นิยายเรื่อง "พระจันทร์ล้อนที" เป็นนิยายเรื่องที่สองของ "นิยายชุด ดวงใจไร่รัก"
นิยายชุดนี้มีทั้งหมดสามเรื่อง
ภมรอ้อนตะวัน ตะวัน - ภุมริน (จบแล้ว) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50942.0
พระจันทร์ล้อนที รัชพล - สิตางศุ์ (จบแล้ว) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51978.0
ปฐพีเคล้าเมฆา เพียงดิน - เมฆา (จบแล้ว) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53471.0
ฝากติดตามนิยายชุดเรื่องนี้ด้วยนะคะ มาพบกับความรักฟิลกู๊ดของสามคู่สามรสในบ้านไร่ ที่จะทำให้คุณยิ้มไม่หุบ :m3:
เรามีเรื่องจะมาแจ้งค่ะ
ตอนนี้นิยายทั้งสามเรื่องจะวางจำหน่ายที่ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ วันที่ 17 - 28 ตุลาคม 2561 นี้ค่ะ
:katai4:
จะเป็น BoxSet ทั้งหมด คือ ภมรอ้อนตะวัน พระจันทร์ล้อนที และปฐพีเคล้าเมฆา
หรือถ้าใครซื้อภมรอ้อนตะวันไปก่อนหน้าแล้ว สามารถซื้ออีกสองเล่มพร้อมกล่อง BoxSet ได้ค่ะ
:-[
ตามลิ้งค์ที่เฟสบุักของเฮอร์มิทเลยค่ะ
https://www.facebook.com/HermitBooks/photos/a.359474807434062/1825847777463417/?type=3&theater
ติดตามข่าวสารได้จากเพจนี้ค่ะ
https://www.facebook.com/Speirmint28-213061652381782/?fref=nf
พระจันทร์ล้อนที
เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่รัชนะคะ จากเรื่องที่แล้วนั้นพี่รัชทำแสบกับน้องรินไว้เยอะ มาติดตามเรื่องของพี่รัชเองดีกว่าค่ะ เรื่องนี้ที่ชื่อพระจันทร์ล้อนที นทีในที่นี้คือนามสกุลของพี่รัช “รักษ์นที” เนื้อเรื่องจะแตกต่างจากเรื่อง ภมรอ้อนตะวัน ค่อนข้างจะมาก เพราะเรื่องนี้จะออกแนวเคร่งๆ ตามสไตล์คุณพี่รัชเค้าล่ะค่ะ แต่ก็ยังมีความโรแมนติกอยู่นะ อิอิ
ตอนแรกนั้นว่าจะแต่งเรื่องนี้ตอนปิดเทอม แต่มันคันไม้คันมือ อดไม่ได้ ตอนนี้มีตุนไว้ไม่ถึงห้าตอน คนเขียนอัพทุกวันเมื่อเรื่องที่แล้วไม่ได้นะคะ อาจจะสามสี่วันต่อหนึ่งตอน หรือมากกว่านั้น ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ
ใครไม่เคยอ่านเรื่องแรกของนิยายชุดนี้ ไปตามอ่านภมรอ้อนตะวันได้ค่ะ แต่ไม่อ่านเรื่องนั้นก่อนก็สามารถอ่านเรื่องนี้เข้าใจได้ค่ะ
บทที่ 1
ไร่น้ำรินที่แสนกว้างใหญ่กินพื้นที่หลายพันไร่ทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา ทางลูกรังเส้นหนึ่งที่แทรกอยู่ระหว่างไร่มีรถกระบะคันเก่ากำลังแล่นมุ่งออกไปสู่ภายนอก ภายในรถมีลูกชายของไร่น้ำรินทั้งสองคนอยู่ในนั้น รัชพลพี่ชายเป็นคนขับและภุมรินน้องชายนั่งอยู่ข้างๆ จุดหมายปลายทางคือตัวอำเภอ
วันนี้รัชพลนำเงินไปเข้าบัญชีที่ธนาคารในตัวเมืองโดยมีภุมรินขอติดรถไปด้วยเนื่องจากจะไปซื้อของใช้ส่วนตัว ไร่น้ำรินนั้นมีรายได้จากการส่งออกองุ่นทั้งสดและแปรรูป รวมทั้งไวน์จำนวนมากก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีรายได้จากการส่งองุ่นขาวที่ตลาดค้าส่งประสิทธานนท์ ซึ่งมีตะวัน ประสิทธานนท์
เพื่อนรักของรัชพลพ่วงตำแหน่งคนรักของภุมรินเป็นเจ้าของ เงินที่ได้ส่วนใหญ่นั้นจะเก็บไว้ในบัญชีกลาง คนที่สามารถเบิกใช้ได้มีแค่บุรินทร์ผู้เป็นบิดา รัชพลและภุมรินเท่านั้น
ไร่น้ำรินนี้ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทยและอยู่บนยอดเขาสูง อากาศค่อนข้างเย็นเกือบตลอดทั้งปี และองุ่นทั้งสองพันธ์ที่ไร่นำรินปลูกนั้นก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันให้ผลผลิต ทางท้ายไร่น้ำรินมีน้ำตกอยู่ซึ่งเป็นที่ที่ภุมรินน้องชายของรัชพลนั้นชอบไปเป็นประจำ และทุกครั้งที่ตะวันมาคุยงานกับรัชพลที่ไร่ก็จะไปพร้อมกับภุมรินด้วย
รัชพลเคยขัดขวางภุมรินและตะวันไม่ให้รักกัน แต่สุดท้ายก็ยอมใจอ่อนเพราะน้ำตาของน้องชาย ความจริงแล้วนั้นต่อให้ภุมรินมีคนรักแต่น้องชายก็ยังคงติดพี่ชายเหมือนเดิม และรัชพลก็ยังคงติดนิสัยของดูแลภุมรินไม่เปลี่ยน แม้ภุมรินจะมีคนรักแล้วก็ตาม
และเมื่อสองวันก่อนนั้นตะวันก็ได้มาพักที่บ้านรักษ์นทีเพราะมาคุยงานแล้วฝนตกทำให้กลับบ้านไม่ได้ รัชพลนั้นนอนที่โรงบ่มทิ้งให้ตะวันและภุมรินนอนกันที่เรือนใหญ่ เขารู้ว่าตะวันต้องแอบไปนอนกับภุมรินแน่ๆ แต่เขาก็ไม่ว่าอะไรเพราะเริ่มปล่อยให้ทั้งคู่ใช้เวลาแบบคนรักทั่วไปบ้าง เขามั่นใจว่าตะวันไม่ล่วงเกินน้องชายเขาเป็นแน่
แต่สิ่งที่รัชพลกังวลใจกลับไม่ใช่เรื่องนั้น เขากังวลใจเรื่องคนที่โทรมาหาภุมรินตอนฝนตกมากกว่า น้องชายลืมโทรศัพท์ไว้ที่โรงบ่มแล้วมีคนชื่อสิตางศุ์โทรมาร้องไห้ พอเขาตอบกลับอีกคนก็ตัดสายทิ้ง โทรกลับก็ไม่รับ พอตอนเช้าเขาบอกภุมริน น้องชายของเขาก็โทรกลับแต่ก็ยังไม่รับอีกตามเคย ผ่านมาสองวันแล้วก็ยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรกับสิตางศุ์คนนั้น เรื่องนี้ทำให้ภุมรินเป็นกังวลใจมากทีเดียว และรัชพลเองก็กังวลใจไม่ต่างกัน
แน่ล่ะ โทรมาร้องไห้ให้เขาฟังขนาดนั้น ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆถึงได้โทรมาหาภุมรินดึกดื่น เป็นใครใครก็ต้องคิด และตอนนี้ภุมรินก็ยังติดต่อคนชื่อสิตางศุ์กลับไม่ได้เลย
รัชพลเลี้ยวรถเข้าไปส่งภุมรินหน้าตลาดที่เดินไปอีกหน่อยก็จะมีห้างสรรพสินค้าอยู่ก่อนจะออกไปที่ธนาคารซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล กว่าจะต่อคิวและทำธุระเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบจะสี่โมงเย็น เนื่องจากรัชพลและภุมรินออกจากไร่มาตอนบ่าย หลังจากทำธุระเสร็จก็ไปรับน้องที่กำลังคุยกับแม่ค้าแถวนั้นระหว่างรอเขา
ก่อนกลับไร่ทั้งสองคนก็แวะทานข้าวเย็นในตัวเมืองที่ร้านเดิม นั่นก็คือร้านของเถ้าแก่ชัยซึ่งมีเจนจิราลูกสาวมาช่วยด้วย เจนจิรานั้นมีใจชอบพอรัชพลมานาน หลังจากที่รัชพลเรียนจบกลับมาจากเมืองนอกก็มีสาวๆทั้งในอำเภอและจังหวัดมาชอบพอมากนัก หนึ่งในนั้นก็คือเจนจิราด้วยเช่นกัน กว่าจะได้กินก็โดนสาวเจ้าเกี้ยวไปเสียนาน ภุมรินนั้นต้องรีบพาพี่ชายออกจากร้านก่อนจะได้นอนกันเสียที่นี่
ตอนนี้รัชพลเสน่ห์แรงยิ่งกว่าอะไร แม้จะวันๆจะหมกตัวอยู่แต่ในไร่ ในโรงบ่มก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นรัชพลก็ไม่เคยคิดจะหาแม่เลี้ยงให้ไร่น้ำรินเสียที จนภุมรินบ่นแล้วบ่นอีกว่าคงได้มีพี่สะใภ้เป็นไวน์ซักขวด ภุมรินไม่เคยเข้าใจพี่ชายตัวเองเลยสักนิด
อายุก็ถือได้ว่าโตพอที่จะมีครอบครัวแล้ว แทนที่จะหาคนดีๆมาเป็นแม่ของลูกกลับหมกตัวทำงานทั้งวัน เขายังไม่เห็นรัชพลจะสนใจใครเลย ถ้ารัชพลจะหวงและห่วงใครก็มีแต่เขานี่แหละที่รัชพลยังไม่ยอมปล่อยซักที ห่วงราวกับเขาเป็นเด็ก แทนที่จะเลิกห่วงเขาแล้วเอาเวลาไปหาแฟนยังจะดีกว่าอีก
ดูอย่างไอ้พี่ตะวันของเขาสิ กลับมาได้ไม่เท่าไหร่ก็หาแฟนได้แล้ว ทำไมไม่หัดเอาตัวอย่างจากเพื่อนบ้างนะพี่รัช
รถของไร่น้ำรินแล่นเข้ามาในช่วงเกือบๆสองทุ่ม ตอนนี้แสงจากดวงอาทิตย์หมดลงแล้ว มีแต่แสงนีออนตามเส้นทางเล็กๆของไร่น้ำรินเท่านั้นที่พอจะส่องให้เห็นทางได้บ้าง กว่าจะเข้าไร่ได้ก็แวะนู่นแวะนี่จนมืดค่ำ ป่านนี้ป้าจันคงตั้งโต๊ะรอแล้ว บุรินทร์นั้นยังคงทำงานในตัวเมืองตามเคย นานๆทีจะกลับบ้าน แต่ก็มาดูไร่บ้าง ซึ่งงานส่วนใหญ่ของไร่ก็ให้ลูกชายทั้งสองคนช่วยกันคุมหมดแล้ว
รัชพลค่อยขับรถขึ้นเขามาอย่างระมัดระวังเพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุเพราะทางมืดๆนั้นอันตราบกว่าปกติอยู่แล้ว แสงไปหน้ารถสาดเข้ากับป้ายขนาดใหญ่ของไร่น้ำริน สายตาของรัชพลมองเห็นเงาตะคุ่มบางอย่างอยู่ข้างๆเสาขนาดใหญ่ที่รองรับป้ายนั้น นายใหญ่ของไร่น้ำรินจอดรถอยู่หน้าไร่และเพ่งมองร่างนั้น
เหมือนเป็นคนที่กำลังนั่งพิงกับเสาป้ายชื่อไร่ ศีรษะซบลงกับเข่าทั้งสองข้าง ข้างๆมีกระเป๋าใบใหญ่อยู่ มองไม่ออกว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่ที่แน่ๆไม่น่าไว้ใจ เมื่อวันก่อนเขาเพิ่งจะได้รับรายงานจากเหมหัวหน้าการ์ดที่ประจำไร่บอกว่ามีคนเข้ามาสอดส่องไร่น้ำรินอยู่บ่อยๆ ไม่แน่คนคนนี้อาจจะเป็นสายอย่างที่เหมรายงานมาก็ได้
เมื่อคิดได้ดังนั้นรัชพลก็รีบชักปืนออกมาอย่างรวดเร็ว เขาพกติดตัวบ้างบางครั้งแต่มันก็อยู่ในรถตลอดอยู่แล้ว นานๆทีถึงจะได้ใช้ เขาจะใช้ปืนก็ต่อเมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น
“มีอะไรพี่รัช” ภุมรินถามพี่ชายเมื่อเห็นว่ารัชพลเอาปืนขึ้นมาพร้อมกับสีหน้าที่บ่งบอกว่ากำลังมีเรื่อง
“รินรอพี่อยู่นี่นะ อย่าออกไปจากรถ เดี๋ยวพี่มา” พูดจบก็เปิดประตูรถออกไปทิ้งให้ภุมรินมองตามอย่างหวาดกลัวเล็กน้อย นี่มันเรื่องอะไรกัน
รัชพลเดินตรงไปหาคนที่ยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น มือหนากระชากกระเป๋าเดินทางขนาดกลางออกไปให้ห่างตัวก่อนจะคว้าแขนเรียวเล็กที่พอสะท้อนแสงไฟจากหน้ารถแล้วทำให้ดูขาวผ่องแข่งกับหลอดนีออนของไร่น้ำริน
“มึงเป็นใคร ใครส่งมึงมา” เสียงตะโกนนั้นดังจนทำให้คนที่หลับอยู่ต้องลืมตาขึ้นมาดู ร่างบางเซตามแรงกระชากนั้น
รัชพลมองคนตรงหน้าด้วยคำถาม นี่น่ะหรือคนที่อาจจะเป็นคนร้าย ดวงหน้าขาวที่นวลเนียนแข่งกับพระจันทร์ในคืนจันทร์เต็มดวง นัยน์ตาที่คลอเคล้าไปด้วยหยาดน้ำตาและกำลังแดงช้ำ กับร่างกายที่ดูจะผมบางกว่าภุมรินด้วยซ้ำ ผมที่ถูกซอยสั้นครอบหน้าหวานนั้นไว้ ดูยังไงก็ไม่น่าจะเป็นคนที่ถูกส่งมาทำเรื่องไม่ดีในไร่น้ำรินได้
“จะ...เจ็บ” ร่างตรงหน้าพูดเสียงแผ่วพร้อมกับพยายามดึงแขนออกจากมือหนาของรัชพล
ร่างสูงคลายมือออกจากคนแปลกหน้าก่อนจะปล่อยในที่สุด ผิวขาวจัดนั้นมีรอยแดงปื้นอย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นเพราะผิวมีสีอ่อนและบางกว่าคนที่ทำงานในไร่อย่างรัชพล มือหนาและสากของเขาจึงทำให้คนตรงหน้าเจ็บได้ง่าย
“คุณเป็นใคร และมาอยู่อะไรตรงนี้” สรรพนามเปลี่ยนไปเมื่อเห็นว่าอีกคนไม่มีท่าทางที่เป็นอันตราย ปืนสีดำสนิทถูกเก็บเข้าข้างตัว
ร่างเล็กนั้นไม่ตอบได้แต่ยืนนิ่ง น้ำตาที่ไหลลงสองข้างแก้มทำเอารัชพลหงุดหงิดขึ้นมา แล้ววันนี้จะคุยกันรู้เรื่องไหมนี่
ภุมรินที่อยู่ในรถนั้นพยายามเพ่งมองคนที่พี่ชายยืนคุยอยู่ ลักษณะท่าทางนั้นคุ้นชินเหลือเกินแต่มองยังไงก็ยังนึกไม่ออก เพราะความมืดแม้ว่าจะมีไฟจากหน้ารถส่องแล้วก็ตามที
ร่างบางๆ ตัวเล็กๆ ผิวขาวจัดและท่าทางที่ดูจะบอบบางมากๆอย่างนั้น เหมือนเขาเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ภุมรินพยายามมองฝ่าแสงไฟและทะลุร่างหนาๆของพี่ชายที่ยืนบังอยู่เกือบครึ่งตัว ไม่นานคนตัวเล็กก็นึกขึ้นได้
พี่สิตางศุ์!
เมื่อนึกได้ว่าเป็นใครภุมรินก็รีบเปิดประตูลงรถไปทันที ก่อนจะรีบวิ่งไปหาคนที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้ารัชพล เมื่อมองใกล้ๆยิ่งใช่
“พี่ตาง” ภุมรินเรียก
“ริน” ร่างนั้นหันมามองก่อนจะโผเข้ากอดภุมรินโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
สิตางศุ์ตัวบางกว่าภุมรินมากก็จริงแต่ส่วนสูงนั้นมากกว่าเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับรัชพลแล้วสิตางศุ์ดูตัวเล็กลงไปมาก และผู้แปลกหน้ามาใหม่ตอนนี้ก็กำลังสะอื้นอยู่กับอกของภุมรินโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดร้องไห้ ภุมรินเองก็ลูบหลังเพื่อปลอบให้อีกคนใจเย็นลง รัชพลมองอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่เห็นว่าคนคนนี้ไม่ใช่ศัตรูอย่างที่คิดก็โล่งใจขึ้นมาเปราะหนึ่ง
สุดท้ายแล้วทั้งรัชพลและภุมรินก็ต้องหอบหิ้วสิตางศุ์กลับเข้าไร่ ภุมรินต้องไปนั่งข้างหลังเพื่อคอยคุยและปลอบสิตางศุ์ที่ยังคงร้องไห้ต่อไป รัชพลมองผ่านกระจกหลังและมองดวงหน้าหวานที่เคล้าไปด้วยน้ำตานั้น เป็นผู้ชายจริงๆแน่หรือ ทำไมดูบอบบางมากเสียจนกลัวว่าแตะแล้วจะปลิวหายไป ภุมรินน้องชายของเขาที่ดูว่าตัวเล็กแล้ว ยังดูแกร่งกว่าสิตางศุ์คนนี้มากโข และสิ่งที่รัชพลอยากรู้มากที่สุดในตอนนี้ก็คือ สิตางศุ์คนนี้คือใครกัน
ภุมรินพาสิตางศุ์ที่หยุดร้องแล้วเข้ามาในบ้านโดยมีรัชพลถือกระเป๋าเข้ามาให้ สิตางศุ์นั้นเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยของภุมริน ซึ่งภุมรินจบคณะวิศวกรรมศาสตร์แต่สิตางศุ์นั้นจบบัญชี ทั้งสองคนมารู้จักและสนิทสนมกันเพราะว่าสิตางศุ์เป็นเพื่อนกับรุ่นพี่ของภุมรินที่ชื่อภูวดล
สิตางศุ์เป็นรุ่นพี่ที่น่ารักเสมอ เวลาเจอก็จะทักทายและยิ้มแย้มให้ภุมริน มีสังสรรค์กันบ้าง และก็เคยไปเที่ยวด้วยกันจนสนิทในระดับหนึ่ง ภุมรินเองก็สนิทใจและรู้นิสัยใจคอของสิตางศุ์พอสมควร อาจจะเป็นด้วยอายุที่ห่างกันแค่ปีเดียวนั้นทำให้เข้าใจและสนิมกันได้ไม่ยาก
แต่ทำไมพี่สิตางศุ์ที่สดใสของเขาวันนี้ถึงได้เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดแบบนี้ และรู้ได้ยังไงว่าไร่น้ำรินอยู่ที่ไหนทั้งๆที่ภุมรินไม่เคยพาพี่ๆเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัยมาที่บ้านเลย เคยแต่บอกว่าที่บ้านทำไร่องุ่นก็เท่านั้น
“พี่ขออยู่ที่นี่ซักพักได้มั้ยริน พี่สัญญาว่าพี่จะไม่รบกวนมาก พี่จะช่วยงานริน” สิตางศุ์ที่นิ่งมานานพูดขึ้น รัชพลที่กำลังยืนดื่มน้ำอยู่ไม่ไกลก็แอบมองแขกผู้โผล่มาแบบแปลกๆของน้องชายไปด้วย สิตางศุ์คนนี้เองสินะที่โทรมาหาภุมรินเมื่อสองวันก่อน
เมื่อมองสิตางศุ์จากมุมนี้แล้วนั้นดูยังไงก็ไม่ใช่ผู้ชายในสายตาของรัชพล แผ่นหลังของสิตางศุ์เล็กมากเสียจนรัชพลคิดว่าถ้าหากเขาจับสิตางศุ์แล้วจะขาดเป็นสองท่อนเสียให้ได้
ผิวขาวสีน้ำนมนั้นมองดูก็รู้ว่าเป็นลูกคุณหนูที่ไม่เคยทำงานหนัก แล้วอะไรคือการที่สิตางศุ์พูดว่าจะช่วยงานภุมริน รายนั้นเข้าไร่ตากแดดทุกวัน ไหนจะขับเอทีวี ซ่อมเครื่องยนต์ บางวันก็ต้องลงไปขุดดินเพื่อเชื่อมคลองด้วย เขานึกสภาพร่างบางๆของสิตางศุ์ไปทำแบบนั้นไม่ได้เลยสักนิด
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกพี่ตาง รินจะยังไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เอาเป็นว่าคืนนี้นอนที่นี่ก่อน ส่วนเรื่องที่จะอยู่ที่นี่รินกับพี่รัชและพ่อไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” ภุมรินกุมมือสิตางศุ์อย่างปลอบโยน เขายังไม่อยากถามอะไรสิตางศุ์ตอนนี้เพราะอีกคนดูไม่โอเคอย่างมาก ให้สิตางศุ์ได้พักก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกทีก็ยังได้
“ขอบใจนะริน” สิตางศุ์ยิ้มเบาๆให้กับรุ่นน้อง ความเครียดของเขาที่สั่งสมมานานหลายปี มันควรจะได้พักเสียที อย่างน้อยอยู่ที่นี่ก็ไม่มีใครหาเจอ เพราะเขาไม่ได้บอกใครเลยว่าจะมาหาภุมริน
“ไม่เป็นไร แล้วนี่พี่ตางกินข้าวมารึยัง เดี๋ยวรินทำให้กิน ป้าจันคงจะไม่อยู่ที่ครัวแล้ว” ภุมรินยิ้มเพื่อให้อีกคนผ่อนคลาย
สิตางศุ์ส่ายหัว ตั้งแต่เมื่อเช้าเขายังไม่ได้กินอะไรเลย พอลงเครื่องมาปุ๊บก็ตรงมาหาภุมรินที่ไร่ทันที งมอยู่นานกว่าจะหาไร่น้ำรินเจอ อาศัยถามทางและขอติดรถชาวบ้านเข้ามา แต่ถึงอย่างนั้นก็มีส่งได้แค่หน้าไร่น้ำรินเท่านั้น จะโทรหาภุมรินก็แบตหมดเสียก่อน เลยนั่งรอจนดึก แล้วก็เจอใครก็ไม่รู้ชักปืนมาจะขู่ฆ่า
สิตางศุ์แอบคิดว่าวิธีแบบนั้นมันป่าเถื่อนสิ้นดี และทำให้เขาหวาดกลัวไม่น้อยเลยทีเดียว จนถึงตอนนี้สิตางศุ์ก็ยังไม่รู้ว่าคนที่เอาแต่จ้องเขาอยู่นั้นเป็นใคร แต่สายตาที่มองมานั้นทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวรินให้ป้าจันเอาขนมกับนมขึ้นไปให้ก็แล้วกันนะครับ ตอนนี้พี่ตางไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนดีกว่า” ภุมรินบอก
“เดี๋ยวพี่ช่วยยกกระเป๋าขึ้นไปให้เอง” รัชพลอาสา เขาละสายตาจากร่างบางที่ยังสะอื้นอยู่ก่อนจะเบือนหน้าหนีและยกกระเป๋าเดินทางขึ้นมาถือไว้
“ดีเลยพี่รัช อ้อ... รินลืมแนะนำเลย พี่ตางนี่พี่รัชเป็นพี่ชายของริน ส่วนพี่รัชนี่พี่ตางเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยของรินเอง รินคงต้องให้พี่ตางมาอยู่ที่นี่สักพัก หวังหว่าพี่รัชคงเข้าใจ”
ภุมรินแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันเมื่อเห็นว่าตัวเองยังไม่ได้แนะนำอะไรทั้งสิ้น อาจเป็นเพราะมัวแต่ปลอบสิตางศุ์เลยลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท และการที่เขาอนุญาตให้สิตางศุ์อยู่ที่นี่ก็ยังไม่ได้ถามความเห็นของรัชพลเลย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เชื่อว่าพี่ชายของเขานั้นเข้าใจและคงไม่ใจร้ายกับรุ่นพี่ของเขาคนนี้
รัชพลมองหน้าสิตางศุ์พร้อมกับถอนหายใจ เขาจะมีปัญหาอะไรได้ในเมื่อภุมรินพูดเสียดิบดีว่าจะให้สิตางศุ์คนนี้อยู่ที่นี้ หากเข้าคัดค้านคงเป็นคนที่ใจร้ายไม่น้อย เลี้ยงคนในไร่เป็นร้อยเป็นพันยังเลี้ยงได้ ลูกนกหลงทางแค่ตัวเดียวเขาจะใจร้ายทอดทิ้งเชียวหรือ
“อืม... ให้อยู่ห้องข้างๆรินแล้วกัน” พูดแค่นั้นก่อนจะเดินถือกระเป๋าขึ้นไปข้างบน สิตางศุ์ตางมองตามร่างสูงนั้น พี่ชายของภุมรินคนนี้บางทีก็ดูน่ากลัว บางทีก็ใจดีเหมือนกัน
หวังว่าตัวเขาเองจะไม่สร้างปัญหาให้ภุมรินและคนที่นี่ลำบากใจ
***************************************************************************
ฝากติดตามเรื่องนี้ด้วยนะคะ ฝากพี่รัชไว้ในอ้อมอกอ้อมใจคนอ่านทุกท่านด้วยค่ะ :katai4:
เรามีเรื่องจะมาแจ้งค่ะ
ตอนนี้นิยายทั้งสามเรื่องจะวางจำหน่ายที่ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ วันที่ 17 - 28 ตุลาคม 2561 นี้ค่ะ
:katai4:
จะเป็น BoxSet ทั้งหมด คือ ภมรอ้อนตะวัน พระจันทร์ล้อนที และปฐพีเคล้าเมฆา
หรือถ้าใครซื้อภมรอ้อนตะวันไปก่อนหน้าแล้ว สามารถซื้ออีกสองเล่มพร้อมกล่อง BoxSet ได้ค่ะ
:-[
ตามลิ้งค์ที่เฟสบุักของเฮอร์มิทเลยค่ะ
https://www.facebook.com/HermitBooks/photos/a.359474807434062/1825847777463417/?type=3&theater