พิมพ์หน้านี้ - (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: Silver Fish ที่ 24-09-2016 04:10:33

หัวข้อ: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 24-09-2016 04:10:33
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com (http://www.thaiboyslove.com)  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ


thaiboyslove.com.......................................                                                           


****************************************************************************************

เรื่อย่อ

หากไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่เป็นได้เพียงพระรอง
แง่มุมของตัวร้าย ที่ใครๆ ก็มองข้าม


แนวแฟนตาซี
Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46006.0) แฟนตาซีแวมไพร์หมาป่า แนวเกมเข้าใจง่าย [จบแล้ว]
มิติมายา ผมกลายเป็นเงือก (http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1515406) แฟนตาซีโลกเวทมนต์สลับโลกไฮเทค

ซีรีย์มหาลัย
หนุ่มวายยกกำลังสอง (เฟย์xปอนด์) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47430.msg3098237#msg3098237) [แนวโชตะ : จบแล้ว]
เป็นเกย์กันมั้ย? (ซันxโป้) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51735.msg3298900#msg3298900) [ฮาร์ดคอ : จบแล้ว]
Contract มาเฟีย (ป๋าxมิท) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54115.msg3391025#msg3391025) [ป๋าอิหนู: จบแล้ว]
??? (ริวxธัน) (http://) [coming soon]
??? (วาxเล่) (http://) [coming soon]

เรื่องสั้น
Yuki Hana โนบุยูกิxนาคาอิ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54310.msg3399635#msg3399635)
ข้าวโพดสื่อรัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55283.msg3450873#msg3450873)

ติดต่อตบตีได้ที่
https://www.facebook.com/pages/Silver-Fish/1539533922963776
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง By Silver Fish
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 24-09-2016 04:15:13
ตั้งแต่นี้จะเปลี่ยนชื่อ 'เจ้า' เป็น 'จ้าว' เพื่อความอ่านง่าย

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
   
   Feeling used…But I’m
   Still missing you…And I can’t
   See the end of this…


   “เป็นไรวะ หมู่นี้ฟังแต่เพลงอกหัก” ประโยคทักทายพร้อมน้ำหนักมือวางบนบ่า ดึงให้ผมออกมาจากภวังค์ความคิด ที่ปล่อยให้ล่องลอยตามเสียงเพลงอยู่นานสองนาน

   “แค่อยากฟัง เพลงพวกนี้มันอินดี” เพราะผมกำลังตกอยู่ในสภาพนั้นไง

   “โหย ใครทำมึงอกหักเนี่ยจ้าว เอางี้ มึงมาฟังเรื่องราวความรักของคนที่กูไปช่วยเป็นพ่อสื่อดีกว่า เผื่อว่ามึงจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง” ปุณพูดพลางหัวเราะตบบ่าจนไหล่ผมแทบทรุด เข้าใจว่ามันไม่ได้ตั้งใจจะเล่าช่วงเวลาป๊อปปี้เลิฟของคนรู้จักมันให้ผมฟังจริงหรอก แค่หาเรื่องให้ผมโวยวายคลายความเศร้าลงบ้าง ผมยิ้มฝืนๆ จะให้บอกได้ยังไง คนที่ทำให้ผมตกอยู่ในสภาพนี้คือมัน

   “เฮ้ย มันโทรมาตามว่ะ กูไปก่อนนะไว้เจอกันพรุ่งนี้ มึงก็รีบหายเศร้าหาหญิงใหม่ได้แล้ว หน้าอย่างมึงแค่กระดิกนิ้วสาวก็มาตรึม เชื่อกู” มันขยิบตาให้อย่างขี้เล่น ก่อนกดรับโทรศัพท์แล้วจากไป ปล่อยให้ผมนั่งอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่บนเก้าอี้ในโรงอาหารมหา’ลัย

   ผมกับปุณไม่ได้รู้จักกันตั้งแต่เด็กจนแอบรักเหมือนอย่างในละคร เราเพิ่งเจอกันครั้งแรกตอนเข้าปีหนึ่ง ด้วยความที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน แถมสร้างวีรกรรมมาสายตั้งแต่รุ่นพี่นัดรวมตัวครั้งแรก ผมก็กวน มันก็กวนจนรุ่นพี่ไล่ทำโทษทั้งคู่ สุดท้ายเลยได้เป็นเพื่อนสนิทในแบบแปลกๆ

   ปุณเป็นแบบฉบับที่พวกผู้ชายชอบ ตัวเล็กผิวขาว ตาโต ปากแดงน่ารัก แถมยังตัวหอมทั้งที่ไม่ต้องพึ่งน้ำหอมอย่างคนอื่น แต่ก็เข้มแข็ง ร่าเริงสดใส สามารถเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมมือกับผมซัดพวกนักเลงนอนกองได้สบายๆ ส่วนผมเป็นชายหุ่นนายแบบควบตำแหน่งเดือนคณะ มีแต่สาวๆ หมายปอง ขนาดหนุ่มน้อยหลายคนยังทอดสะพาน การเรียนผมก็ดีเด่นไม่เป็นรองใคร เรียกได้ว่าเพอร์เฟคทุกอย่าง

   ที่ผ่านมาคนผมหมายตาไม่เคยมีใครรอดมือผมสักราย ยิ่งผมเป็นพวกได้ทั้งชายหญิงความนิยมเลยพุ่งสูง มีจำนวนไม่น้อยที่ขอให้ผมกอดสักครั้งก็ยังดี ทำให้ผมดูเป็นพวกเจ้าชู้ไปโดยปริยาย ทั้งที่ผมแค่สนองในสิ่งที่พวกนั้นเสนอมาเองนะ

   ใครจะไปคิดล่ะว่าเสือร้ายอย่างผมจะสิ้นท่าให้กับเพื่อนสนิทของตัวเอง ผมไม่ได้หลงรักปุณตั้งแต่แรกเห็น ความรู้สึกพิเศษมันเริ่มเพิ่มพูนขึ้นมาทีละน้อยตั้งแต่ปีสอง ผมหวั่นไหวให้กับความใจดีของเขา แม้ผมจะรู้ดีว่าปุณทำไปในฐานะเพื่อน

   ยิ่งนานวันความชอบยิ่งมากจนผมเกือบเก็บมันไว้ไม่อยู่ เผลอลวนลามเพื่อนตัวเองตอนเนียนไปเที่ยวบ้านเป็นประจำ อยู่มหา’ลัยก็แอบสกินชิพตลอด กระทั่งมีหลายคนแซวด้วยซ้ำว่าผมกับมันเป็นคนรักกัน แทนที่มันจะปฏิเสธดันคล้องแขนเออออตามให้เพื่อนขำ ซึ่งผมไม่ขำเลยสักนิด ถึงจะรู้ยินดีที่อีกฝ่ายดูไม่รังเกียจผมเหมือนอย่างพวกที่เข้ามาจีบก็เถอะ

   แน่นอนว่าจ้าวพวกนั้นถูกผมกำจัดลับหลังไปเรียบร้อย เรื่องอะไรจะยอมให้มาแตะต้องปุณน้อยของผมกัน

   ช่วงที่ผมคิดว่าเวลาแบบนี้จะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ทุกอย่างก็พังทลายลงเพราะผู้ชายที่ชื่อพอร์ช...

   ไอ้สารเลวนั้นไม่รู้ผุดมาจากนรกขุมไหน ตลอดสองปีไม่เคยเห็นหัว ดันโผล่มาช่วงที่ผมตัดสินใจว่าจะรุกปุณอย่างจริงจัง ช่วงแรกยังไม่เท่าไหร่ ปุณดูไม่สนใจ ออกจะรำคาญด้วยซ้ำ ผมก็คิดไปว่าคงจะเหมือนกับพวกที่ผ่านๆ มา เดี๋ยวคงไสหัวไปเอง

   ที่ไหนได้ นอกจากมันไม่ไสหัวไปแล้ว ยังมีสารพัดสถานการณ์เป็นใจให้สองคนนี้ได้ใกล้ชิดกัน เหมือนสวรรค์สาป นรกส่ง ผมแทบจะชูนิ้วกลางด่าสวรรค์วันละสามเวลา บุพเพบัดซบ!! โชคชะตาชะเป็นยังไงผมไม่สน ผมรู้แต่ว่าปุณต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น

   แต่ผมแคร์เขามาก ไม่อาจหักหาญน้ำใจได้ ผมเลยใช้ความสามารถของตัวเอง ถามเรื่องลับๆ ของนายพอร์ชมาตีแผ่ให้ปุณรู้ ลองดูสิ ระหว่างเพื่อนสนิทอย่างกับผมคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจออย่างมัน ใครกันที่ปุณจะเชื่อมากกว่า

   ผลที่ตามมาถือว่าสำเร็จอย่างสวยงาม ปุณหวั่นไหวกับคำพูดของผม ว่ามันเจ้าชู้ ฟันแล้วทิ้ง ทำใครต่อใครร้องไห้มานักต่อนัก แล้วยังมีคู่หมั้นอีกต่างหาก ถึงผมจะสนองเขาไปทั่ว แต่ทุกคนที่คบกับผมจบลงด้วยดีทั้งหมด ที่สำคัญผมไม่มีคู่หมั้นห่าเหวอะไรทั้งนั้น อีกทั้งยังพร้อมที่จะดูแลปุณเสมอ

   แม้จะน่าเจ็บใจที่ปุณดูอ่อนไหวกับเรื่องพอร์ช แต่ไม่เป็นไร พอปุณรู้สันดานมันแล้วก็จะเลิกยุ่ง เพราะปุณเป็นคนที่เกลียดผู้ชายทำร้ายผู้หญิงมากที่สุด ขนาดผมยังต้องลดละเลิกนิสัยชั่วๆ ตอนมัธยมเพื่อปุณเลย

   ช่วงเวลาที่ผมกำลังกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ วางแผนในหัวว่าจะทำอย่างไรต่อไป ไอ้สารเลวตัวที่สองก็โผล่มา มันชื่อเซย์เป็นเพื่อนสนิทของสารเลวหมายเลขหนึ่ง หากไม่มีมันที่ฉลาดเป็นกรด ผมคงกำจัดพอร์ชไปได้นานแล้ว

   “มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น สนุกมากรึไง”

   เซย์เดินล้วงกระเป๋ากางเกงวางท่าเข้ามาจ้องผมในระยะประชิด เราทั้งคู่ตัวสูงไล่กัน ขนาดตัวก็ไม่ต่าง ผมไม่หวั่นเกรงมันสักนิด เลิกคิ้วกวนตีนกลับไป เดาะลิ้นอย่างท้าทาย

   “ใช่ กูสนุกมากกก แล้วยังไง มึงจะมาซัดกูเพื่อช่วยเพื่อนมึงเหรอไง”

   เอาเลยสิ ผมแทบอดใจรอไม่ไหว หากมันลงมือจริงนั่นเท่ากับว่าพอร์ชมันเพิ่มคดีอีกกระทง ปุณเป็นคนรักเพื่อนมาก หากรู้ว่าผมโดนทำร้ายโดยมีพอร์ชมาเกี่ยวข้อง เรื่องของผมก็จะง่ายขึ้น

   “อย่ายั่วยุซะให้ยาก ฉันไม่โง่ทำอะไรที่นายได้ผลประโยชน์หรอก แค่จะมาเตือน หยุดการกระทำชั่วๆ ของนายได้แล้ว หากไม่อยากโดนเพื่อนรักเกลียดขี้หน้า”

   คิ้วเข้มเลิกขึ้น ปากหนายกยิ้มเป็นต่อ ผมเกลียดมัน มันก็เกลียดผม เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ เรานิสัยเหมือนกันเกินไป รู้ทันกันไปหมดจนน่าหงุดหงิด อย่างที่ผมเดาได้ว่ามันต้องวิ่งแจ้นมาหาผมคนแรก แทนเพื่อนโง่เง่าที่มัวแต่อาละวาดทำร้ายตัวเองเพราะปุณหลบหน้า

   ผมยิ้มร้าย ไม่ยี่หระกับสิ่งที่มันพูด

   “อยากทำอะไรก็เชิญ” เพราะปุณรู้วีกรรมของผมสมัยมัธยมหมดแล้ว จะเลวจะชั่วแค่ไหนก็สารภาพไปจนหมดเปลือก ผมวางแผนทุกอย่าง ไม่เปิดช่องให้พวกมันโจมตีหรอก

   เห็นท่าทางไม่เดือดร้อนของผมแบบนี้ เซย์ก็รู้ได้ในทันทีว่าไม่อาจย้อนแผนทำร้ายผมได้ เจ้าตัวยอมผละไปในที่สุด แต่ไม่วายทิ้งท้ายด้วยคำพูดเจ็บแสบ

   “ตอนนี้ฉันอาจจะยังทำอะไรนายไม่ได้ แต่อยากจะเตือนนายไว้อย่าง เคยได้ยินรึเปล่า ยิ่งผ่านอุปสรรค์ความรักก็ยิ่งแนบแน่น กว่านายจะรู้ตัวอีกที พวกเขาคงปรับความเข้าใจรักกันหวานชื่นด้วยฝีมือของนาย”

   ผมกำหมัดแน่น ก่อนจะคุมอารมณ์ตัวเองให้สงบลงอย่างรวดเร็ว ความโกรธมีแต่จะทำให้การตัดสินใจผิดพลาด

   “คอยดูไปเถอะ ว่าจะแนบแน่นหรือขาดสะบั้นตลอดกาล”

   เค้นเสียงหัวเราะหึ ตบหน้าอีกฝ่ายเยาะเย้ยแล้วหันหลังเดินจากไป ผมได้ยินเสียงขบกรามของอีฝ่ายจังหวะที่เข้าใกล้ ไม่ต้องหันไปมองก็พอเดาได้ว่าสายตาคงแทบแผดเผาผมให้เป็นจุล

   ทุกอย่างกำลังไปได้สวย ปุณกับพอร์ชทะเลาะกันอย่างรุนแรงในหอของปุณเอง ดูเหมือนพอร์ชจะเป็นฝ่ายบุกมาหา ด้วยความอารมณ์ร้อนของมันทำให้เผลอทำร้ายปุณเข้า ผมที่คอยเฝ้าดูเขาอยู่เสมอจึงโผล่เข้าไปช่วยอย่างทันท่วงที ผมรู้ ผู้ชายเลวๆ อย่างมันหากถูกต้อนให้จนมุมย่อมคิดสั้นทำอะไรบ้าๆ เพื่อแสดงอำนาจและจุดยืนของตัวเองแน่

   มันเป็นอย่างที่ผมคิดไม่มีผิด ไอ้สารเลวมันคิดข่มขืนปุณ! ผมคว้าไหล่ซัดมันจนเลือดกบปาก ถอดเสื้อตัวเองคลุมตัวเพื่อนปกป้องอีกฝ่ายไว้ด้านหลัง แม้เสียงสะอื้นของปุณจะทำให้ผมปวดใจ แต่ถ้ามันทำให้ปุณตัดใจจากคนเลวๆ ได้ผมก็ยินดี

   แน่นอนว่ามันไม่ยอมง่ายๆ ยิ่งเห็นปุณพึ่งผมเต็มตัว แถมโดนสายตาเย้ยหยันจากผม มันก็เลือดขึ้นหน้าพุ่งเข้ามาแลกหมัด ผมรออยู่ก่อนแล้วยกเท้ายันท้องมันกลับ คนไร้สติกับผมที่คิดทุกอย่างรอบคอบไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฝ่ายไหนจะได้เปรียบ ผมอาศัยโอกาสนี้ซัดมันแบบไม่เกรงใจ ถือว่าเป็นการระบายความโกรธไปในตัว

   กล้าดียังไง กล้าดียังไงมาแตะต้องปุณของผม!!

   ขณะที่ผมกระชากคอเสื้อคนหมดสภาพ กำลังจะลงอีกหมัด แขนดันถูกคว้าไว้ด้วยใครอีกคน

   “จ้าว! พอได้แล้ว!!”

   ยกมือเสยผมอย่างหงุดหงิด ปรับสีหน้ากับน้ำเสียงหันไปคุยกับเพื่อนรัก ถึงงั้นก็ยังเจือไปด้วยความโกรธอยู่ดี

   “มึงจะมาห้ามกูทำไมปุณ มันจะ...โว้ย!! วันนี้แหละขอกูกระทืบมึงให้ตายไอ้เหี้ยพอร์ช”

   “จ้าว!! บอกให้พอไง”

   แรงอย่างปุณมีหรือจะห้ามผมได้ หมัดจวนจะถึงหน้าดันมีมารเข้ามาขวาง ฝ่ามือร้อนรับหมัดผมไว้ จงใจกำแน่นจ้องมองผมด้วยความโกรธ หึ! ตัวเสือกโผล่มาแล้ว

   “เซย์ พาพอร์ชไปโรงพยาบาล บะ...บอกด้วยว่าอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก!!”

   ผมยืนอยู่หน้าปุณ ทำให้เพื่อนสนิทไม่เห็นสีหน้าผมที่ลิงโลดแบบสุดๆ รอยยิ้มระบายเต็มหน้า ต่างกับเซย์ที่กำลังประคองเพื่อน ดวงตามันวาววับกัดฟันข่มอารมณ์โกรธหันไปคุยกับปุณอย่างใจเย็น เซ็งชะมัด ผมเกลียดคนมีสมอง

   “พาไปแน่อยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่จะบอก ไว้รอมันฟื้นค่อยบอกเองแล้วกัน ฉันไม่ใจคนใช้มัน”

   อ้อเหรอ ไม่ใช่คนใช้แต่ทำตัวเป็นอัศวิน ออกหน้าปกป้องเพื่อนไร้สมองตลอด ผมละสงสัยนัก บางทีมันอาจจะชอบพอร์ชก็ได้ ถึงได้ดูเป็นห่วง เป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องของมันซะจริง

   มันจ้องผมก่อนจะออกไปโดยไม่พูดอะไรอีก ผมหันมากอดปลอบขวัญปุณเลิกสนใจเจ้าพวกนั้น

   “ไม่เป็นไรนะปุณ จ้าวจะปกป้องปุณเอง” แทนที่มันจะซึ้งดันผลักผมออก

   “กูดูแลตัวเองได้”

   ได้ยินแบบนี้ผมถึงกับขึ้น

   “ดูแลบ้าอะไร เรื่องเมื่อกี้ยังไม่ชัดเจนพอใช่มั้ย ปุณ...กูขอล่ะ เลิกยุ่งกับมันไปเถอะ แค่มึงกับกูก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ”

   “เรื่องนี้กูตัดสินใจเอง อีกอย่างมึงทำเกินไป” พอเริ่มสงบสติอารมณ์ได้ ปุณหันมาโทษผม

   “ทำเกินไปตรงไหน มันจะข่มขืนมึงนะ! กูว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ อยากตามไปกระทืบถึงโรงบาลให้ตายไปเลย” ผมตวาดกร้าว อารมณ์พลุ่งพล่านจนยากจะระงับ ยังเป็นห่วงมันอีกเหรอ ทั้งที่มันทำถึงขนาดนี้

   ปุณสะดุ้งเพราะไม่เคยโดนผมเสียงดังใส่มาก่อน เขาหน้าเสียแต่ด้วยนิสัยไม่ยอมคนเลยยังเถียงสู้

   “พูดเรื่องตายๆ แบบนี้ได้ยังไง มันเป็นเรื่องใหญ่นะ ทำไมมึงถึงโหดร้ายแบบนี้วะ”

   “แล้วที่มันทำ!”

   “จ้าว!! กูไม่อยากพูดอีกแล้ว ปากด่าแต่คนอื่นอย่างกับตัวเองไม่เคยทำ” คงเพราะฟิวส์ขาด ปุณจึงหลุดปากพูดบางสิ่งออกมา ดวงตาผมเบิกกว้างอารมณ์ร้อนเมื่อครู่ถูกดับวูบในพริบตา

   “เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ?”

   หัวใจผมเต้นรัวกับสิ่งที่ได้ยิน ปุณดูตกใจที่หลุดปาก สิ่งที่พูดออกไปเอากลับคืนไม่ทันแล้ว คนตรงหน้าจ้องผมนิ่ง เม้มริมฝีปากแน่นมือเริ่มสั่นระริก

   “กูรู้ทุกอย่างที่มึงทำจ้าว เรื่องที่มึงทำกับกูตอนหลับและที่มึงทำลับหลัง กู-รู้-ทุก-อย่าง!”

   “งั้นทำไม...” ทำไมถึงไม่พูดอะไรเลย ทำไมถึงไม่ต่อว่าผม

   “เพราะมึงเป็นเพื่อนกูจ้าว เพื่อนคนสำคัญเพียงคนเดียวที่กูมี”

   ผมควรจะบอก บอกกับเขา...เผื่ออะไรจะดีขึ้นมาบ้าง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไปกว่านี้

   “กูชอ...”

   “ขอโทษ...กูขอโทษ อย่าพูดคำนั้นออกมาเลย แค่เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็แย่มากพออยู่แล้ว กูไม่เอาเรื่องมึงแต่ใช่จะไม่โกรธกับสิ่งที่มึงทำทุกอย่าง กูเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งมึงเข้าใจใช่ไหม”

   ผมเข้าใจ เข้าใจทุกอย่าง กระทั่งคำนั้นมันยังไม่ให้ผมพูดออกมา ผมทำได้เพียงก้มหน้าซ่อนความร้าวลึกเอาไว้ แล้วเงยหน้ามองมันด้วยสีหน้าปกติ กับรอยยิ้มที่มันเคยชมผมว่าดูดี อ่า...ผมคงใจร้อนมากไป ปุณเจอเรื่องแย่ๆ ไม่ควรไปกดดันมาก ผมควรจะเอาใจเขาถึงจะถูก

   “ใจเย็นๆ ทำใจให้สงบ มึงไปแต่งตัวก่อนเดี๋ยวกูช่วยเก็บห้องให้ เสร็จแล้วค่อยลงไปหาอะไรกินกัน ท้องอิ่มถึงจะคิดอะไรออกได้ มึงเป็นคนบอกกูเองไม่ใช่เหรอ”

   พูดพลางก้มลงเก็บของระเนระนาดกลับเข้าที่ สีหน้าปุณดูดีขึ้นหันไปแต่งตัวตามที่ผมบอก ก่อนจะยื่นเสื้อส่งคืนให้ผมที่เปลือยท่อนบนอยู่ แล้วลงมือเก็บอีกแรง

   กว่าจะเก็บของเข้าที่ ทิ้งของที่เสียหายก็กินเวลาไปไม่น้อย ผมกับปุณลงมาหาร้านข้าวง่ายๆ กินใต้หอ คืนนั้นผมนอนเป็นเพื่อนเขาเพราะดูอีกฝ่ายยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมเฝ้าดูท่าทางเขาตลอด เอาแต่มองประตูสลับกับมองมือถือราวกับรอใครสักคนโทรมา

   ผมเจ็บจนกระทั่งต้องหลบไปเข้าห้องน้ำ ใช้มือทุบอกหนักๆ ให้ความเจ็บทางกายภาพช่วยลดทอนความรู้สึกที่อยู่ภายใน ผมปลอบใจตัวเองอย่างที่เคยทำ ทุกอย่างมันยังไม่จบ ไอ้พอร์ชมันยังนอนอยู่โรงพยาบาล ผมยังมีโอกาส ใช่...ต้องวางแผนขั้นต่อไปแล้ว

   แต่ผมเดินหมากช้าไปก้าวหนึ่ง...วันรุ่งขึ้นประตูห้องถูกเคาะตั้งแต่เช้า ปุณที่ขึ้นชื่อเรื่องความขี้เซากลับเป็นคนที่ตื่นตัวรีบพุ่งไปเปิดประตูเผยให้เห็นผู้มาเยือน

   เซย์กับชุดเมื่อวานที่เปื้อนเลือดเล็กน้อย แววตาแฝงความอิดโรย เขาเมินผมที่เดินมาหยุดอยู่ด้านหลังปุณ คุยกับเจ้าของห้องแทน

   “พอร์ชเป็นยังไงบ้างเซย์” ปุณดูเป็นห่วงอาการมันมาก ก็แปลกน่าแปลกใจอะไร มือเท้าผมหนักจะตาย ส่งคนเข้าโรงบาลเป็นเดือนยังเคยมาแล้ว ปุณที่เป็นคู่หูผมย่อมรู้ถึงฝีมือผมดี เมื่อวานเล่นซัดไปเต็มเหนี่ยว คิดว่าป่านี้ยังไม่พ้นจากโรงบาลหรอก

   “ก็ดี แค่นอนยังไม่ได้สติ โทษทีนะ ฉันขอเข้าไปหน่อย ดูเหมือนว่าเมื่อวานพอร์ชมันจะทำมือถือตกไว้ที่นี่”

   พอได้ยินว่าอีกฝ่ายยังไม่ได้สตินอนอยู่โรงพยาบาล ปุณก็ยืนสติหลุดเปิดทางให้เซย์เข้ามาในห้องอย่างง่ายดาย ผมกอดอกยืนขวาง

   “คิดจะทำอะไร” ผมมั่นใจว่าเมื่อวานตอนเก็บของไม่เห็นมือถือที่มันกล่าวอ้าง ร่างสูงเอี้ยวตัวผ่านผมทำเป็นก้มหาแถวโซฟา ปากพูดด้วยเสียงที่ได้ยินเพียงสองคน

   “ทำเรื่องทุกอย่างให้มันถูกต้อง นายควรพอได้แล้วจ้าว คำตอบทุกอย่างนายรู้อยู่แก่ใจ”

   ดวงตาคมปรายมอง มือหยิบมือถือจากใต้โซฟาอย่างแนบเนียน ทั้งที่เห็นๆ ว่ามันซ่อนอยู่ตรงฝ่ามือ ผมนิ่งไม่ขัดขวาง อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะทำอะไร

   “เจอมั้ยเซย์” เจ้าของห้องที่เพิ่งได้สติออกปากถาม เซย์พยักหน้ารับลองปลดล็อกหน้าจอเช็คแบบจงใจให้ปุณเห็น  ผมคิ้วกระตุก พอจะเข้าใจแล้วว่าเจตนาของเซย์คืออะไร ในเมื่อภาพนั่นเป็นภาพของปุณกับพอร์ชที่โอบคอกันถ่ายรูปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม มันจงใจมาพูด แสดงให้เห็นเพื่อกระตุ้นให้ปุณไปหาพอร์ช

   และดูเหมือนจะได้ผลดีเสียด้วย...

   “นายจะไปไหนปุณ” ผมถามเสียงเรียบ ปุณสะดุ้งมองผมอย่างหวาดๆ ขอบคุณที่ยังนึกถึงผมอยู่นะ แม้ว่าจะเป็นเพราะกลัวผมไปทำมันตายคาโรงพยาบาลก็เถอะ

   “ฉัน...”

   “ฉันกลับโรงพยาบาลก่อนนะ พ่อแม่เจ้านั้นอยู่ต่างประเทศกันหมด ไม่มีคนเฝ้า” เซย์ขอตัวได้จังหวะ ปุณลังเลอย่างหนัก หัวใจของเขาคงไปอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ผมมองภาพนั้นพลางถอนหายใจ

   “จะไปโรงบาลใช่มั้ย เดี๋ยวฉันขับเอง แต่ละคนไม่ได้นอนทั้งคืน เดี๋ยวจะไม่ถึงโรงบาลเอา” ผมหยิบกุญแจรถของตัวเองขึ้นมาชู เมินสายตาแปลกใจของเซย์และสีหน้ายินดีอย่างปิดไม่มิดของปุณ

   ผมที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วมารอปุณแต่งตัวบ้าง ที่นี่มีห้องน้ำห้องเดียวต้องผลัดกันเอา ความจริงปุณจะไม่ทำกิจวัตรยามเช้าด้วยซ้ำ แต่ถูกผมยื่นคำขาดว่าหากไม่ทำจะไม่ยอมพาไป จึงยอมเดินเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่าย ในห้องนั่งเล่นเลยเหลือเพียงแค่ผมกับเซย์ พวกเราไม่เปิดปากพูดแม้แต่คำเดียว พอเขาจะพูดผมก็แสร้งทำอย่างอื่นจนอีกฝ่ายล้มเลิกความตั้งใจไป

   พอปุณออกมาเราถึงเดินทางไปโรงพยาบาลตามคำบอกของเซย์ ที่นี่เป็นโรงบาลเอกชน ก้าวแรกที่เข้าไปพบกับกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อกับสภาพแวดล้อมที่สะอาดสะท้านสมกับเป็นโรงบาลราคาแพง ปุณแทบจะวิ่งนำ หากไม่ติดว่าต้องให้เซย์นำทางคงพุ่งออกไปแล้ว

   ไอ้พอร์ชอยู่ห้องพักฟื้นวีไอพี กวาดตาดูผ่านๆ ก็ยังสุขสบายดีแค่ยังไม่ฟื้นอาจจะด้วยฤทธิ์ยาหรืออะไรก็แล้วแต่ ปุณเหมือนโนความรักบังตา ทำหน้าเหมือนเจ็บปวดรวดร้าวอย่างแสนสาหัสยามเห็นสภาพเน่าๆ ของมัน ผมรู้ความดีไม่เปิดปากเหน็บแนมให้สะใจ ไม่งั้นปุณคงมองผมในแง่ร้าย

   เซย์จงใจยืนข้างผม ชวนสนทนา

   “ยังพยายามรักษาหน้ากากอยู่อีกเหรอ”

   ผมไม่ตอบโต้อะไร เพียงแค่ปรายตามองอย่างเย็นชา เดินไปชวนปุณคุย อาสาซื้อของกินมาให้ เพราะพวกเรายังไม่ได้กินอะไรกันตั้งแต่เช้า เพื่อนรักผมดันบอกให้ซื้อมาเผื่อเชี่ยเซย์อีก แม้จะไม่อยากทำแต่ปฏิเสธไม่ได้ สุดท้ายผมเลยเป็นคนลงไปซื้อข้าวกล่อง

   ของปุณผมตั้งใจสั่งแต่ของโปรด คะยั้นคะยอให้เขากินให้หมด แต่ปุณมัวแต่เป็นห่วงคนจนกินไปแค่ครึ่งเดียว ผมเองก็หมดความอยากอาหารทิ้งกล่องโฟมไม่ใยดี ต่างจากเซย์ที่ยังละเลียดกินหมดหน้าตาเฉย ทั้งที่ผมสั่งแต่ผักกับข้าวมาให้มันกิน

   ความสงบนิ่งที่แสดงออกมาภายนอกของผมสั่นคลอนทันทีเมื่อพอร์ชฟื้นขึ้นมาตอนบ่าย ปุณกระวีกระวาดกดปุ่มเรียกหมอกับนางพยาบาลมาดูอาการ ผลออกมาว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่กระดูกร้าวนิดหน่อย กับรอยพกช้ำตามตัว ปุณแสดงสีหน้าวิตกอย่างกับมันเป็นเรื่องใหญ่

   ผมกำลังจะก้าวออกไปชวนปุณกลับบ้าน กลับถูกคนที่เงียบมาตลอดดึงแขนไว้ พวกเราจ้องตาอยู่อย่างนั้นท่ามกลางสายตาหมอกับนางพยาบาลที่เดินออกไป มองพวกเราอย่างหวาดๆ คงกลัวจะมีเรื่องกันที่นี่ ผมกระชากแขนออกเดินเข้าไปหาปุณ ทำให้ได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกันเต็มสองหู

   “พอร์ช เป็นยังไงบ้าง” น้ำเสียงเป็นห่วงสุดใจ ทำให้ใครบางคนเจ็บแปลบ

   “แค่เห็นหน้านายก็รู้สึกดีแล้ว...ขอโทษนะปุณ ฉันมันเลว ฉันมันชั่วที่ให้อารมณ์ชั่ววูบควบคุมตัวเองจนเกือบทำร้ายนาย”

   “ใช่! นายมันเลวโคตรพ่อโคตรแม่ หายเมื่อไหร่ฉันจัดการนายซ้ำแน่ บอกแล้วไม่ใช่รึไงว่าอย่าดื่มเหล้าจนขาดสติ”

   “ขอโทษ...ฉันเครียดเรื่องปุณเลยดื่มหนักไปหน่อย ช่วยฟังฉันหน่อยได้ไหม อย่างน้อยก็ขอโอกาสให้ฉันอธิบาย”

   คนเจ็บยกมือสั่นเทาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเต็มไปด้วยความรู้สึก แทนที่ปุณจะปัดออก กลับจับมือข้างนั้นไว้

   “เรื่องทุกอย่างเอาไว้ค่อยคุยตอนนายหาย” นั่นไม่เท่ากับว่าจะอยู่เฝ้ามันตลอดเหรอ...

   “ไม่ปุณ ฉันจะไม่รออีกแล้ว ก่อนที่ทุกอย่างจะพังลงเพราะใครบางคน ในอดีตฉันเคยเจ้าชู้ก็จริง แต่พอเจอปุณ ฉันตัดขาดกับเรื่องพวกนั้นหมด เรื่องหมั้นเองก็ถูกยกเลิกไปแล้ว สำหรับฉันชลเป็นเพียงแค่น้องสาว แถมเธอก็มีคนรักแล้วด้วย”

   “ทำไมไม่บอกกันแต่แรก...”

   “ฉันกำลังจะบอก แต่พวกเราทะเลาะกันก่อน ปุณ...พอร์ชรักปุณนะ รักมาก เชื่อใจพอร์ชเถอะ” น้ำเสียงเว้าวอนที่หากผู้หญิงมาได้ยินคงใจอ่อนทุกราย ไม่เว้นกระทั่งเพื่อนของผม น่าสมเพชชะมัด

   “ไม่รู้! ไม่ยกโทษให้ ถ้าอยากคุยก็รีบหายไวๆ เราค่อยมาคุยเรื่องนี้กันอีกที”

   แค่นี้ก็พอแล้ว...คำพูดของปุณตอนนี้ไม่ต่างจากการให้อภัยพอร์ชทุกอย่าง ในขณะที่ผมยืนนิ่งค้างอยู่หลังฉาก มองภาพบาดตาเหล่านั้นจนจำลึกในสมอง รู้สึกมือเท้าชาไปหมด หัวว่างเปล่าไปชั่วขณะจนมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา

   “นายควรจะรู้จุดยืนของตัวเองได้แล้ว ก่อนที่แม้แต่ฐานะเพื่อนก็จะไม่...” เขาหยุดไปเพราะผมไม่ทนยืนฟังต่อ

   ”นั่นนายจะไปไหน”

   “เรื่องของฉัน” ผมตอบเสียงเย็น

   จบ... ทุกอย่างมันจบแล้ว! ไม่มีความหวัง ไม่มีอะไรทั้งนั้น ทั้งหมดผมแค่หลอกตัวเอง มันไม่มีโอกาสตั้งแต่ต้น ผมเข้าใจดี ผมไม่ได้โง่ ผมควรจะทำใจได้ในเมื่อรู้ตั้งแต่แรก แล้วทำไมหัวใจผมถึงเจ็บปวดขนาดนี้...


ต่อด้านล่าง
v
v
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง >>จุดเริ่มต้น<<
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 24-09-2016 06:58:16
นานๆทีได้อ่านมุมมองจากตัวร้ายในเรื่อง เศร้าเหมือนกันนะ TvT
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง >>จุดเริ่มต้น<<
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 24-09-2016 08:19:04
 :sad4: ไม่ใช่พระเอกเลยผิดหวังทุกที
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง >>จุดเริ่มต้น<<
เริ่มหัวข้อโดย: dena ที่ 24-09-2016 10:18:32
TBC นี่แสดงว่ามีต่อช่ายหมายยยยยยยยยย  มาต่อเร็วน้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง >>จุดเริ่มต้น<<
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 24-09-2016 11:05:39
มีต่ออีกตอนจ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง >>จุดเริ่มต้น<<
เริ่มหัวข้อโดย: BeautifulGirl ที่ 24-09-2016 12:38:58
รอต่อค่ะ สนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 24-09-2016 18:24:08
ตั้งแต่นี้จะเปลี่ยนชื่อ 'เจ้า' เป็น 'จ้าว' เพื่อความอ่านง่าย

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

   I hate you I love you
   I hate that I want you
   You want her,you need her
   And I’ll never be her…


   เสียงเพลงดังขึ้นทันทีที่ผมสตาร์ทรถ เป็นเพลงที่ฟังวนเวียนอยู่ช่วงนี้ ท่อนที่ฟังค้างไว้มันช่างเหมาะเจาะจนน่าขำ ผมปล่อยมันไว้อย่างงั้น แล้วขับออกไป ไปให้ไกลจากภาพพวกนั้น

   ไม่เคยเข้าใจอารมณ์คนอยากหนีเท่ากับตอนนี้มาก่อนเลย อยากหนีไปให้ไกล ไม่อยากรับรู้อะไรอีก เหนื่อยเหลือเกิน เจ็บมาตั้งเท่าไหร่ ผมควรจะทนกับมันอีกหรือ

   ผมเลือกไปทะเลใกล้กับกรุงเทพเพราะที่นี่มีพร้อมทุกอย่าง แวะร้านซื้อเหล้ามากระดกดื่มยกขวดแบบไม่กลัวเมา การเมาไม่ทำให้คนลืม แต่อย่างน้อยในช่วงที่สติล่องลอยก็พอให้บรรเทาความเจ็บปวดลงไปบ้าง น่าเศร้าที่ผมคอแข็งเกินไป กว่าจะถึงจุดนั้นคงต้องเปลืองเหล้ากันหน่อย

   ทิ้งตัวนั่งลงบนผืนทราย เหม่อมองทะเลในตอนกลางคืน หูฟังเสียงคลื่นกระทบชายหาด สายลมพัดผ่านไม่ชวนให้รู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย

   จู่ๆ ก็มีคนมานั่งข้างๆ แค่ฟังเสียงก็รู้แล้วว่าใคร

   “หนีมากินเหล้าไกลไปมั้ย”

   ผมพูดทั้งที่ไม่หันไปมอง “ขนาดกูมาไกล หมามันยังตามมาได้ ตามาทำไม”

   “แค่อยากตาม ที่นี่ไม่ใช่ของนายคนเดียวสักหน่อย”

   “กลับไป กูไม่อยากเห็นหน้ามึง มึงช่วยสำนึกด้วยว่าที่กูมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะมึง อ้อ...ลืมไป อย่างมึงคงไม่มีสำนึกหรอก สะใจมึงแล้วสิ เพื่อนมึงได้คบกับเพื่อนกูแล้วไง โดยที่ทุกอย่างเป็นเพราะฝีมือกูที่มึงใช้ประโยชน์” ใบหน้าผมคงบิดเบี้ยวไม่น่ามอง คำที่มันเคยพูดผมยังจำได้ดี

   ‘ตอนนี้ฉันอาจจะยังทำอะไรนายไม่ได้ แต่อยากจะเตือนนายไว้อย่าง เคยได้ยินรึเปล่า ยิ่งผ่านอุปสรรค์ความรักก็ยิ่งแนบแน่น กว่านายจะรู้ตัวอีกที พวกเขาคงปรับความเข้าใจรักกันหวานชื่นด้วยฝีมือของนาย’

   เสียงที่สะท้อนอยู่ในความทรงจำ ดังชัดเจนอยู่ด้านข้าง

   “ใช่ ฉันยอมรับว่าใช้ประโยชน์จากนาย งั้นฉันขอถามหน่อย ถ้าเกิดไอ้พอร์ชมันเลิกกับปุณจริง นายคิดว่าปุณจะเอานายเป็นแฟนมั้ย?” น้ำเสียงจริงจัง วาจาบาดลึก หากให้บรรยายภาพหัวใจผมตอนนี้คงกำลังถูกกรีดแทงซ้ำๆ จนเลือดอาบกาย

   “กูไม่ได้โง่ กูรู้แล้วมึงจะมาตอกย้ำทำเหี้ยอะไร” กำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำ “หรือต้องให้กูตายไปจากชีวิตพวกนั้นถึงจะสมใจมึง บอกกูมาสิ!!” ผมกระชากคอเสื้อตะคอกใส่อย่างเหลืออด ผมถอยมาแล้ว มันต้องตามมาไล่ต้อน

   คนตรงหน้าเริ่มอารมณ์ขึ้นบ้าง มันปัดมือผมออกเปลี่ยนเป็นฝ่ายกระชากคอเสื้อผมแทน

   “เพราะกูต้องการให้มึงตาว่างเลิกโทษตัวเอง เลิกโทษคนอื่นไงไอ้ควาย! เรื่องนี้มึงผิดที่พยายามดึงดันในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ไอ้พอร์ชมันไม่ผิดที่ชอบปุณและปุณมีใจให้กับมันเหมือนกัน”

   มึงพูดแบบนี้...มึงฆ่ากูเลยเถอะ...ผมได้แต่ส่งเสียงอย่างสิ้นท่าอยู่ในใจนิ่งเงียบไม่ตอบโต้อะไร ริมฝีปากถูกกัดนเลือดซึม ทำไมต้องทำให้ผมเจ็บไปมากกว่านี้ เจ็บเจียนตาย...

   “ฮะ ฮะ ฮ่าๆๆ!!” ผมหัวเราะ หัวเราะอย่างบ้าคลั่งให้กับโชคชะตาของตัวเอง ท่าทางผมคงน่าสมเพชมากมันถึงได้เบนหน้าหนี ผมเมินเฉยกระดกเหล้าไม่สนส่วนที่หกเลอะตัว ไม่อยากสนใจอะไรอีก ปล่อยผมไป ปล่อยให้ผมจมอยู่กับความรู้สึกของตัวเอง

   เหมือนเสียงกรีดร้องคร่ำครวญในใจผมยังพอส่งถึงอีกฝ่ายบ้าง เซย์ไม่พูดอะไร ทำเพียงแค่นั่งมองผมเงียบๆ ผมเริ่มเมา รอบตัวมีแต่กลิ่นเหล้า โลกหมุนไปหมดจนต้องทิ้งตัวลงนอนบนผืนทราย ได้ยินเสียงถอนหายใจมาจากอีกคนพร้อมกับร่างผมที่ถูกยกขึ้นพากลับไปที่รถของมัน

   ผมหลับตา ปล่อยตัวเองให้ตกอยู่ในความมืด ขอพักก่อน สักนิดก็ยังดี ให้ผมได้ฟื้นกำลังกลับมาพบกับความจริงอีกครั้ง

   ตื่นขึ้นมาอีกทีบนเตียงในบ้านพัก ผมไม่ได้ถูกทิ้งไว้ตรงชายหาดอย่างที่คิด กลิ่นอาหารโชยมาจากด้านนอก รังแต่จะทำให้ผมคลื่นไส้จนต้องวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่ออ้วกเอาสิ่งที่กินเข้าไปออกมา เสียงโอ้กอ้ากของผมดึงความสนใจจากคนที่อยู่ด้วย สัมผัสตรงแผ่นหลังที่ถูกลูบอย่างอ่อนโยนทำให้ผมตั้งตัวไม่ติด พอหันไปมองมันก็ส่งผ้าขนหนูกับแก้วน้ำให้บ้วนปาก

   “จัดการตัวเองซะ ข้าวเช้าเสร็จแล้ว ไม่สิ...เวลานี้คงต้องบอกว่าข้าวเที่ยง”

   สิ้นคำมันก็เดินจากไป ผมที่สมองยังไม่กลับเข้าที่ดี ผลจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เมื่อคืนได้แต่งุ่นงงไม่เข้าใจ ในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียผมเลยอาบน้ำให้ตัวเองสดชื่น พบว่าตัวผมไม่เปื้อนทรายหรือมีกลิ่นเหม็นอย่างที่คิด แบบนี้ไม่เท่ากับว่าเมื่อคืนมันเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อให้ผมหรอกเหรอ

   ผมเดินออกมามองมันที่นั่งรอตรงโต๊ะอย่างระแวง

   “มึงคงไม่ได้วางยากูใช่มั้ย”

   “ถ้ากูอยากฆ่า คงลงมือไปตั้งแต่เมื่อคืน” คำแทนตัวฉัน นายหายไป คาดว่านี้แหละคือสันดานที่แท้จริงของผม ผมแสยะยิ้ม พอนึกถึงสภาพตัวเองได้ รอยยิ้มก็เลือนหายทรุดกายลงกินอาหารเช้าเงียบๆ ทบทวนในหัวว่าตัวเองจะทำยังไงต่อไป แต่ที่แน่ๆ ผมไม่คิดจะกลับไปตอนนี้ให้เจ็บช้ำกว่าเดิมและไม่คิดสั้นอย่างการฆ่าตัวตายด้วย

   บางที...คงถึงเวลาที่ผมจะปลดปล่อยตัวเองไปตามแบบที่ควรเป็น

   ผมไม่สนใจ ไม่ขอบคุณ ไม่คิดอะไรทั้งนั้นทำรายกับเซย์เป็นอากาศธาตุ ส่วนผมแค่กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม ก่อนที่จะเจอปุณ ดื่มเหล้า เที่ยวกลางคืน นอนกับคนที่มาเสนอ ผมไม่เกี่ยงว่าจะเป็นชายหรือหญิง ขอแค่หน้าตาดีหรือมีส่วนที่ดึงดูดผมก็พอ

   น่ารำคาญตรงที่ผมไม่สามารถหิ้วคนเหล่านั้นมานอนที่บ้านพักได้ แม้ว่าจะเปลี่ยนชื่อผู้เช่าเป็นผมแล้วก็ตามเพราะมีหมาบางตัวไม่ยอมไปไหน ทำอะไรโง่ๆ อย่างการดูแลผม เฝ้ารอจนผมกลับ คอยทำอาหารเช้าให้ ตามเก็บซากผมไปทั่ว

   ผมเคยจงใจแกล้งด้วยการทำให้สถานที่เลวร้ายแบบสุดๆ เซย์ไม่พูดอะไรสักคำ นอกจากจ้องมองผมด้วยแววตาที่ผมนึกรังเกียจ สงสาร สมเพช อย่างผมเป็นตัวไร้ค่าตัวหนึ่ง

   แต่ความอดทนของคนย่อมมีขีดจำกัด ในวันที่ห้าผมกำลังเปลี่ยนเสื้อที่ซื้อมาใหม่ออกไปท่องราตรีอย่างเคย เจ้ากาฝากดันยืนขวางหน้าประตูยึดกุญแจรถไป ตอนนี้มีรถสองคัน ของผมกับมันคนละคัน

   “พอได้รึยัง”

   น้ำเสียงกดต่ำ ผมเกลียดคำนี้ มันคล้ายกับคำที่ปุณบอกผม แขนขวาผลักมันออก แต่มันดันฝืนตัวไว้ไม่ยอมขยับ

   “เกะกะ ถอยไป ถ้าทนไม่ได้ก็กลับไปซะ กูไม่ได้ต้องการมึงอยู่แล้ว” ใช้ลิ้นเดาะบุหรี่ในปากเล่น จริงๆ ผมเป็นคนติดบุหรี่ เลิกสูบไปเพราะปุณแพ้ ตอนนี้กลับมาสูบใหม่ ในเมื่อไม่มีใครให้ต้องห่วงอีก

   “กูถามว่ามึงพอได้แล้วรึยัง!!” แรงมหาศาลผลักอกผมจนเซ ดีที่ผมคว้าเก้าอี้ได้ทันไม่งั้นคงมีรายการลงไปกองกับพื้นบ้าง “มึงทำร้ายตัวเองแบบนี้คิดว่าปุณจะกลับมาสนใจมึงเหรอ ที่ผ่านมาเขายังไม่โทรหามึงเลยแม้แต่สายเดียว ตอนนี้คงมัวแต่ดูอาการพอร์ชที่ผมทำล่ะมั้ง จะโง่ก็ให้มันมีขอบเขตหน่อยจ้าว”

   ผมกัดฟันกรอด ขยี้บุหรี่ในมือทิ้งโดยไม่สนใจความร้อนจี้จนเกิดแผลบนฝ่ามือ

   “มึงมันคิดเองเออเองเซย์ กูไม่ได้ทำประชดมัน กูแค่กลับไปเป็นตัวตนของกูเมื่อก่อน ถ้ามึงทนไม่ได้ก็ไสหัวไป”

   ผมไม่เข้าใจ มันโมโหจนหน้าแดงก่ำควันออกหู แต่ทำไมไม่พุ่งเข้ามาทำร้ายผม มีแต่เรื่องน่ารำคาญทั้งนั้น ก่อนไอเดียหนึ่งจะแวบเข้ามาในหัว ผมเปลี่ยนท่าทางเดินเข้าไปประชิดจนผิวกายแนบกัน ใช้ปลายนิ้วเชยคางมันอย่างท้าทาย

   “กูต้องการจะออกไปหาคนระบาย ถ้ามึงไม่ให้กูออก งั้นมึงมาเป็นคนนั้นให้กูไหมล่ะ”

   ดวงตามันเบิกกว้าง คงไม่คิดว่าผมจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา ในขณะที่ผมกำลังยิ้มในชัยชนะ เดินชนไหล่ผ่านตัวมันไปหมุนกุญแจรถที่ผมอาศัยทีเผลอชิงกลับมากวนอารมณ์มัน ฉับพลัน! แขนผมโดนคว้า ผมหันกลับเตรียมง้างหมัดรับการโจมตีแต่มันกลับทำอีกอย่างด้วยการกดผมกำประตูจนเกิดเสียงดังตึง!

   “ได้...มึงพูดเองนะ กูจะทำตามที่มึงขอ!!”

   ปากถูกบดกระแทกจนได้กลิ่นเลือด ผมไม่ยอมให้มันลูบคม ใช้มือรั้งท้ายทอยมาบดจูบคืน เสื้อผ้าเริ่มหลุดจากร่างกายทีละชิ้นทั้งมันและผม ด้วยความที่ผมทำร้ายตัวเองด้วยเหล้าบุหรี่แถมยังนอนน้อย ผลที่อาจมาคงไม่ต้องคาดเดา มันเป็นเซ็กส์ที่มีเพื่อระบายความใคร่โดยแท้

   ไร้ซึ่งความอ่อนโยน ไม่มีการปลุกเร้าให้เสียเวลา เหมือนเราอยู่ในสังเวียนคนละด้านเข้าโรมรันแบบไม่มีใครยอมใคร ถึงผมเสียเปรียบแต่ก็ไม่ยอมสิ้นท่า ต่อให้พลิกตำแหน่งกลับไม่ได้ ก็ทำให้มันหลุดคำรามด้วยความหงุดหงิดแกมอัดอั้นอย่างทรมาน

   กว่าจะรู้ว่าตัวเองพลาดไปก็เช้าของอีกฝ่าย คล้ายกับว่ามันรอเวลานี้มานานแล้ว ทุกอย่างกระจ่างชัด คงไม่ต้องถามกันถึงเหตุผลที่มันมาขลุกอยู่กับผมเกือบอาทิตย์

   “กูชอบมึงจ้าว”

   คำพูดที่มันบอกก่อนจะลุกออกจากเตียงไปเก็บเสื้อผ้าตามพื้นขึ้นมาสวมแล้วเตรียมอาหารเช้าอย่างที่มันทำทุกวัน ผมสูบบุหรี่เอนหลังพิงหัวเตียง ไม่รู้สึกรู้สากับคำบอกรักมันแม้แต่น้อย เพราะใจของผมยังเจ็บช้ำกับตัวตนของปุณ ไม่ว่าพยายามลืมสักเท่าไหร่ ภาพทุกอย่างยิ่งสลักลึกอยู่ภายในจนยากจะลบเลือน ช่วงเวลาสองปีของผมไม่ใช่ความฝัน

   หลังจากนั้นผมไม่ได้ออกไปหาใครข้างนอกอีก เรามีอะไรกันหลายต่อหลายครั้ง บ่อยจนนับไม่ถ้วน แทบจะหมกมุ่นกับสิ่งนั้นเลยก็ว่าได้ นับจากวันนั้นเซย์ไม่เคยหลุดคำว่าชอบออกมาอีกเลย เพราะมันรู้ดีกว่าพูดไปก็ไร้ความหมาย ในเมื่อไม่มีผู้ฟัง

   เสียงเสียดสีของผิวกาย ผสานเสียงหอบหายใจกับอารมณ์ที่ปะทุ ภายใต้เงาสลัวของไฟบนหัวเตียง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เซย์ที่ยังมือวางเป็นฝ่ายกดดูชื่อบนหน้าจอ ชั่วแวบนั้นใจผมกระตุกวูบ มันเป็นชื่อของเชี่ยพอร์ช มั่นใจได้เลยว่าปลายสายนั้นไม่ได้มีมันเพียงลำพัง

   พอเห็นว่าเป็นใครเขาปิดเครื่องและโยนทิ้งไปอีกทาง

   “ไม่ต้องสนใจ นายยังมีฉัน”
   
   เซย์ดึงความสนใจผมด้วยสัมผัสทางกายแล้วเขาก็ทำสำเร็จ แม้จิตใจผมยังว้าวุ่นอยู่ก็ตาม หลังความสัมพันธ์อันหนักหน่วงผ่านพ้นไป เซย์ลงจากเตียงทั้งสภาพเปลือยเปล่าเพื่อหยิบมือถือ เขาสวมกางเกงลวกๆ คงคิดจะเดินออกไปคุยโทรศัพท์ด้านนอก สังเกตจากท่าทีหงุดหงิดของมันแล้ว บอกได้ว่าทางนั้นโทรมาบ่อยขนาดไหน แต่มันกลับเก็บเงียบแนบเนียนจนเผลอตัวให้ผมรู้เอาป่านี้
   
   ผมดีดนิ้วเรียกให้มันหันกลับมา แล้วพยักหน้ามองเตียงบอกให้มันนั่งคุยตรงนี้ ส่วนตัวเองหยิบบุหรี่มาคาบในปาก เซย์รู้งานควงไฟแช็คจุดไฟให้อย่างคล่องแคล่ว ถึงจะไม่ชอบให้ผมสูบแต่มันขัดผมไม่ได้ เลยแสดงสีหน้ายุ่งๆ

   เหอะ! อย่าคิดว่าผมไม่รู้ มันสูบจัดกว่าผมอีก ไม่ว่าจะเลิกหรือยังไม่เลิกก็ตาม ผมรู้ได้ตอนจูบกับมัน

   “โทรไป เปิดลำโพงด้วย”

   ระหว่างเราไม่จำต้องพูดอะไรมาก เซย์ถอนหายใจยอมทำตาม เอาจริงๆ มันก็ขยันเอาใจผมนะ เชื่อเลยว่าใครเจอมันในโหมดนี้ไม่พ้นมือมันสักคนแน่ เสือกับเสือรู้ๆ กันอยู่

   สัญญาณยังไม่ทันดัง ทางนั้นก็รับแล้ว แสดงว่านั่งเฝ้ามือถือตลอด

   /มันเป็นไงบ้างวะ แฟนกูอยากรู้/ น้ำเสียงสัตว์นรกระรื่นจนผมอยากพุ่งไปฆ่าทิ้ง

   เซย์ปรายตามองผม เปิดปากพูดแค่คำเดียว “แย่” เออ กูแย่เพราะมึงนี่แหละ ห่า...ปากหมาฉิบหาย ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน แทบไม่มีใครไหนที่มันเปิดปากแล้วไม่ตอกย้ำให้ผมจมดินกับการอกหัก

   /กูพาแฟนกูไปหามันได้มั้ย ปุณเป็นห่วงมาก/ คำพูดมันทำให้ผมเจ็บจี๊ดอีกแล้ว ผมคงแสดงสีหน้าชัดเจนไปหน่อย มือหยาบเลยยื่นมาคลึงหัวคิ้วให้คลายออกแล้วบีบมือผมไว้

   “อย่าเลยว่ะ ตอนนี้มันยังไม่พร้อมจะพบใคร พวกมึงทำมันเจ็บ กูเข้าใจความรักมันห้ามกันไม่ได้ แต่กูก็รักของกู อย่าทำมันเจ็บไปมากกว่านี้” ระหว่างที่ผมพูด เรามองสบตากันตลอด

   /แต่แฟนกูเป็นห่วงจริงๆ เจอแปบเดียวก็ยังดี ไม่ให้มันรู้ตัวไง ปุณไม่ยอมฟังกูเลยว่ามึงดูแลมันอยู่ไม่ตายห่าไปก่อนหรอก/

   ชาติชั่ว..ผมกัดไส้กรองบุหรี่แทบแหลกคาปาก เซย์หยิบมันออกไปขยี้ดับไว้ที่เขี่ยบนหัวเตียง ผมรู้สันดานมันไงถึงไม่อยากให้ปุณคบ แม้ว่ามันจะดูรักปุณจริงๆ ก็เถอะ บัดซบเอ๊ย

   “แฟนมึงแค่เป็นห่วง แต่คนที่กูรักเจ็บเจียนตาย ขอเหอะ พูดอะไรระวังปากบ้าง ไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่เห็นมึงเป็นเพื่อนไอ้พอร์ช”

   /ก็มันทำกับกูไว้เยอะ/

   “...”

   /เฮ้อออ โอเค กูเข้าใจแล้ว กูขอโทษ.../

   “อย่าขอโทษเพราะมันไม่ช่วยอะไร เอาเวลานี้ไปดูแลแฟนมึงซะ รักษาความรักของพวกมึงให้ดี ให้สมกับที่มันยอมเสียสละให้”

   /เออๆ รู้แล้วหน่า มึงก็พูดมากจริง เล็งมันเหมือนกันไม่ใช่รึไง ตอนนี้น่าจะวินทุกฝ่าย/

   “พอร์ช...”

   ต่อให้ไม่ใช่คนสนิทผมก็สัมผัสได้ว่าตอนนี้เซย์เริ่มจะโกรธมากแล้ว ไอ้ชั่วตัวนั้นมันคบกันมานานย่อมรู้ดีกว่า ยอมหุบปากฉับถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเพื่อนสองสามคำแล้ววางสายไป ได้ยินเสียงแว่วๆ ของปุณถามถึงผม เซย์กำมือผมแน่นทันที

   “มึงได้ยินทุกอย่างแล้ว กูคงไม่ต้องพูดอะไรอีก แต่อยากให้มึงรู้ไว้สักหน่อย ไม่ว่าบทสรุปจะเป็นยังไง กูจะไม่รั้งมึงไว้เลยหากมึงไม่ต้องการกูจริงๆ แต่ตอนนี้ ขอแค่เวลานี้ ให้กูได้อยู่กับมึงในช่วงที่อ่อนแอที่สุดก็พอ”

   ผมหัวเราะหึ

   “อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ อย่าทำตัวเป็นคนดีเซย์ มึงร่วมมือกับเพื่อนสร้างโอกาสให้ตัวเองด้วยการถีบกูให้อยู่ในจุดที่ตกต่ำที่สุด”

   มันยิ้มเมื่อตัวเองถูกเปิดโปงจนหมดสิ้น นับว่าเป็นรอยยิ้มที่ผมเห็นครั้งแรกจากคนอย่างมัน ไม่ต่างจากรอยยิ้มของผมเลยสักนิด

   มือใหญ่ยกกุมลำคอผม ผมจ้องมันอย่างไม่เกรงกลัว ลองมันทำอะไรบ้าๆ สักนิด ลูกชายใต้ตีนผมได้สูญพันธุ์แน่ บอกแล้วไง ผมกับมันตัวพอๆ กัน

   ใบหน้าหล่อเลวโน้มเข้ามาใกล้ กระซิบอยู่ข้างหู “เป็นอย่างที่มึงบอก แต่กูเองก็ไม่ความตามนั้นจริงๆ กูต่างจากมึงจ้าว กูฉลาดพอที่จะไม่ฝืนรั้งในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง” ทิ้งท้ายด้วยการผ่อนลมร้อนใช้คมฟันงับหูเบาๆ ผมส่งแรงกดที่ฝ่าเท้าจนมันหน้านิ่วยอมผละไปในที่สุด

   “มาดูกันว่าจุดจบเรื่องราวเหล่านี้จะเป็นยังไง”

   มันหัวเราะรับ จับมือผมแลบลิ้นเลียแผลบุหรี่จี้ที่ฝ่ามือ ดวงตาคมปรายมอง...ได้ มึงจะไม่จบสินะ ม้าพยศแบบนี้มันคงต้องลงมือจัดการสักหน่อย จะควบม้าให้ร้องไม่ออก

   ผมยอมรับว่าการที่มีเซย์อยู่ทำให้อะไรๆ มันง่ายขึ้น ผมแค่ต้องการเวลาในการเยียวยาบาดแผลในใจของตัวเอง เมื่อไหร่ที่ผมพร้อม ผมจะเผชิญหน้ากับมัน

   หนึ่งอาทิตย์เต็มที่ผมใช้เวลาอยู่ที่บ้านพักนั่น ผมกลับมาพร้อมกับเซย์ เราขับแยกกันตอนเข้าเมือง ดวงตามองข้อความบนมือถือ

   เจอกันที่ร้านเดิมหกโมง – จากจ้าว...เพื่อนคนสำคัญของนาย

   ผมไม่กลับบ้านแต่วนรถไปรอในร้านที่นัดหมาย อีกฝ่ายคงร้อนใจน่าดู ขนาดผมมาก่อนเวลาแล้ว รอไม่ถึงชั่วโมงสองร่างคุ้นตาก็โผล่มือ ผมยกมือเรียกเมื่อเห็นว่าปุณกำลังมองหาอยู่ตรงประตู เจ้าตัวก้าวฉับๆ กระชากคอเสื้อผมจนคนทั้งร้านตกใจ พอร์ชหรี่ตารีบหันไปคุยกับพนักงานร้าน

   “หายไปไหนมา รู้มั้ยว่าเป็นห่วงแค่ไหน!”

   ผมแกะมือปุณออก เมินสายตาจ้องจะกินเลือดกินเนื้อจากพอร์ชพลางสำรวจใบหน้าของเพื่อนรักตัวเองชัดๆ ใต้ตาดำคล้ำอย่างอดคนนอน ริมฝีปากเม้มสนิทอย่างที่ชอบทำเวลาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ ผมใช้หลังนิ้วชี้ไปคลึงออกเบาๆ ผายมือให้พวกเขานั่งตรงข้าม

   “บอกแล้วไงอย่ากัดปาก เดี๋ยวเป็นแผลกินข้าวไม่อร่อยพอดี เชิญพวกนายนั่ง เราจะได้คุยกันสักที”

   รอจนพวกเขาประจำที่เรียบร้อย โบกมือเรียกพนักงานให้มารับออเดอร์ ผมสั่งของโปรดให้ปุณตัดหน้าพอร์ช คนต้นเหตุกลับดูไม่สบอารมณ์ในท่าทางสบายๆ ของผม

   “ให้มันได้แบบนี้สิ คนเขาเป็นห่วงแทบตายมึงดันหนีไปเที่ยวกับเซย์สบายใจเฉิบ” ผมเลิกคิ้วใบหน้ายังคงด้วยรอยยิ้ม พอร์ชเดาอารมณ์ผมออก เขาขยับตัวเตรียมปกป้องทันที ผมหัวเราะเอียงคอผ่อนคลายอารมณ์ตัวเองให้เย็นลง

   “เห็นอยู่ด้วยกันดีมีความสุขกูเลยไม่อยากเป็นก้างขวางคอ แค่มึงยังไม่ลืมนึกเป็นห่วงกูก็ดีใจมากแล้ว” จากคำพูดไร้โทนของผมทำให้ปุณรู้ตัวว่าตัวเองพูดเรื่องแย่ๆ ออกมา เจ้าตัวหน้าซีดเรียกชื่อผม

   “จ้าว..กูขอ...”

   “กินตามสบายนะ ถือว่ากูเลี้ยงให้เนื่องในโอกาสที่พวกมึงคบกันด้วยดี” ผมตัดบทเหมือนที่เขาเคยทำ แล้ววางเงินลุกขึ้นจากโต๊ะ จังหวะที่เดินผ่านพอร์ช ผมไม่ลืมก้มลงไปกระซิบบอกให้ได้ยินกันแค่สองคน

   “เคยได้ยินรึเปล่า ยิ่งรักมากก็ยิ่งเกลียดมาก จนอาจจะทำอะไรไปโดยไม่ยั้งคิด ดูแลปุณให้ดีล่ะ” ยกยิ้มมุมปากบนบ่ามันที่ทำหน้าเหมือนอยากจะลุกมาอัดผม ติดที่ต้องจับแฟนมันก่อน ไม่ให้ไล่ตามผมมา

   ปุณต้องการให้เราเป็นเพื่อนกันต่อไป ผมสามารถทำให้ได้ นี่เป็นการตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ จากผมเท่านั้น ความรู้สึกผิดที่ทำร้ายจิตใจเพื่อนรักของตัวเอง ความหวาดระแวงกลัวว่าคนรักจะมีอันตราย ผมไม่คิดจะทำอย่างที่พูดจริงๆ หรอกนะ เวลาของผมเสียให้กับพวกเขามากเกินไปแล้ว

   ยามขึ้นรถ เสียงเพลงเดิมก็ดังขึ้นอีกครั้ง

   When love and trust are gone
   I guess this is moving on
   Everyone I do right does me wrong
   So every lonely night, I sing this song…


   รถคันสวยจอดเทียบฟุตบาทปลดล็อกประตูเพื่อรับใครอีกคนที่จงใจมาดักรอ ผมจอดรับเขาได้โดยที่ไม่ต้องบอกกันล่วงหน้า เซย์ไม่มีทางปล่อยให้ผมไปคุยโดยไม่เฝ้ามองแน่ เขาเป็นพวกจอมหวงของนี่นะ

   “I hate you I love you. I hate that I love you ~”

   “อารมณ์ดีหรือไงถึงได้นั่งฮัมเพลงอย่างนี้”

   “แน่นอน บางทีฉันอาจจะมีความสุขอยู่บนความทุกข์คนอื่นอย่างที่นายบอกก็ได้”

   
ในเมื่อพระรองคู่กับนางเอกไม่ได้ งั้นผมขอเอาเพื่อนพระเอกมันเลยแล้วกัน

Fin.

เพลงประกอบนิยายจ้า gnash - i hate u, i love u >>https://www.youtube.com/watch?v=BiQIc7fG9pA<<
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: fay_13 ที่ 24-09-2016 19:25:02
 โอยยยย ดีงามมมม  :hao6:  :hao7:


อ่านแล้วกรี๊ดเลย คือมันแจ่มมากกกกกก ในเมื่อได้กับนางเอกไม่ได้เอาเพื่อนพระเอกแม่มก็ได้ฟระ!!


โฮกมากกกกกกกกกกกกกก!!!  :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-09-2016 19:46:54
ชอบประโยคสุดท้าย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: dena ที่ 24-09-2016 20:53:01
คือตกลงใครเปนรุกเปนรับอ่ะ  งง? ใครรู้ตอบหน่อยยยยยยย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 24-09-2016 20:55:28
คือตกลงใครเปนรุกเปนรับอ่ะ  งง? ใครรู้ตอบหน่อยยยยยยย

เซย์xเจ้า จ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 24-09-2016 21:28:06
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 24-09-2016 23:52:49
เจ้านี่แอบเศร้า แต่ก็อยากรู้ว่าคู่นี้จะคบกันยืดไหม

จริงๆอยากให้เจ้าคู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่เซย์
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 25-09-2016 00:33:48
เจ้านี่แอบเศร้า แต่ก็อยากรู้ว่าคู่นี้จะคบกันยืดไหม

จริงๆอยากให้เจ้าคู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่เซย์

 ยืดแน่นอน เซย์รักจริงหวังแต่ง เผลอๆ สวีดกันแฮปปี้กว่าคู่พระเอกอีก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 25-09-2016 01:04:20
เจ้านี่แอบเศร้า แต่ก็อยากรู้ว่าคู่นี้จะคบกันยืดไหม

จริงๆอยากให้เจ้าคู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่เซย์

 ยืดแน่นอน เซย์รักจริงหวังแต่ง เผลอๆ สวีดกันแฮปปี้กว่าคู่พระเอกอีก

อุ้ว~ เซย์รักเจ้า แล้วเจ้าเมื่อไหร่รักอีกฝ่ายอ่ะคะ ดูตอนนี้แล้วเหมือนเซ็กส์เฟรนด์มากกว่าอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 25-09-2016 09:09:11
หวังว่าสักวัน เจ้าจะรักเซย์นะ
เซย์น่ารัก ชอบตามใจ ขี้หวงด้วย ชอบอ้ะ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 25-09-2016 11:59:11
คงต้องอาศัยเวลา เพราะตอนนี้เจ้ายังช้ำอยู่ แต่ก็ให้โอกาสเซย์ เมื่อวันที่เจ้าลืมปุณได้จริง เซย์คือคนที่จะอยู่ในใจเจ้าแทน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 25-09-2016 16:23:35
โอ้ยยย เพลงนี้เพลงโปรดเรา เรานึกถึงท่อนนึงในเพลงเลย แหม่ อะไรมันจะตรงใจขนาดนั้นคะ

อ้างถึง
Friends can break your heart too


เจ้าอึมครึมดีอะ ชอบๆ  :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: montisa2536 ที่ 28-09-2016 12:57:26
ชอบความหม่น ความเทาของตัวละคร ไม่มีใครดีจริงๆ มันคือชีวิตจริง อยากอ่านต่ออีกชอบแนวนี้มากค่ะ ^^ รอตอนพิเศษค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 29-09-2016 09:22:04
 o13 เซย์เท่มาก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 29-09-2016 10:21:33
เซย์รักเจ้า แต่เจ้ายังไม่รักเซย์ และประโยคสุดท้ายไม่รู้ว่าเจ้าอยู่บนความทุกข์ของใครกันนะ ของพอร์ชหรือของเซย์
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 29-09-2016 15:14:22
เอาเพื่อนพระเอกอ่ะดีแล้ว ไม่มีใครแย่ง ฮ่าๆๆๆๆๆ   :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 29-09-2016 21:44:01
ทำถูกแล้ว เพื่อนพระเอกน่าจะแซ่บกว่านางเอกนะ คิดถูกแล้วที่เลือก หุๆๆๆ :haun4:  :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 11-10-2016 19:02:52
ฟินกว่าคู่หลักก็เซย์เจ้านี่หละค่า^^ รักความไม่ปล่อยให้เจ้าเศร้าอยู่คนเดียวจริงๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: mmacchiato ที่ 16-10-2016 13:35:39
ขอตอนพิเศษได้ม้ายย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 16-10-2016 17:37:47
ชอบตอนจบแบบร้ายๆนี้จัง อยากอ่านตอนพิเศษ จะมีมั้ยน้าา :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) บทบาทของพระรอง +จบแล้ว+
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 02-01-2017 20:48:19
ดีงามพระรามสิบบบบบบบ ฟินยาวๆไปค่ะ
หัวข้อ: Re: (END) บทบาทของพระรอง +เมะxเมะ+
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 03-01-2017 09:59:15
ตอนแรกคิดว่า เซย์ ชอบพระเอกนะเนี่ย ที่ไหนได้ ชอบตัวร้ายของเรื่องนี่เอง อยากอ่านความแซ่บ คู่รองอีกหลายๆตอนเลยอ่าาาาาา
หัวข้อ: Re: บทบาทของพระรอง [UP 26/2/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 26-02-2017 18:44:48
ตั้งแต่นี้จะเปลี่ยนชื่อ 'เจ้า' เป็น 'จ้าว' เพื่อความอ่านง่าย

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

   ปกติเขาเป็นคนไม่สนใจเรื่องเพลง จนกระทั่งมาเจอใครบางคน...

   Baby I’m preying on you tonight
   Hunt you down eat you alive
   Just like animals
   Animals
   Like animals…


   เสียงฮัมเพลงดังลอดริมฝีปากหนา ดวงตาคมดุทอประกายพึงพอใจขณะเอนกายบนเตียงนุ่มมองคนหลับใหลในอ้อมแขน มือข้างที่ว่างใช้นิ้วชี้เกลี่ยแก้มอีกฝ่ายเล่น วาดผ่านสันกรามที่ช่วยลับใบหน้าให้ดูคมคาย เลื่อนลงมายังคอแต้มรอยจูบแดงช้ำ ถึงไหปลาร้าเป็นโครงเส้นสวย แผ่นอกกว้างที่มีกล้ามพองามปรากฏรอยฟันขบชัดเจน

   โดยรวมแล้วจ้าวไม่มีอะไรที่บ่งบอกถึงการเป็นฝ่ายรับเลย ออกจะหล่อ รูปร่างสูงใหญ่แผ่กลิ่นอายของฝ่ายนำไว้เต็มเปี่ยม หากไม่มีเหตุการณ์ที่ทำให้จ้าวอ่อนแอ เซย์คงไม่สามารถสยบอีกฝ่ายได้ง่ายดายถึงเพียงนี้

   เขาไม่ได้อ่อนหัดจนปราบไม่ได้ แค่อาจจะต้องใช้เวลาเท่านั้นเอง ซึ่งเซย์ไม่ต้องการ ของแบบนี้ยิ่งได้มาเร็วเท่าไรยิ่งดี ไม่ว่าจะต้องวางแผนชั่วทำร้ายใครก็ตาม...

   คิดว่าผมทำไปเพราะความรัก?

   มันก็อาจจะใช่ เพียงแต่นิยามความรักของผมไม่เหมือนคนอื่น

   รักคือการให้...

   รักคือการเสียสละ...

   สำหรับผม รักคือการ ‘ครอบครอง’ ถ้าไม่ได้ครอบครองก็ไม่มีประโยชน์ที่จะรัก เปรียบเทียบแล้วคงเหมือนนักธุรกิจ เมื่ออยากได้สิ่งใดก็ต้องยอมเสี่ยงลงทุนเพื่อให้ได้มันมา ต้องฉลาดหลักแหลม มองเกมให้ขาด ใช้ความสามารถทุ่มเททุกอย่างให้เต็มที่ หากได้กำไรก็ถือว่าเป็นรางวัลชีวิต แต่ถ้าไม่ได้ ผมก็สามารถละทิ้งมันอย่างไม่ใยดีเช่นกัน

   รวมถึงตัวจ้าวด้วย…

   ครั้งแรกที่ผมเห็นจ้าว ความคิดที่แวบเข้ามาในหัวก็คือผู้ชายคนนี้น่าสนใจ ไม่ใช่เส้นผมสีน้ำตาลทองที่มาจากการย้อม ไม่ใช่ใบหน้าหล่อเหลาหรือรูปร่างสูงจนใครอิจฉา แต่เป็นดวงตาสีเขียวมรกตคู่นั้น มันฉายความร้ายกาจออกมายามมองเพื่อนตัวเอง

   ความรักใคร่ ต้องการ อยากจะกลืนกินราวกับสัตว์ป่าตัวร้ายที่กำลังจ้องเหยื่อผู้อ่อนต่อโลก จนผมเผลอเลียริมฝีปากอย่างกระหายโดยไม่รู้ตัว ถ้าหากใบหน้านั่นบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แววตานั้นจะเปลี่ยนไปแบบไหนกันนะ น่าสนใจจริงๆ

   ผมเลยตัดสินใจลงทุนกับความต้องการในครั้งนี้

   “พอร์ช นายอยากให้ฉันช่วยเรื่องปุณใช่มั้ย” ผมถาม ทั้งที่ตายังมองชายสองคนที่กำลังนั่งกินข้าวเที่ยงในโรงอาหาร

   “ใช่ เรื่องจีบปุณกูจัดการเองไม่อยากให้มึงเสียเวลามาเป็นพ่อสื่อให้หรอก แต่เจ้านี่กูสุดจะทนจริงๆ ชั่วมันต้องเจอกับชั่ว มึงช่วยจัดการมันที” วาจาสุนัขของเพื่อนไม่ทำให้ผมหงุดหงิด เพียงแค่เลิกคิ้วมองอาการอยากจะอุ้มฆ่าคนใจจะขาดแต่ทำไม่ได้ คงติดที่ทางนั้นดันเป็นเพื่อนรักกับเป้าหมายตัวเองสินะ

   “ฉันจะช่วยนาย แลกกับการที่นายห้ามยุ่งหรือมีปัญหากับการกระทำของฉัน”

   “ได้ ขอแค่ไม่มีผลเสียกับปุณก็พอ”

   ผมพยักหน้ารับ หากพูดถึงต้นสายปลายเหตุที่ผมมายืนหลบมุม เป็นถ้ำมองคุยกันแบบนี้ก็เพราะเพื่อนสมัยเด็กของผมนี่แหละ

   จู่ๆ มันก็มาบอกผมว่ามันเจอคนที่ใช่ อยากจีบ อยากได้เป็นแฟน ทีแรกผมเข้าใจว่ามันคงเล่นๆ แล้วเขี่ยทิ้งเหมือนที่ผ่านมา แต่พอเห็นการแสดงออกของมัน กับสารพัดคำในใจที่ชอบเอามาพ่นให้ผมฟังนานนับอาทิตย์ บ่งบอกชัดเจนว่าคนนี้มันเอาจริง

   ผมตบบ่า อวยพรขอให้มันโชคดีและบาปกรรมที่มันทำไว้กับคนอื่นไม่ตามมาสนองมัน ที่ไหนได้ พอผมพูดประโยคนี้พอร์ชมันทำสีหน้าเหมือนหุ้นตก ไม่สิ ต่อให้หุ้นตกมันก็ไม่แคร์ มันทำหน้าเหมือนตอนแม่มันบังคับให้หมั้นมากกว่า ทั้งขัดใจ หงุดหงิด อารมณ์เสียแต่ทำอะไรไม่ได้

   เรื่องคราวนี้เห็นว่ากรรมตามทัน คนที่มันจะจีบเสือกมีหมาหวงก้างคอยกันท่าตลอด พอร์ชทั้งด่าทั้งโวยวายว่าไอ้หมอนั่นต้องคิดไม่ซื่อกับเพื่อนตัวเองแน่นอน ถึงได้พยายามขัดขวางใส่ไฟแบบสุดๆ ชั่วร้ายเจ้าแผนการถึงขนาดที่พอร์ชมันรับไม่ไหว เลยต้องมาขอให้ผมช่วยแบบไม่เคยเป็นมาก่อน

   ไหนๆ ก็ไหนๆ เพื่อนจะมีคนรักจริงๆ สักทีผมต้องสนับสนุนอยู่แล้ว แต่ผมไม่ฟังความข้างเดียวต่อให้เป็นเพื่อนก็ตาม อีกอย่างจะลงมือทั้งทีต้องศึกษาคู่แข่งให้มาก

   ผมขอเวลาพอร์ชสักสองสามวัน ระหว่างนี้ให้มันไปตามตื้อปุณตามสบาย ส่วนผมสอบถามจากเพื่อนที่รู้จัก สืบหาจากอดีตกิ๊กของจ้าว จนพอจะรู้คล่าวๆ ว่าในอดีตจ้าวเองมันก็ไม่ต่างจากพอร์ช เจ้าชู้ เที่ยวเล่นไปเรื่อย ไม่เคยจริงจังกับใคร เพื่อนสนิทไม่มี ส่วนใหญ่มีแต่ความสัมพันธ์แบบฉาบฉวย ต่างกันแค่ไอ้พอร์ชมีผม

   จ้าวมันเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองตอนมีเพื่อนอย่างปุณ

   ความรักทำให้คนทำได้ทุกอย่าง ส่วนผมความต้องการต่างหากที่เป็นแรงขับเคลื่อน ยิ่งสืบหา ติดตามก็ยิ่งรู้สึกสนใจ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ละสายตาไม่ได้แล้ว ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่า เมื่อไรที่จ้าวทำเรื่องชั่วอะไรผมถึงตามทันตลอด ก็ในเมื่ออีกฝ่ายอยู่ในสายตาผมเสมอ

   ทั้งเรื่องที่จ้าวใช้เงินเพื่อขุดประวัติแย่ๆ ของพอร์ชมาบอกเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อของมัน เกิดความเข้าใจผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยมีปีศาจร้ายแสยะยิ้มชั่วช้าอยู่เบื้องหลัง

   ผมไม่แปลกใจเลยทำไมพอร์ชมันถึงเอาจ้าวไม่อยู่ มันอาจจะเก่ง แต่มันเป็นคนตรงๆ ไม่ถนัดกับพวกลูกเล่นแพรวพราว จะใช้กำลังก็ไม่ได้ ในเมื่อจ้าวมันตัวพอๆ กับพวกเรา ที่สำคัญยังชกต่อยเก่งสมกับเป็นอดีตเด็กเกรียนที่กวนส้นเขาไปทั่ว พวกมันเองก็เยอะ ต่อให้ไม่สนิทอะไร ขอแค่จ้าวยื่นข้อเสนอดีๆ พวกนั้นก็ทำตัวโง่เง่าทำตามการจูงจมูกของจ้าว

   พอร์ชยิ่งร้อนรนเร่งให้ผมลงมือ เพราะมันเกือบเสียปุณไปหลายครั้ง ดีที่ปุณเป็นพวกขี้ใจอ่อนและลึกๆ ก็รักพอร์ชเหมือนกันถึงพอผ่านอุปสรรค์พวกนั้นมาได้บ้าง

   งานของผมแทบไม่ได้ข้องเกี่ยวกับปุณเลย เจอกันทีพูดไม่กี่คำ พอร์ชก็ลากว่าที่เมียมันไปแล้ว ส่วนผมก็คอยกันท่าจ้าวทุกครั้งที่มีโอกาส คอยพูดกรอกหูมันบ้าง ว่ามันกับปุณไม่มีทางเป็นไปได้ เลิกทำอะไรโง่ๆ แล้วยอมรับความจริงไปซะ

   ผมไม่ได้เตือนมันด้วยความหวังดี แต่ผมกำลังกดดันมัน บีบให้มันทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้อย่างที่มันต้องการ ยิ่งมันดิ้นรน ตัวมันก็จะยิ่งจมดิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ รอจนกระทั่งถึงเวลาที่พอเหมาะ ทุกคนเริ่มหมดความอดทน

   ไอ้พอร์ชคลั่งเป็นหมาบ้าเพราะปุณบอกจะตัดขาดจากมันหลังรู้เรื่องที่ไอ้พอร์ชมีคู่หมั้นจากจ้าว มันเอาแต่ดื่มเหล้า อาละวาด ก่อนจะทำเรื่องสิ้นคิดอย่างการบุกไปหาปุณทำตามใจตัวเองจนเกือบทำร้ายคนที่มันรัก ยังดีที่อัศวินพิทักษ์เจ้าหญิงมาทัน เพื่อนผมเลยถูกกระทืบเข้าโรงพยาบาล

   ผมไม่สงสารมันเลยสักนิด ออกจะสมน้ำหน้าด้วยซ้ำ แถมดีซะอีกเพราะผมจะได้ลงมือขั้นสุดท้าย ม่านการแสดงของพอร์ชกับปุณกำลังจะปิดลง ในขณะที่เวทีของผมเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น

   การบอกวีรกรรมเลวๆ พร้อมหลักฐานดูท่าจะได้ผลดีกับปุณที่กำลังสับสน อาการบาดเจ็บของพอร์ช ความกดดันที่ผ่านมา ในที่สุดปุณก็ระเบิดอารมณ์ใส่จ้าว บอกความจริงกระแทกหน้าให้มันยิ่งจมลงในโคลนมากกว่าเดิม

   ผมอยากจะหัวเราะ จ้าวมันทำเพื่อปุณทุกอย่าง ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทน ต่อให้มันรักมากแค่ไหน ถ้าเพื่อนไม่พอใจมันก็คิดจะคงความสัมพันธ์แบบนี้ตลอดไป แต่คนที่มันรักและหวังดี กลับกระทืบจิตใจของเพื่อนจนแหลกสลาย นี่เหรอคำว่าเพื่อน มันช่างเปราะบางเสียจริง โทษผมไม่ได้นะที่จะใช้ประโยชน์จากมัน

   กระชากปีกเทวดาที่แบดเปื้อน ฉุดรั้งลงขุมนรกสู่อ้อมกอดของปีศาจอย่างผม

   ผมมีนิสัยเบื้องลึกที่ไม่น่าป่าวประกาศเท่าไร คนที่รู้มีเพียงคนในครอบครัวกับพอร์ชเท่านั้น ความนิ่งเรียบเฉยชาที่แสดงออกมา มันคือเปลือกนอกที่ใช้ปกปิดสัญชาตญาณดิบภายใน

   ผมขับรถ สะกดรอยตามจ้าวไปจนถึงทะเล ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนเศร้าถึงชอบมานั่งกินเหล้าที่ชายหาด แต่ก็ดี เพราะผมจะได้ทำอะไรง่ายๆ หน่อย

   พูดตอกย้ำมันให้ยิ่งจมดิ่งแบบโงหัวไม่ขึ้น มองมันหัวเราะอย่างคนสติแตกด้วยแววตาพึงพอใจที่ซ้อนไว้ใต้ใบหน้าเรียบเฉย รอจนกระทั่งมันหมดสภาพผมค่อยลากมันไปเปิดห้องพัก

   ช่วงเวลานี้แหละที่ผมเริ่มไม่เข้าใจตัวเอง จ้าวเหมือนได้ปลดปล่อย ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ พาผู้หญิงมากกที่ห้อง เมาเละเทะ อ้วกสกปรก ถึงผมจะไม่ใช่พวกคุณชายทำอะไรไม่เป็น แต่ผมชักเริ่มไม่เข้าใจตัวเองว่าจะมานั่งตามล้างตามเช็ดจ้าวทำไม แทนที่จะฉวยโอกาสนี้รวบหัวรวบหางให้สมกับที่วางแผนไว้

   ถึงงั้นผมก็ยังอดทน อดทน และอดทนจนกระทั่งมีปากเสียงกันรอบสุดท้าย ผมหงุดหงิด มันจะเป็นบ้าอะไรนักหนากับอีแค่ผู้ชายเห็นแก่ตัวคนหนึ่งที่ไม่เคยมองเห็นในสิ่งที่มันทำหรือเสียสละเลย

   จ้าวเองก็คงถึงที่สุดแล้วเหมือนกัน ถึงได้หลุดปากบอกให้ผมสนองมันหากไม่ต้องการให้มันไปหาเอาข้างนอก ด้วยความโมโหกับอะไรหลายๆ อย่าง ผมเลยทำกับมันแบบไม่คำนึงถึงว่าเป็นครั้งแรกที่มันเป็นรับด้วยซ้ำ นี่คือเซ็กส์ที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์กับความใคร่ล้วนๆ

   หลังจากนั้นก็อย่างที่ทุกคนรู้ เรามีอะไรกันหลายครั้ง พอๆ กับที่ผมเริ่มชัดเจนในความรู้สึกของตัวเอง จ้าวไม่ได้เป็นเพียงแค่เหยื่ออีกต่อไป ผมเริ่มชอบจ้าวแล้วจริงๆ อยากยึดไว้กับตัว ไม่อยากปล่อยมือ แต่ผมเป็นพวกไม่ชอบบังคับใคร ดังนั้นผมเลยบอกกับจ้าวว่า จะขออยู่กับมันในช่วงที่มันอ่อนแอ และถ้าเมื่อไรที่มันไม่ต้องการ ผมจะจากไปไม่คิดรั้งไว้

   คำพูดฟังเหมือนดูดี ความจริงคือผมไม่อยากขาดทุนไปมากกว่านี้ แม้การได้เรือนร่างของจ้าวจะเป็นกำไรและรางวัลในความสำเร็จของผมแล้วก็เถอะ

   แม้ผมจะชอบจ้าว มันเป็นแค่ความชอบไม่ได้รัก หากไม่มีโอกาสสมหวังผมไม่คิดจะฝืนปล่อยให้จ้าวไปตามทาง ไม่แคร์ด้วยว่าหลังจากไม่มีผมจ้าวจะเป็นยังไง เพราะช่วงเวลาสั้นๆ ที่อยู่ด้วยกันผมสัมผัสได้ว่าจ้าวมันขี้เหงาและต้องการใครสักคนมาโดยตลอด คงเป็นผลมาจากการไม่ได้รับความอบอุ่นในครอบครัวล่ะมั้ง สำหรับผมก็แค่เด็กมีปัญหาคนหนึ่ง

   ถ้าจ้าวปฏิเสธ ผมอาจจะเสียใจบวกเสียดายนิดหน่อย ไม่นานก็จะหายไปเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต โชคดีที่จ้าวไม่ได้ปฏิเสธและไม่ได้ยอมรับเช่นกัน ผมถึงตัดสินใจว่าจะอยู่เคียงข้างมันต่อไปจนกว่ามันจะให้คำตอบผมได้…

   แต่ใครจะรู้ล่ะว่า พออยู่กันไปกลายเป็นผมที่หลงมัน รักมันจนโงหัวไม่ขึ้น ความเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายแบบที่รู้ทันผมทุกอย่าง เรือนร่างแสนเร้าอารมณ์ ยิ่งพอมันเริ่มทำใจจากปุณได้ จ้าวยิ่งทำตัวให้น่ารักน่าหลง

   มันก็เลวบริสุทธิ์ในแบบของมันนั่นแหละ แต่ผมดันชอบไง โดยเฉพาะความตรงไปตรงมาของมัน ฉลาด มีสมอง เข้าคู่กับผมได้ คุณไม่คิดเหรอว่าพวกเราเคมีเข้ากันสุดๆ

   จะติดก็แต่ ความงี่เง่า เอาแต่ใจและความดื้อของมันนี่แหละที่ทำให้ผมหลุดการควบคุมเผยอารมณ์ดิบออกมากำหลาบมันบ่อยๆ ผมถามมันนะว่า ตกลงมันเป็นพวกชอบถูกกระทำรึไง ให้ผมอยู่เป็นเสือหลับดูแลทุกอย่างดีๆ ไม่ชอบ ต้องยุให้ผมลงไม้ลงมือกับมันอยู่เรื่อย เชื่อไหมว่ามันตอบว่ายังไง

   ‘นั่นสินะ...กูอาจจะเป็นอย่างที่มึงว่า แต่กูมีความสุขกับการทรมานมึงมากกว่า สะใจเวลามึงหลุดมาด หึ! คิดว่าสันดานมึงจะปิดกูได้เหรอเซย์’

   แล้วมันก็ตบแก้มผมสองสามแปะ มองด้วยสายตาเย้ยหยันก่อนเดินผ่านไป…แน่นอนว่าภาพเหตุการณ์หลังจากนั้นคือผมคว้าแขนมันเหวี่ยงลงเตียงแล้วขย้ำทั้งคืนจนเป็นสภาพยับเยินอย่างในตอนนี้

   ผมเป็นพวกรักใครยาก แต่ถ้ารักแล้วจะทุ่มเททุกอย่าง ที่สำคัญหวงมากด้วย ถึงขนาดนี้หากผมไม่ได้ผมยอมทำลายอีกฝ่ายทิ้งยังดีกว่าจะยอมยกให้ใคร บอกแล้วไง ความรักของผมคือการครอบครอง ใครจะรักจะเสียสละยังไงก็ช่าง มันก็แค่คำพูดสวยหรู

   รักก็คือรัก แต่ละคนมีวิธีแสดงออกแตกต่างกันไป การที่จะยัดเยียดบอกว่ารักต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ นั่นมันความคิดทุนนิยมชัดๆ

   “ตื่นมาเห็นมึงทำหน้าชั่วร้ายแต่เช้า กูอยากจะอ้วก”

   คิดอะไรเพลินๆ ดูเหมือนคนข้างกายจะตื่นแล้ว น้ำเสียงแหบแห้งผลจากการใช้งานหนักเมื่อคืนแฝงความหงุดหงิดอยู่หลายส่วนมันน่าเอ็นดูซะจริง

   “ปากดี เมื่อคืนโดนไปไม่เข็ดรึไง” แอบเห็นมันสะดุ้ง แต่พยายามตีหน้านิ่งเลิกคิ้วมองอย่างท้าทาย ผมเลยเลื่อนมือเข้าไปในผ้าห่ม ขยำบั้นท้ายมันเบาๆ จ้าวข่มความเจ็บกัดฟันกรอด

   ผมยอมรับนะว่าการ Make Love ของผมค่อนข้างจะดิบเถื่อนไปนิด แต่นี่ก็พยายามข่มอารมณ์อ่อนโยนกับมันมากแล้วนะ ไม่งั้นคงมีรายการตายคาอกกันบ้างแหละ มองอะไร จะหาว่าผมSMเหรอ? ผมไม่ใช้พวกของเล่นหรอก พวกนั้นไว้สำหรับพวกอ่อนหัด อย่างจ้าวมันต้องทรมานด้วยร่างกายของผมเท่านั้น

   “สักวันกูจะ...”

   เห็นว่าท่อนนี้เหมาะพอดี ผมถึงร้องเพลงดักก่อนที่มันจะพูดจบประโยค

   “So if I run it’s not enough
   You’re still in my head forever stuck
   So you can do what you wanna do
   I love your lies I’ll eat ’em up
   But don’t deny the animal
   That comes alive when I’m inside you…


   “พอแล้ว! เออ!! ไม่หนีไปไหนก็ได้วะ” จ้าวยกมือมาปิดปากไม่ให้ผมร้องต่อ ตอนนี้ดวงตาผมคงกำลังวาววับเหมือนสัตว์ร้ายตามเพลง ผมจับข้อมือจ้าว แลบลิ้นร้อนไล้เลียบนฝ่ามือไปถึงซอกนิ้ว ก่อนดึงออกแล้วโน้มตัวเข้าหาข่มมันไว้ใต้ร่างพลางเชยคางแล้วกัดเข้าที่ลำคอเพิ่มรอยฟันทับรอยดูดจนมันหลุดครางในคอด้วยความเจ็บ

   “มึงเป็นของกูจ้าว ของกูคนเดียวเท่านั้น”

TBC.

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เห็นแบบนี้แล้ว ใครกันแน่นะที่ร้ายที่สุด
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง [UP 26/2/60]
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 27-02-2017 07:58:56
ร้ายพอกันเลย แต่จ้าวเสียเปรียบที่เป็นฝ่ายรับเซย์ซะนี่ 555 เราเชียร์ให้จ้าว พ ลิ ก สักครั้งนะ เอาคืนให้สาสม :katai3:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง [UP 26/2/60]
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 27-02-2017 09:55:46
อ่านละหมั่นไส้ปุณเลยอะ
คนโง่ๆก็ต้องอยู่กับผัวชั่วๆอะถูกละ
ไม่เข้าใจว่านางจะว่าจ้าวทำไม
หรือจะต้องปล่อยให้นางโดนผัวข่มขืนให้สมใจ ไม่ต้องมาช่วย นางอยากโดน
คือไม่รักก็ไม่ว่าแต่มาพูดเหี้ยๆใส่กันแบบนี้มันก็ไม่น่าเป็นเพื่อนกันต่อแล้วอะ

 จากนี้น้องจ้าวก็จะเชิ่ดๆหยิ่งๆไปเลยค่ะลูกกก
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง [UP 26/2/60]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 27-02-2017 12:18:43
อ่านตอนนี้แล้วยิ่งไม่ชอบปุณกับพอร์ช
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง [UP 26/2/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 27-02-2017 13:17:05
อารมณ์พอร์ชปุณนี่แบบในนิยายวายทั่วไปเลย แค่พลิกมาดูจากมุมของพระรองควบตำแหน่งตัวร้าย เลยรู้สึกว่าพระนายโคตรแย่ว์ 5555555555

แต่ในมุมของพระนาย จ้าวก็ตัวร้ายดีๆ นี่เอง ใช้ความเป็นเพื่อนสนิทเป่าหู ทำให้พระนายผิดใจกันครั้งแล้วครั้งเล่า ต้นเหตุที่พอร์ชเมาสติแตกก็เป็นเพราะจ้าวไปบอกเรื่องคู่หมั้นตัดหน้าพอร์ชที่จะมาอธิบาย
สรุป เรื่องนี้ไม่มีใครดี
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง [UP 26/2/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 27-02-2017 21:16:14
ชอบสไตล์นี้ ปูเสื่อรอคร๊าบ..บบบบบบบบ    o13
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง P.2 [UP 3/3/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 03-03-2017 01:31:06
บทบาทพระรอง (จ้าว)

   Maybe you think that you can hide
   I can smell your scent for miles
   Just like animals
   Animals
   Like animals
   Baby I’m


   ช่วงนี้เซย์มันฟังเพลงเดิมๆ ซ้ำๆ วนไปมา ผมเองก็ชอบนะ เพลงมันเพราะดีแต่พอร้องออกมาจากปากของมันทำไมผมรู้สึกขนลุกวะ เนื้อหาในเพลงโคตรจะเหมาะกับมันเลย

   สัตว์ร้าย...

   มันคือสัตว์ร้ายจริงๆ นั่นแหละ หากไม่ยุ่ง ปล่อยอยู่นิ่งเฉยมันก็จะสงบนิ่งไร้การเคลื่อนไหว แต่เมื่อใดที่อาจหาญไปรบกวนมันเข้า มันก็พร้อมที่จะลืมตาตื่นขึ้นมาขย้ำคุณจนเละเป็นเศษซาก อย่างเช่นผมในเวลานี้

   ร่างกายช่วงล่างรู้สึกร้าวระบมจนต้องกัดฟันกรอดๆ ทุกครั้งที่ขยับตัว นี่มันไม่ต่างจากการถูกซ้อมด้วยกามอารมณ์ ผมพอจะเข้าใจแล้วว่าการตายคาอกมันเป็นยังไง

   “ลุกขึ้นมากินข้าวแล้วกินยาซะ” น้ำเสียงทุ้มต่ำตามแบบฉบับดังขึ้นเหนือหัวพร้อมกลิ่นหอมจากข้าวต้มร้อนๆ ที่ถูกยกมาจ่อหน้า พูดแล้วจะตกใจ เซย์มันลงมือเข้าครัวด้วยตัวเอง ทำข้าวต้มหมูสูตรพิเศษมาป้อนให้ถึงปาก

   ผมชันกายขึ้นเอนหลังพิงหมอนอ้าปากรับข้าวต้มอุ่นๆ ลงคอ จะมัวทิฐิทำไม ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นแฟนผม ที่สำคัญผมย้ายมาอยู่กับมันแล้วด้วย ไม่ได้เต็มใจนะ โดนบังคับมา

   ย้อนกลับไปเมื่อสองเดือนก่อน ผมเพิ่งกลับจากมหา’ลัยหลังเลิกเรียน เห็นเจ้ากรรมนายเวรยืนกอดอกรออยู่กลางห้อง สิ่งที่ทำให้ผมตกใจจนกระเป๋าร่วงคือ ข้าวของจำเป็นหลายอย่างถูกรวมใส่ไว้ในกล่องกระดาษราวกับว่ากำลังจะย้ายบ้านก็ไม่ปาน แต่บังเอิญว่าผมไม่ได้ย้ายไง ไม่คิดจะย้ายด้วย นี่มันเรื่องอะไรกัน!

   “เซย์มึงทำอะไรห้องกู!” ก้าวฉับๆ กระชากคอเสื้อแบบไม่ออมแรง มันตัวเซเล็กน้อยแทบไม่สะท้าน บ่งบอกความแกร่งที่มากกว่า น่าหงุดหงิดโว้ย ระดับผมทุ่มลูกครึ่งอย่างไอ้พอร์ชมาแล้วนะเฮ้ย

   “มึงต้องย้ายไปอยู่กับกู” น้ำเสียงเรียบเรื่อยตรงข้ามกับอีกคนที่ไฟโกรธลุกโชน

   “กูไม่ไป! ที่กูให้คีย์การ์ดมึงไม่ใช่ให้มึงถือวิสาสะมาทำแบบนี้นะไอ้เหี้ย อุ๊บ!” ปากถูกกระแทกปิดบดขยี้ด้วยจูบอย่างดุดันบ่งบอกว่าห้ามปฏิเสธ แต่มีหรือผมจะสน ตอบโต้สวนกลับอย่างไม่ยอมแพ้ โมโหจนเลือดขึ้นหน้าคิดจะจับมันทำเมียให้รู้แล้วรู้รอด

   โชคชะตาไม่เข้าข้าง ผมโดนพลิกกลับแล้วถูกยัดเยียดความเป็นเมียให้แทน หมดสภาพอยู่บนโซฟาขณะที่เซย์ชันกายลุกขึ้น แต่งตัวด้วยท่าทีสงบนิ่ง ราวกับสัตว์ป่าที่ขย้ำผมเมื่อครู่ไม่ใช่มัน แล้วแบกผมกับของต่างๆ ขึ้นรถกลับห้องหน้าตาเฉย

   แน่นอนว่าผมไม่ยอมอยู่ว่าง่ายแน่ ฟื้นตัวขึ้นมาก็มุ่งกลับห้องทันทีก่อนจะโดนเซย์จับตัวกลับไปซ้ำๆ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ต่อเนื่องกันสองสามครั้ง เซย์มันคงหมดความอดทนตัดสินใจใช้เงินส่วนตัวเปลี่ยนคีย์การ์ดห้องผม แล้วขู่ว่าหากไม่ยอมอยู่กับมันดีๆ มันจะเอาห้องผมไปขายทิ้งซะ

   นั่นเป็นห้องที่พ่อซื้อให้ผมตอนเข้ามหา’ลัยนะ เรื่องอะไรจะยอมให้มันขายง่ายๆ ผมกอดอกหัวเราะเหอะแบบไม่แคร์ ห้องเป็นชื่อของผม มันเอาไปขายไม่ได้

   จนกระทั่งวันหนึ่งมันยื่นเอกสารสิทธิ์เจ้าของห้องให้ผมดู พร้อมกับโน้มตัวเข้ามาเท้าแขนตรงพนักกักตัวผมให้อยู่ตรงกลาง ผมอ่านเอกสารแล้วหน้าซีดแล้วยิ่งซีดกว่าเดิมเมื่อมันกระซิบข้างหู

   “อย่าท้าทายกูจ้าว ไม่มีอะไรที่กูทำไม่ได้ ถ้าไม่อยากเสียห้องนั่นไปจงเชื่อฟังแล้วยอมอยู่กับกูซะดีๆ”

   ผมกัดฟันกรอด ทำอะไรไม่ได้นอกจากกระแทกเสียงใส่หน้ามัน “เออ! กูจะอยู่ พอใจแล้วใช่มั้ย เปลี่ยนชื่อเจ้าของกลับเดี๋ยวนี้!” มันหัวเราะเสียงทุ้มในคอก้มลงมาจูบหนักๆ

   “ดูความประพฤตมึงก่อน ถ้าเป็นเด็กดีกูจะยอมเปลี่ยนชื่อให้”

   ผมจ้องเขม็งใส่มัน ปกติผมจะสุขุมเยือกเย็นวางแผนอย่างรัดกุมในการทำอะไรสักอย่าง จนหลายคนบอกผมมันเจ้าเล่ห์ชั่วร้าย จนมาเจอกับอีกฝ่ายที่รู้ทันผมไปซะทุกอย่าง คอยก่อกวนจนผมควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้อยู่บ่อยๆ ถึงงั้นก็ยังมีข้อดีล่ะนะ

   ห้องมัน มันจัดการเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะทำความสะอาด ซักผ้า รีดผ้า แม้กระทั่งการทำอาหาร เรียกได้ว่าผมนอนเป็นคุณชายสะดวกสบายยิ่งกว่าตอนอยู่ในห้องตัวเองซะอีก

   ผมเริ่มจับทางมันได้ เซย์มันคนสบายๆ มีกิจวัตรเรียบเรื่อยในแบบของมัน ตื่นเช้าเช็คตารางหุ้นก่อนทำอาหาร ไปเรียน ว่างก็ทำความสะอาดไม่ก็อ่านหนังสือเล่นเกมดูหนังผ่อนคลายไปเรื่อย แม้จะเผด็จการไปบ้าง แต่ขอแค่อย่าไปฝืนข้อห้ามหรือล้ำเส้นสะกิดต่อมมัน เซย์ก็พร้อมที่เปย์คุณได้ทุกอย่าง

   มันไม่เคยห้ามผมไม่ให้ไปไหน ไม่บังคับว่าต้องกลับกี่โมง แค่ต้องโทรมาบอกมันล่วงหน้าก็พอ ไม่เช่นนั้นหากปล่อยให้มันรอเก้อ เมื่อคุณกลับมาจะได้พบกับนรกบนดิน

   แต่มีกฎของเซย์หนึ่งข้อ ที่ให้ตายยังไงก็ห้ามฝ่าฝืนหรือท้าทายเด็ดขาด ผมเพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานมานี่เอง นั่นคือ...

   การนอกใจ

   ไม่ว่าจะนอกกายนอกใจหรืออะไรก็แล้วแต่ ห้ามอย่างเด็ดขาด เซย์เป็นพวกหึงโหดและขี้หวงมาก เหมือนคุณไปแย่งของรักของมังกรจนโดนมันเผาเป็นตอตะโก

   วันก่อนผมไปดื่มผ่อนคลายอารมณ์ในผับแบบนั่งฟังเพลงสบายๆ มีฟลอร์สำหรับเต้นเล็กๆ น้อยๆ ใครจะคิดล่ะว่านรกจะเป็นใจส่งไปป์คู่นอนที่ผมถูกใจที่สุดให้โคจรมาพบกัน อีกฝ่ายมากับเพื่อน บังเอิญเห็นผมนั่งอยู่ตรงบาร์คนเดียวจึงเดินเข้ามาทักทายตามประสาคนรู้จัก

   ไปป์เป็นผู้ชายที่มีรูปร่างใกล้เคียงกับปุณที่สุด แต่นิสัยแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว เจ้าตัวใจกล้าบ้าบิ่น ในอดีตเขาเป็นคนเสนอตัวเองโดยอ้างว่าเขาเหมือนคนที่ผมแอบชอบที่สุด น่าจะช่วยสนองให้ในคืนนั้นได้ ซึ่งผมก็ไม่ปฏิเสธ พวกเราเลยไปต่อกันที่โรงแรมมีอะไรกันอีกหลายครั้งก่อนผมจะห่างหายไป เพราะมัวแต่กันท่าพอร์ชให้ห่างจากปุณ ตอนนี้จึงกลายเป็นการเจอกันอีกครั้งในรอบหลายเดือน

   “ไม่เจอกันนาน ฉันพอจะได้ข่าวมาบ้างว่านายเลิกคบกับปุณแล้วเหรอ” ร่างเล็กขยับเข้าใกล้อย่างเป็นธรรมชาติ ผมปลายตามองไม่ได้ผลักออก

   “ในเมื่อนายรู้ดีขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องถามฉันก็ได้มั้ง” ได้ยินคนพูดถึงปุณผมก็เซ็งในอารมณ์ หลายคนบอกผมน่ะใจร้าย แค่เพื่อนไม่รับรักถึงกับต้องเลิกคบปล่อยให้ปุณเศร้าเลยเหรอ เหอะ! พวกมันไม่รู้อะไร ลองมาเป็นอย่างผมสิ ถูกคนที่แอบรักมาสามปีหักอกอย่างไร้เยื่อใย ใครมันจะไปหน้าชื่นตาบานวิ่งเข้าหาได้

   อีกอย่างผมไม่อยากกลับไปโง่อีก เวลาที่เสียไปนั่นก็มากพอแล้ว ชีวิตของผมยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะ โดยเฉพาะคิดแผนรับมือเซย์ การมีคนรักที่รู้ทันกันหมดซะทุกเรื่องก็ดีอย่าง เวลาทำอะไรไม่ต้องอธิบายมาก อยู่ด้วยกันชีวิตมีสีสัน สนุกดีไปอีกแบบ ผมไม่โกหกหรอกนะว่าค่อนข้างจะชอบกวนอารมณ์เซย์ไม่น้อย แม้ว่าผลกรรมจะตกอยู่ที่ตัวเองในภายหลังก็ตาม

   “อะไรกัน ฉันนั่งอยู่ตรงนี้นายกลับอมยิ้มนึกถึงใครอยู่ นี่...จ้าว เรามาระลึกความหลังกันมั้ย” ลากเสียงพร้อมมือลูบผ่านแผงอกเผยเจตนาเชิญชวนชัดเจน ผมยกยิ้มมุมปาก ตวัดแขนโอบกระชับเอวให้แนบชิดกายมากกว่าเดิม

   “ท้าทายกันเหรอ หืมม...” ลากเสียงทุ้มในคอ จงใจยื่นใบหน้าเข้าใกล้ มองด้วยแววตาที่ไม่ว่าเหยื่อคนไหนก็ระทวย แม้แต่ไปป์ที่เจอบ่อยๆ ก็ยังไร้ภูมิต้านทาน ออกจะชื่นชอบด้วยซ้ำใจถึงเต้นรัว ตาพราวระยับใบหน้าขึ้นสีขนาดนี้ สมองน้อยๆ นั่นคงคิดไปถึงไหนต่อไหน

   จริงสิ ผมเองก็ห่างกายจากการเป็นฝ่ายกระทำมาพอสมควร จะปลดปล่อยสักหน่อยดีมั้ยนะ ยังไงไอ้เซย์มันก็ไม่ยอมเป็นฝ่ายรับให้ผมแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ขณะที่กำลังชั่งใจอยู่ เหยื่อใจกล้าถือโอกาสตวัดแขนโอบรอบคอรั้งตัวผมลงไปจูบหน้าด้านๆ ผมหรี่ตาลงอย่างไม่พอใจเล็กๆ เหยื่อก็คือเหยื่อ คนที่เริ่มต้องเป็นผมต่างหาก!

   บดจูบเร่าร้อนแนบริมฝีปากแลกลิ้นสัมผัสกลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งจนร่างในอ้อมแขนอ่อนระทวยหอบหายใจหนัก ผมแสยะยิ้มในใจ ยกขาเสียดสีตรงหว่างขาอีกฝ่ายแบบแนบเนียน ให้คนตัวเล็กต้องการแทบทนไม่ไหว ช่วงที่ผมกำลังคิดว่าจะเอาไปกินที่ไหนดี หลังคอเสื้อถูกกระชากออกจนเซตกเก้าอี้ จำต้องอาศัยขายาวๆ ของตัวเองทรงตัวไว้ หันกลับไปหมายจะเอาเรื่อง

   สิ่งแรกที่ได้เห็นคือใบหน้าโกรธจัดของแฟนคนปัจจุบัน พร้อมแรงซัดเข้าท้องจังๆ ผมทรุดอยู่ในอ้อมแขนอีกฝ่าย จุกเจ็บจนร้องไม่ออก กล้ามเนื้อช่วงท้องไม่ช่วยอะไรเลยสักนิด รู้สึกหน้าชาเหงื่อไหลซิบๆ โดนเซย์กอดไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก ได้ยินแค่เสียงโครมครามของเก้าอี้และคนที่คาดว่าโดนฝ่าเท้าเซย์จนร่วงไปกองกับพื้น

   “เซย์พอได้แล้ว เดี๋ยวมันตาย!!” เสียงของคนที่ผมเกลียดที่สุด ไอ้พอร์ชตวาดพร้อมกระชากตัวเซย์จนผมปลิวตามเพราะมันกอดไม่ยอมปล่อย

   “สวะชั้นต่ำอย่ามาแตะต้องของกู” เสียงเจือคำรามกดต่ำจนน่ากลัว มันกระทืบซ้ำรอบสุดท้ายแล้วกวาดตาคมกริบมองไปรอบๆ “กูขอประกาศไว้เลยนะ จ้าวคือของกู ถ้าใครกล้าแตะหรือคิดอะไรแม้แต่นิด กูจะทำให้พวกมึงเจอยิ่งกว่าตายทั้งเป็น” เซย์ตวาดก้องไปทั่วผับที่ถูกหยุดเพลงจนเงียบกริบ

   “ส่วนมึง! กูคงจะใจดีกับมึงเกินไปสินะ ในเมื่อดีๆ ไม่ชอบ งั้นมึงเจอกูแบบร้ายๆ หน่อยเป็นไง เผื่อมึงจะจำใส่กบาลไว้ว่ามึงเป็นของใคร” ความกราดเกรี้ยวที่แสดงออกมาทำเอาผมเริ่มหวาดผวา ผมไม่เคยกลัวใครมาก่อนนอกจากครั้งนี้ที่ผมกลัวจนมือสั่น
   
   “ใจเย็นก่อนมึง” พอร์ชพยายามรั้งเพื่อนให้ใจเย็นแล้วหันมาพูดกับผมอย่างหงุดหงิด “มึงนี่มันตัวซวย กับปุณยังไม่พอ อยู่กับเพื่อนกูยังทำนิสัยเหี้ยๆ อีก”

   ผมกำมือแน่นตัวสั่นด้วยความโกรธ พอๆ กับความจุกที่เริ่มบรรเทา ไม่ต้องเสียเวลาพูดพล่ามอะไร หมัดแรกซัดเข้าหน้าพอร์ชจนปากแตก ก่อนจะตามด้วยกุมมือทุ่มหลังให้มันไปกองกับพื้น ผมก้มลงกระชากคอเสื้อมันยกขึ้นด้วยสองมือ

   “มึงกล้าดียังไงพูดกับกูแบบนี้ เพราะมึง! ถ้ามึงไม่เข้ามากูกับปุณ…” ผมสูดลมหายใจลึก เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเซย์ยืนอยู่ด้านหลัง ผมรีบหันไปมองพอเห็นแววตาเจ็บปวดที่โผล่ขึ้นมาวูบหนึ่ง ในใจผมก็ปวดหนึบไปหมด ผมไม่ใช่พวกที่จะหนีปัญหา เลยซัดพอร์ชอีกสักทีแล้วโยนมันไปทางพวกเพื่อนของเซย์ ส่วนผมเดินไปหาคนที่ยืนนิ่งแผ่รังสีกดดัน

   “เซย์...กู...”

   “กลับบ้าน...เดี๋ยวนี้!!” มันชี้ออกไปด้านนอกโดยไม่มองหน้าผม ผมผ่อนลมหายใจหนัก ไม่คิดสนใจสายตาคนรอบข้างแล้วเดินตามหลังเซย์ไปขึ้นรถ ส่วนที่เหลือทิ้งให้พวกพอร์ชจัดการเก็บกวาด ตลอดทางมีแต่ความเงียบ ไม่มอง ไม่พูดจนมาถึงห้อง

   ทันทีที่ปิดประตู ผมถูกผลักจนหลังกระแทกประตูอย่างจัง เซย์ตามมากดตัวผมไว้จนขยับไปไหนไม่ได้ ใบหน้าดุดันจ้องเขม็ง ราวกับจะสับผมให้เป็นหมื่นชิ้น “บอกมาจ้าว กูควรจะทำยังไงกับมึงดี” ผมพูดไม่ออก ได้แต่ยืนนิ่ง

   “กูตามใจมึงทุกอย่าง มีอยู่ไม่กี่เรื่องที่กูบังคับมึง แต่ดูสิ่งที่มึงทำกับกู! ปล่อยให้กูรออยู่ที่บ้านส่วนมึงไปเริงรักกับคนอื่นข้างนอก!! กูอยากจะฆ่ามึงให้ตาย แต่เพราะความรักโง่ๆ กูถึงทำไม่ได้ บอกกูมาจ้าว จะให้กูทำยังไง...”

   เห็นท่าทางมันแบบนี้ผมยิ่งทรมาน กัดฟันตอบไปตามที่คิด

   “กูไม่รู้...”

   มันผละออก หยักหน้าพูดซ้ำๆ เดินวนไปวนมา “ดี...ดีๆ พูดได้ดี งั้นกูจะทำให้มึงรู้เอง!!”

   แคว่ก!

   เสื้อเชิ้ตราคาแพงถูกฉีกกระชากออก ผมเบิกตากว้างรีบต่อสู้ขัดขืนทั้งที่ในใจเริ่มกลัว เซย์หงุดหงิดคำรามสะบัดหน้าอย่างหัวเสียแล้วจัดการชกที่ท้องผมอีกครั้ง ซ้ำรอยเดิม เจ็บจนแทบหมดสติ

   ผมไหลลงไปนอนกุมท้องอยู่กับพื้น เซย์มันก้มลงแบกผมขึ้นบ่าแล้วพาเข้าห้องนอน เรื่องราวหลังจากนั้นคงไม่ต้องอธิบายมาก ผมถูกมันจัดการ วนเวียนแบบนั้นอยู่สามวันเต็มกลายเป็นสภาพผมอย่างตอนนี้ นอนหมดแรง รวดร้าวไปทั้งตัว นั่งกินข้าวต้มที่มันป้อน

   ขอบคุณสวรรค์ที่มันใจเย็นลงแล้ว ไม่งั้นหากกินเวลาอีกวันหนึ่ง ชื่อผมคงถูกสลักอยู่ตรงป้ายหลุมศพ

   “กินยาแล้วนอน วันนี้ฉันต้องออกไปทำธุระข้างนอก ตอนเที่ยงจะกลับมา อยู่ดีๆ อย่าหาเรื่องเจ็บตัวอีก”

   “รู้แล้วน่า” ผมรับเสียงแหบแห้ง เป็นเพราะใคร ก็มันนั่นแหละ

   “อยากกินอะไรมั้ย เดี๋ยวกูซื้อมาให้” เซย์ฉบับผีออกก้มลงมาจูบหน้าผากผมเบาๆ อ่อนโยนจนอยากร่ำไห้ แบ่งความอ่อนโยนตอนนี้ไปแทนสามวันก่อนได้รึเปล่า

   “อาหารญี่ปุ่น แซลมอน ชาเขียวฟูจิรสหวาน ไอติมโมจิรสวานิลา” ห้างที่มีทุกอย่างครบอยู่ไกลจากคอนโดมาก ปกติเซย์จะไม่ไปถ้าไม่จำเป็น แต่คราวนี้มันพยักหน้ารับ

   “เดี๋ยวซื้อมาให้” ลูบหัวผมทิ้งท้ายทำท่าจะออกไป ผมรั้งแขนมันไว้ก่อน เผยให้เห็นปลอกแขนติดโซ่ที่ล่ามไว้กับเตียง

   “กูรักมึงนะ”

   เซย์มองด้วยสายตานิ่งเฉย

   “อย่าพูดถ้ามันไม่ได้ออกมาจากใจมึงจริงๆ เพราะนอกจากกูจะไม่ใจอ่อน กูจะล่ามมึงไว้นานกว่าเดิมด้วยซ้ำ”

   ผมหัวเราะมองสบไม่ยอมหลบสายตา “กูพูดจริง ไม่ใช่เพราะมึงทำกับกูจนสมองกลับ แต่พักหลังมานี้กูคิดดูแล้ว ยิ่งคำพูดของเหี้ยพอร์ชกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้นกูก็เริ่มมั่นใจว่ารู้สึกกับมึงแล้วจริงๆ” ผมหลับตา ก่อนลืมตาขึ้นอีกครั้ง

   “ขอโทษที่ทำให้มึงเสียใจ กูสำนึกผิดแล้ว ทีหลังจะไม่ทำอีก อภัยให้กูนะ” จะเรียกว่าผมกำลังง้อมันก็ไม่ผิดนัก เรื่องนอกใจนี่ผมเป็นฝ่ายผิดจริงๆ แถมยังไม่ลืมปุณอีก แม้ตอนนี้ผมจะพูดไม่ได้เต็มปากว่าลืมรักแรกจนหมด แต่ผมมั่นใจว่าคนที่ผมชอบตอนนี้คือเซย์ ส่วนปุณเป็นแค่คนที่ยังลืมไม่ลง

   สามเดือนที่ผ่านมาก็พอจะบอกอะไรได้หลายอย่าง เซย์มันดูแลผม คอยห่วงใย หวังดีจากใจ อาจจะทะเลาะกันบ้างเพราะความไม่ยอมคน สุดท้ายก็จบลงที่เซย์ยอมถอยก้าวหนึ่งเสมอ แม้จะมีรายการเอาคืนแบบเจ็บแสบตามหลังก็เถอะ ครั้งนี้ผมผิดเองที่ฝ่าฝืนกฎข้อสำคัญที่สุดของมัน

   จากเหตุการณ์ในวันนั้น ตอนที่ผมเห็นแววตามันเจ็บปวดเพียงเสี้ยววิแล้วเดินหันหลังให้ ผมพึ่งระลึกได้ว่ามันสำคัญกับผมแค่ไหน ด้วยความที่ครอบครัวไม่อบอุ่นอย่างใครเขา ผมเลยเป็นพวกขี้เหงา ต้องการคนยึดเหนี่ยวเป็นที่พึ่งซึ่งในเวลานี้คือเซย์ ผมกลัวว่าจะเสียมันไป จึงยอมอยู่ว่าง่ายในตอนนี้

   แบบชั่วคราวอะนะ ยังไงสันดานผมก็แก้ไม่ได้หรอก เซย์ก็ดูจะเข้าใจ เจ้าตัวเดินกลับมาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงดึงผมเข้าไปกอด

   “กูจะรอมึงพูดคำนี้อีกครั้ง ในวันที่หัวใจมึงมีแค่กู ส่วนเรื่องที่ผ่านมากูอภัยให้มึงแล้ว แต่ขอเตือนไว้อย่าง อย่ามีครั้งที่สอง ไม่อย่างนั้นคนที่จะเสียใจคือมึง” เพราะมึงจะทิ้งกูไปอย่างไร้เยื่อใยใช่มั้ย ผมต่อประโยคในใจ เซย์เป็นพวกรักมากก็ยิ่งเกลียดมาก แถมยังเด็ดขาดเลือดเย็นขนาดที่ยอมเฉือนหัวใจตัวเองทิ้งได้ง่ายๆ หากเรื่องไม่เป็นแบบที่ปรารถนา

   เอาเถอะ ปกติมีแต่มันที่เป็นฝ่ายถอย คราวนี้ผมจะเอาบ้าง ถอยคนละก้าว มีพื้นที่อยู่ด้วยกันตรงกลาง จะได้อยู่กันยืดไม่ฆ่ากันตายซะก่อน

   “ได้ ล้างหูรอไว้ได้เลย” ซบหน้ากับแผ่นอกแน่น เซย์หัวเราะในคอเกิดเสียงชวนจั๊กจี้

   “กูจัดมึงอีกสักรอบค่อยไปดีมั้ย นานๆ ทีมึงจะทำตัวน่ารักให้กูเอ็นดู ดูเอ็นสักที”

   ผมผลักมันออก คว้ามือที่เริ่มล้วงผ้าห่มสัมผัสร่างเปลือยเปล่าของผม “ไปซื้อของกินมาเซ่น ไม่งั้นอย่าหวัง” เซย์ตอบด้วยการร้องเพลงอยู่ข้างหู

   “Don’t tell no lie
   You can’t deny
   The beast inside…


   “นายปฏิเสธสัตว์ร้ายในตัวไม่ได้หรอก บอกมาสิ ว่านายเองก็ต้องการเหมือนกัน...” จมูกโด่งซุกไซร้ลำคอ จูบย้ำก่อนดูดเม้มใบหู มือเลื่อนลงล่างทำให้ผมหลุดเสียงพร่า

   “Please, Inside me” ท่อนนี้ไม่มีในเพลง แต่ผมเติมเอง เซย์กระตุกยิ้มสมใจเคลื่อนกายขึ้นมาบนเตียงทำตามที่ขออย่างใจกว้าง

   “Baby I’m preying on you tonight
   Hunt you down eat you alive
   Just like animals
   Animals
   Like animals...”

Fin.

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เพลงประกอบนิยาย Maroon 5 - Animals
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง P.2 [UP 3/3/60]
เริ่มหัวข้อโดย: BeautifulGirl ที่ 03-03-2017 13:40:58
 :-[ :jul1:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง P.2 [UP 3/3/60]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 03-03-2017 15:50:41
สนุกอ่ะ อยากอ่านยาวๆ เลยเนี่ย
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง P.2 [UP 3/3/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 03-03-2017 16:37:00
สนุกมากกกกกก
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง P.2 [UP 3/3/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 03-03-2017 20:32:13
เซย์มีความหึงโหด ล่ามจ้าวเลยอ่ะ แต่ทำไมชอบ คิดว่าโรแม้นซ์ดี  :hao6:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง P.2 [UP 3/3/60]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 04-03-2017 09:31:48
สุดยอดเลยครับ เซย์หึงโคตรโหดเลย
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง P.2 [UP 3/3/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 04-03-2017 20:26:03
ชอบเรื่องนี้จังขออีกหลาย ๆ ตอนได้เปล่า...You’re like a drug that’s killing me.....เสพติดคู่นี้ซะแล้วซิ
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง P.2 [UP 3/3/60]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 05-03-2017 19:31:35
จริงๆจ้าวไม่น่าจะยอมเซย์ขนาดนั่นในความรู้สุกเรานะ
ถึงเซย์จะทำดีด้วยแค่ไหนก็ตาม แต่สุดท้ายมันก็คือการบังคับจ้าวอยู่ดี

ส่วนปุณเบิกคบไปก็ดีแล้ว ปรกติเราชอบเคะรูปร่างหน้าแนวปุณนะ ไม่ชอบเคะล่ำๆแบบจ้าว
เพราะนิสัยปุณไม่โอเคอ่ะ จะมาด่าและโทษจ้าทำ ไมตอนมีปัญหา
ได้แฟนแล้วไม่ต้องทำมาเป็นห่วงหรอก เราเป็นจ้าวก็เลือกที่จะเลิกคบปุณเหมือนกัน :z6:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง P.2 [UP 3/3/60]
เริ่มหัวข้อโดย: somberness ที่ 05-03-2017 19:47:50
ชอบเรื่องเน้ เพราะมันทำให้รู้ว่าตัวโกงก็เป็นตัวเด่นได้และพระเอกก็น่ากระทืบมากเช่นกัน :z6:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 11-05-2017 01:15:11
Shape Of You

   The club isn’t the best place to find a lover
   So the bar is where I go
   Me and my friends at the table doing shots drinking fast and then we talk slow
   You come over and start up a conversation with just me and trust me I’ll give it a chance now
   Take my hand stop, put van the man on the jukebox and then we start to dance…


   “สบายใจจริงนะ ไอ้เซย์มันให้ออกมาไง”

   ร่างกายที่กำลังโยกไหวไปตามเสียงเพลงถึงกับหยุดชะงักเมื่อมีเสียงระคายหูดังรบกวน ดวงตาคมสวยปรายมอง แสยะยิ้มมุมปาก ท่ามกลางเสียงเพลงเร่งเร้า ความมืดสลัวของสถานที่ปิดทึบ และแสงสีภายในผับที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน เขาเลือกที่จะไม่ตอบ แต่ร้องเพลงที่กำลังเปิดแทน

   “And now I’m singing like…”

   เสียงทุ้มต่ำร้องต่อข้างหู พร้อมสัมผัสจากฝ่ามือร้อนที่โอบจากทางด้านหลัง รั้งให้แนบชิดจนได้กลิ่นกายเยือกเย็นแฝงไปด้วยความร้อนแรง

   “Girl you know I want your love
   Your love was handmade for somebody like me
   Come on now follow my lead
   I may be crazy don’t mind me…”

   ผมหัวเราะในคอ เอื้อมแขนไปรั้งคออีกฝ่ายให้โน้มลงมาชิดปาก งับเบาๆ หยอกเย้ารับไม้ต่ออย่างรู้งาน

   “Say boy let’s not talk too much
   Grab on my waist and put that body on me
   Come on now follow my lead
   Come come on now follow my lead”

   คนที่เกือบได้เห็นหนังสดทนไม่ไหว แทรกขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ “พวกมึงจะไปเปิดห้องกันเลยมั้ย” แน่นอนว่าสองคนเป้าหมายไม่คิดฟัง ริมฝีปากแนบสนิทสอดลิ้นพัวพันดูดดื่ม กระทั่งจูบจนพอใจถึงยอมผละออกแบบไม่คลายอ้อมแขน

   “ไม่เสือกครับ” เซย์ตอบหน้าตาย ผมหัวเราะสะใจเมื่อเห็นพอร์ชหน้าบี้หมดมาด

   หลังปรับความเข้าใจกันได้ ผมกับเซย์ตัวติดกันมากกว่าเดิม ในหลายๆ ความหมายอะนะ อย่างตอนนี้เซย์ก็อ่อนลง ปล่อยให้ผมมาเที่ยวกลางคืนเสพแสงสีบ้าง โดยมีเขามาด้วย ซึ่งผมเองก็ไม่มีปัญหาอะไร เปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ดี เสียอย่างเดียว คนที่ผมเกลียดขี้หน้าที่สุดดันเสนอหน้ามาด้วยนี่สิ

   คนเราก็แปลกนะ ยิ่งเกลียดก็ยิ่งโผล่มาให้เห็น ทั้งที่รู้ๆ อยู่ว่าไม่พอใจ ให้อารมณ์เหมือนนางเอกในละคร รู้ว่านางร้ายเกลียด ก็ยังชอบยื่นหน้าหาฝ่าเท้า ถ้าผมเป็นตัวร้าย คงจะเล่นกับนางเอกคนนั้นจนสนุกเลยล่ะ...ไม่ใช่สิ ผมเป็นพระรองนี่เนอะ หึหึ

   “หญิงร้ายชายเลว กูก็เพิ่งจะเข้าใจวันนี้แหละว่าเป็นยังไง พวกมึงนี่เข้ากันดีอย่างกับผีเน่าโลงผุ” พอร์ชยังคงวาจาหมาได้แดกอย่างคงเส้นคงวา

   “พอร์ช กูว่ากูพูดเคลียร์แล้วนะ” เซย์รั้งตัวผมที่จะพุ่งเข้าไปต่อยปากด้วยความหมั่นไส้ ระหว่างนั้นก็พูดเสียงเย็นจนมันยกสองมือยอมแพ้

   “ห้ามแตะ ห้ามต้อง ห้ามด่า ห้ามทำอะไรทั้งนั้น เออ กูจำได้น่า โทษทีที่พาลแล้วกัน กูแค่หงุดหงิด” มันถอนหายใจ ผมไม่อยากเสวนาด้วย เลยหันกลับไปนั่งดื่มคุยกับบาร์เทนเดอร์แทน ปล่อยให้พวกมันสองตัวคุยกันตามประสาเพื่อน เห็นบ่นๆ ว่าทะเลาะกับปุณ ผมเค้นเสียงเหอะในคอ

   บอกเลยว่าตอนนี้ผมไม่รู้สึกอะไรกับปุณแล้ว เอาตรงๆ ความเป็นเพื่อนมันก็ไม่เหลือ เพราะมันไม่มีแต่แรก ผมมองมันในฐานะคนที่แอบชอบมาโดยตลอด พอหมดความรู้สึกนั้นก็เท่ากับว่าเป็นคนที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป อีกอย่างผมไม่อยากหาเรื่องให้เซย์หึงโหด

   แต่แอบชอบมาหลายปี ดูแลกันมาตั้งนาน มันก็ต้องมีบ้างความผูกพัน แม้ไม่ได้โทรคุยส่งไลน์อะไร พออยู่ที่มหา’ลัยก็ยังทำตัวเป็นเพื่อนกันตามปกติ แค่ผมไม่ตามก้นปุณต้อยๆ อย่างสมัยก่อนและใช้เวลาอยู่กับเซย์มากกว่า ถึงงั้นก็พอรู้มาว่าพวกมันทะเลาะอะไรกัน เพราะปุณมาปรึกษาผมเรื่องที่พอร์ชมันเอาแต่ใจอารมณ์ร้อนเกินไป จนเกือบมีปัญหาเพราะหึงหลายครั้ง

   แน่นอนผมเป็นเพื่อนคนสำคัญของปุณเสมอ เลยเสนอให้มันเมินใส่พอร์ชเพื่อดัดสันดาน เห็นมั้ยล่ะ ผมเป็นคนดีขนาดไหน และดูเหมือนเซย์จะเดาออกเช่นกันว่าเรื่องเป็นมายังไง ถึงปรายตามองผมเงียบๆ แล้วให้คำแนะนำเพื่อนตามสมควรโดยไม่คิดเปิดโปง

   กับเรื่องที่เกี่ยวกับพอร์ช เซย์ค่อนข้างจะใจอ่อนกับผม เลยยอมให้ผมแกล้งเพื่อนมันเล็กๆ น้อยๆ ได้ เวลาพอร์ชปากหมาใส่ก็จะเข้าข้างผม โดยไม่สนว่าเพื่อนจะโวยหาว่ามันลำเอียง ก็นะ...มันเป็นคนเดียวที่เห็นสภาพผมตอนนั้น อีกอย่างผมรู้ลิมิตดี ว่าระดับไหนถึงควรพอ
   
   เวลาผ่านไปสักพัก ในที่สุดพอร์ชมันก็หยุดพล่ามรีบแจ้นกลับห้องเพราะโดนปุณโทรตาม ผมกรอกตามองบน นึกด่าปุณในใจ เวลาเพิ่งผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง มันแค่แกล้งบอกว่าออกมาเที่ยวก็ยอมมันซะแล้ว น่าเบื่อชะมัด

   “จ้าว” เสียงเรียบมาเลย ผมเอนหลังซบคนที่มายืนซ้อนด้านหลัง ทำราวกับว่าโซนบาร์มีเพียงพวกเราแค่สองคน เอาจริงๆ คนอื่นเขาไม่สนหรอก

   “ฉันกำลังคิดอยู่ว่าเมื่อไหร่เราจะกลับไปต่อกันที่ห้องดี” บอกเลย นี่ไม่ได้จงใจเบี่ยงประเด็นว่าตัวเองกำลังนึกถึงปุณ แค่ต้องการอย่างนั้นจริงๆ เซย์หุ่นเร้าใจนะบอกให้ ส่วนลีลา...หึหึ

   ใบหน้าคมเข้มกระตุกยิ้มมุมปาก คว้าแก้วแบล็ค รัสเซียนในมือผมยกดื่มรวดเดียวหมด แล้วพากันเดินออกจากผับหรูที่เซย์เป็นสมาชิก VIP พวกเราต่างคนต่างเดิน ไม่ได้นัวเนียกันอย่างคู่อื่นที่คิดจะไปต่อ ของจริงมันต่อจากนี้ ความร้อนแรงจะเริ่มขึ้นหลังจากที่ประตูปิดลง

   พักหลังพวกเราเพิ่มสีสันเวลาเมคเลิฟด้วยการเปิดเพลง ผมอารมณ์ค้างจากเพลงที่ผับเลยเลือกเพลงเดียวกัน มือคว้ารีโมทเครื่องเสียงราคาแพง เลือกเพลงที่จะเปิดขณะที่เซย์นัวเนียอยู่ด้านหลัง ผมหันกลับมา รั้งลำคอร้อนจากอุณหภูมิร่างกายที่พุ่งสูงให้โน้มลงจูบกระตุ้นอารมณ์ให้ยิ่งโหมกระพือ เสื้อผ้าพวกเราเริ่มหลุดไปทีละชิ้นสองชิ้น แล้วผมก็ได้เห็นเรือนร่างของเซย์เต็มตา

   แผ่นอกแน่นตึงประดับไปด้วยมัดกล้ามเรียงตัวสวย ด้วยความที่สมัยก่อนเซย์เคยเล่นกล้าม แม้ตอนนี้จะเลิกไปแล้วแต่ยังคงรักษาหุ่นอยู่เสมอ เลยดูไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ดูดีจนน่าอิจฉา เข้ากับรูปหน้าคมเข้มและรอยยิ้มร้าย

   ผมหัวเราะอย่างชอบใจ ยามเซย์ก้มลงมาซุกไซร้ลำคอขบแทะหยอกเย้า ผมใช้ปลายมือลูบไล้ตามเรือนร่างสูงใหญ่ ชื่นชมผิวสีแทนสวย พาลให้นึกไปถึงตอนที่มันเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อและคราบน้ำรักของเรา...ชักทนไม่ไหวแล้วสิ

   Oh I
   I’m in love with your body
   Every day discovering something brand new
   I’m in love with the shape of you


   ผมไล่จูบตั้งแต่ลำคอจนมาถึงใต้สะดือในจุดวาบหวิว ผมรีบผละออกก่อนที่เซย์จะคว้าท้ายทอยผม แล้วลุกขึ้นขยำบั้นท้ายแน่นๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว พลางร้องท่อนเด็ด

   “Come on be my baby come on” กระดิกนิ้วเรียกให้เซย์เดินตามไปที่ห้องนอน มุมปากยกยิ้มอย่างท้าทาย

   เซย์หัวเราะในคอ อาศัยช่วงขาที่ยาวกว่าก้าวเร็วๆ เข้ามาหาแล้วแบกผมพาดบ่าไปโยนลงเตียง ก่อนตามมาคร่อมทับทั้งตัว เรียกได้ว่าหลังจากนั้นผมแทบจะจมเตียง สองร่างโรมรันแลกสัมผัสกันอย่างหนักหน่วง หยาดเหงื่อเกาะพราวไปทั่วร่างกาย เปรอะเปื้อนด้วยหลังฐานของเกมกาม เสียงหายใจหอบถี่คลอเสียงเพลงจากลำโพงในห้องนั่งเล่น

   ประตูห้องนอนยังคงเปิดกว้าง ผ้าม่านก็ยังไม่ปิด ถึงอย่างนั้นความสูงระดับนี้ไม่มีใครมาแอบดูอยู่แล้ว แถมยังได้ฉากหลังเป็นแสงไฟจากเมืองยามราตรี

   ปลายจมูกแตะกัน มองภาพตัวเองที่สะท้อนอยู่ในดวงตาอีกฝ่าย บ่งบอกว่าในสายตาของพวกเรามีแค่กันและกันเท่านั้น

   We push and pull like a magnet do
   Although my heart is falling too
   I’m in love with your body
   Last night you were in my room
   And now my bed sheets smell like you
   Every day discovering something brand new


   ผมตกหลุมรักเซย์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรือนร่าง ดวงตา น้ำเสียง นิสัย ทุกสิ่งทุกอย่าง

   บางคนอาจจะสงสัย ว่าทำไมผมถึงรู้สึกแบบนี้ ทั้งที่เซย์ทำร้ายผมสารพัด ยึดความคิดของตัวเองเป็นหลัก หึงโหดก็เท่านั้น เรื่องของความรู้สึก มันอธิบายไม่ได้หรอก แต่ที่แน่ๆ ผมมั่นใจว่าความรักของเซย์เป็นของจริง อีกอย่าง...ไม่คิดว่าพวกเราเข้าขากันได้ดีเหรอ

   แล้วก็นะ โลกใบนี้น่ะ คิดว่าสิ่งที่คนส่วนมากทำมันถูกหมดหรือไง ถ้างั้นผมขอเป็นส่วนน้อยที่สามารถทำตามใจ ไขว่คว้าทุกสิ่งที่ต้องการดีกว่า

   อ่า...ที่รักของผมช่างน่ารักจริงๆ

   “I’m in love with the shape of you”

   มอบจูบแสนหวาน…

   ก่อนเริ่มกิจกรรมครั้งต่อไป...

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพลงประกอบ Ed Sheeran – Shape Of You
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 11-05-2017 02:19:12
ชอบเชย์-จ้าวมากเลย
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 11-05-2017 09:51:38
กรีดร้อง...งงงงง เราชอบคู่นี้ ร้อนแรงดี เสมอต้นเสมอปลาย #ไม่ชอบพอร์ช  :m16:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 11-05-2017 21:41:49
เอิ่มมมมม ผีเน่ากับโลงผุ คู่แกเหมาะกว่ามะ พอร์ช
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 13-05-2017 04:03:25
เรียกว่าเขาเป็นคู่ที่..พอดี..และ..ลงตัว..เข้ากันได้อย่างสนิทแนบแน่น
เหมือนถูกสร้างมาเพื่อเป็นของกันและกัน
เซย์ร้ายมากนะ แต่ก็เพราะร้ายจ้าวถึงได้รัก
ถ้าเซย์เอาจ้าวไม่อยู่ เซย์ก็คงกำลังรับบทพระรองที่จะต้องอกหักเสมออยู่ร่ำไปเป็นคนถัดไป
ชอบความ..รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่..ของทั้งคู่มากๆ
ถือว่าเป็นความโชคดีของเซย์ที่ตามหาคนที่ทำให้ตัวเอง..รักเป็น..จนเจอ
ดีใจกับจ้าวที่หลุดพ้นจากสภาพแอบรักเพื่อนสนิท
ที่นอกจากไม่มีวันมอบรักกลับคืน แต่ยังจะคอยร้อยดึงให้อยู่ชอกช้ำซ้ำๆไว้ใกล้ตัวด้วยคำว่า.เพื่อนรัก.
ดีที่สุดคือรักคนที่เขารักเรา เห็นคุณค่าของกันและกัน ทะนุถนอมประคองไว้ให้ยาวนาน
ชอบคู่นี้มากกว่าคู่เพื่อนสนิทนะ ยกให้เซย์จ้าวเป็นคู่หลักแระกัน
ส่วนอีก2คนนั้น ขอเรียกว่าเป็นตัวเร่งปฏิกริยาทางเคมีก็พอ^^
สนุกมากค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: dena ที่ 13-05-2017 11:19:02
นิยายเรื่องนี้ทำให้เราฟังเพลงอังกฤษถึงขนาดพ่อเรายังต้องร่ำไห้  :hao7:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 13-05-2017 12:42:55
ดีใจและขอบคุณที่ชอบนะคะ แถมยังฟังเพลงภาษาอังกฤษด้วย  :mew1:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-05-2017 21:20:53
คู่นี้เหมาะสมกันมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: tn ที่ 26-06-2017 11:52:47
ตอนอ่านคู่นั้นจำได้ลางๆว่าหมั่นใส้พอตัว พออ่านเรื่องนี่ เออเห้ย กูหมั่นใส้ถูกคู่แล้ว นี่ๆความรักของจริงมันคู่นี้เว้ย :m4:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: benceii ที่ 13-12-2017 00:30:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 24-12-2017 13:15:25
ผีเน่าโลงผุ โอ๊ย
ดีกว่านี้หน่อยสิ
อะไรดีนะ
กิ่งทองใบหยกได้ไม๊นะ ..
55+
 
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 27-12-2017 14:26:28
 :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Panizzz3838 ที่ 30-12-2017 05:07:50
ชอบเรื่องแนวนี้อ่ะ หามานานแล้ว แบบพระเอกไม่กินหญ้า นายเอกไม่โลกสวย :impress2: ถ้าเป็นเรื่องยาวก็ดีซิ
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueWizard ที่ 30-12-2017 12:42:43
ชอบๆๆ ขอบคุณกับเรื่องสนุกๆแบบนี้นะครับ:)

 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 17-02-2018 17:18:03
 o13
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 18-02-2018 12:14:09
เหมาะสมกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว :m25:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 18-02-2018 19:27:54
ชอบเซย์จ้าวมาก
ชอบความแรงมาร้ายกลับ แซ่บๆ
เป็นคู่ที่ประทับใจ
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Sasiwan ที่ 18-02-2018 22:26:22
โง้ยยยยยมันช่างดีจิมๆ
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 23-02-2018 07:57:43
เคมีเข้ากันสุดๆ
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: keem ที่ 23-02-2018 19:55:04
สนุกครับ
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 13-06-2018 16:09:53
คู่นี้แซ่บมากก พริก 10 เม็ดเลย55555

 :hao6:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Naamtaan22 ที่ 06-07-2018 16:00:52
เป็นเรื่องที่สองที่เราอ่านแล้วใช้ shap of you มาเป็นเพลงประกอบ ของคุณ Ailime13 ก็ดี ของคุณก็ดี
สนุกมากค่ะ เป็นพระรองกับเพื่อนพระเอก ที่แซ่บสุดๆ
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: patompong888 ที่ 10-07-2018 23:11:19


 แซ่บหลาย  :hao6:
หัวข้อ: Re: (จบในตอน) บทบาทของพระรอง4 P.2 [UP 11/5/60]
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 29-01-2020 23:25:00
เป็นคู่พระรองกับเพื่อนพระเอกที่แซ่บมากๆ  :hao6:
 :L2: :pig4: :pig4: :L2: