดนุ่นนะคะ นุ่นอยากให้ตินไปงานวันเกิดนุ่นด้วย ไปในฐานะเพื่อนก็ได้ค่ะ” นิรดาทำเสียงอ่อน ใบหน้าสวยแกล้งทำเศร้าให้อีกฝ่ายรู้สึกสงสาร

“ขอโทษนะครับนุ่น วันนี้ผมไม่ว่างจริงๆครับ happy birthday ละกันนะครับ”

ถึงภาคีรู้สึกว่าทำผิดกับอีกฝ่ายอยู่มาก ที่เมื่อครั้งก่อนเขาเคยให้ความหวังกับนิรดาไป ถึงขั้นขอแต่งงาน แต่สุดท้ายก็มาบอกยกเลิกให้หญิงสาวต้องโดนเพื่อนร่วมงานหัวเราะเยาะมาจนถึงทุกวันนี้ แต่เขาก็ยังไม่อยากจะให้เธอมีความหวังอะไรในตัวเขาอีก

“แต่ตินคะ วันเกิดนุ่นนะคะ ตินไม่เห็นความสำคัญของเพื่อนอย่างนุ่นเลยหรือไงคะ นุ่นเสียใจนะคะ ตินทำเหมือนไม่อยากเป็นเพื่อนกับนุ่นเลย นุ่นเสียใจจริงๆ นะคะ” เธอคร่ำครวญ น้ำตาคลอเบ้า

“คนบ้าที่ไหนเกิดกันสองครั้งคร้าบบบคุณนุ่น กระผมจำได้ว่าอาทิตย์ที่แล้วเพิ่งทวงของขวัญจากบอสไปไม่ใช่เหรอครับ”

แล้วนิรดาก็ถูกคนรู้ทันอย่างคณิตดักไปซะหมดทุกทาง เพราะเรื่องของทุกคนคือหน้าที่ที่ควรรู้ของคณิต

“กะ...ก็....ก็ฉันจะชวนตินไปฉลองย้อนหลังไงเล่า นะคะติน ไปฉลองวันเกิดย้อนหลังให้นุ่นหน่อยนะคะ”

“กระผมว่า คุณนุ่นไปฉลองย้อนหลังคนเดียวเถอะคร๊าบบบ ไอ้ตินเพื่อนของกระผมเนี่ย มันไม่ว่างแล้วละครับ มันมีธุระสำคัญกับหวานใจ มันคงไม่ไปนั่งฉลองย้อนหลังวันเกิดคุณนุ่นให้เสียเวลาสวีทหวานกับหวานใจหรอกนะครับ”

“ใคร?” นิรดาย้อนถาม น้ำเสียงตกใจ ภาคีมีคนใหม่เหรอ ทำไมเธอถึงไม่รู้ เธอพลาดได้ยังไง

“จะใครล่ะครับคุณนุ่น ก็มีอยู่คนเดียวที่ไอ้ตินเพื่อนผม มันทั้งรักทั้งหลง ก็คนนั้นแหละครับ”

“ไม่จริงใช่ไหมค่ะติน ก็...ก็ตินเลิกกับเขาแล้วไม่ใช่เหรอค่ะ” เธอหันไปถามเอาความจริงจากเจ้าของเรื่อง คำตอบที่ได้ ทำเอานิรดาอ้าปากค้าง

“ผมกับคุณลม เรารักกันครับ” ชายหนุ่มบอก รู้สึกเห็นใจและรู้สึกผิดไปพร้อมกัน เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของคนฟัง ยอมรับว่าที่ผ่านมาเขาหลอกใช้ความรักของนิรดาที่มีต่อเขา เป็นเกราะกำบังตัวตลอดเวลา แต่แล้วคำพูดประโยคต่อมาของนิรดาก็ทำให้เขารู้สึกแย่กับสิ่งที่หญิงสาวใช้มันจำกัดนิยามความรักให้กับเขา

“แต่ตินคะ นั่นผู้ชายนะคะ จะรักกันได้ยังไง มันไม่ถูก ตินไม่อายบ้างหรือคะ รักกับผู้ชายด้วยกันเอง วิปริตที่สุด” เธอว่า หน้าตาสวยบูดเบี้ยวด้วยนึกรังเกียจ  

“.................................” เขาไม่มีคำพูดใดให้กับเธอ ภาคีหมดความอดทนกับคำพูดของนิรดา คำพูดที่ดูถูกความรู้สึกของเขา หากชายหนุ่มยังบังคับสีหน้าให้เป็นปกติมากที่สุด ยังไงเขากับนิรดายังต้องเจอหน้ากันทุกวัน ไม่อยากให้คำพูดตามความรู้สึกของเขา ทำให้อีกฝ่ายหมางใจ

“ตินคะ นุ่นหวังดีกับตินจริงๆ นะคะ” นิรดายังดื้อไม่เลิก “อย่าโกรธนุ่นนะคะ นุ่นหวังดีจริงๆ” เธอทำหน้าเศร้า เมื่อดูออกว่าภาคีไม่พอใจคำพูดของเธอ

“ผมขอบคุณสำหรับความหวังดีของนุ่นนะครับ แต่ผมคงรับมันเอาไว้ไม่ได้ ขอโทษนะนุ่น ผมขอตัว   ไปเถอะหนึ่ง”

ภาคีเดินออกไปก่อน ส่วนคณิตก็วิ่งตามไปติดๆ หลังจากที่ทำหน้าเยาะเย้ยนิรดาจนหนำใจแล้ว ทิ้งให้หญิงสาวยืนกระทืบเท้าอยู่ตรงนั้น ก่อนจะสะบัดหน้าเดินผ่านเสียงกระซิบนิทนาที่ฟังจนชินชามานานหลายเดือน

...................................................................................

แฟ้มงานบนโต๊ะตัวใหญ่กลางห้องทำงานหรูสมกับตำแหน่งของเจ้าของห้องนั้น มันลดลงไปกว่าครึ่ง จากเดิมที่มันตั้งสูงในตอนสายๆ และมาลดลงในตอนเย็น ด้วยฝีมือเจ้าของห้องอย่างสีฟ้า ที่ขยันขันแข่งเหลือเกินในวันนี้ ขยันจนไม่มีเวลาจะรับโทรศัพท์ของใคร ที่ขยันโทรมาได้ตั้งแต่สายยันเย็น ทั้งที่เขาปิดมือถือหนี เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องโทรมา
 แต่เมื่อเขาปิดมือถือ ฝ่ายนั้นก็โทรเข้ามายังเบอร์บริษัท  

ไม่ใช่ไม่มีเวลารับ แต่ไม่อยากรับต่างหาก

สีฟ้ายังไม่อยากรับโทรศัพท์ของภาคีเพราะยังเคืองกับเรื่องเมื่อเช้าไม่หาย ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เพียงแค่หมั่นไส้อีกฝ่ายเท่านั้นเอง ภาคีเปลี่ยนไป เรียกได้ว่าจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่เคยนิ่ง พูดน้อย หน้าหล่อไม่บอกความรู้สึก มาตอนนี้กลายเป็นคนช่างยั่วโมโห ช่างแกล้งให้เขาอาย แล้วตาคมนั้นก็กรุ่มกริ่มจนนึกอยากจิกให้บอด

สีฟ้าเหลือบมองโทรศัพท์มือถือที่วางนิ่งอยู่ข้างๆ มือเขา มันถูกปิดตายมาตั้งแต่ตอนสายๆ เพราะเหตุนี้ ถึงทำให้เลขาสาวของเขาต้องทำงานนักกว่าเดิมหลายเท่า ค่าที่ต้องยกหูโทรศัพท์วันหนึ่งไม่รู้กี่ร้อยรอบ ซึ่งแทบบจะเป็นสายของคนๆ เดียวอยู่แล้ว จะเป็นใครได้ ถ้าไม่ใช่ภาคี ที่กระหน่ำโทรเหมือนคนไม่มีงานทำ

ชายหนุ่มเลิกสนใจมองมัน แล้วก้มหน้าทำงานต่อ ก่อนที่จะมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับร่างของเลขาสาวสวยที่ก้าวเข้ามา


“กาแฟค่ะ คุณลม” ถ้วยกาแฟมีควันลอยอ่อนๆ ส่งกลิ่นหอมฉุยวางลงตรงหน้า

“ขอบคุณมากครับ คุณด้า”

สีฟ้าเงยหน้าจากแฟ้มงานตรงหน้า แล้วพบว่าใบหน้าสวยคมเข้มแบบหญิงไทยของเลขาสาวเป็นขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด มันชัดมากจนคนเป็นนายนึกสงสัย ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเลขาสาวของเขาหรือเปล่า

“คุณด้าไม่สบายหรือเปล่าครับ” นึกเป็นห่วงอยู่มากเหมือนกัน เพราะญาดาเป็นเลขาที่ขยันทำงานตัวเป็นเกลียว มาทำงานเช้า แต่กลับเย็นกว่าคนอื่นๆ มันทำให้สีฟ้าอดเป็นห่วงสุขสภาพญาดาไม่ได้ ยังไม่อยากให้เป็นลมล้มพับไปกับงานเสียก่อน

“เปล่าค่ะ ด้าไม่ได้เป็นอะไร ด้าขอตัวก่อนนะคะ” ยิ่งโดนทัก ก็เหมือนหน้าเจ้าตัวจะขึ้นสีเรื่อยๆ

เลขาสาวเดินหน้าแดงออกไปแล้ว สีฟ้าก็เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ยกกาแฟหอมกรุ่นขึ้นจิบ ละเลียดกับรสชาติที่ถูกใจ

เมื่อกาแฟหมดแก้ว สีฟ้าก็เริ่มต้นทำงานต่อ

แฟ้มหนาถูกเคลียร์ไปเรียบร้อยในเวลาอันรวดเร็ว สีฟ้าบิดตัวเล็กน้อย ยิ้มให้กับการทำงานวันนี้ของเขา งานกองโตหายลับไปกับตาเพียงแค่เวลาในวันเดียว

ยอมรับว่าวันนี้เขาขยันกว่าทุกวัน ก็เพราะอะไรบางอย่างในหัวใจของเขาได้รับการรักษา จากใครบางคนที่เขาแกล้งไม่ยอมรับโทรศัพท์มาตลอดทั้งวัน ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง จะได้ทำงานบ้างหรือเปล่า เพราะเอาแต่เวลามานั่งโทรศัพท์หาเขาแทบทุกนาที

สีฟ้านึกถามตัวเอง เขาใจร้ายไปหรือเปล่า? แล้วเกิดภาคีหมดความอดทนกับเขาขึ้นมาล่ะ ไม่ได้ๆ ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น เขายังอยากให้ภาคีรักและหลงรักเขาไปตลอด

เขาต้องทำตัวน่ารักๆ ใช่ไหม ภาคีถึงจะรักและหลงรักเขาไปตลอด ไม่เปลี่ยนใจไปไหน

สีฟ้ารีบคว้าสูทสีดำขึ้นมาสวม แล้วก้าวฉับๆ ออกจากห้องทำงาน จุดหมายของเขาคือบริษัทที่ภาคีทำงานอยู่ เขาจะไปรับอีกฝ่าย ชวนทานข้าวด้วยกัน ก่อนจะกลับไปทำตัวให้น่ารักมากยิ่งขึ้นที่คอนโดของภาคี

ถึงภาคีจะบอกว่ารักเขา....รักเขาคนเดียว

แต่เขาก็กลัว หากเขาทำตัวไม่น่ารัก ทำนิสัยเหมือนเดิม ภาคีอาจจะไม่รักเขาเข้าสักวันหนึ่ง....


...

“จะกลับแล้วหรือครับ คุณด้า”

พอก้าวออกมาจากห้องทำงาน สีฟ้าก็พบว่าเลขาสาวสาละวนอยู่กระเป๋าใบใหญ่ของตัวเอง บนโต๊ะทำงานขนาดกลางของญาดาเป็นระเบียบเรียบร้อย ไร้ซึ่งกองเอกสารมากมายที่เจ้าตัวนั่งทำอยู่มาทั้งวัน

“ค่ะ เอ่อ...หรือว่าคุณลมมีงานอะไรให้ด้าช่วยคะ ด้ายังไม่กลับก็ได้ค่ะ”

เลขาสาวรับคำเสียงเบาคล้ายกับว่ารู้สึกผิดอะไรบางอย่าง สีฟ้าจับอาการนั้นได้ แล้วรีบบอกปฏิเสธเพราะกลัวเลขาสาวจะคิดว่าเขาเป็นเจ้านายจอมโหด
ตอนนี้มันก็ 5 โมงแล้ว เป็นเวลาเลิกงานของพนักงานทุกคนรวมถึงเขาด้วย แต่ที่ถามออกไปก็เพราะสงสัย ทำไมวันนี้ญาดาถึงได้กลับไวผิดปกติ

“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมดีใจต่างหากที่เห็นคุณด้าเลิกงานตรงเวลาสักที”

“ค่ะ พอดีด้ามีนัดทานข้าวนะคะ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็หน้าแดง ทำให้หน้าชวนชนมองยิ่งขึ้น

“นัดสำคัญล่ะสิครับ” สีฟ้านึกเดาอาการหน้าแดงของเลขาสาวออกแล้ว มีนัดกับคนสำคัญนี่เอง

“ค่ะ แต่คุณลมคะ คุณลมจะไปเป็นเพื่อนด้าได้ไหมคะ”

จู่ๆ เลขาสาวก็เอ่ยปากชวนเขาเข้าไปมีส่วนร่วมกับนัดสำคัญ ทำเอาสีฟ้างงไปเหมือนกัน

“คงไม่ดีมั้งครับคุณด้า”

“ดีค่ะ เอ่อ...คือว่าด้าก็เพิ่งรู้จักเขาวันนี้เอง เลยอยากชวนคุณลมไปด้วย เผื่อจะได้ช่วยด้าดูว่าเขาเป็นยังไง ได้ไหมคะ”

เลขาสาวร้องขอ สีฟ้าเลยยากจะปฏิเสธ ญาดาก็เป็นเลขาที่น่ารักของเขามาตลอด บางครั้งเขาก็นึกเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวที่เขาไม่เคยมี เพราะห่วงเหมือนเป็นน้องเนี่ยแหละ ทำให้ไม่อยากปล่อยให้ไปกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันแค่วันเดียว กลัวว่าจะถูกหลอก ถ้ามีเขาไปด้วยจะได้ช่วยดูหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น  หากท่าทางไม่น่าไว้ใจก็จะได้บอกกล่าวได้ทัน ก่อนที่จะถลำตัวไป

“ก็ได้ครับ” เขาตอบรับ

สีฟ้าไม่รู้เลยว่าคำตอบรับสั้นๆ ของตัวเอง นอกจากจะทำให้เลขาสาวยิ้มได้แล้ว มันยังส่งผลให้ชายหนุ่มสองคนที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ตรงมุมรับแขกห่างออกไปไม่ไกลนั้นด้วย ชายหนุ่มสองคนยิ้มออกมาด้วยอาการลิงโลด ก่อนนิ้วโป้งทั้งสองจะส่งมาให้เลขาสาวที่ยืนหน้าแดงอยู่




หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 ช่วยคิดชื่อตอนกันเถอะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 06-04-2011 12:18:35
^
^
^
จิ้ม.....

อืม  :m20: :laugh: คณิตยังพูดมากเหมือนเดิม เล่นเอาลมหน้าแดงแปร๊ดดดดด
หึหึ นึกว่า พี่สะใภ้จะไม่รู้  เค้ารู้แต่เค้าไม่อยากพูดต่างหากคะ อิอิ


แล้ว สองคนที่ว่านั่นใช่ตินกับคณิตอ๊ะเปล่าเอ่ย?? วางแผนอะไรกันเนี่ยน่าสงสัย

ชื่อตอนคิดไม่ออกแฮะ...
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 06-04-2011 12:23:21
 :กอด1:หวานไปมั้ยคุณภาคี


 :impress2: :impress2:น้องลม
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 06-04-2011 12:23:32
ลมน่ารัก
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 ช่วยคิดชื่อตอนกันเถอะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 06-04-2011 12:24:22
ตินกับหนึ่งแน่ ๆ เลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 ช่วยคิดชื่อตอนกันเถอะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 06-04-2011 12:30:13
ดูเหมือนคลื่นลมสงบ
ก่อนพายุจะมาหรือเปล่า :serius2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 06-04-2011 12:32:42
5555++
หวานเบาๆๆๆ
พอกรุบกริบแต่นางนี่จริงๆๆพอๆๆกับน้ำเพชรเลย
หน่ายสุดๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 06-04-2011 13:08:54
ตินกับหนึ่งมีแผนอะไรป่าว^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 06-04-2011 13:20:18
โหยยย ตินเจ้าเล่ห์จัง ฮ่าๆๆ
วางแผนอะไรกันอีกละเนี่ยะ เพื่อนซี้คู่นี่นิไว้ใจไม่ได้เลย

ลมถูกหลอกซะแล้วววว ฮา..
คุณด้าก็เอากับเค้าด้วย
หวานกันจังเลย เอาอีกๆ

รอตอนต่อไปอยู่นะคะ
+1 จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 06-04-2011 13:58:15
ตินเปลี่ยนไปแบบเยอะมากๆ :m20: :m20:

ตกลงหนึงกับตินเค้ามีแผนอะไรกันเนี้ยยย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 06-04-2011 14:12:39
ตินนี่นะ ระวังเถอะคุณลมจะหนีไป อิอิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 06-04-2011 14:13:03
แผนอะไรเนี่ย
อยากรู้แล้วค่า~~
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 06-04-2011 14:17:48
วางแผนอะไรกันนิตาสองคนนั้น
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 06-04-2011 14:23:35
เนียนดี ไม่มีพิรุธเลยน้าหนุ่มๆ จะทำอะไรกับคุณลมเนี่ย :z1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 06-04-2011 14:29:02
กลัวดราม่าจังเลย
เรื่องน้ำเพชร นังนุ่นแล้วก็พี่หมอยังไม่เคลียร์ดีเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 06-04-2011 14:44:27
หึหึ!!!
มีแผนอะไรกันอ่ะหนุ่มๆๆ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 06-04-2011 14:46:38
กรี๊ดกร๊าด อ่านทันแล้ว เย่ๆๆๆ
จากที่ตอนแรกๆบรรยากาศเย็นชา ดราม่า ตอนหลังๆนี่หวานขึ้น หวานขึ้น   :-[
ชมคนเขียน ว่าเขียนได้ดีมากๆ  o13 อ่านแล้วอิน  ตอนไหนเศร้าๆนี่เจ็บแปล๊บๆที่หัวใจเลยค่ะ
หวังว่าต่อจากนี้ไปจะมีแต่เรื่องดีๆให้ทั้งสองคนรักกันแบบนี้ตลอดไปน้า
ส่วนมือที่สามที่สี่ที่ห้า พวกคุณนุ่น คุณแพท คุรหมอ คุณๆทั้งหลายเนี่ย
อย่าโผล่มาอีกเลยนะ  มันเหนื่อยใจ  :เฮ้อ:
ขอบคุณคนโพสมากนะคะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 06-04-2011 14:51:37
คณิตจีบเลขาหนูลมเหรอ
ตินกับหนึ่งคณิต วางแผนอารายกาน มีเลขาหนูลมสมรู้(แต่ไม่ได้ร่วมคิด)ด้วยแน่เลย
จะแผนไรก็ช่าง ขอให้เป็นแผนกระชับเกลียวรักให้แน่นก็พอ ฮิ้วววววว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 06-04-2011 15:19:12
รออ่านตอนต่อไป

 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 06-04-2011 16:20:15
ตามมาอ่านติดๆ หนูลมน่ารักขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย 555+ o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 06-04-2011 16:25:39
^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 06-04-2011 16:39:40
สุดๆ

น่าร้ากกก
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 06-04-2011 16:49:56
 :z1: :z1:


 :o8: :o8: :-[ :-[


น่ารักทุกตอนเลย    :กอด1:



ป.ล.ขอบคุณทั้งคนเขียนและคนโพสครับ  o13

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 06-04-2011 17:05:56
แหมๆๆๆ หวานกันจริง หวานกันจัง

แต่ว่าจะมีเรื่องอะไรเข้ามาอีกม้นเนี๊ยะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 06-04-2011 18:49:14
สองหนุ่มแผนสูงอีกแล้ว
สีฟ้าน่ารักอ่ะ จะทำตัวน่ารักยิ่งขึ้นให้ภาคีหลงไปถึงไหน แค่นี้ก็ไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว 55+
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 06-04-2011 21:31:10
 :o8:

ถ้ามันจะขม??!!

 :o12:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 06-04-2011 21:42:19
ลมจะโกรธตินทำไม ที่ทำทั้งหลายก็แสดงว่ารักลมนะ
ตินเปลี่ยนไปจริงๆไม่เหมือนเดิมเลย คือหื่นมากกกกก
ชอบเรื่องนี้นะ เนื้อเรื่องก็น่ารัก หวานกันเราชอบ
แต่จะไม่ชอบก็ตรงยัยนุ่นน่าเบื่อคนเดียวเลย
ตินวางแผนกับเลขาลมใช่ไหม จะพาลมไปไหนนะ

จะรออ่านนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 06-04-2011 21:53:51
ขยันงอนจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 06-04-2011 22:34:03
สุดๆ อ่า แล้วสองหนุ่มหนึ่งกับตินจะมีแผนอะไรอีกล่ะเนี่ย เอ๊ะคนที่คุณด้าเพิ่งรู้จักนี่จะเป็นหนึ่งรึเปล่านะ อิอิ สองหนุ่มจะทำอะไรลมรึเปล่านะ หวานจริงๆ ชอบมากๆ ค่ะ ขออย่าให้มีเรื่องร้ายๆ เลยนะ อยากให้หวานๆ แบบนี้ต่อไป ^^ รอลุ้นว่าแผนนั้นคืออะไร !!??
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ramgaythai ที่ 06-04-2011 23:31:36
สุดๆ อ่า แล้วสองหนุ่มหนึ่งกับตินจะมีแผนอะไรอีกล่ะเนี่ย เอ๊ะคนที่คุณด้าเพิ่งรู้จักนี่จะเป็นหนึ่งรึเปล่านะ อิอิ สองหนุ่มจะทำอะไรลมรึเปล่านะ หวานจริงๆ ชอบมากๆ ค่ะ ขออย่าให้มีเรื่องร้ายๆ เลยนะ อยากให้หวานๆ แบบนี้ต่อไป ^^ รอลุ้นว่าแผนนั้นคืออะไร !!??

โพสได้ถูกใจมากเลยอ่า

รอติดตามต่อไป
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 07-04-2011 01:04:22
มาต่อเร็วๆนะ

อยากรู้ๆๆๆๆๆๆ อ่า  ตินจะทำอารายย
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 07-04-2011 01:41:23
มีแผนอะไรกันอ่ะเนี่ย คณิตจะจีบเลขาจริงหรอ ต๊ายไวไฟนะยะ
แต่ชอบฮีมากตอนจิกด่านุงนีนุ่น แอบคิดว่าถ้าเรื่องนี้ไม่มีคนๆ นี้ พระเอกของเราจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง555
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 07-04-2011 07:10:38
ขอบคุณคนแต่งคนโพสต์ :L2:
สนุกกุ๊กกิ๊กดี ชอบจัง อย่ามาม่าเลยนะ
เริ่มเรื่องสีฟ้าวางแผนแกล้งภาคีจนตัวเองติดกับเอง
ต่อมาคณิตคิดแผนช่วยภาคีจนสีฟ้าสำเร็จเสร็จภาคี
ตอนนี้เป็นแผนใครเพื่อไรนะ
รอตอนต่อไปใจจดจ่อ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 07-04-2011 08:57:55
รักกันแบบนี้แล้วค่อยดีใจหน่อย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 07-04-2011 10:12:28
ที่นั่งรอตินกับหนึ่งปะ?
หนึ่งคิดแผนอะไรอีกละนิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Ugly Ducky ที่ 07-04-2011 10:41:52
ว๊าวววววววว
แผนการณ์ร้ายยยยยย แต่เพราะน่ารักเลยยอมนะ
โอเคนะ ลมของติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 07-04-2011 11:13:02
ร้ายกาจมากกกก..... :laugh:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 07-04-2011 11:24:11
ฮ่า ฮ่า ตินพูดน้อยหายไปไหนหว่าาาาาาา
พูดทีคุณลมกลายเป็นกุ้งเผาไปเลยยยย   :o8:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 07-04-2011 12:58:16
จะแกล้งอะไรให้นู๋ลมเราได้อายม้วนกันอีกนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 07-04-2011 13:44:08
เข้ามารอตอนต่อไปนะคะ :impress:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 07-04-2011 14:11:27
 :z1:  :z1: ฮิ ฮิ ฮิ มารออ่านเอาตอนที่แฮปปี้แล้ว ดราม่าไม่ไหว อ่านแล้วจิตตก เหอๆๆๆ  :z3:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 07-04-2011 16:21:06
กรี๊ดดดดดดดดดด เค้าผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างไรกัน     :serius2:
รอตอนต่อไปนะค่ะ 

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 07-04-2011 19:17:48
กรี๊ดดดดดดดดดด เค้าผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างไรกัน     :serius2:
รอตอนต่อไปนะค่ะ  



ยินดีนะค่ะที่ได้รู้จัก :pig2:
ตอนต่อไป  อืม ....ได้ต้นฉบับมาแระ  แต่โลภมากอยากเห็นเม้นท์ให้กำลังใจอีกเยอะๆ  กร๊าก  ไม่ใช่แระ
ขอตรวจทานคำผิดอีกนิดนะค่ะ อาจเป็นดึกๆคืนนี้
แล้วเจอกันนะค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 07-04-2011 19:33:26
เดี๋ยวก้อเป็นเรื่องอีกหรอก....ติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 16 เค้าอายนะ.. [06/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Frog ที่ 07-04-2011 21:24:54
พี่เอ๋ขรา ให้ไวค่ะ อิอิ

คิดถึงน้องลมมมมมมม :o8:

รักนะคะ ทั้งคนแต่ง คนลง  :L1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 07-04-2011 21:36:04
อัพชื่อแล้วๆๆๆๆๆๆ


รอเนื้อเรื่อง
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 07-04-2011 21:36:32
มาแล้วค่ะ  รู้สึกว่าช่วงนี้คุณลมและคุณตินของอิชั้นเค้าอยู่ในระยะหวานผิดปกติเนาะ
ตอนอ่านเรื่องนี้ครั้งแรก ยังอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไม๊ทำไม คุณตินผู้แสนเงียบขึรมสุขุมนุ่มลึก อย่างเราถึงเปลี่ยนไป
สงสัยเพราะความรักเข้าตาเลยทำให้ทุกอย่างสิ่งอันกลายเป็นสีชมพูจนกลายเป็น ภาคีผู้แสนเจ้าเล่ห์ กรุ่มกริ่ม  คริคริ :m20:
ว่าแล้วก็ขอเชิญรับชิมความหวานเวอร์ของคู่นี้เค้าต่อนะค่ะ

ตอนที่ 17


รอยยิ้มหวานๆ กับใบหน้าแดงที่เห็นได้ชัดยิ่งแดงขึ้นเรื่อยๆ ของญาดา ทำให้สีฟ้าอยากเห็นหน้าชายหนุ่มผู้โชคดีคนนั้น ว่ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
ถึงได้เอาชนะใจเลขาสาวสวยของเขาได้

“ผมชักอยากเห็นหน้าหนุ่มคนนั้นแล้วสิครับ ว่าแต่นัดเจอกันที่ร้านไหนครับ คุณด้า”

“ด้าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” เธอตอบอายๆ ก็เพิ่งรับปากหนุ่มคารมหวานไปไม่กี่นาทีก่อนหน้าที่เจ้านายจะเดินออกมา แล้วญาดาจะรู้ได้ยังไงล่ะ
 รู้เพียงอย่างเดียวว่าเพียงครั้งแรกที่เขาเอ่ยชวน เธอก็ตกปากรับคำไปทันทีโดยไม่ต้องคิดอะไรเลย ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมตกหลุมรักง่ายจัง
แต่ไหนแต่ไรก็เป็นสาวเก่งแบบแกร่งเกินร้อย หนุ่มหน้าหล่อคนไหนมาจีบก็ไม่เคยสนใจ พอเจอคำหวานของเขาเพียงไม่กี่ประโยค ทำไมใจมันอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟก็ไม่รู้
 ดูสิ ยามที่เดินเข้ามาใกล้ๆ ก็ทำให้ใจสั่นขึ้นเรื่อยๆ

“อ้าว? แล้วอย่างนี้จะเจอกันได้ยังไงครับ”

สีฟ้างงกับคำตอบของเลขาสาว หรือว่าไอ้หนุ่มคนนั้นจะมาหาเลขาของเขาเอง แล้วอย่างนี้จะยอมให้เขาไปเป็นก้างขวางคอเหรอ เผลอเกิดคิดว่าเป็นแฟนหนุ่มที่ตามมาคุมแฟนสาวล่ะ ญาดาไม่ต้องกินแห้วหรือไง

“ก็เจอกันตรงนี้ไงครับ”

เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากด้านหลังเรียกให้สีฟ้าต้องหันไปมอง แล้วเจอกับคนที่เขาอยากเจอ
คิดอยากจะไปหาถึงบริษัท และชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง

ภาคีกับคณิตมาตั้งแต่เมื่อไหร่?

“มาทำไม?” สีฟ้ามองหน้าคนทั้งสองอย่างไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะภาคี  ความคิดถึงเปลี่ยนเป็นความไม่ไว้ใจ ดูจากสีหน้าและแววตาแล้ว
 มันเหมือนว่าภาคีกำลังซ่อนแผนการอะไรไว้เข้าใน

“นั่งรถหนึ่งมาครับ” ภาคีตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม เมื่อเดินมาหยุดอยู่ข้างร่างบางในชุดสูทสีดำคอตั้งซ่อนรอยรักที่ไม่อยากให้ใครเห็นไว้อย่างมิดชิด

“ไม่ได้ถามว่ามายังไง แต่ถามว่ามาทำไม ใครอนุญาตให้มา” สีฟ้าเน้นเสียงหนักในทุกคำพูด
ชักสีหน้าไม่พอใจ ก็สีฟ้าขัดใจน่ะสิ ไม่ชอบเลยที่ภาคียียวนกวนประสาท แม้ไม่มาก แต่เขาก็ไม่ชอบ

“มารับไปทานข้าวครับ” แค่เสียงอ้อนๆ ภาคีคิดว่ามันคงไม่พอที่จะทำให้สีฟ้าหายงอนเขาเรื่องเมื่อเช้า สองมือเลยพาลจะไปกอดเอาใจ แต่อีกฝ่ายเบี่ยงตัวหลบอย่างเร็ว
 แล้วตีหน้าดุใส่เขา

“จะทำอะไร มันที่ทำงานนะ” สีฟ้าสีเขียวใส่คนที่คิดจะทำรุ่มรามใส่เขาต่อหน้าคนอื่น

“ชั้นนี้มันชั้นของผู้บริหารจะมีใครมาเห็นได้ล่ะครับลม พ่อกับพี่ก็ไปต่างประเทศ พี่นลินก็กลับไปแล้ว แล้วจะอายใครล่ะครับ รู้ไหมตินคิดถึงลมมากแค่ไหน โทรมาก็ไม่ยอมรับสาย ตินเลยต้องโดดงานมาพบ เห็นใจกันหน่อยนะครับ ไม่เอานะ หน้ายักษ์แบบนี้นะ ไม่น่ารักเลยรู้ตัวไหม”

ได้ทีเจ้าตัวก็ร่ายคำอ้อนเป็นชุด กางแขนกว้างจะโอบร่างบางนั้นให้สมกับคิดถึงมาทั้งวันอย่างปากพูด  แต่ต้องกางเก้ออยู่อย่างนั้น เมื่อเจอหน้ายักษ์และเสียงเขียวที่เพิ่มดีกรี
มากขึ้นกว่าเดิม

“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะติน !” แค่คืนเดียวทำไมภาคีเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ สีฟ้าสงสัยจริงๆ  

แล้วที่บอกว่าไม่มีใครที่ไหน แล้วที่ยืนทำตาโต เอามือปิดปาก หัวเราะคิกคักกันอยู่นี่ล่ะ ไม่ต้องอายมันเลยหรือไง คณิตไม่เท่าไหร่หรอก เพราะสีฟ้าพอจะรู้ฤทธิ์เดชเมื่อเช้าแล้ว  แต่เลขาสาวผิวสีน้ำผึ้งนี่สิ  จะให้เขาเอาหน้าไปไว้ที่ไหนที่โดนอ้อนขอกอด  มันน่าจะโกรธไปอีกเดือนหนึ่งเลยดีไหม

คณิตที่ยืนข้างเลขาสาวที่สะดุดใจเขาเข้าอย่างจัง ชายหนุ่มฟังคำหวานชวนอ้วกของคนเป็นเพื่อนด้วยอาการกลั้นหัวเราะเสียงดัง  โห...เพื่อนของเขาทำไมมันถึงได้อ้อนได้ชวนอ้วกนัก  มันไปฝึกวิทยายุทธ์นี้มาจากไหน  ทำไมเขาไม่รู้ ก็เคยเห็นแต่ภาคนิ่งๆ พูดน้อยๆ แล้วก็มาดเศร้าๆ เท่านั้น ภาคนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน  สงสัยเพราะหนุ่มหน้าหวานที่ยืนทำหน้ายักษ์คนนี้แน่ ที่ทำให้เพื่อนของเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนแบบนี้

ส่วนญาดาเลขาสาวของสีฟ้า ที่ยืนทำตาโต เอามือเปิดปากอยู่ข้างๆ หนุ่มหน้าตี๋ที่เธอรู้สึกว่าเป็นรักแรกพบ เธอมีความรู้สึกแตกต่างกับคณิตลิบลับ เจ้าตัวออกจะชอบคำอ้อนของแฟนเจ้านายที่ปั้นแต่งได้น่ารักน่าชัง   ถ้าเธอเป็นเจ้าสีฟ้าล่ะก็ เธอคงโผล่เข้าสู่อ้อมกอดไปแล้ว ไม่มัวมายืนปั้นหน้ายักษ์ใส่ ทำเสียงเขียวขู่หรอก

“ใจร้าย“ ภาคีว่า หากเขาออกท่าทางไม่ได้มาก เพราะยังพอรู้ตัวอยู่บ้างว่ากำลังถูกจับจ้องจากสายตาลุ้นและเชียร์ของคนสองคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แล้ว  ญาดาเขาไม่อายหรอก หนักใจอีกคนที่เหลือมากกว่า ปากคณิตร้ายยังไง ทำไมเขาจะไม่รู้ แต่ก็ยอมล่ะ เพราะถ้าไม่ลงทุนง้อสีฟ้า ก็กลัวจะไม่ยอมหายโกรธเขาง่ายๆ

“แล้วใครจะกลับไปกับนาย”  จมูกรั้นเชิดสูง ตาเรียวตวัดค้อน ตอนแรกว่าจะรีบไปหา ไปอ้อนเอาใจ แต่เมื่อภาคีมาหาเขาถึงที่  ก็ขอเล่นตัวอัพราคาความรักซะหน่อย

“เอาอีกแล้วบอกว่าลมกับติน  ลมกับตินไงครับ เมื่อคืนก็เรียกอยู่ทั้งคืน จำไม่ได้หรือไงครับ”  เสียงทุ้มเอ่ยบอก ทั้งที่เขาบอกออกมาเพียงเบาๆ  แต่ก็เชื่อว่าอีกสองคนที่เหลือ
 ได้ยินชัดเจนเพราะตั้งใจฟังกันสุดฤทธิ์

“ติน! หยุดพูดเดียวนี้“

โอ้ยยยยย....สีฟ้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เลขาสาวคนเก่งของเขานอกจากจะทำงานเก่งแล้ว ไอ้เรื่องฝีปากช่างเมาท์ก็เก่งไม่แพ้กันเหมือนกัน

“อะไรอีกครับ พูดความจริงก็ผิดด้วย ก็ลมเรียกชื่อตินทั้งคืนจริงๆ นี่ครับ เมื่อเช้าก็ยังเรียกอยู่เลย”

“ติน! นี่จะประจานให้รู้ทั่วบริษัทเลยหรือไง”  สีฟ้าเริ่มจะเดือดแล้วนะ ภาคีเปลี่ยนไปมาก จะโทษฤทธิ์เหล้าเหมือนเมื่อคืนก็คงไม่ใช่ แล้วเขาต้องโทษใครที่ทำให้ภาคีเป็นแบบนี้ ใครคนนั้นจะใช่เขาไหม?

“ด้าไม่พูดค่ะ คุณลม”

เลขาสาวที่ได้ยินทุกคำได้เห็นทุกช็อตรีบส่ายหน้าไวๆ   ราวกับอ่านความคิดของเจ้านายหนุ่มออก เมื่อเห็นสีฟ้าหันมามองเธอแวบหนึ่ง  หากก่อนหน้านี้ราวสองชั่วโมง ญาดาไม่ได้ยืนบิดอายกับคารมที่คณิตช่างสรรหามาฝาก รับฟังทั้งคำจีบหวานๆ เพราะหูชวนให้เคลิ้มแล้วตกหลุมรัก ไปพร้อมๆ กับเรื่องราวของเจ้านายหนุ่ม ป่านนี้ก็คงจะช็อกกับเหตุการณ์ที่เห็นจ้านายหนุ่มหวุดหวิดจะตกอยู่ในอ้อมกอดของหนุ่มคิ้วเข้มตาหวานหลายครั้ง และคำพูดต่างๆ ที่ออกจะสื่อถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นว่ามากแค่ไหน

“ผมก็ไม่พูดครับ” คณิตรีบบอก

“เห็นไหมครับ เรื่องนี้มีแต่คนกันเองเท่านั้นที่รู้ ครับๆ ไม่พูดก็ได้   งั้นไปทานข้าวกันดีกว่านะครับ ตินหิวแล้ว ” ภาคีอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายเผลอเข้าไปสวมกอดอย่างรวดเร็ว
 ไม่นำพาต่อสายตาของคนกันเองอีกสองคนที่มองตาแป๋ว  แล้วไม่สนตาคู่เรียวเขียวขุ่นที่จ้องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเขาให้ได้ ขืนกลัว เขาก็จะไม่กล้า เมื่อไม่กล้าเขาก็อาจจะเสียสีฟ้าไปอีกครั้ง

เมื่อสีฟ้าให้โอกาสเขาอีกครั้ง แล้วเขาก็ได้บอกรักสีฟ้าไปแล้ว เขาถือว่าเขามีสิทธิ์เต็มที่ที่จะแสดงความรักทั้งหมดออกมา แม้มันอาจจะมากไป หากมันก็คุ้มค่าหากมันทำให้เขาไม่ต้องนั่งกอดลมไร้ตัวตนเหมือนที่ผ่านมา

เขาอยากกอดลมที่มีตัวตนจับต้องได้จริง เช่นตอนนี้ที่เขากำลังกอดอยู่

“ฉันมีนัดแล้ว”

คร้านจะดิ้น  คร้านจะห้าม  คร้านจะดุ  อะไรอีกแล้วล่ะ  ถึงพูดไป  ขู่ไป  มันคงไม่เข้าหูภาคี ถึงเข้าหูก็คงไม่สะทกสะท้านอะไร  มีแต่จะทำให้เขาเสียเปรียบแล้วก็ขายหน้ามากขึ้นเท่านั้น  สีฟ้าเลยจำยอมอยู่ในอ้อมแขน ทำเมินๆ ไม่เห็นสายตาวิบวับของคนกันเองทั้งสอง

“มีนัดกับใคร?  อย่าบอกนะว่ายังจะไปเที่ยวทะเลคุณหมอ”  ภาคีปล่อยร่างบางทันที ยืนเอามือกอดอกถามเสียงแข็ง หมอพิษณุยังไม่เลิกตอแย่คนของเขาอยู่ใช่ไหม
  ความจริงก็โทษหมอพิษณุคนเดียวไม่ได้ คงต้องโทษคนของเขาด้วยเหมือนกัน  หากสีฟ้าคิดจะตัดหมอพิษณุจริงๆ  หมอพิษณุก็คงไม่กล้าเข้ามายุ่งอะไรอีก  

“มีนัดทานข้าวกับคุณด้า”  สีฟ้าบอกเสียงเรียบ เดินไปดึงมือเลขาสาวไปยังประตูลิฟต์ที่อยู่ไม่ห่างจากหน้าห้องทำงานของเขามากนัก

ทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดออก ข้างกายของสีฟ้าและเลขาสาวก็มีสองหนุ่มขนาบข้างทันที

“แปลว่าจุดหมายของเราคือที่เดียวกันครับ” ภาคียิ้มทั้งใบหน้าและแววตา เมื่อพาตัวเองเข้ามาร่วมลิฟต์กับคนหน้าหวานที่ยังทำหน้างอไม่เลิก

“หมายความว่า?”  สีฟ้ามองหน้าคนพูด สลับกับคณิตและญาดาที่ยืนส่งตาหวานให้กันไปมา เริ่มเข้าใจอะไรชัดขึ้น ก่อนหน้านี้คงเพราะโดนกวนอารมณ์มากเกินไป
ทำให้สีฟ้าลืมที่จะใส่ใจคนทั้งคู่

“ด้ามีนัดทานข้าวกับคุณหนึ่งน่ะค่ะ” ญาดาบอกอายๆ หน้าสวยขึ้นสี ขณะที่คณิตก็ยืนยืดอกกว้างบอกอย่างภูมิใจว่า

“วันนี้ผมขอพาเลขาคุณลมไปทานข้าวนะครับ”

“งั้นฉันก็ไม่ไป” สีฟ้าว่า เข้าใจชัดล่ะทีนี้ เขากำลังถูกต้อนใช่ไหม ช่างคิดแผนการดีเหลือเกินนะ แล้วเรื่องอะไรที่เขาจะต้องหลงกล

“แต่คุณลมสัญญาว่าจะไปเป็นเพื่อนด้าแล้วนะคะ อย่าผิดสัญญาสิคะ”  ญาดาพูดเสียงอ่อย ไม่กล้าสบตาคู่เรียวของเจ้านายหนุ่มสักเท่าไหร่  ถึงสีฟ้าจะไม่ใช่เจ้านายจอมโหด แต่เรื่องที่เธอให้ความร่วมมือกับคนที่รู้จักกันได้แค่สองชั่วโมง  เพื่อหลอกล่อให้สีฟ้าตกหลุมนั้น มันก็เป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อความอยู่รอดของเธอเหมือนกัน เกิดสีฟ้าโมโหขึ้นมาไล่เธอออกล่ะ เธอมิแย่เหรอ

“นะคะคุณลม คือด้ายังไม่อยากไปไหนมาไหนกับคนที่เพิ่งรู้จักตามลำพังน่ะค่ะ ไปเป็นเพื่อนด้านะคะ”  เลขาสาวทำใจกล้าขึ้นอีกนิด ก็หลงพาตัวให้ความร่วมมือไปแล้ว ก็คงต้องช่วยไปให้ถึงที่สุด

ด้วยใบหน้าสวยเก๋ที่ส่งประกายตาร้องขอมาให้   สีฟ้าเลยไม่แกล้งคนเจ้าเล่ห์อย่างภาคีไปมากกว่านี้  เพราะมันอาจทำให้ญาดาพลาดโอกาสได้ทำความรู้จักกับชายหนุ่มที่เขาคิดว่าเธอปิ๊งเข้าให้แล้ว ไม่งั้นคงไม่สมยอมให้ความร่วมมือด้วยขนาดนี้หรอก ทั้งที่เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก

“ครับ” สีฟ้าตอบตกลง มองอาการลิงโลดของสองเพื่อนชี้ แล้วหมั่นไส้ อยากถอนคำตกลงจริงๆ

…………………………………………………………

“คุณด้าไปรถผมนะครับ” สีฟ้าบอกเลขาสาวทันทีที่เดินมาถึงรถคันสวยของตัวเอง ญาดาหยุดเท้าที่กำลังก้าวตามหลังคณิตไปที่รถของชายหนุ่ม ซึ่งจอดอยู่ไม่ห่างกันมากนัก หันมาตอบคำชวนของเจ้านายหนุ่ม

“ค่ะ”

สีฟ้าไม่ได้นึกเอะใจเลยว่าทำไมชายหนุ่มทั้งสองถึงไม่มีอาการขัดอกขัดใจอะไรออกมา  เมื่อเขาชวนเลขาสาวขึ้นรถ  ทั้งที่มันควรจะมีบ้างสักเล็กน้อย ประมาณว่ายังไงก็จะงอแงขอไปกับเขา แต่ไม่เลย แถมยังยิ้มแล้วเดินเลยไปยังรถของตัวเอง  เพราะไม่ทันคิดสีฟ้าจึงพาตัวเองเข้าไปนั่งตรงเบาะฝั่งคนขับอย่างรวดเร็ว  หวังว่าเลขาสาวที่เดินตามมาจะเปิดประตูอีกฝั่งหนึ่งเข้ามานั่ง

เลขาสาวสวยของสีฟ้าเปิดประตูฝั่งตรงข้ามจริงๆ แต่เปิดเพื่อที่จะปล่อยโอกาสให้ร่างสูงก้าวพรวดเข้ามานั่งทำหน้าตายอยู่ข้างคนขับ  พร้อมกับกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่เพิ่งไปหยิบเอามาจากหลังรถของคณิต แล้วเหวี่ยงมันไปกองอยู่ตรงเบาะหลัง  ไม่นำพาต่อสายตาที่ตวัดมองมาด้วยความไม่พอใจ

สีฟ้าขัดใจ แต่ไม่ใช่ไม่พอใจ ห้ามอะไรได้ในเมื่อเขาก็ไม่คิดจะห้ามจริงจังอะไร

“ใครใช้ให้ขึ้นมา ลงไปเลยนะ” แต่ว่าเขาก็ยังต้องแกล้งทำเหมือนไม่พอใจ

“ตินหิวแล้วนะครับ ดูสิ หนึ่งกับคุณด้าก็ไปนู่นแล้ว”  ภาคีชี้ให้คนหน้าหวานดูรถของเพื่อนรักที่แล่นออกไปจนเกือบจะลับสายตาอยู่แล้ว

“เจ้าเล่ห์นักนะ”  ตาเรียวหรี่มองอย่างไม่ไว้ใจ รถคันสวยยังคงจอดสนิทไม่ขยับเขยื้อนไปไหน

“เพราะลมแหละทำให้ตินเป็นแบบนี้ รู้อยู่ว่าตินรัก อยากเจอ อยากได้ยินเสียง แต่ก็ยังจะแกล้งอยู่ได้  โทรมาหาไม่รู้กี่ร้อยรอบก็ไม่ยอมรับสาย  ตินเลยต้องบุกมาถึงที่นี่ จะมาโทษตินไม่ได้นะครับ”

“ลมผิด? ลมทำอะไรก็ผิดหมดเลยใช่ไหม  ผิดที่โกรธ  ผิดที่งอน  ผิดที่ไม่ยอม  ผิดหมดเลยใช่ไหมงั้นก็ลงไปเลย ไม่ต้องมานั่งอยู่กับคนแย่ๆ อย่างลม  แล้วลมก็ไม่อยากขับรถให้กับคนที่เอาแต่โทษว่าลมผิด”  สีฟ้าเริ่มของขึ้นนิดๆ มันเป็นอารมณ์ปกติของหนุ่มหน้าหวานอยู่แล้ว ยิ่งโดนยั่วด้วยนัยน์ตาพราวนั่นอีก ทำให้อารมณ์มันขึ้นได้ง่าย

“แต่ตินไม่ได้เอารถมา” ภาคีไม่สนใจคำพูดตัดเพ้อ ดูตาก็รู้ว่าสีฟ้าไม่ได้เดือดถึงขั้นที่จะไล่เขาลงจากรถจริงๆ หรอก อารมณ์ร้อนๆ ของสีฟ้า ภาคีเจอมาเยอะ ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ได้ร่วมเตียงเคียงหมอนกันด้วยซ้ำ   แค่นี้คงไม่เท่าไหร่ หากเขายังหน้าด้าน ไม่ยอมลง  สีฟ้าก็คงไม่ทำอะไรมากกว่าปั้นหน้าหงิกใส่เขา

“แท็กซี่มีถมเถ”

“ก็ได้ครับ” ว่าแล้วก็พาตัวเองออกมาจากรถคันหรูของคนหน้าหวานทันที   ทำเอาสีฟ้าอ้าปากค้าง นึกโทษตัวเองที่เผลอหลุดปากไล่  เขาไม่ได้ตั้งใจ ภาคีน่าจะรู้ว่าเขาไม่ได้หมายความตามที่พูดจริงๆ ซะหน่อย

โทษตัวเองไม่ทันไร สีฟ้าก็ต้องตกใจ เ มื่อประตูฝั่งคนขับถูกเปิดออก ก่อนตัวของเขาจะปลิวตามแรงดึงที่ต้นแขนจากมือใหญ่ ให้ไปจมปุกอยู่บนเบาะข้างคนขับแทน

“ลมไม่อยากขับ งั้นตินขับให้ก็ได้ครับ”

สีฟ้าจะทำไงได้ล่ะ ในเมื่อตอนนี้เขาถูกภาคีจับจับล็อคด้วยเบลท์ไปแล้ว แถมเจ้าตัวยังวิ่งอ้อมไปนั่งประจำการอยู่ฝั่งคนขับเป็นที่เรียบร้อย

รถหรูของสีฟ้าวิ่งออกจากตัวตึกสู่ถนนสายหลัก

“หายงอนนะครับ” ภาคีหันไปมองคนที่นั่งนิ่งมาตลอดทาง

“ไม่ได้งอน แค่ไม่ชอบที่ต้องกลายเป็นคนผิด” เจ้าตัวออกปากประชด ความจริงเขาก็ไม่ได้งอนอะไรมากมายเหรอ แค่ไม่อยากอ่อนให้ภาคีมากเกินไป

“ตินผิดด้วยก็ได้ครับ ดีกันนะ” ว่าพลางก็ยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้าคนหน้างอ ทำตาหวานเอาใจสุดๆ

สีฟ้าปัดมือนั้นออกไปเบาๆ ทั้งที่ความจริงก็ใจอารมณ์ก็เย็นลงไปแล้ว แต่ไม่แสดงให้อีกฝ่ายรู้ เดี๋ยวจะได้ใจมากกว่าเดิม คนที่โดนปฏิเสธการขอคืนดีก็ไม่ได้สลดแต่อย่างใด เพราะภาคีแน่ใจว่าสีฟ้าหายโกรธเขาแล้ว

“แล้วนี่จะไปทานข้าวที่ร้านไหน” สีฟ้าถามขึ้นมา หลังจากที่นั่งนิ่งมานานเกือบชั่วโมง จากบริษัทมาตั้งนาน ติดไฟแดงมาไม่รู้กี่แยก แต่ทำไมมันถึงไม่ถึงจุดหมายปลายทางเสียที

“ไปทานอาหารทะเลกันครับ”

สีฟ้าพยักหน้ารับรู้ ไม่ได้เอะใจอีกเช่นเคยว่าร้านอาหารที่จะพาไปนั่งกินนั้น มันอยู่ส่วนไหนของกรุงเทพ

รถคันหรูจอดติดไฟแดงอีกครั้ง ครั้งนี้ดูมันจะนานกว่าทุกครั้ง  สีฟ้าที่เหนื่อยกับงานมาทั้งวัน บวกกับที่เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอนเลย ตอนนี้หนังตามันเลยหนัก แล้วปิดลงอย่างช้า ก่อนดำดิ่งสู่ห้วงนิทราในเวลาไม่นานนัก

.....................................................................................

ในรถอีกคันหนึ่งที่แล่นออกจากตัวตึกไปก่อนหน้ารถของสีฟ้า คณิตยิ้มอย่างคนอารมณ์ดี เขามีความสุขที่สามารถหาสาวสวยมานั่งเคียงข้างได้สักที ส่วนสาวสวยที่นั่งอยู่ข้างๆ เขากลับกำลังรู้สึกลำบากใจอย่างมาก

“ด้ากลัวคุณลมโกรธจัง” สาวเจ้าเปิดปากออกมาทันที ที่รถแล่นออกมาสู่ถนนสายหลักที่การจารจรคับคั่ง

“ไม่หรอกครับคุณด้า ผมว่า คุณลมน่าจะขอบใจพวกเราสองคนด้วยซ้ำ”

คณิตหันมาบอกให้อีกฝ่ายสบายใจ หญิงสาวที่เขาเพิ่งรู้จักแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ก็ได้ยินเสียงอยู่หลายครั้งตอนที่ช่วยไอ้เพื่อนรักโทรเข้ามาหาเจ้านายหนุ่มของเจ้าเธอ
ครั้งแรกที่ได้ยินเสียงก็ตกหลุมรักเสียงนี้ไปแล้ว พอมาเจอตัวจริงก็ยิ่งมั่นใจว่า นี่แหละสาวสวยในฝัน เขาไม่ปล่อยให้หลุดมือไปแน่

“แน่ใจนะคะ” เธอถามย้ำ เพื่อเพิ่มความสบายใจให้กับตัวเอง หวังว่าพอถึงที่หมายแล้วเจ้านายหนุ่มคงไม่โกรธเธอ จนถึงขั้นไล่ออกหรอกนะ

“แน่นอนครับ ยิ้มๆ นะครับ เรากำลังไปเที่ยวทะเลกัน สดชื่นหน่อย”

ญาดายิ้มแห้งๆ ให้คณิต

เฮ้อออ...เธอจะโดนข้อหาหลอกลวงและกักขังหน่วงเหนี่ยวเจ้านายไหมเนี่ย คงไม่มั้ง สีฟ้ากับภาคีเป็นคนรักกันนี่นา ถือว่าเธอช่วยให้คนทั้งสองมีเวลาอยู่ร่วมกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็แล้วกัน ก็ตามคำที่คณิตกับภาคีพูดกรอกหูเธอนั่นแหละ

“ผมขอเรียกปฏิบัติการนี้ว่า ‘อุ้มเขาไปทะเล’ นะครับ คุณด้า”

นี่คือคำพูดประโยคสุดท้ายของคณิต ก่อนที่เธอจะตกปากรับคำและเอากาแฟหอมกรุ่นไปเสิร์ฟเจ้านายหนุ่ม ที่ตอนนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรู้ตัวหรือยัง ว่ากำลังโดนหนุ่มคนรักล่อลวงไปกักขังหน่วงเหนี่ยวที่ทะเลตลอดวันหยุดยาวที่กินเวลานานถึงสี่วัน


............................................................................

........ซ่า.....ซ่า.........

เสียงอะไรนะ น่ารำคาญจริง แล้วนี้ก็อะไรอีกล่ะที่ป้วนเปี้ยนอยู่บนหน้าอยู่ได้ คนจะนอน  

“ตื่นได้แล้วครับ” คำปลุกดังเข้าสู่หมวดการรับรู้ ขณะที่สิ่งกวนใจบนผิวแก้มก็คล้ายจะหายไป

สีฟ้างัวเงียตื่นขึ้นตามเสียงปลุก พอเข้าใจแล้วว่าอะไรรบกวนเขาอยู่เมื่อครู่ ก็ปากหยักที่เห็นอยู่ไกลแค่ลมหายใจกั้นนะสิ

“พามาที่ไหนเนี่ย” พอลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องสี่เหลี่ยม ที่มีความสลัวเพียงน้อยนิดของจันทร์ดวงโตที่ทอดผ่านกระจกใสไร้ม่านหนาเข้ามา

“ทะเลครับ”

“หือ...ทะเล พามาทำไม”

“ทะเลที่ลมอยากมาไง ตินช่วยลมรักษาสัญญาไงครับ” ชายหนุ่มบอกอย่างอารมณ์ดี มาทะเลแต่เปลี่ยนคนที่มาด้วยจากคุณหมอพิษณุมาเป็นเขาแทน

“ช่วยได้มาเลยนะติน” สีฟ้าต่อว่า แต่แล้วก็แทบจะตั้งตัวไม่ทัน เมื่อถูกร่างกำยำกดทับลงมา เป็นความรู้สึกคุ้นเคย ใบหน้าที่แนบใกล้ก็ทำสร้างสัมผัสที่วาบหวาม จมูกโด่งแนบจรดชิดผิวเนื้อที่หน้านวลชวนให้สะท้าน จนเกือบจะเผลอวาดมือเรียวเหนี่ยวต้นคอหนาให้แนบเข้ามาชิดกว่าเดิม แต่สีฟ้าก็ยังรวบรวมความต้องการที่วิ่งลิ่วเอาไว้ทัน  มือเรียวเล็กยกขึ้นต้านแผ่นอกหนาแทนที่จะเกาะเกี่ยวดังความต้องการแรก

“อื้อ...อย่าดื้อสิครับ” เสียงพร่าด้วยอารมณ์ที่ถูกขัดใจดังอู้อี้อยู่ข้างใบหูนิ่ม ถึงจะโดนขัดอารมณ์ แต่มีหรือแค่มือเล็กๆ จะหยุดยั้งมือใหญ่ที่ลามไล้ไปทั่วเรือนกายหวานใต้เสื้อเซิ้ตเนื้อดีได้
 

“อะ...อื้ม...........” แล้วเรียวปากสวยก็ถูกรุนรานแล้วชักชวนให้หยุดอาการต่อต้านต่างๆ ก่อนถูกชักจูงให้ต้องหันมาให้ความร่วมมือกับร่างกำยำ พันธนาการต่างๆ ถูกปลดปล่อยไปเมื่อไหร่ไม่มีใครนึกอยากรู้ หากสิ่งที่รู้คือยามนี้เรือนกายทั้งสองไร้อาภรณ์ห่อหุ้ม มีเพียงแสงจันทร์ที่ทอดแสงออกมาสาดกระทบ กับเสียงคลื่นที่ม้วนตัวเข้าหาเม็ดทรายขาวสะท้อนแสงจันทร์ เป็นท่วงทำนองหวานสอดรับกับภาษากายที่วิ่งวนเข้าสู่ห้วงแห่งความสุข



...


เสียงคลื่นดังปลิวมากับสายลม ดังเข้ามาให้ได้ยินไม่หยุดหย่อน ไม่แตกต่างจากเรือนกายที่ก่ายกอดที่คร้านจะนับ ว่าผ่านช่วงเวลาแห่งสุขมากมายเท่าไหร่ คล้ายไม่ยอมรับรู้คืนวันที่หมุนผ่าน

“นี่นะพามากินอาหารทะเล” เสียงหวานว่า ก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้กับแผ่นอกกว้างที่ยังตามมาสวมกอดอย่างไม่ลดละ ไม่ยอมให้เกิดช่องว่างระหว่างสองเรา ในช่วงเวลาแห่งสองเราแม้แต่น้อยนิด

“นี่ไงครับ ทะเล”

“รู้ว่ามันเป็นทะเล แต่ไหนล่ะอาหารทะเล”

“ก็นี่ไงครับ กินมาทั้งคืนแล้ว ทำเป็นจำไม่ได้ หิวอีกแล้วใช่ไหมล่ะ งั้นตินเสิร์ฟให้อีกนะครับคนดี”

ถ้าเป็นอาหารที่กินแล้วอิ่มท้อง สีฟ้าก็พร้อมจะกินมันตามที่คนตาหวานเยิ้มพูด แต่มันไม่ใช่อาหารน่ะสิ แล้วที่สำคัญเขาหรือจะได้กิน มีแต่อีกฝ่ายที่อิ่มเอมกับอาหารที่สร้างจากเรือนกายของเขา หรือว่าเขากลายสภาพเป็นสารพัดอาหารจานอร่อยในสายตาของภาคีไปแล้ว

“พอแล้วติน ลมหิว หิวข้าว หิวข้าวได้ยินไหม ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ แล้วนี่มันกี่โมงแล้ว เห็นใจกันไหมเนี้ย ”  สีฟ้ารัวกำปั้นใส่ร่างกำยำที่ตั้งหน้าตั้งแต่จะลามไล้เรือนกายของเขาไม่หยุดหย่อน

“หิวจริงเหรอครับ?” ภาคีเงยหน้าขึ้นมาถาม ดูเหมือนจะไม่เชื่อคำพูดของคนในอ้อมกอดเท่าไหร่ เขาก็ยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน ยังไม่หิวเลย  

“เอ๊ะ ก็หิวจริงสิ จะโกหกเพื่ออะไร คิดจะไม่ให้ลมได้กินอะไรเลยใช่ไหม” เสียงหวานตอบจริงจัง

“ครับ ให้กินครับ เดี๋ยวรอภาคีแป๊บนะครับ”

ภาคียอมถอนกายจากเรือนร่างหอมกรุ่นที่หวานล้ำ เดินไปหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะ กดโทรออก

“หนึ่งเอาอาหารมาให้หน่อย อืม...ลมหิว หิวมาก อย่าถามมากได้ไหมว่ะ แค่นี้แหละ ให้ไว” ภาคีกดวางสาย เดินกลับมามายังเตียงนุ่มที่มีร่างหวานๆ รอเขาอยู่

“คุณด้ามาด้วยหรือเปล่า?” สีฟ้าคำถาม เมื่อภาคีล้มตัวลงนอนกอดเขา หน้าหล่อวางพักไว้กับแผ่นอกเหมือนเด็กขี้อ้อน

“ครับ”

สีฟ้าถอนหายใจหนักกับคำตอบของภาคี ญาดามาด้วย แล้วเขาจะทำหน้ายังไงเวลาเจอญาดาล่ะคราวนี้


........................................................................................

มาทะเลคราวนี้ สีฟ้าได้กินอาหารทะเลทุกมื้อ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา เป็นอาหารจานอร่อยที่ไม่เคยซ้ำเมนูเลยสักครั้ง แต่สิ่งที่สีฟ้าไม่ได้จากการมาทะเลคราวนี้คือร่างกายที่เปียกชุ่มน้ำทะเลรสเค็ม เท้าที่สัมผัสกับเม็ดทรายสีขาวต้องแสงแดดอุ่น หากมีเพียงเรือนกายกำยำที่ได้สัมผัส แผ่นหลังที่แตะต้องแต่เนื้อเตียงนุ่ม กับผ้านวมผืนหนาที่ห่อหุ้มกายยามเข้าสู่ห้วงนิทรา

และรู้เพียงว่าเขาไม่สามารถออกไปรับแสงแดดโดยตรงได้เลย นอกจากมันจะลอดผ่านรอยแยกของม่านผืนหน้าเข้ามากระทบกับผิวกายขาวนวลในยามกลางวัน


......................................................
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 07-04-2011 21:37:43
พี่เอ๋ขรา ให้ไวค่ะ อิอิ

คิดถึงน้องลมมมมมมม :o8:

รักนะคะ ทั้งคนแต่ง คนลง  :L1:

มาแล้วค๊าคุณน้อง แต่โปรดระวังเบาหวานขึ้นนะเคอะ  จะหาว่าเจ๊ไม่เตือน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 07-04-2011 21:43:17
หุหุ คุณตินแผนสูงนะกินลมทั้่งวันทั้งคืนเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 07-04-2011 21:44:15
น่านสิ ลมทำไรไม่ได้เลยอ่า ดูซิ โดนดักทางไว้หมดแล้ว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 07-04-2011 21:45:25
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 07-04-2011 21:49:55
 บวก1 แทนคำขอบคุณสำหรับทุกๆเม้นท์หน้า 15 และ 16 นะค่ะ

ส่วนเม้นท์ที่กำลังจะทลักทลายเข้ามาหลังจากนี้ (เหรอ) ค่อยมาบวกวันพรุ่งนี้นะค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 07-04-2011 21:53:22
อุ้มลมสู่ทะเลแค่ชื่อใช่ม่ะ นึกว่าลมจะได้เล่นทะเลซะอีกที่แท้ได้เล่นแต่ ติน ติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 07-04-2011 21:56:15
อ่านไปเรื่อยๆทำให้เรารู้ว่าตินหื่นนนนมากก!!!!!
ให้ลมได้พักบ้างอะไรบ้างนะติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 07-04-2011 21:58:21
ไปทะเลเหมือนกันแต่ไม่ได้เล่นน้ำเท่านั้นแหละคุณลม
โดนตินกักตัวไว้แต่บนเตียงไม่ยอมให้ไปไหน
ตอนแรกก็ว่าลมงอนตินบ่อยจังเลย
แต่ตอนนี้น่างอนกว่านะจะไม่ให้กินข้าวเลยเหรอ
เดี๋ยวไม่มีแรงนะ รักกันหวานกันนานๆนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 07-04-2011 21:58:56
เที่ยวทะเลแบบนี้ผิวขาวมีน้ำมีนวลแน่ๆ คุณลม
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 07-04-2011 21:59:25
โหยลมบอบช้ำไปแล้วมั้งเนี่ย ตินไม่ไหวนะหื่นขั้นเทพอ่า สุดยอดของความหื่นเลย ฮ่าา มาทะเลแต่กลับไม่ได้เล่นทะเล หุหุ หนึ่งกับตินนี่แผนสูงใช่เล่นนะ เจ้าเล่ห์ทั้งคู่จริงๆ ตินคนที่พูดน้อยหายไปกลายเป็นตินที่มีแต่ความหื่น ฮ่าาา ลมอดเล่นทะเลเลยอ่า ตินก็นะกินลมทั้งวันทั้งคืนจริงๆ สุดยอด !!!! ต่ออีกเร็วๆ นะค่ะ อ่านเรื่องนี้ทีไรน้ำตาลขึ้นสูงทุกที อิอิ ทะลักน้ำตาลแล้วเนี่ย ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 07-04-2011 22:04:18
โหยติน ไม่ให้ลมหนีไปไหนเลยหรอเนี่ยะ
มาทะเลนะ มาทะเลนะเว้ย ได้อยู่แต่บนเตียง ก๊ากก ฮ่าๆ
หื่นไม่ไหวแล้วว เบาๆหน่อยก็ได้นะ สงสารลมอะ

ชอบบบบบบบบ
+1 จัดไป ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 07-04-2011 22:05:14
กักขังหน่วงเหนี่ยวจริงๆ ด้วยยยย ^^
บวกๆ ค่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 07-04-2011 22:07:00
แน่ใจหรือว่าเที่ยวที่ชายทะเล


เห็นเอาแต่หื่นนายติน :haun4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 07-04-2011 22:25:26
ตินชักหื่นขึ้นทุกวันแล้ว สงสารลมเจงๆเลยค่ะ ไปเที่ยวทะเลแต่ไม่ได้เล่นน้ำทะเลดันได้เล่นน้ำอย่างอื่นจากตินแทน ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 07-04-2011 22:42:17
อุ้มเขาไปทะเล ช่างคิดกันเสียจริงๆนะพวกนี้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 07-04-2011 22:53:22
แหมมมม

แล้วจะไปทะเลทำไม??

หรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศเฉยๆ
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 07-04-2011 23:08:06
 :กอด1:

ทะเลหวานตายเลย   :o8:


 :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 07-04-2011 23:18:08
อ้าวตินไมทำแบบนี้ละ
ขนาดขังกันเลยหรอเนี่ยยยยยยยยย
เริ่มสงสารลมแล้ววววว
มาเจอคนหื่นแบบนี้
5555555+++
แต่ลมนี่แสนจะขี้งอลจริงๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 07-04-2011 23:36:24
โอ้  ตินไปคึกมาจากไหนเนี่ย
ถนอมๆลมบ้าง
แหม ไม่คิดจะปล่อยเลยนะ
มาทะเลก็ให้ไปโดนทะเลบ้าง
คนอ่านน้ำตาลขึ้นแล้ว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 07-04-2011 23:46:31
ทะเลหวาน ปลาหื่นกันหมดแล้ว ^///^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 08-04-2011 00:34:08
เอิ่มมมม


ลมต้องเข้าใจอ่ะครับ


ว่าตินมันคงเก็บกดมาหลายปีดีดัก
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 08-04-2011 02:11:06
นายตินกลายเป็นคนหื่นกามขนาดนี้ไปได้ยังไงเนี่ย เหอะ เหอะ เหอะ  :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 08-04-2011 07:20:31
ขอบคุณคนโพสต์คนแต่ง :L2:
ภาคีเปลี่ยนไปถูกใจข้าพเจ้าจริงๆ
สีฟ้าจ๋าเมื่อไรจะบอกรักภาคีจ๊ะ
คณิตญาดาคู่ใหม่ที่ไม่ต้องลุ้นมั้ง :o8:
+1แทนคำขอบคุณจ้ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 08-04-2011 08:01:17
ทะเลเลยจืดสนิท เมื่อมาเจอความหวานของคุ่นี้ :o8:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 08-04-2011 09:12:32
โอ้ววว....หักโหมนะเนี่ย :haun4:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 08-04-2011 09:27:37
พี่ตินกินอาหารทะเลทั้งวันทั้งคืนงี้ไม่กลัวอ้วนเหรอค่ะ  :z1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 08-04-2011 10:38:21
นายตินของเราไม่ต้องกินอาหารทะเลก้ออิ่มเพราะว่าได้กินลมแทน
อิ่มอกอิ่มใจมากกว่าอิ่มท้องซะอีก ร้ายจริงๆๆเชียว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 08-04-2011 11:04:26
กินยาลืมเขย่าขวดป่ะคะคุณติน  อะไรจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้  ทั้งออดทั้งอ้อน ขี้งอน เจ้าเล่ห์ คุณลมคืดถูกป่ะคะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Frog ที่ 08-04-2011 11:18:58
อิพี่ติน บร้าาาา  :angry2: จะหื่นน ไปไหน

เค้าสงสารน้องลม ผู้บอบบางของเค้า :impress2: (หยอออ?)

+1 กลับให้พี่เอ๋ค้าบ ม๊วฟๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 08-04-2011 11:59:14
ได้แต่กินอาหารทะเล
ไม่ได้สัมผัสน้ำทะเลเลย
อยู่แต่บนฟูก ชักเอาใหญ่แล้วนะติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 08-04-2011 12:02:48
ความรักเปลี่ยนคนได้
เปลี่ยนคนขรึมเป็นหื่นตลอดเวลา

หึหึ ... จะสงสาร หรืออิจฉาลมดีนะ

ไปทะเลแต่ไม่ได้ออกไปดูทะเล
 กินอาหารทะเล และถูก ตินกิน กร๊ากกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zatannn ที่ 08-04-2011 14:08:46
ตามมาจากห้องนิยายแนะนำค่ะ อ่านไปได้ 1 ตอน เอง เสียดายอ่ะ ไว้มาอ่านใหม่

จากตอนแรกที่อ่าน นี้ถ้าเราเป็น นริดา รู้ทั้งรู้ว่าเขามองผู้ชายคนอื่นละก็  เลิก!! 



แข่งกับใครแข่งได้แต่อย่าไปแข่งกับผช.หน้าสวยคะ 55
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 08-04-2011 15:50:55
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดด หนูลมจะได้หลับอย่างเป็นสุขมั้ยเนี่ยยยยย
กินแล้วก็ออกกำลัง หุหุ  :z3:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: theman92 ที่ 08-04-2011 16:28:56
เป็นกำลังใจให้นะครับ
หนุกมากกเลย
ไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Ugly Ducky ที่ 08-04-2011 16:57:47
สงสาร น้องลม อ่ะ ...
พี่ตินคะ เบาบ้างอะไรบ้างนะคะ ช้ำหมดแล้วววววววววววววว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 08-04-2011 17:36:20
มาตอบเม้นท์และ บวก 1 แทนคำขอบคุณตามที่สัญญาไว้สำหรับทุกๆคนนะค่ะ
อุ้มลมสู่ทะเลแค่ชื่อใช่ม่ะ นึกว่าลมจะได้เล่นทะเลซะอีกที่แท้ได้เล่นแต่ ติน ติน

ถ้ามัวแต่เล่นน้ำก็อดเล่นตินอ่ะดิ

อ่านไปเรื่อยๆทำให้เรารู้ว่าตินหื่นนนนมากก!!!!!
ให้ลมได้พักบ้างอะไรบ้างนะติน

พระเอกของใครเนี่ยะนั่นดิ หื่นเกิ๊น

ไปทะเลเหมือนกันแต่ไม่ได้เล่นน้ำเท่านั้นแหละคุณลม
โดนตินกักตัวไว้แต่บนเตียงไม่ยอมให้ไปไหน
ตอนแรกก็ว่าลมงอนตินบ่อยจังเลย
แต่ตอนนี้น่างอนกว่านะจะไม่ให้กินข้าวเลยเหรอ
เดี๋ยวไม่มีแรงนะ รักกันหวานกันนานๆนะ
ก็ตินเค๊าอุตส่าห์สั่งอาหารทะเลมาให้กินทุกมื้อเลยน๊า
เที่ยวทะเลแบบนี้ผิวขาวมีน้ำมีนวลแน่ๆ คุณลม
ชักอยากจะมีน้ำมีนวลกะเขามั่งแระ  คริคริ
โหยลมบอบช้ำไปแล้วมั้งเนี่ย ตินไม่ไหวนะหื่นขั้นเทพอ่า สุดยอดของความหื่นเลย ฮ่าา มาทะเลแต่กลับไม่ได้เล่นทะเล หุหุ หนึ่งกับตินนี่แผนสูงใช่เล่นนะ เจ้าเล่ห์ทั้งคู่จริงๆ ตินคนที่พูดน้อยหายไปกลายเป็นตินที่มีแต่ความหื่น ฮ่าาา ลมอดเล่นทะเลเลยอ่า ตินก็นะกินลมทั้งวันทั้งคืนจริงๆ สุดยอด !!!! ต่ออีกเร็วๆ นะค่ะ อ่านเรื่องนี้ทีไรน้ำตาลขึ้นสูงทุกที อิอิ ทะลักน้ำตาลแล้วเนี่ย ^^
ถือว่าชดเชยช่วงที่กินมาม่านะค่ะ
โหยติน ไม่ให้ลมหนีไปไหนเลยหรอเนี่ยะ
มาทะเลนะ มาทะเลนะเว้ย ได้อยู่แต่บนเตียง ก๊ากก ฮ่าๆ
หื่นไม่ไหวแล้วว เบาๆหน่อยก็ได้นะ สงสารลมอะ

ชอบบบบบบบบ
+1 จัดไป ฮ่าๆๆ

ขอบคุณค่ะ บวก 1 ตอบกลับเช่นกันนะค่ะ
กักขังหน่วงเหนี่ยวจริงๆ ด้วยยยย ^^
บวกๆ ค่า
บวก 1 คืนเช่นกันค่ะ  แหมๆ ของแบบนี้ ว่าตินเค้าไม่ได้ ก็นู๋ลมเค้ายินยิมพร้อมใจให้กักขังไว้ด้วยร่างกายนี่นา
แน่ใจหรือว่าเที่ยวที่ชายทะเล

เห็นเอาแต่หื่นนายติน
ต่อไปตินคงได้ฉายา เทพบุตรสุดหื่นแระ
ตินชักหื่นขึ้นทุกวันแล้ว สงสารลมเจงๆเลยค่ะ ไปเที่ยวทะเลแต่ไม่ได้เล่นน้ำทะเลดันได้เล่นน้ำอย่างอื่นจากตินแทน ฮี่ๆ
อ่าอย่าเอ็ดไป อาจได้ทั้งเล่น ทั้งกินน้ำอย่างอื่นของตินแทนใครจะรู้..นอกจากคนแต่ง
อุ้มเขาไปทะเล ช่างคิดกันเสียจริงๆนะพวกนี้

นั่นดิ ทำไปได้ แต่ ก้ดี ชอบๆๆ อุ้มอีกๆๆ
แหมมมม
แล้วจะไปทะเลทำไม??
หรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศเฉยๆ
 
สงสัยจะใช่อันหลังนั่นแหละค่ะ เปลี่ยนบรรยากาศ
:กอด1:

ทะเลหวานตายเลย   :o8:

อย่าไว้ใจคนแต่ง ระวังอาจ มีมาม่าแฝงตัวมา
อ้าวตินไมทำแบบนี้ละ
ขนาดขังกันเลยหรอเนี่ยยยยยยยยย
เริ่มสงสารลมแล้ววววว
มาเจอคนหื่นแบบนี้
5555555+++
แต่ลมนี่แสนจะขี้งอลจริงๆๆๆๆ
ก็เพราะขี้งอลนี่แหละ พอตินเค้าง้อด้วยสายตาหวานๆจนนู๋ลมเค้าหวั่นไหวยอมให้กักขังหน่วงเหนี่ยวโดยไม่นำพา
โอ้  ตินไปคึกมาจากไหนเนี่ย
ถนอมๆลมบ้าง
แหม ไม่คิดจะปล่อยเลยนะ
มาทะเลก็ให้ไปโดนทะเลบ้าง
คนอ่านน้ำตาลขึ้นแล้ว
ยังดีนะที่ได้กินอาหารทะเล
ทะเลหวาน ปลาหื่นกันหมดแล้ว ^///^
กลัวแต่ปลาจะเป็นเบาหวานอ่ะดิ
เอิ่มมมม

ลมต้องเข้าใจอ่ะครับ

ว่าตินมันคงเก็บกดมาหลายปีดีดัก
ใช่เลยค่ะ
นายตินกลายเป็นคนหื่นกามขนาดนี้ไปได้ยังไงเนี่ย เหอะ เหอะ เหอะ  :z1: :z1: :z1:
เมื่อก่อนหื่นไม่แสดงออก แต่ ณ บัดนาว ภาคีเค้าจัดเต็ม
ขอบคุณคนโพสต์คนแต่ง :L2:
ภาคีเปลี่ยนไปถูกใจข้าพเจ้าจริงๆ
สีฟ้าจ๋าเมื่อไรจะบอกรักภาคีจ๊ะ
คณิตญาดาคู่ใหม่ที่ไม่ต้องลุ้นมั้ง :o8:
+1แทนคำขอบคุณจ้ะ
ขอบคุณเช่นกันค่ะ บวกคืนให้เหมือนกันนะค่ะ
ทะเลเลยจืดสนิท เมื่อมาเจอความหวานของคุ่นี้ :o8:
ทะเลที่ว่าหวาน ฤ จะสู้คู่นี้ ของเค้าดีจริงๆ
โอ้ววว....หักโหมนะเนี่ย :haun4:

 :pig4: คะ
ขอบคุณนะค่ะที่ชอบเรื่องนี้เป็นกำลังใจให้คนแต่งได้เยอะแน่เลย
พี่ตินกินอาหารทะเลทั้งวันทั้งคืนงี้ไม่กลัวอ้วนเหรอค่ะ  :z1:
เค้าก็ออกกำลังทั้งคืนเหมือนกันน๊า คงไม่อ้วนหรอก
นายตินของเราไม่ต้องกินอาหารทะเลก้ออิ่มเพราะว่าได้กินลมแทน
อิ่มอกอิ่มใจมากกว่าอิ่มท้องซะอีก ร้ายจริงๆๆเชียว
คนมีความรัก ก็งี้ อิ่มทิพย์
กินยาลืมเขย่าขวดป่ะคะคุณติน  อะไรจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้  ทั้งออดทั้งอ้อน ขี้งอน เจ้าเล่ห์ คุณลมคืดถูกป่ะคะเนี่ย
บอกแล้วที่จริงนะหื่นแต่ไม่แสดงออก
อิพี่ติน บร้าาาา  :angry2: จะหื่นน ไปไหน

เค้าสงสารน้องลม ผู้บอบบางของเค้า :impress2: (หยอออ?)

+1 กลับให้พี่เอ๋ค้าบ ม๊วฟๆๆ
จุ๊บๆ มดน้อย บอกแล้วว่า คนนี้เค้าหื่น เหมือนใครดีหว่า คนแต่ง หรือ คนอ่าน บวกคืนเช่นกันจ้า
ได้แต่กินอาหารทะเล
ไม่ได้สัมผัสน้ำทะเลเลย
อยู่แต่บนฟูก ชักเอาใหญ่แล้วนะติน

อย่าว่าภาคีผู้เงียบขรึมเลยนะ สงสารภาคีผู้ต่ำต้อยด้วยเถอะ นานๆทีมีโอกาส เนอะๆๆ
ตามมาจากห้องนิยายแนะนำค่ะ อ่านไปได้ 1 ตอน เอง เสียดายอ่ะ ไว้มาอ่านใหม่

จากตอนแรกที่อ่าน นี้ถ้าเราเป็น นริดา รู้ทั้งรู้ว่าเขามองผู้ชายคนอื่นละก็  เลิก!!  

แข่งกับใครแข่งได้แต่อย่าไปแข่งกับผช.หน้าสวยคะ 55
ขอบคุณมากๆนะค่ะ คนแต่งต้องดีใจแน่ๆเลย อย่าลืมติดตามกันไปเรื่อยนะค่ะ บวก 1 แทนคำขอบคุณนะค่ะ
สงสาร น้องลม อ่ะ ...
พี่ตินคะ เบาบ้างอะไรบ้างนะคะ ช้ำหมดแล้วววววววววววววว
ไม่ทันแล้วมั้งค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะครับ
หนุกมากกเลย
ไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
ยินดีต้อนรับค่ะ ดีใจมากๆที่ชอบเรื่องนี้นะค่ะ
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดด หนูลมจะได้หลับอย่างเป็นสุขมั้ยเนี่ยยยยย
กินแล้วก็ออกกำลัง หุหุ  :z3:
ก็นูลมเค้าชอบออกกำลังกายตอนดึกๆ ป
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 08-04-2011 18:37:39
ถ้ามันจะทน
จะทนกันได้ไหม?

 :z3:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 08-04-2011 18:56:22
ถ้ามันจะทน
จะทนกันได้ไหม?

 :z3:

ไม่เข้าใจ อย่าบอกนะว่า จะพูดว่าถ้ามันจะ
ขม
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 08-04-2011 19:09:30
^
^
^
==*

พิมพ์ผิด ถ้ามันจะขม**
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 08-04-2011 19:54:16
สมชื่อตอนจริงจริ๊ง อุ้มลมสู่ทะเล หุ หุ หุ แต่ไม่ได้สัมผัสกับทะเล  สัมผัสแต่ตินอิ อิ อิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 08-04-2011 20:21:05
+1 ให้นะค่า ชอบมาก ๆ พลาดไปได้ไงเรื่องนี้ อิอิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 08-04-2011 20:21:56
เพิ่งเข้ามอ่าน :mc4:
แรกๆก็เห็นใจตินมากๆๆ
และก็ดีใจที่ตอนนี้ทั้งติน+ลมรักกัน
สนุกมากๆๆๆ
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 08-04-2011 21:27:28
หุหุ
 :-[ :-[


หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mahmeow ที่ 08-04-2011 22:52:35
น่าสงสารคุณหนูลม...มาทะเลทั้งทีแต่ไม่ให้เล่นน้ามเลยหรอเนี่ย...
ถ้าอ้อนซักหน่อยดินน่าจะให้นะคะ...55+
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 08-04-2011 23:29:32
ชักอยากอ่านต่อแล้วซิ รอตอนต่อไปค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 09-04-2011 00:47:57
ท่าทางจะไม่ต้องไปไหนกันต่อแล้ว

มาทะเลทั้งทีนี่ไม่ต้องเห็นทะเลกันเลยทีเดียว

เพราะตินคงไม่ยอมปล่อยลมออกมาสัมผัสบรรยากาศนอกห้องแน่ๆ

รออ่านตอนต่อไปค่าาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 09-04-2011 11:35:27
ตินดูเจ้าเล่ห์เนอะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 09-04-2011 16:55:51
แวะมาทักทายพี่สาวใจดี ได้ข่าว ได้ต้นฉบับตอนหน้ามาแล้ว   :z1:
ทำไมยังไม่มาต่อ แต่ไม่ต้องรีบก้ได้ แค่มีคนเค้ารอไม่กี่สิบคนเอ๊ง  (แอบกดดัน) :z3:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 17 อุ้มลมสู่ทะเล.. [07/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 09-04-2011 18:38:29
+ ไปก่อน
พึ่งตามเข้ามาอ่าน ช่วงแรกส่งสารตินมากความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้
แต่ยิ่งอ่านยิ่งเข้าใจลม นี่ก็เหมือนกัน รักที่เปิดเผยไม่ได้
คนที่ร้ายไม่ใช่ลมแล้วล่ะ ต้องเป็นเพื่อนลมมากกว่า
3 เดือนผ่านไปยิ่งสงสารลม
ลมโดนอุ่ม หึหึ ช้ำไปทั้งตัวแล้วติน เบามือหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 09-04-2011 19:30:41
อ้าวนึกว่าอัพแล้วเห็นเปลี่ยนตรงหัวทู้
จะมาอัพใช่ไหมคุณณณณณณณณณ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 09-04-2011 19:31:32
ตอนนี้ช่างเป็นตอนที่ลำบากใจในการอัพมากๆ :เฮ้อ:  เพราะ ว่า บรึ๋ยๆ แค่ชื่อตอน (ที่คนอัพคิดเองเออเอง เสร็จสรรพ) ก็น่าจารู้ว่า....มัน  ....มาม่าแระ
แต่อย่างว่า ทุกอย่างต้องมีสองด้านเสมอ เมื่อสุขมาเยอะก็ขมบ้างอะไรบ้าง แตต่อีกหน่อยก็หวานปาจะกลืนกินอีกเนาะ ใจร่มๆนะค่ะ   :serius2:


ตอนที่ 18


ร่างบางในชุดเสื้อเซิ๊ตอ่อนตัวเดียวกับที่ใส่เมื่อวันศุกร์  ยืนสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมอยู่หน้ากระจก ทุกอย่างดูเรียบร้อยและพร้อมจะก้าวสู่
โลกภายนอกห้องสี่เหลี่ยมและบ้านพักหลังเล็กแห่งนี้เสียที  หลังจากที่ถูกหน่วงและเหนี่ยวไว้ด้วยคนร่างกำยำมาหลายวัน
 พื้นทรายเม็ดละเอียดและน้ำทะเลสีสวยเป็นเช่นไร  สีฟ้าไม่เคยได้สัมผัสมันเลยสักนิด

หากแต่วันนี้แล้วสินะ สีฟ้าจะได้สัมผัสมันเสียที  เม็ดทรายเนื้อละเอียดและผิวน้ำทะเลสีสวย แม้จะเป็นการสัมผัสด้วยตาก็ตาม เพราะวันนี้เขาต้องเดินทางกลับแล้ว

ทุกอย่างดูเรียบร้อยดี หากมีสิ่งหนึ่งที่ดูจะไม่เรียบร้อยในความรู้สึกของสีฟ้าคือ รอยช้ำสีหวานที่มันโผล่พ้นปกเสื้อออกมาให้เห็น  เห็นร่องรอยนี้แล้ว ให้ต้องนึกโมโหคนที่ตอนนี้กำลังร้องเพลงมีความสุขอยู่ในห้องน้ำ  ปากบอกว่าพาเขามาทะเล แต่ไม่เคยคิดจะพาเขาออกไปสัมผัสมันเลย อย่างนี้จะพามาทำไมให้เสียเวลา จะห้องนี้ที่เขายืนอยู่หรือจะคอนโดกว้างนั้น ก็คงมีค่าไม่ต่างกัน

กำลังนึกโกรธคนในห้องน้ำอยู่ได้ไม่ทันไร  โทรศัพท์มือถือที่เขาปิดตายมันเอาไว้ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ไม่ใช่สิ ต้องพูดว่าถูกบังคับให้ปิดตายจากคนในห้องน้ำต่างหาก
 ภาคีไม่ต้องการให้เขาติดต่อกับโลกภายนอก  นอกจากโลกภายในห้องสี่เหลี่ยมนี้เท่านั้น โชคดีที่เขาโทรบอกคนเป็นแม่ไว้ก่อนหน้าที่จะถูกบังคับให้ปิดเครื่อง
 ไม่งั้นป่านนี้คงตามหาตัวกันให้วุ่นไปแล้ว เมื่อชั่วโมงที่แล้วเขาเพิ่งได้รับอนุญาตให้เปิดเครื่อง และตอนนี้มันก็ร้องเสียงดังขึ้นมา

หน้าจอสี่เหลี่ยมขึ้นชื่อว่า ‘แพท’


น้ำเพชรโทรมา....คือสิ่งที่สีฟ้ารู้

แต่ว่าน้ำเพชรโทรมาทำไม....คือสิ่งที่สีฟ้าหวาดกลัว

ความกลัวทำให้สีฟ้าไม่อยากกดรับสายที่เรียกเข้ามา ทว่ามิตรภาพที่สีฟ้าต้องการให้มันกลับคืนมานักหนาคือสิ่งที่บังคับให้เขาต้องทำ หวังเหลือเกินว่าน้ำเพชรจะโทรมา
เพื่อให้อภัยเขา แล้วกลับมาเป็นเพื่อนรักกันเหมือนเดิม

“แพท.....” สีฟ้ากรอกเสียงไปหาคนปลายสาย ไม่รู้จะเริ่มต้นคุยกับน้ำเพชรยังไงดี


“หึ....ยังจำเพื่อนคนนี้ได้อยู่หรือลม ฉันควรดีใจใช่ไหมที่เธอยังจำฉันได้ เป็นไงบ้างล่ะ มีความสุขมากใช่ไหม หึ...คงมีความสุขมากสินะ ระหว่างที่เธอมีความสุข เธอรู้ไหมว่าเพื่อนอย่างฉันเจ็บแค่ไหน เจ็บที่โดนเพื่อนรักหักหลัง  เจ็บที่ต้องเป็นคนโง่ให้เพื่อนรักหลอก โง่ดีไหมล่ะลม  ฉันมันโง่มากใช่ไหม โง่ที่ไม่เคยรู้ตัวว่าถูกเพื่อนรักทรยศมาตลอด “

น้ำเพชรเจ็บ เขารู้ดี แต่น้ำเพชรจะรู้ไหม เขาเจ็บเหมือนกัน เจ็บที่กลายเป็นเพื่อนทรยศ เจ็บที่ทำร้ายเพื่อน เจ็บที่ไม่สามารถห้ามความรู้สึกของตัวเองได้  เจ็บที่ยังทอดกายเพื่อความสุขของตัวเอง  เจ็บที่รู้ตลอดว่าความสุขของเขา มันอยู่บนความทุกข์ของเพื่อน เพื่อนที่เขารัก

“พูดไม่ออกเลยหรือไงลม”

“แพท....ลมขอโทษ” ลำคอมันตีบตันไปหมด สุ้มเสียงมันหายไปไหนไม่รู้ คำพูดแค่ไม่กี่คำที่กว่าจะหลุดออกมาได้มันยากลำบากสุดแสน

“ขอโทษหรือลม  ขอโทษแล้วมันได้อะไรขึ้นมา ถ้าคำขอโทษของเธอมันก็เป็นแค่ลมปาก  แต่สิ่งที่เธอทำมันตรงกันข้ามกับสิ่งที่เธอพูด เธอไม่เคยคิดจะซื่อสัตย์กับเพื่อนอย่างฉันเลย”

“แพท  ลมขอโทษ ลมไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ลมจะไม่ทำมันเด็ดขาด ลมเสียใจ ลมเสียใจจริงๆ ”

ใช่....ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ สีฟ้าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับภาคี  จะปิดหูปิดตาไม่ขอรับรู้เรื่องราวใดๆ ของภาคี ไม่และไม่เด็ดขาด หากเพียงจะย้อนเวลาได้เท่านั้น

เขามีความสุข ในขณะที่เพื่อนคนที่เขาบอกได้เต็มปากว่ารักมากที่สุดต้องเจ็บปวด เจ็บปวดด้วยฝีมือของเขาเอง แล้วอย่างนี้เขายังจะมีความสุขต่อไปได้ยังไง

“ฉันต้องเชื่อเธอใช่ไหม คำพูดของเธอคือสิ่งที่ฉันต้องเชื่อใช่ไหมห๊ะ” น้ำเพชรตอบกลับคำขอโทษของสีฟ้า ด้วยสุ้มเสียงที่เจือไปด้วยความปวดร้าว


“ขอโทษ ลมขอโทษ”

“เก็บคำขอโทษของเธอไว้ ถ้าเธอยังไม่คิดจะทำอะไรให้มันดีกว่านี้”

“แพทต้องการให้ลมทำยังไง เราสองคนถึงจะกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”  สีฟ้ายังหวัง หวังจะได้น้ำเพชรกลับคืนมา เขายังอยากเป็นเพื่อนที่ดีของน้ำเพชรต่อไป
มิตรภาพที่งดงามคือสิ่งที่เขาโหยหาอยากได้คืน

“แน่ใจหรือว่าเธอจะทำอย่างที่ฉันต้องการได้” คำถามของน้ำเพชร สร้างความหวังที่สีฟ้ารอคอย มีหนทางใดที่จะทำให้สีฟ้าได้น้ำเพชรกลับคืนมาเป็นเพื่อนเหมือนเดิม
  สีฟ้าก็พร้อมจะทำมัน ต่อให้ยากแค่ไหนเขาก็จะทำมัน


“เลิกกับติน เธอทำได้ไหมล่ะลม ทำเพื่อเพื่อนอย่างฉันได้ไหม”

“..................................” สีฟ้าอึ้ง ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากอิ่ม น้ำเพชรกำลังบังคับให้เขาเลือก

“ว่าไงลม เธอทำได้ไหม  เลิกกับติน  แล้วเราจะได้กลับไปเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง”

“......................” ยังคงไม่มีคำพูดใดของสีฟ้าหลุดออกมาให้คนปลายสาย

“ฉันเข้าใจล่ะ เธอเลือกติน แต่ไม่เลือกฉัน”

“เปล่านะแพท ลมแค่....แค่...” เขาแค่ไม่อยากเลือก เขาเลือกไม่ได้ แต่น้ำเพชรก็ยังคงบังคับให้เขาเลือก

“แค่อะไรล่ะลม  แค่เธอไม่เลือกฉัน  งั้นเหรอ?”

“ได้แพท ลมจะทำ ลมจะเลิกกับเขา  ถ้ามันทำให้เราสองคนกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม” สุดท้าย สีฟ้าก็เลือก เขาเลือกน้ำเพชร  เลือกมิตรภาพ มากกว่าความรัก
 ที่วันหนึ่งมันอาจจืดจาง หรือแม้กระทั่งวันหนึ่ง ภาคีอาจจะหมดรักในตัวเขา

สีฟ้าเลือก เลือกรักษามิตรภาพระหว่างเขากับน้ำเพชรเอาไว้  สิ่งไหนที่ทำไปแล้วจะทำให้ได้คำว่ามิตรภาพกลับมา สีฟ้าพร้อมเสมอ แม้มันต้องแลกด้วยความรู้สึก หัวใจและความรักที่มี สีฟ้าพร้อมแลกและพร้อมจะทำ

เขาเก็บเกี่ยวความสุขมากพอแล้ว ช่วงเวลาที่เขาเคยมีภาคีอยู่ข้างกาย เขาจะจดจำมันเอาไว้ไม่ลืมเลือน...เขาสัญญา  

“แน่ใจหรือลม” คนปลายสายคล้ายจะอึ้งไปนิด ก่อนจะย้อนถามเพื่อย้ำความมั่นใจของอีกฝ่าย

“แน่ใจแพท ลมแน่ใจ”

“เธอทำได้ใช่ไหม  เธอเลิกกับตินเพื่อฉันได้ใช่ไหม?”

“ทำได้ ต่อให้มากกว่านี้ลมก็ทำได้” สีฟ้ายืนยันหนักแน่น  

“แล้วไม่คิดจะเสียดายตินเลยเหรอลม รักเขามากไม่ใช่เหรอไง”

“ไม่แพท ลมไม่ได้รักติน  ไม่ได้รักเขาเลย เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น ลมก็แค่อยากแกล้งเขา เชื่อลมนะ” สีฟ้าพยายามบอก บอกคำโกหกให้น้ำเพชรเชื่อใจเขา

ความรู้สึกจริงๆ ข้างในเป็นอย่างไร สีฟ้ารู้ดี  เพราะมันคือหัวใจและความรู้สึกของเขาเอง เขารู้ว่าเขารักใคร เขารักภาคี แต่ถ้าบอกความจริงในใจออกไป แล้วต้องสูญเสียน้ำเพชร สูญเสียความเป็นเพื่อนที่มีมาเนินนานไปล่ะก็ สีฟ้าขอเก็บความรู้สึกนั้นไว้ซะดีกว่า

“ถ้าเธอยืนยัน  ว่าเธอไม่ได้รักติน ฉันก็จะเชื่อ” คนปลายสายพูดมาอย่างนี้ สีฟ้าจึงยิ้มออกมาได้ เขากำลังจะได้เพื่อนกลับคืนมาแล้ว  หากเขาไม่รักภาคี น้ำเพชรจะให้อภัยเขา หากเขาเลิกกับภาคี เขาจะได้น้ำเพชรกลับมาเป็นเพื่อนเหมือนเดิม

“ขอบใจแพท ขอบใจที่ให้โอกาสลม เราสองคนจะกลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้เหมือนเดิมใช่ไหม”

“ได้สิลม แพทยังคงเป็นเพื่อนของลม  แต่แพทขอให้การเที่ยวทะเลครั้งนี้ของลมกับติน เป็นการอยู่ด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย ”

“ไม่อีกแล้ว ลมสัญญา ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ลมจะอยู่กับติน “

“ฉันจะเก็บคำสัญญานี้ไว้ให้ดี อย่าลืมมันเด็ดขาด แล้วเจอกันที่กรุงเทพ”

“ขอบใจแพท ขอบใจจริงๆ ที่ให้โอกาสลม”
 ถึงปลายสายจะไม่อยู่รับฟังคำนี้ของเขาแล้วก็ตาม แต่สีฟ้าก็ยังพร่ำพรูถ้อยคำนี้อย่างแผ่วเบากับโทรศัพท์ที่แนบอยู่กับใบหูเล็ก
 ราวกับจะให้มันลอยไปย้ำให้น้ำเพชรรู้ถึงความตั้งใจของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า


สีฟ้าจะรู้ไหมว่าระหว่างที่เขาเฝ้าวนเวียนตอกย้ำกับคนปลายสาย ถึงเรื่องราวที่เขาเลือกให้มิตรภาพกลับคืนมาเหมือนวันวาน  และเลือกที่จะผลักความรักที่เป็นทั้งหมดของหัวใจทิ้งไปนั้น ภาคีได้ยืนฟังถ้อยความคำต่างๆ นั้นแทบจะทุกประโยค  มันกรีดใจภาคีเป็นแผลลึก กรีดเจ็บไปทั้งหัวใจ


“ผมไม่มีค่าสำหรับคุณเลยใช่ไหม?”  ยากแค่ไหนกว่าที่ภาคีจะพาตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้าคนที่ทำร้ายหัวใจของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้มันจะเป็นระยะทางเพียงไม่กี่ก้าวแต่มันก็เหมือนไกลเกินก้าวถึง

ตาเรียวเบิกกว้าง หากในวินาทีต่อมากลับหลบหนีแววตาปวดร้าวและตัดพ้อนั้น

“ผมไม่มีค่าอะไรเลยใช่ไหม?” เขาถามมันอีกครั้ง เมื่อสีฟ้ายังคงมองไปทางอื่น ทางที่ไม่มีเขา ก่อนหน้านี้เขามีความสุขมากแค่ไหน แต่ทำไมตอนนี้มันถึงได้ทุกข์และทรมานอย่างนี้

สีฟ้าคือคนๆ เดียวที่ทำเขาสุขจนล้น และทำให้เขาทรมานแสนสาหัสกับการรักผู้ชายคนนี้

“อย่าถามได้ไหม”  ปากอิ่มเม้นแน่น หลังจากพูดคำจบ เขาหันมาสบสายตาที่ตัดพ้อ เจือไปด้วยความเจ็บปวด อยากขอโทษ อยากบอกความจริงที่อยู่ในใจ
 อยากบอกว่าเขารักภาคี หากเขาทำมันไม่ได้ เขาไม่สามารถพูดคำว่ารักออกมาได้

“รักของผม มันไม่เคยมีค่าเลยใช่ไหม?  มันไม่มีค่าพอให้คุณเลือกผมเลยใช่ไหม?” เขายังคงเฝ้าวนเวียนถาม คำถามที่มันกรีดใจ หากคำตอบนั้นคือ ‘ใช่’

ที่ผ่านมาเขาเข้าใจผิดไปเองหรือไง เข้าใจผิดว่าสีฟ้ารักเขา ความจริงแล้ว สีฟ้าไม่เคยรักเขา เขาเจ็บเพราะผู้ชายคนนี้มาเท่าไหร่  มันน่าจะชินได้แล้ว
หากเขาก็ไม่เคยจะชินกับความเจ็บที่สีฟ้ามอบให้เขาครั้งแล้วครั้งเล่าได้เลย

“กลับกันเถอะ”

แทนคำตอบของคำถามที่เจือด้วยความเจ็บปวดที่ถ่ายทอดออกมาทั้งใบหน้าและน้ำเสียงของอีกฝ่าย   สีฟ้าเลือกที่จะเดินออกไป
ปล่อยให้ร่างสูงของภาคีทิ้งตัวลงนั่งอย่างไร้เรี่ยวแรง



..........................................................................................



กว่าล้อรถคันหรูจะแล่นมาจอดใต้คอนโดมิเนียมหรู ฟ้าเมืองกรุงก็เปลี่ยนจากสีสว่างเป็นสีครึ้ม ตะวันดวงโตถูกแทนที่ด้วยจันทร์ดวงเล็ก

ทันทีที่ล้อรถจอดสนิท ประตูรถฝั่งคนขับก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับร่างสูงของภาคีที่ก้าวออกมา ก่อนที่ประตูจะปิดอย่างแรง ขาวยาวก้าวฉับๆ ไปยังประตูคอนโดที่มียามตัวใหญ่ยืนอยู่  โดยไม่คิดที่จะหันมามองคนร่างบางที่เดินแกมวิ่งตามมาติดๆ ด้วยสีหน้าและอารมณ์ที่ไม่รู้จะจัดการยังไงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ช่วงขายาวไม่มีทีท่าจะชะลอรอช่วงขาที่สั้นกว่าเลย  ไม่ใช่แค่ไม่หยุดรอ แม้แต่ใบหน้าหวานที่เคยเป็นที่หลงใหลมาตลอดก็ไม่เคยจะเหลียวมองให้ใจมันต้องเจ็บ

ความเจ็บปวดแบบเดิมมันคืนกลับมาอีกครั้ง  นับตั้งแต่วินาทีที่รู้ว่าสีฟ้าเลือกจะโอบกอดมิตรภาพมากกว่าความรักของเขา

ประตูห้องชุดในคอนโดหรูถูกกระชากเปิดด้วยมือใหญ่ และมันก็ทำท่าจะปิดลงด้วยมือใหญ่เช่นกัน หากไม่มีมือเรียวของคนที่วิ่งตามมาติดๆ ยึดไว้เสียก่อน

พอเข้ามาในห้องกระเป๋าเป้ก็ถูกเหวี่ยงไปกระแทกกับโซฟาตัวยาวอย่างไม่ใยดี  ขัดกับนิสัยความเป็นคนมีระเบียบเรียบร้อย

ประตูเลื่อนถูกเลื่อนเปิดและปิดด้วยความเร็วและแรงไม่ต่างกับประตูรถคันหรูเมื่อครู่นี้เลย

ภาคีทิ้งตัวลงนั่งตรงขอบเตียง โดยมีร่างบางตามเข้ามาทิ้งตัวลงนั่งข้างกาย เรียวแขนโอบรอบตัวของเขา กลุ่มผมนุ่มที่เคยหอมชื่นใจวางพักตรงไหล่หนา

 

.........จะทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไรสีฟ้า..................



“ตามมาทำไมอีก ทำไมไม่กลับบ้านของคุณไป”

ท่อนแขนแกร่งไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะโอบกอดร่างบางเหมือนเช่นเคย  ความรู้สึกมันหนักหนาเกินไป ร่างกายบอบบางที่ไม่เคยเบื่อจะโอบรัดไว้ด้วยความรัก  หากยามนี้ร่างนี้กลับเป็นอะไรที่เขาไม่กล้าสัมผัส ราวกับเป็นไฟร้อน  เป็นมีดแหลมคม  เมื่อไหร่เขาเผลอโอบกอดด้วยความรัก มันก็พร้อมจะเผาผลาญทำลายและทิ่มแทงความรู้สึกให้ด่าวดิ้น


“ขอโทษ”  มันเป็นอีกครั้งแล้วที่สีฟ้าไม่รู้จะเอ่ยคำพูดอะไรออกมา นอกจากคำขอโทษ

ภาคีเจ็บเพราะเขา น้ำเพชรก็เจ็บเพราะเขา คนทำให้ทุกคนต้องเจ็บ ในขณะที่เขาก็เจ็บไม่ต่างกัน

“ผมอยากรู้ ทำไมผมถึงไม่เคยมีความหมายสำหรับคุณเลย คุณลม” น้ำเสียงที่ถามนั้นสั่นไหว ภาคีไม่สามารถจะควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่นได้ ขอบตามันร้อนผ่าว น้ำตามันเริ่มไหล ฟ้องให้เห็นหัวใจที่อ่อนแอ ไร้เรี่ยวแรงที่จะทานรับกับสิ่งที่เขาต้องเผชิญหน้า  และต้องรับรู้ว่า เขาไม่เคยมีค่าอะไรในสายตาของสีฟ้าเลย

ความรักที่มอบให้ไป มันไม่เคยมีค่าเลยหรือไง  ทั้งที่เขาเคยมั่นใจว่าการกระทำที่อ่อนหวานของสีฟ้าที่มีให้เขา ทั้งออดอ้อน ทั้งเอาใจ ทั้งยินยอม  การกระทำนั้นคือความรักที่ถ่ายทอดออกมาให้เขารับรู้  แม้ไม่เป็นคำพูด หากแต่มันคือการกระทำที่ลึกซึ้ง  หรือว่ามันคือความเข้าใจผิดของเขาฝ่ายเดียว

สีฟ้าไม่เคยรักเขา................

ทั้งๆ ที่เขาคิดว่า สีฟ้ารักเขา

สิ่งที่สีฟ้ามอบให้เขามาตลอด มันก็ความต้องการทางกายเท่านั้น...ใช่ไหม

“คุณไม่เคยรักผมเลยใช่ไหม”  ภาคีปลดวงแขนที่โอบตัวเขาให้คลายออก ก่อนปาดหลังมือบนใบหน้าที่ความอ่อนแอมันไหลออกมาเปรอะเปื้อน  ความสุขที่เกิดจากการแนบชิดมันหายไปหมดแล้ว  หายไปเพียงเพราะถ้อยคำที่ได้ยินจากปากอิ่ม  มันยังดังก้องไปทั่วห้องหัวใจ บีบบังคับให้ต้องยอมรับความจริงว่า สีฟ้าไม่เคยรักเขา

....ไม่เคยเลย



“อย่าถามมันอีกเลย”

สีฟ้าเลื่อนมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าเปื้อนน้ำตาอย่างแผ่วเบา  อยากปลอบให้น้ำตาหยุด อยากกอดก่ายเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดให้รู้ อยากพูดถ้อยคำรักหวานเพราะอย่างใจต้องการ แต่จะทำอย่างนั้นเพื่ออะไร ในเมื่อเขาเลือกแล้ว เลือกจะทิ้งหัวใจดวงนี้ไป

ที่สีฟ้ายังคงนั่งมองใบหน้าของภาคีอยู่นี้ เขาเพียงแค่อยากจะซึมซับ แล้วเก็บมันไว้ในความทรงจำที่ชัดเจน เมื่อยามที่เขานึกถึง

“กลับไปเถอะคุณลม ผมอยากอยู่คนเดียว” ภาคีรู้ว่าเสียงของเขามันสั่นมากแค่ไหน แต่เขาก็ห้ามมันไม่ได้  ใบหน้าหวานที่เขาไม่อยากมองนับตั้งวินาทีนั้น
 วินาทีที่ดึงให้ความปวดร้าวและเหน็บหนาวกลับมาเยือนเขาอีกครั้ง บัดนี้เขากลับมองใบหน้านั้นผ่านม่านน้ำตา

“.............................”

ร่างบางลุกขึ้นยืนช้าๆ ด้วยหัวใจที่เชื่อมั่น สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องเลือกมิตรภาพแทนความรักของภาคี

“ลมกลับล่ะ”


สิ้นสุดคำพูดที่พยายามทำให้มันเป็นปกติที่สุด สีฟ้าหันหลังเดินออกจากห้องนอนกว้าง ห้องที่เขาจะจำมันไปอีกนานแสนนาน เพราะมันคือที่ที่ทำให้เรารับรู้ว่าภาคีรักเขา

ภาคีรักเขาเหมือนที่เขารักภาคี มันต่างกันตรงที่ว่า ภาคีบอกคำว่ารักกับเขา แต่เขากลับเก็บมันไว้เพียงในใจ

ร่างบางที่เขาเคยกอดเดินออกไปแล้ว ภาคีไม่อยากให้ปล่อยให้สีฟ้าหลุดมือไปเลย คำรักที่เขามีให้ มันไม่อาจพันธนาการให้สีฟ้าอยู่กับเขาได้เลยหรือไง   สีฟ้าถึงได้เลือกเดินออกจากชีวิตของเขาไปอีกครั้ง

ทำไมต้องทิ้งความรักของเขาไปด้วย

กลับมาได้ไหม....คุณลม หันหลังกลับมาดูความรักของผมได้ไหม ได้โปรด............. :m15:

“อย่าทิ้งผม”

ท่อนแขนแกร่งรวบรวมแรงกายที่เหลือน้อยนิดรั้งเอวบางเอาไว้แน่นที่สุดที่จะทำได้  แผ่นหลังนุ่มถูกดึงกับให้มาปะทะกับแผ่นอกแกร่ง  
ในขณะที่อีกไม่กี่ก้าวสีฟ้าจะข้ามพ้นประตูห้องออกไป ออกจากห้องนี้และออกไปจากชีวิตของภาคี

ไม่.....เขาไม่ยอมปล่อยผู้ชายคนนี้ให้ออกไปจากชีวิตของเขาเด็ดขาด....

....................................................

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 09-04-2011 19:39:28
ไม่เข้าใจน้ำเพชรทำแบบนี้ทำไม
ถ้าลมเลิกกับตินแล้วคิดว่าตินจะหันไปรักเธอหรอ
แต่ดีเหมือนกันลมนะไม่ชัดเจนเลยตินปล่อยเข้าไปเถอะ
หาคนดีดีและรักตินให้ตินสักคนเถอะปล่อยลมเขาไปเถอะ
 :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 09-04-2011 19:42:24
โอ๊ยๆๆๆๆอ่านตอนนี้แล้วเจ็บปวดน้ำตาคลอ :sad11:
เพื่อนแบบยายน้ำเพชรไม่ต้องไปมีซะยังดีกว่าลม  
หาที่ดีกว่านี้ดีกว่าเยอะอย่างหนึ่งคุณด้าอะไรงี้
เพื่อนที่ดีเค้ามีแต่จะสนับสนุนกัน
นี้อะไรอิจฉาเพื่อน
เค้าไม่เลือกตัวเอง
แล้วยังจะทำให้คนที่เค้ามีความสุขอยู่แล้วเป็นทุกข์อีก
ไม่ชอบแพทอย่างแรงอ่ะ
ชะนีอย่างเธอกลับคืนสู่ป่าเหอะ
ยังงี้มันต้องเจอ
:beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 09-04-2011 19:44:05
ม่ายยยยยยยยยยย  :o12: :o12: :o12: :o12:
ตอนนี้น้ำตาไหลจริงจังเลย
อินไปกับตินแล้วอะ
เกลียดผู้หญิงคนนี้ น้ำเพชร
คนเค้ารักกันก็ยา่งงงงงงงงง
ถึงย้อนกลับไปภาคีก็ไม่เอาน้ำเพชรหรอก
ลม ไม่เข้มแข็งเลยอะ กว่าจะได้รักกัน
ทำไมทำร้ายทั้งตัวเองทั้งตินแบบนี้
 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 09-04-2011 19:48:33
แนะนำให้ภาคีเข้าโหมดรักต้องร้ายบ้างดีกว่า
ไม่งั้นลมคงจะทำให้เสียใจตลอดถ้ามีใครเข้ามา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 09-04-2011 19:49:54
อ่านตอนนี้แล้วเศร้ามากๆๆ :monkeysad:
สงสาร ตินกับลม มากๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 09-04-2011 19:57:30
.....นังแพท มันทำมัยแบบคนแบบนี้ไปไได้น่ะไม่เข้าใจจริงๆเลย อย่าน่ะตินอย่าปล่อยลมไปนะ ลมกำลังสับสน อย่านะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 09-04-2011 20:06:00
สั้นๆเนาะ ผู้หญิงหน้าด้าน!
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-04-2011 20:13:00
ตลกตายละอีเพชร รู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายเขาไม่เอาเขาบอกตรงหน้าอีกต่างหากว่าไม่ได้รัก


แล้วยังมาให้เพื่อนเลือกอีก  ว่าจะเลือกเพื่อนหรือว่าผัว ควายพอกัน  ถึงว่าคุณลมถึงได้เลือกเพื่อน เพราะคิดอะไรโง่ๆแบบอีเพชร ถามแบบไร้ความคิดไร้สมอง


เพื่อนลมก็ดีพอกัน เลือกเพื่อนยอมทิ้งผัวโดยที่ผัวก็ไม่เลือกเอาเพื่อนอยู่แล้ว รู้นะไม่ใช่ไม่รู้แต่ยังโง่ที่จะเลือกอีกรักเพื่อนแต่เพื่อนรักมึงหรือเปล่าละคุณลม


เพื่อนรักผัวมึงโน้น :m20: :m20:อ่านไปอ่านมาควายสองตัวมาแย่งผัวกัน :เฮ้อ: :seng2ped:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 09-04-2011 20:13:09
ตายแล้ว แพท หล่อนจะด้านให้มันได้อะไรขึ้นมาจ๊ะ
มันไม่ได้อยู่ที่ลมนะ ถึงไม่มีลม ตินก็ไม้ได้รักหล่อนนะจ๊ะ
ตินเค้าเคยชายตาแลหล่อนแบบชายหนุ่มแลหญิงสาวรึก็เปล่า
แกแหละเพื่อนอัป..ย์ มันยิ่งกว่าที่แกว่าลมนะ
แกต้องการแค่จะทำให้ลมเป็นทุกข์แค่นั้นเอง
ใครก็ได้ ช่วยเก็บนังแพทให้มิดชิดทีเถอะค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 09-04-2011 20:21:55
คนอย่างน้ำเพชรยังหน้าหนามาทวงความเป็นเพื่อนจากลม
คนอย่างน้ำเพชรมีค่าพอหรือเปล่าที่จะเป็นเพื่อนกับลมต่อไป :angry2:
สารภาพตอนนี้อ่านได้นิดเดียวเลยหยุด(ขอเวลาทำใจแล้วจะมาอ่านต่อให้จบ :o12:)
มันทรมารกับคำว่าเพื่อนมาก
ถึงแม้ตอนหลังจะมีแบบหักมุมว่า..
น้ำเพชรต้องการดูว่าลมรักตินจริงหรือเปล่า(อันนี้เดาเอาเอง :laugh:)
เกลียดยัยน้ำเพชรมากเอาคำว่าเพื่อนมาทำร้ายเพื่อน :m31: :fire:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 09-04-2011 20:23:16
อ๊ายยย เกลียดผู้หญิงคนนี้ :fire:
เค้าไม่รักยังจะก่อกวนอีกเอายัยนี้ไปเก็บทีเหอะ
ลมก็พอกันเลือกมิตรภาพมากกว่าความรักงั้นหรอ
ทำยังกับว่าเลิกกับตินแล้วยัยแพทอะไรนั้นจะกลับมาดีด้วยเหมือน
เฮ้อ สงสารติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 09-04-2011 20:40:00
ลมทำอย่างนี้ทำไม สงสารตินมากๆเลยร้องไห้ด้วย
ทำไมถึงได้เลือกแพท คนแบบนี้ยังจะเรียกว่าเพื่อนได้อีกหรือ
ลมอ่อนเกินไปหรือเปล่าแค่ความเป็นเพื่อนถึงกับต้องทิ้งคนที่รัก
ขอให้ตินไม่สนใจแพท คนไม่เคยรักจะไปบังคับให้เขาชอบหรือ
ยัยผู้หญิงคนนี้ก็เกินไปจะมายุ่งกับแฟนเพื่อนอยู่ได้
อยากจะให้ใครสักคนมาจัดการยัยแพทจัง

เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะค่ะ

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 09-04-2011 20:51:28
บีบหัวใจสุดๆ  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ลมถ้ามีเพื่อนแบบนี้เลิกคบไปซะเถอะ
เพื่อนที่ดีต้องทำให้เพื่อนมีความสุข
ไม่ใช่ตัวเองมีความสุขอยู่คนเดียว
แล้วทิ้งให้เพื่อนมีความทุกอยู่แบบนี้
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 09-04-2011 20:53:11
เมื่อไหร่ลมจะตาสว่างว่ายัยเพื่อนน่ะ"เลว"ขนาดไหน เชอะๆๆๆๆ
บวกให้ด้วยความแค้น
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 09-04-2011 20:55:46
ลมพูดตรงๆเถอะ

เพื่อนที่ดีจริงมันต้องมีการให้อภัยกันบ้าง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 09-04-2011 21:19:30
ขอบคุณค่า..

คนแบบนี้ยังเรียกว่า "เพื่อน" ได้อีกหรอ..

สงสารติน..ถ้าคุณลมไม่มั่นคงพอก็ออกจากชีวิตตินซะ..เพราะถ้ามีอะไรมาให้เลือกอีกคุณลมก็จะเลือกอย่างอื่นที่ไม่ใช่ตินอีกนั่นแหละ..
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 09-04-2011 21:21:51
สรุปลมไปเบี้ยนกับน้ำเพชร และติณต้องเจ็บช้ำไร้คู่ อวสาน....

 :jul3: ล้อเล่น

เห็นแคร์กันเหลือเกินอ่ะ 555 ซีนนี้อารมณ์ละครไทยม้ากกค่ะ  :a5: เพลียเล็กๆ จบแบบติณเป็นโสดดีกว่า เริ่มรำคาญลมละนาทีนี้  :z10:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 09-04-2011 21:23:13
มาตอบเม้นท์และ บวก 1 แทนคำขอบคุณตามที่สัญญาไว้สำหรับทุกๆคนนะค่ะ


ทะเลหวานตายเลย   :o8:

อย่าไว้ใจคนแต่ง ระวังอาจ มีมาม่าแฝงตัวมา


เข้าใจชัดเลยครับ ไม่ไว้ใจคนแต่งอีกแล้ว  :m15: 


สงสารตินอ่ะ  :sad11:



หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 09-04-2011 21:23:49
บางครั้งคนเราก็ต้องเลือกที่จะเห็นแก่ตัวบา้งนะคะ เหมือนที่นางเองก้เห็นแก่ตัวอยู่ตอนนี้ ทั้งๆที่นางก้รุ้ว่าผุ้ชายไมไ่ด้สนใจและก้รู้ว่าตินชอบลม แต่ก็ยังอุปโลกตัวเองอยู่ หลอกตัวเองไปเพื่ออะไร คนแบบนี้ไม่น่าคบนะนิสัยเลวมากเกินไป ถ้ามีเพื่อนแบบนี้ จะตบให้สลบสามวันสามคืนเลย ร้ายที่สุด เกลียดหวะ หึ้ยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-04-2011 21:27:38
ชื่อดีมีราคา แต่ทำตัวไร้ค่าฉิบหายเลยยายน้ำเพชร


แม่เจ้าโว๊ย  โผล่มาแถวนี้หน่อยเถอะจะหาให้ๆหายอยากจนลืมบ้านเกิดเลยยายน้ำเน่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 09-04-2011 22:28:06
ไม่ชอบนิสัยนายเอกอะไรจะนางเอกขนาดนั้นเสียสละทุกเรื่องฟังทุกคนเชื่อทุกคน ยกเว้นพระเอก นี้มันยุค2000กว่า ทำเพื่อตัวเองบ้างเรียนมาก็สูงน่าจะคิดได้มากกว่านี้  :m31: :m31: :fire: :fire: :angry2: :angry2: :m31: :m31: :m31:



เราอินมากไปมั๊ย  :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 09-04-2011 23:05:28
คนแบบนี้ยังเรียกว่าเพื่อนอีกหรอ ทั้งๆ ที่น้ำเพชรก็รู้อยู่แก่ใจว่าตินรักลมมากขนาดไหน คิดหรอว่าถ้าสองคนนี้เค้าเลิกกันแล้วเค้าจะหันไปมองเธอน่ะ ลมคิดดีแล้วหรอที่จะทิ้งตินไป อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาคลอเลย บีบหัวใจได้อีกอ่ะ ผู้หญิงคนนี้ไม่ไหวจริงๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 09-04-2011 23:32:40
ลมอย่าทำแบบนี้ เลือกความสุขของตัวเองบ้าง
ถึงจะรู้สึกผิดกับเพื่อนแต่ยังมีตินที่จะคอยอยู่ข้างๆนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 09-04-2011 23:51:26
ทำไมลมต้องไปใส่ใจกับเพื่อนที่ ก-ร-ะ-ห-า-ย ผู้ชายแบบนั้นด้วย
ถึงเลิกกันไปแล้วใครล่ะที่ต้องเจ็บ ตัวเองก็เจ็บ ตินก็เจ็บ แล้วแบบนี้จะมีความสุขหรือ?
ถ้ามีเพื่อนแบบนี้นะ อย่ามีเลยดีกว่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 10-04-2011 00:27:52
เบื่อชะนีอยากมีผัวอ่ะ

ว่าแต่เรียกคนแบบนั้นว่าเพื่อนได้ไงอ่ะลม
ตรงไหนที่เค้าหวังดีกับลม..ถ้าแพทบอกว่าลมเห็นแก่ตัว
แพทนั่นแหละที่เห็นแก่ตัวกว่าอยากได้ผช.จนตัวสั่นนิ


ขออภัยที่เมนท์แรงไปนิด  แต่อยากจับลมมาตีก้นให้คิดใหม่อีกรอบว่าอะไรในชีวิตที่สำคัญกว่ากัน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 10-04-2011 01:29:37
อ่านแล้วรู้สึก--->   :angry2: :fire:

อ่านแล้วอยาก --->  :beat:  &   :z6:  นังแพท

ฮึยยย  เพื่อนเอี๊ยๆอย่างนี้อย่ามีดีกว่า (ขออภัยที่ไม่สุภาพ อิอิ)

หวานแป๊ปเดียวเองอ่าาา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 10-04-2011 08:49:48
สงสาร

ลม+ติน อะ
  :-[

อีนังแพท
 :z6:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 10-04-2011 09:56:22
อิแพทเป็นเพื่อนภาษาอะไรเนี๊ยะ     :beat:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mamaUM ที่ 10-04-2011 10:42:17
(TT^TT)...(TT^TT)....(TT^TT)

"อย่าทิ้งผม"

สงสารทั้งคู่เลย ...
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 10-04-2011 10:46:58
อ่านตอนใหม่แล้วอยากจะเป็นบ้า ฮึ่ย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 10-04-2011 10:48:49
เกลียดแพทมากมาย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 10-04-2011 10:50:30
ขอบคุณคนแต่งคนโพสต์ :L2:
เห็นคอมเม้นท์เพื่อนๆแล้วไม่กล้าอ่าน แต่ก็อ่านในที่สุด
เกลียดแพท ทำแบบนี้ใช่เพื่อนเหรอ ไม่คู่ควรมั้ง ผู้ชายไม่รักแล้วยัง...
สงสารภาคี เรื่องนี้พระเอกน่าสงสารมาก :monkeysad:
กลัวนอยด์ต่อไปถึงเทศกาลสงกรานต์จัง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-04-2011 11:09:15
ก็พอเ้ข้าใจกับสิ่งที่ลมเลือกนะ แต่คนอย่างน้ำเพชรนี่ยังมีค่าพอให้เลือกขนาดนั้นเลยเหรอ
แล้วมันก็ไม่ใช่ความผิดของลมซะหน่อย เพราะลมไม่ได้แย่งตินมาจากน้ำเพชร ตินเลือกลมมาตั้งแต่แรกแล้วนี่นา
แล้วจะมาโกรธเพราะผู้ชายไม่รักตัวเอง แต่รักเพื่อนแทนแบบนี้  :เฮ้อ: จับยัยนี่โยนลงทะเลเลยดีกว่า
ตินอย่ายอมแพ้นะ เอาลมมาอยู่ข้างๆให้ได้ ใครมาขวางเก็บมันให้หมดเลย  :laugh:
+1 ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 10-04-2011 11:30:02
โฮ... เศร้า ทามมายเพื่อนทำกับเพื่อนอย่างนี้ ม่ายยยย

คิดแต่ว่าถูกลมหักหลัง แล้วลมล่ะ เป็นอะไของเธอยะแพท

สงสารติน โฮ

....อย่าทิ้งผม...
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Frog ที่ 10-04-2011 11:53:31

นังแพท :beat: :beat:

น้องลมมมมมมมม ทำไมทำตัวไม่น่ารักอย่างงี้ลูก :sad4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 10-04-2011 11:55:34
ต่อให้ลมทิ้งดิน

ดินก็คงเอาแพทไม่ลงหรอก

สำคัญตัวเองผิดไปหรือเปล่าคุณน้ำเพชร

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 10-04-2011 15:03:25
 :beat:  แพท


อะไรยะคนเค้ารักกัน


หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 10-04-2011 15:56:17
ตอนหน้าขอชื่อตอนว่า "สองเราเข้าใจ" ได้ป่าว
ถ้าไม่ได้เอาเป็นชื่อ "รุมโทรมน้ำเพชร" ก็ดีนะครับ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 10-04-2011 16:10:48
อ่านแล้วขัดใจกับคุณลมชมวิว เลยอ่านผ่านๆ
เซ็งอย่างแรง 
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 10-04-2011 17:53:54
ตอนหน้าขอชื่อตอนว่า "สองเราเข้าใจ" ได้ป่าว
ถ้าไม่ได้เอาเป็นชื่อ "รุมโทรมน้ำเพชร" ก็ดีนะครับ

กร๊าก  ถูกใจๆ บวก 1 จัดไป
แต่ต้องบอกคนแต่งเขานู่นว่าเรื่องนี้น้องแอ๋วเค้าแต่งไว้นานแล้วและแต่งจบแล้วนี่นา
ถ้าบอกตอนนี้  คงต้องเป็นตอนพิเศษ   
คุณคนแต่ง  ได้ยินแล้วนะ ผู้อ่านที่รักเขาเรียกร้อง   รู้นะว่าซุ่มอ่านอยู่ อิอิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 10-04-2011 19:29:03
 :a5:

รักเธอ รักเธอจริง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 10-04-2011 19:46:37
ทำไมเป็นอย่างนี้อีกแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 10-04-2011 21:43:14
เอาอีกแล้ว :a5:
เราก็พยายามจะเข้าใจล่ะว่ามันเป็นนิยายดราม่านะ
ตัวละครก็มีเหตุผลเป็นของตัวเอง 
แต่เหตุผลของลม  เราไม่ปลื้ม 
ที่ผ่านมามันก็ดูจะฟังขึ้นนะ  แต่ตอนนี้ไม่ไหวค่ะ 
ยิ่งอ่านยิ่งอิน  ถ้าเพื่อนอย่างคุณแพทที่บังคับให้เพื่อนเลิกกับคนที่เพื่อนรัก 
แบบนี้มันไม่ใช่เพื่อนแล้ว   :angry2: ลมก็ดันไปเออออห่อหมกด้วย 
โอ๊ยๆๆๆ หงุดหงิด   :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Non_stop ที่ 11-04-2011 10:48:39
 :serius2: :serius2:

โอ้ยๆๆไงเป็นงี้ไปได้อ่ะ

ลมอย่าทำกับตินอย่างงี้สิ

สงสารใจตัวเองบ้างอะไรบ้าง 

เศร้าอ่ะ  :o12:

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 11-04-2011 12:19:19
 + 1 ปลอบใจสำหรับทุกเม้นท์ของ ตอนที่ 18

แล้วคืนนี้เจอกันตอนที่ 19 หน้าที่ 19  อิอิ เลขนี้ชอบๆ
:impress2: :impress2: :man1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 11-04-2011 15:51:44
+1ขอบคุณคุณ Aphrodite ที่มาส่งข่าว :L2:
รอคืนนี้ตอนที่ 19 หน้าที่ 19
เศร้ามั้ยอ่ะเค้ากลัวนอนไม่หลับ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 18 ฉันมีค่าแค่ไหน.. [09/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 11-04-2011 17:15:33
เศร้าไม่อ่าน คืนดีกันหวานๆ..ก็ไม่อ่าน
.
อยากอ่านตอน น้ำเพชรโดนน้ำกรดสาดตาบอดเสียโฉม..ฟันหักด้วยยยย หึ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 11-04-2011 19:26:28
ตอนที่ 19


‘อย่าทิ้งผม’

เสียงที่กระซิบแว่วอยู่ด้านหลังตรึงให้ร่างบางหยุดอยู่อย่างนั้นนานหลายสิบนาที ไร้คำพูด ไร้การเคลื่อนไหว  หน่วยตาคู่เรียวทาบปิดสนิทด้วยเปลือกตาสวย ปากอิ่มขบเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง คล้ายจะกั้นกันถ้อยคำมากมายเอาไว้ไม่ให้หลุดออกมา และกั้นความรู้สึกมากล้นให้จมลงไปในส่วนที่ลึกที่สุด

“อย่าทิ้งติน อย่าทิ้งตินไปได้ไหมลม ตินรักลม” น้ำเสียงนั้นเจือความปวดร้าวของคนร่างสูงจนคนที่ถูกโอบกอดสัมผัสได้ หน้าคมเปื้อนน้ำตากดแนบไว้กับแผ่นหลังบาง ปล่อยให้น้ำตาแห่งความอ่อนแอแทรกผ่านเนื้อผ้านิ่มสู่ผิวกายของร่างที่กอดไว้แน่น อย่างไม่อาจทัดทานใดได้

“ปล่อยเถอะ” มือเรียวแกะพันธนาการของวงแขนแกร่งที่สอดประสานอยู่บนร่างกายของเขา      เมื่อเวลาผ่านไปนานหลายสิบนาที ทว่าวงแขนนั้นกลับยิ่งรัดขึ้นอีกหลายเท่า สีฟ้าแกะมันไม่ออก หรือว่าเขาไม่จริงจังที่จะแกะมันเองต่างหาก

ยังอยากถูกโอบกอดอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ...

“ตินรักลม รักมาก อย่าทิ้งตินได้ไหม อย่าไปจากชีวิตตินเลย อย่าทิ้งตินไว้อย่างนี้ ตินอยากมีลม
ตินอยากมีลมอยู่ข้างกายไปตลอด ได้ไหมครับ”

ภาคียังคงร้องขอ ขอให้สีฟ้าเห็นใจเขาบ้าง เห็นแก่ความรักที่เขามีให้ เขาไม่อยากใช้ชีวิตที่ไม่มีสีฟ้าอยู่ข้างกาย

มันทรมานจนไม่อยากนึกถึงวันนั้น วันที่ไม่มีสีฟ้า วันที่ไม่สามารถกอดคนๆ นี้อีกต่อไป
สีฟ้ามาทำให้เขารัก มาทำให้เขาหลง แต่แล้วก็จะจากไปอีกครั้ง

“มันเป็นไปไม่ได้ เรื่องระหว่างตินกับแพท ลมก็รู้ ตินรักลม ตินรักคุณแพทไม่ได้ ต่อให้เป็นใครคนอื่น ตินก็รักเขาไม่ได้ ตินรักลมได้คนเดียว เห็นใจตินเถอะนะลม อย่าทิ้งตินไปเลย ตินอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีลม”

เขาอยู่ไม่ได้ หากไม่มีสีฟ้า ไม่อยากอ้างว้างเดียวดายกับการไม่มีดวงใจดวงนี้อีกครั้ง
“...............”
……ลมรู้ ลมรู้ว่าตินรักลม แต่ลมมีความสุขทั้งๆ ที่รู้ว่าเพื่อนเจ็บอีกต่อไปไม่ได้แล้ว ตินเข้าใจลมเถอะ ลมรู้ว่าตินเจ็บ แต่ลมเจ็บยิ่งกว่า ตินยังมีโอกาสได้บอกรักลม แต่ลมไม่มีโอกาสนั้นเลย คำรักที่มี คำรักที่อยากบอกให้รู้ แต่ไม่ได้บอก ตินรู้ไหมว่ามันทำให้ลมทรมานแค่ไหน  ตินยังร้องไห้ออกมาได้ แต่ลม ลมไม่กล้าแม้แต่จะร้องให้ ทั้งที่หัวใจของลมมันก็เจ็บจนแหลกไปหมดแล้ว ลมไม่โทษใคร เพราะมันคือสิ่งที่ลมเลือกแล้ว เลือกที่จะทำร้ายตัวเองให้เจ็บ เลือกที่จะไม่มีตินอีกต่อไป...

คำพูดมากมายที่สีฟ้าอยากเอ่ยให้คนที่กอดเขาไว้แน่นได้รู้ มันก็ยังเป็นแค่ความคิดที่อยู่เพียงข้างใน ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยใดๆ ออกมาได้ นอกจากประโยคที่ทำร้ายใจคนฟังให้ด่าวดิ้น

“ขอบคุณสำหรับความรักที่ให้ แต่ฉันรับมันไว้ไม่ได้จริงๆ  เลิกรักฉันเถอะ
ฉันไม่มีค่าพอให้น่ารักหรอกนะ....ภาคี”

วงแขนที่รัดแน่นนั้นทิ้งตัวลงอย่างง่ายดาย เพียงเพราะคำพูดประโยคสุดท้ายที่ได้ยิน
สีฟ้ามีค่ากับเขาเท่าชีวิต แต่เขาเองต่างหากที่ไม่เคยมีค่าอะไรเลยในสายตาของสีฟ้า

หมดแรงรั้ง........

หมดแรงดึง...........

หมดแรงที่จะพันธนาการไว้ด้วยคำร้องขอ.............

หมดแรงที่จะผูกพันร้อยดึงสีฟ้าไว้ด้วยความรักที่มีให้......................



สีฟ้ายังเป็นพระจันทร์ที่ไร้หัวใจเหมือนเดิม.....ไม่เคยเปลี่ยน

สีฟ้าเอาคำรักของเขาไปแล้ว....แต่ไม่เคยใยดีที่จะเก็บมันไว้

สีฟ้าทิ้งคำรักของเขา....ทิ้งความรักของเขา....





............แกร๊ก..............




ประตูห้องของคอนโดหรูถูก พร้อมกับนลินที่ก้าวเท้าเข้ามา แต่ภาพที่เห็น มันทำให้เธอยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น ไม่ได้อึ้งเพราะเจอน้องชายของสามีในห้องชุดของน้องชายเธอ  เพราะเธอเตรียมใจไว้แต่แรกแล้ว ว่าต้องเจอสีฟ้าที่ห้องของภาคีแน่ๆ  แต่เป็นเพราะสภาพที่เห็นต่างหากทำให้คนที่เป็นทั้งพี่สาวและพี่สะใภ้ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ  เพราะหน้าของน้องชายเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ส่วนอีกคนหนึ่ง  แม้ไม่มีน้ำตาให้เห็น แต่ดูจากสภาพแล้วคงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่

....สภาพเจ็บด้วยกันทั้งคู่

มันเกิดอะไรขึ้น?

“เกิดอะไรขึ้นติน น้องลม” นลินถาม คำถามที่เธอก็ไม่รู้ว่าใครจะตอบมันได้ 

ภาคีมองหน้าพี่สาวผ่านม่านน้ำตาที่ยังไหลไม่หยุด ชายหนุ่มไม่เคยอ่อนแอ แต่ครั้งนี้มันเกินห้ามไหว ส่วนสีฟ้าเองก็ตะลึงไปพักใหญ่ ที่จู่ๆ นลินก็เปิดประตูเข้ามา เรื่องระหว่างเขากับภาคีจะไม่เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว

กลัว...กลัวว่าเรื่องนี้มันจะไม่จบง่ายๆ อย่างที่เขาคิด

ไม่มีใครตอบคำถามของคนมาใหม่เลย ต่างฝ่ายเหมือนตกอยู่ในห้วงแห่งความเจ็บปวด คนหนึ่งเจ็บปวดด้วยสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมา ส่วนอีกหนึ่งคนกลับเจ็บปวดกับสิ่งที่โดนยัดเยียดให้เป็น

“เราสองคนตอบพี่มาได้ไหม ว่าเกิดอะไรขึ้น”

นลินมองหน้าของคนทั้งสอง ความไม่เข้าใจมีมากพอๆ  กับคำตอบที่อยากรู้ เธอเข้าใจผิดไปเองใช่ไหมว่าคนสองคนกลับมาคืนดีกันแล้ว ไม่อย่างนั้นวันหยุดยาวที่ผ่านมา คงไม่หายกันไปทั้งคู่และไม่สามารถติดต่อใครได้เลย ได้ยินจากแม่สามีว่าลูกชายคนเล็กไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน เพื่อนซึ่งตอนนั้นเธอก็พอจะนึกเดาออกได้ว่าคือใคร จะเป็นใครได้นอกจากน้องชายคนเดียวของเธอ เย็นวันนี้เธอจึงตัดสินใจมาที่ห้องชุดของน้องชาย เพราะคิดว่าคงพากันกลับมาแล้ว แล้วเธอจะได้จัดการคนทั้งสองคนให้เป็นจริงเป็นจังเสียที ไม่ใช่แอบคบกันอยู่อย่างนี้โดยไม่ให้ผู้ใหญ่รับรู้ แต่นี้มันเกิดอะไรขึ้นล่ะ หากแต่ไม่มีใครตอบคำถามของเธอแม้แต่น้อย เธอจึงตัดสินใจถามคำถามนั้นอีกครั้ง กับคนที่อยู่ในสภาพที่น่าจะตอบคำถามได้ดีกว่าอีกคนที่เหลือ

“น้องลมคะ เกิดอะไรขึ้นบอกพี่ได้ไหม?” ถามน้องชายเธอก็คงไม่ได้คำตอบ ดูจากสภาพแล้วเหมือนคนไม่มีวิญญาณ นลินจึงเลือกถามน้องชายของสามีเธอแทน

“ไม่มีอะไรครับพี่ลิน ลมแค่มาเยี่ยมตินน่ะครับ เอ่อ.....แล้ว...แล้วลมก็จะกลับแล้วครับ” มันคือคำแก้ตัวที่ดีที่สุดที่สีฟ้าพอจะคิดหามาตอบคำถามของนลิน นลินไม่เชื่อ แววตาของพี่สะใภ้บอกเขาว่าอย่างนั้น

“แต่พี่ว่า.....” นลินไม่เชื่อคำบอกของสีฟ้า เธอกำลังจะพูดในสิ่งที่เธอสงสัย และคิดว่ามันคือความจริง แต่น้องสามีของเธอชิงออกปากตัดบทนั้นเสียก่อน 

“ลมกลับก่อนนะครับพี่ลิน....ฉันกลับล่ะ” สีฟ้าบอกกับพี่สะใภ้ ก่อนที่คำถามมากมายจะหลุดออกมาให้เขานึกหาคำตอบที่ดีให้พ้นความจริงไปไม่ได้ และในประโยคสุดท้าย เขาหันไปบอกน้องชายของนลิน คนที่ยืนมองเขาด้วยสายตาตัดพ้อ ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยแววตาร้องขอให้เห็นใจกับรอยน้ำตา

ไม่อยากเห็นน้ำตา กลัวใจตัวเองจะอ่อนแอ

ตาคมนั้นร้องขอ ราวกับจะให้เขาเปลี่ยนใจ แต่เขาเปลี่ยนใจไม่ได้ เขาเลือกแล้ว เลือกจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาความเป็นเพื่อนเอาไว้ ต่อจากนี้ไปเขาจะไม่ได้พาเรือนกายอิงชิดอีกแล้ว

“...........................”

ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากหยัก นอกจากเสียงสะอื้นที่เจ้าตัวไม่คิดที่จะบังคับมันเอาไว้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องน่าอาจ หากมันคือความอ่อนแอที่กั้นเก็บไว้ไม่ได้

น้ำตาเขาไหล ฟ้องความอ่อนแอ อยากให้สีฟ้าเห็น เห็นว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหนกับสิ่งที่สีฟ้ายัดเยียดให้เขา ทั้งที่เขาไม่เคยต้องการมันเลย

ผู้ชายอย่างภาคีก็เจ็บเป็น ร้องไห้ได้ แต่ทำไมผู้ชายอย่างสีฟ้าถึงรักเขาไม่ได้


ไม่รัก ไม่เป็นไร แต่ช่วยสงสารเขาได้ไหม?

สงสารผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนร้องไห้ต่อหน้า เพื่อขอให้ผู้ชายอีกคนหนึ่งเห็นใจ เขาจะพันธนาการสีฟ้าไว้กับเขาด้วยความสงสารได้ไหม?

ไม่เลยสินะ น้ำตาของเขา ไม่อาจเรียกความสงสารจากผู้ชายอย่างสีฟ้าได้ เมื่อร่างนั้นหันหลังให้เขา แล้วออกจากห้องไป เดินออกจากชีวิตของเขาอีกครั้ง และมันคงจะเป็นตลอดไป

ตลอดไป...มันยาวนานแค่ไหน??
.
.
.
.


มืออุ่นของพี่สาวดึงตัวน้องชายเข้ามากอดปลอบ ลูบแผ่นหลังกว้างที่สั่นสะท้านจนตัวโยนแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจ คล้ายจะให้มันทดแทนสิ่งที่ได้จากไปเมื่อครู่ หากนลินก็รู้ว่าเรียวแขนที่โอบกอดของเธอ มันช่วยอะไรน้องชายไม่ได้ มันไม่สามารถเติมเต็มสิ่งที่สูญเสียไปได้เลย ไม่ใช่อ้อมกอดของเธอไม่มีค่า หากแต่มันทดแทนกันไม่ได้ต่างหาก

“ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร เข้มแข็งเข้าไว้นะติน”

“พี่ลิน ผมจะทำยังไงดี ต้องทำยังไงดี เขาเข้ามาทำให้ผมรัก แล้วก็จากไป” เสียงที่ถามเบาแสนเบา ปนออกมากับเสียงสะอื้นไห้ ภาคีกอดพี่สาวตัวเองไว้แน่น น้ำตาของเขาไหล ราวกับมันจะไม่มีวันแห้งเหือด สีฟ้าเขามาทำให้เขารัก เข้ามาทำให้เขาหลง จนถอนตัวไม่ขึ้น แต่แล้วก็จากไป ทิ้งหัวใจเขาให้แตกช้ำอย่างไม่เคยใยดี

ให้ความหวังว่าจะรัก เหมือนจะรักเขา แต่ก็ไม่เคยรัก ไม่เคยสักนิด

“ทุกอย่างมันจะผ่านไปได้ ถ้าตินแน่ใจว่าตินรักน้องลมจริง” นลินบอก

คำพูดของนลินไม่ใช่คำปลอบ แต่มันคือความจริง ใช่ว่าเธอดูไม่ออก ว่าสีฟ้ารู้สึกอย่างไรกับน้องชายของเธอ น้องชายเธอไม่ได้รักสีฟ้าเพียงฝ่ายเดียว เพราะสีฟ้าเองก็รักน้องชายเธอเช่นกัน แววตาของสีฟ้าที่เธอเห็นเมื่อครู่ มันยืนยันได้เป็นอย่างดี เพียงแต่มีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้สีฟ้าเลือกจะทิ้งน้องชายเขาไปครั้งแล้วครั้งเล่า

“ผมรักเขา ผมรักเขามาก แต่ทำไมครับพี่ลิน ทำไมเขาไม่เคยเห็นค่าความรักของผมเลย”

“สักวันติน สักวันน้องลมต้องเห็นค่าของติน เชื่อพี่นะ”

“แล้วมันต้องนานแค่ไหน มันจะถึงวันนั้น ผมกลัว กลัวจะไม่มีวันนั้น วันที่เขาจะรักผม วันที่เขาจะไม่ทิ้งผมไปไหน”

ยิ่งพูดก็เหมือนน้ำตามันยิ่งไหลมากกว่าเดิม พี่สาวอย่างนลินแทบไม่อยากจะเชื่อ น้องชายของเธอจะอ่อนแอและเสียน้ำตาได้มากขนาดนี้

“มีสิติน ถ้าตินมั่นใจว่ารักน้องลมจริงๆ วันนั้นมันต้องเดินทางมาถึงแน่” เธอเชื่อเช่นนั้น เชื่อสิ่งที่ตัวเองบอกน้องชายไป อยากให้น้องชายของเธอเชื่อเช่นกัน

นลินกำลังคิด.... คิดหาทางช่วยน้องชายของเธอ เธอปล่อยให้เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนสองคนมานานเกินไปแล้ว มันคงถึงเวลาที่เธอต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อทำให้เรื่องนี้มันไม่จบด้วยน้ำตา


................................................................................



“ว่าไงหวาน มีอะไรกับลมหรือเปล่า”

สีฟ้าเปิดประตูเข้ามานั่งในรถคันหรูของเขา แต่ยังไม่ทันที่จะขับออกสู่ถนนใหญ่ ณัชชาก็โทรเข้ามาหาเขา เหมือนจะรู้จังหวะและเวลาได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

“โอ้โห...นึกว่าจะโทรไม่ติดซะแล้ว เป็นไงบ้าง ไปเที่ยวทะเลกันมาสนุกไหม” น้ำเสียงของณัชชาตื่นเต้นที่ติดต่อสีฟ้า หลังจากที่เพียรพยายามติดต่อสีฟ้ามานานหลายวัน

“ขอโทษนะหวาน พอดีมันกะทันหันนะ เลยไม่ได้ชวน แต่เอ๊ะ...แล้วหวานรู้ได้ยังไงว่าลมไปทะเล” นั่นสิ ณัชชารู้ได้ยังไงว่าเขาไปทะเลมา มีใครบอกหรือ คนที่รู้ว่าเขาไปทะเลก็มีแค่ญาดา คณิตและผู้ชายที่เขาหันหลังเดินจากมา

“โห...ไม่รู้ก็ไม่ใช่หวานสิ ก็บ้านพักที่ตินพาลมไปพักนั่นนะ มันเป็นบ้านพักของพี่อิงนี่นา ความจริงบ้านพักของหวานก็อยู่ข้างๆ นะ แล้วหวานก็อยากตามไปเที่ยวทะเลกับลมนะ แต่ชวนพี่อิง พี่อิงก็ไม่ยอมไปด้วย แถมห้ามอีกต่างหาก ชวนแพท แพทก็บอกว่าไม่อยากตัวดำ หวานเลยอดไปเที่ยวทะเลเลย ไม่เป็นไรคราวหน้าเราไปด้วยกันตามประสาเพื่อนดีกว่าเนอะลม ใช่ไหมแพท” คนปลายสายช่างพูด พูดโดยไม่หยุด แต่ตอนท้ายก็หันไปพูดกับเพื่อนที่เดินอยู่ด้วยกัน


สีฟ้ารู้สึกเพลินที่ฟังณัชชาพูด ทำให้เขาลืมเรื่องหนักๆ ที่ต้องเผชิญเมื่อครู่ไปได้ แต่ต้องมาสะดุดเอาตอนท้ายที่ณัชชาไม่ได้พูดกับเขา แต่พูดกับอีกคนหนึ่งที่คงอยู่ด้วยกัน

“แพทอยู่ด้วยเหรอ?” เขาถาม ทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว หูเขาไม่ได้ฝาด เสียงณัชชาก็ดังผ่านโทรศัพท์ที่แนบอยู่กับหูให้ได้ยินชัดเจน

“อืม... หวานเดินซื้อของอยู่กับแพท  นี่ก็ซื้อเสร็จแล้ว ว่าแต่ตอนนี้ลมอยู่ไหน ยังอยู่ที่ทะเลหรือว่ากลับมากรุงเทพแล้ว”

“ถึงกรุงเทพแล้ว” สีฟ้าตอบไม่ค่อยจะเต็มเสียงเท่าไหร่นัก ตอนนี้ณัชชาอยู่กับน้ำเพชร เรื่องทุกเรื่องระหว่างเขากับภาคี น้ำเพชรคงรู้จากณัชชาหมดแล้ว มิน่าล่ะ น้ำเพชรถึงรู้ว่าเขากับภาคีไปเที่ยวทะเลกัน

“ดีเลย งั้นลมออกมาทานข้าวกับพวกเรานะ ห้ามชวนตินมาเด็ดขาด เพราะงานนี้ของดแฟนหนึ่งวัน” ณัชชาไม่รู้เลยว่าคำพูดของตัวเองทำเอาสีฟ้าอยากจะร้องไห้เสียให้ได้ ค่าที่สีฟ้ารู้ดีว่าคำพูดของณัชชา น้ำเพชรคงได้ยินเต็มๆ กลัวคำพูดนั้นไปสะกิดให้น้ำเพชรเจ็บ

“ไว้วันหลังได้ไหมหวาน คือว่าวันนี้เรา....” สีฟ้ายังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับน้ำเพชร แต่ณัชชาไม่ได้รับรู้ถึงอาการของสีฟ้า หญิงสาวรีบรวบรัดตัดความ มัดมือสีฟ้าชกทันที ตามนิสัยคนพูดเร็วของเธอเอง

“ไม่เอา หวานคิดถึงลมนะ แพทก็คิดถึง ดูสิ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน ทิ้งๆ ไว้บ้างเถอะนะแฟนน่ะ หวานยังทิ้งพี่อิงมาเที่ยวกับเพื่อนได้เลย นะนะลม ตินไม่โกรธหรอก ถ้ากล้าโกรธนะ หวานจะให้พี่อิงจัดการให้เข็ดเลย” คนไม่รู้ก็ยังคงไม่รู้อยู่เหมือนเดิม แถมยังเจื้อยจ้อยได้ไม่หยุด

“ให้ลมไปเจอที่ไหน” เอาเถอะ ยังไงเสีย เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับน้ำเพชรอยู่แล้ว บางทีการเจอกันครั้งนี้ ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม 

“เดี๋ยวนะลม หวานถามแพทก่อนนะ ที่ไหนดีล่ะแพท”

สีฟ้าได้ยินเสียงใสๆ ของณัชชาเอ่ยถามน้ำเพชร ไม่นานนักก็กลับมาพูดกับเขาต่อ

“ลมจ๊ะ แพทบอกว่าร้านเดิมที่ลมกับแพทไปด้วยกันบ่อยๆ นะ ลมจำได้ใช่ไหม?”

“จำได้” ร้านเดิม ร้านประจำ เขาจำได้

...................................................................


“ลม...ทางนี้”

หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มกวักมือเรียกทันทีที่เห็นสีฟ้าเดินเข้ามาในร้าน

สีฟ้ามองตามเสียงเรียกชื่อเขา เห็นณัชชาฉีกยิ้มกว้างอยู่ตรงโต๊ะที่ตั้งชิดพนังอยู่เพียงลำพัง โดยปราศจากอีกคนหนึ่งที่สีฟ้าคิดว่าน่าจะนั่งอยู่ด้วยกัน

“โอ้โห.... ไปทะเลมาตั้งหลายวัน ไม่เห็นจะดำเลย ” พอสีฟ้าเดินมาถึง ณัชชาก็รีบคว้าตัวหนุ่มหน้าหวานแล้วดึงให้มานั่งข้างตัวเอง พร้อมกับสำรวจตรวจตราสภาพร่างกายของเพื่อน

“แพทล่ะ” หรือว่าแพทไม่อยากเจอหน้าเขา 

“ไปห้องน้ำน่ะ”

สีฟ้าแอบลอบถอนหายใจอย่างโลกอก มันไม่เป็นอย่างที่เขากลัว

“ลมไปทะเลมาตั้งหลายวัน ไม่เห็นดำเลย หวานไม่น่าเชื่อแพทเลย ไม่งั้นก็ได้เล่นน้ำทะเลสนุกไปแล้ว” เธอเห็นว่าเพื่อนหนุ่ม ผิวก็ยังขาวอมชมพูเหมือนเดิม ไม่เห็นจะมีร้อนไหม้เกรียมเพราะแรงแดดทะเลเลย

“เอ่อ...คือเราไม่ได้เล่นน้ำทะเลนะ มันเลยไม่ดำ” จะบอกณัชชาได้ยังไงล่ะว่าไปทะเลตั้งหลายวันทำไมถึงไม่คล้ำลงเลย

“โหยยย...ไปทะเลแล้วไม่เล่นน้ำทะเล แล้วจะไปมันทำไมล่ะลม ไปสวนสยามดีกว่ามั้งอย่างนี้ เอ๊ะหรือว่าลมกับตินเอาแต่......” ใบหน้าจิ้มลิ้มฉายแววล้อ ตาสวยเป็นประกายซุกซน แล้วเจ้าตัวก็เกิดอาการหน้าแดงซะงั้น แต่สีฟ้าต้องรีบหยุดความคิดที่เลยไปไกลหากเป็นความจริงของณัชชาไว้ก่อน

“ไม่ใช่นะหวาน มันไม่ใช่อย่างที่หวานเข้าใจนะ ลมกับตินเป็นเพื่อนกัน แล้วไปทะเลคราวนี้ เราก็ไปตั้งหลายคน เลขาของลมก็ไปด้วย”

“แต่พี่อิงบอกหวานว่าลมกับตินรักกัน” เจ้าตัวเกาหัวตัวเองเบาๆ งุนงง ก็วันนั้นอชิตะเป็นคนลากตัวเธอออกมาแล้วบอกว่าสีฟ้ากับภาคีรักกันนี่นา แล้วทำไมสีฟ้าถึงบอกว่าไม่ใช่ล่ะ

“หวานจะเชื่อแฟนหรือเชื่อเพื่อนล่ะ” สีฟ้าพยายามปัดความสงสัยไปจากความคิดของณัชชา ที่ชักจะรู้อะไรเยอะเกินไปหน่อย

“แต่พี่อิงบอกว่า.....” สาวน้อยยังคร้านสิ่งที่หนุ่มหน้าหวานพูด อชิตะจะโกหกเธอไปทำไมล่ะ ถ้าไม่เป็นความจริง แล้ววันก่อนที่แฟนหนุ่มของเธอยังบอกให้พี่หมอพิษณุตัดใจจากสีฟ้าอยู่เลย

“ไม่พูดเรื่องนี้แล้วนะหวาน นี่มันเรื่องของลมเอง ใครจะมารู้ดีไปกว่าลมล่ะ โน่นแพทมาแล้ว แล้วก็ห้ามพูดเรื่องนี้ต่อหน้าแพทเด็ดขาด” สีฟ้ารีบตัดบท เมื่อเห็นน้ำเพชรกำลังเดินยิ้มมาแต่ไกล

น้ำเพชรส่งยิ้มมาให้เขา สีฟ้าอยากจะเชื่อว่ารอยยิ้มของน้ำเพชรนั้นส่งมาให้เขาจริงๆ เพื่อนของเขายิ้มให้เขาแล้วใช่ไหม หากอะไรบางอย่างในแววตาและรอยยิ้มนั้น มันไม่เหมือนเดิมที่คุ้นเคย คล้ายความอึมครึมยังคงขวางกั้นมิตรภาพอยู่

น้ำเพชรทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงกันข้ามเพื่อนทั้งสอง

“ว่าไงลม ไปทะเลสนุกไหม” น้ำเสียงของน้ำเพชรเป็นปกติ แต่สีฟ้ากลับรู้สึกเหมือนว่า มันยังมีอะไรบางอย่างเจือจางอยู่ น้ำเพชรคงยังไม่พร้อมจะให้อภัยเขาหมดซะเลยทีเดียว แต่ช่างมันเถอะ อีกหน่อยก็คงกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ อย่างน้อยๆ ณัชชาคงจะช่วยเป็นกาวใจชั้นดีได้ อย่างเช่นตอนนี้ไง แม้จะมากไปหน่อยก็ตาม

“ไปทะเลมันจะไม่สนุกได้ยังไง ดูสิแพท ลมไม่เห็นดำเลย ออกจะขาว ข๊าว ขาวเหมือนเดิ, หวานไม่น่าเชื่อแพทเลย”ณัชชาย่นจมูกใส่เพื่อนสาวทันทีที่พูดจบ ก็วันนั้นพอรู้จากอชิตะว่าสีฟ้าไปทะเล เธอก็อยากจะตามไปด้วย แต่อชิตะไม่ยอมพาไป เลยเปลี่ยนมาชวนน้ำเพชรไปด้วยแทน น้ำเพชรก็บอกว่ากลัวดำอีก งานนี้เธอเลยพลาด

“นั่นสิลม ทำไมไปทะเลแล้วไม่คล้ำกลับมาเลยล่ะ แพทจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่ไปด้วยกัน แค่สองวันเองลมก็ตัวดำเป็นเมี่ยงแล้ว” น้ำเพชรถามทั้งคำพูดและสายตา

“คือว่าลมไม่ได้เล่นน้ำทะเล.... ว่าแต่แพทดูผอมลงไปนะ” สีฟ้าเปลี่ยนเรื่องคุย แม้จะรู้กันดีอยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่พูดถึงมันจะเป็นผลดีต่อเขาและน้ำเพชรมากกว่าไม่ใช่เหรอ นับตั้งแต่วันนั้นที่หน้าบ้านหลังเล็กของภาคี จุดแตกหักระหว่างเขากับน้ำเพชร เขาก็ไม่ได้เจอน้ำเพชรอีกเลย มาเจอวันนี้น้ำเพชรดูผอมลงไปมาก มากจนเขารู้สึกผิด

“เรากำลังอยู่ในช่วงอกหัก ก็เลยเป็นแบบนี้ ดีเหมือนกันจะได้เป็นการลดหุ่นไปในตัว” คำพูดของน้ำเพชรเหมือนจะเรื่อยๆ ไม่ได้จริงจังอะไร แต่ก็ทำให้คนถามปั้นสีหน้าไม่ถูกไปเหมือนกัน

“แพท หวานถามอะไรอย่างหนึ่งได้ไหม”

ทันทีที่ณัชชาพาตัวเองมานั่งตรงเบาะข้างคนขับ หญิงสาวก็เปิดปากถามสิ่งที่เธอสงสัยมาตลอดที่นั่งทานข้าวด้วยกัน สิ่งที่เธอรู้สึกว่ามันผิดปกติไป ถึงแม้ณัชชาจะห่างหายจากเพื่อนทั้งสองไปนานมาก  และไม่ได้เป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวของสีฟ้าและน้ำเพชร หากเธอก็สัมผัสได้กับบรรยากาศที่อึมครึม

“หวานจะถามเรื่องระหว่างเรากับลมใช่ไหม” น้ำเพชรก็เหมือนจะรู้ว่าณัชชากำลังคิดอะไรอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสีฟ้าคงไม่ปกติ จนณัชชาจับความผิดปกตินั้นได้

“แพทกับลมมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า?” ณัชชาถามในสิ่งที่เธออยากรู้ ถึงจะคุยกันเป็นปกติ แต่เธอก็รู้สึกว่า มันไม่ได้ปกติเลย ความเมินเฉยระหว่างสองคนนี้ มีให้เห็นเป็นระยะ บางครั้งก็ทำให้เธออึดอัด

“หวานอยากรู้จริงๆ เหรอ” น้ำเพชรถามกลับ สายตาของเธอยังจับจ้องอยู่ที่รถของคันสวยของเพื่อนสนิทที่กำลังเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ

แพทไม่ผิดนะลม เพราะมันคือสิ่งที่ลมตัดสินใจเอง แพทไม่ได้บังคับ


โปรดติดตามตอนต่อไป

ตอนนี้คนโพสมีอินเนอร์ส่วนตัวกับ เลขตอน หน้าที่ลง และเวลาที่อัพ เป็นพิเศษ แม้ว่า ตอนนี้มันจะร้าวรานใจปานใดก็มิได้นำพา


หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 11-04-2011 19:34:31
 :sad4: สงสารตินนนนนนนนนนนนน  :o12:
ทำไงดีอ่าสงสารตินไม่ไหวและดราม่ามากมาย
เสียใจอ่าทำไมลมทำแบบนี้แมร่งเกี่ยงนังแพทที่สุดแต่จะเกลียดเขาก็ไม่ได้
มันยู่ที่ลมเลือกด้วย  :sad4:
จะทรมานตินอีกไหมคุณ อยากให้ตินมีความสุขอ่าจะร้องตามตินไปด้วยเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 11-04-2011 19:37:53
ตบมันนนนนนน !!
โอ๊ยย ฉันอยากจะจิกหัวแกโขกเสาบ้าน กระแทกให้มันแรงๆๆๆ
ฉันจะกระชากผมแกแล้วตบๆๆๆๆ ตบให้เลือดกลบปาก ให้มัน
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!
ฉันเกลียดแกนังแพท !

อยากตบคนโว้ยยยยยย !!!!!!


สงสารตินมาก อ่านแล้วจะร้องไห้เลย
ลมงี่เง่า ลมงี่เง่า งี่เง่าที่สุด โว้ยยยยยยยยย


เบื่อลมที่สุด เหอะ !!
+1 ให้แบบงอนๆ


หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 11-04-2011 19:42:08
ขอมาเม้นแต่ไม่อ่านนะครับ มันอึดอัดใจอ่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 11-04-2011 19:44:17
 :m15: :monkeysad: :sad11:
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 11-04-2011 19:48:00
อยากบอกว่ายิ่งอ่าน ยิ่งรำคาญนิสัยลม นายติน คนแบบนี้ทิ้งๆ ไปเถอะ อยู่ด้วยก็มีแต่จะทำให้เสียใจตลอด คนที่พร้อมจะทิ้งตัวเองได้ตลอดเวลาเมื่อมีปัจจัยอะไรเข้ามาหนะ หาความมั่นคงไม่ได้เลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 11-04-2011 20:14:09
 :m15:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 11-04-2011 20:15:09
 :z3: :z3: :z3: อ่านแล้วปวดใจ
ทำไมยัยนี้มันน่ารังเกียจขนาดนี้เนี่ย
สงสารติน ทำไมลมใจร้ายขนาดนี้
ทิ้งตินครั้งแล้วครั้งเล่า  :เฮ้อ: หาเมียใหม่ดีไหม
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 11-04-2011 20:24:51
ขอบคุณคนแต่งคนโพสต์ :L2:
พออ่านจบนึกเกลียดเลข19ขึ้นมาทันที
ถ้าข้าพเจ้าเป็นภาคีจะตัดใจจากสีฟ้า
เพื่อความสะใจข้าพเจ้าจะจีบหมอพิษณุ
เอาให้สีฟ้านิรชาน้ำเพชรอกหักรักคุดช้ำใจตายให้หมด :laugh3:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 11-04-2011 20:27:11
หึๆๆๆๆๆๆๆพระเอกก็อ่อนแอจนเวอร์ต้องมีตัวช่วยตลอด :z6:


น้องลมก็น่าสงสาร แม่พระเหลือเกิน แม่ดาวพระศุกร์  แม่พจมาน :beat:


นังแพทอะไรจะอยากได้ผัวขนาดนั้น รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่เอายังจะหน้าหนาไปถึงไหน ราคานะไม่ต้องห่วงไมมีแล้วอ่ะเสียดายชื่อฉิบ


เสียดายคำว่าเพื่อนเสียเวลามาคบกับคนแบบนี้  เพราะมันไม่รู้ความหมายของคำว่าเพื่อน :fire: :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 11-04-2011 20:30:55
สงสารตินที่สุดเลย ลมใจร้ายมากกกกกกกกกกกกกกก
ทำร้ายตินมากๆเลย เค้าร้องไห้ยังไม่มาบอกเลย
ตอนนี้หมั่นไส้ลมทำให้ตินของฉันร้องไห้
อยากบอกว่าเกลียดยัยแพทมาก ใครช่วยเอาไปไกลๆหน่อย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 11-04-2011 20:32:27
แพทขอร้องงงง


อย่าร้าย


เป็นเพื่อนกันมานาน  น่าจะรู้ใจกันพอนิ


แพทน่าจะโกรธตินซะมากกว่า

ในเมื่อแพทก็รู้ว่าตินชอบลมนิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 11-04-2011 20:40:49
เกลียดแพทมากกกกกกกกกกกกกกกก เพื่อนอย่างนี้อย่าไปคบเลยลม สงสารตินจับใจอ่า ทำไมลมทำแบบนี้อ่า ทำไมทำเหมือนความรักของตินไม่มีค่าพอจะเหนี่ยวรั้งอะไรลมไว้เลยล่ะ เพื่อนเลวๆ อย่างแพทอย่าไปคบเลย ผู้หญิงคนนี้ไม่ไหวนะ แล้วพี่ลินจะทำไงต่อไปเนี่ย รอค่ะ เศร้าได้อีก จะมาม่าอีกกี่ตอนค่ะ อยากอยู่ในช่วงภาวะน้ำตาลในเลือดสูงมากกว่าอ่า
 :sad4:




หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 11-04-2011 20:52:46
กลัีบมาดีกันเร็วๆ เถอะ สงสารติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 11-04-2011 21:15:54
ก่อนอื่น เลขสวย  ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19  :m3: :m3: :m3:
แต่วันนี้แอบเกลียดด
 o12 o12 o12

สงสารตินนน  :o12: :o12: :o12:
อ่านไปแล้วปวดใจ น้ำตาคลอ
ไม่อยากให้ตินรอแล้วอะ มันเจ็บเกินไป
 :sad2: :sad2: :L2:

ลมใจร้ายอะ  จะแม่พระไปไหน
ทำร้ายทั้งตัวเองและติน
 :monkeysad: :monkeysad:

ส่วนยัยแพท  :beat: :beat: :beat:
ไปตายไหนก็ไปเลยไป๊ ชิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 11-04-2011 21:37:18
รำคาญอีชะนีสองตัวนี้จริงๆ ตัวหนึ่งก็แรดเงียบ อีกตัวก็พูดมากผีเจาะปากให้มาพูดหรือไง สาระแนทุกเรื่อง บางครั้งเพื่อนก็ก้ควรจะวางตัวให้มันพอสมควรกับการเป็นเพื่อนบ้าง ไม่ใส่ชอบสอด ชอบสาระแน อีกตัวก็แรด สร้างภาพให้ดูน่าสงสารแหมแหม ดัดจริตจริงๆเป็นคนตัวเป็นๆหน่อยไมไ่ด้จะดัดตบเสียให้ลืมเพศ


ใครก็ได้ เอาอีสองตัวนี้ไปทิ้งทีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 11-04-2011 22:21:05
น้องตินของพี่ โฮๆๆๆๆๆ น่าสงสาร ลมใจแข็งจัง



ว่าแต่ 19 19 19  โหะๆๆๆ ได้อีกนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ramgaythai ที่ 11-04-2011 23:00:12
:z3: :z3: :z3: อ่านแล้วปวดใจ
ทำไมยัยนี้มันน่ารังเกียจขนาดนี้เนี่ย
สงสารติน ทำไมลมใจร้ายขนาดนี้
ทิ้งตินครั้งแล้วครั้งเล่า  :เฮ้อ: หาเมียใหม่ดีไหม

จริงด้วยๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 11-04-2011 23:44:33
แค่รักกันมันยากเกินไปเหรอ
เขี่ยๆเพื่อนแบบนี้ทิ้งไปได้แล้ว
อ่านทีไรมันอึดอัด คับอกคับใจทุกทีสิน่า :serius2:
ทิ้งเขาไปหลายๆรอบ มันเจ็บนะ
กรีดหัวใจตัวเอง แล้วคิดว่าแพทจะเจ็บ จะสงสารด้วยเหรอ  :m31: :m16:

สำหรับนังน้ำเพชร  :z6:
หัวข้อ: Re: ...รักล้นใจ...(อัพครั้งที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 11-04-2011 23:53:49
เกลียดนังแพทมันจริงๆนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 12-04-2011 00:05:18
อินเนอด้วยคน 1 1 9 9 เนี่ยอิอิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 12-04-2011 00:09:54
 o22 o22


ตกลง ลมรักตินจริงๆ ป่าวเนี่ย? :เฮ้อ:


หาใหม่ๆ   :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 12-04-2011 00:10:59
ไม่เคยแอนตี้ชะนีมากขนาดนี้มาก่อน



พึ่งรู้ว่าตัวเองมีความสุขที่เป็นสาววายก็ตอนนี้แหละ
ชะนีน่ารำคาญไม่ไหวแล้ว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 12-04-2011 00:12:47
เห็นคอมเมนต์แล้วยังไม่กล้าอ่าน เลย เพราะช่วงนี้มันเศร้าอยุ่เอาไว้ให้เคลียรืก่อน แล้วจะกลับมาอ่านแน่นอน


ถ้าอ่านเด๋วนอนไม่หลับ โปรดเห็นใจด้วย เด๊ยว โรคหัวใจ กำเริบ



หวังว่า จะคืนดีในไม่ช้า


หน้าแรกๆ สนุกดี  เนื้อหาพาเสร้า อ่านแล้ว นู๋เครียด  


เมื่อผ่านเวลาร้ายๆ เราจะกลับมา นู่กลัว :z3:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 12-04-2011 00:45:37
อ่านแล้วปวดใจจัง :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-04-2011 07:25:58
ดีนะแพท ที่เธออยู่แต่ในนิยาย ถ้าเธอเป็นคนจริงๆเดินตลาดได้ เธอโดนหนามทุเรียนแม่ยกติน-ลมแถวนี้แล้วแหละ :angry2:
เฮ้อ ทำไมปล่อยให้จิตใจฝ่ายต่ำครอบงำขนาดนี้ ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีไปแล้วเหรอ :z3:
โอ๊ยๆๆๆ มันอินจริงจริ๊งให้ตาย +1 ขอบคุณค่า :z10:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 12-04-2011 08:53:44
หืม น่าสงสารอ่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 12-04-2011 09:08:38
รับไม่ได้ อิแพทน่าเกลียดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: phung ที่ 12-04-2011 10:41:13
ปกติีัรักเลข 19 มาตลอด แต่ตอนนี้เกลียดแล้ว โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 12-04-2011 15:30:36
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:



เข้ามาถอนหายใจ  ทำไมลมเป็นคนอย่างงงงงงงงงงงงงงงงงนี้   :serius2:


 :เฮ้อ: :เฮ้อ:



สงสารติน~   
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 13-04-2011 09:22:12
สุขสันต์ปีใหม่ไทยนะค่ะ  

(http://i679.photobucket.com/albums/vv154/aieaussie/950382d1.jpg)
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 13-04-2011 20:56:25
HAPPY SONGKRAN DAY !! ขอให้เจอแต่สิ่งดีๆ นะค่ะ ชุ่มฉ่ำๆ กันทั่วหน้านะ ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 19 หน้า19 เวลา 19.19 [11/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 13-04-2011 21:18:57
 :3123:

สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 14-04-2011 10:37:09

ตอนที่ 20


“ผมว่าอาการมันหนักกว่าเดิมอีกนะครับบอส”

คณิตละสายตาจากภาพเพื่อนรักที่นั่งซังกะตายอยู่ที่โต๊ะทำงาน หันมาบอกเจ้านายหนุ่มที่ยืนกอดอกอยู่ข้างเขา ภาคีเป็นแบบนี้มาหลายอาทิตย์แล้ว ไม่พูดไม่จา เอาแต่เก็บตัวเงียบ

“ผมก็ว่าอย่างงั้นแหละ” อชิตะพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของลูกน้องหนุ่ม หลังกลับมาจากทะเล
ก็กลายสภาพเป็นเหมือนคนไม่มีชีวิต นี่มันก็ 3 อาทิตย์มาแล้ว

“ผมไม่รู้จะช่วยมันยังไงเลยครับ” คณิตเกาหัวตัวเองแกกๆ จนปัญญา คนเจ้าแผนการอย่างเขาหมดหนทางช่วยเหลือเพื่อนแล้วล่ะ  นี่ขนาดเขาเข้าทางญาดาแล้วนะ ให้ช่วยพูดกับหนุ่มหน้าหวานให้ แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

“เราสองคนช่วยอะไรเขาไม่ได้หรอก เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของคนสองคน”

“แต่ว่าผมก็อยากช่วยมันนะครับบอส  มันจะได้กลับมาเป็นผู้เป็นคนกว่านี้”  ถึงจนปัญญาแต่คณิตก็คิดอยากจะช่วยเพื่อนเหลือเกิน  เห็นหน้าภาคีนั่งเป็นแพนกวิ้นหาน้ำแข็งไม่เจอ แล้วมันขัดลูกกระตาเขาจริงๆ 

“เอาน่าเดียวทุกอย่างมันก็ดีขึ้นเอง เวลามันช่วยรักษาใจคนได้” อชิตะตบบ่าคณิตไปสองที ก่อนจะก้าวนำลูกน้องหนุ่มไปที่โต๊ะทำงานของภาคี

สามอาทิตย์แล้วที่หัวข้อสนทนาระหว่างอชิตะกับคณิตวนเวียนอยู่แค่อาการทุกข์หนักของภาคี ซึ่งอยากช่วยแต่ก็จนปัญญา

“ไหวไหมติน ไม่ไหวก็ลาพักร้อนได้นะ ผมอนุญาต” เจ้านายหนุ่มที่เห็นอาการของลูกน้อยแล้วให้นึกเห็นใจ มีความสุขได้ไม่กี่วัน ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก ครั้งนี้ดูหนักกว่าเก่าด้วยซ้ำ  ตั้งแต่กลับมาจากทะเล ภาคีก็ทำตัวเหมือนกับหุ่นยนต์ไปทุกวัน  ไม่พูดไม่จา ทำงานเหมือนคนไม่มีชีวิต

“ไหวครับ” เจ้าตัวตอบเสียงเบา

“ยังจะพูดว่าไหวอีกนะมึง ดูงานล่าสุดที่มึงทำซี่ ลูกค้าต้องการเรือนหอนะโว้ย ไม่ได้ห้องแช่แข็ง มึงก็ทำซะ หูบอสชาไปอีก 10 ปี ขืนมึงยังเป็นแบบนี้ กูว่ามีสองทางเลือกให้บอสเลือกว่ะ  ไม่ไล่มึงออกก็ปิดบริษัทหนีมึง”

คณิตลากเก้าอี้มานั่งข้างเพื่อนตั้งหน้าร่ายยาว ไม่ได้ตั้งใจจะปากเสียใส่ แต่มันคือสิ่งที่ต้องทำต่างหาก คำปลอบหรือมันจะสู้คำด่า ปลอบมันมาหลายวันแล้ว อาการมันก็ยังไม่ดีขึ้น ด่ามันซะบ้าง มันจะได้รู้ตัวซะทีว่าทำเป็นแบบนี้แล้วทำให้คนอื่นพลอยลำบากไปด้วย

“ไม่ถึงขนาดหรอกครับหนึ่ง เอาแค่ปิดบริษัทหนีลูกค้าก็พอ อย่าให้ปิดบริษัทหนีลูกน้องเลย ลูกน้องดีๆ เดี๋ยวนี้มันหายากนะผมว่า” อชิตะพูดติดตลก เผื่อจะทำให้ลูกน้องฝีมือดีของเขาอารมณ์ดีขึ้น

“ผมขอโทษครับบอส” ภาคีไม่กล้าสู้หน้าเจ้านายหนุ่ม รู้ตัวดีว่าสร้างความเสียหายให้บริษัทมากเหมือนกัน หากแต่อชิตะก็ยังใจดีกับเขาอยู่

“ไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมไม่อยากได้เท่าไหร่หรอกครับ เอาเป็นว่าแทนคำขอโทษ ผมว่าให้คุณเอาเรือนหอสวยๆ มาฝากลูกค้าของผมดีกว่า ว่าไงพอจะทำไหวไหม” อชิตะตบบ่าลูกน้องไปหนึ่งทีคล้ายบอกกล่าวว่ามันไม่เป็นไรจริงๆ กับงานที่ต้องเอากลับมาแก้ใหม่ ไม่รู้ว่ารอบที่เท่าไหร่แล้ว

“ถามจริงเถอะว่ะ มึงจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานไหมวะ ทำไมไม่ลุกขึ้นมาสู้อีกครั้งหะ ” คณิตถามคำถามเดิมๆ ที่ถามไปแล้วไม่รู้กี่ครั้ง ว่าจะไม่ถามมันอีกแล้ว เพราะถามกี่ที่มันก็ได้คำตอบเหมือนเดิม เหมือนเช่นตอนนี้ไง

“อย่ายุ่งได้ไหม”

“กูได้ข่าวจากคุณด้ามาว่า คุณหมอสัตว์เช้าถึงเย็นถึงเลยนะโว้ย ถ้ามึงยังมานั่งกินแห้วเคล้าห้องแช่แข็งอยู่อีกละก็ คุณลมของมึงเสร็จหมอสัตว์แน่ คราวนี้มึงมีหวังได้เสียคุณลมไปแน่ๆ แล้วอย่าหวังว่าจะเอาคืนมาได้ คุณหมอสัตว์เอาจริงมากเลยนะโว้ยมึง ”

“เฮ้ย...หนึ่ง แต่ว่าไอ้หมอมัน.....” เจ้านายหนุ่มเพื่อนคุณหมอสัตว์ที่คณิตกล่าวอ้างถึง กำลังอ้าปากจะพูด กลับถูกคณิตแทรกขึ้นมาเสียก่อน

“ดะ...เดี๋ยวครับบอส ผมเพิ่งนึกได้ครับว่ามีงานให้บอสช่วยดูให้หน่อย ไปที่ห้องบอสกันนะครับ   เฮ้...ไอ้ติน มึงคิดให้ดีนะโว้ย ครับบอส ไปครับๆ ”

คำพูดของคณิตที่ทิ้งเอาไว้ก่อนดึงตัวอชิตะไปยังห้องทำงานของตัวเอง คำพูดนั้นมันได้เปิดรอยแยกให้ความรู้สึกเป็นเจ้าและหวงแหนคนที่เคยกกกอด ให้วิ่งออกมาเพ่นพล่านอย่างรวดเร็ว หัวใจที่ไร้เรี่ยวแรงกลับมีเชื้อไฟร้อนมาเผาผลาญให้ร้อนรน เมื่อนึกถึงเรือนกายขาวที่ไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป แต่เขาก็ไม่ต้องการให้เรือนกายนั้นกลายเป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่เขา

มันหวง...เนื้อกายนั้น

มันหึง....เนื้อกายขาว

คนๆ นั้นเป็นของเขา....สีฟ้าเป็นของเขา

 

“หนึ่ง คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ไอ้หมอเพื่อนผมมันถอนตัวไปแล้วนะครับ” อชิตะมองหน้าลูกน้องที่ยืนยิ้มเฉ่งอยู่ตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็พอนึกเดาๆ อยู่ได้บ้างเหมือนกันว่าใต้รอยยิ้มนั้นมีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่

“กับไอ้ตินมันต้องแบบนี้ครับบอส ต้องยุให้หึง มันจะได้อาละวาด” เขารู้จักนิสัยเพื่อนดี ถึงภาคีจะเป็นที่เงียบขรึม พูดน้อย เหมือนไม่ใส่ใจอะไรมากนัก แต่เอาจริงก็น่ากลัวไม่น้อย พิษรักแรงหึง มันทำให้คนหน้ามืดตามัวมาเยอะแล้ว

“ผมไม่เข้าใจ” เจ้านายหนุ่มทำหน้างง

“แบบนี้ไงครับบอส ก็คือเราต้องกรอกหูมันทุกวันครับ ว่าคุณหมอสัตว์เพื่อนของบอสน่ะ ยังตามจีบคุณลมไม่เลิก เช้าถึงเย็นถึง พาไปโน่นไปนี่ สวีทกันอย่างโน้นอย่างนี้ เชื่อเถอะครับ จากที่มันเคยนั่งซังกะตายกะชีวิต มันต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองใหม่แน่ครับ ผมรับรอง แล้วเราสองคนก็ต้องจัดฉากครับ  ให้ไอ้ตินกับคุณลมเจอกันสักครั้ง คราวนี้ล่ะครับ  มันได้ฉุดคุณลมไปเคลียร์กันสองต่อสองให้รู้เรื่องแน่ เหมือนคราวที่แล้วไงครับ”

คณิตเล่าแผนการที่เพิ่งคิดได้อย่างปัจจุบันทางด่วน อชิตะเห็นภาพตาม แต่ก็ยังไม่เห็นดีเห็นงามไปด้วย

“ไม่ดีมั้ง ” อชิตะค้าน

“โถบอสครับ ถ้าไม่ทำแบบนี้ ไอ้ตินมันก็นั่งกินเงินเดือนบอสไปวันๆ เท่านั้นแหละครับ หรือบอสอยากหูชาไปอีก 20 ปีครับ” คนเป็นลูกน้องเริ่มขู่เจ้านายที่ยืนทำหน้าคิดไม่ตก ว่าจะเข้าร่วมแผนการด้วยดีไหมก็อชิตะกลัวแฟนสาวรู้เรื่องแล้วจะเล่นงานเขาเข้าน่ะสิ แค่เรื่องวันนั้นที่ลากตัวออกมาจากร้านและเรื่องที่ไม่พาไปเที่ยวทะเล ก็งอนเขาอยู่หลายวันเชียวล่ะ

“แล้วมันจะได้ผลหรือครับ คราวที่แล้วก็วางแผนให้เขาสองคนปรับความเข้าใจกัน แล้วเป็นไงล่ะ ดีกันแป๊บๆ แล้วก็กลายมาเป็นอย่างที่เห็น”

“ได้ผลสิครับบอส ถึงจะดีกันแป๊บๆ แต่มันก็ดีกันไม่ใช่หรือครับบอส ผมว่าแผนนี้น่ะดีแล้ว ฉุดกันไป ฉุดกันมา เดี๋ยวก็เหนื่อยจนดีกันนั่นแหละครับ” คณิตยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมอชิตะให้คล้อยตาม ไม่รู้ว่าอชิตะคล้อยตามหรือรำคาญกันแน่ ถึงตอบตกลง

“ตามใจล่ะกัน”
“ตามใจไม่พอครับ บอสต้องให้ความร่วมมือด้วย”
“ผมด้วย” อชิตะทำหน้างงอีก คนอย่างคณิตเนี้ย ได้คืบจะเอาศอกจริง ๆ
“แน่นอนครับบอส เพราะบอสมีหน้าที่จัดการเรื่องของคุณหมอ ส่วนผมจัดการไอ้ตินมันครับ ตกลงนะครับ”

คณิตรวบรัดตัดบท เจ้านายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าไปมา นึกถามตัวเอง ดีหรือเปล่าเนี่ยที่ใจดีจนลูกน้องมันไม่กลัว แถมยังมีบังคับอีกต่างหาก แต่ก็ช่างเถอะ เพื่อความสุขของลูกน้อง เจ้านายที่ดีสมควรทำใช่ไหม สงสัยงานนี้ต้องขอร้องแฟนสาวให้ช่วยอีกแรง จะปล่อยให้ลูกน้องเขาหึงอยู่ฝ่ายเดียวได้ไง มันต้องเสมอภาคกันทั้งสองฝ่ายสินา


................................................................................................

“ทำอะไรอยู่ลม”

เสียงใสๆ ดังขึ้นทันทีที่เปิดประตูห้องทำงานกว้างเข้ามา พร้อมกับร่างกะทัดรัดของณัชชาที่เข้ามาสวมกอดเจ้าของห้องหน้าหวาน ณัชชามักทำแบบนี้เสมอ เธอกอดสีฟ้าทุกครั้งที่เจอหน้ากัน 

“ทำงานอยู่น่ะสิหวาน ใครจะว่างได้ทุกวันเหมือนหวานล่ะ”

สีฟ้าหันมาบอกเพื่อนสาวที่นับวันจะยิ่งสนิทกันมาขึ้น เพราะณัชชาเป็นสาวช่างพูดทำให้สนิทกันได้อย่างรวดเร็ว ส่วนไอ้เรื่องกอดรัดฟัดเหวี่ยงนี่ด้วย เจอเขาทีไรเป็นได้วิ่งเข้ามากอด ขนาดอยู่ต่อหน้าแฟนหนุ่มเจ้าตัวก็ไม่เว้น จนบางครั้งเขาก็นึกเกรงใจอชิตะอยู่เหมือนกัน ถึงจะเป็นเพื่อนแต่ยังไงเสียเขาก็เป็นผู้ชาย

ถึงจะเป็นผู้ชายที่ไม่มีวันชอบผู้หญิงก็เถอะ...

“ใครว่าว่าง หวานกำลังจะเปิดร้านดอกไม้อยู่นะ ที่สำคัญหวานก็ยุ่งมากด้วย เพราะต้องเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของพี่อิง แล้วตอนนี้มันก็จะเที่ยงแล้วด้วย วางงานแล้วไปกินข้าวกับหวานนะ”

เจ้าตัวบอกขณะที่คลายอ้อมกอดออกจากตัวเจ้าของห้อง หลังจากแอบหอมแก้มหอมไปแล้วหนึ่งฟอด ณัชชาเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาสีแดงที่อยู่ไม่ห่างจากโต๊ะทำงานตัวใหญ่สักเท่าไหร่ หญิงสาวหยิบเอาอัลบั้มรูปที่อยู่ในกระเป๋าใบใหญ่ของเธอออกมา

“ดูรูปอะไรอยู่เหรอหวาน” สีฟ้าเดินมานั่งข้างเพื่อนสาว ชะโงกหน้าดูอัลบั้มรูปในมือของณัชชาอย่างสนใจ

“รูปงานเลี้ยงที่บริษัทพี่อิงน่ะ พอดีมันติดกระเป๋าหวานมา ดูสิๆ มีรูปตินด้วย” มือที่พลิกรูปไปมาหยุดตรงรูปของหนุ่มหน้าคมคิ้วเข้ม ณัชชายื่นรูปนั้นไปตรงหน้าสีฟ้า เหมือนกลัวว่าอีกฝ่ายจะมองไม่เห็น

“งานลมยุ่งมากเลยหวาน เดี๋ยวลมขอตัวไปทำงานก่อนนะ”

เพราะชื่อของคนที่สีฟ้าไม่ได้เจอหน้ามาเกือบหนึ่งเดือนแล้วนั้น ทำให้โซฟาตัวที่นั่งอยู่ดูมันจะร้อนจนนั่งไม่ติด ชายหนุ่มไม่อยากเห็น ไม่อยากเจอ และไม่อยากรับรู้เรื่องของผู้ชายคนนี้ ให้ใจมันต้องทรมานด้วยความคิดถึง เกือบเดือนมานี้ เขามุ่งทำแต่งานและงาน เพื่อที่จะให้ตัวเองไม่ต้องมีเวลาว่างพอที่จะมานั่งคิดถึงใครให้ใจต้องโหยหา แม้มันจะทำได้อยากเหลือเกิน แต่เขาก็เชื่อว่าทำมันได้ เขามีงานและมีเพื่อนมาทนแทนความรักในหัวใจแล้วไง น้ำเพชรกลับมาเป็นเพื่อนของเขาเหมือนเดิม แม้ไม่สนิทกันเหมือนเคย แต่อีกไม่นานมันก็จะดีขึ้นเอง

“เดี๋ยวสิลม ดูรูปกับหวานก่อนนะ” ทันทีที่สีฟ้าลุกขึ้น ณัชชาก็คว้าข้อมือของชายหนุ่ม พร้อมกับดึงตัวให้กลับมานั่งเหมือนเดิม ซ้ำยังใช้แขนล็อคแขนอีกฝ่ายไว้แน่น ไม่ยอมให้ลุกไปไหน สีฟ้าจำต้องนั่งอยู่อย่างนั้น

ณัชชายังพลิกดูรูปต่อไปเรื่อย ๆ ชี้ชวนให้สีฟ้าดู แล้วเจ้าตัวก็เหมือนสะดุดเข้ากับรูปหนึ่งเข้าอย่างจัง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันยามที่หันมาตั้งคำถามเอากับสีฟ้า ที่ตอนนี้ใบหน้านั้นมันกรุ่นๆ จะโกรธอยู่ไม่น้อย

“คนนี้นุ่น ญาติของพี่อิงนี่นา เค้าเป็นแฟนกับตินเหรอลม”

ณัชชาจิ้มนิ้วไปที่ใบหน้าของสาวสวยหุ่นดีในรูป ที่กำลังยืนฉีกยิ้มกว้างอยู่ข้างภาคี ถ้าหากคนทั้งคู่ยืนข้างกันเฉยๆ ณัชชาคงไม่ตั้งคำถาม และคนถูกถามก็คงไม่มีอาการกรุ่นๆ ในอารมณ์หรอก แต่ภาพที่เห็นนั่นนะ มันคือรูปที่สาวสวยวาดท่อนแขนทั้งสองอยู่บนเอวของหนุ่มหนุ่มหล่อคิ้วคมนัยต์ตาคมหวาน ซ้ำร้ายยังเอนซบอยู่บนอกของอีกฝ่ายด้วย

“ไม่รู้ อยากรู้ก็ไปถามคนในรูปเองล่ะกัน ลมไปทำงานต่อดีกว่า” ว่าแล้วก็จะลุกหนี หากณัชชาก็ยังดึงมือเอาไว้ให้นั่งลงอีกครั้ง

“งานน่ะ เอาไว้ก่อนก็ได้น่าลม เที่ยงแล้วกินข้าวกัน เนี้ยหวานหิ๊วหิว” เธอว่า แต่มือก็ยังไล่พลิกรูปไม่หยุด ซึ่งก็เจอแต่รูปคู่ของภาคีและนิรดา ไม่มีทีท่าว่าจะทำอย่างที่ปากบอกว่าหิว สีฟ้าอยากลุกหนี แต่ใจหนึ่งเขาก็ยังอยากเห็นรูปที่ทำให้ใจมันเจ็บเล่นๆ

“ดูสิ มีรูปที่ยืนกอดกันตั้งหลายรูปแน่ะ ลมว่าเค้าเป็นแฟนกันไหม แต่หวานว่าสองคนนี้ต้องเป็นแฟนกันเหง่ๆ เฮ้อ...เสียดายจัง หวานนึกว่าลมกับตินเป็นแฟนกันจริงๆ ซะอีก ” ตั้งคำถามเอง แล้วก็หาคำตอบเองเสร็จสรรพ แล้วคำพูดสุดท้ายก็ทำน้ำเสียงเสียใจอย่างที่ปากพูด เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อน ราวกับต้องการถามเอาความจริง แล้วดูอาการเพื่อยืนยันในสิ่งที่เธอรู้

หน้าสวยเกินหญิงของสีฟ้าที่ปกปิดความโกรธเอาไว้ไม่มิด ทำให้ณัชชาแอบยิ้ม โดยไม่ให้อีกฝ่ายเห็น 

“ลมจะรู้เหรอหวาน ลมไม่ใช่ตินนะ แล้วหวานจะอยากรู้เรื่องของคนอื่นไปทำไม” สุ้มเสียงที่บอกฟังดูหงุดหงิดไม่น้อย ซึ่งมันก็ช่วยยืนยันคำตอบให้ณัชชาเป็นอย่างดี

“ลมเป็นอะไรไปอ่ะ ดูหงุดหงิดจัง ไม่พอใจอะไรหวานหรือเปล่า” คนถามทำหน้าเศร้า ปากเริ่มเบะนิดๆ และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ญาดาเดินถือแก้วน้ำมาวางไว้ตรงหน้าของคนทั้งคู่

“น้ำค่ะ”

“ขอบคุณมากครับคุณด้า”  เจ้านายหนุ่มบอกเลขาสาว ก่อนจะยัดแก้วน้ำใส่มือแขกประจำวันของเขา แล้วเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานงานของตัวเอง พร้อมกับที่ญาดากำลังจะเดินออกจากห้อง แต่ณัชชาก็เรียกไว้ก่อน

“คุณด้าอย่าเพิ่งไปค่ะ อยู่เป็นเพื่อนคุยกับหวานก่อนนะ หวานโดนเพื่อนทิ้งแล้ว” เจ้าตัวบอกเสียงอ่อย แต่คนที่กรุ่นโกรธอยู่ในอารมณ์อย่างสีฟ้าก็ไม่นึกอยากเข้ามาปลอบอะไร แต่ก็พอจะเปิดปากปากเลขาสาวไปว่า

“คุณด้าอยู่คุยกับหวานแทนผมไปก่อนนะครับ เดี๋ยวผมขอทำงานตรงนี้ให้เสร็จก่อน คุณด้าจะได้เอาออกไปทำต่อ”

“รีบทำให้เสร็จเร็วๆ นะลม หวานหิวจนไส้จะขาดแล้ว” เธอว่า ลูบท้องให้เห็น

“อืม...คุณด้า เดี๋ยวไปทานข้าวด้วยกันเลยนะครับ” เขาบอก ก่อนก้มหน้าทำงานที่ค้างไว้ต่อ แต่หูก็ยังตั้งใจฟังเรื่องที่สองสาวกำลังคุยกัน

ญาดากับณัชชาพอจะสนิทสนมกันอยู่บ้าง เพราะณัชชาจะมาหาสีฟ้าที่บริษัททุกวัน ทำให้มีโอกาสได้คุยกับญาดาบ่อยๆ นั่นคือสิ่งที่สีฟ้ารู้ในความสนิทสนมที่ก่อเกิด แต่สีฟ้าหารู้ไม่ว่าสิ่งที่ทำให้ณัชชากับญาดาสนิทสนมกันมากนั้น มันยังมีอะไรนอกเหนือจากที่สีฟ้ารู้อีกมาก

สีฟ้าพยายามสลัดภาพสวีทหวานแหววที่เห็นทิ้งไปก่อน แต่มันก็ยากจะสลัดออกไปได้ ในเมื่อณัชชายังคงส่งเสียงเจื้อยแจ้วเข้ามาให้ยินอยู่ตลอดเวลา ซ้ำยังร่วมด้วยคำตอบที่ตอบได้ทุกคำถามของญาดาด้วย

“คุณด้าว่านุ่นกับตินเป็นแฟนกันหรือเปล่า” ดูเหมือนณัชชาจะไม่ยอมหนีจากเรื่องเดิมเลย มันทำให้คนที่หูเฝ้าฟัง หงุดหงิดจนสมองไม่รับรู้งานตรงหน้าเอาเสียเลย 

“ด้าก็ไม่แน่ใจเหมือน หนึ่งเคยบอกด้าว่า คุณนุ่มกับคุณติดเคยรักกันมาก่อน ถึงขั้นจะแต่งงานกันเลยนะคะ แต่เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน เลยเลิกกัน แล้วตอนนี้ก็เหมือนๆ จะกลับมาคบกันใหม่อีกครั้ง” 

“อย่างนี้นี่เอง หวานว่าตินกับนุ่นคงกลับมาคบกันแล้วแน่ๆ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ยืนกอดกันกลมอย่างนี้เหรอ ดูสิค่ะ” ณัชชายื่นรูปไปให้ญาดาดูใกล้ๆ

“จริงด้วยค่ะ คุณหวาน กอดกันกลมเชียว”

“อุ้ย! มีหอมแก้มกันด้วย” ณัชชาอุทานเสียงดัง ราวกับจงใจให้คนที่ในใจมันเดือดปุดๆ รู้ว่าไม่มีสิทธิ์ แต่มันก็ห้ามไม่ได้ สีฟ้าทั้งโกรธ ทั้งโมโห แต่ไม่รู้จะทำอะไรได้ นอกจากกัดปากตัวเองไว้แน่น ระงับอารมณ์ที่มันพุ่งสูง

“จริงด้วยค่ะ หอมกันจริงๆ ด้วยค่ะคุณหวาน” เสียงญาดาดังยิ่งกว่า กระตุ้นอารมณ์ของสีฟ้าได้ดีเหลือเกิน  ใจมันร้อนรุ่ม ตัวอยู่ที่โต๊ะทำงาน หากเวลานี้ใจของสีฟ้ากลับอยู่ที่อัลบั้มรูปในมือของณัชชาเสียแล้ว  สีฟ้าอยากรู้  สีฟ้าอยากเห็น  ไอ้ที่กอดกันกลม  มันกลมแค่ไหน  แล้วไอ้ที่หอมแก้มกันนั้น  ใครเป็นฝ่ายหอมและใครเป็นฝ่ายถูกหอม

หึ....นี่เหรอที่เคยบอกว่ารัก แต่พอห่าง ก็ลืมเขา

สีฟ้านึกขุ่นข้องอยู่ข้างใน พยายามบังคับตัวเองไม่ให้สนใจไปกับเสียงของสองสาว ที่มันดังเหมือนแกล้ง


..............................................................................

ณัชชากลับไปแล้วหลังจากมื้อเที่ยงผ่านไป  โชคดีที่ณัชชาไม่เอ่ยถึงเรื่องรูปนั้นอีก ไม่อย่างนั้นมื้อเที่ยงคงเป็นมื้อที่ไม่อร่อยที่สุดในชีวิตของเขาแน่ๆ  เมื่ออยู่ในห้องทำงาน อยู่เพียงลำพังคนเดียวอีกครั้ง เขากลับรู้สึกร้อนรุ่มเหมือนโดนไฟเผา  งานกองโตที่คิดว่าน่าจะทำให้มันเสร็จได้ก่อนเวลาเลิกงาน แต่นี้มันก็ลากมากว่าหนึ่งชั่วโมงแล้ว  งานก็ยังกองโตอยู่เหมือนเดิมไม่ได้ลดลงไปเลย

สีฟ้าเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ เปลือกตาทาบปิดสนิท ข่มความรู้สึกที่มันแล่นลิ่ววิ่งพล่านให้ร้อนรุ่ม นับตั้งแต่วินาทีที่เห็นรูปใบนั้น รูปนิรดายืนยิ้มสู้กล้อง หน้าระรื่น ขณะที่สองมือเจ้าเธอก็โอบร่างสูงเอาไว้แน่น หน้าสวยซุกซบอยู่กับอกกว้าง โดยที่คนที่ถูกกอดไม่ยักจะมีท่าทางรังเกียจรังงอนอะไรเลย หนำซ้ำยังปั้นหน้าหล่อสู้กล้องได้อีกต่างหาก แล้วรูปอื่นๆ ที่เขาไม่มีโอกาสได้เห็นอีกล่ะ รูปที่ณัชชากับญาดาร่วมกันอธิบายซะละเอียด จนเขาเห็นภาพโดยไม่ต้องไปดูของจริงด้วยซ้ำ

หึ.....นี่เหรอที่เคยบอกว่ารักเขา.... รักมาก
.
.
.
.

....แกร็ก....

เสียงลูกบิดประตูดังขึ้น เรียกให้สีฟ้าต้องดีดตัวนั่งตรง ข่มความรู้สึกร้อนรุ่มไว้อีกครั้ง แล้วปรับสีหน้ายิ้มแย้มให้กับคนที่ก้าวเข้ามาในห้องของเขา เมื่อเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาไม่ใช่เลขาคนสวย แต่กลับเป็นนลิน พี่สะใภ้ของเขาเอง สีฟ้าเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือนิดหนึ่ง ตอนนี้มันเกือบจะหกโมงเย็นแล้ว ทำไมยังไม่กลับอีก ปกติแล้วพี่สะใภ้ของเขาจะกลับบ้านตอนบ่ายสามโมง เพราะต้องไปคอยดูแลลูกชายวัยกำลังซุกซน

“อะไรครับ” สีฟ้ามองสิ่งที่พี่สะใภ้หยิบมันออกมาจากกระเป๋า แล้ววางมันไว้ตรงหน้าเขา

คีย์การ์ด....

“พี่คิดว่าจะไม่ยุ่งเรื่องของน้องลมกับติน  แต่พี่ทนเห็นน้องชายของพี่เป็นแบบนี้ไม่ได้ ลมคงเข้าใจพี่นะ อย่าบังคับให้พี่ต้องทำอะไรที่มันมากกว่านี้”  น้ำเสียงของนลินไม่ได้ขู่หรือบังคับ แต่รอยยิ้มที่สีฟ้าเห็นกลับทำให้ชายหนุ่มนึกกลัวสิ่งที่จะตามมา  หากเขาไม่ทำรับสิ่งที่พี่สะใภ้วางไว้ให้ตรงหน้า

นลินเดินออกไป แต่สิ่งที่เธอทิ้งไว้คือไอ้อาการครุ่นคิดหนักของสีฟ้า ชายหนุ่มมองคีย์การ์ดที่ถืออยู่ในมือ ก่อนตัดสินใจบางอย่างที่ทำให้เรื่องบางเรื่องมันจบสิ้นซะที

........................................................................................

ท้องฟ้าเมืองกรุงเริ่มเปลี่ยนสีฟ้าเป็นเทาทึบ พร้อมกับเม็ดฝนหลงฤดูที่กระหน่ำตกมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา แต่ก็พอจะซ่าลงบ้างเล็กน้อยในตอนนี้ ทำให้ท้องถนนเกิดการจราจรติดขัดได้อย่างง่ายดาย แต่รถเก๋งคันสีเขียวก็สามารถพาตัวของมันออกมาจากการจราจร และกำลังเลี้ยวเข้าสู่ซอยเล็กที่การจราจรเป็นไปอย่างฉลุย

ล้อรถที่กำลังจะแล่นเลี้ยวเข้าไปจอดใต้คอนโดหรูที่เห็นอยู่ตรงหน้า หากกลับชะลอลดความเร็วลง เมื่อเห็นเจ้าของรถมินิคันเล็กที่เห็นเพียงแต่ด้านหลัง ใบหน้าซ่อนอยู่ใต้ร่มสีหวานคันเล็ก หญิงสาวคนนั้นกำลังก้มวุ่นอยู่กับรถมินิคันเล็กของตัวเอง เหมือนไม่รู้ว่าจะจัดการกับเจ้ามินิคันเล็กให้มันกลับมาวิ่งเป็นปกติได้

“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ” ชายหนุ่มที่จอดรถของตัวเองไว้ชิดขอบถนนฝั่งที่ตั้งของคอนโดสูง เอ่ยถามขึ้นมาทันทีเมื่อเดินข้ามถนนมาหาหญิงสาวเจ้าของรถมินิคันเล็ก ที่ดูจากสภาพแล้วเจ้าตัวคงต้องการความช่วยเหลืออยู่ไม่น้อย

“รถฉันมัน...สะ......” สาวร่างเล็กในชุดแสกสีหวานไม่ต่างจากร่มคันเล็กที่ถืออยู่ กำลังจะหันมาบอกเจ้าของเสียงที่มีน้ำใจนั้น ว่ารถของเธอมันเกเรแบบไหนบ้าง แต่แล้วร่องรอยดีใจก็ฉายชัดบนใบหน้า เมื่อคนที่เธอไม่คิดว่าจะได้เจอ ก็บังเอิญมายืนอยู่ตรงหน้านี้เอง

“คุณแพท”
“ติน”
“เรียบร้อยครับ คุณแพทลองไปสตาทร์ดูนะครับ”

หลังจากที่ก้มๆ เงยๆ อยู่หลายต่อหลายครั้ง จนเสื้อผ้าที่ใส่อยู่เปียกชุ่มไปหมด แม้จะมีเจ้าของรถคันเล็กยืนกางร่มให้แล้วก็ตาม หากแต่ร่มคันเล็กอย่างนั้น มันจะช่วยอะไรได้ ตอนนี้ทั้งเขาและน้ำเพชรต่างก็เปียกไม่ต่างกันเลย  เขาน่ะไม่เป็นไรหรอกเพราะเสื้อมันหนาและเป็นผู้ชาย แต่อีกฝ่ายหนึ่งน่ะสิ เสื้อก็ตัวเล็กแล้วยังจะเนื้อบางอีก

“ค่ะ” หญิงสาวรับคำ ก่อนจะทำตามคำสั่งนั้น

เสียงเครื่องยนต์ทำงานเป็นปกติ ทำให้รอยยิ้มคนทั้งคู่ยิ้มออกมาได้

“ขอบคุณนะติน ถ้าไม่ได้ติน แพทแย่แน่” น้ำเพชรกลับมายืนข้างชายหนุ่มอีกครั้ง มือยังถือร่มที่หวังจะช่วยบังเม็ดฝนทั้งตัวเธอและภาคี แต่ร่มคันเล็กจะช่วยอะไรได้ และที่สำคัญตอนนี้ทั้งเธอและภาคีก็ไม่มีส่วนไหนของร่างกายที่จะเรียกว่าแห้งได้เลย

“ไม่เป็นไรหรอกครับ” ภาคีตอบแทนคำขอบคุณของน้ำเพชรด้วยรอยยิ้ม

“งั้นแพทไปละนะ”

“เดี๋ยวครับคุณแพท ถ้าไม่รังเกียจขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องผมก่อนก็ได้นะครับ ตัวคุณเปียกหมดแล้ว เดี๋ยวจะเป็นหวัด”

แม้ว่าหญิงสาวร่างเล็กที่ยืนตัวเปียกอยู่ตรงหน้าเขานี้ คือคนที่เป็นตัวการทำให้เขาและสีฟ้าไม่สามารถลงเอ่ยกันได้ และในใจของเขาก็เจ็บที่มีค่าน้อยกว่าน้ำเพชรในสายตาของสีฟ้า แต่เขาก็ไม่คิดจะโยนความผิดทั้งหมดให้น้ำเพชรเป็นฝ่ายรับเพียงคนเดียว
 

................................................................................................



“มันหมายความว่าไง นายทำอย่างนี้ทำไม ”

ทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาจากเจ้าของห้องตัวจริง แล้วร่างสูงนั้นก็ชุ่มด้วยเม็ดฝน คนที่นั่งอยู่กลางห้องมานานกว่าชั่วโมง ด้วยอารมณ์หงุดหงิดสุดขีดก็โพล่งความอัดอั้นออกมา ไม่ทันเห็นด้วยซ้ำว่ามีอีกหนึ่งร่างที่เดินตามเข้ามา

“นายนี่มัน.............แพท”

ถ้อยคำมากมายที่สีฟ้าจะสาดมันใส่เจ้าของห้องถูกกลืนเก็บแทบไม่ทัน เมื่อเห็นอีกหนึ่งร่างที่เดินตามร่างสูงของภาคีเข้ามา

“ลม !”

“คุณลม”

………………………………………………………………………..



ปล โพสเสร็จรีบโดดออกจากทู้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 14-04-2011 11:27:15
นังแพททำตินงานเข้าอีกแว๊วววว
ฮ่า ฮ่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-04-2011 11:35:39
นังสีฟ้าหน้าโง่


โง่ต่อไปเถอะมึง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 14-04-2011 12:00:55
โอ้ววว ไปกันใหญ่ ไม่อยากจะคิด :a5:
แพทมันจะทำอะไรมั้ยเนี่ย  :z3:
หัวข้อ: Re: ...รักล้นใจ...(อัพครั้งที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 14-04-2011 12:07:28
แล้วทำไมตินต้องไปชวนนังแพทมันไปที่ห้องด้วยล่ะหรือว่ามันเป็นแผนขอให้มันเป็นแผนจริงๆเหอะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 14-04-2011 12:38:58
ยิ่งหนักกว่าเดิมนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 14-04-2011 12:42:43
 o22 o22 o22



เอาเลยติน บอกแพทไปเลยว่ารักลมคนเดียวเว้ยยยย      :m16: :m16:


 :angry2: :angry2:



หรือจะหนักกกว่าเดิม    :เฮ้อ:

 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 14-04-2011 12:53:28
 :a6: :z3:
ไปกันใหญ่เลย
ท่าจะหนักกว่าเดิม  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 14-04-2011 13:41:54
งานเข้าได้อีก โดนซะให้พอเหอะตินเอ้ย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 14-04-2011 14:12:10
อดไม่ไหวอยากสปอย

บอกแล้วเรื่องนี้ ละครหลังข่าว  ประเภท นายเอก ดี๊ ดี แต่ก็โง่  555

อีกไม่นาน จะเห็นคุณพระเอกของเราเปลี่ยนเวอร์ชั่น 

วิ๊ดวิ๊ว ๆๆ ไปแระ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nan239 ที่ 14-04-2011 14:25:10
งานเข้า   :seng2ped: :m31:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 14-04-2011 14:53:10
ยังได้อีกอ่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 14-04-2011 15:06:49
ไมชอบแพทเลยจริงๆ
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 14-04-2011 15:31:38
นั่นๆๆๆ เป็นเรื่องจนได้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 14-04-2011 15:47:22
อะไรยังไงๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 14-04-2011 16:24:00
 :a5: o13  ไม่รู้จะอธิบายยังไง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 14-04-2011 16:29:27
ทำไมตินต้องมาเป็นคนดีตอนนี้ด้วย
ลมมาหาถึงห้อง กลับชวนยัยตัวร้ายนังแพทมา
เดี๋ยวลมก็ยิ่งเข้าใจผิดไปกันใหญ่
คราวนี้ก็สมใจยัยแพทหน้าด้านแน่
อยากให้ดีกันเร็วๆ ไม่งั้นมันเศร้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 14-04-2011 16:45:26
มีแต่ปัญหา นางชะนีนี้ต้องแรกโล่มาแอ๊บรถเสียที่นี้แหงๆ ตอแหลจริงๆ

ส่วนอีตินก็ใจดีเกิตเหตุ เป็นพระเอ้กกกกกกกพระเอก
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 14-04-2011 17:43:00
 :angry2:นังแพท จัดฉากได้เยี่ยมนะแก
โอย..เมื่อไรมันจะหยุดรังควานเสียทีนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 14-04-2011 19:14:26
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 14-04-2011 19:25:09
ตินงานงอกอีกแล้วววววววววววววววววว
อิแพทถ้าหล่อนยังสตออีกหล่ะก็ เจอ   :beat:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 14-04-2011 21:49:16
 :z3: :z3: :z3: o22
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 14-04-2011 23:44:46
เอาเข้าไปหนักกว่าเดิมอีกทีนี้ แทนที่จะเคลียร์กันได้ แพททำเรื่องอีกแล้ว เมื่อไหร่จะเอาผู้หญิงคนนี้ออกไปจากเรื่องซะทีเนี่ย เกลียดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ แล้วจะเป็นไงต่อไป หนึ่งนี่เจ้าแผนการจริงๆ อ่า อชิตะก็เป็นไปกับเค้าด้วย มีเจ้านายอย่างนี้ดีจัง อิอิ แต่เกลียดแพทไม่ไหวแล้วจริงๆ ผู้หญิงอะไรหน้าด้านชะมัด หึ่ยยย มาต่อเร็วๆ นะค่ะ ค้างคาได้อีกอ่า ...
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 15-04-2011 00:18:23
เอาเข้าไป แค่นี้ยังยุ่งไม่พอ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 15-04-2011 00:22:29
บอกตรงๆ ไม่รู้สึกดีใจเลยที่มาอัพตอนต่อแบบจี้อ่ะครับ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 15-04-2011 09:56:28
ตินสู้ๆ

 :m18: :m18:








แต่จะสู้ไหวป่าววะ~   :เฮ้อ:

 :m29: :m29:


หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 15-04-2011 10:28:34
บอกตรงๆ ไม่รู้สึกดีใจเลยที่มาอัพตอนต่อแบบจี้อ่ะครับ

 น้อมไว้พิจารณาค่ะ เรื่องนี้ดำเนินเรื่องมาได้กลางเกือบท้ายแล้ว อีกเกือบสิบตอนก็จะจบ

 งั้นขอปรึษาเลยว่า ควรจะอัพวันเว้นวันเหมือนเดิมหรือ สองสามวันครั้ง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 15-04-2011 14:49:27
อัพยังไงก็ได้ครับ ขอให้เรื่องมีความสุข มันอินน่ะครับ 555
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By A
เริ่มหัวข้อโดย: ramgaythai ที่ 15-04-2011 16:07:00
นังสีฟ้าหน้าโง่


โง่ต่อไปเถอะมึง

แรง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: akera ที่ 15-04-2011 17:57:52
ไม่ได้มาโพสเลยค่ะ เพราะปกติอ่านในโทรศัพท์ แล้วมันเม้นไม่ได้  แต่ก็เป็นกำลังใจให้จร้า :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kaporzung ที่ 15-04-2011 18:27:14
อีแพท ต้องโดนตบให้ตาย ชะนีดอกทอง ผู้ชายเค้าไม่เอาแล้วยังหน้าด้านอีก
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 15-04-2011 21:32:06
เอาชะนีกลับคืนสู่ป่าได้มั้ยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 15-04-2011 21:41:22
อยากจะพูดคำเดียวจริงๆตอนนี้

"เครียด !"  :a6:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 20 หน้า 20 โหมดคิดชื่อตอนไม่ออก [14/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 16-04-2011 00:19:58
เป็นเรื่องอีกจนได้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 16-04-2011 11:48:14
ตอนที่ 21





ความตั้งใจแรกของสีฟ้าเมื่อกลับมาที่ห้องแห่งนี้อีกครั้งคือ เขาต้องการจะถามเจ้าของห้องว่าทำไมต้องให้พี่สาวมาบังคับเขาด้วย สิ่งที่นลินให้เขาเมื่อตอนเย็น แม้ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ แต่นั่นมันก็สื่อให้รู้ว่าเขาต้องกลับมาหาเจ้าของห้องนี้ ไม่อย่างนั้นนลินจะบอกทุกอย่างกับครอบครัวของเขา

แต่ตอนนี้ สีฟ้ากลับรู้สึกว่าเขาไม่ควรมาเลย เมื่อต้องมายืนเผชิญหน้ากับน้ำเพชร เพื่อนคนที่เขาให้คำสัญญาไว้ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเจ้าของห้องคนนี้อีกต่อไป แล้วนี่น้ำเพชรต้องมาเจอเขาในห้องภาคี น้ำเพชรจะรู้สึกยังไง ที่เพื่อนอย่างเขาไม่ได้รักษาสัญญาที่ให้ไว้ได้เลย แม้ความเป็นจริงแล้วเขากำลังพยายามทำมันอยู่ก็ตาม

“แพท เดี๋ยวฟังเราก่อน เราอธิบายได้” สีฟ้าตรงเข้าไปคว้าแขนน้ำเพชรไว้ เมื่ออีกฝ่ายกำลังหมุนตัวเดินออกไป ใบหน้านิ่งและเรียบเฉยของน้ำเพชรแม้ไม่แสดงอารมณ์ แต่สีฟ้าก็กลัว กลัวว่าน้ำเพชรจะเข้าใจที่เห็นเขาอยู่ในห้องของภาคี

“ปล่อย” น้ำเพชรแกะมือที่ข้อมือเธอออก มองหน้าเพื่อนที่เหมือนจะต้องการจะอธิบายเรื่องราวต่างๆ ให้เธอฟัง แต่เวลานี้เธอไม่พร้อมจะฟังอะไรทั้งนั้น มือที่เกาะหลุดออกไป คล้ายจะยืนมารั้งมือของเธอเอาไว้อีกครั้ง แต่น้ำเพชรก็ขยับหนี ไม่ให้อีกฝ่ายถูกตัว

“ลมอธิบายได้ ฟังลมก่อนนะแพท มันไม่ใช่อย่างที่แพทคิด ลม...เอ่อ....ลม” เขาต้องอธิบาย แต่จะอธิบายยังไง หลักฐานทุกอย่างมันฟ้องอยู่ตำตาว่าเขาอยู่ในห้องของผู้ชายคนนี้ ทั้งที่ให้คำสัญญากับเพื่อนไปแล้วแท้ ว่าจะมยุ่งเกี่ยวกับภาคีไม่ว่ากรณีไหน เขาผิดสัญญาอีกจนได้

“พอเถอะลม หยุดโกหกฉัน หยุดหลอกตัวเอง ถ้าเธอยังคิดว่าเธอเป็นเพื่อนของฉันอยู่ “ แววตาของน้ำเพชรฉายชัดถึงความเจ็บปวด

“อย่าทะเลาะกันเพราะผมเลยครับ เรื่องระหว่างผมกับคุณลม มันไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้วครับ ” ภาคีเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบไม่บอกความรู้สึก หากแววตาจับจ้องไปยังใบหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ได้ทุกเวลาของสีฟ้า

ภาคีเห็นแล้ว เห็นว่าสีฟ้าแคร์น้ำเพชรมากแค่ไหน

“คุณแพทครับ เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องก่อนนะครับ....ผมฝากปิดประตูให้ด้วยนะครับ คุณลม”

พร้อมกับคำบอก มือใหญ่ของภาคีก็จับจูงข้อมือเล็กของน้ำเพชร เดินผ่านร่างบอบบางของคนที่ยืนนิ่งกับสิ่งที่ได้ยิน เข้าไปในห้องนอนกว้างที่อยู่ด้านใน ทิ้งให้สีฟ้ามองตามด้วยความไม่เข้าใจที่ฉายชัดบนใบหน้า และความรู้สึกเจ็บลึกที่ถักทอเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

ภาคีไม่สนใจเขาเลย....ไม่อยากมองหน้าเขาด้วยซ้ำ

เขาควรดีใจใช่ไหมเมื่อเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ แต่ทำไมน้ำตามันถึงไหล ใจมันถึงเจ็บ ทำไมภาพภาคีโอบประคองร่างเล็กๆ ของน้ำเพชรผ่านประตูเข้าไปในห้องนอน มันถึงได้รีดเร้นน้ำใสๆ ให้ไหลออกมาได้อย่างไม่รู้ตัว

แค่เพียงหนึ่งเดือนที่เขาทิ้งให้น้ำตาของผู้ชายคนหนึ่งไหลโดยไม่คิดจะเหลียวแลให้ใจอ่อนแอ มาวันนี้น้ำตาของผู้ชายคนนั้น มันไม่มีให้เขาแล้วใช่ไหม

ทั้งน้ำตา ทั้งหัวใจ ภาคีจะไม่มีวันเสียให้เขาอีกแล้วใช่ไหม?

ทำไมมันถึงเจ็บปวดกว่าตอนนั้น

ทำไมถึงไม่ดีใจที่ทุกอย่างมันเป็นอย่างที่เขาต้องการ

น้ำตายังคงไหลเป็นไปตามแรงโน้มถ่วง ร่างบางยังคงยืนมองประตูที่กั้นร่างทั้งสองให้หนีหายจากสายตาของเขา ด้านหลังประตูนั้น มีสิ่งใดเกิดขึ้น ถ้อยคำระหว่างภาคีกับน้ำเพชรเป็นเช่นไร เขาอยากรู้ หากมันเป็นเพียงความอยากที่ยากจะให้เป็นความจริง
 

แต่แล้วมือเรียวถูกยกขึ้นมาปาดน้ำตาทิ้งโดยเร็ว และพร้อมกับกั้นมันเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมาอีกเพื่อประจานความอ่อนแอของตัวเอง เมื่อประตูเลื่อนเปิดออกจากกันพร้อมกับร่างสูงที่ถือถุงกระดาษสีหม่นเดินมาทางเขา

“เสื้อผ้าของคุณ คุณคงกลับมาเอามันใช่ไหม” ภาคียื่นถุงกระดาษให้ ใจหนึ่งอยากดึงร่างนั้นเข้ามาสวมกอดให้แน่นแล้วไม่ปล่อยไปไหน เพราะใบหน้านั้นเห็นได้ชัดว่าช้ำด้วยแรงน้ำตา แต่ใจหนึ่งก็หักห้ามความรู้สึกเอาไว้ ไม่ใช่จังหวะที่ดีเลย ในเมื่อไม่ได้มีเพียงแค่เขาและสีฟ้า การกระทำตามใจต้องการ อาจทำร้ายอีกฝ่ายได้ แล้วเขาอาจจะถูกโกรธถูกเกลียด

“.........................” มือที่คล้ายจะไม่มีแรงแต่ก็สามารถยื่นไปรับถุงสีหม่นนั้นมาถือไว้จนได้ แม้มองสบตาด้วย แววตาคมหวานนั้นก็ไม่สะท้อนอะไรออกมานอกจากความว่างเปล่า

ภาคีไม่รักเขาแล้ว.....

ความตั้งใจแรกของเขาที่กลับมาคอนโดแห่งนี้ มันไม่จำเป็นแล้วใช่ไหม พี่สะใภ้ของเขาจะรู้ไหมว่าน้องชายของเธอไม่ได้ต้องการเขาอีกแล้ว

ภาคีไม่ต้องการเขาอีกต่อไป....

การกลับมาของเขาไม่ใช่สิ่งที่ภาคีต้องการ ไม่เลยด้วยซ้ำที่จะโอบกอดเขาด้วยความดีใจ หรือแม้แต่กระทั้งรั้งเขาไว้ด้วยแววตาร้องขอ มีแต่การขับไสด้วยสายตาแห่งความว่างเปล่า

สีฟ้าหันหลังกลับ เพียงแค่ไม่กี่ก้าวเขาก็พ้นจากห้องกว้างในคอนโดหรู แต่ว่า....ก้าวแต่ละก้าวช่างเต็มไปด้วยความเชื่องช้า หัวใจมันเจ็บสาหัส ถ่วงให้เท้ามันหนักแทบจะยกก้าวไม่ไหว ในส่วนลึกของใจที่เจ็บก็หวังให้ท่อนแขนแกร่งโอบรั้งร่างกายเขาไว้เหมือนเมื่อคราวก่อน หากไม่เลย ไม่มีการดึงรั้งใดๆ ที่ใจปรารถนา มันยืนยันไปถึงส่วนที่ลึกที่สุดแล้วว่า นับจากนี้ไปความรักที่เขาพยายามผลักไสมันออกไปจากชีวิต มันจะก้าวออกไปจากชีวิตของเขาจริงๆ

จริงๆ แล้วใช่ไหม?

ตอนนี้เขาจะเรียกร้องอะไรกลับมาได้


.................................................................................................


ร่างบางที่พ้นสายตาไปพร้อมกับประตูห้องชุดปิดลงอย่างแผ่วเบา เจ้าของห้องแทบจะทรงตัวไม่อยู่ด้วยซ้ำเมื่อร่างบางพ้นออกไปและประตูห้องถูกปิดลง ทั้งที่อยากจะโอบกอดร่างบางนั้นเอาไว้ไม่ให้ก้าวพ้นออกไป อยากจะขังร่างนั้นไม่ต้องเจอะเจอกับแสงตะวันหรือแม้แต่แสงจันทร์ จะขังไว้อยู่แต่ในห้องนี้ จนกว่าเจ้าตัวจะยอมปริปากบอกคำที่เขาอยากฟังมากที่สุด หากก็ไม่เคยได้ฟังมันจากปากอิ่มหวานเลยสักครั้ง

คำรัก....มันพูดออกมายากหนักหรือ? สีฟ้าถึงไม่เคยเอ่ยปากออกมาให้เขารู้ เขาอยากจะเข้าข้างตัวเองว่า ตาคู่สวยที่เต็มไปด้วยน้ำใส มันฟ้องความรู้สึกของเจ้าของมันให้เขาได้รู้ สีฟ้าเสียใจที่เขาไม่สนใจใช่ไหม

อยากคิดเข้าข้างตัวเอง....

หากรอให้สีฟ้าเดินเข้ามาหาเขาเอง มันอาจยากเกินไป ไม่รู้วันนั้นจะเดินทางมาถึงเมื่อไหร่ เขาควรเป็นฝ่ายที่เดินเข้าไปหาสีฟ้า ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสาย

เพราะยังออยากจะรัก

เพราะยังรัก

เขารักสีฟ้า
.
.
.

ภาคีล้วงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมา กดปุ่มโทรออก ถือสายรอเพียงครู่เดียว เสียงที่คุ้นเคยก็ตอบกลับมา

“พี่ลิน เรื่องวันนั้นที่เราคุยกัน ผมตกลงครับ”

ต่อไปนี้เขาจะไม่อ่อนแออีกแล้ว ทำไมเขาต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ ในเมื่อเส้นชัยมันลอยอยู่แค่มือเอื้อม หากเขาจะกล้าเอื้อมมันอีกครั้ง

.
.
.
.


“ติน...”

เสียงที่เจือรอยสะอื้นที่ดังอยู่ด้านหลัง เรียกให้หันกลับมามอง เจ้าของเสียงเรียกคล้ายจะมีน้ำตาคลออยู่ตรงหน่วยตาเศร้า ชุดที่ใส่ก็ยังเป็นชุดเดิมที่ชุ่มเปียก

“ทำไมไม่เปลี่ยนเสื้ออีกครับ หรือว่าเสื้อของพี่นลินใหญ่ไป”

แทนคำตอบของคำถาม น้ำเพชรกลับตรงเข้าสวมกอดคนถามไว้แน่น

“เป็นอะไรไปครับ”

“แพทขอโทษสำหรับทุกเรื่องนะติน แพทขอโทษจริงๆ “

น้ำเสียงแผ่วเบาดังอู้อี้อยู่กับแผ่นอก น้ำตาเริ่มไหลกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น เธอกำลังเอามิตรภาพเข้าแลกกับความรัก มันคือสิ่งที่ผิดใช่ไหม ทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางที่คนๆ นี้จะมองเธอ

“ไม่เป็นไรครับคุณแพท อย่าร้องนะครับ”

แม้จะเจ็บปวดที่มีค่าน้อยกว่าหญิงสาวคนนี้ในสายตาของสีฟ้า แต่ภาคีก็พยายามจะเข้าใจมิตรภาพที่สีฟ้าอยากรักษาเอาไว้ให้นานที่สุด โดยที่ไม่คิดจะสนใจหัวใจหรือความรู้สึกของเขาเลยก็ตาม แต่เขาก็ไม่สามารถจะโทษผู้หญิงคนนี้ได้ เข้าใจดีถึงหัวใจที่แอบรักอยู่ฝ่ายเดียว และไม่ต้องการให้คนนั้นกลายเป็นของคนอื่น จนต้องยอมเห็นแก่ตัวเพื่อรักษาหัวใจตัวเองเอาไว้ เหมือนเขาตอนนี้ไง ตอนนี้เขาจะยอมเห็นแก่ตัวบ้าง จะไม่มีทางยอมอ่อนแออีกต่อไป เขาจะทำให้สีฟ้าได้รู้ว่า เขาไม่ใช่สิ่งของที่จะจับโยนให้ใครต่อใครได้ง่ายๆ

เขามีสิทธิ์ที่จะรัก โดยไม่ต้องถูกบังคับให้รัก....

เขามีสิทธิ์ที่จะรัก และคนๆ นั้นคือสีฟ้า..........เพียงคนเดียว


......................................................................................

สีฟ้าก้าวเข้ามาในห้องโถงใหญ่ นึกอยากรู้ว่าอะไรคือเรื่องด่วนที่คนเป็นพี่ชายบอก เขาถูกตามตัวตั้งแต่ตอนบ่าย บอกว่ามีเรื่องสำคัญต้องพูดกับเขา ตอนนั้นเขากำลังนอนฟังเสียงทะเลอยู่บนเตียงนุ่ม น้ำตายังเปรอะเปื้อนอยู่เต็มหน้า ปล่อยตัวเองให้จมดิ่งกับความรักที่หลุดลอยจากไปอย่างไม่มีวันห้วนกลับ

หลังจากเดินออกจากคอนโดแห่งนั้น เขาไม่ได้มุ่งตรงกลับบ้าน หากแต่มุ่งตรงสู่ทะเล ไม่รู้ทำไมต้องไปทะเล รู้เพียงว่าเขาอยากอยู่ลำพังคนเดียว

ท้องทะเลเหมาะกับคนขี้เหงา

เสียงคลื่นเหมาะกับหัวใจที่เปล่าเปลี่ยว...ของเขา

เขาไม่อยากกลับเลย อยากอยู่ที่นั้น จนกว่าใจจะหายดี แต่เพราะน้ำเสียงของพี่ชายที่ดังมาตามสาย มันจริงจังจนน่ากลัว และรู้สึกได้ว่าเรื่องนั้นต้องสำคัญมาก

สีฟ้ารู้สึกแปลกใจมาก รู้สึกว่าทุกย่างก้าวของเขาคล้ายถูกจับตามองจากสายตาทุกคู่ พ่อ แม่ พี่ชาย พี่สะใภ้ และภาคี

ภาคี.......มาที่นี่ทำไม หรือว่า.........อย่าเป็นอย่างที่เขากลัวเลยนะ

“มานั่งข้างแม่นี่ตาลม”

คุณอุษากวักมือเรียกลูกชายคนเล็ก มืออูมเอื้อมดึงมือลูกชายที่เดินเข้ามาใกล้ ก่อนทรุดตัวลงนั่งตามคำบอกของคนเป็นแม่

ทำไมทุกคนดูแปลกไป มันทำให้เขากลัว

พ่อนั่งหน้าเข้มแต่แอบกระตุกยิ้มที่มุมปาก ยามที่มองหน้าเขา

แม่ทำท่าเหมือนหนักอกหนักใจอะไรบางอย่าง มีสาวใช้พัดวีอยู่ไม่ห่างกาย

พี่ชายกำลังทำหน้ายุ่งคิ้วขมวด มองเขาราวกับอยากจะเคาะกะโหลกเสียหลายๆ ที เหมือนเมื่อครั้งที่เป็นเด็กตัวเล็ก แล้วไม่ยอมเชื่อฟังคนเป็นพี่ หรือทำตัวดื้อรั้นเกเร

พี่สะใภ้นั่งยิ้มเหมือนปกติทั่วไป หากแต่เขากลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้น มันน่ากลัวยังไงชอบกล เหมือนกำลังบอกเขาว่า

‘พี่เตือนน้องลมแล้วนะ แต่น้องลมไม่เชื่อพี่เอง ‘

และคนสุดท้ายภาคี มองใบหน้าคมคิ้วเข้มแล้วทำให้ใจมันกระตุก หัวใจมันคล้ายจะรื้อเอาความเจ็บปวดยามค่ำคืนขึ้นมาเริงเล่น กลัวว่าร่องรอยน้ำตาที่ไหลยาวนานตั้งแต่คำคืนจนถึงเช้า มันจะฟ้องออกมาให้เห็น

“มีเรื่องอะไรกันหรือครับ” สีฟ้าถาม หากเขาก็กลัวคำตอบ นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดกันอย่างนี้ มันต้องมีเรื่อง และเป็นเรื่องของเขา  สีฟ้ากลั้นใจฟังคำตอบอยู่นาน แต่ไม่มีใครเปิดปากตอบคำถามของเขาเลย เอาแต่จ้องหน้าเขาให้รู้สึกเหมือนโดนกล่าวโทษ

ทุกคนเงียบ ทั้งห้องจึงเงียบ แม้แต่เข็มเล่มเดียวตกคงได้ยินกันไปถึงกำแพงรั้วสูง สุดท้ายคุณอุษาจึงเป็นคนพูดทำลายความเงียบลง

“ทำไมลมถึงทำอย่างนี้หะลูก ทำไมไม่คิดถึงหัวอกหัวใจของคนเป็นแม่บ้าง แม่เลี้ยงให้ลมกลายเป็นคนแบบนี้หรือ แม่เสียใจนะที่ลมทำตัวแบบนี้” เสียงของคุณอุษาเริ่มจะเครือๆ จนสามีต้องรีบห้าม

“ไม่เอาน่าคุณ ลูกเรามันโตแล้ว” ถึงจะไม่ค่อยพอใจเรื่องที่ได้รู้จากปากของลูกสะใภ้มากนัก ทั้งยังออกจะกรุ่นๆ กับการกระทำของเด็กทั้งสองคนก็ตาม แต่คุณกฤษก็ยังถือคติที่ว่าลูกน่ะเลี้ยงได้แต่ตัว  

“โตไม่โต ฉันไม่รู้หรอกนะคุณกฤษ หรือคุณพอใจที่ลูกของคุณทำตัวแบบนี้ แต่ฉันไม่ชอบ คุณเข้าใจไว้ด้วย” นางแหวใส่สามี

“นั่นสิครับคุณพ่อ คุณแม่พูดถูก ลมทำไม ทำไมเราถึงต้องปิดบังพ่อกับแม่ แล้วก็พี่ด้วยหะ”

“อะไรกันครับ ลมปิดบังอะไร ลมไม่เข้าใจ” รู้ทั้งรู้ แต่สีฟ้าก็ขอทำปากแข็งไว้ก่อน บางทีเรื่องอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดก็ได้ แต่นลินก็ทำให้สีฟ้าปากแข็งไม่ออก

“พี่บอกเรื่องของน้องลมกับตินให้ทุกคนรู้แล้วค่ะ ลินขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่บอกเรื่องนี้ช้าเกินไป ตอนแรกลินเห็นว่า มันเป็นเรื่องของเขาสองคน พร้อมเมื่อไหร่คงจะบอกทุกคนให้รู้ แต่ตอนนี้ลินคิดว่าทุกคนควรรู้ เพราะน้องลมคงจะปิดเรื่องนี้กับพวกเราไปอีกนาน หรือบางทีอาจจะไม่บอกพวกเราด้วยซ้ำ”

“แม่ก็โกรธเราเหมือนกันนะลิน ทำไมถึงไม่บอกเรื่องนี้กับพวกเราตั้งแต่แรก แต่ก็ช่างเถอะ ไหนๆ เรื่องมันก็เลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว ยัยแอ้ เอากระเป๋าคุณตินไปเก็บไว้ที่ห้องคุณลมหน่อย” คุณอุษาตำหนิลูกสะใภ้ไปนิดหนึ่ง ก่อนจะหันไปบอกสาวใช้ที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก

สีฟ้าเพิ่งสังเกตเห็นว่าข้างๆ โซฟาฝั่งที่ภาคีนั่ง มันมีกระเป๋าใบใหญ่วางอยู่ด้วย นี่แสดงว่าอีกฝ่ายเตรียมพร้อมมาแต่แรกแล้วใช่ไหม

“ผมขอโทษคุณพ่อคุณแม่ แล้วก็พี่ฟืน ที่ปิดบังเรื่องของผมกับคุณลมเอาไว้  ผมไม่ได้บอกคุณคนก็เพราะคุณลมขอร้องไว้น่ะครับ” ภาคีที่นั่งเงียบมานาน ได้โอกาสพูดขึ้นมาบ้าง หลังจากยืนกระเป๋าให้สาวใช้ไป


“เก็บคำขอโทษของนายไว้ แล้วอย่าให้รู้อีกนะว่าทำน้องฉันเสียใจเป็นรอบที่สอง ไม่อย่างนั้น ฉันไม่เกรงใจลินแน่” เมฆาคาดโทษเสียงเข้ม ยังแอบเคืองนลินอยู่บ้างที่ไม่บอกเรื่องนี้กับเขาตั้งแต่แรก

“แต่ทุกคนครับ มันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนเข้าใจนะครับ ลมก็แค่.......” สีฟ้ากำลังจะแก้ตัว ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะแก้ตัวยังไง แต่ก็ถูกคนเป็นแม่เบรกไว้เสียก่อน ด้วยสุ้มเสียงที่ติดจะเคืองอยู่ไม่น้อย

“พอเลยตาลม อย่ามาโกหกแม่ เรื่องของเรากับตาตินคิดจะปิดแม่ไปถึงไหน สนุกนักหรือไงที่แอบๆ ซ่อนๆ คบกัน มันงามหน้าไหมล่ะ รู้ถึงไหนอายถึงนั้น”

“คุณแม่ครับ ลมเป็นผู้ชายนะครับ มันจะมีอะไรเสียหายล่ะครับ” สุดท้ายแล้วสีฟ้าก็เหมือนจะหาทางออกให้ตัวเองเจอจนได้ ทางออกของสีฟ้าทำเอาคนเป็นแม่ยกมือทาบอก หันไปฟ้องสามีที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ในทันที

“ดูลูกพูดสิคุณ ไม่เสียหาย ไม่เสียหายได้ยังไง เราไปนอนกับตาตินถึงที่คอนโดเขา รู้ไปถึงไหนอายเค้าไปถึงนั้น เอายาดมให้ฉันหน่อยยัยน้ำฝน“ สาวใช้รีบส่งยาดมให้ทันที

“เอาน่าลูกมันก็พูดถูกของมัน ผู้ชายมันจะเสียหายอะไนนักหนา” คุณกฤษพูดปลอบ ขำอาการของภรรยา

“คุณลมอาจไม่เสียหาย แต่ผมเสียหายนะครับ”

คนเสียหายโพล่งออกมาแบบหน้าตาเฉย ทำเอาคนในองค์ประชุมหันมามองกันเป็นทิวแถว โดยเฉพาะลูกชายคนเล็กของบ้าน   สีฟ้าแทบอยากจะถลาไปกระชากคอเสื้อถามนัก  ว่าเสียหายตรงไหน คนที่เสียหายแท้จริงคือเขาต่างหาก  อีกฝ่ายมีแต่ได้กับได้  แต่ก็พอจะห้ามตัวเองได้บ้าง เพราะยังไม่อยากอายไปมากกว่านี้ที่ต้องเอาเรื่องลับมาเปิดเผย   แม้จะเป็นคนในครอบครัวทั้งนั้นก็ตาม

“เออแหะ.....มันเข้าใจพูด ไงลม ตาตินมันบอกว่ามันเสียหาย  ยังไงก็รับผิดชอบด้วย ไม่งั้นเสียชื่อวงศ์ตระกูลหมด”  คุณกฤษถึงกับยกนิ้วโป้งให้ผู้เสียหาย แต่ในใจกลับคิดว่าคนเสียหายอะไรมันจะหน้าตาเบิกบานอย่างนี้

“แต่คุณพ่อครับ ลม...มะ....” อีกเช่นเคย คุณอุษาไม่ปล่อยให้ลูกชายคนเล็กได้พูดอะไรที่มันจะปฏิเสธความตั้งใจของนาง

“ไม่รู้ล่ะ มันมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นแล้ว แม่ไม่ยอมเด็ดขาด ยังไงเรากับตาตินก็ต้องย้ายมาอยู่ด้วยกัน”

“แต่ว่าคุณแม่ครับ...ลมไม่.....”

“ถ้าไม่ทำตามที่แม่บอก ก็อย่ามาเรียกแม่ว่าแม่ เข้าใจไหมตาลม  ตาตินอีกคน  อย่าทำให้น้องเสียใจอีกล่ะ  ถือว่าแม่ขอร้อง รักน้องเขาให้มากๆ  แม่ยกน้องให้เราดูแลแล้วนะ หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน ”

เป็นการปิดฉากการประชุมที่เด็ดขาดที่สุด


..................................................................................

“นายทำแบบนี้ทำไม?”

ทันทีที่ประตูห้องปิดลงด้วยมือใหญ่  ร่างบางที่เดินกระแทกเท้าเข้ามาก่อน  หันกลับไปทำตาขุ่นเขียวใส่ทันที  น้ำเสียงที่ถามก็แทบจะเป็นตะเบ็งใส่  หากไม่เกรงว่ามันจะดังทะลุออกไปให้คนข้างนอกได้ยิน  สีฟ้าคงตะเบ็งให้มันหนักและดังกว่านี้อีกหลายร้อยเท่า  ให้สมกับความโกรธที่โดนมัดมือชกจากทุกคนในครอบครัว โดยมีสาเหตุมาจากผู้ชายคนนี้

“ผมทำอะไร” ภาคียักไหล่ มองหน้าคนถามราวกับไม่สะทกสะท้าน   ไม่สิ เขาเตรียมตัวเตรียมใจรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นมาแล้วต่างหาก  ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนนุ่มขนาดใหญ่ มันนุ่มกว่าเตียงกว้างในห้องนอนของเขาที่คอนโดของเจ้านายหนุ่มเสียอีก กลิ่นหอมของเจ้าของมันก็หอมชวนสัมผัส

“ยังมีหน้ามาถาม ก็เรื่องที่นายใช้ให้พี่ลินบอกเรื่องของฉันกับทุกคนไง  แล้วก็ลุกออกจากเตียงฉันเดี๋ยวนี้”  ไม่พูดเปล่า สีฟ้าคว้าแขนของอีกฝ่ายหวังจะดึงให้ลุกออกมาจากเตียงของเขา แต่กลับถูกดึงให้ล้มลงไปนอนได้อย่างง่ายดาย  และวินาทีต่อมาก็กลับตกไปอยู่ใต้กรอบวงล้อมของแท่นแขนแกร่งที่ห่างหายไปนาน

มันคุ้นเคยจนไม่อยากฝืนต้าน………

“ผมว่าคุณพูดผิดไปหน่อยนะครับ”

“ฉันพูดผิดตรงไหน”  สีฟ้าจ้องไอ้แววตาเป็นต่อของอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะกล้าใช้วิธีนี้กับเขา

ไม่รักกันแล้วไม่ใช่เหรอ? ....ภาคี

ไม่รักแล้วมาทำแบบนี้ทำไม?....ไม่เข้าใจ

“มันไม่ใช่เรื่องของคุณคนเดียวแต่เป็นเรื่องของเราสองคน” ภาคีบอก แต่สีฟ้าขัดใจกับคำบอกนั้น และขัดใจกับมือที่ป้วนเปื้อนอยู่บนเนื้อตัวเขา

ที่กลับมา...ที่อยากเอาชนะเขา ก็เพราะอยากได้แค่ตัวเขาใช่ไหม

“ไม่มีคำว่าเรา ระหว่างนายกับฉันอีกแล้ว ปล่อยฉัน” แม้ร่างกายจะบอบบางกว่าอีกฝ่ายอยู่มาก แต่ยามนี้สีฟ้าก็สามารถผลักร่างหนากว่าเขาให้ออกไปพ้นตัวได้ แล้วรีบลุกขึ้นเดินถอยให้ห่างอย่างระวังตัว

“มีหรือไม่มีผมก็ไม่สน เพราะยังไงตอนนี้เรื่องของคุณลมกับผม ทุกคนรู้กันหมดแล้ว คุณลมจะทำอะไรได้”

ภาคีลุกขึ้นนั่ง อยากเดินไปฉุดร่างเล็กที่กอดอกถอยห่างเขาไปไกล เข้ามากอดแล้วบอกรัก  แต่ดูแววตาและท่าทางของอีกฝ่ายแล้ว มันคงไม่ใช่เวลาที่ดีนัก อยากให้สีฟ้าใจเย็นลงก่อน เพราะสีฟ้าดูโกรธเขามาก อยากขอโทษกับสิ่งที่ทำ แล้วกลับไปยืนตรงจุดเดิม แต่เขาเดินมาไกลมากแล้ว หากกลับไปยืนจุดเดิมที่ไม่มีสีฟ้า เขาก็คงจมอยู่กับความทรมานไม่มีวันสิ้นสุด

สีฟ้ายังเลือกที่จะทิ้งเขาไปได้

เขาก็เลือกที่จะดึงสีฟ้ามาสู่อ้อมกอดตลอดไปได้เหมือนกัน  

เขาเลือกแล้ว เลือกทำเพื่อตัวเอง เลือกที่จะกักขังสีฟ้าไว้ให้อยู่กับเขาเพียงคนเดียว จะไม่มีวันปล่อยผู้ชายคนนี้ให้หลุดลอยไปไหน ตราบเท่าที่เขายังสามารถหายใจ
อยู่บนโลกใบนี้ได้

“หึ...แล้วนายเอายัยนุ่นไปไว้ไหน” รูปที่ณัชชาชี้ชวนให้ดู มันผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง อารมณ์เก่าเลยกลับมาอีกจนได้

“นุ่นมาเกี่ยวอะไรด้วย” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ ไม่เข้าใจ พักหลังนี้นิรดาก็ไม่ได้เข้ามายุ่งกับเขาแล้ว  ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเหตุการณ์วันนั้น และอีกส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะมีพนักงานคนใหม่เข้ามา แล้วก็กำลังตามจีบนิรดาอยู่ด้วย

ภาคียังงงๆ เขาถามแต่สีฟ้ากลับไม่คิดจะตอบ ร่างนั้นเดินไปยังตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ หยิบผ้าขนหนูที่พับเก็บไว้ออกมา ก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป ช่วงขายาวก้าวเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงร่างบาง ภาคีคว้าเอวบางไว้มั่น ก่อนจะดันตัวเองและอีกฝ่ายเข้าห้องน้ำไปพร้อมกัน

“เอ๊ะ...ทำอะไรของนาย ออกไป ฉันจะอาบน้ำ “ เพราะไม่ทันคิด หรือไม่ทันระวังตัว สีฟ้าเพิ่งขับรถกลับมาจากพัทยา เมื่อคืนก็แทบไม่ได้นอนด้วยซ้ำ เหนื่อยก็เหนื่อย แถมยังต้องเจอเรื่องที่ไม่ควรจะเป็นเรื่องเลยแท้ๆ  อยากอาบน้ำ อยากเอาความรู้สึกกดดันต่างๆ ปล่อยไปกับสายน้ำที่ไหลผ่านกายที่ตึงเครียด แต่กลับถูกล็อคอยู่ในวงแขนแกร่งเสียได้

ขัดใจ!

“ก็อาบน้ำไงครับ” ปากบอก พร้อมกับมือที่จับชายเสื้อของอีกฝ่ายเลิกสูงขึ้น รั้งดึงจนมันหลุดออกจากร่างบางไปกองอยู่บนพื้น ไม่นำพาต่อมือที่พยายามต่อต้านขัดขืน

“ปล่อยนะ เมื่อกี้นายยังบอกว่าเสียหายอยู่เลย แล้วมายุ่งกับฉันทำไม”  สีฟ้าปัดป่ายมือใหญ่ที่เริ่มมาป้วนเปี้ยนอยู่ตรงขอบกางเกงของเขา  หากอีกฝ่ายก็คล้ายไม่สนใจ เข็มขัดหลุดไปแล้ว โดยที่เขาห้ามอะไรไม่ได้  ก่อนจะตามด้วยกางเกงที่หลุดจากปลายเท้าไปอย่างง่ายดาย ด้วยท่อนแขนเพียงท่อนเดียวที่ยกดึงเขาให้ลอยขึ้น และอีกมือหนึ่งจัดการถอด

“ก็อยากเสียหาย คุณลมช่วยผมหน่อยนะครับ ผมอยากเสียหาย” ต่อให้ห้าม ต่อให้ปัดยังไง ภาคีก็ไม่นำพาต่อสิ่งนั้น ในเมื่อเขาสามารถทำให้เรือนกายที่ห่างหายไปนานกลับมาอยู่ในอ้อมกอดได้แล้ว เรื่องความน้อยเนื้อต่ำใจ เรื่องรอยความเจ็บปวด ขอพับเก็บไว้ก่อน เพราะเขายังมีเวลาสะสางอีกมาก

“ไม่เอา ไม่เล่นนะติน ลมจะอาบน้ำ”

เมื่อผิวกายอาภรณ์ห่อหุ้ม คำเรียกขานที่ห่างเหินกลับเปลี่ยนเป็นคำขานที่ใกล้ชิด น้ำเสียงที่ออกจะขุ่นเคืองในการกระทำของอีกฝ่ายกลับจางหาย   อารมณ์น้อยใจที่สะสมมานับแต่เย็นวานที่ก้าวออกจากห้องชุดในคอนโดหรู   สลายสิ้นเพียงลมหายใจที่เป่ารดอยู่ข้างแก้มนวล มืออุ่น อกแกร่ง และท่อนแขนที่โอบรัด  คล้ายจะดูดดึงความต้องการในซอกลึกเร้นให้โลดแล่น ด้วยกรอบมุมของห้องสี่เหลี่ยมเย็นชื่น และหรืออะไรต่างๆ ที่ถักทออยู่รายล้อมกาย หวานหอม วาบหวาม จรุงกลิ่นฉ่ำ ทำให้เจ้าของอาการแข็งขืนเมื่อครู่ไม่อาจต่อต้านความต้องการที่แท้จริงได้ กลับปล่อยให้ทุกสิ่งอย่างดำเนินไปตามวิถีที่ควรจะเป็น และเป็นมาเนิ่นนาน หากห่างหายไปเพียงชั่วยามที่ไกลห่าง

“ไม่ได้เล่น แต่ตินจะอาบน้ำ หรือว่าลมจะไม่อาบ ทำอย่างอื่นก็ได้นะครับ ตินไม่ว่า รู้ไหมว่าตินคิดถึงลมแค่ไหน”

“ติน....อื้ออออออ.....” ปากอิ่มถูกปิดด้วยปากหยัก ลิ้นชื้นถูกหลอกล่อให้คลายความหวาน ไม่อาจฝืนต้านสิ่งที่โหยหาย ยิ่งกายแนบกาย ยิ่งทำให้ความรู้สึกมันโหมลุก ยากฝืนรั้นหรือดิ้นรนหนีจาก

นับวันภาคีก็ยิ่งจะรู้จุดอ่อนของอีกฝ่ายมากขึ้น  ยิ่งตอนนี้ร่างบางก็อิงแอบแนบชิดร่างกายของเขาราวกับไม่มีเรี่ยวแรงจะยืน เขาอยากให้สีฟ้าเป็นอย่างนี้ไปตลอด
 ไม่อยากให้สีฟ้าลุกขึ้นมาเป็นคนใจหินที่ทอดทิ้งเขาไว้ข้างหลัง โดยไม่เหลียวแลเหมือนเช่นหลายครั้งที่ผ่านมา

ไม่เด็ดขาด เขาคนเดิมที่อ่อนแอจะไม่กลับมาอีกแล้ว เอาสิ เขาจะทำให้ปากสีสวยที่กำลังถูกเขาครวญหาความหวานที่ห่างหายไปนาน
 ออกปากบอกคำรักกับเขาสักวันหนึ่ง
...........................................................................




 

ปล ลงตอนนี้ค่อยหายใจโล่งอกโล่งคอขึ้นมาหน่อย เพราะพ่อยอดชายนายตินเค้าลุกขึ้นมาต่อสู้จะเอาของของเค้าคืนแย้ว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 16-04-2011 12:14:27
บอกตรงๆว่ามาลงตอนนี้แล้วรู้สึกหัวใจชุ่มฉ่ำเลยล่ะขอบคุณค้าบบ
ปล จะมีมาม่ามาแทรกอีกกี่ตอนอ่ะครับ ระแวงๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 16-04-2011 12:19:36
เริ่มจะสุขแล้วเฮกันลั่น  ที่ว่าพระเอกจะเปลี่ยนไปนี่ดีจริงๆ  ยังไงก็นะ  คู่นี้เขาอุปสรรคเยอะเหลือเกิน  เอาใจช่วย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: SPSJ ที่ 16-04-2011 12:26:11
ความรักของแพทนี่ เป็นความรักที่เห็นแก่ตัวจริง ๆ
 :z13:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: WhatLoveIs ที่ 16-04-2011 12:27:23
ตามอ่านมาหลายตอน ขัดใจแม่ยกไปก็หลายตอนน่ะก่ะ
แต่ตอนนี้ให้อภัยได้ สู้คนกับเค้าบ้างอะไรบ้าง

อยากให้ติณบอกให้ลมรู้บ้างว่าคิดยังไง เพราะจากที่ติดตามเรื่องราวอยู่ตอนนี้เราก็คิดเหมือนลมนะคะ
ว่า ติณต้องการแค่ร่างกายหรือเปล่า เพราะว่าตาติณเล่นบอกรักด้วยภาษากายซะเป็นส่วนใหญ่ ขอภาษาพูดบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 16-04-2011 12:34:39
ให้มันได้อย่างนี้สิติน o13
กลับมารักกันแล้ว :L2: :L1:
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 16-04-2011 12:36:13
เอาเลยตินจัดการให้ลมหายปากแข็งซะที
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 16-04-2011 12:57:02
+1 พี่สาวคนสวยวางแผนได้ดีมากจ้า ทำแบบนี้น้องลมหนีพี่ตินไปไหนไม่รอดแน่ ๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kaporzung ที่ 16-04-2011 13:09:14
ตินจัดการเลย 55555+
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 16-04-2011 13:13:20
เยี่ยมมากติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 16-04-2011 13:39:32
ค่อยยังชั่วในที่สุดก็ผ่าทางตันได้แล้ว
จะได้ทำอะไรต่อได้ซะที  มีทางออกขอเรื่องซะที

แอบหมั่นไส้ฟ้า  โดนแกล้งบ้างก็ดี
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 16-04-2011 15:12:36
พ่อพระเอกเราฮึดสู้มาแล้ว มาบอกว่าตัวเองเสียหาย
ลมจะหนีตินไปไหนไม่ได้แล้ว สงสัยจะโดนเกาิะติดแน่
ยัยแพทคราวนี้จะยอมเข้าใจหรือยัง ว่าเค้ารักกัน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 16-04-2011 15:32:22
ตอนแรกนึกว่าตินจะปล่อยให้ทุกอย่างห่างไป ดีจังที่ตินต่อสู้ที่จะให้ได้ลมและความรักกลับมา
อีนังแพท มาอธิบายให้ลมรู้ความจริงเลยนะ ชั้นจะได้มองว่า
เธอยังเหลือความเป็นคนและความเป็นเพื่อนลมอยู่
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 16-04-2011 15:52:28
อ่านตอนแรกแล้วจะร้องไห้ นึกว่าตินจะถอยสะแล้ว
แผนพี่ลินคุ้นๆนะว่าไหมลมม o18
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: akera ที่ 16-04-2011 16:21:35
มาต่อแล้ว   มาเม้นให้ก่อนนะเดี๋ยวกลับไปอ่าน   :3123: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 16-04-2011 16:31:33
ตินสู้ๆ
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 16-04-2011 17:05:37
สำเหนีกกะลาหัวตัวเองหรือยังอีแพท
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 16-04-2011 17:49:08
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 16-04-2011 17:49:44
ในที่สุด ตินก็สู้แล้ววววว :a2:
งานนี้ลมรับผิดชอบตินดีๆนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 16-04-2011 18:14:52
ตินสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-04-2011 18:35:54
ดูสิจะทำได้สักกี่วันนายติน



 :z6:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 16-04-2011 20:06:55
ต้องงี้สิติน  o13
เรารักของเรา จะให้เขาเดินจากไปง่ายๆไม่ได้หรอก
ชอบม้ากกกกก  ในที่สุดตินก็จะไม่ยอมอยู่ฝ่ายเดียวอีกแล้ว ฮ่าๆ

รออ่านตอนต่อไปจ้า จ๊บๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 16-04-2011 20:15:43
5555 เยี่ยมมากนายตินของพี่  o13
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 16-04-2011 20:50:42
พ่อเจ้าประคุณกว่าจะลุกขึ้นมาสู้ได้นะ
เจ้แนะนำถ้าหนูลมดื้อด้านอีก ก็ให้จับขังในห้องอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนไปเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tender ที่ 16-04-2011 22:05:56
ผมเสียหายนะคร้าบ~ 5555
 ตินสู้!!!
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 17-04-2011 01:02:10
 :m20:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zingiber ที่ 17-04-2011 09:55:51
ตินสู้ๆ เย้ๆๆๆ
ไม่ไหวแล้วกับประโยคของนายติน "ผมอยากเสียหาย"..... :-[
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 17-04-2011 10:37:43
จากตอนที่9
สงสารตินมากเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 17-04-2011 10:49:04
ขอบคุณคนแต่งคนโพสต์ :L2:
ภาคีลุยเลย จับสีฟ้าให้อยู่
อย่าทำให้กองเชียร์ผิดหวังนะ :serius2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 17-04-2011 21:24:03
เพ่ลินสวดยอดเลยอ่า ตินสู้ๆ นะ เป็นกำลังใจให้ติน ลมจะใจแข็งไม่ยอมบอกรักตินก็ให้มันรู้ไป แพทควรจะสำเหนียกตัวเองได้แล้วนะ ไม่ว่ายังไงตินก็ไม่มองเธอหรอก หุหุ รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ เริ่มจะหวานแล้ว หลังจากขมมาหลายตอน ฮูเร่ๆ :D
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 17-04-2011 21:25:52
 แพทคงจะเข้าใจแล้วมั้ง... ว่าตินเค้ารักใคร
 
ติน เอาจริงแล้วหึหึ เล่นลมซะอยู่หมัดเลย ... กอดรัดฟัดเหวี่ยงให้เต็มที่ ทำตินเสียใจมานาน คริคริ

ลมก็เลิกแง่งอนได้แล้วจ้า .... กลับมารักกานๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...รักล้นใจ...(อัพครั้งที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 17-04-2011 22:13:00
ตินเอาคืนให้หนักเลยน่ะเอาให้ลมอยู่หมัดเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 18-04-2011 07:56:15
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ
แต่มันจะเศร้ามั้ย :o11:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 18-04-2011 10:44:39
เชื่อ!!!!!!
ดินเสียหายมากกกกกกกกก

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 18-04-2011 13:12:45
แหม ติณไม่น่าฮึดสู้เลยเนอะ น่าจะทิ้งไว้ให้นังส์คุณลมมันเจ็บเล่นๆ ซักเดือนสองเดือน
เย็นชาใส่มันเยอะๆ หน่อย ทำตัวไร้สาระดีนัก
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 18-04-2011 13:58:53
อ่านตอนนี้แล้วค่อยโล่งหน่อย   :impress2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: koraorni ที่ 18-04-2011 14:41:35
เจ๋งมากนายติน อย่างลมต้องใช้วิธีมัดมือชกแบบนี้แหละ
ทำไปได้นะนายติน เป็นฝ่ายทำเค้าเสียหายแท้แท้
ยังมาอ้างมาตัวเองเสียหาย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 18-04-2011 14:58:51
เอาแล้ววววว o13
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 18-04-2011 15:12:50
 :3125: เกรียดยัยแพท
 :m16: โกรธลม
 :laugh: ฮานายติน

 :pig4: คนแต่งคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 18-04-2011 16:08:54
เมื่อไหร่"ติณ"จะใส่ถุง"ลม"นิรภัยอีกอ่ะครับ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 21 เรื่องนี้ผม(ติน)เสียหายนะคร๊าบ [16/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Mindzochism ที่ 18-04-2011 18:44:24
เย้ ตามอ่านทันแล้ว
เห็นยี่สิบสองหน้านึกว่าจะน้อย
ตามอ่านเหนื่อยเลย
เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ :sad4:
เป็นเรื่องเศร้าเรื่องแรกเลยที่ยอมอ่านเนี่ย เหอๆๆ
สนุกดีค่ะ แต่หวังว่าจะหวานกันได้สักทีนะ เหนื่อยจะเศร้าแล้ว  :m15:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 18-04-2011 19:46:57
ตอนที่ 22 ครึ่งแรก



เรือนกายบอบบางขยับแผ่วเบาออกจากอ้อมแขนที่หนุนนอนมาตลอดคืน ความอบอุ่นอันหอมหวานคล้ายหวนย้อนคืน หากความหนักหนาของความรู้สึกกลับกดทับ
ทวีความสาหัสให้กับมิตรภาพที่อยากจะรักษาไว้ด้วยมือทั้งสอง ขณะเดียวกันหัวใจเพียงดวงเดียวก็อยากเกี่ยวเกาะให้เหนี่ยวรั้งความรักไว้กับตัว

สีฟ้ายังไม่รู้ หากต้องให้เลือกอีกครั้ง......

เขาจะเลือกสิ่งไหน....

มิตรภาพระหว่างเพื่อน

หรือ

ความรักของหัวใจ

ภาคี หรือ น้ำเพชร

มันยังเป็นคำถามที่สีฟ้าไม่อยากหาคำตอบใดๆ ในเวลานี้...


ใบหน้าคมที่เปลือกตาหนาปิดสนิท ปากหยักเหมือนยักยิ้ม ระบายความสุข อยากรู้วาใต้รอยยิ้มและเปลือกตาที่หลับสนิท ในนั้น....

ในห้วงความฝันของภาคี.....

มีเขาอยู่หรือเปล่า?

ไม่อยากหวัง แต่มันก็ห้ามความหวังงี่เง่าไม่ได้เลย.....

สีฟ้าเคลื่อนตัวลงจากเตียงพยายามอย่างมากที่จะไม่ให้คนที่หลับสนิทรู้ตัว ใบหน้าคมที่ฝังเสี้ยวหน้าไว้แนบหมอบใบเขื่อง แม้จะน่าสัมผัสมากแค่ไหน แต่สีฟ้าก็พยายาม
ที่จะไม่สัมผัสกับมัน เพราะเพียงแผ่วเบาอาจจะเป็นการปลุกให้ตื่น แล้วความปลอดภัยของร่างกายและหัวใจเขาอาจลดน้อยลง

เช้าวันอาทิตย์ที่แสงยามเช้ายังไม่ปรากฏตัว   ท้องฟ้านอกประตูหน้าต่างกรุกระจกใสที่เห็นผ่านรอยแยกของม่านหนา  ยังคงเป็นสีหม่น ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องตื่นแบบเช้าตรู่
 ทั้งที่แสงอาทิตย์ไม่มีให้เห็น ทั้งที่เมื่อคืนวานเปลือกตาแทบไม่ได้ปิดพัก  แล้วค่ำคืนที่ผ่านมาอีกล่ะ ไม่รู้จะต้องฟังคำบอกว่าคิดถึงกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ที่ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งนั้นก็เพราะหวานอยู่ร่ำไป   ยินดีจะรับฟังและยินดีจะรับรู้เท่าที่อีกฝ่ายจะพร่ำกระซิบบอก

แต่สีฟ้าจำใจต้องพาตัวเองจากเตียงนอนนุ่มที่ถือครองเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวมานาน   ทว่าคราวนี้กลับมีคนมาร่วมแชร์เป็นครั้งแรก ก้าวออกมาจากเตียงได้ก็รีบคว้าเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไป   เพียงไม่กี่นาทีต่อมาหนุ่มหน้าหวานก็ออกมาพร้อมร่างกายที่สมบูรณ์ครบถ้วน   ไม่มีขาดไม่มีเกินด้วยเสื้อเซิ๊ตสีขาวเนื้อเบา กางเกงยีนดาเดปสีดำ เหลือบมองคนที่นอนอยู่บนเตียงนิดหน่อย พอให้รู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ตื่นมาเห็นว่าเขากำลังทำอะไรอยู่   เมื่อเห็นว่ายังคงอยู่ในท่าเดิมที่ใบหน้ายังซุกซบอยู่กับหมอนใบเขื่อง สีฟ้าก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างโล่งอก หยิบกระเป๋าเป้ใบกะทัดรัด จัดการคว้าเสื้อผ้าในตู้ออกมาสองสามชุดแล้วยัดลงไปในกระเป๋า  ก่อนจะก้าวเท้าเงียบกริบออกจากห้อง ทิ้งเจ้าของร่างสูงที่อิงแอบมาทั้งคืนให้หลับใหล ไม่รับรู้ว่าอ้อมแขนของตัวเองว่างเปล่าอีกครั้ง

สีฟ้าบอกเขาไม่ได้หนี หากแต่ยังอยู่ตรงนี้ต่อไป สัญญาที่เคยให้น้ำเพชรไป มันคงไม่มีความหมายอะไรเลย เขาไม่อยากถูกตราหน้าว่าทรยศเพื่อนอีกครั้ง

...


มือที่ตามหาร่างบางมาโอบกอดดั่งเช่นค่ำคืนที่ผ่านมา กลับพบเพียงความว่างเปล่าที่จับต้องได้ เปลือกตาที่ปิดสนิทมาตลอดเปิดโดยเร็ว เพื่อพิสูจน์ว่ามือของตัวเองไม่ได้ทำการผิดพลาด แล้วก็เป็นจริง ทั้งเตียงนอนนุ่มและห้องกว้างไร้ร่างของคนเป็นเจ้าของ แต่กลิ่นหอมๆ ที่สัมผัสได้ก็บอกว่าเจ้าของห้องคงออกไปจากห้องนี้แล้ว

รู้ว่าไม่มีสีฟ้าอยู่ตรงนี้แล้ว........แต่ไม่รู้ว่า สีฟ้าออกไปเมื่อไหร่?

ภาคีทิ้งมือทั้งสองข้างลงอย่างหมดแรง เหมือนหลายครั้งที่เคยผ่านมา สีฟ้าดื้อ ดื้ออย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อจนใจท้อ เขาต้องทำยังไงดีถึงจะทำให้สีฟ้าหายดื้อ
 ทั้งที่เมื่อคืนทำตัวได้อ่อนหวานอย่างที่เคยเป็นมาตลอด แล้วรับคำรักจากกายเขาอย่างไม่เคยอิดออด พอเช้าขึ้นมากลับหนีหายจากไป

ความไม่เข้าใจ มักเดินทางมากับความอ่อนแอ ผสมกับความเบื่อหน่ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ตอนนี้เขาชักจะไม่มั่นใจแล้วว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของเขาจะได้ผลหรือเปล่า อุตส่าห์ฮึดสู้ หวังไว้มากมายว่ามันจะต้องได้ผล แล้วไงล่ะ
คนดื้อก็ยังเป็นคนดื้ออยู่เหมือนเคยไม่เปลี่ยน

กำลังนอนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ โทรศัพท์เครื่องที่วางอยู่ใกล้ๆ ก็ดังขึ้น ภาคีกดรับอย่างเซ็งๆ

“มีไร โทรมาแต่เช้า”

คนที่โทรมาคือคณิต เพื่อนสนิทที่ยุ่งได้ทุกเรื่อง พักหลังๆ ก็ทำให้เขาหงุดหงิดอยู่บ่อยครั้ง ชอบแต่จะเอาเรื่องของหมอพิษณุกับสีฟ้ามากรอกหูเขาทุกวัน

“โห...ไอ้เพื่อนรัก นี่มึงกะจะนอนให้ตะวันมันหล่นใส่หัวหรือไงวะ มันกี่โมงกี่ยามแล้ว หัดดูนาฬิกามั้ง มันจะสิบโมงแล้วโว้ย แล้วนี่มึงอยู่ไหนวะ ”

คนปลายสายที่รัวคำทักทายแสนสนิทเป็นชุด คณิตกำลังยืนอยู่หน้าห้องชุดในคอนโดหรูของเจ้านายหนุ่มที่ให้เพื่อนเช่าอยู่ในราคาแสนประหยัด เขาทั้งกดกริ่ง
ทั้งเคาะประตู พักหลังๆ ถึงกับทุบเลยทีเดียว แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าเจ้าของห้องจะเดินมาเปิดประตูต้อนรับเขา เลยเปลี่ยนจากสารพัดวิธีเป็นโทรหาเลยให้สิ้นเรื่อง

“ถามทำไมวะ” ภาคีขยับ เปลี่ยนจากท่านอนเป็นกึ่งนั่งกึ่งนอน กวาดตามองนาฬิกาที่อยู่ตรงส่วนไหนของห้องก็ไม่รู้ แล้วก็เจอมันอยู่ตรงผนังห้องทางซ้ายมือ อย่างที่คณิตพูดจริงๆ มันเกือบจะสิบโมงเข้าไปแล้ว เขายังนอนอยู่บนเตียงนุ่มที่แฝงกลิ่นกายหอมไม่จางหาย แต่กายหอมกลับไม่อยู่ให้โอบกอด

“อ้าว....ไอ้เพื่อนรัก กูก็มาหามึงน่ะเซ่ เคาะเรียกอยู่ตั้งนาน ทำไมไม่มาเปิดประตูให้สักทีวะ กูเมื่อยนะโว้ย”

“อยู่บ้านเพื่อน” เรื่องที่เขาเก็บกระเป๋ามาอยู่บ้านของสีฟ้า เรื่องนี้เขายังไม่ได้บอกใคร และไม่พร้อมจะบอกใครเช่นกัน

“เพื่อนคนไหนวะ กูจะได้ไปหา” เสียงปลายสายถามมาอย่างนั้น ทำเอาคิ้วเข้มของคนถูกถามขมวดเข้าหากัน คิดหนัก ไม่รู้จะตอบคำถามยังไง จำต้องเฉไฉไป

“มึงไม่รู้จักหรอก ว่าแต่มีอะไรก็พูดมาเลย เร็ว มันเสียเวลานอน ถ้าไม่พูดจะวางสายแล้วนะโว้ย”

“อะไรวะ มึงมีเพื่อนไหนที่กูไม่รู้จักว่ะ” คณิตยังไม่เลิกสงสัย ก็ไอ้เพื่อนรักมันมีเพื่อนเยอะที่ไหนกันล่ะ นับนิ้วข้างซ้ายก็คงไม่ครบ แล้วเพื่อนของมันทุกคนก็เพื่อนของเขาทั้งนั้น 

“จะพูดหรือไม่พูด ไม่งั้นกูจะวาง” หงุดหงิดไม่น้อยที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอร่างบางที่แนบชิดมาตลอดทั้งคืน แล้วยังต้องมานั่งตอบความสนใจของคณิตในเรื่องเขายังไม่พร้อมจะบอกอีก

“เออ พูดก็ได้ ทำไมหงุดหงุดจังวะ คือบอสให้มาชวนมึงไปงานวันเกิดแฟนบอสคืนนี้ที่ร้านเดิม จำได้ใช่ไหม แค่นี้แหละ ไปด้วยนะโว้ย ถ้าไม่ไป งานนี้คุณลมหน้าหวานของมึงเสร็จคุณหมอสัตว์รูปหล่อแน่ แล้วอย่าหาว่าหนึ่งไม่เตือน”

“เออ ไม่ต้องย้ำได้ไหม “

วางสายจากคนเพื่อนรักที่ขยันตอกย้ำทุกวันให้หงุดหงิดแล้ว  ภาคียังคงกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ท่าเดิม เขากำลังคิด เหตุการณ์ที่ผ่านมาแต่ละครั้ง   มันก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าคนร่างบางไม่ได้คิดอะไรที่แตกต่างจากเขาเลย   ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมทำตัวน่ารักทุกครั้งยามที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา แต่เพราะมิตรภาพที่เจ้าตัวรักนักรักหนานั่นแหละ
  คือสิ่งที่ยังทำให้คำรักไม่เคยหลุดออกมาจากปากคู่สวยให้เขาได้ยึดเหนี่ยวเอาไว้ซะที

สีฟ้าปากแข็ง พอๆ กับใจที่แข็งเกินไป

ภาคีกำลังคิด คิดว่าจะหาวิธีไหนทำให้สีฟ้าเลิกดื้อกับเขาสักที แล้วใบหน้าคมก็คลี่ยิ้มออกมาได้ เมื่อมองเห็นหนทางที่จะทำให้สีฟ้าเลิกดื้อกับเขา
 มันต้องแก้ที่ต้นตอของเรื่องใช่ไหม

โทรศัพท์ถูกหยิบขึ้นมา เบอร์ใหม่ที่เพิ่งมีในเครื่อง ถูกกดโทรออกไปหา รอเวลาไม่นาน ปลายสายก็กดรับ


“ตินนะครับ คุณแพท”



.........................................................................................


