พิมพ์หน้านี้ - เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่10-เสียงปืนในความมืด)(22/9/15)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: OngWangye ที่ 04-07-2015 20:54:20

หัวข้อ: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่10-เสียงปืนในความมืด)(22/9/15)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 04-07-2015 20:54:20
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทนำ)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 04-07-2015 20:57:40




เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx


บทนำ

“สวัสดีครับ เอ่อ.....ที่นี่ใช่บริษัทต้าลี่เฉินรึเปล่าครับ”  ธราธร หรือ มังกร นิสิตชั้นปีที่สามเอ่ยถามพนักงานสาวสวยหมวยอึ๋มใส่แว่นที่กำลังส่งยิ้มให้เขาด้วยความมิตรอยู่

“ใช้แล้วจ่ะ” พนักงานสาวตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมแม้จะรู้ว่าผู้เอ่ยถามนั้นมีอายุน้อยกว่าก็ตาม โดยมองจากชุดนิสิตผูกไทด์อย่างเรียบร้อยที่ใส่อยู่

“คือผมส่งใบสมัครฝึกงานมาไว้เมื่อเดือนที่แล้ว .....แล้วพอดี ...คุณ พสุธา นัดผมให้มาสัมภาษณ์ตอนบ่ายวันนี้หนะครับ”

มังกรเอ่ยอย่างกึกๆกักๆเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มีโอกาสอย่างกรายเข้ามาเหยียบอาณาบริเวณที่เป็นบริษัทใหญ่โต ซึ่งดูจากภายนอกก็รู้แล้วว่าเจ้าของกิจการต้องมีทรัพย์สมบัติมูลค่าเกินหมื่นล้านอย่างไม่ต้องสงสัย

“เอ ...... หรอจ๊ะ ..... เดี๋ยวพี่เช็คให้แป๊บนึงนะ พอดีบอสไม่ได้แจ้งไว้หนะจ่ะ” พนักงานสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงสัยก่อนจะเริ่มเปิดบัญชีแฟ้มเอกสารหมายกำหนดนัดของเจ้านายดู

“อ๋อ ..... น้อง..... ธราธรใช่มั้ย”

“อ้อ ใช่แล้วครับพี่”

“โอเคจ่ะ พี่เจอแล้วหละ พอดีพี่รู้สึกว่าบอสจะว่างๆอยู่นะ ยังไงเดี๋ยวพี่จะลองโทรถามให้ตอนนี้เลยละกัน น้องรอพี่แป๊บนึงนะจ๊ะ” พนักงานสาวเอ่ยเสียงหวานใสก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปยังเจ้านายทันที

“ตู้ดดดดดดดดด ..........”

..............
“ค่ะ บอสคะ ..... คือว่าน้อง ธราธร ที่จะมาฝึกงานมาแล้วหนะค่ะ พอดีหนูเห็นบอสว่างๆอยู่ตอนนี้ บอสจะให้น้องขึ้นไปหาเลยมั้ยคะ”

“........................”
“อ๋องั้นหรอคะ” พนักงานสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงยิ้มแย้มก่อนจะหัวเราะออกมาคิกคักอย่างสบายอารมณ์ อากัปกริยานั่นไม่อาจหลุดรอดพ้นคนฉลาดอย่างมังกรไปได้ เขามองปราดเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าบอสของพนักงานสาวคนนี้ คนที่เขาจะต้องไปเผชิญหน้าในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านั้นน่าจะเป็นคนกันเอง และเจ้าคารมณ์ขนาดไหน พนักงานต้อนรับธรรมดาถึงได้คุยอย่างไร้อาการเกร็งได้ขนาดนี้

   “บอสคนนี้จะต้องเป็นคนกันเอง สบายๆ อัธยาศัยดีแน่ๆ” มังกรคิดในใจ
.....................
“ค่ะ ค่ะ .......... โอเคค่ะบอส .... สวัสดีค่ะ”

   พนักงานสาวกล่าวสวัสดีกับเจ้านายทางโทรศัพท์ก่อนจะหันหน้ามาหามังกรที่ตอนนี้กำลังยืนรอลุ้นคำตอบอย่างกล้าๆเกร็งๆอยู่

   “เดี๋ยวน้องขึ้นไปที่ชั้นยี่สิบห้าเลยนะจ๊ะ พอดีตอนนี้บอสกำลังว่างอยู่เลย เราเตรียมเอกสารใบสมัครงานมาพร้อมแล้วเนาะ”

   “เอ่อ พี่ครับ ผมมีแต่ใบฝึกงานเฉยๆหนะครับ”

   “อ๋อนั่นแหละจ่ะ พี่พูดผิด” พนักงานสาวว่าก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างคนอารมณ์ขัน

   “ลิฟท์ก็อยู่ด้านในทางด้านขวา เดี๋ยวน้องเดินๆไปก็จะเจอเองแหละ โชคดีนะจ๊ะ” คำแนะนำของพนักงานสาวทำให้คนร่างสมส่วนสูงพอประมาณพอใจชื้นขึ้นบ้างจากอาการประหม่า เขาไม่ลืมที่จะยกมือขอบคุณพี่สาวคนสวยคนนี้ก่อนจะเดินถือแฟ้มเอกสารตรงไปยังลิฟท์ทันที

   .......................
   .......
   “ตริ๊ง!”

   ใช้เวลาไม่นานนักลิฟท์กระจกก็ได้พานิสิตชั้นปีที่สามคนนี้ขึ้นมาจนถึงชั้นที่ยี่สิบห้า ชั้นที่เขากำลังจะต้องเผชิญกับผู้ให้การสัมภาษณ์และเป็นทั้งผู้จัดการของบริษัทนี้ด้วย

   “ห้องสองห้าศูนย์หนึ่ง..... “ มังกรเอ่ยสบถกับตัวเองอย่างเบาเสียงก่อนจะไล่เดินไปตามทางเดินราดยาวบนพรมสีฟ้าอ่อนจนถึงห้องที่เขากำลังตามหา

   ด้านขวาของชั้นนี้จะเป็นห้องซึ่งมีประตูกั้นอยู่ ดูแล้วช่างเหมือนห้องประชุมและห้องปฏิบัติการอะไรซักอย่างในสายตาของเด็กฝึกงานใหม่คนนี้ ส่วนด้านขวาก็เป็นแผนกทำงานของพนักงานออฟฟิศ ซึ่งจะว่าง่ายๆก็คือลูกจ้างของบอสคนนี้นั่นเอง

   เหล่ามนุษย์เงินเดือนกำลังดูทำงานกันอย่างขะมักเขม้น มังกรกำลังตื่นเต้นกับภาพใหม่ที่เขาไม่เคยได้ประสบพบเจอมาในช่วงชีวิตมหาวิทยาลัยสี่ปี ทุกอย่างดูแปลกใหม่ ท้าทายและชวนให้ค้นหาบริษัทหรูไฮแห่งนี้

   “ซักวันเราจะกลายเป็นมนุษย์เงินเดือนแบบคนในบริษัทนี้มั้ยเนี่ย” มังกรว่าสั้นๆก่อนจะหันมาหยุดเดินอยู่ที่ประตูไม้ห้องสองห้าศูนย์หนึ่ง

   “แอ๊ดด!”
   ........

   “เฮ้ย! .... อุ๊บบ .... ขอโทษครับ

   นิสิตฝึกงานถึงกับร้องอุทานด้วยความตกใจพร้อมกับมือเย็นเท้าเย็นเหตุเพราะพึ่งตระหนักรู้ได้ว่าตนลืมเคาะประตูก่อนจะเข้าห้อง

   และภาพที่เผยให้เห็นอยู่ตรงหน้าของเขาตอนนี้ .....

   สายตาคมของผู้ชายหน้าใสแต่กลับหล่อเข้มหันมองเขาขวับมาทันทีด้วยท่าทางสุขุมและเยือกเย็น

   พสุธากำลังอยู่ในร่างของผู้ชายเปลือยอก กึ่งถอดเสื้อกึ่งใส่เสื้อ เสื้อเชิ้ตสีขาวทิ้งรอยให้เห็นวงกว้างสีน้ำตาล จากการคาดเดาของมังกรแล้วเขาเดาว่าวงกลมวงนั้นน่าจะมีสาเหตุมาจากรอยหกจากแก้วกาแฟที่ถูกทำร่วงหล่นอย่างไม่ทันได้ระวัง

   แต่กระนั้นก็ตาม นี่ไม่ใช่เวลาจะมาพิจารณารอยวงกลมบนเสื้อ เขาจะต้องรีบแก้สถานการณ์ความผิดพลาดนี้ให้เร็วที่สุด อีกทั้งนี่ก็เป็นครั้งแรกซะด้วยที่เขาได้เจอบอส พสุธา ถ้าหากจะถูกไล่ออกตั้งแต่ยังไม่ได้ยื่นใบสมัคร ก็นับว่าเป็นความไม่ระวังอย่างที่สุดและแสนจะให้อภัยไม่ได้สำหรับมังกร

   “ขะ ...ขอโทษครับ!” มังกรรีบเอ่ยขอโทษพร้อมกับก้มหัวลงจนศีรษะแทบจะชิดติดกับหัวเข่า ถึงเขาจะเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ความรู้สึกประหม่าในตัวของเขาก็มักจะไม่ต่างอะไรไปจากคนธรรมดาทั่วไป เช่นตอนที่ประหม่าจนลืมเคาะประตูห้องของบอสพสุธา

   ผู้ชายร่างหนาหล่อเข้มหันกลับมามองคนที่ก้มหัวให้เขาอยู่อย่างสายตาเนือยๆไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ก่อนจะค่อยๆถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวนั่นวางลงกับเก้าอี้ทำงานไม่ห่างจากตัวเขามากนัก เผยให้เห็นเรือนร่างกำยำสะท้อนกับแสงแดดอ่อนสีเหลืองนวลยามบ่ายแก่

   ร่างที่ไร้ซึ่งอาภรณ์ส่วนบน เผยให้นิสิตฝึกงานที่ตอนนี้ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ต้องสะดุดกับเรือนร่างที่อยู่ตรงหน้าของเขา ร่างล่ำสันอย่างคนสุขภาพดีที่ดูปราดเดียวก็รู้ว่าเข้าฟิตเนสเป็นประจำ ทั้งกล้ามหัวไหล่และแขนที่ก่อเป็นมัดแน่น กล้ามหน้าอกขาววาบนูนทั้งสองข้างซึ่งถูกแต่งแต้มด้วยหัวนมสีชมพูใส และกล้ามหน้าท้องที่พอมีให้ six packs ให้เห็นอยู่รางๆ

   มังกรถึงกับเผลอเบิกตาโตก่อนจะสะอึกกลืนน้ำลายในไม่ช้าอย่างไม่รู้ตัว กว่าเขาจะได้สติกลับคืนมาก็ไม่สามารถหลุดรอดจากสายตาของพสุธาไปได้เสียแล้ว

   “ไม่รู้รึไง ว่ามารยาทพื้นฐานของการเข้าห้องเจ้านายต้องเคาะประตูหนะ” พสุธาเอ่ยเสียงเรียบ

   “ขอโทษครับ ....... ผมตื่นเต้น”

   มังกรเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาขณะที่ยังก้มหน้ามองลงพื้นอยู่

   “ตื่นเต้นหรอ” พสุธาเอ่ยถามสั้นๆก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ทำงาน แล้วเลื่อนเข้ามาใกล้กับโต๊ะของเขา

   “คะ.....ครับ” มังกรพยายามฝืนความประหม่าของตัวเองให้เอ่ยคำตอบไปอย่างมั่นใจที่สุด

   “ล็อคห้อง ...... แล้วเดินเข้ามาหาผมครับ” พสุธาว่าพลางหยิบแฟ้มเอกสารที่มีกระดาษข้อมูลของมังกรอยู่เต็ม
หน้ากระดาษขึ้นมาวางบนโต๊ะ

   มังกรได้แต่เงอะๆงันๆในเวลานี้ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรกับความเปิ่นของการปล่อยไก่ไปกับอากัปกริยาเมื่อสักครู่นิสิตฝึกงานได้แต่ยอมทำตามผู้ที่กำลังออกคำสั่งให้เขาทำตามอย่างว่าง่าย

   “นั่งลงครับ”

   “คะ.....ครับ”

   ....

   พสุธาชำเลืองตาขึ้นมามองมังกรอีกครั้งก่อนจะก้มลงกลับไปมองยังเอกสารที่อยู่ในมือเขา

   “เอาใบวัดระดับHSK กับToefl มารึเปล่าครับ”

   “เอามาครับ” มังกรเอ่ยพร้อมกับหยิบเปิดแฟ้มเอกสารที่เตรียมมาเป็นอย่างดี มือของเขาคว้าหยิบลงบนกระดาษสองแผ่นแล้วยื่นให้พสุธาทันที”

   “อืม..... Toeflเก้าสิบเก้าเต็มหนึ่งร้อยยี่สิบ HSKก็ผ่านระดับหกเรียบร้อย .....คะแนนของคุณผมคิดว่าผ่านเกณฑ์ของบริษัทเราฉลุยเลยหละครับ ทักษะทางด้านภาษาผมคงไม่ต้องเป็นห่วงอะไรมากเลย”

   คำชมของพสุธาที่ฟุ้งลอยขึ้นมาทำให้มังกรถึงกับเผลอเผยรอยยิ้มให้คนตรงหน้าเห็นได้อย่างชัดเจน เขาถอนหายใจเสียงเบา ก่อนจะยกมือแล้วพนมนิ้วทั้งห้าขอบคุณพสุธา

   “ขอบคุณนะครับ”


   “อย่าพึ่งดีใจไปครับ .....!”

   แต่รอยยิ้มของมังกรเป็นอันต้องค่อยๆหุบลงไปอย่างคนปล่อยไก่รอบที่สอง ในใจเขาเริ่มกำลังลุ้นว่าประโยคที่ตามมาหลังคำว่าแต่ของบอสสุดหล่ออย่างพสุธาจะมีใจความว่าอย่างไร

   “คุณไม่ผ่านมารยาทพื้นฐาน!” พสุธาเอ่ยเสียงหนักก่อนจะยื่นกระดาษสองใบนั้นคืนให้กับมังกร ที่มีสีหน้าเปลี่ยนเป็นซีดเผือกและเหวอระห่อยอยู่เวลานี้

   “ผมมีสองทางเลือกให้คุณได้เลือก .... คุณจะมาฝึกมารยาทกับผมก่อนสองสัปดาห์แล้วทำงาน หรือจะไปหางานที่อื่น สุดแล้วแต่คุณจะเลือกครับ” พสุธาเอ่ยเสียงเรียบ แววตาของการตัดสินใจเด็ดขาดและไร้ความปราณีใดๆส่องประกายอยู่เต็มสายตาของมังกร สิ่งที่เกิดขึ้นช่างผิดกับความคาดหมายของมังกรอย่างสิ้นเชิง

   ความรู้สึกของมังกรเวลานี้ไม่ต่างอะไรไปจากการโดนตบหัวแล้วลูบหลัง พร้อมกับโดนเอาน้ำรอนใส่น้ำแข็งสาดเทมาเป็นคอมโบตู้มใหญ่

   คนร่างสมส่วนเงยหน้าขึ้นมาสบแววตาของบอสพสุธาอยู่ครู่หนึ่ง เขานิ่งพิจารณาอยู่ซักพักก่อนจะเอ่ยคำตอบไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ

   “ผมอยากทำงานที่นี่ครับ ผมยอมมาฝึกมารยาทกับคุณครับ!” 

   บอสพสุธาสร้างรอยยิ้มไว้ที่มุมปากข้างขวาให้เด็กตรงหน้าได้เห็น ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินอ้อมโต๊ะทำงาน มายืนหยุดอยู่ข้างๆมังกร ที่ตอนนี้มีอาการเกร็งและหน้าแดงระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติของคนประหม่า
   
.......................
   
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทนำ)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 04-07-2015 21:04:18
บอสๆๆๆใจเย็นๆๆๆ เดี่ยวเด็กตื่น ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทนำ)
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 04-07-2015 21:25:40
รอๆๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทนำ)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 04-07-2015 21:28:23
อิบอส แกวางแผนแอ้มเด็กอยู่ใช่ม้ายยย
รอตอนต่อไปน้า
ปล. สารภาพว่าโดนชื่อเรื่องดึงดูดเข้ามา หุหุ -.,-
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทนำ)
เริ่มหัวข้อโดย: MimoreQ ที่ 04-07-2015 21:33:41
รอค่า  :hao6:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทนำ)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 04-07-2015 21:58:34
รอออออออ  :katai5:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทนำ)
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 04-07-2015 22:08:33
 :z1:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่1)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 05-07-2015 09:26:04
บทที่1

“เนื่องจากว่าคุณละเลยมารยาทพื้นฐานขั้นแรกสุด ดังนั้นผมจะต้องทำโทษคุณก่อน”

“แต่ผมยังไม่ได้เริ่มงานเลยนะครับ” มังกรเอ่ยอย่างคร่อมเสียง

“จะเถียงผมรึไง” พสุธาขึ้นเสียงอย่างไม่เกรงใจเด็กที่นั่งก้มหน้าอยู่ต่อหน้าเขาเวลานี้เลยแม้แต่น้อย เหตุเพราะเขาคิดว่า คนที่ต้องทำหน้าที่ง้ออีกฝ่ายในเวลานี้คือเด็กนิสิตฝึกงานที่ละเลยมารยาทพื้นฐาน ไม่ใช่เขาผู้เพียบพร้อมทั้งหน้าตาทรัพย์สินและเงินทอง

“มะ...ไม่เถียงแล้วครับ”

“ดี! ถ้าอย่างนั้นวันนี้คุณเอาเสื้อของผมไปซักให้สะอาด ห้ามให้เห็นคราบสีน้ำตาลแม้แต่นิดเดียว” พสุธาเริ่มออกคำสั่งอีกครั้ง

“ตะ....แต่มันไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยนะครับ” มังกรยังคงค้านแม้ว่าจะกล้าๆเกรงๆก็ตาม เพราะเขารู้สึกว่าคำสั่งที่ได้รับมอบหมายมาช่างไม่มีความเป็นเหตุผลเอาเสียเลย

“นายว่าไงนะ” พสุธาค่อนเสียงเค้นออกมาจากลำคอด้วยสีหน้าคิ้วขมวด

“ผมหมายถึง....”

“หมายถึงอะไร......พูด!”

“ผมพูดไปคุณก็โกรธ” มังกรว่าสั้นๆขณะที่ใบหน้ายังก้มลงมองพื้นอยู่

คนร่างสูงแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเขากำลังทำให้คนที่ตัวเล็กกว่าและเด็กกว่าเขาถึงสิบปีนั้นกลัวจนแทบจะมุดตึกลงไปอยู่ชั้นใต้ดินแล้ว แต่กระนั้นเขาก็อยากจะลองเชิงอีกซักพักหนึ่ง ว่าเด็กใหม่ของเขาจะไปได้ซักกี่น้ำ

อีกอย่างหนึ่ง นี่ก็ถือเป็นเวลานานมากแล้วสำหรับพสุธา ที่เขาไม่ได้เจอเด็กใหม่ฝึกงานคนไหนที่มีความสามารถ และปากกล้าท้าอำนาจเขาอย่างที่ไอคนตรงหน้ากำลังกระทำอยู่

“เหตุผลของคุณมันตรรกะวิบัติ......ผมคิดอย่างนี้” คำพูดของมังกรเวลานี้เปรียบเสมือนน้ำร้อนที่ราดลงบนแท่งปรอท พสุธารู้สึกหน้าร้อนแดงผ่าวขึ้นมาทันทีทันใด

   “นี่คุณ! อยู่แค่ปีสาม เป็นแค่เด็กนิสิตฝึกงาน กล้าดียังไงมาพูดจากับผมอย่างนี้เนี่ย”

   “อ้าว!ก็คุณบอกเองหนิให้ผมพูดออกมา ผมก็พูดแล้วหนิครับ” มังกรว่าพลางเงยหน้าขึ้นมาสบตากับพสุธาอย่างทันที

   เวลานี้เองที่ทำให้คนร่างสูงได้มองใบหน้าของคนตัวเล็กกว่าจากมุมสูงอย่างเห็นชัดเจนทุกรายละเอียด ใบหน้าสีขาวนวลผ่องใสสะท้อนแสงแดดอ่อนสีเหลือง จมูกโด่งเหนือริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูธรรมชาติได้รูป ดวงตากลมโตทั้งสองที่กำลังเป็นประกาย ภายในแววตาซ่อนไปด้วยความเข้มแข็งแต่ไม่แข็งกระด้าง ความอ่อนโยแต่กลับไม่อ่อนแอ

   .....

   พสุธานิ่งงันไปครู่หนึ่ง...ไม่ใช่เพราะโดนทัดทานด้วยคำพูดหนักแน่น แต่กลับเป็นเพราะรูปลักษณ์แสนสวาทที่แทบจะตราตรึงใจเขาให้หยุดเต้นไปได้ซักครู่วินาที


   “อ่ะ...อื้ม” พสุธากระแอมก่อนจะพูดต่อ

   “จะยังไงก็ตาม คุณเอาเสื้อของผมไปซักด้วยละกัน ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไปฝึกงานที่อื่น” คนร่างสูงว่าก่อนจะเดินไปมุมห้องอีกด้านหนึ่งแล้วหยิบเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มขึ้นมาสวมทับบนเรือนร่างล่ำกระสันอารมณ์ แล้วพูดกับมังกรต่อสั้นๆ

   “วันนี้ผมไม่มีงานอะไรให้คุณทำแล้วครับ พรุ่งนี้นำเสื้อมาให้ผมด้วย พบกันที่ห้องนี้เก้าโมงตรง กรุณาอย่าลืมเคาะประตูด้วยนะครับ”

   “เดี๋ยวครับคุณ” มังกรเอ่ยเรียกชื่อนายใหม่(แบบงงๆ)ของเขาขึ้นเมื่อตั้งสติจูนกับสารที่รับเข้ามาในสมองได้(แบบอึนๆ)

   “ก็ได้ครับๆ ซักก็ซัก “

“..... แต่พรุ่งนี้ผมมีสอบวันสุดท้าย ... ผมขอเลื่อนเวลานัดพบเป็นบ่ายสามได้มั้ยครับ”

   พสุธานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบมาอย่างคนไม่ร้อนรนนัก

   “ไม่เป็นไรครับ งั้นเจอกันบ่ายสามโมงที่ห้องนี้ ...” ผู้จัดการหน้าหล่อพูดเสียงเรียบก่อนจะบิดกลอนประตูแล้วเดินออกไป ทิ้งไว้ให้เด็กมือใหม่อย่างมังกรต้องนั่งเด๋อเป็นหุ่นไล่กาอยู่ราวห้านาทีเศษ ก่อนจะค่อยได้สติแล้วเดินออกจากบริษัทนั้นไปพร้อมกับเสื้อเชิ้ตสีขาว   

   .........................

   .............

   “ไม่นานนักหลังจากที่มังกรได้เดินออกมาจากบริษัทนั้นแล้ว เขาก็ได้โดยสารรถแท็กซี่คันสีส้มอย่างรวดเร็วจนมาถึงที่หมาย ....ร้านStarbucks Coffee สาขาเซนทรัลเวิลด์ ซึ่งเขาได้นัดกับ อ๋อง เพื่อนสนิทของเขาไว้”

   “เฮ้ยไออ๋อง! รอนานเปล่าวะ” มังกรมีอาการตกใจเล็กน้อย เมื่อเห็นเพื่อนของเขานั่งจิบกาแฟรออยู่บริเวณโซฟาสีขาวตัวใหญ่ริมสุดของร้านแล้ว

   อ๋องหันหน้ามาหาเจ้าของเสียงเรียกชื่อก่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้าอารมณ์ดี

   “นานเชี่ยไรครับ ไม่นานเลยมึง”

   “เออๆ โทษที พอดีกูชุลหุกนิดหน่อย แหม... มึงก็มาเร็วซะด้วย นี่ก่อนเวลานัดตั้งเกือบครึ่งชั่วโมงเลยนะเนี่ย”

   “กูอยู่ในห้องเบื่อแล้ว รอมาติวกับมึงเหนี่ย” อ๋องว่าขณะที่มือข้างขวายังคงถือแก้วกาแฟไว้อยู่

   “เออๆ เริ่มเลยมั้ยมึง”

   “กูขอนั่งชิลอีกแป๊บนึงนะ” เพื่อนสนิทของมังกรเอื้อมมืดบิดขี้เกียจ ก่อนจะหาวว้อดออกมา

   “’งั้น เดี๋ยวกูไปสั่งกาแฟก่อนละกัน”

   มังกรว่าก่อนจะเดินไปยังหน้าร้านเพื่อสั่งกาแฟลาเต้แก้วเย็นแก้วใหญ่ ....

   .....

   ไม่นานนักหนุ่มหน้าใสปีสามก็เดินกลับมาหาเพื่อนสนิทของเขา พร้อมกับกาแฟแก้วใหญ่สีขาวในมือ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟานุ่มข้างๆเพื่อนเขา

   “ไปสัมภาษษณ์งานเป็นยังไงบ้างวะ” อ๋องเอ่ยถามเพื่อนสนิทขึ้น

   “โหย..... โคตรประหลาด ..”

   “ฮ้ะ อะไรประหลาดวะ”

   “ก็ไอเจ้านายอ่ะดิ คือ...กูเสือกดันลืมเคาะประตูห้องก่อนจะเปิดเว่ย แล้วเปิดไปปะชั้งตอนฮีแกถอดเสื้ออยู่ แกเลยบอกให้กูเอาเสื้อมาซักเนี่ย เป็นการทำโทษ แถมยังให้กูเรียนรู้มารยาทพื้นฐานก่อนทำงานด้วย”

   มังกรเริ่มบ่นยาวยืดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ ขณะที่หยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวให้อ๋องได้เชยชมครู่หนึ่ง

   “อ่าวเฮ้ย.....งี้ก็ดีดิวะ” อ๋องว่าพลางตบไหล่ข้างซ้ายเพื่อนของเขา ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแสดงความยินดี

   “ดียังไงวะ! ต้องมานั่งซักเสื้อแล้วไปเรียนมารยาทเนี่ยนะ”

   “อ่าว ....มึงคิดอีกแง่ ถ้าเค้าไม่สนใจมึง เค้าก็คงไล่ออกมึงไปแต่แรกแล้วรึเปล่าวะ”

   “เออ ....มึงพูดก็จริง” มังกรว่าขึ้นมาลอยๆพลางคิดตาม

   “แต่กูว่า นายมึงก็แปลกดีนะ .... ให้เรียนมารยาทพื้นฐานกับใครวะ?”

   “เค้าบอกกูว่า ให้ไปเรียนกับเค้าอ่ะ”

   “เป็นนายใหญ่แต่กลับมาดูแลเรื่องมารยาทเด็กฝึกหัดอย่างมึงเนี่ยนะ” อ๋องพูดด้วยน้ำเสียงกระแทกแบบงงๆ  ก่อนจะเปิดกระเป๋าเป้สีน้ำตาลอ่อนหยิบหนังสือจีนธุรกิจขึ้นมา

   “กูก็ไม่รู้หวะ....”

   “กูว่านะ.............. ผู้จัดการนัดเอามึงแน่ไอมังกร” อ๋องว่าทีเล่นทีจริงก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแทบจะลั่นร้าน

   “ไอเชี่ย! คิดส้นตีนอะไรของมึงครับ! เบาๆเลยนะมึง” สีหน้าแดงระเรื่อแดงของมังกรเผยให้เพื่อนสนิทคนตรงหน้าเขาเห็นอย่างชัดเจน รอยแดงที่เจิมอยู่บนแก้มทั้งสองมีหรือจะหลุดรอดพ้นสายตาเพื่อนสนิทของเขาไปได้

   “หน้าแดงเชียวนะมึง .... นี่มึง .... ก็อ่อยๆหน่อยดิวะ ไม่ต้องเอามันแล้วประสบการณ์กับเงิน ...”

   “แล้วจะให้กูเอาอะไร”

   “”””””
   “เอาไข่บอส กับทรัพย์สินทั้งบริษัทเลย!” เสียงหัวเราะของอ๋องดังขึ้นอีกครั้งจนมังกรต้องรีบเสยมือขึ้นมาปิดปากเพื่อสนิทตัวแสบคนนี้

   “อือออ อืออออ” อ๋องพยายามจะพูดต่อแต่พูดไม่ได้เนื่องจากมีฝ่ามือหนาปิดไว้อยู่บนริมฝีปาก

   “ไอสัส” มังกรเอ่ยสั้นๆก่อนจะค่อยๆถอนมือนั้นออก ทิ้งไว้แต่เพียงรอยยิ้มบนหน้าของอ๋อง

   “หยุดเลยนะมึง”

   “แหม่ .... หรือกูพูดไม่จริง”

   “ไม่จริง”

   “มีรูปป๊ะกูขอดูหน่อย” อ๋องพยายามแกล้งทำเสียงออดอ้อนวิงวอนขอให้เพื่อนสนิทเขาโชว์รูปนายใหม่ให้ได้เชยชม

   “ไม่มี” มังกรเอ่ยสั้นๆก่อนจะทำหน้าเจื่อนๆ แล้วหยิบหนังสือจีนธุรกิจขึ้นมาเช่นเดียวกับอ๋อง

   “มึงจะติวมั้ยครับ” เด็กซักผ้าใหม่ของบอสพสุธาเอ่ยอย่างค่อนเสียงกับเพื่อนสนิทของเขา

   “โหยยยย ...อยากฟังต่อนี่หว่า ... ติวก็ติววะ ... ติวเสร็จเล่าให้กูฟังอีกด้วย”  อ๋องว่าด้วยน้ำเสียงรู้สึกเสียดาย เพราะยังจับต้นชนปลายได้ไม่ถูกนัก ทั้งๆที่อยากจะสอเสือบวกกอไก่อยู่เต็มประตูตอนนี้

   “เออๆๆๆ” มังกรสบถคำตอบ เออ ออ อย่างสั่นรัวก่อนจะเริ่มเปิดหน้ากระดาษหนังสือแล้วติวกับเพื่อนสนิทของเขาในทันที

   ............................

   ........

   (เวลาผ่านไปครู่ใหญ่)

   เวลาที่ดูแสนจะทรมานเพราะการอ่านหนังสือสอบกลับผ่านไปเร็วเหมือนโกหก เหตุเพราะอาจะเนื่องมาจากทั้งสองคนมีความชอบพอในภาษาจีนอยู่มาก การอ่านหนังสือสอบที่เป็นภาษาจีนเลยไม่ต่างอะไรกับการได้พูดคุยกับเพื่อนใหม่อีกคน

   “มึงตอบกูดิ 这里就是我们公司的样品陈列室,请进 แปลว่าอะไร”

   “เอ่อ.... กูขอเวลานึกแป๊บ”

   สีหน้าของอ๋องเริ่มมีอาการเบลอเลิ่มเมื่อคำถามทวนของมังกรวกวนกลับมาอีกครั้ง

   “ไออ๋อง .... มึงไหวป๊ะเนี่ย” มังกรเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจนัก เหตุเพราะสีหน้าที่แสดงออกมาเหมือนคนจะเป็นลมของอ๋อง เริ่มทำให้เขาเป็นห่วงสุขภาพของเจ้าเพื่อนตัวแสบ

   “เฮ้ยได้ๆ .....”

   “งั้นตอบกูมา” ...

   “เอ่ออออ ... แป๊บนึงนะ” อ๋องค่อยๆใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าผากก่อนจะเผลอสัปหงกอย่างเบาแรงให้เพื่อนสนิทได้เห็น

   “นี่กูว่ามึงเบลอแล้วละ .... กูเฉลยเลยนะ” มังกรว่าก่อนจะพูดคำเฉลยต่อ

   “นี่คือห้องแสดงตัวอย่างสินค้าของบริษัทเรา, เชิญด้านในครับ..... ย่างผิ่นอ่ะ แปลว่าตัวอย่างสินค้า”

   “เออวะๆ จำได้ละ” อ๋องสบถสั้นๆ

   “กูว่าวันนี้พอก่อนดีกว่ามั้ยไออ๋อง มึงจะตายห่าแล้วมั้งเนี่ย เมื่อคืนนอนกี่โมงตื่นกี่โมงวะ”

   “นอนตีสี่ ตื่นแปดโมง” เพื่อนสนิทคณะอักษรของมังกรเอ่ยคำตอบขณะที่เริ่มมีอาการตาสะลึมสะลือ

   “โหย มิน่าหละครับมึง .... ไปเหอะมึง รีบไปนอน พรุ่งนี้เจอกันตอนเช้า ... กูว่ามึงก็ทำได้แล้วแหละ ติวๆวันนี้ก็ไม่เห็นมีปัญหาเชี่ยไรหนิ เดี๋ยวมึงรีบไปนอนแล้วพรุ่งนี้เช้าทวนๆกันซักหน่อยก็ได้แล้ว ไอตรงที่ไม่แม่น”

   อ๋องพยักหน้าแทนคำตอบรับก่อนจะเก็บหนังสือจีนธุรกิจลงไปในกระเป๋าเป้แล้วลุกขึ้นยืน

   “ไปกันเหอะมึง”

   ไม่มีการฉกคำถามเรื่องบอสพสุธาขึ้นอีก มังกรรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนของเขาตอนนี้มีอาการง่วงชนิดที่แบบไม่สนเรื่องรอบข้างแต่อย่างใด และนั่นก็ทำให้เขาสบายใจไปอีกระลอกหนึ่ง เพราะจะได้ไม่ต้องเฟ้นหาคำอธิบายใดๆให้กับเจ้าเพื่อนตัวแสบ

   “ป๊ะ” มังกรเอ่ยเสียงสอดตอบรับอ๋องก่อนจะเก็บของแล้วเดินออกมาจากร้านกาแฟ

   ...............
   “””””””””””

   นิสิตชั้นปีสามทั้งสองคนเดินตรงออกมาจากร้านกาแฟได้มานานพอสมควร ทั้งสองก็มาหยุดอยู่บริเวณริมถนนใหญ่ ที่ยังถูกบีบอัดแน่นไปด้วยการจราจรที่แสนจะติดขัด

   “มึงจะกลับยังไววะอ๋อง” มังกรเอ่ยถามเพื่อนสนิท

   “เดี๋ยวกูไปขึ้นมอไซด์ตรงแถววัดปทุมอ่ะ”

   “เฮ้ยดีเลย!กูไปด้วย”

   แม้ว่าในใจลึกๆแล้วมังกรจะอยากนั่งแท็กซี่มากกว่า แต่เหตุจราจรติดขัดเช่นนี้ วินมอเตอร์ไซด์เท่านั้นแหละที่คือทางรอดและเป็นคำตอบสุดท้ายแสนวิเศษของเขา

   คนทั้งสองค่อยๆย่างกรายเดินไปยังจุดรับผู้โดยสารของเหล่าพี่วินนั่งซิ่งมอเตอร์ไซค์ อย่างคนเริ่มมีสภาพอิดโรยและสะโหลสะเหล เหตุเพราะอดนอนมาหลายคืนในช่วงสอบไฟนอลปิดภาคการศึกษาเทอมแรก

   “เฮ้ย ...ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะมึง” มังกรบอกลาเพื่อนของเขาขณะที่ทั้งสองคนนั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

   “เออๆ เจอกัน” อ๋องไม่ลืมที่จะโบกมือบ๊ายบายเพื่อนของเขาก่อนที่พี่วินมอเตอร์ไซค์จะเริ่มออกสตาร์ทเครื่องบิดคันเร่งทันที

   ........... ..

   ลมเย็นที่พัดตีกระทบหน้าจากความเร็วรถมอเตอร์ไซด์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องขึ้นตลอดทางถนน ทำให้มังกรแทบจะเคลิ้มจนผล่อยหลับซบหลังพี่คนขับไปอย่างไม่ได้สติ แต่โชคดีที่เขายังพอจะมีแรงควมคุมตัวเองไว้ได้ ......

   “แม่นแม่นแม๊นนนนนน” เสียงบิดมอร์เตอร์ไซด์ยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทของเขาพร้อมกับเสียงลมเย็นสบายจากบรรยากาศค่ำคืน ที่กำลังตีพัดออกซิเจนในอากาศ ให้เกิดเสียงไพเราะสุนทรีในอีกรูปแบบหนึ่ง

   แต่แล้วขณะที่มังกรกำลังนั่งมอเตอร์ไซด์กินลมชมวิวเพื่อรอเวลาที่จะถึงที่หมายของเขานั้น เขาก็พึ่งจะตระหนักรู้ถึงบางสิ่งบางอย่าง

   “เฮ้ย ..... เสื้อ!.”

   เด็กฝึกงานใหม่รีบเปิดกระเป๋าเป้ขึ้นมาทันทีทันใดอย่างไม่รอช้า

   “เชี่ย! หายไปไหนวะเนี่ย! ลืมไว้ที่ร้านแหงเลย”

   คนร่างสมส่วนรีบหยิบไอโฟนในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดูเวลาทันที ...... สีทุ่มยี่สิบนาที ซึ่งเป็นเวลาที่ห้างได้ปิดลงแล้ว

   “ไอเชี่ยยยยย! พรุ่งนี้สอบเก้าโมงเสร็จบ่าย ไปเอาตอนบ่ายแม่งไม่หายไปก่อนหรอวะเนี่ย!” มังกรอุทานเสียงหลงด้วยอาการเป็นกังวล เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเขาไม่มีเสื้อไปมอบให้กับนายใหม่ของเขาพรุ่งนี้  ชีวิตเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง และต่อให้มีเอาไปให้ รอยคราบก็ยังอยู่เพราะมันจะยังไม่ได้รับการซักชำละล้างคราบ .....

“เชี่ยแล้ว พรุ่งนี้กูตายแน่” ... นั่นคือสิ่งที่เด็กฝึกงานใหม่เริ่มมโนและปรุงแต่งไปด้วยความกลัวอย่างผวาในภวังค์
   
   
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่1)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-07-2015 09:45:35
 :katai2-1:   ขอบคุณค่ะ
ช่วยแก้หัวเรื่องทุกครั้งที่อัพตอนใหม่ด้วยจ้า.
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่1)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 05-07-2015 12:31:25
อ้าว ลืมเสื้อซะงั้นนะมังกร ระวังโดนทำโทษ หึหึ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่1)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 05-07-2015 12:33:31
 :katai5:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่1)
เริ่มหัวข้อโดย: blur ที่ 05-07-2015 13:50:12
น่ารัก
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่1)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 05-07-2015 14:02:35
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่2)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 05-07-2015 15:24:48
บทที่2


“ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก ....” เสียงเดินไปข้างหน้าของเข็มยาวสีดำบนหน้าปัดนาฬิกาเลือนกลมที่แขวนอยู่หลังห้องสอบ ดังลั่นเสนาะหูผมมากว่าทุกครั้ง อาจจะเนื่องสาเหตุมาจากว่าวันนี้สติผมไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยมากนัก

“เสื้อไอขี้เก๊กนั่น ... เอาไปวางไว้ที่ไหนวะ ..ร้านกาแฟแน่ๆ...... ไม่ได้ๆ ไอมังกร มึงสอบอยู่ สอบก่อน เกรดสำคัญกว่า เรื่องเสื้อต้องช่างแม่งไปก่อน”

เวลานี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกึ่งคนปกติกึ่งคนบ้าครับ เพราะจู่ๆก็หลุดพูดพึมพำกับตัวเองระหว่างที่นั่งเพ่งข้อสอบอยู่

นี่เวลาทำข้อสอบก็เริ่มมาได้เกือบจะสิบห้านาทีแล้ว ผมยังตั้งสติและสมาธิให้อยู่กับข้อสอบไม่ได้เลย เพราะดันมีเรื่องบ้าๆเกี่ยวกับเสื้อที่หายไปอยู่ ผุดวนไปวนมาอยู่ในหัวเล่นตอนนี้

“มีสมาธิ ไอมังกร”   ผมพูดกับตัวเองอีกครั้งก่อนจะเริ่มนับหนึ่งถึงยี่สิบ ตั้งสมาธิแล้วตัดเรื่องเสื้อนั่นออกไป  เหลือเพียงแต่เรื่องข้อสอบ

......................

.............

ผ่านไปจนเหลือเวลาให้ทำข้อสอบอีกครึ่งชั่วโมง เพื่อนของผมก็เริ่มทยอยออกนอกห้องสอบกันแล้ว  รวมถึงไออ๋องด้วย แต่ผมยังเหลืออีกสามสี่ข้อที่ต้องแต่งพารากราฟธุรกิจให้สมบูรณ์ ..ผมเลือกที่จะให้ความสำคัญกับคะแนนที่จะถูกจารึกลงบนแผ่นกระดาษข้างหน้าผมเวลานี้ มากกว่าจะเอาเวลาไปหาเสื้อสีขาวที่หายไป ....

....
“หมดเวลาแล้วจ่ะ” เสียงสัญญาณบอกหมดเวลาของครูเกลดังขึ้น เป็นสัญญาณให้นิสิตทุกคนวางปากกาลงบนข้อสอบและสามารถออกจากห้องสอบได้

“ทำได้มั้ยจ๊ะ เด็กๆ” ครูเกลพูดขณะที่เริ่มเดินเก็บข้อสอบตามโต๊ะ

สีหน้าของเพื่อนผมแต่ละคนก็แตกต่างกันไป บ้างก็หดหู่จนรู้สึกเหมือนไม่ถูกหวยแต่เช้าหรืออย่างไร บ้างก็ยิ้มอย่างมีความสุขเหมือนได้กินยาวิเศษโป๊ยเซียนมา

“ไม่ไหวค่ะครู เขียนอีเมลล์จีนหนูทำไม่ได้”

“โหครูคะ ออกละเอียดถึงรากเลยค่ะ หนูนี่ขนสั่นจนจะร่วง”

“ยากกกกคร่า”

“ใช่ค่ะ ยากจะตาย”

เสียงบ่นพึมพำปนบ่นแบบเวอร์ชั่นพรั่งพรูออกมาผสมผสานกันจนทำให้ห้องที่พึ่งจะเงียบเชียบไปสักครู่กลับมาครึกครื้นอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าผมมีเรื่องอยากจะเมาท์มอยกับครูเกลเป็นกระตั๊ก และอยากจะระบายความอัดอั้นเรื่องข้อสอบเหมือนเพื่อนๆคนอื่นบ้าง แต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลาที่แม้แต่จะพูดคุยกับเพื่อเรื่องข้อสอบ เหตุเพราะยังมีเรื่องเสื้อตัวสีขาวเป็นกังวลอยู่ภายในใจ เลยรีบเดินตรงไปหาครูเกลแล้วยกมือไหว้สวัสดีลาครูทันที

   “อ้าวมังกร ...กลับแล้วหรอ” เชอร์รี่ เพื่อนร่วมห้องของผมอีกคนถามขึ้นเสียงดัง

   “งานเข้านิดหน่อยหนะ เดี๋ยวไว้เจอกันนะ” ผมตอบเชอร์รี่ไป

   .......

   “ไออ๋อง!” ทันทีที่ผมเห็นไออ๋องพึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมก็แทบจะพุ่งทะยานตัวเข้าไปหามันทันที หวังว่ามันคงจะให้คำตอบผมได้ว่าเสื้อตัวนั้นอยู่ที่ไหน หรือถ้าโชคดีที่สุดก็คือมันเก็บไว้ให้ (แต่ให้คิดยังไงก็ไม่มีทางที่คนอย่างมันจะเก็บไว้)

   “เฮ้ยขอบใจมึงมากนะเว่ย ติวกูเมื่อวานช่วยได้เยอะสัส” อ๋องเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา บอกขอบคุณผมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

   “มึงยังไม่ต้องขอบคุณกู ..... มึงเห็นเชิ้ตสีขาวตัวที่กูเล่าให้ฟังเมื่อวานได้เปล่าวะ”

   “อ่าว ....ก็อยู่ข้างๆตัวมึงไงเมื่อวาน ..... “

   “เชี่ยแล้วไง”

“อย่าบอกนะ ..มึงไม่ได้หยิบมา!” อ๋องขึ้นเสียงสูงเหมือนคนตกใจก่อนจะคลายยิ้มมีเล่ห์กลับมาหาผมแทน

   “เออดิวะ ..... นึกได้ตอนอยู่บนมอไซค์เมื่อวาน ...แล้วห้างปิดแล้วด้วยไงมึง...”

   “เอาแล่วววววววววววววววววววววว” ไอเพื่อตาโตสายคิ้วท์แลบลิ้นให้ผมทันทีก่อนจะยกมือทั้งสองจิ้มบนหัวเข็มขัดของผม

   “ทำของหาย โดนเอาแน่มึง!”

   “ไอสัสสส! ก็แย่ละครับ”

   “แหม่มึง ...... กุรู้นะ มึงอยากโดนอ่ะดิ ...โหยเพื่อนกูโคตรลงทุน ถึงกับยอมลงทุนทำของหาย เสี่ยงตายให้ผู้จัดการว่า ...  นี่มึงกลัวจะเครียดสอบขนาดนั้นเลย ถึงกับต้องไประบายกับผู้จัดการใหม่”

   อ๋องพูดแซวผมเล่นจนผมก็เริ่มชักจะไปไม่เป็นกับมัน

   “มึงนี่ก็คิดได้เนาะไออ๋อง! มึงไม่ต้องเลยนะ ช่วยกูหาเลย .... กูต้องไปเจอเค้าบ่ายสามด้วยเหนี่ย ซักก็ไม่ได้ซัก แล้วยังดันมาหายอีก”

   “โถ่ .... ยากอะไรวะ ... มึงก็กลับไปที่ร้านเดิม แล้วถามพี่พนักงานดิ ... แต่ถ้าไม่เจอ .. ก็คงต้องตัวใครตัวมันแล้วหวะ”

   อ๋องว่าขณะที่เอื้อมมือขวามาตบไหล่ผมสองที .... โถ่ ไอเพื่อนรักเอ้ย!

   “แนะนำง่ายเนาะมึง”

   “เอ๊า! กูก็แนะนำดีๆแล้ว หรือจะให้กูแนะนำให้มึงไปซื้อถุงยางรอบำเรอนายมึงหละ”
   “ครวย”

   “เอ่อ ...ด่ากูแล้วก็รีบไปหาละกัน โทษทีหวะกูไปเป็นเพื่อนไม่ได้ ติดไปช่วยครูเกลเรื่องเอกสารประชุมที่ปักกิ่งนิดหน่อย   

   “เออๆ เดี๋ยวกูไปเองก็ได้วะ” ...

   ผมรีบเก็บของและคว้ากระเป๋าใส่เกียร์หมาลงบันไดจากตึกเรียน วิ่งไปยังถนนใหญ่ทันทีก่อนจะโบกแท็กซี่แล้วดิ่งไปยังห้างเซนทรัลเวิล์ด

   ...........

   ใช้เวลาไม่นานนัก แท็กซี่คันสีชมพูอ่อนก็ได้มาส่งผมจนถึงชั้นGของห้างสรรพสินค้าเซนทรัลเวิลด์ ผมไม่รีรอที่จะจ่ายเงินและไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณพี่คนขับรถ ปิดประตูแล้วเดินเร็วไปยังร้านกาแฟที่ผมใช้บริการเมื่อคืนทันทีอย่างไม่ให้เสียเวลา

   ร้านกาแฟStarbucks Coffeeตอนบ่ายค่อนข้างจะโปร่งคนซักเล็กน้อย ทำให้บรรยากาศการแต่งร้านสไตล์วินเทจเมื่อได้เจอกับความเงียบยามบ่ายอ่อนก็ได้อารมณ์ผ่อนคลาย สบายๆไปอีกรูปแบบหนึ่ง

   “พี่ครับ ขอโทษนะครับ”

   “สวัสดีครับผม”

   พี่หนักงานหล่อตี๋ใส่แว่นดัดฟันกล่าวต้อนรับผมด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่แสนเป็นมิตร ทำให้ผมรู้สึกผิดเล็กๆที่มีท่าทีร้อนรนเป็นการตอบแทนพี่แก มากกว่าจะส่งท่าทีที่เป็นมิตรกลับไป

   “พอดีเมื่อวาน ....ผมลืมเสื้อเชิ้ตสีขาวไปตรงนั้นหนะครับ” ....

   “อ๋อ เชื้ตสีขาวตัวเมื่อวานหรอครับ ......”

   “ชะ....ใช่ครับ” ผมเริ่มชักจะใจคอไม่ดีซะแล้วสิ เหมือนพี่หนักงานหล่อตี๋กลับทำท่าขมวดคิ้วและหน้าถอดสีใส่ผมอย่างชอบกล

   “มีลูกค้าที่ออกหลังจากน้อง ถือไปแล้วหนะครับ .....”

   คุณพระครับ! นี่ขโมยกันแบบระยะเผาขนเลยหรอวะเนี่ย ขโมยสมัยนี้ทำไมมันฮาร์ดคอร์แบบนี้!

   “เป็นของลูกค้าหรอครับ” พนักงานหล่อตี๋ถามขึ้น

   “ใช่แล้วครับ”

   “คะ.... คือ”

   “ขอโทษด้วยนะครับลูกค้า ... คือผมไม่ทราบว่าเป็นของลูกค้าหนะครับ .. เห็นเค้าทำเหมือนเค้าเป็นเจ้าของ ผมเลยไม่ได้ห้ามปรามไว้ ... แล้วผมก็มัวแต่เก็บร้านด้วยหนะครับ .... ขอโทษด้วยจริงๆนะครับ”

   ตั้งสติครับมังกร ....ตั้งสติ เอาไงดีหละชีวิต ทีนี้ ไม่ต้องซงต้องซักต้องฮงต้องหาแล้ว .... เอาไงดีว่อยยย

   “ไม่เป็นไรครับพี่.... ขอบคุณมากนะครับ” ผมตัดสินใจกัดฟันกรอธตอบกลับให้พี่พนักงาน ไม่ใช่เป็นเพราะโกรธพี่เค้าหรอกครับ แต่โกรธความเซ่อซ่าไม่ระวังของตนเองเนี่ยแหละ นี่เย็นนี้จะเอายังไงดีวะเนี่ย

   ระหว่างที่เดินออกมาจากร้านกาแฟ ในหัวสมองของผมก็คงจะผิดแปลกไปจากเพื่อนแน่นอนครับ คนอื่นคงกำลังคิดและลุ้นกันอยู่ว่าคำตอบที่ตนเองเขียนลงไปในกระดาษข้อสอบนั้นจะถูกหรือผิด ในขณะที่ผมกำลังลุ้นว่าจะแก้ปัญหากับสถานการณ์สุดเปิ่นนี่ยังไง ที่จะให้ตัวเองไม่เจอของดีไปมากกว่านี้ หรืออย่างน้อยขอเจอแบบเบาที่สุดก็ยังดี

   แต่ระหว่างที่ใช้ความคิดอยู่นั้น ไอเดียเจ๋งๆก็ผุดขึ้นมาในหัวของผมทันที

   “ใช่แล้ว! ซื้อใหม่ก็สิ้นเรื่องแล้ว!”

   เมื่อบรรลุแล้วว่าต้องทำไง ผมก็ไม่รอช้าเลยครับดิ่งลงไปชั้นล่างสุด ร้านH &M ทันที เพราะเท่าทีระลึกได้เวลาที่คลุกตัวอยู่กับเสื้อตัวนั้น ก็น่าจะเป็นยี่ห้อ H&Mแบบกระดุมพิเศษเหนือออกเนี่ยแหละ

   โชคดีที่ผมเป็นลูกค้าประจำร้านH&M ประกอบกับเป็นคนชอบแต่งตัว เลยทำให้ผมพอเดาได้ไม่ยากและคาดคะเนถูกว่าเสื้อตัวนั้นน่าจะหาซ้อได้ที่ร้านไหน

   ผมเดินเร็วผสมวิ่งเล็กน้อยเพราะอยากจะเผื่อเหลือเผื่อขาดกับเวลา กว่าจะเดินทางไปที่บริษัทอีกก็ตั้งสี่สิบนาที ขืนถ้าลองได้สายสิมีเทศน์รัวแน่ๆ ดีไม่ดีเจอแจ็กพ็อตไล่ออกก็อาจจะเป็นไปได้ จะไปเอาอะไรกับไอผู้จัดการขี้เก๊กนั้นได้หละครับ ... เอาแน่เอานอนไม่ได้หรอก

   “เสื้อผ้าคนทำงาน .... อยู่ข้างในสินะ”

ผมค่อยๆเดินเข้าไปข้างในบริเวณโซนที่ขายเสื้อเชิ้ตวัยทำงานของบุรุษเพศก่อนจะเริ่มละเลงกวาดสายตาตามหาเป้าหมายที่ต้องการทันที

   “อืม....... เฮ้ยย ! เจอแล้ว!”

   คุณพระเจ้า ขอบคุณสวรรค์ที่ยังมีเสื้อตัวนี้หลงเหลือให้ผมได้ซื้อไปบำบัดทุกข์กับตัวเอง ผมรีบดึงเสื้อนั้นลงมาด้วยความปิติจนแทบจะร้องไห้ เพราะคงจะไม่ต้องตายไม่ดีในเย็นนี้แล้ว แต่ปัญหาใหม่ก็คือ....

   “ไอบึ้กนั้นใส่ไซส์อะไรวะ”

   ปัญหาใหญ่แล้วหละครับ .... ผมไม่รู้ว่าไอบอสพสุธานั่นใส่เสื้อไซส์อะไรกันแน่ แต่จากการพิจารณาของผมแล้ว ไม่น่าจะเป็นเอ็ม .. ก็เหลือเพียงแอลกับเอ็กซ์แอล ... แต่ถ้าใส่เอ็กซ์แอลก็ดูจะใหญ่เกินตัวของเฮียแก

   “งั้นก็ต้องเป็นแอลแน่ๆ”

   ผมตัดสินใจหยิบตัวที่มีขนาดไซส์แอลไปที่แคชเชียร์ ชำระเงินและเดินทางยังบริษัททันที

   ..........................................................

   .........................

   (ณ บริษัท)
   “สวัสดีครับพี่” ผมไม่ลืมที่จะยกมือไหว้สวัสดีพี่สาวสวยหมวยอึ๋มที่ยังไม่รู้จักชื่อคนนี้ ทันทีที่ต้องผ่านแผนกinformation ก่อนเพื่อน

   “สวัสดีจ้า”

   “ผมนัดกับบอสพสุธาไว้ตอนบ่ายสามครับพี่ ตอนนี้สะดวกขึ้นไปได้เลยมั้ยครับ”

   ผมพูดไปทั้งๆที่ยังไม่ทันได้ดูเวลาให้ดีก่อนเพราะมัวแต่เร่งรีบกลัวจะสายเกินเวลา

   “แป๊บนึงนะจ๊ะ” พี่สาวสวยพูดพร้อมส่งรอยยิ้มหวานให้ก่อนจะก้มมองดูนาฬิกาข้อมือ

   “ครับพี่”

   “..... อืม .... ตอนนี้บ่ายสองครึ่งอยู่เลยนะ เดี๋ยวพี่ถามบอสให้ก่อนละกัน”

   “ขอบคุณมากครับพี่” ผมกล่าวขอบคุณพี่สาวสวยอีกครั้ง ก่อนจะเฝ้ารอคำตอบระหว่างที่พี่แกโทรไปคุยกับไอบอสขี้เก๊กนั่น

   .....

   (ค่ะบอส ค่ะ) พี่สาวคนนี้ยังคงคุยกับบอสขี้เก๊กด้วยน้ำเสียงกันเองและมีหยอดมุขอีกตงหากด้วย จนทำให้ผมเริ่มชักจะสงสัยซะแล้วว่าไอบอสคนนี้เป็นพวกเลือกปฏิบัติรึเปล่า ทีตอนคุยกับผมนี่เนี่ยบซะไม่มีติดจะเย็นชาเบาๆซะด้วยซ้ำ

   “น้องจ๊ะ บอสว่างพอดีเลย ขึ้นไปได้เลยจ่ะ ....” พี่สาวหมวยว่า

   “โอเคครับพี่”

   “เอ้อ ...บอสฝากบอกด้วยว่า อย่าลืมเคาะประตูห้องก่อนนะจ๊ะ”

   ไอบอสบ้าเอ้ย! คือพูดรอบเดียวก็รู้เรื่องแล้วเปล่าววะ อันนี้ต้องให้คนอื่นมาย้ำทำเหมือนตรูเป็นเด็กอนุบาลหมีน้อย ดูถูกกันมากไปแล้วนะว่อยยย

   “....ขอบคุณครับพี่”

    ผมเอ่ยขอบคุณกับพี่สาวหมวยหน้าสวยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นที่คุณบอสขี้เก๊กนั่งสถิตอยู่ทันที
   .......

   บรรยากาศการทำงานและสภาพความสะอาดของทางเดินระหว่างกลางยังเป็นเฉกเช่นเมื่อวานที่ผมได้มาเยือน เศษกระดาษไม่มีแม้แต่ชิ้นเดียวบนทางเดิน เหล่ามนุษย์เงินเดือนต่างขยันขันแข็งทำงานกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ก็มีบ้างที่รู้เลยครับว่าหลับอู้งาน

   “ก๊อกๆๆๆ!”

   (ครั้งนี้ผมไม่ลืมที่จะเคาะประตูแล้ว)

   “เชิญครับ”  เสียงนุ่มทุ้มของผู้ชายที่อยู่ภายในห้องดังสะท้อนประตูพอให้ผมได้ยิน

   “แอ๊ดดดด”

   ......

   ไอบอสขี้เก๊กตอนนี้กำลังนั่งจมอยู่กับกองชีทหนาเต๊อบนโต๊ะทำงาน สายตาที่จ้องอยู่กับเอกสารค่อยๆเคลื่อนขึ้นหันมามองผมอย่างช้าๆ ก่อนที่เจ้าของสายตานั่นจะแสยะยิ้มข้างมุมปากจงใจให้ผมเห็น

   “ดีมากครับ ที่ไม่ลืมเคาะประตูก่อนเข้าห้อง”

   โธ่เอ้ย ...ทำอย่างกับกรูเป็นเด็กอมมือ

   “เข้ามานั่งสิ” ... บอสขี้เก๊กชี้มาที่เก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะทำงาน ผมนึกลุ้นอยู่ในใจขณะที่ก้าวขาเข้ามานั่งหวังให้ไอ้หมอนี่ลืมๆเรื่องเสื้อเชิ้ตไปก่อน

   แต่แล้วความปรารถนาของผมก็เป็นอันต้องล่มสลายไปในทันทีเมื่อคำพูดประโยคต่อมาของคนตรงหน้าเอ่ยขึ้น
   “ขอเสื้อที่ซักด้วยครับ”

   ..... เอาแล้วครับ ถึงเวลาที่ต้องลองของกันแล้ว ไอมังกรเอ๊ย เมิงจะรอดไม่รอดก็ตอนนี้แหละเว่ย ...

   ผมค่อยๆเปิดกระเป๋าเป้ด้วยสีหน้าที่พยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นเรื่องปกติโดยสิ้นเชิง โดยที่ยังไม่ได้พูดอะไรกับเจ้าบอสขี้เก๊กคนใหม่ไปเลยแม้แต่คำเดียวที่เข้ามาในบริษัทนี้ นอกจากยกมือสวัสดีตอนเปิดประตู
   “นี่ครับ”

   ผมหยิบเสื้อขึ้นมาจากกระเป๋าเป้ ส่วนถุงH&Mผมทิ้งไปเรียบร้อยแล้วครับ ทำลายหลักฐานไปแล้ว แน่นอนว่าเสื้อตัวนี้ต้องเหมือนกับตัวเก่าของไอบอสขี้เก๊กอย่างเป๊ะเวอร์ทุกประการ และไม่มีข้อด่างพร้อยให้สงสัยแบบร้อยเปอร์เซ็นต์

   “อืม... รอผมสักครู่นะครับ”

   ไอบอสขี้เก๊กจัดฉากโชว์กล้ามเซ็กซี่อีกครั้ง มือทั้งสองค่อยๆเคลื่อนมาแกะกระดุมที่ฟิตปึ๋งทาบลงบนหน้าอกกว้างใหญ่น่าซบ .... ครั้งนี้ผมไม่ยอมปล่อยไก่เช่นเดิมหรอกครับ รีบหลบสายตาขวับก้มมองลงพื้นทันที ให้ไอบอสขี้เก๊กคนนี้โชว์หุ่นแข่งกับแสงเดือนแสงตะวันไปคนเดียวเหอะ .... ฮ่าๆๆ

   ..แต่แล้ว ....

   “นี่คุณ!!” เสียงหนักแน่นที่อัดดังเข้ามาทำเอาผมตกใจจนต้องเงยหน้าสบตาดูบอสคนนี้ ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นถึงได้อุทานซะเหมือนคนฉุนเฉียว

   “คิดว่าผมโง่มากรึไง !คุณซื้อมาใหม่ให้ผมใช่มั้ย!ผมไม่ต้องการ ผมจะเอาเสื้อตัวเก่าคืน!”

   ผมแทบตั้งสติไม่ทันกับอารมณ์โกรธแบบเฮอริเคนของคนตรงหน้า แต่ก็ยังนึกสงสัยไม่ได้ว่าทำไมคนตรงหน้าถึงได้รู้ความจริง แบบของเสื้อผมก็มั่นใจแล้วว่าถูกต้องตามฉบับเดิมหนึ่งร้อยเปอร์เซนต์ หรือว่า...!

   เสียงลมหายใจฮึดฮัดเป็นสัญญาณบอกผมว่าเจ้าของร่างหนาล่ำกำลังโกรธจัด บอสขี้เก๊กเริ่มทำหน้าขมวดคิ้วขณะที่ยื่นด้านในเสื้อมาให้ผมดู

   ....

   ชิบหายครับ ลืมดึงป้ายราคาออก!
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่2)(5/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-07-2015 15:32:51
 :laugh:   โก๊ะดีนะ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่2)(5/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-07-2015 17:36:01
เอ่อ 555
อุตส่าห์ทำลายหลักฐานไปอย่างนึงแล้ว ดันมาตกม้าตายซะได้
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่2)(5/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 05-07-2015 18:08:12
โธ่เกือบดีแล้วอุตส่าห์ทิ้งถุงทำลายหลักฐานดันลืมดึงป้ายซะได้55555556555 :hao5:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่2)(5/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 05-07-2015 18:16:13
จะเนียนอยู่ล่ะ อีกนิดเดียวเท่านั้น ฮ่าๆ   :laugh:
มาต่อไวๆนะฮะรออออ   :')
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่2)(5/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: igaga ที่ 05-07-2015 20:42:55
บอสต้องแอบตามไป แล้วเก็บเสื้อที่ลืมไว้แน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่2)(5/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 05-07-2015 22:20:26
มังกรนี่โก๊ะได้ใจเลย
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่2)(5/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 05-07-2015 22:26:27
โอ๊ย อีมังกร 55555555555555555555 :m20:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่2)(5/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 05-07-2015 22:34:06
 :katai5:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่2)(5/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 05-07-2015 22:58:05
โฮ๊ะๆ มังกรเอ้ย มังกร  :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่2)(5/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 06-07-2015 00:17:29
สนุกอ่ะ มาต่อบ่อยๆๆๆน้าาา  :impress2:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่2)(5/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: thanchnt ที่ 06-07-2015 00:52:32
ขำฟ้อนต์หนักมาก 5555555555555555555
คุณบอสอย่ารุนแรงมากนะ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่2)(5/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 06-07-2015 02:01:53
ตูว่าแล้วว่ามังกรต้องลืม 555555
บอสจะเป็นคนที่เก็บเสื้อไปรึเปล่าน้อ
รอจ้า
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่2)(5/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-07-2015 04:09:50
บอสอย่าดุนักสิ สงสารมังกร อิอิ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่3)(6/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 06-07-2015 21:08:39
บทที่3


“นี่คุณ! ทำแบบนี้กับผมมันจะหยามกันเกินไปแล้วนะ!” คนร่างหนาว่าด้วยน้ำเสียงเกรียวกร้าวก่อนจะฟาดเสื้อใหม่ ที่ถูกพับไว้เป็นอย่างดีลงกับโต๊ะทำงาน

เด็กใหม่ถึงกับอ้าปากค้างกับท่าทางโกรธเกรี้ยวของนายใหม่ เขาไม่เคยนึกฝันเลยว่าจะต้องมาโดนโกรธจัด ทั้งๆที่พึ่งเข้าบริษัทยังไม่ได้ถึงหนึ่งอาทิตย์

“จะ....ใจเย็นนะครับคุณ” มังกรพยายามทำหน้าใจดีสู้เสือ ก่อนจะพูดให้พสุธาใจเย็นลง

“คุณจะให้ผมเย็นได้ยังไงครับ .. แล้วนี่มันอะไร เสื้อของผมอยู่ที่ไหน! ผมต้องการเสื้อผมคืน!”

มังกรยังคงนึกสงสัย ว่าทำไมนายใหม่ของเขาต้องนึกยึดติดกับเสื้อตัวนั้นนักหนา หรือว่าจะเป็นของสำคัญที่ใครให้มา แต่ที่แน่ๆคงไม่ใช่ของจากซาเล้งทั่วไปแหง แต่ถึงอย่างนั้นคนตัวเล็กกว่าก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป เพราะรู้ว่า ถ้าเกิดถามคำถามใหม่สอดรู้สอดเห็นเข้าไปอีก คราวนี้เขาได้ยับคาบริษัทแน่ๆ

“เอาแต่เงียบทำไม! ตอบสิ!” คนตัวใหญ่กว่าเริ่มออกเสียงตวาดดังลั่นห้องจนดังทะลุประตู ไปสู่รูหูของมนุษย์เงินเดือนที่กำลังขยันขันแข็งทำงานทุกคน ส่วนคนที่อู้งานก็อาจจะไม่ต้องตกใจมากนักเพราะกำลังปฏิบัติรับใช้เข้าเฝ้าพระอินทร์อยู่

“ผะ.....ผม...” มังกรพยายามรวบรวมความกล้าที่จะค่อยๆอธิบาย และสารภาพความจริงให้กับพสุธาฟัง แต่ดูเหมือนว่าเวลานี้จะมีบางสิ่งบางอย่างที่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร จุกติดอยู่ที่คอหอย ทำให้เจ้าตัวไม่สามารถพรั่งพรูคำพูดออกมาได้แม้แต่คำเดียว

พสุธาหลับตา และถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้งก่อนจะค่อยๆสงบอารมณ์ที่กำลังระเบิดกระเจิดกระเจิงอยู่ให้กลับมา

“ผมขอคุณละกันนะครับ ช่วยอย่าแกล้งผมอย่างนี้ ... เสื้อตัวนั้นสำคัญกับผมมากจริงๆ ... ถ้าคุณเกลียดหน้าผมมาก คุณก็ออกจากบริษัทไปเถอะ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร .. แต่ผมขอเสื้อตัวนั้นของผมคืน”

คนตัวเล็กกว่ารู้สึกหน้าชา และเจ็บลึกๆขึ้นมาในหัวใจทันที เมื่อได้ฟังคำว่า “ลาออกจากบริษัท”

เขาไม่ได้ตั้งใจแกล้งพสุธาเลยแม้แต่น้อย แต่พสุธากลับแปลเจตนาเขาผิดไปอย่างเต็มประตู ชนิดที่เรียกได้ว่าคนละเรื่อง

“ดะ ..เดี๋ยวก่อนครับ” มังกรว่าอึ้กอั้ก ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมาอย่างเก้งๆกังๆ เหตุเพราะไม่มีทางเลือกอื่น

ความฝันที่จะไปให้ไกลในด้านศาสตร์ต่างๆที่ต่อยอดจากความรู้ด้านภาษา และการเข้าเป็นที่หนึ่งในวงการจีน-ไทย ของมังกรสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดสำหรับเขา บริษัทของบอสพสุธา ถ้าหากได้เข้าทำงานแล้ว เป็นที่พูดกันว่าจะได้ติดต่อกับเจ้าสัวและเจ้าพ่อตัวใหญ่ของเมืองจีนมีระดับหลายคน จนเชื่อมไปถึงกับการสานสัมพันธ์กับนักธุรกิจฝั่งยุโรป

จริงอยู่ว่ามังกรอาจจะเป็นเด็กที่มีผลงานทางด้านวงการบันเทิงมาพอสมควร โดยเฉพาะสายงานด้านผู้ประกาศข่าวและพิธีกรบันเทิง แต่นั่นเขากลับมองว่าเป็นของชั่ววูบ สิ่งที่จะสานฝันให้เขากลายเป็นคนใหญ่คนโตตามแบบฉบับที่วาดฝันได้ ต้องเป็นทางนี้เท่านั้น งานวงการบันเทิงเป็นเพียงเสมือนเครื่องชูโลงที่ผลักดันให้เขาทำอะไรต่อมิอะไรง่ายขึ้นก็เท่านั้นเอง

   ดังนั้นเวลานี้ ... เขาจะออกจากบริษัทต้าลี่เฉินไม่ได้เด็ดขาด นั่นคือสิ่งที่มังกรคิด

   “คือ ... ถ้าผมสารภาพตามตรง คุณจะโกรธผมมั้ย”  คนที่ยังเป็นเพียงเด็กน้อยไร้ประสบการณ์ในสายตาพสุธาพูดด้วยความอ่อนน้อม

เสียงอ่อนยอมน้อมรับความผิดของมังกร กลับทำให้พสุธามีอารมณ์เย็นลง

   “ว่ามา” พสุธาตอบเสียงห้วนๆอย่างไม่ใยดีนัก

   “เมื่อวานตอนผมไปนั่งร้านกาแฟ ผมหยิบเสื้อของคุณติดไปด้วย .. แล้วผมก็ติวหนังสือกับเพื่อนจนสี่ทุ่ม ถึงจะกลับบ้านกัน แล้วตอนเดินออกจากร้าน ผมก็ .......   ผมก็”

   “ก็อะไรครับ....”

   พสุธายังคงว่าเสียงเรียบเฉยในท่ายืนกอดอก

   “ลืม   มัน   ไว้   ที่   ร้าน   ครับ  ... แล้วพอกลับไปเอา ... ก็  มี  คน ขะ โมย ไป แล้ว..” มังกรค่อยๆเอ่ยเป็นคำๆอย่างอัดอั้นกลั้นอารมณ์ผวาอย่างสุดขีด เขากลัวว่าถ้าหากพูดไปแล้วนายใหม่ของเขาจะยิ่งโมโหตู้มต้าม หรือถ้าซวยสุดคือโดนปาของใส่

   พสุธาหายใจเข้าเฮือกใหญ่ ก่อนจะเสยยิ้มขึ้นมาอย่างประชดประชัน ขณะที่เดินกอดอกมาประชิดตัวมังกร ที่นั่งห่อเป็นดอกบัวตูมขดอยู่ในน้ำเวลานี้

   และแล้วสิ่งที่เจ้าคนร่างสมส่วนได้คาดเอาไว้ก็เป็นไปตามที่เขาคิดจริงๆอย่างไม่มีผิด

“นี่คุณ! เรื่องแค่นี้มันฟังไม่ขึ้นเลยนะครับ! แค่นี้คุณยังไม่มีความรับผิดชอบ แล้วนับประสาอะไรกับงานใหญ่ๆที่ผมจะให้คุณทำ! คุณคิดดู ถ้านี่เป็นเอกสารบริษัทชิ้นสำคัญชิ้นใหญ่ แล้วคุณทำหาย จะเกิดอะไรขึ้น! คุณรู้มั้ยว่ามันเสียได้เป็นหลักล้านกับไอพฤติกรรมนิสัยเสียแบบนี้! คุณเรียนมหาวิทยาลัย เขาไม่ได้สอนทักษะการทำงาน การใช้ชีวิตเบื้องต้นบ้างเลยหรอ .. อ้อไม่สิ ผมลืมไป ก็คงจะไม่ได้สอนแหละครับ ขนาดมารยาทพื้นฐานยังไม่มีอยู่ตัวคุณเลยหนิ”

   คำด่าเจ็บๆพรั่งพรูออกมาจากกลีบปากชมพูหนานั่นอย่างปานจะเป็นซึนามิ มังกรพยายามอดทนกับคำด่าที่พาดพิงไปถึงสถาบันของเขาทุกคำพูด เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าที่คนร่างล่ำต้องว่าเขาถึงขนาดนี้ ก็เป็นเพราะความสะเพร่าและไม่ระวังของเขาทั้งนั้น

   มังกรยังคงก้มหน้าหลับตาเงียบ เตรียมฟังพสุธาต่อความยาว สาวคำด่าอันยืดเยื้อต่อ

   “ขอโทษนะครับ .... ผมคิดว่าผมคงจะรับคุณไว้ไม่ได้แล้วจริงๆ”

   คนที่นั่งหลับตาก้มลงให้กับพื้น ถึงกับเบิกตาโตโผลงขึ้นมา หันไปสบหน้ากับนายใหม่ที่มีแววตาแข็งกระด้างเวลานี้ทันที

   “เดี่ยวๆครับคุณ .... คือ ผมมม”

   การถูกไล่ออกจากบริษัทนี้เท่ากับตัดโอกาสความฝันของเขาไปแล้วซะสี่สิบเปอร์เซ็นต์ คนทะเยอะทะยานอย่างมังกรมีหรอจะยอมพ่ายแพ้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดียวอย่างนี้

   “ผมขอโทษครับ” มังกรเอ่ยเสียงหนักแน่นขณะที่ลุกขึ้นยืน

   “ผมผิดเอง ที่ไม่ได้ระมัดระวัง ... ถือว่าความผิดพลาดครั้งนี้เป็นบทเรียนแก่ผมเถอะนะครับ คุณพสุธา ต่อไปผมสัญญาจะไม่ทำอย่างนี้อีก คุณจะให้ผมทำอะไรก็ได้ผมยอมทุกอย่าง แต่อย่าไล่ผมออกเลยนะครับ”

   เด็กฝึกใหม่ยอมรับผิดแต่โดยดี ขณะที่ก้มหัวลงให้กับผู้จัดการใหม่ของเขา

   พสุธาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอ่ยคำถามให้มังกรได้ตอบ

   “ทำอะไรก็ได้ .... งั้นหรอ”

   “คะ .... ครับ”

   มังกรนึกถึงความพูดของอ๋องขณะที่ตอบไป อ๋อง... เพื่อนสนิทของเขาที่ชอบยั่วให้เขาโดนบอสใหม่จับตุ๋ยตูด

   (“นี่ถ้าโดนเอาตูดแลกกับอนาคต .. จะคุ้มมั้ยเนี่ย...        ... เด็กฝึกงานคิด)

   ...............

   “ทำไมคุณถึงอยากทำงานกับบริษัทผม ... คุณรู้มั้ย  เมื่อก่อนก็มีเด็กฝึกใหม่หลายคนอยู่ ที่เจอผมดัดเรื่องมารยาทกับการฝึกพื้นฐานไป แต่สุดท้ายก็ลาออกกันหมด อยู่ได้ไม่ถึงสามอาทิตย์”

   มังกรรู้ดีถึงกิตติศัพท์ความโหดของการฝึกงานที่บริษัทนี้ แต่เขาก็ยังยืนยันในความตั้งใจและมุ่งมั่น ถ้าเขาไม่คิดจะสู้ เขาก็คงไม่เลือกที่จะสมัครงานกับบริษัทนี้ตั้งแต่แรกแล้ว

   “ทราบครับ ... แต่ผมอยากเป็นคนที่มีบทบาทในวงการจีนไทย และผมเห็นว่าที่นี่สามารถให้ประสบการณ์อันมีค่ากับผม ซึ่งไม่มีที่ไหนจะให้ได้มากเท่ากับที่นี่ครับ เพราะที่นี่คือบริษัท ต้าลี่เฉิน”

   คำตอบหนักแน่นของเด็กฝึกใหม่ทำให้พสุธาอึ้งไปอยู่ซักครู่หนึ่ง นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้เจอเด็กใหม่ปากกล้าไฟแรงใจเด็ดขนาดนี้ ท่าทางและท่วงทีของเด็กใหม่ใจแก่นตรงหน้าพสุธา กลับทำให้ชายร่างสูงล่ำนึกถึงความหลังของเขาและเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่เคยได้ย่างกรายผ่านมาสร้างความสุขให้กับชีวิต และจากเขาไปอย่างไร้ซึ่งคำอำลาใดๆ .... สล็อต

   “สล็อต ....” พสุธาเผลอเอ่ยเรียกชื่อสล็อตขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

   “ครับ?”

   คำขานรับของมังกรทำให้พสุธารีบตื่นขึ้นจากภวังค์แห่งความหลังชั่วเสี้ยววินาทีในทันใด

   “ปะ เปล่า”  พสุธาว่าเสียงสั้นๆก่อนจะคลายมือจากท่ากอดอก แล้วเดินตรงไปยังห้องเอกสารทันที

   “ตามผมมาครับ” คำเอ่ยสั้นๆทำเอาเจ้าเด็กฝึกงานใหม่รู้สึกงุนงงอยู่เล็กน้อย แต่ก็เดินตามพสุธาเข้าห้องเอกสารไปอย่างไม่มีคำถามสงสัย

   มังกรนึกสงสัยว่าคนที่ชื่อสล็อตเป็นใคร หรือสิ่งของกันแน่ เพราะหลังจากที่บอสพสุธาเอ่ยเรียกคำนี้ขึ้นมา สีหน้าของเขาก็กลับมีอารมณ์เศร้าสลด มาแทนที่อารมณ์โกรธเป็นฝืนเป็นไฟอย่างไร้สาเหตุ

   “ชื่อเล่นชื่ออะไร” คนร่างใหญ่เอ่ยถามขณะที่กำลังย่างเท้าเข้าไปยังปึ้งนิตยาสารกองหนึ่ง

   “มังกรครับ”

   “ตั้งแต่พรุ่งนี้ก็ปิดเทอมแล้วใช่มั้ย”

   “ใช่ครับ”

   “ถ้าอย่างนั้น.....”

   “ปึ้ก!”

   พสุธาว่าสั้นๆก่อนจะวางมือลงบนกองนิตยาสารหนาปึ้กอย่างหนักมือ

   “ถ้าคุณอยากได้โอกาส ผมก็จะมอบให้ครับ คุณต้องทำหน้าที่ส่งนิตยาสารนี้ไปที่บริษัท ฮวาไค และบริษัท ไหหนัน ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ทั้งหมดบริษัทละสิบเล่ม ก่อนเวลาเที่ยงตรงของวัน คุณจะต้องเดินทางด้วยตัวคุณเอง แต่สามารถมาเบิกค่ารถกับผมได้ ผมจะคอยโทรไปเช็คกับทางเจ้าหน้าที่รับนิตยาสาร  ..... อ้อ แผนที่ผมเขียนไว้ให้แล้วนะครับ“

   มังกรกลืนน้ำลายอึ้กใหญ่ก่อนจะพยักหน้ารับคำสั่งจากคนหน้าหล่อคมอย่างดาราไต้หวันต่อ

   “ห้ามขาดแม้แต่เล่มเดียว ต้องตรงเวลาห้ามสายแม้แต่หนึ่งนาที หวังว่าคุณเข้าใจนะครับ”

   คนร่างสมส่วนพยักหน้าอย่างจำยอม

   “แล้วก็...”

   “ฮ้ะ ... ยังไม่หมดอีกหรอครับ” เด็กฝึกใหม่ถึงกับเผลอพูดออกมาโต้งๆตามความรู้สึก ก่อนจะตระหนักรู้ได้ถึงความเปิ่นของตัวเองรอบที่สาม มังกรรีบเคลื่อนมือทั้งสองมาปิดปากตัวเองทันที

   “อืม ...” พสุธากระแอมเสียงเบาก่อนจะว่าต่อ

   “จันทร์ถึงศุกร์คุณจะต้องมาพบผมที่นี่ เวลาบ่ายโมงตรง ผมจะให้คุณช่วยตรวจเอกสารสัญญา และลองแปลจับใจความอีเมลจากทางฮ่องกง ..”

   “เอกสารสัญญาเลยหรอครับ! คือผม....”

   ในใจของเด็กฝึกใหม่รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาทันที ถึงแม้เขาจะได้เครดิตคณะอักษรศาสตร์ที่มีความขลังในด้านภาษา แต่การแปลสัญญาและอีเมลนั้นเป็นที่รู้กันดี ว่าต้องใช้ความสามารถและประสบการณ์ที่สูงมาก มังกรกลัวว่าความรู้ที่ได้จากตำราและประสบการณ์ที่เขาสะสมมาอันน้อยนิด เมื่อเทียบกับคนตรงหน้า จะทำให้คนตรงหน้าผิดหวังกับผลงานของเขา

“หรือว่าจะไม่ทำ” คนตรงหน้าวางเสียงเรียบติดเย็นชาอีกครั้ง

“ทะ...ทำครับ” มังกรเอ่ยตอบลงอย่างเสียงตะกุกตะกัก

   “แล้วเวลาหกโมงเย็นถึงสองทุ่ม คุณจะต้องชดใช้หนี้โทษเรื่องนี้ .. คุณจะต้องทำความสะอาดห้องทำงานของผม ห้ามให้ผมเห็นแม้แต่เศษกระดาษชิ้นเดียว เอกสารต้องเป็นหมวดหมู่ ไม่รู้อะไรก็ถามเอา เข้าใจนะครับ”

   มังกรเริ่มจะเหงื่อแตกพลั่กๆกับหน้าที่ที่ได้รับมาแบบอลังการงานสร้าง

   “คะ...ครับ”

   “งั้นเริ่มงานเย็นนี้เลยนะครับ แค่ทำความสะอาดพอ แปลเอกสารไว้พรุ่งนี้....” พสุธากล่าวสั้นๆ

   “ฮ้ะ! วันนี้เลยหรอครับ”

   “แล้วจะเอาวันไหนครับ”

   “เอ่อ.....วันนี้ครับ วันนี้” มังกรฝืนยิ้มเล็กๆให้กับผู้จัดการหุ่นนายแบบของเขา เพราะอย่างน้อยก็ยังดีที่บอสใหม่คนนี้ยังให้โอกาสเขาได้ไถ่โทษ ถึงอาจจะดูหนักหน่วงไปซักหน่อยสำหรับเด็กที่ยังไม่เรียนไม่จบ แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับความสะเพร่าที่ไม่น่าให้อภัย

   ..................

   ..........

   (เวลาเย็น)

   “นี่นายกวาดบ้านเป็นรึเปล่าเนี่ย” พสุธาพูดลอยๆทั้งๆที่สายตายังก้มลงมองเอกสารชุดใหม่อยู่

   “นี่ผมก็กวาดเอี่ยมแล้วนะครับ” คนร่างเล็กกว่าเอ่ยค่อนเสียงอย่างไม่พอใจนัก

   “เวลากวาด กวาดให้มันทางเดียวกัน ไม่ใช่ตรงนู้นที ตรงนี้ที”

   “ครับๆ”

   ...   

เด็กฝึกใหม่เหมือนกำลังอยู่ในสังเวียรเกมส์อดทนกับผู้จัดการหน้าหล่อก็ไม่ปาน ถึงเขาจะดูออกตั้งแต่แวบแรกแล้วว่า เจ้านายของเขาจะเป็นคุณชายเจ้าระเบียบ เนียบสุดๆขนาดไหน แต่ก็ไม่นึกว่าจะถึงขั้นขนาดเป๊ะเวอร์ทุกกริยาบท

   “กูอยู่หอมานานก็กวาดคนเดียวอย่างนี้ ก็ไม่เห็นจะมีใครตายห่าเลยนี่หว่า” เด็กฝึกงานใหม่บ่นพึมพำคนเดียว

   แต่ดูท่าการบ่นพึมพำของเขา จะไม่สามารถหลุดรอดจากหูเรดาร์ของพสุธาไปได้

   “เวลาจะนินทาผม ..ก็ให้มันเบาๆกว่านี้หน่อยครับ ผมจะได้ไม่ต้องโมโหคุณไปมากกว่านี้”

   น้ำเสียงเรียบจากคนที่แทบจะจมกับกองเอกสาร ลอยปะทะกับคนที่กำลังกวาดพื้นอยู่ จนทำให้เจ้าของคำบ่นมีสีหน้าแดงระเรื่อ เพราะความอายและไม่ระวังคำพูดคำจา

   เด็กฝึกงานใหม่ดูเหมือนจะได้บทเรียนอีกหนึ่งบท เขาเริ่มบ่นพึมพำทบทวนตัวเองในใจคราวนี้ ขณะที่ยังกวาดพื้นอยู่

   .................... ...... ...

“แล้วก็อย่าลืมเช็ดโต๊ะตรงโซฟาด้วยนะครับ” พสุธาเอ่ยย้ำเป็นรอบที่สอง

“คะ ... ครับ”

“แล้วก็ ... เดี๋ยววันนี้เสร็จแล้วไปทานข้าวเป็นเพื่อนผมด้วยนะครับ” พสุธาพูดเอ่ยในน้ำเสียงเชิญชวนมากกว่าจะเป็นในเชิงออกคำสั่ง

“ฮ้ะ!”  น้ำเสียงอุทานเพราะความตกใจลอยดังขึ้นมาทันที

“มีอะไรหรือครับ มังกร”

นี่เป็นครั้งแรกที่พสุธาเอ่ยชื่อเล่นของเด็กฝึกงานใจแก่นคนใหม่ของเขาขึ้น  แค่คำสั่งบ้าๆให้ทำความสะอาดในส่วนที่เหลือให้เสร็จภายในครึ่งชั่วโมงยังพอทำเนา แต่ที่ให้ไปกินข้าวเป็นเพื่อนนี้คืออะไร .... อีกอย่าง วันนี้เขาก็นัดกับอ๋องเรียบร้อยแล้วด้วย

“เอ่อ .... วันนี้ผมมีนัดแล้วหนะครับ ขอเป็นพรุ่งนี้แทนได้มั้ย” มังกรตอบ

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ลาออกไปครับ”

“อ่าวเห้ย .. เอ้ยไม่ใช่ ..ขอโทษครับ ..เดี๋ยวสิครับคุณ ... คือ…..”

“ถ้าอยากอยู่ทำงานที่นี่ต่อ ก็เลิกหาคำปฏิเสธขุ่นๆ แล้วเป็นเด็กดีนะครับ” พสุธาว่าก่อนจะค่อยๆปลดไทด์สีดำเข้มออกลง

......

_________________

     :-> ขอบคุณทุกเมนท์ที่ผ่านมานะคร้าบ มีแรงลุยต่อมั่กๆ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่3)(6/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-07-2015 21:20:13
เป็นเด็กดีนะจ๊ะหนูมังกรน้อย

ตอนนี้ตัวหดเหล่อจิ้ดเดียวจริงๆ. สู้ๆจ้า
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่3)(6/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 06-07-2015 21:35:46
เรื่องนี้แอบมีกลิ่นมาม่า ครุกรุ่นมิเบา
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่3)(6/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 06-07-2015 21:51:53
โถววว หนูมังกรของเดี๊ยนน โดนใช้งานหนักเชียวลูกเอ้ย T^T
ไอ้เราก็นึกว่าพระเอกเป็นคนเก็บเสื้อได้ซะอีกนะเนี่ย
ชวนน้องมันไปกินข้าว แอบคิดอะไรเปล่าเนี่ย -..-
แล้วสล็อตเป็นใคร? แฟนเก่าพสุธาป่ะ?
รอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่3)(6/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-07-2015 22:05:54
บอสร้ายมากก. ชอบแกล้งมังกร
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่3)(6/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 06-07-2015 23:27:45
อันอื่นก็พอเข้าใจ แต่กินข้าวด้วยนี่ยังไงกันนะ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่3)(6/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: youuue ที่ 06-07-2015 23:55:42
 o22ชะงั้น
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่3)(6/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 07-07-2015 00:05:51
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่3)(6/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 07-07-2015 03:24:25
แอ่มมมม
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่4)(7/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 07-07-2015 15:41:26
บทที่4



ผมละหน่ายใจกับไอบอสขี้เอาแต่ใจตรงหน้ามาก นี่ขนาดอ้างแล้วว่ามีนัดสำคัญก็ยังจะดึงดันให้ผมมาทานข้าวเป็นเพื่อนให้ได้ ไอที่โยนงานให้โครมๆยังพอเข้าใจนะครับ แต่ที่บังคับให้มาทานข้าวด้วยนี่ผมไม่ค่อยจะ make sense เท่าไหร่เลย

“อยากกินอะไรก็สั่งละกัน ถือว่าผมเลี้ยงฐานที่ดึงตัวคุณมาจากเพื่อนของคุณละกันนะครับ” บอสขี้เอาแต่ใจเอ่ยพร้อมกับมอบรอยยิ้มประดับหน้าอย่างตามมารยาทแบบขอไปที

... เหอะๆ

บรรยากาศของร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่ในย่านทองหล่อนี้ ผนังสีขาวสะอาดสะอ้านของร้านถูกตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์ซูชิในรูปแบบต่างๆ ทั้งขนาดไซส์เล็กและใหญ่ ประกอบกับบนโต๊ะมีต้นไผ่ปลอมแบบจำลองเล็กๆวางไว้อยู่กลางโต๊ะ ทำให้ชวนได้บรรยากาศ Japan Style ยุคคลาสสิคแบบแทบจะสมบูรณ์แบบ

ภายในร้านยังพอมีลูกค้าประปราย ที่ต่างก็มาลองลิ้มรสกับชื่อเสียงของอาหาร ที่เฟื่องฟูไปตามนิตยาสารและโลก    โซเชียลมีเดีย บ้างก็คงจะเป็นลูกค้าประจำ ที่ติดใจกับรสชาติของอาหารเลิศรสร้านนี้

เสียงดนตรีโบราณที่ถูกบรรเลงโดยเครื่องดนตรี Koto จากลำโพงขนาดใหญ่มุมร้าน ก็ทำให้อารมณ์ของผมที่ครุกครุ่นมาทั้งวันสงบลงได้ ..นี่แหละนะครับ เสน่ห์ของดนตรีโบราณที่กำลังค่อยๆจางหายไปจากดนตรีสมัยใหม่

“... อืม ... “

แต่แล้วเมื่อผมเปิดแผ่นป้ายเมนูสีดำก็แทบจะต้องช็อคหงายหลังไปกับราคาอันบานหทัย พระเจ้าครับ ไม่มีชิ้นไหนที่ราคาต่ำกว่าหนึ่งพันบาทเลย ไอบอสนี่พาผมมากินของอะไรเนี่ย! คงจะไม่ได้แกล้งเลี้ยงผม แล้วทิ้งให้ผมจ่ายเองหมดหรอกนะ ได้ล้างจานข้ามวันข้ามคืนแน่กรุเอ๊ย

ผมเผลอกลืนน้ำลายก่อนจะเงยหน้ามาสบตากับบอสพสุธา เพื่อดูท่าทีและพยายามอ่านใจคนตรงหน้าว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่นั้นก็ดูเหมือนจะมีกำแพงประหลาดมากั้นให้ผมใช้วิชาเดาความรู้สึกได้ไม่ถนัดนัก เหตุเพราะสายตาและใบหน้าเรียบนิ่งสงบผิดมนุษย์มะนาของไอผู้จัดการเจ้าระเบียบ

“สั่งสิครับ น้องเค้ารอรับออเดอร์อยู่” ผู้จัดการเจ้าระเบียบเอ่ยก่อนจะแสยะยิ้มให้ตามมารยาทอีกครั้ง

(แกล้งกรูเข้าไปสิ ดีงาม)

“งั้น..... เอา  ... เซ็ตซูชิฮานาบิหนึ่งที่ครับ”

“ค่ะ ... ไม่ทราบว่าเครื่องดื่มรับเป็นอะไรดีคะ” พี่หนักงานสาวถามผม

“ชาเขียวร้อนหนึ่งที่ครับ”

“ค่ะ ... ของน้องเป็นเซตซูชิฮานาบิหนึ่งที่กับชาเขียวร้อน ส่วนของคุณผู้ชายเป็นเซตอุด้งมิโซะและชาเขียวเย็นนะคะ”

“ครับ” บอสเจ้าระเบียบเอ่ยสั้นๆพร้อมกับยื่นส่งเมนูคืนให้พี่พนักงานสาวไป ผู้ซึ่งกำลังยิ้มเล็กยิ้มน้อย หลงเสน่ห์ไปกับใบหน้าหล่อๆและทรงผมเท่ๆของไอบอสพสุธา

“เป็นอะไรครับ ทำหน้าดูกังวลนะ” บอสคนใหม่เอ่ยถามผมอย่างมีเล่ห์

“เปล่าครับ”

“มีอะไรก็ว่ามา”

ผมตัดสินใจที่จะตัดความกลัว แล้วถามไปตรงๆ

“คุณคงไม่คิดจะเอาคืนผม ด้วยการให้ผมจ่ายมื้อนี้หรอกนะ”

ทันทีที่ผมพูดจบ ไอคนตรงหน้าก็ระเบิดหัวเราะออกมาทันที

“นี่มังกร ... ผมไม่เหมือนคุณหรอกนะ ที่ไม่มีความรับผิดชอบขนาดที่ทำของคนอื่นหาย แล้วก็ไม่ชดใช้ ไม่ต้องห่วงครับ ผมพูดคำไหนคำนั้น .. เลี้ยงก็คือเลี้ยง”

คำพูดของไอบอสพสุธาทำให้ผมรู้สึกว่า ผมไม่น่าจะถามคำถามเมื่อสักครู่ออกไปเลย คำตอบที่ได้มาเหมือนฝ่ามือตบหน้าผมซักหนึ่งเพี้ยะหนักๆ

“เอ่อ.... คะ ครับ”

......

แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป คนตรงหน้าผมก็กลับเอาแต่เงียบ และอมยิ้มซ้ายป่ายขวาให้กับบรรยากาศรอบๆร้าน ผมหละนึกแปลกใจจริงๆครับ มีคนให้คุยด้วยไม่คุย หรือไอผู้จัดการบ้านจะมีงานอดิเรกเป็นหมอผีสื่อจิตส่องวิญญาณอยู่รึไง ..

“ทำไมคุณถึงพาผมมาทานข้าวที่นี่หละครับ มีธุระสำคัญอะไรจะคุยกับผมรึเปล่า” ผมถามไปเพราะเริ่มจะทนไม่ไหวกับความสงสัยของตนเอง อีกอย่างหนึ่ง นั่งคนเดียวเป็นหุ่นไล่กาไม่มีคนชวนคุยนี่ผมหละไม่ชอบที่สุดเลย

บอสพสุธาพลันค่อยๆหุบยิ้มลง ก่อนจะหันมาว่าด้วยเสียงเรียบ

“ไว้คุณทำงานไปเรื่อยๆ เดี๋ยวผมจะบอก”

อ่าว! อะไรวะเนี่ย เจ้าระเบียบ มองอากาศสื่อวิญญาณ แถมยังทำตัวมีลับลมคมในอีก นี่ผมจะต้องทนกับไอบอสบ้าๆไปอีกถึงเมื่อไหร่ หรือว่าฮีแกจะทำงานมากจนเสียสติไปแล้ว

“เอ่อ แล้ว ... ...”

“อยากจะถามผมรึไง ว่าเสื้อตัวนั้นทำไมถึงสำคัญกับผม”

ว้ากกกก! ไอคนตรงหน้าผมต้องเป็นหมอผีจริงๆแน่ครับ ถึงได้เดาใจผมถูกแบบตรงเผง งานนี้นี่ผมนั่งคุยกับใครอยู่เนี่ย

“ชะ ... ใช่ครับ” ผมยืนยันคำตอบไป

แต่แล้วแววตาของตาบอสพสุธาก็กลับลดต่ำลง ดูกลายเป็นคนเศร้าสลดขึ้นมาภายในชั่วไม่ถึงวินาที ยิ่งทำให้ผมแปลกใจเข้าไปกันใหญ่

“เพราะ ....เสื้อตัวนั้น .. คือของชิ้นสุดท้ายที่แฟนผม ให้กับผมก่อนที่เค้าจะประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตลง ”

................ ..

ความรู้สึกผิดที่ตอนแรกไม่ได้มีมากมายอะไร กลับพรั่งพรูขึ้นมาในใจของผมอย่างล้นหลาม นี่ผมทำของสำคัญเช่นนี้ของคนตรงหน้าหายไปหรือเนี่ย ! ออร่าความมืดและความเศร้าเริ่มปกคลุมไปทั่วบริเวณโต๊ะดินเนอร์ของสองเรา แสงไฟสลัวจากริมขอบกำแพงดูท่าจะไม่ได้ช่วยให้อาณาบริเวณของเราสองสว่างขึ้นได้เลยในเวลานี้

“ผมขอโษนะครับ” ผมเอ่ยคำขอโทษอีกครั้งไปอย่างไม่ลังเลเมื่อได้รู้ความจริงข้อนี้

แต่ท่าทีของบอสพสุธากลับผิดแปลกไปจากเดิมอย่างมาก เขาค่อยๆเงยหน้าหันมายิ้มให้กับผม ครั้งนี้ผมกลับรู้สึกถึงความอบอุ่นบนกลีบปากหนานั่นอย่างละมุน ที่ดูเหมือนว่าจะส่งมอบให้ด้วยความจริงใจ

บอสพสุธาหันมาสบหน้าผมอย่างตรงๆก่อนจะว่าต่อ

“คุณรู้มั้ย ....

 คุณเหมือนเค้ามาก”

แต่แล้ว คำพูดของคุณพสุธาทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด น้ำเสียงอ่อนนุ่มทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนคนตรงหน้าโอบกอดไว้ใต้แสงไฟอย่างที่ไม่ต้องปฏิบัติจริง

“คะ ..ครับ” ผมไม่รู้จะเอ่ยอะไรต่อเลยได้แต่พูดคำว่าครับไป

“ผมชื่อเล่นชื่อ มอคค่านะครับ” คนตรงหน้าแนะนำตัวเป็นชื่อเล่นครั้งแรกกับผม

“ครับ”

“ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกผมว่าคุณแล้วนะ ... เรียกว่าพี่มอคค่าก็พอ”

คนร่างหนาในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มฟิตร่างเปรี๊ยะ ยังคงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนละมุนละไม จนใครที่เจอน้ำเสียงนี้เข้าไปก็คงละลายไปกองกับพื้น

“คะ ...ครับ”

“ทำไมดูพูดติดขัดบ่อยจังเลย ... ติดอ่างรึเปล่าเนี่ย”  คนร่างหนาตรงหน้าเอ่ยอย่างทีเล่นทีจริง

“ไม่! เอ๊ย ..ไม่ใช่ ..ผมหมายถึง เปล่า ..ไม่ได้ติดอ่างครับ”

ผมไม่ใช่คนติดอ่างหรอกครับ แต่แค่กำลังงงกับเหตุการณ์ที่ดูจะเกิดขึ้นเร็วแบบพรวดพราดในวันเดียว บอสพสุธาเวลานี้ช่างดูเป็นคนละคนกับเมื่อตอนกลางวันเสียนี่กระไร จากเสือมาดโหดเย็นชา กลับกลายเป็นเจ้าป่าผู้แสนอ่อนโยนขึ้นซะงั้น

“แล้ว ...” คนร่างหนาเอ่ยต่อ

“เห็นประวัติที่ส่งมา ทำงานพิธีกรกับผู้ประกาศข่าวด้วยหรอ”

“ใช่ครับ .. ทำเยอะช่วงปีสองหนะครับ แต่ตอนนี้ขึ้นปีสามก็เพลาๆลงแล้ว เพราะเรียกหนัก แล้วก็อยากจะลองมาทำทางด้านธุรกรรมดูบ้าง”

คำตอบของผมทำให้คนตรงหน้าเผยรอยยิ้มขึ้นอย่างที่ผมไม่ได้คาดเดาไว้

“สล็อตก็เป็นแบบนายนั่นแหละ .. ไฟแรง ร่าเริง สดใส แถมยังโก๊ะเหมือนกันด้วย”

คำว่าโก๊ะนี่เป็นคำด่าหรือคำชม ผมก็ชักจะงงขึ้นมาซะแล้วสิครับ

“เอ่อ ... งั้นหรอครับ” ...

“อืม ...” ผู้จัดการหน้าหล่อกล่าว อืม อยู่ในลำคอด้วยสีหน้าที่ยังคงมอบรอยยิ้มให้กับผม

“ขอโทษนะคะ อาหารที่สั่งไว้ได้แล้วค่ะ” พี่หนักงานสาวสวยเสิร์ฟพูดขึ้นแทรกความอึมครึมระหว่างผมกับบอสมอคค่า

“ขอบคุณครับ” บอสพสุธาเอ่ยขอบคุณ ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือช่วยพี่หนักงานจัดวางถาดอาหารลงบนโต๊ะ

....

“บ้านอยู่แถวไหนหละ”  คำถามถามถึงที่อยู่ของผมจู่ๆก็ลอยขึ้นมา

“บ้านผมอยู่ที่เชียงใหม่หนะครับ มากรุงเทพก็พักหอนอกแถวมหาวิทยาลัย”

“อ่าว งั้นหรอ ... ไม่พักหอในมหาวิทยาลัยหละ”

“พักหอในกฏเยอะหนะครับคุณ ผมชอบอิสระมากกว่า”

“นี่” พสุธาเอ่ยคำสบถขึ้น

“ผมบอกแล้ว ให้เรียกผมว่าพี่มอคค่า ทำไมคุณถึงพูดไม่ฟังเลยนะมังกร”

(ตำหนิกรูอีกแล้ว ไอบอสโรคจิต)

“เอ่อ... ครับๆ ก็ได้ครับพี่มอคค่า”

คนร่างสูงหุ่นนายแบบก้มยิ้มลงมองถาดอาหารทันทีที่ผมเรียกเค้าว่า พี่มอคค่าขึ้น ก่อนจะลงมือบรรจงใช้ตะเกียบคีบเส้น   อุด้งมาวางไว้ในจานของผมอย่างละเมียดละไมตามสไตล์คุณชาย

“อุด้งร้านนี้ เส้นนุ่มอย่าบอกใครเลยหละ ลองชิมดู”

“ครับคุณ” ผมเผลอพูดคำว่าคุณออกไปอีกครั้ง ครั้งนี้คนตรงหน้ากลับกระแอม แกล้งทำเป็นเสียงดุใส่ ก่อนจะส่งสายตาดุๆให้ผมได้เห็นตามมา

“เอ้ย ...ครับ   พี่มอคค่า”

(ฝืนใจเรียกไปทั้งๆที่กระดากปากมาก อายุก็ปาไปสามสิบห้าแล้วมั้งไอคนตรงหน้า น่าจะเรียกว่าอาซะด้วยซ้ำ ห่างกันตั้งสิบห้าปี แหวะ)

“ดีมากครับ” ว่าเสร็จคนตรงหน้าก็เริ่มโซ้ยอุด้งในชามใหญ่ยักษ์ด้วยสีหน้ามีความสุขต่อทันที

........................... ........ ....

......................

.........

....


   แสงไฟสีเหลืองนวล กับห่วงทำนองเพลงอันแสนเก่าแต่ยังทิ้งความสดใหม่ไว้ในความทรงจำของพสุธา ทำให้ความรู้สึกของวันวานที่ได้โบยบินลาจากเขาไปนานนับปี แวะกลับเข้ามาทักทายเขาอีกครั้ง

   มังกรหารู้ไม่ ว่าพสุธาต้องใช้ความอดทนมากเพียงใด ที่จะต้องฝืนอดกลั้นความสุขที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเจ้าตัว อย่างที่ปิดบังไว้ ไม่เปิดเผยให้คนร่วมสุขได้รับรู้ความรู้สึกที่แท้จริง

   ไร้ซึ่งเหตุผลใดๆ มังกรเด็กน้อยในสายตาของเขา กลับทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนชุบชีวิต ขึ้นมาจากรอยช้ำในอดีตอย่างน่าพิศวง

   ภาพความบอบช้ำและเลวร้ายที่ยังฝังลึกอยู่ในเบื้องลึกของหัวใจ ถึงแม้จะตีเกยขึ้นมาโหดกระหน่ำพัดพา แต่ก็ไม่อาจเทียบเทียบกับความอบอุ่นที่อุ่นครุไปทั่วโต๊ะสี่เหลี่ยมเล็กเวลานี้ได้เลย

   ในใจพสุธา เขาอยากให้กาลเวลาหยุดเดิน ทิ้งไว้เหลือเพียงอาการหยุดนิ่งของคนตรงหน้า เพื่อที่เขาจะได้เชยชมกับเสน่ห์หาและความหวังใหม่ที่ดูจะเป็นรูปขึ้นมา ไม่ใช่เพียงตกอยู่ในภวังค์เพ้อฟันอันรอนแรม ...  ผู้ชายที่ชื่อว่า สล็อต

   ในขณะเดียวกันนั้น คนร่างเล็กกว่ากลับมีแต่ความสงสัยโหมกระหน่ำอยู่ภายในใจ เขากำลังค่อยๆประมวลผลกับการกระทำต่างๆของพสุธา โดยที่เก็บอาการต่างๆไว้ไม่เผยให้นายใหม่ของเขาเห็น แต่กระนั้นความหลังของพสุธาก็ดูจะลึกและมีปมเกินกว่าที่ความฉลาดของเด็กน้อยอย่างมังกรจะหยั่งรู้จนหมดสิ้น

   มังกรได้แต่เก็บความสงสัยอันมากมายและหนักอึ้งไว้อยู่ในใจ หากแต่ลึกๆแล้ว เขาก็กลับมีความรู้สึกให้กับคนตรงหน้าเช่นกัน  .... อย่างที่เขาก็ไม่รู้ตัว




“””””””””””””””””””””””””””””””””


จากผู้เขียน : สั้นไปหน่อยนะคร้าบ แฮะๆ
   
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่4)(7/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 07-07-2015 16:01:27
ตอนนี้ละมุนเบาๆ ///
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่4)(7/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 07-07-2015 20:20:41
 o13
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่4)(7/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: mogoishi ที่ 07-07-2015 20:30:11
น่าติดตามมากๆ อยากอ่านต่อแล้ว   :katai4:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่4)(7/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-07-2015 21:12:10
 :impress2:   ความหวานเริ่มมา. มากับอุด้งและซูชิ

ชอบตอนอมยิ้มที่น้องเรียกว่าพี่มอคค่า
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่4)(7/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-07-2015 22:22:18
เพิ่งมาอ่านจ้า

มาให้กำลังใจอีกคน

เรื่องสนุกมากๆ

ปล ไม่อยากให้บอสจมปักอยู่กับอดีต และไม่อยากให้มังกรเป็นตัวแทนของใคร ถ้าจะรักมังกรต้องรักที่เป็นมังกรไม่ใช่สล็อต
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่4)(7/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 07-07-2015 22:26:16
 :hao4: ก็แบบมีโมเม้นมุ้งมิ้ง
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่4)(7/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: thanchnt ที่ 07-07-2015 23:04:41
งานมุ้งมิ้งต้องมา งานอบอุ่นต้องมา
แต่ฟังมังกรเรียกพี่มอคค่าแล้วขนลุกจริงๆ...
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่4)(7/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 07-07-2015 23:21:34
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่4)(7/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 07-07-2015 23:26:27
ชอบๆๆๆๆ พี่ม็อคค่าเริ่มจะหวั่นไหวแล้วใช่ป่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่4)(7/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-07-2015 01:09:49
มังกรกับม๊อคค่า อิอิ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่4)(7/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: poohanddew ที่ 08-07-2015 01:16:09
บอสกำลังจะจีบเด็ก
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่4)(7/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 08-07-2015 08:09:48
บอสจ๊ะ อย่าจีบเดะน้อยด้วยวิธีแปลกๆเบย เดะจะหลอนไปซะก่อน  :laugh:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5)(8/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 08-07-2015 16:01:10


บทที่5

เวลาการฝึกงานของมังกรผ่านไปได้สองวัน ก็ทำให้เขาได้เรียนรู้ขึ้นมา ว่าโลกความจริงนั้น ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย คนที่คิดว่าความรู้ในตำราคือโลกกว้าง นั่นก็ไม่เท่ากับการสร้างภาพกบในกะลาให้กับตนเอง มังกรต้องรับมือกับการเข้าหาผู้คนใหม่ๆในทุกวัน รวมถึงทักษะการทำงานทางด้านต่างๆซึ่งไม่มีสอนในรั้วของมหาวิทยาลัย แต่กระนั้นสิ่งที่เขารู้สึกลำบากไม่เป็นรองจากเรื่องอื่นใดเวลานี้ ก็เห็นจะเป็นเรื่องการปรับตัวเข้ากับเจ้านายเจ้าระเบียบของเขา ..พสุธา

“แอ๊ดดด”

เสียงเปิดประตูไม้สุดหรูของห้องผู้จัดการพสุธาดังขึ้น ขณะเดียวกับเวลาที่คนร่างสมส่วนในชุดนิสิต ผูกเนคไทสีดำตรงตามระเบียบอย่างหาที่ติไม่ได้ (จะมีเพียงก็แต่กางเกงที่ใส่เป็นยีนสีดำขาเดฟ ซึ่งพสุธาได้อนุมัติให้ใส่ได้) ได้ย่างกรายเดินเข้าไปในห้องทำงานของบอสขี้เก๊กในสายตาเขา

“ดีมากครับ แต่งตัวเรียบร้อยดีมาก” พสุธาว่าพลางขณะนั่งกอดอกอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่สีดำเข้ม ราวกับนายแบบที่มีพื้นหลังเสริมออร่าเป็นท้องฟ้าสีครามสดหลังกระจกบานใส

คนร่างสมส่วนนึกรู้สึกอึดอัดกับการใส่ไทมาทำงาน ถึงแม้ว่าเขาจะดูดีและโดเด่นเป็นพิเศษเกินหน้าเกินตาใครเมื่อได้อยู่ในชุดนิสิตแบบเต็มฟอร์ม แต่กระนั้นการแต่งกายลักษณะนี้ก็ใช่จะตรงกับจริตของมังกรนัก เหตุเพราะการใส่ไทแบบเต็มยศทำให้เขารู้สึกอึดอัดบริเวณต้นคอ

“ผมอึดอัด” มังกรว่าสั้นๆก่อนจะยกมือสวัสดีพสุธา

“ทำงานในบริษัทของผม ต้องแต่งตัวเรียบร้อยครับ”

เด็กฝึกใหม่หารู้ไม่ว่าบอสของเขากำลังยกคำว่าระเบียบมาอ้างเป็นธรรมเนียมปลูกปั้นเฉยๆ ซึ่งความจริงแล้วเขาแค่อยากจะเห็นเจ้าคนร่างเล็กกว่าใส่ชุดนิสิตผูกไทในทุกๆวันยามบ่าย ให้เขาได้เชยชมเป็นอาหารตา

“ครับ” คนร่างเล็กกว่าเอ่ยคำตอบเพียงสั้นๆ

“นี่โต๊ะทำงานใหม่ของนาย ..ฉันให้ลูกน้องสั่งซื้อไว้ให้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” พสุธาว่าก่อนจะหันหน้าไปมองโต๊ะตัวใหม่ที่อยู่ด้านข้างของห้อง

   โต๊ะทำงานไม้สีอ่อนที่คนร่างสมส่วนไม่คุ้นตา กับการจัดวางอุปกรณ์เครื่องเขียนและแฟ้มเอกสารอย่างเป็นระเบียบทำให้เขารู้สึกชาและเกร็ง เหตุเพราะเขาพึ่งเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ แต่ผู้จัดการกลับตอบแทนให้เขายิ่งกว่าคนที่ทำงานมานานหลายปี เฉกเช่นมนุษย์เงินเดือนที่อยู่นอกห้องหลายคน

   เขานึกขอบคุณ เกรงกลัว และเกรงใจพสุธาพร้อมๆกัน แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เลยได้แต่หันไปสบตากับพสุธาก่อนจะเอ่ยถามสั้นๆ

“จะดีหรอครับคุณ”

“นี่คุณ! ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกผมพี่มอคค่า” คนร่างหนาขึ้นเสียง จนทำเอานิสิตฝึกงานใหม่ต้องสะดุ้งโหยง

“อะเอ่อ... คะ..ครับพี่ ..มอคค่า”

พสุธายิ้มให้ก่อนจะว่าต่อ

“นายจะได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพยังไงหละ ไม่ชอบหรอ ผมจะได้ให้คนเปลี่ยนเป็นตัวอื่น ..หรือมันเล็กไป”

มังกรรีบฝืนยิ้มปฏิเสธอย่างสร้างภาพทันที เหตุเพราะไม่อยากจะต้องแบบรับความเกรงใจไปมากกว่านี้

“ชะ ..ชอบครับ .ชอบมากๆเลย” 

พูดเสร็จนิสิตผูกไทพลันก็รีบเดินตรงเข้าไปทำแกล้งลูบโต๊ะไม้นั่น ก่อนจะทิ้งตัวหย่อนกายวางลงบนเก้าอี้ทำงานทันที เพื่อทำให้คนร่างใหญ่เชื่อสนิทใจว่าเขารู้สึกชอบโต๊ะตัวนี้จริงๆ

“มังกร” พสุธาเอ่ยเรียกชื่อเด็กใหม่ของเขาสั้นๆ

“ครับ”

“ที่แปลส่งให้ผมเมื่อวาน ถือว่าใช้ได้ไม่เลวเลยนะครับ ระดับการแปลของคุณผมเห็นว่าถ้าได้รับการฝึกหนักมากกว่านี้ วันหน้าคุณจะสามารถพอมาเป็นเลขาผมได้เลยหละ”

คนร่างสมส่วนถึงกับถลึงตากับคำว่าเลขา

“ดะ..เดี๋ยวสิครับ คุณ” ว่าได้ไม่ทันไร คนร่างใหญ่ก็กระแอมเสียงขึ้นมาทันที

“เอ๊ย ... เด๊ย่วสิครับพี่..” มังกรแก้คำพูดอย่างรู้หน้าที่ก่อนจะว่าต่อ

“ให้ผมเป็นเลขาเดี๋ยวงานก็ได้ล่มหรอกครับ ผมแค่มาฝึกงาน ยังไม่คิดที่จะไปถึงขั้นนั้นหรอกนะ ผมคิดว่า..ฝีมือของผมยังไม่ถึงขั้นด้วย” มังกรเอ่ยถ่อมตนอย่างตรงไปตรงมาและไม่อ้อมค้อมนัก

พสุธาส่งยิ้มให้มังกรอีกครั้งก่อนจะอธิบายต่ออย่างยืดยาว

“ผมไม่ได้แต่งตั้งมั่วๆ  ฝีมือของคุณ ขนาดโยนเอกสารให้วันสองวัน ยังแปลได้ขนาดนี้ ถึงจะมีผิดเยอะหน่อยในเรื่องของศัพท์ธุรกิจ แต่นั่นก็เป็นเพราะคุณยังไม่เคยทำ แต่พอมาดูเรื่องของใจความและการเรียกประโยคแทบจะไม่มีที่ติ ทั้งคำขึ้นต้นลงท้ายจดหมายทุกอย่างสมบูรณ์แบบ  อีกอย่างนึง ดูจากสถาบันที่คุณจบมาผมก็รู้แล้ว ว่าเรื่องความรู้วัฒนธรรมและการเข้าสังคมจีนของคุณน่าจะเป็นสิ่งที่คุณถนัดที่สุด .. รอบด้านขนาดนี้ ในรอบเกือบสิบปีมาผมยังไม่ได้เคยเจอคนไหนแบบคุณเลยครับ ...

   เด็กน้อยมังกรนิ่งงันกับคำพูดของพสุธาไปครู่หนึ่ง ในใจเขารู้สึกนึกดีใจและแทบจะลอยไปกับคำชมเหล่านั้น ความพยายามที่บ่มเพาะมาตลอดของเขาไม่สูญเปล่า คำพูดพสุธากำลังเป็นสัญญาณบอกว่าในอนาคตความฝันเขาอาจจะกลายเป็นจริงก็เป็นได้

   “เลขาของผม ไม่ใช่คนที่จะมายืนหล่อยืนสวยแบบในโทรทัศน์ ผมต้องการคนที่รอบด้าน และพร้อมจัดการกับปัญหาที่เข้ามาได้แทนผม .. แต่ผมไม่ได้บังคับคุณหรอกนะครับ .. ถ้าคุณไม่อยากจะทำงานนี้ ผมก็ไม่ได้บังคับ”

   พสุธาว่ากลายๆก่อนจะหยิบชีทห้าหน้ากระดาษเอสี่ขึ้นมา แล้วเดินมาที่โต๊ะทำงานใหม่ของมังกร

   “นี่คือลิสต์คำศัพท์ที่ใช้บ่อยในบริษัทของผม ผมจะให้คุณศึกษาและท่องจำไปเรื่อยๆ ตอนเย็นผมจะทดสอบคุณด้วยการสัมภาษณ์เหมือนอยู่ในสถานการณ์จริงของล่ามบริษัทระดับต้น

   คนร่างเล็กกว่าถึงกับกลืนน้ำลาย มองหน้ากระดาษเอสี่ที่วางไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วอยู่บนโต๊ะเขา

   “เข้าใจดีนะครับ” พสุธาเอ่ยซ้ำ

   “ครับ”

   “ดีมากครับ”

   “แล้วก็ นี่เป็นส่วนงานที่ให้ฝึกแปลของวันนี้นะครับ ผมขอให้เสร็จก่อนบ่ายสามโมง”

   “คะ ...ครับ” เด็กน้อยในกำมือน้อมหัวรับคำสั่ง

   “แล้วพอแปลเสร็จแล้ว ตอนบ่ายสามผมขอมอคค่าร้อนหนึ่งแก้วด้วย .. ขอหวานนะครับ ...ห้าโมงคุณก็ทำความสะอาดห้องผมให้เรียบร้อย แล้วหลังจากนั้นเราจะได้เริ่มฝึกสัมภาษณ์กัน”

   พสุธาเอ่ยคำสั่งสุดท้ายกับเด็กใหม่ ที่ตอนนี้หน้าเหวอไปแล้วกับการเอาแต่ใจและสั่งงานแบบตะลุมบอน ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของเขา

   “นี่ถ้ากูเป็นเลขา ... คงร่างแตกไปห้าวันแรกแหง” มังกรบ่นกับตัวเองเสียงเบา แต่นี่ก็เป็นอีกครั้ง ที่ดูท่าความเบาของเขาจะสู้กับหูเรดาร์ของพสุธาไม่ได้

   “จะนินทาผมก็ให้มันเบากว่านี้หน่อยครับ ..วันหลังก็อย่าหาว่าไม่เตือนแล้วกัน”

   คนตัวเล็กกว่าถึงกับรีบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และก้มหน้าจุ่มลงไปกับกองคำศัพท์ธุรกิจใหม่ต่อทันที

   ............

   ....

   และแล้วเวลาในห้องทำงานกว้างขวางและเย็นฉ่ำเพราะเครื่องปรับอากาศยามบ่ายนี้ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว    

   เด็กฝึกงานคนใหม่ถอนหายใจเสียงยาวทันทีเมื่อเขาได้ทำงานแปลให้กับบอสขี้เอาแต่ใจจนแล้วเสร็จ ก่อนจะหยิบกระดาษคำศัพท์ขึ้นมาดูให้ผ่านตาเป็นรอบที่สาม

   เสียงพึมพำคำศัพท์ธุรกิจของเด็กฝึกงานใหม่ดังกระเพื่อมโสตประสาทของพสุธาทันทีในเวลาไม่ช้า บอสร่างหนาค่อยๆวางปากกาลงก่อนจะเคลื่อนสายตามามองนวลแก้มขาวที่กำลังสะกดเขาไว้ในชั่ววินาทีที่หันมา

   กลีบปากสีชมพูฉ่ำอย่างคนมีสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่งเผยให้เห็นอยู่ข้างนวลแก้มข้างซ้าย ยิ่งกลับทำให้พสุธาถึงกับต้องหาเรื่องพูดคุยกับเจ้าคนที่กำลังท่องคำศัพท์ที่เขามอบหมายไว้อยู่

   “นี่คุณครับ”

   “ครับ”

   มังกรขานรับสั้นๆพร้อมกับหามาหาเจ้าของเสียง


   “แปลเสร็จก็อย่าลืมชงกาแฟให้ผมด้วยสิครับ”

   มังกรรีบมองดูนาฬิกาที่แขวนไว้อยู่บนกำแพง ก่อนจะทำหน้าตาตกใจให้กับเวลาที่ล่วงมาแล้วยี่สิบนาที เขาหันไปหาพสุธาก่อนจะเอ่ยคำสารภาพ

   “แต่คุณ .. เอ้ย  ..พี่ครับ ผมไม่เคยชงกาแฟนะครับ อย่างเก่งก็สั่งทรูคอฟฟี่ไม่ก็เซเว่นแหละครับ”

   ชั่วชีวิตของเด็กฝึกงานคนใหม่นี้ ไม่มีครั้งใดเลยที่เขาได้รับประสบการณ์การชงกาแฟ อย่าว่าแต่สัดส่วนเลย แค่วิธีการชงธรรมดาเขาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องใส่อะไรบ้าง และในสัดส่วนเท่าใดอีกด้วย

   “มันเป็นหน้าที่ของคุณ ...” พสุธาว่าสั้นๆก่อนจะแอบอมยิ้มเล็กๆที่มุมปากแล้วก้มลงตรวจสมุดบัญชีเล่มหน้าตึ้กต่อ

   มังกรได้แต่นิ่งงันไปอย่างรู้สึกไม่รู้จะทำอย่างไร แต่เขาก็ดูจะไม่มีทางเลือกนอกซะจากชงกาแฟอย่างสุดความสามารถให้สมใจแก่บอสของเขา

   “ชงไม่เป็น ..ชงมั่วๆก็ได้วะ” นิสิตฝึกงานใหม่พูดกับตนเองเสียงค่อยอย่างระวัง

   คนตัวเล็กกว่าลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานทันที พลันเดินไปที่มุมชงกาแฟของบอสพสุธา แล้วเริ่มเปิดฉากการชงกาแฟที่เขาไม่ได้เคยมีโอกาสซักครั้งเลยในชีวิต (จะมีก็ตอนนี้แหละนะ)

   ทุกท่วงท่างุนงงผสมกับการเกาหัวไปมาของเด็กมังกร มีหรือจะหลุดรอดจากสายตาพสุธาไปได้ บอสร่างใหญ่วางสายตาออกจากตัวเลขในสมุดบัญชีทันที ก่อนจะหันมามีสมาธิกับแผ่นหลังกว้างพอสมควรของมังกร ที่เขยิบซ้ายป่ายขวาไปเรื่อย เหตุเพราะกำลัง งุกๆเงิ่นๆ ไม่เข้าใจกับวิธีการใช้เครื่องชงกาแฟอย่างดีเท่าไหร่นัก

   ภาพเก่าในวันวาน ค่อยๆลอยขึ้นมาเรียกหวนความรู้สึกคิดถึงกับพสุธาอีกครั้ง

   ครั้งแรกที่เขาได้เจอสล็อต สล็อตก็ไม่ได้ต่างไปจากมังกรเลยซักนิดเดียว แถมยังซุ่มซ่ามมากกว่านี้ด้วยซ้ำไป อย่าว่าแต่หาวัตถุดิบมาชงเลย ครั้งแรกของสล็อตที่ยังอยู่ในความทรงจำของพสุธา ก็คือการทำเครื่องกาแฟหล่นจนเขาต้องหาซื้อเครื่องใหม่มาแทนเครื่องเก่า

   แต่หลังจากที่เขาได้ค่อยๆสอนสล็อตให้ชงกาแฟ ภายหลังแล้วสล็อตก็กลับมีความคิดสร้างสรรค์ในการปรุงรสกาแฟต่างๆขึ้นมา จนทักษะแซงหน้าคนที่เป็นครูสอนชงกาแฟให้

   ....

   ( “ พี่มอคค่าครับ กาแฟได้แล้ว ... ผมป้อนนะ”
   “ฮ้ะ ป้อนกาแฟเนี่ยนะ”
   “ใช่แล้วครับพี่”
   “ทำยังไงอ่ะ”
   “ใช้ช้อนเล็กๆนี่ไง  .. ค่อยๆอ้าปากให้ผมนะครับพี่”)
   ....

   เสียงของคนที่ได้ลาจากเขาไปนานนับปี กลับฟุ้งลอยขึ้นมาทักทายอีกครั้งในความทรงจำอันเก่าและสดใหม่ที่คราเดียวกัน พสุธาเริ่มปล่อยใจให้เหม่อลอยไปกับกลิ่นอายความหลังที่ดูท่ากำลังจะส่งผ่านมายังแสงแดด ซึ่งลอดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาอย่างอ่อนนวลและหรี่แสง

   “ได้แล้วครับ”

   เสียงเรียกความสนใจจากคนตรงหน้า และรอยยิ้มหวานที่ส่งมาอย่างเจื่อนๆเรียกสติคนร่างหนาให้กลับมาโดยพลัน

   “อะ ...อื้ม   ขอบใจนะ”  พสุธาว่าสั้นๆก่อนจะรีบหยิบแก้วกาแฟนั่นมาทันที

   “พี่เป็นอะไรรึเปล่าครับ” .. มังกรเอ่ยถามด้วยความสงสัย

   นี่เป็นครั้งแรกที่คนตัวเล็กกว่ายอมเรียกบอสหนุ่มแน่นอายุสามสิบห้าว่าพี่ ซึ่งทำให้เขารู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แต่กระนั้นก็ยังซ่อนความดีใจ ให้เก็บไว้จนอยู่ลึกที่สุดของก้นบึ้งหัวใจ ...เท่าที่เขาจะฝืนใจเก็บไว้ได้

   “ปะ ... เปล่า” พสุธาตอบพร้อมกับมอบรอยยิ้ม

“อ๋อครับ ...ไม่ได้ปวดหัวใช่มั้ยครับ เห็นเหนื่อยๆ ล้าๆ ... พี่ตรวจบัญชีมาตั้งสองชั่วโมงแล้ว ผมว่านอนพักซักหน่อย แล้วค่อยตื่นมาทำต่อดีกว่ามั้ย ... ทานกาแฟมีแต่จะทำให้ปวดหัวหนักขึ้นนะครับถ้าฝืน” มังกรเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นห่วง

   ความเป็นคนใจดีและเป็นห่วงเป็นใยอย่างไม่เลือกที่รักมักที่ชังของมังกร ทำให้เขากล้าที่จะเอ่ยคำพูดเรื่องสุขภาพขึ้นมาตรงๆกับผู้จัดการคนใหม่คนนี้ มังกรไม่รู้เลยว่าคำพูดของเขาได้ทำให้พสุธาประทับใจและเริ่มตราตรึงเขาไว้ในใจเข้าไปอีกขั้นหนึ่ง

   “ขอบคุณครับ แต่ผมยังไหว” บอสหนุ่มแน่นยิ้มให้มังกร ก่อนที่จะยกถ้วยกาแฟนั้นขึ้นจิบลิ้มรองรสชาติ

   ......

   คนร่างเล็กกว่าถึงกับยืนลุ้นในท่ากำมือแน่น เหตุเพราะกลัวว่ารสกาแฟที่ตนปรุงแต่นั้นจะไม่ผ่าน

   ...............

   ......

   แล้วแล้ว ....

   พสุธาค่อยๆดึงถ้วยกาแฟออกจากริมฝีปากบนอย่างค่อยๆ ก่อนจะเอ่ยกับคนตรงหน้าพร้อมกับส่ายหน้า

   “มันขมมากเลยครับ”

   “ฮ้ะ! นี่ผมใส่น้ำตาลไปทั้งซองแล้วนะครับ”

   “คุณคงจะใส่กาแฟมากไปหนะครับ เลยขมและข้นขนาดนี้ ... ยังไม่ผ่านนะครับ ไปชงให้ผมใหม่อีกถ้วยก็แล้วกัน”

   มังกรร้องโอดครวญอย่างไม่เกรงกลัวคนตรงหน้าอีกต่อไปก่อนจะเดินห่อตัวกลับไปที่มุมชงกาแฟ พสุธาอดขำไม่ได้กับท่าทางใสสื่อบริสุทธิ์ของเด็กคนนี้ขณะที่เริ่มหยิบปากกาขึ้นมาตรวจเช็คบัญชีอีกครั้ง

   ........

   ...

   เวลาได้ผ่านไปไม่นานนัก คนร่างสมส่วนก็เดินถือถ้วยกาแฟกลับมาเสิร์ฟนายของเขาอีก ครั้งนี้เขาระมัดระวังการชงเป็นอย่างที่ ทั้งยังกะอุณหภูมิของน้ำ ให้ไม่ร้อนจนเกินไปอีกด้วย หวังว่ากาแฟที่เขาตั้งใจชงครั้งใหม่นี้ จะถูกปากของผู้จัดการร่างใหญ่มากขึ้น แต่ดูท่าคำตอบที่ได้รับจะ ...

   “ อืม ...” พสุธาว่าหลังจากที่ได้ยกแก้วกาแฟนั้นซดเข้าไปหนึ่งอึก

   “ดีขึ้นนะคัรบ แต่เหมือนว่ายังหวานไม่พอ”

   มังกรถึงกับถอนหายใจสั้นๆกับคำตอบว่าไม่ผ่านแบบอ้อมๆของพสุธา

   “อยากรู้มั้ยครับ รสหวานของกาแฟเป็นอย่างไร” พสุธาว่าพลางขณะที่ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ทำงาน เขาใช้มือขวาปิดสมุดบัญชีเล่มหนาใหญ่ลงโดยมีปากกาขั้นหน้าที่ทำงานค้างไว้อยู่ ก่อนจะเดินถือแก้วกาแฟ มาหยุดอยู่ตรงหน้าของเด็กฝึกงานใหม่

   “ยังไงหรอครับ” มังกรเอ่ยถามสั้นๆขณะที่มองไปยังถ้วยกาแฟ

   “คุณลองดื่มสิ มันหวานมั้ย” พสุธาเอ่ยพลางยื่นแก้วกาแฟมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากของคนตัวเล็กกว่า

   มังกรค่อยๆใช้มือรับแก้วกาแฟจากมือหนาแบบผู้ชายของพสุธา แล้วจิบน้ำกาแฟลงคอไปทันที

   “อึ้ก ..”

   “ยังไม่ค่อยหวานจริงๆด้วย” คนตัวเล็กกว่าว่าพลางวางถ้วยแก้วกาแฟลงข้างกาย พร้อมกับหันตัวรีบจะไปชงกาแฟแก้วใหม่ให้กับผู้จัดการของเขาทันที

   แต่แล้วมังกรก็ต้องหันร่างกลับมาทันควัน เมื่อคนร่างใหญ่ใช้มือทั้งสองจับบริเวณหัวไหล่แล้วหันตัวเขากลับมา

   “แบบนี้หวานขึ้นมั้ย”

   ไม่มีคำขอหรือคำว่ารีรอ พสุธาเอ่ยสั้นๆกับมังกรก่อนจะเคลื่อนริมกลีบปากหนา บรรจงประกบกับริมฝีปากบางของนิสิตผูกไทด์อย่างเบาแรง บอสหนุ่มแน่นค่อยๆส่งผ่านความรู้สึกละมุมให้แก่เด็กใหม่ของเขา ก่อนจะค่อยๆส่งมอบลมหายใจที่เต็มไปด้วยความใคร่ในเสน่หาอย่างเหลือจะทนในเวลาเดียวกัน

   “อะ ...อือ...อื้อออออ ...

   .....
   
“””””””””””””””””””””””””




จากคนเขียน : เขียนตอนนี้แล้วแฮปปี้มากๆ :) อยากรีบเปิดคำศัพท์จีนธุรกิจมาท่องเลย คริๆ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5)(8/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 08-07-2015 16:11:24
 :z13: :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5)(8/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 08-07-2015 16:43:42
ตอนนี้เกือบน่ารักละ แต่แอบขัดใจอิมอคค่าที่เหมือนยังลืมรักเก่าไม่ได้ รีบๆ ลืมซะนะ! ไม่งั้นเราจะเก็บมังกรไว้คนเดียว -^- กร๊ากกก
กาแฟแก้วนี้คงไม่ต้องเติมน้ำตาลเพิ่มแล้วสินะ หวานลิ้นแล้วนี่ คึๆๆ
อ่านตอนแรกแล้วให้ความรู้สึกเหมือน 'ถ้าหนูไม่มีเงินจ่ายค่าเรียน ให้แต่งชุดนักศึกษามาหาป๋า' เลยอ่ะ 5555555 พระเอกชอบเต๊าะเด็กสินะ หึหึ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5)(8/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 08-07-2015 18:19:47
คิดว่าเรื่อนี้คงหนวงพอดู เพราะมังกรอาจจะคิว่าตังเองเป็นแค่ตัวแทน เป็นแค่เงาของคนๆนั้น
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5)(8/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 08-07-2015 19:06:14
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5)(8/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 08-07-2015 20:20:35
รู้สึกเหมือนบอสเห็นมังกรเป็นตัวแทนของคนรักเก่าเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5)(8/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 08-07-2015 20:42:26
มาให้กำลังใจ

มาตามอ่าน
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5)(8/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-07-2015 20:46:08
แหม่. จะฟินก็ไม่ถึงขั้นนั้น. จะด่าพระเอกก็ยังไม่ได้เต็มปาก.
 ออกแนวขมๆหวานๆเหมือนกาแฟที่ชงแบบมั่วๆขาดๆเกินๆ.  :mew5: 
ภาพทับซ้อนของมังกรกับสล็อตนัขอให้จางลงๆเรื่อยๆได้ไหมล่ะคะพี่มอคค่าขา.
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5..ต่อ)(9/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 09-07-2015 13:19:43

บทที่5 (ตอนต่อ)


รสหวานจากรอยจูบผิวเผินของหนุ่มร่างล่ำ ค่อยๆซาบซึมผ่านเข้ากลีบปากบางของคนร่างสมส่วน มังกรถึงกับลืมตาโผลงก่อนจะใช้มือของเขาดันหน้าอกล่ำสันนั่นให้ถอยห่างออกไปจากตัวทันที

“นี่คุณครับ” มังกรเอ่ยด้วยสีหน้าตกใจ

พสุธาดูเหมือนจะได้สติกลับมาทันทีหลังจากที่โดนคนตรงหน้าผลักอย่างออกแรงพอสมควร เขาได้แต่นิ่งและรอฟังคำพูดของคนตรงหน้าอย่างคนรู้ตัวว่าเป็นฝ่ายผิด และได้ทำสิ่งที่ไม่สมควรลงไป

“ถึงผมจะเป็นเด็กฝึกงาน ผมก็ไม่ใช่ของข้างทางที่นึกจะทำอะไรก็ทำใส่แบบนี้นะครับ!” น้ำเสียงที่เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นฉุนเฉียวของหนุ่มน้อยฟุ้งลอยตลบอบอวลไปทั่วห้อง

พสุธาได้แต่ก้มหน้าอย่างรู้สึกนึกในเวลานี้ ก่อนจะหลับตาลงแล้วตอบกลับไป

“ผมขอโทษครับ ผมเผลอไปหน่อย”

คำขอโทษจากชายทะนงตนเป็นสิ่งที่ทำให้มังกรประหลาดใจอยู่ไม่น้อย เขาไม่คิดว่าเขาจะได้ฟังคำว่าขอโทษ จากปากของนายใหม่เจ้าระเบียบคนนี้ เขาคิดแต่เพียงว่าคนตรงหน้าจะต้องอ้างความเป็นใหญ่มากดเขาอีกเช่นเคย

“คุณโกรธผมมากมั้ย” พสุธาเอ่ยถามเสียงค่อย

“ก็ .....”

ไม่มีเสียงคำตอบจากคนที่เด็กกว่า

“คุณกำลังทำให้ผมนึกถึงใครบางคนอยู่” พสุธาว่าสั้นๆ ขณะที่ก้มหน้าต่ำมองลงพื้น

“แต่คุณก็ไม่ควรจะทำแบบนี้หนิครับ” มังกรเอ่ยตำหนิ .. เด็กน้อยเวลานี้กลับกลายเป็นผู้มีอำนาจขึ้นมาในบทสนทนาอันตึงเครียดขึ้นมาทันที

“ผมรู้ตัวดีครับ”

ห้องทำงานของพสุธาเวลานี้กลับถูกทิ้งให้เหลือแต่เพียงความว่างเปล่าที่ครุครุ่นอยู่ในอากาศ ความสงบแต่กลับเย็นยะเยือกค่อยๆคืบคลานเข้ามาเยือนรอบกายของคนทั้งสอง

มังกรเริ่มไปต่อไม่ถูก ไม่รู้ว่าตนควรจะทำตัวอย่างไรกับเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นไปเมื่อซักครู่ ความรู้สึกของเขากลับสับสนอลหม่านอย่างที่เขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน ว่าแท้ที่จริงแล้ววามรู้สึกที่ได้สัมผัสรสจูบนั้นเป็นเช่นไร .. ความรู้สึกอบอุ่นที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความรู้สึกที่โดนละเมิดในบทจูบ ความรู้สึกถูกครอบครองที่มาแทนที่ความรู้สึกอิสระในห้วงลึกนั่น

“มังกร ... คือผม ...”

.....

“ถ้าอย่างนั้นวันนี้ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”  คนตัวเล็กกว่าตัดสินใจพูดตัดบทลงอย่างดื้อๆ

มังกรตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ที่จะออกห่างจากตัวผู้จัดการคนใหม่ช่วงเย็นนี้ไปก่อน การถูกขโมยจูบอย่างที่ไม่ทันตั้งตัว ไม่เคยอยู่ในความคิดและแผนการของเขาในการเข้ามาทำงานที่บริษัทแห่งนี้เลย

แต่อย่างไรก็ตาม เด็กฝึกงานคนใหม่ก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้สวัสดีนายใหม่ของเขา ก่อนที่จะรีบเก็บข้าวของ แล้วเดินออกประตูไปอย่างไม่เหลียวหลัง ซึ่งพสุธาเอง ก็จ้องมองเขาด้วยสีตาละห้อยอยู่จนวินาทีสุดท้ายที่คนตัวเล็กกว่าเดินออกจากห้องไป

“เฮ่อ ....” คนร่างหนาถอนหายใจเสียงยาวก่อนจะเดินไปปิดประตูห้องของเขา

.............

.....

“””””””””””””””””””””””

(ณ ร้านอาหารเจฟเฟอร์)

“ไออ๋อง มึงว่ากูควรจะทำยังไงต่อวะ” มังกรเอ่ยถามคนที่กำลังเมามันส์กับการเคี้ยวสเต็กปลาทอดที่อยู่ตรงหน้า

เด็กหนุ่มในชุดเสื้อยืดสีแดงสดและกางเกงขาสั้นสีขาว กลืนเนื้อปลาที่ถูกบดเขี้ยวอย่างละเอียดก่อนจะตอบอย่างคนคอแห้งเพราะพึ่งจะทานอาหารลงคอ

“มึงคิดเชี่ยไรนักหนาวะ ไอมังกร”

“เฮ้ยมึง ... เค้าจูบกูนะเว่ย แค่กอดกูว่ามันก็แย่มากพอแล้ว” มังกรเอ่ยพลางทำหน้าเจื่อนๆ

“เรื่องเล็กเปล่าวะ”

“เนี่ยนะเรื่องเล็ก?” มังกรเอ่ยเสียงสูงใส่เพื่อนของเขา

“มึงอยู่กับกูมาจะสามปีละ คิดว่ากูไม่รู้สันดอกมึงหรอ”

“สันดอกอะไร” มังกรทำหน้าเหวอๆขณะถามเพื่อนสนิท

“แหมไอห่านนี่ เสปคมึงก็สามสิบอัพ แถมพี่มอคค่าของมึงก็หล่อล่ำซะขนาดนั้น มึงก็เอาสิ” อ๋องว่าตามความรู้สึกที่ได้ตัดสินใจไปกับรูปพี่มอคค่า ซึ่งเจ้ามังกรแสดงให้เขาได้เชยชมตั้งแต่ตอนสั่งอาหารแล้ว

“สัส” คำด่าเสยขึ้นหน้าของอ๋องเต็มๆไปหนึ่งช็อต

“มึงก็เล่นตัวกับเค้าเนาะ กูรู้นะว่ามึงก็ชอบเค้า จากที่มึงเล่าให้ฟังอ่ะนะ ... มาทำตัวอ้อนๆแอ้นๆ ระวังจะแดกแห้วนะมึง”

เพื่อนสนิทของมังกรเอ่ยย้ำอีกครั้งก่อนจะหัวเราะคิกคัก จนมังกรต้องเบิ๊ดกะโหลกไปหนึ่งที

“มึงหยุดเลยนะ ....เออๆ กูยอมรับว่าเค้าก็ตรงสเปคกู แต่กูแค่ยังไม่แน่ใจหวะ ..ไม่ดิ กูว่ามันเร็วไปอ่ะ อยู่ๆมาจับกูจูบ”

“มึงฟังกูนะเพื่อน ... คนเรามันไม่เหมือนกัน มึงไม่สามารถเอานิสัยชั่ววูบมาตัดสินเขาได้หรอก แต่ที่แน่ๆยังไงเค้าก็ชอบมึง ถ้ามึงชอบเค้าด้วย กูก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร มึงไปทำงานพรุ่งนี้ก็ทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดูๆไปว่าเป็นยังไง อีกอย่าง ยังไงเค้าก็ขอโทษมึงแล้ว มึงจะไปอะไรมากมายวะ คนระดับผู้จัดการบริษัทยอมลดตัวมาขอโทษเด็กปีสามอย่างมึง นี่หาไม่ได้ในยี่สิบแปดโลกเลยนะเว่ย” อ๋องพูดยาวยืด

“ก็จริงของมึงหวะ .... แต่กู”

“แต่อะไรวะ” เพื่อนสนิทของเด็กฝึกงานถามขึ้นอีกครั้ง

“มึงว่ามันจะดีหรอวะ กูอยากจะฝึกกับบริษัทนี้ไปนานๆ กูกลัวถ้าเลิกกันแล้วจะมีปัญหา”

“โอ้โหไอห่า ปากแข็งบอกสับสน นี่คิดไปถึงตอนคบเลยหรอวะ”

“อ่าว มันก็ต้องคิดเปล่าวะ” มังกรตอบสาดเสียงอย่างขอไปที

“มึงลองคิดดู ดีๆนะไอมังกือ ... มึง ..จะทำงานกับบริษัทนี้ คนที่ใหญ่ที่สุดคือใครตอนนี้”

“คุณพสุธา”

“แล้วถ้ามึงจะเกิดให้ได้ มึงต้องทำงานกับใคร”

มังกรพิจารณาตามคำถามของอ๋อง ก่อนจะใช้เวลาไตร่ตรองเพียงครู่ก็ตอบกลับ

“บอสพสุธา”

“แล้วตอนนี้มึงทำงานกับใคร” เพื่อนสนิทของเขาถามต่อ

“คุณพสุธา”

“จบ .... มึงได้ทำงานกับคนที่ใหญ่ที่สุด นั่นคือก้าวแรกที่มึงประสบความสำเร็จไปแล้ว มึงไม่เหมือนคนอื่นที่ต้องผ่านด่านบ้าบอคอแตกสารพันห่าเหว กว่าจะได้ทำงานกับผู้จัดการตรงๆ มึงปฏิเสธไม่ได้นะ ว่ามึงได้ความสำเร็จกึ่งนึงมาก็เพราะเรื่องรักๆใคร่ๆ กูว่าตอนนี้มึงก็ควรจะยอมรับกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น แล้วประคับประคองมันไปจนสุดฝันของมึง ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ยังไงมันก็เป็นอนาคต มึงควรจะอยู่กับปัจจุบันนะเพื่อน” อ๋องว่าก่อนจะหยิบแก้วน้ำโค้กที่วางอยู่ทางด้านขวามือขึ้นมาดูด

“..................” มังกรนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

“ตอบกูซิ ..มึงจะเอายังไงต่อ”

“กลับไปทำงานพรุ่งนี้ ... ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..” มังกรเอ่ยสั้นๆหลังจากได้พิจารณาและไตร่ตรอง

“ดีมากครับเพื่อน แล้วก็ไม่ต้องไปเอ่ยคำขอโทษบ้าบอคอแตกด้วย ..เพราะงานนี้มึงไม่ใช่ฝ่ายผิด” อ๋องย้ำเตือนเพื่อนของเขาอีกครั้งก่อนจะสวาปามเนื้อปลาที่อยู่ข้างหนาอีกครั้งจนไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยวเลยแม้แต่ชิ้นเดียว

.....................

...........

“”””””””””””””””””””””””””””””””

(วันถัดมา)

   “แอ็ดดดด”

   เสียงเปิดประตูของห้องทำงานพสุธาดังขึ้นอีกครั้ง

   “เอ๊ะ ...วันนี้ไม่อยู่รึไงนะ”  มังกรเอ่ยกับตัวเองเสียงดัง เหตุเพราะครั้งนี้ไม่มีนายใหม่ร่างนายแบบอยู่ ให้เขาต้องลดเสียงเบาเป็นกังวลลงแล้ว

   คนร่างสมส่วนกวาดสายตามองไปยังบริเวณรอบห้องทำงาน ก่อนจะย่างกรายเดินเข้าไปยังโต๊ะทำงานของบอส พสุธา

 ... โพสอิทสีเหลืออ่อนที่แปะวางไว้อยู่มุมขวาบนของโต๊ะทำงานเขียนไว้อยู่ว่า

   “ผมมีธุระด่วน คงกลับมาตอนเย็น วันนี้ผมไม่บังคับคุณครับ คุณจะทำงานหรือกลับบ้านก็ได้ แต่ถ้าอยากจะทำผมเตรียมงานแปลไว้ให้คุณแล้ว ถ้าคุณทำงานเสร็จแล้วคุณจะกลับก่อนก็ได้ครับ ... มอคค่า”

   เด็กฝึกใหม่ทอดเนกไทออกทันทีหลังจากที่ได้อ่านโพสต์อิทนั้นจนจบ เขานึกดีใจที่วันนี้ไม่ต้องแต่งชุดตามระเบียบและแสนอึดอัดของนายใหม่  ...มังกรเดินบิดขี้เกียจยืดเส้นยืดสายไปมาอยู่รอบห้องก่อนจะหาวเสียงดังว้อดๆอย่างรู้สึกเป็นอิสระ

   อีกทั้งเด็กใหม่คนนี้ยังรู้สึกดีใจขึ้นมาทันทีอีกด้วย ที่ไม่ต้องเผชิญกับความรู้สึกหน่วงๆระหว่างเขากับเจ้านาย แต่พลันนั้นแว้บหนึ่งในห้วงหัวใจ เขากลับรู้สึกเป็นห่วงความรู้สึกของพสุธาขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ด้วยเช่นกัน

   “พี่เค้าจะเป็นอะไรรึเปล่าวะ โดนเราว่าไปขนาดนั้น” มังกรเอ่ยสั้นๆระหว่างที่มองออกไปยังท้องฟ้าสีครามสดข้างนอกผ่านหน้าต่างบานใส

   แต่แล้วด้วยความที่เป็นคนแสวงหาความรู้ และอยากรู้อยากเห็นในเวลาเดียวกัน คนร่างสมส่วนก็ตัดสินใจเดินไปยังโต๊ะของผู้จัดการคนใหม่ทันที ก่อนจะใช้มือเลื่อนไปเคลื่อนลิ้นชักที่อยู่ใต้เก๊ะ

   “ครืดดด”

   เสียงลิ้นชักดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าคนร่างใหญ่ไม่ได้ล็อคกุญแจไว้

   “ลืมล็อคไว้แหละมั้ง..” คำพูดพูดกับตัวเองดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าคนฝึกงานใหม่จะเริ่มใช้สายตาสอดส่องดูสิ่งต่างๆในทันที

   ปึ้งเอกสารธุรกิจที่มีแต่ภาษาจีนและภาษาอังกฤษถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบเต็มไปหมด แต่หากกลับไม่ได้ดึงดูดความสนใจของมังกรมากนักเวลานี้ ส่วนสิ่งที่ดึงดูดนิสิตฝึกงานคนใหม่ คงจะเป็นอัลบั้มรูปที่ถูกวางไว้อยู่ชั้นในสุดของลิ้นชักที่เต็มไปด้วยเอกสาร

   “อัลบั้มรูปงั้นหรอ”

   มังกรเอ่ยพลางขณะที่เอื้อมมือไปหยิบอัลบั้มรูปนั้นออกมาจากเก๊ะ ก่อนจะค่อยๆพลิกหน้าปกนั้นดูอย่างช้าๆ

ภาพแรกของอัลบั้ม คือบอสมอคค่าของเขากำลังสวมแว่นกันแดด เปลือยอกใส่กางเกงยีนส์ ยืนกอดอกอยู่ริมชายหาด ซึ่งถ้าเขาจำไม่ผิดก็คงจะเป็นทะเลแถวหัวหิน

หุ่นกำยำที่ราวกับถูกสร้างมาให้เป็นนายแบบผู้พร้อมเพรียง ทั้งกล้ามแขนและหัวไหล่ อีกทั้งบริเวณหน้าอกนูน ทำให้มังกรนึกถึงวันแรกที่ได้เจอกับมอคค่า ..

“ล่ำจริ๊ง” คนร่างสมส่วนเอ่ยพร้อมกับมอบรอยยิ้มให้กับคนที่อยู่ในรูปก่อนจะพลิกมายังรูปที่สอง

ภาพที่สองยังคงเป็นบริเวณชายหาด Back groundเดิม เพียงแต่องค์ประกอบของภาพมีการจัดเพิ่มเติมขึ้นมาเล็กน้อย

ในภาพนั้น บอสพสุธากำลังใช้มือซ้ายโอบกอดบริเวณเอวและใช้มือขวาจับหน้าอกของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในชุดว่ายน้ำเล่น สีหน้าของเด็กผู้ชายคนนั้นยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ดูร่างเริงสดใส แววตาที่หวานเป็นประกายสะท้อนกับแสงแดดส้มอ่อนที่อยู่ในรูป ขนาดที่คนที่มองรูปก็ยังสัมผัสได้แม้จะมองจากภายนอกอย่างผิวเผิน

มังกรยิ้มให้กับคนในรูปทั้งสองอีกครั้งหนึ่งก่อนจะพลิกไปในรูปถัดไป

ภาพที่สาม บอสพสุธากำลัง selfie กับผู้ชายคนเดิม ที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีชมพูอ่อนลาย Rude Dog

ความรู้สึกสับสนของมังกรที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวานเริ่มกลับกลายเป็นความรู้สึกสงสัย และหึงหวงขึ้นมาแทนที่อย่างที่เจ้าตัวก็ไม่ค่อยจะรู้สึกตัวมากนัก เขากลับนึกอิจฉาคนในรูปขึ้นมาอย่างประหลาดชอบกล

“ภาพที่สี่ .... ไอศกรีมงั้นหรอ”

“อืม ... โห ...บนเตียง”

เด็กฝึกใหม่เริ่มละเลงการเปิดอัลบั้มรูปอย่างรัวๆ ตั้งแต่หน้าที่สี่จนถึงภาพสุดท้าย ก็เห็นจะมีแต่รูปคู่ สลับกับรูปเดี่ยวของคนสองคนๆ ที่อยู่ในอัลบั้มรูปนี้

“คนนี้เป็นใครกัน” มังกรกล่าวกับตัวเองอีกครั้งเมื่อดูจนถึงภาพสุดท้ายของอัลบั้ม

“คนปัจจุบันหรือคนเก่าวะ ....แต่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเราเปล่าวะเออ” ...

มังกรเอ่ยสั้นๆก่อนจะยิ้มให้กับอัลบั้มรูปนั้นแล้วเก็บลงไปไว้ใต้เก๊ะในตำแหน่งเดิม แล้วเดินมายังโต๊ะทำงานของเขาเพื่อทำการบ้านงานแปลให้กับพสุธาทันที

ความรู้สึกหึงหวงกลับแล่นขึ้นมาในห้วงความรู้สึกทันที เมื่อคนร่างฟิตกับเสื้อนิสตหย่อนกายลงบนพำนับเก้าอี้ตัวใหญ่ เขารีบสลัดหัวจัดการกับความรู้สึกตัวเองในทันที ก่อนจะเผยรอยยิ้มให้กับเอกสารแล้วลงมือทำงานอย่างไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้




จากคนเขียน  ..... ตอนแรกว่าจะตั้งเป็นบทใหม่ แต่คิดไปคิดมาเอาไปต่อกับตอนเดิมน่าจะดีกว่า ^^ วันนี้ที่บ้านฝนตกหนัก เย็นมากๆเบย
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5..ต่อ)(9/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: youuue ที่ 09-07-2015 16:11:14
งานนี้มีงอลลล. ปล..ฝนตกหนักเหมือนกันค้าบบบ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5..ต่อ)(9/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 09-07-2015 16:45:07
อิบอส แกรีบลืมๆ ให้ได้นะเฟ้ย ไม่งั้นเจอตื้บ -^-!
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5..ต่อ)(9/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 09-07-2015 17:10:01
ตอนแรกที่เข้ามาอ่านเพราะชื่อเรื่อง

แต่อ่านๆไปเหมือนจะดราม่านะ

ดราม่าในความคิดของคนอ่านคือ

ในเมื่อบอสยังลืมคนเก่าไม่ได้

และยังเอามังกรของเราเป็นตัวแทนคนเก่าอยู่(เท่าที่อ่านมาคิดอย่างนี้จริงๆ)

แบบนี้ต่อไปมังกรคงเสียใจแย่(คือแบบนี้ละที่ไม่กล้าอ่าน)

แต่จะเป็นกำลังใจให้เสมอจ้า

สู้ๆ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5..ต่อ)(9/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-07-2015 17:45:23
 :katai1:   ทำไมหนูมังกรไม่จูบกลับไปเลยคะเอาให้แน่ใจไง. ให้พี่เขารู้ซึ้งว่ากำลังจูบใครอยู่กันแน่ ชิ
หมั่นไส้บอสมาก
เอิ่มแล้วอันนี้คือชัดเจนใช่ไหมว่าน้องมังกรรู้ตัวว่าตัวเองเป็นเคะ เพื่อนอ๋องรู้ดีนะ. ยังไงก็ดูๆไปก่อนน่ะเรื่องงานมาก่อน
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5..ต่อ)(9/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 09-07-2015 21:40:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5..ต่อ)(9/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 10-07-2015 14:47:40
 :katai5: :katai5: :katai5: แวะมาดูว่ามายัง อิอิ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่5..ต่อ)(9/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 10-07-2015 19:07:43
 :hao4:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่6)(10/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 10-07-2015 20:06:31
บทที่6

“แอ๊ด”

เสียงเปิดประตู เรียกความสนใจจากคนที่กำลังมีสมาธิกับงานแปลอยู่ทันที มังกรวางปากกาลงอย่างเบามือก่อนจะหันไปหาผู้ที่ย่างกรายเข้ามาในเขตความสงบส่วนตัวของเขาเวลานี้

“คุณพสุธา” มังกรเอ่ยเสียงเบาและทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายกมือไหว้สวัสดีพสุธาก่อนจะก้มลงไปจมปลักกับงานแปลต่อ

“สวัสดีครับมังกร” เสียงหล่อเข้มกล่าวสวัสดีทักทายคนร่างสมส่วน ขณะที่เจ้าของเสียงก็เดินมายังโต๊ะของคนร่างเล็กกว่าด้วยเช่นกัน

มังกรพยักหน้าเป็นพิธี มือขวาของเด็กฝึกงานกำลังจับด้ามปากกาเขียนตัวหนังสือภาษาไทยอยู่

 บอสร่างใหญ่ชะเง้อเอื้อมหน้าเข้าไปดูงานแปลของเด็กฝึกใหม่ หวังจะให้คนตัวเล็กกว่าอารมณ์ดี แต่เจ้าคนตัวเล็กในสายตาเขาก็ยังทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเช่นเคย

พสุธาทิ้งยิ้มเจื่อนๆให้กับมังกร ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะทำงานของเขาเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กยังใจแข็งอยู่

ในใจของพสุธากลับไม่มีความกังวลเลยแม้แต่น้อย เขารู้ได้ทันทีว่ามังกรไม่ได้รู้สึกแย่กับเขาไปอย่างที่เขาได้คิด และก็ไม่ได้โกรธอะไรเขาอีกต่อไป เพราะถ้าหากเจ้าคนตัวเล็กยังโกรธเขาอยู่ หรือรู้สึกไม่ดี มีหรือที่จะมานั่งทำงานกับเขาต่อและทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

คนร่างหนาทิ้งตัวหย่อนกายลงบนโต๊ะก่อนจะหันเก้าอี้หมุนไปหาหน้าต่างบานใส หมู่นกที่โบยบินกันมาเป็นฝูงทำให้เขาส่งยิ้มลอยๆขึ้นมาก่อนจะหลับตาลงแล้วเอ่ยกับมังกร

“มังกรครับ”

“......”

มีเพียงแต่ความว่างเปล่าที่อุ่นครุอยู่ภายในห้อง ก่อนที่คนตัวเล็กจะเอ่ยเสียงตอบ

“ครับคุณพสุธา” ครั้งนี้บอสร่างฟิตไม่ได้ตำหนิเขา ที่เรียกเขาว่าคุณพสุธาเลยแม้แต่น้อย

“ผมพึ่งไปคุยธุระมา แล้วมีข่าวดีจะมาบอกคุณ”

คนตัวเล็กกว่าถึงกับรีบวางปากกา แล้วหันหน้าไปยังชายร่างหนาที่นั่งหันหลังให้กับเขาอยู่ทันที

“ข่าวดีอะไรครับ”

“ผู้จัดการจากบริษัทส่งอะไหล่เข้าเมืองไทย กำลังจะพาครอบครัวไปเที่ยวที่หัวหินในวันพรุ่งนี้ ..กลางคืนพรุ่งนี้จะมีการต้อนรับผู้จัดการเพื่อสานสัมพันธ์กับบริษัทเรา ส่วนเช้าวันถัดมาจะมีการคุยเรื่องธุรกิจนิดๆหน่อยๆพอเป็นพิธี ..ถ้าสนใจอยากจะลองเจอหน้างาน ..ผมหมายถึงงานของจริงหนะครับ ผมจะให้คุณได้ลองอยู่ในวงสนทนาดู ถือว่าคุณเป็นผู้ช่วยผม ..”

“จะ..จริงหรอครับ”

เด็กฝึกใหม่เผลอแสดงท่าทีดีอกดีใจออกมาอย่างไม่ทันระวังตัว แต่เมื่อเขารู้สึกตัวก็ไม่อาจะหลุดพ้นจากความหยั่งรู้ของพสุธาไปได้แล้ว

“จริงสิครับ” พสุธาส่งยิ้มหวานแกมขอคืนดีให้อย่างแสนอบอุ่นในมาดผู้ชายหล่อเข้ม จนทำให้คนที่เผลอสบตาเขาเวลานี้ถึงกับต้องหวั่นไหวอีกครั้ง

“เอ่อ ..ครับ” คนตัวเล็กเอ่ยสั้นๆเพียงสองคำ ก่อนจะก้มหน้าแดงหลบสายตา

“คุณจะไปหรือเปล่าหละครับ ผมให้คุณเลือก  ถ้าคุณไม่ไป พรุ่งนี้คุณก็พักผ่อนได้ ไม่ต้องมาทำงาน”

คนร่างเล็กกว่าพลันหลับตาลงทั้งสองข้าง ก่อนจะเป่าลมหายใจออกทางปากแล้วตอบไปอย่างเสียงเรียบ

“ผมไปครับ ...”

พสุธายิ้มให้เด็กฝึกใหม่ของเขา ที่ตอนนี้กำลังก้มหน้าหลบเขาอยู่ ก่อนจะหยิบเอกสารใต้ลิ้นชักขึ้นมาเปิดกางออกเต็มโต๊ะทันที

“ขอบคุณนะครับ” ถึงจะยังมีเรื่องความรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง แต่กระนั้นเด็กใหม่คนนี้ก็ไม่ลืมมารยาทพื้นฐานขั้นแรกสุด ..นั่นก็คือการกล่าวขอบคุณเมื่อได้รับสิ่งที่มีค่าจากผู้ที่อาวุโสกว่า

“ไม่เป็นไร ..” พสุธาเอ่ยสั้นๆ

“แต่ว่า”

“ครับ” มังกรนึกสงสัยกับคำว่าแต่ของเจ้านายของเขา

“พรุ่งนี้ผมจะต้องออกจากบ้านตั้งแต่เวลาตีห้า ผมต้องรีบไปจัดการเรื่องที่พักและงานเลี้ยงตอนกลางคืนทันที”

“โห...ตีห้าเลยหรอครับ” คนร่างเล็กกว่าเอ่ยเสียงสูงด้วยอาการตกใจเล็กน้อย

“ใช่แล้ว ..กลัวจะตื่นไม่ทันหละสิ ... อีกอย่างคุณก็ไม่รู้ด้วยว่าบ้านผมอยู่ที่ไหน”

มังกรพยักหน้าอย่างยินยอมด้วยสีตาละห้อย

“ถ้าอย่างนั้น ....”

...

“คุณก็มานอนบ้านผมเลยก็แล้วกันนะครับ เดี๋ยวผมจะช่วยปลุกคุณเอง แล้วตอนเช้าก็จะได้ออกกันเลย ดีมั้ย”

ข้อเสนอของพสุธาทำให้มังกรถึงกับต้องนิ่งงันแล้วหยุดคิดไปครู่หนึ่ง โดยทิ้งเพียงความเงียบให้กลับมาเยือนห้องสีเหลี่ยมผืนผ้าอันหรูหรานี่อีกครั้ง

เขานึกขอบคุณที่พสุธาให้โอกาส ซึ่งเขาก็ไม่อยากจะปล่อยให้โอกาสทองอันนี้บินหลุดลอยไปไหน เหตุเพราะมังกรไม่รู้อีกเหมือนกัน ว่าวันไหนที่โอกาสทองแบบนี้จะลอยกลับมาหาเขาอีก

แต่กระนั้นการที่ต้องหอบเสื้อหอบผ้าไปนอนบ้านของคนที่ขโมยจูบเขา ทั้งๆที่ยังรู้จักไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ ..ก็ออกจะดูเป็นเด็กยอมใจไปซักหน่อยกระมัง

เด็กฝึกใหม่ไม่มีเพื่อนสนิท ผู้มีความคิดเด็ดขาดให้คำปรึกษาในเวลานี้ มังกรแทบอยากจะหยิบควักโทรศัพท์ขึ้นมาโทรปรึกษาอ๋องทันที  ... ไม่เพียงแต่นึกเปล่า ..คนตัวเล็กกว่าตัดสินใจพูดออกไปโต้งๆทันที

“ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำได้มั้ยครับ”

พสุธานิ่งงันไปซักครู่หนึ่ง เพราะความงุนงงที่คนตัวเล็กกว่าไม่ยอมตอบคำถามเขา แต่กลับยิงคำขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำแทน

“อ้อ...ได้สิครับ” พสุธาเอ่ยตกลงอย่างฉงนสนเท่

ครั้งนี้มังกรเป็นฝ่ายส่งมอบรอยยิ้มให้กับพสุธา ก่อนจะเดินเปิดประตูออกไปเพื่อโทรหาอ๋องในทันที

“”””””””””””””””””””

ตู้ดดดดดดดด

“ฮัลโหล!” อ๋องว่าด้วยน้ำเสียงร้อนรน

“เฮ้ยนี่กูมังกรนะไออ๋อง”

“เออ ..ว่าไงวะมึง”

“มึง ..โอเคป๊ะเนี่ย ทำไมเสียงดูดุๆ”

“เปล่าๆ กูอยู่บนลู่วิ่งอยู่” เสียงจากปลายสายกระหืดกระหอบปนหนักเสียง

“อ๋อ ..เออ”

“มีอะไรรึเปล่าวะเพื่อน” อ๋องเอ่ยถามมังกร

“เปล่า ...คือ ..มีหวะ”

“อ่าวไอนี่..ยังไงเหนี่ย ..มีอะไรก็ว่ามามึง”

“คือไอพี่มอคค่าอ่ะดิ ..เค้าบอกกูว่า จะให้กูไปร่วมวงสนทนาธุรกิจ กับพวกบิ๊กๆจากเมืองจีนอ่ะ อารมณ์ให้กูไปยืนข้างๆเค้า”

“เอ๊า ..ก็ดีสิมึง ก็ไปดิรออะไร ..โห นี่แค่ให้ขโมยจูบ ยังได้โอกาสทองขนาดนี้ กูว่าถ้ามึงให้เข้าเอานะ คงได้บ้านกับรถ”

“ไอสัส ...มึงหยุดเลยนะ” มังกรด่าปนหัวเราะใส่เพื่อนสนิท

“แซ่บไม่แซ่บบอกกูด้วย”

“ไอสลัด หยุด!”

“ฮ่าๆๆ ..กูล้อเล่น แล้วทำไมวะ” อ๋องหัวเราะก่อนจะเอ่ยถามต่อ

“คือประเด็นกูต้องไปหัวหินกับเค้าอ่ะดิ แล้วพรุ่งนี้ออกตีสี่”

“แล้ว .... ทำไม”

“กูต้องไปนอนกับเค้าคืนนี้”

“ก็ไม่เห็นจะยากอะไร มึงก็ตอบตกลงไปดิ แต่อย่าลืมเอาถุงยางไปด้วย”

“ไอสัส .. นี่กูจริงจัง”

“ก็ใครว่ากูไม่จริงจังหละ......    .. มึงฟังกูนะ” อ๋องเอ่ยประโยคที่มักจะพูดกับเพื่อนสนิทเสมอๆ “..มึงฟังกูนะ” .. ก่อนจะว่าต่อ

“มึงตอบกูนะไอมังกือ ..อนาคตกับเรื่องคิดเล็กคิดน้อยบ้าบอสารพันห่าเหวของมึง ..อะไรสำคัญกว่า”

“อนาคต” มังกรตอบด้วยความรวดเร็ว

“เออจบ ..ถ้ามึงไม่หลวมตัวหลวมใจ กูสาบานได้ว่าเค้าไม่ปล้ำมึง ...”

“หรอวะ”

“ปรบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกเพื่อน” อ๋องว่าด้วยน้ำเสียงหอบแฮ่กบนลู่วิ่ง

“งั้นกูวิ่งต่อละนะ ไปๆเหอะมึง โอกาสมันไม่ได้เข้ามาในชีวิตบ่อย อะไรคว้าได้ก็รีบคว้าเหอะ มึงอย่าเอาเรื่องความกลัวเล็กๆของมึงมาบังอนาคตตัวเองดิวะ กูวิ่งละ”

ตู้ดดดดดดดดดดดด

อ๋องวางโทรศัพท์ตัดบทลงทันที ทิ้งให้ปลายสายอีกฝ่ายหน้าเหวออย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกเล็กอีกครั้ง แล้วตัดสินใจเดินกลับเข้าไปยังห้องทำงานของบอสพสุธาทันที

“””””””””””””””””


“””””

“เป็นยังไงบ้างครับ ไปห้องน้ำพอจะได้คำตอบมั้ย” พสุธาว่าแกมหยอก ขณะที่มือยังขับเคลื่อนไปกับตัวเลขบนสมุดบัญชีเล่มใหญ่

คนร่างเล็กกว่าเดินย่างกรายมายังโต๊ะทำงานของเขาช้าๆ ก่อนจะหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ แล้วเอ่ยตอบทันทีด้วยน้ำเสียงฟังดูช่วยไม่ได้

“ตกลงครับ”



“”””””””””””””””””””””””””””

จากไรเตอร์ .... อันนี้ไม่มีตอนต่อแน่นอนจริงๆคร้าบ สั้นไปนิดเนาะ ฮุๆ ปล.เมื่อวานสงสัยเล่นกล้ามหนัก อักเสบช่วงบ่าขวาเลย ฮือ สงสัยต้องพักหนึ่งัวนซะละ พรุ่งนี้ค่อยเล่นต่อ ฮึ้บๆ แฮปปี้วันศุกร์น้าคร้าบบบป๋ม
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่6)(10/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 10-07-2015 20:21:25
จิ้มๆๆ
ไม่ทันไร อิบอสชวนเข้าบ้านซะละ หึๆๆ
อยากอ่านตอนหน้าไวๆ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่6)(10/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-07-2015 20:22:06
คนเขียนสู้ๆ
เราว่าอ๋องพูดดีมีเหตุผล. เค้าไม่ปล้ำหรอกนอกจากจะยอมเขาเอง.
ทดสอบเหลี่ยมบอสไปในตัว. เล่นตัวเยอะๆเลยล่ะ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่6)(10/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 10-07-2015 20:29:17
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่6)(10/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 10-07-2015 20:38:18
ยิ่งอ่านยิ่งชอบอ๋องอ่ะถึงจะกวนๆบ้าง
แต่ก็สามารถให้คำปรึกษาที่ดีตลอด
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่6)(10/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 10-07-2015 20:51:17
บอส แกวางแผนอะไรไว้บอกมาเดี๋ยวนี้นะ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่ึ7-50%)(11/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 11-07-2015 09:59:29
บทที่7(ครึ่งแรก)



“เข้ามาเลยครับ” พสุธาเอ่ยพร้อมกับเปิดประตูให้คนร่างสมส่วนพอมีกล้ามอย่างมังกรเดินเข้ามาภายในบ้าน

คนตัวเล็กกว่าอมยิ้มเล็กๆด้วยอารมณ์อึดอัดเล็กน้อย ขณะที่ยอมทำตามคำสั่งของคนร่างใหญ่อย่างว่าง่าย

“เดี๋ยวตามผมเอาของไปวางไว้ที่บนห้องนอนได้เลยนะครับ “ พสุธาเอ่ยบอกมังกรอีกครั้งขณะที่มือยังล็อคกุญแจบ้านอยู่

“ครับ” คำตอบสั้นๆลอยขึ้นมา ก่อนที่เจ้าตัวจะกวาดสายตามองไปยังรอบๆตัวบ้าน

บ้านหลังไม่ใหญ่ไม่เล็กสองชั้น สไตล์เรียบง่ายแต่กลับให้กลิ่นอายของยุคคลาสสิกผสมกับจีนโบราณได้อย่างแนบเนียนและลงตัว ทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่ทิ้งร่องรอยของอารยธรรมจีนสมัยราชวงซ่งเหนือและใต้ แจกันลายครามสีน้ำเงินขาว และรูปมังกรแกะสลักหยก อีกทั้งภาพวาดดอกเหมยที่ติดอยู่ผนัง

เด็กน้อยอมมือในสายตาเจ้านายใหม่ของเขา มองปราดเดียวก็รู้ได้ทันที ว่าฐานะของนายใหม่เขานั้นเป็นระดับมหากาฬและมีอำนาจมากแค่ไหนในวงการธุรกิจ เพียงแค่แจกันลายครามชิ้นเดียวก็ปาเข้าไปเกือบครึ่งล้านแล้ว ไหนจะเฟอร์นิเจอร์หยกชิ้นเล็กชิ้นน้อย

“พ่อกับแม่พี่ ... ไม่อยู่หรอครับ” มังกรเอ่ยถามอย่างไม่ทันได้คิดมากนัก เมื่อเห็นว่าบ้านนี้ค่อนข้างจะเงียบออกไปซักหน่อย

พสุธาส่ายหัวก่อนจะเอ่ยสั้นๆ

“เสียแล้วทั้งสองคนครับ” ....

“เฮ้ย ...เอ่อ ... ผมขอโทษครับพี่”

นี่เป็นอีกครั้งที่เด็กหนุ่มเรียกขานคนตรงหน้าโดยใช้คำว่าพี่ พสุธานึกรู้สึกยินดีมีความสุข แม้ว่าคำถามของเจ้าตัวเล็กในสายตาเขาเวลานี้ จะทำให้ความทรงจำอันเจ็บปวดของเขากลับมาราวกับคลื่นกระทบฝั่ง

“อื้ม ...นานแล้วหละ ..พี่ไม่เป็นไรหรอก”

“ละ..แล้วพี่อยู่กับใครหละครับตอนนี้” มังกรเอ่ยถามต่อ

“พี่อยู่คนเดียวครับ” คลื่นความเศร้าที่สอดแทรกอยู่ภายใต้คำตอบอันเรียบเชียบ ไม่อาจหลุดพ้นจากสัมผัสทางความรู้สึกของมังกรไปได้

“พี่ไม่เหงาหรอ” ...

คำถามของคนตัวเล็กกว่าในเวลานี้เปรียบเสมือนศรที่ถูกฝนบริเวณปลายให้แหลมคมอย่างดี ทิ่มปักลงตรงกลางใจของคนร่างใหญ่อย่างไม่มีรีรอ

แต่กระนั้นก็ตาม พสุธากับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเข้มแข็ง ก่อนจะตอบด้วยเสียงหนักแน่นสมเป็นบุรุษมาดแมน ที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตา ร่างกาย และจิตใจ

“ผมเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตคนเดียวเป็นแล้ว ผมไม่เหงาหรอกครับ”

คนตัวเล็กถึงกับหันสายตากลับมามองคนร่างฟิตทันที ซึ่งขณะที่ได้กำลังขึ้นบันไดนำเขาไปแล้ว .....
...................

“แอ๊ดดด”

ประตูบานสีขาวซึ่งทำจากไม้ถูกเปิดออก

“มีเตียงเดียวนะ” พสุธาเอ่ยสั้นๆก่อนจะชี้นิ้วไปยังเตียงนอนนุ่มใหญ่ เป็นหลักฐานให้มังกรได้เห็นอย่างเต็มตาว่าในห้องนอนของเขามีเพียงแต่เตียงเดี่ยวตัวใหญ่เดียวจริงๆ

ในใจของมังกรนึกประหม่าขึ้นมาทันที เหตุเพราะในเวลานี้มีเพียงเขากับพสุธาที่อยู่ในบ้าน ถ้าเกิดเขาโดนวางยา ..โดนจับมัด ..โดนข่มขืน แล้วเสียพรมจรรย์ .... เด็กฝึกงานเริ่มปรุงแต่งจิตไปต่างๆนาๆอย่างเริ่มที่จะควบคุมตนเองไว้ไม่ได้

“นี่ ...คิดอะไรอยู่”

เสียงเรียกสติกลับมาจากพสุธาทำให้มังกรสะดุ้งจากภวังค์ชั่ววูบ

“ปะ..เปล่าครับ” มังกรปฏิเสธอย่างไม่แนบเนียนนัก เสียงแข็งๆของเขาทำให้พสุธาจับพิรุธได้

“ไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่ทำอะไรคุณแน่ ... มีหมอนข้างอยู่ เดี๋ยวเอาไว้กั้นก็ได้ ....แล้วก็ในห้องนอนมีห้องน้ำอยู่แล้ว ตามสบายเลยนะครับ คอมพิวเตอร์ ทีวี ถ้าอยากเล่นเกมก็บอกผม พึ่งซื้อ PS4มา คุณน่าจะเล่นเก่งกว่าผมด้วยแหละ”

พสุธาเกริ่นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องนอนของเขายาวยืด ก่อนจะเดินตรงไปเปิดเครื่องปรับอากาศ แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำทันที

“ผมขออาบน้ำก่อนแล้วกันนะครับ” คนร่างล่ำฟิตเสื้อเชิ้ตเอ่ยพร้อมทั้งมอบรอยยิ้มให้กับเด็กฝึกใหม่ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป

ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศเริ่มเคลื่อนมาแทนที่ไออุ่นของห้องนอนสีเหลี่ยมที่อุ่นครุอยู่เมื่อซักครู่ มังกรทิ้งตัวแผ่ลงนอนบนเตียงนุ่มสีขาวครีมลงในท่าปลาดาวเกยตื้น ก่อนจะถอนหายใจสั้นๆ แล้วมองไปยังเพดานเหนือศีรษะอย่างตาไม่กระพริบ

“คิดถูกเปล่าวะกู”

เด็กหนุ่มเอ่ยพูดกับตัวเองสั้นๆ ก่อนจะยันตัวให้ลุกขึ้นมานั่ง แล้วหยิบรีโมทมากดเปิดทีวีดูรายการช่องต่างๆ

แต่กระนั้นก็ดูเหมือนว่ารายการต่างๆจะไม่สามารถดึงดูดความสนใจของมังกรได้เลยแม้แต่น้อย เขากดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่หมายปลายทางในความบันเทิงอย่างแน่ชัด

เวลานานราวยี่สิบหน้าทีผ่านไปอย่างไร้แก่นสารสำหรับมังกร เขาเริ่มรู้สึกเพลิดเพลินกับการเปลี่ยนช่องรายการต่างๆไปเรื่อยๆ และอัพเดทข่าวสารบันเทิงอย่างผ่านๆตาไปกับทีวีจอแบนขนาดใหญ่ตรงหน้าเพียงช่วงสั้นๆที่ได้กดรีโมทเปลี่ยนช่อง

 แต่ขณะพลันที่คนร่างสมส่วนกำลังเพลิดเพลินกำลังกดเปลี่ยนช่องไปอย่างไร้แก่นสารกับทีวีจอใหญ่แบนตรงหน้าเขานั้น

“”””””

“แอ๊ดดด” เสียงเปิดประตูห้องน้ำก็ได้ดังขึ้น

พสุธาในร่างเปลือยอก เหลือให้เห็นเพียงแต่กางเกงชั้นในรัดรูปสีแดงสด เม็ดน้ำและหยาดวารีที่เกาะอยู่ตามเรือนร่างอันล่ำสันชวนกระสันในห้วงอารมณ์ มีหรือจะไม่ทำให้คนร่างเล็กกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยเวลานี้ เส้นผมสีดำที่เปียกชุ่ม กับผ้าเช็ดตัวผืนขาวที่พาดบ่าปิดหัวนมใสบนหน้าอกข้างขวา ที่ทำให้ผู้ชายผู้เพียบพร้อมกลับดูมี look แมนขึ้นไปอีกขั้น จนเขาน่าจะได้รับตำแหน่งว่ายอดชาย มากกว่าผู้ชายทั่วไปธรรมดา

เจ้าเด็กน้อยอมมือในสายตาของพสุธา ที่เผลอหันหน้าแวบหนึ่งมามองเขาเป็นอันต้องรีบหันใบหน้านวลนั้นหลบสายตากลับไปมองดูทีวีต่อทันที

จากที่นิ้วหัวแม่มือกดเปลี่ยนช่องไปอย่างไม่มีหยุด ครั้งนี้มันกลับหยุดนิ่งได้อย่างที่ไม่การขยับเลยแม้แต่น้อย เด็กน้อยมังกรตอนนี้ยิ่งกลับเหมือนเด็กเข้าไปในสายตาของคนร่างหนา เหตุเพราะรายการที่เขากำลังหยุดมาชมอยู่นั้นก็คือ ...สารคดีสัตว์โลก

 ท่าทางเกร็งๆกรังๆของมังกร มีหรือจะหลุดพ้นสายตาที่มากประสบการณ์อย่างพสุธาไปได้ ..เขารู้ทันทีว่าเจ้าเด็กน้อยตอนนี้กำลังรู้สึกประหม่ากับเรือนร่างของเขา แต่กระนั้นบอสร่างล่ำหุ่นนายแบบคนนี้ก็ยังทำเหมือนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพื่อดูชั้นเชิง

“ชอบดูรายการสารดีสัตว์โลกรึไง”  พสุธาเอ่ยถามเสียงเบา

“คะ...ครับ” คนตัวเล็กกว่าร่างหุ่นนักกีฬาเอ่ยสั้นๆอย่างตะกุกตะกัก

พสุธาอดยิ้มไม่ได้ กับท่าทางและท่าทีที่เขารู้สึกว่ายิ่งมองก็ยิ่งน่ารกของเจ้าเด็กอมมือ

คนร่างสูงใหญ่ค่อยๆบรรจงจับผ้าเช็ดตัว และชูแขนทั้งสองขึ้นไปวางไว้บนศีรษะ ก่อนจะละเลงขยี้เช็ดผมให้แห้งในทันที ซึ่งท่วงท่านี้ก็ได้เผยรอยกล้ามบริเวณช่องท้อง และรอยเว้านูนเล็กๆสองขีดที่เชื่อมไปยังหว่างขา หรือของลับของเขานั่นเอง

คนร่างลีนที่แอบกลับมาชำเลืองมองอีกครั้ง คราวนี้ถึงกับต้องหันหน้าหลบสายตาปานเกียร์เสือชีตาร์ก็ไม่ปาน ใบหน้าสีชมพูอ่อนเริ่มลอยขึ้นประดับแก้มทังสองในทันทีอย่างที่พสุธาก็รู้อย่างแจ่มแจ้ง เหตุเพราะประสบการณ์และชั้นเชิงที่เหนือกว่าเท่าตัว

พสุธายังคงส่งยิ้มให้กับคนที่กำลังพยายามทำหน้าเหมือนว่ากำลังไม่เห็นสิ่งใดอยู่รอบข้าง ก่อนจะเดินทอดกายให้ผ่านสายตาคนร่างเล็กกว่าไปอย่างช้าๆ แสดงให้รูปกายส่วนร่างของเขา ที่แน่นฟิตไปด้วยของที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงชั้นในสีแดงนั้น ให้ประจักษ์เต็มตากับเด็กหนุ่มทันที

สายตาที่กำลังจ้องมองกวางน้อยอยู่ในทีวีของมังกร มีหรือที่จะอดทนได้กับสิ่งเร้าอันแสนเย้ายวน มังกรถึงกับต้องชำเลืองตามองสิ่งนั้นตามไปขณะที่คนร่างสูงใหญ่กำลังเดินไปหยิบไดร์เป่าผมบริเวณลิ้นชักมุมขวาห้อง

“วู้ดดดดดดดดด”

เสียงทำงานจากเครื่องเป่าผมดังขึ้น พสุธายังคงใช้หางตาแอบชำเลืองมองคนที่ทำเป็นมีสมาธิดูทีวีอยู่ ว่ายังสนใจในเรือนร่างของเขาหรือไม่ ..และก็เป็นไปตามดังคาด ...คนร่างเล็กกว่าได้หลงกลไปกับเสน่ห์บนเรือนร่างเขาแล้ว หากแต่เวลานี้กลับรีบถอนสายตาหันกลับไปดูรายการสารคดีเฉกเช่นเดิม ...อย่างไรก็ตามชั้นเชิงของเด็กฝึกหัดอย่างมังกรในเรื่อง      โลกียจักร มีหรือจะสู้เสือผ่านสนามรบมามากโขอย่างพสุธาได้ เขามองออกถึงห้วงอารมณ์ของมังกรทันทีที่ได้เห็นท่าทีของเจ้าเด็กน้อย

ทันทีที่พสุธาจัดการเป่าผมตนเองจนแห้งเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เขาก็จัดการเก็บไดร์เป่าผมนั้นลง ก่อนจะเดินมาและหย่อนตัวนั่งลงข้างๆเด็กฝึกงานใหม่ของเขาอย่างช้าๆ

สีหน้าชมพูอ่อนตอนนี้ได้กลับกลายเป็นแดงระเรื่ออย่างเข้มข้น มือทั้งสองของมังกรกำแน่นอย่างคนเกร็งขมึง คนผิวขาวร่างสมส่วนกำลังสับสนอยู่ว่าตอนนี้ตนเองกำลังต่อสู้กับเรือนร่างของคนข้างๆ หรือต่อสู้กับอารมณ์ของตนเองกันแน่

“ปรบมือข้างเดียว มันไม่ดังหรอกเว่ย” คำพูดของอ๋องลอยกลับขึ้นมาเตือนสติมังกรอีกครั้ง แต่ถึงประโยคนั้นฟังดูแล้วจะพูดแสนง่าย แต่เวลาทำจริงมังกรกลับไม่คิดว่ามันจะยากถึงเพียงนี้ ...โดยเฉพาะกับพสุธา ..

“พี่ครับ ....” มังกรเอ่ยเรียกสั้นๆ

“ว่าไง”

“พะ..พี่ ...ไม่ใส่เสื้อกับกางเกงหรอ” เสียงหละหลวมลอยขึ้น

“เวลานอนปกติไม่ใส่ครับ ...วันนี้เห็นเรามานอนด้วยเลยเกรงใจ ใส่ให้หน่อยซักตัว” พสุธาว่าพลางหัวเราะ

... (โห ..นี่ขนาดเกรงใจกูแล้วนะเนี่ย   ..มังกรนึกในใจ)

บนจอภาพทีวีขนาดใหญ่เวลานี้ กวางน้อยในจอภาพบนทีวีกำลังวิ่งหนีอย่างกระเสือกกระสนจากเงื้อมมือของเสือโคร่งตัวใหญ่ ซึ่งก็ได้ทำเอาทั้งมังกรและพสุธาลุ้นไปพร้อมๆกันในเสี้ยววินาทีลุ้นระทึก(...แต่ไม่ถึงกับต้องช็อก)

แต่แล้ว ....

“พรึ่บบบบบบบบบบบบบบบบบ”

แสงไฟจากทั้งในทีวีจอแบนขนาดใหญ่ และหลอดไฟที่อยู่บนเพดานก็พลันดับลงในทันที บ้านของพสุธาที่ส่องสว่างไปทั้งหลังอยู่เมื่อซักครู่เวลานี้กลับเหลือเพียงแต่ความมือมิดทะมึน

“เฮ้ยยยย พะ...พี่” เสียงสั่นไหวด้วยความหวาดกลัวอย่างที่ใครฟังก็ต้องรู้ได้ทันทีของเจ้าเด็กอมมือ ดังเต็มสองรูหูของพสุธา

“พี่! พะ..พี่ครับ!”

 คนร่างหนานึกแปลกใจว่าเหตุใดคนข้างๆเขาถึงกับต้องร้องเหมือนจะเป็นจะตายเหตุเพราะเพียงแค่ไฟดับ แต่ไม่ทันที่คนร่างหนาจะคิดหาคำตอบได้ทันนั้น มังกรก็โผคว้าตัวเขา และเข้าสวมกอดทันที อย่างที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว

แขนพอมีกล้ามทั้งสองสอดรอดระหว่างด้านข้างของหน้าอกล่ำและวงแขน แล้วจึงกลายเปลี่ยนมาเป็นอ้อมกอดในเวลาเพียงไม่ถึงห้วงนาที คนตัวเล็กในสายตาของคนตัวใหญ่ทิ้งศีรษะซบลงบนหน้าอกนูนล่ำและให้กลิ่นกายแบบผู้ชายของพสุธาอย่างไม่มีรีรอ

“พี่มอคค่า พี่มอคค่า!”คนร่างหนากลับยิ่งรู้สึกแปลกใจเมื่อคนร่างเล็กกว่าเรียกชื่อเล่นเขาออกมาอย่างถล่มทลายโดยทีเขาไม่ได้ขู่เข็ญบังคับเลยแม้แต่น้อย

“ผมกลัว ..... ผมกลัววว”

เสียงของเด็กน้อยที่กำลังสวมกอดคนร่างแน่นบึ้กไว้อย่างรัดหน่วง และซบศีรษะลงบนหว่างอกอันนูนล่ำนั้น ก้องดังไปทั่วห้องนอนสีเหลี่ยมนี้ ปมในอดีตที่เคยมีไว้กับเหตุการณ์ไฟดับค่อยๆผุดลอยขึ้นมาในสมองของมังกรอีกครั้ง พลันกับที่น้ำตาใสๆค่อยๆไหลหยาดลงประกบกับผิวขาวแทนบนหน้าอกของพสุธา

พสุธากลับรู้สึกงุนงงมากกว่าจะรู้สึกมีความสุขและดีใจ เขาจับต้นชนปลายไม่ถูกกับเหตุที่กำลังเกิดขึ้น ..แต่กระนั้น คนร่างใหญ่ก็เลือกที่จะโอบกอดคนตัวเล็กกว่ากลับไป ด้วยห้วงแขนหนาล่ำและเต็มไปด้วยไออุ่นอันอบอวล

.. ไม่เป็นไรนะครับ มังกรของพี่ ..

 ................

“””””””””””””””””””””””””””


หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่7-50%)(11/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 11-07-2015 10:28:05
จิ้มๆๆ
ตอนแรกแอบคิดว่าคงพันผ้าขนหนูออกมาเฉยๆ มั้ง... ปรากฏว่าพี่แกเล่นสลัดผ้าใส่กางเกงในเพียวๆ เฉย! O.,o
โคตรอ่อยอ่ะ 55555
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่7-50%)(11/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 11-07-2015 10:37:59
อยากรู้ปมอดีตของน้องแล้วมาต่อเร็วๆนะค่ะ
รอๆตอนต่อไป :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่7-50%)(11/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 11-07-2015 12:49:00
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่7-50%)(11/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 11-07-2015 14:32:01
 :hao6: :z1: :pighaun: :z1: :hao6:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่7-50%)(11/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-07-2015 14:41:28
 :mew2:   เอ้าๆ. กวางน้อยโผเข้าซบราชสีห์เองเลยน้อ. อยากรู้แล้วว่าทำไมกลัวความมืดแบบนี้. ปกตินอนเปิดไฟปะเนี่ยไม่เห็นเกริ่นมาก่อน
อ่านตอนนี้แล้วเราเข้าใจว่ารีบพิมพ์เพราะที่พิมพ์เอาไว้ตอนแรกมันหายวับ. ก็เลยแลดูรีบๆ
ขอติสักหน่อยเรื่องการบรรยายเกี่ยวกับบ้านนะคะ. ความจริงจะเน้นพูดถึงความใหญ่โตและพื้นที่โดยรอบมากกว่านี้ก็ได้นะคะ
แทนที่จะโฟกัสความหรูหราของเฟอร์นิเจอร์และของเก่าแต่เพียงอย่างเดียว
เดาว่าบ้านใหญ่พอดูและมีสองชั้นแต่กลับมีห้องนอนเดียวเตียงเดียว
การที่บอสออกมาด้วยกกนแบบรัดรูปตัวเดียวมันส่อเจตนามากๆเลยค่ะว่าจะทดสอบน้องมังกร คือพี่ตั้งใจจะเคลมลูกน้องตัวเองให้ได้เลยเนาะโดยการหลอกล่อให้อีกฝ่ายตกหลุมตัวเองก่อน เห็นว่าเรื่องจูบผ่านไปชิวๆเลยได้ใจเหรอไง
 ถ้าบอลเลือกบ็อกเซอร์ขาสั้นตัวเดียวใส่นอนก็จะไม่คิดแบบนั้นค่ะเพราะมันจะใส่นอนสบายกว่ากันเยอะ

อีกอย่างเราเห็นว่าสรรพนามร่างลีนร่างฟิตร่างสมส่วนอกล่ำอะไรพวกนี้มันมากไปค่ะ. เจอหลายจุดและบ่อยไป

จากบุคลิกตัวละครช่วงแรกๆก็บอกชัดแล้วว่ารูปร่างของพระนายแตกต่างกันประมาณไหนแต่นี่เน้นเกินไปค่ะจนเฝือ
ต่อมาคือคำว่าเด็กอมมือ. น้องมังกรเรียนจบมหาวิยาลัยแล้วไม่เหมาะกับคำนี้นะตามความเห็นของเรา. ถ้าน้องดูอ่อนต่อโลก เด็กกะโปโลหรือเด็กหนุ่มก็พอไหว เด็กอมมือมันแบบว่า อารมณ์เด็กสิบขวบที่ไม่รู้จักเซ็กส์ด้วยซ้ำไปอะ
ขอบคุณที่พิจารณาและรับฟังจ้ะ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่7-50%)(11/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 11-07-2015 14:47:15
มีปมกับความมืดงั้นหรอ :hao5:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่7-50%)(11/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 11-07-2015 16:11:16
ขอบคุณคอมเมนท์คุณ 月亮 มากเลยนะครับ จะรับฟังและปรับปรุงแน่นอนฮ้ะ อาจจะรีบๆพิมพ์ตอนนี้ไปหน่อย แฮะๆ แต่ที่ว่ามังกรจบแล้ว อันนี้ผมเขียนไว้ช่วงแรกนะครับว่าพึ่งจบปีสามเทอมหนึ่ง .... หรือเกิดข้อผิดพลาดตรงไหนเปล่าหว่า ยังไงเดี๋ยวจะรีบลองตรวจสอบเนื้อหาดูนะครับ ขอบคุณอีกครั้งฮ้ะ ^^
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่7-50%)(11/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-07-2015 16:15:32
ขอบคุณคอมเมนท์คุณ 月亮 มากเลยนะครับ จะรับฟังและปรับปรุงแน่นอนฮ้ะ อาจจะรีบๆพิมพ์ตอนนี้ไปหน่อย แฮะๆ แต่ที่ว่ามังกรจบแล้ว อันนี้ผมเขียนไว้ช่วงแรกนะครับว่าพึ่งจบปีสามเทอมหนึ่ง .... หรือเกิดข้อผิดพลาดตรงไหนเปล่าหว่า ยังไงเดี๋ยวจะรีบลองตรวจสอบเนื้อหาดูนะครับ ขอบคุณอีกครั้งฮ้ะ ^^

หุหุ เราอ่านไม่ละเอียดเองจ้านึกว่าน้องเรียนใกล้จบแล้ว.
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่7-50%)(11/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: luzileas ที่ 14-07-2015 21:16:10
น่าจะลดสรรพนามที่ใช้เรียกนะ  เยอะมาก ไหนร่างเล็ก ร่างลีน ร่างสมส่วน  ร่างสูง  หลายร่างเลยคะ เยอะเกินคะ  ใช้เป็นชื่อตัวละครเลยน่าจะดีกว่านะคะ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่7-ต่อ(ตอนจบ))(17/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 17-07-2015 11:23:06
บทที่ 7 (ตอนจบ)

“พี่มอคค่า ...พี่!ไฟ ...เปิดไฟเดี่ยวนี้! พี่ไม่พอใจอะไรก็บอกผมดิ! พี่อย่าแกล้งผมอย่างนี้!” มังกรโวยวายใหญ่อย่างเริ่มตีโพยตีพาย ขณะที่ยังกอดพสุธาไว้แน่นมือ

“เฮ้ยเดี๋ยวๆ ...พี่ไม่ได้แกล้งนะ”

“ไม่รู้ ผมไม่รู้ พี่จะแกล้งไม่แกล้งพี่ต้องเปิดไฟ”

“ใจเย็นนะครับ ..ใจเย็น ...ตู้สำรองไฟมันคงจะชื้นหนะ ..ช่วงนี้เป็นบ่อย พี่ว่าจะซ่อมตั้งหลายทีแล้วก็ไม่ได้ซ่อมซักที”

“พี่ซ่อมตอนนี้ ไปซ่อม” เด็กหนุ่มยังคงโวยวายเหมือนไม่ค่อยจะฟังคำอธิบายของพสุธานัก

“เดี๋ยวสิ .. จะซ่อมก็ต้องให้ช่างมาซ่อม พี่ไม่มีปัญญาซ่อมหรอก ..แต่อันนี้แค่ไปสับสวิตช์ให้มันขึ้นไฟก็มาแล้ว”

“งั้นพี่ก็ไปสิ” มังกรยังคงตีโพยตีพายไม่ฟังคำของพสุธา

แต่แทนที่พสุธาจะโมโหมังกร ที่กล้าหือมาออกคำสั่งกับเขาทั้งๆที่อยู่ในฐานะแค่เด็กฝึกงาน พสุธากลับรู้สึกมีความสุข และรู้สึกถึงความไร้เดียงสาของคนที่กำลังกอดเขาไว้แน่นอยู่

“แต่....” พสุธาเอ่ยสั้นๆ

“แต่อะไร”

“จะให้พี่ลุกยังไงหละมังกร ..เรากอดพี่ไว้แน่นขนาดนี้”

มังกรได้สติขึ้นทันทีกับประโยคแหย่เล่นของพสุธา เขาลืมตาเผชิญกับความมืดอย่าฝืนใจ ก่อนจะค่อยๆปล่อยมือที่เริ่มสั่นเทาออกจากแผ่นหลังหนาของบอสพสุธา

“เดี๋ยวพี่มานะ แป๊บเดียว” พสุธาเอ่ยสั้นๆก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงนอนเพื่อเดินไปสับสวิตช์ไฟยังชั้นหนึ่งทันที

“ไม่ ไม่!”

แต่แล้วไม่ทันที่พสุธาจะก้าวเดินพ้นออกไปจากขอบประตู มังกรก็ไดคว้าแขนรั้งเขาไว้อีกครั้ง ครั้งนี้มังกรออกแรงบีบมือของพสุธาจนเขารู้สึกเจ็บขึ้นเล็กน้อย

“พะ..พี่ ผมไปด้วยนะ” มังกรเอ่ยเสียงตะกุกตะกักก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง แล้วยืนเกาะบ่าของพสุธาอย่างไร้ซึ่งคำอนุญาตใดๆ แต่กระนั้นพสุธาก็ไม่ได้ฝืนใจกับการกระทำของคนตัวเล็กในเวลานี้

“ได้สิ ...เดินระวังๆนะ” พสุธาว่าก่อนจะเดินนำคนที่เกาะหลังเขาไว้อยู่ ไปยังตู้สวิตช์ไฟชั้นหนึ่งทันที

ระหว่างทางจากชั้นสองมายังชั้นหนึ่ง ช่างดูยาวไกลสำหรับมังกรเสียเหลือเกิน เด็กหนุ่มเดินเกาะบ่าของพสุธาไว้แน่น แต่เนื่องจากร่างที่สูงใหญ่กว่าเขาพอตัว ทำให้มังกรต้องลดมือทีจับบ่าลดลงมาเหลือเพียงบริเวณเอวที่อยู่เลยกางเกงชั้นในสีแดงมาไม่มากนัก

พสุธาส่งยิ้มให้กับความมืดขึ้นมาทันที เวลานี้ความมืดแม้จะเป็นศัตรูกับเด็กที่เกาะเอวเขาอยู่ แต่เขากลับรู้สึกว่าความมืดช่างเป็นมิตรกับเขาเสียนี่กระไร

เส้นทางลงบันไดอาจจะดูลำบากซักหน่อยสำหรับคนที่กำลังปิดตาและเกาะเอวคนข้างหน้าเดินลงมาอย่างทุลักทุเล ... แต่ก็ยังดีที่พอมีเอวหนาๆให้จับเป็นเสาหลัก

แต่แล้ว

“เฮ้ยยยยย”

มังกรร้องเสียงดังขณะที่ก้าวเท้าพลาดข้างซ้ายเหตุเพราะหลับตา ทำให้มองขั้นบันไดไม่ได้

พสุธาไหวตัวทันกับเสียงร้องดังนั่นจึงรีบบิดเอวเอี้ยวตัว กางแขนทั้งสองรอรับคนตัวเล็กกว่าที่ถลาเสียการทรงตัวมาซบเข้าที่อกของเขาเต็มๆ

..ถ้าพสุธาไม่ใช่คนแข็งแรงเวลานี้ เขาคงจะหงายหลังตกบันไดไปนอนกองกับพื้นและเข้าโรงพยาบาลไปแล้ว

“พะ.... พี่ ...พี่มอคค่า”

มังกรเรียกชื่อมอคค่าครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งๆที่ก็อยู่ในอ้อมอก

“พี่อยู่นี่ไงน้อง” มอคค่ากล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

“พะ...พี่ไม่เป็นไรนะ” เสียงรู้สึกผิดปนน้ำตาคลอลอยขึ้นมาท่ามกลางความมืด

“ไม่เป็นไรครับผม” มอคค่ายิ้มให้คนที่ยังคงหลับตาอยู่ ก่อนจะลูบศีรษะของเจ้าตัวไปมาอีกครั้ง

มังกรฝืนยิ้มทั้งๆที่หลับตาอยู่ ก่อนจะพยักหน้าให้สองสามที

“ป๊ะ ..งั้นไปกันต่อเหอะ ..จับเอวพี่ไว้แน่นๆหละ”

มอคค่าว่าขณะที่เอื้อมมือไปจับแขนของมังกร ให้เคลื่อนมาจับเอวของเขาไว้ แล้วหันหลังเดินไปยังชั้นหนึ่งอย่างลดความเร็วลง และระมัดระวังมากขึ้น

.............................

..........

ตึ้งงงง! เสียงสับสวิตช์ไฟดังขึ้นก่อนที่แสงสว่างภายในตัวบ้านจะกลับมาส่องแสงอีกครั้ง

“สว่างแล้ว เห็นมั้ย” พสุธากล่าวสั้นๆขณะที่หันกลับมามองใบหน้าของมังกร ที่กำลังยืนเกาะบ่าเขาไว้อยู่

น้ำตาที่ปริ่มเล็กๆข้างขอบตาของมังกร กับสีหน้าที่กำลังดูเหมือนคนขี้แยยิ่งกลับทำให้เขารู้สึกอยากคบกัดและหมันเขี้ยวคนตรงหน้าเข้าไปมากกว่าเก่า เหตุเพราะความน่ารักที่ตรงสเปคเขาซะเหลือเกิน

มังกรพยักหน้าให้พสุธาสองที ก่อนจะนิ่วหน้าหันกลับไป แล้วเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองทันที ...พสุธาได้แต่ยืนอึ้งทะมึนก่อนจะเอ่ยสบถกับตัวเองสั้นๆ

“นี่ใครเจ้าของบ้านกันแน่วะเนี่ย” ......

..............

ไม่นานนักคนร่างสูงก็เดินเข้ามายังห้องนอน ตามเด็กหนุ่มมาติดๆ มังกรที่อยู่ในท่านั่งคดตัวกับผ้าห่มผืนหนาบนเตียงนอน กำลังดูทีวีช่องเดิมอยู่ ท่าทางของเขายังดูปกติ เพียงแต่สีหน้ากลับมีอาการผวาขึ้นมา จนพสุธาอดสงสัยไม่ได้

“มังกร ... โอเครึเปล่า”

มังกรหันมาพยักหน้าให้พสุธาหนึ่งครึ่งก่อนจะเบนสายตากลับไปมองยังหน้าจอโทรทัศน์ต่อ แววตาที่ยังคงแอบซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ภายใต้หยาดน้ำใสเยิ้มที่เริ่มจะเจือจางลงไปบ้างแล้ว ไม่อาจะหลุดพ้นจากสายตาของพสุธาไปได้

พสุธาเดินเข้าไปหามังกร ก่อนจะขึ้นไปยังเตียงนอนแล้วนั่งเคียงข้าง เด็กหนุ่มยังคงทำเป็นเหมือนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา เขาเพียงแต่ยิ้มเล็กๆให้กับหน้าจอโทรทัศน์เท่านั้น

“เมื่อกี้มังกรเป็นอะไร” พสุธาเอ่ยถามสั้นๆ

“ไม่มีอะไรหรอกครับ” ..

“จริงหรอ”

“อื้ม”

“ไม่อยากบอกพี่จริงหรอ” พสุธาถามย้ำอีกรอบ

“ผะ..ผม” คนตัวเล็กกว่าอ้ำๆอึ้งเหมือนโลเล

“ไม่เป็นไรครับ ... ไว้ถ้าวันไหนเราพร้อมอยากบอกพี่ ก็ค่อยบอกวันนั้น ดีมั้ย”

พสุธาว่าขณะที่เคลื่อนมือซ้ายขึ้นมาวางไว้ที่ผมสีดำหนานุ่มบนศีรษะขอมังกร คนตัวเล็กกว่ารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและปลอดภัยเมื่อมือหนานั่นวางลงบนศีรษะของเขา

มังกรยังคงไม่เคยคำอธิบายใดๆถึงเรื่องราวในอดีตที่ทำให้เขากลัวการไฟดับขนาดนี้ เขาไม่ได้กลัวว่าพสุธาจะรู้ความลับของเขา แต่กลัวว่าถ้าหากเล่าไปแล้ว ภาพวันวานในความทรงจำอันหลอกหลอนของเขาจะยิ่งชัดเจนขึ้นในสมอง

............

.....

มือซ้ายของพสุธาเริ่มขับเคลื่อนไปมาบนเส้มผมหอมนุ่มของมังกรอย่างช้าๆ จนทำให้คนที่ถูกลูบศีรษะทนไม่ได้ที่จะรู้สึกเคลิบเคลิ้ม รายการช่องโทรทัศน์เวลานี้ถูกเปลี่ยนเป็นซีรี่ย์ไต้หวัน อย่างที่พสุธาและมังกรชอบดูไม่ต่างกัน จนเนื้อเรื่องดำเนินมาถึงฉากที่พระเออกจูบกับนางเอง ...คนทั้งสองก็คลี่ยิ้มออกมาราวกับว่าตนเองได้เป็นพระเอกและนางเองในซีรี่ยส์

มือซ้ายไกล่เกลี่ยเส้นผมนั้นอย่างนุ่มนวลมากขึ้น ไปพร้อมๆกับไหล่ซ้ายของพสุธาที่โอนเข้าหาคนตัวเล็กกว่า

เด็กหนุ่มมังกรกลับยอมอ่อนน้อมแก่เขาโดยดี เขายอมโอนเอนไหล่ข้างขวาให้ชนกับกล้ามเนื้อแขนของพสุธา ร่างหนาๆของคนตรงข้างยิ่งทำให้มังกรรู้สึกเคลิบเคลิ้ม และแอบยอมใจให้ไปแล้วในคืนนี้ส่วนหนึ่ง ...

 เวลาผ่านไปอีกครู่หนึ่ง หลังจากที่พสุธาเห็นว่ามังกรมีสีหน้าปกติแล้ว เขากลับรู้สึกลุ้นขึ้นมาข้างในใจ ว่ามังกรจะกลับกลายเป็นเด็กคนเดิมที่คอยจะต่อต้านเขาอย่างเนืองๆ แต่กลับกลาย เขาสัมผัสไม่ได้เลยแม้แต่น้อยถึงออร่าต่อต้าน

พสุธาค่อยๆลดมือที่ลูบศีรษะคนตัวเล็กกว่าไปมา เคลื่อนเลื้อยลงมาจนถึงบริเวณสะโพก แล้วจึงค่อยๆโอบกอดเอวของคนตัวเล็กไว้ดึงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขา

ไม่มีเสียงเอะอะโวยวายแม้แต่น้อยที่ลอยจากปากของคนตัวเล็ก ตรงกันข้าม มังกรกลับใช้มือคว้าจับแขนของพสุธาไว้แน่นก่อนจะดึงแขนทั้งสองของพสุธาให้สวมกอดเขาแน่นขึ้น

คนเจ้าระเบียบนึกแปลกใจว่าเหตุใดเจ้าเด็กฝึกใหม่ของเขาถึงมีท่าทีเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ หรือว่าจะยังกลัวเหตุการณ์ไฟดับเมื่อซักครู่อยู่ แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะเวลานี้เขาช่างมีความสุขเอาซะเหลือเกิน

 
“”””””””””””””””””””””””””


คนเขียนเมาท์มอย:โทษทีนะครับหายไปนาน แถมมาซะสั้นเลย จะชดเชยให้ในบทที่8นะ คือเขียนแยกลงทีละครึ่งเลยอ่ะนะ เลยรู้สึกทำให้สั้น ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ช่วงนี้วุ่นมากๆ  ไม่ค่อยได้แต่งเลย ยังไงจะรีบมาลงนะครับ ขอบคุณทุกคอมเมนท์ที่ผ่านมามากๆครับ บทที่7ผมปรับเรียบร้อยแล้วเด้อ ^^ ยินดีรับฟังทุกความเห็นเหมือนเดิมคร้าบ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่7-ตอนต่อ(ตอนจบ))(17/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 17-07-2015 12:24:08
จิ้มมม
ฉากหวานๆ นี่มันอัลไล 5555555
อิมังกรมันอ่อยนี่ หึหึ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่7-ตอนต่อ(ตอนจบ))(17/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-07-2015 15:42:08
 :o8:    พี่มอคค่าเนียนตลอดๆจ้า
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่7-ตอนต่อ(ตอนจบ))(17/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 17-07-2015 16:13:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่7-ตอนต่อ(ตอนจบ))(17/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 21-07-2015 22:30:57
รอๆๆๆครับ :katai5:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่7-ตอนต่อ(ตอนจบ))(17/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 22-07-2015 17:12:17
ค้างงงงง รอๆๆๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่8-ตอน1)(25/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 25-07-2015 11:38:36
บทที่8(ตอน1)

แสงอาทิตย์อันอิดโรยยามบ่าย สาดส่องกระทบผืนทรายสีน้ำตาลขาวที่อยู่เคียงข้างน้ำทะเลสีใสส่องแสงกระพริบสว่างสะท้อนเป็นประกาย มีผู้คนอยู่บ้างที่กำลังเดินทอดน่องเตร็ดเตร่อยู่ริมชายทะเล บ้างก็กำลังสนุกสนานกับการเล่นน้ำทะเลราวกับว่าสนุกจนลืมเวลา

ภายใต้ชั้นล่างของคอนโดสุดหรูที่ติดกับชายหาด พสุธาในชุดกางเกงกีฬา Adidas สีน้ำเงินเข้ม และเปลือยอกอยู่ด้านบน กำลังยืนยิ้มรับลมทะเลอยู่ เขายิ้มเล็กๆให้กับภาพสะท้อนบางอย่างจากผืนน้ำก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เพื่อเช็คline ว่ามังกรได้ลงมาจากคอนโดของเขารึยัง

แต่แล้วขณะที่เขากำลังจ้องมองโทรศัพท์ รอการตอบกลับจากเด็กหนุ่มมังกรนั้น เสียงเรือกชื่อเขาก็ดังมาจากด้านหลัง

“พี่ .. ผมเสร็จแล้ว”

มังกรในชุดเสื้อยืดสีขาวธรรมดากับกางเกงบอลสีดำเดินวิ่งออกมาจากลิฟท์ ตรงมาหาพสุธาด้วยรอยยิ้มกว้างจนเผยให้เห็นฟันแทบจะครบทุกซี่

“ทำไมลงมาช้าจังหละครับ” พสุธากล่าวนุ่มๆ smoothไปตามบรรยากาศอันเย็นสบาย

“ขอโทษฮ้ะพี่ ..ท้องเสียนิดหน่อยหนะครับ”

“โห ..มากับพี่ก็ท้องเสียเลยรึไง”

“เอ๊า ..ก็มันคุมได้ที่ไหนหละครับ ของอย่างนี้”

พสุธาขำเล็กๆให้กับใบหน้าอันไร้เดียงสาของมังกร ก่อนจะเบนหน้าหันกลับไปมองยังผืนน้ำทะเลที่ส่องประกายอีกครั้ง

เขาปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกบางอย่างแทรกกลางระหว่างเขากับมังกรเวลานี้ จนแทบจะลืมไปว่ามีคนข้างๆมายืนเคียงคู่อยู่ด้วย สายตาเหม่อลอยที่กำลังโหยหาอดีตและความหลังไม่อาจหลุดพ้นไปจากแววตาอันหลักแหลมของมังกรไปได้ แต่กระนั้นคนตัวเล็กก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร นอกซะจากยืนอยู่เฉยๆให้คนร่างสูงได้ปล่อยอารมณ์ไปกับหาดทรายขาวและทะเลสีคราม

กำแพงกั้นระหว่างคนสองคนเริ่มค่อยๆจางหายไปตามเวลาที่ได้ใช้ร่วมกัน คำว่าผมกับคุณเริ่มค่อยๆเลือนรางไปตามเข็มวินาทีที่หมุนไปอย่างช้าๆ ไออุ่นเย็นสบายจากริมชายทะเลกลับทำให้ความรู้สึกอันหนาตึงของคนสองคนคลายลงจนแทบจะไม่เหลืออาการหน่วงภายในใจ

หลังจากที่พสุธาได้ยืนปล่อยอารมณ์อยู่ครู่หนึ่งโดยมีมังกรเป็นผู้ยืนเฝ้าคอยรอเขาจะกลับมาสู่โลกความเป็นจริง  ..พสุธาก็เป็นฝ่ายเอ่ยพูดกับมังกรก่อน

“แดดยังร้อนอยู่เลยเนาะ”

“ครับ”  มังกรเอ่ยตอบสั้นๆก่อนจะถามคำถามต่อไปตามประสาคนขี้สงสัย

“เมื่อกี้พี่คิดอะไรอยู่”

พสุธานึกมีความสุขเล็กๆขึ้นมาในใจ เหตุเพราะเจ้าคนตัวเล็กกว่าเริ่มที่จะใช้สรรพนามคำว่าพี่เรียกเขา แทนคำว่าคุณ

 “เปล่า ... แค่นึกถึงเมื่อก่อนนิดหน่อย”

“เมื่อก่อน?”

มังกรเริ่มนึกถึงใบหน้าของเด็กผู้ชายที่อยู่ในอัลบั้มภาพของพสุธา ความรู้สึกสงสัยเริ่มกลับมาวิ่งวนถามหาในวังวน แต่ลึกๆกลับนึกแปลกใจว่าเหตุใดตนจึงนึกหึงหวงขึ้นมาเล็กๆ

“เมื่อก่อนไหนหรอ .. พี่เล่าให้ผมฟังหน่อย” มังกรเอ่ยถามพสุธาอย่างไม่ทันได้คิดมากนัก

พสุธาหลับตาลงอย่างช้าๆก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างให้กับภาพท้องทะเลที่อยู่ตรงหน้า เขาเลือกที่จะเปิดเผย และบอกทุกสิ่งทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมากับมังกร เพราะก็ไม่มีเหตุผลใดที่จำเป็นจะต้องปิดบังเด็กฝึกงานใหม่ของเขา

“สล็อต ... แฟนเก่าของพี่หนะ”

แต่แล้วคำตอบสั้นๆกลับทำให้คนตัวเล็กกว่ากลับเสียศูนย์ในใจกลางความรู้สึกเล็กน้อย

“สล็อต ..งั้นหรอพี่”

“อื้ม ..” พสุธาว่าเสียงลอยๆ

“เคยเล่นกันตรงนั้น” คนร่างหนาว่าพลางชี้นิ้วไปที่หาดทรายริมขอบทะเลกว้าง

สีหน้าของพสุธากลายเปลี่ยนเป็นเหม่อลอยมากกว่าเก่า ดวงตาทั้งสองละห้อยฉ้อยลง ริมฝีปากฉ่ำกลับดูไร้ความรู้สึก ใบหน้ากลับดูไร้สีสันและชีวิตชีวา หมดสิ้นบุคลิกของความเป็นผู้นำอย่างสิ้นเชิงเวลานี้ จนมังกรต้องรีบเอ่ยเสียงเรียกสติของบอสใหญ่กลับคืนมา

“.... พี่ ..โอเครึเปล่า” มังกรเอ่ย

พสุธาหลับตาลงอย่างช้าๆก่อนจะพยักหน้าว่าตอบ

“ โอเคครับ”

.....

 “ป๊ะ ...ไปดูงานที่โรงแรมดีกว่า คงมีแขกผู้ใหญ่บางคนมาเริ่มช่วยเตรียมงานแล้วหละ .. แล้วเย็นๆเราค่อยมาเล่นน้ำทะเล ..แล้วกลางคืนค่อยไปงานอีกครั้ง ดีมั้ย” พสุธาถามมังกรอย่างพอเป็นพิธี ซึ่งเด็กหนุ่มก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่านี้คือแพลนที่พสุธาจัดวางไว้ตั้งแต่แรก

“ครับพี่” มังกรพยักหน้า ก่อนพสุธาจะเดินนำไปยังลิฟต์ของคอนโด เพื่อขึ้นไปชั้นบนแต่งตัวเตรียมไปดูงานที่โรมแรมทันที

.....................

........

“””””””””””””””

ใช้เวลาราวชั่วโมงเศษ คนทั้งสองก็ได้มาถึงโรงแรมที่กำลังจะมีการจัดงานต้อนรับผู้จัดการเฉิน จากเซี่ยงไฮ้ ที่จะเดินทางมาร่วมงานในค่ำคืนนี้

โต๊ะรับรองแขกตัวกลมที่ถูกปกคลุมด้วยผ้าผืนสีขาวสะอาดจำนวนหลายตัวถูกจัดวางไว้เป็นที่เรียบร้อย สาวเสิร์ฟและแม่ครัวกำลังเดินกันให้วุ่นชุลหุก ชายหนุ่มแปลกหน้าและหลากวัยล้วนกำลังทำหน้าที่ของตน ทั้งจัดไฟ ติดม่าน หรือแม้กระทั่งปัดกวาดเช็ดถู แต่ละคนดูจะไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะให้ความสนใจการมาเยือนของบอสจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างพสุธามากนัก ..เว้นเสียแต่ชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดเสื้อยืดสีขาวโปร่งแสง และกางเกงยีนส์ขาเดฟใหม่เอี่ยม

“เฮ้ย ..มอคค่า” ชายร่างสูงแต่น้อยกว่ามอคค่าเล็กน้อยเดินเข้ามากล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงเรียกความสนใจ

“มาเร็วจังวะ”

“แวะมาดูนิดหน่อย ...ทำอะไรที่นี่วะพีท” มอคค่าว่า ขณะที่ตบบ่าของพีทตามประสาคนเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่

“กูรับงานเตรียมeventนี้หนะ .. มาตั้งแต่เช้าแล้ว” พีทว่าขณะที่กวาดสายตาไปรอบๆบริเวณดูลูกน้อง  ก่อนจะหยุดเบนสายตามามองมังกรอย่างใครรู่

“แล้วนี่....”

“อ๋อ ..เด็กฝึกงานใหม่ วันนี้พาลองมาออกงานอ่ะ ชื่อมังกร” มอคค่ารีบชิงเอ่ยแนะนำมังกรให้พีทรู้จักก่อนที่พี่จะเอ่ยคำถามอื่นต่อ

“อ๋อครับ สวัสดีครับ มังกร” ผู้ชายหน้าตี๋ ผมทรงสกินเฮดดัดฟันกล่าวสวัสดีคนร่างเล็กกว่า ขณะที่เอื้อมมือขวาไปจับมือ

“สวัสดีครับ” มังกรเอ่ยด้วยน้ำเสียงออกจถ่อมตน ก่อนจะก้มหัวให้เล็กๆขณะที่ยื่นมือกลับไปจับมือทักทายพีท

“แล้วนี่มีใครมาช่วยอีกป๊ะเนี่ย” พสุธาเอ่ยถามเพื่อนสนิทของเขา

“ไม่มีหรอก งานนี้กูรับเหมาอ่ะ แต่เดี๋ยวคนอื่นคงมาเย็นๆ อีกตั้งนานนะเว่ยกว่างานจะเริ่ม”

“เออก็จริง”

“แล้วนี่เดี๋ยวไปไหนต่อวะ” พีทเอ่ยถามพสุธา”

“ไปนอนพักแหละมั้ง .. ว่าจะไปเล่นน้ำทะเลตอนเย็นซักหน่อย ..ไปด้วยกันป๊ะ”

“โหย จะสี่สิบแล้วมึงยังจะเล่นน้ำอีกหรอวะ”

“ก็คิดถึงทะเลนี่หว่า”

“เออๆ” พีทสบถคำใส่พสุธาอย่างรู้ใจเพื่อน ว่าแท้ที่จริงแล้วคิดถึงวิ่งใดอยู่กันแน่

“ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ” พสุธาว่าทีเล่นทีจริง

“จะไปได้ยังไง กูต้องจัดงานเหนี่ย ลูกน้องก็แม่ง มือใหม่มาก ต้องให้กำชับทุกเรื่องเลยหวะ ถ้ากูหายไปแวบนึงถ้าจะเป็นเรื่อง”

“มึงอ่ะ ..ตลอดเลยนะ” พสุธาแกล้งชักสีหน้าใส่พีทเล่นๆ โดยที่มักจะแกล้งทำเล่นใส่เสมอกับเพื่อนสนิทของเขาเวลาที่ไม่ยอมทำตามใจ

“โธ่ ไอคุณชาย ..มึงก็ไปกับน้องมังกรดิ นี่ไงก็มีเพื่อนแล้ว”

“เออๆ ... แล้วที่บ้านมึงเป็นยังไงบ้างวะ”

....

..

พีทและมอคค่าเริ่มเปิดการสนทนาฉันเพื่อน ถามถึงสารทุกข์สุขดิบเหมือนไม่ได้เจอกันมานานเป็นแรมเดือน ทิ้งไว้ให้มังกรต้องยืนฟังเรื่องราวต่างๆที่ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าตัวเลยอยู่นานสองนาน กว่าจะได้มีโอกาสเอ่ยแทรกขึ้นกลางบนสนทนา

“เอ่อพี่ครับ ..ขอโทษนะครับ พอดีผมปวดห้องน้ำ ห้องน้ำอยู่ตรงไหนหรอครับ” คนตัวเล็กพูดแทรกขึ้นกลางบนสนทนาด้วยอาการเกรงอกเกรงใจ

“ตริ๊งๆๆๆๆ” เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของพสุธาดังขึ้น ก่อนจะหยิบโทรศัพท์นั้นขึ้นมาดูว่าใครโทรมาแล้วว่ากับพีทก่อนจะกดรับโทรศัพท์นั่น”

“พีท ..มึงพามังกรไปห้องน้ำหน่อย กูขอคุยธุระแป๊บนึงหวะ”

พสุธาเอ่ยคำสั่งประหนึ่งว่าพีทเป็นเหมือนลูกน้องของเขากรายๆแม้ความจริงจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นก็ตาม คนร่างล่ำผมสกินเฮดจำยอมต้องพยักหน้าน้อมรับคำสั่งอย่างช่วยไม่ได้

“มังกร ..ตามพี่มานะ มันอยู่ลึกหน่อย”

พีทเอ่ยสั้นๆโดยไม่ลืมที่จะส่งรอยยิ้มให้กับคนตัวเล็กกว่าแล้วออกเดินนำไปยังอีกฝั่งของห้องโถงใหญ่ทันที

ระหว่างทางเดินผ่านโถงใหญ่ อาหารหลากหลายทั้งของชาติไทยและฝรั่ง อีกทั้งแถมเอเชียถูกจัดเตรียมไว้อย่างสละสลวยโดยมีฝาชีขนาดใหญ่ครอบไว้ ผู้คนที่เดินสวนกันไปมาออกจะจ้าระหวั่นจนทำให้มังกรต้องคอยเดินหลบไปหลบมาอยู่เรื่อยกว่าจะเดินมาสุดโถง

ทางเชื่อมโถงไปยังรอบบี้ของตัวโรงแรมขนาดใหญ่ ถูกประดับด้วยโคมสุดหรูรูปคริสตัล ยิ่งทำให้คนตัวเล็กรู้สึกว่าตัวลีบขึ้นมาทันทีเมื่ออยู่ในแวดวงของเหล่านักธุรกิจและเซเลบในงาน

แต่ดูเหมือนว่าท่าทางปฏิกิริยาที่มีต่อความหรูหราฟู่ฟ่าของมังกร จะไม่สามารถหลุดพ้นผู้มีประสบการณ์ช่ำชองทั้งเรื่องชีวิตและเรื่องธุรกิจอย่างพีทไปได้ เหตุเพราะความเป็นจริงแล้ว ชั้นเชิงและฐานะของพีทก็แทบจะไม่ได้ต่างอะไรไปจากพสุธาเลยแม้แต่นิดเดียว

....

“นี่น้องมังกร ...ฝึกงานกับมอคค่ามาได้เท่าไหร่แล้วครับเนี่ย” พีทเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสดใส

“ก็ จะสิบวันแล้วหละครับ”

“แสดงว่าน้องต้องเก่งมากๆเลยหละสิ”

“ทำไมหรอครับ?” มังกรนึกสงสัยกับคำชมของพีท

“มอคค่าไม่เคยพาใครมาออกงานเลยนะ ถ้าคนๆนั้นไม่เก่งจริง ตั้งแต่พี่รู้จักกับมันก็มีแค่สามสี่คนแหละ”

“อ๋อ ..ขอบคุณครับพี่”

“แล้วเรียนอยู่ที่ไหนหละ”

“อยู่คณะอักษร มหาวิทยาลัย .......ครับ”

“โหย มิน่าหละ ที่นี่เค้าขลังจริง ...พี่ก็จบจากที่เดียวกับน้องแหละ แต่จบสถาปัตย์นะ” พีทยิ้มอยากภาคภูมิและนึกถึงสมัยวัยที่ตนยังเป็นนิสิตเช่นเดียวกับมังกร

“จริงดิพี่ .. แล้วพี่ทมอคค่าหละครับ ที่เดียวกันรึเปล่า”

“ใช่แล้ว ..แต่มอคค่าจบวิศวะ”

“ฮ้ะ ..อะไรนะพี่! จบวิศวะเนี่ยนะ” มังกรเอ่ยด้วยน้ำเสียงสะดุ้ง

“อื้ม ..ทำไมหรอ” พีททำหน้าสงสัยกับอาการตะลึงของมังกร

“ปะ..เปล่าครับ ผมคิดว่าเค้าจบบริหาร”

มอคค่าหัวเราะเสียงเบาให้กับความไร้เดียงสาของเด็กหนุ่มก่อนจะให้คำอธิบายสั้นๆในเกร็ดของการใช้ชีวิต

“มังกร พี่จะบอกให้นะ คนเราจบมา ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำงานในสายที่ตนจบมาเท่านั้น แต่ถึงจะไปทำงานสายอื่น ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้ใช้ความรู้ที่ตนเองเรียนมา ..ลองไปถามมอคค่าสิ ให้มันอธิบายให้ฟัง พี่ว่ามันน่าจะสอนอะไรเราได้เยอะเลยหละ”

คำพูดของพีทกลับยิ่งทำให้มังกรรู้สึกว่านายใหม่ของเขานั้นเพียบพร้อมไปทั้งความสามารถ หน้าตาและประสบการณ์ เขานึกสงสัยกับการไต่เต้าจนถึงขั้นนี้ได้ของมอคค่า จากเด็กวิศวะ สู่ผู้บริหารระดับชั้นนำของประเทศไทย แถมยังได้ภาษาจีนและภาษาอังกฤษด้วย ..โลกนี้ยังมีอะไรที่เขาต้องเรียนรู้อีกมากจริงๆ ..มังกรคิด

 “ถึงห้องน้ำแล้วครับ .. เดี๋ยวพี่รอข้างนอกแล้วกันนะ” พีทว่าพลางชี้ไปยังป้ายห้องน้ำที่อยู่ตรงหน้า

“ครับพี่ ขอบคุณมากครับ”

............

ห้องน้ำสีขาวนวลที่ถูกประดับด้วยแสงไฟสีเหลืองทำให้เด็กหนุ่มมังกรถึงกับต้องเผยร้อยยิ้มขึ้นทันทีแวบแรกที่ได้เปิดประตู แม้จะเป็นเพียงห้องสุขา แต่ความหรูหราทั้งผนังที่ถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีดำ และการออกแบบในแนวclassic ปนกรีกกรายๆก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เด็กหนุ่มคนนี้ต้องฟินส์ไปกับมัน

มังกรเลือกที่จะเข้าห้องน้ำห้องแรก อย่างไม่ช่างเลือกนัก ...

แต่แล้วขณะที่เขากำลังจะถอดกางเกงเผื่อทำภารกิจส่วนตัวนั้น .. คนร่างเล็กก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงหลุดของห้องน้ำห้องข้างๆวิ่งเข้ามาสู่โสตประสาทเขาจนทำให้เขาต้องขนลุกขึ้นมา

.............

.......

“ คืนนี้ปิดบัญชีพสุธา ”
 .....



 
 
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่8-ตอน1)(25/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 25-07-2015 11:50:43
จิ้มมม
หืม!? เกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย
ค้างงง
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่8-ตอน1)(25/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-07-2015 20:19:38
อ้าวๆ. ตอนท้ายนั่นเสียงใครล่ะ
บอสงานเข้า
บอสคิดถึงแฟนเก่าบ่อยไปปะหมั่นไส้อะ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่8-ตอน1)(25/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 25-07-2015 22:56:47
กลัวใจบอสจิงๆ คิดถึงแต่แพนเก่า

ถ้ายังเป็นไปเรื่อย มังกรคงไม่มีที่ยืนน่ะนะ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่8-ตอน1)(25/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 26-07-2015 10:17:57
จะมีต้องมีเรื่องแน่ๆ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSexxx(บทที่8-ตอน1)(25/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 26-07-2015 10:31:50
จะมีเรื่องอะไรรึป่าววววว มาต่อไวๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่8-ตอนจบ-มือปืนคืนงานประชุม)(27/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 27-07-2015 14:50:15
บทที่8 ตอนจบ (มือปืนคืนงานประชุม1)

มังกร


“คืนนี้ปิดบัญชีพสุธา!”

นี่ผมหูไม่ฝาดใช่มั้ยครับ กะจะมาผ่อนเบาในห้องน้ำซักหน่อย ดันมาได้ยินประโยคนี้เป็นอันต้องหดกันเลยทีเดียว ...นี่กรูหูฟาดเปล่าวะเนี่ย ..ผมพยายามหลอกตัวเองคิดว่าเสียงเมื่อซักครู่เป็นลมปากผ่านหูธรรมดาๆ เลยตั้งใจเงี่ยหูติดชิดกำแพงกั้นห้องน้ำฟังใหม่อีกครั้ง หวังลึกๆในใจว่ามันจะเป็นความเข้าใจผิดของผมเอง
....
“ครับเสี่ย .. ไม่พลาดแน่นอนครับ .....    สามคนเกินพอแล้วหละครับ ... ครับ .... สวัสดีครับ”

แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ผมฟังมาเมื่อซักครู่จะไม่มีผิดเพี้ยนไปเลยแม้แต่น้อย ผมรีบทำธุระส่วนตัวให้เสร็จในทันทีก่อนจะรีบเดินออกมาจากห้องน้ำโดยที่ทำเป็นเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ ..แต่พอผมออกมาจากห้องน้ำแล้ว ..ประตูของห้องข้างๆก็ถูกเปิดอ้าออก  ไม่เห็นแม้แต่เงาของเจ้าของเสียงอีก

.......

ผมรีบเดินออกมาเพื่อตามหาตัวพี่พีท ในใจยังมีความโลเลอยู่พอสมควรว่าจะบอกสิ่งที่ได้ยินมาให้พี่พีทฟังดีมั้ย ผมร้อนใจมากเวลานี้ แต่ผมก็พึ่งรู้จักกับพี่พีทแค่ครั้งแรก ผมจะไว้ใจได้อย่างไร แล้วข้อความนั้นเป็นจริงเท็จอย่างไรผมก็ไม่ทราบ

ความโลเลของผมดูท่าจะไม่มีประโยชน์อะไร เมื่อในที่สุดพี่พีทกลับหายไปจากจุดที่บอกจะยืนรอผม  ..อ่าวกรรมละครับ หายไปแบบนี้ .. งั้นตอนนี้เท่าที่ทำได้ก็คงต้องวิ่งไปหาพี่มอคค่าให้เร็วที่สุดแล้วเรา ..ผมคิด

ผมรีบวิ่งกลับไปยังทางเก่าสู่บริเวณที่จัดงานทันทีเพื่อตามหาพี่มอคค่า แล้วบอกสิ่งที่ได้ยินมาให้พี่มอคค่าไหวตัวทัน

ผมไม่รู้ว่าเรื่องราวชีวิตของพี่มอคค่า ว่าไปสร้างศัตรูอะไรไว้ยังไงกับใครเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆการเป็นนักธุรกิจแนวหน้าและอยู่ที่สูง ก็เป็นธรรมดาที่จะเป็นเป้าหมายที่ถูกเล็งไว้ของศัตรูคู่แข่ง มันเป็นธรรมชาติของวงการธุรกิจและโลกมาเฟีย

แต่แล้ว ... ไม่อยู่!

เหล่าแม่ครัวยังคงเดินกันให้วุ่นอลหม่าน ฝ่ายผู้ชายที่ทำหน้าที่ยกของก็ยังทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง ทั้งฝ่ายแสงสีเสียง และฝ่ายจัดฉากบนเวทีล้วนเริ่มแสตนบายกันอย่างเพียบพร้อม ..แต่พี่พีทกับพี่มอคค่าหายไปไหนกัน

ผมตัดสินใจโทรศํพท์หาพี่มอคค่าทันที แต่ปลายสายก็ไม่ยอมรับสายแม้แต่ครั้งเดียว ..ในใจผมเริ่มไม่สงบ กลัวว่าคำพูดที่ได้ยินมาเมื่อซักครู่จะกลายเป็นจริง ถึงจะรู้จักกันได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน แต่ผมก็ยอมรับว่าความสัมพันธ์ที่ผมกับพี่มอคค่ามีให้กันเวลานี้ ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง และรู้สึกรับไม่ได้ถ้าหากเหตุการณ์น่าหวาดเสียวนั้นจะเกิดขึ้นจริง

ขณะที่ผมกำลังร้อนใจเพราะโทรหาพี่มอคค่าไม่ได้ กุ๊กคนหนึ่งที่กำลังถือถาดข้าวผัดขนาดใหญ่ก็เดินผ่านหน้าผม ผมรีบสะกิดพี่ชายคนนี้แล้วถามถึงพี่มอคค่าอย่างไม่โลเลทันที

“พี่กุ๊กครับ ...”

“ว่าไงครับน้อง”

“พี่พอเห็นผู้จัดการพสุธามั้ยหรอครับ”

“อ๋อ” พี่กุ๊กทำสีหน้าอ๋อเหมือนรู้ดีว่าพี่มอคค่าไปไหน

“เมื่อกี้เหมือนว่าจะมีเลขาของผู้จัดการหลี่มาหนะ ผมเห็นคุณพสุธากับคุณเมธีดูรีบๆเหมือนจะขึ้นไปชั้นบนของโรงแรม .. ถ้าจำไม่ผิดก็คงชั้นสามแหละมั้งครับ”

ทันทีที่พี่กุ๊กว่าเสร็จผมก็รีบกล่าวขอบคุณ แล้วเดินเร็วไปยังบริเวณลิฟท์ของโรงแรมทันที เพื่อจะได้ขึ้นไปชั้นสองของตัวโรงแรมหาพี่มอคค่า ... ผมเดาว่าคุณเมธี คงจะเป็นชื่อจริงของพี่พีทแหละครับ

ใช้เวลาไม่นานนัก ผมก็ได้วิ่งมาจนถึงหน้าลิฟท์ริมรอบบี้ ลิฟท์ตอนนี้ยังอยู่ที่ชั้นสิบสามอยู่ คงต้องใช้เวลารออีกซักพักกว่าที่ลิฟท์จะลงมา ผมเริ่มเก็บอาการร้อนรนใจไว้ไม่อยู่ เลยต้องระบายออกมาด้วยการเดินไปเดินมา จนในที่สุดมารู้ตัวอีกที ก็เห็นชายชุดสูทหน้าตาหล่อเหลา ไว้เครานิดๆแต่สวมแว่นดำ กางเกงแสล็กสีดำและเข็มขัดติดแบรนด์ รองเท้าหนังสีดำมันวาว มายืนอยู่ข้างหลังของผมแล้ว คำพูดที่ได้ยินในห้องน้ำเมื่อสักครู่ยังคงวิ่งวนไปมาในสมองเหมือนจะไม่หนีหายไปไหน จนผมอดสงสัยในตัวผู้ชายคนนี้ไม่ได้

อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวของชายชุดสูทหน้าหล่อก็พอจะทำให้ผมสงบลงได้ ผมเริ่มไม่เดินไปเดินมาให้วกวน เริ่มเก็บอาการรนรานไว้หวังไม่ให้พิรุธได้เผยออกมา จนในที่สุดลิฟท์ก็ลงมาจอดอยู่ที่ชั้นm

“ตริ๊ง”

เสียงลิฟท์เปิดออก ซึ่งผมก็เป็นฝ่ายที่เข้าในลิฟท์ก่อน แล้วกดปุ่มเปิดรอให้ชายชุดสูทสีดำเข้มเดินเข้าตามมา ระหว่างทางที่เขาเข้าลิฟท์มา ผมก็ไม่ลืมที่จะส่งยิ้มให้ตามมารยามแบบแผนของคนไทย ซึ่งพี่เขาก็มอบรอยยิ้มให้กับผมด้วยเช่นกัน หากแต่ดูแล้วรอยยิ้มหวานนั้นกลับเหมือนถูกฝืนให้ยิ้มอย่างเย็นๆหวิวๆ

ระหว่างที่ลิฟท์ขึ้นไปถึงชั้นบน ไร้ซึ่งบนสนทนาใดๆระหว่างผมกับพี่ชุดสูทเลยแม้แต่ประโยคเดียว ผมรู้สึกเกร็งๆอยู่บ้าง แต่ก็พอจะเก็บอาการอยู่ เลยเอาแต่มองแป้นตัวเลขบนลิฟท์นึกขอให้เวลานี้ผ่านไปให้เร็วที่สุด

พลันนั้นผมกลับรู้สึกได้ว่าในโรงแรมนี้ช่างไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย ถ้าหากคำพูดที่ได้ยินในห้องน้ำเป็นความจริง งั้นพี่มอคค่าก็คงจะมีอันตรายทุกเมื่อ คนร้ายพร้อมจะลงมือได้ทุกที แล้วคนที่แต่งตัวดีๆก็ใช่จะไว้ใจได้ ผมเริ่มสงสัยไปเกือบจะทุกๆคนที่อยู่ในโรงแรมแห่งนี้ ..

“ตริ๊ง”

และแล้วลิฟท์ก็ได้มาจอดอยู่ที่ชั้นสามของโรงแรม ผมเดินออกมาจากตัวลิฟท์โดยที่ไม่ได้สนใจว่าชายชุดสูทนั่นมีปฏิกริยากับผมอย่างใดอีก บริเวณโถงขนาดใหญ่ที่มีทางเชื่อมทั้งด้านซ้ายและขวาถูกปูด้วยพรมสีแดงตามแบบฉบับของโรงแรมสุดหรูนี้ โคมไฟเล็กๆที่ประดิบติดอยู่ตามผนังส่องแสงไฟตามทางจนสุดทางตันของทางเดิน

ผมนึกแปลกใจที่ไม่เห็นแม้แต่พี่พีทหรือพี่มอคค่า ถ้าตามที่พี่กุ๊กบอกก็น่าจะยืนคุยกันอยู่ที่โถง ..หรือเค้าคุยกันอยู่ในห้องลับนะ

แต่แล้วขณะที่ผมกำลังคิดหาคำตอบอยู่คนเดียว เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นจากห้องทางด้านขวา

“แอ๊ดดด”

เสียงพูดคุยทั้งภาษาจีนและภาษาไทยตีกันยกใหญ่ออกมาจากห้องนั้น นักธุรกิจกลุ่มหนึ่งเดินออกมาโดยมีเจ๊ผู้ญิงใส่แว่น หุ่นเปรี้ยวทรวดทรงอรชรเดินนำ ดูปราดเดียวก็รู้ว่าเจ๊คนนี้คงจะเป็นเลขาของผู้จัดการหลี่ ส่วนพี่มอคค่ากับพี่พีทก็อยู่ในกลุ่มวงนักธุรกิจนั้น เลยทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาอย่างสนิทว่าอย่างน้อยพี่มอคค่าก็ไม่ได้เป็นอะไรไป

.....

“อ้าว มังกร พี่ขอโทษๆ”

พี่มอคค่าเรียกชื่อผมขณะที่มอบรอยยิ้มสดใสมาให้ก่อนจะพูดอ่อนน้อมขอตัว แล้วเดินออกมาจากกลุ่มนักธุรกิจนั่น ซึ่งพี่พีทก็เดินตามมาติดๆ

“พี่ขอโทษๆ เมื่อกี้พอดีเลขาของคุณหลี่เค้ามา พี่เลยไม่อยากให้เขารอนานหนะ”

“พี่ขอโทษด้วยนะ เมื่อกี้ ... มอคค่ามันโทรตามเลยรีบมาเลยหนะ” พี่พีทเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด ซึ่งผมเดาว่าพี่เขาคงจะรู้สึกผิดที่ทิ้งผมไว้ในห้องน้ำ ก่อนจะทำท่าเกาหัวยิกๆไปมา

“คร้าบผม ไม่เป็นไรครับพี่”

“อ้อ มานี่สิ เดี๋ยวพี่แนะนำให้รู้จักกับเลขา” พี่มอคค่าพูดต่อทันทีหลังจากที่ผมบอกไม่เป็นไรกับพี่พีท

ก่อนจะส่งยิ้มให้ผมอีกครั้ง แล้วคว้าข้อมือของผมจูงเดินไปหาเลขาสาวสวยร่างเปรี้ยวนั้นทันที โดยที่เจ๊แกก็ยิ้มทักทายให้ผมเช่นกัน

ผมหละร้อนใจ อยากจะดึงตัวพี่มอคค่ามาพูดกันสองต่อสองซะเหลือเกินตอนนี้ แต่ในเมื่อหน้างานบังคับให้ต้องพักเรื่องส่วนตัวไว้ก่อน ก็จำเป็นต้องดำน้ำตามไปก่อน แล้วรอจังหวะที่เหมาะสมค่อยพูดเรื่องส่วนตัวกับพี่มอคค่า

“คุณซือครับ นี่เป็นเลขาฝึกใหม่ของผม ชื่อมังกรครับ”

ดะ...เดี่ยวนะ นี่เล่นแนะนำกันแบบแต่งตั้งให้ผมเป็นเลขาเลยงั้นหรอคุณพี่ โหย มันไม่ใหญ่ไปเรอะ

คำอุ้มชูของบอสพสุธาแทบทำผมทรุดลงไปกองกับพื้น จะปฏิเสธว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้เพราะจะไปเท่ากับฉีกหน้าไอบอสเจ้าระเบียบนี่ ผมเลยได้แต่น้อมหัวรับๆไปอย่างถ่อนตน

“ครับ ..ผมมังกรครับ”

“สวัสดีจ้า พี่ชื่อซือนะ”

ถึงผมจะไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับผู้หญิง แต่ความสวยของพี่ซือผมก็อดไม่ได้ที่จะต้องเชยชมครับ คิ้วหนาที่ถูกกันแบบเป๊ะเวอร์ ดวงตากลมโดยไม่ต้องพึ่งบิ๊กอายราคาแพง เมคอัพที่จัดเต็มแต่กลับดูธรรมชาติจนเนียนไปกับใบหน้านวลขาว ริมฝีปากที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อน ประกอบกับท่าทางสง่างามและหุ่นสุดเปรี้ยว เนีjยสินะ ที่เรียกว่าเลขาใหม่ไฟแรง แซ่บทุกวงการ ..

“ครับพี่” 

“นี่เราเป็นเลขาที่เด็กมากเลยนะเนี่ย ดูพี่สิ กว่าจะเป็นเลขาได้ก็ปาไปเกือบสามสิบ” พี่ซือพูดก่อนจะหัวเราะออกมาเล็กๆ

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้จักกับเลขาของผู้จัดการระดับบิ๊กๆ ผมรู้สึกประหม่าเล็กๆ แต่โชคดีมากๆที่พี่ซ์อให้ความเป็นกันเองอย่างที่สุด จนผมไม่รู้สึกถึงความหยิ่งทะนงของการเป็นเลขาเจ้าของบริษัทใหญ่เลย

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะรู้สึกดีใจมากนัก ความร้อนรนที่อยู่ในใจแทรกขึ้นมาแทนที่ความรู้สึกดีใจที่ได้รู้จักกับพี่ซือ ผมรู้สึกหนักหน่วง อยากจะพักการทำความรู้จักและบอกให้พี่มอคค่าฟังถึงสิ่งที่ได้ยินมามากกว่า

“ตกใจหละสิว่าทำไมพี่หน้าจีนแต่พูดไทยได้” พี่ซือเอ่ยขึ้นต่อ

“คะ ครับพี่” ผมเออๆออๆไปอย่างเก้งๆกังๆ เพราะยังมีความตื่นเต้นที่ได้รู้จักกับคนระดับยักษ์ใหญ่แบบกระชั้นชิดขนาดนี้ ..ถ้าไม่นับบอสพสุธา นี่ก็คงจะเป็นคนที่สองในชีวิตของผม

“พี่เป็นลูกครึ่งหนะจ่ะ โตที่ไทยมาสิบสองปี แล้วพ่อแม่ก็จับส่งไปเรียนที่ไต้หวันตั้งแต่นั้นมาเลยหนะ ..” พี่ซือยังคงว่าด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร ก่อนจะแนะนำตัวและชวนผมพูดคุยอีกซักเล็กน้อยโดยที่มีพี่มอคค่าและพี่พีทยืนขนาบข้างอยู่เหมือนคุมเชิงเด็กใหม่

ไม่นานนักหลังจากที่ผมพูดคุยทำความรู้จักกับพี่ซือ เจ๊แกก็หันไปพูดกับพี่มอคค่าเรื่องงานทันที

“พี่มอคค่าคะ งั้นเดี๋ยวซือไปเอาใบสัญญามาให้เลยดีกว่าไหมคะ เราจะได้เริ่มคุยกันเลย งานจะได้เสร็จเร็วๆหนะค่ะ
“อ๋อ..ได้สิครับ”

พี่ซือยิ้มให้กับพี่มอคค่าก่อนจะเดินไปยังลิฟท์ซึ่งมีเหล่านักธุรกิจที่ยังคุยกันจ้อแจ้ตามหลังเป้นกลุ่มเดินตามเข้าไป
...........

ทิ้งไว้เหลือแต่ผม พี่มอคค่า และพี่พีทที่อยู่บริเวณโถงกว้าง

ทันทีที่พี่ซือลงลิฟท์ไปแล้ว พี่พีทก็เดินเข้ามาหาผมทันที ผมมองดูปราดเดียวก็รู้เลยครับว่าพี่พีทคงจะต้องมาขอโทษผมเรื่องที่ทิ้งผมไว้ในห้องน้ำคนเดียวแหง ..แล้วก็เป็นจริงตามคาด ...

“นี่..มังกร ..พี่ขอโทษนะ พี่รีบมากจริงๆ พี่ไม่ได้ตั้งใจทิ้งเรานะ”

พี่พีทเอ่ยอ้อนๆ ถึงออกจะขัดกับวัยของพี่แกไปซักหน่อยแต่ด้วยใบหน้าที่เด็กมากก็นับว่าอภัยได้ ฮาๆ

“ไม่เป็นไรครับพี่ๆ”

พี่พีทพยักหน้าให้ผมสองทีพร้อมกับแลบลิ้นทีหยอกทีจริง

ตาตี๋ๆกับเหล็กดัดฟัน และท่าทีทะเล้นๆของคนตรงหน้า อีกทั้งร่างกายฟิตปึ๋ง ..มองแล้วก็หน้ามันเขี้ยวเหมือนกันนะจะว่าไป เฮ้ย ไม่ได้ ..นี่ผมคิดอะไรกันอยู่

ผมกับพี่พีทเราหัวเราะให้กันอย่างขบขันเล็กๆโดยไม่ได้มีพี่มอคค่ามาแจมในวงด้วย เฮียแกคงจะเหงาเล็กๆที่เห็นผมหัวเราะกับพี่พีทอย่างมีความสุขเลยพูดแทรกขึ้นมาทันที

............
“เมื่อกี้มังกรโทรมาหาพี่ ..พี่คุยเรื่องสัญญาอยู่นิดหน่อย ... เรามีอะไรด่วนรึเปล่า”

คำถามของพี่มอคค่าทำให้ผมฉุกคิดได้ถึงเรื่องที่ต้องการจะบอกให้พี่เขาทราบทันที แต่เวลานี้มีพี่พีทอยู่ด้วย ..

ผมใช้เวลาไต่ตรองอยู่ไม่นานนัก ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ควรจะเก็บไว้ บอกไปไว้ยังไงกันก็ดีกว่าแก้ พี่มอคค่ารู้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นเรื่องดี ผมเลยตัดสินใจที่จะบอกไปอย่างตรงๆโดยไม่กังวลกับพี่พีทอีกว่าจะเป็นอะไรไหมถ้าหากพี่เขารับรู้เรื่องนี้ด้วย

“พี่มอคค่าครับ .. เมื่อกี้ตอนผมอยู่ในห้องน้ำ ..ผมได้ยินมีคนบอกว่า...

แต่แล้วแวบหนึ่งผมก็รู้สึกจุกขึ้นมาเล็กๆที่คอหอย จนพี่มอคค่าเป็นฝ่ายกระทุ้งให้มันออกมา

“พูดมาเลยครับมังกร”

......
 “คะ ....คืนนี้จะปิดบัญชีพี่”

.....
.....................
ผมนึกตกใจขึ้นมา ที่เหลือไว้แต่เพียงความเงียบที่ย่างกรายเข้ามาอยู่บริเวณโถง ไม่มีเสียงพูดคุยจากพี่พีทหรือพี่พสุธาอีก รวมไปถึงอาการตกใจหรือไม่เชื่อ ..ทำเอาผมเริ่มสับสนและงุนงงกับเหตุการณ์

ทันทีที่ผมพรั่งพรูออกไปจนจบประโยค พี่มอคค่าก็ลดสายตาต่ำลงทันที ก่อนจะหลับตาลงแล้วเอ่ยขึ้นอย่างลอยๆ
“คิดไว้ไม่ผิด ว่าต้องส่งคนมาดักรอ”

ผมยังไม่เข้าใจนักกับคำพูดของพี่มอคค่า เลยหันไปหาพี่พีทหวังจะได้คำอธิบายจากคนที่รู้สึกผิดที่ทิ้งผมไว้ตรงห้องน้ำเมื่อซักครู่ แต่แล้วพี่พีทก็กลับมีสีหน้าไม่ต่างอะไรไปจากพี่มอคค่าเลยเวลานี้

พี่พีทมองหน้าพี่มอคค่าด้วยแววตาละห้อยปนรู้สึกสงสาร จนผมรู้สึกฉงนว่าเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่

“กูว่า .. มึงคงต้องฉะกับเสี่ยสิงห์จริงๆแล้วหวะ ... ไม่อย่างงั้น ...”

พี่พีทเงียบไปก่อนที่จะพูดจนจบประโยค จนทำเอาผมยิ่งงงเป็นไก่ตาแตก ผมมองซ้ายสลับขวา มองหน้าทั้งพี่พีทและพี่มอคค่า ต่างคนต่างเอาแต่เงียบกันไม่พูดไม่จาอยู่ซักพัก ...จนในที่สุดพี่มอคค่าก็เป็นฝ่ายเอ่ยต่อบทสนทนา

“ไม่อย่างงั้นอะไรวะ ...พูดเตือนสติกูหน่อย”

พี่มอคค่าพูดด้วยแววตาแข็งทื่อและเสียงเย็นเชียบจนผมรู้สึกหวั่นเกรง

“กูรู้ ..ว่ามึงไม่อยากจะทำร้ายใคร แล้วมึงก็เป็นพ่อพระคนนึงเท่าที่กูรู้จัก กูรู้ว่าที่มึงไม่เอาเรื่องไอเสี่ยสิงห์ มึงกลัวว่าบิ๊กกับ  บิ๊กเจอกันแล้วแม่งจะล้มละลายไปทั้งคู่ หรือไม่มึงก็กลัวว่ามึงจะล้มเพราะชั้นเชิง กูพูดถูกมั้ยวะ”

พี่พสุธากำหมัดไว้แน่นก่อนจะพยักหน้าตอบรับคำพูดของพี่พีท

“มึงคงจะไม่อยาก ....”

พี่พีทเอ่ยค้างขณะที่หันหน้ามาจ้องอยู่ที่ผม กลับทำให้ผมยิ่งรู้สึกลุ้นละทึกไปกันใหญ่ว่าเรื่องนี้กำลังจะเกี่ยวพันธ์ถึงตัวผมหรือไม่ สายตาคู่นั้นถึงได้มองอย่างมีนัยยะบางอย่างที่ผมยังเข้าไม่ถึง

“มึงคงไม่อยากเสียมังกรไป ... แบบอุบัติเหตุของสล็อตใช่มั้ย ..เพื่อน”

.........................
..................
...

“””””””””””””””””””””””””””””””””

จากไรต์ : ช่วยด้วยขร่า เมนต์หายยย เรื่องนี้ต้องไม่ล่ม ต้องไม่ล่ม T-T ใจบ่ดี กลัวมาก ขอตุ๊ดแตกหนึ่งวัน
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่8-ตอนจบ-มือปืนคืนงานประชุม)(27/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-07-2015 14:53:08
อ่อ พี่แกโทษตัวเองมาตลอดเลยสินะเลยคิดถึงแต่แฟนเก่าตลอดเวลา

มังกรงานเข้าสินะหนู  :hao7: 
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่8-ตอนจบ-มือปืนคืนงานประชุม)(27/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 29-07-2015 01:46:48
เป็นเรื่องแว้วว
สล็อตน่าจะตายเพราะเสี่ยสิงห์อะไรนี่ป่ะ?
รอนะจ๊า
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่8-ตอนจบ-มือปืนคืนงานประชุม)(27/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 29-07-2015 02:18:05
งานเข้าแล้วไม๊ล่ะมังกร
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่8-ตอนจบ-มือปืนคืนงานประชุม)(27/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-07-2015 03:57:55
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่8-ตอนจบ-มือปืนคืนงานประชุม)(27/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 29-07-2015 20:34:16
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่8-ตอนจบ-มือปืนคืนงานประชุม)(27/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 29-07-2015 20:39:43
เอาใจช่วยมังกร งานหินเลยนะนั่น :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่8-ตอนจบ-มือปืนคืนงานประชุม)(27/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 29-07-2015 22:23:59
 :ling1: :ling1: :ling1: รอลุ้นนนนนน
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9 ตอน1 'งานเสี่ยงSay Hi)(30/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 30-07-2015 11:02:41
บทที่9ตอน1 (งานเสี่ยงSay Hi)

... หลังจากที่พี่พีทเอ่ยประโยคอึมครึมนั้นออกมา พี่มอคค่าก็ไม่ได้พูดจะอะไรกับผมอีกเลยซักนิด นอกซะจากเพียงพาผมมานั่งรอที่ห้องรับแขกในโรงแรม .. เหลือแต่เพียงผมลำพังในห้องว่างเปล่าสีขาวนี้

ผมรู้สึกช็อค สงสัย ตกใจ และสับสนในเวลาเดียวกันกับคำพูดของพี่พีท ผมตั้งใจจะมาฝึกงานตั้งแต่ตอนแรก ไม่ได้คิดจะมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอย่างที่กำลังเป็นอยู่ จากที่ฟังพี่พีทพูดมาก็รู้แล้ว ว่าถ้าผมยังอยู่กับพี่มอคค่าต่อไป ความเสียงในชีวิตก็ต้องเพิ่มขึ้นเป็นลำดับอย่างแน่นอน  นี่ขนาดแค่เริ่มต้นก็ดูท่าหนทางจะไม่ได้ง่ายๆอย่างที่วาดฝันไว้เลย

ผมนึกในใจว่าควรจะทำอย่างไร .. ผมควรจะถอนตัวจากการเป็นเด็กฝึกงานของบริษัทนี้ดีไหม หรือว่าควรจะสู้ต่อไปเพื่อความฝันดี

ในห้องที่ว่างเปล่าเพื่อนคนเดียวที่อยู่เป็นเพื่อนผม ก็คงจะเป็นไอโฟนห้าในมือเวลานี้ ผมจ้องมันอยู่ซักพักก่อนจะนึกไปถึงเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่ง ที่คอยให้คำปรึกษาผมเสมอมา ..ไออ๋อง

ผมไม่มีทางเลือกนอกจากกดโทรศัพท์โทรหาปลายสายทันที

........... .... ตื้ดดดด

“ฮัลโหล ว่าไงไอเด็กโดนเลี้ยง” อ๋องว่าพร้อมกับเสียงหัวเราะ (ผมชอบมันก็ตรงที่เป็นคนรับโทรศัพท์เร็วนี่แหละครับ เพื่อนบางคนนี่โทรไปเหอะ ข้ามวันก็ยังไม่รับเลย)

“มึง .. กูมีเรื่องปรึกษาอีกแล้วหวะ ..ค่อนข้างยาวนิดหน่อย”

“เออๆ ว่าไง นี่กูกำลังว่างพอดี”

“คือ ...” คงจะเป็นเพราะผมตกอยู่ในสภาวะเรียบเรียงคำพูดไม่ถูกหนะครับ เลยได้แต่อ้ำๆอึ้งไปช็อตหนึ่ง

“อ่าว ไอดอก มึงก็พูดมาสิ มาอ้ำอึ้งแล้วกูจะตรัสรู้กับมึงมั้ยครับ”

“เออๆ คือ ....”

“ว่ามา”

“สรุปว่า เมื่อก่อน เคยมีเด็กฝึกงานเหมือนกูนี่แหละ สนิทกับพี่มอคค่า กูเดาว่าคงจะสนิทกันมากอ่ะมึง ... เหมือนกูมั้ง”

“แล้วไงต่อ”

“เค้าตายด้วยอุบัติเหตุ.. ซึ่งจากวันนี้กูได้ฟังจากปากเพื่อนของพี่มอคค่า อุบัติเหตุนั่นเหมือนจะเป็นฝีมือศัตรูของพี่มอคค่าหวะ”

“แล้วมึงรู้ได้ไงเค้าพูดจริง”

“คือเค้าพูดกับกูต่อหน้าพี่มอคค่า คือมันกำลังดราม่ากันอยู่อ่ะตอนนั้น แล้วเหมือนพี่พีท ..เพื่อนพี่มอคค่าอ่ะนะ พูดเตือนสติพี่แก พี่แกก็เลยทำท่าสลดเหมือนรู้สึกผิดๆ แล้วก็เอากูมาทิ้งไว้ห้องรับแขกก่อนจะไปคุยงานต่อเลยอ่ะ ดูเค้าเศร้าๆด้วย”

“มึงเลยกลัว?...ใช่มั้ย?”

“อืม ... จะไม่กลัวได้ไง”

“กลัวตายหรือกลัวอะไร”

“กูคิดอยู่ว่ามันจะคุ้มมั้ย”

อ๋องเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มว่าต่อ

“มึงก็เรียนเอกจีน .. กูคงไม่ต้องพูดอะไรมาก กูจะไม่ยัดเยียดให้มึงตัดสินใจตามกู แต่มึงฟังกูนะไอมังกร”

ผมเงียบพร้อมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนรักคนนี้

“ไอวงการอย่างนี้มันก็อยู่แล้วเปล่าววะ ที่ต้องมีอะไรแบบนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับมึง มึงจะสู้เพื่อความฝัน หรือจะถอยมาเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ มึงคิดเองว่าอันไหนคือตัวของมึง”

คำพูดของอ๋องทำให้ผมเริ่มได้สติเล็กๆกลับคืนมาจากความกลัว

“กูอยู่กับมึง กูรู้ ว่ามึงเป็นคนสู้แค่ไหน .. มึงดูอย่างพวกประวัติศาสตร์จีนดีๆดิ เจ๊บูเช็กเทียนเงี้ย ... กว่าจะสึกออกมาจากการเป็นชี สู้กับพระสนม ฮองเฮา ทั้งยาพิษ ลอบฆ่าสารพัดจะมี แต่ละวันนี่เสี่ยงตายแบบชิบหายวายวอด ขึ้นบัลลังก์เสร็จก็ต้องสู้กับขุนนางอีก ..แต่พระนางก็เลือกจะสู้เปล่าวะ สุดท้ายแม่งเป็นไง ..ได้เป็นฮ่องเต้หญิง”

“แต่คนที่ล้มเหลวก็มีเปล่าวะมึง ไม่น้อยด้วย ...”

“ใช่ มีทั้งคนที่สู้แล้วชนะ สู้แล้วล้มเหลวแบบตายไร้ศพก็มี ... แต่มึงครับ”

“......”

“ชีวิตมึง มึงต้องตัดสินใจเอง ไม่มีใครรู้อนาคตว่าจะเป็นยังไง แต่ที่แน่ๆทุกคนเกิดมามันก็ต้องตายหมดเปล่าวะ สำหรับกู ..ถ้ามันคุ้มค่าที่จะเสี่ยง กูก็จะเสี่ยง .. เพราะมันคือความฝันหนิ ยังต้องมีเหตุผลอะไรวิเศษไปกว่านี้อีกวะเพื่อน”

คำพูดของอ๋องทำให้หมอกความที่บดบังความคิดผมเริ่มค่อยๆจางหายไป

“ขอบใจหวะมึง ..กูว่ากูเริ่มคิดออกแล้วหละว่าจะทำยังไงต่อ”

“กูไม่โอเคที่จะเห็นมึงตายนะไอมังกร แต่กูก็ไม่โอเคด้วยที่จะเห็นมึงถอดใจเป็นไก่กระดูกอ่อน .. มึงต้องทำให้ได้!”

“เออ ก็ได้วะ กูสู้ก็ได้เว่ย!” คำพูดของไออ๋องประหนึ่งไฟมาเติมตะเกียงให้ผมก็ไม่ปานครับ ไม่ได้จะเวอร์นะ แต่มันรู้สึกฮึดขึ้นมาจริงๆ

“เออ ไอเชี่ย ให้มันได้อย่างนี้ดิวะเพื่อนกู” อ๋องหัวเราะอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ทำให้ผมเบิกบานใจกว่าเก่ามาก ผมสามารถหัวเราะกับอ๋องได้เหมือนอย่างทุกวันที่เคยเป็น

“แล้วนี่มึงเป็นยังไงบ้าง ไปฝึกงงฝึกงานรึยัง”

“ได้แล้วหละ ไว้กูค่อยเล่าให้ฟังแล้วกัน”

“เฮ้ยดีๆ ไว้ว่างๆมานัดเที่ยวกันมึง” ผมรู้สึกยินดีด้วยเช่นกัน ที่เพื่อนผมเริ่มได้ฝึกงานเจ๋งๆอย่างที่มันเคยวาดฝันแล้วเกริ่นให้ผมฟังไว้บ้างแล้ว

“จัดไปครับไอมังกรเพื่อนเลิฟฟ ... แต่มึงต้องคอยระวังตัวเองดีๆด้วยละกันช่วงนี้ อย่าประมาทหละมึง”

“เออ กูเข้าใจละ ...ขอบใจมึงมากนะเว่ย”

“เออ แล้วเจอกัน”

............ตู้ดดดดดดด.....

ถ้าไม่มีเพื่อนคนนี้ผมยอมรับว่าคงอาจจะถอนตัวไปจากการฝึกงานครั้งนี้แล้วหละครับ โชคดีเหลือเกินที่ได้คำแนะนำชี้ทางสว่างจากไอเพื่อนบ้าคนนี้ นึกแล้วก็ขำชะมัด คนอะไรพูดเก่งชิทหาย พูดทีเอาผมรู้สึกอยากจะสู้ขึ้นมาเลย

....

“แอ๊ดดดด”

หลังจากที่ผมวางสายโทรศัพท์กับไออ๋องไปได้ไม่นานเท่าไหร่นัก เสียงเปิดประตูเรียกความสนใจก็ดังขึ้น พี่มอคค่าเดินถือแก้วกาแฟเล็กสีขาวเดินมาที่ผม ขณะที่ส่งรอยยิ้มฝืนๆมาให้อย่างไม่สบายใจนัก

คนร่างสูงทอดกายทิ้งก้นนั่งลงบนโซฟาข้างตัวผม ก่อนจะยื่นแก้วกาแฟถ้วยเล็กนั้นมาให้แล้ว่า

“พี่ชงกาแฟมาให้ครับ”

นี่เป็นครั้งแรกที่พี่มอคค่าเป็นฝ่ายชงกาแฟให้ผม แถมที่ยิ่งน่าพิศวงก็คือเฮียแกถึงกับมาเสิร์ฟให้ถึงที่ ผมยิ้มตอบรับพร้อมกับขอบคุณ ก่อนจะหยิบถ้วยกาแฟนั้นมาจิบ ...มอคคค่าหวานกำลังพอดี ..อร่อยจัง

“ขอบคุณนะครับพี่”

ไม่มีคำตอบใดๆตอบกลับมาจากคำว่าขอบคุณ นอกซะจากรอยเยิ้มมัวๆบนดวงตา และยิ้มจืดๆบนใบหน้าอันหล่อเหลาเท่านั้น

“พี่ ... “ ผมเรียกคนที่ดูท่ากำลังจะเหม่อลอยอยู่ แต่ก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆตอบกลับมา

“พี่มอคค่า ...”  ............. เงียบ

“คุณพสุธา!” ผมแกล้งขึ้นเสียงเล็กๆจนคนข้างๆสะดุ้งโหยงขึ้นมา

“คะ..ครับ”

พี่มอคค่าดูเลิ่กลั่กขึ้นมาทันทีกำเสียงเรียกชื่อดังของผม ผมเดาว่าสิ่งที่พี่พีทพูดคงจะกระทบกับจิตใจของพี่มอคค่าไม่น้อย ถึงทำให้พี่เขามีอาการเหม่อลอยอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ท่าทีเศร้าๆกับดวงตาละห้อยกลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าการตัดสินใจของผมมันชัดเจนมากขึ้น

“พี่โอเครึเปล่า” ผมถามไปอย่างเป็นพิธี ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่าคำตอบคือไม่โอเค

“โอเค ..” คนข้างๆผมดูพยายามกล้ำกลืนฝืนตอบด้วยสีตาตกก่อนจะเอ่ยต่อ

“คือ .... พี่ต้องเป็นฝ่ายถามเรามากกว่า .. คือ ..”

พี่มอคค่าหลับตาลงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเรียบเรียงคำพูดแล้วพูดกับผมต่อ

“เรื่องมันเป็นอย่างที่พีทว่าจริงๆ .. พี่คิดว่า ...”

“ขอบคุณนะครับที่ชงกาแฟมาให้ เดี๋ยวผมชงกาแฟให้พี่บ้างดีกว่า เอามอคค่าแบบอร่อยๆเลยนะ วันนี้ผมจะทำให้สุดความสามารถเลย”

ผมพูดแทรกขณะที่พี่มอคค่ายังว่าไม่จบ ผมเดาและรู้ว่าพี่เค้าจะพูดอะไรต่อ ..ซึ่งก็คงจะเป็นคำพูดขอโทษ ให้ผมถอนตัว หรือไม่ก็ไล่ผมออกไปเลย ไม่ใช่เป็นเพราะไม่ต้องการผม แต่เพราะไม่อยากให้ผมต้องมาเสี่ยงชีวิตกับสิ่งที่จะเจอในวันถัดๆไป แต่กระนั้นถึงแม้ว่าผมจะยังไม่มั่นใจกับการตัดสินใจของตนเองถึงหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่เปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่ผมก็เลือกไปแล้ว ..ที่จะทำความฝันของตนเองต่อ แล้วไม่ทิ้งหนีหายไปจากผู้ชายคนนี้ คนที่ผมเริ่มจะมีความรู้สึกดีๆให้

 ผมไม่รู้ว่ามันคือความรัก หรือความชอบ หรือเป็นเพราะความทะเยอะทะยานที่ทำให้ผมมาถึงจุดนี้ได้เวลานี้ แต่นั่นแหละครับ เหตุจะไปสำคัญอะไรเท่ากับผลลัพธ์หละ ..จริงมั้ย

....

“มังกร ...”

พี่มอคค่าเอ่ยเรียกชื่อผมอีกครั้งด้วยน้ำเสียงลอยๆ ซึ่งผมก็ไม่ปล่อยให้ช่องว่างนั้นมาทำลายความตั้งใจของผมเด็ดขาด

“วันนี้เอาหวานน้อยหรือขมเลยดีน้อ” ผมพูดแทรกทันทีก่อนจะหันกลับไปมองสีหน้าคนที่นั่งอมทุกข์อยู่ตรงโซฟา

พี่มอคค่าเผยรอยยิ้มให้ผมเห็นอีกครั้ง ครั้งนี้ดูรอยยิ้มนั่นจะไม่ต้องฝืนเหมือนครั้งแรกมากนัก ก่อนจะตอบคำถามผมด้วยน้ำเสียงที่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย

“เอาหวานน้อยแล้วกันครับ”

...

“ได้เลยครับพี่”

“””””””””

“แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง”

เวลาช่วงสิบนาทีที่ไร้ซึ่งบทสนทนา ทิ้งให้เหลือเพียงแต่เสียงกระทบกันของช้อนกาแฟและถ้วยกาแฟ  ก่อนที่เสียงรองเท้าหนังจะดังขึ้นกระทบกับพื้นเป็นระยะ ขณะที่ผมกำลังยืนชงกาแฟอยู่ พี่มอคค่ากำลังเดินเข้ามาหาผมจากด้านหลังสินะ ...

“มังกร” เสียงเบานุ่มเรียกชื่อผมขึ้นมา ก่อนที่สองแขนจากคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง จะสอดรอดบริเวณช่องแขนของผม กลายมาเป็นอ้อมกอดอันอบอุ่นประหนึ่งไออุ่นที่เริ่มจะอุ่นครุอยู่ในถ้วยแก้วกาแฟมอคค่าตรงหน้า

ผมวางถ้วยแก้วกาแฟตรงหน้าลง ก่อนจะใช้มือทั้งสองวางลงบนแขนของพี่มอคค่า ที่โอบกอดผมไว้อยู่บริเวณช่องท้อง ผมมองผิวสีขาวนวลของพี่มอคค่า ก่อนจะลูบไล้ไปมาอย่างทะนุถนอม .. ทำไมกันนะ ..ผมกลับยิ่งรู้สึกไม่อยากจะทิ้งคนๆนี้ไปไหนเลย ...

“มังกร .. “ พี่มอคค่าเรียกชื่อผมอีกครั้ง ก่อนจะโอบผมเข้าไปกอดรัดแน่นมากขึ้น

“พี่มอคค่า .. อย่าเอาแต่กอดผมสิ เดี๋ยวกาแฟก็หายร้อนหรอก”

ผมพยายามพูดให้พี่มอคค่าลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ และลบความคิดที่จะผละให้ผมออกไปจากตัวพี่เขาให้เร็วที่สุดแม้จะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายก็ตาม

ความรู้สึกแปลกประหลาด ที่เหมือนกำลังจะบอกว่าน้ำกาแฟที่ทิ้งไออุ่นจนลอยฟุ้งขึ้นมากำลังจะยิ้มให้กับผมและพี่มอคค่า ทำให้ผมรู้สึกแสนจะมีความสุขเวลานี้ คนร่างสูงค่อยๆคลายอ้อมกอด ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบถ้วยกาแฟถ้วยน้อย แล้วเอียงใบหน้าหล่อคมนั่นมาส่งสายตาหวานเยิ้มให้กับผมอย่างสุดจะกระชากหัวใจ (... คือมุมข้างๆทำไมมันหล่อขนาดนี้วะเนี่ย กูจะละลายยย)

...........

...
“”””
เดี๋ยวจะรีบมาต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน1-งานเสี่ยงSayHi)(30/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 30-07-2015 11:11:52
ตัดฉับ!
ค้างงง
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน1-งานเสี่ยงSayHi)(30/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 30-07-2015 11:24:29
แบบว่า มันค้างอ่ะ

 :ling1:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน1-งานเสี่ยงSayHi)(30/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 30-07-2015 12:08:53
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน1-งานเสี่ยงSayHi)(30/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 30-07-2015 12:36:38
แอร๊ย เค้ากอดอ่ะ มือไวใจเร็วมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน1-งานเสี่ยงSayHi)(30/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 30-07-2015 21:50:31
กอดเค้าบ้าง
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน1-งานเสี่ยงSayHi)(30/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 30-07-2015 22:19:51
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน1-งานเสี่ยงSayHi)(30/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 31-07-2015 13:40:32
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน1-งานเสี่ยงSayHi)(30/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 31-07-2015 13:50:23
 :ling1:   กำลังเคลิ้มๆเชียว
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน1-งานเสี่ยงSayHi)(30/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: Buppha ที่ 31-07-2015 14:28:04
 :o12:  อ๊ากกกกกกกกก เขินแทนเว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย มาต่อเร็วๆนะคะ แอบอ่านตลอด วันนี้ไม่ไหวล้ะ ฟินทะลุปรอท  :o8:  :-[  :impress2:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน1-งานเสี่ยงSayHi)(30/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 31-07-2015 14:40:21
เราไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมอคค่าต้องการเริ่มใหม่กับมังกร หรือแค่เอามังกรมาเป็นตัวคนเก่า เพราะเราดูๆมา มอคค่าเหมือนยังไม่พร้อมเริ่มต้นใหม่จริงนะ เหมือนเอามาเป็นตัวแทนเพราะความรู้สึกว่ามังกรคล้ายคนรักเก่า ไม่ว่าจะรูปร่าง หน้าตา หรือลักษณะนิสัย ถ้าเป็นอย่างที่เราคิดจริง คนที่เสียใจที่สุดคงเป็นมังกร
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน1-งานเสี่ยงSayHi)(30/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: wishper ที่ 31-07-2015 16:49:45
ปล่อยให้เค้าอยาก แล้วจากเค้าไป   งือๆๆๆๆๆ
ค้างครับพี่น้อง~
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน1-งานเสี่ยงSayHi)(30/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 31-07-2015 17:59:31
 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน2-งานเสี่ยงSayHi)(31/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 31-07-2015 22:52:14
บทที่9ตอน2 งานเสี่ยงSayhi

“ก๊อกๆๆ”

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่ผมฝ่ายเดียวที่ตกใจสะดุ้งตัวโหยง (จะไม่สะดุ้งได้ไงครับ ก็เมื่อกี้ห้องมันยังเงียบๆหวานๆอยู่เลยหนิ กำลังฟินส์เลย) แต่พี่มอคค่าก็คงจะสะดุ้งตกใจไม่แพ้ผมเช่นกัน

“แอ๊ดด”  พี่มอคค่ารีบปล่อยมือผมออกจากอ้อมกอดทันทีเมื่อเสียงเปิดประตูดังขึ้น ..ซึ่งก็แอบทำผมเซ็งอยู่พอตัว ..ใครนะมาขัดเวลาแบบนี้ของผมกับบอสพสุธาได้

“อ้าวซือ”

“ค่ะ” พี่ซือปิดประตูก่อนจะว่าต่อด้วยน้ำเสียงแจ่มใส

“พี่มอคค่าคะ เดี๋ยวอีกสองชั่วโมงผู้จัดการจะเดินทางมาถึงแล้วนะคะ”

“ฮ้ะ? อะไรนะครับ .. ที่นัดไว้น่าจะเป็นตอนสองทุ่มหนิครับ” สีหน้าของคนร่างสูงดูเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างรวดเร็วเมื่อพี่ซือเอ่ยจนจบประโยค

“เอ๊ะ ..แต่ในเอกสารของหนูเขียนเป็นห้าโมงเย็นนะคะพี่”

“เฮ้ยจริงเปล่าน้องซือ” คนร่างสูงถึงกับระเบิดอุทานขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตกใจสุดขีด

พี่ซือพยักหน้าอย่างงุนงงก่อนจะเอ่ยถามพี่มอคค่าต่อ

“เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะพี่”

“รึว่า ... น้องซือครับ พี่ขอดูชื่อเมลของน้องซือหน่อยได้ไหม”

“อ๋อ ..ได้ค่ะได้”

พี่ซือรีบหยิบไอโฟนหกขึ้นมา กดพิมพ์อะไรบางอย่างลงไปในเครื่อง ซึ่งผมเดาว่าน่าจะเป็นชื่ออีเมลของพี่แกแหละครับ แล้วยื่นให้พี่มอคค่าทันที

พี่มอคค่าทำท่าคิ้วขมวดขณะที่อ่านอีเมลของพี่ซือ ในขณะที่พี่ซือกำลังยืนรอด้วยท่าทีสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ..ส่วนผมก็ได้แต่ยืนงงกับเหตุการณ์ เพราะไม่รู้กำหนดนัดหมายอะไรเลยแม้แต่น้อย

“พี่สะเพร่าไปจริงๆ” พี่มอคค่าว่าสั้นๆก่อนจะยื่นมือถือคืนให้พี่ซือ

“ครั้งแรกที่เราตกลงกันไว้คือห้าโมงเย็นใช่มั้ยซือ”

“ใช่ค่ะพี่”

“แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีเมลหนึ่งส่งมาบอกว่าขอแก้ไขเวลานัดเป็นสองทุ่ม ... พี่ลืมดูตรงตัวอักษรพิมพ์เล็กหลังสุดของเมลไป .. พี่สะเพร่าไปจริงๆ”

“พี่มอคค่าคะ ...หรือว่า”

“ใช่ ... มันคงคิดจะทำให้ผู้จัดการของน้องซือไม่เชื่อใจพี่อีกต่อไป โดยการทำให้นัดแรกมีปัญหา .. พี่ไม่คิดว่าเสี่ยแกจะเล่นถึงขั้นของละเอียดขนาดนี้”

“แต่เค้าจะไปเอาแบบฟอร์มและข้อมูลของบริษัทซือมาได้ยังไงคะ”

“น้องซือยังเด็กอยู่ ...ขอแค่มีสายลับซักคนหนึ่งที่เข้าไปแฝงตัวอยู่ในองค์กร นั่นก็เท่ากับว่าต้องเพิ่มความระมัดระวังขึ้นอีกเป็นเท่าตัว แม้แต่คนในก็เชื่อใจไม่ได้”

“งั้นหมายความว่า ..มีคนแอบอ้างใช้เมลของซือ แล้วแก้ตรงตัวอักษรตัวไอกับแอล ทำให้พี่เข้าใจผิดใช่มั้ยคะ”

“ใช่...”

พี่ซือถึงกับอึ้งและเงียบไปทันทีเมื่อได้ฟังคำสอนจากรุ่นพี่ใหญ่อย่างบอสพสุธา

“ซือขอโทษนะคะ ที่ไม่ได้บอกพี่ตั้งแต่แรกที่เจอว่าผู้จัดการจะมาตอนห้าโมงเย็น”

“ไม่ ...น้องซือไม่ผิด คนผิดก็คือตัวพี่เอง ที่ไม่รอบคอบเอาเลย”

“แล้วพี่มอคค่าจะทำยังไงต่อหรอคะ”

พี่มอคค่ายืนใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบพี่ซือ

“พี่คงต้องให้พีทเร่งงาน .. ทุกอย่างต้องเสร็จภายในห้าโมงเย็น”

“แต่เท่าที่ซือดูก็คิดว่าน่าจะทันนะคะ”

“อืม พี่ก็ว่าอย่างนั้น .. ตอนแรกพี่ตั้งใจจะไปเดินเล่นที่ทะเลก่อน ..ดีที่น้องซือมาบอก ..ฝ่ายนั้นคงไม่คิดว่าเราสองคนจะได้เจอกันก่อนเวลานัดพบ ..ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ปืนนัดแรกที่ทำให้พี่เสียเครดิตก็คงจะสัมฤทธิ์ผล”

“งั้น ให้ซือช่วยถ่วงเวลาผู้จัดการไว้มั้ยคะ ซือทำได้นะพี่”

“พี่คงต้องขอเราช่วยหน่อยแล้วหละ เอกสารพี่ยังอยู่ที่โรงแรมอยู่เลย”

“ไม่ต้องห่วงค่ะพี่มอคค่า ซือจะจัดการให้ทุกอย่างเอง แต่คงจะยื้อผู้จัดการไว้ได้ถึงแค่ห้าโมงครึ่ง”

“แค่นั้นก็เหลือเฟือแล้วน้องซือ”

“ค่ะ .. งั้นเดี๋ยวซือจะรีบไปจัดการทันทีเลยค่ะ”

พี่ซือว่าด้วยน้ำเสียงรีบเร่งก่อนจะหันมายิ้มหวานให้ผมแล้วรีบเดินออกจากห้องไปทันที ..ทิ้งไว้ให้เหลือเพียงผมกับพี่มอคค่า

ความจริงแล้วในใจผมยังนึกสงสัยอยู่เบาๆ ว่าทำไมพี่มอคค่าถึงสนิทกับพี่ซือจัง จะว่าต่อมความเสือกมันทำงานแบบตู้มๆก็ถูกแหละครับ แต่เวลานี้คงจะไม่ใช่เวลาให้ต่อมเสือกสุดเลิฟนี่ทำงานแบบจัดเต็ม ... ผมควรจะรีบคิดแล้วตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อ ...(ทั้งๆที่ก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเค้าเท่าไหร่มากนักหรอกนะ)

แต่จากที่ฟังก็พอจะจับประเด็นได้ว่า พี่มอคค่าคงจะพลาดตรงเรื่องชื่ออีเมล คงมีคนคิดจะดักลู่ทางไว้ ทำให้พี่มอคค่าเสียชื่อ หรือที่เรียกกันว่า discredit ด้วยมารยาทพื้นฐานง่ายๆนั่นคือการตรงต่อเวลา

ถึงอาจจะฟังดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ลุงผมก็เคยสอนเสมอตอนอยู่ต่างจังหวัด ว่าเรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญมาก เพียงแค่สองสามนาทีก็สามารถที่จะตัดสินคนได้รางๆ ผมเลยเข้าใจถึงความเครียดของพี่มอคค่าเวลานี้

แต่งั้น ... แล้วเรื่องที่จะปิดบัญชีหละ ... หรือว่า

นี่จะเป็นแผนซ้อนแผน ...

ที่เห็นได้ชัดเวลานี้แน่นอนคือพี่มอคค่าสติเริ่มจะแตก เพราะต้องเทสมาธิไปกับเรื่องเอกสารและการจัดงานต้อนรับ แน่นอนว่าจะต้องมีช่องโหว่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ..

แต่ฝ่ายนั้นจะลงมือยังไง ด้วยวิธีไหน และลงมือเมื่อไหร่ ...ไม่มีใครทราบแน่นอน

ขณะที่ผมกำลังใช้ความคิดและประมวลทุกอย่างเข้าในสมอง จู่ๆพี่มอคค่าก็เรียกขานชื่อผมขึ้นด้วยน้ำเสียงทื่อๆจนผมต้องเหลียวมอง

“มังกร”

ท่าทีอ่อนโยนของพี่มอคค่าดูเลือนรางหายไปหลังจากที่ได้พูดคุยกับพี่ซือ พี่มอคค่าหันมาทางผมด้วยสายตาแข็งๆก่อนจะเอ่ยสั้นๆด้วยน้ำเสียงแสนเรียบ

“กลับโรงแรมไปซะนะ เดี๋ยวพี่ให้พีทไปส่ง”

ฮ้ะ? อ่าวเฮ้ยไหงเป็นงี้เลยวะ .... ผมสะดุ้งโหยงจนตูดแทบจะเด้งขึ้นมาจากโซฟา ..ใครจะกลับก็บ้าละครับ

“เฮ้ยพี่ ..ใจเย็นดิ .. คือผม ..”

“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น! พี่บอกให้กลับก็กลับสิ!”

...แต่ไม่ทันที่ผมจะพูดจนจบ พี่มอคค่ากลับเกรี้ยวกราดฟาดเสียงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนจนผมรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ ... ความโกรธของผมพุ่งทะยานขึ้นมาทันที นึกโมโหนักว่าทำไมไอคนตรงหน้ามันแก่แล้วแต่ถึงกับไร้เหตุผลอย่างนี้ แต่นั่นก็คงจะเป็นเพราะความเป็นห่วงที่มีให้ผม ผมเลยเลือกที่จะสกัดกั้นอารมณ์โกรธไว้ทั้งหมด แล้วค่อยๆพูดกับพี่มอคค่าอย่างอารมณ์เย็น

“พี่ครับ .. ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ ..ผมอยู่นี่เผื่อมีอะไรที่ผมจะช่วยพี่ได้”

ผมไม่รู้จะสรรหาข้ออ้างอะไรมาดับอารมณ์สติแตกของคนตรงหน้าได้ ก็เลยได้แต่พูดออกไปตามตรงด้วยเสียงออดอ้อน

“ไม่ได้! พี่บอกให้กลับก็กลับ .. หรือถ้าไม่กลับพี่จะให้คนขับรถมาจับตัวเราไปส่งที่กรุงเทพ!”

แต่ดูท่าอารมณ์เย็นของผมจะใช้ไม่ได้ผล คนตรงหน้ากลับประชดประชันมาหนักกว่าเก่าจนผมก็เริ่มจะมีน้ำโหมเหมือนกัน

“เฮ้ยพี่ ใจเย็นดิ   .. นี่พี่เป็นอะไรของพี่เนี่ย”

“พี่ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นมังกร พี่ก็เป็นพี่เนี่ยแหละ”

“พี่จะรนรานอะไรกับเหตุการณ์ที่มันยังไม่เกิดนักหนา!”

“แกเป็นเด็กจะไปเข้าใจผู้ใหญ่ได้ยังไง โดยเฉพาะความเหี้ยมโหดที่ขยี้ได้ทั้งชีวิตคน!”

“พี่ก็พูดกับผมดีดีดิวะ! จู่ๆมาไล่ผมไปเงี้ย ผมเสียใจนะพี่!”

“ถ้าไม่อยากให้พี่ไล่อีก ..ก็กลับไปโรงแรมกับพี่ พี่จะไปเอาเอกสาร ส่วนเราก็อยู่ที่โรงแรมไป เดินทะเลคนเดียวชิลๆไป เหงาหน่อยแต่คงไม่ตาย”

คำว่าตายที่พี่มอคค่าเอ่ยขึ้นมากลับทำให้ผมสะอึกขึ้นมาอย่างไม่รู้ต้นเหตุ

“ผม – ไม่ -  ไป!”

“เฮ้ย ! อย่ามาดื้อได้ป๊ะวะ! คนร่างสูงเริ่มขึ้นเสียงใส่ผม

“ผมไม่ได้ดื้อ! พี่อย่ามาพูดเหมือนผมเป็นเด็กห้าขวบได้ป๊ะ ผมโตแล้วนะเว่ยพี่ สามสิบห้าแล้วดูคนให้มันเป็นหน่อยดิ”

“นี่คุณกล้าสอนผมงั้นหรอครับ!” ครั้งนี้คนตรงหน้าถึงกับยกนิ้วชี้ขึ้นมาชี้หน้าผม

“ผมไม่กลับ! ผมจะรออยู่ที่นี่ พี่ได้ยินมั้ย! ผมจะรออยู่ที่นี่!” 

ผมยังคงยืนยันคำตอบเช่นเดิม .. ยังไงผมก็จะไม่กลับโรงแรม ผมจะรออยู่ที่นี่!

.......
 หลังจากที่ความเงียบเข้าคืบคลานมาเยี่ยมเยือนเราสองคนราวสองนาทีเศษได้ พี่มอคค่าก็หลับตาลงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะว่าต่อด้วยน้ำเสียงฝืนๆสงบสติอารมณ์

“กลับ ไป รอ ผม ที่ โรง แรม นะ ครับ” คำทุกคำล้วนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ชัดถ้อยชัดคำ และฟังดูมีน้ำหนักเลยเกิน

..............

ผมรู้ว่าคนตรงหน้าผมกำลังเป็นห่วงผม เป็นห่วงมาก และเป็นห่วงมาก แต่การทิ้งให้พี่มอคค่าต้องเผชิญปัญหาคนเดียวไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากจะทำเลยซักนิดเวลานี้ ไม่ ผมจะไม่ไปไหน จะยังไงก็จะอยู่ทีนี่ ..ผมไม่ได้พูดอะไรตอบพี่มอคค่าไป นอกซะจากสั่นหัวอย่างคนหัวดื้อ

“ไม่ไป ...ใช่มั้ย” เสียงเรียบเย็นชาของคนตรงหน้ากลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกกลัวมากกว่ายามที่เขาเกรี้ยวกราดฟาดอารมณ์

พี่มอคค่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนจะโทรหาใครซักคน ..แล้วว่า “ พาคุณมังกร เลขาของผม .. ไปส่งที่โรงแรมที่ผมเช็คอินไว้ .. พวกนายต้องทำให้ตัวคุณมังกรไปถึงโรงแรมนั่นให้ได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ตาม! ส่วนผมจะไปคุยกับคุณพีท แล้วจะรีบตามไปทันที ..ผมไปถึงโรงแรม ผมจะต้องเห็นคุณมังกรอยู่ที่นั่น เข้าใจมั้ย!

พี่มอคค่ากระแทงเสียงใส่โทรศัพท์ก่อนจะวางสายลงอย่างไม่ใยดีนัก

สายตาเย็นชาถูกหยิบยื่นและมอบให้กับผม คนตรงหน้าผิดไปเป็นคนละคน ..ไม่มีแล้วเวลานี้ บอสพสุธาที่แสนจะอ่อนโยน ..ผมรู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆในภวังค์ ..ทำไม พี่มอคค่าต้องทำกับผมแบบนี้ ..ผมไม่ใช่วัวใช่ควายนะ ที่จะจูงให้ทำอะไรก็ทำ ..ผมก็เป็นคน ที่มีหัวใจ ...ทำไม .. ทำไม ..

ผมจะไม่ร้องไห้ ..ผมต้องเข้มแข็ง .. ผม ...

....................

“”””””””””””””””””””””””””””

จากไรเตอร์ : เย่ มาต่อให้จบตอนแล้ว คุณผู้อ่านที่รักเริ่มมาเมนต์แล้ว ดีใจมั่กๆ ตอนแรกคิดว่าเรื่องนี้จะล่มรึเปล่า 55555 ไม่อยู่สามวันนะคร้าบ ไปรับน้องคณะนะ แช่แว้บ ..
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน2มาแว้วค้าบบ)(31/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 31-07-2015 23:41:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน2มาแว้วค้าบบ)(31/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: JAROEN ที่ 31-07-2015 23:51:55
ยอมๆ ไปก่อนนะมังกร อิอิ เดียวค่อยเอาคืน  :beat: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน2มาแว้วค้าบบ)(31/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 01-08-2015 01:45:35
เถียงกันซะงั้น -*-
ดูท่าบอสแกสติแตกจริงๆ นะเนี่ย
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน2มาแว้วค้าบบ)(31/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 01-08-2015 02:37:59
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน2มาแว้วค้าบบ)(31/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 01-08-2015 21:41:38
ไม่เข้าใจในการกระทำ ทำไมไม่อธิบาย น้องมังกรชั้นเสียใจนะ
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน2มาแว้วค้าบบ)(31/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-08-2015 21:42:57
มังกรมีสิทธิ์งอนค่ะลูก
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน2มาแว้วค้าบบ)(31/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 02-08-2015 01:07:45
กลับสิมังกร เค้าไล่แล้วนิ ไม่มีเหตุผลที่ต้องอยู่ต่อด้วยซ้ำ

ปล่อยไปเลยเมื่อเห็นความรู้สึกคนอื่นไม่มีค่าก็อย่าทน

ถ้าตามความจริงแล้วคงไม่มีใครทนอยู่ได้หรอก แต่นี่มันนิยายก็ต้องทนน่ะเนอะ

ไม่รู้ว่าเหตุผลคืออะไร แตตทำไมต้องแสดงกิริยาแบบนั้นหล่ะ อยากรู้



หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน2มาแว้วค้าบบ)(31/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 02-08-2015 08:22:20
พี่มอคค่า อย่าดุน้องง
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่9-ตอน2มาแว้วค้าบบ)(31/7/15)
เริ่มหัวข้อโดย: BaGgYsOdA ที่ 17-09-2015 20:57:47
รออยู่น้าาาา :sad4:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่10-เสียงปืนในความมืด)(22/9/15)
เริ่มหัวข้อโดย: OngWangye ที่ 22-09-2015 21:31:37
……บทที่10 เสียงปืนในความมืด

ใช้เวลาอยู่พอสมควร กว่าผมจะตีหน้าเศร้าและทำที่เชื่อฟังว่าง่ายจะไม่ไปไหนอยู่แต่ให้ห้องภายในตัวโรงแรมสุดหรู ให้คนขับรถของพี่มอคค่าได้ตายใจจริงๆ ก็เล่นกินเวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมง

ผมอดทน และเฝ้ารอเวลาจนพี่คนขับรถที่ขับมาส่งผมนั้น ได้เดินทางกลับไปยังที่จัดงาน ผมเดาว่าพวกพี่เค้าคงจะคิดไม่ถึงว่าผมจะหาทางกลับไปยังสถานที่จัดงานได้ด้วยตัวคนเดียว แต่ก็นั้นแหละครับ ผมอายุยี่สิบเอ็ดแล้ว ไม่ใช่เด็กอมมือที่ไม่รู้ประสีประสา การหาวิธีกลับไปยังสถานที่จัดงานนั้นง่ายมากสำหรับผม

ผมอดทน และอดทน ..จนเวลาล่วงเลยมาอีกซักระยะ และมั่นใจว่าพวกพี่เค้าจะต้องกลับไปหาพี่มอคค่ากันจนหมดแล้ว จึงได้ค่อยๆแง้มเปิดประตูห้องห้องออก (โชคดีของผมที่พวกนั้นไม่ได้ล็อคประตูห้องไว้จากข้างนอก) ก่อนจะรีบเดินมากดลิฟท์แล้วลงมาชั้นหนึ่งทันที

เมื่อลิฟท์ได้เคลื่อนมาจอดอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ผมก็รีบวิ่งไปยังแผนก information ของโรงแรมทันที เพื่อที่จะหาวิธีที่จะกลับไปหาพี่มอคค่า ซึ่งทุกย่างก็ดูจะง่ายกว่าที่ผมคิด เพราะเวลาที่ผมไปถามแผนก informationนั้น เป็นเวลาเดียวกับที่มี         พี่วินมอเตอร์ไซค์คนหนึ่งขับมาจอดส่งผู้โดยสารพอดี ...สบายผมเลยสิครับ ไม่ต้องลำบากลากขาเดินออกไปโบกรถโบกลาที่ถนนใหญ่เลย งานนี้เสียบต่อเลยทันที ...

บรรยากาศเริ่มเย็นลงไปทุกที ท้องฟ้าสีส้มยามเย็นเริ่มกลายเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอ่อนๆของสัญญาณฟ้าพลบค่ำ ระหว่างทางที่อยู่บนเบาะหลังของพี่วินมอเตอร์ไซค์ ผมก็อดคิดไม่ได้ถึงวันเวลาดีๆที่ผมได้ใช้ร่วมกับพี่มอคค่า ถึงแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่นั่นก็ถือเป็นช่วงชีวิตหนึ่งที่ผมกล้าเรียกอย่างเต็มปากว่ามันคือความสุข ก็แปลกดีนะครับ ทั้งๆที่พึ่งจะโดนด่าไล่ตะเพิดแบบพังทลาย แต่ทำไมในใจกลับยังอุ่นครุไปด้วยความอบอุ่น หรือจะเป็นเพราะผมรู้อยู่เต็มอกว่าที่พี่มอคค่าไล่ผมมาก็เพราะความเป็นห่วง

แสงไฟสีเหลืองอ่อนจากเสาไฟฟ้าข้างริมถนน และลมเย็นๆที่พัดผ่านตัวผมไปจนชวนให้รู้สึกเย็นๆหนาวๆขึ้นมาเล็กๆ กลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกคิดถึง ผมมองถนนที่ยังคงเต็มไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยว นึกคิดเล่นในใจว่าอยากจะใช้เวลาร่วมกับพี่มอคค่าอย่างคนอื่นบ้างในเวลานี้

ซิคาดา ตลาดมีสไตล์กลางแจ้ง landmarkของหัวหิน สถานที่ที่ผมมักจะมาเที่ยวเล่นกับเพื่อนๆของผมบ่อยครั้ง ผมชอบใช้เวลาตอนเย็นในการทานอาหารที่นี่ และใช้เวลายามค่ำคืนกับการช็อปปิ้งของ handmade และฟังดนตรีสด

ภาพวาดรางๆในความคิดเริ่มถูกปรุงแต่งให้มีภาพของพี่มอคค่าเดินจับมือผมอยู่ยามค่ำคืนนั้นชัดมากขึ้น โดยเฉพาะภาพที่เราสองคนนั่งฟังดนตรีสดอยู่ภายในสวนที่ปลกคลุมไปด้วยหญ้าพื้นสีเขียว เสียงเพลงเริ่มดูเหมือนจะบรรเลงเองอยู่ในโสตประสาทของผม แม้ว่าตัวผมจะไม่ได้ฟังดนตรีอยู่ก็ตาม

ผมยังคงใช้จินตนาการเล็กๆสร้างความสุขน้อยๆขึ้นมาในใจ หวังอยากจะถ่ายทอดมันให้ผ่านไปยังของคนๆหนึ่งได้บ้าง

....

พี่วินมอเตอร์ไซค์ยังคงบิดมอเตอร์ไซค์ต่ออย่างเร่งรีบ เหตุเพราะผมได้วิงวอนขอพี่เค้าว่าช่วงขับให้เร็วที่สุดให้หน่อย เพราะกำลังมีเหตุด่วน ซึ่งพี่แกก็ตอบรับแต่โดยดี

...ไม่นานนัก

“แอ๊ดด”

เสียงเบรกของมอเตอร์ไซค์ดังขึ้น รถมอเตอร์ไซค์ได้มาหยุดจอดอยู่ที่หน้าโรงแรมสุดหนูที่ผมได้มาเยือนมายามบ่ายๆเย็นๆเป็นสัญญาณบอกว่าตอนนี้พี่วินสุดเฟี้ยได้ส่งผมมาถึงยังที่หมายปลายทางแล้ว หน้าโรงแรมยังคงมีคนคอยเปิดประตูอยู่สองคนเช่นเดิม เสียงเพลงที่หลุดลอยออกมาจากภายในตัวโรงแรมยังไม่หายไปเช่นเดิม ทุกอย่างยังเหมือนเดิมเหมือนที่ผมมาถึงในตอนแรก ดูจากภายนอกแล้วยังไม่มีการโกลาหลใดๆเกิดขึ้น นั่นทำให้ผมเบาใจไปได้ส่วนหนึ่งว่าพี่มอคค่าน่าจะยังปลอดภัยดีอยู่

ผมรีบหยิบควักแบงค์สีเขียวสองใบง่ายเงินพี่วินมอเตอร์ไซค์ และไม่ลืมที่จะขอบคุณที่พี่แกอุตส่าห์บิดมาส่งผมให้ด้วยความเร็วเสี่ยงต่อการโดนตำรวจไล่อย่างมากมาย ก่อนที่จะเดินขึ้นเข้าไปในตัวโรงแรม เพื่อที่จะเข้าไปยังโถงที่จัดงาน

ระหว่างที่เดินผ่านโถงสุดหรู ผนังถูกทาด้วยสีครีม พื้นล้วนเป็นไม้หินอ่อน ที่เชื่อมระหว่างฮอลจัดงานกับพื้นที่หน้าโรงแรมด้วยความไม่สบายใจปนหน่วงๆนั้น เสียงๆหนึ่งก็เรียกผมดังขึ้นจนผมต้องเหลียวหันไปหา

“มังกร!”

เสียงที่ไม่ค่อยคุ้นหูนัก แสดงถึงว่าคนที่เรียกผมนั้นเป็นคนที่ผมยังรู้จักไม่นานพอ ...และคนๆนั้นก็คือพี่พีท

ใบหน้าของพี่พีทดูเป็นกังวลมากกว่าจะยินดีที่ได้เจอผม ซึ่งผมก็ไม่ค่อยจะแปลกใจนักเพราะเข้าใจสถานการณ์ตึงเครียดตอนนี้ดี ถ้าจะเครียดกว่านี้ก็คงจะเป็นความกลัวที่จะโดนพี่มอคค่าด่าไล่กลับรอบที่สองแหละครับ

“ทำไมถึงยังกลับมาที่นี่อีกหละ”

พี่พีทถามด้วยน้ำเสียงขุ่นๆไม่สบายใจ

“ผม ... คือผม ..” ผมพยายามนึกคำพูดที่พูดไปแล้วน่าจะสวยหรูพอทำให้ผมไม่โดนพี่พีททำเสียงขุ่นๆใส่อีก

แต่แล้วก็ดูเหมือนผมจะจนปัญญา ..คิดไม่ออกว่าจะแก้ตัวยังไงดี เลยได้แต่ยิ้มอ่อนๆตอบกลับพี่พีทไป

พี่พีทส่ายหัวไปมาก่อนจะบอกผมว่า

“มังกร กลับไปเหอะนะ เชื่อพี่เถอะ” พี่พีทเริ่มเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นอ่อนโยน คงคิดจะกล่อมให้ผมกลับไปแน่ๆ แต่ผมไม่ยอมหรอกครับ

“พี่มอคค่าอยู่ไหนครับพี่” ผมถามคำถามพี่พีทไป และทำเหมือนว่าพี่พีทไม่ได้กล่อมเกลาผมใดๆทั้งสิ้น

“อยู่ข้างในหนะ ….แต่ว่า ...”

“ครับ?”

คำว่าแต่ว่าของพี่พีททำให้ความรู้สึกผมสั่นไปมาอีกครั้ง

“พี่ว่า มอคค่าเห็นเรา เค้าจะไม่สบายใจมากกว่านะ ...”  พี่พีทยังคงตั้งใจจะกล่อมเกลาผมให้กลับไปอยู่เช่นเดิม

“........”

ผมไม่รู้จะตอบแก้ตัวอย่างไรอีก เลยได้แต่ยิ้มอ่อนอีกครั้งตามสูตรฉบับของพี่โน้ตเดี่ยวไมโครโฟน พี่โน้ตสอนว่าถ้าเราเจอปัญหาหรือเรื่องไม่ชอบหน้า ให้พยายามทำหน้ายิ้มเจื่อนๆเหมือนสัตว์ที่ชื่อสล็อต เจ้าพ่อแห่งการใช้ชีวิตSlow life แล้วเดินหนีอย่างทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผมยิ้มครับ แล้วเดินอย่างช้าๆจากพี่พีทไป ซึ่งก็ดูพี่แกจะงงๆกับท่าทีของผมจนถึงกับทำคิ้วขมวด แต่ยืนงงไปยืนงงมา ผมก็เดินมาเหยียบประตูของที่ประชุมแล้วหละครับ

“เดี๋ยวๆ!”

พี่พีทเรียกผมขึ้นทันทีหลังจากที่คงจะได้สติกับท่าทีตลกๆแบบฉบับพี่โน้ตของผม เฮียแกวิ่งเข้ามาทันทีก่อนจะถอนหายใจเฮือกเล็กแล้วว่า

“นี่เราจะเข้าไปให้ได้จริงๆใช่มั้ย”

ผมเริ่มเห็นลู่ทางแล้วครับ อย่างน้อยพี่พีทก็เริ่มเปลี่ยนจากประโยคไล่ผมเป็นประโยคคำถาม รออะไรหละครับ ก็ต้องรีบตอบตกลงสิงานนี้

“ใช่ครับ” ผมยืนยันคำตอบด้วยเสียงหนักแน่น

“ถ้าอย่างงั้นมีข้อแม้” พี่พีทเสนอเงื่อนไขให้ผมเป็นการแลกเปลี่ยน ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้สึกขัดข้องใจอะไรถ้ามันไม่หนักเกินไปที่ผมจะทำ

“มังกรต้องอยู่ข้างพี่ตลอด อย่าเดินไปไหนคนเดียวเข้าใจมั้ย เพราะตอนนี้มอคค่ากำลังคุยกับเสี่ยคนนั้นอยู่ พวกพี่เพิ่มการ์ดรักษาความปลอดภัยไปแล้วก็จริง แต่มันก็ใช่จะได้ผล”

พี่พีทหลับตาลง ก่อนจะหยุดเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วยกมือทั้งสองขึ้นมาวางลงบนบ่าของผมอย่างเบาแรง

“พี่ไม่อยากให้เหตุการณ์ที่เกิดกับสล็อตเกิดขึ้นอีก ... มังกรอย่าดื้อนะ” นั่นคือสิ่งที่พี่พีทพูดก่อนจะเดินนำผมเข้าไปยังโถงจัดงานนั่น

คำพูดนี้ของพี่พีท ทำให้ผมกลับรู้สึกสงสัย และฉงนกับสล็อตขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งๆที่พยายามจะไม่คิดถึงเขา

ผมนึกสงสัยเล่นๆขึ้นมา ว่าทำไมพี่มอคค่าถึงยังเลือกที่จะคุยเรื่องสัญญาอยู่อีก ทั้งๆที่รู้ว่าเวลานี้กำลังมีอันตรายมาเยือนหาตน และเป็นอันตรายถึงชีวิตด้วย แต่ก็นั่นแหละครับ ผมตั้งคำถามเอง แล้วก็ตอบเองในเวลาสั้นๆ ความสำเร็จของคนเราจะมีอะไรสำคัญไปยิ่งกว่า ความทะเยอะทะยานที่สุมอยู่ในไฟแห่งความหนุ่มแน่นของบอสเจ้าระเบียบคนนี้ ผมเข้าใจดีเลยหละครับ เพราะความทะเยอะทะยานนั่น ก็ไม่ได้ต่างไปจากผมซักเท่าไหร่หรอก

...

ขณะที่ผมกำลังตามพี่พีทเข้าไปยังที่จัดงานนั้น บรรยากาศยังเป็นไปอย่างปกติ แต่ที่แปลกไปคงจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดูจะเพิ่มจำนวนขึ้นมามากพอสมควรหลังจากที่ผมโดนส่งไปยังโรงแรม บ้างก็ดูยังหนุ่มยังแน่นซึ่งผมเดาไว้ว่าน่าจะเป็นทายาทของสมาพันธุรกิจ บ้างก็ดูค่อยข้างมีอายุพอสมควรซึ่งก็เดาได้ไม่อยากว่าต้องเป็นระดับอภิมหาเศรษฐี หรือเศรษฐีระดับพระกาฬ

เสียงเพลงจีนร่วมสมัยยังคงบรรเลงก้องดังด้วยเสียงไพเราะจากนักร้องนำผู้ชายร่างสูงขาวตี๋ ที่แต่งตัวอย่างจัดเต็มตามสไตล์คุณชายในฝันของหญิงสาวหลายๆคน อาเจ๊อาเจ๊กล้วนกำลังร่วมวงสนทนาทั้งเรื่องมีสาระและปนเรื่องของชาวบ้านอย่างหน้าออกรสออกชาติ

(ถึงจะไฮโซยังไง แต่ไอความสนุกของการยุ่งเรื่องชาวบ้านนี่ก็ไม่เข้าใครออกใครหรอกนะ จริงมั้ยครับ)

ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นจะมีความผิดปกติแต่อย่างไรเกิดขึ้น ทุกอย่างดูปกติ เรียบง่าย บ๋อยบริกรยังคงเดินกันให้วุ่น เหล่าบรรดาแขกล้วนกำลังพูดคุยอย่างดุสนุกสนาน บ้างก็รับประทานอาหารและทานเค้กอย่างมีความสุข มีเมาท์มอยออกรสออกชาติกันเป็นหย่อมๆ ...ดูอย่างช่างดูปกติเสียเหลือเกิน ..จนผมเริ่มรู้สึกว่า ผมคิดมากไปเองรึเปล่า

“พี่มอคค่าอยู่ไหนหรอครับ”

ผมถามพี่พีทไปอย่างตรงๆหลังจากที่รุ้สึกว่าทุกอย่างดูเหมือนเป็นปกติ

“อยู่ข้างในสุดหนะมังกร ..โต๊ะนั่นไงที่มีพี่ซือๆยืนอยู่ด้วย”

พี่พีทว่าพลางส่งสายตาไปยังโต๊ะที่อยู่ข้างในสุดของตัวโถง โต๊ะกลมไม้ที่ถูกปูทับด้วยผ้าปูผืนขาวสะอาดตา ถูกจัดวางและเต็มไปด้วยอาหารที่ดูเลิศรสอยู่เต็มโต๊ะ เหนือโต๊ะมีโคมไฟสุดพิเศษที่ดุรูปทรงออกโกธิคของทางยุโรป ..มองปราดเดียวก็ทราบได้ทันทีว่า นั่นคือตัวพิเศษสำหรับแขกชั้นสูงแบบ super high class

ชายสูงวัยสองสามคนกำลังนั่งเคียงข้างกับอาเสี่ยที่กำลังจะมาเซ็นสัญญากับพี่มอคค่า ส่วนข้างพี่มอคค่ากลับมีที่ว่างอยู่ทั้งสองข้าง ซึ่งผมเดาว่าตอนแรกนั่นคงจะเป็นที่ของผม เพราะมพี่มอคค่าบอกไว้ว่าจะให้ผมได้ลองร่วมโต๊ะสนทนาธุรกิจ

พอเห็นภาพตรงหน้าจากไกลๆด้วยการชะเง้อมอง ความทะเยอะทะยานที่อยากจะลองประสบการณ์ใหม่ตรงหน้าก็พลุ่งพล่านขึ้นมา วิ่งไปเวียนมาอยู่ในเส้นเลือดของผม แต่นั่นผมก็พอจะมีสติรู้ตัวว่า เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะพุ่งโผลงเข้าไป มันคงจะเป็นการเสียมารยาทมากพอดู .. ผมเลยได้แต่มองอยู่อย่างนึกเสียดายเล็กๆ

.....

แต่แล้วขณะที่ผมกำลังนึกวาดฝันสนุกๆว่าตนเองได้มีโอกาสร่วมวงเสวนาธุรกิจกับพี่มอคค่านั่น เหตุการณ์ที่เป็นสัญญาณเตือนว่าเรื่องร้ายๆกับลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้าก็เกิดขึ้น เมื่อไฟของโถงอาคารดับลงอย่างกะทันหัน!

“ว้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

“เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

ว้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย       

“พรึ่บ!….

เสียงกรี๊ดกร๊าดตื่นตระหนกของเหล่าอาเจ๊และเสียงโวยวายของเหล่าอาเจ๊กสอดรับประสานกัน ยิ่งเพิ่มความตระหนกให้กับเหตุการณ์มากขึ้น

....

ปั้ง!

ไม่น่านากหลังจากที่เกิดเสียงเอะอะโวยวายขึ้นมาทั่วทั้งโถง เสียงปั้ง ดังจากกระบอกปืนก็ดังขึ้นถึงสองนัด

เสียงเก้าอี้ที่ถูกลากครืดคราด เสียงกระทบกันระหว่างรองเท้ากับพื้นโถงดังขึ้นอย่างสนั่นทันที!

ครั้งนี้ผมเริ่มสัมผัสได้ แม้ว่าจะมองไม่เห็นชัดมากในที่มืดก็ตาม ว่าผู้คนเริ่มวิ่งหาทางออกกันอย่างอลหม่าน มีหลายคนที่วิ่งชนตัวผมผ่านไปและออกจากประตูทางเข้าตัวโถงซึ่งยังพอมีแสงไฟสว่างจากด้านนอกอยู่

ณ วินาทีนั้นผมไม่รู้ว่าพี่พีทหายไปจากตัวผมตอนไหน ไม่มีเสียงเรียกชื่อผม มีแต่เสียงกรี๊ดกร๊าดโวยวายตื่นตระหนก และเสียงฝีเท้าของเหล่าบรรดาแขกที่ตระหนนกกับเสียงดังของปืน

วินาที่นั้น คนๆเดียวที่ผมนึกถึง ...ก็คือพี่มอคค่า ..

“พี่มอคค่า”

ผมเรียกชื่อเจ้านายของผมออกมาช้าๆอย่างไม่ได้ตั้งใจก่อนที่จะเดินเร็วเข้าไปยังโต๊ะที่อยู่ข้างในสุดทันที

ความเป็นห่วงตีโหมกระหน่ำขึ้นมา ความกังวลปนสับสนและนึกแก้ไขปัญหาไม่ออกกระโจนออกมาพร้อมๆกัน ผมไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร และไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แต่ฝีเท้าผมกลับก้าวเดินเข้าไปข้างใน ก้าวเข้าไปอย่างไม่ยอมหยุด ก้าวอย่างแวดระวัง

 ระหว่างทางผมเดิน เดิน และเดิน ...เดินชนกับคนหลายคน หลายครั้งที่โดนส้นสูงเหยียบเท้า หรือแม้กระทั่งโดนชนจนแทบจะล้มหงายหลัง ..แต่นั่นมันไม่สำคัญ มันคือเรื่องเล็กน้อยที่ผมจะเจ็บตัว ผมต้องหาพี่มอคค่าให้เจอให้ได้ พี่มอคค่าอยู่ที่ไหน

“พี่มอคค่า!”

....

ผมตะโกนเรียกหาเจ้านายของผมท่ามกลางความมืดมิด ซึ่งตอนนี้ก็จะมีเพียงแสงไฟอยู่บ้างจากโทรศัพท์มือถือของเหล่าบรรดาแขกที่เริ่มจะหยิบขึ้นมาจากกระเป๋าเพื่อใช้ส่องทาง

....ไม่มีเสียงตอบกลับจากพี่มอคค่า

ยิ่งผมเดินลึกเข้าไปเท่าไหร่ ผมก็สัมผัสได้ว่าผมกำลังอยู่คนเดียวมากขึ้นทุกที ทุกที และทุกที ...

ผู้คนล้วนกำลังวิ่งออกจากประตูในขณะที่ผมกำลังเดินถลำลึกเข้าไป

เสียงโกลาหลเริ่มไกลจากตัวผมมากไปทุที ทุกที และเบาลง เบาลง นั่นแสดงว่าเหล่าบรรดาแขกทั้งหลายเริ่มทยอยออกไปจากโถงนี้กันแทบจะหมดแล้ว

ผมเริ่มรู้สึกเคว้งคว้าง รู้สึกเหมือนกำลังฝ่าดงความมืดมิดอยู่คนเดียวอย่างไม่มีใครอยู่ข้างกาย

ความกลัวทำให้ผมต้องสะอึกน้ำลายขึ้นมา คำพูดของพี่พีทที่เตือนผมเริ่มตามเข้ามาหลอกหลอน ความรู้สึกกลัวตายเริ่มเข้ามาแทนที่ ....

ผมเดิน เดิน และเดินเข้าไป .... พยายามเดินให้เบาเสียงที่สุดจนถึงตัวตัวข้างในสุดที่เป็นที่เจรจาธุรกิจของอาเสี่ยกับพี่มอคค่า .....

แต่ตอนนี้...

โต๊ะตัวนี้กลับไม่มีใครอยู่แล้ว ….

ท่ามกลางความมืดมิด ..เหลือแต่เพียงผม ..

...

ปั้ง!



..................................


จากไรต์  ....  ขอโทษด้วยนะคร้าบบบ หายไปนานเลย ขึ้นปี2มา ไม่คิดว่าเอกจีนจะหนักขนาดนี้ T-Tโดยเฉพาะจีนวัฒนธรรม ไม่มีเวลามากๆ สอบมันทุกอาทิตย์ การบ้านก็มีมาตลอด ..แต่ตอนนี้เริ่มตั้งตัวได้แล้ว จะกลับมาอัพเรื่อยๆนะครับ :)
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่10-เสียงปืนในความมืด)(22/9/15)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-09-2015 21:36:42
 :sad4:  มังกร
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่10-เสียงปืนในความมืด)(22/9/15)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 22-09-2015 23:22:34
ง่าาาาาา คืออะไร
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่10-เสียงปืนในความมืด)(22/9/15)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 24-09-2015 10:41:26
หวังว่าจะไม่เป็นอะไรทั้งคู่นะ :sad4:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่10-เสียงปืนในความมืด)(22/9/15)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 24-09-2015 14:51:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่10-เสียงปืนในความมืด)(22/9/15)
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 29-09-2015 20:56:12
รอด้วยคน
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่10-เสียงปืนในความมืด)(22/9/15)
เริ่มหัวข้อโดย: KS.F ที่ 02-10-2015 12:43:42
 :a5:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่10-เสียงปืนในความมืด)(22/9/15)
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 29-12-2015 19:43:31
ปูเสื่อๆ :katai5:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่10-เสียงปืนในความมืด)(22/9/15)
เริ่มหัวข้อโดย: 13 จ้าวนภา ที่ 04-04-2016 18:00:44
 :fire: :m31: o18 :a5:
หัวข้อ: Re: เด็กอักษรฝึกงานกับผู้จัดการบ้าSex(บทที่10-เสียงปืนในความมืด)(22/9/15)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 04-04-2016 21:33:30
จริงๆแล้วคนที่มังกรควรเป็นห่วงที่สุดก็คือตัวเองนะ
แต่ถ้าให้ไม่ดื้อก็คงไม่ใช่นิยายเน้อะ 55555555
รอตอนต่อไปจ้าาาา