“อ้าว...น้องลม มาได้ยังไงครับเนี่ย หรือว่ามีธุระอะไรกับพี่หมอ” หมอหนุ่มที่กำลังวุ่นอยู่กับการทำแผลให้เจ้าหมาตัวน้อย เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดีใจที่ปิดไม่มิด เมื่อเห็นคนร่างบางเดินเข้ามาในห้องรักษาสัตว์ของเขา

“ถามอย่างนี้ลมก็เสียใจแย่สิครับ แต่ว่าพี่หมอกำลังยุ่งอยู่ เดี๋ยวลมไปรอที่ห้องนะครับ” สีฟ้าบอก ก่อนจะถอยหลังเดินออกไป เพราะไม่อยากรบกวนหมอหนุ่มขณะที่กำลังทำงาน

สีฟ้าออกจากบ้านมาแต่เช้า ขับรถไปเรื่อยเปื่อยเพื่อฆ่าเวลารอเปิดคลินิกของหมอพิษณุ

“ว่าไงครับน้องลม ลมอะไรพัดมาครับ ถึงมาหาพี่หมอถึงคลีนิคได้”

หมอพิษณุที่รักษาเจ้าตูบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็ฝากงานที่เหลือไว้ให้กับผู้ช่วยสาวไปเรียบร้อยเช่นกัน ก้าวเข้ามาในห้องพักส่วนตัวของเขา ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับแขกหน้าหวาน ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยตกหลุมรัก

เมื่อก่อนเคยรัก.....แต่ใช่ว่าจะไม่รัก แค่รักไม่ได้ ในเมื่อทั้งใจของผู้ชายหน้าหวานคนนี้ คงไม่มีพื้นที่ใดเหลือให้ใครอีกแล้ว แม้กระทั่งเขา รักที่ไม่มีหวัง ฝืนรักไปก็รังแต่ทำให้เจ็บปวด ตัดใจคงเป็นหนทางเดียวที่ดีที่สุด

“ ลมคิดถึงไงครับพี่หมอ” เจ้าตัวบอกเสียงหวาน ไม่ต่างจากรอยยิ้มหวาน ที่ทำเอาหัวจิตหัวใจของหมอหนุ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ เกือบเผลอตัวถลาเข้าไปกุมมือเรียวคู่ที่เห็นมาแนบอกในวินาทีที่ได้ยินคำหวานๆ นั้นเสียให้ได้ แต่ก็รั้งตัวรั้งใจตัวเองเอาไว้ได้ทัน เมื่อรู้ว่าเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดอะไรไปมากกว่าคนรู้จักหรือพี่หมอที่ใจดี


“เอาความจริงครับน้องลม" หมอหนุ่มแกล้งทำเสียงจริงจังขึ้นมา ไม่เชื่อว่าเหตุผลที่สีฟ้าบอกจะเป็นความจริง ใจมันยังเจ็บกับอาการอกหักที่ไม่ทันได้ตั้งตัว แต่มันก็ไม่มาก เมื่อเทียบกับวันแรกที่เขารู้เรื่องราวความจริงระหว่างสีฟ้ากับภาคี

“ลมแค่อยากจะมาชวนพี่หมอไปทะเลน่ะครับ ตอนนั้นที่สัญญาจะไปกับพี่หมอ ลมก็เบี้ยว วันนี้เลยจะมาไถ่โทษไงครับ หรือว่าพี่หมอไม่ว่าง เดี๋ยวลมไปเองก็ได้ครับ” แม้จะเอ่ยปากชวน แต่สีฟ้าก็ยังรู้สึกเกรงใจหมอหนุ่มอยู่เหมือนกัน เขารู้สึกผิดที่วันนั้นผิดสัญญากับหมอพิษณุ แต่ความจริงยิ่งกว่านั้นคือ เขาอยากไปไหนไกลๆ กับใครสักคน คนที่จะทำให้เขาลืมช่วงเวลาดีๆ ระหว่างเขากับภาคีไปได้ หรือไม่ก็ทำให้เขาลืมภาคออกไปจากหัวใจสักครูสักยามก็ยังดี

ไม่ได้หวังให้หมอพิษณุเป็นตัวแทน แค่อยากให้ทนแทนส่วนที่เขาอยากตัดออกไปจากหัวใจต่างหาก....แล้วเขาจะทำได้ไหม? ตัดภาคีออกไปจากหัวใจได้ไหม?

ยังคงเป็นคำถามที่ไม่อยากค้นหาคำตอบ...เพราะมันกลัวคำตอบเหลือใจ

“อะไรกันครับน้องลม พูดเองเออเองหมด ไม่ให้โอกาสพี่หมอตอบเลย ไปสิครับ ทำไมพี่หมอจะไม่อยากไป งั้นเดี๋ยวพี่หมอขอเคลียร์งานก่อนนะครับ” รอยยิ้มของหมอหนุ่มทำให้สีฟ้าคลายยิ้มได้ ยังไงๆ หมอพี่พิษณุก็ยังคงเป็นพี่หมอใจดีของเขาอยู่


รอจนหมอพิษณุเคลียร์งานทั้งหมดเรียบร้อย ไม่มีอะไรมากหรอกก็แค่บรรดาน้องหมาน้องแมวของเขานั่นแหละ พร้อมกับฝากงานต่างๆ ไว้ที่ผู้ช่วยสาว ก่อนที่เพื่อนหมอของเขาจะเข้ามารับช่วงต่อ จากนั้นสีฟ้าก็ตามหมอหนุ่มไปที่บ้าน เก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว แล้วจึงมุ่งหน้าสู่จันทบุรี โดยตกลงกันว่าจะเอารถของหมอหนุ่มไปและพักที่บ้านพักตากอากาศของเขา

การเดินทางครั้งนี้ดูจะราบรื่น ทว่าเพียงรถเลี้ยวหัวเข้าสู่เมืองจันทร์ สีฟ้าที่เพิ่งนึกขึ้นได้ยังไม่ได้โทรบอกทางบ้านไว้ก่อน ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ที่ปิดตายมาแต่เช้าขึ้นมาเปิดการติดต่อสื่อสาร แล้วกำลังจะโทรไปที่บ้านของตัวเอง ยังไม่ได้ทำอะไรอย่างใจคิด เสียงเรียกเข้าก็แผดเสียงร้องขึ้นมาทันที ราวกับรอจังหวะนี้มาเนิ่นนาน

“เปิดเครื่องได้สักทีนะลม รู้ไหมว่าหวานโทรหาจนมือหงิกแล้ว แล้วนี่ปิดเครื่องทำไม ปิดหนีใครหะ หรือว่าไม่อยากติดต่อกับเพื่อนฝูงแล้วหะ ไหนบอกหวานมาสิ” เสียงใสๆ แหวดังมาตามสายทันทีที่เจ้าของเครื่องกดรับ ยังไม่ทันกรอกเสียงทักทายไปด้วยซ้ำ อีกฝ่ายก็รัวเร็วและตบท้ายด้วยคำถาม

“ช้าๆ ก็ได้หวาน ลมฟังไม่ทัน ไม่ได้ปิดเครื่องหนีใคร แต่ไม่อยากให้ใครรบกวนเพราะกำลังจะไปทะเลกับพี่หมอ”

“ไปทะเล ไม่ได้นะ ไปไม่ได้นะลม วันนี้วันเกิดหวานนะ กลับมาเดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นหวานโกรธจริงๆ ด้วย”

คนปลายสายร้องเสียงหลงทันทีที่รู้ว่าคนที่เฝ้าโทรตามหาตัวแต่เช้าจะไปทะเล ถ้าเป็นหลายวันก่อนณัชชาคงจะร้องงอแงของตามไปด้วย แต่มันไม่ใช่วันนี้ที่เธอ อชิตะและคณิต กำลังคิดจะทำเรื่องสนุกๆ กันอยู่นะสิ

“แต่ลมกับพี่หมอใกล้จะถึงแล้วนะหวาน” สีฟ้ากรอกเสียงอ่อยๆ ไปตามสาย

“ไม่เห็นเป็นไรเลยลม ก็เลี้ยวรถกลับมา ง่ายนิดเดียว วันนี้มันวันเกิดหวานนะ ไม่รู้ล่ะ กลับมาไม่ทันล่ะก็หวานมีโกรธแน่” เสียงหวานๆ ที่ขู่มาตามสาย ก็ทำเอาคนที่เห็นเพื่อนสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดอย่างสีฟ้า ไม่รู้จะทำยังไงดี จะให้เลี้ยวรถกลับก็เกรงใจหมอพิษณุอยู่ไม่น้อย

“แต่ลมเกรงใจพี่หมอนะหวาน ขับมาตั้งไกลแล้ว” ว่าแล้วก็หันไปมองหน้าสารถีหนุ่มที่เหมือนจะเงี่ยหูฟังบทสนทนาของเขากับคนปลายสายอยู่เหมือนกัน

“มีอะไรหรือเปล่าครับน้องลม” หมอพิษณุละสายตาจะถนนเบื้องหน้านิดหนึ่ง หันมาถามแต่ก็พอปะติปะต่อเรื่องราวได้อยู่บ้าง ไปทะเลคราวนี้จะต้องเก้ออีกแล้วใช่ไหม

“วันนี้วันเกิดหวานน่ะครับพี่หมอ” สีฟ้าเห็นหมอหนุ่มพยักหน้ารับรู้ ถ้าเขาขับรถมาเองคงเดียวก็ไม่เป็นไรหรอก แต่นี้มีหมอหนุ่มมาด้วยและเขาก็เป็นคนเอ่ยปากชวนมาแท้ๆ

“วันเกิดหวาน ?”

“ครับ พี่หมอ หวานโทรมาชวน บอกว่าต้องมางานหวานให้ได้ ไม่งั้นจะโกรธ” สีฟ้าบอกไปตามความจริง เขาอยากขอให้หมอพิษณุขับรถพากลับ แต่ก็เกรงใจจนเกินจะเอ่ย

หมอพิษณุจำได้ว่าปีที่แล้วที่เพื่อนของเขาบินไปฉลองวันเกิดกับแฟนสาว มันไม่ใช่เดือนนี้นี่หว่า หัวคิ้วของหมอหนุ่มขมวดเข้าหากันอยู่พักหนึ่ง แต่แล้วก็คลายตัวในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมกับล้อรถชะลอความเร็วลง ก่อนจะตีโค้งกลับไปทางเดิมที่เพิ่งผ่าน

“ลมเกรงใจพี่หมอจังครับ” สีฟ้าบอกเสียงอ่อย

“ไม่เป็นไรครับน้องลม วันเกิดหวาน ถ้าพี่ไม่ไปก็คงโดนเยอะเหมือนกัน” คำบอกของหมอหนุ่มพอจะทำให้คนหน้าหวานยิ้มออกมาได้ และพอมีแรงจะหันไปเอาความกับเพื่อนเจ้าปัญหาที่ถือสายรออยู่

“กำลังจะกลับแล้ว พอใจหรือยัง แล้วทำไมเพิ่งมาบอกเอาตอนนี้หะหวาน ทำไมไม่บอกอีกสามเดือนให้หลังล่ะ” อดจะแขวะไม่ได้ แล้วก็ให้นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมเพื่อนสาวช่างพูดถึงได้บอกเรื่องวันเกิดเอาวันนี้ ทั้งที่ควรจะบอกไว้เสียแต่เนิ่นๆ ไม่ใช่มาบอกเอาวันเกิดแบบนี้

“หวานลืมไง แล้วก็ไม่ใช่ความผิดหวานด้วย หวานโทรหาลมแต่เช้าแล้ว ลมไม่เปิดเครื่องเองต่างหาก เอาเป็นว่าเจอกันที่ร้านเดิมนะ” คนขี้ลืมรับตัดบทไปซะดื้อๆ ขืนถือสายนานอาจโดนซักจนขาวไม่เหลือเล่ห์อะไรเลยก็ได้ ก็ณัชชาโกหกไม่ค่อยจะเก่งเท่าไหร่

ณัชชาวางสายไปแล้ว สีฟ้าจึงหันมาพูดขอโทษขอโพยหมอพิษณุอีกครั้ง เฮ้อ...ดูเหมือนว่าการไปทะเลของเขากับหมอหนุ่มจะเก้อได้มันทุกครั้ง

“ลมขอโทษนะครับพี่หมอ เอาไว้วันหลังเราค่อยมากันใหม่นะครับ”

“โอกาสหน้าจะมีหรือเปล่าพี่หมอก็ไม่แน่ใจนะครับ” คล้ายจะพึมพำกับตัวเองเสียมากกว่าที่จะพูดให้คนหน้าหวานฟัง

 

จบครึ่งแรก

ปล วันนี้ก็หนื่อยมากเช่นกัน  แต่สัญญาไว้ว่าจะลงวันเว้นวัน ต้องทำตามสัญญา  ตอนนี้ขอแบ่งเป็น สอง part นะค่ะ เพราะมันยาวมากกกกกก  เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาต่อคร่างหลังนะค่ะ คงไม่ว่ากันน๊า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-04-2011 19:58:47
ไม่ว่าค่ะ ที่เหลือลงพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ
แค่มาต่อตอนนี้ก็ดีใจแล้ว เพราะรอทุกวัน
ชอบพี่หมอก็ตอนนี้แหละพาลมไปงานวันเกิดหวาน
คงรู้แต่อยากให้คนรักกันเขาดีกันใช่ไหม
หาแฟนให้พี่หมอหน่อยสิค่ะ สงสารเดี๋ยวเหงาแย่
อุตส่าห์ทำตัวเป็นคนดีพาแฟนชาวบ้านมาคืนเจ้าของ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 18-04-2011 20:03:41
มาพรุ่งนี้ก้ได้ครับ
ลม ครับ จะรอให้ ติณ มันตายจากกันไปก่อนหรือไงครับถึงจะยอมรับได้เนี่ย เห้อ เซ็ง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 18-04-2011 20:11:49
ชะอุ้ย! นังหนูแพทจะกลับใจรึเนี่ย กว่าจะคิดได้นะยะหล่อน
ปล. พักผ่อนเยอะๆ นะคะ เหนื่อยก็พัก ไม่ต้องขยันนักหรอก อู้บ้างก็ได้^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 18-04-2011 20:19:22
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:


ยังรอเหมือนเดิมครับ



 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 18-04-2011 20:19:54
ขอบคุณคุณ Aphrodite และคุณ Aeaw นะ :L2:
อ่านตอนนี้แล้วอยากเชียร์ภาคีตัดใจจากคนใจร้ายอย่างสีฟ้าแล้วมีแฟนใหม่เถอะ
หมั่นไส้สีฟ้า ไม่น่ารักเลยที่ไปหาหมอพิษณุ รู้ว่าหมอชอบตัวเอง แต่ตัวเองไม่ได้ชอบหมอแล้วทำอย่างนี้ทำไม เห็นแก่ตัวมาก
อินจัด รอครึ่งหลังนะ :really2:
 
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 18-04-2011 20:20:01
อันนี้น่าจะเป็นแผนของหนึ่งเปล่าเนี้ย เราว่ามันน่าจะใช่น่ะเนี้ย พี่หมอคงน่าจะรู้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 18-04-2011 20:26:02
แมร่งหาใครมาแทนอีเชรี่ยลมนี่ทีเถอะ  นายเอกโคตรงี่เง่าว่ะ


คิดเองเออเองตลอดเก่งชิบหายความคิดในหัวแต่ละอย่าง


รักเพื่อนมากกว่าตัวเอง   รักตัวเอง  แต่ไม่รักผัว   :z6: :z6:


 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 18-04-2011 20:46:11
ลมใจร้ายอะ
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 18-04-2011 20:59:34
ลมไม่น่าไปเลย สงสารติน+หมอ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 18-04-2011 21:28:16
ช่วยกรุณาหาคู่ให้หมอณุด้วยครับ

สงสาร


หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 18-04-2011 21:37:38
นายตินสู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หน่ายกับลมจริงๆๆๆๆ
ไม่ไหวกับลมจริงๆๆสงสารติน
เบื่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นังแพทนี่นะน่าโดนมีแผนไรอีกหรือเปล่า
คงสะใจนางมากที่ทำให้คนรักกันเป็นแบบนี้เมื่อไหร่จะออกไปจากชีวิต2คนนี้สะที
คนมันไม่รักต่อให้ทำขนาดไหนก้ไม่รักเข้าใจด้วยนะนังแพทตี้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 18-04-2011 21:38:29
บางครั้งดราม่าเกินไปมันก็ทำให้เอียนนะคะทำให้เกิดความเซ็ง แต่ก็อยากอ่าน เบื่อตัวลมเองที่แสดงอะไรขัดแย้งกันตลอดเลย ปากบอกว่ากลัวเสียเพื่อน แต่เวลาเห็นตินอยู่กันคนอื่นหรือในความคิดของตัวเองชอบคิดว่าตินไม่รักเค้าแล้ว หรือมีเค้าอยุ่ในนั้นบ้างหรือป่าว คนเราจะตัดก็ตัดให้ขาด  สองจิตสองใจแบบนี้อ่านแล้วขดใจมากๆ อยากจะตบนายเอกเองแล้วตอนนี้ สงสัยต้องรอให้พระเอกตายไปก่อนจริงๆถึงจะมาสำนึกได้ ส่วนอีชะนีแพท หล่อนก็ควรจะมาสารภาพความผิดของตัวเองได้แล้ว ทำนิสัยแบบนี้มันรู้ตัวเองนะ แต่ก็ยังหลอกตัวเองไปวันๆ สิ่งที่เธอเคยทำมันไม่เหมือนความรักซะกนิด ดูแล้วมันเหมือนการอยากเอาชนะลมมากกว่า  เพื่อนแบบนี้ แย่มากๆเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 18-04-2011 22:18:57
ฝ่ายสนับสนุนแผนเยอะกันจริง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 18-04-2011 22:22:20
ดีใจกับตินที่คิดออกซะทีว่าควรจัดการที่ต้นเหตุ >"<
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 18-04-2011 22:55:43
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
เหนื่อยใจกับลมมาก
รักเพื่อน แต่ไม่รักตัวเอง ไม่คิดบ้างว่าตินเค้ารักเพื่อนตัวเองรึป่าว ไม่คิดบ้างว่าที่เสียสละให้เพื่อนนะ มันทำร้ายทั้งตัวเองและติน อ่อ ทำร้ายเพื่อนตัวเองด้วย แล้วนี้ไปหาพี่หมอ ทำร้ายพี่หมออีก ดีจริง มีความสุขสินะ แล้วพอตินหาวิธีทางกลับมา ก็ยังดันไปคิดเองเออเองอะไรก็ไม่รู้ ตินก็บอกว่ารัก แต่ไม่เคยเชื่อเลย ให้ตายสิ หรือต้องสูญเสียตินถาวร ก่อนค่อยมาคิดได้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 18-04-2011 23:03:34
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 18-04-2011 23:22:44
 :o8:

ได้ข่าวว่า เด๋วก้อจะไม่ดราม่าแล้ว.............. ^^'

จริงๆ ยืนยันได้   :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: heefever ที่ 18-04-2011 23:24:48
อยากจะบอกว่าที่อ่านนิยายมาทั้งหมดเรื่องอื่นๆ จะเกลียดพระเอก แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เกลียดนายเอกอะ

คงไม่ต้องถามเหตุผลมั้งว่าทำไมเพราะมันเห็นๆ กันอยู่


สงสารพระเอกว่ะค่ะ :o12:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 19-04-2011 00:28:53
รอครึ่งหลังค่ะ อ่านแล้วสงสารตินมากอ่า ทำไมลมเป็นอย่างงี้อ่า ใจร้ายชะมัดเลย หนึ่ง หวาน อชิตะ จะมีแผนอะไรอีกล่ะคราวนี้ รอต่อไป
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 19-04-2011 03:01:20
นายเอกเรื่องนี้โคตรงี่เง่า อยากจะ :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:ใส่หน้านายเอก

ในความรู้สึกเราไม่อยากให้ใครช่วยลมกับตินกลับมารักกัน อยากให้ตินเจอรักใหม่คนที่แคร์ความรู้สึกของตินแล้วไม่ต้องมาสนใจลมอีกอยากรักเพื่อนมากกว่าตัวเอง  เราคงสะใจมาก


ปอลอ  อ่านเรื่องนี้แล้วให้ความรู้ว่า  การศึกษาสูงไม่ได้ทำให้ลมฉลาดเลยมีแต่โง่ลง
           พล็อตเรื่องนี้ว่างตัวให้นายเอกดูโง่มากไปมั๊ย  อ่านแล้วอยากตบนายเอกมากกว่านางร้าย

ถ้าพูดแรงเราขอโทษด้วย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 19-04-2011 07:07:34
หาคนไปเที่ยวทะเลกะพี่หมอ ให้หน่อยค่ะ

สงสารพี่หมอ
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 19-04-2011 07:49:37
สงสารติน  เมื่อไรจะเข้าใจ  จะได้รักกันสักทีนะลม ลําบากคนอื่นต้องมานั่งติดแผนนู่นนี่นั่นให้ตลอดอ่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 19-04-2011 09:15:17
วางแผนกันเป็นขบวนการเลยหรือเปล่า +1 รอที่เหลือนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 19-04-2011 09:40:27
ดู ๆ ไปก้สงสารพี่หมอเหมือนกันนะเนี่ย
ถ้าคนแต่งหาคู่ให้พี่หมอสักคนพี่หมอคงไม่เหงา :z1:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 19-04-2011 09:47:08
รอครึ่งหนึ่งของชีวิต   :z2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 19-04-2011 09:50:04
นายเอกเรื่องนี้โคตรงี่เง่า อยากจะ :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:ใส่หน้านายเอก

ในความรู้สึกเราไม่อยากให้ใครช่วยลมกับตินกลับมารักกัน อยากให้ตินเจอรักใหม่คนที่แคร์ความรู้สึกของตินแล้วไม่ต้องมาสนใจลมอีกอยากรักเพื่อนมากกว่าตัวเอง  เราคงสะใจมาก


ปอลอ  อ่านเรื่องนี้แล้วให้ความรู้ว่า  การศึกษาสูงไม่ได้ทำให้ลมฉลาดเลยมีแต่โง่ลง
           พล็อตเรื่องนี้ว่างตัวให้นายเอกดูโง่มากไปมั๊ย  อ่านแล้วอยากตบนายเอกมากกว่านางร้าย

ถ้าพูดแรงเราขอโทษด้วย

เห็นด้วย ลมงี่เง่ามากอ่ะ 55555+
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งแรก [18/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 19-04-2011 10:55:42
 :กอด1:คนแต่ง
อย่าคิดมากนะยังไงก็ตามอ่านจนจบ
อยากให้หมอพิษณุมีคู่ในตอนพิเศษ สงสารหมอที่ตกเป็นเหยื่อสีฟ้า :monkeysad:
ขอโทษนะถ้าจะบอกว่าเพิ่มตัวละครใหม่ก็ได้ ประมาณว่าญาติใครสักคน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 19-04-2011 14:18:28
ครึ่งหลัง


กว่าสามทุ่มที่รถโฟร์วิลของหมอพิษณุจะแล่นเข้ามาจอดสนิทตรงลานจอดรถของผับหรู ที่เจ้าของวันเกิดสาวเลือกเป็นสถานที่เลี้ยงฉลอง

เหมือนครั้งที่ผ่านมาไม่ผิด ทันทีที่ก้าวตามร่างหนาของหมอหนุ่มเข้ามา แล้วเห็นเพื่อนสาวหน้าหวานโบกไม้โบกมือเรียกอยู่ตรงชุดโต๊ะด้านในสุดของร้าน มันคือจุดเดียวกับวันนั้นนั่นแหละ เท้าที่ก้าวตามร่างสูงก็เริ่มจะเกเรไม่ยอมเดินเอาดื้อๆ คล้ายหมอหนุ่มจะรู้ตัวว่าไม่มีร่างบางของบางคนก้าวตามมาด้วย เจ้าตัวจึงหันกลับไปมอง แล้วก็พบว่าอีกฝ่ายทำหน้าเหมือนกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกอยู่อย่างนั้น

“เป็นอะไรไปครับน้องลม” หมอหนุ่มเดินย้อนกลับมาถาม ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเพราะเหตุอันใดหนุ่มหน้าหวานถึงมีอาการมือไม้ไม่ขยับ

“ไม่มีอะไรครับพี่หมอ แต่ลมว่าแขกของหวานเยอะแล้ว ขาดเราสองคนคงไม่เป็นไรมั้ง ลมว่า เราไปจันทร์กันดีกว่าครับ ถ้าพี่หมอเหนื่อย เดี๋ยวลมเป็นคนขับให้ก็ได้” สีฟ้ากำลังทำทุกวิถีทางที่จะไม่ต้องเข้าไปร่วมโต๊ะกับคนกลุ่มนั้น กลุ่มคนที่ประกอบด้วยเจ้าของงานอย่างณัชชา อชิตะ คณิต ญาดา น้ำเพชรและคนสุดท้าย ภาคี คนที่เขาหลบหน้ามาทั้งวัน หากต้องกลับมาเจอจนได้

“ไม่เอานะครับน้องลม ทุกคนรอเราอยู่นะครับ หวานก็เห็นเราสองคนแล้ว จะหนีไปต่อหน้าต่อตาอย่างนี้ได้ยังไงครับ” แล้วมือของหมอหนุ่มก็เหมือนจะรู้หน้าที่ เพราะมันเลื่อนไปตรงข้อมือเล็กจับจูงไปยังจุดหมาย สีฟ้าออกอาการขืนตัวเล็กน้อย แต่หมอหนุ่มก็ไม่นำพา สามารถพาร่างบางไปร่วมวงกับเจ้าของงานจนได้

“แฮปปี้เบิร์ดเดย์จ๊ะหวาน” สีฟ้าก็ยื่นกล่องของขวัญชิ้นเล็กที่เลือกซื้อก่อนจะมาทีนี่ให้กับเจ้าของงานที่นั่งหน้าแป้นอยู่ข้างแฟนหนุ่ม ก่อนจะนั่งลงข้างกายหมอพิษณุ

“ขอบใจนะลม” เจ้าของวันเกิดยิ้มรับกับของขวัญชิ้นเล็กในมือ แม้ไม่ใช่วันเกิดจริงแต่ณัชชาก็ขอรับไว้อย่างยินดี เอาไว้เรื่องทุกอย่างแฮปปี้เมื่อไหร่ค่อยขอโทษที่หลังก็ได้ เธอจะถือชะว่าของขวัญชิ้นนี้เป็นของต้อนรับเธอกลับประเทศละกัน สีฟ้าคงไม่ว่าหรอกนะ

สีฟ้าอยากรู้นักว่าใครจัดที่นั่งหรือว่าใครเหลือที่นั่งไว้อย่างนี้กัน โซฟาหนังสีดำสี่ตัว ตั้งอยู่คนละมุม ฝั่งซ้ายของเขาคือณัชชาและแฟนหนุ่มจับจองเป็นเจ้าของ โซฟาทางขวามือก็ถูกจับจ้องโดยคณิตและญาดาที่ส่งยิ้มมาให้ ทั้งฝั่งซ้ายฝั่งขวามันก็คงไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไอ้ฝั่งตรงข้ามเขา ทิศทางที่ไม่มีทางจะหลีกหนีสายตาคมหวานที่เริ่มเชื่อมเพราะน้ำเมา และสายตาอีกหนึ่งคู่ของเพื่อนรัก ที่เขาร่ำร้องอยู่ตลอดเวลาว่าอยากให้คืนกลับมาเป็นเหมือนเดิม หากมันก็เหมือนมิตรภาพที่ขาดวิ่นไม่เห็นทางที่จะครบเต็มเหมือเดิม แต่มันช่างเป็นตำแหน่งที่ต้องเผชิญหน้ากับภาคีและน้ำเพชรเต็มๆ ไม่มีเก้าอี้ตัวไหนให้เขานั่งอีกแล้ว แล้วจะหลีกหนีตายตาของคนทั้งคู่ได้ยังไง 

อยากจะหนีแต่ทำไมถึงไม่เคยหนีพ้น ทั้งที่คิดจะหลบหน้าหนีไปทะเลอยู่แล้วแท้ ๆ ก็ต้องถูกตามตัวให้มาเผชิญหน้ากันอีก หรือว่าสีฟ้าจะไม่สามารถหนีได้จริงๆ


…………………………………………………………………………..

แก้วน้ำสีอำพันถูกส่งมาอยู่ตรงหน้าตั้งแต่ตอนไหนและจากมือของใคร สีฟ้าไม่รู้ แต่ที่รู้คือตอนนี้เขารีบคว้ามันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพื่อซ่อนใบหน้าของตัวเองจากสายตาคู่กร้าวที่มองมาอย่างไม่ลดละ ทั้งที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเอนแอบแนบชิดอยู่กับเพื่อนของเขาแท้ๆ แล้วเพื่อนของเขาดูจะมีรอยยิ้มอยู่เต็มใบหน้า นี่ไม่ใช่เหรอผลของสิ่งที่เขาอยากให้มันเป็นมาตั้งแต่แรก

น้ำเพชรสมหวังกับความรัก รักที่มีให้ภาคี

สีฟ้าไม่อยากจะคิด แต่มันก็ต้องคิดจนได้ ภาคีชวนน้ำเพชรขึ้นไปคอนโด จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามแต่ นั่นอาจทำให้ความสัมพันธ์มันแล่นไปไกล แค่คิดสีฟ้าก็เริ่มรู้สึกว่าขอบตามันร้อนผ่าว อยากหสีไปให้พ้นภาพตรงหน้า

“เป็นไงไอ้หมอ ไปทะเลไม่คิดจะชวนกันเลยนะ” อชิตะเป็นคนเปิดประเด็นเอากับเพื่อนรักของเขาทันที หลังจากถูกแฟนสาวส่งซิกโดยการเหยียบเท้าเบาๆ ใต้โต๊ะ

“โทษทีอิง พอดีมันชุกละหุกไปหน่อย เลยไม่ได้โทรไปชวน ว่าแต่ทำไมฉันต้องชวนนายด้วยวะ ฉันกับน้องลมก็ต้องการเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง ใช่ไหมครับน้องลม”

หมอหนุ่มหันมายิ้มที่คิดว่าหวานที่สุดให้กับหนุ่มหน้าหวานที่คล้ายจะเพลิดเพลินกับน้ำสีอำพันเกินกว่าปกติ เขาก็เอื้อมไปกุมมือข้างที่ยังว่างของสีฟ้า มองดูใบหน้าหวานที่หันมามองเขาเหมือนไม่ได้ฟังที่เขาพูดเลยสักนิด แต่ปากก็ยังอุตส่าห์ขานรับ

“ครับ”

สีฟ้าที่เอาแต่ตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ไม่รู้ว่าหมอพิษณุพูดอะไร รู้แต่ว่าประโยคสุดท้ายหันมาถามอะไรบางอย่างกับเขา เพื่อเป็นการรักษามารยาทที่ดีเขาก็เลยต้องตอบรับไว้ก่อน 

ตาคมมองมือเล็กที่ถูกหมอพิษณุกุมเอาไว้ โดยที่เจ้าของมือยินยอมให้กอบกุม ภาคีรู้สึกหึงหวงมือนั้นที่ควรมีเพียงเขาคนเดียวที่ทำได้ แต่เขาก็ทำอะไรนอกจากนั่งมองด้วยอารมณ์ขุ่นมัว  เมื่อเช้าคณิตโทรบอกเรื่องงานวันเกิดณัชชา เขาคิดว่าต้องเจอสีฟ้าแน่ แต่ไม่คิดว่าจะมาพร้อมกับหมอพิษณุ ที่มาพร้อมกันก็เพราะอยู่ด้วยกันทั้งวันสินะ

แล้วสีฟ้าจะรู้สึกหึงหวงเขาบ้างไหม ที่เห็นเขากับน้ำเพชรนั่งอยู่ด้วยกัน คงไม่สินะ ถึงไม่มีท่าทีใดให้เห็นนอกจากสีหน้ายุ่งยากใจ ทั้งที่เขาอุตส่าห์ควงน้ำเพชรมางานคืนนี้ด้วย นั่งชิดแทบจะอิงซบกันอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังคงเป็นเหมือนอากาศไร้ตัวตนสำหรับสีฟ้า


“ไอ้ติน เห็นไหมวะ มันผิดจากที่กูพูดที่ไหน ดูดิ่วะ วันหยุดก็ไปเที่ยวทะเลกันสองคน กูว่ามึงกินแห้วแน่ แล้วกูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน มึงไปยุ่งกับเพื่อนของคุณลมทำไมวะ ”

คณิตกระซิบเสียงเบา เขาดึงเพื่อนออกห่างจากน้ำเพชร หญิงสาวที่เขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน จู่ๆ ไอ้เพื่อนของเขาก็พกพามางานนี้ด้วย เพิ่งมารู้ที่หลังว่าเป็นเพื่อนของสีฟ้าและณัชชา ก็ยิ่งอยากจะบ้าตาย ไม่รู้ว่าไอ้เพื่อนมันคิดอะไรของมันอยู่กันแน่

“ไม่ยุ่งสักเรื่องแล้วจะตายไหม” 

ไม่รู้ว่าโกรธเพื่อนที่มันชอบตอกย้ำเรื่องหมอพิษณุกับสีฟ้า หรือว่าโกรธคนหน้าหวานที่ไม่สนใจเขาเลย ภาคีไม่รู้เลย รู้แต่ว่าเขาไม่เคยพูดกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงแบบนี้เลย เพราะมันทั้งห้วนและเข้มบอกอารมณ์ว่าโกรธเกินจะทำให้เป็นปกติได้

ภาคีขยับหนีคณิต แต่ขยับเข้าใกล้น้ำเพชร ก่อนที่มือจะเลื่อนโอบร่างเล็กเข้ามาใกล้ อยากทำให้สีฟ้าเห็น และเขาก็ได้รับความร่วมมือจากน้ำเพชรด้วยดี

คณิตที่ซวยไปโดยไม่รู้ตัว มองมือเพื่อนที่แทบจะเป็นกอดร่างเล็กของน้ำเพชรอยู่นั้น สมองชาญฉลาดก็เริ่มปะติปะต่อเรื่องราวต่างๆ ได้ หรือว่าไอ้เพื่อนของเขากำลังคิดให้หนุ่มหน้าหวานหึ รู้จักมีแผนเหมือนกันนี่ ไม่คิดว่ามันจะคิดได้ ถึงจะตื้นไปหน่อยก็เถอะ แต่ก็ยังดีที่มันยังคิดจะทำอะไรบ้าง ไม่ใช่เอาแต่นั่งอมทุกข์หน้าเศร้า

“ที่แท้ก็หนีไปสวีทกันสองคน ไม่อยากให้พวกเราไปกวน อย่างนี้ไม่ไหวเลยเนอะแพท ทิ้งเพื่อนแล้วหนีไปเที่ยวกันสองคนกับแฟนเนี่ย” ณัชชาหันมาพยักเพยิดกับเพื่อนสาว ตกใจอยู่เหมือนกันที่หันไปเห็นน้ำเพชรตกอยู่ในอ้อมแขนของภาคี

“นั่นสิลม เห็นแฟนดีกว่าแฟนอย่างนี้มันใช่ไม่ได้นะ” เสียงของน้ำเพชรยามที่พูด แม้จะฟังแล้วเป็นปกติ แต่สีฟ้ากับรู้สึกเหมือนว่าโดนอีกฝ่ายตอกย้ำบางเรื่องมาตามน้ำเสียงนั้น น้ำเพชรจะเอาอะไรกับเขาอีกล่ะ คำสัญญาก็ให้ไปแล้ว แล้วตอนนี้ดูน้ำเพชรก็มีความสุขไม่น้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของภาคี ส่วนเขาก็น้ำตาตกอยู่ข้างใน ไม่มีใครเห็น

เจ็บปวดกับภาพที่เห็น หากจำต้องเพียรบอกกับตัวเองซ้ำๆว่า นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ เพื่อนมีความสุขในอ้อมแขนของคนที่รักมาตลอด เขาควรยินดี แม้ว่าอ้อมแขนนั้นจะเป็นอ้อมแขนเดียวกับที่เขาต้องการก็ตาม

“แต่หวานกับแพทเป็นเพื่อนลมนะ น่าจะชวนกันหน่อย ลมก็รู้ว่าหวานอยากไปทะเลจะแย่อยู่แล้ว คราวที่แล้วก็หนีไปเที่ยวกับตินสองคน หวานยังไม่ได้ชำระโทษเลยนะ” เสียงใสๆ ยังคงทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมสมกับเป็นผู้ร่วมแผนการที่ร้ายกาจ

“ไม่ใช่นะหวาน ลมไม่ได้ไปกับติน...เอ่อ....สองคนซะหน่อย คุณด้ากับคุณหนึ่งก็ไปด้วย ใช่ไหมครับคุณด้า” สีฟ้ารีบปฏิเสธเสียงหลง ก่อนหันไปขอความช่วยเหลือจากเลขาสาวที่อยู่ข้างแฟนหนุ่ม สีฟ้าหวังว่าญาดาจะช่วยเป็นพยานปากเอกให้เขา ว่าการไปทะเลครั้งนั้น เขาไม่ได้ไปกับภาคีเพียงแค่สองคน ตามที่ถูกณัชชาพูด เลขาสาวสวยพนักหน้าเพียงนิด แล้วก็พูดในสิ่งที่ถ้าสีฟ้าเป็นเจ้านายจอมโหด คงได้ไล่ออกจากงานในวันรุ่งขึ้นแน่

“ค่ะ คุณหวาน วันนั้นด้ากับหนึ่งก็ไปด้วยค่ะ แต่เอ่อ....เอ่อ...แต่ก็เหมือนว่าไปกันแค่สองคนกับหนึ่งเท่านั้นค่ะ เพราะคุณลมกับคุณตินเอาแต่คลุกอยู่ในบ้านกันสองคน ไม่ยอมออกมาเล่นน้ำทะเลกับพวกเราเลย ใช่ไหมหนึ่ง”

งานนี้เหมือนจะมีแต่พวกชอบโยน พอเลขาสาวแฉเจ้านายหนุ่มหน้าหวานเสร็จ เธอก็โยนให้เป็นหน้าที่ของแฟนหนุ่มหมาดๆ ทันที โดยไม่หวั่นต่อความมั่นคงในหน้าที่การงานในวันรุ่งขึ้น เพราะออกจะแน่ใจว่าหลังจากคืนนี้ไป เจ้านายหนุ่มน่าจะขอบคุณสิ่งที่เธอทำ มากกว่าจะโกรธจนไล่ออก

มีหรือคณิตจะปล่อยให้โอกาสช่วยเพื่อนหลุดลอยไป โดยที่เพื่อนรักไม่ได้ร้องขอและไม่ได้รู้เรื่องแผนแฉนี้เลยสักนิด

“นั่นสิครับทุกคน ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำอะไรกันอยู่ มาทะเลทั้งที แต่ตัวกลับไม่เปียก เท้าไม่ได้เหยียบทราย พระอาทิตย์พระจันทร์สวยขนาดไหนก็ไม่ยอมออกมามอง ผมล่ะอยากรู้จริงว่าทำอะไรกันอยู่สองต่อสอง ว่าไงไอ้ตินเพื่อนรัก แกกับคุณสีฟ้ามัวทำอะไรกันอยู่วะ ตอบให้กูและทุกคนหายข้องใจหน่อย” แล้วเจ้าคนขี้สงสัยก็แกล้งหันไปมองหน้าเพื่อนรัก เห็นเพื่อนรักยิ้มรอท่าอยู่เหมือนกัน

สิ้นประโยคบอกเล่าของเลขาสาว ก็ทำเอาเจ้านายหนุ่มหน้าหวานอย่างสีฟ้าถึงกับอ้าปากค้าง ไม่อยากจะเชื่อว่าจะถูกเลขาสาวหักหลัง ซ้ำร้ายยังเจอเข้ากับความสงสัยที่ออกจะเว่อร์ของคณิต สีฟ้าแทบอยากจะเอามุดโซฟาหนีไปทะเลให้รู้แล้วรู้รอด มันอายที่ถูกแฉต่อหน้าคนทั้งโต๊ะ ที่รวมเอาน้ำเพชรเข้าไว้อีกคน

สีฟ้าเหลือบมองเพื่อนสาวเพียงนิด หากพบว่าอีกฝ่ายกลับนั่งหน้านิ่งเป็นปกติ แต่สายตาที่คิดว่าจะโฟกัสแค่เพื่อนร่างเล็ก กลับพลาดไปเจอกับเจ้าของมือที่โอบไหล่เพื่อนของเขาไว้หลวมๆ จนได้ สายตานั่นมันยิ้มซะจนน่าหมั่นไส้ เพราะมันฉายชัดว่าเจ้าตัวถูกอกถูกใจกับประโยคบอกเล่าของญาดาและคำถามของคณิตมากมาย

“อยากรู้จริงหรือวะหนึ่ง”
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 19-04-2011 14:24:40
:m23:

เอิ่ม...คือว่า อ่านๆ เม้นท์แล้ว ก้อเลยอยากจะบอกว่า เราเองแหละเป็นคนแต่งเรื่องนี้ (โทษทีนะคะพี่เอ๋ ที่แอ๋วไม่ได้บอกว่าจะมาโพสแสดงตัวในนิยายรักเธอ ขออนุญาตละกันนะคะ) กรุณาพัดโบกได้เต็มที่ค่ะ

รู้สึกผิดจริงๆ นะคะ ที่สร้างตัวละครให้มันหลุดออกจากหลักความจริงไปมากเลย มากจริงๆ แต่มันก็กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว เพราะเรื่องรักเธอ เราแต่งจบไปนานแล้ว ถ้าต้องแก้ให้นายเอกเป็นผู้เป็นคนกว่านี้ คงต้องรื้อเรื่องใหม่หมดแน่ๆ ซึ่งเราจนด้วยปัญญาจริงๆ แล้วก็แอบเสียใจนิดๆ ที่เข็นให้นายเอกเป็นที่รักของใครไม่ได้เล๊ย (นอกจากของติน 555+) แล้วก็เคยคิดอยากจะลองรวมเล่มนิยายเรื่องนี้ดู เพราะก่อนหน้านี้ที่แต่งเรื่องนี้จบ ก็คิดอยากจะรวมเล่มเก็บเอาไว้ เพราะเป็นนิยายบอยเลิฟเรื่องแรกของเรา แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ  มาตอนนี้อยากรวมเล่ม แต่ดูท่าแล้วคงไม่มีใครอยากได้ TT นายเอกไม่ได้ดังใจคนอ่านเล๊ย คงไม่มีใครอยากเก็บไว้ชีช้ำใจเล่น โครงการนี้เลยพับเก็บ


 :call:

สุดท้าย....ขอโทษนะคะที่ทำให้เหนื่อยกับตัวละครของเรามากขนาดนี้ แล้วก็ขอบคุณที่ยังเม้นท์แนะนำเราตลอดเวลา ทำให้เรารู้ว่า เราพลาดอะไรไปบ้าง อยากจะแก้ไขตามคำเม้นของทุกคนนะคะ แต่มันแก้ไม่ได้แล้วจริงๆ เสียใจนะคะที่ทำไม่ได้  แต่ถ้าแต่งเรื่องพี่หมอจริงๆ เราจะไม่ให้ดราม่า (พยายามจะไม่ดราม่านะคะ) ให้จงได้ค่ะ

สุดท้ายยยยย......รักทุกเม้นท์และทุกคลิกที่เข้ามานะคะ


มาอย่างยาววววววววววววววววว   

บวกหนึ่งนะจ๊ะที่ในที่สุดก็โดนกดดันจนต้องแสดงตัว 555

แอ๋วเอ๊ย  ไม่มีใครโกรธที่แต่งให้นู๋ลมออกมาได้งี่เง่า  (ลอกคนในทู้นี้มาพูด  555)  มันเป็นบทละคร  ที่สมจริงจนคนอ่านอินจัด 

แสดงว่าแต่งได้โดน 

ตอนพิเศษ ไม่ต้องรอตอนพี่หมอหรอกเอา แค่ให้นายลมทำตัวน่ารักๆเหมือนลูกแมวน้อยที่คอยแต่จะออดอ้อนเจ้าของอย่างนายลมก็พอแระ  คริ คริ บวกหนึ่ง เป็นกำลังใจให้นะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 19-04-2011 14:49:51
มันยังค้างคาอยู่เลย ฮื่อออออออออออออ  แต่ว่าเกลียดนางชะนีแพทนี้จริงๆ ยังจะอุปโลกตัวเองอยู่ได้ น่าไม่อายจริงๆ แรดเงียบสุดๆ แอร๊ยยยยยยยยยยยชั้นเกลียดมันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 19-04-2011 15:56:21
เหะๆๆๆๆจะน่าสงสารก็สงสารนะ
แต่ให้ตินได้เอาคืนนิดนึงละกัน
เป็นไงละเพื่อนนางที่แสนดี
จ้องจะกินกันแล้ว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 19-04-2011 16:06:54
จะมาม่าอีกซักกี่ซอง กี่ยี่ห้อ
ถ้าจบ happy ending ก็จะอ่านต่อ และเรื่องต่อๆไปด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 19-04-2011 16:16:32
 :z3:  แว๊กกกกก.......คนอ่านก็อยากรู้..........

มันก็ดราม่านะคะแต่ก็กำลังดีคะแต่ก็อย่างที่รีบนบอกอะคะ ขอแค่จบ Happy คนอ่านก็สู้ตายคะ แต่ก็นะคนอ่านเป็นคนอ่อนไหวคะ คราวที่แล้วด่านายเอก อีกตอนอาจด่าพระเอกได้นะคะ :laugh: เอาแน่ไม่ได้เพราะอ่านแล้วอิน แบบว่ารักทั้งคู่จังหวะไหนใครทำใครเสียใจคนทำโดนด่าหมดแหละคะ :laugh:

ปล. ยังรอคู่ของคุณหมอนะคะแอบ FC ส่วนตัวชอบนิสัยคะ :z1:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 19-04-2011 16:18:45
 :L2: ให้กำลังใจคนแต่ง แต่ว่าตัดจบตอนแบบนี้ ค้างอย่างแรง มาต่อไวๆนะ

+1 ให้คนแต่ง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 19-04-2011 16:56:56
ทำไมมันตึ๋งเดียวเองอ่ะ   :z3:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 19-04-2011 17:04:57
ก่อนอื่น อยากบอกคุณแอ๋วว่าเห็นด้วยกับความเห็นของคุณAphroditeค่ะ
อย่าเสียความตั้งใจเลยนะคะ ความเป็นจริงในชีวิตคนเรา โง่ย่อมมาก่อนฉลาด
มีคนเยอะมากกกกในชีวิตจริง ที่ฉลาดล้ำเลศ เรื่องเรียน เรื่องงาน แต่ค่อนข้างขาดทักษะชีวิต
สีฟ้าก็แบบนั้นแหละค่ะ ต่อไปนี้คุณแอ๋วต้องสร้างเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ ให้สีฟ้ารู้เท่าทัน
และมีทักษะชีวิตเพิ่มขึ้นนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 19-04-2011 17:07:42
ปล ย้อนไปอ่านซ้ำตอนก่อนๆ แล้วอยากเป็นเพื่อนกะน้ำเพชรมากเลยครับ
.
...จะได้เอาคืนมันให้อย่างเจ็บแสบ! ไม่ปล่อยไว้เหมือนน้องลมแน่นอน สาบาน! อินอีกแล้ว 555
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 19-04-2011 17:21:23
สู้ต่อไปคนแต่ง จริง ๆ นายเอกเรารักเพื่อนมากกกก็แบบนี้แหล่ะ
โดนเพื่อนแทงข้างหลังเลยไม่รู้ตัว หุหุ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 19-04-2011 17:31:44
หึ หึ หึ สีฟ้าโดนเค้าแกล้งยกทีม
ต้องงี้แหระ ปากแข็งนัก
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 19-04-2011 19:52:57
ขอบคุณคนแต่งคนโพสต์ :L2:
รอดูคนรักเพื่อนอย่างสีฟ้าโดนซะบ้าง
สงสารหมอพิษณุที่เป็นเครื่องมือสีฟ้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 19-04-2011 20:17:28
รู้สึกเหมือนบรรยากาศเริ่มจะดีขึ้น  ตินเดินหน้าเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 19-04-2011 20:28:44
เราจะมาให้กำลังใจ  คือว่าเป็นหนึ่งคนที่ได้อ่านเวอร์ชั่นออริ ที่เคยลงไว้นานมากแล้ว  และตอนนั้นอินเนอร์ก็มากมาย ไม่ได้คิดเลยว่า ทุกสิ่งอย่างมันไม่สมจริง ฮาๆๆ  พอได้กลับมาอ่านเวอร์ชั่นนี้ ก็หนุกหนานเหมือนเคย อาจเพราะเราเชียร์ลมก็ได้ แหมตินหน่ะรักก็ไม่พูดปากแข็ง แอบรักก็ไม่สู้แถมไปคบคนอื่นซะงั้น 

แล้วถ้าลมไม่หลุดโลก คงไม่ได้คู่กันหรอก ดังนั้น เราสามารถให้อภัยลมได้ในทุกกรณี ส่วนตินก็คงต้องทนไปแหละ อิอิ

ปล. ถ้าไม่ได้อ่านเม้น เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่า อืม มันเป็นอย่างที่เพื่อนๆ ในเล้าว่าอยู่เหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 19-04-2011 20:34:10
 :z3: :z3:ทำกันได้นะคนเรา ไม่ง่ะ ไม่ อยากอ่าน อยากอ่าน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 19-04-2011 20:35:18
แล้วอะไรยังไงต่ออ่าาาาา ตัดจบแบบนี้ค้างสุดๆๆ  :z3:

ลมโดนตินเอาคืนสะบ้างก็ดี
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 19-04-2011 20:54:20
อยากอ่านต่อๆๆ
บวกๆ ค่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 19-04-2011 21:31:10
อยากรู้ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 19-04-2011 21:57:36
ไม่เป็นไรหรอกครับ


ขึ้นว่านิยายมันก็ถูกต้องแล้ว

ให้คนอ่านได้เคลิ้มบ้างอะไรบ้างงงง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 19-04-2011 22:00:19
ค้างมากๆเลยอะ
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 19-04-2011 22:17:31
สงสารลมแต่ก็หมั่นไส้ด้วย แต่ตินคงมีแผนแน่
ไม่งั้นไม่ควงยัยแพทมาด้วยหรอก
คิดได้แล้วยกยัยแพทให้พี่หมอแทนลมดีกว่า 5555

ไม่ต้องคิดมากค่ะคนแต่ง เป็นกำลังใจให้นะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jellyfish ที่ 19-04-2011 22:30:04
สวัสดีค่ะ มาสมัครเพราะเรื่องนี้ กับอีกเรื่องเลยนะค่ะ
อ่านแล้วชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จริงๆค่ะ

เพราะสีฟ้าช่างถูกใจ ในความเหนือ จริงๆ แต่แอบหงอยให้แพทได้ไงกัน
เพื่อนแบบนี้ น่าฆ่าหมกท่อ เอาไปปล่อยถังขยะจริงๆ

ส่วนตาติน ก็เป็นพระเอกที่รันทดยิ่ง มีมารขวางทางเป็นผู้หญิงแบบแพท

ส่วนตอนนี้ ก็ค้างงงงงง....ค่ะ อย่างรุนแรง
ไม่รู้ว่าคราวนี้ แผนที่อุตส่าห์ส่งกันไปมาจะสำเร็จหรือเปล่า
รอรอรอรอ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 19-04-2011 23:24:14
อยากอ่านต่อค่ะ อ่านเรื่องนี้แล้วอินเนอร์ อิอิ เกลียดแพทมากมายอ่า ลมโดนแกล้งซะแล้ว ว่าแต่จบตอนง่ายๆ เลยอ่า ค้างคาอย่างแรงอ่า มาต่อเร็วๆ นะค่ะ อยากอ่านต่อแล้ว รอตอนต่อไป ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tender ที่ 20-04-2011 02:02:09
ค้างมาก~ ฮื่อๆ
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ อย่ากังวลคะ เรื่องนี้สนุกมาก^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 20-04-2011 08:32:35
ใช่   อยากรู้เป็นที่สุด
ตอบเลย
ค้าง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-04-2011 08:38:47
 :เฮ้อ:เหนื่อยกับไอ้คู่นี้

ปัญญาอ่อนเหลือเกินอีลม
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 20-04-2011 10:15:13

มาอย่างยาววววววววววววววววว   

บวกหนึ่งนะจ๊ะที่ในที่สุดก็โดนกดดันจนต้องแสดงตัว 555

แอ๋วเอ๊ย  ไม่มีใครโกรธที่แต่งให้นู๋ลมออกมาได้งี่เง่า  (ลอกคนในทู้นี้มาพูด  555)  มันเป็นบทละคร  ที่สมจริงจนคนอ่านอินจัด 

แสดงว่าแต่งได้โดน 

ตอนพิเศษ ไม่ต้องรอตอนพี่หมอหรอกเอา แค่ให้นายลมทำตัวน่ารักๆเหมือนลูกแมวน้อยที่คอยแต่จะออดอ้อนเจ้าของอย่างนายลมก็พอแระ  คริ คริ บวกหนึ่ง เป็นกำลังใจให้นะ
+1 ให้ ถูกใจเป็นที่สุด ถ้าให้ดีขอเป็นลูกแมวน้อยยั่วสวาทด้วยนะคะ ฮุๆๆ
ส่วนคนแต่งไม่ต้องคิดมากหรอก นิยายก็มีได้หลากหลาย ทั้งแต่งสมจริงเรียวลิตี้ ถึงระดับแฟนตาซีก็มี
ตัวละครจะกลมๆ แบนๆ บ้างมันเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ (อย่าลืมแมวยั่วสวาทล่ะ55)
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 20-04-2011 11:46:45
ในที่สุดก็ตามอ่านทันแล้ว
คุณลมนี่งี่เง่าเอาแต่ใจเป็นที่สุด พูดอะไรปากก็ไม่เคนตรงกับใจอีกต่างหาก แต่ก็เข้าใจนะว่าอารมณ์ลูกคนเล็กถูกเลี้ยง ถูกสปอยล์มาแบบนี้ หุหุ แต่อย่างน้อย ก็รักใครรักจริง

ส่วนพี่ติณเนี่ย ต้องคอยมีคนรอบข้างสุมไฟเน้อถึงจะมีแรงออกฤทธิ์ไปตามหาหัวใจ อ่านไปลุ้นไปกะเฮียแกจริงๆ  แต่ยอมรับอยู่เรื่องนึง คือเฮียแกนี่แรงดีไม่มีตกเวบาอยู่บนเตียงจริงจัง 5555

รออ่านต่อไปจ้า ลุ้นให้กลับมารักกัน จริงจัง +1 จ้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 20-04-2011 19:03:43
มันเหมือนจะดีแต่ก็ไม่ดีอ่ะ
อยากมห้เคลียร์กันเร็วๆๆจังเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 21-04-2011 22:01:36
มาคอยลมคืนดีกับติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 21-04-2011 23:57:52
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

จะดีกันได้มั๊ยเนี่ยยยยย


 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 22 ครึ่งหลังมาแล้วค่ะ [19/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 22-04-2011 00:00:16
อ้าว เฮ้ยยย ติน มาพูดต่อให้จบ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 22-04-2011 17:48:56
ตอนที่ 23

“อยากรู้จริงหรือวะหนึ่ง”

ภาคีย้อนถามเหมือนไม่อยากตอบข้อสงสัยนั้น ในวินาทีนี้เขาแทบอยากจะกระโดดกอดไอ้เพื่อนรักให้สมกับที่มันทำตัวเป็นเพื่อนแสนดีได้อย่างดีเลิศ แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ภายใต้ใบหน้าขรึม ที่ไม่รู้ว่ามันจะขรึมได้เท่าที่เขาต้องการหรือเปล่า พอจะเห็นได้เลือนรางว่ากำลังได้รับความช่วยเหลือชิ้นยอดจากคนทั้งโต๊ะ ยกเว้นหมอหนุ่มกับคนหน้าหวานจอมดื้อ

คุณทำให้ผมต้องพูดมันออกมานะครับ คุณลม...

“จริงสิวะ ถ้าไม่อยากรู้จะถามทำไม เร็วๆ บอกมากูอยากรู้” เหมือนรู้งาน คณิตก็รับมุขของเพื่อนได้ดีไม่มีขาดไม่มีเกิน

“แล้วทุกคนอยากรู้ไหมครับ ว่าทำไมผมกับคุณลมถึงอยู่แต่ในบ้านพัก ทั้งที่มาถึงทะเลแล้วแท้ๆ”

ภาคียังคงทำอมพะนำ หันหน้าที่คิดว่าขรึมที่สุดไปรอบวง และจอดสนิทอยู่ที่ใบหน้าหวานที่เหมือนจะส่งสายตาอ้อนวอนให้เขาหยุดพูดสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ไว้ซะ

....ไม่มีทางคุณลม คุณบังคับผมให้ทำ ถ้าไม่ทำ ผมอาจจะเสียคุณไปตลอด....

“บอกมาเถอะติน หวานก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมไปทะเลคราวนั้น ลมไม่เห็นจะดำลงเลยสักนิด” สาวสวยตาเป็นประกายวิ้งวั้งยามเอ่ยปากเร่ง

“ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะติน บอกมาเถอะ ดูสิ แฟนผมอยากรู้จะแย่อยู่แล้ว ว่าคุณสองคนทำอะไรกันอยู่ จนไม่ออกมาเจอฟ้าเจอทะเลกันเลย หรือว่าในบ้านพักของผมมันมีอะไรดี บางทีผมอาจจะกลับไปหาอะไรดีๆ กับว่าที่เจ้าสาวของผมบ้าง ใช่ใหม่จ๊ะ หวาน...โอะ...โอ๊ย...วะ....หวาน.....” เมื่อเฉออกไปนอกเรื่องนิดเดียว เจ้านายใจดีของภาคีก็โดนเท้าเล็กๆ ของเจ้าสาวเหยียบซะเต็มรัก จนต้องร้องออกมา

“อย่านอกเรื่อง !  พี่อิง”  ว่าที่เจ้าสาวกระซิบบอกเสียงเหี้ยม ไม่แตกต่างจากน้ำหนักเท้าที่เหยียบไปเลย

“แพทก็อยากรู้เหมือนกัน บอกมาเถอะติน”   คำพูดของน้ำเพชรเหมือนจะพูดกับเจ้าของมือที่โอบไหล่เธออยู่ หากแต่สายตากลับจับจ้องไปที่สีฟ้า
 คนถูกมองได้แต่ก้มหน้าต่ำมองปลายเท้าตัวเอง ไม่กล้าสบตาด้วย

เหมือนสีฟ้าถูกต้อนให้จนมุมจากทุกคน หากยังคงมีหมอหนุ่มที่ยังยืนอยู่ข้างเขา ให้รู้สึกอุ่นใจเมื่อเสียงเข้มบอกความรู้สึกไม่พอใจเอ่ยออกมา

“ แต่ผมไม่อยากรู้ เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไปจะดีกว่า จะมารื้อพื้นให้ได้อะไรขึ้นมาละครับคุณติน   ในเมื่ออดีตมันก็ยังเป็นอดีตวันยังค่ำ
ผมไม่สนใจอยู่แล้ว เพราะผมกับน้องลมจะมีวันนี้และพรุ่งนี้ไปด้วยกัน”   หมอหนุ่มว่า พลางหันไปยิ้มกับเจ้าของมือที่เขากุมอยู่ 

คำปฏิเสธที่หลุดออกมาจากปากหมอพิษณุและคำพูดที่สื่อความหมายได้ชัดเจน   ทำให้สายตาทุกคู่หันมามองคุณหมอเป็นตาเดียวกัน โดยเฉพาะสายตาของเจ้าของเรื่องที่อยากเล่า ภาคีจ้องราวกับจะฆ่าหมอพิษณุได้ในวินาทีนั้น   โชคดีที่มีมือของคณิตที่นั่งอยู่โซฟาตัวใกล้ๆ เอื้อมมารั้งแขนไว้ก่อน ไม่งั้นภาคีคงทำอะไรที่มากกว่าต่อยปากคนพูดแน่ๆ

“ขอบคุณครับพี่หมอ” คนที่คล้ายกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ช้อนตามองหมอพิษณุด้วยความรู้สึกขอบคุณที่มากล้น บอกคำขอบคุณแผ่วเบา ขอบคุณที่ทำให้เขาไม่ถูกคนทั้งโต๊ะต้อนให้จนมุม มือเรียวที่ถูกเกาะกุมโดยมือใหญ่ เปลี่ยนเป็นฝ่ายเกาะกุมมือใหญ่นั้นเสียเอง 

สีฟ้าจะรู้ตัวหรือไม่ว่ายิ่งเขาทำแบบนั้นก็เหมือนกับเป็นการจุดให้ภาคีเดือดพล่านยิ่งกว่าเดิมอีกหลายเท่า

“แต่ผมอยากบอก คุณหมอไม่อยากฟังก็ไม่ต้องฟังสิครับ หรือจะกลับไปก็ได้ เชิญตามสบาย” เชื่อเลยว่าหน้าตาของภาคียามที่บอกหมอหนุ่มออกไป มันช่างกวนและยั่วโทสะของคนฟังอยู่ไม่น้อย

“งั้นก็เชิญคุณตามสบายครับ อยากพูดอยากบอกอะไรก็เอาเลยครับ หวานครับ พี่หมอกลับก่อนนะครับ”  หมอพิษณุหันไปบอกกับเจ้าของงาน พร้อมกับดึงมือสีฟ้าให้ลุกตามขึ้นมา

“ไม่อยากฟังหรือไม่กล้าฟังกันแน่ละครับคุณหมอ เรื่องระหว่างผมกับคุณลม มีอะไรอีกเยอะที่คุณหมอควรรู้เอาไว้”  ภาคีว่า คิ้วเข้มยกสูง ท้าทาย

“ผมไม่จำเป็นต้องรู้จากปากใคร นอกจากน้องลมคนเดียว.....กลับกันเถอะครับน้องลม”  ประโยคสุดท้ายหมอพิษณุหันมาบอกคนที่เขาจับมืออยู่ สีฟ้าพยักหน้าน้อยๆ
 ก่อนหันไปบอกเจ้าของงาน

“หวาน ลมกลับแล้วนะ”

“ไม่เอา จะกลับได้ไง หวานยังไม่ได้เป่าเค้กวันเกิดเลย หวานไม่ยอมนะ ไม่รู้ล่ะ ถ้าพี่หมอกับลมกลับนะ หวานจะโกรธจริงๆ ด้วย ไม่ได้ขู่ แต่หวานทำจริง”  สาวเจ้าของงานแทบจะโดนข้ามตัวแฟนหนุ่มไปรั้งคนทั้งสองเอาไว้ จะปล่อยให้กลับกันไปได้ยังไง ถ้ากลับแผนทั้งหมดก็พังน่ะสิ

“นั่งเลยนะไอ้หมอ ถ้ากลับ เลิกคบโว๊ย”  อชิตะลุกขึ้นช่วยแฟนสาวอีกแรง หมอพิษณุยอมนั่งลงอีกครั้ง ร่างบางจำต้องนั่งลงด้วยอีกคน

“แล้วไหนล่ะครับน้องหวาน เค้กวันเกิด รีบๆ เป่าให้เสร็จ เพราะเดี๋ยวพี่หมอกับคุณลมต้องขับรถไปจันทร์อีก” หมอหนุ่มทำเสียงหงุดหงิดที่ไม่คิดจะปิดบัง บอกให้รู้ว่าไม่มีอารมณ์จะนั่งร่วมวงอีกต่อไป

“อย่าใจร้อนสิคะพี่หมอ หวานรู้ค่ะว่าพี่หมออยากไปเที่ยวทะเลกับลมใจจะขาดอยู่แล้ว แต่ว่าพี่หมอถามลมหรือยัง ว่ายังอยากไปทะเลอีกหรือเปล่า”  เสียงใสๆ ถามอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะรู้ว่าคำถามของตัวเองจะได้คำตอบแบบไหนจากใคร และมันจะทำให้ใครรู้สึกอย่างไรเมื่อได้ฟัง

“ว่าไงครับน้องลม น้องลมอยากไปเที่ยวทะเลกับพี่หมออยู่หรือเปล่า”  ใบหน้าของหมอพิษณุเคลื่อนเข้าใกล้ใบหน้าหวานยามที่เอ่ยปากถาม   หากเมื่อครู่คือมือที่เกาะกุมมาตอนนี้กลายเป็นวงแขนกว้างที่โอบตรงไหล่บอบบางนั้น แล้วรั้งตัวร่างนั้นให้เข้ามาใกล้จนดูเหมือนอิงซบกันอยู่

“ว่าไงครับน้องลม อยากไปทะเลกับพี่หมออยู่ใช่ไหม?”

อาการแรกคือแข็งขืน แต่เมื่อเผลอไปสบสายตาคู่ที่เริ่มจะกร้าวจนน่ากลัวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม สีฟ้าก็ปล่อยให้ร่างกายตกไปอยู่ในอ้อมกอดกลายๆ ของหมอหนุ่มอย่างง่ายดาย ไร้ซึ่งอาการขัดขืน อย่างน้อยมันก็อาจทำให้ภาคีเข้าใจผิดว่าเขาเลือกหมอพิษณุไปแล้ว 

“ตินค่ะ แพทก็อยากไปทะเลเหมือนกัน เอาเป็นว่าเราตามไปกับลมเลยดีไหมคะ ลมว่าไงจ๊ะ ถ้าแพทกับตินจะขอตามไปด้วย หวังว่าคงไม่เป็นอะไรใช่ไหม” น้ำเพชรถามเสียงหวาน

“คือว่า.....” สีฟ้ายังไม่ทันจะตอบคำถามของน้ำเพชร หมอพิษณุที่เหมือนจะรู้หน้าที่ของตัวเองดีก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน

“คงไม่ได้หรอกครับคุณแพท หมอกับคุณลมอยากมีเวลาเป็นส่วนตัวกันจริงๆ เอาไว้คราวหน้าดีกว่านะครับ”

“อะไรวะ นี่แกกะจะซ้อมฮันนี่มูนหรือไง ถึงตัดเพื่อนตัดฝูง เออก็ได้ เข้าใจว่าคนกำลังอินเลิฟ อย่าให้ถึงคราวของฉันบ้างก็แล้วกัน อย่าร้องไห้ขอตามไปด้วยล่ะ.....โอะ....โอ๊ยยยย.....” เป็นอีกคราวที่โดนเท้าเล็กแต่หนักด้วยปลายแหลมกระแทกเหยียบเต็มแรงรัก พร้อมสายตาคาดโทษ อชิตะต้องรีบหุบปากโดนพลัน เพราะเผลอพูดเกินบทไปนิด ทำให้เจ็บตัวฟรีอีกครั้งจนได้

“โอ้ย....งั้นหวานก็ตามไปไม่ได้สิ หวานน้อยใจนะเนี่ย แต่ไม่เป็นไร   หวานจะพยายามเข้าใจพี่หมอนะคะ ว่าอยากจะมีเวลาเป็นส่วนตัวกับเพื่อนคนน่ารักของหวาน  แต่ไปแล้วห้ามขังเพื่อนของหวานไว้แต่ในบ้านเหมือนตินนะคะ ปล่อยให้ลมเห็นเดือนเห็นตะวันกับเขาบ้าง”

เจ้าของประเด็นพูดคุยอย่างสีฟ้า ไม่คิดจะแก้ข้อความเข้าใจผิดของใครทั้งนั้นแล้วในตอนนี้ คงได้แต่ปล่อยให้ทั้งวงสนทนาเข้าใจผิดเรื่องของเขากับหมอพิษณุ แม้จะสะดุดกับคำพูดของณัชชาบ้างในตอนท้าย แต่ก็ไม่อยากแก้ตัว เพราะคิดว่าคงไม่มีใครฟัง แต่คำพูดต่อมาของภาคี กลับทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมองด้วยความโกรธผสมความอาย

“ผมว่าหวานคงเข้าใจอะไรผิดไปหน่อยหนึ่ง ผมหรือจะเอาอะไรไปขังคุณลมได้ ถ้าคุณลมไม่เต็มใจและก็ไม่ให้ความร่วมมือ ใช่ไหมครับคุณลม”   มุมปากหยักยกสูง พอใจกับคำพูดของตัวเอง แม้จะโดนสายตาคู่เรียวมองมาเหมือนจะทิ่มแทงก็ตาม แต่จะให้เขาทนปล่อยสีฟ้าหลุดมือไปน่ะเหรอ ไม่มีทางเด็ดขาด ในเมื่อการกระทำหลายๆ อย่างของสีฟ้า ทำให้เขามั่นใจมากขึ้นว่า สีฟ้าอาจรักเขาเช่นกัน แต่ไม่ยอมพูดออกมา คนดื้อก็ยังเป็นคนดื้อ ปากแข็งยังไงก็ยังปากแข็งอย่างนั้น
 

“โอ้โห...ได้ใจมากว่ะเพื่อนติน” คนที่เหมือนจะขาดไปจากบทสนทนาเอียงตัวมากระซิบเบาๆ ทันทีที่เพื่อนรักของเขาปล่อยประโยคเด็ดออกมาจนได้ คณิตไม่ลืมที่จะยกนิ้วโป้งให้เพื่อนไปหนึ่งทีประกอบคำชม ก่อนจะหันมากระซิบข้างหูแฟนสาวคนสวย

“หนึ่งว่า เราสองคนไม่ต้องทำอะไรแล้วล่ะครับด้า นอกจากนั่งชื่นชมผลงานอยู่ใกล้ๆ แบบนี้”

“ด้าเห็นด้วยค่ะ” เลขาสาวบอกยิ้มๆ

“พูดอะไรน่ะติน หวานไม่เห็นจะเข้าใจ ขอชัดๆ แบบเคลียร์ๆ ได้เปล่า” สาวสวยย้อนถาม หากแววตาแสนซนนั้นฉายแววเป็นประกายสมใจ ชักสนุกกับแผนการที่ตอนแรกเธอต่อต้านสุดฤทธิ์ มาตอนนี้ทำไมมันทำให้สนุกจนหยุดไม่อยู่ก็ไม่รู้สิน่า


มันสนุก เพราะเธอกำลังลุ้นให้ความรักของสีฟ้ากับภาคีลงเอ่ยกันด้วยดีซะที....

“ผมก็ขอแบบเคลียร์ๆ เหมือนกันนะติน ผมไม่ชอบอะไรที่มันไม่เคลียร์ ไม่อยากกลับไปคิดเอาเอง สติผมได้แตกกันพอดี”   อชิตะไหลไปตามแฟนสสาว ไม่ได้อยากรู้มากเหมือนที่พูด หากแค่ทำให้มันเป็นไปตามแผนที่ช่วยกันวางเอาไว้ ทั้งเขา แฟนสาว และลูกน้องอย่างคณิต

“นั่นสิวะคุณเพื่อนติน เพื่อนหนึ่งก็ขอแบบเคลียร์ๆ ด้วยคน”  ว่าจะขอเป็นฝ่ายนั่งดูผลงานอยู่เงียบๆ ไม่เข้าร่วมด้วยแล้วแท้ๆ แต่คณิตก็อดใจขอมีส่วนร่วมด้วยไม่ได้

“แพทก็อยากรู้”

“ว่าไงครับคุณลม อนุญาตให้ผมบอกทุกคนหรือเปล่าว่าทำไมไปทะเลทั้งที เราสองคนถึงเอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม ไปไหนไม่ไกลกว่าเตียง ”

สงสารใบหน้าหวานที่เปลี่ยนจากแววตาทิ่มแทงเป็นอ้อนวอนมากมายหนัก แต่ต้องทำใจแข็งไม่ใส่ใจให้ใจอ่อนแล้วยอมแพ้ เมื่อนึกถึงวันพรุ่งนี้ที่จะไม่มีอีกฝ่ายอยู่เคียงข้าง ไม่ได้ครอบครองและเป็นเจ้าของเหมือนเช่นเคยเป็น มันคงทรมานมากว่านี้อย่างแน่นอน

“ว่าไงลม อนุญาตไหม หวานอยากรู้”

คงไม่มีแค่ณัชชาที่อยากรู้เพียงคนเดียว เพราะทั้งวงเหมือนจะหันมามองสีฟ้าเป็นสายตาเดียวกัน นั่นก็ทำให้หนุ่มหน้าหวานขอบตาร้อนผ่าว น้ำตามันคล้ายจะรื้นอยู่ตรงเบ้าตาสวย ความรู้สึกเหมือนโดนกดดันจากทุกสายตา และโดนบีบบังคับจากคนใจร้าย  ภาคีกำลังไล่ต้อนเขาให้จนมุมอย่างไม่ปราณี ไม่อยากรู้ว่าภาคีทำไปทำไม  แต่อยากรู้ว่าทำไมถึงต้องทำกันขนาดนี้  อยากเอาชนะด้วยความอับอายของเขาหรือไง

เหมือน....กินในที่ลับแต่มาไขในที่แจ้ง

หากตาคมที่เขาเงยหน้าขึ้นสบมอง เป็นอย่างที่เขาเข้าใจ แปลว่า ภาคีกำลังบังคับเขาทางอ้อมให้รับถึงความสัมพันธ์ที่จะผูกมัดเขาไว้ตลอดไป เขาควรดีใจใช่ไหมที่ภาคีไม่ยอมปล่อยมือจากไปเหมือนเช่นทุกครั้ง   เหนี่ยวรั้งเอาไว้อย่างถึงที่สุด แต่ภาคีจะรู้ไหม เขาไม่ต้องการการเหนี่ยวรั้งที่ทำให้เขาต้องจนทุกหนทางอย่างเช่นตอนนี้

มันเลวร้ายเกินกว่าที่เขาจะเชื่อว่า....ภาคีจะทำกับเขาได้


“ลมขอตัวกลับก่อนนะครับทุกคน”  หนทางที่จะทำให้สีฟ้าหลุดพ้นจากตรอกมุมที่ภาคีบีบบังคับให้ต้องพบเจอ คือการพาตัวเองออกจากที่นี้ ภาคีอยากพูด อยากทำอะไรก็ทำไปเลย เขาไม่สน ไม่อยากรับรู้ และไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมรับรู้ เขาไม่ใช่จำเลยที่ต้องมานั่งฟังคำพิพากษาจากใคร

เขาก็มีหัวใจ เจ็บเป็น อายเป็น ภาคีไม่คิดจะสงสารเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องร้องขอให้สงสาร ภาคีกล้าทำกับเขาแบบนี้ มันก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกแล้ว   ต่อจากนี้ไป ต่างคนต่างอยู่ เขาจะไม่มีวันเสียน้ำตาให้กับผู้ชายแบบภาคีอีกต่อไป

“เดี๋ยวสิลม” เสียงณัชชาเรียกตามหลัง หากแต่ช่วงขาที่ก้าวเร็วและไวจนแทบจะกลายเป็นวิ่งอยู่แล้ว ไม่ได้คิดจะหยุด สองเท้ายังคงพาเจ้าของมุ่งตรงไปข้างหน้า


น้ำตามันไหล ทันทีที่ก้าวพ้นประตูร้านออกมา  พร้อมกับมือหนึ่งที่เหนี่ยวรั้งให้ร่างบางถลาเข้าสู่อกอุ่น หวังให้มันช่วยรองรับน้ำตาที่ไหลจากหน่อยตาคู่สวยสู่ผิวกายของเขา   แทนที่จะปล่อยให้มันร่วงหล่นสู่พื้นดินเบื้องล่าง

.
.
.
.

“คุณลม”

คนที่ดึงสีฟ้าเอาไว้ แล้วรั้งให้มาซบกับแผ่นอกอุ่นคุ้นเคย คือผู้ชายที่ทำให้ร้ายสีฟ้าด้วยความจริง เมื่อนาทีที่ผ่านมา

“ตามมาทำไม” มันน้อยใจกับสิ่งที่ภาคีทำ น้ำตามันไหล เสียงมันสั่น แต่ก็ยังฝืนพูด “สะใจแล้วใช่ไหมที่ทำกับฉันอย่างนี้ สะใจนายแล้วใช่ไหม”

เพราะไร้เรี่ยวแรงจะหยัดยืน หรือเพราะความกดดันมากมายที่กระหน่ำเข้าใส่ ราวกับคลื่นลูกใหญ่โหมซัดโขดหินแกร่ง   หากแต่หัวใจของสีฟ้าไม่ได้แกร่งดั่งโขดหิน ที่หยัดตรงต่อสู้กับคลื่นยักษ์ลูกแล้วลูกเล่าได้ หัวใจของเขามันเป็นแค่ก้อนเนื้ออ่อนนุ่ม ก้อนความรู้สึกอันอ่อนแอ อยากผลักไสอีกฝ่ายให้ถอยห่าง เขาไม่อยากเจ็บอีกแล้ว หากทำไม่ได้อย่างที่สมองคิด เพราะยังโหยหาอ้อมแขนที่โอบกอดและอกอุ่นอยู่มิคลาย เมื่อมือใหญ่ที่คุ้นเคยรั้งดึงให้เข้าสู่อ้อมแขนที่โอบรัด สีฟ้าจึงไม่อาจปฏิเสธหรือต้านทาน พร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน ไม่ใช่น้ำตาของความอ่อนแอ แต่มันคือน้ำตาที่ไม่อยากเข้มแข็งอีกต่อไป

สีฟ้านิ่งรับกับรอยสัมผัสจากปากหยักที่พรมแนบชิดบนเรือนผมของตัวเอง สัมผัสอ่อนหวานคล้ายสร้างขึ้นมาเพื่อเขาคนเดียว น้ำตาที่มันไหล มันก็ยังคงไหลไม่หยุด ต่างจากเดิมแค่มันทวีหยาดน้ำใสมากมายราวกับไม่มีที่สิ้นสุด  ซึมผ่านเนื้อผ้านิ่มสู่ผิวเนื้อแกร่งของคนที่ประคองกอดเขาอยู่ เสียงสะอื้นฟ้องความอ่อนแอทั้งหมดให้หัวใจของอีกฝ่ายได้ยิน

“อย่าร้องนะครับคุณลม ผมขอร้อง”  คำขอร้องของภาคี ได้รับเพียงอาการส่ายหน้าช้าๆ กับอกของเขา แล้วตอนนี้ร่างนั้นเริ่มสั่นสะอื้นจนตัวโยน  เขาเพิ่มแรงรัด หากร่างนั้นก็ยังคงสะอื้นหนักเหมือนเดิม แรงกอดของเขาไม่สามารถลดทอนความเสียใจของสีฟ้าได้เลย

“อย่าร้องนะครับคนดี ตินขอโทษ” เสียงทุ้มนุ่มที่เพียรเฝ้ากระซิบกับกลุ่มผมนุ่ม แรงสะอื้นที่ทำให้สีฟ้าไม่มีแรงแม้กระทั่งจะยืน หากไม่มีมือใหญ่ของเขาโอบรัดเอาไว้ คงได้หล่นไปกองกับพื้น ยิ่งทำให้ภาคีรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก

ทั้งหมดที่พูดไปตอนอยู่ในร้าน ก็เพราะอารมณ์อยากช่วงชิง อยากเอาชนะ อยากต้อนให้สีฟ้าจนมุม และอยากทำให้ทุกคนรู้ โดยเฉพาะหมอพิษณุรู้ว่า เขาคือเจ้าของสีฟ้า
หากลืมนึกถึงใจสีฟ้าไป ไม่คิดว่าจะทำร้ายให้เจ็บปวดได้มากมายขนาดนี้

“ตินขอโทษ ตินไม่ได้ตั้งใจ อภัยให้ตินนะครับ....ตินรักลมมาก รักมากเลยต้องพูดแบบนั้นออกไป” เขาบอก พลางกดจมูกบนแก้มชื้น ไม่สนว่าใครจะมองเห็น นาทีนี้แค่อยากบอกให้สีฟ้ารู้ว่า เขารักสีฟ้ามากแค่ไหน

“พอเถอะ...อึก...ฮื่อ....ปล่อยฉันไปเถอะ....นะ....อึก....ยะ...อย่าทำอย่างนี้กับฉันเลย”

กว่าจะฝืนเอาคำพูดนี้ออกมาได้ มันเหมือนกับว่าต้องใช้เรี่ยวแรงอย่างมหาศาล กี่ครั้งที่เขาจะหลุดพ้นจากพันธนาการที่เผลอสร้างมันขึ้นมาด้วยหัวใจของตัวเอง แต่กลับไม่สามารถดื่มด่ำกับมันได้ยาวนานเลยสักครั้ง คราวใดที่หลงไปกับความหอมหวาน สิ่งที่ได้ตอบกลับมาคือความรู้สึกที่ตัดขั้วตรงหัวใจ 

ความหวานที่ไม่เคยยาวนาน

ไม่เคยโทษใคร แต่สีฟ้าโทษตัวเองที่อ่อนแอเกินไป

“อย่าร้องนะครับคนดี อย่าร้อง ตินขอโทษ ตินขอโทษจริงๆ สัญญาครับว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว”


สำหรับภาคีแล้ว น้ำตาของคนที่เขารักไหลมากเท่าไหร่ น้ำตาในหัวใจของเขามันไหลมากกว่าอีกไม่รู้กี่พันเท่า ไม่อยากเห็นน้ำตาที่อาบเปื้อนอยู่เต็มหน้า พอๆ กับไม่อยากสูญเสียสีฟ้าไปให้ใคร เขาอยากมั่นใจว่าสีฟ้ารักเขาและเขาแน่ใจมันแล้ว


การกระทำของสีฟ้าที่เขาสัมผัสคือรัก หากแต่ไม่เคยเอ่ยคำนั้นให้เขาเกี่ยวเกาะเอาไว้เลย

“พอเถอะ...อึก....อย่ายุ่ง...กะ..ฮื่อ...อึก...กับฉันอีกเลย ขอร้องล่ะ ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม ขอให้เรื่องระหว่างเรามันจบเสียที”    ฝืนพูดสิ่งที่ต้องทำให้ใจต้องเจ็บอีกจนได้ พอแล้ว มันมากเกินไป

ยิ่งรัก ยิ่งเจ็บ

เลิกรัก อาจจะเจ็บ แต่คงไม่เรื้อรัง

“ทำไมครับ ทำไมเรื่องระหว่างเราถึงต้องจบ” สุ้มเสียงทุ้มเอ่ยถาม ก่อนเอ่ยบอก “ผมรักคุณลม เรารักกันนะครับ”  ถ้อยความของใจส่งผ่านกลุ่มเรือนผมนุ่ม ให้ไปกระซิบบอกกับหัวใจที่คล้ายจะแข็งหากแต่อ่อนแอของคนในอ้อมกอด ที่พอได้ยินคำพูดของเขา ก็เอาแต่ส่ายหน้าไปมา ราวกับไม่อยากยอมรับความจริงที่เต็มอยู่ในหัวใจ

“ฉันเหนื่อย ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอร้อง อย่ารักฉันเลย”

แม้ความรักที่ได้รับจากอีกฝ่ายจะแทรกซึมผ่านการรับรู้เข้าสู่ห้วงความรู้สึก แต่สีฟ้าไม่อยากรับรู้และรับมันเอาไว้เลย...

เขาไม่อยากผิดสัญญา ไม่อยากผิดสัญญาที่ให้น้ำเพชรเอาไว้

“กลับกันเถอะนะครับ นะครับคุณลม” เขาไม่ได้ใส่ใจกับคำอ้อนวอนใดๆ  ภาคีประคองคนดื้อไปยังรถของเขา  สีฟ้าไม่ได้ขัดขืน ยอมก้าวเท้าตาม
อยากรักษาสัญญา แต่เขาก็ยังอยากรักษาใจตัวเองเหมือนกัน

ความคิดมันสับสน แต่มันน้อยกว่าความสับสนในหัวใจ....


เมื่อพาร่างบางที่สะอื้นไห้จนตัวโยนทิ้งกายลงนั่งบนเบาะข้างคนขับได้แล้ว ภาคีก็จัดการคาดเข็มขัดให้เสร็จสรรพ แล้วจรดสัมผัสของปากหยักไว้กับผิวแก้มนวลเบาๆ แต่นิ่งนาน ก่อนจะพาตัวเองกลับมานั่งตรงเบาะฝั่งคนขับ พารถคันเก่งของเขามุ่งสู่ถนนสายหลัก

รถที่แล่นผ่านไปในแต่ละช่วงของท้องถนน บางครั้งก็จอดนิ่งติดไฟแดง บางครั้งก็แล่นไปได้อย่างรวดเร็วและช้าบ้างในบางที   แต่นั่นไม่อาจทำให้เจ้าของรถจับจ้องเพียงแค่ท้องถนนเบื้องหน้าเพียงอย่างเดียว สายตาคู่คมหวานแฝงแววเศร้าปะปนกับความรู้สึกผิด   ยังคงละสายตาจากท้องถนนมายังร่างบางที่นั่งตะแคงหันแผ่นหลังที่ยังคงสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นไห้ เสียงร้องไห้เบาๆ ยังคงดังแทรกผ่านความเงียบที่ใกล้แค่มือเอื้อม ดังให้ได้ยินเป็นระยะ จนนึกอยากจะดึงร่างนั้นเข้ามากอดและปลอบให้ร่องรอยนั้นจางหายไป   แต่ติดที่ต้องพาตัวเขาและอีกคนกลับไปที่คอนโด สถานทีที่อาจจะทำให้อะไรๆ มันดีขึ้น

คนร่างบางที่นั่งหันหลังให้กับคนขับ ยามนี้หน่วยตาคู่สวยช้ำแดงอย่างหนัก   น้ำตาก็ยังคงไหลไม่ขาดสาย ไม่แตกต่างกับจมูกสวยที่แดงจนรู้สึกถึงความปวดแสบ
 ปากอิ่มสั่นเพราะฝืนกลั้นแรงสะอื้น กัดเม้มเป็นเส้นตรง สองมือเรียวโอบรอบตัวเองคล้ายเพิ่มความเข้มแข็งให้หัวใจ ความคิดยังสบสนเช่นเคย

สีฟ้าเหนื่อย....เหนื่อยกับความรักที่จำต้องฝืนใจผลักไส้ให้ไกลห่างหัวใจ หากมันก็ย้อนกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า อย่าไม่เคยคิดที่จะเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างไร
 กลายเป็นคนผลักไสที่เหนื่อยอ่อน ล้าจนไม่อยากจะผลักไส้มันไปอีกต่อไป

ต่อให้วิ่งอ้อมโลก ก็คงหนีไม่พ้น...


...................................................................................................


หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 22-04-2011 18:03:08
เฮ้ยตินทำไมทำแบบเน้อ่า
เข้าใจอารมณ์คนเราที่อยากจะแสดงความเป็นเจ้าของแต่มันเยอะเกิน
เมื่อไหร่จะกลับมารักกันสะทีเบื่อที่ลมวิ่งหนีใจตัวเอง
เบื่ออินางแพท  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 22-04-2011 18:05:04
สงสัยตอนจูบปากกันเนี้ยก้อนหินได้ร่วงหล่นมาบ้างหรือเปล่า


จากปากของคนทั้งคู่ ดูๆไปน่าสมเพชว่ะ รักกันแต่ทำตัวและท่าทางทุเรศกันทั้งคู่


คนนึงประชดอีกคนประจานต่อหน้าคนอื่น  ถามันลำบากนักก็เลิกกันเหอะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 22-04-2011 18:12:50
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

จะดีกันวันไหนเนี้ย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 22-04-2011 18:24:36
ตอนนี้ติณคงต้องค่อยๆปลอบและ คงต้องให้แพทมาช่วยไกล่เกลี่ยอีกแรงแล้วละมั้งเนี่ย ..ลมถึงจะเข้าใจ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 22-04-2011 18:25:27
ขอบคุณคนโพสต์คนแต่ง :L2:
เหนื่อยแทนทั้งคู่ สีฟ้าภาคี
เมื่อไรจะเข้าใจตรงกันซักที :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 22-04-2011 18:27:51
ปลง!
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 22-04-2011 18:28:55
อ่านเรื่องนี้แล้วเหนื่อยใจ  :m16: :m31:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 22-04-2011 18:36:40
สีฟ้าอย่าผลักไสความรักอีกเลย
เหนือยมากแล้วสงสารตัวเอง สงสารตินบ้าง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 22-04-2011 19:19:14
 :z3: :z3: :z3:

แต่ละคน....


 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 22-04-2011 20:13:59
สงสารลม ตินพูดแบบนี้เหมือนประจานกันเลย
ก็คนมันรักบางทีทำอะไรไปก็เหมือนไร้เหตุผล
อยากถามลมว่า เหนื่อยไหมสิ่งที่เธอทำอยู่
เพราะเรารู้สึกว่าเราเหนื่อยแทน  :laugh:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Bamboo ที่ 22-04-2011 20:18:54
อ่านแล้วเพลียจิงๆ เซ็งนายเอกแบบนี้  :m16:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 22-04-2011 20:29:18
โฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :sad4:


ดีกันเร็วๆๆ เน้อ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 22-04-2011 20:34:46
ตินแรงจริงๆ อ่า สงสารลมนะ >.< แล้วยัยแพทจะเลืกราวีรึยังก็ไม่รู้

บวกให้ค่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 22-04-2011 20:47:10
เหนื่อยนักก็เลิกสิยะแก จะทำเพื่อ????
หัวข้อ: Re: ...รักล้นใจ...(อัพครั้งที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 22-04-2011 21:08:15
อะไรกันเนี้ย ไม่เข้าใจเลย ลม
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 22-04-2011 21:35:52
เออ คือตินก็ทำแรงไปนะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 22-04-2011 22:07:34
วางแผนทีมใหญ่ขนาดนี้ดีกันเร็วๆๆนะคะ
ลุ้นจะแย่แล้วในแต่ละตอน^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 22-04-2011 22:25:12
ปวดใจจริงๆ :เฮ้อ: :เฮ้อ:
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 22-04-2011 22:57:24
เฮ่ออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 22-04-2011 23:13:20
ดีกันแล้วใช่ไหม สงสารสีฟ้า ที่จริงคนผิดมันมีคนเดียวนะ

แต่คนแก้ไข ก็ใช้วิธีรุนแรงเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 22-04-2011 23:16:52
หวังว่าหลังจากนี้อะไรมันจะชัดเจนขึ้นซักที :เฮ้อ:

 :pig4: คะ

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 22-04-2011 23:26:04
เพลียใจจริงๆ อีกคนวิ่งตาม อีกคนวิ่งหนี แล้วเมื่อไหร่จะได้รักกันจริงๆ ล่ะ ถ้ามันเหนื่อยนักก็หยุดีกว่ามั้ย เหนื่อยแทนจริงๆ ลมทำไมดื้อแบบนี้อ่า เฮ้อออ รอตอนต่อไป จะดีกันรึยังน้อ ?
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jellyfish ที่ 22-04-2011 23:57:48
เห็นทีว่าแผนนี้จะไม่ได้ผลสักเท่าไหร่หล่ะมั้ง
เปลี่ยนแผนเหอะติณ ไม่งั้นจะแย่เอานะ

ส่วนคุณลม รักมาก ก็แสดงออกเลยอย่าไปสน เพื่อนแบบแพทเลย นะ

เฮ้ออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 23-04-2011 00:23:14
โถ่  ลมมม
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 23-04-2011 03:44:12
ขอทำโพลส่วนตัวหน่อยนะคะ

น่าหมั่นไส้ที่สุด - แพท (บังคับให้คนแตกกันอย่างกะเค้าจะมารักตัวเอง)
น่ารำคาญที่สุด - ลม (ซึนเดเระ ปากไม่ตรงกับใจ ชอบทำชีวิตให้มันเป็นเรื่องยาก)
                   หวาน (สอดสาระแนแม่ยิ้มมาก เหมือนชอบเอาความรู้สึกคนอื่นมาล้อเล่น)
น่าสงสารที่สุด - หมอพิษณุ (พระรองแสนดีตลอดศก)

อินหรอกนะคะ ถึงทำโพล รออ่านต่อค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 23-04-2011 09:31:08
ก่อนเคลียร์กับลม ไปคุยกับยายแพทให้รู้เรื่องก่อนเลย

ปัญหาได้จบๆไปที
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 23-04-2011 14:16:01
ไปให้คนอื่นคิดแผนเห้อะ ปล่อยให้คณิต อชิตะ ณัชชาคิดทีไร มันเหลวทุกที
แต่นะ  รักกันทำไมต้องมีแผน  ลมเนี่ยนะ  ขัดใจทุกทีสิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 23-04-2011 14:44:04
ขอทำโพลส่วนตัวหน่อยนะคะ

น่าหมั่นไส้ที่สุด - แพท (บังคับให้คนแตกกันอย่างกะเค้าจะมารักตัวเอง)
น่ารำคาญที่สุด - ลม (ซึนเดเระ ปากไม่ตรงกับใจ ชอบทำชีวิตให้มันเป็นเรื่องยาก)
                   หวาน (สอดสาระแนแม่ยิ้มมาก เหมือนชอบเอาความรู้สึกคนอื่นมาล้อเล่น)
น่าสงสารที่สุด - หมอพิษณุ (พระรองแสนดีตลอดศก)

อินหรอกนะคะ ถึงทำโพล รออ่านต่อค่ะ  :pig4:


ยกมือให้พี่หมอคร้าาาา ^^'
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 23-04-2011 17:49:12
ขอทำโพลส่วนตัวหน่อยนะคะ

น่าหมั่นไส้ที่สุด - แพท (บังคับให้คนแตกกันอย่างกะเค้าจะมารักตัวเอง)
น่ารำคาญที่สุด - ลม (ซึนเดเระ ปากไม่ตรงกับใจ ชอบทำชีวิตให้มันเป็นเรื่องยาก)
                   หวาน (สอดสาระแนแม่ยิ้มมาก เหมือนชอบเอาความรู้สึกคนอื่นมาล้อเล่น)
น่าสงสารที่สุด - หมอพิษณุ (พระรองแสนดีตลอดศก)

อินหรอกนะคะ ถึงทำโพล รออ่านต่อค่ะ  :pig4:


ยกมือให้พี่หมอคร้าาาา ^^'

คนแต่งยกมือโหวตพี่หมอ งั้นเราฐานะคนโพส ขอยกมือให้
แก่






พระเอก ตลอดกาล ยอดชายนายภาคี   หุหุ  แต่มันไม่มีนี่หว่า คุณ silverspoon  ทำโพลเพิ่มมั้ยค่ะ จาโหวตคนเน้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tutu ที่ 23-04-2011 17:56:46
มาอ่านด้วยคน...สนุกมากกก.......เศร้าปวดตับ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Frog ที่ 23-04-2011 19:06:01
ปวดตับ เมื่อไหร่จะเข้าใจกัน สวีวี่วี ซะที

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก

รอตอนใหม่นะคะ มั๊วะๆ พี่เอ๋&พี่แอ๋ว :pig4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 23-04-2011 19:28:42
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 23-04-2011 21:23:16
เบื่อลมว่ะ ยอมรับใจตัวเองเสียทีจะหนีใจตัวเองไปทำไม

ปล.เบื่อนังแพท(ศยา)
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 24-04-2011 16:34:35
ก่อนอื่นเลยก้อต้องมารายงานตัวเป็นนักอ่านหน้าใหม่ของ เรื่องนี้

อยากจะบอกว่า  รำคาญ และ เกียจ อีนังชะนี แพทมากมาย

คนมันไม่รัก ต่อให้ไปติดเกราะร้าง ลูดต้นมะพร้าว อยู่ ด้วยกัน ให้ตายมันก้อไม่ไม่รัก และ ไม่มีทางที่จะรัก หรอกนะ อีชะนีแพท!!!

จำใส่กะโหลก หนาๆๆของหล่อนไว เพราะผู้หญิงมันเป็นแบบนี้ไง ผู้ชายเค้าถึงได้หันมาอนุรักษ์ป่ากันไง (ขอโทษด้วยครับ ถ้าเผลอใช้คำไม่สุภาพพอ

ดีว่าอินจัดเลย)   นี้หรอเพื่อนรักเค้าำทำกัน เพื่อน!!! เค้าทำกันแบบนี้หรอ  ดีแล้วแหละที่ตินไม่เลือกรักอีนี้  เพราะว่ายังไง รักของแพท

ก้อเป็นรักที่เห็นแก่ตัวสุดๆๆๆ  แต่ก่อนเเปลกใจมากๆๆเลยนะว่าทำไม กระเทย หรือไม่พวกตุ๊ด ชอบเรียกว่าชะนี

พออ่านก้อรู้ซึ้งเลยว่าทำไม ถึงเรียกว่าชะนี  
(ขอโทษนะครับ ถ้าหากแสงความคิดเห็นรุนแรงเกิน เพราะตอนนี้อินมากๆๆ เลยอดใจไม่ไหว)



รำคำคาญ และ หน่าย อันดับต่อมา คือ หวาน   รำคาญมากๆๆนะ สอดสาระแนนได้ทุกเรื่อง  ได้ทุกเวลาจริงๆๆ

 เหมือนชอบเอาความรู้สึกของเพื่อนตัวเองมาล้อเล่น  


รำคาญ อันดับลงมาก้อคือ ลม หรือ สีฟ้า  ปากแข็งสุดๆๆๆ ซึนโครตๆๆๆ ขออนุญาต วิจารณ์ นายเอกของเรื่องนี้หน่อยนะครับ

เป็นนายเอกที่งี่เงาที่สุดเลยเท่าที่อ่านมา    เสียสละ ให้เพื่อนแบบว่าไม่มีหัวคิดเอามากๆๆ   ทำตัวเป็นนางเอก ช่อง 7 สี

อยากจะบอกสักนิดหนึ่ง ว่า "นายเอก " นะครับ ไม่ใช่ "นางเอก"   เพราะว่าถ้าเป็นแบบนี้ มันจะเป็นนางเอกจนเกินไป ให้ความรู้สึกว่ากำลัง

อ่าน ชาย รัก หญิง  (เพราะนางเอกเกิน)  ไม่ใช่ ชาย รัก ชาย   จอมเสียสละเกินไป ปากแข็งเกินไป ทำอะไีระมักตรงข้ามกับสิ่งที่ใจคิดตลอด  ชอบคิดเออ เอง อยู่คน

เดียว  ถ้าเป็นแบบนี้มากๆๆ บางครั้ง มันก้อทำเอาหน่ายได้นะครับ  ไม่เหมือนกับนายเอกตอนเริ่มเรื่องเลย ทั้งร้าย ทั้งแรง สะใจมากๆๆ แต่พอมาเป็นแบบนี้

ยังกับไม่ใช่นายเอกคนเดียวกัน
  (ต้องขอโทษเป็นอย่างมาก ที่ใช้คำไม่สุภาพและไม่เหมาสมในการแสดงความคิด

เห็น  แต่ก้อไม่ใช่เพราะอะไร เพราะอินเกินไปนั้นเอง 555  ต้องขอโทษเจ้าของเรื่องเป็นอย่างมากนะครับ พึ่งจะมาเป็นนักอ่านหน้าใหม่ในเรื่อง

นี้แท้ๆๆๆ อย่าโกรธเค้าน๊าาา เค้าแค่ิอินเกินไป )




และสุดท้ายนี้่ขอบอกว่า ชอบเรื่องนี้มากๆๆ โดนใจสุดๆๆ

เรื่องนี้แหละที่ตามหามานานแสนนาน :กอด1: :กอด1:

ชอบพระเอกของเรื่องนี้มากๆๆ นายภาคีนายเป็นยอดชายสุดๆๆๆ :impress2: :impress2:

ชอบเรื่องนี้มากๆๆ และจะเป็นกำลังใจให้นะครับ ไรเตอร์ สู้ๆๆๆ :ped149: :ped149: :ped149:


มารอตอนต่อไปนะครับ

ไวๆๆนะเค้าอยากอ่านจะตายอยู่แว้วววว





หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 23 เรายังรักกันไม่ใช่เหรอ [22/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 24-04-2011 17:51:14
ปลง (อีกที) อ่านแล้วต้องปลงกะอารมณ์+นิสัยตัวละครครับ แล้วก็ปลง..ตอนต่อไปยังไม่มา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 24-04-2011 18:35:25
ตอนที่ 24  ในวันที่ลมจะหยุดพัด...?

“ลมครับ”

เปลือกตาคู่สวยกระพริบเพียงน้อย หากแต่ไม่ยอมเปิดรับรู้สิ่งที่รายล้อมอยู่รอบตัว เมื่อล้อรถแล่นเข้ามาจอดสนิทที่จุดหมายปลายทาง พร้อมเสียงกระซิบข้างใบหูสวยที่ถูกสัมผัสใกล้ชิดจากปากหยักเจ้าของเสียงเรียกนั้น กับปลายจมูกที่ฝังตัวลงแก้มนวลอย่างอดใจไม่ไหว เมื่อใบหน้าหวานนั้นงดงามเกินกว่าจะห้ามให้แตะต้อง

“ตื่นได้แล้วครับ ถึงแล้ว” พร้อมกับคำพูด ภาคีที่เดินมาเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ ชายจัดการปลดล็อคให้กับคนร่างบางที่ผล็อยหลับมาตลอดทาง

คำเรียกที่ทุ้มหวาน สีฟ้าได้ยินชัด พอๆ กับสัมผัสตรงผิวแก้ม แต่แทนที่เจ้าตัวจะตื่นแล้วเอาตาคู่สวยจับจ้องใบหน้าของเขาที่อยู่ใกล้จนจะชิดอยู่แล้ว
 กลับขยับตัวหันหนีไปอีกทาง

สีฟ้าจะรู้ตัวไหมว่า ท่าทางแบบนี้แบบที่ทำอยู่นี้ มันทำเจ้าตัวที่ดูน่ารักอยู่แล้วยิ่งน่ารักเข้าไปอีกเท่าตัว จนอยากจะรั้งตัวมากอดทำโทษซะให้เข็ดที่ร้ายกาจกับหัวใจของเขาเหลือเกิน แต่เขาก็ทนมาได้ทุกครั้ง อย่างนี้เขาเรียกว่าเจ็บแล้วไม่จำหรือเปล่า ไม่หรอก ไม่ใช่เจ็บแล้วไม่จำ หากแต่เป็นเพราะรักมากถึงยอมที่จะเจ็บ เพื่อรักษาความรักเอาไว้ไม่ให้หลุดลอยจากไปไกลจากหัวใจ

ถ้าสีฟ้าพยายามจะทิ้งรักของเขาไปได้ทุกนาที เขาก็จะเป็นฝ่ายที่เฝ้าประเคนรักให้สีฟ้าทุกนาทีเหมือนกัน

“ถึงแล้ว ขึ้นไปข้างบนกันเถอะครับ” ว่าแล้วมือก็เอื้อมไปรั้งต้นแขนให้พลิกกลับมาทางเขา แต่สีฟ้าก็ฝืนเอาไว้สุดกำลัง

“จะกลับบ้าน” เจ้าตัวบอกเสียงห้วน ที่ฟังยังไงๆ ในความรู้สึกของคนฟัง กลับรู้สึกว่ามันเพราะจับใจ ค่าที่มันบอกให้คนฟังรู้ว่าคนพูดเริ่มจะเย็นลงบ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นประโยคที่พูดจะต้องเฉยชาจนใจเขาเจ็บมากกว่านี้

สีฟ้าก็ยังเป็นสีฟ้าเหมือนเดิม ต่อให้ดื้อ ปากร้าย ใจแข็งแค่ไหน แต่ในสิ่งที่สีฟ้าเป็น ยามเมื่อความรักมันเดินหน้าแซงความรู้สึกอื่นๆ ที่เพียรสร้างขึ้นมา สีฟ้าก็เหมือนจะหลงลืมความรู้สึกพวกนั้นไปเสีย ปล่อยให้ความรักมันโลดแล่นอย่างใจอยาก ไม่คิดกักเก็บและไม่คิดปิดบัง โดยเฉพาะเวลาที่มีเพียงแค่สองคนอยู่ด้วยกัน ปราศจากใครต่อใคร

ตอนนี้สีฟ้าเริ่มอ่อนอีกครั้ง ภาคีรู้ดี และจะใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์ต่อเขามากที่สุด

“กลับก็กลับครับ”

คำตอบของภาคี ทำเอาคนที่ร่ำบอกว่าจะกลับบ้านถึงกับอึ้ง แปลกใจที่อีกฝ่ายยินยอมอย่างง่ายดาย จนไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ เมื่อประตูฝั่งเขาถูกปิดลง พร้อมกับประตูฝั่งคนขับเปิดกว้างในเวลาต่อมา และร่างสูงที่พาตัวเองเข้ามานั่งประจำที่คนขับ

ปากสีสวยที่เคยเม้มแน่นกลับเม้นแน่นหนักกว่าเดิม ใบหน้าสวยสะบัดงอนอย่างมีสาเหตุ เขาโกรธภาคีใช่ไหมที่ทำตามคำบอกของเขา โดยไม่อิดออดหรือร้องขอให้เขาเปลี่ยนคำพูด พาลน้ำตาที่เหือดแห้งมันก็รื้นอยู่ตรงขอบตาช้ำอีกครั้งจนได้

สับสนกับการกระทำของภาคี
 

....ได้กลับบ้านสมใจแล้วไม่ใช่เหรอ จะร้องไห้ทำไมกันล่ะสีฟ้า......

ไม่รู้ทำไมอารมณ์น้อยใจมันแล่นลิ่วเร็วอย่างนี้ ยิ่งน้อยใจมากเท่าไหร่ น้ำตามันก็จะมาคลออยู่ตางเบ้าตามากเท่านั้น   สีฟ้าขยับไปชิดประตูรถแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกันอยู่แล้ว

ภาคีมองท่าทางนั้นด้วยความรู้สึกรักที่มากล้น  เอื้อมมือไปดึงร่างบางให้กลับมานั่งเป็นปกติ แต่ก็ถูกปัดมือออกอย่างรวดเร็ว แถมยังทำเสียงขู่ตามมาอีก

“ทำไมไม่ไปสักทีล่ะ ฉันอยากกลับบ้าน เข้าใจไหม”  เสียงนั้นดังบอกมาจากซอกมุมประตูรถ

“ครับผม กลับก็ได้ โชคดีจังคืนนี้ได้นอนเตียงนุ่มๆ ในห้องคุณลมอีกคืนแล้ว เอาเป็นว่าย้ายไปอยู่ที่บ้านใหญ่เป็นการถาวรดีกว่า เตียงมันนุ๊ม...นุ่ม คนนอนด้วยก็ตัวห๊อม...หอม”  คนพูดทำเสียงยานคางได้น่ารักน่าชัง  จนคนฟังนึกหมั่นไส้หันกลับมาทำเสียงเขียวตาขุ่นใส่  น้ำตาที่คลออยู่ตรงเบ้าตาสวยหายไปไหนหมดก็ไม่รู้

“ใครจะให้นายมาอยู่บ้านฉัน”  สีฟ้าจ้องคนหน้าเอาเรื่อง อารมณ์ความน้อยใจเมื่อครู่ก็กลับถูกอารมณ์ขุ่นๆ เข้ามาแทนที่ น้ำตามันก็เหมือนจะหยุดไม่ทันรู้ตัว

“ขี้ลืมจริงๆ นะครับ ผมเป็นลูกเขยของบ้านอย่างสมบูรณ์แล้วนะครับ แล้วทำไมผมจะอยู่ไม่ได้”

“ฉันไม่ให้นายไป”  สีฟ้าตวัดแหวตามแรงอารมณ์ที่โดนยั่ว น้ำตามันแห้งหาย เหลือแค่ความขุ่นมัวในหน่วยตาคู่สวย

“ผมจะไป” ภาคีบอกยิ้มๆ

“แต่  ฉัน  ไม่  ให้  ไป ” สีฟ้าเน้นทีละคำ ตาเรียวจ้องเขม่ง

“ผมไม่สน คุณลมอยู่ไหน ผมก็อยู่นั้น เลือกเอานะครับว่าจะนอนที่คอนโดหรือที่บ้าน  ผมให้สิทธิ์คุณลมเลือก กลับบ้านก็ได้นะครับ ห้องคุณลมสบายกว่าห้องที่คอนโดผมตั้งเยอะ  ผมจะทนเอาหน้ารับหมัดพี่ฟืนสักทีสองที โทษฐานที่ทำให้น้องชายของพี่ฟืนร้องไห้  แลกกับการได้นอนเตียงเดียวกับคุณลม ถือว่ายังคุ้มอยู่ครับ”

ถ้าอีกฝ่ายเลือกใช้เสียงสูงเข้าฟาดฟัน ภาคีเองก็เลือกใช้รอยยิ้มเข้าสู้ แล้วภาคีก็ชนะเพราะพอเขาพูดจบสีฟ้าก็ลงจากรถ ก่อนจะก้าวฉับๆ เข้าไปในตัวคอนโด


.................................................................................


กว่าจะวิ่งตามคนเจ้าน้ำตาที่ก้าวฉับๆ เดินหนีเขาไปก่อน แล้วก็ยังหายลับเข้าไปในลิฟท์โดยไม่คิดจะรอเขาเลย  กว่าจะตามได้ทันก็ทำเอาภาคีเหนื่อย พอมาถึงหน้าอีกฝ่ายก็ยืนกอดอกรออยู่ก่อนแล้ว

“เดี๋ยวผมให้คีย์การ์ดคุณลมอีกชุดนะ”  ภาคีบอก เมื่อเขาเปิดประตูห้องในคอนโดหรู ต้อนรับสีฟ้าอีกครั้ง 

“ไม่ต้อง ฉันไม่ต้องการ” คนร่างบางบอกเสียงห้วน เดินผ่านคนตัวสูงเข้าไปข้างใน ขามันพาเดินผ่านส่วนของมุมนั่งเล่น  มุมครัว  ผ่านประตูเลื่อนเข้าไปยังห้องนอน
 ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งปลายเตียงกว้าง ตาสวยจ้องมองเจ้าของห้องที่เดินตามเข้ามา

“รู้งานจังนะครับ” ภาคีแค่จะเอ่ยล้อให้อีกฝ่ายเขิน หารู้ไม่ว่าคำพูดของตัวเองไปกระตุ้นต่อมน้ำตาของสีฟ้าให้ทำงานอีกครั้ง หลังจากที่มันอุตส่าห์กลืนหายไปแล้วแท้ๆ

มันน้อยใจ.....น้ำตาจึงไหล

เหมือนมีค่าแค่เรื่องบนเตียง...มันก็ยิ่งเจ็บ

“แค่นี้ใช่ไหมที่นายต้องการจากฉัน  งั้นก็เอาเลย อยากได้อะไรจากฉันก็เอาไปเลย จะได้ปล่อยๆ ฉันไปสักที”  น้ำเสียงที่ตะโกนบอกเจือไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายปะปนกัน  ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความโมโห ความน้อยใจ มันโถมเข้ามาราวกับไม่จบสิ้น

“ไม่เอานะครับคุณลม ผมขอโทษ ขอโทษจริงๆ “ ภาคีทรุดนั่งข้างคนเจ้าน้ำตา สองมือก็โอบกอดร่างบางเอาไว้แน่น  กดเรือนผมสวยให้แนบชิดกับแผ่นอกกว้าง น้ำตาเม็ดเล็กๆ ซึมผ่านเนื้อผ้าอีกครั้ง

“จะกอดฉันไว้ทำไม ทำไมไม่ทำมันไปเลยล่ะ นายจะมีเรื่องไปบอกคนอื่นๆ ไง   สนุกนักใช่ไหม สนุกที่ทำให้ฉันอาย ทำให้ฉันแพ้”  ความน้อยใจมันแล่นลิ่วแซงทุกอารมณ์ความรู้สึกอีกครั้ง แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่   หัวจิตหัวใจของคนร่างบางมันย้อนกลับไปที่เหตุการณ์เดิม ยามที่ถูกทำร้ายด้วยคำพูดพวกนั้นของคนที่กอดเขาอยู่

ภาคีรับรู้ถึงแรงสะอื้นที่อกของเขาได้ชัดเจน  ราวกับว่าเขาคือคนที่ร่ำเสียงร้องนั้นออกมาเสียเอง มันทำเอาหัวใจชาวาบ เขาทำให้คนที่เขารักมากที่สุดร้องไห้อีกแล้ว

“ตินขอโทษ  ยกโทษให้ตินนะ นะครับคนดี  นะครับลม”  ภาคีจับไหล่หวั่นสะท้าน ดึงใบหน้าสวยเปื้อนน้ำตาให้หันมาหาเขา  หลังจากใบหน้านั้นพยายามหันหนี ก่อนที่ปากหยักจะลามไล้เกลี่ยซับน้ำตาจากแก้มนวลด้วยความรู้สึกแสนรัก หากแต่ว่าสีฟ้ากลับสะอื้นหนักกว่าเดิม 

“พอเถอะ อย่าทำอย่างนี้อีกเลย”  หน้าหวานเบี่ยงหลบปากหยัก

“ตินรักลมนะครับ ลมมีความหมายมากกว่าลมหายใจของตินอีกรู้ไหม  ตินอยากให้ลมเข้าใจ ช่วยเข้าใจตินหน่อยนะครับคนดี ที่ทำไปเพราะรัก  ไม่อยากเสียลมไป 
ตินขาดลมไม่ได้  เห็นใจตินนะครับ  อย่าบอกให้ตินเลิกรักลม  อย่าบอกว่าเราสองคนไม่ควรรักกัน  ตินรักลม เรารักกัน ตินไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว นะครับคนดีของติน
 ให้ตินได้รักลม ให้เราได้รักกันนะครับ”

ถ้อยคำมากมายที่พร่ำบอก ถูกกลั่นกรองมาจากความรู้สึกข้างใน ออกปากหยักสู่ริมฝีปากนิ่ม คำพูดเพียงแผ่วเบากลับกึกก้องอยู่ในหัวใจคนฟัง ยิ่งเพิ่มแรงสะอื้น กระตุ้นน้ำตาให้ไหลยาว   หากต่างกันตรงที่ว่ารอยสะอื้นในครั้งนี้มันมาจากความรู้สึกตื้นตัน อบอุ่นด้วยความรู้สึกอ่อนหวานที่ถ่ายทอดให้มา

สีฟ้าไม่อยากใจแข็ง.....ไม่อยากใจแข็งอีกแล้ว

“ยกโทษให้ตินได้ไหมครับ” ภาคีทวงถามคำให้อภัย ตาคมหวานจับจ้องเรียวหน้าสวยเปื้อนน้ำตาด้วยความรักที่เอ่อล้น  แม้จะพร่ำพูดและพร่ำกระซิบบอกว่ารักมากแค่ไหน หากมันก็คล้ายจะกลั่นออกมาได้ไม่เท่าเสี้ยวหนึ่งที่ใจมีให้
 

ภาคีมองหน่วยตาสวยที่จ้องตอบเขากลับมา สีฟ้าไม่หลบตา ไม่สะบัดหน้าหนี ตาคู่สวยแวววับด้วยน้ำตาที่ไหลริน แล้วมือเล็กๆ นั้นปาดมันทิ้ง   น้ำใสจึงเหลืออยู่เพียงในหน่อยตา ก่อนที่เรียวแขนจะกอดเขาไว้แน่น วางหน้าสวยไว้ที่ไหล่เขา พร้อมกับคำพูดที่ทำเขายิ้มได้กว้างที่สุด

“ยกโทษให้แล้ว”

คำพูดจากปากสีสวย แม้จะเบาเหลือใจ และคล้ายกับว่าลอยมาจากทิศทางที่แสนไกล แต่มันก็ดังกึกก้องอยู่ในหัวใจที่รับรู้

“ขอบคุณที่ให้อภัยนะครับ ต่อไปนี้ตินจะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว  ตินสัญญา ตินรักลมนะครับ รักมาก ที่ทำไปก็เพราะรัก รักลม รักลมเท่านั้นจริงๆ”  และเขาก็ย้ำคำรักให้อีกฝ่ายฟังอีกหลายครั้ง ราวกับกลัวว่าคำรักจะหล่นหาย  กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ยินมัน พร้อมกับคำพูดที่พร่ำบอก ภาคีรู้สึกถึงแรงโอบรัดที่มากขึ้น มันเป็นเหมือนคำรับรู้ที่อีกฝ่ายมอบให้เขา

“รู้แล้ว”  เสียงของสีฟ้าบอกเบา หากภาคีก็ได้ยินชัดเจน

“รู้อะไรครับ”  เขาย้อนถาม ไม่ได้แกล้ง แค่อยากให้สีฟ้าพูดให้ยาวกว่านี้ พูดให้เขารู้ซึ้งไปถึงหัวใจที่เคยเหงามาตลอด เผื่อมันจะเยียวยารักษาความช้ำชอกอันเก่าเก็บในหัวใจของเขาได้

“ว่าไงครับ รู้อะไร ไม่บอก แล้วตินจะรู้หรือครับ ว่าลมรู้อะไร?”  ว่าแล้วก็ดึงคนที่กอดเขาไว้แน่นให้ออกห่าง หน้าหวานนั้นก้มต่ำหนีคำถามของเขา  แต่ไม่วายที่ภาคีจะช้อนคางมนขึ้นมาให้สบตากัน

“ว่าไงครับ?”

เมื่อครู่หัวใจของสีฟ้ายังเอ่อล้นไปด้วยคำรักจากปากหยักที่ถ่ายทอดออกมาให้รับรู้ แต่ตอนนี้หัวใจของสีฟ้ากลับหมั่นไส้ตาคมหวานที่วิบวับราวกับจะแกล้งเขา

“ว่าไงครับ?” ภาคีถามซ้ำ เหมือนแผ่นเสียงที่ตกร่อง มือใหญ่เลื่อนต่ำ คว้าเอวกิ่วก่อนจะยกร่างแสนเบานั้นมาอยู่บนตัก แนบใกล้แต่ยังคงสบสายตากันได้ กำปั้นเล็กทุบลงบนไหล่เขา ไม่แรงหากก็หลายที คงทำโทษเขาที่ชอบแกล้ง

“ว่าไงครับ?” เอาสิ ถ้าสีฟ้ายังไม่ตอบ ยังนั่งนิ่ง ยังมองสบตากับเขา โดยที่ไม่ยอมตอบคำถามของเขา เขาก็จะถามมันซ้ำอยู่อย่างนี้แหละ ดูว่าความอดทนของใครจะหมดก่อนกัน แต่ที่แน่ๆ เขาอดทนกว่าสีฟ้าเยอะ   ไม่งั้นจะทนสิ่งที่สีฟ้าทำกับเขามาจนถึงทุกวันนี้ได้เหรอ

“ว่าไงครับ?”

“ติน”  สีฟ้าทำเสียงเข้มเรียกชื่อ

“ครับ” เจ้าของชื่อขานรักเสียงใส หน้าหล่อยิ้มแป้น

“แกล้งกันใช่ไหม?” สีฟ้าเปลี่ยนจากฝ่ายถูกถาม เป็นคนที่ถามซะเอง ตาเรียวจ้องเอาเรื่อง

“เปล่า.....แต่ลมไม่ยอมตอบตินนี่ครับ  ตินก็เลยต้องถามซ้ำ ว่าไงครับ ตอบตินมาสิครับ ว่าที่บอกว่ารู้แล้ว  รู้น่ะ  รู้อะไรครับ  ตินไม่อยากเดา
 กลัวเดาผิดเหมือนหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา”  คำพูดท้ายๆ สุ้มเสียงที่บอกเศร้าสร้อย จนคนฟังหน้าหวอ ไม่ทันกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของภาคี

“ติน”  สีฟ้าเรียกชื่อนั้นแผ่วเบา ต่างจากเมื่อครู่ เจ้าของชื่อก็ขานรับแผ่วเบาไม่ต่างกัน

“ครับ”

“ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งกัน ขอความจริง”  ตาเรียวจ้องขอเอาความจริง แขนเรียวคล้องรับกับคอหนา

“ไม่รู้จริงๆ ครับ”  แล้วเรื่องอะไรที่ภาคีจะตอบความจริง ถึงแม้ตาที่เขามองสบด้วยจะข่มขู่เอาความจริงมากแค่ไหนก็ตาม เพราะสีฟ้าไม่เอาจริง เขาก็ไม่จำเป็นต้องตอบความจริง

“ว่าไงครับ ตอบให้ตินมาได้หรือยัง ว่าลมรู้อะไร”  พอเขาถามจบ สีฟ้าก็คลายวงแขนที่โอบลอดคอของเขา พร้อมกับขยับตัวลงจากตักของเขา แต่มือของเขาก็ยังวางอยู่บนเอวบางเหมือนเดิม อยากรั้งให้ใกล้เหมือนเดิม อีกฝ่ายก็ขืนเอาไว้

“แกล้ง” ออกปากว่า แต่ไม่ได้โกรธ มันคงเลยจุดตรงนั้นมาแล้ว ไม่รู้ว่าสีฟ้าเหนื่อยเกินจะโกรธ หรือสุขเกินจะโกรธใดๆ ได้

“แกล้งก็แกล้งครับ แต่ลมช่วยบอกให้ตินชื่นใจหน่อยสิครับ ว่าลมรู้อะไร นะครับ “ เขาอ้อนเสียงหวาน   รั้งร่างสีฟ้าให้เข้ามาใกล้อีกครั้ง ครั้งนี้ร่างนั้นไม่ขัดขืน

“รู้ว่าตินรักลมมาก  พอใจหรือยัง” ปากอิ่มบอก แต่ตาสวยเขินอายเกินกว่าจะมองสบตาด้วย ด้วยการก้มหน้าต่ำ แต่ก็ไม่วายที่จะถูกมือหนาเชยคางให้ขึ้นมามองสบตากัน

“ยังไม่พอใจครับ  เพราะตินไม่ได้บอกแค่ว่ารักลมมาก แต่ตินบอกลมว่าตินรักลมคนเดียว รักลมมาก รักมากกว่ารักลมหายใจของตินเองซะอีก จดไว้ในหัวใจลมด้วยนะครับ ว่าตินรักลมมาก รักลมคนเดียว แล้วจะรักลมไปตลอด” คำรักที่บอกออกมาจากหัวใจ ฟังแล้วเพราะจับดวงใจคนฟัง


“แล้วลมล่ะครับ รักตินบ้างไหม” ที่มาพร้อมกับคำถามคือปลายจมูกกดเข้ากับแก้มชื้นแต่นุ่มและหอมเหมือนเคย

คำถามที่ไม่นึกอยากจะคาดหวังถึงคำตอบที่จะได้  เพราะกี่ครั้งที่เอ่ยถาม กลับไม่เคยได้ยินคำนั้นตอบกลับมาให้หัวใจพองโตเลยสักครั้ง แต่เขาก็ยังอยากจะถามและจะถามมันไปเรื่อยๆ เผื่ออาจจะมีสักครั้งหนึ่งที่สีฟ้าจะใจอ่อน  ยอมเอ่ยคำรักออกมาให้เขาได้ยิน เหมือนที่เขาเฝ้าพร่ำบอกอย่างไม่เคยเหน็ดเหนื่อยให้อีกฝ่ายรับรู้

เพียงแค่คำถามที่ภาคีถามออกไป ร่างบางที่เขาสัมผัสอยู่กลับแข็งเกร็ง  ก่อนใบหน้านั้นจะก้มต่ำ มือทั้งสองประสานเข้าหากันแน่น วางอยู่บนตัก  คนถามนึกโกรธตัวเอง
โกรธที่ถามคำถามที่ทำให้สีฟ้าลำบากใจ ทั้งที่ทุกอย่างกำลังไปได้ดีอยู่แล้วแท้ๆ

แค่นี้....สีฟ้าก็ยอมเขามาพอแล้ว มากจนน่าตกใจด้วยซ้ำ แล้วเขาจะเค้นเอาคำรักไปทำไมกัน แค่การกระทำของสีฟ้า มันก็ทำให้เขาสุขจนล้นแล้ว

แม้ไม่มีคำรักจากปากสีฟ้าให้เขายึดเหนี่ยว แต่การกระทำหวานซึ้งก็พอจะเป็นหลักให้เขาเกาะเกี่ยว ไม่ต้องปลิวตามลมไปแห่งหนใดที่ไม่เคยคาดเดาใดได้

“ไม่ต้องตอบก็ได้ครับ ตินไม่ถามแล้ว อาบน้ำดีกว่านะครับ ลมเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” ภาคีรีบเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากให้สีฟ้าลำบากใจมากไปกว่านี้

ภาคีลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแต่ไม่ลืมคว้ามือเรียวให้ลุกตาม ยิ้มกว้างส่งใบหน้าหวานที่มองเขา ตาแดงช้ำเพราะผ่านการร้องไห้เป็นประกายหวาน ไม่ได้หม่นแสงเหมือนที่เขากลัว ปากอิ่มสีสวยเอ่ยคำที่ภาคีเฝ้าเพียรอยากได้มาตลอด

“รัก”

คำรักถูกบอกเบาๆ ผิวแก้มใสชื้นรอยน้ำตาแดงระเรื่อ  ยามที่เอ่ยคำว่ารักออกมา มันเขินเกินจะบอกกล่าวว่ามันมากมายขนาดไหน รู้เพียงว่าอยากหนีกลับบ้าน อยากหนีไปให้ไกล อยากหนีสายตาวิบวับสมใจของคนฟัง

“ลมรักตินแล้วใช่ไหมครับ” เขาถามทั้งที่ไม่ควรถาม คำรัก มันได้ยินชัดเจน ดังเต็มสองหู ดังเต็มความรู้สึก ดังไปถึงหัวใจที่เคยแตกร้าว เยียวยาให้หายด้วยคำๆ เดียว
คือคำว่า ‘รัก’

สีฟ้าถูกภาคีรั้งให้นั่งลงอีกครั้ง สองมือใหญ่รวบสองมือเรียวไว้มั่น ตาคมสื่อความรู้สึกทั้งรักทั้งหลงเจ้าของมือที่กอบกุม

คำว่า ‘รัก’ ที่ได้ยิน มันคือความจริง ตาสวยที่ภาคีมองสบด้วย มันบอกเช่นนั้น

“ รัก “ คราวนี้คนพูดกระซิบแผ่วเบาที่ข้างแก้มของคนถาม ก่อนวาดวงแขนเรียวโอบต้นคอหนา แนบหน้าผากมนของตัวกับหน้าผากของอีกฝ่าย ปลายจมูกแหลมสัมผัสชิดกับปลายจมูกโด่ง แล้วย้ำบอกอีกครั้ง

“ลมรักติน”

แล้วเขาก็ไม่อาจเก็บคำรักคำนี้ไว้ได้อีกต่อไป เมื่อภาคีต้องการฟัง เขาก็จะบอก ต่อให้วันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงก็จะไม่เสียใจที่พูดมันออกมา

....เหนื่อยแล้ว เหนื่อยที่ต้องเก็บคำว่า ‘รัก’ ไว้กับตัว โดยไม่บอกมันออกไป

....เหนื่อยแล้ว เหนื่อยที่ต้องวิ่งหนี วิ่งหนีหัวใจตัวเองอยู่ทุกนาที

“แล้วรัก....” เขากำลังจะถามว่า แล้วรักมากไหม มากแค่ไหน แต่สีฟ้าก็ปิดปากเขาด้วยปากตัวเอง เขาไม่ได้สอดลิ้นตามหาความหวาน เพราะเชื่อว่ายังมีเวลาอีกเยอะกับเรื่องนี้ แต่เรื่องที่อยากฟังจากปากหวาน มันสำคัญมากกว่า

“รักตินนะ  แต่อย่าถามเลยว่ารักมากแค่ไหน ลมตอบไม่ได้ บอกไม่ได้ว่ารักมากแค่ไหน แค่รู้ว่าไม่อยากอยู่โดยไม่มีติน  ไม่อยากหายใจโดยไม่ได้รักติน  ไม่อยากบังคับใจไม่ให้รักตินอีกแล้ว”

คงไม่มีวินาทีไหนที่ภาคีมีความสุขเท่าวินาทีนี้ที่ได้ยิน  ได้ฟัง  ความรักจากปากของสีฟ้า ชายหนุ่มรวบร่างคนที่ทำให้เขามีความสุขไว้กับอกเขา  มันมากเกินไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่สีฟ้าพูดออกมา มากเกินกว่าที่เขาคิดว่าจะได้ยิน  แค่คำว่ารักก็มากเกินพอแล้ว หากนี่สีฟ้ายังพูดถ้อยคำมากมายที่คงดังกังวาลอยู่ในหัวและหัวใจของเขา อีกนานแสนนาน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่นาที กี่วัน กี่เดือน กี่ปี หรือตลอดทั้งชีวิต ภาคีจะไม่มีวันลืมคำพูดมากมายของสีฟ้าในวันนี้ จะไม่ให้มันตกหลายไปแม้แต่สักคำเดียว

“ขอบคุณครับ ขอบคุณที่รักติน ขอบคุณที่รักกัน เรารักกันแล้วนะครับ อย่าทิ้งตินไปอีกนะ อย่าทิ้งความรักของเราไปนะครับ คนดี” เขาพรมจูบละมุนบนผมนุ่ม ก่อนที่อีกฝ่ายจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มรับกับคำพูดต่างๆ ของเขา

“...........” สีฟ้าไม่ตอบคำขอร้องนั้น เพราะเขาได้ใช้หัวใจตอบมันไปแล้ว คำยืนยันถูกส่งออกมาจากหัวใจ ถ่ายออกไปทางสายตาคู่สวยที่จ้องตอบเจ้าของคำร้องขอ ริมฝีปากอิ่มเลื่อนขึ้นสัมผัสกลีบปากหยัก ไม่ได้สอดแทรก หากเพียงเปิดรับลิ้นชื้นที่ครวญหาความหวานอย่างอ่อนหวาน ไม่เร่งเร้าแต่ก็ชวนให้ตอบสนอง 


“บอกรักตินอีกครั้งได้ไหมครับ” คำถามยังคงมีมาอีกครั้ง หลังจากถอนจูบหวานๆ นั้นออกมา

“รักตินนะ  ลมรักติน”  เสียงหวานบอกตามคำเรียกร้องของอีกฝ่าย สีฟ้ามีความสุขที่ได้พูดมันออกมา ไม่ต่างจากภาคีที่มีความสุขเมื่อได้ยิน

คำรัก....มันอาจไม่เพราะ ถ้าไม่ได้รัก

ต่อให้ได้ยินคำว่ารัก จากปากใครต่อใคร มันก็ไม่มีความหมายหรือทำให้สุขใจได้มากขนาดนี้ เพียงเพราะมันเป็นคำรักจากปากของคนที่เขารัก

“อีกครั้งได้ครับ” ภาคีร้องขอเหมือนไม่เคยพอ จะให้พอได้ไง คำนี้เขาอยากฟังมานานเหลือเกิน เมื่อมันหลุดออกมาจากปากสวยๆ ของสีฟ้าได้ เขาก็อยากจะฟังมันซ้ำๆ ให้นานๆ ให้คุ้มกับที่รอคอยและเฝ้าเพียรถาม

“ลมรักติน”

“อีกครั้งนะครับ” เสียงทุ้มนุ่มหวานออดอ้อนร้องขอ  ทว่าคราวนี้ร่างบางกับขืนตัวเองออกจากอ้อมกอด ใบหน้าหวานยู่จมูกใส่ ไม่ได้เบื่อที่จะพูด แต่มันเขินที่จะพูดซ้ำๆ มากกว่า คงไม่ต้องทำอะไรมันแล้วมั้ง  ถ้าหากภาคียังร้องขอจะฟัง แล้วเขายังคงจะจัดให้ตามที่ขอ

เพราะร้องไห้มาหนัก มันเลยเหนื่อย

เพราะต่อสู้กับความรู้สึกมาเยอะ มันเลยล้า



“เหนื่อยแล้ว... อยากอาบน้ำ”  สีฟ้าบอก พลางลุกออกจากอ้อมแขนที่โอบกอด

“อาบด้วยได้ไหมครับ”

“......................” สีฟ้าไม่ได้ตอบ  ชายหนุ่มเดินตรงไปยังห้องน้ำ พอถึงก็หันกลับมายิ้มหวานให้คนที่นั่งอยู่ที่เดิม  หากสายตายังคงไม่ละวางจากเขา ตาคมหวานที่มองเห็น ดูก็รู้ว่าอยากเดินตามเขามาแค่ไหน แต่คงไม่กล้า

“ลมเหนื่อยนะ  จะไม่เข้ามาอาบน้ำให้ลมเหรอ”  สีฟ้าบอกตัวเองในใจว่า เขาไม่ได้ยั่ว แค่อยากเอาใจภาคีเท่านั้นเอง บางเรื่องบางอย่าง หากไม่หนักหนาเกินกำลัง
 ภาคีอยากได้ สีฟ้าก็พร้อมจะจัดให้  ชดใช้....ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าชดเชยกับเรื่องที่ผ่านๆ มา ที่เขาทำให้ภาคีเจ็บ....

แม้ความจริงนั้น เมื่อไหร่ที่เขาทำภาคีเจ็บ นั่นก็แปลว่าเขาทำตัวเองเจ็บเช่นกัน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 24-04-2011 18:44:17
 :เฮ้อ:กว่าจะได้พูดกัน กว่าจะเข้าใจกัน


ลุ้นกันเยี่ยวเหนียว  รักทรมานเหลือเกินคู่นี้  ทรมานอ่านอ่ะน้องลม
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 24-04-2011 18:45:20
ขอบคุณครับ ขอบคุณมากที่แต่งตอนแบบนี้มา
.
แต่ตราบใดที่ แพท ยังหายใจได้อยู่ ก็ยังไม่สบายใจ เพราะคนตายทำการอันใดมิได้ 555
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 24-04-2011 18:59:07
น่ารักเกิ๊นน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงจนถึวอินฟีนิตี้^^
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 24-04-2011 19:17:13
ซะทีเนอะ รอมานานมากเลย บรรยากาศแบบรักกันเข้าใจกันล้วนๆ
โดยไม่มีอารมณ์อื่นๆ(ทาง-)แทรกในบรรยากาศเนี่ย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 24-04-2011 19:18:38
กว่าจะบอกรักกันได้
ตอนหวานๆๆกำลังจะไล่ตอนดราม่าไปใช่ไหม
หวังว่าคงไม่มีมารมาอีกนะ
บอกรักกันสะสนั่นโลกเลย คิคิคิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 24-04-2011 19:25:03
ลมบอกรักตินแล้วววววววว ยะฮุ้ว!!!
โอ๊ยยย ดีใจแทนตินเลยอะ รอฟังมานานกับคำๆนี้
พอได้ยินแล้วตัวมันจะลอยใช่ไหมล้ะ ฮะฮะฮ่า

อย่าคิดหนีอีกนะลม ถ้าตัวเองคิดหนีคนที่เจ็บก็ไม่ได้มีแต่ตัวเอง ตินก็เจ็บ
หนีไปแล้วมันได้อะไรขึ้นมา อย่าคิดว่าหนีแล้วเรื่องมันจะจบรู้ไหม
ขออย่าให้มาม่าไปมากกว่านี้เลยนะคะ สงสารตินอะ

รออ่านตอนต่อไปจ้าา
+1 จุ๊บๆๆ  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 24-04-2011 19:27:40
 :-[ :-[ :-[

เฮ้อเข้าใจกันซักที

หวังแพทคงจะไม่ทำเรื่องอีกนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 24-04-2011 19:45:07
ลุ้นมากๆๆๆๆๆๆๆๆหวังว่านางชะนีแพทเธอคงจะเข้าใจอะไรได้มากขึ้นสักทีนะจริงๆหล่อนน่าจะปล่อยวางได้นานแล้ว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 24-04-2011 20:17:06
 :m1: ในที่สุด ลมก็บอกรักติน  :m3:
ต่อไปนี้จะไม่มีมาม่าให้ซดแล้วใช่ไหมมมม
กว่าจะเข้าใจลุ้นจนเหนื่อยเลย :monkeysad:
ดีแล้วที่เข้าใจกัน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 24-04-2011 20:19:33
ถึงจะเจ็บจะเสียน้ำตาไปเยอะแต่ก็สุขใจ ที่ได้ฟังคำรัก
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tutu ที่ 24-04-2011 20:52:50
 :z7: :z7: หนีใจตัวเองไม่พ้นทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: ...รักล้นใจ...(อัพครั้งที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 24-04-2011 21:27:33
ชอบจังเลย ลมเหนื่อยตินจะไม่อาบน้ำให้ลมเหร่อ หวานมาก
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 24-04-2011 22:08:33
ลมบอกรักติณแล้ว :impress2: :-[
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jellyfish ที่ 24-04-2011 22:15:39
ในที่สุดดดด ก็ได้พูดคำนี้ ให้คนฟังได้ยินเสียทีนะคุณลม
ขอให้หวานๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบนี้ไปนานๆ

อย่างได้มีเพื่อนรักคุณลมมายื่นข้อเสนอ ทำตัวน่าเตะอีกเลยยยยยยยยยยยยย เพี้ยง!
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 24-04-2011 22:21:41
 :เฮ้อ:

 ใท่สุด.... ลมก็ใจอ่อนซะที หลังจากตัวอ่อนมานาน เง้อ


ขอให้ไม่หวานอมขมกลืน อีกนะคะ  o18
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 24-04-2011 23:47:29
+1 ค่ะ จัดเต็มจริงๆ อ่า กว่าจะพูดได้นะลม ลุ้นแทบแย่ เย้ๆ ดีกันแล้ว นี่ก็ใกล้จบแล้วซิค่ะ ติดเรื่องนี้มากกกกก ลมรักติน วู้ น่ารักจริงๆๆๆ ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Frog ที่ 24-04-2011 23:56:36
แอร๊ยยยยยยย หวานไป หวานไปๆ
อ๊ากกกกกกกก โฮกกกกกกกกกกก


+1 ให้พี่แอ๋วและพี่เอ๋คั้บ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 25-04-2011 00:00:50
แล้วลมจะกลับไปทำเหมือนเดิมอีกรึเปล่า
ถ้าแพททวงสัญญา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 25-04-2011 00:27:28
ขอบคุณค่า..

เฮ้อ..พูดออกมาซะที..

ออ..แล้วอย่าทิ้งตินอีกนะ คุณลม..กลัวใจคุณเธอเสียจริง..
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 25-04-2011 00:28:24
จริงๆแล้วลมเป็นผู้ชายจริงๆอ่ะ???? :m28:
สาวมากกกกกเลยอ่ะลม
แอบรำคาญลมนิดนึง :try2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 25-04-2011 01:09:21
ฟู่ววว...กว่าจะบอกรักเค้าได้นะอิหนูลม คนอ่านก็ลุ้นซะ

รออ่านความหวานหลังจากนี้จ้ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 25-04-2011 08:01:43
ขอบคุณคนแต่งคนโพสต์ :L2:
ลุ้นจนเหนื่อยในที่สุดภาคีก็ได้ฟังคำรักจากปากสีฟ้าซะที
ว่าแต่พอออกจากห้องสี่เหลี่ยมทุกอย่างจะเปลี่ยนอีกมั้ย
อยู่แต่ในห้องเถอะสีฟ้าภาคี :-[
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 25-04-2011 10:02:11
เส้นทางของความรักมาถึงปลายทางแล้ว
และดูท่าปลายทางจะเป็นบ่อน้ำตาลซะด้วย :-[

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 25-04-2011 10:31:10
 o7 o7 o7
ในที่สุด..เฮ้อ..ค่อยโล่งหน่อย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 25-04-2011 13:31:26
 o7

มันจะไม่ขมแล้ว........มั้งเถอะ

 :fcuk:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 25-04-2011 14:09:49
กรี๊ด เค้าดีกันแล้ว เย่ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 25-04-2011 16:43:24
ตอนนี้ดีกันแล้ว แต่ตอนหน้าล่ะจะมีมารผจญอีกหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: rellachulla ที่ 25-04-2011 17:54:32
อ่านเรื่องนี้แล้วเหนื่อยหัวใจค่อดๆ
ลุ้น หงุดหงิด ยิ้ม เขิน จะเหมือนคนบ้า
ถ้ายังไม่เข้าใจกันอีก เค้าจะไปบวชแระนะ เครียดเกิน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 25-04-2011 19:41:58
เอ๊าาาา กลับมาอาบน้ำ ก่อนนนนนนนนนนนนนน


อุ้ยยยยตายว้ายกร๊ีดดดดดดด   ลมรักติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 25-04-2011 20:58:31
 :z2: :z2:

ในที่สุด... :กอด1:


ไม่ใช่ตอนหน้า แพทมาขอคืน แล้วคืนไปอีกล่ะ


 :z3: :z3:

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 25-04-2011 23:11:27
ลมขี้ยั่ว น่ารักเกิ๊น
บวกให้ๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 25-04-2011 23:34:08
ขอให้มีความสุขอย่างนี้ไปนานๆๆๆเถอะ

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 26-04-2011 16:01:25
โอ้ยยยยยย


ยิ้มทั้งน้ำตาอ่ะ  เขินๆๆ

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 24 ในวันที่ลมจะหยุดพัด? [24/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 26-04-2011 16:26:37
เข้ามารอตอนต่อไปนะคะ :impress:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 26-04-2011 19:28:42
ตอนที่ 25 เรารักกัน....จริงๆ




“พี่หมอสุดยอดไปเลยค่ะ ทำได้ไงเนี่ย นี่ขนาดไม่ได้เตี้ยมกันก่อนเลยนะคะ หวานกลัวแผนจะพังแทบแย่เพราะไม่ได้บอกพี่หมอเอาไว้ก่อน “

เสียงใสๆ ของสาวหน้าตาจิ้มลิ้มเอ่ยชม หลังจากที่ภาคีวิ่งตามสีฟ้าออกไป เธอยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างให้กับหมอพิษณุ

“หวานไม่รู้อะไร ตอนเรียนอยู่น่ะ เพื่อนหมอของพี่อิงเป็นถึงพระเอกละครเวทีเชียวน่า กะอิแค่เล่นละครแค่นี้ มันสามารถอยู่แล้ว ใช่ไหมเพื่อน”

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับทุกคน หมอแค่ไหลไปตามน้ำ ไอ้ที่ว่าแผนมันสำเร็จก็เป็นเพราะพวกเราทุกคนนั้นแหละ รับส่งกันดีเหลือเกิน”

ความจริงคือหมอพิษณุตัดใจจากสีฟ้าได้แล้ว พยายามตัดใจได้ตั้งแต่วันที่โทรเข้าไปหาสีฟ้า แล้วเจอภาคีเป็นคนรับสาย แสดงความเป็นเจ้าของ บวกกับคำบอกเล่าต่างๆ ของเพื่อนอชิตะ นั่นก็ทำให้เขารู้ตัวว่าคงไม่มีสิทธิ์หวังใดๆ อีกแล้ว

“แต่ผมก็ขอยกนิ้วให้คุณหมอนะครับ เล่นได้สมจริงมากๆ เล่นซะไอ้ตินมันเกือบฟิวส์ขาดน่ะครับ สุดยอดจริงๆ ครับ”  คณิตก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ยกนิ้วชื่นชมหมอหนุ่ม

“ แต่ทุกคนคะ แล้วคุณลมกับคุณตินจะปรับความเข้าใจกันได้แน่หรือคะ ด้าเห็นคุณลมทำท่าจะร้องไห้ตั้งหลายรอบ คงโกรธคุณตินมากๆ แน่เลย”

เลขาสาวของสีฟ้าพูดแทรกขึ้นมา เธอกลัวแผนไม่สำเร็จ ดูสิ เจ้านายหนุ่มของเธอโดนกดดันจนจะร้องไห้อยู่แล้ว แล้วอย่างนี้เรื่องมันจะลงเอยได้เหรอ เธอไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ แล้วอดที่จะเป็นห่วงความรู้สึกของเจ้านายหนุ่มไม่ได้ เพราะเธอมีส่วนร่วมในแผนนี้ด้วย ถึงไม่ได้เป็นฝ่ายไล่ต้อนให้จนมุม แต่ก็เป็นคนเปิดประเด็น

“ได้สิครับด้า เพื่อนของหนึ่งมันเก่งอยู่แล้วไอ้เรื่องปรับความเข้าใจเนี่ย ขอแค่ให้มันมีเวลาได้อยู่สองต่อสองเท่านั้นแหละ คุณลมหนีไม่รอดมือมันแน่ ด้าวางใจได้ครับ” คณิตออกจะมั่นใจว่าเรื่องนี้จบแบบแฮปปี้แน่นอน คนฟังพลอยสบายใจขึ้นมาได้บ้าง

“หวานว่าพอลมโดนลูกอ้อนเข้าหน่อย คร้านจะอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกคุณด้า หวานขอรับประกันอีกคนหนึ่ง”

“หวาน แพทกลับก่อนนะ แพทขอตัวกลับก่อนนะคะทุกคน” สาวร่างเล็กที่คล้ายจะหลุดออกจากกลุ่มสนทนาเอ่ยบอก มือเล็กหยิบกระเป๋าของตัวเองแล้วลุกขึ้น ยิ้มบางๆ ส่งให้ทุกคน หากสังเกตให้ดีจะเห็นหน่วยตาสวยของเธอคลอด้วยน้ำใสๆ

“อย่าเพิ่งกลับสิแพท อยู่คุยกันก่อน” ณัชชาเตรียมจะรั้งเพื่อนสาวเอาไว้ หากอีกฝ่ายกลับส่ายหน้าปฏิเสธโดยเร็ว

“ไม่ดีกว่าหวาน แพทง่วงแล้วล่ะ”

“แล้วจะกลับยังไงล่ะแพท แพทไม่ได้เอารถไม่ใช่เหรอ งั้นพี่อิง เอากุญแจรถมาให้หวานเลย หวานจะกลับล่ะ” ประโยคหลังเจ้าตัวหันไปพูดกับแฟนหนุ่ม มือเล็กๆ ยื่นแบไปตรงหน้า

“อ้าว...แล้วพี่อิงจะกลับยังไงล่ะ” แม้ปากจะถาม แต่เจ้าตัวกลับล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ล้วงเอากุญแจรถออกมาพร้อมวางบนมือแฟนสาวอย่างว่าง่าย

“กลับกับพี่หมอไงคะพี่อิง พี่หมอคะหวานฝากพาตัวกลับบ้านด้วยนะคะ แต่ห้ามพากันเถลไถลเด็ดขาด” คำที่บอกกับใบหน้าสวยที่จริงจัง มีหรือคนที่กลัวภรรยาในอนาคตจนหัวแทบหดจะกล้าขัดคำสั่ง




.............................................................................................

“ขอบใจแพทมากนะสำหรับเรื่องคืนนี้”

เมื่อพาตัวเองมานั่งตรงเบาะฝั่งคนขับ ณัชชาก็หันมาบอกกับเพื่อนเก่า พอจะรู้บ้างเหมือนกันว่าน้ำเพชรตกอยู่ในห้วงความรู้สึกแบบไหน แม้จะไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของเรื่องระหว่างสีฟ้ากับน้ำเพชรสักเท่าไหร่ แต่จากเรื่องราวบางส่วนที่รู้จากปากน้ำเพชร นั่นก็ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอยู่ไม่น้อยเลย ที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับมิตรภาพของเพื่อนทั้งสอง หากสามารถช่วยเหลืออะไรได้ เธอก็อยากจะช่วยให้มิตรภาพมันกลับมาเป็นเหมือนเดิม

“ไม่ต้องขอบใจเราหรอก เราไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แค่นั่งอยู่เฉยๆ” เสียงที่ตอบกลับมานอกจากจะเบาแล้ว คนฟังยังรับรู้ได้ถึงสุ้มเสียงที่ติดจะสั่นเหมือนจะร้องไห้

“ไม่เป็นไรนะแพท เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเอง เชื่อหวานนะ” ณัชชาเห็นเพียงอาการพยักหน้าน้อยๆ ของน้ำเพชร ก่อนที่อีกฝ่ายจะนั่งเงียบไปตลอดทาง

จนถึงเกือบถึงคอนโดของทั้งคู่นั่นแหละ น้ำเพชรถึงยอมพูดในสิ่งที่เธอคิดมาตลอด แต่ยังไม่กล้าที่จะทำมันสักที เพราะกลัวว่าทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างเธอกับสีฟ้าจะเลวร้ายลงไปกว่าเดิม

“หวาน เราควรทำยังไงดี” แววตาสีหม่นร้องของความช่วยเหลือ อย่างน้อยยามนี้เธอก็ต้องการคำแนะนำจากเพื่อนสักคน

“ทำอย่างที่แพทตั้งใจนั่นแหละ อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด เราห้ามมันไม่ได้หรอก นอกเสียจากจะเผชิญหน้ากับมันอย่างกล้าหาญ ถึงยังไงแพทก็ยังมีหวานเป็นเพื่อนนะ หวานไม่ทิ้งแพทหรอกน่า”

“ขอบใจนะหวาน เรารู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะ” คล้ายกับว่าน้ำเพชรจะหารอยยิ้มของตัวเองเจอซะที หลังจากที่มันห่างหายไปนานนับตั้งแต่เหตุการณ์คราวนั้น เหตุการณ์ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสีฟ้าห่างเหินจากคำว่าเพื่อนรัก






................................................................................................

“ไม่เอาแล้ว ไม่อาบแล้ว พอแล้ว ไม่เอาแล้วนะติน”

คนร่างบางร้องลั่นทันทีที่กำลังจะลุกออกจากอ่างอาบน้ำ แต่ดันโดนมือใหญ่รั้งร่างกลับคืนสู่จุดเดิมอีกครั้ง กลายเป็นว่าต้องกลับไปดิ้นขลุกอยู่ในอ้อมแขนแกร่งที่รัดดึงเรือนร่างเขาจากด้านหลังอีกจนได้ เป็นอย่างนี้มากว่าหลายรอบแล้วด้วย จนนึกโทษตัวเองที่ไม่น่าชวนมาอาบน้ำด้วยกันเลย ไม่งั้นป่านนี้เขาคงได้เอนหลังพักพิงกับเตียงนอนนุ่มอุ่นสบายไปแล้ว

“ไม่เอาได้ไง ตัวลมยังเหม็นอยู่เลย ดูดิ่ เหม็นจะตายไป อาบอีกนะ ตัวลมจะได้หอมๆ” ปากบอก จมูกก็สำรวจตามผิวขาวเนียนตรงหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผิวเนื้อสวยกระจ่างตาไม่ได้เหม็นอย่าที่ปากว่า ออกจะหอมสดชื่นชวนให้หลงใหลไม่เคยเบื่อ ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งทำให้รู้ว่าไม่อาจปล่อยให้ห่างกายได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว

ปลายจมูกโด่งโน้มตัวลงสัมผัสไปทั่วแผ่นหลังบางพ้นผิวน้ำอย่างทะนุถนอม ก่อนเคลื่อนตัวอ้อยอิ่งไปตรงซอกคอระหงที่คล้ายจะรอคอยสัมผัสนี้อยู่แล้ว เมื่อจมูกทำหน้าที่นำทางไปก่อน ปากหยักก็เคลื่อนตัวตามอย่างรู้งาน ลากสัมผัสแผ่วพริ้วและทิ้งรอยจ้ำสีช้ำแทนความหลงใหลเอาตลอดแนวสัมผัส

“ถ้าตัวลมเหม็นแล้วยังจะมาดมทำไป ก็ไปไกลๆ สิ”  มีหรือว่าเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ แล้วต้องการอะไรจากร่างกายของเขา

“ก็ตอนนี้มันหอมแล้วไง เลยอยากอยู่ใกล้ๆ “ ภาคีละความหวานตรงซอกคอสวยมายังแก้มใสที่ติดจะซีดนิดๆ เพราะนับตั้งแต่ที่เจ้าของแก้มใสออกปากชวนให้เขาก้าวตามเข้ามาในห้องนี้ ในอ่างนี้ เจ้าตัวก็แช่อยู่ในอ่างนานนับชั่วโมง สงสารเหมือนกัน คงหนาวน่าดู เขาเองยังหนาวเลย

จมูกโด่งและปากหยักทำหน้าที่ไม่หยุดพัก ไม่มีเหนื่อยล้า และไม่มีเบื่อหน่ายเลยสักนิด มีแต่ต้องการและต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ มือไม้ที่เคยโอบดึงเรือนกายหอมเปล่าเปลือยก็เปลี่ยนเป็นลูบไล้แผ่วเบาตามผิวเนื้อนิ่มมือ เมื่อเห็นว่าเรือนกายนั้นหยุดที่จะขัดขืนหรือบ่ายเบี่ยงจากสัมผัสของเขา ซ้ำร้ายยังหมุนกายหันมาให้ความร่วมมือซะด้วย

สีฟ้าน่ารักเสมอ....

สีฟ้าน่ารักเสมอ....ถึงจะปากร้าย ใจแข็ง ทำร้ายหัวใจของเขาหลายครั้งหลายครา แต่สุดท้ายแล้วสีฟ้าก็ไม่เคยใจร้ายกับเขาจริงๆ สักที

“อย่าคิดนะว่าจะทำกับลมได้ฝ่ายเดียว”

ปากสีสดบอกเสียงหวานแนบชิดกับแผ่นอกกว้างเปล่าเปลือยพ้นผิวน้ำ พร้อมกับฝากรอยรักไว้ในจุดที่ลากสัมผัสหวานมอบคืนกลับ หลังจากที่ต้องเป็นฝ่ายถูกรบเร้ามานานกว่าชั่วโมง มือเรียวช่างจดจำทำหน้าทีเหมือนมือใหญ่ไม่ผิดเพี้ยน

“ไม่ได้คิด แต่ถ้าอยากทำก็เชิญตามสบาย ตินไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว” ว่าแล้วก็เอนหลังพิงกับขอบอ่าง เปิดทางให้คนร่างบางมอบความหวานให้กับร่างกำยำของเขาอย่างถนัด มองคนหน้าหวานที่ตวัดตาค้อนอยู่นิดๆ แต่ก็เพียงแวบเดียวก่อนที่จะลงมือมอบความหวานให้กับเขาต่อ

ภาคีกำลังเพลิดเพลินอยู่กับรสสัมผัสที่คนตัวเล็กมอบให้ แต่แล้วจู่ความหวานนั้นก็หายวับไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว แถมมือก็ยังคว้าเอวบางไว้ไม่ทัน

“แค่นี้แหละ ลมเหนื่อยแล้ว” เจ้าของเรือนกายขาวที่ในตอนนี้มีผ้าขนหนูพันอยู่รอบเอว ยืนฉีกยิ้มกว้างอยู่นอกอ่าง ก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้ภาคีได้แต่มองตามตาละห้อย

...

สีฟ้ามองคนที่เดินหน้ามุ้ยออกมาจากห้องน้ำแล้วให้นึกเหนื่อยใจ นี่ต้องง้ออีกแล้วใช่ไหม

“งอนเหรอ?”

สีฟ้าจำต้องขยับเข้าไปคนหน้ามุ้ยที่ยังคงนั่งอยู่ตรงขอบเตียงอีกฝั่งหนึ่ง  ไม่มีทีท่าว่าจะล้มตัวลงนอนเสียที ทั้งที่พอเจ้าตัวออกเดินหน้ามุ้ยออกมาจากห้องน้ำเสร็จ แต่งตัวเรียบร้อย ซึ่งก็แค่ใส่บ็อกเซ่อร์เพียงตัวเดียว แล้วก็จัดการปิดไฟซะทุกดวงแล้ว ก็ยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมทำอะไรสักอย่างมานานกว่าสิบนาทีแล้ว

แขนเรียวโอบกอดร่างกำยำจากด้านหลัง ใบหน้าหวานวางนิ่งอยู่บนไหล่กว้าง ปากสวยถามเสียงหวานอีกครั้ง

“งอนลมเหรอครับ?”

“รู้อยู่แล้วนี่ ทำไมต้องถามด้วย” สุ้มเสียงสะบัดเล็กน้อย ดีนะที่ความสลัวช่วยกำบังรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ฉายชัดอยู่บนหน้า ที่แสร้งทำเป็นงอนให้อีกฝ่ายง้อ เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายจะต้องง้อเขาด้วยวิธีแบบไหน

“แล้วจะให้ลมยังไงถึงจะหายงอน” สีฟ้ายังคงถามเสียงหวานต่อ รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการให้เขาทำอะไร สีฟ้าไม่เข้าใจเหมือนกัน ทั้งที่เรื่องวันนี้ต้องเป็นภาคีไม่ใช่เหรอที่ต้องง้อเขา ที่ทำให้เขาต้องอายด้วยเรื่องที่เจ้าตัวบอกว่าทำไปเพราะรัก แต่นี่อะไร ภาคีงอนเขาด้วยเรื่องที่มันสมควรงอนไหม

“ก็ทำเหมือนเมื่อกี้ไงครับ” ยิ่งอีกฝ่ายทำเหมือนจะหลงติดกับดัก ภาคีก็ยิ่งเหมือนจะได้ใจ จัดแจงบอกอย่างที่ใจต้องการมันซะเลย เพราะสัมผัสที่หวานๆ ของสีฟ้าที่มอบให้แบบเมื่อครู่ มันยังคงติดค้างอยู่ในความต้องการอยู่นี่นา

“คิดได้แต่เรื่องแบบนี้นะ เห็นลมมีความหมายแค่นี้ใช่ไหม” สีฟ้าคลายอ้อมแขนออกออก พาตัวเองไปซุกใต้ผ้าห่มผืนหนาดังเดิม

“ไม่ใช่นะลม” ภาคีรีบแก้ตัว เมื่อสีฟ้าผละหนี ความอบอุ่นจากด้านหลังเมื่อครู่ถูกแทนทีด้วยความฉ่ำเย็นของเครื่องปรับอากาศ พอหันไปมองก็พบว่าอีกฝ่ายนอนหันหลังให้ ซ้ำร้ายยังขยับหนีไปเสียไกล

“ไม่ใช่ยังไง ชอบนักใช่ไหมเรื่องแบบนั้นนะ ลมมีความหมายแค่นี้ใช่ไหม” บางครั้งสีฟ้าก็อดคิดไม่ได้ว่าภาคีเรียกร้องสิ่งนี้กับเขามากเกินไปหรือเปล่า ไม่ใช่ไม่ชอบ ไม่ใช่ไม่อยากถูกสัมผัส ไม่ใช่ไม่รู้สึกดีที่ได้ถ่ายทอดคำรักให้กันและกัน แต่ต้องไม่ใช่การบังคับกลายๆ แบบนี้

แล้วเขาก็ไม่ควรตามใจภาคีจนเกินไป......

“อย่าโกรธตินนะ นะคนดีนะ ลมก็รู้ ลมมีความหมายกับตินยิ่งกว่าลมหายใจอีกนะ ตินรักลมนะ”

ภาคีเขย่าไหล่บางเบาๆ ก่อนเอนตัวลงนอนซ้อนด้านหลังใต้ผ้านวมผืนเดียวกัน ท่อนแขนแกร่งวางทับอยู่บนเอวคอด คางสากแนบชิดติดกับซอกคอขาว แล้วก็อดไม่ได้ที่จะสูดกลิ่นหอมๆ ด้วยปลายจมูก แต่เมื่อเจ้าของความหอมไม่ออกอาการขัดขืนหรือหนีห่าง ปลายจมูกโด่งยิ่งได้ใจมากยิ่งขึ้น พร้อมชักชวนให้ปากหยักร่วมทำหน้าทีร่วมไปด้วยกัน   แล้วมือที่วางพาดกับเอวบางก็คล้ายจะไม่ยอมน้อยหน้า มันเคลื่อนเข้าไปหยอกเย้ากับผิวกายเนียนๆ ใต้เสื้อเซิ้ตตัวใหญ่ คล้ายกับไม่เคยพอและไม่อยากพอ    ภาคีพลิกร่างบางให้ตกอยู่ข้างใต้ เพื่อจะสัมผัสเรือนกายหอมกรุ่นชวนให้บอกคำรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่เคยเบื่อ

...ตินไม่ผิดนะครับลม ใครให้เสื้อตัวนี้ล่ะครับ มันทำให้ลมเซ็กซี่ แล้วมันก็ถอดง่ายมาก

กระดุมเม็ดแรกหลุดออกจากรังดุม เผยให้เห็นแผ่นอกขาวนวลที่สะท้อนให้เห็นในความสลัว ตามด้วยเม็ดที่สองที่ทำให้ความขาวนวลประจักษ์ต่อสายตาคนข้างบน และกระดุมเม็ดที่สามก็ทำให้อดใจที่จะแต้มรอยจ้ำสีช้ำบนผิวเนื้อขาวกระจ่างตาไม่ได้เลย ก่อนที่กระดุมเม็ดที่สี่จะหลุดจากรังดุม มือเรียวก็เกาะกุมมันเอาไว้เสียก่อน

“ไหนบอกว่าไม่ทำแล้วไง” กว่าที่สีฟ้าจะฝืนพูดออกมาได้ ร่างกายของเขาก็มีรอยจ้ำสีช้ำไปหลายรอยแล้ว

“ก็ไม่ให้ลมทำ แต่ตินทำเองไงครับ นะครับ ตินคิดถึงลมจะแย่อยู่แล้ว” ปากว่า แล้วมือก็ขยับตั้งใจจะให้ไอ้กระดุมให้เหลือหลุดออกมาจากรังดุมให้ได้ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอกับสายตาคู่เรียวที่จ้องราวกับประเมินโทษหากคิดจะเอากระดุมออกจากรังดุมให้ได้

“ไม่ต้องเลยนะ ลมเหนื่อย แล้วเมื่อกี้ในห้องน้ำยังไม่พออีกใช่ไหม”

“ก็ได้ เพราะรักนะครับ ถึงยอม” จำต้องถอนกายออก ทิ้งตัวลงนอนข้างๆ ก่อนจะลากร่างบางให้หันหน้ามาประสานสายตากัน ในอ้อมกอดที่เขาโอบร่างนั้นเข้ามาแนบใกล้

“นี่ยังจะไม่เลิกใช่ไหม” เป็นอีกรอบที่สีฟ้าทำเสียงเข้มใส่อีกฝ่าย เอะอะอะไรก็คิดแต่จะเอาเปรียบเขาอยู่ได้ ไม่คิดจะถนอมกันเลย


“เลิกคิดแล้วครับ แต่ตินอยากคุยกับลม” บอกด้วยปากไปแล้ว ก็ไม่ลืมที่จะสัมผัสด้วยจมูกเช่นเคยเป็น

“นี่หรือคุย?” ตาเรียวจ้องเอาเรื่อง สีฟ้าอยากรู้นักว่าไอ้ที่ว่าคุยน่ะ ทำไมมันต้องมีมาคลอเคล้าอยู่ที่แก้มและซอกคอด้วย แต่ก็คร้านจะบ่ายเบี่ยงหรือหลบหนีให้เหนื่อย เพราะยังไงก็คงหยุดอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดี แต่ก็พยายามจะใช้เสียงและสายตาช่วยเหลือตัวเองให้พ้นคืนนี้ไปได้

“คุยจริงๆ “ ภาคียอมปล่อยความหวานที่อยากได้ไปเสีย อย่างน้อยๆ ก็ควรรจะถนอมเหมือนที่เคยรับปากเอาไว้ใช่ไหมล่ะ

“ลม”

“อะไร” สีฟ้ามองสบตาคู่คมหวานที่ใกล้กันเพียงปลายจมูกชิด

“เรื่องนั้นที่ในร้าน ตินขอโทษนะครับ ทั้งหมดที่พูดที่ทำไปก็เพราะรักลม ตินไม่อยากเสียลมไป ตินอยากมีลม อยากให้ลมอยู่ข้างตินไปตลอด ลมเข้าใจตินนะครับ”   เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีกทำไม แต่ความรู้สึกผิด มันยังคงวนเวียยซ้ำไปซ้ำมาอยู่ไม่ขาด

คำขอโทษที่พร่ำบอกไปก่อนหน้านี้ ยังคงคิดว่าไม่เพียงพอกับสิ่งที่ทำลงไป สีฟ้าอับอายเพราะเขา เสียน้ำตาเพราะเรื่องที่เขาตั้งใจทำ

“ลมลืมไปแล้ว” เสียงหวานบอก ฟังแล้วชื่นใจ

“แต่ตินก็อยากบอกให้ลมรู้ ว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะรัก เพราะรักจริงๆ ไม่คิดจะทำให้ลมเสียใจเลยสักนิด   ทั้งที่ตินก็ไม่อยากทำอย่างนั้นกับลม ไม่อยากบีบบังคับด้วยวิธีนั้น แต่ตินมองไม่เห็นทางอื่นเลยจริงๆ ลมเชื่อตินนะครับ นะครับคนดี”  แล้วภาคีก็วางจูบเบาๆ ที่หน้าผากกลมมน

“ลมรู้แล้ว แล้วก็ให้อภัยแล้วด้วย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้วนะ ลมขอห้ามไม่ให้พูดเรื่องนี้อีก ถ้าพูดถึงมันอีก คราวนี้ลมจะโกรธและไม่ให้อภัยจริงๆ นะ”   ยิ้มละไมถูกส่งให้กับคนที่พร่ำแต่คำขอโทษ พูดแต่ถ้อยคำเดิมๆ

ความจริงสีฟ้าทั้งเสียใจ ทั้งน้อยใจ ที่ถูกไล่ต้อนให้จนมุมด้วยวิธีนั้น   หากแต่ตอนที่รู้ว่าอีกฝ่ายทำไปเพราะอะไร เขาก็พร้อมให้อภัยและพร้อมลืมมัน ทั้งหมดที่ภาคีพูดหรือทำเพราะไม่อยากเสียเขาไป เขาควรดีใจมากกว่าโกรธ ภาคีรักเขาถึงได้พยายามยื้อและดึงเขาเอาไว้ แม้จะใช้วิธีร้ายกาจแบบนั้นก็ตาม

หากคิดให้ดี เขาเองต่างหากที่ร้ายกาจกับภาคีไว้เยอะ มากเสียจนไม่คิดว่าภาคีจะทนกับสิ่งที่เขาเคยทำเอาไว้ได้

“ขอบคุณนะครับที่ให้อภัยติน ตินสัญญาจะไม่ทำแบบวันนี้อีกแล้ว”

“ลมก็ขอบคุณติน ขอบคุณที่ไม่ยอมปล่อยลมไปง่ายๆ ไม่งั้นนั้น ลมคงได้นอนร้องไห้ทั้งคืนแน่”

“ลม” ภาคีกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น

“หือ...” สีฟ้าช้อนตามอง นึกสงสัย เมื่อตาคู่คมหวานมีแววไม่มั่นใจอะไรบางอย่างฉายขึ้นมา

“พรุ่งนี้.....พรุ่งนี้ ถ้าตื่นลืมตาขึ้นมา ตินยังจะเจอลมใช่ไหม ลมจะไม่ทิ้งตินให้อยู่กับความว่างเปล่าอีกใช่ไหม”

คำถามที่คล้ายจะปะปนมากับความหวาดหวั่นไหว เหตุการณ์ที่ผ่านมามันทำให้เขาอดที่จะหวาดกลัวไม่ได้ กลัวว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะพบกับความว่างเปล่า ความหอมหวานของยามค่ำคืน เรือนกายกรุ่นที่เคยแนบชิดและเฝ้าบอกคำรัก น้ำเสียงหวานๆ ที่ขานรับทุกความรู้สึกที่มอบให้ ความรักที่ล่องลอยอยู่แทบทุกอณูของห้องกว้าง จะกลายเป็นเพียงความฝัน ที่ทอดทิ้งให้เขาอยู่กับความเดี่ยวดายเจียนตาย ยามเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วไร้ซึ่งร่างบางที่เคยโอบกอดมาทั้งค่ำคืน

“ไม่แล้ว ไม่อีกแล้ว ลมไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว เชื่อลมนะ” เพราะคำถามที่เจือมากับความหวาดหวั่นที่สีฟ้ารับรู้ได้ ทำให้เขาต้องประคองวงหน้าคมความไว้ด้วยสองมือ แนบจูบเนิ่นนานที่ปากหยักคล้ายปลอบโยน และเติมแต่งความมั่นใจให้กับคำพูดนั้นของตัวเอง

“ต่อให้พรุ่งนี้เกิดอะไรขึ้น ลมก็จะไม่ทำร้ายติน ไม่ทำร้ายหัวใจของตัวเองอีกแล้ว เชื่อลมนะ ลมจะไม่ทำร้ายความรักของตินอีกแล้ว”

สีฟ้ารู้ รู้ว่าเขาไม่สามารถทิ้งความรักของภาคีได้อีกแล้ว เพราะนั่นก็เท่ากับเขาทำร้ายหัวใจของตัวเองเหมือนกัน ที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้น อาจเป็นเพราะเขาไม่เข้มแข็งพอ ไม่เข้มแข็งพอที่จะเลือกรักษาหัวใจตัวเอง

“เชื่อครับ” ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะไม่เชื่อในสิ่งที่สีฟ้าพูด ยิ่งยามนี้ที่สีฟ้าพร่ำบอกเสียงหวานและพรมจูบทั่วใบหน้าของเขา นั่นก็ทำให้ความหวาดหวั่นที่จะตื่นขึ้นมาแล้วพบกับความว่างเปล่าไปจางหายไป

“ขอบคุณนะติน ขอบคุณที่เชื่อลม ”

“นอนเถอะครับ ลมเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” ภาคีบอก ขณะที่คลายอ้อมกอดให้ลดระดับความแน่นให้น้อยลง เพื่อให้อีกฝ่ายได้นอนสบายขึ้น

“อืม...” ทั้งที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระแล้วแท้ๆ แต่สีฟ้าก็ยังขยับเรือนกายให้แนบชิดกับผิวเนื้อของอีกฝ่ายแทบจะสนิทเป็นกายเดียวกัน วางกลุ่มผมนุ่มบนแผ่นอกกว้าง ฟังเสียงหัวใจใต้ร่างนั้นเต้นเป็นจังหวะเพราะพลิ้ว ก่อนจะจมไปกับห้วงความรักที่โอบกอดเขาและภาคีเอาไว้ด้วยกัน

ลมรักตินนะ.....

..........................................................................................
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 26-04-2011 19:44:36
จะไม่มีอะไรแย่ๆอีกแล้วใช่มั๊ยครับ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 26-04-2011 19:54:57
ขอบคุณคนแต่งคนโพสต์ :L2:
พอพ้นห้องสี่เหลี่ยมสีฟ้าจะเป็นคนละคนกับตอนอยู่ในห้องกับภาคีอีกรึเปล่า :confuse:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 26-04-2011 20:08:32
รักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆกันซะที



 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 26-04-2011 20:16:00
บวกให้ความหวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนค๊า ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 26-04-2011 20:36:43
หวานมากๆเลยง่ะ ชอบ ชอบ ติน น่ารักแถมหื่นใส่ลมตลอดเลย ถ้าเค้าเป็นตินก้อคงไม่ปล่อยให้ลมได้นอนเฉยๆแน่เลยก้อเพราะลมน่ารัซะขนาดนั้น ใช่ม่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 26-04-2011 20:40:32
ตอนหวานๆๆๆเริ่มมาแล้วววววว
ขออย่าให้ได้มีมารอีกเรยตอนนี้ทางสะดวกแล้ววว
ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 26-04-2011 20:41:19
ขอให้หวามแบบนี้ตลอดไปเถอะ  สาธุ
   :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 26-04-2011 21:08:01
ตอนนี้มาแนวหวานกันเชียว :-[ :o8:
+ 1 นะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 26-04-2011 21:12:13
สมหวังซะทีนะ
รักกันหวานชื่นนานๆนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 26-04-2011 21:58:00
 :m1: :m1:
สำลักน้ำตาลลลล
จะเป็นเบาหวานไหมเนี่ยยย  :o8:

+1 ค่าาา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 26-04-2011 22:11:49
 :เฮ้อ:หมดซะทีเรื่องงอน เรื่องประชดประชันกันน่ะ แล้วห้ามคิดเองเออเองด้วย
มีไรคุยกันพูดกันดีๆนะหนูลมและนายติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ramgaythai ที่ 26-04-2011 22:26:24
โอโห มดมาสร้างรัง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 26-04-2011 22:37:47
เห้อออ เข้าใจกันจริงๆซักที
ในที่สุดลมก็ไม่หนีตัวเองแล้วเย้ๆ

รักกันนานๆนะจ๊ะคู่นี้
+1 ให้จ้า จุ๊บบบบบบบบบบบ ♥
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 26-04-2011 22:41:48
รักกัน รักกัน   ตินนี่หื่นตลอดเวลา :z2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 26-04-2011 22:52:23
ฟู่ววววว......เคลียร์กันเรียบร้อยซักที

ในที่สุดก็เข้าใจกัน แต่ติณอ่ะ ถนอมน้องบ้างน๊า...รู้ว่ารักมาคิกถึงมากแต่นี่ถ้าดินน้องลมได้คงกลืนลงไปอยู่ท้องแล้ว อิอิ+1 จ้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 26-04-2011 23:08:42
อ่านทันละ  น่ารักมากกก  สีฟ้ากะติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 26-04-2011 23:31:17
คงหมดแล้วเนอะ มาม่าอ่ะ ต่อไปจะมีแต่หวานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆช่ายมั้ยค๊ะๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 26-04-2011 23:35:49
รักกันนานๆ นะ สุดยอด น่ารักจริงๆ ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 27-04-2011 00:32:40
ขออย่าได้มีเรื่องอะไรอีกเลย
รักกันๆๆๆ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 27-04-2011 09:09:17
 :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 27-04-2011 10:11:27
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 27-04-2011 10:22:53
เข้าใจกันซะที  ดีใจม๊ากมาก   :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 27-04-2011 13:14:40
ดีใจที่ลมคิดได้ซะที ไม่ใช่วันนี้ดี พรุ่งนี้เกิิดนึกอยากเป็นเพื่อนที่ดีทำร้ายตินอีกก็ไม่ไหวแล้วนะ
ขอให้รักกันราบรื่นนะ หวังว่าแพทจะคิดได้แล้ว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 27-04-2011 14:52:51
 :o8: :o8: :o8:


หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 27-04-2011 17:00:49
หวานจนมดขึ้นแล้ว +1
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 27-04-2011 17:17:49
 :-[ พอเจอหวานเรานั่งอ่านไปก็อายไปเขินไป อู้ยยยย...เป้นเอามาก :jul3:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 27-04-2011 19:56:23
หวานนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 27-04-2011 22:06:24
 :กอด1:

 :เฮ้อ: โล่งอกโล่งใจ รักกันๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ramgaythai ที่ 28-04-2011 13:36:37
อุ๊ย!!! ระวังมดทำรัง  :z1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 28-04-2011 15:19:17
รอ ร๊อ รอ
อีกสามตอนจะจบแล้วใช่ป่าวครับ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 25 เรารักกัน..จริง..จริง [26/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Ugly Ducky ที่ 28-04-2011 19:32:22
กลับมาอ่านอีกครั้งหลัง รอมาม่าหมดถ้วยยยยย
ค่อยยังชั่วหน่อย แต่ถ้ามีอีก จะบอกว่า คนแต่ง ใจร้ายมากกกกกก
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 28-04-2011 19:43:21
ตอนที่ 26 โปรดระวัง ฟ้าฝนคะนอง และ....ลมพายุ....หึง

ความว่างเปล่าที่มือสัมผัสได้ ในยามที่ต้องการเรือนกายหอมเข้ามากอดรับอรุณ ส่งผลให้เปลือกตาที่เคยหนักกลับเบาหวิวขึ้นมาทันที ตาคู่คมหวานกระพริบถี่ ราวกับย้ำว่าสิ่งที่เห็นเป็นความจริง ข้างกายไร้คนที่เคยอยู่ในอ้อมกอดมาทั้งคืน ห้องกว้างไร้เงาร่างกายที่คุ้นตา มีเพียงกลิ่นหอมจางๆ ที่สัมผัสได้

ภาคีปล่อยมือทั้งสองให้ตกอยู่ข้างตัว คล้ายกับว่าโลกมันถล่มมาตรงหน้า ไม่สิ มันมากกว่านั้น มากจนเขาไม่อยากจะหายใจต่อไป

เมื่อคืนมันคืออะไร?

มันคืออะไร?

คำหวานที่บอก คำสัญญาที่ให้ ความรักที่ได้รับรู้ มันคือความฝันอีกหรือไง ความฝันแสนหวานของยามค่ำคืน พอลืมตาตื่นขึ้นมา ฝันแสนหวานนั้นก็เลือนหาย มีเพียงความว่างเปล่าเหลือไว้เป็นความจริง

สีฟ้าทิ้งเขาไปอีกแล้วใช่ไหม....

คำรักที่ให้ไว้เมื่อค่ำคืนคือคำหลอกลวงหรือไง?

คำลวงหลอกล่อให้หลงใหล

กลิ่นกายหอมยังคงติดค้างอยู่บนเตียงนุ่ม หมอนใบใหญ่ยังได้ได้กลิ่นกายที่คุ้นเคย จนต้องเอื้อมคว้าเอามากอดแทนร่างที่หนีจากไป ภาคีซุกซบใบหน้าที่เหมือนจะรื้อน้ำตาบนหมอนนุ่ม ราวกับจะย้ำบอกตัวเองว่าเมื่อคืนไม่ใช่ความฝัน สีฟ้าอยู่กับเขา ฝากคำรัก บอกความหมายลึกซึ้งถึงความรู้สึกที่มากมาย และคำสัญญาแสนหวานไว้กับเขา ทำให้เขามั่นใจว่าพรุ่งนี้ เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมายังคงจะมีคนรักอยู่ในอ้อมกอด

แล้วมันคืออะไร.....

อ้อมกอดที่เดียวดาย เตียงนอนที่ว่างเปล่า ห้องกว้างที่ร้างไร้ ไม่รู้ว่าจะต้องเจ็บกับความรู้สึกที่ถูกทอดทิ้งไปอีกกี่ครั้ง หรือจะต้องพยายามอีกสักกี่หน หรือจะต้องเสียงน้ำตามากเท่าไหร่ เรื่องระหว่างเขากับสีฟ้าจึงจะเป็นความจริงเสียที ไม่ใช่ค่ำคืนคือความฝันแสนหวาน แต่ตอนเช้ากลับเป็นความจริงแสนเจ็บปวด

ภาคีกอดหมอนไว้แนบอก หัวใจไร้เรี่ยวแรง  เขาอยากร้องไห้กับความจริงที่กำลังเผชิญอยู่ น้ำตามันไหลเองง่ายๆ ทั้งที่เขาไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่เขากำลังร้องไห้กับความปวดร้าวที่กลับมาเกาะกิน

.

.

.

.

.

.


................ครืด..................







ประตูห้องน้ำถูกเลื่อนเปิด ร่างกายขาวสะอาดตาที่มีเพียงผ้าพันขนหนูพันส่วนล่าง เรือนกายหอมกรุ่นก้าวออกมา เดินไปยังเตียงนอนกว้าง ก่อนจะย่อตัวลงนั่งกับพื้นตรงหน้าคนที่นอนกอดหมอนอยู่ หน้าคมฝังแน่นกับเนื้อหมอน

สีฟ้าเป็นห่วงคนตรงหน้า ภาคีเป็นอะไร? แว่วว่าได้ยินเสียงสะอื้นเบาบางหลุดลอดออกมา

“เป็นอะไรติน ปวดท้องเหรอ ไปหาหมอไหม” มือเรียวแตะที่ไหล่ไหวสะท้าน นึกเป็นห่วง เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำ สีฟ้าเห็นภาคีนอนตัวงอกอดหมอนไว้แน่น

เสียงหวานที่ไถ่ถามอยู่ใกล้ๆ และมือเย็นชื้นที่แตะต้อง เรียกให้คนอ่อนแอเงยหน้าขึ้นจากใบหมอน หน่วยตารื้นน้ำตากระพริบถี่ มองใบหน้าที่อยู่ใกล้แค่คืบ แล้วค่อยๆ เคลื่อนตัวขึ้นนั่ง ก่อนคว้าร่างบางเข้ามากอดเพียงเบา ก่อนจะรัดแน่นขึ้นในวินาทีต่อมา ราวกับกลัวว่าร่างที่โอบกอดนี้จะปลิวหายไปลับตา

“ ลม” เสียงสั่นเครือฟ้องถึงความอ่อนไหวที่ปล่อยออกมาเป็นหน่วยน้ำตา เรียกชื่อคนในอ้อมแขนแผ่วเบา

“ตินเป็นอะไร  ร้องไห้ทำไม”  สีฟ้าตกใจไม่น้อยที่เห็นสภาพของภาคี  อ้อมแขนที่กอดเขาไว้แน่นติดจะสั่นไหว แรงกระชับรัดแน่นยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

“ลม” ที่เขากอดอยู่นี้คือสีฟ้าจริงๆ ใช่ไหม  ผิวเนื้อเย็นชื้นที่สัมผัสได้คือสีฟ้าจริงๆ  สีฟ้าไม่ได้ทิ้งเขาไปเหมือนที่นึกกลัว เมื่อตื่นลืมตามาแล้วไม่เห็น

“ติน....ดะ...ดะ...เดี๋ยวก่อนติน เป็นอะไรไป”  สีฟ้ายังคงงงกับท่าทางของภาคี แต่ก็ยังยอมที่จะตกอยู่ในวงแขนของอีกฝ่าย แม้จะรู้สึกอึดอัดเพราะโดนรัดแน่นแทบหายใจไม่ออก

ถูกภาคีกอดรัดมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะทำให้เขาเจ็บเนื้อตัวมากขนาดนี้ มันปวดเหมือนเนื้อตัวจะแหลก

“ตินนึกว่าลมทิ้งตินไปอีกแล้ว  ตื่นมาแล้วไม่เจอลม  ตินกลัว  กลัวลมจะทิ้งติน”  เจ้าตัวพร่ำบอกสิ่งที่หวาดหวั่นอยู่ข้างใน

“สัญญาแล้วว่าจะไม่ไปไหนอีก ไม่หนีไปไหนแล้วคราวนี้”  สีฟ้าพอจะเข้าใจแล้วล่ะ ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ภาคีตกอยู่ในสภาพเด็กน้อยขี้แย ที่แท้ก็กลัวเขาจะหนีไปนี้เอง

“ตินเชื่อลมได้ใช่ไหม”  ถามออกไปแล้ว ภาคีก็นึกกลัวจะทำให้คนถูกถามโกรธ  แต่สีฟ้าก็เพียงยิ้มให้เขา เป็นรอยยิ้มที่สว่างไสวในใจของเขาเสมอมา

“ได้สิ ลมสัญญากับตินไปแล้ว ไม่ผิดสัญญาหรอก”  สีฟ้าย้ำเสียงหนัก สองมือดันร่างแกร่งให้ถอนอ้อมกอดออก

ตอนนี้สองสายตามองสบกันอย่างหวานซึ้ง แทนคำรักที่ไม่ได้ถูกขานออกมาให้รับรู้ หากแต่ก็รู้กันอยู่ข้างในว่าต่างฝ่ายต่างก็รักกันมากแค่ไหน

คำรักที่แท้จริงก็คงเหมือนสายตาที่สบประสานบอกความรู้สึกที่เอ่อล้น  

“ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่จะไม่ทิ้งไปตินไปไหนอีก ขอบคุณ.......” ปากหยักยังคิดจะถ่ายทอดความรู้สึกขอบคุณที่มากล้นออกมาให้คนที่เขารักได้รับรู้ แต่ก็ถูกขัดจังหวะปลายนิ้วสวยที่แตะต้องริมฝีปาก ไม่ให้เอื้อนเอ่ยคำใดออกมา

“พอแล้ว ลมรู้แล้ว แต่ตอนนี้ตินไปอาบน้ำก่อนได้ไหม ลมต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านอีกนะ ให้เวลา 10 นาที ถ้าเกิน ลมจะขับรถกลับไปเองนะ”

“ครับๆ ตินจะไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้แหละครับ รอตินแป๊บนะครับ”  ภาคีเปลี่ยนโหมดเศร้าเป็นร่าเริงทันที แล้วร่างเปลือยเปล่าท่อนบนและมีเพียงบ็อกเซ่อร์ตัวเดียวห่อหุ้มท่อนล่าง  ก็กระโจนลงจากเตียง ช่วงเท้ายาวๆ ก้าวไปยังห้องน้ำโดยเร็ว  และเหมือนเจ้าตัวจะนึกอะไรขึ้นมาได้เมื่อมาหยุดอยู่ตรงประตูห้องน้ำพอดี

“อาบน้ำอีกรอบไหมครับ” แต่แล้วก็ต้องเจอเข้ากับท่าท้าวสะเอว ตาเรียวจ้องอย่างประเมินโทษ

“อย่าคิดเชียวนะ”

เสียงขุ่นดังมาพร้อมกับใบหน้าที่เอาจริง จำต้องถอยเข้าไปในห้องน้ำอย่างผิดหวัง


สีฟ้ามองประตูห้องน้ำที่เลื่อนปิดเข้าหากัน ก่อนผ่อนลมหายใจออกช้าๆ นี่เขาทำให้ภาคีอ่อนแอได้มากมายขนาดนี้เลยหรือไง

ร้องไห้เหมือนเด็กที่ถูกทิ้ง

“...ขอโทษนะติน ขอโทษที่ลมทำให้ตินอยู่กับความไม่แน่นอนของลมมาตลอด  ลมสัญญา ต่อไปนี้ลมจะเข้มแข็ง จะไม่อ่อนแอแล้วทิ้งตินไปไหนอีกแล้ว ต่อให้ต้องเจออะไร ลมก็จะเข้มแข็ง เข้มแข็งเพื่อความรักของเราสองคน....”

เขาไม่ได้หวังให้ภาคีได้ยิน หากแต่เขาพูดมันออกมาก็เพื่อย้ำเตือนกับตัวเอง....ว่าต่อไปนี้เขาจะเข้มแข็งให้มาก



...................................................................................................



.............กริ๊งงงงงงงงงง.......................

..............ก๊อกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆ...........................

เสียงกริ่งที่ดังระรัวขึ้นมาก่อน แล้วตามด้วยเสียงเคาะประตูห้องถี่ๆ บอกให้รู้ว่าแขกที่มาเยือนห้องชุดในคอนโดหรูตั้งแต่เช้าใจร้อนไม่ใช่น้อย

สีฟ้าที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จ นึกสงสัยว่าใครมาหาเจ้าของห้องแต่เช้าตรู่แบบนี้ มองดูนาฬิกาที่เห็น มันเป็นเวลาหกโมงเช้าเอง

มาแต่เช้า แล้วยังใจร้อน....
 

“ลมครับ ช่วยออกไปดูให้หน่อยสิครับ ใครมาแต่เช้า” เสียงภาคีตะโกนบอกออกมาจากข้างใน ถึงภาคีไม่บอก สีฟ้าก็ต้องทำอยู่แล้ว

เสียงกริ่งเงียบไปแล้ว แต่เสียงเคาะประตูหนักๆ และถี่ๆ ยังดังมาไม่ขาดสาย

“มาแล้วครับ” สีฟ้ารีบบอก ขณะที่เปิดประตูต้อนรับแขกของเช้าวันนี้ พร้อมกับประตูที่เปิดกว้าง ทำให้เห็นว่าใครคือแขกใจร้อนคนนั้น

“นุ่น!”

“ค่ะคุณลม นุ่นเอง แล้วนี่ตินอยู่ไหนคะ ตินคะ ตินอยู่ไหนคะเนี่ย”  ไม่จำเป็นต้องให้หนุ่มหน้าหวานที่มาเปิดประตูเชื้อเชิญแม้แต่น้อย  นิรดาก็ถือวิสาสะเดินเข้ามายืนอยู่กลางห้องได้อย่างหน้าตาเฉย

สีฟ้ามองคนที่ยืนอยู่กลางห้องด้วยความรู้สึกไม่สบอารมณ์  อารมณ์ดีๆ เมื่อครู่ของเขาหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้  รู้แต่ว่าตอนนี้อยากผู้หญิงคนนี้โยนออกไปจากห้องเสียให้ได้


“มาทำไม?”  สีฟ้าถามเสียงเข้ม แต่นิรดากลับตอบกลับเสียงเข้มๆ นั้น ด้วยเสียงหวานจ๋อย

“นุ่นมารอตินค่ะ”

“รอทำไม!” ถามเสียงขุ่น สีฟ้าไม่ชอบขี้หน้านิรดามานานแล้ว ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหญิงสาวในฐานะแฟนของภาคี แม้ตอนนี้เธอคนนี้จะไม่ได้อยู่ในฐานะนั้นแล้ว แต่สีฟ้าก็ยังไม่ชอบหน้านิรดาอยู่ดี

“ก็รอไปทำงานพร้อมกันไงคะ”

“แล้วทำไมต้องไปทำงานด้วยกัน”

“คุณลมขา จะถามให้มันได้อะไรขึ้นมาคะ นุ่นก็มารอตินไปทำงานพร้อมกันทุกวันอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องถาม มีแต่นุ่นนี่แหละค่ะที่ต้องถามคุณลม ว่าคุณลมมาทำอะไรห้องติน  ไหนว่าเลิกกับตินแล้ว มาทำไมอีกคะ”  นิรดากอดอกถาม ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่ง ไม่ได้เกรงกลัวกับสายตาที่จ้องจนน่ากลัว มีหรือเธอจะกลัว  นิรดาในวันนี้ ไม่ใช่นิรดาในวันเก่าแล้วเถอะ ต่อให้สิบคุณลมก็ทำอะไรเธอไม่ได้

“นี่มันคอนโดของฉัน ทำไมฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้”

“อุ้ยตายแล้ว คุณลมขา พูดอะไรออกมาคะเนี้ย นี่มันคอนโดของตินนะคะ  มันจะเป็นของคุณลมได้ยังไง ขี้ตู่ชัดๆ  “ นิรดาทำเสียงเล็กเสียงน้อยยั่วอารมณ์คนฟัง ถ้าไม่เดือดก็คงไม่ใช่สีฟ้าแล้วล่ะ

“ทำไมจะไม่ใช่คอนโดของฉัน  ในเมื่อตินคือคนของฉัน  อะไรที่เป็นของติน มันก็คือของๆ ฉัน ส่วนเธอ อย่ามายุ่งกับคนของฉัน เชิญออกไปได้แล้ว”  สายตาจ้องจิกราวกับจะฉีกเนื้อคนตรงหน้าได้ทุกเมื่อ  อีกฝ่ายกลับไปสะทกสะท้าน แถมยังส่งยิ้มกวนยียวนกวนประสาทมาให้อีก

“โอ้ยยยย...นุ่นไม่เชื่อหรอกค่ะ  ตินน่ะเหรอคะ คนของคุณลม  ไม่จริงมั้งคะ  คุณลมกับตินเลิกกันไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้นุ่นถือว่าตินโสดสนิท  แล้วนุ่นก็มีสิทธิ์จะสานความสัมพันธ์ระหว่างนุ่นกับตินใหม่อีกครั้ง”  ปากแต้มสีแดงร่ายยาวยั่วคนฟังให้เดือดยิ่งขึ้น
 
“เธอไม่มีสิทธิ์นุ่น เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับคนของฉัน เข้าใจไว้ด้วย แล้วก็ออกจากห้องของฉันไปได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะโทรเรียกยามให้ขึ้นมาลากตัวเธอลงไป”
 
“คุณลมขา นุ่นว่าคนที่ไม่มีสิทธิ์คือคุณลมต่างหากนะคะ เอ๊ะ...แต่จะว่าไปแล้ว นุ่นกับตินก็สานสัมพันธ์กันมาได้สักระยะแล้วนะคะ  ดูรูปพวกนี้สิคะ ดูแล้วคุณตินจะรู้ว่า เราสองคนพัฒนาไปถึงไหนกันแล้ว” ว่าแล้วนิรดาก็ล้วงหยิบรูปถ่ายในกระเป๋าออกมา

รูป.....ของเธอกับภาคี

“ดูรูปพวกนี่สิคะ  นุ่นกับตินกำลังไปด้วยกันได้ดีเลยนะคะ”  หญิงสาวยื่นรูปกว่าสิบใบที่มีเธอเป็นนางแบบและภาคีเป็นนายแบบให้กับคนที่ยืนกอดอกทำหน้าบึ้ง ตาเรียวที่จิกมองเริ่มจะทวีความร้อนแรงขึ้น  จากที่คิดว่าน่าจะรับมือได้ไม่ยากนัก ตอนนี้ชักจะหวั่นๆ อยู่ไม่น้อย ว่าจะสามารถทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จได้หรือเปล่า  หญิงสาวนึกปลอบใจตัวเอง  ทำใจกล้าอีกนิดหน่อยแล้วเธอจะได้ในสิ่งที่ต้องการ

ดินแดนในฝันเห็นอยู่รำไร

“ดูสิคะ คุณลม นุ่นกับติน เราสองคนกำลังจะกลับไปเหมือนเดิมอีกครั้ง” เหมือนกลัวสีฟ้าจะไม่เห็น  นิรดาเลยลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย ยื่นรูปถ่ายให้สีฟ้าดูทีละรูป จนครบทุกรูป  ยิ้มสมใจผุดขึ้นบนใบหน้าแต้มสีจัด เมื่อเห็นคนเคยเกลียดดูรูปที่อยู่ในมือเธอเขม็ง ปากที่เห็นอยู่ใกล้ๆ เม้มแทบจะเป็นเส้นตรงอยู่แล้ว

สีฟ้ามองดูรูปในมือของนิรดาที่ยื่นให้เขาดูทีละรูป ภาพที่มีเพียงนิรดาและคนของเขา ภาพที่สะท้อนความสนิทสนมเกินกว่าเพื่อนร่วมงานทั่วไป
 มันฟ้องว่าคำพูดของนิรดาไม่เกินความจริงเลยแม้แต่น้อย

“แล้วอย่างนี้จะว่านุ่นไม่มีสิทธิ์ได้งั้นเหรอคะ”

“.......” สีฟ้าจนคำพูด หลักฐานมันตำตา  ตำใจ ภาคีกับนิรดาใกล้ชิดกันมากขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?  มีทั้งโอบ ทั้งกอด ถ้าจูบโชว์กล้องได้ คงทำกันไปแล้ว

“เห็นรูปพวกนี้แล้ว หวังว่าคุณลมคงหลีกทางให้เราสองคนอีกครั้งนะคะ”  นิรดาเดินกลับไปนั่งที่เดิม วางรูปไว้บนโต๊ะด้านหน้า เธอยิ้มดีใจเพราะงานของเธอเสร็จไปแล้วครึ่งทาง

“มันก็แค่รูป”

สีฟ้าเชิดหน้าบอก หาทางออกให้กับสิ่งที่นิรดาเอามาฟาดฟันเขาได้  พยายามปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ เขาจะตกลงไปในหลุมที่นิรดาสร้างไม่ได้  ดูแววตาอีกฝ่ายก็รู้ถึงความคิด คงอยากให้เขาโวยวายตีอกชกลมที่เห็นรูปพวกนี้

“คุณลมเนี้ย ดื้อจริงๆ นะคะ ทั้งที่รูปก็ฟ้องซะขนาดนี้  “ นิรดาทำท่ารำคาญกับความดื้อดึงไม่เชื่อของสีฟ้า

“แค่นี้ใช่ไหมที่อยากให้ฉันรู้ งั้นก็ออกไปซะที ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ”   สีฟ้าออกปากไล่เสียงดัง รอให้นิรดากลับไปก่อนเถอะ ไอ้คนที่อยู่ในห้องน้ำได้อ่วมเพราะมือเขาแน่

แม้จะแน่ใจว่าภาคีรักเขาคนเดียวและรักเขามาก  แต่ภาคีไม่ควรจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวกับนิรดาถึงขนาดนี้  ถึงจะเป็นผู้ชายก็เถอะ จะบอกว่าไม่เสียหายก็ไม่ได้ เพราะเขาห่วง เขาหวง ไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ภาคี โดยเฉพาะนิรดา ผู้หญิงที่เขาไม่คิดอยากจะญาติดีด้วย    

“ ใครมาหรือครับ” คนที่สีฟ้าคิดจะจัดการเมื่อไล่แขกไม่ได้รับเชิญออกไปได้  เอ่ยถามออกมาทั้งที่ตัวยังไม่โผล่ออกมาให้เห็น

“นุ่น?....มาได้ไง?”

ภาคีที่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงผ้าขนหนูผืนหนาสีขาวพันกายส่วนล่างเอาไว้  เอ่ยถามขึ้นมาด้วยอาการงงๆ ทันทีที่ก้าวออกจากห้องนอนกว้าง  เขาเห็นนิรดาลุกขึ้นยืน ส่งยิ้มหวานมาให้ ไม่ห่างกันนักคือสีฟ้าที่ยืนกอดอกมองเขาด้วยตาคู่เก่ง ที่ทำเอาเขาหนาวร้อนทันทีทันใด  ทั้งที่เขาเองก็ไม่ได้มีความผิดติดหลังให้ต้องกลัวอะไร เรื่องระหว่างเขากับนิรดามันจบไปนานแล้ว   แล้วพักหลังๆ มาเนี่ยนิรดาก็ไม่ค่อยจะเข้ามาวุ่นวายกับเขามากนัก เรียกว่าไม่ยุ่งกับเขาเลยก็ได้  เพราะดูเหมือนหญิงสาวจะมีเป้าหมายใหม่เป็นรุ่นน้องที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้เกือบสองเดือนแล้ว

เขาเลยแปลกใจที่เห็นนิรดาบุกมาหาเขาถึงคอนโด แล้วไม่รู้ว่ามาคอนโดของเขาถูกได้ยังไง เขาไม่เคยบอก นิรดาก็ไม่เคยรู้ เท่าที่เขาคิดนะว่าเธอไม่น่าจะรู้ คณิตเคยบอกเขาว่านิรดารบเร้าถามอชิตะว่าคอนโดของอชิตะที่ให้เขาเช่าอยู่นั้น  มันอยู่ที่ไหน แต่อชิตะก็ไม่เคยบอก

“ตินก็... ถามอย่างนี้ นุ่นเสียใจแย่สิคะ  นุ่นมารับตินไปทำงานด้วยกันน่ะค่ะ  รีบแต่งตัวสิคะ เราสองคนจะได้ไปทำงานซะที”  เธอว่า เตรียมจะเดินไปหาร่างกำยำที่เปลือยท่อนบนชวนให้มอง แล้วนึกเสียดาย แต่ถูกสีฟ้าคว้าต้นแขนไว้เสียก่อน

ไม่ใช่แค่คว้าไว้เฉยๆ แต่สีฟ้าบีบแข็นนิรดาแน่นจนเจ็บ

“โอยยยย...คุณลมคะ นุ่นเจ็บนะคะ”  หน้าสวยของนิรดาเบี้ยวเพราะแรงบีบ แกะมือที่บีบต้นแขนเธอออกอย่างเร็ว  สีฟ้ายอมปล่อย เพราะไม่อยากรังแกผู้หญิง  แม้ว่าผู้หญิงคนนี้คิดจะแย่งคนของเขาก็ตาม

“ตินดูสิคะ คุณลมทำร้ายนุ่น นุ่นเจ็บจังเลย”  นิรดาอ้อน หลังจากวิ่งไปหาภาคี เธอเกาะแขนแกร่งเอาไว้

“เธอจะเจ็บตัวกว่านี้ ถ้ายังไม่ปล่อยมือจากแขนคนของฉัน!”   สีฟ้าตวาดลั่นห้อง ตาสวยจ้องจิก นิรดารีบปล่อยแขนของภาคีอย่างเร็ว   เหตุการณ์นี้ มันอยู่นอกแผนของเธอไปนิดหน่อย ไม่ดีแน่ๆ ถ้าเธอจะเล่นเกินแผน เพราะมันอาจไม่รับประกันความปลอดภัยของเธอ   สีฟ้าเวลาโกรธ น่ากลัวน้อยที่ไหน เมื่อกี้ ถ้าหักแขนเธอได้คงหักไปแล้ว

“ลมครับ ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ” ถึงจะไม่ได้คิดอะไรกับนิรดา แต่ภาคีใช่ว่าจะใจดำปล่อยให้นิรดายืนตัวสั่นเพราะกลัวสีฟ้าอยู่แบบนี้  อย่างน้อยก็เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีคนหนึ่งของเขา เขาควรปกป้องหญิงสาวเท่าที่เขาจะสามารถทำได้

“เข้าข้างคนอื่นเหรอ?!”   สีฟ้าคงจะใจเย็นได้หรอก คำพูดของภาคีก็เหมือนน้ำมันดีๆ นี่เอง

“เปล่านะครับ ตินแค่......” ภาคีพูดต่อไม่ได้แล้ว เมื่อเจอตาที่จ้องราวกับจะลงโทษที่ออกตัวปกป้องศัตรูตัวฉกาจของสีฟ้า  และหากเขาพูดอีกสักคำเดียว เขาอาจไม่ได้กอดร่างกายของสีฟ้าไปอีกนาน

“ติน!  เข้าไปใส่เสื้อผ้าให้รีบร้อยกว่านี้ เดี๋ยวนี้”   สีฟ้าสั่งเสียงเข้ม  แทบไม่ต้องสั่งซ้ำเป็นครั้งที่สอง ภาคีก็วิ่งหายเข้าไปในห้องนอนทันที

“คุณลมขา ไม่ต้องหวงตินกับนุ่นหรอกค่ะ นุ่นเห็นออกบ่อย”  ตัวคนพูดหัวเราะคิกคัก ยั่วอารมณ์ของสีฟ้าได้อีก ลืมกลัวไปชั่วขณะ

“จะกลับออกไปดีๆ หรือจะให้ฉันโยนเธอออกไป”  สีฟ้าไม่ได้ขู่ แต่สีฟ้าทำจริง ไม่เคยเกลียดขี้หน้าใครเท่านิรดามาก่อน ให้ตายเถอะ นิรดาเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาเกลียด

“อะไรจะใจร้ายขนาดนี้คะคุณลม นุ่นเป็นแขกนะคะ”  ปากช่างยั่วอารมณ์ยังคงทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ แม้เข้าในจะกลัวสุดชีวิตก็ตาม  ตอนนี้นิรดากำลังทำหน้าที่ของเธอให้เต็มที่ เพื่อผลตอบแทนที่คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

“ฉันไม่ต้อนรับ”

“แต่นุ่นกับติน เราสองคนเป็น.....” เธอยังไม่ทันพูดให้จบ อีกฝ่ายก็ปิดโอกาสเธอเสียก่อน

“ฉันไม่สน เพราะตินคือคนของฉัน เธอไม่มีสิทธิ์”

“เหรอคะ....”

“ใช่ รู้แล้วก็ออกไป ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนกับเธอ แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

สีฟ้าขู่ คนถูกขู่เริ่มกลัว ฟังจากน้ำเสียงแล้ว นิรดาคิดว่าสีฟ้าเอาจริง แสดงว่าเธอเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมจริงๆ  สามารถทำสีฟ้าเดือดดาลได้ขนาดนี้ แต่จะคุ้มไหม ถ้าเธอยังเดินตามแผนที่วางไว้ แล้วต้องถูกสีฟ้าจับหักคอ  เพราะดูจากท่าทางและสายตาของสีฟ้าแล้ว ขืนเธอพูดอะไรที่ยั่วอารมณ์อีกนิดเดียว เธอคงไม่ได้แก่ตายแน่นอน คงได้ตายมันตรงนี้แหละ

ถึงจะกลัว แต่นิรดายังทำใจกล้าสบตาของสีฟ้า ก่อนจะแกล้งกวาดตามองไปรอบห้อง มองโน่น มองนี่ ไปเรื่อยเปื่อย แล้วพอจะหายใจหายคอคล่องขึ้นมาล้าง  เมื่อคนที่เคยเปลือยท่อนบนกลับออกมาสภาพที่ครบชุดกว่าเดิม

ภาคีใช้เวลาอย่างรวดเร็วในการจัดการแต่งกาย ก่อนจะก้าวเร็วๆ มายืนอยู่ข้างคนหน้าบึ้ง บอกอารมณ์ว่าโมโหมาก

“คุณเจ้าของห้อง...ลองบอกมาหน่อยสิว่า จะจัดการกับแขกคนสำคัญของนายยังไง?”  สีฟ้าหันไปถามเอาคำตอบจากภาคี แต่เหมือนมีแค่คำตอบเดียวเท่านั้นที่ต้องการ แล้วภาคีก็รับรู้ได้ว่าเขาต้องทำยังไง

“นุ่น คุณกลับไปก่อนนะ เดี๋ยวเราค่อยคุยกันทีหลัง”  เขาคิดว่า บางทีนิรดาอาจมีเรื่องอะไรคุยกับเขา หรือมีเรื่องให้เขาช่วยเหลือ แต่ให้คุยตอนนี้คงไมได้ เพราะดูแล้ว สีฟ้าคงไม่ยอม เขาไม่ได้กลัวสีฟ้า แค่ไม่อยากขัดใจ

“ว่าไงนะติน !  ยังคิดจะให้ยัยนี่กลับมาที่นี่อีกหรือไง  ก็ได้  งั้นก็ดี ลมไปเอง”

แต่ไอ้คนที่เกิดขัดใจกลับเป็นสีฟ้ามากกว่า ขัดใจที่ภาคีไม่ได้ดังใจเอาซะเลย เขาต้องการให้ไล่นิรดาออกไปจากห้อง ไม่ได้ต้องการให้พูดเพื่อนัดแนะกันไปคุยลับหลังเขา

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับลม ฟังตินก่อน”  ภาคีรีบคว้าแขนคนอารมณ์ร้ายเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน  เมื่อเจ้าตัวทำท่าจะเดินออกไป ก่อนดึงเข้ามากอด ไม่สนใจสายตาของแขกที่ไม่ได้รับเชิญ จะมองมายังไง ภาคีไม่ได้สน  ขอแค่รั้งไม่ให้สีฟ้าหนีไปก็พอ  แม้จะโดนกำปั้นเล็กๆ กระหน่ำซัดมาก็ตาม

พอมีอารมณ์หึง อารมณ์ของสีฟ้าก็ขึ้นได้ง่าย ห้ามไม่อยู่ มันทั้งโกรธ ทั้งโมโห  ที่คนของเขายังทำเหมือนอาลัยอาวรณ์นิรดา โกรธมาก
 โมโหมาก แต่น้อยใจมากกว่า  

“ปล่อย ! ปล่อยฉัน ! ฉันจะกลับบ้าน  ปล่อยฉัน  นายจะได้อยู่คุยกับแขกของนายไปไงล่ะ  ปล่อยสิ! ปล่อย!  ฉัน บอก ให้ ปล่อย !!!  “ สีฟ้าทั้งดิ้น ทั้งจิก แต่เหมือนจะทำอะไรไปได้ไม่มากกว่านี้แล้ว ไม่สนมันแล้วว่าจะอับอายขายหน้านิรดาแค่ไหน

“ไม่เอาน่าลม ใจเย็นๆ สิครับ” ภาคีพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบคนใจร้อน ไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไรผิดไปตรงไหน ถึงทำให้สีฟ้าของขึ้นขนาดนี้

“ฉันบอกให้ปล่อยไง”

“ไม่ปล่อยครับ”

“ฉันบอกว่าให้ปล่อยไงเล่า ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง”

“ตินจะปล่อยลมไปได้ยังไงครับ ตินรักลมนะครับ” ภาคีบอกคำหวานใกล้ๆหูคนใจร้อน  เขาควรเครียดที่สีฟ้าร้อนเหมือนไฟ หรือควรดีใจที่สีฟ้าหึงเขาจนควบคุมตัวเองไม่อยู่

คำหวานๆ มันพอที่จะทำให้อาการของสีฟ้าสงบลงได้บ้าง  เมื่อสีฟ้าสงบลงได้บ้าง ภาคีก็แนบจูบหนักบนแก้มนุ่มไปหนึ่งทีให้เป็นรางวัล
 ก่อนจะหันไปบอกตัวปัญหาแรกของวัน  ที่ยืนยิ้มเหมือนสมใจอะไรสักอย่าง ไม่เห็นมีทีท่าว่าจะโวยวายอะไรเลย

“นุ่น ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้ว เรื่องระหว่างผมกับคุณ มันไม่มีทางเป็นไปได้ ผมรักคุณลม เราสองคนรักกัน หวังว่าคุณคงเข้าใจ แล้วก็กลับไปได้แล้ว”  ภาคีบอกเสียงเรียบเอากับคนที่ตามมาสร้างเรื่องยุ่งให้เขาแต่เช้า บอกตามสิ่งที่คิดว่าสีฟ้าต้องการได้ยิน

ชัดเจนเลยเถอะ พอเขาพูดจบ เนื้อตัวที่เกร็งขัดขืนกลับผ่อนแรงลง  จนกลายเป็นร่างกายนิ่มที่เขากอดแล้วให้ความรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก  

“ได้ยินชัดแล้วใช่ไหม เข้าใจแล้วใช่ไหม งั้นเชิญออกไปได้แล้ว แล้วอย่ามายุ่งกับคนของฉันอีก ไม่งั้น อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

“โถๆ  นุ่นไม่ได้โง่ขนาดนั้นนี่คะ  ทำไมจะไม่เข้าใจ นุ่นก็แค่ผ่านมาทักทายยามเช้าเท่านั้นเอง ไม่ได้จะมาแย่งคนของคุณลมสักหน่อย
 คุณลมน่ะหึงไม่เข้าเรื่องเองต่างหาก นุ่นขี้เกียจคุยด้วยแล้ว เดี๋ยวจะกลายเป็นว่านุ่นทำคุณลมกับตินทะเลาะกันซะเปล่าๆ  นุ่นขอตัวกลับเลยนะคะ ตินจ๊ะ แล้วเราเจอกันที่บริษัทนะคะ”

ไม่ต้องรอให้โดนไล่อีกรอบ นิรดาก็เดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ไม่วายที่จะส่งยิ้มหวานหยดย้อยให้ภาคีเป็นหนึ่งที  ยิ้มที่ไม่ได้มีความหมายอะไรนอกจากอยากแกล้งสีฟ้าก็เท่านั้น  มันอยู่นอกแผนไปนิด แต่คงไม่มีใครรู้ เธอขอเอาคืนสีฟ้าบ้างละกัน  ยอมรับก็ได้ว่ายังแค้นสีฟ้าไม่หายกับเรื่องที่ผ่านมา

งานนี้นิรดากำไรเห็นๆ  ได้ทั้งผลงาน  ได้ทั้งเอาคืน  เธอเลยได้ยิ้มร่าออกไปอย่างสบายอกสบายใจ
.
.
.
.
.
 

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 28-04-2011 19:52:23
คืออะไร ยังไง เบื้องหลังเป็นไงมาไง????
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 28-04-2011 19:54:25
คืออะไร ยังไง เบื้องหลังเป็นไงมาไง????

อดใจรอค้นหาคำตอบตอนหน้านะค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 28-04-2011 19:57:05
ลมหึงโหดนะเนี่ย

 :laugh: :laugh: :laugh:

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 28-04-2011 20:02:32
 :really2:อะไรยังไง


แผนมากเกินไประวังเข้าตัวกันอีกนะไอ้พวกชอบวางแผน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 28-04-2011 20:24:42
เรื่องนี้ยิ่งอ่าน ยิ่งเซ็งจะอะไรหนักหนา ไอ้ตัวช่วยหรือตัวซ้ำไม่ต้องมาบ่อยก็ได้มันจำเจเพราะถ้าตอนนี้ดีกันตอนหน้าจะมีตัวร้ายมา ให้นายเอกหึงจนหนีกลับบ้านอีก  ทำไมไม่สองคนนี้มาคุยกันให้จบเรื่องจบราว ไม่ใช่ให้เพื่อนค่อยปั่นหัวอยู่



   ปอลอ ถ้าพูดแรงเราขอโทษด้วย   แต่เราเขียนจากใจ

                   หวังดี
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-04-2011 20:38:04
ลมหึงน่ากลัวนะ... :laugh:



รอตอนต่อไปและเป็นกำลังใจให้เสมอครับ 


 o13 o13
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 28-04-2011 20:52:46
ยัยนุ่นเธอลองหยิกหน้าเธอดูซิ ไม่เจ็บใช่ป่ะล่ะ ชั้นก็ว่างั้นแหละไม่เจ็บหรอก ก็เธอมัน..
เธอว่าเธอมาเอาคืนจากลมเหรอ ชั้นว่าเธอมาเหยียบย่ำซ้ำเติมศักดิ์ศรีตัวเองมากกว่า
ทำแบบนี้ยิ่งทำให้เธอดูไร้ค่านะ เธอก็รู้ว่าตินไม่ได้รักเธอมาโดยตลอด ตินก็เคยพูดกับเธอไปแล้ว
แล้วเธอยังอยากมาฟังมาเห็นคำเดิมๆสิ่งเดิมๆอีกเหรอ รึยังหวังลมๆแล้งๆว่าตินจะเปลี่ยนใจ
ทำไมไม่ให้มันแล้วๆไป ไปเริ่มต้นใหม่ ทำตัวให้มันดูมีค่าซิ ถ้าโกรธนักก็กรวดน้ำคว่ำขันกันเลยดิ
ทำแบบนี้ไม่รู้สึกสมเพชตัวเองมั่งเหรอ

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Cosine ที่ 28-04-2011 21:01:05
อชิตะ หวานอะไรพวกนี้คงจ้างมาใช่ป่ะ แบบอยากให้สีฟ้ารู้ว่าตัวเองรักตินมากไรงี้รึเปล่า

ฮ่าๆๆ คิดไปเรื่อยค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 28-04-2011 21:11:07
ลมน่าจะจัดหนักให้นังนุ่นมั่งนะ
ชอบสร้างความร้าวฉาน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 28-04-2011 21:38:08
ใจหายหมดเรยที่แท้อย่างงี้นี่เอง
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
ขี้หึงสุดๆๆเหมือนกานนะนนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 28-04-2011 21:40:56
ที่แท้ก้อวางแผนนี้เอง

ฮาๆๆ

แผนนี้ ถ้าจะเป็น หวาน อชิตะ เป็นคนคิดนะเนี่ย

น้องลมเนี่ย ขี้หึงสุดๆๆๆ

ปล.ผมสงสัยมานานแล้ว นายเอกชื่อสีฟ้า แต่ทำไมต้องเรียกว่า ลม

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 28-04-2011 21:51:41
ตกใจหมดนึกว่ายัยนุ่นจะเข้ามาวุ่นวายอีก  :เฮ้อ:
55555555. มีแผนนี่เอง
แต่เอ๊ะ ! แผนของใครละเนี่ยะ แล้วเป็นไงมาไงละเหว๋ย ฮ่าๆๆ

รออ่านตอนต่อไปจ้า จุ๊บๆๆ♥
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 28-04-2011 21:55:36
เอานุ่นไปเก็บเหอะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 28-04-2011 21:59:13
แผนอะไรอีกเนี่ย  :serius2:

โอย...ใจหายใจคว่ำตลอด ค่ะอ่านเรื่องนี้:เฮ้อ:

แต่ชอบนะ ตอนหึง มันทำให้เห็นว่า ลมก็เห็นตินสำคัญ  :man1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 28-04-2011 22:03:13
ยัยผู้หญิงคนนี้ยังไม่ไปผุดไปเกิดอีกหร่อเนี่ยยยยย :angry2:


ว่าแต่ ลมหึง น่ากลัวนะ  o13
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By
เริ่มหัวข้อโดย: ramgaythai ที่ 28-04-2011 22:07:01
เอานุ่นไปเก็บเหอะ

ว่ากันๆ เก็บนอกโลกเลย

แต่ลมนี่หึงโหดอ่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 28-04-2011 22:08:34
ลมกลายเป็นพายุเลยทันที อิอิ ตินน่วมแน่ๆ

บวกให้ค่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 28-04-2011 22:25:10
เหอๆ  โดนจ้างให้มาดูผล ว่างั้น
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 28-04-2011 22:38:13
อะไเนี่ยใครสร้างแผนแต่เช้า
กลายเป็นลมเพชรหึงไปแล้วลมเรา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 28-04-2011 22:41:08
ยัยนุ่น


ตอนนี่ชั้นชอบเธอก็ได้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tender ที่ 28-04-2011 23:01:46
คุณลมหึงพี่ตินบ่อยๆนะ ชอบ><
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 28-04-2011 23:17:17
ที่แท้ก้อวางแผนนี้เอง

ฮาๆๆ

แผนนี้ ถ้าจะเป็น หวาน อชิตะ เป็นคนคิดนะเนี่ย

น้องลมเนี่ย ขี้หึงสุดๆๆๆ

ปล.ผมสงสัยมานานแล้ว นายเอกชื่อสีฟ้า แต่ทำไมต้องเรียกว่า ลม



อืมมม ที่นายเอกชื่อสีฟ้า แล้วทำไมถึงเรียกว่าลม
ถ้าตอบตามการตั้งชื่อของคนเขียนนะคะ คิดว่าไม่มีเหตุผลตามหลักการตั้งชื่อค่ะ มันเป็นความชอบส่วนตัว ชอบชื่อที่เป็นสีๆ เลยตั้งชื่อแบบนี้คร้าา (เรื่องที่แต่งค้างไว้ พระเอกก็มีชื่อเป็นสีค่ะ  แล้วเรื่องที่วางโครงเอาไว้ ก็จะให้สองนายเอกชื่อ สีหวานกะสีส้ม คร้าาา )
แล้วที่ต้องเรียกว่า ลม ก็เพราะว่า นายเอกมีชื่อจริงว่า สีฟ้า ชื่อเล่นก็เลยไม่รู้จะตั้งว่าอะไรดีเลยเอาชื่อ ลม นี่แหละค่ะ ชอบชื่อ ลม เป็นการส่วนตัวเช่นกันค่ะ
ฮ่าๆๆ เป็นประการฉะนี้แหละค้าาา

^^'
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 28-04-2011 23:20:44
แรกสีฟ้าเอาเเน่เอานอนไม่ได้ สงสารตินมากๆ ไม่รุสิ ยิ่งอ่านยิ่งสงสาร ตกลงเอาไง น่าจะรู้ว่าตินรักมากเเค่ไหน มั่วเเต่ยึดติดกับแพทเเล้วตอนสุดท้ายแพทนั้นนล่ะจะกลับมาราวีเอง

แผนกี่แผนที่ใช้มานิ 555

หึงบ้างน่ะดีเเล้ว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jellyfish ที่ 28-04-2011 23:52:17
สองตอนรวด

คุณลมหวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
เป็นสายลมพัดแผ่วๆให้สบายกาย สบายใจ
แล้วเปลี่ยนเป็น ลมพัดกระหน่ำได้น่ารักที่สุดดดดดด

ขออย่าให้สายลมพัดไปไหนอีกเลยยย
แต่งงในการกระทำของแม่นุ่นเหลือเกิน เธอทำเพื่อ........
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 29-04-2011 00:09:43
อะไรยังไงอ่า สงสัยเป็นแผนอีกแน่ๆ เลย นุ่นเกือบเอาตัวเองไปตายซะแล้ว ลมหึงโหดได้อีกอ่า รอตอนหน้า หุหุ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 29-04-2011 02:18:18
นุ่นก็จิตนะเนี่ย จะทำด้วยตัวเองหรือมีคนจ้างก็ไม่คุ้ม เกิดลมกลายเป็นพายุทอร์นาโด กวาดทุกอย่างราบเรียบก็ไม่มีใครช่วย หุหุ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 29-04-2011 07:22:27
เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง ถ้าเกิดหึงโหด หรือมีปืน ป่านนี้ไม่ยิงกันไส้ไหลเลืิอดกระจายไปแล้วหรือเนี้ย

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 29-04-2011 10:07:43
ขอบคุณคุณ i_ang และคุณ Aphrodite  :L2:
เป็นนิยายที่สนุกมากเรื่องหนึ่งในความรู้สึกเรา
สนุกแบบนิยายที่ไม่ต้องคิดมาก อ่านแล้วอินตามอารมณ์ตัวละคร ไม่ต้องมีเหตุผล
สงสารภาคี โมโหสีฟ้า แต่ก็อยากให้ลงเอยกัน
จะติดตามจนกว่าจะจบนะ :L1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 29-04-2011 10:21:00
ใครคือเบื้องหลัง???????
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Ugly Ducky ที่ 29-04-2011 12:01:36
ง่ะ ค้างงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 29-04-2011 12:27:40
พวกเพื่อนๆ ตัวยุ่งกับบอสคงจ้างให้ทำสินะ
ไร้สาระชะมัด โกรธ~~~~~~
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 29-04-2011 13:30:37
แผนของหวาน หวาน ซินะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 29-04-2011 14:16:38
อ่านแล้ว สงสารสาวๆเรื่องนี้จังเลย ทั้งสาวหวาน โดนน้อยหน่อย สาวแพท โดนปานกลาง-มาก
หนักสุด คงสาวนุ่น  โดนแฟนคลับ หนูลม กระหน่ำซะแปลงร่างกลับไปเป็นชะนีกันถูกไม๊เนี่ย อิอิ

หนูลมอย่าลืมคอนเซ็พท์เราต้อง สวย เริด เชิด หยิ่ง  :laugh5:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 29-04-2011 15:31:20
อิหนูนุ่นเกือบเอาชีวิตมาทิ้งนะเนี๊ยะ     :m20:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 29-04-2011 17:39:49
มครไปจ้างยัยนุ่นมาเนี่ย แต่เราก็ชอบนะอยากเห้นลมหึง :laugh:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 29-04-2011 20:41:38
แผนใครอีกละทีนี้อะ
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 29-04-2011 22:15:13
คุณลม หึงแรงจังนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 26 ระวังฟ้าฝนคะนอง และ ลมพายุ...หึง[28/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 30-04-2011 08:50:31
รอตอนต่อปายยยยย




 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 30-04-2011 09:19:05
ตอนที่ 27

“ปล่อยได้แล้ว” สีฟ้าสะบัดตัวหลุดจากวงแขนแกร่งทันที หลังจากประตูห้องถูกปิดลงด้วยฝีมือของแขกที่ไม่ได้รับเชิญ แต่กลับมาสร้างกวนอารมณ์เขารับอรุณอย่างนี้ เรื่องตัวปัญหาอาจจะจบลงได้ด้วยดี แต่สีฟ้ายังต้องสะสางคดีเอากับภาคีต่อในเรื่องของรูปถ่ายที่กองอยู่บนโต๊ะ


สีฟ้าก็เดินไปหยิบรูปถ่ายสิบกว่าใบที่นิรดาวางไว้ขึ้นมา ยืนมันให้คนที่เดินตามเขามาเหมือนคนกลัวความผิด

ภาพมันฟ้อง....

อยากรู้ว่าภาคีจะแกล้งตัวยังไง 

“นี่มันหมายความว่ายังไง ฉันอยากรู้” พออารมณ์แปรปรวน คำเรียกขานก็เปลี่ยนกลับไปเป็นห่างเหินเหมือนเมื่อครั้งเก่า

รูปภาพพวกนี้ ใช่ว่าไม่เคยเห็น รูปภาพที่สีฟ้าคิดว่าลืมมันไปได้แล้วเชียวนะ มันเคยทำให้เขาอารมณ์พุ่งมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นที่ณัชชาเอามันมาให้เขาดู คิดว่าจะแกล้งลืม จะไม่พูดถึง แล้วจะไม่ใส่ใจ แต่พอมันกลับมาให้เห็นอีกครั้ง มันก็ทำใจเย็นไม่ได้

“อะไรครับ?” ภาคีโอบเอวบาง ก่อนจะออกแรงดึงเจ้าของเอวให้ลงไปนั่งบนโซฟานุ่มด้วยกัน ในสภาพที่อีกฝ่ายนั่งอยู่บนตักของเขา แล้วเขาก็วางคางสากไว้กับไหล่มน แต่ไม่ลืมกดปลายจมูกโด่งบนแก้อีกฝ่ายเหมือนที่ชอบทำ 

“รูปพวกนี้มันหมายความว่ายังไง พอห่างจากฉันก็ไปเกาะแกะยัยนุ่นนั่นเลยใช่ไหม?” สีฟ้ายอมรับว่าหึงมากถึงมากที่สุด ถึงแม้รูปที่เห็นจะฟ้องว่านิรดาเป็นฝ่ายเสนอทั้งตัว ทั้งแขน ทั้งหน้า เข้าหาคนของเขาที่ยืนนิ่งให้นิรดาถึงเนื้อถึงตัว แต่มันหวง มันหึง เลยพาลโกรธคนของเขาไปด้วย ข้อหาที่ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัวซะบ้าง

“หึงอ่ะดิ” น้ำเสียงออกจะรื่นเริงเกินไปหน่อย เลยโดนศอกกระทุ้งเต็มแรงรัก

“อย่านอกเรื่อง บอกมาเดี๋ยวนี้ว่ารูปพวกนี้มันหมายความว่ายังไง”

“ลมครับ เวลาหึงลมเนี่ย รู้ตัวไหมว่าขาดความรอบคอบไปเยอะเลยนะครับ” ถ้าภาคีกล้ากว่านี้ เขาคงจะพูดว่า สีฟ้าตาถั่วมาก แต่เขาไม่กล้าพูด กลัวจะเพิ่มโทษให้ตัวเองซะมากกว่า

“ฉันถามนายนะ ไม่ใช่ให้นายมาย้อนถามฉัน ” หงุดหงิดอยู่ไม่น้อยที่โดนย้อน

“พูดไม่เพราะเลยนะครับ ต้องพูดว่าลมกับตินสิครับ”

“กล้าสั่งฉันเหรอ?” คนมันของขึ้น ภาคพูดอะไรก็ฟังขัดหูไปเสียหมด

“โธ่ลมครับ ตินไม่ได้สั่งนะครับ ตินแค่อยากฟังชื่อของตัวเองออกจากปากของคนที่ตินรักมากที่สุด คนที่เป็นรักแรกของติน คนที่เป็นรักเดียวของติน และก็เป็นรักสุดท้ายของติน ตินไม่ได้คิดจะสั่งให้ลมพูด แต่ตินอยากขอร้อง ได้ไหมครับ นะครับลม คนดีของติน”

คำพูดเพราะๆ จากปากของคนที่สีฟ้าก็รัก ไม่ต่างจากที่คนๆ นี้รักเขาเช่นกัน  มันเลยทำให้สีฟ้ารู้สึกตัว ว่าตัวเองนิสัยไม่ดีแค่ไหน เอาอารมณ์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง ลืมที่จะสนใจความรู้สึกของคนที่เขารัก

“ขอโทษ”

“ขอโทษทำไมครับ” ภาคีงงไม่น้อย เมื่อจู่ๆ สีฟ้าก็ขอโทษเขา พร้อมกับขยับตัวลงจากตักของเขา แต่ยังคงนั่งชิดติดกัน เพียงแค่ให้ใบหน้าทั้งสองหันมาเจอกัน ตาประสานตา แล้วเขาก็เข้าใจว่าคำขอโทษของสีฟ้า มาจากเรื่องอะไร

“ขอโทษที่ใส่อารมณ์กับตินไง  ลมขอโทษ ต่อไปจะพยายามทำตัวให้ดีกว่านี้  จะเรียกชื่อตินให้เหมือนกับที่ตินเรียกชื่อลม”

“หรือครับ? ทำได้แน่นะครับ” คนถามทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ ทั้งที่ใจมันเชื่อไปหมดแล้ว

“ทำได้”

“ไม่ฝืนแน่นะ”

“อืม”

“ชัวร์”

“ติน....”

“ครับๆ เชื่อแล้วครับ” 

“แต่ลมยังไม่ลืมเรื่องรูปนะ พอจะมีคำอธิบายดีๆ ให้ลมได้หรือยัง ว่าทำไมถึงยังไปยุ่งกับยัยนุ่นนั่นอีก”


“ลมลองดูดีๆ สิครับ” ภาคีหยิบรูปขึ้นมา ชี้ให้คนขี้หึงแล้วก็อารมณ์ร้อนดู

“เห็นความแตกต่างอะไรระหว่างตินในรูปกับตินตัวจริงบ้างครับ ตอบให้ตินชื่นใจหน่อยสิครับ” ปลายเสียงออกจะยั่วนิดๆ มือใหญ่ก็พลิกรูปที่อยู่ในมือให้คนในอ้อมแขนดูช้าๆ จนครบทุกรูป

“ไม่เห็น” คำตอบแสนห้วน ที่พยายามจะเอามันมาปิดบังความอับอายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว  นี้ถ้าลดความหึงหวงลงให้น้อยลงได้ เขาก็คงเห็นความแตกต่างนี้ตั้งแต่วันที่ณัชชาเอามาให้ดูแล้วล่ะ

ภาคีในรูปที่เห็น เจ้าตัวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีเขียวเข้มที่เขาเห็นใส่บ่อยๆ กับภาคีคนที่อยู่กับเขาในตอนนี้ แม้หน้าตาจะเหมือนกันราวกับแฝดเพราะเป็นคนๆ เดียวกัน  แต่มันต่างกันตรงที่ความสั้นยาวของผมเส้นหนา ภาคีในรูปผมสั้นจัดทรงตั้งๆ เหมือนทรงนักเรียน แต่ภาคีคนที่อยู่นอกรูป ผมยาวกว่าในรูปมาก เวลาเดือนกว่าจากผมสั้นขนาดนั้น คงยาวขนาดนี้ไม่ได้แน่นอน

แสดงว่าเขาหึงจนตาถั่วใช่ไหม? อายมาก ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน 

“ดูป้ายผ้าด้านหลังด้วยสิครับ จะได้เข้าใจอะไรมากขึ้น”  ถึงสีฟ้าจะบอกว่าไม่เห็น แต่มีหรือว่าภาคีจะไม่รู้ สีฟ้ากำลังอายตัวเอง เขาเลยต้องชี้ให้ดูรายละเอียดของภาพต่อ

ฉากด้านหลังในภาพเป็นงานเลี้ยงของบริษัทแทบทุกใบ  มีป้ายผ้าผืนใหญ่และยาวแขวนห้อยอยู่ ตัวหนังสือบนป้ายผ้าบอกปีพ.ศเอาไว้ชัดเจน  ปีพ.ศที่บอกว่าอยู่ห่างจากปีพ.ศ.นี้ไปถึงสามปี

ภาพพวกนี้ถ่ายมาแล้วถึง 3 ปี เขาถูกณัชชากับนิรดาหลอกใช่ไหม?

“เข้าใจแล้ว” สีฟ้าบอกเสียงเบา มองหน้าคนในรูปแล้วก็อายจนต้องหลบตา

“คราวหน้าก็หึงให้มันน้อยหน่อยนะครับลม” คนพูดยิ้ม ไม่ได้โกรธที่ถูกเข้าใจผิด ออกจะชอบใจที่สีฟ้าแสดงอาการหึงหวงเขาออกมาให้รู้ ว่าไม่ใช่แค่เขาฝ่ายเดียวที่หึงหวงสีฟ้า สีฟ้าก็หึงและหวงเขาด้วยเช่นกัน

“รู้แล้ว”

“บอกตินหรือบอกพนังห้องครับลม หน้าตินอยู่ตรงนี้นะครับ”

“เลิกแกล้งได้ไหมติน ลมก็สำนึกผิดแล้วไง จะเอาอะไรอีก” ปลายเสียงตวัดค้อนนิดๆ แต่ไม่ถึงกับใส่อารมณ์อะไรมาก เขาผิดจริง เลยไม่รู้ว่าจะเอาอะไรไปเถียงสู้ดี

“เอาอันนี้ครับ” ปากบอก ก่อนนิ้วมือจะวางแปะบนปากหยักของตัวเอง มุมปากยกยิ้ม 

“แต่....”

“ห้ามแต่ครับ....รู้ไหมเมื่อกี้ที่ลมโกรธอ่ะ ตินเจ็บตัวแค่ไหน ตินขอแค่นี้ไม่ได้เลยหรือครับ” คนพูดทำเสียงเบาเวลาถาม ตีหน้าเศร้าอ้อนขอ ส่วนคนทำผิดก็ไม่อยากตามใจมาก แต่เมื่อเขาผิด จะปฏิเสธก็ไม่ใช่ที่

มันไม่ได้เสียหายอะไร แค่จูบ มากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว....แต่มันก็ยังอายอยู่เหมือนกัน ที่ภาคีขอน่ะ คือเขาต้องเป็นฝ่ายจูบภาคีก่อนนี่สิ  ไม่ใช่ไม่เคย เคยตั้งหลายครั้ง แต่หลายครั้งนั้นอารมณ์มันพาไป ไม่เหมือนครั้งนี้นี่นา

ถ้าต้องจูบจริง เขาก็คงไม่กล้าจูบภาคีแน่ๆ  หากตาคมหวานยังจ้องเขาราวกับจะกลืนกินอยู่แบบนี้

“หลับตาได้ไหม” อย่างน้อยถ้าภาคีหลับตาลง เขาก็อาจจะอายน้อยลง.....มั้งนะ

“ไม่เอาอ่ะ ไม่หลับตา เดี๋ยวลมโกงติน พอตินหลับตา ลมก็จะหนีลมไป”  มีหรือภาคีจะยอมทำตาม ก็กลัวว่าพอหลับตาปุบ  รางวัลหวานๆ อาจจะกลายเป็นอากาศไป หรือไม่ก็อาจจะโดนเคาะกะโหลกรับอรุณก็ได้

“ลมไม่หนีไปไหนหรอก ไม่เชื่อใจลมเหรอ”  เขาถามเสียงหวาน เอาใจ ไม่ได้คิดจะหนีอย่างที่ภาคีพูดเสียหน่อย แค่เขาอาย  ไม่อยากจูบตอนที่อีกฝ่ายยังลืมตามองหน้าเขาหวานซึ้งซะขนาดนี้

ใครไม่อาย แต่สีฟ้าอาย อายมากด้วย ถ้าภาคียังลืมตาอยู่อย่างนี้

“ก็ได้ครับ ตินเชื่อลม” 

แล้วตาคมหวานก็ถูกกลืนหายไปภายใต้เปลือกตาที่ปิดสนิท  ทาบทับด้วยขนตายาวยาวของภาคี ก่อนที่สีฟ้าประคองใบหน้าที่หน่วยตาปิดสนิทด้วยสองมือ จรดปากอิ่มเข้ากับปากหยัก ปรุงแต่รสหวานอย่างแผ่วพลิ้ว  แล้วแทรกสอดเรียวลิ้นเข้าไปหลังรอยแยกของปากหยัก ก่อนจะเจอกับลิ้นร้อนชื้นเกี่ยวกะหวัด

หวาน....จนละลาย

ร้อนแรง....จนหลงใหล
...


มีต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 30-04-2011 09:21:02
ต่อ

ก้าวเท้าออกมาจากห้องชุดในคอนโดหรูได้เพียงไม่กี่ก้าว  แขกที่ไม่ได้รับเชิญของสีฟ้าและภาคีก็รีบล้วงเอามือถือเครื่องเล็กออกมาจากกระเป๋าสะพายใบสวยสีหวาน
  กดโทรออกอยู่เพียงครู่เดียวก็ติดต่อคนปลายสายได้ ไม่จำเป็นต้องอีกฝ่ายเปิดประเด็นให้เสียเวลา
 นิรดาจัดการรายงานผลงานชิ้นเยี่ยมของเธอทันที

“เรียบร้อยค่ะบอส ฝีมือระดับนุ่นแล้ว ไม่มีพลาดค่ะ ว่าแต่....บอสคะ อย่าลืมสัญญาที่ให้นุ่นนะคะ  ตั๋วเครื่องบินไปอียิปต์ พร้อมเงินพ็อตเก็ตมันนี่  ห้ามเบี้ยวนุ่นเด็ดขาดนะคะ
 ไม่อย่างนั้นนุ่นอาละวาดแน่ เดี๋ยวนุ่นไปรับรางวัลที่บริษัทเลยนะคะ”

เธออวบยิ้มกว้างทันทีที่ได้รับคำยืนยันจากหัวหน้าหนุ่มมาตามสาย  อย่างนี้สิมันถึงจะคุ้มที่ลงทุนลงแรงไปเสี่ยงตายในห้องชุดที่เพิ่งเดินออกมา ดีแค่ไหนที่เธอกลับออกมาในสภาพสมบูรณ์ครบสามสิบสอง ไม่โดยสีฟ้าขย้ำเอาซะก่อน

ความจริงแล้วนิรดาถูกเจ้านายหนุ่มขอร้องบวกขู่บังคับ และเอาของรางวัลเข้าล่อ ให้ตกลงทำตามแผนของคณิต แผนที่จะทำให้สีฟ้าหึงภาคี เพื่อที่ทั้งคู่จะได้เข้าใจกันมากขึ้น


...

“อย่าติน เดี๋ยวเสื้อยับ”

เจ้าของแผ่นหลังบางที่สัมผัสกับความนุ่มของเนื้อโซฟานุ่ม  กำลังใช้สองมือดันแผ่นอกกว้างที่ทาบทับลงมา หลังจากที่ควนหาความหวานที่ซุกซ่อนอยู่หลังรอยแยกของ
ปากสีสวย อารมณ์หวานหวามนำพาให้ความรู้สึกไม่เคยพอเพียงแค่ความหวานที่ปลายลิ้น  เพราะยังมีความหอมหวานมากกว่านั้นที่อยากได้ 

มือแกร่งกดไหล่คนร่างบางให้นอนแนบไปกับโซฟา เพียงเพื่อต้องการสัมผัสเรือนกายบอบบางให้มากกว่าเดิม แต่ถูกประท้วง อารมณ์มันพาลจะหงุดหงิดให้ได้ เมื่อคืนก็ได้แค่กอด ตอนนี้ก็ยังจะไม่ได้อีกหรือไง

“ยับก็เปลี่ยนสิครับ เสื้อของตินมีตั้งหลายตัวที่ลมใส่ได้ ลมจะเลือกใส่ตัวไหนก็ได้ แต่ตอนนี้ ตินขอนะครับ นะครับลม เมื่อคืนตินก็ได้แค่กอด  รู้ไหมตินคิดถึงลมจะแย่อยู่แล้ว
  คิดถึงตัวหวานๆ ของลม คิดถึงสัมผัสของลม”  ว่าแล้ว จมูกโด่งก็กดเข้าที่แก้มนวลใสขึ้นสีแดงระเรื่อ  เพราะคำพูดที่ภาคีเพิ่งพูดจบไป ไม่สนใจแรงต่อต้านจากมือเรียว  แรงแค่นี้จะทำต้านอะไรไหวละครับคุณลม  ภาคีนึกขำในใจ

สีฟ้าอยากค้านเหลือเกินว่า ไอ้ที่บอกว่าได้แค่กอดน่ะ  มันใช่กอดอย่างเดียวที่ไหน ทั้งกอด ทั้งลูบ ทั้งคลำ นอนใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ทั้งที่เนื้อตัวไม่มีสิ่งใดห่อหุ้มเลยด้วยซ้ำ
 แต่สีฟ้าก็ไม่กล้าพูดมันออกมา ก็มันอายเกินกว่าจะพูดออกมาได้

“ไม่เอานะติน ต้องไปทำงานอีก เดี๋ยวสาย ตอนเย็นได้ไหม?” เขาจ้องหน้าคนที่จ้องแต่จะเอาเปรียบ ไม่ได้ข่มขู่ หากกำลังขอร้อง แต่ดูตาคมหวานที่พราวระยิบนั้นแล้ว เห็นแล้วล่ะว่า คำขอคงไร้คำตอบรับ

“ตินรักลมนะครับ” คนชอบเอาเปรียบกลับตอบไปคนละทาง

ภาคีรู้....สีฟ้าแพ้คำบอกรักของเขา ยามใดที่เอ่ยมันออกมา อีกฝ่ายก็จะยอมให้เขาเสมอ เหมือนครั้งนี้ไง มือเรียวที่ออกแรงดึงดันขัดขวางความแนบใกล้ แปรเปลี่ยนเป็นวาดวางอยู่ที่ต้นคอเขา รัดดึงให้โน้มชิด หยิบยื่นปากสีหวานทดแทนแรงผลักขืนเมื่อครู่ จูบหวานถูกป้อนถึงปากหนา ลิ้นชื้นเกี่ยวพันกับเรียวลิ้นหวาน ที่ทั้งหวานทั้งยั่วยวนชวนให้หลงใหล  แล้วถอนความหวานนั้นออกช้าๆ เพียงเพื่อจะเอ่ยอนุญาตคำขอของคนตาคมหวานมากล้นความต้องการ

“.....นิดเดียวนะติน ลมยังไม่อยากโดนดุ” ว่าจะไม่ยอมอยู่แล้ว เพราะกลัวคนตัวใหญ่กว่าเขาจะได้ใจมากเกินไป เอะอะก็คิดแต่จะกอบโกยอะไรต่อมิอะไรจากร่างกายเขา
 แต่พอโดนสายตาอ้อนๆ แสนหวานที่เป็นต้องเผลอใจไปซะทุกครั้ง แล้วคำรักลึกซึ้งที่ฟังกี่ทีก็ไม่เคยเบื่อนั่นอีก ทำให้คนเสียเปรียบไม่อาจฝืนต้านทานความต้องการของอีกฝ่ายไว้ได้

แล้ว....

ความจริงนั้น ที่ลึกลงไปข้างใน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาก็โหยหาเช่นเดียวกับสิ่งกับภาคี

มันเป็นครรลองครองธรรมของโลก ที่เขาไม่อาจฟืนต้านเอาไว้ได้

“แล้ว....แล้ว....เอ่อ....แล้ว รอบเดียวด้วยนะ” พูดออกไปก็อายเอง ไม่กล้าสบตาที่พราวระยิบที่มองมา ราวกับว่าถูกใจอะไรในคำพูดนี้นักหนา

“สองได้ไหมครับ”

“ไม่ได้” แทบจะทันทีที่อีกฝ่ายต่อรอง หน้าใสแดงยิ่งกว่าเดิม อายแต่ก็ต้องสู้ตาย ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายอาจจะไม่ยอมทำตาม

“ใจร้าย” ภาคีตีหน้าเศร้า ทั้งที่ตาคมยิ้มพราว เขาไม่ได้คิดว่าจะทำอย่างที่ปากขอ แค่อยากแกล้งคนใต้ร่างของเขามากกว่า

“แล้วจะเอาไหม รอบเดียว ไม่งั้นก็ปล่อย” เสียงหวานเริ่มขู่ เพราะกลัวความไม่ปลอดภัยของตัวเอง   

“.....ครับ” ภาคีตอบรับ พอใจกับคำขู่ของคนหน้าหวาน ที่ไม่ได้หวานเฉพาะใบหน้าที่เขาหลงใหล หากสีฟ้าหวานไปทั้งเนื้อทั้งตัว หวานเหมือนกับว่าผิวกายบอบบางที่เขากลืนกินอยู่นี้ ถูกสร้างมาจากน้ำผึ้งหวานที่หวานเกินจะหาอะไรมาเทียบเคียงได้

สีฟ้าหวานชวนลิ้มลอง.......

และเขา นายภาคีได้มากกว่าการลิ้มลอง เพราะเขาได้ครอบครองร่างบางหวานปานน้ำผึ้งนี้แล้ว


แล้วปากหยักก็เริ่มทำอย่างที่ใจต้องการ จุดเริ่มต้นแรกยังคงเป็นปากสวยสีสดอิ่มนุ่มที่ไม่เคยนึกเบื่อจะป้อนคำรักให้ครั้งแล้วครั้งเล่า พอๆ กับหาความหวานอ่อนนุ่มซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ทุกครั้งที่มีโอกาส อ้อยอิ่งอยู่นานเพราะได้รับความร่วมมือจากเจ้าของมันอย่างดีเยี่ยม  ทั้งดุนดัน เกี่ยวเกาะ รัดดึง เมื่อสมอยากจากปากหวาน  จากนั้นปากหยักก็นำทางจมูกโด่งสวยไปยังซอกคอขาวกรุ่นกลิ่นถูกใจ ที่คล้ายจะเปิดต้อนรับอย่างเต็มใจ

ซอกคอหวานที่เต็มไปด้วยความหอมของผิวเนื้อจริง  ไม่ใช่ด้วยกลิ่นหอมของแป้งหรือครีมเนื้อไหนๆ กลิ่นหอมทั้งตัวของสีฟ้า มาจากกลิ่นผิวกายที่แท้จริง เพราะภาคีรู้ว่าคนตัวหวานหอมไม่ได้ปรุงแต่งเนื้อตัวด้วยแป้งชนิดไหนหรือครีมชนิดใดเลย และลืมไปได้เลยว่ากลิ่นนั้นมาจากสบู่ที่ใช้ร่วมกัน หากมาจากกลิ่นสบู่จริง เนื้อตัวเขาก็ต้องหอมเหมือนกันสิ แต่นี้ไม่เลย เขาหอมได้ไม่ถึงเศษเสี้ยวความหอมหวานของสีฟ้าด้วยซ้ำ

ถึงแม้สมองจะจดจำกับกลิ่นกายหวานหอม  แต่ทั้งปากหยักและจมูกโด่งทำหน้าที่ได้อย่างงดงาม ก่อนจะลามไล้สู่แผ่นอกสวยเนื้อนวลที่มือใหญ่นำทางไปก่อนหน้านี้แล้ว

จับไปตรงไหนบนสัดส่วนร่างกายของร่างบอบบาง มันก็ลื่น นุ่ม น่าแตะต้องสัมผัสไปหมด  ยังไม่ทันจะลิ้มลองความหวานของแผ่นอกสวยที่ยั่วเย้าอยู่ตรงหน้า  ใกล้แค่ปลายจมูกชิดและปากที่จะกลืนกิน ทั้งที่เจ้าของร่างบางก็ไม่ได้คิดจะแข็งขืน  ซ้ำร้ายยังให้ความร่วมมืออย่างดี แต่แล้วทุกความหอมหวานถูกหยุดลงเพียงเพราะเสียงกริ่งที่บอกว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญมาเยือนห้องชุดนี้อีกครั้ง

....................กริ๊ง......................

แม้จะดังเพียงแค่ครั้งเดียวแล้วเงียบหายไป แต่นั่นก็ทำให้ร่างบางผลักร่างหนาที่ทาบทับให้ถอนกายออกโดยเร็ว

กระดุมเม็ดเล็กกลับไปอยู่ในรังดุมเหมือนเดิม ด้วยมือเรียวเล็ก ในเวลาอันรวดเร็ว

ภาคีมองการกระทำนั้นอย่างขัดใจ ถึงเสียงกริ๊งที่ดังจะขัดจังหวะ  มันก็ไม่ทำให้ขัดใจได้เท่ากับการที่สีฟ้าผลักเขาออก แล้วติดกระดุมเสื้ออย่างรวดเร็ว ราวกับรอโอกาสนี้มานาน

หึ...ขัดใจที่สุด 

“สงสัยมีคนกดกริ่งผิดนะครับ อย่าสนใจเลย มาต่อเถอะนะครับลม” ภาคีอ้อนเสียงหวาน ปัดความขัดใจออกไปอย่างรวดเร็ว ดันแผ่นหลังร่างบางให้ราบไปดังเดิม  หวังจะดำเนินบทรักต่อไป หากเสียงกริ่งก็ดังขึ้นเป็นครั้งที่สอง

..................กริ๊ง.........................

“ปล่อยก่อนติน”  สีฟ้าฝืนตัวเอาไว้ ไม่ยอมให้ความร่วมมือ ขยับถอยห่างจากร่างสูงมาอยู่อีกฝั่งหนึ่งของโซฟา จัดเสื้อผ้าให้เข้าทีเข้าทาง ปัดผมที่ยุ่งให้เป็นทรงดังเดิม

“ใครอีกล่ะเนี่ย”

น้ำเสียงไม่พอใจอย่างหนัก  ทั้งที่กำลังจะได้ครอบครองร่างบางหอมหวานน่าหลงใหลนี้อยู่แล้วแท้ๆ ยังจะมีคนมาขวางอีก

“ลมจะไปรู้เหรอ”

สีฟ้าแอบยิ้มให้กับใบหน้าไม่สมอารมณ์หมายของภาคี  เขาต้องขอบคุณแขกคนที่ยืนอยู่ด้านนอกที่มาช่วยเขาเอาไว้ได้ทัน  ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าจะต้องถูกรุกรานด้วยความหวานไปอีกนานเท่าไหร่ ไอ้ที่ว่าจะไปทำงานแต่เช้าเป็นได้สายโด่แน่นอน

คนที่กำลังจะได้กลืนกินร่างหวานๆ นึกหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย เมื่อถูกขัดจังหวะหวานๆ แต่ก็ยังคิดจะลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูดูหน้าแขกที่ไม่ได้รับเชิญ  หากถูกสีฟ้ารั้งไว้ก่อน

“เดี๋ยวลมไปดูเอง”  สีฟ้าบอก รั้งข้อมือใหญ่เอาไว้ เมื่อเห็นว่าภาคีลุกขึ้นเตรียมจะไปเปิดประตูให้แขกที่อยู่ด้านนอก  เขากลัวว่าคนข้างนอกจะเป็นผู้หญิงคนเดิมทีเพิ่งจากออกไปไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้

สีฟ้ากลัวนิรดาจะย้อนกลับมาอีกครั้ง เขาไม่อยากให้ภาคีออกไปเจอนิรดา ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ แค่ไม่อยากให้เจอกัน เขาหวง

“นั่งอยู่ตรงนี้แหละ ห้ามตามมา” เขาสั่ง เมื่อภาคีทำท่าจะลุกตามเขามา

“ครับ” ไม่เข้าใจว่าทำไมสีฟ้าต้องห้าม แต่ก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย

.
.
.
.
 


ประตูห้องเปิดกว้างต้อนรับแขกคนที่สองของเช้าวันใหม่ แขกคนสำคัญที่ทำเอาสีฟ้ายืนนิ่ง เนื้อตัวเหมือนถูกสั่งให้กลายเป็นก้อนหิน ตาเรียวสวยเบิกกว้าง ในจังหวะที่เห็นเพื่อนที่เคยรักกันมายืนอยู่ตรงหน้า

“.....แพท”  เสียงของสีฟ้าที่เรียกชื่อของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า มันแผ่วเบา ฟ้องความรู้สึกภายในที่สั่นไหว เขายังไม่พร้อมเจอน้ำเพชรในเวลานี้  แล้วไม่ได้เตรียมใจว่าจะต้องเจอด้วย  เขายังไม่มีคำดีๆ คำไหนมาอธิบายหรือแกล้งตัวใดๆ สำหรับการผิดสัญญาของเขา

คำสัญญาที่เคยให้น้ำเพชรไป เขารักษาไว้ไม่ได้ แววตาของน้ำเพชรที่เขามองเขา มันเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย หม่นหมอง คงเสียใจที่โดนเขาทรยศหักหลังอีกครั้ง

แล้วความรู้สึกผิดแบบเดิมๆ  ที่สีฟ้าคิดว่าจะสลัดมันทิ้งไปได้  มันย้อนกลับมาวนเวียนย้ำเตือนเป็นระลอกคลื่นอีกจนได้  ยิ่งมองสบกับหน่วยตารื้อน้ำตาของเพื่อนแล้ว ความผิดมันก็ถาโถมใส่อย่างไม่ยั้ง อยากเอ่ยปากขอโทษ  หากก็หาเสียงของตัวเองไม่เจอ เหมือนอีกฝ่ายก็คงไม่ต้องการฟังคำพูดอะไรจากเขาเหมือนกัน

“นี่หรือสัญญาที่เธอให้ฉัน ในเมื่อเธอทำมันไม่ได้ แล้วเธอจะสัญญามันไปทำไม  ทำไมไม่บอกฉันว่าเธอทำไม่ได้  ทำไมไม่บอกว่าเธอรักเค้า ทำไมต้องเอาสัญญางี่เง่าพวกนั้นมาให้ฉันด้วย  รู้ไหม ฉันไม่ได้ต้องการมันเลย  สิ่งที่ฉันต้องการคือความจริง  บอกมาสิ  ความจริงมันคืออะไร  ไม่ใช่ทำเหมือนฉันเป็นคนโง่อยู่แบบนี้  “ หญิงสาวพูดทั้งน้ำตาที่รินไหล  ร้องไห้เสียใจให้กับสิ่งที่เห็น สีฟ้าที่ทำเหมือนจะร้องไห้เมื่อเห็นหน้าเธอ   สีฟ้าที่ทำหน้าเหมือนรู้สึกผิดมากมายกับเรื่องที่เกิดขึ้น  กี่ครั้งแล้วที่เธอต้องทนเห็นเพื่อนทำหน้าแบบนี้  ทั้งที่เมื่อก่อนเจอหน้ากันทีไรก็มีแต่รอยยิ้มและมิตรภาพที่แข็งแรง

คำขอเอาสัญญาจากสีฟ้าเมื่อครั้งก่อน เธอต้องการเพียงเพื่อจะให้เพื่อนบอกความจริงกับเธอ บอกความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อภาคี   ไม่ใช่พร่ำพูดแต่คำว่าขอโทษ  คำขอโทษที่เธอไม่ได้ต้องการมันเลย ไม่ต่างจากครั้งนี้ ที่สีฟ้าเอาแต่พูดว่าขอโทษ

คำขอโทษที่เธอไม่ต้องการ....ไม่ต้องการเลยจริงๆ

“แพท....ลมขอโทษ ลมขอโทษจริงๆ ขอโทษที่ทรยศแพท ขอโทษที่ผิดสัญญา ขอโทษทำแพทเสียใจ ลมขอโทษ”  น้ำตามันไหล พร้อมกับที่มีมืออุ่นมากุมมือเย็นชืดของสีฟ้าเอาไว้  มือของภาคี มืออุ่นที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยจากความรู้สึกผิดที่เกาะกินใจ

ภาคีเดินเข้ามาตอนไหน  สีฟ้าไม่รู้ สิ่ งที่รู้คืออุ้งมืออุ่นที่กุมมือเขาเอาไว้ น้ำตาที่ไหลได้หยุดไหล เพราะไม่อยากอ่อนแอให้ภาคีเป็นกังวล

“ไม่เป็นไรนะครับ” ภาคีกระซิบถาม  หลังจากเขายิ้มทักทายแขกคนที่สองของเขาและสีฟ้า  สีฟ้าส่ายเบาๆ หน้าแทนคำตอบ ใบหน้านวลช้ำรอยน้ำตาเต็มไปด้วยความเศร้า
  จนภาคีอยากจะพาร่างนั้นเข้าไปข้างใน  หลบหนีสถานการณ์ที่ทำร้ายจิตใจ  หากแต่เขาก็ไม่สามารถทำมันได้ เรื่องระหว่างสีฟ้ากับน้ำเพชรควรต้องสะสางกันเสียที  อะไรๆ มันจะได้จบสิ้นและสิ้นสุดกันเสียที

“แพท...ลมขอโทษ”  สีฟ้ายังคงพูดถ้อยคำเดิมๆ ตามความรู้สึก เหมือนกับว่า ระหว่างเขากับน้ำเพชร มีเพียงถ้อยคำนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขาคุยกับน้ำเพชรได้

“พอเถอะลม อย่าพูดคำว่าขอโทษอีกเลย แล้วคำสัญญาพวกนั้น ฉันก็ไม่ต้องการ ฉันอยากรู้เพียงแค่ว่าเธอจะเลือกอะไร  ระหว่างมิตรภาพของฉันกับความรักของผู้ชายคนนี้
 เธอบอกฉันมาว่าจะเลือกอะไร” น้ำเพชรหยิบยื่นความหนักหนาให้สีฟ้าอีกหน

สีฟ้ากำลังยืนอยู่ระหว่างสองสิ่งที่มีค่าและมีความหมายกับเขา สองสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน จะมีใครเข้าใจความรู้สึกของคนที่ต้องเลือก เลือกในสิ่งที่เขาก็ไม่พร้อมจะเลือกด้วยซ้ำ


“ติน...”

สีฟ้าเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูงคล้ายของความเข้มแข็งเพิ่ม  เพื่อที่เขาจะสามารถพูดสิ่งที่ใจต้องการออกมาได้อย่างแท้จริง  ภาคีมองตอบสายตาร้องขอนั้น รับรู้ถึงความหนักหนาที่เจ้าของสายตานั้นต้องเลือก  ในขณะเดียวกันเขายังหวาดหวั่นกับคำตอบจากปากสวยอยู่มาก  กลัวว่ามันจะเหมือนเมื่อครั้งนั้น  ครั้งที่ความรักของเขามีค่าน้อยกว่ามิตรภาพที่เจ้าตัวต้องการรักษา หากครั้งนี้เป็นอย่างครั้งนั้นอีก เขาจะทำยังไงดีล่ะ  จะต้องปล่อยสีฟ้าเป็นเพียงความฝันสวยงามที่จับต้องไม่ได้ตลอดไป  หรือจะยื้อความรักนั้นกลับคืนมาไม่ว่าวิธีไหนก็ตาม

เพราะกลัวคำตอบที่ต้องได้ยินในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า เท้ามันจึงพาลจะก้าวถอยหลัง แล้วเดินหนีไป ทิ้งให้การตัดสินใจของสีฟ้าเป็นสิ่งที่เขาไม่ได้ยินเสีย

อย่างน้อยก็ไม่ต้องเจ็บ....

เขาไม่ได้โกรธน้ำเพชร ที่บังคับให้สีฟ้าต้องเลือก  แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมน้ำเพชรต้องทำแบบนี้อีก  ทั้งๆ ที่วันนั้นในห้องนี้  น้ำเพชรกับเขาก็คุยกันรู้เรื่อง เคลียร์กันเข้าใจ หญิงสาวยังขอโทษเขาที่ทำให้เขากับสีฟ้าไม่เข้าใจกัน  แล้วเมื่อวาน น้ำเพชรยังให้ความร่วมมือกับเขา ให้ความร่วมมือกับแผนของคณิต แต่ตอนนี้น้ำเพชรกลับมาบีบบังคับให้สีฟ้าต้องเลือก

“ติน.....” มือเล็กรั้งข้อมือใหญ่เอาไว้ เมื่อเจ้าของมือจะเดินหนีเขาไป

“..............” ภาคีมองมือเล็กที่รั้งแขนเขาไว้ มองไล่ขึ้นไปจนเจอใบหน้าเศร้ามองเขาอย่างอ้อนวอน  มองเข้าไปในหน่วยตาเรียวสีสวย  ภาคีเห็น เห็นความหมายที่สื่อออกมาให้เขาได้รู้ มันทำให้เขายิ้มออกมาได้


“....อยู่กับลมนะ”  สีฟ้ารั้งให้ภาคีมายืนอยู่ข้างกายของเขาดังเดิม

ตัดสินใจแล้ว สีฟ้าตัดสินใจได้แล้ว ว่าควรเลือกอะไรหรือเลือกใคร  ไม่อยากจมอยู่กับการหลอกลวง  ซมซานอยู่กับความเจ็บช้ำใจ ที่ผ่านมา เขาอ่อนแอเกินไป อ่อนแอจนทำร้ายใครต่อใคร

ทำร้ายเพื่อนอย่างน้ำเพชร

ทำร้ายคนที่เขารักอย่างภาคี

ทำร้ายตัวเอง ให้เจ็บช้ำ

 

“แพท...ลมขอโทษ ขอโทษที่ทำตามคำสัญญาที่ให้แพทไม่ได้.......ขอโทษจริงๆ”

“แปลว่า เธอเลือกติน”

“ลมรักติน เรารักกัน”

ในที่สุด สีฟ้าก็กล้าพอที่จะเอ่ยมันออกมา  แม้จะหวงแหนมิตรภาพมากแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สามารถทนทำร้ายหัวใจคนที่เขารักได้อีกต่อไป  ภาคีเจ็บเพราะการกระทำของเขามามาก ถึงเวลาที่เขาต้องตอบแทนความรักของภาคี ด้วยความรักของเขาซะที   ความรักของภาคีที่ให้เขามาตลอด อภัยให้เขาเสมอมา มันควรได้รับการตอบแทนที่มีค่าเท่ากันไม่ใช่เหรอไง   ที่ผ่านมาเขาทำร้ายความรักของภาคีมามากพอแล้ว และตัวเขาเองก็เจ็บปวดไม่ต่างกันเลย

“ขอบใจที่พูดความจริงกับฉัน  ขอบใจที่ไม่เอาสัญญาพวกนั้นมาหลอกฉันอีก”  น้ำเพชรยิ้มรับให้กับคำตอบที่ได้ยิน นี่ใช่ไหมที่เธออยากได้ยิน  เธอจะได้หลุดพ้นจากความเห็นแก่ตัวน่ารังเกียจนี้เสียที

“อย่าโกรธ อย่าเกลียดลมเลย ได้ไหมแพท  เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้ไหม” ถึงจะเลือกความรักของภาคี  แต่สีฟ้าก็ยังอยากได้ความเป็นเพื่อนจากน้ำเพชร หวังอยากให้เขากับน้ำเพชรกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม แม้ความหวังนั้นจะดูเลือนรางก็ตามที

“ถามตัวเองก่อนดีไหมลม ว่ายังอยากเป็นเพื่อนกับคนอย่างแพทอยู่อีกหรือเปล่า เพื่อนที่นิสัยแย่ๆ อย่างแพท   ทั้งๆ ที่แพทรู้ว่าตินรักลม แต่แพทก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับลม แพทเลือกที่จะเห็นแก่ตัว รู้ว่าไม่มีหวังแต่ก็ยังจะหวัง ทำร้ายความรักของตินกับลมมาตลอด คนที่ทรยศเพื่อนอย่างแพท ลมยังอยากจะคบเป็นเพื่อนอยู่ไหม คนที่เป็นเพื่อนทรยศมันคือแพท ไม่ใช่ลม ”

น้ำเพชรพูดทั้งน้ำตา หญิงสาวรู้สึกอย่างที่พูดออกไปทุกคำ คำว่าเพื่อนทรยศที่ปามันใส่สีฟ้า ความจริงมันคือคำที่เธอสมควรได้รับ  รู้ทั้งรู้และรู้มาตลอดว่าอะไรเป็นอะไร แต่เธอก็เลือกที่จะปิดบังและปกปิดมันมาตลอด   ความรู้สึกผิดมันติดอยู่ในความรู้สึกตลอดมา นับตั้งแต่ที่รู้ว่าภาคีรักเพื่อนของเธอ และนับตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องคราวนั้น  เธอยิ่งรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้น ทว่าความเห็นแก่ตัวมันก็บังคับทำให้เธอโยนความผิดทั้งหมดให้สีฟ้า เพราะไม่อยากยอมรับความจริง ว่าคนทั้งคู่รักกันแล้ว  กว่าจะรู้ตัวว่าได้ทำร้ายมิตรภาพระหว่างเพื่อนก็สายไปเสียแล้ว  อยากกลับมาขอโทษ แต่ใจก็กลัวอีกฝ่ายจะไม่ให้อภัยสิ่งที่เธอทำมาตลอด

“แพท.....”  สีฟ้าอึ้งกับสิ่งที่ได้ฟัง  น้ำเพชรรู้มาตลอดว่าภาคีรักเขา แต่ก็ปิดบังมันเอาไว้ เขาควรจะโกรธไหม ควรจะโกรธดีหรือเปล่า  สีฟ้าหันไปมองคนที่ยืนข้างเขา ภาคีส่งยิ้มบางๆ มาให้ ไม่มีคำพูดอะไรแต่เขาก็รู้ดีว่า  ผู้ชายตัวสูงคนนี้ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือแค้นเคืองใจกับสิ่งที่น้ำเพชรทำไปเลย

ภาคีรู้มาตลอดแต่ก็ไม่เคยปริปากพูดเรื่องนี้เลยสักครั้ง

“ยังอยากเป็นเพื่อนกับแพทอยู่ไหมลม”  น้ำเพชรถามเสียงสั่นเพราะแรงสะอื้น ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม  กลัวว่าสีฟ้าจะไม่ให้อภัยในสิ่งที่เธอทำ ที่ผ่านมาเธอบีบบังคับเพื่อนทุกหนทางให้ยอมทำตามความต้องการของเธอ  เมื่อความรู้สึกผิดมันถาโถมและมิตรภาพมันยิ่งห่างไกลออกไปเรื่อยๆ อยากจะสารภาพผิด อยากจะขอโทษ แต่สิ่งที่ทำก็กลับทำให้มิตรภาพมันดูแย่ลงเรื่อยๆ


“แพทคือเพื่อนของเรา” สีฟ้าปล่อยมือจากภาคี แล้วเดินเข้าไปโอบร่างเล็กๆ ที่ไหวด้วยแรงสะอื้น พลางลูบผมยาวอย่างปลอบโยนที่สื่อความหมายถึงการให้อภัยทุกการกระทำของน้ำเพชร

“แต่แพทเป็นเพื่อนที่เห็นแก่ตัวนะลม ลมยังอยากจะคบกับแพทอีกเหรอ” น้ำเพชรผืนตัวออก มองหน้าเพื่อนผ่านม่านน้ำตาที่เริ่มจะถูกกลืนหายไปทีละน้อยๆ เพราะรับรู้ถึงมือที่ให้อภัยเธอแล้ว

“เราเป็นเพื่อนกันนะแพท เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป อย่าไปคิดถึงมันเลย ลมไม่อยากให้เรื่องนี้มาทำลายมิตรภาพของเราสองคน  ลมอยากให้แพทกลับมาเป็นเพื่อนรักของเราเหมือนเดิมนะ  ยังไงแพทก็คือเพื่อน เพื่อนรักของลมและจะเป็นเพื่อนของลมตลอดไป”

เพราะมิตรภาพของเพื่อนคือสิ่งที่สีฟ้าไม่อยากสูญเสียไป  ที่ผ่านมาน้ำเพชรคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาเสมอมา อาจมีเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวที่น้ำเพชรทำไปเพราะความเห็นแก่ตัว แล้วเขาจะปล่อยให้เรื่องเพียงเรื่องเดียวมาทำลายมิตรภาพอย่างนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก

“ขอบใจลม ขอบใจที่ยังอยากเป็นเพื่อนกับคนแย่ๆ อย่างแพท”

“บอกแล้วไง แพทคือเพื่อนของลม”

“ติน   แพทขอโทษอีกครั้งกับทุกสิ่งที่ทำไป” แม้ในวันนั้นในห้องนี้ เธอเคยเอ่ยคำขอโทษไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่เหมือนมันยังไม่เพียงพอ เธอจึงบอกมันอีกครั้ง

“ไม่เป็นไรครับคุณแพท”

ภาคียิ้มบางๆ ให้กับหญิงสาวร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนคนรักของเขา  เขาก็เหมือนสีฟ้า ไม่ได้คิดแค้นฝังเจ็บกับสิ่งที่น้ำเพชรทำ หากที่ผ่านมาสีฟ้าจะเข้มแข็งเหมือนตอนนี้ 
 เรื่องยุ่งคงไม่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าหรอก อาจมีที่นึกน้อยใจ ที่ความรักของเขามีค่าน้อยกว่ามิตรภาพของน้ำเพชร แต่นั่นมันคืออดีตไปแล้ว ตอนนี้ความรักของเขามีค่ามากแค่ไหนกับหัวใจของสีฟ้า เขารู้ดี เพราะสีฟ้าแสดงให้เขาเห็นแล้ว

คุ้มไหม?

คุ้มค่าไหมกับสิ่งที่ทุ่มเททำลงไป ความรักของเขามันมีค่าพอที่จะทำให้สีฟ้าได้เลือกมัน


...

น้ำเพชรกลับไปแล้ว กลับไปพร้อมกับรอยยิ้ม พร้อมกับมิตรภาพที่เจ้าตัวสามารถแก้ไขให้มันกลับมาเป็นเหมือนดังเดิมได้ เปิดโอกาสให้เจ้าของห้องทั้งสองยืนมองตากันอย่างหวานซึ้ง


“ทำไมไม่เคยบอกให้ลมรู้”  สีฟ้าถาม คอยคำตอบของคนตัวสูงที่กอดเขาไว้หลอมๆ 

“เรื่องอะไรครับ” พอจะรู้หรอกว่าเรื่องอะไร แต่ก็แกล้งย้อนถามไปเหมือนไม่เข้าใจ เลยได้ค้อนวงใหญ่เป็นรางวัล

“อย่าเฉ อย่าแกล้ง ก็รู้ว่าลมหมายถึงเรื่องอะไร” เจ้าตัวว่า หน้าหวานทำงอนนิดๆ

“เรื่องที่ตินรักลมน่ะเหรอครับ” ภาคียิ้ม เมื่อคนที่เขารักพยักหน้าน้อยๆ ใบหน้าหวานขัดเขิน จนเขาอดใจที่จะฉวยความหวานบนแก้มใสไว้ไม่ได้

“รักลมตั้งแต่เมื่อไหร่” คนถาม ถามเพราะอยากรู้ เคยฟังคำบอกรักไปแล้ว  รับรู้และซาบซึ้ง แต่ไม่เคยถามเอาความว่า  คนๆ นี้รักเขาตอนไหน รักเมื่อไหร่ หรือมานานแค่ไหนแล้ว  คำถามที่ไม่คิดจะถาม เพราะมัวหลงอยู่กับความหมายของคำว่ารักที่ถูกพร่ำบอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภาคีบอกรักเขา บอกด้วยคำพูด สายตา และการกระทำ จนเขาไม่ได้คิดถึงจุดเริ่มต้นความรักของภาคีที่มีให้เขา

“อยากรู้หรือครับ?”

“ไม่อยากแล้วจะถามเหรอ”

“งั้นก็.....ตรงนี้ก่อนได้ไหมครับ” แล้วนิ้วหนาก็แตะเข้าที่ปากหยัก เป็นคำบอกที่ชัดเจนโดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยคำไหน

“งั้นก็ไม่อยากรู้ ถ้าไม่อยากบอก” ว่าแล้ว สีฟ้าก็ขืนตัวออกจากอ้อมแขนที่โอบเขาไว้หลวมๆ เดินหนีมาทรุดนั่งที่โซฟาตัวเดิม ก่อนจะสะบัดหน้าหนีคนที่เดินตามมานั่งอยู่ข้างๆ มือใหญ่นั้นก็พยายามรั้งเอวเขาให้เข้าใกล้ อยากฝืนแต่ก็สู้แรงไม่ได้

“ไม่เอานะครับ  ไม่งอนนะครับ บอกแล้ว ตินบอกแล้วก็ได้ครับ”  เสียงออดอ้อนเอาใจดังอยู่ข้างใบหู สีฟ้าแอบยิ้มไม่ให้ภาคีเห็น ว่าเขาไม่ได้งอนจริง แค่แกล้งงอนเท่านั้นเอง

“ก็บอกมาสิ”  สีฟ้าหันหน้ากลับมาฟังสิ่งที่เขาอยากรู้

“ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นครับ”

“..........”

“ผู้ชายตัวขาวๆ ปากแดงๆ เห็นแล้วอยากปกป้อง เห็นแล้วอยากรัก ก็เลยรัก รักมาจนถึงทุกวันนี้”  คนพูด พูดทั้งปากและตา ที่มีความหมายไม่ต่างกันเลย คือเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อคนตรงหน้า ก่อนปากหยักจะกดชิดเบาๆ บนหน้าผากมน

“ขอบคุณที่รักลม” สีฟ้าตอบแทนคำพูดต่างๆ ด้วยจูบเบาๆ บนแก้มของภาคี ไล่มาตรงสันกราม แล้วหยุดอ้อยอิ่งที่ปากหยัก

เรียวลิ้นชื้นเกี่ยวพันกันอย่างอ่อนหวาน แผ่นหลังบางถูกผลักเพียงเบาให้นอนราบลงไป ก่อนที่ร่างกำยำจะทาบทับลงมา มือใหญ่ลากไล้สัมผัสกับผิวเนื้อใต้ผิวผ้า
อะไรๆ ที่มันควรจะเป็นไปตามครรลอง กลับหยุดลงอีกครั้ง เมื่อ..... 


........................กริ๊ง...........................

เสียงกริ่งดังขึ้นอีกครั้งเป็นรอบที่ 3 ของเช้าวันนี้

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 30-04-2011 09:29:23
ยังมีอีกหรอ???
ตอนหน้าคงชื่อ  แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 _*_
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 30-04-2011 09:45:11
ขอบคุณนะมาต่อแต่เช้า :L2:
อ่านตอนนี้แล้วขำ แขกเยอะจัง
รอแขกคนที่สาม สี่ ห้า... :laugh:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 30-04-2011 09:48:42
รอต่อคิว กดกริ่ง ลุ้นลำดับที่ 3 4 5 6

อารมณ์ ตินตอนนี้คงประมาณ  :m31:

ของลมคงอันนี้  :m4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 30-04-2011 10:03:10
ขัดจังหวะ  :m25: อีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 30-04-2011 10:05:55
เดินขบวนมากันใหญ่เลย
มาขัดอารมณ์ตินตลอดดด
ท่าทางจะหงุดหงิดแล้วนะนั่นน  :serius2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Pa'veaw ที่ 30-04-2011 11:52:11
แขกเยอะซะจริงๆ

 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 30-04-2011 12:22:17

555555555
ถูกขัดจังหวะตลอดด ในที่สุดก็เคลียร์เรื่องแพทได้ซะทีนะลม
เห้ออออออ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Auschy ที่ 30-04-2011 13:29:25
นี่คุณหนึ่งแกจะเอาทุกคนมาเป็นส่วนหนึ่งในแผนการณ์ครั้งนี้เป็นแน่
และคิดว่าคนต่อไปที่เป็นแขก(ไม่)รับเชิญ น่าจะเป็นหมอพิษณุนะเนี่ย...(หรือเปล่าน้า...อิอิ)

ถูกขัดจังหวะขนาดนี้ คาดว่าคราวนี้ตินน่าจะเป็นคนไปเปิดประตูแน่ ๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 30-04-2011 13:37:06
ตินหื่นจริงอะไรจริง หื่นจนสงสารลมเลยอ่า
แต่นะเคลียเรียนร้อยทั้ง2คนและคงไม่มีอะไรอีกละมั้งเนอะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 30-04-2011 13:47:17
5555 ถูกขัดตลอดๆๆๆ

แต่มีอีกหรอ แขกไม่ได้รับเชิญคนที่สาม

เป็นใครหว่า??

เวลาลมหึงน่ากลัวอ่า

ในที่สุดก้อเคลียรกับแพทเรียบร้อยซัดที

ตินหื่นสุดๆๆเลย

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 30-04-2011 15:18:12
 :m7:ไปดูว่าเป็นใครมากดกริ่ง


 :เหอะ1: :เหอะ1:มาช่วยกันลุ้นเร็วววววววววว
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 30-04-2011 15:27:16
อะไรกันนักกันหนา หนีไปอยู่ป่า อยู่เขาเลยดีมั้ยเนี้ย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 30-04-2011 17:02:24
ใครมาอีกละเนี่ย
ขัดจังหวะมากๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 30-04-2011 17:59:30
ขัดจังหวะได้อีก
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 30-04-2011 19:01:42
คนที่ 3 คือใคร?????
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 30-04-2011 19:29:28
มากันบ่อยจัง

โชว์เลยดีไหม?
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 30-04-2011 19:59:43
ขัดจังหวะกันจริ๊ง
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 30-04-2011 21:27:01
ยังมีคนที่ 3 อีก

แล้วตินจะได้กินลมตอนไหนเนี๊ยะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 30-04-2011 22:13:48
 :เฮ้อ:  ตกใจแพทเลย แต่เข้าใจกันได้ก็ดีแล้ว ความจริงเพราะแพทรักมากจนเห็นแก่ตัว ส่วนสฟ้าก็ดีมากเกินไป

 ว่าแตเพื่อนติณ คณิตกับบอสนี่ รักเพื่นอกันมากเลยจนเว่อร์เลยค่ะ อะแผนอะไรนักหนาคะ?  :angry2:

ยังงจะมีคนมาอีกเหรอ  :m31:หวังว่าคราวนี้จะมาดีนะคะ :serius2:

ลุ้นระทึกจนเหนื่อยค่ะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ramgaythai ที่ 30-04-2011 22:37:12
เอากริ่งออกเลยดีมะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 01-05-2011 00:36:23
พอเหอะ ไปทำงานกันเลยแล้วค่อยมาคุยต่อตอนเย็นทีเดียวละกัน ก้างเยอะขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 01-05-2011 11:52:18
5555่าจะไม่เป็นใจซะแล้ว.. รวบยอดทีเดียวตอนเย็นเลยแล้วกันนะติณ

ส่วนแพท ตอนนี้ก็เข้าใจกันจริงๆซะที นึกว่าจะดราม่าให้เลือกเหมือนเดิมซะอีก...


ติณก็เพลาๆบ้าง แทบจะกลืนกินลมทุกลมหายใจเข้าออกเลย หุหุ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 01-05-2011 12:11:37
ขัดจังหวะอย่างแรง
ฮาย อาภาภรณ์มากๆเลย ^^
กริ๊งนี่ขายดีจัง
แต่ว่าจะเป็นใครกันละเนี่ยรอบนี้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 01-05-2011 13:58:12
ลุ้นมาก ตั้งแต่เริ่มเรื่องจนถึงตอนปัจจุบัน(http://i273.photobucket.com/albums/jj225/tangtang_jar/yociexp49.gif)
(http://i273.photobucket.com/albums/jj225/tangtang_jar/em01.gif)กว่าจะรัก กว่าจะรู้ใจ กว่าจะสมหวัง
แต่ทำไมต้องมีเสียงกริ่งมากั้นขวางด้วยเนี่ย(http://i273.photobucket.com/albums/jj225/tangtang_jar/015-1.gif)
(http://i273.photobucket.com/albums/jj225/tangtang_jar/005-1.gif)ไอ้คุณแขกคนที่ 3 มันเป็นใคร หวังว่าคงไม่ใช่พี่หมอนะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 01-05-2011 20:15:58
อะไรจะถูกขัดจังหวะบ่อยขนาดนี้อ่า แล้วแขกไม่ได้รับเชิญคนที่สามจะเป็นใครอ่า ดีใจจังที่แพทสำนึกได้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: O_a ที่ 01-05-2011 21:04:27
บอกรักกันแล้วทั้งคู่
หวังว่าคงไม่มีอะไรมาทำให้คดีพลิกอีกนะ
สงสารติณ หรือสงสารลมดี
โดนจัดหนักตลอด
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: maple4120 ที่ 01-05-2011 23:40:07
เพิ่งมาอ่านค่ะ ชอบมากเลย ทั้งตินทั้งลม น่ารักกันทั้งคู่เลยค่ะ  :-[
แต่กว่าจะลงเอยกันได้ เล่นเอาลุ้นจนไส้ติ่งเลื่อนไปหลายตลบเลยทีเดียว  :z3:
แล้วนี่ใครมาขัดจังหวะอีกละเนี่ย คนเค้ากำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม  :z6:

รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 27 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 2 [30/04/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 02-05-2011 00:22:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 02-05-2011 19:07:30
ตอนที่ 28


ประตูห้องชุดสุดหรูถูกเปิดเป็นรอบที่สาม เพื่อต้อนรับแขกคนที่สามของเช้าวันนี้ หมอพิษณุยืนยิ้มกว้างอยู่หน้าห้อง

“พี่หมอ.....? คือ....คือว่าพี่หมอครับ เรื่องเมื่อคืน มัน...เอ่อ...มันเป็นความเข้าใจผิดกันนิดหน่อยนะครับ เอ่อ...คือว่า คือเราสองคนปรับความเข้าใจกันแล้วครับ
 พี่หมอไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ”

ตอนแรกที่เปิดประตูออกไปแล้วเจอหน้าหมอพิษณุ  สีฟ้าอดที่จะแปลกใจไม่ได้ว่าหมอพิษณุมาที่นี่ได้ไง แล้วมาทำไม  แล้วความแปลกใจก็ถูกแทนที่ด้วยความตกใจ
ในวินาทีต่อมา สีฟ้าคิดว่าหมอหนุ่มคงโกรธภาคีเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา  สุดท้ายแล้วก็อดขำนิดๆ ไม่ได้ว่าทำไมหมอพิษณุถึงตามมาช่วยเขาช้าเหลือเกิน

“มาทำไมครับคุณหมอ”  เสียงถามที่ห้วนและสั้น บอกได้เป็นอย่างดีว่าคนถามอยู่ในอารมณ์ไหน อารมณ์ดีเมื่อครู่ของภาคีหายวับไปกับตา  เมื่อเห็นว่าใครคือแขกคนที่สาม
ของเขา ความจริงต้องบอกว่า   อารมณ์ดีๆ ของภาคีหดหายไปก็ตั้งแต่ที่เสียงกริ๊งมันดังแทรกกิจกรรมยามเช้าแสนหวานของเขาต่างหาก

อันที่จริงภาคียังอยากทำอะไรๆ กับเรือนร่างหอมหวานของสีฟ้าต่อไป จะทำไม่สนใจเสียงกริ๊งที่ดังยาวนานนั้นเสียก็ได้ แต่ติดตรงคนใต้ร่างเขานี่แหละไม่ยอม
 เขาถึงต้องมายืนหน้าบึ้งอยู่ตรงนี้ แล้วยิ่งหงุดหงิดยิ่งขึ้น เมื่อพบว่าแขกคนที่สามคือหมอพิษณุ

คนที่เคยเป็นศัตรูหัวใจของเขา แต่ก็แค่คน ‘เคย’ เป็น ตอนนี้ไม่มีใครสามารถเป็นศัตรูหัวใจของเขาอีกแล้ว ในเมื่อสีฟ้าคือของเขาเพียงคนเดียวไปแล้ว

“หมอมาขัดจังหวะหรือเปล่าครับ”  หมอหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามห้วนและสั้นของภาคี เขาถามเอากับคนที่หน้ารับแขกมากกว่าอีกคนหนึ่ง  ไม่ใช่ว่าหมอพิษณุไม่รู้ว่าตังเอง
มาขัดจังหวะจังเบ้อเร้อ แต่ที่ถามก็ถามตามมารยาท

“รู้ตัวแล้วก็กลับไปสิครับคุณหมอ  เชิญครับ”  แค่ออกปากไล่เสียงห้วนๆ บวกกับใบหน้าที่จริงจัง ภาคีคิดว่ามันอาจยังไม่พอ เลยจะเดินไปปิดประตูใส่หน้าหมอหนุ่มที่
รบกวนเวลาดีๆ ของเขา  แต่โดนตาเรียวแสนดุคาดโทษไว้เสียก่อน เท้ากับมือมันเลยต้องหยุดไปโดยอัตโนมัติ

“หมอกลับแน่ครับ แต่ขอเอากระเป๋าใบนี้และก็กุญแจรถให้คุณลมก่อนนะครับ” ว่าแล้วก็ก้มหยิบกระเป๋าเป๋ที่วางอยู่ขึ้นมา ยื่นมันคืนให้เจ้าของพร้อมกับกุญแจรถด้วย
 กระเป๋าเสื้อผ้าของสีฟ้าที่มันค้างอยู่ในรถของเขาตั้งแต่เมื่อเย็นวาน  กับกุญแจรถคันสวยของสีฟ้าที่เขาขับมาจอดไว้ที่ใต้คอนโดให้แล้ว

“ขอบคุณครับพี่หมอ” สีฟ้ารับกระเป๋าและกุญแจจากมือหมอหนุ่ม คิ้วเรียวขมวดนิดๆ เพราะแปลกใจกับท่าทางของหมอหนุ่มที่แตกต่างไปจากเมื่อคืนมาก  ทั้งยังดูเหมือน
จะไม่ห่วงเขาเอาเสียเลย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก

“รถน้องลมจอดอยู่ใต้คอนโดนะครับ พี่หมอขับมาทิ้งไว้ให้แล้ว”

“เสร็จธุระแล้วก็เชิญกลับได้แล้วครับ” ภาคีก้าวพรวดเดียวถึงประตู มือหนาผลักประตูให้ปิด ขับไล่แขกที่เขาไม่ต้องการ แต่หมอหนุ่มก็ใช้มือต้านบานประตูเอาไว้ ยื้อกันไป
กันมาอยู่อย่างนั้นและก็คงจะเป็นอย่างนั้นไปอีกนาน  ถ้าคนกลางจะไม่ห้ามขึ้นมาเสียก่อน

“หยุดได้แล้ว ทั้งติน ทั้งพี่หมอ เล่นกันเป็นเด็กไปได้  ติน พี่หมอเป็นแขกนะ  พี่หมอครับมีอะไรกับลมอีกหรือเปล่าครับ”  สีฟ้าปราบคนรักที่ทำตัวเหมือนเด็กหวงของ
 ก่อนหันมาถามหมอหนุ่มที่ทำตัวเป็นเด็กขี้แกล้ง

“พี่หมอแค่จะบอกว่าว่างๆ  เราไปทะเลกันอีกนะครับ ห้ามปฏิเสธนะครับ  เพราะน้องลมทำพี่หมอแห้วมาหลายครั้งแล้ว”  หมอหนุ่มบอกเสียงหวาน ชนิดที่สีฟ้าก็ไม่รู้จะ
วางหน้ายังไง แต่จำต้องรับคำเพื่อไม่ให้หมอหนุ่มเสียน้ำใจ

“ครับพี่หมอ”

“คงไม่ได้หรอกครับ คุณหมอ ลมของผมไปทะเลกับผมได้เท่าคนเดียวเท่านั้น  เชิญครับ”


.....ปัง !........

รวดเร็วเท่าคำพูด ภาคีจัดการปิดประตูใส่หน้าหมอหนุ่มทันที

“ชอบนักใช่ไหมไปทะลน่ะ เดี๋ยวตินพาไปก็ได้” คนขี้หวงหันมาจัดการกับคนหน้าหวานเจ้าเสน่ห์ต่อทันที มือใหญ่คว้ากระเป๋าในมือเล็ก โยนทิ้งไปอย่างไร้ทิศทาง ก่อนจะทั้งดึงทั้งลากพาร่างบางเข้าไปในห้องนอน มุ่งสู่เตียงนอนหนานุ่มทันที

………………………………………………………



“บอกตินมา เมื่อวานคิดจะไปทะเลกับหมอสัตว์นั่นกี่วัน” ปากก็ถาม มือก็ทั้งลากทั้งดึงร่างบางเข้ามาในห้องนอนกว้าง

“ก็ไม่ไปแล้วไง” สีฟ้าพยายามจะขืนแรงดึงนั้นเอาไว้ แต่ก็สู้แรงของอีกฝ่ายไม่ได้ ตัวมันปลิวไปตามแรงลากดึงนั้นอย่างง่ายดาย

ภาคีฉุดร่างบางให้ล้มลงมานอนอยู่บนตัวเขากลางเตียงกว้าง ก่อนจะพลิกให้ร่างบางตกอยู่ใต้ร่างกำยำของเขา ไม่นำพาต่ออาการปัดป้องของอีกฝ่าย มือเล็กนุ่มนิ่มจะทำอะไรเขาได้

“บอกตินมาดีๆ คิดจะไปทะเลกับหมอสัตว์นั่นกี่วัน” ชายหนุ่มคาดคั้นเอาคำตอบ สีหน้าจริงจัง คนถูกขู่จำต้องบอกเสียงอ่อยไปว่า

“สามวัน”

“หึ  คิดจะไปถึงสามวันเลยหรือครับ” น้ำเสียงนั้นเหมือนโกรธอยู่ไม่น้อย

“ก็ไม่ได้ไปแล้วไงครับ”  สีฟ้าทำเสียงหวานอ้อน ก็หน้าภาคีตอนนี้ ถึงไม่ได้น่ากลัวมา แต่เขาก็กลัว 

“แต่ลมก็ตั้งใจจะไป”

“ก็ไม่ได้ไปแล้ว”

“แต่ลมก็อยากจะไปใช่ไหมล่ะ ถ้าลมอยากไปทะเล ตินนี่แหละจะขอเป็นคนพาลมไปเอง” ว่าแล้ว ภาคีก็ยันตัวลุกขึ้น แล้วสองมือก็จัดการกับกระดุมเม็ดเล็กจนหลุดออก
จากรังดุมจนครบทุกเม็ด ผิวเนื้อของเรือนกายขาวเนียนน่าหลงใหลอวดความหวานที่น่าลิ้มลอง  หลอกล่อให้ปากหยักโน้มตัวลงสัมผัสอย่างห้ามใจไม่เคยได้สักครั้ง

“ตินไม่เอานะ ไม่เล่น ปล่อยลมได้แล้ว จะไปทำงาน เข้าใจไหม” สองมือดันแผ่นอกแกร่งไว้มั่น ขยับจะพลิกตัวหนีปากหยักแสนร้ายกาจ  ที่ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์หวาน
อารมณ์รัก หรืออารมณ์หึงก็พาลแต่จะป่วนเปี้ยนอยู่แต่กับร่างกายของเขาตลอด 

“ตินไม่ได้เล่น แต่ตินเอาจริง ลมอยากไปทะเลใช่ไหม นี่ไง ตินกำลังจะพาไปอยู่นี่แล้วไงละ“

ภาคีถอนปากหยักออกจากแผ่นอกหวานๆ ขึ้นมามองหน้าใบหน้าที่หวานไม่แพ้แผ่นอก ยิ้มกรุ่มกริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าคม ร่องรอยความเจ้าเล่ห์แตะแต้มอยู่ตรงมุมปากทั้งสอง อารมณ์หึงมันก็มีอยู่ประมาณหนึ่ง เพราะคนร่างบางยังจะไปให้ความหวังหมอพิษณุอยู่ บวกกับอารมณ์ที่ตกค้างมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ได้แค่นอนกอด พอมาตอนเช้าก็มีแต่คน
มาคอยขัดขวาง 

“นี่มันไม่ใช่ทะเลนะติน” สีฟ้าเอ็ดเสียงดัง อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายเผลอดิ้นจนหลุดออกจากร่างกำยำได้ กำลังจะก้าวลงจากเตียง  แต่ก็เป็นแค่เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้นที่สีฟ้าเป็นอิสระ เมื่อถูกมือใหญ่รั้งเอวบางให้คืนกลับสู่จุดเดิมอีกจนได้

คร้านจะดิ้นให้เหนื่อย เพราะยังไงก็หนีมือหนาแสนว่องไวไปไม่ได้ ยิ่งฟังประโยคโต้ตอบของอีกฝ่ายก็ชวนให้หน้ามันร้อนผ่าวด้วยความอาย

“ไม่ใช่ได้ไงล่ะครับ นี่แหล่ะครับทะเลของตินกับลม จำไม่ได้หรือไงครับ  ไปทะเลด้วยกันคราวที่แล้ว ทะเลมันก็เป็นแบบนี้  เป็นห้องกว้างๆ กับเตียงนุ่มและเราสองคน”
 คนพูด พูดได้หน้าตาเฉย ไม่ได้สะทกสะท้านกับตาเรียวที่ตวัดมองแล้วค้อนวงใหญ่ให้มา

“หยุดพูดนะติน”

“ก็ตินพูดความจริง ตอนที่เราไปทะเลกัน เราก็อยู่แต่ในห้องนี่ครับ” คนหน้าคมทำหน้างอน เมื่อโดนดุ

“มันสายแล้วนะติน เดี๋ยวก็ไปทำงานสายกันทั้งคู่หรอก เอาไว้ตอนเย็นได้ไหม นานะ”

เมื่อเอาไม้แข็งสู้ไม่ได้ สีฟ้าก็เลยเปลี่ยนมาใช้ไม้อ่อนแทน  มือเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นลูบหน้าคมเบาๆ พลางหยอกล้ออยู่ตรงคิ้วเข้ม ละจากคิ้วเข้มผ่านจมูกโด่งน่ากัดมายังปากหยัก ไล่นิ้วบนรูปปากนั่นอย่างแผ่วพลิ้ว พร้อมๆ กันนั้นมืออีกข้างก็วางแนบกับแผ่นอกกว้างใต้เสื้อเซิ๊ตตัวหนา  ลูบไล้ไปมาอย่างออดอ้อน ก่อนที่จะวาดวงแขนเรียวบนต้นคอหนา  โน้มใบหน้านั้นให้เคลื่อนเข้ามาใกล้ เพียงพอที่จะพรมจูบไปทั่วใบหน้าคมอย่างเอาใจ

“ได้ไหม....ไปทำงานกันเถอะนะ” ย้ำขออีกครั้ง หลังจากใช้ไม้อ่อนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคิดว่ามันน่าจะได้ผล ทว่าสีฟ้ากลับคิดผิดไปถนัด สีฟ้าไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ตัวเอง
ทำลงไปนั้น  มันไม่ใช่ไม้อ่อนในสายตาและความรู้สึกของคนฟังเอาเสียเลย เพราะไม้อ่อนมันมีความหมายเท่ากับไม้ยั่วดีๆ นี่เอง

“ลมยั่วตินอีกแล้วนะครับ ” จมูกโด่งฝังลงบนแก้มนวล และอยากทำมากกว่านี้ หากมือนิ่มจะมันผลักเขาออกเสียก่อน

“นะนะติน ลมต้องไปทำงานจริงๆ งานมันกองเต็มโต๊ะเลยรู้ไหม”  สีฟ้าพยายามอ้อนอีกครั้ง
 คราวนี้ไม่กล้าจะใช้ไม้อ่อนแบบเมื่อครู่อีกแล้ว กลัวว่ามันจะกลายเป็นการยั่วอีกฝ่ายมากกว่านี้

“ไม่ต้องมาอ้างเรื่องงานเลยนะครับ ไอ้ที่คิดจะไปเที่ยวทะเลกับหมอสัตว์นั่น ทำไมไม่คิดถึงงานกองโตบนโต๊ะบ้างละครับ  ไม่รู้ล่ะ ลมต้องอยู่กับตินวันนี้  ห้ามปฏิเสธ
  ห้ามขัดขืน  ไม่อย่างนั้น ไม่ต้องมาพูดกัน”  ภาคีลุกขึ้นนั่ง แกล้งทำหน้าบึ้งเรียกร้องให้ลมตามใจเขา  กลัวเหมือนกันว่าอีกฝ่ายจะไม่ง้อ
 ถ้าไม่ง้อแล้วเขาจะทำยังไง

“เอาไว้วันหลังได้ไหม ลมต้องรีบไปทำงานจริงๆ  ตินด้วยเหมือนกัน ไม่คิดจะทำงานบ้างหรือไง ถูกเจ้านายไล่ออก ลมไม่รู้ด้วยนะ”  เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
 สีฟ้าจึงต้องงัดสารพัดคำพูดมาชักพาให้อีกฝ่ายล้มเลิกการไปทะเลที่ไม่เห็นทะเลเสียที

“ลางานแค่สองวัน บอสไม่ว่าหรอก” เจ้านายของเขาออกจะใจดี อย่าว่าแต่สองวันเลย เป็นอาทิตย์
เป็นเดือนก็คงไม่ว่าด้วยซ้ำ

“แต่ลมต้องทำงานนะ เดี๋ยวโดนพี่ลินดุ” ขออ้างชื่อพี่สะใภ้สักหน่อยละกัน หวังว่าคงจะช่วยเขาได้
พร้อมกันนั้นก็ขยับกายเข้าโอบร่างกำยำจากด้านหลังเอาใจสุดๆ

“ลมกลัวพี่ลินดุเหรอ? ” ภาคีหันหน้าเข้าหาคนร่างบาง จับมือเรียวคืนกลับไปหาเจ้าของดังเดิม
สีฟ้าพยักหน้ารับ

“อืม.....ตินก็รู้ เรื่องงานน่ะ พี่ลินเข้มงวดจะตาย”

“ก็ได้ เพราะตินกลัวลมโดนดุนะ ถึงยอม”

ภาคีเห็นหรอกว่าหน้าหวานๆ ยิ้มกว้างทันทีที่เขาพูดจบ  เห็นแล้วก็อดที่จะประคองหน้าหวานเข้ามาใกล้ แล้วแนบปากหยักเข้ากับปากนิ่มไม่ได้   สีฟ้าไม่ได้ขัดขืนในตอนแรกก็เพราะคิดว่าภาคีคงหยุดความหวานไว้แค่ปากของเขา  เป็นอย่างที่สีฟ้าคิดนั่นแหละ  พอควนหาความหวานจากปากสีสวยของสีฟ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   ภาคีก็ยอมถอนปากหยักออกอย่างง่ายดาย ไม่มีอ้อยอิ่งเลยแม้สักนิด

“ตินไม่ต้องไปขับส่งลมที่บ้านนะ  ลมขับกลับเองดีกว่า เดี๋ยวตินจะไปทำงานสาย” เขาเอ่ยบอก เมื่อปากหยักถอนตัวออก ให้เขามีโอกาสได้พูด

“ครับ”

“งั้นก็ลุก” นึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยว่าทำไมภาคีถึงว่าง่ายขึ้นมาได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำท่าจะไม่ยอมอยู่อย่างเดียว แต่ก็ช่างเถอะ คิดอะไรให้เสียเวลา
 เพราะตอนนี้มันก็สายมากเกินไปแล้ว

สีฟ้าลุกขึ้น แล้วก็ไม่ลืมที่จะดึงมือของภาคีให้ลุกตามไปด้วยกัน แต่กลับเป็นฝ่ายที่ถูกมือใหญ่รั้งดึงให้ลงไปจมอยู่ใต้ร่างกำยำอีกครั้ง

“เล่นอะไรอีกล่ะติน” สีฟ้าแหวใส่เจ้าของใบหน้าที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบ ยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นก็ฉายชัดซะจนนึกรู้ขึ้นมาทันทีทันใดว่าเขาโดนหลอกอีกแล้ว

“ก็ไปทะเลกันไง ความจำปลาทองจริงนะครับลม” ชายหนุ่มจิ้มนิ้วตรงปลายจมูกแหลมของคนหน้าหวานเบาๆ  สีฟ้าคงคิดสินะว่าเขาจะยอมปล่อยไปง่ายๆ  แต่ไม่มีทาง
มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก ก็สีฟ้ายั่วเขาซะขนาดนี้ อะไรๆ มันก็ตื่นจนไม่สงบแล้ว

“ติน พูดรู้เรื่องบ้างสิ ลมบอกแล้วว่าจะไปทำงาน  ไม่เข้าใจหรือไง ลมไม่อยากโดนพี่ลินดุนะ ก็ไหนบอกว่าไม่อยากให้ลมโดนพี่ลินดุไง”  จากที่เคยพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน

หวังทำให้คนเจ้าเล่ห์หยุดทุกความต้องการเสีย กลับไม่ได้ผล  สีฟ้าเลยต้องหันมาใช้เสียงเข้าขู่ หน้าสวยบึ้งบอกอารมณ์ที่ขัดใจ

“ก็กำลังจะทำให้พี่ลินดุลมไม่ได้ไงครับ” ว่าแล้วดึงร่างบางให้ลุกขึ้นนั่งบนตักของเขา  มือแกร่งข้างหนึ่งรวบเอวบางเอาไว้แน่น  ส่วนอีกมือหนึ่งล้วงเอาโทรศัพท์เครื่องเล็กออกมาจากกระเป๋า กดโทรออก ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงปลายสายตอบรับกลับมา

“มีอะไรให้พี่ช่วยอีกล่ะ” เสียงพี่สาวใจดีลอยมาตามสาย

“ผมไม่สบายครับพี่ลิน คุณลมเลยจะอยู่ดูแลผมวันนี้  ผมเลยโทรมาบอกพี่ลินนะครับ ว่าวันนี้คุณลมจะไม่เข้าบริษัท”

“แต่พี่ฟังเสียงของเราออกจะสดใส ไม่เห็นเหมือนคนป่วยเลย”

“ป่วยครับ ป่วยมากด้วยครับพี่ลิน แค่นี้นะครับ” ภาคีรีบตัดสายทิ้ง ไม่คิดจะรอฟังคำตอบของพี่สาว เพราะมือของสีฟ้าจะแย้งโทรศัพท์ไปจากมือของเขา

แล้วโทรศัพท์เครื่องเล็กก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป เมื่อภาคีจับร่างบางกดลงบนเตียงนอน พรมจูบทั่วใบหน้าหวานที่ออกอาการปัดป้องอย่างหนัก ไม่ยอมให้ความร่วมมือ

“ ไม่เอานะติน ลมจะไปทำงาน” ไม่รู้ว่าจะต้องย้ำคำห้ามเดิมๆ ไปอีกกี่ครั้ง ถึงจะหยุดความต้องการของอีกฝ่ายได้ ที่ผ่านมาเขาคงไม่จริงจังมากพอมั้ง ภาคีถึงได้ใจ คิดจะเอาแต่ได้อย่างเดียว ไม่คิดจะฟังเขาเลย ครั้งนี้สีฟ้าเลยทั้งดิ้น ทั้งทุบ ทั้งข่วน ซ้ำยังมีแอบถีบอีกนิดหน่อย ขัดขืนสุดฤทธิ์ ไม่มีทางยอมง่ายๆ เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

“ก็ตินลางานให้ลมแล้วไงครับ ไม่รู้ล่ะ ลมต้องอยู่ให้ตินลงโทษ เพราะลมมีความผิดติดตัวรู้ไหม” ภาคีขู่เสียงเข้ม เจ็บไม่น้อยที่โดนทุบโดนถีบ กำปั้นเล็กๆ ของสีฟ้าหนักใช้ได้ เท้าก็ไม่เบาเหมือนกัน

“แล้วลมทำอะไรผิด” ปากอิ่มขยับถามเสียงห้วน หน้าหวานบอกอาการไม่พอใจ มือและเท้าก็ยังพยายามต่อต้านร่างด้านบน

“เมื่อวานลมคิดจะหนีไปเที่ยวกับหมอสัตว์สองคน  แล้วเมื่อคืนลมก็ปล่อยให้หมอสัตว์แตะเนื้อต้องตัว ตินถามลม ถ้าเป็นลม ลมจะโกรธไหมถ้าตินทำแบบนั้น” เพราะอีกร่างบางยังคงไม่ยอมอ่อนให้ง่ายๆ ภาคีเลยต้องหยิบเอาเหตุการณ์เมื่อคืนขึ้นมาอ้าง

มือกับเท้าที่ทั้งทุบทั้งถีบหยุดทันทีที่คนด้านบนพูดจบ   ไม่ใช่เพราะคำขู่และก็ไม่ใช่เพราะคำอ้างของภาคี แต่เป็นเพราะเสียงกริ่งครั้งที่สี่ของเช้าแสนวุ่นนี้ต่างหาก

......................กริ๊งงงงงงงงงงงง........................

สองสายตามองสบกัน สงสัยว่าใครคือแขกคนที่ 4 ของเช้าวันยุ่งเหยิงนี้   สีฟ้าขยับจะลุกขึ้น หลังจากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แต่ถูกเสียงเข้มๆ และสีหน้าที่จริงจังของภาคีตรึงไว้เสียก่อน

“อยู่ตรงนี้ นอนรอตินอยู่นี่  ไม่ต้องลุกไปไหนทั้งนั้น  ไม่งั้นลมได้ไปเที่ยวทะเลทั้งอาทิตย์แน่” คนขู่เดินออกจากห้องไปแล้ว ส่วนคนโดนขู่ได้แต่ทำหน้าเซง ไม่อยากเถียง ไม่อยากขัดใจ กลัวจะทำให้เวลาดีๆ หายไป
สีฟ้าลุกเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อออกมาเปลี่ยน วันนี้เขาคงไปได้ไม่ไกลจากห้องนี้ และผู้ชายเจ้าของห้อง


..............................................................................................


“มีอะไรอีกคุณหมอ” ภาคีถามเสียงห้วน เมื่อเปิดประตูออกมาแล้วพบว่าเป็นหมอพิษณุคนเดิม ยืนยิ้มกว้างอยู่หน้าห้องเขา เจ้าของเสียงกริ๊งที่กดเรียกให้ต้องออกมาต้อนรับในสภาพไม่เต็มใจ

หมอพิษณุยังคงยืนยิ้มกว้างอยู่เช่นเคย ถึงแม้จะโดนเจ้าของห้องตีหน้าไม่พอใจ พลางบอกถึงสาเหตุที่ทำให้เขาย้อนกลับมาอีกครั้ง หลังจากโดนปิดประตูใส่หน้าไปรอบหนึ่ง 

“ผมแค่จะกลับมาบอกว่า ผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณลมแล้ว วางใจได้นะครับ ส่วนเรื่องเมื่อคืนมันก็แค่ละครที่ผมเล่นไปตามแผนของพวกคุณ แค่นี้ล่ะครับที่ผมอยากบอก
 สวัสดีครับ“


...


“ใครมาหรือติน” สีฟ้าที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงตามคำสั่งของภาคี เอ่ยถามเมื่ออีกฝ่ายเดินเข้ามาในห้อง

“ใครบอกให้ลุกจากเตียง ตินสั่งแล้วใช่ไหมว่าห้ามลุกไปไหนเด็ดขาด  ไม่เชื่อที่ตินพูดเลยใช่ไหม ” ภาคีไม่ได้ตอบคำถามของคนที่แต่งตัวยั่วเขาอยู่บนเตียง แต่กลับแกล้งทำเสียงเข้มเอาผิดที่กล้าขัดคำสั่งเขา พลางเดินเข้าไปใกล้ แล้วนั่งลงข้างๆ ร่างบางนั้น ก่อนดึงเข้ามากอด 

“รู้ไหม ถ้าลมขัดคำสั่งของติน ลมต้องเจอกับอะไร”

“แค่ลมลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้านี่นะ ลมผิด”  สีฟ้านั่งทำหน้างงๆ ไม่เข้าใจว่าตัวเขาทำผิดอะไรนักหนา กับแค่ลุกจากเตียงไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

“ลมแค่ลุกขึ้นไปเปลี่ยนชุด ไม่ได้คิดจะหนี แค่นี้ก็ผิดเหรอ”  ลากเสียงยาวอ้อนๆ ในประโยคสุดท้าย ทั้งที่คิดว่าตัวเองไม่ได้ผิดอะไรเลยจริงๆ  แล้วเขาก็อุส่าห์เปลี่ยนเสื้อเอาใจแล้วน้า เสื้อยืดคอกว้างแทบหลุดไหล่ กางเกงผ้ายืดขาสั้นที่ถึงแม้มันจะไม่สั้นก็ตาม  แต่ดูโดยรวมแล้ว มันน่าจะทำให้ภาคีพอใจ

....เพราะอยากเอาใจหรอกนะ ถึงลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียใหม่ แล้วดูสิ ยังจะมาโกรธเขาอีก มันน่าไหมล่ะ....

ถึงสีฟ้าจะปากร้าย

ถึงสีฟ้าจะใจแข็ง

แต่สีฟ้าก็อยากเอาใจคนที่เขารักให้มากที่สุด

“แต่ลมขัดคำสั่งติน” เสียงเข้มๆ เมื่อครู่เปลี่ยนเป็นนุ่มหวาน ปากหนาจูบหนักที่หน้าผากเนียน ก้มหน้าบอกอีกครั้ง  “ตินจะต้องลงโทษ แล้วลมก็ต้องยอมให้ตินลงโทษด้วย”

“จะลงโทษอะไรอีกล่ะ” สีฟ้าถาม พอรู้หรอกว่า ไอ้เสียงหวานๆ ที่บอกว่าจะลงโทษ โทษนั้นคืออะไร
คงไม่พ้นเรื่องที่เจ้าตัวโตร่ำร้องเอากับเขาตลอดเช้า

“ไปทะเลกับภาคีหนึ่งอาทิตย์  “ ทะเลที่ไม่ได้หมายถึงทะเล สายตาของคนพูดบอกกับคนฟังเช่นนั้น ไม่ผิดไปจากที่สีฟ้าคิดเอาไว้เลย   ตาคมวาววับด้วยความหมายลึกซึ้ง
 แต่คนที่มองสบตาด้วย กลับรู้สึกว่าขืนยอมมากเกินไป อีกฝ่ายจะได้ใจ

“มันจะไม่มากไปหน่อยหรือติน คิดว่าลมยอมให้แล้วได้ใจใช่ไหม ถึงขู่ได้ขู่เอาแบบนี้ อยากไปก็ไปเลยนะทะเลน่ะ แต่ลมไม่ไป” เสียงอ้อนๆ เปลี่ยนเป็นเด็ดขาด ไม่ยอมตกลงกับบทลงโทษที่ทำเอาเขาเสียเปรียบ ทั้งยังเสียการงานด้วย

“ ตินไม่ได้ขู่ แต่ความผิดของลมมันเยอะแยะไปหมด ทั้งเรื่องที่ทิ้งติน เรื่องที่จะหนีไปเที่ยวทะเลกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ติน  แล้วเมื่อกี้ยังจะรับปากไปเที่ยวกับเขาอีก ลงโทษแค่นี้มันน้อยไปด้วยซ้ำ” ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายเริ่มจะไม่ยอมเหมือนตอนแรกซะแล้ว  ภาคีก็นึกหวั่นว่าเรื่องจะไม่เป็นอย่างที่ตัวเองวางไว้ แต่ก็ยังทำเสี่ยงที่ต่อกรด้วย ก่อนจะปล่อยร่างบางออกจากอ้อมแขน ลุกขึ้นยืนหันหลังให้

“ลมไม่ใช่นักโทษนะ เอะอะอะไรก็เอาแต่จะลงโทษ เห็นลมมีค่าแค่เรื่องบนเตียงใช่ไหม” เสียงที่ถามแทบจะเป็นตะโกนอยู่แล้ว ไอ้ที่คิดไว้ว่าจะตามใจอยู่แล้วแท้ๆ
กลับต้องพับเก็บไว้ 

“ใช่สิ ตินมันพวกคิดแต่เรื่องบนเตียง” เสียงเข้มบอกประชด พลางบอกต่อ “อยากรู้ใช่ไหมว่าคนที่ตินออกไปเจอเป็นใคร”

“.........” สีฟ้าเงียบ รอฟังว่าอีกฝ่ายพูด เขาไม่ได้โกรธ แค่ไม่อยากตามใจมากเกินไป ไม่เข้าใจเลย ทำไมภาคีถึงขี้งอนขนาดนี้

“ก็พี่หมอของลมไง เขาเปลี่ยนใจจะชวนลมไปเที่ยวทะเลวันนี้แทน ป่านนี้คงรอจนง่วงอยู่ที่รถแล้วมั้ง ลมอยากไปทะเลกับพี่หมอมากไม่ใช่เหรอ อยากไปนักก็ไปเลย ไม่ต้องสนใจตินก็ได้ ถ้าอยู่กับติน ลมก็คงจะเจอแต่เรื่องบนเตียง คงไม่เห็นทะเลอย่างที่ลมอยากเห็นหรอก”

ภาคีโกหก และสีฟ้าเชื่อ

สีฟ้าถอนหายใจยาวไปหลายที มองแผ่นหลังที่หดงอแล้วก็ให้ต้องถอนหายใจหนักๆ อีกหนึ่งที นึกถามตัวเองว่า เขาต้องง้อใช่ไหม แล้วก็ได้คำตอบในทันทีว่า ใช่! เขาต้องง้อ

คนตัวเล็กลุกเดินไปกอดคนตัวสูงจากด้านหลัง ซบหน้าไว้กับแผ่นหลังกว้าง แล้วพูดในสิ่งที่คิดว่าจะทำให้เจ้าของแผ่นหลังนี้ ยิ้มออกมาได้

“คนที่ลมอยากไปทะเลด้วยก็มีแต่ตินคนเดียว ถ้าไม่ใช่ติน ลมก็ไม่อยากไป จำไม่ได้หรือไงที่ตินบอกว่า ลมไปทะเลกับภาคีได้คนเดียวเท่านั้น  นี่ไง ลมทำตามคำสั่งของภาคีแล้ว เอาเป็นว่าลมยอมให้ลงโทษก็ได้  แต่ขอแค่วันเดียวได้ไหม  ลมมีงานที่ต้องทำเหมือนกันนะ ตินก็ต้องทำงานเหมือนกัน”  พูดเองก็เขินเอง นี่เขากำลังรับปากว่าจะอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆ ของภาคีถึงหนึ่งวันเต็มๆ ไปแล้วใช่ไหม

“ห้าวัน” เสียงห้วนติดบึ้งตึงตอบกลับมา ทำเอาสีฟ้านึกอยากจะฟาดกะโหลกช่างคิดนั้นจริงๆ แต่สิ่งที่สีฟ้าทำคือประคองใบหน้าอีกฝ่ายให้หันมามองหน้าหวานๆ ของเขา

“สองวัน” สีฟ้าเริ่มต่อรอง ขืนยอมตามที่ภาคีเรียกร้อง คงไม่ต้องทำงานอะไรมันแล้วล่ะ

“สี่วัน” คนหน้าบึ้งเปลี่ยนเป็นยิ้มเฉ่ง
 
“สามวัน ขาดตัว ถ้าไม่เอาก็ตามใจ ลมให้ได้แค่นี้แหละ จะเอาหรือไม่เอา” ถึงคราวที่จะเป็นฝ่ายขู่กลับบ้าง แต่ก็นะ ถึงจะเป็นฝ่ายถูกขู่หรือเป็นฝ่ายขู่ซะเอง ยังไงเขาก็เสียเปรียบอยู่วันยันค่ำ

“ครับๆ สามวันก็สามวัน” สำหรับภาคีแล้ว แค่นี้มันก็มากกว่าที่คิดไว้แต่แรกอยู่แล้ว ชายหนุ่มยิ้มทั้งตาทั้งปาก ดีใจที่จะขังคนร่างบางไว้ในอ้อมกอดถึงสามวันเต็ม
 อย่างนี้สิถึงจะคุ้มกับที่ลงทุนแสดงละครออกไป ทั้งยังแต่งเรื่องโกหกนั่นอีก หวังแต่ว่าสีฟ้าจะไม่รู้ความจริงภายหลังนะว่า เขาแต่งเรื่องหมอพิษณุขึ้นมาหลอก

“ถนอมหน่อยล่ะกัน”

นึกแล้วก็เซ็งตัวเอง ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าภาคีแกล้งทำเป็นงอนเพื่อให้เขาง้อ ทั้งที่เขาไม่ต้องยอมมากถึงขนาดนี้ก็ได้ เพราะเดี๋ยวก็คงเลิกงอนไปเองหากเขาไม่ยอมง้อ แต่นั่นแหละ เขายังเต็มใจจะง้ออยู่ดี ไม่รู้ทำไม อาจเป็นเพราะที่ผ่านมาภาคีอดทนกับเขามานานและมากเหลือเกิน ถึงทำให้เขาต้องยอมอ่อนข้อให้ เพื่อตอบแทนความรักของภาคี แม้ความรักนั้นจะเดินทางมาพร้อมๆ กับการเรียกร้องที่ไม่เคยพอเลยก็ตาม

...........ความรักนี่ก็แปลกดีจริงๆ นอกจากจะรู้สึกด้วยใจ บอกผ่านด้วยคำพูด แล้วยังต้องสื่อทางภาษากายอีก ถึงจะทำให้คนทั้งสองรู้ว่ารักกันมาเพียงไร.........

“ดะ...ดะ...เดี๋ยวก่อนภาคี ตอนนี้เลยเหรอ” โดยอัตโนมัติเหมือนเคยที่มือเรียวต้องดันร่างกำยำ เมื่อถูกพากลับมาที่เตียง แล้วถูกผลักเบาๆ ให้นอนราบลงไป
 และร่างกำยำก็ทาบทับลงมาอย่างไม่ทิ้งระยะห่าง ปากหยักก็ทำหน้าที่ประสานกันอย่างดีกับจมูกโด่งตรงซอกคอขาว เป็นวิถีที่นำไปสู่ความหอมหวานที่คุ้นเคย
แต่ไม่เคยเบื่อหน่าย

“ก็ใช่สิครับ หรือลมจะผิดคำพูด “ เจ้าตัวตอบเสียงขุ่น เพราะถูกขัดจังหวะ ก็เขาคิดถึงเรือนกายหอมๆ ที่ไร้อาภรณ์ห่อหุ้มจะแย่อยู่แล้วนี่น่า

“ทานข้าวก่อนดีไหม คือลมหิว” ลมยกข้ออ้างขึ้นมาเพื่อยืดเวลาเสียเปรียบออกไปอีกนิด แต่คนได้เปรียบกลับไม่ยอม

“กินตินไปก่อนได้ไหมครับ” ไม่รู้ว่าคนร่างบางอยากจะกินเขาหรือเปล่า ภาคีไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆ คือเขาอยากจะกลืนคนร่างบางจะแย่อยู่แล้ว

ภาคีกำลังจะได้ลิ้มลองร่างบางสมใจ ถ้าไม่มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นอีกครั้ง

เหมือนแกล้ง!! หากมันก็เป็นความจริง !!!

.................กริ๊งงงงงงงงงง.......................

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 02-05-2011 19:13:56
 :z13: :z13:


ยังจะมีใครหรืออะไรมาอีกเรอะ!!!     :serius2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 02-05-2011 19:20:24
เอ่ออ?? จะถึง'ทะเล'มั๊ยอ่ะ ติณกะลม 555+
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 02-05-2011 19:33:57
ฮ่าๆๆจะมีใครมากวนอีกไหมนิ
ฮ๋าๆๆๆๆๆๆๆ
ทะเลคงไม่อยากไปอีกแล้วมั้งใช่ปะลม 555+
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 02-05-2011 19:36:32
ยังไปไม่ถึงไหน แบบนี้จะถึงทะเลไม๊อ่ะ สงสัย ล่มแถวๆปากอ่าวนี่หล่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 02-05-2011 20:10:29
ใครจะมาอีกละเนี่ย?
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 02-05-2011 20:17:34
 :เฮ้อ:หุๆๆๆๆๆๆๆกวนได้กวนดีเขาจะเล่นน้ำกัน



หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 02-05-2011 20:24:22
เอ่อ! มารผจญเยอะเลย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 02-05-2011 20:35:43
ใครก็ได้ เอากริ่งไปทิ้งไกลๆเลยไป อะไรกันนักกันหนาเนี่ย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: heefever ที่ 02-05-2011 21:00:36
จะได้ไปกันมั้ยคะทะเลอะค่ะ



ถ้าแขกรับเชิญออกหมดเมื่อไร ทวิตมาบอกด้วยแล้วกันนะคะ  :a12:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 02-05-2011 21:26:12
         ก่อนอื่นต้องขอบคุณทั้งคนแต่ง คนโพส กราบงามๆเลยครับ ผมผ่านเรื่องนี้ไปได้ไง ผมเพิ่งได้อ่านเมื่อคืน จะบอกว่าสนุกมากครับ อ่านแล้วก็ปวดใจตามในบางตอน บางครั้งก็แอบยิ้ม มันมีทุกอารมณ์เลยจริงๆ ชอบมากเพราะเป็นเรื่องของคนวัยทำงานเหมือนกัน อ่านแล้วเคลิ้มตาม ฮ่าาา มาสมัครเป็นแฟนคลับนะครับ ชอบเรื่องนี้มากจริงๆ
         ลมผู้ชายปากแข็ง ใจแข็ง แต่สุดท้ายก็แพ้ความรักที่ตินมีให้ ขอคุณความรักจริงๆที่ทำให้สองคนนี้รักกัน อ่านแล้วทำให้หัวใจยิ้มได้จริงๆ แอบอยากมีความรักขึ้นมาเหมือนกัน อิอิอิ เรื่งนี้ทำให้ได้อะไรมากกว่านิยายจริงๆ ชอบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...รักล้นใจ...(อัพครั้งที่ 16)
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 02-05-2011 21:43:42
แล้วใครกันล่ะเนี้ยชั่งแกล้งตินได้ ก้อ ก้อ ไรเตอร์งัย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 02-05-2011 21:56:19
ตัวละครทั้งเรื่องจะเวียนมากดออดจนครบใช่มั้ยคะ 55
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 02-05-2011 22:21:52
หึหึหึ สม ตินเจ้าเล่ห์นัก ขอกินข้าวหน่อยก็ไม่ได้
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ramgaythai ที่ 02-05-2011 22:55:08
กริ่งเนี่ย กดอยู่ได้

สงสัยที่บ้านไม่มีให้กด
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 02-05-2011 22:55:58
(http://i273.photobucket.com/albums/jj225/tangtang_jar/yenta4-emoticon-0041.gif) วันนี้จะได้เผด็จศึกไหมเนี่ยคุณติน
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 02-05-2011 23:18:18
โฮ้ววว 3 วัน โอ้วทะเลแสนงามมมม 3 วัน


ว่าแต่ จะไปถึงมั๊ยทะเล ขัดกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 02-05-2011 23:20:45
ทุบ กริ่ง ทิ้งซะ
จะได้ไม่ต้องมาใครมากดอีก เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 02-05-2011 23:59:48
มารเยอะจริงๆ อ่า อะไรกันเนี่ย เมื่อไหร่ตินจะสมใจ ฮ่า ต่อไปใครอีกอ่า?
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: missu2 ที่ 03-05-2011 00:22:41
เพื่อไม่ให้มีการขัดจังหวะ :seng2ped: 

รอรับแขกให้ครบก่อน    แล้วค่อยไปทะเลกันนะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 03-05-2011 01:05:53
แอร๊ย..อิพี่ติณ หื่นมากๆๆ 555 จะขังน้องลมไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันจริงจังอ่ะ

คาดว่าถ้ากริ่งยังดังไม่เลิก อิพี่ติณได้ตัดสายทิ้งแน่ๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 03-05-2011 01:06:14
 :haun4: :o8:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: petanque ที่ 03-05-2011 01:40:48
กักขังกัน 3 วัน ไม่หื่นไปหน่อยเหรอคะติน  :haun4:


 :z3: :z3: :z3:
กริ่งก็กดมันเข้าไปค่าาาา
แวะเวียนมาให้ครบ ฮ่าๆ ๆ ๆ
สงสารติน โดนขัดตลอดดดดดด

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 03-05-2011 08:13:13
เหลือใครยังไม่มาบ้างนะ
เพื่อนหนึ่งกับเลขา เจ้านายกับแฟนสาว พี่ลินกับสามี คุณพ่อคุณแม่สีฟ้า
ภาคีเปิดประตูรอหรือไม่ก็โทรตามมาให้ครบก่อนดีมั้ย :laugh:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 03-05-2011 09:56:23
 :z3: ไม่ได้กินซะที  ลุ้นแทบแย่
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 03-05-2011 11:31:58
โว้ยยยยย อะไรกันนักกันหนาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 03-05-2011 11:36:40
อะไรกันนักหนาเนี่ย วันรวมญาติหรือไงมากันจัง :z3:

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Non_stop ที่ 03-05-2011 18:53:10
 :jul1:

จัดเต็มตินจัดเต้ม

ช่างแกล้งเขาจริงๆๆรอนานและ :serius2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 03-05-2011 19:26:02
ใครมาอีกล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 03-05-2011 23:28:17
แวะมารอครับ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 03-05-2011 23:48:17
ยังไม่หมดอีกหร่ออออ
 :เฮ้อ:
จะได้ไปทะเลไหมเอ๋ยย
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 28 แขก [ไม่] รับเชิญคนที่ 3 [02/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 04-05-2011 20:44:51
หาย???
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 04-05-2011 22:38:29
ตอนที่ 29

กริ๊งงงงงงงงงง............



.................กริ๊งงงงงงงงงง


มันเป็นครั้งที่ห้าที่เสียงน่ารำคาญดังขัดจังหวะเรื่องหวานๆ ของเจ้าของห้องกว้างในคอนโดหรูแห่งนี้

ภาคีหงุดหงิดไม่น้อยที่เสียงน่ารำคาญ   ราวกับจะกลั่นแกล้งเขาให้อดเชยชมเรือนกายน่าหลงใหลให้สมใจอยาก ชายหนุ่มมองสบกับตาคู่สวยอย่างร้องขอและเว้าวอน ไม่สนใจเสียงกริ่งที่ดังถี่ๆ ราวกับจะไม่ยอมหยุด หากว่าเจ้าของห้องจะไม่เปิดประตูออกมาต้อนรับ

“ตินรักลมนะครับ” เสียงทุ้มหวานบอกเอากับกลีบปากหวาน

“อื้อออ...........”

อีกแล้ว แบบนี้สีฟ้าจะรอดมือภาคีไปได้ยังไง เมื่อเขาแพ้คำรักของคนที่กำลังกวาดต้อนความหวานจากโพลงปากของตัวเองทุกครั้งที่ได้ยิน

เสียงกริ่งเงียบหายไปตอนไหน เจ้าของร่างทั้งสองที่พร่ำบอกคำรักให้กันอย่างลึกซึ้งไม่เคยจะรับรู้ สิ่งที่รับรู้ได้ตอนนี้มีเพียงเสียงลมหายใจ แรงเต้นของหัวใจ สัมผัสหวานล้ำ และถ้อยคำรักที่ถูกถ่ายทอดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่เคยเหน็ดเหนื่อย ไม่เคยเบื่อหน่าย แม้แต่วินาทีเดียว  นับตั้งแต่เลือกที่จะใช้ภาษากายบอกคำรักจากกายหนึ่งไปยังอีกกายหนึ่ง

.......................................................................................

ตรงประตูด้านนอกของห้องชุดในคอนโดหรู สองหนุ่มหล่อกับสองสาวสวย อันได้แก่ คณิต อชิตะ ณัชชา และญาดา ที่นัดหมายกันว่าจะมาแสดงความยินดีกับเจ้าของห้องทั้งสอง ยืนกดกริ่งอยู่เป็นเวลานานมากแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าประตูห้องชุดจะเปิดต้อนรับพวกเขาและเธอเสียที

“ลม มัวทำอะไรอยู่นะ ทำไมไม่มาปิดประตูซะที” ณัชชาเริ่มบ่น เพราะเธอกดกริ่งจนนิ้วจะหักอยู่แล้ว แต่ก็ไร้วี่แววว่าเพื่อนจะเดินมาเปิดประตูต้อนรับพวกเธอ

“ด้าว่าคุณลมกับคุณตินคงไม่อยู่มั้งคะ พวกเรากลับไปทำงานกันดีกว่าไหมคะ” ญาดาหันไปบอกกับณัชชาที่ยืนทำหน้างออยู่ข้างแฟนหนุ่ม เจ้านายหนุ่มหน้าหวานของเธอมักจะไปทำงานเช้าเสมอ แล้วเวลานี้คงนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานแล้วกระมั้ง และเธอเองก็สมควรกลับไปประจำโต๊ะเลขาเสียที

“แต่นุ่นบอกว่าลมกับตินยังอยู่ในห้องนี่น่า ใช่ไหมพี่อิง” ณัชชาหันไปขอคำยืนยันจากแฟนหนุ่ม ตอนที่นิรดาโทรเข้ามาหารายงานผล ตอนนั้นเธอก็อยู่กับอชิตะด้วย เลยรู้ว่าเจ้าของห้องทั้งคู่ยังไม่ได้ออกไปไหน ยังคงอยู่ในห้องชุดตรงหน้าเธอนี่แหละ แต่ทำไมไม่ยอมออกมาเปิดประตูให้   ทั้งที่เธอกดกริ่งจนมือจะหงิกแล้ว พักๆ หลังก็เปลี่ยนจากกดเป็นเคาะอีกด้วย เจ็บมือไม่ใช่น้อย

ณัชชาอาจคิดสงสัย แต่สองหนุ่มอย่างคณิตและอชิตะกลับไม่คิดสงสัยอะไรเลย เพราะมีคำตอบอยู่ในหัวอันฉลาดๆ เรียบร้อยแล้ว แต่จะบอกให้สาวคนรักของตัวเอง ก็ไม่สมควรจะพูดเท่าไหร่ เลยต้องหยุดความสงสัยนั่นเสีย ด้วยการชวนกลับ

“ด้าครับ เดี๋ยวหนึ่งไปส่งที่ทำงานนะครับ”

“ค่ะ”

แฟนสาวของคณิตออกจะว่าง่ายและไม่เจ้าคำถาม  ไม่เหมือนกับแฟนสาวของอชิตะ ที่เจ้าคำถามและขี้สงสัย แถมยังดื้ออีกต่างหาก

“หวานครับ พี่อิงว่าเรากลับกันเถอะ เอาไว้วันหลังค่อยมาใหม่” อชิตะบอกแฟนสาวของเขา

“จะกลับได้ไง หวานยังไม่เจอลมเลยนะ ด้าช่วยหวานเคาะประตูหน่อยสิ เผื่อว่าลมจะได้ยิน”

“คุณลมกับคุณตินคงไม่อยู่แล้วมั้งคะคุณหวาน” ไม่ใช่ไม่อยากช่วย แต่เธอกับณัชชาทั้งเคาะทั้งกดกริ่งขนาดนั้น ถ้ามีคนอยู่ข้างในห้องจริงก็คงออกมาเปิดประตูให้ตั้งนานแล้ว ไม่ปล่อยให้พวกเธอยืนขาแข็งอยู่ตรงนี้หรอก

“แต่หวานว่าลมกับตินต้องอยู่ในห้องแน่ๆ เชื่อหวานสิ “

“หวานครับ พี่อิงว่าเรากลับกันเถอะ พี่อิงมีประชุมตอนเช้านะครับ”

“แต่หวานอยากเจอลม ถ้าพี่อิงอยากกลับไปประชุมนักก็ไปเลย ไม่ต้องสนใจหวานหรอก หวานอยู่รอลมคนเดียวตรงนี้ก็ได้” ปลายเสียงตวัดอย่างงอนๆ ทำเอาแฟนหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ ไม่รู้จะเอาไม้ไหนมาสู้กับมนุษย์เจ้าความสงสัย เลยต้องใช้ไม้สุดท้าย

“หวานครับ หวานเข้าใจคู่รักข้าวใหม่ปลามันบ้างสิครับ เค้าสองคนก็คงต้องการเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพังประสาคนรักบ้าง เราจะไปกวนเขาทำไม”

“กลับก็ได้ ” อยากจะยืนยันความต้องการเดิม คือต้องพบเพื่อนรักให้ได้ แต่พอโดนสายตาที่เอาจริงของคนรักเข้าให้ คนช่างดื้อก็ยอมอ่อนแต่โดยดี ก็นานๆ ครั้งจะโดนแฟนหนุ่มแสนใจดีดุให้สักครั้ง จำต้องยอมโดยดี

…………………………………………………………………….


ท้องฟ้ากว้างด้านนอกเปลี่ยนจากสีสว่างเป็นสีเทาหม่น   และเริ่มจะแตะแต้มด้วยแสงสีหลากหลายของยามค่ำคืน


ร่างบางขยับกายเข้าหาร่างหนาซึ่งซุกตัวนอนในผ้าห่มอุ่นผืนเดียวกัน แนบชิดความคุ้นเคยที่ตลอดสองวันมานี้แทบไม่เคยห่างหายจากกันไปไหน  ตาคู่คมหวานแอบซ่อนตัวอยู่หลังม่านเปลือกตา เสียงหายใจดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คล้ายเชิญชวนให้สัมผัสกับเรือนกายแกร่งได้ทุกเวลา

สีฟ้ายิ้มให้กับใบหน้าคมที่ดูจะไร้ซึ่งความร้ายกาจแสนหวาน   ยามที่เจ้าตัวกำลังนอนหลับใหล มือเรียวของสีฟ้าแตะไปที่คิ้วหนาเข้มเรียงตัวสวย  คิ้วเข้มที่มักขมวดเข้าหากันเวลาที่เจ้าตัวออกอาการไม่พอตลอดสองวันที่ผ่านมา   ในข้อหาที่เขาแกล้งขัดขืนไม่ยอมให้ความร่วมมือไปกับความหวานที่เจ้าตัวต้องการ แต่สุดท้ายแล้วคิ้วเข้มก็คลายตัวได้ทุกทีเมื่อเขาให้ความร่วมมือ   สีฟ้าละมือที่ไล้เล่นกับคิ้วเข้มมายังจมูกโด่งสวยจอมซุกซน  ที่ขยันเหลือเกินกับกิจกรรมการสำรวจทั่วเรือนกายของเขา ไม่ต่างจากปากหยักเพื่อนคู่ซี้ที่ไม่เคยเหน็ดเหนื่อยกับการฝากคำหวานทุกจุดที่ลากผ่าน   ผิวแก้มรองรับได้พอดีกับมือเรียวทั้งสอง ชวนให้ต้องประทับกลีบปากนุ่มบนแก้มสองข้างด้วยความรู้สึกรักมากล้น

จากใบหน้าหล่อที่สำรวจอยู่เมื่อครู่ เป้าหมายต่อมาของสีฟ้าคือแผ่นอกกว้างเปล่าเปลือยโผล่พ้นจากผ้าผืนอุ่น   มือเรียววางทาบทับและไล้แผ่วเบา แผ่นอกกว้างซึ่งอิงแอบพักพิงเมื่อไหร่ก็ดูจะอบอุ่นเสมอ อบอุ่นทั้งกายและหัวใจ  และแล้วสีฟ้าก็อดใจที่จะแนบปากสีสวยกับแผ่นอกแกร่งไม่ได้ อ้อยอิ่งอยู่นานคล้ายจะดูดกลืนความหวานจนหยดสุดท้าย

“ยั่วภาคีอีกแล้วนะ”   ท่อนแขนแกร่งวาดทับเอวบาง แล้วกระชับร่างนั้นเข้ามาให้แนบใกล้มากยิ่งขึ้น มากจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันเช่นทุกครั้ง  วางคางสากไว้กับกลุ่มผมนุ่มหอมชื่นใจไม่เคยเปลี่ยน ภาคีรู้สึกตัวตั้งแต่นิ้วนิ่มๆ  หยอกล้อกับคิ้วเข้มของเขาแล้วล่ะ แต่ก็แกล้งนอนนิ่ง อยากรู้ว่าคนหน้าบางจะทำอะไรกับเนื้อตัวของเขาบ้าง

“ไม่ได้ยั่วสักหน่อย” คนยั่วบอกเสียงเบา

“ไม่เหนื่อยหรือไงครับ ตินเหนื่อยจะแย่อยู่แล้วนะเนี่ย ขอตินพักก่อนได้ไหม เดี๋ยวค่อยมาต่อ......โอะ...โอ๊ย...”  ไม่ต้องรอให้พูดจบภาคีก็ได้รางวัลจากมือเรียวตรงผิวเนื้อแกร่งเต็มแรงรัก

“ยังจะมาพูดดีอีกนะ ใครกันแน่ที่ไม่จักเหน็ดจักเหนื่อย”

สองวันเต็มๆ  ที่สีฟ้าไม่ได้ก้าวล้ำออกไปจากห้องชุดสุดสวยในคอนโดหรูแห่งนี้   สารพัดคำอ้าง คำพูด คำขู่ สายตาเว้าวอนและเรียกร้อง ทำให้ร่างบางไปไกลได้ไม่เกินห้องสี่เหลี่ยมห้อง แม้แต่อาหารแต่ละมื้อก็ถูกนำมาประเคนถึงเตียง ทำเหมือนเขาเป็นคนพิการ แต่ก็เพราะเขาเองไม่ใช่เหรอ ที่ตกปากรับคำกับคำเรียกร้องนั้น ซ้ำยังใจอ่อนให้ความร่วมมือเสียทุกครั้ง

โทษใครได้.....ถ้าไม่ใช่ตัวเอง

“โหดจัง” ภาคีลูบปอยๆ ตรงต้นแขนที่ถูกบิดจนขึ้นสีเป็นวงกว้าง

“โหดกว่านี้ก็ยังได้นะ จะลองไหม?”

“ไม่ดีกว่าครับ ตินชอบลมแบบหวานๆ เสียงใสๆ  มากกว่า ว่าแต่ลมหิวหรือยังครับ”  ภาคีขยับตัวลุกขึ้นนั่ง นาฬิกาเรือนเล็กบอกเวลาที่ล่วงเลยเข้าสู่ยามค่ำ   สีฟ้าส่ายหน้าช้าๆ รั้งดึงร่างแกร่งให้เข้ามาแนบใกล้ตามเดิม

“ติน”  สีฟ้าขยับเรือนกายเข้าหาร่างหนาให้มากขึ้น

“ครับ”  ส่วนภาคีก็กระชับวงแขนเกี่ยวเอวบางเอาไว้แนบแน่น

“ลมอยากซื้อคอนโดนี้ ตินว่าเจ้านายของตินจะยอมขายให้ลมไหม”

“ลมจะซื้อไปทำไมครับ” ภาคีย้อนถาม ขณะที่เคลื่อนใบหน้าของเขาให้อยู่ในระดับเดียวกับสีฟ้า  เห็นแก้มใสๆ แล้วก็อดที่จะกดปลายจมูกไปหนึ่งที่ไม่ได้  แล้วก็ได้รับความหวานจากปากสีสวยตรงผิวแก้มเป็นรางวัลตอบแทน

“ก็มันน่าอยู่ไง เลยอยากได้”  สีฟ้าอ้อมแอ้มตอบ ทั้งไม่กล้าสบตาคู่คมหวานที่มองจ้องมา กลัวว่าจะจับความคิดของเขาได้ และก็ไม่กล้าบอกความคิดของเขาให้อีกฝ่ายรู้ด้วย เดี๋ยวจะหาว่าเขาเว่อร์

“เหตุผลไม่เพียงพอ แบบนี้บอสของตินคงไม่ยอมขายให้หรอก   ตินขอเหตุผลที่มันฟังแล้วได้ใจมากกว่านี้ได้ไหมครับ เผื่อบางทีบอสของตินอาจจะขายให้ก็ได้”   มีหรือภาคีจะไม่รู้ว่า สีฟ้าต้องการซื้อคอนโดหลังนี้ด้วยเหตุผลอะไร

มองตาก็ทะลุไปถึงใจแล้ว....

“ ก็.....ก็ คอนโดนี้เป็นที่ที่ตินบอกรักลม ลมเลยอยากได้”

“ลมบอกรักตินด้วยครับ อย่าลืม”

“นั่นแหละ ลมก็อยากจะเก็บเอาไว้ ไม่อยากให้มันกลายเป็นของคนอื่น เหตุผลนี้พอจะทำให้เจ้านายของภาคีขายมันให้ลมได้ไหมล่ะ” เหตุผลที่อยากได้ มันอาจฟังดูเป็นเรื่องงี่เง่า แต่เขาก็รู้สึกอยากเป็นเจ้าของห้องนี้จริงๆ ไม่อยากให้ใครหรือแม้แต่เจ้าของจริงๆ มาครอบครอง เขาอยากซื้อมันเก็บเอาไว้ให้เป็นที่แห่งความทรงจำระหว่างเขากับภาคี

หลายอย่างเริ่มต้นที่นี่และจบลงที่นี่....

“บอสคงไม่ยอมขายให้ลม”

“ทำไมล่ะ ก็เจ้านายของตินย้ายไปอยู่ที่เรือนหอแล้วไม่ใช่เหรอ จะเก็บคอนโดนี้ไว้ทำไม” เจ้านายของภาคีก็คือเจ้าบ่าวของณัชชาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เรือนหอหลังใหญ่ที่เขาเห็น มันทั้งใหญ่และน่าอยู่ ไม่เข้าใจว่าจะเก็บคอนโดหลังนี่ไว้อีกทำไมกัน

“เพราะตินซื้อไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าลมอยากได้ก็ต้องขอซื้อจากตินโดยตรงแล้วล่ะ” ภาคีบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง ห้องชุดนี้กลายเป็นของเขาเมื่อเช้านี้เอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดอยากจะได้เป็นเจ้าของมันเลยสักนิด ความรู้สึกอยากเป็นเจ้าของห้องชุดนี้เกิดเมื่อเช้า เช้าที่ตื่นขึ้นมาโดยมีร่างบางซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา ใบหน้าหวานๆ กับกลุ่มมผมนุ่มและเรือนกายหอม

ถ้าเหตุผลที่ทำให้สีฟ้าอยากได้คอนโดหลังนี้คือ มันเป็นที่ที่สีฟ้าได้ยินคำรักจากปากของภาคีเป็นครั้งแรก และเหตุผลของภาคีที่ขอซื้อคอนโดหลังนี้จากเจ้านายหนุ่มผู้ใจดีก็ไม่แตกต่างเลย เพียงเพราะว่ามันเป็นที่ที่เขาได้ฟังคำรักจากปากของสีฟ้าเป็นครั้งแรกเหมือนกัน

“ขายเท่าไหร่?”

“ไม่ขาย แต่ถ้าลมอยากได้มาก ลมก็ต้องเอาตัวเข้าแลก สนใจไหมครับ ได้คอนโดแล้ว ยังได้เจ้าของมันอีก คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม”

“ก็เอาตัวเข้าแลกอยู่ทุกวันอยู่แล้วนี่ไง ยังไม่พออีกเหรอ”   สีฟ้ายู่จมูกแหลมใส่หน้าคนเจ้าเล่ห์ ที่เผลอแป๊บเดียวก็พลิกกายเขาให้ตกอยู่ใต้ร่างกำยำซะแล้ว  ถ้าต้องเอาตัวเข้าแลกจริงๆ ป่านนี้เขาก็คงได้คอนโดนไปสิบกว่าหลังแล้วมั้ง

“ยังครับ ยังไม่พอ เพราะว่าลมต้องเอาตัวเข้าแลกไปตลอด เข้าใจไหมครับ” ภาคีมองคนหน้าหวานที่ยิ้มอายๆ ส่งมาให้เขา เห็นแล้วชื่นใจจนต้องฝั่งจมูกบนแก้มขึ้นสีนั้นไปหลายที

“เข้าใจแล้ว”

สีฟ้ายิ้มรับ เอาตัวเข้าแลกมานานแล้วนี่นา แล้วมันจะลำบากอะไรมากมาย ถ้าจะต้องเอาตัวเข้าแลกต่อไปเรื่อยๆ อาจจะเสียเปรียบไปบ้าง แต่มันก็เป็นการเสียเปรียบที่หอมหวานไม่ใช่หรือไง เหมือนเช่นตอนนี้ที่ภาคีกำลังบอกคำรักผ่านเรือนกายให้เข้าสู่เรือนใจของเขา   ให้ได้รับรู้ว่าความรักมันหอมหวานชวนหลงใหลแค่ไหน และเขาก็ตอบแทนคำรักจากเรือนกายของเขาเข้าสู่เรือนใจของภาคีเช่นกัน

...............................................................................................

“ลมครับ ตื่นได้แล้วครับ”

เปลือกตาสวยกระพริบถี่ๆ เพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงอ่อนที่ลอดผ่านรอยแยกของม่านผืนหนาเข้ามา เมื่อน้ำเสียงคุ้นเคยกระซิบเบาๆ กับหูเล็ก ใบหน้าเจ้าของเสียงปลุกอยู่ห่างแค่ปลายจมูกชิด รอยยิ้มรับอรุณของเช้าวันที่สามยังเอ่อล้นด้วยความรักเหมือนเช่นเคย

“ลมยังเหนื่อยอยู่เลย ขอนอนต่ออีกนิดนะติน”  เพราะคิดว่าอีกฝ่ายกำลังจะเรียกร้องเอาคำรักจากเขา เพื่อรับอรุณเหมือนทุกวันที่ผ่านมา สีฟ้าเลยขยับตัวหนีไปอีกฟากหนึ่งของเตียงกว้าง ห่อตัวเองเอาไว้ด้วยผ้าห่มผืนหนา ซุกซบใบหน้าไว้กับหมอนใบเขื่อง แต่เหมือนว่าอีกฝ่ายจะตามมาไม่ลดละ แล้วยังดึงเขาให้ลุกขึ้นอีกต่างหาก

“ตินน่ะ ลมจะนอน”  สีฟ้าแหวใส่ ทั้งที่หน่วยตายังปิดสนิท แต่ก็รับรู้ว่าอ้อมกอดนั้นคลายตัวลง พร้อมประคองตัวเขาให้สัมผัสกับผิวเตียงนุ่มดังเดิม ก่อนจะจูบหน้าผากของเขาอย่างแผ่วเบา

เพราะอีกฝ่ายดูจะไม่รบเร้าเช่นทุกครั้ง ไอ้ที่ว่าง่วงและเหนื่อยก็เหมือนหลุดลอยออกไปจากความคิดในทันทีที่ปากหยักละออกไป สีฟ้าลืมตาขึ้นอีกครั้ง ทันเห็นแผ่นหลังกว้างกำลังจะเดินออกจากห้อง

“ติน....” สีฟ้ายันกายลุกขึ้นนั่ง มองคนตัวสูงที่กำลังเดินย้อนกลับมาหาเขาตามเสียงเรียก

“มีอะไรครับ” ภาคีทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าสีฟ้า พลางมือก็ช่วยปัดปอยผมที่ระอยู่บนหน้าหวาน

“งอนลมหรือเปล่า?”

“งอนเรื่องอะไรล่ะครับ” ภาคีย้อนถาม สีหน้าออกจะงงนิดๆ เขาจะงอนคนหน้าหวานด้วยเรื่องอะไรล่ะ กลับรู้สึกผิดด้วยซ้ำที่ปลุกให้เจ้าตัวต้องตื่นขึ้นมา

“ก็...ก็...เรื่องที่ลมขอเวลานอนต่อไง” จะบอกไปตรงๆ ก็อายเหมือนกัน เลยต้องอ้อมเสียนิดหน่อย เขากลัวว่าภาคีจะงอนเรื่องที่เขาปฏิเสธไปเมื่อครู่

“ตินจะงอนทำไม ตินไม่ได้ปลุกลมมาทำเรื่องอย่างว่าสักหน่อย   แค่จะปลุกให้แต่งตัวกลับบ้านต่างหากครับ  แต่ถ้าลมง่วงก็นอนต่อเถอะนะครับ ตื่นเมื่อไหร่แล้วค่อยไปก็ได้”  มือใหญ่ลูบผมนุ่มไปมา นี่สีฟ้าคงคิดว่าเขาคิดแต่เรื่องบนเตียงเท่านั้นสินะ   หน้าของเขาประทับตราเป็นคนหื่นไปแล้วหรือไง   คิดไปคิดมา มันก็ไม่ใช่ความผิดของเขาซะหน่อย ใครใช้ให้สีฟ้าทำตัวน่ารักขนาดนี้ล่ะ   ใครอดใจไหวก็สุดยอดแล้ว แต่ใครคนนั้นต้องไม่ใช่เขาอย่างแน่นนอน

“กลับบ้าน?”  คิ้วเรียวขมวดยุ่ง เขาหูฝาดไปหรือเปล่า  ภาคีบอกว่าจะชวนเขากลับบ้าน ทั้งที่มันยังไม่ครบสามวันอย่างที่เจ้าตัวร้องขอเอาไว้เลยนี่นา

“ ใช่ครับ กลับบ้าน หรือว่าไม่อยากกลับ  งั้นก็ได้ครับเดี๋ยวตินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้แหละ” ว่าแล้วก็ทำท่าจะลุกขึ้น  แต่สีฟ้าก็รีบคว้าตัวไว้เสียก่อน เพิ่งสังเกตเห็นว่าภาคีอยู่ในชุดที่พร้อมจะออกไปข้างนอก

“กลับสิ ตินรอลมก่อนนะ”  สีฟ้ารีบคว้าเสื้อคลุมตัวใหญ่ขึ้นมาสวม แล้วรีบตรงไปยังห้องน้ำทันที

ภาคียิ้มให้กับร่างบางที่หายเข้าไปในห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว

...

ภาคีจูงข้อมือเล็กๆ ของสีฟ้าเข้ามาในห้องนอนในบ้านหลังเล็ก ซึ่งครั้งหนึ่งมันเคยเป็นห้องของเขาคนเดียว ก่อนจะมีสีฟ้าเข้ามาร่วมเป็นเจ้าของด้วยอีกคน ไม่ต่างกับห้องนอนกว้างของบ้านหลังใหญ่ ที่เมื่อก่อนมันเป็นของสีฟ้าคนเดียว ทว่าตอนนี้เขาก็เป็นเจ้าของร่วมกับสีฟ้าด้วย

“นั่งก่อนนะครับ ตินมีของจะคืนให้”

ภาคีกดไหล่บางให้นั่งลงบนเตียง ส่วนตัวเขากลับทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นห้องใกล้ๆ แล้วล้วงเอากุญแจดอกเล็กออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนสอดมันเข้าไปในรูเล็กๆ ของโต๊ะหัวเตียง ภาคีดึงลิ้นชักตู้ หยิบกล่องกำมะหยีสีแดงขึ้นมา แล้วหันกลับมาหาร่างบาง โดยที่ยังคงนั่งอยู่บนพื้นห้องเช่นเดิม นั่งแบบนี้แล้วทำให้ภาคีรู้สึกว่า   สีฟ้าคือเทวดาตัวน้อยที่เขาควรจะรักษาเอาไว้ให้ได้ ไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือจากไปไหนอีกแล้ว

รักษาด้วยชีวิต

และ...

รักด้วยใจ

“.........”

สีฟ้ามองกล่องกำมะหยีสีแดงในมือใหญ่ ไม่ต้องรอให้ภาคีบอก สีฟ้าก็รู้ว่าเข้าในคือแหวนทองขาวฝังเพ็ชรเม็ดเล็กน่ารัก ที่ครั้งหนึ่งมันเคยสวมอยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของเขา และเป็นเขาเองที่ถอดมันคืนให้กับคนเป็นเจ้าในวันที่เขาตัดสินใจยุติแผนทั้งหมดที่ทำลงไป

“แหวนวงนี้” กล่องกำมะหยีสีแดงถูกเปิดออก ในนั้น ไม่ได้มีแค่แหวนวงเล็กวงเดียวเท่านั้น แต่ยังมีแหวนวงใหญ่รวมอยู่ด้วย

“ลมลืมมันไว้ จำได้ไหมครับ” เขาเก็บมันไว้และถอดแหวนของตัวเองออกมาเก็บไว้ด้วยกัน ในวันที่รู้ว่าจะไม่มีเรือนกายหอมให้โอบกอดตลอดค่ำคืนที่ยาวนานอีกต่อไป เมื่อย้ายออกจากบ้านหลังเล็กหลังนี้ไป เขาก็ไม่ได้เอามันไปด้วย คงปล่อยให้มันอยู่ตรงนี้

“ไม่ได้ลืม แต่วันนั้น ลมคืนให้ภาคีต่างหาก”

“แต่ตินจะถือว่าลมลืมมัน แล้วตินก็เก็บมันไว้ รอวันที่ลมกลับมาหามัน ลมรับมันไปนะครับ” ภาคีดึงมือซ้ายของสีฟ้าเข้ามาใกล้ แล้วสวมแหวนวงเล็กให้กับนิ้วนาง นิ้วที่สวยที่สุดในความคิดของเขา เพราะเป็นนิ้วที่เหมาะกับแหวนทองขาววงนี้มากที่สุด

ปากหยักบรรจงจูบแผ่วเบาเนิ่นนานตรงนิ้วนางข้างซ้าย ณ ตรงที่มีแหวนทองขาวฝังเพชรอยู่ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองหน้าคนที่เขารัก

“ลมอยากรู้ ตินโกรธลมมากไหม วันนั้นที่ลมแย่งแหวนวงนี้มาเป็นของตัวเอง ทั้งที่ตินซื้อมันให้นุ่น” คนถาม ห้วนคิดถึงที่มาของแหวนวงในมือ เขาแอบน้อยใจอยู่ลึกๆ ไม่ได้ ก็ในเมื่อแหวนวงนี้มันไม่ใช่ของเขามาตั้งแต่แรก ผู้ชายคนนี้ตั้งใจซื้อมันให้ผู้หญิงคนอื่น ไม่ใช่ผู้ชายอย่างเขา แต่เป็นเพราะเขาแย่งเอามันมา แหวนวงนี้เลยกลายมาเป็นของเขา

“ลมจำได้ไหมครับ วันนั้นลมพูดว่าแหวนวงนี้ มันใหญ่ไปสำหรับนุ่น”

“จำได้”

“ตินตั้งใจซื้อแหวนวงนี้ให้ลม ซื้อทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสให้ลมหรือเปล่า แต่ตินก็ซื้อมันมาจนได้ ถ้าวันนั้นตินไม่แย่งมันไป ตินก็คงจะเก็บมันไว้อย่างนี้ไปเรื่อยๆ คิดถึงลมเมื่อไหร่ก็คงจะหยิบมันขึ้นมาดู เพราะมันคือตัวแทนของลม แต่โชคดีที่ลมอยากได้มัน แหวนวงนี้เลยได้ไปอยู่บนนิ้วที่คู่ควรกับมัน รู้แล้วนะครับว่าตินไม่โกรธลมเลยสักนิด ตรงกันข้าม ตินดีใจที่ลมชอบมันและอยากได้มัน”

“รู้แล้ว” ใบหน้าสวยยิ้มหวาน ซึ้งใจกับคำบอกของภาคี ภาคีซื้อแหวนวงนี้ให้เขา แหวนวงนี้มันเป็นของเขาตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม

“แหวนวงนี้คือหัวใจของภาคีนะครับ ลมต้องรักษามันไว้ให้ดีๆ นะครับ”

“ลมสัญญา ลมจะรักษามันอย่างดีที่สุด”

เป็นอีกครั้งที่ภาคีแนบปากหยักของเขาบนแหวนวงเล็กน่ารักในมือของสีฟ้า เนิ่นนานกว่าครั้งแรกนัก จนสีฟ้าต้องเอื้อมมือมาไปดึงภาคีขึ้นมานั่งเคียงคู่กันบนเตียง ก่อนจะหยิบแหวนวงใหญ่ในกล่องกำมะหยีที่ว่างอยู่ใกล้ๆ แล้วสวมมันบนนิ้วนางข้างซ้ายของภาคี

“แหวนวงนี้ มันก็เป็นของตินเหมือนกัน มันคือหัวใจของลม ตินต้องรักษามันเอาไว้ให้ดีนะ “ แล้วสีฟ้าก็ทำเช่นเดียวกับที่ภาคีทำ คือแนบปากนิ่มสีสวยบนแหวนทองขาวเนิ่นนาน

“ขอบคุณที่มอบหัวใจลมให้ตินรักษา ตินจะรักษาหัวใจลมอย่างดี สัญญาจะรักลมคนเดียวและรักตลอดไป”

ภาคีรั้งสีฟ้าเข้าสู้อ้อมกอดอันอบอุ่นของเขาด้วยความรู้สึกว่ารักมากล้น และสีฟ้าก็พร้อมจะซุกซบกับอกอุ่นด้วยความรู้สึกรักเจ้าของอ้อมกอดนี้ทั้งหมดของหัวใจ

“ตินรักลมนะครับ ”

คำรักกระซิบแนบผ่านกลุ่มผมนุ่มเข้าสู่หัวใจดวงเล็กที่ซุกซ่อนอยู่ในร่างบางที่ภาคีกำลังโอบกอดอยู่นี้ และคำรักของเขาก็ได้รับตอบมาเป็นคำรักของอีกฝ่าย ที่ฟังกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่เคยนึกเบื่อ มีแต่จะยินต้องการได้ยินมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“ลมรักติน.....”


………………………………………………………..

Talk : สวัสดีค่ะ คนเขียนนะคะ วันนี้ขอพูดนิดหน่อยค่ะ
คือว่าความจริงเรื่องรักเธอ น่าจะจบด้วยตอนนี้ แต่แอบคิดว่ายังไม่อยากปิดกระทู้นี้ หรือ กระทู้โดนย้ายเข้าคลังจบน่ะค่ะ เลยคิดว่า จะแต่งตอนพิเศษอีก ตอนหรือสองตอนนะคะ ให้จบสมบูรณ์ แล้วจะต่อด้วยเรื่องของคุณหมอ (น่าจะเป็นเรื่องยาวหรือกึ่งสั้นกึ่งยาวนี่ล่ะค่ะ กำลังคิดพล็อตอยู่) แล้วก็คงต่อที่ทู้นี้ไปเลย

ติดตามชีวิตของคุณหมอไปด้วยกันนะคะ แต่ว่า อาจไม่ได้ลงถี่ๆ เหมือนรักเธอ เพราะรักเธอมันแต่งจบมานานแล้ว แล้วจะพยายามไม่ดราม่าแล้วจะให้ตัวละครมีเหตุผลมากกว่าเดิมนะคะ

ขอบคุณมากมายที่ติดตามและอินไปกับรักเธอนะคะ ^_____^’

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ao16 ที่ 04-05-2011 22:51:47
 :L1: :L1: :L1: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 04-05-2011 22:53:14
^^
น่ารักเนอะ
ลืมแหวนวงนี้ไปแล้วนะเนี่ย555
ขอบคุณมากนะคะ ทั้งคนโพสต์และคนแต่งเลย
บวกไป^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bolinkz ที่ 04-05-2011 23:31:48
น่ารักจังเลย
จะติดตามต่อไปนะคะ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 04-05-2011 23:45:37
น่ารัก  :-[ :-[
ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสต์คะ
+1  :กอด1: :กอด1:



ป.ล.
แอบงงไปกับคุณลมและติน
ตอนคุยกันบางทีก็ใช้ติน บางทีก็ใช้ภาคี เอาไงแน่จ๊ะทั้ง 2 คน
อ้างถึง
“ลมอยากซื้อคอนโดนี้ ตินว่าเจ้านายของภาคีจะยอมขายให้ลมไหม”
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 04-05-2011 23:58:02
สำลักความหวานนนนน
รอตอนพิเศษค่า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 05-05-2011 00:45:11
รอตอนพิเศษค่ะ จบได้น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก หวานจริงๆ ^^
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: akera ที่ 05-05-2011 01:19:35
ไม่ได้มาโพสซะนานเลย  ยังงัยก็รักติน+ลมเสมอ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 05-05-2011 06:33:21
ขอบคุณนะ :L2:
ภาคีสีฟ้ารักกันซะที
รอตอนพิเศษหวานๆ
รอคุณหมอพิษณุมีคู่
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 05-05-2011 09:00:31
น่ารัก  :-[ :-[
ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสต์คะ
+1  :กอด1: :กอด1:



ป.ล.
แอบงงไปกับคุณลมและติน
ตอนคุยกันบางทีก็ใช้ติน บางทีก็ใช้ภาคี เอาไงแน่จ๊ะทั้ง 2 คน
อ้างถึง
“ลมอยากซื้อคอนโดนี้ ตินว่าเจ้านายของภาคีจะยอมขายให้ลมไหม”

มันพลาดไปแล้ววววว ขอโตดดด เด๋วให้พี่เอ๋มาแก้ให้นะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 05-05-2011 09:08:34
รอตอนพิเศษ :กอด1: :กอด1:



หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 05-05-2011 13:08:45
happyๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 05-05-2011 14:54:11
ก่อนอื่นขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆมาให้อ่านนะครับ   :pig4:

และขอบคุณอย่างมากมายที่จะมีตอนพิเศษ เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 05-05-2011 15:02:35
 :L2: :กอด1:

ตอพิเศษ หวานๆนะ คงมะมีขมๆแย้วชิมิ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 05-05-2011 18:31:29
รอติดตามคุณหมอนะ เอแล้วคุณหมอจะคู่กับใครน้าาาาา
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 05-05-2011 21:08:13
น่ารัก  :-[ :-[
ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสต์คะ
+1  :กอด1: :กอด1:



ป.ล.
แอบงงไปกับคุณลมและติน
ตอนคุยกันบางทีก็ใช้ติน บางทีก็ใช้ภาคี เอาไงแน่จ๊ะทั้ง 2 คน
อ้างถึง
“ลมอยากซื้อคอนโดนี้ ตินว่าเจ้านายของภาคีจะยอมขายให้ลมไหม”

มันพลาดไปแล้ววววว ขอโตดดด เด๋วให้พี่เอ๋มาแก้ให้นะคะ


แก้ไขแล้วนะเจ้าค่ะ  จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 05-05-2011 22:19:12
มานั่งรอจ้า
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 05-05-2011 22:35:47
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 05-05-2011 23:45:17
รอตอนพิเศษครับ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 06-05-2011 01:10:10
อ่านแล้วยอ้มไปกับความหวาน ความรักที่ทั้งคู่มอบให้กันค่ะ +1 รออ่านต่อนะคะ สำหรับตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 06-05-2011 10:37:51
 :-[ หวานจนน้ำตาลในเส้นเลือดพุ่งขึ้นสูงหยุดไม่อยู่กันเลย

 :pig4: คะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 06-05-2011 12:27:39
ทะเล
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: maple4120 ที่ 07-05-2011 15:26:00
หวานกันสุดๆเลยแฮะคู่นี้
แต่สุดท้ายก็จบแฮปปี้ด้วยดีนะคะ มีความสุขจัง  :o8:
ภาคีนี่สุดหื่นเลยอ่ะ เอะอะก็กด  :z3: คุณลมบอบช้ำหมดกันพอดี

รอตอนพิเศษนะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 08-05-2011 00:17:40
ในที่สุดก็รักกันซะที ลุ้นซะเหนื่อยเลย
แต่ตินนี้หื่นจริงๆ ตอนแรกออกจะเรียบร้อย นี้หล่ะน๊าเขาถึงบอกว่าดูคนแต่ภายนอกไม่ได้ โฮ่ะๆ
ชอบจังเลย สนุกสุดๆไปเลยจร้า  :กอด1:
ตกลงว่าคนที่มาตอนหลังนี้แผนของบอสหมดเลยซินะ ฮ่าๆ
ภาคต่อไปเป็นเรื่องของพี่หมอซินะ อยากรู้จังเลยว่าจะได้คู่กับใคร
อยากอ่านตอนพิเศษคู่ของตินกับลมจังเลย
 :L2:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 08-05-2011 12:45:16
อ่านจบแล้ว รวดเดียว ไม่แวะที่ไหน
ไม่ดราม่าหรอกจ๊ะ โรแมนติกซะด้วยซ้ำไป
ส่วนเรื่องตัวน้ำจิ้มทั้งหลาย ก็เป็นรสชาติของนิยาย ซึ่งมันต้องมี
ขอบคุณคนแต่งและคนโพสมากนะคะ จะติดตามต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 08-05-2011 16:03:44
ขอบคุณนะคะจะรอตอนพิเศษนะคะ
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: myapril ที่ 08-05-2011 23:21:56
กำลังตามอ่านอยู่นะคะ สนุกมากเลย o13
ทั้งตินที่ปากแข็ง เจียมตัวว่าไม่คู่ควร ทั้งๆที่รักคุณลมจนหมดใจขนาดนั้น
และคุณลมทั้งๆที่รักตินเหมือนกันแต่มีตัวแปรเป็นเพื่อนรักอย่างน้ำเพชร
แต่แน่ใจนะคะว่าเพชรเป็นเพื่อนรัก รู้ว่าตินรักใคร แต่ยังหลอกใช้คุณลมอยู่เรื่อย
ติดตามต่อไปค่า :pig4:

หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 10-05-2011 21:38:17
จากที่อ่านแล้วบางครั้งหมั่นไส้ลม
แต่ตอนจบหวานนนนนนนนนนซะ
น่ารัก
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 13-05-2011 05:33:22
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 13-05-2011 13:08:42
ชอบอ่ะ

 :o8: :o8:


รอตอนพิเศษ รอตอนคุณหมอ รอคนแต่ง   :กอด1:


 o13 o13
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ♫~Eristneth~♪ ที่ 15-05-2011 14:52:07
กว่าจะลงเอย

น่ารัก

สนุกมากค่ะ
 o13
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 15-05-2011 15:24:28
ชอบค่ะน่ารักดี
ตามอ่านทั้งคืน เหอๆๆ
ลมและตินหึงโหดทั้งคู่เลยนะคะ
ไม่คิดว่านิ่งๆอย่างตินจะเจ้าเล่ห์และขี้อ้อนได้ขนาดนี้ ดีไม่ดีมารยาน่าจะเยอะกว่าน้องลมของเราซะอีก ฮ่าๆๆๆ
และจะรอติดตามพี่หมอต่อไปนะคะ
จุ๊บๆ คนแต่ง และคนโพสต์จ้ะ
หัวข้อ: Re: ^^ ... รักเธอ...^^ ตอนที่ 29 อัพตอนดึกๆ [04/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: 1st prince ที่ 17-05-2011 00:39:07
หงุดหงิดตรงมีคนมากวนเนี้ยแหละ เยอะเกิ้น
หัวข้อ: Re: . รักเธอ.. แวะมาส่งข่าว [21/05/54] By Aeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 21-05-2011 22:49:20
มารายงานตัวแล้วนะค่ะ

ที่หายไปนาน คงยังไม่ลืมกันใช่มั้ยค่ะ  

วันนี้แอบมาส่งข่าวดีค่ะว่า   ตอนพิเศษใกล้มาถึงเต็มที

แถมชื่อเรื่องเค้าก็ น่าจะหวานนนนนนนนนน


เรื่องรัก...เชิญครับ   :-[ :-[


โปรดติดตามที่นี่ เร็วๆนี้  

ปล ลืมบอกไป ตอนแรก คาดว่า น้องแอ๋ว i_ang คนแต่งจะมาลงเองค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 21-05-2011 23:12:08
รัก...เชิญครับ



ตอน น้ำจากฟ้า


(ปล. ไม่ใช่ตอนพิเศษของตินกะลมนะคะ แต่เป็นเรื่องใหม่ของน้ำฟ้ากับคุณหมอสัตว์ ส่วนตอนพิเศษของลมกะติน เขียนไปนิดหน่อย มันดันดรามาซะอีก แล้วหยุดไปก่อน แล้วจะเขียนใหม่ให้ดราม่าน้อยลง TT)

“อากาศดีจัง”

“เป็นเช้าที่สดใสจริงๆ”

“ขอให้วันนี้ลูกค้าเข้าร้านเยอะๆ”

“ขอให้เค้กผลไม้สูตรใหม่ขายเกลี้ยง”

“ขอให้ลูกค้าทุกคนกลับออกไปด้วยรอยยิ้ม”


แขนและขาของผมกางท้าแดดอ่อนและเกลียวลมอยู่หน้าร้านกาแฟเล็กๆ ของตัวเอง หลังจากที่ติดป้าย “Open” ในเวลาแปดโมงกับอีกสิบนาที   (เพราะผมหันหลังกลับไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่แขวนอยู่ในระยะที่ผมสามารถมองเห็นได้ และมันเป็นระบบตัวเลข ไม่ใช่เข็มนาฬิกา ที่ต้องเสียเวลานับขีดให้ยุ่งยาก เพื่อเอาเวลาที่แน่นอน)

เช้านี้อากาศดี แดดไม่แรง แล้วยังมีลมเย็นๆ พัดกลิ่นอายของเช้าวันใหม่ที่สดชื่นเข้ามาปะทะกับหน้าของผมเบาๆ  แต่ทำไมขอบตาผมมันร้อนๆ แล้วก็อุ่นๆ หัวใจผมก็เต้นช้าลง ทั้งที่ขยับปากพูดให้ตัวเองสดชื่นไปพร้อมๆ กับวันใหม่ หลังจากที่เมื่อคืนฝนตกหนักมาตลอดคืน

ฝนที่ตกด้านนอกกระจกและด้านในภายในก้อนเนื้ออ่อนไหวของผม

ฝนตกถึงเช้า ไม่ต่างกับที่ผม “ร้องไห้จนถึงเช้า”

“ขอให้.........เรื่องเมื่อวาน เป็นเพียงความฝันได้ไหม?”

หลายอย่างที่ผมขอไปก่อนหน้านี้ ผมแค่ขอไปเรื่อยเปื่อย ขอเอากับดินและฟ้า แสงแดดกับสายลม ไม่ได้หวังจริงจัง เพราะผมไม่จำเป็นต้องขอ เพราะดูเหมือนว่าทุกอย่างมันก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว
“ร้านของผมมีลูกค้าประจำเยอะมาก และลูกค้าขาจรก็มีเข้ามาทุกวัน และกลายมาเป็นลูกค้าประจำในที่สุด”

“เค้กรสผลไม้ที่เมื่อวานขายหมดเกลี้ยง และวันนี้ก็คงเช่นกัน แม้ว่าเค้กที่จะขายวันนี้ไม่ใช่ฝีมือของผมก็ตาม แต่ก็ไว้ใจคนที่รับหน้าที่แทนผมได้ เพราะสาวยีน สาวน้อยร่างอวบที่เป็นเหมือนมือขวาของผมนั้น เธอสามารถทำทุกอย่างได้ราวกับผมลงมือทำเอง”

“หกเดือนได้แล้วมั้งที่ร้าน ‘เชิญครับ’ ร้านกาแฟเล็กๆ ของผมที่ได้เข้าไปครองใจคอกาแฟขาประจำที่แวะมาทักทายแทบจะทุกวันจนจำหน้าและจำชื่อได้ทุกคน และเป็นหกเดือนกับอีกสิบห้าวันที่ผมเห็นรอยยิ้มของลูกค้าที่บอกว่า พวกเขาชอบและถูกใจในรสชาติกาแฟและขนมเค้ก จากทั้งฝีมือของผมเอง ของสาวยีน และเจ้าแดนมือชงขั้นเทพ กันทั้งนั้น”

คำขอทั้งสามข้อของผม จึงเรียกได้ว่า เป็นคำขอที่เรื่อยเปื่อย เหมือนคำพูดที่ผมมักติดปากผม ที่ว่า  “หรือครับ”

“หรือครับ” ที่ไม่ได้แปลว่า “ไม่เชื่อ” แต่เหมือนเป็นคำลงท้าย “คะ” “ครับ” ทั่วไป (ซึ่งผมติดคำนี้มาก)

แต่ว่า....

คำขอสุดท้าย ที่มันมาพร้อมกับความอุ่นร้อนที่ขอบตา ก่อนเม็ดน้ำหนักๆ จะรื้นอยู่ที่ขอบตา และหลังจากที่ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าสีฟ้า ไร้เมฆกวนสายตา เพื่อพยายามที่จะทำให้น้ำเม็ดหนักนั้นย้อนคืนกลับไป แต่เหมือนกลับว่า มันดื้อ ไม่ยอมจำนนกับการบังคับของผมในหนแรก และร้องขอในหนนี้ ไอ้น้ำหนักๆ ร้อนๆ อุ่นๆ มันดันทุรังจนผมไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี นอกเสียจากต้องยกหลังมือขึ้นมา แล้วปาดมันทิ้งไปจากแนวแก้ม

เหมือนไม่เคยหมด

เหมือนมันมีมากเกินไป

เหมือนมันจะแกล้งให้ผมต้องอาย

เหมือนมันต้องการประจานความอ่อนแอของผม ให้ลูกค้าขาประจำคนหนึ่งของร้าน “เชิญครับ” ได้เห็นเต็มสองลูกกะตา หลังจากที่ลูกค้าคนนั้นกำลังเดินข้ามถนนสายเล็ก (ถนนในซอย) ที่กั้นกลางระหว่างร้านกาแฟเล็กๆ กับ “ร้านพี่หมายิ้มหวาน-น้องแมวยิ้มเฉ่ง” ของลูกค้าหน้าหล่อคนนั้น

ผมรีบปาดน้ำตาทิ้ง สั่งห้ามไม่ให้มันไหลออกมา ครั้งนี้มันเชื่อฟัง ยอมหยุดแต่โดยดี แต่มันก็ทิ้งคราบความอายไว้บนหน้าผม จนผมต้องเสียมารยาทอันดีงามของเจ้าของร้านกาแฟชื่อดัง (ของย่านนี้ ที่สาวยีนกับเจ้าแดนช่วยกันตัดสินแทนประชาชนทั้งเขตและพยายามจะทั้งประเทศด้วยซ้ำ  แถมยังทำป้ายไม้เป็นรูปดาวห้าแฉก ลงตัวหนังสือสีฟ้ากระจายตาไว้ตรงกลางว่า “ชื่อดัง” แล้วแขวนไว้ต่อจากป้ายชื่อร้านของผม ทั้งที่ผมไม่ได้อนุญาตสักคำ อันที่จริง สองคนนั้นก็ทำโดยไม่ขออนุญาตผมต่างหาก) ด้วยการหันหน้าหนี แล้วแกล้งคว้าบัวรดน้ำอันเล็กที่ว่างอยู่บนพื้นใกล้ตัวขึ้นมา ทำเหมือนว่ากำลังจะไปรดน้ำต้นไม้เล็กๆ ที่ปลูกไว้เป็นแนวรั้วของร้านที่กั้นระหว่างตัวร้านกับถนนสายหลักที่มีรถวิ่งผ่านไปมา

แต่ว่า....หางตาของผมก็ทันเห็นหรอกนะว่า “คุณหมอสัตว์” ลูกค้า “คนแรก” ของร้านเชิญครับ กำลังอ้าปากค้าง เกาหัวตัวเองแกร็กๆ เหมือนแก้เก้อ ที่ผมหันหน้าหนีในจังหวะที่เขากำลังจะเอ่ยปากทักทาย (ซึ่งนานครั้งจะได้ทักทาย)

แปลกเหมือนกัน ทำไมวันนี้ คุณหมอสัตว์ ถึงมาเช้ากว่าปกติ มันยังไม่ถึงเวลาเปิดคลินิกนี่น่า

คุณหมอเข้าไปในร้านแล้ว ผมได้ยินจากเสียงประตูกรอบไม้กรุกระจกทั้งบานผลักเข้าไป พร้อมกับเสียงทักทายอย่างเป็นกันเองของสาวยีนที่ดังขึ้น รายนี้น่ะ เค้าปลื้มคุณหมอสัตว์มาก ปลื้มทั้งเรื่องของหน้าตาและนิสัย ที่ปลื้มมากกว่านั้นคือ คุณหมอสัตว์คนนี้ รักษาน้องหมาพันดัชชุนของสาวยีน โดยไม่คิดตังค์!! เลยทำให้ได้ความชื่นชมจากสาวยีนไปเต็มๆ บริการราวกับเป็นพระราชาจากประเทศอันไกลโพ้น

แอบเห็นว่า...บางครั้งคุณหมอสัตว์สั่งแค่กาแฟร้อนแก้วเล็ก แต่สาวยีนกลับมีเพิ่มเค้กก้อนโต!! และตอนคิดเงินก็มีแค่ค่ากาแฟ!!!

ผมไม่ได้งก แต่ว่า .....

เฮ้ออออ.....แต่ก็นะ เค้กถึงจะราคาไม่แพง แต่มันก็เงิน (T.T)

เสียงของสาวยีนหายไปจากการได้ยินของผม เพราะประตูร้านที่ปิดลงในทันทีที่ร่างสูงๆ ของคุณหมอไปอยู่ในร้านและประตูร้านปิดลง

ไม่มีใครแล้วตอนนี้ หน้าร้านที่ผมยืนทำเหมือนกำลังรดน้ำต้นไม้เล็กๆ อยู่นั้น มีเพียงผมกับรถราที่วิ่งไปมา แล้วไอ้เจ้าตัวดื้อด้านก็คล้ายจะร้อนๆ อุ่นๆ อยู่ที่ขอบตาผมอีกแล้ว แล้วมันก็ซึมออกมาทั้งที่ผมกั้นมันไว้ด้วยเปลือกตาแล้วแท้ๆ

ผมยกมือขึ้นปาดน้ำตาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงเจ้าแดนที่ดังมาจากด้านหลังขอผม และใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

“อกหักเรื่องเล็กน่าบอส  หรือว่าจะให้ผมไปซัดไอ้หมอนั่นให้จมกองเลือดดีครับ เลือดชั่วๆ ของมันจะได้หมดจากตัวซะที ผมละอยากหัวเราะเป็นภาษาปักกิ่ง แม่งง พูดมาได้ ‘คุณดีเกินไป’ สมัยนี้ยังมีคนใช้ประโยคนี้อีก ผมละเชื่อจริงๆ แต่อันที่จริง บอสของผมก็เป็นคนดีจริงๆ ที่ยอมให้อภัยมันมาตลอด ทั้งเลว ชั่ว เจ้าชู้ กระล่อน ปลิ้นปล้อน ครบสูตรความเลว ผมว่าผมเลวแล้วนะ ยังเลวได้ไม่เท่าครึ่งของมัน อย่าเสียน้ำตาให้มันเลยครับบอส มามะ มาซบอกแน่นๆ ของน้องแดนดีกว่า   ”

ไม่รู้ว่าไอ้ที่พูดออกมายืดยาว ชนิดที่ผมฟังไปหลับไปยังได้เลยของเจ้าแดน หนุ่มช่าง (คหกรรม) ใบหน้าหล่อแต่ยียวนกวนบาทาผมอยู่ในตอนนี้ มันตั้งใจปลอบผมหรือกะเอาฮากับชีวิตผมก็ไม่รู้เหมือนกัน

แต่ที่แน่ๆ คือ ไอ้คำที่มันบอกว่าจะไปกระทืบ “คนที่ทำให้ผมร้องไห้” มาทั้งคืนนั้น มันดูจะเอาจริงมากๆ ถ้าเพียงผมจะพยักหน้าตอบตกลง มันคงได้จัดเต็มและถึงขั้นจัดหนักให้ไปน้องกินน้ำเกลือแทนน้ำข้าวต้มแน่ๆ  ถึงเจ้าแดนจะเป็นเด็กช่างคหกรรม แต่มันก็มีเพื่อนช่างกล ช่างไฟ ช่างเชื่อมและอีกสารพัดช่าง ที่ช่างต่อยและช่างนักเลงได้ในเวลาที่เรียกใช้บริการ อันนี้ผมรู้ดี เพราะหลายครั้งแล้วที่มือซ้ายของผมคนนี้มาทำงานด้วยสภาพหน้าตายับยู่ยี่ บอกชัดเจนว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาไปยำรวมมิตรกับใครมา

“อย่ามาหาเรื่องอู้ กลับไปทำงาน ก่อนที่พี่จะนับนาทีที่นายอู้งาน คิดเป็นเงินแล้วเอาไปหักเงินเดือนนายตอนสิ้นเดือน เข้าจ๋ายยย”

เจ้าแดนทำหน้ายุ่ง สะบัดตัวให้ดูมีจริตแสนงอน (มันแมนทั้งแท่ง จากประสบการณ์ที่มีสาวน้อยวัยใส มาตบกันที่หน้าร้านเพื่อแย่งเจ้าแดน ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่หลายครั้ง แล้วแต่ละครั้งก็ไม่เคยซ้ำหน้ากันเลยจริงๆ)

“ค๊าบบบบบบ บอสน้ำฟ้าาาาาา ที่ร๊ากกยิ่งของแดนชัย” พูดแล้วก็กำมือแนบอก ก้าวถอยหลังเหมือนกลัวผมจะทำจริง ทั้งที่ผมก็รู้ว่าเจ้าแดนไม่เคยกลัวคำขู่ของผม เพราะผมเป็นคนประเภทได้แต่ขู่ แต่ไม่เคยทำจริง งกแค่ไหนก็ไม่เคยหักเงินเดือนสักครั้ง

“อ้าว....พี่หมอครับ วันนี้รีบหรือครับ”

มือซ้ายของผมเอ่ยถามหมอหนุ่มที่ถือแก้วกาแฟขนาดใหญ่ที่สุดของร้านออกมา แวบเดียวที่ผมเห็น มันก็นึกรู้ได้ทันทีครับว่า เป็นโปร “จ่ายแก้วเล็กได้แก้วใหญ่ (ที่สุด)” หรือไม่ก็ “ราคานิดๆ แต่คุณภาพคับแก้วหย่ายยย” ที่มีเจ้าของโปรเป็นสาวร่างอวบนาม ยีน เท่านั้น!!

เฮ้อออ...ผมไม่ได้งก

ส่วนคุณหมอสัตว์...ก็คงไม่ได้งกเหมือนกัน

“ครับ”

คุณหมอสัตว์ลูกค้าคนแรกของร้านเชิญครับทั้งในวันที่ร้านเปิดให้บริการวันแรกและในวันนี้ ตอบสั้นๆ ตามนิสัยที่ผมพอจะเดาออกว่า เป็นคนพูดน้อย เพราะตั้งแต่คุณหมอสัตว์ทำตัวเป็นลูกค้าประจำของร้านผม มาได้หกเดือนกับอีกสิบห้าวัน (ในวันนี้) ผมแทบจะนับคำพูดที่คุยกับคุณหมอได้ขึ้นใจทีเดียว

สาเหตุก็เพราะว่า ผมเป็นคนพูดน้อย และคุณหมอก็ดูเป็นคนพูดน้อย (กว่าผม) เช่นกัน

“เมื่อคืนร้องไห้มาหรือครับ? ตามบวมเชียว”

คำถามจากคุณหมอ ทำเอาผมอ้าปากค้าง มือก็ยกขึ้นแตะที่ขอบตาด้านซ้ายและตามด้วยด้านขวาในทันที

...




หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Hachi_an1234 ที่ 22-05-2011 01:45:27
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ครั้งแรกฮํบผมม.. อ่านตอนแรกแบบสีฟ้าแอบแรงนะ.... ส่วนตินก็เป็นหนุ่มขรึม..เท่อะ..
แต่ก็นะพอกลางๆเรื่องทำไมลมถึงไม่ทำตามใจตัวเองอะ.. ทำไมไปฟังคนอื่น...
ทั้งๆที่ตัวเองก็รักกับตินแต่ทำไมต้องตีตัวออกห่างเพราะว่าคำพูดของแพทด้วย..
ตอนนั้นนี่เซงแพทอย่างแรง..รู้อยู่แล้วว่าตินชอบใคร.. แล้วลมกับตินก็รักกัน.. แต่ก็ทำร้ายเพื่อนได้มากขนาดนี้..
คำว่าเพื่อนของแพทมันไม่ช่ายเพื่อแท้เลยอะ..
แต่หลังก็ให้อภัยอะ.. แต่ก็แอบเคืองนิดๆๆ..
ช่วงหลังๆๆนี่ตินกับลมน่ารักมากอะ.. ตินนี่กลายเป็นหนุ่มขี้อ้อน เจ้าเล่ห์ไปแล้ว.. ส่วนน้องลมก็หวานช่างเอาใจ หุๆๆ น่ารักจัง..
ได้อ่านเรื่องใหม่แล้วฮํบ.. น้ำฟ้ากับพี่หมอสัตว์ น่าอ่านมากๆเลยอะ..
น้ำฟ้าโดนใครหักอกมานี่.. พี่หมอสัตว์ต้องมาดามให้อะป่าว..
ส่วนเรื่องตอนพิเศษของตินกับลมนี่ดราม่าขนาดไหนฮํบพี่.. รับได้หมดนะ จะดราม่าแค่ไหน..
ขอตอนสุดท้ายหวานกันเหมือนเดินก็พอ แต่ก็นะห้ามทั้งสองคนแอบไปมีคนใหม่นะ.. มีคนมาชอบได้.. แต่ห้ามชอบกลับเด็ดขาด..
แต้งส์สำหรับเรื่องสนุกๆๆที่เอามาแบ่งปันนะฮับพี่.....
หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 22-05-2011 12:47:42
+1 ต้อนรับพี่หมอค่ะ
ท่าทางสองนี้จะเรื่อยๆ(มั้ย) ไม่ค่อยพูดกันทั้งคู่ แล้วมันจะได้เรื่องป่าวนี่ 5555
หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-05-2011 13:19:01
อาจจะเหมือนปลากัด
เธอจ้องฉัน ฉันจ้องเธอ
แล้วตึ่งโป๊ะกัน
หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 22-05-2011 16:09:50
รัก...เชิญครับ




-
ขอบคุณค่ะน้องแอ๋วมากนะจ๊ะที่มาลงด้วยตัวเองตอนต่อไป พี่จะไม่อู้แระ หุหุ
หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 22-05-2011 16:41:32
เย้พี่หมอมีคู่แล้น อิอิ
หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 22-05-2011 19:27:46
น่ารักๆ บวกให้ค่า
หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 22-05-2011 19:57:01
คุณพี่หมอจะดามอกให้น้ำฟ้าหรือเปล่าหล่ะ (http://i273.photobucket.com/albums/jj225/tangtang_jar/147abfb24c74a6rc0.gif)
หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 22-05-2011 20:16:21
พูดน้อยทั้งคู่ สงสัยคนอ่านต้องลุ้นน่าดูมั้งตอนเค้าจีบกันน่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 22-05-2011 21:12:14
รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 22-05-2011 22:08:44
คุณหมอผู้แสนดีกำลังจะมีคู่แล้ว
หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 23-05-2011 00:03:42
พูดน้อยทั้งคู่ใครจะเริ่มก่อนดี
หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 23-05-2011 02:28:37
เย้ๆพี่หมอมาแล้ว
ต่างคนต่างดามใจกันและกันรึป่าวเอ๋ย

ว่าแต่พูดน้อยทั้งคู่ ต้องสบตาสื่อสารใช่ไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 24-05-2011 21:27:47
ยินดีต้อนรับพี่หมอสัตว์ค่ะ
 :call: :call:
หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 24-05-2011 23:40:45
พูดน้อยต่อยหนัก
แล้วจะจีบกันยังไง
คาดว่าคงจะใช้ภาษากาย
มาอีกแล้ว พระเอกมาดนุ่ม ลุ่มลึก
นายเอกผู้อ่อนโยน อ่อนไหว
อยากอ่านต่อเยอะๆ แล้วค่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: เรื่องรัก เชิญครับ >เปิกฉากน้ำจากฟ้า [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {21/05/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 30-05-2011 23:00:17
พี่หมอ จะเจอเนื้อคู้แล้ว เย้ๆ


หัวข้อ: Re: รัก เชิญครับ ตอนที่ 2 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{04/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 04-06-2011 20:30:49
รัก...เชิญครับ 2


เช้านี้....

ผมตื่นขึ้นมาด้วยเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นแต่เช้ามืด ตีสี่ ได้มั้ง

“081-xxxxxxx”

ไม่มีชื่อ ระบุว่าเป็นเบอร์ของใครคนไหนที่ผมบันทึกเอาไว้ในเครื่อง ทว่าผมก็รู้ว่าหมายเลขที่คุ้นตา
จำขึ้นใจ ว่าเป็นของใคร

‘น้องลม’

และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ผมมายืนอยู่หน้าร้าน  “เชิญครับ”  พร้อมกับกาแฟปั่นแก้วใหญ่
 ที่ผมเข้าใจว่าตัวเองสั่งแก้วเล็กและจ่ายไปในราคาแก้วเล็กเช่นกัน แล้วทักเจ้าของร้านไปด้วยคำถามที่ว่า

“เมื่อคืนร้องไห้มาหรือครับ?  ตาบวมเชียว”

ผมถาม เสียงหัวเราะดังขึ้นมาทันทีลูกน้องคนสนิท ชื่อว่าแดน ส่วนคนที่ผมเอ่ยทัก ก็อ้าปากค้าง มือคลำหน้าตัวเองไปด้วย ก่อนจะหันไปทำหน้ายักษ์ใส่คนที่หัวเราะตัวเอง

“ไปทำงานได้แล้ว”

“ครับบอสสสส”

ที่ผมเห็นคือบอสของเด็กแดนทำหน้าโหดใส่   ที่ดูแล้วไม่น่ากลัวเลยในสายตาผม รวมถึงเด็กแดนด้วย เพราะผมเห็นว่ายังยิ้มร่าได้อยู่  ก่อนจะถอยหลังเดินกลับเข้าไปในร้าน ตอนนี้เหลือผมกับเจ้าของร้านแค่สองคน ผมรู้สึกผิด ผมไม่น่าถามคำถามที่ทำให้อีกฝ่ายอาย ดูหน้าก็รู้ว่า  “คุณฟ้า”  อายที่ถูกผมถาม แต่มองตากลมๆ  นั้นก็ทำให้ผมรู้เหมือนกันว่า  “ไม่ได้โกรธ”  ที่ถูกทัก

จากการเป็นลูกค้าประจำของร้านเชิญครับมากว่าหกเดือน ทำให้พอรู้ว่าเจ้าของร้านว่าเป็นชายหนุ่มที่...

‘ใจดี’ เป็นสิ่งที่เห็นอยู่บนหน้า

‘ใจเย็น’ เป็นสิ่งรู้ เมื่อได้คุยกัน (แม้จะนับครั้งได้ที่พูดคุยกัน แล้วก็คุยกันแบบลูกค้ากับเจ้าของร้านเท่านั้น)

ความจริงผมไม่ได้ตั้งใจถาม แต่ปากมันดันไวเกินไป รู้ว่ามันไม่สมควร หากก็แก้ไขอะไรไม่ได้

เหมือนเหตุการณ์ เมื่อวาน ตอนกลางวัน ตรงหน้าร้าน  “เชิญครับ”  ที่ผมบังเอิญอยากจิบกาแฟร้อนสักแก้วให้หายง่วง
แล้วก็บังเอิญเจอเจ้าของร้านยืนน้ำตาไหลอาบหน้า อยู่ตรงหน้าผู้ชายคนหนึ่ง คุ้นหน้าอยู่บ้าง ที่ผมพอจะเดาได้ถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่และเรื่องอะไรที่ทำให้ใบหน้าขาวขึ้นสีช้ำ  เต็มไปด้วยน้ำตา ขณะที่อีกคนยืนเอามือล้วงกระเป๋าแล้วหันหน้าหนี แต่หน้าที่หันนั้นมองมาทางผม ก่อนจะหันกลับอีกครั้ง พูดอะไรกับคุณฟ้าที่ผมได้ยินไม่ค่อยชัด หากก็จับบางคำพูดแล้วเดาเป็นเนื้อความได้ว่า

“ผมขอโทษ”

“ขอบคุณที่รักกัน”

“ผมมันเลว”

“ส่วนคุณมันดีเกินไป”

“ลืมผมเถอะนะฟ้า”

“สักวันจะมีคนที่ดีกว่าผม เดินเข้ามาในชีวิตของฟ้า”

“เขาจะรักฟ้า มากกว่าที่ผมรัก”

“เขาจะไม่ทำให้ฟ้าเสียใจ เหมือนที่ผมทำให้ฟ้าเสียน้ำตาในวันนี้”

ส่วนคนที่ถูกวางฐานะว่าดีเกินไป และขอให้ลืมคนเลวๆ คนหนึ่งไปจากชีวิต ยืนมองหน้าคนพูด พร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบหน้า ปากขยับจะพูดแต่ก็ไม่เคยมีคำพูดใดหลุดออกมา

“ผมขอโทษ”

เหตุการณ์ต่อจากคำพูดพวกนี้ ผมก็ไม่รู้แล้วว่าเป็นยังไง เพราะผมก็ยังเป็นคุณหมอสัตว์ที่มีมารยาทพอ ที่จะไม่ยืนฟังคนรักเค้าบอกเลิกกัน

ผมเดินเข้าไปในร้านที่เต็มไปด้วยลูกค้า  มีหลายคนและหลายกลุ่มที่นั่งอยู่ริมกระจกใส  ด้านที่คนทั้งสองคนยืนอยู่  ถึงจะมีกระถางต้นไม้ตั้งเป็นแนวตามความยาวของผนังกระจก แต่มันก็สูงแค่อกของคนที่นั่งอยู่ในร้าน  ภาพเหตุการณ์นั้นจึงเป็นที่สนใจของลูกค้าที่สายตามองไปเห็น  หรือแม้แต่จะยืดคอมองก็ตาม แต่ก็คงได้แต่ภาพที่ไร้เสียง  ส่วนผมคงได้แต่ห้ามความอยากรู้ของตัวเองเอาไว้ เลือกที่จะนั่งไปอีกมุมหนึ่งที่ไม่มีทางได้เห็นเหตุการณ์ผ่านกระจกใส   เมื่อกาแฟร้อนแก้วเล็ก (ตามที่ผมสั่ง) ถูกส่งจากมือของเด็กแดน  ที่ใบหน้าบอกอาการอย่างมากว่า ‘อยากไปกระชากตัวแฟนหนุ่มของเจ้านายมากระทืบใจจะขาด’

ถ้าผมดูไม่ผิด สายตาของเด็กแดนที่มองเจ้านายหนุ่มในทุกครั้งที่ผมเห็น (และบังเอิญว่าผมเห็นบ่อยมาก เรียกว่าทุกครั้งที่มาที่นี่)  มันมีความหมายมากกว่าสิ่งที่เจ้านายหนุ่มอย่างคุณฟ้ารู้

รึว่ารู้?  แต่แกล้งไม่รู้  อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ


“ครับ.....ร้องจนถึงเช้าเลยครับ”

ก่อนที่ผมจะนึกย้อนไปไกลถึงเหตุการณ์ที่คุณฟ้าเดินกลับเข้ามาในร้าน  ในสภาพที่เรียกสายตาลูกค้าทุกคนในร้าน ไม่เว้นแม้แต่ผม พร้อมกับการโอ๋ของลูกน้องทั้งสองคน เสียงตอบแบบเบาๆ  ก็เรียกความคิดผมให้กลับคืนมา

นอกจากจะใจดี ใจเย็นแล้ว คุณฟ้าก็ยังคงเป็นคนที่ตอบทุกคำถาม  แม้คำตอบจะทำให้ความอายผุดอยู่ใบหน้าเนียนๆ นั้น   ตากลมบวมช้ำแต่ก็ยังดูมีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยความเป็นมิตรกับผม ตามนิสัยที่เป็น

ยินดีที่จะทักทายกับใครทุกคน

“ไปเที่ยวทะเลกันไหมครับ”

ตาบวมๆ ทำให้ผมเอ่ยชวนออกมาอย่างที่ใจคิด  คนอกหัก อะไรจะดีไปกว่าการไปเที่ยวทะเล (มีคนบอกผมมาอย่างนี้)

“หาาาา ? “   ตากลมๆ เบิกกว้าง ดูแปลกใจกับคำชวนของผม   เป็นใครก็ต้องเป็นล่ะ จู่ๆ มีคนมาชวนไปเที่ยว   ทั้งที่ไม่ได้สนิทชิดเชื้อพอที่จะไปไหนด้วยกันได้เลย

“คุณหมอชวนผมไปทะเล?”

“ครับ”

ผมคิดว่าคุณฟ้าคงแปลกใจไม่น้อย  ที่ผมชวนไปเที่ยวทะเลด้วยกัน  มันก็คงแน่ล่ะ  ก็ผมกับคุณฟ้าไม่ได้สนิทกันถึงขนาดจะชวนกันไปเที่ยวไหนกันได้   เราสองคนก็แค่ลูกค้าคนหนึ่งกับเจ้าของร้านคนหนึ่ง  ที่เห็นกันก็ยิ้มทัก  พูดก็ก็ด้วยเรื่องของลูกค้าที่สั่งกาแฟหรือไม่ก็จ่ายเงิน นอกเหนือจากนั้นไม่มีครับ

คุณฟ้าพูดน้อย  ส่วนผมก็พูดน้อยกว่าคุณฟ้าไปนิด

“ครับ ไปไหมครับ?”

ผมถามย้ำเอาคำตอบ ไม่ได้หวังว่าคุณฟ้าจะตอบตกลง แต่ผมก็ไม่อยากได้คำปฏิเสธ  เมื่อผมคิดได้ว่า ถ้าจะมีใครสักคนไปด้วยกับผม  ตากลมหรี่ลงเหมือนใช้ความคิดอยู่สักพัก  เป็นพักที่นานเหมือนกัน แล้วผมก็ได้คำตอบที่พอใจจากคนตรงหน้า เจ้าของดวงตากลมเป็นประกายใสเหมือนดาวที่พราวระยิบบนท้องฟ้า

โลกจะสดใสครับ  ถ้าใครได้สบตาเป็นประกายของคุณฟ้า 

“ครับ”

“ครับ นี่แปลว่า ตกลงจะไปด้วยกันใช่ไหมครับ”

“ครับ”

รู้สึกดีครับ ที่ไม่ถูกปฏิเสธ แอบแปลกใจนิดหน่อยที่คุณฟ้าตอบตกลงง่ายๆ (แต่ก็ใช้เวลาคิด)  ไม่ถามหรือสงสัยเลยว่าทำไมผมถึงเอ่ยปากชวน แล้วไปทะเลที่ไหน ไปยังไง พักที่ไหน และที่สำคัญมีใครไปบ้าง

“แล้วจะไปวันไหนครับ ผมจะได้เตรียมตัวได้ทัน”

นึกว่าจะไม่ถามซะแล้วครับ

“วันนี้ครับ”

“หาาา! วันนี้!!”

เอาอีกแล้วครับ ตากลมเบิกกว้าง ไม่ใช่แปลกใจนะครับ แต่ตกใจมากครับ คงคิดแค่ว่าผมชวนไปทะเล แต่คงไม่คิดว่าจะชวนวันนี้ แล้วต้องไปวันนี้เลย เลยตอบตกลง  ผมยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา อีกไม่ถึง 20 นาทีก็ถึงเวลาที่น้องลมจะมารับผมแล้ว

“ครับ  วันนี้ แล้วก็อีก 30 นาทีออกเดินทาง คุณฟ้าว่าไงครับ สะดวกไหมครับ”

“หืออออออ  สะดวกไม่สะดวก ก็รับปากแล้วนี่ครับ”

คราวนี้คุณฟ้าลากเสียยาวเลยครับ  คงเหนื่อยกับคำบอกของผม หรือไม่ก็ไว้อาลัยให้กับความไม่คิดของตัวเอง  ที่ตกปากรับคำแบบไม่ถามรายละเอียดอะไรเลย ว่าจะไปที่ไหน ไปยังไง ไปกับใคร ไปวันไหน ไปตอนไหน  ถ้าถาม ผมก็พร้อมจะบอก ไม่ปล่อยให้ตกใจหลายๆ รอบแบบนี้หรอกครับ

“ถือว่าพักผ่อนครับ”

“ครับ ว่าแต่เราจะไปที่ไหนครับ แล้วไปกี่วัน ”

สงสัยคุณฟ้าคงคิดได้ว่าควรจะถาม  ถึงแม้จะเป็นคำถามตามมาหลังคำตอบตกลงไปแล้วก็ตาม ไม่ว่ากันครับ ถามมาก็ตอบไป

“  ทะเลจันครับ  ถ้านับรวมวันนี้ก็คง 3 วัน 2 คืน มีเพื่อนของผมไปด้วย 4 คนครับ แต่อีก 2 คนจะตามไปพรุ่งนี้ครับ”


“ไปเยอะเหมือนกันนะครับ แล้วถ้าผมไปด้วย มันจะดีเหรอครับ”

“ไม่หรอกครับ”

“แต่ผมเกรงใจน่ะครับ  ที่รับปากไปตอนแรกก็นึกว่าคุณหมอไม่มีเพื่อนไปด้วย  เลยเชิญผมไปด้วยกัน จะได้ไม่เหงา  แต่พอรู้ว่าคุณหมอมีเพื่อนไปด้วย  แถมยังเยอะขนาดนี้ด้วย ผมเกรงใจน่ะครับ”

คุณฟ้าย้ำคำว่า “เกรงใจ”  ถึงสองหน  ประมาณว่าเกรงใจสุดๆ  แล้วสีหน้าก็บ่งบอกว่าเกรงใจสุดๆ เช่นกัน

“ไม่เป็นไรครับ ไปด้วยกัน ถือเสียว่าได้พักผ่อนไงครับ  หกเดือนมาเนี้ย เห็นยีนบอกว่าคุณไม่เคยพักเลยสักวัน”

เรื่องนี้น้องยีนเป็นคนบอกผมเองครับ มีหลายเรื่องเกี่ยวกับคุณฟ้าที่ผมได้ยินจากปากของน้องยีน ทั้งที่ผมไม่ได้อยากรู้เลย แต่ก็กลับเป็นเรื่องที่ผม “ต้องรู้” มาตลอดหกเดือนที่เป็นลูกค้าประจำของร้านเชิญครับ

“แต่.....”

“รับปากผมแล้วนะครับ”

ต้องรีบดักทางไว้ก่อนครับ ดูจากหน้าที่เริ่มคิดมากนั่นแล้ว กลัวจะเปลี่ยนใจ  คุณฟ้าเบือนหน้าหนีเหมือนกำลังหลบสายตาแกมบังคับของผม  เพื่อจะได้ใช้ความคิดว่าควรเอายังไงกับตัวเองดี  ผมเลยได้มองหน้าคุณฟ้าแบบชัดๆ และนานๆ  (แม้นาทีเดียวก็เอาครับ)  แบบไม่ต้องเกรงอกเกรงใจใคร เพราะถือว่าผมมองแบบรอคำตอบละกันครับ 

ใบหน้าที่ผมและใครอีกหลายคน หรืออาจจะทุกคนก็ได้ครับ  ที่ได้เจอคุณฟ้า ได้มอง คิ้วเล็กๆ ขนตายาวๆ ตากลมๆ  จมูกรั้นๆ กับปากบางๆ ที่วางอยู่บนโครงหน้าได้รูป
 คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “น่ารัก”  พอๆ กับคำว่า “น่ามอง”

ไม่ว่าหญิงหรือชายก็ต้องหันกลับมามองครับ ดูอย่างเมื่อครู่สิครับ  ตั้งแต่ตอนที่ผมยืนคุยกับคุณฟ้าอยู่เยื้องๆ หน้าร้าน ลูกค้าประจำร้าน  “เชิญครับ”  ที่เดินผ่านเข้าไปในร้านและเดินผ่านออกมาจากร้าน ก็ทำท่าเหมือนจะเข้ามาคุยด้วยเสียทุกคน  แต่ยังคงมีมารยาทพอที่จะแค่อยาก แล้วทำได้แค่พยักหน้าทักทาย (ทั้งหญิงทั้งชายครับ)  ส่วนคุณฟ้าก็ยิ้มรับ บางครั้งก็ยิ้มทักทายก่อนด้วยซ้ำ ตามมารยาทของเจ้าของร้านที่ดี แต่ให้ผมคิดมากกว่านี้  ลูกค้าที่เดินผ่านไปผ่านมา ดูเหมือนจะมีอะไรมากกว่าการทักทายธรรมดา เหตุผลก็คงมาจากเหตุการณ์เมื่อวาน

เหตุการณ์ที่ทำให้ “คุณฟ้าเป็นโสด”

ดอกไม้พันธ์ไหนที่ได้รับยกย่องว่ามีกลิ่นหอมที่สุดในโลก คงหอมสู้คุณฟ้าตอน “โสด” ไม่ได้อีกแล้ว

แล้วตอนนี้ “ดอกฟ้ากลิ่นหอม” ก็หันกลับมาให้คำตอบที่ใช้เวลาคิดเกือบนาทีแน่ะครับ ไม่น่าจะใช่คำตอบด้วยซ้ำ เรียกว่าคำซ้ำๆ แบบเดิมๆ มากกว่า

“แต่ว่าเพื่อนคุณหมอจะไม่ลำบากใจหรือครับ  ที่คุณหมอพาผมไปด้วย  คนไม่รู้จักกัน ไปด้วยกัน งานจะกร่อยเอานะครับ  แล้วผมก็ไม่ใช่คนพูดเก่ง เดี๋ยวจะทำให้หมดสนุกไปซะเปล่าๆ ”


“เหลืออีกไม่ถึง  20  นาทีแล้วนะครับคุณฟ้า”  ไม่ไหวครับ ปล่อยให้คุณฟ้าพูด  ก็คงวนเวียนอยู่กับแค่คำว่า “เกรงใจ”  ไม่ได้อยากบังคับให้ต้องไปด้วยกัน  แต่เมื่อชวนไปแล้ว แล้วคุณฟ้าก็ตอบตกลงไปแล้วในตอนแรก มันเลยทำให้ผมอยากให้คุณฟ้าไปด้วยกัน

มันดีต่อคนถูกชวน ที่จะได้พักผ่อนบ้าง

แล้วมันก็ดีต่อคนชวนอย่างผม อย่างน้อย ผมก็ยังมีคนที่พอจะช่วยให้สามวันกับสองคืนของผมไม่ทรมานเกินไป

“แต่......”

ทำเหมือนจะแย้งครับ แต่ก็หยุด

“ครับ” คำตอบที่ผมพอใจถูกส่งมาพร้อมกับยิ้มแห้งๆ ของคุณฟ้าครับ น่ามองไปอีกแบบ ทุกทีเห็นแต่ยิ้มหวานหรือไม่ก็ยิ้มที่ทำให้โลกของคนมองสดใส

“ดีครับ” พูดง่ายๆ หน่อย ให้เหมือนกับตอนที่รับปากกับผมตอนแรก   ไม่เห็นจะคิดอะไรมากเลย แสดงว่าถ้าไปกับผมแค่สองคนคงไม่มีปัญหาอะไร  นึกขอบคุณความใจดีของคุณฟ้าไม่ได้ ถ้าเหตุผลที่ตอบตกลงไปเที่ยวกับผม เพราะคิดว่าผมไปคนเดียว กลัวผมเหงา เลยยอมไปเป็นเพื่อน

“งั้นผมขอตัวเข้าไปในร้านก่อนนะครับ ต้องบอกแดนกับยีน ไม่รู้จะโดนบ่นหรือเปล่า”

ประโยคหลังดูจะพูดกับตัวเองมากกว่า กลัวโดนลูกน้องบ่น  มีเจ้านายที่ไหนเป็นแบบนี้บ้าง ผมว่าเด็กสองคนนั้นคงจะดีใจมากกว่า   รู้ๆ กันอยู่ว่าเจ้านายของตัวเอง ไม่เคยได้หยุดพักแม้แต่วันเดียว แม้แต่ตอนป่วยยังหอบสังขารมาให้ลูกน้องอย่างน้องยีนบ่น  ที่ผมรู้เพราะวันนั้นผมอยู่ในเหตุการณ์พอดีครับ เห็นน้องยีนบ่นเจ้านายไม่หยุด  ฝ่ายเจ้านายก็ทำหน้าเหมือนเด็กห้าขวบโดนแม่ดุ อดคิดไม่ได้ว่าใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้องกันแน่ ส่วนเด็กแดนก็ค่อยประคบประหงมไม่ยอมห่าง  งานการแทบไม่ทำ โดนน้องยีนบ่นเป็นรายที่สอง ผมได้แต่นั่งขำ  วันนั้นร้านทั้งร้านวุ่นวายไปหมด ขาดคนทำงานไปถึงสองคน จนผมต้องสวมบทบาทเป็นพนักงานจำเป็นช่วยเสิร์ฟ ช่วยเช็ด และจบลงด้วยช่วยล้าง

“ ครับ เดี๋ยวผมไปเอารถมาก่อนนะครับ จะได้พาคุณฟ้าไปเก็บกระเป๋าที่คอนโด”

“แต่.....”

“  ‘แต่’ เยอะเกินไปแล้วนะครับคุณฟ้า อีก 15 นาทีครับ”

“ครับๆ” ทำหน้ายุ่งครับ ครั้งแรกที่ผมเห็นคุณฟ้าทำหน้ายุ่ง เหมือนเด็กโดนขัดใจ 


คุณเดินหายเข้าไปในร้านแล้วครับ ผมเลยหันหลังกลับ ข้ามถนนที่กั้นระหว่างคลินิกสัตว์กับร้านกาแฟ คลินิกยังไม่เปิดแต่ผมก็ฝากงานไว้กับเพื่อนหมออีกสองคนเรียบร้อยแล้ว  หลังจากที่วางสายจากน้องลม พร้อมกับรับปากว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน

หวังว่าสามวันกับสองคืนบนเกาะมันนอก คงผ่านไปได้ด้วยดี .....

ความรู้สึกเดิมๆ จะถูกทดสอบอีกครั้ง ว่ามันแค่ “หลงลืม” หรือ “จางหาย”

ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้น หน้าห้องในคอนโดหรู  ผมก็ไม่ได้เจอหน้าน้องลมอีกเลย มีเพียงเสียงที่ส่งมาทักทายเป็นบางครั้ง
.
.
.
.
.


หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 2 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{04/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 05-06-2011 01:10:46
เห้อ....พี่หมอ
เอาล่ะ งานนี้คนอกหักสองคน มาอยู่ด้วย คงจะเห็นใจกันดีอะนะ
อยากให้พี่หมอกับคุณน้ำฟ้า ได้แชร์โมเม้นท์ด้วยกันจังเลย
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 2 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{04/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 05-06-2011 08:08:46
 :กอด1:น้องฟ้า


หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 2 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{04/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: WhatLoveIs ที่ 05-06-2011 08:40:06
เย้ พี่หมดจะมีคู่แล้ว

รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 2 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{04/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 05-06-2011 11:42:32
คู่ของพี่หมอนี่พูดน้อยและเกรงใจจนพี่หมอต้องพูดเหมือนบังคับเลย
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 2 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{04/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 05-06-2011 20:39:38
เค้าจิ้มบวกได้แย้วววว ดีใจจจจ วันนี้ที่รอคอยยยยย
แต่ว่า  :sad4: เค้าจิ้มให้ได้แค่ 2 คนเท่านั้นนนนนน ใช่ไหม? จิ้มอีกทีเออเร่อไปแระ
อยากจิ้มให้ทุกคนเน้ๆๆๆๆๆ

แต่จะมาจิ้มให้ทุกวันแระกันนะคะ ขอบคุณที่ยังติดตามคุณหมอกับน้ำฟ้านะคะ 
ปล.ไปจิ้มอีกเรื่องดีกว่า อันนี้จิ้มได้ไม่มีลิมิตใช่ไหม อิอิ ดีจายยจิ้มได้แย้ววว
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 2 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{04/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 05-06-2011 21:43:34
เค้าจิ้มบวกได้แย้วววว ดีใจจจจ วันนี้ที่รอคอยยยยย
แต่ว่า  :sad4: เค้าจิ้มให้ได้แค่ 2 คนเท่านั้นนนนนน ใช่ไหม? จิ้มอีกทีเออเร่อไปแระ
อยากจิ้มให้ทุกคนเน้ๆๆๆๆๆ

แต่จะมาจิ้มให้ทุกวันแระกันนะคะ ขอบคุณที่ยังติดตามคุณหมอกับน้ำฟ้านะคะ 
ปล.ไปจิ้มอีกเรื่องดีกว่า อันนี้จิ้มได้ไม่มีลิมิตใช่ไหม อิอิ ดีจายยจิ้มได้แย้ววว

ดีใจด้วยนะ  แล้วจะไปรอบวกจากทะเลหวาน  แต่ตอนนี้เอาบวก 1 จากพี่ไปก่อนนะ
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 2 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{04/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 05-06-2011 21:55:53
คนอกหัก 2 คนมาเจ๊อะกัน
จะเป็นยังไงต่อไป

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 2 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{04/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 07-06-2011 16:27:00
พี่หมอรุกก่อนนี่เอง ถึงจะพูดน้อยกว่าแต่ก็ชวนไปแล้ว
คู่อกหักมาเจอกัน
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 2 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{04/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 19-06-2011 01:12:07
เย้ พี่หมอมีคู่ละ พูดน้อยมาเจอกันจะเป็นไงนะ ?? รอต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 2 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{04/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 19-06-2011 07:59:58
รออ่านอยู่นะค่ะ มาต่อด่วนด้วยจ้า  อิอิ
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 2 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{04/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 19-06-2011 10:45:07
ปักหมุด
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 3 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{20/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 20-06-2011 21:45:53
รัก...เชิญครับ 3

เรื่อยๆ มาเรียงๆ เดินเคียงๆ ไปด้วยกัน

“ได้ไงครับบอส จะหนีงานไปเที่ยว ผมไม่ยอม พวกผมก็เหนื่อยแย่สิครับบอส ไม่เอา ไม่ยอม ถ้าบอสอยากเที่ยวทะเล เอาไว้วันหยุดยาว เราค่อยไปกันนะครับ”

แดนโวยวายเสียงดังจนลูกค้าในร้านที่มีอยู่ประมาณสิบคนหันมามองเป็นตาเดียวกัน หลังจากที่ผมบอกว่าจะไปเที่ยวทะเลกับคุณหมอสัตว์ ก่อนจะโดนมืออูมๆ
ของยีนโบกท้ายทอยไปหนึ่งที พร้อมคำสวดเล็กๆ

“จะโวยวายทำไมห๊ะ พี่ฟ้าเจ้าของร้านนะคะคุณแดน ไม่ใช่ลูกน้อง แล้วตั้งแต่เปิดร้านมา คุณแดนเคยเห็นพี่ฟ้าได้พักบ้างไหม ทั้งที่คุณแดนก็หนีงานเป็นว่าเล่น”

“ฉันหนีงานคนเดียวที่ไหน คุณยีนก็เหมือนกันนั่นแหละ”

“ก็ใช่ ไม่ได้เถียงนิ”

ยีนยักไหล่ไม่สนใจ รายนี้เค้าไม่เคยแคร์อะไรอยู่แล้ว  

“ไปเถอะค่ะพี่ฟ้า ไม่ต้องห่วงนะคะ ยีนจะดูแลร้านเหมือนเป็นร้านของตัวเองค่ะ จะไม่คิดเงินผิด จะไม่ทอนเงินเกิน จะเปิดร้านแปดโมงตรง ปิดสองทุ่มเป๊ะ รับรองด้วยเกียรติสาวสวยแห่งร้านเชิญครับเลยค่ะ “

“ขอบใจมากนะยีน พี่ฝากร้านด้วย แล้วจะรีบกลับมา” ยีนทำให้ผมอุ่นใจ ไม่รู้สึกผิดที่หนีงานไปเที่ยว ตั้งแต่เปิดร้านมา ไม่เคยมีสักวันที่ผมจะไม่มาทำงาน ครั้งนี้ครั้งแรก
 ใจมันเลยรู้สึกหายๆ เหมือนต้องจากกันไปไกล

“บอสครับ ไม่ไปไม่ได้เหรอครับ”

แดนพูด ไม่โวยวายแล้ว หันเอาเหตุผลเข้าว่า

“บอสไม่อยู่ พวกเราก็เหนื่อยนะครับ จากสามคนเหลือสองคน ขนาดสามคนยังเหนื่อยสุดๆ แล้วเหลือสองคน เห้ออออ ไม่อยากจะคิด”

พูดอย่างนี้ ผมก็รู้สึกผิดสิครับ เกือบจะใจอ่อน เดินออกไปบอกคุณหมอที่เลี้ยวรถมาจอดรอผมอยู่ข้างร้านแล้ว ถ้ามืออูมๆ ของยีนจะไม่โบกกะโหลกแดนอีกครั้ง ไม่อยากจะคิดนะครับว่า ตอนผมไม่อยู่สองคนนี้จะทำร้านพังหรือเปล่า (แดนกับยีนเป็นลูกพี่ลูกน้องกันครับ เถียงกับทะเลาะกันได้ทุกวัน มีผมเป็นกรรมการห้ามตลอด)

“นี่ยังจะไม่จบใช่ไหม โน้น เห็นมะ ลูกค้าเรียกแล้ว ไป ไปหาลูกค้าเดี๋ยวนี้เลย”  

“คุณยีนครับ กรุณารักษามารยาทด้วยนะครับ ไม่เห็นเหรอครับว่าผมกำลังคุยกะบอส คุณยีนยืนว่างๆ ก็ไปสิครับ” หันไปว่ายีน

“จะไปหรือไม่ไป หรือจะให้ฉันบอกพี่ฟ้าว่านายกำลังคิดมะ....”

“ไปๆๆๆ ไปแล้ว”

ยังพูดไม่จบครับ ก็โดนแดนตะครุบปากเอาไว้ให้ให้พูด เป็นแบบนี้มาหลายหนแล้ว ที่ยีนพูดแบบนี้ แล้วเอาแดนอยู่ทุกครั้ง อยากรู้ครับว่ามันคืออะไร เพราะอย่างน้อยก็มีผมอยู่ในเนื้อหาขู่นั่นด้วย เคยถามยีนแต่ยีนไม่ยอมบอก เอาแต่ยิ้ม บอกแต่ว่าอีกหน่อยผมก็จะรู้เอง เพราะความลับไม่มีในโลก โดยเฉพาะความลับของนายแดนชัย

อีกหน่อยเนี้ย มันกินเวลามาเกือบห้าเดือนแล้ว ผมเลยเลิกอยากรู้ ปล่อยให้เป็นเรื่องของเด็กๆ แล้วกัน ดีเหมือนกันเพราะมันทำให้ยีนเอาแดนอยู่

“งั้นก็ไปสิคร้าคุณแดน ลูกค้ารอนานแล้ว”

“อย่าให้ฉันรู้ความลับของเธอบ้างละกัน ยีน!” แดนอาฆาตครับ ก่อนจะเดินกระแทกเท้าหน้ายุ่งออกไปหาลูกค้า ผมละกลัวว่าลูกค้าจะตกใจกับหน้าบึ้ง พาลจะไม่กล้าสั่งอะไร มองตามไปก็เห็นว่าแดนปั้นหน้ายิ้มแย้มที่ทำเอาลูกค้าในชุดพยาบาลสีขาวจิกทึ้งตัวเองไปหลายที

ผมบอกไปแล้วใช่ไหมครับว่า แดนเสน่ห์แรงมาก มีสาวสวยหลายรายมาตบกันเพื่อแย่งแดนถึงหน้าร้าน

“แต่บอสคะ คิดยังไงถึงไปกับคุณหมอได้คะ” ยีนถาม ท่าทางอยากรู้ ตามประสา ไม่มีอะไรที่เธอไม่อยากรู้ นอกจากเรื่องเวลาเข้างาน สายประจำ

“คุณหมอชวน”

“แค่เนี้ย” ถามเหมือนไม่เชื่อ “นึกว่าอกหักเลยอยากพักใจ”

“อืมม ก็นิดหน่อย” บอกไปตามตรง ไม่คิดจะเปิด

“ให้คุณหมอรักษาให้ไหมค่ะ รักษาหมายังหายเลย รักษาคนอกหักคงสบายๆ” ว่าแล้วก็หัวเราะคิกคัก สายตานี้เปี่ยมสุขสุดๆ ผมพอจะรู้ ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าเลยล่ะว่า สาวยีน
 ลูกน้องคนเก่งของผมเป็นสาววาย (สนับสนุนให้ผู้ชายรักกัน) และตอนนี้คงกำลังคิดจะจับคู่ผมกับคุณหมอพิษณุ ตอนแรกผมไม่รู้จักครับว่า “สาววาย” คืออะไร ตอนที่ยีนบอกผมว่าเธอเป็นสาววาย ผมก็งงๆ ไม่เข้าใจ ว่าสาววายคืออะไร เจ้าตัวก็บอกให้ผมไปถามลุงกูล (กลูเกิล) เอาเอง ผมเลยได้คำตอบ แต่อดแปลกใจไม่ได้ครับว่า เมื่อยีนเป็นสาววาย สนับสนุนให้ผู้ชายรักกัน แล้วทำไมถึงไม่สนับสนุนให้ผมคบกับนนท์

แต่ช่างมันเถอะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว มันผ่านเมื่อวานมาแล้ว ตอนนี้ผมไม่มีนนท์อีกแล้ว

“คิดเงิน โต๊ะสาม  เบื่อคนหนีไปมีความสุข ทิ้งให้ลูกน้องเหนื่อยแทน” แนเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์ หน้ายิ้มที่มีให้ลูกค้าเมื่อครู่ กลับมาบึ้ง แบบนี้งอนผมชัวร์ ไม่บ่อยครับที่แดนจะงอนผม นอกจากเวลาที่ผมออกไปข้างนอกกับนนท์ คงไม่ชอบให้ผมทิ้งงาน เพราะขาดผมคนหนึ่ง ก็เท่ากับยีนกับแดนต้องวุ่นและเหนื่อยขึ้นอีก เคยคิดจะจ้างคนเพิ่ม แต่ทั้งแดนทั้งยีนก็บอกว่าไม่ต้อง

“130” แดนรับบิลที่ยีนยื่นให้ แล้วเดินกลับไปหาลูกค้า

“ยีนว่า พี่ฟ้ารีบไปเถอะค่ะ คุณหมอรอนานแล้ว ยีนขอให้พี่ฟ้าเที่ยวให้สนุกนะคะ” ยีนพูด ยัดกาแฟปั่นแก้วกลางที่เธอปั่นไปด้วยคุยกับผมไปด้วยใส่มือผม (ผมจะกินกาแฟปั่นทุกเช้า)

“ไปค่ะ” ยีนว่า เดินนำผมออกจากร้าน แดนมองตาม หน้ากลับมายุ่งอีกครั้ง  ผมปล่อยให้ยีนเดินออกจากร้านไปก่อน แล้วเดินไปหาแดนที่เก็บแก้วกาแฟหลังจากที่ลูกค้าลุกออกไปแล้ว

“อย่างอนสิ พี่จะรีบกลับ แล้วสิ้นเดือนพี่จะเพิ่มเงินให้” ง้อหน่อยจะได้เลิกทำหน้าเป็นหางเป็ดแบบนี้ แล้วก็รู้สึกผิดด้วยครับ หนีเที่ยว ทิ้งงานให้ลูกน้องต้องเหนื่อยเพิ่ม อีกอย่างก็คือ ผมจะเพิ่มเงินเดือนให้ทั้งสองคนอยู่แล้ว

“ไม่ต้องครับ” พูดเสียงนิ่ง ไม่มองหน้าผม เอาแต่ก้มเช็ดโต๊ะ

“พี่ฟ้าค่ะ คุณหมอรอนานแล้วนะคะ” ยีนเดินกลับเข้ามาตาม ลากผมออกไป แดนเดินตามทั้งที่เมื่อกี้ยังไม่ยอมมองหน้าผมเลย

“เอาตัวบอสแสนดีของยีนมาส่งให้คุณหมอแล้วนะคะ ช่วยรักบอสของยีนให้มากๆ นะคะ คนเพิ่งอกหัก ต้องการคนดามใจ ถ้าเป็นคุณหมอแล้วล่ะก็ ยีนสนับสนุนเต็มที่ค่ะ”

“ยีน!”

“ยีน!!”

เสียงแรกของผมครับ ดังในระดับที่ผมจะดังได้ แต่เสียงที่สองเนี้ย ของแดนครับ ดังมาก จนยีนต้องเอามืออุดหู แต่ไม่วายทำหน้ายั่วคู่กัด (ที่มีฐานะเป็นลูกพี่ลูกน้อง) ส่วนคนที่อยู่ในรถ ได้แต่ยิ้มๆ ไม่พูดว่าอะไร  

“ทำไมย่ะ ฉันพูดอะไรผิดหรออ คุณแดน ไม่กล้าเองนี่น่า ช่วยไม่ได้ ”

แดนไม่ตอบ ทำหน้าบึ้งหนักกว่าเดิม หันหลังเดินกลับเข้าไปในร้าน

“พี่ฝากร้านด้วยนะ กลับมาจะเพิ่มเงินเดือนให้”

“จริงนะคะพี่ฟ้า”

“อืม”

“เย้ๆๆ”

กระโดดตัวลอยเลยครับ พอรู้ว่าผมจะเพิ่มเงินเดือนให้

“รักพี่ฟ้าที่สุดเลยคร้าาา  คุณหมอคะ ยีนฝากรักษาแผลใจให้บอสของยีนด้วยนะคะ”

ยีนก้มหน้าไปพูดกับคุณหมออีกครั้ง ผมก็จนปัญญาจะห้าม รู้อยู่ว่ายีนเป็นยังไง ช่างพูด ช่างคิด ผมเลยไม่อยากต่อความให้ยาวไปกว่านี้ เดี๋ยวจะไม่จบ กลัวอยู่อย่างเดียวคือกลัวจะมองหน้าคุณหมอไม่ติด จะตะขิดตะขวางใจกับผมหรือเปล่า เพราะว่า คุณหมอรู้และเห็นมาตลอดว่าผมคบกับนนท์ (ผู้ชาย) ยิ่งยีนมาพูดแบบนี้อีก

“ครับ”  คุณหมอรับปาก ยิ้มเหมือนเคย ผมเลยทำหน้าไม่ถูก  เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถโฟร์วิลล์แล้วปิด เลื่อนกระจกขึ้น ก่อนที่จะมีคำฝากฝั่งที่ส่อไปในทางจับคู่ผมกับคุณหมอมากกว่านี้  ยีนโบกมือผ่านกระจกมาให้

“ยีนก็พูดไปเรื่อยเปื่อยน่ะครับ  อย่าคิดมากนะครับ”

“ครับ”

แล้วในรถก็เงียบ เพราะผมหาคำพูดตัวเองไม่เจอ ไม่รู้จะพูดอะไรกับคุณหมอ ส่วนคุณหมอก็คงเหมือนกัน

คนพูดน้อยสองคนมาเจอกัน นั่งรถคันเดียวกัน บรรยากาศมันก็ไม่ชวนให้อึดอัดเท่าไหร่....
 
รถแล่นเข้ามาในซอยที่กั้นระหว่างร้านของผมกับคลินิกของคุณหมอ  นึกขึ้นมาได้ว่าผมโดดงาน คุณหมอก็โดดงานเหมือนกัน แต่คลินิกคงไม่ยุ่งเท่าไหร่  เพราะจากที่ฟังรายงานของยีน ผมเลยรู้ว่าที่คลินิกมีหมอหกคน (รวมคุณหมอด้วย) และผู้ช่วยอีก 10 คน ส่วนร้านของผมนี่สิ คิดๆ แล้วก็อยากบอกให้คุณหมอเลี้ยวรถกลับ ไม่ทงไม่เที่ยวมันแล้วห่วงร้าน กลัวยีนกับแดนเหนื่อยเพราะขาดผม

“จะเปลี่ยนใจหรือครับ”

แน่ะ ถามเหมือนรู้

“ได้ไหมครับ?” ผมย้อนถาม คุณหมอหันมามอง แล้วหันกลับ หน้านิ่งมาก มากกว่าเมื่อกี้ซะอีก  ถอนหายเบาๆ แต่ผมก็ได้ยินชัดเจน คิดจะเปลี่ยนใจก็ผิดอีกแล้ว

ผมไม่อยากทำให้ยีนกับแดนลำบากกาย (เหนื่อย) ขณะเดียวก็ไม่อยากให้คุณหมอลำบากใจ (เซ็ง) เพราะเสี้ยวหน้าคมที่ผมเห็นบอกกับผมอย่างนั้น

ล้อรถหมุนช้าลง คุณหมอตบไฟเลี้ยว รอจังหวะที่รถขาดช่วง (รถอีกเลนยังติดเป็นแถวยาวอยู่ ถึงจะเป็นซอยแต่ก็เป็นซอยที่กว้างมาก)

“แค่ถามนะครับ ไม่ได้บอกว่าจะไม่ไปสักหน่อย” ผมบอกเสียงเบา คุณหมอหันกลับมามองผม คิ้วเข้มคลายตัวจากที่เคยขมวดแทบเป็นปม กลับมาเป็นคุณหมอหมาใจดี (ตามคำชื่นชมของสาวยีน) เหมือนเดิม ล้อรถหมุนอีกครั้ง มุ่งหน้าสู่คอนโดของผม

แค่ห้าร้อยเมตรเกือบหกร้อยเมตร จากร้านเชิญครับมาถึงคอนโดของผมที่อยู่ ผมจำได้ว่าไม่เคยบอกว่าคอนโดของผมอยู่ที่ไหน อย่างที่เคยบอกไป  ผมกับคุณหมอมีโอกาสพูดคุยกันน้อยมาก แล้วโอกาสที่ได้คุยกันก็ในฐานะเจ้าของร้านกับลูกค้าเท่านั้น เรื่องส่วนตัวไม่เคยคุยกันเลย แต่คุณหมอก็ขับรถพาผมมาได้ถูกต้อง โดยที่ไม่ต้องถามผมหรือให้ผมบอก

รถของคุณหมอจอดอยู่ข้างทาง ต่อท้ายรถเก๋งอีกคัน ไม่ขวางทางอะไรมาก เพราะตรงนี้ก็มีรถจอดตลอดแนว

ผมลงจากรถ คุณหมอยังคงนั่งอยู่ในรถ  จนผมต้องเปิดประตูรถอีกครั้ง ชะโงกหน้าเข้าไปถาม (ชวน)

“ไม่ขึ้นไปด้วยกันหรือครับ”

ไม่อยากให้คุณหมอนั่งรออยู่ในรถคนเดียว เกรงใจ เหมือนเสียมารยาท อีกอย่างถ้าคุณหมอตามขึ้นไปด้วย ผมจะได้รีบเก็บข้าวของได้เร็วขึ้น อารมณ์มันจะประมาณว่าเหมือนมีคนมาเร่งให้เราทำอะไรสักอย่าง มันจะเร็วขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่รู้ว่าคนอื่นๆ เป็นเหมือนผมหรือเปล่า แต่ผมนี้ต้องมีคนมากระตุ้นครับ เพราะผมเป็นคนทำอะไรช้ามาก (ยีนบ่นตลอด แต่เฉพาะเรื่องส่วนตัวนะครับ แต่เรื่องงาน ผมไม่เคยทำงานช้าเลย ยืนยันด้วยเกียรติของเจ้าของร้านเชิญครับ เลยล่ะครับ)

“จะดีหรือครับ” คุณหมอถาม คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ไม่เข้าใจที่คุณหมอถาม มันจะไม่ดีตรงไหน?  คุณหมอคงเห็น เลยไม่เอาคำตอบอะไรจากผม เปิดและปิดประตู เดินตามผมขึ้นไปห้องชุดที่ผมอยู่มาตลอดหกเดือนที่ผ่านมา

ตั้งแต่เปิดร้านเชิญครับ ผมก็ย้ายมาอยู่ที่คอนโดนี้ เพราะมันใกล้ร้าน เดินไม่ทันเหนื่อยก็ถึงร้าน ไม่ต้องใช้รถให้เปลืองน้ำมัน (ช่วยชาติ) ไม่ต้องฝ่ารถติด (บ้านผมไกลจากที่นี้มาก ต่างมุมเมืองเลยครับ) แล้วบ้านที่ผมอยู่ตั้งแต่เกิดหลังนั้น ก็อยากให้เป็นบ้านของพี่สาวกับครอบครัวเสีย

“ห้องรกหน่อยนะครับ” ผมรีบบอกไว้ก่อน กลัวเสียภาพพจน์ ห้องของผมรกจริงจังครับ แต่ก็ไม่ถึงกับรกเรี่ยราด เสื้อไปทาง กางเกงไปทาง (ห้องนนท์เป็นแบบนั้นครับ) ส่วนมากจะรกเพราะหนังสือ หรือไม่ก็ข้าวของเครื่องใช้ที่ผมหยิบออกมาใช้แล้วไม่ได้เก็บเข้าที่

ผมเปิดประตู เบี่ยงตัวให้คุณหมอเดินเข้ามาก่อน

“ก็พอดูได้ครับ”

ผิดหวังนิดๆ ครับ นึกว่าคุณหมอจะบอกว่า  “ไม่เห็นรกเลย”  พูดโกหกให้รู้สึกดีหน่อยก็ไม่ได้ แบบนี้รู้สึกเสียหน้ายังไงไม่รู้ รู้งี้ไม่น่าชวนขึ้นมาด้วยเลย
 คนเป็นหมอเจ้าระเบียบอยู่แล้ว...มั้ง

“เมื่อคืนดื่มเยอะเลยนะครับ”

เฮ้ยยยย!! ขวดเหล้าเปล่ายี่ห้อดังบินมาไกลจากต่างประเทศ วางอยู่บนโต๊ะกระจกใส ด้านหน้าโซฟาตัวที่คุณหมอกำลังเดินเข้าไปนั่ง เมื่อคืนเก็บแต่แก้ว ลืมเก็บขวดทิ้ง

“ก็นิดหน่อยครับ” ผมได้ยินเสียงตัวเองตอบไปแบบเบามาก  อายครับ อายมาก  เมื่อคืนผมดื่มไปเยอะมาก ดื่มไปด้วย ร้องไห้ไปด้วย  เดินไปหยิบขวดเปล่าขึ้นมา เอาไปทิ้งในถึงขยะในห้องครัวที่อยู่ฟากตรงข้าม เปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำ เทน้ำใส่แก้วให้คุณหมอ   พอหันหลังกลับก็เห็นคุณหมอเดินสำรวจห้องนั่งเล่น (แบ่งเป็นโซนห้องนั่งเล่นกับห้องครัว มองเห็นกันได้)  พอผมเดินเข้าไปใกล้ก็เป็นจังหวะที่คุณหมอหยิบรูปที่ผมถ่ายคู่กับนนท์ขึ้นมาดู

ผมว่าคุณหมอเป็นคนใจดี แต่เหมือนจะมีมารยาทน้อยไปนิดหนึ่ง

“น้ำครับ” ผมวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะ คุณหมอวางกรอบรูปลง เดินกลับมานั่งที่เดิม

“ขอบคุณครับ” แล้วยกน้ำขึ้นจิบ

“ผมไปเก็บกระเป๋าก่อนนะครับ”

คุณหมอบอกว่ายี่สิบนาทีเพื่อนจะมารับ แต่ผมดูเวลาแล้ว ตอนนี้มันเกินยี่สิบนาทีแล้วแน่ๆ แต่ไม่พูดครับ เนียนๆ ไป เนื่องจากที่มันเกินไปก็เพราะตัวผมเอง  แล้วก็ไม่ยังไม่เห็นเพื่อนของคุณหมอจะโทรมาตามอะไรเลย

“Rrrrrrrr”

นั่นไง กำลังคิดอยู่เชียว โทรศัพท์คุณหมอก็ดังขึ้นมาทันที ผมเลยรีบหนีความผิดตัวเอง เข้าไปในห้องนอนที่อยู่ฝั่งซ้ายมือของตัวเอง คอนโดของผมมีสองห้องนอน ผมอยู่ห้องฝั่งซ้าย อีกห้องเป็นของห้องว่าง (แต่เครื่องเรือนครบนะครับ)  ยกให้ห้องของพี่น้ำฝนที่วันไหนทะเลาะกับสามี ก็จะหนีมานอนกับผม แต่ก็ไม่เคยได้นอนจริงๆ หรอกครับ            พอสามีมาง้อก็หายงอน ทิ้งผมนอนคนเดียวอีกตามเคย

ห้องนอนผมไม่ได้กว้างมากนัก  เพราะผมไม่ชอบห้องกว้างๆ มันทำให้ว้าเหว่ง่ายครับ ห้องเล็กๆ มันทำให้รู้สึกอบอุ่นมากกว่า  เลยเลือกห้องนี้ที่เล็กกว่าห้องฝั่งขวามือไปเล็กน้อย (แต่มีห้องน้ำทั้งสองห้อง)

เสียเวลาหากระเป๋าอยู่นานกว่าจะนึกขึ้นได้ว่าเก็บมันไว้ที่ลิ้นชักในตู้เสื้อผ้า   ที่เสียเวลาหานานก็เพราะผมไม่ค่อยจะได้ไปไหน เพราะผมเป็นคนมีเพื่อนน้อย นับนิ้วมือก็คงได้แค่นิ้วโป้ง นิ้วชี้ กับนิ้วกลางของมือข้างซ้าย แล้วหนึ่งในสามนิ้วนั้นก็กลายมาเป็นอดีตแฟนของผมในตอนนี้

ครับ...นนท์คือเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่ประถม  ขยับมาเป็นแฟนก็ตอนเรียนปีสอง (เราอยู่มหาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ) ไม่รู้ว่าผมกับนนท์  เราสองคนรักกันตอนไหน ผมไม่รู้เลย คิดว่าคงเป็นเหมือนความเคยชินที่ต้องมีกันและกัน กลายเป็นว่าเรารักกัน แม้ว่านนท์จะเจ้าชู้แต่สุดท้ายคนที่นนท์เลือกก็คือผม ถึงตอนนี้มันจะไม่ใช่ก็ตาม

ตั้งแต่ก่อนคบกันและหลังคบกัน นนท์เจ้าชู้ให้ผมเห็นต่อหน้าและลับหลังเสมอ มีคนหวังดีมาบอกผมตลอด รวมถึงคนที่ได้ชื่อว่าเป็นกิ๊กของนนท์ด้วย (ต้องเรียกว่ากิ๊กเพราะผมเป็นแฟนนนท์) ผมเชื่อคำบอกเหล่านั้นที่บอกว่านนท์ไม่ได้ซื่อสัตย์กับผมเลย   ผมเชื่อเพราะผมก็เคยเห็นนนท์เดินควงกับคนอื่นบ่อยครั้ง เจอจังๆ ยังมีเลย อย่างที่บอกสุดท้ายนนท์ก็เลือกผมเสมอ  ผมไม่เคยยื่นคำขาดให้นนท์ต้องเลือกผม แต่นนท์ก็เฝ้าบอกผมเสมอ ว่าผมคือคนที่นนท์รักและอยากใช้ทุกวันไปพร้อมๆ กับผม ผมเลยให้อภัยนนท์ทุกครั้ง

ไม่ใช่สิ... มันไม่ใช่การให้อภัย เพราะผมไม่เคยโกรธ เกลียด เสียใจ หรือเสียน้ำตากับสิ่งที่นนท์ทำหรือสิ่งที่นนท์เป็น เพราะระหว่างผมกับนนท์ เราคบกันในฐานะเพื่อนและแฟนไปพร้อมกัน มันทำให้ผมไม่เคยรู้สึกหึงหวงหรือโกรธเกลียดอะไรนนท์เลย

หรืออาจเป็นเพราะผมมั่นใจในตัวนนท์ เชื่อในคำบอกรักของนนท์   ใครที่ผ่านเข้ามาในชีวิตนนท์ อาจเป็นใครสักคนที่ผ่านเข้ามาแล้วผ่านออกไป สุดท้ายนนท์กับผม เราสองคนก็คือคนรักกัน เราคุยกันเหมือนเพื่อน มีกุ๊กกิ๊กกันตามประสาคนรักกัน  จูงมือกันเดินในเวลาที่หันมามองหน้ากันแล้วนึกอยากประกาศให้คนที่เดินสวนกันไปมารู้ ว่าเราสองคน “รัก” กัน

ผมไม่รู้ตัวเองหรอกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมทำผิดไปหรือเปล่า ผิดที่ไม่เคยหึงหวงนนท์ ไม่เคยโกรธ ไม่เคยงอน ถึงทำให้นนท์ทิ้งผมไปได้ง่ายๆ ด้วยเหตุผลที่ว่า “ดีเกินไป”

คงจะจริง ผม  “ดีเกินไป”  นั่นแหละ ดีถึงขั้นที่ว่า เปิดประตูเข้าไปเจอนนท์นอนกับคนอื่น (ทั้งหญิง ทั้งชาย) กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ผมก็ไม่เคยโวยวาย ไม่เคยโกรธ ไม่เคยลั่นคำว่าเลิกกันออกจากปาก   มีแต่นนท์ที่เฝ้าขอโทษผม สัญญาว่าจะไม่ทำมันอีก ทั้งที่นนท์ไม่ต้องขอโทษ ไม่ต้องสัญญาด้วยซ้ำ เพราะผมยังคงรู้สึกกับนนท์เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน นนท์คือเพื่อนและคนที่ผมจะใช้ชีวิตด้วยไปตลอด

เมื่อวานเป็นครั้งแรกที่ผมเสียน้ำตาเพราะนนท์

มันจบแล้วครับ เรื่องราวความรักและความเป็นเพื่อนระหว่างผมกับนนท์ ผมไล่ความคิดที่ทำให้ขอบตามันร้อน ก่อนจะหยิบกระเป๋าเป้ในลิ้นชักออกมา  ปัดฝุ่นที่ดูแล้วไม่น่าจะมีแต่ก็ปัดตามความเคยชิน หยิบเสื้อยืดที่พับเก็บไว้มาห้าตัว กางเกงขาสั้นจำนวนเท่ากัน เอาไปเผื่อไว้ครับ เผื่อได้เล่นน้ำ (ผมว่ายน้ำไม่เป็น เล่นได้แค่น้ำตื้นๆ เลยไม่มีกางเกงว่ายน้ำกับเขา) หยิบโน่นยัด หยิบนี่ยัด จนแน่นกระเป๋าก็พอดีกับที่ของทุกอย่างครบ เดินออกมาก็เป็นจังหวะที่คุณหมอคุยเสร็จพอดี

“ เพื่อนคุณหมอมาถึงแล้วหรือครับ”  ผมแบกเป้ขึ้นหลัง ถามคุณหมอที่นั่งทำหน้าขรึม คล้ายๆ มีเรื่องให้ต้องคิด ต่างจากตอนที่รับโทรศัพท์เมื่อครู่ริบลับครับ

“ใกล้ถึงแล้วครับ”

ใกล้ถึงแล้ว ก็แปลว่ายังไม่ถึง ดีหน่อย ไม่งั้นคงรู้สึกผิดที่ทำให้ฝั่งเพื่อนคุณหมอรอ กำลังโล่งอกไม่ถึงครึ่งวิด้วยซ้ำ ต้องเปลี่ยนมาแปลกใจแทน เมื่อคุณหมอพูดต่อ (ทำไมไม่พูดให้จบในประโยคเดียวก็ไม่รู้)

“ใกล้ถึงจันแล้วครับ”

“ห๊า!~ ใกล้ถึงจันแล้ว อย่าบอกนะว่า ผมกับคุณหมอถูกทิ้ง” ความจริงแล้ว ผมว่าคุณหมอโดนทิ้งคนเดียวมากกว่า เพราะเพื่อนคุณหมอไม่รู้นี่น่าว่าผมจะไปด้วย

เอ๊ะ!! รึว่ารู้ ว่าผมจะไปด้วย เลยชิงซิ่งไปกันเอง โดยไม่เอาคุณหมอไปด้วย แต่ไม่มั้ง....คิดคำนวณเวลาตั้งแต่ที่ผมกับคุณหมอเจอหน้ากัน มันไม่น่าจะถึงชั่วโมง
ถ้าจงใจจะทิ้งคุณหมอกับผม ก็ไม่น่าจะขับรถไปถึงจันได้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง

มันแปลได้ว่า...เพื่อนคุณหมอจงใจจะซิ่งหนีคุณหมอมากกว่า

“เสียดายหรือครับที่ไม่ได้ไป?” แน่ะ มีถาม ถามทำไมครับคุณหมอ ไปหรือไม่ไป มันก็มีค่าเท่ากัน เพราะไปเที่ยว ผมก็ได้พักผ่อน แต่ถ้าไม่ไป ผมก็ได้อยู่ร้านช่วยแบ่งเบาภาระของสองลูกน้อยคนสนิท

“เปล่าครับ” ผมตอบ วางกระเป๋าลง แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ส่วนคุณหมอก็คว้ากระเป๋าเป้ผมขึ้นมา ฟาดไว้บนไหล่หนา (หนากว่าผมเยอะ) ผมมองตาม ไม่เข้าใจ คุณหมอส่งยิ้มมาให้ รู้สึกดีครับ บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงรู้สึกดีกับยิ้มของคุณหมอ แล้วรู้ว่าตัวเองเผยยิ้มตอบแบบไม่มีเหตุผลเช่นกัน

“ไปกันครับ”

“..............”

คุณหมอชวน ก่อนบอกต่อ เมื่อผมมองอย่างสงสัย แล้วเข้าใจในในวินาทีต่อมา เมื่อคุณหมอพูด (นั่นแหละ ทำไมไม่พูดให้จบในประโยคเดียว จะทิ้งช่วงไว้ให้ผมรู้สึกไม่ครบความอย่างนี้ไปทำไม)

“เราสองคนไม่ต้องรถใครแล้วนี่ครับ ก็ไปกันได้ ไปรถผม”

“ครับ”

ลืมไปครับ คุณหมอก็มีรถ เพื่อนทิ้ง ก็ขับตามเพื่อนไปได้ ไม่เห็นยาก มันจะยากก็ตอนที่ผมลืมคิดไปเนี้ยล่ะครับ
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 3 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{20/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 20-06-2011 22:12:48
กว่าคุณหมอจะได้มาพาคุณฟ้าไปทะเล ก็นานหลายวันเลยนะคะ(แซวคนเขียนหน่อย อิ อิ)
ตอนขับรถนั่งรถไปจันทน์กันน่ะ คุยกันมั่งนะคะคุณหมอ คุณฟ้า จะได้ไม่เหงา
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 3 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{20/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 22-06-2011 07:05:57
พี่หมอสัตว์ พลาดลมไป ได้ฟ้าแทน ดีพอกัน จัดเล่ยๆๆ o18

ปล...โพสแรกหลังจากเล้าเปลี่ยนโฉม อิอิ ตื่นเต้น กดไม่ถูก 55+
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 3 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{20/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 22-06-2011 08:55:24
^
^
เม้นแรกเหมือนก๊านนนนเลย ตื่นเต้น แปลกตาไปเยอะเลย สวย

เลยกดบวกให้ซะหน่อย
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 3 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{20/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 22-06-2011 09:28:45
ฉลองโฉมใหม่   ด้วย บวก 1 ให้ ทั้ง สามคนนะค่ะข้างบนนะค่ะ   o13 o13
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 3 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{20/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 22-06-2011 09:47:52
เค้ากดให้พี่เอ๋แล้วน้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 3 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{20/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 22-06-2011 15:09:23
เค้ากดให้พี่เอ๋แล้วน้าาาาาาา

Thank  you  จ้า  เป็นเหมือนกันมั้ยค่ะที่แรกๆ งง ว่าต้องกดบวกอันไหนระหว่างทางซ้ายกะทางขวาหรือ ตรงใต้ชื่อ login  ตอนนี้คล่องแระ อยาก กดบวกให้คนอ่านที่รักทุกๆคนเยอะๆจัง   
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 3 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{20/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 22-06-2011 19:20:36
ดูท่าคุณหมอจะเจอคู่แข่ง
เค้าว่าฟ้ากับนนท์คงเป็นเพื่อนที่ผูกพันกันมากๆมากกว่า
แหนะ เหมือนว่าลมกับตินจะเปิดทางให้เนอะ
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 3 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{20/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 22-06-2011 20:05:17
คุณหมอพูดน้อยจัง นั่งรถไปกันคุยกันบ้างนะเดี๋ยวหลับ  :laugh:
แดนถ้าจะชอบฟ้าถึงรมณ์บ่จอยที่ฟ้าจะไปเที่ยว
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 3 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{20/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 24-06-2011 00:50:08
หุหุ
เงียบกันทั้งคู่ กว่าจะถึงเมืองจันท์จะไม่หลับไปก่อนหรือคะ 555
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> ระหว่างทาง..ระหว่างใจ ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 27-06-2011 11:37:31
ตอนที่ 4 ระหว่างทาง ระหว่างใจ

ผมคิดว่า คุณฟ้านอกจากเป็นคนใจดี ใจเย็นแล้ว ยังเป็นชายหนุ่ม  “ใจง่าย”  ด้วยครับ

ไม่ได้หมายถึง “ใจง่าย” แบบนั้นนะครับ ที่ว่าใจง่ายคือ ไม่คิดอะไรมาก ใครชวนทำอะไร ชวนไปไหน คุณฟ้าตกปากรับคำไปหมด เห็นได้ชัดตอนที่ผมชวนไปเที่ยวทะเลด้วยกัน   เจ้าตัวรับปากทันที แม้ตอนท้ายๆ จะออกอาการงอแงให้ปวดหัวนิดหน่อยก็ตาม แม้แต่ตอนที่ผมคิดจะนั่งรอคุณฟ้าเก็บกระเป๋าอยู่ด้านล่างหน้าคอนโดที่ไม่ได้หรูมากแต่ก็น่าอยู่ไม่น้อย คุณฟ้ากลับชวนผมขึ้นไปบนห้อง โดยไม่คิดอะไร เป็นผมซะเองที่คิด

หรือว่าคุณฟ้าจะไม่รู้ว่าผมเป็น.....

อืม...น่าจะใช่  เพราะผมไม่เคยควงผู้ชายคนไหนให้คุณฟ้าเห็น  ไม่เหมือนผมที่เห็นออกบ่อยที่อดีตแฟนคุณฟ้ามานั่งเฝ้าหรือไม่ก็ทำสวีทหวานให้คนอิจฉา  เคยเจอจังๆ ตอนที่เขากำลังจูบกันก็ยังมีเลยครับ อย่าคิดว่าผมเป็นพวกถ้ำมองนะครับ  มันบังเอิญมากกว่า แต่ก็แค่ครั้งเดียว แถมคุณฟ้ากับอดีตแฟนยังเห็นผมอีกด้วย ตอนนั้นทำหน้าไม่ถูกครับ   ได้แต่เกาหัว ก้มหน้าขอโทษ แล้วเดินเข้าร้านของคุณฟ้าไป

จะว่าไป....ผมก็ไม่ได้เป็นเกย์เต็มขั้น (หรือเปล่า?)  เพราะผมยังไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายคนไหน ส่วนกับผู้หญิง  มันเป็นของธรรมดาของผู้ชายครับ แล้วผู้ชายที่ผมรู้สึกดีๆ ด้วยในช่วงเวลาที่ผ่านมามีแค่คนเดียวคือ ”น้องลม”  ซึ่งตอนนี้ กลายเป็นของคนอื่นไปแล้ว   แล้วเจ้าของก็หวงแบบไม่คิดจะฟังอะไรเลย ทุกวันนี้ยังหึงยังหวงผมกับน้องลมอยู่ครับ   

อย่างเรื่องวันนี้ ที่ผมโดนทิ้ง เหตุผลเพราะเจ้าของน้องลมไม่อยากให้ผมไปด้วย  ทั้งที่ผมก็อยู่เฉยๆ เลิกติดต่อน้องลมไปด้วยซ้ำ ฝ่ายน้องลมเองซะมากกว่าที่เป็นห่วงความรู้สึกของผม  เลยโทรมาคุย ชวนไปทานข้าว  ทำทุกอย่างเหมือนปกติ ส่วนผมเองอันไหนเลี่ยงได้ ผมก็พยายามเลี่ยง  อันไหนที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ก็ต้องไปด้วย

แล้วไปทะเลครั้งนี้ น้องลมก็โทรมาชวนเอง แล้วเป็นไง เอาเข้าจริง ผมก็โดนทิ้ง

น้อยใจ...แต่พูดไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง น้องลมก็ยังคงเป็นคนของติน  ส่วนผมก็ยังคงเป็นคนไม่มีใครเหมือนเดิม

ตอนที่น้องลมโทรมาบอกให้ผมขับรถตามไป เพราะน้องลมใกล้ถึงจันทร์แล้ว น้ำเสียงที่ผมได้ยินมาตามสายรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย  ขอโทษผมยกใหญ่ ให้ผมขับรถตามมา ผมเกือบจะหลุดปากออกไปแล้วว่า ไม่เป็นไร ผมไม่ไปดีกว่า ขอให้น้องลมเที่ยวกับคนรักให้สนุก แต่ก็นึกถึงเจ้าของห้องที่ผมกำลังนั่งรอเขาเก็บประเป๋าอยู่ ว่าได้ออกปากชวนไปแล้ว  ให้บอกยกเลิกทั้งที่เก็บกระเป๋าไปแล้ว มันคงไม่ดี แม้เจ้าตัวจะมีท่าทีตอนท้ายว่าไม่อยากไปเที่ยวเพราะห่วงงานก็ตาม

ถึงจะไม่สนิทสนมกันมาก แต่ผมก็อยากให้คุณฟ้าได้พักผ่อนบ้าง ตั้งแต่ร้านเชิญครับเปิดกิจการ และจำได้ว่าผมเป็นลูกค้าคนแรกของร้าน   ผมไม่เห็นจะมีวันไหนที่คุณฟ้าไม่มาทำงาน ถึงผมจะไม่ได้มาทำงานทุกวันก็ตาม แต่ก็พอรู้จากปากคำให้การของยีน พนักงานสาวของร้าน

สุดท้ายก็ต้องรับปากน้องลมไปว่าจะขับรถตามไป แต่ยังไม่ได้บอกว่าจะมีคนตามไปด้วย ไม่อยากถูกซักจากน้องลม แล้วยิ่งบอกว่าคนไปด้วยเป็นผู้ชาย  เจ้าตัวคงซักไม่หยุด เพราะกำลังลุ้นให้ผมมีคนดามอก แถมยังหมั่นหาคนมาดามใจให้ผมอีกด้วย  นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่น้องลมโทรมาชวนผมไปทานข้าวด้วย เพราะอยากนัดบอดผมกับเพื่อนของตัวเอง  แล้วเพื่อนแต่ละคนก็ผู้ชายทั้งนั้น (น้องลมคงอยากให้ผมเดินทางนี้เต็มขั้น)

ก่อนยืนยันหนักแน่นกับน้องลมว่าจะขับรถตามไป เพราะน้องลมไม่ค่อยจะเชื่อผมเท่าไหร่คงกลัวว่าจะไม่ตามไป  น้องลมคิดถูกครับ ผมกะจะไม่ไปแล้วถ้าไม่มีคุณฟ้า ก่อนวางสายผมแว่วได้ยินเสียงคนขับรถของน้องลมก็นายตินนั่นแหละครับ กระชากเสียงไม่ค่อยจะพอใจมาให้ได้ยิน แว่วๆ ว่า

“ไม่มาก็ไม่เห็นเป็นไร เราเที่ยวสองคนก็ได้   มาทำไม อยากเป็นก้างนักหรือไง”

ขนาดได้ยินแว่วๆ นะครับ ยังเต็มสองหูของผม ก่อนจะได้ยินเสียงน้องลมดุคนพูดทันควัน แล้วกลับมาขอโทษผมยกใหญ่ ผมจะว่าอะไรได้ นอกจากบอกว่า “ไม่เป็นไร”  เข้าใจอารมณ์คนหึงครับ รักมากเลยหึงมาก ประวัติของผมก็คือคนที่ตามจีบน้องลม แล้วเกือบจะได้เป็นเจ้าของน้องลมด้วยซ้ำ   ตินก็คงไม่ยอมญาติดีกับผมง่าย

ช่างเถอะครับ สักวันหรือวันไหนที่ผมมีคนของผม ฝ่ายนั้นก็คงเลิกหึงไปเอง แต่ว่าเมื่อไหร่ล่ะ เมื่อไหร่ที่ผมจะหาคนๆ นั้นเจอ คนที่จะจับมือเดินไปกับผม คนที่ผมจะกอดได้โดยไม่ต้องระแวงว่าจะเป็นคนที่มีเจ้าของแต่แรกแล้ว ก่อนจะมาเจอผม

เหมือนกรณีน้องลม....

ผมไม่รู้จริงๆ ว่าน้องลมมีเจ้าของ มีคนที่น้องลมรักและเขาก็รักน้องลม

ถ้ารู้....

ผมคงไม่กลายเป็นคนที่คิดจะแย่งของของคนอื่น

แย่งโดนไม่รู้ตัว....


“น้ำไหมครับ” เสียงเล็กๆ ที่ไม่ได้ห้าวเหมือนผู้ชายทั่วไป ที่เอ่ยถาม เรียกผมให้หลุดออกมาจากความคิดซ้ำซาก แต่ก็อดไม่ได้

ขวดน้ำที่ถูกเปิดฝา มีหลอดเสียบ อำนวยความสะดวกเต็มที่ให้กับคนขับรถอย่างผม แต่จะให้ดีและให้สะดวกกว่านี้ คงต้องเอามาจ่อใกล้ๆ ปากผมดีกว่า นี่มันแค่อยู่ในมือคุณฟ้าสูงเหนือตักไปเท่านั้นเอง

“มันไม่สะดวกน่ะครับ”  ผมบอก แต่สมองกำลังคิดไปไกลครับ ผมไม่รู้ว่าคนอกหักคนไหนเป็นแบบผมหรือเปล่า ที่อยากมีคนมาเอาใจ สนใจและให้ความสำคัญ  หลังจากเป็นคนที่ไม่ถูกเลือก เพราะตอนนี้ผมต้องการให้คุณฟ้าทำแบบนั้นกับผม

อย่างน้อย...

น้ำขวดนี้ก็น่าจะถูกส่งมาใกล้ปากผม เพื่อเอาใจ

“หรือครับ” คุณฟ้าพูด แต่ดูเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าจะพูดกับผม เสียงเบามาก แต่ผมก็ได้ยินชัด

“....................”

เป็นไปอย่างที่คิดครับ คุณฟ้ายืนขวดน้ำมาใกล้ พร้อมจับหลอดดูให้ตรงปากผม สำเร็จครับ ผมได้ดื่มน้ำจากหลอดดูที่คุณฟ้าจับไม่ยอมปล่อย จนผมถอนปากออก

“พอแล้วหรือครับ”  คุณฟ้าถาม ขณะปิดขวดน้ำแล้วเอาเก็บไว้

“ครับ”

แล้วความเงียบก็เริ่มทำงาน เหมือนตอนที่รถแล่นออกจากคอนโดคุณฟ้า จนถึงตอนที่คุณฟ้าถามผมว่าจะดื่มน้ำไหม

คุณฟ้ามองออกไปนอกรถ

ผมก็ตั้งหน้าพาคุณฟ้าไปยังจุดหมาย

รถแล่นออกมาไกลมากแล้ว น่าจะใกล้ถึงจันทร์แล้ว อีกไม่ห้ากิโล ล้อรถคงได้เหยียบถิ่นเมืองจันทร์ แล้วไม่นานก็ถึงโรงแรมที่พัก

แต่ผมกับคุณฟ้าก็ยังคงไม่มีบทสนทนาอะไรเกิดขึ้น  ถึงจะเงียบแต่ก็ไม่ชวนอึดอัด ความรู้สึกคล้ายๆ ผมนั่งมาคนเดียว ต่างแค่รู้สึกไม่โดดเดี่ยวเท่านั้นเอง

“หิวหรือครับ”

 ผมเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ  ถึงแม้ความเงียบระหว่างการเดินทางของผมกับคุณฟ้าจะไม่ชวนให้อึดอัดก็ตาม  แต่มันจะดีกว่าถ้าเราคุยกันมากกว่านี้ บวกกับที่ผมเห็นคุณฟ้ามองถุงขนมที่วางอยู่บนตักบ่อยครั้ง (ผมเห็นก็เพราะผมแอบมองคุณฟ้าบ่อยๆ น่ะครับ  แต่เจ้าตัวไม่รู้)  คงอยากกินแต่ไม่กล้าแล้วก็เกรงใจ จากที่เห็นตอนจอดรถลงไปซื้อขนมตรงปั้มน้ำมันก่อนออกจากกรุงเทพ   ของกินที่คุณฟ้าซื้อมาก็มีแค่น้ำเปล่าสองขวดกับปลาแผ่นพิซโซรสสไปซ์มิกซ์  สองซอง  คิดว่าคงเป็นของผมซองหนึ่งเหมือนกัน

“เปล่าครับ” ปากบอกว่าเปล่า แต่หน้าตาไม่ใช่เลยครับ ดูหิวๆ ตาก็ละห้อย มองถุงขนมบนตัก  แล้วก็หันกลับไปมองข้างทางเหมือนเดิม   แต่ไม่ลืมที่จะหยิบขวดน้ำที่เหลือเกินครึ่ง ขึ้นมาดื่ม (ผ่านหลอด) ที่สำคัญขวดนั้นของผมด้วยครับ ส่วนขวดของคุณฟ้าหมดไปแล้วครับ

จู่ๆ ผมก็อยากยิ้มครับ คิดไปไกลอีกแล้ว แค่คุณฟ้ากินน้ำขวดเดียวกับผม จากหลอดเดียวกัน โดยไม่คิดอะไร ไม่รังเกียจ

เหมือนจูบทางอ้อม...

ความคิดแบบเด็กๆ ของผมกระโดดออกมาเต้นครับ  ไม่ได้คิดอะไรกับคุณฟ้าเลยนะครับ ผมสาบานได้ แต่หัวใจมันก็เต้นเป็นจังหวะที่ฟังสบายครับ  อารมณ์ดีจนเผลอผิวปาก จากหางตาของผม เห็นคุณฟ้าหันมามองก่อนจะหันกลับ


คิดว่าคงสงสัยว่าทำไมจู่ๆ ผมผิวปากอารมณ์ดี แต่ก็ไม่เปิดปากถามอะไร

ผมปล่อยให้ความเงียบเข้ามาเป็นมือที่สามอีกครั้ง จนรถวิ่งเข้ามาในตัวเมือง ผ่านร้านอาหารหลายร้าน แต่ไม่คิดอยากจอด ผมเลือกที่จะทำอะไรบางอย่างที่ง่ายกว่านั้น

“แต่ผมหิวนะครับ” ผมบอก คุณฟ้าหันกลับมามองหน้าผม ผมก็เลยมองไปที่ถุงบนตักของคุณฟ้า บอกเป็นนัยๆ ว่าอยากกินปลาแผ่นที่คุณฟ้าซื้อมาแต่ไม่ยอมแกะกินสักที

“....................” คุณฟ้ามองตามสายตาของผม แต่ยังลังเล ผมเลยย้ำไปอีกว่า

“หิวครับ แต่ยังไม่อยากกินอะไรหนักๆ ขอขนมได้ไหมครับ”

“แต่มันมีกลิ่นนะครับ เดี๋ยวเหม็นติดรถ”  อีกครั้งครับที่ปากถาม แต่มือแกะถุงขนมไปเรียบร้อยแล้ว

“ไม่เป็นไรครับ” ผมไม่เรื่องมากอยู่แล้ว กลิ่นติดรถ เดี๋ยวก็หาย 

“นี่ครับ”

จากประสบการณ์เรื่องน้ำที่ผ่านมา ทำให้คุณฟ้ารู้งานครับ ไม่ยื่นทั้งถุงมาให้ผม แต่หยิบปลาแผ่นรสเผ็ดในความคิดของผม ถึงคนอื่นจะคิดว่ามันไม่เผ็ดมาก โดยเฉพาะคุณฟ้า คนที่เลือกซื้อรสนี้มาเอง คุณฟ้าชอบกินเผ็ดครับ ไม่ต้องถามว่าผมรู้ได้ยังไง ผมรู้เรื่องของคุณฟ้าเยอะครับ จากปากของสาวยีนที่เล่าเรื่องของคุณฟ้าให้ผมฟังได้ทุกครั้งที่เจอกัน

“..................” ลังเลอยู่ชั่ววินาทีครับ ว่าจะอ้าปากรับปลาแผ่นที่ยื่นมาถึงปากดีหรือไม่ดี มันเผ็ด ผมไม่ชอบ แต่ดันบอกว่าจะกินไปแล้วนี่ครับ บอกว่าจะกินก็เพราะคุณฟ้าจะได้กินตาม

“ขอบคุณครับ” ผมบอก แล้วอ้าปากรับปลาแผ่นชิ้นพอดีคำเข้าไป ความเผ็ดแผ่ซ่านครับ ต้องเคี้ยวแล้วกลืน ไม่ต้องรอให้มันละเอียดแล้วละครับงานนี้ ลิ้นและโพรงปากจะไม่ต้องสัมผัสกับความรสชาติเผ็ดมาก กลัวน้ำตาไหลครับ

“...............”

ผมมองปากแผ่นในมือเล็กของที่กำลังเคี้ยวตุ้ยอยู่ในปาก แล้วชวนให้สยอง พอยื่นคำแรกให้ผมไปแล้ว เจ้าตัวก็จัดแผ่นใหญ่ใส่ปากตัวเอง ตามมาด้วยฉีกชิ้นปลาขนาดพอดีจ่อที่ปากผมอีกครั้ง

“...................”

เฮ้อออ....ผมมองปลาแผ่นในมือเล็กใกล้ปาก สลับกับมองหน้าคนที่เคี้ยวตุ้ยๆ ดูมีความสุขกับรสชาติที่ผมไม่โปรดเลยสักนิด แล้วก็ปลง คุณฟ้าไม่รู้ว่าผมไม่ชอบกินเผ็ด คนมีน้ำใจจะทำให้เสียน้ำใจก็ไม่กล้าครับ เลยต้องอ้าปากรับความเผ็ดร้อนเข้าปาก เหมือนเคยครับ รีบเคี้ยว รีบกลืน

“.........................”

หือ... ไม่ทันไร วินาทีเดียวที่ผมหยุดเคี้ยว แล้วกลืนลงคอ ปลาเจ้ากรรมก็มาจ่อที่ปากอีกแล้ว ขืนไม่บอก มีหวังผมแย่แน่ๆ

“พอแล้วครับ” ผมบอก คนฟังเหมือนไม่เข้าใจ ปลาเลยจอค้างอยู่ที่ปากของผมต่อ ทำเอาเสียว กลัวต้องกิน

“อิ่มแล้วหรือครับ”

คงไม่อิ่มหรอกครับ สองชิ้น แต่มันเผ็ด กินต่อไม่ได้ต่างหาก ผมตอบคำถามในใจ ก่อนจะตอบออกจากปาก

“มันเผ็ดน่ะครับ  ผมไม่ชอบกินเผ็ด”

“อ้าวววววว  ทำไมไม่บอกละครับว่ากินเผ็ดไม่ได้ แล้วทำไมตอนแรกถึงบอกว่าอยากกิน”  เจ้าตัวทำหน้ายุ่ง ยิงสองคำถามให้ผมต้องตอบ

“เห็นคุณฟ้าอยากกิน”

“.....?”

หน้าหว๋อเลยครับ ไม่คิดว่าจะโดนจับได้

“กินเถอะครับ ผมไม่หิวเท่าไหร่”

“หรือครับ”

เอาอีกแล้วครับ เหมือนจะย้อนถามผม แต่ไม่ใช่ครับ น่าจะพึมพำกับตัวเองมากกว่า คิดว่าน่าจะเป็นคำพูดติดปากของคุณฟ้าด้วย

แล้วคุณฟ้าก็ยังคงเป็นคุณฟ้าครับ ไม่คิดอะไรมาก ไม่ถามเซ้าซี้ต่อให้มากความ จัดการกับปลาชิ้นนั้นแทนผม พร้อมกับแกะอีกซองที่เหลืออย่างรวดเร็ว ท่าทางมีความสุข

แอบเศร้านิดๆ ครับ ว่าทำไมคุณฟ้าถึงไม่อยากรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับผมเลย อย่างเรื่องที่ผมกินเผ็ดไม่ได้ น่าจะมีถามต่ออีกนิดให้ผมได้ตอบ หรือให้เราสองคนมีอะไรคุยกันมากกว่านี้ แต่ก็ไม่

หวังอะไรมาก ผมพูดน้อย คุณฟ้าก็พูดน้อย ระหว่างเราจึงมีแต่ความเงียบ แต่ก็ยังยืนยันว่าเป็นความเงียบที่ไม่รู้สึกอึดอัดอะไรเลย

“เดี๋ยวนะครับ เดี๋ยวผมทำให้”

ทันทีที่ผมเอื้อมมือจะหยิบขวดน้ำที่เหลือแค่นิ้วเดียวจากก้นขวดขึ้นมาดื่มดับความเผ็ดร้อนในปาก   คนที่กำลังมีความสุขกับการกินก็รีบบอกเสียงหลง  ปลาแผ่นยังเต็มปากอยู่เลย ผมต้องดึงมือกลับ เมื่อคุณฟ้าอยากบริการ ผมก็ไม่อยากขัดศรัทธา

คุณฟ้ารีบดึงทิซซู่ขึ้นมาเช็ดมือ  ก่อนจะหยิบขวดน้ำ เปิดฝา จับหลอดดูจ่อปากผม

ผมยิ้มครับ แต่คิดว่าคุณฟ้าคงไม่เห็น

“ขอบคุณครับ” ผมบอก เมื่อน้ำหมดขวด

“ไม่เป็นไรครับ”

พูดเสร็จก็หันไปกินปลาแผ่นต่อ มันเป็นชิ้นสุดท้ายแล้ว คนชอบกินทำหน้ายุ่งครับ ขัดใจมั้งที่ของโปรดหมด

“แวะซื้อไหมครับ”  ผมทำแบบคุณฟ้าบ้าง ที่ปากถามแต่การกระทำไปก่อนคำตอบแล้ว ผมชะลอรถแล้วจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อที่เห็นเมื่อหลายวินาทีก่อน

คุณฟ้าก็ไม่ได้ตอบคำถามผมครับ น่าจะรู้ว่าคำตอบไม่มีใดๆ  ผมกำลังจะเปิดประตูรถ คุณฟ้ารีบห้าม ดึงแขนผมไว้ด้วย

“ไม่ต้องครับ เดี๋ยวผมลงไปซื้อแป๊บเดียว” ว่าแล้วก็ลงจากรถอย่างรวดเร็ว

“ก๊อกๆ” เสียงแคะกระจกรถฝั่งผมครับ

“ครับ” ผมลดกระจกลง ใบหน้าน่ารักยื่นเข้ามาใกล้ แล้วถาม คงนึกได้ว่าลืมถามว่าผมอยากได้อะไรบ้าง เจ้าตัวถึงได้มาเคาะประตูเรียกเพื่อจะถาม

“คุณหมออยากได้อะไรครับ”

“ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่ชอบขนมครับ” บอกให้รู้ จะได้รู้รายละเอียดของชีวิตผมขึ้นอีกนิด เรียกว่ายัดเยียดอย่างเนียนๆ ครับ แต่แล้วจู่ๆ ผมก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ในชั่ววินาทีนั้น   มันเป็นความคิดที่ไม่เลวนัก แต่ถ้าถูกจับได้ก็ไม่น่าชื่นชมเท่าไหร่

เหมือนเจ้าเล่ห์ครับ

แต่ทำไงได้...

ผมแค่อยากให้มีคนมาเอาใจ

สักนิดก็ยังดี...

“ขอไอสกรีมรสสตอเบอร์รี่ครับ”

ผู้ชายหน้าเข้มกินไอศกรีมรสสตอเบอร์รี่   ไม่ผิดใช่ไหมครับ  เพราะไม่เห็นคุณฟ้าจะทำหน้าแปลกใจอะไรเลย พอผมบอก ร่างเพรียวก็วิ่งเร็วๆ เข้าไปในร้าน   ผมมองตาม แต่จู่ๆ ก็มีรถเลขทะเบียนที่จำได้ดี ปาดเข้ามาจอดตรงหน้า ประตูฝั่งคนขับเปิดออกแค่พอที่คนขับจะโผล่หน้ามาให้เห็น

อชิตะ ....

เดาว่าคนที่นั่งมาด้วยน่าจะเป็นคณิต คู่ซี้เจ้านายกับลูกน้อง ไหนบอกว่าจะมาพรุ่งนี้

“ปรี๊นน ปรี๊นนนน” เสียงแตรดังทักทายสองครั้ง แล้วเจ้าของเสียงแตรก็ผลุบเข้าไปในรถ แล้วขับออกไป ทันทีที่รถของอชิตะวิ่งออกไป คนที่วิ่งหายเข้าไปเมื่อกี้ก็วิ่งออกมาจากในร้าน เปิดประตูเข้ามานั่ง

“จะกินยังไงครับ" คุณฟ้าถามผม เมื่อผมออกรถ

“ป้อนครับ” บอกไป เจ้าตัวก็ไม่ปฏิเสธ  เปิดฝาไอสกรีมรสโปรดของผม ช้อนเล็กตักเนื้อนิ่มและเย็น ก่อนจะส่งมันเข้าปากผมที่อ้ารอท่าอยู่แล้ว

อร่อยครับ

คุณฟ้าก็ป้อนไม่หยุด

เสียดายที่มันกล่องเล็ก ไม่กี่คำก็หมดครับ พอทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จ (คือป้อนไอกรีมผม) เจ้าตัวก็หันไปแกะขนมกิน เหมือนเด็กเลยครับ เผลอมองเพลิน (แต่ไม่ลืมมองทางนะครับ) ผมก็ถึงที่หมาย

รีสอร์ทสวย บรรยากาศเงียบสงบ ติดทะเล ห่างไกลความวุ่นวาย  มีบ้านพักแค่ 10 หลัง หลังละ 1 ห้องนอน ซึ่งตอนนี้เต็มทุกหลังแล้ว  นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ผมลืมบอกคุณฟ้า ประเด็นสำคัญคือผมให้น้องลมจองห้องพักสำหรับคนเดียวไว้น่ะครับ แน่นอนว่าน้องลมต้องนอนกับติน อชิตะก็คงเลือกนอนกับคณิต อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไม แทนที่เพื่อนผมจะนอนกับผม กลับไปนอนกับลูกน้องคนสนิทซะได้ ทิ้งให้ผมต้องนอนคนเดียว หรือผมเป็นคนที่ไม่มีใครต้องการ อย่าเชื่อผมมากนะครับ ผมแค่ล้อเล่น ผมชอบนอนคนเดียวครับ เลยเลือกหลังที่เล็กที่สุด

คุณฟ้าจะยอมไหม จะยอมนอนกับผม ผู้ชายที่รู้จักกันแค่ผิวเผิน

ผมเป็นคนคิดมากครับ กลัวคุณฟ้าลำบากใจ

แต่ทำไมผมถึงยิ้ม....

จบตอน



ปล.มาแก้ไขเนื้อหาบางส่วนตามประสงค์คนแต่ง    :mc4:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 27-06-2011 12:02:17
ปล้ำๆๆๆ 555
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 27-06-2011 12:05:52
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 27-06-2011 12:58:10
 :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 27-06-2011 22:20:17
คุณฟ้าชักจะน่ารักขึ้นมาแล้ว
คุณหมอสัตว์คงไม่เหงาแล้ว
คิดถึงตินกับลมเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Margarin_Butter ที่ 27-06-2011 23:01:22
 :z1: :z1:
พี่หมอดจัดเลย
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 27-06-2011 23:56:03
นั่น ...คุณหมอคิดไรเนี่ย
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 28-06-2011 00:32:39
คุณหมอมาอย่างเนียนๆเลยทีเดียว 5555
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 28-06-2011 07:00:39
พี่หมอสู้ๆ หน่อย ^^
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: squalo ที่ 28-06-2011 18:16:37
รักน้ำฟ้าน่ารักไม่ไหวน้ะคนนี้
คู่พี่หมอน่ารักไม่ไหวน้ะ โอ้ยย
ต่อด่วนค่ะอยากเห็นน้ำฟ้า โดนล่อลวง เอ้ยย ! 
 :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 28-06-2011 18:36:51
รวดเดียว ถึงตอนล่าสุดเลยค่ะ
คุณหมอแอบเจ้าเล่ห์พอน่ารักๆ
คุณฟ้าน่ารักเป็นเด็กๆเลย
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 28-06-2011 22:39:54
คุณหมอนี่ร้ายลึกนะ ฟ้าน่ารักจัง
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 29-06-2011 19:17:01
 o18 o18
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 29-06-2011 22:53:46
มีคนมาด้ามใจพี่หมอแล้วคงไม่เหงาแล้วนะ
 :กอด1: :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 01-07-2011 23:07:16
คุณหมอสู้ๆ คุณหมอนี่แอบเจ้าเล่ห์นะเนี่ย คุณฟ้าก็นะน่ารักเกิ๊นนน !!
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 06-07-2011 13:28:43
คนเขียนสบายดีนะค๊า
รออ่านอยู่ค๊า

 :z2: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 06-07-2011 16:46:53
คนเขียนสบายดีนะคะ แต่กะลังเครียด ลุ้นเอเอฟวีรักอยู่ค่ะ
ถ้าเสาร์นี้วีรักรอด จะพาคุณหมอกะคุณฟ้ามาทักทายแฟนๆ นะคะ
>__<
ลุ้นๆๆๆ ลุ้นวีรัก อิอิ
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EunSung87 ที่ 17-07-2011 08:54:05
ขอเข้ามาอ่านด้วยคนนะคะ
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 20-07-2011 14:30:33
พี่หมอกะน้ำฟ้า
เมื่อไหร่จะมา
คิดถึงจังเลย
 :z13: :กอด1:  :L2:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 20-07-2011 15:56:59
คนเขียนกรุณรส่งต้นฉบับให้คนโพสด่วน เพราะ วีที่รักเป็นตัวจริงแล้ว 
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 20-07-2011 19:08:44
ู^
^
อยากบอกว่า ขอวีที่ร๊ากกก ได้แชมป์ก่อนได้ป่าวว 555+
ปล. เด๋ววันจันทร์ มาเสริฟคร้าาาาาา
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 22-07-2011 04:37:56
คิกถึงงงงงงง  :m15:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 22-07-2011 06:53:12
วีที่ลุ้นเป็นวีคู่รึวีเดี่ยวค๊า ^^
รอพี่หมออ่า >"<
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 25-07-2011 13:15:47
คิดถึงมากมากเลย
ยังไม่มาอีกเหรอ
รออยู่นะค๊า
 :z13: :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 14-08-2011 12:44:21
คิดถึงเป็นรอบที่ร้อย
คนเขียนก๊อยังไม่มา
เลยเข้ามาตะโกนดังดัง
ว่ามาต่อได้แล้ว
อยากอ่านต่อมั้กมากกกกกกกกกกกกก

หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 14-08-2011 13:16:54
คุณหมอ ร้ายกาจมาก
55555. ถูกน้องยีนแกเอาข้อมูลใส่หัวตลอด
ไม่น่าผิดที่จะหวั่นไหว
ฮ่าๆๆ เชียร์คะ อยากให้พี่หมอแกมีคู่กับเขาบ้าง
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAe
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 14-08-2011 13:20:40
นั่นสิครับ
คุณหมอจะยิ้มทำไม
อร๊ายยยย :-[ เรื่องนี้ดูเบาเบานะ ชอบจัง
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kwangun ที่ 16-08-2011 02:37:10
สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆ เลยค่ะ >.<  ละครหลังข่าวจริงๆ แต่เราก็ชอบเสพ ฮา
แต่คู่คุณหมอน่ารักมากค่ะ คุณฟ้าแสนดีมาก  รออยู่นะคะ  ดูจากการอัพครั้งล่าสุดแล้ว  :m15: 
แต่จะรอค่ะ สู้ๆๆๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 23-09-2011 15:40:29
 :เฮ้อ:รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอเธอก๊อยังไม่มา
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 23-09-2011 20:50:17
ยังรออ่านคุณฟ้ากับคุณหมออยู่นะค่ะ
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ" ตอนที่ 4 >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] ..{27/06/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 11-10-2011 13:42:17
ตอนที่ 5 บางสิ่งบางอย่างอาจกำลังเริ่มขึ้น

ถึงแล้วครับที่พัก สถานที่ที่ผมจะต้องใช้เวลาถึงสามวันสองคืน เพื่อพักผ่อนหลังจากตรากตรำทำงานมาหกเดือน ไม่ได้หยุดแม้แต่วันเดียว ทั้งที่ผมไม่ได้นึกอยากจะใช้เวลาอันมีค่าในการทำงานหาเงิน เพื่อมาพักผ่อนเลยด้วยซ้ำ แต่นั่นแหละครับ เมื่อคุณหมอสัตว์ออกปากชวน (ทั้งที่เราสองคนไม่ได้สนิทกันถึงขั้นชวนกันมาเที่ยวแบบนี้ได้เลย) แล้วผมดันตอบตกลงไปเสียด้วย จะกลับคำก็ไม่ใช่นิสัยที่ผมชอบทำนัก ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ

บางทีที่ผมตกปากรับคำคุณหมอไป ก็อาจเป็นเพราะว่า

...หนึ่ง คุณหมอชวน ผมเลยไม่อยากปฏิเสธ เดี๋ยวเสียน้ำใจ

...สอง ผมคิดว่าคุณหมอชวนเพราะต้องการเพื่อน ซึ่งเมื่อคุณหมอชวนผม นั่นก็แปลว่าอยากให้ผมไปด้วย

...สาม เพราะคิดว่าคุณหมอไม่มีเพื่อนไปเที่ยวด้วย ถึงชวนผม ผมเลยตอบตกลง พอมารู้ว่าคุณหมอไม่ได้ไปเที่ยวคนเดียว ผมก็อยากจะยกเลิก แต่ดูท่าทางคุณหมอแล้ว ผมคงทำได้แค่รักษาคำพูดของตัวเองต่อไป

...สี่ ผมควรพักผ่อนบ้าง ตามคำที่สาวยีนพูดกรอกหูผมอยู่ทุกวัน

...ห้า ผมคงไม่อยากนอนคนเดียวในห้องที่ไร้เงาของนนท์ แม้ข้าวของทุกชิ้นของนนท์จะยังอยู่ครบ เหมือนเมื่อวันวานที่ผมยังมีนนท์ เหมือนเมื่อวันที่นนท์ยังไม่ทิ้งผมไป

... หก ผมคิดว่า “ทะเล” กับ “คนอกหัก” มันเข้ากันได้ดีซะมัด

...เจ็ด บางที ผมอาจจะเอาคำว่า “รัก” จากนนท์ มาโยนทิ้งทะเล แล้วให้คลื่นลูกแล้วลูกเล่า ซัดเอาคำรักของนนท์ให้หายไปจากชีวิตผมเสียที


ทะเล...

สายลม...

เกลียวคลื่น...

น่าหลงใหลมากครับ

ลมเย็นสบายพัดกลิ่นอายทะเลมาเตะจมูกผม

ท้องทะเลก็สร้างเกลียวคลื่นสีขาวให้ผมนิ่งมอง

รู้สึกดีครับ จนเผลอกางแขนจนสุด ให้ลมปะทะกับตัว แล้วสูดเอากลิ่นทะเลเข้าเต็มปอด ผมปิดตาลง แล้วใช้หูรับรู้เสียงบรรเลงบทเพลงของท้องทะเล


ระหว่างที่เดินทางจากกรุงเทพจนถึงทะเลจันฯ บ่อยครั้งที่ภาพเก่าๆ ระหว่างผมกับนนท์ผุดขึ้นมาในห้วงความคิด ภาพของเราสองคนบนพื้นทรายและน้ำทะเล มันเป็นภาพที่เกิดขึ้นครั้งแรก เป็นครั้งเดียว และกลายเป็นครั้งสุดท้าย ระหว่างเราสองคน นานมากแล้วครับ แต่มันก็ไม่นานพอที่จะทำให้ผมลืมว่า

ทะเลระหว่างผมกับนนท์ ในวันนั้น เมื่อห้าปีก่อน  คือท้องทะเลที่นนท์ “บอกรัก” ผม

คำรักของนนท์มาจากท้องทะเล ผมก็จะโยนมันคืนท้องทะเลไปครับ ต่อจากนี้ น้ำฟ้าคนนี้จะมีชีวิตอยู่ให้ได้ แม้จะไม่มีคำว่ารักจากผู้ชายที่หวังจะใช้ชีวิตด้วยกันไปตลอด

ทิ้งรักลงทะเล....

หลังจากที่ถูกคนรักทิ้ง...



ท้องทะเล...ไม่ทำให้ผมเหงาอย่างที่คิดไว้ระหว่างเดินทางมาครับ คงเป็นเพราะเสียกระแอมเบาๆ จากคนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ ตามมาด้วยคำบอกที่ดูเหมือนจะเกรงใจผมอยู่ไม่น้อย คงกลัวจะทำลายอารมณ์สุนทรีย์ของผม แต่คงเพราะเสียงตะโกนโหวกเหวกของกลุ่มคนที่คิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของคุณหมอ ที่ทำให้คุณหมอต้องดึงผมออกมาจากความคิดที่ชักเตลิดไปไกลเกินกว่าความสวยงามของทะเลตรงหน้า

“ไปทักทายเพื่อนผมก่อนนะครับ”

“ครับ”

คุณหมอว่า ผมก็พยักหน้ารับ ปากบอกครับ แล้วยิ้มให้คุณหมอทีหนึ่ง เพื่อบอกเป็นนัยๆ ว่า คุณหมอไม่ได้ผิดอะไร (เพราะหน้าคุณหมอเหมือนรู้สึกผิดเอามากๆ)

“ส่งกระเป๋ามาครับ เดี๋ยวผมถือเองดีกว่า”

เริ่มรู้ตัวครับ ว่าไม่ควรให้คุณหมอถือกระเป๋าเป้ของผม ยิ่งต้องเดินไปหากลุ่มเพื่อนของคุณหมอที่นั่งล้อมวงดีดกีตาร์อยู่บนเตียงใหญ่ ปูฟูกหนา ผ้าคลุมชมพูเข้ม (เป็นแบบ Day Bed น่ะครับ) ความจริงกระเป๋าเป้ใบไม่ใหญ่นักของผม มันไม่ได้หนักอะไรมากมายที่ผมจะแบกหรือถือไม่ได้ แต่คุณหมอกลับรีบหยิบมันขึ้นมาถือแทนผม ตอนที่กำลังลงจากรถ

‘ผมถือให้ครับ’

คุณหมอบอกอย่างนี้ ตอนที่ผมทำท่าจะขอกระเป๋าเป้คืน ครั้งแรก แต่พอครั้งที่สองที่ผมของคืน (คือตอนนี้) ก็ได้รับคำตอบแบบเดิมครับ

“ผมถือให้ครับ” ว่าแล้วคุณหมอก็เดินนำผมไปหากลุ่มเพื่อน ส่วนผมก็ได้แต่เดินตาม
.
.
.
.
.
.


“ช้าว่ะ”

เป็นประโยคแรกที่เพื่อนคนแรกของคุณหมอเอ่ยทัก หลังจากที่สายตาทั้งสี่คู่หันมามองผมเป็นจุดเดียวกัน ผมที่ยืนยิ้มทักทายทุกคนอย่างเป็นมิตรที่สุด

“ก็ไม่รู้จะรีบขับไปทำไม ช้าหรือเร็วก็ถึงเหมือนกัน”

คุณหมอตอบคำถามของเพื่อนคนแรกไปแล้ว แต่ไม่มีทีท่าว่าจะนั่งลง เมื่อเพื่อนคนนั้นขยับที่ว่างให้นั่ง รวมถึงคนอื่นๆ ที่เหลือก็พากันขยับตาม เพื่อให้เหลือที่ว่าง พอคนสองคนจะนั่งได้ ถ้าสังเกตให้ดี ผมเห็นว่ามีเพื่อนคุณหมอคนหนึ่งครับ ทำท่าจะไม่ขยับ จนโดนคนตัวเล็กกว่าที่นั่งข้างๆ ตีแขนไปสองทีถึงยอมขยับ แต่คุณหมอกลับยืนนิ่ง  ผมแอบงงเล็กน้อย เลยต้องยืนตามคุณหมอ ทั้งที่ใจจริงผมอยากจะนั่งให้สบาย

“ไอ้ถึงน่ะมันถึง แต่มันถึงช้า แล้วนี่ทำไมไม่นั่ง เล่นตัวนะไอ้หมอ ....”

เพื่อนคุณหมอทักแล้วครับว่าทำไมคุณหมอถึงไม่นั่ง ก่อนจะหันมาทางผมอีกครั้ง กำลังจะอ้าปากถามผมมั้งครับ คิดว่าอย่างนั้น แต่เพื่อนอีกคนของคนหมอชิงถามขึ้นมาก่อน

“ใครครับคุณหมอ หรือว่า.....”

เพื่อนคุณหมอคนที่สองถาม แล้วทิ้งประโยคเปิดเอาไว้ให้คุณหมอตอบ ผมว่าบางทีอาจจะไม่ใช่เพื่อนคุณหมอมั้งครับ เพราะคำเรียกขานดูจะให้เกียรติมากเกินไป เกินกว่าจะเป็นเพื่อน แล้วดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว ในกลุ่มที่นั่งอยู่ด้วยกัน ผมคิดว่าคนที่จะดูจะเป็นเพื่อนคุณหมอมากที่สุด คงมีแค่คนแรกที่เอ่ยทักคุณหมออย่างสนิทสนม ส่วนอีกสามคนที่เหลือน่าจะเป็นแค่คนรู้จัก สนิทสนมด้วย แต่ไม่ถึงขั้นเพื่อน ดูอายุน่าจะห่างกันหลายปี น่าจะเท่าๆ ผม (อีกเก้าเดือน อายุผมจะเต็มยี่สิบสี่แล้วครับ)

โดยเฉพาะผู้ชายคนนั้น คนที่โดนคนตัวเล็กที่สุดในกลุ่มตีแขนนั่นล่ะครับ รู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลกๆ มันเหมือนมีอะไรอึมครึมระหว่างกัน

ดูไม่เป็นมิตร แต่ก็ไม่ถึงกลับเกลียดจนไม่มองหน้ากัน


“เพื่อน” คุณหมอตอบสั้นๆ แต่เหมือนทุกคนไม่เชื่อ สายตาที่ผมมองสบบอกอย่างนั้นครับ สายตาแต่ละคู่นี้ ไปคนละทิศละทางเลยครับ

เพื่อนคุณหมอ....มองผมอย่างสงสัย เขาคงไม่เชื่อ เพราะถ้าผมเป็นเพื่อนคุณหมอจริง เขาน่าจะรู้จักบ้าง

คนที่ถามว่าผมเป็นใคร....สายตาที่มองผมมันเป็นประกายวิบวับเหมือนถูกใจอะไรบางอย่าง ไม่อยากตีความหมายไปไกลครับ แต่มันก็อดคิดไม่ได้ว่าเขากำลังคิดว่าผมต้องมีความสัมพันธ์แบบคู่รักกับคุณหมอแน่ๆ ย้ำนะครับว่า ถ้าผมตีความหมายไม่ผิดนะ

คนตัวเล็กที่สุด...สายตาที่มองผมก็ไม่ห่างไกลจากคนที่สองเท่าไหร่

คนสุดท้าย...รายนี้มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยครับ หน้าบึ้งๆ ที่ผมเห็นครั้งแรกก็คลายลงครับ

ผมกลัวความคิดของผมตอนนี้จังครับ...

ผมกำลังคิดว่า...

คุณหมอเป็นเกย์!?

.
.
.
.
.

ผมเดินตามคนตัวสูงกว่าผม (แต่ไม่มาก เพราะผมเป็นคนตัวสูงอยู่เหมือนกันครับ) เข้ามาในห้องที่ถูกแยกเป็นหลังๆ ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวด้วยทางเดินเล็กๆ เชื่อมห้องพักแต่ละหลัง ห้องดูมีชีวิตชีวาดีครับ ผมรู้สึกชอบมาก ผนังและเพดานห้องสีขาวสะอาดตา ลงตัวกับผ้าม่านสีเขียวเข้มสดใสไร้ลวดลาย ไม่ต่างจากผ้าปูและผ้านวมสีขาวบนเตียงนอนที่ทำจากหวาย กับหมอนสีเขียวเข้มสองใบที่วางเคียงกัน พื้นห้องตกแต่งด้วยปูนเปลือยเรียบๆ ดูเกลี้ยงและน่าเดินดีครับ

สูงขึ้นไปตรงผนังห้องเหนือเตียงนอนเป็นชั้นวางตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลเกือบสิบตัวครับ เรียงลำดับจากตัวใหญ่ไปหาตัวเล็ก ผมหมายตาเอาไว้แล้วครับ ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่สุด (ตัวใหญ่ประมาณเศษหนึ่งส่วนสี่ของตัวผมครับ) ผมจะเอามันมากอดตอนนอนคืนนี้ แบบว่าผมเป็นคนติดหมอนข้างมาก แล้วห้องนี้ก็ไม่มีหมอนข้างให้ผมซะด้วย เลยต้องหวังเพิ่งเจ้าหมีตัวโตตัวนี่ล่ะ ไม่งั้นคงนอนไม่หลับ

ข้างๆ หัวเตียง มีโต๊ะไม้สีเข้มสี่ขาไม่มีลิ้นชักวางขนาบทั้งสองข้าง บนโต๊ะมีโคมไฟวางตั้งอยู่ทั้งสองตัว มีชามเล็กๆ ลอยด้วยดอกลีลาวดีวางเคียงกัน สวยดีครับ เพราะโดยส่วนตัวผมชอบดอกลีลาวดี กลีบของมันสวยและสง่า ชวนมอง

สรุปแล้ว...

ผมชอบห้องพักของรีสอร์ทนี้นะครับ โดยเฉพาะตอนนี้ผมชอบเตียงนอนเป็นพิเศษ ชอบเสียจนอยากจะกระโจนลงไปนอน แล้วหลับให้สาแก่ใจ เพราะผมง่วงมาก ง่วงจริงจังทันทีที่เห็นเตียง อย่างที่เคยบอกไว้ ผมแทบไม่เคยไปไหนได้ไกลกว่ากรุงเทพเลย การเดินทางจากกรุงเทพถึงจันฯ ที่ใช้เวลาเกือบห้าชั่วโมง คุณหมอขับรถช้ามากครับ ทั้งที่มันควรจะใช้เวลาไม่ถึงสามชั่วโมงด้วยซ้ำ ตามคำบอกของคุณอิง เพื่อนของคุณหมอ ที่บอกว่าเขาใช้เวลาแค่สองชั่วโมงครึ่ง! การเดินทางทำให้ผมเหนื่อยและเพลีย อยากนอนเต็มทน

ผมมองเตียงนอนอีกครั้งเพราะอยากนอนมาก ขณะที่คุณหมอเดินเอากระเป๋าทั้งของผมและของคุณหมอไปวางไว้ในตู้เสื้อผ้า ตู้ที่ทำจากหวาย แล้วใช้ผ้าม่านสีเขียว (สีเดียวกับผ้าม่านและหมอน) แทนประตูตู้ คุณหมอรื้อเสื้อผ้าในกระเป๋าออกมาแขวนแล้วครับ แต่ผมยังคงเหนื่อยเกินกว่าจะทำแบบคุณหมอ ตอนนี้ใจของผมมันลอยไปอยู่ที่เตียงตรงหน้าแล้ว ขนาดของเตียงที่ผมอยากกระโดนไปนอนใจจะขาด ไม่ได้ใหญ่มากนักแต่ก็พอที่ผู้ชายสองคนจะนอนด้วยกันได้สบายๆ ถ้าไม่มีใครคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนที่เป็นคนนอนดิ้น คงไม่มีใครคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนต้องกลิ้งตกเตียง

แต่ผมอยากบอกจังครับ...

ว่าผมนอนดิ้นมาก!!

เรื่องนี้นนท์เป็นคนบอกผม ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของนนท์ ผมมักจะถูกล้อด้วยเรื่องนี้เสมอ แต่กลับนนท์ มันไม่เป็นอะไรไงครับ เราเป็นคนรักกัน แม้ตอนนี้จะไม่ใช่แล้วก็ตาม แต่กับคุณหมอ ผมเกรงใจ เพราะผมกับคุณหมอก็แค่คนรู้จักกันแบบผิวเผิน (ตามที่ผมบอกกับกลุ่มเพื่อนของคุณหมอไป) ถ้าเผลอดิ้นไปถีบคุณหมอตกเตียงจะทำไง คิดแล้วกลุ้มครับ

ไม่รู้ว่าเผลอทำหน้าเครียดหรือเปล่า คุณหมอถึงได้ถามเสียงห้วนๆ จนผมสะดุ้งเลยครับ หันไปมองหน้าคุณหมอ เห็นมือใหญ่กำลังค้างอยู่ที่กระเป๋าเป้ของผมพอดี อย่าบอกนะครับว่า คุณหมอคิดจะจัดการกับเสื้อผ้าของผมด้วย

แต่ผมก็ไม่มีเวลาที่จะถามอย่างที่ใจคิด ก็คุยหมอเล่นทำหน้าเครียด เสียงเข้ม ใส่ผมซะงั้น

“ลำบากใจหรือครับ?”

“ปะ...เปล่าครับ” ไม่รู้ว่าคุณหมอต้องการสื่อว่าลำบากใจเรื่องไหน ผมก็ขอตอบว่าเปล่าไว้ก่อน ก็ตอนนี้คุณหมอน่ากลัวมากครับ

ถึงผมจะพูดน้อย แต่ก็ไม่เคยพูดแล้วทำคนฟังสะดุ้งแบบที่คุณหมอกำลังทำอยู่ตอนนี้นะครับ คุณหมอพูดน้อย แต่พูดที่ก็ทำเอาผมสะดุ้ง น่ากลัวจนผมทำอะไรไม่ถูกไปเหมือนกัน เมื่อกี้ก็เหมือนกันครับ ตอนที่ยืนคุยกับเพื่อนคุณหมอ แล้วผมแก้ความสงสัยของเพื่อนๆ คุณหมอว่า ผมเป็นแค่เจ้าของร้านกาแฟข้างคลินิกสัตว์ของคุณหมอ ไม่ใช่เพื่อน เป็นแค่คนรู้จักกัน คุ้นหน้ากัน แล้วคุณหมอชวนมาเที่ยวพักผ่อนด้วย เท่านั้นแหละ หน้าคุณหมอบึ้งทันทีครับ ผมพูดผิดหรือไง คุณหมอถึงชักสีหน้าแบบนั้น ทำเอาผมทำหน้าไม่ถูก ก็ผมพูดความจริงนี่ครับ

ผมไม่ใช่เพื่อนคุณหมอ เราสองคนก็เป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั้นเอง...

ทำไมต้องทำหน้าเหมือนไม่พอใจด้วย ผมก็ได้แต่นึกครับ ไม่กล้าพูดหรือถามอะไรอย่างที่ใจคิด แล้วจังหวะนั้นคุณหมอก็ขอตัวเอาของมาเก็บครับ ทั้งที่ผมยังไม่รู้จักชื่อครบทุกคนเลย รู้จักแต่คุณอิงกับคุณหนึ่ง ที่ชิงแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ อีกสองคนที่เหลือผมเลยไม่รู้จักชื่อ

“แต่คุณฟ้าทำหน้าลำบากใจอยู่นะครับ หรือว่าลำบากใจที่จะนอนห้องเดียวกับผม”

คำถามนี้ดูจะชัดเจนในจุดประสงค์มากขึ้นครับ ผมรู้แล้วว่าไอ้เรื่องลำบากใจที่คุณหมอพูดหมายถึงเรื่องอะไร ซึ่งมันก็ถูกต้องส่วนหนึ่งนะครับ ผมลำบากใจจริงๆ ที่จะนอนกับคุณหมอ แต่ไม่ได้ลำบากใจที่จะนอนห้องเดียวกัน ผมลำบากใจที่จะนอนเตียงเดียวกันมากกว่า

อย่างที่บอกครับ ผมเป็นคนนอนดิ้น กลัวจะเผลอถีบคุณหมอตกเตียง ผมกลัวจริงๆ นะครับ

“เปล่าครับ”

คุณหมอไม่เชื่อคำตอบรอบที่สองของผม หน้าของคุณหมอบอกแบบนั้นครับ แน่ล่ะ ขนาดผมเองยังไม่เชื่อเลย โกหกใครเก่งซะที่ไหนกัน

“...............”

คุณหมอเงียบครับ ไม่พูดอะไร เหมือนจะรอคำตอบที่ดีกว่านี้จากผม เลยใช้ความเงียบเป็นตัวงัดเอาความจริงจากปากผมออกมา

ตาสีเข้มนั้นนิ่งมากครับ นิ่งจนน่ากลัว ที่ผ่านมาผมไม่เคยรู้สึกกลัวสายตาคู่นี้ของคุณหมอเลยครับ หรือเพราะผมไม่เคยยืนสบตากับคุณหมอระยะประชิดตัวแบบนี้ เมื่อคุณหมอเดินเข้ามาใกล้ผม หน้าแทบจะชนกันอยู่แล้ว จนผมต้องก้าวถอยหลังให้ระยะห่างมันเกิดขึ้นมาหน่อย ไม่อย่างนั้นผมคงทำอะไรไม่ถูกแน่ๆ

“ว่าไงครับ”

เมื่อผมไม่ตอบ คุณหมอก็เลิกใช้ความเงียบกับผม ถามย้ำอีกครั้ง ถึงตอนนี้คุณหมอจะไม่ก้าวตามผมมา ทว่าสายตากับน้ำเสียง กลับทำให้ผมเกร็งยิ่งกว่าเดิมอีกเท่าตัว รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไม่ถูก มือไม้ก็ดีเป็นส่วนเกินที่หายที่เก็บไม่เจอ

“ว่าไงครับ”

นั่น! คำถามเดิม แต่น้ำเสียงเปลี่ยน เลวร้ายกว่าเดิม เค้นเอาคำตอบยิ่งกว่าที่เคย

“.........”

ไม่กล้าพูดครับ อายเรื่องนอนดิ้นครับ

“ว่าไงครับ” คราวนี้ก้าวตามมาแล้วครับ ส่วนผมก็ถอยหลังเรื่อยๆ คุณหมอก็ไม่หยุดซะที ไม่คิดจะทิ้งระยะห่างกันเลย สุดท้ายผมก็ต้องหยุดเมื่อหลังชนกับผนังห้องอย่างจัง เจ็บไม่มากเมื่อเทียบกับความกลัวคนตรงหน้า

ผมกำลังถูกคุกคามจากคนรู้จัก ที่หลงตกปากรับคำมาเที่ยวทะเลด้วยกัน ถ้าผมปฏิเสธไปแต่แรก ผมคงไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้ ผมคงผูกผ้ากันเปื้อนล้างถ้วยกาแฟอยู่หน้าอ่าง ไม่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้

“..................” ตาสีเข้มจ้องหน้าผมแบบไม่ยอมละสายตา คาดคั้นเอาคำตอบที่ถูกใจ

“คือ...คือผมเป็นคนนอนดิ้น เลยกลัวว่าจะรบกวนคุณหมอตอนนอนน่ะครับ อีกอย่างผมก็เคยถีบคนที่นอนด้วยตกเตียงมาแล้ว ทั้งที่เตียงก็กว้างกว่าเตียงนี้ตั้งเยอะ”

บอกไปตามที่คิดครับ แล้วก็โล่งอกเพราะตาสีเข้มนั้นดูผ่อนคลาย ไม่คาดคั้นเหมือนเคย แน่ล่ะซิ ก็ได้คำตอบไปแล้วนี่ครับ แถมคุณหมอเองยังหลุดขำออกมานิดๆ  ไม่ถือครับ มากว่านี้ก็เคยโดนมาจากนนท์มาแล้วครับ รายนั้นนะ ล้อผมได้ตลอด ตั้งแต่เป็นเพื่อนจนขยับฐานะเป็นแฟน เพิ่งจะมีช่วงหลังๆ นี่แหละครับที่ห่างกันไป คำหยอกล้อที่มีเริ่มหายไปทีละเรื่อง จนในที่สุด เราสองคนก็เหมือนต่างคนต่างอยู่ นอนด้วยกัน แต่ก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียว อ้อมกอดที่เคยนอนกอดจนถึงเช้า มันจืดชืดแทนที่จะอบอุ่นเช่นเคยเป็น...

สู้ไม่ต้องกอดกันเสียจะดีกว่า...


“รู้ได้ยังไงครับว่านอนดิ้น ส่วนมากคนนอนดิ้น มักไม่รู้ตัวนะครับว่านอนดิ้น”

ถามคำถามที่ผมไม่อยากตอบอีกแล้ว ถ้าไม่ตอบก็กลัวจะโดนเหมือนเมื่อกี้อีกครั้ง

“นนท์บอกครับ”

แล้วภาพผู้ชายที่ผมรักก็ฉายชัดอีกครั้งในความคิดถึงของผม

เป็นเดือนแล้วครับที่ผมตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอหน้าผู้ชายที่เคยบอกว่าจะใช้ทั้งชีวิตกับผม และมันเพิ่งจะชัดเจน เมื่อวันก่อน วันที่นนท์ไม่สามารถทำในสิ่งที่เฝ้าบอกผมให้ผมชื่นใจได้อีกต่อไป ผมไม่ได้ถามว่าเพราะอะไร? ไม่จำเป็นต้องถาม คำตอบนั้นผมรู้ได้ด้วยตัวเอง แค่มองตานนท์ ผมก็รู้แล้วว่านนท์มีใคร ใครคนที่นนท์รักมากกว่าผม

ใครที่นนท์รักมากกว่าผมมาก มากพอที่จะทำให้เขา “ทิ้งผม” ไป

แค่ผมไม่รู้เท่านั้นว่า “ใคร” คนนั้นเป็นใคร ผมรู้แค่ว่านนท์รักเขามาก มากกว่าผม ผมที่กลายเป็นแค่คนที่นนท์เคยรัก เคยพร่ำบอกคำว่ารัก เคยอยากใช้ชีวิตร่วมกันไปจนวันสุดท้ายของชีวิต

วันนี้ผมกลายเป็นคนที่นนท์ไม่สามารถจะรักอีกต่อไปแล้ว...ก็เท่านั้น


ขอบตาผมเริ่มร้อนๆ หน่วยตาเริ่มหนักเพราะน้ำอุ่นที่กำลังเอ่อร้น ผมรู้สึกว่าอีกไม่กี่วินาทีมันจะไหลออกมา เหมือนที่ภาพของนนท์กำลังไกลออกไปจากผมเรื่อยๆ


“ไม่ร้องนะครับ”

เม็ดน้ำตาของผม มันกำลังไหล ผมห้ามมันไม่ได้ คุณหมอคงสงสารถึงหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาให้ เหตุการณ์วันที่นนท์บอกเลิกผม คุณหมอคงเห็นและเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างผมกับนนท์

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าผม “ถูกทิ้ง”

“ขอบคุณครับ”

นานครับกว่าผมจะเอ่ยคำพูดนี้ออกมาได้ แต่เสียงที่พูดก็ยังสั่น คนตรงหน้าก็เหมือนเป็นห่วง

“อายจังครับ” ผมบอกความรู้สึกจริงๆ ออกไป อายครับที่ต้องมายืนร้องไห้ให้คุณหมอต้องมาซับน้ำตาให้ ก่อนจะโอบตัวผมแล้วพาไปนั่งบนเตียงนุ่ม ที่ก่อนหน้านี้ผมอยากกระโจนลงไปนอนใจจะขาด

“ไหวไหมครับ”

คุณหมอคงหมายถึง ผมจะออกไปทานข้าวกับเพื่อนๆ คุณหมอไหวไหม เพราะเพื่อนคุณหมอรอทานข้าวอยู่ที่เรือนอาหารของรีสอร์ท ตอนนี้เกือบบ่ายสองแล้วครับ เพื่อนของคุณหมอยังไม่ได้ทานมื้อเที่ยงเพราะรอคุณหมอกัน (เพื่อนคุณหมอตะโกนบอกตามหลังมาน่ะครับ)

“............”

ถามมาอย่างนี้ผมก็ไม่รู้จะตอบว่ายังไง เรื่องหิว ก็ไม่หิวแล้วครับ ผมเหนื่อย อยากนอนมากกว่า แล้วก็ไม่อยากออกไปในสภาพที่ผ่านการร้องไห้มามาดๆ ไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ว่า หน้าคงแดง ตาคงช้ำ แต่เกรงใจเพื่อนของคุณหมอ

“ถ้าบอกว่าไม่ไหวจะเป็นอะไรไหมครับ ผมรู้สึกเหนื่อยน่ะครับ ไม่ชินกับการเดินทางไกลๆ แถมยังร้องไห้แบบนี้ด้วย ให้ออกไปด้วยสภาพนี้ บอกตามตรง ผมอายครับ” บอกไปตามตรงดีกว่าครับ ตอนนี้ไม่อยากเอาหน้ายับๆ ไปอวดสายตาใคร แค่คุณหมอก็อายมากพอแล้ว ไม่อยากอายกว่านี้ แล้วก็รู้สึกเหนื่อยจริงๆ  แทบอยากจะพุ่งเอาหน้าซุกหมอนเลยครับ

“ไม่เป็นไรครับ เหนื่อยก็พัก ว่าแต่คุณฟ้าไม่หิวแน่นะครับ?”

น้ำเสียงที่ถามเป็นห่วงครับจริงจังครับ หิวน่ะหิว ตอนเช้าก็มีแค่กาแฟปั่นแก้วเดียวเองที่ตกถึงท้อง แต่เผอิญว่าความหิวมันถูกแซงด้วยความเหนื่อยและความอายไปแล้วล่ะครับ


“หิวครับ แต่เหนื่อยมากกว่า อยากนอน” บอกเสียงอ่อนออกไปครับ กลัวโดนดุ เพราะบ่อยครั้งที่นนท์ดุผมเรื่องนี้ เรื่องที่ผมเลือกจะนอนมากกว่ากิน ทั้งที่หิวแทบตาย

“แต่ก็ควรทานอะไรก่อนนะครับ” ทีนี้เสียงเข้มมาเลยครับ แต่ทำอะไรผมไม่ได้ เพราะไม่ได้น่ากลัวอย่างตอนที่โดนขู่ครับ อันนั้นน่ากลัวจริงจัง กลัวจนไม่กล้าหืออะไรเลย

“ก็ดื่มน้ำกระเจี้ยบไปแล้ว” โชคดีที่ได้น้ำกระเจี้ยบเป็นตัวช่วย ก่อนเดินเข้ามาในห้องน่ะครับ พนักงานของรีสอร์ทเดินมาเสิร์ฟน้ำกระเจี้ยบเย็นๆ แก้วใหญ่เลยครับ ถือซะว่าเป็นของรองท้องก็ได้ ผมกินง่ายอยู่ง่ายอยู่แล้วครับ

“น้ำกระเจี้ยบแก้วเท่านั้น มันจะช่วยอะไรได้ครับ”

“ได้สิครับ” คราวนี้ผมยืนยันหนักแน่น ไม่ทำเสียงอ่อนให้โดนบังคับอีกแล้ว ก็คนมันอยากนอนแล้ว ร้องไห้เมื่อกี้ก็ทำให้ผมปวดตาด้วย

“..........................”

คุณหมอคงหมดคำพูดกับผมแล้ว ดูได้จากการส่ายหน้าช้าๆ แล้วมองหน้าผมแบบปลงๆ คุณหมอนี่ก็ตลกนะครับ มีหลายอารมณ์ดีแท้ ตอนอยู่หน้าหาดทำหน้าบึ้งใส่ผม พอเข้ามาในห้อง ผมพูดอะไรไม่ถูกใจก็ทำตาหน้ากลัวใส่ผม คาดคั้นผมสุดฤทธิ์ พอตอนนี้ก็เหมือนปลงกับชีวิตของผม

ถ้าคุณหมอรู้จักผมดี เหมือนที่นนท์รู้จัก คุณหมอจะรู้ครับว่าผม “ดื้อเงียบ” แค่ไหน

“ฝากขอโทษเพื่อนคุณหมอด้วยนะครับที่ผมเสียมารยาท” ยังรู้สึกผิดอยู่ครับ ถึงผมจะดื้อ แต่ยังแคร์ความรู้สึกคนรอบข้างอยู่มากครับ


“ครับ”

พูดจบคุณหมอเปลี่ยนจากหน้าปลงเป็นหน้ายิ้ม เดินไปปลดผ้าม่านผืนหน้าให้กั้นแสงแดดที่ลอดเข้ามาในห้อง ส่วนผมก็เอนตัวลงนอนทันทีครับ มองคุณหมอที่ยุ่งอยู่กับม่านหน้าต่าง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ไม่วายที่จะหันมายิ้มให้ผมก่อนด้วย ผมก็ยิ้มตอบครับ

สบายตัวดีจังครับ ที่นอนนุ่มในห้องพักแห่งใหม่ เหมือนผมได้พาตัวเองออกมาจากที่เดิมๆ สู่โลกใบใหม่ที่สบายและผ่อนคลาย ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคงเป็นหมอนใบใหญ่และกลิ่นสุดท้ายที่ผมสัมผัสได้คือกลิ่นหอมอ่อนๆ ของหมอนใบที่ผมซุกหน้าลงไป....


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


“....................”


เสียงแรกที่ผมได้ยินเมื่อเริ่มรู้สึกตัวคือเสียงลมหายใจที่เป่ารดอยู่ด้านบน เหนือศีรษะ

ความรู้สึกแรกที่ผมรู้สึกคือ ไออุ่นจากร่างกายของใครสักคนหนึ่ง ที่ผมกอดเขาอยู่

ไม่สิ!!

ต้องบอกว่าใครสักคนที่ผมกำลังเอาตัวทั้งตัวไปเกยอยู่บนตัวของเขา แสงไฟสีอ่อนจากโคมไฟบนโต๊ะ ทำให้ผมเห็นหน้าของใครคนนั้นได้ชัด จะใครที่ไหนอีกล่ะ ถ้าไม่ใช่....

เฮ้ย....!!

สะดุ้งสุดตัวเองครับ ลุกแทบไม่ทัน ทันทีที่รู้ว่ากำลังปีนป่ายเกาะเกยอยู่บนตัวคุณหมอ คุณหมอที่แค่รู้จักแต่ไม่ได้สนิทสนมถึงขั้นมานอนเตียงเดียวกันได้ แถมยังอยู่ในสภาพที่ล่อแหลมแบบนี้

ผมก็รู้ตัวนะครับว่านอนดิ้น ไม่ถีบคนร่วมเตียงตกเตียง ก็นอนเกยแบบนี้ล่ะ กับนนท์ก็เป็นประจำ แต่นั่นคือนนท์ไงครับ แต่นี่คือคุณหมอ ฐานะความสัมพันธ์มันแตกต่างกัน


พอผมลุก คนที่ผมนอนเกยอยู่ก็รู้สึกตัวแทบจะทันทีด้วยเหมือนกัน แล้วงัวเงียตื่นขึ้นมานั่ง ไม่ห่างจากที่ผมนั่งอยู่เลยครับ

“ตื่นแล้วหรือครับ” เสียงคุณหมอเหมือนจะแหบลงไปนิด คงเพราะเพิ่งตื่น

“ครับ” 

ผมของคุณหมอชี้โด่ ผมเห็น แล้วก็ตามเคยครับ อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปจัดให้เข้าทรง เหมือนที่ผมชอบทำให้กับนนท์ กว่าจะรู้ตัวว่าไม่ควรทำแบบนั้น ก็เมื่อตาสีเข้มมองผมตาไม่กระพริบนั่นแหละครับ แล้วมันก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ผมจัดทรงให้คุณหมอเสร็จ

“แหะๆ ขอโทษครับ พอดีผมติดนิสัยน่ะครับ” ผมดึงมือกลับครับ ยิ้มแห้งๆ ส่งให้คุณหมอเป็นคำขอโทษ

“ไม่เป็นไรครับ”

คุณหมอยิ้มตอบกลับมา แต่ไม่มีท่าทีว่าจะขยับลุกไปไหน ผมเลยต้องลุกเสียเอง เพราะรู้สึกว่านั่งใกล้แบบนี้แล้ว มันรู้สึกแปลกๆ

เพราะผมกับคุณหมอไม่ได้สนิทกันขนานที่จะนั่งคุยกันบนเตียงแบบนี้

“หิวหรือยังครับ” คุณหมอลุกตาม บิดตัวไล่ความเมื่อย แอบคิดว่าคุณหมอต้องเมื่อยเพราะผมนอนเกยทับ ไม่เมื่อยก็แปลกแล้วครับ ผมก็ไม่ได้ตัวเล็กสักหน่อย ถึงสูงไม่เท่าคุณหมอ แต่คงห่างกันไม่ถึงห้าเซ็นต์

“หิวครับ มากด้วย” ตอบไปก็ลูบท้องตัวเองไปด้วยครับ เพื่อยืนยันคำตอบ ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน คงนานเหมือนกัน ผมว่านะ เพราะมองผ่านรอยแยกของผ้าม่านที่เห็น มีแสงจากโคมไฟตรงหาดหน้าห้องพักแทรกเข้ามาแล้ว

“งั้นก็ไปหาอะไรกินกันครับ ผมก็หิวเหมือนกัน” นั่น คุณหมอทำท่าประกอบเหมือนผมไม่ผิดเลย ลอกกันเห็นๆ คิดแล้วขำ ไม่คิดว่าตัวเองจะเผลอขำออกมาทางท่าทางและเสียง รู้ตัวก็เมื่อคุณหมอทักนั่นแหละ

“ขำอะไรครับ”

“ขำท่าหิวของคุณหมอครับ ทำเหมือนผมเลย”

“ก็คน...........”

คุณหมอกำลังจะพูด แต่จู่ๆ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นซะก่อน


....ก๊อก....ก๊อก....ก๊อก...ก๊อก...

ตามด้วยแล้วเสียงเล็กๆ น่ารักที่ผมได้ยินเมื่อตอนกลางวัน เอ่ยถามผ่านประตูเข้ามา

“พี่หมอครับ อยู่ไหมครับ”

“หนีกลับไปแล้วมั้ง” เสียงอีกเสียงหนึ่ง ที่ผมจำได้เช่นกัน ดังแทรกเข้ามาอีก ฟังแล้ว ไม่เหมือนจะพูดกับคนในห้องหรอกครับ แต่น่าจะพูดประชดเจ้าของเสียงแรกมากกว่า

“ติน!”

...เพี้ยะ....

“เจ็บนะครับ ลม”

“ถ้ายังไม่เลิก จะเจ็บกว่านี้นะ”

“คร้าบบบบบ”

ผมดึงสายตาออกจากต้นเสียงข้างนอก กลับมามองคนที่ถูกเรียก ที่ยืนอยู่ข้างผม

ตาสีเข้ม ดูเศร้าทันที แสงอ่อนของโคมไฟตรงหัวเตียงทำให้ผมเห็นอย่างนั้น....



...
แก้ไขเนื้อหาบางส่วนตามประสงค์ของคนแต่งค่ะ
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 5มาแล้ว >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {11/10/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Namtarn ที่ 12-10-2011 11:18:31
มาต่อแล้ว ดีใจมากๆ ค่ะ คิดถึงลมมากๆๆ
ขอแสดงตัวว่าโหวตเซ็งเป็ดให้เรื่องนี้ค่า
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 5มาแล้ว >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {11/10/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 12-10-2011 19:08:53
มาต่อแล้ว ดีใจมากๆ ค่ะ คิดถึงลมมากๆๆ
ขอแสดงตัวว่าโหวตเซ็งเป็ดให้เรื่องนี้ค่า
[/quot]

+1 แทนคนแต่งค๊า  ถ้าคนแต่งรู้คงมีกำลังใจสู่น้ำท่วมได้มากโข
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 5มาแล้ว >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {11/10/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 12-10-2011 20:19:30
หายไปนาน
แต่ก็ดีใจที่กลับมาซะที อย่าหายไปอีกนะ
เอ้าคุณหมอรีบตัดใจให้ขาดแล้วมาเริ่มรักครั้งใหม่ดีกว่า
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 5มาแล้ว >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {11/10/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 12-10-2011 20:30:21
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 5มาแล้ว >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {11/10/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 12-10-2011 21:37:46
เย้ๆๆ คุณหมอมาแล้ว
เชียร์หมอกับคุณฟ้าเต็มที่ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 5มาแล้ว >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {11/10/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 17-10-2011 15:32:10
 :กอด1: :L2:
+1+เป็ดให้จ้า
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 5มาแล้ว >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {11/10/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 25-10-2011 19:57:06
รออยู่น๊า :L2:
คิดถึงคุณหมอกะน้ำฟ้าแล้วอ่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 5มาแล้ว >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {11/10/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snice_cz ที่ 07-11-2011 23:41:38
คิดถึงติน กับ ลมอ่ะ เอ๊ะ คุณหมอนี่ยังไงแอบเนียนกับคุณฟ้าป่ะเนี่ย รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 5มาแล้ว >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {11/10/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-11-2011 14:21:32
ยังรออ่านอยู่นะค๊า
คิดถึงจังเลยยยยยยยยย :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 5มาแล้ว >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {11/10/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 08-11-2011 21:21:56
เบื่อน้ำเหนือแล้ว คิดถึงน้ำฟ้าจ้า
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 5มาแล้ว >> [รักเธอภาคพี่หมอกะน้ำฟ้า] {11/10/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 09-11-2011 16:21:59
มีคนรออ่านอยู่นะคะ สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 6 ต้อนรับวันลอยกระทง {10/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 10-11-2011 15:57:55
ตอนที่ 6 ผมกำลังจาบจ้วง


ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เหมาะกับบรรยากาศสบายๆ ของท้องทะเลสวย บนเตียงนอนหลังไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็พอให้ผู้ชายตัวโตกับตัวเล็กกว่านอนด้วยกันได้อย่างไม่ลำบาก ผ้าม่านเนื้อหนาบดบังแสงของเวลาบ่ายคล้อยไว้ได้แทบจะทั้งหมด ผมที่กำลังเอนตัวลงช้าๆ ทอดตัวนอนข้างคนตัวเล็กกว่า โดยที่ผมนอนซ้อนอยู่ด้านหลัง คุณฟ้านอนนิ่งซุกหน้ากับหมอนใบเขื่อง ส่วนหมอนอีกใบที่เคยวางไว้เคียงกันตกอยู่ในอ้อมแขนเรียวยาว คุณฟ้ายึดหมอนของผมไปซะแล้ว ผมเลยได้แต่วางศอกไว้บนเตียงใช้มือรองศีรษะ นอนตะแคงมองใบหน้าเล็กๆ ที่ครึ่งหนึ่งถูกซ่อนไว้กับหมอนใบนุ่ม

เสียงลมหายใจของคุณฟ้าดังเบาและสม่ำเสมอ ฟ้องว่าเจ้าตัวหลับไปอย่างสนิทในเวลาอันรวดเร็ว เพียงแค่ผมออกไปเดินออกไปจากห้องหลังจากปิดม่านให้อีกฝ่ายได้นอนสบาย โดยไม่มีแสงแดดจากข้างนอกลอดผ่านเข้ามารบกวน เจอพนักงานสาวสวยที่เดินมาเก็บแก้วน้ำกระเจี๊ยบไปเก็บ   ผมจึงฝากให้เธอช่วยไปบอกอชิตะว่า ผมกับคุณฟ้ายังไม่หิวของนอนพักก่อน ไม่ต้องรอพวกผมแล้ว ไว้ตอนเย็นผมค่อยออกไปกินทีเดียวเลย อันที่จริงผมก็หิวแต่ยังไม่พร้อมจะออกไปเจอทุกคน โดยที่ไม่มีคุณฟ้าไปด้วย

มันยังไม่พร้อม...จริงๆ ครับ

 ไม่ใช่เพราะยังคงรักน้องลมไม่เปลี่ยน  เพราะความรู้สึกว่า “รัก”  มันน่าจะหมดลงแล้วครับ หมดไปพร้อมกับความหวัง ที่ยังรู้สึกอยู่ตอนนี้ก็แค่ความรู้สึกดีๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยได้รัก  แต่ที่ไม่อยากออกไปเจอใครเพราะไม่พร้อมจะเจอน้องลมกับตินพร้อมกันต่างหาก  มันทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะทำตัวยังไง ในเมื่อก่อนหน้านี้ผมเคยจะจีบคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของภาคี พอความจริงเปิดเผย ผมต้องถอยแล้วตัดใจ เลิกรัก มันทำได้ไม่ยากเท่าไร และไม่ได้เจ็บจนทุรนทุรายอย่างที่คิดกลัว

ผมยังพูดคุยกับน้องลมได้เป็นปกติ แม้ไม่มากเพราะผมอยากทิ้งระยะห่าง อยากเลิกรักเพราะจะได้ไม่ถลำลึก เพราะไม่มีสิทธิ์คิดอะไรกับน้องลมเหมือนกันด้วยล่ะครับ  มันเลยง่ายที่จะตัดใจแบบที่ไม่เจ็บปวดเจียนตายอะไร อย่างมากที่เป็นช่วงแรกที่ตัดใจคือโหยหา คิดถึง อยากเจอ  แต่เมื่อเอาเหตุผลความจริงเข้ามาต้านความรู้สึกแล้ว มันก็ทำให้อาการเหล่านั้นลดลง จนตอนนี้ผมก็ลืมไปแล้วว่าตอนอยู่กับน้องลมรู้สึกอย่างไร อาการอยากกอด อยากหอม อยากใกล้ชิด กลิ่นเนื้อตัวที่หอมหวานชวนให้แตะต้องในตอนที่อยู่ใกล้กัน ผมก็แทบไม่รู้สึกถึงความหอมหวานเหมือนแต่ก่อน

เพราะไม่รู้สึกอะไรเหมือนเคยล่ะมั้ง ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยรู้สึกกับน้องลม มันเป็นอดีตที่แทบจะจำไม่ได้แล้ว ถ้าหากไม่มานอนคิดถึงมันอยู่เช่นตอนนี้

พูดถึงกลิ่นหอมหวานที่เคยสัมผัสจากตัวน้องลมแล้ว  ตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่าคนที่นอนหันหลังให้ผมอยู่นี้ มีกลิ่นอ่อนๆ น่าสัมผัส แก้มใสที่โผล่มาให้เห็นซีกเดียวแถมยังน้อยนิดอีกต่างหาก ชวนให้ลิ้มลองความนิ่ม ในห้องที่มีเพียงแสงสลัวและบรรยากาศเงียบๆ มีเพียงเสียงลมหายใจของคุณฟ้าให้ได้ยินเป็นจังหวะชวนฝัน ผมรู้ตัวว่ากำลังขยับเข้าชิดร่างบางที่นอนนิ่งหายใจเป็นจังหวะ  แล้ววางมือข้างหนึ่งบนเอวเล็กเพียงเบาๆ แต่มั่นคงในการแตะต้อง ผมยกศีรษะขึ้นสูง มองเสี้ยวหน้าที่เป็นต้นเหตุให้ผมคิดอะไรบางอย่างออกมาเป็นการกระทำที่เรียกว่า “ชั่วร้าย” อยู่ไม่น้อยเลย

เสี้ยวหน้าใสๆ ที่เห็น ทำเอาผมสลัดความคิดบ้าๆ ออกไปไม่ได้ ทั้งที่ไม่อยากทำ มันเหมือนคนฉวยโอกาส ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของอีกฝ่ายที่กำลังถูกผมกระทำ แต่ในเมื่อคุณฟ้าหลับ และเป็นการหลับที่สนิทมาก  ไม่ออกอาการดิ้นรุนแรงอย่างที่เจ้าตัวเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า เป็นคนดิ้นมากและเคยถีบคนตกเตียงมากแล้ว  และก่อนหน้านี้ที่หน้าหาด ท่ามกลางกลุ่มคนที่ผมอยากทำให้เข้าใจไปในทิศทางที่ควรจะเป็น แต่คุณฟ้ากลับทำให้พวกนั้นเข้าใจในทิศทางที่ถูกต้อง

‘ผมเป็นแค่เจ้าของร้านกาแฟข้างคลินิกของคุณหมอพิษณุ’

ได้ยินแล้วมันหงุดหงิดจนแทบเก็บอาการไม่อยู่ เลยไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากรีบขอตัวออกมา ถึงมันเป็นความจริงก็ตาม แต่มันความจริงที่ผมอยากจะแกล้งลืมๆ ไป แล้วเปลี่ยนสถานะใหม่ให้กับคนที่เป็น “เจ้าของร้านกาแฟข้างคลินิก”  ของผมให้กลายเป็นคนใกล้ชิดหัวใจในช่วงเวลาสามวันสองคืนบนทะเลจันทร์ หรือถ้าเป็นไปได้จะตลอดไปก็ได้  ถ้าคุณฟ้าจะให้ความร่วมมือด้วยความเต็มใจ

ผมอยากศึกษาคุณฟ้า พอๆกับที่อยากให้คุณฟ้าศึกษาผมไปด้วย  บางทีเราสองคนอาจจะเป็นคนสองคนที่ถูกเขียนคำว่า “พรหมลิขิต” เข้าไว้ด้วยกันก็ได้ ใครจะไปรู้


‘เป็นแค่คนรู้จักกัน ถูกชวนมาเที่ยวพักผ่อนด้วยกัน เลยมาด้วย’

นี่ก็เป็นอีกใจความหนึ่งที่ผมสรุปได้จากการสนทนาระหว่างคุณฟ้ากับอชิตะและคณิต ขณะที่ผมกำลังหงุดหงิด พูดอะไรไม่ออก ปั้นหน้าไม่ถูกกับการเจียระไนความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณฟ้าได้ชัดเจนขนาดนั้น


ผมถือว่าเรื่องที่หน้าหาดเมื่อครู่คือความผิดของคุณฟ้า ที่ทำให้ผมหงุดหงิด ทั้งที่ผมปรารถนาจะให้คุณฟ้าช่วยทำให้สถานการณ์ของผมดีขึ้นมา อย่างน้อยก็น่าจะทำให้ทุกคนสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณฟ้า ไม่ใช่บอกไปซะปรุโปร่งขนาดนั้น


ความคิดของผมเกี่ยวกับความผิดของคุณฟ้า เดินทางไปพร้อมกับปลายจมูกที่กดลึกบนแก้มนิ่ม กดค้างไว้อยู่อย่างนั้น สูดดมความหอมหวานของแก้มอยู่นาน โดยที่คุณฟ้าก็ยังคงไม่รู้สึกตัว ยังคงนิ่งอยู่ในท่าเดิม นึกกลัวเหมือนกันว่าแรงกดจากจมูกของผมบนแก้ม จะทำให้คนนอนนิ่งรู้สึกตัวขึ้นมา

พอได้คืบแล้วก็อยากจะได้ถึงศอก...

ปลายจมูกอาจไม่เพียงพอเท่ากับริมฝีปาก....

กลิ่นหอมอ่อนๆ ได้รู้สึกได้ในระยะใกล้ เรียกให้ต้องใช้กลีบปากหนาแนบชิด สำรวจความนิ่มของใบหน้าด้วยริมฝีปากหนัก ก่อนละออกมาเพื่อขยับตัวให้เข้าที่ แล้วใช้มือสองข้างประคองใบหน้าคนนอนหลับลึกขึ้นมาให้เห็นเต็มวงหน้าหวาน แนบจูบบนเสี้ยวหน้าอีกด้าน

ดูนะครับ ผมทำขนาดนี้แล้ว คุณฟ้ายังคงหลับตานิ่ง หายใจสม่ำเสมอ แม้แต่เปลือกตาก็ยังไม่กระพริบแม้แต่นิด ถ้าผมทำมากกว่านี้ คุณฟ้าจะรู้สึกตัวบ้างไหม

นั่นสินะ...จะรู้สึกอะไรตัวไหม

ถ้าเปลี่ยนจากแก้มเป็นปากบาง...

แล้วผมเองล่ะ จะรู้สึกอะไรไหมกับสัมผัสที่เห็นแก่ตัวแบบนี้

‘เห็นแก่ตัว’ มันฟังดูแล้วเลวร้ายไปหน่อย แต่บางครั้งในที่ลับตาคน ในที่มีเพียงคนสองคน คนหนึ่งอยากได้มากกว่าแค่นิดๆ หน่อยๆ และอีกคนหลับสนิทถึงขั้นหลับลึก คนอย่างหมอพิษณุเป็นคนดีมานานแล้วมั้ง ลองทำตัวแบบเห็นแก่ตัวบ้างคงจะไม่เป็นไร  และในเมื่อคุณฟ้าหลับลึกซะขนาดนี้ มันยิ่งกระตุ้นให้อยากทำอย่างที่ใจคิด

ความคิดของผมเดินทางไปพร้อมการกระทำเสมอเหมือนที่เคยผ่านมา เพียงแค่ก้มหน้าเข้าไปใกล้หน้าที่ประคองไว้ด้วยสองมือ หักองศาให้พอเหมาะ กลีบปากบางที่คาดคิดว่าคงหวานกว่าใบหน้าที่เห็นและคงมีรสชาติที่ต้องการ

หัวใจผมเต้นถี่ ยิ่งใกล้ก็ยิ่งเต้นถี่และแรง กลัวเปลือกตาสวยจะเผยดวงตากลมแสดงอาการตกตื่นและตกใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโกรธขึงในทันทีที่ผมจาบจ้วงกับปากบางนั้น ถึงกลัวแต่ก็ท้าทายกับรสชาติที่คุ้มค่า อย่างน้อยผมก็ไม่อยากห้ามความต้องการของตัวเอง พอๆ กับความมั่นใจว่าคุณฟ้าจะไม่ตื่นมาเห็นการกระทำอันเห็นแก่ตัวของผมอย่างแน่นอน

แน่นอนว่า....



‘ผมจูบคุณฟ้าไปแล้ว’

แม้จะแค่แตะไปเบาๆ ก่อนถอนตัวออก

เจ้าของกลีบปากนั้นก็ยังคงอยู่ในความเงียบสงบ หลับลึกเช่นเคย เพราะเหนื่อยอย่างที่เจ้าตัวได้บอกผมก่อนหน้านี้หรือเปล่า? น่าจะใช่

สาบานได้ว่าผมไม่ได้แอบใส่ยานอนหลับในน้ำกระเจี๊ยบที่คุณฟ้าดื่มอย่างแน่นอน

หึหึ....

ผมหัวเราะกับตัวเองเบาๆ แล้วเลียริมฝีปากตัวเอง หลังจากแตะปากเข้ากับกลีบปากบ้างซ้ำๆ อีกหลายรอบ คิดแล้วบ้าซะมัด เหมือนผมเป็นหมอโรคจิตหรือไม่ก็พวกจิตหื่น เป็นไปได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอหมอพิษณุ หมอสัตว์ที่มีแต่คนชมว่านิสัยดี เป็นคนดี เป็นคนจิตใจดี และอีกบลาๆ ตามแต่เจ้าของหมาแมวจะเอ่ยปากชม

ลึกๆ แล้ว ความจริงผมอาจจะไม่ได้ดีเด่อย่างภาพที่ใครๆ เห็นก็ได้ ผมก็มนุษย์คนหนึ่ง มีรัก โลภ โกรธ หลง และยังมีความต้องการ หากมีอะไรมากระตุ้น

คุณฟ้ากำลังกระตุ้นผม...งั้นเหรอ?

อืม....นอนหลับลึกแบบนี้ เรียกว่า “ยั่ว” ได้หรือเปล่า?

อืม....คิดแบบคนเป็นหมอสัตว์ ก็คงเรียกว่า “ยั่ว” ได้......มั้ง

แล้วความคิดก็เดินทางไปพร้อมการกระทำอีกครั้ง ผมละมือจากใบหน้านั้น แล้วหันมาจับคนตัวหอมให้นอนหงาย จัดท่าให้สะดวกต่อภารกิจสำเร็จโทษคนช่างยั่ว ไม่คิดอะไรแล้วครับนาทีนี้ บรรยากาศมันพาไป อะไรๆ มันก็เป็นใจ แน่ล่ะก็มันเป็นใจของผมเองนี่ครับ มันเรียกร้องอยากได้อะไรมากกว่าแค่ “แตะ” อย่างเด็กประถม

มันน่าจะมีการ “สำรวจตรวจตรา” กันหน่อยสิครับ “ข้างนอกหรือจะสู้ข้างใน”

ความผิดของคุณฟ้ามีเยอะครับ

หนึ่ง...พูดให้ผมหงุดหงิด

สอง...ไม่ช่วยผมเลย

สาม...ยั่วผมเอง

สี่...จะหลับสนิทไปถึงในกัน

ความผิดแบบนี้ มันสมควรได้รับการลงโทษครับ....หึหึ หัวเราะชั่วร้ายอีกแล้วครับ ชั่วร้ายพอๆ กับความคิด

ผมไม่เคยบอกใครว่าผมเป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนที่จิตใจงดงาม ไม่เคยเอาเปรียบใคร เลยสักครั้ง ทุกคนต่างหากที่มองผมว่าเป็นคนแบบนั้น เพราะเห็นผมแต่ในมุมแบบนั้น ถ้ามีใครสักคนเห็นผมในมุม ‘เห็นแก่ตัว’ แบบนี้แล้วล่ะก็ ก็คงรู้แหละครับว่าผม ‘ก็คนเหมือนกัน’

.
.
.
.

กลีบปากบางเผยออกให้ลิ้นของผมรุกล้ำอย่างง่ายดาย ผมกำลังจาบจ้วงเอาความหวานตามความต้องการที่อยากได้ ลิ้นเล็กที่พบเจอถูกดูดกลืนให้สมกับความคิดร้ายๆ ลิ้นของผมกำลังกวาดไล่ความหวานที่ดูเหมือนจะไม่มีวันหมด โดยที่เจ้าของมันยังคงหลับสนิทและไม่มีการตอบรับใดๆ กลับมา

เหมือนมันจะไม่พอและผมเองเหมือนหยุดไม่ได้แค่นี้...

เพราะรู้ตัวอีกทีมือของผมก็มุดเข้าไปใต้เสื้อ ลูบไล้อยู่กับผิวกายที่เหมาะกับการสัมผัสเป็นไหนๆ มันเนียนและลื่น ไม่กระดากหรือหยาบแม้แต่น้อย

เพราะรู้ตัวอีกทีจมูกกับปากของผมมันก็แตะต้องไปทั่วใบหน้า ไล่มาซอกคอ ไหล่ลาดซึ่งเป็นผิวเนื้อที่ไม่ได้โผล่พ้นเนื้อผ้า และก่อนที่ปากกับจมูกจะเลื่อนไปต่ำกว่านี้ พร้อมกับจะถูกเลิกขึ้นจนถึงอก อวดเม็ดเล็กสองข้างให้กระตุกอารมณ์ดิบเถื่อน และก่อนที่มืออีกข้างของผมจะสัมผัสกับบางสิ่งบางอย่างที่ต่ำกว่าเอว

....ถ้าคุณฟ้าไม่คว้ามือที่เลื่อนไล่จากผิวเนื้อเนียน ต่ำลงไปตรงหน้าท้องแบน และต่ำลงไปอีกนิด

“....อือออ  นนท์.... ไม่เอา....จะนอน......”

มือเล็กจับข้อมือผมไว้แน่น จนผมตัวแข็ง สันหลังมันเสียววูบ กลัวเปลือกตาสวยจะเผยดวงตากลมให้เห็นการกระทำตามอารมณ์ดิบของผม ผมค้างอยู่อย่างนั้นไปชั่วครู่ รู้ถึงแรงผ่อนของมือเล็กก่อนที่มันจะค่อยๆ ตกไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก กลับไปอยู่ที่เดิมอีกครั้ง

...ฟู่~~…

ละเมอ....

ไม่ใช่

รู้สึกตัว....

อารมณ์ดิบหายไปแล้วครับ ไม่ใช่หายไปเพราะคุณฟ้าละเมอ แต่เป็นเพราะชื่อที่หลุดออกมานั่นต่างหาก ผมกำลังเห็นแก่ตัว เอาความต้องการของตัวเองเป็นที่ตั้ง แล้วจาบจ้วงอย่างน่าเกลียด อาศัยเอาความไว้เนื้อเชื้อใจมาทำเรื่องที่ไม่สมควร

คุณฟ้าเป็นใคร ผมเป็นใคร

ผมชื่อพิษณุ คุณแม่เรียกผมว่า “ตาหนู” ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ สมัยเรียนเรียกว่า “นุ” และปัจจุบันก็เรียกผมว่า “หมอ” ลำดับชื่อเรียกที่ผมมีอยู่จากคนทุกคนที่รู้จักผม ยังไงก็ไม่มีชื่อว่า “นนท์”

ผมไม่ใช่ “คุณนนท์” คนที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับคุณฟ้าได้

เราสองคนก็แค่คนรู้จักกัน ไม่ได้สนิท ไม่ได้คุ้นเคย ถ้าผมทำอะไรเกินไปกว่านี้ก็เท่ากับไม่ให้เกียรติคุณฟ้าและไม่ให้เกียรติตัวเองเลย กลายเป็นว่าที่ผมชวนคุณฟ้ามาเที่ยวนั้นคือการหลอกลวง (ถึงแม้จะหลอกให้มาเป็นเพื่อนแต่ก็ไม่ใช่ทำถึงขั้นนี้)

ผมทิ้งตัวลงนอน ตามองเพดาน หลังจากเอื้อมตัวไปเปิดไฟตรงหัวเตียงแล้ว แสงสีอ่อนไม่ได้รบกวนการนอนหลับลึกของคุณฟ้าเลย

ความคิดงี่เง่ากำลังถูกรุมประณามด้วยความคิดฝ่ายดี ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองกล้าทำถึงขนาดนี้ หันมองคนที่นอนอยู่ข้างๆ ก็ยังคงนอนนิ่งและหายใจสม่ำเสมอเช่นเคย ปากบางที่เคยเห็นดูจะเจ่อนิดๆ ทั้งที่ทำขนาดนี้ คุณฟ้าก็ยังไม่รู้สึกตัว ไม่อยากจะคิดครับว่าถ้าคุณฟ้าไปนอนค้างอ้างแรมกับใคร แล้วไอ้หมอนั่นมันทำแบบผม

ให้ตายสิ!!

คิดแล้วเป็นห่วงคุณฟ้าจริงๆ ถ้าไอ้หมอนั่น มันไม่หยุดเหมือนที่ผมหยุดล่ะ ไม่อยากจะคิด แต่ก็ต้องคิด ไอ้หมอนั่นมันจะลักหลับคุณฟ้าถึงขั้นไหน แล้วคุณฟ้าจะรู้สึกตัวตอนไหน


~~ หมับ ~~

มือมาก่อนครับ

~~ หมับ ~~

แล้วตามด้วยขา

เฮ้ยยย..... ผมที่กำลังนอนคิดเรื่องลักหลับอยู่ ทั้งมือทั้งขาของคุณฟ้าก็กักตัวผมไว้ราวกับว่าผมเป็นหมอข้าง กอดอย่างเดียวไม่ว่า นี่ถึงขั้นดึงเข้ามาก่อนประหนึ่งผมเป็นหมอนข้าง ผมถลาเข้าสู่อ้อมกอดอย่างง่ายดาย (ความจริงผมโอนอ่อนผ่อนตามครับ ไม่อยากขัดศรัทธา) ปล่อยให้คุณฟ้ากอดแล้วก็ซุกหน้าเข้ากับอกแกร่งของผม

ลมหายใจยังสม่ำเสมอ แต่เนื้อตัวที่ถูกไถเนี้ย มันไม่สม่ำเสมอกับความรู้สึกของผมเลย จะดิ้นไปไหนครับ หรือว่าจะใช้ผมเป็นเตียง เพราะตอนนี้คุณฟ้าแทบจะนอนเกยอยู่บนตัวของผมแล้ว

นอนดิ้นของจริง มันเป็นแบบนี้ใช่ไหมครับคุณฟ้า...

ผมจะทำยังไงดี

เกยซะขนาดนี้

ดิ้นซะขนาดนี้

ไม่อยากปลุก

ไม่อยากเรียกให้ตื่น

หรือเพราะ

รู้สึกดีหว่า....

.
.
.
.
.
.
.
.
.

“........................”

ผมมารู้สึกตัวอีกทีตอนที่เกยทับผมอยู่ทั้งตัวลุกขึ้น ทำให้ผมพลอยรู้สึกตัวไปด้วย แปลว่าหลังจากที่ถูกคุณฟ้าเกยมาทั้งตัว ผมก็นอนคิดอะไรไปเลยเปลือยจนหลับไปเหรอเนี้ย แล้วหลับไปนานเท่าไร นาฬิกาก็ไม่ได้ใส่มาด้วย เลยไม่รู้เวลาเลย

“ตื่นแล้วหรือครับ” ผมถาม ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เก็บความรู้สึกผิดเอาไว้ในใจ ไม่กล้าสบตาคู่ใสของคุณฟ้าเท่าไหร่ มันทำใจลำบากหลังจากทำเรื่องจาบจ้วงงี่เง่านั้นไป แต่แล้วคุณฟ้าก็ทำเอาผมแปลกใจ เมื่อมือเล็กๆ ยื่นมาปัดผมให้ผม ผมมองการกระทำนั้นตาไม่กระพริบเลย อันที่จริงเรียกว่ามองหน้าที่อยู่ใกล้แค่คืบมากกว่า

“แหะๆ ขอโทษครับ พอดีผมติดนิสัยน่ะครับ” คุณฟ้าส่งยิ้มแห้งๆ มาพร้อมกับคำบอก ก่อนจะดึงมือกลับ

“ไม่เป็นไรครับ” จะให้ผมว่าอะไรล่ะครับ รู้สึกดีด้วยซ้ำ จนอยากจะสัมผัสกลีบปากบางนั้นซ้ำอีกครั้ง อยากสัมผัสตอนที่เจ้าของปากรู้สึกตัว พร้อมกับให้ความร่วมมือ

ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ทำไมรู้สึกอยากแตะต้องตัวของคุณฟ้า ทั้งที่ผมไม่ได้ผูกพัน สนิทสนมจนรู้นึกรักใคร่คุณฟ้าเลย คุณฟ้าสำหรับผมแล้วที่ผ่านมาก็เหมือนเจ้าของร้านกับคุณลูกค้าประจำ ปฏิสัมพันธ์กันก็คนซื้อกับคนขาย ไม่ได้มีจิตรักใคร่ผูกพันกันเลย แล้วทำไมผมถึงอยากทำเรื่องแบบนี้กับคุณฟ้าได้

คิดไปเองหรือเปล่าว่าคุณฟ้าอ่านความคิดผมออก เพราะแค่ผมคิดไม่ทันไร คุณฟ้าก็ลุกจากเตียงไปยืนข้างๆ แทน ทำหน้าแปลกๆ แล้วก็ทำท่าทางเหมือนไม่รู้จะทำอะไรดี หรือเพราะสถานที่ระหว่างเราสองคนมันล่อแหลมเกินควร ผู้ชายสองคนที่ไม่ได้สนิทอะไรกันเลย มานั่งคุยกันบนเตียงเหมือนคู่รักกันก็น่าจะใช่ ผมเลยลุกตาม

พอลุกได้เท่านั้นแหละครับ อาการเมื่อยถามหาทันที ก็นะ คุณฟ้าแค่ตัวเล็กกว่าผม แต่ไม่ใช่คนตัวเล็กนะครับ สูงเกือบจะเท่าผมแล้วละครับ น่าจะห่างๆ กันสักห้าเซ็นต์ได้มั้ง (ผมร้อยแปดสิบหกครับ) แล้วมานอนทับผมซะขนาดนั้น มันต้องมีเมื่อยกันบ้างล่ะ

“หิว หรือยังครับ” ผมถาม พอเดาเวลาได้จากแสงไฟจากด้านนอกที่ลอดเข้ามาให้รู้เวลาว่า ตอนนี้มันค่ำพอที่จะเปิดไฟไปทั่วรีสอร์ทแล้ว

“หิวครับ มากด้วย” คุณฟ้าเอามือลูบท้อง ทำเอาผมเผลอลูบตามไปด้วย แล้วคิดไปไกลถึงเรื่องที่ผ่านมา หน้าท้องแบนราบ....อืม หยุดเถอะความคิด ชักจะหื่นไปเยอะแล้ว

“งั้นก็ไปหาอะไรกินกันครับ ผมก็หิวเหมือนกัน” แล้วนั่นคุณฟ้าขำอะไรผม ผมทำอะไรให้หน้าขำครับเนี้ย

“ขำอะไรครับ” อดไม่ได้ที่จะถามให้รู้เรื่อง

“ขำท่าหิวของคุณหมอครับ ทำเหมือนผมเลย”  อ่า...ขำที่ผมทำท่าเหมือนคุณฟ้า ก็แน่ล่ะ ผมทำตามคุณฟ้านี่น่า แล้วผมก็หิวจริงๆ ครับ ไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้าแล้ว นอกจากกาแฟและก็.....

เนื้อหนังมังสา...ของคุณฟ้า ซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้อิ่มท้องเลย นอกจากอิ่มความต้องการในเวลานั้น

“ก็คน...........”  กำลังจะบอกคุณฟ้าไปว่า ‘ก็คนมันหิวเหมือนกันนี่น่า’ แต่เสียงเคาะประตูดังขัดขึ้นมาเสียก่อนที่ผมจะได้พูดจบประโยค




....ก๊อก....ก๊อก....ก๊อก...ก๊อก...

เสียงเคาะประตูเงียบลง พร้อมกับเสียงเรียกจากน้ำเสียงที่คุ้นเคย

“พี่หมอครับ อยู่ไหมครับ”

น้องลมคือคนที่อยู่ด้านนอก เจ้าของเสียงเคาะประตูห้องผม แล้วไม่ต้องเดาให้ลำบากว่า น้องลมไม่ได้มาคนเดียวแน่   ๆ ภาคีคงไม่ยอมให้คนรักมาเคาะประตูห้องผมเพียงลำพังหรอก แล้วเสียงกึ่งประชดนั้นก็ช่วยยืนยันได้ดี

“หนีกลับไปแล้วมั้ง” ยังคงหึงไม่เลิกจริงๆ

“ติน!”

...เพี้ยะ....

นั่นไง โดยไปเลย อยากจะสมน้ำหน้า แต่ก็ทำไม่ได้ครับ ยังไงผมก็ยังเป็นคุณหมอสัตว์ใจดีอยู่ครับ

“เจ็บนะครับ ลม”

“ถ้ายังไม่เลิก จะเจ็บกว่านี้นะ”

“คร้าบบบบบ”

ผมรู้ว่าตินรักน้องลมมาก เลยทำให้เหม็นขี้หน้าผมมากเช่นกัน แม้ก่อนหน้านี้ก่อนที่จะเกิดเรื่อง ผมกับตินก็เคยกินเที่ยวด้วยกันออกบ่อย ตามประสาเพื่อนรักของอชิตะ เจ้านายของติน แต่พอเกิดเรื่อง ความสนิทสนมก็เหมือนจะหายไปเลย เหลือเพียงอาการไม่ชอบหน้าที่ตินมักจะแสดงให้ผมเห็น

แน่ล่ะ...

ครั้งหนึ่งผมเคยจีบคนรักของติน แล้วใครหน้าไหนมันอยากจะญาติดีด้วยล่ะ

น้องลมโชคดีครับที่สมหวังในความรัก

แล้วผมล่ะ จะโชคดีอย่างน้องลมบ้างไหม น้องลมเป็นรักแรกที่ผมจริงจังด้วยมากที่สุด มากจนคิดถึงอนาคตด้วยซ้ำไป แต่สุดท้าย มันก็เป็นเพียงอนาคตในความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริง

คุณฟ้าหันมามองหน้าผม ตากลมสวยเหมือนมีคำถาม แต่ก็แสดงความห่วงใยมาให้เห็น ผมจะอธิบายยังไงดีล่ะ มันไม่ใช่เรื่องที่จะดึงคุณฟ้ามาแล้วนั่งจับเข่าคุยกันถึงเรื่อง “รักที่เคยสามเศร้า” มันไม่สนุกหรอกว่าไหมครับ

แล้วที่สำคัญ ผมอายครับที่จะบอกว่า ครั้งหนึ่งผมเคยแย่งคนรักของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง...

“พี่หมอครับ พี่หมอ” น้องลมตะโกนเรียกอีกครั้ง เสียงดังกว่าเดิม

“ลมครับ พี่หมอของลม เค้าอาจจะกำลัง......” ได้ยินแค่นี้ครับ เพราะเสียงนั้นหายไปกับประโยคสุดท้ายที่เอ่อ....ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้ว่าสองคนข้างนอกกำลังกระซิบอะไรกันอยู่ มองหน้าคุณฟ้าก็เหมือนจะไม่เข้าใจอะไร โล่งอกครับที่คุณฟ้าใสซื่อ จนเดาประโยคต่อไปไม่ออก เพราะยังคงทำตัวเป็นปกติ ยืนมองหน้าผมเหมือนเคย

“จะไม่ไปเปิดประตูให้หรอครับ” ถามเหมือนไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงไม่ไปเปิดประตู

แล้วผมจะยืนอยู่ทำไมละครับ เลยต้องเดินไปเปิดประตู แต่ไม่ลืมกดสวิซไฟที่ข้างประตูก่อน เพื่อให้ห้องสว่างขึ้น

“พี่หมอ ทำไมช้าจังครับ” คำถามของน้องลมมาพร้อมกับสายตาที่สอดส่องไปด้านหลังผม เดาออกครับว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ก็สายตามุ่งตรงไปที่เตียงนอนซะขนาดนั้นนี่ครับ พอหันไปมองอีกคนที่มาด้วยกัน สายตานั่นก็ฟ้องว่าคิดไปไกลซะแล้ว

เฮ้อ.....

ช่างเถอะ ปล่อยให้คิดกันไป จะแก้ตัวไปทำไม ตอนแรกก็อยากให้คิดกันอย่างนี้อยู่แล้ว ดีเหมือนกัน สามวันกับสองคืนของผมจะได้สงบเหมาะกับการพักผ่อนจริงๆ คนรักของน้องลมจะได้เลิกมองว่าผมจ้องแต่จะแย่งแฟนเขา

“พี่เพิ่งตื่นครับ”

“เหรอครับ แล้ว...........คุณฟ้าล่ะครับ” แล้วจะทิ้งช่องว่างไว้มากขนาดนั้นทำไม ผมนึกอยากจะถาม แต่ท่าทางอยากรู้แล้วก็อยากเห็น แทบจะมุดจักกะแร้ผมเข้ามาในห้องด้วยซ้ำ พอดีผมยืนขวางประตูเอาไว้น่ะครับ ถ้าในบรรดาหกคนที่มาด้วยกัน น้องลมถือว่าเป็นคนที่ตัวเล็กที่สุดเลยล่ะครับ ยืดตัวมองผ่านไหล่ของผมก็คงไม่เห็นอะไรหรอกครับ

“เก็บที่นอนอยู่ครับ” ผมเบี่ยงตัวให้น้องลมเห็นได้ชัดๆ ว่าคุณฟ้ากำลังทำอะไรอยู่ ว่าไปก็แปลกนะครับ น้องลมกับคุณฟ้า มีชื่อที่ซ้ำกันด้วย น้องลมชื่อสีฟ้า ส่วนคุณฟ้า ชื่อน้ำฟ้า

“สวัสดีครับ เมื่อตอนบ่ายยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ผมลมนะครับ ส่วนคนนี้ก็ตินครับ” น้องลมทักทายคนที่กำลังพับผ้าห่มอยู่ตรงปลายเตียง

“ครับ” คุณฟ้าหันมายิ้มตอบ ก่อนจะเดินมาร่วมวงด้วยกันที่หน้าประตู

“น้องลมมีอะไรกับคุณฟ้าหรือเปล่า” ผมแกล้งถามไปงั้นแหละครับ รู้ๆ อยู่ว่าน้องลมคงไม่ตอบความจริงตามที่ใจคิดจินตนาการไปไกลหรอกครับ ส่วนคนที่มาด้วยก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากยืนเอามือล้วงกระเป๋า แต่เห็นอยู่ว่าสายตามองคุณฟ้าตลอด

“ลมกับตินมาตามพี่หมอกับคุณฟ้าไปปาร์ตี้หน้าหาดครับ มีของทะเลสดๆ ทั้งนั้นเลย”

เหอะ...ผมว่า มีแค่น้องลมเท่านั้นล่ะครับที่อยากมาตาม ส่วนอีกคนมาคุมมากกว่า

“อาหารทะเล มีปลาหมึกด้วยหรือเปล่าครับ” เสียงนั้นระรื่นเลยครับ เดาว่าคงชอบปลาหมึกมาก

“มีแน่นอนครับคุณฟ้า คุณฟ้าชอบกินปลาหมึกหรือครับ เหมือนตินเลย รายนี้น่ะ ชอบมาก”

“ครับ ชอบมากที่สุดครับ”

ผมเหลือบมาคนชอบปลาหมึกที่ไม่ใช่คนรักของน้องลม ปากบางฉีกยิ้มสมใจจนจะถึงใบหูเล็กๆ แล้วครับ ตาก็เป็นประกายวาววับเหมือนได้ของถูกใจ

“งั้นผมขอตัวไปล้างหน้าก่อนนะครับ แล้วจะรีบตามไป”

“เร็วๆ นะครับคุณฟ้า เดี๋ยวปลาหมึกหมดซะก่อน” นั่นมีขู่ ผมว่าไม่ต้องรอให้น้องลมขู่ คุณฟ้าก็รีบวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำไปแล้วครับ เหมือนเด็กไม่มีผิด

“พี่หมอครับ”

“ครับ”

สงสัยครับว่าเรียกทำไม ทำเสียงหวานกับตาเป็นประกายด้วย น่าจะห่วงความปลอดภัยแล้วก็ความสุขของผมด้วยก็ดีนะครับน้องลม คนของตัวเองชอบฟาดหัวฟาดหางซะด้วย ไม่ได้กลัว ให้ต่อยกันผมก็สู้ได้สบายๆ อยู่แล้ว แต่ไม่อยากมีปัญหาครับ เพราะมันกระทบหลายฝ่าย

“คุณฟ้าน่ารักดีนะครับ”

“ครับ” อืม เข้าใจล่ะ

“ผมอยากให้พี่หมอเจอคนดีๆ อยากให้พี่หมอมีความสุข อยากให้พี่หมอ......”


“เดี๋ยวพี่ตามไปนะครับ” ผมไม่รอให้น้องลมพร่ำคำพูดยาวเหยียดไปกว่านี้ครับ อย่างที่บอก ไม่อยากมีปัญหากับคนของน้องลม รายนี้น่ะ เข้าใจอะไรยากเหมือนกัน เดี๋ยวจะตีความหมาย “ความห่วงใย” ของน้องลมเป็นเรื่องของ “เยื่อใย” ที่ตัดไม่ขาดซะก่อน

คนขี้หึงก็เป็นแบบนี้ทุกคนครับ ผมเข้าใจ ผมมีเพื่อนแบบนี้เยอะ ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ยกตัวอย่างเช่นอชิตะครับ ส่วนผม ไม่ใช่คนขี้หึงอะไร เรียกว่าเป็นพวกขี้เหงามากกว่า

“ตินหิวปลาหมึกแล้วนะครับลม ไปกันได้ยัง” นั่นกระชากเสียงซะ ตาเริ่มขวางครับคนของน้องลม

“ก็กลับไปก่อนสิ”

“ก็กลับไปด้วยสิ”

“ติน!”

“ลม~~”

คนหนึ่งขึ้นเสียงแบบรำคาญ ส่วนอีกคนก็ลดเสียงต่ำเหมือนอ้อน เอาเข้าไปครับ อยากจะงอน อยากจะง้อก็ตามสบาย ผมไม่สนใจล่ะ

“เดี๋ยวพี่ตามไปนะครับ” ว่าแล้วก็ปิดประตูเลยครับ ใช่เรื่องที่ผมจะต้องทนดูคนรักเค้างอนง้อกัน

.
.
.
.
.
.
.

เฮ้ย!!!!!!!!!!

คุณฟ้า....

นะ...นั่น....มันคืออะไร

ไหนบอกว่าล้างหน้า.....

แล้วนั่น.......

ที่ผมเห็นคืออะไร.....


.
.
.
.
.
.

ห้องที่แบ่งส่วนของห้องน้ำไว้ด้านข้าง เป็นผนังเจาะทะลุ ไม่มีประตู มีเพียงกรอบไม้สีกลืนไปกับพนังกั้นเขต เมื่อเดินผ่านเข้าไปจะพบว่า ห้องอาบน้ำกับห้องสุขาแยกกันชัดเจน อยู่กันคนละฝั่ง มีบริเวณอ่างล้างมือกั้นกลางกับชั้นวางผ้าเช็ดตัว ส่วนของห้องสุขาอยู่ฝั่งซ้ายมือ มีประตูเปิดเข้าออก เพิ่มความเป็นส่วนตัวกับกิจธุระเบาๆ กับหนักหน่วง แต่ส่วนของห้องอาบน้ำที่อยู่ด้านขวามือนี่สิ แทบจะเปลือยเปล่าเพราะมีเพียงโมบายกิ่งไม้ห้อยยาวจนถึงพื้น

โมบายไม้ห้อยยาวถึงพื้น.....


....แค่นั้นเอง


คุณหมอสัตว์จะเป็นลม....

ให้ตายเถอะ....

คุณฟ้าช่วยระวังตัวหน่อยไม่ได้หรือไงคร้าบบบบบบบบบบบบบ...


...

ปล. จากคนเขียนค่ะ
เนื้อหาบางอย่างมีส่วนขัดกับเนื้อเรื่องในตอน 1-5 บ้างเล็กน้อย ขอคนเขียนกลับไปแก้ไขให้ตรงกันก่อนนะคะ อิอิ  
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 6 ต้อนรับลอยกระทง [รักเธอพี่หมอกะน้ำฟ้า] {10/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 10-11-2011 17:21:36
ขอกรี๊ดดดดดดหน่อย
มาต่อแล้ว :L2:
ไปอ่านก่อนนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 6 ต้อนรับลอยกระทง [รักเธอพี่หมอกะน้ำฟ้า] {10/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 10-11-2011 17:45:09
ขอกรี๊ดดดดดดหน่อย
มาต่อแล้ว :L2:
ไปอ่านก่อนนะ :กอด1:

กรี้ด ด้วยคน เพราะ อ่านแล้วให้ความรุ้สึกว่าคุรหมอนี่น่ารักอ่ะ  (สำเนียงทาทายัง)
เมื่อน้ำฟ้ามา  น้ำเหนือจงหลบไป
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 6 ต้อนรับลอยกระทง [รักเธอพี่หมอกะน้ำฟ้า] {10/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 10-11-2011 17:49:31
อยากจะบอกว่าอ่านทันเเล้ว ฮิ้วววว
รักเธอ สนุกมากค่ะ

เเต่ตอนนี้รอ รัก เชิญครับ มากกว่า
รีบๆมาต่อนะ
รอทั้งคนเเต่ง
เเละคนโพส
จุ๊บๆ กอดๆ
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 6 ต้อนรับลอยกระทง [รักเธอพี่หมอกะน้ำฟ้า] {10/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 10-11-2011 19:46:10
 :กอด1: กอดคุณหมอแน่น ๆ  :3123: ให้กำลังใจคุณฟ้า สุดท้าย ขอบคุณคนเขียนนะคะ ที่แต่งเรื่องดี ๆ มาให้อ่าน
 :bye2: ติดตามอ่านต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 6 ต้อนรับลอยกระทง [รักเธอพี่หมอกะน้ำฟ้า] {10/11/54} By
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 10-11-2011 20:14:35
 :impress2:หายไปใหนตั้งนานมาบ่อยๆนะคะเค้าชอบคู่หมอกับน้ำฟ้าน่ารักดี :L1:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 6 ต้อนรับลอยกระทง [รักเธอพี่หมอกะน้ำฟ้า] {10/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 10-11-2011 20:38:29

ขอกรี๊ดด้วยคน มาแล้วว  :mc4:
คุณฟ้าน่ารักจังเลย ใสซื่อมากๆ
ไม่เข้าใจอีตานนท์ทิ้งไปได้ยังไง เฮ้อ
แต่ก็ขอบคุณที่คุณฟ้า เพราะทำให้ได้ใกล้ชิดคุณหมอ ฮ่าๆๆ
อ่านไปอ่านมา อืมมม .. หมอนุนี่ก็หื่นดีเนาะ  :m20:
เชียร์คุณหมอสุดใจ
รักกันเร็วๆนะคะ รออ่านตอนต่อไปจ้า

คนแต่งอย่าหายน้า
คิดถึงมากๆ +1 ให้จ้า จุ๊บบบ
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 6 ต้อนรับลอยกระทง [รักเธอพี่หมอกะน้ำฟ้า] {10/11/54} By
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 10-11-2011 21:07:32
หุหุ เกือบไปแล้วนะหมอ ถ้าฟ้าไม่ละเมอเรียกชื่อนนท์อะไรจะเกิดขึ้น
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 6 ต้อนรับลอยกระทง [รักเธอพี่หมอกะน้ำฟ้า] {10/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 10-11-2011 23:37:25
หมอหื่นจัง ใครๆก็บอกว่าหมอเป็นดี แต่จริงๆหมออาจไม่ใช่ก็ได้หุหุ
ยังดีนะที่หมอยั้งไว้ทัน
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 6 ต้อนรับลอยกระทง [รักเธอพี่หมอกะน้ำฟ้า] {10/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-11-2011 14:02:23
ดันดัน :n1:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 6 ต้อนรับลอยกระทง [รักเธอพี่หมอกะน้ำฟ้า] {10/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 13-11-2011 18:50:09
 :z10:
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 6 ต้อนรับลอยกระทง [รักเธอพี่หมอกะน้ำฟ้า] {10/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 13-11-2011 20:42:16
อยากจะกี๊สสสสสแทนพี่หมอสัตว์
บวกจ้า
หัวข้อ: Re: "รัก เชิญครับ"ตอนที่ 6 ต้อนรับลอยกระทง [รักเธอพี่หมอกะน้ำฟ้า] {10/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 13-11-2011 20:58:14
ดันดัน :n1:


ที่ว่าดันดัน เนี่ยะ กดดันคนแต่งใช่ป่าว
คนโพสมะเกี่ยว ฮิ๊วๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 7 เมื่อไม่พูดแล้วจะรู้หรือว่าต้องการอะไร {14/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 14-11-2011 21:28:47
ตอนที่ 7 เมื่อไม่พูดแล้วจะรู้หรือ?ว่าต้องการอะไร?

“คุณหมอ....อ่า...อืม...จะ...อาบน้ำก่อนไหม....ครับ”

น้ำเสียงของผมไม่มั่นคงเท่าไหร่ มันตะกุกตะกักและเกร็งยังไงบอกไม่ถูก เมื่อผมก้าวออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย แล้วอ้าปากถามคนที่นั่งหันหลังให้ผมอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเตียง โซฟาเล็กๆ ตรงปลายเตียงก็มี ทำไมไม่นั่ง

คุณหมอน่าจะมองออกผ่านประตูกระจกไปยังชายหาดด้านหน้า ข้างนอกมืดแสดงเวลาของค่ำคืน หากก็สว่างไสวด้วยแสงจากโคมไฟสีส้มอ่อน ขับให้บรรยากาศดูโรแมนติคอยู่ไม่น้อย

ใช่...บรรยากาศมันดูโรแมนติคเหมาะกับคู่รัก

แต่...คงไม่ใช่กับผมและคุณหมอในเวลานี้

เพราะอะไรล่ะ...

ก็เพราะผมกับคุณหมอไม่ใช่คู่รักที่มาดูดดื่มบรรยากาศสุดแสนที่จะดี บนหาดทรายกับสายลมและหมู่ดาวสักหน่อย แล้วที่สำคัญเหตุการณ์ก่อนหน้านี้   เหตุการณ์ที่ทำให้ผมทำตัวไม่ถูก และเป็นเหตุการณ์ที่ทำผมอึ้งและคุณหมอช็อก

ผมอึ้ง  เพราะไม่เข้าใจอาการช็อกของคุณหมอ

มันอึ้งครับว่าทำไม  ผู้ชายคนหนึ่งเห็นผู้ชายอีกคนหนึ่งยืนอาบน้ำอยู่ใต้ฝักบัวในสภาพเปลือย ทั้งเนื้อทั้งตัวล้อนจ้อน  มีฟองแชมพูอยู่เต็มหัวและอาจไหลไปตามเนื้อตัว เวลาที่น้ำจากฝักบัวมันชำระฟองเหล่านั้นออกจากหัว  ถึงมีอาการยืนตัวแข็ง ร้องเสียงหลงออกมา

ถึงผมจะเป็นเกย์...

และ

คุณหมออาจจะเป็นเกย์

(ผมไม่ได้เก่งอะไรหรอกนะครับที่จะดูรู้ว่าผู้ชายคนไหนเป็นหรือไม่เป็น  อันนี้ผมแค่สันนิฐานตามข้อมูลที่เก็บได้จากการพูดคุยเมื่อตอนบ่าย)

แต่เราสองคนก็เป็นผู้ชายทั้งคู่ เรื่องแก้ผ้าต่อหน้าผู้ชายด้วยกันเอง  มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ชายทั่วไปก็ทำกัน   กับเพื่อนผมก็แก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันออกบ่อย  ไม่เห็นจะมีอะไรให้ต้องช็อกตาค้างเหมือนที่คุณหมอทำให้ผมเห็น  มันน่าช็อกตรงไหนแค่เห็นผมแก้ผ้าอาบน้ำ

ตอนที่คุณหมอร้อง ‘เฮ้ย’ ออกมา ร้องอย่างดัง ผมหันหลังกลับมามองว่าอะไรทำให้คุณหมอร้อง  ‘เฮ้ย’ ออกมาซะเสียงดังฟังชัดขนาดนั้น  แล้วก็พบว่าคุณหมอยืนตัวแข็งอยู่ตรงกรอบประตู อ้าปากค้าง ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ถูก พอผมถามว่า  ‘เป็นอะไรไปครับคุณหมอ’ คุณหมอก็ส่ายหน้าอย่างเร็วและแรง จนผมกลัวว่าคอจะเคล็ดซะก่อน   แล้วรีบเดินออกไป ทิ้งให้ผมยืนยงอยู่นานกว่าจะคิดออกว่าอะไรเป็นสาเหตุให้คุณหมอมีอาการแบบนั้น

‘น่าจะช็อกเพราะเห็นผมแก้ผ้าอาบน้ำ’

ดีที่ผมไม่บ้าจี้ ร้อง ‘ว้าย’  ออกไปผสมโรงด้วย  คงได้ดูไม่จืด  ผมไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อยจะได้เขินอาย ร้องวี๊ดว้ายเมื่อมีผู้ชายเดินเข้ามาเห็นตอนเปลือย

ก็คนมันอาบน้ำจะให้อาบทั้งชุดเหรอครับ  มันต้องแก้ผ้าออกให้หมด อาบน้ำในสภาพเปลือยสิครับ แล้วมันก็ไม่ใช่ความผิดของผมด้วยนะครับ มันเป็นความผิดของ  “มดหรือแมลงอะไรสักอย่าง”  ที่มันกัดผมจนขึ้นผื่นแดงตรงคอ ผมเลยต้องอาบน้ำ  จากที่ตอนแรกคิดว่าจะแค่ล้างหน้า เลยตัดสินใจอาบน้ำดีกว่า

แล้วห้องอาบน้ำของที่นี่ก็ไม่มีประตูปิดด้วย  มีแค่โมบายกิ่งไม้ที่ใช้แทนประตูทำให้ห้องอาบน้ำถูกกั้นเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น แต่นั่นแหละ  ถึงจะถูกกั้นให้ดูเป็นสัดส่วนสำหรับที่อาบน้ำ แต่มันคงโปร่งและโล่งสบายเกินไป เพราะด้านบนถูกมุงด้วยท้องฟ้ากว้าง (กำแพงห้องอาบน้ำสูงทั้งสามด้านนะครับ รับรองไม่มีใครถ้ำมองได้) ส่วนด้านในก็นั่นแหละครับ เดินเข้ามาก็เห็นได้ชัดว่าใครกำลังแก้ผ้าอาบน้ำท้าแดดท้าลมอยู่ เหมือนที่คุณหมอเห็น จนร้อง  ‘เฮ้ย!’  ออกมาทำเอาผมอึ้ง

ผมว่า...ผมชอบห้องน้ำแบบนี้นะครับ มันทำให้การอาบน้ำดูมีอิสระขึ้นอีกเยอะ แล้วอีกอย่างจากการดูสภาพห้องและสภาพเตียงแล้ว น่าจะเป็นห้องพักสำหรับคนเดียวมากกว่า หรือไม่ก็สำหรับคู่รักที่ไม่ต้องมีอะไรปกปิดกันอีกแล้ว...

แต่ระหว่างผมกับคุณหมอ เราสองคนเป็นแค่คนรู้จัก อย่าพูดถึงการเป็นคู่รักเลยครับ แค่ฐานะเพื่อนก็ไม่น่าจะใช่เลยด้วยซ้ำ

จากที่อธิบายมาทั้งหมด ถึงจะบอกว่าไม่ใช่ความผิดผมที่อาบน้ำด้วยการแก้ผ้า ไม่ใช่ความผิดผมที่ไม่ปิดประตูตอนอาบน้ำ เพราะมันไม่มีประตูให้ปิด แต่สุดท้าย ผมก็ยังรู้สึกผิดต่ออาการช็อกของคุณหมออยู่ดี เลยเกิดอาการทำตัวไม่ถูกเอาตอนที่ก้าวเท้าออกมาแล้วเห็นคุณหมอนั่งหันหลังให้ผม

คุณหมอจะเข้าใจผิดไหม?  ว่าผมคิดจะยั่วคุณหมอ มันเป็นความคิดที่วูบขึ้นมาในบัดดล อยากจะแก้ความเข้าใจผิดของคุณหมอ ถ้าคุณหมอคิดแบบนี้จริงๆ  ถึงผมจะเพิ่งอกหัก ถูกทิ้งจากคนรัก แต่ผมก็ไม่คิดจะหาใครมาแทนที่นนท์หรอกนะครับ

ไม่รู้สิ...

บางครั้ง...

ผมก็คิดว่า

บางที....

นนท์อาจจะกลับมาหาผม  ‘ใครคนนั้น’  ที่ทำให้นนท์ทิ้งผมไป คนที่นนท์คิดว่ารักเขามากกว่าผม บางทีนนท์อาจไม่ได้รักใครคนนั้นก็ได้ มันอาจเป็นแค่ความหลง  ที่ทำให้นนท์  ‘หลงลืม’  ไปว่า ‘นนท์รักผมมากขนาดไหน’ ก็เป็นไปได้

ผมยังคงมีความหวัง...

ยังอยากอยู่กับความหวังต่อไป จนกว่าความหวังจะเป็นจริง

หวังว่านนท์จะกลับมา ในวันที่นนท์รู้ตัวเองว่า ‘ไม่สามารถรักใครได้มากเท่ากับที่รักผม’ เหมือนที่ผมรู้สึกเสมอว่า ‘นนท์เป็นรักแรกและจะเป็นรักสุดท้ายเช่นกัน’

แต่ตอนนี้ขอเลิกคิดเรื่องนนท์ มาจัดการกับคนในห้องก่อน

“คุณหมอจะอาบน้ำไหมครับ”  ผมถาม รอคำตอบ

“..........................” ไม่มีเสียงตอบรับ หรือว่าช็อกจนพูดไม่ได้ อันนี้ก็ตลกไปแล้วครับ ผมว่าน่าจะคิดหาคำพูดเอาไว้พูดกับผมมากกว่า

“คุณหมอครับ” เรียกอีกครั้งครับ ดังกว่าเดิมด้วย

“............................” อืม ยังคงนั่งนิ่ง

“.............................”

เมื่อไม่ตอบกลับมา ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร เลยเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเอาเสื้อผ้ามาใส่ ดีกว่ามายืนตัวเปลือยท่อนบนมีผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างเป็นไหนๆ กลัวว่าคุณหมอหันกลับมาแล้วจะเกิด “มินิช็อก”  ขึ้นได้

คิดอีกที หรือคุณหมอจะกลัวว่าเกย์อย่างผม คิดจะทำมิดีมิร้ายคุณหมอ  ถ้าคุณหมอคิดแบบนี้จริงๆ ผมว่าคุณหมอคิดผิดถนัด อย่างผมจะทำมิดีมิร้ายใครได้ แค่ยั่วผมยังทำไม่เป็นเลย  กับนนท์เองก็ไม่เคยทำ ไม่รู้คนอื่นเขาทำกับยังไง ทั้งที่ผมไม่เคยซีเรียสกับเรื่อง  ‘อย่างว่า’  แต่เอาเข้าจริง ผมก็ยังไม่เคยมีอะไรกับนนท์เลยด้วยซ้ำ

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างผมกับนนท์ คบกันมาห้าปี เราสองคนไม่เคยมีอะไรกันเลย  ด้านนอกก็พอมีเป็นประจำตามประสาคนรักกัน  แต่ภายใน ไม่เคยสักครั้ง ผมยอมนนท์นะครับ ถ้านนท์จะทำเรื่องอย่างว่ากับผม  แต่นนท์ก็ไม่เคยเลย ทุกครั้งก็อยู่แค่การสัมผัส ไม่มากไปกว่านั้น

ไม่รู้เพราะนนท์ให้เกียรติผม หรือเพราะผมมันไร้มิติเกินไป  ไม่มีเสน่ห์พอที่นนท์อยากจะครอบครองหรือกลืนกิน...


“เฮ้อ~~” มันผ่านมาแล้วครับ คิดมากไปก็เท่านั้น

“เอ่อ...คุณฟ้า”

เสียงของคุณหมอที่เรียกชื่อผม แม้จะเบาแต่ก็ดังและฟังได้ชัดเจนในความเงียบของห้องครับ สงสัยผมถอนหายใจแรงไปหน่อย (แต่มันเบากว่าตอนที่ผมเรียกคุณหมออีกนะครับ) ทำให้คุณหมอรู้สึกตัว ผมหันกลับไปมอง สบเข้ากับสายตาของคุณหมอพอดี คุณหมอยืนอยู่ข้างเตียง

คุณหมอคงได้ “มินิช็อก” แล้วครับ จากสภาพที่เห็น หรือไม่ก็ลำบากใจที่เห็นสภาพผมที่ท่อนล่างใส่กางเกงขาสั้นพ้นเข่ามาหน่อย  แต่ท่อนบนยังอยู่ในสภาพเดิมคือเปลือยอกแห้งๆ ที่ไม่ค่อยจะมีกล้ามเท่าไหร่ของตัวเองอยู่ครับ

จะอะไรกันนักกันหนาครับคุณหมอ ผู้ชายเหมือนกัน ไม่เข้าใจคุณหมอเลยจริงๆ  หรือคุณหมอไม่เคยแก้ผ้าต่อหน้าผู้ชายคนอื่น

“ขะ...ขอ....โทษครับ” ว่าแล้วคุณหมอก็รีบหันหลังกลับ ผมไม่เข้าใจอีกแล้วว่าทำไมต้องขอโทษ แต่ไม่อยากพูดอะไรแล้วครับ ขอใส่เสื้อก่อน เดี๋ยวจะถูกเข้าใจผิดว่า ผมพยายามยั่วคุณหมอเยอะเกินไป

“คุณหมอครับ” ผมใส่เสื้อเสร็จแล้วครับ ถึงเรียกคุณหมอ แล้วเดินไปหา

“ครับ” น้ำเสียงของคุณหมอดีขึ้น เริ่มเป็นปกติ เมื่อเห็นผมแต่งตัวเรียบร้อย

เสื้อยืดสีขาวไม่มีลายกับกางเกงขาสั้นเหนือเข่า มันเป็นชุดที่เตรียมไปปาร์ตี้หน้าหาดที่มีของโปรดของผมรออยู่  แล้วก็เป็นชุดที่เตรียมนอนได้เลยครับ  แต่คงเป็นไปได้ยากเพราะถ้ากลับจากปาร์ตี้ที่คุณลมกับคุณตินมาชวน ผมคิดว่ากลิ่นอาหารกับกลิ่นควัน แล้วก็ไอทะเลที่ถูกลมพัดมาจับตัวก็คงทำให้ผมเหนียวตัว จนต้องอาบน้ำอีกรอบ

นึกถึงเรื่องอาบน้ำ ผมจะทำให้คุณหมอช็อกอีกกี่รอบ แล้วคุณหมอเองล่ะ จะกล้าอาบน้ำไหม? ในเมื่อเราสองคนต้องใช้ห้องพักร่วมกัน

“ไปกันหรือยังครับ ว่าแต่คุณหมอจะล้างหน้าหรืออาบน้ำก่อนไหมครับ” ถามไปตามสเต็ปที่ดีครับ  ส่วนใจมันลอยไปอยู่หน้าหาดที่มีเตาปิ้งย่างอาหารทะเลตั้งแต่อาบน้ำเสร็จแล้วล่ะ  ท้องมันร้องเบาๆ เพราะทั้งวันท้องของผมมีแค่กาแฟปั่นตอนเช้า ขนม น้ำเปล่า  และน้ำกระเจี๊ยบตอนบ่ายตกถึงมันครับ ไม่หิวไส้ขาดก็ดีแค่ไหนแล้ว

“ล้างหน้าก่อนก็ดีเหมือนกันครับ” คุณหมอว่า ดูเป็นคุณหมอแบบปกติที่ผมเคยเห็น อาการคล้ายช็อกหายไปแล้วมั้งนะ ผมคิดว่างั้น

“ครับ”

คุณหมอเดินผ่านหน้าผมไปห้องน้ำที่ไม่มีประตูปิด เป็นเพียงกรอบประตูโล่งๆ ผมเดินตาม พิงกรอบประตูรอ ขณะที่คุณหมอก้มล้างหน้าอยู่  เพราะเห็นว่าผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กอยู่ที่ตู้ด้านบนเยื้องไปทางขวาของตัวอ่าง (ฝั่งห้องอาบน้ำ) ผมเลยเดินเข้าไปหยิบเพื่ออำนวยความสะดวกให้คุณหมอ ล้างหน้าเสร็จจะได้เช็ดได้เลย

ผมติดนิสัยบริการมั้งครับ ตั้งแต่เล็กแล้วที่อยากจะทำอะไรให้คนอื่น ชอบเอาใจ ไม่ใช่อยากให้มีคนมารักนะครับ แค่รู้สึกดีที่ได้ทำอะไรให้คนอื่น ทำให้เขาสบาย ทำให้เขามีความสุข มันทำให้ผมมีความสุขกับเรื่องที่ได้ทำ มันกลายเป็นนิสัย ผมถึงชอบงานบริการไงครับ

“นี่ครับ”

คุณหมอรับผ้าจากมือผม พร้อมคำขอบคุณกับรอยยิ้มส่งมาให้

“คุณหมอครับ”

“ครับ”

“ผมคิดว่า....” เอาไงดีล่ะ ผมจะพูดอะไรดี คุณหมอก็เหมือนจะรอคำพูดจากผม

“ครับ” คนรอก็พยายามเร่งเอาเนื้อหาของเรื่องจากผม

“........................” ผมอยากจะพูดเรื่องห้องอาบน้ำนั่นแหละครับ  ไม่พูดไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ เรื่องใหญ่ซะด้วย สามวันกับสองคืนที่นี่ จะไม่ให้ผมอาบน้ำก็คงไม่ได้ จะให้ผมอาบน้ำทั้งชุดเสื้อผ้าเต็มยศก็คงไม่ได้เหมือนกัน จะให้นุ่งผ้าเช็ดตัวอาบน้ำก็คงไม่เข้าท่าหรอก...ว่าไหมครับ?

แต่ประเด็นคือ ผมจะพูดยังไงดี พูดให้เข้าใจตรงกัน หาบทสรุปที่ลงตัว?

“เรื่องห้องอาบน้ำน่ะครับ คือว่ามัน....” ในที่สุดผมก็บรรจงพูดออกมา แม้จะสะดุดอยู่แค่นั้น พร้อมกับชักชวนสายตาคุณหมอไปยังทิศทางของห้องเจ้าปัญหานั้น   เผื่อคุณหมอจะนึกเดาเอาเองได้

“........................”

เปล่าครับ คุณหมอก็ยังตั้งหน้าตั้งตา ส่วนผมก็พยายามกลั่นกรองคำพูดสุดฤทธิ์

“ถ้าคุณหมอไม่สะดวกใจ ผมย้ายห้องก็ได้นะครับ” น่าจะดีครับ ถ้าจะย้ายห้องไปพักเอง สะดวกทั้งเรื่องห้องน้ำ ทั้งเรื่องเตียง ผมจะได้ไม่นอนดิ้นจนถีบคนตัวโตกว่าตกเตียง

“ห้องพักมันเต็มหมดแล้วครับ ผมยังไม่ได้บอกคุณฟ้าหรือครับ”

แน่ล่ะ ถ้าบอกผมจะเสนอทางเลือกนี้เหรอ?

ห้องพักเต็ม เข้าใจนะว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุด

“แต่.......”


“แต่อะไรครับ” คุณหมอย้อนถาม

เหอะๆ คุณหมอครับ พอผมแต่งตัวมิดชิดแล้ว  คุณหมอก็กลับเป็นคุณหมอมาดนิ่งเหมือนเดิมเลยนะครับ ชักไม่เข้าใจกับคนสองบุคลิกอย่างคุณหมอ

“แต่เรื่องห้องอาบน้ำน่ะครับ ผมเกรงใจคุณหมอ”  ทั้งที่ไม่ควรเกรงใจเลย มันความผิดของผมก็เปล่า ถ้าจะผิดก็คงผิดที่ตกปากรับคำมาเที่ยวกับคุณหมอนี่แหละครับ  ใครจะรู้มาก่อนล่ะ ว่าห้องอาบน้ำไม่มีประตู

เฮ้อ....ไม่คิดครับว่าจะต้องมายืนคุยคร่ำเครียดกับเรื่องห้องอาบน้ำที่ไม่มีประตู ดูมันไร้สาระไปนิด

“เรื่องนั้น...” คุณหมอพูดแค่นี้แหละครับ เป็นอันรู้ว่าเข้าใจว่าผมต้องการสื่ออะไร

“ครับ ผมขอโทษที่ทำให้คุณหมอตกใจ” ใช่เลยครับ เรื่องนั้นที่ทำเอาคุณหมอช็อกไงครับ

“ ผมต่างหากครับที่ต้องขอโทษ คือ....คือไม่คิดว่าจะ......”

ละทิ้งไว้ในความเงียบที่เข้าใจตรงกันครับ ว่าคุณหมอไม่คิดว่าจะเจออะไร เจอผมแก้ผ้าอาบน้ำไงครับ   เหอๆ มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติซะหน่อย คุณหมอนั่นแหละทำให้มันผิดปกติเอง

“แล้วเราจะเอายังไงดีครับ” ผมถาม คือต้องการความชัดเจนครับ ตกลงกันให้เคลียร์ เอาให้รู้เรื่องว่าต้องปฏิบัติตัวแบบไหน ยังไงซะ คุณหมอก็เป็นเจ้าของห้อง ผมมันแค่คนที่ติดสอยห้อยตามมาเท่านั้น

เจ้าของห้องว่าไง ผมก็ว่าตาม

ให้อาบน้ำทั้งเสื้อกางเกง...ก็คงต้องทำตาม

“หรือจะให้ผมอาบน้ำทั้งชุด” คำถามมันงี่เง่าไหมครับ ไม่คิดเลยว่าจะมีคนถามแบบนี้   แล้วดันมาเป็นผมเองที่ถามซะด้วย ช่างมันเถอะครับ   มันก็งี่เง่าตั้งแต่ตั้งประเด็นตกลงกันเรื่องห้องอาบน้ำที่ไม่มีประตูแล้ว

คุณหมอหลุดขำนิดๆ ตอนได้ยินทางเลือกที่ผมเสนอไป

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ครับ”

“แล้ว....” ทิ้งเอาไว้ให้คุณหมอช่วยต่อครับ คิดต่อไม่ได้แล้ว แต่ถ้าไม่เคลียร์ มันก็ไม่ได้ครับเพราะผมกับคุณหมอต้องใช้ห้องร่วมกันอีกตั้งสองวัน

“เวลาคุณฟ้าอาบน้ำก็ช่วยบอกผมหน่อยละกันครับ   ผมจะได้ไม่เข้าไปรบกวน ส่วนเวลาที่ผมอาบ ผมก็จะบอกคุณฟ้าเหมือนกัน ดีไหมครับ”

“ครับ ก็ดีครับ”

อืม...ทางเลือกของคุณหมอใช้ได้ ทำง่าย ทำได้จริง ทำไมผมคิดไม่ถึงนะ เป็นอันว่าบทสรุปเรื่องห้องน้ำของผู้ชายสองคนจบลงด้วยดี พร้อมกับอาการหิวไส้จะขาดเกิดขึ้นทันที

“หิวหรือครับ” คุณหมอถาม

“ครับ หิวมาก” ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย มันฟ้องทางเสียงที่ดังมาจากท้อง ขายหน้ามาก แต่ช่างมันเถอะครับ ไม่คิดอะไรแล้ว ตอนนี้หิวจัด หิวมากๆ

“ไปครับ” คุณหมอว่า แล้วเดินนำผมออกไป

.
.
.
.
.
.
.
.

“คุณฟ้าครับ”

เอ๋?...ยังไงกันครับ กำลังจะออกจากห้อง คนตัวใหญ่กว่าผม หนากว่าผมก็หยุดกึก มือที่เปิดประตูก็ดึงประตูปิดซะงั้น

“ครับ”

คุณหมอหันหลังกลับมา แทบจะชนผม ดีที่ผมขยับถอยออกมาทัน ใบหน้าคมเข้มของคุณหมอดูจะมีเรื่องให้คิดและเครียดอยู่ไม่น้อย คิ้วเข้มแทบจะชนกัน

“ผมมีเรื่องอยากรบกวนคุณฟ้า” ฟังจากเสียง ดูจากท่าทาง คงเป็นเรื่องที่หนักหนาพอสมควร แล้วเรื่องอะไรล่ะ

“....................”

ผมรอฟังเรื่องของคนที่ยืนทำหน้าเครียดอยู่หลายอึดใจ แต่คุณหมอก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมาซะที หรือกำลังเรียบเรียงคำพูดอยู่ก็ไม่รู้ แต่สุดท้าย คุณหมอก็บอกเพียงว่า

“ไม่มีอะไรครับ”

ไม่มีอะไรเนี้ยนะ มันต้องมีสิครับ ดูก็รู้ว่ามันต้องมี

ผมมองหน้าคุณหมอ เค้นเอาเรื่องที่คุณหมอจะพูด แต่คนตรงหน้าก็เปลี่ยนเรื่องไปเสีย

“ไปเถอะครับ”

“ครับ”

ไปก็ไปครับ ผมก็ไม่ใช่คนพูดยากอะไรอยู่แล้ว คุณหมอไม่อยากพูด ต่อให้เอามีดมาจิ้มคอก็คงไม่ยอมพูดหรอก

.
.
.
.
.
.
.
. มีต่อ
v
v
v
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 7 เมื่อไม่พูดแล้วจะรู้หรือว่าต้องการอะไร {14/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 14-11-2011 21:30:42
เดินไปถึงหน้าหาดแต่ยังไม่ถึงสะพานไม้ที่ยื่นไปในน้ำทะเลสถานที่จัดปาร์ตี้เล็กๆ ที่ดูแล้วน่าจะมีแค่พวกเพื่อนของคุณหมอสี่คน กลิ่นหอมของอาหารทะเลลอยมาเตะจมูกไปถึงท้อง มันหอมชวนหิวมาก

“คุณฟ้าครับ”

อีกแล้วจู่ๆ คุณหมอก็หยุดเดิน ทำเอาผมต้องหยุดด้วย สายตาที่ผมมองผ่านแสงสีส้มอ่อนจากโคมไฟตรงบันไดหลายขั้นของสะพาน บอกความลังเลใจในสิ่งที่กำลังคิดหรือกำลังจะทำ

“ครับ”

นึกจะขำก็คงขำไม่ออก ระหว่างผมกับคนตัวโตเจ้าปัญหา ที่พูดน้อยกันทั้งสองคน มักจะได้ยินเพียงประโยคซ้ำๆ ว่า

‘คุณหมอครับ’

‘คุณฟ้าครับ’

แล้วคำขานรับที่เหมือนกันว่า

‘ครับ’

ฟังดูแล้วอาจจะน่าเบื่อ แต่ทำไงได้ คนพูดน้อยสองคนมาเจอกัน แค่คนรู้จักกันเฉยๆ ไม่ใช่เพื่อนหรือคนสนิท จะให้พูดจ้อ น้ำไหลไฟดับ พูดคล่องจนชินปากก็คงเป็นไปได้ยาก

...ยากเกินไปล่ะมั้ง
“ครับคุณหมอ คุณหมอมีเรื่องอะไรพูดมาเถอะครับ จะให้ผมช่วยอะไรก็บอก ผมเต็มใจช่วยครับ”
ช่วยบอกผมทีเถอะครับคุณหมอ ผมจะได้ไปกินซะที อันนี้ผมคิดในใจครับ ไม่กล้าพูดออกมา ความเกรงใจของผมก็ยังมีอยู่
คุณหมอมายืนทำหน้าเครียด พาเอาผมเครียดไปด้วย    คนพูดน้อยก็ใช่จะไม่พูดอะไรเลยนะครับคุณหมอ ได้แต่บ่นในใจครับ ไม่เข้าใจว่าคุณหมอเป็นอะไร มาเที่ยวนะครับ ไม่ได้มารบ ทำท่าทางซะ

“ผมอยากให้คุณฟ้า.....”

ลุ้นๆ ครับว่าจะให้ผมช่วยอะไร ถ้าผมช่วยได้ ไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็เต็มใจเสมอครับ ตอบแทนที่คุณหมอชวนมาเที่ยวฟรีแบบนี้ (หวังว่าคงไม่เรียกเก็บเงินกับผมตอนกลับนะครับ)

“ช่วย.....”
อืมนะคุณหมอ มาทีละคำเลย
“ช่วย?” คิ้วผมกระตุกสูง แสดงอาการอยากรู้
“ช่วย....”

ไม่เข้าใจครับ คุณหมอจะละไว้ในประโยคที่ไม่เข้าใจทำไม  ผมไม่เข้าใจครับ มันพูดยากหรือไงครับ  ‘ช่วย’ อยู่นั่นแหละ   พูดน้อยก็ไม่ได้แปลว่าต้องพูดน้อยคำตามไปด้วยนะครับคุณหมอ  ถ้าผมบอกว่าชักจะรำคาญคุณหมอสัตว์คนนี้เข้าให้แล้ว จะเป็นเรื่องน่าเกลียดเกินไปไหม?

คงไม่มั้ง...เพราะคุณหมอไม่รู้ว่าผมรำคาญไอ้อาการพูดน้อยคำของคุณหมอเลย

“ช่วย....”

“ช่วยอะไรครับ” รู้สึกว่าตัวเองทำเสียงแข็งมากตอนถาม อารมณ์รำคาญ บวกอารมณ์หิว กลิ่นหอมของปลาหมึกที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงร้อยเมตร มันยั่วความอยากอยู่ครับ

“ช่วย....” มันพูดยากนักหรือไงคุ๊ณณณหมอสัตว์  ผมอยากตะโกนถามให้ก้องหาด
“ช่วยอะไรครับ” ผมถามย้ำเหมือนที่คุณหมอเอาแต่พูดว่า “ช่วย”

ถึงผมจะใจเย็นอย่างที่สาวยีนพูด
ถึงผมจะใจดีอย่างที่เด็กแดนบอก
แต่ผมก็ปุถุชนคนเดินดินทั่วไปครับ มีโกรธ มีโมโห เป็นของธรรมดา ใครมาทำให้รำคาญมากๆ ก็ของขึ้นได้เหมือนกัน เหมือนที่คุณหมอกำลังทำอยู่นี่ไงครับ

“คุณหมอจะให้ผมช่วยอะไรก็บอกมาตรงๆ ครับ ต่อให้คุณหมอบอกให้ผมลุยน้ำไปจับปลาตอนนี้ ผมก็จะทำให้ครับ”

ประชดนะครับ ประชัด ไม่คิดจะทำอย่างที่พูดหรอก ขืนคุณหมอเอาจริง ผมคงแย่ เหอๆๆ   ใครจะบ้าไปจับปลาด้วยมือเปล่า ว่ายน้ำไม่เป็น เล่นได้แต่น้ำตื้นๆ (เหมือนเด็กครับ) แถมกลางคืนอีกต่างหาก ใครจะกล้า

“ไม่รุนแรงถึงขนาดนั้นหรอกครับ คุณฟ้าก็พูดเกินไป” คุณหมอพูดปนขำครับ ค่อยยังชั่วที่คิ้วเข้มลดดีกรีการชนกันลงมาหน่อย คำประชดของผมใช้การได้ดีเกินคาด ทำคุณหมอยิ้มออกมาได้

“แล้วคุณหมอจะให้ผมช่วยอะไรล่ะครับ”
“ช่วย....”
อืม...เข้าใจละว่า ผมไม่มีเวลามายืนฟังคำว่า ‘ช่วย’ ของคุณหมอทั้งคืนแน่ๆ
“เอาเป็นว่า ก่อนนอนคุณหมอค่อยบอกนะครับ ว่าจะให้ผมช่วยอะไร”
“มันไม่ทันสิครับ”
“ทัน?”
ทันอะไร?
“เรื่องที่ผมอยากขอให้คุณฟ้าช่วย”
“งั้นก็พูดมาสิครับ”
“คือ....”
“คืออะไรครับ” พูดไปก็กลอกตาขึ้นไปมองฟ้าแทนการมองหน้าคุณหมอ จรรโลงใจกว่ากันเยอะ

กลุ่มดาวบนฟ้าอีกฟากหนึ่งสวยดีครับ จันทร์เสี้ยวเล็กๆ ก็สวยไม่แพ้กัน น่ายืนมองจนพระอาทิตย์ขึ้นเลยนะครับ แต่หน้าหล่อๆ ของคุณหมอสัตว์ เจ้าของคลินิกข้างร้านกาแฟเชิญครับของผม  มันช่างต่างจากดวงจันทร์กับดวงดาวบนท้องฟ้าสิ้นเชิง  ผมคงไม่อยากยืนจ้องหน้ากับคุณหมอ  เค้นเอาอะไรออกจากปากจนถึงเช้าหรอกนะครับ

“คือ....”

คุณหมอเริ่มเปลี่ยนจากคำว่า ‘ช่วย’ เป็นคำว่า ‘คือ’
เปลี่ยนคำ แต่บทบัญญัติคงเหมือนเดิม
“ถ้าคุณหมอไม่พูด ผมไปแล้วนะครับ ผมหิว หิวมาก หิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว”

ย้ำครับ ย้ำให้เห็นว่าผม ‘หิว’ มากกกกกกกกกกก หิวจนจะกินช้างอย่างคุณหมอได้ทั้งตัวครับ ถ้ายังจะพูดอยู่แค่ไม่กี่คำ เป็นไม่กี่คำที่ไม่รู้เรื่องซะด้วย

อยากให้ช่วยอะไรก็บอกสิครับ ผมไม่ได้มีพรายไว้คอยกระซิบนะครับ ชักฉุน โมโหด้วย ทั้งที่ผมออกจะเป็นคนใจเย็นใจดี ไม่เคยโวยวายใส่ใคร กับนนท์เอง ผมยังไม่เคยเลยครับ คุณหมอเป็นผู้โชคดีรายแรกของผมละมั้ง

รายแรกจริงๆ ที่ทำเอาผมโมโหได้ (แต่ก็เก็บอาการนะครับ ไม่อยากเสียมารยาท)

อย่างว่าล่ะครับ ผมเป็นคนมีเพื่อนน้อย คนที่รู้จักสนิทสนมก็มีบ้างแต่ไม่มาก เจอลูกค้าเยอะแยะก็จริง แต่มันก็แค่คนรู้จัก คนขายกับคนซื้อ เจ้าของร้านกับลูกค้า ไม่ได้มีเวลามานั่งกินนั่งเที่ยวด้วยกัน ไอ้ที่จะได้มายืนพูดกันเหมือนที่ผมคุยกับคุณหมออยู่เนี้ย ไม่มีเลยครับ เพราะไม่มีเลยนี่ล่ะครับ ทำให้คุณหมอสัตว์เป็นผู้โชคดีรายแรกของผม

“ใจเย็นครับ”
รู้ด้วยว่าผมใจร้อน
“บอกมาสิครับจะให้ผมช่วยอะไร  ผมไม่มีเวลายืนรอคุณหมอจนเช้านะครับ”  ผมกอดอกล่ะครับ กลิ่นปลาหมึกย่างไข่เต็มท้องลอยมาเตะจมูกเตะท้องอีกแล้ว

อยากกินมากกกกกกกกก...............

“คุณฟ้าช่วย....”
นั่นมามุขนี้อีก ไม่ทนแล้วครับ ทิ้งแขนลงอย่างขัดใจ กะจะเดินหนี ทิ้งให้คุณหมอจมอยู่กับความเครียดของคุณหมอคนเดียวเถอะ ผมไม่เอาด้วยแล้ว กำลังจะก้าวเท้าขึ้นบันไดสะพานครับ แต่มือใหญ่คว้าหมับที่ต้นแขน รั้งให้ผมหยุดอยู่แค่ขั้นบันไดขั้นแรก ก่อนที่มือใหญ่นั้นจะเลื่อนลงเรื่อยๆ ไปจนสุดท้ายที่มือของผม

ผมมองตามการกระทำนั้น พยายามจะเข้าใจเจ้าของมือใหญ่ที่จับมือผมเอาไว้ แล้วกระชับให้แน่นกว่าเดิม เหมือนกลัวถูกผมสลัดหลุด

“ว่ามาครับ แต่ถ้าคุณหมอจะเอาแต่พูดคำว่า ‘ช่วย’ อยู่แค่คำเดียวละก็ ผมจะไม่ใจเย็นอีกแล้วนะครับ” ขู่ซะหน่อย ใจเย็นมามากแล้ว

เข้าใจนะครับว่าคุณหมอคงมีเรื่องอยากขอให้ผมช่วยจริงๆ   ไม่งั้นคงไม่ทำหน้าตาเคร่งเครียดซีเรียสแบบนี้ คิ้วเข้มก็พันกันยุ่ง ท่าทางน่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย

“คือ....”
“คำว่า ‘คือ’ ก็ไม่เอาครับ”
“................................”
“มันยากที่จะพูดหรือครับคุณหมอ” เป็นคำถามที่ไร้อารมณ์มากจากปากของผม คนซึ่งไร้อารมณ์มากในตอนนี้
“ยากเหมือนกันครับ”
“ยากนักก็ไม่ต้องพูด” จากอาการไร้อารมณ์ก็เปลี่ยนมาเป็นเพลียเหลือเกินครับ
..........................” คุณหมอยืนนิ่ง เบือนหน้าไปอีกทาง
“เฮ้อ~~~” เริ่มอ่อนใจจนไร้คำพูดใดๆ พอจะดึงมือตัวเองออก คุณหมอก็ไม่ยอมปล่อย
“..............................”
“มันนานแล้วนะครับคุณหมอ”
“..............................”
“คุณหมอครับ ขอร้องล่ะครับ พูดมาเถอะครับ ถ้าไม่พูด ผมจะรู้ไหม แล้วผมจะช่วยคุณหมอได้ไหม”
“คุณฟ้ารับปากผมก่อนนะครับว่าจะช่วยผม” เป็นประโยคที่น่ายินดีมากครับ คุณหมอสัตว์พูดออกมาแล้ว เหอๆ
“ครับ”
“..........................”
ผมรับปากแล้วยังจะอะไรอีกครับคุณหมอ ยังไม่ยอมพูดอะไรอีก มันยากเย็นเข็ญใจขนาดนั้นเลยหรือไง ถึงพูดออกมาไม่ได้
“ผมไปแล้วนะครับ”
“........................”

ว่าจะเดินหนี แต่แรงยึดตรงมือจากมือหนาของคุณหมอ ทำให้ผมทำได้แค่ขยับตัวแต่เดินหนีไปไหนไม่ได้ เกินครึ่งชั่วโมงแล้วมั้งที่ยืนเดาใจคุณหมออยู่ตรงนี้

ไม่ได้อะไรเลยจริงๆ
“คุณหมอครับ จะพูดก็พูดสิครับ” ขอบอกว่าผมพูดเสียงดังมาก คุณหมอถึงกับสะดุ้ง
“คุณฟ้าช่วย.....”
อืมมม จะมาแบบเดิมอีกไหม แต่คราวนี้คงไม่แล้ว เพราะประโยคเต็มตามมาเมื่อผ่านไปประมาณสองวิ
“คุณฟ้าช่วยให้ผมจับมือคุณฟ้าจนไปถึงที่นั่นได้หรือเปล่า?”
‘ที่นั่น’ ตามสายตาของคุณหมอที่ผมมองตาม มันคือลานไม้ขนาดใหญ่พอประมาณท้ายสะพาน สถานที่ที่ปลาหมึกย่างรอผมอยู่

‘ที่นั่น’ ผมก็พอเข้าใจนะครับว่าหมายถึงอะไร แต่ไอ้ที่ไม่เข้าใจคือ ‘ทำไมต้องจับมือผม ทำไมต้องให้ผมช่วยด้วยการปล่อยให้คุณหมอจับมือ’

สมองที่คิดแต่เรื่อง ‘บริการ สูตรกาแฟ สูตรขนมและเค้ก’ ของผมกำลังเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

‘?’

สมองที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม มันคงไหลไปรวมอยู่บนหน้าของผมในเวลาต่อมา จนคุณหมอเห็นได้ชัดผ่านแสงโคมไฟสีส้มอ่อน

ประสาทหูของผมก็ได้ยินคำบอกของคุณหมอที่ยาว ยาวมาก คลอเคลียไปกับเสียงคลื่นตีม้วนเข้ามาซัดกับหาดยามค่ำคืน

“ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงนะครับ เรื่องมันซับซ้อน   เอาเป็นว่า ผมอยากให้คุณฟ้าช่วยแกล้งเป็นแฟนกับผม เอ่อ...ไม่ถึงขั้นแฟนก็ได้ครับ เป็นแค่คนที่กำลังดูๆ กันอยู่   ประมาณว่าผมกำลังจีบคุณฟ้า ส่วนคุณฟ้าก็โอเคกับผมอยู่ไม่น้อย เราสองคนกำลังไปกันด้วยดี ที่ผมชวนคุณฟ้ามาวันนี้ก็เอามาเปิดตัวกับเพื่อนๆ ให้คุณฟ้ารู้จักกับเพื่อนของผม”

คุณหมอพูดยาวมาก แต่ผมไม่เก็ท ประโยคมันดูขัดๆ  กับการรับรู้ของผม แล้วคุณหมอจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร

“คุณฟ้าครับ ช่วยผมหน่อยนะครับ”
“....................” นิ่งสงบ พร้อมกับคิดไม่ตก
“คุณฟ้ารับปากว่าจะช่วย” นั่น มีทวง
“ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าจะไม่ช่วย แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำแบบนี้   คุณหมอกำลังบอกให้ผมโกหกทุกคน พวกเขาเป็นเพื่อนคุณหมอนะครับ  เมื่อตอนกลางวันผมก็บอกเพื่อนของคุณหมอไปแล้วว่า ผมกับคุณหมอเป็นแค่คนรู้จักกัน คลินิกสัตว์ของคุณหมออยู่ข้างร้านกาแฟของผม  แล้วจะให้ผมกลับคำพูดหรือครับ เพื่อนคุณหมอเขาจะเชื่อเหรอ”

“เรื่องนั้นไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจัดการบอกเพื่อนๆ เอง คุณฟ้าแค่พยักหน้าเออออตามที่ผมพูดแล้วกัน เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะครับ” คุณหมอรีบตัดความ ตัดปัญหาความไม่เข้าใจของผม ด้วยการจูงมือผมเดินขึ้นสะพานตรงไปหากลุ่มเพื่อนของคุณหมอ

ยิ่งใกล้ก็ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะที่ดังขึ้นๆ
ยิ่งใกล้ก็ยิ่งได้กลิ่นหอมชวนหิวของปลาหมึกย่าง
ยิ่งใกล้ก็ยิ่งทำให้ผมบอกกับตัวเองว่า “ช่างมันเถอะ แล้วแต่คุณหมอล่ะกัน ผมยังไงก็ได้”



…………………………………………………Happy ……………...................


 :impress2: :impress2:


หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 7 เมื่อไม่พูดแล้วจะรู้หรือว่าต้องการอะไร {14/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 14-11-2011 21:55:50
อยากอ่านทุกเรื่องเลยอ่ะ ...เเต่อชิตะกับคณิตนี้เเอบงงเล็กน้อยนะ 555 ......ตอนนี้ข รัก เชิญครับ ก่อนอ่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 7 เมื่อไม่พูดแล้วจะรู้หรือว่าต้องการอะไร {14/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 15-11-2011 20:11:41
คุณหมอเมื่อไหร่จะรุก
ซักทีอ่ำอึ้งอยู่นั้นแหละ :L2:
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 7 เมื่อไม่พูดแล้วจะรู้หรือว่าต้องการอะไร {14/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 15-11-2011 21:37:50

อย่าว่าแต่คุณฟ้าเลย
ขนาดเรานั่งอ่านอยู่ ยังแอบรำคาญคุณหมอเลยเนี่ยะ
5555555  เป็นแฟนกันแล้ว(ถึงจะหลอกๆ)
ต้องมีหวั่นไหวแหงๆ >..<

รออ่านตอนต่อไปอยู่จ้าาา
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 7 เมื่อไม่พูดแล้วจะรู้หรือว่าต้องการอะไร {14/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 15-11-2011 21:50:55
เอ๊ย หมอ ไม่ได้ดั่งใจอ่ะ
กว่าจะพูด
แล้วตอนขอเป็นแฟนไม่ยิ่งกว่านี้เหรอ
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 7 เมื่อไม่พูดแล้วจะรู้หรือว่าต้องการอะไร {14/11/54}By
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 15-11-2011 22:25:40
แอบหงุดหงิดคุณหมอเหมือนกัน ยิ่งหิวอยู่ด้วย โมโหหิววุ้ย 555555
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 7 เมื่อไม่พูดแล้วจะรู้หรือว่าต้องการอะไร {14/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 17-11-2011 10:14:24
คุณหมอระวังไว้เห๊อะ  จะเจอ น้ำฟ้าภาคน้องเหวี่ยงถ้ายังอึกๆอักแบบนี้ :z2:
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 7 เมื่อไม่พูดแล้วจะรู้หรือว่าต้องการอะไร {14/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 17-11-2011 17:32:30
กว่าคุณหมอจะพูดได้ ชักจะเริ่มรำคาญแทนฟ้าแล้ว
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 8 นี่คำถามที่ควรมีคำตอบ {19/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 19-11-2011 23:49:40
ตอนที่ 8 นี่คือคำถาม ที่ควรมีคำตอบ

สวัสดีครับ ผมหมอพิษณุ หมอสัตว์ หรือ สัตวแพทย์  ชายหนุ่มที่มีคลินิกสัตว์เป็นของตัวเอง  มีครอบครัวที่อบอุ่น มีคุณพ่อซึ่งเป็นนายพล เกษียณอายุเมื่อปีที่แล้วกับคุณหญิงแม่ อดีตหญิงสาวผู้เพรียบพร้อมจากตระกูลผู้ดีเก่า ท่านทั้งสองเจ้าระเบียบและมีกฏเกณฑ์การใช้ชีวิตให้กับลูกๆ ปฏิบัติ  แต่ไม่เคยเข้ามายุ่งวุ่นวายกับการดำเนินชีวิตของลูกแม้แต่คนเดียว  ผมมีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ผมเป็นลูกคนกลาง มีพี่ชายและน้องสาว มีหลานวัยน่ารักอยู่ 5 คน ชาย 4 คนและหญิง 1 คน แต่ผมกลับไม่มีพี่สะใภ้และน้องเขยอยู่ร่วมบ้านแม้แต่คนเดียว เรียกว่าไม่มีเลยมากกว่า  เพราะทั้งพี่และน้องของผมเป็นโสดกันทั้งคู่ หลาน 4 คนก็ใช้นามสกุลท่านนายพลกันทั้งนั้น

ผมหมอพิษณุ หนุ่มวัย 29 ปีเต็มกับอีก 3 เดือน 15 วัน   ผู้ชายที่เคยโสดสนิท ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นวัยรุ่น และขยับถึงวัยหนุ่มย่าง 30 ในอีกไม่ถึง 9 เดือนข้างหน้า เคยผ่านประสบการณ์ความรักกุ๊กกิ๊กแต่ไม่เคยขึ้นขั้นเรียกว่าแฟน เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแต่ก็แค่เพียงผ่านแล้วแยกจาก ผมไม่ใช่คนเลวร้ายหรือนิสัยแย่ที่ฟันแล้วทิ้ง แต่คนสองคนลึกซึ้งกันได้  ในขอบเขตที่เรียกว่า      ‘ความสมยอม’  ตามประสาวัยรุ่นและวัยหนุ่ม กับการเข้าสังคมร่วมกับกลุ่มเพื่อนที่มันต้องมีเรื่องอย่างว่านี้บางให้ไม่เสียชาติเกิด  หรือจะพูดว่า ไม่ให้เสีย ‘ชาติชาย’ ก็ได้

ผมไม่เคยคบกับใครจริงจังถึงขั้นที่เรียกว่า ‘แฟน’ หรือคนที่คิดจะจริงจังไปจนถึงขั้นมีอนาคตร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาผมยังไม่เคยเจอคนที่ ‘ใช่’ เลย จนกระทั่งมาเจอน้องลม...

ความรู้สึก ‘ใช่’ มันพุ่งตรงสู่ขั้วหัวใจ ราวกับกามเทพน้อยจับคันธนูแล้วปักลงบนอกอย่างเต็มแรง

ความรู้สึกที่ ‘ไม่เคย’ เกิดขึ้นกับใคร แล้วเป็นความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นกับคนที่เรียกว่า ‘ผู้ชายเหมือนกัน’ เหมือนที่เพลงรุ่นคุณปู่  คุณย่า คุณพ่อคุณแม่ ที่ร้องไว้ว่า

“ความรักศักดิ์ศรี

รักไม่มีพรหมแดน

รักไม่มีศาสนา

แม้นใครบุญญาได้ครองกันมา

พรหมลิขิตพาชื่นใจ”


น้องลมทำให้ผมรู้สึกเหมือนบทเพลงท่อนนี้ในเวลานั้น และในเวลาต่อมา เพียงไม่นาน น้องลมก็ทำให้ผมรู้ซึ้งกับบทเพลงนี้ในอีกท่อนหนึ่ง

“รักเหมือนโคถึกที่คึกพิโรธ

ความรักเช่นนั้นให้โทษ

จะไปโกรธโทษรักไม่ได้

ไม่ใช่บุพเพสันนิวาสแน่ไซร้รักจึงได้แรมลา”

ความรักของผมที่เคยให้น้องลม ไม่ได้ดันทุรังจนไม่เห็นความเป็นจริง   ไม่ได้เต็มไปด้วยโทสะเมื่อความไม่สมหวังฉายอยู่ตรงหน้า  ไม่ได้โลดแล่นด้วยความโกรธที่ขาดการยับยั้งช่างใจ เมื่อน้องลมไม่ได้รักผม ผมจะโกรธ จะโทษ น้องลมกับความรักนั้นได้ยังไง  ผมรู้ว่าผมควรทำอะไร ถอยออกไปพร้อมกับการตัดใจ ในเมื่อระหว่างผมกับน้องลม ไม่สามารถเป็นคำว่า ‘เรา’ ได้

“คู่ใครคู่เขา รักยังคอยเฝ้าชม คอยภิรมณ์เรื่อยไป”  เหมือนที่  “น้องลมคู่กับติน และยังคงรักกันด้วยดี”

ส่วนผมก็คงได้คู่กับใครคนหนึ่งที่กำลังยืนคุยอยู่กับใครอีกคนหนึ่งหน้าเตา  แม้จะเป็น ‘คู่กำมะลอ’ แต่ยังดีกว่าไม่มีคู่ใช่ไหมครับ

‘คู่กำมะลอ’ ระหว่างผมกับคุณฟ้า เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ประมาณชั่วโมงหนึ่ง คำขอร้องที่เอ่ยบอก   ไม่ได้บอกรายละเอียดให้เจ้าของร้านกาแฟข้างคลีนิกของผมได้รู้   ผมคงไม่มีเวลาอธิบายเรื่องยืดยาวภายใต้ใบหน้าที่แทบจะกินหัวผมได้ของคุณฟ้า   และผมก็ยังไม่พร้อมจะบอกอะไรให้คุณฟ้าเข้าใจจริงจังในเวลานั้น

เจ้าของร้านกาแฟข้างคลินิกผมเป็นคนใจดี   นั่นเป็นเรื่องจริงที่ผมเคยเห็น แต่ในอีกด้านหนึ่งที่ผมเห็น ถึงได้รู้ว่าคนอย่างคุณฟ้าก็หงุดหงิดเป็น!

สรุปสุดท้าย ไม่รู้เพราะหิว เพราะโมโห หรือเพราะรำคาญ  เจ้าของร้านกาแฟข้างคลินิกของผมก็ตรงลง ทำให้ผมหายใจคล่องคอขึ้น   และน่าจะใช้อีกสองวันกับสองคืนที่นี้ได้อย่างสบายใจ แต่ไม่ลืมกำชับคุณฟ้าเรื่องที่ว่า หากมีใครถามว่าผมกับคุณฟ้าคบกันได้ยังไง  คบกันเมื่อไร   และอาจมีอีกหลายคำถาม ให้คุณฟ้าปัดมาที่ผมให้หมด

เพราะอย่างนี้ไงครับ ผมถึงต้องตกอยู่ในวงล้อมของคนอีกสามคน   เริ่มตอบคำถามหลายคำถามไปก่อนหน้านี้ โดยได้แต่แอบมอง  ‘แฟนคนแรกของผม’  ที่กำลังยืนเคี้ยวตุ่ยๆ  ใบหน้ามีความสุขอยู่ข้างเตากับคนรักของน้องลม ช่วยกันปิ้งย่างอาหารทะเล  ก่อนจะมีมาบริการพวกที่เอาแต่กินอย่างพวกผมสี่คน   แอบเห็นว่าความเงียบของตินช่างเข้ากับความพูดน้อยของคุณฟ้าได้ดี

ไม่ใช่ความเงียบที่รายล้อมอยู่รอบตัวคนสองคนนะครับ  แต่เป็นการพูดคุยกันแบบที่ไม่มีอาการติดขัดของคนที่เพิ่งรู้จักกัน  แม้ไม่ได้ยินเสียงว่าคุยกันด้วยเรื่องอะไร  น่าจะมีหลายเรื่องเพราะดูจากสีหน้ามีเปลี่ยนไปหลากหลายมาก  มีบ้างที่หยุดเพราะปากกำลังเคี้ยว เมื่อกลืนลงคอก็กลับมาคุยกันใหม่  ดูเป็นบทสนทนาที่ผมอยากเข้าไปร่วมรับรู้ด้วย

คนที่ผมกำลังแอบมองอยู่ห่างๆ เลิกคุย   แล้วหยิบจานที่เต็มไปด้วยอาหารทะเลที่ปิ้งเสร็จ  เดินถือมาทางนี้ ก่อนจะวางลงบนโต๊ะตรงหน้า

“นี่ครับ”  คุณฟ้าพูดแค่นี้ตามประสาคนพูดน้อย

“ขอบใจครับ น้องฟ้า”  อิงแย่งผมพูด  ส่วนหนึ่งมองหน้าคุณฟ้าแล้วยิ้ม ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่  สุดท้ายคือน้องลมที่มองตามหลังคุณฟ้าไป   ไม่รู้ว่ามองคุณฟ้าหรือกำลังส่งความคิดถึงไปหาคนรักของตัวเองก็ไม่รู้ ผมว่าน่าจะอย่างหลังมากกว่า เพราะน้องลมหันกลับมาขอตัวไปหาคนของตัวเอง   หลังจากที่ก่อนหน้านี้ยิงคำถามใส่ผมซะพรุนไปแล้ว

น้องลมลุกไปแล้ว ไปยืนข้างติน ก่อนจะป้อนปลาหมึก (ผมคิดว่าเป็นปลาหมึกนะ) ให้คนรักถึงปาก

เห็นแล้ว.... ไม่ได้เจ็บเลยสักนิด อาการอกหักรักผิดหวังคงสลายไปจนไม่เหลืออะไรแล้วมั้งครับ


“แต่เมื่อตอนกลางวันคุณฟ้าบอกว่า คุณฟ้ากับคุณหมอเป็นแค่คนรู้จักกันนี่ครับ” ไอ้หนูจาไมมันถามขึ้นมาครับแล้วตามมาด้วยเสียงสนับสนุนจากเพื่อนของผม เจ้านายของเจ้าหนูจาไม

“นั่นสิ ฉันก็ได้ยินเหมือนหนึ่งเหมือนกัน มันยังไงแน่”

“ก็ตอนแรกไม่อยากบอก”  ผมตอบไปครับ  แต่กว่าจะตอบได้ก็หลังจากยกน้ำมีแอลกอฮอล์ขึ้นดื่มจนหมดแก้ว  ลูกน้องเพื่อนผมก็ดีมากครับ รีบแย่งแก้วจากมือไปชงให้ใหม่ แล้วยื่นกลับมาให้ชนิดที่ว่าสีเข้มได้ใจ คงกลัวว่าผมจะไม่เมา  มองแก้วในมือของคนชงกับเพื่อนผม สีก็ไม่ต่างกัน

ผมกับเพื่อนคงไม่เท่าไหร่หรอก แค่นี้เบาๆ แต่ไอ้ลูกน้องเพื่อนเจ้าคำถามนั่นสิ ผมเป็นห่วง จากที่กินเที่ยวมาด้วยกันบ่อยๆ หนึ่งไม่ใช่คนคอแข็งเลย ต้องหิ้วกลับบ้านทุกครั้ง

“โหยยยยย....คุณหมอ คิดจะปิดกันว่างั้น”

“อืม” ตอบสั้นๆ ตอบมากกว่าจำที่พูดไม่ได้ครับ เลยต้องสั้นเข้าไว้  จะได้จำได้ง่ายว่าพูดอะไรไปบ้าง คนมันโกหกนี่ครับ มันเลยพูดอะไรยาวๆ ไม่ได้ เดี๋ยวลืม

“แล้วนึกยังไงครับถึงกลับลำ เอามาบอกพวกผมเนี้ย”

น้องหนึ่งครับ ใช้คำซะ เอาผมส่ายหน้า แต่ก็ยอมตอบความเท็จไป

“ก็ไม่อยากปิดไง”  ตอบง่ายๆ เข้าไว้ครับ ยังคงคอนเซ็ป ตอบสั้น กระชับ และง่าย กันลืม

“แล้วคุณหมอกับคุณฟ้า.......หรือยังครับ”

ดูลูกน้องสุดที่รักของเพื่อนผมมันพูด  แล้วมันก็ละคำตรงกลางไว้ให้เติมเอง

“เดี๋ยวเถอะๆ”  ผมชี้หน้า คาดโทษ แต่ไมได้จริงจังครับ   รู้ๆ กันอยู่ว่าลูกน้องของเพื่อน มันนิสัยแบบนี้แหละ สอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่น   แถมยังทะลึ่งสุดกู่ ตัวเพื่อนผมก็เอาแต่หัวเราะครับ

“เอาแต่เดี๋ยวก็ไม่ทันการณ์ครับคุณหมอ เดี๋ยวไปเดี๋ยวมา เดี๋ยวก็หลุดมือเหมือนคุณลมหรอก แล้วอย่าหาว่าคณิตไม่ตื่น”  เจ้าตัวว่า

“เออน่า”

“เออน่า นี่หมายความว่าไงครับคุณหมอ หมายความว่า  ‘จัดการคืนนี้ง หรือเปล่าครับ”  ว่าแล้วเจ้าตัวก็ทำหน้าหื่น หัวสมองน่าจะคิดไปไกล   จนผมอยากเคาะกะโหลก แต่เพราะเห็นหน้าตี๋ที่เคยขาวขึ้นสีแดงด้วยแรงเหล้ายิ้มจนตาหยี บอกอาการว่าเมาได้ที่แล้ว เลยไม่อยากทำอะไร

“เมาแล้วนะครับหนึ่ง”  อิงพูดดีกับลูกน้องเสมอ เป็นนิสัยครับ

“ไม่เมาๆๆ   ผมยังดื่มได้อยู่คร๊าบบบบอส”  คนไม่เมาแต่หน้าแดงเทือก  ลามไปจนถึงคอ ส่ายหน้าโบกมือบอก  แขนที่พ้นเสื้อยืดสีเหลืองขับผิวที่เคยขาว (ขาวมากตามแบบลูกคนจีน) ดูออกว่าแดงมากแล้ว

“เดี๋ยวผมมานะครับบอส คุณหมอ”  จู่ๆ หนึ่งก็พูดขึ้นมา แล้วลุกเดินไปที่สะพาน  น่าจะกลับเข้าไปที่รีสอร์ท ผมมองตามเห็นเจ้าของรีสอร์ทเดิมมาเจอกันพอดี  แล้วก็เดินกลับไปด้วยกัน เจ้าของรีสอร์ทพอคุ้นหน้าอยู่นิดหน่อย เคยไปนั่งดื่มเหล้าด้วยกันครั้งสองครั้งเพราะเป็นเพื่อนของหนึ่ง  แต่ไม่น่าใช่เพื่อนของติน เพราะสองครั้งที่เจอกันสองคนนี้ดูไม่กินเส้นกันตลอด ไม่รู้เพราะอะไร เห็นว่าหนึ่งต้องคอยกันคนทั้งคู่ตลอดเวลา สงสารหนึ่งเหมือนกัน นั่นก็เพื่อน นี่ก็เพื่อน

.
.
.
.

“แน่ใจว่าที่พูดมาเป็นเรื่องจริง?”   เลือกจังหวะถามได้ถูกมาครับคุณเพื่อน  อิงถามผมเสียงจริงจังหลังจากหนึ่งลุกออกไป

โดนคำถามนี้เข้าไป ผมรีบยกเหล้าสีเข้มขึ้นดื่ม  ไม่กล้าสบตาอิงมันเลยครับ เลยหันไปทางคุณฟ้าแทน คุณฟ้ากำลังสนุกอยู่กับการกินครับ  ไม่ได้สนใจคู่รักที่กำลังยืนป้อนน้ำป้อนหมึกกันตรงหน้าเลย

“ไอ้หมอ อย่าเงียบ”

“ไม่ได้เงียบ กำลังคิดหาคำตอบอยู่”

น่าจะรู้กันอยู่ว่าสิ่งที่ผมตอบคำถามก่อนหน้า ไม่ใช่ความจริง พูดง่ายๆ ผมกำลังโกหก

ผมกับอิงคบกันมานานมาก ตั้งแต่ประถม เรียนด้วยกันมาตลอด มหาลัยแม้จะอยู่กันคนละคณะแต่ก็มหาลัยเดี๋ยวกัน บ้านก็อยู่ใกล้กัน

เคยเห็นคนเขาพูดกันไหมครับว่า ‘มองตาก็รู้ใจ’ แต่ผมกับอิง ไม่ต้องใช้คำนี้มันเลยครับ เอาเป็นว่า ‘แค่ฟังเสียงก็รู้ไปถึงตับไตไส้พุง’ กันแล้ว

“แกกำลังโกหก?”

“ก็.....” ไปไม่ถูกครับ จะโกหกก็ทำไม่ได้

“นี่เพื่อนนะโว้ย” มือมันชี้หาตัวเอง

“อืม”

“อืม อะไร?”

“ก็อย่างที่แกเข้าใจ”

ผมถอนหายใจยาว จำใจพูดความจริงออกมา

“ฉันแค่ขอร้องให้คุณฟ้าแกล้งเป็นแฟนด้วย ไม่อยากโกหกนะโว้ย แค่...อืม...แค่ไม่อยากมีปัญหา  เข้าใจใช่ไหมอิง”

“เข้าใจ”  อิงพูดสั้นๆ แปลว่าเพื่อนผมมันเข้าใจครับ โดยไม่ต้องอธิบายอะไรมาก

“เข้าใจแล้วก็ช่วยห้ามหนึ่งด้วยว่าอย่างพูดทะลึ่งต่อหน้าคุณฟ้า เดี๋ยวเค้าจะทำตัวไม่ถูก”  ผมบอกกันเอาไว้ครับ กลัวลูกน้องของเพื่อนแผงฤทธิ์ กับผมไม่เท่าไร คนคุ้นเคยกัน ไม่ถือสา  แต่กับคุณฟ้า ผมกลัวคุณฟ้ารับไม่ได้

“เดี๋ยวจะคอยปรามๆ ให้”

“ขอบใจ”


“หนึ่งล่ะครับบอส”  ตินที่เข้ามาถาม น้ำเสียงไม่สู้ดีครับ

“เห็นหายไปกับคุณชิต”

“ชิต!”  เรียกว่าคำรามในคอเลยครับ ผมไม่เคยเห็นคนของน้องลมในภาคนี้ครับ ดูโกรธมาก แต่พอเดาสาเหตุออกครับ ตินไม่ชอบชิต แล้วหนึ่งหายไปกับชิต นี่แหละคือสาเหตุความโกรธ  แต่สาเหตุของเรื่องทั้งหมดผมไม่รู้

แล้วตินก็หันหลังเดินออกไป แต่ไม่ได้เดินกลับไปหาน้องลมนะครับ  ตินเดินไปทางสะพาน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ากำลังไปตามหนึ่งกลับมา

“ตินจะไปไหน?”

ผมได้ยินเสียงน้องลมตะโกนถาม แล้วตินก็ตะโกนตอบกลับมา

“เดี๋ยวติน ขอไปตามหนึ่งก่อนนะลม”

ผมว่าไม่ใช่แค่ตามตัวเพื่อนแล้วครับ ผมว่าน่าจะเกิดศึกชิงเพื่อนขึ้นแน่ๆ

“เอาอะไรเพิ่มอีกไหมครับ”  เป็นอีกครั้งที่คุณฟ้าถือจานอาหารมาให้พวกผม  จานสองใบกับอาหารเต็มจานที่คุณฟ้านำมาบริการถึงที่  ผมมองอาหารบนโต๊ะ (พวกของปิ้งย่างทั้งนั้น) มันเหลือเยอะมาก แปลว่าวงสนทนามีแค่เหล้าที่หมดไปหลายขวด แต่อาหารยังเหลืออยู่เต็ม

“ขอปลาหมึกเพิ่มครับ”

ไม่ใช่คำพูดผมนะครับ ผมไม่ใช่ประเภทพวกคลั่งปลาหมึก มันเป็นเสียงของไอ้คนที่ชอบกินปลาหมึกต่างหาก ใช่แล้วครับ อิงมันชอบกินปลาหมึกมาก   ถ้าสังเกตให้ดีปลาหมึกในจานที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ไม่มีเลยครับ เพราะโดนอิงจิ้มเข้าปากไปจนหมด

“ครับ” คุณฟ้ายิ้มรับ “เดี๋ยวผมไปปิ้งมาเพิ่มให้ครับ”


“น่ารักดีนะ”

ผมหันขวับไปมองคนพูด

“ว่าอะไรนะ” คิดว่าตัวเองน่าจะฟังผิด เพราะผมมัวแต่มองตามคุณฟ้าไป น่าจะสูญเสียประสาทการได้ยินไปมากหน่อย

“น่ารักดีนะ” ประโยคเดิมกับเมื่อครู่เป๊ะ เมื่อกี้ผมไม่ได้ฟังผิดไปจริงๆ

“คุณฟ้าหรือน้องลม”  รู้เลยครับว่าคำถามของผมมันช่าง...ใช้ไม่ได้เลย เมื่อไอ้เพื่อนสนิทที่สุด มันตอบกลับมา

“ไอ้หมอ ฉันไม่คิดว่าแกจะโง่  ฉันมีเหตุผลอะไรจะไปพูดถึงน้องลมวะ  คนกันเอง เห็นกันอยู่บ่อยๆ  จะชมทำขนุนอะไร”  เพื่อนผม มันพูดถูกครับ แต่ผมก็ไม่ได้โง่แค่แกล้งถาม

“อืม...”

“อืมอะไร? ยอมรับว่าโง่?”

“อืมที่ว่า คุณฟ้าน่ารัก พอใจยังวะ”  เป็นอีกครั้งที่ผมหลบตา เพราะอิงมันยิ้มอย่างรู้ทัน  ผมเลยแกล้งมองฟ้ามองอากาศไปทั่ว ท้องฟ้าคืนนี้สวยครับ ฟ้ามีจันทร์เสี้ยวเล็กๆ ลอยอยู่   ฟ้ามีดวงดาวน้อยใหญ่ประดับระยิบระยับ ป้องท้องฟ้าที่ไม่มีวันได้เห็นในกรุงเทพ

ฟ้าบนท้องทะเลสวยครับ น่ามอง

ส่วนฟ้าที่อยู่ข้างเตา น่ามองเช่นกัน

มองแล้วพาลให้คิดถึงเรื่องเมื่อตอนบ่ายและตอนค่ำ ก่อนหน้านี้...

เรื่องตอนบ่ายมันมีมิติที่ชวนให้ผมเคลิ้ม แต่เรื่องตอนค่ำที่ห้องน้ำ มันทำเอาผมช็อก หยุดหายใจทันทีที่เห็น ‘คุณฟ้าเปลือยใต้ฝักบัวที่น้ำไหลเป็นสาย’


“คิดอะไรอยู่” คำถามที่มาพร้อมกับเหล้าสีเข้มในแก้ว  ไม่ต่างจากในมือของคนถาม เมื่อหนึ่งไม่อยู่เลยขาดคงชงเหล้า เพื่อนผมมันคงขี้เกียจชงเอง เลยจัดหนักแบบเพรียวๆ มาให้

“เปล่า”  พูดไปจิบไปครับ เทลงคอรวดเดียวคงไม่ดีเท่าไหร่

“หึ...” มันหัวเราะในลำคอ กระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมด

“ก็ลองจีบจริงๆ ดูก็ได้ คุณฟ้าก็น่ารักอยู่”  อิงบอกผม ตรงกับความคิดของผมเหมือนกัน แต่มันติดอยู่ที่ว่า ผมไม่มั่นใจว่าสถานการณ์ระหว่างคุณฟ้ากับคนรักเก่า ว่าจะกลับมาคืนดีกันหรือเปล่า อันนี้ผมกลัวจริงๆ  มันคล้ายเรื่องของน้องลม อาจต่างกันแค่ประเด็นเล็กน้อย

“ฉันไม่แน่ใจ กลัวเหมือนน้องลม”

“คิดมากน่า”

“เพราะมันมีเรื่องให้คิดไง”
ผมพูดได้แค่นี้ อิงก็ไม่ถามอะไรเพิ่ม คงเพราะเราเห็นคุณฟ้ากับน้องลมเดินถือจานคนละใบมาทางนี้


“ได้แล้วครับ” คุณฟ้าว่า พลางวางจานที่มีแต่ปลาหมึกบนโต๊ะ ข้างจานของน้องลม  แล้วทำท่าเหมือนจะเดินกลับ แต่โดนน้องลมคว้ามือไว้ก่อน

“พอแล้วครับคุณฟ้า แค่นี้ก็เหลือเต็มโต๊ะแล้ว”  น้องลมว่า  โบ้ยหน้าให้ดูอาหารในจานบนโต๊ะ ก่อนจะดึงคุณฟ้าให้นั่งลงด้วยกัน (พวกเรานั่งกันบนเบาะครับ)

“คุยอะไรกันครับ หน้าเครียดเชียว” น้องลมถาม คาดว่าน่าจะถามผมคนเดียว ดูหน้ามือชงจำเป็นอย่างเพื่อนผม มันก็ดูปกติดี

“เปล่าครับน้องลม”

“จริงอ่ะ” น้องลมถามอีก ไม่เชื่อที่ผมพูดซะงั้น

“เหนื่อยไหมครับคุณฟ้า” ผมอยากเปลี่ยนเรื่อง เลยชวนคุณฟ้าคุย เห็นมือชงจำเป็นยื่นแก้วเหล้าให้น้องลม ไม่กี่อึดใจก็ยื่นมันให้คุณฟ้า

“ขอบคุณครับ.....ไม่เหนื่อยครับคุณหมอ ผมว่าสนุกดี”  ประโยคแรกคุณฟ้าบอกอิง ประโยคต่อมาบอกผมครับ  คำว่าสนุกดีของคุณฟ้าคงหมายถึงการได้อยู่กับของโปรดมากกว่า  มือที่กำลังจิ้มปลาหมึกเข้าปากชะงัก  แล้วเปลี่ยนทิศทางมาจ่อที่ปากผมแทน  แต่แล้วก็เปลี่ยนใจอีกครั้ง  ทั้งที่ผมกำลังจะอ้าปากงับ

อย่าเข้าใจผิดว่าคุณฟ้าแกล้งผม  โดยดึงเอาปลาหมึกชิ้นนั้นเข้าปากตัวเองครับ  คุณฟ้าแค่นึกขึ้นได้ว่า

“คุณหมอไม่กินเผ็ด”  ได้ผลครับ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมเคยบอกคุณฟ้า คุณฟ้าจำได้แม่นเลย

“นี่ครับ”  ปลาหมึกชิ้นใหม่มาจ่อถึงปากผมอีกครั้ง ผมยิ้มกว้าง อ้าปากงับเข้าปาก เคี้ยวไปยิ้มไปครับ

“มดกัดไหมครับพี่อิง”  คาดว่าผมกำลังโดนน้องลมแซว

“ไม่นี่ครับ”

น้องลมทำหน้าเซ็งเพราะเพื่อนผมไม่เก็ทมุก  คว้าแก้วเหล้าขึ้นมาจิบแล้วพึมพรำเสียงเบาแต่ได้ยินกันหมด

“ทำไมตินไปตามหนึ่งนานจัง”

นั่นสิครับ นานมาก มันจะชั่วโมงแล้วมั้งครับ

“นั่นไงครับ มาแล้ว”

พูดถึงไม่ทันไร เสียงทะเลากันของคนสองคนก็ดังมาให้ได้ยิน พอเดินใกล้เข้ามาถึงรู้ว่าหน้าหงิกกันทั้งคู่ แต่หน้าของตินกลับมี.....รอยช้ำที่มุมปากทั้งสองข้าง

“ตินไปทำอะไรมา!”  เสียงน้องลมตะโกนลั่นทะเล ลุกพรวดขึ้นไปจับหน้าคนรักพลิกไปพลิกมา คล้ายจะหารอยแผลเพิ่ม
“ไม่มีอะไรครับลม”
“ไม่มีได้ไง ก็ปากแตกขนาดนี้ ไปชกกับใครมา”
“.........................”
“หนึ่ง ตินไปมีเรื่องกับใคร”  ถามคนรักไม่ได้ น้องลมจึงหันไปถามเอากับอีกคนที่มาด้วยกัน   หนึ่งอึกอัก อ้าปากเหมือนจะตอบ แต่ก็เงียบ เดินเลี่ยงมานั่งข้างบอสตัวเอง   ผมพอจะเดาออกครับว่าตินไปมีเรื่องกับใคร

“จะทะเลาะกันไหมครับ” คุณฟ้าขยับเข้ามาใกล้ผม กระซิบถามเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน
“ผมว่าไม่นะครับ” ปากบอกไปแบบนั้น แต่ใจคิดสวนทางกับปากครับ แบบนี้ทะเลาะกันชัวร์
“หรือครับ”
คุณฟ้าเหมือนไม่อยากเชื่อ
“คงงั้นครับ”  พอผมหันกลับมา น้องลมก็เดินหนีไปแล้วครับ
“แบบนี้แถวบ้านผมเรียกว่าทะเลาะกันแล้วครับคุณหมอ”  คุณฟ้ากระซิบบอกอีก ผมได้แต่ยิ้มๆ สถานการณ์มันทำไมเป็นแบบนี้ไปได้

“บอสครับ ผมฝากดูหนึ่งมันด้วยนะครับ อย่าให้มันออกไปนอกห้องเด็ดขาด”  พูดแค่นั้นล่ะครับ เจ้าตัวก็วิ่งตามคนรักไป ไม่สนใจรอฟังคำตอบจากบอสของตัวเองเลย

“มีเรื่องอะไรกันหนึ่ง”  อิงถามลูกน้องตัวเองที่นั่งหน้าบึ้ง  ชงเหล้าให้ตัวเอง ก่อนยกดื่มรวดเดี๋ยวหมด  ถึงค่อยตอบคำถาม

“เปล่า”

สั้น กระชับ แต่ไม่ได้ใจความอะไรเลย

“ถือว่าตอบคำถามของเจ้านายคุณได้ไหม?”  ท่าทางเพื่อนของผมมันอยากรู้จัด หน้าตาก็เริ่มจริงจังขึ้น ก่อนเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ เมื่ออีกฝ่ายสวนกลับมาว่า

“บอสเป็นแค่เจ้านาย ไม่ใช่เจ้าชีวิต”

“หนึ่ง!”

“ก็มันจริง”

“หนึ่ง!!”

เอาซะจุกครับ ไม่แปลกใจที่อิงมันจะโกรธจนหน้าแดง พยายามหาคำตอบครับว่าคนที่พูดจากสนุกสนาน เฮฮา อารมณ์ดีตลอดเวลาอย่างหนึ่ง ทำไมถึงได้อารมณ์ขึ้นขนาดนี้ แม้กระทั้งเจ้านายของตัวเองก็สวนกลับอย่างไม่เกรงใจ

.
.
.
.
.
.


“คุณหมอจะอาบน้ำก่อนไหมครับ”

คุณฟ้าถามผมเมื่อเราเข้ามาในห้องพัก  หลังจากที่บรรยากาศข้างนอกมันเริ่มหมดสนุก  คิดมาตลอดทางครับว่างานนี้อาจจะไม่สนุก  มันก็ไม่สนุกจริงๆ ถึงเรื่องที่ทำให้หมดสนุกจะไม่ใช่เรื่องของผม
บอกตามตรงว่าผมรู้สึกเกรงใจคุณฟ้ามากที่ทำให้ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้

“คุณฟ้าอาบก่อนเถอะครับ”

“ครับ”

คุณฟ้าเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ สักพักผมก็ได้ยินเสียงน้ำตกกระทบพื้น  ห้องน้ำไม่มีประตูมันอันตรายต่อคนที่อยู่ข้างนอกดีเหลือเกิน ผมพยายามทำตัวให้วุ่นวายเข้าไว้ครับ  เดินไปหยิบโน่นนี้ไปเรื่อย ทั้งที่ในห้องพักก็ไม่มีอะไรมาก  เพื่อจะทำให้จุดรวมความสนใจพุ่งไปที่เสียงน้ำกระทบพื้นกระทบเนื้อหนังมังสาที่ผมเคยเห็น

ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...

เสียงเคาะประตูดังรัวชนิดที่ว่าไม่เกรงใจเจ้าของห้องเลย  ผมรีบเดินไปเปิดประตูทันที รู้ครับว่าใครมาเคาะ เพราะเสียงตวาดแว่วดังมาแต่ไกลแล้วครับ

เปิดประตูออกมาก็เห็นคนตัวไม่ตรงยืนเอนไปเอนมา เกาะขอบประตูไว้มั่น

“เอามาฝากคุณหมอครับ เผื่อได้ใช้”  พอเหลือบมองอิงที่ยืนทำหน้าเอือมๆ อยู่ด้านหลัง บุ้ยหน้าให้ผมรับถุงในมืออีกคนที่ยืนมาให้ ตีความหมายว่าจะได้หมดเรื่องหมดราวสักที

“.................”

ผมอึ้ง เมื่อเปิดถุงดูว่าคืออะไร
ถุงยางกับหลอดเจล
เอามาให้ผมทำไม?
“ถูกใจละเซ่ครับคุณหมอ”

มองข้ามหัวคนเมาไปหาคนด้านหลังอีกครั้ง หน้าเพื่อนผมมันเซ็งได้ที่เหมือนกัน  สงสัยจะระอาจนไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่พยักหน้าให้ผมรับๆ ไป  ความหมายเดิมครับจะได้หมดปัญหา

“งั้นผมเอาแค่นี้นะครับหนึ่ง  มากกว่านี้คงไม่ไหว”  ผมไหลไปตามสถานการณ์ครับ พูดกับคนเมา ขัดใจไปก็ไม่ดีครับ เดี๋ยวเรื่องไม่จบสักที

ผมหยิบเอาของพวกนั้นออกมาจากถุงแค่อย่างละอัน  พอเป็นพิธี ไม่ขัดศรัทธาคนเมาที่อุตสาห์ไปหามาให้ แล้วคืนที่เหลือให้เจ้าของ (สองกล่องกับสองหลอดครับ =*=)

“กลับได้หรือยัง?”  เพื่อนผมถามเสียงเข้ม อิงมันไม่ใช่พวกมีความอดทนสูงอย่างผม  ที่มันยังใจเย็นอยู่ก็คงเพราะเป็นหนึ่ง

“กลับ...................แต่ไม่ไปกลับห้อง จะไปหาชิต”

“หนึ่ง!”

“ก็ทำไม ผมจะไปหาเพื่อน”  เจ้าตัวไม่พูดเปล่า ผลักอกเจ้านายตัวเอง ก่อนเดินถือถุงเป๋ไปเป๋มาไปอีกทางหนึ่งที่ไม่ใช่ห้องพัก

“เกิดอะไรขึ้น”  ผมถาม เห็นอิงมันกดอารมณ์โกรธอยู่ครับ น้อยครั้งที่จะเห็นมันเป็นอย่างนี้ แต่กรณีของหนึ่งครั้งแรกครับที่ผมเห็นเมาแล้วเป็นแบบนี้

“ไม่รู้ว่ะ  เดินเข้าไปในห้องก็เห็นเตียงมันยับยู่ยี่ แล้วมีคราบ”

“ห๊า!”

ไม่ต้องอธิบายว่าคราบคืออะไร เข้าใจในทันที

“แล้ว....”

“ไม่รู้ว่ะ แม่ง...”

น้อยครั้งครับที่อิงมันจะพูดคำหยาบออกมา

“ไปแล้ว แล้วในมือน่ะ หยิบไปแล้วใช้ให้หมดนะ เดี๋ยวมันจะเสียของ”

.
.
.
.
.
.
.











.
.
.

“คุณหมอครับ นี่มัน”

ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ เจอคำถามของคุณฟ้าทันที

‘นี่มัน’ ของคุณฟ้าอยู่ในมือเล็กๆ นั้นครับ

‘นี่มัน’ ของคนเมาที่อุตสาห์ลากสังขารเอามาให้ผม

‘นี่มัน’ ของที่เพื่อนสนิทบอกให้ใช้ให้หมด ไม่งั้นเสียของ

‘นี่มัน’ ถุงยางกับเจลหล่อลื่น ที่ผมวางไว้บนโต๊ะ




>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>HAPPY Na Ka<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<

ปล บวกหนึ่งให้ทุกคอมเม้นท์แทนคำขอบคุณค่ะ


หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 8 นี่คำถามที่ควรมีคำตอบ {19/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: atommic ที่ 20-11-2011 00:00:07
เย้ๆๆมาแล้ว o13

หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 8 นี่คำถามที่ควรมีคำตอบ {19/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 20-11-2011 00:46:48
งง
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 8 นี่คำถามที่ควรมีคำตอบ {19/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 20-11-2011 01:09:44
ค้างมาต่อด่วน
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 8 นี่คำถามที่ควรมีคำตอบ {19/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 20-11-2011 01:14:43
บรรยากาศกำลังดีๆ ดันมีเรื่องซะงั้น
ปล.คุณหมอจะจัดการกับของที่ได้มายังไงคะ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 8 นี่คำถามที่ควรมีคำตอบ {19/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 20-11-2011 06:32:37
แรงตรงคุณฟ้าอาบเสร็จพอดีนี่แหละ >"<
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 8 นี่คำถามที่ควรมีคำตอบ {19/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 20-11-2011 06:59:03
รออ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 8 นี่คำถามที่ควรมีคำตอบ {19/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 20-11-2011 11:37:59
หนึ่งกับชิต :really2:ตอนไหนหว่า
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 8 นี่คำถามที่ควรมีคำตอบ {19/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 20-11-2011 15:13:39
งง

'' งง '' ตรง  นี่มันรึเปล่าค่ะ
ก็แค่คุณหมอลืมวางถุงยางกะเจลไว้หัวเตียง แล้วน้ำฟ้าออกมาเจอเลยเอ๋อ แบบว่านี่มัน คืออาราย ไงค่ะ
แต่ถ้า '' งง '' ตรงหนึ่งกะชิต 
ต้องติดตามตอนต่อไป 
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 8 นี่คำถามที่ควรมีคำตอบ {19/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 20-11-2011 21:35:06
โอ๊ย! ชอบคู่พี่หมอ...อย่าลืมใช้ให้หมดนะครับ555...เดี๋ยวเสียของ
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 8 นี่คำถามที่ควรมีคำตอบ {19/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 20-11-2011 22:11:00

โอ๊ะ ท่าจะแย่ซะแล้วนะคุณหมอ
ฮ่าๆๆ 55555 จะแก้ตัวยังไงดีละทีเนี่ยะ
หนึ่งกับชิต ? คราบ ? ยับยู่ยี่ ?
โฮกกกก จินตนาการล้ำเลิศมาก
ตกลงเป็นไงมาไงหว่า

รออ่านตอนต่อไปนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 9 ความสัมพันธ์ไร้ซึ่งความรัก {21/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 21-11-2011 10:41:24
ตอนที่ 9 ความสัมพันธ์ไร้ซึ่งความรัก


ผมได้ยินเสียงน้ำกระทบพื้นห้องน้ำชัดเจน ขณะที่ผมสวมเสื้อเสร็จและกำลังจะสวมกางเกง อดนึกถึงสภาพคุณหมอตอนอาบน้ำไม่ได้ ผมไม่ได้ทะลึ่งนะครับ  แค่คิดว่าถ้าผมเดินเข้าไปในห้องน้ำตอนนี้ คุณหมอจะตกใจจนช็อกแล้วสลบคาห้องน้ำหรือเปล่าก็เท่านั้นเอง  สาเหตุจากที่ผมจู่โจมไปตอนที่คุณหมอยังไม่ทันตั้งตัว

บอกแล้วไงครับว่าแค่  ‘คิด’  ไม่ได้อยาก  ‘เห็น’  สาบานได้ครับ


ผมล้มตัวลงนอน หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางมาทั้งวัน (ตอนบ่ายนอนแล้วแต่มันก็ยังไม่เต็มอิ่ม) แถมยังเจอเรื่องหนักๆ อีก ทั้งเรื่องที่คุณหมอขอร้องให้ผมช่วยแกล้งทำเป็นแฟนด้วย แล้วยังมีเรื่องชวนเครียดของอีกสองคู่  คุณตินกับคุณลม  คุณอิงกับคุณหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เหมือนที่คุณหมอก็คงไม่รู้สาเหตุเหมือนกัน  บอกตามตรง ผมไม่ชินกับสถานการณ์แตกหักแบบนี้ครับ ถึงจะไม่รุนแรงมากผมก็ไม่ชอบ มันชวนให้ปวดหัว  ต้องคิดหาคำตอบว่าอะไรเป็นสาเหตุ เหมือนๆ ที่นนท์กับแดนเป็นกันบ่อย ทะเลาะกันจนเรียกว่า ‘เกลียดขี้หน้ากันสุดๆ’

นอกจาเหนื่อยแล้ว ผมยังรู้สึกมึนๆ นิดๆ  เนื่องจากดื่มไปหลายแก้ว ว่าแล้วก็นอนหลับให้เต็มอิ่มดีกว่าครับ เผื่อตอนเช้าจะได้ลุกไปดูพระอาทิตย์ขึ้น   คุณลมชวนผมตอนที่เราปิ้งอาหารทะเลด้วยกัน คุณลมนิสัยดีน่ารักครับ แต่คงจะเจ้าโมโหอยู่ไม่น้อย

กลิ่นผ้านวมผืนใหญ่ผืนเดียวบนเตียงที่ผมกับคุณหมอต้องใช้ร่วมกันหอมมากครับ เมื่อผมดึงมาขึ้นมาห่มตัวจนถึงปลายจมูก

เอ๊ะ! นั่นมัน?

ผมเห็นอะไรบางอย่างแปลกปลอมอยู่ในห้อง บนโต๊ะข้างเตียง ฝั่งที่ผมเว้นว่างไว้ให้กับคุณหมอ

มันใช่สิ่งที่ผมคิดหรือเปล่า เพื่อความมั่นใจผมขยับเข้าไปใกล้สิ่งๆ นั้น ชัดเจนจนไม่ต้องหยิบขึ้นมาดู แค่มองก็รู้ว่ามันคืออะไร...

กล่องถุงยางกับเจลหล่อลื่น...

ไม่เคยใช้เองแต่เคยเจอบ่อยในกระเป๋าของนนท์ รวมถึงในคอนโดของนนท์ด้วย

มันมาอยู่นี่ได้ไง?  ลืมไปครับ ไม่ควรถามว่ามันมาอยู่นี่ได้ยังไง ผมควรจะถามว่า ‘มันมาอยู่ด้วยเหตุผลอะไร’ มากกว่า

คุณหมอกำลังคิดอะไร?...กับผมหรือเปล่า?

เหลือบมองไปที่กรอบประตูห้องน้ำ เสียงน้ำยังไหลกระทบพื้น  บอกว่าคนในนั้นยังไม่เสร็จภารกิจ ผมกลับมานอนที่เดิม นอนตะแคงมองของบนโต๊ะนั้นอีกครั้ง

กล่องถุงยางกับเจลหล่อลื่น


คุณหมอเอามันมาทำไม?

คุณหมอเอามันมาใช้กับใคร?

คุณหมอเอามันมาใช้กับผมใช่ไหม?


โอ๊ยยยยยยย...


คำถามพวกนี้มันดังวนเวียนอยู่ในหัว ปวดจนต้องลุกขึ้นนั่งสะบัดหัวไปมา มองไปยังห้องน้ำ เสียงน้ำกระทบพื้นเงียบไปแล้ว ผมทนไม่ไหวครับ เดินเข่าไปหยิบไอ้ของสองสิ่งขึ้นมา พอหันหลังกลับเจอกับคุณหมอเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ ในสภาพที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันท่อนล่าง

“คุณหมอครับ นี่มัน”

“..........................” คุณหมอนิ่งไปทันที ก่อนจะค่อยๆ ลดผ้าขนหนูผืนเล็กในมือที่ขยี้ผมเปียกชื้นให้แห้งลงช้าๆ สีหน้าบอกอาการว่าตกใจ แต่ไม่ถึงกับช็อก

“.........อะไรครับ”  ผมนั่งบนเตียงชูของสองสิ่งให้คุณหมอดูชัดๆ  จะได้รู้ว่าผมเห็นมันแล้ว และต้องการคำตอบ  ทั้งที่ผมพอจะรู้คำตอบอยู่แล้วก็เถอะ

ถุงยากับเจลหล่อลื่น  เค้ามีไว้เพื่ออะไรกันล่ะ

ถ้าไม่ใช่...

ถ้าไม่ใช่...เอาไว้ป้องกันกับช่วยเหลือให้ไปถึงสวรรค์ชั้นเจ็ด

“เอ่อ.....มัน....มัน...ถุง... ” คุณหมออึกฮัก ทำหน้าเหมือนมันตอบยากเต็มประดา

“ถ้าคุณหมอจะตอบว่ามันคือถุงยางกับเจล  อันนี้ผมรู้”

“......................” หน้าคุณหมอดูจ๋อยไปเลย แทบไม่มีสี

“แต่ที่ผมอยากถามคือคุณหมอเอามาไว้ใช้กับผมหรือครับ”  ถามตรงไปไหมครับ ไม่รู้ล่ะ ผมไม่อยากปวดหัวไปมากกว่านี้ มันเลยต้องถามไปตรงๆ เอาให้ได้คำตอบที่พอใจ ดูจากสถานการณ์ในห้องที่มีกันแค่สองคน ของพวกนี้ไม่เอามาไว้ใช้กับผมแล้วจะไว้ใช้กับใคร  ผมไม่ได้คิดมากนะครับ แต่มันต้องคิด แล้วคุณหมอก็สวนกลับมาอย่างไวและยาวเยียดว่า

“เปล่าครับ ผมไม่ได้คิดแบบนั้นกับคุณฟ้าเลยนะครับ  สาบานได้  คือหนึ่งเอามาให้ผมตอนที่คุณฟ้าอาบน้ำอยู่  เขาเห็นว่ามันจำเป็นต้องใช้ ในฐานะที่เรา....เราเป็นแฟนกัน”  ประโยคหลังคุณหมอพูดเสียงเบามาก แต่ผมก็ได้ยินครับ

คุณหมอบอกมางี้  ผมควรจะเชื่อใช่ไหมครับ

“คุณฟ้าไม่เชื่อหรือครับ” คุณหมอถามกลับมาเหมือนเดาความคิดผมออก เป็นใครก็เดาออกเถอะ

“ไม่ใช่ไม่เชื่อครับ แต่มันแค่ชวนให้คิด” ชวนให้คิดไปไกลด้วยแหละ

“ผมขอโทษครับ ผมไม่น่ารับของจากหนึ่งมาเลย แต่มันจำเป็นนะครับ”

“ห๊ะ...จำเป็น?”

“เปล่าครับ ไม่ใช่อย่างที่คุณฟ้าคิด คือหนึ่งเขาเมามาก ผมเลยจำเป็นต้องรับเอาไว้ ไม่เอาเดี๋ยวก็จะโวยวายอีก เข้าใจใช่ไหมครับ”   สีหน้าจริงจังเข้ากับน้ำเสียงดีครับ คุณหมอคงไม่ได้โกหก

“ครับ ผมเข้าใจ” เห็นภาพเลยครับ ว่าคุณหนึ่งโวยวายเป็นยังไง ก็เพิ่งเห็นฤทธิ์เดชไปเมื่อชั่วโมงที่แล้วนี่เอง ใครห้ามฟังที่ไหน กรอกเหล้าเข้าปากยังกับน้ำ แถมยังทำท่าจะโดดลงทะเลอีก ผมละเสียวแทน โชคดีที่คุณอิงคว้าตัวไว้ทัน  แบกกลับห้องทั้งที่อีกฝ่ายโวยวายลั่น ดีนะครับที่คุณหนึ่งตัวไม่ใหญ่มาก (แต่ตัวโตกว่าคุณลมนะครับ ส่วนผมแทบจะไล่เลี่ยกับคุณหมอ คุณอิงและก็คุณติน  ติดที่ผอมกว่า แต่ความสูงสูเสียด พอเดินด้วยกันแล้วไม่เกิดหลุมอากาศครับ)

“ขอบคุณครับที่เชื่อผม”  เสียงนุ่มๆ ของคุณหมอบอกมาอีกครั้ง ฟังแล้วรู้สึกดีขึ้นมาประหลาด ผมชอบคำพูดนี้ของคุณหมอจัง

‘ขอบคุณครับที่เชื่อผม’  คำแบบนี้ ผมไม่เคยได้ยินจากปากของนนท์เลยสักครั้ง เปล่านะครับ ผมไม่ได้คิดเปรียบเทียบคุณหมอกับนนท์ มันแค่เป็นความคิดที่เผลอหลุดลอยไปถึงคนที่ผมรัก...เท่านั้นเอง

ส่งยิ้มให้คุณหมอไป ยืนยันว่าผมไม่ติดใจอะไร เมื่อคุณหมอยืนยันอย่างนั้นผมก็ต้องเชื่อสิครับ เอาของของคุณหนึ่งที่หยิบยื่นมาให้ด้วยความหวังดี  โดยรู้เท่าไม่ถึงความจริงว่าผมกับคุณหมอเป็นแค่คนรู้จักกัน ไม่ใช่แฟนกันอย่างที่บอกทุกคนไปหรอก

‘มันก็แค่เรื่องหลอกๆ กลับกรุงเทพไปก็น่าจะจบ’

ไม่มีเหตุผลไหนที่จะทำให้ผมไม่เชื่อคำพูดของคุณหมอ คุณหมอเป็นคนดีนะผมว่า สาวยีนก็ยืนยัน คงไม่คิดทำอะไรตื้นๆ กับผมแน่ๆ ที่สำคัญผมมันก็ไม่ได้น่าพิศวาสขนาดนั้น นนท์เองยังไม่คิดจะทำอะไรผมเลยด้วยซ้ำ ที่ผมถามคุณหมอไปแบบนั้นก็ถามตามความอยากรู้ครับ ได้คำตอบแล้วก็แล้วกันไป ไม่คิดมาก ที่สำคัญผมลืมไปได้ยังไงว่าเมื่อตอนค่ำคุณหมอยังตกใจจนช็อกที่เห็นผมยืนตัวเปลือยอยู่ในห้องอาบน้ำ แปลว่าคุณหมอไม่ได้คิดอะไรกับผมเลยจริงๆ

กล่องถุงยางกับเจลหล่อลื่น มันก็แค่ของที่คุณหนึ่งผู้หวังดี นำมาฝาก หวังให้คุณหมอเอาไว้ใช้กับผม...

หายปวดหัวแล้วครับ หลังจากได้คำตอบจากคุณหมอ ผมวางไอ้ของสองอันไว้บนโต๊ะข้างเตียงแต่ไม่ใช่ตัวเดิม ผมวางมันไว้ข้างเตียงผมครับ  ก่อนจะลืมตัวลงนอน ส่วนคุณหมอเองก็น่ากำลังเปลี่ยนชุด ผมเห็นแวบๆ ก่อนที่จะดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตั้งแต่ปลายเท้าถึงปลายผม เพราะมันรู้สึกหนาวๆ ปัจจุบันทันด่วน

มือกำลังควานหาหมอนข้างตามความเคยชิน พอไม่เจอเลยนึกขึ้นได้ว่าไม่ใช่ห้องตัวเองมันจะมีหมอนได้ยังไง  ผมเลยต้องเอาตัวออกจากโป่งผ้า ลุกขึ้นยืนหยิบเอาตุ๊กตาหมีบนชั้นลอยเหนือเตียงออกมาตัวหนึ่ง ก็ตัวที่ผมเล็งไว้ตั้งแต่เมื่อบ่ายไงครับ  ความจริงผมไม่ชอบนอนกอดตุ๊กตานะครับ ผมไม่ชอบขนของมัน มันน่ารำคาญเวลานอนกอด แต่ในเมื่อไม่มีหมอนข้าง ตุ๊กตามันก็พอจะแทนกันได้ในยามจำเป็น

ผมดึงผ้าห่มคลุมตัวคลุมหัวอีกครั้ง อุ่นดีครับ แต่ติดที่หมอนข้างกลายเป็นตุ๊กตานี่แหละ มันทำให้ไม่ปกติเท่าไหร่ ผมได้ยินเสียง ‘ปี๊ด’ สงสัยคุณหมอทำอะไรกับแอร์สักอย่าง ไม่น่าจะลด น่าจะเพิ่มมากกว่า ก่อนที่ความมืดที่มากกว่าเดิมจะปกคลุมทั้งห้อง (ตามความรู้สึกผมเอง) อึดใจเดียวพื้นเตียงอีกฝั่งก็ยวบเพราะคุณหมอล้มตัวลงนอน แทรกตัวเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกันกับผม

เตียงไม่ได้กว้างเท่าไหร่ ผมที่นอนขดตัวกอดน้องหมีอยู่ รู้สึกถึงไอร้อนจากร่างกายของอีกฝ่ายชัดเจนเลยครับ มันอุ่นๆ ไม่ต่างจากที่ผมเคยนนท์ร่วมเตียงเดียวกับนนท์

“ติดหมอนข้างหรือครับ” คุณหมอถาม ผมเลยต้องโผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม

“ครับ แต่กอดตุ๊กตามันไม่ค่อยจะชิน ผมไม่ชอบขนของมัน กอดแล้วมันไม่สบายเหมือนกอดหมอนข้าง” ผมหันหน้าไปทางคุณหมอ  แต่ผมมองไม่เห็นหน้าคุณหมอเลยครับ ห้องมืดมาก แสงจากโคมไฟตามทางเดินไม่ส่องเข้ามาแทบไม่ถึงไหนห้องครับ เนื่องจากม่านหนามาก 

“กอดตุ๊กตาไม่สบายตัวก็กอดหมอได้นะครับ”

“หือ....” คุณหมอต้องการจะสื่ออะไร

“ผมล้อเล่นครับ”

คุณหมอว่า แล้วหัวเราะเบาๆ จากนั้นคุณหมอก็ขยับตัว แต่ไม่มาก แต่นั้นก็ทำให้แขนกับขาของเราสองคนสัมผัสกันครับ แต่ละจุดที่สัมผัสกันมันทำให้ส่วนนั้นอุ่นวาบไปเลย เหมือนคุณหมอก็ไม่ได้ขยับถอยเมื่อเนื้อตัวเราแตะกัน ส่วนผมเองก็เช่นกัน จะให้ถอยกันไปจนสุดขอบเตียงของตัวเองที่อยู่กันคนละฝั่ง มันก็คงได้แค่นี้ล่ะครับ

แล้วผมเห็นหน้าคุณหมอชัดขึ้น เพราะสายตาปรับเข้ากับความมืดได้แล้ว โครงหน้าของคุณหมออยู่ใกล้มาก เพราะหมอนสองใบวางชิดกัน

ทั้งห้องเงียบมาก มากจนได้ยินเสียงคลื่นที่ดังแว่วมาจากท้องทะเลด้านนอก มากกว่านั้นคือเสียงลมหายใจที่เหมือนจะติดขัดทั้งของตัวคุณหมอและตัวของผมเอง

ยิ่งกว่านั้นคือเสียงหัวใจของผมที่มันดันเต้นแรง ไม่เป็นจังหวะ มันตึ๊กตั๊กๆๆๆ

ผมตื่นเต้นงั้นเหรอ?

น่าจะใช่...

ครั้งแรกที่ผมนอนร่วมเตียงกับผู้ชายที่ไม่ใช่นนท์

ผมอยากให้ห้องมืดเหมือนเดิม แต่มันคงยากไปแล้ว เมื่อสายตาของผมปรับให้ชินกับมันไปเสียแล้ว ผมถึงต้องมานอนมองตากับคุณหมอในระยะประชิด  ชิดเสียจนสัมผัสได้ถูกลมหายใจอุ่นๆ ของคุณหมอ

“คุณหมอ”  น้ำเสียงของผมคงเบามา ไม่อย่างนั้นคุณหมอคงไม่ขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม หรือเพราะคุณหมอกลัวผมไม่ได้ยินเสียงของคุณหมอกันแน่

เราเลยใกล้กันเข้ามาอีกนิด ...

เรียกว่าหน้าแทบจะชนกันอยู่แล้ว

“ครับคุณฟ้า”

ตาคมในความมืดที่ผมเห็น จับจ้องอยู่ที่ผม มันยังไงไม่รู้ผมบอกไม่ถูก ใจหนึ่งผมอยากหันหนี ปิดตาหนีสายตาของคุณหมอ  แต่อีกใจหนึ่งมันกลับคิดต่าง ผมอยากมองสบตากับคุณหมอ ไม่รู้เพราะอะไร

“ผมจะหลับแล้วนะครับ”  ถ้าผมจะเรียกชื่อคุณหมอด้วยเรื่องแค่นี้ และถ้าผมจะหันหลังให้คุณหมอในทันทีที่พูดจบ  ไม่สนใจจะหยิบตุ๊กตาหมีติดมือมาด้วยแล้วถ้าผมยังคงใจเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่แบบนี้ละก็..........

ผมจะทำไงดี?

“ลืมตุ๊กตาครับ” แล้วตุ๊กตานั้นก็กลับมาสู่อ้อมแขนผมอีกครั้ง ผมกอดมันแน่นครับ สะกดใจตัวเองไม่ให้คิดฟุ้งซ่านไปไกล บอกกับตัวเองว่า หลับเถอะๆๆๆๆ   ทว่ามันก็ยังทำไม่ได้สักที คนตัวโตกว่าผมที่ซ้อนอยู่ด้านหลัง ไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัวกลับไปที่เดิมของตัวเองเสียที

จะอยู่กดดันผมเพื่อ?

 “ฝันดีครับ” เสียงนุ่มกระซิบบอกผมใกล้ใบหู ลมหายใจอุ่นไต่รดแก้มของผม ผมแทบหยุดหายใจ แต่ยังคงหายใจได้อยู่ แค่มันไม่ปกติ

ฝันดีงั้นเหรอ?

แค่หลับตาผมยังทำไม่ได้เลย จะให้ฝันดีได้ยังไง

แล้วความกดดันของผมก็หายไป คุณหมอยอมกลับไปนอนที่ตัวเองแล้ว แต่ไอร้อนใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ที่เราใช่ร่วมกัน มันยังคงทรมานความรู้สึกของผมไม่เปลี่ยนแปลง อยากอวดเก่งนอนท้าอากาศเย็นๆ จากแอร์ มันก็เหมือนจะงี่เง่าเกินไปหน่อย

คืนนี้ผมจะข่มตาให้หลับได้ไหม?

ไอ้ของสองสิ่งในเงามือก็อยู่ในระยะสายตาที่ผมมองเห็นอีก อยากจับมันเขวี้ยงไปให้ไกลสายตา จะมาขวางหูขวางตาให้ผมนึกถึงสรรพคุณและวิธีใช้ของมันทำไม

ผมเป็นคนหยุดคิดอะไรได้ง่ายๆ ซะทีไหน  ความคิดมันดันต่อเติมโน่นนี่นั่น ปนกันมั่วไปหมด หยุดคิดก็ไม่ได้ จะข่มตาให้หลับก็ทำได้ยากยิ่งกว่า

เหนืออื่นใด ผมคิดถึงนนท์ ทุกคืนที่เรายังรักกัน ทุกครั้งเราจะนอนกอดกัน ผมกอดนนท์ นนท์กอดผม อ้อมกอดอุ่นๆ ที่ทำให้ผมหลับตาลงได้สนิท

มันเป็นความเคยชินที่เมื่อห่างหายไปแล้ว ผมถึงกับนอนไม่เคยหลับสนิทสักคืน

.
.
.
.
.

“คุณหมอครับ”

ในที่สุดผมก็ไม่อยากทนกับอะไรที่มันว้าวุ่นอยู่ในหัวสมองไม่ไหว ลองพยายามสลัดให้หลุดออกไป แต่ยังไงมันก็ไม่ยอมหลุดออกไปจากสมองของผมสักที

“ครับ”

คุณหมอยังไม่หลับ แต่ผมก็ยังถามคำถามโง่ๆ ออกไป

“หลับหรือยังครับ”

ผมพลิกตัวกลับมามองเสี้ยวหน้าของคุณหมอ ก่อนที่จะเห็นโครงหน้าเต็มๆ ในระยะใกล้แบบที่ว่าแค่นิ้วเดียวปลายจมูกก็จะชนกันอยู่แล้ว เมื่อคุณหมอเปลี่ยนจากนอนหงายมาเป็นนอนตะแคงมาทางผม

เราสบตากัน ลมหายใจคงปะทะกันอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ยังครับ” เสียงคุณหมอฟังแล้วอบอุ่นจังครับ ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงรู้สึกแบบนั้น หรือเพราะผมกำลังฟุ้งซ่าน มันสับสน ความคิดหลายอย่างวนเวียนอยู่ในสมองในหัวกลมๆ ของผม ผมคิดไม่ตก มันเหมือนมีบางอย่างริดรอนสิ่งที่ผมควรจะทำไปซะหมด

ผมควรจะหันหลังกลับ

ผมควรจะปิดตาหลับ

ผมควรจะข่มตาให้นอนหลับ

แต่ความคิดมากมาย มันไม่ยอมให้ผมนอนหลับอย่างมีความสุข มันกำลังสั่งให้ผมทำอะไรที่ไม่สมควรทำ กับใครคนหนึ่งที่ไม่ได้สนิทชิดเชื้อถึงขนาดนั้น

มันบังคับให้ผมต้องพูดออกมาอย่างง่ายดาย ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย

“ไม่อยากกอดตุ๊กตา” คำพูดของผม มันฟังเข้าใจยากไปไหมสำหรับคุณหมอ  มันจะสื่อถึงความต้องการงี่เง่าของผมที่อยากบอกกับคุณหมอหรือเปล่า?


“........................” คุณหมอยังเงียบ


“.......................” ส่วนผมก็ยังรอสิ่งที่จะทำลายความเงียบจากปากคุณหมอ

ตาเราสบกันในความมืด ความมืดไม่เป็นอุปสรรคสักเท่าไหร่ เพราะผมยังเห็นใบหน้าเรียบนิ่งของคุณหมอได้ชัด คงเพราะเราใกล้กันมาก

“ผมไม่อยากกอดตุ๊กตา”  ผมพูดคำพูดแบบเดิมออกไปอีกครั้ง ตุ๊กตาดูไร้ค่า ไม่มีความหมาย เมื่อมันถูกผมโยนทิ้งลงข้างเตียง ไม่คิดใยดี

หรือผมจะหน้าด้านเกินไป?


ในเมื่อคุณหมอไม่พูดอะไร แต่ยังคงมองหน้าผมนิ่ง ผมถือว่าคุณหมอไม่ปฏิเสธ เพียงแต่ไม่กล้าเริ่มต้น เพราะคุณหมอเป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติผม แต่สำหรับผม ผมคงหน้าหนาไป และอดทนกับความรู้สึกว่างเปล่าในหัวใจตอนนี้ไม่ได้  ทั้งที่สมองผมกำลังฟุ้งซ่านแทบจะระเบิดออกมาด้วยความคิดที่กัดกร่อน ผมถึงได้ขยับเข้าใกล้ร่างกายของอีกคน วาดแขนโอบกอดราวกับจะไม่ให้เหลือช่องว่างใดๆ

อยากถูกเติมให้เต็ม...

หรือว่าผมกลัวคุณหมอจะผลักผมออกกันแน่


... ผมถึงกอดคุณหมอเอาไว้แน่น ร่างกายเหมือนเกร็งไปทุกส่วน ไม่เว้นแม้แต่หัวใจ หัวใจที่ว่างเปล่าแต่ก็หนักหน่วง ดึงผมให้จมดิ่ง ยากถอนตัว

“คุณฟ้า” เสียงคุณหมอแผ่วเบาอยู่ด้านบน  ตัวคุณหมออุ่นมาก ผมซบอยู่อย่างนั้น

“กอดผมได้ไหมคุณหมอ?” ผมเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร่างกายที่ผมกอดไว้แน่น รอคอยคำตอบ

หรือเพราะความอดทนของผมน้อยจนเกินไป ผมไม่รอคำตอบจากคุณหมอ  ผมปล่อยแขนที่กอดตัวคุณหมอ แล้วปีนขึ้นไปบนร่างกายแข็งแกร่ง  ลงน้ำหนักทั้งหมดบนเอวหนา ก่อนจะขยับให้บั้นทอยถอยต่ำลงมาสัมผัสกับความแข็งขืนที่สัมผัสได้ในทันที

ผมคิดไม่ผิด ไม่ต้องรอคำตอบจากปากก็ได้คำตอบจากร่างกายเบื้องล่างของคุณหมอไปแล้ว   ผมยิ้ม ขณะที่คุณหมอทำหน้าไม่ถูก แต่ยังฝืนถามคำถามงี่เง่ากว่าผมกลับมาว่า...

“กอดแบบไหนครับ คุณฟ้า”

ต้องให้ตอบด้วยคำพูด ผมคงไม่อยากทำ  ไม่ใช่เพราะไม่อยากตอบแต่ไม่กล้าตอบกลัวเสียงมันสั่น ผมถึงเลือกที่จะใช้ร่างกายแทนคำตอบ ด้วยการกดย้ำลงบนตัวตนที่แข็งขื่นนั้น

แล้วที่สำคัญ ผมรู้ว่าคุณหมอรู้ว่าต้องกอดผมแบบไหน...



ผมไม่ใช่เด็กตัวเล็ก อายุน้อย ด้อยประสบการณ์ เรื่องพวกนี้ ผมกับนนท์เคยทำร่วมกันมาแล้ว เพียงแต่มันไม่ถึงขั้นสุดท้ายที่หลอมเราเข้าไว้ด้วยกัน...เท่านั้นเอง

“คุณฟ้า” เสียงแหบพร่าด้วยความรู้สึกฟุ้งแตกเรียกชื่อของผม เสียงหายใจไม่สม่ำเสมอของคุณหมอ ผมได้ยินชัดเจนในความเงียบของห้อง

“ครับ” ผมขานรับ ขยับให้ความต้องการของคุณหมอได้เสียดสี มันตื่นตัวจนเจ้าของมันต้องกัดปากหนาตัวเองเอาไว้ คงข่มอารมณ์ไม่ให้เตลิดไปกับผม ทั้งที่รู้ว่ามันห้ามกันได้ที่ไหน

“คุณฟ้า”

มือใหญ่รั้งมือผมที่กำลังจะจับชายเสื้อยืดเพื่อจะเลิกขึ้นสูง เตรียมเอามันออกไปจากตัวเจ้าของ

“ไม่ได้หรือครับ” ผมแค่ถาม หากไม่หยุดมือ คุณหมอก็แค่รั้งมือผมเอาไว้ ไม่ได้ห้ามหรือยึดยื้อจนผมถอดมันออกจากตัวคุณหมดได้โดยง่าย

“คุณฟ้าเมาหรือเปล่า” คำถามนี้ค่อยน่าฟังหน่อย คงคิดว่าสิ่งที่ผมทำมันเป็นเพราะความเมา ขอบอกว่าผมเป็นคนคอแข็งคนหนึ่งครับ เหล้าชงเข้มๆ ไม่กี่แก้ว ทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ ไอ้อาการคอแข็งเนี้ย นนท์เป็นคนฝึกผมเอง

“สงสัยจะใช่....”

ตอนนี้มือผมเลื่อนต่ำผ่านแผ่นอกกว้าง หน้าท้องที่มีมัดกล้ามแข็งแรง แล้วหยุดที่ขอบกางเกงนอนตัวยาวของคุณหมอ เช่นเคยครับ มือใหญ่รั้งมือที่เตรียมดึงกางเกงนั้นให้หลุดออกจากเนื้อตัวส่วนล่าง

“คุณฟ้า” แค่เรียก แต่ไม่ห้าม ผมจึงไม่หยุด มันยากไปสักหน่อย เมื่อต้องดึงกางเกงออก ผมยกตัวเองขึ้นให้ขอบกางเลื่อนไปอยู่บนต้นขาหนา ก่อนจะนั่งทับลงมาอีกครั้ง แล้วเอี้ยวตัวไปด้านหลังดึงกางเกงออกได้สำเร็จ คุณหมอให้ความร่วมมือด้วย

เหลือปราการด่านสุดท้ายบนตัวคุณหมอ  ผมยังค้างมือไว้อย่างนั้น ค้างบนความตัวตนแข็งขื่น   ไม่แตะต้อง หรือเพราะผมยังไม่กล้าพอ ทว่าเพียงวางมือไว้อย่างนั้น  มันก็เรียกเสียงครางทุ่มต่ำจากปากหนาได้

“อาาา.....”

คุณหมอไปเร็วกว่าผมมาก ความรู้สึกของผมมันยังคงนิ่งสงบ

“อยากกอดฟ้าหรือยังครับ?”  ผมถาม หลังจากทอดตัวลงชิดกับแผ่นอกเปลือยเต็มไปด้วยมัดกล้ามของคุณหมอ  ไม่มีคำตอบจากปากของคนด้านล่าง เพราะมือหนารั้งคอผมเข้าใกล้ บดเบียดปากหน้าเข้ากับปากของผม

ความร้อนคือสิ่งเดียวที่ผมรู้สึก

ลิ้นที่พันกันยิ่งเพิ่มสิ่งที่ถาโถมอยู่ในใจของผม

เสียงครางแตกซ่านกับมือใหญ่ที่บีบเค้นไปตามเนื้อตัวของผม

เสื้อผ้าทุกชิ้นถูกดึงออกอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ใช้เวลาเพียงอึดใจ

จากที่เคยอยู่ด้านบน เมื่อเนื้อตัวมันเร่าร้อนเหมือนโดนแผดเผ่า จึงพลิกอยู่เบื้องล่าง

จากที่เคยเร่งเร้ากลับถูกปลุกเร้าจนไม่มีทางหลีกหนี....


.

.

.

.

.


เช้าแล้ว...

ผมรู้สึกตัวในอ้อมกอดแกร่ง

เมื่อคืนหลังจากจูบสุดท้ายที่ยาวนาน  ผมหลับไปในอ้อมแขนแกร่งหลังจากที่เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของคุณหมอขับกล่อมนานเกือบสองชั่วโมง

ผมนอนไม่ค่อยหลับ ฟุ้งซ่านตลอดทั้งคืน

สำนึกผิดชอบ มันทำงานราวกับเครื่องจักร ไม่มีเหน็ดเหนื่อย ความใจกล้าบ้าบิ่นถูกสังหารด้วยความเจ็บของสะโพกด้านหลัง อ้อมแขนแกร่งที่โอบกอดทำให้ผมทำตัวไม่ถูก ขยับหนีไปไหนก็ไม่ได้

ผมรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป...

ผมรู้ตัวว่าทำไมผมถึงทำลงไป...

ความหน้าด้านที่ถูกปรุงแต่งด้วยความมึนเมาของฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มยามค่ำคืน  ผสมกับบาดแผลที่ยังไม่หายดีจากน้ำมือนนท์ ไม่คิดว่ามันจะมีฤทธิ์รุนแรงถึงขนาดนี้

แต่สิ่งที่ผมรู้ดีกว่าทุกอย่างคือ ผมกำลังทำประชดนนท์ นนท์ที่ไม่เคยอยากเป็นเจ้าของตัวผมเลยสักครั้ง

หึหึ...

น่าหัวเราะไหมครับ

ผมประชดนนท์ โดยที่นนท์ไม่ได้รับรู้อะไรเลย แล้วใครที่เจ็บ แล้วใครที่ต้องทุกข์ แล้วใครที่ต้องรับชะตากรรมไร้ยางอาย...

จะใครเสียอีกถ้าไม่ใช่ผม...

แต่ช่างเถอะ จะเสียอะไรได้ ยังไงผมก็ผู้ชาย  ไม่ท้อง  ไม่ต้องถูกจับใส่ตะกล้าล้างน้ำ  เรื่องอย่างว่า มันก็เป็นแค่เรื่องอย่างว่า ผ่านไปแล้วก็ผ่านเลย

ที่สำคัญ...


นนท์ยังมีอะไรกับคนอื่น โดยที่ไม่รักได้เลย....

ผมอยากทำได้อย่างนนท์ไงครับ...

...ผมถึงทำมันลงไป


>>>>>>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<


คนเขียนอยากและขอคุย อิอิ :z2: :z2:

:: สวัสดีคนอ่านทุกคนนะคะ ไม่ได้เข้ามาทักทายบ่อยเท่าไหร่ แต่ก็อยากทักทายทุกคนที่คลิกเข้ามาอ่านเรื่อง รัก...เชิญครับ รวมถึงเรื่องรัก...เธอ ด้วยนะคะ

อยากบอกว่า เรากดเป็ด กดโหวตให้ทุกคนเลยนะคะ

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ เรื่องนี้คงไม่ยาวเท่าไหร่ (เพราะมันอยากแต่งเรื่องต่อไปแล้ว หุหุ) คงจะไม่น่าถึง 20 ตอน หรือถ้าเกินก็คงไม่เท่าไหร่

ติดตามกันนะคะ อย่าทิ้งกันน้า // ม๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ทุกคน ม๊วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ พี่เอ๋ ขอบคุณมากนะคะ รู้น้าว่าแก้ให้แอ๋วเยอะมากกก

บับบายทุกคนคร้า เจอกันตอนที่ 10 คุณหมอขอพูดนะคะ ^___^



หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 9 ความสัมพันธ์ไร้ซึ่งความรัก {21/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 21-11-2011 11:02:34
 :o12:เมือคนอกหักสองคนมาเจอกันมันจึงเกิดเรื่องราวไม่รู้จะสงสารใครระหว่างหมอกับฟ้าถ้างั้นก้อรักกันไปเลยแล้วกัน :L1:
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 9 ความสัมพันธ์ไร้ซึ่งความรัก {21/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 21-11-2011 11:22:29
น้ำฟ้าจ๊าแค่เปิดใจรับคุณหมอ
เข้ามาในหัวใจก็พอแล้ว
อย่าไปคิดถึงคนอื่นเลย :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 9 ความสัมพันธ์ไร้ซึ่งความรัก {21/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 21-11-2011 11:49:31
ดีมาก ถุงยาง กะ เจล เอามาแล้วไม่เสียของ !!!
.
เตรียม ดราม่า อีก อย่างน้อย 40 ตอน แน่ๆ !!!
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 9 ความสัมพันธ์ไร้ซึ่งความรัก {21/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 21-11-2011 14:11:36
เข้ามาดูอาการปากแข็ง ของคุณหมอ กับ คุณฟ้า

หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 9 ความสัมพันธ์ไร้ซึ่งความรัก {21/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 21-11-2011 15:47:08
เเง้ สงสารคุณฟ้าอ่ะ แต่ สงสารคุณหมอมากกว่า
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 9 ความสัมพันธ์ไร้ซึ่งความรัก {21/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 21-11-2011 16:36:10
คุณหมอสู้ๆ คุณหมอสู้ตาย เชียร์สุดตัวคร้าบ.....
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 9 ความสัมพันธ์ไร้ซึ่งความรัก {21/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 21-11-2011 19:05:36
ไม่อยากให้ประชดอ่ะ คุณหมอเป็นคนดีนะคะ ลองเปิดใจหน่อยนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 9 ความสัมพันธ์ไร้ซึ่งความรัก {21/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 21-11-2011 21:02:26
อ่านประโยคท้ายๆ แล้วปวดใจแทนคุณหมอ แต่เชื่อว่าจากนี้ไปคุณหมอไม่ปล่อยมือจากคุณฟ้าแน่นอน

บวกจ้า
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 9 ความสัมพันธ์ไร้ซึ่งความรัก {21/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 21-11-2011 21:19:52
อย่างนี้ก็หวานคุณหมอซิคุณฟ้า
ถึงจะประชด แต่อ้อมกอดคุณหมอก็อุ่นนะ
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 9 ความสัมพันธ์ไร้ซึ่งความรัก {21/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 21-11-2011 22:43:24

ถึงจะดีใจที่หมอกับคุณฟ้ามีอะไรกัน
แต่พอรู้ความคิดของคุณฟ้าอย่างนี้ ทำเอาดีใจไม่ลง
ทำไมต้องทำประชดคนคนหนึ่งขนาดนั้นด้วย ?
ทำไปโดยที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขาคงไม่เดือดเนื้อร้อนใจหรอก
คิดแล้วเซ็งคุณฟ้า ! งื้ดดดดด

คุณหมอ อย่าปล่อยคุณฟ้าหลุดมือละ!
หวังว่าคงไม่งี่เง่าหรอกนะ
+1 ให้นะคะ รักนะจุ๊บๆ เค้ารอตอนต่อไปอยู่นะตัวเอง
5555555555555
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 10 ตอนนี้คนแต่งไม่ตั้งชื่อคนโพสก็คิดไม่ออก {24/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 24-11-2011 11:52:54
ตอนที่ 10

เช้าแล้ว...เมื่อผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับอ้อมกอดวางเปล่า ไม่มีคนในอ้อมแขนที่ผมโอบกอดเอาไว้ทั้งคืน เสียงน้ำที่ดังให้ได้ยิน ฟ้องว่าคนๆ นั้นอยู่ในนั่น

มันเกิดไปแล้ว เมื่อคืนผมกับคุณฟ้า เรามีอะไรกัน!

คุณฟ้ากำลังอาบน้ำอยู่ ขณะที่ผมนั่งกุมขมับอยู่บนเตียง ในสภาพที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยร่องรอยของเหตุการณ์เมื่อคืน ทั้งรอยฟันและรอยเล็บที่เป็นของใครไม่ได้นอกจากของคุณฟ้า ถึงผมจะทนุถนอมเท่าไหร่ ฝืนตัวเองกับคุณฟ้าแค่ไหน พยายามที่จะอ่อนโยนให้มากที่สุด เพราะมันดูเหมือนมันจะเป็นครั้งแรกของคนที่ลุกขึ้นมายั่วผม นั่นก็แค่ช่วยให้ความเจ็บปวดทุเลาเพียงเล็กน้อย  เจอหล่อลื่นมันช่วยให้การสอดใส่ง่ายขึ้น แต่มันไม่ได้ง่ายขึ้นขนาดที่ทุกอย่างจะคล่องไปซะหมด ช่องทางที่เปิดรับยังคงตรึงแน่น ต้องใช้ความอดทนสูงกว่าจะผ่านพ้นเข้าไปครอบครอง ดีเท่าไหร่ที่ผมยังใจเย็นไม่บ้าระห่ำจนช่องทางนั้นฉีกขาด

เมื่อคืนหลังจากที่ทุกอย่างจบลงอย่างที่มันต้องเป็น เราสองคนไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย คุณฟ้าเงียบแล้วหันหลังให้ผม เป็นผมเองที่ดึงร่างกายนั้นเข้ามากอด ดึงหน้าตาน่ารักให้ซุกซบกับอกของตัวเอง ลูบกลุ่มผมนุ่มเหมาะมือไปมา ตอนแรกคุณฟ้าฝืนตัวแต่สุดท้ายเมื่อผมไม่ยอมปล่อยเลยเลิก บอกตามตรงตอนนั้นผมยังไม่รู้สึก ‘พอ’ ความต้องการมันยังมีอยู่ กลิ่นกายหอม ผิวเนื้อเนียน ยังคงเร่งเร้าให้ผมเก็บเกี่ยว แต่ผมรู้ว่าไม่ควร ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า เหมือนคุณฟ้ากำลังสับสน แต่ผมก็ถือโอกาส

แล้วถ้าผมจะ ‘ถือโอกาส’ อีกครั้งและอีกครั้ง หรือจะตลอดไปล่ะ จะดีไหม?

ผมจะถือโอกาส ‘ตีตราจอง’ คุณฟ้าเลยดีไหม?

ผมคิดว่าผมควรทำ แต่ทำได้หรือไม่ได้มันขึ้นอยู่กับคุณฟ้าคนเดียว นั่นแหละคือปัญหา ปัญหาที่ผมต้องมานั่งกุมขมับอยู่ในตอนนี้

 

“คุณหมอครับ” ผมหันไปมองคนเรียก ผิวกายขาวเนียนที่เห็น ถูกแต่งแต้มด้วยรอยแดงที่ไม่ได้มากนักแต่ก็ไม่น้อยจนมองไม่เห็น มันกระจายอยู่เต็มแผ่นอกและแผ่นหลัง ร่องรอยจากอารมณ์ดิบของเมื่อคืน

“ไม่ต้องคิดมากนะครับ คุณหมอ”

ไม่ต้องคิดมาก!! หมายความว่าไงครับคุณฟ้า ผมได้แต่ตะโกนร้องอย่างไม่เข้าใจอยู่ในหัวสมอง แต่ไม่พูดมันออกมา เพราะผมรู้ว่ามันไม่ควร แค่เรื่องเมื่อคืนมันก็ไม่ควรเกิดขึ้นแล้ว

“ถือซะว่าเป็นเรื่องขำๆ ครับ”

ขำมากให้ตายเถอะ คุณฟ้าเห็นหน้าผมขำไหมล่ะ ผมเถียงแต่เถียงในใจ ทำอะไรไม่ได้จริงๆ หรือผมจะลองทำ จะได้ตีตราจองคุณฟ้านับแต่วินาทีนี้

“ไม่ขำไม่ได้หรือครับคุณฟ้า เมื่อคืนเราสองคนมีอะไรกันแล้ว แล้วผมก็อยากจะรับผิด ชะ....” ผมยังพูดไม่จบ คุณฟ้าก็พูดตัดหนทางการตีตราจองของผมไปซะก่อน

“ถ้าคุณหมออยากจะรับผิดชอบ ไม่ต้องครับ”

“แต่คุณฟ้าเสียหาย”

“เสียหายอะไรกันครับคุณหมอ ผมเป็นผู้ชาย คิดมากไปได้”

“แต่ผมไม่อยากฟันแล้วทิ้ง” ผมบอก ความหมายตรงตามประโยคเลยครับ

“งั้นผมก็ฟันคุณหมอเหมือนกัน” เสียงหัวเราะเล็กๆ เหมือนจะไล่ต้อนให้ผมจนมุม ผมจนมุมจริงๆ

“คุณฟ้า” ผมเรียกชื่อคนที่ยังยืนยิ้มเป็นปกติด้วยเสียงที่อ่อนแรงลง

“ครับ”

“คุณฟ้าเป็นของผมแล้วนะครับ”

“ไม่ใช่ครับ” คราวนี้คุณฟ้าไม่ยิ้ม กลับมองหน้าผมเหมือนไม่พอใจ ผมพูดอะไรผิด มันเป็นความจริง


“แต่.....” ผมพูดไม่ออก เพียงแค่ผมอ้าปากจะพูด คุณฟ้าก็หันหลังไปเปลี่ยนชุดทันที บอกให้รู้ว่าคุณฟ้าไม่อยากคุยเรื่องนี้กับผมต่อ และคงจะยืนยันสถานะของเราทั้งคู่ว่าเป็นแค่คนรู้จักกันก็พอแล้ว

ผมกำลังหมดหวัง...

คุณฟ้ากำลัง ‘ใจดำ’ ใส่ผม

ผมเข้าใจนะว่าเรื่องเมื่อคืนมันไม่ได้เกิดจากความรัก มันก็แค่เรื่องของเซ็กส์ที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน เมื่อจบก็แยกกันไป แต่ทำไมผมกลับไม่อยากแยก ยังอยากจะสานสัมพันธ์กับคุณฟ้าต่อไปอีก แต่คุณฟ้ากลับไม่ได้คิดอย่างผม

ตัดรอนจนผมอยากจะลุกไปกระชากร่างบอบบางที่เคยครางอยู่ใต้ร่างกายของผม มากดกอดให้สมกับค่ำคืนที่ผ่านมาที่ทำได้เพียงดับกระหายแต่ยังไม่เต็มอิ่ม แต่ที่ผมทำได้ตอนนี้คือลากสังขารเข้าไปอาบน้ำ เผื่อบางทีออกมาแล้ว คุณฟ้าจะเปลี่ยนใจ อ้อนวอนให้ผมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น

.
.
.
.

.

.

เมื่อผมเดินออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เจอคุณฟ้าอยู่ในห้อง ผมรีบเปิดตู้เสื้อผ้าดูว่าข้าวของคุณฟ้ายังอยู่ไหม โล่งอกครับ กระเป๋ากับเสื้อผ้ายังอยู่ครบ นึกกลัวว่าคุณฟ้าจะหนีกลับเพราะรำคาญผม สงสัยคุณฟ้าจะไปเดินหน้าหาดหรือไม่ก็กินข้าวเช้า แต่เวลาตอนนี้มันยังไม่ถึงหกโมงเช้าเลยด้วยช้ำ ผมรีบแต่งตัวทันที อยากไปคุยกับคุยฟ้าเรื่องต่อ อยากลองขอคบกับคุณฟ้าดู เผื่อคุณฟ้าจะเห็นใจให้โอกาสผม

มีคนเคยพูดไว้ว่า ‘คนน่ารัก มักใจร้าย’ คงจะจริง



หาดทรายด้านหน้าที่เห็นจากบริเวณหน้าบ้านพัก ไม่มีร่างสูงโปร่งที่คุ้นเคย คุณฟ้าคงอยู่ที่เรือนอาหาร

“ไอ้หมอ” อิงเรียกผมจากด้านหลัง พอหันไปก็เห็นสภาพหน้าที่ดูอิดโรยกับปากที่เป็นสีเขียวอมม่วงอมแดง

“ไปทำอะไรมา” มันเป็นโรคติดต่อกันหรือไง เมื่อคืนตินก็เป็น โชคดีหน่อยที่เพื่อนผมมันติดเชื้อมาแค่ข้างเดียว

“นั่นแหล่ะ” มันบอก แล้วผมจะรู้ไหม

“นั่นแหล่ะอะไร เล่ามามีเรื่องอะไรกับใคร”

“ไปดูอาการหนึ่งให้หน่อย”

“หือ?”

“เดี๋ยวค่อยเล่า ไปดูหนึ่งก่อน”

ผมยังไม่เข้าใจอะไรมากได้แต่เดินตามคนใจร้อนที่เดินเหมือนวิ่ง ผมอยากจะเดาสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเพื่อนของผมกับลูกน้องของเพื่อน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่กลัวเดาถูก

ทำไมเพื่อนของผมโดนต่อย แล้วสาเหตุอะไรทำให้อิงต้องมาตามผมไปดูอาการของหนึ่ง ไอ้เรื่องที่ว่าต่อยกันจนหนึ่งอาการหนัก จนต้องตามผมไปดูถึงที่ห้อง ตัดไปได้เลย ผมรู้จักนิสัยของอิงดี แต่ผมกลัวสิ่งที่ผมยังไม่รู้นี่สิ

นิสัยของอิงเป็นเรื่องที่ผมรู้จักดี แต่สิ่งที่อยู่ในใจต่างหาก คือสิ่งที่ผมไม่รู้ ความรู้สึกของคนมันเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอด ไม่รู้ว่าอิงมันคิดอะไรอยู่หรือรู้สึกยังกับใครแบบไหน...นี่แหละที่น่ากลัว

อิงมันกำลังจะแต่งงาน งานแต่งที่ถูกเลือนไปก่อนหน้านี้เมื่อเดือนก่อน สาเหตุเพราะคุณย่าของน้องหวานเสียชีวิตด้วยโรคชรา และฤกษ์ดีที่ทางครอบครัวทั้งคู่หาให้ใหม่คืออีกแปดเดือนข้างหน้า

.
.
.
.
.

ผมกับอิงยังเดินไปไม่ถึงห้องพักก็เจอกับน้องลม ติน แล้วก็คุณฟ้า ไม่รู้ว่าเดินมาด้วยกันได้ยังไง ผมมองคุณฟ้า มีนิดหนึ่งที่คุณฟ้าแอบหลบสายตาของผม แต่แล้วก็กลับมามองหน้าแล้วยิ้มให้ผมเป็นปกติ

เรื่องระหว่างเรา...มันเป็นไปไม่ได้เลยหรือไงคุณฟ้า ผมอยากถามคุณฟ้าเหลือเกิน แต่ผมก็รู้คำตอบดีอยู่แล้วนี่น่าว่า มันเป็นไปไม่ได้ คุณฟ้าไม่ได้ให้โอกาสผมเลย

“จะไปไหนกันครับ” น้องลมถามเมื่อเดินเข้ามาใกล้ หน้าตาเบิกบานผิดกับเมื่อคืนมาก อีกคนก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่ คงง้อได้สำเร็จ ไม่งั้นคงไม่ยิ้มระรื่นได้แบบนี้ ทั้งที่ปากขึ้นสีเขียวช้ำชัดเจนกว่าเมื่อคืนมาก

“ไปดูหนึ่งครับเห็นว่าไม่สบาย” อิงไม่ตอบ ผมเลยต้องตอบคำถามนี้เอง

“หนึ่งเป็นอะไรครับบอส”  ตินถามบอสตัวเอง

“ไม่สบาย” อิงมันพูดแค่นั้นก็รีบเดินไปเลยครับ หน้าตาที่เห็น ดูมันเครียดไม่น้อย ทิ้งให้ความลำบากใจตกมาอยู่ที่ผม คงไม่มีใครไม่เห็นรอยเขียวช้ำตรงมุมปากของอิง  ออกจะชัดขนาดนั้น

“หมอก็ไม่รู้เหมือนกัน” ผมบอกทุกคนครับ เมื่อสายทุกคู่จ้องเอาคำตอบที่ดีกว่าของอิงจากผม

.
.
.
.

 เราทั้งหมดสี่คนเดินเข้าไปในห้องพักหลังสุดท้ายของรีสอร์ท สิ่งที่ผม คุณฟ้า น้องลม และตินเห็น คืออิงที่ยืนอยู่ข้างเตียง กำหมัดแน่น  จ้องตากับอีกคนที่นั่งตัวเปลือยท่อนบนมีผ้าห่มคลุมด้านล่างอยู่บนเตียง มือกำโทรศัพท์ไว้แน่นบนตัก

สถานการณ์ไม่สู้ดี เรียกว่ามาคุน่าจะถูกกว่า

คนสองคนที่จ้องหน้ากันอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่มีใครสนใจพวกผมที่เดินเข้ามาในห้องเลย

“เกิดอะไรขึ้น” ตินเดินเข้าไปกั้นกลางระหว่างอิงกับติน ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง คุณฟ้าขยับเข้าใกล้ผม มองหน้าผมเหมือนจะถาม แต่ผมไม่มีคำตอบที่จะให้ ด้วยเพราะคำตอบมันมีอยู่แล้วตรงหน้า เนื้อตัวที่เต็มไปด้วยรอย มันมากจนผมไม่คิดว่าอิงจะบ้าทำได้ถึงขนาดนั้น

“มึงถามใคร?” หนึ่งละสายตายจากเพื่อนของผม มาที่เพื่อนของตัวเอง

“ถ้ามึงถามกู กูจะตอบว่า คนที่มึงไว้ใจ มันข่มขืนกู” หนึ่งพูดเสียงเรียบ ไม่ต่างจากใบหน้า ผิดจากเรื่องที่พูดที่ทำเอาผม คุณฟ้าและน้องลมอึ้ง ผมคาดว่าทุกคนพอดูออกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอมันหลุดออกมาให้ยินกันชัดๆ ก็คงอดที่จะอึ้งไม่ได้

“เป็นไงล่ะ มึงต่อยชิตเพราะเรื่องแค่นั้น แล้วบอสของมึงทำกับกูถึงขนาดนี้ มึงกล้าต่อยบอสของมึงไหม ที่ทำกับกูยิ่งกว่าที่ชิตมันทำ”

“ทำไม” ตินหันไปถามเอากับอิง น้ำเสียงเหมือนกั้นอารมณ์โกรธไว้เต็มที่ เป็นผม ผมก็โกรธครับ หนึ่งใช้คำว่า “ข่มขืน” แปลว่าไม่ใช่การสมยอม

“....................” อิงไม่พูดอะไร เบือนหน้าหนี

“ถ้าบอสของมึงไม่มีปัญญาตอบ กูจะตอบให้ก็ได้ บอสของมึงข่มขืนกูเพราะกูเถียงเขา เพราะกูต่อยเขา แล้วก็เพราะกูจะไปหาชิต กูจะไปนอนกับชิต แล้วเป็นไง บอสมึงเป็นคนดีไหม ทำตามที่มึงบอกทุกอย่าง ไม่ให้กูไปไหน ถึงกับลงทุนข่มขืนกู”

ทั้งห้องเงียบ เข็มสักเล่มหล่นคงได้ยินไปไกลถึงหาดทรายข้างนอก

“แล้วมึงรู้ไหมว่าบอสของมึงข่มขืนกูไปกี่ครั้ง ห้าครั้งมึง มึงได้ยินไหมห้าครั้ง ห้าครั้งที่กูโดนข่มขืน ถ้ามึงไม่เชื่อ มึงไปนับถุงยางที่ถังขยะดู ว่ามันมีกี่อัน หรือมึงอยากจะดูรอยเลือดที่ก้นกู ถ้ามึงไม่เชื่ออีก มึงก็ให้บอสของมึงถอดเสื้อให้มึงดู รอยเล็บรอยฟันของกูที่อยู่บนตัวบอสของมึง มันมากขนาดไหน กูเจ็บจนจะตายอยู่แล้ว บอสของมึงก็ไม่ยอมหยุด กูร้องจนน้ำตาจะเป็นสายเลือดบอสของมึงก็ไม่หยุด”

เงียบ...ทุกคนเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา มีแต่หนึ่งคนเดียวที่เหมือนจะระบายทุกความอัดอั้นออกมา

“แล้วมึงอยากรู้ไหมว่าบอสของมึงข่มขืนกูยังไง ป่าเถื่อนใส่กูแค่ไหน ทำสันดานดิบใส่กูเหมือนกูไม่ใช่คน”

“พอแล้วหนึ่ง!” เป็นอิงครับที่ตวาดลั่นห้อง

“ทำไม อายหรือไง อายที่กำลังโดนประจานว่าข่มขืนลูกน้องของตัวเอง”

“หนึ่ง!!”

“ทำไม!!”

“แล้วทำไมไม่บอกล่ะ ว่ายั่วผมยังไงบ้าง ผมถึงต้องเอาสันดานดิบมาใช้กับคุณ”

“คนเลว”

มือเล็กๆ ของคุณฟ้าคว้าแขนผมไว้ ราวกับเป็นหลักพยุงตัว ตากลมที่มองมาหาผมมีน้ำตาคลอ คุณฟ้ากำลังสงสารหนึ่ง ผมก็สงสาร ถึงคำพูดของหนึ่งจะเรียบเรื่อยแต่เข้าในคนเจ็บปวดจนสุดทน มาเจออิงที่ตวาดใส่อีก คงทนไม่ไหวจริงๆ

“....อึก...อึก...ฮื่อออ............”

แล้วหนึ่งก็ร้องไห้ออกมาจนได้

“หนึ่ง” อิงทำท่าจะเดินเข้าไปหา แต่โดนตวาดเสียก่อน

“อย่าเข้ามา!!”

เหมือนทุกคนถูกสะกดให้อยู่กับที่ มีเพียงเสียงสะอื้นไห้จากหนึ่งที่ทำให้ทุกคนพูดไม่ออก

“ชิต”

เจ้าของรีสอร์ทเดินเข้ามา คนที่หนึ่งเรียกและโผเข้าหาเมื่ออีกฝ่ายเดินเข้าไปใกล้แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ

“กะ..อึก...กูเดิน...ไม่ได้ อุ้มกูไปหน่อย”

“เดี๋ยวนะ” ชิตเดินเข้าไปในห้องน้ำ ผ่านทั้งอิงกับตินที่ยังคงยืนนิ่ง ก่อนเดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ ใช้มันห่อตัวที่เต็มไปด้วยรอยแดงของหนึ่งแล้วอุ้มเดินออกไป โดยไม่พูดอะไรสักคำ

.
.
.
.
.
.

ทุกคนออกไปแล้ว ตินกับน้องลม ผมไม่รู้ว่าออกไปไหน จะไปหาหนึ่งที่บ้านพักของชิตหรือไปเก็บกระเป๋าที่ห้องพักเหมือนที่คุณฟ้ากำลังทำอยู่ คุณฟ้ากำลังเก็บกระเป๋าของผมกับของตัวเอง หลังจากที่เราสามคนตัดสินใจจะกลับกรุงเทพกัน ส่วนผมยังอยู่ในห้องเดิมกับอิง นั่งดูมันเก็บกระเป๋าเหมือนคนไม่มีชีวิต น้ำตามันไหล ไม่มากแต่ก็เป็นน้ำตาลูกผู้ชายที่ผมไม่เคยเห็น

“ร้องไห้หรือไงวะ” ผมถาม

“อืม...” มันตอบรับในลำคอ มือรูดซิบปิดกระเป๋า เช็ดน้ำตา แล้วล้มตัวลงนอนกับพื้นปูนหน้าตู้เสื้อผ้า เงยหน้ามองผมที่นั่งอยู่บนเตียงที่ถูกปูด้วยผ้าคลุมเตียงผืนใหม่

“ทำไมถึงทำ”

“หนึ่งมันดื้อ”

“เหตุผลแค่นี้นะที่ทำให้แกปล้ำหนึ่งไปห้าครั้ง ไม่เชื่อเท่าไหร่” ผมว่า มันน่าเชื่อซะที่ไหนกัน

“อาจมีเหตุผลอื่นด้วย”

“เช่น”

“รอให้แน่ใจก่อนจะบอก” ไม่บอกก็ไม่เป็นไรครับ ผมไม่อยากเซ้าซี้เอาความ รู้จักกันมานาน มีเรื่องไหนที่อิงมันไม่ยอมบอกผมก็แปลได้ว่ามันไม่อยากให้ผมเครียดตามไปด้วย

“แล้วจะทำไงต่อ”

“ขอกลับไปคิดก่อน ตอนนี้ปวดหัวไปหมดแล้ว”

ดูหน้าตาอิงแล้ว ผมไม่อยากจะถามอะไรต่อ แล้วเป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้ง คุณฟ้าเปิดประตูเข้ามา แต่ไม่ได้เดินเข้ามาในห้อง แค่ยืนอยู่ตรงประตู แล้วบอก

“เก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้วครับ” มาแค่บอกครับ แล้วปิดประตูออกไป น่าจะยืนรอผมกับอิงอยู่ข้างนอก ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า ผมว่าคุณฟ้าโกรธอิงเพราะเรื่องของหนึ่ง

“กลับไปคิดต่อที่บ้าน” ผมดึงอิงให้ลุกขึ้น มันเหมือนคนไม่มีแรง ผมต้องใช้แรงในการดึงเยอะมาก กว่าที่อิงมันจะลุกขึ้นนั่งได้

“ฉันสับสน” น้ำเสียงมันไม่มั่นคง พูดโดยไม่มองหน้าผม

“ค่อยๆ คิด เดี๋ยวก็เจอทางออก” ผมบอกอิง คล้ายกับบอกตัวเองด้วยครับ ถึงจะไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน แต่เรื่องมันก็คงเหมือนกัน

“ก็ว่างั้น”

ถ้าอิงบอกว่ามันสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเองกับหนึ่ง  ถ้างั้นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับคุณฟ้าคงต้องบอกว่า ผมมั่นใจ’ แต่คุณฟ้า ‘ไม่ต้องการ’ ผมอยากจะปรึกษาอิงมันนะครับ อยากให้มันช่วยคิดว่าผมควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ มาเจอปัญหาของอิงที่ดูใหญ่กว่าผมหลายเท่าเลยจอดสนิท เห็นท่าแล้วว่าผมเองจะเป็นฝ่ายที่ต้องเข้ามาช่วยอิงมากกว่า

“ไอ้หมอ  หนึ่งจะเกลียดฉันไหมวะ”

“ตอบยาก แต่ถ้าง้อดีๆ น่าจะหาย” ผมตบไหล่มันไปสองที เพิ่มกำลังใจ แค่คำถามของอิงก็ทำให้ผมมั่นใจไปกว่าครึ่งแล้วว่า
 อิงจะเลือกอะไร?

“หวังว่าอย่างนั้น” มันยิ้ม เป็นยิ้มที่แห้งแล้งน่าดู ปัญหาที่อิงมันต้องเจอต่อไป ไม่ได้มีแค่เรื่องของหนึ่ง มันยังมีเรื่องของน้องหวาน ว่าที่เจ้าสาวในอนาคตอีกด้วย หนทางของอิงมันยากลำบากกว่าผมมาก

ของผมก็แค่ถูกคุณฟ้าปฏิเสธ เทียบกันไม่เห็นฝุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะผมไม่ได้บ้าพลังจนปล้ำคุณฟ้าไปถึงห้าครั้ง ไม่ได้ทำจนคุณฟ้าลุกไม่ขึ้น และไม่ได้เป็นว่าที่เจ้าบ่าวของใครในอนาคตด้วย แต่ถ้าเป็นเรื่องว่าที่คู่หมั้นของสาวสวยที่คุณหญิงแม่เป็นคนจัดการให้ล่ะก็ ผมว่าผมมีนะ ......

ยุคสมัยผ่านไปนานแค่ไหน ‘การคลุมถุงชน’ ยังเป็นอยู่ยงคงกะพันเสมอ ไม่มีแตกสลายไปตามกาลเวลาแต่อย่างใด...

และเพราะผมเป็นลูกเพียงคนเดียวที่ยังไม่มีหลานให้ท่านอุ้ม หลายวันก่อนคุณหญิงแม่ถึงบอกผมว่า น้องเนย ลูกสาวของคุณหญิงวลัยกำลังจะกลับประเทศไทยอย่างถาวร หลังจากเรียนจบโทจากอังกฤษแล้ว ยังนัดหมายวันและเวลาที่จะให้ผมไปรับน้องเนยพร้อมกับท่านอีก ผมปฏิเสธไม่ได้และก็ไม่รู้จะปฏิเสธด้วยเหตุผลอะไร ในเมื่อตอนนั้นผมยังโสด อกหักจากน้องลม การที่จะเปิดใจเรียนรู้ใครสักคนก็เป็นเรื่องที่ดี

แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ และผมควรจะปฏิเสธไปเสีย เพราะผมคงไม่อยากเปิดใจรับใครเข้ามา นอกจากจะเปิดใจคุณฟ้าให้รับผมเข้าไป....

หรือว่า...

ปัญหาของผมจะเริ่มใหญ่ขึ้น...



>>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<<<<



คนเขียนขอคุยอีกครั้งนะคะ :: จบตอนนี้แล้ว คิดว่าคงค้างกันพอประมาณเพราะเหตุการณ์มันพีค (ด้วยเรื่องของคู่อื่น) แล้วก็คนเขียนอยากบอกว่า ขอพักสักพักนะคะ คือมีภารกิจแห่งเงินเดือนต้องไปรับผิดชอบ มิงั้นคงต้องหางานใหม่ในเร็ววันแน่ๆๆ ภารกิจน่าจะไม่เกินวันที่ 10 เดือนหน้านะคะ

เอาเป็นว่า ขอโต๊ดดดน้า อยากแต่งใจจะขาดแต่ต้องทำงานก่อนจริงๆ ทำงานเสร็จแล้วจะรีบปั่นคุณฟ้ามาให้ได้ยลโฉมกันน้า 

สำหรับเรื่องนี้ น้ำฟ้ากับคุณหมอ ไม่ดราม่า (เท่าไหร่น้า เทียบไม่เห็นฝุ่นกับของตินลมหรอกคร้า) อย่าปวดใจจนตัดขาดเรื่องนี้นะคะ คนเขียนคงเสียใจมาก อิอิ

ไม่เวิ่นแล้ว ไปแล้วนะคะ ง่วงมาก เพราะตอนนี้เกือบตีหนึ่งแระ อีกสองนาที....

บับบายคร้า

Aeaw na ka
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 10 ตอนนี้คนแต่งไม่ตั้งชื่อคนโพสก็คิดไม่ออก {24/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 24-11-2011 12:04:07
บวกๆ ค่า รออ่านต่อเสมอ
คนน่ารักมักใจร้ายจริงๆ ด้วย หมอสู้ๆ อิงสู้ๆ ด้วย
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 10 ตอนนี้คนแต่งไม่ตั้งชื่อคนโพสก็คิดไม่ออก {24/11/54}
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 24-11-2011 12:48:24
 :L1:เอาใจช่วยนะคะรีบมาเร็วๆเค้าจะรอ :call:
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 10 ตอนนี้คนแต่งไม่ตั้งชื่อคนโพสก็คิดไม่ออก {24/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 24-11-2011 14:01:06
โอ้ คุณอิงโหดอ่ะ ถนอมๆคุณหนึ่งหน่อยนะๆ :L1:

รอคุณฟ้าเปิดใจจ้า

รออ่าน
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 10 ตอนนี้คนแต่งไม่ตั้งชื่อคนโพสก็คิดไม่ออก {24/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 24-11-2011 16:49:38
 :เฮ้อ:
เครียดแทนหนุ่มๆ
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 10 ตอนนี้คนแต่งไม่ตั้งชื่อคนโพสก็คิดไม่ออก {24/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 24-11-2011 20:47:59
 :กอด1: :L2:
รอได้จ๊า
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 10 ตอนนี้คนแต่งไม่ตั้งชื่อคนโพสก็คิดไม่ออก {24/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EunSung87 ที่ 25-11-2011 20:34:17
พี่หมอพยายามทำให้ฟ้าชอบไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 10 ตอนนี้คนแต่งไม่ตั้งชื่อคนโพสก็คิดไม่ออก {24/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: squalo ที่ 26-11-2011 18:57:20
ปวดตับ น้ำฟ้าใจแลดูใจแข็งเน้อ
ส่วนอีกคู่ มันแอบ sm นะเนี้ย
55555555555555 55
คำว่า ข่มขืน สะเทือนใจไม่น้อยเลย ;A;
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 10 ตอนนี้คนแต่งไม่ตั้งชื่อคนโพสก็คิดไม่ออก {24/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 26-11-2011 20:08:20
ภารกิจเสร็จรีบมาต่อนะ
คุณฟ้าช่วยเปิดใจเร็วหน่อยนะ
สงสารหนึ่ง...
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 10 ตอนนี้คนแต่งไม่ตั้งชื่อคนโพสก็คิดไม่ออก {24/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 26-11-2011 20:12:46
หนึ่ง กะ อิง  ไม่น่าเป็นไปได้ 

ได้ข่าวอิงมีคู่หมั้นแล้วไม่ใช่เหรอ

น้ำฟ้าผิดคาดมาก  อ่านแรกๆว่าเป็นคนพูดน้อย  แต่ตอนนี้ต้องบอกว่า

พูดน้อยต่อยหนัก 555
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 10 ตอนนี้คนแต่งไม่ตั้งชื่อคนโพสก็คิดไม่ออก {24/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: EunSung87 ที่ 26-11-2011 23:09:59
คุณหมอสู้ๆ
ชนะใจฟ้าให้ได้ไวๆน๊า
หัวข้อ: Re: "รัก...เชิญครับ"ตอนที่ 10 ตอนนี้คนแต่งไม่ตั้งชื่อคนโพสก็คิดไม่ออก {24/11/54}ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 26-11-2011 23:44:17
หูยยย
ตอนหลังๆเครียดจริงๆ
คุณฟ้าใจร้าย
และหมอก็น่าสงสารเหมือนเดิม
อิงกะหนึ่ง เฮ้ย ตกใจอ่ะ
ไม้ได้นึกมาก่อนเลยนะเนี่ย
แต่โหดร้ายเกินไปนะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 11 ผมยังรักเขา {27/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 27-11-2011 21:27:41
ตอนที่ 11  ผมยังรักเขา

หลังจากเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่เกิดขึ้น จนกระทั่งผมเข้ามานั่งในรถข้างคุณหมอ มุ่งตรงสู่กรุงเทพ บอกตามตรง ผมเคืองคุณอิงมาก ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าโกรธมากแทบไม่อยากมองหน้า กับเรื่องที่เกิดขึ้นที่คุณอิงทำกับคุณหนึ่งแบบนั้น ชายหนุ่มที่ผมเห็นว่าสุขุม  มีมาด ดูเป็นผู้นำ และเป็นมิตร ทำไมเขาถึงกล้าทำกับคนเป็นลูกน้องได้ มันโหดร้ายมาก ข่มขืนคนที่ไม่มีทางสู้ คุณหนึ่งไม่ใช่ผู้ชายตัวโตอะไรเลย หากเทียบกับคุณอิงแล้วต่างกันมาก ผมถึงบอกว่าคุณหนึ่งไม่มีทางสู้คุณอิงได้แน่ๆ ในเรื่องของพละกำลัง

คุณอิงตัวใหญ่ ทั้งหนา ทั้งสูง สูงและหนากว่าคุณหมอด้วยซ้ำ ส่วนคุณหนึ่งตัวก็แค่นั้นเอง แล้วเรื่องที่ทำกับคุณหนึ่งไปถึงห้าครั้ง ผมแทบไม่อยากเชื่อ คิดไปถึงความเจ็บปวดที่คุณหนึ่งได้รับ แค่ครั้งเดียวของผมก็เจ็บจะแย่อยู่แล้ว แต่นั้นตั้งห้าครั้ง ร่างกายก็ต่างกันซะขนาดนั้น

มันคงจะเจียนตายอย่างที่คุณหนึ่งว่า น้ำตาที่เกือบจะเป็นสายเลือดอย่างที่คุณหนึ่งตะโกนใส่หน้าคุณติน    แต่ความจริงคงอยากซัดมันใส่คุณอิงมากกว่า ผมนึกภาพตามได้เลยว่ามันจะเจียนตายังไง

“เป็นอะไรไปครับ”  คนข้างตัวผมที่ขับรถอยู่หันมาถาม น้ำเสียงเป็นห่วง ก่อนจะชะลอรถเข้าจอดข้างทาง

“เปล่าครับ” ผมบอก สูดลมหายใจเข้าไปอย่างยากลำบาก เพราะอาการติดขัดที่จมูก ผลจากน้ำตาที่ไหลเพราะสงสารคุณหนึ่ง

“เห็นอยู่ครับว่าร้องไห้”

คุณหมอว่า หยิบทิซซู่ส่งให้ผม แต่แล้วเปลี่ยนใจ มือใหญ่ถือทิซซู่ซับน้ำตาบนแก้มของผมเบาๆ   ยิ้มของคุณหมอทำให้รู้สึกดีขึ้น  จากส่วนลึกข้างในผมอยากขอบคุณคุณหมอมากที่ไม่ทำกับผมเหมือนที่คุณอิงทำกับหนึ่ง  เพราะมันเป็นครั้งแรกของผม
คุณหมอรู้ ถึงใจเย็นแล้วอดทนกับผมมาก ผมถึงไม่เจ็บปวดเจียนตายอย่างที่คุณหนึ่งเป็น

“ผมสงสารคุณหนึ่ง...”

ผมพูดออกมา ยั้งคำว่าโกรธคุณหมอไว้แค่ในความคิด อย่างน้อยคุณหมอคงรู้สึกไม่ดีหากผมพูดมันออกไป ยังไงคุณหมอก็เป็นเพื่อนคุณอิง เพื่อนต้องอยู่ข้างเพื่อนใช่ไหม จะถูกจะผิดยังไง คุณหมอก็ต้องพยายามเข้าใจในสิ่งที่คุณอิงทำ แต่ผมไม่ใช่เพื่อนคุณอิงไง ผมถึงไม่เข้าใจและไม่พยายามเข้าใจว่าทำไมคุณอิงถึงทำ เหตุผลมาจากอะไร  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร คุณอิงก็ไม่ควรทำ

“อิงมันไม่ได้ตั้งใจ”  ว่าแล้วไง เข้าข้างเพื่อนจริงๆ ด้วย ทั้งที่ผมรู้ว่าคุณหมอต้องเข้าข้างเพื่อน  ผมอดที่จะไม่พอใจไม่ได้

“นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะครับคุณหมอ ถ้าตั้งใจมันจะไม่มากกว่านี้เหรอ”

“อิงอาจจะมีเหตุผลที่ทำลงไป”

“สรุปแล้วยังไงแน่ครับคุณหมอ ที่คุณอิงทำไปเพราะไม่ตั้งใจหรือทำไปเพราะมีเหตุผล  หรือเพราะคุณอิงเห็นคุณหนึ่งไม่ใช่คน”  ประชดครับ แก้ตัวแทนเพื่อนอยู่ได้

“โธ่..คุณฟ้าครับ อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ  อิงมันไม่ใช่คนแบบนั้น  อิงมันรักหนึ่งนะครับ  ที่ผ่านมามันตามใจหนึ่งมาก คุณฟ้าไม่รู้หรอกครับ”

“ใช่สิครับ ผมจะรู้ได้ไง ผมไม่ใช่เพื่อนของคุณอิงนี่ครับ   จะได้รู้จักนิสัยด้านดีของคุณอิงที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น  ผมมันก็แค่คนที่เดินเข้าไปเจอผู้ชายคนหนึ่งตะโกนบอกคนทั้งห้องว่าเขาถูกข่มขืน  โดนกระทำเหมือนไม่ใช่คน  อ้อนวอนขอร้องให้หยุด ร้องไห้จนน้ำตาจะเป็นสายเลือด  อีกคนก็ไม่สนใจ ทำราวกับเขาไม่ใช่คน”

พูดแล้วน้ำตามันไหลเลย คุณหมอต้องดึงทิซซู่มาซับน้ำตาให้อีกรอบ  อารมณ์ตอนนี้มันทั้งโมโห ทั้งโกรธ เข้าใกล้คำว่าเกลียดอีกนิด มันเลยพาลเอากับคุณหมอไปอย่างห้ามไม่อยู่

“แล้วที่บอกว่ารักน่ะ  คนรักกันเค้าทำกันอย่างนี้เหรอครับคุณหมอ  รักมากเลยต้องข่มขืนใจเขางั้นเหรอ?” พูดไปก็สะอื้นไปครับ น้ำม่งน้ำมูกไหลเลย รอให้คุณหมอเช็ดให้ก็ไม่อยาก หยิ่งครับ  เลยดึงทิซซู่ขึ้นมาเช็ดเองดีกว่า

“โธ่...คุณฟ้า มันไม่ใช่อย่างนั้น”

“ไม่ใช่อย่างนั้น แล้วอย่างไหนครับ”

“โธ่...”

“ไม่ต้องมาโธ่ครับ หรือคุณหมอเคยทำแบบคุณอิง”

“เปล่านะครับ เปล่าๆๆ  ผมไม่เคยปล้ำใคร  คุณฟ้าอย่าใส่ร้ายผมสิครับ”

“ผมไม่ได้ใส่ร้าย  ผมพูดตามที่คิด”

“โธ่...คุณฟ้าครับ อย่าคิดสิครับ สาบานเลยก็ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยจับใครมาปล้ำเลยครับ ด้วยเกียรติของหมอรักษาสัตว์เลยครับ”

“แต่เพื่อนคุณหมอทำ”

“อิงมันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ครับ”

“แต่ก็ทำ”

“มันมีเหตุผลที่ทำ เชื่อผมนะครับ อิงทำอะไรลงไป มันรับผิดชอบอยู่แล้ว  ผมก็เหมือนกัน ทำอะไรลงไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบ”  ไหงเปลี่ยนเรื่องได้เร็วแท้ครับคุณหมอ อย่านึกว่าผมไม่รู้นะว่ากำลังคิดจะพูดอะไร

“ไม่เกี่ยวกัน”

“เกี่ยวครับ”

“ไม่เกี่ยว”

“เกี่ยวสิครับคุณฟ้า”

“ไม่เกี่ยว เรื่องของคุณอิงกับคุณหนึ่ง ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องของคุณหมอกับผมเลยสักนิด อย่าเอามารวมกัน”  เพราะผมไม่ได้ถูกข่มขืน  เพราะผมตั้งใจให้เกิดต่างหาก แล้วเพราะผมไม่ต้องการความรับผิดชอบใดๆ      แม้แต่น้อยจากคุณหมอ  ต่อให้คุณหมอร่ำร้องให้ผมรับผิดชอบตัวคุณหมอ ผมก็ไม่ทำครับ  ผมคิดต่อในใจ ยังไม่กล้าพูดไปตรงๆ ไม่อยากทำร้ายคุณหมอด้วยคำพูดของตัวเอง

“ไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว แต่เรื่องเมื่อคืน ผมจะรับผิดชอบนะครับ”

“ไม่ต้อง” ชักฉุน พูดไม่รู้เรื่องอีกแล้ว

“ต้องสิครับ ผมรับผิดชอบกับสิ่งที่ผมทำเสมอ”

“แต่ผมไม่ต้องการ”

“คุณฟ้า” น้ำเสียงเว้าวอน

“ผมว่าก่อนคุณหมอจะมาเรียกร้องขอรับผิดชอบตัวผม  ผมว่าให้คุณหมอไปบอกคุณอิงให้รับผิดชอบคุณหนึ่งก่อนเถอะ”  เริ่มไม่อยากมีหางเสียงคงๆ ครับๆ อะไรมันแล้ว

เพราะผมโกรธครับ  โกรธทั้งตัวคุณหมอที่พูดไม่รู้เรื่อง  โกรธคุณอิงเพื่อนของคุณหมอด้วย แต่คุณอิงไม่อยู่ ผมเลยพาลได้แต่คุณหมอคนเดียว  ไม่อยากเห็นหน้าคุณหมอ  เห็นแล้วหงุดหงิด ดูต้นไม้ใบหญ้าข้างทางยังดีซะกว่า

“โกธรผมเหรอครับ”

คำถามตรงกับคำตอบของผมเลยครับ แต่ผมไม่ตอบ

“ผมขอโทษ”

“คุณหมอไม่ผิดนี่ครับ”  ความจริงผิดเต็มๆ ผมพูด ยังไม่ยอมหันกลับมาคุยด้วย

“ไม่ผิด แต่คุณฟ้าก็โกรธ”

“ไม่ได้โกรธครับ” ผมหันกลับมาบอก หน้าคุณหมอเหมือนไม่เชื่อ แน่ล่ะ หน้าผมมันฟ้องว่าโกรธอยู่นี่น่า อารมณ์โกรธ อารมณ์โมโหของผมมันหายกันได้ง่ายที่ไหน   ผมน่ะเป็นคนโกรธยาก แต่อย่าให้โกรธขึ้นมาล่ะ มันจะเป็นฟืนเป็นไฟทันที

“แต่คุณฟ้าโกรธ”

“ไม่ได้โกรธ”

“คุณฟ้าโกรธ”

“บอกว่าไม่ได้โกรธ” โกรธครับ แต่ปากแข็ง

“คุณโกรธ”

“ไม่ได้โกรธ”

“คุณโกรธ”

เฮ้อ~~

ผมระบายลมหายใจเหมือนคนที่พยายามจะทำให้ใจเย็นลง  หันหน้าออกไปมองต้นไม้ใบหญ้าอีกครั้ง สงบสติอารมณ์ไปสองอึดใจ   ใจเย็นขึ้นมานิด ถึงได้หันกลับมาคุยกับคนในรถอีกครั้งอย่างใจเย็น

“ครับ ผมโกรธ แต่ตอนนี้ผมหายโกรธแล้ว พอใจยัง แล้วก็ไปได้แล้วครับ”  คุณหมอยิ้มออกมาได้ เปลี่ยนหน้าได้ไวจริงๆ  คงเห็นว่าน้ำเสียงของผมมันลดระดับลงบ้างแล้ว แล้วมองมาที่มือบนตักผมทำไม อ๋อมองขวดนน้ำในมือผม (ผมถือค้างไว้แต่แรกแล้วครับ) สายตานี่ก็ประหลาด มันระยิบระยับแพรวพราวจนหน้าหมั่นไส้

“หิวน้ำ” อยากน้ำว่างั้น

ผมยื่นขวดน้ำในมือให้คุณหมอ แค่หิวน้ำ อยากดื่มน้ำ ทำไมต้องทำหูตาแพรวพราวขนาดนั้นด้วย ผมไม่เข้าใจ มาเข้าใจอีกทีก็ประโยคต่อมาของคุณหมอที่ว่า

“ป้อนหน่อย”

ผมมองหน้าคนพูด ‘ป้อนหน่อย’  แล้วเลิกโกรธได้สนิทแต่มันดันหมั่นไส้แทนนี่สิครับ ท่าทางก็ว่าน่าหมั่นไส้แล้วนะครับ  น้ำเสียงเนี้ย ยิ่งน่าหมั่นไส้มากกว่าอีกหลายเท่า

“ดื่มเองครับ”  ผมยื่นขวดน้ำให้อีกครั้ง คุณหมอไม่ยอมรับ แถมทำหน้างอน ไม่ได้น่ารักเลยสักนิด อยากหากระจกให้ส่องครับ  ผู้ชายตัวใหญ่ทำหน้างอน  มันไม่ได้น่ารักเลยจริงๆ

“ป้อนนะครับ”

“ทำไมครับ”

“วันก่อนยังป้อนเลย”

“วันนั้นคุณหมอขับรถ”

“ตอนนี้ก็ขับ”

“แต่ตอนนี้รถจอดอยู่”

“ป้อนหน่อยนะครับ”

“ไม่ครับ” ผมย้ำเสียงหนัก ไอ้อาการโกรธมันกำเริบขึ้นมาทันที เพิ่งหายไปเมื่อกี้  โดนคุณหมอยั่วให้มันมาอีกจนได้

ผมไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้นนะครับ  ก่อนหน้านี้ขามา ผมยังเต็มใจป้อนน้ำถึงปากคุณหมออยู่เลย เพราะผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกหรือหนักหนาอะไร  คุณหมอขับรถ ดื่มน้ำเองไม่สะดวกผมก็ช่วย  ไม่ได้คิดอะไร มาตอนนี้ไม่คิดไม่ได้ครับ  เพราะการกระทำของคุณหมอมันไม่บริสุทธิ์ใจ

 ไม่ใช่ไม่รู้นี่ครับ  ว่าคุณหมอกำลังคิดอะไรกับผม  คุณหมอกำลังอ้อนผม  กำลังพยายามใช้สิทธิ์กับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน  มันคล้ายกับว่าเราสองคนกระโดดข้ามขั้นตอนไปไกลกันมาแล้ว  แต่ใช่เรื่องอะไรที่ผมจะโอนอ่อนไปด้วยล่ะ คนเรามีอะไรกันไปแล้ว ใช่ว่าจะต้องเป็นของกันและกันตลอดไปนี่น่า มันก็เรื่องอย่างว่าที่เกิดขึ้นโดยปราศจากความรัก  มีแค่ตัณหาเป็นตัวกำหนดแล้วผลักดันให้ดำเนินไป ตามธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ที่มีความต้องการอยู่เหนือเหตุผล

ระหว่างผมกับคุณหมอ เรื่องที่เกิดขึ้น  มันไม่ได้เกิดจากความรักเสียหน่อย...

สำหรับผม ความรักเป็นเรื่องสำคัญครับ ผมอยากมีชีวิตอยู่ด้วยความรัก อยากอยู่กับคนที่ผมรักไปตลอดชีวิต ไม่ใช่คว้าใครคนไหนก็ได้มาร่วมใช้ชีวิตด้วย โดยที่ไม่ได้รัก ผมทำไม่ได้หรอกและไม่มีวันทำอย่างเด็ดขาด

ผมไม่ได้รักคุณหมอ แล้วผมจะใช้ชีวิตต่อไปกับคุณหมอได้ยังไง...

คุณหมอหน้าจ๋อยกว่าเดิม คงไม่อยากดื่มน้ำแล้ว ถึงได้หันหน้าหนีผม เข้าเกียร์พารถแล่นไปข้างหน้าตามทางมุ่งสู่กรุงเทพ

ระหว่างทางเงียบ ชวนอึดอัดกว่าตอนมามาก เราไม่ได้พูดอะไรกัน คุณหมอเงียบ ผมก็เงียบ ทิวทัศน์ด้านนอกสวยงามเพราะความเขียวขจีเช่นเดียวกับตอนขามา  แต่ผมกลับไม่มีอารมณ์นั่งมองมัน ก็เพราะอะไรล่ะ มันเพราะความเงียบชวนอึดอัดนี่น่ะสิ

เฮ้ออออ...

ผมใจร้ายเกินไปหรือเปล่า?

ผมไม่ใช่คนใจร้ายสักหน่อย  แค่ไม่อยากเอาใจคนที่มีความคิดไม่บริสุทธิ์กับผมต่างหาก ถ้าผมเอาใจคุณหมอก็เท่ากับผมให้โอกาสคุณหมอ  เอาเรื่องเมื่อคืนมาผูกมัดผมน่ะสิ  ผมไม่ยอมหรอก ผมยังรักนนท์อยู่ ยังรออย่างมีความหวังว่านนท์จะกลับมาหาผม

ผมยังมีหวังเพราะผมยังรักนนท์ไงครับ...

ผมหวังว่านนท์จะกลับมา

ความรักทำให้ผมมีหวัง


แต่ผมก็ไม่อยากใจร้ายกับคุณหมอที่ขับรถพาผมมาและกำลังขับพาผมกลับ แค่ ‘ป้อนน้ำ’ มันไม่ได้ยากเย็นเข็ญใจอะไรมาก แค่เปิดฝา ใส่หลอด ยื่นเข้าไปใกล้ปาก รอจนดูดจนเสร็จ ก็เก็บคืนเท่านั้นเอง เหมือนที่ผมทำอยู่ตอนนี้ไงล่ะครับ

“น้ำครับ”  ผมจับหลอดดูดไปจอที่ปากคุณหมอ ทำคุณหมอสะดุ้งนิดหนึ่ง คงไม่คิดว่าผมจะเปลี่ยนใจ รถที่แล่นช้าอยู่แล้วยิ่งช้าลง ก่อนจะชะลอจอดข้างทางอีกครั้ง

“ขอบคุณครับ”  คุณหมอบอก เสียงทุ้มนุ่มชวนฟัง ตาพราวระยับท้าสายตาผมที่จ้องตอบไม่ยอมหลบ  ถ้าหลบก็แปลว่าผมหวั่นไหวสิครับ

“หิวน้ำไม่ใช่เหรอครับ” ผมเตือน ไม่อยากเล่นจ้องตานานเกินไป  ไม่ได้หวั่นไหวนะครับ ใจผมยังแข็งพอ ทนทานกับสายตาของคุณหมอได้ดี  แค่อยากกลับไปถึงกรุงเทพเร็วๆ ต่างหาก

“เขาว่าคนน่ารัก มักใจร้าย”  คุณหมอพูด จะพูดเพื่อ?

“ไม่น่ารักก็ใจร้ายได้ครับ ถ้ายังจะลีลาเยอะ”  ผมพูดจบ คุณหมอหลุดขำ ไม่เข้าใจว่าขำทำไม หน้าตาตอนผมพูด มันจริงจังนะครับ ไม่ได้ทำหน้าตลกให้คุณหมอขำ

“ขำอะไรครับ?”

“ไม่มีไรครับ”

“ไม่มีก็ดี แล้วนี่จะ....” ผมยื่นขวดน้ำใกล้ปากคุณหมอ

“ครับๆ”

คุณหมอคงเห็นท่าไม่ดีครับ ผมไม่เล่นด้วย เลยก้มหน้าดูดน้ำจากหลอดดูที่ผมจับยื่นให้ แปลกนะครับ คุณหมอก็จอดรถไว้ข้างทางแล้ว ทำไมผมยังจับหลอดบริการน้ำถึงปากคุณหมอด้วย ไม่เข้าใจ

ไม่เข้าใจไปกว่านั้นคือ ทำไมผมถึงยอมปล่อยให้คุณหมอกุมมือของผมที่ถือขวดน้ำอยู่ได้ เพราะมันอุ่นหรือไงนะ

“ยิ้มอะไรครับคุณหมอ ส่วนมือน่ะ ปล่อยได้แล้วครับ”  หมั่นไส้ครับ ดื่มน้ำจนหมดขวด ยิ้มตาพราว ไม่ยอมปล่อยมือผมอีก จนผมต้องดึงออกแต่ก็กว่าจะดึงได้ก็เล่นเอาเหงื่อตกเหมือนกัน คนอะไรแรงเยอะซะมัด

“เมื่อคืนยังได้เลย” ดูคุณหมอตอกกลับผมครับ ตอกกลับได้น่าใช้ขวดน้ำเปล่าฟาดหัวจริงๆ

“นั่นมันเมื่อคืน แต่ตอนนี้ไม่ใช่”

“เมื่อคืนคุณฟ้าน่ารักมากเลยนะครับ”  อืม...ยังจะพูดอีก จะย้ำเพื่อ?  แต่ขอโทษคิดว่าผมจะอายม้วนละก็ คิดผิดครับ

“หรือครับ ผมไม่เห็นจำได้”

“แต่ผมจำได้  จำได้ทุกอย่างที่เป็นคุณฟ้า”

“แต่ผมจำไม่ได้”  ผมจ้องตาที่แพรวพราวระยิบระยับของคุณหมอ ราวกับจะชวนผมไปท่องยามค่ำคืนนั้นอีกครั้ง  เหอะ...หวังมากไปนะครับคุณหมอ  เมื่อคืนมันก็แค่ผมหาสติตัวเองไม่เจอ ฟุ้งซ่านไปมากเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้สติผมอยู่ครบ

“งั้นผมช่วยนะครับ เผื่อคุณฟ้าจะจำได้” แทบจะทันทีที่พูดจบ ผมถอยหนีใบหน้าที่ยื่นเข้ามาใกล้ชนิดทันทีทันใด  แทบจะจมไปกับประตูรถแล้วเมื่อคุณหมอยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ปลายจมูกเห็นอยู่ใกล้ ปากก็ใกล้พอกัน

ผมหลับตาลง กลั้นหายใจ สองมือผลักอกหนาของคุณหมอไว้สุดกำลัง มันคงช่วยได้หรอก เมื่อปากผมกำลังถูกบุกรุก ลิ้นร้อนๆ กำลังเลาะชิมกับกลีบปากของผม และมันยังพยายามจะเข้ามาเข้าในให้ได้ ผมพยายามเม้มปากไว้แน่น ไม่ยอมง่ายๆ

“ใจร้าย”  ดูเถอะครับ ผมไม่ยอมก็หาว่าผมใจร้าย พอผมลืมตา อ้าปากจะด่ากลับกลายเป็นว่าผม...ถูกหลอก เสียทีคุณหมอจนได้

“แล้วใคร...ชะ....อื่ออออออ”  คุณหมอเจ้าเล่ห์หลอกผมให้เปิดปากด่า แล้วก็จัดการส่งลิ้นร้อนเข้ามาบุกรุก พันเกี่ยวเอากับสิ้นของผม ที่พยายามจะหลบหนีแต่ก็จนมุม

ไอ้หมอบ้า...ทำผมเคลิ้ม

ผมแค่เคลิ้มนะครับ ไม่ได้ให้ความร่วมมือ คุณหมอฝืนใจผม บังคับลิ้นของผมให้ตอบสนองอย่างเลี่ยงไม่ได้

“พะ...พะ...พอได้แล้ว”  ผมกลั้นใจ รวบเอาเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี  ผลักอกหนาให้ถอยห่าง มันง่ายขึ้น เพราะคุณหมอพอใจกับผลงานตัวเองแล้วต่างหาก

คนบ้า ทำเอาผมแทบขาดอากาศหายใจ ยังจะมีหน้ามายิ้มอีกนะ   ยิ้มได้กวนมาก!! ขอบอก!

“ไม่ต้องมายิ้ม” ผมชี้หน้าครับ ไม่ได้โกรธจริงจัง ทำไมไม่รู้ ก็มันไม่โกรธจริงๆ นี่ครับ

“ครับ”  คงพอใจแล้วมั้งครับ ถึงได้ยิ้มอารมณ์ดี

“อย่าทำอีก ผมไม่ชอบ”  ถึงไม่โกรธก็ไม่ได้แปลว่าชอบนะครับ

“ไม่รับปากครับ”

“คุณหมอ!”

“คุณฟ้า~~~”

“....................”

ผมพูดไม่ออกครับ ไม่ได้โกรธจนอยากจะด่า เลยไม่รู้จะด่าอะไรคุณหมอ เงียบดีกว่า ไม่อยากต่อปากต่อคำ รู้สึกว่าคุณหมอเป็นคนพูดน้อย (มาก) ที่พูดไม่รู้เรื่อง   ผมว่าผมหน้าด้านที่ไปยั่วคุณหมอเมื่อคืน แต่ผมว่า คุณหมอหน้าด้าน หน้าหนา หน้าทนกว่าผมเยอะ

“จะไปได้หรือยัง ผมยังอยากกลับกรุงเทพอยู่นะครับ”  เปลี่ยนเรื่องดีกว่า ขืนนั่งให้คุณหมอจ้องอยู่อย่างนี้ คงไม่ได้กลับมันแล้วครับ

“ครับ” จะกว้างไปไหนครับคุณหมอ ยิ้มของคุณหมอน่ะ  ผมละอ่อนใจ แต่ก่อนที่คุณหมอจะออกรถ โทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นมาเสียก่อน

02-…………………..

เบอร์ที่ร้าน

“ว่าไง แดนหรือยีนเนี้ย” ผมรับแล้วถามตามความเคยชิน คนที่ใช้เบอร์ของร้านโทรมาหาผม มันก็มีอยู่แค่สองคนแหละครับ ไม่เด็กแดนก็สาวยีน

“ยีนค่ะพี่ฟ้า”

“ที่ร้านยุ่งมากเหรอ ไม่ต้องห่วงนะ เนี้ยพี่กำลังจะกลับพอดี น่าจะอีกสามชั่วโมงคงถึง”  ทั้งที่มันน่าจะใช้เวลาน้อยกว่านี้   ถ้าคนขับรถไม่ใช่คุณหมอที่ขับได้ช้ามากเหมือนขับอยู่บนถนนกรุงเทพ แถมยังขับๆ จอดๆ อีก

“ร้านไม่ยุ่งเท่าไหร่ค่ะพี่ฟ้า แต่มีเรื่องเกิดขึ้น” เสียงของยีนไม่ดีเท่าที่ควรเลย ผมชักใจคอไม่ดีขึ้นมา หรือว่าร้านถูกงัด

“ร้านถูกงัดเหรอ?”  ร้านน่ะไม่ห่วงเท่าไหร่หรอก ผมห่วงแดนมากกว่า รายนั่นนะพักอยู่ชั้นบนของร้าน

“เปล่าค่ะพี่ฟ้า แต่ว่า.....” ยีนเหมือนลำบากใจที่จะพูด

“เปล่าแล้วอะไร”

“คือ...คือ....”

“เอาแต่คือ พี่จะรู้ไหม” ผมร้อนใจครับ ไม่ใช่โจรงัดร้านก็ดีไป แต่เรื่องที่เกิดมันก็คงเลวร้ายไม่ต่างกันมาก ไม่งั้นยีนคงไม่อึกอักแบบนี้

“มีเรื่องเกิดที่ร้านสองเรื่องค่ะพี่ฟ้า  พี่ฟ้าอยากฟังเรื่องไหนก่อน เรื่องแรกหรือเรื่องที่สอง” ถามมาอย่างนี้คงไม่ร้ายแรงเท่าไหร่ละมั้ง

“เรื่องแรกก่อนก็ได้” ผมเบาใจขึ้นเยอะแล้วครับ

“ยีนเล่าเรื่องที่สองก่อนดีกว่าค่ะ” เอาเข้าไปนะยีน

“ว่ามา”

“คือว่าพี่นนท์....”

“นนท์เป็นอะไร” เริ่มหนักใจอีกแล้ว เรื่องอะไรเกี่ยวกับนนท์  ถึงขั้นที่ยีนต้องโทรมาบอกผม ทั้งที่ยีนไม่ค่อยชอบหน้านนท์เท่าไหร่ คงไม่อยากเอาเรื่องอะไรเกี่ยวกับนนท์มาบอกผม ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ

“พี่นนท์ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ แต่ว่า...”

“แต่ว่าอะไร”

“พี่นนท์มาที่ร้าน”

“นนท์มาหาพี่เหรอ”  ผมดีใจครับ นนท์มาหาผม หรือว่านนท์จะมาขอคืนดี ผมดีใจมากครับ ยิ้มจนแก้มจะฉีกแล้วเนี้ย

“น่าจะคะ  แต่เรื่องที่ยีนจะบอกพี่คือว่า พี่นนท์มาที่ร้านแล้วรับพนักงานสองคนเข้าทำงานในร้านค่ะพี่ฟ้า ยีนไม่รู้จะทำยังไง  บอกว่าให้รอพี่ฟ้าก่อน แต่พี่นนท์ไม่สนใจ  เค้าบอกว่าถ้าพี่ฟ้าไม่จ่ายเงินเดือนให้ เดี๋ยวพี่เค้าจะจ่ายให้เอง”

“แล้วนนท์มายุ่งอะไรด้วย ไหนพี่ขอคุยกับนนท์หน่อย”  ผมรักนนท์ก็จริง แต่ผมก็ไม่ชอบให้นนท์มาตัดสินใจอะไรแทนผม เรื่องนี้ก็เหมือนกัน มารับคนเข้าทำงานแทนผมได้ไง ลูกน้องของผม  ผมต้องเลือกด้วยตัวเองสิครับ จะได้รู้ว่าสามารถทำงานด้วยกันได้หรือเปล่า 

“พี่นนท์ไปแล้วค่ะ”

“ไอ้บ้านนท์นี่นะ ทำอะไรเอาแต่ใจตัวเองอีกแล้ว”  นิสัยนนท์ก็แบบนี้แหละครับ เอาแต่ใจตัวเอง อยากทำอะไรก็ทำ

“จะเอายังไงดีคะ น้องเค้ายังอยู่ที่นี่อยู่เลย”  ยีนคงหมายถึงคนที่มาสมัครงงาน
 
“ยีนบอกเขาไปนะว่า เดี๋ยวพี่กลับไปสัมภาษณ์ให้รอก่อน ยังไม่ต้องทำอะไร”  ความจริงผมก็อยากจะรับคนเพิ่มครับ  แต่รับทีเดียวถึงสองคนคงไม่ไหวหรอก กะว่าเดี๋ยวกลับไปจะทดลองงานดูก่อน ขอเลือกแค่คนเดียว  ส่วนคนที่ไม่ผ่านผมคงจะให้ค่าเสียเวลาไปบ้าง สงสารน่ะครับ ถูกหลอกให้ดีใจเก้อ

“คงไม่ได้แล้วล่ะค่ะพี่ฟ้า ตอนนี้น้องเค้าทำงานแทนแดนไปแล้ว” ยีนบอกเสียงเบาเหมือนกลัวถูกผมดุ

“ทำงานแทนแดน หมายความว่าไง”

“ก็เรื่องนี้ค่ะเป็นเรื่องที่สอง แดนมีเรื่องกับพี่นนท์ แล้วก็โดนลากไปแล้วค่ะพี่ฟ้า”

“ห๊า มันเกิดเรื่องอะไร แดนไปทำอะไรนนท์”  ผมร้อนใจครับ นนท์กับแดนไม่ถูกกัน นนท์ไม่เท่าไหร่ ไม่ได้อะไรกับแดนมาก เป็นแดนที่ตั้งท่าเกลียดขี้หน้านนท์

“แดนสาดกาแฟใส่หน้าพี่นนท์ค่ะ พี่นนท์โกรธ ลากแดนออกไปเลย ยีนเป็นห่วงแดน พี่ฟ้าโทรหาพี่นนท์ได้ไหมคะ ยีนโทรหาแดนไม่รับ  สงสัยโดนพี่นนท์ยึดโทรศัพท์ โทรหาพี่นนท์ พี่นนท์ก็ไม่ยอมรับ ยีนจะโทรหาพี่ป้องก็กลัวมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่”    ป้องพี่ชายของแดนอีกคนครับ

“พี่ฟ้าคะ ทำไงดี ยีนห่วงแดน แล้วยีนก็ไม่ไว้ใจพี่นนท์ด้วย กลัวพี่นนท์จะทำอะไรแดน”

“นนท์คงไม่ทำอะไรแดนหรอก” ผมเชื่อว่างั้นนะครับ นนท์เป็นผู้ใหญ่พอนะผมว่า คงไม่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายแดนหรอก อาจจะแค่พาไปเคลียร์กันนอกร้าน

“แต่พี่ฟ้าคะ คือ...เอ่อ...ยีนไม่อยากบอกพี่ฟ้านะคะ แต่ยืนว่ายีนต้องบอกแล้วล่ะค่ะ คือยีนรู้สึกแปลกๆ กับสายตาพี่นนท์ที่มองแดน ยีนว่ามัน...เอ่อ....มัน....”

“มันอะไร?”

“มันเหมือนมีอะไร”

“ยังไง” ผมลุ้นมาก มีอะไรที่ผมไม่เห็นแต่ยีนเห็น

“เหมือนพี่นนท์จะชอบแดน” เสียงยีนเบามาก แต่ผมได้ยินชัด แล้วหูมันก็อื้อ ตามันก็ลายไปหมด ไม่อยากเชื่อเรื่องที่ยีนบอก

“แน่ใจเหรอยีน” ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก คิดว่าถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติแล้วนะ แต่ยีนกลับไม่ได้ยิน

“พี่ฟ้าคะ ฟังยีนอยู่หรือเปล่า พี่ฟ้า พี่ฟ้า”

“แค่นี้ก่อนนะยีน ดะ...เดี๋ยวค่อยคุยกัน”  ผมพยายามพูดให้ดังกว่าเดิม กลัวยีนจะไม่ได้ยิน มันยากเย็นครับกว่าจะตะโกนบอกยีนไปได้  หากผมก็รู้ครับเสียงมันก็คงได้อยู่แค่ลำคอ  ไม่หลุดออกมาเป็นถ้อยคำที่ชัดเจนนัก

“พี่ฟ้า ยีนไม่ได้ยิน” เสียงยีนว่ามา ผมจนปัญญาที่จะตอบ หาเสียงของตัวเองไม่เจอ ลำคอมันตีบตัน หายใจยิ่งติดขัด  ยังดีที่ยังคงมีแรงเหลือที่จะถือโทรศัพท์ไว้แนบใบหู ฟังเสียงยีนที่เฝ้าบอกผมว่า...

“พี่ฟ้า ยีนไม่ได้ยินเลย พี่ฟ้า พี่ฟ้าได้ยินยีนพูดไหม พี่ฟ้า....สงสัยสัญญาณไม่ดีแน่ๆ เลย แล้วใครจะช่วยแดนได้ แดนเอ้ยแดน ไม่น่าเลย........”

ตุ๊ด...ตุ๊ดดดดด

วางสายไปแล้วครับ ยีนวางสายไปแล้ว แล้ว...แล้ว...แล้วผมควรจะทำยังไงต่อไปดี ถ้าเรื่องที่ยีนพูดเป็นความจริง  ยีนไม่ได้คิดไปเอง นนท์ชอบแดน แล้วผมล่ะ ความรักของผมล่ะ ความหวังของผมล่ะ มันหายไปแล้วใช่ไหม?

ผมกำลังหมดหวังแล้วใช่ไหม?

ถ้าคนที่นนท์ทิ้งผมไปหาเขา คนๆ นั้นคือแดน

แล้วผม แล้วผมจะกล้าโกรธ กล้าเกลียดคนๆ นั้นได้ไหม

แดนไม่ใช่แค่เด็กในร้าน ไม่ใช่ลูกน้องตัวดีของผม แต่แดนเป็นน้องที่ผมคิดว่าเป็นน้องจริงๆ  ผมรักแดน เหมือนที่พี่ๆ ทุกคนของแดนรักแดน รักและหวังดีกับแดน   แต่ตอนนี้แดนคือคนที่แย่งความรักของนนท์ไปจากผม

แดนผิดเหรอ?

มันคือคำถามที่มีคำตอบอยู่แล้ว แดนจะผิดอะไร ในเมื่อแดนอยู่ของแดน แทบจะเกลียดขี้หน้านนท์ด้วยซ้ำ แดนรักผมมากแค่ไหนก็คงเกลียดขี้หน้านนท์เท่านั้น ข้อนี้ผมรู้ดี

แต่...

แต่...

แต่....

นนท์ก็เลือกแดน เลือกรักแดนมากกว่าผม นนท์ทิ้งผมไปเพราะต้องการจริงจังกับแดน การกระทำของนนท์มันแสดงออกว่าอย่างนั้น   ถ้าเป็นแค่ความหลง อารมณ์ชั่ววูบ นนท์คงไม่บอกเลิกผมเพื่อไปหาแดน เหมือนทุกครั้งที่ต่อให้นนท์ไปมีใคร มีอะไรกับใคร  สุดท้ายนนท์ก็เลือกผม ไม่เคยจะเอ่ยปากขอเลิกกับผมเลย

ครั้งนี้กับแดน มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย...



“คุณฟ้า”

มีคนเรียกชื่อผม คุณหมอเรียกชื่อผม  ผมถึงรู้ตัวว่ากำลังร้องไห้  ไม่มีเสียงสะอื้น มีเพียงน้ำที่ไหลจากดวงตาสู่ผิวแก้ม มือใหญ่เอื้อมมาเช็ดมันออกจากแก้มทั้งสองข้าง  ไม่ได้ใช้ทิซซู่  ผมอยากจะยิ้มตอบความห่วงใยที่ส่งมาทางสายตาและมืออุ่นของคุณหมอ ทว่าผมฝืนยิ้มไม่ได้เลย ไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ ที่จะยิ้มออกมา แค่จะให้ปากขยับ ผมยังทำไม่ได้เลย

“ไม่ร้องนะครับ”

ไม่รู้ว่าคุณหมอรู้หรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม  เรื่องที่ได้ยินก็มีเพียงจากปากผมคนเดียว ส่วนปลายสายนั้นคุณหมอไม่มีวันรู้ได้ ว่าเนื้อหาทั้งหมดส่งมาหาผมยังไงบ้าง ทำไมถึงทำให้ผมร้องไห้

ผมใช้อกของคุณหมอเป็นที่รองรับน้ำตา เมื่อคุณหมอดึงผมเข้ามากอด รัดแน่นขึ้น เหมือนจะเพิ่มกำลังใจให้กับผม หรือไม่ก็ต้องการบอกกับผมว่า ผมยังมีคุณหมอนะ

แต่...

แต่...

แต่...คุณหมอไม่ใช่นนท์ ผมอยากให้นนท์กอดปลอบผม ไม่ใช่คุณหมอ   มันไม่เหมือนกันเลยสักนิด อ้อมกอดของคุณหมอกับอ้อมกอดของนนท์

ผมอยากให้นนท์กอดปลอบ แล้วบอกว่าสิ่งที่ยีนพูด ไม่ใช่เรื่องจริง ไม่มีวันที่มันจะเป็นไปได้ นนท์ไม่ได้รักแดน นนท์รักผม...

ผมอยากได้ยินคำพูดพวกนี้ต่างหาก ไม่ใช่คำพูดจากคุณหมอที่ว่า...

“อย่าร้องนะครับ”

ผมจะร้อง จะร้องให้ขาดใจตายไปเลย

“คุณฟ้ายังมีผมนะครับ”

ผมไม่ต้องการคุณหมอ คนเดียวที่ผมต้องการคือนนท์

คนเดียวที่ผมต้องการคือนนท์ คุณหมอเข้าใจไหมครับ คนๆ นั้นไม่ใช่คุณหมอ คนที่ผมรักไม่ใช่คุณหมอแต่เป็นนนท์

ผมได้แต่บอกประโยคนั้นซ้ำซากอยู่ในใจ ไม่ใช่เพราะห่วงความรู้สึกคุณหมอ แต่เป็นเพราะผมไม่มีแรงแม้แต่จะพูดออกอะไรออกมาต่างหาก

“นิ่งนะครับ”

ผมไม่ได้เชื่อคุณหมอ ผมแค่นิ่ง นิ่งเพื่อจะฟังเสียงหัวใจของตัวเอง ว่ามันยังคงเต้นอยู่หรือเปล่า?  คุณหมอยังคงปลอบผมต่อไปโดยไม่รู้อะไรเลยว่าผมทำอย่างที่คุณหมอพูดไม่ได้สักอย่างเดียว

“ลืมเขาไปเถอะครับ”

คุณหมอบอกให้ผมลืม ผมอยากเถียงว่าจะลืมได้ยังไง  นนท์คือคนที่ผมรัก ผมจะลืมคนที่ผมรักได้ยังไง  กี่ปีที่ผมมีนนท์อยู่ข้างตัวมาตลอด  มันไม่ง่ายเลยที่จะลืมนนท์ ให้ตายยังไง ผมก็ลืมนนท์ไม่ได้

ผมร้องไห้เงียบๆ ไม่มีเสียง มีเพียงน้ำตาที่ไหลไม่ขาดสายบนอกของคุณหมอ  มือใหญ่โอบกอดผมแน่นขึ้น ตามแรงสะอื้นที่หนักขึ้นเรื่อยๆ   ผมอึดอัดกับอ้อมกอดของคุณหมอ แต่ไม่เท่ากับภายในใจที่มันแทบระเบิดอยู่ตอนนี้

ทำไมต้องเป็นแดนด้วย?


>>>>>>>>>>>>>>>>>> Happy <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<



ปล  บวก 1 ให้ทุกเม้นท์แทนคำขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมค่ะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 11 ผมยังรักเขา {27/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 27-11-2011 21:51:43
ฟ้าเลิกสะกดจิตตัวเองเถอะ ฟ้าไม่ได้รักคนคนนั้นแล้วล่ะ ธ่อ คุณหมอ จะไหวมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 11 ผมยังรักเขา {27/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 27-11-2011 21:58:57
>>>>>>Still NOT Happy<<<<<<
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 11 ผมยังรักเขา {27/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 27-11-2011 22:20:47
จุกอก ไม่น่าเป็นน้องแดนเลย
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 11 ผมยังรักเขา {27/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 27-11-2011 22:52:25
สงสารคุณหมอ ทำไมต้องเป็นอย่างนี้ทุกทีด้วย
เรื่องชักจะพันกันไปกันมาจนยุ่งแล้วนะเนี่ย
แถมยังมีปัญหาเกือบทุกคู่เลยด้วย
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 11 ผมยังรักเขา {27/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 27-11-2011 23:23:46
เหมือนฟ้าจะยึดติด เป็นความเคยชิน และไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง

และ นนท์เองก็สร้างความเคยชินนั้นให้กับฟ้าด้วย

ปอลอ

สงสาร คุณหมอ มีแววว่าจะอกหักซ้ำสอง

สงสาร หนึ่ง อิง และอีก 2 สาว ที่ไม่รู้เรื่องราวอะไร แต่ต้องมาเสียคนรักไป (เพราะผู้ชาย)

ขอบคุณที่ +1 ให้นะคะ ตอบแทนด้วย +1 เหมือนกัน  :L2:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 11 ผมยังรักเขา {27/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 28-11-2011 06:20:45
 :monkeysad:อยากให้ฟ้าลองเปิดใจให้กับคุณหมอให้โอกาศตัวเองดูอย่าใจร้ายกับหมอมากค่อยๆเริ่มต้น
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 11 ผมยังรักเขา {27/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 28-11-2011 07:49:25
เอิ้วว...พลิกล็อก แดน กะ นนท์ ง้านเรอะ ...
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 11 ผมยังรักเขา {27/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 28-11-2011 08:42:55
โอะ โอ เป็นอย่างงี้ไปเสียได้

ไม่รู้จะสงสารใครดี :m28: o7

รออ่านนะคะ :z2:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 11 ผมยังรักเขา {27/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 28-11-2011 13:29:31
น้ำฟ้ารักมากเจ็บมาก :กอด1:
 :กอด1:ปลอบคุณหมอ
+1จ๊า
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 11 ผมยังรักเขา {27/11/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: crazy Y ที่ 29-11-2011 22:08:17
มารับ บวก   อ๊ะ อะ  ล้อเล่น  :m20:

มาเชียรคุณหมอสัตว์

ขอบคุณค่ะ ยาวสะใจมาก   ยังบวกคืนไม่ได้ งั้นเอาลูกเป็ดไปนะค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 12 ด้วยความยินยอม {3/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 03-12-2011 12:31:19
ตอนที่ 12

เกือบกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วครับที่ผมดึงเอาตัวคุณฟ้าเข้ามากอด ลูบกลุ่มผมนุ่มหนาไปมา เพื่อปลุกปลอบให้คนๆ นี้อาการดีขึ้น เหมือนไม่ได้ผล คุณฟ้ายังร้องไห้เงียบๆ กับอกผม น้ำตาที่ไหลซึมผ่านเนื้อผ้าตรงหน้าอก มันฟ้องว่าคนๆ นี้ยังไม่หยุดร้องไห้ แม้ไม่มีเสียงที่ส่งผ่านมาให้ได้ยิน แต่รอยสะอึกและอาการสั่นของเนื้อตัวบอบบางทำให้ผมรู้

“ขอบคุณ....ครับคุณ...หมอ ผม...อึก.. ผมไม่เป็นไร ....อึก...แล้ว”

แล้วร่างบางนั้นก็ฝืนตัวออกจากอ้อมกอด ผมปล่อยคุณฟ้าให้เป็นอิสระ หลังจากฟังประโยคกระท่อนกระแท่นนั้นจบ หน้าของคุณฟ้าแดงช้ำด้วยรอยน้ำตา ตาบวมเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างนัก ปากบางเม้มเข้าหากันเหมือนพยายามกลั้นก้อนสะอื้น นั่งมองผมด้วยสายตาเรียบเฉย เมื่อผมเช็ดคราบน้ำตาที่เลอะแก้มออกให้ ไม่มีแล้วครับน้ำตา คงมีแค่แรงสะอื้นน้อยๆ ที่เล็ดลอดออกมาจากปากที่เม้มแน่น

ผมไม่รู้จะพูดอะไร ไม่มีคำปลอบโยนใดๆ อีกแล้ว เพราะคุณฟ้าคงไม่ต้องการ   ผมรู้ เพราะก่อนหน้านี้ถ้อยคำที่ผมพยายามเฝ้าบอก  ไม่ได้ทำให้น้ำตาจากดวงตาคู่ที่ผมมองสบอยู่นี้หยุดไหลได้เลย บางครั้งคุณฟ้าก็ต่อต้านคำปลอบของผม ด้วยการฝืนตัวจะออกจากอ้อมแขน แต่ก็ทำอะไรมากไปกว่านั้นไม่ได้ เมื่อผมไม่ยอมปล่อย ซ้ำยังรัดให้แน่นกว่าที่เคย

ทำไมคุณฟ้าถึงต่อต้านผม  คงเพราะผมบอกให้คุณฟ้าลืมผู้ชายคนนั้นไปเสียที  ลืมคุณนนท์ไปซะ หรือคำพูดอะไรทำนองนี้แหละ ผมพูดเยอะมาก จนจำไม่ได้ว่าพูดอะไรไปบ้าง แต่นั่นแหละ คุณฟ้าไม่ชอบคำพูดพวกนั้นของผม  ถึงต่อต้านด้วยการฝืนตัวออกจากอ้อมกอดผมทุกครั้งที่ผมบอก

ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะลืม คุณฟ้ากับคุณนนท์คบกันมานานเท่าไหร่ ผมไม่รู้ระยะเวลาที่แน่นอน แต่คาดว่าน่าจะนานมากพอสมควร   ตามคำบอกเล่าของยีน ตอนนั้นผมไม่ได้ใส่ใจมากนัก ถึงจำไม่ได้ว่ามันยาวนานถึงกี่ปี

 แต่สิ่งที่ผมอยากรู้มากในตอนนี้คือ เกิดอะไรขึ้นกับคุณฟ้า สาวยีนลูกน้องในร้านเชิญครับโทรมาพูดเรื่องอะไรบ้าง ถึงทำให้เจ้านายของเธอร้องไห้กว่าครึ่งชั่วโมง

เรื่องราวที่ผมประติดประต่อจากการฟังที่คุณฟ้าพูด  เรื่องที่ทำให้คุณฟ้านิ่งไปในทันทีคือเรื่องของคุณนนท์กับเด็กแดน ที่ผมไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร พอรู้บ้างจากที่ได้ยินแค่ว่า คุณฟ้าดีใจมากเมื่อถามน้องยีนว่า ‘นนท์มาหาพี่เหรอ?   น้ำเสียงนั้นตื่นเต้นและดีใจมาก จนผมรู้สึกแปลบที่อกด้านซ้าย ถึงจะเจ็บแต่ทำไงได้ ผมรู้ตัวว่ามาทีหลัง  มาช้าไปและมาช้ามาก  ยังไงคุณนนท์ก็คือคนที่คุณฟ้ารัก  ผมว่าถึงตอนนี้คุณฟ้าก็ยังคงรักอยู่ เขาสองคนเพิ่งเลิกรากันไปแค่สามวันเอง  คุณฟ้าคงยังไม่เข้มแข็งพอที่จะเลิกรักคุณนนท์ได้ในเวลาแค่สามวัน  อันนี้ผมเข้าใจ เข้าใจจริงๆ แต่ก็นั่นแหละ ความเข้าใจมันก็มาพร้อมกับเจ็บแปลบๆ อยู่ดี

หากถามผมว่า ผมรักคุณฟ้าเหรอ? ผมคงโกหกไม่ได้ว่า

‘ผมรักคุณฟ้า’

ความรู้สึกตอนนี้มันอาจยังไม่ใช่ความรัก  มันเป็นแค่ความถูกตาต้องใจ มันเป็นจังหวะที่คุณฟ้าไม่มีใคร แล้วเป็นโอกาสที่ผมได้ใกล้ชิดและทำความรู้จัก

เราทั้งคู่เป็นอิสระ...

ถ้ากรณีน้องลมนั้น ยอมรับเลยครับว่าผมตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอ  แต่กับคุณฟ้า ผมไม่ได้มีอาการตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอเลย  มันอาจจะเป็นเพราะช่วงนั้นผมเฝ้ารอความรักจากน้องลม และคุณฟ้าเองก็มีคุณนนท์อยู่ข้างกายเสมอ  มันจึงเป็นจังหวะที่ไม่พอดีกัน ไม่มีทางไหนที่ทำให้ผมเกิดความรู้สึกรักคุณฟ้าขึ้นมาได้ ความรู้สึกตอนนั้นก็คงแค่ว่า....

‘ผู้ชายคนนี้น่ารัก มีรอยยิ้มที่สดใส ดวงตากลมๆ ชวนมอง’

......เท่านั้นเอง

แต่ว่าตอนนี้ ผมไม่ได้รักน้องลมแล้ว ผมเก็บเอาความรักที่เคยให้น้องลมกลับมาหมด ไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว  แค่ยังมีความรู้สึกดีๆ จากคนที่เคยรักให้ไป แล้วเมื่อผมมาเจอคุณฟ้าอีกครั้ง ในจังหวะที่พอดีแบบนี้ มันจึงทำให้ผมอยากเรียนรู้และไม่อยากปล่อยคุณฟ้าให้หลุดมือไป

ถ้าผมทำได้นะ....

และถ้าคุณฟ้าจะยอม...

มันอาจเป็นความรู้สึกเริ่มต้นของ ‘ความรัก’ ก็ได้ ผมว่าอย่างนั้นนะครับ

“ออกไปสูดอากาศข้างนอกดีไหมครับ” ผมถาม เพราะเราสองคนนั่งอยู่ในรถนานมาก อาการตอนสายๆ ใต้ร่มไม้ข้างทาง ลมเย็นๆ พัดผ่าน น่าจะทำให้คุณฟ้าอาการดีขึ้นบ้างก็ได้

“ผมอยากกลับกรุงเทพ” คุณฟ้าบอก

“ครับ”

“ขอโทษนะครับ ที่ผมรบกวนคุณหมอ”  ตาช้ำบวมมองมาที่หน้าอกของผม ผมใส่เสื้อยืดสีขาว เห็นรอยน้ำตาชัดเลยครับ มันซึมเลอะไปทั้งหน้าอกผมแล้ว

“ไม่เป็นไรครับ” ผมพูดยิ้มๆ

“..............”

“อย่าคิดมาครับ”

พอผมพูดจบก็เหมือนคุณฟ้าจะนึกอะไรออก  รีบหยิบโทรศัพท์ที่หล่นบนเบาะข้างตัวขึ้นมา กดปุ่มแล้วยกขึ้นแนบชิดกับใบหูเล็กๆ รอนานมาก แต่คนปลายสายไม่รับ ผมรู้เพราะคุณฟ้าลดโทรศัพท์ลง แล้วกดโทรออกไปอีกครั้ง เดาว่าน่าจะเป็นเบอร์เดิม  และเป็นแบบนี้อีกห้าถึงหกครั้ง ปากบางสีซีดกัดเม้มอย่างรอคอย คนตรงหน้าผมคงทั้งเสียใจทั้งหงุดหงิด  ใบหน้าแดงช้ำบอกอย่างนั้น นานมากครับที่คุณฟ้าเฝ้าโทรหาคนปลายสาย ผมว่าเกือบยี่สิบครั้งแล้วครับที่คุณฟ้ายกโทรศัพท์ขึ้นแนบใบหู  ทว่าก็ไร้ความหมายเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมรับโทรศัพท์

ผมเดาว่าคนๆ นั้นคือคุณนนท์ เพราะคงไม่มีใครที่ทำให้คุณฟ้าทั้งร้อนรนและเป็นทุกข์ได้มากอย่างนี้

คุณฟ้าไม่ละความพยายาม  ส่วนผมก็เอาใจช่วย ไม่อยากให้คุณฟ้าทรมานเพราะการที่ใครอีกคนไม่ยอมรับโทรศัพท์

ในที่สุดความพยายามของคุณฟ้าก็สำเร็จในครั้งนี้

ใช่คุณนนท์จริงๆ ด้วยครับ เมื่อคุณฟ้าเรียกชื่อนั้นออกมา

“นนท์” เสียงของคุณฟ้าแหบมาก จนผมเกรงว่าอีกคนหนึ่งจะไม่ได้ยิน

“ทำอะไรอยู่” คุณฟ้าดูกล้าๆ กลัวๆ ที่จะถาม

“........................”

“นนท์....” เหมือนจะพูด แต่ก็หยุด

“นนท์....” อีกครั้งที่คุณฟ้าทำชั่งใจในคำพูดของตนเอง

“นนท์....”

คุณฟ้าเรียกชื่อคนปลายสายถึงสามครั้ง แต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมา แต่แล้วก็พูดในสิ่งที่ผมรู้ดีอยู่แล้วและทำให้ผมเจ็บแปลบอีกครั้ง

“ฟ้ารักนนท์นะ”  เจ็บแต่ไม่มาก เพราะเข้าใจว่ายังไงคุณฟ้าก็ยังเลิกรักคุณนนท์ไม่ได้

“........................”

“แต่ฟ้ารักนนท์”  ไม่รู้อีกฝ่ายพูดว่าอะไร คุณฟ้าถึงพูดคำเดิมอีกครั้ง แต่ด้วยน้ำเสียงที่เบากว่าเดิมมาก ชนิดที่ว่าน่าจะพูดออกมาจากความรู้สึกร้าวรานข้างใน

“.....................”

“ทำไมถึงพูดอย่างนั้น”

“.......................”

“นนท์....”

“.......................”

“ดะ...เดี๋ยวนนท์ เดี๋ยวนนท์ อย่าเพิ่งวาง อย่าเพิ่ง...” ฝ่ายนั้นคงไม่อยากคุยกับคุณฟ้า

ผมสงสารคุณฟ้าจับใจแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากระบายความอัดอั้นผ่านมือที่กำพวงมาลัยรถไว้แน่น  ถ้าผู้ชายคนนั้นอยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ แล้วทำให้คุณฟ้าเสียใจจนร้องไห้ ผมจะชกเขาให้สาสมกับสิ่งที่เขาทำกับคุณฟ้า   แล้วตอนนี้คนๆ นั้นจะรู้ไหมว่าคุณฟ้าต้องบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น ไม่ให้หลุดเสียงสะอื้นให้ได้ยิน ต้องฝืนบังคับตัวเองแค่ไหน เพื่อให้คุยกับคนๆ นั้น ด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติที่สุด

“แดน.....” คุณฟ้ายังพูดต่อ แปลว่าอีกคนยังไม่วางสาย

“...แดน  แดนอยู่กับ...นนท์   หรือเปล่า?”

“................” ผมไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นตอบว่าอะไร คุณฟ้าถึงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ กัดปากกั้นก้อนสะอื้น จนตัวสั่นเทา  ผมอยากดึงร่างนั้นเข้ามากอดปลอบ แต่ต้องฝืนตัวเองเอาไว้

“ทำไมถึงอยู่ด้วยกัน”

“.......................”

“นนท์...อย่าทำอะไรแดนนะ”

“....................”

“นนท์รัก...ระ...รัก...อึก...อึก...รักแดน....เหรอ” น้ำตาคุณฟ้าไหล ผมมองด้วยใจที่เจ็บปวดแทน

“...................”

“ทำไมนนท์  ทำไมต้องเป็นแดน”

“.....................”

“นนท์...อื่อออออ” แล้วคุณฟ้าก็ปล่อยโฮออกมา  ไม่ใช่การร้องไห้ที่ไม่มีเสียงอีกต่อไป มือที่กำโทรศัพท์สั่นระริก  แล้วมันก็ร่วงลงพื้น เมื่อมือทั้งสองถูกยกขึ้นมารองรับน้ำตาที่ไหลอย่างรุนแรงราวกับเขื่อนแตก

ไม่แล้วครับ ผมไม่ได้ดึงคุณฟ้าเข้ามากอด ผมรู้ว่าไม่ได้ผล ผมเพียงแต่ปล่อยให้คุณฟ้าร้องไห้ ปล่อยโฮให้ดังก้องอยู่ในรถที่แล่นไปข้างหน้า  ผมไม่ได้เหลียวมองคุณฟ้าเลย ไม่กล้ามอง ไม่กล้ายื่นมือเข้าไปหา ได้แต่ปล่อยให้คุณฟ้าจมอยู่กับความเสียใจเพียงลำพัง

ผมว่า...

คุณฟ้าคงต้องการอย่างนั้น

.
.
.
.
.

เที่ยงนิดๆ ครับที่ผมจอดไว้ข้างซอยที่กั้นระหว่างร้านเชิญครับกับคลินิกของผม  คุณฟ้ายังไม่รู้สึกตัว เพราะหลังจากที่ร้องไห้มานานกว่าชั่วโมง  ด้วยความเหนื่อยและจิตใจที่อ่อนแอเกินกว่าจะต้านไหว คุณฟ้าก็เผลอหลับไป จนถึงตอนนี้เสียงลมหายใจที่ได้ยินแผ่วเบายังดังเป็นจังหวะ เบาะที่ผมปรับให้คุณฟ้าก่อนหน้านี้ทำให้คุณฟ้านอนได้สบายขึ้น

ใบหน้าแดงช้ำแต่ความน่ารักยังคงอยู่ ชวนให้ผมต้องก้มหน้าเข้าไปใกล้ แตะปากของตัวเข้ากับแก้มนุ่มที่มีคราบน้ำตาเปรอะเปื้อน

คุณฟ้าน่ารักขนาดนี้ ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงทิ้งไป ผมไม่เข้าใจ...

เด็กแดน...คือสาเหตุ หากผมฟังไม่ผิด

ผมไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้าไม่ใช่เด็กแดน คุณฟ้าจะเสียใจมากมายขนาดนี้ไหม

ช่างมันเถอะครับ เรื่องบางอย่างผมก็ไม่ควรรู้ ผมควรสนใจเรื่องอื่นมากกว่า เรื่องที่ว่าผมควรจะทำยังไงให้รอยยิ้มของคุณฟ้ากลับมา  ทำยังไงให้คุณฟ้าลืมผู้ชายที่ไม่ได้รักคุณฟ้าไปเสีย แล้วทำยังไงให้ผมเข้าไปอยู่ในหัวใจคุณฟ้าแทนคนๆ นั้น

.....แทนคุณนนท์

ผมค่อยๆ ปิดประตูรถ ไม่อยากให้มันรบกวนหรือทำคุณฟ้าสะดุ้ง เดินตามทางเส้นเล็กๆ   ที่เชื่อมระหว่างถนนในซอยกับร้านเชิญครับ   ไม่กี่ก้าวผมก็ผลักประตูกระจกเข้าไปในร้าน ยีนเงยหน้าขึ้นมามองผม เธอยิ้มแก้มแถบจะฉีก   คงไม่รู้ตัวว่าทำให้เจ้านายร้องไห้หนักมาแล้ว ด้วยเรื่องที่เธอบอกเมื่อตอนเช้า

“สวัสดีตอนเที่ยงค่ะคุณหมอ  พี่ฟ้าล่ะค่ะ”  เธอชะโงกหน้ามองไปที่ประตูร้าน

“นอนอยู่ในรถ”  ยีนทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจ ผมต้องบอกอธิบายต่อ “คุณฟ้าของยีนไม่สบายนิดหน่อย แต่ไม่เป็นอะไรมาก ไม่ต้องเป็นห่วง  เดี๋ยวหมอจะพากลับไปนอนที่คอนโด”

“ไปเที่ยวทะเลกลับมาป่วยเลยรึคะเนี้ย”  ยีนทำหน้าเป็นห่วง

“แล้วเรื่องเด็กสองคนนั่นล่ะ”  ผมหมายถึงเด็กผู้ชายคนที่กำลังยืนเก็บแก้วกาแฟและจานเค้กที่ลูกค้าเพิ่งเดินออกไป  และเด็กผู้หญิงที่กำลังเดินยืนรับออเดอร์จากลูกค้าอยู่อีกมุมหนึ่ง

“นั่นสิค่ะ เนี่ยยีนก็รอพี่ฟ้ามาคุยเรื่องนี้อยู่ แต่ถ้าพี่ฟ้าไม่สบาย ยีนคงต้องให้น้องเค้ามาอีกทีพรุ่งนี้”

“แล้วมีเรื่องอะไรอีกไหมที่ต้องให้คุณฟ้าทำ”  ผมถาม เผื่อว่ามันมีเรื่องสำคัญต้องรอการตัดสินใจจากคุณฟ้า ถ้ามีและสำคัญจริงๆ ก็จะเดินไปปลุกคุณฟ้า

“ไม่มีแล้วค่ะ เอ่อ...จะมีก็แต่เรื่องแดน”  ยีนบอก หน้าซึมลงทันที

“คงไม่มีอะไรแล้วมั้ง  หมอเห็นคุณฟ้าโทรคุยกับคุณนนท์”  ความจริงผมไม่อยากให้คุณฟ้าตื่นมารับรู้เรื่องนี้ซ้ำเป็นครั้งที่สามของวัน

“รึคะพี่หมอ แล้วว่ายังไงบ้างคะ แดนปลอดภัยไหมอ่ะ”

“หมอว่าคงไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องคิดมาก”  ผมบอกให้ยีนสบายใจ เพราะมันไม่มีอะไรให้น่าคิดมาก นนท์คงไม่ทำร้ายอะไรแดน

“แต่ยีนกลัวว่าพี่นนท์จะ....เดี๋ยวก่อนนะคะ ...แดนโทรมา แดนโทรมาแล้ว.....แดนนนนนน เป็นไงบ้าง” น้ำเสียงบอกว่าเธอดีใจมากที่อีกฝ่ายโทรมา

“ไม่เป็นห่วงได้ไง ก็โดนพี่นนท์ลากไปแบบนั้น  แล้วปลอดภัยแน่นะแดน ฉันเป็นห่วง”  ผมยืนฟังยีนคุยโทรศัพท์กับแดนครับ จะได้เก็บข้อมูลไปด้วยว่าเด็กแดนเป็นยังไงบ้าง

“พี่ยีน คิดเงินโต๊ะห้าครับ” เด็กตัวขาวหน้าตาจิ้มลิ้ม อายุน่าจะสักสิบสี่สิบห้าเดินเข้ามาบอกยีน คงที่ผมเห็นว่าเช็ดโต๊ะอยู่เมื่อครู่

“เดี๋ยวนะแดน ขอคิดเงินลูกค้าก่อน เฮ้ย..อะไรอ่ะ ถือสายรอไม่ได้เลยรึไง....ก็ได้ๆๆๆ แล้วถ้าพี่ป้องถามหาล่ะ....ได้ๆๆ แต่ฉันบอกคุณแดนไว้ก่อนนะคะว่า ถ้าคุณแดนไม่มาทำงานพรุ่งนี้ ขาเก้าอี้ของคุณแดนต้องโดนเลื่อยแน่ๆ  เพราะฉันจะให้พี่ฟ้ารับเด็กใหม่สองคนนั้นเข้ามาทำงานแทนคุณแดนเลย อะไรยะ...วางก็ได้”

ยีนวางโทรศัพท์ไว้ที่เคาท์เตอร์ แล้วหันกลับไปคิดเงินตามคำบอกของพนักงานคนใหม่

“สองร้อยสี่สิบจ๊ะตาม”  ยีนบอก พร้อมกับยื่นถามไม้สีเหลือง มีบิลวางอยู่ให้กับเด็กผู้ชายหน้าตาจิ้มลิ้มชื่อตาม ผมนึกสภาพออกเลยครับ  ถ้าน้องตามคนนี้ทำงานอยู่ที่ร้านเชิญครับจะเป็นยังไง คงกลายเป็นดาวพอๆ กับเด็กแดนและคุณฟ้า ความน่ารักสูสีกัน แต่ถ้าที่สุดเนี่ย ผมให้คุณฟ้านะ   ด้วยวัยและคุณภาพ คุณภาพที่ผมสัมผัสมาแล้วเมื่อคืน

“สบายใจแล้วนะที่แดนโทรมา งั้นหมอไปก่อนนะ ทิ้งคุณฟ้าไว้ในรถนานแล้ว”  ผมบอก ยีนพยักหน้ารับทราบ แล้วยิ้มปากแทบจะฉีก ก่อนพูดแกมฝากกับผมว่า

“ดูแลพี่ฟ้าให้ดีๆ นะคะคุณหมอ เพราะยีนยกพี่ฟ้าให้คุณหมอแล้ว  ห้ามทำพี่ฟ้าเสียใจเด็ดขาด  ไม่อย่างนั้นอย่าหวังจะได้กินกาแฟอร่อยๆ ฝีมือสุดยอดนักชงอย่างยีนอีก”

ผมไม่ตอบว่าอะไร ยิ้มให้แล้วเดินออกมา จะให้ผมตอบรับอะไรได้ล่ะ ในเมื่อการตัดสินใจทุกอย่างอยู่ที่คุณฟ้าคนเดียว ถึงผมจะพยายามมากแค่ไหน มันก็อาจเป็นแค่ความพยายาม หากคุณฟ้ายังปฏิเสธผมต่อไป

.
.
.
.
.

“คุณฟ้าครับ ไหวไหมครับ” ผมปลุกคุณฟ้าเมื่อจอดรถไว้ใต้คอนโดเจ้าตัว โชคดีที่ยามเคยเห็นหน้าผมและคงเห็นคุณฟ้านอนอยู่เบาะข้างๆ ด้วย ถึงยอมให้ผมขับรถเข้ามาข้างใน

“อื้อออ....” คุณฟ้าตอบรับผมด้วยเสียงครางในลำคอ เหมือนคนไม่อยากตื่น ผมเลยไม่คิดจะปลุกคุณฟ้าอีก

ดูจากสภาพแล้วผมว่าคุณฟ้าน่าจะปวดหัวเอามากๆ เนื่องจากร้องไห้หนักมากและอาจจะป่วยได้ ก่อนแวะร้านของคุณฟ้า ผมก็แวะซื้อยาจากร้านเพื่อนของผมเองที่อยู่ตรงทางผ่านพอดี

ผมค้นเอากุญแจห้องของคุณฟ้าจากกระเป๋าเสื้อผ้าที่วางอยู่ด้านหลังรถ  แล้วจัดการอุ้มคุณฟ้าแทนที่จะปลุกให้ตื่น  คุณฟ้าเป็นผู้ชายตัวสูงเกือบๆ จะเท่าผม แต่รูปร่างแล้วต่างกันมาก ผมหุ่นผู้ชายปกติ มีกล้ามเนื้อ มีซิกแพ็ค แข็งแรงอยู่ไม่น้อย ต่างกับคุณฟ้าที่ติดจะผอมนิดๆ  แต่ไม่ได้ผอมมากมายอะไร น่าจะเรียกได้ว่าสูงโปร่งมากกว่า ทำให้ผมอุ้มคุณฟ้าได้ไม่ลำบากเท่าไหร่

โชคดีที่ตอนนี้เป็นตอนกลางวัน คนในคอนโดส่วนมากน่าจะไปทำงานหมดแล้ว  ผมกดลิฟท์ชั้น 14 จำได้เพราะเมื่อวานเพิ่งมากับคุณฟ้า  แล้วก็จำเลขห้องของคุณฟ้าได้เช่นกัน กว่าจะเปิดห้องคุณฟ้าได้ก็ทุลักทุเลพอสมควร เพราะต้องอุ้มคุณฟ้าไปด้วยเปิดประตูไปด้วย พอเปิดประตูห้องได้ผมก็ตรงดิ่งอุ้มคุณฟ้าไปวางไว้ที่เตียง

แตะหน้าผากดู อืม...ตัวร้อน แต่ไม่มาก เลยเดินหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามใบหน้า คอ และแขนคุณฟ้า แล้วใช้เจลลดไข้ที่ซื้อมาพร้อมกับยาลดไว้แปะไว้ที่หน้าผากเกลี้ยงๆ นั้น หวังว่าตื่นมาไข้น่าจะลดจนเป็นปกติ จากนั้นจึงลงไปที่รถเอากระเป๋าของคุณฟ้าขึ้นมา เก็บเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าแล้วเอาไปใส่ในตะกล้าข้างห้องน้ำ

ผมเดินกลับมาที่เตียง ทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นข้างเตียง  หลังจากเดินสำรวจนอนคุณฟ้าแทบจะทุกซอกทุกมุมแล้ว รูปถ่ายคู่ของคุณฟ้ากับคุณนนท์วางตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงข้างโคมไฟกระดาษสา  ทั้งคู่กอดกันแล้วยิ้มให้กล้อง น่าจะเป็นรูปตอนงานปีใหม่ของปีนี้เพราะมีตัวเลขด้านหลังบอก  รูปบนโต๊ะเขียนหนังสือที่ผมเห็นก่อนหน้านี้ เป็นรูปเมื่อตอนเป็นเด็กมัธยม  ไม่ได้ยืนกอดกันแต่ก็เป็นรูปที่คุณนนท์นั่งมองหน้าคุณฟ้า ส่วนคุณฟ้านั้นยืนยิ้มกว้างให้กล้อง  ดูน่ารักครับ ส่วนอีกสามรูปที่แขวนอยู่ข้างพนังห้องเป็นรูปสมัยอนุบาล ตอนมหาลัยและรูปวันเปิดร้านเชิญครับ  วันนั้นผมก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ยังไม่รู้สึกอะไรเลย มาตอนนี้บอกได้คำเดียวว่าอยากเอาไปโยนทิ้งให้หมด รวมทั้งอีกหลายรูปด้านนอกนั้นด้วย

ไม่อยากเห็น...

ไม่อยากให้คุณฟ้าเห็นมันอีก...

ผมดึงสายตาจากรูปบนโต๊ะหัวเตียงมาที่คนหลับสนิทบนเตียงอีกครั้ง เท้าคางมองใบที่หลับใหลด้วยพิษไข้จากการร้องไห้อย่างนักอยู่อย่างนั้น  ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อมืออุ่นๆ มาแตะที่ต้นแขน

“คุณหมอ คุณหมอครับ คุณหมอ”

“ครับ” ผมยืดตัวตรงขึ้นมา บิดตัวเล็กน้อยเพราะเมื่อยจากการนั่งฟุบอยู่ข้างเตียง

“ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วผมเป็นอะไร” ในมือคุณฟ้าถือแผ่นเจล สงสัยคงตื่นขึ้นมาแล้วดึงเอาออก

“คุณฟ้ามีไข้นิดหน่อยครับ ผมเลยเช็ดตัวให้ แล้วก็ใช้แผ่นเจลแปะลดไข้ รู้สึกดีขึ้นมาหรือยังครับ”

“ไม่เห็นรู้ตัวเลย แล้วจะมาเช็ดตัวให้ทำไมเนี้ย” เหมือนจะบ่นกับตัวเองมากกว่า แต่ผมได้ยินเต็มสองหู

“เช็ดแค่หน้า คอ แล้วก็แขนครับ ส่วนอื่นไม่ได้แตะต้อง ไม่ต้องห่วง”  รู้สึกน้อยใจมาก บอกไม่ถูก

“ไม่ได้ว่านี่ครับ แค่บอกว่าไม่รู้ตัวเลย ยังไงก็ขอบคุณคุณหมอนะครับ”  คงรู้ว่าผมรู้สึกยังไง ถึงรีบแก้ตัว แต่ผมรู้หรอก คุณฟ้ายังหวงตัวกับผมมาก  ทั้งที่เราก็ผ่านขั้นตอนนั้นมาแล้วแท้ๆ เห็นยิ่งกว่าเห็น สัมผัสยิ่งกว่าสัมผัส   ได้ครอบครองเป็นเจ้าของคนแรกด้วยซ้ำ

มันน่าน้อยใจ

“แล้วคุณหมอจะไปไหนครับ” คุณฟ้ารีบถาม เมื่อผมลุกขึ้นยืนเตรียมท่าว่าจะเดินออกไปจากห้อง

“กลับบ้าน” ผมบอก พูดสั้นๆ แค่สองคำ แต่น้ำเสียงคงบอกอารมณ์น้อยใจออกมายาวเป็นห่างว่าวมั้ง คนหวงตัวถึงรีบลุกจากเตียง   เดินมาคว้ามือผมเอาไว้ขณะที่ผมกำลังจะจับลูกบิดประตู

“โกรธหรือครับ”

“เปล่า”

จริงๆ ครับ ไม่ได้โกรธ แค่น้อยใจและน้อยใจมาก  ผมไม่ได้หวังให้คุณฟ้ามารักผมในตอนนี้ รู้ว่ามันเป็นไปได้ยาก  ผมแค่หวังให้คุณฟ้าอย่าตัดรอนผมมากจนเกินไปเท่านั้นเอง  แต่ที่คุณฟ้าทำ มันยิ่งกว่าตัดรอนด้วยซ้ำ

“ถ้าผมทำให้คุณหมอไม่สบายใจ ผมก็ขอโทษ”

คนตรงหน้าผมยืนนิ่ง มือเล็กปล่อยข้อมือของผมลง  เรามองสบตากันอยู่นาน ผมรู้ว่าคุณฟ้ากำลังคิดอะไรอยู่  ตากลมสวยฉายชัดให้เห็นความยุ่งยากใจ  ปนเปไปกับความสับสนที่ไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับผม คนที่คุณฟ้าพยายามสลัดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหลุดไปไหน

คงนึกเสียใจอยู่มั้งครับ  ที่ปล่อยตัวปล่อยใจให้ผมในคืนนั้น  ถ้าไม่เกิดเรื่องคืนนั้นขึ้นมา ผมอาจจะไม่ถือสิทธิ์แสดงตัวก่อกวนคุณฟ้าได้มากขนาดนี้

แสดงว่าผมมีสิทธิ์...

ผมมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ในเมื่อคุณฟ้าเป็นของผมแล้ว  ในเมื่อคนรักของคุณฟ้าทิ้งคุณฟ้าไปแล้ว คุณฟ้าเป็นอิสระพอที่ผมจะแสดงตนเป็นเจ้าของอย่างชอบธรรมที่สุด ไม่ได้ถือสิทธิ์ แต่ผมมีสิทธิ์

“เอ๊ะ..คุณหมอ”  คุณฟ้าคงตกใจ เมื่อจู่ๆ ผมรวบตัวเข้ามากอด

“ปะ...ปล่อยนะคุณหมอ จะ...จะทำอะไรผม”  ตอนนี้คงทั้งตกใจทั้งกลัวครับ เมื่อผมช้อนตัวคุณฟ้าขึ้นแนบอก  ก้าวเท้าพาไปวางบนเตียงก่อนจะขึ้นคล่อมร่างนั้นไว้  กักขังไว้ในกรงแขนที่ปิดทางหนีทั้งสองด้าน

“จะทำอะไร”

“ทำเหมือนเมื่อคืน”  ผมบอก พยายามยิ้มเหี้ยมให้คุณฟ้ากลัว แต่คงไม่ได้ผลเท่าไหร่ เพราะคุณฟ้าตะโกนลั่นห้อง คงทั้งอาย ทั้งเขิน แล้วก็โกรธจัด หน้าถึงได้แดงจัดมาก

“คุณหมอ!!”

“ครับ”

“ออกไปเลยนะ”  คงหมายถึงให้ผมลุกออกจากตัวคุณฟ้า ยากหน่อย ผมไม่ใช่คนดื้อแต่ตอนนี้ขอหน่อยเถอะ ไม่ได้คิดทำอะไรมากครับ  ขอชื่นใจสักนิดสักหน่อย

“ออกไป”

“ไม่”

“คุณหมอ”

“ครับ”

“ไม่เอานะ”  ไม่เอาอะไร ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย

“ไม่รับปาก”

“คุณหมอ!!”  คุณฟ้าโกรธใหญ่เลย แต่ผมคิดว่าไม่โกรธจริงจังเท่าไหร่ เพราะไม่งั้นคงทั้งผลักทั้งดันผมออกไปจากตัวแล้ว  นี่ทำอะไร นอกจากนอนหน้าดำหน้าแดงล่อหูล่อตาผมให้อดใจไม่ไหว เลยก้มไปงับปากเล็กๆ ไปเบาๆ หนึ่งที่

“คุณหมอ!!!”  ยังพยายามโกรธ ไม่กลัวหรอก มากกว่านี้ยังยอมให้ผมทำมาแล้ว

“มากกว่านี้ก็เคย”  ว่าแล้วก็แกล้งสอดมือเข้าไปใต้เสื้อตัวบาง ยังไม่ทันสัมผัสผิวเนื้อเนียนเลย มือก็ถูกดึงออกมาเสียก่อน

“คุณหมอ!” ระดับเสียงลดลงมาหน่อย คงกลัวผมจะเอาจริง

“ครับ”

“ไม่เอานะครับคุณหมอ  ผมต้องกลับไปที่ร้าน  นัดยีนเอาไว้ นะครับ ปล่อยผมเถอะนะครับ”  นั่นไง พูดเสียงอ้อนได้อีก

“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาครับ ผมคุยกับยีนเรียบร้อยแล้ว นัดเด็กสองคนที่มาสมัครงานให้มาใหม่พรุ่งนี้”

“.....................” เงียบไปเลยครับ คิดว่าน่าจะคิดหาทางเอาตัวรอดจากการรุกรานของผมอยู่

“คุณหมอ.....” คุณฟ้าเหมือนลังเลที่จะพูดอะไรออกมา หลังจากที่หันหน้าหนีสายตาแกล้งเอาจริงของผม

“ครับ”

“แค่ครั้งเดียว....” คุณฟ้าหยุดไป หลังจากหันหน้ามาพูดกับผม
 



ปล
มีต่อนะค่ะ แต่โพสไม่ได้ มีข้อความขึ้นว่า โพสของคุณจาก IP เดียวกันน้อยกว่า 90วินาที  :z3: :z3: :z3: งง อ่า ปกติก้โพสทีสองรีได้นี่นาเวลา

 รอแป๊ปนะค่ะแล้วจะรีบมาต่อทันทีที่โพสได้
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 12 ด้วยความยินยอม {3/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 03-12-2011 12:38:50
^
^


“..................” ผมกำลังรอฟัง คำพูดต่อจากนั้น มือมันเลื่อนกำข้อมือเล็กโดยอัตโนมัติ

“.....แค่ครั้งเดียว  มันไม่ทำให้คุณหมอมีสิทธิ์ในตัวผมหรอกนะครับ  ผมไม่ได้รักคุณหมอ  เราไม่ได้เป็นอะไรกัน  อย่าทำแบบนี้เลย”

น้ำเสียงเรียบ พูดเรื่อยๆ เหมือนต้องการให้ผมเข้าใจ

“เรื่องเมื่อคืนให้มันผ่านไปเถอะนะครับ  ถ้าผมทำให้คุณหมอรู้สึกแย่หรือทำให้คุณหมอเข้าใจผิดอะไรไป  ผมก็ขอโทษ  ผมไม่ตั้งใจจริงๆ ต่อไปนี้ผมจะไม่ทำอีก ยกโทษให้ผมด้วยนะครับ”

พูดจนผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นอะไรสักอย่าง  ที่คุณฟ้าไม่เคยพยายามจะมองด้วยซ้ำ มันเจ็บ เจ็บมากด้วย เจ็บจนเผลอบีบข้อมือเล็กนั้น จนคุณฟ้าต้องร้องเตือน

“เจ็บครับ ปล่อยผมก่อน”

“เจ็บเท่าที่ผมเจ็บหรือเปล่า...” ผมถาม ไม่ยอมปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระ คุณฟ้าพยายามจะดึงมันออก จะสู้แรงผมได้เหรอ  คนที่กำลังโกรธอยู่มันจะมีแรงเยอะเป็นพิเศษเสียด้วยสิ

“คุณหมอ ผมเจ็บ ปล่อยผม ปล่อยผม...ดะ...อื้ออออออ”

ผมส่งผ่านทุกความรู้สึกจากปากที่บดจูบบนกลีบปากนุ่ม  บดขยี้ให้สมใจ  สาสมกับสิ่งที่คุณฟ้าพูดออกมา เอาให้พอใจกับความผิดที่คุณฟ้าทำกับผม  ทั้งที่ผมไม่คิดจะทำอะไรมากกว่าการหยอกเล่นในนาทีก่อนหน้านี้  แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่  ผมอยากจะตักตวงความสุขที่ผมเคยได้จากร่างกายบอบบางขอคุณฟ้า  อยากจะตีตราจองว่าผมเป็นเจ้าของ  ไม่ใช่คนไม่มีสิทธิ์  จะไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่ผมจะทำ ผมจะทำให้คุณฟ้าไม่กล้าพูดว่า  ‘แค่ครั้งเดียว’  เมื่อตื่นลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง

คุณฟ้าปิดปากแน่น จูบที่บดเบียดและเสียดสีทำได้แค่ภายนอก ไม่เผลอให้ให้ผมรุกรานไปมากกว่าความแห้งผากด้านนอก ไม่สน ไม่ได้ตรงนี้ ผมก็จะเอาตรงอื่น มือยังกำข้อมือเล็กไว้แน่น กดให้แนบกับพื้นเตียง หมดโอกาสที่จะผลักร่างกายของผมให้ถอยห่าง กดจูบข้างแก้มใส จนมันชื้นเปียกเพราะลิ้นที่ลงระเลงทั้งซ้ายขวา เจ้าของใบหน้าพยายามจะหลบหนี ตากลมสวยปิดสนิท คงไม่อยากเห็นหน้าผม ไม่มองผมก็ไม่สน ขอทำตามใจตัวเองอย่างเดียว

ผมพาทั้งปากและจมูกมาจากใบหน้าน่ารักมาที่ซอกคอหอมๆ ดูดกลืนเอาผิวเนื้อขาวๆ เข้าปอด สร้างรอยที่พอผ่านเหตุการณ์นี้ไป  มันจะขึ้นสีช้ำเป็นตราประทับให้คุณฟ้ารู้ตัวว่าเป็นของผมไปอีกหลายวัน

“อือออ .... คะ...คุณหมอ...มะ...ไม่เอา” ไม่เอาอะไร แต่ผมจะเอา

“อื้ออออ..........” พอคุณฟ้าอ้าปากพูด ผมก็ไม่รออะไรทั้งนั้น ส่งลิ้นร้อนที่มันอยากสำรวจโพลงปากหวานตั้งแต่แรกทันที ลิ้นเล็กต่อต้าน ไม่เหมือนเมื่อคืนเลย พยายามหลบหลีก ไม่ยอมให้ความร่วมมือ มีหรือผมจะสน ความหน้ามืดมันทำให้หน้าด้านเกินจะคิดว่าคุณฟ้าไม่ยินยอม

พอผมพอใจกับปากหวานๆ ผมถึงทิ้งให้คุณฟ้าอยู่กับการสูดเอาอาการเข้าปอด แล้วหันมาสนใจผิวแก้ม ซอกคอ ไหล่ลาด รวบมือทั้งสองข้างของคุณฟ้าด้วยมือข้างเดียวของผม แล้วดันขึ้นไว้เหนือหัว มือข้างที่เหลือดึงชายเสื้อให้ร่นขึ้นไปจนสุดทางตันที่ช่วงอกด้านบน เพื่อที่จะได้ใช้ปากกับผิวขาวเนียนได้สะดวก

“ไม่เอาคุณหมอ ไม่...มะ...ไม่เอา...อย่า...อะ...อ่า...อ่า”

ผมเงยหน้ามองคนที่พยายามห้ามผม แต่ทำอะไรไม่มากไปกว่าร้องบอก ก่อนจะกัดปากตัวเองแน่นกั้นเสียงครางเล็กๆ ไม่ให้หลุดออกมา เมื่อปากของผมเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ยอดเล็กๆ บนอกด้านซ้าย ใช้ลิ้นหยอกล้อกับมัน แล้วเปลี่ยนไปอีกข้าง ส่วนอีกมือที่ว่างก็ไล่ต่ำลงลงที่เป้าตรงกลางที่มีเหมือนกันแต่ให้ความรู้สึกที่ต่างกัน ผมคลึงเบาๆ บนส่วนนั้นผ่านกางเกงผ้าเนื้อดี

“คะ...คุณ...หมอ...มะ...ไม่...อ่า...อา...”

ผมไม่สน ยังคลึงส่วนที่เริ่มขยายตัวของคุณฟ้าใต้อุ้งมือของผม ลิ้นร้อนหยุดหยอกล้อกับอกเล็ก แล้วไล่กลืนความหวานของผิวเนื้อด้วยปลายจมูก ตีตราจองด้วยปากและลิ้น ต่ำลงมาเรื่อยจนเจอหลุมเล็ก ผมเพียงแค่ผ่านมันลงไป หลังจากหยอกล้อด้วยปลายลิ้นนิดหน่อย ดึงข้อมือเล็กที่เคยรวบไว้ให้มาพักไว้ที่หน้าท้องเรียบ เพื่อให้ผมจัดท่าทางได้สะดวกขึ้น

ผลละมือที่กอบกุมเนื้อร้อนที่ขยายและเริ่มไม่อ่อนปวกเปียก มาที่ขอบกางกาง ดึงรวดเดียวหลุดไปทั้งสองชิ้น แล้วแทรกตัวเข้าไปตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้างของคุณฟ้า ต้นขาทั้งสองของผมรับหน้าที่เป็นเบาะรองรับขาเนียนสวย

ว่าแล้วครับว่า ไอ้อะไรที่ผมกับคุณฟ้ามีเหมือนกัน มันให้ความรู้สึกที่ต่างกัน ถ้าผมมองของตัวเอง คงไม่มีอารมณ์ขับแน่นภายใต้ปราการห่อหุ้มอย่างนี้หรอก  พิษณุน้อยกำลังมีความรู้เพิ่มมากขึ้น มากกว่าเดิม จนแทบทนไม่ไหว

ผมว่าอารมณ์โกรธก่อนหน้านี้ของผม มันสลายไปจนหมด ตามระยะทางจากปากหวาน ไต่มาถึงผิวเนื้อหวานๆ และมาถึงความร้อนระอุในกำมือ

เมื่อไม่มีความโกรธมาบดบัง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็โผล่ตัวออกมาอย่างรวดเร็ว การกระทำที่ผมเคยเห็นเป็นตัวอย่างจากเมื่อเช้า เรื่องของอิงกับหนึ่ง มันยังติดหู คำที่หนึ่งตะโกนบอกทุกคนว่าถูกข่มขืน

แล้วผมกำลังทำกับคุณฟ้าเหมือนที่อิงทำกับหนึ่ง...

ผมหยุดมือ ดึงตัวเองออกมาจากจุดล่อแหลม ลุกขึ้นนั่งข้างเตียง หันหลังให้กับร่างกายที่ทำให้ผมหมดสติควบคุมได้ง่ายๆ  เมื่อคืนผมกับคุณฟ้า เรามีอะไรกันในความมืดที่เห็นเพียงลางๆ แต่เด่นชัดในการสัมผัสแตะต้องไปในแต่ละจุด  ทว่าตอนนี้มันสว่างแจ้ง เป็นเวลากลางวันที่ไม่ต้องเปิดไฟก็เห็นชัดไปทุกรูขุมขน ร่างกายขาว ผิวเนื้อสะอาด สัดส่วนที่สวยงาม บอบบางราวกับกลีบดอกไม้สีขาว มันชวนให้กลืนกิน...

“ผมขอโทษ”  ไม่รู้ว่าผมกับคุณฟ้าจะเปลี่ยนบทกันขอโทษไปจนถึงเมื่อไหร่  ก่อนหน้านี้คุณฟ้าพูดกับผม แล้วตอนนี้กลายเป็นผมที่พูดมันกับคุณฟ้า

“คุณหมอ...” เสียงคุณฟ้าดูแหบๆ ผมรู้ว่าเป็นเพราะอะไร ก็คงรู้สึกค้างคานั่นแหละ เพราะผมหยุดกลางคัน

แล้วคุณฟ้าก็จุดติดง่าย....


“..............” ผมนิ่ง วัดใจคุณฟ้า รออย่างมีความหวัง ว่าผมจะได้ตีตราจองร่างกายบอบบางน่าสัมผัส ชวนหลงใหลนี้หรือไม่ ไม่ใช่ผมไม่รู้สึก ตัวตนมันตีกันจนอึดอัดอยู่ใต้ปราการที่ปกปิด

มันอยากเป็นเจ้าของคุณฟ้าจะแย่อยู่แล้ว...ให้ตายเถอะ

“คุณหมอ...” เริ่มมีความหวังแล้วครับ

“................”

“คุณหมอ!!!!” ยิ่งกว่าตะโกนลั่นห้องอีกครับ เรียกว่าตะโกนให้ลั่นคอนโดก็ได้ ผมยังไม่ทันหันกลับไปยิ้มด้วยชัยชนะเลยด้วยซ้ำ  ก็ถูกมือเล็กกระชากตัวให้หันกลับไปรับจูบที่ดูดดื่ม ลิ้นเล็กเป็นฝ่ายสอดแทรกเข้ามาเชิญชวนให้ผมสอดปลายลิ้นเกาะเกี่ยว

จากอ่อนหวานเป็นรุนแรง ด้วยแรงอารมณ์ที่ถูกส่งผ่านเรียวลิ้นที่เกี่ยวพัน เกาะเกี่ยวอย่างไม่มีใครยอมใคร เหมือนอากาศที่ใช้หายใจก็ไม่จำเป็นเลยแม้แต่น้อย

ผมรู้...

นอกจากคุณฟ้าจะจุดติดง่ายแล้ว

คุณฟ้ายังร้อนแรงได้อย่างน่ารัก ทั้งที่เมื่อคืนคือครั้งแรก แต่คุณฟ้าก็ทำให้ผมหลงใหล ในความไร้เดียงสาหากก็เร่าร้อนชวนให้รุกไล่ และกินเวลานานกว่าทุกอย่างจะถึงจุดสิ้นสุด

“ขอนะครับ”

“อืม....อื้ออออออ”


ผมตีตราจองคุณฟ้าสำเร็จแล้ว  โดยไม่ต้องฝืนหรือขืนใจให้กลายเป็นความผิดที่ติดข้างอยู่ในใจ จนยากจะลบลืมระหว่างเราสองคน  ในเมื่อคุณฟ้าเปิดโอกาสให้ผมถึงขนาดนี้ เชิญชวนผมโลดแล่นอยู่บนผิวกายหวานและร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันจนนาทีสุดท้าย....



>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<

คนเขียนขอคุย :: ว่าจะหายไปนานสักหน่อย แต่มันอดใจไม่ไหว 555+
ว่าแต่ว่า ตอนนี้เขียนยากมาก ใช้เวลาสามคืน  เอิ่มมมม...แบบว่าอาจจะติดขัดไปบ้าง
ทั้งที่มันก็ไม่ได้ Nc อะไรเลย แค่เบบี๋อ่ะนะ แต่ก็ยากทางอารมณ์ทั้งของคุณฟ้ากะคุณหมอ
กว่าจะบังคับขืนใจกันได้ เหงื่อตก ห้าห้า คนเขียนนะคะที่เหงื่อตก

ไม่พูดมากแล้วนะคะ เอาไว้จะปั่นมาเรื่อยๆ ไม่มีกำหนดแล้ว เครียดจากงานประจำมะไหร่ ก็จะเอาตัวเองมาลงกับคุณฟ้ากะคุณหมอต่อ อิอิ

ปล.แอบๆ คร้า แอบถามว่า ถ้าจบเรื่องคุณฟ้ากะคุณหมอแล้ว อยากได้เรื่องของนนท์กะแดน หรือ อิงกะหนึ่ง หรือจะข้ามไปหาพี่ป้องกะน้องปั้น (แว๊กก ได้ข่าวว่าน้องปั้นยังไม่โผล่ พี่ป้องก็มาแต่ชื่อ อิอิ) ให้เลือกคร้า แล้วคนเขียนจะนับผลโหวตเท่าที่มี ถ้าเสมอกันก็ให้พี่เอ๋คนโพสเป็นคนตัดสินใจนะคะ บอกกันหน่อยน้า คนเขียนจะได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้า

สุดท้ายก็คือ ขอบคุณที่ติดตามซีรี่ส์รัก -- เรื่องรัก...เชิญครับ นะคะ  :pig4:

Aeaw Na Ka
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 12 ด้วยความยินยอม {3/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 03-12-2011 12:59:41
ยอมทั้งตัวทั้งหัวใจเลยนะน้ำฟ้า :z1:
ปล.ขออิงกะหนึ่งค๊า
+1ให้จ๊า
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 12 ด้วยความยินยอม {3/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 03-12-2011 13:01:35
รออ่านนะคะ

รีบๆมาต่อนะ :z2:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 12 ด้วยความยินยอม {3/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ДηοηγМ ที่ 03-12-2011 13:17:17
คุณฟ้านี่จุดติดง่ายจัง แบบนี้คุณหมอก็กำไรเห็นๆ อิอิ
เรื่องจะจบแล้วหรอ แอบเสียดาย แต่คงอีกสักพักมั้งคะ เห็นตอนนี้ยังสู้รบกัน(ทางใจ)อยู่เลย

คู่ต่อไป อยากอ่าน นนท์แดน อ่ะค่ะ แต่ก็นะ อดใจทิ้ง อิงหนึ่ง ไม่ได้
แล้ว พี่ป้องน้องปั้น ก็น่าสน ดูท่าพี่ป้องจะเป็นพี่ชายแสนโหดแหงๆ น่าอ่านมากกกก

รอติดตามผลกันต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 12 ด้วยความยินยอม {3/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 03-12-2011 13:42:54
ไปที่ละ step ดีกว่า เอาเรื่องของ คุณอิง กับ หนึ่ง ก่อนนะ แล้วค่อยมาเรื่องของ นนท์ กับแดน

ว่าไป คุณหมอนี่แอบเจ้าเล่ห์นะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 12 ด้วยความยินยอม {3/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 03-12-2011 14:39:09
คุณหมอใช้ใจซื้อใจคุณฟ้า คงได้ใจคุณฟ้าในไม่ช้านี่แหละ
ตอนหน้าหวังว่าเป็น นนท์+แดนนะคะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 12 ด้วยความยินยอม {3/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-12-2011 19:29:53
สงสารฟ้า เรื่องต่อไปก็ขออิงกับหนึ่งแล้วกันค่ะ
ตอนนี้ยังทำใจอ่านนนท์ไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 12 ด้วยความยินยอม {3/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: squalo ที่ 04-12-2011 17:07:06
งอนฟ้าสามนาที. -3-
คุณหมอก็น่ะเจ้าเลห์นะนี่ หึหึ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 12 ด้วยความยินยอม {3/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 04-12-2011 23:04:09
รักคู่นี้ คุณหมอน่าร้ากมากๆ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 12 ด้วยความยินยอม {3/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 05-12-2011 00:00:59
คุณหมอแอบเจ้าเล่ห์นะเนี่ย  :oo1:

อิง-หนึ่ง อีกเสียงครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 12 ด้วยความยินยอม {3/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 06-12-2011 07:28:52
สงสารคุณฟ้าจังเลย
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 12 ด้วยความยินยอม {3/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: atommic ที่ 07-12-2011 20:24:29
คนที่ไว้ใจสุดท้ายร้ายที่สุด.............. :m15:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 13 เลยตามเลย {8/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 08-12-2011 19:02:39
ตอนที่ 13

ผมว่า...
คนที่นอนเอาแขนพาดอยู่บนตัวผมแล้วเกี่ยวเอวผมไว้แน่  ช่างเป็นผู้ชายที่ดื้อด้านเหลือเกิน  คนที่ผมไม่รู้จะสลัดให้หลุดออกไปจากชีวิตได้ยังไง  ทั้งที่เพิ่งสนิทสนมกันได้ไม่กี่วัน แต่เขากลับเหมือนมีสิทธิ์ในตัวผมซะเต็มประดา  ทั้งที่ผมไม่ได้ต้องการเลย ผมไม่ได้รักคุณหมอ มันคือความจริง  แล้วคนที่ไม่ได้รักกันจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมงอย่างมีความสุขได้เหรอ?

ผมขยับเนื้อตัวที่ปวดเมื่อยมากกว่าเมื่อวานช้าๆ  ดึงมือใหญ่ออกจากเอวให้มันคืนไปอยู่ข้างตัวของเจ้าของแล้วลุกขึ้นนั่ง ลำบากนิดหน่อยกับความเจ็บตรงสะโพก  กล่องถุงยางกับเจลยังวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง จำได้ครั้งหนึ่งมันเคยอยู่ในลิ้นชักโต๊ะตัวนั้น  และหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้  ขณะที่ผมและคุณหมอกำลังจ้องตากันอยู่ เหมือนวัดใจกันว่าจะเอายังไงต่อไปกับสิ่งที่กำลังดุดันอยู่เบื้องล่าง ทั้งของผมและของคุณหมอ

ในที่สุดเป็นผมเองที่บอกออกไปว่า....

‘ในลิ้นชัก’

ไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าอะไรในลิ้นชัก  คุณหมอเข้าใจทันที แล้วทุกอย่างก็ผ่านพ้นมาด้วยดี ด้วยสภาพที่ผมต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บจากเบื้องล่าง  ส่วนอีกคนหนึ่งกลับนอนหลับด้วยใบหน้าที่มีความสุข

เฮ้อ....

ช่างมันเถอะ มันผ่านไปแล้ว ผ่านมาเป็นครั้งที่สอง ที่ผมยอมมีอะไรกับคนที่ไม่ได้รัก

มันก็แค่...

อารมณ์เผลอไผล ที่ยากควบคุม


เสื้อผ้าของผมและของคุณหมอเรี่ยราดอยู่ข้างเตียง  ผมก้มลงเก็บอย่างช้าๆ ไม่ถนัดนักเพราะยังรู้สึกเจ็บแปลบๆ  ที่สะโพกด้านหลัง  คุณหมอรุนแรงกว่าเมื่อคืนวาน ไม่รู้เพราะอะไรหรือเพราะยังโกรธผมเรื่องที่ผมพูดออกไป  ทำไมต้องโกรธ มันเป็นความจริง ผมไม่ใช่เด็กสาวที่ตกเป็นของใครแล้วต้องร้องไห้กระซิกๆ ให้ผู้ชายคนนั้นรับผิดชอบ  แล้วก็ไม่ใช่ใครที่จะยอมเป็นให้คนอื่นมายึดเอาเป็นของตนเอง โดยที่ผมไม่ยินยอม

ความจริงคุณหมอเป็นคนดี ดีมากๆ ด้วยแหละ แต่ทำไงได้ ผมไม่ได้รักคุณหมอสักหน่อย  แล้วจะให้ผมฝืนรักคุณหมอเพราะเรามีอะไรกันแค่ครั้งสองครั้ง  มันตลกเกินไปแล้วล่ะ ชีวิตของผมทั้งชีวิตนะครับ ถ้าไม่ได้รัก ผมก็ไม่คิดจะเลือก

โยนเสื้อผ้าทั้งของผมแล้วก็ของคุณหมอลงตระกร้า เห็นเสื้อผ้าชุดที่ผมใส่ไปเที่ยวทะเลอยู่ในนั้น คุณหมอคงเป็นคนจัดการให้ตอนที่ผมนอนไม่สบายตามคำบอกของคุณหมอ  หรือไม่ก็ตอนที่เรามีอะไรกันไปแล้ว แล้วผมเหนื่อยและเจ็บเกินกว่าจะลุกไปอาบน้ำ  มีเพียงคุณหมอที่เข้าไปอาบน้ำ แต่ก่อนอาบก็หาผ้ามาเช็ดเนื้อตัวให้ผมอย่างดี  มีแปะแป้งให้ผมด้วย ผมไม่ได้ขัดขืนครับ อยากทำอะไรก็ทำไป เหนื่อยเกินจะห้ามปราม จนเผลอหลับไป ไม่รู้ว่าคุณหมออาบน้ำเสร็จตอนไหนด้วยซ้ำ

ผมหันหลังกลับไปมองคนที่ขยับตัวแล้วพลิกไปอีกด้านหนึ่ง คว้าหมอนข้างของผมขึ้นมากอด ถ้าเปลี่ยนจากคุณหมอเป็นนนท์ ผมคงจะมีความสุขอยู่ในอ้อมแขนที่เห็น สุขทั้งกายสุขทั้งใจที่เราได้ก้าวข้ามมาอีกขั้นด้วยกัน

อย่างที่เคยบอก...

ผมกับนนท์ เรายังไม่เคยมีอะไรกันเลย

แล้วจะตลกไหม ถ้าผมจะบอกว่า ถุงยางกับเจลนั่นน่ะ ผมเป็นคนซื้อมาเองเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน คงรู้กันนะครับ ว่าผมคงไม่ซื้อมันเอามาดูเล่นแน่ๆ

ใช่ครับ....

ผมซื้อเตรียมไว้ให้นนท์เอามาใช้กับผม  คิดมาตลอดครับกับความสัมพันธ์ของผมและนนท์  ที่มันยังไปไม่ถึงจุดที่ว่านั้นซะที

แต่สุดท้าย...

กลับเป็นว่า คุณหมอเป็นคนใช้


พูดถึงนนท์แล้ว ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ ผมต้องไปหานนท์สิ ไปให้เห็นกับตาว่านนท์และแดนอยู่ด้วยกัน แล้วคำพูดของนนท์เมื่อตอนสายก็ดังวนเวียนอยู่ในหัวของผมอีกครั้ง เมื่อผมถามนนท์ไปว่า

‘นนท์รักแดนเหรอ?’

นนท์ตอบโดยไม่ต้องหยุดคิด ไม่แม้จะรักษาน้ำใจของผม คนที่นนท์เพิ่งทิ้งไปเมื่อวันก่อน

‘รัก  รักมาก’

คำพูดง่ายๆ ไม่ต้องหยุดคิด แต่มันบาดลึกให้ผมเสียน้ำตา หัวใจมันเจ็บ เจ็บที่กลายเป็นคนที่นนท์ไม่ได้รักแล้ว

แค่คำพูดผ่านมาทางโทรศัพท์ คงไม่ทำให้ผมเจ็บมากพอมั้ง  ผมถึงต้องอยากไปเห็นว่าคนทั้งคู่อยู่ด้วยกัน นนท์บอกว่าแดนอยู่กับเขา นอนอยู่ด้วยกัน ผมไม่ต้องเดาเลยว่า  นอนน่ะ มันนอนยังไง นอนท่าไหน เพราะเท่าที่ผ่านมา ทั้งก่อนและหลังเริ่มคบกันของผมกับนนท์ ผมเห็นบ่อย เจอมาเยอะว่าไอ้การนอนของนนท์กับคนอื่น มันเป็นยังไง

ก็แน่ล่ะ เปิดประตูไปเจอก็หลายทีนี่น่า

คิดมากไปทำไม บางทีนนท์อาจจะแค่หลงเหมือนครั้งอื่น ๆ แค่ตอนนี้มันพิเศษขึ้นมาหน่อย ถึงได้บอกเลิกผม ผมจะไม่คิดมาเลย ถ้าคนใหม่ของนนท์จะไม่ใช่แดน....

ผมเปิดฝักบัว ให้สายน้ำเย็นไหลชำระคราบน้ำตา สะอื้นเบาๆ เพราะมันไม่มีแรงจะสะอื้นดังกว่านี้แล้ว

ทำไมต้องเป็นแดน?

คำถามนี้มันดังวนเวียนตีกันยุ่งกับความคิดอื่นๆ ของผม ถ้าไม่ใช่แดน ผมจะเสียใจเท่านี้ไหม

ผมรักนนท์

แต่ผมก็ห่วงแดน

ถ้านนท์จะเพียงแค่นนท์จะล้อเล่นกับแดน เมื่อสมใจแล้วนนท์จะทิ้งแดนไปไหม?

ผมไม่อยากให้แดนเสียใจ พอๆ กับที่ไม่อยากให้ตัวเองเสียใจเหมือนกัน

.

.

.

.

.

ผมเดินออกมาจากห้องน้ำเป็นจังหวะเดียวกับที่คุณหมอพลิกตัวกลับมาทางผม พร้อมกับหมอนข้างที่ยังหอบหิ้วติดมือมาด้วย  ผมไม่ได้สนใจสายตาคมๆ ที่มองตามผมตลอด ตั้งแต่จับไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้แห้ง ใส่เสื้อแขนยาวลายทาง พอผมเปลี่ยนจากผ้าพันตัวเป็นกางเกงยีนขายาวเท่านั้นแหละ เจ้าตัวถึงกับลุกพรวดขึ้นมานั่งทำหน้ายุ่ง ถามผมว่า

“จะไปไหนครับคุณฟ้า”

“ไปหานนท์ครับ”

ผมตอบความจริง  มือทาครีมที่หน้า มองสบสายตากับคุณหมอ โดยมีกระจกเงาเป็นสื่อกลาง คุณหมอมีสีหน้าไม่พอใจเพียงวูบหนึ่ง  ก่อนจะเปลี่ยนมาทำหน้าเศร้า ลุกขึ้นนั่งห้อยขากับมองหาเสื้อผ้าตัวเองมั้งครับแล้วไม่เจอ จะเจอได้ไงในเมื่อผมเก็บใส่ตะกร้าผ้าหมดแล้ว ผมเลยวางมือที่ทาครีมเสร็จพอดี เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวในตู้ เดินเอาไปให้คุณหมอ ยังไม่อยากเห็นชีเปลือยครับ แต่เป็นชีเปลือยที่หุ่นดีเอามากๆ ครับ

อืมมม....

ทำไมผมรู้สึกร้อนวูบวาบที่หน้าไม่รู้ ตอนที่ส่งผ้าเช็ดตัวให้คุณหมอ แล้วเจ้าตัวลุกขึ้นมารับ ไม่คิดจะช่วยเกรงใจผมเลยครับ

“เป็นอะไรไปครับ หน้าแดงๆ” ถามจริงหรือแกล้งถามให้ผมอายก็ไม่รู้

“เป็นไข้”

ผมบอกแล้วก็รีบเดินกลับมาที่เดิมครับหน้าโต๊ะกระจก  ไม่ได้สนใจอีกคนที่เดินตามมาข้างหลัง กว่าจะรู้ตัวว่าพลาดไปก็เมื่อท่อนแขนแข็งแรงโอบผมจากด้านหลัง  ฝังปลายจมูกเข้าที่ซอกคอผม  ยังไม่ทันจะโวยวายก็โดนพลิกตัว  จับคางให้อ้าปากรับเอาลิ้นร้อนๆ เข้าปากไปจนได้  ทั้งผลักทั้งตีตัวชีเปลือยก็เหมือนไม่สนใจเลย จนผมทำท่าเหมือนจะหายไม่ทันนั่นแหละ  ถึงได้ปล่อยปากผมให้เป็นอิสระ แต่ไม่วายดึงผมไปนอนแปะอยู่บนเตียงในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งที่ผมยังไม่ทันงับเอาอากาศเข้าปอดเลยด้วยซ้ำ

ตามสูตรเดิมเป๊ะ...

ขึ้นคล่อม

ก้มจูบ

ลิ้นร้อนรุนแรงเหมือนร่างกายที่บดเบียนลงมาก เนื้อตัวของผมมันเหมือนจะแตก เมื่อเนื้อกายเปล่าแนบลงมา

กว่าผมจะหายใจได้อีกครั้งก็เมื่อฝ่ายบ้าพลังปล่อยปากผมให้เป็นอิสระ  ผมหายใจผะงาบๆ มองคนที่จ้องดูผลงานตัวเองอย่างโมโห

“ยังจะไปอีกไหม?”  หน้าเข้มดูเรียบเรื่อยต่างจากจูบที่รุนแรงเมื่อครู่  มือแกะกระดุมออกจากรังดุม ผมตะคุบเอาไว้ทัน แต่โดนดึงออกด้วยแรงที่มากกว่า สุดท้ายก็ถูกรวบเอาข้อมือทั้งสองไว้ด้วยกันบนหน้าท้องของตัวเอง

“คุณหมออย่า”  ห้ามได้แต่ปาก เมื่อมือใหญ่รูดซิบกางเกงผมลง พร้อมกับดึงลงพ้นจากสะโพกผมไปทั้งสองตัว

“อย่าอะไรครับ ยังไม่ได้แต่งเลย” คุณหมอว่าแล้วยิ้ม  แต่ผมขำไม่ออกกับมุกเก่ารุ่นดึก แล้วอะไรแข็งๆ แทงผมอยู่ด้านลงนั่นอีก มันทำให้ขำไม่ออก สะโพกยังไม่หายเจ็บดีด้วยซ้ำ ขาก็ลอยขึ้นสูง

“คุณหมอ...เอ่ออ...เอาออกไปก่อนได้ไหมครับ”  บอกเสียงอ่อนครับ ห่วงสวัสดิภาพตัวเอง  เมื่อตัวตนของคุณหมอกำลังจดจ่ออยู่ช่องทางด้านหลังขอผม โดยที่ขาทั้งสองข้างของผมลอยสูง กางกางก็ยังคาอยู่อย่างนั้น

“ไม่ได้ครับ”  ตอบได้นิ่มนวลมากครับ แต่มันขัดกับการกระทำ ผมละอยากชกหน้ายั่วๆ นั่น เสียแต่ว่าผมเป็นคนไม่ชอบใช้กำลัง ให้ดิ้นหนีด้วยการเตะหรือถีบคุณหมอ ผมก็ทำไม่เป็น เลยต้องใช้คำพูดห้ามปรามเท่านั้นครับ

เหอๆๆ แล้วลมปาก มันจะสู้น้ำมือคุณหมอได้เหรอ?

“ผมหิว”  ใช้ไม้นี่ล่ะกัน คุณหมอคงรู้อยู่ว่าผมไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่เช้าแล้ว

“ผมก็หิว....แต่หิวคุณฟ้า” อืมมม...สายตาคุณหมอบอกว่ากินผมได้ก็คงกินไปแล้วครับ

“คุณหมอครับ นี่ไม่ใช่เวลามาพูดเล่นนะครับ”

“ก็ไม่ได้พูดเล่นครับ จะทำจริง”  ไม่ได้พูดเล่นจริงๆ ครับ ไอ้อะไรแข็งๆ มันกำลังแทงผมอยู่ด้านหลัง ต้องขยับสะโพกหนี แต่หนีได้ไม่มาก คุณหมอยังตามราวีไม่เลิก

“คุณหมอ!”

“ครับ” ยังยิ้มสู้หน้าผมอยู่ครับ คนอะไรด้านที่สุด

“จะไม่หยุดใช่ไหม”

“ครับ” น้ำเสียงหนักแน่นดีแท้

“ถุงด้วยครับ” จำต้องพูดออกไปจนได้

ไม่อยากเถียงอยู่ทั้งที่ขาผมชี้ฟ้าครับ มันเมื่อย  ท่าทางคุณหมอก็เอาจริงซะด้วย  ปล่อยให้มันเป็นไปเถอะ ไม่อยากอะไรมาก  เคยมาแล้วสองครั้ง อีกครั้งจะเป็นอะไรไป เรื่องแค่นี้ ถือว่ามีความสุขร่วมกันก็ได้

“คร้าบบบบบบบบบบบบ”

เถอะ...ยิ้มร่าเลยนะคุณหมอหมา!!


ร่างแกร่งที่ขยับลุกออกไปเพียงไม่กี่อึดใจกลับมาพร้อมกับของในมือ แล้ววางไว้ข้างตัว จากนั้นถึงได้ดึงกางเกงผมให้พ้นไปจากขา

“คุณฟ้าน่ารักจังครับ” ผมไม่อยากน่ารักก็ตอนนี้แหละครับ เกลียดตัวเองอยู่เหมือนกันครับ ที่อะไรๆ ในตัวมันจุดติดง่ายเหลือเกิน  ถ้าท่อนล่างถูกถอดด้วยมือคุณหมอ ท่อนบนก็เป็นผมเลยล่ะครับที่ถอดมันด้วยมือของตัวเอง

“จะทำก็รีบทำ” ผมบอก ไม่อยากสบสายตาเยิ้มๆ นานนัก

“ครับ”  แล้วผมก็ถูกจับพลิกให้หันหลัง ซบหน้าลงกับหมอน ร่างหนาตามลงมา สะโพกผมถูกยกขึ้นสูง มือใหญ่ล้วงเข้ามาด้านหน้า ตัวตนของผมมันร้อนระอุอยู่ในมือที่ขยับขึ้นลงช้าๆ แล้วค่อยๆ เร็วขึ้น ผมวูบวาบ สันหลังมันเสียวไปหมด

“คุณฟ้าครับ”

“อื้อออ...” ผมครางรับในลำคอ ถูกจับให้หันหน้าไปรับจูบที่บดเบียดลงมา  ลิ้นร้อนชื้นพันเกี่ยวอยู่ในโพลงปาก เกาะเกี่ยวไม่ลดละ  ผมไม่หนีครับ เกี่ยวมาก็เกาะไป อารมณ์ตอนนี้มันเตลิดไปไกลแล้ว อะไรๆ ก็ดูพร่ามัวไปหมด มีเพียงความต้องการที่เต้นร่าอยู่ในกายที่สั่นเทา

“อ่า.....”

ปากหนาและลิ้นร้อนไต่ไล่จากแก้ม กกหู คอ มาไหล่ แล้ววนเวียนอยู่ที่แผ่นหลัง จูบซ้ำๆ ย้ำเหมือนจะเอาเข้าปากไปให้ได้  มือนั้นยังคงทำหน้าที่กระตุ้นความยากของผมให้ลุกโลด ตัวผมแทบจะระเบิดอยู่แล้ว เมื่อคุณหมอคลายมือออก  ผมหันไปมองเห็นคุณหมอกำลังฉีกซองถุงยาง ต้องรีบหันหลังกลับครับ กัดปากตัวเอง ห้ามความรู้สึกที่วิ่งแล่นไปทุกรูขุมขน


“หึ หึ ...” เสียงหัวเราะที่ทำเอาผมต้องหันหลังไปค้อน

“คุณหมอ!”

“คร้าบบบบ” อารมณ์ดีเหลือเกิน

แล้วอึดใจต่อมาก้นของผมจะถูกยกให้ลอยสูงขึ้น ตามความเย็นวาบจากช่องทางด้านหลัง ผมสะดุ้งเล็กน้อย เตรียมตัวเตรียมใจกับอะไรที่จะใส่เข้ามาทักทายภายใน

“อ๊า...อ่า.......” มันเจ็บปนเสียว จนต้องจิกเล็บเอากับพื้นเตียง

“นิ้วเดียวอยู่นะครับ”

“คุณหมอ!! อ๊า...อ๊าาา“ จะพูดทำไม มันใช่เวลาไหม ค้อนไปก็เจ็บไป จุกไป

“นิ้วที่สองแล้วครับ” อะไรๆ ที่หมุนควงอยู่ด้านหลังผมมันเพิ่มจำนวมตามคำบอกครับ แต่มันใช่เรื่องไหม หน้าด้านจริงคุณหมอ

“สามแล้วครับ” ไม่ต้องบอกผมก็รู้

“คะ...คุณ....อื้อออ...อะ...อ๊ะะะ”  ไม่มีแรงด่าแล้วครับ  ร่างกายมันตุ๊บๆ ความรู้สึกมันตีรวนกันไปหมด แยกไม่ออก  รู้เพียงว่าผมจะไม่ไหวแล้ว นิ้วของคุณหมอทำเอาผมปั่นป่วน กระตุกตามทุกครั้งที่เคลื่อนไหว

“อ่าาา คุณหมอ...ผม....เข้ามา....อะ....”

ผมซบหน้าลงกับหมอน หลุดเสียงครางบอกออกไปอย่างไม่อาย อะไรก็ดูเหมือนไม่ทันใจ ยิ่งคุณหมอพลิกตัวผมกลับมาเผชิญหน้ากับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของตนเอง เห็นแล้วหมั่นไส้ แต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากหลับตาหนีสายตาคู่นั้นมันซะเลย

“จะเข้าไปแล้วนะครับ”

“จะเข้าก็เข้า จะพูดเพื่อ...” อารมณ์เสียวมันจะหด อารมณ์โกรธมันจะทำงานแล้วครับ ลืมตาขึ้นมาก็เห็นขาตัวเองพาดอยู่บนไหล่หนาแล้ว

“คุณฟ้าน่ารัก”

ผมเขิน....

จู่ๆ มันก็เขินขึ้นมา มันมีสายเหตุจากสายตาคุณหมอนั่นแหละ

โอ้ยยย...ผมวูบไปทั้งหน้าแล้ว ร้อนวูบวาบ จนต้องหลบสายตาที่แทบจะกลืนกินผมไปทั้งตัว   ผมไม่ใช่สตอเบอร์รี่บนหน้าเค้กนะครับ

“อ๊ะ.....อ๊าา....” คุณหมอไม่ทันให้ผมตั้งตัวครับ นิ้วที่ถอนออกมาถูกแทนที่เข้ามาทีเดียว ไม่ถึงกับมิดด้าม แต่ก็มากพอที่จะทำให้ผมจุกแล้วเจ็บ ร้าวไปทั้งสะโพก

“อื้อออออ....”

ปากหนาก้มลงมาจูบ บดเบียดเพื่อคลายความเจ็บปวดด้านล่างที่ขยับช้าๆ เข้ามาให้ร่างกายผมดูดกลืน มือใหญ่นั้นก็ขยับตัวตนของผมให้ตื่นตัวกลับมาอีกครั้ง

มันเจ็บจนร้าวไปหมด มือที่จิกลงบนที่นอนเหมือนจะไม่ช่วยผ่อนปรนความเจ็บปวดได้เลย คุณหมอเหมือนรู้ ดึงมือผมให้เกาะที่แผ่นหลัง

“ตรงนี้ก็ได้ครับ”  ผมพยักหน้ารับ ลงความเจ็บปวดที่มีผ่านนิ้วสู่แผ่นหลังกว้าง ทั้งจิกทั้งข่วน

“อ๊า....อ่า....อา......” มันลึกเข้ามาเรื่อยๆ จนสุด ผมรู้เมื่อคุณหมอหยุดเคลื่อนไหว

“เข้าไปหมดแล้วครับ”

หน้าด้านไม่เลิกครับ มีหน้ามากระซิบเสียงพร่าข้างหูผมอีก  ผมตอบแทนคำพูดด้านๆ นั้นด้วยการดึงเอาปากหนามาบดจูบ เป็นฝ่ายดูดกลืนลิ้นหนาอย่าลืมตัว  ตัวตนเบื้องล่างโอบล้อมด้วยมือใหญ่ที่ปรนเปรอให้มันร้อนระอุแทบดิ้นพล่าน  ช่องทางด้านหลังบีบรัดสิ่งที่แช่ค้างอยู่ในนั้น ไม่ยอมขยับ

ผู้ชายคนนี้ เจ้าเล่ห์นัก!!

“อื้อออ.....จะทำไหมคุณหมอ....” เมื่อคุณหมอหน้าด้านมา ผมก็หน้าด้านกลับครับ

“หึ...” เสียงหัวเราะเบาๆ ดังอยู่ตรงหน้า ตาพราวยิ้มเหมือนคนที่ถือแต้มเหนือกว่า

“อยากขยับเองไหมครับ”

“คุณหมอ!!” ผมตะโกนใส่หน้าเลยครับ คนบ้าอะไรพูดได้ไม่อาย จะให้ผมขยับเอง งั้นให้ผมเป็นคนใส่เลยไหมล่ะ

“คงไม่อยาก”

“ก็ใช่นะสิ......อื๊อ....อื๊ออออ.....อ่า” เอาแล้วไง ผมเสียววูบ เมื่อสิ่งนั้นมันเริ่มขยับช้าๆ เป็นจังหวะเนิบนาบ

“อ่า....ชอบไหมครับ” เสียงครางต่ำในลำคอ บอกอารมณ์คนที่อยู่เหนือร่างของผมได้อย่างดี ไม่ได้แตกต่างจากผมเท่าไหรหรอก....มั้ง

“จะถามเพื่อ...”

“หรือไม่ชอบ”

“ไม่ชอบ” ปากบอกไปเพราะฉุนที่คุณหมอเอาแต่พูดเรื่องน่าอาย

“อ๊ะะะ ...เบาๆ อ่าาา”   ผมตีแขนคนที่เปลี่ยนจากเนิบนาบเป็นเร็วและถี่ จนเนื้อตัวผมสั่นคลอนไปหมด ต้องเกาะบ่าหนาที่โน้มมาใกล้ไว้แน่น

“เห็นว่าไม่ชอบ นึกว่าอยากได้แบบนี้”  คุณหมอเคลื่อนตัวช้าลง

เพี้ย!!   เพี้ย!!

ตีเข้าที่ต้นแขนไปหลายทีเลยครับ ชอบพูดอะไรไม่เข้าเรื่อง หยุดพูดแล้วทำอย่างเดียวไม่ได้หรือไง คุณหมอ

“ทำอะไรก็ทำไป ไม่ต้องพูด....อื้ออออ”

แค่นั้นแหละครับ ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากคุณหมอและผม   นอกจากเสียงที่เกิดจากความรู้สึกภายในที่ร้อนรุ้ม  จากการกลืนกิน จากธรรมชาติที่สรรค์สร้าง จากร่างกายที่ถูกกระทำและตอบสนองการกระทำแทบจะระเบิดในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

.

.

^
^
^
มีต่อนะค่ะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 13 เลยตามเลย {8/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 08-12-2011 19:06:24
ต่อ
^
^
^


“ลุกครับ” ผมดันร่างหนาที่ยังคงโอบกอดผมไว้ หลังจากผ่านจุดนั้นมาด้วยกัน เมื่อหลายนาทีก่อน เนื้อตัวเหนอะเหนาะด้วยเม็ดเหงื่อและคราบจากการปลดปล่อย

“อะไรกันครับ”  คุณหมอถาม ยังฝืนตัวจะกอดผมเอาไว้ ไม่ปล่อย ปากก็วนเวียนอยู่ทั่วใบหน้า มืออยู่ไม่สุข ลูบคลำไปทั่วเนื้อตัวผม

“พอแล้วครับ”  ผมห้ามมือนั้น พลิกตัวหนี เจ็บจี๊ดเลยครับ ครั้งนี้ คุณหมอรุนแรงขึ้นอีกกว่าเดิม สะโพกผมคงระบมไปหมดแล้ว

“ไม่อยากพอเลย”  คนตัวโตตามมากอดผมจากด้านหลัง ซบหน้าลงกับซอกคอผม ลมหายใจคลอเคลียอยู่ข้างแก้ม

“คุณฟ้าหวาน....หวานไปทั้งตัว”


“ผมว่าตอนนี้จะเน่ามากกว่า ปล่อยครับ เหนียวตัว อยากอาบน้ำ”  ดิ้นให้ตายก็ไม่หลุดครับ รัดแน่นยังกะครีมเหล็ก

“ไม่อยากปล่อย”

“แต่ผมอยากอาบน้ำ เหนียวตัวมาก  เอ๊ะ! คุณหมอ หยุดเลยนะ”  ให้ตายเถอะ มือคุณหมออยู่ไม่สุขเลยครับ มาป้วนเปี้ยนอยู่ตรงส่วนกลางร่างกายของผม

“โอ๊ยยยย คุณฟ้า เจ็บนะครับ”

“ดี สม”  เป็นไงล่ะ โดนผมจิกเล็บลงบนหลังมือ ไอ้อะไรที่จับๆ คลึงๆ เล่นอยู่ ปล่อยเลยทันที

“คนน่ารักแต่ใจร้าย” ว่าเข้าไป ผมไม่รู้สึกอะไรหรอกครับ แต่ไอ้อะไรที่แทงอยู่ด้านหลังผมนี่สิ มันยังแข็งขันไม่เลิก ชักกลัวขึ้นมา กลัวว่าจะมีรอบต่อไป

“ไม่เอาแล้วนะครับคุณหมอ เจ็บจะแย่อยู่แล้ว”  ผมว่า พลิกตัวกลับมาหาคุณหมอ ไอ้นั่นของคุณหมอเปลี่ยนจากทิ่มหลังเป็นทิ่มหน้าท้องแทน  ผมใช้มือดันหน้าอกกว้างเอาไว้ ไม่ให้ใกล้มากกว่านี้ พูดสีหน้าจริงจังว่า

“ผมให้ได้แค่นี้นะครับคุณหมอ ส่วนตรงนี้”

ผมชี้มาที่อกด้านซ้ายของตัวเอง ตรงที่ก้อนเนื้อเท่ากำมือมันเต้นอยู่ข้างใน

“คุณหมอเข้าไปไม่ได้”

แทนคำพูดทั้งหมดที่คุณหมอพูดออกมา เพื่อร้องขอให้ผมเห็นใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่คุณหมอดื้อด้านจะให้ผมยอมรับ คือมือที่ดึงหน้าผมเข้าไปใกล้ แนบจูบลงมาบนปากผม ผมเปิดรับลิ้นร้อนที่สอดเข้ามา ไม่ได้เต็มใจ  แต่ไม่อยากฝืนมากนัก อยากทำอะไรก็ทำ  อย่างที่บอก ห้ามคุณหมอคงไม่ได้แล้ว คนตัวโตถือสิทธิ์ในตัวผมไปแล้ว ไล่ให้ตายยังไงก็คงไม่ยอม เลยต้องเลยตามเลย


“ถุงด้วยครับ”

ประโยคเดิมๆ

มันก็แค่เนื้อตัว...

ถึงจะป่าวประกาศว่าครอบครองตัวผมไปทั้งหมดแล้ว  แต่ข้างในนี้  ก้อนเนื้อที่ยังเต้นไปตามจังหวะของลมหายใจ  มันยังคงมีเพียงนนท์ที่เข้าไปครอบครองเพียงคนเดียว

.

.

.

.

.

.

“นี่ครับ”

ผมเดินถือเสื้อกับกางเกงมาให้คุณหมอที่เปิดประตูห้องน้ำออกมา เสื้อผ้านนท์ทั้งหมดครับ คิดว่าคุณหมอน่าจะใส่ได้พอดี พอคุณหมอรับไปแล้ว  ผมก็ถอยออกมานั่งรอคุณหมอข้างนอก ถ้าคุณหมอแต่งตัวเสร็จจะได้เชิญกลับบ้าน แล้วผมก็จะได้ไปหานนท์ซะที


ตอนเดินผมเจ็บสะโพกมาครับ แต่ยังดีที่ยังเดินได้อยู่ เอาเป็นว่าผมคงจะอึดอยู่บ้าง  เลยไม่ถึงกับต้องคลานแล้วปลงกับสังขารตัวเอง พอออกจากห้องมาก็นั่งดูทีวี ไม่นานเท่าไหร่ผมก็ได้ยินเสียงเปิดและปิดประตูห้องของตัวเอง พร้อมกับร่างสูงของคุณหมอที่เดินมาหยุดอยู่ข้างๆ ดูนาฬิกาตั้งโต๊ะข้างจอทีวี มันบอกเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้ว หิวมาก ตั้งแต่เช้าไม่มีอะไรตกถึงท้องผมเลย แถมยังเสียพลังงานไปเยอะมากตั้งแต่บ่ายยังค่ำ

“ผมจะไปหาอะไรทาน คุณหมอก็กลับเลยละกัน”  ผมบอก แล้วลุกเดินไปหยิบกระเป๋าเงินในห้อง เมื่อกี้ลืมหยิบออกมาครับ  ไม่ได้สนใจหน้าที่บึ้งไปทันทีที่ผมพูดจบ พอออกมาก็เห็นคุณหมอยืนหน้าบึ้งอยู่เหมือนเดิม

“จะไปด้วยกันไหมล่ะครับ”  ผมถาม คนถูกถามยิ้มทันที ทั้งที่ก่อนหน้าหน้าบึ้ง บูดจะเป็นตูดห่านได้แล้วครับ

“นึกว่าจะไม่ชวน”  คุณหมอว่ายิ้มๆ เดินเข้ามาใกล้ ทำท่าจะกอด ผมเบี่ยงตัวหนี

“นึกว่าคุณหมอไม่หิว”

“หิวสิครับ”

“เหรอครับ นึกว่าไม่หิว เห็นกินอิ่มแล้วนี่ครับ”

แน่ล่ะ ผมประชดครับ ทำไมน่ะเหรอ  ก็เพราะไอ้เรื่องบนเตียงไงครับ  ไม่รู้บ้าพลังอะไรนักหนา วันนี้เกือบจะมีรอบที่สี่ ถ้าผมไม่พูดห้ามไว้ก่อนว่า  ‘ถ้ายังจะทำอีกรอบ อย่าหวังจะมีครั้งหน้า’  นั่นแหละครับถึงยอมหยุด แต่ไม่วายทำตัวเป็นปลาหมึก  มืออยู่ไม่สุข ลูบโน่นนี่นั่นไปทั่ว ทำเอาผมเกือบกู่ไม่กลับ  โชคดีที่ถุงยางมันหมดเสียก่อน ไม่อย่างนั้นคงได้มีรอบที่สี่แน่ๆ

“อิ่มครับ แต่ยังกินได้อีกเยอะ” พูดได้ชัดมาก ตาเยิ้มได้อีกครับ แต่ผมไม่สน

“ระวังท้องแตกตาย” ว่าแล้วก็หยิบกุญแจรถในตะกร้าใกล้มือ แล้วรีบเดินออกมาครับ ไม่อยากพูดให้เข้าตัวเอง รู้อยู่ว่าคุณหมอหน้าด้าน พูดไม่เคยอายอะไรเลย

“ราดหน้า ร้านหน้าคอนโดล่ะกันนะครับ”  ผมหันไปบอกคุณที่เดินออกมาจากลิฟท์ด้วยกัน ราดหน้าเจ้านี้อร่อยครับ  ร้านประจำของผมกินแทบทุกเย็น ผมติดใจคะน้าครับ เพราะมันกรอบมาก แต่แล้วก็เกิดขัดใจขึ้นมาครับ เมื่อคนที่ผมหันไปพูดด้วย เอาแต่ยิ้ม

“ยิ้มอะไรครับ”  หยุดเดินครับ ไม่ไหว เห็นยิ้มตั้งแต่เดินออกจากห้องมาแล้ว จนจะเดินออกจากคอนโดอยู่แล้ว ยังยิ้มอยู่ได้ บ้าหรือไง

“ยิ้มเพราะมีความสุขครับ”  คุณหมอว่า ยิ้มกว้างกว่าเดิม หูตางี้แพรวพราว ผิดกับคุณหมอที่เคยเห็นครั้งก่อนๆ ก่อนจะชิดเชื้อกันขนาดนี้

“ระวังจะทุกข์ถนัดตา” หมั่นไส้ครับ

“แต่ตอนนี้ผมมีความสุข”

“เหอะ...” ผมทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแหละ ไม่อยากพูดกับคนหน้าทน ถ้าผมบอกยีนว่าคุณหมอแสนดีของเธอ ไม่ได้ดีอย่างที่เห็นภายนอกเลย หมอหนุ่มใจดี สุขุม พูดจาน่าฟัง มีมาด เป็นสุภาพบุรุษสุดชีวิต แล้วก็อะไรอีกหลายๆ อย่างที่สาวยีนเพ้อให้ผมฟังอยู่ทุกวัน มันก็แค่ภาพลวงตา  ตัวตนน่ะเป็นหมอหมาโรคจิต มือปลาหมึก แล้วเป็นพวกไม่รู้จักพอซะด้วย

ผมเดินเร็วไม่กี่ก้าวก็ถึงร้านราดหน้าเจ้าประจำสุดอร่อย   ร้านนี้พิเศษตรงที่ว่าจะขายแต่ราดหน้าเส้นใหญ่หมูเท่านั้น เส้นเล็กเส้นหมี่หรือเส้นอะไรก็แล้วแต่ไม่ขายครับ แล้วก็ตามนั่นครับมีแต่เนื้อหมู ไม่มีเนื้อไก่หรือทะเลอะไรเลย ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกครับ   ที่ไม่มีเนี้ยเพราะเป็นการสร้างเอกลักษณ์ให้ร้านริมฟุตบาทของตัวเองครับ ว่ามีขายแต่แบบนี้นะ   มาถึงก็สั่งเลยว่าเอากี่จาน ไม่ต้องยุ่งยากจำว่าใครสั่งอะไรมั้ง  แล้วที่สำคัญแกก็แก่แล้วด้วย คงไม่อยากวุ่นวายกับลูกค้าที่จะสั่งโน่นนี่นั่น จนแก่จำไม่ได้ครับ

“ราดหน้า 2 ครับ”  เพราะเหตุนี้ไงครับ ผมเลยไม่ต้องถามคุณหมอว่าจะเอาราดหน้าเส้นอะไร  เนื้อหมู ไก่ หรือทะเล ปล่อยคุณหมอให้นั่งรออยู่ที่โต๊ะเหล็กตัวสุดท้าย แล้วมายืนสั่งราดหน้ากับคุณป้า  ที่เงยหน้าขึ้นมายิ้มทักทายตามประสาคนคุ้นเคย

“มากับใครล่ะนั่น”  คุณป้าถาม คงเห็นตอนผมเดินมากับคุณหมอแล้ว

“คุณหมอเจ้าของคลินิกพี่หมาน้องแมวหน้าปากซอยครับคุณป้า”

“เหรอ...แฟนใหม่เหรอลูก”

“มะ...ไม่ใช่ครับ” ผมปฏิเสธทันทีครับ เสียงดังจนโต๊ะใกล้ๆ หันมามอง น่าจะเป็นคนในคอนโดเดียวกับผมนี่ล่ะครับ ผมเลยหันไปยิ้มแบบขอโทษ

“ก็เห็นเดินยิ้มแป้นมาด้วยกัน นึกว่าแฟนใหม่ของเรา”  คุณป้าครับไอ้คนที่ยิ้มแป้นไม่ใช่ผมครับ มันไอ้คุณหมอโน่น

“ป้าไม่เห็นมากินกับพ่อนนท์  นึกว่าเลิกกันไปแล้ว”  คุณป้าว่า พลางยื่นจานราดหน้าให้ผม

“เปล่าครับ”  ผมบอกเสียงเบา ยังไม่อยากยอมรับว่าเราสองคน ผมกับนนท์ เราเลิกกันแล้ว ที่คุณป้าแกถาม เพราะแกรู้ครับ คนแก่ อายุมาก ผ่านโลกมาเยอะ คงดูออกว่าอะไรเป็นอะไร

จ่ายเงินให้คุณป้าแล้ว ผมก็เดินถือจานราดหน้ากลับมาที่โต๊ะ  เห็นคุณหมอตักน้ำเปล่าไว้รอแล้ว ผมวางราดหน้าให้คุณหมอแล้วบอก

“ไม่ต้องปรุงก็ได้นะครับ อร่อยอยู่แล้ว” ใช่ครับ คุณป้าทำอร่อยมากขอบอก ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลย เส้น น้ำ ผัก อร่อยในตัวของมันอยู่แล้ว

“อร่อยเหมือนคุณฟ้าหรือเปล่า”

“คุณหมอ หุบปากแล้วกินซะ” ผมกดเสียงให้ต่ำกว่าอารมณ์โมโหครับ ถ้าไม่เกรงใจคุณป้าเจ้าของร้านที่เดินเข้ามาใกล้ๆ ผมคงได้ล้มโต๊ะเหล็กโต๊ะนี้แน่ๆ

“ป้าแถม”  จานผักคะน้าของโปรดผมครับ ที่คุณป้าบอกว่าเป็นของแถม

“ขอบคุณครับ” ของโปรดของผม

“ป้าว่า พ่อนนท์หล่อกว่านะ”  พอคุณป้าว่า ผมหลุดขำเลยครับ ไม่คิดว่าป้าแกจะกล้าพูด  แกเดินกลับไปทันทีหลังจากพูดจบ ทิ้งให้คนที่หล่อน้อยกว่าหน้าหงิกไปตามเรื่อง

“กินสิครับ”  คุณหมอว่า เมื่อผมยังหัวเราะไม่เลิก แล้วตัวเองก็ก้มหน้าก้มตากินจนหมดจานในพริบตา     ผมว่าคงหิวมากอยู่เหมือนกัน ใช้พลังงานไปเยอะนี่ครับ  เยอะกว่าผมอีกมั้ง

“อีกจานไหมครับ”  ผมถาม คุณหมอไม่ตอบ เดินถือจานเปล่าไปหาคุณป้าแทนครับ

ความจริงผมว่าคุณป้าก็พูดไม่ถูกหรอกครับ  ระหว่างนนท์กับคุณหมอเทียบความหล่อกันไม่ได้หรอก       อยู่ที่ใครชอบแบบไหนมากกว่า คุณป้าอาจจะชอบหน้าตาแบบนนท์ ถึงชมว่าหล่อกว่า เพราะนนท์น่ะ หน้าตาออกจะลูกครึ่งนิดๆ  ผมหยักศกนิดๆ ของนนท์ก็ดูดี เข้ากับใบหน้าที่หล่อเหมือนพระเอกหนัง      นนท์ผิวขาวกว่าคุณหมอ ไม่ใช่ว่าคุณหมอดำนะครับ แค่นนท์ขาวกว่า  อาจมีส่วนมาจากการเป็นลูกครึ่งด้วย ส่วนคุณหมอ ผมว่า ตาสีดำสนิทกับคิ้วเข้มๆ ทำให้หน้าดูคมเข้ม หล่อแบบหนุ่มไทยครับ

คุณหมอกลับมาพร้อมสีหน้าที่ดีกว่าเดิมมากครับ ไม่รู้ไปทำอะไรมา หรือจะไปเคลียร์กับคุณป้าเจ้าของร้านมาแล้ว  อันนี้ผมก็ไม่รู้ครับ สนใจผักคะน้ากรอบสีเขียวน่ากินตรงหน้าดีกว่าครับ  ส่วนราดหน้าน่ะ หมดไปแล้วแต่ไม่ต่อจานสอง เพราะส่วนตัวผมเป็นคนกินไม่เยอะอยู่แล้ว จานเดียวก็อิ่ม

คีบคะน้าเข้าปากไปเรื่อยๆ ดูรถที่แล่นผ่านไปมอง สลับกับมองคุณหมอที่กินไปยิ้มไปแล้วหมั่นไส้ ให้ตายเถอะ ผมไม่ชอบตอนคุณหมอยิ้มเลย ชักอยากรู้ว่าไปคุยอีท่าไหน ถึงกลับมายิ้มแป้นแบบนี้

“ขอบคุณครับ” ผมเอ่ยปากขอบคุณเมื่อคุณหมอคีบผักคะน้ามาใส่จานผม เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ ผมรีบคีบใส่ปากทันที ความจริง คะน้าในจานผมมันหมดไปแล้ว ได้จากคุณหมอมาเลยโชคดีมีให้กินต่อ

“พอแล้วครับ”  คุณหมอทำท่าจะคีบผักทั้งหมดมาให้ผม ผมเกรงใจเดี๋ยวคุณหมอได้สารอาหารไม่ครบล่ะแย่เลย

“เห็นว่าชอบ” คุณหมอว่างั้น ก็ชอบจริงแหละครับ

งั้นไม่ขัดศรัทธาครับ ให้มาก็กินไป อิ่มแล้วจะได้มีพลังไปหานนท์  จะได้รู้จริงจังซะทีว่าจะเอาไงดีกับชีวิตดี

“แยกกันตรงนี้นะครับคุณหมอ”  ผมบอก เมื่อผมกับคุณหมอเดินมาที่ลาดจอดรถ  รถคุณหมอจอดอยู่ข้างรถผมพอดี

“คุณฟ้าจะไปไหน”  ถามซะ ทำเอาผมไม่อยากตอบ กลัวจะเป็นแบบตอนนั้นอีก เกิดหน้ามืดทำอะไรผมตรงนี้ ได้มุดดินกลับห้องแน่ๆ

“ขับรถเล่น”  โม้ไปครับ

“ไม่เชื่อ”

“ทำธุระ”

“ไปหาคุณนนท์หรือครับ” นั่นไง รู้แล้วจะถามตั้งแต่แรกทำไม

“ครับ”  ผมบอกไปเบาๆ พยายามไม่สนใจสายตาที่มองมา

“ผมไปด้วย” ไม่ใช่การร้องขอ หรืออ้อนขอตามไปด้วยครับ แต่มันเป็นคำบอก พร้อมกับกุญแจรถผมที่โดนแย่งไปจากมือ

ทำไงได้ ผมได้แต่ตามขึ้นไปนั่งในรถของตัวเอง ประจำตำแหน่งข้างคนขับ

ช่างเถอะครับ ไม่อยากห้ามอะไรมาก อยากทำอะไรก็ทำไป

>>>>>>>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<



คนเขียนขอคุย ::: เรื่องอาจจะเรื่อยๆ ไปหน่อยนะคะ แต่ตั้งใจเขียนสุดชีวิตแล้วน้า อิอิ :o8: :o8:
ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลังใจกันนะคะ จะพยายามมาบ่อยๆ คนโพสบอกว่าต้องมาบ่อยๆ ห้าห้า

บับบายนะคะ ขอไปปั้นตอนที่ 14 ต่อก่อน ^_____^
Aeaw Na Ka



หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 13 เลยตามเลย {8/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 08-12-2011 19:23:33
ขอบคุณที่เขียนเรื่องดี ๆ มาให้ได้อ่านเหมือนกันค่ะ

ตอนนี้ถึงจะเรื่อย ๆ ไป แต่อ่านแล้วนอกจากรู้สึกสงสารคุณหมอ ยังรู้สึกว่าคุณฟ้าใจร้ายมาก ๆ

แอบเห็นคำผิด

ตะกล้า >>>> ตะกร้า
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 13 เลยตามเลย {8/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 08-12-2011 19:27:32
ไม่คิดเลยว่าหมอจะหื่นได้ขนาดนี้
ส่วนฟ้าก็ยังทำใจยอมรับเรื่องของนนท์ไม่ได้สักที เมื่อไหร่ฟ้าจะสมหวังกับความรักซะทีนะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 13 เลยตามเลย {8/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 08-12-2011 19:35:22
เวลาคุณฟ้าบอกว่ายังรักนนท์อยู่นะ สงสารคุณหมอทุกที มาทีหลังก็ต้องรอไปก่อน
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 13 เลยตามเลย {8/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: atommic ที่ 08-12-2011 20:01:08
รู้สึกสงสารคุณหมอจัง :m15: :m15:


เมื่อไหร่คุณฟ้าจะตัดใจจากรักแรกที่แสนเจ็บปวดได้สักทีน้าาา :เฮ้อ:


ทั้งๆ ที่คุณหมอได้เปิดซิงคุณฟ้าก่อนเป็นคนแรกแท้ๆ  เพลียยยย :serius2:


รอตอนต่อไปนะครับ สู้ๆๆๆครับคุณนักเขียน :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 13 เลยตามเลย {8/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 08-12-2011 20:13:10
ขอบคุณที่เขียนเรื่องดี ๆ มาให้ได้อ่านเหมือนกันค่ะ

ตอนนี้ถึงจะเรื่อย ๆ ไป แต่อ่านแล้วนอกจากรู้สึกสงสารคุณหมอ ยังรู้สึกว่าคุณฟ้าใจร้ายมาก ๆ

แอบเห็นคำผิด

ตะกล้า >>>> ตะกร้า


ขนาดว่าตรวจทานอีกรอบแล้วยังมีผิด  ขอบคุณมากนะค่ะ  บวก 1ให้ค่ะ   และสำหรับทุกๆเม้นท์ของตอนนี้ด้วยเหมือนกันแทนคำขอบคุณนะค่ะ 


หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 13 เลยตามเลย {8/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 08-12-2011 20:16:49
รีบๆมาต่อนะ
ลุ้นจริงคู่นี้ :z2:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 13 เลยตามเลย {8/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 08-12-2011 20:58:01
อ่านแล้วรู้สึกหม่นๆ
ไม่ใช่ความผิดของใครเลย แต่ฟ้าปล่อยชีวิตไหลตามน้ำมากไป
ชอบนนท์หรือว่าแค่สนิทที่สุดกันแน่? เหมือนชินที่จะมีนนท์

พอคิดแบบนี้แล้วสงสารนนท์แฮะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 13 เลยตามเลย {8/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 08-12-2011 21:29:37
 :monkeysad:น่าสงสารคุณหมอนะเหมือนรักเค้าข้างเดียวฟ้าน่าจะหันมามองคนทีเค้ารักเรานะมองคนทีเห็นค่าเราดีกว่าหมอสู้ๆนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 13 เลยตามเลย {8/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 08-12-2011 23:14:40
คุณฟ้าหยุดหลอกตัวเองเห้อะ

บวกค่า
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 13 เลยตามเลย {8/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 09-12-2011 11:48:36
น้ำหยดลงหินสักวันหินยังกร่อน นับปะสาอะไรกับใจคุณฟ้าลาะเนอะคุณหมอ
พยายามเข้าคุณหมอ เชียร์คุณหมอเต็มที่
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 13 เลยตามเลย {8/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 09-12-2011 12:06:15
คุณหมอสู้สู้เน้อ :กอด1
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 13 เลยตามเลย {8/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 10-12-2011 06:13:23
เหมือนจะสงสารคุณหมอนะ แต่ก็หมั่นใส้มากกว่าอ่ะ ทำซ๊ะคุ้มเลย :jul1:

ฟ้า กับนนท์  อาจจะแค่ผูกพันกันมานานหรือเปล่า เลยตัดกันไม่ขาดซ๊ะที

แต่นนท์ใจร้ายจริงๆอ่ะ ถึงไม่ได้รักฟ้า ก็ไม่น่าทำแบบนี้ เลววววววววววว (รับผู้ชายแบบนี้ไม่ค่อยได้)

คุณหมอ ก็ขยันทำการบ้านหน่อย  รักแท้แพ้ใกล้ชิด (แนบสนิท)น่าจะเอามาใช้ได้นะแบบนี้ :m25:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 13 เลยตามเลย {8/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 11-12-2011 13:35:41
 :a11: :catrun:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 14 เราสามคน {12/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 12-12-2011 11:08:51




สามครั้งครับ...

วันนี้ผมกับคุณฟ้า เรามีอะไรกันถึงสามครั้ง ไม่น่าเชื่อแต่มันก็เป็นไปแล้ว คุณฟ้ายอมให้ผมกกกอด ทอดร่างกายให้ผมเชยชม แต่ไม่ยอมให้ผมรัก!

เรียวนิ้วที่จิ้มตรงอกด้านซ้ายของตัวเอง แล้วบอกกับผม น้ำเสียงเบา แต่ตอกย้ำให้ผมเจ็บจี๊ดๆ ที่ใจ

‘ผมให้ได้แค่นี้นะครับคุณหมอ ส่วนตรงนี้.....คุณหมอเข้าไปไม่ได้’

คำพูดจากปากบางที่ใกล้อยู่แค่เอื้อมจูบ ทำผมเจ็บได้อีกครั้ง ไม่มากแต่มันก็เจ็บเช่นทุกครั้ง ยอมรับว่าผมระบายความเจ็บนั้นใส่กลีบปากบางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตักตวงเหมือนคนไม่รู้จักพอ เหมือนว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้แนบชิดกับปากนี้ เรือนกายเรือนนี้ ร่างบอบบางที่เร้าร้อนทำให้ผมห้ามใจตัวเองไม่ให้สัมผัสแตะต้องไม่ได้เลย มันชวนให้หลงใหล เผลอติดกับ ทั้งที่เจ้าของร่างกายนี้ไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนั้นเลย

อย่างที่รู้ๆ คุณฟ้าแค่ยอมให้ผมสัมผัส ลึกซึ้งด้วย กอบโกยเอาเท่าที่ผมต้องการ ไม่ได้ปฏิเสธหรือต่อต้าน ไม่ได้อ้อนวอนให้ผมหยุด ยินยอมให้ความร่วมมือที่แสนหวาน ทว่าเร่าร้อนกว่าตัวตนที่เห็นอยู่ภายนอก แต่หลังทุกอย่างผ่านพ้นไป สิ่งเดียวที่คุณฟ้าให้ผมได้...

...คือร่างกาย

และไม่ยินยอมใดๆ ไม่แม้จะเปิดทางให้ผมเข้าไปอยู่ในนั้น ในทีที่คุณฟ้าชี้นิ้วบอกผมว่า

...ผมเข้าไปไม่ได้


ผมควรจะเชื่อใช่ไหม?

ผมรู้ว่าผมไม่ได้โง่ขนาดนั้น...

ไม่ได้โง่พอที่จะเชื่อคำพูดของคุณฟ้า!

ต่อให้โลกถล่มมาตรงหน้า ต่อให้คนรักของคุณฟ้ากลับมา ต่อให้คุณฟ้าจะรักผู้ชายคนนั้นมากแค่ไหน ต่อให้อะไรๆ ที่คุณฟ้ายัดเยียดใส่ผมว่าไม่ได้  ต่อให้ผมต้องกลายเป็นคนหน้าด้านก็ตาม

ผมไม่มีวันเชื่อคุณฟ้าเด็ดขาด!

เมื่อผมได้ครอบครอง ผมต้องเป็นเจ้าของ  แล้วก็จะเข้าไปอยู่ในที่ตรงนั้น  ทีที่คุณฟ้าบอกว่าผมเข้าไปไม่ได้ คอยดูเถอะ  ผมจะเข้าไปตรงนั้นให้ได้สักวันหนึ่ง เข้าไปแล้วจะไม่ยอมออกอีกด้วย

ผมถึงได้หน้าด้านยืนอยู่ข้างคุณฟ้าหน้าประตูห้องบนคอนโดหรูใจกลางเมืองของคุณนนท์อยู่นี่ไงครับ 

หึ...หึ...

ผมหน้าด้านมากพอที่จะมายืนคุมคนที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘เมีย’ ผมสมบูรณ์แบบ  ถึงจะข้ามขั้นตอนของการเป็น ‘คนรัก’ ก็ตาม  ว่างๆ ผมค่อยพาคุณฟ้ากลับไปทักทายมันล่ะกัน

รู้ไหมครับว่าสมองของผมตอนนี้  มันคิดไปถึงคืนนี้ที่ได้เข้านอนพร้อมกับคุณฟ้า เช้าที่ตื่นมาแล้วเจอหน้าคุณฟ้าเป็นคนแรก และคืนต่อไป เช้าต่อไป อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า สองเดือนข้างหน้า สามเดือนข้างหน้า ปีหน้า ปีต่อไป อีกสิบปี อีกยี่สิบปี และตลอดไป ผมจะมีคนๆ นี้ ร่วมใช้ชีวิตไปด้วยกัน

ผมวาดหวังอย่างนั้นครับ...และหวังว่าความพยายามของผมจะไม่สูญเปล่า อย่างน้อยความหน้าด้านของผมก็คงช่วยกันคนที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคุณฟ้าออกไปได้หมด  คุณฟ้าจะไม่มีใคร คุณฟ้าจะมีผมเพียงคนเดียว เชื่อเถอะ...

เมื่อคุณฟ้าไม่มีใคร คุณฟ้าคงจะเห็นใจผมบ้าง...

ผมหวังว่าอย่างนั้นนะ

“คุณหมอกลับไปก่อนดีกว่านะครับ”  ประโยคเดิมที่ผมฟังมาเกือบสิบรอบ นับตั้งแต่จอดรถไว้ที่ใต้คอนโดแล้ว

“.............” ผมไม่ตอบ เพราะถือว่าตอบไปก่อนหน้านี้แล้ว ว่ายังไงๆ ก็ไม่กลับ

“ดื้อ”  บ่นเบาๆ ผมทำหูทวนลมไม่สนใจ

ผมมองมือที่เล็กๆ ที่เปิดประตูห้องเข้าไป หลังจากใช้การ์ดเปิดประตูแล้ว ไม่แปลกที่คุณฟ้าจะเข้าออกคอนโดคนรักเก่าของตัวเองแบบสบายๆ  แม้กระทั่งเปิดเข้าไปในห้องนอนทันที ที่เสียงตะโกนของเด็กแดนดังเล็ดลอดออกมาจากห้องนอนที่ปิดสนิทมาก่อนหน้านี้

“ฟ้า”

“บอส!!!”

ผมทันเห็นร่างเล็กของแดนจมอยู่ใต้ร่างของคุณนนท์  ก่อนจะดีดตัวเด้งขึ้นมาด้วยอาการหน้าถอดสี  ปากบวมเจ่อ ผิวเนื้อที่ไม่ได้ขาวมากเป็นจ้ำแดงเต็มแผ่นอก  หรืออาจจะทั่วตัวก็ได้  เพราะผมไม่ทันจะเห็นอะไรมาก  เด็กแดนก็คว้าผ้าห่มมาคลุมร่างกายตัวเองเสียก่อน มีคุณนนท์ทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่ข้างๆ ซึ่งผมคิดว่าคงเซ็งที่ถูกขัดจังหวะจากคนรักเก่า

“มาทำไมฟ้า?”

“มาดูให้เห็นกับตา”

คุณนนท์ถาม ขณะที่คุณฟ้ายืนนิ่งตอบคำถามนั้นเหมือนคนจะร้องไห้

“เห็นแล้วก็กลับไปได้”

“นนท์....ทำไม ทำไมทำแบบนี้”

“ทำแบบไหน”

“นนท์กับ......” คุณฟ้าเหมือนจะพูดไม่ออกเอาซะดื้อๆ

“เราเลิกกันแล้วนะฟ้า  ผมจะอะไรกับใคร มันไม่เกี่ยวกับฟ้าอีกแล้ว”

“แต่แดน....”

“แดนคือคนที่ผมรัก”

“นนท์...”

ผมไม่รู้ว่าตอนนี้คุณฟ้ามองหน้าคุณนนท์หรือเด็กแดนกันแน่ แต่ที่แน่ๆ  คือเด็กแดนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่อยู่ในอ้อมแขนของคุณนนท์  ที่ดึงตัวเข้าไปกอดโดยไม่คิดจะแคร์สายตาคุณฟ้า เด็กแดนพยายามสุดกำลัง ทั้งจิกทั้งข่วนให้อีกฝ่ายปล่อย

“อยู่นิ่งๆ เหมือนเมื่อกี้ได้ไหม”

“แล้วใครใช้ให้มึงมากอดกู”

“บอกแล้วใช่ไหมให้เรียก ‘พี่’”

“กูไม่เรียก!!”

“แดน!!”

“จะทำไม กูจะเรียก......อื้ออออ”

เอิ่ม... จูบโชว์ผมกันเลยทีเดียว เด็กแดนทั้งดิ้นทั้งตี  แต่คนตัวเล็กกว่าจะสู้คนตัวโตได้ยังไง เป็นนานกว่าที่คุณนนท์จะปล่อยปากเด็กแดนให้เป็นอิสระ  แต่ยังคงเหนี่ยวร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน เด็กแดนดูเหมือนจะหมดฤทธิ์ พูดอะไรไม่ออก

“ต่อไปอย่าดื้อ  ไม่งั้นจะไม่ใช่แค่นี้ จะทำต่อหน้าบอสของเราด้วย  แล้วเรื่องเมื่อก่อนอีก จะบอกให้หมด”  ถือว่าเป็นคำขู่ที่ได้ผลครับ  แดนสงบกว่าเดิม  ก้มหน้าต่ำคางแทบจะชิดอก  แล้วตัวก็สั่นเหมือนกำลังกั้นแรงสะอื้นจากเนื้อตัวด้านใน

สำหรับผมไม่เป็นไรหรอก  แต่ผมห่วงความรู้สึกของคุณฟ้าที่ยืนนิ่งเป็นก้อนหินไปแล้วต่างหาก  สิ่งที่ทำให้ผมรู้ว่าคุณฟ้ายังมีชีวิตคือน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม  ผมไม่ได้เดินเข้าไปหา รู้ว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาของตัวเอง ผมถึงยืนนิ่งๆ มองดูอยู่ห่างๆ ในที่ของตัวเอง

“แดนมานี่”

“บอส”  เด็กแดนเงยหน้าเปื้อนน้ำตาขึ้นมองคุณฟ้า  ผมเห็นแล้วสงสาร เข้าใจว่าแดนรู้สึกยังไง คงกลัวคุณฟ้าจะโกรธจะเกลียดตัวเองมั้ง  ตอนคุณฟ้าเปิดประตูเข้ามา เด็กแดนก็ทำหน้าเหมือนจะตายให้ได้อยู่แล้ว

“กลับบ้านกับพี่”

“อย่ายุ่งได้ไหมฟ้า”

“แต่นนท์ไม่มีสิทธิ์ทำกับน้องแบบนี้”

“ทำไมจะไม่ได้”

“นนท์ ปล่อยน้อง”

“ไม่ปล่อย”

และแล้วแดนก็กลายเป็นคนที่ถูกดึงทั้งซ้ายและขวา

คุณฟ้าแขนซ้าย คุณนนท์แขนขวา ส่วนคนกลางทำท่าเหมือนอยากจะลุกไปหาคุณฟ้า แต่คงติดที่เนื้อตัวด้านล่างที่มีเพียงผ้าห่มผืนใหญ่ปกปิดอยู่   เจ้าตัวถึงได้พยายามที่จะไม่เคลื่อนตัวไปทางไหนมากนัก คงกลัวมันจะหลุด

“นนท์ ฟ้าบอกให้ปล่อยน้องไง”

“ฟ้านั่นแหละปล่อย  จะทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร”

“แดนเป็นน้องฟ้านะ”

“แต่แดนเป็นเมียนนท์”

“ไอ้เลว!!  กูไปเป็นเมียมึงตอนไหน”  แดนตะโกนด่าทันทีที่คุณนนท์พูดจบ

“นนท์....” คุณฟ้าหน้าถึงกับถอดสี ปล่อยมือแดนแทบจะทันที  แดนเลยถูกดึงไปอยู่ในอ้อมแขนคุณนนท์อีกครั้ง  แต่ไม่วายดิ้นปกป้องตัวเอง

“บอสครับ อย่าไปเชื่อมัน ผม...ผมไม่ได้เป็นอะไรกับมัน  มันปากหมา ไอ้คนปากหมา!!”  แดนตะโกนด่าเสียงดัง  ด่าทั้งน้ำตา พยายามสุดแรงที่จะดึงตัวเองออกมาจากคนที่ตัวใหญ่กว่า ผมอยากเข้าไปช่วย แต่ผมคิดว่ามันไม่สมควร  ผมถึงได้ยืนดูเหตุการณ์ตรงหน้าเหมือนอากาศที่วนเวียนอยู่ในห้อง ทำอะไรไม่ได้สักอย่างและคงไม่มีใครอยากให้ผมเข้าไปร่วมวงด้วย

สถานการณ์ตอนนี้ รักสามเศร้าชัดๆ  ผมเป็นคนนอกที่ได้แต่ยืนมอง

“ต้องให้บอกบอสของเราไหม  ว่าคนที่เขาเปิดประตูเข้ามาเจอเมื่อสี่ปีก่อนเป็นใคร?”

“ไอ้เลว มึงมันเลว มึงมันชั่ว กูจะฆ่า”   เด็กแดนทำเหมือนอย่างปากว่า พยายามจะชกจะตีคุณนนท์ แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่าการร้องไห้น้ำตานองหน้า  เมื่อมือทั้งสองถูกรวบไว้แน่น แทบกระดิกไม่ได้

“พอเห็นหน้าบอสตัวเองมาก ทำซ่าออกฤทธิ์เยอะเลยนะ”

“ทำไม กูจะทำ”

“หึ งั้นเหรอ....” ผมเห็นคุณนนท์ยิ้มอย่างคนถือแต้มเหนือกว่ากับแล้ว แล้วหันมาทางคุณฟ้า

“ฟ้าจำเช้าวันเสาร์ที่ 17 เดือนเมษาวันเกิดนนท์เมื่อสี่ปีก่อนได้ไหม  ตอนที่ฟ้าเปิดประตู...”

“หยุด! ไม่ต้องพูด”  เด็กแดนตะโกนห้ามทั้งน้ำตา

“อายเหรอ?”

“กูไม่ได้หน้าด้านเหมือนมึง ไอ้เลวไปตายซะ ....... บอส ผมขอโทษ ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ผม...ผม....ขอโทษ”

“แดนมาหาพี่นี่  นนท์ปล่อยน้องก่อน”

ผมไม่รู้ว่าคุณฟ้ากำลังคิดอะไรอยู่  หลังจากที่ยืนนิ่งไปนาน  ท่าทางที่จะร้องไห้เมื่อครู่ก็ไม่มีให้เห็นแล้ว คุณฟ้านั่งลงใกล้ๆ คนทั้งคู่ แล้วดึงเด็กแดนเข้ามากอด โดยที่คุณนนท์ยอมปล่อยแต่โดยดี

“ไม่ร้องนะ”

“พี่ฟ้า....ผมขอโทษ”  ครั้งแรกที่ผมได้ยินเด็กแดนเรียกคุณฟ้าว่าพี่ฟ้า  ทุกทีจะเรียกบอสตลอด

“นนท์  ถ้าไม่รักน้องจริง  อย่าทำกับน้องแบบนี้ ถือว่าฟ้าขอ”

“พูดยังกับไม่รู้จักนนท์”

คุณฟ้าเบือนหน้าหนีสายตาจริงจังของคุณนนท์   เหมือนไม่อยากยอมรับสิ่งที่คุณนนท์กำลังบอกผ่านสายตาคู่นั้น

“ฟ้าจะพาน้องกลับ”

“ฟ้า นี่ฟ้าไม่เข้าใจหรือไม่ยอมเข้าใจกันแน่”

“ฟ้าเข้าใจว่าน้องไม่อยากอยู่ที่นี่”

“ฟ้า”

คุณนนท์เริ่มหงุดหงิด  ทำท่าเหมือนจะดึงเอาตัวเด็กแดนกลับ  แต่คุณฟ้าไม่ยอม  ดึงตัวแดนให้ลุกขึ้นตาม แต่อย่างว่าครับ              แดนคงไม่กล้าลุกขึ้นยืนต่อหน้าคุณฟ้าแน่ๆ เลยขืนตัวเองไว้

“แดน”  คิ้วคุณฟ้าจะหมวดเข้าหากัน ส่วนคุณนนท์ยิ้มอย่างพอใจผลงานก่อนหน้านี้ของตัวเอง ที่ผมพอรู้ครับว่าอะไร

“พี่ฟ้า คือ....คือ....”

ผมว่าคุณฟ้าคงลืมดูรอบๆ  เตียงไปครับว่ามีเสื้อผ้าหลายชิ้นหล่นอยู่  ถ้าเห็นคงนึกสภาพของแดนออกบ้างล่ะครับ  ไม่ใช่ยืนทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจอยู่อย่างนี้

“บอกไปสิว่ากำลังโป๊ แล้วก่อนหน้านี้ เรากับพี่กำลังทำอะไรกันอยู่”

“หุบปากมึงไปเลย ไอ้เลว แม่ง...กูไม่เคยเห็นใครเลวเท่ามึงมาก่อน กูไม่น่าเกิดมาเจอมึงเลย”

“งั้นเหรอ?  แต่พี่จำได้ว่าสี่ปีก่อน ไม่ได้พูดอย่างนี้นี่ เอ๋...พูดว่าอะไรน้า.....พี่ครับช่วยผมด้วย ผมไม่ไหวแล้ว เอาอีก แรงอีก...หึหึ”

“ไอ้เลว มึงอย่าอยู่เลย!”  เด็กแดนโผเข้าไปใส่คุณนนท์ครับ  เป้าหมายคงเป็นบริเวณคอ ถ้าผมเดาไม่ผิด แล้วผมก็เดาถูกอีกว่า  ไม่ทันจะได้ทำอย่างที่คิดหรอก แค่พุ่งตัวเข้าไปหาก็ถูกจับทุ่มลงบนเตียง ก่อนจะถูกรวบมือไว้เหนือหัว  (ท่าที่ผมเคยทำกับคุณฟ้ามาแล้ว) เอาตัวเข้าคร่อมทับ กักขังไม่ดิ้นไปไหนง่ายๆ


“นนท์! อย่าทำน้อง”  คุณฟ้าพยายามจะช่วยเด็กแดน  ด้วยการดึงตัวคุณนนท์ออกจากตัวเด็กแดน

“อย่ายุ่งได้ไหมฟ้า”

“ไม่ยุ่งได้ไง นนท์กำลังทำร้ายน้อง”

“นนท์ไม่ได้ทำร้าย  แค่จะสอนให้จำว่าอย่างมาอวดเก่ง.....แล้วปากน่ะ  หัดพูดให้มันเพราะๆ หน่อย ให้รู้ซะบ้างใครเป็นพี่ใครเป็นน้อง”

“ไอ้ห่า กูไปเป็นน้องมึงตอนไหน  คนอย่างกูไม่เคยมีพี่เลวๆ  แบบมึง จำใส่หัวสมองเลวๆ ของมึงเอาไว้ กู....ไม่....ใช่....น้อง....มึง”

“เอ่อ...ลืมไป เราน่ะไม่ใช่น้อง แต่...เป็น...เมีย....”

“ไอ้เลว!!”

ผมว่า เด็กแดนคงอยากวางมวยกับคำพูดย้ำชัดๆ ของคุณนนท์  แต่ทำอะไรไม่ได้ เลยได้แต่ฟึดฟัด มองคนที่อยู่ด้านบนแบบอาฆาตแค้น

“ช่วยกลับไปก่อนนะฟ้า เอาไว้นนท์เคลียร์กับลูกน้องของฟ้าเสร็จเมื่อไรจะไปหา”

“กูไม่มีอะไรจะเคลียร์กับมึงโว้ย....พี่ฟ้า พี่ฟ้าช่วยผมด้วย ผมเกลียดมัน เกลียดมันยังกะกิ้งกือไส้เดือน....กูเกลียดมึง ได้ยินไหม กู....เกลียด....มึง”

“แล้วใครสน”

“ไอ้หน้าด้าน”

“ถ้ายังไม่หยุดด่าจะทำให้มันมากกว่า เอาต่อหน้าบอสของเราเลยเป็นไง เหมือนตอนนั้นไง ดีไหม?”

“ไอ้ชั่ว ไอ้เลว”

“เราบังคับพี่เอง”

สองคนนั่นเล่นจ้องตากันอยู่นานครับ กว่าที่คุณฟ้าพูดทำลายบรรยากาศมาคุนั้นลง

“นนท์ปล่อยน้องเถอะ”

“อย่ายุ่งได้ไหมฟ้า”

“ไม่ได้!”

ตอนนี้คุณฟ้าไม่ใช่แค่พูดบอก  เจ้าตัวลงมือดึงตัวคุณนนท์ออกจากตัวเด็กแดนอีกครั้ง น่าจะใช้แรงมากพอสมควร ส่วนเด็กแดนก็พยายามดิ้นให้หลุด กลายเป็นว่าอีรุงตุงนังกันอยู่ตรงนั้น โดยที่ผมยังยืนนิ่ง ไม่กล้าทำอะไรมาก  รู้สึกว่าตัวเป็นธาตุอากาศที่ไม่มีใครเห็น จนกระทั่ง

~~ ตุ๊บ~~

“โอ๊ยยย.....”

“ฟ้า....โอ๊ะ โอ๊ยย....”

“คุณฟ้า”

จังหวะที่ยื้อกันอยู่นั้น คุณนนท์คงพลาดใช้แรงมากเกินไปจนทำให้คุณฟ้าเสียหลักล้มลงก้นกระแทกพื้น  แล้วเป็นคุณนนท์คงตกใจจนเผลอปล่อยมือเด็กแดน  เลยโดนเด็กแดนชกเข้าที่ปากไปสองมัด ส่วนผมรีบพุ่งตัวไปประคองตัวคุณฟ้าให้ลุกขึ้นมา

“เจ็บไหมครับ”  คุณฟ้าสายหน้า แต่ผมไม่เชื่อหรอกครับ หน้าตาบอกชัดเจนว่าเจ็บสุดๆ  น้ำตาถึงกับเล็ด ของเดิมมันเจ็บมากก่อนแล้วไงครับ มาผลักให้ล้มก้นจ้ำไปพื้นอีก


“ไอ้เลว มึงกล้าทำพี่ฟ้าเหรอ มึงอย่าอยู่เลย”

เด็กแดนโผเข้าใส่คุณนนท์อีกครั้ง  ได้จังหวะต่อยไม่ยั้งมือเพราะคุณนนท์กำลังอึ้งกับการกระทำของตนเองอยู่     กว่าจะเรียกสติตัวเองกลับมาได้ก็โดนไปหลายหมัด ถึงรวบเด็กซ่าไว้ในมือได้

“อย่าซ่าให้มันมากนะแดน”

“ไอ้เลวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

ตะโกนด่าซ้ำ  เด็กแดนก็ทำได้แค่นั้นแหละครับ  ผมกลัวว่าเรื่องมันจะวนเวียนซ้ำซากไม่ไปไหนสักที เลยต้องขอยุ่งกับรักสามเศร้าเราสามคนของคุณฟ้า คุณนนท์ แล้วก็เด็กแดนสักหน่อย

“กลับกันเถอะครับคุณฟ้า”

 “พี่หมอ!”

“คุณหมอ”

แต่ละคนที่เรียกชื่อผม ยังกับเพิ่งเห็นผมอยู่ในห้องนี้  ผมเดาไว้ไม่มีผิดเลย ทั้งคุณนนท์ทั้งเด็กแดนเพิ่งรู้ตัวว่ามีผมอยู่ในห้องนี้ด้วย ดีนะครับที่คุณฟ้าไม่ร่วมแปลกใจไปด้วย

“หมอมากับคุณฟ้าครับ...แต่คงไม่มีใครเห็น”  ผมตอบคำถามที่มาจากสายตาของคนทั้งคู่   คุณนนท์กับเด็กแดน คงอยากรู้ว่าผมเข้ามาได้ยังไง

“ฟ้า  นนท์ว่า เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยนะ”  ชักไม่ค่อยดีครับ คุณนนท์เหมือนจะพูดกับคุณฟ้าแต่ตามองที่ผม  ไม่ได้มองที่คุณฟ้าเลยแม้แต่น้อย

“อย่าแม้แต่จะคิดลงจากเตียง ไม่อย่างนั้น  เรื่องก่อนหน้าที่เราตกลงกันไว้ ถือว่าเป็นโฆษะ....คุณหมอเหมือนกันนะครับ อยู่ในห้องนี้ก่อน  ผมเรียกแล้วค่อยออกไป”

เอ่อ....ผมพูดไม่ออกครับ  ไม่ได้กลัวคำขู่ของคุณนนท์เหมือนที่เด็กแดนกำลังกลัวอยู่  เพราะขนาดถูกปล่อยตัวแล้วแท้ๆ  เด็กแดนยังนั่งนิ่ง ไม่แม้แต่จะขยับตัวไปทางไหนเหมือนตอนแรก ที่ร้องป่าวๆ ว่าให้อีกฝ่ายปล่อยตัว  แต่ที่ผมปล่อยให้คุณนนท์เดินจูงมือคุณฟ้าออกไปนอกห้อง  เพราะ....เพราะผมไม่รู้ว่าจะทำอะไรที่มันดีไปกว่านี้ได้  ในเมื่อคุณฟ้าอยากจะคุยกับคุณนนท์อยู่แล้ว  มันเป็นโอกาสที่ของคุณฟ้าที่ผมไม่ควรจะเข้าไปยุ่ง

แต่...

ผมให้แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น

วันอื่น...

อย่าหวัง!!

ถึงแม้หมอพิษณุคนนี้จะไม่ใช่คน  ‘ขี้หึง’  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ ‘ขี้หวง’ นะครับ



“พี่หมอ”

เสียงเด็กแดนเรียกผมจากด้านหลัง  ทำให้ผมรู้ตัวว่าผมกำลังยืนจ้องประตูอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้ว

“ครับ” ผมหันไปตอบ เห็นเด็กแดนใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว

“มันไม่ใช่อย่างที่พี่หมอคิดนะครับ เอ่อ...ผม คือผม...คือผมกับไอ้เลวนั่น   ไม่ได้เป็นอะไรกันนะครับ แล้ว...แล้ว...แล้วผมก็ไม่ใช่คนที่ทำให้บอสถูกทิ้งด้วย   ไอ้เลวนั่นมันบังคับผมเอง แล้ว...แล้ว...แล้วผมก็ยังไม่ได้มีอะไรกับมัน  มันกำลังจะทำผม  แต่คุณหมอกับบอสเข้ามาซะก่อน”  เด็กแดนว่า

“มันไม่สำคัญว่าหมอจะคิดอะไรนะแดน  มันสำคัญอยู่ที่คนโน่น”  มือผมชี้ไปด้านนอก เด็กแดนคงรู้ว่าผมหมายถึงใคร

“แล้วผมจะทำไงดี  ผมจะเอาหน้าไปสู้บอสได้ยังไง” คนพูดถอนหายใจหนัก

“ชอบคุณฟ้าเหรอ?”  ผมถาม เด็กแดนดูจะอึ้งไปนิด มองหน้าผมอยู่พักถึงได้พยักหน้าน้อยๆ เป็นคำตอบ

“ครับ”

“ชอบมากหรือเปล่า?”  ผมถามอีก เดินเข้าไปใกล้

“ไม่รู้ครับ”

“งั้นแปลว่าไม่มาก”

“ก็มากอยู่ครับ”  ตอบแล้วก็หน้าแดง

“งั้นก็เลิกคิดชอบซะ  เพราะคุณฟ้าเป็นของหมอ”  ผมพูดเบาๆ ครับ แต่หนักแน่นและย้ำชัด

“.........” เด็กแดนไม่พูดอะไร แต่สายตาที่มองผม มันลุกวาว คงทั้งโมโหทั้งโกรธ แต่เพราะผมไม่ใช่คุณนนท์มั้ง   เจ้าตัวถึงไม่กระโดดมาขย้ำคอ ทั้งที่กำหมัดซะแน่นขนาดนั้น

“คนของหมอ หมอก็ต้องหวงใช่ไหม”

“ผมไม่เชื่อ”  สงสารเด็กครับ เมื่อกี้ทำท่าโกรธ มาตอนนี้ทำเหมือนจะร้องไห้

“หมอไม่ได้พูดให้เชื่อ หมอแค่บอกให้รู้  คนที่เขามีเจ้าของแล้ว เราไม่ควรไปยุ่ง”    ผมพูดเหมือนสอนครับ แต่ความจริงยอมรับเลยว่าเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่แฟร์คนหนึ่ง  เพราะผมไม่อยากมีคู่แข่งเยอะ เลยต้องกันท่าเอาไว้ก่อน

“บอสมีไอ้เลวนั่นแล้ว หมอยังไปยุ่งเลย”

อ้าวว...คำว่า ‘พี่’ หายไปไหนล่ะเด็กแดน

“คุณฟ้าเลิกกับคุณนนท์แล้ว หมอถึงเข้าไปยุ่งได้  แต่ตอนนี้คุณฟ้ามีหมอ แดนก็ไม่ควรเข้ามายุ่ง เข้าใจใช่ไหม?”

“ไม่เข้าใจ” เสียงแข็งซะ

“ไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจ หมอไม่ได้ว่าอะไร  ไม่มีสิทธิ์ห้ามแดนอยู่แล้ว  แต่หมออยากบอกว่าคุณฟ้าเป็นของหมอ  แล้วหมอก็ไม่มีวันปล่อยให้คุณฟ้าไปเป็นของคนอื่น  หรือแม้แต่จะยอมให้คนอื่นมายุ่งกับคนของหมอ”

ถึงคำพูดของผมจะเรื่อยๆ  แต่ผมก็สู้ตากับเด็กแดนไม่ถอย  ดูๆ แล้วเด็กแดนไม่น่าจะเป็นคู่แข่งผมได้เลย ตัวก็เล็กนิดเดียว        จะกอดอะไรคุณฟ้าได้ รึคิดจะให้คุณฟ้ากอด  เฮ้อ...คิดผิดแล้วเด็กแดนเอ๋ย อย่างคุณฟ้าน่ะ กอดใครไม่ได้หรอก  นอกจากจะให้คนอื่นกอด แล้วคนๆ นั้นก็ถูกจองโดยหมอคนนี้ไปแล้ว

“คุณหมอกับพี่ฟ้า....มีอะไรกันแล้ว” เป็นนานกว่าที่เด็กแดนจะกลั่นกรองคำพูดออกมาได้

“เรื่องนี้หมอไม่ขอพูดนะ”

“.....”


“แดน”

ไม่ใช่ผมครับที่เรียกเด็กแดน  แต่เป็นคุณฟ้าที่เปิดประตูเข้ามา  หน้าแดง ตาบวม ไม่บอกก็รู้ว่าผ่านอะไรมา เดินเข้ามาแบบไม่สนใจผมเลย  ไม่ใช่สิ ไม่ถึงกับว่าไม่สนใจ แวบหนึ่งที่คุณฟ้ากับมองตากัน ก่อนที่จะเดินเลยผมไปหาเด็กแดน ดึงมือให้ลุกขึ้น

“กลับบ้าน”

“แต่....” เด็กแดนเอนตัวมองไปข้างหลังคุณฟ้า มองไปหาคุณนนท์ที่เดินทำหน้ายุ่งเข้ามา

“พรุ่งนี้พี่จะไปหา”

พูดอย่างนี้แปลว่าอนุญาตให้คุณฟ้าพาตัวเด็กแดนกลับได้แล้วมั้ง

“ใครขอให้มึงมา ไม่ต้องมาเลยนะ กูไม่อยากเห็นหน้ามึง จำเอาไว้ กู...ไม่...อยาก....เห็น...หน้า....มึง!”

ยังไม่สิ้นฤทธิ์อีกนะเด็กแดน ไปยั่วโมโหเขาอีก เดี๋ยวก็ไม่ได้กลับกันพอดี

“งั้นเหรอ?....”

“อย่าเข้ามานะโว้ย”

ว่าแล้วไง คุณนนท์ย่างสามขุมมาหาเด็กแดนซะแล้ว  ท่าทางจะยาว แล้วผมจะได้กลับไปนอนกอดคุณฟ้าเมื่อไรกันละเนี้ย

“ไอ้เลว! มึงจะทำอะไรกู.....บอสช่วยผม....ดะ........อื้อ....”

ไม่ต้องสงสัยครับว่าประโยคสุดท้ายมันหายไปไหน ปากดีอย่างนี้ไง  ถึงโดนคุณนนท์กระชากตัวเอาไปจูบ ผมหันไปมองคุณฟ้า เลยรู้ว่าคุณฟ้ามองหน้าผมอยู่เหมือนกัน

“พอเถอะนนท์”  คุณฟ้าพูดเสียงอ่อนเหมือนเหนื่อยใจกับอะไรบางอย่าง คุณนนท์ยอมปล่อยแต่โดยดี

“จำเอาไว้ว่าอย่าปากเก่งกับพี่  แล้วจำให้ขึ้นใจด้วยว่าเราน่ะเป็นอะไรกับพี่  ที่ผ่านพี่ใจเย็นกับเรามากพอแล้ว  ต่อไปนี้ถ้ายังดื้อ ยังพูดไม่เพราะกับพี่อีก อย่าหาว่าพี่ใจร้ายกับเราก็แล้วกัน”

น้ำเสียงที่ขู่เด็ดขาดมาก ทำเอาเด็กแดนหงอย  ก้มหน้าก้มตาเหมือนจะร้องไห้  จนต้องถูกดึงตัวเข้าไปกอดอีกครั้ง คราวนี้ดูอ่อนโยนกว่าเมื่อกี้เยอะ  กอดอยู่นานไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย ผมหันไปมองคุณฟ้าเห็นคุณฟ้ายืนนิ่ง  ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่  ผมห่วงความรู้สึกคุณฟ้านะ วันทั้งวันเจอแต่เรื่องทำร้ายจิตใจ แต่ใจหนึ่งก็อยากให้คุณฟ้าเจ็บให้พอ

....เจ็บแล้วจะได้จบ


ผมคิดว่าหูผมไม่ได้ผาด เมื่อผมได้ยินคำพูดเบาๆ ของคุณนนท์ที่กระซิบบอกข้างหูของเด็กแดน

‘พี่รักเรานะ...เด็กดื้อ’

ก่อนที่จะถูกปล่อยตัวเด็กแดนคืนให้คุณฟ้า

“พรุ่งนี้พี่จะไปหา”

“ไม่ต้อง”

ผมโล่งอกครับที่เด็กแดนไม่แผลงฤทธิ์ต่ออีกรอบ

“ป่ะ...กลับบ้าน” คุณฟ้าจับแขนเด็กแดนแล้วพาเดินออกไป ผมที่กำลังจะเดินตามออกไปได้ต้องชะงักครับ เมื่อคุณนนท์รั้งแขนผมไว้

“เสื้อตัวนี้ของผม”

ชี้มาที่เสื้อตัวที่ผมใส่อยู่  ก่อนใส่ผมก็พอรู้ครับว่ามันเป็นของคุณนนท์  เสื้อไซด์ขนาดนี้เป็นของคุณฟ้าไม่ได้หรอก

“วันเกิดผมปีที่แล้วฟ้าซื้อให้ ฉะนั้น....อย่าใส่มันเป็นครั้งที่สอง”

“ครับ” ผมไม่ใช่คนประเภทที่อีกคนแรงมาแล้วต้องแรงกลับ  ผมเป็นคนไทยที่รักสงบ ในเมื่อมันเป็นเสื้อของคุณนนท์ เจ้าตัวไม่อยากให้ผมใส่ ผมก็เข้าใจ

“แล้วอีกเรื่อง...”

“......”

มีเรื่องอะไรอีก?

“อย่าอาศัยช่วงที่ฟ้าอ่อนแอแล้วมาทำร้ายเค้า”  ดูจากสายตาแล้ว ผมว่าคุณนนท์น่าจะห่วงคุณฟ้า  มากกว่าหวง  อันนี้ผมก็เข้าใจอีกเหมือนกันครับ  อดีตคนรักของคุณฟ้าไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร เท่าที่ผมเห็นนะ   จะดูเลวร้ายก็ตรงที่ทิ้งคุณฟ้าไปนั่นแหละ      แต่มันก็ดีไม่ใช่เหรอ  ถ้าคุณนนท์ไม่ทิ้งคุณฟ้าไป ผมกับคุณฟ้าจะมีวันนี้ได้เหรอ?

“ผมไม่ทำอย่างนั้นแน่นอนครับ”  ผมยืนยันหนักแน่น ไม่ต้องให้คุณนนท์ขู่หรอกครับ ยังไงผมก็ไม่มีวันทำร้ายคุณฟ้าอยู่แล้ว  ผมน่ะ มันเป็นคนรักใครแล้วรักจริง ไม่คิดทำให้เสียใจ

“ผมจะเชื่อ แต่อย่าให้ผมเห็นว่าฟ้าร้องไห้เพราะคุณหมอ ไม่อย่างนั้นผมไม่เอาคุณหมอไว้แน่”

“ครับ”

คุณนนท์คงเป็นคนประเภทชอบขู่  ส่วนผมก็ไม่ใช่คนใจร้อน ไม่ได้โกรธคุณนนท์ด้วยที่ทำเหมือนจะกล่าวหาว่าผมจะทำให้คุณฟ้าเสียใจ  อย่างว่าล่ะครับ คุณนนท์ยังไม่รู้จักผม คงยังไม่อยากไว้ใจผมนัก

“ฟ้าเป็นคนน่ารัก”

อันนี้ผมรู้

“ขี้สงสาร”

อันนี้ผมพอเดาออก

“ผมอยากให้คุณหมอระวังหัวใจตัวเองเอาไว้ให้ดี”

ผมเริ่มไม่เข้าใจแล้วว่า อีกฝ่ายต้องการบอกอะไรผม

“บางที....การที่ฟ้ายอมให้คุณหมอมากขนาดนี้  เป็นเพราะนิสัยขี้สงสารของเค้าเอง  ไม่ใช่เพราะสิ่งที่อยู่ข้างในใจเค้า”

ชัดเจนแล้วละครับ ว่าคุณนนท์ต้องการบอกอะไรผม

“ผมรู้”

“แม้แต่ผมเอง ตั้งแต่คบกันมา  ผมยังไม่รู้เลยว่าฟ้ารักผมจริงหรือเปล่าหรือแค่ผูกพัน  เพราะที่ผ่านมา เค้ามีแต่ผมข้างๆ ตลอดเวลา  เค้าไม่มีโอกาสมองใครนอกจากผม ผมเป็นคนตีกรอบล้อมเค้าไว้ จนมันเป็นความเคยชินที่เค้าต้องมีผม  จนเค้าคิดว่ามันเป็นความรัก ฝังจำมาจนทุกวันนี้”

“.......”

“บางที....การที่ฟ้าร้องไห้ มันอาจจะเป็นเพราะเค้าคิดว่าจะเสียผมไป  แต่ไม่ใช่เพราะผมทิ้งเค้า คุณหมอเข้าใจสิ่งที่ผมต้องการจะบอกใช่ไหมครับ”

“ครับ...แต่ผมจะพยายาม”  ใช่แล้วครับ ผมเข้าใจว่าคุณนนท์ต้องการจะบอกอะไรผม

“ระวังเค้าจะแค่สงสาร”

“........”

“แต่เค้าจะไม่รัก”

“.......”

“ความจริง ผมคิดว่าคนที่จะถูกทำร้ายน่าจะเป็นคุณหมอมากกว่า”

มันไม่ใช่คำขู่แล้วครับ ดูจากสีหน้าแววตาแล้ว คุณนนท์อยากเตือนผมมากกว่า

“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับ”  ผมยิ้ม แต่ใจมันก็อดแฟ่บไม่ได้ คุณนนท์พูดเหมือนตาเห็น

“แต่ผมก็ยืนยันนะครับคุณหมอ  ถ้าคุณหมอทำฟ้าร้องไห้  ผมเอาคุณหมอตายแน่  ถึงฟ้าจะไม่ใช่คนรักของผม  แต่เค้าเป็นเพื่อนที่ผมรักมากที่สุด หวังว่าคุณหมอจะเข้าใจนะครับ”

“ครับ”  ผมเป็นคนพูดน้อยครับ จะให้พูดอะไรมากเกินไปก็ไม่ใช่นิสัย  ให้ระยะเวลาพิสูจน์สิ่งที่ผมกำลังคิดทำอยู่ตอนนี้ดีกว่า

ผมไม่กลัวหรอก....ถ้าต้องเจ็บ

แต่สิ่งที่ผมกลัวคือ...กลัวตัวเองจะพลาดโอกาสที่จะรักคุณฟ้ามากกว่า



 :impress2:>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<< :impress2:

คนเขียนอยากคุย :: ตอนนี้มันเรื่อยๆ ไปหน่อยนะคะ แต่มันก็เป็นส่วนที่ขาดไม่ได้จริงๆ อิอิ
      ขอให้มีความสุขกับการอ่าน รัก...เชิญครับ นะคะ ^___^ o18
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 14 เราสามคน {12/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 12-12-2011 11:28:40
ลืมบอกค่ะ แทนคำขอบคุณที่แวะมาเยือน  รัก  เชิญครับ    บวกหนึ่งให้ทุกๆเม้นท์ ในหน้า 38 นะค่ะ  :L2:


ปล  ระบบมันยังฟ้องว่า IP น้อยกว่า 90 วิอยู่เลย   จะแก้ไขรีเดิมก็ข้อความอักษรเกิน   :angry2:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 14 เราสามคน {12/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 12-12-2011 11:50:10

จะ..เจ็บง่ะ แอบเจ็บแทนคุณฟ้า
เห็นแบบนั้นเต็มตา ใครไม่อ่อนแอให้มันรู้ไป
เหนื่อยใจแทนจริงๆ ถ้าเป็นคุณหมอ
เราก็แอบท้อเหอะ! เจอกับตัวเอง
แล้วไหนนนท์จะบอกอีก
แต่ก็เนอะ ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้หรอก ว่าเราจะเข้าไปได้ไหม ?

สู้ๆคะคุณหมอ(สัตว์) 55555
+1 เป็นกำลังให้ทั้งคุณหมอกับคนแต่งเลยจ้า
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 14 เราสามคน {12/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 12-12-2011 12:04:48
ขนาดว่าตรวจทานอีกรอบแล้วยังมีผิด  ขอบคุณมากนะค่ะ  บวก 1ให้ค่ะ   และสำหรับทุกๆเม้นท์ของตอนนี้ด้วยเหมือนกันแทนคำขอบคุณนะค่ะ 

ยินดีค่ะ บางทีเราก็พลาดกันง่าย ๆ ค่ะ ไม่เป็นไรช่วย ๆ กันดูค่ะ

มาตอบเม้นท์นี้ก่อน เดี๋ยวจะไปอ่านนิยายตอนใหม่ค่ะ


ไปอ่านมาแล้วค่ะ ถึงจะบอกว่าตอนนี้เรื่อย ๆ แต่ก็เปิดเผยแง่ปมปัญหามากขึ้นนะคะ

คุณหมอ "ขี้หวง" มาก แหม....แล้วบอกว่าตัวเองไม่ "ขี้หึง" จ้างก็ไม่เชื่อเพราะ "หวง" มาพร้อมกับ "หึง" เสมอ

อย่างที่เคยเข้าใจ คุณฟ้า รัก นนท์จาก "ความเคยชิน" คิดว่า "รัก" แต่จริง ๆ แล้วตัวคุณฟ้าเองก็คงไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร (คนอ่านก็ไม่รู้ เพราะคนเขียนยังไม่ได้บอก....หุหุ)

ถ้าเปลี่ยนตัวเรากับคุณหมอ คงไม่มีกำลังใจจะ "รัก" คุณฟ้า ต่อไปแน่ ๆ เล่นมาบอกตรง ๆ ว่าให้แค่ "ร่างกาย" แต่ไม่ให้ "หัวใจ"  :เฮ้อ: แต่เพราะเราไม่ใช่คุณหมอ และคุณหมอไม่ใช่เรา ดังนั้นคุณหมอคงจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ทั้ง ร่างกายและหัวใจ ของคุณฟ้า

เอาใจช่วยคุณหมอ :L2: ค่ะ

ปัจฉิมลิขิต  ความสงสาร นานไปก็อาจเปลี่ยนเป็นความรักได้นะคะ


หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 14 เราสามคน {12/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 12-12-2011 12:23:47
เจ็บแต่จบ :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 14 เราสามคน {12/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 12-12-2011 12:47:06
อ่านแล้ว เหนื่อย....ใจ !
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 14 เราสามคน {12/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 12-12-2011 13:16:00
สงสาร แต่ไม่รัก เจ็บดีจริงๆ

บวกให้คุณพี่หมอค่า สู้ๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 14 เราสามคน {12/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 12-12-2011 14:01:39
หมอพยายามเข้านะ เจ็บแต่อย่าท้อ
คุณฟ้าก็เปิดใจเร็วๆด้วย

อืม...เริ่มอยากอ่านคู่นนท์แล้วซิ่
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 14 เราสามคน {12/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 12-12-2011 15:12:53
 :เฮ้อ:ไม่รู้จะสงสารใครดีระหว่างกับหมอ :z3:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 14 เราสามคน {12/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: atommic ที่ 12-12-2011 20:27:56
ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง............ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 15 นอนหลับฝันดี {15/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 15-12-2011 11:23:47
ตอนที่ 15

ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ข้างคุณหมอ มีแดนนั่งอยู่เบาะด้านหลัง รถกำลังเล่นไปข้างหน้า แต่ทำไมสมองของผมมันถึงแล่นกลับหลัง กลับไปยังเรื่องที่เพิ่งผ่านพ้นมาเมื่อครู่ ผมไม่รู้ว่าหัวสมองของตัวเองยังใช้การได้ดีอยู่หรือเปล่า ไม่กี่เรื่องที่สมองผมรับรู้ ทำเอาหัวผมแทบแตก ไม่สินะ มันก็แค่เรื่องเดียว คือเรื่องระหว่างนนท์กับแดน ไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กผมทองตัวเล็กๆ ที่ผมเคยเปิดประตูเข้าไปเจอ เช้ามืดวันเสาร์เมื่อสี่ปีก่อน ตอนวันเกิดของนนท์...จะเป็นแดน

เด็กผมทองที่ผมเห็นว่ากำลังมีอะไรกับนนท์ ในคอนโดของนนท์ ในห้องของนนท์ บนเตียงของนนท์...บนตัวของนนท์ กับเสียงครางกระเส่า ที่ไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร

ผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำเหตุการณ์วันนั้น ถ้านนท์ไม่พูดถึงมัน แล้วผมก็จำไม่ได้เลยว่าเด็กผมทองคนนั้นคือแดน

ยอมรับครับว่าวันนั้นที่เปิดประตูเข้าไปเจอ ผมเห็นแค่ด้านหลังของเด็กผมทองที่นั่งอยู่บนตัวของนนท์ (ไม่ต้องพูดหรอกใช่ไหมครับ ว่ามันเป็นท่าอะไร)  ไม่ทันเห็นหน้าด้วยซ้ำ ผมก็ต้องรีบปิดประตู ทิ้งภาพและเสียงครางระงมไปทั่วห้องนั้นไว้ด้านหลัง ผมยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ตรงหน้าห้อง ภาพที่เห็นยังฉายชัดเป็นภาพนิ่งอยู่ในหัว เสียงครางกระเส่ายังลอดออกมาให้ได้ยิน ทั้งที่ก่อนหน้าที่จะเข้าไป ผมเตรียมใจว่าแล้วครับว่าต้องเจอภาพแบบไหน เพราะเสียงที่ดังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินตั้งแต่เดินเข้าห้องมา นานครับกว่าผมจะพาตัวเองออกมาจากห้องของนนท์ได้ แล้วใช้วิธีส่งข้อความไปหานนท์ บอกว่าผมตักบาตรคนเดียวก็ได้ ถ้านนท์ไม่สะดวก แล้วตอนเย็นค่อยมารับผมตามที่นัดกันไว้ แต่วันนั้นนนท์ก็ไม่ได้มาหาผมครับ หายไปหลายวันกว่าจะโผล่หน้ามาให้ผมเห็นและคำขอโทษที่พูดให้ผมฟัง


ผมไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กผมทองคนนั้นคือแดน ตอนที่นนท์ดึงตัวผมออกไปคุยกันข้างนอก ทำเอาผมทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่ แม้นนท์จะเปลี่ยนเรื่องมาที่เรื่องของคุณหมอกับผม แต่สมองผมก็เหมือนจะไม่รับรู้อะไรนอกจากเรื่องของนนท์กับแดน เสื้อผ้าของนนท์ที่ผมเอาให้คุณหมอใส่ กลายเป็นเรื่องที่ทำให้นนท์รู้ว่า ผมกับคุณหมอ ไม่ใช่แค่เจ้าของร้านกับลูกค้ากันอีกแล้ว

‘นั่นมันเสื้อนนท์ ฟ้าเอาให้คุณหมอใส่ทำไม’

‘......’ ผมไม่ได้ตอบคำถามของนนท์ เพราะสมองมันยังวนเวียนอยู่กับเรื่องของนนท์กับแดน เมื่อสี่ปีที่แล้ว กว่าจะรู้ตัวก็เมื่อเนื้อตัวมันเย็นวาบเพราะนนท์ดึงเสื้อยืดของผมขึ้น

...น่าจะเห็นรอยจ้ำสีแดงช้ำที่คุณหมอทำเอาไว้

‘ทำประชดนนท์เหรอ?” ไม่กล้าสบสายตาคาดคั้นจากนนท์เลย ผมเป็นคนโกหกไม่เก่งเสียด้วย เลยได้แต่นิ่ง ปิดปากเงียบ ซึ่งมันคงเป็นคำตอบของคำถามได้ดีกว่าอะไรทั้งสิ้น ในเมื่อผมไม่ได้ปฏิเสธออกมา

‘……’

นนท์ถอนหายใจยาว ดึงเสื้อผมลง ก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอด น้ำตาของผมไหลทันทีราวกับมันรอจังหวะนี้มานาน

‘นนท์รักฟ้านะ นนท์ไม่อยากให้ฟ้าเป็นแบบนี้เลย ’ มือใหญ่ลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน แต่ผมรู้สึกถึงความเหินห่างจากไออุ่นของอ้อมกอด น้ำตามันยิ่งไหลชุ่มอยู่ตรงอกที่คุ้นเคยมากกว่าเดิม สะอื้นจนตัวโยน อ้อมแขนที่กอดรัดยิ่งรัดแน่นขึ้น โยกตัวผมไปมาเหมือนปลอบเด็ก

‘รัก...แล้วทำไม...ทำไมถึง...ทิ้ง...’ พยายามมากกว่าที่จะหลุดประโยคนั้นออกมาให้ได้

‘เราไม่ได้รักกันแล้วมั้ง’

‘ฟ้ารักนนท์ ตอนนี้ก็ยังรัก มีแต่นนท์ที่ไม่รักฟ้าแล้ว’ ผมเถียง นนท์ถอนหายใจหนักๆ คลายวงแขนจากตัวผม มือของนนท์จับไหล่ผมแล้วดันออก เพื่อให้มองหน้ากันได้ถนัด

‘ความผูกพัน มันไม่ใช่ความรักนะฟ้า ฟ้าต้องแยกให้ออก’

นนท์กำลังจะบอกอะไรผม

‘ตลอดเวลานนท์รักฟ้า รักมาก แต่ฟ้าไม่เคยรักนนท์แบบที่นนท์อยากให้ฟ้ารัก ฟ้าไม่เคยหึง ไม่เคยหวงนนท์ นนท์จะทำอะไร ฟ้าก็ไม่เคยห่วง นนท์จะไประยำตำบออะไรกับใคร ฟ้าก็ยังเป็นฟ้าคนเดิม นนท์อยากได้สิ่งนั้นมาตลอด นนท์อยากให้ฟ้ารักนนท์เหมือนที่นนท์รักฟ้า นนท์อยากให้ฟ้าหึงหวงนนท์บ้าง อยากให้ฟ้าตะโกนด่าตอนที่เห็นนนท์เดินกับคนอื่น นนท์อยากให้ฟ้าตบตีนนท์ตอนที่นนท์นอนกอดกับคนอื่นบนเตียง นนท์อยากให้ฟ้ายื่นคำขาดว่าจะเลิกกับนนท์ ถ้านนท์ยังไม่เลิกทำตัวเจ้าชู้ นนท์อยากให้ฟ้าโกรธนนท์บ้าง น้อยใจนนท์บ้าง...’

‘.....’ ผมงงกับสิ่งที่นนท์พูด แต่ผมก็ฟังทุกคำที่นนท์พูดมันออกมา

‘นนท์แค่อยากเป็นคนที่สำคัญสำหรับฟ้า สำคัญมากกว่านนท์คนที่เป็นเพื่อนของฟ้า แต่รู้ไหม ไม่ว่าตอนไหนนนท์ก็ยังรู้สึกว่านนท์เป็นแค่เพื่อนคนสำคัญของฟ้า ไม่ใช่คนที่ฟ้า’

‘......’

ผมงง ยอมรับว่าผมงงจริงๆ ไม่เข้าใจสิ่งที่นนท์พูด ผมไม่รักนนท์ตรงไหน ตรงไหนกันที่บอกว่าผมไม่ได้รักนนท์ ทั้งชีวิตของผมมันมีแต่นนท์นะ นนท์แทบจะเป็นทุกอย่างในชีวิตผมอยู่แล้ว

‘นนท์อยากให้ฟ้าเจอคนที่ฟ้ารักจริงๆ ไม่ใช่คนที่พยายามจะขังฟ้าไว้อย่างนนท์’ มือนนท์ละจากไหล่ผมขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่แก้มผม

‘นนท์ไม่ได้รักฟ้าแล้วก็บอกมาเถอะ’

‘ตอนนี้น่ะใช่ แต่เมื่อก่อนไม่ใช่ เมื่อก่อนนนท์รักฟ้าจริงๆ’

‘แล้วนนท์รักใคร’

‘…..’ แทนคำตอบ นนท์มองไปที่ประตูห้อง ห้องที่เราเพิ่งเดินออกมา

‘นนท์รักแดนจริงๆ เหรอ?’ ผมอยากรู้ อยากรู้จริงๆ

‘.......คิดว่านะ’

‘ฟ้าไม่อยากให้แดนเสียใจ’ ผมคิดอย่างนั้นจริงๆครับ คือนนท์น่ะเจ้าชู้ กลัวว่านนท์จะแค่ถูกใจแดน พอเบื่อก็จะทิ้งไป ยังไงแดนก็เป็นน้องที่ผมรัก ห่วงมากด้วย ไม่อยากเห็นแดนเสียใจ

‘แล้วฟ้าอยากให้นนท์เสียใจหรือไง’ น้ำเสียงของนนท์บอกว่าไม่ค่อยจะพอใจกับคำพูดของผมเท่าไหร่นัก

‘เปล่า’

‘ถ้าไม่อยากให้นนท์เสียใจก็อย่าขัดขวางนนท์...เข้าใจไหม?’ นนท์ไม่พูดเปล่าแต่ใช้มือขี้หัวผมไปมาก ทำยังกับว่าคนๆ นี้ไม่ใช่คนที่นนท์กำลังจะทิ้งไปหาคนใหม่อย่างนั้นแหละ

‘แต่แดนไม่ได้รักนนท์ น้องเกลียดนนท์’ ผมไม่ได้กันท่านะครับ ผมแค่พูดตามความจริงที่เห็น


‘เกลียดได้ก็รักได้น่า’  นนท์พูดสบายๆ

รู้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ว่าแดนไม่ชอบหน้านนท์ ถึงขั้นเกลียดด้วยซ้ำ ก่อนหน้านั้นเข้าใจแค่ว่าเกลียดเพราะนนท์เจ้าชู้ตามที่แดนพูดกรอกหูผมทุกวัน  ไม่ได้เกรงใจด้วยซ้ำว่าคนที่กำลังด่าคือแฟนของผม มาตอนนี้ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันมีเหตุมากจากเหตุการณ์เมื่อสี่ปีที่แล้วด้วยหรือเปล่า

‘เรื่องตอนนั้น นนท์บังคับน้องใช่ไหม’ ผมถาม นึกเดาเรื่องได้ลางๆ แดนเกลียดนนท์ขนาดนั้น เพราะวันนั้นถูกนนท์บังคับขืนใจหรือเปล่า

‘อย่างนนท์นี่นะ จะไปขืนใจใคร มีแต่คนเสนอ’

‘แต่....’ ผมจะท้วงว่าถ้าแดนเต็มใจ แดนก็ไม่น่าจะโกรธเกลียดนนท์ขนาดนี้ เรื่องมันตั้งสี่ปีมาแล้ว แดนยังแค้นฝังใจเลย

‘พอๆ แล้ว เอาไว้วันหลังค่อยคุยเรื่องนี้กัน กลับบ้านไปก่อนนะ ขอเวลานนท์กับน้องของฟ้าคุยกันให้เข้าใจก่อน’

‘ไม่เอา ฟ้าจะเอาแดนกลับ’

‘ที่คุยกันมานาเนี้ย ฟ้าไม่เข้าใจเลยใช่ไหม’ น้ำเสียงนนท์หงุดหงิด

‘ขืนฟ้าปล่อยแดนไว้กับนนท์ นนท์ก็รังแกน้องน่ะสิ’

‘สัญญาว่าจะไม่ทำอะไร’

“ไม่เชื่อ” เมื่อกี้ถ้าผมมาไม่ทัน ก็ไม่ต้องเดาแล้วละครับว่าแดนจะตกอยู่ในสภาพไหน

ตอนแรกผมไม่ทันเห็นหรอกครับว่าแดนอยู่ไหนสภาพไหน เปิดประตูเข้ามาก็หูอื้อตาลายไปหมดแล้ว เห็นแต่นนท์กดแดนบนเตียง พอเห็นว่าผมเปิดประตูเข้ามา แดนก็รีบผลักนนท์ออกแล้วคว้าผ้าห่มมาคลุมตัว ผมไม่มีเวลาจับรายละเอียดมากว่าอะไรเป็นอะไร จนกระทั่งตอนที่แย่งแดนจากนนท์นั่นแหละ ถึงได้รู้ ถึงได้เห็นว่าเสื้อผ้าชุดพนักร้านของร้านเชิญครับ หล่นอยู่ข้างเตียง ผมแทบจะเหยียบด้วยซ้ำ

“ถ้านนท์ยังเห็นว่าฟ้าเป็น.....เอ่อ...เป็นเพื่อน ต้องให้น้องกลับกับฟ้า ถ้านนท์อยากเคลียร์กับน้องก็ไปคุยกันที่ร้านของฟ้า” ผมต้องยอมรับแล้วใช่ไหม ว่าผมไม่คนที่นนท์รัก เราไม่ใช่แฟนกัน นนท์รักคนอื่น นนท์รักแดน

“ก็ได้ๆ” นนท์ทำเหมือนจะไม่ยอมแต่สุดท้ายก็ยอมเสียไม่ได้


ทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ตอนที่นนท์ลากผมไปคุยนอกห้อง แล้วผมก็เอาตัวแดนกลับออกมาได้ ก่อนกลับผมก็ไม่รู้ว่านนท์คุยอะไรกับคุณหมอ คนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถอยู่ตอนนี้


“บอสครับ ผม...”

“เข้าบ้านก่อนเถอะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน” ผมบอก เมื่อคุณหมอจอดรถตรงประตูรั้วหน้าบ้านของแดน แดนคงอยากคุยกับผม เพราะหลังจากออกจากคอนโดนนท์ได้ เราก็ไม่ได้พูดอะไรกันเลย แต่ผมยังไม่อยากคุยกับแดนตอนนี้ ยังไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ขอผมกลับไปพักสมองก่อน พรุ่งนี้สมองผมอาจจะโล่งกว่านี้ก็เป็นไปได้

“ครับ” แดนตอบรับหงอยๆ ก้าวลงจากรถไป เจ้าตัวคงคิดว่าผมโกรธ ถ้าถามว่าโกรธไม่ ผมไม่ได้โกรธอะไรแดนเลย แดนไม่ใช่ฝ่ายเริ่ม นนท์โน่นต่างหาก

“พี่ไม่ได้โกรธเรานะ” ผมเลื่อนกระจกลง กวักมือเรียกให้แดนเดินเข้ามาใกล้

“ผมขอโทษ” แดนเดินเข้ามา ทำเหมือนจะร้องไห้

“จะขอโทษพี่ทำไม ไอ้คนผิดน่ะ มันนนท์ ไม่ใช่เรา แล้วไม่ต้องห่วงนะ ถ้าแดนไม่ชอบนนท์ เดี๋ยวพี่ช่วยเอง จะไม่ให้นนท์มายุ่งกับแดนได้”

“ผมเกลียดมันด้วยซ้ำ มันทำ....”

“พอก่อนๆ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยเล่า ตอนนี้พี่ไม่ไหวจริงๆ” ผมรีบห้าม ยังไม่อยากรู้อะไรไปมากกว่านี้ ขอกลับไปคิด กลับไปพักสมองก่อน

“ครับ” แดนกลับมาหน้าหงอยอีกครั้ง

“คิดมากน่า ไม่ใช่พี่โกรธเรา แต่ตอนนี้พี่ปวดหัว ขอพี่กลับไปพักก่อนนะ”

“ครับ...แต่ผมเกลียดมันจริงๆ นะครับบอส”

“อืมๆๆ เข้าบ้านได้แล้ว”

“ครับ”

แดนเดินเข้าบ้านไปแล้ว ผมถึงได้เลื่อนกระจกรถขึ้น ระบายลมหายใจหนักๆ ที่มันอัดอั้นอยู่ข้างในมาตลอดทาง ล้อรถหมุนไปข้างหน้า พร้อมกับที่ผมปิดเปลือกตาลงช้าๆ ปล่อยให้ความคิดไหลไปเรื่อยๆ คิดถึงเรื่องที่เคยผ่านมาระหว่างผมกับนนท์ตลอดเวลากว่าสิบปี

นนท์บอกว่าผมไม่ได้รักนนท์

...ผมไม่ได้รักนนท์งั้นเหรอ?

นนท์บอกผมว่า ผมแค่ผูกพันกับนนท์

...ผมแค่ผูกพันกับนนท์งั้นเหรอ?

นนท์บอกผมว่าไม่เคยหึง ไม่เคยหวงนนท์

...การที่ผมไม่หึงไม่ห่วงนนท์ มันแปลว่าผมไม่ได้รักนนท์เหรอ?

ผมเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ ตรงหน้าเป็นสี่แยก สัญญาณไฟแดงกำลังทำงาน ดึกแล้วแท้ๆ ทำไมถึงยังรถติดอยู่ ผมแปลกใจ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ผมต้องหาคำตอบ เพราะผมกำลังมีเรื่องที่อยากถามคนข้างๆ ที่นั่งเงียบมาตลอดทาง จะว่าไปเราสามคม รวมถึงแดนด้วย ตั้งแต่เข้ามานั่งในรถก็เหมือนไม่มีใครอยากจะพูดอะไร นอกจากผมที่พูดบอกทางไปบ้านของแดนให้คุณหมอรู้ นอกนั้น เราทั้งสามคนไม่ได้พูดอะไรกันเลย แม้ตอนนี้เหลือกันสองคน ผมกับคุณหมอ ความเงียบก็ยังเป็นแขกรับเชิญสำหรับเราทั้งสองคนแบบไม่ยอมหนีไปไหน

“คุณหมอครับ” ผมเรียกคุณหมอเบาๆ หน้าคมเข้มแบบไทยๆ หันมามองหน้าผม ก่อนจะหันกลับเพราะสัญญาณไฟเปลี่ยนสี

“ครับ” แต่ก็ยังคิดจะขานรับคำเรียกของผมอยู่

“คุณหมอเคยหึง เคยหวงใครไหมครับ”

“เคยครับ”

“เพราะอะไรครับ ทำไมถึงต้องหึงต้องหวงกันด้วย”

“เพราะรักมั้งครับ”

“หรือครับ...” ผมปล่อยความคิดให้ไหลไปสู่อดีต ที่ผ่านมาผมไม่เคยหึงนนท์ไม่ว่านนท์จะไปกิ๊กกับใคร ผมไม่เคยหวงนนท์ไม่ว่านนท์จะจับมือใครเดินให้ผมเห็นตำตา ผมก็ไม่รู้สึกอะไรนอกจากความรู้สึกที่ว่า...

มันเป็นเรื่องของนนท์...

มันเป็นนิสัยเจ้าชู้ของนนท์...

มันเป็นอะไรที่ผมห้ามไม่ได้ แล้วก็ไม่คิดอยากจะห้าม...

ผมผิดจริงๆ เหรอ? ผิดที่ไม่รู้สึกอยากหึงหรือหวงนนท์เลยสักครั้ง


...ก็จะให้ทำแบบนั้นไปทำไมล่ะ ผมกับนนท์รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เป็นเพื่อนกันก่อนจะมาเป็นแฟน ก่อนเป็นแฟนกันกับหลังเป็นแฟนกัน มันต้องเปลี่ยนความรู้สึกกันด้วยหรือไง...

เฮ้อออ...

ผมไม่เข้าใจจริงๆ

“คุณหมอครับ”

“ครับ”

รถยังแล่นไปข้างหน้าเรื่อยๆ ไม่เร็วนัก ผมมองเสี้ยวหน้าคมที่ดวงตาสีเข้มจับจ้องไปยังถนนเบื้องหน้า รถเลี้ยวไปทางซ้าย เข้ามาในซอยที่ผมคุ้นเคย ด้านซ้ายมือเป็นร้านกาแฟของผม ร้านเชิญครับ

“ว่าไงครับ” คุณหมอถาม เมื่อจอดรถเสร็จ คงเพราะก่อนหน้านี้ที่ผมเรียกคุณหมอ แต่ผมไม่ยอมพูดอะไรต่อ ผมไม่รู้จะพูดอะไรไงครับ ที่เรียกคุณหมอไปก็ไม่รู้ตัวว่าจะเรียกไปทำไม

“ไม่มีอะไรครับ” ผมบอกก่อนจะรถจากรถ หยุดรอคุณหมอที่ก้าวตามออกมา

“คิดอะไรอยู่หรือเปล่า” คุณหมอถามขณะที่ก้าวตามผมมา

“เปล่า”

“.....”

“.....”

เราต่างคนต่างเงียบครับ จนกระทั่งเข้ามาในห้อง ผมถึงรู้ตัวว่าผมลืมอะไรสำคัญไปบางอย่าง...

เรื่องสำคัญที่ผมลืมนึก กว่าจะนึกออกมาได้ก็ตอนหันกลับไปเห็นคุณหมอเดินตามเข้ามาในห้องนอนของผมนั่นแหละครับ ผมถึงรู้ตัวเองว่า...

“ผมว่าคุณหมอกลับบ้านได้แล้วมั้งครับ”

ผมลืมไล่คุณหมอกลับบ้าน ...

ให้ตายเถอะ สมองผมเบลอจนลืมไปแล้วหรือไง ว่าคุณหมอไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับผม ไม่ใช่คนที่จะเดินตามผมเข้ามาในห้องนอนได้ง่ายๆ แบบนี้

“มันดึกแล้วครับ” ดูพูดเข้าครับ มันใช่เหตุผลไหมเล่า

“ไม่ใช่ประเด็นครับ ดึกก็ขับกลับได้” ผมว่า

“ผมง่วงมาก” คุณหมอปิดปากหาว ทำอย่างกับผมจะเชื่อ ตาเป็นประกายวิบวับงี้ เด็กปอสามยังดูออกครับว่าโกหก

“จะนอนให้ได้ใช่ไหมครับ” ผมเริ่มปลง เข้าใจว่าคุณหมอทั้งด้านทั้งดื้อ เกินจะสู้รบปรบมือด้วย

“ครับ”

“ตามใจละกัน”

คุณหมอยิ้มแก้มจะฉีกอยู่แล้ว ตอนที่ผมพูดจบ ความจริงคือผมไม่อยากเหนื่อยไปมากกว่านี้แล้วต่างหาก  ผมอยากนอน อยากหลับ อยากตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเรื่องที่เจอวันนี้เป็นแค่ความฝัน

....มันไม่ใช่เรื่องจริง



“ไม่อาบน้ำก่อนหรือครับ”

คำถามที่ถามเมื่อผมทิ้งตัวลงนอนคว่ำบนเตียง ฝังหน้าตัวเองเอาไว้กับหมอนใบใหญ่ ผ้าปูที่นอนผืนใหม่ถูกปูแทนที่ผืนเก่าที่เปื้อนคราบจากกิจกรรมเอาแต่ใจของคุณหมอ ที่ผมเหนื่อยหน่ายเกินกว่าจะห้าม แต่ก็ยอมรับว่าช่วงเวลานั้นทำให้ผมลืมเรื่องต่างๆ ไปจากสมอง ไม่เหลืออะไรนอกจากร่างกายของคุณหมอที่ผมรับรู้ว่ามันเคลื่อนไหวอยู่ในช่องทางด้านหลัง ตัวตนของผมที่มันร้อนระอุ รอเวลาปลดปล่อย แผ่นหลังที่ผมโอบกอดจิกนิ้วลงไป บางครั้งก็ข่วน เพื่อระบายความเจ็บปวดและเสียวซ่าน เสียงครางเครือจากปากของตัวเองและครางกระเส่าของคุณหมอ สติของผมที่หลุดลอย ช่วงเวลานั้นผมจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง...

เหมือนกับโลกทั้งโลก มีแค่ผมกับคุณหมอสองคน...

“ไม่อาบน้ำหรือครับ” คำถามเดิมตามมาคลอเคลียอยู่ข้างหู หลังจากที่มือใหญ่ดึงตัวผมให้ลุกขึ้นมานั่งซ้อนอยู่ด้านหน้า

“เหนื่อยจนไม่อยากทำอะไรแล้ว” ผมปล่อยตัวให้อิงกับแผ่นอกนั้น ราวกับจะให้มันเป็นที่พักพิงแทนเตียงนอนนุ่ม

“เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้ดีไหมครับ” ความคิดของคุณหมอก็ไม่เลวเหมือนกัน ผมเลยพยักหน้าช้าๆ เป็นคำตอบ แค่พูดก็จะเหนื่อยแล้วครับตอนนี้ พอคุณหมอลุกไปแล้ว ผมก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง พลิกตัวไปมาอยู่หลายตลบ เผื่ออะไรจะดีขึ้น เผื่อว่าอะไรๆ ในสมองของผมมันจะหลุดออกไปซะที

“ถอดเสื้อก่อนครับ”

คุณหมอกลับมาพร้อมชามใบใหญ่ใส่น้ำและผ้าขนหนูผืนเล็ก (มันเป็นชามแก้วใบใหญ่มากที่ผมมักเอาไว้ใส่ผลไม้) วางมันไว้บนโต๊ะ ก่อนจะดึงตัวผมให้ลุกขึ้นนั่ง

“จะถอดเองหรือให้ผมช่วยถอดให้ครับ” คุณหมอถาม คงเห็นผมทำท่าเหมือนไม่อยากลุกเมื่อกี้ด้วยมั้ง ผมชูแขนสองข้างขึ้นเหนือหัว บอกแทนคำตอบครับ พอเห็นผมยกแขนขึ้นคุณหมอก็จัดการดึงเสื้อผมออกทันที วางเสื้อผมไว้บนพื้นข้างเตียง ก่อนจะหันมาจัดการกับส่วนล่างของผม

เข็มขัดถูกถอดออก กระดุมเหล็กถูกปลดจากรังดุม ซิบถูดรูดลงจนสุดทาง

“เอาแค่ตัวนอกนะครับ ตัวในไม่ต้อง ผมไม่อยากเหนื่อยไปมากกว่านี้ ข้างหลังก็ยังเจ็บไม่หาย”

คุณหมอยิ้มเขิน คงอายที่ผมรู้ทันความคิดครับ คงหวังจะปลอกเปลือกผมอยู่แน่ๆ

“ครับ”

ผมทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง เมื่อกางเกงตัวนอกของผมหลุดออกไปจากตัว แล้วขยับตัวเข้ามาด้านในเพื่อให้คุณหมอนั่งได้สะดวก ความเย็นจากผ้าที่ผ่านจากใบหน้า ซอกคอ และกำลังอยู่บนผิวกายส่วนบน ทำให้ผมผ่อนคลายขึ้นเยอะ มองดูคุณหมอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ได้บริการผมแบบนี้ แอบถอนหายใจเบาๆ ในใจครับ หน่ายตัวเองที่ยอมคุณหมอไปง่ายๆ แต่เห็นหน้าแล้วไม่อยากขัดครับ ไม่รู้เพราะอะไร

แขนผมถูกยกขึ้น ความเย็นจากน้ำเริ่มจากหัวไหล่สู่ปลายนิ้ว จากความเย็นของเนื้อผ้ากลายมาเป็นความอุ่นของปากหนาที่กดแนบลงมา ผมมองการกระทำนั้น ใบหน้ามันวูบวาบขึ้นมาเฉยๆ เมื่อเจ้าของริมฝีปากช้อนตาขึ้นมามองสบกับสายตาผม ปากนั่นก็ยังฝังแน่นอยู่กับอุ้งมือ ผมไม่รู้จะทำอะไรตัวยังไง หน้ามันร้อนเหมือนมีใครเอาไฟมารน ต้องหันหนีสายตาหวานเยิ้มนั้น แต่ต้องหันกลับมาอีกครั้ง เมื่อมือใหญ่ที่เคยถือผ้าอยู่ในมือกลับละขึ้นมาช้อนหน้าของผมให้ไปรับจูบแสนหวาน

...ทำเอาสติผมกระเจิง

ลิ้นร้อนกวาดลึกเข้าไปในโพรงปาก ต้อนให้ผมสัมผัสตอบ หัวผมหมุนไปหมดเพราะรสจูบที่ดูยาวนานไม่สิ้นสุด ต้องรั้งต้นคอหนาเอาไว้แนบแน่น 

“....อื้อออ” คุณหมอละปากออกมา เพียงแค่จะมองสบกับผมในระยะใกล้ เพื่อจะให้ผมเห็นแววตาหวานเยิ้มคู่นี้ แล้วแนบจูบลงมาอีกครั้ง หัวผมหมุน แต่ผมก็ตอบสนองลิ้นร้อนที่เกี่ยวพันราวกับไม่เหน็ดเหนื่อย

มือใหญ่นั่นยังคงประคองใบหน้าผมเอาไว้ ปรับมุมองศาใบหน้าของผมไปมาเพื่อให้ตอบสนองรสจูบที่สังสรรค์บรรจงมอบให้ ผมนึกขอบคุณที่มือคุณหมอยังประคองหน้าผมเอาไว้ ไม่ปล่อยไประรานเนื้อตัวที่ไม่มีอะไรห่อหุ้มของผม ไม่งั้น...

มันคงไม่จบแค่จูบ...แน่ๆ

“พะ...พอ...ก่อน...” มือที่เคยคล้องต้นคอแกร่งเปลี่ยนมาผลักไหล่เจ้าของมันให้ถอนตัวออกห่างแล้วครับ ไม่ไหว มันเหนื่อยจนต้องหอบแฮ่กๆ รสชาติของจูบมันดีเยี่ยมครับ แต่ถ้าต้องหมดอากาศหายใจละก็ ผมก็ขอบายครับ จำต้องหยุดคุณหมอจอมเจ้าเล่ห์เอาไว้ก่อน บอกว่าจะเช็ดตัวให้ผม แต่ไหงมันกลายเป็นจูบแสนหวาน ก่อนจะลามเป็นจูบดุเดือนได้ถึงเพียงนี้

ผมเป็นคน...

ต้องการอากาศหายใจอยู่นะครับ...

ไม่ใช่สิ่งประหลาด หายใจทางน้ำลายได้เหมือนคุณหมอ!


“นึกว่าจะไม่ห้ามซะแล้ว” คุณหมอว่า ตาเยิ้มกลายเป็นตายิ้ม นึกอยากจะดีดตาให้บอดจริงๆ แต่ที่ทำได้คือจิกตาใส่ครับ ก่อนขยับตัวหนี ไม่ชงไม่เช็ดมันแล้ว เดี๋ยวจะได้อาบเหงื่อต่างน้ำซะก่อน ผมมันก็คนประเภทจุดติดง่ายเสียด้วย นึกรำคาญตัวเองจริงๆ

“ยังไม่ได้เช็ดตัวด้านหลังกับด้านล่างเลยครับ” เสียงคุณหมอตามมาใกล้ๆ ผมรีบดึงผ้าห่มคลุมหัวเลยครับ ไม่อยากพูดด้วย ที่สำคัญไม่อยากแพ้สายตาของคุณหมอด้วย เกิดแพ้ขึ้นมามีหวังพรุ่งนี้เช้าผมเดินไม่ได้แน่ๆ ผมว่า ผมไม่ได้คิดไปเองนะครับว่า แต่ละครั้งที่ทำอะไรกับเนื้อตัวผมเนี้ย มันดูจะแรงขึ้นทุกครั้งสิน่า

คุณหมอลุกไปแล้วครับ ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออก แล้วเปิดเข้าในเวลาไม่นานนัก แล้วก็หายเข้าไปในห้องน้ำอีกพักใหญ่ จนผมเคลิ้มๆ ใกล้จะหลับนั่นแหละ ถึงรู้สึกว่าที่ว่างข้างๆ ยุบลงตามน้ำหนักตัวของคุณหมอ

คร้านจะพูดอะไรแล้วครับ เมื่อเนื้อตัวเปล่าๆ แทรกเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกัน ท่อนแขนใหญ่วางพาดบนเอวของผมแล้วดึงรั้งให้เข้าไปแนบกับผิวเนื้อเย็นๆ

อืม...

คุณหมอไม่ใส่อะไรเลย

....สักชิ้น!!

^
^
มีต่อ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 15 นอนหลับฝันดี {15/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 15-12-2011 11:26:34
ต่อ


ไม่ต้องบอกนะครับว่าผมรู้เพราะอะไร ทั้งๆ ที่ในห้องมืดสนิท ก็เพราะเนื้อตัวที่โอบกอดผมแทบจะกลืนกินนี่แหละ มันยืนยันชัดเจน

บนหน้าคมเข้มนั้นคงวางอยู่บนซอกคอของผม ลมหายใจอุ่นเป่ารดสร้างความรู้สึกที่คุ้นเคย สัมผัสเบื้องล่างเหมือนจะพยายามกระตุ้นให้ผมสติขาดหาย มือใหญ่ที่เคยโอบไว้เฉยๆ กับระรานไปบนเนื้อตัวของผม จนผมต้อง

“อะ...โอ๊ยยย ...เจ็บนะครับ”

จิกเล็บบนหลังมือเช่นเคยครับ จะได้หยุดสักที

“นอนครับ”

“ยังไม่ง่วงนี่ครับ” ปากว่า มือขยับเนี้ย ต้องยกให้คุณหมอแล้วครับ

“โอ๊ยๆๆๆๆ หยุดแล้วครับๆๆ”

หึ..หึ...สิบนิ้วเลยครับที่จิกลงไป มือปลาหมึกเลยหยุดเอาไว้แค่ที่เอวของผม


“คุณหมอครับ” ในความเงียบที่ผ่านมาหลายนาที ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่า ผมลืมถามคุณหมอเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างไป

“ครับ”

“ตอบอย่างเดียวก็ได้ครับ มือไม่ต้องลูบ” ผมละเหนื่อยใจจริงๆ จะลูบหน้าท้องผมให้มันได้อะไรขึ้นมา

“ครับๆๆ”

“กับนนท์ คุณหมอคุยอะไรกันหรือครับ” เป็นเรื่องที่ผมอยากรู้ แต่ก่อนหน้านี้ผมดันลืมถาม

“....” ไม่มีคำตอบจากปากคุณหมอ นอกจากปากหนาแนบสัมผัสอุ่นที่ซอกคอของผม ผมเอนคอน้อยๆ เปิดทางและปล่อยตามใจคุณหมอ

“จะไม่บอกหน่อยหรือครับ มันคงไม่ใช่ความลับที่ผมไม่ควรรู้ใช่ไหมครับ คุณหมอ” ไม่รู้ว่าทำไม ผมถึงต้องเอามือตัวเองไปวางบนมือคุณมือ ลูบเบาๆ แล้วสอดนิ้วประสานเข้ากับมือใหญ่

“คุณนนท์แค่บอกว่า เสื้อตัวที่ผมใส่เป็นของเขา คุณฟ้าซื้อให้ตอนวันเกิดปีที่แล้ว ไม่อยากให้ผมใส่มันอีก”

เรื่องนี้อีกแล้วเหรอ? นนท์ซีเรียสเกินไปหรือเปล่า กับแค่เรื่องเสื้อ พูดกับผมยังไม่พอ ต้องบอกคุณหมออีก เดี๋ยวเหอะจะให้คุณหมอใส่ให้หมดทุกตัวเลย

“แล้วมีอะไรอีกไหมครับ” ผมคิดว่าคงไม่มีเฉพาะเรื่องเสื้อเรื่องเดียวหรอก เพราะเวลาตั้งนานที่ผมกับแดนยืนรอคุณหมออยู่นอกห้อง หมายถึงห้องด้านนอกเลยนะครับ ไม่ใช่แค่นอกห้องนอน คือตอนนั้นแดนยืนยันจะออกมาให้พ้นห้องของนนท์ครับ คงกลัวนนท์จะลากตัวกลับ รออยู่นานมากกว่าคุณหมอจะเดินออกมา หน้าตาคุณหมอก็ดูเครียดๆ ด้วย

“อยากรู้เหรอครับ”

“ไม่อยากจะตอบหรือครับคุณหมอ”

“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ”

“ไม่มากก็ต้องบอก” เพราะมันต้องเกี่ยวกับผมแน่ๆ

“ขอค่าจ้างก่อนนะครับแล้วจะบอก”

ค่าจ้างของคุณหมอคือการที่คุณหมอวางมือคร่อมตัวผม ใบหน้าคมเข้มก้มต่ำลงมาใกล้ ปากหนาซับจูบเบาๆ ตรงปากผม ลิ้นร้อนไล่ชิมกลีบปากก่อนจะกระตุ้นให้ผมเปิดรับลิ้นร้อนเข้าสู่ภายใน กวาดต้อนเช่นทุกครั้ง จงใจหยอกล้อให้ผมตอบกลับ เป็นนานครับกว่าคุณหมอจะถอนปากออก แต่ไม่ถึงกับว่าผมต้องดิ้นหนีเพราะขาดอากาศหายใจเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา

“บอกได้หรือยังครับ” ผมถาม ตอนนี้เราสองคนหันหน้าเข้าหากันแล้วครับ สายตาของผมปรับเข้ากับความมืดได้แล้ว เห็นหน้าของคุณหมอชัดเจนเท่าที่จะชัดได้ในความมืด ในดวงตาคู่ที่อยู่ใกล้แวววับระยิบระยับ ปากหนาฉีกกว้าง บ่งบอกว่าถูกอกถูกใจในหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น น่าจะรวมถึงมือของผมที่วางอยู่บนเอวหนาของคุณหมอด้วยมั้ง ไม่ต่างจากมือของคุณหมอที่พาดอยู่บนเอวไม่หนาของผมด้วยแหละ ร่างกายที่ขยับชิดใกล้กันเท่าที่จะทำได้ และต้นขาแกร่งที่แทรกเข้ามาตรงกลางด้านล่าง เรียกได้ว่าแทบจะเกยทับกันอยู่แล้ว

ผมเป็นคนที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวมากเกิดไป...หรือเปล่านะ?

ไม่หรอกมั้ง...

สถานการณ์มันพาไปต่างหาก โทษความดื้อด้านของคุณหมอด้วยแหละ ปกติผมก็ไม่เคยไปนอนทอดกายให้ใครเขากอดง่ายๆ ซะทีไหนล่ะ

“ทำไมคุณฟ้าถึงยอมให้ผมกอด” ความหมายของคำว่า ‘กอด’ คงไม่ได้แปลตรงตามตัวหรอก น่าจะหมายถึงการที่ผมยอมมีอะไรๆ กับคุณหมอมากกว่า

“คนละเรื่องกันเลยครับ ผมถามคุณหมอเรื่องที่คุยกับนนท์นะครับ” ผมเลี่ยงที่จะตอบ วกเข้าเรื่องก่อนหน้านี้ดีกว่า

“ผมอยากรู้” คุณหมอยังเซ้าซี้  มือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังของผม ราวกับกระตุ้นเอาคำตอบ ผมไม่ได้ห้ามปราบ ยังคงปล่อยให้มือนั้นมอบสัมผัสวาบวิวให้ผมรู้สึกวูบวาบ แล้วก็ไม่หลบสายตาคู่ที่อยู่ใกล้ๆ แม้จะทำให้ผมใจสั่นบ้างเล็กน้อย

“ก็ไม่รู้จะขัดขืนไปทำไม”

นั่นสินะ ไม่รู้ผมจะขัดขืนไปทำไม ในเมื่อครั้งแรกผมก็เริ่มก่อน ครั้งที่สองถึงคุณหมอจะเริ่มแถมยังใช้กำลัง แต่สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายเรียกร้องเพราะความต้องการของตนเอง ครั้งต่อๆ มาก็เหมือนจะปล่อยให้มันเลยตามเลย

“แล้วถ้าเป็นคนอื่นคุณฟ้าก็ไม่ขัดขืนหรือครับ” น้ำเสียงที่ถามเรียบๆ แต่ผมรู้สึกเหมือนถูกเข็มเล่มเล็กทิ่มที่อกซ้าย

ผมกำลังโดนดูถูกหรือเปล่า?

คุณหมอกำลังหาว่าผมง่ายใช่ไหม?

ผมไม่รู้ว่าผมใช้แรงแค่ไหนกว่าจะผลักตัวคุณหมอที่ยืดยุดฉุดผมเอาไว้ในอ้อมแขนให้ละออกไป ผมลุกขึ้นในทันที หัวสมองมันสั่งให้ผมไปจากตรงนี้ ไม่ต้องมานอนทอดเนื้อตัวเปลือยเปล่าให้คนร่วมเตียงลูบคล้ำเอาแต่ได้ แล้วถามคำถามที่ทำผมหน้าชา

คุณหมอตบหน้าผมด้วยคำพูดง่ายๆ...แต่มันเจ็บสำหรับคนฟัง

“คุณฟ้า”

“ปล่อยผม ไม่ต้องมาจับ บอกให้ปล่อยไง” ผมโวยวาย เมื่อถูกดึงให้กลับลงไปนอนอยู่ใต้ร่างหนาที่กดทับไม่ให้ผมออกแรงดิ้นหนี

“อย่าดิ้นสิครับ เดี๋ยวมันจะ....”

อืม...ผมหยุดเลยครับ ถึงจะโกรธจนไม่อยากเห็นหน้าคุณหมอ อยากจะหนีไปให้พ้น อยากจะดิ้นให้หลุด แต่ผมก็ห่วงตัวเองครับ ก็ท่าของเราสองคนมันล่อแหลม แล้วมันก็...ก็จะทำให้อะไรๆ มันจุดติดง่าย

“ออกไปก่อน” ผมบอกคนที่ทับผมไว้ทั้งตัว อะไรๆ ด้านล่างมันก็ดันอยู่ที่ต้นขาของผม คุณหมอชักหื่นเกินไปแล้ว ผิดกับหน้าตาภายนอกลิบลับ

“สัญญาก่อนว่าจะไม่หนีไปไหน” ดูครับยังมีมาต่อรอง ตางี้เป็นประกายวิบๆ ดูออกเลยว่ากำลังคิดลามกอะไรอยู่

“สัญญา”

“คุณฟ้าน่ารัก อย่างนี้จะไม่ให้ผมรักได้ไง” คุณหมอว่า เสียงทุ้มกระซิบติดกับปากของผม

“...อะ...อ่า....” โอ๊ยให้ตายเถอะ ผมหลุดครางเบาๆ ออกมาจนได้ คุณหมอทำผมแสบอีกแล้ว แทนที่จะลุกออกจากตัวผม กลับแทรกตัวเข้ามาตรงกลาง ดึงสะโพกผมให้เกยอยู่บนตัก ตัวตนร้อนๆ ของคุณหมอสัมผัสอยู่เบื้องหลังชิดช่องทางที่ยังคงรู้สึกได้ว่ามันยังคงเจ็บเกินกว่าจะปล่อยให้อะไรๆ มันสอดเข้าไป

ผมยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งบนตักคุณหมอ ก่อนที่คุณหมอจะโน้มตัวลงมาหา ใช้ผ่ามือต้านแผ่นอกเอาไว้ กดเสียงพูดให้ต่ำลง บอกความรู้สึกที่คุณหมอควรจะเข้าใจ

“ผมกำลังโกรธคุณหมออยู่นะครับ” คุณหมอชอบชวนให้ผมเขว จำได้ว่าตอนแรกผมถามคุณหมอเกี่ยวกับเรื่องที่คุณหมอคุยกับนนท์ไม่ใช่เหรอไง แล้วเมื่อกี้ผมก็โกรธคุณหมอมาก มากจนไม่อยากเห็นหน้า แล้วไงทำไมเรื่องมันกลายเป็นว่าคุณหมอตั้งท่าจะกินผมไปได้

ผมอร่อยขนาดนั้นเลยหรือไง?

แล้วอารมณ์โกรธเมื่อตะกี้ มันก็ดันหายวับไปตอนไหนแล้วไม่รู้ รู้แต่ตัวตัวเองละมือจากแผ่นอกคุณหมอขึ้นมาคล้องต้นคอแกร่งแทน เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณหมอกระซิบคำพูดเอากับปากผม

“กำลังจะขอโทษไงครับ”   

“ขอโทษบ้าอะไร จะกินผมมากกว่า” ผมว่าไม่ได้จริงจังนัก คนฟังเลยยิ้ม ทำตาหวานใส่ มือนั้นรั้งเอวผมเข้าไปใกล้กว่าเดิม ด้านบนมันแนบชิด แล้วด้านล่างมันจะเหลืออะไร

“....อะ...คุณหมอ ไม่เอาครับ ยังเจ็บอยู่เลย” จำได้ว่าครั้งนั้นก็เคยพูดไปที ไม่เห็นคุณหมอจะสน ยังตั้งหน้าตั้งตาทำ รุนแรงกว่าเดิมด้วยซ้ำ

“ยังเจ็บอยู่เหรอครับ” ถามเหมือนไม่เชื่อว่าผมพูดจริง หมอบ้าเห็นแก่ตัวชัดๆ ตัวเองสุข แต่ผมเจ็บ...ก็..ก็ยอมรับนะว่าผมก็รู้สึกดีกับกิจกรรมที่เราทำด้วยกัน แต่มันก็เจ็บนะ ไม่ใช่ว่าไม่เจ็บ

“เจ็บสิ”

“เสียดาย” น้ำเสียงบอกชัดเจนเท่ากับคำพูดเลยครับ ผมเลยหยิกต้นคอไปที

“โอ๊ยยย....คุณฟ้าชอบเล่นเจ็บๆ”

“ก็ทำผมเจ็บก่อนไม่ใช่หรือครับ แค่นี้ยังน้อยกว่าที่ผมเจ็บอีก”

“เจ็บมากหรือครับ” ฟังๆ ดูแล้วคุณหมอน่าจะถามด้วยความเป็นห่วงนะครับ ถ้า...ถ้ามือนั่นจะไม่ซุกซนอยู่ตรงด้านหลังของผม

“ไม่เอาครับ” ผมบอกคุณหมอ ตะครุบมือซนๆ เอาไว้ ไม่ให้ไปไกลกว่านั้น ขณะที่ยังประสานสายตากันในความสลัว

‘…..’

‘…..’

เราสองคนนั่งจ้องตากัน เหมือนเล่นเกม ใครหลบสายตาก่อนคนนั้นเป็นคนแพ้และจะถูกลงโทษ ถ้าผมแพ้ ผมต้องยอมให้คุณหมอกิน แต่ถ้าคุณหมอแพ้ก็อดได้แอ้มผมครับ ไม่มีใครพูดถึงกติกาอันนี้ แต่มันเหมือนเป็นกติกาสากลบัญญัติขึ้นมาเพื่อเราสองคนในชั่วโมงนี้

‘….’

‘….’

ความเงียบทำให้ผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเองดังกว่าทุกครั้ง มันเต้นเป็นจังหวะไม่สม่ำเสมอเท่าไหร่นัก แต่มันเต้นดังมาก แทบทะลุออกมานอกอก

และในความเงียบเช่นกัน ผมได้ยินเสียงลมหายใจของคุณหมอที่ไต่รดอยู่บนหน้า

หน้าผากของเราสองคนเคลื่อนเข้าหากันช้าๆ สายตาไม่ได้ละไปไหน คงเพราะกลัวเป็นฝ่ายแพ้ แม้กระทั้งตอนที่ปรับองศาของหน้าให้รับกับปากของอีกฝ่าย ผมก็ยังจ้องมองดวงตาคู่นั้นอยู่


ผมกับคุณหมอ เราจูบกัน จูบกันเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันแล้ว ผมจำไม่ได้ แปลกที่ครั้งนี้ไม่ได้เนิ่นนานอย่างเช่นทุกครั้ง คุณหมอถอนจูบออก หลังจากที่ลิ้นของเราเกี่ยวกันเพียงนิด สร้างความแปลกใจให้กับผมมาก แล้วมันก็คงทำให้คุณหมอจับได้ ถึงได้หัวเราะเบาๆ ออกมา

“หัวเราะอะไรครับ”

“ดีใจครับที่ได้จูบคุณฟ้า” ตอบได้น่าหยิกปากมากครับ พูดมาได้ว่าดีใจได้จูบผม ยังกะได้จูบผมเป็นครั้งแรกงั้นแหละ

“เชื่อตายล่ะ” ไม่ได้โง่นี่ครับ ถึงจะดูไม่ออกว่าคุณหมอหัวเราะเพราะอะไร ถูกใจที่ได้แกล้งผมล่ะไม่ว่า ผมเลยเอาคืนด้วยวิธีที่ฉลาดมากของตัวเอง (คิดได้แค่นี้ครับ) อะไรที่คุณหมออยากได้จากผมล่ะ  หึหึ...

“ฮื้มม...อ่า...คุณฟ้า...”

หึหึ คุณหมอหลุดครางเสียงพร่า เมื่อผมขยับตัวด้านล่างช้าๆ ไปมา เสียดสีให้คุณหมอรู้สึกมากยิ่งขึ้น ยืนยันจากพิษณุน้อยที่แข็งขันกว่าเดิม

“....อ่า...”

“....อะ....”

มารู้ตัวอีกทีว่าคิดผิดก็ตอนที่ตัวเองหลุดครางออกมาด้วยนี่แหละครับ ผมเลยต้องหยุด ขืนตัวเองไม่ให้ถูกผลักจากร่างใหญ่ให้จมไปบนเตียง

“เจ็บจริงๆ นะครับ” ผมบอกเสียงอ่อน จะแกล้งเค้ากลายเป็นตัวเองจะเสียบเปรียบแทน

“เมื่อกี้ยังเก่งอยู่เลย” คุณหมอว่า ผมเลยแยกเขี้ยวใส่

“เก่งแต่ไม่สู้คนครับ”

คุณหมอหลุดขำ ได้โอกาสผมเลยรีบลงจากตักคุณหมอ ล้มตัวลงนอนดึงผ้าห่มคลุมถึงคอ ยังกะมันจะช่วยป้องกันการประทุษร้ายจากคุณหมอได้งั้นแหละ

“นอนครับ” ผมสั่ง อีกคนก็ว่าง่ายครับ ล้มตัวลงนอน เอามือมาเกี่ยวเอวผมให้เข้าไปใกล้ ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านี้แล้ว

ผมปิดเปลือกตาลงช้าๆ ไม่ห่วงว่าจะไม่ปลอดภัยแล้วครับ เพราะท่าทางคุณหมอก็ไม่น่าจะทำอะไรมากไปกว่าเกี่ยวเอวผมเอาไว้ ซบหน้าไว้กับซอกคอผม

ผมกำลังคิดว่า ผมควรจะหลับลงไปพร้อมกับเรื่องของนนท์กับแดนดีไหม คิดเผื่อว่าพรุ่งนี้ผมจะทำยังไง ต้องเผชิญหน้ากับคนสองคนนั้นยังไงดี แต่เสียงทุ้มฟังสบายๆ ที่กระซิบกับใบหูของผมก็ทำให้ผมตัดสินใจได้ว่าควรจะหลับไปพร้อมกับเรื่องอะไร...

“ฝันดีนะครับคุณฟ้า...”

“ครับ” ผมตอบรับเบาๆ ผมรู้แล้วว่าควรจะหลับฝันดีสักคืนหนึ่ง....ได้แล้วมั้ง


>>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<<<<
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 15 นอนหลับฝันดี {15/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 15-12-2011 12:11:13
 :z1:ไม่คิดว่าคุณหมอจะหื่นขนาดนี้

ตอนนี้เหมือนคุณฟ้ากำลังพยายามทำความเข้าใจกับตัวเองอยู่นะ

 :กอด1:เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 15 นอนหลับฝันดี {15/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 15-12-2011 12:29:46
จิ้มบวกๆ ค่าาาาาาาาาาา

ฟ้ารู้ตัวเถอะ นนท์บอกขนาดนั้นแล้ว ^^
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 15 นอนหลับฝันดี {15/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 15-12-2011 13:19:20
นนท์รู้ใจฟ้านานแล้ว
ฟ้าก็รีบรู้ใจตัวเองไวไวนะ
ปล.รักคนแต่ง ยิ้มได้เมื่อวันฝนตก
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 15 นอนหลับฝันดี {15/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 15-12-2011 14:17:32
 :impress2:น่ารักมากเลยชอบคุณหมอกับฟ้าอ่านไปยิ้มไป :-[
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 15 นอนหลับฝันดี {15/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 15-12-2011 15:41:44
สงสารนนท์ไงชอบกล
สงสารฟ้าด้วย
เหมือนสองคนนี้สับสนกับความรักมานานมาก ไม่รู้ว่าที่ตัวเองอยู่ด้วยกันมันรักหรือเปล่า

พอนนท์เจอคนที่รักเลย เหมือนต้องทำร้ายอีกฝ่าย
รักนี่เข้าใจยากดีแท้
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 15 นอนหลับฝันดี {15/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 15-12-2011 18:46:12
สงสารนนท์เหมือนกันนะนี่
ต่างคนก็ต่างแสดงออกถึงความรักที่ต่างกัน
เห้อ ...
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 15 นอนหลับฝันดี {15/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 15-12-2011 19:14:58
รออ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 15 นอนหลับฝันดี {15/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: atommic ที่ 20-12-2011 01:05:19
รักคนที่เค้ารักเราเถอะคุณฟ้า o13
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 16 ชีวิตที่มีกัน {21/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 21-12-2011 19:14:45
ตอนที่ 16

~~ตุ๊บ!~~

ไม่ต้องแปลกใจว่าเสียงอะไร ตัวผมเองครับ คุณหมอพิษณุที่กลิ้งตกมาจากเตียง เพราะแรงถีบจากเท้าเจ้าของเตียง ตื่นเต็มตาเลยทีเดียว สาบานได้ว่าผมยังไม่ได้เริ่มต้นทำอะไรที่ชวนให้คุณฟ้ายันผมตกเตียงอย่างแน่นอน ผมนอนอยู่เฉยๆ แล้วโดนถีบอย่างแรง

จำได้ขึ้นมาทันที เรื่องที่คุณฟ้าเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ คุณฟ้าเคยบอกว่า ‘เคยนอนถีบคนตกเตียงมาแล้ว’

เชื่อแล้วครับว่าจริง พิสูจน์ด้วยตัวเอง โดนจริง กระแทกจริง เจ็บจริง ผมยันตัวเองลุกขึ้น เจ็บนิดๆ ท่าทางคนถีบจะไม่รู้ตัว ยังนอนอยู่ในผ้าห่ม แขนขาวๆ พ้นออกมาจากผ้าห่มเพียงข้างเดียวจากท่านอนตะแคง ผมมองนาฬิกาทรงสีเหลี่ยมสีเหลืองอ่อนที่แขวนอยู่ใกล้ประตูห้อง หกโมงเช้าแล้ว เวลาปกติที่ผมมักตื่นเสมอ จากคอนโดคุณฟ้าถึงที่ทำงานไม่น่าจะถึงสิบนาที ผมไม่จำเป็นต้องรีบตื่น นอนกอดคนน่ารักคนนี้ได้อีกตั้งชั่วโมงสองชั่วโมง แถมวันนี้ยังเป็นวันหยุดของผมอีกด้วย คิดอีกทีไม่เอาดีกว่า ไม่อยากกวนคนนอน ไปอาบน้ำแต่งตัวหาอะไรให้คุณฟ้าทานเป็นอาหารเช้าน่าจะดี เอาใจคนน่ารักของผมซะหน่อย หลังจากที่เมื่อวานผมกวนคุณฟ้าไปเยอะ

ผมเดินลงไปหยิบกระเป๋าเดินทางที่อยู่ท้ายรถ มีเสื้อกับกางตัวที่ยังไม่ได้ใส่เพราะมีเหตุให้ต้องกลับจากต่างจังหวัดก่อนกำหนด เรื่องอิงกับหนึ่ง ผมลืมไปเลยว่าไม่ได้ติดต่อเพื่อนหลังจากออกจากรีสอร์ทนั่น ตอนนี้มันก็แค่หกโมงเช้า ไม่โทรไปรบกวนมันดีกว่า เอาไว้สายๆ ค่อยโทร

ผมเดินกลับขึ้นมาพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้า เรื่องที่คิดจะหาข้าวเช้าให้คุณฟ้าทานตอนตื่น พับเก็บไปแล้วเพราะนึกขึ้นมาได้ว่า
 เช้าๆ คุณฟ้ามักจะทานข้าวกับสาวยีนและเด็กแดน ผมเห็นบ่อย แล้วสาวยีนก็บอกด้วยว่าพี่ฟ้าของเธอ ซื้อข้าวมาฝากทุกเช้า
ฉะนั้น ผมไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องข้าวเช้าของคุณฟ้า ให้คุณฟ้าใช้ชีวิตตอนเช้าเหมือนปกติแล้วกัน เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าผมเข้ามายุ่ง
ทำให้ชีวิตของคุณฟ้าเปลี่ยนไป ถึงจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ผมก็ควรใส่ใจ

เปิดประตูเข้าไปในห้อง คุณฟ้ายังไม่ตื่น เลยเดินเข้าไปอาบน้ำ อาบเสร็จจนแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว คุณฟ้าก็ยังไม่ตื่น มองดูนาฬิกาอีกสองสามนาทีจะเจ็ดโมงแล้ว ผมตัดสินใจปลุกคุณฟ้า กลัวตื่นไปทำงานสาย

“คุณฟ้าครับ” ผมนั่งลงข้างๆ เขย่าแขนเล็กเบาๆ ยังไม่ตื่น ไม่กระดุกกระดิกเลย ผมเขย่าแขนคุณฟ้าอยู่นานกว่าจะปรือตาขึ้นมามอง คุณฟ้าเป็นคนที่หลับลึกจริงๆ

“ฮ่าา....” มือเล็กปิดปากหาว บิดตัวไปทางซ้ายแล้วมาทางขวา หน้าที่เพิ่งตื่นเหมือนเด็กน้อย ตาก็ใสแจ๋วเหมือนคนจำความอะไรไม่ได้ กระพริบตาปริบๆ มองผมอยู่สักพัก คงประมวลผลได้แล้วว่าผมมาอยู่บนเตียงเดียวกับตัวเองได้ไง

“เจ็ดโมงแล้วครับ” ผมบอก

“ทุกทีตื่นเจ็ดโมงครึ่งครับ” แน่ะ มีบอกเป็นนัยๆ ว่าผมปลุกก่อนเวลา

“ไม่รู้นี่ครับ เห็นว่ามันสายแล้ว เลยปลุก” คนมันไม่รู้จริงๆ

“สายที่ไหน ยังเช้าอยู่เลย เนี้ยๆๆ จะปลุกทำไมก็ไม่รู้” คนตรงหน้าบ่นได้น่ารักน่าฟัดมาก เพราะมือที่ชี้ไปที่นาฬิกา เพราะปากที่ยื่นเหมือนจะขัดใจ แล้วไอ้อาการสะบัดผ้าห่มออกจากตัวอย่างไม่เกรงกลัวสายตาโลมเลียของผม ก็เนื้อตัวของคุณฟ้ามีแค่รอยจ้ำแดงที่ผมฝากเอาไว้กับกางเกงในสีเนื้อห่อหุ้มอยู่เท่านั้นเองนี่

ใครจะอดใจไหว...

แต่ผมไหว ปล่อยให้คุณฟ้าเดินลงส้นเท้าหนักๆ เข้าห้องน้ำไป ส่วนผมก็ได้แค่มองตามก้นเล็กๆ เหมือนพวกโรคจิตอ่อนๆ ก่อนหันมาพับเก็บที่นอนให้คนน่ารัก อาศัยบ้านเค้าอยู่นี่น่าเลยต้องดูแลความเรียบร้อยให้ แลกกับที่หลับนอนสบายๆ มีตัวอุ่นๆ ให้กอด มันคุ้ม แถมคุ้มมากอีกด้วย

และแล้วผมต้องอึ้งครับ หันไปมองคนที่เปิดประตูห้องน้ำออกมา มีผ้าขนหนูผืนใหญ่พันอยู่ที่เอว กับผ้าผืนเล็กวางโป๊ะอยู่ที่หัวกลมเปียกน้ำ เวลาไม่ถึงสิบนาที เอ้า...มากที่สุดผมให้แปดนาทีละกัน ที่คุณฟ้าหายเข้าไปในห้องน้ำแล้วกลับออกมาในสภาพที่ผมเห็น

อาบน้ำได้เร็วมาก...

ไม่น่าล่ะ ถึงบอกผมว่าตื่นเจ็ดโมงครึ่งทุกวัน อาบน้ำเร็วอย่างนี้นี่เอง ตอนที่รีสอร์ทก็ไม่เร็วขนาดนี้นะ

“มองอะไรครับ” ถามเสียงขุ่น คงยังไม่เลิกเคืองผม

“เปล่าครับ มาครับ ผมเป่าให้” ผมวางมือจากกองหนังสือบนโต๊ะ ก่อนหน้านี้ผมเห็นว่ามันรกได้ใจเลยช่วยจัดให้เป็นระเบียบ เดินมาหาคุณฟ้าที่หน้าโต๊ะกระจก

“เป่าเองก็ได้ครับ” คุณฟ้าบอก แต่ไม่ทันแล้ว ไดร์อยู่ในมือผม ผมจัดการเปิดเครื่องทำงาน ขยี้กลุ่มผมหนานุ่มมือไปมา โดยเจ้าตัวก็ยืนให้ผมช่วยแต่โดยดี หน้าตาเริ่มดีขึ้น หยิบครีมขึ้นมาทาหน้าตัวเองไปพลางๆ

กลิ่นหอมจากเนื้อตัวหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ลอยมาเตะจมูก หอมมาก หอมจนอยากกอด

“คุณหมอ!”

ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคุณฟ้าถึงเรียกผมซะเสียงดังฟังชัดขนาดนี้ ก็พอผมคุณฟ้าแห้ง ผมก็ขอค่าจ้างเป็นแก้มนุ่มๆ ไปที กลิ่นครีมหอมๆ ทำให้แก้มที่ผมก้มจูบไปหอมยกกำลังสองเลยครับ

“ค่าจ้างครับ”

“ชิส์” คนน่ารักทำเสียงขัดใจ ก่อนจะไล่ผมออกไปไกลๆ เพราะเจ้าตัวจะเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมไม่กวนครับ รุ่มร่ามเอาแต่ได้เกินไป เดี๋ยวคุณฟ้าจะหงุดหงิดเสียก่อน


ผมเดินกลับมาจัดหนังสือกับข้าวของบนโต๊ะคุณฟ้าอีกครั้ง มันเป็นระเบียบขึ้นเยอะหลังจากที่ผมจัดเสร็จ แล้วก็เป็นจังหวะที่คุณฟ้าเดินเข้ามาใกล้

“ขอบคุณครับ”

ไม่คิดว่าคำขอบคุณจะมาพร้อมปากเล็กๆ ที่ชนแก้มผมเบาๆ แล้วเจ้าของปากนั่นก็รีบเดินออกจากห้องไปเลย ถ้าช้ากว่านี้ ผมได้จับตัวทุ่มลงไปบนเตียงแน่ๆ

....เสียดายซะมัด
.

.

.

.

.

.

“ของคุณหมอสองถุงพอไหมครับ” คนน่ารักที่ขโมยจูบแก้มผมไปเมื่อครู่หันกลับมาถาม เมื่อเดินมาถึงร้านโจ๊กข้างถนนที่เดินเลยคอนโดคุณฟ้ามาประมาณห้าสิบเมตร ไม่ไกลเท่าไหร่

....หมายความว่าเช้านี้ผมจะได้ร่วมโต๊ะทานข้าวกับคุณฟ้าอย่างไม่ต้องสงสัย

“พอครับ” ยิ้มแก้มจะฉีกแล้ว ขณะที่คุณฟ้าหันไปสั่งอาแปะเอาโจ๊ก 6 ถุง

“คุณหมอรอโจ๊กอยู่ตรงนี้นะครับ เดี๋ยวผมมา”

“ไปไหนครับ” เห็นคุณฟ้ามองไปฝั่งตรงข้าม

“ไปซื้อหมูปิ้งครับ เดี๋ยวมา” ว่าแล้วก็เดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง ผมมองตามแผ่นหลังที่เดินไปต่อคิวซื้อหมูปิ้ง คนต่อแถวยาวมาก เห็นแล้วอยากไปต่อคิวเป็นเพื่อนคุณฟ้า อาเปะเหมือนรู้ใจยื่นถุงโจ๊กให้ผมทันที

‘อาตี๋ 120’ อาแปะเรียกผมว่าอาตี๋ หน้าผมออกจะไทยแท้

“อาแปะ รอแป๊บนะครับ ผมขอไปเอาเงินก่อน” ตอนล้วงเข้าไปในกระเป๋าถึงรู้ว่าตัวเองไม่มีเงินสักบาทติดตัว กระเป๋าเงินผมอยู่ในรถตั้งแต่เมื่อวานแล้ว อาแปะแกไม่ได้ว่าอะไรเพราะยังตั้งหน้าตั้งตาตักโจ๊กใส่ถุงให้ลูกค้าคนอื่นต่อ  ผมวางถุงโจ๊กไว้ที่รถเข็นแล้วเดินข้ามถนนไปหาคุณฟ้า

ผมสะกิดแขนคุณฟ้าเบาๆ

“ครับ” คุณฟ้าหันมา คงสงสัยว่าผมตามมาทำไม

“คือผมไม่ได้หยิบกระเป๋าเงินมาน่ะครับ”

“ครับๆ ผมลืมไป” แล้วแบงค์ร้อยสองใบจากกระเป๋าของคุณฟ้าก็มาวางแมะอยู่บนมือผม เป็นจังหวะเดียวกับที่พ่อค้าหมูปิ้งเงยหน้าจากเตาขึ้นมาถามคุณฟ้า

“เอากี่ไม้นะคุณ”

“ห้าสิบครับ”

“ข้าวเหนียวล่ะ”

“ไม่ครับ”

เห็นว่าเป็นคิวของคุณฟ้าแล้ว ผมเลยยืนรอเป็นเพื่อน นึกๆ ไปแล้วเหมือนผมกำลังใช้กระเป๋าใบเดียวกับคุณฟ้า เป็นแบบนี้ทุกวันคงดี ตื่นเช้าก็เห็นหน้าคุณฟ้าเป็นคนแรก เดินมาซื้อข้าวเช้าด้วยกัน ใช้เงินกระเป๋าเดียวกัน กินข้าวเช้าด้วยกัน กินข้าวเที่ยงด้วยกัน กินข้าวเย็นด้วย ครบทั้งสามมื้อ ยังไงที่ทำงานของผมกับคุณฟ้าก็ใกล้กันแค่นี้ คิดถึงก็เดินไปหาได้ง่าย กลับบ้านก็กลับพร้อมกันได้อีก (ยกเว้นวันที่ผมต้องอยู่เวรดึก คลินิกผมปิดเที่ยงคืนครับ) แล้วก่อนนอนก็เห็นคุณฟ้าเป็นคนสุดท้าย

...คิดแล้วมีความสุข

“ยิ้มอะไรครับคุณหมอ” กำลังฝันเพลินๆ เสียงคุณฟ้าก็ปลุกผมตื่นจากความฝันซะได้

“ยิ้มเพราะมีความสุขครับ” คำตอบแบบเดิมๆ ของผม มาพร้อมกับมือคุณฟ้าที่ยื่นไปรับเงินทอนจากพ่อค้าหมูปิ้ง

“แล้วทำไมยังไม่เอาเงินไปจ่ายค่าโจ๊กล่ะครับ” พูดเหมือนบ่น พลางหยิบหมูปิ้งขึ้นมาไม้หนึ่ง กัดไปคำหนึ่ง แล้วคงเห็นผมมอง แล้วคงคิดว่าผมอยากกิน ถึงได้หยิบหมูปิ้งขึ้นมาอีกไม้ ส่งให้ผม ผมไม่ได้อยากกิน ที่มองคุณฟ้ากินก็เพราะน่ารักดี คนน่ารักทำอะไรก็น่ารักครับ ผมเลยชอบมอง...

“ป้อน” ผมพูดเบาๆ ชักติดนิสัยหน้าด้านเข้าไปทุกที ทำไงได้ ผมเป็นกับคุณฟ้าคนเดียว

“คนเยอะแยะ” ไม่ได้ปฏิเสธแบบตรงๆ แต่ก็ไม่ได้ไร้เยื่อใยให้ผมท้อ ที่คุณฟ้าพูดออกมามันก็จริง คนเยอะแยะต่อคิวซื้อกันยาวเหยียด ขืนป้อนหมูปิ้งให้ผมจริงๆ คงได้กลายเป็นดาวเด่นข้างทางกันสองคนแน่ๆ

“งั้นไปป้อนที่ร้านนะครับ” ผมยังหน้าทนและพยายามด้านต่อไป ขณะที่คุณฟ้าทำปากมุบมิบ คาดว่าด่าผมแบบไม่ออกเสียง ใครจะสน ของอย่างนี้ด้านได้อายอด เคยอดมาแล้วครั้งหนึ่ง (ตอนน้องลม) คราวนี้กับคนๆ นี้ไม่ขออดแล้วล่ะ

ระหว่างคุณนนท์กับคุณฟ้า ไม่น่าจะรีเทิร์นกันได้ ฉะนั้น ผมของพุ่งตรงชนิดไม่หลบไม่หลีกอะไรให้เสียโอกาสดีๆ ก็ได้คุณฟ้ามาทั้งตัวแล้ว ที่เหลือก็แค่ตรงที่คุณฟ้าบอกว่า
 ‘ผมเข้าไปไม่ได้’

....ผมจะเข้าไปให้ดู

“จะยืนทำหน้าพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสอีกนานไหมครับคุณหมอ โจ๊กมันเย็นหมดแล้ว  ให้เงินแล้วน่าจะรีบเอาไปให้อาแปะเค้า...” แล้วคุณฟ้าก็บ่นต่ออีกรอบ  ดึงเงินในมือผมไป เดินข้ามถนนไปหาอาแปะ ทิ้งให้ผมยืนมองแล้วยิ้มตาม

มีความสุข...มีความสุขมาก...อยากให้เป็นอย่างนี้ทุกวัน....

มีผม มีคุณฟ้า มีเรา...สองคน

.

.

.

.

.

“มาเช้านะคะวันนี้พี่ฟ้า...อุ๊ย  คุณหมอ มาได้ไงคะเนี้ย อย่าบอกนะว่า.....” สาวยีนส่งเสียงทักทายคุณฟ้ามาแต่ไกล ก่อนจะลากเสียงยาว ทำตาล้อ เมื่อเห็นผมเดินถือถ้วยเปล่าตามหลังคุณฟ้าออกมาจากห้องครัว

คุณฟ้าดูจะสนใจโจ๊กในมือมากกว่าลูกน้องสาวที่วนเวียนอยู่ใกล้ๆ ด้วยการตั้งท่าแซว

“รึว่าพี่ฟ้ากับคุณหมอกิ๊กกันแล้วใช่ไหม.....” เจ้าตัวว่า มองหน้าผมสลับกับเจ้านายตัวเอง ผมแค่ยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้เจ้านายลูกน้องเค้าคุยกันเองดีกว่า ความจริงผมก็ไม่ใช่จะหน้าด้านมากมายอะไร รู้จังหวะที่จะหน้าด้านหน้าทนตอนอยู่กับคุณฟ้าสองคนเท่านั้นแหละ เวลาที่มีคนอื่นอยู่ด้วย ผมก็ต้องทำตัวเป็นคุณหมอสัตว์ใจดี เว้นระยะให้คุณฟ้าได้หายใจบ้าง รุกมากเกินไปผมอาจจะกินแห้วได้

“อย่าเงียบสิค้าาา พี่ฟ้า งุบงิบไม่บอกบาปนะคะ”

“เวอร์ไปยีน เอ้า..เอาไป มีหมูปิ้งด้วยนะ” คุณฟ้าเลื่อนถ้วยโจ๊กที่เทโจ๊กถึงสองถุงให้กับสาวยีน พร้อมกับหมูปิ้งถุงใหญ่

“....คุณหมอคะ กิ๊กกันแล้วใช่ไหม” สาวยีนตักโจ๊กเข้าปากคำหนึ่ง แล้วหันเค้นความจากผมแทน ขณะที่คุณฟ้าเลื่อนถ้วยโจ๊กอีกใบมาให้ผม

“.......”

ผมไม่ตอบคำ ตักโจ๊กเข้าปาก ปล่อยให้สาวยีนทำหน้ายุ่งขัดใจที่ไม่มีใครตอบคำถามของตัวเอง  ผมเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว พอไม่พูด สาวยีนก็คงไม่อยากจะเซ้าซี้  แต่ผมคิดว่าสาวยีนก็น่าจะพอรู้คำตอบอยู่บ้าง ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่อย่างนั้นผมจะมานั่งในร้านเชิญครับ ร่วมโต๊ะอาหารเช้ากับคุณฟ้าได้ไง  ถ้าไม่เกิดความพิเศษระหว่างเราสองคน

“ซอสไหมครับคุณหมอ”  ตักโจ๊กเข้าปากไปหลายคำแล้วครับ ตอนคุณฟ้าถาม คงเพราะเจ้าตัวกำลังเทซอสใส่ในถ้วยของตัวเองเสร็จพอดี

“ดีเหมือนกันครับ” ผมเลื่อนถ้วยโจ๊กไปใกล้มือคุณฟ้า

“เอาเยอะไหมครับ”

“ตามใจคุณฟ้าครับ” มีความสุขที่คุณฟ้าใส่ใจผม ต่อให้เททั้งขวด ผมก็กินได้ กินซอสเปล่าๆ ก็ยังได้

“แหมๆ บริการกันดีจังนะคะ ทียีนไม่เห็นถาม”  เสียงแซวมาจากสาวยีนที่เคี้ยวหมูปิ้งอยู่ในปาก สายตานี้คิดไปไกลแล้ว
แต่คงไม่ไกลเท่ากับความจริงที่เป็นหรอก  คงคิดไม่ถึงว่าผมกับคุณฟ้าไปไกลมากๆ แล้ว

“ทุกทีไม่ใส่ไม่ใช่เหรอ”  คุณฟ้าว่า วางขวดซอสลง หยิบหมูปิ้งกินจนหมดไม้

“ไม่ต้องมาเฉไฉเลยค่ะ  นึกเหรอว่ายีนดูไม่ออก แล้วรอยนั่น.....”

...เคล้ง....

ไม่ต้องรอให้สาวยีนพูดจบ ช้อนในมือคุณฟ้าที่กำลังจะตักโจ๊กเข้าปากถึงกับหลุดมือ ทุกคนอยู่ในความเงียบ ผมกับคุณฟ้าหันมามองหน้ากัน

คุณฟ้ามองผมด้วยสายตาอาฆาต ส่วนผม มองคุณฟ้าด้วยสายตาขอลุแก่โทษ ตอนทำไม่ทันคิดครับว่าจะมีใครเห็น คิดแค่ว่าจะตีตราจอง  แล้วมือขาวๆ ที่จับต้นคอนั้นก็ไม่ใช่จะช่วยอะไรได้เลย เพราะปิดผิดจุด มันอยู่คนละข้างกัน

สาวยีนหัวเราะเบาๆ สมใจ ยกโจ๊กของตัวเองไปนั่งอีกโต๊ะหนึ่ง ไกลออกไป

“คุณหมอทำอะไรลงไป รู้ตัวไหมเนี้ย แล้วผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”  คุณฟ้าพูดแทบจะเป็นกระซิบ คงกลัวว่าลูกน้องสาวจะได้ยิน  แต่ไม่ยักจะหันไปดุลูกน้องตัวเอง คุณฟ้าใจดีกลับลูกน้องมากทีเดียว

“ไว้ที่อกผมก็ได้ครับ”

“มันใช่เวลาไหมคุณหมอ” เสียงดุเชียว แต่ผมไม่กลัว

“ผมพูดจริง ไม่ได้เล่น”  พร้อมกับส่งสายตาหวานๆ ให้ไป เจอคุณฟ้าตาแข็งกลับมาให้

“คุณหมอนี่นะ” แล้วก็ทำเสียงอ่อนอกอ่อนใจใส่ผม ก้มหน้าตักโจ๊กเข้าปากตัว คงขี้เกียจคุยกับผมแล้วมั้ง

“ป้อนโจ๊กกันก็ได้นะคะพี่ฟ้า คุณหมอ ไม่ต้องเขินยีนหรอก คิดซะว่ายีนไม่อยู่นะคะ”

“ยีน เดี๋ยวเถอะ” คุณฟ้าหันไปดุ สาวยีนดูไม่เลย ยังส่งเสียงแซวมาได้อีก

“เดี๋ยวอะไรคะพี่ฟ้า เดี๋ยวจะป้อนโชว์ยีนเหรอ เอาเลยค่ะๆๆๆ”  นั่นก็เชียร์จริง ผมทำได้แค่ยิ้ม ไม่พูดอะไรมาก ก้มหน้ากินโจ๊กของตัวเองต่อ

“คุณหมอ”  เรียกผมซะเสียงเขียว ทำอะไรลูกน้องตัวเองไม่ได้เลยเอามาลงกับผม

“ครับ”  เงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับคนน่ารักทำหน้าบึ้ง

“ตอนกินเค้าไม่ให้ยิ้ม”

“หือ...มีด้วย” ผมงง ไม่เคยได้ยิน  แต่เข้าใจครับคนกำลังพาล แล้วผมยังเป็นตัวตนเหตุให้คุณฟ้าโดนแซว

“มี” ตาคุณฟ้าเขียวป๊าด

“ก็ได้ครับ”  ผมหุบยิ้มอย่างเร็ว จะเอาอะไรไปสู้ ยิ่งกับคุณฟ้าด้วย ชี้นกเป็นนกเลยครับ

พอไม่มีเสียงแซวข้ามโต๊ะมาจากสาวยีน ผมกับคุณฟ้าก็เหมือนไม่มีเรื่องให้คุยกันอีกเลย ต่างคนต่างกินกันเงียบๆ  มีบ้างที่ผมมองไปที่คนน่ารัก  มีบ้างที่บังเอิญจ้องตากัน เรานั่งคนละฝั่ง  เห็นหน้ากันตรงๆ ผมยิ้มตามที่ใจมันสั่ง ส่วนคุณฟ้าก็ยิ้ม ถึงจะไม่กว้างเท่าผม แต่ก็ยิ้มที่เพิ่มกำลังใจให้ผมได้มาก...มากจริงๆ

...หรือคุณฟ้าเริ่มใจอ่อนกับผมบ้างแล้ว

...ประตูหัวใจของคุณฟ้ากำลังเปิดออกช้าๆ เพื่อให้ผมได้เล็ดลอดเข้าไปแน่ๆ

.

.

.

.

.
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 16 ชีวิตที่มีกัน {21/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 21-12-2011 19:20:38
ต่อ
^
^



“พี่ฟ้า!”

ยีนวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในครัว เรียกชื่อเจ้านายเสียงดัง ผมที่กำลังยื่นถ้วยใบสุดท้ายให้คุณฟ้าต้องหันไปมอง

“มีอะไรยีน”

“พี่นนท์...” มือยีนกุมตัวเครื่องด้านล่างไว้แน่น บอกว่าอีกฝ่ายที่พูดถึงน่าจะอยู่ในสาย

“โทรศัพท์แดนอยู่ที่พี่นนท์ค่ะ แดนอยู่กับพี่นนท์ ยีนจะทำไงดี ขอคุยกับแดน พี่นนท์ก็บอกว่าแดนไม่อยู่ ยีนไม่เชื่ออ่ะพี่ฟ้า ยีนเป็นห่วงแดน พี่ฟ้าคุยกับพี่นนท์ให้ยีนหน่อยสิคะ”

“ไม่มีอะไรหรอกยีน เมื่อคืนพี่ไปส่งแดนที่บ้านแล้ว สงสัยแดนลืมโทรศัพท์ไว้ที่คอนโดพี่นนท์มั้ง”  คุณฟ้าตอบเรื่อยๆ น้ำเสียงเป็นปกติ  ยื่นมือไปขอโทรศัพท์จากลูกน้อง ยกโทรศัพท์แนบหู พูดเสียงเบา เดินออกไปข้างนอก  ผมเดินตาม คุณฟ้ารู้ตัวหันมาห้ามด้วยสายตา ผลเลยเดินเลี้ยวไปอีกประตูหนึ่ง กลับไปที่คลินิคของตัวเอง

วันนี้วันหยุดของผม พอผมเข้าไปในคลินิก เลยกลายเป็นเป้าสายตาของทุกครั้ง ด้วยไม่ใช่วันทำงานของผม แล้วยังมาทั้งชุดเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น มันเป็นชุดที่ผมเตรียมใส่ไปเที่ยวทะเล

“เฮ้ย...มาไงเนี้ย” นพทักผมก่อนใครเพื่อน หมออีกสองคน (ทรายกับปู) ที่ยืนคุยอยู่กับลูกค้าคนละมุมก็พลอยหันมามองผมด้วย เจ้าเบียร์ที่เดินออกมาจากห้องพักเข้ามาทักผมด้วยอีกคน

“นี่ละเมอมาทำงานป่ะพี่นุ”

“เปล่า บังเอิญผ่านมาแถวนี้เลยแวะมา” ผมบอก

“บังเอิญหรือเพิ่งออกมาจากคอนโดคุณฟ้ากันแน่” เอาแล้วไง พี่กานต์ที่อุ้มเจ้าตัวเล็กขนปุยออกมาจากห้องตรวจ ช่วยเตือนความจำให้ผมว่าแกอยู่คอนโดเดียวกันกับคุณฟ้า

“คุณฟ้าร้านเชิญครับเหรอพี่กานต์” เบียร์หันไปถาม

“จะมีฟ้าไหนอีกล่ะ” พี่กานต์ตอบ

“พี่นุอ่ะ ตัดหน้าผมไปได้ไง ผมก็อดเดะ” เจ้าเบียร์แกล้งทำหน้าเศร้า

“ไอ้ที่มีอยู่ไม่พอหรือไง” พี่กานต์ใช้ตีนน้อยๆ ของลูกหมาที่แกอุ้มอยู่ผลักหัวกลมๆ ของเจ้าเบียร์

“พอแน่ะมันพอ แต่อยากได้เพิ่มไงพี่กานต์ ....พี่นุอ่ะ ผมเซ็งจริงๆ นะเนี้ย”

“ไวไฟนะเพื่อนนุ ได้ข่าวว่าเค้าเพิ่งเลิกกับแฟนไปเมื่อวันก่อนเอง” ไม่แปลกใจที่นพจะรู้เรื่อง เพราะใครๆ ก็รู้กันหมด

“ของอย่างนี้มันช้ากันได้ที่ไหนพี่นพ....เนอะพี่นุ”

“....” ผมไม่ตอบว่าอะไรใคร ยิ้มๆ ถือว่าเป็นคำตอบที่ทุกคนเข้าใจกันดี  ถึงได้แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเอง นพไปดูลูกหมาแรกเกิดตัวเท่ากำปั้นที่เจ้าของมันอุ้มเข้ามาในร้าน  เบียร์ไปรับโทรศัพท์ที่ลูกค้าโทรมาถามอาการหมาที่ฝากเอาไว้ก่อนจะทำการฝ่าตัดทำหมัน  พี่กานต์ก็อุ้มน้องหมาพาไปกินข้าว ส่วนผมก็เดินเลี่ยงเข้าห้องพัก

อย่าว่าแต่โทรศัพท์ของเด็กแดนอยู่ที่คุณนนท์เลย  โทรศัพท์ของผมเองก็อยู่ที่คอนโดคุณฟ้าเหมือนกัน  มันอาจจะต่างกันที่เด็กแดนลืม แต่ผมจงใจ....เสื้อผ้าอีกหลายชุดที่ผมทิ้งไว้ที่คอนโดคุณฟ้า (ก็เนียนเอาใส่ไว้ในตะกร้าเดียวกับคุณฟ้า  ก่อนออกมาก็หอบไปให้ทิ้งไว้ที่ร้านซักห้างด้านล่างคอนโด) จะได้ไม่ต้องเอาเสื้อผ้าของคุณนนท์มาใส่ให้เจ้าตัวมายืนทวง


เมื่อคืนเรื่องที่คุณนนท์บอกและเตือนผมมา ทำผมหนักใจได้ไม่น้อย หวั่นใจเหมือนกันว่าสิ่งที่ทำผมยิ้มแก้มจะฉีก สิ่งที่ผมได้จากคุณฟ้า สิ่งที่คุณฟ้าให้มา

มันเป็นแค่ ‘ความสงสาร’ หรือเปล่า

ความใจดีของคุณฟ้า

นิสัยขี้สงสารของคุณฟ้า

มันจะทำให้ผมตกหลุมจนปีนขึ้นมาไม่ได้ แล้วคุณฟ้าเองก็จะไม่โยนเชือกมาให้ผมไต่ขึ้นไป

อะไรจะเกิดมันต้องเกิด ผมไม่อยากกลัวความผิดหวัง ไม่อย่างนั้นผมก็จะพลาดโอกาสดีๆ ไปอย่างน่าเสียดาย สามวันมันอาจเป็นเวลาที่ไม่นานนัก แต่กลับมีเรื่องระหว่างผมกับคุณฟ้าเกิดขึ้นมากมาย ทั้งที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นได้ ก่อนหน้านี้กับน้องลม กว่าที่ผมจะกล้าจับมือเล็กๆ นั้นได้ ก็ปาไปห้าหกเดือน ต่างกันลิบลับคุณฟ้า เพียงแค่คืนเดียวที่มีโอกาสได้อยู่ใกล้....ทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ไม่ใช่เพราะคุณฟ้า ‘ง่าย’ ผมถึงได้ครอบครอง มันน่าจะเป็นจังหวะที่เหมาะเจาะมากกว่า  ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ผมก็ไม่รู้ว่าผมกับคุณฟ้าจะเริ่มต้นกันด้วยวิธีไหน  ผมเขินเกินกว่าจะเข้าไปจีบตรงๆ แล้วผมก็คงไม่มีวิธีการจีบที่ดีกว่าคนอื่นๆ แต่ตอนนี้พออะไรๆ มันเกิดขึ้นไปแล้ว เลยทำให้ผมมั่นใจว่ามีภาษีดีกว่าคนอื่นๆ ที่คิดจะเข้ามาจีบคุณฟ้าหลังจากที่เจ้าตัวเพิ่งโสด

อย่างน้อยๆ คุณฟ้าก็ยอมให้ผมมากกว่าคนอื่น...

ผมยิ้ม...นึกถึงความน่ารักทุกอย่างที่หลวมรวมเป็นคุณฟ้า เนื้อตัวนิ่มๆ และหอมหวาน เสียงหวานที่เอ่ยเรียกชื่อผมไม่ขาดปาก เวลาที่แทรกผ่านความรู้สึกเข้าไปแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกัน

ผมกำลังเพ้อ...หลงรักคุณฟ้าอย่างรวดเร็ว

ผมกำลังตกหลุมรักคุณฟ้า...ผมแน่ใจแล้วว่าผมจะรักคนนี้ให้ดีที่สุด

ผมมั่นใจจะไม่ปล่อยให้คนๆ นี้หลุดมือไป....ผมจะพยายาม แม้จะหวั่นใจบ้างแต่ผมก็จะพยายาม


….กริ๊งง....

เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้น ผมยกกระบอกเสียงขึ้นแนบหู คิดว่าเป็นลูกค้าของคลินิกคนใดคนหนึ่งที่ผู้ช่วยด้านนอกต่อสายเข้ามาในห้องพักของผม

“สวัสดีครับ หมอนุพูดครับ”

(ตาหนู คุณแม่โทรหาทำไมไม่รับสายล่ะคะ) ไม่ใช่ลูกค้าแต่เป็นคุณหญิงแม่ผม น้ำเสียงกึ่งจะน้อยใจนิดๆ คงโทรเข้ามือถือผมก่อนหน้านี้มาแล้ว

“นุลืมโทรศัพท์ไว้ที่คอนโดเพื่อนครับคุณแม่...คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมถาม ปกติผมกับคุณหญิงแม่ไม่ค่อยโทรศัพท์คุยกันหรอก เพราะเราสองคนเจอกันทุกวัน เช้ามาก็เจอ ตกเย็นก็เจอ ยิ่งช่วงนี้ผมเป็นลูกคนโปรดซะด้วย สาเหตุเนื่องมาจากการที่ผมยังโสดสนิท ไม่มีวี่แววว่าจะมีหลานให้ท่านนายพลกับคุณหญิงแม่อุ้มสักที เลยรักที่จะให้ผมเป็นฝั่งเป็นฝาซะที แล้วที่โทรมา ถ้าให้เดาก็คงหนีไม่พ้นเรื่องด่วนที่สุดของคุณหญิงแม่ เรื่องว่าที่ลูกสะใภ้คนกลาง ภรรยาของผมในอนาคต

(คุณแม่จะโทรมาบอกตาหนูว่า พรุ่งนี้เตรียมตัวไปรับน้องเนยกับคุณแม่นะคะ) ว่าแล้วไง เรื่องนี้เป็นเรื่องด่วนเสมอของคุณหญิงแม่ของผม

“ไหนบอกว่ากลับเดือนหน้าไงครับคุณแม่” ผมสงสัย

(น้องเค้าเลื่อนวันกลับน่ะจ๊ะ ตาหนูของแม่จะได้เจอน้องไวๆ ไม่ดีเหรอ) ไอ้คำว่าเจอกันไวๆ คงกินความหมายไปถึงการรักกันไวๆ ด้วยละ

“ดีครับ” ถือว่าเจอไวเคลียร์ไว

(ตาหนู) คุณหญิงแม่ของผมลดเสียงเบา คล้ายลังเลที่จะพูด

“ครับ” ชักกลัวเป็นเรื่องไม่ดี

(เย็นนี้ไปดูแหวนกับคุณแม่นะคะ)

“แหวน” ผมทวนคำ ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจที่คุณหญิงแม่พูด เข้าใจแจ่มชัดเลยล่ะว่า ไปดูแหวนน่ะ มันแหวนอะไร

(ตาหนูก็อายุมากแล้วนะ คุณแม่อยากเห็นตาหนูเป็นฝั่งเป็นฝา น้องเนยก็ทั้งสวยทั้งน่ารัก หน้าที่การงานก็ดี เคยเห็นกันตั้งแต่เด็ก คุณแม่ว่าตาหนูกับน้องเนยน่าจะเข้ากันได้ดี แต่งๆ กันเถอะนะตาหนู ทางคุณหญิงวลัยก็ไม่มีปัญหา ส่วนน้องเนยน่ะ รายนั่นยิ่งไม่มีปัญหาใหญ่ ดีใจใหญ่ด้วยซ้ำที่ได้กลับมาหาพี่นุของเค้า)

ฟังคุณหญิงแม่พูดแล้ว ถามนึกเถียงในใจ ผมก็ไม่ได้แก่ขนาดตั้งรีบแต่งงานอะไร ยังไม่ถึงสามสิบด้วยซ้ำ เรื่องของน้องเนยที่ว่าทั้งสวยทั้งน่ารัก อันนั้นผมยอมรับ คุณหญิงแม่เอารูปมาให้ดูบ่อยๆ เรื่องหน้าที่การงานก็เห็นว่าจะกลับมาเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดัง  ในบรรดาลูกของคุณหญิงแม่ทั้งสามคน คือผม พี่ยะ ยัยภา ผมคือคนที่น้องเนยสนิทด้วยที่สุด  เรียกว่าตอนเด็กติดผมแจ ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันก็หอบผ้าห่มหอบหมอนมานอนกับผมประจำ  อะไรๆ ก็พี่นุ วันเสาร์อาทิตย์ก็มาเที่ยวเล่นที่บ้านผมเป็นประจำ แต่คุณหญิงแม่คงลืมว่านั่นมันตอนเด็ก  ไม่ใช่ตอนนี้ น้องเนยของผมอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้ สวยน่ารักขนาดนั้น ไม่มีแฟน มันก็น่าแปลกไปแล้ว

“ผมว่าอย่าเพิ่งเลยดีกว่าครับคุณแม่”

(แต่คุณแม่ใจร้อน คุณหญิงวลัยก็ใจร้อนเหมือนกัน เร่งให้คุณแม่หาฤทธิ์หมั้นฤทธิ์แต่งเลยนะคะตาหนู)

“คุณแม่ก็ปฏิเสธไปก่อนสิครับ”

(ตาหนูจ๊ะ คุณแม่จะปฏิเสธได้ไงล่ะคะ คุณแม่ก็อยากจะได้น้องเนยเป็นลูกสะใภ้เหมือนกัน เอาเป็นว่าตอนเย็นไปดูแหวนกับคุณแม่นะคะ ถ้าเจอที่ถูกใจ ตาหนูจะได้เอาไปเซอร์ไพซ์ขอน้องแต่งานวันนั้นเลย)  โอ้...คุณหญิงแม่ผม อะไรจะรีบร้อนปานนั้น

“ให้นุเจอกับน้องดีกว่าไหมครับคุณแม่ เรื่องอื่นไว้ค่อยคุยกันทีหลัง”

 ผมยังไม่กล้าปฏิเสธความหวังของคุณหญิงแม่ตัวเอง  เรื่องของผมกับคุณฟ้าก็ไม่ใช่เรื่องที่จะบอกกันโต้งๆ มันจึงลำบากที่ผมจะพูดอะไรออกไป  ถึงครอบครัวของผมจะรับได้กลับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย เพราะกรณีของพี่ชายผม พี่ยะ ที่ยังคงลอยชายคงความโสด (ลูกสาม) ควงสาวควงหนุ่มเป็นว่าเล่น แต่นั่นมันพี่ยะ ไม่ใช่ผม เรื่องนี้เลยต้องอาศัยเวลา

(เอางั้นเหรอตาหนู) น้ำเสียงคุณหญิงแม่ผิดหวังนิดๆ

“ครับคุณแม่”

(อาทิตย์หนึ่งพอไหมคะตาหนู)

“โธ่...คุณแม่ครับ” ผมครางเสียงอ่อนเอากับกำหนดเวลาของคุณหญิงแม่

“อ่ะ เดือนหนึ่ง คุณแม่ให้เวลาเดือนหนึ่งนะคะตาหนู คุณแม่อยากได้น้องเนยมาเป็นสะใภ้จริงๆนะคะ น้องทั้งเก่งทั้งน่ารัก ไม่รีบเดี๋ยวคนอื่นก็แย่งไปหรอกค่ะ”

“ครับๆ” เดือนหนึ่งก็เดือนหนึ่ง เดือนหนึ่งเพื่อผมจะคิดหาคำพูดดีๆ เตรียมตัวเองให้พร้อม พาคุณฟ้าไปเปิดตัวกับที่บ้าน ถ้าคุณฟ้ายอม...

“เย็นนี้ตาหนูมารับคุณแม่นะคะ เราจะได้ไปดูแหวนด้วยกัน”

“คุณแม่ครับ” ผมครางเสียอ่อนใจอีกครั้ง ความพยายามไม่สิ้นสุดจริงๆ

(คุณแม่พูดเฉยๆ ถ้าตาหนูไม่อยากไป แม่ไปกับคุณหญิงวลัยก็ได้ จะได้ช่วยกันดูแบบที่หนูเนยชอบ) คุณหญิงแม่ของผมเป็นผู้หญิงที่ดื้อคนหนึ่งเลยล่ะ

“ครับ”

(ครับนี่คือตาหนูจะไปกับคุณแม่ใช่ไหมคะ)

“คุณแม่ไปกับคุณหญิงวลัยเถอะครับ วันนี้นุไม่ว่าง แล้วคืนนี้นุไม่กลับบ้านนะครับคุณแม่” ผมบอก

“อ้าว...แล้วจะไปไหนล่ะคะตาหนู”

“ไม่ได้ไปไหนครับ คือนุจะนอนที่คอนโดนเพื่อน”

(ตาอิงเหรอ?)

“ครับ” ผมตอบไป ไม่ใช่ความจริงเท่าไร ผมไม่ได้จะไปนอนกับอิงแต่เป็นคุณฟ้า แต่ถ้าให้บอกว่าคุณฟ้า ซึ่งเป็นคนที่คุณหญิงแม่ไม่รู้จัก กลัวจะถูกซัก ขี้เกียจอธิบายด้วยแหละ

“งั้นฝากบอกตาอิงด้วยนะคะตาหนู ว่าแม่คิดถึง ว่างๆ ก็พาหนูหวานมาเยี่ยมคุณแม่ด้วย ไม่ได้เจอตั้งแต่งานคุณย่าตอนนั้น”

“ครับ”

คุณหญิงแม่วางสายไปแล้ว ทิ้งปัญหาให้ผมต้องคิด ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่หาทางแก้ไม่ได้ ไว้ผมเจอน้องเนยจริงๆ ก่อน เรื่องอะไรๆ คงจะง่ายขึ้น ผู้หญิงสมัยใหม่ บุคลิกมาดมั่นแบบน้องเนยที่เป็นถึงอาจารย์สอนกฎหมาย คงไม่นิยมชมชอบวิธีการคลุมถุงชนเท่าไหร่หรอก

....กริ๊งงงง....

เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะผมดังขึ้นอีกครั้ง

“สวัสดีครับ หมอนุพูดครับ” ผมกรอกเสียงลงไป เป็นอิงที่โทรเข้ามา

“ไอ้หมอ” เสียงเพื่อนผมฟังดูเหนื่อยๆ ชอบกล

“เป็นไงบ้าง ฉันกำลังจะโทรหาอยู่พอดี ว่าแต่ตอนนี้อยู่ไหน อยู่ที่จันทร์?” ผมแปลกใจเพราะได้ยินเสียงคลื่นดังเข้ามา

(อืม....)

“ได้คุยกันยัง?”

(อืม...โดนซ้อมมาด้วย)

“คุณชิตเหรอ?”

(อืม...เจ็บสุดๆ แต่คงไม่เจ็บไม่เท่าหนึ่ง....ฉันจะทำไงดีวะหมอ ฉันทำหนึ่งเจ็บอีกแล้ว) 

“อย่าบอกนะว่า....” ถ้าผมตีคำพูดของเพื่อนไม่ผิด แปลว่าอิงมันทำอะไรหนึ่งอีกแล้ว

(อืม...นั่นแหละ หนึ่งมันดื้อ ฉันเลยห้ามตัวเองไม่ได้)

“นี่คือเหตุผลที่โดนซ้อมมาใช่ไหม?”

(อืม...) อิงตอบกลับด้วยคำเดิมๆ เหมือนมันไม่มีกระจิตกระใจจะคุยกับผม

“แล้วทำไมไม่ใจเย็นๆ” ผมอดติงมันไม่ได้

(หมอ แกไม่เป็นฉันไม่รู้หรอก)

“ถึงฉันเป็นแก ฉันก็จะอดทน” ผมว่า เป็นผม ผมไม่ทำหรอก มันข่มขืนชัดๆ

(มันอดทนได้ที่ไหน แกรู้อะไรไหม หนึ่งพูดยังไงกับฉัน เค้าบอกฉันว่าจะไม่กลับไปกรุงกับฉัน จะอยู่ที่นี่กับชิต เค้าจะลืมเรื่องทุเรศที่ฉันทำไว้ ถือว่าให้หมามันกิน ต่อไปนี้ไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีก ต่างคนต่างอยู่ เจอกันก็ไม่ต้องทัก ตายก็ไม่ต้องไปเผาผี เค้าบอกเค้าเกลียดฉัน แล้วจะให้ฉันทนได้ยังไงวะ)

“แกเลยต้องปล้ำหนึ่งอีกรอบ” ผมถาม อ่อนใจ ความจริงก็เข้าใจนิสัยของเพื่อนอยู่ ดูภาพนอกอิงอาจจะเป็นคนสนุกสนาน ใจดี แต่อารมณ์มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่เห็น อิงใจทั้งใจร้อนแล้วก็วู่วาม ทำอะไรไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลังเท่าไหร่ เอาความต้องการของตัวเองเข้าว่า

(อืม...แต่หนึ่งก็ไม่ได้ขัดขืน....มากเท่าไร)

“ไอ้ที่ว่าไม่ขัดขืนเท่าไร เป็นเพราะหนึ่งไม่มีแรงสู้มากกว่ามั้ง”  ฟังมันพูดแล้ว อ่อนใจกว่าเดิม เห็นสภาพอยู่ว่าหนึ่งเดินไม่ได้ด้วยซ้ำต้องให้คุณชิตอุ้มออกจากห้อง แล้วจะไม่แรงอะไรไปขัดขืน

(ไม่รู้ว่ะ) อิงตอบไม่เต็มเสียง คงคิดตามที่ผมพูด

“ทีหลังก็หัดรู้ไว้บ้าง จะได้ไม่ทำอีก”  ผมว่า อิงนิ่งไปสักพัก

(หนึ่งจะเกลียดฉันไหมวะ)  อิงถามคำถามเดิมที่เคยถามผมตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ

“ตอบยากว่ะ ลองง้อดูก่อน แต่ให้ง้อนะ ไม่ใช่ไปข่มขืนเค้า”  ผมก็ตอบแบบเดิมๆ แต่ก็เตือนคนใจร้อนหน่อย กลัวอิงมันจะทำอะไรหนึ่งอีก

(อืม...แค่นี้นะหมอ ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วว่ะ)

“เดี๋ยวก่อน” ผมรีบห้ามก่อนที่อิงมันจะตัดสาย

(มีอะไร)

“เรื่องน้องหวาน” ผมไม่ได้อยากให้อิงมันไม่สบายใจ แต่ที่ถามก็อยากรู้ว่าอิงจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง อิงเงียบไปพักใหญ่ ถึงได้ตอบคำถามกลับมา

(คุยแล้ว) นิสัยของอิงมันแหละ ไม่ชอบให้เรื่องคาราคาซัง

“แล้ว...”

(ฉันสงสารหวาน หวานเอาแต่ร้องไห้ แต่ฉันไม่รู้จะทำยังไง ฉันใจดำเกินไปหรือเปล่า?) เป็นอย่างที่ผมคิดเอาไว้จริงๆ อิงเลือกหนึ่ง

“ไม่หรอก ดีแล้วที่ตัดสินใจได้เด็ดขาด” ผมยอมรับว่าผมเข้าข้างเพื่อน อิงเลือกแล้ว เลือกอย่างไม่โลเล มันดีต่อทุกคน ถึงจะต้องมีคนเจ็บแต่ดีกว่าปล่อยให้มันเรื้อรัง มองไม่เห็นจุดสิ้นสุดสักที

(ขอบใจว่ะที่เข้าใจฉัน นึกว่าจะโดนแกด่า)

“เพื่อนกันน่า”

(อืม...งั้นแค่นี้ก่อน ฉันจะไปหาหนึ่งแล้ว)

“เฮ้ย เพิ่งโดนซ้อมมาไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวก็โดนอีกหรอก” ผมเตือน รู้ว่าอิงมันไม่เชื่อผมหรอก

(ทนได้น่า แค่นี้นะ ) แล้วเพื่อนผมก็วางสายไป อิงเป็นคนใจร้อนและจริงจังกับทุกสิ่งที่ทำ อย่างเรื่องของหนึ่ง ผมว่าหนึ่งคงหนีไม่พ้นมือเพื่อนผม

...ก๊อก ก๊อก...

ทันทีที่ผมวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม เสียงเคาะประตูเบาๆ ก็ดังขึ้น ประตูห้องถูกเปิดเข้ามา พร้อมกับคนที่เป็นประเด็นสนทนาเมื่อครู่เดินหน้าเศร้าจนน่าสงสารเข้ามาหาผม

“พี่หมอ”

“น้องหวาน”

“หวานมีเรื่องอยากคุยด้วย...”

ไม่ต้องเดาเลยว่าอะไรทำให้น้องหวานแบกหน้าตาช้ำๆ มาหาผมถึงที่นี่

>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<
 

คนเขียนอยากคุย :: ขอบคุณนะคะที่ติดตามเรื่องรัก...เชิญครับ คาดว่าน่าจะได้ผลสำรวจที่แน่นอน (ณ วันนี้ที่เขียนตอนนี้จบ) ว่า เรื่องต่อไปเป็น อิงกะหนึ่งนะคะ อิอิ
เช่นเคยนะคะ เรื่องนี้อาจจะเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไปบ้าง (แถมเป็นจุดเริ่มต้นของอีก 2 เรื่อง)แต่ก็พยายามเขียนออกมาให้ดีที่สุดนะคะ แล้วจะพยายามเขียนเรื่องให้กระชับมากที่สุด
 ไม่ได้ตั้งใจยืดนะคะ Y^Y  สุดท้ายก็ขอบคุณที่ติดตาม ไม่ทิ้งกันไปไหนนะคะ ^__^ :man1:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 16 ชีวิตที่มีกัน {21/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 21-12-2011 19:29:43
รักทำให้เกิดอะไรก็ได้
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 16 ชีวิตที่มีกัน {21/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 21-12-2011 20:03:38
อ่านตอนแรก เจอคำผิด แต่ลืมจำว่าตรงไหน ว่าจะบอกคนเขียน แต่กลับไปอ่านอีกรอบ "ตาลาย"  :เฮ้อ:แก่แล้วก็อย่างนี้แหละ :laugh: ไว้จำได้เมื่อไรจะบอกนะ (ถ้าจำไม่ได้ก็ผ่านไปเถอะ)

ติดตามต่อไปค่ะ จนกว่าจะได้อ่าน อิง&หนึ่ง (คู่นี้ตอนที่อ่านเรื่องของ ลม&ดิน ไม่เคยจินตนาการถึงเลยนะ) และ นนท์&แดน :L2:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 16 ชีวิตที่มีกัน {21/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 21-12-2011 20:07:35

โอ๊ยย สงสารหวาน เราชอบหวานนะ
หวานช่วยตินลมอ้ะ เราชอบเธอ
สงสารเธออะ ไม่น่าเลย แต่เรื่องหัวใจมันห้ามกันยาก
 :เฮ้อ:  รออ่านตอนต่อไปนะคะ
อยากรู้ว่าหวานจะมาคุยอะไร
แล้วหมอจะทำไงกับน้องเนยละ
อย่าให้คุณฟ้าเข้าใจผิดเชียว เดี๋ยวพาลไม่สนใจเอาดื้อๆ
55555

+1 ให้นะคะ กอดดดด  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 16 ชีวิตที่มีกัน {21/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 21-12-2011 21:05:11
อยากรู้ว่าหวานจะคุยไรกับพี่หมอ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 16 ชีวิตที่มีกัน {21/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 21-12-2011 21:48:00
เหมือนกำลังจะไปได้ดี ดันมีเรื่องน้องเนยมาซะงั้น
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 16 ชีวิตที่มีกัน {21/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 22-12-2011 00:23:54
บวกให้ค่า
ตาหนู เอ้ย พี่หมอสู้ๆ ต่อไป ^^
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 16 ชีวิตที่มีกัน {21/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 22-12-2011 13:50:44
ไม่ได้อ่านมาหลายตอน มาอ่านอีกอึ้งไปเลย
อิงจะแต่งงานกับหวานทำไมต้องปล้ำหนึ่งด้วย
แต่หมอกับฟ้า รอให้ฟ้าเปิดใจชอบหมอเถอะ
เรื่องชักจะยาวแล้ว
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 16 ชีวิตที่มีกัน {21/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 22-12-2011 14:21:00
รักกันรักกัน :กอด1:
อ่านได้เรื่อยๆน๊า
ไม่ต้องรีบจบก็ได้
แต่ก็รออ่านอิง-หนึ่งด้วย :L2:
1+ให้เน้อ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 16 ชีวิตที่มีกัน {21/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 22-12-2011 16:37:07
สงสารน้องหวาน...เรื่องนี้ให้ความรู้สึกใกล้เคียงชีวิตจริง...จนผมสะอึกเลยนะ ..555+
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 16 ชีวิตที่มีกัน {21/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 22-12-2011 18:03:14
สงสารหนึ่งจัง
น้องหวานก็ด้วย  ภาคคุณลมยังสวีทกันอยู่ดีๆ
แล้วชิตกับหนึ่งชอบกันเหรอ ชิตเป็นใคร?
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนที่ 16 ชีวิตที่มีกัน {21/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 22-12-2011 19:18:28
จะสงสารใครดีเนี่ย แต่ละคนล้วนมีเหตุผลของตัวเอง
ปล.ติดตามอยู่เสมอ อย่าให้รอนานนะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก {28/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 28-12-2011 20:59:21
ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก


“พี่ฟ้า”

แดนกล้าๆ กลัวๆ ตอนเดินมาหาผม เมื่อลูกค้าโต๊ะสุดท้ายลุกออกไปจากในร้าน แล้วเหลือแค่ลูกค้าอีกสองคนตรงโต๊ะด้านนอก
ริมสวนเล็กๆ ที่มีบ่อปลาเล็กๆ อยู่ด้านข้าง คุณหมอกับสาวสวยน่ารักคนหนึ่ง นั่งคุยกันเกือบชั่วโมงแล้ว

ผมดึงสายตาจากคนข้างหน้ากลับเข้ามาข้างใน

“พี่ฟ้า เรื่องนั้น...” ไม่บ่อยที่แดนจะเรียกผมว่า ‘พี่ฟ้า’ ส่วน ‘เรื่องนั้น’ ที่ทำให้แดนไม่กล้าสบตาผมตลอดทั้งเช้า จนถึงตอนนี้ แม้จะเดินเข้ามาหาผมเอง แต่เจ้าตัวก็ยังก้มหน้าเหมือนไม่กล้าคุย ความจริงไม่ใช่แค่แดนหรอกที่ไม่กล้าเปิดประเด็นต่อจากเรื่องเมื่อคืน ผมก็เหมือนกันครับ ที่พยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ”

‘ช่างมันเถอะ’ สำหรับผม มันแปลว่า ‘ไม่อยากพูดถึง ไม่อยากจดจำว่ามันเป็นเรื่องจริง ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น’

“พี่ฟ้า ผม...ผม...ผมขอโทษ” แดนพูดคำเดิมๆ ด้วยใบหน้าของคนที่หาทางออกให้ตัวเองไม่เจอ ไม่ต่างจากผมนักหรอกครับ ผมก็เคว้งอยู่ในอากาศเหมือนกัน

“พี่บอกแล้วไงว่าแดนไม่ผิด” มันไม่ใช่ความผิดของแดนจริงๆ นั่นแหละ ผมไม่โทษแดนที่กลายเป็นคนที่นนท์บอกเต็มปากว่ารัก สายตาของนนท์ที่ผมเห็น มันชัดเจนจนผมพูดไม่ออก

“แต่พี่ฟ้าก็โกรธผม” แดนพูดเสียงเบา เงยหน้าขึ้นมามองตาผม แดนกลายเป็นเด็กน้อยที่น่าสงสารในสายตาของผมไปแล้ว ผมสงสารแดนมากกว่าตัวเองด้วยซ้ำ

“โกรธที่ไหนกันล่ะ” ผมพูดออกมาจากใจจริง ไม่ได้โกรธจริงๆ มันแค่อึ้ง คิดไม่ถึงมากกว่า ว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้

“พี่ฟ้าไม่คุยกับผม พี่ฟ้าทำตัวไม่เหมือนปกติ” ปากว่า ตาก็มีน้ำปริ่มๆ ผมต้องดึงตัวเข้ามากอด เหลือบไปเห็นคนข้างนอกก็ดึงสาวสวยน่ารักคนนั้นเข้ามากอดเหมือนกัน เราสบตากันอยู่นาน ทั้งที่ต่างฝ่ายต่างกอดคนอื่นอยู่ และเป็นผมที่ต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น รู้สึกมันหงุดหงิดในใจนิดๆ

“พี่ฟ้า...”

“ว่าไง” เมื่อแดนเรียกชื่อผม ผมถึงดึงความสนใจกลับมาหาคนที่ผมกอดอยู่ ผมดันตัวแดนออก ลูบหัวเบาๆ

“พี่เกลียดผมไหม” คำถามที่มาพร้อมกับน้ำตาที่ไหล

“จะเกลียดทำไม โกรธยังไม่โกรธเลย” ผมพูดตามความจริง ไม่ได้พูดโกหกให้แดนสบาย หยิบทิซซู่ใกล้มือส่งให้คนที่ผมรักเหมือนน้อง

“แต่ผมรู้สึกผิด ถ้าตอนนั้น...” แดนพูดไปด้วย เช็ดน้ำตาตัวเองไปด้วย

“เรื่องเมื่อสี่ปีก่อน?”

“ครับ” น้ำตาแดนแห้งแล้ว ไม่มีวี่แววว่าจะไหลอีก

“ไม่เป็นไร ใครจะรู้อนาคตได้ล่ะ ตอนนั้นแดนก็ยังไม่รู้จักพี่นี่น่า”

“แต่...”

“เอาเถอะ เราอย่าพูดเรื่องอดีตกันเลยนะ มาพูดเรื่องปัจจุบันกันดีกว่า แดนจะเอายังไงกับพี่นนท์” พอผมถามเท่านั้นแหละ คนก่อเรื่องก็ผลักประตูร้านเข้ามา ผิวปากแบบคนอารมณ์ดี ในมือมีโทรศัพท์ที่ผมจำได้ว่าเป็นของแดน ยิ่งเสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้นมาอย่างพอเหมาะ เมื่อนนท์มาหยุดอยู่ตรงหน้าผมกับแดน ก็บอกให้รู้ว่าเป็นโทรศัพท์ของแดนจริง

นนท์ชูโทรศัพท์ขึ้น ตั้งใจยั่วแดนที่ยืนกำหมัด มองหน้าเอาเรื่อง สายตาอาฆาต จากตอนแรกตั้งท่าจะเดินหนี

“เบอร์ใครน้า ไม่มีชื่อซะด้วย 081-543….”

“เอาคืนมา!” แดนตรงเข้าไปแย่ง แต่ไม่ได้ เพราะนนท์ชูโทรศัพท์ขึ้นเหนือหัว แดนไม่สูงมากครับ ร้อยหกสิบเจ็ดเองมั้ง จะสู้อะไรกับคนที่อีกแค่เซ็นต์เดียวก็จะร้อยเก้าสิบ

“นนท์อย่าแกล้งน้อง” ผมห้าม แต่นนท์ส่ายหน้า ส่งหน้าตายียวนกวนประสาทไปให้เจ้าของมือถือ ที่ทำยังไงก็ไม่สามารถแย่งโทรศัพท์คืนมาได้ เสียงโทรศัพท์เงียบไป ก่อนจะดังขึ้นอีกครั้ง

“เบอร์เดิม” นนท์ว่า

“นนท์ เอาโทรศัพท์คืนให้น้อง” นนท์ติดนิสัยขี้แกล้งครับ ผมโดนบ่อย แต่เพราะผมไม่ใช่คนใจร้อน ไม่ขี้งอน ไม่งอแงอะไรไงครับ นิสัยขี้แกล้งของนนท์ถึงใช้ไม่ได้กับผม แต่กับแดนเนี้ย  นิสัยตรงกันข้ามกับผมหมดทุกอย่าง

“มึงต้องการอะไร?” แดนถามเสียงดัง มันดังเข้าไปถึงข้างในครัว ยีนที่ทำเค้กอยู่ด้านในกับเด็กใหม่อีกสองคนถึงได้วิ่งหน้าตื่นออกมา

“เกิดอะไรขึ้นแดน” ยีนถาม มองหน้าแดนสลับกับนนท์

“ไอ้เชรี้ยนี่สิ มันเอาถือฉันไป” แดนบอกอย่างคนอารมณ์เสีย

“พี่ฟ้า” ยีนหันมาเรียกผม หวังให้ผมช่วย

“นนท์ ฟ้าขอล่ะ อย่าแกล้งน้องได้ไหม บอกว่ารักน้องไม่ใช่หรือไง รักแล้วทำไมต้องแกล้ง” ผมว่า รู้สึกว่าจะพูดคล่องปากไปแล้วไอ้คำพวกนี้ ไม่แสลงใจเลยสักนิด

“ดูน้องของฟ้า มันพูดดีกับนนท์สักคำไหม ขึ้นมึงขึ้นกูตลอด” ถึงนนท์จะพูดกับผม แต่สายตาน่ะ อยู่ที่คนตัวเล็กที่สุดตลอดเวลา
 มือถือที่เงียบเสียงลงไป นนท์ก็ยัดมันใส่ไว้ในกระเป๋า

“ใครอยากพูดดีกับมึง แล้วโทรศัพท์กู เอาคืนมา”

“พูดดีๆ ก่อนแล้วจะคืนให้”

“ฝันเถอะ”

“นนท์ ไม่เอาน่า คืนให้น้องเถอะ” ผมช่วยพูดให้แดน

“ฟ้าดูน้องฟ้าสิ เคยพูดดีๆ กับนนท์ไหม ถ้าพูดดีกับนนท์ นนท์ก็จะคืนให้” นนท์ว่าในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ แต่ไหนแต่ไรมา อย่าว่าแต่พูดดีๆ ด้วยเลย แค่จะอ้าปากพูดกับนนท์ แดนยังไม่เคยเลย (เท่าที่ผมเห็นต่อหน้านะครับ ลับหลัง ผมไม่รู้)

“ถ้าอยากได้ก็ตามมา ไม่งั้น....” นนท์ทิ้งประโยคไว้แค่นั้น ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับออกไป

“อย่าตามไปนะแดน โทรศัพท์แค่เครื่องเดียวเอง ฉันซื้อใหม่ให้ก็ได้ เอาไอโฟนเลยดีไหม” ยีนว่า ท่าทางจะไม่อยากให้แดนไปกับนนท์

“พี่ฟ้า”

“ไปเถอะ” ผมว่า

“พี่ฟ้า ได้ไงค่ะ พี่นนท์ตัวร้ายชัดๆ นะคะ ขืนแดนตามไปมีหวังโดนขย้ำแน่ๆ” ยีนโวยวาย ขัดใจที่ผมบอกให้แดนตามนนท์ไป

“ไม่มีไรหรอกน่ายีน  ไปสิแดน”

“แต่...” แดนยังลังเล อยากได้โทรศัพท์คืนก็คงอยากได้ แต่คงไม่อยากตามนนท์ออกไป

“ ไปเถอะ” ผมบอกย้ำอีกครั้ง

“แต่ผมเกลียดมันจริงๆ นะพี่ฟ้า” เข้าใจว่าแดนยังกลัวว่าผมจะโกรธจะเกลียดตัวเองเพราะเรื่องนนท์

“พี่รู้แล้วว่าเราเกลียดพี่นนท์ แต่ถ้าไม่ตามพี่นนท์ไป พี่ก็ไม่รับประกันนะว่าโทรศัพท์ของแดนจะเป็นยังไง พี่นนท์เป็นคนพูดจริงทำจริงนะ” ผมขู่เล็กน้อย คิดว่านนท์ไม่กล้าทำอะไรกับโทรศัพท์ของแดนหรอก แต่ที่ต้องพูดออกไปก็ช่วยทั้งแดนทั้งนนท์นั่นแหละ จะได้คุยกันให้รู้เรื่อง

มองออกไปด้านนอก ตรงลานจอดรถ นนท์ยังยืนพิงประตูรถอย่างอารมณ์ดี ไม่ไกลกันนัก ลูกค้าของร้านเชิญครับก็ยังเหมือนคุยกันไม่เสร็จสักที มีเช็ดน้ำตาให้กันด้วย ไม่เข้าใจว่าสาวสวยคนนั้นจะร้องไห้อะไรกันนักหนา อกหักมาหรือไง คุณหมอก็ใจดีเหลือเกิน นั่งปลอบอยู่ได้เป็นชั่วโมง ไม่คิดกลับไปทำงานบ้างหรือไง รึคิดว่าเป็นเจ้าของคลินิก เลยไม่แคร์อะไร นั่นสินะ ใครจะกล้าไล่เจ้าของคลินิกออกจากงานล่ะ

“พี่ฟ้า พี่ฟ้า...”

“หื้อ ว่าไง” ผมสะดุ้งเพราะแดนเรียก

“คือผม...ผม...ผมไปนะครับ”

“แดน ไม่ไปได้ไหม ฉันเป็นห่วง ฉันไม่ไว้ใจพี่นนท์จริงๆ นะ” ยีนรีบท้วง จับมือแดนเอาไว้

“ไม่ต้องห่วงน่า เมื่อวานก็ไม่เห็นจะเป็นไร ถ้าได้โทรศัพท์แล้วจะโทรหา  ผมไปนะครับพี่ฟ้า” แดนบอกให้ยีนสบายใจ แล้วหันมาบอกผม

“พูดดีๆ กับพี่เค้าหน่อยนะแดน ถือว่าพี่ขอ ถ้าเราพูดดีกับพี่เค้า เค้าก็คืนให้ พี่รู้จักนนท์มาตั้งแต่เด็ก รู้นิสัยเค้าดี ทำตามที่พี่บอกนะ”

“ครับ” แดนรับปาก แต่หน้าบอกชัดเจนว่าไม่ทำตามที่ผมแนะนำแน่ๆ

“ดูแลตัวเองนะแดน ต้องโทรหาฉันจริงๆ นะ”

“อืมๆๆ” แล้วแดนก็เดินหน้ายุ่งออกไป จากที่ผมยืนอยู่ มันก็ไม่ได้ไกลจากตรงที่นนท์ยืนอยู่ รอยยิ้มของนนท์ ผมก็ยังเห็นได้ชัด ตอนที่แดนเดินออกไปหา ดูมีความสุข

ผมต้องยอมรับแล้วใช่ไหม ว่าต่อไป ผมจะไม่มีนนท์อีกแล้ว...

“พี่ฟ้าอ่ะ ทำไมต้องปล่อยให้แดนไปกับพี่นนท์ก็ไม่รู้” ยีนบ่น

“นู่น ลูกค้าเข้าร้าน ไปดูแลเลย” โชคดีครับที่พยาบาลสาวสามคนเดินเข้ามาในร้านพอดี (ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังครับ) ผมเลยไล่ยีนให้ไปหาลูกค้า ไม่อยากต้องมายืนอธิบายว่าทำไมผมถึงยอมให้แดนไปกับนนท์

.

.

.

.

“น้ำครับ”

แก้วทรงสูงข้างในบรรจุน้ำฝรั่งสีเขียวอ่อนน่าดื่มสองแก้วถูกวางบนโต๊ะด้วยมือผมเอง พร้อมด้วยจานขนมปังสังขยาสามชิ้น น้ำเปล่าอีกสองแก้ว โดยที่ลูกค้าทั้งสองคนของร้านไม่ได้เอ่ยปากสั่งแม้แต่น้อย นั่นเพราะผมเป็นเจ้าของร้านที่ดีมากๆ คนหนึ่ง เห็นใจลูกค้าของร้าน กลัวจะคอแห้งเสียก่อน ก่อนที่ร้านจะปิด ยากันยุ่งนั่นอีกที่ผมเดินออกมาจุดให้ เพราะกลัวลูกค้าสองคนจะโดนยุ่งกัด

ผมช่างเป็นเจ้าของร้านที่ดีจริงๆ ให้ตายเถอะ

นั่งคุยกันตั้งแต่บ่ายสองยันทุ่ม

ห้าชั่วโมง! ยังคุยกันไม่จบ สาบานได้ว่าผมไม่ได้โมโหเพราะลูกค้าสองคนสั่งแค่กาแฟกับน้ำส้มอย่างละแก้ว แต่มันเป็นเพราะห้าชั่วโมงที่นั่งปลอบกันให้ผมเห็น ทั้งที่ไม่อยากเห็น


“ขอบคุณครับ” ยังดีครับที่คุณหมอละความสนใจจากคนในที่ร้องไห้ซบอยู่กับอกขึ้นมาขอบคุณเจ้าของร้านใจดีอย่างผม

“อีกชั่วโมงหนึ่งร้านจะปิดนะครับ” ผมบอก ไม่ได้ตั้งใจจะไล่ แค่บอกให้รู้ว่าผมคงไม่เปิดร้านจนถึงเที่ยงคืนเพื่อลูกค้าแค่สองคน
 แถมเป็นสองคนที่สั่งแค่กาแฟร้อนแก้วหนึ่งแก้ว น้ำส้มหนึ่งแก้วอย่างแน่นอน

“ครับ” แล้วผมจะยืนรออะไรล่ะครับ ในเมื่อลูกค้าไม่ได้สนใจเจ้าของร้านอย่างผมเลย เงยหน้าขึ้นมาแค่บอกขอบคุณแล้วก็กลับไปปลอบผู้หญิงที่ผมไม่รู้จักชื่อ เพิ่งเคยเห็นหน้าครั้งแรก

หงุดหงิดครับ ไม่มากแต่มันก็หงุดหงิด

พอผลักประตูร้านเข้ามาก็เจอคำถามอยากรู้อยากเห็นของยีนทันที

“เค้าเป็นใครคะพี่ฟ้า” พอหมดห่วงเรื่องแดนเพราะรายนั่นโทรมาบอกว่าปลอดภัยและกลับถึงบ้านแล้ว ยีนถึงกลับมาทำตัวเป็นสาวน้อยขี้สงสัยทันที

“พี่จะรู้ไหมล่ะ” ผมตอบไป ไม่สบอารมณ์กับคำถามของยีน

“หูยย...ตอบซะ ยีนแค่ถามนะคะพี่ฟ้า ไม่ใช่พี่สาวคนสวยคนนั้นซะหน่อย” ยีนว่าเบาๆ ถ้าผมอารมณ์ไม่ดี ยีนก็ไม่กล้าแหย่และไม่กล้าเข้ามาวุ่นวายกับผมมากนัก พอดีมีลูกค้าเดินเข้ามาดูเค้กที่ตู้ข้างเคาน์เตอร์ ยีนเลยเดินเข้าไปทักทาย ทิ้งให้ผมอยู่กับอารมณ์ขุ่นมัวของตนเองคนเดียว

“ตาม ดาว” ผมเรียกเด็กสองคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้มาหา เด็กสองคนนี้ ผมรับเข้ามาทำงานเพราะสงสารครับ ดาวกับตามสองคนเป็นเพื่อนกันครับ เพิ่งเรียนจบมอสาม  ดาวนั้น ผมรับเข้ามาทำงานประจำเพราะไม่เรียนต่อแล้ว เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน ครอบครัวไม่มีเงินส่งเสียให้เรียนต่อมอปลาย ส่วนตามครอบครัวพอจะมีเงินส่งให้เรียนอยู่บ้าง แต่ก็ต้องหางานพิเศษทำเพื่อแบ่งเบาภาระ ผมเลยรับตามเป็นแบบพาสทาม ทำงานวันหยุดกับหลังเลิกเรียน

“กลับบ้านกันได้แล้ว”

“ลูกค้ายังเต็มร้านอยู่เลยครับ” ตามว่า ดาวพยักหน้าเห็นด้วย ใช่ครับ ลูกค้าร้านเชิญครับยังนั่งกันอยู่เต็มร้าน แล้วยังมีที่เดินเข้ามาเพื่อซื้อเค้ก ซื้อขนมกลับบ้านอีกหลายราย

“ไม่เป็นไร พี่กับพี่ยีนสองคนดูแลได้” ผมบอก ห่วงเด็กๆ ครับ ดาวกับแดนยังเป็นเด็ก ยิ่งดาวที่เป็นเด็กผู้หญิงกลับบ้านดึกก็กลัวจะอันตราย ผมถึงให้เด็กสองคนนี้ทำงานถึงแค่ทุ่ม ดีที่บ้านของตามกับดาวอยู่ใกล้กันและไม่ไกลจากที่ร้านมาก แค่สามป้ายรถเมล์ก็ถึง

ผมเดินกลับมามาช่วยยีนขายของ ลูกค้าหลายคนเดินเลือกขนมกับเค้กอยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์ ตู้เค้กที่เต็มไปด้วยเค้กในตอนสายๆ ตอนนี้เหลือแค่ไม่กี่ชิ้น คุกกี้หลายรสก็พร่องไปเยอะ แม้จะยืนห่อเค้กใส่กล่องให้ลูกค้า คิดเงินค่าคุ๊กกี้ หรือชงกาแฟรสกลมกล่อมตามที่ลูกค้าสั่ง ไม่ว่าจะทำอะไร ทำไมสายตาของผมมันถึงเผลอมองไปที่ลูกค้าสองคนด้านนอกบ่อยครั้ง มีบ้างที่จ๊ะเอ๋กับคุณหมอที่มองมาทางผมเหมือนกัน แต่บ้างครั้งผมก็ต้องยืนมองคุณหมอกอดกับสาวสวยน่ารักคนนั้น กอดบ่อยเกินไปแล้วนะคุณหมอ รู้สึกอะไรมันขวางหูขวางตาไปหมด แม้แต่ไอ้อาการเอาอกเอาใจของคุณหมอที่จิ้มขนมปังสังขยาให้สาวสวยคนนั้น ผมเห็นชัดครับ เพราะโต๊ะที่คุณหมอนั่งน่ะ ไม่ได้อยู่ไกลจากระยะสายตาของผมจะมองเห็น

“วันนี้รับอะไรดีครับหมอพฤกษ์” ผมยิ้มให้ลูกค้าประจำของร้านที่ผมคุ้นเคย คุณหมอทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลที่อยู่ฝั่งตรงข้าม (ถนนใหญ่)

“เอา Strawberry Tart 2 ชิ้นครับ”

“ครับ” ผมหยิบเอาเค้กสตอเบอร์รี่ที่คุณหมอสั่งใส่กล่อง พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นคุณหมอสัตว์ผลักประตูเล็กๆ เข้ามา ส่วนสาวสวยน่ารักคนนั้นยังนั่งอยู่ที่เดิม (ร้านของผมมีประตูอยู่ทั้ง 3 ฝั่งครับ ด้านข้างซ้ายขวาเป็นประตูเล็กและด้านหน้าเป็นประตูใหญ่)

“120 ครับ”

คุณหมอพฤกษ์จ่ายเงินแล้วเดินออกไป ตรงหน้าผมจึงเหลือแค่คุณหมอสัตว์ อารมณ์ของผมตอนนี้คือไม่อยากเห็นหน้าคุณหมอเลย เห็นแล้วหงุดหงิด 

“เท่าไหร่ครับ” คงหมายถึงค่ากาแฟ น้ำส้ม กับไอ้ที่ผมเพิ่งเดินไปเสิร์ฟเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว

“คิดแต่ค่าลาเต้ร้อนกับน้ำส้มนะครับ 105 บาท ส่วนพวกนั้นอภินันทนาการจากทางร้านครับ สำหรับลูกค้าที่นั่งนานที่สุดของวัน” อารมณ์มันอยากประชดครับ ไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย ตาผมขวาง ส่วนคิ้วของคุณหมอขมวดนิดๆ

“คุณฟ้าครับ มันไม่ใช่อย่างที่คุณฟ้าคิดนะครับ” รู้ได้ไงว่าผมคิดอะไร แล้วไอ้ที่กอดๆ ปลอบๆ กันอยู่ร่วมห้าชั่วโมงนั้น มันแปลว่าอะไร ผมเถียงในใจครับ แต่ไม่พูด

“ยีนมาคิดเงินให้คุณหมอหน่อย  คิดแค่ค่าลาเต้ร้อนกับน้ำส้มคั้นนะ” ผมไม่อยากคุยด้วยครับ เลยเรียกยีนที่ทำท่าเหมือนอยากจะรู้เรื่องนักหนาให้มาทำหน้าที่แทนผม ส่วนผมน่ะเหรอ เดินไปเก็บโต๊ะตัวที่พนักงานออฟฟิศสี่คนเพิ่งลุกออกไปครับ

จากนั้นผมก็วุ่นวายอยู่กับลูกค้าที่หมุนเวียนเข้ามาเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าคุณหมอกับสาวสวยน่ารักคนนั้นออกจากร้านไปตอนไหน อีกแค่ห้านาทีร้านจะปิดแล้วครับ พอๆ กับที่ลูกค้าเริ่มทยอยออกจากร้านไป จนหมด เหลือแค่ที่ยืนรอเค้กจากยีนตรงหน้าเคาน์เตอร์

ลูกค้าคนสุดท้ายเดินออกไปตอนสองทุ่มนิดๆ พร้อมกับที่แดนเดินหน้าบึ้งเข้ามา มีนนท์ที่เดิมตามเข้ามาสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข

ผมเห็นยีนดึงตัวแดนไปด้านหลังเคาน์เตอร์ ไม่รู้ว่าพูดอะไรกัน แต่เดาได้ว่าหนีไม่พ้นเรื่องของคนที่เดินถือถุงอาหารมายื่นให้ผม

“ซื้อมาฝาก”

“อะไร?”

“ข้าวแกงกระหรี่” อาหารโปรดผมครับ ผมยิ้มออกมาได้ อารมณ์กรุ่นๆ ก่อนหน้านั้นหายไปบ้างแล้ว (เพราะของโปรด)ข้าวแกงกระหรี่ในมือยังร้อนๆ อยู่เลยครับ สงสัยว่าจะซื้อจากร้านประจำของผมที่อยู่ไม่ไกลกันมาก ผมเห็นอีกถุงในมือของนนท์ นนท์มองตามสายตาผมแล้วยิ้มมุมปาก ดูเจ้าเล่ห์มากครับ ก่อนจะเดินไปหายีนที่ยืนทำหน้ายุ่งอยู่กับแดน

“พี่ซื้อมาฝาก ข้าวหน้าปลาไหล ของโปรดยีนใช่ไหม?” ยีนนิสัยคล้ายผมอยู่อย่างครับ ใครเอาของโปรดมาล่อนี่ หลงติดกับได้ง่ายๆ ดูเอาเถอะ เปลี่ยนจากหน้าบึ้งที่พร้อมจะกินหัวนนท์ได้ทุกเวลา มาเป็นยิ้มแฉ่งแล้ว คว้าถุงในมือนนท์ไปอย่างไว โดนแดนประชดให้นิดหน่อย

“เห็นแก่กิน”

“ก็คนมันหิว  โห...ซื้อมาให้ยีนตั้งสองกล่องแน่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะพี่นนท์” ยีนยิ้มปากจะฉีกอยู่แล้วครับ

“พี่กะจะซื้อมาสามกล่อง แต่คนนี้ห้าม บอกว่าเปลื้อง” นนท์โบ้ยหน้าไปหาแดน ผมขำที่เห็นยีนทำท่าเหมือนจะฆ่าแดนทันทีทันใด

“แหมๆ เงินคุณแดนก็ไม่ใช่นะคะ” ยีนว่า แดนไม่ตอบโต้อะไร นอกจากเดินลงส้นเข้าไปในห้องครัว แล้วยีนก็เดินตามเข้าไปครับ เสียงโวยวายจับใจความไม่ได้ก็ดังออกมาให้ได้ยินเป็นระยะ เป็นเรื่องปกติของสองคนนี้ครับที่อยู่ด้วยกันต้องหาเรื่องมาทะเลาะกันตลอด

“คุยกันรู้เรื่องแล้วเหรอ?” ผมถาม เพราะเห็นนนท์อารมณ์ดี

“ยัง  แต่ก็โอเคขึ้น” นนท์บอก หน้าตามีความสุข มองเข้าไปในห้องครัวเป็นระยะ

“เหรอ...” ผมรับรู้อย่างคนที่เริ่มปลง ทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามนนท์ เปิดฝากล่องข้าวแกงกระหรี่ที่นนท์ซื้อมาฝาก ตักเข้าปากสองสามคำ แล้วอารมณ์อยากกินของผมก็หมดไปอย่างมีสาเหตุ เมื่อสายตาผมมองไปเห็นโต๊ะด้านนอก ตัวที่คุณหมอกับสาวสวยน่ารักคนนั้นนั่งคุยกันถึงห้าชั่วโมงกว่าๆ

“ไม่อร่อยรึไง” นนท์ถาม แย่งช้อนพลาสติกจากมือผม ตักข้าวแกงกระหรี่เข้าปากตัวเอง (นนท์ก็ชอบข้าวแกงกระหรี่ครับ)

“ก็อร่อยเหมือนเดิมนี่”

“ไม่ค่อยหิว นนท์กินเถอะ” ผมเลื่อนข้าวแกงกระหรี่ให้นนท์ไป

ผมอยากกลับคอนโด ไม่อยากทำอะไรแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะทำเค้ก ทำขนม ทำคุกกี้ ไหนๆ แดนก็กลับมาแล้ว ขออู้งานสักวัน ไม่น่าจะมีใครว่าอะไรผม ผมเดินเข้าไปในครัว เห็นแดนยืนนวดแป้งทำขนมอยู่ ส่วนยีนกำลังมีความสุขกับการกินข้าวหน้าปลาไหลกล่องที่สอง

“ยีนกับแดน วันนี้พี่ขอตัวกลับก่อนนะ แล้วสิ้นเดือนจะเพิ่มค่าเหนื่อยให้” ผมไม่ใช่เจ้านายที่อยากเอาเปรียบลูกน้องครับ ใช้งานเค้าตั้งแต่เช้ายังดึกต้องให้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่าเหนื่อยหน่อย

“จะไปกับพี่นนท์หรือคะ” ยีนถาม ขณะที่แดนชะงักมือที่นวดแป้งไปนิด

“เปล่า พี่ปวดหัวนิดหน่อยเลยอยากกลับไปพัก อยู่กันได้นะ” ใจจริงก็ไม่อยากทิ้งให้ทำงานกันแค่สองคน แต่วันนี้มันไม่ไหวจริงๆ เรื่องปวดหัวมันแค่เรื่องโกหก แต่อารมณ์ที่มันหดหายนี่แหละคือเรื่องจริง

“โห...อยู่ได้สิคะพี่ฟ้า ทำไมจะอยู่ไม่ได้ สองวันก่อนยังอยู่ได้เลย”

“งั้นพี่ไปนะ” ว่าแล้วผมก็เดินออกมาครับ เจอนนท์ที่กินข้าวแกงกระหรี่หมดพอดี

“จะกลับแล้วเหรอ?” นนท์ถาม เมื่อเห็นผมเดินถือกระเป๋าออกมาจากหลังเคาน์เตอร์

“อืม ไม่สบายนิดหน่อย”

“ตัวก็ไม่ร้อนนี่” นนท์ลุกขึ้นยืน เดิมมาเอามือมาแตะหน้าผากผม

“แค่ปวดหัวน่ะ”

“มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น?” นนท์ถามอย่างคนที่รู้จักผมดี ตาสีอ่อนตาจ้องตาผมคล้ายกับจะให้คลายความจริงออกมา

“ไม่มี”

“มันต้องมีสิ ไม่มีฟ้าจะเป็นแบบนี้เหรอ ข้าวก็ไม่ยอมกิน” ผมคงผิดปกติไปจริงๆ นนท์เองก็ดูออก

“นิดหน่อย”

“เรื่องคุณหมอ?”

“ฝากช่วยยีนกับแดนปิดร้านด้วยนะ ไปล่ะ” ผมไม่ตอบครับ เปลี่ยนเรื่องไปเลย แล้วก็ไม่รอให้นนท์ซักไซ้อะไรอีก ผมรีบก้าวเท้าออกจากร้านมาอย่างเร็ว

ผมบอกแล้วก็เดินออกจากร้าน ลมเย็นๆ ตอนสองทุ่มเกือบสามทุ่ม ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีได้เลย ซอยที่ผมเดินแทบจะทุกคืน (ไม่ได้เดินกลับทุกครั้งครับ บางครั้งผมก็ขับรถมาทำงาน บางครั้งนนท์ก็ขับรถมาส่ง) สว่างด้วยไฟข้างทาง แสงไฟจากร้านค้าริมทาง และไฟจากรถที่วิ่งสวนกันไปมา

ไม่ถึงสิบห้านาทีด้วยซ้ำผมก็มาถึงห้อง

Rrrrrrr....

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทันทีที่ผมใส่ชุดนอนเสร็จ มันไม่ใช่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ผม ผมเดินตามเสียงที่ดังขึ้น มันวางอยู่บนโต๊ะหนังสือของผม โทรศัพท์ของคุณหมอ ผมหยิบมันขึ้นมา หน้าจอปรากฏว่าเป็นเบอร์ส่วนตัว คนโทรน่าจะใช้ตู้สาธารณะโทรมา และน่าจะเป็นเจ้าของโทรศัพท์ด้วยเช่นกัน

“ถ้าอยากได้โทรศัพท์คือ พรุ่งนี้ผมเอาไปคืนให้ที่คลินิก” ผมพูดเสียงห้วน เพราะรู้ว่าคนปลายสายเป็นใคร

“คุณฟ้าครับ คือผม....” คุณหมอเงียบไป ผมได้ยินเสียงถอนหายใจไปหลายที

“จะคืออะไรอีกครับ ถ้าไม่พูดก็วางไป ผมจะไปนอน ไม่มีเวลามายืนฟังคนถอนหายใจเล่นหรอกนะครับ” ผมว่า หงุดหงิดครับ หงุดหงิดมาตั้งแต่บ่ายแล้ว

“ผมอยู่หน้าคอนโดคุณฟ้า ลงมารับผมหน่อยได้ไหมครับ”

“ทำไมผมต้องลงไปรับ” ไม่สบอารมณ์อย่างแรงครับ โทรมาเพื่อจะให้ผมลงไปรับ เห็นคอนโดผมเป็นโรงแรมรึไง

“คุณฟ้าโกรธผมอยู่ใช่ไหมครับ” แทนที่จะตอบคำถามผม คุณหมอกลับถามจี้ใจผมจังๆ ที่ผมเป็นอยู่เนี้ย มันเรียกว่าโกรธได้ได้รึเปล่าล่ะ

“ไม่รู้”

“โกรธผมแน่ๆ”

“มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องโกรธคุณหมอ คุณหมอไม่ได้ทำอะไรให้ผมต้องโกรธนี่ครับ” ใช่แล้ว คุณหมอไม่ได้ทำอะไรให้ผมโกรธเลยสักนิด แค่ผมโกรธของผมเองต่างหาก

“ผมอธิบายได้นะครับ” ใครเค้าอยากฟังกันล่ะ

“ผมไม่อยากฟัง ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอวางสายนะครับ พรุ่งนี้จะรีบเอาโทรศัพท์ไปคืนให้”

“อย่าเพิ่งครับ...ตรงนี้ยุ่งเย๊อะเยอะครับ กัดผมจนจะตัวลายอยู่แล้ว”

“แล้วจะอยู่ให้ยุ่งกัดทำไม กลับไปสิครับ” ผมว่า แต่อดเป็นห่วงไม่ได้ ช่วงนี้ยุ่งเยอะ ตู้โทรศัพท์หน้าคอนโดของผม มันก็อยู่ในมุมมืดด้วย

“งั้นผมรออยู่ที่ประตูนะครับ.....ตุ๊ดๆๆๆ”

ผมยังไม่ทันอ้าปากคัดค้านอะไรเลย คุณหมอก็ชิงวางสายไปก่อน เป็นการบังคับให้ผมต้องคว้ากุญแจเดินออกจากห้องลงมารับคุณหมอสัตว์ที่ยืนทำหน้าจ๋อยอยู่ตรงประตูคอนโด มือข้างหนึ่งถือตะกร้าผ้า อีกข้างถือเสื้อผ้าที่รีดและแขวนมาอย่างเรียบร้อยจากร้านซักรีด มีลุงยามยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

.

.

.

.

.

หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก {28/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 28-12-2011 21:03:40
“อาบน้ำเสร็จก็ช่วยดับไฟให้ด้วยนะครับ ผมจะนอน” ผมบอก เมื่อคุณหมอเตรียมตัวจะเข้าห้องน้ำ มันเป็นประโยคแรกที่ผมเปิดปากพูดกับคุณหมอ ส่วนคุณหมอเองคงอยากจะอธิบายอะไรๆ อย่างที่เคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่ด้วยหน้าตาที่ไม่รับแขกของผม เลยทำให้ไม่กล้าเข้ามาคุยอะไรกับผม ได้แต่ตัวลีบๆ เอาเสื้อผ้าที่ซักรีดเรียบร้อยแล้วใส่ตู้ บางส่วนที่ไม่ได้แขวนก็พับเก็บไว้ให้เข้าที่

ปกติผมจะชอบอ่านหนังสือ (วรรณกรรมเด็ก) ก่อนนอน แต่คืนนี้ ยอมรับว่าไม่มีอารมณ์จริงๆ เวลาก็แค่สี่ทุ่มนิดๆ เอง ไม่ใช่เวลาที่ผมจะปิดเปลือกตาให้สนิทได้ง่ายๆ

ผมพยายามสะกดตัวเองให้หลับ แต่มันก็ยากเกินไป พยายามอยู่นานก็ไม่ได้ผล เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกมาเบาๆ รู้ว่าคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จพยายามจะให้เสียงมันรบกวนผมให้น้อยที่สุด ในห้องเงียบมาก ได้ยินเสียงลมหายใจของตนเองชัดเจน พอๆ กับที่ได้ยินทุกเสียงที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของคนร่วมห้อง แล้วพื้นที่ว่างข้างตัวผมก็ยุบลงด้วยน้ำหนักของคนร่วมเตียง

แปลกมากที่ท่อนแขนแข็งแรงของคุณหมอไม่พาดเข้ามาที่เอวของผม แล้วลากตัวผมเข้าไปกอด ผมนอนนิ่งอยู่นานมาก รำคาญตัวเองที่อยากรู้ว่าทำไมคุณหมอไม่หาเศษหาเลยกับเนื้อตัวผมเหมือนที่ชอบทำ ผมทนไม่ไหวเลยหันกลับไปมอง คุณหมอนอนตะแคงมาทางผมอยู่ก่อนแล้ว ผมอึ้งไปสักพัก สบสายตากับคุณหมอในความสลัวของห้องที่พอจะเห็นดวงตาคมเข้มนั้นได้พอสมควร

เราสองคน...

ต่างคนต่างไม่พูดอะไร

ราวกับเล่นเกมจ้องตากัน

สุดท้ายแล้ว...

ก็เป็นผมเองครับที่ขยับเข้าหาคุณหมอ สอดแขนเข้าไปที่เอวหนา กอดเอาไว้ ซบหน้าลงกับอกกว้าง อกของคุณหมออุ่นดีครับ แล้วคุณหมอก็กลับมาเป็นฝ่ายกอดผมแทบจะทันที ผมไม่เข้าใจตัวเองครับ ว่าทำไมต้องทำอะไรแบบนี้ด้วย

“อึดอัดหรือครับ” คุณหมอถามเมื่อผมดิ้นเพื่อจะออกจากอ้อมแขน อ้อมกอดของคุณหมอทำให้ผมรู้สึกดีครับ แต่ไอ้อะไรที่ทิ่มผมอยู่ด้านล่าง มันชวนให้ต้องถอยห่างออกมา

“ก็ของคุณหมอจะมาแข็งอะไรตอนนี้ครับ” ปากผมพูดตามใจคิด อายนะ ไม่ใช่ไม่อาย ได้ยินเสียงคุณหมอหัวเราะในลำคอ ปากหนาเลื่อนลงมาใกล้หน้าผม กระซิบบอกถ้อยคำแผ่วเบาว่า

“ก็เพราะคุณฟ้าทำให้มันแข็ง”

“......”

ผมอยากตะโกนให้ลั่นห้อง ดูปากคุณหมอ พูดอย่างไม่คิดจะอายอะไรเลย แล้วทำไมผมต้องรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งหน้าด้วย ยิ่งคิดจะขยับตัวถอยหนี มือใหญ่ก็ยิ่งยึดให้ผมดิ้นไม่หลุด ยิ่งสัมผัสเข้ากับความแข็งขื่นเบื้องล่างชิดกับหน้าท้องของผม

อะไรๆ ของผม มันก็ช่างรู้หน้าที่เหลือเกิ๊น

“ของคุณฟ้าก็.....”

“หยุดพูดนะคุณหมอ” ผมตะโกนห้ามเสียงดัง ก่อนที่คุณหมอจะพูดออกมาจนจบประโยค

“ครับ ไม่พูดครับ” น้ำเสียงมีความสุขจริงๆ นะคุณหมอ ต่างกับเมื่อตอนคุยโทรศัพท์ลิบลับ จะโทษใครได้นอกจากโทษตัวเอง ทำตัวบ้าบอเข้าไปกอดคุณหมอเอง คุณหมอถึงได้ใจอยู่อย่างนี้

“คุณฟ้า” อะไรในน้ำเสียงของคุณหมอที่เรียกชื่อผม ทำเอาสติผมกระเจิง  รู้ครับว่าจะเกิดอะไรตามมา ร่างหนาที่พลิกตัวผมให้ตกอยู่ด้านล่าง โดยมีร่างหนาแนบทับลงมา ปากของคนพูดน้อย (กว่าผม) ค่อยๆ กดแนบลงมา ก่อนจะเลาะริมชิมกลีบปากด้านนอก แล้วแทรกลิ้นเข้ามาภายใน กวาดต้อนพร้อมกระตุ้นให้ตอบรับ...

แล้วผมก็หลงกลไปกับรสจูบนั้น กว่าจะรู้ตัวก็เมื่อเนื้อหนังมันโดนความเย็นของเครื่องปรับอากาศแตะต้อง ไม่รู้ตัวเลยว่าโดนจับถอดจนเปลือยไปตอนไหน

“คุณหมอ เดี๋ยวก่อนครับ” ผมใช้มือยันใบหน้าที่ระรานอยู่บนร่างกายของผม ร่างหน้าแทรกตัวอยู่ตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้างของผม

“อะไรครับ” คุณหมอเงยหน้าขึ้นมา เหมือนจะไม่สบอารมณ์นิดๆ ที่ผมไปขัดจังหวะกอบโกยของเขา

“ก็คุณหมอกำลังทำอะไรอยู่ล่ะครับ” ผมย้อนถามเสียงแข็ง ขืนตัวออกแต่ไม่สำเร็จอีกตามเคย คุณหมอเนี่ยแข็งแรงจริงๆ

“ทำรัก...โอยย ทำร้ายผมอีกแล้ว” คุณหมอร้องเพราะโดนผมหยิกเข้าที่ต้นคอ ผมไม่ได้หยิกแรงเท่าไหร่เลย แต่คุณหมอโอเวอร์แอคติ้งกลิ้งไปนอนแผ่หลาในสภาพชีเปลือย

“คุณฟ้าไม่อยากเหรอครับ” แล้วคุณหมอก็เท้าแขนตะแคงตัวลุกขึ้นมาถาม ไม่วายที่จะแกล้งผมด้วยการมองต่ำลงไป ผมต้องรีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุม ซ่อนมันจากสายตาผู้ไม่ประสงค์ดี แล้วเผื่อแผ่ไปคลุมร่างหนานั้นด้วย กลัวเป็นกุ้งยิงครับ

“ไม่อยากครับ” คำตอบชัดเจน คุณหมอไม่ว่าอะไร ทำแค่ลุกขึ้นนั่ง แล้วก้มเก็บเสื้อผ้าของผมกับของตัวเองขึ้นมา ยื่นตัวที่เป็นของผมให้กับผม ผมรับมาถือไว้ในมือเฉยๆ ไม่ได้ลุกขึ้นใส่เหมือนที่คุณหมอกำลังยืนใส่เสื้อผ้าของตัวเอง

ชุดนอนของคุณหมอ แค่บ็อกเซอร์กับเสื้อกล้าม

“ไม่ใส่เหรอครับ” คุณหมอถาม พลางเอนตัวลงนอนข้างๆ ผมมองดูเสื้อผ้าในมือ ช่างใจอยู่นานก่อนจะวางมันไว้บนพื้นข้างเตียง พลิกตัวเข้าไปกอดคุณหมอที่หันมากอดผมตอบ

“ผู้หญิงเมื่อตอนบ่ายนั่นใครครับ” สุดท้ายผมก็ถามในสิ่งที่ผมอยากรู้ หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม ดูสวย ดูน่ารัก แบบที่ผู้ชายหลายคนเห็นแล้วต้องหันมามอง

“น้องหวาน ว่าที่เจ้าสาวของอิง”

“หา...ว่าที่เจ้าสาวของคุณอิง” ผมลุกขึ้นนั่ง เอื้อมเปิดไฟหัวเตียงให้สว่างพอที่จะได้คุยกับคุณหมอแบบเห็นหน้ากันชัดขึ้น คุณหมอขยับตัวลุกขึ้นนั่งตามผม

“ครับ ว่าที่เจ้าสาวของอิง”

“คุณอิงมีว่าที่เจ้าสาว แปลว่ากำลังจะแต่งงาน เรื่องของคุณหนึ่งล่ะครับ คุณหมอบอกว่าคุณอิงรักคุณหนึ่ง แล้วทำไมถึงจะไปแต่งงานกับคนอื่นได้”

“แต่อิงก็ขอยกเลิกงานแต่งงานกับน้องหวานไปแล้ว”

มิน่าล่ะ คุณหวานถึงร้องไห้หนักขนาดนั้น คุณหมอต้องปลอบถึงห้าชั่วโมงกว่าๆ

“น่าสงสารจัง” ผมรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ ที่เมื่อตอนกลางวันนึกไม่ชอบหน้าคุณหวาน เพราะเห็นว่าเอาแต่ร้องห่มร้องไห้ให้คุณหมอต้องเสียเวลาปลอบ ความรู้สึกนั้นถูกลบทิ้งทันที

“ครับน่าสงสาร ผมก็ไม่รู้จะช่วยน้องหวานยังไง ที่สำคัญอิงมันตัดสินใจไปแล้ว” คุณหมอว่า

“นั่นสินะครับ ถึงมากก่อน แต่ถ้าเค้าไม่เลือกเรา เราก็คงทำได้แค่เสียใจ” เรื่องมันเศร้าคล้ายเรื่องของผมจริงๆ ผมกับคุณหวาน
เราสองคนตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน คือคนที่ถูกทิ้ง

คุณหมอดึงตัวผมเข้ามากอด โยกตัวผมไปมา

“ไม่ร้องนะครับ”

“ไม่ได้ร้องสักหน่อย เห็นไหมครับ น้ำตาไม่มี” ผมเงยหน้าที่ไม่มีน้ำตาสักหยดให้คุณหมอดู ผมแข็งแรงขึ้นแล้วมั้งครับ ผมถึงไม่มีน้ำตา ข้างในมันก็ไม่ร่ำร้องจนต้องระบายออกมาเป็นน้ำตา ความเศร้าและโหยหาของผมที่มีต่อนนท์ เปลี่ยนเป็นความรู้สึกโหวงเหวงในอก มันเหมือนผมกำลังจะเสียของสำคัญไป ไม่สิ ผมเสียมันไปแล้วต่างหาก ต่อไปเรื่องระหว่างผมกับนนท์ คงเป็นแค่ความทรงจำ คงไม่มีคำว่า ‘เรา’ ระหว่างผมกับนนท์อีกต่อไป

ใจมันหายเมื่อคิดว่าต่อไปผมจะไม่มีนนท์...

“แล้วคุณหวานจะทำยังไงต่อไปครับ” ผมกลับมาเรื่องของคุณหวานต่อ มันอยากรู้ คิดว่าเธอจะจัดการยังไงกับงานแต่งที่แจกการ์ดเชิญไปแล้ว

“น้องหวานรักอิง เค้าไม่อยากจะเสียอิงไป เค้าจะรอจนถึงวินาทีสุดท้าย จนกว่าจะแน่ใจว่าอิงไม่ได้รักเค้าแล้ว”

“ยังไงครับ” ผมไม่เข้าใจ

“น้องหวานไม่ยอมยกเลิกงานแต่งครับ ยืนยันที่จะให้มีงานแต่งต่อไป”

“ทั้งที่รู้ว่าคุณอิงรักคนอื่น แถมยังเป็นผู้ชายอีก เอ่อ...มันจะดีเหรอครับที่ยังตัดสินใจจะแต่งอยู่”

“น้องหวานยอมให้อิงมีหนึ่งได้ครับ ขอแค่อย่าทิ้งเค้าไป”

“แล้วมันจะดีเหรอครับ”

“ไม่ดีหรอกครับ ถึงน้องหวานจะพูดแบบนั้น แต่อิงคงไม่เลือกที่จะทำ”

“ผมควรจะดีใจกับคุณหนึ่งหรือสงสารคุณหวานดีครับ” ผมทิ้งตัวลงนอน ตามองเพดานห้อง เรื่องระหว่างคุณอิง คุณหนึ่ง และคุณหวาน
 ดูหนักหนากว่าผมเยอะเลย

“ผมว่าคุณฟ้าหันมาสงสารผมดีกว่าครับ เมื่อไหร่จะเห็นใจผมสักที” คุณหมอถามเสียงอ้อน ทิ้งตัวลงนอนข้างผม ก่อนดึงตัวผมเข้าไปกอดแบบเดิมๆ

“ถึงผมจะทำใจได้เรื่องนนท์ แต่ผมก็ไม่คิดจะหาใครมาแทนที่นนท์ในตอนนี้ครับ” หน้าคุณหมอเศร้าลงทันทีที่ผมพูดจบ
ผมไม่อยากเห็นหน้าเศร้าๆ นั้น มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนใจดำที่ทำคนอื่นเสียใจ ผมพลิกตัวหนีสายตาตัดพ้อ แสร้งว่าหันไปปิดโคมไฟที่โต๊ะหัวเตียง แต่คุณหมอก็ยังตามมาสวมกอดจากด้านหลัง วางคางสากแนบกับแก้มของผม พูดเบาๆ ว่า

“ผมจะรอวันที่คุณฟ้ารับรักของผมนะครับ”

คำบอกที่จบลงด้วยสัมผัสบนผิวแก้มของผม มือที่พลิกให้ผมหันกลับไปรับรสจูบดูดดื่ม มือใหญ่ที่เคลื่อนผ่านไปทั่วร่างกายของผม กระตุ้นให้ผมตอบรับและให้ความร่วมมือ สานต่อจากเมื่อชั่วโมงที่แล้ว และคืนนี้ผมก็ไม่พ้นที่จะเสียตัวให้คุณหมออีกคืนหนึ่ง

เฮ้อ....นี่ขนาดว่า ผมยังไม่รับรักคุณหมอนะครับ

เฮ้อออ...ถ้ารับรักแล้ว นึกสภาพตัวเองไม่ออกครับว่าจะเป็นยังไง




คนเขียนอยากคุย

::: ตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะเกิด 20 ตอน น่าจะจบเรื่องนี้ได้ แต่ตอนนี้ปาไป 17 ตอนแล้ว เรื่องยังเรื่อยๆ มาเรียงๆ ไม่ถึงจุดจบแบบแฮปปี้ซะที คาดว่าอีกหลายตอนอาจถึง 30 นะคะ ถึงจะจบเรื่องนี้ได้  อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ^___^ :กอด1:

Aeaw คร้า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก {28/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 28-12-2011 21:29:36
 :impress2:ไม่เบือคะและก้อไม่มีวันเบืออยากอ่านไปนานๆ :o8:ชอบคุณหมอกับคุณฟ้าน่ารักดีอยากให้มีไปเรือยๆ :L1:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก {28/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 28-12-2011 22:30:00
คุณฟ้าหงุดหงิดๆ อิอิ
ปล.ยังไม่เบื่อจร้า จัดมาได้เลย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก {28/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 28-12-2011 22:47:32
คุณหมอหื่นดีอ่ะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก {28/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: atommic ที่ 28-12-2011 22:50:37
คุณหมอน่ารักจัง^^
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก {28/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 28-12-2011 23:33:00
เย้ๆ คุณฟ้าหึงเป็นแล้วววววว ดีใจกับคุณหมอสัตว์ด้วยค่า
บวกๆ ให้ค่า ไม่เบื่อเลยค่า ดีใจมากๆ ที่มาต่อให้อ่านเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก {28/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 29-12-2011 14:19:07
เย้ฟ้าหึงคุณหมอ :z2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก {28/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 29-12-2011 16:04:15
อย่างนี้หวานก็น่าสงสารสิ อิงแย่มากๆเลย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก {28/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 29-12-2011 16:59:58

เนี่ยะๆ คุณฟ้าหึงแบบไม่รู้ตัว 55
มีหวังแล้วนะคุณหมอ
เนียนแบบซิมลึกจริงๆ เหมือนชื่อตอน
รออ่านตอนต่อไปนะคะ

+1 ให้จ้าา
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก {28/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 29-12-2011 22:49:19
ตั้งแต่อยู่กับคุณหมอ คุณฟ้าดูท่าจะแสดงอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่กับนนท์นะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก {28/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Karn12 ที่ 29-12-2011 23:57:39
ชอบทุกตอนเลยครับ  สนุกดี 
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก {28/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 30-12-2011 00:32:30
อ่านได้ไม่เบื่อ แต่ถ้าดราม่าก็จะเซ็งไม่อยากอ่าน
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก {28/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 01-01-2012 22:57:09
(http://www.mediafire.com/imgbnc.php/8a8d2a74fdc06378a33c778c56e9b417cf4fcfac817372af2df8bccbed0a87365g.jpg)


สุขสันต์วันปีใหม่ ปี 2555 นะคะ
ขอให้นักอ่านทุกคนมีความสุขตลอดปี 2555
ร่ำรวยความรัก ร่ำรวยความสุข ร่ำรวยเงินทองกันถ้วนหน้านะคะ อิอิ

^_____^

ปล. ส่วนตอนที่ 18 รอคนโพสกันนะคะ หุหุ
ปล. ขอบคุณที่ติดตามอ่านเรื่องนี้นะคะ (ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง ที่ค้างเอาไว้ จะรีบปั่นต่อนะคะ)
ปล.อีกนิด แอบอยากมีเพจนิยายเป็นของตัวเอง เลยไปทำมา อิอิ ฝากด้วยนะคะ
นิยาย by aeaw สีเหลืองอ่อน (http://www.facebook.com/byaeaw)

......

โฮกกกกก กว่าจะโพสรูปติดได้ อิอิ
ฝีมือการทำรูปที่เลิศที่สุดของเราาา Y^Y
ทำการ์ดปีใหม่ได้แค่นี้จริงๆๆ ทำมาครึ่งชั่วโมงเลยนะคะเนี้ยยยยย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 17 ค่อยๆ แทรกซึมลึก {28/12/54} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 02-01-2012 11:44:21
คิดว่าถ้าคุณฟ้ารับรักคุณหมอแล้ว
คงได้ตายคาเตียงแน่ๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 18 ความหวั่นไหว {3/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 03-01-2012 14:58:21
สวัสดีปีใหม่คนอ่านที่น่ารักทุกๆคนนะค่ะ   คนโพสแอบหนีไปเก็บสายลมหนาวและไอหมอกอยู่นาน

ปีใหม่นี้ 2'555'ขอให้คนอ่านทุกคนรวยๆสวยๆ หล่อๆ เฮงๆๆๆนะเจ้าค่ะ
 :กอด1:


ตอนที่ 18 ความหวั่นไหว

ผมลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า โดยไม่ถูกถีบตกเตียง กายหอมๆ ที่กอดมาตลอดคืนยังแนบอยู่กับอก ใบหน้าน่ารักยังชวนมองเหมือนเคย ตาสวยถูกปิดซ่อนอยู่หลังเปลือกตาบาง ผมกดจูบแสนเบาที่หน้าผากเกลี้ยง แก้มใสที่อยู่ใกล้ และกลีบปากบางสีอ่อน ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ก้มหยิบหมอนข้างที่ตกอยู่ข้างเตียงขึ้นมา (ผมโยนมันลงไปเองเมื่อคืน) เอามาให้คุณฟ้ากอดแทนตัว แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ ตอนนี้หกโมงเกือบเจ็ดโมงแล้ว

ระหว่างที่ผมอาบน้ำ ผมคิดไปถึงเรื่องเมื่อวาน ไม่รู้ว่าผมคิดเข้าข้างตัวเองมากไปหรือเปล่า คุณฟ้าดูจะหึงผมกับน้องหวาน ตลอดช่วงบ่ายจนถึงค่ำที่ผมนั่งคุยกับน้องหวาน (เรียกว่าปลอบมากกว่า) บ่อยๆ ที่ผมหันไปเจอสายตาที่คุณฟ้ามองมา ดูไม่ออกหรอกครับว่าคิดอะไร แต่ถ้าให้ดูท่าทางที่แสดงออกมาให้เห็น ทำเอาผมคิดเข้าข้างตัวเองอยู่มาก...

ว่าคุณฟ้าหึงผมกับน้องหวาน

หึงจนถึงขั้นโกรธ

ยิ่งตอนเดินตามคุณฟ้าเข้าไปในห้อง หลังจากโทรเข้ามือถือตัวเองเพื่อให้คุณฟ้าลงมารับ บรรยากาศตอนนั้นเกินบรรยายออกมาเป็นคำพูด บอกได้ง่ายๆ เลยว่า มันมึนตึง เฉยชา ผมต้องทำตัวเล็กลีบไม่ให้ขวางหูขวางตาคุณฟ้า อยากเข้าไปกอดให้หายโกรธ อยากอธิบายให้เข้าใจว่าทำไมผมถึงกอดน้องหวานครั้งแล้วครั้งเล่า แต่คุณฟ้าก็ไม่ยอมเปิดโอกาสให้ผม  เดินเข้าห้องมาก็ล้มตัวลงนอน ห่มผ้ามิดหัว นานกว่าจะโผล่หน้าออกมาให้เห็น แต่สายตาขุ่นขวางนั้นก็ทำให้ผมรู้ว่า การทำตัวลีบเล็กและเก็บคำพูดของตนเองเอาไว้ เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นผมอาจจะต้องระเห็จออกไปจากคอนโดคุณฟ้าได้ในวินาทีที่ผมอ้าปากพูด

แต่สุดท้ายแล้ว คุณฟ้าก็เป็นฝ่ายเปิดโอกาสให้ผมได้แก้ตัว ทั้งที่ตอนแรกผมถอดใจไปแล้วว่า ยังไงคืนนี้ก็คงไม่สามารถอธิบายอะไรให้คุณฟ้าเข้าใจได้ คุณฟ้าเป็นคนที่ผมตามอารมณ์ไม่ทันซะเลย นาทีก่อนหน้านี้อาจจะโกรธแบบสุดๆ แต่นาทีต่อมาก็กลับกลายเป็นคนละคน ลักษณะเหมือนคนสับสนในตัวเอง หรือไม่ก็เป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว โดยที่ผมไม่ได้ออกแรงง้ออะไรเลย

โกรธเอง หายเอง ...

ผมมองเจ้าของใบหน้าน่ารักที่ผมกำลังตกหลุมรักอีกครั้ง หลังจากเดินออกมาจากห้องน้ำ ยังไม่ได้แต่งตัวเพราะเหลือบไปเห็นนาฬิกาเสียก่อน ตอนนี้มันเจ็ดโมงครึ่งแล้ว คุณฟ้ายังนอนกอดหมอนข้างหลับตาพริ้ม    ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ยืนชั่งใจอยู่นานว่าจะปลุกดีไหม ดูนาฬิกาอีกที เจ็ดโมงสี่สิบ ไม่ปลุกคงไม่ได้แล้ว

“คุณฟ้าครับ” ผมตัดสินใจปลุกคนที่กำลังมีความสุขกับการนอน เขย่าไหล่บางแรงๆ ให้ตื่น เพราะคุณฟ้าเป็นคนหลับลึกเขย่าเบาๆ คงไม่รู้สึกตัว เปลือกตาบางขยับนิดๆ ก่อนจะเผยหน่วยตาสวยขึ้นมามองหน้าผม

“เจ็ดโมงสี่สิบแล้วครับ” ผมบอก คนฟังขยี้ตาเบาๆ แล้วพลิกตัวนอนหงาย ปิดปากหาว ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้น ภาษากายที่เข้าใจได้ว่าต้องการให้ผมดึงให้ลุก

“ต่อไปเจ็ดโมงครึ่งปุบปลุกผมเลยนะครับ” คุณฟ้าบอก บอกแบบนี้จะให้ผมแปลความหมายเข้าข้างตัวเองใช่ไหม

“ครับ” ทันทีที่คุณฟ้าลุกขึ้นนั่ง หน้าผากเกลี้ยงก็วางแมะที่หน้าอกผมเหมือนเด็กขี้อ้อน แล้วกอด แปลกใจที่คุณฟ้าเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการกอดผม ผมกอดตอบคุณฟ้า ใจก็อยากจะดันร่างเพรียวให้ล้มตัวลงไปนอนกับเตียงนุ่ม แล้วทำอะไรๆ ที่เคยทำกับร่างกายนี้เหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา แต่ต้องห้ามใจตัวเอง ปล่อยคุณฟ้าออกจากอ้อมแขน หากไม่ลืมจุ๊บที่แก้มใสใกล้ปากของตัวเอง

“อาบน้ำได้แล้วครับ” ผมบอก ดันร่างเพรียวออก แต่เจ้าของร่างกลับขืนตัวเอาไว้ ปากบางจูบซับเบาๆ บนหัวไหล่ของผม น่าจะตรงจุดที่มีรอยฟันเล็กๆ ฝากเอาไว้

“เจ็บไหมครับ” จู่ๆ ก็ถามขึ้นมา ทำผมแปลกใจอีกแล้ว

“ไม่ครับ” ผมตอบ มันไม่ได้เจ็บอะไรเลยจริงๆ ทั้งตอนนี้และตอนนั้น ตอนที่เขี้ยวเล็กๆ กัดแล้วฝังรอยไว้ที่หัวไหล่ผม เมื่อถึงขีดของความเจ็บจากการรุกรานและดึงดันจากตัวตนของผม รวมถึงรอยเล็บที่จิกลงบนแผ่นหลังและแผ่นอก เมื่อคืนผมใส่แรงไปเยอะกว่าทุกครั้ง ยิ่งเสียงครางหวานของคนใต้ร่างที่ได้ยิน ยิ่งทำให้อารมณ์มันโหมกระพือ ห้ามปราบความต้องการทั้งหมดไม่ได้

“แน่นะครับ” คุณฟ้าเงยหน้าขึ้นมาถาม ตาสวยกำลังคิดอะไรอยู่ไม่รู้ มือเรียวสัมผัสเบาๆ บนรอยเขี้ยวคมที่จูบซับมันไปเมื่อครู่

“แน่สิครับ ผมจะไปเจ็บอะไรล่ะครับ คนที่เจ็บน่าจะเป็นคุณฟ้ามากกว่า เจ็บมากไหมครับ” ผมย้อนถาม จูบแก้มขึ้นสี น้อยครั้งที่จะเห็นใบหน้าขึ้นสีแบบนี้ของคุณฟ้า ครั้งสองครั้งเองมั้งตั้งแต่ทำเรื่องอย่างว่ากันมา

“เจ็บครับ...เอ่อ เมื่อคืนคุณหมอทำแรง” เสียงน่ารักพูดบอก อาการขัดเขินเห็นได้ชัดบนใบหน้า ก่อนจะก้มหนีสายตาด้วยการซุกใบหน้าเข้ากับอกของผม เรียวแขนโอบรอบเอวผมไว้หลวมๆ

“ทำไมไม่บอกละครับ จะได้ยั้งแรงไว้” ผมเชยคางมนขึ้นมาสบตา วูบหนึ่งที่คนน่ารักขี้อ้อนหลบตา แต่แล้วก็กลับมาจ้องตอบ

“แน่ใจเหรอครับว่าจะทำได้ ขนาดผมห้ามไม่ให้ทำ ยังห้ามไม่ได้เลย” คนน่ารักว่า หน้าขึ้นสีหนักกว่าเดิม คงคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ห้ามไม่ให้ผมต่อรอบสองไม่ได้ ห้ามเสียงเบาอย่างนั้นจะห้ามใครได้ แถมเสียงห้ามยังมาพร้อมกับเสียงครางหวานๆ อีก ใครจะหยุดความต้องการได้ล่ะ

“เรื่องห้ามทำ ห้ามไม่ได้ แต่เรื่องยั้งแรงพอจะยั้งได้ครับ” พอพูดจบก็โดนกำปั้นทุบเข้าที่ไหล่ ไม่แรงมาก พร้อมกับร่างกายที่ขยับออกห่าง ตอนที่ผมกำลังจะก้มลงไปจูบปาก

“จะอาบน้ำ”

Rrrrrr….

โทรศัพท์ของผมที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงดังขึ้น ผมเอื้อมมือไปหยิบดูว่าใครโทรมาหาแต่เช้า คุณฟ้ามองผมนิดหนึ่งก่อนจะลุกออกจากเตียงไป

“สวัสดีครับน้องหวาน” น้องหวานคือคนที่โทรมาหาผม เพราะผมมองตามร่างเพรียวตั้งแต่ก้าวลงจากเตียงและเดินไปยังห้องน้ำ ถึงได้เห็นว่าร่างเพรียวนั้นหยุดชะงักทันทีที่รู้ว่าใครปลายสายเป็นใคร แล้วหันกลับมายืนพิงกรอบประตู กอดอกฟังผมคุย

(พี่หมอ...หวานอยากเจอพี่หมอ) เสียงของน้องหวานไม่ได้ร่าเริงเหมือนแต่ก่อน มันเจือไปด้วยร่องรอยความเศร้า

“มาหาพี่หมอที่ร้านสิครับ” ผมบอก เข้าใจว่าตอนนี้น้องหวานต้องการที่พึ่ง แล้วผมก็เป็นที่พึ่งนั้น 

(หวานนั่งอยู่ที่หน้าคลินิกพี่หมอแล้ว) ตรงหน้าคลินิกมีส่วนย่อมเล็กๆ กับชุดเก้าอี้ให้ลูกค้าได้นั่ง สำหรับลูกค้าที่ไม่อยากนั่งรอด้านใน

“งั้นนั่งรอพี่หมออยู่ตรงนั้นนะครับ อีกครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวพี่หมอถึง” ผมคำนวณเวลาแล้วว่าน่าจะสักครึ่งชั่วโมงคงถึงที่คลินิก

(ค่ะ พี่หมอ)

น้องหวานตอบรับเสียงค่อย ได้ยินเสียงสะอื้นแว่วเข้ามา ก่อนที่สายจะถูกตัดไป ผมสงสารน้องหวานแต่ไม่รู้จะช่วยยังไง ผู้หญิงที่กำลังจะเป็นเจ้าสาว พร้อมวางชีวิตไว้กับผู้ชายคนหนึ่งที่รักกันมานาน แต่แล้วทุกอย่างก็พังลงมาไม่เป็นท่า คนผิดคืออิง เพื่อนของผมคือคนที่ผิด ผิดที่หักหลังผู้หญิงคนนี้ ผิดที่หัวใจเปลี่ยนไป ผิดที่ไม่ตัดสินใจเลือกน้องหวาน กลับเลือกอีกคนหนึ่งที่มาทีหลัง แต่อิงจะผิดมากกว่านี้และทำร้ายชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งไปตลอดชีวิต หากไม่ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง

โชคดีที่อิงซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง น้องหวานอาจจะเจ็บแค่วันนี้ ยังดีกว่าที่ต้องเจ็บไปตลอดชีวิต

“คุณหวานรออยู่เหรอครับ” 

“ครับ รออยู่หน้าคลินิก”

“งั้นรีบไปสิครับ ไม่ต้องรอผมหรอก เดี๋ยวคุณหวานรอนาน” คุณฟ้าว่า แล้วหันหลังเดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนผมก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้า (ชุดเสื้อผ้าที่ผมโทรให้พี่ชายเอามาให้เมื่อตอนเย็น ก่อนหน้าที่จะส่งน้องหวานกลับบ้าน) พอแต่งตัวเสร็จผมก็เดินออกมาจากห้อง ไม่ได้จะไปหาน้องหวานตามที่คุณฟ้าบอก แค่ออกมาจัดการกับข้าวของในห้องนั่งเล่นให้เป็นระเบียบขึ้น

ห้องคุณฟ้ารก ไม่ใช่รกธรรมดา รกมาก เหมือนเจ้าตัวใช้แล้วไม่เก็บหรือไม่ก็ไม่มีเวลาเก็บ ดูจากสภาพการทำงานของคุณฟ้าที่เปิดร้านตั้งแต่แปดโมงและเปิดเอาตอนสามทุ่ม แล้วยังต้องอยู่ทำขนมถึงดึกดื่น กลับถึงห้องก็คงอาบน้ำแล้วหลับเลย แถมทำงานแบบไม่มีวันหยุดด้วย (ตามคำบอกของสาวยีน) ห้องถึงได้รกมากเพราะไม่มีเวลาว่างที่จะทำ

ผมลงมือเก็บข้าวของให้เข้าที่ เริ่มจากหนังสือที่วางเกะกะ ไม่เป็นที่เป็นทาง อยู่มุมนี้บ้างมุมโน่นบ้าง ขวดน้ำกับแก้วน้ำ กระเป๋ากับผ้าพันคอ หมวกกับเสื้อเชิ้ต ร่มกับไม้ปัดฝุ่น กระปุกยากับโหลใส่ลูกอม ขวดซอสกับกล่องใส่เงินเหรียญ แล้วก็ตะกร้าใบเล็กข้างในมีกุญแจอยู่สองชุด นี่แค่บางส่วนที่ผมหยิบจับให้มันไปอยู่ในทีทางของมันเอง ยังเหลืออีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมยังไม่ได้จัดการเพราะประตูห้องนอนที่เปิดออกมาเสียก่อน

“อ้าว...นึกว่าไปแล้วซะอีก ....เอ่อ อันนั้นไม่ต้องทำก็ได้ครับ เดี๋ยวผมทำเอง”  ตอนแรกคงแปลกใจที่เห็นผมยังไม่ไปไหน ต่อมาก็คงเกรงใจที่เห็นผมจัดการกับห้องรกๆ ของตนเองอยู่ ห้องเรียบร้อยขึ้นเป็นกองครับ

“ไม่เป็นไรครับ”

“ผมเกรงใจ” คุณฟ้าว่าเสียงเบา

“งั้นผมขอไอ้นี่เป็นค่าตอบแทนนะครับ” ค่าตอบแทนของผมไม่ได้มากอะไรเลย ก็แค่กุญแจห้องชุดของคุณฟ้าในมือผมเท่านั้นเอง

“ก็ได้ครับ” ให้กันง่ายๆ จนผมแปลกใจเป็นรอบที่สามของเช้าวันนี้

.

.

.

.

.
 

หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 18 ความหวั่นไหว {3/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 03-01-2012 15:02:16
ตอนผมมาถึงคลินิกเจอน้องหวานนั่งอยู่ในสวนด้านหน้า มีเบียร์นั่งคุยอยู่เป็นเพื่อน ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันแต่ด้วยนิสัยเข้ากับคนง่ายและเป็นคนคุยสนุก ทำให้ผมเห็นว่าหน้าตาที่บวมแดงเพราะผ่านการร้องไห้หนักมาทั้งคืนของน้องหวานพอจะมีรอยยิ้มได้บ้าง พอผมเดินเข้าไปหา เบียร์ก็ขอตัวเข้าไปทำงานต่อ บอกว่าออกมาคุยเป็นเพื่อนน้องหวานเพราะเห็นนั่งอยู่คนเดียว

“หิวข้าวไหม?” ผมถาม ขณะที่ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ น้องหวานส่ายหน้าแทนคำตอบ

“หวานอยากเจอพี่อิง พี่หมอพาหวานไปหาพี่อิงได้ไหม” 

เมื่อวานหวานก็ขอให้ผมพาไปหาอิง แต่ผมเลี่ยงที่จะพาไปเพราะมันไม่ใช่เวลาที่ดีแน่ ถ้าคนสามคนจะมาเผชิญหน้ากัน ทั้งอิง หนึ่ง และน้องหวาน ผมอยากให้อิงเคลียร์กับหนึ่งให้รู้เรื่อง การกลับมาแก้ปัญหาระหว่างอิงกับน้องหวานจะได้ง่ายขึ้น ถึงผมจะสงสารน้องหวานแต่อิงก็คือเพื่อนและหนึ่งก็เป็นคนที่ผมรู้จัก

ผมไม่อยากให้ใครคนใดคนหนึ่งเสียใจไปมากกว่านี้...   

“ได้ไหมพี่หมอ” มือเล็กเกาะแขนผมอย่างร้องขอ เห็นหน่วยตารื้นน้ำตา ก่อนจะไหลลงบนแก้มสีซีด น้องหวานร้องไห้หนักตั้งแต่เมื่อวาน จนถึงวันนี้น้ำตาก็ยังไหลไม่ขาดสาย

“พี่ไม่แน่ใจว่าอิงกลับกรุงเทพหรือยัง พี่ขอโทษไปถามมันก่อนนะ” และจะถามอิงมันด้วยว่าพร้อมจะเจอน้องหวานหรือยัง เพราะเมื่อคืนหลังจากพาน้องหวานกลับบ้าน ผมก็โทรหาอิงมัน ตอนนั้นมันยังอยู่ที่จันทร์กับหนึ่ง อิงบอกผมว่ากำลังคุยกับหนึ่ง ไม่รู้ว่าคุยกันแบบไหน ผมถึงได้ยินเสียงสะอื้นของคนที่อิงคุยด้วยเข้ามาเป็นระยะ ผมเลยไม่ได้พูดถึงเรื่องของน้องหวาน แต่อิงมันก็เหมือนรู้ครับว่าน้องหวานต้องมาหาผม มันถึงบอกว่ายังไม่พร้อมจะเจอน้องหวานตอนนี้ เอาไว้ให้พร้อมแล้วจะไปหาน้องหวานเอง

“ขอบคุณค่ะพี่หมอ” น้องหวานยิ้มทั้งน้ำตา มือที่เกาะแขนผมอยู่เปลี่ยนเป็นกำผมแน่น เมื่อผมยกโทรศัพท์แนบหู

(ว่าไงหมอ)

“กลับกรุงเทพยัง?”

(กำลังขับรถไปหาแก) อิงกำลังมาหาผม โดยไม่รู้ว่าน้องหวานอยู่ที่นี้กับผม ผมหันไปมองน้องหวานที่มองผมด้วยสายตามีความหวัง ไม่บอกครับว่าอิงกำลังจะมาที่นี่ ถ้าบอกออกไปแล้วอิงไม่มา น้องหวานจะเสียใจกว่าเดิม เพราะอีกฝ่ายหลบหน้า

“น้องหวานอยู่กับฉัน เค้าอยากคุยกับแก” ผมบอก เพื่อให้อิงรู้ว่าน้องหวานอยู่กับผม ดูว่าอิงมันจะทำยังไง ยังจะมาหาผมอยู่หรือเปล่า 

(อืม...ถึงแล้ว) อิงไม่ได้ตอบผมตรงๆ แต่รถสีขาวที่แล่นมาจอดตรงหน้าคลินิกก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุด ว่าอิงพร้อมจะคุยกับน้องหวาน

“พี่อิง” น้องหวานเดินเข้าไปคนที่เปิดประตูรถลงมา หน้าอิงเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ หางคิ้วด้านซ้ายมีผ้าพันแผลแปะอยู่ ไม่น่าเชื่อว่าจะโดนเยอะขนาดนี้ เหมือนว่ายืนอยู่เฉยๆ ให้เขาซ้อม

“ทานอะไรมารึยัง” อิงถาม น้องหวานส่ายหน้าเป็นคำตอบ ใบหน้ามีคำถามแต่ไม่กล้าถาม

“หวานคิดถึงพี่อิง หวานอยากคุยกับพี่อิง” น้องหวานว่าพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ก่อนจะถูกอิงดึงเข้าไปกอดปลอบ

“พี่อยู่นี่แล้วไงครับ ปะ ไปหาอะไรทานกันก่อนดีกว่านะครับ.....ขอบใจมากนะหมอ” อิงหันมาบอกผม แล้วพาน้องหวานขึ้นรถ ขับออกไป ทิ้งให้ผมมองตาและเอาใจช่วยให้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดี ไม่มีใครต้องเจ็บช้ำไปมากกว่านี้

ผมหวังว่าอิงจะทำให้จะผ่านปัญหานี้ไปได้ และน้องหวานจะหายจากความเจ็บช้ำที่รุนแรงในครั้งนี้ไปได้เช่นกัน

Rrrrrr….

โทรศัพท์ผมดัง คุณหญิงแม่เป็นคนโทรมา

“ครับคุณแม่”

(คุณแม่โทรมาเตือนตาหนูว่าอย่าลืมนัดของเราเย็นนี้นะคะ)

“ไม่ลืมครับ” ความจริงเกือบจะลืมไปแล้ว

(ดีมากค่ะตาหนูลูกของคุณแม่ ห้าโมงเจอกันนะคะ)

ผมวางสายจากคุณหญิงแม่ เดินเข้ามาในคลินิกก็เจอกับเจ้าเบียร์ที่ยืนรอผมอยู่ก่อนแล้ว ท่าทางเหมือนมีเรื่องยากถามผม แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเดินเข้าห้องตรวจ คิดว่าน่าจะอยากรู้เรื่องของอิงกับน้องหวานมั้งนะครับ เบียร์กับน้องหวานก็พอรู้จักกันเพราะน้องหวานแวะมาที่คลินิกของผมบ่อยๆ

.

.

.

.

.

เกือบบ่ายสองครับที่ผมผลักประตูร้านเชิญครับเข้าไป ลูกค้ายังแน่นร้าน แทบไม่มีโต๊ะว่างเหลือ ผมเห็นคุณฟ้าวุ่นวายอยู่กับการชงกาแฟให้ลูกค้าที่ต่อคิวยืนรอ สาวยีนเดินถือถาดขนมเพิ่งอบเสร็จใหม่ออกมาจากครัว จัดเรียงใส่ในตู้ เด็กตามและน้องดาวก็ดูวุ่นวายอยู่กับการเก็บโต๊ะที่ลูกค้าเพิ่งลุกออกไป ผมไม่เห็นเด็กแดนแต่คิดว่าน่าจะเป็นวันหยุดของเขา วันนี้ถึงไม่เห็น

ส่วนมากลูกค้าของร้านคุณฟ้าจะเป็นพวกคุณหมอ นางพยาบาล พนักงานออฟฟิศ อาจารย์สอนพิเศษ เด็กนักเรียนที่มาเรียนพิเศษและลูกค้าขาจรทั่วไป เพราะแถวนี้จะมีโรงพยาบาล โรงเรียนสอนพิเศษ และบริษัทหลายแห่งตั้งอยู่ รวมถึงคลินิกหมาแมวของผมด้วย ที่ลูกค้าของคลินิกมักมานั่งดื่มกาแฟกับทานขนมต่างๆ ระหว่างรอหมาแมวของตนเอง

“รับอะไรดีครับ” คุณฟ้าถามเมื่อคิวผม (ผมยืนต่อคิวครับ) คำถามที่ไม่ได้แสดงถึงความพิเศษที่มีต่อกันเลย เป็นคำถามปกติที่คุณฟ้าใช้ถามลูกค้าทุกคน

“มีอะไรแนะนำบ้างครับ” ผมถาม มองไปที่ตู้เค้ก มีเค้กน่าตาน่าทานทั้งนั้น ผมเป็นคนชอบของหวาน โดยเฉพาะเค้ก ตั้งแต่ร้านเชิญครับเปิด ผมก็เป็นลูกค้าประจำของที่นี่ตลอด ตอนเช้าจะเดินมาซื้อกาแฟ ตอนบ่ายๆ ก็จะเป็นเค้กหรือไม่ก็ขนมสลับกันไปมา

“ทุกทีเห็นสั่งแต่ Strawberry Tart ไม่ใช่เหรอครับ” คุณฟ้าว่า ผมยิ้ม รู้สึกดีที่คุณฟ้าจำได้ว่าผมสั่งอะไรเป็นประจำ แต่จะว่าไปคุณฟ้าก็ต้องจำได้อยู่แล้ว เพราะมาทีไรผมก็สั่งแต่ Strawberry Tart ตลอด

“วันนี้อยากเปลี่ยนดูบ้างครับ คุณฟ้าช่วยแนะนำหน่อยสิครับ” อยากเปลี่ยนเพื่อจะได้มีเรื่องคุยกับคุณฟ้าให้มากกว่าคำสองคำครับ

“คุณหมอชอบทานสตอเบอร์รี่ งั้นเอาเป็น Strawberry Mousse Cake ดีไหมครับ” คุณฟ้าว่า โดยไม่ต้องรอคำตอบจากผมก็เดินไปเปิดตู้เค้ก ก้มหยิบเค้กน่าตาน่ารักขึ้นมาจากชั้นล่างสุด ผมเห็นว่ามันเหลืออยู่เป็นชิ้นสุดท้ายพอดี น่าจะขายดีถึงเหลือชิ้นเดียว

“ส่วนเครื่องดื่มเปลี่ยนจากสตอเบอร์รี่ปั่นเป็นชาสตอเบอร์รี่นะครับ เป็นเมนูใหม่ของยีนเค้าน่ะครับ” บอกอย่างนี้แปลว่าเลือกให้ผมไปเรียบร้อยแล้ว

“ครับ” ผมจะว่าอะไรได้ ก็วันนี้อยากเปลี่ยนเมนูของหวานดูบ้าง หลังจากหกเดือนมานี่ผมกินแต่แบบเดิม ไม่เคยเปลี่ยนเลย

“เดี๋ยวผมเอาเครื่องดื่มเสิร์ฟให้ทีหลังนะครับ โต๊ะโน้นยังว่างครับ” ผมมองตามือคุณฟ้าที่ชี้ไปยังเคาน์เตอร์บาร์ริมกระจก นั่งหันหน้าออกไปยังถนนใหญ่ มีสวนเล็กๆ กั้นเอาไว้ มีเก้าอี้หัวกลมหุ้มเบาะสีเหลืองเข้มเหลืออยู่สองตัว ร้านของเชิญครับแต่งร้านออกโทนขาวเหลือง ข้าวของเครื่องใช้ เก้าอี้ โต๊ะ เบาะ โซเฟ กำแพง จึงล้วนแล้วแต่เป็นสีขาวสลับสีเหลือง

“ครับ” ผมว่าง่าย คุณฟ้าบอกเสร็จ ผมก็ถือจานเค้กน่าทานไปนั่งตรงนั้นทันที ตักเค้กเนื้อนุ่มรสหวานอมเปรี้ยวเข้าปากได้สองคำ ชาสตอเบอร์รี่ก็มาวางใกล้มือผม เป็นชาสตอเบอร์รี่ที่ใส่เนื้อสตอร์เบอร์รี่ลงไปด้วย

“อันนี้เป็นของแถม ไอศครีมทับทิมกรอบ เมนูใหม่เหมือนกันครับ ” ผมมองของแถมที่วางลงตรงหน้า น่ากินครับ เป็นไอศกรีมกะทิในถ้วยแก้วใบเล็กมีทับทิมกรอบรวยอยู่ด้านบน แอบมีสตอเบอร์รี่ลูกใหญ่วางอยู่ข้างๆ ก้อนไอศกรีมด้วย

“ขอบคุณครับ”

คุณฟ้ากำลังเอาใจผมอยู่หรือเปล่า...ผมแอบเข้าข้างตัวเองว่าใช่ รู้ว่าผมชอบสตอเบอร์รี่ถึงมีแถมมาให้ด้วย

“เดี๋ยวครับคุณฟ้า” ผมคว้าข้อมือคุณฟ้าเอาไว้ เมื่อคุณฟ้าทำท่าว่าจะเดินกลับ แล้วรีบปล่อย ทำอะไรโจ่งแจ้งนักไม่ดีครับ ต้องเกรงใจสายตาลูกค้าคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่เต็มร้าน

“มีอะไรครับ”

“เย็นนี้ผมต้องไปรับน้องสาวที่สนามบิน อาจจะกลับดึกหน่อยนะครับ” ผมบอก เดาได้ไม่ยากครับ ว่าหลังจากไปรับน้องเนยกับคุณหญิงแม่แล้ว ผมคงถูกบังคับให้ทานข้าวเย็นและอยู่คุยกับน้องเนยแน่ๆ ไม่มีทางไหนที่ผมจะปลีกตัวออกมาได้เลย นอกเสียจากคุณหญิงแม่และคุณหญิงวลัยจะพอใจกับการเจอกันระหว่างผมกับน้องเนย

“ครับ” คุณฟ้าพยักหน้ารับรู้ แล้วเดินกลับไปช่วยสาวยีนที่หน้าเคาน์เตอร์ เพราะมีลูกค้าหลายรายยืนล้อมตู้เค้กอยู่ตรงนั้น ใกล้จะบ่ายกว่าๆ แล้ว ลูกค้าในร้านเชิญครับยังแน่นร้าน

ผมนั่งมองรถราที่วิ่งไปมาบนท้องถนนตรงหน้าผ่านผนังกระจกใส อุ่นใจกับกุญแจและคีย์การ์ดในกระเป๋ากางเกง สิ่งที่ทำให้ผมเข้าออกคอนโดของคุณฟ้าง่ายขึ้น รวมถึงตอนไหนและเวลาไหนก็ได้ด้วย

สี่วัน...

มันเป็นเวลาที่สั้นมากกับการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งขนาดนี้ ไม่ใช่แค่ความผิวเผินแล้วแยกจาก แม้มันจะเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนมากนัก แต่ผมว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีระหว่างผมกับคุณฟ้า ผมไม่รู้ว่าคุณฟ้าคิดยังไงกับผม รับผมเข้าไปไว้ในใจหรือยัง หรือเป็นแค่ความสงสาร เป็นแค่ความใจดี ถึงได้ยอมผมไปเสียทุกอย่าง ไม่ห้าม ไม่ว่า ไม่มีขัดขืน ทำยังกับว่าเราสองคนเลือกใช้ชีวิตร่วมกันไปแล้ว

ทั้งที่มันก็แค่สี่วัน...เท่านั้นเอง

แต่ผมรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ ผมรู้ว่าผมกำลังเริ่มต้นกับผู้ชายคนนี้ ในจังหวะชีวิตที่ผมคิดว่ามันพอดี จนไม่น่าจะปล่อยให้สิ่งดีๆ หลุดมือไป

ผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับความรักเล่มหนึ่ง (ของยัยภา) ในบทเขียนไว้ว่า

…บางครั้งความรัก มันก็เกิดขึ้น “ง่าย” จนน่า “ตกใจ”…

ไม่ต่างจากเรื่องของผมกับคุณฟ้า มันเกิดขึ้นอย่าง ‘ง่ายๆ’ จนน่า ‘แปลกใจ’ ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง มีพื้นฐานมาจากอะไร ความสัมพันธ์ที่เป็นเพียงลูกค้ากับเจ้าของร้าน กระโดดข้ามมาถึงความสัมพันธ์แบบลึกซึ้ง กลายเป็นคนๆ เดียวกันไปแล้ว

แม้มันจะเกิดขึ้นอย่างง่ายๆ แต่ผมก็ไม่ปล่อยให้มันจบไปอย่างง่ายๆ ผมจะพยายามรักษาความสัมพันธ์อันนี้เอาไว้ให้ดีและยาวนานไปตลอด มันต้องมีสักวันหนึ่งที่ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคุณฟ้าจะชัดเจน และพูดได้เต็มปากว่าเราสองคนคือ ‘คนรักกัน’

ผมนั่งคิดถึงเรื่องราวระหว่างผมกับคุณฟ้า นึกย้อนไปถึงเรื่องราวภายในสี่วันที่เกิดขึ้น และนึกคิดไปถึงอนาคตข้างหน้าในวันพรุ่งนี้ วันมะรื่นนี้ วันต่อไป เดือนต่อไป ปีต่อไป และตลอดไป ผมไม่ใช่เด็กหนุ่มวัยแรกรัก ที่เต็มไปด้วยความเพ้อฝัน ผมเป็นผู้ชายที่กำลังมองหาอนาคตร่วมกับคนที่ผมอยากใช้ชีวิตด้วย ตอนนี้คนๆ นั้นก็คือ...คุณฟ้า

ไม่เร็วไปหรอก...

ถ้าความรักจะเกิดขึ้นกับผม...ได้อย่างง่ายๆ แล้วมันก็เกิดขึ้น ผมแน่ใจว่าผมเริ่มรักคุณฟ้าเข้าให้แล้ว

ผมไม่ได้เริ่มรักคุณฟ้าเพราะรอยยิ้มที่สดใสหรือดวงตาที่ชวนมอง และไม่ได้รักเพราะคุณฟ้าเป็นคนใจดีหรือน่ารัก ไม่อย่างนั้นผมคงตกหลุมรักคุณฟ้าตั้งแต่วันที่เจอกันครั้งแรก วันนั้น ผมไม่มีความรู้สึกอะไรที่พิเศษไปกว่าเจ้าของร้านเชิญครับที่ผมตั้งใจจะมาอุดหนุน

ถ้าจะถามว่าผมรักคุณฟ้าเพราะอะไร อาจเป็นคำตอบที่ฟังแล้วไม่เข้าท่า แต่มันก็เป็นความจริงและเป็นเหตุผลข้อแรก นั่นคือ...คุณฟ้าเป็นของผมแล้ว

ความรักของแต่ละคนเกิดขึ้นไม่เหมือนกัน ทุกคนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง ความรู้สึกของเรา มีเราที่เป็นเจ้าของเท่านั้นที่รู้ดี เหมือนที่ผมรู้ดีว่า ความรักครั้งใหม่ของผมเริ่มต้นได้แปลกประหลาดมาก แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทำให้ผมมีความรักอีกครั้ง

รักแล้วครับ...

ผมบอกได้เต็มปากเลยว่า...วันนี้ผมรักคุณฟ้า

นั่นสินะ ผมถึงได้อยากอยู่ใกล้คุณฟ้าทุกวัน อยากเห็นคุณฟ้าเป็นคนแรกของวัน และเป็นคนสุดท้ายก่อนที่ผมจะหลับตาลง


“ยิ้มคนเดียวก็เป็นนะครับคุณหมอ”

เสียงของคนที่อยู่ในความคิดของผมที่ดังอยู่ใกล้ เรียกให้ผมกลับมาสู่ความจริงตรงหน้า ตรงที่คุณฟ้าทำหน้าสงสัยว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ ขณะที่มือก็ถือถาดใบใหญ่ไว้ข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็เก็บจานเปล่ากับแก้วที่น้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำไปหมดแล้ววางบนถาด แล้วหยิบผ้าออกมาจากกระเป๋าหน้าขึ้นมาเช็ดโต๊ะตรงที่แก้วกับจานวางอยู่เมื่อครู่ ผมขยับหนีไปอีกทางเพื่อให้คุณฟ้าเช็ดได้สะดวกขึ้น มองไปรอบๆ เหลือลูกค้าแค่สองโต๊ะ

“อร่อยไหมครับ” คุณฟ้าถามเหมือนถามตามความเคยชิน เพราะท่าทางไม่ได้ตั้งใจจะเอาคำตอบจากผมเลย ถามเสร็จก็เดินยกถาดเดินเข้าไปในครัว

“อร่อยครับ คุณฟ้าทำอะไรก็อร่อย” ผมเดินตามเข้าไปในครัว เอาคำตอบให้คุณฟ้า

“อย่ารุ่มร่ามสิคุณหมอ เดี๋ยวเด็กๆ เข้ามาเห็น” คุณฟ้าว่า ไม่จริงจังเท่าไหร่ เพราะยังยืนนิ่งอยู่หน้าอ่างล้างจาน โดยมีผมสวมกอดอยู่ด้านหลัง หอมแก้มใสไปหลายที

“คิดถึง” ผมบอกสั้นๆ จับเอวบางให้เจ้าของร่างหันมาสบตาด้วย

“คิดถึงอะไร อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง” ว่าเสียงนิ่งแต่ผมก็ดูออกว่ากำลังเขิน กล้าสบสายตากับผมทีไหน เอาแต่ก้มหน้าหลบ ผิดวิสัยแต่ก่อนที่ชอบสู้ตาผม

“คิดถึงคุณฟ้าสิครับ อยู่ใกล้แบบนี้ก็ยังคิดถึง” ผมปล่อยมือข้างหนึ่งจากเอวบาง ขึ้นมาเชยคางคนแก้มแดงให้หันมารับจูบ ผมไม่ได้ล่วงล้ำ แค่จูบซับเอากับกลีบปากบางสีสด ชิมความหวานตามธรรมชาติ ก่อนจะละออก มามองหน้าแดงระเรื่อของคุณฟ้า

“...”

“...”

สำหรับผมกับคุณฟ้า ความเงียบระหว่างที่เราจ้องตากันอยู่นี้ เป็นช่วงเวลาที่ความรู้สึกดีๆ ถูกถ่ายทอดถึงกันได้ง่ายกว่าเวลาไหนๆ

“คิดถึงคุณฟ้านะครับ” ผมบอกคำเดิม ชิมกลีบปากหวานอีกครั้ง ครั้งนี้ผมรุกล้ำเข้าไปในปากหวาน กวาดต้อนความหวานจากเรียวลิ้นเล็ก พอใจแล้วถึงละออกมา ผมไม่ใช่พวกเอาแต่ได้ กอบโกยเอาตามความอยากหรือสนองความต้องการของตัวเอง ผมแค่ทำอย่างที่ใจอยาก แล้วคุณฟ้าก็ยอมให้ความร่วมมือ ผมถึงได้กล้าทำอะไรที่คุณหมอนิสัยดีคนหนึ่งไม่เคยทำกับใครมาก่อน ยกเว้นกับผู้ชายคนน่ารักคนนี้

“แล้วคุณฟ้าคิดถึงผมไหม”

“คิดถึงก็มาหาสิครับ ใครห้าม” คุณฟ้าไม่ตอบแต่กลับพูดไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งมันก็ทำให้ผมยิ้มออกมาได้ แม้ไม่ได้คำตอบที่ต้องการ แต่มันก็เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผม

“คิดว่าคุณฟ้าจะห้าม”

“เคยห้ามอะไรคุณหมอได้ล่ะครับ”

“นั่นสิครับ ห้ามไม่เคยได้” ผมว่า จ้องเข้าไปในนัยน์ตาสวย รั้งเอวบางให้ชิดมากยิ่งขึ้น ผ่ามือเล็กยกขึ้นมาดันตัวผมแทบจะทันที ก่อนจะผ่อนแรงลง แล้วเคลื่อนขั้นมาคล้องคอผมไว้หลวมๆ ก่อนจะซบใบหน้าแดงกล่ำไว้กับอกผม กระซิบถ้อยคำแผ่วเบา แต่ผมได้ยินชัด

“คุณหมอทำให้ผมหวั่นไหว”

ไหวหวั่นที่คุณฟ้าบอกแปลว่าอะไร?

สับสน

โอนเอียง

เริ่มใจอ่อน

เริ่มมีใจ

งั้นเหรอ?

ผมไม่รู้ว่าหวั่นไหวของคุณฟ้าแปลว่าอะไร แต่ถ้าให้ผมตีความหมายเข้าข้างตัวเองคือ คุณฟ้าอยู่ใกล้ผมแล้วหวั่นไหว และกำลังเริ่มมีใจให้กับผม ผมเป็นคนที่ไม่ชอบคิดอะไรทำร้ายความรู้สึกตัวเองครับ เมื่อคุณฟ้าเปิดทางให้ผมคิดได้ขนาดนี้ ผมก็ขอคิดแต่สิ่งที่ผมอยากคิดดีกว่า

“ตั้งแต่ตอนไหนครับ” ผมกระซิบถามกับใบหูเล็กที่ขึ้นสีแดงไม่ต่างจากใบหน้าน่ารักนั้น

“ไม่รู้” เสียงอู้อี้บอกเอากับอกผม ผมต้องดึงใบหน้าน่ารักขึ้นมาให้อยู่ในระดับเดียวกัน

“สี่วันเองนะครับ หวั่นไหวแล้วเหรอ?” ผมแกล้งถาม ได้อาการขัดขืนกับกำปั้นที่ทุบไหล่ผมเบาๆ เป็นรางวัล

“หรือคุณหมอไม่ต้องการ” ทำเสียงเข้มถามผมกลับ ทั้งที่แก้มใสยังขึ้นสีเลือดอยู่เลย ผมชอบนะครับที่คุณฟ้าเป็นคนคิดอะไรแล้วพูดออกมา วันก่อนหน้านี้ยังพูดเฉือนใจผมอยู่เลยว่า ไม่ได้รักผม ให้ผมได้แค่ร่างกายแต่หัวใจไม่มีวันให้ เมื่อวานก็บอกกับผมว่า ไม่อยากหาใครมาแทนที่คุณนนท์ในตอนนี้ มาตอนนี้ก็กล้าที่จะพูดบอกผมแบบนี้

“ต้องการสิครับ ทำไมจะไม่ต้องการ อยากเข้าไปอยู่ในใจของคุณฟ้าจะแย่อยู่แล้ว”

“....”

“....”

เป็นอีกครั้งที่ผมกับคุณฟ้าตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา มีเพียงสายตาที่สื่อความรู้สึกจากอีกใจหนึ่งสู่อีกใจหนึ่ง ของกันและกัน

แล้วเราก็จูบกันอีกครั้ง

คุณฟ้าเป็นฝ่ายเริ่มจูบหวานซึ้งและดูดดื่มนี้ก่อน แต่มันไม่สำคัญอะไรครับว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มต้น มันสำคัญที่ว่าเราสองคนรู้สึกเหมือนกัน เราอยากถ่ายถอดคำพูดในหัวใจออกมาเป็นรสจูบที่ซาบซึ้งให้นานที่สุดเท่าที่อีกฝ่ายจะพอใจ

และมันจะเนิ่นนานกว่านี้ ถ้า...ถ้าไม่มีเสียงแก้วกระทบกัน จานกระทบช้อน อยู่ตรงกรอบประตูห้องครัว ดังเข้ามาขัดจังหวะ

“ขอโทษครับ” เด็กชายตามก้มหัวลงต่ำ ก่อนจะถอยหลังออกจากห้องครัวไปโดยไว ถาดที่ถือเข้ามาก็ดันยกกลับออกไปด้วย

“ผมบอกแล้วว่าอย่างทำรุ่มร่าม” ตาสวยเปลี่ยนเป็นตาเขียว มองผมตาขวาง ก่อนจะผลักผมออกจากตัว หันกลับไปจัดการกับจานและแก้วในอ่างต่อ

“แต่เมื่อกี้คุณฟ้าเริ่ม” ผมว่าเสียงอ่อน สอดมือเข้าไปกอดเอวบางจากด้านหลังอีกครั้ง เจ้าของร่างเพรียวยังใจดีให้ผมกอดเหมือนเคย แสดงว่าไม่ได้โกรธจริงจัง

“จะพูดเพื่ออะไรครับ” คนพูด พูดเสียงเบา ฟ้องอาการว่าเขินหนัก ผมอดไม่ได้ที่จะกดปากลงกับแก้มนุ่มแรงๆ สูดเอาความหอมเข้าเต็มปอด เนื้อตัวคุณฟ้าหอมกลิ่นกาแฟและขนมเค้กแบบที่ผมชอบ

“หอมบ่อยเดี๋ยวแก้มผมก็ช้ำหมดหรอกครับ”

“มันอดใจไม่ไหวนี่ครับ”

“ลองพยายามหรือยังละครับ”

“พยายามแล้วแต่ไม่ได้ ดูสิครับ อดใจไม่ไหวอีกแล้ว” ผมแกล้งจุ๊บทั้งแก้มซ้ายแก้มขวา ก็ไม่เห็นคุณฟ้าจะขัดขืนอะไร มีแต่ปากน่ารักน่าชังเท่านั้นล่ะครับ ที่พูดต่อความกับผม

“พยายามให้มากสิครับ”

“มากแล้วครับ”

“มากไม่พอครับ”

“ต้องมากขนาดไหนครับ”

“ก็มากพอที่จะทำให้คุณหมอตัดสินใจปล่อยปล่อยมือออกจากเอวผมสิครับ”

“มันทำยากนะครับ”

“ยากตรงไหน แค่ปล่อยมือ”

“มันยากตรงนี้ล่ะครับ”

“ไม่คิดจะทำมากกว่า”

“ก็ไม่คิดจะทำจริงๆ นี่ครับ....ฮ่าๆๆ”

“คุณหมอครับ สนุกมากไหม” คุณฟ้าทำเสียงดุ ตอนที่ผมหลุดขำออกมา งงตัวเองที่ยืนเถียง (เล็กๆ) กับคุณฟ้าอย่างคนไม่ยอมกัน มันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะมาต่อความยาวกันเลย

“ทำไมไม่ยอมผมบ้าง” คุณฟ้าว่าเบาๆ มือล้างแก้วกาแฟไปด้วย ผมเลยละมือออกจากเอวบางมาแย่งเอาฟองน้ำจากมือนิ่มมาทำเอง

“ผมช่วยครับ”

“ไม่รอให้มันเหลือใบเดียวก่อนล่ะครับ” ไอ้เรื่องประชดนี่ ยกให้คุณฟ้าเลย ว่าแล้วก็เดินออกไปข้างนอก ปล่อยผมไว้กับแก้วกาแฟ แก้วน้ำ และจานขนมกองโตในอ่าง


พอคุณฟ้าเดินออกไป เด็กตามกับเด็กดาวก็เดินถือถาดใส่จานกับแก้วเปล่าเข้ามาอีกหลายชุด บอกให้ผมออกไปข้างนอกเดี๋ยวทั้งสองคนจะทำเอง แต่ผมไล่ให้เด็กสองคนนั้นออกไปทำงานหน้าร้าน ปล่อยให้หน้าที่ล้างเป็นของผม

เหลือจานใบเล็กในอ่างแค่สองใบตอนที่คุณฟ้าเดินกลับเข้ามา ถือจานคุกกี้กลิ่นหอมเข้ามาด้วย ช่วงเอวบางด้านหลังพิงกับขอบเคาน์เตอร์

“คุกกี้สตอเบอร์รี่ครับ” พร้อมกับคำบอกคือคุกกี้ชิ้นพอดีคำ ส่งตรงถึงปาก

“อร่อยไหมครับ”

“คุณฟ้าทำอะไรก็อร่อยครับ” ผมตอบแบบเดิม

“อันนี้ไม่ได้ทำ ยีนทำ แสดงว่าไม่อร่อย จะไปบอกยีน” คุณฟ้าพูดกวนๆ หยิบคุกกี้เข้าปากตัวเอง เป็นครั้งแรกนะที่ผมได้เห็นมุมนี้ของคุณฟ้า น่ารักไปอีกแบบ

“อย่าสิครับ เกิดยีนโกรธผมขึ้นมา กีดกั้นไม่ให้ผมเจอคุณฟ้าล่ะแย่เลย” ผมแกล้งทำหน้าเศร้า เช็ดมือให้แห้ง (ล้างจานเสร็จแล้ว) ดึงเอาจานในมือคุณฟ้าแล้ววางไว้บนโต๊ะใกล้มือ ก่อนจะรวบเอวบางมาประชิดตัว กดจูบที่แก้มใสไปสองที วันนี้จูบไปหลายทีมากตั้งแต่เช้า ถ้าแก้มคุณฟ้าเป็นกลีบดอกไม้ มันก็คงช้ำไปหมดแล้ว โชคดีที่เป็นผิวแก้มนิ่ม จูบเท่าไหร่ก็ไม่มีวันช้ำ

~~ฟอดดด~~

เต็มแก้มผมเลยครับ จูบของคุณฟ้า (มีเสียงอีกต่างหาก)

“ค่าล้างจานครับ” คุณฟ้าบอก ยิ้มของคุณฟ้าที่ผมเห็นมันหวานมาก จนผมอยากจะจูบปากหวานๆ นั้นในทันที แต่มือนิ่มยกขึ้นปิดปากผมเสียก่อน

“กำไรเยอะไปแล้วครับวันนี้ พอก่อน กลับไปทำงานของคุณหมอเถอะครับ” คนน่ารักของผมว่า มือนิ่มปลดแขนของผมออกจากเอวของตัวเอง เดินนำผมออกจากห้องครัว พอออกมาได้เท่านั้นแหละก็เจอสายตาล้อเลียนจากสาวน้อยร่างอวบ หูตาสาวยีนแพรวพราวยังกับเจอเรื่องถูกใจ ผมว่าการที่ไม่มีใครโผล่เข้าไปขัดจังหวะหวานๆ ของผมกับคุณฟ้า (ยกเว้นเด็กตามในครั้งแรก) น่าจะเป็นเพราะสาวยีนนี่แหละ

“พี่ฟ้าบอกว่า ถึงคุณหมอจะมาช่วยล้างจานให้ก็ตาม แต่ต้องคิดเงินขนมกับค่าน้ำ ทั้งหมด 110 บาทค่ะ” ถาดไม้สีเหลืองอันเล็ก
 มีบิลค่าขนมกับน้ำวางอยู่ถูกยืนมาตรงหน้าผม ขณะที่เจ้าของร้านเดินเลี่ยงไปอยู่หลังตู้ หยิบกล่องคุ๊กกี๊สามสี่กล่องใส่ถุงกระดาษของร้าน

“90 นี่เป็นค่าทิปนะคะ” สาวยีนว่าทันทีที่ผมวางแบงค์ร้อยสองใบบนถาด ผมพยักหน้าบอกให้รู้ว่าไม่มีปัญหา แล้วเดินไปหาคุณฟ้า

“ผมไปแล้วนะครับ” บอกตามตรง ไม่อยากไปไหนเลยครับตอนนี้  ยิ่งคุณฟ้าใจดีกับผม ผมยิ่งได้ใจ สี่วันอาจไม่ยาวนานพอที่จะทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงไปได้มากมาย แต่สำหรับผม สี่วันที่ผ่านมา มันยาวนานเหมือนผ่านมาแล้วสี่ปี

“ฝากให้น้องสาวคุณหมอครับ” ถุงคุกกี้ที่ผมเห็นเมื่อครู่ถูกยื่นมาให้ผม

“ขอบคุณครับ”

ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือครับ ผมรวบทั้งถุงคุกกี้กับมือนิ่มในคราวเดียวกัน คุณฟ้าไม่ว่าอะไร ยอมให้ผมจับอยู่อย่างนั้น เหมือนโลกนี้มีเราเพียงสองคน มือคุณฟ้านิ่ม ตัวคุณฟ้าหมอ ตาคุณฟ้าสวย หน้าคุณฟ้าน่ารัก ไม่น่าเชื่อว่าผมจะโชคดีถึงเพียงนี้...


>>>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<<<<

หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 18 ความหวั่นไหว {3/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 03-01-2012 15:17:17
ตอนเริ่มหวานยังขนาดนี้
ตอนดราม่าจะขนาดไหน
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 18 ความหวั่นไหว {3/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-01-2012 15:38:15
  :กอด1: คุณฟ้าน่ารักมาก คุณหมออย่าทำให้คุณฟ้าเสียใจนะ ไม่งั้นเจอดีแน่  :m16:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 18 ความหวั่นไหว {3/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 03-01-2012 15:51:45
สี่วัน....ไม่สั้นและไม่ยาวเกินไปสำหรับคนที่ "ค้นพบ" หัวใจของตัวเองเจอแล้ว

อ่านตอนนี้จบมดแทบจะตายคาโน๊ตบุ๊คส์เลย เขียนได้หวานมาก สำหรับผู้ชายคนหนึ่งที่ทั้งสุภาพและอ่อนโยนอย่างคุณหมอ

หวั่นไหว....จริง ๆ แล้วสินะคุณฟ้า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 18 ความหวั่นไหว {3/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 04-01-2012 16:23:49
ได้ทีแล้วเอาใหญ่เลยนะคุณหมอ
เบาเบาหน่อยนะเดี๋ยวคุณฟ้าหมด
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 18 ความหวั่นไหว {3/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 04-01-2012 17:36:00
โอย ทุกอย่างกำลังไปด้วยดีแล้ว คุณแม่อย่าทำเสียเรื่องได้ไหมอ่า :z6:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 18 ความหวั่นไหว {3/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 04-01-2012 17:44:24
ชอบจังคุณฟ้าเริ่มหวั่นไหวแล้วคุณหมอสู้ๆ :L1:นะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 18 ความหวั่นไหว {3/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 05-01-2012 15:04:00
น่ารักหวานมาก คุณหมอเริ่มแสดงออกไม่กั๊กแล้ว
ตั้งแต่ฟ้าบอกว่า หวั่นไหวเพราะคุณหมอ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 18 ความหวั่นไหว {3/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Acid ที่ 05-01-2012 16:39:52
คุณฟ้าน่ารักมากเลย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 18 ความหวั่นไหว {3/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 05-01-2012 18:03:12
อื้อหือ....มด......หวานซ้า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 18 ความหวั่นไหว {3/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Panny ที่ 07-01-2012 09:42:59
น่ารักๆๆๆๆๆๆๆ ไม่อยากให้มีดราม่าเลย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 18 ความหวั่นไหว {3/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 07-01-2012 09:56:02

หวานขนาดดด ขออย่าให้คุณฟ้ารู้เลย
ว่าที่ไปรับนะไม่ใช่น้องสาวแต่เป็นคู่หมั้น
เดี๋ยวก็ทะเลาะกันใหญ่โต  ยิ่งคุณฟ้าโกรธง่ายด้วย
เฮ้ออออ ขออ่านตอนหวานอีกสักตอนสองตอนนะคะคนแต่ง
ค่อยมานั่งต้มมาม่ากินกัน ><

+1 ให้จ้าาา  รออ่านตอนต่อไปนะ จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 18 ความหวั่นไหว {3/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Karn12 ที่ 07-01-2012 10:47:06
พี่หมอกับน้องฟ้าหวานกันจนเค้กจืดไปเลย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 19 เรื่อยๆ หากเริ่มเข้าใจ {12/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 12-01-2012 15:19:53
ตอนที่ 19

ห้าทุ่มกว่าแล้วครับที่ผมเปิดประตูห้องของตัวเองเข้ามา ห้องสว่างทันทีเมื่อผมปิดสวิสไฟแต่ดูเงียบเหงาผิดปกติ ผมค่อยๆ ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาหลังจากเดินไปเสียบปลั๊กกดปุ่มเปิดทีวี มือกดปุ่มรีโมทเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยๆ อย่างคนไม่รู้จะดูอะไร สุดท้ายเลยกดค้างอยู่ที่ช่องแฟชั่น มีนางแบบหุ่นดีขาวยาวเดินแบบในชุดเดรสยาว ปกติผมไม่ชอบดูทีวีครับ กลับมาถึงก็อาบน้ำ อ่านหนังสือ แล้วก็นอนหลับเลย ทีวีจึงกลายเป็นของแต่งห้องชิ้นหนึ่งที่แทบไม่ได้แตะต้อง

นางแบบหุ่นดียังคงเดินอวดเสื้อผ้าสวยๆ ในจอสี่เหลี่ยม ที่เปลี่ยนมาเป็นบิกินีวาบหวิว ผมไม่ได้สนใจมากนัก (ก็ไม่ได้คิดจะซื้อมาใส่) กวาดตัวมองไปรอบห้อง ข้าวของหลายอย่างอยู่เป็นทีเป็นทางของมันเอง มีบางส่วนที่ยังหาที่เดิมของตัวเองไม่เจอ ผมหลับตาลงช้า เอนตัวลงนอน คว้าหมอนอิงใบเล็กมาหนุน ผมไม่ค่อยได้ทำความสะอาดห้องเองหรอกครับ เพราะจะมีพี่ฝน (ชื่อจริงว่าน้ำฝน) พี่สาวแท้ๆ ของผมมาช่วยทำความสะอาดให้ พี่ฝนเป็นแม่บ้านของคุณสามี เจ้าของโรงงานอาหารกระป๋อง มีเวลาว่างมากพอที่จะมาทำความสะอาดห้องให้น้องชายคนเดียวของตน ผมห้ามก็ไม่ฟัง บอกให้เอาแม่บ้านที่บ้านมาทำให้ก็ไม่ยอม อ้างว่าอยากดูแลน้องชายคนเดียวให้ดีที่สุด หลังจากคุณตาของเราสองคนเสียไปเมื่อสามปีก่อน ครอบครัวของเราจึงเหลือกันอยู่แค่สองคน เมื่อปีที่แล้วพี่ฝนเพิ่งจะแต่งงาน แล้วตอนนี้ก็กำลังฉลองครบรอบวันแต่งงานที่แคนนาดา นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ห้องของผมรกมากกว่าปกติ เพราะขาดคนมาทำความสะอาดให้ แต่ตอนนี้มันก็สะอาดและเป็นระเบียบมากขึ้นเพราะคุณหมอ

คุณหมอ...

ลูกค้าของร้านเชิญครับ

ลูกค้าธรรมดาคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามายืนข้างๆ ผม ในวันที่ผมถูกนนท์ทิ้ง

สี่วันเองครับ

สี่วันที่ได้รู้จักกับคุณหมออย่างจริงจัง มากกว่าการเป็นลูกค้ากับเจ้าของร้าน รวดเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทันกับความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน จนกลายมาเป็นความหวั่นไหว

‘คุณหมอทำให้ผมหวั่นไหว’

ผมยังจำประโยคที่บอกกับคุณหมอเมื่อตอนบ่ายได้ดี จำความรู้สึกทั้งก่อนที่จะบอก ตอนบอก และตอนที่บอกออกไปแล้ว จำได้ดีว่าผมรู้สึกอย่างไร มันรู้สึกอย่างที่พูดไปจริงๆ ครับ

‘ผมเริ่มหวั่นไหว’

ใจมันเต้นเมื่อเห็นหน้าคุณหมอ มันเกิดขึ้นเมื่อผมลืมตาตื่นในตอนเช้าวันนี้ ผมเจอหน้าของคุณหมอที่วางอยู่บนหมอนใบเดียวกัน ผมอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นนั้น ความเจ็บด้านล่างฟ้องเหตุการณ์ในค่ำคืนที่ผ่านมา มันเป็นตอนเช้าที่คุณหมอยังไม่ตื่น หกโมงกับอีกไม่กี่นาทีที่ผมลืมตาขึ้นมาแล้วเจอหน้าคุณหมอ ผมรู้สึกว่าตัวเองตกหลุมรักคนที่กำลังกอดผมไว้ทั้งตัว หน้าคมที่มือผมเอื้อมไปสัมผัสให้ความรู้สึกดี ตาสีเข้มที่ชอบอ้อนเอาอะไรจากผมซ่อนอยู่ใต้เปลือกตาหนา ปากหนาที่เคยซุกซนอยู่นิ่งเฉยแต่ชวนให้ปลายนิ้วแล่นไปเตะ ก่อนที่ผมจะก้มไปจุ๊บเบาๆ ปลายจมูกโด่งมีลมหายใจอุ่นๆ เข้าออกเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คุณหมอหลับอย่างมีความสุข

ผมนอนตะแคงอยู่ในอ้อมแขนของคุณหมอ มองใบหน้าคมเข้มนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย ปนเปไปกับความคิดที่วิ่งวนอยู่ในหัวและคำถามที่ว่า...

‘ผมยอมคุณหมอมากไปหรือเปล่า?’

คำตอบเดียวที่มีคือ

‘มาก’

มากชนิดที่ว่า ‘มากเกินไปด้วยซ้ำ’

ครั้งแรกเป็นเพราะผมทำประชดนนท์ อยากถูกรัก อยากรู้ว่ายังมีคนต้องการตัวผมอยู่ ผมถึงเป็นฝ่ายเชิญชวนคุณหมอ คิดแค่ว่าให้มันจบไปแค่ครั้งเดียว แต่มันก็มีครั้งต่อๆ มา เรียกได้ว่าคุณหมอเริ่ม ผมสานต่อ บางครั้งผมก็เป็นฝ่ายเริ่มและคุณหมอสานต่อ ไม่มีการห้ามปราม มีแค่ความยินยอมกับความพร้อมใจ และความต้องการในส่วนลึก

คุณเคยรู้สึกแบบนี้ไหม? ที่ตื่นขึ้นมาแล้วอยากรักใครสักคนหนึ่ง?

เพราะผมกำลังรู้สึกแบบนั้น เมื่อเช้านี้ที่ลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นคุณหมอเป็นคนแรก...

ผมรู้สึกปลอดภัยในอ้อมกอดของคุณหมอ มันไม่ได้อบอุ่นเหมือนอ้อมกอดของนนท์ที่ผมคุ้นชิน แต่มันก็เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นอย่างน่าประหลาด ทุกครั้งที่คุณหมอกอดผม ผมรู้สึกอยากกอดตอบอ้อมกอดนั้นทุกครั้ง จนลืมไปว่าครั้งหนึ่งผมเคยบอกคุณหมอว่า...

ตรงนี้...ข้างในหัวใจของผม คุณหมอเข้ามาไม่ได้ เพราะมันเป็นที่ของนนท์

ผมลืมคำพูดต่างๆ เหล่านั้นไปแล้ว จำความรู้สึกของตัวเองตอนที่พูดออกไปไม่ได้ด้วยซ้ำ ว่าทำไมถึงต้องพูดแบบนั้นออกไป สุดท้ายกลายเป็นว่าผมหวั่นไหวกับคุณหมอจนได้ มันรวดเร็วอย่างน่าตลก เหมือนละครน้ำเน่าในทีวี ที่พระเอกกับนางเอกเกลียดกันแทบตาย แต่สุดท้ายก็รักกันปานจะกลืนเกิน แค่พระเอกปล้ำนางเอกได้สำเร็จ นางเอกตกเป็นของพระเอก กลายเป็นว่ารักกันได้เฉยเลย ชีวิตจริงมันยิ่งกว่าละคร เรื่องของคุณหมอกับผมมันเลยจริงยิ่งกว่าพระเอกนางเอกในละครน้ำเน่า

ผมมีอะไรกับคุณหมอ ทำให้ผมเริ่มผูกพัน จนกลายเป็นความหวั่นไหวเล็กๆ ที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่เรื่องเหลือเชื่อ ทว่ามันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นภายในเวลาแค่สี่วัน ผมรับคุณหมอเข้ามาได้ง่ายๆ เหมือนจุดเริ่มต้นของเราสองคนที่เริ่มขึ้นมาง่ายๆ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษแต่ก็มีอะไรกันไปแล้ว


...กริ๊งงงงง....

เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้นดึงผมออกจากโลกของความคิด มองดูนาฬิกาที่วางอยู่ข้างจอทีวี เที่ยงคืนแล้ว ผมลุกเดินไปเปิดประตู คิดว่าคนที่ยืนกดกริ่งเป็นคุณหมอ แต่คุณหมอมีกุญแจห้องผมแล้วนี่นา ทำไมถึงไม่เปิดเข้ามาเอง

“นนท์”

“ขอนอนด้วยคนนะฟ้า ขี้เกียจกลับห้อง” นนท์บอก เดินผ่านผมเข้ามาในห้อง ถอดร้องเท้า แล้วเดินไปทิ้งตัวที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าลงบนโซฟาแทนที่ผมเมื่อครู่ ผมมองตาม ส่ายหน้าช้าๆ ให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นอดีตคนรัก คนที่เขาบอกผมว่าผมไม่ได้รักเขา...

นนท์ชอบดื่ม เป็นนักดื่มตัวยงเลยก็ว่าได้ คนที่สอนผมดื่มเหล้าคนแรกก็คือนนท์ ตอนที่เป็นเพื่อนกันชอบลากผมไปดื่มเป็นประจำ (ทำให้ผมคอแข็งพอใช้ได้) แต่เมื่อเป็นแฟนกัน นนท์ก็มักจะทิ้งผมไปดื่มกับเพื่อนคนอื่นๆ แทน อ้างว่าไม่อยากให้ผมเสียคน (คิดได้นะ ตัวเองอ่ะดื่มได้)


“เพลาๆ บ้างนะเหล้าน่ะ” ผมบอก เดินไปนั่งคุกเข่าใกล้ๆ ปลายเท้านนท์ ดึงถุงเท้าออก โยนมันทิ้งไว้บนพื้นข้างๆโซฟา จับปลายเท้าทั้งสองวางให้เข้าที่ ไม่ให้ห้อยโต่งเต่งอย่างตอนแรก เลื่อนมือขึ้นมาถอดเข็มขัด โยนลงไปกองรวมกับถุงเท้า แล้วค่อยขยับมือไปแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตจนหลุดออกจากรังดุมทั้งหมด รอยข่วนเต็มหน้าอกขาว รอยแบบนี้ไม่ต้องเดาก็รู้ครับว่าเกิดจากอะไร

“บ่นๆๆ อย่าบ่นได้ไหม เมื่อกี้ก็โดนน้องของฟ้าด่ามาเยอะแล้ว” น้องของผมคงหมายถึงแดน แสดงว่าไปหาแดนมาก่อนหน้านี้และก็โดนบ่นเรื่องเหล้า แน่ล่ะ สมควรโดน เอาสภาพที่ตัวเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าไปโผล่ให้เห็น ไม่โดนด่าก็ไม่รู้ว่าอะไรแล้ว ยิ่งแดนไม่ชอบหน้าอยู่เป็นทุนด้วย

“จะจีบน้องก็ช่วยทำตัวดีๆ หน่อย?” ผมบอก หลังจากที่เดินไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดใบหน้าให้คนเมา นนท์ครางอือในลำคอคงรำคาญ หันหน้าหนีแต่ไม่พ้น มือที่พยายามปัดผ้าให้พ้นหน้าก็ถูกผมจับไว้ ผมรับมือกับนนท์มาทุกรูปแบบแล้วครับ เมามาทีไร ผมเนี่ยแหละลำบากสุด เวลาเมานนท์ไม่ชอบอาบน้ำ เอาแต่จะนอนลูกเดียว ผมถึงต้องค่อยเช็ดตัวให้ตลอด

“จะเสียเวลาจีบทำไม นนท์ได้น้องของฟ้ามาเป็นเมียแล้ว เมียที่ไหนมายืนด่าผัวป่าวๆ ” นนท์ว่า สติยังอยู่ครบ พูดจารู้เรื่องดี แต่คำพูดเนี้ย ฟังแล้วผมอยากตีปากคนเมาจริงๆ

“เรียกแดนอย่างนั้นได้ไง น้องเป็นผู้ชายน่ะ” เป็นผมก็ไม่ชอบครับ ถึงสถานะจะเหมือนแต่ยังไงมันก็ไม่ใช่ ผมเป็นผู้ชายนะครับ ไม่ใช่ผู้หญิง แล้วก็ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงด้วย คำว่าเมียน่ะ เอาไว้ใช้กับผู้หญิงเถอะ

“ก็นนท์จะเรียก แดนเป็นเมียนนท์จริงนี่” นนท์เถียง ผมขี้เกียจเถียงตอบ

“ถอดเสื้อก่อน” ผมดึงตัวคนเมาให้ลุกขึ้นนั่ง จะได้ถอดเสื้อแล้วก็เช็ดตัวได้สะดวก ผมเช็ดตัวให้นนท์ ขณะที่นนท์นั่งเงียบ ไม่พูดอะไร แต่หน้าตาบอกว่ากำลังมีเรื่องให้คิด

“ทำไมแดนไม่น่ารักเหมือนฟ้าบ้าง” จู่ๆ นนท์ก็พูดขึ้นมา เมื่อผมเดินกลับมาหลังจากเอาผ้าไปเก็บ ผมถูกคว้าแขนแล้วดึงให้ไปนั่งบนตักทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ มือมันก็ไปคล้องคอหนาของนนท์โดยอัตโนมัติ หัวของนนท์วางพักไว้ที่ไหล่ของผม

“ถ้าฟ้ารักนนท์ตั้งแต่แรกก็คงดี” เสียงของนนท์อ่อนลง ผมเดาไม่ถูกว่านนท์กำลังคิดอะไรอยู่ ผมกับนนท์รู้จักกันมานานมาก ตั้งแต่อนุบาล แต่นนท์ก็เป็นคนที่ผมเดาความคิดไม่ออกเลยจริงๆ มีแต่นนท์เท่านั้นแหละครับที่ดูผมออกแทบจะทะลุด้วยซ้ำ

“รู้ได้ไงว่าฟ้าไม่รักนนท์” ผมถาม อยากรู้ ตั้งแต่ถูกบอกเลิก นนท์ก็พูดว่าผมไม่เคยรักนนท์ ผมว่ามันเป็นข้ออ้างที่นนท์ใช้มันเพื่อทิ้งผมมากกว่า ถ้าไม่รักผมจะคบกับนนท์มาจนถึงวันที่ถูกเลิกได้เหรอ 

“มองตาก็รู้”

ดูคำตอบสิครับ เป็นคำตอบที่คลาสสิกที่สุดในจักรวาล เหอๆ มองตาแล้วเคยมองไปถึงใจผมบ้างไหมล่ะ ว่ารู้สึกยังไง

“แล้วนนท์เคยมองเห็นใจของฟ้าหรือเปล่าล่ะ” ผมพูดอย่างใจคิด ถึงตอนนี้มันจะหายเจ็บแล้วก็เถอะ รู้ไหมว่าตอนถูกบอกเลิกผมเสียใจแค่ไหน ตอนนั้นผมกลัวว่าจะไม่ได้เห็นหน้านนท์ ไม่ได้เจอกัน แล้วผมจะใช้ชีวิตคนเดียวได้ยังไง ทั้งที่ตลอดมาผมมีนนท์อยู่ข้างๆ เสมอ วันนี้ผมรู้สึกดีขึ้นเพราะนนท์ยังอยู่รอบๆ ตัวผม ถึงแม้คนที่นนท์หมุนรอบจะไม่ใช่ผมก็ตาม

“มองเห็นไงถึงรู้ว่าตรงนี้ของฟ้า ไม่เคยมีนนท์เลยจริงๆ” ปลายนิ้วของคนพูดจิ้มเข้าที่อกด้านเดียวกับที่ผมเคยจิ้มให้คุณหมอดู อกข้างซ้าย ตรงหัวใจ

“เป็นฟ้าเหรอ? ถึงรู้ว่าไม่มี”

“ไม่เป็น แต่ก็รู้” พูดได้กวนมากครับ

“ชิส์...ทิ้งกันแล้วนี่ก็พูดได้สิ” พูดอย่างงอนๆ ครับ รู้สึกบรรยากาศแบบเก่าๆ คืนมาอีกครั้ง นนท์ยิ้ม ผมก็ยิ้ม เคยคิดว่าถ้าเลิกกันแล้ว ผมคงไม่ได้เห็นรอยยิ้มของนนท์ ไม่มีนนท์อีกต่อไป แต่นี่ผมก็ยังมีนนท์อยู่

“เมื่อยอ่ะ” คนพูดดันตัวผมให้นั่งลงระหว่างขาทั้งสองข้าง ดึงตัวผมให้อิงซบกับแผ่นอกเปลือยที่ขยับที่ให้ผมนั่งได้สบายขึ้น ผมเริ่มชินกับกลิ่นเหล้าที่ลอยอยู่รอบตัว จากตอนที่นนท์เข้ามาใหม่ๆ เหม็นจนแทบจะหันหน้าหนี (ถ้าตัวเองดื่มเนี้ย ไม่เหม็นนะครับ)

“นนท์” ผมดึงมือใหญ่ที่ประสานกันอยู่ตรงหน้าท้องผมขึ้นมาลูบเบาๆ อย่างที่ชอบทำ

“ว่าไง เรียกแล้วทำไมไม่พูด” เสียงของนนท์ดังอยู่ข้างหู คงเห็นว่าผมไม่ยอมพูดอะไรมากว่านาทีแล้ว นอกจากเล่นมือนนท์ ไล่จากนิ้วโป้งไปจนนิ้วสุดท้ายและเริ่มวนหมดอีกครั้งและอีกครั้งไปมา

“ไม่รู้จะพูดอะไรอ่ะ”   

“ไม่รู้จะพูดอะไรใช่ไหม งั้นเรามาเล่นอะไรสนุกๆ กันดีกว่า” อะไรสนุกๆ ของนนท์คือการผลักผมนอนราบลงไป มีนนท์ตามขึ้นมาคร่อมทับ เท้าแขนสองข้างเหนือหัวของผม บรรยากาศเก่าๆ ยิ่งกว่าเก่ากลับมาอีกครั้งครับ มันมาครบเลยทีเดียว อย่างที่เคยบอกไป ผมกับนนท์ เราทำเรื่องแบบนี้กันบ่อยๆ แต่ไม่เคยมีอะไรกันไปมากกว่าทำกันอยู่ภายนอก

“ไม่เอาอ่ะนนท์” มือผมยันหน้าอกนนท์เอาไว้ ไม่ให้แนบเข้ามาใกล้ แต่ปากนนท์ก็ไวพอที่จะหอมแก้มผมไปหลายฟอด ลิ้นร้อนเลียไล้อยู่ข้างซอกหูเหมือนที่นนท์ชอบทำ ใจผมหวิวไปกับสัมผัสแต่ผมไม่อยากให้ความร่วมมือกับนนท์เลย มือจึงพยายามจะดันตัวนนท์ออก ทว่าสู้แรงคนตัวใหญ่ที่กดทับลงมาทั้งตัวไม่ได้

“หน่อยเดียวเอง” ไม่พูดเปล่าครับ หน่อยเดียวของนนท์คือมือที่ลอดเข้าไปใต้เสื้อยืดของผม ฝ่ามือร้อนลากผ่านผิวเนื้อไปหยุดที่ติ่งเล็กบนหน้าอก สะกิดนิดเดียวทำเอาผมสะดุ้งเฮือก เนื้อตัวมันไวกับสัมผัสจนต้องแอ่นเข้าหา

“อ่า...” ผมเผลอคราง เพราะลิ้นร้อนที่เปลี่ยนจากซอกคอเป็นหน้าอก ดูดกลืนติ่งเล็กข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งถูกครอบครองด้วยมือที่บดขยี้เบาๆ จนผมหมดแรงต้านทาน แรงเสียดสีจากด้านล่างมีเพิ่มมากขึ้น ตัวตนของนนท์แข็งขื่น พอๆ กับที่ผมเริ่มรู้สึก นนท์ทำเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่ใจผมมันไม่เหมือนเช่นทุกครั้งเลย

ผมอยากหยุดนนท์ แต่ผมทำไม่ได้

“อะ...นนท์... ไม่เอา....อื้อออ” ผมพยายามห้าม แต่ผมกลับถูกปิดปากด้วยลิ้นที่รุกล่าเข้าไปข้างในโพลงปาก นนท์ถอนปากออกเพียงเพราะจะได้ดึงเสื้อผมออกไปพ้นตัว ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศเข้ามากระทบผิวตัวด้านบน มันหนาวไปถึงข้างในทั้งๆ ที่ผมกำลังถูกกอดจากนนท์ ผิวเนื้อที่ไม่มีอะไรห่อหุ้มกำลังเสียดสีกัน

หน้าของคุณหมอลอยเข้ามาในความคิด ขณะที่มือของนนท์เลื่อนต่ำลงไป ปลดหัวเข็มขัดของผม ตามด้วยตะขอกางเกง และซิบที่เลื่อนลง ผมหลับตาลงเพื่อขับไล่ความร้อนรุนแรงที่ขอบตา แล้วน้ำอุ่นๆ ก็ไหลออกมาจากหางตา ทันทีที่ลิ้นร้อนเลื่อนผ่านจากแผ่นอกสู่หน้าท้องเบื้องล่าง

“...อึก...”

“ร้องทำไม” นนท์ละปากจากผิวเนื้อของผมขึ้นมาถาม ดึงตัวผมให้ลุกขึ้นมานั่งเกยอยู่บนตัก มือลูบหัวผม อย่างเอาใจ ผมยิ่งได้ใจร้องไห้เข้าไปใหญ่ ถึงจะมองไม่เห็นหน้าตัวเอง แต่ผมก็รู้ว่าน้ำตามันอาบหน้าจนเลอะไปหมดแล้ว นนท์ถึงได้คว้าเสื้อผมที่โยนทิ้งไปเมื่อครู่ขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้

“สกปรกอ่ะ” ผมว่า ทิซซู่มีก็ไม่ใช้ เอาเสื้อที่ใส่แล้วมาเช็ดหน้าผม

“เสื้อตัวเองนะฟ้า”

“จะเสื้อฟ้า เสื้อนนท์ ใส่แล้วมันก็สกปรกเหมือนกันแหละ” ผมเถียง ดึงเสื้อในมือนนท์ทิ้ง ถูกนนท์ดึงเข้าไปกอด ผมขืนตัวเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ซุกหน้าอยู่กับอกของนนท์จนได้ มือผมโอบรอบเอวหนาเอาไว้

“ที่ถามว่าร้องทำไม ยังไม่ได้ตอบเลยนะ” นนท์ท้วงเอาคำตอบ 

“แล้วนนท์จะทำอะไรฟ้าล่ะ?” ผมย้อนถาม เลิกร้องแล้วครับ

“ทำเหมือนเคย จำไม่ได้หรือไง”

“จำได้ แต่มันทำไม่ได้ต่างหาก” ผมบอกเสียงแข็ง ดันตัวเองออกมาจากอ้อมแขนหลอมๆ ของนนท์ จะขยับตัวลงจากตัก อีกฝ่ายก็รั้งเอวเอาไว้

“หวงตัวเหรอ?”

“ใช่ หวง แล้วไม่ต้องมาทำแบบนี้อีกเลยนะ ทิ้งฟ้าไปแล้วไม่ใช่หรือไง ทิ้งไปแล้วก็ไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้อีก ถ้าทำอีกจะฟ้องแดน” คิดว่าเอาชื่อแดนมาขู่น่าจะได้ผล ได้ผลจริงครับ แต่หน้านนท์ไม่ได้บอกว่ากลัวคำขู่นะครับ แต่ออกจะเซ็งๆ หันหน้าหนีผม แล้วก็หันกลับมาหาผมอีกครั้ง

“พี่น้องคู่นี้ พูดเหมือนกันเดะ”

“ยังไง?” แสดงว่าไปทำแบบนี้กับแดนมาแล้วสิ ผมลืมไป ก็วันที่เปิดประตู้เข้าไปวันนั้น นนท์ก็กำลังพยายามจะทำอะไรแดนอยู่แล้วนี่น่า

“ไปทางนั้นก็บอกจะฟ้องพี่ฟ้า มาทางนี้ก็บอกจะฟ้องแดน แล้วนนท์จะทำอะไรใครได้ล่ะเนี้ย” พูดได้น่าตบปากแตกมากๆ

~~เพี้ยะ~~

“โอ๊ยยยย! เจ็บนะฟ้า ตบมาได้ไงเนี้ย โอยยย...เบามือหน่อยได้ไหม” นนท์ยกมือขึ้นคล้ำบริเวณปากที่ถูกผมตบ อย่างว่าล่ะครับ ความคิดของผมเร็วเท่ากับมือเสมอ

“ตบคนมักมากไง”

“ตรงไหน มันเป็นธรรมชาติ หรือฟ้าไม่เคย” คนถามลอยหน้าลอยตาพูดได้กวนมากครับ

“ปากนนท์นี่นะ” ผมเตรียมจะง้ามือตบปากอีกครั้ง กะเอาแรงกว่าเดิม นนท์รู้ทัน รวบข้อมือของผมไว้เสียก่อน ยังไม่พอ ยังผลักผมลงนอนในสภาพเดิม นนท์แทรกตัวเข้ามาตรงระหว่างขาผมทันที

“ปากนนท์ก็ทำให้ฟ้าพอใจได้ล่ะน่า” นนท์ก็เป็นคนพูดจริงทำจริงครับ พูดจบก็ระดมจูบผมไปทั่วหน้า จนพอใจแล้วก็ลากต่ำลงมาที่ซอกคอ ผมดิ้นแต่นนท์ก็รู้ทันไปซะหมด รวบมือผมไว้เหนือหัว กดทับตัวผมไว้ไม่ให้ดิ้นหนี

“นนท์....อ่า...อ่ะ....” ปากนนท์ทำให้ผมหลุดคราง เนื้อตัวที่ถูกสัมผัสไม่สามารถต้านทานได้

“ปากนนท์ทำให้ฟ้ารู้สึกดีใช่ไหม?” ผมโกรธนนท์ คนที่เงยหน้าขึ้นมาถามผม มือนั้นป้วนเปี้ยนอยู่ที่ขอบกางเกงผม แต่โกรธไม่มาก เพราะผมไม่อยากขัดใจนนท์ ผมยังอยากให้นนท์อยู่ข้างๆ ผมต่อไป น้ำตาที่มันปริ่มๆ จะไหล มันเลยไม่ไหลเอาซะดื้อๆ

“.....” ผมไม่พูดอะไรแล้วครับ หมดแรงต้าน ปากนนท์กดลงมา ลิ้นร้อนรุกเข้าไปด้านในโดยง่าย ผมไม่ได้ต่อต้าน ปล่อยให้ล่วงล้ำตามอำเภอใจ สาบานได้ว่าผมไม่มีความสุขกับรสจูบนี้เลย อยากขัดขืน อยากผลักร่างหนาๆ ของนนท์ให้ออกไปไกลๆ แต่ที่ทำได้คือนอนนิ่ง ข้อมือผมถูกปล่อยให้เป็นอิสระแต่ผมก็แค่ขยับให้มันอยู่ในทีทางที่ควรอยู่ บนไหล่สองข้างของนนท์

“ชอบไหม?” นนท์ถามผม ตาสีอ่อนดูเหมือนอยากจะได้คำตอบที่ถูกใจ

“ถ้าบอกว่าชอบ แล้วนนท์จะกลับมาหาฟ้าไหมล่ะ” ผมเลือกที่จะถามแทนที่จะตอบ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีอ่อนที่แสดงความไม่พอใจออกมาให้เห็น

“....” นนท์ไม่ตอบ

“เพราะทำอะไรแดนไม่ได้ เลยต้องเอามาลงกับฟ้าใช่ไหม” สิ่งที่ผมได้เป็นคำตอบคือปากที่บดจูบลงมาอย่างแรง นนท์ไม่ปฏิเสธ แปลว่าจริง...



   ....แกร็ก...
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 19 เรื่อยๆ หากเริ่มเข้าใจ {12/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 12-01-2012 15:22:36
แกร็ก...

ทันทีที่เสียงลูกบิดดังขึ้น ฟ้องว่ากำลังมีใครอีกคนหนึ่งก้าวเข้ามา ผมรีบผลักนนท์ให้พ้นตัว เด้งตัวลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว แต่มันคงช้าเกินไป อาการบนสีหน้าของคุณหมอฟ้องชัดเจนว่าเจ้าตัวเห็นอะไรบ้าง

“....”

“....”

“....”

ผม นนท์ คุณหมอ เราสามคนต่างเงียบ ไม่มีใครพูดอะไร เวลาผ่านไปนานเหมือนร้อยชาติ ทั้งที่ความจริงมันไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำที่ไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมา

นนท์มองผมอย่างไม่พอใจ ที่คุณหมอเข้ามาในห้องผมได้อย่างสบายๆ เพราะกุญแจในมือ ก่อนหน้านี้มันเคยเป็นของนนท์ นนท์คืนให้ตอนวันที่บอกเลิกผม ส่วนคุณหมอ ความผิดหวังฉายชัดเจนอยู่บนใบหน้าคม ในความเงียบที่มีคนสามคนร่วมกันสร้างขึ้นมา ผมก้มหลบสายตาคุณหมอ ก้มหยิบเสื้อขึ้นมาให้นนท์ นนท์แค่รับมาถือแต่ไม่ยอมใส่ ส่วนผมหยิบเสื้อของตัวเองขึ้นมาใส่ เดินตัวลีบไปหาคุณหมอ อยากอธิบายแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง

“ผมเอาไปเก็บให้ครับ” ผมหมายถึงเสื้อผ้าหลายชุดที่คุณหมอถืออยู่ในมือ คุณหมอไม่พูดอะไรแต่ก็ยอมยื่นไม้แขวนทั้งหมดให้ผม ผมเดินเข้าไปในห้อง เปิดตู้แล้วเอาเสื้อผ้าของคุณหมอแขวนไว้รวมกับของผม ได้ยินเสียงเปิดประตูตามเข้ามา นึกว่าเป็นคุณหมอ แต่กลับเป็นนนท์

“ไม่กี่วันฟ้าก็ให้กุญแจคุณหมอแล้ว” นนท์เดินหน้ายุ่งเข้ามาถามผม เสื้อพาดอยู่ที่ไหล่ มือถือถุงเท้ากับเข็มขัดเข้ามาด้วย

“คุณหมอขอ” ผมบอกไปตามจริง นนท์ยิ่งไม่พอใจใหญ่

“เขาขอ ฟ้าก็ให้ ทีนนท์กว่าจะได้ ขอแทบตาย” นนท์พูดถูก เพราะกว่านนท์จะได้กุญแจคอนโดของผมก็หลังจากที่ผมย้ายมาอยู่ที่นี่เกือบสองปีแล้ว

“มันไม่เหมือนกัน”

“ไม่เหมือนยังไง” นนท์ถาม แต่ผมหาคำตอบให้ไม่ได้

“นนท์จะถามเอาอะไร กลับไปก่อนได้ไหม ฟ้าไม่อยากทะเลาะกับนนท์” ไม่ลืมครับว่านนท์กำลังเมาอยู่ ตอนเมาน่ะ อารมณ์นนท์จะขึ้นง่าย เกรงใจคุณหมอด้วย อยู่ข้างนอกก็คงได้ยินเหมือนกันเพราะนนท์ไม่ยอมเปิดประตูเลย ผมเลยต้องทำใจเย็น ปกติก็ใจเย็นอยู่แล้วครับ โกรธได้ไม่นานหรอกครับ เดียวเดี๋ยวก็หาย

“ไม่กลับ” ว่าแล้วก็เดินไปนอนแผ่หลาบนที่นอน โยนเสื้อไปทาง เข็มขัดไปทาง ถุงเท้าไปอีกทาง ผมต้องตามเก็บ ไปโยนไว้ในตะกร้า

“ไม่ให้นอน” ผมเดินไปดึงให้นนท์ลุก กลับกลายเป็นว่าโดนนนท์ฉุดให้ลงไปนอนด้วย ดิ้นขลุกอยู่อย่างนั้นอยู่นาน กว่านนท์จะยอมปล่อย

“นนท์” ถึงนนท์จะปล่อยผมแล้ว แต่ผมก็ยังนั่งอยู่ข้างตัวนนท์ที่นอนเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว ดูอารมณ์ดีขึ้นกว่าเมื่อกี้

“ว่า”

“กลับไปก่อนได้ไหมอ่ะ” ผมดึงแขนนนท์อีกครั้ง เขย่าเบาๆ ให้นนท์เห็นใจ

“ที่ไล่เพราะอยากจะจู้จี้กับคุณหมอสองคนว่างั้น”

“บ้าน่านนท์ ใช่ที่ไหนล่ะ”

“ไม่ใช่ งั้นนนท์ก็ไม่กลับ เตียงฟ้าออกจะกว้างนอนสี่คนยังได้ ไปๆ ไปเรียกคุณหมอมานอน นนท์ง่วงแล้ว” คนง่วงคว้าเอาหมอนข้างของผมมากอด ก่อนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว แล้วนอนหันหลังให้ผม ผมมองด้วยความอ่อนใจ นนท์น่ะดื้อ ตามอารมณ์เค้าไม่ทันหรอก หรือเพราะผมตามใจนนท์มากเกินไปก็ไม่รู้ ดูสิ ขนาดนนท์ทำอย่างนี้กับผม ผมยังไม่โกรธเลย ปล่อยเลยตามเลยครับ

ผมหยิบหมอนอีกใบที่เหลือขึ้นมา เดินไปหยิบผ้าห่มบนตู้เสื้อผ้าชั้นบน ผ้าห่มที่พี่ฝนซื้อมาไว้ให้ตั้งสามผืน ผมไม่เคยหยิบเอามาใช้ ครั้งนี้ครั้งแรกเลย คืนนี้คงต้องนอนนอกห้อง ใครอยากจะนอนกับคนเมากันล่ะ นอนไม่หลับกันพอดีเพราะกลิ่นเหล้า พอเดินออกมาจากห้อง เห็นคุณหมอนั่งหน้าไม่รับแขกแล้วก็เหนื่อยใจ

“คุณหมอครับ ช่วยยกโต๊ะออกหน่อยครับ” ผมไม่ได้อยากจะใช้แรงงานคุณหมอหรอกนะครับ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นคุยกับคุณหมอด้วยวิธีไหน เลยเลือกใช้วิธีนี้ คุณหมอไม่ถามอะไร ผมบอกให้ยกก็ยก คงจะพอรู้ครับว่าอะไรเป็นอะไรเพราะเห็นผมหอบผ้าห่มออกมาเยอะขนาดนี้ ไม่บอกก็ต้องรู้ว่าห้องนั้นโดนยึดไปแล้ว ผมกับคุณหมอต้องนอนนอกห้อง

“คุณหมอครับ มันไม่ใช่อย่างที่คุณหมอคิดนะครับ” ผมบอก ขณะที่มือก็ปูผ้าห่มผืนหนาบนพื้นหน้าทีวี เพื่อให้นอนสบาย ผมปูผ้าห่มสองผืน เหลืออีกผืนหนึ่งเอาไว้ห่ม จำได้ว่าเมื่อวานคุณหมอก็พูดประโยคแบบนี้กับผมไปหยกๆ เข้าใจความรู้สึกของคุณหมอตอนนั้นเลยครับ

“ผมไม่ได้คิดอะไร” คำตอบมันขัดกับหน้าตาไม่รับแขกของคุณหมอมาก ปากบอกว่าไม่แต่ตาไม่ยอมมองผมเลย เห็นแสงไฟจากตึกอยู่ด้านนอกกระจกดีกว่าผมซะงั้น

“คุณหมอครับ” ผมเดินเข่าเข้าไปหาคุณหมอที่นั่งนิ่งเป็นรูปปั้นอยู่บนโซฟา แทรกเข้าไปอยู่ตรงกลางขาคุณหมอ แล้วโอบเอวหนาไว้หลวมๆ ผมติดนิสัยที่ว่าถ้าจะง้อใครแล้ว ผมต้องเข้าไปกอด เพื่อให้ฝ่ายนั้นรู้ว่าผมอยากง้อเขาจริงๆ คุณหมอยังไม่ยอมมองหน้าผมอีก ผมเลยเปลี่ยนจากกอดเอวเป็นเอามือคล้องคอ โน้มใบหน้าคมให้เข้าใกล้ในระดับที่ผมจะจูบถึง

ผมจูบแต่คุณหมอยังนิ่ง ไม่ให้ความร่วมมือ ปากหนาปิดสนิท ท่าทางจะโกรธผมจริง

“คุณหมอครับ”

“...” คุณหมอยังนิ่ง

“โกรธผมเหรอครับ”

“...” ไม่ตอบด้วยคำพูดครับ แต่ตอบด้วยแววตาสีเข้ม ว่าโกรธ โกรธมากด้วย ผมไม่อยากให้คุณหมอเป็นแบบนี้ ใจผมมันไม่ดีเลยครับ มันสั่นๆ ไม่อยากถูกโกรธ

“ผมขอโทษ” ผมกอดคุณหมอแน่น ซบหน้ากับอกกว้าง

“....” ตัวคุณหมอแข็งมาก แข็งเหมือนหุ่นปั้น

“....” แค่รู้ว่าคุณหมอโกรธ จนไม่ยอมพูดกับผม น้ำตาผมก็ไหลอย่างสุดกั้น ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วนอกจากกอดคุณหมอเอาไว้อย่างนั้น ได้ยินเสียงคุณหมอผ่อนลมหายใจช้าๆ ท่อนแขนแข็งแรงขยับขึ้นมาโอบกอดผมตอบ ผมใจชื้นขึ้นมาทันที เงยหน้ามองใบหน้าคม จูบซับที่คางสากเอาใจ

“ผมขอโทษ” ผมย้ำคำเดิม น้ำตามันยังไหล

“ไม่ร้องนะครับ” คุณหมอใช้มือซับน้ำตาให้ผม

“คุณหมออย่าโกรธผมนะ นะครับ” ผมขอร้องทั้งน้ำตาที่มันไม่ยอมหยุดไหล มองนัยน์ตาสีเข้มผ่านม่านน้ำตาของตัวเอง ผมรู้ตัวว่าผมผิด ผิดที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้นนท์มากขึ้นขนาดนั้น ตอนนั้นผมแค่รู้สึกผิดต่อคุณหมอ แต่ไม่ได้คิดว่าคุณหมอจะเปิดประตูเข้ามาเจอ ผมคิดน้อยไป คิดแค่ว่าไม่อยากขัดใจนนท์ มาตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองงี่เง่ามาก ถ้าคุณหมอไม่เข้ามาซะก่อน เรื่องมันจะเลยเถิดไปถึงขั้นไหน มันอาจจะซ้ำลงรอยเดิมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาระหว่างผมกับนนท์ ถึงจะไม่ถึงขั้นมีอะไรกันแต่มันก็ผิดกับคนที่ผมกำลังเปิดใจรับเข้ามา

ผิดต่อคุณหมอ...

“อย่าโกรธผมนะครับ” ผมยังพูดคำเดิม

“โกรธไปแล้ว แต่ก็หายแล้วครับ”  มือคุณหมอยังเช็ดน้ำตาให้ผม ผมรั้งมือซ้ายของคุณหมอไว้ ดึงมาใกล้ แนบจูบลงบนหลังมือ ก่อนจะถูกช้อนใบหน้าให้ขึ้นไปรับจูบที่กดชิดลงมา

“อื้ออ...ไม่เอาครับคุณหมอ  นนท์อยู่” ผมรีบห้าม ขณะที่มือยังโอบรอบบนร่างหนาที่ตามกดทับลงมา หลังจากที่ผมถูกผลักให้ลงไปนอนราบกับเนื้อนุ่มของโซฟาตัวเดิม มือใหญ่เลิกเสื้อผมขึ้น ลากไล้เร่งเร้าอารมณ์ ปากหนาพรมจูบไปทั่วหน้า คอ แผ่นอก

“กลัวคุณนนท์จะรู้เหรอครับ” ถามเสียงแข็ง สีหน้าบอกว่าไม่พอใจ

“เปล่าครับ” ผมรีบส่ายหน้าเร็วๆ กลัวโดนเข้าใจผิด ผมจะกลัวนนท์รู้ไปทำไมในเมื่อนนท์รู้อยู่แล้ว แต่ผมอายต่างหาก

“อายหรือครับ” คุณหมอถามแล้วยิ้ม

“ครับ” ผมพยักหน้าไวๆ ให้รู้ว่าผมอายจริงๆ ใครจะไม่อายล่ะครับ กิจกรรมที่ทำกันสองคน มันมีเสียงนะครับ เกิดเสียงมันดังเข้าไปให้นนท์ได้ยินล่ะ ถึงมันจะยากที่เสียงข้างนอกจะลอดเข้าไปข้างใน แต่ใครจะรับประกันได้ว่ามันจะไม่ลอดเข้าไปได้ ที่สำคัญคือให้มีอะไรกันโดยมีบุคคลที่สามอยู่ด้วย มันน่าอายไหมครับสำหรับผม

คุณหมอยิ้มแล้วกอดผมไว้ เรากอดกันอยู่นาน นามจนผมเริ่มเมื่อยเพราะน้ำหนักตัวของคุณหมอที่ทับอยู่บนตัวผม

“คุณหมอ”

“ครับ”

“เมื่อยแล้วครับ” ผมว่า คุณหมอยิ้มๆ แล้วขยับตัวลุกขึ้น ดึงผมให้ลุกขึ้นตาม แล้วรั้งตัวผมให้นั่งบนตักตัวเอง ผมเอนซบคุณหมอไปทั้งตัว เหตุการณ์เดียวกันกับนนท์เป๊ะ

“ผมหึง ตอนเปิดประตูเข้ามาแล้วเห็นคุณฟ้ากับคุณนนท์อยู่ด้วยกัน” คุณหมอบอก แม้จะเป็นคำพูดเบาๆ แต่น้ำเสียงจริงจังมาก แล้วเหมือนจะเลี่ยงพูดถึงเหตุการณ์ชวนโกรธ ตอนที่ผมกับนนท์กำลังจูบกันอยู่

“สัญญาครับว่าจะไม่มีอีก” ผมบอก ยื่นนิ้วก้อยให้คุณหมอเกี่ยว

“สัญญาแล้วนะครับ” ปลายนิ้วของคุณหมอเกี่ยวเข้ากับปลายนิ้วของผม 

“ครับ”

“ผมจะรอ รอวันที่คุณฟ้าจะรักผม”

“ครับ” ผมตอบรับออกไป ไม่ใช่เพียงเพราะทำให้คุณหมอสบายใจ มันเป็นเพราะผมอยากให้มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีระหว่างกัน

“....”

“....”

แล้วเราก็จูบกันอีกครั้ง กว่าจะรู้ตัวผมหลังผมก็สัมผัสกับผ้าห่มที่ปูเอาไว้ มันไม่นิ่มเหมือนพื้นเตียงในห้อง แต่ให้ความรู้สึกที่ดีเพราะมีคนข้างกายที่โอบกอดผมอยู่

“ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลย” ผมบอกคุณหมอ เมื่อปากของคุณหมอยังไม่หยุดไว้แค่ที่ปากของผม กลับไล่ลิ้นชื้นบนซอกคอ ไล่ลงมาที่ไหล่ จนถึงแผ่นอกเปลือยเพราะเสื้อชายเสื้อถูกเลิกขึ้นสูงไปสุดท้ายที่เหนือราวนม

“อ๊ะ...ไม่เอา...คุณหมอ นนท์อยู่” ผมต้องบอกซ้ำ เตือนความจำให้คุณหมอ เมื่อกี้ก็เหมือนจะหยุดไปรอบแล้ว ยังจะเริ่มต้นใหม่อีกเหรอ คุณหมอยอมหยุดและปล่อยตัวผม แต่หลังจากที่แย่งอากาศผมหายใจไปแล้วพักใหญ่

“ผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ” ผมบอกคุณหมอ พลางดึงเสื้อผ้าให้เข้าที่ เพิ่งรู้ว่ากางเกงข้างล่างถูกปลดตะขอกับซิบไปแล้ว มือไวซะมัดเลยคุณหมอ ทำตอนไหนผมยังไม่รู้ตัวเลย

“รีบอาบแล้วออกมาไวๆ นะครับ ผมเป็นห่วง” คุณหมอบอก ทำสีหน้าละห้อย ยังกับว่าผมจะไปออกรบก็ไม่ป่าน แค่ผมจะเข้าไปอาบน้ำในห้องที่มีนนท์อยู่เท่านั้นเอง

“ครับ” ว่าแล้วผมก็ก้มจูบแก้มคุณหมอไปที เพราะเห็นตาละห้อยแล้วน่าสงสาร แล้วเดินเข้าไปในห้องนอนตัวเองครับ ทั้งห้องยังเปิดไฟสว่าง ส่วนคนที่คิดว่าน่าจะหลับไปแล้ว ยังคงนั่งพิงหัวเตียงคุยโทรศัพท์อยู่ พอเห็นผมเปิดประตูเข้ามาก็เรียกทันที

“ฟ้ามานี่สิ มีคนอยากคุยด้วย”

“ใครอ่ะ?” ผมถามอย่างสงสัย เดินเข้าไปหานนท์ แทนที่จะตอบ นนท์กลับยื่นโทรศัพท์ให้แทน ผมรับมาถือ ดูหน้าจอ มันขึ้นชื่อว่า ‘แดน’

“มีอะไรกับพี่หรือเปล่าแดน”  ผมกรอกเสียงลงไป จากนั้นก็มีสัญญาณที่บอกว่าอีกฝ่ายวางเสียไปแล้ว

“วางสายเหรอ?” นนท์ถามผม เมื่อผมยื่นโทรศัพท์คืน

“อืม...แล้วนี่นนท์โทรไปกวนอะไรน้องอีก” ผมถาม ขณะที่นนท์กดปุ่มโทรออกอีกครั้ง พลางทำมือไล่ให้ผมไปห่างๆ ช่างเถอะ ไม่ตอบก็ไม่อยากรู้แล้วล่ะ

ผมเดินมาที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อผ้าเตรียมเข้าไปอาบน้ำ ยังไม่ได้ยินเสียงนนท์พูดกับคนปลายสายเลย สงสัยแดนจะไม่ยอมรับโทรศัพท์ สมน้ำหน้า ขอให้แดนไม่รับโทรศัพท์นนท์ทีเถอะ ผมขอแช่งโทษฐานที่ทำให้ผมโดนคุณหมอโกรธ ถึงผมจะมีส่วนอยู่บ้างก็เถอะที่ยอมนนท์จนได้เรื่อง

   ~~แชะ~~

“เฮ้ย!~ทำอะไรอ่ะนนท์” ผมรีบผลักนนท์ออก กลัวคุณหมอเข้ามาเห็น เพราะจู่ๆ นนท์ก็วิ่งมารั้งคอผมให้หันรับจูบ ก่อนจะมีเสียงแชะที่บอกว่ากล้องมือถือกำลังเก็บรูปซ็อตนี้อยู่

“ไม่บอก” นนท์ทำหน้ากวนๆ ใส่ผม ผมเลยเอาผ้าเช็ดตัวฟาดไปทีหนึ่ง

“เล่นอะไรเจ็บๆ นะฟ้า” นนท์บ่น แต่มือยังวุ่นวายอยู่กับโทรศัพท์ในมือ ผมชะโงกหน้าจะดูแต่นนท์ก็เบี่ยงตัวหนี พร้อมกับยัดโทรศัพท์ลงไปในกระเป๋า

“คิดจะทำอะไรนนท์” ผมเท้าสะเอวถาม

“ทำอะไรก็เรื่องของนนท์น่า ฟ้าไม่เกี่ยว” นนท์พูดปัดๆ

“ไม่เกี่ยวได้ไง ก็นั้นมันรูปฟ้า”

“ไม่ต้องมาโวยวาย ไปอาบน้ำเลย คุณหมอรออยู่ไม่ใช่รึไง” นนท์ว่า พร้อมกับจับตัวผมหมุนไปทางห้องน้ำ แล้วผลักผมเข้าไป แต่ผมฝืนตัวเอาไว้ จับกรอบประตูห้องน้ำไว้แน่น

“นนท์บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าเอารูปไปทำอะไร” ผมถามเสียงไม่ดังมากนัก กลัวคุณหมอได้ยิน

“อยากให้นนท์ช่วยอาบน้ำให้ไหม?” นนท์ส่งสายตาหื่นๆ มาให้ ผมก็กลัวนะครับ ถึงรู้ว่านนท์ไม่ทำจริงหรอก แต่ใครจะรู้ดีเท่าตัวนนท์ล่ะ ขนาดบอกเลิกกับผมไปแล้ว ยังกล้ามาทำรุ่มร่ามกับผมเลย ผมเลยยอมถอยเข้าห้องน้ำไปโดยดี แต่ไม่วายบอกแกมขอร้องกับนนท์ไปว่า...

“อย่าให้คุณหมอเห็นนะ”

นนท์ยิ้มกวนๆ ผมละเกลียดคนเจ้าเล่ห์จริงๆ ดีนะที่คุณหมอไม่เจ้าเล่ห์เหมือนนนท์ (= =’ ไม่จริงม้างงงง : คนเขียน)

.

.

.

.

.

“อ้าวคุณหมอ...”

คนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงในห้องของผม ถือหนังสือเล่มเล็กอยู่ในมือ แทนที่จะเป็นนนท์กลับเป็นคุณหมอ ผมกวาดตาไปรอบห้องก็ไม่เห็น  นนท์ไปไหน  รึเปลี่ยนใจไปนอนนอกห้องแทนผมกับคุณหมอ ผมนึกสงสัย แล้วคุณหมอก็ช่วยเฉลยให้

“กลับไปแล้วครับ”

“หรอครับ” พอจะเดาได้แล้วว่าที่นนท์ถ่ายรูปผมน่ะ ถ่ายไปทำไม ต้องเอาไปยั่วแดนแน่ๆ ไม่เข้าใจว่านนท์จะจีบแดนหรือทำให้แดนเกลียดมากกว่าเดิมกันแน่ แถมเอาผมเข้าไปเกี่ยวด้วย มันน่าไหมล่ะ คิดแล้วโมโหแต่ทำอะไรไม่ได้หรอก นนท์ดื้อจะตาย ไม่ใช่ดื้อเงียบเหมือนผมนะครับ แต่ดื้อจริงจัง ดื้อกันให้เห็นจะๆ ดื้อแบบหัวชนฝาเลยครับ
 

“มาครับ ผมช่วยเป่าให้” คุณหมอว่าทันทีที่ผมหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา แล้วลุกขึ้นเดินเอาหนังสือไปเก็บไว้บนโต๊ะ ไม่เหมือนผมครับที่พออ่านเสร็จหรือเลิกอ่านเพราะง่วงก็จะวางมันไว้บนเตียงข้างตัวนั่นแหละครับ ไม่ลุกเอาไปเก็บให้เสียเวลาหรอกครับ เรียกว่าขี้เกียจดีๆ นี่เอง

“มาครับ” ผมยื่นไดร์เป่าผมให้คุณหมอ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งหน้าโต๊ะกระจก ผมติดนิสัยสระผมทุกครั้งเวลาอาบน้ำครับ เพราะมันรู้สึกสดชื่นมากกว่าที่จะอาบน้ำเพียงอย่างเดียว

เสียงไดร์เป่าผมทำงานอยู่เหนือหัวผม กับมือใหญ่ที่ขยี้ผมของผมไปมา บวกกับเวลาที่มันดึกมากแล้ว ทำให้ผมเคลิ้ม ตาปิด สติหลุดลอย มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ถูกคุณหมอจุ๊บแก้มเบาๆ ผมกับประโยคเดิมๆ ที่ว่า

“ค่าจ้างครับ” คุณหมอว่ายิ้มๆ

“งั้นเดือนนี้ก็ช่วยออกค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลางให้ผมด้วยนะครับ ถือว่าเป็นค่าเตียงกับค่าตัว” ผมก็พูดไปเรื่อยครับ ไม่ได้จริงจังอะไรมาก เดินมาทิ้งตัวลงนอน ดึงผ้าขึ้นมาห่ม มองคุณหมอเก็บไดร์ใส่ลิ้นชัก แล้วเดินมานอนข้างผม ดึงตัวผมเข้ามากอด ทำหน้าเหมือนคนสำนึกผิดอะไรขึ้นมาสักอย่าง

“ผมขอโทษ”

“หือ? ขอโทษอะไรกันครับ” คิ้วผมขมวดเข้าหากัน สงสัยและไม่เข้าใจว่าคุณหมอจะขอโทษผมทำไมกัน คุณหมอยังไม่ทำอะไรให้ผมโกรธเลยด้วยซ้ำ แล้วผมจะเอาอะไรไปโกรธคุณหมอ

“เรื่องค่าตัว”

“หือ? ค่าตัว” ผมทวนคำนั้นช้าๆ

“ครับเรื่องค่าตัว”

“อะไรครับ ผมไม่เข้าใจ” ไม่เข้าใจจริงๆ ผมเอาตัวออกจากอ้อมแขนคุณหมอ ลุกขึ้นนั่ง เกาหัวตัวเองด้วยความไม่เข้าใจ คุณหมอลุกตาม หน้าเข้มดูหมองลง อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบแก้มนั้นเบาๆ คุณหมอจับมือผม แล้วดึงลงมากุมไว้ด้วยสองมือ

“คุณฟ้าโกรธผมที่ผมหอมแก้ม เลยประชดผมเรื่องค่าตัวกับค่าเตียง”

อืมมมม...เข้าใจล่ะ คิดมากกับคำพูดผมนั่นเอง

“คิดมากไปหรือเปล่าครับคุณหมอ ผมแค่พูดเล่นๆ จะไปโกรธอะไรคุณหมอล่ะครับ แค่เรื่องหอมแก้มเนี้ย มากกว่านี้ผมยังไม่โกรธเลย” ผมว่า แล้วแทบจะก้มหลบสายตาวิบวับของคุณหมอไม่ทัน ตาสีเข้มแพรวพราวขึ้นมาทันตา หน้าที่เคยหมองก็เต็มไปด้วยยิ้มหื่นๆ ชักไม่แน่ใจแล้วครับว่านนท์หรือคุณหมอใครหื่นกว่ากัน

“ไม่โกรธจริงๆ นะครับ” คุณหมอถามย้ำ ลูบมือผมที่คุณหมอกุมเอาไว้เบาๆ แบบมีความหมาย จะชักมือหนีก็ทำไม่ได้ เมื่อคุณหมอเปลี่ยนมากำมันไว้แน่น

“จะโกรธครับ ถ้าคุณหมอยังไม่ยอมปล่อยมือผม” ผมทำเสียงเข้มใส่ แต่คุณหมอไม่กลัว สายตายังวิบวับเหมือนเดิม ตอนนี้เริ่มมีอารมณ์อยากโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้วครับ

“ปล่อยครับ” เสียงดังขึ้นอีกนิด ย้ำว่าผมพูดจริง คุณหมอเลยยอมปล่อย พร้อมกับล้มตัวลงนอนหันหลังให้ผม ทำท่าว่าโกรธผม นี่คือคุณหมอที่ผมรู้จักมาตลอดหกเดือนงั้นเหรอ ทำไมมันแตกต่างจากภาพที่ผมเห็นมาตลอดล่ะครับ

เอะอะก็งอน...ผมต้องง้อตลอด

ผมเป่าลมออกจากปากช้าๆ  พยายามเข้าใจอาการของคนที่นอนหันหลังให้ ผมกดเปิดสวิสซ์ไฟที่หัวเตียง ก่อนลุกขึ้นไปปิดไฟ แล้วเดินกลับมาล้มตัวลงข้างคุณหมอ เอื้อมมือไปกอดเอวหนาเอาไว้หลวมๆ ซบหน้ากับแผ่นหลังกว้าง คุณหมอทำขืนตัว นี่กะจะเล่นตัวกับผมว่างั้น

“กอดไม่ได้หรือครับ” ผมถาม ทำใจกล้าเกี่ยวขาตัวเองเข้ากับขาคุณหมอ รู้หรอกว่าคุณหมอชอบให้ง้อด้วยวิธีแบบนี้ อะไรที่ถึงเนื้อถึงตัวเนี้ย คุณหมอชอบ

“ปล่อยเถอะครับ ผมจะนอน” อืมมม...ดูคุณหมอพูด พูดได้ผิดกับนิสัยมากๆ ผมไม่ได้โง่จนดูไม่ออกนะครับว่าคุณหมอกำลังเล่นตัว

“คุณหมอครับ” ผมกระซิบเสียงเบาที่ข้างหูคุณหมอ กดจูบเข้าที่ข้างแก้มใกล้ปาก

“....” ยังเงียบ นอนนิ่งอยู่ท่าเดิม

“ไม่อยากกอดผมแล้วเหรอ” จำต้องกัดฟันถามเรื่องน่าอายไปจนได้ครับ นี่ผมต้องง้อด้วยวิธีนี้ใช่ไหม ถึงจะยอมหายงอน พอผมพูดจบหันกลับมาอย่างไวครับ ผมแทบตั้งตัวไม่ทัน ถูกกดลงไปจมกับเนื้อเตียงด้วยร่างหนาที่ทาบทับลงมา

“อยากครับ อยากกอดคุณฟ้าใจจะขาดแล้วครับ”

อืม...คำที่บอกสัมผัสตรงกับใบหน้าที่แสดงออกมาครับ ผมจนใจ แต่ก็ยินยอมพร้อมใจนะครับ อย่างน้อยผมก็ถูกกอดด้วยความรักมากกว่าความใคร่...

>>>>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<<<

หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 19 เรื่อยๆ หากเริ่มเข้าใจ {12/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 12-01-2012 16:52:51
งงกับความรักของนนท์กับแดน

หวานกับความรักของคุณหมอกับฟ้า

 :เฮ้อ: :L3:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 19 เรื่อยๆ หากเริ่มเข้าใจ {12/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 12-01-2012 17:19:43
นนท์บ้าบอมากๆ >"<
บวกๆ ค่า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 19 เรื่อยๆ หากเริ่มเข้าใจ {12/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 12-01-2012 17:23:21
เข้ามาเจอฉากเด็ดพอดี โกรธคุณฟ้าแทนคุณหมอ
ดีจังที่หมอหายโกรธไว ไม่งั้นมาม่าชามโตคงมาอีก
หื่นเสมอต้นเสมอปลายนะหมอ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 19 เรื่อยๆ หากเริ่มเข้าใจ {12/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Karn12 ที่ 12-01-2012 17:27:11
นนท์กับแดนนี่จะเอายังไงกันแน่
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 19 เรื่อยๆ หากเริ่มเข้าใจ {12/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 12-01-2012 17:38:38
 :a2:เย้ในทีสุดฟ้าก้อเริ่มแคร์คุณหมอแล้วมีวิธีง้อที่น่ารักชะด้วยชอบให้เป็ด1ตัว :duck1:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 19 เรื่อยๆ หากเริ่มเข้าใจ {12/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 12-01-2012 21:56:47
อยากไล่กระทืบทั้งฟ้าทั้งนนท์
สงสารคุณหมอของเราจริงๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 19 เรื่อยๆ หากเริ่มเข้าใจ {12/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 12-01-2012 22:14:12
ฟ้าน่ารัก
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 19 เรื่อยๆ หากเริ่มเข้าใจ {12/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 13-01-2012 13:51:51

เบื่อนนท์! -^-
ก็เลิกกันแล้วอะ ยังมาทำตัวรุ่มร่ามใส่ฟ้าอีก
คุณฟ้าก็ยอมเขาทำไมเนี่ยะๆ เฮ้ออ ขัดใจ
แต่ชอบเวลาคุณฟ้าง้อคุณหมออะ
น่ารักกกกกกก >      <

รออ่านตอนต่อไปจ้า
+1 ให้น้าาาาา
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 19 เรื่อยๆ หากเริ่มเข้าใจ {12/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 13-01-2012 14:21:49
หึหึหึ...นนท์นี่ บางทีก็สงสารแดน สงสัยจะเจอมาเยอะ555 กวนน่าดู
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 19 เรื่อยๆ หากเริ่มเข้าใจ {12/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 13-01-2012 17:57:02
ดีที่คุณหมอกับฟ้าเข้าใจกัน แต่ไม่เข้าใจนนท์เลย แถมฟ้ายังไม่ค่อยขัดขีนอีก
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 19 เรื่อยๆ หากเริ่มเข้าใจ {12/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 14-01-2012 06:29:50
 :beat: :beat: นนท์ทำตัวแย่มากๆ   :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 19 เรื่อยๆ หากเริ่มเข้าใจ {12/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: atommic ที่ 14-01-2012 21:08:12
นนท์แย่มากๆเลยอ่ะ นิสัย :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 19 เรื่อยๆ หากเริ่มเข้าใจ {12/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 15-01-2012 21:24:40
นนท์ทำตัวแย่มากกกกกกกกกกก :m16:
ฟ้าก็ไม่ขัดขืนเลย :z3:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 16-01-2012 22:18:07
ตอนที่ 20 สัญญาว่าจะไม่ทิ้งไปไหน


ผมจูบเข้ากับกลุ่มผมนุ่มที่วางอยู่บนอกของตัวเอง เสียงหายใจหนักหน่วงจากร่างกายที่กกกอดหลังผ่านกิจกรรมระหว่างเราเริ่มกลับเข้าที่ มือลูบแผ่นหลังเปลือยเบาๆ  ช่วยผ่อนอาการเหนื่อยหอบ ผิวเนื้อขาวปรากฏรอยแดงใหม่แทรกรอยเก่า

รอยเก่ากับรอยใหม่

คนเก่ากับคนใหม่

คุณนนท์กับผม....

ตอนที่ผมเปิดประตูเข้ามา ถึงผมจะไม่เห็นว่าก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้นระหว่างคนสองคน คุณฟ้ากับคุณนนท์ทำอะไรกัน เห็นแค่ตอนที่คุณฟ้าดีดตัวลุกขึ้นหลังจากผลักคุณนนท์ออกไป แต่แค่นั้นมันก็ทำให้ผมเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไปโดยอัตโนมัติในความคิด

ภาพที่เห็นคนอดีตคนเคยรักกันอยู่ด้วยกัน มันก็ทำให้ผมยืนตัวแข็งได้เหมือนกัน วูบหนึ่งที่ผมรู้สึกแน่นที่หน้าอก มันร้อนจนแทบจะระเบิด
อยากทิ้งใบหน้าน่ารักที่ทำเหมือนจะร้องไห้เอาไว้ด้านหลัง แล้วเดินออกไปเสีย แต่ผมทำไม่ได้ ได้แต่ยืนอยู่ที่เดิม ปล่อยให้คุณฟ้าเดินเข้ามาหา มองดูแผ่นหลังที่หายเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับเสื้อผ้าที่ผมหอบเอามาจากบ้าน ยืนจ้องตากับอดีตคนรักของคุณฟ้า แม้อีกฝ่ายจะทำเหมือนหงุดหงิดที่เห็นผม แต่สายตาก็ไม่ได้โกรธหรือแฝงความเป็นศัตรู สักพักก็ก้มหยิบเสื้อผ้าเดินตามคุณฟ้าเข้าไปในห้อง

ผมอยากเดินตามเข้าไป ไม่อยากให้คนสองคนอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง ขณะที่ผมยืนอยู่ตรงนี้ แต่ผมก็ทำไม่ได้ ผมรู้ ผมยังไม่มีสิทธิ์มากพอ ต่อให้ผมกับคุณฟ้าเป็นคนๆ เดียวกันไปแล้ว มันก็แค่นั้นเอง เทียบไม่ได้กับความสำคัญของคุณนนท์

ผมยืนอยู่ที่เดิมนานมาก ชั่งใจว่าจะกลับออกไปดีไหม

กลับหรือไม่กลับ...

ถามตัวเองอยู่นาน จนสุดท้ายคำตอบคือ ‘ไม่’

ผมยังอยากพยายามต่อไป

คำว่า ‘หวั่นไหว’ ของคุณฟ้าเมื่อตอนบ่าย ทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นมาอีกมาก แล้วยังตอนที่คุณฟ้าเข้ามาง้อผมอีก ตอนนั้นคุณฟ้าถึงกับร้องไห้เพราะเข้าใจว่าผมโกรธจนไม่ยอมพูดอะไรกับตัวเอง ตอนนั้นผมโกรธจริงๆ  โกรธแต่ไม่มาก เพราะรู้ตัวดีว่ากำลังอยู่ในสถานะไหน ผมยังเป็นแค่คนที่เพิ่งเข้ามาในชีวิตของคุณฟ้า ที่ได้มาทุกวันนี้มันก็มากเกินที่จะคิดถึงด้วยซ้ำ แต่พอคุณฟ้าง้อด้วยน้ำตาแล้ว ผมก็ทนใจแข็งไม่ได้ ไม่อยากเห็นคุณฟ้าร้องไห้ โดยเฉพาะร้องไห้เพราะการกระทำของผม และนั่นมันทำให้ผมมั่นใจขึ้นมาอีกนิดว่า ...

‘ผมเข้าไปอยู่ในสายตาของคุณฟ้าแล้ว บางทีอาจจะเข้าไปอยู่ในใจบ้างแล้วก็ได้’

 ไม่งั้นคงไม่ยอมให้ผมกอดอยู่ทุกคืนหรอก ใช่ไหมล่ะครับ

“เหนื่อยแล้วครับคุณหมอ” คนในอ้อมกอดว่า ดิ้นน้อยๆ   เมื่อผมหอมแก้มเนียนไปเต็มแรง คงคิดว่าผมจะรบเร้าเอารอบที่สาม อยากเหมือนกันแต่ไม่ใช่ตอนนี้ 

“ผมก็เหนื่อย....กว่าจะทำให้คุณฟ้าเสร็จได้” ผมพูด คุณฟ้าอาย ใบหน้าน่ารักที่เงยขึ้นมามองแดงมาก ลามไปถึงใบหูเล็ก มือเล็กทุบเข้าที่อกผม ไม่แรงมาก แต่ไม่ยอมหลบตาส่งความหมายของผม

“ทะลึ่ง” คุณฟ้าว่า ทำหน้ามุ้ยเห็นแล้วอดใจที่จะไม่จูบปากเล็กๆ นั้นไม่ได้ ลิ้นผมเลยทำงานอีกครั้ง กวาดความหวานหลังกลีบปากนิ่มอีกอย่างไม่รู้เบื่อ

“ฮื้อออ...”

“ทะลึ่งก็ทะลึ่งกับคุณฟ้าคนเดียว” ผมพูดหลังจากถอนปากจากความหวานตรงหน้า คนที่ขาดอากาศหายใจรีบโกยเอาอากาศเข้าปอด ก่อนจะพูดบอกผมว่า

“คุณหมอคนที่ผมรู้จักเมื่อหกเดือนก่อน ไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย” ว่าเสียงเบา แต่ผมก็ได้ยินชัด ก็นอนกอดกันอยู่ใกล้แค่นี้ พูดในลำคอก็ได้ยินครับ

“แบบนี้? แบบไหนครับ” ผมแกล้งถามพาซื่อ พอรู้แหละว่าแบบนี้มันแบบไหน

“หื่น” มือเล็กบีบเข้าที่แก้มผม ผมกุมมือนั้นให้อยู่บนแก้มตรงตำแหน่งเดิม ไม่ให้เจ้าของมือดึงกลับ

“แล้วก่อนหน้านั้นล่ะครับ” ตอนถามก็ลูบหลังมือนิ่มไปด้วย

“ไม่หื่น” ตอบเสียงดังมากแล้วก็ดึงมือตัวเองกลับ

ผมขำกับคำว่า ‘ไม่หื่น’ ของคุณฟ้า จนเจ้าตัวต้องตีหน้าดุกับตีแขนผมไปหลายที  มีคนน่ารักอยู่ใกล้ๆ ใครจะไม่อยากกอด อยากทำหื่นใส่ล่ะ

“ขำอะไรเยอะแยะครับ ที่พูดนี่ไม่ต้องการให้ขำนะครับคุณหมอ” คนพูดทำหน้ายุ่ง แต่ดูยังไงก็น่ารัก

“ไม่ขำครับ ไม่ขำ” ผมว่า กระชับร่างบางแน่นกว่าเดิม อยากจะบอกเหลือเกินว่าจะให้ก่อนหน้านี้เหมือนกับตอนนี้ได้ยังไง ถ้าตอนนั้นผมทำอะไรๆ ที่เรียกว่า ‘หื่น’ ออกไป มันจะเหมาะสมเหรอ มันก็ไม่เหมาะและไม่ได้ด้วย แต่ตอนนี้มันต่างกันนี่ ผมกับคุณฟ้า เราสองคนไม่ใช่แค่เจ้าของร้านกับลูกค้าอีกแล้ว เราสองคนเป็นเริ่มต้นคบกันแบบรวดเร็วและก้าวกระโดดมากๆ

“ที่หื่น ที่ทะลึ่ง ก็เพราะคุณฟ้า คุณฟ้าทำให้ผมเป็นแบบนี้”

“มาโทษผมได้ไง”

“ไม่ได้โทษครับ แค่ผมอยากบอกให้คุณฟ้ารู้ว่า คุณฟ้าน่ารักจนผมอดใจไม่ไหว แล้วตอนนี้มันก็.....อดใจไม่ไหวอีกแล้ว ขอนะครับ” ผมบอกแล้วขอเอากับเจ้าของใบหน้าที่ขึ้นสีแดงกว่าเดิม อุณหภูมิของร่างกายที่ผมกอดอยู่คงไม่แตกต่างจากผมมากนัก มันเริ่มสูงขึ้น

ด้านล่างไม่ต้องพูดถึง ก็น่าจะเดากันออก ทั้งของผม ของคุณฟ้า

“คุณหมอ...ไม่เอา อื้ออ....” เสียงห้ามเบาเกินกว่าจะหยุดมือผมที่เลื่อนลงต่ำไปเบื้องล่าง ลูบและคลึงเฟ้น วนเวียนอยู่นานในช่องทางด้านหลัง ขณะที่ปากแลกจูบเอากับคนที่ร้องห้ามในตอนแรก แต่แล้วก็กลับกลายมาให้ความร่วมมืออย่างง่ายดาย เพียงแค่ผมแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานตามความต้องการ

คุณฟ้าที่น่ารักของผม น่ารักจริงๆ ครับ ปากว่าไม่แต่ร่างกายก็ยินยอมเสมอ เป็นแบบนี้แล้วมีหรือผมจะอดใจไหว อย่าว่าแต่ผมไม่เหมือนก่อนหน้านี่เลยครับ คุณฟ้าของผมก็เหมือนกัน เมื่อก่อนน่ารักแต่ตอนนี้น่ารักมากถึงมากที่สุด น่ารักจนไม่รู้เอาคำไหนมาเล่าสู่กันฟังแล้วครับ

ทั้งน่ารัก น่าหลง และว่าง่าย...

เมื่อผมขอ ไม่มีที่คุณฟ้าจะไม่ทำตามคำขอของผม ครั้งนี้ผมถึงได้ขออะไรบางอย่างออกไป เพิ่มดีกรีความหื่นของตัวเองในสายตาขึ้นฟ้าอีกยก

“ข้างบนนะครับ”

“หาาาา.....”
 ตากลมโต โตขึ้นมากว่าเดิม ใบหน้าหน้ารักที่แดงกล่ำหันหนีสายตาของผมที่อ้อนขอ เมื่อร่างของตัวเองถูกพลิกขึ้นมาอยู่ด้านบน  มือเล็กยึดข้อมือผมที่จับเอวค่อดไว้ทั้งสองข้าง

ตั้งแต่มีอะไรกันมา ผมกับคุณฟ้ายังไม่ลองท่านี้กันเลย...

“ไม่ได้หรือครับ” ผมขยับตัวลุกขึ้นกึ่งนั่ง ปลายจมูกของเราชนกันเบาๆ ร่างบางที่ผมดึงเข้ามากอดร้อนผ่าว กอดแล้วอุ่นดีจริงๆ

“....” คุณฟ้าพยักหน้าช้าๆ ไม่กล้าสบตา ก่อนหลับตาแล้วเอาหน้าผากมาชนกับหน้าผากผม แขนเรียวสวมกอดผมตอบ

“ได้ใช่ไหมครับ” ผมกระซิบถามเสียงเบาเอากับใบหูเล็กอีกครั้ง มือคอยลูบแผ่นหลังเนียนไปมา ปากผมกดลงบนแก้มนุ่ม  ขยับมาที่ปากบางแต่ไม่ได้ล้วงล้ำเข้าไป

“คุณหมออ่ะ...” คุณฟ้าตีไหล่เบาๆ เป็นสัญญาณว่า คนน่ารักคนนี้กำลังจะทำตัวน่ารักให้น่าหลงอีกแล้ว

“นอนลงสิครับ”

.

.

.

.

.

.

นาฬิกาชีวิตของผมจะปลุกผมตอนประมาณหกโมงเช้า วันนี้ก็เช่นกัน หกโมงกับอีกสามนาทีเวลาที่ผมลืมตาตื่นขึ้นมาโดยไม่มีร่างกายหอมๆ ในอ้อมกอด เมื่อคนตัวหอมนอนอยู่อีกฟากของเตียง หน้าที่หันมาทางผมดูน่ารักเหมือนตอนที่ตื่นลืมตา ผมเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำแต่งตัว ถึงแม้วันนี้ผมจะเป็นวันหยุดผมแต่ผมก็ชินกับการตื่นเช้าครับ

ออกจากห้องน้ำมาคุณฟ้าก็ยังไม่ตื่น เหลือเวลาอีกสิบนาทีกว่าจะถึงเจ็ดโมงครึ่ง ผมเลือกที่จะนั่งมองหน้าคุณฟ้าตอนหลับ ก่อนที่จะปลุกเมื่อถึงเวลาที่เจ้าตัวบอกเอาไว้

เมื่อคืนผมถูกคุณฟ้าสั่งห้ามเด็ดขาดไม่ให้เตะแม้แต่ปลายนิ้ว ด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหยโรยแรงหลังจากถูกผมปล่อยตัวให้เป็นอิสระ ทั้งที่ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรอีกแล้ว แต่คุณฟ้าไม่เชื่อ มองผมตาเขียว ต้องป้อมกับผมด้วยมือและเท้าที่ไม่มีแรงเหลืออะไรเลย ถ้าผมรุกอีกครั้งก็คงไม่มีแรงต้าน แล้วก็เผลอให้ความร่วมมือกับผมอีกจนได้ แต่เห็นคุณฟ้าอ่อนแรงอย่างนั้นก็น่าสงสาร ไม่อยากรังแกไปมากกว่านี้ ผมถึงได้ยอม นอนแยกกับคุณฟ้าให้อุ่นใจว่าผมจะไม่ชักชวนให้เคลิบเคลิ้มแต่อย่างใด

ผมเปลี่ยนจากนั่งมองเป็นนอนตะแคงดูใบหน้านั้นด้วยความรู้สึกรักที่มันเต็มตื้นอยู่ในอก เอื้อมมือไปเกลี่ยเส้นผมสีดำให้เข้าที่เพื่อจะได้เห็นใบหน้าน่ารักได้ชัดขึ้น ทันใดนั้นมือเล็กก็คว้ามือผมเอาไว้ ก่อนจะดึงเอาไปกอด

“รักคุณหมอนะครับ” ปากบางขยับช้าๆ เปล่งเสียงหวานบอกคำที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้ยิน ผมไม่ได้หูฝาด ผมได้ยินชัด

คุณฟ้าพูดโดยไม่ได้ลืมตา ความคิดแรกของผมคิดว่าคุณฟ้าละเมอ แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนความคิดทันที ตอนที่กลีบปากบางก้มไปแตะที่หลังมือผม ทำให้รู้ว่าไม่ได้ละเมอ แล้วเปลือกตาสวยก็ขยับเผยให้เห็นส่วนที่หน่อยตาสวย  ตากลมโตขึ้นช้อนขึ้นมองสบตากับผมก็ยืนยันได้ดี มันหวานซะจนไม่กล้ากระพริบตากลัวว่ามันจะเป็นความฝัน

“....” ผมยังพูดไม่ออก ได้แต่มองหน้าคนพูด ตามันค้าง หัวใจมันเต้นแทบจะกระเด้งออกอยู่จากอก

“....”

“ไม่ได้ละเมอนะครับ” คนน่ารักของผมว่า ยังกับเดาความคิดของผมออก จากนั้นก็ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ผมลุกตาม

ผิวขาวขึ้นรอยจ้ำแดงเห็นชัดกว่าเมื่อคืนมาก ทำให้ผมนึกไปถึงเมื่อคืนที่เอาแต่ใจตัวเองมาก มากกว่าทุกครั้ง ครั้งสุดท้ายจำได้ว่าในห้องน้ำตอนที่ผมอุ้มคุณฟ้าไปอาบน้ำ ตอนนั้นมันห้ามตัวเองไม่ไหวจริงๆ ยอมรับว่าส่วนหนึ่งมาจากเหตุการณ์ที่ผมเปิดประตูเข้ามาเห็นคุณฟ้ากับคุณนนท์ ถึงผมจะหายโกรธ แต่ผมก็อยากแสดงความเป็นเจ้าของให้คุณฟ้าจดจำว่า...มีเพียงผมคนเดียวที่จะทำอย่างนี้กับคุณฟ้าได้

“ไม่ได้โกหกด้วย” มือเล็กขยี้ตาบอกอาการว่าคนพูดยังคงง่วงจัดแต่ยังฝืนลุกขึ้นมานั่ง มาพูดให้ผมดีใจจนแทบจะตะโกนออกมาลั่นห้อง

“แต่อย่าทำเหมือนเมื่อคืนอีกได้ไหมคุณหมอ” ความดีใจของผมดับวูบด้วยความรู้สึกผิด ผมผิดมากกับเรื่องเมื่อคืน รังแกจนคุณฟ้าเกือบไม่ได้นอน

“ถ้าผมทำให้คุณหมอโกรธก็บอกผมมาตรงๆ แต่อย่าทำแบบเมื่อคืนอีกนะครับ มีอะไรก็ต้องพูด ถ้าไม่พูด ผมก็ไม่รู้ แล้วก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงด้วย ผมไม่อยากให้คุณหมอเข้าใจผมผิด ทั้งที่เมื่อก่อนหน้านั้น คุณหมอเองบอกว่าหายโกรธผมแล้วแท้ๆ”

คุณฟ้าว่าต่อ น้ำเสียงฟังดูน้อยใจนิดๆ ส่วนผมได้แต่นั่งฟัง รู้สึกผิดกว่าเดิม ตอนทำมันไม่ได้คิดอะไรเลยนอกจากอยากตีตราจอง แถมตอนทำก็พร่ำพูดอะไรหลายอย่างออกไป จำแทบไม่ได้ว่าอะไรบ้าง แต่ใจความหลักๆ ก็เรื่องอย่างว่านี่แหละครับ ว่าไม่อยากให้ใครมาเตะต้องตัวคุณฟ้า ไม่ว่าจะเป็นคุณนนท์หรือใครก็ตาม อารมณ์หึงหวงมันพาไป ห้ามไม่ได้ โทษผมคนเดียวก็ไม่ได้ โทษคุณฟ้าด้วยที่ตอนนั้นไม่เห็นจะห้ามปราบอะไรผม ทำตัวน่ารักเสียจนผมอยากรังแกซ้ำแล้วซ้ำอีก

‘ตรงนี้อย่าให้ใครจับ’

‘ตรงนี้อย่าให้ใครกอด’

‘ตรงนี้อย่าให้ใครลูบ’

‘ตรงนี้อย่าให้ใครใกล้’

‘ตรงนี้อย่าให้ใครจูบ’

‘ตรงนี้เป็นของผม’

‘ตรงนี้ผมเป็นเจ้าของ’

‘ตรงนี้ก็ใช่’

‘ตรงนี้อีก’

‘ตรงนี้ด้วย’

‘ตรงนี้’

‘ตรงนี้’

‘ตรงนี้’

ทุกส่วนของร่างกายคุณฟ้า ไม่มีเว้นแม้แต่ปลายเล็บที่ผมจับจองเป็นเจ้าของด้วยริมฝีปากกับลิ้นร้อนที่ไล่ผ่าน กดประทับตีตราจองมากกว่าทุกครั้ง โดยมีคุณฟ้าเปิดทางให้ทุกซอกทุกมุม ไม่มีทักท้วง ไม่มีห้ามปราม มีแต่สมยอม พร้อมกับให้ความร่วมมือ จนผมคิดว่าคุณฟ้าเป็นหุ่นยนต์ที่ตั้งโปรแกรมเอาไว้ให้เปล่งแค่เสียงครางหวานออกมาเป็นระยะที่ผมรุกล้ำ

ถ้าไม่เห็นว่าคุณฟ้าไม่มีแรงแม้แต่จะยกมือขึ้นมากอดตอบผม ผมคงไม่หยุดเอาไว้แค่ในห้องน้ำนั้นแน่ๆ ผมไม่ใช่หมอสัตว์โรคจิต แต่ถ้าใครไม่มาเป็นผมไม่มีทางรู้หรอก ว่าคุณฟ้าน่ารักขนาดไหน แล้วจะไม่ให้รักไม่ให้หวงได้ไง

“....” ผมยังไม่มีคำพูดใดๆ ยังนั่งนิ่งฟังคุณฟ้าพูด

“ผมเป็นของคุณหมอแล้วนะครับ ไม่ไปเป็นของใครทั้งนั้น สัญญาครับ”

“.....”

“เชื่อใจผมนะครับ”

“....” ผมยังไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาเหมือนเคย ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง พูดน้อยด้วย ยิ่งเวลานี้ผมควรนิ่งเพื่อจะฟังความในใจของคุณฟ้าต่อไป

“กับนนท์ ผมสัญญาจะไม่มีอีกแล้ว แต่จะห้ามให้ผมเลิกคบเลิกคุยกับนนท์ ตัดนนท์ออกไปจากชีวิตคงไม่ได้ ถ้าต้องให้เลือกระหว่างคุณหมอกับนนท์ ผมก็ต้องเลือกนนท์ เพราะนนท์เป็นเหมือนคนในครอบครัวของผมไปแล้ว” ตอนท้ายคุณฟ้าพูดเสียงเบาเหมือนลังเลที่จะพูดอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

“เข้าใจผมใช่ไหมครับ แล้วก็อย่าหึงผมกับนนท์อีกเลย ยังไงเราสองคนก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว คุณหมอก็เห็น นนท์รักแดน ไม่ใช่ผม” คุณฟ้าพูดเหมือนจะร้องไห้ เสียงเครือ ตาวาวด้วยน้ำใสๆ ผมรู้สึกคล้ายกับมีเข็มเล่มเล็กจิ้มเข้าที่อก ไม่ลึกแต่ก็ทำให้เจ็บพอประมาณ

ผมพอเข้าใจความรู้สึกของคนถูกทิ้งว่ามันเป็นยังไง หวังให้คุณฟ้าลืมความรักของคุณนนท์ไปทั้งหมดในเวลาแค่ไม่กี่วันคงเป็นไปได้ยาก อย่างน้อยผมก็ควรดีใจใช่ไหมที่คุณฟ้าเปิดใจรับผมเข้าไปแล้ว และยังบอกรักผมอีก แค่นี้มันก็ดีเกินพอกับช่วงเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วัน ส่วนความรู้สึกที่คุณฟ้าให้คุณนนท์ไป ไม่นานมันก็คงกลายเป็นอดีตที่ไม่มีตัวตนเหลืออยู่อีกแล้ว

ขนาดความรู้สึกที่ผมมีให้น้องลม ยังต้องใช้เวลาหลายเดือน นับประสาอะไรกับของคุณฟ้าที่รักแล้วก็ผูกพันกันมามากขนาดนั้น ผมต้องให้เวลาคุณฟ้าเท่าๆ กับโอกาสที่คุณฟ้ามอบให้ผม

“โกรธหรือครับ”

“....” ผมส่ายหน้า ยิ้มแทนคำตอบว่าไม่โกรธ แล้วขยับเข้าไปใกล้ ลูบใบหน้าขาวด้วยความรู้สึกรัก อยากสัมผัสแบบนี้ไปเรื่อยๆ

“แต่คุณหมอไม่ยอมพูดอะไรเลย ตั้งแต่ที่ผมบอกว่า.....” คุณฟ้าไม่พูดต่อ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง ไม่ใช่แค่ทำเหมือนแล้วครับตอนนี้ น้ำใสๆ มันไหลออกมาจากตากลมโตทันที

“อย่าร้องสิครับ ผมไม่ได้โกรธคุณฟ้าเลย อย่าร้องนะครับ” ผมดึงตัวคนเจ้าน้ำตาเข้ามากอด ลูบไหล่ลูบหลังหวังให้คลายสะอื้น แต่กลับเป็นว่าร้องหนักกว่าเดิมอีก

“ฮึก...แต่คุณหมอ...โกรธ...ฮึก..ฮึก..คุณหมอโกรธผม....ฮึก...”

“ตรงไหนที่บอกว่าโกรธครับ” ผมถามกลับ ช้อนใบหน้าเปื้อนน้ำตาขึ้นมาสบตา ใช้เช็ดน้ำตาที่ไหลจากหน่วยตาสวยที่เช็ดเท่าไหร่ก็ดูจะไม่หมด

“ก็...ก็...ฮึกกกกก....” พูดว่า ‘ก็’ อยู่สองที ก็ปล่อยโฮออกมาใหญ่ ผมต้องดึงตัวเอามากอดไว้เหมือนเดิม นาน ไม่ได้ปลอบอะไรนอกเสียจากกอดร่างนั้นเอาไว้เฉยๆ ปล่อยให้ร้องเสียให้พอ นานกว่าที่คุณฟ้าจะหยุดแต่ยังไม่เสียงสะอื้นหนักๆ ให้ได้ยิน เจ้าตัวดันตัวเองออกจากวงแขนผม เงยหน้าช้ำน้ำตาขึ้นมา

“...โกรธผมจริงๆ ด้วย...ฮึก...” คำต่อว่าเบาแสนเบา ถ้าไม่อ่านปากก็คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพูดอะไร

“ตรงไหนครับที่บอกว่าโกรธ” ผมถามคำถามเดิม

“ก็คุณหมอไม่ยอมพูดอะไร เอาแต่นิ่ง ผมใจไม่ดี ไม่อยากให้คุณหมอโกรธ ผมไม่อยากให้เรื่องของเรามันจบ เหมือน....”
 ถึงประโยคสุดท้ายคุณฟ้าจะไม่พูดมันออกมา ผมก็พอรู้ครับว่าสิ่งที่คุณฟ้าคิดจะพูดคืออะไร

...กลัวผมจะทิ้งไปเหมือนที่คุณนนท์ทำ

หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 16-01-2012 22:19:41
.
.
.
.

“เหมือนอะไรครับ?” ผมแกล้งถามทั้งที่รู้

“เหมือน...” ฟันซี่สวยกัดริมฝีปากล่างของตัวเองไว้แน่น ตากลมโตหลุบต่ำเหมือนคนที่กำลังใช้ความคิด ลังเลที่จะพูดหรือไม่ก็กลัวที่จะพูดออกมา แปลว่าคนตรงหน้าผมกำลังแคร์ความรู้สึกของผมอยู่ ถึงไม่ยอมพูดอะไรที่อาจจะทำร้ายจิตใจผม

“เหมือนอะไรครับ?” ผมถามซ้ำ กดจูบที่แก้มซ้าย แก้มขวา ประคองใบหน้าน่ารักให้เงยขึ้นมาสบตา

“คุณหมอ...แกล้งผมใช่ไหม” คนน่ารักของผมตัดพ้อเบาๆ ก่อนจะสอดแขนเข้ามากอดผมไว้เสียแน่น ซบหน้าลงบนอกผมอย่างที่ทำเป็นประจำ

“ไม่ได้แกล้งครับ แค่อยากรู้ว่าเหมือนอะไร?...กลัวผมทิ้งคุณฟ้าเหมือนที่คุณนนท์ทิ้งงั้นเหรอครับ” ผมถามเอากับกลุ่มผมนุ่ม

“....” คุณฟ้าไม่ตอบแต่อาการนิ่งก็ช่วยยืนยันคำตอบได้เป็นอย่างดี

“ผมกลัวคุณหมอทิ้งผม” สุดท้ายคุณฟ้าก็พูดออกมา หลังจากที่เงียบไปนาน แล้วผมก็ไม่ได้พูดอะไร นอกจากกอดคุณฟ้าอยู่อย่างนั้น

“ไม่หรอกครับ ไม่ทิ้ง”

“.......แน่นนะครับ”

“แน่ครับ ผมจะทิ้งได้ไง คบกันได้แค่ห้าวันเอง จะทิ้งได้ไง” สงสัยคำตอบของผมจะไม่ถูกใจคนถาม ไอ้อาการดิ้นรนหนีออกจากอ้อมกอดผมก็ตามมาทันที คุณฟ้าทั้งผลักทั้งดันตัวผมออก แต่สู้แรงของผมไม่ได้ สุดท้ายถึงได้สงบลง ผมงงว่าผมพูดผิดไปตรงไหน แล้วผมก็เข้าใจในทันที เมื่อคนน่ารักของผมบอกเสียงอู้อี้เอากับอกผม อกผมสัมผัสเข้ากับน้ำอุ่นๆ อีกครั้ง

“นนท์ยังทิ้งผมไปได้เลย คบกันมาตั้งหลายปี” คุณฟ้าร้องไห้อีกแล้ว

“ผมไม่ทิ้งคุณฟ้าหรอกครับ สัญญา”

“นนท์ก็เคยสัญญาว่าจะไม่ทิ้งผม”

“.....” ผมถอนหายใจหนัก ไม่ว่าจะพูดอะไร คุณฟ้าเอาผมไปเปรียบกับคุณนนท์ตลอด ผมเข้าใจนะว่ามันเป็นช่วงที่ยังลืมคนเก่าไม่ได้ แต่มันก็ยังรู้สึกเจ็บที่อกอยู่ดี

“คุณหมอ....รำคาญผมใช่ไหมครับ” คุณฟ้าดันตัวเองออกจากอ้อมแขนผม มองผมตาละห้อย ทำหน้าเหมือนเด็กถูกผู้ปกครองทิ้งไว้ที่โรงเรียนอนุบาล เช็ดน้ำตาตัวเองปอยๆ

“เปล่าครับ”

“รำคาญผมจริงๆ ด้วย” บางครั้งคุณฟ้าก็ทำตัวเหมือนเด็กที่คิดเองเออเองได้ตลอด ผมลูบใบหน้าชื้นน้ำตา มองลึกเข้าไปในดวงตาคู่กลมโตคลอน้ำตา

“ผมบอกสักคำไหมว่าโกรธคุณฟ้า รำคาญคุณฟ้า ที่ผ่านมาไม่เห็นหรือครับว่าผมจริงจังกับคุณฟ้ามากแค่ไหน เวลาระหว่างผมกับคุณฟ้ามันอาจจะยังไม่มาก แต่ผมก็มั่นใจนะครับว่าจะไม่ทำให้คุณฟ้าเสียใจเด็ดขาด” ผมพูดด้วยความจริงจัง หน้าตาของผมคงจะจริงจังตามสิ่งที่ผมพูดด้วย คุณฟ้าถึงอ่อนลง

“ผมขอโทษที่ทำตัวงี่เง่า ผมกลัว ผมไม่อยากถูกทิ้ง” น้ำตายังไหลตอนที่คุณฟ้าพูด ผมต้องเช็ดน้ำตาให้อีกครั้ง ดูแล้วคุณฟ้าเป็นคนที่ถ้าได้ร้องไห้แล้วน่าจะร้องไม่หยุด

“ไม่ร้องนะครับ คนดีของผม” คุณฟ้าพยักหน้าช้าๆ ดึงมือผมไปกุม น้ำตาไม่ไหลแล้วเพราะเจ้าตัวกั้นมันเอไว้เต็มที่ เห็นแล้วสงสาร เหมือนเด็กที่ถูกพ่อแม่สั่งไม่ให้ร้องไห้ทั้งที่ตัวเองอยากร้องไห้ใจแทบขาด

“อย่าทิ้งผมไปนะครับ” คุณฟ้าบอกเอากับมือผมที่ชิดอยู่กับปากบาง จูบซับลงไปที่หลังมือผม ก่อนจะช้อนตากลมๆ ขึ้นมามองหน้าผม ตาสวยดูเศร้าปนไปกับความรู้สึกคาดหวังในคำขอ

“ไม่ทิ้งหรอกครับ น่ารักขนาดนี้” ผมว่าแล้วจูบหน้าผากมน ไล่มาที่ปลายจมูกเล็ก และกลีบปากบาง แต่ต้องมาสะดุดกับหลังมือนิ่มที่ยกขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้ของคุณฟ้า มืออีกข้างก็ดันแผ่นอกผมเอาไว้ ขณะที่เจ้าตัวขยับถอยห่าง ผ้าห่มร่นจนเกือบจะอวดโฉมคุณฟ้าน้อย ดีที่เอื้อมมาดึงเอาไว้ทัน

“ยังไม่ได้แปรงฟันเลย” พูดกันไปตั้งเยอะ เพิ่งมาห่วงเรื่องกลิ่นปาก

“ไม่มีกลิ่นหรอกครับ” ไม่เหม็นจริงๆ นะครับ

“ไม่เอา ขอผมไปแปรงฟันก่อน” ว่าแล้วคุณฟ้าก็ก้าวลงจากเตียง แต่พอเท้าแตะพื้นเท่านั้นแหละ ก็กลับมานั่งแหมะอยู่ที่เตียงเหมือนเดิม หันมามองค้อนผมทันทีอย่างคาดโทษ ผมได้แต่ส่งยิ้มจืดๆ ไปให้

โดยไม่ต้องมีคำสั่งหลุดออกมาจากปากคนน่ารัก อย่างรู้หน้าที่ผมเดินอ้อมเตียงมาช้อนร่างบางขึ้นสู่วงแขน เดินไปยังห้องน้ำ  ปล่อยให้ทำธุระส่วนตัวไป ส่วนผมก็เดินกลับมาเก็บที่นอนให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินออกไปเก็บข้าวของที่รกๆ อยู่ด้านนอก สักพักก็เดินกลับเข้ามาในห้อง เห็นคุณฟ้านอนอยู่บนเตียงทั้งที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวปกปิดร่างกายส่วนล่าง

“ง่วงหรือครับ” ผมคุกเข่าถามอยู่ข้างเตียง อดใจที่จะจูบแก้มหอมๆ ไม่ได้

“....ครับ” คุณฟ้าลืมตาขึ้นมาตอบ ตากลมโตแดงช้ำจนน่าใจหาย เห็นแล้วสงสาร ถ้าผมเดาไม่ผิดนี่คงแอบร้องไห้ในห้องน้ำแน่ๆ เพราะก่อนเข้าไป ตาไม่ช้ำแดงขนาดนี้

“ไปทำงานไหวไหมครับ” ผมถาม คุณฟ้าส่ายหน้า ลองเอามือแตะหน้าผากดู ไม่ร้อน หมดห่วงเรื่องเป็นไข้ไม่สบายไปได้เปราะหนึ่ง แต่ดูจากสภาพแล้ว ไม่อยากให้คุณฟ้าลุกไปทำงานเลย ยอมรับว่าเมื่อคืนผมรังแกคุณฟ้าไปมาก คุณฟ้าได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเอง แถมตอนนี้ตายังบวม หน้าก็ช้ำแดงเพราะการร้องไห้หนัก ให้ไปทำงานสภาพนี้ ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องตกใจ

“ไม่ไหวครับ อยากนอน...........กอดคุณหมอ” คุณฟ้าบอกเสียงหวาน ตากลมโตหลุบต่ำเพราะเขินอายกับคำพูดของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ขยับตัวเข้าไปข้างในเตียงมากขึ้น เพื่อให้มีพื้นที่ให้ผมขยับขึ้นไปนอนด้วยกัน

“ให้กอดอย่างเดียวหรือครับ” ผมกระซิบถามข้างแก้มขึ้นสี ตอนนี้ทั้งตัวคุณฟ้าอยู่ในอ้อมกอดผมหมดแล้ว ผมมองใบหน้าน่ารัก คุณฟ้าเปลี่ยนไปเร็วมาก จากวันแรกที่เอาแต่ขับไสผมตลอด ไม่ว่าจะพูดอะไรออกไปก็เอาแต่ยืนยันว่าไม่ต้องมายุ่งกับตัวเอง พอมาวันนี้กลับทำให้ผมรู้สึกเหมือนว่าผมเป็นคนสำคัญ ผมเป็นที่คุณฟ้ารักมากจนไม่อยากให้จากไปไหน

“หื่น...จะไม่ให้พักเลยรึไง”

“ก็คุณฟ้าน่ารัก” ผมว่า จุ๊บปากบางไปที อยากทำมากกว่านี้แต่ต้องห้ามใจตัวเองเอาไว้ เพราะขืนใช้ลิ้นอะไรๆ มันคงไม่หยุดอยู่แค่ในปากหวาน

“น่ารักแล้วต้องรักไปนานๆ นะครับ” คุณฟ้าว่า กอดผมแน่นขึ้น

“ครับ...ผมสัญญา” ผมตอบ ยืนยันคำพูดด้วยจูบที่ประทับหนักแน่นบนหน้าผากมน

“ผมเป็นเด็กกำพร้า” จู่ๆ คุณฟ้าก็พูดขึ้นมา รู้สึกว่าตัวคุณฟ้าสั่น ขณะที่น้ำเสียงเริ่มเบาลง แต่ยังคงเล่าเรื่องของตนเองให้ผมฟัง เรื่องที่ผมยังไม่รู้และคุณฟ้าคงอยากให้ผมรู้

“ผมกับพี่สาวถูกแม่ทิ้งไว้ในโรงพยาบาลตั้งแต่เกิด เราสองคนไม่รู้ว่าพ่อเป็นใครแม่เป็นใคร เกือบจะต้องไปอยู่สถานสงเคราะห์เด็กแรกเกิด ถ้าคุณหมอที่ทำคลอดพวกเราไม่สงสารแล้วติดต่อเพื่อนสนิทให้มารับพวกเราไปดูแล” คุณฟ้าเล่า น้ำตาคลออยู่ที่เบ้าแต่ยังไม่ไหล ดูเหมือนเจ้าตัวก็พยายามจะกั้นเอาไว้

“คุณปู่กับคุณย่าที่เลี้ยงพวกเราสองคน ท่านทั้งสองไม่มีลูกครับ เลยรับเราสองคนเป็นบุตรบุญธรรม แต่ท่านไม่อยากให้เราสองคนเรียกว่าพ่อกับแม่ เพราะไม่อยากให้เราสองคนลืมคนที่ให้กำเนิดเรามา แม้พวกเขาจะไม่ต้องการเราสองคนก็ตาม ผมกับพี่สาวเลยเรียกท่านทั้งสองว่า ปู่กับย่าครับ”

ผมกอดคุณฟ้าแน่นขึ้น เข้าใจแล้วครับว่าทำไมคุณฟ้าถึงกลัวผมจะทิ้งไป

“คุณปู่กับคุณย่าผมเสียไปแล้วครับ พี่สาวผมก็เพิ่งแต่งงานไปเมื่อปีที่แล้ว ส่วนนนท์ก็ทิ้งผมไปเมื่ออาทิตย์ก่อน  ผมไม่อยากถูกทิ้งอีกแล้ว คุณหมออย่าทิ้งผมไปนะครับ” คุณฟ้าช้อนตาขึ้นมามองผมราวกับอ้อนวอนขอคำสัญญาจากผมอีกครั้ง ดวงตาที่ไหวระริกนั้นทำให้ผมสงสาร

“สัญญาครับ” ผมให้คำมั่นไม่ใช่เพราะความสงสาร แต่มาจากความรู้สึกรักที่ผมมีให้คนในอ้อมกอด

“ขอบคุณครับ” คุณฟ้ายิ้มเต็มหน้า ปากบางยื่นเข้ามาจูบที่ปากผม ก่อนลิ้นเล็กจะเป็นฝ่ายรุกเข้ามาในปากผมอย่างนิ่มนวล ผมปล่อยให้คุณฟ้าเป็นฝ่ายกระทำโดยที่ผมเป็นเพียงฝ่ายที่ตอบรับ คุณฟ้าไม่ได้จูบเก่งมากมายแต่ก็อ่อนหวานเหมือนที่ตัวคุณฟ้าเป็น

“อื้อออ....ไม่เอาครับ ยังเจ็บอยู่เลย” คุณฟ้ารีบดันตัวผมออก เมื่อผมลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง ต่ำลงไปด้านล่างด้วยความเคยชิน

“เจ็บมากไหมครับ” ผมถาม มือลูบสะโพกเล็กเบาๆ

“มากครับ...เมื่อคืนก็ตั้งกี่ครั้ง คุณหมอก็น่าจะรู้” ประโยคหลังว่าไม่เต็มเสียงหนัก ใบหน้าเขินอายน่ารักมาก ผมเปลี่ยนจากมือที่ลูบไล่มากอดร่างบางดังเดิม

“ก็คุณฟ้าน่ารัก” ผมพูดคำเดิมๆ ที่มันเป็นความจริงที่สุด ไม่ว่ามองตรงไหนคุณฟ้าของผมก็น่ารัก น่ารักเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ผมสบตาด้วย

“รักผมไปนานๆ นะครับ”

“ครับ...จะรักให้นานเท่าชีวิตแล้วก็จะรักให้ดีที่สุดครับ” แล้วแก้มขาวก็ถูกผมกดจูบลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะนอนกอดกันอยู่อย่างนั้น ฟังเสียงลมหายใจของกันละกัน

“คุณหมอ”

“ครับ”

“ผมรักคุณหมอนะครับ”

“รู้แล้วครับ” ผมหอมแก้มขาวอีกจนได้

“แล้วคุณหมอรักผมไหม?” ตากลมรอเอาคำตอบ

“รักสิครับ” พูดได้เต็มปากครับว่ารัก มันเป็นความรู้สึกที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาเลยแม้แต่น้อย

“แล้ว....”

“ครับ” 

“แล้ววันนี้คุณหมอไม่ไปทำงานหรือครับ” ผมนึกว่าจะถามอะไร

“ไม่ครับ วันนี้ไม่เวร” วันนี้เป็นวันหยุดของผม อาทิตย์หนึ่งหยุดสองวัน

“หรือครับ” พูดแล้วก็ทำหน้าครุ่นคิด คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ก่อนจะส่งสายตาปริบๆ มาให้ผม

“ ผมไม่ได้ไปทำงาน กลัวเด็กๆ ไม่มีข้าวเช้ากิน คุณหมอซื้อข้าวให้พวกเด็กๆ ได้ไหมครับ คือเมื่อวานผมก็บอกว่าจะซื้อข้าวมันไก่ร้านที่อยู่ซอยถัดไปซะด้วย”

ให้มันได้อย่างนี่สิครับคนน่ารักของผม ไม่ไปทำงานแต่ก็ไม่ลืมหน้าที่ประจำของตัวเอง เมื่อครู่ยังเศร้าอยู่กับเรื่องในอดีตของตัวเอง ตอนนี้ก็เปลี่ยนมาห่วงเรื่องปากท้องของลูกน้องในร้าน ผมพอรู้ครับว่าทุกเช้าคุณฟ้าจะซื้อข้าวเช้าไปให้เด็กในร้านก็ยีนกับแดน เดี๋ยวนี้เพิ่มมาอีกสองคนคือดาวกับตาม ส่วนมื้อกลางวันเห็นว่าผูกปิ่นโตกับร้าน ‘คนกันเอง’ ร้านเล็กๆ ของพ่อแม่แดน
 
“ครับ” แล้วผมมีหรือจะกล้าปฏิเสธ เด็กในร้านที่คุณฟ้าดูแล ก็น่าจะเป็นเด็กที่ผมต้องดูแลเหมือนกัน

“เกรงใจจังครับ” คุณฟ้าว่า ทำน่าเกรงใจผมสุดๆ

“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ”

“ขอบคุณครับ” คำขอบคุณมาพร้อมกับปากเล็กที่ยกขึ้นแตะปากหนาของผม ก่อนจะถอนออก แล้วยิ้มหวานเอาใจผมสุดๆ

ผมลุกจากเตียงมาแต่งตัว ทั้งที่อยากจะกอดร่างบางไม่อยากปล่อยไปไหน แต่อดใจไว้ครับ ทำหน้าที่สำคัญแทนคุณฟ้าไปก่อน เดี๋ยวกลับมาค่อยขอรางวัลชุดใหญ่ ยังไงพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดของผมอีกวันหนึ่ง ส่วนคุณฟ้าเป็นเจ้าของร้านจะหยุดพักอีกสักวันก็ไม่น่าจะเป็นอะไรมาก คิดแล้วก็มีความสุข พรุ่งนี้วันเกิดผมด้วย อยากจะชวนคุณฟ้าไปทำบุญด้วยกัน
 
“รีบกลับมานะครับ” คำที่บอกดังขึ้นตอนผมจับลูกบิดประตู เรียกให้ต้องหันหลังกลับมามองหน้าคนพูดที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง ส่งยิ้มหวานมาให้ แทบอยากเดินกลับไปจูบปากเล็กๆ ที่พูดคำพูดนี้ออกมาเหลือเกิน

“ครับ” สุดท้าย ผมก็พูดแค่นี้แล้วออกจากห้องไป กลัวห้ามใจตัวเองไม่ให้จูบปากอย่างเดียวน่ะครับ ขอไปทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จเสียก่อนก็แล้วกัน กลับมาจะกอดให้หนำใจ

.

.

.

.

.

.

‘รีบกลับมานะครับ’

ประโยคแสนหวานของผมที่ออกมาจากปากคุณฟ้า ยังดังก้องอยู่ในหูของผมเหมือนว่าคุณฟ้ายืนกระซิบอยู่ข้างหูในตอนนี้ ผมซื้อข้าวเช้าไปให้ทุกคนในร้านเรียบร้อยแล้ว แถมยังบอกกับยีนอีกว่าคุณฟ้าขอหยุดพักสองวัน รายนั่นดี้ด้าใหญ่ เข้าใจครับว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ทันทีที่ผมก้าวเข้ามาในลิฟท์ และประตูลิฟกำลังจะปิดเข้าหากัน ก็มีเสียงเรียกให้ผมต้องหยุดลิฟท์รอ

“รอด้วยค่ะ” เจ้าของเสียงคือหญิงสาวน่าตาน่ารักในชุดหมีที่วิ่งอย่างรวดเร็วเข้ามาในลิฟท์ที่ผมกดรอ ในมือถือถุงพะรุงพะรัง มองมือตัวเองมีแค่ถุงข้าวมันไก่สี่ห่อ อาหารเช้าของผมกับคุณฟ้า

“ชั้นไหนครับ” ผมถามทันทีที่ประตูลิฟปิดเข้าหากันอีกครั้ง ในลิฟมีผมกับเธอสองคน

“14 ค่ะ” ชั้นเดียวกัน

“ช่วยถือไหมครับ ผมก็ชั้น 14 เหมือนกัน” ผมอาสาช่วย หญิงสาวที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของห้องชุดในคอนโดแห่งนี้ห้องไหนสักห้องบนชั้น 14 ชั้นเดียวกับห้องของคุณฟ้า เผลอๆ อาจจะเป็นห้องตรงข้ามหรือไม่ก็ห้องตรงกันข้าม จะได้ผูกมิตรกันเอาไว้

“เกรงใจค่ะ” เธอว่า

“ไม่เป็นไรครับ”

“งั้นก็....ขอบคุณค่ะ” เธอยืนถุงบางส่วนมาให้ผม

“ฝนชื่อฝนนะคะ แล้วคุณชื่อ...”

“ผมหมอนุครับ”

“ยินดีที่รู้จักนะคะ” เธอยิ้มได้น่ารักมาก ยิ้มที่ผมรู้สึกว่ามันคุ้นมาก

“ยินดีที่รู้จักเหมือนกันครับ”

...ติ้ง...

ประตูลิฟท์เปิดออกเมื่อถึงชั้น 14

“ขอบคุณนะคะ” เธอบอกขอบคุณผม ยื่นมือมารับถุงในมือผมคืน แต่ผมคิดว่าควรจะเดินไปส่งเธอจนถึงห้องดีกว่า

“เดี๋ยวผมเดินไปส่งครับ”

“ขอบคุณค่ะ” เธอว่า ยิ้มที่ส่งมาให้ผม รู้สึกมันคุ้นๆ ยังไงชอบกล หน้าตาแบบนี้ก็เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน หน้ากลมๆ ตาโตๆ จมูกเล็กๆ ปากบางๆ

“ห้องของฝนอยู่ทางนี่ค่ะ”

ผมเดินตามน้องฝน (ดูจากใบหน้าแล้วน่าจะอายุน้อยกว่าผมหลายปีอยู่) มันเป็นทางเดียวกับทางเดินไปห้องของคุณฟ้า หรือว่าน้องฝนจะอยู่ห้องข้างๆ คุณฟ้าหรือไม่ก็ห้องตรงข้ามตามที่ผมคิดเอาไว้

แต่ทำไม....

ทำไม...

น้องฝนถึงหยุดอยู่ที่หน้าห้อง...

‘1411’

ผมกลืนน้ำลายลงคอก้อนใหญ่ ทำหน้าไม่ถูกเมื่อน้องฝนยิ้มขอบคุณ แล้วไม่รู้จะทำตัวยังไงดีเมื่อน้องฝนหันหลังกลับมาบอกผมว่า...

“ห้องน้องชายของฝนเองค่ะ ขอบคุณหมอมากนะคะที่ช่วยถือของให้”




>>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<<<

กว่าจะเข็นตอนนี้ออกมาได้ ยากแท้จริงๆ ปาดเหงื่อ อ่านแล้วสะดุดตรงไหน ขออภัยมา ณ ที่นี่นะคะ
อาจเขียนบรรยายงงๆ ไปบ้าง โปรดอภัย อิอิ งงตรงไหน ถามได้นะคะ เดี๋ยวคนเขียนมาตอบให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 16-01-2012 22:56:11
รู้สึกเหมือนคุณฟ้าเป็นเด็กขี้แยจังเลย
คราวนี้จะมีงานเข้าคุณหมอหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 17-01-2012 00:26:33
อ่าวๆ เจอพี่สาวเขาไม่ทันตั้งตัว
55555 แล้วหมอจะทำยังไงละเนี่ยะ
ถ้าพี่ฝนเปิดไปเจอคุณฟ้านอนหมดแรง
โอ้ววว ไม่อยากจะคิด >/////////<
ฮะๆ  รออ่านตอนต่อไปนะคะ

+1 ให้เหมือนเคย จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 17-01-2012 08:01:26
คุณฟ้าน่ารักที่สุด น่ารักมากกกกกกกกก ถ้าคุณหมอกล้าทิ้งนะ โดนผู้อ่านรุมแน่ 555

พี่ฝนได้เจอน้องเขยแล้ว เลือกวันดีซะด้วยสิ แหะๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 17-01-2012 09:26:31
คุณหมอคงชอบโหมดเด็กขี้อ้อนของฟ้า
แต่งานจะเข้าคุณหมอหรือเปล่าอยู่ๆ พี่ของฟ้าก็มา
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 17-01-2012 11:41:33
อ๊ะ ..เจอพี่สะใภ้แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว 55555
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 17-01-2012 12:11:30
คุณหมองานเข้า :z2:
+1จ๊า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 17-01-2012 12:56:18
55555+...เอาหล่ะสิ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: atommic ที่ 17-01-2012 21:39:44
เพิ่งจะรักกันแบบหวานๆ  อย่าเพิ่งเอามาม่ามาให้เค้ากินเลยนะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 21-01-2012 10:08:40
คุณหมอกับคุณฟ้าหายไปชะหลายวันเลย :man1:คิดถึงแล้วรีบกลับมานะคะรออยู่ :impress2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 23-01-2012 14:07:36
อย่าลืมฝากเนื้อฝากตัวกับคุณพี่สาวด้วยละคุณหมอ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 23-01-2012 14:55:07
กลับมาอ่านตอนนี้ใหม่ เอ้อ...เราลืมคอมเม้นท์นี่หว่า  :laugh:

ได้เจอพี่สาวฟ้าแบบไม่รู้ตัวเลยนะคุณหมอ แถมยังทำหน้าทีสุภาพบุรุษ สุดยอดเนอะ

เราว่าเรื่องนี้คุณหมอกำไร (หื่น) ที่สุด ได้กอดคุณฟ้าทุกวัน  :z1:

เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 23-01-2012 22:30:57
พี่สาวนี่เอง รออ่านจ้า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 26-01-2012 13:09:49
คิดถึงเน้อ :กอด1:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-01-2012 15:49:00
หุ ๆ  เข้ามาเป็นกำลังใจให้คนเขียน + คนโพสต์ ค่า   

แล้วก็มาขออนุญาตเซฟไปอ่านนะคะ   (อ่านไม่ทัน  หึ ๆ โลภมากไปนิดอยากอ่านหลายเรื่อง ไป ๆ มา ๆ เลยเซฟ ๆ ดองไว้เพียบ -*- )
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 26-01-2012 19:17:14
ฝากจากคนเขียนนะคะว่า....

ของดอัพก่อนนะคะ เพราะขอปั่นงานประจำก่อน

หลังวันที่ 6 (ซึ่งไม่ใช่วันที่ 6 แต่เป็นวันอื่นๆ หลังจากวันที่ 6) จะปั่นตอนที่ 21 มาให้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ ^___^

ปล. แอบเข้ามา + 1 กับกดเป็ดให้ทุกคอมเม้นท์เลยนะคะ อิอิ

Aeaw Na Ka
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 26-01-2012 20:31:56
อ่านเรื่องของตินกับลมจบไปนานแล้ว
เพิ่งจะได้มาตามอ่านเรื่องของคุณฟ้ากับพี่หมอ

ฟ้ารักพี่หมอเต็มๆเลยนี่นะ ไม่เกี่ยวกับวันเวลาหรอก
แต่ล่าสุดนี่ พี่สาวเค้ามาแล้วนะพี่หมอจ๋า จะทำยังไงล่ะเนี่ย

แล้วบอกว่าจะไม่ทำให้ฟ้าเสียใจ
คู่หมั้นตัวเองอ่ะต้องกลับไปจัดการกับคุณหญิงแม่ด้วยนะ !
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zakimi ที่ 27-01-2012 00:59:13
พึ่งอ่านไป 20หน้าไม่ไหวแล้ว  ดราม่าจนเหนื่อย ส่วนตัวนะ อ่านแล้วรู้สึกว่าเหตุและผลมันไม่สอดคล้องกันอ่ะ  อารมณ์เดียวกับ ถามว่ากินอะไร แล้วตอบว่า พึ่งไปทะเลมาอะไรแบบนั้นอ่ะ ทำให้การพัฒาการของตัวละครดูสับสนมากๆ


 หรืออาจเป็นเพราะต้องการให้เนื้อเรื่องเข้มข้นมากๆ  จึงผูกปมมากๆ เวลาแก้ปมแต่ล่ะเรื่องจึงทำให้ดูมันยุ่งเหยิงไปหมด


 เราว่ามันทำให้ดราม่าจนเกินความจำเป็นอ่ะ(หรือว่าต้องการแต่งนิยายที่เป็นดราม่าเวอร์ๆอยู่แล้ว)ยังไงก็ดูความคาดหวังของคนอ่านนิดนึง  บางครั้งเนื่้อเรื่องที่ไม่เป็นไปตามที่หวังมากๆมันก็ทำให้รู้สึกเหมือนโดนหักหลังเหมือนกันนะ


ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ  ข้อผิดพลาดคือประสบการณ์  คนที่มีประสบการณ์มากคือคนที่เคยทำพลาดมามากค่ะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: the_pupae ที่ 27-01-2012 10:56:12
รักกันสะที...  :กอด1:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-01-2012 07:36:50
ลุ้นซะเหนื่อยเลย พอจะหวานก็หวานสุดๆ  :m1:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 01-02-2012 15:07:35
คิดถึงจริง คิดถึงจัง :catrun:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 07-02-2012 13:46:28
ย่องเข้ามากด เข้ามาดัน
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 20 สัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน {16/01/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 10-02-2012 20:34:16
ตอนที่ 21ขอบคุณ

ผมย้ายตัวเองออกมาจากห้องนอนมากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟา เปิดโทรทัศน์เปลี่ยนช่องไปมาอยู่นานมากเพราะไม่รู้จะดูอะไร ฟุตบอลผมก็ไม่ชอบดู การ์ตูนมันก็พ้นวัยมานานมากแล้ว ละครผมก็ไม่ค่อยสนใจอยู่แล้ว ส่วนหนังก็เหมือนกันครับ ผมไม่ชอบดูทั้งละครและหนัง นนท์บ่นเรื่องนี้กับผมเยอะมาก เรื่องที่ชวนผมไปดูหนังด้วยกันแต่ผมก็ปฏิเสธ รวมถึงเรื่องไปโน่นไปนี่อีก ผมไม่ค่อยชอบไปไหนครับ ผมชอบอยู่บ้านอยู่กับคุณตาคุณยายและพี่สาวมากกว่าไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนวัยเดียวกัน มันเป็นอีกสาเหตุหนึ่งครับที่ทำให้ผมมีเพื่อนน้อยมาก จะมีแค่ช่วงที่โตเป็นวัยรุ่นพอที่จะกิน ดื่ม เที่ยว โดยที่คุณตากับคุณยายไม่ต้องเป็นห่วงมากนัก บวกกับที่นนท์มักชวนแกมบังคับให้ผมออกไปเที่ยวด้วยผมถึงได้ทำตัวเป็นปกติเหมือนวัยรุ่นทั่วไป

ช่วงที่ทำงานบริษัทก็เหมือนกัน ผมแทบไม่ได้ไปไหนเลย ทำงานเสร็จกลับบ้าน วันเสาร์ก็ไปเรียนทำขนม เค้ก กาแฟ วันอาทิตย์ก็อยู่ดูแลคุณตา (คุณยายเสียตอนผมอยู่มอปลาย)ไม่ค่อยได้ออกไปไหนกับนนท์หรอกครับ นนท์จะมาหาผมที่บ้านเสียมากกว่า

จอสีเหลี่ยมยังคงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เมื่อไม่รู้จะดูอะไรเลยตัดสินใจไม่ดู ลุกไปปิดมัน แล้วกลับมานั่งที่เดิมนั่งอยู่ในห้องเงียบๆ รอคุณหมอกลับมาดีกว่า

คุณหมอ...

คิดถึงคุณหมอแล้วผมก็เขิน ผมบอกรักคุณหมอไปแล้ว ตอนที่บอกออกไป ผมไม่ได้คิดอะไรเลยนอกจากความรู้สึกที่อยากบอก เพราะอยากบอก ผมถึงต้องบอกมันคำพูดที่เป็นกุญแจดอกที่ไขประตูแล้วพาคุณหมอเข้ามาในชีวิตผมอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์

โอยยย...ผมเขินมากเลยครับตอนนี้ ทั้งที่ตอนบอกรักออกไปตอนนั้นยังไม่รู้สึกเขินอะไรเลยมากขนาดนี้ พอมาตอนนี้ ทั้งเขินทั้งอายตัวเองเลยครับ มือไม้มันเกร็งไปหมดต้องคว้าเอาหมอนมากอด ล้มตัวลงนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาโซฟา ทำยังกับว่าคุณหมออยู่ตรงนี้ก็ไม่ปาน

หน้าคุณหมอ คำพูดของคุณหมอ การกระทำของคุณหมอ ลอยเข้ามาอยู่ในสมองของผมเต็มไปหมดแล้ว ผมเอาหน้าซุกซอกโซฟา หูก็เงี่ยฟังเสียงลูกบิดว่าจะดังขึ้นเมื่อไหร่ ใจมันเต้นรอการกลับมาของคุณหมอ

นับนิ้วดูแล้วมันแค่ห้าวันเอง ไม่สิ ต้องบอกว่า “ตั้งห้าวัน” ห้าวันที่คุณหมอเข้ามาอยู่ในชีวิตของผม ห้าวันที่ทำให้คนที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของผมมากกว่าลูกค้าของร้านกลายมาเป็นคนที่ผมรู้สึกไม่อยากให้หายไปจากชีวิต ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าผมกับคุณหมอจะมาลงเอยกันแบบนี้ ผมจำไม่ได้แล้วว่าก่อนหน้านี้ ตอนที่เรามีอะไรกันครั้งแรก แล้วคุณหมอพยายามจะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา ผมนึกรำคาญความรับผิดชอบที่ผมไม่ต้องการมากแค่ไหน ความรู้สึกของผมตอนนั้นมันเป็นยังไงนะ ผมจำไม่ได้ จำไม่ได้แล้วจริงๆ คำพูดที่ทำร้ายคุณหมอนั่นอีก ผมก็จำไม่ได้แล้ว แต่ถ้าถามความรู้สึกตอนนี้ ผมตอบได้ทันทีเลยว่า ผมมีความสุขมาก มากจนสัญญากับตัวเองไว้ตอนนี้เลยว่า จะไม่มีทางลืมความรู้สึกนี้เด็ดขาด

แค่คิดถึงคุณหมอ ผมก็มีความสุข จนหุบยิ้มไม่ได้ ยิ่งเขินตัวเองหนักเข้าไปใหญ่ เมื่อนึกถึงเรื่องบนเตียงระหว่างเรา อย่างที่ผมบอกคุณหมอไปนั่นแหละว่า คุณหมอ ‘หื่นมาก’ ภาพที่เห็นเมื่อหกเดือนก่อนหน้านี้ ถูกลบไปแทบจะหมด เพียงเวลาห้าวันที่ผมได้ใช้ชีวิตบางส่วนร่วมกับคุณหมอ จะโทษคุณหมอหมดก็ไม่ได้ เป็นความผิดของผมครึ่งหนึ่งด้วยที่ยอมคุณหมอทุกอย่าง ยอมเสียจนคุณหมอได้ใจ บอกให้ผมทำอะไร ผมก็ทำให้หมด ขออะไรที่แผลงๆ ผมก็ให้อีกตามเคย โทษนิสัยของตัวเองอย่างหนึ่งด้วยครับ ที่ผมเป็นคนชอบตามใจคน อยากเห็นคนที่เรารักมีความสุข อยากให้เขารักเรามากๆ ถึงได้ยอมทุกอย่าง เพราะความสุขของคนที่เรารักก็คือความสุขของเราดีๆ นี่เองครับ

แล้วคุณหมอจะเบื่อผมไหมน่ะ ที่ผมเป็นคนเจ้าน้ำตา อะไรนิดอะไรหน่อยผมก็ร้องไห้ได้เป็นเต่าเผา ไม่ใช่ว่าผมอยากร้องไห้เรียกคะแนนความสงสารนะครับ น้ำตามันมาเอง มันไหลมาจากข้างในหัวใจของผม ออกมาทางตา ผมร้องไห้เหมือนตอนที่ถูกนนท์ทิ้งแต่ความรู้สึกมันต่างกันครับ บรรยายไม่ถูก รู้แต่ว่าน้ำตาที่ผมเสียให้นนท์ไปเพราะอยากให้นนท์สงสาร กลัวนนท์หายออกไปจากชีวิตของผม แต่น้ำตาที่ไหลเพราะคุณหมอ เป็นเพราะผมไม่อยากให้คุณหมอเห็นว่าผมงี่เง่า น่ารำคาญ ไม่อยากให้คุณหมอทิ้งผมไป อยากให้คุณหมอรักผม อยากทำทุกอย่างให้คุณหมออยู่กับผมไปนานๆ ตลอดไปก็ยิ่งดี

แล้วคำว่า ‘ตลอดไป’ มันจะมีอยู่จริงไหม?

คุณหมอจะรักผมตลอดไปไหม?

นนท์ก็เคยบอกผมว่าจะรักผมตลอดไป แต่สุดท้ายนนท์ก็หมดรักผม แล้วคุณหมอล่ะจะเหมือนนนท์ไหม ความรู้สึกที่คุณหมอมีให้ผมจะลดลงตามวันเวลาหรือเปล่า วันนี้คุณหมอบอกรักผม แต่เดือนหน้า ปีหน้า หรือหลายปีต่อจากนี้ คุณหมอจะยังรักผมอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า

ผมรู้สึกถึงหน่วยตาที่มันร้อนรื้นขึ้นมาลมหายใจมันติดขัด เมื่อคิดถึงวันที่คุณหมอจะหมดรักผม ผมขยับตัวลุกขึ้นมานั่งกอดเข่า น้ำตามันไหลอย่ากั้นไม่อยู่ สิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต บทเรียนจากนนท์ทำให้ผมห้ามความคิดของตัวเองไม่ได้

ผมร้องไห้ ภาพวันที่นนท์บอกเลิกผม พุ่งเข้ามาสู่กลางใจ ก่อนจะถูกแทงซ้ำด้วยภาพวันที่คุณหมอเดินมาบอกเลิกผม แม้มันจะยังไม่เกิดขึ้นแต่ภาพที่ผมเห็นอยู่ในหัวมันชัดเสียจนเหมือนว่ามันเกิดขึ้นแล้ว ผมเจ็บที่อก รู้สึกว่าตัวเองเริ่มสั่น สั่นแรงขึ้น แรงสะอื้นกับน้ำตาผลักให้ผมล้มตัวลงนอน กอดตัวเองเอาไว้แน่น นอนคุดคู้อยู่บนโซฟา น้ำตากับเสียงสะอื้นคือสิ่งที่ผมห้ามมันไม่ได้

...แกร็ก....

เสียงลูกบิดและประตูที่เปิดเข้ามาทำให้น้ำตาผมยิ่งไหลหนักเข้าไปอีก เรี่ยวแรงเหมือนหายไปหมด แต่ก็พยายามจะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืนเพื่อจะเดินไปกอดคุณหมอ แล้วบอกกับคุณหมอว่าผมรักคุณหมอ อย่าทิ้งผมไป

“พี่ฝน”

คนที่เปิดประตูเข้ามาไม่ใช่คุณหมอ แต่เป็นพี่สาวฝาแฝดของผม พี่ฝนทิ้งถุงที่หอบหิ้วเต็มสองมือลงอย่างรวดเร็ว ตรงเข้ามาสวมกอดผมไว้แน่น ผมยิ่งปล่อยโฮกหนักมันดีใจที่ได้เห็นพี่สาวของตัวเองด้วยแหละ ไม่ได้เจอตั้งอาทิตย์กว่า เหลือบเห็นคุณหมอเดินตามเข้ามาด้วยกัน ในสมองไม่ได้คิดอะไรแล้วครับ ไม่คิดด้วยซ้ำว่าคนที่ผมรักทั้งสองคนเจอกันได้ยังไง รู้จักกันหรือยัง หรือผมควรจะแนะนำให้คนสองคนรู้จักกัน สมองผมมันคิดแต่ว่า ผมต้องเจ็บปวดแค่ไหนกันนะ หากวันนั้นมาถึง วันที่คุณหมอหมดรักผม แล้วทิ้งผมไป

“เป็นอะไรไป ใครทำอะไร?” ไอ้คำถามสุดท้าย พี่ฝนลงเสียงหนักมาก แล้วพยายามดันตัวผมออกแต่ผมไม่ยอม กอดพี่ฝนไว้แน่น พลางมองคุณหมอที่ย่อตัวลงเก็บถุงข้าวของหลายสิบถุงที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะทานข้าวสีหน้าของคุณหมอที่ผมเห็นบอกกับผมว่าคุณหมอเป็นห่วงผมอยู่มากๆ แต่ที่ทำได้คือแค่ยืนมองดูผมกอดกับพี่สาว ไม่กล้าทำอะไรมากกว่านี้

“เปล่า ไม่มีใครทำอะไร” ผมตอบคำถามของพี่ฝนก่อนถอดกอดออก

“ไม่มีใครทำอะไรแล้วทำไมถึงร้องไห้ขนาดนี้” พี่ฝนถามอีก ใช้มือเช็ดน้ำตาบนแก้มผมไปด้วย ผมส่ายหน้าไปมาแทนคำปฏิเสธ น้ำตามันไหลเพราะดีใจด้วยแหละที่พี่สาวกลับมา แต่เหตุผลหลักที่ทำให้มันไม่ยอมหยุดไหลสักทีเพราะคนที่ผมกำลังเดินเข้าไปสวมกอดเขาอยู่ตอนนี้แหละ

“คุณหมอ” ผมเดินเข้าไปกอดคุณหมอ แล้วผมก็ถูกกอดตอบ ผมกล้ากอดคุณหมอต่อหน้าพี่ฝน ไม่ต้องกลัวว่าพี่ฝนช็อคตาค้างหรือเป็นลมสลบไปเนื่องจากเห็นน้องชายตัวเองกอดผู้ชายด้วยกันเองพี่ฝนรู้อยู่แล้วว่าผมเป็นยังไง ตอนที่ผมคบกับนนท์ ครอบครัวของผมกับครอบครัวของนนท์ต่างรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของเราสองคนครับ ทุกฝ่ายรับได้ เราสองคนถึงได้คบกันอย่างเปิดเผยมาตลอด

“ร้องไห้ทำไมครับ” เสียงอบอุ่นของคุณหมอดังอยู่ข้างหู ยิ่งทำให้ผมกอดคุณหมอแน่นขึ้น กลัวคุณหมอหายตัวไปยังไงอย่างนั้นเลยครับ ผมคงบ้าไปแล้ว ความรู้สึกมันรุนแรง พอๆ กับที่น้ำตามันไหลทะลัก สมองผมกำลังคิดอยู่เรื่องเดียว เรื่องที่กลัวจะคุณหมอจะทิ้งไป

“......” จะให้บอกได้ไงว่าผมกำลังคิดถึงวันที่คุณหมอทิ้งผมไป ผมกำลังเสียน้ำตาให้กับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง แต่ผมก็กลัว ราวกับว่ามันจะเกิดขึ้นพรุ่งนี้ด้วยซ้ำไป ผมไม่อยากให้โลกมีวันพรุ่งนี้เลย ผมจะได้อยู่กับวันนี้ไปตลอดชีวิต


ผมกลัวการเปลี่ยนแปลง...

ผมกลัวคุณหมอจะเปลี่ยนไป...

ผมกลัวจะเหลือผมคนเดียวกับ....น้ำตา

“ไม่ร้องนะครับ” เสียงของคุณหมออบอุ่นอีกแล้ว น้ำตาผมยิ่งไหล ไม่มีเหตุผลอื่น นอกจากกลัวคุณหมอทิ้งผมไป

“......”ผมยังร้องไห้ต่อไป ไม่คิดจะหยุด พี่ฝนเดินเข้ามาใกล้ มืออุ่นที่คุ้นเคยของพี่ฝนลบหัวผมไปมา ไม่มีใครพูดอะไรออกมากันสักคน ทั้งพี่ฝน ทั้งคุณหมอ ผมคิดว่าทั้งสองคงไม่อยากถามเอาคำตอบจากผมแล้วว่าผมเป็นอะไร ทำไมถึงร้องไห้

ผมร้องไห้นานมาก รู้สึกทรมานมากกว่าวันที่นนท์ทิ้งผมไป ทั้งที่คุณหมอยังไม่ได้ทิ้งผมไปเหมือนนนท์เลย แต่ความกลัวมันทำให้ผมเจ็บ ภาพในอนาคตวันที่คุณหมอทิ้งผมไป มันกระหน่ำอัดเข้าในหัว

มันเป็นความคิดที่งี่เง่า แต่ผมก็งี่เง่าไปกับความคิดนั้น

เวลาคงผ่านไปอีกหลายนาทีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าผมร้องไห้เป็นเต่าเผาไปกี่นาที ผมไม่ได้จับเวลาไว้  รู้แต่ว่ามันนานมาก นานจนคุณหมอต้องถามผมว่า
   
“ไหวไหมครับ”

“.....” ผมพยักหน้าช้าๆ ทั้งเนื้อทั้งตัวมันเอนซบร่างหนาของคุณหมอไปหมดแล้ว เรียกว่าตอนนี้ผมร้องไห้จนหมดแรง ตามันแสบแทบจะลืมไม่ขึ้นด้วยซ้ำ มือที่เคยกอดคุณหมอตกอยู่ข้างตัวไปนานแล้ว ที่ยืนอยู่ได้น่าจะเป็นเพราะคุณหมอที่ช่วยพยุงเอาไว้

“พาไปนอนก่อนดีกว่าค่ะ” พี่ฝนบอกคุณหมอ มือยังลูบหัวผมอยู่

“ครับ” คุณหมอว่า แล้วผมก็ถูกแขนแข็งแรงของคุณหมอช้อนตัวขึ้นมาแนบอก ผมไม่ใช่คนตัวเล็ก ถึงจะผอมแต่ก็ไม่ได้ตัวเบาอย่างพี่ฝน แล้วก็อายพี่ฝนอยู่เหมือนกัน ตอนร้องไห้ไม่ได้อาย มาอายตอนโดนอุ้มนี่ล่ะครับ ต้องเอาหน้ามุดอกคุณหมอไว้ ไม่อยากเห็นสายตาล้อๆ ของพี่ฝน

“หนักไหมครับ” ผมถาม ตอนที่ถูกอุ้มมาวางไว้ที่เตียง คุณหมอทิ้งตัวลงนั่งข้างผม ส่วนพี่ฝนเดินอ้อมมายืนอีกฝั่งของเตียง

“ไม่ครับ” คุณหมอยิ้ม ยกมือขึ้นเช็ดคราบน้ำตาบนแก้มของผม ผมชอบสายตาของคุณหมอที่มาที่ผม มันอบอุ่นด้วยคำพูดนับร้อยพัน โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้เสียงเปล่งมันออกมา แค่มองตาผมก็รู้ว่าคุณหมอห่วงผมมาก

“จะหนักอะไรล่ะ ตัวก็แค่นี้” พี่ฝนว่า

“ตัวแค่นี้ที่ไหนกัน ตัวแค่นี้มันพี่ฝนต่างหาก” ผมเถียงไม่จริงจังนัก  ถึงจะเป็นแฝดกัน ผมกับพี่ฝนก็เป็นแฝดเทียมครับ หน้าตาคล้ายกันแต่ไม่ได้เหมือนกันเป๊ะอย่างแฝดแท้ที่มาจากไข่ใบเดียวกัน แล้วที่ต่างกันมากคือเรื่องของรูปร่าง พี่ฝนตัวจะเล็กกว่าผมมาก เล็กแบบน่าทะนุถนอมมากเลยครับ ส่วนผมเรียกว่าสูงยาวเข่าดีแบบที่พี่ฝนบ่นว่าอยากสูงอย่างผมบ้างตั้งแต่เล็กจนโต ยังไม่เลิกบ่น

“ย่ะ พ่อตัวสูง พ่อหุ่นดี” ปมด้อยของพี่ฝนครับ เรื่องตัวเล็กเนี้ย ถึงได้พูดประชดผม แต่ไม่จริงจังมาก ก่อนพาตัวเองมานั่งอยู่บนเตียงข้างตัวผมเป็นที่เรียบร้อยเลย มือข้างที่สวมแหวนแต่งงานวางแหมะบนหัวผม ทำเอามือของคุณหมอต้องล่าถอยไป

แหวนบนนิ้วพี่ฝนสวยมากครับ เพชรเม็ดใหญ่ เห็นว่าเป็นแหวนประจำตระกูลของพี่เขยผม ผมเคยถามพี่ฝนว่าใส่ติดตัวตลอดไม่กลัวหายเหรอ พี่ฝนตอบผมว่า ไม่หรอก ไม่กลัวหายเพราะพี่สาวผมจะรักษามันด้วยชีวิต ไม่ทำหายอย่างเด็ดขาด

ที่ผมมองว่ามันสวยมาก ไม่ใช่เพราะความใหญ่หรือคุณค่าที่ยาวนานของมัน หากเป็นเพราะผมอยากมีอย่างพี่ฝนบ้าง...

“เป็นอะไรอีกหื้อออ” สงสัยผมเงียบไปนาน พี่ฝนถึงถาม มือก็ขยี้หัวผมแรงขึ้น หันไปมองคุณหมอ คุณหมอก็ยิ้มให้ผมเหมือนเดิม รอยยิ้มอบอุ่นที่ผมกลัวว่าสักวันมันจะหายไป ผมเป็นคนคิดมากจริงๆ แต่จะให้คิดน้อยกว่านี้ ผมคิดไม่เป็นหรอกครับ

“เปล่า”.....จะให้บอกได้ไงว่า ที่นิ่งไปเพราะอยากได้แหวน

“หิวไหมครับ ผมซื้อข้าวมาแล้วอยู่ข้างนอก” คุณหมอว่า ผมส่ายหน้า ร้องไห้จนหมดแรงกินข้าวครับ แสบตาปวดตาด้วย เลยทำให้อยากนอนหลับ ผมเลยขยับตัวซุกลงไปในผ้าห่มที่คุณหมอดึงขึ้นมาห่มให้

“อยากนอน” ผมบอกเสียงเบา กลัวพี่สาวดุ เพราะพี่ฝนน่ะห่วงผมเรื่องนี้ที่สุด เรื่องที่กินข้าวไม่เป็นเวลา

“กินก่อนค่อยนอนก็ได้” นั่นไง พี่ฝนเริ่มออกอาการแล้ว

“ขอสองชั่วโมงนะพี่ฝน ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว” ผมต่อรอง

“ตลอดเลยนะเราน่ะ” พี่ฝนส่ายหน้าแบบเอือมๆ แต่ไม่ได้ว่าอะไรต่อ ลุกออกจากเตียง แล้วเดินออกไปนอนห้อง ดูผิดปรกติไปนิด เพราะทุกที่คงได้ลากผมลงจากเตียง ถ้าผมดื้อไม่ยอมทานข้าว

“ไม่กินแน่นะครับ” คุณหมอถามย้ำ เมื่อประตูห้องถูกปิดลง ผมอดที่จะคว้ามือที่เอื้อมมาปัดปอยผมที่ปกหน้าของผม เอามาแนบไว้ข้างแก้มของตัวเองไม่ได้ ก่อนจะหลับตาลงช้าๆ ขณะที่มืออีกข้างของคุณหมอลูบแผ่วเบาที่แก้มอีกข้างหนึ่งของผม

“ผมรักคุณหมอนะครับ” ผมบอกอีกครั้ง คำพูดที่ออกมาง่ายเหลือเกิน คุณหมอไม่ได้พูดว่าอะไร มีเพียงสัมผัสของปากหนาที่หน้าผาก

ผมรู้...คุณหมอก็รักผม ผมถึงได้หลับไปอย่างมีความสุข ทั้งที่ยังกุมมือคุณหมอแนบกับแก้มของตัวเองอยู่

.

.

.

.

.

ตื่นมาอีกที ผมก็ไม่เห็นคุณหมออยู่ในห้องแล้ว มองดูนาฬิกาแขวนบอกเวลาเกือบบ่ายโมงแล้วครับ ผมนอนหลับไปนานเหมือนกัน ตื่นขึ้นมาเลยรู้สึกสดชื่น

อย่างกับมีตาเห็นแน่ะ พอผมลุกขึ้นนั่งเตรียมตัวจะลุกออกไปข้างนอก คุณหมอก็เปิดประตูเข้ามาทันที

“ตื่นแล้วหรือครับ”

“ครับ” ผมเดินเข้าไปกอดคุณหมอตามที่ใจอยากกอดครับ ช่วงนี้ผมหวั่นไหวง่ายเกินไปหรือเปล่า ทำไมผมถึงอยากอยู่ใกล้ๆ คุณหมอตลอดเวลา

“เป็นอะไรไปครับ” คุณหมอดึงตัวผมออก ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“เปล่าครับ....แค่อยากกอด ผมอยากกอดคุณหมอตลอดไปได้ใช่ไหมครับ” ผมถาม คุณหมอยิ้ม ยิ้มที่ทำให้ผมอบอุ่นใจทุกครั้งสิน่า

“ครับ”

แล้วเราก็ยืนกอดกันอยู่สักพัก จนท้องผมร้องประท้วงขึ้นมา ผมเขินเลยครับ ท้องมันร้องดังมาก คุณหมอถึงกับหลุนขำทั้งที่ยังยืนกอดผมอยู่

“ขำมากไหมครับ”ผมดันตัวออก ถอยมายืนกอดอกมองหน้าคนที่กลั้นเสียงหัวเราะไม่ให้หลุดออกมา มันน่าขำตรงไหน คนมันหิวท้องก็ต้องร้องสิครับ ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องผมเลยด้วยซ้ำ

“ไม่มากครับ”

“ไม่ต้องตอบทุกคำถามก็ได้ครับ” ผมว่าอย่างงอนๆ คุณหมอพูดน้อยแต่ชอบตอบทุกคำถามที่ผมถาม

“ครับ ว่าแต่เราออกไปกันเถอะครับ พี่สาวกับพี่เขยของคุณฟ้ารออยู่ข้างนอก”

หือ...พี่เขยของผมมาด้วยเหรอ หรือว่าพี่ฝนโทรตามให้พี่เอกให้มารับรู้เรื่องของผมกับคุณหมอ พี่ฝนผมชอบทำเหมือนผมเป็นเด็กที่ต้องมีผู้ปกครองคอยดูแล ตอนเรื่องของผมกับนนท์ที่เริ่มคบกันใหม่ๆ พี่ฝนนี่แหละครับที่บอกให้ผมกับทุกคน

“คุณหมอ” ผมดึงแขนคุณหมอเอาไว้ตอนที่คุณหมอกำลังจะเปิดประตูออกไป

“ครับ”

“ตอนที่ผมหลับอยู่ คุณหมอได้คุยอะไรกับพี่ฝนพี่เอกบ้าง” ผมถาม เพราะเชื่อว่าระหว่างที่ผมหลับอยู่ คุณหมอคงถูกพี่ฝนซักจนสะอาดไปแล้วมั้ง

“เยอะแยะครับ ตั้งแต่ผมเป็นใครมาจากไหน ลูกเต้าเหล่าใคร ทำงานอะไร รู้จักคุณฟ้าได้ไง รักคุณฟ้าจริงไหม จะทำให้เสียใจไหม เยอะครับเล่าทั้งวันก็ไม่หมด”คุณหมอว่ายิ้มๆ

“เวอร์ไปครับ ผมหลับไปไม่กี่ชั่วโมงเองเถอะ”แต่ผมว่าคงจะเยอะจริงอย่างที่คุณหมอว่า ระดับพี่ฝนแล้วแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ทำเหมือนเป็นทั้งวันได้ครับ เพราะเธอพูดได้ไม่หยุดจริงๆ

“ไปครับ ออกไปข้างนอกก่อนดีกว่า” ว่าแล้วคุณหมอก็เปิดประตูเบี่ยงตัวให้ผมเดินออกไปก่อน



“หวัดดีครับพี่เอก” ผมยกมือไหว้พี่เขยที่กำลังพับผ้ากันเปื้อนลายหมี ก่อนเก็บมันใส่ไว้ในลิ้นชักตู้ใต้เคาน์เตอร์ในห้องครัว

“ไม่สบายหรือไงเรา” พี่เอกถาม เดินถือโถข้าวมาวางไว้ที่โต๊ะอาหาร มีพี่ฝนนั่งนั่งถือจานรอตักข้าวอยู่

“ครับ แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว” ผมว่า พลางเดินเข้าไปยืนดูอาหารห้าอย่างบนโต๊ะ มันส่งกลิ่นหอมยั่วความหิวได้ดีจริงๆ โดยเฉพาะไข่เจียวสีเหลืองน่าทานนั่น

“หิวใช่ไหมล่ะ” พี่ฝนถาม ผมพยักหน้าตอบ ทรุดตัวลงนั่งข้างพี่ฝน รับจานข้าวที่พี่ฝนยืนมาให้ แต่ผมส่งต่อให้คุณหมอที่นั่งข้างผมก่อน (โต๊ะทานข้าวเป็นโต๊ะทรงกลมครับ)

“ขอบคุณครับ” คุณหมอว่า

เมื่อจานข้าววางอยู่ตรงหน้าทุกคนแล้ว ผมซึ่งหิวมาก หิวจนไส้กิ่ว กำลังจะหยิบช้อนกลางขึ้นตักไข่เจียวในจาน แต่โดนขัดจังหวะด้วยเสียงเล็กๆ ของพี่สาวเสียก่อน

“ไม่คิดจะแนะนำคุณหมอให้พี่กับพี่เอกรู้จักอย่างเป็นทางการก่อนหรือไงหะ” พี่ฝนบอก ช่วยเตือนสติผมขึ้นมาทันทีว่ายังไม่ได้ทำหน้าที่เป็นคนกลางที่ดีเลย ก่อนหน้านั้นก็ร้องไห้จนลืมเรื่องแนะนำตัว ตอนนี้ก็หิวจนลืมไปเหมือนกัน

ผมวางช้อนลง เริ่มต้นแนะนำสองฝ่ายให้รู้จักกันตามที่พี่ฝนต้องการ

“คุณหมอครับ นี่พี่ฝน พี่สาวฝาแฝดของผม แล้วนี่ก็พี่เอก พี่เขยของผมเอง  พี่ฝนพี่เอกครับ นี่คุณหมอนะครับ เจ้าของคลินิกข้างๆ ร้านของผม”

ผมไม่คุ้นกับการแนะนำใครให้รู้จักกันหรอกนะครับ อย่างที่ว่า ผมเป็นคนมีเพื่อนน้อย ญาติที่เหลืออยู่ก็มีแค่พี่ฝน ถ้าให้รวมพี่เขยด้วยก็มีอยู่แค่สองคน ไอ้เรื่องที่จะพาคนโน่นมารู้จักคนนี่ หรือแนะนำกันไปมาแบบนี้ ไม่ค่อยได้ทำบ่อยครับ มันเลยรู้สึกไม่คล่องปากเท่าไหร่

“เป็นแค่เจ้าของคลินิกข้างๆ เท่านั้นเหรอ” พี่ฝนแกล้งถาม ผมรู้แหละว่าพี่ฝนรู้

“เป็นคนรักด้วย” บอกแล้วก็เขินครับ เขินพี่สาวตัวเอง เขินพี่เขยตัวเองด้วย แต่ที่เขินที่สุดคือคนที่ยิ้มกว้างอยู่ข้างผมนี่แหละ ไม่รู้จะยิ้มกว้างทำไม ทำเอาผมทำตัวไม่ถูก เลยเขินหนักเข้าไปใหญ่

“ยินดีที่รู้จักอย่างเป็นทางการนะคะคุณหมอ ฝนฝากน้องชายขี้แยให้คุณหมอดูแลด้วย หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยน้องของฝนนะคะ รายนี้เขาชอบเอาใจคน แต่ที่เขาชอบที่สุดคือชอบให้คนที่เขารัก รักเขาให้มากๆๆๆๆๆๆๆ” พี่ฝนย้ำคำว่ามากได้น่าเอามือปิดปากจริงๆ ครับ 

“ครับ จะดูแลให้ดีที่สุดครับ” ปากคุณหมอตอบรับคำของพี่ฝน ส่วนมือก็ยื่นมากุมมือผมที่วางอยู่บนตัก อุ่นดีครับมือของคุณหมอ อุ่นไปถึงหัวใจ

“มาที่เรื่องข่าวดีของเราหน่อยดีไหม” พี่เอกหันไปพูดกับพี่ฝน พร้อมกับดึงตัวพี่ฝนเข้ามากอดหลวม ก่อนจะปล่อย

“ข่าวดี?....อย่าบอกนะครับว่าพี่ฝนกำลังจะมีน้อง” ผมน่าจะเอ๊ะใจนะว่า พี่เขยงานยุ่งจะตาย วันนี้ก็วันทำงาน แค่เรื่องผมเรื่องเดียวคงไม่จำเป็นมากนักที่พี่เอกจะมาร่วมรับรู้ด้วย แม้ตลอดเวลาพี่เอกจะพูดเสมอว่าเราคือครอบครัวเดียวกัน ผมชอบคำว่าครอบครัวเดียวกันที่พี่เอกพูดมากๆ เพราะพี่เอกทำให้ผมรู้สึกเหมือนสิ่งที่พี่เอกพูดจริงๆ

“ใช่แล้ว พี่กำลังจะมีน้อง พี่กำลังจะเป็นคุณแม่ แล้วฟ้าก็กำลังจะได้เป็นคุณน้า ดีใจไหม” พี่ฝนยิ้ม มันเป็นยิ้มที่สวยมากที่สุดในโลก   

“พี่ฝน” ผมเรียกชื่อพี่สาวเบาๆ ลุกขึ้นเดินไปกอดพี่ฝนที่ลุกขึ้นยืนเพื่อรอรับกอดของผมอยู่ก่อนแล้ว

“ดีใจด้วยนะ พี่ฝนจะเป็นแม่คนแล้ว พี่ฝนกำลังจะมีลูก ” เสียงผมสั่น ผมบรรยายไม่ถูกถึงความรู้สึกของผมในตอนนี้ มันตื้นตัน ทุกอย่างมันตีขึ้นมาที่อก ผมอยากจะร้องไห้ แล้วผมก็ร้องไห้ออกมา พี่ฝนก็ร้องไห้เช่นเดียวกับผม

ผมดีใจที่ในร่างกายของพี่ฝนกำลังมีหนึ่งชีวิตอยู่ แล้วอีกเก้าเดือนชีวิตนั้นก็ลืมตาขึ้นมาดูโลก ไม่ว่าระหว่างเก้าเดือนต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อไหร่ที่เขาเกิด เขาจะมีแม่และมีน้าของเขาอยู่แน่นอน

เราสองคนจะไม่ทิ้งเลือดเนื้อที่เป็นของพวกเราส่วนหนึ่งไปไหน...

เราจะรักเขา...

เราจะดูแลเขา...

เราจะไม่ทอดทิ้งเขาไปไหน....

ครั้งหนึ่งหรืออาจหลายๆครั้ง ในห้องนอนผม หรือบางครั้งก็ในห้องนอนพี่ฝน เรานอนคุยกันถึงเรื่องราวในอดีตที่ถูกทอดทิ้งจากคนที่ให้กำเนิด เราต่างหาเหตุผลมากมายว่าทำไม พวกเขาถึงทิ้งชีวิตน้อยๆ ถึงสองชีวิตตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก สองชีวิตที่ทำได้แค่ส่งเสียร้องไห้ ไม่แม้แต่จะช่วยเหลือตัวเองได้ด้วยซ้ำ มีเหตุผลมากมายที่เราสองคนหาได้ เพื่อเอามาเป็นคำตอบให้กับการกระทำของพวกเขาที่ทิ้งเราไป

เหตุผลที่มากมายที่ได้มา ผมกับพี่ฝนไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เหตุผลอันไหนแน่ที่เป็นความจริง ความจริงที่เป็นเหตุผลให้พวกเขาทิ้งเด็กแฝดสองคนให้ต้องเผชิญโลกเพียงลำพังตั้งแต่วันแรกที่เกิดมา

แต่เราไม่เคยโกรธพวกเขา ผมกับพี่ฝนแค่ไม่เข้าใจและพยายามหาเหตุผลว่าทำไม แต่สุดท้ายแล้ว เหตุผลที่แท้จริงไม่มีใครรู้ดีไปกว่า คนที่ทิ้งเราไป ซึ่งเราสองคนคงไม่มีโอกาสที่จะรู้ความจริงข้อนั้นได้ เพราะผมกับพี่ฝนไม่เคยคิดที่จะตามหาพวกเขา ไม่คิดจะตามหาใครที่เป็นเจ้าของเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเรา คนที่ให้ชีวิตและให้ร่างกายที่ครบสามสิบสอง เราสองคนทำได้แค่เพียงขอบคุณพวกเขาอยู่เงียบๆ ในห้องนอนของผมบ้างของพี่ฝนบ้าง ขอบคุณที่ให้ชีวิต ขอบคุณที่ให้ร่างกาย และขอบคุณที่เลือกเส้นทางนี้ให้กับเด็กแฝดทั้งสองคน เพราะไม่อย่างนั้น เราสองคนก็ไม่รู้ว่าจะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์แบบเหมือนในวันนี้หรือเปล่า และเราคงไม่รับความรักมากมายจากคุณตาคุณยาย

ทุกครั้งที่พยายามคิดหาเหตุผลต่างๆมากมาก สุดท้ายแล้วผมกับพี่ฝนก็จบเรื่องราวต่างๆนั้น ด้วยตั้งใจที่ว่า เมื่อไหร่ที่มีชีวิตน้อยๆ เกิดขึ้น โดยมีพวกเราสองคนเป็นคนสร้างชีวิตมีค่านั้นขึ้นมา เราจะดูแลชีวิตมีค่านั้นให้ดีที่สุด เราจะไม่เป็นเพียงใครคนหนึ่งที่ให้เพียงชีวิต ร่างกาย แต่ไม่เคยให้ความรัก ความอบอุ่นหรือแม้กระทั้งการเลี้ยงดู เราจะไม่เลือกเส้นทางเดิมที่เราเคยผ่านมาให้กับชีวิตที่ได้ชื่อว่าเป็นลูก

ทั้งผมและพี่ฝน เราต่างให้คำสัญญาซึ่งกันและกันว่า เราจะไม่มีทางทอดทิ้งชีวิตที่เราสองคนมีส่วนร่วมทำให้เขาเกิดขึ้นมา

ในตอนนี้ที่ผมร้องไห้ ผมร้องไห้เพราะดีใจแทนชีวิตน้อยๆ ที่จะลืมตาดูโลกในอีกเก้าเดือนข้างหน้า เขาจะมีพ่อ มีแม่ มีน้าและมีครอบครัวที่พร้อมจะดูแลเขาตลอดไป

“ถ้าคุณตาคุณยาอยู่ ท่านคงดีใจมากเนอะ ว่าไหมฟ้า” เสียงพี่ฝนสั่น น้ำตายังเต็มหน้าตอนที่เงยหน้าขึ้นมาถาม

“ดีใจยิ่งกว่าเราสองคนด้วยมั้ง” ผมอยากให้ท่านทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ อยากให้ท่านร่วมเลี้ยงดูเด็กคนนี้ไปด้วยกัน อยากให้ท่านดูแลเด็กคนนี้เหมือนที่ดูแลผมกับพี่ฝน

แล้วอาหารมื้อนี้ก็ผ่านไปด้วยน้ำตา รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ แล้วที่ขาดไม่ได้คือการที่พวกเราทั้งสี่คน ช่วยกันตั้งชื่อให้ชีวิตน้อยๆ ในท้องพี่ฝน ซึ่งพวกเราช่วยกันตั้งเผื่อไว้เยอะมาก ถึงขั้นที่นึกไปถึงชีวิตที่อาจไม่ได้มีแค่ชีวิตเดียว เพราะฝั่งพี่เขยผมก็เป็นแฝดเหมือนกัน แถมยังเป็นแฝดแท้ ไม่ใช่แฝดเทียมอย่างผมกับพี่สาวด้วย ไม่แน่ว่าผมอาจจะได้หลานทีเดียวถึงสองคนเลยก็ได้

>>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<<

ขอโทษนะคะที่หายไปนานมากก เกือบเดือนเลย
พอดีต้องรีบทำงานส่ง พอส่งงานเสร็จมาต่อนิยาย
ไปไม่เป็นเลย แบบว่าร้างมือมานาน ต่อไม่ติดซะงั้น
เขียนตอนนี้ ใช้เวลาตั้งแต่วัน อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ รวมแล้ว 4 วัน ได้มาแค่นี้เอง
แถมยังน้อยนิด สั้นๆ งงๆ เบลอๆ ขาดๆ ไม่ลื่นไหลอีกต่างหาก
กราบขอโทษงามๆ นะคะ
แล้วมีเรื่องผิดพลาดนิดหน่อย อยากสารภาพ คือว่า
คนเขียนสับสนไปนิด จากเมื่อหลายๆ ตอนก่อน เอาที่ชัดไปเลยคือ คนที่เลี้ยงน้ำฟ้ามา ฟ้าเรียกว่าตากะยายนะคะ มีหลายตอนที่หลุดไปว่าเป็นปู่กะย่า T^T
แล้วก็หลุดเรื่องวันเกิดคุณหมอในตอนที่แล้วอีก เด๋วจะให้พี่เอ๋ไปแก้ให้นะคะ บอกไว้ว่าที่ตอนที่แล้วบอกว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดคุณหมอ ความจริงไม่ใช่ คำนวณเวลาผิด T___T’
พลาดเยอะ โปรดให้อภัยกันนะคะ

ปล.เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกก เฮ้อออ ท้อนิดหน่อย อิอิ

บับบายนะคะ

สีเหลืองอ่อน // aeaw







หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 21 ขอบคุณ {10/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Karn12 ที่ 10-02-2012 20:45:30
จิ้มก่อนอ่าน
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 21 ขอบคุณ {10/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 10-02-2012 20:48:53
ฟ้าเป็นคนเจ้าน้ำตามาก
คุณหมอต้องใจเย็นมากๆ ดูแลคุณฟ้าดีๆนะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 21 ขอบคุณ {10/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 10-02-2012 21:26:22
รออ่านนะคะ

คุณฟ้าน่ารัก
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 21 ขอบคุณ {10/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 10-02-2012 21:54:41
ไม่เป็นไรคะ ใจเย็นๆนะ เรารอได้จ้า
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกคุณฟ้าหวั่นไหวง่ายมากเลย
แต่ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่ารักคุณหมอมากละสิ
เฮ้อออ ดีใจแทนคุณหมอ
แล้วก็ดีใจกับพี่ฝนด้วย
ขอให้มีความสุขอย่างนี้ไปนานนานนะคะ
อย่าให้มันดราม่าเลย เหอะๆ

+1 จ้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 21 ขอบคุณ {10/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 10-02-2012 22:00:13
พี่น้องคู่นี้รักกันมาก
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 21 ขอบคุณ {10/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 10-02-2012 22:09:22
เข้าใจในความอ่อนไหวของคุณฟ้าอะ
คุณหมอต้องถนอมคุณฟ้าดีๆ นะ
บวกให้ค่ะ คิดถึงมากมาย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 21 ขอบคุณ {10/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: paradoxxx ที่ 10-02-2012 22:18:50
เพิ่งอ่านเรื่องนี้ๆ
คู่นี้น่ารักมากเลย ><
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 21 ขอบคุณ {10/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 11-02-2012 06:29:03


ฟ้าอ้อนคุณหมอบ่อยขึ้นเนอะ...  :-[
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 21 ขอบคุณ {10/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 11-02-2012 07:39:08
ทุกอย่างเริ่มลงตัวคราวนี้ก็เหลือแต่ทางบ้านพี่หมอแล้วซิ่นะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 21 ขอบคุณ {10/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 11-02-2012 08:59:37
ไม่เป็นไรค่ะ นิดๆหน่อยๆ ขอแค่มาต่อให้อ่านก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ
ตอนนี้คุณฟ้าขี้อ้อนเนอะ กลัวหมอทิ้ง ใครเขาจะทิ้งหมอทั้งรักทั้งหวงคุณฟ้าจะแย่
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 21 ขอบคุณ {10/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 11-02-2012 11:36:18
อบอุ่นอ่ะถึงฟ้า
จะร้องไห้เยอะ
ไปหน่อย :กอด1:
กด+เป็ดจ้า
ปอลิง.ถ้าเหนื่อยก็พักก่อน
รักษาสุขภาพด้วย
รอได้เป็นกำลังใจให้จ้า :L2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 21 ขอบคุณ {10/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหญิง ที่ 11-02-2012 18:05:01
น่ารักอ่ะ ฟ้าขี้อ้อนมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติณ" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 15-02-2012 21:14:00
After Valentine :: วาเลนไทน์....แรกของผม

“พี่ตินคะ”
เสียงเล็กๆ ของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเรียกผมจากด้านหลัง ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินอ้อมมาอยู่ตรงหน้าผม พร้อมกับดอกกุหลาบสีแดงในมือที่ยื่นมาให้ด้วยใบหน้าแดงกล่ำ มีเพื่อนน้องเค้าอีกสามคนยื่นเกาะแขนกันอยู่ไม่ห่างไปนัก กำลังลุ้นเพื่อนของตัวเองอยู่
“อุ้มให้พี่ค่ะ” น้องอุ้มว่า น้องอุ้มคนนี้ผมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ก็เหมือนหลายๆ คนที่ผมไม่เคยเห็นหน้า เดินเข้ามาพูดประโยคทำนองนี้กับผม พร้อมกับยื่นดอกไม้ การ์ด และถุงช็อกโกแลตให้ผม ตั้งแต่ผมก้าวเท้าเข้ามาในโรงเรียน เดินยังไม่ถึงห้องด้วยซ้ำ  มือก็แทบจะไม่วางพอรับดอกกุหลาบสีแดงของน้องอุ้ม โชคดีครับที่น้องอุ้มคนนี้มีแค่ดอกกุหลาบมาให้ผม
“ขอบคุณครับ” ผมว่า พยายามทำมือข้างหนึ่งให้ว่างเพื่อจะรับดอกกุหลาบสีแดงดอกนั้นของน้องอุ้ม แล้วดอกไม้ดอกนั้นก็มาอยู่ในมือของผมจนได้ ก่อนจะรวมเข้ากับดอกไม้ดอกอื่นๆ ที่ผมได้มาก่อนหน้านี้
ผมกำลังคิดอยู่ว่าเย็นนี้จะหอบดอกไม้กับช็อกโกแลตขึ้นรถเมล์กลับบ้านไปยังไงดี เพราะวันนี้แม่ของผมซึ่งเป็นอาจารย์วิชาภาษาไทยที่โรงเรียนเอกชนแห่งนี้ ไม่ได้มาสอนเพราะป่วยเนื่องจากโดนฝนหลงฤดูเมื่อวันก่อน
“เย็นนี้พี่ตินว่างไหมคะ อุ้มอยากจะช่วยพี่ตินไปดูหนัง” น้องอุ้มพยายามรวบรวมความกล้าเอ่ยปากชวนผม ผมเห็นว่าเพื่อนๆ ของน้องอุ้มก็ลุ้นกันสุดตัว มีเสียงวี๊ดว๊ายที่พยายามจะทำให้มันเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังมาให้ได้ยินเป็นระยะ
ประโยคทำนองนี้ผมก็ฟังมาหลายรอบแล้วครับ เท่ากับจำนวนดอกไม้ในมือที่มีเกือบยี่สิบดอก ซึ่งแต่ละครั้งก็จะได้คำตอบที่ว่า
“พี่ไม่ว่างครับ” ผมบอกไปสั้นๆ ไม่รู้จะเอาเหตุผลไหนมาต่อท้ายประโยค ว่าทำไมผมถึงไม่ตอบรับคำชวน ผมไม่ใช่พวกชอบทำร้ายจิตใจใคร แต่ผมก็ไม่ใช่พวกที่ชอบให้ความหวังใครเหมือนกัน ดอกไม้ที่ให้มา ผมก็รับไว้เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ ช็อกโกแลตที่ให้มา ผมก็รับเอาไว้เพื่อรักษาน้ำใจเหมือนกัน ผมถือว่าเป็นเรื่องของคนที่อยากให้ ผมแค่รับ แต่ถ้าชวนไปไหนด้วยกันนั้น ผมขอปฏิเสธครับ ไม่อยากให้ความหวัง
“เหรอค่ะ” น้องอุ้มทำหน้าเศร้า ส่งยิ้มเจื่อนๆ มาให้ เพื่อนสามคนที่ยืนลุ้นอยู่ไม่ไกลเดินเข้ามากอดไหล่ปลอบ
“พี่ขอตัวก่อนนะครับ ยินดีที่รู้จักครับน้องอุ้ม” ผมบอก เหมือนที่บอกหลายๆ คนก่อนหน้านี้ เพราะมีบางคนที่ผมไม่รู้จักเอาดอกไม้กับช็อกโกแลตมาให้ผมก็เยอะ เยอะกว่าจำนวนคนที่ผมรู้จักด้วยมั้ง
“ค่ะ” น้องอุ้มรับคำเสียงเศร้า จากนั้นผมก็ไม่รู้แล้วละครับว่า น้องอุ้มกับเพื่อนๆ จะพูดถึงผมในแง่ไหน จะโกรธหรือเสียใจที่ผมปฏิเสธคำชวนนั้นยังไง ผมใส่ใจนะครับแต่ไม่อยากรับรู้ ถ้าให้ผมตอบรับทุกคำชวน มีหวังไม่ต้องแยกร่างไปกับเจ้าของดอกไม้ทุกคนเหรอครับ การปฏิเสธเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
จากประสบการณ์วันวาเลนไทน์เมื่อปีที่แล้ว ตอนผมอยู่มอสี่ เพิ่งเข้าโรงเรียนแห่งนี้เป็นปีแรก ดอกไม้ที่ผมจะได้รับตลอดทั้งวันนี้ ไม่ได้มีแค่นี้แน่ๆ
ผมไม่ได้เป็นคนที่เรียกว่าหล่ออันดับต้นๆ ของโรงเรียน มีรุ่นพี่ รุ่นน้อง และรุ่นเดียวกับผมที่หล่อกว่าผมเยอะมากในโรงเรียนนี้ แต่ก็แปลกใจทุกครั้งที่มีการทำโพลสำรวจความเห็นแบบแปลกๆ ออกมา เช่น หนุ่มน่าเลิฟที่สุดในใจคุณ ปีใหม่อยากเคาท์ดาวน์กับหนุ่มสุดฮอทคนไหน สงกรานต์นี้อยากแปะแป้งหนุ่มหล่อลากดินคนไหน วาเลนไทน์อยากบอกรักหนุ่มหล่อคนไหนที่สุด เป็นโพลที่ทำกันเองเล่นๆ ในกลุ่มนักเรียนผู้หญิง ซึ่งผมมักติดท็อปห้าเสมอ ไม่รู้ทำไม ทั้งที่ผมก็ไม่ใช่คนที่หล่อลากดินขนาดนั้น
“ไอ้ตินนนนนนนนนนนนนนนนน”
เสียงที่ดังมาก่อนที่เจ้าของเสียงจะวิ่งถือกระเป๋าแฟ่บๆ มาหาผม พร้อมกับดึงกุหลาบในมือผมไปดอกหนึ่ง คือเสียงเพื่อนสนิทหนึ่งในสองคนของผม 
“กูขอ” มันไม่รอคำตอบจากผม เพราะมันวิ่งย้อนกลับไปทางเดิม แล้วไปหยุดอยู่หน้าเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังก้าวลงจากรถเบนซ์คันยาวสีดำเป็นเงา คนที่ผมแอบมองเขาตลอดมานับตั้งแต่วันที่เจอกันครั้งแรก เมื่อตอนมอสี่
เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ขาวๆ ตาเรียวๆ และดูหยิ่งอย่างที่สุด เพราะทันทีที่เพื่อนของผมมันวิ่งโร่เอาดอกไม้ไปยื่นให้ เด็กผู้ชายคนนั้นก็แค่หยุดมองแล้วผลักดอกไม้ดอกนั้นออกไปให้ไกล อย่างไม่คิดรักษามารยาทอย่างที่ผมทำ ที่บอกว่าผมรักษามารยาทนั้นก็เพราะว่าในจำนวนดอกไม้หลายดอกในมือผม ผมก็รับมาจากมือของเด็กผู้ชายเหมือนกัน อาจจะต่างกันตรงที่ว่า ของผมเป็นเด็กผู้ชายหน้าหวาน แต่ของเค้าคนนั้นเป็นไอ้เพื่อนหน้าเข้ม รูปร่างสูงใหญ่พอๆ กับผม
ผมไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรหรือทำหน้าตาหยิ่งใส่เพื่อนของผมยังไง มันถึงได้ทำคอตก เดินตามหลังเขาต้อยๆ แต่ห่างกันหลายก้าว
เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ขาวๆ ตาเรียวๆ ท่าทางหยิ่งๆ เดินมาทางที่ผมยืนอยู่ เขาไม่ได้เดินมาหาผมอย่างแน่นอน แต่ที่เดินมาทางนี้ก็เพราะเขาและผมกำลังเดินไปยังอาคารหลังเดียวกันต่างหาก ผมขยับเข้าข้างทางอีกนิด เพื่อหลีกทางให้เขาเดินเพราะเขาคงไม่เดินหลบผมแน่ๆ
เด็กผู้ชายที่เดินผ่านหน้าผมไป มีแวบหนึ่งที่เราสบตากัน ผมจำตาคู่นี้ของเขาได้ขึ้นใจ พอๆ กับจำได้ถึงวันที่เราเจอกันครั้งแรก ตรงมุมอาคารพละ เราเดินชนกัน เป็นเขาที่ล้มลง ส่วนผมยืนได้อย่างมั่นคง
ดอกไม้ในมือของผมดูไร้ความหมายยิ่งขึ้นกว่าเดิม ช็อกโกแลตในมือของผมก็เป็นเพียงขนมหวานชนิดหนึ่ง ไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งอะไร มันคงจะมีความหมายและลึกซึ้งได้หากมันมาจากเด็กผู้ชายที่ผมได้แต่มองตามแผ่นหลังบางๆ นั้นไปจนลับตา
หันกลับมาอีกที ผมก็เจอเพื่อนของผมยืนทำหน้าเซ็งหมุนดอกไม้ในมือไปมา
“ดอกฟ้าหรือจะคู่หมาวัด” เพื่อนผมมันพูดแบบปลงๆ ผมว่าเพื่อนผมคนนี้มันไม่ได้เป็นหมาวัดหรอกครับ บ้านมันถือว่ามีฐานะพอสมควร แต่แค่เทียบไม่ได้กับบ้านเด็กผู้ชายคนที่มันวิ่งเอาดอกไม้ไปให้ต่างหาก
“ป่ะไอ้ติน ซดโค้กให้หายเศร้า” ผมว่า มันเศร้าได้ไม่นานครับ เป้าหมายของมันมีเยอะ
.
.
.
.
.
.
ตามคาดครับว่าเพื่อนผมมันเศร้าได้ไม่นาน พักเที่ยง กินข้าวอิ่ม มันก็ทิ้งให้ผมนั่งอยู่ข้างสนามบาสคนเดียว โดยที่มันลากเพื่อนอีกคนไปแจกดอกกุหลาบสาวๆ ตามรายชื่อที่พวกมันสองคนเขียนเอาไว้ตั้งแต่ต้นเดือน ไม่ต้องบอกก็รู้กันนะครับว่า ดอกไม้ที่เพื่อนผมมันเอาไปแจกสาวๆ มาจากไหน 
ความจริงผมก็ไม่ได้อยู่คนเดียวเท่าไหร่ ตรงหน้าผมยังมีกองถุงช็อกโกแลกกับดอกไม้วางอยู่เต็มโต๊ะหินอ่อน  มีรุ่นพี่ รุ่นน้อง และรุ่นเดียวกันหลายคน ทั้งผู้หญิงผู้ชายที่แวะเวียนเอามาให้ ตอนนี้เสื้อของผมเต็มไปด้วยสติ๊กเกอร์รูปหัวใจเล็กบ้างใหญ่บ้างติดเต็มไปหมด แทบจะไม่เหลือพื้นที่ว่าง ผมจึงเริ่มแกะมันออกที่ละชิ้น แล้วเอาไปแปะไว้ในสมุดสเก็ตซ์ภาพ
“นาย”
แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อแต่ผมก็รู้ครับว่า คนๆ นี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมเรียกชื่อผม
คนตัวเล็กๆ ขาวๆ ตาเรียวๆ หน้าหยิ่งๆ แต่ตอนนี้กำลังทำหน้ายุ่งเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง ยืนถือกุหลาบสีแดงอยู่ในมือ มีซองสีชมพูร้อยเชือกผูกติดกับก้านดอกกุหลาบ ลักษณะเหมือนดอกไม้หลายๆ ดอกที่ผมได้รับ อีกข้างหนึ่งถือถุงกระดาษสี มีตัวหนังสือบอกยี่ห้อของสิ่งที่อยู่ในนั้น ถึงผมจะไม่ได้รวยแต่ผมก็ไม่ใช่เด็กบ้านนอกที่จะไม่รู้ว่า มันเป็นยี่ห้อของนาฬิการาคาแพงมาก นาฬิกาหนังสีดำบนข้อมือของผมเทียบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“ครับ”
ใจผมเต้น หัวใจผมยิ้ม แต่ผมต้องเก็บอาการ เพราะผมนี่แหละครับ ‘หมาวัดตัวจริง’ ครอบครัวผมไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร ผมเป็นแค่ลูกของอาจารย์ในโรงเรียน ซึ่งได้ทุนในฐานะเป็นลูกของอาจารย์ดีเด่นห้าปีซ้อน ถึงได้เข้ามาอยู่ในโรงเรียนนี้ได้
ผมแอบชอบเด็กผู้ชายคนนี้ตั้งแต่วันแรกที่เราเดินชนกัน ผมแอบมองเขาอยู่ห่างๆ ตั้งแต่ตอนนั้นมา แล้วพักหลังๆ ผมถึงได้เจอเขาบ่อยขึ้น เพราะเพื่อนสนิทของเขาทำให้ผมได้เจอเขามากกว่าการแอบมองอยู่ห่างๆ ที่บางวันก็ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าน่ารักๆ ของเขาเลย แม้แต่แวบเดียว
“ได้ดอกไม้เยอะแล้วนี่ แล้วยังอยากจะได้ดอกนี้หรือเปล่า” เขากึ่งพูดกึ่งถาม ปรายตามองกองดอกไม้บนโต๊ะของผม 
“....”
ผมไม่ชอบสายตาของเขาตอนนี้ ถึงเขาจะน่ารักมากในสายตาของผม แต่เมื่อเขามองผมด้วยสายตาแบบนี้ มันก็ทำให้ผมไม่พอใจเขาได้เหมือนกัน เขามองผมเหมือนเป็นอะไรสักอย่าง เป็นใครสักคนที่เขาไม่อยากพูดคุยด้วย แต่ที่มานี่ก็เพราะถูกบังคับ หน้าตาของเขาบอกให้ผมรู้ว่ามันเป็นเช่นนั้นครับ และที่สำคัญผมรู้ด้วยว่าใครที่บังคับให้เขามาหาผม เพื่อนสนิทของเขาไงครับ ผู้หญิงตัวเล็กๆ น่าตาน่ารักแต่น่ารักน้อยกว่าเขาไปหน่อยหนึ่ง
“แต่ว่า.....นี่คงยังไม่มีใครเคยให้นาย” เขาว่า พลางชูถุงในมือขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตาของผม ถุงนาฬิกายี่ห้อดังถูกวางมันลงบนโต๊ะ หลังจากที่กวาดดอกไม้บนโต๊ะไปรวมกันอยู่อีกทางหนึ่งของโต๊ะ มีบางหลายดอกที่หล่นไปกองกับพื้น ผมต้องก้มลงไปเก็บขึ้นมา ปัดฝุ่นกับเศษหญ้าที่เกาะตามกลีบดอกไม้อย่างเบามือ ไม่อยากให้กลีบมันช้ำ
“ห่วงจริงนะ ก็แค่ดอกไม้......โอ๊ย” เขาร้องเสียงหลงแต่ไม่ได้ร้องดังมาก เมื่อใช้มือเปล่ากวาดดอกไม้บนโต๊ะทั้งหมดลงไปกองอยู่บนพื้น เสียงร้องของเขาน่าจะเกิดจากหนามกุหลาบตำ
ผมอาจจะรู้สึกเจ็บแทนเขามากกว่านี้ ถ้าหากเขาโดนหนามกุหลาบตำเพราะสาเหตุอื่น ที่ไม่ใช่สาเหตุนี้ ผมเห็นเขาบีบนิ้วนางของตัวเองไปมาเพื่อคลายเจ็บ ก่อนจะตวัดสายตาขึงโกรธมาทางผม
“แย่มาก เอาดอกไม้มาให้ผู้ชายทั้งที่ ทำไมถึงไม่เอาหนามออกให้หมด ดีนะที่เลือดฉันไม่ออก ไม่งั้นนายโดนแน่” เขาว่าเสียงขุ่น ผมไม่ได้ตอบโต้อะไร ไม่อยากมองหน้าโกรธๆ ของเขานานนัก เลยก้มไปเก็บดอกไม้ที่พื้น ผมเหลือบเห็นเด็กนักเรียนทั้งหญิงและชายหลายคนมองมาที่ผมกับเขา แล้วค่อยๆ ถอยออกห่าง แล้วเดินหนีไปทีละคนทีละกลุ่ม สงสัยเพราะกลัวสายตาของคนที่ทิ้งตัวลงนั่งอยู่ข้างหน้าผม
“เอา เอาไป” เขาว่า พร้อมกับยื่นดอกกุหลาบในมือให้ผม พร้อมกับดันถุงกระดาษที่ผมคิดว่าเข้าในคงเป็นนาฬิกายี่ห้อดังที่ผมเคยเห็นในนิตยสาร
“ขอบคุณครับ” ผมบอกเขา รับดอกไม้จากมือเขา เสี้ยววินาทีที่มือผมสัมผัสกับปลายนิ้วของเขา หัวใจผมมันเต้นแรงมาก แทบจะหลุดออกมา เสี้ยววินาทีที่ดูเหมือนกินเวลาไปไม่รู้กี่ร้อยล้านนาที ผมได้เห็นหน้าของเขาใกล้ๆ ใกล้กว่าทุกครั้ง ไม่นับครั้งแรกที่เราเจอกันนะครับ
“หึ...ไม่ต้องขอบคุณฉัน ไม่ใช่ดอกไม้ของฉัน แล้วนาฬิกานั่นก็ไม่ใช่ของฉันด้วย โน่น ถ้าอยากขอบคุณ ไปขอบคุณยัยแพทโน่น เขาให้นาย แล้วก็อย่าลืมอ่านการ์ดด้วย ส่วนนาฬิกาได้แล้วก็ใส่ให้ยัยแพทเห็นด้วย ยัยแพทจะได้ดีใจ แล้วฉันจะได้รู้ว่านายไม่เอาไปขายต่อให้ใคร” เขาพูดยิ้มๆ ผมชอบรอยยิ้มของเขาแต่ไม่ใช่รอยยิ้มแบบดูถูกกันอย่างนี้
“ ผมฝากขอบคุณแพทด้วย สำหรับดอกไม้ แต่นาฬิกา ผมไม่ขอรับ” ผมตั้งใจจะไม่รับอยู่แล้วละครับ ของราคาแพงแบบนี้ ถึงบ้านผมจะไม่ได้มีฐานะร่ำรวย ผมก็ไม่ใช่คนบ้าของแพงหรือชอบเอาของใครฟรีๆ
ผมคว้าถุงขึ้นมา ส่งมันคืนให้เขา แต่เขากลับยืนเอามือไพล่หลัง
“ให้แล้วไม่รับคืน แต่ถ้าอยากคืน โน่น เอาไปคืนเจ้าตัวเองละกัน ฉันไม่เกี่ยว ฉันมีหน้าที่แค่เอามาให้ ไม่ใช่คนรับใช้ของนายที่ต้องทำตามคำนายสั่ง” เขาว่า ไม่ได้ใส่ใจกับสีหน้าจริงจังของผมสักนิด
ลูกคุณหนู เอาเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า คนๆ นี้ทั้งหยิ่ง อวดดี และถือตัวมาก ผมไม่แปลกใจหรอกครับว่า วาเลนไทน์ปีที่แล้ว ในมือของเขาจะไม่มีดอกไม้สักดอก ไม่ใช่ว่าไม่มีใครให้เขา ผมเห็นครับว่ามีหลายคนที่ยื่นดอกไม้ให้เขา แต่เขาไม่รับมัน แถมซ้ำยังทำหน้าเหมือนไม่พอใจที่มีคนเอาดอกไม้มาให้ แม้แต่สติ๊กเกอร์รูปหัวใจดวงเล็กๆ จากใครๆ ก็ไม่มีโอกาสได้มาอยู่บนเสื้อสีขาวสะอาดตาของเขาหรอกครับ
แต่ว่าวาเลนไทน์ปีนี้ อกด้านซ้ายของเขามีสติ๊กเกอร์รูปหัวใจสีชมพูดวงเล็กติดอยู่ตรงนั้น
ใครกัน....ใครคือคนโชคดีคนนั้น ที่ได้รับโอกาสที่คนอื่นอีกหลายคนอยากได้ แต่ไม่เคยได้
“อยากได้เหรอ?” เขาถาม เขาคงเห็นผมจ้องสติ๊กเกอร์นั้น
“เปล่าครับ” ผมตอบ แล้วก็เป็นเขาที่มองมายังสติ๊กเกอร์รูปหัวใจบนอกเสื้อผม ปากเล็กๆ นั้นยกยิ้ม น่าหมั่นไส้ท่าทางนี้ของเขาอยู่เหมือนกัน ทำไมเจอกันทีไร ผมถึงไม่เคยได้รับรอยยิ้มปกติของเขาเลยสักครั้ง ทุกครั้งก็เจอแต่รอยยิ้มดูถูก เยาะเย้ย ถากถาง ทำให้บางครั้งผมก็ไม่อยากเจอหน้าเขา แต่เอาเข้าจริง วันไหนที่ไม่ได้เห็นหน้าเขา ผมมักจะกลับบ้านไปด้วยความรู้สึกหม่นหมองทุกครั้งไป
“นั่นสินะ บนเสื้อนายก็ออกเยอะแยะ ให้ไปก็ไม่รู้จะเอาไปติดไว้ตรงไหน” เขาว่าเสียงเรียบ เดาอารมณ์ไม่ออก
เขามองหน้าผม
ผมมองหน้าเขา
เรามองหน้ากันอยู่นาน จนกระทั่ง...
“ตรงนี้ก็ได้ครับ” ไม่รู้ว่าผมรวบรวมความกล้ามาจากไหนถึงได้บอกแบบนั้นออกไป
‘ตรงนี้’ ที่ผมบอกเขาคือตรงสมุดสเก็ตภาพเล่มไม่เล็กไม่ใหญ่ของผม หน้าที่ผมร่างลายเส้นเป็นรูปคนครึ่งตัว ผมเพิ่งร่างมันไปเมื่อกี้ ตอนเพื่อนทิ้งให้อยู่คนเดียว ดูเผินๆ ไม่รู้หรอกครับว่าเป็นใคร แต่ผมคนที่เป็นเจ้าของรู้ดีครับว่าเป็นใคร
“....” ดูเขาจะตกใจเล็กน้อย แล้วก็อึ้งไปนิด ผมเกือบจะปิดสมุดนั้นลงแล้ว ถ้ามือเล็กๆ นั้นไม่ยื่นมาดึงเอาไว้เสียก่อน
โดยไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา ในขณะที่เขาค่อยๆ แกะสติ๊กเกอร์รูปหัวใจบนอกเสื้อออก จนมันมาอยู่บนปลายนิ้วของเขา แล้วเดินทางอย่างช้าๆ มาอยู่บนภาพที่ผมร่างเอาไว้คร่าวๆ บนอกด้านซ้ายของภาพร่างอันนั้นอย่างพอเหมาะตามที่ผมอยากให้เป็น
แล้วเขาก็เดินกลับไปทางเดิมที่เขาเดินมา เป็นเช่นเคยที่ผมจะมองแผ่นหลังเล็กๆ นั้นไปจนลับสายตา ตลอดทางที่เขาเดินไป ผมเห็นมีหลายคนที่ทำท่ากล้าๆ กลัวๆ มีดอกไม้ในมือที่อยากจะให้เขา แต่เขาไม่ได้สนใจ ยังคงเดินลิ่วๆ อย่างไม่คิดจะหยุดใส่ใจความรักของใครที่ส่งผ่านกุหลาบดอกสวยมาให้เขา
เมื่อมองตามเขาไม่ได้อีกแล้ว ผมถึงได้ดึงสายตาตัวเองมาหยุดอยู่ที่หัวใจสีหวานบนหน้ากระดาษของสมุดสเต็กภาพ ผมทิ้งตัวลงนั่งอีกครั้ง หยิบเดินสอขึ้นมาวาดภาพนั้นจนสมบูรณ์ หัวใจดวงเล็กมันแปะอยู่บนอกด้านซ้ายของภาพที่ผมวาดเสร็จสมบูรณ์ ยิ่งทำให้ภาพนั้นสมบูรณ์ขึ้นอีกเป็นล้านเท่า
ภาพ...เด็กผู้ชายที่ยิ้มได้สวยที่สุดในโลก รอยยิ้มที่ผมได้เห็นชัดๆ หลังจากที่เขาแปะหัวใจดวงเล็กนั้นให้กับผม ก่อนเขาจะเดินไป โดยไม่ได้หยิบนาฬิกาไปด้วย แต่เย็นนั้นผมก็ตามหาเพื่อนของเขาและคืนให้กับเจ้าตัว
วาเลนไทน์ปีนั้น รวมถึงทุกๆ ปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยอยากได้อะไรจากใครอีกแล้ว เพราะผมพอใจกับสติ๊กเกอร์รูปหัวใจสีชมพูจากเขา ถึงแม้มันจะเป็นของของคนอื่นให้เขา แต่ผมถือว่ามันเป็นของเขาและเขาให้ผม
.
.
.
.
.
.
.
.

“ยังเก็บไว้อีกเหรอ?”
เด็กผู้ชายคนที่ผมคิดว่าเขายิ้มได้สวยที่สุดในโลกเอ่ยปากถาม เขาทิ้งตัวหอมๆ เพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จมาใหม่ๆ ลงข้างกายผม โอบผมไว้ด้วยเรียวแขนที่ไม่สามารถโอบรอบตัวผมได้รอบ ผมชื้นวางแมะอยู่บนไหล่หนาของผม เขามองภาพวาดบนสมุดสเก็ตภาพ ภาพวาดที่มีสติ๊กเกอร์รูปหัวใจดวงเล็กสีชมพูหวานติดอยู่ตรงอกด้านซ้ายของภาพวาดนั้น
“ครับ เก็บไว้อย่างดี” ผมบอก แขนเรียวของเขาละจากตัวผม เพื่อจะดึงเอาสมุดนั้นไปดูใกล้ๆ เขายิ้ม ยังคงเป็นยิ้มของเด็กผู้ชายที่สวยที่สุดในโลกของผมตลอดมา
“รู้ไหมว่า....”
เขาหยุดพูดแล้วหันมายิ้มหวานให้ผม นิ้วเล็กจิ้มลงไปที่สติ๊กเกอร์รูปหัวใจ
“...ลมตั้งใจให้นะ”
เขาว่าเขินๆ เห็นได้จากการที่ไม่กล้ามองสบตาผม หัวใจของผม มันไม่ได้เต้นแรงเหมือนวันนั้นหรือเหมือนทุกครั้งที่เจอหน้าเขาในช่วงที่เรายังเรียนมอปลายโรงเรียนเดียวกัน เพราะทุกวันนี้หัวใจผมมันเต้นเป็นปกติ เต้นไปในจังหวะเดียวกันกับของเขา
“ผมไม่รู้มาก่อน” ผมว่า พลางดึงเขาเข้ามากอด
“จะรู้ได้ไงเล่า ก็ไม่เคยบอกนี่” เขาว่าเสียงเบา ก้มมองสติ๊กเกอร์ดวงนั้น โดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองผมเลย
“แล้วทำไมไม่บอกล่ะครับ” ผมถาม กอดเขาแน่นขึ้น 
“บอกได้ยังไงล่ะ บ้าหรือเปล่า” เขาใช้เสียงสูงกลบความอาย ที่ไม่รู้ว่าจะอายไปทำไม
“นั่นสินะครับ ตอนนั้นลมเกลียดตินจะตาย” ผมแกล้งพูด ตอนนี้ไม่ได้คิดแล้วล่ะครับว่า เขาเกลียดผม ถ้าเกลียดคงไม่มีวันนี้ที่ผมได้กอดเขาไว้ทั้งตัวและหัวใจ คิดไปถึงตอนที่เรียนอยู่ด้วยกัน ตอนนั้นเขาก็คงไม่ได้เกลียดผมเหมือนกัน แต่ที่ทำไปทั้งหมดคงเพราะต้องการปกปิดความรู้สึกตัวเอง แล้วที่สำคัญเพื่อนรักของเขาอย่างคุณแพทก็ชอบผมอยู่ด้วย
“เปล่านะ ไม่ได้เกลียดสักหน่อย แค่...” เขาเงยหน้าขึ้นมาพูดแล้วหยุดไปสักพัก ใบหน้าขึ้นสี ฟ้องความอายในสิ่งที่จะพูด ปากอิ่มเม้มเข้าหากัน ก่อนจะคลายออกเพื่อพูดต่อ
“...แค่ไม่รู้จะทำตัวยังไง เลยทำแบบนั้นไป ขอโทษนะ” เขาพูดเสียงเบา ตาคู่นั้นของเขาฟ้องว่าเขากำลังรู้สึกผิดกับเรื่องในอดีต
“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ตินไม่เคยโกรธลมเลย แม้แต่นิดเดียว” ผมหอมแก้มเขาเบาๆ ตอนนั้นเคยรู้สึกไม่พอใจแต่ก็ไม่เคยโกรธอะไรสิ่งที่เขาทำเลย คงเพราะรักเขา ต่อให้เขาทำกับผมมากกว่านั้น ผมก็ไม่คิดจะโกรธ
“จริงเหรอ?” เขาย้อนถาม น้ำเสียงดูตื่นเต้นดีใจที่ได้ยินผมบอกเช่นนั้นออกไป
“จริงครับ...แต่” ผมหยุดคิด ว่าควรจะถามในสิ่งที่ค้างอยู่ในใจผมตลอดมา ตั้งแต่วาเลนไทน์ปีนั้น
“แต่อะไร?” เขาดันตัวออกจากอ้อมแขนของผม เพื่อจะเค้นเอาสิ่งที่ผมไม่กล้าถามออกไป แต่คิดไปแล้ว มันไม่จำเป็นที่ผมจะต้องเก็บมันเอาไว้ เรารักกันแล้ว เราเป็นคนๆ เดียวกันแล้ว มีเรื่องอะไรเราต้องเปิดอกคุยกันให้หมด
“แต่ตินอยากรู้ว่าสติ๊กเกอร์รูปหัวใจเป็นของใคร ลมเอามาให้ติน ไม่กลัวเขาเสียใจหรือครับ” ผมคิดว่าคนที่เอาสติ๊กเกอร์รูปหัวใจติดให้เขาได้ ต้องเป็นคนที่มีความสำคัญกับเขามากๆ เขาถึงยอมให้ติดได้
“ของลมเองล่ะ แอบขอเพื่อนในห้องมาติด ก่อนจะมาหาตินที่ข้างสนามบาส ถึงได้บอกไปเมื่อกี้ไงว่าตั้งใจให้ ” เขาบอกอายๆ ไม่ได้มองหน้าผม เอาแต่มองสมุดในมือ แล้วก็เฉไปเรื่องอื่น ซึ่งไม่ได้ไกลจากเรื่องเดิมนัก
“นี่รูปลมใช่ไหม? สวยดีนะ” เขาหันมาถามผม หน้ายังขึ้นสีฟ้องความอายกับเรื่องก่อนหน้านี้
“สวยไม่เท่าตัวจริงครับ” ผมว่า ดึงเขาเข้ามากอด ก่อนจะพรมจูบไปทั่วบนหน้าสวยขึ้นสีระเรื่อ
“ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าเป็นรูปลม” เขาพูด แต่ดูเหมือนจะเป็นเสียงพึมพรำกับตัวเองเสียมากกว่า
“ตอนนั้นมันยังวาดไม่เสร็จนี่ครับ” ผมบอก
“ตอนนั้นลมก็คิดว่าเป็นรูปของติน ก็เลย....”
“ก็เลย....” ผมทวนคำสุดท้ายของเขา เร่งให้เขาพูดให้จบ เพราะเขาหยุดมันไปเฉยๆ
“...ก็เลยติดสติ๊กเกอร์ที่ตรงนี้ไง” นิ้วเล็กของเขาจิ้มลงบนหัวใจดวงนั้นอีกครั้ง
“....” ผมยิ้มกว้างเต็มหน้า เมื่อฟังคำพูดต่อมาของเขา
“ลมให้หัวใจของตัวเองกับตินไปตั้งแต่วันนั้นแล้วนะ แต่ตินไม่ฉลาดเอาซะเลย ถึงไม่รู้ว่าลมคิดยังไงกับติน” ประโยคแรกก็น่าฟังดีอยู่นะครับ แต่ท้ายๆ เนี้ย กำลังว่าผมโง่หรือเปล่า แต่ช่างเถอะครับ เขาก็เป็นแบบนี้ของเขามาตลอด
“รู้ตอนนี้ก็ยังไม่สายครับ” ผมบอกเขา ก่อนจะจูบกลีบปากอิ่มสีสด จูบเบาๆ และเปลี่ยนเป็นลึกซึ้งในเวลาต่อมา ไม่ต้องมีบรรยากาศหวานๆ เหมือนเมื่อสามสี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ในร้านอาหารบนยอดตึกสูง ไม่ต้องมีแสงเทียนส่องสว่างให้เห็นหน้ากันและกัน แสงจากหลอดไฟในห้องนอนของผมกับเขาเช่นทุกวันก็เพียงพอแล้วสำหรับความรักของเราสองคน
“เดี๋ยวสิลม” มือเล็กๆ ยันหน้าผมให้ออกห่าง ขืนตัวไม่ให้ถูกผมดันร่างของเขาลงไปยังที่นอนนุ่ม ขัดใจแต่ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ แต่ยังกอดเขาไว้แนบอก
“ทำไมครับ อยากรักลมอ่ะ” ผมทำเสียงอ้อนๆ อยู่ข้างหูเขา กลิ่นกายหอมๆ ทำเอาผมไม่อยากควบคุมตัวเองเอาซะเลย
“ปิดไฟก่อน” เขาว่า เพราะเขาเป็นคนขี้อาย
“ไม่ปิดได้ไหม วันนี้วันวาเลนไทน์นะครับ” ความจริงผมใช้วันวาเลนไทน์เป็นข้ออ้างครับ ผมอยากเห็นผิวกายขาวๆ ภายใต้แสงไฟที่ส่องสว่างไปทั่วห้อง อยากเห็นใบหน้าของเขาให้ชัดเจนมากขึ้นในตอนที่เขากำลังมีความสุขกับสิ่งที่เราได้ทำร่วมกัน
“....” เขาไม่พูดอะไร แต่ปากอิ่มที่เม้มแน่นก็บอกให้รู้ครับ ว่าเขากำลังคิด ไม่บ่อยหรอกครับที่เราสองคนจะเปิดไฟแล้วทำเรื่องรักๆ กัน
“....” ผมรอฟังคำอนุญาตจากเขา พลางดึงสมุดเล่มนั้นออกจากมือเขาไปด้วย เอามันไปวางไว้บนโต๊ะ แล้วเดินกลับมาทรุดตัวลงนั่งข้างเขา
“....” ปากอิ่มยังเม้มแน่น เป็นสัญญาที่ดีสำหรับผม ถ้าเขาไม่ยอม เขาก็น่าจะพูดมันออกมาตั้งแต่วินาทีแรกที่ผมขอแล้ว
“สุขสันต์วันแห่งความรักของเรานะครับ” ผมกระซิบเอากับกลีบปากสีสด ตอนนี้มันเลยวันวาเลนไทน์มาร่วมชั่วโมงแล้วครับ สำหรับผมแล้ววันนี้ไม่ได้สำคัญมากไปกว่าทุกวันที่ผ่านมาหรือวันต่อไป เพราะไม่ว่าจะเป็นวันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันไหนๆ ทุกวันก็เป็นวันแห่งความรักของผมกับเขาเสมอ...
“รักลมนะครับ” ผมบอกคำนี้กับเขาทุกวันครับ ทั้งตอนก่อนนอน ตื่นนอน และทุกครั้งที่ผมอยากบอกเขา
“รักตินเหมือนกัน” เช่นกันครับที่ทุกครั้งเขาจะตอบกลับผมมาด้วยคำพูดนี้ ฟังไม่เคยเบื่อ แล้วไม่เบื่อที่จะฟังด้วยครับ
“ติน....”
“ครับ”
“ปิดไฟ”
“....................”

นั่นสิครับ วันวาเลนไทน์มันก็เป็นแค่วันธรรมดาวันหนึ่ง ที่ผมยังต้องเดินไปปิดไฟอยู่เหมือนเดิม อดอีกตามเคยครับ T^T
 :bye2: :bye2:




  >>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<

สุขสันต์วันแห่งความรักนะคะ เลยเสิร์ฟความรักให้ทุกคนด้วยวาเลนไทน์ของตินลม
รับชิมกันให้อร่อยนะคะ อร่อยไม่เหาะแต่อร่อยเบาๆ อิอิ
ปล.มีแจ้งให้ทราบนะคะ ไม่มีอะไรมากหรอกคร้า (แอบเขินนิดๆ >_< ที่ต้องมาขายของ 555+)
แต่ไม่ต้องซีเรียสกันนะคะ อิอิ คือคนเขียนจะพิมพ์นิยายเรื่อง รัก...เธอ ออกมาค่ะ
คือว่าคนเขียนอยากมีนิยายวายของตัวเองไว้ครอบครอง แล้วจะทำให้คนรู้จักด้วยประมาณ 2 คน (ป๊าดดเยอะม๊ากกกกก) แล้วมีน้อง 1 คนที่รู้จักอยากได้เหมือนกัน (เยอะม๊ากกกเช่นกัน  อิอิ) รวมกับของคนเขียนแล้วก็ 4 เล่มพอดี ตัดสินใจทำแน่นอน แล้วกะทำมาเผื่อขายด้วย (มีโรงพิมพ์โรงหนึ่งมั้งนะคะ เห็นเขาบอกว่า ไม่จำกัดขั้นต่ำ พิมพ์เท่าไหร่ก็ได้ อิอิ เสร็จโจ๋ แต่ยังไม่ได้โทรถาม)
เลยอยากเอามาขยายความว่า....มีใครสนใจนิยายเรื่อง รัก...เธอ บ้าง แจ้งมาได้นะคะ มีเวลาตัดสินใจประมาณ 6 เดือน เพราะตอนนี้ยังไม่ได้ทำอะไรสักกะอย่างเดียว มีเป็นชิ้นเป็นอันก็แค่นิยายที่แต่งจบแล้ว T^T กับไอเดียตอนพิเศษ (ที่พี่เอ๋บอกว่าควรมีอย่างยิ่ง) อีกประมาณ 6 ตอน (ไม่รวมตอนพิเศษตอนวาเลนไทน์นะคะ แล้วไม่เอาลงในเล้าด้วยนะคะ...ขอโต๊ดน้า) ตอนพิเศษที่ยังเป็นแค่ไอเดียแต่ยังไม่ได้ลงมือเขียนเลยสักตัว แต่อารมณ์คงประมาณตอนพิเศษวาเลนไทน์นะคะ หมายถึงการเล่าเรื่องนะคะ แต่ไม่ตัดจบน่าบีบคอแบบตอนนี้นะคะ T^T
คนเขียนเอามาบอกไว้ก่อนเฉยๆ นะคะ อย่าได้ซีเรียส ไม่สนใจไม่เป็นไร เราเข้าใจกันและกันคร้า ถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติมจะมาแจ้งเป็นระยะๆๆ นะคะ เผื่อมีคนสนใจ อิอิ
ปล. คนเขียนกดเป็ดกับกด+ ให้ทุกเม้นท์นะคะ เข้ามากดตลอดๆๆๆๆ
ปล. ไปแล้วนะคะ ไปเขียนเรื่องคุณหมอต่อก่อน อิอิ
สีเหลืองอ่อน // aeaw

 
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติณ" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Karn12 ที่ 15-02-2012 21:33:55
คิดถึงคู่นี้มาก ๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติณ" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 15-02-2012 22:11:55
ถึงจะร้ายแต่ก็น่ารัก
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติณ" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 15-02-2012 22:24:03
555...ให้ใจเค้าไปตั้งนานแล้วเนอะนู๋ลม
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติณ" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 15-02-2012 22:37:14
รักลมกับติณจังเลย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติณ" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 16-02-2012 00:24:27
น่ารักจังเลยค่ะ ตอนพิเศษของลมกับติณ  :L2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติณ" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 16-02-2012 01:12:02
อร๊ายยยยยย เป็นของขวัญที่ดีมากค่ะ

คิดถึงติณกับลมมากๆ ร้ายสมเป็นลมเลยนะ อิอิ

แบบว่าพอคู่นี้จบก็ไม่ได้ตามพี่หมอเลย...

อยากได้จังค่ะหนังสือแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ราคาด้วยล่ะว่าซื้ไหวหรือเปล่า (แหะๆ) คงต้องรอตัดสินใจ ตอนหนังสือออกมาเป็นรูปร่างมากกว่านี้

ถ้ามีข่าวจะเปิดจองหรืออย่างไร ก็อย่าลืมแปะที่หัวเรื่องด้วยนะ จะได้มาอ่านรายละเอียด เดี๋ยวจะพลาดของดีไป



ขอบคุณสำหรับคู่นี้ที่กลับมาให้หายคิดถึง
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติณ" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 16-02-2012 03:48:27
น่ารัก
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติณ" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 16-02-2012 09:34:20
ความหวานของตินกับลมตอนนี้ สู้ของคู่หมอกับฟ้าไม่ได้แล้วนะ อิอิ
ไม่ยักรู้นะว่าลมแอบชอบตินมาตั้งนาน
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติน" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-02-2012 18:22:40
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติน" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 18-02-2012 16:52:56
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้อีกครั้ง ติณกับลม happy ไปแล้ว  :กอด1: :กอด1:
 ส่วนคุณหมอกับคุณฟ้าก้อน้ารักมากๆ หวังว่าครอบครัวคุณหมอจะไม่ทำดราม่านะคะ  :oo1: :oo1:
แต่นนท์กับแดนนี่ อยากรู้รายละเอียดมากเลยค่ะ ว่าอะไรยังไง  :m16: :m16:
 แถมมีเรื่องของหนึ่งและอิงอีก แล้วรออ่านต่อนะคะ  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติน" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 18-02-2012 21:06:33
ขอตามด้วยคนนะคร๊ะ

สนุกมากๆๆเลย

อย่าเศร้านะคร๊ะ

หวานๆๆ  อ่ะดีแล้วว  เค้าชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ


 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติน" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 19-02-2012 00:31:46
หวาน นนน
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติน" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 19-02-2012 04:21:25
หวานสุดๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติน" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 22-02-2012 12:44:08
สุขสมหวัง :L2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติน" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 24-02-2012 22:32:02
คนโพสเน็ตเน่ามากกกกก คนเขียนเลยเอามาลงเอง อิอิ
เพราะกลัวคนอ่านรอ ==' เพราะหายไปนานมาก แบบว่าเกรงใจมว๊ากกก

อ่านกันเลยเนอะ

ตอนที่ 22  อยากกอด...จะได้กอดไหม?

Rrrrrrrr…..

ทันทีที่ผมผลักประตูเข้ามาในร้านเชิญครับ โทรศัพท์มือในกระเป๋าก็ดังขึ้นมา ล้วงออกมาดู ชื่อบนหน้าจอไม่ใช่ใครที่ไหนครับ เป็นคุณหญิงแม่ของผมเอง แล้วรู้ได้ทันทีเหมือนกันว่าโทรมาหาผมด้วยเรื่องอะไร ไม่พ้นเรื่องน้องเนยครับเรื่องเดียวและเรื่องสำคัญที่สุดของคุณหญิงแม่ของผม

เกือบเดือนแล้วที่คุณหญิงแม่พยายามลุ้นให้ผมกับน้องเนยรักกันซะที อาทิตย์ละสามวันที่ผมถูกบังคับให้ไปรับน้องเนยมาทานข้าวเย็นที่บ้าน หรือไม่ก็ไปทานที่บ้านน้องเนย บางทีก็ไปหาอะไรทานกันนอกบ้าน ตามสถานที่หรือร้านอาหารที่คุณหญิงแม่กับคุณหญิงวลัยจัดการเลือกและจับจองให้ ซึ่งแต่ที่นั้นบอกได้คำเดียวว่าสุดจะโรแมนติก ไม่รู้ว่าหาแต่ละที่มาได้ยังไง ขนาดผมเองยังไม่รู้ว่ามันมีอยู่ในกรุงเทพ

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วถึงขั้นให้ผมหยุดงานเพื่อไปเป็นเพื่อนน้องเนยที่ญี่ปุ่น (เห็นว่าน้องเนยจะบินไปหาเพื่อน) เรื่องทานข้าวพอยอมตามใจได้ แต่เรื่องไปญี่ปุ่น ผมยืนยันหนักแน่นว่าไม่ไป ซึ่งมันก็ได้ผล แต่เชื่อเถอะว่าแผนที่จะทำให้ผมกับน้องเนยรักกันไวๆ ยังมีสำรองอีกเพียบในหัวของคุณหญิงแม่และคุณหญิงวลับ

ผมยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู เด็กตามยกมือไหว้ผม ผมได้แต่พยักหน้ารับ ไม่ได้รับไหว้เพราะมือไม่ว่าง

“ครับคุณแม่”

(ทำไมทำเสียอย่างนั้นล่ะคะตาหนู) คุณหญิงแม่ทำเสียงน้อยอกน้อยใจมาตามสาย วันนี้ผมเหนื่อยมาก เพิ่งผ่าตัดใหญ่มาเมื่อกี้นี้เอง เสียงตอนรับโทรศัพท์เลยฟังเนือยๆ ไปหน่อย 

“ผมเหนื่อยนิดหน่อยนะครับคุณแม่ เพิ่งผ่าตัดเสร็จ”

แล้วความเหนื่อยของผมก็หายวับไปกับตา เมื่อคุณฟ้าเดินออกมาจากห้องครัวด้านหลัง ปากสีหวานฉีกยิ้มกว้าง มือขวาของคุณฟ้าทำท่าตัดข้าวเข้าปาก เป็นการส่งสัญญาณถามผมจะทานข้าวเลยไหม ผมพยักหน้าตอบ คุณฟ้าถึงหายเข้าไปในครัวอีกครั้ง ผมไม่ได้เดินตามคุณฟ้าเข้าไป แต่เลือกที่จะเดินไปนั่งคุณโทรศัพท์ที่เคาน์เตอร์บาร์ก่อน

(คุณแม่ว่าตาหนูโหมงานหนักเกินไปแล้วนะคะ ควรจะพักผ่อนบ้าง เอางี้ดีไหมคะตาหนู เราไปเที่ยวพักผ่อนที่รีสอร์ทของเพื่อนคุณแม่ดีไหม ที่นั่นนะอากาศดี๊ดี จำได้ไหมที่คุณแม่เพิ่งไปมาเมื่อปลายปีก่อนไงคะ)

“ผมก็เพิ่งไปทะเลมาเมื่อเดือนที่แล้วนะครับคุณแม่” ผมบอก

“นั่นมันทะเลค่ะตาหนู แต่นี่มันภูเขา รีสอร์ทในหุบเขาเลยนะคะตาหนู เมื่อครู่คุณแม่ก็เพิ่งโทรคุยกับคุณหญิงวลัย คุณหญิงบอกว่าน้องเนยก็อยากจะไปเที่ยวที่เมืองเหนืออยู่เหมือนกัน เห็นว่าอยากจะลองไปเก็บยอดชาอย่างเขาบ้าง รีสอร์ทของเพื่อนคุณแม่ก็มีไร่ชาบริการแขกด้วยนะคะ”

อะไรจะพอดีขนานนั้นครับ ผมว่าความพอดีมันเกิดขึ้นเพราะคุณหญิงแม่ของผมกับคุณหญิงวลัยแม่ของน้องเนยมากกว่า

“ช่วงนี้งานผมยุ่งครับ คงไปไหนไม่ได้”  ผมบอกเหมือนเมื่อคืนวาน แล้วก็เหมือนหลายๆ คืนที่คุณหญิงแม่พยายามหว่านล้อมให้ผมไปเที่ยวต่างจังหวัดกับน้องเนยให้ได้ ผมละเชื่อในความพยายามของคุณหญิงแม่จริงๆ อย่างว่าล่ะ เพราะผมเป็นลูกคนเดียวที่คุณหญิงแม่ฝากความหวังเอาไว้ หลังจากที่ลูกชายคนโตกับลูกสาวคนเล็ก ไม่มีวี่แววว่าจะทำให้ท่านสมใจได้ (พี่ชายกับน้องสาวของผมเป็นคนหัวแข็งมาก)

(แล้วเมื่อไหร่จะว่างล่ะคะตาหนู อย่าให้คุณแม่ต้องบังคับนะคะ) คุณหญิงแม่พูดด้วยน้ำเสียงเข้ม บอกอารมณ์กรุ่นนิดๆ ตามประสาคนที่อยากได้อะไรแล้วไม่ได้

“โธ่...คุณแม่ครับ” ผมเป็นลูกชายที่หัวอ่อนที่สุด ไม่เคยขัดใจคุณหญิงแม่ได้สักครั้ง ลองให้ได้บังคับ ผมก็ไม่มีทางเลี่ยง

(ไม่โธ่แล้วค่ะตาหนู วันที่ 17 18 19 20 21 ของเดือนหน้าต้องว่าง คุณแม่ขอแค่นี้นะคะ ตาหนูทำให้คุณแม่ได้ใช่ไหม) ผมว่าคุณหญิงแม่คงนั่งดูปฏิทินก่อนโทรมาหาผมแล้วแน่ๆ  คำขอร้องเชิงคำตอบเดียว ไม่มีช้อยให้เลือกปฏิเสธเลย ผมจะทำอะไรได้

“ครับคุณแม่” พูดแบบนี้แล้ว ผมจะกล้าปฏิเสธได้ยังไง

(คุณแม่ต้องการคำนี้ที่สุดค่ะ ลูกของคุณแม่คนนี้น่ารักจริงๆ) พอสมใจแล้วน้ำเสียงก็ดีขึ้นทันที ผมนึกภาพออกเลยว่าตอนนี้คุณหญิงแม่กำลังทำหน้าตาแบบไหน พัดลูกไม้ในมือคงโบกไปเพราะอารมณ์สมใจหมาย 

(อีกเรื่องนะคะตาหนู เย็นวันพรุ่งนี้อย่างลืมไปรับน้องเนยที่สนามบินนะคะ)

คุณหญิงแม่ย้ำอีกครั้ง เมื่อคืนก็ย้ำ คืนก่อนก็ย้ำ เรียกว่าย้ำทุกคืนนับตั้งแต่คืนที่ผมไปส่งน้องเนยขึ้นเครื่องไปญี่ปุ่น

“ครับ”

คุณหญิงแม่วางสายหลังจากได้คำตอบที่ต้องการ ผมหย่อนโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ตกปากรับคำคุณหญิงแม่ไปแล้วก็กลับมากลุ่มใจหนัก เอาความจริงผมแทบไม่มีโอกาสคุยกับน้องเนยเป็นจริงเป็นจังเลย เกี่ยวกับเรื่องที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายกำลังจะคลุมถุงชนเราสอง ทั้งที่ไปไหนมาไหนด้วยกันออกไปแต่ก็ลืมเสียทุกครั้ง เพราะเจอกันทีไรน้องเนยชวนคุยจนผมลืมเรื่องที่จะพูดไปเสียหมด น้องเนยเป็นคนพูดเก่ง ไม่ต่างจากตอนเป็นเด็กเลย ไม่แค่พูดเก่งแต่ยังอ้อนเก่งอีกด้วย อยู่ด้วยแล้วผมรู้สึกเหมือนตัวเองพูดเก่งขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ผมไม่รู้ว่าคุณหญิงแม่กับคุณหญิงวลัยจะรู้หรือเปล่าว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาน้องเนยโทรคุยกับผมอยู่ทุกคืน คิดอีกทีคงไม่รู้หรอกมั้งครับ ไม่อย่างนั้นก็คงพูดเรื่องนี้กันไปแล้ว

ผมยอมรับว่าอยู่กับน้องเนยแล้วมีความสุข น้องเนยน่ารักจริงๆ บุคลิกที่ดูเป็นสาวมั่นเมื่อแรกเห็น ผิดกับนิสัยที่เป็นจริงมาก ช่างพูด ช่างคุย ขี้อ้อน แต่ไม่เคยงอแงให้ผมปวดหัว

“คุณหมอครับ ผมหิวแล้ว” มือของเจ้าของเสียงสะกิดที่ไหล่ผม เป็นคุณฟ้าครับ ออกมาตามผมไปทานข้าว

นับตั้งแต่วันนั้นที่ห้องของคุณฟ้า วันที่ผมได้เจอพี่สาวและพี่เขยของคุณฟ้าเป็นครั้งแรก หลังจากวันนั้นมันก็เป็นเรื่องปกติที่ผมมาทานข้าวเที่ยงกับคุณฟ้าสองคน บางครั้งก็มีเด็กๆ ในร้านบ้าง แต่ส่วนมากก็มักจะทานกันอยู่สองคน เหตุผลก็รู้ๆ กันอยู่ว่าไม่มีใครอยากมาเป็นก้างขวางทางสวีท แล้วหลังจากวันนั้นเหมือนกันที่ผมไม่ได้นอนกอดคุณฟ้า ไม่ได้มีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้น แค่คุณฟ้าเห่อหลานในท้องพี่สาวตัวเองมากไปหน่อย ถึงได้หอบเสื้อผ้ากลับไปนอนบ้านเก่าของตัวเอง บ้านที่คุณฟ้าอาศัยอยู่ตั้งแต่เด็ก พอพี่สาวแต่งงานถึงได้ย้ายมาอยู่คอนโดตัวเองอย่างถาวร

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงถูกคุณหญิงแม่รบเร้าอยู่ทุกคืนเกี่ยวกับเรื่องน้องเนย

“ผมก็หิวเหมือนกันครับ” ผมบอก แล้วเดินตามคุณฟ้าเข้าไปในห้องครัว มีสายตาหลายคู่มองมาที่เราสองคน โดยเฉพาะผม ถูกจ้องเป็นพิเศษ ไม่จำเป็นต้องเป่าประกาศให้ลูกค้าร้านเชิญครับรู้ ผมว่าพวกเขาก็คงเห็นและรู้กันเอาเองว่า ดอกฟ้าหอมๆ ดอกนี้มีเจ้าของคนใหม่แล้วไม่โสดพอที่จะให้ลูกค้าคนไหนหอบหิ้วดอกไม้ช่อใหญ่มาฝากได้ง่ายๆ เชื่อไหมหลังจากวันนั้นอีกเหมือนกัน พอคุณฟ้ากลับมาทำงาน ข่าวเรื่องคุณฟ้าไม่สบายจนมาทำงานไม่ได้ ทำให้ลูกค้าที่มีทีท่าหมายปองคุณฟ้าที่เพิ่งโสดไปเมื่อหลายวันก่อน หอบดอกไม้ช่อใหญ่มาเยี่ยมคนหายป่วยเยอะมาก เยอะจนผมแปลกใจ ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้

สาบานได้ว่าผมไม่ได้รู้สึกหึง แค่รู้สึกหวงนิดๆ ไม่อยากให้ใครหน้าไหนมาจีบคนรักของตัวเอง แต่ทำไงได้ในเมื่อเจ้าของดอกไม้พวกนั้น ยังไม่รู้ว่าผมกับคุณฟ้าเป็นอะไรกัน เหมือนคุณฟ้าก็รู้ว่าผมรู้สึกยังไง คนน่ารักของผมเลยทำตัวสนิทกับผมมากขึ้น ทุกครั้งที่ผมผลักประตูร้านเข้ามา คนน่ารักคนนี้จะรีบเดินมาหาผมทันที ยกเว้นช่วงที่กำลังยุ่งจนปลีกตัวมาหาต้อนรับผมไม่ได้กลับตอนที่หายไปทำขนมอยู่ในครัว มันเป็นโอกาสดีเหมือนกันที่ผมจะเดินถือดอกไม้เข้าไปข้างในนั้น เรียกว่าประกาศตัวอย่างอ้อมๆ ให้คนที่คิดจะจีบคุณฟ้าเห็นว่า ผมกับคุณฟ้าข้ามขั้นของการเป็นลูกค้ากับเจ้าของร้านไปแล้ว

แน่นอนว่า...ตั้งแต่วันนั้น ทุกครั้งที่เดินจากคลินิกเพื่อมาทานข้าวเที่ยงกับคุณฟ้า ในมือผมมีดอกกุหลาบสีขาวมาด้วยเสมอ ช่อดอกไม้ช่อใหญ่ที่คุณฟ้าได้ในวันนั้น ลดจำนวนลงเรื่อยๆ จนเมื่อสี่วันก่อนเหลือเพียงดอกไม้ช่อเดียวจากคุณหมอแว่นหนาจากโรงพยาบาลเอกชนฝั่งตรงข้ามถึงช่อดอกไม้ช่อใหญ่จะหายไป ไม่เหลือให้ผมเกิดอาการหวงนิดๆ แต่ดอกไม้สีขาวของผมยังคงมีมาให้คุณฟ้าทุกวัน

“วันนี้ผมยังไม่กลับคอนโดนะครับ” คุณฟ้าบอกตอนที่ผมกำลังจะตักข้าวเข้าปาก ความฝันของผมพังลงไปในพริบตา ฝันเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนที่คนน่ารักของผมบอกว่า ‘พรุ่งนี้จะกลับ’สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะ ถ้าวันนี้ไม่ได้นอนกอดคุณฟ้า มันก็เท่ากับว่า ผมไม่ได้นอนกอดคุณฟ้ามานานถึง 27คืน

27 คืน...

อืม...ผมไม่รู้ว่ามันเป็นจำนวนมากหรือน้อยสำหรับคนอื่น แต่สำหรับผม มันมากเกินไปและยาวนานมาถึง 27 คืนที่ไม่ได้กอดคุณฟ้า ไม่ได้นอนหลับตาไปพร้อมกัน และไม่ได้ตื่นขึ้นมาเห็นหน้าคุณฟ้าเป็นคนแรกของเช้าวันใหม่

“.......” ผมทำหน้าเซ็ง ฝืนใจเอาอาหารเข้าปาก ไร้รสชาติ ไม่ใช่เพราะอาหารไม่อร่อย รับประกันความอร่อยจากทุกวันที่ผ่านมา ฝีมือทำอาหารของแม่เด็กแดนอร่อยมาก อันนี้ผมยืนยันได้ แต่ที่วันนี้มันไร้รสชาติ มันเป็นเพราะคำพูดของคนน่ารักที่ทำความฝันแสนหวานของผมสลายได้ในประโยคเดียว

“ไม่อร่อยเหรอครับ” ถามแล้วก็อมยิ้ม เห็นรอยยิ้มของคนน่ารักแล้วผมก็อดยิ้มตามไม่ได้ อารมณ์เซ็งๆ ก็พอลดลงไปบ้าง

“ถ้ารวมคืนนี้ก็ 27คืนแล้วนะครับที่ไม่ได้กอดคุณฟ้า” ผมกะจะพูดให้คุณฟ้ารู้ ว่าผมนับวันรอจะได้กอดคุณฟ้าอยู่ทุกคืน เผื่อจะเห็นใจผมบ้าง ด้วยการเลิกเห่อหลานลงสักนิด ยอมกลับมาให้ผมกอดให้หายคิดถึงเสียที

“27คืนที่ไหนกันครับ 26 คืนต่างหาก” พูดแล้วก็อมยิ้มเหมือนเดิม น่ารักจริงๆ คนน่ารักของผม

“27 คืนครับ ผมไม่ได้นับผิด” ผมเถียง ผมไม่ได้นับผิดแน่นอนเรื่องนี้ นับมันอยู่ทุกคืนจะผิดได้ไง

“ไม่ได้บอกนี่ครับว่าคุณหมอนับผิด ผมแค่บอกว่า 26คืนต่างหาก ”

“ยังไงครับ” ผมเริ่มสงสัย คุณฟ้าพูดไปยิ้มไปเหมือนกำลังแกล้งผมอยู่

“พี่ฝนชวนคุณหมอไปเที่ยวที่บ้านเย็นนี้ แล้วก็ไม่ได้ห้ามด้วยถ้าคุณหมอจะค้าง” คุณฟ้าบอกสิ่งที่ทำให้ผมกลับมายิ้มได้เต็มหน้าอีกครั้ง คำพูดของคุณฟ้าช่วยกอบกู้ฝันที่พังทลายของผมให้กลับมาเป็นรูปเป็นร่างอีกครั้ง แม้จะไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ ใครจะกล้าไปกอดน้องชายคุณฝนถึงในบ้านเจ้าตัวขนาดนั้น มันดูไม่สมควรใช่ไหมละครับทุกคน

“แล้วผมจะกอดคุณฟ้าได้ไหมเนี้ย ผมก็เกรงใจเจ้าของบ้านเหมือนกันนะครับ” ผมล้อ ยอมรับแล้วครับว่าอดกอดคุณฟ้าแบบลึกซึ้งแน่ๆ แต่กอดแบบอบอุ่นก็ทดแทนกันได้ ขอแค่ได้มีคุณฟ้าทั้งก่อนนอนและหลังตื่น เท่านี้ก็พอแล้วครับ

“คิดแต่เรื่องนี้นะครับ” คุณฟ้าแห้วผม แต่ตัวเองกลับหน้าแดง

“คิดเรื่องอื่นเหมือนกันครับ แต่อยากพูดเรื่องนี้ก่อน ก็คนมันคิดถึง 26คืนแล้วนะครับที่ผมไม่ได้.....” ผมกำลังจะพูดต่อ แต่คุณฟ้าสกัดด้วยเสียงที่ดังฟังชัดเสียก่อน

“หยุดเลยนะคุณหมอ! กินข้าวไปเลย ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ขืนพูดอีกคำนะ กลับไปนอนบ้านเลย”

“เบาหน่อยฟ้า เสียงดังไปถึงข้างนอกรู้ตัวเปล่า” คุณฟ้ายกรีบมือขึ้นปิดปากตัวเอง ตากลมเปิดกว้างมองคนที่ก้าวเท้าเข้ามา ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ตัวเอง

“จริงเหรอนนท์?”คุณฟ้าถาม สีหน้าไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ผมก็ว่าเสียงคุณฟ้าไม่ดังมาก ถึงดังมันก็ดังไปไม่ถึงข้างนอกหรอก

“หิว ตักข้าวให้หน่อย” คนถูกถามตอบไปคนละเรื่อง ทั้งยังใช้แฟนผมอีกต่างหาก แต่ผมชินแล้วครับ บางมีที่มีคุณนนท์มาร่วมวงด้วย เป็นอย่างนี้ประจำ

“ข้าวกับจานก็อยู่ใกล้มือ ทำไมไม่ทำเอง” ปากคุณฟ้าว่า แต่ก็ลุกขึ้นไปตักข้าวให้คุณนนท์ ฝ่ายนั้นยิ้ม แล้วหันมามองหน้าผม ก่อนจะหันไปสนใจอาหารตรงหน้า

ถามว่าผมรู้สึกอะไรไหมที่คนรักเก่าของคุณฟ้ายังวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ยังไปมาหาสู่กันเหมือนเดิม บอกตามตรงว่ารู้สึกบ้างแต่ไม่มาก ตามประสาคนเป็นแฟนใหม่ที่กลัวว่าคนรักจะกลับไปคืนดีกับคนเก่า แต่มันไม่ถึงขั้นหึงหวงจนทำให้ตัวเองไม่มีความสุข พลอยทำให้คนที่เรารักไม่มีความสุขไปด้วย ผมเลือกที่จะมองข้ามเรื่องเล็กน้อยไปเสียด้วยการเชื่อใจ ตราบเท่าที่คุณฟ้ายังบอกว่า “รักผม” ผมก็จะเชื่อในคำบอกของคุณฟ้า

“คุณหมอ”ยีนเดินเข้ามาเรียกผม

“มีอะไรยีน”แต่คุณฟ้าเป็นคนถามแทนผม

“มีคนมาหาคุณหมอค่ะ”

“ใคร?” คุณฟ้ายังทำหน้าที่แทนผมอีกครั้ง

“ชื่อคุณอิง บอกว่าเป็นเพื่อนคุณหมอ แล้วก็มากับผู้ชายอีกคนหนึ่งด้วยค่ะ”

ผู้ชายอีกคนที่ยีนว่าน่าจะเป็นหนึ่ง แต่ผมแปลกใจว่าอิงมาหาผมทำไม เมื่อเช้าก็เพิ่งมาหาผมที่คลินิก จะว่าไปผมกับอิงไม่ได้เจอหน้ามาตั้งแต่วันที่มารับน้องหวานหน้าคลินิก ติดต่อคุยกันแค่ทางโทรศัพท์เรื่องของอิงกับหนึ่ง ผมแทบไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะอิงมันไม่พูดไม่เล่าอะไรมาก ผมเองก็ไม่อยากถาม ถ้าอิงมันอยากเล่ามันคงจะเล่าให้ผมฟังเอง น้องหวานก็เหมือนกัน ช่วงแรกๆ มาหาผมบ่อยมากแต่ช่วงหลังๆ นี่ หายไปเลย ผมโทรหาก็ไม่ค่อยรับ พอได้คุยกันก็บอกแค่ว่าไม่ต้องเป็นห่วง สบายดี

“สงสัยจะเป็นคุณหนึ่ง แล้วเรื่องของคุณอิงกับคุณหนึ่งเป็นยังไงบ้างครับ ผมลืมถามคุณหมอไปเลย”คุณฟ้าพูด เมื่อยีนเดินออกไปแล้ว คุณนนท์ทำหน้าเหมือนอยากรู้ไปด้วย

“ยังคารังคาซังเหมือนเดิมครับ ครอบครัวอิงไม่ยอมรับด้วยละครับ” ผมบอก บอกตามที่รู้ เมื่อเช้าเพื่อนผมมันแค่บอกว่าเอาตัวหนึ่งไปอยู่คอนโดด้วยกัน บอกทางบ้านแล้วด้วย แต่ทางบ้านไม่ยอมรับที่ลูกชายคนเล็กยกเลิกงานแต่งงาน ด้วยสาเหตุว่าต้องรับผิดชอบผู้ชายอีกคนหนึ่ง เพราะดันไปข่มขืนเขา

“เหรอครับ” คุณฟ้าทำหน้าเศร้า ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

“ผมออกไปหาอิงก่อนนะครับ”
.
.
.
.
.
.

เวลานี้ลูกค้าของร้านเชิญครับเหลือไม่กี่คน  ร้านเลยเงียบมาก โดยเฉพาะโต๊ะที่ตั้งอยู่ตรงมุมขวาสุดของตัวร้าน วางชิดพนังกระจกมองออกไปเห็นสวนเล็กๆ ด้านนอก คนสองคนที่นั่งอยู่ข้างกันไม่มีเสียงพูดคุยกันดังมาให้ได้ยินแม้แต่น้อย ยิ่งผมเดินเข้าไปใกล้ ยิ่งรู้สึกถึงบรรยากาศชวนอึดอัด เมื่อเช้าอิงมันยังพอยิ้มได้บ้าง แต่ตอนนี้หน้าตามันเหมือนเบื่อหน่ายไปทุกสิ่งอย่าง

“สบายดีไหมหนึ่ง” ผมทักทายคนที่ผมไม่ได้เจอมาร่วมเดือน ครั้งสุดท้ายที่เจอกันก็ตอนเกิดเรื่องนั่นแหละ แล้วแทบจะเก็บคำทักทายคืนมาทันควัน เอาตอนที่ผมทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม แล้วเห็นแก้มซ้ายเป็นรอยแดงชัดเจนมาก หนึ่งก้มหน้าหลบสายตาของผม ผมหันไปหาเพื่อนตัวเอง ได้คำตอบในทันทีว่า

“โดนคุณเอมอรบุกมาตบถึงที่ทำงาน”อิงบอก น้ำเสียงเหนื่อยใจ

คุณเอมอรแม่ของอิงครับ หญิงวัย 56ที่ทำงานเก่งไม่แพ้คนเป็นสามี ฐานะทางบ้านของอิงเรียกว่ามหาเศรษฐีได้สบายๆ ด้วยธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และธุรกิจเสื้อผ้าส่งออก ผมว่าการที่คุณเอมอรเอาเวลาอันมีค่าของตัวเองมาตบคนรักใหม่ของลูกชายคนเล็กนี่ มันเป็นเรื่องใหญ่ไม่เบา เพราะขนาดเรื่องของลูกชายคนอื่นที่หาลูกสะใภ้ไม่ถูกใจ คุณเอมอรก็แค่ใช้เงินฟาดหัวเรื่องก็จบ ได้ลูกสะใภ้สมใจตัวเองมาแล้วสี่คน แต่เรื่องนี้ถึงกับลงทุนมาจัดการด้วยตัวเอง

“แล้วจะทำยังไงต่อไป” ผมถาม คำถามเดิมที่ผมถามไปเมื่อเช้า

“ไม่รู้ว่ะ เหนื่อย คิดอะไรไม่ออก”

แล้วผมก็ได้คำตอบแบบเดิมเหมือนคำตอบเมื่อตอนเช้า เพื่อนผมมันคงเหนื่อยจริง ไหนจะเรื่องครอบครัวที่ไม่ยอมรับ เรื่องน้องหวานที่ต้องรับผิดชอบ แล้วเรื่องที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องของคนที่นั่งก้มหน้านิ่งไม่ยอมพูดยอมจาผิดนิสัยที่เคยเป็น คนข้างๆ ที่ทำให้อิงมันต้องเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา หนึ่งดื้อ อิงบอกผมทุกครั้งที่คุยกัน เคยหนีอิงไปสองครั้ง อิงมันเลยไม่ยอมปล่อยให้ห่างสายตา มีแค่ตอนเช้าที่ยอมปล่อยให้อยู่คนเดียวที่บริษัท แต่ก็ให้เลขาสาวคอยคุมตัวเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน

“หนึ่ง” ผมเรียก หนึ่งเงยหน้าขึ้น ผมเห็นตาเล็กคลอไปด้วยน้ำตา เจ้าตัวคงพยายามห้ามไม่ให้มันไหล ด้วยการแหงนหน้าขึ้นด้านบน กระพริบตาถี่ๆ

“ครับคุณหมอ” ห้ามน้ำตาตัวเองได้แล้วถึงยอมเอ่ยปาก เสียงสั่นเครือทำเอาสงสารเหมือนกัน แต่ผมสงสารเพื่อนผมมากกว่า อิงมันโทรมลงไปเยอะมาก

“จะว่าหมอเข้าข้างเพื่อนของหมอก็ได้นะ หมออยากให้หนึ่งเห็นใจเพื่อนของหมอบ้าง ที่เพื่อนของหมอทำทุกอย่างก็เพื่อหนึ่ง มันเลือกหนึ่งแล้วนะ”

“แล้วเพื่อนคุณหมอเคยถามผมไหม ว่าผมต้องการมันไหม” หนึ่งพูดเสียงเบา น้ำตาที่พยายามกั้นหยดแมะบนหลังมือที่กำอยู่บนหน้าขา

“พอเถอะหมอ พูดไปก็เท่านั้น เคยฟังอะไรใครที่ไหน” อิงพูดอย่างเอือมๆ

“แล้วบอสเคยฟังผมไหม เคยคิดว่าผมเป็นคนไหม ผมผิดอะไรบอสถึงต้องทำกับผมอย่างนี้” หนึ่งกัดปากถาม ตาเล็กๆ มีน้ำตาคลอเบ้าเต็มไปด้วยความโกรธ เสียใจ และน้อยใจ

“ผิดที่นายทำให้ฉันรักไง” เสียงที่เอ่ยบอกดังจนเรียกได้ว่าตะคอก คนเป็นเพื่อนอย่างผมยังอึ้ง แต่คนที่อิงมันสบตาอยู่ด้วยกลับสะบัดหน้าหนี ราวกับว่าไม่ต้องการได้ยิน

ทั้งโต๊ะเงียบ มีเพียงเสียงสะอื้นของหนึ่ง ผมดูออกว่าอิงมันเสียใจกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้น แต่คนอย่างเพื่อนผมไม่มีวันถอยหลังกลับไปหาสิ่งที่มันเลือกจะทิ้งไป อิงมันพร้อมที่จะสู้ไปข้างหน้า สู้เพื่อสิ่งที่ได้เลือกแล้ว แม้จะทำให้คนอีกหลายคนเจ็บ ผมว่าเจ็บแล้วจบ ดีกว่าปล่อยให้มันเรื้อรังกัดกินความสุขของคนที่เกี่ยวข้องและรวมถึงตัวเองด้วย

“สวัสดีครับคุณอิง คุณหนึ่ง กาแฟครับ”

กาแฟถ้วยเล็กสองถ้วยและน้ำมะนาวอีกหนึ่งแก้วถูกวางลงบนโต๊ะ ตามมาด้วยเค้กส้ม เค้กสตอเบอร์รี่ เค้กมะพร้าวอย่างละชิ้น จากการเสิร์ฟเจ้าของร้านเชิญครับ

“ขอบคุณครับคุณฟ้า สบายดีนะครับ” อิงเป็นคนพูด ขณะที่มือก็เลื่อนเค้กส้มกับแก้วน้ำมะนาวให้คนที่รีบเช็ดน้ำตาตัวเองอย่างรวดเร็วเพราะไม่อยากให้เจ้าของร้านเชิญครับเห็น

“สบายดีครับ ว่าแต่อยากได้อะไรเพิ่มอีกไหมครับ บอกได้นะครับ พอดีผมไม่รู้ว่าคุณอิงกับคุณหนึ่งอยากทานอะไรเลยเลือกมาแค่นี้ สั่งได้เลยไม่ต้องเกรงใจ ไม่คิดเงินครับ” น่ารักไหมล่ะเจ้าของร้านเชิญครับ คนรักของผม ตอนที่ผมกับคุณฟ้ายังเป็นแค่ลูกค้ากับเจ้าของร้าน ดูเหมือนคนฟ้าจะคิดเล็กคิดน้อยกับการลดแลกแจกแถมของสาวยีนที่มีไว้ให้บริการผมแทบจะทุกวัน แต่พอกลายเป็นคนรักกัน ทุกวันนี้กลายเป็นว่าฟรีทุกอย่างสำหรับผม แล้วคงลามไปถึงเพื่อนๆ ของผมด้วย อย่างเช่นอิงในตอนนี้

“อ้าว...สวัสดีครับคุณลม คุณติน”คุณฟ้าหันไปทักทายคนที่เพิ่งผลักประตูเข้ามา

“สวัสดีครับคุณฟ้า” น้องลมทักตอบ ตินที่เดินตามมาด้านหลัง มีสีหน้าไม่ดีหนัก น่าจะเป็นเพราะห่วงเพื่อนของตัวเอง ผมไม่รู้ว่าอิงหรือหนึ่งโทรไปบอกเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งสองคนถึงได้ตามมาถึงที่นี่ ลืมบอกไปครับว่าตินลาออกจากบริษัทของเพื่อนผมแล้ว หลังจากกลับจากทะเลได้อาทิตย์กว่าๆ สาเหตุไม่ใช่เพราะเรื่องของหนึ่ง เรื่องลาออกของตินผมได้ยินแว่วๆ มานานแล้วเหมือนกัน เห็นว่าน้องลมอยากให้ตินมีบริษัทเป็นของตัวเอง ส่วนเรื่องเงินทุนน้องลมจะเป็นคนจัดการเอง เรื่องเงินนี่แหละครับที่ทำให้ทะเลาะกันหนัก หนักแค่ไหนอันนี้ผมก็ไม่รู้

โต๊ะตัวที่พวกผมนั่ง มันมีแค่เก้าอี้สามตัว คุณฟ้าหันหลังกลับไปดึงเก้าอี้อีกสองตัวจากโต๊ะด้านหลัง ผมรีบลุกขึ้นอาสาทำหน้าที่แทนคุณฟ้า แต่ผมยกเก้าอี้มาแค่ตัวเดียวให้น้องลมนั่ง ส่วนตินนั้นผมบอกให้เขานั่งเก้าอี้ของผมแทนไปเลย

“ไม่นั่งด้วยกันหรอครับพี่หมอ” น้องลมถาม

“พี่หมอต้องกลับไปทำงานครับ เอาไว้วันหลังค่อยเจอกันไหมนะครับ” อันที่จริงงานช่วงบ่ายผมมีแค่นั่งตรวจเอกสาร ไม่ได้มีงานยุ่งอะไรมากที่ต้องรีบกลับไปทำ จะนั่งอยู่ต่อก็ได้แต่ผมเลือกจะขอตัวออกไปดีกว่า ไม่อยากมีปัญหากับคนรักของน้องลม

“ไม่ต้องรอวันหลังหรอกครับ เดี๋ยวเสร็จธุระแล้วลมจะแวะไปหานะครับ ไม่ได้คุยกับพี่หมอตั้งนาน คิดถึง” น้องลมช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ไอ้ที่พูดแบบนี้แล้วส่งยิ้มมาให้ผมเนี้ย มันทำให้คนรักของตัวเองทำหน้าไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที

“ครับ” ผมพูดได้แค่นี้ แล้วรีบเดินออกมา น้องลมกับตินมาช่วย ผมก็วางใจแล้วล่ะ คิดว่าสองคนนั้นน่าจะช่วยอิงได้ดีกว่าผม โดยเฉพาะตินที่เป็นเพื่อนของหนึ่ง

V
V
V
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติน" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 24-02-2012 22:33:18
“คุณหมอครับ” คุณฟ้าเรียกผมจากด้านหลัง ตอนที่ผมผลักประตูออกมาแล้ว กำลังจะก้าวข้ามถนน

“ครับ”

“คุณหมอยังไม่ได้ดื่มกาแฟเลย ขนมก็ยัง เดี๋ยวผมให้ยีนเอาไปให้ที่คลินิกนะครับ”

คนรักของผมน่ารักมาก ใส่ใจผมเสมอ ติดแค่ตรงที่ว่ายังไม่กล้าพอจะเอาไปเสิร์ฟถึงที่ทำงาน จะว่าไปก็มีครั้งหนึ่ง ช่วงแรกที่เริ่มต้นคบกันอย่างจริงจัง จะว่าไปก็สองอาทิตย์ก่อนหน้านี่เอง ผมมีผ่าตัดใหญ่ ออกมาจากห้องผ่าตัดก็เกือบบ่ายสามแล้ว ออกมาปุบแม่บ้านก็รีบเข้ามาบอกว่าเจ้าของร้านเชิญครับเอาอาหารกับขนมมาให้ วางอยู่ในห้องพัก มันเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว หลังจากวันนั้นก็ไม่มีอีกเลยครับที่คุณฟ้าจะเข้ามาในคลินิกผม นอกจากใช้ให้สาวยีนเป็นคนถือเอามาให้ผมเอง สาเหตุก็เพราะคุณฟ้าอายสายตาของหมอและผู้ช่วย โดยเฉพาะพี่กานต์ คุณหมอในคลินิกผมที่อยู่คอนโดเดียวกับคุณฟ้า

“ทำไมไม่เอาไปให้เองล่ะครับ” ผมแกล้งถาม มองแก้มใสที่เริ่มแดงขึ้นเพราะแรงแดดตอนบ่าย

“ไม่เอาครับ ให้ยีนเอาไปให้น่ะดีแล้ว”

“มาให้เห็นหน้าหน่อยก็ไม่ได้ กว่าผมจะเลิกงานตั้งห้าทุ่ม”

“มีเวลาเห็นหน้าผมอีกนานครับ จนกว่าคุณหมอจะเบื่อ” คุณฟ้าพูดเสียงเบาหวิวในประโยคสุดท้าย หน้าตาสดใสเมื่อครู่ดูเหงาไปในทันที ผมรู้นะว่าคุณฟ้ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ เรื่องเดิมๆ

“คุณฟ้าพูดเหมือนไม่มั่นใจในตัวผม” เป็นอย่างนี้ทุกที คุณฟ้าชอบคิดมาก ไม่รู้ว่าทำไมถึงชอบคิดนักว่าผมจะทิ้งไป ยิ่งช่วงหลังมักเป็นบ่อย ผมไม่ได้รำคาญ แค่อยากให้คุณฟ้ามีความสุขเวลาที่อยู่กับผม ไม่ใช่เอาแต่คิดไปถึงวันที่ผมจะทิ้งไป

“เปล่าครับ ผมแค่....”พูดแล้วก็หยุด ไม่ยอมพูดต่อจนจบในสิ่งที่ตัวเองคิด

“แค่ไม่มั่นใจในตัวผม” ผมช่วยต่อให้ ตากลมๆ เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด คุณฟ้าเคยสัญญากับผมว่าจะไม่คิดเรื่องพวกนี้อีก เรื่องที่คิดว่าผมจะทิ้งคุณฟ้าไปไม่วันใดก็วันหนึ่ง

“ครับ” คุณฟ้ายอมรับเสียงเบา ผมชอบนิสัยคุณฟ้าตรงนี้ที่สุด ที่ไม่เคยปฏิเสธสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่ในใจ พอถามก็จะตอบกลับมาตรงๆ

“คุณฟ้าครับ” ผมคว้ามือคุณฟ้าขึ้นมากุม ดึงร่างเพรียวบางให้เข้ามาใกล้ นางพยาบาลสองคนที่เดินผ่านเราสองคนเข้าไปในร้าน ผมทันเห็นว่าทั้งสองแอบมองผมกับคุณฟ้า แล้วหันกลับไปยิ้มให้กัน ผมไม่ได้สนใจมากนัก ความสนใจของผมอยู่ที่คนตรงหน้ามากกว่า

คนอื่นอาจจะบอกว่า “มีแฟนเหมือนมีแม่” แต่ผมสำหรับผมแล้ว “มีแฟนเหมือนมีหลานวัยห้าขวบ” ที่ต้องเฝ้าบอก เฝ้าย้ำ เรื่องเดิมๆ อยู่ตลอดเวลา

“ผมกลัวคุณหมอจะทิ้งผม” คุณฟ้าบอกไม่เต็มเสียงนักคงกลัวผมโกรธ

“น่ารักอย่างนี้จะทิ้งได้ไงครับ” บอกพลางก็ใช้มือเช็ดเหงื่อบนหน้าผากให้ด้วย แดดแรงมาก ผมเลยพาคุณฟ้าไปยืนอยู่ใต้ต้นลีลาวดีที่พอจะให้ร่มเงาได้บ้าง

“รักไปนานๆ นะครับ” ว่าแล้วก็ยิ้ม กลับมาเป็นคุณฟ้าแสนน่ารักของผมอีกครั้ง

“ครับ”

อารมณ์คุณฟ้าเปลี่ยนง่าย บางครั้งผมก็ตามไม่ทัน ไม่ได้เรียกว่าเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเพราะแบบนั้น มันตีความไปในแง่ไม่ดีมากกว่า อย่างคุณฟ้าต้องเรียกว่าเดี๋ยวเริ่มคิด เดี๋ยวเลิกคิด เข้าข่ายคิดเองเออเองผมไม่ได้เบื่อ รำคาญอะไรหรอก แค่ไม่อยากเห็นคนน่ารักของผมเศร้า พอเขาเศร้าก็ทำเอาผมเศร้าตามไปด้วย

“เข้าไปเถอะครับ เหงื่อออกเต็มหน้าหมดแล้ว” ผมเช็ดเหงื่อบนหน้าน่ารักนั้นอีกครั้ง เดินกลับไปส่งคุณฟ้าถึงประตูร้าน

“ดึกๆ เจอกันนะครับ” ผมบอก

“ครับ”คุณฟ้ายิ้มให้ผม ก่อนจะผลักประตูเข้าไปในร้าน จะโทษคุณฟ้าคนเดียวคงไม่ได้ โทษผมด้วยที่ไม่สามารถทำให้คุณฟ้ามั่นใจในตัวผมมากพอ ครั้งหนึ่งที่คุณฟ้าเผลอเล่าออกมาว่า ตอนที่คบกับคุณนนท์ ครอบครัวของคุณนนท์กับครอบครัวของคุณฟ้า ทั้งสองครอบครัวต่างรู้ว่าทั้งสองคนคบหากันในฐานะคนรักไม่ใช่ในฐานะเพื่อนเหมือนเมื่อก่อน

คุณฟ้าไม่มั่นใจในตัวผมเพราะเหตุผลที่ผมยังเก็บความสัมพันธ์นี้เป็นความลับ ไม่เปิดเผยให้ครอบครัวรับรู้

.
.
.
.
.
.

...ก๊อก...ก๊อก...

ตอนที่เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น มันเป็นจังหวะเดียวกับที่ผมกลืนเครปเค้กราดซอสสตรอเบอร์รี่คำสุดท้ายลงคอพอดีเครปเค้กกับกาแฟร้อนที่ยีนเอามาเสิร์ฟผมถึงที่ห้องทำงานงาน ตามคำสั่งของคุณฟ้า ผมเป็นคนชอบของหวาน แต่ไม่อ้วนเพราะออกกำลังกายเป็นประจำ อาทิตย์ละสี่ถึงห้าวัน

“อ้าว...อิง”ทีแรกผมนึกว่าจะเป็นน้องลม เพราะตอนอยู่ในร้านเชิญครับ น้องลมบอกว่าจะมาหาผม แต่ก็ดีแล้ว ถ้าน้องลมมา ตินคงจะตามมาด้วย กลับไปได้ทะเลาะกันอีก ตินขี้หวง ทั้งที่ผมไม่ได้คิดอะไรกับน้องลมแล้วแท้ๆ

“ยุ่งป่าว” อิงถาม ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาด้านซ้ายมือของห้อง เห็นท่าทางเหนื่อยอ่อนกับสีหน้าไม่สู้ดีของเพื่อนแล้ว อดเป็นห่วงไม่ได้ อิงมันผอมลงไปมาก หน้าก็คล้ำ ไม่รู้ว่าเพื่อนผมมันมีเวลาดูแลตัวเองบ้างหรือเปล่า

“งานเสร็จแล้ว แล้วหนึ่งล่ะ”

“ไปกับติน เหนื่อยว่ะ” ผมว่ามันเป็นคำพูดติดปากของเพื่อนผมไปซะแล้ว ไอ้คำว่า “เหนื่อย”

“เหนื่อยก็หยุดก่อนไหม” ผมแนะนำ สิ่งที่คิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับอิง อิงมันไม่เคยเป็นแบบนี้ หรือเพราะที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มากกว่าผมก็ไม่แน่ใจ

“ฉันหยุดก็เท่ากับวันฉันกำลังปล่อยหนึ่งไป”ตัวของเพื่อนผม ไหลไปพิงกับพนักโซฟา ตามันค่อยๆ ปิดลง แต่ปากยังคงพูดต่อ

“ฉันจะทำไงดีวะไอ้หมอ”

“ถ้าหนึ่งไม่รักนาย นายก็ควรปล่อยเขาไป คนไม่รักกันอยู่ด้วยกันไปก็ไม่ความสุข”

“แต่ฉันรัก”

“นายรัก แต่หนึ่งไม่ได้รัก ต่อให้นายกักขังเขาไว้ สักหนึ่งเขาก็ต้องไปจากนายอยู่ดี ขอโทษที่ฉันต้องพูดแบบนี้ แต่ถ้านายคิดว่านายรักหนึ่งจริง ก็ปล่อยหนึ่งไป นายไม่อยากเห็นคนที่นายรักมีความสุขหรือไง”

สำหรับผม การเห็นคนที่ผมรักมีความสุข คือความสุขที่สุดของผม ต่อให้ความสุขของเขาคือการที่ไม่มีผมอยู่ในสายตา ผมก็พร้อมจะจากไป เพื่อให้เขามีความสุข

“นายร้องไห้...”

“....” เพื่อนผมมันร้องไห้ แม้น้ำตามันจะไม่ไหลออกมา แต่ตาของมันก็แดงกล่ำ

“อิง” ผมเรียกอีกฝ่ายรู้ตัว เพราะอิงมันนิ่งไปนานมาก

“ขอบใจสำหรับคำแนะนำว่ะ แต่ฉันทำไม่ได้” อิงมันพูดแค่นี้ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องพักผมไป ผมมองตาม รู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่ที่ปรึกษาที่ดีเท่าไหร่

.
.
.
.
.
.
.

ผมก้าวเท้าเข้ามาในร้านเชิญครับเป็นรอบที่สามของวัน ในเวลาห้าโมงเกือบหกโมง ไม่ใช่เวลาห้าทุ่มอย่างที่บอกกับคุณฟ้าเอาไว้แต่แรก ผมไม่ได้มาหาคุณฟ้า แต่หลานชายคนโตของผมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าเค้าน์เตอร์บาร์คนเดียวนั่นต่างหาก

ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที พี่ชายผมโทรสั่งให้ผมโทรหาลูกชายตัวเอง ด้วยเพราะลูกชายไม่ยอมรับโทรศัพท์ของคนเป็นพ่อ ผมซึ่งเป็นอาและเป็นคนที่หลานชายสนิทด้วยมากที่สุดในบ้าน เลยถูกใช้ให้ตามหา พอผมโทรตามถึงรู้ว่าหลานชายของผมนั่งอยู่ในร้านเชิญครับ ไม่ใช่ความบังเอิญแต่เป็นความตั้งใจของหลานชายวัยใกล้จะเต็มสิบเจ็ดในเดือนหน้า ที่มานั่งทานเค้กในร้านก่อนจะเข้าไปหาผมในคลินิก

“พี” หลานชายผมชื่อพี ไม่น่าเชื่อว่าเปิดเทอมนี้จะเข้ามอหกแล้ว ตัวก็ยังเล็ก หน้าตาก็เหมือนเด็กมอสาม

“สวัสดีครับ อานุ” พีสะดุ้งเล็กน้อยตอนที่ผมเรียก คงเพราะกำลังใจลอยคิดอะไรอยู่ ก่อนจะวางช้อนในมือลงแล้วยกมือขึ้นไว้ผม

“ทำไมไม่รับโทรศัพท์‘คุณยะ’ หะเรา” คุณยะคือพี่ชายของผมและเป็นพ่อของพี ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผมถึงเรียกพี่ชายตัวเองว่า “คุณยะ” ผมเรียกพี่ชายแบบนี้ตอนที่คุยกับหลานชายเท่านั้น เรียกง่ายๆ ว่าเรียกตามหลานชายมากกว่า พี่ชายของผมต้องการให้ลูกเรียกอย่างนี้ครับ แต่แค่กับลูกชายคนโต เพราะลูกชายอีกสองคนที่เหลือ เรียกพ่อยะกันหมด

“....” หลานชายคนโตผมส่ายหน้า แล้วรีบก้มตักเค้กส้มเข้าปาก

“ทะเลาะกับคุณยะมาหรือไง” ผมถาม สังเกตจากตาบวมๆ ของหลานชาย ตอนคุยกับพี่ชายตัวเองก็พอจับน้ำเสียงได้ว่ากำลังอารมณ์ไม่ดี พักหลังๆ มานี้ พ่อลูกคู่นี้มีเรื่องตึงๆ ใส่กันบ่อยมาก ผมไม่อยากคิดอะไรมาก บอกตามตรงว่ากลัวความคิดตัวเอง คิดอะไรมาแต่ละครั้ง ใกล้เคียงความจริงทั้งนั้น

“พี”

“ครับ อานุ”

“มีเรื่องอะไรจะบอกอาไหม หรือไม่ก็อยากให้อาช่วยอะไรเราหรือเปล่า บอกอาได้นะ อาช่วยพีได้เสมอ”

“....”ปากเล็กสีซีดเม้มเข้าหากันแน่น ตาที่มองผมเริ่มคลอน้ำตา วันนี้ผมเจอน้ำตาคนถึงสี่คน แต่ในบรรดาคนนั้น ผมเป็นห่วงหลานชายตัวเองที่สุด พียังเด็กมาก แต่เรื่องที่พีเก็บอยู่ข้างในและเท่าที่ผมเห็นจากแววตาปวดร้าวนั้น ผมว่ามันหนักหนาสาหัสเอาการมาก

“พี”

“ครับ” หลานชายผมยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตา กลืนก้อนสะอื้นลงคอ ร้านเชิญครับช่วงเย็นคนเริ่มเยอะขึ้น มีหลายคนหันมามองผมกับหลานชาย คุณฟ้าก็ด้วย ผมเห็นยืนชะเง้อมองบ่อยๆ ตั้งแต่ผมผลักประตูเข้ามาในร้านแล้ว

“ไปหลังร้านดีกว่านะ” ผมบอก ไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาคนในร้าน แต่จะให้พากลับไปทีคลินิกก็กลัวจะแตกตื่นกันไปหมด ทุกคนในคลินิกรู้จักและเอ็นดูพีกันทุกคน พอเห็นว่าร้องไห้กลัวว่าจะเข้ามาถามกันให้วุ่น พาลจะทำให้ร้องหนักเข้าไปใหญ่

“....” พีมีสีหน้างงๆ กับคำชวนของผม คงแปลกใจว่าจะเข้าไปหลังร้านของคนอื่นได้ยังไง พีไม่รู้ว่าผมกำลังคบอยู่กับคุณฟ้า อันที่จริงคนในครอบครัวผมก็ไม่มีใครรู้สักคน ถึงจะแปลกใจระคนสงสัยแต่ก็ยอมหิ้วเป้เดินตามผมเข้ามา

“รู้ไหมพีว่าอารักเรามาก ต่อให้คนที่ผิดคือพี่ชายของอา อาก็จะไม่ยกเว้น” ผมบอก ตอนที่จับตัวหลานชายให้นั่งลง แล้วผมก็ดึงเก้าอี้อีกตัวมานั่งตรงหน้าหลานชาย

“ตะ...แต่...ถ้าผมผิดล่ะครับอานุ อานุยังจะอยู่ข้างผมอีกไหมครับ” เสียงนั้นเบาหวิวแต่ก็เต็มไปด้วยแรงสะอื้น ผมดึงเนื้อตัวที่สั่นเทาเข้ามากอด

“ไอ้ที่ผิดคืออะไร?” ผมถาม หัวกลมๆ ที่ผมลูบเพื่อปลอบขวัญส่ายเร็วๆ

“ผมไม่รู้”

“ไม่รู้ก็คือไม่ผิด” ผมปลอบ

“แต่คุณยะบอก....บอกว่าผมผิด”

“ไม่หรอก คุณยะอาจจะพูดเพราะโกรธ พีทำอะไรให้คุณยะโกรธหรือเปล่า?” ผมย้อนถาม ดึงตัวหลานชายขึ้นมา มองหน้าหาคำตอบที่ซ่อนอยู่ในดวงตา

“ผม...ผม...” น้ำตาไหลไม่ขาดสายอยู่บนใบหน้า พีหน้าตาไม่ได้เหมือนคนเป็นพ่อ ถ้าความจำของผมไม่ผิดมากนัก พีน่าจะเหมือนแม่แทบจะทุกสัดส่วนบนใบหน้า ผิดแค่ตรงที่เค้าโครงหน้าของพีจะเป็นรูปหน้าของเด็กผู้ชาย ไม่ใช่เด็กผู้หญิง

“พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกอาละกัน อาอยู่ข้างพีเสมอนะ” ผมบอกให้หลายชายได้อุ่นใจ ว่ายังไงเขาก็ยังมีผมอยู่ข้างเขาเสมอ หลานผม ผมก็รักครับ เลี้ยงมาตั้งแต่เกิด จำได้ว่าตอนที่พีเกิด ผมยังเป็นเด็กชาย เรียนมอหนึ่งอยู่เลย พี่ชายผมก็โตกว่ากันไม่มาก แค่สองปีเอง พี่ชายผมมีลูกตอนอายุสิบห้ากับสิบเดือนเท่านั้นเอง

“ครับ” พีรับคำทั้งน้ำตา มือเล็กปาดน้ำตาทิ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมได้แต่มอง สงสัยผมคงต้องจับตัวพี่ชายมาคุยให้จริงจังซะที หลังจากที่ผ่านมาผมพยายามจะไม่เข้าไปยุ่งมาก เพราะเคารพในการกระทำของพี่น้องเสมอ แต่เรื่องนี้มันดูเป็นเรื่องใหญ่เกินไป หากว่ามันเป็นอย่างที่ผมคิดนะ พี่ชายของผม โตแต่อายุจริงๆ

Rrrrrrrr....

‘พี่ยะ’ หน้าจอมันโชว์ชื่อนี้ขึ้นมา

“คุณยะโทรมา อารับนะ” ผมบอกคนที่มองตามมือถือของผม ใจคงนึกรู้ว่าเป็นใคร

“ไม่รับได้ไหมครับอานุ ผมไม่อยากคุยกับคุณยะ”

“ไม่ได้ครับ เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องกล้าสู้ความจริง” ผมบอก พีพยักหน้ายอมรับสิ่งที่ผมพูด พีเป็นเด็กว่าง่าย น่ารัก นิสัยผิดจากพี่ชายผม เรียกว่าหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว

(เจอตัวยัง?) พอผมกดปุ่มรับ ยังไม่ทันได้พูดอะไร พี่ชายนิสัยใจร้อนของผมก็ยิงคำถามมาทันที

“เจอแล้ว” ผมบอก

(อยู่ที่ไหน?)

“อยู่ข้างๆนี่แหละ”

(ขอคุยหน่อย) ดูพี่ชายผมจะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกชายตัวเองถึงอยู่กับผม อย่างว่าล่ะ พี่ชายผมคงคิดอยู่แล้วว่าลูกชายตัวเองต้องมาหาผม หรือไม่ผมก็ต้องตามหาตัวลูกชายของตัวเองเจอ

“พี คุณยะจะคุยด้วย” ผมบอก พีส่ายหน้า ไม่ยอมคุย ผมไม่อยากบังคับอะไรมาก ฟังจากน้ำเสียงของพี่ชายตัวเองก็พอจะเดาอารมณ์ออก กลัวว่าจะพูดอะไรให้หลายชายผมเตลิดไปใหญ่

“พีไม่คุย” พอผมบอก อีกฝ่ายก็สถบอย่างอารมณ์เสีย นิ่งไปสักพัก ถึงจะได้ยินเสียโต้กลับมา

(แล้วนี่อยู่ที่คลินิกหรือเปล่า)

“อยู่ที่ร้านกาแฟข้างคลินิก”

(โอเค บอกหลานนายด้วยว่าจะไปรับ ห้ามหนีไปไหน)

“พี เดี๋ยวคุณยะจะมารับ” ผมหันไปบอกหลานชายตัวเองอีกครั้ง พีรีบส่ายหน้าเร็วๆ ด้วยท่าทีหวาดกลัวอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

“อานุ...ผมไม่อยากไปกับคุณยะ” พูดเสียงสั่น แล้วคำพูดนั้นคงดังไปถึงคนปลายสายด้วย พี่ชายผมถึงได้ตะคอกกลับมาอย่างรวดเร็ว

(ไม่กลับก็ต้องกลับ นายบอกหลานนายด้วยว่าอย่ามาดื้อ อย่าคิดหนี ถ้าหนีเป็นเรื่องแน่)

“พี่ยะ ผมขอล่ะ ใจเย็นๆ ก่อน”

(ฉันใจเย็นมาตั้งแต่หลานนายเกิดแล้วรู้ไหม ฉันใจเย็นมาตลอด แล้วมันก็จะเย็นไปตลอดเหมือนกัน ถ้าหลานนายไม่ทำให้ฉันโมโห)

พี่ชายผมพูดเหมือนคนฟิวส์ขาด

(ฉันห้ามอะไร เคยฟังที่ไหน ฉันเตือนให้มันระวังตัว เพื่อนมันคิดไม่ซื่อ มันก็ยังจะเถียงจะปกป้องเขา มันเชื่อเพื่อนมากเชื่อคนที่เลี้ยงมันมาทั้งชีวิต นายก็คิดเอาว่าหลานนายมันน่ารักไหม พูดแล้วหงุดหงิดว่ะ)

“หงุดหงิดนักก็วางสายไป แล้วไม่ต้องมารับ ฉันจะเอาหลานไปนอนด้วยคืนนี้” คำพูดพี่ชาย พลอยทำให้ผมมีอารมณ์ไปด้วย เริ่มโมโหพี่ชายตัวเองขึ้นมา

(ไม่โว้ย ไม่ต้องเลยนะไอ้นุ เอาพีมาคุยกันฉันเดี๋ยวนี้!)

“นายมันอารมณ์ร้อน เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีก ฉันสงสารหลาน ขอเถอะ ตอนนี้ก็ร้องไห้จนตาบวมไปแล้ว ไม่สงสารบ้างหรือไง” ผมพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ พยายามคุมอารมณ์ตัวเองด้วย ถึงพี่ชายผมมันจะอารมณ์ร้อนแต่มันก็เย็นเร็วเหมือนกัน ถ้าเอาเหตุผลเข้าว่า

(เออๆ ตามใจนายละกัน แต่ฉันขอคุยกับหลานนายหน่อยได้ไหม) สุดท้ายก็ยอมแต่ไม่วายจะขอคุยให้ได้ จะกีดกันก็ใช่ที่

“คุยกับคุณยะหน่อย” ผมยื่นโทรศัพท์ให้ แต่อีกฝ่ายส่ายหน้าปฏิเสธ

“ผมไม่อยากคุย”

“คุยหน่อย คุณยะจะได้หมดห่วง ถ้าไม่คุยด้วย อาก็ไม่รู้นะว่าเขาจะโมโหแล้วตามมาเอาตัวเรากลับไปด้วยหรือเปล่า ถ้ามันเป็นอย่างนั้น อาก็ไม่รู้จะช่วยเราได้ยังไงนะ” ผมขู่ไปเล็กน้อย ซึ่งได้ผล พีรีบรับโทรศัพท์ไปจากมือผมทันที

“ครับคุณยะ...ครับ...ครับ...ครับ...ครับ...ครับ....ครับ...ครับ”

ผมไม่รู้ว่าระหว่างพ่อลูกคู่นี้เขาคุยอะไรกัน ได้ยินแค่คำว่า ‘ครับๆ’ ของหลานชายตัวเอง แต่เชื่อว่าพี่ชายผมคงใจเย็นลงบ้างแล้ว ไม่อย่างนั้นคงได้ยินเสียงตะคอกลอดออกมา

ผมเลิกสนใจเรื่องตรงหน้าไปก่อน ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่า ผมจะพาหลานชายไปนอนที่ไหนมันคงไม่ดีแน่ถ้าผมจะเอาหลานชายไปนอนที่บ้านพี่สาวคุณฟ้า ผมเองว่าเป็นคนนอกแล้ว หลานชายผมยิ่งเป็นคนนอกมากกว่าซะอีก เหลือทางเดียวคือต้องพาไปนอนที่คอนโดคุณฟ้าแทน

มันคงเป็นคืนที่ 27 จริงๆ ที่ผมไม่ได้นอนกอดคุณฟ้า...

>>>>>>> Happy Na Ka<<<<<<<<

วู้ๆๆๆๆๆๆๆ ปั่นตอนที่ 22 ออกมาได้แย้ววววววววววววววววววววววว
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตาม จะพยายามมาให้บ่อยเท่าที่จะทำได้
คนเขียนทำงานแล้ว มีงานประจำที่มีเส้นตายบ่อยมากกกกกกก
เลยอาจทำให้แต่งเรื่องช้าไปบ้าง หายไปบ้าง ดองไปบ้าง
อย่าเพิ่งเบื่อนะคะ
ปล.ที่พูดมานี่ไม่อะไรหรอกนะคะ คือว่า ไปอ่านเจอในห้องพูดคุย ทู้ # นักเขียนแบบไหนที่ทำให้คุณเลิกอ่านนิยาย เลยมาเทียบกับเรื่องของตัวเอง มันก็เข้าข่ายบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง T^T เลยพยายามจะปรับปรุงการเขียนและการโพสเรื่อง จะพยายามไม่ดองให้มากนักนะคะ แล้วถ้าจะหายไปนานๆ เป็นเดือนๆ ก็จะแจ้งไว้ล่วงหน้าด้วย( ^__^’ )

ปล.2 ตอนนี้ขอแก้ตัวก่อนด้วยนะคะว่า ไม่ได้ออกทะเลแต่อย่างใดนะคะ ตัวละครที่แทรกเข้ามาใหม่ ได้วางเอาไว้ตั้งแต่ครั้งแรกแล้วว่าต้องมี เพื่อจะให้เกิดเป็นตัวละครของอีกเรื่อง ในซีรีส์รัก... ในเรื่องต่อๆ ไป แต่ยังไม่แต่งตอนนี้นะคะ วางเอาไว้เฉยๆ ให้มันเกี่ยวเนื่องกันน่ะคะ ขอบอกว่า โปรเจคซีรีส์รัก... มันใหญ่มากกกกกกกกกก 555+ ใหญ่จนคนเขียนปวดหัว (ตรุไม่น่าคิดเล๊ย แต่ก็กลับลำความคิดของตัวเองไม่ทันแย้ววว)

ปล. 3 จบการเวิ่นเวิ่นยาวไปแระตอนนี้ แหะๆๆ คือมันดีใจที่เขียนตอน 22 จบซะที ปั่นมาตั้งแต่วันที่ 15 แล้วน้าาอิอิ

บับบายคร้า
aeaw//สีเหลืองอ่อน
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนพิเศษ รักเธอ" ลมกะติน" {15/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 25-02-2012 04:13:06
ตอนนี้ท่าทางคุณหมอจะมีอุปสรรคเยอะมาก ทั้งเรื่องแม่กับเนย และก็หลาน สู้เค้านะคุณหมอ

 :z3:

สงสารอิงอ่ะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอน 22 อยากกอด..จะได้กอดมั้ย {24/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 25-02-2012 22:26:25
คนแต่งมาลงเองทั้งที ต้อง กอดดดดดดดดดดดดดด แน่นๆ :กอด1: :กอด1:  อิอิ 
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอน 22 อยากกอด..จะได้กอดมั้ย {24/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 25-02-2012 22:29:46
คนโพสเน็ตเน่ามากกกกก คนเขียนเลยเอามาลงเอง อิอิ
เพราะกลัวคนอ่านรอ ==' เพราะหายไปนานมาก แบบว่าเกรงใจมว๊ากกก

อ่านกันเลยเนอะ

คนแต่งมาลงเองทั้งที ต้อง กอดดดดดดดดดดดดดด แน่นๆ :กอด1: :กอด1:  อิอิ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอน 22 อยากกอด..จะได้กอดมั้ย {24/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: atommic ที่ 26-02-2012 01:29:56
อดได้กอดคุณฟ้าอีกตามเคยเนาะคุณหมอ อิอิ :laugh:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอน 22 อยากกอด..จะได้กอดมั้ย {24/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 26-02-2012 07:03:29
อ่านแล้วกลัวแทนคุณหมอจังเรื่องครอบครัวเนี่ย ถ้าฟ้ารู้เรื่องน้องเนยเมื่อไหร่ งานเข้าแน่เลยอ่ะคุณหมอออ

ปล. สงสารอิงจัง อยากรู้เรื่องอิงกับหนึ่งเหมือนกัน ว่าตกลงยังไงกันคู่นี้
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอน 22 อยากกอด..จะได้กอดมั้ย {24/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: you13 ที่ 26-02-2012 07:32:56
คุณหมอทำไมไม่รบบอกคุณแม่ละ

เด๋วจะมีงานเข้าอีก :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอน 22 อยากกอด..จะได้กอดมั้ย {24/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 26-02-2012 07:46:28
ลมน่ารัก คุณฟ้าก็น่ารัก
น่าอิจฉาติน กับ คุณหมอจริงๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอน 22 อยากกอด..จะได้กอดมั้ย {24/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 26-02-2012 20:25:39
น่ารัก

รอ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอน 22 อยากกอด..จะได้กอดมั้ย {24/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: K2KARN ที่ 27-02-2012 00:56:12
ฟ้าน่ารักจริง คุณหมอรักฟ้ามากมากนะจ๊ะ :)))
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอน 22 อยากกอด..จะได้กอดมั้ย {24/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 27-02-2012 17:10:07
คุณหมอถ้าจะมีงานหนัก ไหนจะเพื่อน ไหนจะแม่ ไหนจะหลาน
แม่ให้ไปเที่ยวกับสาว อย่างนี้ถ้าฟ้ารู้จะเสียใจขนาดไหนนะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอน 22 อยากกอด..จะได้กอดมั้ย {24/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 27-02-2012 19:44:21

หงุดหงิดใจคุณมอ อะไรเนี่ยะ ?
เราก็นึกว่ายัยน้องเนยอะไรนั่นคงไม่มีอะไร
นี่มาชมคนอื่นนอกจากคุณฟ้า มันน่านัก !
ไม่ชัดเจนเอาซะเลย ไม่แปลกที่คุณฟ้าคิดว่าไม่มั่นคง ไม่มั่นใจ
อย่าให้คุณฟ้าจับได้นะ จะได้รู้ไปเลยว่ามันยังไง
ถึงคุณหมอไม่คิดอะไร  แต่ปิดบังคุณฟ้าอย่างนี้มันไม่แฟร์เลยนะ
ทำไมไม่บอกกันเลย เคลียร์กันก่อน เฮ้อ เหนื่อยใจ

สงสารหนึ่งกับคุณอิง  อยากอ่านคู่นี้มากๆ
แอบบอก  เราจิ้นคู่หนึ่ง-อิงตั้งแต่เรื่องลมกับตินแล้ว
แต่พอเห็นคุณอิงมีแฟนเลยเสียดาย แต่พอเรื่องออกมาแบบนี้ก็ลุ้นอยู่

รออ่านตอนต่อไปนะคะ
+1 ให้จ้า จุ๊บ <3
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอน 22 อยากกอด..จะได้กอดมั้ย {24/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 27-02-2012 20:16:35
คุณหมองานจะเข้า
มั๊ยเนี่ยรีบๆสารภาพ
เถอะเรื่องน้องเนย
ปล่อยไว้มันไม่ดีน๊า :impress3:
 
กด+เป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอน 22 อยากกอด..จะได้กอดมั้ย {24/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 27-02-2012 20:17:52
ง่า.... หมอจะเป็นคนประสานสามัคคีคนใจบ้านสินะ
แบบนี้แหละที่อะไรๆ ก็เอามาลงที่หมอ

อนาคตท่าทางจะสาหัสแฮะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอน 22 อยากกอด..จะได้กอดมั้ย {24/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 27-02-2012 22:09:06
เย้.....อ่านทันแล้ว เล่นซะหลายวัน

สนุกค่ะ ไม่โกรธนะคะถ้าจะบอกว่าชอบเรื่องของคุณหมอมากกว่าของลม  :really2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอน 22 อยากกอด..จะได้กอดมั้ย {24/02/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: POPEA ที่ 28-02-2012 13:32:25
ตินกับลมน่ารักมาก~
แต่กว่าจะหวานกันได้นี่ดราม่าเยอะน่ะ 55.
ปากแข็งกันทั้งคู่อะตอนแรกๆ :o8:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 01-03-2012 20:20:49
ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก


ผมวางกระบอกโทรศัพท์ลงบนแป้นหลังจากคุยกับพี่สาวเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าคืนนี้ผมกับคุณหมอคงไปค้างที่บ้านด้วยไม่ได้ บอกสาเหตุไปครับว่าเพราะอะไร พี่ฝนบ่นเสียดายที่พลาดโอกาสโชว์ฝีมือทำกับข้าวให้น้องเขยทานเป็นมื้อที่สอง

ผมอายมากตอนที่พี่ฝนเรียกคุณหมอว่าน้องเขย อายพี่สาวของตัวเองไม่เท่าไหร่ แต่ต้องอายพี่เขยตัวเองด้วยสิครับ อายมากจริงๆ  ปิดร้านเสร็จกลับบ้านไปทีไร พี่ฝนก็เอาแต่ถามว่าน้องเขยของพี่เป็นยังไงบ้าง ชวนมาเที่ยวที่บ้านบ้างสิ พี่เขยก็เป็นไปด้วย ถามถึงคุณหมอบ่อยๆ เรียกคุณหมอว่าน้องเขยตามพี่สาวผมไปนะครับ

ผมดีใจนะครับที่พี่ฝนกับพี่เอกชอบคุณหมอ ทั้งสองบอกว่าคุณหมอเป็นคนดีและจริงใจ ดูได้จากการตอบทุกคำถามที่พี่ฝนกับพี่เอกถาม จำกันได้ไหมครับวันที่ผมร้องไห้จนหลับไป วันนั้นคุณหมอถูกพี่ฝนกับพี่เอกยิงคำถามใส่ไม่นับชุดเลยครับ คุณหมอตอบทุกคำถามอย่างไม่มีปิดบัง แม้กระทั้งความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างเราสองคน ผมอายมากเลยตอนที่พี่ฝนเล่าให้ฟัง แต่ดีหน่อยที่คุณหมอไม่ได้เล่าในรายละเอียดมากนัก ไม่อย่างนั้นผมคงไม่กล้าสู้หน้าทั้งสองคนไปอีกนานครับ ขืนรู้ว่าผมเป็นฝ่ายเริ่มก่อนคงได้จับไม้เรียวขึ้นมาตีผมแน่ๆ

ส่วนเรื่องที่ผมถูกนนท์ทิ้ง พี่ฝนกับพี่เอกก็ไม่ได้โกรธอะไรนนท์ครับ นนท์ยังไปเยี่ยมพี่ฝนที่บ้านตอนที่รู้ข่าวว่าพี่ฝนท้อง พี่ฝนกับพี่เอกยังคุยกันเป็นปกติดีกับนนท์ มันอาจเป็นเพราะว่านนท์เป็นคนในครอบครัวของเราไปแล้ว แล้วอีกอย่างทั้งสองเห็นว่าผมไม่ได้เป็นอะไรมากเมื่อเลิกกับนนท์ ที่คิดอย่างนี้ได้เพราะไม่เห็นผมในวันแรกที่ถูกนนท์บอกเลิกมากกว่า ถ้าเห็นคงได้โกรธนนท์บ้างเหมือนกันล่ะ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ พี่ฝนแอบกระซิบบอกกับผมว่า พี่ฝนกับพี่เอกคุยกันบ่อยๆ ถึงเรื่องผมกับนนท์ที่ไปด้วยกันไม่รอดหรอก สักวันต้องเลิกกัน เพราะความสัมพันธ์ของผมกับนนท์ที่ทั้งสองเห็น มันดูเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากหรือเป็นพี่น้องกันเสียมากกว่าจะเป็นแฟนที่รักกัน

ทำไมใครๆ ถึงบอกว่าผมกับนนท์ไม่ได้รักกัน ใครๆ ที่ว่านี้ไม่ใช่แค่นนท์ พี่ฝน พี่เอกเท่านั้นนะครับ เพื่อนสนิทของผมอีกสองคนก็บอกอย่างนี้ในวันที่ผมถูกนนท์บอกเลิก วันนั้นผมโทรไปฟ้องทั้งสองคนว่าถูกนนท์ทิ้ง เชื่อไหมครับว่าไม่มีใครตกใจเลย มีแต่บอกผมว่าดีแล้วที่เลิกกัน เพราะผมกับนนท์ไม่ได้รักกันจริงหรอก เลิกกันไปน่ะดีแล้ว จะได้เปิดโอกาสให้ตัวเองเจอคนที่ใช่ซะที มาตอนนี้ผมชักจะคล้อยตามนิดๆ แล้ว ระหว่างผมกับนนท์ เราเคยรักกันจริงหรือเปล่า ผมหมายถึงรักแบบคนรักนะครับ นับตั้งแต่วันที่ถูกบอกเลิกจนถึงวันนี้ นนท์ยังวนเวียนอยู่ในชีวิตของผมเหมือนเดิม ไม่ได้หลบหนีหายไปไหน หนำซ้ำยังโผล่หน้ามาให้ผมเห็นบ่อยกว่าเดิมด้วย สาเหตุที่มาบ่อยก็ไม่ใช่เพราะผมหรอกแต่เป็นเพราะแดน แต่เชื่อไหม ผมแทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างตอนที่คบกันกับเลิกคบกันเลย

ผมกับนนท์ เรายังเป็นเหมือนเดิม มีเปลี่ยนไปนิดหน่อยตรงที่ผมต้องทิ้งระยะห่างจากนนท์มากขึ้นอีกนิดนึงตอนที่คุณหมออยู่ด้วย ผมไม่อยากให้คุณหมอคิดมาก เกิดผมกับนนท์ถึงเนื้อถึงตัวกันบ่อยๆ เหมือนตอนที่คบกัน แล้วคุณหมอมาเห็นเข้าจะคิดมากแล้วเป็นเรื่องไปเสียเปล่าๆ

หรือว่า...ผมกับนนท์ เราไม่ได้รักกันจริงๆ

หรือว่า...ผมกับนนท์ เราสนิทกันมาก เลยทึกทักว่ามันเป็นความรัก

ไม่อยากคิดอะไรให้ปวดหัว คิดไปก็ไม่ได้คำตอบอะไร ระหว่างผมกับนนท์ มันกลายเป็นอดีตไปแล้ว ผมมีปัจจุบันอยู่กับคุณหมอ ผมควรจะคิดแต่เรื่องของคุณหมอ จริงไหมครับ

เพราะผมคิดถึงแต่เรื่องคุณหมอไงครับ พอคุณหมอเดินมาบอกว่า วันนี้ไปค้างที่บ้านพี่ฝนไม่ได้แล้ว เนื่องจากต้องดูแลหลานแล้วจะกลับไปนอนที่คอนโดของผมด้วย ดูคุณหมอจะเป็นห่วงหลานชายมาก แต่ก็แอบเห็นครับว่าทำตาละห้อยตอนที่เดินมาบอกผม ใช่ว่าคุณหมออยากจะกอดผมคนเดียวซะที่ไหน ผมก็เหมือนกัน ยอมรับตรงๆ เลยว่าคิดถึงอ้อมกอดของคุณหมอจะแย่อยู่แล้ว อยากเห็นคุณหมอเป็นคนสุดท้ายก่อนนอน แล้วก็อยากเห็นหน้าคุณหมอเป็นคนแรกเมื่อตื่นด้วย อยากได้ยินเสียงคุณหมอแทนเสียนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ อยากได้มอร์นิ่งคิสหวานๆ อยากเดินไปซื้อข้าวเช้าด้วยกัน อยากเดินหรือไม่ก็นั่งรถมาทำงานด้วยกัน ความอยากที่เกิดจากสิ่งที่ขาดหายไปนานกว่ายี่สิบวัน

แล้วใช่จะมีคุณหมอคนเดียวซะเมื่อไหร่ที่นับวันเวลาที่เราไม่ได้กอดกัน ผมก็ด้วย 26 คืนแล้วที่นอนหลับไปโดยไร้อ้อมกอดอุ่นๆ ของคุณหมอ ถึงแม้คืนนี้อาจจะไม่ได้นอนกอดกัน แต่ผมกับคุณหมอก็ได้มีเวลาร่วมกันมากขึ้นกว่า 26 คืนที่ผ่านมา ใช่ไหมล่ะครับ...

“พี่ฟ้า”

ยีนเกาะขอบเคาน์เตอร์เรียกผม เสียงไม่ดังมาก ผมมองเลยยีนไปด้านหลัง ดาวกับตามกำลังเก็บโต๊ะ ร้านเชิญครับปิดแล้วครับ แต่ที่ดาวกับตามยังไม่กลับเป็นเพราะมีนัดไปทานข้าวกับหมอพฤกษ์ ผมรู้เพราะตามบอกว่าจะขออยู่จนร้านปิด รอเวลาคุณหมอออกเวร ตอนแรกแปลกใจอยู่ไม่น้อยว่าตามไปสนิทสนมกับหมอพฤกษ์ตอนไหน ทำไมผมไม่รู้ ที่แท้พ่อของตามก็รู้จักกับหมอพฤกษ์นี่เอง 

“เดี๋ยวพี่ตามไป ขอเคลียร์บัญชีก่อน” ผมบอกยีน เข้าใจว่ายีนออกมาตามผมไปเข้าไปทำขนมในครัว

“ยีนไม่ได้มาตามพี่ฟ้าไปช่วยทำเค้กหรอกค่ะ แต่ยีนมีเรื่องอยากบอกพี่ฟ้า” สีหน้าจริงจังยีนจริงจังมาก มองไปรอบตัว กลัวเหมือนมีใครจะเข้ามาได้ยิน

“มีอะไร?” ผมสงสัย เลิกสนใจงานที่ทำมาสนใจยีนแทน ปกติยีนไม่ค่อยมีโหมดจริงจังแบบนี้กับผมเท่าไหร่

“คือ...อืม ยังไงดีอ่ะ ยีนไม่รู้จะพูดยังไงดี” ยีนอ้ำอึ้ง คิ้วบางวาดสีเข้มขมวดเข้าหากัน

“มีอะไรก็พูดมา” ผมเร่ง เพราะยีนเงียบไป ไม่ยอมพูดอะไรสักที เจ้าตัวถึงยอมตัดสินใจพูดออกมา

“คืองี้นะคะพี่ฟ้า เพื่อนคุณหมอที่ตามมาตอนหลังอีกสองคนน่ะค่ะ แล้วคนที่ตัวเล็กๆ คนนั้น”

“คุณลม” ผมบอกยีน

“ใช่ค่ะ คุณลมคนนั้นล่ะค่ะ ถ้ายีนจำไม่ผิดนะคะ คนที่คลินิกเคยบอกว่าเป็นแฟนคุณหมอ”

“....”

ผมรู้สึกว่าใจมันตกวูบ ทันทีที่ยีนพูดจบ ตัวมันเหมือนชาวาบไปหมด สมองกำลังคิด คิดตามสิ่งที่ยีนบอก สมองผมคิดไปเร็วมาก คิดไปไกลถึงทะเล นึกไปถึงค่ำนั้น ตอนคุณหมอขอร้องให้ผมแกล้งเป็นแฟน โดยไม่ยอมบอกเหตุผลว่าทำไปทำไม 

“พี่ฟ้า”

ยีนเอื้อมมือมาแตะตัวผม

“ไม่เป็นอะไรนะคะพี่ฟ้า ยีนก็ไม่อยากเล่าให้พี่ฟ้าฟังหรอกค่ะ แต่ยีนคิดว่าพี่ฟ้าควรจะรู้ ถ้าคุณหมอยังไม่ได้บอกพี่ฟ้า”

คุณหมอไม่ได้บอกผมจริงๆ มันเป็นความลับใช่ไหมคุณหมอถึงไม่เคยบอกผม หรือว่าเพราะผมไม่เคยถามเอง ถ้าเป็นเพราะเหตุผลข้อหลัง มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่น่าฟังนัก

“ไม่เป็นไร ดีแล้วล่ะที่เล่า ไม่เล่า พี่ก็ไม่รู้”

นั่นสินะ ถ้ายีนไม่เอามาบอก ผมก็คงไม่มีวันรู้เรื่องนี้ จนกว่าคุณหมอจะเปิดปากเล่าให้ผมฟังเอง ซึ่ง...มันอาจจะไม่มีวันนั้นเลยก็ได้

“อย่าว่ายีนจุ้นเลยนะคะพี่ฟ้า ยีนอยากให้พี่ฟ้าระวังถ่านไฟเก่าเอาไว้บ้างค่ะ เกิดลุกขึ้นมา คนที่เสียใจจะเป็นเรา” ยีนว่า ผมไม่ได้คล้อยตาม แค่คิดตาม แต่คุณลมก็มีคุณตินแล้ว ท่าทางดูรักกันมาก ถ่ายไฟเก่ามันคงไม่คุขึ้นมาหรอกมั้ง

ผมยังจำเช้าวันที่เดินไปดูพระอาทิตย์ที่ทะเลจันทร์ได้ เช้ามืดวันนั้นผมอยากหลบหน้าคุณหมอเพราะรำคาญที่คุณหมอตื้อจะรับผิดชอบในสิ่งที่ผมไม่ต้องการ ผมหลบหน้าคุณหมอด้วยการเดินออกจากห้องพัก เดินไปตามแนวหาดเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังขึ้น ผมนั่งบนตอไม้ที่ใช้เป็นเก้าอี้ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มดอกรักทะเล ถ้าไม่สังเกตให้ดีคนที่เดินผ่านไปมาก็จะไม่เห็นว่ามีคนนั่งอยู่ตรงนี้ ผมนั่งรอดูพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า แสงแรงเริ่มปรากฏตัวพร้อมกับคู่รักคู่หนึ่งที่เดินเท้าเปล่าทอดน่องมาตามแนวหาด มือของทั้งสองกอบกุมกันอยู่ เขาสองคนหยุดเดินในรัศมีการมองเห็นของผมพอดี ก่อนจะหันมามองหน้ากัน แล้วคนตัวสูงกว่าก็ก้มหน้าลงมาจูบปากคนตัวเล็กกว่า ผมไม่ตั้งใจแอบดูเลยแต่ก็เห็นเต็มตา รู้สึกผิดเลยจะลุกเดินหนี พอดีคุณลมหันมาเจอผมซะก่อน ผมไม่รู้ว่าเจ้าตัวอายจนน่าแดงเถือกแค่ไหน เพราะยืนอยู่ห่างกันพอสมควร แต่ว่ามือที่ฟาดลงบนตัวของคุณตินก็แรงพอที่จะทำให้อีกฝ่ายร้องเสียงดังอยู่เหมือนกัน

เมื่อตอนบ่ายวันนี้อีกเช่นกันที่ผมเห็นว่าทั้งคู่รักกันมาก ทั้งที่พวกเขาสองคนไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการนั่งอยู่ข้างกัน คุยเรื่องของคุณอิงกับคุณหนึ่ง (ผมเดาเอาเองครับว่าต้องคุยเรื่องของคุณอิงกับคุณหนึ่ง) แต่มือที่แตะต้องกันเป็นบ้างครั้งบางคราว เวลาที่เขาหันมามองหน้ากัน ช่วยกันพูดช่วยกันคุยกับอีกฝ่าย มันดูเหมือนเป็นคนๆ เดียวกันที่ไม่มีวันจะแยกจากกันไปแล้วล่ะครับ

เขาสองคนคงไม่อยากแยกจากกันแล้วมั้งครับ...

เหมือนที่ผมก็ไม่อยากจะแยกจากคุณหมอเลย ผมรักคุณหมอเสียแล้ว รักที่ดูจะเพิ่มมากขึ้นทุกวัน จนผมนึกกลัวว่าวันหนึ่งผมจะไม่มีคุณหมอให้ได้รักอีก จะว่าผมเป็นคนคิดมากก็ได้นะครับ บทเรียนจากนนท์ทำให้ผมไม่มั่นใจกับความสุขที่แตะต้องอยู่ในตอนนี้เลย

ผมเชื่อใจคุณหมอนะครับ ว่าคุณหมอรักผมเหมือนที่ผมรักคุณหมอ เพียงแต่...ผมไม่ไว้ใจความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในทุกวินาทีที่มันเดินไปข้างหน้า ผมมีความสุขที่ได้รักคุณหมอแต่ลึกๆ แล้ว ผมเต็มไปด้วยความหวั่นไหว ผมไม่อยากเป็นคนถูกทิ้งเลย

....ไม่มีใครอยากถูกทิ้งใช่ไหมครับ? 

.
.
.
.
.
.

“น้องพี หิวหรือยังครับ”

หลานชายคุณหมอเปิดประตูออกมาจากห้องพักของผมที่อยู่ในครัว ขณะที่ผมกำลังอยู่หน้าเตาค้นส่วนผสมที่ใช้ทำเค้กหน้านิ่ม ผมเหลือบมองนาฬิกาแขวนข้างผนัง อีกสองนาทีจะสามทุ่มแล้ว หลานคุณหมอหลับไปนานมาก ตั้งแต่บ่ายแก่ๆ ตอนเย็นผมก็ไม่ได้เข้าไปปลุกให้มาทานข้าวด้วยกันเพราะเกรงใจ อยากให้นอนพักเยอะๆ ไม่รู้ว่าตอนเข้าไปนอนแอบร้องไห้อีกหรือเปล่า เพราะหน้าตาที่ผมเห็นตอนนี้บวมมาก ตายังแดงๆ อยู่เลย

“หิวครับ” น้องพีบอกผม ทำหน้าหงอยๆ มองซ้ายมองขวาเหมือนทำตัวไม่ถูก เมื่อตื่นมาไม่เจออาตัวเอง

“รอก่อนนะคะ พี่ยีนกำลังอุ่นข้าวให้อยู่” ยีนว่า หลังจากเอาจานข้าวผัดที่สั่งจากร้านคนกันเอง ร้านขายอาหารเล็กๆ ในหมู่บ้านของพ่อแม่แดน ใส่ไมโคเวฟเพื่ออุ่น

คุณหมอบอกว่าหลานชายไม่ชอบทานเผ็ด เรียกว่าทานเผ็ดไม่ได้เลย ยิ่งกว่าคุณหมออีกครับ คุณหมอน่ะทานเผ็ดไม่ค่อยจะได้แต่ก็พอจะทานได้บ้างนิดหน่อย แต่น้องพีนี่ทานอะไรเผ็ดๆ ไม่ได้เลยสักอย่าง อาหารที่ทานส่วนมากเลยมีไม่กี่อย่าง อาทิ ข้าวผัด แกงจืด ไข่เจียว ไข่ตุ๋น ไข่พะโล้ ข้าวต้มอะไรประมาณนี้ครับ ผมเลยสั่งข้าวผัดแยกต่างหากมาให้ทาน

“ฟ้า”

นนท์เดินหน้ายุ่งเข้ามา มีแดนเดินตามหลังมาหน้าตาเหมือนโกรธใครมาสิบชาติ ใครที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกก็นนท์นั่นแหละ ไม่รู้มีเรื่องอะไรกันอีก เมื่อกี้เห็นว่าแดนออกไปคุยโทรศัพท์ด้วยไม่ใช่หรือไง ไหงถึงโผล่เป็นตัวมาได้

“อะไร” ผมถาม มือเทแป้งข้าวโพดที่ผสมกับนมข้นจืดตามลงไปในหม้อแล้วค้นไปเรื่อยๆ  ไม่ได้สนใจมากนัก สองคนนี่ชอบทำเรื่องให้ผมปวดหัวบ่อยมาก ทำตัวเหมือนเด็กที่เอาเรื่องเกเรของอีกฝ่ายมาฟ้องผมได้ทุกวัน

“คืนนี้ไปนอนด้วยนะ” นนท์ว่า ผมก็ไม่สนใจเช่นกัน สนใจเนยสดที่หั่นเป็นชิ้นในถ้วยใกล้มือมากกว่า ผมเทมันลงไปในหม้อเป็นส่วนผสมสุดท้าย แล้วตั้งหน้าค้นมันต่อไปเรื่อยๆ ผมชินกับการที่นนท์บอกว่าจะไปนอนกับผมทุกครั้งที่อยากทำให้แดนหึง ผมว่าแทนที่จะทำให้แดนหึงกลับทำให้แดนเกลียดมากกว่า

“ฟ้า” พอเห็นว่าผมไม่สนใจนนท์ก็เดิมหามาผมแล้วยึดมือผมเอาไว้

“จะจับทำไมล่ะเนี้ย เห็นไหมกำลังทำอะไรอยู่ ปล่อยเลยนะนนท์” ผมดุกลายๆ ดึงมือออกแล้วค้นต่อ

“อาฟ้าครับ ผมไปทานข้างนอกนะครับ” น้องพีถือจานข้าวอยู่ข้างยีน บอกผมเสียงเบา

“ครับ” ผมหันไปตอบน้องพี นนท์มองตาม คงเพิ่งเห็น

“ใครอ่ะฟ้า?” นนท์หันมาถาม หลังจากน้องพีเดินถือจานพ้นประตูออกไป พลางดึงเก้าอี้ใกล้มือมานั่ง จุดที่นั่งก็ตรงข้ามกับแดนที่ยืนหน้างอทำคุ๊กกี้อยู่ กลัวใจครับว่ามันจะออกมาอร่อยไหม ก็คนทำอารมณ์บูดขนาดนั้น

“หลานคุณหมอ ชื่อน้องพี” ผมบอก มือเปิดเตาแก๊ส ก่อนจะยกหม้อลง ยังค้นส่วนผสมที่ใช้ทำหน้าเค้กอยู่ครับ หยุดค้นไม่ได้ไม่อย่างนั้นมันจะเซทตัวเป็นลิ่ม เวลาราดแล้วจะไม่สวย

“ถึงกับเอาเอาหลานมาฝากให้เลี้ยงเลยหรือฟ้า”

“อืม” ผมพยักหน้าแกนๆ ไป ไม่มีอารมณ์คุยด้วย

“อะไรเนี้ยฟ้า ทำไมต้องทำหน้ารำคาญนนท์ด้วย....ทั้งพี่ทั้งน้อง” ประโยคหลังนนท์พูดเบามากแทบไม่ได้ยิน แต่คนหูดีอย่างผมกับแดนได้ยินครับ ผมไม่ว่าอะไร ชินกับนิสัยนนท์ แต่คนที่ไม่ชอบคือแดน

“ก็คนมันรำคาญไง รู้ตัวก็ออกไป อยู่ทำให้รกหูรกตาคนอื่น” เสียงเนี้ยแทบจะเรียกได้ว่าตะโกนไล่เลยครับ ก่อนจะยกถาดคุ๊กกี้เข้าไปอบในเตา เดินกลับมาถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วแควนไว้ที่ราวข้างผนัง

“บอสครับ ผมกลับก่อนนะครับ เบื่อหน้าคน”

ผมยังไม่ทันตอบว่าอะไร แดนก็สาวเท้าเดินออกไป อย่างเคยครับ นนท์รีบตามไปทันที แล้วเสียงเอะอะโวยวายก็ดังลั่นร้าน ไม่ต้องตามไปดูก็เดาเหตุการณ์ออกครับ เห็นจนชินตา เคยช่วยห้ามในช่วงแรกๆ แต่พักหลังนี้ไม่ยุ่งด้วยแล้ว นนท์คงทั้งฉุดทั้งลากให้แดนไปกับตัวเอง สงสารก็แต่หลานคุณหมอที่ต้องมาเห็นอะไรทำนองนี้ จะเข้าใจไหมเนี้ยว่าทำไมผู้ชายสองคนถึงยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่อย่างนั้น

แต่จะว่าไปหลานคุณหมอก็โตแล้ว เรื่องความรักในรูปแบบนี้คงไม่แปลกเกินไปสำหรับเขา เหลือแค่ว่าจะรังเกียจหรือเปล่าเท่านั้น ผมรู้นะครับ คุณหมอยังไม่ได้บอกเรื่องที่กำลังคบกับผมให้ทางบ้านรู้ ไม่แม้แต่จะเอ่ยถึงเรื่องที่บ้านให้ผมฟังด้วย

ยอมรับว่าผมหวังให้คุณหมอแนะนำผมให้น้องพีรู้จักในฐานะคนรัก ไม่ใช่ในฐานะเพื่อน ถึงแม้คุณหมอจะไม่แนะนำผมว่าผมเป็นเพื่อน แต่การที่คุณหมอไม่พูดอะไรเลยตอนที่หลานชายตัวเองทำหน้างงปนสงสัยว่า เขาจะเข้าไปนอนในห้องพักหลังร้านได้ยังไง ในเมื่อเขาเป็นเพียงลูกค้า แต่นั่นแหละน้องพีก็ไม่ได้ถามออกมา อาตัวเองบอกให้เข้าไปนอน น้องพีก็เข้าไปนอนอย่างว่าง่าย

ทำไมผมต้องคิดมากเพราะเรื่องแค่นี้ด้วย... ผมน่าจะปล่อยความหวั่นใจและความไม่มั่นใจเล็กๆ ให้มันปลิวหายวับไปกับลมที่พัดผ่าน มันอาจจะเร็วเกินไปก็ได้ ผมไม่ควรเร่งรัดคุณหมอมากเกินไป คุณหมออาจต้องการเวลาในการศึกษาดูใจผมมากกว่านี้ มั่นใจเมื่อไหร่คุณหมอคงพาผมไปรู้จักกับครอบครัวของคุณหมอเองแหละ

สักวันนะ...ผมหวังว่าอย่างนั้น

ความรักครั้งใหม่ของผม ทำไมมันทำให้ผมเป็นกังวลได้มากมายถึงเพียงนี้นะ หรือว่าจุดเริ่มต้นความรักของผมครั้งนี้ มันเริ่มแบบผิดรูปแบบไปหน่อย เฮ้อออ...คิดแล้วปวดหัวจังครับ

.
.
.
.
.
.
.

เสียงเอะอะด้านนอกดังเข้ามาในครัว ผมซึ่งกำลังเก็บอุปกรณ์ทำขนมเข้าตู้ต้องรีบวิ่งออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ภาพที่เห็นคือผู้ชายตัวสูงใหญ่ที่กำลังดึงมือเล็กๆ ของหลานคุณหมอให้ลุกจากเก้าอี้ มือเล็กนั้นเกาะทั้งเก้าอี้และโต๊ะไว้แน่น ฝืนตัวเองไว้สุดกำลัง

“คุณจะทำอะไรหลานผม!!” ผมตะโกนถาม ตรงเข้าไปดึงเอาตัวหลานคุณหมอมาไว้ด้านหลัง ใจเต้นโครมคามเพราะกลัวครับ ตอนนี้ทั้งร้านไม่เหลือใครแล้ว ยีนก็เพิ่งกลับไปเมื่อสิบนาทีที่แล้ว

“ไม่ต้องกลัวนะครับน้องพี” ผมพูดปลอบหลานคุณหมอ ใจเริ่มชื้นขึ้น เพราะผู้ชายตัวสูงใหญ่คนนี้สวมสุดสูท แต่งตัวภูมิฐาน ดูไม่น่าจะใช่โจรผู้ร้าย แต่ก็ไม่น่าไว้ใจ หน้าตาเขาดูโกรธๆ ยืนเอามือล้วงกระเป๋า ยักคิ้วสูงเหมือนจะถามว่าผมมาเกี่ยวอะไรด้วย

แต่เอ๊ะ...ทำไมผู้ชายคนนี้หน้าเหมือนคุณหมอจัง หรือว่า...

“จำได้ว่าผมไม่เคยมีน้องชายหน้าตาอย่างนี้”

“เอ่อ...คุณเป็นพ่อของ...” ผมพูดไม่ทันจบก็ถูกพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน

“ครับ ผมเป็นพ่อของพี”

“ขอโทษครับ ผมนึกว่า....” ไม่กล้าบอกครับว่าแวบแรกที่เห็นเขา ผมนึกว่าเป็นโจร

“กลับบ้านกับคุณยะได้หรือยัง?” พ่อน้องพีดูไม่ได้สนใจอะไรผมมากครับ เขาสนใจลูกชายตัวเองที่ยืนซ่อนตัวอยู่ด้านหลังผม มือน้องพียึดชายเสื้อเชิ๊ตผมไว้แน่นจนผมรู้สึกได้ ด้วยเพราะกระดุมเม็ดแรกมันติดอยู่ที่คอผมไปแล้ว

“คุณยะอนุญาตให้ผมนอนกับอานุแล้วนะครับ”

“แต่ตอนนี้คุณยะเปลี่ยนใจ”

“แต่...”

“ไม่มีแต่ ไปเอากระเป๋ามาแล้วกลับบ้านกับคุณยะ อย่าให้คุณยะต้องทำแบบที่เคยทำ”

“ไม่ครับ..ฮึก..ฮึก พีไม่กลับ ฮึก พีไม่กลับ” ร้องไห้ตัวโยนเลยครับหลานคุณหมอ ผมไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างพ่อลูกคู่นี้ ไม่ได้ถามคุณหมอด้วย

“พี่ยะ!!” คิดถึงคุณหมอ คุณหมอก็โผล่มาทันทีครับ ตรงดิ่งมาคว้าตัวหลานชายไปกอดปลอบ หน้าคุณหมอดูโกรธมาก

“จะตะโกนทำไมวะ แล้วนั่น จะโอ๋กันไปถึงไหน โอ๋กันอย่างนี้ไง ฉันถึงแตะต้องอะไรไม่ได้” พี่ชายคุณหมอทำหน้าหงุดหงิด คุณหมอกับพี่ชายหน้าคล้ายกันมาก ผิดกันนิดหน่อยตรงที่พี่ชายคุณหมอจะหน้าเข้มกว่าคุณหมออยู่มาก ส่วนรูปร่างเนี้ยใกล้เคียงกันเลยครับ

“รับปากแล้วไม่ใช่หรือไงว่าจะให้พีนอนกับผม” คุณหมอว่าน้ำเสียงไม่พอใจ มือก็ยังกอดหลานชายตัวไว้อยู่ครับ ส่วนน้องพีไม่ต้องพูดถึงร้องไห้ตัวโยนไปแล้ว

“รับได้ก็เลิกได้เว้ย” พี่ชายคุณหมอพูดแบบพาลๆ แต่น้ำเสียงฟังดูเย็นลงกว่าเดิมมาก ไม่รู้เป็นเพราะไม่อยากทะเลาะกับคุณหมอ หรือเพราะเป็นห่วงลูกชายตัวเองที่ยืนร้องไห้ไม่ยอมหยุด ถึงได้ยอมพยายามข่มอารมณ์เอาไว้

“เอาพีมาให้ฉัน” พี่ชายคุณหมอว่า คุณหมอดันตัวน้องพีออกแล้วส่งให้

“โตแล้วไม่ร้องนะครับคุณดีของคุณยะ”

พี่ชายคุณหมอกอดตัวน้องพี โยกไปมา เหมือนที่คุณหมอชอบทำกับผม

“นายไปเอากระเป๋าของพีมาให้หน่อย ฉันจะพาพีกลับบ้าน”

ผมหันไปมองคุณหมอ กะจะถามว่าจะให้ผมไปเอากระเป๋าน้องพีให้ไหม แต่คุณหมอส่ายหน้าก่อนที่ผมจะถามด้วยซ้ำ แล้วหันไปบอกพี่ชายตัวเองว่า

“ให้พี่ตัดสินใจว่าจะนอนกับใคร”

.
.
.
.
.
.
.
.

หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 01-03-2012 20:23:26
“คุณหมอ”

“ครับ”

“คุณยะกับน้องพีอยู่ข้างนอกครับ” ผมดุเสียงเบาเอากับคนที่นอนอยู่ด้วยกัน พลางดันหน้าที่ซุกไซ้ตรงแถวหน้าอก ดึงมือที่ลูบอยู่แถวขอบกางเกงออกให้ห่างตัว ก่อนเข้านอนก็พูดกันรู้เรื่องแล้วแท้ๆ นะคุณหมอนี่

“ผมคิดถึงคุณฟ้าจะแย่อยู่แล้วนะครับ” คุณหมอว่า ถึงจะปิดไฟแล้วแต่ผมก็เห็นหน้างอๆ ของคุณหมดได้ครับ

“ผมก็คิดถึงคุณหมอนะครับ แต่มันไม่เหมาะ” ผมบอก ใครจะกล้าให้ความร่วมมือด้วยล่ะ ในเมื่อมีคนอื่นนอนอยู่ข้างนอก เกิดมีเสียงลอดออกไป ตอนเช้าสู้หน้าไม่ได้พอดี

คุณหมอทิ้งตัวลงนอนก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด ปากหนากดจูบที่หน้าผากของผม แช่อยู่นานครับกว่าจะปล่อย

“27 คืนจนได้” พูดแล้วมีถอนหายใจครับ ผมเนี้ยอดยิ้มไม่ได้ คุณหมอเป็นคนที่ดูแต่ภายนอกไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้ใกล้ชิดจนกลายเป็นคนเดียวกันอย่างทุกวันนี้ ผมก็คงคิดว่าคุณหมอเป็นหมอหมาที่สุภาพ สุขม น่านับถือ คงไม่มีวันรู้เด็ดขาดว่าข้างในน่ะหื่นมาก

“26 คืนต่างหาก คืนนี้ก็ได้นอนกอดผมแล้วนี่ครับ” ผมแกล้งท้วง ทั้งที่รู้นะครับว่า 27 คืนน่ะ มันหมายถึง 27 คืนที่เราสองคนไม่มีอะไรกัน คิดแล้วก็เขิน ใช่ว่าคุณหมอคนเดียวเมื่อไหร่ที่ “อยากรัก” ผมก็ “อยากถูกรัก” เหมือนกันนะ อายจังแต่มันก็เป็นเรื่องของธรรมชาตินี่น่า คนรักกันก็อยากจะ “รัก” กันอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา

“ครับ 26 คืนที่ไม่ได้กอด แต่มันเป็น 27 คืนที่ผมไม่ได้เข้าไปในตัวคุณฟ้า” คุณหมอว่าเสียงเบาอยู่ใกล้หูของผม พร้อมกับรั้งตัวผมเข้าไป ก่อนที่มือใหญ่จะสัมผัสเข้ากับสะโพกด้านหลังของผม เคล้นเบาๆ แล้วเพิ่มแรงมากขึ้น

“ไม่เอาคุณหมอ” ผมดึงมือดื้อด้านนั้นออก เอามันไปวางคืนให้กับเจ้าของที่ตีหน้ายุ่งเพราะชักชวนผมไม่สำเร็จ

“ใจร้าย”

“เกรงใจพี่ชายคุณหมอ แล้วก็น้องพีด้วย” ผมบอกคำเดิมที่บอกไปก่อนหน้านี้

“นี่ผมอดกอดคุณฟ้าเพราะพี่ชายตัวเองใช่ไหมเนี้ย” คุณหมอบ่นพึมพำ แล้วหลับตาลง

ย้อนไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน ตอนที่คุณหมอถามหลานชายตัวเองว่าจะนอนกับใคร น้องพียืนยันคำเดิมครับว่าจะนอนกับคุณหมอ ผมนึกว่าเรื่องจะจบแค่นั้น ที่ไหนได้กลายเป็นว่าคุณยะพี่ชายของคุณหมอขอตามมานอนด้วย คุณหมอไม่ยอมแต่ฝ่ายพี่ชายดื้อจะตามมาให้ได้ แล้วก็ตามมาจนได้ครับ เรื่องเลยกลายเป็นอย่างที่รู้กัน สองพ่อลูกนอนอยู่ข้างนอก ผมไม่ใช่เจ้าของบ้านที่ใช้ไม่ได้นะครับ ตอนแรกผมจะยกห้องนี้ให้คุณยะกับน้องพีนอนด้วยกัน แต่ฝ่ายนั้นปฏิเสธเพราะเกรงใจ 

ผมไม่รู้ว่าพี่ชายคุณหมอจะสงสัยไหมว่าทำไมเสื้อผ้าของน้องชายเขาถึงมีอยู่ในตู้เสื้อผ้าของผมเยอะแยะ เมื่อคุณหมอหยิบเสื้อผ้าของตัวเองให้พี่ชายใส ข้าวของเครื่องใช้ในห้องหายชิ้นก็บ่งบอกว่ามันเป็นของคุณหมอ ร่วมถึงในห้องน้ำทั้งสองห้องนั้นด้วย แล้วทำไมน้องชายเขาถึงเข้านอกออกในคอนโดนี้ได้ง่ายๆ ทั้งที่เขาน่าจะรู้นะครับว่าผมกับคุณหมอไม่ได้เป็นเพื่อนกันมาก่อนหน้านี้ และที่สำคัญเขาไม่ถามอะไรผมกับคุณหมอเลยสักคำว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน เขาพูดคุยกับผมเหมือนคนเคยรู้จักแล้วอย่างนั่นเลยครับ

เขาไม่ถาม ไม่ได้ทำหน้าสงสัยอะไรเลยด้วยซ้ำตอนที่คุณหมอเดินตามผมเข้ามานอนในห้องด้วยกัน หรือว่าคุณหมอบอกเรื่องนี้กับพี่ชายคุณหมอไปแล้ว ดีใจครับ ดีใจจริงๆ ถ้าสิ่งที่ผมคิดเป็นความจริง อย่างน้อยๆ เรื่องของผมก็ไม่เป็นความลับมากไปนัก

“คุณหมอ” ผมสะกิดตรงกล้ามหน้าท้องของคุณหมอ ผ่านเสื้อที่คุณหมอสวม ความดีใจทำให้ผมมีความสุข จนอยากทำให้คุณหมอมีความสุขไปด้วยกัน บางทีถ้าผมกลั้นเสียงตัวเองไว้ในตอนที่เรากำลังมีความสุขกัน มันอาจจะไม่ดังมากจนลอดออกไปให้คนข้างนอกได้ยินก็ได้มั้งนะครับ

“ครับ” คุณหมอลืมตาขึ้นมามองผม ทำหน้าสงสัยนิดหน่อยว่าผมเรียกทำไม

“คือ....” ผมจะพูดยังไงดีล่ะ เขินตัวเองนะที่จะต้องเอ่ยปากชวนคุณหมอมา ‘ทำรัก’ กัน

“คืออะไรครับ” คุณหมอถาม ปากหนาจุ๊บลงมาที่ปากของผมเบาๆ อยู่สองสามที ไม่ได้ล้วงล้ำเข้ามาข้างในคงกลัวจะห้ามตัวเองไม่ได้ จะมาห้ามตัวเองทำไมตอนนี้ก็ไม่รู้ ถ้ารุกเข้ามานะ ผมจะได้มีข้ออ้างให้กลายเป็นเรื่องเลยตามเลย จะไม่ห้ามไม่ขัดขืนเหมือนก่อนหน้านี้หรอก

“ทำกันไหมครับ” ผมทำใจกล้าหน้าด้านถาม อายตัวเองมาก แต่ก็ไม่ยอมหลบสายตาแวววับของคุณหมอที่เห็นได้ชัดเจนในความมืด

“ครับ”

คุณหมอยิ้มกว้างทำให้ความอายของผมลดลงแทบจะกลายเป็นศูนย์ ผมรั้งต้นคอหนาเข้ามาใกล้ มอบสัมผัสจากปากของตัวเองสู่กลีบปากหนา เริ่มต้นรุกไล่เข้าไปเบื้องหลังปากนั้น เชิญชวนอย่างที่เคยทำมาบ้างแล้วในหลายๆ ครั้ง  แล้วร่างกายที่หนากว่าผมก็ขยับขึ้นมาคล่อมทับผมเอาไว้ ขณะที่ปากของเราสองคนยังไม่ทำหน้าที่อย่างหนักหน่วง

‘อ๊ะ....’

‘...อ่าา’

เสียงนั้นที่ผมได้ยิน ไม่ใช่เสียงของตัวเองและไม่ใช่เสียงของคุณหมอ เราสองคนยังไม่ได้เดินทางไปถึงตรงจุดนั้น มันดังแผ่วเบาลอดเข้ามาให้ผมกับคุณหมอได้ยิน ถึงไม่ชัดนักแต่เราสองคนก็ได้ยิน

ผมกับคุณหมอเราผละออกจากกันอย่างช้าๆ แล้วลุกขึ้นนั่ง ต่างคนต่างนิ่ง ผมแทบไม่กล้าขยับตัว กลัวจะเกิดเสียงที่ดังรบกวนเสียงด้านนอกที่ลอดเข้ามา ผมไม่กล้าสงสัยว่ามันเป็นเสียงที่เกิดจากอะไร ในเมื่อผมพอจะรู้ว่ามันเป็นเสียงที่เกิดจาก...

...เกิดจากสิ่งที่ผมกับคุณหมอกำลังจะทำร่วมกัน

เสียงมันลอดเข้ามาจากข้างนอก ข้างนอกที่มีพี่ชายและหลานชายของคุณหมอ มีแค่คนสองคนอยู่ตรงนั้น ผมไม่อยากจะคิด แต่ห้ามความคิดของตัวเองไว้ไม่ได้

“คุณหมอ” ผมแตะเข้าที่แขนคุณหมอ เมื่อเสียงนั้นเงียบหายไป เสียงที่เบามากแต่เราสองคนก็ตั้งใจฟังจนแน่ใจว่ามันคือเสียงอะไร

“อย่าเพิ่งออกไปเลยครับ” ผมเปลี่ยนจากแตะแขนคุณหมอเป็นรั้งแขนแข็งแกร่งนั้นเอาไว้ เพราะคุณหมอทำท่าจะลุกออกจากเตียงไป

“รออีกนิดนะครับ เผื่อว่า....” ผมไม่ได้พูดต่อนะครับว่าต้องเผื่อเวลาไว้ด้วยสาเหตุใด ถ้ามันเป็นความจริง ยังไงมันก็เป็นเรื่องจริงอยู่แล้วครับ คิดเป็นอื่นไม่ได้เลย ออกไปตอนนี้อาจจะไม่เหมาะสม สภาพของคนสองคนคงยังไม่พร้อม

ผมเอื้อมมือไปกดสวิซไฟ แสงจากโคมไฟบนโต๊ะข้างเตียงสว่างขึ้น ฉายให้เห็นความกังวลใจบนใบหน้าของคุณหมอ คุณหมอนั่งเงียบ ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา ผมรู้ว่าคุณหมอคงอึ้งกับเสียงที่ได้ยิน ความคิดของคุณหมอคงวิ่งวุ่นวายกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ด้านนอก

ผมยื่นมือไปกุมมือคุณหมอเอาไว้ ไม่รู้จะพูดหรือถามอะไรเหมือนกัน กลัวจะไปกระทบจิตใจของคุณหมอ ความสัมผัสลึกซึ้งระหว่างผู้ชายด้วยกันเอง ไม่ใช่เรื่องผิดแผกหรือผิดปกติอะไรในความคิดของผม เพราะความรักเป็นเรื่องของหัวใจของคนสองคน ไม่ใช่ตัวหนังสือที่กำหนดว่าชายต้องคู่กับหญิงเพียงเท่านั้น แต่ที่ผมเป็นห่วงคุณหมอคือเรื่องที่คนสองคนข้างนอกอยู่ในฐานะพ่อกับลูก มันไม่สมควรเกิดขึ้นเลยใช่ไหมครับ

“ผมไม่เป็นไรครับ” คุณหมอหันมายิ้มฝืดๆ ให้ผม มือที่ผมกุมไว้เลื่อนขึ้นมากุมมือผมแทน

คุณหมอลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ หลังจากเวลาผ่านไปนานแล้วแต่ไม่รู้ว่านานกี่นาที ผมไม่ได้ดูเวลาแต่น่าจะสิบกว่านาทีได้แล้ว

ไฟหน้าจอสีเหลี่ยมในมือคุณหมอสว่างขึ้น ก่อนที่คุณหมอจะยกมันขึ้นแนบใบหู

“พอจะคุยกับผมได้ไหม” คุณหมอพูดกับคนที่คุณหมอโทรหา ไม่ต้องบอกใช่ไหมครับว่าคนๆ นั้นคือใคร

.
.
.
.
.
.

ผมเดินกลับมาที่เตียงหลังจากกดปิดสวิซไฟข้างพนัง ห้องไม่ได้มืดมากเพราะยังมีแสงนวลตาจากโครมไฟบนโต๊ะข้างเตียงนอน ผมทิ้งตัวลงนอนข้างใครอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่คุณหมอ

ครับ...คนนั้นคือน้องพีหลานชายคุณหมอ

คุณหมออุ้มน้องพีที่สะอื้นไห้เอากับอกคนเป็นอาเข้ามาในห้องหลังจากที่เปิดประตูออกไปได้ไม่ถึงถึงนาที ตอนนี้น้องพีหลับไปแล้ว ผมสงสารนะครับ สงสารมาก ตัวเล็กๆ แสนเปราะบางเหมือนจะแตกให้ได้ตอนที่คุณหมออุ้มมาวางไว้ที่เตียง แกร้องไห้กอดคุณหมอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย คุณหมอต้องนั่งกอดและปลอบอยู่นานกว่าจะหยุดร้องไห้ ไม่เชิงหยุดร้องหรอกครับ น่าจะร้องจนหมดแรงแล้วหลับคาอกของคุณหมอมากกว่า

ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงกันบ้าง ทั้งคุณหมอกับคุณยะพากันออกไปคุยกันที่ไหนไม่รู้ แต่น่าจะเป็นด้านล่างของคอนโดมั้งครับ ตีหนึ่งเกือบตีสองแล้วด้วยครับตอนนี้ คงไม่ออกไปไหนไกล

มองแผ่นหลังเล็กๆ ตรงหน้าแล้วก็สงสาร มันไม่ใช่เรื่องเล็กเลยนะครับ พ่อกับลูกกับความสัมพันธ์ที่ผิดรูปแบบ แล้วเรื่องต่อจากนี้จะเป็นยังไงต่อไป ไม่กล้าคิดเลยครับ

.
.
.
.
.
.
.

“โอยยยย....”

เจ็บสะโพกแล้วก็ตื่นเต็มตาเลยครับตอนนี้ ผมนอนตกเตียงครับ ไม่บ่อยที่ผมจะนอนตกเตียง ปีหนึ่งเกิดขึ้นครั้งหรือสองครั้งเอง เพราะคนที่นอนด้วยจะเป็นคนตกเองซะมากกว่า แต่เช้าวันนี้กลับเป็นผม แน่ล่ะเพราะผมไม่ได้นอนอยู่ตรงกลางเตียง แล้วก็ไม่ได้มีคุณหมอคอยกอดเอาไว้ให้อาการนอนดิ้นลดความรุนแรงลง เมื่อคืนผมขยับมานอนขอบเตียง ไม่กล้านอนใกล้หลานคุณหมอมาก กลัวจะนอนดิ้นแล้วถีบน้องพีตกเตียง  เลยกลายเป็นว่าผมนอนตกเตียงเสียเอง

“ตื่นแล้วเหรอครับน้องพี” ผมถามตอนที่ยัดตัวลุกขึ้นยืน กะจะล้มตัวลงนอนอีกครั้งเพราะเหลือบดูนาฬิกาแล้วเพิ่งจะหกโมงเช้าเอง นอนต่อได้อีกชั่วโมงเลย ลุกขึ้นมาเจอน้องพีที่นอนตะแคงหน้ามองมาทางผม

“ครับ” น้องพีตอบเสียงเบามากแทบไม่ได้ยิน ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง คอเสื้อกว้างที่ตกลงมาถึงหัวไหล่เล็กๆ ทำให้เห็นผิวเนื้อที่เป็นจ้ำสีเข้มตัดผิวขาวจัด ผมเป็นคนขาวนะครับแต่เทียบกับหลานคุณหมอแล้ว ผมสู้ไม่ได้เลย

“....” น้องพีคงรู้ตัวว่าผมมองรอยที่โผล่พ้นคอเสื้อออกมา เจ้าตัวถึงได้ค่อยๆ ดึงคอเสื้อให้ชิดคอ ก้มหน้าหนีสายตาของผม รู้สึกผิดจังครับ ไม่น่าเผลอมองรอยพวกนั้นเลย มันคงไปกระตุ้นให้นึกถึงเรื่องที่ทำให้เกิดรอยนั้น

“อาฟ้าครับ” จู่ๆ น้องพีก็เงยหน้าขึ้นมาพูดกับผม หลังจากที่ก้มหน้านิ่งนั่งเงียบไปสักพัก

“ครับ” ผมทิ้งตัวลงนั่งขัดสมาธิบนเตียง ตั้งใจฟังว่าน้องพีจะพูดอะไร เพราะสีหน้าของเจ้าตัวดูเหมือนจะมีเรื่องอยากถามผม

“อาฟ้า...เป็นแฟนอานุหรอครับ”

คำถามนี้ผมควรจะตอบว่าไงดีล่ะ

...ใช่ครับ...

...ไม่ใช่ครับ...

ถ้าผมตอบ คำตอบของผมจะมีผลกระทบต่อคุณหมอไหม

“น้องพีหิวข้าวหรือยังครับ ถ้าหิวอาจะลงไปซื้อให้” ผมเลือกถามแทนที่จะตอบ ไม่ใช่อยากจะปิดบังอะไรหรอกนะครับ ผมอยากบอกให้ทุกคนรู้ด้วยซ้ำไปว่าผมกับคุณหมอคบกันในฐานะอะไร ผมไม่อายที่จะบอกใครต่อใครว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่กรณีของน้องพีที่ถามผมมา ผมไม่กล้าตอบ กลัวน้องพีเอาไปบอกทางบ้านของคุณหมอ แล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ หากคุณหมอต้องการปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แม้ว่าผมจะมั่นใจนิดๆ ว่าพี่ชายคุณหมอน่าจะรู้เรื่องของผมกับคุณหมอบางแล้วก็ตาม

ผมลืมคุณหมอไปเลย เมื่อคืนก็ไม่ได้กลับเข้ามานอนในห้อง หรือว่าจะนอนกับพี่ชายตัวเองข้างนอก

“ผมยังไม่หิวครับ” น้องพีตอบผม ก่อนจะก้มหน้า หัวคิ้วที่ผมเห็นมันกำลังชนกัน มือเล็กประสานกันแน่นวางบนตัก คล้ายกำลังคิดอะไรอยู่

“อาฟ้า...”

เป็นอีกครั้งที่น้องพีเงยหน้าขึ้นมาแล้วพูดในสิ่งที่ผมไม่ได้ถาม

“ผมกับคุณยะ...”

ผมกำลังรอฟัง รอฟังสิ่งที่เจ้าของกระบอกตารื้นน้ำใสๆ กำลังจะพูดออกมา

“...ผมไม่ใช่...”

มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาที่ทะลักออกมา พยายามกลั้นเสียงสะอื้นลงคอ เพื่อจะพูดในสิ่งที่อยากบอกกับผม

“...ผมไม่ใช่ลูกของคุณยะ...ฮึก...ฮึก...”

ไม่ใช่ลูก...

น้องพีไม่ใช่ลูกของพี่ชายคุณหมอ...

ผมควรจะหมดห่วงหรือควรจะยังเป็นห่วงคนแสนเปราะบางคนนี้อยู่ครับ

.
.
.
.
.
.
.
.

ผมกำลังวางสตรอเบอร์รี่ลูกพอดีคำสีสดน่ากัดบนซีสเค้กที่แต่งหน้าเรียบร้อยแล้ว เมื่อมือใหญ่คุ้นเคยสอดเข้ามาโอบรอบเอวผม ก่อนแก้มจะสัมผัสถึงรอยจูบ

“อะ..โอยยย” เสียงครางเบาๆ จากคุณหมอ ตอนที่ผมหันหน้าไปชนเข้ากับมุมปากที่เป็นรอยช้ำสีม่วงอมเขียวอมแดง

“ขะ...ขอโทษครับคุณหมอ” รู้สึกผิดที่ทำให้คุณหมอเจ็บ

“ไม่เป็นไรครับ” คุณหมอว่า ลดมือที่จับมุมปากตัวเองลง แล้วเอามากอดผมเหมือนเดิมอีกครั้ง

เมื่อคืนคุณหมอกับพี่ชายไม่ได้กลับมานอนที่คอนโด คุณหมอบอกว่าขับรถออกไปคุยกันที่คลินิกจนถึงเช้า แต่กว่าจะคุยกันรู้เรื่องก็ชกกันไปหลายหมัด รอยช้ำตรงมุมปากด้านซ้ายของคุณหมอถือว่าน้อยมากถ้าเทียบกับรอยช้ำบนหน้าของพี่ชายคุณหมอ แล้วหลายหมัดที่ว่าคงเป็นหมัดของคุณหมอมากกว่า

“อย่างนี้ก็จูบกันไม่ได้แล้วสิครับ” ผมพูดแหย่ คุณหมอนี่ตาวาวเลยครับ ผมนึกว่าจะทำหน้าผิดหวังเสียอีก

“ทนได้ครับ” คุณหมอว่า ผมยังไม่เข้าใจ มองมือคุณหมอที่หยิบลูกสตรอเบอร์รี่ขึ้นมาใส่ปาก เคี้ยวและกลืนลงคอ แล้วจึงค่อยๆ เข้าใจเมื่อลิ้นร้อนกำลังทำงานอยู่ในปากผม

“อืมม.....” จูบรสสตรอเบอร์รี่หวานมากครับ หวานจนไม่อยากให้คุณหมอหยุด

จูบกับคุณหมอทีไร ผมรู้สึกมีความสุขมากครับ

“เห็นไหมครับว่าจูบได้” คุณหมอยิ้มแล้วบอก น้ำเสียงมีความสุข มีความสุขเหมือนผมนั่นแหละ

“เห็นครับ” ผมยิ้มตอบ ไม่ได้หลบตาแวววับอะไรของคุณหมอหรอกครับ ชินแล้ว ไม่เขินแล้วด้วย มีความสุขด้วยซ้ำที่ได้มองสบตากับคุณหมอ สายตาหวานๆ ที่มีให้ผม ทำให้ผมมีความสุขมากจนลืมความกังวลในทุกๆ อย่าง

“แต่เสียดาย จูบได้ กอดได้ แต่มากกว่านี้ไม่ได้”

ท่าทางจะเสียดายจริงครับ หน้าตานี้เศร้าเลย เหตุมันเป็นเพราะเรื่องของพี่ชายกับหลานชายของคุณหมอนั่นล่ะครับ คุณหมออยากให้พี่ชายไปเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อย ไม่อยากให้เข้าใกล้น้องพีในช่วงนี้ เพราะน้องพีก็ยังเด็ก คุณหมอเลยปกป้องหลานชายด้วยการเอามาอยู่ใกล้ๆ ตัวเอง หมายถึงว่าทุกคืนน้องพีจะต้องนอนกับคุณหมอ เพราะคุณหมอไม่ไว้ใจพี่ชายตัวเองแล้ว กลัวจะทำอะไรน้องพีในทำนองนั้นอีก ครั้นจะพากันมานอนที่คอนโดผมก็ไม่สะดวกนัก คุณหมอเลยเลือกจะกลับไปนอนที่บ้านสักพัก พอจัดการทุกอย่างให้ลงตัวได้เลยจะกลับมาอยู่กับผมเหมือนเดิม ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่

“เป็นลูกผู้ชายต้องอดทนครับ”

นั่นสิครับ เป็นลูกผู้ชายต้องอดทน รวมถึงผมด้วยครับ ผมก็ต้องอดทน ทนที่จะไม่มีอ้อมกอดอุ่นๆ ให้ซุกในเวลาค่ำคืน ผมอยากทิ้งตัวและทิ้งหัวใจลงสู่อ้อมกอดอุ่นๆ นั้นตลอดไปเลยด้วยซ้ำ แต่คนเราไม่สามารถได้ในทุกสิ่งที่ต้องการครับ ผมต้องเสียสละมันไปบ้าง

“พี่หมอคะ คุณลมมาหาค่ะ” ยีนชะโงกหน้าเข้ามาบอก ก่อนจะถอยออกไป

ถ้าผมยังไม่รู้เรื่องของคุณหมอกับคุณลม ผมคงไม่รู้สึกอะไรอย่างที่เป็นในตอนนี้ มันรู้สึกหวั่นไหว แล้วก็หวงขึ้นมาทีละนิด
อยากจะดึงแขนคุณหมอที่กำลังเดินพ้นกรอบประตูออกไปเอาไว้ ไม่ยอมปล่อยให้ไปหาถ่านไฟเก่า แต่ผมทำได้เพียงแค่คิด
 เมื่อแผ่นหลังของคุณหมอหายลับไปจากกรอบประตูหลายนาทีแล้ว

>>>>> Happy Na Ka <<<<<

เย้ๆๆๆๆๆ อบขนมรัก...เชิญครับ มาให้ชิมแล้วนะคะ รับชิม รับชม รับอ่านไปด้วยกันเลย
ขอบคุณที่ยังติดตามเรื่องรัก...เชิญครับ นะคะ ^______________^
ปล. ฝากเรื่องสั้นของคนแต่งไว้อีกเรื่องนะคะ
เรื่องนี้เลย มึงมันคนถูกทิ้ง http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31899.0
เรื่องสั้นที่เอาไว้เขียนสลับกับเรื่องยาว เป็นการพักสมองไปในตัวด้วย
เขียนสลับกัน สมองจะได้ไม่จมอยู่กับเรื่องเดียว อิอิ

บับบาย...
สีเหลืองอ่อน // aeaw

 

 

 

 

 
 

หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 01-03-2012 21:01:25
อ่านจบกระโดดถีบคุณยะ
อิบร้าาาาาาาาาาาาาาา ทำกับน้องพีได้ยังไง

ขอเป็นแม่ยกน้องพีนะคะนาทีนี้ปกป้องน้องสุดพลัง
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 01-03-2012 21:07:18
คุณฟ้าอย่าไปเชื่อนังน้องยีนมันมากนะคะ

แล้วจะเกิดเรื่องไหมเนี่ย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 01-03-2012 21:36:13
อ่านตอนแรกแล้วพาเครียดเลย ถึงว่าพ่อจะหวงลูกอะไรขนาดนั้น
แล้วก็โล่งใจ คุณยะกินเด็ก
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 01-03-2012 22:25:53
ว่าแล้วเชียว ว่าทำไมไม่เรียกว่าพ่อ แต่เรียกคุณยะเนี่ย

ปล. สรุปเรื่องนี้เราอยากรู้รายละเอียดหลายคู่มากเลย ทั้งนนท์แดน และคุณยะน้องพี
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 01-03-2012 22:32:26
มารอจ้า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 02-03-2012 06:14:41
สงสารน้องพี
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 02-03-2012 09:42:06
อีกคู่นี่...แรงได้อีก....เหอะๆๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: POPEA ที่ 02-03-2012 10:19:31
 :z13:
รอตอนใหม่ๆ จ้า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 02-03-2012 11:40:23
 :เฮ้อ:  สงสารน้องพี  :sad4:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 02-03-2012 12:15:06
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: poppyk ที่ 02-03-2012 12:57:04
เห้ยย!!เอาจริงๆเลยนะ ชอบคู่ยะพีอ่ะ ชอบๆแนวนี้ ขอตอนพิเศษยะพีบ้างงงงงง~  5555
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 02-03-2012 14:00:04
คู่ที่คาดไม่ถึง^0^

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ทะเลหัวใจ ที่ 02-03-2012 20:20:30
อ๊ากกกกก ตามอ่านมาหลายวัน(ต้องค่อยๆอ่านค่ะเพราะงานเยอะ อิอิ)

ในที่สุดก็ทัน แอบสารภาพนิดนึงว่าอ่านคุณตินคุณลมได้ไม่กี่ตอนแล้วก็หยุดอ่านไปเพราะลืมเซฟลิ้งค์ค่ะ ฮาาาา :z6:

มาอ่านอีกทีเลยข้ามมาอ่านคู่ที่สองค่ะ อร้ายยยยย คุณหมอกะคุณฟ้า น่าฮักแต๊ๆเจ้า

หวานมากมายแล้วคุณฟ้าก็ใจดีสมแล้วที่คุณหมอจะหลง จนมาถึงตอนที่แล้วอ่ะค่ะที่น้องพีโผล่มา

เราก็เริ่มได้กลิ่น(???)555 คือเราจิ้นไปก่อนว่าคุณยะกับน้องพีต้องมีซัมติงไม่ใช่พ่อลูกกันแน่ๆแล้วพอมาตอนนี้แบบว่ากรี๊ดมากกกก

ชอบคู่นี้ จะเอาๆๆๆๆๆๆ อย่าลืมเอามาฝากบ้างนะคะ

คุณคนเขียนแต่งเก่งมากเลย ภาษาก็สวย อ่านเพลินมากมายค่ะ ยังไงก็สู้ๆนะคะ เค้าจะรออัพน๊าาา


ปล นิดนึงคือถ้าเราอยากจะแนะนำอะไรนิดหน่อยได้ไหมอ่ะค่ะ อย่าโกรธเค้าน๊าาาา คือว่าสรรพนามตอนที่คุณหมอกับคุณอิงคุยกันอ่ะค่ะ บางทีก็ฉันบางทีก็แกบางทีก็นาย อืม เราว่าเพื่อนผู้ชายคุยกันมันน่าจะกู มึง กร้ากกกก ไม่ใช่แระ คุณหมออกจะผู้ดี

คือมันน่าจะระดับเดียวกันอ่ะค่ะ แกก็แก นายก็นาย แต่ว่าก็อย่าคิดมากนะคะเราก็เพ้อไปเรื่อย ยังไงเราก็อ่านอยู่ดีแหละ อิอิ :-[

เป็นกำลังใจให้จ้าาาาา
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 02-03-2012 20:32:41
อ๊ากกกกก ตามอ่านมาหลายวัน(ต้องค่อยๆอ่านค่ะเพราะงานเยอะ อิอิ)

ในที่สุดก็ทัน แอบสารภาพนิดนึงว่าอ่านคุณตินคุณลมได้ไม่กี่ตอนแล้วก็หยุดอ่านไปเพราะลืมเซฟลิ้งค์ค่ะ ฮาาาา :z6:

มาอ่านอีกทีเลยข้ามมาอ่านคู่ที่สองค่ะ อร้ายยยยย คุณหมอกะคุณฟ้า น่าฮักแต๊ๆเจ้า

หวานมากมายแล้วคุณฟ้าก็ใจดีสมแล้วที่คุณหมอจะหลง จนมาถึงตอนที่แล้วอ่ะค่ะที่น้องพีโผล่มา

เราก็เริ่มได้กลิ่น(???)555 คือเราจิ้นไปก่อนว่าคุณยะกับน้องพีต้องมีซัมติงไม่ใช่พ่อลูกกันแน่ๆแล้วพอมาตอนนี้แบบว่ากรี๊ดมากกกก

ชอบคู่นี้ จะเอาๆๆๆๆๆๆ อย่าลืมเอามาฝากบ้างนะคะ

คุณคนเขียนแต่งเก่งมากเลย ภาษาก็สวย อ่านเพลินมากมายค่ะ ยังไงก็สู้ๆนะคะ เค้าจะรออัพน๊าาา


ปล นิดนึงคือถ้าเราอยากจะแนะนำอะไรนิดหน่อยได้ไหมอ่ะค่ะ อย่าโกรธเค้าน๊าาาา คือว่าสรรพนามตอนที่คุณหมอกับคุณอิงคุยกันอ่ะค่ะ บางทีก็ฉันบางทีก็แกบางทีก็นาย อืม เราว่าเพื่อนผู้ชายคุยกันมันน่าจะกู มึง กร้ากกกก ไม่ใช่แระ คุณหมออกจะผู้ดี

คือมันน่าจะระดับเดียวกันอ่ะค่ะ แกก็แก นายก็นาย แต่ว่าก็อย่าคิดมากนะคะเราก็เพ้อไปเรื่อย ยังไงเราก็อ่านอยู่ดีแหละ อิอิ :-[

เป็นกำลังใจให้จ้าาาาา

รีบกระโดดออกมา แทบไม่ทัน ที่เห็น คนแต่งในดวงใจมาเม้นท์   (ไม่ใช่คนแต่งแต่ก็กรี๊ด ทะเลหัวใจออกนอกหน้านอกตา 555)
 บวก 1 ให้ไปเลย  อ้อ ทุกๆคนด้วยนะค่ะที่มาเม้นท์ตอนนี้
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mahmeow ที่ 05-03-2012 01:45:19
คุณหมอกับคุณฟ้าน่ารัก...คู่นี้น่ารักจังคะ..

ถ้าฟ้าดึงคุณหมอไว้ไม่ให้ไป...คุณหมอต้องดีใจตัวลอยแน่ๆ..55+

น้องพีก็น่ารัก...ชอบตอนเค้าเรียกว่าอาฟ้า...ทั้งน่ารักทั้งน่าสงสารเลย..

เชียร์คู่น้องพีกับคุณยะ..แต่อยากให้น้องโตเร็วๆเน้อ...^ ^
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 05-03-2012 03:58:45
คุณยะเป็นโชตะค่อน  :m30:


ถ้ารู้ความจริง คุณหญิงแม่คงเป็นลมแล้วเป็นลมอีก  :laugh3:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 05-03-2012 08:22:21
สงสารน้องพีจัง

คุณฟ้าคิดมากทำไม ดูตินสิ หวงลมขนาดนั้น 55
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 08-03-2012 22:59:35
ยำใหญ่ใส่สารพัดจริง ๆ กี่คู่แล้วนี่
แต่ละคู่กว่าจะลงเอยกันได้ ต้องซดน้ำตาต่างข้าว
สงสารน้องพี ยังเด็กอยู่เลย
ชอบตอนวาเลนไทน์ น้องลมน่ารักที่สุด

หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 23 ความรักร้อนนัก {1/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 10-03-2012 15:25:50
สงสารน้องพี และสงสารฟ้าด้วย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 10-03-2012 19:11:04
ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ?


“สนใจหรอครับพี่หมอ”

ผมแอบสะดุ้งตอนที่น้องลมยื่นหน้าจากด้านหลังมาถาม เมื่อครู่เจ้าตัวยังยืนเลือกต่างหูเป็นของขวัญวันเกิดให้น้องแพทอยู่อีกด้านหนึ่ง ไม่รู้ว่ามายืนอยู่ด้านหลังผมตอนไหน มีถุงเล็กๆ ถืออยู่ในมือ คาดว่าคงซื้อเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“น่ารักดีนะครับ เหมาะกับคุณฟ้าดี” น้องลมคงเห็นว่าผมมองไปที่สร้อยเส้นเล็กคล้อยจี้รูปหัวใจฝังเพชรเม็ดเล็กสามเม็ดในตู้โชว์ ทั้งตัวสร้อยและตัวจี้เป็นทองชมพู ตามคำบอกของพนักงานสาวของร้านเมื่อหลายนาทีก่อน 

“น่ารักครับแต่พี่หมอไม่รู้ว่าคุณฟ้าจะชอบหรือเปล่า” เพราะดูแล้วมันเหมาะกับผู้หญิงมากกว่า แล้วคุณฟ้าไม่ใช่ผู้ชายตัวเล็กเหมือนน้องลม สูงเกือบจะเท่าผมด้วยซ้ำ แต่เพราะผอมเลยทำให้ดูตัวเล็กกว่าผมมาก แต่ยังไงผมก็เกรงว่าจะไม่เข้ากับคุณฟ้า

“ลมว่าต้องชอบแน่ๆ ออกจะน่ารัก  ผมขอดูเส้นนี้หน่อยครับ” น้องลมว่า พลางหันไปบอกพนักงานให้หยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ผมให้เธอหยิบมาให้ดูรอบหนึ่งแล้ว

“น่ารักออก เนื้อเป็นทองสีชมพูด้วย”

น้องลมพูดถูกครับ มันน่ารักมาก ครั้งแรกที่เห็นก็นึกถึงคุณฟ้าขึ้นมาทันที

“มันเป็นสร้อยผู้หญิง พี่หมอกลัวจะไม่เหมาะกับคุณฟ้า” ผมบอกน้องลมไปตามความจริง น้องลมทำหน้ายุ่งนิดหน่อย บอกให้รู้ว่าไม่ชอบความคิดของผมมากนัก

“ความรักยังไม่จำกัดเพศเลยครับ แล้วมานับประสาอะไรกับสร้อย” น้องลมว่า แล้วยืนสร้อยที่คล้อยจี้หัวใจมาให้ผม

“พี่หมอใส่ให้ลมหน่อย ลมเป็นหนูทดลองให้จะได้รู้ไงว่าเหมาะหรือเปล่า” ว่าแล้วน้องลมก็หมุนตัวกลับเพื่อให้ผมสวมสร้อยให้ ผมทำตามคำบอก ติดตะขอเสร็จ น้องลมก็หันหลังกลับมาให้ดู แหวกคอเสื้อให้ลึกขึ้นอีกนิด (น้องลมใส่เสื้อเชิ๊ต) ให้ผมเห็นตัวจี้ที่อยู่บนหน้าอกด้านบนชัดขึ้น

“เป็นไงบ้างครับ ดูดีใช่ไหมล่ะ” น้องลมถาม คำตอบคือใช่ครับ พอมันมาอยู่บนคอน้องลม ดูน่ารักมาก แต่ผมกลับคิดไปถึงอีกคนหนึ่ง ถ้าเป็นคุณฟ้าน่าจะน่ารักกว่านี้อีกหลายเท่า

“ครับ”

“งั้นเอาเส้นนี้ครับ” น้องลมหันไปบอกพนักงานของร้านที่ยืนยิ้มอยู่หลังเคาน์เตอร์ โดยไม่ถามความเห็นผมเลยว่าจะซื้อหรือเปล่า แต่ถึงไม่ถามผมก็ตัดสินใจแล้วว่าจะซื้อ

“เห็นไหมล่ะพี่หมอ หนีงานมาเป็นเพื่อนลมไม่เสียเปล่าเลย ได้สร้อยแทนใจไปฝากคุณฟ้าด้วย”

จริงครับ ไม่เสียเปล่าเลยที่ทนลูกตื้อของน้องลมไม่ไหว จนต้องฝากเวรไว้กับพี่กานต์ มาเป็นเพื่อนน้องลมเลือกรถคันที่โชว์รูมเป็นของขวัญวันเกิดให้คนรัก แล้วเลยมาถึงของขวัญวันเกิดให้เพื่อนรักอย่างน้องแพท ที่ตอนนี้ไปดูแลบริษัทลูกที่เยอรมันได้สามเดือนแล้ว

.

.

ผมส่งน้องลมที่บริษัทเลยเพราะกลัวไปรับน้องเนยที่สนามบินไม่ทัน น้องลมไม่ว่าอะไร เรื่องของเรื่องคือตั้งใจแต่แรกแล้วว่าจะให้ผมขับรถมาส่งที่บริษัท ไม่อยากย้อนกลับไปเอารถของตัวเองที่คลินิก บอกว่าค่อยให้มาตินขับรถพามาเอาตอนเลิกงาน ผมต้องรีบแนะนำว่าให้คนขับรถมาเอารถเองดีกว่า อย่าให้ตินมาเลย เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องขึ้นมาอีก เจ้าตัวคงลืมคิดไปว่าคนรักขี้หึงมาก ขืนรู้ว่ามาหาผม มีหวังทะเลาะกันแน่ๆ เรื่องนี้น้องลมเชื่อ แต่อีกเรื่องที่ผมห้ามกลับไม่เชื่อ เรื่องซื้อรถให้เป็นของขวัญวันเกิดนั่นแหละ ผมบอกว่าอย่าซื้อเลย ซื้ออะไรที่มันเป็นตัวเงินที่น้อยกว่านี้ดีกว่า รู้ๆ อยู่ว่าตินเป็นคนยังไง เคยมีตัวอย่างมาแล้วเมื่อคราวเรื่องเปิดบริษัท

“ครับคุณแม่”

ผมรับโทรศัพท์ของคุณหญิงแม่ตอนก้าวขึ้นบันไดเลื่อนพอดี สวนกับคนขับรถของคุณหญิงวลัยที่เข็นกระเป๋าลงบันไดมา คุณหญิงแม่โทรหาผมครั้งนี้เป็นครั้งที่สี่ ครั้งแรกโทรมาตามเพราะคิดว่าผมจะเบี้ยว ครั้งที่สองโทรมาเพราะไม่เห็นผมมาถึงสักที ส่วนตัวท่านกับคุณหญิงวลัยมาถึงนานแล้ว ครั้งที่สามเมื่อประมาณสิบนาทีที่ผ่าน โทรตามเพราะน้องเนยลงจากเครื่องมาแล้ว และผมก็ยังมาไม่ถึงสักที รถติดมาก ผมถึงมาช้า

(ถึงหรือยังคะตาหนู คุณแม่ คุณหญิงวลัยกับน้องเนยรอนานแล้วนะคะ)

“ครับๆ ผมถึงแล้วครับ คุณแม่อยู่ตรงไหนครับ” ผมเดินตรงไปที่ประตูทางออก คนที่สถานบินเยอะมาก กวาดตามองหาไปรอบๆ บริเวณนั้น

(คุณแม่อยู่ตรง....อุ้ย คุณแม่เห็นตาหนูแล้ว เดินตรงมาค่ะ ตาหนูเห็นคุณแม่หรือยังคะ)

เห็นชัดเลยครับ ทั้งคุณหญิงแม่ คุณหญิงวลัย ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นผม น้องเนยกระโดดโหยงๆ โบกมือเรียกผมสุดฤทธิ์ ไม่ได้อายสายตาคนบริเวณนั้นสักนิด น้องเนยเป็นอีกคนที่โตแต่ตัว แต่นิสัยไม่แทบจะเหมือนเด็กห้าขวบไม่ปาน

“สวัสดีครับคุณแม่ สวัสดีครับคุณหญิงป้า” คุณหญิงวลัยท่านเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของคุณหญิงแม่ ผมเลยเรียกท่านว่าคุณหญิงป้า

“เรียกคุณแม่ดีกว่านะลูก” คุณหญิงวลัยว่า คุณหญิงแม่ของผมพลอยเห็นดีไปด้วยครับ

“ใช่ๆ ตาหนู เรียกคุณแม่อย่างที่คุณหญิงวลัยว่านะคะ น้องเนยก็ด้วยนะคะลูก เรียกคุณน้าว่าแม่นะคะ”

“ค่ะ คุณแม่” น้องเนยตอบตกลงเสียงใสแจ๋ว ก่อนจะกระโดดมาเกาะแขนผมอย่างที่ชอบทำตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เจอกันมาหลายปีมาก แต่น้อยเนยก็ยังทำตัวเป็นน้องสาวตัวน้อยๆ ไม่เปลี่ยน

“พี่นุคะ เนยหิวม๊ากมาก ชวนคุณแม่แล้ว คุณแม่บอกให้รอพี่นุก่อน เนี้ยหิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว พี่นุพาเนยไปทานข้าวหน่อยนะคะ” น้องเนยเริ่มอ้อน ทำตาปริบๆ ใส่ผม น่ารักอย่างนี้ ผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ที่เจ้าตัวบอกผมว่าไม่มีใครมาจีบ

“แล้วเราอยากกินอะไรคะ”

ตั้งแต่เด็กแล้วที่ผมพูดกับน้องเนยด้วยคำว่า ‘คะ’ ‘ค่ะ’ มาเจอกันตอนโตน้องเนยก็ยังชอบให้ผมพูด ‘คะ’ ‘ค่ะ’อยู่เหมือนเดิม บอกผมว่าฟังแล้วเพราะดี ชอบมากด้วยเพราะทำให้เธอดูเป็นเด็กตัวเล็กๆ ของพี่ชายอย่างผม

“อาหารญี่ปุ่นค่ะ”

“ไม่เบื่อหรือไงคะ เพิ่งกลับจากญี่ปุ่นนะเรา” ผมถาม น้องเนยส่ายหน้า ยิ้มตาหยีมาให้

“ไม่เบื่อค่ะ ของชอบ ว่าแต่ไปเถอะคะ หิวแล้ว” น้องเนยว่า ทำหน้าตาหิววะเต็มประดา

“พาน้องไปทานเถอะตานุ คุณแม่เห็นน้องบ่นมาตั้งแต่ลากกระเป๋าออกมาแล้ว” เมื่อคุณหญิงแม่พูดออกแบบนี้ แปลได้ง่ายๆ ว่าให้ผมพาน้องเนยไปทานข้าวกันแค่สองคน ส่วนตัวเองกับคุณหญิงวลัยไม่มีทางไปด้วยแน่นอน ไม่ต้องถามให้เสียเวลา

.

.

.

เกือบห้าทุ่มที่ผมขับรถมาจอดอยู่หน้าคลินิก หลังจากส่งน้องเนยถึงบ้านและเลยไปรับหลานชายที่คอนโดของเพื่อนเจ้าตัว ไฟในร้านเชิญครับยังเปิดอยู่ สร้อยเส้นน่ารักที่ซื้อมาฝากเจ้าของร้านเชิญครับอยู่ในกระเป๋าเสื้อ ผมอยากเห็นตอนที่สร้อยจี้รูปหัวใจห้อยอยู่บนคอของคุณฟ้าเร็วๆ แล้วครับ

“อาจะแวะไปหาอาฟ้า พีจะไปด้วยกันไหม จะได้เลือกขนมไปฝากน้องๆ ด้วย” ผมถาม พีส่ายหน้าอย่างรวดเร็วแทบไม่เสียเวลาคิดเลย

“ไม่ดีกว่าครับอานุ” ไม่รู้เพราะอายกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนหรือเปล่า ทำให้หลานชายของผมปฏิเสธ ทั้งที่เจ้าตัวชอบทานขนมเค้กไม่ต่างจากผม เรื่องของกินนี่ พีจะเหมือนผมมาก คือไม่กินเผ็ด ไม่กินขนมขบเคี้ยวทั่วไปด้วย แต่ชอบของหวาน โดยเฉพาะเค้ก

“งั้นเราไปรออาในที่คลินิกนะ”

“ครับ”

.

.

.

 ผมกดกริ่งที่ประตูหน้าร้าน ไม่นานเด็กตามก็วิ่งมาเปิดประตู

“ยังไม่กลับอีกเหรอเรา” ผมถาม ปกติตามกลับตอนหกโมงเย็นตลอด

“พี่นนท์ให้อยู่เป็นเพื่อนพี่ยีนครับ”

ให้ตามอยู่เป็นเพื่อนยีน แสดงว่าตอนนี้ในร้านมีกันอยู่สองคน แล้วแทนที่คำสั่งจะเป็นของคุณฟ้า แต่ทำไมตามถึงบอกว่าคุณนนท์สั่ง ผมแปลกใจ 

“แล้วพี่ฟ้าล่ะ อยู่ไหม” ผมถามให้แน่ใจว่าคุณฟ้าไม่อยู่ที่ร้านอย่างที่ผมคิดจริงๆ 

“ออกไปตั้งแต่บ่ายแล้วครับ”

“พี่ฟ้าไม่สบายหรือเปล่า” ผมถามอีก คิดเป็นอื่นไม่ได้ เพราะคงไม่มีเรื่องอะไรที่จะดึงเอาตัวคุณฟ้าออกจากร้านตั้งแต่บ่ายได้ นอกจากความเจ็บป่วยทางร่างกาย

“เปล่าครับ ตอนบ่ายที่ออกไปกับพี่นนท์ ตามก็ไม่เห็นพี่ฟ้าจะเป็นอะไร ตอนค่ำพี่นนท์โทรมาก็ไม่เห็นบอกอะไรนอกจากบอกให้ตามอยู่เป็นเพื่อนพี่ยีนที่นี่ก่อน”

ออกไปกับคุณนนท์...?

.

.

.

ยี่สิบกว่าสายที่ผมโทรหาคุณฟ้า มีสัญญาณว่าโทรติดแต่เจ้าของโทรศัพท์ไม่ยอมรับสาย อยากโทรหาคุณนนท์แต่ติดที่ไม่มีเบอร์ ถ้ารู้ว่าคุณฟ้าไม่ได้อยู่ที่คอนโด ผมคงจะขอเบอร์คุณนนท์จากยีนตอนอยู่ที่ร้านไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าคุณฟ้าไปอยู่ไหน ทำไมไม่รับโทรศัพท์ โทรไปบ้านพี่สาวคุณฟ้าก็บอกว่าไม่ได้อยู่ที่นั่น

เรื่องห่วงไม่เท่าไหร่แล้วตอนนี้ แต่ผมหงุดหงิดใจมากกว่า คุณฟ้าไปกับคุณนนท์ ไม่กลับคอนโด ไม่ได้อยู่ที่บ้านพี่สาว โทรหาไม่ยอมรับ

ถ่านไฟเก่ามันจะลุกได้เหรอ ในเมื่อผมมั่นใจว่าคุณฟ้ารักผม ผมถอนหายใจยาว ไม่อยากนึกอะไรไปไกลกว่านี้

“พีอยู่ไหน” ผมมองหน้าเจ้าของคำถาม ดูสภาพที่คนที่เดินขึ้นมาบนเรือนผมน่าจะเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน เพราะไม่มีกลิ่นเหล้าติดตัวมาเลย กลับมาซะเกือบตีหนึ่ง   

“นอนแล้ว” ผมบอก โดยส่วนตัวผมเป็นคนพูดน้อย แต่พี่ชายผมเป็นคนชอบพูดสั้น

“อยู่ห้องไหน”

ที่พี่ชายผมถามอย่างนี้เพราะเรือนของผม หรือเรียกง่ายๆ ว่าบ้านของผมเป็นบ้านเรือนไทยแยกเป็นหลังอยู่คนเดียวต่างหาก เหมือนเรือนของพี่ยะกับยัยภาที่ต่างมีบ้านเรือนไทยกันคนละหลัง โครงสร้างทุกอย่างเหมือนกัน แค่อยู่กันคนละบริเวณ โดยที่มีเรือนใหญ่ของคุณพ่อกับคุณหญิงแม่เป็นจุดศูนย์กลาง

“ผมบอกแล้วไงว่าไปเคลียร์เรื่องเด็กๆ ของพี่ให้เรียบร้อยก่อน ส่วนพีก็รอให้โตกว่านี้ได้ไหมพี่ยะ ให้เข้ามหาลัยก่อนก็ได้ แต่ตอนนี้ผมขอเถอะ พียังเด็กเกินไป” ผมพูดติดจะขอร้องไปในตัวด้วย

ถึงอะไรมันจะเกินเลยมาเกือบจะปีแล้ว โดยที่ผม รวมถึงคนในบ้านไม่มีใครรู้เลยสักคน แต่เมื่อผมรู้แล้วก็ไม่ควรให้เกิดเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก พียังเด็กไปจริงๆ แล้วที่สำคัญ ถ้าวันหนึ่งแม่ของพีกลับมาขอลูกคืน ผมก็ไม่รู้ว่าจะสู้หน้าแม่ของพียังไง

“ขอเห็นหน้าหน่อยเดียวไม่ได้หรือไง” พี่ยะว่า น้ำเสียงฟังได้ชัดว่าหงุดหงิดกับเรื่องที่ผมพูดขอ นิสัยแบบนี้แหละพี่ชายผม อารมณ์ร้อน ขี้โมโห หงุดหงิดง่าย อะไรก็ต้องได้ดังใจ นิสัยเหมือนลูกคนเล็ก ตรงข้ามกับยัยภา รายนั่นนิสัยเหมือนพี่คนโตมาก

“พี่ยะรับปากผมแล้วนะ อย่าลืมสิครับ”

ผมรู้ว่าพี่ยะไม่ได้ลืมเรื่องที่รับปากกับผมไว้หรอก ที่รับปากว่าจะไม่มาหาพีตอนกลางคืน ตอนกลางวันถึงเจอกันก็จะไม่เข้าใกล้แบบถึงเนื้อถึงตัวอะไรมากนัก แลกกับการที่ผมจะปิดเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ พีเรียนจบมัธยมเมื่อไหร่ถึงจะคิดกันอีกทีว่าจะเอายังไง จะเก็บเป็นความลับต่อไปหรือบอกให้ทุกคนรู้กันเสียที

ความลับเรื่องนี้ ไม่ใช่ความต้องการของพี่ยะแต่เป็นของพี ที่ไม่อยากให้คนในบ้านรู้ เด็กน่ะครับ กลัวว่าจะถูกเกลียดจากทุกคน ยิ่งตัวเองไม่ใช่หลานแท้ๆ ของบ้านนี้ด้วย

“เออๆ จำได้น่า งั้นก็ฝากดูแลด้วย พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องพาหลบหน้านะจะมาหา” ถึงจะอารมณ์ร้อน ขี้หงุดหงิด แต่พี่ยะก็เป็นคนพูดรู้เรื่องอยู่พอสมควร ยกเว้นตอนที่ไม่ยอมรู้เรื่อง ถึงจะอาละวาดเอาให้ได้ดังใจตัวเอง

“พี่ยะ...” ผมลุกขึ้นเดินไปหาพี่ชายที่กำลังก้าวลงบันได อีกฝ่ายเหมือนรู้ว่าผมจะพูดอะไร ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน สีหน้าและน้ำเสียงจริงจังมาก

“ฉันรู้ว่านายจะถามอะไร ฉันบอกนายไว้ตรงนี้เลยว่า ฉันรักพี ฉันไม่เคยรู้สึกอย่างนี้กับใครมาก่อน ไปล่ะ อยู่นานแล้วฉันอาจจะตบะแตกได้” ว่าแล้วพี่ยะก็รีบลงเรือนไป

ผมเดินกลับมานั่งที่เดิม ยอมรับว่าตกใจกับเรื่องนี้มาก โกรธพี่ชายตัวเองมาก โกรธที่ทำเรื่องแบบนี้กับเด็กที่เลี้ยงเป็นลูกมาตั้งแต่เกิด บวกกับที่เป็นห่วงสภาพจิตใจของหลานด้วย เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มันหนักหนาเกินไป ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการมีอะไรกับผู้ชายด้วยกัน แต่ผู้ชายคนนั้นมีฐานะเป็นพ่อ ไม่รู้ว่าผมจะพูดว่าโชคดีได้หรือเปล่า ตอนที่เกินเลยกันไปนั้น พี่ยะบอกว่าพีรู้ตัวแล้วว่าไม่ใช่ลูกของพี่ยะ ผมจึงโล่งอกไปเปราะหนึ่ง
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 10-03-2012 19:16:58
วันนี้ทั้งวันผมทำงานไม่รู้เรื่องเลย ต้องให้หมอคนอื่นทำงานแทน ส่วนผมก็มานั่งดูเอกสารอยู่ในห้อง เพราะติดต่อคุณฟ้าไม่ได้มาสองวันแล้ว คุณฟ้าไม่มาทำงาน คอนโดก็ไม่กลับ  โทรหาไม่รู้กี่รอบก็ไม่ยอมรับ ผมขอเบอร์คุณนนท์จากยีน ยีนบอกให้ไม่ได้เพราะคุณนนท์สั่งเอาไว้ ครั้งขอให้ช่วยโทรหาให้ก็ปฏิเสธอีกตามเคย ผมสังหรณ์ใจว่ามันต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ ระหว่างผมกับคุณฟ้า เกิดขึ้นโดยที่ผมไม่รู้ตัว แต่มันเป็นเรื่องอะไรล่ะ ในเมื่อครั้งสุดท้ายที่เจอหน้ากัน ทุกอย่างยังเป็นปกติ

มันเกิดอะไรขึ้น?

มันร้ายแรงจนคุณฟ้าหลบหน้าผมเลยหรือไง?

พยายามคิดแต่มันก็คิดไม่ออกว่าเป็นเพราะอะไร มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทำไมคุณฟ้าต้องหลบหน้าผม ผมเคยไปคอนโดของคุณนนท์มาครั้งหนึ่ง ตอนที่ไปตามหาแดนกับคุณฟ้า หรือว่าผมควรจะไปดักรอคุณนนท์ที่นั่นดี

สร้อยที่ซื้อมายังอยู่กระเป๋าเสื้อ ผมพกติดมาตลอด หวังว่าจะให้มันกับคุณฟ้าตั้งแต่วันแรก จนวันนี้ก็ยังไม่มีโอกาสสวมมันให้กับคุณฟ้า รู้สึกกลัวและหวั่นใจว่าอาจจะไม่มีวันได้ให้มันกับคุณฟ้า

“กลับแล้วหรอพี่นุ” เบียร์ที่เปิดประตูออกมาจากห้องตรวจเอ่ยทัก ผมได้แต่พยักหน้าให้ บอกลาคุณหมอคนอื่นๆ ก่อนจะเปิดประตู้ออกมา ท้องฟ้าข้างนอกมืดแล้ว ผมมองไปทางร้านเชิญครับตามความเคยชิด ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งผลักประตูเข้าไปในร้าน ผู้ชายคนที่ผมไม่ได้เจอมาถึงสองวัน ผู้ชายคนที่ผมคิดเขาทุกนาที อยากเจอ อยากคุย อยากเห็นหน้า อยากถามให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา มีอะไรที่ผมทำผิดไปแล้วทำให้เขาโกรธจนต้องหลบหน้าผม

คุณฟ้า

เท้าผมก้าวตามไปอย่างรวดเร็ว แทบจะเรียกว่าวิ่งเลยด้วยซ้ำ ผลักประตูเข้าไปในร้านก็ไม่เห็นคุณฟ้าแล้ว คิดว่าน่าจะอยู่หลังร้าน พอผมจะเดินตามเข้าไปข้างใน ยีนที่เพิ่งเดินออกมากลับยืนขวางผมเอาไว้

“เข้าไม่ได้ค่ะคุณหมอ” ยีนพูดแบบนี้ ผมไม่ตกใจเท่าไหร่เพราะพอจะรู้สถานภาพของตัวเองได้ลางๆ เข้าใจความรู้สึกของพี่ยะตอนที่ผมห้ามไม่ให้เข้าใกล้พีขึ้นมาทันที

“บอกพี่ฟ้าได้ไหมว่าหมอขอคุยด้วย” ผมขอร้องให้ยีนช่วย แต่จะให้ดื้อด้านเข้าไปให้ได้ มันไม่ควรแล้วมันไม่ใช่นิสัยของผม

“คุณหมอไปนั่งก่อนนะคะ ยีนจะไปถามพี่ฟ้าให้” ยีนว่า แล้วเดินกลับเข้าไปข้างใน ผมหายใจโล่งไปเปราะหนึ่งที่ไม่โดนกีดกั้นจนเกินไป ดีที่ยีนไม่โกรธผมไปด้วย ความผิดของผมคืออะไร ผมยังไม่รู้เลย

ผมไม่ได้ไปนั่งตามที่ยีนบอก ยังยืนอยู่ที่เดิม สักพักคุณฟ้าก็เดินตามหลังยีนออกมา ยีนเดินเลี่ยงไปอีกทาง ผมตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ไม่ได้เจอกันมาสองวัน หน้ากับปากซีดมาก ส่วนตาก็บวม อาการของคนป่วยกับคนที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก

“คุยข้างนอกนะครับ” คุณฟ้าบอก เสียงเบามาก ก่อนจะเดินนำผมออกไปข้างนอกร้าน มียีนเดินตามออกมาด้วย เอายามาจุดไล่ยุงให้ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในร้าน

ผมไม่รู้จะเริ่มต้นพูดอะไร ขณะที่คุณฟ้าไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม เราสองคนนั่งเงียบอยู่นาน ผมพยายามคิดว่าอะไรทำให้คุณฟ้าโกรธ สภาพคุณฟ้าเหมือนคนที่ร้องไห้หนักมาตลอดทั้งคืน สภาพแย่กว่าตอนเช้าวันนั้นที่ผมเจอแล้วชวนไปเที่ยวทะเลด้วยกันซะอีก

“คุณฟ้า”

“คุณหมอ”

เราพูดขึ้นมาพร้อมกัน ผมมองตาช้ำๆ ที่เริ่มคลอน้ำตา

“คุณหมอพูดก่อนเถอะครับ” คุณฟ้าว่า เสียงสั่นนิดๆ

“ถ้าผมทำอะไรผิดแล้วทำให้คุณฟ้าโกรธ ผมขอโทษ แต่ผมไม่รู้จริงๆ ว่าผมทำอะไรผิดไปตรงไหน คุณฟ้าช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมครับ” คำพูดของผมทำให้น้ำตาคุณฟ้าไหล เจ้าตัวยกมือขึ้นมาเช็ด สูดหายใจเข้าลึก พร้อมกับพูดคำที่ทำเอาผมเหมือนคนตกจากที่สูง คุณฟ้าไม่ได้ตอบคำถาม แต่กลับพูดในสิ่งที่ผมไม่คิดมาก่อน

“ เราเลิกกันเถอะครับ”

ผมได้ยินชัด แม้คำพูดที่บอกจะแผ่วเบาเหลือเกิน

“ทำไมครับ” เสียงผมก็เบาไม่แพ้กัน

ความผิดที่ผมไม่รู้ มันเป็นความผิดที่ร้ายแรงขนาดไหนกัน ถึงทำให้คุณฟ้าขอเลิกกับผม ร่องรอยความเสียใจบนใบหน้านั้น ฟ้องให้ผมรู้ว่าความผิดของผมมันหนักหนาจนคุณฟ้าไม่สามารถให้อภัยได้

“....” คุณฟ้าเงียบ ก้มหน้าน้ำตาไหล ตัวเริ่มสั่นเพราะพยามกลั้นไม่ให้หลุดเสียงสะอื้น

“.....” ผมทำอะไรได้ไม่มากไปกว่านั่งมองคุณฟ้าร้องไห้เงียบๆ ไม่กล้าดึงตัวสั่นเทาเข้ามากอดแม้แต่น้อย มีคำพูดมากมายที่ผมนึกอยากจะพูดเพื่อให้คุณฟ้าหยุดร้อง ความสงสัยมากมายประเดประดังอยู่ในหัว สุดท้ายผมก็ทำได้เพียงแค่นั่งมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของคุณฟ้า

ลูกค้าของร้านเชิญครับที่เดินเข้าออกร้าน ต่างพากันมองมาที่ผมกับคุณฟ้า คล้ายกับภาพฉายซ้ำวันที่คุณฟ้าถูกคุณนนท์บอกเลิก

“คุณฟ้า”

“คุณหมอ”

เราพูดขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง จากที่นั่งเงียบกันมา นานจนน้ำตาคุณฟ้าหยุดไหล

“ผมขอพูดก่อนนะครับ” ผมรีบบอกคุณฟ้า ยังไม่อยากให้คุณฟ้าพูดในสิ่งที่คิด ผมกลัวว่าถ้าคุณฟ้าพูดออกมา ผมจะไม่สามารถพูดอะไรได้อีก

“ไม่เลิกได้ไหมครับ” ผมถาม คำถามที่บอกถึงความต้องการของผมเอง

“ไม่ได้ครับ” เสียงคุณฟ้ายังคงสั่น แต่แววตาที่ผมเห็น มันเด็ดเดี่ยวมาก รู้สึกกลัวใจของคุณฟ้ามาก

“ทำไมครับ”

“ไม่เลิกวันนี้ วันหน้าก็ต้องเลิก เลิกเสียตอนนี้จะได้ไม่ต้องเจ็บกันไปมากกว่านี้”

.

.

.

ผมนั่งเล่นกับเจ้ากระปุก กระป๋อง กระแป๋ม อยู่ใต้ถุนเรือนเนื่องจากนอนไม่หลับ พวกมันเป็นลูกของเจ้าปีปี๋ที่ตายไปเพราะวิ่งออกไปนอกรั้วบ้านแล้วโดนรถชน

แล้วเจ้าสามตัวก็กระดิกหาง เห่าทักทายคนที่กำลังเดินตรงมาที่ผม แต่ไม่ได้มาหาผม เพราะพอโผล่หน้ามาให้เห็นก็ถามหาพีทันที โดยไม่ทักทายผมสักคำ 

“พีล่ะ” ผมมองขึ้นไปบนเรือน บอกทางสายตาโดยไม่ต้องพูดออกมา

“ฉันขึ้นไปได้?” เพราะเป็นพี่น้องกันเลยไม่ต้องพูดอะไรมาก พี่ยะเลยเข้าใจ ถึงถามอย่างนี้ ผมพยักหน้าตอบ

“ขอบใจว่ะน้องรัก”

“อย่ารักแกหลานผมล่ะกัน” ผมกำชับ

“แต่นอนกอดได้ใช่ป่ะ งั้นฉันนอนค้างที่นี่กับพีเลยนะ” พี่ยะถาม แต่ไม่รอเอาคำตอบ รีบวิ่งขึ้นเรือนไป ผมมองตาม ไม่ถึงเสี้ยวนาทีก็ได้ยินเสียงเคาะประตูโครมคราม สักพักจึงเงียบไป

ที่ผมยอมให้พี่ยะเจอพีได้ เพราะเข้าใจความรู้สึกของคนที่อยากเจอหน้าคนที่ตัวเองรัก อยากอยู่ใกล้ อยากกอด แต่ไม่ได้กอดว่ามันทรมานแค่ไหน รู้ซึ้งก็ตอนที่คุณฟ้าหายหน้าไปสองวัน สองวันที่ทำเอาอยู่ไม่สุข แล้วตอนนี้ผมก็ยังไม่อยากเชื่อว่า ผมกับคุณฟ้า...

เราเลิกกันแล้ว...

จริงๆ เหรอ?


ความรู้สึกที่เจ็บอยู่ตรงมุมปาก มันอาจจะช่วยยืนยันความจริงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าผมกับคุณฟ้าเลิกกันแล้วจริงๆ

คุณนนท์ทำอย่างที่เคยขู่ผมเอาไว้ เมื่อไหร่ที่ทำให้คุณฟ้าร้องไห้ เขาจะไม่เอาผมไว้  ผมอาจจะโดนหลายหมัดกว่านี้ ถ้าคุณฟ้าไม่ห้ามคุณนนท์เอาไว้เสียก่อน

>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<

คนเขียนขอคุย :: หายไปสิบวันแน่ะ ขอโทษที่หายไปนานนะคะ
แต่วันนี้ก็กลับมาแล้วนะคะ ตอนนี้สั้นไปนิด แต่มันสั้นตามสถานการณ์ค่ะ T^T
แต่ขอย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ดราม่าน้า แต่มันก็ต้องมีเรื่องเล็กๆ เกิดขึ้นบางนิดหน่อยอ่ะเนอะ ไม่ว่ากันนะคะ
ยืนยันว่าน้ำตาไม่ท่วมจอแน่ๆๆ รับปากค่ะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์แล้วทุกคำแนะนำจากหลายๆ คนนะคะ
คนเขียนจะเอาไปปรับปรุงและแก้ไขค่ะ ^____^
ว่าแล้วก็ขอตัวไปปั่นเรื่องสั้นต่อนะคะ

บับบาย
สีเหลืองอ่อน // aeaw

หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 10-03-2012 19:34:46
ฟ้า....
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 10-03-2012 19:48:34
อย่าบอกนะว่าฟ้าตามคุณหมอออกไป แล้วไปเห็นตอนที่สวมสร้อยคอให้กัน เง้ออออออออ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 10-03-2012 19:53:41
ฟ้าไปเจอตอนใส่สร้อยให้ลมรึป่าวว

รึเรื่องคุณแม่หว่าาาาา

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 10-03-2012 20:09:09
งง... เลิกกันเพราะเหตุใดฤา

รีบมาแจ้งแถลงไขด่วนนะจ๊ะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 10-03-2012 20:11:59
เรื่องเลิกกัน ไม่เล็กเลยนะคะ
สงสารคุณหมอจัง ความซวยเข้ามาเยือน
ไหนจะอกหัก แถมยังเจ็บตัวอีก
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 10-03-2012 20:13:04
รอวันน้ำตาแห้งจ้า ^^ บวกๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 10-03-2012 20:32:42

มันเป็นที่ตัวคุณหมอเองนะ
ที่ไม่ทำให้คุณฟ้าไว้วางใจ
เมื่อไหร่ที่คนเรายืนอยู่บนความไม่แน่นอน
ย่อมกังวลอยู่ตลอดเวลา
และเมื่อมีอะไรมากระทบกระเทือนเพียงนิดเดียว
ก็สามารถตกลงมาได้ง่ายๆ
เฮ้อ สงสารคุณฟ้า แต่ไม่สงสารคุณหมออะ
อยากรู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้คุณฟ้าบอกเลิก
รออ่านตอนต่อไปจ้า

+1 จุ๊บๆ <3
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 10-03-2012 20:46:18
ดีใจที่เห็นเรื่องนี้อัพ แต่อ่านแล้วอยากบอกว่ารอตอนต่อไปอยู่นะคะ ทำไมฟ้าถึงทำแบบนี้ เป็นอะไร หวังว่าจะไม่ใช่เรื่องน้องเนยกับครอบครัวคุณหมอนะคะ TT

ปล. ขอแอบติดตามคู่คุณยะและหนึ่งด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 11-03-2012 00:26:58
มีอะไรก็คุยกันก่อนดีไหม วู่วามแล้วก็เจ็บกันทั้งสองฝ่าย
อุปสรรคของคุณหมอยังมีอีกหลายเรื่องให้แก้
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 11-03-2012 01:00:23
จะเพราะใส่สร้อยให้ลม หรือน้องสาว(?)

อันไหนก็สาหัสพอกันอ่ะ
เพราะฟ้าไม่มั่นใจเลยว่ารักกัน

ลุ้นว่าหมอจะทำยังไง
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ทะเลหัวใจ ที่ 11-03-2012 01:32:17
แอบน้อยใจคุณฟ้า แงๆๆๆๆๆ :o12:

สงสารคุณหมอ(เพราะเราฝักใฝ่ในเมะ) กร้ากกกก จะผิดจะถูกก็ต้องถูก ฮ่าๆๆ

โลกนี้ไม่มีความยุติธรรมเคอะ

คุณฟ้าน่าจะถามคุณหมอก่อนนิดนึง

แบบว่าให้คุณหมออธิบายซักหน่อย

จะเอาไงต่อค่อยว่ากันอย่างน้อยก็ได้รับฟังเรื่องราวจากคนที่ขึ้นชื่อว่า "คนรัก"

(อินี่อินมากค่ะ) ฮ่าๆๆ

แถมคุณหมอของเค้า???ยังถูกอิคุณนนท์ต่อยอีก โฮกกกกกกก เจ็บทั้งกายและใจ อยากเข้าไปซับน้ำตาให้

คุณฟ้าไม่รักแต่คุณทะเลรักนะคะพี่หมอ ชุบุๆ อิอิ

ปล มีคุณยะกะน้องพีพอยาไส้ ฮาาาาา น่าร้อกอ้อ ขออีกได้ป่าวคะคุณคนเขียน ฮี่ฮี่

ปลล อร้ายยยยยยยยยย ปลื้มใจที่คุณคนเขียนให้เกียรติเค้าเป็นนักเขียนในดวงใจ อร้ายๆๆ บิดๆๆ ม้วนๆๆ เขินๆๆ ขอบคุณมากนะคะ ว่างๆเดี๋ยวชวนมาฟิชเจอริ่งกัน(หมายถึงแต่งนิยายนะอย่าคิดเป็นอื่น) กร้ากกกก

ไปแล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้จ้าาาา รอตอนใหม่ อึ้บๆๆๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 11-03-2012 02:05:15
ฟ้าไปเห็นตอนลมลองสร้อยหรือเปล่า?


มีอะไรน่าจะคุยกันก่อนนะ.... :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 11-03-2012 18:10:09
โอ๊ะโอ๊ว :z3:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 12-03-2012 15:51:16
ถ้าดราม่ามากกว่านี้จะโป้งคนเขียนนะ แค่นี้ก็สงสารคุณฟ้าจะแย่แล้ว
ไหนจะผู้หญิงของแม่ที่จะให้แต่งยังไม่ยอมบอกฟ้าเลยไอ้หมอบ้า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 12-03-2012 18:13:48
ถ้าดราม่ามากกว่านี้จะโป้งคนเขียนนะ แค่นี้ก็สงสารคุณฟ้าจะแย่แล้ว
ไหนจะผู้หญิงของแม่ที่จะให้แต่งยังไม่ยอมบอกฟ้าเลยไอ้หมอบ้า


อาจจะมีดราม่านิดหน่อยค่ะ แต่ไม่มากเท่ารัก...เธอ ยืนยันค่ะะะะะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 17-03-2012 12:50:12
คิดถึงแล้วน๊า :กอด1:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: poppyk ที่ 22-03-2012 00:09:47
คนแต่งจ๋าหายไปไหนเอ่ย?? 

เค้ามารอทุกวันเลยน้า (: รีบๆมานะค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 22-03-2012 11:10:37
คนเขียนหายไปหน่าย
รีบกลับมาแถลงไขด่วน

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 24 จริงๆ หรือ? {10/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 24-03-2012 18:55:28
 :a12:  นอนรอนานแล้วนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ {26/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 26-03-2012 20:57:18
ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ


ผมตั้งนาฬิกาปลุกบนมือถือ ก่อนวางมันไว้ข้างหมอน ปิดไฟบนหัวเตียง แล้วค่อยๆ ล้มตัวนอน คว้าหมอนข้างใบเก่าเข้ามากอด มีช่วงหนึ่งที่ผมลืมมันไปเพราะมีใครคนหนึ่งให้นอนกอดแทน ทว่าต่อไปจากนี้คงไม่มีใครคนนั้นให้ผมนอนกอดอีกแล้ว

ผมเลิกกับคุณหมอ...

เราเลิกกัน...

 สิ่งที่ผมเคยกลัวมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ผมกลัวว่าเราสองคนจะต้องเลิกกันด้วยเหตุผลที่คุณหมอไม่รักผมแล้ว มันใช่จริงๆ หรือความจริงแล้ว ผมหลงคุณหมอมากเกินไป ถึงได้หลงเข้าใจผิดว่าคุณหมอรักผม ทั้งที่ความจริง คุณหมอไม่ได้รักผมเลย

คุณหมอยังรักคุณลมอยู่ ทุกวันนี้ก็ยังรักอยู่ ที่คบกับผมคงเพราะอยากให้คุณลมสบายใจ ไม่อย่างนั้นคงไม่ขอให้ผมแกล้งทำเป็นแฟนตอนไปเที่ยวทะเลด้วยกัน ผมน่าจะคาดคั้นเอาเหตุผลซะตั้งแต่ตอนนั้น เรื่องอาจจะไม่เลยเถิดมาถึงตอนนี้ก็ได้

ผมคงไม่ต้องรักคุณหมออยู่แบบนี้...

น้ำตาผมไหลตอนไหนไม่รู้

คืนนี้เป็นคืนที่สี่ที่ผมนอนร้องไห้

อีกกี่คืนที่ผมจะหยุดร้องไห้ได้สักที

แล้วเมื่อไหร่ที่ผมจะหยุดเจ็บปวด

มันเจ็บและทรมานกว่าตอนที่ถูกนนท์ทิ้งไปเสียอีกไม่รู้กี่เท่า...ไม่รู้ทำไม

.

.

.

ผมนอนไม่หลับเหมือนสี่คืนที่ผ่าน พลิกตัวไปมาอยู่นาน สุดท้ายก็ฝืนใจตัวเองไม่ไหวต้องลุกขึ้น เอื้อมมือไปดึงลิ้นชักที่โต๊ะหัวเตียง หยิบเอากล่องกำมะหยีสีชมพูอ่อนออกมา

...สร้อย...

ในกล่องกำมะหยีคือสร้อยเส้นเล็กห้อยจี้รูปหัวใจสีชมพูประดับเพชรเม็ดเล็กสามเม็ด สีเดียวกับตัวสร้อย สร้อยที่คุณหมอฝากยีนมาให้ผมเมื่อสองวันที่แล้ว คงซื้อตอนที่อยู่กับคุณลมวันนั้น แล้วคงกลัวคุณลมจะสงสัยมั้งครับเลยต้องซื้อมาให้ผมด้วยอีกคน ผมอยากรู้ สร้อยเส้นที่คุณหมอซื้อให้คุณลมจะสวยหรือน่ารักกว่าสร้อยเส้นนี้หรือเปล่า คงทั้งสวยทั้งน่ารักกว่าเส้นนี้เยอะครับ ซื้อให้คนที่ตัวเองรักกับซื้อให้แฟนหลอกๆ อย่างผม มันต้องต่างกันอยู่แล้ว

ถ้าวันนั้น... พี่ฝุ่นไม่อยากเจอผม แล้วบังคับให้นนท์พาตัวผมไปทานข้าวด้วยกันที่ห้างแถวๆ บริษัท (พี่ฝุ่นเป็นพี่ชายของนนท์) บวกกับที่ผมอยากจะซื้อชุดนักเรียนใหม่ให้ตามด้วย ผมคงไม่เห็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว

คุณหมอกำลังสวมสร้อยให้คุณลม มันทำให้ผมรู้ความจริงว่า คุณหมอยังรักคุณลมอยู่

คุณหมอบอกรักผม ทั้งๆ ที่ความจริงคุณหมอไม่ได้รักผมเลย คุณหมอยังรักคุณลม

ทุกวันที่อยู่กับผม ทุกคืนที่นอนกอดผม หัวใจคุณหมอไม่เคยอยู่ที่ผมเลย...ใช่ไหม? มันไปอยู่กับคนอื่น คนที่ไม่ใช่ผม

ผมเผลอกำสร้อยแน่น รู้สึกเจ็บมือเพราะเหลี่ยมมุมของจี้มันกดลึกในผิวเนื้อ แต่เทียบไม่ติดกับความปวดลึกที่หัวใจของผม


ผมไม่ได้เกลียดคุณหมอ ผมแค่เจ็บปวดกับความรู้สึกของตัวเอง

.

.

.

“พี่ให้ ต้อนรับเปิดเทอมใหม่”

ผมยื่นถุงที่ข้างในมีชุดนักเรียน รองเท้าและถุงเท้าให้ตาม เมื่อตามเดินตามผมเข้ามาในห้องพักหลังร้าน ตามเพิ่งกลับมาทำงานวันนี้หลังจากที่ลางานไปทำธุระเรื่องเรียน ตามเรียนเก่งครับ เห็นว่าได้ทุนเรียนฟรีด้วย

“ขอบคุณครับพี่ฟ้า” ตามเปิดถุงดูแล้วเงยหน้าขึ้นมาขอบคุณผม น้ำตาคลอ จมูกนี้ฟึดฟัดไปแล้ว

“ขี้แยนะเรา” ผมว่า ว่าตามแต่ก็เหมือนว่าตัวเองครับ ตามดูเจ้าน้ำตาไม่ต่างกับผมเท่าไหร่

“เปล่านะครับ” ตามว่าเสียงเบา รีบปาดน้ำตาที่เริ่มไหลทิ้ง

นิสัยของตามเป็นเด็กขี้อาย แต่ก็ขี้อ้อน เป็นเด็กที่ต้องการความรักน่ะครับ อยากให้คนที่อยู่รอบๆ ตัวรักตัวเองมากๆ ที่ผมดูออกเพราะสังเกตตามมานาน ตามชอบที่จะเข้าหาทุกคน ทั้งผม คุณหมอ นนท์ แดน ยีน ยิ่งช่วงหลังมีพี่ป้องพี่ชายของแดนเข้ามาที่ร้านบ่อยๆ  ถึงกับหลง ดูตามแทบจะกลายเป็นน้องรักของพี่ป้องแทนแดนไปแล้ว ไม่ใช่เฉพาะพี่ป้องนะครับที่ทั้งรักทั้งหลงตาม พวกเราทั้งหมดล่ะครับที่หลงรักความเป็นเด็กน่ารักตามธรรมชาติของตาม

ยีนเคยเล่าให้ผมฟังว่าครอบครัวตามมีปัญหา แม่ไม่รักและไม่ดูแลตามด้วย ปล่อยหน้าที่เลี้ยงลูกให้เป็นของพ่อตามคนเดียว เคยหนีตามผู้ชายคนอื่นไป พอไปไม่รอดก็กลับมาหาตามกับพ่ออยู่หลายครั้ง ครั้งล่าสุดนี่ก็เมื่อปีที่แล้ว ยีนรู้เพราะดาวเล่าให้ฟัง ดาวบ้านอยู่ใกล้ๆกับบ้านตาม และเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ ครับเลยรู้เรื่องทุกอย่าง

“เปิดเทอมแล้วจะมาทำงานที่ร้านพี่อีกไหม” ผมถาม พลางทรุดตัวลงนั่งบนเตียง รู้สึกมึนหัวครับ เมื่อคืนกว่าจะข่มตาให้หลับได้ก็ปาเข้าไปตีสี่

“ครับ...แต่ผมขอมาทำหลังเลิกเรียนด้วยได้ไหมครับพี่ฟ้า” ที่ตามถาม เพราะก่อนหน้านี้ผมเคยบอกกับตามว่าถ้าเปิดเทอมแล้วจะให้ตามมาทำเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ อันที่จริงผมบอกแค่วันเสาร์ด้วยซ้ำ แต่ตามอ้อนขอเอาวันอาทิตย์ด้วย ผมเลยยอมเพราะทนลูกอ้อนไม่ไหว ใครทนไหวก็สุดยอดแล้วครับ

“แล้วตามจะไหวเหรอ ทั้งเรียนทั้งทำงาน”ผมถามอีก ถึงโรงเรียนของตามจะอยู่แถวๆ นี้ แต่อดเป็นห่วงไม่ได้ครับ ไหนจะเรื่องเรียน เรื่องกิจกรรม การบ้านอีก ขืนเอาเวลามาทำแต่งาน เดี๋ยวจะพาลทำให้เสียการเรียน วันหยุดแทนที่จะได้เที่ยวเล่นเหมือนเด็กปกติทั่วไปกลับต้องทำงาน เสียดายชีวิตวัยเด็กแย่เลยครับ แต่คิดๆ ดูก็คงไม่ต่างกับผมมากนัก เพราะตอนเด็กผมแทบไม่ได้ไปเที่ยวไหนกับเพื่อนเลย เลิกเรียนก็ตรงดิ่งกลับบ้านทันที เสาร์อาทิตย์ก็ไม่ค่อยจะออกไปไหน

“ไหวครับ” ตามว่าแล้วยิ้มกว้าง ยืนยันคำพูดของตัวเอง หวังให้ผมอนุญาต

“ไหวก็ไหว แต่พี่ให้ได้เฉพาะอังคารถึงพุธนะ จันทร์กับศุกร์ไม่ต้อง พี่อยากให้ตามพักบ้าง” พอผมพูดจบ ตามทำหน้าเศร้าทันที สงสารครับ แต่ต้องใจแข็ง ผมอยากให้ตามได้พักบ้าง ไม่ใช่เอะอะทำแต่งาน ตัวก็แค่นี้ ห่วงเรื่องเรียนด้วย

“ครับ” รับคำซะเสียงเบาหวิวเลยครับ สงสารจริงๆ เลยดึงตัวเข้ามานั่งบนเตียงด้วยกัน แล้วลูบหัวเล็กๆ ปลอบใจ

“พี่รู้ว่าตามอยากทำงานเก็บเงินเอาไว้เรียนมหาวิทยาลัย แต่ถ้าตามทำแต่งาน ตามจะมีเวลาอ่านหนังสือรึเปล่า แล้วจะสอบติดเหรอ สุขภาพร่างกายของตามอีก เกิดเป็นอะไรขึ้นมาเพราะพักผ่อนน้อยล่ะ ต้องเสียเงินไปรักษาตัวแทนที่จะได้เก็บเงินเอาไว้เรียน กลายเป็นต้องเอาไปรักษาตัวซะหมด ห่วงร่างกายตัวเองด้วยนะ ดูสิ ขนาดพี่ยังห่วงตามเลย แล้วทำไมตามไม่ห่วงตัวเองบ้าง”  ผมไม่ได้ดุตามเลยนะครับ แต่ทำไมตามถึงกับน้ำตาไหล

“ครับ” ตามพยักหน้ารับพร้อมกับใช้หลังมือปาดน้ำตาตัวเองเบาๆ

“โกรธพี่หรือเปล่า”

“เปล่าครับ ผมไม่ได้โกรธพี่ฟ้า ผมแค่ตื้นใจที่พี่ฟ้าเป็นห่วงผม” ตามรีบตอบทันที คงกลัวว่าผมจะเข้าใจผิด

“ตามเป็นน้องของพี่แล้วนะ พี่จะไม่ห่วงตามได้ไง ส่วนเรื่องเรียนไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวพี่ให้ทุนตามเรียนเอง”

“....” ตามมองผมตาโต อ้าปากค้าง

“เงินทองพี่ก็เยอะแยะ ส่งตามกับดาวเรียนได้สบายมาก” ผมคิดเรื่องนี้มานานแล้วครับ เรื่องเรียนของตามกับดาว อยากให้เด็กสองคนได้เรียนอย่างที่พวกเขาต้องการ ผมไม่ได้ลำบากเรื่องเงินทองอะไรเลย สมบัติที่คุณตากับคุณยายทิ้งไว้ให้ ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมดครับ ตายไปก็เอาไปไม่ได้ด้วย

“พี่ฟ้า...ฮึก...ผม...ผม...ขอบคุณ...ฮึก...ขอบคุณมากครับ...ผม...แล้ว...ฮึก...แล้วผม...ผมจะ...ฮึก...จะใช้...ฮึก...ใช้คืนพี่ฟ้า....นะครับ....ฮึก....” ตามโผเข้ากอดผม ร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดัง แทบฟังไม่รู้เรื่องครับว่าพูดอะไร

“จะเอาปริญญาโทด้วยไหม หรือจะเอาเอกเลย ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องเกรงใจพี่ด้วย พี่ส่งตามเรียนได้สบายมาก” ผมเริ่มคิดไปไกล อย่างที่บอกตามเป็นเด็กน่ารัก ใครอยู่ใกล้แล้วต้องรัก เชื่อไหมครับ ผมเคยคุยเรื่องนี้กับคุณหมอ คุณหมอเห็นด้วย แถมยังขอเป็นเจ้าของทุนของตามกับดาวคนละครึ่งกับผมด้วย

...แต่ มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว

“ขอบ...ฮึก....ขอบคุณ...ฮึก ขอบคุณมากครับ...พี่ฟ้า” ตามกอดผมแน่นขึ้น ร้องไห้จนตัวโยน ผมต้องลูบหลังปลอบอยู่นานกว่าจะหยุดร้อง

“พี่ฟ้าค่ะ พี่ป้องมาแล้วนะคะ อ้าว...ดราม่าอะไรกันอยู่ค่ะเนี้ย มามะมาให้พี่ยีนกอดหน่อยเร็ว” ยีนเปิดประตูเข้ามาบอกผม แต่พอเห็นว่าตามร้องไห้เลยดึงตัวเอาไปกอด

“ฮึก...พี่ยีน...ผม...ฮึก...” เอาแล้วไง จากที่หยุดไปเมื่อกี้กลับร้องขึ้นมาใหม่อีกจนได้ ขี้แยกว่าผมอีก

“พี่ฝากดูน้องด้วยละกันนะยีน ถ้าน้องทำงานไม่ไหวก็ให้พักก่อนนะ” ผมบอกยีน ก่อนเดินออกมาจากในห้อง

วันนี้พี่ป้องอาสาไปเป็นเพื่อนผมซื้อของ ความจริงหน้าที่ซื้อของมาทำขนมเป็นหน้าที่ของแดนครับ แต่เพราะผมไม่อยากอยู่ร้านเลยแย่งหน้าที่แดนมา เหตุผลเพราะไม่อยากเจอหน้าคุณหมอ หลายวันมานี้ผมพยายามหลบหน้าคุณหมอตลอด เมื่อไหร่ที่คุณหมอผลักประตูเข้ามาในร้าน ผมจะเดินหนีไปอยู่หลังร้านทันที รอจนกว่ายีนหรือแดนจะเข้ามาบอกว่าคุณหมอกลับไปแล้ว ถึงค่อยออกมาหน้าร้าน

ผมยังไม่พร้อมสบตากับคุณหมอครับ กลัวว่าจะเผลอร้องไห้ออกมาให้คุณหมอสมเพชเอาได้ง่ายๆ

“มาซะหล่อเลยนะครับพี่ป้อง” ผมทักพี่ป้องที่ยืนตักเค้กส้มของโปรดเข้าปากอยู่หลังตู้เค้กข้างเคาน์เตอร์ 

“ก็ปกตินะ” แกว่า ก้มมองดูชุดที่ตัวเองใส่ เสื้อยืดคอวีสีขาวตุ่นๆ กับกางเกงขาก้วยสีน้ำตาลเข้ม แกแต่งตัวแนวนี้ตลอด ถ้าไม่จัดว่าเป็นคนหน้าตาดี ใส่แบบนี้ไม่ได้เลยนะครับ พี่ป้องหล่อเข้มแบบไทยๆ เหมือนคุณหมอ แต่พี่ป้องหล่อกว่าคุณหมอไปหน่อยนึ่ง ผมตัดสินอย่างเป็นกลางนะครับ

...อีกแล้วครับ เฮ้อ...เผลอคิดถึงคุณหมออีกจนได้

“เป็นอะไรไป มีเรื่องอะไรบอกพี่ได้นะ” แกถามผม เพราะผมยืนนิ่งไปนาน

“ไม่ได้เป็นอะไร เราไปกันเถอะครับ” ผมรีบบอก ไม่อยากให้พี่ป้องซักไซ้อะไรมาก เรื่องของผมกับคุณหมอไม่รู้ว่าแกรู้หรือยังว่าเลิกกันแล้ว ตอนคบกับคุณหมอพี่ป้องก็รู้นะครับ แกเป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ก็รับได้ครับกับเรื่องนี้ ถ้าบอกว่าผมเห็นแดนเป็นเหมือนน้องชายแท้ๆ พี่ป้องก็คงเห็นผมเป็นน้องชายแท้ๆ ของแกเหมือนกัน

“ทานข้าวก่อนไหม” พี่ป้องถามอีก ส่งจานเค้กเปล่าให้แดนที่เดินถือถาดจานผ่านมาพอดี

“กลับมาค่อยทานแล้วกันครับ ตอนนี้ยังไม่หิว” ตอนเดินออกจากห้องพักหลังร้าน ก็เห็นนะครับว่ามีปิ่นโตวางอยู่บนโต๊ะแล้ว เกือบสองอาทิตย์ที่พี่ป้องเป็นคนขี่มอเตอร์ไซด์คู่กายของแกเอาปิ่นโตมื้อเที่ยงมาส่ง ตามประสาคนว่างงานเนื่องจากเพิ่งลาออกจากที่ทำงานมาเปิดร้านดอกไม้ร่วมกับพี่สิน เพื่อนรักของพี่ป้อง เห็นว่าจะเช้งร้านต่อจากเจ้าของเดิมที่จะย้ายไปอยู่ต่างประเทศถาวร ร้านอยู่ตรงข้ามร้านเชิญครับ แถวๆ ด้านหน้าของโรงพยาบาลน่ะครับ

“อ้าว...ยังไม่ไปกันอีกหรอคะพี่ป้อง พี่ฟ้า” ยีนเดินออกมาจากหลังร้าน มีตามเดินตาบวมหน้าแดงตามหลังมาด้วย

“ร้องไห้หรือไงเรา”

“ครับ”

เป็นไปตามคาด พอพี่ป้องเห็นตามก็รีบอ้าแขนกว้างรอไว้ก่อนเลย ส่วนตามก็รีบเดินเข้าไปซกอกร้องไห้ไปตามระเบียบ ไม่ได้เกรงสายตาของลูกค้าในร้านเลย ที่มองผู้ชายตัวสูงใหญ่ ผิวเข้ม หน้าคม มาดพระเอกสุดๆ ยืนกอดเด็กชายตัวเล็ก ผิวขาว หน้าใส หัวเกรียน มองแทบจะเป็นตาเดียวกันอยู่แล้ว

“พี่ป้องขา อายสายตาลูกค้าสาวๆ ด้วยนะคะ ดูสิคะ มองกันตาละห้อยแล้ว” ยีนสะกิดบอก แล้วดึงตัวตามมากอดเสียเอง

“ก็พี่กอดน้องชายพี่ ไม่เห็นเป็นไรเลย เนอะตามเนอะ” แกว่า แต่ไม่วายหันไปส่งยิ้มให้ลูกค้าทั้งหญิงชายไปทั่วร้าน

“ใช่ครับ” ตามตอบยิ้มๆ ยิ้มของตามสดใสมากครับ สดใสทั้งที่มีคราบน้ำตาอยู่เต็มหน้า

ตั้งแต่พี่ป้องทำหน้าที่ถือปิ่นโตมาส่งและค่อยช่วยเป็นเก็บโต๊ะในวันที่ไม่ต้องรีบไปไหน แกดูฮอตในหมู่สาวๆ มาก มีหลายคนถึงกับเดินมาที่เคาน์เตอร์ขอเบอร์โทรด้วยซ้ำ พี่ป้องให้ไปตามระเบียบครับ เพราะแกเป็นคนนิสัยเรื่อยๆ ไม่คิดอะไรมาก แต่ใช่จะสานสัมพันธ์อะไรนักนะครับ ที่ให้เพราะเป็นมารยาท ไม่อยากทำให้ลูกค้าของร้านเสียความรู้สึกหรือขายหน้า ถ้าแกปฏิเสธออกไป สาวๆ เลยแห้วไปตามๆ กัน แต่อย่าเข้าใจผิดนะครับว่าแกมีแฟนแล้ว พี่ป้องยังโสดสนิทมากถึงมากที่สุด

.

.

.

“เข้มแข็งไว้นะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” พี่ป้องบอกผม น้ำเสียงเจือไปด้วยความห่วงใย แสดงว่าแดนหรือไม่ก็ยีน หรือบางทีอาจเป็นตามที่บอกเรื่องที่ผมเลิกกับคุณหมอให้พี่ป้องฟังแล้ว แกถึงเข้าใจอาการของผมในตอนนี้


“.....” ผมขยับเข้าใกล้พี่ป้อง หวังใช้เป็นหลักยึด ผมกับพี่ป้องกำลังเปิดประตูออกมาจากในร้าน และคุณหมอกำลังเดินข้ามถนนมายังร้านเชิญครับ ข้างคุณหมอคือผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง ผมจำได้ติดตาแม้จะเคยเห็นหน้าเธอแค่ครั้งเดียวและในระยะใกล้ด้วย เธอชื่อเนย ผู้หญิงที่คุณหมอกำลังจะแต่งงานด้วย

“ไปกันเถอะ” พี่ป้องบอก หลังจากแย่งกุญแจรถไปจากมือผม พร้อมกับกุมมือผมไว้

“ปล่อยมือผมเถอะพี่ป้อง” ผมบอกพี่ป้องเสียงเบา ไม่กล้ามองหน้าคุณหมอเลย ผมไม่อยากให้คุณหมอเข้าใจผิดด้วย พี่ป้องกุมมือผมแบบนี้ คุณหมอต้องเห็นแน่ๆ กลัวคุณหมอเข้าใจผิด คิดว่าพอเลิกกับคุณหมอปุบก็มีคนใหม่ทันที ไม่อยากให้คิดว่าผมเป็นคนใจง่าย

“ไม่ปล่อย” แกว่า แล้วยิ้ม จูงมือผมไปที่รถทันที ผมไม่เห็นหรอกว่าคุณหมอมีอาการยังไงตอนเห็นพี่ป้องกุมมือผม พาเดินไปที่รถ แล้วเปิดประตูฝั่งตรงข้ามคนขับให้ผมอีก ผมไม่เห็นเพราะผมไม่กล้ามองคุณหมอ ไม่กล้าแม้จะชำเลืองมองด้วยซ้ำ ได้แต่ก้มหน้ามองมือตัวเองบนตัก จนกระทั่งรถแล่นออกมาจากบริเวณร้าน ผมถึงกล้าเงยหน้าขึ้นมามองคนขับ

“พี่ป้องไม่น่าทำแบบนั้นเลย” ผมว่า ไม่ได้โทษพี่ป้อง ที่พี่ป้องทำเพราะอยากช่วยผมทางอ้อม 

“เขาจะได้รู้ไงว่าเราน่ะ ไม่ใช่ของเล่น ต่อไปจะได้ไม่กล้าเข้ามายุ่งกับเรา ถ้ามายุ่งอีกบอกไปเลยว่ามีแฟนใหม่แล้ว”

“ยังไม่มีสักหน่อย”

“พี่นี่ไง บอกไปเลยว่าเราน่ะเป็นแฟนพี่ เขาจะไม่ได้มายุ่งวุ่นวายกับเราอีก” พี่ป้องหันมาบอกผมตอนรถกำลังติดไฟแดง แกพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังมาก คำว่ายุ่งวุ่นวายของพี่ป้อง มันหมายถึงการที่คุณหมอยังมานั่งทานเค้กในร้านเชิญครับอยู่ทุกวัน พร้อมกับดอกไม้ที่เอามาฝากไว้ให้ผมที่เคาน์เตอร์ทุกวัน แล้วพยายามที่จะขอคุยกับผมอยู่ทุกวันด้วยเช่นกัน

“แต่...แต่ผม....” ผมไม่รู้จะบอกพี่ป้องยังไงดี

“ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเขาจะถอดใจแล้วไม่มาง้อเราอีกใช่ไหม?” แกถาม น้ำเสียงเหมือนผู้ใหญ่ติเด็ก

“.....”

“พี่พูดถูกใช่ไหม?”

“....” ผมพยักหน้าแทนคำตอบ ไม่กล้ามองหน้าแกเพราะกลัวโดนดุ



หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ {26/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 26-03-2012 20:58:24
ต่อ

อย่างที่พี่ป้องพูด มันถูกต้องที่สุด ในส่วนลึกข้างใน ผมยังอยากเริ่มต้นใหม่กับคุณหมอ อยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ผมอยากมีคุณหมออยู่ข้างๆ เหมือนที่เคยมี แม้ความหวังมันจะริบหรี่ก็ตาม นนท์บอกผมว่าน้องเนยคนนั้นคือผู้หญิงที่ครอบครัวคุณหมออยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ ครอบครัวของทั้งสองรู้จักและสนิทสนนมกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่

นนท์รู้เพราะนนท์จำน้องเนยได้จากภาพถ่ายของพี่ฝุ่นกับเพื่อนพี่ฝุ่น ตอนที่ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน แล้วในหลายๆ ภาพนั้นมีน้องเนยรวมอยู่ด้วย น้องเนยเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเพื่อนของพี่ฝุ่น นนท์เลยให้พี่ฝุ่นสืบมาให้ถึงได้รู้เรื่องทั้งหมด

“ขี้แยอีกแล้วนะเรา” คำพูดแบบเดิมที่ผมเคยพูดกับตาม ย้อนกลับมาหาผมแล้วครับ ไม่รู้น้ำตามันไหลตอนไหน

“ขอบคุณครับ” พี่ป้องส่งทิซซู่มาให้ แกเลี้ยวรถเข้าไปจอดในลานจอดรถพอดี

“จะซื้อของไหวไหม”

“ไหวครับ” ผมยิ้มให้พี่ป้อง

“แต่เรื่องเมื่อกี้ พี่พูดจริงนะ พี่ไม่อยากเห็นเราเสียใจ ตอนนนท์ก็ทีหนึ่งแล้ว พี่ว่าอยู่เป็นโสดอย่างพี่ดีกว่า ไม่ต้องมีเรื่องให้ปวดหัว” พี่ป้องว่า คิดแบบนี้ละมั้ง พี่ป้องถึงไม่ยอมมีแฟนสักที

“โสดที่ไหนกัน เห็นอยู่ว่ามีแฟนแล้ว ควงกันไปซื้อซะด้วย” ผมแกล้งพูด กะจะเล่นมุกขำๆ ประมาณว่า ผมนี่แหละคือแฟนของพี่ป้อง แต่พี่ป้องกลับแก้ตัวเสียงหลงทันที

“คนนั้นไม่ใช่น่ะ นั่นก็แค่เด็กที่พี่บังเอิญช่วยเขาเอาไว้ แล้วเขาก็แค่....เอ่อ....แค่น่ารัก...แต่ แต่พี่ไม่ได้ชอบผู้ชายนะ” ท้ายประโยคแกเสียงเบาลงมาก

“หา?” เล่นเอาผมงง ลืมเรื่องเศร้าของตัวเองไปเลยทีเดียว

“อ้าว?...”พี่ป้องทำหน้าเก้อ ยกมือลูบศีรษะ

“นั่นแน่ มีความลับใช่ไหม เด็กคนนั้นเป็นใคร เป็นผู้ชายใช่ไหม” ผมชี้หน้าคั้นเอาคำตอบ เมื่อกี้หลุดออกมาแล้วว่า ไม่ชอบผู้ชาย แสดงว่าเด็กคนนั้นเป็นผู้ชาย แล้วที่ไม่เรียกชื่อออกมา น่าจะเป็นเพราะเป็นคนที่ผมไม่รู้จัก

“ไม่มีอะไรหรอก ไปๆ ลงไปซื้อของได้แล้ว นั่งคุยกันทำไมอยู่ตั้งนาน เสียเวลาเปล่าๆ” พี่ป้องปัดมือผมทิ้ง เฉไฉเปลี่ยนเรื่อง แล้วรีบลงจากรถไปทันที ผมไม่ได้เซ้าซี้อะไรมากเพราะไม่ใช่นิสัยอยู่แล้ว แต่รับรองว่าไม่นานเรื่องต้องหลุดออกมาจากปากพี่ป้องแน่ๆ แกเป็นพวกเก็บความลับไม่อยู่ ให้เหล้าเข้าปากคงได้คลายความลับออกมา เอ๊ะ! ลืมไปครับ พี่ป้องไม่ดื่มเหล้า นอกเสียจากจะมีคนมอมแก

.

.

.

“พี่ฟ้า”

ยีนถือถาดเข้ามาในครัว ผมกำลังร่อนแป้งทำขนมเค้กอยู่ ตั้งแต่ซื้อของเสร็จแล้วกลับมาที่ร้าน ผมก็หมกตัวอยู่ในครัวตลอด ไม่ได้ออกไปข้างนอก เหตุผลเพราะคุณหมอยังอยู่ในร้าน ถ้าผมไม่เข้าข้างตัวเองมากเกินไป ผมคิดว่าคุณหมอนั่งรอเพื่อจะขอพูดกับผม แต่ผมก็เดินหนีเข้าครัวมาครับ ไม่พร้อมเผชิญหน้ากับคุณหมอเลยจริงๆ

“คุณหมอกลับไปหรือยัง?”

“กลับไปแล้วค่ะ” ยีนบอก พลางล้างจานในอ่างไปด้วย

“อืม...” สองทุ่มแล้วนี่นา คุณหมอนั่งอยู่ในร้านผมตั้งแต่ตอนสิบเอ็ดโมงจนถึงสองทุ่มเลยเหรอ ยีนบอกผมครับว่าตั้งแต่ที่คุณหมอเข้ามาในร้านกับคุณเนย แม้ว่าคุณเนยจะกลับออกไปแล้ว คุณหมอก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม ผมดีใจนะ ดีใจที่คุณหมอทำแบบนี้ มันเหมือนว่าคุณหมอกำลังง้อผม

“พี่ฟ้า...” ยีนเรียกผมอีกครั้ง หลังจากล้างจานเสร็จ เดินมานั่งเท้าคางมองหน้าผม

“ตอนที่พี่ป้องจะกลับ ไม่รู้ว่าเดินไปพูดอะไรกับคุณหมอ ยีนเห็นคุณหมอทำหน้าเศร้าไปเลยค่ะ”

“.....”

ผมรู้สึกหมดแรงตอนที่ยีนบอก เดาได้เลยว่าพี่ป้องพูดอะไรกับคุณหมอ ทีนี้คุณหมอเข้าใจผมผิดไปเต็มๆ แน่ ทำไงดีครับ ผมไม่อยากให้คุณหมอเข้าใจผิด ผมควรไปหาคุณหมอแล้วบอกความจริงไหม แต่มันจะได้อะไรขึ้นมา ความจริงที่คุณหมอต้องแต่งงานกับคนที่ครอบครัวเลือกให้ก็ยังคงมีอยู่ต่อไป คนอย่างคุณหมอคงเลือกครอบครัวมากกว่าเลือกผม คุณหมอเป็นคนดี ครอบครัวคงต้องมาเป็นที่หนึ่ง หรือบางทีสาเหตุที่เลิกกับคุณลมอาจเป็นด้วยเรื่องนี้ก็ได้

แล้ว...

แล้วทำไมต้องมายุ่งกับผมด้วย...

ไม่ใช่สินะ...

เป็นผมเองต่างหากที่เข้าไปยุ่งกับคุณหมอก่อน เรื่องคืนนั้นผมเป็นฝ่ายเริ่ม เรื่องมันถึงได้เลยเถิดมาจนถึงทุกวันนี้

“อย่าร้องสิคะพี่ฟ้า” ยีนแตะหลังมือผมเบาๆ แล้วลุกเดินออกไปด้านนอก

“.....” ผมกำลังร้องไห้? ผมไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำจนกระทั่งยีนพูดขึ้นมา

“ฟ้า...ร้องไห้ทำไม?” เสียงนนท์ดังมาจากด้านหลัง ผมยิ่งร้องหนักขึ้นเมื่อนนท์เดินเข้ามาสวมกอด ผมกอดนนท์ไว้แน่น เวลานี้นนท์เป็นที่พิงที่ดีที่สุดสำหรับผม ผมมองข้ามไหล่นนท์ เห็นแดนกับยีนอยู่ตรงนั้น ก่อนที่ทั้งสองจะเดินถอยหลังออกไป

“ร้องเยอะไปแล้วนะฟ้า ร้องมาตั้งสี่ห้าวัน ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง” นนท์พูดดุๆ แต่ผมรู้นะครับว่านนท์พูดเพื่อปลอบผมมากกว่าจะดุจริงจัง

“.....” ผมส่ายหน้า ร้องหนักขึ้น ร้องอย่างไม่อายอะไรทั้งนั้นแล้วตอนนี้ ตามกับดาวก็กลับไปแล้ว ยีนกับแดนก็เป็นเหมือนคนในครอบครัวที่ผมไม่จำเป็นต้องปิดบังความอ่อนแอนี้ไม่ให้รู้

“ ตอนนนท์ ไม่เห็นร้องหนักขนาดนี้นะ เสียใจนะเนี้ย” นนท์ประคองหน้าผมขึ้นมาพูดด้วย

“ก็มันไม่เหมือนกันนี่” ผมเถียงทั้งน้ำตา

“ไม่เหมือนยังไง?”

“ไม่รู้ รู้แต่ไม่เหมือนกัน” มันยากจะอธิบายครับ ผมรู้แค่ว่าความรู้สึกมันต่างกันมาก ระหว่างนนท์กับคุณหมอ ตอนนนท์ ผมรู้สึกกลัว กลัวว่าจะไม่มีนนท์อยู่ในชีวิต นนท์เป็นเหมือนครอบครัวของผม ครอบครัวที่ผมไม่อยากให้แตกสลายไปไหน แต่กลับคุณหมอ ผมรู้สึกว่ากำลังถูกบังคับไม่ให้หายใจ มันทรมานมาก ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ น้ำตาของผมถึงไหลไม่ยอมหยุด เหนื่อยไปหมดแล้วตอนนี้ จนนนท์ต้องพยุงให้นั่ง

“ความจริงนนท์ก็รู้ว่ามันไม่เหมือนกัน เลิกร้องเถอะ” นนท์ว่า มือก็เช็ดน้ำตาให้ผมไปด้วย

“ฟ้าไม่ได้อยากร้องนะนนท์ แต่น้ำตามันไหลเอง ห้ามไม่ได้ด้วย”

“แล้วจะขับรถกลับคอนโดไหวไหม ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวนนท์ขับส่ง” นนท์ยังเป็นนนท์คนเดิม ห่วงใยผมเสมอ เรื่องที่ลงมือชกคุณหมอวันนั้นก็เพราะโกรธคุณหมอแทนผม ผมห้ามนนท์ไว้ไม่ทัน กว่าจะดึงตัวนนท์ออกมาได้ คุณหมอก็โดนไปหลายหมัด คุณหมอไม่ได้สู้นนท์เลย ปล่อยให้นนท์ต่อยอยู่ฝ่ายเดียว ของเดิมที่ชกกับพี่ชายตัวเองยังไม่หายดี โดนนนท์ต่อยซ้ำไปอีก ผมเป็นห่วงแต่ทำอะไรได้ไม่มากไปกว่าห่วงอยู่ในใจเท่านั้น

“ไม่ต้องหรอก ฟ้ากลับเองได้” ผมบอก พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล นนท์จะได้ไม่เป็นห่วง

“พี่นนท์”

“มีอะไร?” นนท์หันไปถามยีนที่เดินทำหน้ายุ่งเข้ามา

“แดนกลับไปแล้วนะคะ ยีนห้ามแต่แดนไม่ฟัง” ยีนพูดจบ นนท์หน้านิ่งไปเลย ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ บอกตามตรง ผมดูนนท์ไม่ค่อยออกหรอกครับ คบกันมาตั้งแต่เด็กก็จริง

“ขอบใจมากยีน” นนท์นิ่งไปนานถึงจะหลุดคำพูดนี้ออกมาได้ พักหลังๆ มานี่ นนท์กับยีนญาติดีกันแบบที่เรียกว่า หน้ามือเป็นหลังมือทีเดียวครับ

“จะกลับก็ได้นะนนท์ ไม่ต้องห่วงหรอก ฟ้าทำเค้กเสร็จก็จะกลับแล้วล่ะ” ผมบอกนนท์

“กลับไปง้อแดนเถอะค่ะพี่นนท์ เมื่อกี้หน้าเหมือนหมาเหงาเลยค่ะ” ยีนที่กำลังเปิดตู้เอาของมาทำเค้กหันมาบอก

“อยู่ได้แน่นะ” นนท์ทำท่าลังเล แต่ผมว่าใจคงไปอยู่ที่แดนแล้วมั้งครับ

“อืม...อยู่ได้” ผมยิ้มให้นนท์ น้ำตามันหยุดไหลไปแล้ว


“ยีนดูแลพี่ฟ้าให้ดีนะ ถ้าร้องไห้อีกก็โทรตามพี่เลย” นนท์สั่งทิ้งท้ายเอาไว้ ก่อนจะเดินเร็วๆ ออกจากห้องครัวไป ยีนเดินตามออกไปด้วย เพราะต้องไปล็อคประตูหน้าร้านหลังจากที่นนท์ออกไปแล้ว

ผมเริ่มลงมือทำเค้กอีกครั้ง สั่งตัวเองไม่ให้ร้องอีก ไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง

.

.

.

ผมขับรถกลับคอนโดตอนห้าทุ่มนิดๆ ปวดหัวมาเลยครับตอนนี้ ความจริงผมรู้สึกปวดหัวตั้งแต่ตอนที่ทำเค้กอยู่ในร้านแล้ว แต่ไม่แสดงอาการอะไรมาก กลัวยีนรู้ ยีนรู้เท่ากับทุกคนต้องรู้ ผมเลยฝืนทำเค้กให้เสร็จ  พอก้าวลงจากรถ เดินต่อไม่ไหวต้องพิงตัวรถไว้ก่อน ร่างกายผมคงต้องการพักผ่อนเป็นอย่างมาก หลายคืนมาแล้วที่ผมนอนไม่หลับ ร่างกายเลยได้พักผ่อนน้อย ประกอบกับที่ผมร้องไห้ติดต่อกันมาหลายวัน ร่างกายมันคงเหนื่อยจริงๆ

“เอาน่า ไม่อีกกี่ก้าวก็ถึงห้องแล้ว อดทนหน่อยฟ้า” ผมสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ เรียกพลังที่เหลืออยู่น้อยนิดออกมาให้หมด แล้วเริ่มก้าว แต่ละก้าวมันช่างหนักหนาคล้ายกับว่ามีหินก้อนโตๆ ผูกติดกับเท้าทั้งสองของผม กว่าจะเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องได้ เหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้า เนื้อตัวข้างในก็ร้อนๆ หนาวๆ สลับกันมา ปวดหัวมากด้วยแทบพยุงตัวไม่อยู่ แค่จะเปิดประตูเข้าห้อง มือผมก็สั่นเหมือนคนไม่มีแรงเลยครับ

เฮ๊ะ…..!!

วินาทีที่ประตูถูกเปิดเข้าไป ห้องที่ควรจะมืดกลับมีแสงสว่างเปิดรอผมอยู่แล้ว

วินาทีแรกผมตกใจ แต่วินาทีต่อมาความรู้สึกมันถาโถมเข้าสู่หัวใจของผม วินาทีที่คนๆ หนึ่งลุกจากโซฟา เดินตรงเข้ามาหาผม

แล้ววินาทีต่อไป ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะทุกอย่างมันมืดและดับวูบไปทันที เมื่อคุณหมอรวบตัวผมเข้าไปกอด พร้อมกับคำพูดที่ว่า

“ผมคิดถึงคุณ”



>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<


คนเขียนขอคุย ::
เอาเป็นข้อๆ เลยนะคะ อิอิ
1.   ขอโทษทุกคนนะคะที่หายไปนานมากกกก นับนิ้วแล้วยี่สิบกว่าวันแระเนอะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ พอดีงานเข้า (แบบว่าทำงานส่งหัวหน้าไม่ทัน T^T) อย่าหนีกันไปไหนน้า
2.   ห้ามใครจิ้นป้องกะตามน้า >__< เพราะพี่ปกป้อง กับ น้องตามใจ มีคู่ของเขาอยู่แล้ววว อิอิ
3.   ตอนนี้สั้นอีกแล้ว (แต่ก็ไม่มากน้า) แล้วก็ไม่แน่ใจว่ามัน ดราม่ามากไหม (คนเขียนว่าไม่มากเท่าไหร่น่า //ผิวปากเบาๆ ก้มหน้ามองแป้นพิมพ์ ไม่กล้าสบตาใครเล๊ย) แต่แอบบอกว่าตอนต่อไปจะชักชวนให้คุณหมอกับคุณฟ้าดีกันให้ได้ค่ะ ยืนยัน!! (แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณฟ้าจะใจอ่อนหรือเปล่า แล้วคุณหมอจะทำอะไรให้ชัดเจนกว่านี้ไหม ไม่ใช่คนเขียนน้า >___<)
4.   ขอบคุณสำหรับการต้อนรับคู่ของ ‘ยะกับพี’ นะคะ คู่นี้จะเขียนแยกเช่นกันค่ะ เหมือนเรื่องของนนท์กับแดน หนึ่งกับอิง น่ะค่ะ ไม่ว่ากันน่า แต่อาจจะไม่ยาวมาก....มั้ง (ถ้าควบคุมไม่ให้ออกทะเลได้ T^T)
5.   ขอบคุณสำหรับทุกคลิก ทุกคอมเม้นท์ที่ให้กับเรื่องนี้ และยังรอเรื่องนี้กันอยู่นะคะ อิอิ ดีใจ มีคนอ่านมาทวงนิยาย (ดีใจจริงๆนะ)
6.   ขอบคุณข้อแนะนำของคุณทะเลหัวใจนะคะ เดี๋ยวคนเขียนจะกลับไปแก้เรื่องสรรพนามระหว่างหมอนุกับคุณอิงใหม่นะคะ เอาให้ชัดเจน อิอิ แบบว่า มันเผลอลืมไปนะคะ ไม่โกรธค่ะ ไม่โกรธอะไรเลย ดีๆ ค่ะ ชอบคำแนะนำ คนเขียนจะได้เอาไปแก้ไข แล้วก็ขอบคุณที่ชวนมาฟิชเจอริ่งกันนะคะ ^__^ แต่การเขียนของคนแต่งยังอ่อนด้อยอยู่เลย T^T


บายนะคะทุกคน ขอไปปั่นเรื่องสั้น (ผมมันคนถูกทิ้งต่อก่อน  ตามไปอ่านกันได้นะคะ)

ขอบคุณมากๆ ค่ะ :bye2:

สีเหลืองอ่อน // aeaw
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ {26/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 26-03-2012 21:15:27
มาช้า ไม่ ว่า เลย แต่ขออย่างเดียว. อย่า มา แบบ. ค้างๆ แบบนี้. TT 

อยากอ่านต่อ อ่า.
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ {26/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 26-03-2012 21:26:16
ฟ้าน่าสงสารอ่ะ ตอนนี้บิวท์ซะเราแทบร้องไห้เลย

ไม่เห็นจะมีใครผิดเลยแต่ทำไมต้องเศร้าขนาดนี้ด้วย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ {26/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 26-03-2012 21:31:28
ตอนหน้าคงจะเคลียร์
กันน๊า :กอด1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ {26/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 26-03-2012 21:54:17
อย่านานนักน๊า อยากให้ดีกันเร็ว ออกจะรักกันขนาดนี้
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ {26/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: moneza ที่ 26-03-2012 22:12:02
 :เฮ้อ: เราเป็นคุณหมอเราน้อยใจแย่เลย ฟังคนอื่นเด๋วคนนั้นบอกโน่นคนนี้บอกนั่นไม่ฟังเรา ไม่ถามเราซักคำ ตอนฟ้ากอดกะนนคุณหมอยังรอฟ้าอธิบายเลย น้อยใจแทน

ปล.อินเกิ๊นนนน อยากให้คู่นี้เค้าดีกัน
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ {26/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 26-03-2012 22:19:40
สงสารฟ้าอ่ะ บอกตรงๆว่าเข้าข้างฟ้าเพราะคุณหมอไม่ชัดเจนสักที เชอะ........  :angry2: :angry2:


ปล. อยากอ่านทั้งสามหรือสี่คู่ที่เหลือด้วยค่า แล้วจะเข้ามาติดตามต่อนะคะ ชอบเรื่องนี้มากค่ะ ^^  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ {26/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 26-03-2012 22:20:23
คุณหมอ อย่าทนอีกเลย จัดการให้เคลียร์ซะทีเถอะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ {26/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 26-03-2012 22:33:38
โอย เมือไรจะเคลียร์กันให้รุ้เรื่อง ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ {26/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mahmeow ที่ 26-03-2012 23:30:45
คุณหมอน่าร๊ากกก...ตามมาง้อถึงที่ห้องเลย...> <

เชียร์คุณหมอขาดใจ...ขอคุณฟ้าให้เริ่มต้นกันใหม่ให้ได้เร็วๆนะ...
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ {26/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 30-03-2012 18:29:06
คุยกันดีกว่านะ อย่ามัวคิดเองอยู่ฝ่ายเดียวเลย ทรมานตัวเองเปล่า ๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ {26/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 30-03-2012 20:16:51
คุณหมอ
เอาให้เคลียร์นะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ {26/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 02-04-2012 11:46:03
 :catrun:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 25 ผมคิดถึงคุณ {26/03/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 03-04-2012 14:24:50
หายไป นานไป แล้ว นะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/034/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 04-04-2012 11:06:24
ตอนที่ 26 รักนะครับ


เจ้าของร่างกายที่เป็นลมเพราะอาการไข้ขึ้นเริ่มขยับ ตอนที่ผมกำลังติดกระดุมเม็ดสุดท้ายของชุดนอนให้พอดี หลังจากเช็ดตัวเพื่อบรรเทาอาการตัวร้อนเสร็จเมื่อนาทีที่แล้ว

“คุณหมอ...” เปลือกตาบางค่อยๆ ขยับเผยให้เห็นส่วนหนึ่งของหน่วยตากลม ปากสีซีดและแห้งพยายามพูด แต่เสียงที่หลุดออกมาก็เบาเหลือเกิน

“ทานยาก่อนนะครับ”

ผมประคองคนไข้ให้ลุกมานั่งพิงอยู่ที่อก ส่งยาเม็ดเล็กเข้าปากซีด ตามด้วยน้ำ แล้วประคองให้นอนลงตามเดิม ปัดกลุ่มผมที่ระบนหน้าผากให้ไปอีกทาง เพื่อวางผ้าขนหนูผืนเล็กบนหน้าผากนั้น ก่อนจะค่อยๆบรรจงจูบกลีบปากบางเบาๆ

“...คุณหมอ”

เสียงที่เปล่งออกมาแหบแห้งเกือบจะไม่ได้ยิน คุณฟ้าพยายามจะปรือตามองผม แต่เพราะเปลือกตาที่หนักจากอาการไข้ทำให้ทำได้ลำบาก

“ครับ”

ผมดึงมือคุณฟ้าขึ้นมากุม นานแค่ไหนแล้วที่ผมไม่ได้สัมผัสมือคู่นี้ เพียงไม่กี่วัน ทว่ามันกลับยาวนาน ผมไม่อยากนับเป็นวัน หรือชั่วโมง หรือแม้แต่นาที ผมนับทุกวินาทีตั้งแต่ที่คุณฟ้าหันหลังให้ผม ด้วยเหตุผลหรือความผิดที่ผมไม่รู้และยังไม่รู้จนถึงวินาทีนี้ วินาทีที่ริมฝีปากผมกำลังสัมผัสเข้ากับริมฝีปากซีดและแห้งของอีกฝ่าย ก่อนเงยหน้าขึ้นมองสบตา

หัวใจผมร่ำร้อง มันไม่อยากปล่อยผู้ชายคนนี้ให้จากไปไหน หรือกลายเป็นของคนอื่น

“คุณหมอ...”

“ครับ” ผมใช้มือข้างหนึ่งเกลี่ยน้ำตาหยดเล็กจากหางตา  คุณฟ้าร้องไห้เพราะผม ผมทำให้คุณฟ้าร้องไห้

“ ฮึก...อยู่กับผมนะ” คำพูดที่เอ่ยออกมา มันแหบแห้งและแผ่วเบา ปนออกมาพร้อมรอยสะอื้นของน้ำตา

“ครับ”

“อย่าทิ้ง...ฮึก...อย่าทิ้งผมไปไหน...ฮึก...” คำพูดที่แผ่วเบาแต่กลับดังชัดเจนอยู่ในหัวใจของผม ผมเกลี่ยน้ำตาที่ไหลช้าๆ อีกครั้ง ไม่รู้เมื่อไหร่ที่มันจะหมด

“ไม่ครับ ไม่ทิ้ง”

“ฮึก...ผมรักคุณหมอนะ....” คุณฟ้ายังคงฝืนแรงสะอื้นของตัวเองพูดออกมา ผมไม่รู้ว่าคุณฟ้าเจ็บปวดแค่ไหน ถึงร้องไห้ได้มากมายขนาดนี้ ผมไม่อยากเห็นคุณฟ้าร้องไห้เพราะมันทำให้ผมเจ็บและจุกจนพูดอะไรไม่ออก

“คุณหมอ...ฮึก...คุณหมอรัก...รักผมได้ไหม......ได้ไหม...” คุณฟ้าถาม ถามทั้งน้ำตา ฝืนตัวลุกขึ้นมากอดผมไว้แน่น ผมกอดตอบร่างกายที่สั่นเทานั้น แนบแน่นไม่ต่างกัน

“ได้ไหมครับ...ฮึก”

“อย่าถามผมแบบนี้สิครับ คุณฟ้าถามเหมือนผมไม่ได้รักคุณฟ้า”

“ฮึก...คุณหมอไม่ได้รักผม ...ผมอยากให้คุณหมอ...ฮึก...อยากให้คุณหมอรักผม...ฮึก...”

“ทำไมครับ ทำไมถึงคิดว่าผมไม่รัก” ผมถาม ดึงใบหน้าที่ซุกตรงอกขึ้นมาพูดกันให้รู้เรื่อง มือก็เช็ดน้ำตาบนแก้มซีดๆ นั้นไปด้วย

“ผมรู้...คุณหมอไม่ได้รักผม...” เจ้าตัวว่า ไปเอาความคิดนี้มาจากไหน ผมทำอะไรให้คุณฟ้าคิดว่าผมไม่รัก ทั้งที่ผมรักคุณฟ้ามากขนาดนี้ รักมากกว่าที่เคยรักน้องลมด้วยซ้ำ

“ผมไม่รักคุณฟ้าตรงไหนครับ” ผมถาม พลางก้มจูบปากสีซีด ไม่ได้สอดลิ้นเข้าไปแต่กดย้ำไปมาอยู่นานถึงได้ยอมละออกมา อยากกลืนกินความหวานที่ห่างหายไปแสนนาน แต่ต้องสกัดกั้นความต้องการของตัวเองเอาไว้ เพราะอยากคุยกับคุณฟ้าให้รู้เรื่องเสียก่อน ที่ขอเลิกกับผมเพราะคิดว่าผมไม่รักตัวเองงั้นสินะ

พอผมถอนจูบ คุณฟ้าก็ก้มหน้ามองมองมือตัวเองที่บีบกันไปมา ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองผม น้ำตาล่วงจากหน่วยตาสู่หลังมือตัวเอง

“.....”

ผมเงียบ เพื่อรอฟังคำตอบของคุณฟ้า ผมไม่อยากคาดคั้นหรือบังคับให้คุณฟ้าต้องตอบ ผมอยากให้คุณฟ้าตอบคำถามของผม เมื่อคุณฟ้าพร้อมที่จะพูดมันออกมาจริงๆ

“.....”

น้ำตาจากหน่วยตายังมีให้เห็น เสียงสะอื้นดังแผ่วเบาเพราะเจ้าตัวพยายามกลั้นมันเอาไว้

“.....”

ผมอังมือตรงหน้าผากคุณฟ้า มันไม่ได้ร้อนเหมือนตอนแรกที่เจอ ตอนนั้นผมเดินเข้าไปกอดคุณฟ้า บอกคำที่กู่ร้องอยู่ในใจ คำที่ว่า ‘คิดถึง’ แต่พอได้สัมผัสตัวถึงรู้ว่าเจ้าตัวไม่สบายและเป็นหมดสติอยู่ในอ้อมแขนของผม

“.....”

คุณฟ้าเงยหน้าขึ้นมามองผมนิดนึง ก่อนจะก้มมองมือตัวเองต่อ

“.....”

ผมอยากรู้ คนตรงหน้าผมกำลังคิดอะไรอยู่ แต่อย่างน้อยผมก็รู้ว่าคุณฟ้าไม่ได้หมดรักผม คนที่ผมรักเขายังรักผมเหมือนเดิม   

“....คุณหมอ” คุณฟ้ารั้งแขนผมไว้ เมื่อผมลุกขึ้นยืน ผมไม่ได้ลุกหนี ผมแค่จะลุกเอาแก้วไปเก็บข้างนอก ตากลมๆ เต็มไปด้วยน้ำตาแหงนมองผม คงคิดว่าผมจะลุกหนีตัวเอง

“ผมจะเอาแก้วไปเก็บครับ” ผมยิ้มแล้วบอกคุณฟ้า มือนั้นจึงค่อยๆ ปล่อยแขนผมช้าๆ

“อยากทานอะไรไหมครับ” ผมถาม

“.....” คุณฟ้าส่ายหน้า ทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่

ผมเดินถือแก้วออกไปนอนห้อง เห็นมือถือตัวเองวางอยู่ที่โต๊ะหน้าทีวี เลยนึกขึ้นมาได้ว่า ผมควรจะโทรไปบอกหลายชายเสียหน่อย ว่าคืนนี้ผมไม่กลับ แต่ดูเวลาแล้วนี่มันปาเข้าไปเกือบตีสองแล้ว พีน่าจะนอนหลับไปแล้ว แต่ผมก็อดห่วงพีไม่ได้ สาเหตุเพราะพี่ชายตัวดีของผมนั่นแหละ พี่ยะเป็นคนพูดอะไรเข้าใจยากและไม่คิดจะทำตามคำพูดตัวเอง ผมห้ามไม่ให้ยุ่งกับพีเพราะยังเด็ก ทำได้ไม่กี่วันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

ไม่อยากโทษว่าพีก็มีส่วนด้วยที่ใจอ่อนกับคุณยะของตัวเองเกินไป ไม่อย่างนั้นเมื่อคืนคงไม่เกิดเรื่องอีหรอบเดิมที่เคยเกิดขึ้นในคอนโดของคุณฟ้า กว่าผมจะรู้สึกตัวว่ามีอะไรผิดปรกติเกิดขึ้นในห้องพีก็ช้าเกินกว่าจะแก้ไขอะไรได้ ปล่อยให้เลยตามเลย ตอนเช้าลากตัวพี่ยะมาคุย ทวงข้อตกลงเดิมที่เคยตกลงกันไว้ พี่ยะก็ทำหูทวนลม แกล้งไม่รู้ไม่ชี้ จนผมจนใจ พูดอะไรไปก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา คืนนี้และคืนต่อๆ ไปผมเลยคิดว่าจะเอาตัวพีมานอนในห้องด้วยซะเลย มันเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด แต่คืนนี้เป็นอันว่าผมไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านอย่างที่คิดเอาไว้ เพราะคำพูดของพี่ป้อง พี่ชายของแดน (ผมเคยเจอพี่ป้องครั้งหนึ่งตอนที่มารับแดนกลับบ้าน) ที่เดินเข้ามาบอกผม ก่อนจะออกจากร้านไป

พี่ป้องบอกผมให้เลิกยุ่งกับคุณฟ้า เพราะตัวเองกำลังจะคบกับคุณฟ้า

คิดว่าผมจะเชื่อไหม?

หึ..ผมไม่เชื่อ

แต่ผมก็แอบหวั่นไหวไม่ได้ เพราะนึกไปถึงตอนกลางวันที่เห็นพี่ป้องจับมือคุณฟ้า คุณฟ้าอาจไม่ได้คิดอะไรกับพี่ป้อง แต่พี่ป้องอาจไม่แน่ มันทำให้ผมอดรนทนไม่ไหวต้องคุยกับคุณฟ้าให้ได้ แต่คุณฟ้าก็ยังหลบหน้าผม ผมจึงตัดสินใจปิดทางหนีของคุณฟ้า ด้วยการกลับมารอที่คอนโด โชคดีครับที่คุณฟ้าไม่ได้ทวงเอากุญแจคอนโดคืน

ผมทิ้งตัวลงนั่ง เอนหลังพิงขอบโซฟา กดโทรศัพท์หาพี่ยะ เช็คดูหน่อยว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ถึงจะตีสองแล้วก็เถอะ นั่งฟังเสียงสัญญาณไม่ถึงห้าวินาทีก็ได้ยินเสียงพี่ยะ

(มีไร?) ถึงน้ำเสียงจะห้วนแต่ฟังอารมณ์ดีไม่น้อย สามารถรับโทรศัพท์ผมตอนตีสองด้วยสุ่มเสียงแบบนี้ ผมว่า เรื่องที่ผมคิดไว้ต้องไม่ผิดแน่ๆ

“ทำไมผมพูดถึงไม่ฟังกันบ้างพี่ยะ พียังเด็ก” ผมเปิดประเด็นทันที ไม่ถามแล้วว่าพี่ยะอยู่กับใคร

(เด็กแล้วไง? ยังไงพีก็เมียฉัน) ปลายเสียงเริ่มฉุน อ้างสิทธิ์ในตัวเด็กที่ช่วยกันเลี้ยงมาตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาทันที

“พี่ยะ...” ผมละอ่อนใจ พูดอะไรไม่ออก พี่ยะดื้อ ไม่ค่อยฟังอะไรใคร เอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องเอาให้ได้ บอกให้หยุดก็เหมือนยิ่งยุให้ทำ

“...งั้นผมขอคุยกับพีหน่อย”

(ไม่ให้คุย เดี๋ยวก็สั่งให้พีดื้อกับฉันอีก)

“คนดื้อน่ะพี่มากกว่านะพี่ยะ” ผมว่าอย่างอ่อนใจ สุดท้ายผมก็ช่วยอะไรพีไม่ได้ พี่ยะก็ยังทำในสิ่งที่เขาต้องการจนได้

(เออๆ แค่นี้นะ คุยกับนายแล้วอารมณ์เสียว่ะ อีกอย่างพรุ่งนี้ฉันจะเอาพีไปอยู่ที่เพนต์เฮ้าส์ จนกว่าจะเปิดเทอมค่อยให้กลับบ้าน แล้วไม่ต้องตามมายุ่งล่ะ)

“ไม่ได้นะพี่ยะ!” ผมรีบห้ามก่อนที่พี่ยะจะวางสาย เอาพีไปอยู่ที่นั่นด้วยก็เท่ากับว่าต้องอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง ผมไม่อยากจะยอมครับ พีช้ำหมดแน่ ผมรู้จักพี่ชายตัวเองดี 

(หรือนายอยากให้คุณแม่จับได้ นายไม่เห็นเหรอว่าพีมันร้องไห้ตาบวมทุกวัน ขืนปล่อยให้อยู่ที่บ้าน คุณแม่จับได้กันพอดี) เหตุผลฟังเข้าท่า แต่ก็เป็นเหตุผลที่พี่ยะได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งทำไม่รู้กันแน่ ที่พีร้องไห้เพราะตัวพี่ยะเองทั้งนั้น

“แต่ถ้าพี่ไม่ยุ่งกับพี พีก็คงไม่ร้องไห้” ผมพูดความจริง อีกฝ่ายกลับอารมณ์เสียหนักกว่าเดิม

(แล้วทำไมฉันจะยุ่งกับเมียตัวเองไม่ได้วะ ไม่อยากคุยแล้ววุ้ย แค่นี้แหละ....)

“เดี๋ยวสิพี่ยะ!” ไม่ทันแล้วครับ พี่ชายผมวางสายไปเรียบร้อย โทรกลับกลับก็ปิดเครื่อง โทรเข้าเบอร์พีก็ถูกตัดสายทิ้ง โทรไปอีกครั้งก็ปิดเครื่องไปด้วย

ผมปวดหัวไปหมด แต่ละเรื่องที่เข้ามาสุมอยู่ในหัว มันใหญ่ไปเสียทุกเรื่อง เรื่องของคุณฟ้าก็ยังต้องรอให้ออกปากบอกว่าอะไรเป็นสาเหตุให้เข้าใจผิดว่าผมไม่ได้รัก ผมถึงจะรู้ว่าต้องแก้ความเข้าใจผิดให้กลายเป็นเข้าใจถูกต้องอย่างไร

เรื่องคลุมถุงชนที่นับวันจะยิ่งจริงจังขึ้น ถึงขั้นเอาดวงไปให้พระท่านดู แล้วอาทิตย์หน้าผมต้องไปเที่ยวเชียงรายกับน้องเนยสองคนโดยคุณหญิงแม่และคุณหญิงวลัยให้เหตุผลของการไปด้วยไม่ได้ว่า มีงานการกุศลเข้ามาด่วนแต่ไม่บอกว่างานอะไร อ้างว่าไม่อยากยกเลิกที่พักเพราะจองและจ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้ว  จะปฏิเสธก็ไม่ได้ โชคดีอยู่หน่อยที่เมื่อตอนกลางวันน้องเนยมาหาผม มาคุยเรื่องที่ว่าอยากจะขอพาเพื่อนสนิทที่บินมาญี่ปุ่นไปเที่ยวด้วย (เพื่อนน้องเนยที่เรียนเมืองนอกด้วยกัน)

แล้วเรื่องพี่ยะกับพีอีก ขืนปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ สักวันเรื่องก็คงได้แตกก่อนเวลาที่คิด ตกลงกันเอาไว้ว่าจะบอกตอนพีเรียนจบมหา’ลัย ยิ่งสองสามวันมานี้ยัยภาก็เหมือนจะจับอาการผิดปรกติของผม พี่ยะ และพีอยู่บ่อยๆ บวกกับการที่พีร้องไห้บ่อยมาก ผมไม่เห็นต้องพีร้องไห้ มาเจออีกทีก็ตอนที่ตาบวมแล้วตลอด

ส่วนเรื่องของอิง หนึ่ง และน้องหวาน ผมก็ยังเป็นห่วงและเก็บเอามาเป็นเรื่องของตัวเองเหมือนกัน อยากช่วยให้ปัญหาคลี่คลายไปในทางที่ดี ผมรู้สึกผิดที่สนับสนุนให้อิงเลือกทำในสิ่งที่อยากทำ มากว่าสนับสนุนให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งมันเท่ากับว่า ผมทำร้ายน้องหวานทางอ้อม

ทำไมชีวิตผมช่วงนี้ถึงมีแต่เรื่องให้กลุ้มก็ไม่รู้

เฮ้อ...

แต่ไม่ว่าจะมีอีกกี่ร้อยปัญหา ปัญหาที่ผมต้องรีบแก้และแก้มันเป็นอันดับแรกคือเรื่องคุณฟ้า...

พอลืมตาขึ้นผมก็เห็นคุณฟ้ายืนอยู่ตรงหน้า

“ออกมาทำไมครับ” ผมลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหา เอามืออังหน้าผาคุณฟ้าดู อาการไข้น่าจะลดลงแล้ว ผมดีใจที่คุณฟ้าอาการดีขึ้น แต่ที่ดีใจกว่านั้นคือ เจ้าตัวหยุดร้องไห้แล้ว เสียงสะอื้นก็เหมือนจะหมดไปด้วย น่าจะหยุดร้องนานพอสมควร

“ผมออกมาตาม” คุณฟ้าบอก ฝืนยิ้มให้ผม เป็นรอยยิ้มที่ไม่สดใสเหมือนเดิม

“เข้าไปนอนกันครับ” ผมว่าแล้วจูงมือคุณฟ้าเข้าไปในห้อง ประคองให้นอนลง ผมเดินไปเปิดแอร์แต่ไม่แรงมาก แล้วย้อนกลับไปปิดไฟนอกห้องและในห้อง ก่อนตามมาล้มตัวลงนอนข้างๆ สวมกอดเนื้อตัวอุ่นๆ ของคุณฟ้าจากด้านหลัง

เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกัน คุณฟ้าไม่พูด ผมก็ไม่พูด ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของกันและกัน และเสียงหัวใจที่เต้นแทบจะเป็นจังหวะเดียวกัน

“...คุณหมอ” จู่ๆ คุณฟ้าก็เรียกชื่อผม เนื้อตัวที่ผมกอดแนบอกเริ่มสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด

“ไม่ร้องนะครับ” ผมบอก

“ผม...” เสียงคุณฟ้าสั่น ผมจับไหล่ให้คุณฟ้าพลิกตัวหันหน้ามาทางผม ดึงใบหน้าน่ารักให้ซุกเข้ามาที่อก ผมไม่อยากให้คุณฟ้าร้องไห้ โดยเฉพาะมีผมเป็นสาเหตุ

“นอนนะครับ พรุ่งนี้ค่อยพูด ผมมีเวลาฟังเหตุผลของคุณทั้งชีวิตครับ”  ผมบอก แล้วคุณฟ้าก็เงียบไป ผมคิดว่าเจ้าตัวจะหลับ แต่ไม่กี่นาทีต่อมาก็พูดในสิ่งที่ผมไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนว่าจะเป็นเรื่องนี้

“คุณหมอรักคุณลม”

หมายความว่าไง? หรือนี่คือสาเหตุที่ทำให้คุณฟ้าคิดว่าผมไม่ได้รักตัวเอง...

“คุณหมอยังรักคุณลม”

คุณฟ้าไม่ได้ร้องไห้ ผมรู้ คุณฟ้าพยายามห้ามตัวเองเอาไว้ไม่ให้ร้อง ตัวถึงสั่นขนาดนี้

“คุณหมอ...คุณหมอไม่ได้รัก...ไม่ได้รักผม...เพราะคุณหมอยังรัก...คุณลม....”

ไม่มีน้ำตาที่ไหลซึมบนอกผม มีเพียงคำพูดที่ขาดเป็นห้วง สั่นเครือ แผ่วเบา แต่มันกลับทำให้ผมรู้ว่าคุณฟ้าเจ็บปวดกับทุกถ้อยคำ ผมไม่รู้ว่าคุณฟ้ารู้เรื่องนี้ได้ยังไง อาจเป็นใครสักคนในคลินิกที่รู้ว่าครั้งหนึ่งผมเคยรักน้องลม ใครคนนั้นบอกเรื่องนี้กับคุณฟ้า ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่มันก็คือความจริงที่ว่าครั้งหนึ่งผมเคยรักน้องลม ความจริงที่ผมไม่สามารถกล่าวโทษใครได้ นอกเสียจากยอมรับความจริงว่าคุณฟ้ารู้เรื่องนี้แล้ว รู้จากปากคนอื่นที่ไม่ใช่ผม มันคงจะดีกว่านี้ ถ้าผมบอกคุณฟ้าด้วยตัวเองตั้งแต่วันนั้นที่หน้าหาด

“...คุณหมอรักคุณลม” 

“ผมเคยรักน้องลม แต่ตอนนี้ผมรักคุณฟ้า รักคุณฟ้าคนเดียว” ผมพยายามจะดึงใบหน้าที่ซุกแน่นอยู่ที่อกผม ให้เงยหน้าขึ้นมามองสบตากัน แต่คุณฟ้ากลับขืนมันเอาไว้

“ผมไม่เชื่อ”

“ทำไมไม่เชื่อครับ” ผมเปลี่ยนมากอดคุณฟ้าให้แน่นขึ้นกว่าเดิม

“.....”

“ผมรักคุณฟ้าขนาดนี้ ไม่เห็นหรือครับ รักจนจะบ้าตายอยู่แล้วตอนที่คุณฟ้าไม่ยอมพูดกับผม ไม่ยอมให้ผมเจอ ไม่ยอมแม้กระทั่งจะให้ผมมองหน้า ผมทรมานมากนะครับที่ไม่ได้นอนกอดคุณฟ้า”

“.....”

“ไม่สงสารผมบ้างหรือครับ มันทรมานมากกว่าครั้งที่แล้วที่ไม่ได้กอดคุณฟ้าไม่รู้กี่ร้อยเท่านะครับ”

“......”

“ถ้าผมไม่ได้รักคุณฟ้า ผมจะทรมานอย่างนี้หรือครับ อยากกอดแทบตาย แต่ก็ทำได้แค่มอง” ผมยังคงพูดต่อไป ขณะที่คุณฟ้าไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีเพราะคุณฟ้าดูสงบกว่าเดิม ตัวไม่สั่น

“......”

“ผมไม่ได้บอกคุณฟ้าเรื่องของน้องลม เพราะมันไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ถ้าคุณฟ้าคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่ควรต้องรู้ ผมก็ขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้คุณฟ้ารู้”

“....”

“หลับหรือครับ” ผมถามเสียงเบาแล้วคลายอ้อมกอดออก ไม่แน่ใจว่าคุณฟ้าหลับไปเพราะอาการเหนื่อยจากการร้องไห้หนักและอาการไข้ที่ยังหลงเหลืออยู่

“....” คุณฟ้าส่ายหน้า ช้อนตาขึ้นมองผม บอกให้รู้ว่ายังไม่หลับ ผมถึงรั้งร่างกายนั้นเข้ามากอดอีกครั้ง

“จะไม่พูดอะไรหน่อยหรือครับ” ผมถาม จูบซับลงบนกลุ่มผมนุ่มและหอมเหมือนขนม

“.....” คุณฟ้ายังเงียบ ไม่รู้เพราะอะไร หรืออยากให้เล่าอดีตของผมกับน้องลมให้ฟัง

“อยากให้ผมเล่าเรื่องของผมกับน้องลมไหมครับ” ผมถาม

“.....” ถึงคุณฟ้าไม่ตอบ ผมก็ตัดสินใจเล่าครับ

“...ผมเจอน้องลมครั้งแรกเมื่อตอนกลางปีที่แล้ว เห็นครั้งแรกผมรู้สึกชอบ จะเรียกว่าตกหลุมรักก็ได้นะครับ จากวันนั้นผมก็คอยตามจีบมาเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ครับว่าน้องลมมีตินอยู่แล้ว น้องลมเลิกกับตินก่อนที่จะมาเจอผม ทั้งที่ผมก็รู้จักติน แต่ไม่เคยรู้ว่าตินคือคนรักของน้องลม จนกระทั่งสามเดือนผ่านไป ผมถึงรู้ว่า...” ผมหยุดเล่า ทดสอบดูว่าคุณฟ้ายังฟังผมอยู่ไหม

“...หยุดทำไมครับ”

เพราะผมหยุดเล่า คุณฟ้าถึงเงยหน้าขึ้นมาถาม พร้อมกับขยับตัวออกจากวงแขนของผม ผมไม่ได้ดึงตัวคุณฟ้ากลับมากอด แต่เอี้ยวตัวไปเปิดโครมไฟที่โต๊ะข้างเตียง แสงสีนวลช่วยให้ผมเห็นคุณฟ้าชัดขึ้น เจ้าตัวนอนตะแคงมองหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว

“...เล่าต่อสิครับ” คุณฟ้าเร่ง ดูจากสีหน้าแล้วคงอยากฟังเรื่องของผมกับน้องลมมาก

“ครับ...ผมถึงรู้ว่า น้องลมกับตินเคยรักกัน ไม่ใช่สิครับ เขาสองคนยังรักกันอยู่ แต่มีเรื่อง ‘เข้าใจผิด’บางอย่างที่ทำให้เขาสองคนเลิกกัน”

ผมเน้นคำว่า ‘เข้าใจผิด’ เป็นพิเศษ อยากบอกให้คุณฟ้ารู้ว่า ‘ความเข้าใจผิด’ มักทำลายความรักของคนสองคนได้อย่างไม่น่าให้อภัย

“ แต่เพราะพวกเขารักกัน พวกเขาถึงทำลายเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมด หันหน้ามาคุยกัน จนสุดท้ายก็เป็นอย่างที่เห็นทุกวันนี้ครับ” แต่ผมไม่เล่าหรอกว่า กว่าจะคืนดีกันได้ทุกคนรวมถึงผมด้วย ต้องรวมกันสุดฤทธิ์กว่าที่จะทำให้น้องลมกับตินหันหน้ามาคุยกันได้

“.....” คุณฟ้าก้มหน้าหลบสายตาผมที่จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของตัวเอง แต่ก็เพียงแค่ไม่กี่วินาที ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมอีกครั้ง ราวกับจะคั้นเอาความจริงจากผม

“แต่คุณหมอยังคุณลม”

“ผมรักคุณฟ้า”

“คุณหมอรักคุณลม”

“ผมรักคุณฟ้า”

“คุณหมอรักคุณลม”

“ถ้าผมรักน้องลม ผมจะมาอยู่ตรงนี้กับคุณฟ้าหรือครับ ผมจะทรมานทุกครั้งที่เห็นคุณฟ้าร้องไห้หรือครับ ทำไมคุณฟ้าไม่เชื่อผม ใส่ใจอะไรกับอดีตที่ผมแก้ไขมันไม่ได้ ผมเคยรักน้องลม แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ผมไม่เหลือความรู้สึกแบบนั้นกับน้องลมอีกแล้ว ผมต้องทำยังไง คุณฟ้าถึงจะเชื่อว่าผมรักคุณฟ้า ไม่ได้รักน้องลม”

ผมพูด รู้สึกว่าตัวเองใส่อารมณ์ไปกับคำพูดนั้นด้วย เพราะผมอึดอัดที่คุณฟ้าเอาแต่พูดย้ำว่าผมรักน้องลม ผมรักคุณฟ้ามากขนาดนี้ เจ้าตัวยังคิดไปอย่างนั้นได้

“จะ...จะไปไหน...?” เพราะผมทำท่าจะลุกขึ้น คุณฟ้าจึงรีบคว้าแขนผมเอาไว้ ตะกุกตะกักถาม หน่วยตาก็เหมือนรื้นน้ำตาขึ้นมาอีก ผมระบายลมหายใจเบาๆ ก่อนล้มตัวลงนอนตามเดิม ไม่ลืมที่จะคว้าเอาคนข้างกายมากอด

“ไม่ร้องนะครับ” ผมปลอบ พยายามปรับอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติ ไม่เคยสักครั้งที่ผมจะแสดงอาการแบบเมื่อครู่ใส่คุณฟ้า ไม่เคยเลยจริงๆ

“ฮึก...ฮึก...”

ราวกับว่าคำว่า ‘ไม่ร้องนะครับ’ ของผม ไปกระตุ้นต่อมน้ำตาของคุณฟ้าให้ไหลเร็วขึ้น

“ฮึก...ก็ผม...ผมเห็น...ฮึก...เห็นคุณหมอซื้อสร้อย...ฮึก...ให้คุณลม......แล้ว...แล้วจะให้ผมคิด...คิดยังไง...ฮึก...”

คุณฟ้าเห็นผมกับน้องลมงั้นเหรอ? วันนั้นคือวันแรกที่คุณฟ้าหลบหน้าผมไปอยู่กับคุณนนท์

“แล้ว...แล้วคุณหมอ...ฮึก...คุณหมอกำลังจะแต่งงาน...กับคุณเนย...”

แต่งงาน!!

คุณฟ้ารู้ได้ยังไง?  :m16: :m16:





>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<
คนเขียนขอคุย :: ช่วงนี้คนเขียนกำลังอยากอาร์ทแตกบ้างให้ชีวิตมีสีสัน เลยเกิดไอเดียที่ว่า
1.   ลองตัดจบ แบบค้าง~~ ดูสักหน่อย (พยายามจะให้มันค้าง แต่มันก็ค้างไม่มาก ^__^’)
2.   ลองแต่งให้สั้นลง แบบอยู่ในคห.เดียว~~ ดูบ้าง
ประการฉะนี้แล~~~~ ทำให้เกิดตอนนี้ขึ้นมา อิอิ
ปล.คนเขียนโม้ไปงั้นแหละค่ะ ที่จริงแค่คิดว่าเขียนสั้นๆ ดีกว่า อิอิ เพราะเขียนยาวแล้วชักจะเหนื่อยจริงจังแหะ ==’

บับบายนะคะ ขอตัวไปปั่นเรื่องสั้นต่อก่อนนะคะ ^___^
สีเหลืองอ่อน // aeaw
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/034/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: กระต่ายชมจันทร์ ที่ 04-04-2012 13:16:18
จะลงแบบไหนก็อ่านค่า

เป็นเรื่องที่หน่วงๆปนหวานไปในตัวจริงๆค่ะ

อืม...น้องเนย...ไปปิ๊งคนอื่นเถอะนะ พี่ป้องดีมั้ย? 555+
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/034/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 04-04-2012 13:22:35
กรี๊ดดด ค้างมากค่ะ ไม่ใช่ไม่มาก คุณฟ้าาาาาาอ่ะ มีอะไรถามคุณหมอให้หมดเลยนะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/034/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 04-04-2012 13:24:03
เลิกร้องไห้ได้แล้วนะคุณฟ้าตาบวมหมดแล้ว
เรื่องของคุณหมอยังมีอีกเยอะะะะะะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/034/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 04-04-2012 13:41:43
ไม่เคลียร์กันสักที
อยากได้หวานๆ
บ้างไรบ้าง :L1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/034/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 04-04-2012 14:15:03

หวังว่าแต่ละคำถามของคุณฟ้า
จะได้รับการคลี่คลายนะ
แต่ยังไงก็ยังขัดใจคุณหมออยู่ดี
เรื่องน้องเนยอะไรนั่น!
เฮ้ออ  สงสารคุณฟ้า ปวดหัวแน่ๆพรุ่งนี้
เล่นร้องไห้หนักขนาดนี้ แถวเป็ยไข้อีก
คนแต่งอะ -3- ค้างสมใจเลย
เรานี่กำลังลุ้น ฮ่าๆๆๆ

มาสั้นมายาวก็ดีกว่าไม่มานะคะ
รออ่านตอนต่อไปจ้า
+1 ให้น้าา
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/034/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 04-04-2012 14:33:14
คุยกันให้เคลียร์ไปเลย ถามตรง ตอบตรงทุกประเด็น

หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/034/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namwaan1992 ที่ 04-04-2012 16:07:44
เรื่องนี้
ละครหลังข่าวๆ  ><
อยากบอกว่า  ....ชอบมาก !! 
:")
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/034/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 04-04-2012 16:43:57
เยอะจริง - -*

รีบๆเคลียร์นะ
สงสารคุณฟ้า ตาบวมใหญ่เเล้ว



 :z2:รออ่านจ้า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/034/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 04-04-2012 17:44:46
สงสารฟ้าก็สงสาร แต่ชักจะเกลียดหมอแล้ว
เรื่องที่จะแต่งงานกับยัยน้องเนยนั่นก็ไม่ยอมเคลียร์สักที
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/034/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: beautifuldead ที่ 04-04-2012 18:50:23
จริง! เรื่องเนยตกลงคุณหมอจะจัดการยังไงคะ รอฟังคำอธิบาย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/034/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 04-04-2012 20:47:03
เหนื่อยแทนคุณหมอ สารพัดเรื่องรุมเร้า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 04-04-2012 22:11:32
อ๊ากกกกกกก ค้างค่า ฮือออออออออ

ปล. อยากรู้เรื่องคุณยะกับพีไวๆแล้วค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 04-04-2012 22:55:36
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:


ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ทะเลหัวใจ ที่ 05-04-2012 02:45:43
โฮกกกกกกก อ่านสองตอนรวด มีฟามสูขจังเลยยยยย อิอิ (ได้ข่าวว่าเขาดราม่าอยู่นะ)

แหมมมม ก็ในเมื่อเห็นเค้ารางคุณหมอกับคุณฟ้าจะกลับมาเข้าใจสมัครสามานรักใคร่กันเหมือนเดิม

แม่ยกอย่างเราก็พลอยดีใจไปด้วย แอร๊ยยย ทำไมคุณหมออบอุ่น อ่อนโยน ใจดีแบบนี้ละคะ

คุณฟ้าก็แสนดี น่ารัก ช่างเหมาะสมกันจริงๆ ขอให้เข้าใจกันเร็วๆ

หมดปัญหาหมดอุปสรรคในเร็ววันนะคะคุณหมอคุณฟ้า :กอด1:

มาที่อีกคู่ อ๊ากกกก คุณยะกับน้องพี ออกน้อยๆแต่ได้ใจ บ๊ะ คุณยะนี่ออกแนวนักเศรษฐศาสตร์

ใช้ทรัพยากรย์ที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด น้องพีเป็นลูกอยู่ดีๆเอามาทำเมียซะงั้น

ไอเดียบรรเจิดมากคร่าคุณยะขา แถมนิสัยยังโหดเอ้วโดนใจ กรี๊ดดด รออ่านคู่นี้ต่อนะคะ อิอิ



ปล ตัวใหญ่ๆ แอบดีใจมีชื่อเค้าในทอร์คสคริปคุณคนเขียนด้วยอ่ะ แต่....คุณคนเขียนไม่ได้ด้อยฝีมือนะคะ เค้าชอบภาษา :กอด1:องคุณคนเขียนมากๆ คำผิดก้แทบจะไม่มี ภาษาก็สวย พลอตก็เริ่ด เพอร์เฟคสุดๆ ชอบๆๆ เป็นกำลังใจให้นะคะและจะรอติดตามผลงานเรื่องต่อๆไปน๊าาา :L2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 05-04-2012 06:45:25
คุณหมองานเข้าเยอะมาก

เรื่องที่หนักที่สุดคือเรื่อง เนย นี่แหละ  :z3:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 26 รักนะครับ {4/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: poppyk ที่ 05-04-2012 10:09:18
ยะพี ฮื่ออออออออ T////////T ว๊อนท์ยะพีอ่า คนแต่งเค้าอยากอ่านยะพี จะอาวจะอาว  มาเร็วๆน้า  เค้ารออยู่วววววววว~
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 07-04-2012 23:42:15
ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ

ผมเลิกรักคุณหมอไม่ได้ ผมตัดใจจากคุณหมอไม่ได้เลย แค่คิดว่าจะต้องเลิกรักมันก็ทรมานคล้ายจะขาดอากาศหายใจ ผมทำตามที่พี่ป้องบอกไม่ได้ ผมเข้มแข็งไม่ไหว ยิ่งคุณหมออ่อนโยนต่อผมมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งตกหลุมรักคุณหมอจนถอนตัวไม่ขึ้น

ผมขอให้คุณหมอรักผม

ผมขอให้คุณหมออย่าทิ้งผมไปไหน

ผมควรเชื่อที่คุณหมอพูดเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาใช่ไหม

เมื่อคุณหมอบอกว่ารักผม ผมควรเชื่อใช่ไหม?

เมื่อคุณหมอบอกว่าจะไม่ทิ้งผม ผมควรเชื่อใช่ไหม?

เมื่อคุณหมอบอกว่าทรมานที่ไม่ได้เจอหน้าผม ไม่ได้กอดผม ผมควรเชื่อใช่ไหม?

ผมอยากจะเชื่อคำพูดของคนที่กอดผมไว้ราวกับคนรักกัน แต่ผมห้ามความอ่อนไหว ห้ามความคิดที่กัดกินหัวใจผมตอนนี้ไม่ได้เลย ผมกลัวว่าคุณหมอจะใช้แขนเพื่อโอบกอดผม หาใช่หัวใจ...

แต่ผมก็แพ้ความอ่อนโยนของคุณหมอ จนต้องร้องไห้เพื่อปลดปล่อยความหวาดกลัวทุกอย่างออกมา ผมร้องไม่ใช่เพื่อเรียกร้องให้คุณหมอเห็นใจ ไม่ได้ต้องการให้คุณหมอสงสาร ผมร้องไห้เพราะผมรักคุณหมอมาก มากจริงๆ

ผมกอดคุณหมอ...ก็เพราะรัก

ผมร้องไห้ต่อหน้าคุณหมอ...ก็เพราะรัก

ผมพูดทุกอย่างที่ทำให้ให้ตัวเองต้องเจ็บแล้วทำให้คุณหมอโกรธ...ก็เพราะรัก

ถ้าไม่ใช่เพราะรักผมจะกลายเป็นคนงี่เง่า เจ้าน้ำตา พูดไม่รู้เรื่อง อย่างที่คุณหมอพูดเหรอ?

ถ้าไม่ได้รักคุณหมอ ผมก็คงหยุดร้องไห้ไปนานแล้ว...

ทั้งหมดมันเป็นเพราะผมรักคุณหมอเท่านั้นเอง

“จะ...จะไปไหน...?” ผมรีบคว้าแขนคุณหมอ เมื่อคุณหมอจะลุกหนีผมไป ผมกลัวว่าคุณหมอจะโกรธจนทิ้งผมไป ผมทำให้คุณหมออารมณ์เสีย ผมงี่เง่าเกินไปใช่ไหมที่ไม่ยอมเชื่อคำพูดของคุณหมอ

ถ้าคุณหมอรักคุณลม คุณหมอจะมาอยู่ตรงนี้กับผมหรือ

คุณหมอทรมานทุกครั้งที่เห็นผมร้องไห้

ทำไมผมไม่เชื่อใจคุณหมอ

ทำไมผมต้องใส่ใจกับอดีตที่คุณหมอแก้ไขมันไม่ได้

คุณหมอเคยรักคุณลม แต่ตอนนี้ไม่ได้รักแล้ว

คุณหมอถามว่า...คุณหมอต้องทำยังไง ผมถึงจะเชื่อว่าคุณหมอรักผม
 
ถ้าผมบอกว่า...ผมไม่เชื่อ คุณหมอจะโกรธผมอีกไหม?

ผมมันงี่เง่า ผมมันคนเจ้าน้ำตา พูดไม่รู้เรื่อง ไม่เชื่อใจคุณหมอ ไม่เชื่อแม้แต่คำพูดที่คุณหมอบอก เมื่อล้มตัวลงนอนแล้วดึงผมเข้าไปกอด

“ไม่ร้องนะครับ” ยิ่งคุณหมอบอกให้ผมหยุดร้อง มันก็เหมือนบอกให้ผมร้องอย่างที่ใจต้องการ

“ฮึก...ฮึก...” น้ำตาผมไม่รู้ไหลมาจากไหนมากมาย มันเยอะแยะจนเปื้อนเต็มอกเสื้อคุณหมอ ผมไม่อยากทนอัดอั้นกับความรู้สึกไม่เชื่อใจคุณหมอได้อีกต่อไป ผมจำเป็นต้องพูด ผมจำเป็นต้องถาม ถามเพื่อให้ทุกอย่างมันจบสิ้นเสียที

คำถามที่ผมกลัวคำตอบเหลือเกิน...

“ผมเห็น...ฮึก...เห็นคุณหมอซื้อสร้อย...ให้คุณลม......แล้ว...แล้วจะให้ผมคิด...คิดยังไง...ฮึก...”

...จะให้ผมคิดว่าคุณหมอซื้อสร้อยให้คุณลมในฐานะอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่ในฐานะคนที่คุณหมอยังคงรักตลอดมา แม้คุณลมจะมีคุณตินอยู่แล้วก็ตาม

“แล้ว...แล้วคุณหมอ...ฮึก...คุณหมอกำลังจะแต่งงานกับคุณเนย...ฮึก...”

   ...เพราะคุณหมอมีหน้าที่ของการเป็นลูกที่ดี คุณหมอมีหน้าที่ต้องแต่งงานเพื่อสร้างครอบครัวและทายาทสำหรับตระกูลของคุณหมอเอง ซึ่งผมไม่สามารถทำให้ชีวิตครอบครัวคุณหมอสมบูรณ์ได้

   สุดท้าย...คุณหมอก็ต้องแต่งงานเพื่อทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

   สุดท้าย...ผมก็คงเป็นแค่คนงี่เง่า เจ้าน้ำตา ที่คุณหมอไม่ได้รักและไม่ต้องการ

   “คุณฟ้าครับ” คุณหมอเรียกชื่อผม

   “.....”

   “ฟังผมสักครั้ง แล้วเชื่อในสิ่งที่ผมพูดนะครับ” น้ำเสียงของคุณหมออ่อนโยนยิ่งกว่าครั้งไหนๆ กอดของคุณหมอก็อ่อนโยนไม่ต่างกัน ผมโหยหาอ้อมกอดอบอุ่นของคุณหมอมาตลอดที่ห่างไกลกัน

   “.....” น้ำตาผมยังคงไหลไม่หยุด ผมปวดตาแทบจะลืมไม่ขึ้นแล้วตอนนี้ อาการปวดหัวแทบแตกเริ่มกลับมาอีกครั้ง แต่ผมก็พยายามฟังในสิ่งที่คุณหมอจะพูด คำอธิบายหรือคำแก้ตัวอะไรก็ได้ ถ้าคุณหมอพูดมันออกมา ผมจะเชื่อ ผมสัญญาว่าผมจะเชื่อคุณหมอ...อีกสักครั้ง

   “ผมรักคุณฟ้า”

   ผมจะเชื่อ...

   “ผมเคยรักน้องลม แต่ตอนนี้ผมไม่ได้รักน้องลมแล้ว เพราะผมรักคุณฟ้า ผมรักคุณฟ้าแล้วผมจะรักน้องลมได้ยังไง ผมไม่ใช่คนหลายใจ ถ้าผมรัก ผมก็จะรักแค่คนเดียว คุณฟ้าคือคนเดียวของผมนะครับ”

   ผมจะเชื่อ...

   “วันนั้นที่คุณฟ้าเห็น น้องลมแค่ชวนผมไปซื้อต่างหูเป็นของขวัญวันเกิดให้เพื่อน”

   ผมจะเชื่อ...แต่ภาพที่คุณหมอสวมสร้อยให้คุณลมล่ะ

   “แต่ถ้าคุณฟ้าเห็นตอนที่ผมสวมสร้อยให้น้องลม ผมอยากบอกว่าตอนนั้นน้องลมแค่ช่วยผมลองสร้อยเท่านั้นเองครับ ผมไม่ได้ซื้อให้น้องลม คนที่ผมซื้อให้คือคุณฟ้า”

   ผมจะเชื่อ...

   “เชื่อผมนะครับ ผมรักคุณฟ้า” ปากของคุณหมอสัมผัสเบาๆ ที่หน้าผากของผม แต่สำหรับผม มันรู้สึกยังไม่พอ ผมอยากให้คุณหมอทำให้ผมมั่นใจกว่านี้ 

   “จูบผมหน่อย” ผมช้อนตาขึ้นมองคุณหมอ คุณหมอยิ้ม ยิ้มอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรักที่ผมรู้สึกได้ ยิ่งทำให้ผมเสียใจที่ทำตัวงี่เง่าให้คุณหมอต้องลำบากใจ

   จูบของคุณหมอช่วยหยุดน้ำตาของผมไม่ให้ไหล ผมหลงใหลไปกับความอ่อนหวานที่คุณหมอส่งผ่านปากและลิ้น

   ผมกับคุณหมอ เราจูบกันเนิ่นนานกว่าที่จะถอนจูบออกจากกัน เพื่อจะได้กลับมามองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย

   ผมเห็นความรักในดวงตาของคุณหมอ

   แล้วคุณหมอจะเห็นไหมว่า...ผมรักคุณหมอมากแค่ไหน

   “มากกว่านี้ได้ไหมครับ” คุณหมอถาม ผมรู้คำว่า ‘มากกว่านี้’ ของคุณหมอหมายถึงอะไร ตาคุณหมอมันฟ้อง

   “ไม่ได้ครับ”

ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วถามในเรื่องที่คุณหมอทำท่าจะลืมหรือพยายามจะทำให้ผมลืม 

“เรื่องแต่งงานล่ะครับ”

พอผมถามเสร็จ คุณหมอก็ขยับลุกขึ้นนั่ง ดึงตัวผมให้ลุกตามขึ้นมา ก่อนจับผมพิงไว้กับอก กอดผมจากด้านหลัง ส่วนตัวคุณหมอเอนพิงไปที่หัวเตียง คางคุณหมอวางเกยอยู่บนไหล่ซ้ายของผม มือใหญ่สอดประสานกันอยู่ตรงเอวของผม

“คุณฟ้ารู้เรื่องนี้ได้ยังไงครับ” แทนที่จะตอบ คุณหมอกลับย้อนถามผมเสียเอง

“ทำไมคุณหมอต้องปิดผมด้วย” ผมก็เลือกที่จะถามต่อ โดยไม่ตอบคำถามของคุณหมอเหมือนกัน ผมได้ยินเสียงคุณหมอถอนหายใจหนักๆ ก่อนบอกผมว่า

“ผมขอโทษ”

“ผมเสียใจนะครับ” ผมบอก น้ำตาผมไหลอีกครั้ง

“ผมขอโทษ ที่ผมไม่บอกเพราะไม่อยากให้คุณฟ้าคิดมาก”

“เลยต้องให้ผมรู้เอาเอง” ผมถาม พลางเช็ดน้ำตัวเองไปด้วย พยายามจะไม่ร้องแล้วนะครับ แต่มันก็ร้องออกมาอีกจนได้

“ผมขอโทษ” คุณหมอยังพูดคำเดิมๆ มันทำให้ผมคิดว่าคุณหมอต้องแต่งงานกับคุณเนยจริงๆ คุณหมอเลยไม่สามารถให้คำตอบที่ดีกว่านี้กับผมได้

“คุณหมอจะแต่งเมื่อไหร่” ผมถามเพราะอยากรู้ แม้คำตอบจะทำให้ผมเจ็บปวด แต่ผมก็ควรถาม เพื่อผมจะได้รู้ถึงวันที่ผมกับคุณหมอต้องจากกันไปจริงๆ คงไม่มีวันที่คุณหมอจะตามมาง้อผมอย่างนี้อีกแล้ว

“แต่งวันพรุ่งนี้เลยดีไหมครับ?”

>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<

คนเขียนขอคุย
1.   เก็บรองเท้าเอาไว้นะคะ อย่าเขวี้ยงคนเขียนน้า T^T
2.   คนเขียนคิดว่าตอนนี้ประสบความสำเร็จในการเขียนมากจริงๆ เพราะตัดจบได้แบบว่า กรี๊ดดดดดดดมาก คนเขียนยังกรี๊ดเลยอ่ะ หุหุ
3.   เรื่องนี้สำคัญมากเลยยย อยากให้ช่วยแนะนำหน่อย คือ อย่างที่บอกไปว่า คนเขียนจะทำหนังสือเรื่องรัก...เธอ ซึ่งจะมีตอนพิเศษที่ไม่เอาลงในเล้าอีก 6 ตอน ซึ่งตอนนี้คิดพล็อตตอนพิเศษได้แค่ ตอน (ตินลมเจอกันครั้งแรก) ตอน (ตินเปิดบริษัท) ตอน (ไปเที่ยวทะเล) ตอน (วันเกิดติน) ก็เป็นแค่พล็อตคร่าวๆ เท่านั้นเอง ยังไม่ได้เขียน
**** เลยอยากถามคนอ่านว่า อยากได้ตอนพิเศษตินลม ในสถานการณ์ไหนบ้าง เสนอมาได้นะคะ (ไม่ใช่การบังคับให้ซื้อนะคะ ไม่ซื้อก็ได้ค่ะ ไม่ว่ากันจริงๆ ยุคนี้เศรษฐกิจมันกากจริงจัง 55+) คนเขียนจะได้เลือกเอามาเขียน แล้วจะตอบแทนไอเดียของทุกคนด้วยการ นำเอาตอนพิเศษ 2 ใน 6 ตอนที่จะทำเป็นหนังสือ เอามาลงในเล้า เพื่อตอบแทนค่ะ
4.   ขอบคุณทุกคลิกและทุกเม้นท์นะคะ ขอบคุณทุกคนที่รักคุณยะน้องพี คู่นี้มีเรื่องอยู่เต็มหัวคนเขียนแระ แต่ขอเขียนเรื่อง   อิงหนึ่ง (รัก...ได้ไหม) และ นนท์แดน (รัก...จัดให้) ก่อนนะคะ ตามความตั้งใจแต่แรกน่ะค่ะ แต่จะพยายามเขียน อิงหนึ่ง นนท์แดน ให้จบไวๆ อาจเขียนมาเป็นเรื่องสั้นสัก 10 ตอนกว่าๆ ไรงี้ ถ้าไม่ออกทะเลนะคะ แล้วจะได้เขียน ยะพี (รัก...หนึ่งเดียว) ต่อทันทีค่ะ

บับบายแล้วนะคะ ขอไปปั่นเรื่องสั้นต่อ สนใจอีกเรื่องของคนเขียนก็ตามไปได้ที่ :: เรื่องสั้น ผมมันคนถูกทิ้งได้นะครับ อิอิ ซีซวงและทีเชน กำลังรอทุกอคนอยู่น้า

สีเหลืองอ่อน // aeaw
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 07-04-2012 23:51:23
คุณหมอพูดประชดประโยคสุดท้าย
คุณฟ้าได้เป่าปี่ไม่หยุดล่ะทีนี้
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 07-04-2012 23:58:23
อ่าว เฮ้ย   ตอบ ดีดี  ซิ  ค่ะคุณ  หมอ 
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 08-04-2012 00:12:28

:z6:
อย่าเพิ่งตกใจนะ เราเปล่าเตะคนเต่ง
แต่ขอเตะคุณหมอหน่อย ฮึ๊บ!
ขัดจ๊ายยยย เล่นพูดงี้คุณฟ้าแกได้ต่อมน้ำตาแตกอีกสิ
นี่ดูท่าคนแต่งจะเปลี่ยนแนว
ปล่อยให้คนอ่านค้างอีกบ่อยๆสินะคะ
(ฮา)

รออ่านตอนต่อไปจ้า
ปล.ส่วนตินลม อยากให้มีตอนพิเศษวาเลนไทน์ตินลมตอนเรียนอะ
ที่ลมให้หัวใจติน(?)ใช่ไหมคะ ? ถ้าจำไม่ผิด ฮ่าๆ เอ๊ะรึลงไปแล้วหว่า
ชักไม่มั่นใจ  :m28:

+1 จ้าาาาา
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 08-04-2012 01:10:40
:z6:
อย่าเพิ่งตกใจนะ เราเปล่าเตะคนเต่ง
แต่ขอเตะคุณหมอหน่อย ฮึ๊บ!
ขัดจ๊ายยยย เล่นพูดงี้คุณฟ้าแกได้ต่อมน้ำตาแตกอีกสิ
นี่ดูท่าคนแต่งจะเปลี่ยนแนว
ปล่อยให้คนอ่านค้างอีกบ่อยๆสินะคะ
(ฮา)

รออ่านตอนต่อไปจ้า
ปล.ส่วนตินลม อยากให้มีตอนพิเศษวาเลนไทน์ตินลมตอนเรียนอะ
ที่ลมให้หัวใจติน(?)ใช่ไหมคะ ? ถ้าจำไม่ผิด ฮ่าๆ เอ๊ะรึลงไปแล้วหว่า
ชักไม่มั่นใจ  :m28:

+1 จ้าาาาา

เฮ้อโล่งอกแทนน้องแอ๋วคนแต่ง  แต่ก็แอบตกใจ นึกว่าจะเตะคนโพสแทน 555
+ 1กลับเช่นกันนะค่ะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mahmeow ที่ 08-04-2012 02:00:44
คุณหมอพูดอะไรเนี่ย....แค่นี้น้ำตาคุณฟ้าก็จะท่วมห้องแล้ว....T___T

คุณฟ้าน่าร๊ากกก.....ร้องไห้งอแงก็ยังน่ารัก...^ ^
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 08-04-2012 07:04:28
คุณหมอจะขอคุณฟ้าแต่งละสิ อิอิ

ตอนพิเศษอยากได้ ทะเล จ้า

บวกๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: poppyk ที่ 08-04-2012 10:11:37
เรารู้ว่า..คุณหมอจะขอคุณฟ้าแต่งงานแน่เลยยยยย..

-ปล.เค้าอยากอ่าน ยะพี ยะพี ยะพี *ชูป้ายไฟ*
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 08-04-2012 10:33:25
ไม่เคลียร์ๆๆๆๆ เดี๊ยวคุณฟ้าก็ร้องอีกหรอก
คุณหมอนะคุณหมอ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-04-2012 10:54:34
แต่งพรุ่งนี้เลยมั้ย
แต่งกับคุณฟ้านะ :z2:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 08-04-2012 11:34:48
แต่งพรุ่งนี้ก็ได้ แต่งกะใครกันนะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 08-04-2012 12:28:48
แล้วหมอจะแต่งกับใครอ่ะ แต่งพรุ่่่่่่่่่่่่่่่่งนี้ขอเป็นฟ้านะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 08-04-2012 14:38:40
แต่งกับคุณฟ้าใช่มะ


 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 08-04-2012 14:45:49
แต่งกับใึครดีล่ะคุณหมอ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 08-04-2012 19:05:22


รออ่านตอนต่อไปจ้า
ปล.ส่วนตินลม อยากให้มีตอนพิเศษวาเลนไทน์ตินลมตอนเรียนอะ
ที่ลมให้หัวใจติน(?)ใช่ไหมคะ ? ถ้าจำไม่ผิด ฮ่าๆ เอ๊ะรึลงไปแล้วหว่า
ชักไม่มั่นใจ  :m28:

+1 จ้าาาาา

คนเขียนนะคะ :: ตอนวาเลนไทน์ตินลม ลงเป็นตอนพิเศษไปแล้วค่ะ รึว่าจะเอาเป็นวาเลนไทน์ภาคของลมดีเนอะ
งั้นเอาตอนพิเศษตอนนี้ด้วยละกันเนอะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 27 ผมจะเชื่อ {7/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 09-04-2012 09:17:16
เม้นๆ แสดงตัวว่าตามอ่านเรื่องนี้อยู่ค่ะ เพิ่งอ่านทัน
คนเขียนเป็นคนที่ปูเรื่องได้เนียนดีค่ะ ชื่นชม อ่านแล้วไม่สะดุด มันกลมกลืนดีโดยเฉพาะคู่ที่สอง คู่ของคุณหมอกับคุณฟ้า
ด้วยระยะเวลาการเริ่มต้นความสัมพันธ์ของสองคนนี้เป็นตัวกำหนดที่ไวมาก แต่เนื้อเรื่องและการบอกเล่าความรู้สึกทำให้มันเป็นอะไรที่ทำให้ความผูกผันของคู่นี้ดูยาวนาน ละเอียดอ่อนและทำให้คนอ่านเชื่อได้ว่าสองคนนี้รักกันจริงๆ จนมองข้ามเรื่องเวลาแบบทิ้งลืมไปได้เลย
เสียดายนิดนึงตรงที่ว่าคู่ของสองคนนี้เหมือนเป็นคู่ที่สร้างเพื่อเปิดและปูเรื่องให้หลายคู่อื่นเลยทำให้ความเด่นมันตกลงไป (เพราะใจมันอยากจะไปรู้เรื่องของคู่อื่นซะแล้ว กร๊าก)
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้กลบให้เสน่ห์ของคู่นี้ลดลงนะคะ ก็ยังชอบคู่นี้อยู่เหมือนตอนที่เริ่มอ่านแรกๆ ชอบตรงที่คู่นี้ ตรง และ เปิดเผย กันทั้งคู่
จริงๆ แล้วก็ชอบคาแรคเตอร์ นิสัยของคนแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยทำให้ชอบคู่นี้มาก
แม้ช่วงหลังจะแอบหงุดหงิดหน่อยตรงที่คุณฟ้าดันเก็บเรื่องเอาไว้ในใจคนเดียวจนร้องไห้ซะมากมาย แต่ก็เอาเถอะ ดราม่านิดหน่อยพอเป็นรสชาติ
คู่ของตินกับลมเองก็น่ารัก หวานกันซะมดเมิ้ดกระจายเต็มหน้าจอเลยทีเดียว ฮ่าๆ
+1 ให้ทั้งคนโพสและคนแต่งนะคะ สนุกมากมาย ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 20-04-2012 20:07:00
ตอนที่ 28 แต่งเลยดีไหม?

“แต่งวันพรุ่งนี้เลยดีไหมครับ?”

พอผมพูดจบ คนที่พิงแผ่นหลังไว้กับอกผมตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ ก่อนจะพลิกตัวหันหน้ามามองผม ตากลมรื้นน้ำตาเต็มไปด้วยความตกใจและผิดหวังปนเปกัน ก่อนน้ำตาจะนองหน้า

“พรุ่งนี้...” คุณฟ้าทวนคำราวกับคนละเมอ

“ไม่ร้องนะครับ” ผมเช็ดน้ำตาบนแก้มของคุณฟ้า คุณฟ้าร้องไห้จนแก้มช้ำไปหมด

“อย่าเพิ่งแต่งได้ไหมครับ...ฮึก...มันเร็ว...เร็วไป...ผม...” คุณฟ้าขอร้องด้วยเสียงสั่นสะอื้น ดึงมือผมที่กำลังเช็ดน้ำตาให้มากุมไว้ มือคุณฟ้าก็สั่นมากเหมือนกัน ผมจึงรวบมือเล็กนั้นไว้เสียเอง

“เร็วไปหรือครับ งั้นเอาเป็นอาทิตย์หน้าดีไหม เพราะ...” ผมยังพูดไม่จบ คุณฟ้าก็ร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม

“ฮึก..คุณ...ฮึก...คุณหมอ...ผม...ผม...ฮึก...”

“ฟังผมพูดให้จบก่อนสิครับ” ผมบอกคนเจ้าน้ำตา พลางจะเช็ดน้ำตาให้ แต่เจ้าตัดกลับเบี่ยงหน้าหนี ผมเลยต้องดึงมือกลับมากุมมือเล็กไว้ตามเดิม แล้วบีบมือนั้นเบาๆ

“ฮึก...ฮึก...พูดมาสิครับ...ฮึก...” คุณฟ้าว่า ตั้งท่าจะดึงมือหนีผม แต่ไม่สำเร็จเพราะผมไม่ยอมปล่อย

“ถ้าไม่แต่งนี่ไม่ได้เลยนะครับ ทำน้องชายคุณฝนเสียหายมาตั้งเยอะแล้ว แถมทำให้ร้องไห้อีก ต้องรีบรับผิดชอบครับ ไม่อย่างนั้นเธอคงเอาผมตาย”

ผมพูดประโยคที่เหลือจนจบ ตากลมโตเบิกกว้างราวกับประหลาดใจในคำพูดของผมมากมาย น้ำตาเม็ดโตไหลทะลัก กลัวเหลือเกินว่าคุณฟ้าจะร้องไห้จนเป็นลม เพราะคุณฟ้าร้องไห้หนักมาก ร้องซะยกใหญ่ ตากับหน้าแดงช้ำไปหมด ไม่คิดมากก่อนว่าคุณฟ้าจะเจ้าน้ำตามากมายขนาดนี้ อันที่จริงผมก็น่าจะรู้นะว่าคุณฟ้าเจ้าน้ำตามาก ตอนที่เลิกกับคุณนนท์ก็ร้องไห้หนักมาก ตอนขากลับจากทะเลที่คุณฟ้าโทรไปหาคุณนนท์ ตอนนั้นก็ร้องไห้มาตลอดทาง และอีกหลายครั้งที่ผมเห็นน้ำตาของคุณฟ้า ไม่ว่าจะเป็นดีใจหรือเสียใจ เจ้าตัวร้องตลอด 

อ่อนไหวจริงๆ คนรักของผม

“คุณหมอ...ฮึก...ฮื่อออ...” คราวนี้คุณฟ้าของผมปล่อยโฮใหญ่แล้ว ผมเชื่อนะว่าตอนนี้คุณฟ้าร้องไห้เพราะดีใจมากกว่าเสียใจอย่างตอนแรก

“ผมพูดจริงนะครับ ผมอยากให้คุณฟ้าเชื่อใจผมและเชื่อว่าผมรักคุณฟ้าจริงๆ ผมอยากใช้ชีวิตไปกับทุกฟ้าทุกๆ วัน ไม่เคยคิดอยากใช้ชีวิตกับใครนอกจากคุณฟ้าคนเดียว” 

“.....” คุณฟ้ากำลังเก็บทุกคำพูดของผมใส่ไว้ในหัวใจ ผมคิดว่าอย่างนั้นนะ

“ผมไม่อยากให้คุณฟ้าเสียใจเพราะผม ผมไม่อยากเป็นคนที่ทำให้คุณฟ้าร้องไห้ ผมอยากเป็นคนที่ทำให้คุณฟ้ามีรอยยิ้มและมีความสุขมากกว่านะครับ อยู่กับผมแล้วคุณฟ้าต้องยิ้ม ห้ามร้องไห้เด็ดขาด สัญญากับผมนะครับ” 

“...ฮื่ออ...” คุณฟ้ายังคงร้องไห้ ร้องหนักกว่าเดิมเข้าไปใหญ่

“สัญญานะครับว่าอยู่กับผมแล้วจะไม่ร้องไห้อีก” ผมขอร้อง ส่วนคุณก็พยักหน้าหนักๆ

“...ครับ...ฮึก...ไม่ร้องแล้ว...ฮึก...ครับ...” คุณฟ้าพูดไปก็ร้องไห้ไป ผมเป็นห่วงคุณฟ้ามากเพราะเล่นร้องไห้ไม่ยอมหยุดเลย เสียใจก็ร้อง ดีใจก็ร้อง

“เพราะผมรักคุณฟ้า ผมถึงไม่อยากเห็นคุณฟ้าร้องไห้” ผมบอกคนเจ้าน้ำตา แล้วก้มจูบที่ปากเล็กนั้น สัมผัสได้ว่าปากคุณฟ้าร้อนผ่าว ไม่ใช่แค่ปากน่าจูบแต่รวมถึงทั้งใบหน้าและตามเนื้อตัวด้วย มันร้อนจี๋ คุณฟ้าต้องไข้กลับแน่เพราะร้องไห้หนักบวกกับจิตใจอ่อนแอ ไอ้อาการที่เริ่มดีขึ้นเมื่อชั่วโมงก่อนกลับมาเป็นเหมือนตอนแรกที่เป็นลมอยู่ในอ้อมแขนผม

“ร้องไห้เยอะเห็นไหมครับไข้กลับเลย นอนก่อนนะครับ ผมไปเอายามาให้ทาน” ผมประคองตัวคุณฟ้าให้นอนลง จูบหน้าผากมนไปทีก่อนจะลุกไปเอายานอกห้อง

มองดูนาฬิกาตอนที่เดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมยาและน้ำในมือ ตอนนี้ปาเข้าไปตีสามกว่าแล้ว แต่ผมกลับไม่รู้สึกง่วงเลย ยิ่งเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียงแล้วทำให้ไม่นึกอยากนอน อยากดูแลจนกว่าไข้ของคุณฟ้าจะลด คุณฟ้าป่วยก็เพราะผม รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่ใช้ไม่ได้ ทั้งที่คุณฟ้ารักผมมาก (ไม่อย่างนั้นคงไม่ร้องไห้เหมือนจะขาดให้ได้) แต่ผมก็ยังดูเหมือนเป็นผู้ชายที่ไม่มีความชัดเจนหรือความแน่นนอนให้คุณฟ้าได้อุ่นใจอะไรเลย คุณฟ้าถึงได้หวั่นไหวจนกลายเป็นแบบนี้

ถ้าผมเล่าเรื่องของผมกับน้องลมให้คุณฟ้ารู้ตั้งแต่แรก คุณฟ้าจะหวั่นไหวกับสิ่งที่เห็นได้มากขนาดนี้ไหม และถ้าผมเล่าเรื่องของน้องเนยให้คุณฟ้าฟัง บอกให้คุณฟ้ารู้ว่าผมไม่ได้อยากแต่งงานกับน้องเนย แล้วกำลังคิดหาทางออกของที่ดีที่สุดให้กับเรื่องนี้ คุณฟ้าจะมั่นใจในตัวผมและไม่เชื่อในสิ่งที่ใครบางคนบอกไหม ซึ่งใครคนนั้นผมก็ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ทำไมถึงรู้เรื่องของผมกับน้องเนยได้ รอให้คุณฟ้าหายดีและเลิกหวั่นไหวกับเรื่องแต่งงานที่ไม่ใช่ความจริงนี่เสียก่อน ผมจะลองถามดูอีกครั้งว่าไปรู้เรื่องนี้มาจากใคร

ทั้งที่ผมก็แสดงออกอย่างชัดเจนแล้วนะว่ารักคุณฟ้า...รักมาก ทุกการกระทำของผมที่มีให้คุณฟ้า มันออกมาจากใจทั้งหมด ไม่ได้เสแสร้งหรือแกล้งทำเลย หรือเพราะการแสดงออกของผมมันไม่ชัดเจนพอให้คุณฟ้ามั่นใจ

“ทานยาก่อนนะครับ” ผมประคองตัวคุณฟ้าให้กึ่งนั่งกึ่งนอน ป้อนยาเม็ดเล็กสองเม็ดเข้าไปในปาก แล้วตามด้วยน้ำเปล่า คุณฟ้าดูจะลำบากหน่อยกว่าจะกลืนยาลงคอได้

“ปวดหัวมากไหมครับ” ผมถาม คุณฟ้าพยักหน้าแล้วคว้าแขนผมเข้าไปกอด ใบหน้าที่แนบกับท่อนแขนของผมร้อนมาก

“ตัวคุณฟ้าร้อนจี๋เลย ผมเช็ดตัวให้ดีกว่านะครับ” ว่าแล้วผมก็ขยับตัวลุกขึ้น ส่วนคุณฟ้าก็ปล่อยแขนผมเช่นกัน

ผมหยิบชามใบเล็กบนโต๊ะขึ้นมาเอาไปเปลี่ยนน้ำ ก่อนเข้าไปเปลี่ยนน้ำผมก็ไม่ลืมที่จะเดินไปลดแอร์ลง พอเดินออกจากห้องน้ำกลับมาที่เตียงก็พบว่าคนไข้ของผมนั่งอยู่กลางเตียง ในสภาพที่กึ่งๆ จะเป็นชีเปลือยแล้ว ชุดนอนถูกพับวางไว้ที่ปลายเตียง ทั้งเนื้อทั้งตัวของคุณฟ้าเหลือเพียงกางเกงตัวจิ๋วสีขาวเท่านั้น

“คุณหมอจะได้ไม่เสียเวลา” คนไข้ของผมว่างี้ขณะที่ล้มตัวลงนอนตามเดิม มันเป็นข้อดีของคุณฟ้าในหลายๆ ข้อ คือคุณฟ้าไม่ใช่คนขี้อาย ผมยังจำได้ติดตาจนถึงทุกวันนี้ วันที่เราไปเที่ยวทะเลด้วยกันครั้งแรก ตอนที่คุณฟ้าอาบน้ำแล้วผมเดินเข้าไปเจอ ตอนนั้นแทนที่คุณฟ้าจะอายกลับเป็นผมอายเสียเอง แม้กระทั่งตอนที่เรามีอะไรกัน ถึงผมจะไม่ปิดไฟ คุณฟ้าก็ไม่ได้ว่าอะไร กอดกันทีไรจะเห็นชัดว่าสีผิวของผมกับของคุณฟ้าตัดกันมาก ผมเป็นคนสีผิวออกจะแทนๆ

“ถอดกางเกงด้วยสิครับ”

“ถอดด้วยเหรอครับ” เจ้าตัวถามเสียงเบาเพราะไม่มีแรงมากเนื่องจากป่วย นั่งร้องไห้อยู่ตั้งนานสองนานโดยที่ไม่เป็นลมนี่ก็ถือว่าเก่งมาก แถมยังลุกขึ้นมาถอดเสื้อผ้าไว้รอผมอีก ก็ถือว่าเก่งเหมือนกัน

“ครับ” ผมวางชามไว้บนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะทรุดนั่งข้างตัวคุณฟ้า

ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คุณฟ้า ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าบอกแบบนี้ไปแล้ว เขาจะอายหรือเปล่า แต่สำหรับคุณฟ้าแล้ว พอผมบอกเจ้าตัวก็ลุกขึ้นมาถอดกางเกงออกทันที พับเก็บเรียบร้อยรวมไว้กับชุดนอนตรงปลายเตียง ก่อนล้มตัวลงนอนอีกครั้ง

ผมไม่ได้อยากใช้คนป่วยที่สภาพโรยแรงอย่างคุณฟ้านะครับ ผมแค่อยากรู้ว่าคุณฟ้าจะทำตามที่ผมบอกหรือเปล่า

“คุณหมอ...” คุณฟ้าเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงที่ติดจะเหนื่อยมาก ขณะที่ผมกำลังเช็ดช่วงตัวให้คุณฟ้าอยู่ หลังจากก่อนหน้านี้เช็ดใบหน้าและแขนไปแล้ว

“ครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมามองคนไข้ของผม

“อยากกอดผมไหม?” ผมบอกแล้วว่าคุณฟ้าไม่ใช่คนขี้อาย เพราะกอดของคุณฟ้าที่ถามผมมานั้น ไม่ใช่กอดแบบกอดแน่นอน มันเป็นกอดที่มากกว่ากอด กอดที่แปลว่ามีอะไรกัน

“ป่วยอยู่นะครับ” ผมขำมากกว่าจะตกใจ วางผ้าขนหนูผืนเล็กในมือลง ขยับเข้าใกล้เพื่อที่จะก้มจูบหน้าผากมนได้ถนัดขึ้น

“ผมอยากให้คุณหมอกอด” เมื่อผมละปากออกจากหน้าผาก คุณฟ้าก็พูดประโยคนี้ออกมา เจ้าตัวมองตาผมอย่างอ้อนๆ ควรเป็นผมไหมที่ต้องเป็นฝ่ายอ้อนขอ แต่นี่กลับเป็นคุณฟ้าที่พูดมันเสียเอง

“ไม่เอาครับ ผมกลัวกอดแล้วจะป่วยหนักกว่าเดิม” ไม่ใช่ผมไม่อยากกอดคุณฟ้า อยากกอดแทบตาย ไม่ได้กอดคุณฟ้ามานานเท่าไหร่แล้วก็คร้านจะนับ แต่เพราะคุณฟ้าป่วย ผมถึงต้องหักห้ามใจและห้ามใจอย่างมากด้วย ก็เนื้อตัวขาวๆ ตรงหน้ามันช่างยั่วยวนเหลือเกิน

“คุณหมอไม่อยากกอดผมมากกว่า” คนไข้ของผมว่าอย่างงอนๆ แล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง ผมต้องล้มตัวลงนอนคว้าร่างเปลือยเปล่าแต่ร้อนจี๋ไว้หลวมๆ ช่วงนี้คุณฟ้าเจ้าน้ำตาและขี้งอนมากเป็นพิเศษ สาเหตุเป็นเพราะผม

“อยากสิครับ ทำไมผมจะไม่อยากกอดคุณฟ้า ตั้งกี่วันแล้วที่ผมไม่ได้กอดคุณฟ้า อยากกอดใจจะขาดแต่คุณฟ้าป่วย ผมถึงไม่อยากรังแก ขืนผมทำ คนที่ลำบากคือคุณฟ้านะครับ” พอผมพูดจบ คุณฟ้าก็นิ่งไป ผมนึกว่าคุณฟ้าจะเข้าใจแล้วเลิกคิดเรื่องที่จะให้ผมกอด เลยจะลุกขึ้นไปเช็ดตัวให้ต่อแต่คุณฟ้ากลับดึงแขนผมไว้เสียก่อน พร้อมพูดประโยคที่ทำให้ผมอึ้งไปกับความคิดของคุณฟ้า

“กอดผมนะครับคุณหมอ กอดผมให้ผมรู้ว่าคุณหมอยังต้องการผมอยู่” ตาคุณฟ้าดูเศร้ามากยามที่เอ่ยปากบอกเหตุผลว่าทำไมถึงอยากให้ผมกอด

“อย่าคิดอย่างนั้นสิครับ” ผมลูบใบหน้าเนียน อยากให้ผมกอดเพราะอยากมั่นใจว่าผมยังต้องการตัวเองอยู่งั้นเหรอ คุณฟ้าในวันนี้กับคุณฟ้าในนั้นวันที่กลับทะเล ช่างเป็นคุณฟ้าที่ต่างกันลิบลับ ผมไม่อยากให้คุณฟ้าอยู่ในสภาพนี้เลย สงสารครับ รู้สึกสงสารมาก พอๆ กับที่รู้สึกผิดที่ทำให้คุณฟ้าเป็นคนขาดความมั่นใจได้อย่างนี้

“นะครับคุณหมอ กอดผมหน่อย” คุณฟ้ายังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ทั้งที่ตัวเองก็แทบจะไม่มีแรงพูดอยู่แล้ว ตัวเปลือยเปล่าที่ผมกอดอยู่ก็ร้อนเหลือเกิน

“อย่างอแงสิครับ คุณฟ้าไม่สบายอยู่นะครับ เอาไว้ให้หายดีก่อนแล้วผมจะกอดไม่ปล่อยเลยครับ” ผมบอกหวังให้คุณฟ้าเชื่อแล้วเปลี่ยนความตั้งใจเสีย ขณะเดียวกันก็ไม่อยากมองสบสายตาเว้าวอนนั้นเลย

“กอดผมหน่อย”

“ไม่ได้ครับ...อื้อออ...” ให้ตายเถอะคุณฟ้าดื้อมาก พอผมพูดจบก็ดึงผมเข้าไปจูบปากทันที แต่ด้วยเรี่ยวแรงที่หดหายไปเพราะเป็นพิษไข้ ทำให้เจ้าตัวจูบแลกลิ้นกับผมได้แปบเดียวก็หมดฤทธิ์ นอนแหบแฮ่กๆ อยู่ในอ้อมแขนผม

“เห็นไหมว่าเป็นไง นี่แค่จูบนะครับ” ผมว่า ปัดปอยผมบริเวณหน้าผาก คุณฟ้าปรือตามองผมก่อนจะหลับตาลง สักพักก็ลืมตาขึ้นมาใหม่ สงสัยเมื่อครู่คงพักเหนื่อย พร้อมกับรวบรวมพลังขึ้นมาใหม่ เพราะพอลืมตาขึ้นมาก็ยังยืนยันความตั้งใจเดิมของตัวเอง

“กอดผมนะครับคุณหมอ” ถ้ามันเป็นเวลาปกติผมคงจะกอดคุณฟ้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เชิญชวนแล้ว แต่นี่คุณฟ้าไม่สบายตัวร้อนจี๋ (แต่ไม่ถึงกับต้องไปหาหมอ) ผมจะกล้ากอดได้ยังไงล่ะ

“เอาไว้หายดีก่อนนะครับ”

“ไม่เอา ผมอยากให้คุณหมอกอดผมวันนี้ ตอนนี้” ตากลมฉายแววจริงจัง จนผมอ่อนใจ

“คุณฟ้าครับ อย่าดื้อสิครับ”

“คุณหมอ...” เรียกผมซะเสียงเศร้าอย่างนี้ ผมใจแข็งต่อไปไม่ไหวแล้ว

“ก็ได้ครับกอดก็กอด แต่ขอผมเช็ดตัวคุณฟ้าให้เสร็จก่อนนะครับ แล้วก็ขอไปอาบน้ำก่อน ไม่อยากเอาตัวเหม็นๆ มากอดคุณฟ้า” ขืนผมไม่ยอม คุณฟ้าคงตื้อให้ผมกอดไม่เลิก เลยจำต้องรับปากไป แต่ผมก็ไม่คิดจะทำอย่างที่คุณฟ้าขอจริงๆ หรอก ผมแค่รับปากปก่อน กะว่าจะเข้าไปอาบน้ำให้นานหน่อย สภาพคนป่วยตัวร้อนจี๋แบบนี้คงฝืนตัวเองได้ไม่นาน สักพักคงอ่อนล้าและหลับไปเอง

“ครับ” พอผมรักปากเจ้าตัวก็ยิ้มออกมาได้ เป็นยิ้มที่ดูเหนื่อยอ่อนมาก แน่ล่ะคนเป็นไข้จะให้ยิ้มสดใสคงไม่ได้

ผมเช็ดตัวให้คุณฟ้าต่อ โดยที่คุณฟ้าก็มองหน้าผมอยู่ตลอดเวลา พาลทำให้ผมอยากโยนผ้าในมือทิ้งซะให้รู้แล้วรู้รอด แล้วจับเนื้อตัวเปลือยเปล่ามากอดให้สมกับที่คิดถึง ได้แต่คิดครับ ไม่กล้าทำอย่างที่คิดเพราะคนน่ารักแสนดื้อของผมยังอาการน่าเป็นห่วงอยู่

“ใส่เสื้อก่อนนะครับ” ผมบอกเมื่อเช็ดตัวให้คุณฟ้าเสร็จ แต่กว่าจะเสร็จได้ก็ห้ามใจตัวเองหนักเหมือนกัน กำลังจะหันไปหยิบชุดนอนที่พับวางอยู่ตรงปลายเตียง เสียงแหบๆ ของคุณฟ้าก็ดังห้ามขึ้นเสียก่อน

“ไม่ต้องครับคุณหมอ ใส่แล้วเดี๋ยวก็ต้องถอดอยู่ดี” คุณฟ้าว่าแล้วยิ้มเขิน ผมแทบจะหลุดขำ ขำที่คุณฟ้าทำเขินตอนพูด แต่ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเขินหรืออายอะไรเลยด้วยซ้ำ แล้วขำที่เจ้าตัวยังไม่รู้ว่ากำลังถูกผมหลอก

“ไม่ใส่ก็ไม่ใส่ครับ” ผมเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ผ้าห่ม ดึงมันมาห่มเนื้อตัวเปลือยเปล่าของคุณฟ้าแทน

“อาบไวๆ นะครับ” คนบนเตียงตะโกนเสียงเบาตามหลังผมที่กำลังเดินเข้าในห้องน้ำ พูดเหมือนรู้แน่ะว่าผมจะอาบน้ำช้า แน่นอนครับ ผมต้องอาบน้ำช้ามากเป็นพิเศษแน่
.

.

.

“เอ่อ...”

เกือบชั่วโมงที่ผมอยู่ในห้องน้ำ แต่ต้องอึ้งเมื่อเปิดประตูออกมาเจอคุณฟ้านอนตะแคงหันหน้ามาทางผม ตากลมโตที่คิดว่าน่าจะซ่อนอยู่ใต้เปลือกตาไปนานแล้ว กลับยังคงมองมาที่ผมราวกับเฝ้ารอเวลาที่จะได้เห็นผมอีกครั้ง

“ผมรอคุณหมอ” ปากบางขยับบอก ราวกับรู้ความคิดผม

ผมเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างตัวเด็กดื้ออย่างคุณฟ้า ตัวผมมีเพียงผ้าขนหนูพันเอว เอามืออังที่หน้าผากวัดไข้ อาการไข้น่าจะดีขึ้นมาหน่อยเพราะไม่ร้อนจี๋อย่างตอนแรกแล้ว ถึงจะดีขึ้นมานิดแต่ผมก็ไม่อยากรังแกคุณฟ้า แม้เจ้าตัวจะเต็มใจก็เถอะ ใครจะกล้ามีอะไรกับคนป่วยล่ะครับ กลัวอาการจะทรุดหนักมากกว่าเดิม

“นอนกันดีกว่านะครับ ผมง่วงแล้ว” ผมบอก คุณฟ้าตวัดตามองผมทันที ก่อนน้ำตาจะมอคลออยู่ที่เบ้ารอเวลาไหล แต่ผมไม่อยากให้คุณฟ้าร้องไห้อีกแล้ว เลยต้องตัดสินใจยอมตามใจคุณฟ้าจนได้

“ไม่ง่วงแล้วครับ ผมจะกอดคุณฟ้าเดี๋ยวนี้แหละครับ”

“กอดสิครับ” 

“ถ้าพรุ่งนี้ป่วยหนักกว่าเดิม แล้วไปทำงานไม่ได้ล่ะครับ”

ผมลองถามย้ำเอากับคนไข้ที่น่ารักของผมอีกครั้ง เจ้าตัวจะเลือกให้ผมกอดหรือจะเลือกงานของตัวเอง อย่างที่รู้ๆ คุณฟ้าห่วงงานที่ร้านมาก ตั้งแต่เปิดร้านเชิญครับมา คุณฟ้าไม่ไปทำงานแค่สามครั้งเอง เป็นสามครั้งที่มีผมเป็นสาเหตุ ครั้งแรกคือตอนที่ไปเที่ยวทะเลกับผม ครั้งที่สองคือวันที่ผมกอดคุณฟ้าจนเจ้าตัวไปทำงานไม่ได้ แถมเป็นวันที่ผมเจอกับพี่สาวและพี่เขยของคุณฟ้าอีกด้วย ครั้งที่สามก็ล่าสุดนี่ไงครับที่คุณฟ้าหลบหน้าผมโดยไม่ยอมมาทำงานถึงสองวัน

“ไม่เป็นไรครับ” คุณฟ้าว่า ก่อนจะรั้งคอผมเข้าไปประกบจูบ

ปากนิ่มที่ผมสัมผัสมันร้อนผ่าวเพราะอาการของไข้ แต่ผมก็ไม่ได้คิดจะหยุดมันแล้วครับ เมื่อคุณฟ้าอยากให้ผมกอด ผมก็จะกอด กอดให้คุณฟ้ามั่นใจว่าผมรักคุณฟ้าและต้องการคุณฟ้าเสมอ

.

.

.

 ผมเปิดประตูห้องเข้ามาเห็นคุณฟ้ายังนอนอยู่ในท่าเดิมเหมือนตอนที่ผมเปิดประตูออกไป ผมเพิ่งกลับจากซื้อข้าวเช้าไปให้ยีนที่ร้านเชิญครับ ทีแรกที่ยีนเห็นผมรีบบอกผมเลยว่าคุณฟ้ายังไม่มา ถ้าอยากคุยกับคุณฟ้าเดี๋ยวยีนจะจัดการให้ผมได้คุยให้ได้ เพราะไม่อยากเห็นเจ้านายตัวเองเหมือนศพเดินได้และไม่อยากให้เราสองคนเลิกกัน ผมนึกขอบใจยีนจริงๆ แต่ผมก็บอกไปครับว่าผมกับคุณฟ้าดีกันแล้ว ยีนดูตกใจมาก ถามใหญ่ว่าดีกันได้ยังไง ดีกันตอนไหน ง้อยังไง และอีกสารพัดคำถาม แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรมาก แค่บอกว่าดีกันเมื่อคืน ก่อนจะบอกให้ยีนดูแลร้านแทนคุณฟ้า

ผมเดินมาทิ้งตัวลงนอนข้างคนป่วยที่นอนซุกหน้ากับหมอน ตัวเปลือยอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ผมจะใส่เสื้อให้แต่เจ้าตัวงอแงไม่เอาจะนอนทั้งอย่างนี้

อาการของคุณฟ้าดีขึ้นแต่ไม่ถึงกับหายขาด เพราะตัวยังอุ่นๆ ร้อนๆ อยู่ ดีนะครับที่อาการป่วยไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เมื่อคืนไม่อยากบอกเลยว่าผมเห็นแก่ตัวไม่น้อย นึกแล้วก็ละอายใจมากเหมือนกัน แทนที่จะหยุดแค่ครั้งเดียว ผมกลับกอดคุณฟ้าไปสองรอบ ต้องโทษตัวเองที่ห้ามใจตัวเองไม่ได้ แอบโทษคุณฟ้านิดหน่อยเพราะน่ารักเหลือเกิน น่ารักจนทำให้ผมอดใจไม่ไหว แล้วเพราะผมคิดถึงคุณฟ้าด้วยแหละครับ

“คุณ...หมอ...” คุณฟ้ารู้สึกตัวก็เรียกผมทันที น้ำเสียงที่เรียกเบามาก เข้าใจว่าเป็นอาการของคนป่วยและเหนื่อยมาตลอดทั้งคืน

“ครับ” ผมหอมแก้มนุ่มไปที ปัดเส้นผมที่ปรกรกใบหน้านั้นไปด้วย ผมคุณฟ้ายาวมาก ยาวจนมัดจุกด้านหลังได้แล้ว เจ้าตัวเคยบอกว่าจะไปตัดแต่ก็ยังไม่ไปสักที อ้างว่าไม่ว่างเพราะงานที่ร้านยุ่ง
 
“กี่โมงแล้วครับ” คุณฟ้าถาม ขยับเข้ามากอดผมทั้งที่ตายังปิดอยู่

“แปดโมงครับ”

“แล้วไม่ไปทำงานเหรอครับ”

“ไม่ไปครับเพราะต้องดูแลคนป่วย เมื่อคืนรังแกไปเยอะ” ผมว่า ตอนซื้อข้าวเช้าไปให้ยีน ผมก็แวะไปฝากงานให้เบียร์ดูแลแทน วันนี้ผมมีผ่าตัดทำหมันสุนัขตัวหนึ่ง เป็นสุนัขจรจัดในซอยถัดไปจากคลินิก พนักงานออฟฟิศคนที่คอยให้น้ำให้ข้าวมันกิน อุ้มพามาฝากไว้ให้ช่วยทำหมันให้มันหน่อย

“ไม่เห็นจะเยอะเลย มากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว” คุณฟ้าเถียงได้น่ารักมาก ผมไม่รู้ว่าเจ้าตัวอายกับคำพูดตัวเองหรือเปล่า เนื่องจากคุณฟ้าเอาหน้าซุกที่อกผม ทำให้ผมไม่เห็น แต่ฟังจากน้ำเสียงแหบแห้งนั้นแล้ว ไม่น่าจะเขิน

“คุณฟ้า”

“ครับ” คุณฟ้าเงยหน้าขึ้นมามองผม คงเห็นว่าผมเรียกแล้วไม่ยอมพูดอะไรต่อ

“วันนี้ไปบ้านผมกันนะครับ”

ผมควรทำให้คุณฟ้ามั่นใจในตัวผมจริงๆ เสียที เพราะผมไม่อยากเห็นคุณฟ้าเป็นแบบเมื่อคืนอีกแล้ว

>>>>>>>>>>>>>Happy Na Ka<<<<<<<<<<<<<<<
คนเขียนขอคุย :: ตอนนี้ไม่ค้างเท่าไหร่เลยเนอะ อิอิ แต่มันเหมือนออกทะเลไปไกลแสนไกลมากกก
แต่มันก็ใกล้เข้ามาแล้ววววว ใกล้จะจบแล้วน้า แต่ยังหาฉากจบที่สวยงามไม่ได้ ปวดเฮดดดด 555+
เหมือนเดิมนะคะ ขอบคุณทุกคลิกที่คลิกเข้ามาอ่าน และขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ
อ่านแล้วชื่นใจ ^_______^
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 20-04-2012 20:56:31
คู่นี้เค้าคุยกัน อ้อนกัน น่ารักอ่ะ
หวานตลอดด
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Panny ที่ 20-04-2012 21:34:11
คุณฟ้าน่ารักและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 20-04-2012 21:34:52
บวกให้ความช่างอ้อนของคุณฟ้า

พาเข้าบ้านซะที เฮ่อ คุณหญิงแม่จะว่าไงละทีนี้ >"<
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: กระต่ายชมจันทร์ ที่ 20-04-2012 21:48:14
ขอขอบคุณจริงๆค่ะที่แต่งเรื่องนี้และอัพวันนี้ อารมณ์นอยๆที่สั่งสมมาเริ่มหายไปเลยค่ะพอได้อ่านคุณฟ้ากับคุณหมอเนี่ย

รู้สึกอิจฉาคุณฟ้านะคะที่ได้เจอคนที่รักจริงอย่างนี้

แฮบปี้ๆ~
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 20-04-2012 22:06:06
คุณฟ้าน่ารักมากมาย
ว่าแต่พาเข้าบ้านแล้วคุณแม่จะไม่ว่าอะไรหรือคะคุณหมอ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 20-04-2012 22:10:18
เย้....เชียร์คู่นี้สุดใจขาดดิ้น
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 20-04-2012 22:11:24
 :L2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 20-04-2012 22:12:16
ดีใจที่คุณหมอเริ่มแสดงความชัดเจนกับฟ้ามากขึ้น ตอนหน้ามาลุ้นเรื่องบ้านคุณหมอต่อค่า :call: :call:


ปล. เรื่องนี้ใกล้จบแล้วหรือคะ รู้สึกแป๊ปเีดียว แต่ยังค้างอีกหลายคู่เลยอ่ะ โดยเฉพาะคุณยะกับพี ไม่ทราบว่าจะแต่งต่อหรือไม่คะ   :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 20-04-2012 23:22:03

ขี้อ้อนจังนะคุณฟ้า แล้วคุณหมอจะอดใจไหวได้ไง :กอด1:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 20-04-2012 23:23:27
คุณหญิงแม่เป็นลมแน่ๆ ฮ่าๆ สู้ๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 20-04-2012 23:37:03
คุณหญิงแม่จะขัดขวางมั๊ยเนี่ย

 :z3:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mahmeow ที่ 21-04-2012 00:34:30
คุณหมอเปลี่ยนเรื่องได้เนียนมากอะ...

เปลี่ยนตัวเจ้าสาวเฉยเลยนะเนี่ย...55+

สงสารคุณฟ้า...ตอนขอไม่ให้คุณหมอแต่งงานยิ่งน่าสงสาร...T_T

คุณหมอจะพาไปบ้านก็ดีใจอยู่หรอก...แต่รอให้คุณฟ้าตาหายบวมก่อนดีไหม...เอิ่มม....= =
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 21-04-2012 10:37:53
คุณฟ้าช่างอ้อนจริงป่วยอย่างนี้ยิ่งอ้อนคุณหมอใหญ่เลย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Acid ที่ 21-04-2012 21:16:41
โอ้ย คุณฟ้าน่ารักมากมาย ไม่สามารถอธิบายได้ อิจฉาพี่หมอ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 28 แต่งเลยดีมั้ย {20/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-04-2012 01:59:19
ตาย ๆ ใครเจอลูกอ้อนแบบนี้ทนไหวก็เทพแล้ว
คุณหมอจะพาฟ้าไปเปิดตัวกับที่บ้าน ลุ้นระทึก
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 24-04-2012 21:45:07
ตอนที่ 29

“ไปบ้านคุณหมอ”

ผมทวนคำพูดนั้นที่คนตรงหน้าเอ่ยปากชวน ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง อาการป่วยของผมดีขึ้นแล้ว ผมไม่รู้สึกปวดหัวมากอย่างเมื่อคืน ที่เป็นมากคืออาการปวดแสบที่ตา เมื่อคืนผมร้องไห้หนักมาก ชนิดที่ว่าไม่รู้ว่าตัวเองเป็นไปได้ถึงขนาดนั้น

“ครับ ไปบ้านผม” คุณหมอลุกขึ้นตามแล้วบอก บอกแล้วยิ้ม เป็นยิ้มที่ทำให้ขอบตาผมร้อนผ่าว ผมดีใจจนอยากร้องไห้ แต่พยายามจะไม่ร้องครับ กลัวคุณหมอรำคาญน้ำตาของผม แต่อีกใจหนึ่งกลับรู้สึกบางอย่าง

“จะดีหรือครับ” ผมถามเสียงเบา แอบคิดในแง่ร้ายไม่ได้ว่า คุณหมอชวนเพราะอยากตัดรำคาญเรื่องที่ผมไม่เชื่อใจคุณหมอหรือเปล่า ทั้งที่ก่อนหน้าจะเกิดเรื่อง คุณหมอไม่เคยพูดถึงเรื่องครอบครัวให้ผมฟังเลย ส่วนเรื่องที่ผมรู้จักพี่ชายและหลานคุณหมอ มันเป็นความบังเอิญ ไม่ใช่ความตั้งใจของคุณหมอ

คุณหมออาจจะรักผมแต่ยังไม่พร้อมพาผมไปแนะนำให้ครอบครัวรู้จักก็ได้ ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่อยากไปครับ แม้ในใจของผมรอเวลานี้มาตลอดก็ตาม ผมอยากเป็นคนที่มีตัวตนสำหรับครอบครัวคุณหมอ ไม่ใช่ใครคนหนึ่งที่ครอบครัวคุณหมอไม่คิดว่ามีคนๆ นี้อยู่บนโลกใบนี้

“ดีสิครับ ผมรู้นะ...ว่าคุณฟ้าอยากเจอครอบครัวของผม”

สิ่งที่คุณหมอพูดมันถูกต้องครับ ผมอยากรู้จักครอบครัวคุณหมอ ผมอยากให้ครอบครัวคุณหมอรู้ถึงการมีตัวตนของผม อยากให้ครอบครัวคุณหมอรู้จักผมในฐานะคนรักของลูกชายท่าน ไม่รู้ว่าความต้องการของผมมันมากไปไหม...

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมถูกพ่อแม่ที่ให้กำหนดทิ้งไปตั้งแต่เกิดหรือเปล่า ถึงทำให้ผมหวั่นไหวเสมอหากต้องกลายเป็นคนไม่มีตัวตนสำหรับใครสักคนที่ผมอยากให้เขารู้จัก

ผมไม่อยากเอาความรักของผมทั้งสองครั้งมาเปรียบเทียบกันนะครับ ตอนที่คบกับนนท์ ทันทีที่ตกลงคบกัน นนท์พาผมไปที่บ้านแล้วบอกกับพ่อของนนท์ว่าได้ตกลงคบกับผมแล้ว ซึ่งครอบครัวของนนท์ก็ยอมรับเรื่องของผมกับนนท์ได้

ส่วนความรักครั้งนี้ของผมกับคุณหมอ แม้ผมจะรู้สึกว่ามันดีกว่าความรักครั้งเก่าของผมมาก มันดีมากๆ ด้วยซ้ำ ดีในแบบที่ว่าผมไม่คิดไม่ฝันมาก่อนมันจะเต็มไปด้วยความคิดถึง ความโหยหา อยากอยู่ใกล้ อยากอยู่ด้วยกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง คุณหมอทำให้ผมอบอุ่นที่หัวใจ ทำให้ผมรู้ว่าตัวเองกำลังถูกรักจากผู้ชายที่แสนดีมากๆคนหนึ่ง คนที่เขารักผมจริงและผมก็รักเขาอย่างเต็มหัวใจ

แต่ลึกๆ ในใจของผมแล้ว ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมอยากให้คุณหมอทำเหมือนที่นนท์ทำ ผมอยากให้คุณหมอพาผมไปรู้จักกับครอบครัว แล้วบอกกับครอบครัวว่าผมคือคนรักของคุณหมอ ผมต้องการการกระทำที่ชัดเจนนี้ ซึ่งผมก็ทำได้แค่อยากแต่ไม่เคยเอ่ยปาก เพราะผมกลัวว่าผมจะเรียกร้องมากเกินไป จนทำให้คุณหมอรู้สึกรำคาญไปเสีย

“คุณฟ้า...คุณฟ้าครับ” มือคุณหมอที่เกลี่ยอยู่บนใบหน้าผม ทำให้ผมรู้สึกตัวหลุดออกมาจากความคิดของตัวเอง

“ร้องไห้ทำไมครับ” คุณหมอถาม เช็ดน้ำตาบนหน้าผมไปด้วย ผมไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตามันไหลออกมาตอนไหน

“ผมขอโทษ” ผมก้มหน้าแล้วบอก ไม่กล้าสบตาคุณหมอ รู้สึกผิดที่ตัวเองร้องไห้ต่อหน้าคุณหมออีกแล้ว ทั้งที่เมื่อคืนรับปากคุณหมอไปแล้วว่าจะไม่ร้อง

“ขอโทษทำไมครับ”

“ขอโทษที่ผมร้องไห้” ผมเงยหน้าขึ้นมาบอก

“ตอนนี้ก็หยุดแล้วนี่ครับ คุณฟ้าคนเก่งของผม ไม่ร้องแล้วเห็นไหม”

ตาสีเข้มของคุณหมอมองผมอย่างอ่อนโยน ก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอด กอดคุณหมออบอุ่นและอุ่นเข้าไปถึงหัวใจของผม

“ผมรักคุณหมอนะ รักมาก รักจริงๆ นะครับ” ผมเฝ้าบอกความรู้สึกที่เอ่อล้นอยู่ข้างใน ความรักของผมที่มีต่อคุณหมอมันมากมายเหลือเกิน มากเสียจนไม่อยากเชื่อว่ามันเกิดขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว แค่เดือนกว่าๆ ที่เราคบกัน

“ผมรู้ครับ ผมก็รักคุณฟ้าเหมือนกัน คุณฟ้ารู้ใช่ไหมครับ” เสียงทุ้มนุ่มบอกและถามอยู่ข้างหูของผมในคราวเดียวกัน

“รู้ครับ”

เพราะคุณหมอทนใจเย็นกับความอ่อนไหวของผมมาตลอด วันนี้ผมถึงมั่นใจว่าคุณหมอรักผม ไม่ต่างจากที่ผมรักคุณหมอเลยสักนิด ก่อนหน้านี้ผมอาจไม่มั่นใจในความรักของคุณหมอเพราะเรื่องของคุณลม แต่ตอนนี้ผมไม่อยากคิดเรื่องของคุณลมอีกแล้ว คุณหมอเป็นคนดีเกินกว่าจะหลอกว่ารักผม โดยที่ใจของคุณหมอไม่ได้รักผมจริงอย่างปากว่า

คุณลมกลายเป็นอดีตของคุณหมอไปแล้ว ส่วนผมคนนี้คือปัจจุบันของคุณหมอและจะเป็นตลอดไป...ด้วย

“คุณฟ้าครับ” คุณหมอดันตัวผมออก เพื่อให้เราได้สบตากัน ผมชอบสายตาของคุณหมอที่มองผม เพราะมันดูเต็มไปด้วยความรักที่คล้ายจะมีให้ผมเพียงคนเดียว เพราะผมคือคนเดียวที่คุณหมอรัก

“ครับ”

“ไปรู้จักกับครอบครัวผมนะครับ” คุณหมอพูดด้วยรอยยิ้มแสนอบอุ่น

“เพราะเรื่องที่ผมร้องไห้หรือเปล่าครับ คุณหมอถึงต้องพาผมไปบ้านเพื่อให้ผมสบายใจแล้วก็เลิกร้องไห้” ผมถามอย่างที่ใจคิด คุณหมอนิ่งไปนิด ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ แล้วถามผมว่า

“ทำไมคิดแบบนั้นละครับ”

“บางทีคุณหมออาจจะยังไม่พร้อมเปิดเผยเรื่องของผมให้ที่บ้านรู้”

“ก่อนหน้านี้ผมอาจจะยังไม่พร้อม แต่ตอนนี้ผมพร้อมแล้วครับ” น้ำเสียงที่บอกผมจริงจังมากครับ แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าน้ำตาของผมบังคับให้คุณหมอ ‘ต้องพร้อม’ ทั้งที่ความจริงคุณหมอยังคง ‘ไม่พร้อม’

“เพราะน้ำตาของผมใช่ไหมครับ คุณหมอถึงต้องพร้อม”

คุณหมอถอนหายใจเบาๆ อีกครั้ง

“เพราะผมรักคุณฟ้าต่างหากครับ ผมถึงไม่อยากให้คุณฟ้าร้องไห้เสียใจเพราะผมอีก ผมอยากทำให้คุณฟ้าเชื่อว่าผมรักคุณฟ้าจริงๆ ไม่ได้รักแบบบ๊อบปี้เลิฟ แต่ผมรักคุณฟ้าในแบบที่อยากใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอด”

คำพูดของคุณหมอทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ มันไหลอีกจนได้

“...ไม่ร้องนะครับ ไหนว่าจะไม่ร้องแล้วไงครับ” ผมรีบยกหลังมือเช็ดน้ำตาทิ้ง

“ไม่ร้องแล้วครับ”

ผมยิ้มให้คุณหมอ เห็นคุณหมอยิ้มตอบกลับมาแล้วรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ผมไม่ควรคิดมากใช่ไหม ผมควรเชื่อทุกคำพูดของคุณ คุณหมอบอกว่าไม่อยากเห็นผมร้องไห้ ส่วนผมก็ไม่อยากทำให้คุณหมอไม่สบายใจเพราะการที่ผมเอาแต่ร้องไห้ ผมจะพยายามไม่ร้องไห้เพื่อให้คุณหมอสบายใจ

“คุณหมอ...”

“ครับ”

“ผมรักคุณหมอ” ผมบอกคำเดิมๆ กับคุณหมอ เป็นคำเดิมๆ ที่ผมไม่นึกเบื่อที่จะพูดมันออกมาให้คุณหมอรู้

.

.

.

 “โทรศัพท์ครับคุณหมอ”

ผมหยิบโทรศัพท์ของคุณหมอที่ส่งเสียงร้องเพราะมีคนโทรเข้ามา ผมเดินเข้าไปในห้องครัว เอามันไปให้คุณหมอที่ยืนปลอกแอปเปิลตรงเคาน์เตอร์ คุณหมอวางมีดลง ล้างมือและรับโทรศัพท์ไปจากผม

“ว่าไงยัยภา” คุณหมอพูดกับคนปลายสาย ผมไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ผมอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร คุณหมอเหมือนรู้ว่าผมกำลังคิดอะไร ถึงได้ยกมือขึ้นปิดโทรศัพท์ไว้ แล้วพูดเสียงเบากับผมว่า

“น้องสาวผมครับ”

ผมพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปหยิบแอปเปิลขึ้นมาปลอกต่อ หูก็ฟังคุณหมอพูดกับน้องสาวตัวเองไปด้วย

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น.....พี่ยะกับพี.....แล้วพีเป็นไงบ้าง.....ได้เดี๋ยวพี่จะรีบไป”

น้ำเสียงของคุณหมอฟังดูไม่ดีเลย

“มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“เกิดเรื่องขึ้นที่บ้านนิดหน่อยครับ”

“เรื่องคุณยะกับน้องพีใช่ไหมครับ” ผมได้ยินคุณหมอพูดชื่อน้องพีกับคุณยะเมื่อครู่ นึกเดาว่าต้องเรื่องของสองคนนี้แน่ๆ

“ครับ...”

“ใช่เรื่องนั่นหรือเปล่า...” เรื่องความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ที่จะไม่เป็นความลับอีกแล้ว ถ้าใช่เรื่องนี้จริงๆ ก็คงเป็นเรื่องใหญ่น่าดู น้องพียังเด็ก ส่วนพี่ชายคุณหมอก็อยู่ในฐานะของพ่อ แม้จะไม่ใช่พ่อแท้ๆ ก็ตามเถอะครับ

“ผมไม่แน่ใจเหมือนกันเพราะยัยภาไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไร แต่บางทีอาจไม่ใช่เรื่องนั้นก็ได้...”

“งั้นคุณหมอก็รีบไปเถอะครับ” ผมบอก แอบหวังเล็กๆ ว่าคุณหมอจะชวนผมไปด้วยกัน แต่คงเป็นไปไม่ได้เพราะที่บ้านของคุณหมอเกิดปัญหา ขืนคุณหมอพาผมไปด้วยคงได้เกิดปัญหายกกำลังสองขึ้นมาแน่ๆ

แต่แล้วคุณหมอก็ทำให้ความหวังเล็กๆ ของผมเป็นความจริงขึ้นมา ด้วยประโยคที่ว่า...

“ไปด้วยกันนะครับ”

“จะดีหรือครับ” แม้ความหวังเล็กๆ ของผมจะเป็นจริง แต่ผมก็เกรงว่าเรื่องของผมกับคุณหมอจะเป็นการเพิ่มปัญหาให้หนักขึ้น ปัญหาของคุณยะกับน้องพีก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ครอบครัวคุณหมอจะรับได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ เจอเรื่องของผมเข้าไปอีกคงมีแต่แย่กับแย่

“ดีสิครับ”

“แต่...”

“อย่าคิดมากครับ เรื่องของพี่ยะกับพีไม่เหมือนเรื่องของผมกับคุณฟ้าหรอกครับ”

“แต่ผมกลัวคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณหมอจะเครียดยกกำลังสองสิครับ” ผมบอกอย่างที่คิด แต่คุณหมอส่ายหน้าไม่เห็นด้วย

“ไม่หรอกครับ”

“แต่ว่า...”

“หรือว่าคุณฟ้าไม่อยากไป” คุณหมอถามแล้วยิ้ม คงรู้สินะว่าผมอยากไป

“อยากครับ แต่...” แต่ผมไม่รู้ว่าผมสมควรไปดีไหม

“อยากไปก็ต้องไปครับ” คุณหมอว่า

“ครับ”

นั่นสินะครับ อยากไปก็ต้องไป ผมจะทนเก็บความยากนี้ไปทำไมกันให้ทรมาน

ความอยากของผมมีมากเหลือเกิน...

ผมอยากรู้จักครอบครัวของคุณหมอ อยากรู้จักคุณพ่อคุณแม่ของคุณหมอ อยากรู้ว่าว่าท่านทั้งสองหน้าตาเป็นยังไง จะได้รู้เสียทีว่าคุณหมอหน้าตาเหมือนใครมากกกว่ากัน และผมยังอยากเห็นหน้าน้องสาวของคุณหมอและบรรดาหลานๆ ของคุณหมอด้วย

ผมอยากเห็นบ้านที่คุณหมอเติบโตมา อยากเห็นห้องนอนของคุณหมอ อยากเห็นกรอบรูปในห้องนอนคุณหมอ อยากเปิดอัลบั้มรูปในวัยเด็กของคุณหมอ อยากเห็นรูปตอนรับปริญญาของคุณหมอ อยากเห็นต้นไม้ใบหญ้าบ้านคุณหมอ อยากเห็นทุกอย่างที่อยู่ภายในรั้วบ้านของคุณหมอ อะไรทุกอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

อยากเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่หลอมรวมกันเป็นคุณหมอที่แสนดี คนที่ยืนอยู่ข้างผมในตอนนี้...ว่าเป็นอย่างไร

และ...

ผมอยากให้ครอบครัวของคุณหมอ...รู้จักผม

ผมจะได้กลายเป็นคนที่มีตัวตนอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของคนในครอบครัวคุณหมอ...บ้าง

.

.

.

รถของผมที่มีคุณหมอเป็นคนขับเลี้ยวเข้ามาในซอยอย่างช้าๆ ผ่านบ้านหลายสิบหลัง ซึ่งแต่ละหลังถูกปลูกสร้างมาอย่างดี ด้วยอาณาบริเวณกว้างขว้าง ฟ้องฐานะของผู้คนในละแวกนี้ว่าร่ำรวยไม่น้อยเลย

รถแล่นผ่านแนวต้นไผ่สีเขียวใบยาวเล็กไหวตามลมซึ่งปลูกขนานไปกับความยาวและความสูงของกำแพงรั้ว คุณหมอชะลอรถและประตูรั้วค่อยๆ เปิดออก ก่อนล้อรถจะแล่นเข้าไปในบริเวณบ้านหลังแนวกำแพงต้นไผ่ ผ่านสวนหน้าบ้านที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้สูงทั้งสองฝั่ง มีโต๊ะเก้าอี้ไม้ตั้งวางเป็นบ้างจุด แต่ไม่ทำให้บรรยากาศของความเป็นสวนที่น่าจะสร้างขึ้นมาเพื่อเดินชม มากกว่านั่งชม

จากรั้วบ้านจนถึงโรงจอดรถที่คุณหมอกำลังดับเครื่องและก้าวออกมา รวมถึงผมด้วย มันห่างกันน่าจะประมาณสักสองร้อยเมตร ผมกวาดตาไปรอบๆ บริเวณที่ยืนอยู่ บอกได้เลยว่าได้กลิ่นอายของความเป็นไทยจริงๆ ครับ โดยเฉพาะเรือนหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก ทั้งเสาทั้งตัวเรือนคงเป็นไม้สักทั้งหมด

“คุณหมอ”

ผมหันไปหาคุณหมอ อยากขอกำลังใจหรือคำพูดอะไรสักอย่างจากคุณหมอ เพราะตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นและกังวลใจปนกันไปหมด ตื่นเต้นที่ได้เห็นบ้านและได้เห็นในสิ่งที่คุณหมอคุ้นเคยมาตลอดชีวิต แต่ก็อดเป็นกังวลใจถึงสิ่งที่จะตามมาไม่ได้เลย ครอบครัวคุณหมอจะรังเกียจผมไหม แล้วจะชิงชังในความสัมผัสของผมกับคุณหมอหรือเปล่า จะบังคับให้คุณหมอต้องเลือกไหม เลือกพวกเท่าหรือเลือกผม

อย่างที่ผมรู้ ครอบครัวคุณหมอได้หาลูกสะใภ้เอาไว้แล้ว นั่นคือน้องเนย พวกท่านคงไม่ต้องการเปลี่ยนลูกสะใภ้จากผู้หญิงเป็นผู้ชาย

แค่คิดว่าคุณหมอจะต้องเลือก...ผมก็รู้ได้ทันทีครับว่าคุณหมอจะเลือกใคร

“คุณฟ้า” คุณหมอเรียกชื่อผม พร้อมดึงตัวผมเข้าไปกอด ลูบหัวผมเบาๆ

“ไม่มีหรอกครับ อย่าคิดมาก คุณพ่อกับคุณแม่ผม ท่านทั้งสองใจดีครับ”

ผมก็หวังว่าคุณพ่อคุณแม่ของคุณหมอจะใจดีพอที่จะยอมรับเรื่องของผมกับคุณหมอได้

“ครับ”

แล้วผมก็ต้องรีบผลักตัวคุณหมอออกอย่างไว เมื่อคนใช้บ้านคุณหมอเดินตัวลีบมาทางที่ผมกับคุณหมอ ไม่ต้องถามว่าเธอเห็นอะไรไหม แน่นอนว่าเธอต้องเห็น

“คุณนุคะ...คุณท่านรออยู่ที่เรือนของคุณนุค่ะ” พอบอกเสร็จสาวใช้บ้านคุณหมอก็เดินเลี่ยงไปยื่นกุมมืออยู่ข้างๆ คงรอให้คุณหมอกับผมเดินไปก่อน

ชื่อของคุณหมอที่สาวใช้เรียกเป็นชื่อที่ผมเพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรก แล้วผมอยากเรียกคุณหมอด้วยชื่อของคุณหมอจริงๆ บ้าง

ผมคิดว่า...มันต้องดีมากๆ แน่ครับ ถ้าผมได้เรียกคุณหมอด้วยชื่อนั้น

“ไปครับ”

คุณหมอยื่นมามาให้ผมจับ แต่ผมไม่ได้ยื่นมือไปจับ เกรงสายตาของคนใช้บ้านคุณหมอด้วยส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งคือไม่คงไม่เหมาะสมเท่าไหร่ หากผมจะจับมือคุณหมอเดินไปหาคุณพ่อคุณแม่ของคุณหมอให้ท่านทั้งสองเห็น เพราะผมยังไม่รู้ว่าท่านทั้งสองจะรู้สึกแบบไหนกับความสัมพันธ์นี้ของเราสองคน

เมื่อผมเลือกที่จะประสานมือเข้าหากัน คุณหมอถึงได้ดึงมือตัวเองกลับ ก่อนจะเดินนำผมไปตามทางเดินที่ปูด้วยอิฐแดงทอดไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ตัวบ้านหลังใหญ่ที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้า แต่มันลึกเข้าไปข้างในด้านหลังของเรือนหลังใหญ่

หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ผมพยายามจะมุ่งความสนใจไปยังสิ่งที่อยู่รอบตัว คิดว่าจะเก็บทุกรายละเอียดของบริเวณบ้านคุณหมอเอาไว้ให้มากที่สุด แต่สุดท้ายผมก็มองเห็นแต่แผ่นหลังของคุณหมอที่เดินอยู่ตรงหน้าผมเท่านั้น...

มีบางครั้งคุณหมอหันมายิ้มให้ผม เหมือนจะยื่นมือมาให้ผมจับ แต่ผมก็ส่ายหน้าเสียทุกครั้ง อยากจับมือคุณหมอนะครับ แต่ผมไม่กล้าพอที่จะทำมันที่นี่ เมื่อผมยังไม่แน่ใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
 
>>>>>>>>>>>Happy Na Ka<<<<<<<<<<<<<



คนเขียนขอคุย :: ใกล้จบแล้ว...มั้ง และคงจากไปอย่างเหงาๆ
ขอบคุณที่ยังติดตามนะคะ  :pig4:

สีเหลืองอ่อน//aeaw
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 24-04-2012 22:19:29
ลุ้นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-04-2012 22:23:13
แอบตื่นเต้นไปด้วย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: badcow ที่ 24-04-2012 22:55:39
เตรียมทำใจกับมาม่าปริมาณที่ผู้ประสบภัยอย่างเรายังกินไม่หมด
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 24-04-2012 23:17:00
ว้าว ในที่สุดก็จะได้เจอครอบครัวหมอแล้วนะคะ ตื่นเต้นจังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงแล้วไม่รู้ว่าเรื่องของพีกับคุณยะ เป็นไงม่างเนี่ย
อ่านตอนนี้แล้วสงสารฟ้าจัง ดูแล้วเป็นคนคิดเยอะ และต้องการความรักความอบอุ่นมากๆเลยนะเนี่ย :sad11:


ปล. ทำไมใกล้จบแล้วต้องจากไปเงียบๆคะ ห้ามไปไหนก่อนน้า เพราะยังมีเรื่องของอีักหลายคู่ค้างอยู่นะคะ ไหนจะคุณยะกับพี และเรื่องของหนึ่งอีก ยังไม้รู้ชะตากรรมเลยค่ะ อย่าเพิ่งทิ้งไปนะค้า :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 24-04-2012 23:20:11
ลุ้นอะไรเข่นนี้ สงสารคุณฟ้าร้องไห้เสียขนาดนี้
หวังว่าตอนหน้าคุณฟ้าจะไม่ต้องร้องไห้นะคะ
ยกป้ายไฟเชียร์คุณฟ้า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 24-04-2012 23:55:44
บวกให้เสมอค่ะ
จะจบแล้วเหรอเนี่ย เราชอบเรื่องนี้มากนะคะ ได้หลายๆ อารมณ์ดี
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 25-04-2012 00:14:31
ตื่นเต้นด้วยคน :amen:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 25-04-2012 00:22:25
เราเตรียมน้ำร้อนกับไมโครเวฟพร้อมแล้ว จะได้กินมาม่าอีกมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 25-04-2012 00:29:28

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับคำชี้แจ้ง
และตอนพิเศษที่จะเขียนให้นะคะ
แฮ่ๆ ตอนนั้นเราก็อ่านตินลมนานแล้วก็ลืมๆไป
ขอโทษน้า  แต่ดีใจมากคะที่ตอบคอมเมนต์เรา

อ่านตอนนี้แล้วเครียด
จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้
มันจะดีขึ้น หรือเลวร้ายลงกันละนี่ เฮ้อ
แล้วไหนจะคุณยะน้องพีอีก
หืดขึ้นคอเลยนะคุณหมอ

รออ่านตอนต่อไปจ้า
+1 ให้น้าาา
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 25-04-2012 00:39:33
ไม่กล้า อ่าน. ขอจองท่่ีละกัน. 5555
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 25-04-2012 09:57:55
แอบเข้ามาคุยนิดหน่อย อิอิ

Nus@nT@R@ ::: ลุ้นๆๆๆ เหมือนกันเลย อิอิ

malula ::: ตื่นเต้นเหมือนกัน ตื่นจนไม่รู้จะเขียนยังไงดีแล้ววว

badcow ::: อิอิ ตอนแรกคิดว่าไม่มีนะ มาม่า แต่แบบว่า เอ๊ะ! รึจะมีดี....กำลังตัดสินใจอยู่ 55+

zazoi ::: ที่บอกว่าจากไปอย่างเหงาๆ เพราะ คนเขียนคิดถึงหมอนุกะคุณฟ้าค่ะ ถ้าจบก็คงไม่ได้เขียนเรื่องราวของสองคนนี้อีกแล้ว (มั้ง) เลยแบบว่ามันต้องเหงาแน่ๆ เลย แต่ อิงหนึ่ง นนท์แดน พียะ ก็คงทำให้หายเหงา ไม่ทิ้งไปไหนหรอกค่ะ สัญญา จะเขียนต่อให้จบเลยคร้าา
 
Salome ::: สงสารคุณฟ้าเหมือนกัน เสียน้ำตาได้ทุกตอนเนอะะะะ T^T (คุณฟ้าร้องไห้ แต่คนเขียนเครียดมากทุกตอนที่คุณฟ้าร้องไห้เลยนะคะ T^T)

JJHJJH ::: บวกให้เช่นเดียวกันนะคะ ^^ ใกล้จบแล้วค่ะ ถ้าไม่ดราม่าก็คงตอนสอนตอนคงจบได้ แต่ถ้าเผลอเขียนดราม่าแล้วละก็...เหอๆๆ คงยาวอีกห้าหกตอนแน่ๆ เลย ตอนนี้กำลังตัดสินใจอยู่เลยคร้า ว่าจะเอาไงดี มาม่าหรือไม่มาม่า คิดหนักนะเนี้ยยยย

bulldog17 ::: ร่วมด้วยช่วยกันตื่นเต้นจ๊ะ

 gupalz ::: 555+ เตรียมค่าไฟด้วยนะ เวฟมาม่าเยอะเกิน ไฟฟ้าขึ้นน้าาา (เดือนที่ผ่านมาคนเขียนจ่ายค่าไฟ 500 กว่าบาทแน่ะ ทุกที่นี่แค่ 200 กว่าๆ เองเถอะ เซงเลย กร๊ากก นอกเรื่องไปเนอะะ)

namngern ::: คนเขียนก็ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่ช่วยออกความเห็น ^__^ แล้วเดี๋ยวแต่งตอนพิเศษตอนนี้แล้วจะเอามาลงให้อ่านนะคะ (ตอนวาเลนไทน์แรกของผม เวอร์.ลม) ตอบแทนค่ะ

 sakiko ::: จองถาวรเลยนะคะ เดี๋ยวออกตั๋วตลอดชีพให้ค่ะ อิอิ

ปล.ตอนแรกคิดว่าจะไม่มาม่าน้าาาา แต่แอบอ่านเม้นท์แล้ว เหมือนมีเส้นทางโผล่ขึ้นมาอีกทาง อิอิ จะดราม่าดีไหมน้าาา ลุ้นตอนหน้ากันละเนอะ
บับบายยยย แอบมาตอบเม้น อิอิ
สีเหลืองอ่อน// aeaw
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 25-04-2012 10:21:06
ดีใจแทนคุณฟ้า
แล้วก็ตามลุ้นเอาใจช่วยคุณฟ้าต่อไป
หวังว่าการไปพบคุณพ่อคุณแม่คราวนี้จะเป็นไปด้วยดีนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 25-04-2012 11:20:25
ใกล้จบแล้ว แปลว่า ไม่มีมาม่าชามโตใช่มั้ยคะ

ขอหวานๆ หน่อยนะคะ อืดมาม่ามาหลายตอนแล้วววว

ติดตามอยู่ตลอด เม้มได้บ้าง เม้มไม่ได้บ้างเพราะอ่านมือถือ

รออ่านน้องพี คุณยะ ด้วยนะคะ น่าจะได้มาม่าอีกชามโตๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 25-04-2012 11:47:26
 :กอด1: :L1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 25-04-2012 14:04:33
แอบเข้ามาคุยนิดหน่อย อิอิ

ปล.ตอนแรกคิดว่าจะไม่มาม่าน้าาาา แต่แอบอ่านเม้นท์แล้ว เหมือนมีเส้นทางโผล่ขึ้นมาอีกทาง อิอิ จะดราม่าดีไหมน้าาา ลุ้นตอนหน้ากันละเนอะ
บับบายยยย แอบมาตอบเม้น อิอิ
สีเหลืองอ่อน// aeaw

อย่ามา  คุงน้องแอ๋ว อย่ามา มาม่าแถวนี้เด้ดขาดไม่งั้นคนโพสจะงอนไม่โพสให้นะ ... นี่คือคำขู่  เข้าใจ๋ :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 25-04-2012 15:54:17
รออ่านต่อไป :)
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 25-04-2012 16:58:03
ขอให้พ่อแม่คุณหมอทำใจยอมรับฟ้าเถอะนะ
สงสารฟ้าแค่คิดว่าหมอไม่รักก็ร้องไห้ไปตั้งเยอะแล้ว
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 25-04-2012 18:54:35
สู้สู้ นะคุณฟ้า มีคุณหมออยู่ข้างๆ หายห่วง
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 25-04-2012 19:58:38

คุณหญิงแม่คงเป็นลมงานนี้  o18


อย่าเพิ่งไปครับ เหลืออีกตั้งหลายคู่ ยังไม่หมดเลย   :z2:

หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 25-04-2012 20:20:26
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Calo love ที่ 09-05-2012 08:20:28
 :z3: :z3: :z3:
ว๊ากกกกกกกกกกกกกก...............ผมเจอเเล้วครับพี่แอ๋ว
ผมหา ตินกะลม หมอนุกะน้ำฟ้า จเอเเล้ว
หาทีเดียวได้สองคู๋ อั๊ยย่ะ...........ขอบคุณนะครับที่เอามาลงให้อ่านอีกครับ
(ที่เคยถามไปในเรื่องของซีซวงตอนนี้ออฟเจอแล้วครับพี่เเอ๋ว)
.
.
.
.
.
แล้ว.........."ทะเลหวาน" จะเอามาลงให้ติดตามไหมครับในเล้าๆๆๆ รออยู่นะครับ

+ เป็ด ตัวน้อยๆ ให้ตอนที่ 29 เพราะจะมารอตอนต่อไปนะครับ

รักพี่แอ๋ว รักคุณหมอ รักน้ำฟ้า รักติน รักลม..........ต่ออิงกะหนึ่ง พีกะยะด้วยนะครับ อิอิ ขอมากไปแล้วเรา
อ๋อ.......ทีกะเชนด้วยนะครับ อิอิ

ติดตามต่อครับ........ยิ่งอ่านยิ่งสนุก
(หากทำหนังสือเเจ้งด้วยน้าอยากได้ครับ)
 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 09-05-2012 10:47:59
:z3: :z3: :z3:
ว๊ากกกกกกกกกกกกกก...............ผมเจอเเล้วครับพี่แอ๋ว
ผมหา ตินกะลม หมอนุกะน้ำฟ้า จเอเเล้ว
หาทีเดียวได้สองคู๋ อั๊ยย่ะ...........ขอบคุณนะครับที่เอามาลงให้อ่านอีกครับ
(ที่เคยถามไปในเรื่องของซีซวงตอนนี้ออฟเจอแล้วครับพี่เเอ๋ว)
.
.
.
.
.
แล้ว.........."ทะเลหวาน" จะเอามาลงให้ติดตามไหมครับในเล้าๆๆๆ รออยู่นะครับ

+ เป็ด ตัวน้อยๆ ให้ตอนที่ 29 เพราะจะมารอตอนต่อไปนะครับ

รักพี่แอ๋ว รักคุณหมอ รักน้ำฟ้า รักติน รักลม..........ต่ออิงกะหนึ่ง พีกะยะด้วยนะครับ อิอิ ขอมากไปแล้วเรา
อ๋อ.......ทีกะเชนด้วยนะครับ อิอิ

ติดตามต่อครับ........ยิ่งอ่านยิ่งสนุก
(หากทำหนังสือเเจ้งด้วยน้าอยากได้ครับ)
 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:

หาเจอแล้วใช่ 55+ ส่วนเรื่อง ทะเล...หวาน โดนย้ายห้องแล้ว ไปอยู่ในห้องนิยายแต่งไม่จบ
ตอนนี้ก็เรียบๆ เคียงๆ เขียน ไปนิดๆ หน่อยๆ รอให้แต่งจบ แล้วค่อยเอาลง แต่คาดว่าอีกยาวนานนนนนนน ^^'
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Calo love ที่ 09-05-2012 15:36:46
หาเจอแล้วใช่ 55+ ส่วนเรื่อง ทะเล...หวาน โดนย้ายห้องแล้ว ไปอยู่ในห้องนิยายแต่งไม่จบ
ตอนนี้ก็เรียบๆ เคียงๆ เขียน ไปนิดๆ หน่อยๆ รอให้แต่งจบ แล้วค่อยเอาลง แต่คาดว่าอีกยาวนานนนนนนน ^^'



อิอิโดนดองไปเลยสิท่า..........แต่ก็ติดตามนะครับ
ฝากพี่เเอ๋วช่วยเขียนต่อให้ด้วยนะครับเพราะหลายคู่เลหือเกิน(สงสารคุณหมอกะรุ้งนะครับ)
ช่วยให้ลงเอยสักทีนะครับ...........
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutjung19 ที่ 09-05-2012 17:53:43
มามง มาม่า อะไร ไม่เอาน๊าาาาา

ว่าแต่จะมาต่อยัง รออยู่ และกดดัน
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Calo love ที่ 14-05-2012 08:06:46
แงแงแงแง.........อ่านกี่ทีก็สนุก อินเวอร์ครับพี่แอ๋ว
รีบมาต่อตอนต่อไปนะครับแบบว่าอยากไปงานแต่งคุณหมอครั :-[ :o8: :o8: :-[บ........... :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Calo love ที่ 14-05-2012 17:43:24
พี่แอ๋วครับ อ๊อฟ เอาด้วยคนหนึ่งครับหนังสือ....นะครับ
(อ๊อฟเข้าหน้าเพจนิยายพี่แอ๋วไม่ได้ครับเพราะที่ทำงานเข้าเฟซไม่ได้ครับ)
ไม่รู้ว่าต้องสั่งจองอะไรยังไงครับ แต่เอาด้วยคนหนึ่งขอรายละเอียดด้วยครับ................. o13
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 15-05-2012 18:39:26
รู้สึกว่าหายเงียบไปนานเกินไปแล้วน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 16-05-2012 22:06:30
คิดถึงคุณหมอกับคุณฟ้า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 29 มีตัวตน {24/04/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 17-05-2012 23:40:17
เน็ตที่หอพัง ขโมยต่อเน็ตข้างบ้าน ก็สุดแสนจะทำได้ยาก ต่อไม่ติด สภาพอากาศด้วย T^T พยายามขโมยมาทั้งวันเพิ่งจะขโมยได้ก็ตอนนี้แหละ
แต่งตอน 30 จบแล้วน้า สั้นนิดหน่อย อิอิ เด๋วพรุ่งนี้เข้าออฟฟิตจะเอาไฟล์ส่งให้คนโพสนะคะ
รอก่อนนะคะ (เน็ตหอพังมาอาทิยต์หนึ่งแล้ว ปวดตับมาก แล้วอาทิตย์นี้ก็ไม่ได้เข้าออฟฟิตเลย เลยไม่มีเน็ตใช้ ทำอะไรไม่ได้เล๊ยย ขอโต๊ดน้าา พรุ่งนี้จะเข้าออฟฟิตแระ เจอกันคร่าา แต่ต้องรอคนโพส มาโพสนะคะ)
แอบมีสปอร์ตตอนพิเศษตินลมมาด้วยนะ อิอิ อยากให้อ่าน มันหวาน คนเขียนชอบมากๆๆ
บายย aeaw
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 30 เปิดตัว {18/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 18-05-2012 10:10:25
ตอนที่ 30  เปิดตัว

“มือเย็นนะครับ ตื่นเต้นหรือครับ”

มือนิ่มที่ผมถือโอกาสคว้ามากุมยามเจ้าตัวเผลอ เพราะมัวแต่ชะเง้อมองไปยังหลังคามุงกระเบื้องดินเผาสุกที่โผล่พ้นยอดไม้มาบางส่วนนั้นเย็นเฉียบ ต่างจากมืออุ่นที่เคยกอบกุมมานับครั้งไม่ถ้วน
   
“เอ่อ...เอ่อ...คะ...ครับ...”

คุณฟ้ารีบหันไปมองสาวใช้ด้านหลัง แล้วหันมาตอบคำถามผมด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก แก้มนวลขึ้นสีแดงระเรื่อ พยายามจะดึงมือออกเพราะรู้ว่าตกเป็นที่จับจ้องของคนด้านหลัง แต่ผมไม่ยอมปล่อย มันไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเพราะนี่เป็นบริเวณรั้วบ้านของผม   

“ปล่อยเถอะครับคุณหมอ ไม่ดูดี” คุณฟ้าบอกเสียงเบา ส่งสายตาอ้อนวอนมา ราวกับว่าการจับมือถือแขนเป็นเรื่องต้องห้าม

“ทำไมล่ะครับ” ผมถามทั้งที่รู้ คุณฟ้าหันไปมองข้างหลังอีกครั้งแล้วหันกลับมามองหน้าผม ก้มมองมือตัวเองที่ถูกผมกุมเอาไว้

“เด็กเห็น มันไม่ดี” คุณฟ้ากระซิบบอก หันหน้าไปมองข้างหลังอีกครั้ง น้ำอ้อยพอจะรู้ว่าแขกของผมอยู่ในอาการไหนเลยก้มหน้ามองบ่อปลาใกล้ๆ แทนเสีย 

“เด็กจะได้ชินไงครับ อีกหน่อยคุณฟ้าก็ต้องมาอยู่ที่นี่” คนฟังยิ้มเขิน ยอมให้ผมกุมมือแต่โดยดี แต่ไม่วายหันหน้าไปมองคนที่เจ้าตัวนึกอาย

“คุณหมอครับ คือ...” คุณฟ้าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง

“น้ำอ้อยไปที่เรือนก่อน” ผมหันไปบอก ถ้าน้ำอ้อยยังอยู่ คุณฟ้าคงไม่กล้าพูด

“ค่ะ คุณนุ”

“คืออะไรครับ” ผมถามคุณฟ้าตอนที่น้ำอ้อยเดินไปแล้ว

“กอดหน่อยครับ” คุณฟ้าพูดอายๆ ผมรั้งร่างเพรียวเข้ามากอดตามคำขอ เพราะอยากทำมากกว่ากอด ปากของผมถึงได้กดลงไปบนแก้มนวลสีแดงระเรื่อชวนให้หลงใหล น่ารักน่าเอ็นดูยามที่เจ้าตัวเขินอาย

แก้มนวลของคุณฟ้ากับมือนิ่มของคุณฟ้า อุณหภูมิต่างกันมาก มือนี่เย็นเฉียบเหมือนเพิ่งไปแช่ถังน้ำแข็งมา แต่แก้มกลับอุ่นจนร้อนเหมือนคนเป็นไข้

“หัวใจคุณฟ้าเต้นแรงมากนะครับ” พอกอดกันอย่างนี้ ผมสัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นเร็วและแรงของคุณฟ้า

“ก็ผมตื่นเต้น แล้วก็กลัวด้วยครับ”

“ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกครับ”

“มีสิครับ ก็ผมกลัวครอบครัวคุณหมอจะรับไม่ได้ ที่...ที่...” คุณฟ้าอึกอักที่จะพูด สองมือกอดผมแน่นขึ้น

“ที่พาผู้ชายเข้าบ้านหรือครับ” ผมพูดในสิ่งที่คุณฟ้าไม่ได้พูดออกมาเพราะเจ้าตัวเงียบไปเสียก่อน ผมแนบจูบบนแก้มนวลอีกครั้ง ไม่รู้ทำไมถึงหลงใหลกับแก้มนี้เหลือเกิน ไม่สิครับ ผมน่ะหลงใหลคุณฟ้าไปทั้งตัวและหัวใจต่างหาก   

“ครับ ผมกลัว”

“บอกแล้วไงครับว่าไม่ต้องกลัว คุณพ่อคุณแม่พี่นุใจดี แล้วพี่นุก็อยู่ข้างน้องฟ้าเสมอนะครับ ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยครับ” ผมปลอบคนขี้กลัว แทนตัวเองว่าพี่นุ และคนในอ้อมแขนว่าน้องฟ้า แต่แล้วน้องฟ้าของผมคล้ายจะตัวสั่นขึ้นทันทีที่ผมพูดจบ ได้ยินเสียงสูดจมูกฟึดฟัดดังตามมา น้องฟ้าของผมกำลังขี้แย เดาว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากคำเรียกขานที่เปลี่ยนไป

พี่นุ...น้องฟ้า ฟังดูน่ารักและใกล้ชิดกันมาขึ้นอีกหลายเท่า และน้องฟ้าของผมก็คงต้องการมันเหมือนกัน เพราะผมสังเกตจากสีหน้าและแววตาของตอนที่น้ำอ้อยเรียกชื่อผม 

“ร้องไห้ทำไมครับ ไม่ชอบที่พี่นุเรียกแบบนี้หรือครับ ไม่เรียกก็ได้นะครับ” ผมเชยคางเจ้าของใบหน้าน่ารักขึ้นมาถาม ตากลมใสน่ามองเริ่มรื้นน้ำตา

“ชะ...ชอบครับ...ชอบมาก...แล้วที่ร้องไห้ก็...ก็...เพราะดีใจ...” น้องฟ้าของผมบอกเสียงสั่น (ขอเรียกว่าน้องฟ้านะครับ) นัยน์ตาฉ่ำบอกความรู้สึกตามคำที่พูด น้องฟ้าเป็นคนอารมณ์ไม่คงที่ หวั่นไหวง่าย ทั้งที่ดูภายนอกจะเหมือนเป็นคนเข้มแข็ง ทว่าเข้าในกลับอ่อนแออย่างไม่น่าเชื่อ

“พี่นุอยากเรียกน้องฟ้าอย่างนี้มานานแล้วนะครับ แต่ยังไม่มีโอกาส วันนี้และวันต่อๆ ไป พี่นุขอเรียกน้องฟ้าว่าน้องฟ้า แล้วน้องฟ้าก็ต้องเรียกพี่นุว่าพี่นุด้วยนะครับ” ผมบอกคนที่ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาช้าๆ ตาสวยไม่ได้แดงกล่ำมากนักเพราะน้ำตาไม่ได้ไหล มันแต่คลออยู่ที่เบ้าตา เช็ดทีเดียวน้ำตาก็หลายเกลี้ยง 

“ครับ พี่นุ” น้องฟ้าตอบรับเสียงเบา ใบหน้าเปื้อนยิ้มและแดงระเรื่อตามแรงเขิน ทำให้คนน่ารักดูน่ารักมากยิ่งขึ้น ผมภูมิใจที่ได้กอดคนๆ นี้ ได้รักและได้ครอบครอง

“ฟังแล้วชื่นใจจังครับ”

ผมหอมแก้มสีแดง อยากดึงเอาตัวคนน่ารักขี้แยที่ดีใจหรือเสียใจอะไรก็ร้องไห้ได้ตลอดเข้ามากอด แต่จำต้องตัดใจเพราะเราสองคนยืนกันอยู่ตรงนี้นานแล้ว เกรงว่าคนบนเรือนจะรอนาน ป่านนี่น้ำอ้อยคงรายงานว่าผมมาถึงแล้วและพาใครอีกคนหนึ่งมาด้วย

ทุกคนอาจกำลังเฝ้ารอ...

“ไปครับ เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่พี่นุจะรอนาน” ผมว่าแล้วกุมมือนิ่มอีกครั้ง จับจูงให้เดินไปด้วยกัน



“ตาหนู”

เสียงคุณหญิงแม่เรียกผมทันทีที่เห็นผมเดินขึ้นบันไดมา ตรงชานเรือนมีคุณพ่อนั่งจิบชากับขนมถ้วยฟู คุณหญิงแม่นั่งทำหน้าโกรธๆ ข้างตัวมีสองพี่น้องน้ำอ้อยกับน้ำหวานค่อยพัดลมเย็นให้ ทั้งที่บรรยากาศโดยรอบเย็นสบายเพราะต้นไม้สูงใหญ่รายล้อมรอบตัวเรือน พี่ยะที่นั่งกอดหมอนทำท่าไม่สบอารมณ์ มองไปทางห้องนอนทางฝั่งซ้ายของเรือน ห้องนอนชั่วคราวของพี และคนสุดท้ายคือยัยภาน้องสาวของผมกำลังนั่งอ่านหนังสือวรรณกรรมด้วยท่าทางสบายอารมณ์ ไม่มีสีหน้าเป็นทุกข์ร้อนเหมือนน้ำเสียงที่โทรมาหาผมเมื่อก่อนหน้านี้

ผมน่าจะมาช้าไป ดูเหตุการณ์ตอนนี้แล้ว คาดว่าเรื่องที่ทำให้ยัยภาโทรตามตัวผมมานั้น หาข้อยุติได้แล้ว พีก็ไม่ได้อยู่ที่ชานเรือนด้วย น่าจะอยู่ในห้องนอนเพราะพี่ยะมองไปทางนั้นตลอด

“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่” ผมยกมือไว้คุณพ่อและคุณหญิงแม่ พลางเดินไปหยิบเบาะที่วางอยู่ข้างฝามารองนั่ง ไม่ลืมหยิบมาเผื่อคนที่เดินตามหลังมาด้วยท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ผมไม่ได้เดินจูงมือน้องฟ้าขึ้นมานะครับ ตอนเดินมาถึงตรงตีนบันได น้องฟ้าขอให้ผมปล่อยมือ ผมก็ตั้งใจอย่างนั้นเหมือนกัน เหตุผลก็เพราะต้องเกรงใจผู้ใหญ่ 

“ไหว้พระเถอะลูก”

ท่านสองรับไหว้น้องฟ้า พวกท่านสองคนมีสีหน้าไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เห็นหน้าน้องฟ้าของผม นั่นอาจเพราะน้ำอ้อยบอก ส่วนยัยภาวางหนังสือในมือลงแล้วสำรวจตรวจตาคนที่นั่งเยื้องๆ ไปทางด้านหลังของผม ผมนั่งพับเพียบ น้องฟ้าก็นั่งพับเพียบตาม หน้าตาที่หงุดหงิดบึ้งตึงของพี่ยะผ่อนลงเพื่อจะรับไหว้น้องฟ้า และยิ้มทักทายตามประสาคนที่รู้จักกันแล้ว

“คุณพ่อคุณแม่ครับ นี่น้องฟ้าครับ ยัยภานี่น้องฟ้า...” ผมแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน

“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ สวัสดีครับพี่ภา” น้องฟ้ายกมือไหว้คุณพ่อคุณแม่ของผมอีกครั้ง ส่วนท่านทั้งสองก็รับไว้ จากนั้นน้องฟ้าก็หันไปไหว้น้องสาวของผม ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมน้องฟ้าถึงได้เรียกคุณพ่อและคุณหญิงแม่ของผมว่าคุณพ่อคุณแม่ เพราะผมบอกแกมบังคับก่อนเดินมาถึงที่เรือนเองครับ ตอนแรกดื้อว่าจะไม่เรียก

“แล้วกับเจ้ายะล่ะ รู้จักกันแล้วเหรอ?” คุณพ่อผมถาม ไม่แน่ใจว่าถามใคร แต่พี่ยะรีบชิงตอบก่อนใคร

“รู้จักกันเรียบร้อยแล้วครับคุณพ่อ เค้กที่นุมันเอามาฝากเป็นประจำก็เป็นเค้กจากร้านน้องฟ้านี่แหละครับ”

“พ่อเราน่ะถามตานุ ไม่ได้ถามเรา ยุ่งไม่เข้าเรื่องนะตายะ”

ผมละอยากขำคุณหญิงแม่ของตัวจริงๆ ท่านมักเป็นแบบนี้ประจำ เวลาที่โกรธก็ตั้งท่าจะประชดประชันอย่างเดียวเลย และตอนนี้พี่ยะเป็นคนที่ถูกคุณหญิงแม่โกรธ ซึ่งก็เป็นประจำสำหรับแม่ลูกคู่นี้ แต่พี่ยะใช่จะยอม รายนี้ต่อปากต่อคำด้วยตลอด ไม่เหมือนผม คุณพ่อและยัยภา เราสามคนมักจะไม่ถือสาเอาอะไรกับคำประชดตามอารมณ์ของคุณหญิงแม่มากนัก

“อ้าว...ก็เรื่องเกี่ยวกับผมนี่ครับ ผมก็ต้องสิครับคุณหญิงแม่ ใช่ไหมครับคุณพ่อ”

“ไม่ต้องไปดึงท่านนายพลมาเกี่ยวเลยนะ เราน่ะมีความผิดล้นตัวนะตายะ ทำอะไรไม่เคยคิดถึงหัวอกคนเป็นแม่เลย ไม่ใช่แต่ฝั่งนี้ แต่ฝั่งนู่นด้วย ถ้าแม่เค้ารู้ เราจะทำยังไงหะ แม่จะโดนถอนหงอกหมดหัวก็คราวนี่แหละ”

“โถ...คุณแม่ครับ แล้วจะให้ผมทำยังไง ผมไม่ได้มีพี่เลี้ยงเป็นโดเรม่อนนะครับจะได้ขอไทม์มาแม็กซีนย้อนไปแก้ไขอดีตได้ ถึงได้ผมก็ไม่เอา แบบนี้น่ะดีแล้ว แล้วผมก็รักของผมด้วย คุณแม่อย่าใจร้ายจับเราสองคนแยก....โอ๊ยยย...ยยย คุณแม่เจ็บนะครับ” 

พี่ชายผมยังพูดไม่ทันจบประโยคก็ถูกคุณหญิงแม่ใช้พัดในมือตีเข้าที่แขน ไม่แรงมากแต่หลายทีอยู่ ส่วนพี่ยะก็ได้แต่ร้อง ไม่ได้ขยับหนีไปไหน พวกเราสามคนถูกสอนมาน่ะครับว่า ต้องไม่หนี ต้องยอมรับความผิดและบทลงโทษของความผิดนั้น อย่างเช่นตอนนี้ที่พี่ยะนั่งให้คุณแม่ตีโดยไม่ขยับหนีไปไหนเลย ถึงเจ็บก็ต้องทน

“เจ็บเท่ากับที่ทำให้แม่เสียใจไหมหะ ตาพีน่ะหลานของแม่นะ แม่เลี้ยงมาตั้งแต่อ้อนแต่ออด แต่เรากลับมาทำอย่างนั้นกับหลานของแม่ ท่านนายพลท่านดูลูกชายคนโตของท่านพูดนะ มันน่าไหม แล้วยังคิดจะเอาหลานดิฉันไปอยู่ที่อื่นอีก นี่ดิฉันเลี้ยงลูกให้กลายเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” คุณหญิงแม่หันมาฟ้องเสียงเครือ มือยกผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาที่ซึมออกมา

“เอาน่าคุณหญิง ก็อย่างที่เจ้ายะมันพูด เรื่องมันเกิดไปแล้ว เรากลับไปแก้สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตไม่ได้ ที่เหลือต่อจากนี้คือเราต้องทำให้มันถูกต้องและดีขึ้น เจ้ายะก็เหมือนกัน พ่อขอสั่งให้เลิกยุ่งกับหลาน แต่ก่อนเป็นยังไงก็ช่าง แต่ต่อจากนี้ไปห้ามเกิดเรื่องแบบนั้นอีก ไม่อย่างนั้นพ่อจะส่งตัวหลานไปอยู่กับแม่ของเขา”

“คุณพ่อครับ...อย่างนี้ผมก็ตายสิครับ” พี่ยะโอดครวญเสียงเบา แต่ไม่กล้าเถียงหรือต่อรองคำสั่งใดๆ ท่านนายพลของคุณหญิงหรือคุณพ่อของเราสามคน แม้จะใจดี มีเหตุผล แต่ก็เป็นคนที่เด็ดขาด คำไหนคำนั้นเสมอ 

จากบทสนทนาที่ผมได้ฟัง เดาได้ไม่ยากว่าทุกคนรู้เรื่องของพี่ยะกับพีแล้ว และรับได้แต่ไม่ได้เห็นด้วยหรือยอมให้มันเกิดขึ้นอีก

“หึ...จะตายก็ให้มันรู้ไป” คุณหญิงแม่ตวัดตาขุ่นขวางใส่

“ตายไปหลานคุณแม่ก็เป็นม่ายนะครับ” พี่ยะว่าทีเล่นทีจริง ทำเอาคุณหญิงแม่ของผมอารมณ์พุ่งปรี๊ดเลยทีเดียว

“ตายะ!! ท่านนายพล ท่านดูลูกชายคนโตของท่านนะ โอ้ยย...ดิฉันจะบ้าตาย รู้อย่างนี้ดิฉันคืนลูกให้แม่เค้าไปตั้งแต่เมื่อวานไปก็ดี”

“พี่พิณมาหรือครับคุณแม่” ผมตกใจไม่น้อยเลย พี่พิณกลับเมืองไทยแล้ว ผมไม่ได้เจอพี่พิณมาสิบกว่าปีแล้ว เท่าๆ กับอายุของพีเลยล่ะ

“พี่ชายตัวดีของเราไม่ได้เล่าให้ฟังรึไง เห็นมีอะไรก็ช่วยกันปกช่วยกันปิดแม่ตลอดนี่ แม่ล่ะโกรธเราจริงๆ นะตานุ มีอะไรทำไมไม่บอกแม่ ตาพีก็หลานเราหรือเราคิดว่าไม่ใช่หลาน ถึงปล่อยให้พี่เราทำอะไรกับหลานก็ได้ กี่ปีมาแล้วที่หลานแม่ถูกรังแก แม่เสียใจนะ เสียใจมาก” น้ำเสียงท่านกลับมาสั่นเครือครั้ง ตาเริ่มแดง พีเป็นหลานรักเพราะเป็นหลานคนแรก

“เอาน่าคุณหญิง เราคุยกันเรียบร้อยแล้วน่า” คุณพ่อของผมขยับเข้าไปใกล้ แล้วโอบไหล่ปลอบ ผมหันหน้าไปมองน้องฟ้า รายนั้นก็เหมือนจะมีน้ำตาซึมๆ อยู่บ้าง อ่อนไหวจริง

“ดิฉันละอายใจนะคะท่านนายพล รับปากว่าจะดูแลลูกเค้าอย่างดี แต่แล้วก็กลายเป็นแบบนี้เสียได้ ดิฉันตัดสินใจแล้วนะคะ ดิฉันจะคืนลูกให้แม่เค้าไป แม่เค้าคงดูแลได้ดีกว่าเรา”

“ได้ไงครับคุณแม่ ผมไม่ยอมหรอกนะครับ พีเป็นเมี....”

“หยุดนะตายะ! ห้ามพูด! อยากให้แม่เป็นลมตายหรือไง” คุณหญิงแม่ของผมเปลี่ยนโหมดอารมณ์ได้เร็วมาก เมื่อครู่เศร้า พอพี่ชายของผมโวยวายขึ้นมา ท่านก็รีบโวยวายกลับ เพราะคำพูดของพี่ยะด้วยแหละ ท่านทนฟังไม่ได้

“อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะครับคุณแม่ อยู่รับขวัญลูกสะใภ้คนโตก่อน”

“ท่านนายพล ท่านดูลูกชายคนโปรดของท่าน ดูดู๊ดู ดูพูดกับดิฉันสิคะ”

คุณพ่อของผมส่ายหน้า ยกชาขึ้นจิบ ราวกับว่าไม่ขอยุ่งกับแม่ลูกคู่นี้ คุณหญิงแม่ของผมชอบพูดว่าพี่ยะเป็นลูกคนโปรดของคุณพ่อ ส่วนผมน่ะ แน่นอนครับว่าเป็นลูกคนโปรดของคุณหญิงแม่ไปโดยปริยาย ทั้งที่ความจริงท่านทั้งสองรักลูกทุกคนเท่ากัน

“พี่ยะก็ อย่าไปยั่วคุณแม่สิคะ คุณแม่ด้วยนะคะ เสียงดังไปเดี๋ยวพีก็ตื่นกันพอดี เพิ่งหลับตะกี้เองนะคะ แล้วก็...เรายังมีแขกของพี่นุอยู่นะคะ” น้องสาวผมว่า

“จริงอย่างยัยภาว่า ใจเย็นลงก่อนนะคุณหญิง เดี๋ยวหนูฟ้าก็ตกใจแย่”

คุณพ่อนายพลของผมว่า ก่อนจะหันมาพูดกับหนูฟ้า ท่านเรียกว่าหนูฟ้าก็น่ารักดี ถึงจะฟังเหมือนเรียกเด็กผู้หญิงก็ตาม แต่ท่านคงไม่รู้จะเรียกน้องฟ้าของผมยังไงดี จะเรียกแบบที่เรียกพวกผมก็คงไม่เหมาะ

“เค้กที่ฝากมาให้อร่อยมากนะหนูฟ้า พ่อว่าจะพาหลานๆ ไปนั่งทานที่ร้านตั้งหลายทีแล้ว เจ้าพวกนั้นน่ะร่ำร้องอยากจะให้พาไปทานเหลือเกิน ทั้งเค้กทั้งขนม แต่เผอิญช่วงนี้พ่อยุ่งเรื่องสมาคมไปหน่อยเลยไม่ได้พาไปสักที เห็นว่าอยู่ติดกับคลินิกเจ้านุมันใช่ไหม”

น้องฟ้าคลี่ยิ้มบางๆ อยู่บนใบหน้ายามที่คุยกับคุณพ่อของผมเป็นครั้งแรก

“ครับคุณพ่อ แต่ถ้าคุณพ่อกับหลานๆ ชอบทาน เดี๋ยวผมฝากพี่นุเอามาให้ครับ จะได้ไม่ต้องลำบากไปไกล” จากบ้านของผมไปถึงร้านเชิญครับหรือว่าจะถึงคลินิกผมก็ได้ มันไกลอย่างที่น้องฟ้าว่า อยู่คนละมุมเมืองกันเลยด้วยซ้ำ

“ไม่ต้องหนูฟ้า พ่อเกรงใจ ของซื้อของขาย ให้บ่อยๆ ขาดทุนแย่เลย แล้วหลานพ่อเยอะด้วย ทานทีสี่ห้าปอน์ดก็คงไม่พอ”

“ท่านนายพลคะไม่คิดจะพาดิฉันไปด้วยหรือคะ”

คุณหญิงแม่ผมถามงอนๆ เรื่องของหวานท่านไม่อยากพลาด ท่านทั้งสองชอบทานเค้กเหมือนกัน แต่ช่วงหลังมานี่หมอสั่งห้ามทานเยอะเพราะมีผลต่อสุขภาพ ผมเลยไม่ค่อยจะเอามาฝากพวกท่านเท่าไหร่ ส่วนมาเอามาให้หลานมากกว่า

“โธ่...ทำไมจะไม่คิดล่ะคุณหญิง ผมไป หลานไป คุณหญิงก็ต้องไปด้วยอยู่แล้ว”

หลานของผมมีสี่คน ลูกยัยพาสามคนและลูกพี่ยะอีกหนึ่งคง ไม่รวมพีเพราะพีน่ะเป็นหลานในกรณีพิเศษ

“แล้วร้านหนูฟ้าปิดวันไหนบ้าง พ่อจะได้ไม่ไปเก้อ ”

“ร้านเปิดทุกวันครับคุณพ่อ”

“อ้าว อย่างนี้ไม่เหนื่อยแย่หรือ?”

“ไม่หรอกครับ สนุกมากกว่าครับ”

“งั้นรึ ดีนะ เด็กสมัยนี้ขยันขันแข็งดี อายุเท่าไหร่แล้วล่ะเรา”

“ยี่สิบสามครับ”

“อืม...น้อยกว่าเจ้านุไปหกปี” 

ตอนนี้ผมไม่เห็นร่องลอยความกังวลอยู่บนใบหน้าของน้องฟ้าเท่าไหร่แล้ว ส่วนคุณพ่อก็ชวนคุยผิดวิสัยคนพูดน้อย และทุกคนในครอบครัวของผมเหมือนจะตั้งใจฟังคุณพ่อกับน้องฟ้าคุยกัน มากกว่าจะชวนคุยหรือถามไถ่อะไร ซึ่งก็ผิดนิสัยที่เป็นเพราะคุณหญิงแม่ พี่ยะ และยัยภา พูดคุยเก่งครับ คล้ายกับทุกคนกำลังรอเวลาที่ผู้นำครอบครัวจะนำเข้าสู่เรื่องสำคัญ

...แล้วมันก็จริง   
 
“จะเข้าเรื่องเลยไหมเจ้านุ?”

“ครับคุณพ่อ”

>>>>>>>>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<<<<<<<<

คนเขียนขอคุย :: ก่อนอื่น ขอโทษมากๆ นะคะ ที่หายไปนานมาก (มากกกก) เลยทำให้ต่อตอนที่ 30 ไม่ค่อยจะรื่นไหลเท่าไหร่เนอะ T^T (อยากรื้อแล้วเขียนใหม่ แต่คนเขียนเป็นประเภทเขียนแล้วเขียนเลย ไม่กล้ารื้อสิ่งที่เขียนไปแล้ว อะเนอะ)
   เรื่องพี่นุกะน้องฟ้า ใกล้จะจบแล้วนะคะ แค่ไม่กี่ตอนก็จบแล้ว (แต่ไม่สามารถบอกจำนวนตอนได้ Y^Y เพราะมันไม่แน่นอน มันขึ้นอยู่กับความสั้นยาวของแต่ละตอนและพลังกายพลังใจของคนเขียน เพราะหลังๆ มาเนี้ยเหนื๊อยเหนื่อย อิอิ) หรืออาจเซอร์ไพร์สจบตอนหน้า !! ไม่รู้เหมือนกัน ติดตามกันต่อไป
   แต่ก็พยายามจะแต่งให้จบภายในเดือนมิย.ให้จงได้ เพราะจะรีบทำเป็นหนังสือแล้วววว (เขียนยังไม่จบเลยเน้อออ) สนใจเก็บเอาไปตัดสินใจกันนะคะ
   ถึงแม้จะใกล้จบแล้ว แต่เรื่องรัก...เชิญครับ มันก็เหมือนไม่มีจุดพีคอะไรเลยเนอะว่าไหม...(นี่แหละคือสิ่งที่คนเขียนนึกเสียใจอยู่เหมือนกัน เขียนอะไรๆ ไม่ค่อยมีจุดพีคจุดขายเล๊ยยยยย) อยากเขียนให้มีจุดแตกหัก แต่โครงเรื่อง เนื้อหา ตัวละคร มันไม่ให้ มันไปไม่ได้เลยอ่ะ (บ่นๆ)
   แอบสปอร์ยตอนพิเศษ รัก...เธอ ที่สัญญาเอาไว้ว่าจะเอามาลงในเล้าเป็ดอีกสองตอน อันได้แก่ตอน เรารักกันนะครับ(เวอร์.ติน) และตอน วาเลนไทด์นี้...ของผม (เวอร์.ลม)
อันนี้เอามาสปอร์ยตอน เรารักกันนะครับ อ่านสปอร์ยแล้วไปเจอของจริง ต้นเดือน มิย.นะคะ ^__^’ ที่อยากเอามาสปอร์ยเพราะคนเขียนคิดว่า ตอนพิเศษมันหวานทุกตอนเล๊ยย หวานอะราวเดอะเวิร์ด 55+

สปอร์ยจ๊ะ ^___^

“จำวันแรกที่เราเจอกันได้ไหมครับ”
   “วันไหนนะ...วันไหนน้า วันปีใหม่หรือเปล่า วันนั้นห้องตินจัดงานเลี้ยงปีใหม่ ตินกับเพื่อนเอาเค้กมาแจกห้องของลม ลมยืนอยู่ตรงประตูพอดี เราเลยได้เจอกัน ตินเอาเค้กให้ลมแล้วก็บอกลมว่า ‘สวัสดีปีใหม่ครับคุณลม’ แล้วก็เดินออกไปเลย รู้ไหมว่าเพื่อนในห้องของลมนะมองตามตินตาละห้อยเลยนะ”
คนน่ารักแกล้งถามและบรรยายถึงฉากที่เราพบกันด้วยเสียงที่ใสแจ๋ว ปากเล็กฉีกยิ้มกว้าง เขาคงจำวันนั้นได้ดี ดีพอๆ กับผม วันที่ผมยืนเค้กให้เขาแล้วบอกเขาว่า ‘สวัสดีปีใหม่ครับ...คุณลม’
   “ไม่ใช่วันปีใหม่ครับ วันงานกีฬาสีตอนมอสี่ต่างหาก เราอยู่สีเดียวกัน พอเจอหน้าติน ลมก็สะบัดหน้าใส่ทันที ถ้าผู้หญิงตบหน้าแปลว่ารัก สงสัยผู้ชายสะบัดหน้าใส่คงแปลว่ารักแหงๆ ตอนที่ตินลงแข่งวิ่ง ลมเป็นสตาฟคอยเอาน้ำเย็นมาให้ดื่ม เอาผ้าเย็นมาให้ตินเช็ดเหงื่อ แล้วก็เอายาดมมาให้ตินดมด้วยนะ จำได้ไหมครับ”
เมื่อคนรักของผมแกล้งจำไม่ได้ ผมก็เอาอย่างเขาบ้าง อยากรู้ว่าเขาจะเอ่ยถึงวันไหนบ้างที่เป็นวันแห่งความทรงจำของเราสองคน
   “มันใช่ที่ไหนเล่า ตินก็...เราเจอกันครั้งแรกวันที่รถของแม่ตินเสียอยู่หน้าโรงเรียนต่างหาก คนขับรถของลมก็ไปช่วยซ่อม วันนั้นนะ ลมบอกเขาลงไปช่วยเองแหละ เพราะอยากเห็นหน้าตินใกล้ๆ ได้ยินเสียงร่ำลือมานานว่าเด็กห้องหนึ่ง ลูกอาจารย์มณีที่สอนภาษาไทยหล่อมาก สาวๆ กรี๊ดกันกระจาย เลยอยากรู้ว่าสมคำร่ำลือไหม แล้วก็นะ...หล่อสมคำร่ำลือจริงๆ”

โปรดติดตาม...


บับบายนะคะ
สีเหลืองอ่อน // aeaw
 
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 30 เปิดตัว {18/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 18-05-2012 10:24:31
 :z13: :z13:ให้ทะลุถึงหัวใจ

หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 30 เปิดตัว {18/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 18-05-2012 12:05:08
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 30 เปิดตัว {18/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-05-2012 12:06:40
แสดงว่าครอบครัวของหมอนุรู้เรื่องของฟ้าแล้วแน่เลย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 30 เปิดตัว {18/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 18-05-2012 12:29:40
ค้างงงงงง :z3:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 30 เปิดตัว {18/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-05-2012 13:15:02
คงไม่มีปัญหาแล้วมั้ง เพราะปัญหาที่หนักกว่าคือเรื่องยะ-พี ยังผ่านไปได้เลย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 30 เปิดตัว {18/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 18-05-2012 15:46:43
คงไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วมั้ง...เป็นครอบครัวที่สุขสันต์จริงๆ  :laugh3:


รอลม-ตินนะครับ  :impress2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 30 เปิดตัว {18/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 18-05-2012 16:18:11
ตัดฉับบบบบ ใจร้ายยย  :serius2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 30 เปิดตัว {18/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 18-05-2012 22:05:12
คุณยะเนี่ยมันน่าเบิร์ดกระโหลกซักที
แต่ก็ชอบคู่ยะ-พี น๊า กินเด็กชอบค่ะ
เอาใจช่วยน้องฟ้ากับพี่นุให้รักราบรื่น
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 30 เปิดตัว {18/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 19-05-2012 06:40:31
 :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 30 เปิดตัว {18/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 19-05-2012 22:08:29
บวกค๊าาาาาาาา ครอบครัวพี่หมอนุน่ารักมากๆๆๆๆ เลย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 30 เปิดตัว {18/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 19-05-2012 22:53:09
โอ๊ย ...พี่นุ จะอบอุ่นไปไหนคะพี่
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 30 เปิดตัว {18/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Calo love ที่ 21-05-2012 08:59:54
 :z3: :z3: :z3:.........ทุบกะบาลเเรงๆๆ รอหนังสือหนังนะครับพี่แอ๋ว.......................... :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

สปอย์ได้ใจไปเลยไม่ว่าตอนไหนก็สนุกทั้งนั้นนะครับ


ใจคอไม่อยูกะเนื้อตัวเลย อยากให้ไม่มีอะไรผิดพลาดนะครับพี่เเอ๋ว


ออฟรอหนังสือด้วยคนนนะครับออกตัวมานานแล้วว่าอยากได้หนังสือนะครับ......นะครับเพื่อนออฟอีกสองคนก็มีแววว่าจะเอาด้วยนะครับ(มันฝากบอกว่าไม่มีเวลาเข้ามาอ่านในเล้านะครับถ้าได้หนังสือก็จะดีครับ) :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 30 เปิดตัว {18/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: coatmax22 ที่ 24-05-2012 10:48:36
อ่านติดต่อกันจนถึงตอนล่าสุด ชอบทั้งสองคู่เลยค่ะ แ้ล้วก็อยากจะอ่านคู่ของนนท์กับแดนด้วย ดูท่่าจะดราม่ามากกว่าของคนอื่น
รอติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 31 ต้อนรับ {26/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 26-05-2012 20:05:42
ตอนที่ 31 ต้อนรับ

บ้านเรือนไทยของคุณหมอน่าอยู่มากครับ เย็นร่มรื่นเพราะต้นไม้น้อยใหญ่ที่ปลูกรายรอบตัวเรือน รวมถึงภายใต้รั้วสูงหลังม่านต้นไผ่ที่ล้อมรอบอาณาเขตกว่าเก้าไร่ ผมรู้เพราะระหว่างที่เดินจูงมือกันอยู่นั้นคุณหมอบอกเนื่องจากผมถาม แอบประมาณด้วยสายตาตัวเองก็คิดอยู่แล้วครับว่าต้องหลายไร่แน่ ตอนเดินผมยังรู้สึกว่าเหนื่อยเลยครับ เมื่อเดินจากเรือนหลังใหญ่มาเรือนหลังเล็กของคุณหมอ ส่วนเจ้าของเรือนไม่มีอาการเหนื่อยเลยครับ อย่างว่าล่ะคงชินเพราะเดินเป็นประจำอยู่ทุกวัน

ชานเรือนที่ผมนั่งอยู่นี่เย็นสบายมากครับ เพราะลมเย็นพัดมาจากทุกทิศทุกทาง ประกอบกับใต้ถุนสูงและโล่งช่วยให้ลมพัดผ่านสะดวกมากขึ้น อากาศดีและบริสุทธิ์ช่วยให้ผมผ่อนคลายขึ้น แต่เหนือกว่าความเย็นสบายนั้น คือรอยยิ้มและการตอบรับที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ผมคิด แม้ไม่มีคำพูดมากมายแต่ทุกคนให้การต้อนรับอย่างดีผ่านท่าทางและสายตา มันทำให้ผมยิ้มได้ ผมน่าจะเชื่อคุณหมอตั้งแต่แรกที่บอก คุณพ่อคุณแม่ของคุณหมอใจดีและครอบครัวของคุณหมอก็น่ารักมาก แม้ว่าคนที่ชวนผมพูดคุยจะมีเพียงคุณพ่อของคุณหมอ แต่นั่นมันก็เพราะสาเหตุบางอย่างที่ผมคิดว่าน่าจะใช่...

แล้วมันก็ใช่จริงๆ ครับ เมื่อคุณพ่อของคุณหมอเอ่ยถามคุณหมอว่า

“จะเข้าเรื่องเลยไหมเจ้านุ?”

ผมใจเต้นแรงเหมือนมีใครมาตีกลองอยู่ข้างใน รัว เร็ว และแรง ด้วยน้ำหนักมือที่แรงขึ้นเรื่อยๆ ผมตื่นเต้นจนตัวเกร็งไปหมด คำว่าเข้าเรื่องของคุณพ่อของคุณหมอ ผมออกจะมั่นใจว่าคือเรื่องของผม คือเรื่องของเราสองคน คือความสัมพันธ์ที่คนในครอบครัวของคุณหมอน่าจะดูออกตั้งแต่ที่เห็นผมเดินตามคุณหมอขึ้นมาบนเรือน

เมื่อถูกถามคุณหมอหันมายิ้มให้ผม ผมยิ้มตอบ ก่อนที่คุณหมอจะหันกลับไปตอบคำถาม

“ครับคุณพ่อ”

มือของคุณหมอเอื้อมมาจับมือผมแล้วดึงเข้าไปนั่งใกล้ จับแล้วไม่ยอมปล่อย แถมยังเอามือผมไปกุมไว้บนหน้าตัก รู้สึกหน้าตัวเองร้อนหนักมาก ไม่กล้าสบตาคนในครอบครัวของคุณหมอแม้แต่คนเดียว สายตาของผมฝากไว้ที่ใบหน้าของคุณหมอ ใบหน้าคมเข้มแบบหนุ่มไทยและใจดีอย่างคนไทยแท้

“ผมกับน้องฟ้า เรารักกันครับ”

ผมรู้คุณหมอต้องพูดคำนี้ พูดพร้อมกับมองหน้าผม มืออุ่นของคุณหมอที่กอบกุมมือผมเอาไว้นั้น ทำให้ผมอุ่นไปถึงหัวใจข้างใน และมันคงจะอุ่นไปถึงวันพรุ่งนี้ วันมะรืนนี้ และวันต่อๆ ไป
 
จริงสินะครับ...

ผมควรเรียกคุณหมอว่า ‘พี่นุ’ ได้แล้ว รู้สึกดีจนบอกไม่ถูก คล้ายกับว่าความสัมพันธ์ของเรามันข้ามไปอีกขั้น ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นและสัมผัสกันมากขึ้นจากคำเรียกขาน ผมกำลังกลายเป็นน้องฟ้าของคุณหมอ แล้วคุณหมอก็กลายมาเป็นพี่นุของผม

ผมเป็นคนเชื่อคนง่าย นั่นเพราะผมมั่นใจว่าคนๆ นั้นไม่คิดหลอกลวงผม ในเวลานี้ผมก็เชื่อพี่นุของผม เชื่อไปทั้งใจ เชื่อว่ามือของพี่นุจะอบอุ่นอย่างนี้ตลอดไป...สำหรับผม

“วันเดียวเปิดตัวถึงสองคู่เลยนะเนี้ย สมใจคุณแม่แล้วนะคะคราวนี้ ไม่ต้องตะเวนหาสะใภ้ให้เหนื่อยอีกแล้ว”

น้องสาวของพี่นุพูดล้อๆ แล้วหัวเราะอย่างคนอารมณ์ดี คุณแม่ของพี่นุค้อนควับทันที ลูกสาวคนเล็กนั่งอยู่ไกลเกินกว่าจะเอื้อมมือไปตีได้เหมือนที่ตีลูกชายคนโต ท่านเลยได้แต่มองค้อน ยกยาดมขึ้นมาจ่อจมูก

“เหนื่อยกว่าเดิมอีกนะสิ ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปบอกเขายังไง” คุณแม่ของคุณหมอบ่นเสียงเบา แต่ผมกลับได้ยินชัดเจนเต็มสองหู ใจมันหายไปวูบหนึ่งเลยครับ หรือว่าท่านไม่อยากยอมรับความสัมพันธ์ของผมกับลูกชายท่าน ตระกูลท่านไม่ใช้เล็กๆ ท่านเป็นคนในสังคม คำถามมากมายคงตามมาจนท่านต้องเหนื่อยแล้วอับอายที่จะบอกกับทุกคนว่า ลูกชายท่านมีแฟนเป็นผู้ชาย

ผมรับรู้ถึงแรงบีบของมือใหญ่ ความรู้สึกอบอุ่นแทรกซึมเข้ามาอย่างเปี่ยมล้น เมื่อความรู้สึกหวั่นไหวนั้นตีตื้นขึ้นมา ขอบตาร้อนผ่าว อยากบอกพี่นุของผมว่าขอโทษ ขอโทษที่เริ่มอ่อนแออีกแล้ว ทั้งเมื่อครู่ผมยังรู้สึกว่าเรื่องของเราสองคนจะผ่านไปด้วยดี แต่เพราะคำพูดของคุณแม่ของพี่นุ ทำให้ผมรู้ว่าท่านยากจะยอมรับเรื่องนี้ ผมคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป คิดว่าท่านยอมรับเรื่องของคุณยะกับน้องพีได้ แล้วจะยอมรับเรื่องผมกับพี่นุได้ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างที่ผมคิด

“อย่าเข้าใจผิดนะหนูฟ้า แม่ไม่ได้รังเกียจเรา ลูกของแม่รักใคร แม่ก็รักด้วย ที่แม่พูดเมื่อกี้แม่หมายถึงว่า แม่จะไปพูดกับคุณหญิงวลัยแม่ของหนูเนยยังไงดี เพราะแม่ไม่รู้เรื่องของเรากับตานุ แม่เลยทาบทามหนูเนยให้กับตานุไปก่อนหน้านี้ เข้าใจนะลูก” แม่ของพี่นุพูดอย่างผู้ใหญ่ใจดี ท่านคงเห็นอาการผิดปกติของผม ผมรู้สึกผิดเหลือเกินที่ตีคำพูดของท่านไปแบบนั้น

“ครับ ผมเข้าใจครับ” ผมยิ้มให้คุณแม่พี่นุอย่างขอโทษในสิ่งที่ตัวเองคิด 

“หนูฟ้าต้องโทษตานุเลยนะ เพราะไม่ยอมบอกเรื่องของหนูฟ้าให้แม่รู้ ไม่อย่างนั้นแม่ก็ให้วิ่งวุ่นหาคู่ให้ตานุอย่างนั้นหรอก แม่รู้สึกผิดจริงๆ” ท่านว่า

“อย่าคิดอย่างนั้นเลยครับคุณแม่ ผมกับพี่นุก็เพิ่งคบกันไม่นานเองครับ แล้วที่พี่นุไม่บอกคุณแม่อาจเป็นเพราะพี่นุยังไม่มั่นใจน่ะครับ” ผมรีบบอกท่าน กลัวท่านคิดมาก ขณะเดียวกันผมก็ค่อยๆ ดึงมือออกจากมือใหญ่มาไว้ที่หน้าตักของตัวเอง ผมไม่อยากให้ท่านคิดมาก แต่เป็นผมเสียเองที่เริ่มคิดมากและความน้อยใจวิ่งเริ่มวิ่งพล่าน คำพูดของท่านทำให้ผมนึกน้อยใจเจ้าของมือใหญ่ น้อยใจเรื่องที่พี่นุไม่บอกเรื่องของผมให้กับครอบครัวรู้ แถมยังไปไหนมาไหนกับน้องเนยอยู่บ่อยๆ โดยไม่เคยบอกผม อย่างนี้คือต้องการปกปิดหรือเปล่า ผมอยากรู้แต่ก็ไม่อยากถาม กลัวพี่นุรำคาญ

ผมมองค้อนคนที่ดึงมือผมไปกุมอีกจนได้ ไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าผมกำลังงอนอยู่ หรือว่ารู้เลยต้องดึงมือผมไปวางประสานกันอยู่บนตักตัวเอง แล้วบีบเบาๆ ราวกับจะให้ง้อผมผ่านแรงกระชับของมือมาสู่หัวใจของผม เพราะสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยทำให้ง้อด้วยคำพูดหรือวิธีอื่นไม่ได้ ผมอยากงอนนานๆ แต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อความน้อยใจมันหายลับเข้ากลีบเมฆไปตั้งแต่ที่พี่นุดึงมือไปกุมแล้ว

“ไม่ใช่ไม่มั่นใจครับ แต่กำลังหาโอกาสเหมาะๆ มากกว่าครับ” ไม่รู้ว่าเจ้าของมือใหญ่บอกแม่ของตัวเองหรือบอกผมกันแน่

“เลยเอาวันที่เรื่องฉันแตก ฉลาดดีนะน้องของฉัน” คุณยะพูดแทรกขึ้นมา น้ำเสียงออกอาการอยากหยอกเล่นมากกว่า แต่กลับโดนพัดในมือแม่ของตัวเองฟาดลงบนไหล่ ไม่เบาเลยครับหากฟังจากเสียงที่กระทบ บวกกับเสียงร้องดังของคุณยะ

“อะไรอีกล่ะครับคุณแม่ ผมทำอะไรผิดอีกล่ะครับ”

“ทำอะไรผิดงั้นหรือ ผิดที่ทำกับหลานแม่ไง ถ้าแม่จับไม่ได้วันนี้ หลานแม่ก็คงโดนเรารังแกจนไม่เหลือชิ้นดีเลยใช่ไหม” หน้าตาท่านดูโกรธจริง

“โธ่คุณแม่ครับ ใจผมอยากจะบอกวันแรกที่หลานคุณแม่เป็....”

“หยุดนะตายะ! หยุดพูดเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องแก้ตัวอะไรทั้งนั้น เรื่องของเรากับตาพีเอาไว้วันหลัง หลังจากแม่คุยกับแม่ของตาพีเรียบร้อยก่อน และถ้าแม่เค้าอยากได้ตัวลูกเค้าคืน แม่ก็จะคืนให้”

“ไม่ได้นะครับคุณแม่” คุณยะครางเสียงละห้อย ใบหน้าที่คล้ายพี่นุคล้ายสิ้นหวัง เมื่อฟังประโยคต่อมาของคนเป็นแม่

“เราไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งสิ้นตายะ เราทำผิดแล้วก็ผิดมากด้วย ถึงแม่จะยอมรับได้แต่ไม่ได้หมายความว่าแม่จะเห็นดีเห็นงามไปด้วย ฉะนั้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตาพีและแม่ของตาพีเท่านั้น”

“ครับ” สุดท้ายคุณยะก็รับคำเสียงเบา สีหน้ากลัดกลุ้มใจมองไปที่ประตูห้องด้านใน 
 
“เอาไงล่ะคุณหญิง จะให้แหวนหนูฟ้าเลยไหม เห็นนั่งขัดอยู่ทุกวัน วันนี้เจ้านุก็พาหนูฟ้ามาแล้วให้ซะเลย” แล้วคุณพ่อของพี่นุก็พาเข้ามาที่เรื่องของผมต่อทันที สงสัยจะให้บรรยากาศกลับคืนมาเป็นปกติโดยเร็ว

“ดิฉันก็อยากให้แหวนของดิฉันหรอกนะคะท่านนายพล แต่เอ่อ...มันคงจะคับไปสำหรับหนูฟ้า แล้ว...แล้วดิฉันก็ว่าจะให้ตายะนะคะท่าน ไม่โกรธแม่นะตานุหนูฟ้า” ท่านบอกคู่ชีวิตของท่าน แล้วหันมาบอกผมกับพี่นุ

ผมเห็นคุณยะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คำพูดของคุณแม่ของพี่นุบอกเป็นนัยๆ แล้วว่า แหวนบนนิ้วของท่านที่จะให้คุณยะนั้นจะไปอยู่ที่นิ้วของใคร   

“ผมจะโกรธทำไมละครับคุณแม่ แหวนของคุณแม่ให้พี่ยะก็ถูกแล้ว” พี่นุของผมพูด

“แหวนแม่เรามีคนจองแล้ว แต่แหวนของพ่อยังไม่ใครจองนะ เอ้า...เจ้านุเอาไปตัดเรือนเสียก่อนจะได้พอดีนิ้วของหนูฟ้า แล้วค่อยเอามาสวมต่อหน้าพ่อกับแม่วันหลัง” ท่านว่า พลางถอดแหวนบนนิ้วนางของท่าน ส่งให้ลูกชายที่ยื่นมือไปรับพร้อมกับยกมือไหว้ ผมพลอยมือไหว้ไปด้วย ท่านก็รับไหว้ผม

“น้ำหวานกลับไปที่เรือนใหญ่ ไปเอากล่องใส่แหวนมาให้ฉันหน่อย” คุณแม่ของพี่นุบอกเด็กที่ชื่อน้ำอ้อย แล้วหันมาบอกกับคู่ชีวิตของท่านด้วยน้ำเสียงจริงจัง ไม่ต่างจากใบหน้าที่จริงจัง

“ไม่ได้นะคะท่านนายพล ท่านจะมาพูดว่าวันหลังไม่ได้นะคะ ของอย่างนี้ดูฤกษ์ดูยามให้ดี ให้เอาฤกษ์สะดวกอย่างสมัยนี้ไม่เอานะคะ ดิฉันไม่ยอมเด็ดขาด พรุ่งนี้แม่จะดูฤกษ์ให้ละกันนะลูก”

“ตามใจคุณหญิงละกัน”

“ครับคุณแม่” เสียงพี่นุตอบ

ผมได้แต่อึ้งระคนมึนงง ไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะเกินคาดอย่างนี้ ผมเคยคิดว่าท่านจะรังเกียจ เรื่องอาจจะหนักหนาจนผมต้องเดินคอตกกลับบ้านเพราะถูกกรีดกั้น คิดว่าท่านทั้งสองอาจสั่งห้ามพี่นุไม่คบกับผม บังคับให้เลิกกันเพราะความไม่เหมาะสมทางสังคม หรืออะไรก็ตามแต่ที่เกิดจากการที่ผมเป็นผู้ชาย และท่านมีว่าที่ลูกสะใภ้อยู่ในใจแล้วคือน้องเนย

มันผิดจากที่ผมคิดชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ และดีจนเกินกว่าที่ผมจะคาดถึง แหวนในมือพี่นุที่ได้จากคุณพ่อพี่นุ และการหาฤกษ์ที่คงไม่ต่างจากฤกษ์แต่งงานของคุณแม่พี่นุ คือสิ่งที่เกินกว่าที่ผมจะคาดคิด ราวกับฝันแต่มันคือความจริง มืออุ่นของพี่นุช่วยบอกผมว่ามันคือความจริง ไม่ใช่ความฝันแต่อย่างใดเลย

“ยัยภา พรุ่งนี้เราหยุดอีกวันได้ไหม มาเป็นเพื่อนแม่ไปหาหลวงตาหน่อย” ท่านหันไปถามลูกสาวคนเล็ก

“ได้ค่ะ คุณแม่ ว่าแต่ภาขอไปรับเด็กๆ ที่โรงเรียนก่อนนะคะ”

“เอาตัวพ่อของตาซันกับตาซานไปด้วยนะ ลูกจะได้เห็นหน้าพ่อบ้าง วันๆ ไม่เคยอยู่ให้ลูกเห็นหน้าเลย ไปสิตายะ” ประโยคสุดท้ายท่านหันไปสั่งเสียงดังเอากับลูกชายคนโต

“คุณแม่ก็พูดเกินไป ผมงานยุ่งหรอก”

“จ๊ะพ่องานยุ่ง ยุ่งให้มันจริงเถอะ ไปไป๊ ไปได้แล้ว ยัยภาเอาตัวพี่เราไปด้วย” ท่านบอก พี่ภาก็เลยดึงตัวคุณยะขึ้นมา พาลงเรือนไปด้วยกัน

“ลำบากใจหรือเปล่าหนูฟ้าที่แม่กับพ่อทำเหมือนเร่งหนูอย่างนี้” ท่านหันมาถาม เมื่อลูกทั้งสองของท่านลงเรือนไปแล้ว

“ไม่ครับคุณแม่ ผมต้องขอบคุณคุณพ่อคุณแม่มากกว่าที่เอ็นดูผม” ผมตอบและอยากตอบมากกว่านี้ด้วยว่า ดีใจที่ท่านยอมรับในตัวผมและยังทำเหมือนต้องการผมมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวท่าน แต่ผมก็เขินเกินกว่าจะพูดไปอย่างใจคิด

“ท่านนายพลคะ ดูเหมือนเราจะลืมอะไรไปนะคะ ท่านกับดิฉันต้องไปคุยกับพ่อแม่ของหนูฟ้าก่อนสิคะถึงจะถูกต้อง” ท่านว่าเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้

“จริงด้วยคุณหญิง ผมก็แก่แล้วจริงๆ ลืมเรื่องสำคัญเสียได้ ว่าไงเจ้านุ เอาหนูฟ้ามานี่ได้บอกพ่อกับแม่เขาหรือยัง”

“ยังครับคุณพ่อ ผมพาน้องฟ้ามาที่นี่ก่อน แต่พี่สาวน้องฟ้าก็รู้เรื่องของผมกับน้องฟ้าแล้ว แล้วก็ยกน้องฟ้าให้ผมดูแลแล้วนะครับ” พี่นุบอก พลางหันมายิ้มหวานให้ผม ทำเอาผมเขิน หน้าร้อนผ่าว

“มันได้ที่ไหนล่ะเจ้านุ เราต้องเข้าไปคุยกับพ่อแม่ของหนูฟ้าสิถึงจะถูกต้อง เอาไงล่ะคุณหญิง พรุ่งนี้ยังไม่ต้องไปดูฤกษ์หรอก ผมว่าเราไปหาพ่อแม่ของหนูฟ้าก่อนเถอะ”

“ดิฉันก็ว่าอย่างนั้นค่ะท่าน มายงมายกให้กันง่ายๆ โดยที่ผู้ใหญ่ไม่รู้เรื่องน่ะไม่ได้ น่าตีจริงๆ ลูกคนนี้ คิดถึงหัวอกพ่อแม่ของหนูฟ้าบ้าง”

ท่านทั้งสองว่าเพราะไม่รู้ว่าผมเหลือพี่สาวเพียงคนเดียว ผมเลยต้องรีบบอกท่านเสีย แอบหวั่นใจเหมือนกันว่าท่านจะคิดอย่างไรกับเด็กกำพร้าที่ถูกทิ้งตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาขึ้นมา

“อย่าว่าพี่นุเลยครับคุณพ่อคุณแม่ ผมเป็นเด็กกำพร้าครับ ไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อกับแม่ที่ให้กำเนิดเป็นใครหรืออยู่ที่ไหน...”

แล้วผมก็เริ่มต้นเล่าเรื่องของผมให้ท่านทั้งสองฟัง เพราะอยากให้ท่านรู้จักตากับยายที่จากไปของผมด้วยน่ะครับ

“โถ...ลูก มาให้แม่กอดหน่อย” คุณแม่พี่นุครางเสียงเบาด้วยความสงสารผม ท่านเรียกผมเข้ามากอด ลูบหัวราวกับต้องการปลอบขวัญผม ท่านไม่ได้รังเกียจที่ผมเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า เป็นลูกเต้าเหล่าใครที่ท่านไม่รู้จัก อ้อมอกของท่านอุ่นไม่ต่างจากของคุณตาคุณยายผมเลย

“พี่สาวก็ออกเรือนไปมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว หนูฟ้าก็มาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกับพ่อนะ จะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว”

“พรุ่งนี้เลยไหมครับคุณพ่อ”

พอคุณพ่อพี่นุพูด พี่นุก็เสนอความคิดของตัวเองทันที ผมว่าวันนี้หรือวันไหนมันก็ไม่ต่างกันหรอกครับ เพราะตอนนี้ผมก็ใช้ชีวิตร่วมไปกับพี่นุอยู่แล้ว แต่บอกให้ท่านทั้งสองรู้ไม่ได้ บางเรื่องก็ควรเก็บไว้เป็นความลับ ผมคิดว่าอย่างนั้นนะครับ

“ไม่ได้นะตานุ แม่บอกแล้วไงว่าต้องดูฤกษ์ก่อน” ท่านว่าสุ้มเสียงไม่พอใจ พี่นุของผมเลยยิ้มแหยๆ แต่ก็แอบเห็นข้อความที่ส่งผ่านสายตาคมมาให้ผม ข้อความที่บอกให้รู้กันเพียงสองคนว่า เราเลยจุดที่ต้องใช้ฤกษ์ใช้ยามกันมาแล้ว

แต่ฤกษ์ที่ท่านทั้งสองจะหาให้ผมกับพี่นุก็มีความหมายนะครับ เป็นฤกษ์ดีที่พี่นุจะสวมแหวนให้ผม แหวนที่เป็นส่วนหนึ่งของความรักของเรา ถ้าพี่นุต้องเอาหวานไปตัดเรือนเพื่อให้พอดีกับนิ้วของผม ผมก็ต้องหาแหวนสำหรับพี่นุเหมือนกัน แต่คงต้องสั่งทำเพราะแหวนของคุณตาผมกลายเป็นของพี่เขยผมไปแล้วล่ะครับ

.

.

.

“น้องฟ้า”

คนที่นอนหนุนตักผมแล้วอ้าปากรอรับส้มรสหวานที่ผมป้อนให้เรียกชื่อผมด้วยสุ้มเสียงหวานเพราะ อาจหวานกว่าส้มที่ผมส่งเข้าปากเขาและปากผมด้วยมั้ง บอกตามตรงว่าผมยังไม่คุ้นกับสรรพนามที่เปลี่ยนไปนี้เท่าไหร่ ชอบนะครับ ชอบมากด้วย แต่มันก็เขิน เขินมากจริงๆ

“ครับ พี่นุ” ถ้าพี่นุเรียกผมด้วยสุ้มเสียงที่หวานเพราะ ผมก็ตอบรับคำเรียกด้วยน้ำเสียงที่หวานจับใจไม่แพ้กัน

หลังจากที่คุณพ่อกับคุณแม่ของพี่นุกลับเรือนใหญ่ไปพร้อมกับน้องพี พี่นุก็พาผมมานั่งเล่นที่ศาลาทรงไทยกลางสระน้ำห่างจากเรือนของพี่นุพอสำควร ดอกบัวที่โผล่สูงเหนือผิวน้ำแม้จะเริ่มหุบกลีบดอกแล้ว แต่ก็ชวนให้มอง ใบบัวที่ลอยเกือบเต็มสระนั้นอีก รวมถึงต้นไม้น้อยใหญ่ที่รายรอบ มากมายหลายพันธ์ที่ผมรู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง แต่ที่ไม่รู้จักผมก็ได้รู้จักเพราะพี่นุของผม ชี้ชวนให้ดูและบอกให้รู้ ทั้งมีบอกด้วยว่าต้นไหนที่ตัวเองปลูกบ้าง รอบๆ ตัวศาลาก็เต็มไปด้วยกระถางบอนสี  โกสน เขียวหมื่นปี คล้าถุงเงิน สาวน้อยประแป้ง สาวน้อยร้อยชั่ง แล้วอีกเยอะแยะที่ผมจำชื่อได้ไม่หมด ด้านบนก็ยังมีไม้ระโยงระยาด้วยระย้า สร้อยนารี สร้อยนางกรอง ช้องนางคลี่ เฟินเขากวาง เฟินริบบิ้น และก็อีกมากมายครับ ผมจำชื่อได้ไม่หมดเหมือนกัน   

“เชื่อแล้วใช่ไหมว่าคุณพ่อคุณแม่ของพี่นุใจดี” พี่นุถาม ก่อนจะเคี้ยวส้มรสหวานที่ผมป้อนให้

“รู้แล้วครับ” รู้จริงๆ นั่นแหละครับ ท่านทั้งสองใจดี ใจดีจนผมน้ำตาซึมเพราะตื้นใจ พยายามจะไม่ร้องไห้ออกมา กลัวท่านทั้งสองตกใจ ช่วงนี้ผมรู้นะว่าตัวเองบ่อน้ำตาตื้นเหลือเกิน ร้องไห้บ่อยจนกลัวว่าพี่นุจะรำคาญ

“ต่อไปนิ้วนี้ก็ไม่ว่างแล้วนะครับ”

ปากหนาของพี่นุจูบลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของผมที่เจ้าตัวคว้าเอามาครอง ทำเอาผมเขินอีกแล้ว ยิ่งสายตาหวานซึ้งจากตาคมมองลึกเข้ามาในตาผมด้วย ยิ่งทำให้เขินจนหน้าร้อนไปหมด วันนี้ทั้งวันผมได้แต่เขินและเขิน

“อยากสวมให้เสียวันนี้เลย แต่กลัวฤกษ์ของคุณแม่จะเก้อ รอหน่อยนะครับคนดีของพี่นุ” เอาอีกแล้ว พี่นุของผมพูดเสียงหวานอีกแล้ว คำพูดก็หวาน อยากแก้เขินด้วยการหันไปมองต้นไม้น้อยใหญ่รอบตัว แต่ก็ทำไม่ได้เพราะถูกสายตาหวานซึ้งสะกดเอาไว้

พี่นุของผมตั้งท่าหวานอย่างเดียวเลยหรือไง

“ว่าไงครับคนดี รอได้ไหมครับ” พี่นุถามย้ำเอาคำตอบ ทั้งที่ไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ ก็รู้อยู่ว่ายังไงผมก็รอได้ ต่อให้เป็นปีสองปีหรือสามปีสี่ปี ผมก็รอไหวอยู่แล้ว

“ไหวครับ” ผมตอบ แอบมองซ้ายมองขวา หน้าและหลัง ไม่มีใครอยู่บริเวณนี้เลย ผมจึงโน้มตัวลงก้มไปหอมแก้มสากทันที

“นานแค่ไหนก็รอได้ครับ พี่นุ”

รู้ตัวเองก็แอบหวานไม่แพ้พี่นุเหมือนกัน ตอนนี้ราวกับว่าโลกรอบตัวของผมมันเป็นสีชมพูไปหมด มองไปทางไหนก็มีเหมือนมีดอกไม้แบ่งบานไปทั่ว มองคนที่นอนหนุนตักผมก็เจอแต่ความรักที่ส่งมาให้ มองเข้าไปในดวงตาสีดำก็เจอกับคำมั่นสัญญาว่าจะรักตลอดไป

“ไม่ให้รอนานหรอกครับ เห็นไหมว่าคุณแม่พี่อยากได้น้องฟ้าเป็นลูกจะแย่อยู่แล้ว เผลอๆ อาจจะได้ฤกษ์ดีวันพรุ่งนี้เลยก็ได้นะครับ”

ผมเชื่อที่คนปากหวานพูด เชื่อว่าท่านทั้งสองยินดีให้ผมเข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกับท่าน ราวกับฝันนะครับ ทุกอย่างมันดูง่ายและผ่านไปได้ด้วยดี ผมได้รับการต้อนรับที่ดีและไม่มีความรู้สึกอะไรที่ทำให้ผมเศร้าเสียใจเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะครอบครัวพี่นุใจดีอย่างนี้เอง พี่นุถึงใจเป็นพี่นุที่ใจดีกับผมตลอดมา แล้วผมหวังว่าจะตลอดไป

“หายปวดหัวหรือยังครับ” จู่ๆ พี่นุก็เปลี่ยนเรื่อง ผมส่ายหน้า อาการจากพิษไข้เมื่อคนไม่เหลืออีกแล้ว ที่มีอยู่ตอนนี้คือความหวานที่แทรกซึมอยู่ทุกอณูความรู้สึก

“ไม่แล้วครับ”

“เมื่อยไหม?” พี่นุถามอีก

“ไม่ครับ” ไม่เมื่อยเลยครับ มีความสุขและอยากให้อยู่อย่างนี้ไปตลอดด้วยซ้ำ

“แต่พี่นุอยากให้น้องฟ้านอนตักพี่บ้าง” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นนั่ง ดึงผมให้ลงนอนหนุนตักแข็งแรงนั้น มือหนาเกลี่ยไล้เล่นบนแก้มของผม ตาคมที่หวานซึ้งไม่ได้ละไปจากหน้าผมแม้แต่นิดเดียว

“คิดว่ามันเร็วไปไหม?” จากพี่นุปากหวานกลายเป็นพี่นุเจ้าคำถามไปเสียแล้ว แม้คำถามจะสั้น ไม่ชัดเจนและชวนงงว่าหมายถึงเรื่องอะไร แต่ผมก็รู้ครับว่าพี่นุถามถึงเรื่องอะไร

“39 วัน นานจนทำให้ผมรักพี่นุหมดใจแล้วนะครับ” ผมตอบคำถามของคนที่ยังไม่เลิกเล่นแก้มผมด้วยความจริงในใจและความรักที่เอ่อล้นอยู่ในอก

วันเวลาทุกวันเริ่มตั้งแต่เช้าวันนั้น วันที่ผมยืนร้องไห้หน้าร้านเชิญครับ แล้วคุณหมอสัตว์จากคลินิกข้างๆ ก็เดินเข้ามาทำท่าเหมือนจะทักทายตามประสาลูกค้าประจำของร้าน แต่แล้วก็เดินผ่านเข้าไปในร้านแทนด้วยท่าทีเก้อเขิน เพราะผมแกล้งมองไม่เห็นเขา ก่อนจะเดินถือแก้วกาแฟกลับออกมาอีกครั้ง แล้วหยุดทักทายผมด้วยประโยคที่ชวนผมอึ้ง

‘เมื่อคืนร้องไห้มาหรือครับตามบวมเชียว’ คำถามที่ชวนผมอึ้งและเผลอตอบความจริงออกไปว่า ‘ครับ ร้องจนถึงเช้าเลยครับ’

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ มันยาวนานมากเหลือเกินในความคิดและความรักครั้งใหม่ของผม ทั้งที่จากวันนั้นจนถึงวันนี้ มันแค่ 39 วันเท่านั้นเอง

“แต่เราเจอกันนานกว่า 39 วันนะครับ ก่อนน้องฟ้าจะเปิดร้านด้วยซ้ำ”

พี่นุช่วยเตือนความจำของผม ซึ่งมันทำให้ผมจำได้ ไม่น่าลืมวันเวลาเหล่านั้นไปเลย เราเจอกันก่อนหน้านั้นในฐานะลูกค้ากับเจ้าของร้าน และนานกว่าระยะเวลาที่ผมเปิดร้านเชิญครับ เพราะก่อนหน้านั้นผมกับพี่นุเจอกันและเห็นหน้ากันบ้างระหว่างที่ผมมาดูการก่อสร้างร้าน เข้ามาตกแต่งร้าน ดูความเรียบร้อยของร้านแทบจะทุกวัน เมื่อเปิดร้านในวันแรก ร้านของผมก็มีคุณหมอสัตว์เป็นลูกค้ารายแรกที่เข้ามาใช้บริการกาแฟร้อนและเค้กสตรอเบอร์รี มานึกถึงตอนนี้ก็แอบเสียดายที่วันนั้นไม่ได้มองสบตาคมนี้นานนัก

“อย่าบอกนะครับว่าแอบชอบผมมานานแล้ว” ผมถามล้อๆ ไม่ได้คิดว่ามันเป็นความจริงอะไรเลย พี่นุของผมในวันนี้ ในวันนั้นเป็นเพียงแค่คุณหมอสัตว์ลูกค้าธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่แตกต่างจากลูกค้าคนอื่นตรงที่เคยเข้ามาช่วยล้างแก้วอยู่หลังร้านและอาสาเป็นเด็กเสิร์ฟในบางครั้งที่ร้านเชิญครับวุ่นวายด้วยลูกค้ามากมาย

“ตอนนั้นน้องฟ้ามีเจ้าของอยู่แล้ว พี่นุไม่กล้ายุ่งหรอกครับ” พี่นุว่ายิ้มๆ

“ไม่กล้ายุ่งหรือเพราะมีคนที่รักอยู่แล้วกันแน่ครับ” สาบานได้ว่าผมไม่ได้ถามประชดหรือน้อยอกน้อยใจอะไรแม้แต่นิดเดียว ผมถามเพราะเรื่องราวมันพาไปต่างหาก

“สองอย่างเลยก็ได้ครับ” พี่นุยอมรับความจริง ผมไม่ได้รู้สึกอะไรมากกว่ามันคือ ‘อดีต’ เหมือนที่ผมมีนนท์เป็นอดีตของผมไปแล้ว ผมไม่ได้คิดอยากกลับไปรักนนท์ใหม่อีกครั้ง ไม่ใช่เพราะนนท์ไม่ได้รักผมแล้วหรือเพราะนนท์รักแดน แต่เพราะผมมีพี่นุคนรักที่แสนดีอยู่แล้วทั้งคน คนที่เติมเต็มทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผมและคือคนที่ผมรักมากเหลือเกิน

และผมก็มั่นใจว่าพี่นุก็คงไม่กลับไปหาความรักครั้งเก่าอีกแล้ว ไม่ใช่เพราะคุณลมมีคุณติน แต่เพราะพี่นุรักผม ผมคือความรักครั้งใหม่ของพี่นุ

เราสองคนรักกันแล้ว

“พี่นุ...” ผมจับมือหนามาวางบนอก

“ครับ”

“ฟ้ารักพี่นุนะครับ” 

แล้วใบหน้าคมก็โน้มเข้าใกล้ใบหน้าของผม ปากหนาแนบจูบลงมาแผ่วเบา ทว่าหวานซึ้งจนผมน้ำตาคลอเพราะความซึ้งใจจากรสรักที่ผ่านมาทางรสจูบ

“พี่นุก็รักน้องฟ้าครับ”


>>>>>> Happy Na Ka <<<<<<<<


คนเขียนขอคุย :: คาดว่าตอนหน้าตอนที่ 32 จบของจริงแน่นอนนะคะ ^___^ แต่ก็เป็นตอนสั้นๆ เป็นพาร์ทของคุณหมอ อิอิ ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นตอนจบได้เลยเหมือนกันนะคะ ฉะนั้น ไม่ค้างนะคะถ้าตอนที่ 32 จะไม่มาในเร็ววันนี้ หุหุ เพราะจะเสิร์ฟตอนพิเศษตินลมแทน
ปล.จบง่ายเนอะะะ ไม่หวือหวาเล๊ยยย อยากเขียนแบบโค่ดจะลุ้นไรงี้ แต่ก็เขียนไม่ได้ T^T ได้แค่นี้ละน้าาาา   
บับบาย :bye2: :bye2:
สีเหลืองอ่อน//aeaw 
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 31 ต้อนรับ {26/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 26-05-2012 20:52:37
โคตรน่ารักเลยชอบพ่อแม่คุณหมอมาก :L1:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 31 ต้อนรับ {26/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 26-05-2012 21:05:38
อ่านคู่นี้แล้วถึงแม้จะเรียบแต่สัมผัสถึงความรักที่อบอวลอยู่ตลอดเวลา ไม่มีคลายลงเลย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 31 ต้อนรับ {26/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 26-05-2012 22:56:19
น้องฟ้า พี่นุ น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกมากมาย

คุณพ่อคุณแม่ยิ่งน่ารัก

บวกให้ค่า รออ่านพาร์ทพี่นุ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 31 ต้อนรับ {26/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 26-05-2012 23:57:02
อ๊ากกก คู่นี้จบแล้วหรือคะเนี่ย หวานมากๆเลยค่ะ ว่าแต่อย่าหายไปเลยนะคะ จอตอนพิเศษออกมาบ้างให้หายคิดถึงนะคะ

ปล. เรายังขออนุญาต รอคู่ึุที่เหลืออีกนะคะ ทั้งคุณยะน้องพี (ตอนนี้อยากอ่านคู่นี้มากค่ะ อยากรู้ว่าคุณยะเป็นอย่างนี้ได้ไง 555) และคู่ของหนึ่งและแดนด้วยนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 31 ต้อนรับ {26/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 27-05-2012 00:19:59
หวานจริงๆ นะพี่นุ  :impress2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 31 ต้อนรับ {26/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 27-05-2012 01:17:25
อยากรู้คู่ที่เหลือมากๆ เลยค่ะ

นนท์-แดน
ยะ-พี

ขอนั่งรอเงียบๆต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 31 ต้อนรับ {26/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 27-05-2012 10:46:10
เข้าเรื่องกันเลยว่าจะแต่งกันวันไหนยังไง ฮี่ๆ
แลดูทางบ้านนี้รับมือกับลูกๆ ได้ดีเลยนะคะ
แอบสมน้ำหน้าคุณยะ กร๊ากๆ สมๆๆ สมควร
อดซะ! ฮาๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 31 ต้อนรับ {26/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 27-05-2012 10:50:32
 :กอด1: 
ดีใจที่พ่อกับแม่พี่นุยินดีต้อนรับน้องฟ้า
น้องฟ้าจะได้แฮปปี้ซะที
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 31 ต้อนรับ {26/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 27-05-2012 10:55:47
โคตรน่ารักเลยชอบพ่อแม่คุณหมอมาก :L1:
เนอะๆๆๆ ชอบเหมือนกันเลย

อ่านคู่นี้แล้วถึงแม้จะเรียบแต่สัมผัสถึงความรักที่อบอวลอยู่ตลอดเวลา ไม่มีคลายลงเลย
ว้าว ขอบคุณที่สัมผัสถึงมันนะคะ

น้องฟ้า พี่นุ น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกมากมาย
คุณพ่อคุณแม่ยิ่งน่ารัก
บวกให้ค่า รออ่านพาร์ทพี่นุ
พาร์ทพี่นุ เรียบร้อยแล้ว รอเวลาลงนะคะ

อ๊ากกก คู่นี้จบแล้วหรือคะเนี่ย หวานมากๆเลยค่ะ ว่าแต่อย่าหายไปเลยนะคะ จอตอนพิเศษออกมาบ้างให้หายคิดถึงนะคะ

ปล. เรายังขออนุญาต รอคู่ึุที่เหลืออีกนะคะ ทั้งคุณยะน้องพี (ตอนนี้อยากอ่านคู่นี้มากค่ะ อยากรู้ว่าคุณยะเป็นอย่างนี้ได้ไง 555) และคู่ของหนึ่งและแดนด้วยนะคะ ^^
ไม่หายค่ะ เดี๋ยว อิงหนึ่งจะตามมานะคะ

หวานจริงๆ นะพี่นุ  :impress2:
คนเขียนตั้งใจสุดๆ จะให้หวานเลยนะคะเนี้ย

อยากรู้คู่ที่เหลือมากๆ เลยค่ะ
นนท์-แดน
ยะ-พี
ขอนั่งรอเงียบๆต่อไปนะคะ
ก่อนนนท์แดน ยะพี คงต้องอิงหนึ่งก่อนนะคะ อิอิ แต่ ณ บัดนี้อยากเขียน ยะพี มากมาย แต่ขอเวลาเสาะหาข้อมูล ลำดับเหตุการณ์ก่อนนะคะ เอาอิงหนึ่ง ไปก่อนนะคะ ^^' (อิอิ ยังมีคู่พี่ป้อง แล้วคู่ของน้องตาม ด้วยน้าาา หลายคู่มากๆๆๆ 555+ อยากเขียนแต่คงอีกนาน เรื่องคุณหมอกะคุณฟ้านี่ก็ปีพอดีเลยนะเนี้ย)

รอตอนต่อไปนะ :z2:
ขอบคุณที่รอนะคะ

เข้าเรื่องกันเลยว่าจะแต่งกันวันไหนยังไง ฮี่ๆ
แลดูทางบ้านนี้รับมือกับลูกๆ ได้ดีเลยนะคะ
แอบสมน้ำหน้าคุณยะ กร๊ากๆ สมๆๆ สมควร
อดซะ! ฮาๆ
นั่นสิเนอะ แต่งกันวันไหนดี แต่อิคุณยะเนี้ย ไม่ไหวๆๆๆ แต่ก็รักจริงน้า ไม่เจ้าชู้ แต่ก็มีมาไม่ขาดสาย หุหุ

:กอด1: 
ดีใจที่พ่อกับแม่พี่นุยินดีต้อนรับน้องฟ้า
น้องฟ้าจะได้แฮปปี้ซะที
แฮปปี้แน่นอนค่ะ ^___^ คุณฟ้าใจดี ต้องได้แต่สิ่งดีๆ หุหุ

ขอบคุณที่ติดตามเรื่องนี้กันนะคะ อีกตอนเดี๋ยวก็จะจบแล้ว พาร์ทของพี่หมอ ไม่มีอะไรเยอะค่ะ สั้นๆ ง่ายๆ หวานๆ ตามสไตล์ของเรื่องนี้ค่ะ หุหุ
บับบาย
สีเหลืองอ่อน//aeaw  :L2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 31 ต้อนรับ {26/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 27-05-2012 11:04:11
โอ๊ยนี่สินะ
ครอบครัวสุขสันต์ :L1:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 31 ต้อนรับ {26/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 27-05-2012 11:27:43

อั้ยย๊า เข้ามาอ่านอีกทีจะจบซะแล้ว
น่ารักมากคะ คู่นี้เขาหวานกันมากๆ
พี่นุกับน้องฟ้า อ่านแล้วมันเขินๆไงไม่รู้
ไม่ต้องหวือหวาหรอกคะ คนอ่านไม่อยากหัวใจวาย
อีกอย่างคู่นี้เขาก็รักกันแบบเรื่อยๆอยู่แล้ว
จบแบบนี้แหละคะ เราว่าเหมาะสุดๆ

รออ่านติน-ลมตอนพิเศษแล้วก็ตอนจบจริงนะคะ
+1 ให้จ้าาาาาาา
รออ่านเรื่องต่อไปด้วย หุหุ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 31 ต้อนรับ {26/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Calo love ที่ 01-06-2012 11:13:11
ไม่มีคำบรรยายใดๆ ครับ................รักครอบครัวนี้มาก :-[
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 31 ต้อนรับ {26/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 01-06-2012 19:21:52
ดีใจกับฟ้าที่พ่อแม่พี่นุยอมรับ ตอนนี้หวานมากกกกกกกกก

+1+เป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " ตอนที่ 31 ต้อนรับ {26/05/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-06-2012 20:30:10
คนมีความรัก มีความสุขหวานอะไรแบบนี้เอง
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 05-06-2012 20:35:14
รักเธอ  >>> ตอนพิเศษ   >>เรารักกันนะครับ

ผมกึ่งนั่งกึ่งนอนกอดอกพิงหลังไว้กับหัวเตียง มองแผ่นหลังเนียนเต็มไปด้วยร่องรอยสีแดงเพราะแรงดูดกินของผม เจ้าของแผ่นหลังที่ผมรักนักรักหนาคนนี้กำลังถือโทรศัพท์ขึ้นแนบใบหูเล็ก หลังจากกดปุมโทรออกถึงคนปลายสาย คนที่ผมยังไม่ค่อยไว้ใจดีเพราะเกรงว่ายังคิดอะไรกับคนรักของผมอยู่ ถึงปากหมอนุจะบอกว่าไม่คิดอะไรแล้ว ให้ผมวางใจได้ว่าเขาจะไม่เข้ามายุ่งอะไรกับคนของผมอีก แต่มันก็แค่คำพูดล่องลอย จะพูดแบบไหนก็ได้ จะโกหกก็ย่อมได้ แล้วผมจะเชื่อได้ไงว่าหมอนุพูดจริง ปากบอกอีกอย่าง ใจอาจจะคิดอีกอย่างก็ได้ ใครจะไปรู้ดีเท่าตัวหมอนุเอง
   “สวัสดีครับพี่หมอ ลมโทรมารบกวนหรือเปล่าครับ...เอ๊ะ...ติน อย่าสิ หยุดนะ”
คนรักของผมกรอกเสียงทักทายคนปลายสายในประโยคแรกๆ ส่วนประโยคหลังนี่เป็นของผม เขาหันมาดุผมผมเบาๆ เพราะผมลุกขึ้นไปสวมกอดเนื้อตัวเปลือยเปล่าเขาจากด้านหลัง ตัวเขาและตัวผมไม่มีสิ่งใดห่อหุ้มไว้เลย นอกจากผ้าห่มผืนเดียว
   “ไม่หยุด อยากให้หยุดก็วางสายสิครับ”
ผมฝากจมูกไว้กับแก้มนุ่มข้างที่ไม่มีโทรศัพท์แนบใบหู มือหยอกเย้ากับเม็ดเล็กเหมาะมือทั้งสอง ส่วนหนึ่งตั้งใจแกล้งแต่อีกส่วนหนึ่งเพราะยังอยากจะกลืนกินเนื้อตัวหอมหวานนี้อีกครั้ง ก่อนจะถูกตีมือ ตาเรียวหันมามองเอาเรื่อง ชี้หน้าคาดโทษ พูดแบบไม่มีเสียงให้ผมหยุด เขาจะคุยกับหมอนุเรื่องไปทะเล
เพราะเรื่องไปเที่ยวทะเลนี่แหละครับ ทำให้ผมลงโทษเขาตั้งแต่ดึกยันจะสว่างไม่กี่ชั่วโมงนี่แล้ว...ตอนนี้ตีสี่
เมื่อครู่คนน่ารักของผมยังนอนอ่อนระทวยทอดกายอยู่ใต้ร่างของผม ใบหน้าสุขสม เสียงครางแผ่วหวาน ตอบรับคำรักผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่พอหลุดจากห้องอารมณ์นั้น เจ้าตัวก็รีบคว้าโทรศัพท์หาพี่หมอแสนดีเรื่องไปเที่ยวทะเลทันที
ผมอยากไปเที่ยวทะเลกับเขากันสองคน แต่ดันมีคนนอกแจ้งความประสงค์ขอตามไปด้วยถึงสองคน คนแรกก็เพื่อนสนิทของผมที่พอรู้ว่าผมจะไปเที่ยวทะเล ถึงกับอาสาหาที่พักให้เลยทีเดียว อีกคนก็คืออดีตเจ้านาย ผมลาออกจากบริษัทของคุณอิงแล้วครับ ลาออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง เหตุผลก็เพราะทำเพื่อคนที่ผมรัก อยากให้เขาสบายใจ แม้ผมจะลำบากใจอยู่บ้างในเรื่องของเงินทุนที่เขาเต็มใจให้ อ้างว่าไม่ใช่เงินของเขาแต่เป็นเงินของเราสองคน อนาคตของเราสองคน นั่นสิครับ ผมไม่ควรคิดมาก ยึดศักดิ์ศรีหรือกำทิฐิเอาไว้ให้มันทำลายความรักของเราสองคน อะไรยอมเขาได้ผมก็ยอม อะไรยอมไม่ได้ผมก็พยายามยอม เช่นในตอนนี้ที่เขากำลังคุยกับคนปลายสาย คาดคั้นเอาคำยืนยันจากอีกฝ่ายว่าจะไม่เบี้ยวนัดเขา ผมก็พยายามยอมให้ ทั้งที่ใจมันไม่อยากให้ไปเลยด้วยซ้ำ ใครมันอยากจะเห็นหน้าคนที่คิดไม่ซื่อกับแฟนตัวเองล่ะครับ 
ถ้าบอกว่าเพื่อนสนิทและอดีตเจ้านายคือสองคนที่แจ้งความประสงค์อยากไปด้วย หมอนุเองก็คงเป็นคนที่คนรักของผมต้องการให้ไปด้วยกันให้ได้ 
ตอนนี้ผมได้แต่นั่งฟังเขานัดแนะกับคนปลายสายเรื่องเวลาที่จะขับรถไปรับ เพราะกลัวอีกฝ่ายจะไม่ยอมไปด้วยกัน แม้จะจองที่พักเอาไว้แล้วก็ตาม สาเหตุมาจากเมื่อตอนเย็นคุณหวานบอกคนรักของผมว่าหมอนุอาจจะไม่ไปด้วย เขาถึงต้องโทรไปเอาคำสัญญาจากอีกฝ่ายว่าจะไปด้วยกัน แล้วที่เพิ่งโทรก็เพราะผมเพิ่งปล่อยตัวเขา ก็ผมไม่อยากให้หมอนุไปด้วยนี่ครับ ถึงตั้งใจทำให้เขาหมดแรงและไม่มีแรงจะยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยบทรักที่ยาวนาน แต่สุดท้ายพอเรี่ยวแรงกลับคืนมา เขาก็ไม่ลืมความตั้งใจเดิม หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพี่หมอแสนดีของเขาทันที
“ห้ามเบี้ยวลมนะครับ...แล้วเจอกันครับ...”
แล้วคนรักผมก็วางโทรศัพท์ลง หันมาทำหน้าน่ารักใส่ผม ไม่ให้ผมใจอ่อนเปลี่ยนจากใบหน้าเซ็งจัดเป็นยิ้มกว้าง อ้าแขนรับร่างกายหอมหวานมาสู่อ้อมกอดได้ไงล่ะครับ
“ต่ออีกไหม ตินจะได้อารมณ์ดีขึ้น”
 เขาชอบอ้อนเอาใจผมหลังจากที่ทำให้ผมหงุดหงิด แต่เขาก็น่ารักเสมอในสายตาของผม เพราะเขาคือคนที่ผมรัก
เมื่อเขาอ้อนมาขนาดนี้ มีหรือผมจะปฏิเสธ

“ติน!!”
คนรักของผมเรียกชื่อผมเสียงดังลั่นรถเลยทีเดียว หลังจากขยี้ตา หันไปมองรอบตัว แล้วพบว่ามันไม่ใช่ท้องถนนกรุงเทพ แต่เป็นถนนที่สองข้างทางเป็นต้นไม้น้อยใหญ่สลับกับบ้านเรือนของชาวบ้าน
“กลับรถไปรับพี่หมอเลยนะติน” คำสั่งเด็ดขาดออกมาจากปากบึ้งตึง
“ไม่ทันแล้วครับ อีกนิดก็จะถึงจันท์แล้วด้วย” ผมบอกยิ้มๆ ผิวปากอารมณ์ดีเลยครับงานนี้
“ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะติน เราตกลงกันแล้วนะ” คนรักของผมคลายสีหน้าบึ้งตึงลง คล้ายจำยอมกับสิ่งที่ผมทำหรือไม่ก็เพราะทำอะไรไม่ได้แล้ว รถวิ่งออกจากกรุงเทพเกือบสองร้อยกิโลแล้วนะครับ
“ก็ตินไม่อยากให้พี่หมอของลมมาด้วยนี่ครับ แต่ถ้าพี่หมอของลมอยากมาจริงๆ เขาก็หาทางมาเองได้ หนึ่งมันให้แผนที่รีสอร์ทไปแล้ว” ผมบอกคนที่รีบล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า ไม่บอกก็รู้ว่าจะทำอะไร พอหันมาเห็นผมมองอยู่ก็ย่นจมูกใส่ทันที
“มีความผิดอยู่นะติน ลมจะโทรหาพี่หมอ ห้ามกวน!” ขู่แบบนี้ ผมไม่ได้กลัวหรอกครับ แค่ไม่อยากขัดใจ อย่างน้อยทั้งขาไปและขากลับ ผมก็ไม่ต้องทนเห็นหมอนุนั่งอยู่เบาะหลังและเห็นคนรักของผมค่อยแต่จะหันหน้าไปชวนคุยอยู่ตลอดเวลา
“เปิดลำโพงด้วย” ผมสั่งเสียงเข้มทันทีที่เขากดปุ่มโทรออก เขาทำตาเขียวใส่แต่ก็ยอมเปิดลำโพงให้ผมได้ยินเสียงดนตรีรองสายดังเป็นจังหวะเพราะปลายสายยังไม่กดรับ ผมเลี้ยวรถลงไปจอดข้างทาง ขืนให้ขับรถต่อผมคงไม่มีสมาธิ คนรักของผมมองอย่างสงสัยแต่ไม่ทันได้ถาม คนปลายสายก็กดรับและส่งเสียงออกมาตามลำโพง
(สวัสดีครับน้องลม)
ผมจับน้ำเสียงของหมอนุ อืม...ก็ปกติดี ไม่ได้ทักทายด้วยน้ำเสียงหวานแบบที่คิดเอาไว้
“พี่หมอครับ เอ่อ...คือว่า...พี่หมอขับรถมาเองได้ไหมครับ ตามแผนที่ที่หนึ่งให้พี่หมอไปนะครับ ตอนนี้ลมกับติน เราสองคนใกล้ถึงจันท์แล้ว”
(ครับได้ครับ)
“ลมต้องขอโทษพี่หมอจริงๆ นะครับ ขอโทษจริงๆ ครับ พอดีลมลืมบอกตินน่ะครับ ตินเลยไม่รู้ แล้วลมก็เผลอหลับไปในรถ ตื่นมาอีกทีก็ใกล้ถึงจันท์แล้ว”
ฟังคนรักของผมบอกเหตุผลที่ไปรับหมอนุไม่ได้แล้วก็น่าสงสารครับ ถึงขั้นต้องโกหกว่ายังไม่ได้บอกผม ทั้งที่เขาบอกผมไปไม่รู้กี่รอบ ย้ำแล้วย้ำอีก ว่าอย่าลืมไปรับหมอนุที่หน้าคลินิก ตอนนี้คนรักของผมคงรู้สึกผิดมาก ผมพลอยรู้สึกผิดไปด้วยเพราะเป็นตัวต้นเหตุ แต่ความรู้สึกผิดมันก็น้อยกว่าความรู้สึกปลอดโปร่งที่ไม่มีบุคคลที่สามร่วมเดินทางไปด้วยกัน
(ได้ครับ พอดีพี่หมอเอาแผนที่ติดมาด้วย ไม่ต้องห่วงนะครับ)
“ลมขอโทษจริงๆ นะครับพี่หมอ”
(ไม่เป็นไรครับ)
“แต่พี่หมอต้องขับรถตามมาจริงๆ นะครับ ห้ามเบี้ยวลมนะ”
(ครับ)
“แน่นะครับพี่หมอ”
(ครับ)
 “แต่ลมกลัวว่าพี่หมอจะไม่มา” นั่น...ทำเป็นรู้ทัน ผมว่าไม่มาสิดี
(พี่หมอรับปากแล้วก็ต้องไปสิครับ)
“จริงๆ นะครับ”
(ครับ งั้นพี่หมอวางสายแล้วนะครับ จะได้ออกเดินทางเลย)
“ต้องมาจริงๆ นะครับพี่หมอ”
(ครับ)
“ไม่มาก็ไม่เห็นเป็นไร เราเที่ยวสองคนก็ได้  มาทำไม อยากเป็นก้างนักหรือไง”คำพูดผมเองล่ะครับ ระบายอารมณ์หงุดหงิดที่คนรักของผมอยากให้หมอนุมาด้วยมากเหลือเกิน หมอนุจะได้ยินหรือเปล่า ไม่รู้นะ แต่ผมหวังว่าจะได้ยิน
“ติน! หยุดพูดไปเลยนะ มีความผิดอยู่นะ...พี่หมอครับ พี่หมอ...”
ดุผมเสร็จแล้วกลับไปพูดกับคนปลายสาย แต่ไม่ทันแล้วครับเพราะฝ่ายนั้นวางสายไปแล้ว
“ตินนะติน ทำอะไรเป็นเด็กๆ ไปได้ แล้วพี่จะคิดยังไง โตแล้วนะ” คนอายุเท่าผมหันมาค้อนตาขวาง พลางยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋า
“ตินไม่ชอบหมอสัตว์นั้น” เมื่อก่อนเคยชอบแล้วถูกชะตาด้วย กินเที่ยวกันอยู่บ่อยๆ เพราะเป็นเพื่อนของอดีตเจ้านาย แต่นั่นก็ก่อนที่ผมจะรู้ว่าหมอนุตามจีบคนรักของผม พอผมรู้ ความรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าก็ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ผมจะได้เป็นเจ้าของคนน่ารักคนนี้เต็มความภาคภูมิแล้ว แต่มันก็อดหวงและหึงไม่ได้
“เรื่องมันไม่มีอะไรแล้ว พี่หมอไม่ได้คิดอะไรกับลมแล้วนะ”
“ตินไม่ไว้ใจ”
“ไม่ไว้ใจลม?” เขาแกล้งถาม 
“ไม่ไว้ใจคุณหมอครับ” ใครจะไม่ไว้ใจคนรักของตัวเองล่ะครับ คนรักของผมน่ารักออกอย่างนี้ รู้ว่าเขารักผมไม่ต่างจากที่ผมรักเขา เรารักกัน รักกันก็ต้องไว้ใจกัน แต่กับคนที่เคยจีบคนรักของผมมาก่อน ใครจะกล้าไว้ใจ
“ตินนี่น่าหึงไม่เข้าเรื่อง” เขาบ่นอุบอิบ
“ลมยังหึงตินกับนุ่นได้เลย ตินก็หึงลมกับหมอนุบ้างสิครับ”
“คนละเรื่องกันเลยนะติน แล้วไม่ต้องเอาพี่หมอไปเปรียบเทียบกับยัยนุ่นนั่นด้วย พี่หมอเป็นคนดีกว่ายัยนุ่นเยอะ”
“ปกป้องกันจริงนะครับ”
“เปล่า ไม่ได้ปกป้องซะหน่อย”
“ก็เห็นอยู่ๆ”
“งอนเหรอ?” เขาถาม อารมณ์ผมก็ประมาณที่เขาถามแหละ
“ไม่เอา ไม่งอนลมนะ” คนรักของผมพูดแล้วดึงหน้าผมเข้าไปใกล้ หอมแก้มซ้ายสลับแก้มขวา ฉีกยิ้มกว้างและแสนหวานให้ผม ก่อนจะแนบปากนิ่มลงบนปากผม ผมไม่ได้ส่งลิ้นเข้าไปชิมความหวานจากเรียวลิ้นเล็กนั้น เป็นเขาที่ส่งมันเข้ามาในปากผมเอง เข้ามาพัวพันอย่างอ่อนหวานต้องการเอาใจ
“อื้ออ...อารมณ์ดีขึ้นหรือยัง” เขาถามผมเมื่อเราเลิกจูบกัน
“ยังครับ” ผมส่ายหน้า ตั้งท่าจะคว้าเขาเข้ามาแลกจูบอีกครั้ง แต่เขาไม่ยอม ขยับหนีมือและปากผมทันที
“พอแล้ว ปากเจ่อไปหมดแล้วเนี้ย” เขาว่าค้อนๆ ความผิดผมที่ไหน ความผิดของเขาทั้งนั้น
“ลมเริ่มเองนะครับ มายั่วให้ยากแล้วก็ชอบจากไป” ผมแกล้งทำเสียงน้อยใจ แต่เขารู้ทัน เขารู้ทันผมตลอดแหละครับ
“ไม่ต้องเลย ออกรถได้แล้วจะได้ถึงสักที ลมอยากนอนเต็มทีแล้ว” เขาว่าไปด้วยปิดปากหาวไปด้วย สงสัยง่วงจริงจังครับ
ที่แผนซิ่งหนีหมอนุของผมสำเร็จก็เพราะความง่วงของเขานี่แหละ เขาไม่ได้นอนเลยเมื่อคืนเพราะถูกผมทำโทษ ครั้งสุดท้ายที่ผมกอดเขาเสร็จสมอารมณ์หมาย ผมก็พาจับเขาอาบน้ำและแต่งตัวขับรถออกจากบ้านมาตั้งแต่ตีห้ากว่าๆ หลอกเขาว่าอยากทานโจ๊กหน้าปากซอย ทานแล้วจะได้เลยไปรับหมอนุเลย เขาก็เชื่อ แต่พอขึ้นรถปุบก็หลับปับ มาตื่นอีกทีโวยวายลั่นอย่างที่เห็นครับ
“ให้ลมขับไหม ตินจะได้พัก” เขาหันมาถามขณะที่ล้อรถกำลังหมุน
“ตินไหวครับ ลมง่วงนอนต่อก็ได้นะครับ ถึงแล้วตินจะปลุก” ผมบอกเขา เมื่อคืนเขาไม่ได้หลับ ผมก็ไม่ได้หลับเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้รู้สึกง่วงเพราะก่อนออกจากบ้านผมดื่มกาแฟมาแล้ว
“ไม่เอา นั่งเป็นเพื่อนคุยกับตินดีกว่า ถึงแล้วค่อยนอนทีเดียว” ว่าพลางปิดปากหาวอีกครั้ง น่ารักจริงครับคนรักของผม จากนั้นเราก็หยอกล้อกันไปตลอดทางตามประสาคู่ชีวิตของกันและกัน

“ว่าไง”
   ผมยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู มีคนน่ารักของผมนอนหลับสนิทซุกอยู่บนอก เขาหลับลึกมากแม้แต่โทรศัพท์ที่แผดเสียงดังก็ไม่ทำให้เขาขยับตัวแม้แต่น้อย
   (กูกับบอสถึงแล้ว มึงก็ออกมาจากห้องสักที จะได้หาอะไรกินกัน มันบ่ายโมงกว่าแล้วนะโว้ย)
เพื่อนสนิทที่สุดของผมเองครับ มันคนนี่แหละที่ทำให้ผมอดเที่ยวทะเลกับคนรักแบบสองต่อสอง
“มึงก็กินกับบอสไปสิ” ผมบอกมัน ยังไม่หิวแล้วยังอยากนอนกอดเนื้อตัวหอมหวานของคนรักไปอีกนานๆ กอดเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกไม่พอ
(ไม่เอาก็กูอยากกินกับมึงอ่ะ เร็วๆ เลยมึง กูหิวจนจะแดกหัวบอสได้อยู่แล้วนะมึง)
ดูมันพูด ทำเสียงงอแงมาตามสาย ไอ้เพื่อนไม่รู้จักโตคนนี้ของผม มันน่าถีบจริงๆ ก่อเรื่องวุ่นวายให้ผมตลอด ยิ่งตอนเรียนมหา’ลัยนะ ผมต้องคอยคุมมันยังกะพ่อคุมลูก หนึ่งน่ะมันฉลาดก็จริง แต่มันก็โง่เรื่องดูคน มีหลายคนที่เข้ามาแบบไม่ซื่อกับมัน มันก็ไม่รู้ โดยเฉพาะเจ้าของรีสอร์ทแห่งนี้ เป็นอีกคนหนึ่งที่คิดไม่ซื่อกับมัน ไอ้นั่นมันเสือฟันไม่เลือก หนึ่งไม่รู้ แต่ผมรู้ ผมถึงได้กันมันออกจากหนึ่งเสมอ จนกลายเป็นเหม็นขี้หน้ากันไปโดยปริยาย
“เออๆ ขอเวลาล้างหน้าล้างตาก่อน เดี๋ยวออกไป”
(เร็วเลยนะมึง...คือกู...กู...ไม่อยากอยู่กับบอสสองต่อสองว่ะ)
“ทำไม?”
ผมเผลอขยับตัวลุกขึ้นนั่งเพราะสะดุดกับน้ำเสียงที่เบาลงและคำพูดในประโยคสุดท้าย คนที่หลับสนิทเลยสะดุ้งตื่น เงยหน้ามองผมอย่างงัวเงีย อดไม่ได้ที่จะก้มหอมแก้มน่ารักนั้น ท่อนแขนเรียวสวมกอดเข้าที่เอวผม แนบใบหน้าบนหน้าท้องของผมต่อแล้วหลับตาลง
“บอสทำให้กูอึดอัดว่ะมึง กูบอกไม่ถูก วันหลังกูจะเล่าให้ฟัง แต่ตอนนี้มึงรีบออกมาอยู่เป็นเพื่อนกูก่อน ไม่งั้นกูจะไปหาชิตนะเว้ย” มันขู่มาตามสาย แล้วผมก็กลัวมันจะทำจริง
“เออๆ รอแป๊บหนึ่ง”
ผมวางโทรศัพท์ลงเป็นจังหวะเดียวกับที่คนน่ารักของผมขยับตัวลุกขึ้นนั่ง
“หนึ่งเหรอ?”
“ครับ”
“โทรมาตามเหรอ?”
“ครับ โทรมาตามให้ออกไปหาอะไรกินกัน ลมอยากนอนต่อไหม?”
“หิวมากกว่าง่วงแล้วล่ะตอนนี้” เขาว่า
“งั้นไปอาบน้ำกันครับ” ผมดึงเขาออกจากเตียง พาเข้าห้องน้ำ อาบน้ำด้วยกัน ไม่บ่อยนะครับที่ผมกับคนน่ารักคนนี้จะอาบน้ำด้วยกัน เขาชอบอายเวลาที่ผมมองสำรวจไปตามร่างกายของเขา เวลาที่มีอะไรกันเขาก็มักจะบอกให้ปิดไฟตลอด

ผมมองคนสองคนที่เดินมาตรงที่ผมนั่งอยู่ หมอนุและใครอีกคนหนึ่งที่ผมไม่รู้จัก แต่คิดว่าอดีตหัวหน้าผมอาจรู้จัก แต่เอาเข้าจริงก็ไม่รู้จัก
   “เพื่อน”
   หมอนุตอบเมื่อเพื่อนของผมถามว่าคนที่มาด้วยกันเป็นใคร คงไม่มีใครเชื่อที่คุณหมอบอก ผมก็ไม่เชื่อเหมือนกัน เพื่อนที่ไหนจะช่วยถือกระเป๋าให้กัน คนน่ารักของผมหันมายกยิ้มประมาณว่าถูกใจนักหนาที่หมอนุควงคนนี้มาด้วย คล้ายจะบอกกับผมอีกว่า
…เป็นไงล่ะ บอกแล้วไม่เชื่อ พี่หมอไม่ได้สนใจลมแล้ว เห็นป่ะว่าควงแฟนมาเปิดตัวแล้ว ต่อไปเลิกหึงลมกับพี่หมอซะที…
ความรู้สึกว่าไม่ชอบหน้าคุณหมอเริ่มลดลง รู้สึกโล่งใจขึ้น ผมมองคนที่หมอนุพามาด้วย หน้าตาน่ารักแต่คนรักของผมน่ารักกว่าเยอะครับ
แม้คนที่มาด้วยกับคุณหมอจะเอ่ยแก้ตัวว่าเป็นแค่เจ้าของร้านกาแฟข้างคลินิกของหมอนุ แต่พวกเราทุกคน หมายถึง ผม คนรัก เพื่อนสนิทและอดีตหัวหน้า ไม่มีใครอยากเชื่อเท่าไหร่

“ตินนน....กูไปด้วยยยย...”
   ไอ้เพื่อนสนิทของผมมันวิ่งตะโกนตามหลังมา แล้วมายืนหอบแฮ่กๆ ตรงหน้าผมและคนรักของผม มันเห็นผมทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ มันเลยทำหน้าสำนึกผิดแต่ก็ยังจะร้องขอตามไปด้วย
   “มึงไปไหน กูขอไปด้วย...กูไม่อยากอยู่กับบอสสองคนอ่ะ”
หนึ่งมันบอกผมเสียงเบา มองหน้าผมด้วยสายตาอ้อนวอน แล้วตบท้ายด้วยประโยคเด็ดของมัน
“ถ้า...ถ้า...ถ้ามึงไม่ให้กูไปด้วย กูจะไปหาชิตนะโว้ย”
จบกันครับ ภาพที่ผมจินตนาการเอาไว้ว่า ได้เดินจับมือกับคนรักบนหาดทรายเม็ดละเอียด โดยที่ผมและเขาจะถอดร้องเท้าเดินไปจนสุดเวิ้งหาด ตามทางก็อาจแวะจับปูลมกันบ้าง เดินเสร็จก็จะลงเล่นน้ำทะเลกันสองคนแบบหวานชื่น ขี่คอกัน เกาะหลังกัน สาดน้ำใส่กัน และจูบพิศกันตอนตะวันตกดิน
หมดกัน!
   “เดินด้วยกันหลายคนก็สนุกดี” คำพูดนี้เป็นของคนรักของผม หนึ่งถึงกับยิ้มออก หันมายักคิ้วให้ผมเป็นเชิงบอกว่า ‘คุณลมไม่อยากเดินกับมึงแค่สองคนว่ะ’
   “แล้วบอสล่ะ” ผมถามถึงอดีตเจ้านาย หลังจากทานข้าวเที่ยงกันตอนบ่ายสองเกือบบ่ายสามก็แยกย้ายกันกลับห้องใครห้องมัน ผมและคนรักเข้ามาเปลี่ยนชุดที่เหมาะกับการเดินเล่นและเล่นน้ำ เดินจูงมือกันเดินเท้าเปล่าบนเม็ดทรายได้ไม่กี่ก้าว เพื่อนเจ้าปัญหาก็วิ่งตามมาอย่างที่เห็นนี่ล่ะครับ
   “อยู่ในห้อง” หนึ่งมันตอบพร้อมทำหน้าเซ็ง มือล้วงกระเป๋า เท้าก็เตะทรายไปเรื่อยเปื่อย มันยังไม่บอกผมเกี่ยวกับเรื่องที่ทำให้มันรู้สึกอึดอัดกับบอสตัวเอง มากไปกว่าที่พูดบอกในโทรศัพท์ก่อนหน้า
   “จะเดินด้วยก็ได้ แต่อย่ากวนเวลาที่คนรักเขาจะสวีทกัน ถ้าเห็นว่าทำท่าจะจูบกันเมื่อไหร่ก็รีบหลับตาซะ” ผมบอกมัน แต่ความจริงคือตั้งใจจะแกล้งคนที่ยืนหน้าแดง มองค้อนผมอย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมกับกำปั้นเล็กและแรงซัดเข้าที่ต้นแขนไปหลายครั้ง
   “ไม่อายปากเลยนะมึง”
มันว่าแล้วเดินนำหน้าผมและคนรักไป
   “ติน...เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” เขาถาม สีหน้าอยากรู้
   “ตินก็ไม่รู้ครับ หนึ่งมันบอกแค่ว่ารู้สึกอึดอัดตอนอยู่กับบอสสองคน”
   “อ้าว...ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ ลมก็เห็นสนิทกันดีนี่นา แถมยังจะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้พี่อิงอีก”
   “ไม่รู้เหมือนกันครับ...ตินว่า เรามาคุยเรื่องของเรากันดีกว่า”
   “เรื่อง?”
   “จำวันแรกที่เราเจอกันได้ไหมครับ”
   “วันไหนนะ...วันไหนน้า วันปีใหม่หรือเปล่า วันนั้นห้องตินจัดงานเลี้ยงปีใหม่ ตินกับเพื่อนเอาเค้กมาแจกห้องของลม ลมยืนอยู่ตรงประตูพอดี เราเลยได้เจอกัน ตินเอาเค้กให้ลมแล้วก็บอกลมว่า ‘สวัสดีปีใหม่ครับคุณลม’ แล้วก็เดินออกไปเลย รู้ไหมว่าเพื่อนในห้องของลมนะมองตามตินตาละห้อยเลยนะ”
คนน่ารักแกล้งถามและบรรยายถึงฉากที่เราพบกันด้วยเสียงที่ใสแจ๋ว ปากเล็กฉีกยิ้มกว้าง เขาคงจำวันนั้นได้ดี ดีพอๆ กับผม วันที่ผมยืนเค้กให้เขาแล้วบอกเขาว่า ‘สวัสดีปีใหม่ครับ...คุณลม’
   “ไม่ใช่วันปีใหม่ครับ วันงานกีฬาสีตอนมอสี่ต่างหาก เราอยู่สีเดียวกัน พอเจอหน้าติน ลมก็สะบัดหน้าใส่ทันที ถ้าผู้หญิงตบหน้าแปลว่ารัก สงสัยผู้ชายสะบัดหน้าใส่คงแปลว่ารักแหงๆ ตอนที่ตินลงแข่งวิ่ง ลมเป็นสตาฟคอยเอาน้ำเย็นมาให้ดื่ม เอาผ้าเย็นมาให้ตินเช็ดเหงื่อ แล้วก็เอายาดมมาให้ตินดมด้วยนะ จำได้ไหมครับ”
เมื่อคนรักของผมแกล้งจำไม่ได้ ผมก็เอาอย่างเขาบ้าง อยากรู้ว่าเขาจะเอ่ยถึงวันไหนบ้างที่เป็นวันแห่งความทรงจำของเราสองคน
   “มันใช่ที่ไหนเล่า ตินก็...เราเจอกันครั้งแรกวันที่รถของแม่ตินเสียอยู่หน้าโรงเรียนต่างหาก คนขับรถของลมก็ไปช่วยซ่อม วันนั้นนะ ลมบอกเขาให้ลงไปช่วยเองแหละ เพราะอยากเห็นหน้าตินใกล้ๆ ได้ยินเสียงร่ำลือมานานว่าเด็กห้องหนึ่ง ลูกอาจารย์มณีที่สอนภาษาไทยหล่อมาก สาวๆ กรี๊ดกันกระจาย เลยอยากรู้ว่าสมคำร่ำลือไหม แล้วก็นะ...หล่อสมคำร่ำลือจริงๆ”
คนรักของผมปากหวานมากครับ พูดชมผมแล้วก็หน้าแดงเสียเอง ผมจำวันนั้นได้ดี ยังจำคำพูดของแม่ด้วยว่าอยากมีลูกน่ารักแบบเขา อยากบอกแม่ที่อยู่บนฟ้านะครับว่า วันนี้ท่านสมหวังแล้ว ได้คนที่แม่อยากได้เสียด้วย
“ไม่ใช่วันรถเสียครับ วันสอบมิดเทอมวันสุดท้ายต่างหาก ตินนั่งสอบติดกับห้องของลม แล้วแม่ของตินก็เป็นอาจารย์คุมสอบห้องของลมด้วย ตินสอบเสร็จเลยมานั่งรอแม่อยู่หน้าห้อง เลยมีโอกาสนั่งรอแม่อยู่ข้างๆ ลมที่นั่งรอคุณแพทที่ยังสอบไม่เสร็จ รู้ไหมว่าวันนั้นตินแอบมองลมบ่อยๆ อยากดูว่าคนน่ารักคนนี้น่ารักมากขนาดไหน ทำไมเพื่อนในห้องถึงพากันพูดถึงแต่เด็กชื่อลมที่อยู่ห้องสอง เข้าใจวันนั้นเองครับว่าน่ารักมากอย่างนี้เอง ถึงมีแต่คนพูดถึงแล้วก็มีแต่คนรุมจีบ แต่ไม่ยักมีใครจีบติดสักคน วันนั้นตินอยากขอเบอร์ลมมาก แต่ก็ไม่ได้ขอ”
“ทำไมไม่ขอล่ะ” คณน่ารักหยุดเดินทันที
“ขอแล้วจะให้หรือครับ คนเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก”
“ให้สิ ทำไมจะไม่ให้ คนหล่อมาขอเบอร์ทั้งที ไม่ให้ก็โง่แล้ว แล้วจะบอกอะไรให้นะ วันนั้นไม่ใช่วันที่เราเจอกันครั้งแรกเสียหน่อย ตินนะแก่แล้วเลยลืม อันที่จริงแล้ว...”
คนน่ารักหยุดพูดนิดหนึ่งเพื่อจะจับมือผมที่กุมมือเขาให้โอบเข้าที่เอวเล็ก อิงศีรษะไว้ที่ต้นแขนของผม เท้าของเราสองคนก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน ตามหลังไอ้เพื่อนตัวดีของผมที่เดินไกลออกไปเรื่อยๆ
“...วันแรกที่เราเจอกันคือวันวาเลนไทน์ตอนมอสี่ ตรงตึกหนึ่งไง ตินน่ะยืนอยู่ตรงบันไดชั้นสามกับพี่ผู้หญิงมอหก พี่เขายื่นกุหลาบสีขาวให้ตินตอนที่ลมเดินขึ้นมาพอดี แล้วตินก็ยิ้มให้ลมแทนที่จะยิ้มให้พี่คนนั้น แต่ลมสะบัดหน้าหนีเพราะกลัวจะหลงเสน่ห์ตินเหมือนพี่คนนั้น กลัวว่าจะได้วิ่งไปซื้อดอกกุหลาบหน้าโรงเรียนเอามาให้ตินน่ะนะ” เขาบอกรายละเอียดได้ชัดเจนมากครับ จำได้แม้กระทั่งสีของดอกไม้
“แต่ตินจำได้ว่าไม่ใช่วันนั้นนะครับ น่าจะเป็นวันที่เราอยู่ในห้องน้ำด้วยกัน วันนั้นตินเดินเข้าห้องน้ำเห็นลมทำท่าจะฉี่ แต่พอเห็นตินก็รีบหนีเข้าไปในห้องแทน นึกแล้วขำ ไม่คิดว่าคนน่ารักจะขี้อาย ตอนนั้นลมกลัวตินเห็นหรือครับ...หึหึ”
ผมหลุดหัวเราะเสียงดังออกมาเมื่อคนน่ารักหันมาเขวี้ยงค้อนวงใหญ่ใส่ ไอ้เพื่อนผมก็หันกลับมามอง แล้วรีบหันกลับไป คงไม่อยากเห็นภาพคู่รักสวีทกัน
“ลามก”
“ก็ลมน่ารัก ตินเลยอยากมอง”
“พอเลย หยุดพูดถึงเรื่องวันนั้นนะ แล้วมันก็ไม่ใช่วันแรกที่เราเจอกันด้วย” เจ้าตัวเชิดหน้าบอก
“แล้ววันไหนละครับที่เราเจอกันครั้งแรก”
“วันที่ลมยกสมุดรายงายวิชาสังคมตามหลังอาจารย์ปรีชาไปต่างหาก ตินเดินผ่านมาตอนที่ลมทำสมุดหล่นพอดี ตินช่วยหยิบสมุดขึ้นมาให้ลม แล้วก็ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษอาสาช่วยลมยกสมุดรายงานพวกนั้น แต่...”
“แต่ลมไม่ยอม” ผมพูดแทรก
“จะยอมทำไมล่ะ แค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงห้องอาจารย์แล้ว”
“แต่ตินว่ายังไงมันก็ไม่ใช่วันแรกที่เราเจอกันอยู่ดี เหตุการณ์วันนั้นมันเกิดขึ้นหลังวันที่ลมหนีตินเข้าห้องน้ำอีกนะครับ”
“นี่ยังจะไม่หยุดใช่ไหม” คนน่ารักดุเสียงเข้ม ตาขวางจนผมไม่อยากล้อเรื่องในห้องน้ำอีก กลัวจะทำให้เขาโกรธขึ้นมาจริงๆ
“ไม่พูดแล้วครับ งั้นมานึกกันต่อครับว่าเราเจอกันครั้งแรกวันไหน...ลมว่าใช่วันฝนตกหรือเปล่าครับ ตินเห็นลมหลบฝนอยู่ใต้ตึก คิ้วนี้ผูกเป็นโบว์ สงสัยเกลียดฝนมาก”
“ก็แน่ล่ะ ใครใช้ให้มาตกวันที่ลมไม่ได้เอาลมมาล่ะ รถที่มารับลมก็ดันมาเสียกลางทางอีก แต่แล้วลมก็โชคดีนะ มีหนุ่มหล่อใจดีเดินกางร่มไปส่งถึงประตูโรงเรียน แถมยังช่วยยื่นโบกรถแท็กซี่ให้ลมตั้งชั่วโมงแน่ะ ทุกวันนี้ลมเลยไม่เกลียดฝนอีกเลย เพราะฝนมันทำให้ลมได้อยู่ใกล้ตินใต้ร่มคันเดียวกัน...ขอบคุณมากนะตินที่ทำให้ลมไม่เกลียดฝนอีกเลย”
เสียงหวานบอกผม อิงซบต้นแขนผมอีกครั้ง ผมกระชับเอวบางแน่นขึ้น แล้วดึงให้หันหน้ามาจ้องตากัน เรามองเข้าไปในตาของกันและกัน ผมเห็นความรักในตาเขาและเขาคงเห็นความรักในตาของผมเช่นกัน
“วันแรกที่เราเจอกัน...”
“วันแรกที่เราเจอกัน...”
เราสองคนพูดขึ้นมาพร้อมกัน แล้วยิ้มพร้อมกัน เราสองคนต่างจำได้ไม่ลืมถึงวันแรกที่เราพบกัน
“วันที่เราเดินชนกัน”
เขาเป็นฝ่ายพูดก่อน
“ตรงมุมตึกอาคารพละ”
ผมบอกสถานที่ที่ทำให้ผมรู้จักคำว่ารักแรกพบ...และเป็นรักเดียวตลอดมาของผม
“ตินรักลมตั้งแต่วันนั้น รักมาตลอด รักจนถึงทุกวันนี้และจะรักลมไปตลอด...ตินสัญญาครับ” ผมมั่นใจคำพูดของตัวเอง มั่นใจว่าจะทำได้ตามคำที่ให้สัญญาเอาไว้ ผมจะรักเขา จะรักเขาไปตลอดจนลมหายใจของผม...
“แต่ตินรู้ไหม...วันนั้นเป็นวันแรกที่เราเจอกันก็จริง แต่ไม่ใช่วันแรกที่ลมเห็นตินนะ ลมเห็นตินตั้งแต่เปิดเทอมวันแรกแล้วล่ะ แล้วก็ตกหลุมรักตินตั้งแต่วันนั้นเลยรู้ไหม จากวันนั้นลมก็เฝ้ามองหาตินมาตลอด”
ผมเพิ่งรู้เพราะเขาเพิ่งบอก
“เห็นครั้งแรกลมก็ตกหลุมรักเลยนะ แล้วก็...”
คนน่ารักของผมหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ ยามที่เอ่ยบอกว่า ‘ตกหลุมรักผมตั้งแต่แรกเห็น’ ผมอดใจไม่ได้ที่จะฝังจมูกลงบนแกมขึ้นสี ผมไม่ได้ดึงเขาเข้ามากอด นาทีนี้ผมอยากยืนกุมมือเขาและมองเข้าไปในตาคู่เรียวที่เอ่อล้นด้วยความรัก
“...รักมาจนถึงวันนี้และจะรักตินตลอดไปนะ”
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-06-2012 20:48:05
รอจ้ารอๆ :z2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 05-06-2012 21:07:29
หวานไม่แคร์ใครเลยนะ  :-[
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 05-06-2012 21:59:32
เอ่อ! หวานไม่แคร์สื่อจริงๆ
มดเดินตามคู่นี้เป็นกองทัพ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 05-06-2012 22:28:59
คู่นี้หวานสวนทางคู่อื่นจริงๆเลยนะเนี่ย อิอิ


ปล. ยังรออ่านคู่คุณยะกับน้องพี และ หนึ่งกับอิง อยู่นะคะ TT
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Panny ที่ 05-06-2012 22:47:16
ลมตินมาทวงบัลลังค์ความหวานไปซะแล้ว
บวกค่า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 06-06-2012 08:42:21
ติน ลม หวานไม่แคร์สื่อจริงๆ ได้ข่าวว่ามีเพื่อนเดินอยู่ด้วยนะ :o8:
ตอนนั้นหนึ่งคงน่าสงสารมาก เหี่ยวเฉาเลยทีเดียว :laugh:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 06-06-2012 17:45:52
ตินกับลมนี่สมกับเป็นคู่รักคู่หวานเลย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 06-06-2012 18:16:29
หวานไปนะย่ะ
แอร๊ยยยย!!!อิจฉา :m31:


5555555
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 07-06-2012 00:25:00
หวานกันไม่ยั้งเลยเชียวติน-ลม
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 07-06-2012 13:27:36
น่าร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 07-06-2012 14:26:18
งี้ก็เหลือรอลุ้นคู่พี่ยะ กะ คู่บอส สิคับเนี่ยยยยยย
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 08-06-2012 20:38:46


แอบเข้ามาแก้ไขค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 10-06-2012 23:31:39
เปิดจองเรื่อง นี้ ยัง ค่ะ  เห็นปกแล้ว ตกใจ  TT

ถ้าเปิดจองแล้ว ขอรายละเอียดใน PM  หน่อยค่า  ถ้ายัง แล้ว เปิดจองเมื่อไหร่  บอกเรา ทาง PM  หน่อย น้า 

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้า บอดร์
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 11-06-2012 00:10:23
เปิดจองเรื่อง นี้ ยัง ค่ะ  เห็นปกแล้ว ตกใจ  TT

ถ้าเปิดจองแล้ว ขอรายละเอียดใน PM  หน่อยค่า  ถ้ายัง แล้ว เปิดจองเมื่อไหร่  บอกเรา ทาง PM  หน่อย น้า 

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้า บอดร์

ขอบคุณที่สนใจเรื่องนี้นะคะ อย่าเพิ่งตกใจค่ะ คนเขียนแค่เห่อปก ทำปกเสร็จ แต่เนื้อหาตอนพิเศษยังเขียนไม่จบเลยค่ะ
แต่ก็แอบเอาปกมาอวด เพราะเห่อ มากกกกก
ถ้ามีการเปิดจองแล้วจะแจ้งนะคะ
ปล.แต่เรื่องรัก...เธอ แอบเสร็จแล้วค่ะ จัดอาร์ตอยู่
สีเหลืองอ่อน
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Calo love ที่ 12-06-2012 09:19:07
รอยู่นะครับพี่แอ๋ว รอหนังสือ เเละคู่อื่นๆครับ........... :pig4:

ได้อ่านเเล้วนะครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ " รักเธอ ตอนพิเศษ เรารักกัน >>น้ำจิ้มค่ะ{5/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 15-06-2012 20:50:15
ท่านใดสนใจนิยายเรื่อง รัก...เธอ และ รัก...เชิญครับ
สั่งจองได้นะคะ ตอนนี้เหลืออยู่ 8 ชุด

สนใจเมล์มาได้ที่  i_aeawแอทhotmail.com  นะคะ

(ปล.แต่ถ้าครบจำนวนแล้ว จะทำการลบโพสนี้ แต่ถ้าโพสนี้ยังอยู่ ก็แสดงว่าหนังสือยังเหลือนะคะ)
(ปล. 2 เมื่อสั่งจองเข้ามาจะตอบกลับภายใน 1 วัน หากไม่ได้รับ ลองเช็คที่ถังขยะดูนะคะ ถ้ายังไม่มีให้ติดต่อเข้ามาใหม่ หรือส่งข้อความมาทาง pm ก็ได้)

รัก...เธอ จำนวน 548 หน้า ราคา 550 บาท (รวมค่าส่งแบบลงทะเบียนแล้ว)
     -- มีตอนพิเศษรวม 8 ตอน
รัก...เชิญครับ จำนวน 620 หน้า ราคา 610 บาท (รวมค่าส่งแบบลงทะเบียนแล้ว)
     -- มีตอนพิเศษรวม 2 ตอนใหญ่ และ 11 ตอนย่อย

ของแถม -- เป็นที่คั่นหนังสือ รัก...เธอ 3 แบบ (แถมให้ทั้ง 3 แบบ แบบละ 1 อัน)
            -- เป็นที่ัคั่นหนังสือ รัก...เชิญครับ 2 แบบ + ภาพแฟนอาร์ตขนาดเท่าไปรษณีย์บัตร 1 แผ่น

เอาภาพตัวอย่างหนังสือมาให้ยลค่ะ

(http://image.free.in.th/z/if/img_05121]2.jpg) (http://pic.free.in.th/id/b7df6739ff9e682246c92f0552e4e4b7)
(http://image.free.in.th/z/it/376575_443209575731408_230020688_n2.jpg) (http://pic.free.in.th/id/7f29e1300368b6568228b4e6b7fb135b)
(http://image.free.in.th/z/th/img_04971]6.jpg) (http://pic.free.in.th/id/ffc5530a382a1eb3a3ec6a2ffbba5b7e)
(http://image.free.in.th/z/ix/img_05081]4.jpg) (http://pic.free.in.th/id/24c3715c73b7fa14ed3ce93b6bcb6f4b)
(http://image.free.in.th/z/iv/img_05071]3.jpg) (http://pic.free.in.th/id/a40ad70587408d7ec39ccd94bc166835)

บับบายนะคะ
aeaw สีเหลืองอ่อน

หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ" ตอน 32 + แจ้งรายละเอียดเปิดจองหนังสือ {16/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 16-06-2012 20:33:08
ตอนที่ 32

เมื่อท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีน้องฟ้าก็ลุกจากตักผม เอ่ยชวนด้วยรอยยิ้มแสนน่ารักและน้ำเสียงน่าฟังว่า

‘ไปสวัสดีคุณตาคุณยายของฟ้ากันนะครับ’

น้องฟ้าแทนตัวเองด้วยชื่อ ‘ฟ้า’ แทนคำว่า ‘ผม’ ตั้งแต่ที่เจ้าตัวบอกรักผมครั้งล่าสุด

‘ครับ พี่นุจะได้ไปไหว้คุณตากับคุณยายของน้องฟ้าและจะได้ขอน้องฟ้ามาดูแลต่อจากท่าน’

เมื่อผมตอบคำชวนนั้น ผมถึงได้มานั่งพับเพียบอยู่ข้างน้องฟ้าในห้องสีครีมขาว ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะตรงหน้าคือกรอบรูปของคุณตาคุณยายของคนที่ผมรัก ส่วนอัฐินั้น น้องฟ้าบอกว่าคุณตาคุณยายสั่งไว้ว่าให้นำไปลอยอังคารเสีย ไม่ต้องเก็บไว้ หากให้เก็บไว้ที่ใจ ระลึกถึงในใจ และทดแทนคุณด้วยใจ 

“คุณตาคุณยายครับ ฟ้าพาพี่นุมาสวัสดีตามที่ฟ้าสัญญาเอาไว้ครับ”

“สวัสดีครับคุณตา คุณยาย” ผมสวัสดีรูปภาพและอัฐที่เป็นตัวแทนของผู้มีพระคุณของน้องฟ้า ท่านเปรียบเสมือนพ่อและแม่ของน้องฟ้า

“เป็นไงครับพี่นุของฟ้า หล่อเหมือนที่ฟ้าบอกคุณตาคุณยายเอาไว้ไหม ไม่ใช่แค่หล่ออย่างเดียวนะ พี่นุยังใจดีกับฟ้าด้วย ใจดีมากๆ ด้วย ต่อไปคุณตากับคุณยายไม่ต้องห่วงฟ้าแล้ว เพราะฟ้ามีพี่นุคอยดูแลแล้ว ใช่ไหมครับพี่นุ”

ประโยคสุดท้ายนั้นน้องฟ้าหันมาถามผม ยิ้มน่ารักและเหมือนเด็กมาก เหมือนเด็กที่พาเพื่อนมาอวดพ่อกับแม่ แต่กรณีของน้องฟ้าเป็นการเอาแฟนมาอวดตากับยาย

“คุณตาคุณยายครับ ผมสัญญาว่าจะดูแลน้องฟ้าให้ดีที่สุด ให้ดีเหมือนที่คุณตากับคุณยายดูแลน้องฟ้ามาตลอด แล้วผมก็สัญญานะครับว่าจะไม่ทำให้น้องฟ้าเสียใจและเสียน้ำตาเพราะผม”

ผมหวังว่าท่านจะรับรู้ความรักและความจริงใจที่ผมมีให้กับหลานรักของท่านคนนี้

“แต่ถ้าฟ้าร้องไห้เพราะความใจดีของพี่นุที่มีต่อฟ้า ไม่เกี่ยวกันนะครับคุณตาคุณยาย แล้วถ้าร้องเพราะความเข้าใจผิดของฟ้าเองก็ด้วยนะ ถือว่าพี่นุไม่ได้ผิดสัญญา คุณตาคุณยายก็ห้ามโกรธพี่นุนะครับ”

ผมขำคนที่รีบออกโรงปกป้องคำสัญญาของผมทันทีที่ผมพูดจบ น้องฟ้าหันมายิ้มเจื่อนๆ ให้ผม เจ้าตัวทำหน้ายุ่งนิดๆ 

“ก็ฟ้าชอบร้องไห้ เดี๋ยวคุณตาคุณยายไม่เข้าใจ พาลจะโกรธพี่นุเอา” เด็กน้อยรีบอธิบาย

“ขอบคุณครับ”

ผมวางมือบนกลุ่มผมนุ่ม แล้วลูบไล้เบาๆ คนน่ารักเริ่มน้ำตาซึมเพียงแค่ผมพูดคำว่าขอบคุณ

“ผมก็ขอบคุณพี่นุเหมือนกันครับ ถ้า...ถ้า...วันนั้น...”

เจ้าตัวพูดเสียงเครือติดจะสั่นๆ  ผมเข้าใจครับว่าหมายถึงวันไหน วันที่น้องฟ้าบอกว่าไม่ต้องการให้ผมรับผิดชอบ แต่ผมก็ดื้อดึงและดื้อจนชนะ

“...ถ้าพี่นุไม่ดื้อที่จะรับผิดชอบฟ้า ไม่ใจดีกับฟ้า ฟ้าคงไม่มีวันนี้ วันที่ได้รักพี่นุ”

“แต่ถ้าน้องฟ้าไม่ให้โอกาสพี่ในคืนนั้น...”

ผมหมายถึงคืนแรกที่รีสอร์ทนั่น บนเตียงที่เราสองคนใช้ร่วมกันเป็นค่ำคืนแรกของกันและกัน และคนข้างกายผมที่หันหน้ามาฟังผมพูดก็หน้าแดงขึ้นมาทันที 

“...พี่นุก็คงไม่ได้รักน้องฟ้าอย่างทุกวันนี้”

ผมเอาคำของน้องฟ้ามาใช้บ้าง เจ้าตัวมองสบตากับผมอยู่นาน ก่อนจะหันกลับไปหาคุณตาคุณยายของตัวเอง

“พี่นุปากหวานมากเลยครับคุณตาคุณยาย ฟ้าคงต้องเป็นเบาหวานแน่ๆ ... รับผิดชอบฟ้าด้วยนะครับพี่นุ” ในประโยคสุดท้ายคนน่ารักพูดกับผม แต่ไม่มองหน้าผมเลย เสี้ยวหน้าหวานยังคงแดงและแดงกล่ำมากยิ่งขึ้น

“จะรับผิดชอบไปจนชั่วชีวิตเลยครับ” ผมบอก ส่งสายตาหวานแสดงความรักที่มีให้รู้เมื่อน้องฟ้าหันกลับมามองหน้าผม มองสบตากับผม แล้วหันกลับไปที่รูปของคุณตาคุณยายของตนเองอีกครั้ง

“คุณตาคุณยายครับ ได้ยินไหมว่าพี่นุจะรับผิดชอบฟ้าไปตลอดชีวิตเลย พี่นุของฟ้าน่ารักที่สุดในโลกเลยเนอะ”

คำพูดเหมือนเด็ก สีหน้าและท่าทางก็เหมือนเด็กไม่ผิดเพี้ยนเลยครับ ทั้งที่ตัวไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ก็น่าเอ็นดู  จนผมเผลอหอมแก้มนวลไปโดยไม่รู้ตัว 

“พี่นุ...บ้า ต่อหน้าคุณตาคุณยายนะครับ” คนโดนขโมยหอมแก้มโวยวายเสียงเบา แต่ไม่ทำอะไรมากไปกว่านั้น

“ท่านจะได้เห็นไงครับว่าพี่นุรักน้องฟ้าจริงๆ”

ผมพูดขำๆ แต่คนฟังไม่ขำ กลับอายหนักกว่าเดิม ก้มหน้างุด จนต้องขยับเข้าไปใกล้ เชยคางมนขึ้นมามองหน้า มองอยู่อย่างนั้น โดยที่ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา ผมชอบมองใบหน้าน่ารักของคนๆ นี้ คนที่น่ารักและใจดี บ่อยๆ ที่น้องฟ้าบอกว่าผมเป็นคนใจดี แต่ที่ผมรู้ คนน่ารักของผมคนนี้ ใจดีกว่าผมเยอะ และยังอ่อนหวานได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องเสริมแต่ง

“...พี่นุชอบแกล้งฟ้าครับคุณตาคุณยาย” เจ้าตัวหันไปฟ้องรูปคุณตาคุณยายแก้เขิน แต่แล้วก็ถูกผมจับใบหน้าน่ารักให้หันมาสบตากันอีกครั้ง

“ชอบแกล้ง...แล้วรักไหมล่ะครับ” ผมถาม อยากจูบปากบางที่ขบเม้นแก้อาการอาย แต่ต้องห้ามใจเอาไว้ ไม่อยากรังแกหลานคุณตาคุณยายต่อหน้ารูปภาพของท่าน

“รักครับ” น้ำเสียงที่ตอบแสนเบา ทว่าฟังแล้วก็ชื่นใจ

“คุณตาคุณยายครับ ยกหลานชายคนน่ารักคนนี้ให้ผมดูแลเขาและรักเขานะครับ”

ผมหยิบกล่องสีนวลจากกระเป๋าเสื้อ เปิดฝากล่อง หยิบแหวนที่ผมเห็นบนนิ้วของคุณพ่อมาตั้งแต่จำความได้ขึ้นมา แหวนทองเก่า ตัวเรือนประดับทับทิมสีแดงเม็ดเล็ก แหวนดูเรียบง่ายเพราะตัวเรือนไม่ได้ประดับเพชรหรือสิ่งใดเลยนอกจากทับทิมเพียงเม็ดเดียว แต่กลับมีความสำคัญที่ตีค่าเป็นตัวเงินไม่ได้ แหวนที่ล่วงเลยวันเดือนปีมานาน แหวนที่คุณหญิงแม่สวมให้คุณพ่อในวันแต่งงาน แหวนที่คุณพ่อและคุณหญิงแม่ผมเต็มใจยกให้ลูกชายคนใหม่ของท่าน

คุณพ่อและคุณหญิงแม่ของผมไม่แปลกใจหรือมีทีท่าตกใจอะไรมาก เมื่อผมบอกว่าผมรักน้องฟ้า นั่นเพราะก่อนที่จะออกจากคอนโด ช่วงที่คุณฟ้าเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าในห้อง ผมโทรไปพี่ยะถามเรื่องที่เกิดขึ้นคร่าวๆ แล้วขอให้พี่ยะช่วยเกริ่นเรื่องของผมกับน้องฟ้าให้ท่านทั้งสองรู้ เพราะผมไม่อยากให้น้องฟ้าคิดมากหรือเจอท่าทีที่ตกอกตกใจของพวกท่านจนทำให้บ่อน้ำตาแตก ผมรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่ของผมไม่ได้รังเกียจความรักในรูปแบบนี้ แต่ท่านอาจจะมีตกใจบ้าง ถ้าไม่รู้เรื่องนี้หรือเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้เสียก่อน ผมถึงต้องพึ่งพี่ยะ แล้วดูเหมือนท่านทั้งสองเองก็ชอบและเอ็นดูน้องฟ้าของผมมาก โดยเฉพาะคุณหญิงแม่ ท่านพยายามจะไม่โอดครวญถึงเรื่องของน้องเนย คงกลัวน้องฟ้าของผมจะคิดมาก ส่วนเรื่องน้องเนยท่านคงมีวิธีจัดการในแบบของท่านเอง

“คุณตาคุณยายอนุญาตแล้วนะครับ” ผมบอกน้องฟ้า พลางจับมือนิ่มข้างซ้ายขึ้นมา นิ้วในมือผมสวยทุกนิ้วยาวและเรียวคล้ายเชิงเทียน แต่ผมก็ให้ความสำคัญกับนิ้วนางเหนือกว่าทุกนิ้ว

 “คุณพ่อพี่รักแหวนวงนี้มากนะครับ มันเป็นแหวนแต่งงานของท่าน ท่านใส่มาตลอดตั้งแต่วันที่ท่านแต่งงานกับคุณแม่พี่ ท่านให้พี่มาเพราะท่านเชื่อว่าแหวนที่ท่านรักจะไปอยู่บนนิ้วของคนที่พี่รักมากที่สุด คนที่จะเป็นคู่ชีวิตของพี่ น้องฟ้าคือคนนั้น พี่รักน้องฟ้านะครับ”

ผมบอกคนที่มองตาผมไม่กระพริบ น้ำตาเอ่อล้นในหน่วยตา

“ฟ้าก็รักพี่นุมากนะครับ” เจ้าตัวบอกเสียงสั่น คงอยากร้องไห้ออกมาจะแย่อยู่แล้ว แต่ก็พยายามจะกลั้นเอาไว้

“แหวนวงนี้คือหัวใจของพี่นุ พี่นุให้น้องฟ้าดูแลมันแล้วนะครับ” ผมค่อยๆ สวมแหวนทับทับสีแดงสวยที่ยังไม่ได้เอาไปเข้าตัวเรือน ทั้งยังไม่ใช่ฤกษ์ที่คุณหญิงแม่เตรียมให้ แต่ผมถือเอาว่าเป็นฤกษ์ที่คุณตาคุณยายของน้องฟ้าให้ แล้วผมก็สวมแหวนให้หลานของท่านต่อหน้าท่าน ท่านจะได้อุ่นใจและรู้ว่าผมรักหลานของท่านจริง ไม่ใช่เพราะความหลงใหล แม้จะใช้เวลาเรียนรู้กันเพียงไม่นาน 

“ขอบคุณครับ” น้ำตาเม็ดใสค่อยๆ ไหล มือนิ่มยกขึ้นไหว้ก่อนจะวางมันไว้ที่อกของผม

“หลวมไปหน่อยแต่ไม่เป็นนะครับ พรุ่งนี้เราเอาไปตัดเรือนด้วยกัน” ผมบอก พลางดึงใบหน้าสวยขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ เมื่อน้ำตาหมดจากแก้มนั้น ผมจึงค่อยๆ ประทับจูบลงบนผิวแก้มชื้นเต็มไปด้วยความรักในตัวเจ้าของแก้มนี้

“ขอบคุณครับ” คนน่ารักเจ้าน้ำตายังพูดประโยคเดิม ก่อนจะเป็นฝ่ายจูบแก้มผมบ้าง

“สวมก่อนฤกษ์ที่คุณแม่พี่หาให้ ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ”

“ไม่เป็นไรครับ ฟ้าดีใจด้วยซ้ำที่พี่นุสวมแหวนให้ฟ้าวันนี้ สวมต่อหน้าคุณตากับคุณยายด้วย ท่านจะได้เห็นไงครับว่าหลานชายของท่านมีคนดูแลแทนแล้วจริงๆ” น้องฟ้าบอกแล้วยิ้มเต็มหน้า ใบหน้าที่ดูมีความสุข ทำเอาผมมีความสุขไปด้วย

“พอเอาไปตัดตัวเรือนแล้ว เราค่อยสวมต่อหน้าคุณพ่อคุณแม่ของพี่อีกครั้งนะครับ สวมสองครั้งจะได้รักกันมากขึ้นอีกสองเท่า” ความคิดนี้เข้าท่าดีไหมครับ ผมคิดเองเลยนะ

“ไปเอามาจากไหนครับ สวมสองครั้งรักกันสองเท่า ฟ้าไม่เคยได้ยิน”  น้องฟ้าว่า

“เอามาจากพี่นี่แหละครับ”

“ท่าจะจริง” น้องฟ้าว่าแล้วหัวเราะ ไม่บ่อยนะที่น้องฟ้าจะหัวเราะ ส่วนมากเจ้าตัวจะทำหน้าตาน่ารักและก็ยิ้มหวานเท่านั้น

“คุณตาคุณยายช่วยอวยพรให้ฟ้ากับพี่นุด้วยนะ ขอให้พี่นุรักฟ้าไปนานๆ รักตลอดไปนะครับ” น้องฟ้าหันไปพูดกับรูปคุณตาคุณยายอีกครั้ง ทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้

“คุณตาคุณยายช่วยไม่ได้หรอกนะครับน้องฟ้า น้องฟ้าต้องขอพี่นุสิครับ ขอแล้วพี่นุจะให้อย่างที่น้องฟ้าขอทุกอย่าง”

แล้วน้องฟ้าก็ทำตามคำบอกของผมทันที

“ฟ้าขอให้พี่นุรักฟ้ามากๆ”

“ได้ครับ พี่นุจะรักน้องฟ้ามากเท่าชีวิต”

“ฟ้าขอให้พี่นุรักฟ้าตลอดไป”

“ได้ครับ พี่นุจะรักน้องฟ้าตลอดไป รักไปตลอดกาล”

“ขอบคุณครับ” เป็นอีกครั้งที่น้องฟ้ากราบลงบนอกผม ผมรวบร่างผอมเพรียวเข้ามากอด โยกตัวคนในอ้อมแขนไปมา

“น้องฟ้าก็ต้องดูแลความรักของพี่ด้วยนะครับ” ผมกระซิบบอกผ่านกลุ่มผมนุ่มหอม

“สัญญาครับว่าฟ้าจะดูแลความรักของพี่นุให้ดีที่สุด จะดูแลรักษาให้ดีเท่าชีวิตของฟ้าเลยครับ” สุ้มเสียงหวานหลุดลอดมาจากอ้อมอกผม

“นอกจากนี้น้องฟ้าก็ต้องรักพี่ให้มากๆ และรักตลอดไปด้วยนะครับ”

“ครับ ผมจะรักพี่นุให้มากๆ และรักตลอดไปครับ สัญญา” คราวนี้เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมาบอกผ่านคำพูดและสายตาที่จริงจัง

“ขอบคุณครับ” เป็นผมบอกที่เอ่ยคำพูดนี้กับหน้าผากเกลี้ยง จูบซับอยู่นานจนพอใจ แล้วบอกคำหวานซ้ำอีกครั้งว่า

“พี่รักน้องฟ้านะครับ”

คนแสนน่ารักพยักหน้ารับ

“ฟ้าก็รักพี่นุครับ”


น้ำฟ้ายิ้มให้คนตรงหน้า เมื่อเอ่ยคำพูดที่เอ่อล้นอยู่ในอกออกมา หมอพิษณุก็ยิ้มตอบรอยยิ้มนั้นของคนที่เขารัก

“ลงไปข้างกันเถอะครับ ป่านนี้พี่ฝนคงเตรียมกับข้าวเรียบร้อยแล้ว”

น้ำฟ้าบอกคุณหมอหนุ่ม และหันไปรูปของคุณตาคุณยาย ที่ ณ ตอนนี้ท่านทั้งสองได้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่ก็ยังคงอยู่ในความรักและความระลึกถึงของเด็กกำพร้าที่ท่านทั้งสองเลี้ยงดูจนเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้

“ผมไปก่อนนะครับคุณตาคุณยาย แล้วจะพาพี่นุมาเยี่ยมคุณตาคุณยายอีกนะครับ”

“แล้วผมจะมาเยี่ยมคุณตาคุณยายบ่อยๆ นะครับ”

มือเล็กวางลงบนอุ้งมือใหญ่ที่ยื่นมาตรงหน้าให้เขาจับเพื่อลุกขึ้น จากนั้นหมอพิษณุก็กระชับมือเล็กและพากันเดินออกจากห้องบนชั้นสองสู่ตัวบ้านด้านล่าง และไม่ว่าจะวันไหน เวลาไหน หมอพิษณุจะจับมือน้ำฟ้าอย่างนี้ไปตลอด ไม่มีวันทอดทิ้งและไม่มีวันจะหมดรัก เพราะน้ำฟ้าน่ารักและแสนดีจนหมอพิษณุรักจนหมดหัวใจไปแล้ว...

เช่นเดียวกับน้ำฟ้า น้ำฟ้ารักหมอพิษณุด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี

ความรักของน้ำฟ้าและหมอพิษณุ แม้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าแปลกใจ แต่คนสองคนกับหัวใจสองดวงที่รักกัน เวลาที่ทำให้รักกันอาจไม่นาน แต่เวลาที่จะจับมือกันเดินไปข้างหน้านั้น มันยาวนานและจะตลอดไป

>>>>> End <<<<< :bye2: :bye2:


คนเขียนขอคุย :: 1. จบแล้วนะคะ กับเรื่อง รัก...เชิญครับ (ตอนจบสั้นๆ นะคะ) ไม่มีอะไรมากเล๊ย เรียกว่าเป็นตอนพิเศษสั้นๆ ล่ะกันเนอะ
      2. เรื่องต่อไปเจอกันได้กับ รัก...ได้ไหม (อิงหนึ่ง)
      3. แอบลืมบอกไปว่า ตอนพิเศษตินลม ตอนล่าสุดที่เอาลงไป มันไม่จบนะคะ เอาลงแค่ครึ่งเดียว แต่อีกครึ่งเนื้อเรื่องไม่เกี่ยวกันเท่าไหร่ แค่อาศัยโลเคชั่นเดียวกันเท่านั้นเอง
      แล้วก็รอตอนพิเศษตินลม อีก 1 ตอนนะคะ เดี๋ยวจะเอามาลงค่ะ
      4. เปิดจองหนังสือแล้วน้าาาา ราคาอาจจะแพงบ้างนิดหน่อยนะคะ T^T ถ้าสนใจสั่งจองได้นะคะ
      5. ขอบคุณที่ติดตามอ่าน ทำให้นิยายของคนเขียนไม่แห้งแล้งจนเกินไป  และขอบคุณทุกเม้นนะคะ อ่านแล้วดีใจ เป็นกำลังใจได้อีกเยอะ ^^
      6. จบแล้วจริงๆ ใจหายยย~~~~

บับบาย
สีเหลืองอ่อน ^^’ :pig4:
 






 
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ" ตอน 32 + แจ้งรายละเอียดเปิดจองหนังสือ {16/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Calo love ที่ 17-06-2012 13:41:04
ส่งอีเมล์สั่งจองไปแล้วนะคัรบพี่แอ๋ว.................มีส่งแค่ทางไปรษณีย์ใช่ไหมครับ
อยากทราบว่าหากพี่แอ๋ว อยู่ใน กทม.อยากจะให้มีนัดรับหนังสือด้วยๆๆๆ อยากเจอคนแต่งๆๆๆ :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ" ตอน 32 + แจ้งรายละเอียดเปิดจองหนังสือ {16/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Panny ที่ 17-06-2012 16:20:07
เบาหวานขึ้นตามากมาย

ขอบคุณมากคนแต่งอีกครั้งค่ะ เป็นอีกเรื่องที่น่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ" ตอน 32 + แจ้งรายละเอียดเปิดจองหนังสือ {16/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 17-06-2012 16:33:11
จบได้น่ารักมาก
รักไม่ต้องการเวลา
สำหรับคู่นี้จริงๆ :L1:

ขอบคุณ :pig4:สำหรับนิยาย
ที่น่ารักนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ" ตอน 32 + แจ้งรายละเอียดเปิดจองหนังสือ {16/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 22-06-2012 02:41:46
คุณหมอจะหวานไปไหนเนี่ย

แอบอิจฉาุคุณฟ้าเล็กๆนะเนี่ย ที่ได้ีูคุ่ที่ชีวิตที่ดีที่น่ารักขนาดนี้

ขอบคุณผู้แต่งสำหรับเรื่องราวสนุกๆน่ารักๆอย่างนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ" ตอน 32 + แจ้งรายละเอียดเปิดจองหนังสือ {16/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: palm-metto ที่ 29-06-2012 15:26:45
 :o8: :o8:
อ๊ากกก
จบแล้ววว
จบแบบ สนุกสนานแฮปปี้เอนดิ้งมาก ๆเลย
ชอบบ

มันหวาน
แบบ เลี่ยนมากๆ

รวมถึงคู่ ติณกะลมด้วย
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ" ตอน 32 + แจ้งรายละเอียดเปิดจองหนังสือ {16/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 01-07-2012 20:43:49
จบแล้วววว
เย้ แฮปปี้เอนดิ้ง
สนุกมากจ้า ขอบคุณคนแต่งสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
รออ่านเรื่องต่อไปน้าา

รัก...ได้ไหม
ชื่อเรื่องก็ปวดใจแย้ว T^T  หวังว่าจะดราม่าไม่มากนะคะ
+1 ส่งท้ายย และต้อนรับเรื่องใหม่จ้า
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ" ตอน 32 + แจ้งรายละเอียดเปิดจองหนังสือ {16/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 01-07-2012 21:05:48
อ่านแล้วอิจฉาคุณฟ้าจริงๆ ที่มีคนรักทั้งดีทั้งรักจริง
ตอนนี้หวานมากๆ
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ" ตอน 32 + แจ้งรายละเอียดเปิดจองหนังสือ {16/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 01-07-2012 22:34:37
:o8: :o8:
อ๊ากกก
จบแล้ววว
จบแบบ สนุกสนานแฮปปี้เอนดิ้งมาก ๆเลย
ชอบบ

มันหวาน
แบบ เลี่ยนมากๆ

รวมถึงคู่ ติณกะลมด้วย
 :กอด1: :กอด1:

ขอบคุณที่ชอบค่ะ
แต่มันหวานเลี่ยนมากไปไหม
แอบอยากบอกว่า ตอนพิเศษมันจะเลี่ยนกว่านี้อีก 555+
คนเขียน เขียนแล้วยังเลี่ยนเล๊ยยยยยยยย เลี่ยนเกิ๊น แต่แก้ไขไม่ได้ เพราะบทมันส่งให้หวานเลี่ยน 555

จบแล้วววว
เย้ แฮปปี้เอนดิ้ง
สนุกมากจ้า ขอบคุณคนแต่งสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
รออ่านเรื่องต่อไปน้าา

รัก...ได้ไหม
ชื่อเรื่องก็ปวดใจแย้ว T^T  หวังว่าจะดราม่าไม่มากนะคะ
+1 ส่งท้ายย และต้อนรับเรื่องใหม่จ้า


เรื่อง รัก...ได้ไหม
คาดว่าจะพยายามไม่ดราม่าคร้าาาาา จะเขียนให้ซอฟที่สุด จะไม่ให้มีน้ำตาซึมเด็ดขาด หวังๆ นะคะ

คนเขียนจ้าาา
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ" ตอน 32 + แจ้งรายละเอียดเปิดจองหนังสือ {16/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Calo love ที่ 02-07-2012 09:33:57
ขอบคุณที่ชอบค่ะ
แต่มันหวานเลี่ยนมากไปไหม
แอบอยากบอกว่า ตอนพิเศษมันจะเลี่ยนกว่านี้อีก 555+
คนเขียน เขียนแล้วยังเลี่ยนเล๊ยยยยยยยย เลี่ยนเกิ๊น แต่แก้ไขไม่ได้ เพราะบทมันส่งให้หวานเลี่ยน 555

เรื่อง รัก...ได้ไหม
คาดว่าจะพยายามไม่ดราม่าคร้าาาาา จะเขียนให้ซอฟที่สุด จะไม่ให้มีน้ำตาซึมเด็ดขาด หวังๆ นะคะ

คนเขียนจ้าาา




รอติดตามเรื่องใหม่นะครับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ใจ จด ใจ จ่อ :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: " รัก........เชิญครับ" ตอน 32 + แจ้งรายละเอียดเปิดจองหนังสือ {16/06/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 03-07-2012 20:02:33
มารอติดตามเรื่องใหม่ค่า

ปล. เดี๋ยวจะเมลไปสั่งจองค่า แต่แอบงงทำไมถึงปิดโอนเงินก่อนปิดจองอ่ะค่ะ แหะๆๆ ^^
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนพิเศษ-นุฟ้า + รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {3/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 03-07-2012 21:43:33
คนโพสขอเม้าท์  วันนี้เหนื่อยสายตัวแทบขาด กำลังจะนอน ได้ยินเสียงน้องไอ (โฟน) ดัง ตึ๊ง ๆๆๆ  :z3: :z3: ติดๆกัน

เอาหล่ะเหวย   สะดุ้งลุกในบัดดลว่า  ต้องเป็นน้องแอ๋วคนแต่ง  ข้อความมาหา(รึมาทวงการบ้านหว่า) :z13:

เมือคิดได้กระนั้น จึงดีดตัวอย่างแรง เพื่อเปิดเล้าเป็ดแล้วโพส ตอนพิเศษ  ของ คุณหมอนุ กะน้องฟ้า ให้ ทุกๆท่านรับชิม นะขอรับ
 
เชิญรับชม  รับชิมค่ะ
  :pig2:


บางส่วนจากตอนพิเศษรัก...เชิญครับ (ตอน...บางสิ่งที่อยากขอ บางอย่างที่อยากได้)
*** ส่วนนี้...คนเขียนเห็นว่ามันน่ารักดี (ส่วนตัวล้วนๆ) เลยแอบอยากให้อ่านกัน
แต่ส่วนอื่น (ของตอนนี้) ไม่ได้เอามาลงให้นะคะ T^T



ด้านหน้าหาดมีโต๊ะและเก้าอี้ที่ถูกคลุมทับด้วยผ้าสีขาวสะอาดตาผูกริบบิ้นฟ้าน้ำทะเล ปลายริบบิ้นสะบัดไหวไปตามแรงลมยามค่ำ ทั่วบริเวณประดับด้วยแสงไฟจากตะเกียงที่ตั้งอยู่รายรอบ ชวนโรแมนติกด้วยบทเพลงบรรเลงแสนหวานที่ดังเพียงเบาๆ คัพเค้กถ้วยเล็กน่ารักถูกแจกจ่ายด้วยมือของเจ้าของงาน หมอพิษณุและน้ำฟ้าอยู่ในชุดเหมือนกันคือชุดผ้าฝ้ายเนื้อนิ่มสีขาวพิมพ์ลายดอกไม้เล็กๆ
แขกในงานมีเพียงสามสิบกว่าคน   
“อะไรนะครับพี่ฟ้า พี่ฟ้าจะให้ตามกับดาวออกไปเต้นรำ” เด็กชายตามใจถามย้ำ ไม่แน่ใจว่าตัวเองฟังผิดไปหรือเปล่า หันไปมองเพื่อนคนเดียวของตัวเองก็ทำหน้าเต็มใจสุดๆ
“ตามก็ พี่ฟ้าก็พูดออกชัด ดาวยังได้ยินเลย” สาวน้อยดวงดาวว่า เธอตักคัพเค้กคำสุดท้ายเข้าปากต่อ
“ออกไปเต้นเปิดงานให้พี่หน่อยนะตาม ดาว” น้ำฟ้าบอกอีกครั้ง เขาอยากเต้นรำกับหมอพิษณุ แต่ไม่กล้าออกไปเต้นคู่แรก ถึงแม้จะเป็นเจ้าของงานก็เถอะ เพราะเขาอาย แล้วอีกอย่างคือน้ำฟ้ารู้มาว่า ดวงดาวกับตามใจเคยอยู่ชมรมเต้นรำมาก่อนตอน
“ได้ค่ะพี่ฟ้า” เด็กดวงดาวยิ้มอย่างยินดี ผิดกับตามใจที่ยังอายๆ อยู่
“จะดีหรือดาว” ตามใจถามเพื่อน แล้วก็หันไปมองรอบงาน มีที่รู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง ตามใจเลยอาย
“ดีสิตาม ทำไมจะไม่ดีล่ะ ถ้าไม่ดีแล้วพี่ฟ้าจะให้เราเต้นออกไปเต้นทำไม เนอะพี่ฟ้าเนอะ” สาวน้อยทำเสียงดุเพื่อนที่กลัวไม่เข้าเรื่อง
“ตามกับดาวช่วยพี่หน่อยนะ กลับกรุงเทพแล้วพี่จะเพิ่มเงินเดือนให้ดาว แล้วพี่ก็จะเพิ่มเวลาทำงานให้ตามด้วย” น้ำฟ้าบอก
“งั้นก็ได้ครับ” ตามใจรับคำทันทีไม่มีอิดออด ไม่อายมันแล้วงานนี้ เขาอยากทำงานเยอะๆ ได้เงินมากๆ
“งั้นก็ไปกัน” ดวงดาวคว้าแขนตามใจ ทำท่าจะดึงให้ลุกขึ้น แต่น้ำฟ้ารั้งไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวๆ นะ เดี๋ยวพี่ของบรีฟอะไรอีกนิดหน่อยนะ” น้ำฟ้าบอก พลางก็ยิ้มหวานให้หมอพิษณุที่เดินเข้ามานั่งข้างๆ
“บรีฟอะไรคะพี่ฟ้า” สาวน้อยน่ารักถาม
“อย่างนี้นะ พอดาวกับตามเต้นจบเพลงแรกแล้วใช่ไหม ให้ดาวไปดึงพี่ยีนกับพี่แดนขึ้นไปเต้นนะ ส่วนตามก็ไปดึงเอาพี่เก้ากับพี่แอน”
เก้ากับแอนคือพนักงานคนใหม่ของร้านเชิญครับ ที่น้ำฟ้ารับเข้ามาทำงานเพราะเขาจะได้มีวันหยุดพักผ่อนกับคนรักอาทิตย์ละสองวัน
“ได้ค่ะ”
“ได้ครับ”
ดวงดาวและตามใจรับปากพร้อมกัน แล้วทำท่าจะลุกขึ้นไปหน้าเวที ซึ่งก็คือหาดทรายตรงหน้าที่มีซุ้มดอกกุหลาบสีขาวอยู่ด้านหลัง แต่น้ำฟ้าก็ดึงแขนไว้เพราะยังบอกไม่หมด
“ยังไม่หมดนะ ฟังพี่ก่อน พอจบเพลงที่สองดาวก็ไปดึงพี่ป้องกับพี่ปั้นนะ แล้วตามก็ไปดึงพี่คมกับพี่หญิงนะ”
“โหยพี่ฟ้าขา งั้นดาวว่านะคะ ดาวกับตามดึงทุกคู่เลยดีไหมคะ” ลูกน้องสาวของน้ำฟ้าว่า
“ดีมากเลยดาว ตามนี้นะ แต่ว่า...ห้ามมาดึงพี่กับคุณหมอเด็ดขาด เข้าใจนะ”
“อ้าว แล้วพี่ฟ้ากับคุณหมอไม่เต้นเหรอครับ” ตามใจถามอย่างสงสัย
“เถอะน่า เดี๋ยวพี่กับคุณหมอก็หาจังหวะไปเต้นเองแหละ ไปเถอะ ไปเต้นเปิดงานให้พี่หน่อย”
“ครับ”
“ค่ะ”
เด็กชายตามใจและสาวน้อยดวงดาวเดินไปแล้ว ทั้งโต๊ะจึงเหลือแค่เจ้าของงานเลี้ยงสองคน
“อายหรือครับ” หมอพิษณุเอ่ยปากถาม หลังจากที่นั่งฟังคนรักสั่งการเด็กตามใจและดวงดาวด้วยอารมณ์ขำๆ 
“ก็มันอายๆ เขินๆ ยังไงไม่รู้ครับ” น้ำฟ้าบอก
“แล้วพี่นุจะได้เต้นรำกับน้องฟ้าไหมเนี้ย” หมอหนุ่มแกล้งถาม ดึงมือคนรักมากุม ทำตาปริบๆ
“ได้สิครับ แต่เรารอให้คนเต้นเยอะๆ ก่อนนะครับพี่นุ ขืนออกไปเต้นตอนนี้ ขาฟ้าได้ขวิดกันแน่ อายคมกับเอ็มด้วย สองคนนี้มันชอบล้อฟ้าอยู่ด้วย” ประโยคสุดท้าย น้ำฟ้าบอกเหมือนจะฟ้องคนรัก
คมกับเอ็มคือเพื่อนสนิทของน้ำฟ้า ว่าไปแล้วงานเลี้ยงริมหาดคืนนี้ มีเพื่อนของน้ำฟ้ามาแค่สามคน คนที่สามก็คือน้ำนนท์ คนที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตรงโต๊ะตัวหน้าสุด เพราะคนที่มาพร้อมกันกลับไปเต้นรำกับคนอื่นแทน
“พี่นุ ดูนั่นสิครับ คุณอิงกับคุณหนึ่ง เต้นรำด้วยกันด้วย”
น้ำฟ้าชี้ให้หมอพิษณุดูคนทั้งคู่ อันที่จริงน้ำฟ้าเห็นตั้งแต่ตอนที่ตามเดินไปดึงอชิตะกับคณิตแล้วล่ะ แต่ไม่คิดว่าจะยอมออกมาเต้นด้วยกัน เพราะตั้งแต่เข้างานมา น้ำฟ้าไม่เห็นคนทั้งคู่คุยกันเลย แทบจะไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำ นั่งก็นั่งคนละโต๊ะ อาศัยแค่เดินเข้างานมาพร้อมกันเท่านั้น
“ยังไม่ดีกันอีกหรือครับ” ถามเพราะอยากรู้ น้ำฟ้าไม่รู้เรื่องของอชิตะกับคณิตว่าเป็นยังไงแล้ว เพราะหมอพิษณุไม่เคยเล่าให้ฟัง แล้วเขาก็วุ่นเกินกว่าจะมีเวลาถาม
“ก็น่าจะดีขึ้นกว่าเดิมครับ”
“หรือครับ”
น้ำฟ้ายังจับตามองคนทั้งคู่ที่เต้นแทบจะแยกออกไปจากกลุ่มคู่เต้นคู่อื่นๆ ไม่ได้ดูคู่อื่นๆ เต้นเลย แต่แล้วน้ำฟ้าก็หันหน้าหนีแทบไม่ทัน เมื่อจู่ๆ อชิตะก็ก้มลงไปจูบปากคณิต
“เป็นอะไรไปครับ อายเหรอ?” หมอพิษณุถามขำๆ เพราะอาการหันหน้าหนีภาพตรงหน้าของน้ำฟ้า หมอหนุ่มก็เห็นเหมือนคนรัก เห็นเพื่อนจูบลูกน้องคนสนิทที่เลื่อนขั้นกลายเป็นคนรักไปแล้ว
“ก็อายสิครับ หรือพี่นุไม่อาย ชอบดูคนอื่นจูบกันหรือครับ” คนน่ารักของหมอพิษณุถามอย่างงอนๆ เพราะโดนล้อ
“ไม่ชอบดูคนจูบกันหรอกครับ แต่ชอบจูบเองมากกว่า” ไม่พูดเปล่า หมอหนุ่มรีบฉกริมฝีปากบางทันที ทำเอาคนโดนจูบทำตาโตเพราะตกใจ ก่อนจะเขินแบบสุดๆ เมื่อแขกของงานต่างส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดและโห่ร้องด้วยความถูกใจ น้ำฟ้าไม่รู้ตัวเลยว่าแขกของงานน่ะพากันจับตามองเจ้าของงานสองคนอยู่ตลอดเวลา
“พี่นุ ฟ้าบอกว่าแล้วอย่าทำ” เจ้าตัวโวยวายอย่างอายๆ
“ทุกคนเขาอยากเห็นนะครับ ไม่ทำงานมันก็ไม่สมบูรณ์” หมอพิษณุว่ายิ้มๆ ก่อนที่เขาจะเดินมานั่งข้างน้ำฟ้า พี่สะใภ้ของเขาก็เข้ามากระซิบว่าให้จูบน้องชายตัวเองโชว์แขกหน่อย ไม่อย่างนั้นงานมันจะกร่อย
“.....” น้ำฟ้าพูดไม่ออก เพราะเขินสายตาทุกคนเกินกว่าจะเอ่ยคำใดออกมาได้ในเวลานี้
“พี่ฟ้าครับ ออกไปเต้นได้แล้วครับ” เด็กชายตามใจเดินยิ้มเข้ามาบอก เด็กน้อยรับหน้าที่มาจากแขกหลายๆ คนของหมอพิษณุและน้ำฟ้า
“พี่บอกแล้วไงตามว่าห้ามมาเรียกพี่ไปเต้น” น้ำฟ้าดุเสียงเบา ไม่กล้าดุเสียงดังเพราะเขายังตกเป็นเป้าสายตาอยู่ ทุกคนหยุดเต้นกันหมดแล้ว
“ตามไม่ได้ขัดคำสั่งพี่ฟ้านะครับ แต่พี่ๆ เขาสั่งตามมา” ตามใจบอกเสียงอ่อย ด้วยกลัวพี่ฟ้าของเขาจะไม่เพิ่มเวลาทำงานให้ เพราะขัดคำสั่ง
“อย่าไปดุตามสิครับ ไปเถอะครับ ไปเต้นกัน” ว่าแล้วหมอพิษณุก็ดึงมือเล็กให้ลุกขึ้น
“ห้ามหอม ห้ามจูบนะครับ ไม่งั้นฟ้าจะโกรธพี่นุ” น้ำฟ้ากระซิบบอก น้ำเสียงเบาแต่หนักแน่นด้วยสีหน้าและแววตา
“ครับผม” หมอพิษณุรับคำขู่ด้วยรอยยิ้มหวาน เขาก็ไม่คิดจะทำอยู่แล้วเพราะไม่ใช่พวกชอบโชว์ เขาอยากหอมอยากจูบน้ำฟ้าในที่ไม่มีใครเห็นมากกว่า
เสียงปรบมือของบรรดาแขกของหมอพิษณุและน้ำฟ้าก็ดังก้องไปทั่วบริเวณหาด เมื่อหมอพิษณุจูงมือน้ำฟ้าเดินไปยังพื้นหาดทรายเม็ดละเอียด และเมื่อเดินมาถึง บทเพลงที่ถูกหยุดลงเมื่อครู่ เริ่มบรรเลงขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับมือใหญ่ที่วางบนเอวบาง  และมือที่เล็กกว่าก็วางตรงไหล่หนาทั้งสองข้าง

Some people live for the fortune
Some people live just for the fame
Some people live for the power yeah
Some people live just to play the game
Some people think that the physical things define what's within
And I've been there before
But that life's a bore
So full of the superficial
Some people want it all
But I don't want nothing at all
If it ain't you baby
If I ain't got you baby
Some people want diamond rings
Some just want everything
But everything means nothing
If I ain't got you
Some people search for a fountain
The promise is forever young
Some people need three dozen roses
And that's the only way to prove you love them
Hand me the world on a silver platter
And what good would it be?
With no one to share, with no one who truly cares for me
Some people want it all
But I don't want nothing at all
If it ain't you baby
If I ain't got you baby
Some people want diamond rings
Some just want everything
But everything means nothing
If I ain't got you, you, you
But everything means nothing
If I ain't got you
If I ain't got you with me baby
Nothing in this whole wide world don't mean a thing
If I ain't got you with me baby

“หอมหน่อยๆ”
เสียงหนึ่งตะโกนบอกเจ้าของงานที่เต้นรำและมองตากันหวานซึ้ง ความเขินอายในตอนแรกของน้ำฟ้าคล้ายถูกคลื่นลูกเล็กหอบเอาไปเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเรียบร้อยแล้ว
“หอมคุณหมอหน่อยสิฟ้า ”
อีกหนึ่งเสียงตะโกนย้ำ น้ำฟ้าจำได้ดีว่าคือเสียงของพี่สาวฝาแฝดของเขาเอง แล้วประโยคที่ทำเอาน้ำฟ้ากลับมาเขินอีกครั้งก็คือเสียงตะโกนของเพื่อนสนิทชื่อคม
“ไม่หอม ไม่ยอมให้กลับไปเข้าหอนะเว้ย”
แล้วก็มีทั้งเสียงตบมือและเฮลั่นหาด จากนั้นก็มีเสียงตะโกนบอกดังมาเรื่อยๆ จนจับไม่ได้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร 
“หอมๆๆ หอมเร็วๆ หอมหน่อยๆ”
 “ว่าไงครับ” หมอพิษณุถามคนรัก นัยน์ตาหวานฉ่ำ รอฟังคำตอบ ที่เคยคิดเอาไว้ว่าไม่อยากหอมแก้มคนรักโชว์แขกในงานก็พลันหายไปเสียแล้ว
“.....” น้ำฟ้ายิ้มแทนคำตอบ ไม่กล้าหันไปมองเจ้าของเสียงตะโกนเหล่านั้นเลย
“อนุญาตให้หอมหรือจูบครับ” หมอพิษณุถามอีก คนรักของเขามองตาขวางนิดหนึ่ง ก่อนจะตอบเสียงเบาแต่ย้ำหนักว่า
“หอม” ก็น้ำฟ้ายังอายอยู่นะ ใครจะกล้าจูบปากโชว์แขกล่ะ
แล้วเสียงโห่ฮิ้วและเสียงปรบมือก็ดังลั่นหาดอีกครั้ง เมื่อหมอพิษณุโน้มใบหน้าเข้าใกล้แล้วกดริมฝีปากของตนบนแก้มเนียนที่อุ่นร้อนด้วยความเขินอาย
“พี่ฟ้าด้วยสิคะ” เสียงลูกน้องสาวร่างอวบของน้ำฟ้าดังขึ้น ทำเอาเจ้านายหนุ่มหันไปค้อนแทบจะทันที แต่เจ้าตัวยังยิ้มร่าไม่เกรงกลัวเจ้านายแต่อย่างใด เพราะยังมีอีกหลายเสียงที่ช่วยสนับ
“ใช่ๆ ปล่อยให้คุณหมอหอมคนเดียวได้ไง เสียเปรียบนะเว้ย” เพื่อนสนิทของน้ำฟ้าที่ชื่อเอ็มคือเจ้าของประโยคนี้
“หอมแก้มๆๆๆ” แต่นี่เสียงใครก็ไม่รู้เพราะดังขึ้นพร้อมกัน
“หอมเลยๆๆๆๆๆ” นี่ก็อีก เสียงใครไม่รู้ น้ำฟ้าฟังไม่ออก เพราะมันปนกันมาหลายเสียงมาก
“พี่นุพร้อมแล้วนะครับ”
หมอหนุ่มบอกคนรัก พลางเอียงแก้มเข้าไปใกล้ แล้วคนรักของหมอหนุ่มจะทำอะไรได้ นอกเสียจากจะประทับริมฝีปากที่แต้มด้วยรอยยิ้มบนแก้มของคนรัก...

>>>>> Happy Na Ka <<<<<


บับบาย
สีเหลืองอ่อน

หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนพิเศษ-นุฟ้า + รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {3/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Panny ที่ 03-07-2012 21:50:53
น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงมากกกกกกกก
น่ารักสุดๆ ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนพิเศษ-นุฟ้า + รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {3/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-07-2012 22:40:36
น่าร๊ากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนพิเศษ-นุฟ้า + รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {3/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: paradoxxx ที่ 03-07-2012 23:40:46


คิดถึงคู่นี้สุดๆๆๆ อ่านแล้วรู้สึกดีจัง
อยากอ่านอีกเรื่อยๆ =)
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนพิเศษ-นุฟ้า + รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {3/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 04-07-2012 09:06:22
 :L2: :L2: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนพิเศษ-นุฟ้า + รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {3/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 04-07-2012 11:52:35
น้ำตาลกลาย
เป็นน้ำเชื่อมแล้ว  :L1:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนพิเศษ-นุฟ้า + รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {3/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 04-07-2012 12:09:16
น่ารักมากๆ น้องฟ้าเลิกอายได้แล้ว มีขู่ไม่หอมไม่ยอมให้เข้าหอด้วย
คิดว่าพี่นุของน้องฟ้าคงไม่ยอมหรอก อิอิ

+1+เป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนพิเศษ-นุฟ้า + รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {3/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 04-07-2012 19:55:54
เปิดจองนิยายเรื่อง รัก...เธอ และ รัก...เชิญครับ รายละเอียดหนังสือและการสั่งจอง
1. ปกสีเคลือบ UV เงา เข้าเล่มไสกาว  กระดาษ GreenRead
2. เรื่อง รัก...เธอ จำนวน 2 เล่มจบ จำนวนหน้าประมาณ 540 หน้า/ 2 เล่ม  ราคา 550 บาท รวมค่าจัดส่งแบบทะเบียน
ประกอบด้วย      1) เนื้อหาหลัก
                       2) ตอนพิเศษทั้งหมด 7 ตอน (ที่ลงในเล้าและไม่ได้ลงในเล้้า)
3. เรื่อง รัก...เชิญครับ จำนวน 2 เล่ม จำนวนหน้า 600 หน้า / 2 เล่ม ราคา 610 บาท ราคารวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียน
ประกอบด้วย      1) เนื้อหาหลัก
                  2) ตอนพิเศษทั้งหมด 3 ตอน (ไม่เอาลงในเล้า)
4. ของแถม
                1) ที่คั่นหนังสือ  เรื่องละ 2 อัน , รัก...เธอ 2 แบบ , รัก...เิชิญครับ 2 แบบ
5. เปิดจอง ตั้งแต่วันนี้  - 15 สิงหาคม 2555
                 1) ส่งการส่งจองได้ช่องทางเดียว คือ อีเมล์ i_aeaw แอท hotmail.com
                 2) ตั้งชื่อหัวเรื่องว่า  สั่งจองนิยาย
                     รายละเอียด- สั่งจองนิยาย เรื่อง................
                        จำนวน .......ชุด
                        รวมราคาทั้งหมด ...............บาท
                             - อีเมล์ที่ใช้ในการติดต่อ
                             - ชื่อและนามสกุลที่ใช้ในการติดต่อ
                             - เมื่อแจ้งจองเข้ามาแล้ว รอการติดต่อกลับ 1 – 2 วัน
                                                   เพื่อแจ้งลายละเอียดหมายเลขบัญชีในการโอนเงิน
6. เปิดโอนเงิน ตั้งแต่วันนี้   -  31 สิงหาคม 2555
                                       1) ส่งรายละเอียดการโอนเงินได้ช่องทางเดียว คือ อีเมล์ i_aeaw แอท hotmail.com
                                  2) ตั้งชื่อหัวเรื่องว่า  แจ้งโอนเงิน
                                         รายละเอียด      - ชื่อเรื่อง.............
                                                    - จำนวน ............ชุด
                                                    - จำนวนเงิน ที่โอน ...........บาท
                                                    - วันที่และเวลาที่โอน
                                                                        - ถ้าสามารถแนบเอกสารการโอนเงินมาให้จะดีมากๆ นะคะ      
                                                                        - ชื่อและนามสกุลที่ใช้ในการส่งหนังสือ
                                                    - ที่อยู่ ที่ใช้ในการจัดส่งหนังสือ
                                                    - เมื่อแจ้งการโอนเงินแล้ว 1-2 วัน จะแจ้งตอบรับการได้รับเงินโอนนะคะ
                                                      ปล.ขอชื่อและที่อยู่แบบเต็มๆ นะคะ เพื่อให้หนังสือไม่ตกหล่นค่ะ
                                                      ปล. อย่าลืมเก็บรายละเอียดการโอนเงินเอาไว้เป็นหลักฐานนะคะ
                                                        เผื่อเกิดความผิดพลาดบางอย่างขึ้นมาจะได้มีหลักฐานเอาไว้ยืนยัน
7. สนใจสั่งจองได้นะคะ ^___^
            
ปกเรื่อง รัก...เธอ
(http://image.free.in.th/z/ia/14.5x21cm011ok.jpg) (http://pic.free.in.th/id/e1cd96bf31ab89f9bf718a4acadaf0ec)
(http://image.free.in.th/z/if/14.5x21cm012ok.jpg) (http://pic.free.in.th/id/77d8423f74bc14738913bccef1aadc73)
ปกเรื่อง รัก...เชิญครับ
(http://image.free.in.th/z/iy/14.5x21cm111ok.jpg) (http://pic.free.in.th/id/9d6e9f7e06feae1d5801ea5e10d6fbf6)
(http://image.free.in.th/z/ii/14.5x21cm112ok.jpg) (http://pic.free.in.th/id/404ea3743aa44af31d39ffe4d914a116)

ที่คั่นเรื่อง รัก...เธอ
(http://image.free.in.th/z/ic/book2.jpg) (http://pic.free.in.th/id/48355d6a0fe15efef3edf0708a6acec5)  (http://image.free.in.th/z/ia/book3.jpg) (http://pic.free.in.th/id/0bc116acf8197d94b6f28b2bdf7ebf59) 
ที่คั่นเรื่อง รัก...เชิญครับ
      --- อยากจะบอกว่า ยังไม่เสร็จค่ะ T^T แต่จะทำมาแจก 2 แบบนะคะ


บับบายนะคะ
สีเหลืองอ่อน


มีคนสอบถามไปทางคนแต่งเรื่องระยะเวลาการจองหนังสือ  เลย  เอามาให้ดูดีกรอบนะค่ะ  ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนพิเศษ-นุฟ้า + รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {3/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: MiiCell ที่ 04-07-2012 21:42:10
 :z2: ฮัดช่า  เรื่องของอิงกับหนึ่งที่ทุกคนรอคอยย
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนพิเศษ-นุฟ้า + รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {3/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 04-07-2012 21:56:18
อ่านแล้วขอบวกให้แก้เขิลลจ้า ^^
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนพิเศษ-นุฟ้า + รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {3/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Calo love ที่ 05-07-2012 16:17:11
อั๊ยยะ!!!!!!!!!!!อ่านไปยิ้มไปด้วย                    หวานจน โอย!!!!!!!!!!!!!


ขออีกสักนิดไใม่ได้เหรอครับ............
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนพิเศษ-นุฟ้า + รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {3/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 05-07-2012 19:48:51
ตามอ่านทันแล้ว น่ารักมาก +1  +เป็ด  :pig4:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนพิเศษ-นุฟ้า + รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {3/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: arrow ที่ 05-07-2012 22:39:00
หมอน่ารักจังค่ะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ"จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 20-07-2012 17:50:22


นิยายจบแล้วย้ายได้เลยนะค่ะ  แต่ฝากเรื่องจองหนังสือไว้นิดนะค่ะ

หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" ตอนพิเศษ-นุฟ้า + รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {3/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 20-07-2012 17:54:22
เปิดจองนิยายเรื่อง รัก...เธอ และ รัก...เชิญครับ รายละเอียดหนังสือและการสั่งจอง
1. ปกสีเคลือบ UV เงา เข้าเล่มไสกาว  กระดาษ GreenRead
2. เรื่อง รัก...เธอ จำนวน 2 เล่มจบ จำนวนหน้าประมาณ 540 หน้า/ 2 เล่ม  ราคา 550 บาท รวมค่าจัดส่งแบบทะเบียน
ประกอบด้วย      1) เนื้อหาหลัก
                       2) ตอนพิเศษทั้งหมด 7 ตอน (ที่ลงในเล้าและไม่ได้ลงในเล้้า)
3. เรื่อง รัก...เชิญครับ จำนวน 2 เล่ม จำนวนหน้า 600 หน้า / 2 เล่ม ราคา 610 บาท ราคารวมค่าจัดส่งแบบลงทะเบียน
ประกอบด้วย      1) เนื้อหาหลัก
                  2) ตอนพิเศษทั้งหมด 3 ตอน (ไม่เอาลงในเล้า)
4. ของแถม
                1) ที่คั่นหนังสือ  เรื่องละ 2 อัน , รัก...เธอ 2 แบบ , รัก...เิชิญครับ 2 แบบ
5. เปิดจอง ตั้งแต่วันนี้  - 15 สิงหาคม 2555
                 1) ส่งการส่งจองได้ช่องทางเดียว คือ อีเมล์ i_aeaw แอท hotmail.com
                 2) ตั้งชื่อหัวเรื่องว่า  สั่งจองนิยาย
                     รายละเอียด- สั่งจองนิยาย เรื่อง................
                        จำนวน .......ชุด
                        รวมราคาทั้งหมด ...............บาท
                             - อีเมล์ที่ใช้ในการติดต่อ
                             - ชื่อและนามสกุลที่ใช้ในการติดต่อ
                             - เมื่อแจ้งจองเข้ามาแล้ว รอการติดต่อกลับ 1 – 2 วัน
                                                   เพื่อแจ้งลายละเอียดหมายเลขบัญชีในการโอนเงิน
6. เปิดโอนเงิน ตั้งแต่วันนี้   -  31 สิงหาคม 2555
                                       1) ส่งรายละเอียดการโอนเงินได้ช่องทางเดียว คือ อีเมล์ i_aeaw แอท hotmail.com
                                  2) ตั้งชื่อหัวเรื่องว่า  แจ้งโอนเงิน
                                         รายละเอียด      - ชื่อเรื่อง.............
                                                    - จำนวน ............ชุด
                                                    - จำนวนเงิน ที่โอน ...........บาท
                                                    - วันที่และเวลาที่โอน
                                                                        - ถ้าสามารถแนบเอกสารการโอนเงินมาให้จะดีมากๆ นะคะ      
                                                                        - ชื่อและนามสกุลที่ใช้ในการส่งหนังสือ
                                                    - ที่อยู่ ที่ใช้ในการจัดส่งหนังสือ
                                                    - เมื่อแจ้งการโอนเงินแล้ว 1-2 วัน จะแจ้งตอบรับการได้รับเงินโอนนะคะ
                                                      ปล.ขอชื่อและที่อยู่แบบเต็มๆ นะคะ เพื่อให้หนังสือไม่ตกหล่นค่ะ
                                                      ปล. อย่าลืมเก็บรายละเอียดการโอนเงินเอาไว้เป็นหลักฐานนะคะ
                                                        เผื่อเกิดความผิดพลาดบางอย่างขึ้นมาจะได้มีหลักฐานเอาไว้ยืนยัน
7. สนใจสั่งจองได้นะคะ ^___^
            
ปกเรื่อง รัก...เธอ
(http://image.free.in.th/z/ia/14.5x21cm011ok.jpg) (http://pic.free.in.th/id/e1cd96bf31ab89f9bf718a4acadaf0ec)
(http://image.free.in.th/z/if/14.5x21cm012ok.jpg) (http://pic.free.in.th/id/77d8423f74bc14738913bccef1aadc73)
ปกเรื่อง รัก...เชิญครับ
(http://image.free.in.th/z/iy/14.5x21cm111ok.jpg) (http://pic.free.in.th/id/9d6e9f7e06feae1d5801ea5e10d6fbf6)
(http://image.free.in.th/z/ii/14.5x21cm112ok.jpg) (http://pic.free.in.th/id/404ea3743aa44af31d39ffe4d914a116)

ที่คั่นเรื่อง รัก...เธอ
(http://image.free.in.th/z/ic/book2.jpg) (http://pic.free.in.th/id/48355d6a0fe15efef3edf0708a6acec5)  (http://image.free.in.th/z/ia/book3.jpg) (http://pic.free.in.th/id/0bc116acf8197d94b6f28b2bdf7ebf59) 
ที่คั่นเรื่อง รัก...เชิญครับ
      --- อยากจะบอกว่า ยังไม่เสร็จค่ะ T^T แต่จะทำมาแจก 2 แบบนะคะ


บับบายนะคะ
สีเหลืองอ่อน


ฝากรายละเอียดการจองหนังสืออีกสักรอบนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 27-07-2012 21:32:28
เข้ามารอเรื่องรัก..ไหมค่ะ
 :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: lovely1714 ที่ 29-07-2012 23:49:00
ชอบมากเลย

ขอบคุณค่ะที่เขียนเรื่องดีๆ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 31-07-2012 13:43:34
น่ารักจัง...ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 31-07-2012 20:53:57
อ่านจบแล้ว หลงรักคุณหมอณุกับคุณน้ำฟ้าเลยค่ะ  :m1:
นี่มัน...พระเอกแสนดีกับนายเอกเจ้าน้ำตาตัวจริงเสียงจริง  :m3:
หวานมาก โศกหน่อย ๆ แต่เคมีลงตัวสุด ๆ อ่านไป ยิ้มไป

อยากอ่าน เรื่องของ คุณบอสอิง-น้องหนึ่ง ต่อจังเลยค่ะ  :m13:
เล่นเปิดพล๊อตซะดราม่าขนาดนั้น ทั้งความสัมพันธ์ที่แปรเปลี่ยนจากเจ้านาย-ลูกน้องที่ดี กลายเป็น... ,
ใช้กำลังบังคับขืนใจ, ทิ้งว่าที่เจ้าสาว ยกเลิกการแต่งงาน, ครอบครัวไม่พอใจ, แม่สามีตามมาตบถึงที่ทำงาน
โอ้...ยิ่งกว่า ตำนานรักดอกเหมย ซะอีก กว่าจะถึงวันที่รักกัน ฝ่าฟันยังไงเนี่ย ? :m29:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 01-08-2012 11:42:37
เอามาอวด นั่งทำสามชั่วโมงเชียวน้าา
ได้มาแค่นี้ ไม่มีหัวทางนี้จริงๆ
ปล.น้องที่ทำงานวาดรูปให้ ^__^

(http://image.free.in.th/z/ig/2.2.2.jpg) (http://pic.free.in.th/id/acbb783207a131ac2fd822e7b3f46313)
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 05-08-2012 14:44:29
 :pig4: สนุกมากค่ะ

 o13
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมสัมปันนี ที่ 06-08-2012 21:28:17
ตามอ่านจนทันแล้วสนุกมากเลย o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 08-08-2012 12:45:25
ขอบคุณนะคะ สนุกมากจริง ๆ
แต่อยากอ่าน อิง - หนึ่ง อ่ะค่ะ >.<
และยังมีคู่ ยะ - น้องพี, นนท์ - แดน อีกด้วย

ขอบคุณมากนะคะ แต่งได้สนุกมากเลยค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 11-08-2012 05:49:28
เอาแฟนอาร์ตจากฝีมือของคุณ Cherry Red มาฝากคร้าาา
คนเขียนขออนุญาตคุณ Cherry Red แล้วว่าจะขอเอามาทำเป็น
โปรการ์ด (ขนาดเท่าไปรษณีย์ แต่ไม่ใช่่ไปรษณีย์) เป็นรูปเฉยๆ แจกสำหรับคนสั่งจองหนังสือคร้าา อิอิ
(http://image.free.in.th/z/if/artwork2.jpg) (http://pic.free.in.th/id/cf9291a770197eec8e32186faa632d6a)
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 12-08-2012 10:14:20
ชอบมากค่ะ ขอlink เร่ืองบอสกะคุณยะด้วยค่ะ น่ารักอ้ะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 12-08-2012 15:35:48
เรื่อง คุณยะน้องพี ยังไม่ได้แต่ค่ะ
ส่วนเรื่อง อิงหนึ่ง  ก็กำลังจะแต่งค่ะ แต่ยังไม่ได้แต่ง
เดี๋ยวประมาณ อีก 2 เดือน น่าจะได้ฤกษ์แต่งตอนแรกเอามาลงนะคะ รอก่อนนะคะ ^___^
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: miwmiwjung ที่ 12-08-2012 21:28:50
คุณลมตุ๊ดมาก
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 12-08-2012 22:02:18
สนุกมากเลยค่ะ
ชอบๆ เดี๋ยวขอเก็บเงินจองก่อนนะคะ


แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นรู้สึกเหมือนกันไหม
รู้สึกไม่ดีกับคู่นนท์แดนเลยค่ะ
ยิ่งอ่านจากมุมมองของฟ้าก่อนแล้ว
โชคดีที่ฟ้าเป็นบุคลิกแบบนี้ เรื่องเลยจบง่าย
แต่ในความรู้สึกเรามัน...ไม่ใช่เรื่องที่จะอภัยง่ายๆ

ถ้าอ่านคู่นี้ คงต้องทิ้งระยะเวลานานมากเพื่อเคลียร์
อารมณ์ที่อินจากของฟ้า ฮืออ ไม่รู้ทำไมอ่ะ คู่นี้ไม่อินเลย
(T^T ออกเป็นคู่สุดท้ายได้ไหม 55)
ในเรื่องบอกว่าฟ้าไม่รักนนท์ แต่เราว่าฟ้ารักนนท์นะ
รักแบบคู่ชีวิต เพราะว่าคิดว่าแม้นนท์จะไปไหนสุดท้ายก็จะกลับมาหาฟ้า
แต่ตัวนนท์กลับมาคิดว่าฟ้าไม่รักเลยเลือกที่จะรักคนใหม่?
แถมมันเป็นคนใกล้ตัวอีก เป็นเรา เราคงทนไม่ไหว
อ๊ากกกกกกส์ อินนเกินไปป่ะ 555
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 12-08-2012 23:00:44
สนุกมากเลยค่ะ
ชอบๆ เดี๋ยวขอเก็บเงินจองก่อนนะคะ


แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นรู้สึกเหมือนกันไหม
รู้สึกไม่ดีกับคู่นนท์แดนเลยค่ะ
ยิ่งอ่านจากมุมมองของฟ้าก่อนแล้ว
โชคดีที่ฟ้าเป็นบุคลิกแบบนี้ เรื่องเลยจบง่าย
แต่ในความรู้สึกเรามัน...ไม่ใช่เรื่องที่จะอภัยง่ายๆ

ถ้าอ่านคู่นี้ คงต้องทิ้งระยะเวลานานมากเพื่อเคลียร์
อารมณ์ที่อินจากของฟ้า ฮืออ ไม่รู้ทำไมอ่ะ คู่นี้ไม่อินเลย
(T^T ออกเป็นคู่สุดท้ายได้ไหม 55)
ในเรื่องบอกว่าฟ้าไม่รักนนท์ แต่เราว่าฟ้ารักนนท์นะ
รักแบบคู่ชีวิต เพราะว่าคิดว่าแม้นนท์จะไปไหนสุดท้ายก็จะกลับมาหาฟ้า
แต่ตัวนนท์กลับมาคิดว่าฟ้าไม่รักเลยเลือกที่จะรักคนใหม่?
แถมมันเป็นคนใกล้ตัวอีก เป็นเรา เราคงทนไม่ไหว
อ๊ากกกกกกส์ อินนเกินไปป่ะ 555
 :เฮ้อ:
ต่อไปจะเป็นคู่อิงหนึ่งค่ะ  มีเวลาทำใจเรื่องนนท์แดนอีกนานนคร้าา ^___^
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: shizuruviola ที่ 14-08-2012 20:26:23
สนุกมากครับ

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NaNaAS ที่ 15-08-2012 01:06:17
 o13
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: THE KOP ที่ 17-08-2012 09:11:58
รอๆๆๆๆๆ...

รีบๆแต่งนะคะ อยากอ่านมาก ^^
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: HoMophobia ที่ 18-08-2012 06:51:44
 :-[ :-[ :-[ หวานแล้วก็หวานอีกนะครับ ทั้งสองเรื่องหวานมากจนเกรงว่าคนอ่านจะเป็นเบาหวานไปซะก่อน ขอบคุณผู้แต่งนะครับที่สร้างสรรค์นิยายที่โรแมนติกและหวานละมุนขนาดนี้ เป็นกำลังใจให้สำหรับการแต่งเรื่องต่อๆ ไปนะครับ
o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: moonoiiz ที่ 24-08-2012 01:23:14
ชอบมาก ครับ อ่าน 2 วัน น้ำตา มากกว่า 10 รอบ
ชอบคู่ อิง กะ หนึ่ง อ่ะครับ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 24-08-2012 02:41:48
ต่อไปจะเป็นคู่ อิง-หนึ่ง เหรอคะ .. กรี๊ดรอเลย >.<

เป็นกำลังใจนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: GggG ที่ 26-08-2012 15:27:11
รออออออออ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 26-08-2012 15:57:24
^
^
^
กรี๊ดดด แอบดีใจว่าเป็นเม้นแรกของคุณ GggG

ขอบคุรทุกคนที่จะรอ อิงหนึ่งนะคะ
ตอนนี้ปิดหนังสือ รัก...เธอ กับ รัก...เชิญครับ เีรียบร้อยแล้วคร้าาา
จะได้ตัวอย่างหนังสือมาแระคร้าา

จากนี่ก็ทำงานประจำให้เสร็จก่อน
แล้วจะเริ่มต้นอิงหนึ่งนะคะ
แต่จะเอาลงเอง ตามอ่านได้ที่ล็อกอิน i_ang นะคะ ^___^
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 27-08-2012 18:21:20
อ่านแล้วชอบมากค่ะ น่ารักมาก สนุกจริงๆ รักคนเขียนนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 28-08-2012 01:34:46
หวานกันน่าดู
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: beamJ ที่ 28-08-2012 21:47:20
ชอบคู่อิงหนึ่่งมากๆเลย

จะรอนะคะ

อยากอ่านมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

รีบมาต่อเร็วๆน้าาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 05-09-2012 08:02:35
หวานมาก  o13
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 08-09-2012 10:54:48
ท่านใดสนใจนิยายเรื่อง รัก...เธอ และ รัก...เชิญครับ
สั่งจองได้นะคะ ตอนนี้เหลืออยู่ 8 ชุด

สนใจเมล์มาได้ที่  i_aeawแอทhotmail.com  นะคะ

(ปล.แต่ถ้าครบจำนวนแล้ว จะทำการลบโพสนี้ แต่ถ้าโพสนี้ยังอยู่ ก็แสดงว่าหนังสือยังเหลือนะคะ)
(ปล. 2 เมื่อสั่งจองเข้ามาจะตอบกลับภายใน 1 วัน หากไม่ได้รับ ลองเช็คที่ถังขยะดูนะคะ ถ้ายังไม่มีให้ติดต่อเข้ามาใหม่ หรือส่งข้อความมาทาง pm ก็ได้)

รัก...เธอ จำนวน 548 หน้า ราคา 550 บาท (รวมค่าส่งแบบลงทะเบียนแล้ว)
     -- มีตอนพิเศษรวม 8 ตอน
รัก...เชิญครับ จำนวน 620 หน้า ราคา 610 บาท (รวมค่าส่งแบบลงทะเบียนแล้ว)
     -- มีตอนพิเศษรวม 2 ตอนใหญ่ และ 11 ตอนย่อย

ของแถม -- เป็นที่คั่นหนังสือ รัก...เธอ 3 แบบ (แถมให้ทั้ง 3 แบบ แบบละ 1 อัน)
            -- เป็นที่ัคั่นหนังสือ รัก...เชิญครับ 2 แบบ + ภาพแฟนอาร์ตขนาดเท่าไปรษณีย์บัตร 1 แผ่น


บับบายนะคะ
aeaw สีเหลืองอ่อน
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 13-09-2012 12:54:25
ชอบตอนตินทำงอนให้ลมง้อ น่ารักซะ (น่าถีบอีกด้วยอะ)
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: PiaShaRe ^^ ที่ 13-09-2012 23:47:21
ไม่ชอบลมเรยอ่า!! คนผิดคือลมชัดๆ ไม่เคย ต่อสู้
เพื่อความรักของตัวเองเรย เบื่อลมแต่รักตินนะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: i_ang ที่ 03-10-2012 00:38:42
ฝากเรื่อง รัก...ได้ไหม อิงหนึ่ง ด้วยนะคะ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=35005.0
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: So_Da_Za ที่ 14-01-2013 07:40:47
ทั้งสองเรื่องน่ารักมากเลย
แอบชอบพี่หมอนะคะ
เปเนพระรองเรื่องแรก
แต่เป้นพระเอกเรื่องสอง
อิอิ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: chiji ที่ 14-01-2013 13:09:27
อยากอ่านคู่พี่อิงกับน้องหนึ่งต่ออ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 16-01-2013 14:16:50
สนุกมากค่ะ :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 17-01-2013 08:41:37
อ่านจบแล้ว รออ่านคู่ อิง&หนึ่ง
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 19-01-2013 03:37:37
ชอบพี่หมอที่สุดเลยอ่ะ
อยากอ่านเรื่องของอิงกับหนึ่ง
และพี่ป้องกับเด็กชายปริศนาคนนั้นจัง
รีบๆมาต่อนะคะ
รอติดตามอยู่ค่ะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 21-01-2013 21:17:30
สนุกมากอ่านเเล้วเขินเลย

เป็นกำลังใจให้ในเรื่องต่อๆไปนะคะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 22-01-2013 10:59:30
คู่ลมกับตินตอนแรกมันมาก เคะราชินีจอมแกล้ง
หลังๆก็หวานมาก แม้จะดราม่าบ้างเพราะแพท
ชอบที่ตินแอบมีรูปลม กับตอนเด็กมีขอสติกเกอร์หัวใจ

คู่ฟ้ากับหมอนุก็น่ารักดี ออกจะเรื่อยๆกว่าคู่แรก แต่ก็อ่านไม่เบื่อนะ ชอบหมอ สุภาพมาก
ส่วนคู่อื่นๆ กว่าจะได้รักกัน สงสัยจะตีกันจนน่วมก่อน หุๆ
อดสงสารหวานไม่ได้ โดนอิงทิ้งเฉยเลย

บวกๆจ้า^^
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 18-07-2013 01:05:47
เห็นบางคนบอกว่าไม่สมจริง
แต่ทางนี้อยากบอกว่า สมใจมากกกกกกก
สมใจตรงที่ อยากอ่านนิยาย ก็ได้อ่านนิยาย...ที่เป็นนิยาย
สนุกแบบมันส์ในอารมณ์ พระ-นายยื้อยุด แง่งอน...งาบ ครบรส
ชอบทั้งสองคู่เลย และรออ่านคู่ที่จั่วหัวทิ้งไว้ด้วย อย่าลืมแต่งต่อนะ น่าสนใจมาก
//รออ่าน อิง-หนึ่ง และ ยะ-พี คู่หลังนี่ยิ่งปลื้มมากเป็นพิเศษ ยังมีน้องตามอีกหนิ พี่ป้องด้วยมั้ยงั้น อิอิ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-07-2013 16:55:02
ทั้งสองเรื่องน่ารักมากกกก
เรื่องแรก เราสงสารลมนะ ต้องเก็บความรู้สึกไว้ในใจตลอด
จะแสดงออกก็ไม่ได้ว่ารักตินเพราะเพื่อนสุดเลิฟดันรักเหมือนกัน
กว่าลมกับตินจะเข้าใจกันได้นี่ลุ้นตัวโก่งมาก

ส่วนฟ้ากับนุ เค้าเกิดมาคู่กันอ้ะ น่ารักจริงๆ
เราชอบเวลาฟ้าร้องไห้แล้วนุปลอบนะ
มันดูอบอุ่น หวานๆ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆทั้งสองเรื่องนะคะ
อยากอ่านอิงกับหนึ่งต่อจังงงงง
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 24-08-2013 02:34:25
จบได้น่ารักมากมายเลยค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: kira_love_y ที่ 06-09-2013 09:31:27
 :serius2: :katai2-1: ติดตามคุณหมอมาตั้งแต่น้องลม ตอนนี้คุณหมอ :call:สู้ สู้
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 22-09-2013 15:43:49
โอยน่ารักทุกคู่เลยค่า :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: rotedump ที่ 25-03-2014 10:50:20
 :katai1:ตามหามานานในที่สุดก็เจอ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 26-03-2014 00:31:10
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 12-05-2014 21:59:41
 :L2:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: flamezaza ที่ 18-07-2014 22:47:08
ข้าจะไปเผาตูเสื้อผ้า ไอ้ตัวปัญหา :fire:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 08-09-2014 05:02:11
ขอบคุณ คนเขียนและคนโพสต์ค่ะ ชอบทั้งสองเรื่องเลย พล็อตดีมาก อย่างกับละครช่องสามช่องเจ็ดเลยทีเดียว เรื่องรักเธอ ลมเป็นอะไรที่นางเอกมากอ่ะ ทำเพื่อเพื่อนแบบสุดจิตสุดใจขนาดยอมตัดใจยกหัวใจตัวเอง คนที่ตัวเองชอบมาตั้งแต่เด็กให้ แม้จะรุ้ว่าตินก็รักนะ ยังยอมทิ้งได้เพื่อเพื่อนอ่ะ เรางี้เกลียดยัยยแพทมว้ากกก โกรธลมด้วยย สงสารตินสุดๆ มาสงสารพี่หมออีก พระเอกแต่ละคนน่าสงสารมากในซีรี่ย์เซตนี้ ยกเว้นพ่อยะเอ้ยคุณยะ ฮีแรงงง ครึครึ แบบอยากอ่านคู่นี้มากกก ยะพีๆๆๆ หนูฟ้าก็น่าสงสารนะ ตอนนท์ทิ้ง แต่เหมือนฟ้าจะไม่ได้รักนนท์อย่างคนรักจริงๆนั้นแหละ คือธรรมชาติแล้วคนรักกันมันต้องมีหึงหวงกันบ้างป่ะ แอบเซอร์ไพรสแดนนี่แหละ แบบเฮ้ย เป็นเคะอ่ะ (เสร็จนนท์เมื่อสี่ปีที่แล้ว)แล้ว มาชอบฟ้า ถ้าสองคนนี้ได้กัน ใครจะเคะล่ะ แต่อืม ฟ้าพึ่งมาเป็นรับเมื่อไม่นาน แถมตัวสูง ฟ้าคงเป็นเมะ?  เอร้ยยยอยากอ่าน คู่พี่อิงหนึ่งเป็นอะไรที่ ทะแม่งๆมาตั้งแต่เรื่องรักเธอแระ คือคู่นี้เค้าติดกันเกินเหตุอ่ะ สนิทกันเกินบอสกะลูกน้อง บอสก็ดูตามใจหนึ่งเกินไป สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง แล้วก็เป็นตามคาด คึคึ สงสารหนึ่งที่โดนขมขื่น แต่ก็เห็นใจอิง คู่นี้ถ้าจะดราม่ายาว ชอบนะ อยากอ่านๆๆ แต่ๆๆจบแฮปปี้ใช่ม้ายย จะตามไปรออ่านนะคะ เห็นมาแล้ว6ตอน อิอิ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 10-09-2014 00:11:30
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 04-11-2014 14:56:29
กำลังอ่านถึงตอนที่11 อดใจไม่ไหวโครตอยากเม้นเลยให้ตายเหอะ
อยากบอกว่า ให้ตินวิ่งชนรถบรรทุก แล้วไอ้สีน้ำตรอมใจ จบค่ะ
(เราอินอย่างรุนแรง จนในใจมันขะมุกขมัวไปหมดแล้วตอนนี้) มันก้ำกึ่งระหว่างอ่านต่อดีหรือไม่อ่านต่อดีเพราะเบื่อสีฟ้า อ๊ากกกกกกก

.........edit.........
สุดท้ายก็อ่านต่อเพราะทนความอยากรู้ไม่ไหว555

แหมะพอหวานก็หมานกันจัง น้ำตาลที่บ้านยังยอมแพ้เลย5
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: auntreory ที่ 16-12-2014 14:36:00
เหมือนกำลังดูละครสมัยช่อง 7 ยังคงรุ่งเรืองเลยค่าา แบบโอ้ววว น้ำเน่าสุด แต่ก็อ่านน่ะค่าาา 55555
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 14-01-2015 01:27:01
ชอบเรื่องนี้มาก เพิ่งได้มาอ่าน สนุกมากค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: "รักเชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย รายละเอียดเปิดจองหนังสือ{20/7/55}
เริ่มหัวข้อโดย: โซดาหวาน ที่ 15-09-2015 18:49:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 20-09-2015 11:16:18
ขอบคุณค่ะ ดราม่าน้ำตาเล็ดกันทีเดียว
แต่ก็จบhappy ขอบคุณนะค๊าาาาา (⌒_⌒)
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 11-10-2015 20:09:07
ครบทุกรสชาติเลย.....กว่าจะรักกันได้....ขอบคุณค่ะ  ^^
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 15-10-2015 07:16:17
สนุกทั้ง 2 คู่เลย อยากจะได้คู่ที่ 3 ตินกะลม น่ารักอ่ะ อ่านไปยิ้มไป คู่คุณหมอก็สวีท อยากได้คู่คุณยะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 25-11-2015 07:29:18
เข้ามาอ่านอีกรอบ ขอบคุณค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NymPhet ที่ 23-01-2016 17:03:29
อยากอ่านคู่อื่นเลย
ขอบคุณนะคะ :3123:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: jeabjunsu ที่ 29-04-2016 09:56:31
ตินลมนี่ในความดราม่านี่มีความน่ารักแฝงไว้อยู่มากมายเลย นี่ถ้าพูดกันตรงๆตั้งแต่แรกนะ รักกันหวานๆไปนานละ 555

พี่หมอน้องฟ้าน่าร้ากกกกกก แต่น้องฟ้ามีความฝังใจที่น่าสงสารมากเลย ดีแล้วที่ได้พี่หมอไปดูแล

อิงหนึ่งนี่น่าติดตามมาก!!!!! อิงจัดหนักขนาดนี้ หนึ่งอย่ายอมนะ ดัดนิสัยให้เข็ด
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 01-05-2016 22:28:50
สนุกมากเลยจร้า o13
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 06-05-2016 15:19:55
ลมเอ้ยขุดหลุมฝังตัวเองแท้ๆเข้าทางตินเขาล่ะ :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 06-05-2016 15:45:47
เพื่อนทรยศ ? ว่าตัวเองใช่มั้ยนังแพท :katai1:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 06-05-2016 17:13:41
เกลียดนังแพท :angry2: :m16:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 07-05-2016 21:57:30
ฟ้าเอ้ย นนท์มันก็บอกแล้วว่ารักแดน รักมาก อีกอย่างมันก็ขอเลิกกับฟ้าแล้ว แล้วฟ้ายังจะไปหวังว่ามันจะกลับมาคืนดียังจะไปหามันทำไม เพราะฟ้าทำตัวเป็นของตายงี้แหละนนท์มันถึงไปมีรักใหม่ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 07-05-2016 22:29:18
ทำไมเราไม่รู้สึกสงสารนนท์ ฟ้า หรือแดนเลย ยิ่งแดนเรากลับรู้สึกไม่ชอบด้วยซ้ำเราไม่รู้หรอกว่านนท์กับแดนเรื่องเป็นมายังไง แต่ในความรู้สึกเราถ้าแดนนอนกับนนท์ตั้งแต่4ปีที่แล้ว และแดนก็รู้ว่านนท์เป็นแฟนฟ้าจะรู้ก่อนหรือหลังที่นอนกับนนท์ก็ช่างเถอะ แต่ถ้ารู้แล้วถ้าเราเป็นแดนนะเราจะไม่ทำงานกับฟ้าเด็ดขาด มันน่าละอายใจตั้ง4ปีคิดดูดิที่แดนทำงานกับฟ้ามาตั้ง4ปี ถ้าแดนชอบฟ้าจริงยิ่งไม่สมควรวนเวียนอยู่ใกล้นนท์ วัวเคยขาม้าเคยขี่อ่ะนะ สรุปเราเห็นใจพี่หมอคนเดียวเต็มๆ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-05-2016 01:40:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: sasaka8 ที่ 20-08-2016 19:05:33
ขอบคุณนะคะนิยายน่ารักมากเลยค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: NewBaBy ที่ 05-10-2017 19:38:14
อ่านไม่จบค่ะเรื่องนี้ เกลียดนายเอกมากจริงๆ
ขอบคุณคนแต่งค่ะ ขอโทษจริงๆนะคะ
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 29-01-2018 21:15:05
กลับมาอ่านรอบนี้ ร้องไห้จนปวดหัวปวดตาไปหมดเลยค่ะ
สงสารตินมากๆๆๆๆๆๆๆ ถูกลมทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า
อ่านๆไปนี่บางครั้งลำคาญลมมากอ่ะ บอกเลย
นี่ถ้าเป็นชีวิตจริง เราคงให้ตินหาคนใหม่ไปแล้วล่ะ
แต่โชคดี ที่มีเรื่องของหมอกับน้ำฟ้ามาเบรคความขุ่นมัวที่มีต่อลมไว้
ไม่งั้นจะสับให้และกว่านี้ นังแพทอีกคนน่าเอาไปเก็บทิ้งซะ โมโหๆ

ยังไงก็ขอบคุณคนเขียนค่ะ ทำให้เราอินได้ขนาดนี้
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 30-09-2018 08:40:12
เรืีองราวน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 08-10-2018 12:29:49
ไปๆมาๆก็กลับมาอ่านอีกรอบ ^^
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 27-01-2019 19:09:20
น่ารักมากค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายน่าติดตามและสนุกมากค่ะ

ตินมั่นคงมาก รอคอยมานาน จนสมหวัง
แต่ความบ้าบอของตินก็มีมากเช่นกัน
หึงไม่เลิกรา ยอมลมมากและรักมาก

ลมน่ารักมาก รักมานานแต่ไม่กล้าเปิดเผย
แล้วยังพยายามไม่เข้าหา เพราะกลัวหลุด
แถมชงเพื่อนหนักมาก จนรู้ตัวว่ายอมเสียไม่ได้
ลมมีความเซี้ยว งอนเก่ง แต่ง้อไม่ยาก

นุฟ้าน่ารักดีค่ะ เอ็นดูน้ำฟ้ามาก
คิดว่ารักนนท์มาตลอด ที่ไหนได้เพราะผูกพันหรอก
น้ำฟ้าร้องไห้ได้น่าสงสารมากเลยค่ะ เข้าใจเพราะกลัวถูกทิ้ง
คิดว่านุน่าจะชอบมานาน แต่ไม่รู้ตัว หรือรู้ว่ามีคู่แล้ว เลยไม่ยุ่ง
พอได้จังหวะ ทุกอย่างพาไป เป็นการเริ่มต้นที่ข้ามขั้น แต่จริงจังมาก
พลาดอย่างเดียวคือบอกที่บ้านช้า จนทำให้เรื่องไปไกล ดีที่ไม่เท่าอิงหนึ่ง

อิงหนึ่ง น่าสงสารนะ อิงรักแต่ไม่รู้ตัว
หนึ่งก็ไม่รู้ว่ารักไหม หรือรักแล้วไม่ยอมรับไม่รู้
อิงยังมาทำให้หนึ่งเสียใจอีก หนึ่งถึงกับขยาดไปเลย
รอไปลุ้นตอนคู่นี้ค่ะ อยากรู้จะลงเอยยังไง ดราม่าหนักไหม

หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 01-02-2019 02:27:39
เนื้อเรื่อง ตินและลมน่ารักดี
แต่ไม่ชอบดราม่ามากไป..สินเชื่อ
รวมแล้วมีดีมากกว่า..ขอบคุณนักเขียน
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 27-06-2019 02:10:33
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวพีตัวเล็กเล็ก ที่ 02-02-2021 08:12:37
 :hao5:
หัวข้อ: Re: "รัก........เชิญครับ" จบแล้วค่ะ ย้ายได้เลย >>> รายละเอียดเปิดจองหนังสือ {20/7/55} ByAeaw
เริ่มหัวข้อโดย: Noonnaja ที่ 16-02-2023 22:00:20
 :katai2-1: :katai2-1: